You are on page 1of 1161

ตอนที่ 331 สตรีผู้น้ัน.....นางคือ?

“ข้าอยูท่ ี่นี่มาตั้งแต่เมื่อพันปี ก่อนแล้ว” สายตาของฉู่เจียงนิ่งงัน สาย


ลมพัดผ่านเส้นผมของเขาจนแม้แต่ผา้ คาดผมสี แดงก็ยงั ปลิวขึ้นมา
เช่นกัน
“สิ บยมราชคงอยูใ่ นทุกโลกมิติ ที่ใดมีจิตวิญญาณที่นนั่ ก็มียมราช”
ใช่แล้ว ยมราชทั้งสิ บต่างก็มิได้คงอยูใ่ นช่วงเวลาเดียวกันหรื อกระทัง่
มิติเดียวกัน
ตัวอย่างเช่นเสิ นฟางผูน้ ้ นั เป็ นผูท้ ี่อยูใ่ นโลกปั จจุบนั ฉู่เจียงผูน้ ้ ี บางที
แต่เดิมเขาอาจจะเป็ นของโลกใบนี้ก็เป็ นได้
“ออกไปไม่ได้หรื อ?” ตู๋กซู ิ งหลันพิงร่ างอยูก่ บั ต้นขาของฮ่องเต้
ปลายคางแทบจะจมลงไปในเนื้อของจีเฉวียน
เมื่อนางเอื้อนเอ่ยออกมา ปลางคางก็ขยับอยูบ่ นขาของจีเฉวียนจนคัน
ยุบยิบ
พระหัตถ์ใหญ่โตของเขาเกร็ งขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะจับเอวของนางให้
แน่นขึ้นอีกหลายส่ วน
สตรี ผนู ้ ้ ีเกรงว่าคงจะไม่ได้รู้ตวั ท่าทางและกริ ยาที่นางทาเช่นนี้เป็ น
การปลุกเร้าคนถึงเพียงไหน
ฉู่เจียงชะงักไปเล็กน้อย แต่ละประโยคของตู๋กูซิงหลันล้วนแทงเข้า
ไปในใจของเขา
เขาได้แต่หวั เราะออกมา แววตามีแต่ความเหงาอย่างไม่อาจจะทาเช่น
ไรได้ “ก็เป็ นอย่างที่เจ้าเห็น เมืองกู่เย่วนี้กค็ ือกรงขังขนาดใหญ่ ชัว่
ชีวิตนี้ขา้ ไม่อาจก้าวออกไปได้แม้แต่ครึ่ งก้าว”
นอกเสี ยจากว่า ……
คนผูน้ ้ นั จะกลับมา
แต่นี่จะเป็ นไปได้อย่างไร …..จิตวิญญาณของเขาแตกดับไปแล้ว
แม้แต่เศษเสี้ ยวของดวงจิตสักเล็กน้อยก็ยงั ไม่หลงเหลือ สลายไปจน
หมดตั้งนานแล้ว
“บนแผ่นดินนี้ยงั จะมีผใู ้ ดที่มีพละกาลังมากมาย สามารถทาให้เจ้า
กลายเป็ นเช่นนั้นได้อีก?”
ตู๋กซู ิงหลันออกจะประหลาดใจอยูบ่ า้ ง ตอนที่ฉู่เจียงประมือกับจี
เฉวียนก็มิได้ใช้พลังออกมาจนหมด
ยมราชเช่นนี้กลับถูกกักขังเอาไว้ในพื้นที่เพียงมณฑลหนึ่ง เช่นนั้น
พลังของผูท้ ี่อยูเ่ บื้องหลังย่อมต้องยิง่ ใหญ่และพิศดารเพียงไรย่อม
เป็ นที่คาดคิดได้
จีเฉวียนเองก็หรี่ ตาลง พระองค์เองก็ทรงรู ้สึกได้วา่ ฉู่เจียงเป็ นผู ้
เข้มแข็งผูห้ นึ่ง
ในดินแดนแห่งนี้ผทู ้ ี่สามารถมีพลังเหนือกว่าฉู่เจียงเกรงว่าคงมีอยู่
เพียงไม่กี่คน คนที่สามารถกักขังเขาเอาไว้ในที่นี่ ไม่อาจออกไปได้
แม้เพียงครึ่ งก้าว สาหรับพระองค์แล้ว ถือเป็ นปั ญหายุง่ ยากประการ
หนึ่ง
“แม่นางน้อย ถึงแม้วา่ เจ้าจะพอมีความสามารถอยูบ่ า้ ง แต่เรื่ องนี้
เกี่ยวพันอย่างกว้างขวางมากเกินไป” มุมปากของฉู่เจียงขยับยิม้ เย็น
ชา “ในโลกใบนี้ยงั มีเรื่ องที่ท้ งั ยุง่ เหยิงและโหดเ**้้ยมที่เจ้าคาดไม่
ถึง กลับไปฝึ กฝนวิชาเซียนของเจ้าให้ดี อย่าได้สอดมือให้มาก”
ฉู่เจียงทั้งตักเตือนและโน้มน้าว
“เรื่ องที่นางอยากรู ้ยอ่ มต้องทาให้กระจ่างแจ้ง” จีเฉวียนที่กลายโรค
บ้าปรนเปรอคนรักถึงกับไม่สนใจเวลาสถานการณ์ไม่มีขอบเขตใด
ๆ ไปแล้ว
“เมื่อมีเราอยู่ นัน่ จึงเป็ นพลังที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดให้กบั ซิงซิง”
ฉู่เจียง “……” ในใจของเขาอยากจะถามพวกบรรพชนของพระองค์
บ้างจริ ง ๆ
นับตั้งแต่ได้กลับมาพบกับจีเฉวียน ตู๋กซู ิงหลันก็เหมือนกับโดน
หยอกเย้าอย่างบ้าคลัง่ อยูต่ ลอดเวลา
ถ้อยคาหวานหูของจีเฉวียนที่ส่งออกมาเป็ นชุด ๆ หากว่าเป็ นสาว
น้อยที่ไม่รู้ต้ืนลึกหนาบางเกรงว่าก็คงจะทุ่มตัวลงไปตั้งแต่แรกแล้ว
“ฮ่องเต้ตา้ โจว ข้าเกรงแต่วา่ พวกเจ้าจะมีชีวิตได้ฟังเรื่ องราวเก่าแก่
เหล่านั้น แต่ไม่อาจมีชีวิตรอดต่อไป” ฉู่เจียงเชิดจมูกขึ้น
มาทาเป็ นพลอดรักกันต่อหน้าเขาหรื อ?
ความรักของพวกเขาหากเปรี ยบเทียบกับที่ตนได้เคยเห็นมา นับว่า
เป็ นอะไรได้กนั ?
ก็แค่ฮ่องเต้ที่กาลังเรื องอานาจผูห้ นึ่งจี๋จ๋ากับแม่นางน้อยผูห้ นึ่งเท่านั้น
เขายังไม่อยากจะใส่ ใจหรอก
“เจ้าก็มาลองดูสิวา่ เรากับซิงซิงจะทาได้หรื อไม่” กระบี่ในพระหัตถ์
ของจีเฉวียนขยับเพียงเบา ๆ จิตกระบี่สายหนึ่งก็ทะยานออกไป
ฉู่เจียงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง จิตกระบี่น้ นั ก็แฉลบผ่านหัวไหล่ของเขา
ออกไป ทาให้ผิวหนังถูกบาดไปแผลหนึ่ง
สี หน้าของฉู่เจียงเคร่ งขรึ ม มิได้กล่าววาจาให้มากความอีก
ในชัว่ ขณะนั้นเอง ด้านล่างก็กาลังต่อยตีกนั อย่างร้อนระอุ
เหลียงจวิน้ อ๋ องกับหลงเซียวปะทะกันอีรุงตุงนังผมเผ้ายุง่ เหยิง บน
ร่ างกายของทั้งสองต่างก็มีบาดแผล เหลียงจวิน้ อ๋ องจะอย่างไรก็มี
อายุมากแล้ว พละกาลังพื้นฐานไม่อาจสู ้คนหนุ่มอายุนอ้ ยได้ ตอนนี้
จึงหอบหายใจอย่างหนัก
เขาไม่คิดจะพัวพันกับหลงเซียวอีกต่อไป จึงหันเหสายตาไปยัง
ทิศทางที่จีเฉวียนอยู่
จับโจรพึงจับหัวหน้า [1] หากยังต่อสู ้กบั หลงเซียวต่อไป คนที่ตอ้ ง
พ่ายแพ้กค็ ือเขา
พอคิดได้เช่นนี้ เหลียงจวิน้ อ๋ องก็กระชับหอกในฝ่ ามือ สะกิดปลาย
เท้ากระโดดขึ้นไปบนหลังของเมียเมีย
ร่ างของเขาเคลื่อนไหวอย่างว่องไว หอกในมือมิได้พงุ่ เป้าไปที่จี
เฉวียน หากแต่วา่ เล็งไปที่ต๋ ูกซู ิงหลันตั้งแต่แรกแล้ว
เขาทุ่มเทพละกาลังแทบทั้งหมดออกไป ปลายหอกพุง่ เข้าใส่
กระหม่อมของตู๋กซู ิงหลัน
ฉู่เจียงที่ชวั่ ร้าย ไม่เพียงแต่ถอยออกมาเปิ ดตาแหน่งให้กบั เหลียงจวิน้
อ๋ อง ฝ่ ามือก็ยงั รวมกาลังขุมหนึ่งผนึกเข้าสู่ ร่างของเหลียงจวิน้ อ๋ อง
ส่ งเขาขึ้นไปอีกแรง
พลังของฝ่ ามือนี้เมื่อใช้ออกไป ก็ราวกับฉี กกระชากท้องฟ้ายามราตรี
พลังทาลายล้างยังไม่ทนั ไปถึงตู๋กซู ิงหลัน เส้นผมทั้งหมดของนางก็
ปลิวกระจายขึ้นมา
โฉมหน้าที่สคราญหมดจดล้ าเลิศในโลกหล้าถูกเปิ ดเผยขึ้นมาเบื้อง
หน้าเหลียงจวิน้ อ๋ อง
ในพริ บตานั้นเอง เหลียงจวิน้ อ๋ องก็ชะงักงันไปทั้งร่ าง จนเมื่อเขาได้
สติกลับมา หอกในมือก็จ่อเข้าไปที่กระหม่อมของตู๋กซู ิงหลันแล้ว
เหลียงจวิน้ อ๋ องกระชากหอกอย่างรวดเร็ ว คนกระชากตัวเหาะกลับ
หลังออกไป
แต่วา่ สายไปเสี ยแล้ว พลังแฝงที่รุนแรงเช่นนั้น แม้ปล่อยมือแล้วก็ยงั
เพียงพอจะทาลายคนให้แหลกเป็ นผุยผง
ตู๋กูซิงหลัน “…..”
สถานการณ์ที่นางกาลังเผชิญอยูใ่ นตอนนี้ ตนเองยังเอนนอนอยูใ่ น
อ้อมแขน หอกกลับพุง่ ลงมาจากฟากฟ้า
ซวยแล้ว!
นางก็คิดจะหลบ แต่วา่ หอกเล่มนั้นกลับมีพลังหยินที่สุดแข็งแกร่ ง
แฝงมาอยูด่ ว้ ย
ต่อให้หลบอย่างไรก็หลบไม่พน้
พอลืมตามองขึ้นไป ก็เห็นมือขนาดใหญ่ขา้ งกายคว้ามันเอาไว้ หยุด
หอกเล่มนั้นเอาไว้อย่างมัง่ คงด้วยระยะห่างเพียงหนึ่งในพันเท่านั้น
นางยังสามารถได้ยนิ เสี ยงของหอกที่พงุ่ เข้ามาอย่างรวดเร็ วที่บาดลึก
ลงไปในกล้ามเนื้อบนฝ่ ามือนั้นได้อย่างชัดเจน
จากนั้นเลือดก็ไหลนองหยดติ๋ง ๆ ลงบนหัวคิว้ ของนาง
เป็ นจีเฉวียน
พระองค์คว้าหอกเล่มนั้นเอาไว้ดว้ ยท่วงท่าองอาจ เส้นเลือดที่หลังมือ
ปูดโปน สายพระเนตรมีแต่ความเย็นชาถึงขีดสุ ด
ในขณะที่ต๋ ูกซู ิงหลันยังไม่ทนั ได้มีปฏิกริ ยาใด ๆ ออกไปนั้น หอก
เล่มนั้นก็ถูกเขากระชับเอาไว้ ทันทีที่เขาใช้กาลังออกไป ก็พลิกหอก
เล่มนั้นพุง่ ย้อนกลับไป
ปลายหอกทะยานออกไป ทะลวงเข้าสู่ ช่องท้องของเหลียงจวิน้ อ๋ อง
ในขณะที่เขาถูกหอกเล่มนั้นแทงทะลวง คนก็ลอยถอยหลังไปทั้งร่ าง
หลังจากนั้นพลังแฝงที่รุนแรงและแข็งแกร่ งอย่างยิง่ ยังปั กเขาจมลง
ไปในกาแพงหนาของจวนจวิน้ อ๋ อง
“ตูม้ !” เสี ยงกระแทกดังสนัน่ แม้แต่ตวั กาแพงยังทะลายลงมา
ทาให้ทุกคนต่างตกตะลึงไป
โดยเฉพาะพวกที่กาลังต่อสู ้อยูน่ ้ นั ต่างก็กวาดตามองไปเป็ นทาง
เดียวกัน
จึงเห็นว่าเหลียงจวิน้ อ๋ องแม้จะจมอยูใ่ ต้กาแพงทั้งร่ าง แต่สายตาของ
เขายังคงจับจ้องไปที่ต๋ ูกูซิงหลัน
กระดูกทัว่ ทั้งร่ างหักสะบั้นหมดแล้ว เขากระแอมไอออกมาติด ๆ
กัน อ้าปากกระอักเลือดออกมาคาโต
ในเลือดสดยังมีลิ่มเลือด เกรงว่าแม้แต่อวัยวะภายในก็คงแหลกเหลว
หมดแล้ว!
แต่ถึงกระนั้น ดวงตาทั้งสองของเขาก็ยงั ไม่ได้คลาดไปจากร่ างของตู๋
กูซิงหลันเลยสักนิด
เขายืน่ มือออกไปอย่างยากลาบาก ประคองลมหายใจเอาไว้ เอ่ยด้วย
น้ าเสี ยงเหนื่อยแรงว่า “องค์หญิง…”
หากมิใช่เพราะว่าเมื่อครู่ เขามัวแต่ตื่นตะลึงกับรู ปโฉมของนาง….ก็
คงไม่ถึงกับถูกจีเฉวียนแทงทะลุในหอกเดียว
กระดูกทัว่ ทั้งร่ างหักหมดแล้ว แต่วา่ หัวใจดวงหนึ่งยังเต้นอยู่
สาวน้อยนางนั้น นางคือ?
เสี ยงที่เรี ยกหาองค์หญิง คนทั้งหมดในที่น้ ีลว้ นได้ยนิ แล้ว
ตู๋กซู ิงหลันเองก็เช่นเดียวกัน นางมองไปยังเหลียงจวิน้ อ๋ อง นางเห็น
บนหอกในร่ างของเขามีหมอกสี ดาทมึนกลุ่มหนึ่ง
เมื่อครู่ จีเฉวียนพิโรธแล้ว ดังนั้นจึงลงมือสังหาร
ขณะที่คนผูน้ ้ ีทาการก่อกบฏอยูน่ ้ นั เขายังไม่ได้คิดจะสังหารคน แต่
เมื่อตัวนางตกอยูใ่ นอันตราย เขาก็ลงมือสังหารโดยไม่มีความลังเล
เพียงหอกเดียวก็เรี ยกชีวิตของเหลียงจวิน้ อ๋ องได้
“องค์หญิง…. ท่านกลับมาแล้วใช่ไหม?” เหลียงจวิน้ อ๋ องในตอนนี้
แม้จะกระอักเลือดออกมามากมายก็ยงั ไม่ยอมละสายตาไปจากร่ าง
ของตู๋กูซิงหลันเลยสักนิดเดียว
——

[1] 擒贼先擒王 (qínzéiqínwáng)

射人先射马,擒贼先擒王 มาจากคาภีร์《前出
塞》มาจากประโยคเต็มที่วา่ “ยิงคนยิงม้าก่อน จับโจรพึงจับ
หัวหน้า” เป็ นหนึ่งในกลยุทธ์สายโจมตีในสามสิ บหกกลยุทธ์ มุ่งเน้น
จับกุมหรื อสังหารผูน้ าของฝ่ ายตรงข้าม เพื่อทาลายขวัญกาลังใจของ
กองทัพศัตรู
ไรท์: กาลังมันเลยง่ะ เรื่ องหน้าไรท์ควรไปสายบู๊ไหม หรื อตลก
ต่อไป?
ตอนต่อไป “วัวแก่กินหญ้าอ่อน?”
ตอนที่ 332 วัวแก่กนิ หญ้ าอ่อน? / ตอนที่ 333 โอกาสที่ผ่านพ้น

ตอนที่ 332 วัวแก่กนิ หญ้ าอ่อน?


เนื่องเพราะร่ างกายที่บาดเจ็บสาหัสเป็ นเหตุ ทาเอาแม้แต่สมองของ
เขาก็พลอยมึนงงและสับสนไปด้วย
ถึงได้เห็นว่าสาวน้อยผูน้ ้ นั มีความคล้ายคลึงกับองค์หญิงเย่วอยูห่ ลาย
ส่ วน ยิง่ มองดู ก็ยงิ่ รู ้สึกว่านางกลับมาแล้ว
ตลอดหลายปี มานี้ เขาไม่เคยหลุดพ้นจากการแอบรักในครั้งนั้นเลย
ดังนั้นตลอดวันเวลาที่อาศัยอยูใ่ นเมืองกู่เย่วนี้ ในใจของเขาจึงคิดแต่
จะล้างแค้นให้นางอยูต่ ลอด
บ้านแตกสาแหรกขาด จับขังจองจา ทั้งยังถูกทาให้เป็ นมลทินอย่าง
น่าอับอาย
แต่ละเรื่ อง ๆ เขาล้วนต้องการคิดบัญชีกลับไปทั้งสิ้ น
ทั้ง ๆ ที่กร็ ู ้อยูว่ า่ นางมิได้รับรู ้เลยว่าในโลกนี้ยงั มีคนผูห้ นึ่งที่หลงรัก
นางมากถึงเพียงนี้
“องค์หญิง เหลียงป๋ อมีเรื่ องหนึ่งที่คิดจะบอกท่านมานานหลายปี
แล้ว” เหลียงจวิน้ อ๋ องกระอักเลือดอยูต่ ลอด สองมือเ**้่ยวย่นของ
เขาเหมือนดังหนอนไหมที่ตายแล้วสัน่ สะท้านไม่ยอมหยุด
“ขุนเขามีแมกไม้ พืชพันธุม์ ีกิ่งก้าน ในใจข้ามีท่าน ไหนเลยเคยรู ้[1]”
“สิ บกว่าปี มานี้ ตั้งแต่แรกแล้ว ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง”
เขาไม่ใช่คนอย่างปฐมฮ่องเต้ หากไม่ได้มาก็บงั คับครอบครอง
ยิง่ ไม่เหมือนกันตู๋กูถิง ได้รับไปแล้วก็ไม่รู้จกั ถนอมเอาไว้ ยังจะแต่ง
ลูกสาวบุญธรรมของตระกูลเจียงมาเป็ นเมียน้อยอีก
หากว่าองค์หญิงเย่วยอมเคียงคู่อยูร่ ่ วมกับเขา เช่นนั้นชัว่ ชีวิตนี้ เขาจะ
มีนางเพียงผูเ้ ดียว ไม่วา่ ในสายตาหรื อว่าในหัวใจ ก็ไม่อาจรองรับ
หญิงอื่นใดได้อีกแล้ว
แต่ชายทั้งสองคนนั้น….กลับทาร้ายนาง รังแกนาง!
ยิง่ คิดหัวใจของเหลียงจวิน้ อ๋ องก็ยงิ่ ไม่ยอมสงบ
คาพูดเมื่อครู่ ทุกคนต่างก็ได้ยนิ หมดแล้ว แต่ละคนล้วนต้องสู ดลม
หายใจเข้าไปอย่างเหน็บหนาว
“อ้ายย่าห์เจ้าข้าเอ๋ ย นี่ยงั ไม่ใช่ววั แก่กินหญ้าอ่อนหรื ออย่างไร?” ชือห
ลีไม่ได้เข้าใจสักนิดเลยว่าองค์หญิงที่เหลียงจวิน้ อ๋ องเรี ยกนั้นที่จริ ง
แล้วคือผูใ้ ด
นางเพียงคิดว่าเขาตกหลุมรักตู๋กซู ิงหลันเข้าแล้วนัน่ เอง
ก็ต๋ ูกซู ิงหลันงดงามสคราญล้ าโลกเสี ยขนาดนั้น แถมตนยังเคยได้ยนิ
มาว่า บิดาของจีเฉวียนยังตายเพราะความงามของนาง
ดังนั้นตอนนี้ที่เหลียงจวิน้ อ๋ องจะเกิดความหลงใหลจนวิญญาณหลุด
ลอยก็เป็ นเรื่ องที่สามารถเข้าใจได้อยู่
“จะไม่ใช่ได้อย่างไร?” วิญญาณทมิฬหันไปตอบนาง “เกิดมารู ปโฉม
งดงามถือเป็ นเคราะห์กรรมอย่างหนึ่ง แม้แต่ไอ้เฒ่ายังหลงใหลจนหัว
ปักหัวปา”
ตู๋กูซิงหลัน “…..”
สี พระพักตร์ของฮ่องเต้เองก็ไม่ดีสกั เท่าไหร่ พระองค์ชกั พระหัตถ์ที่
ถูกหอกทาร้ายจนเนื้อแหลกเละกลับมา ซ่อนเอาไว้ดา้ นหลัง ดวง
เนตรหงส์ท้ งั สองจับจ้องไปที่เหลียงจวิน้ อ๋ องด้วยความเย็นชา
“เจ้าจาคนผิดแล้ว”
คนในดวงใจโดดเด่นเกินไป คนที่หลงใหลมีเป็ นร้อยเป็ นพันแต่ละ
คนล้วนไม่ธรรมดา แม้แต่ไอ้แก่อย่างเหลียงป๋ อยังกล้ามาแย่งชิงกับ
เขา?
ถึงกับกล้าสารภาพรักออกมาต่อหน้าเขา เพราะไม่คิดจะมีชีวิตอยู่
ต่อไปอีกแล้วสิ นะ
“ข้าไม่ใช่องค์หญิง” ตู๋กซู ิงหลันเองก็พยักหน้า ไม่รู้เพราะเหตุใดอยู่
ๆ นางถึงได้รู้สึกว่าเหลียงจวิน้ อ๋ องผูน้ ้ ีช่างน่าเห็นใจ
องค์หญิงที่เขาเรี ยกหา….ทาให้นางคาดเดาออกบางประการ
“ไม่ใช่หรื อ….” เหลียงจวิน้ อ๋ องประคองลมหายใจเอาไว้จดจ้องมอง
นาง
เมื่อครู่ เขาสับสนไปแล้ว ตอนนี้พอมองดูให้ละเอียด…..ก็ไม่
เหมือนกันจริ ง ๆ
เพียงแต่วา่ มีความคล้ายคลึงกันหลายส่ วน….
องค์หญิงเย่วดูอ่อนโยนกว่า แม้แต่สายตาก็เปี่ ยมไปด้วยความเห็นอก
เห็นใจผูค้ น มิได้เหมือนดวงตาดอกท้อคู่น้ ี ที่ดูลึกล้ าจนไร้กน้ บึ้ง
แต่พวกนางก็คล้ายคลึงกันมาก….เป็ นความรู ้สึกที่บอกไม่ถูก
ตอนนั้นที่องค์หญิงสุ ดท้ายก็เลือกที่จะอยูก่ บั ตู๋กถู ิง
ได้ยนิ มาว่าองค์หญิงมีหลานสาวแท้ ๆ อยูผ่ หู ้ นึ่ง มีนามว่าตู๋กซู ิงหลัน
ซึ่งก็คือไทเฮาในปั จจุบนั
สาวน้อยผูน้ ้ ี…..
มีความใกล้ชิดกับจีเฉวียน…..
เหลียงจวิน้ อ๋ องพลันคิดไปถึงความเป็ นไปได้ประการหนึ่ง
‘นางมาร’ ที่เขาเรี ยกหาจนติดปาก คงจะเป็ นไทเฮาน้อยแล้วกระมัง?
เช่นนี้ ก็สามารถอธิบายได้แล้วว่าทาไมนางถึงได้มีส่วนคล้ายคลึงกับ
องค์หญิงเย่ว
“อะเฮอะ อะเฮอะ….” เหลียงจวิน้ อ๋ องยิม้ ออกมาอย่างขมขื่น “ทาไม
ข้าถึงได้คิดไม่ถึง ว่าเจ้าเป็ นหลานสาวของนางน่ะเอง…..”
หัวเราะไป น้ าตาของเขาก็รินไหลลงมาด้วยความชอกช้ าปนลงไป
กับเลือด
“หากเจ้าเปิ ดเผยฐานะแต่แรก ข้าไหนเลยจะทาให้เจ้าต้องลาบาก….”
——

[1] 山有木兮木有枝,心悦汝兮汝不知
“ขุนเขามีแมกไม้ พืชพันธุม์ ีกิ่งก้าน ในใจข้ามีท่าน ไหนเลยเคยรู ้”
= บนภูเขามีตน้ ไม้ ต้นไม้แตกกิ่งก้านใบ (ความสมบูรณ์ สาเร็ จ
งดงาม) ใจของข้าแอบหลงรักท่าน แต่ท่านกลับไม่เคยรู ้เลย

กลอนบทนี้มาจากเพลงเรื อของชาวเย่ว (หรื อชาวจ้วง) (越人歌;


Yuèrén Gē) ตานานเล่าว่า ครั้งหนึ่งองค์ชายเออร์(鄂)เสด็จ
ประพาสทางเรื อ คนพายเรื อผูน้ ้ ีได้มีโอกาสพายเรื อถวาย จึงร้องเพลง
ด้วยภาษาเย่วพึ่งบ่งบอกความในใจ แน่นอนว่าเจ้าชายที่มาจากต่าง
ถิ่นฟังไม่รู้เรื่ อง แต่กเ็ กิดความประทับใจในท่วงทานอง เมื่อกลับไป
จึงให้เสาะหาคนมาแปลให้ฟัง พอเจ้าชายทราบว่าคนพายเรื อแอบ
ชอบพระองค์ ก็ให้คนมารับไปอยูด่ ว้ ยกัน กลายเป็ นตานานรักของ
ชายกับชายที่เก่าแก่ที่สุดของจีนเลยจ้า
ไรท์: อยากฟังเพลง? ตามไปดูYOUTUBE ฉากการแสดงที่ใส่
หน้ากากสี ขาวในหนังเรื่ อง THE BANQUET 「夜宴」ได้เลย
จ้า ค้นหาด้วย “夜宴 越人歌” อันนี้เลย
ตอนที่ 333 โอกาสที่ผ่านพ้น
เขาแอบหลงรักองค์หญิงเย่วมานานปี หากรู ้วา่ เป็ นหลานสาวของ
นาง เขามีรึจะทาร้ายนางได้ลง?
มีแต่จะรักถนอมนางเฉกเช่นเดียวกับเซิงเซิงต่างหาก?
เห็นอยูว่ า่ เหลียงจวิน้ อ๋ องกระอักเลือดไม่ยอมหยุด เหล่าลูกน้องของ
เขาก็ร้อนใจขึ้นมา
“ท่านอ๋ อง!”
ผูค้ นพากันรายล้อมเข้าไป ค่อย ๆ ประคับประคองเขาออกมาอย่าง
ระมัดระวัง
ใครจะไปคิดว่า เหลียงจวิน้ อ๋ องผูเ้ ก่งกล้าองอาจหนึ่งในห้าแม่ทพั ผู ้
ก่อตั้งแคว้นต้าโจว พอถูกฮ่องเต้ซดั หอกเข้าใส่ ครั้งหนึ่งก็จะมีสภาพ
กลายเป็ นเช่นนี้?
สภาพของเหลียงจวิน้ อ๋ องในตอนนี้ ทาให้เหล่าทหารทั้งหลายหมด
ความคิดจะตอบโต้อีกต่อไป เดิมทีกเ็ สี ยเปรี ยบอยูแ่ ล้ว มาตอนนี้
ทั้งหมดยิง่ เท่ากับว่าถูกมัดมือมัดเท้าจาต้องยอมแพ้
ตอนนี้ความหวังที่จะชนะได้จบสิ้ นไปแล้ว
หากเปรี ยบเทียบกับฮ่องเต้แล้ว พวกเขาก็เป็ นเพียงแค่ปลายแขนที่ไม่
มีทางยิง่ ใหญ่ได้เท่าต้นขา
ตอนนี้หวั ใจของเหลียงจวิน้ อ๋ องทั้งดวงจดจ่ออยูท่ ี่ต๋ ูกซู ิงหลันเท่านั้น
พอเขาถูกพวกลูกน้องประคองออกมา ก็กา้ วไปข้างหน้าอีกหลายก้าว
หลงเซียวรี บถลันเข้ามาใช้กระบี่น้ าแข็งในมือสกัดขวางเขาเอาไว้
ก่อนหน้านี้ตอนที่ปล่อยให้เหลียงจวิน้ อ๋ องเข้าใกล้ฝ่าบาทได้….เป็ น
ความตั้งใจของเขาเอง ภรรยาของหมอหลวงซุนได้สงั่ สอนเอาไว้
ในช่วงเวลาที่สาคัญจะต้องสร้างโอกาสให้ฝ่าบาทได้เป็ นผูก้ ล้า
พิทกั ษ์หญิงงาม
เช่นนี้ ก็จะสามารถได้หวั ใจของหญิงงามมาครอบครอง
ดังนั้นในตอนที่เหลียงจวิน้ อ๋ องกระโดดโผขึ้นไปนั้น เขาไม่เพียงแต่
ไม่ได้ร้ ังตัวเอาไว้ ซ้ ายังถอยให้อีกก้าวเล็ก ๆ
เป็ นไง…..ฝ่ าบาททรงเป็ นผูก้ ล้าช่วยเหลือหญิงงามได้สาเร็ จสวยงาม
เห็นไหมเล่า
เพียงแต่วา่ เรื่ องเช่นนี้มีหนึ่งแต่ไม่อาจมีได้เป็ นครั้งที่สอง รอบนี้ตน
ไม่อาจแกล้งเผลอปล่อยเขาเข้าไปได้อีกแล้ว
พอพึ่งจะขวางคนเอาไว้ ก็เห็นจีเฉวียนอุม้ ตู๋กซู ิงหลันเหาะลงมาจาก
หลังเมียเมียพอดี
พระองค์ใช้พระหัตถ์ขา้ งเดียวโอบเอวของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ แล้วก็
ลอยลงมาอย่างช้า ๆ ต่อหน้าผูค้ นทั้งหลายจนถึงเบื้องหน้าเหลียง
จวิน้ อ๋ อง
ทันทีที่ถึงพื้นดิน ไม่รู้วา่ เหล่าองครักษ์ลบั ไปหาบัลลังค์มงั กรมาจาก
ที่ใด วางเอาไว้ดา้ นหลังของพระองค์อย่างเหมาะเจาะพอดิบพอดี
ฮ่องเต้ทรงโอบกอดหญิงงามเอาไว้ กวาดพระชงฆ์ท้ งั สองออกกว้าง
ประทับนัง่ ลงบนบัลลังก์
ตอนนี้ต๋ ูกูซิงหลันถูกพระองค์อุม้ เอาไว้ จับให้นงั่ บนพระเพลา
ที่ดา้ นหลังยังมีแสงเพลิงลุกโชน แสงสะท้อนมายังคนทั้งสองที่ดู
คล้ายดัง่ ทรราชและนางสนมปี ศาจ
“เหลียงป๋ อ ก่อกบฏ ลอบปลงพระชนม์ มิวา่ จะเป็ นความผิดข้อใดก็
เพียงพอจะให้เราประหารเจ้าเก้าชัว่ โคตรได้แล้ว” พระหัตถ์ของจี
เฉวียนวางลงบนร่ างของตู๋กซู ิงหลัน ช่วยทัดปอยผมให้กบั นาง สาย
พระเนตรเหลือบมองดูเหลียงจวิน้ อ๋ องอย่างเย็นชา
จากนั้นก็เห็นมุมพระโอษฐ์บางขยับยกน้อย ๆ เย้ยหยันอย่างเย็นชา
“เราเห็นแก่ความดีความชอบที่เจ้าร่ วมติดตามปฐมฮ่องเต้ก่อตั้ง
ประเทศ จะเมตตาให้เจ้าได้มีศพที่ครบถ้วน เจ้ายังมีเรื่ องใดจะสัง่ เสี ย
อีกหรื อไม่?”
เหลียงจวิน้ อ๋ องตกตะลึงไปเล็กน้อย ในเมื่อเรื่ องนี้ลม้ เหลวแล้ว ย่อม
ต้องรู ้วา่ ตนเองไม่มีหนทางที่จะหลบหนี
จีเฉวียนใช้เพียงแค่หอกเดียวก็สามารถทาให้เขาบาดเจ็บหนัก เขา
ไหนเลยยังจะสามารถเป็ นคู่มือของคนรุ่ นหลังผูน้ ้ ีอีก?
ทั้งใบหน้าและทัว่ ทั้งร่ างกายของเขามีแต่เลือดไหลท่วม ในร่ างยังมี
หอกคู่กายของเขาคาอยูอ่ ีกเล่มหนึ่ง
“ข้าพ่ายแพ้ให้กบั เจ้าแล้ว ไม่มีอะไรจะพูด”
เหลียงจวิน้ อ๋ องพูดจบ ก็กาหอกเล่มนั้นเอาไว้แน่น ได้ยนิ เสี ยงเค้น
กาลังดึงหอกเล่มนั้นออกมา
เลือดสด ๆ ไหลริ นออกจากช่องท้อง หยดเลือดไหลลงไปบนพื้น
ตรงหน้า
หน้าผากของเหลียงจวิน้ อ๋ องมีแต่เม็ดเหงื่อเย็น ๆ เต็มไปหมด แต่เขา
กลับทาเหมือนไร้ซ่ ึงความเจ็บปวด เพียงเงยหน้าขึ้นมามองดูต๋ ูกซู ิงห
ลัน สายตานั้นพอกวาดมองขึ้นไปก็เหมือนว่าได้มองเห็นองค์หญิง
เย่วในตอนนั้นอีกครั้ง
ใช่นางนัน่ เอง…..ช่างดีเหลือเกิน
เขาขยับมือออกไป ในฝ่ ามือมีแต่เลือดเปรอะเปื้ อน สายตาที่มองดูต๋ ูกู
ซิงหลันนั้นแสนจะอ่อนโยน
“ก่อนตายข้ามีคาขอประการหนึ่ง มิทราบว่าแม่นางจะยินดีช่วยให้ขา้
สมประสงค์ได้หรื อไม่?” น้ าเสี ยงของเขาแหบพร่ าทั้งยังแฝงแวว
ขอร้องอยูห่ ลายส่ วน
คนเราจะยังมีความเป็ นอริ ศตั รู หรื อไม่ แค่ดูจากบรรยากาศรอบตัว
ของเขาก็สามารถบอกได้แล้ว
“ท่านบอกมาเถอะ” นางขยับปลายนิ้ว พอสิ้ นเสี ยงก็เห็นเหลียงจวิน้
อ๋ องขยับเข้ามาใกล้นางอีกเล็กน้อย
“ข้ารู ้ฐานะของแม่นางแล้ว ใบหน้านี้ของเจ้าบ่งบอกทุกสิ่ งออกมา”
พอห่างจากตู๋กซู ิงหลันเพียงก้าวเดียว เหลียงจวิน้ อ๋ องก็หยุดเท้าลง
ตู๋กซู ิงหลันเองก็มิได้ตื่นตระหนก นางหรี่ ตาลงมองดูเขา ก็เห็นถึง
ความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายออกมาได้ของเหลียงจวิน้ อ๋ อง
เขาพยายามคุกเข่าลงข้างหนึ่งที่เบื้องหน้าของนาง ยืน่ ฝ่ ามือที่มีแต่
เลือดชโลมอยูอ่ อกมาอีกครั้ง “แม่นางพอจะกรุ ณา….จับมือของข้า
ได้หรื อไม่ ถือเสี ยว่าเป็ นคาขอร้องสุ ดท้ายของคนที่กาลังจะตาย”
ไม่มีใครเข้าใจความหมายในการกระทาของเหลียงจวิน้ อ๋ อง ก่อนจะ
ตายแท้ ๆ กลับไม่กล่าวอะไรถึงเซิงเซิงที่เป็ นหลานสาวของตนเอง
สักคา คิดแต่จะให้เด็กสาวคนหนึ่งจับมือของเขา?
นี่เป็ นเพราะแค่วา่ สาวน้อยคนนั้นหน้าตางดงาม? พอจวิน้ อ๋ องท่านได้
เห็นก็ตกหลุมรักขึ้นมาจริ ง ๆ ?
“เราไม่อนุญาต” จีเฉวียนตรัสเสี ยงเย็นชา คิดจะแตะต้องซิงซิงต่อ
หน้าต่อตาพระองค์เนี่ยนะ?
เหลียงจวิน้ อ๋ องคงจะเบื่อที่มีชีวิตอยูน่ านไปแล้วจริ ง ๆ
ตรัสแล้ว พระองค์กท็ อดพระเนตรไปทางเหลียงจวิน้ อ๋ องครั้งหนึ่ง
ขณะที่เงียบงันกันอยูน่ ้ นั ก็ทรงยืน่ พระหัตถ์ของพระองค์ออกไป
“เห็นแก่ที่เจ้ามีผลงานร่ วมก่อสร้างแคว้น เราจะให้เจ้ากุมเอาไว้”
อย่าได้มาพูดว่าฮ่องเต้เช่นพระองค์ไม่มีน้ าจิตน้ าใจ กับคนที่ก่อกบฏ
สร้างความวุน่ วายในบ้านเมือง ก่อนตายยังได้รับการตอบรับคาขอถึง
เพียงนี้ ต้องถือว่าเป็ นพระกรุ ณาอย่างที่สุดแล้ว
ตู๋กูซิงหลันอยากจะคุกเข่าให้กบั พระองค์บา้ งแล้ว ก็แค่จบั มือไม่ใช่
เรื่ องคอขาดบาดตายสักหน่อย….
ยิง่ ไปกว่านั้น นางก็อยากจะรู ้เรื่ องราวบางอย่างจากเหลียงจวิน้ อ๋ อง
อีกด้วย
ขณะที่จีเฉวียนทรงยืน่ พระหัตถ์ออกไปนั้น ตู๋กซู ิงหลันก็โน้มตัวไป
ข้างหน้าเล็กน้อย ฝ่ ามือเล็ก ๆ ที่ท้ งั ขาวและละเอียดนุ่มถูกส่ งออกไป
เหลียงจวิน้ อ๋ องคว้าเอาไว้แน่นอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
นี่เป็ นมือที่อบอุ่นเหลือเกิน
ความอบอุ่นสายหนึ่งซึมซาบสู่ กน้ บึ้งหัวใจของเขา
ชัว่ ขณะนั้นเอง ในสมองของเขาก็ยอ้ นกลับไปหาภาพมากมายเมื่อ
หลายสิ บปี ก่อน
สายตาของเขาพร่ าเลือนอยูบ่ า้ ง นี่มนั ผ่านมานานกี่ปีแล้วนะ?
ตอนนั้นทั้งเขา ปฐมฮ่องเต้ และตู๋กถู ิงยังคงหนุ่มแน่นเหมือนดัง่ จี
เฉวียนในยามนี้
เขาและตู๋กถู ิงต่างก็เป็ นแม่ทพั คู่ใจของปฐมฮ่องเต้
ปฐมฮ่องเต้ทรงเป็ นผูท้ ี่มีพระทัยทะเยอทะยานมาแต่ไหนแต่ไร
ก่อนที่จะขึ้นครองราชย์กห็ มายมัน่ ปั้นมือในสมบัติล้ าค่าของแคว้น
กู่เย่วอยูแ่ ล้ว
ภายใต้การวางแผนยุทธการณ์อย่างรอบคอบ ในช่วงที่ดอกไห่ถาง
กาลังผลิบานนั้น พวกเขาได้ลอบเข้าไปในแคว้นกู่เย่ว
น่าเสี ยดายที่โชคชะตาทาร้ายผูค้ น สถานการณ์ในเมืองกู่เย่วกลับ
ซับซ้อนกว่าที่พวกเขาคาดคิดเอาไว้มากมาย
ทุกสิ่ งในที่นี่อยูเ่ หนือความคาดหมาย เพียงแค่ในป่ าก็มีสตั ว์อสู รภูติผี
ปี ศาจนับไม่ถว้ น
ท่ามกลางการต่อสู ้ที่ชุลมุน พวกเขาพลัดหลงกับปฐมฮ่องเต้ที่
บาดเจ็บสาหัส
และเพราะการบาดเจ็บสาหัสในครั้งนี้ ทาให้ปฐมฮ่องเต้ทรงได้พบ
กับองค์หญิงเย่ว
ภายหลังจากนั้น กว่าที่เขาและตู๋กถู ิงตามหาปฐมฮ่องเต้พบ พระองค์
ก็อยูข่ า้ งกายองค์หญิงเย่วแล้ว
เขายังจาได้ วันนั้นมีฝนตกเบา ๆ นางสวมใส่ ชุดกระโปรงสี ดาทั้งชุด
แต่วา่ กลับดูงดงามดึงดูดสายตาอย่างที่สุด
ตั้งแต่พริ บตานั้น ก็ร้ ังเขาเอาไว้จนชัว่ ชีวิต
………………..
ตอนนี้ ดวงตาของเหลียงจวิน้ อ๋ องเกลื่อนไปด้วยประกายน้ าตา เขา
เกาะกุมมือของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้แน่น สาลักหายใจอย่างยากลาบาก
“องค์หญิง………ผ่านมานานหลายปี แล้ว …….ในที่สุดข้าก็จะได้
ไปพบท่านที่ปรโลกเสี ยที”
คนที่จะตาย แม้แต่ลมหายใจสุ ดท้ายก็ยงั ยื้อเอาไว้ไม่ได้
ตู๋กซู ิงหลันปล่อยให้เขายึดเอาไว้
เหลียงจวิน้ อ๋ องผ่อนลมหายใจ พยายามฝื นรวบรวมกาลังอย่างที่สุด
เพื่อส่ งลูกแก้วบนคอของเขาให้ต๋ ูกซู ิงหลัน “นี้เป็ นขององค์หญิงเย่ว
ข้าคิดว่า ควรมอบให้เจ้า”
ว่าแล้ว เขาก็กระอักเลือดออกมาอีกคาโต
แต่ถึงสุ ดท้ายแล้วก็ยงั ไม่ยอมปล่อยมือของตู๋กซู ิงหลัน เขามองไปที่จี
เฉวียน “ฝ่ าบาท ขอทรงเห็นแก่ที่กระหม่อมติดตามปฐมฮ่องเต้ไปทุก
ที่ ทั้งยังไม่เคยกระทาเรื่ องให้เกิดผลร้ายต่อแคว้นต้าโจว เมื่อ
กระหม่อมตายแล้ว โปรดละเว้นทางรอดให้แก่เซิงเซิง”
——
ตอนต่อไป “ภักดีต่อฝ่ าบาทจนตัวตาย”
ตอนที่ 334 ภักดีต่อฝ่ าบาทจนตัวตาย
ที่สุดแล้วเขาก็มิได้เหลวไหล ยังคงคานึงถึงหลานสาวที่บริ สุทธิ์ไร้
เดียงสาของตนอยู่
เมื่อเขาตายไป ในโลกนี้กจ็ ะไม่มีใครรู ้เรื่ องเซิงเซิงคือสายเลือดที่
หลงเหลืออยูข่ องเชื้อพระวงศ์แคว้นกู่เย่ว
ต่อให้จีเฉวียนที่เฉลียวฉลาดรู ้แล้ว……แต่ต๋ ูกูซิงหลันเองก็เป็ น
ทายาทขององค์หญิงเย่ว ในเมื่อเขารักนางถึงเพียงนั้น ก็คงจะเว้นทาง
รอดไว้ชีวิตเซิงเซิงเช่นกัน?
เขามองดูจีเฉวียนด้วยสายตาวิงวอน หอบเอาลมหายใจสุ ดท้ายคุกเข่า
ลงเบื้องพระพักตร์
สายพระเนตรของจีเฉวียนเย็นชา “นางเป็ นกุย้ เฟยของเรา เราย่อมไม่
ทาอะไรกับนาง”
หากจะนับกันไปแล้ว เหลียงเซิงเซิงก็เป็ นญาติผนู ้ อ้ งของซิงซิง อย่าง
น้อย ๆ ก็มีความผูกพันกันทางสายเลือด เขาย่อมไม่อาจกวาดล้างได้
เมื่อมีคาสัญญาของจีเฉวียน เหลียงจวิน้ อ๋ องก็สามารถวางใจได้แล้ว
“กองทัพทั้งหมดฟังคาสัง่ เรื่ องทั้งหมดในวันนี้เป็ นการหาเรื่ องใส่ ตวั
ของข้าแต่เพียงผูเ้ ดียว พวกเจ้าไม่อาจโกรธแค้นฝ่ าบาท นับจากวันนี้
เป็ นต้นไปจะต้องทุ่มเทชีวิตและจิตใจรับใช้ฝ่าบาท ปกป้องต้า
โจวจนตัวตาย!”
เขาสัง่ ออกมาเพียงประโยคเดียว ทหารทั้งหมดก็พากันคุกเข่าลงไป
มิวา่ อย่างไรพวกเขาก็ติดตามเหลียงจวิน้ อ๋ องมานานปี ย่อมมีความ
เคารพในตัวท่านอ๋ องอย่างสุดใจ
ถึงแม้วา่ ตอนนี้จะถูกองครักษ์ลบั ของฮ่องเต้ลอ้ มเอาไว้ แต่หากว่า
จวิน้ อ๋ องสัง่ ให้พวกเขาสู ้จนตัวตาย พวกเขาก็พร้อมจะมอบชีวิต
ออกไป
ตอนนี้จวิน้ อ๋ องต้องการให้พวกเขาถวายความจงรักภักดีต่อฮ่องเต้
เมื่อมองดูฮ่องเต้ที่ทรงประทับนัง่ อยูบ่ นบัลลังก์อย่างองอาจในใจของ
แต่ละคนก็พลันเกิดความเคารพยาเกรงขึ้นมา
คิด ๆ ดูแล้ว ฝ่ าบาทก็ทรงให้หน้าแก้จวิน้ อ๋ องมากแล้ว
หากมองจากมุมมองของพระองค์ จวิน้ อ๋ องถือเป็ นกบฏ สมควร
จะต้องประหารเก้าชัว่ โคตร แต่วา่ ฝ่ าบาทกลับไม่ได้ทรงบีบคั้นเขา
ทั้งยังรับปากจะไว้ชีวิตคุณหนูเซิงเซิง
น้ าพระทัยที่กว้างขวางเช่นนี้ เหมาะสมกับฐานะของเจ้าฟ้าเจ้า
แผ่นดินอย่างยิง่
“ภักดีต่อฝ่ าบาทด้วยชีวิต ปกป้องต้าโจวจนกว่าจะหาไม่!”
ไม่รู้วา่ ผูใ้ ดตะโกนขึ้นมาก่อน เหล่าทหารทั้งหมดชะงักไปเล็กน้อย ก็
พร้อมใจกันตะโกนออกมา
และท่ามกลางเสี ยงตะโกนสัตย์สาบานนี้เอง เหลียงจวิน้ อ๋ องก็ได้ขาด
ลมหายใจไป
มือของเขากาหอกเอาไว้ คุกเข่าลงข้างหนึ่งให้กบั จีเฉวียน ก้มศีรษะ
ลงไป หลัง่ เลือดจากช่องท้อง
ดัง่ วีรบุรุษผูถ้ ดถอยไปตามกาลเวลา เป็ นภาพที่โศกเศร้าจนไม่อาจจะ
บรรยายออกมาได้
เขาคุกเข่าอยูต่ รงนั้น อย่างไร้สาเนียงใด ๆ อีกตลอดกาล
จีเฉวียนมองดูเขา ที่สุดแล้วยังต้องถือว่าเหลียงป๋ อมีน้ าใจการุ ณ ก่อน
ตายก็ได้หาทางรอดเอาไว้ให้กบั กองทัพเมื่องกู่เย่ว
ให้พวกเขาทั้งหมดศิโรราบต่อพระองค์ นี่คือทางรอดที่เหลียงป๋ อ
ให้กบั พวกเขา
จีเฉวียนเองก็ทรงเป็ นฮ่องเต้ที่มีพระเมตตาปราณี ย่อมไม่ทาอะไรกับ
พวกเขาเพราะเหลียงจวิน้ อ๋ องเป็ นเหตุ เพียงแต่วา่ ทหารของกองทัพนี้
คงหมดโอกาสจะได้รับหน้าที่สาคัญไปชัว่ ชีวติ
…………………….
ฉู่เจียงเองก็ยนื อยูไ่ ม่ไกลออกไป เหลียงจวิน้ อ๋ องตายไปแล้ว เขา
ไม่ได้รู้สึกสบายใจสักเท่าไร
ไอ้แก่นนั่ อย่างไรก็เป็ นปู่ ของเหยือ่ ตัวน้อย
หากว่าเหยือ่ ตัวน้อยอารมณ์ไม่ดี กินเข้าไปก็จะไม่ค่อยอร่ อย
คืนนี้เกิดเรื่ องขึ้นมากมาย ทาเอาเขาเกือบจะลืมจุดมุ่งหมายไปเสี ย
แล้ว
แต่เมื่อกวาดตามองไปโดยรอบ จะอย่างไรก็หาเหยือ่ ตัวน้อยไม่พบ
………………………….
ในเมืองกู่เย่ว บนหอสู ง สี หน้าของต้าจี้ซือเองก็ไม่ดีสกั เท่าไร
“ท่านประมุข ดูท่าเรื่ องราวจะไม่ได้เป็ นไปตามที่คาดไว้” ฉางซุนซิ่
วยืนอยูข่ า้ งกายเขา ดวงตาทั้งสองเปี่ ยมไปด้วยประกายเย็นยะเยือก
ใครจะไปคิดว่าอยูด่ ี ๆ จะถูกเหลียงจวิน้ อ๋ องเข้ามาแทรกแซง ไม่
เพียงแต่จีเฉวียนจะปลอดภัยไร้เรื่ องราวเท่านั้น แต่กองทหารทั้งหมด
ของเมืองกู่เย่วยังยอมศิโรราบต่อเขา
เมื่อไม่มีหินขวางเท้าอย่างเหลียงจวิน้ อ๋ อง เส้นทางที่จะครอบครอง
ความยิง่ ใหญ่ของจีเฉวียนก็ยงิ่ สะดวกสบายมากขึ้น
ที่ยงิ่ น่าเสี ยดายก็คือ ตู๋กซู ิงหลันถึงกับยังไม่ตาย?
ตอนนั้นเขามัน่ ใจเลยว่า ช่องว่างของมิติเวลาพังทลายลงมา นาง
สมควรถูกแรงกดดันนัน่ บีบคั้นจนร่ างและกระดูกแหลกเหลว
คิดไม่ถึงว่านางจะมีชะตาเข้มแข็ง ไม่ตายก็แล้วไปเถอะ แต่ยงั ปี น
กลับออกมาหาฮ่องเต้ได้
จีเฉวียน……ทั้ง ๆ ที่เป็ นคนที่ถูกทอดทิ้งแท้ ๆ แต่กลับกอดนาง
อย่างใกล้ชิดสนิทสนม
พระองค์มนั ช่างไร้ค่าเสี ยจริ ง ๆ คนที่มิวา่ อ้อนวอนอย่างไรก็ยงั ไม่
สนใจ กลับถูกพระองค์วางเอาไว้เป็ นยอดดวงใจ
พระองค์ลืมไปแล้วหรื อ อาการบาดเจ็บทัว่ ทั้งพระวรกายของ
พระองค์ เขาได้ ‘แลก’ มาไว้บนร่ างของตนเอง?
ฉางซุนซิ่วเออร์กาหมัดขึ้นมา บนร่ างมีแต่ความกรุ่ นโกรธ
สายตาของต้าจี้ซือเองก็มีแต่ความเย็นยะเยือก ประการแรกเรื่ องราว
ไม่ได้เป็ นไปอย่างที่เขาวางแผนเอาไว้
เขาคิดไม่ถึงว่า แม่ทพั ของต้าโจวคนนั้นจะเคยแอบหลงรักเย่วเอ๋ อร์
มาก่อน
ใต้หล้านี้บุรุษที่หลงใหลนางมีมากมายเกินไปแล้ว…แม้แต่เขายังจน
จาได้ไม่หมด
ประการที่สอง คือสาวน้อยในอ้อมแขนของจีเฉวียนผูน้ ้ นั ….
สาหรับพวกเขาที่ฝึกฝนบาเพ็ญมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ถึงแม้วา่ จะอยูห่ ่าง
กันไกลถึงเพียงนี้ แต่กย็ งั สามารถเห็นคนได้อย่างชัดเจน
และเพราะใบหน้านั้นทาให้ตา้ จี้ซือต้องนิ่งงันไปเนิ่นนาน
“นางคือใครกัน?” พักใหญ่ ต้าจี้ซือถึงได้ถามออกมาคาหนึ่ง
“ตู๋กูซิงหลัน หลานสาวของตู๋กูถิง”
ฉางซุนซิ่วเอ๋ อร์หวั เราะเสี ยงเย็นชาคาหนึ่ง “เป็ นเพราะสตรี ผนู ้ ้ ี ที่ทา
ให้แผนการณ์ท้ งั ในทางลับและในที่แจ้งของท่านประมุขจึงถูก
ทาลายไป”
“ตู๋กซู ิงหลัน….” ต้าจี้ซือทบทวนชื่อของนางเบา ๆ ครั้งหนึ่ง
เมื่อใช้แซ่ต๋ ูกสู องคานี้กย็ งิ่ ทาให้สีหน้าของเขายา่ แย่กว่าเดิม
เขาไม่เพียงชิงชังราชวงศ์โจว ยิง่ เกลียดชังตระกูลตู๋กยู งิ่ กว่า
ฉางซุนซิ่วเอ๋ อร์ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่ องที่ในร่ างของนางเป็ นจิตวิญญาณอีก
ดวงหนึ่งออกไป เนื่องเพราะเขาติดตามท่านประมุขมานานหลายปี
จะมากจะน้อยย่อมรู ้เรื่ องที่เกี่ยวเนื่องกับท่านประมุขอยูบ่ า้ ง
คนที่เกี่ยวพันกับตระกูลตู๋กู ทั้งยังก่อกวนแผนการของท่านประมุข
อยูห่ ลายหน ท่านประมุขมีหรื อจะยอมปล่อยนางไปง่าย ๆ
คราวนี้ ต้าจี้ซือก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีก หากแต่จบั จ้องมองดูสาวน้อย
ในอ้อมแขนของจีเฉวียน
เห็นหางตาและหัวคิว้ ของนางคล้ายคลึงกับเย่วเอ๋ อร์อยูห่ ลายส่ วน
หัวใจที่เปี่ ยมไปด้วยความแค้นมานานหลายปี ก็ตอ้ งกระตุกขึ้นมา
ในทันที
หลานสาวแท้ ๆ ของเย่วเอ๋ อร์ เติบโตถึงเพียงนี้แล้ว
หากว่าตอนนั้นไม่ได้เกิดเรื่ องราวพวกนั้นขึ้นมาละก็….สาวน้อยผูน้ ้ ี
เดิมทีสมควรจะเป็ นหลานสาวของเขา
“ท่านประมุข กาลังสนใจอันใดหรื อขอรับ?” ฉางซุนซิ่วเอ๋ อร์เห็นเขา
ไม่พดู อะไรอยูพ่ กั หนึ่งแล้ว จึงไม่เข้าใจอยูบ่ า้ ง “วันนี้จีเฉวียนกลับได้
ประโยชน์ไปอีกแล้ว หากว่ายังคงเป็ นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าฐานกาลัง
ของเขาจะยิง่ เพิ่มพูนขึ้นเรื่ อย ๆ ถึงตอนนั้น เมื่อท่านประมุขจะ
จัดการกับเขา เกรงว่าจะเป็ นเรื่ องยากแล้ว”
พอพูดจบ หมอกสี ดาของต้าจี้ซือก็เพิ่มพูนขึ้นมา
ฝ่ ามือหนึ่งตวัดลงไปบนใบหน้าของฉางซุนซิ่วเอ๋ อร์ “ในสายตาของ
เจ้า ประมุขเช่นข้าถึงกับไร้ความสามารถเพียงนั้น?”
ฉางซุนซิ่วเอ๋ อร์รับฝ่ ามือไปเต็ม ๆ ใบหน้าที่งดงามประดุจเนื้อหยกมี
เส้นเอ็นสี ดาผุดขึ้นมาทัว่ ในทันที
ใบหน้าของเขาถูกตบจนหันไปข้างหนึ่ง แต่สีหน้ากลับไร้ความรู ้สึก
ใด ๆ เพียงกล่าวออกมาประโยคหนึ่ง “ท่านประมุขย่อมแข็งแกร่ ง
ที่สุดแล้ว”
เนื่องเพราะ…..บุรุษที่ยนื อยูต่ รงหน้าเขานี้กเ็ ป็ นเพียงร่ างแบ่งแยก
ของท่านประมุขเท่านั้น
ร่ างจริ งของเขา คงอยูท่ ี่ตาหนักซิวหลัวเตี้ยนกระมัง?
เพียงแค่ร่างแยกร่ างเดียวก็สามารถล่มทุกผูท้ ุกนามในที่น้ ีได้แล้ว อย่า
ว่าแต่ร่างจริ งของเขาเลย
ต้าจี้ซือมิได้สนใจเขาอีก เพียงสลายร่ างกายเป็ นหมอกสี ดาสายหนึ่ง
จากไป
บนหอสู ง สายตาของฉางซุนซิ่วเอ๋ อร์ยงิ่ ทวีความเคียดแค้นมาก
กว่าเดิม
……………
สามวันหลังจากนั้น
ขณะที่ผคู ้ นต่างก็กาลังคาดการณ์วา่ ฝ่ าบาทคงจะให้ห่อศพของเหลียง
จวิน้ อ๋ องด้วยเสื่ อฟาง โยนลงไปในสุ สานไร้ญาติน้ นั เหลียงจวิน้ อ๋ อง
กลับได้รับการทาพิธีกลบฝังอย่างสมเกียรติที่สุสานในเขาฝูงซาง
ซาน
ทาพิธีเฉกเช่นท่านโหวผูห้ นึ่ง
ผูค้ นต่างเปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อฮ่องเต้พระองค์น้ ี ทรงยอมให้ขนุ
นางกบฏผูห้ นึ่งได้รับการทาพิธีกลบฝังเฉกเช่นโหวผูห้ นึ่ง น้ าพระทัย
นี้ทาให้ผคู ้ นต้องเคารพยกย่องแล้ว
ข่าวใหม่กระจายไปทัง่ ทั้งเมืองกู่เย่ว ก่อนหน้านี้ผคู ้ นต่างเคยได้ยนิ ว่า
ฮ่องเต้ทรงร้ายกาจมีน้ าพระทัยเย็นชา ตอนนี้ดูแล้ว ที่จริ งทรงมีพระ
เมตตาไพศาล
——-
ตอนต่อไป “ความทรงจาของเจียงเย่ว”
ไรท์: ไฮ้ยา่ ห์ ความทรงจาของท่านย่ามาแล้ว งานนี้ตอ้ งมีคนเละแน่

ตอนที่ 335 ความทรงจาของเจียงเย่ ว
ใต้ภูเขาฝูซางซาน รอบด้านล้วนมีแต่หมอกสี แดงอบอวล
พิธีฝังเริ่ มขึ้นในยามเช้า ขณะที่ดวงอาทิตย์ยงั ไม่ทนั ขึ้นมา เชิงเขาฝูง
ซางซานก็มีผคู ้ นรออยูม่ ากมายแล้ว
ที่นี่คือลานประหัตประหารที่ทหารต้าโจวเข่นฆ่าชาวเมืองกู่เย่ว แรง
แค้นเข้มข้น พลังต่อต้านมากล้น
คนเป็ นที่พลัดหลงเข้ามาในเขาฝูงซาง โดยมากมาได้แต่กลับไป
ไม่ได้
สถานที่ฝังร่ างของเหลียงจวิน้ อ๋ องอยูล่ ึกเข้าไปข้างใน ทาให้คนรู ้สึก
ลาบากใจอยูบ่ า้ ง
ยังดีที่เป็ นเพียงแค่เชิงเขาฝูซางซาน ไม่ถือว่าอันตรายเท่าใด
เพียงแต่บรรยากาศอึดอัด ทึมทึบ ทาให้ผคู ้ นรู ้สึกไม่สบายตัว
ตู๋กซู ิงหลันติดตามจีเฉวียนมาด้วยกัน นัง่ อยูภ่ ายในรถม้า ไม่ได้
เปิ ดเผยโฉมหน้าออกมา
ทุกผูค้ นต่างก็รู้วา่ ฝ่ าบาททรงถูกนางมารผูห้ นึ่งล่อลวงจนหลงใหล
ตลอดหลายวันนี้เป็ นต้องให้นางมารน้อยผูน้ ้ นั ติดตามอยูข่ า้ งพระ
วรกายอยูเ่ สมอ ไม่เคยห่างแม้ชวั่ ครู่ ชวั่ ยาม
เหล่าองครักษ์ลบั จากต้าโจวล้วนรู ้ดีวา่ นางมารน้อยผูน้ ้ ีก็คือไทเฮาผู ้
ไร้เทียมทาน
แต่ชาวเมืองกู่เย่วกลับไม่ทราบเรื่ องราวใด ๆ
เมื่อมาถึงเชิงเขาฝูซางซาน ทั้งไอหยินและแรงแค้นที่อดั แน่นจน
เข้มข้น ทาเอาแม้แต่ต๋ ูกซู ิงหลันก็ยงั ต้องตื่นตะลึงไป
ก่อนที่เหลียงจวิน้ อ๋ องจะตายได้มอบลูกแก้วลูกหนึ่งให้กบั นาง นาง
รับมาแล้วก็เก็บเอาไว้ในกระเป๋ า
แต่พอมาถึงเชิงเขาแห่งนี้ ลูกแก้วลูกนั้นก็เรื องแสงขึ้นมา เป็ นแสง
สว่างจ้าจนทาให้คนต้องแสบตา
ตู๋กซู ิงหลันนัง่ อยูใ่ นรถม้าเพียงลาพัง ทันทีที่เกิดประกายแสงว่างขึ้น
บรรยากาศรอบกายของนางก็พลันเปลี่ยนไป
สิ่ งที่ปรากฏสู่ สายตาคือป่ าลึกผืนหนึ่ง
สกุณากาเหว่าส่ งเสี ยงร้อง แม้แต่ในอากาศก็ยงั มีกลิ่นหอมของ
ดอกไม้
แสงอาทิตย์ลอดผ่านใบไม้ลงมา ส่ องลงบนลาต้นของต้นไฮ่ถาง
ขนาดใหญ่ตน้ หนึ่ง
ใต้ตน้ ไม้ตน้ นั้นเอง มีบุรุษผูห้ นึ่งหลัง่ เลือดชโลมกาย
เขาสวมใส่ เสื้ อผ้าสี ทองทัว่ ทั้งร่ าง แผ่นหลังพิงอยูก่ บั ลาต้น เส้นผม
รุ่ ยร่ ายเห็นใบหน้าเพียงครึ่ งเดียว
ใบหน้านั้น…..คล้ายคลึงกับจีเฉวียน
แต่กลับให้ความรู ้สึกที่แตกต่าง
มิได้เย็นชาเช่นจีเฉวียน ทั้งไม่ได้ยโสเท่า หัวคิ้วของเขาขมวดมุ่น ดู
ท่าทางกาลังอ่อนแอออย่างยิง่
เสื้ อผ้าสี ทองขาดวิ่นจนมีแต่รูโหว่ ทัว่ ทั้งร่ างของเขามีแต่บาดแผลที่
หนักหนา
ริ มฝี ปากแห้งผาดจนหลุดลอก คล้ายกับว่าไม่ได้รับน้ าสักหยดมา
หลายวันแล้ว
แสงอาทิตย์จบั ลงบนใบหน้าของเขา ที่ปราศจากสี เลือดอย่างสิ้ นเชิง
ในป่ าทึบที่มีแสงสว่างราไรดวงตาลึกลับหลายคู่กาลังจดจ้องอยู่ แต่
ละตัวจับจ้องไปที่เขา แต่กไ็ ม่กล้าผลีผลามเข้าไป
ก็แค่มนุษย์ที่แข็งแกร่ งมากกว่าธรรมดาเพียงคนเดียว สาหรับพวกมัน
แล้วย่อมเป็ นแรงดึงดูดใจอย่างมหาศาล
ในที่สุดย่อมต้องมีตวั ที่ทนไม่ไหวอีกต่อไป
สุ นขั ป่ าตัวใหญ่กว่าสองเมตรตัวหนึ่ง มันค่อย ๆ กางเล็บบนอุง้ เท้า
ออกมา คารามแผ่วเบาก็กระโจนเข้าไปหาคนในวูบเดียว
ขณะที่มนั กระโจนเข้าไปนั้น ในป่ าทึบกลับมีอสรพิษสี แดงขนาด
ใหญ่พงุ่ ออกมา อสรพิษฉกใส่ ร่างของหมาป่ าเลื้อยรัดมันไว้ดว้ ย
ความรวดเร็ ว เพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็บีบจนกระดูกแตกแหลก
เหลวหมด
จากนั้นมันก็แลบลิ้นออกมาเลื้อยเข้ามาหาบุรษผูน้ ้ นั
มันอ้าปากที่ภายในเป็ นสี แดงออกกว้าง แต่ดา้ นหลังกลับมีนกแร้ง
ขนาดใหญ่กระพือปี กโฉบลงมา
นกแร้งตัวนั้นวาดปี กออกกว้างมีความยาวห้าถึงหกเมตร ทันทีที่มนั
โผลงมาก็ตระครุ บลงไปบนจุดเจ็ดนิ้วของอสรพิษตัวนั้น จากนั้นก็
ฉีกงูเป็ นสองท่อนในทันที
พอเจ้างูนนั่ ตัวเย็นเฉียบไปแล้ว ดวงตาของนกแร้งก็สาดประกายเย็น
ยะเยียบ กรงเล็บที่แหลมคมตวัดขึ้นมาเตรี ยมจะแทงลงไปในเนื้อ
ของชายหนุ่ม
ชัว่ ขณะนั้นเอง ลูกศรที่เย็นเฉียบดอกหนึ่งพุง่ ออกมาจากในป่ า พุงเข้า
ใส่ ลาคอของนกแร้ง
นกแร้งขยับปี กหลบออกไป มันโกรธเกรี้ ยวขึ้นมา หันหัวกลับไป
ทางยังทิศทางที่ลูกศรพุง่ ออกมา
มันกระพือปี กขึ้นโกงคอร้อง กรงเล็บที่แหลมคมกรี ดลงไปบนพื้น
ขณะเดียวกัน สายลมหอบหนึ่งพัดมา สาวน้อยในชุดกระโปรงสี ดาผู ้
หนึ่งปรากฏตัวขึ้นใต้ตน้ ไม้
นางมีผา้ โปรงคลุมหน้า เปิ ดเผยเพียงดวงตาอบอุ่นอ่อนโยนที่น่ามอง
บนหลังของนางมีคนั ธนูสีทองขนาดใหญ่ รู ปร่ างที่เล็กและบอบบาง
ถึงเพียงนี้กลับสามารถน้าวคันธนูน้ นั ได้จนสุ ด ทั้งยังยิงลูกศร
ติดต่อกันสามดอกใส่ นกแร้ง
ลูกศรแหวกอากาศออกมา ส่ งเสี ยงเฟี้ ยว ๆ ๆ ติดกัน
ครั้งนี้พลังยังรุ นแรงกว่าครั้งก่อน ศรสามดอกพุง่ ออกไป ก็แทงเข้า
ไปในหัวของนกแร้งตัวนั้นทันที
ขนสี ขาวบนหัวนกแร้งร่ วงลงมา นางขยับร่ างเพียงวูบเดียวก็มาถึง
ข้างกายนกแร้ง ในมือเพิ่มกริ ชที่ลว้ งออกมาจากอกเสื้ อเล่มหนึ่ง
สะบัดออกไปเพียงสองที่กต็ ดั กรงเล็บของนกแร้งออกมา
จากนั้นก็ไปที่อสรพิษที่ขาดเป็ นสองท่อน ล้วงเอาดีงูของมันออกมา
สุ ดท้ายค่อยหันไปหาหมาป่ าตัวใหญ่ ถอนเขี้ยวของมันออกมา
ทุกขั้นตอนรวดเร็ วลื่นไหล สาเร็ จลงไปอย่างรวดเร็ วในช่วงเวลาอัน
สั้น
บนหลังของนางสะพายธนูคนั ใหญ่ ในมือถือเขี้ยวหมาป่ า ดีงูและ
กรงเล็บนกแร้งเอาไว้ พลางเดินเข้ามาหาบุรุษหนึ่งทั้ง ๆ ที่มีเลือด
หยดเป็ นทาง
พอมาถึงข้างกายเขา ก็หยุดมองอยูค่ รู่ หนึ่งค่อยคุกเข่าลง มือข้างหนึ่ง
คว้าลาคอของเขาเอาไว้ พลางแนบจมูกลงมาสู ดดม
ดมดูซิวา่ ตายหรื อยัง
พอถูกคนสัมผัส บุรุษผูน้ ้ นั ค่อยลืมตาขึ้นมา
สมองของเขางุนงงอยูค่ รู่ หนึ่ง จมูกของตนเองแทบจะชนกับจมูก
หญิงสาวผูน้ ้ นั
ดวงตาทั้งสี่ ตาประสานกัน ในดวงตาของเขาเห็นแต่เพียงนางเท่านั้น
สาวน้อยชะงักไปชัว่ ครู่ “เจ้ายังไม่ตาย?”
พูดแล้วนางก็ยมิ้ ออกมา ถึงแม้วา่ จะมีผา้ ปิ ดหน้าแต่กย็ งั สามารถ
มองเห็นดวงตาที่ยมิ้ อย่างดีใจจนโค้งมนของนางได้
นายคลายมือจากบุรุษผูน้ ้ นั สะบัดของรางวัลจากการล่าที่อยูใ่ นมือ
“เจ้าน่าอร่ อยมากหรื อ? พวกมันล้วนอยากจะกินเจ้า”
บุรุษผูน้ ้ นั ชะงักไปเล็กน้อย เขาหลุบตาลงมองดูบาดแผลบนร่ าง
กล่าวอย่างเย็นชาว่า “เนื้อมนุษย์ไม่อร่ อย”
สาวน้อยได้ยนิ แล้ว ก็กดั ลงไปบนหัวไหล่ของเขาครั้งหนึ่งทันที ใน
ปากของนางได้รสเข้มข้นของคาวเลือด ทาให้รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่
นางขมวดคิว้ ส่ ายศีรษะ “ไม่อร่ อยจริ ง ๆ ด้วย”
“ในเมื่อเจ้าไม่อร่ อย ก็จะปล่อยเจ้าไป” พูดแล้ว นางก็ลุกขึ้นยืน
เดินไปได้สองก้าวก็หนั หลังกลับมา ถอดเสื้ อผ้าครึ่ งบนออกจนหมด
สิ้ น
“เจ้าจะทาอะไร?” บุรุษหนุ่มสี หน้าเย็นชา เขาบาดเจ็บหนักจนไม่อาจ
ต่อต้าน
“จัดการกับเจ้า” สาวน้อยพูดแล้วก็จบั คางของเขาขึ้นมา ง้างปากออก
ยัดเม็ดยาเม็ดหนึ่งลงไป
จากนั้นค่อยล้วงเอาแถบผ้าและยาทาแผลออกมาจากถุงสะพายหลัง
“ข้ามักจะมาล่าสัตว์บนภูเขาฝูซางซาน แต่ไม่ค่อยได้เจอคนเป็ นบน
ภูเขานี้สกั เท่าไหร่ ในเมื่อเจ้าไม่ตายแสดงว่าชะตาแข็ง ได้พบเจอข้าก็
ยิง่ ถือว่ามีโชค”
นางพูดพลางก็เทเหล้าลงไปบนร่ างของเขา ถอนพิษและใส่ ยาลงบน
บาดแผลกระทัง่ พันแผลให้จนเสร็ จเรี ยบร้อย
“เจ้าชื่ออะไร? เป็ นคนแคว้นใด มาที่เขาฝูงซางซานเพื่ออะไร?”
บุรุษผูน้ ้ นั มิได้ตอบคาถามนาง สาวน้อยที่อยู่ ๆ ก็โผล่ออกมาเพียง
ลาพังบนภูเขาฝูซางซาน ……บางที่อาจจะไม่ใช่มนุษย์ก็เป็ นได้
พักใหญ่ต่อมา เขาก็ส่ายศีรษะ “จาไม่ได้แล้ว”
“ขนาดตนเองเป็ นใครก็จาไม่ได้?” สาวน้อยออกจะประหลาดใจอยู่
บ้าง นางยืน่ มือเข้าไปในเส้นผมของเขา ตรวจดูศีรษะอย่าง
ละเอียดละออ “หัวก็ใหญ่ถึงขนาดนี้ คงไม่ได้ปัญญาอ่อนไปแล้ว
ละมั้ง…..?”
“ไม่ได้ปัญญาอ่อน แค่จาไม่ได้วา่ ตนเองเป็ นใคร” บุรุษผูน้ ้ นั กล่าวเบา
ๆ นิสัยเย็นชาเช่นนี้เหมือนกับจีเฉวียนไม่มีผดิ
เขาขมวดคิ้ว ไม่ชอบความรู ้สึกที่ศีรษะของตนเองถูกคนลูบคลา
เท่าใดนัก
——
คุยกันนิดนึง: ว่าด้วยเรื่ องการล้างแผล
ไรท์: เรามักจะได้เห็นนิยาย/หนังจีนชอบใช้เหล้าแรง ๆ ล้างแผล นัย
ว่าสะอาด หาง่าย ใกล้มือ ฆ่าเชื้อโรคได้ ไรท์ขออนุญาตขยายความ
นิดหนึ่งว่า เหล้าของชาวจีนนั้นหมักจากข้าว หรื อธัญพืช และผลไม้
แอลกอฮอลล์ที่ได้จึงเป็ นแบบที่กินก็ได้ ฆ่าเชื้อโรคก็ดี แต่ไม่ควรเท
ใส่ แผลโดยตรงเพราะจะทาลายโปรตีนในเนื้อเยือ่ ทาให้เกิดเนื้อตาย
และแผลหายช้า แสบร้อน ระคายเคือง ควรใช้เช็ดรอบ ๆ แผลเพื่อ
ฆ่าเชื้อโรคไม่ให้เข้าสู่ ปากแผลเท่านั้นจ้า
*เวลาล้างแผล =น้ าสะอาดหรื อน้ าเกลือพอ (#แม่พลาดมาเยอะ)
ตอนต่อไป “เจ้าไม่อาจแต่งกับเขา”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 336 เจ้ าไม่ อาจแต่ งงานกับเขา
“สู ญเสี ยความทรงจา?” สาวน้อยคลาดูศีรษะ นางขมวดหัวคิ้ว
กระพริ บตาที่มีประกายราวดวงดาว
ว่าแล้ว นางก็เขยิบเข้าไปใกล้ เชยคางของเขาขึ้นมาพิจารณา “หน้าตา
ก็หมดจรดงดงามมิสู้ตามข้ากลับบ้าน หาเรื่ องหาราวทาไป ดีกว่าหิ ว
ตายอยูใ่ นป่ าลึกเช่นนี้?”
บุรุษผูน้ ้ นั สี หน้าเย็นชา แสดงกริ ยาขัดขืนออกมาทางร่ างกาย
เขาเป็ นถึงฮ่องเต้ผกู ้ ่อตั้งแคว้นต้าโจว หากไม่ใช่เพราะว่าร่ างกายขยับ
ไม่ได้ ไหนเลยจะยอมถูกลบหลู่ถึงเพียงนี้?
“ไม่เต็มใจ?” มือของสาวน้อยที่เชยคางเขาเอาไว้มิได้ปล่อย ดวงตา
ยังคงเป็ นประกายดุจดวงดาว “เจ้าเองก็เห็นแล้ว ที่นี่มีสัตว์ร้าย
มากมาย ยังจะไม่ยนิ ยอมติดตามข้ากลับไปอีกหรื อ?”
พูดแล้ว นางก็ยกั หัวไหล่ เหลือบไปมองดูดวงตามากมายในป่ าทึบ
ด้านหลังด้วยประกายตาแวววาว
บุรุษผูน้ ้ นั ไม่ยอมขยับ แต่เจ้าท้องที่ไม่รักดีน้ นั กลับร้องออกมา ส่ ง
เสี ยงโครกครากที่ฟังดูแปลกประหลาด
เขาพึ่งจะอ้าปาก หมัน่ โถนุ่มๆ ชิ้นหนึ่งก็ถูกยัดเข้ามาในปาก อุดปาก
ที่มีริมฝี ปากแห้งกรังนั้นเอาไว้
สาวน้อยผูน้ ้ นั คลี่ยมิ้ ให้กบั เขาอย่างงดงาม “ไม่ตอ้ งขอบคุณข้าหรอก
นะ ช่วยชีวิตคนสร้างกุศลยิง่ กว่าเจดียเ์ จ็ดชั้น”
บุรุษผูน้ ้ นั ขบเคี้ยวหมัน่ โถในปาก ไม่รู้วา่ เพราะเหตุใดความรู ้สึก
อ่อนไหวบางประการเกิดขึ้นในหัวใจของเขา
ตู๋กซู ิงหลันมองดูภาพตรงหน้าด้วยความเหม่อลอยอยูบ่ า้ ง
หากว่านางเดาไม่ผดิ ละก็นี่คือการพบกันของปฐมฮ่องเต้กบั องค์หญิง
เย่ว
ที่แท้พวกเขาก็ได้พบกันเพราะเหตุน้ ีเองหรื อ?
ประกายแสงจากลูกแก้วในมือของนางยังคงส่ องสว่างไม่หยุด พอ
ภาพเบื้องหน้าเลือนหาย ทุกอย่างรอบกายของนางก็แปรเปลี่ยนไป
อีกครั้ง
……………….
รอบกายมีแต่ดอกไห่ถางผลิบานเต็มไปหมด สายลมโชยพาเอากลีบ
ดอกโปรยปรายลงมาเรื่ อยไม่มีหยุด ภายใต้ฉากหลังที่งดงามตระการ
ตา คนทั้งสองในชุดสี ดาปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
บุรุษองอาจงดงาม สตรี สวยสคราญปานเทพธิดา
ดูเหมือนนางจะชมชอบสวมใส่ กระโปรงสี ดา บนชุดกระโปรงปั ก
ดอกไห่ถางด้วยเส้นไหมสี แดงงดงามดึงดูดสายตาอย่างยิง่
คราวนี้ นางดูงดงามสู งส่ ง แต่งหน้าอย่างปราณี ต ปั กปิ่ นงดงามล้ าค่า
ริ มฝี ปากทาชาดหน้าผากแต้มลายบุปผา คลุมหน้าด้วยผ้าโปร่ งผืน
บาง
บุรุษยืนมองอยูใ่ ต้ตน้ ไห่ถาง ช่วยนางป้อนหญ้าม้า รถน้ าต้นไม้
เขาคิดไม่ถึงเลยว่า สาวน้อยที่ช่วยเขากลับมาในวันนั้น ก็คือองค์หญิง
ของแคว้นกู่เย่ว—เจียงเย่ว
นางไม่เหมือนกับเหล่าองค์หญิงที่เขาเคยได้พบพานมาก่อน……….
อาการบาดเจ็บของเขาหายดีแล้ว สายตาที่มองดูนางก็เปลี่ยนไปมาก
ทั้งร้อนแรงและคลัง่ ไคล้หลงใหล
ตู๋กูซิงหลันมองลงไปเหมือนหนึ่งเป็ นดวงตาจากสรวงสวรรค์ จาก
สายพระเนตรของปฐมฮ่องเต้ยงั สามารถมองเห็นความต้องการเป็ น
เจ้าของที่เก็บกดเอาไว้
หลังจากที่ถูกองค์หญิงเย่วลากกลับมา พอนานวันเข้าพระองค์ก็
บังเกิดความรักขึ้น
เป็ นฮ่องเต้ผกู ้ ่อตั้งแคว้นองค์หนึ่ง กลับยินดีถูกใช้แรงงานทางาน
หนักเหน็ดเหนื่อยเพื่อนาง โดยไม่ปริ ปากบ่นแม้สกั ครึ่ งคา
นอกจากจะเพราะหลงรักเข้าแล้ว ตู๋กซู ิงหลันเดาไม่ถูกว่ายังจะมี
เงื่อนไขใดได้อีก
“อาจ้าน อีกเพียงเจ็ดวัน ข้าก็จะแต่งงานแล้ว เจ้าดีใจกับข้าหรื อไม่?”
เจียงเย่ววิ่งมาบอกเขา ในมือของนางกอดชุดแต่งงานสี แดงดุจโลหิ ต
เอาไว้
ด้านบนมีวิหคเพลิงที่ยงั ปักไม่เสร็ จดีตวั หนึ่ง
ภายใต้แสงสว่าง ด้ายทองเป็ นประกายระยิบระยับเกินสิ่ งใด ทั้งเจิด
จ้าและบาดตา
อาจ้าน เป็ นชื่อที่นางตั้งให้กบั เขา นางหวังว่าสุ นขั ป่ าน้อยที่นา
กลับมาจะเติบโตอย่างกล้าหาญและแข็งแกร่ งเหมือนดัง่ เทพสงคราม
ของแคว้นกู่เย่ว
นี้เป็ นคาอวยพรที่นางมอบให้แก่เขา
เขากาหมัดเอาไว้แน่นจนสัน่ สะท้านเบาๆ ใบหน้าเคลือบเอาไว้ดว้ ย
ความเหน็บหนาวเย็นชา “องค์หญิง ข้าไม่ดีใจเลย”
เจียงเย่วมองดูเขา ขมวดคิ้วน้อยๆ นางกระชับชุดแต่งงานสี แดงในมือ
“ก็ใช่อยู่ เจ้ามักจะสงบนิ่งเย็นชาอยูต่ ลอด ราวกับคนที่ไร้อารมณ์ใดๆ
อยูเ่ สมอ นับตั้งแต่ที่ขา้ พาเจ้ากลับมา เจ้าไม่เคยหัวเราะไม่เคยร้องไห้
แล้วจะให้ดีใจได้อย่างไร”
“แต่วา่ ข้าดีใจมากเลย” หัวคิ้วของนางคลายออกราวดวงอาทิตย์ไร้หมู่
เมฆ ส่ งยิม้ หวานให้กบั เขา “ข้ากับฟ่ านอิงเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก
หมั้นหมายกันมาตั้งแต่อยูใ่ นครรภ์มารดาแล้ว สามารถแต่งให้กบั เขา
เป็ นเรื่ องที่ขา้ มีความสุ ขที่สุดเลย”
ฟ่ านอิง……สองคานี้ ทาให้ดวงตาของเขามีประกายขุ่นเคืองลุกโชน
“องค์หญิง เขาไม่เหมาะสมกับท่าน” สักพักใหญ่ เขาถึงได้คลายกา
หมัดลงได้ เขาขยับเพียงไม่กี่กา้ วก็พงุ่ เข้ามาถึงตรงหน้านาง
เจียงเย่วตะลึงไปนางตัดสิ นใจก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
จนถอยไปพิงเข้ากับต้นไห่ฮางที่อยูด่ า้ นหลัง
เขายืน่ มืออกมาข้างหนึ่ง เอื้อมผ่านข้างใบหูของนางไปทาบลงบนลา
ต้น ดวงตาคู่น้ นั จดจ้องนางอย่างรุ กไล่ “เจียงเย่ว เจ้าไม่อาจแต่งให้กบั
เขา”
พูดแล้ว เขาก็กวาดตามองดูชุดแต่งงานในมือของนางครั้งหนึ่ง “เจ้า
เกิดมาเพื่อเป็ นหงส์ฟ้า ย่อมไม่อาจแต่งให้กบั บุรุษเช่นนั้น”
เจียงเย่วตกตะลึงไปด้วยความไม่เข้าใจสักเท่าไร นางกอดชุดแต่งงาน
ในมือเอาไว้แนบแน่น เงยหน้าขึ้นมองดูเขา “อาจ้าน ข้าเพียงแต่
อยากจะเป็ นคนธรรมดาที่มีความสุ ข หงส์ฟ้าแม้จะงดงาม แต่
เบื้องหลังความงดงามนั้นมีราคาที่ขา้ ไม่อาจรับได้”
“ต่อไปภายหน้า ข้าเพียงต้องการอยูก่ บั ฟ่ านอิงไปชัว่ ชีวติ ปกป้อง
ดูแลสิ่ งที่พวกเราสมควรดูแล แค่น้ ีกเ็ พียงพอแล้ว”
ว่าแล้ว นางก็ขยับตัววูบหนึ่ง คิดจะลอดใต้วงแขนของเขาออกไป
พึ่งจะขยับเท้าไปได้กา้ วหนึ่ง ก็ถูกเขาลากกลับมาในอ้อมแขนอีกครั้ง
มือข้างหนึ่งของเขาจับด้านหลังกระหม่อมของนางเอาไว้ ส่ งจูบหนึ่ง
ประทับลงมา
เป็ นความคลัง่ ใคล้อย่างที่สุด คลัง่ ใคล้ประหนึ่งจะรัดเอาเจียงเย่วเข้า
ไปในร่ างกาย
เจียงเย่วมิใช่สตรี อ่อนแอ ย่อมไม่ยนิ ยอมให้เขาบังคับจูบตนเอง
นางชะงักไปเล็กน้อย กาหมัดข้างหนึ่งชกลงไปบนอกเขา
หมัดนี้เขากลับยอมรับเข้าไปเต็มๆ เพียงส่ งเสี ยฮึมเบาๆ แต่ยงั คงจับ
เจียงเย่วเอาไว้แน่น
ดวงตาคู่น้ นั ผุดเส้นเลือดขึ้นมา จับจ้องนางอย่างแน่วแน่น คว้าข้อมือ
ของนางเอาไว้มนั่
“เจียงเย่ว เจ้าชาญฉลาดแต่ทาเป็ นเลอะเลือน เจ้ารู ้ดี ว่าข้าชอบเจ้า”
เจียงเย่วตื่นตะลึงจนชะงักไปทั้งร่ าง นางลืมตาโตขึ้นมองดูเขาด้วย
ความไม่อยากจะเชื่อ
คนที่ไม่เคยยิม้ ไม่เคยร้องไห้ท่าทางเหมือนไม่ได้รู้จกั เจ็บปวด จะ
หลงรักผูอ้ ื่น?
ผ่านไปอีกพักใหญ่นางค่อยได้สติข้ ึนมา กล่าวเสี ยงเข้มประโยคหนึ่ง
“อาจ้าน เจ้าอย่าได้ลอ้ เล่น”
“เจียงเย่ว เจ้าคิดว่าข้าเป็ นคนที่ชอบพูดเล่นหรื อ?” เขาจับจ้องนาง
อย่างจริ งจัง “ข้าบอกว่าชอบเจ้า ด้วยความจริ งใจ ไม่ยอมให้เจ้าแต่ง
กับฟ่ านอิงก็เป็ นเรื่ องจริ ง”
“ข้าชอบเจ้า ไหนเลยจะยอมอยูเ่ ฉยๆ มองดูเจ้าแต่งกับผูอ้ ื่นได้”
เจียงเย่วขมวดคิ้วแน่น การสารภาพรักที่มาอย่างกระทันหันทาให้
นางไม่รู้วา่ ควรจะทาเช่นไรดี
“อาจ้าน ขอบคุณที่เจ้าชอบข้า” พักใหญ่ต่อมาเจียงเย่วถึงได้ตอบ
ออกไป “เจ้าอายุยงั น้อย ไม่เข้าใจกระจ่างในเรื่ องของความรักชาย
หญิง ที่เจ้าชอบข้าอาจจะเป็ นแค่เพราะว่าข้ามีบุญคุณช่วยชีวิตเจ้า
เท่านั้น”
เจียงเย่วใช้กาลังผลักเขาออกไป สี หน้าค่อยๆ กลับคืนสู่ ความเป็ น
ปกติ “อย่าว่าแต่คนที่ขา้ ชอบจะอย่างไรก็มีแต่ฟ่านอิงเพียงคนเดียว
ชัว่ ชีวิตนี้จะแต่งให้กบั เขาเท่านั้น”
พอได้ยนิ แค่ประโยคเดียวก็ทาให้ความอดทนอดกลั้นทั้งหมดของ
เขาระเบิดออกมาในทันที
“ฟ่ านอิงผูน้ ้ นั มีอะไรดี? นอกจากเรื่ องเติบโตมาพร้อมกับเจ้าแล้ว เขา
มีตรงไหนที่เทียบกับข้าได้กนั ?”
“เจียงเย่ว ไม่แต่งกับเขาได้หรื อไม่? อยูก่ บั ข้า ข้าจะดีกบั เจ้าไปจนชัว่
ชีวิต”
เขาไม่เคยชอบหญิงใดมาก่อน จึงได้ท้ งั เร่ งร้อนและจริ งจังถึงเพียงนี้
เจียงเย่วชะงักไปอยูน่ าน ก็ได้แต่ส่ายศีรษะออกมา นางโอบกอดชุด
แต่งงานในอ้อมแขนแนบแน่นกว่าเดิม “อาจ้าน ใต้หล้านี้ยอ่ มไม่ใช่
เพราะว่าเจ้าชอบใครสักคน คนอื่นก็จะต้องชอบเจ้าด้วย ความรู ้สึกนี้
เจ้าเก็บเอาไว้ให้ผอู ้ ื่นเถอะ กับเจ้า ข้าไม่มีความรู ้สึกผูกพันฉันท์ชาย
หญิงด้วย”
——
ไรท์: ท่านย่าก็ปฏิเสธเด็ดขาด ตัดบัวไม่เหลือใยเลยนะ
จีจา้ น: “…….”
ตอนต่อไป “ต้นแบบของผูน้ าแต่โบราณ”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 337 ต้ นแบบผู้นายุคโบราณ
เมื่อบุรุษที่ตอนนั้นพากลับมาเพราะเกิดความเมตตาสงสาร เกิดความ
รักต่อตนเองขึ้นมา การปฏิเสธของเจียงเย่วก็รวบรัดชัดเจน
นี่ทาให้นางตกอยูใ่ นปัญหาเสี ยแล้ว
นางใช้แรงขัดขืนเพื่อหลุดพ้นจากเขา และรี บไปให้พน้ จากสายตา
ของเขาให้เร็ วที่สุด
นัน่ กลายเป็ นความทรงจาดามืดที่เขาไม่กล้าแตะต้องไปอีกชัว่ ชีวติ
เขาหันหน้าไป ทอดสายตามองดูกลีบดอกไห่ถางที่ปลิวไปทัว่
ท้องฟ้า แต่กลับหานางไม่เจอแม้แต่เงา ในตอนนั้นเอง ที่ทวั่ ทั้ง
ร่ างกายของเขาระเบิดความมืดมนที่ไร้ขอบเขตออกมา
ตู๋กซู ิงหลันที่มองดูอย่างปวดฟัน
นิสยั ที่ชอบอวดอานาจหยิง่ ผยองของจีเฉวียน เกรงว่าคงจะได้รับมา
จากท่านปู่ ของเขานัน่ เอง
ดูจากท่าทางประหนึ่งว่าต้องการได้เจ้ามาให้ได้ ต่อให้ไม่ได้กต็ อ้ งได้
นี่มนั เป็ นแบบฉบับของผูน้ าที่บา้ อานาจชัดๆ
ดวงพักตร์น้ นั ของปฐมฮ่องเต้ ช่างคล้ายคลึงกับจีเฉวียนมากไปแล้ว
นางเพียงมองดูแวบเดียวก็ลากฮ่องเต้สุนขั ผูน้ ้ นั เข้ามาเปรี ยบเทียบ….
จากนั้นก็ครุ่ นคิดกลับไป จีเฉวียนไม่เคยใช้กาลังบีบบังคับนาง คล้าย
กับว่าจะดีกว่าท่านปู่ ของเขาอยูห่ น่อย
ตอนนี้ปล่อยปฐมฮ่องเต้องค์น้ นั วางไว้ก่อน ที่ต๋ ูกซู ิงหลันยิง่ สนใจ
มากกว่าก็คือผูท้ ี่มีนามว่าฟ่ านอิงผูน้ ้ นั
คงจะเป็ นคู่หมั้นขององค์หญิงเย่วกระมัง เช่นนั้นทาไมต่อมานางถึง
ไม่เคยได้ยนิ มาก่อนเลยว่าองค์หญิงเย่วเคยมีคู่หมั้นมาก่อน
คนผูน้ ้ นั มีความเป็ นมาเช่นไรกันแน่?
ขณะที่นางกาลังครุ่ นคิดอย่างมีสมาธิอยูน่ ้ นั แสงจากลูกแก้วในมือก็
ลดทอนลงไปกว่าครึ่ ง
แสงจากลูกแก้วที่งดงามดึงนางกลับสู่ ความเป็ นจริ ง พิธีฝังศพที่เชิง
เขาฝูซางซานกาลังดาเนินไปแล้วครึ่ งหนึ่ง จีเฉวียนประทับยืนอยู่
เบื้องหน้าสุ สานที่ยงั ไม่ได้ทาการกลบฝังด้วยสายพระเนตรเย็นยะ
เยือก
ใบหน้านั้นทาให้ต๋ ูกูซิงหลันรู ้สึกถึงความสมจริ งที่พ่ งึ ได้เห็น สมอง
ของนางยังวนเวียนอยูแ่ ต่กบั เรื่ องของปฐมฮ่องเต้กบั องค์หญิงเย่ว จน
แทบจะไม่อาจดึงสติกลับมา
พอนางก้มหน้าลงมองดูลูกแก้วที่อยูใ่ นมือ ก็ยงิ่ เห็นว่าแสงของ
ลูกแก้วไม่สว่างเหมือนเดิมอีกแล้ว
นางถึงได้นึกรู ้ข้ ึนมาว่า ลูกแก้วลูกนี้ได้ผนึกความทรงจาของเจียวเย่ว
เอาไว้
ยามที่อยูใ่ นโลกปั จจุบนั นั้น นี่เป็ นวิชาลับแขนงหนึ่ง ที่สามารถดึง
เอาความทรงจาที่ไม่ตอ้ งการออกมา เก็บเอาไว้ในวัตถุบางอย่าง
ลูกแก้วลูกนี้กค็ ือส่ วนหนึ่งในความทรงจาของเจียวเย่ว และความ
ทรงจาส่ วนนี้คล้ายกับว่าเกือบทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับปฐมฮ่องเต้
แห่งต้าโจว
ตู๋กซู ิงหลันดูมาถึงตรงนี้ ก็คิดไปถึงเรื่ องที่สุดท้ายแล้ว แคว้นกู่เย่วก็
ล่มสลาย ในใจก็บงั เกิดความเหน็บหนาวขึ้นมา
ฝูซางซานคือหลุมฝังศพของชาวกู่เย่ว แรงแค้นลึกล้ าเกินบรรยาย
เกรงว่าคงเพราะเหตุน้ ีถึงได้กระตุน้ ให้ความทรงจาของเจียงเย่วที่อยู่
ในลูกแก้วเคลื่อนไหว จนเปิ ดเผยออกมา
และเพราะว่าร่ างนี้คือหลานสาวแท้ๆ ของเจียงเย่ว ดังนั้นนางจึง
สามารถมองเห็นความทรงจาของเจียงเย่วได้
ตู๋กซู ิงหลันได้แต่ถอนใจเบาๆ ขณะเดียวกันก็เห็นว่าหมอกสี แดงที่
เชิงเขาฝูซางซานเข้มข้นหนาแน่นกว่าเดิม ทั้งยังมีเสี ยงภูติผีร่ าร้อง
ตู๋กซู ิงหลันเงยหน้ามองขึ้นไป ก็เห็นว่าในหมอกสี แดงทึบนัน่ มี
วิญญาณแค้นอยูน่ บั ไม่ถว้ น แต่ละตนต่างก็แยกเขี้ยวยิงฟันมองลงมา
ที่ภูเขา
สายตาของเหล่าวิญญาณแค้นทั้งหลายตกอยูบ่ นร่ างของจีเฉวียน เมื่อ
ได้เห็นใบหน้านั้น ต่างก็อยากจะกลืนกินเขาลงไปทั้งเป็ น
แต่น่าเสี ยดายที่บนร่ างของวิญญาณแค้นเหล่านี้ต่างก็มีโซ่สีแดงตรึ ง
เอาไว้ แม้จะเป็ นเพียงเส้นบางๆ แต่กแ็ ข็งแกร่ งอย่างยิง่
พอพวกมันเคลื่อนไหว โซ่เหล่านั้นก็รัดแน่นขึ้นมาคล้ายกับว่าจะ
บาดลึกลงไปในร่ างของวิญญาณแต่ละตัว
วิญญาณทมิฬที่พ่ งึ จะตื่นขึ้นมาต้องน้ าหลายไหล อยากกินจนหยด
ติ๋งๆ
“หลันหลัน เจ้าช่วยจับลงมาสักหลายร้อยตัวให้ขา้ กินได้ไหม?”
วิญญาณทมิฬมองดูต๋ ูกซู ิงหลัน ดวงตากลมโตของมันเปล่งประกาย
วิญญาณทมิฬพึ่งจะกล่าวจบ เงาสี แดงกลุ่มหนึ่งก็พงุ่ เข้ามาในรถม้า
กลายเป็ นคนผูห้ นึ่ง
เส้นผมสี เงินโบกโบย คาดเอาไว้ดว้ ยผ้าคาดสี แดงเส้นหนึ่ง ฉู่เจียง
ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าตู๋กซู ิงหลันโดมมิได้คาดหมาย ดวงตาสี มรกต
คู่น้ นั จับจ้องมาจนวิญญาณทมิฬต้องขนลุกซู่
ฉู่เจียงเหลือบตาดูมนั แวบหนึ่ง ก็ยมิ้ เย็นออกมา “เจ้าตัวแสบ สิ่ งของ
ของเราเจ้าก็กล้าแตะต้อง?”
วิญญาณทมิฬกอดชายกระโปรงของตู๋กูซิงหลันเอาไว้ แอบอยู่
ด้านหลังของนาง โผล่ศีรษะออกมาดูฉู่เจียงเพียงครึ่ งเดียว “วิญญาณ
แค้นเหล่านี้ลว้ นเป็ นชาวเมืองของแคว้นกู่เย่ว ไหนเลยจะเป็ นสิ่ งของ
ของท่านได้กนั ?”
“ฮึ ข้าคือราชาของเขาฝูซางซานแห่งนี้ ต้นหญ้าทุกต้น ดอกไม้ทุก
ดอกในที่น้ ีลว้ นแล้วแต่เป็ นของข้า แล้วเจ้าว่าวิญญาณแค้นเหล่านั้น
เป็ นของข้าหรื อไม่เล่า?”
ฉู่เจียงกล่าวจบแล้วก็มาถึงข้างกายตู๋กซู ิงหลัน เขานัง่ ลงที่ฝั่งตรง
ข้ามตู๋กซู ิงหลัน ไอหยินจากร่ างของเขากาจายออกมาจนทัว่
พอสายตาของเขาเหลือบไปเห็นลูกแก้วความทรงจาที่อยูใ่ นมือขอ
นาง ก็ตอ้ งหรี่ ตาลง
เขามองดูลูกแก้วลูกนั้น ก็เอ่ยออกมาเพียงสองคา “เจียงเย่ว”
เรื่ องที่ฉู่เจียงรู ้จกั เจียงเย่ว ตู๋กซู ิงหลันมิได้แปลกใจเลย เพราะอย่างไร
เขาก็อยูท่ ี่ภูเขาฝูซางซานนี้มานานหลายปี ยามที่เจียงเย่วอยูใ่ นเมืองกู่
เย่ว ก็มกั จะมาที่ภูเขาอยูบ่ ่อยๆ ฉู่เจียงย่อมต้องเคยพบเห็น
“ความทรงจาถูกดึงออกมาแล้ว ยังจะเก็บเอาไว้ทาไม?” เขาหัวเราะ
อย่างเย้ยหยัน จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาดูต๋ ูกซู ิงหลันแวบหนึ่ง “เจ้าเป็ น
หลานสาวของนาง?”
ตู๋กซู ิงหลันไม่ตอบคาถาม เพียงมองสบตาฉู่เจียงครั้งหนึ่ง “ยมราชฉู่
เจียงถึงกับมาเยือนด้วยตนเอง มิทราบว่ามีธุระอันใด?”
“ท้องที่ของข้า ข้าย่อมสามารถไปได้ทุกที่” ฉู่เจียงพูดต่อไป หมอกสี
แดงในมือก็ถูกผลักเข้าไปภายในลูกแก้วที่เหลือแสงสว่างเพียงครึ่ ง
เดียวลูกนั้น
ทันใดนั้นเอง ลูกแก้วลูกนั้นก็เรื องแสงส่ องสว่างขึ้นมาอีกครั้ง
บรรยากาศโดยรอบของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไป
เสี ยงขลุ่ยไผ่ร่าเริ ง ดอกไม้สดและผ้าแดงถูกประดับประดาไปทัว่
เมืองหลวงของแคว้นกู่เย่ว
ประชาชนบนถนนต่างก็พากันพูดถึงการแต่งงานครั้งนี้ดว้ ยความชื่น
ชมยินดี
วันนี้คือวันที่องค์หญิงจะทรงอภิเษก องค์หญิงและใต้เท้าฟ่ านอิงคือ
คู่ครองที่สวรรค์สร้าง
ผูค้ นทั้งหลายต่างก็จบั ตามองด้วยความเฝ้ารอ รอคอยที่จะได้เป็ น
พยานในการลงเอยของคนทั้งสอง
……………………………
ดอกไห่ถางภายในวัง ไม่เคยผลิบานมากมายเพียงนี้มาก่อนเลย
บนต้นไม้แขวนโคมและผ้าไหมประดับสี แดงสด ใต้ตน้ ไม้กป็ ูพรม
แดงยาวงดงามบาดตา
องค์หญิงเย่วคือพระธิดาที่ฝ่าบาททรงโปรดปรานที่สุด ขบวนเจ้าสาว
ในวันนี้ตกแต่งอย่างงดงามหรู หรา บนท้องฟ้าปรากฏสายรุ ้งมวลหมู่
วิหคส่ งเสี ยงขับขาน ต่างก็มาเพื่อแสดงความยินดีในงานแต่งงาน
ขององค์หญิง
เจียงเย่วสวมชุดแต่งงานสี แดงเพลิง วิหคเพลิงสี ทองบนชุดแต่งงาน
ตัวนั้นปักเสร็ จแล้ว มันโผบินขึ้นสู งกางปี กราวกับมีชีวิต
นางในวันนี้งดงามอย่างที่สุด ดูราวกับเทพธิดาที่อยูใ่ นนิทาน เจิดจ้า
จนบาดตา
ริ มฝี ปากอวบอิ่มแดงวาวงดงามราวกลีบบุปผา รอยยิม้ น่าดึงดูดดจน
ใครก็ตอ้ งเหลียวหลังกลับมามอง
“องค์หญิงเพคะ ใต้เท้าฟ่ านอิงตระเตรี ยมทุกอย่างมาเรี ยบร้อยแล้ว
ตอนนี้ถึงเวลาที่จะมารับท่านออกไปแล้ว”
นางกานัลที่สวมใส่ ชุดมงคลเข้ามาส่ งข่าว
ดวงหน้าของเจียงเย่วเปลี่ยนเป็ นแดงก่า นางหยิบพัดมงคลขึ้นมาบัง
ใบหน้าพลางพยักหน้าน้อยๆ
มีแต่ยามที่อยูเ่ บื้องหน้าฟ่ านอิงเท่านั้น นางถึงได้มีท่าทีเขินอาย
ออกมา
นางกับฟ่ านอิงเติบโตมาด้วยกันแต่เล็ก ผูกพันลึกล้ าดุจท้องทะเล
การลงเอ่ยของทั้งสองเหมือนดัง่ คูส้ ร้างที่สวรรค์เลือกไว้ ไม่มีสิ่งใด
จะมาแทรก ไม่มีการบังคับขัดแย้ง
เสมือนดัง่ สายน้ าที่รินไหล เรี ยบง่ายสงบเย็น สาหรับนางเท่านี้ก็
เพียงพอแล้ว
หลังจากวันนี้เป็ นต้นไป นางก็คือภรรยาของฟ่ านอิงแล้ว
อีกไม่นานในอนาคต พวกนางก็จะได้มีลูกหลานของตนเอง มีชีวิตที่
สงบสุ ขเรี ยบง่ายเช่นนี้ไปชัว่ ชีวิต
เจียงเย่วรู ้สึกว่า นี่ช่างดีเหลือเกิน
ขบวนรับตัวยังมาไม่ถึง เหล่านางกานัลต่างก็เข้ามาช่วยเหลือนาง
แต่งตัวในช่วงสุ ดท้าย
เจียงเย่วมองดูตนเองในกระจกทองแดง ทั้งดวงตาและคิ้วโค้งมน
ทันใดนั้นเองในกระจกทองแดงก็สะท้อนใบหน้าอีกผูห้ นึ่งขึ้นมา
“เจียงเย่ว” บุรุษที่อยูด่ า้ นหลังส่ งเสี ยงเรี ยกนางเบาๆ
เจียงเย่วขมวดคิ้ว พลางหันกลันไป
——
ตอนต่อไป “ฝันร้ายของเจียงเย่ว”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 338 ฝันร้ ายของเจียงเย่ว
ที่นางเผชิญอยูก่ ค็ ือสายตาที่โศกเศร้าลึกซึ้งคู่หนึ่ง
เขาดูราวกับคนที่ปีนออกมาจากขุมนรกอย่างไรอย่างนั้น ดวงตาทั้ง
สองมีแต่เส้นเลือด ใต้ตาเขียวช้ าเบ้าตาลึก ไม่ได้โกนหนวดเครามา
หลายวันแล้ว ทัว่ ทั้งร่ างแฝงความเจ็บช้ า
เนิ่นนาน เจียงเย่วค่อยเอ่ยเรี ยกเขาขึ้นมา “อาจ้าน”
นับตั้งแต่วนั นั้นเป็ นต้นมา เขาก็หายตัวไป นางเคยไปตามหาเขาแต่
กลับไม่พบ ราวกับว่าหายวับไปจากโลกนี้เสี ยแล้ว คิดไม่ถึงว่าพอได้
พบกัน ก็เป็ นวันมงคลสมรสของนาง
“ข้านึกว่าเจ้าจากไปเสี ยแล้ว” เจียงเย่วมองดูเขา รักษาระยะห่างที่
ปลอดภัยเอาไว้
ช่างห่างเหิน
เขามองดูนาง ในสายตามีแต่นางเท่านั้น
เขาเคยคิดเอาไว้อยูแ่ ล้วว่ายามที่เจียงเย่วสวมใส่ ชุดเจ้าสาวจะต้อง
งดงามอย่างยิง่
“วันนี้เจ้าสวยมาก” เขายืน่ มือออกไปปักปิ่ นดอกไห่ถางลงไปบนมุ่น
ผมของนาง
“ปิ่ นนี้ขา้ ทาเองกับมือ ขอมอบให้เจ้า”
เจียงเย่วไม่ทนั ได้มองเห็นชัดว่าปิ่ นหน้าตาเป็ นอย่างไร นางได้แต่
ผงกศีรษะตามมารยาท “ขอบคุณ”
เสี ยงดนตรี ดงั่ แว่วมาจากด้านนอก นางกานัลผูห้ นึ่งรี บเข้ามารายงาน
“องค์หญิงเพคะ ขบวนรับตัวมาถึงหน้าประตูวงั แล้ว ลุกขึ้นเถอะเพ
คะ”
เจียงเย่วมองออกไปด้านนอก
สายตาที่เฝ้าคอยของนางเหมือนดัง่ คมดาบปลายแหลมที่แทงเข้าไป
ในหัวใจของเขา
“คุณชาย ขอท่านโปรดหลีกทาง ท่านกาลังขวางทางองค์หญิงอยู”่
เห็นเขายังยืนขวางอยูเ่ บื้องหน้าขององค์หญิง นางกานัลอดไม่ได้ที่จะ
เร่ งเร้า
“หากช่วงเวลามงคลผ่านพ้นไปก็จะไม่เป็ นมงคลแล้ว”
“ใช่ ไม่เป็ นมงคล” เขาเก็บมือที่อยูเ่ หนือศีรษะของเจียงเย่วกลับมา
ยิม้ จางๆ
พลางหมุนตัวกลับ ถอยไปด้านข้างก้าวหนึ่ง เปิ ดทางให้กบั เจียงเย่ว
เจียงเย่วพึ่งจะก้าวเท้าออกไปได้กา้ วหนึ่งก็ได้ยนิ เสี ยงของเขาพูด
ขึ้นมาว่า “เจ้าปักใจจะแต่งงานกับเขาจริ งๆ?”
เจียงเย่วมิได้หยุดเท้า นางพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว”
“แล้วข้าล่ะ?” เขาถาม “เจ้าจะไม่ยอมให้โอกาสใดๆ กับข้าเลยสักนิด
หรื อ?”
“อาจ้าน ยามที่เจ้าบาดเจ็บสาหัสมา ข้าช่วยชีวิตของเจ้าเอาไว้” เจียง
เย่วหยุดเท้าลง หับกลับมามองดูเขา “เพื่อช่วยเจ้า ข้านาสมบัติลบั
ออกมาใช้ ฝ่ าฝื นข้อห้าม ตอนนั้นฟ่ านอิงได้ช่วยรับไว้แทน เขาก็ถือ
เป็ นผูม้ ีพระคุณของเจ้าเช่นกัน”
“ดังนั้นเจ้าโปรดอวยพรให้กบั พวกเรา”
ตอนนั้นเจียงเย่วปฏิเสธออกไปอย่างเด็ดขาด ไม่มีความลังเลแม้แต่
น้อย
เขาไม่ตอบอะไร เพียงแต่มองดูนางก้าวเดินออกไปทีละก้าว ขณะที่
นางกาลังก้าวเท้าออกไปจากห้องส่ วนตัว ดาบสั้นในมือของเขาก็
แทงเข้าไปในร่ างของนางกานัลที่ทาหน้าที่นาทาง
หนึ่งดาบที่แทงลงไป นางกานัลผูน้ ้ นั ยังไม่ทนั ได้ส่งเสี ยงคร่ าครวญ
ออกมา ก็เห็นเขาชักดาบสั้นออกมาตวัดผ่านลาคอของนางกานัลผู ้
นั้นจนราบเรี ยบไปในดาบเดียว
นางกานัลล้มลงไปบนกองเลือด
กลิ่นคาวของเลือดสดฟุ้งกระจายไปทัว่ ทั้งห้อง เจียงเย่วเองก็ตกตะลึง
ไปแล้ว
นางกานัลที่เหลือ พากันตื่นตระหนกจนแตกตื่นไปทัว่ ทุกทิศทุกทาง
เขากลับไม่ยอมหยุดมือ คว้านางกานัลที่อยูใ่ กล้ที่สุดเอาไว้ เชือดคอ
นางส่ งขึ้นสวรรค์ไปในดาบเดียว
“อาจ้าน เจ้าทาอะไรลงไป?” นางถลาเข้ามาก้าวหนึ่ง คว้าข้อมือของ
เขาเอาไว้ และเพราะนางใช้แรงมากเกินไปมงกุฏหงส์ที่อยูบ่ นศีรษะ
โยกคลอนจนส่ องประกาย
“เจ้าฆ่าคน!” นางแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเอง!
ในวันมงคลสมรสของนาง บุรุษที่นางช่วยชีวติ เอาไว้ดว้ ยตนเอง
กลับสังหารนางกานัลของนาง
“อาเย่ว ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าแต่งงานกับคนอื่น” เขาพลิกมือมาเกาะกุม
มือนางเอาไว้ “ใครที่กล้าขัดขวางข้า ข้าก็จะให้มนั ตายเสี ย”
“เจ้าบ้าไปแล้ว!” เจียงเย่วขัดขืน นางพลิกมือจะตบหน้าเขา คนผูน้ ้ ี
กาลังไม่ปกติ นางจะต้องเรี ยกสติเขากลับมา!
“ใช่ ข้าบ้าไปแล้ว หากไม่ได้เจ้าก็ตอ้ งเป็ นบ้า!”
ทันทีที่สิ้นเสี ยงของเขา องครักษ์ลบั มากมายก็โผล่ออกมาจาก
ด้านหลัง ทันทีที่เขาขยับมือ องครักษ์ลบั เหล่านั้นก็สงั หารนางกานัล
ที่มีอยูเ่ ต็มเรื อนจนหมดสิ้ น
เลือดสดไหลนองทัว่ เรื อน เหล่านางกานัลล้วนตาไม่หลับ กลิ่นคาว
คละคลุง้ ไปในอากาศ
งานอภิเษกที่ยงิ่ ใหญ่ กลับถูกชโลมไปด้วยเลือด
เจียงเย่วไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าเขาจะทาเรื่ องเช่นนี้ข้ ึนมาได้
นางพยายามต่อสู ้ขดั ขืน ถึงได้พบว่าที่แท้เขามีพละกาลังมากมาย
ข้อมือของนางถูกจับเอาไว้อย่างแน่นหนา ดวงตาทั้งคู่ของเขาเสมือน
หนึ่งพันธนการที่หนาแน่นที่สุด ที่กกั ขังนางเอาไว้ ไม่ยอมให้นางได้
ขัดขืนแม้แต่นอ้ ย
ใต้ฝ่าเท้ามีแต่กองเลือดของนางกานัล ย้อมรองเท้าแต่งงานของนาง
จนชุ่มโชก ความหนาวเย็นเกาะกุมแก่นกระดูกจนสัน่ สะท้านราวกับ
ว่านางได้กลืนเอาน้ าแข็งในขุมนรกลงไป
“เจียงเย่ว เจ้าต้องแต่งงานกับข้าเท่านั้น” เขาจดจ้องมองนางอย่าง
ดุดนั ท่ามกลางกลิ่นคาวโลหิตที่คละคลุง้ ไปทัว่ ห้อง ฝ่ ามือของเขาก็
ฉีกกระชากชุดแต่งงานของนางออกมา
แขนเสื้ อของนางขาดวิน่ เปิ ดเผยท่อนแขนขาวผ่องราวหิ มะ
“เจ้ามันบ้าไปแล้วจริ ง!” เจียงเย่วเกรี้ ยวกราด “เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ ตนเอง
ทาอะไรลงไป?”
“ข้ารู ้ดี” สายตาของเขาอึมครึ มอย่างที่สุด ขณะที่ฉีกกระชากเสื้ อผ้า
ของนางออก
เหล่าองครักษ์ลบั ทิ้งทั้งสองไว้เพียงลาพัง พอจัดการกับซากศพของ
เหล่านางกานัลจบก็พากันจากไป
ก่อนจากไปยังไม่ลืมปิ ดประตูลง
จากนั้นก็ได้ยนิ เสี ยงเสื้ อผ้าขาดวิ่นออกจากกัน และเสี ยงกรี ดร้องด้วย
ความเจ็บปวดของหญิงสาว
อาจ้านที่คลุ่มคลัง่ ไร้ความปราณี
ท่ามกลางกองเลือดท่วมห้อง เขาบังคับครอบครองนาง
เจียงเย่วกรี ดร้องและร่ าไห้ดว้ ยความโกรธเกรี้ ยวจนเสี ยงขาดหาย
แล้วสู ญเสี ยสติ
ในสายตาของนางมีแต่สีแดงของเลือด พร่ าเลือนเต็มไปหมด
เห็นเพียงมุมหนึ่งในรอยแยกของผ้าม่าน ที่แหวกให้เห็นภายนอก…..
ด้านนอก……เลือดไหลเป็ นท้องธาร ซากศพกระจัดกระจายอยูท่ ุกที่
โคมไฟและผ้าแดงที่แขวนเอาไว้ชุ่มโชกไปด้วยเลือด พรมสี แดงใต้
ต้นไม้กลาดเกลื่อนไปด้วยร่ างไร้วิญญาณ
แต่วา่ บุรุษผูน้ ้ นั กลับไม่ยอมหยุด น้ าเสี ยงที่ท้ งั เย็นยะเยือกและคลุม้
คลัง่ กระซิบอยูท่ ี่ริมหูของนาง “อาเย่ว ในที่สุดเจ้าก็เป็ นของข้าแล้ว”
“ข้าจะรับผิดชอบเจ้าเอง นับจากวันนี้ไป ข้าจะพาเจ้ากลับไปยังต้า
โจว เจ้าจะเป็ นสตรี ที่เราโปรดปรานที่สุด”
“อาเย่ว……อาเย่ว…..”
ในดวงตาของเจียงเย่วมีแต่สีของโลหิต หูได้ยนิ แต่คาว่า ‘เรา’
นางไม่เลยคิดเคยฝันมาก่อนว่า บุรุษผูน้ ้ ีกค็ ือฮ่องเต้แห่งต้าโจว
“นับจากวันนี้ไป จะไม่มีแคว้นกู่เย่วอีกแล้ว ฟ่ านอิงไม่อาจคุม้ ครอง
เจ้าได้ เขาจะต้องตายอย่างอนาถกว่าใครทั้งหมด”
“มีเพียงแต่เรา เราจึงจะเป็ นที่พ่ งึ เพียงหนึ่งเดียวของเจ้า”
“อาเย่ว เรารักเจ้า รักเจ้าจากใจจริ ง”
“อาเย่ว เราจะมีลูกกับเจ้า”
บนร่ างของเจียงเย่วมีแต่เสื้ อผ้าที่ขาดวิ่น มงกุฏหงส์ตกลงมาหล่นลง
ไปบนกองเลือดบนพื้น ส่ งเสี ยงกรุ๊ งกริ๊ งอยูใ่ นกองเลือด
ที่ดา้ นนอกหน้าต่าง นอกจากซากศพมากมายก่ายกองแล้ว ก็คือ
องครักษ์ของเขา
นางหันศีรษะออกไป เห็นคู่หมั้นของตนเองสวมชุดสี แดงถือกระบี่
อยูใ่ นมือ พุง่ เข้ามาตามพรมแดง เขากาลังบุกเข้ามา เข่นฆ่าจนดวงตา
เป็ นสี โลหิตมาตลอดทาง
กว๊านรัดผมของเขาหลุดกระเด็นไปแล้ว เส้นผมสี ดารุ่ ยร่ ายลงมา แต่
ไม่อาจเห็นหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน
เห็นแต่ดวงตาคู่น้ นั ที่เปี่ ยมไปด้วยความคับแค้นและโกรธเกรี้ ยว
“อาเย่ว!” ฟ่ านอิงตะโกนร้องอย่างคลุม้ คลัง่ รากระบี่ในมือบุกเข้ามา
เจียงเย่วอ้าปาก กาลังจะส่ งเสี ยงออกไป ริ มฝี ปากของนางก็ถูกจีจา้ น
ตะครุ บเอาไว้ เขายิง่ กล่าวดุดนั โหดเ**้้ยม “อาเย่ว เจ้าดูให้ดี ดูให้ดี
สิ วา่ เขามันไร้ความสามารถเพียงไร แค่จะปกป้องเจ้าก็ยงั ทาไม่ได้!
บุรุษเช่นนี้จะเหมาะสมกับเจ้าได้อย่างไร!”
เขาจูบนางพลางหันศีรษะของนางออกไป ให้นางได้มองเห็นสภาน
การณ์ที่นอกหน้าต่างอย่างชัดเจน
“เจ้าชอมมันมากไม่ใช่หรื อ? เราจะให้เจ้าได้เห็นกับตาว่ามันตายลง
ตรงหน้าเจ้า ชายผูน้ ้ ีเดิมทีไม่จาเป็ นต้องตายอย่างอนาถถึงเพียงนี้!”
——
ตอนต่อไป “จีจา้ นก็คือจอมมาร!”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 339 จีจ้านก็คือจอมมาร!
“ทั้งหมดนี้กเ็ ป็ นเพราะว่าเจ้าชอบมัน ดังนั้นมันจึงต้องตายอย่าง
อนาถกว่าผูใ้ ด!”
เขาพูดกรอกลงไปในหูของนางทุกประโยค
ที่จริ งแล้วเจียงเย่วเองก็มิใช่หญิงอ่อนแอ แต่เมื่ออยูต่ ่อหน้าของจีจา้ น
นางกลับไม่อาจขัดขืนแม้แต่นอ้ ย
นางอ้าปากหอบหายใจ เห็นฟ่ านอิงต่อสู ้อยูเ่ พียงลาพัง แต่เขาก็ไม่
อาจต้านทานศัตรู จานวนมากได้
ชุดแต่งงานของเขาขาดวิ่น ทัว่ ทั้งร่ างมีแต่บาดแผล หลัง่ เลือดจนเป็ น
สี เดียวกับชุดแต่งงาน
ถึงแม้จะบาดเจ็บอย่างสาหัสแต่เขาก็ยงั หอบเอาลมหายใจสุ ดท้ายเข่น
ฆ่าเข้ามาจนถึงห้องส่ วนตัวของเจียงเย่ว
จีจา้ นมิได้หลบหลีก เขาสะบัดแขนเสื้ อเปิ ดประตูออกไป กดตัวเจียง
เย่วเอาไว้ ให้เขาได้เห็นทุกอย่างทั้งหมดนี้
วันมงคลสมรส แต่คู่หมั้นกลับถูกผูอ้ ื่น…..ต่อหน้าต่อตาของตนเอง
สาหรับบุรุษผูห้ นึ่งแล้วนี่เป็ นความเจ็บปวดที่ไม่อาจทนทานได้
“อาเย่ว!” ฟ่ านอิงแทบจะคลุม้ คลัง่ ไปแล้ว กระบี่ที่อยูใ่ นมือของเขา
ปราศจากเรี่ ยวแรงใดๆ
“หากว่าเจ้าอยากให้มนั ยังมีชีวิตล่ะก็ ทางที่สุดก็บอกมันไป ว่าเจ้าไม่
เคยชอบมันมาก่อนเลย คนที่เจ้ารักก็คือข้า” จีจา้ นยกตัวขึ้นมา
กระซิบลงเบาๆ ที่ขา้ งหูของเจียงเย่ว “หากเจ้ายอมพูด ข้าก็จะไว้ชีวิต
ของมันสักครั้ง”
เจียงเย่วแทบจะสลบตายไปแล้ว นางเจ็บปวดไปทั้งร่ าง ราวกับว่านี่
มิใช่ร่างกายของตนเอง
น้ าตาเหือดแห้งไปแล้ว นางมองไปที่ฟ่านอิง ขณะที่กาลังลังเลอยูน่ ้ นั
ก็เห็นองครักษ์ลบั ผูห้ นึ่งตวัดดาบลงมา ตัดแขนของเขาขาดฉับ
ออกไป
“อ๊าก!” เจียงเย่วกรี ดร้อง นางปิ ดตาลงเอ่ยด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว
ว่า “เจ้าไปเสี ยเถอะ ข้าไม่เคยชอบเจ้ามาก่อนเลย คนที่ขา้ รักก็คือ….
ฮ่องเต้…ต้าโจว”
เพียงประโยคเดียว เจียงเย่วก็อยากจะกัดลิ้นของตนเองให้ขาด
ออกไป
ไปเสี ยเถอะ ฟ่ านอิง ไปให้ไกลที่สุด ข้าเพียงขอให้เจ้ามีชีวิตอยู่ มี
ชีวิตอยูต่ ่อไป
และเพราะประโยคนั้น ทาให้ฟ่านอิงสู ญสิ้ นพลังใจที่จะเอาชีวิตรอด
กระบี่ที่เขากุมเอาไว้ตกลงไปบนพื้น สายตาเปลี่ยนเป็ นความว่าง
เปล่า
วันนี้เดิมทีสมควรจะป็ นวันที่สวยสดงดงามที่สุดในชีวิตของเขา
……แต่วา่ ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปแล้ว
การโจมตีที่ถูกวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าอย่างดี ทาให้พวกเขารับมือไม่
ทัน
กู่เย่วกับต้าโจว ทาสงครามที่แนวหน้ามาเกือบเดือนแล้ว ใครก็ไม่มี
ทางคาดคิดว่า ฮ่องเต้ตา้ โจวจะปลอมเป็ นคนสู ญเสี ยความทรงจาที่ไร้
พิษภัยมาเข้าใกล้อาเย่ว ทาลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างพวกเขา
……ในขณะที่พวกเขาไม่ทนั ได้ระวังตัวที่สุดนั้น ก็บดขยี้พวกเขาจน
ไร้หนทาง
“ไปเสี ย!” เจียงเย่วเห็นเขาทิ้งดาบ ก็ตะโกนร้องจนเสี ยงแตก “ชัว่
ชีวิตนี้ขา้ ไม่ตอ้ งการจะได้เห็นเจ้าอีกแล้ว เจ้าไปซะ!”
เจียงเย่วถูกจีจา้ นกอดรัดเอาไว้ท้ งั ตัว ไม่รู้เพราะเหตุใด แต่กระดูกทั้ง
ร่ างของนางกลับปราศจากเรี่ ยวแรงใดๆ
คิดๆ ดูแล้วนางก็ไม่นบั ว่าอ่อนแอ แต่เมื่อเผชิญกับจีจา้ นกลับไม่มี
เรี่ ยวแรงแม้แต่จะขัดขืน ที่แท้กเ็ ป็ นเพราะ…..
ทันใดนั้นนางก็คิดไปถึงปิ่ นปักผมดอกไห่ถาง
ก่อนหน้านี้นางก็รู้สึกอยูว่ า่ กลิ่นหอมจากปิ่ นดอกไม้นนั่ เข้มข้นอยู่
บ้าง …..พอตอนนี้คิดขึ้นมาถึงได้รู้วา่ เขาได้ใส่ ลูกเล่นบางอย่าง
เอาไว้ในปิ่ นปักผมนัน่
ยาพิษ นี่จึงทาให้นางสู ญเสี ยพละกาลัง
“อาเย่ว ใบหน้าของเจ้าแดงมากเลย เพราะชื่นชอบความสุ ขที่เรา
ปรนเปรอให้เจ้าใช่หรื อไม่?” มุมปากของจีจา้ นมีรอยยิม้ เขา
เหมือนกับจอมมารที่ผดุ ขึ้นมาจากขุมนรก ไม่เพียงทรมานร่ างกาย
แต่ยงั ทาร้ายจิตใจ
“วางใจเถอะ ต่อไปทุกๆ วัน เราจะทาให้เจ้ามีความสุ ขเอง” คาพูด
ทั้งหมดของจีจา้ นย่อมตั้งใจตรัสออกไปให้ฟ่านอิงฟัง
“เจ้าฮ่องเต้สุนขั ข้าจะฆ่าเจ้า!” ฟ่ านอิงถูกเขายัว่ ยุสาเร็ จ เขายกกระบี่
ที่หล่นลงไปขึ้นมาอีกครั้ง
ยามที่กระบี่น้ นั พุง่ เข้าใส่ พระศอของพระองค์ จีจา้ นก็มิได้หลบหลีก
พระองค์เพียงแต่กอดเจียงเย่วเอาไว้ในอ้อมพระพาหา เชยคางของ
เจียงเย่วขึ้นมา ให้นางได้เห็นกระบี่ของฟ่ านอิงที่พงุ่ เข้ามา
ขณะที่กระบี่น้ นั ห่างจากพระศอออกไปเพียงแค่หนึ่งเมตรก็จะ
สามารถแทงละทุได้แล้วนั้น
ดาบอีกเล่มหนึ่งก็พงุ่ ออกมาด้วยความเร็ วที่สูงกว่ากระบี่ของฟ่ านอิง
ตัดฉับลงไปบนลาคอของเขา
เลือดสดๆ สาดกระเด็นใส่ ใบหน้าของเจียงเย่ว ศีรษะคนหล่นลงมา
แม้ตาย ฟ่ านอิงก็ยงั ต้องการฆ่าจีจา้ นให้ได้ ศีรษะที่ถูกตัดลงมานั้น
…..ตายตาค้าง
“อาเย่ว เจ้าดูสิ เขาจะฆ่าเราให้ได้ เดิมทีเราจะให้ทางรอดสายหนึ่งแก่
เขา” จีจา้ นคลายพระหัตถ์ที่จบั คางเจียงเย่วเอาไว้ กระซิบข้างหูนาง
ด้วยน้ าเสี ยงเสี ยใจราวกับถูกกระทา “เจ้าคงจะไม่โทษว่าเราใช่
ไหม?”
เจียงเย่วตัวแข็งทื่อไปแล้วดาบนั้นทาให้ภาพในสมองของนางว่าง
เปล่าไปหมด แม้แต่จีจา้ นกล่าวอะไรก็ไม่ได้ยนิ อีกแล้ว
เลือดที่กระเด็นโดนใบหน้ายังคงอุ่นอยู่ แต่หวั ใจของนางกลับแข็งตัว
ไปแล้ว
ครู่ ใหญ่นางถึงได้กรี ดร้องขึ้นมาด้วยความคลุม้ คลัง่ “อ๊าก!”
นางเกลียดจีจา้ น แต่เกลียดตนเองยิง่ กว่า!
เกลียดที่ตนเองช่างโง่เขลา เกลียดที่ตนเองพาสุ นขั ป่ ากลับเรื อน
เกลียดตนเองรู ้ท้ งั รู ้ถึงความละโมบโลภมากของเขา แต่กลับมิได้ใส่
ใจ
ยามนี้เจียงเย่วคิดแต่จะติดตามฟ่ านอิงไป
นางกัดลิ้นลงไปในทันที แต่จีจา้ นกลับรู ้ทนั ความคิดของนาง
พระองค์ยนื่ พระหัตถ์เข้าไปในปากของนาง
การกัดครั้งนี้ของเจียงเย่วใช้ออกด้วยเรี่ ยวแรงทั้งหมด นางกัดลึกลง
ไปในเนื้อจนกัดได้เนื้อหลังพระหัตถ์ออกมาคาหนึ่ง
เจียงเย่วคลัง่ ไปแล้ว ครั้งเดียวไม่สาเร็จนางก็กดั ลงไปอีก กัดลงไปจน
สุ ดแรง
จีจา้ นกลับรับเอาไว้โดยมิได้ส่งเสี ยง
ถึงนางกัดติดต่อกันหลายครั้งเข้า พระองค์ค่อยตรัสว่า “เจียงเย่ว หาก
ว่าเจ้ากล้าตาย เราจะประหารครอบครัวทั้งหมดของเจ้า แม้แต่ชาวกู่
เย่วทั้งหมดก็ตอ้ งตายจนหมดสิ้ น มอดไหม้เพือ่ เจ้า”
เจียงเย่วเจ็บใจจนปวดร้าว หัวใจที่กาลังเกรี้ ยวกราดเหมือนถูกแทงลง
ไปอีกครั้ง
“จีจา้ น เจ้ามันไม่ใช่คน ไม่ใช่คน อ๊ากกกก!” นางกรี ดร้องอย่างเกรี้ ยว
กราดอยากจะฆ่าเขาด้วยมือของตนเอง
“เราเป็ นประมุขของแคว้นต้าโจว ผูท้ ี่เป็ นฮ่องเต้จะมีสักกี่คนที่เป็ น
คนดี” จีจา้ นยังคงกอดนางเอาไว้
ที่จริ งพระองค์ถอดฉลองพระองค์ตวั นอกออกไปแล้ว จึงนามาห่อตัว
นางเอาไว้อย่างแนบแน่น
“เจ้าเป็ นองค์หญิงของกู่เย่ว แบกภาระและความรับผิดชอบเอาไว้บน
ร่ าง เพื่อประชาชนของเจ้า เจ้าย่อมต้องคิดให้ดี ด้วยเพราะชีวิตของ
เจ้านี้ มีค่าอย่างยิง่ ”
เจียงเย่วนอกจากจะเจ็บปวดจนหัวใจสลายแล้ว ก็ยงั สานึกเสี ยใจ
อย่างที่สุด ความหวังทั้งหมดของนางกลายเป็ นเถ้าถ่าน
ในวันอภิเษกของนาง นางกลับถูกคน….. คู่หมั้นถูกฆ่าต่อหน้า บ้าน
ของนาง แคว้นของนางล่มสลายในชัว่ พริ บตา
จากสาวน้อยที่บริ สุทธิ์ไร้เดียงสาผูห้ นึ่ง กลายเป็ นทาสเชลยจาก
แคว้นที่ล่มจม
ทั้งหมดนี้เป็ นเพราะนางทาตัวเอง ที่แคว้นกู่เย่วต้องเป็ นเช่นนี้ก็
เพราะนางชักศึกเข้าบ้าน
นางมองออกไป เห็นศพที่แข็งทื่อไปแล้วของฟ่ านอิง หัวใจของนาง
ก็ตายไปด้วย
หัวใจตายไปแล้ว แต่ร่างกายไม่อาจตายไปด้วย….
นางต้องการล้างแค้น นางต้องการให้จีจา้ นไม่ตายดี!
น้ าตาไหลจนเหือดแห้ง ลาคอแหบแห้งจบไร้เสี ยง ร่ างของนาง
เหมือนกับศพที่จีจา้ นแบกออกไป ในตอนนั้นดวงตาของนางมีแต่
ความชิงชังอย่างรุ นแรง
ภาพตรงหน้ามีแต่เลือดเต็มไปหมด
ภายในรถม้า ลูกแก้วบนมือของตู๋กซู ิงหลันไร้แสงจนหมดแล้ว
หัวใจของนางเหมือนกับถูกก้อนหินใหญ่กดทับเอาไว้อย่างแน่นหนา
แม่เอ๋ ย!
จีจา้ นผูน้ ้ นั คือจอมมารอย่างแท้จริ ง!
เมื่ออยูใ่ นความทรงจาของเจียงเย่ว นางย่อมสามารถรับรู ้ได้ถึง
ความรู ้สึกเจ็บปวดทุกข์ระทมที่เจียงเย่วได้รับ
ขณะที่จมดิ่งอยูใ่ นความทรงจานี้ ตู๋กูซิงหลันเกือบจะพุง่ เข้าไปถอด
รองเท้าตบตีจีจา้ นสักรอบ
ต้องมาเผอิญเจอจอมมารเช่นนี้ ถือเป็ นความซวยที่สงั่ สมมาแล้วแปด
ชาติหรื อไม่?
แม้แต่วิญญาณทมิฬยังทนดูต่อไปไม่ได้ เมื่อได้เห็นความทรงจาของ
องค์หญิงเย่ว มันย่อมต้องรู ้สึกว่า เจ้าฮ่องเต้สุนขั ก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไร
นัก
แถมยัง….ออกจะน่ารักอยูบ่ า้ งเสี ยด้วยซ้ า
——
ไรท์: เป็ นตอนที่ดาร์คมากจริ งๆ อย่าว่าแต่คนอ่านเลย คนแปลก็จะ
หายใจไม่ออก
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 340 เจ้ ามารชั่วช้ าลามก! ไปให้ พ้น
นะ!
เพราะว่าเขาไม่เคยกระทาเรื่ องบีบบังคับใดๆ กับตู๋กซู ิงหลันมาก่อน
เลย
แม้แต่ตอนแรกๆ ที่มาถึง ก็เพียงแต่โยนทิ้งเอาไว้ในตาหนักเย็น
ปล่อยให้แตกดับไปเอง
หากว่าที่พวกมันได้เจอเป็ นท่านปู่ ของจีเฉวียน เกรงว่าคงจะต้องตาย
ไปแล้วไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ
อยูๆ่ วิญญาณทมิฬก็ชกั จะรู ้สึกว่า อีกหน่อยคงต้องพูดเรื่ องเสี ยๆ
หายๆ ของเจ้าฮ่องเต้สุนขั ให้นอ้ ยๆ ลงไปสักหน่อย
มิเช่นนั้นถ้าเกิดว่าไปกระทบถูกต่อมหงุดหงิดของจีเฉวียนเข้า แล้ว
เขาก็หวั ร้อนระเบิดขึ้นมา ที่โชคร้ายคงจะต้องเป็ นพวกมันนัน่ เอง
ฉู่เจียงมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในความทรงจาทั้งหมดร่ วมกับตู๋กู
ซิงหลัน
สี หน้าของเขาเองก็มิได้ดีสกั เท่าไร ผ่านไปอีกพักใหญ่ จึงได้ถอน
หายใจพลางเอ่ยออกมา “ดังนั้นข้าถึงได้ชิงชังพวกมนุษย์ พวกมันเจ้า
เล่ห์กลิ้งกลอกโหดเ**้้ยมเสี ยยิง่ กว่าพวกภูติผปี ี ศาจที่ขา้ เคยเจอใน
นรกเสี ยอีก”
“ตอนนั้น…เจ้าก็เอาแต่มองดูเช่นนี้น่ะหรื อ?” ตู๋กูซิงหลันหันศีรษะ
ไปอย่างช้าๆ จ้องมองดูฉู่เจียง
“มนุษย์ต่างก็มีโชคชะตาของตนเอง ข้าย่อมไม่เข้าไปแทรกแซง” ฉู่
เจียงนัง่ อยูต่ รงข้ามกับนาง “ยิง่ ไปกว่านั้น เจ้าคิดว่าข้าเป็ นคนดีมี
เมตตาหรื อไร?”
ตู๋กซู ิงหลันพูดอะไรกับเขาไม่ออก หากให้ยกเหลียงเซิงเซิงมากลัน่
แกล้งเขาล่ะก็ นางสามารถทาได้สามวันสามคืนเลยทีเดียว
เพียงแต่วา่ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์แล้ว ชะตากรรมของเจียงเย่ว ทาให้นาง
พลอยทุกข์ใจ
ยิง่ ไปกว่านั้น ร่ างกายนี้กเ็ ป็ นหลานสาวแท้ๆ ของนางอีกด้วย
จะอย่างไรเสี ยสายเลือดก็เชื่อมถึงกัน ความรู ้สึกเจ็บปวดราวกับถูก
แทงหัวใจนั้น นางรู ้สึกได้อย่างชัดเจนเกินไปแล้ว
เรื่ องเช่นนี้มิวา่ เกิดขึ้นกับผูใ้ ดก็ตาม ก็สามารถทาให้คนผูน้ ้ นั ใจสลาย
ได้ท้ งั นั้น
“เรื่ องที่ปฐมฮ่องเต้ตา้ โจวกระทากับท่านย่าของเจ้า ถึงตอนนี้เจ้าก็รู้
เรื่ องทั้งหมดแล้ว แล้วตอนนี้เจ้ายังจะปฏิบตั ิต่อจีเฉวียนเหมือน
ดังเดิมหรื อไม่?” ฉู่เจียงถามไถ่ดว้ ยความสนใจ
สาวน้อยผูน้ ้ ีช่างน่าสนุกจริ งๆ คืนวันก่อนนั้นมัวแต่ยงุ่ เกินไป จึงมิ
ทันได้สังเกตให้ดี
ตอนนี้เขาถึงได้พบว่าภายใต้ร่างเนื้อร่ างนี้ ยังมีเรื่ องราวซับซ้อนอื่น
อยูอ่ ีก
ก่อนหน้านี้ผทู ้ ี่ใช้พลังของหยกสรรพชีวิตต่อกรกับเขา คงจะเป็ นนาง
สิ นะ?
“ยมราชฉู่เจียง ท่านสนใจเรื่ องของผูอ้ ื่นมากไปแล้ว” ตู๋กซู ิงหลัน
ถลึงตามองเขา ที่เขาโผล่ออกมาจากหมอกแดงมาแสดงร่ างที่เก่งกาจ
เกรี ยงไกรอยูต่ รงหน้านาง ก็เพียงเพื่อจะมาแอบฟังเรื่ องราวของ
ผูอ้ ื่น?
“แส่ เรื่ องชาวบ้านนั้นเป็ นงานของพวกนักพรต ข้ากลับไม่มีความ
สนใจ” ฉู่เจียงส่ ายศีรษะ ยืน่ ปลายนิ้วนิ้วหนึ่งชี้ไปที่ตวั นาง “ข้า
เพียงแต่สนใจในตัวเจ้าอยูบ่ า้ ง ไม่รู้วา่ ภายใต้เนื้อหนังนี้ จะเป็ นจิต
วิญญาณที่สวยงามหรื อไม่?”
ว่าแล้วเขาก็ยนื่ ปลายนิ้วออกมานิ้วหนึ่ง เห็นอยูว่ า่ กาลังจะสัมผัสลง
ไปบนหน้าผากของตู๋กูซิงหลัน
ทันใดนั้นเอง ผ้าม่านของรถม้าก็เปิ ดออก
ฮ่องเต้นาพระวรกายที่เย็นยะเยือกเสด็จเข้ามา
ทันทีที่พระองค์เสด็จ ฉู่เจียงก็สลายร่ างกลายเป็ นหมอกสี แดงลอย
ออกไปทางหน้าต่าง
เขายังไม่คิดจะพัวพันกับฮ่องเต้องค์น้ ีในตอนนี้
จีเฉวียนเองก็มิได้ตาบอด พระองค์ยอ่ มรู ้สึกได้ถึงบรรยากาศภายใน
รถม้า เพียงแต่มิได้กระโตกกระตากออกไป ก็นงั่ ลงที่ขา้ งกายตู๋กซู ิงห
ลัน
พอจีเฉวียนมาถึง ในสมองของนางก็ผดุ ภาพอันโหดเ**้้ยมบ้าคลัง่
ของจีจา้ นเสด็จปู่ ของเขาขึ้นมา
ดวงพักตร์ของจีเฉวียนกับจีจา้ นละม้ายคล้ายคลึงกัน
พอตู๋กซู ิงหลันมองอยูค่ รู่ หนึ่งก็ชกั จะเห็นคนเป็ นจีจา้ นขึ้นมา
“ซิงซิง เรื่ องของเมืองกู่เย่วใกล้จะเรี ยบร้อยแล้ว พรุ่ งนี้เราจะพาเจ้า
กลับวัง”
น้ าเสี ยงของจีเฉวียนเองก็คล้ายคลึงกับจีจา้ นอยูห่ ลายส่ วน พอ
พระองค์เอ่ยพระโอษฐ์ตรัสออกมา ในสมองของตู๋กซู ิงหลันก็เกิด
เป็ นภาพที่ไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่ นกั
จีเฉวียนเห็นสี หน้าของนางไม่สู้ดี ก็ยนื่ พระหัตถ์มาจับนาง
ยังไม่ทนั จะสัมผัสกับมือของตู๋กซู ิงหลัน ก็ถูกนางตบหน้าไปฉาด
หนึ่ง “จอมมารชัว่ ช้าลามก! ไปให้พน้ นะ!
จีเฉวียน “?”
เขาก็แค่ไปดูเหลียงป๋ อถูกฝังด้วยตนเองเท่านั้น ไปทาเรื่ องชัว่ ช้า
สามานย์ที่ไหนให้นางต้องไม่ยนิ ดีกนั ?
ฝ่ าบาททรงหันไปทอดพระเนตรวิญญาณทมิฬที่ซุกตัวอยูใ่ นมุม
“สตรี อารมณ์เสี ยมีสาเหตุได้นบั ร้อยนับพันประการ อย่ามามองข้า
ข้าเองก็ไม่รู้ เรื่ องพรรณนี้ตอ้ งใช้ความเข้าใจ”
เมื่ออยูต่ ่อหน้าตู๋กซู ิงหลัน จีเฉวียนย่อมไม่กล้าทาอะไรวิญญาณทมิฬ
ในสมองของพระองค์ปรากฏคาสัง่ สอนของภรรยาซุนต้มยาขึ้นมา
ก่อน ระหว่างคนสองคน ไม่วา่ ฝ่ ายสตรี จะโกรธเกรี้ ยวด้วยเรื่ องอัน
ใด ไม่วา่ จะใช่ความผิดของตนเองหรื อไม่ ก็ให้ขอโทษออกไปก่อน
ถึงแม้วา่ ฝ่ าบาทจะทรงรู ้สึกว่าวิธีการนี้น่าอับอายแต่พอเห็นตู๋กซู ิงห
ลันไม่ยงุ่ เกี่ยวหรื อสนใจพระองค์ข้ ึนมา ความกังวลนั้นก็หมดค่าไป
ในเมื่อพระองค์พระพักตร์หนาขนาดมิวา่ เช่นไรก็ตอ้ งไล่จีบให้ได้ ถ้า
เช่นนั้นยังจะต้องมากังวลใส่ ใจรักษาหน้ากันไปเพื่ออะไร
“ซิงซิง เราผิดไปแล้ว”
สี พระพักตร์ของฝ่ าบาทเป็ นจริ งเป็ นจัง สองพระหัตถ์ประคอง
ใบหน้าของนางเอาไว้ “ต่อไปเราจะไม่เป็ นจอมมาร ไม่เป็ นชายเจ้าชู ้
อย่าได้ผลักไสเราออกไปจะได้ไหม?”
ถึงแม้วา่ ฝ่ าบาททรงไม่คิดว่าพระองค์เองจะเป็ นปี ศาจในที่ใด และก็
มิใช่บุรุษเจ้าชู ้
แต่กเ็ อาเถอะ….พระองค์กม็ ีลูกเล่นพอตัวอยูบ่ า้ ง ในใจก็มีแผนการณ์
อยูไ่ ม่นอ้ ย
แต่นนั่ สมควรเรี ยกว่าชาญฉลาดมิใช่หรื อ?
อีกอย่างต่อหน้านางก็ทาตัวโง่หน่อยก็ได้?
จีเฉวียนทรงตรัสพลางก็นวดใบหน้านางเบาๆ
อืม หลายวันมานี้ขนุ ได้ไม่เลว อ้วนขึ้นบ้างแล้ว
ตู๋กูซิงหลัน “!!!”
สวรรค์ทรงโปรดเถอะ นางยังรู ้สึกว่า
ตนเองยังไม่ทนั ได้หลุดออกจากเรื่ องที่เจียงเย่วสู ญสิ้ นชาติบา้ นเมือง
ก็มาเจอกับท่าทีของจีเฉวียนเช่นนี้ ทาเอาสติและจิตของนางจะแตก
ซ่านอยูแ่ ล้ว
นี่มนั คือการสื บทอดพันธุกรรมกันมาหรื อไร หากจีเฉวียนมิทรงตรัส
ออกมา ก็คล้ายคลึงกับจีจา้ นมากไปแล้ว
พอคิดถึงวิธีการที่ชวั่ ร้ายปานปี ศาจของจีจา้ น ตู๋กซู ิงหลันก็รู้สึกตัว
สัน่ สะท้าน เหงื่อแตกขนลุกขึ้นมา
จีเฉวียนเห็นนางสัน่ สะท้านหนาวยะเยือก ก็คิดว่าตนเองแสดงออก
ได้ธรรมดาจนเกินไปแล้ว
พระองค์คิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ก็แย้มสรวลออกมา มุมปากขยับโค้ง ดวงตา
โค้งๆ หัวคิว้ ก็โค้งด้วย
ภรรยาของซุนต้มยากล่าวเอาไว้ เวลายิม้ ให้เห็นฟันทั้งซี่ออกมาเป็ น
รอยยิม้ ที่อ่อนโยนที่สุด
สตรี ชมชอบบุรุษที่อ่อนโยน ฝ่ าบาทไม่อาจขึงขังมากไป จะต้อง
อ่อนโยน
ฝ่ าบาทย่อมทรงทาตาม
แต่คราวนี้ กลับทาให้ต๋ ูกซู ิงหลันตกใจแทบตายแล้ว
รอยแย้มสรวลของฮ่องเต้สุนขั ยิม้ ออกมาดูน่าตื่นตระหนกราวกับว่า
เป็ นปี ศาจ
ทันใดนั้น เงาของจีจา้ นในสมองของนางก็ขยายใหญ่ข้ ึน ตู๋กซู ิง
หลันกระเถิบไปซุกอยูอ่ ีกด้านหนึ่งทันที สองมือกอดอกเอาไว้ กล่าว
อย่างระมัดระวังว่า “ท่านคิดจะทาอะไร?”
จีเฉวียนขมวดพระขนง ปล่อยพระหัตถ์ที่ประคองใบหน้าของนาง
เอาไว้กลับมา ด้วยความสับสนในพระองค์เอง
พระองค์แย้มสรวลไม่น่าดูหรื ออย่างไร? ทาไมสี หน้าของนางถึงได้
เป็ นเช่นนี้
ทรงเหลือบพระเนตรไปมองดูถวนจื่อที่อยูข่ า้ งหลังนาง
วิญญาณทมิฬตื่นตระหนกจนขนลุกชัน
ฮ่องเต้สุนขั ยิม้ ขึ้นมาล้วนไม่มีเรื่ องดี ทั้งยังยิม้ ได้แข็งทื่อและน่าสยอง
นี่คิดว่าตนเองเป็ นปี ศาจหรื ออย่างไร?
ฝ่ าบาททรงรู ้สึกว่าพระองค์ลม้ เหลวอยูบ่ า้ ง พระเศียรตกลงมาอย่าง
ไม่เกรงใจ ราวกับว่าเป็ นเด็กน้อยที่กระทาความผิด
ในพระทัยครุ่ นคิดถึงแต่ ‘รอยยิม้ แสนอบอุ่น’ ที่ลอบฝึ กฝนมาหลาย
สิ บรอบ ขณะที่ต๋ ูกูซิงหลันคิดว่าแรงกดดันจากเขาลดต่าลงจนถึง
ขนาดจะกลายเป็ นซึมเศร้านั้น ฝ่ าบาทก็ทรงเงยพระพักตร์ข้ ึนมาใน
ทันทีทนั ใด
เผยรอยแย้มสรวลที่ท้ งั แข็งทื่อและสยดสยองออกมา
ฟันใหญ่ๆ สี ขาวนัน่ ….ไม่เอาไปปอกหัวแครอทช่างเป็ นเรื่ องที่น่า
เสี ยดายจริ งๆ
“ซิงซิง เราตัดสิ นใจจะเปลี่ยนแปลงตนเอง เรื่ องที่รับปากเจ้าเอาไว้
จะต้องทาให้สาเร็ จให้ได้ หากว่าทาได้ไม่ดี เจ้าก็โบยเราได้เลย เราจะ
ตั้งใจแก้ไข” ฝ่ าบาททรงพยายามรักษารอยยิม้ เอาไว้ ยืน่ พระหัตถ์มา
กระตุกชายเสื้ อของนาง “ดังนั้น อย่าโกรธเลยได้ไหม นะ นะ โกรธ
แล้วจะแก่เร็ วน้า”
ตู๋กซู ิงหลันกันวิญญาณทมิฬ “!!!”
พวกนางชักจะเชื่อว่าฝ่ าบาททรงถูกสิ งเข้าแล้ว
——
ตอนต่อไป “ซิงซิงคือความโชคดีที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดของเรา”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 341 ซิงซิงคือความโชคดีที่ยงิ่ ใหญ่
ที่สุดของเรา
จีเฉวียนทรงคว้าชายเสื้ อของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ทา
พระองค์งุง้ งิ้งอย่างน่าสงสาร
สายตานั้นเหมือนกับลูกสุ นขั น้อยที่ถูกเจ้านายทอดทิ้งไม่มีผดิ
สวรรค์! ตู๋กซู ิงหลันคิดไม่ถึงมาก่อนเลย ว่าจะได้เจอเงาของลูกสุ นขั
น้อยจากร่ างของสุ นขั แก่เจ้าเล่ห์ผนู ้ ้ ี
ผ่านไปอีกพักใหญ่นางถึงได้เอ่ยออกมาประโยคหนึ่ง “ลูกหมา…..
สุ นขั เฒ่า พระองค์เก่งมาเลยเพคะ”
จอมมารนั้นคือปู่ ของเขา ตู๋กซู ิงหลันย่อมไม่สมควรจะเอาความ
เกลียดชังมาลงใส่ จีเฉวียนเพราะจีจา้ นเป็ นเหตุ
“ซิงซิง เจ้ายอมชมเราแล้ว แสดงว่าให้อภัยเราแล้วใช่หรื อไม่?” จี
เฉวียนแย้มพระสรวลอย่างยินดี แย้มสรวลจนดวงพักตร์บานเหมือน
ดัง่ ดอกเก็กฮวยในถาด
อยูๆ่ ตู๋กูซิงหลันก็รู้สึกว่า ในตัวของพระองค์มิได้มีแต่เงาของลูก
สุ นขั น้อย แต่ยงั มีอารมณ์ใสซื่อจนโง่งมอยูด่ ว้ ย
เกือบจะลืมไปเสี ยแล้ว จุดประสงค์ที่ก่อนหน้านี้นางชมว่าเขาเป็ น
สุ นขั เฒ่า
“ฝ่ าบาท หม่อมฉันไม่ได้โกรธพระองค์”
นางพิงตัวลงไปกับเบาะ มองดูภูเขาฝูซางซานที่มีแต่วิญญาณแค้น
ล่องลอยอยูเ่ ต็มภูเขาไปหมด หัวใจก็ตอ้ งรู ้สึกหน่วงๆ ขึ้นมาอีกครั้ง
สุ ดท้ายแล้วจีจา้ นไม่เพียงแต่ฆ่าล้างครอบครัวของเจียวเย่ว แต่
แม้กระทัง่ พสกนิกรของนางก็ยงั ฆ่าทิ้งทั้งหมด
คาที่เขาให้สญ
ั ญากับนาง ไม่มีอะไรที่จริ งเลยสักอย่าง
ฟ่ านอิงตายอย่างอนาถ บ้านเมืองล่มจม แว่นแคว้นล่มสลาย เจียวเย่
วจึงกลายเป็ นเพียงศพเดินได้ที่ไร้ชีวิตและจิตใจ
หลังจากนั้นก็คงจะถูกจีจา้ นบังคับให้ไปยังเมืองหลวงของต้าโจวก
ระมัง ……เพียงแต่วา่ สุ ดท้ายแล้ว ไม่รู้วา่ ทาไม เจียวเย่วถึงได้แต่ง
ให้กบั ตู๋กูถิง
ในลูกแก้วไม่มีความทรงจาที่ถูกบันทึกเอาไว้เหลืออยูแ่ ล้ว ปฐม
ฮ่องเต้และเหลียงป๋ อก็จากไปแล้ว คนเดียวที่ยงั รู ้เรื่ อง ก็คือท่านปู่ ของ
ร่ างนี้ ตู๋กถู ิง
สาหรับตู๋กูซิงหลันแล้ว หากว่านางคือไทเฮาน้อยจริ งๆ ล่ะก็ บางที
ต่อไปอาจจะไม่อาจเผชิญหน้ากับจีเฉวียนแบบดีๆ ได้อีกแล้ว
เนื่องเพราะจะอย่างไรท่านปู่ ของเขาก็ได้ทาร้ายท่านย่าของนางทั้ง
ชีวิต
ขนาดนางที่ไม่ใช่ตวั จริ ง ในใจก็ยงั รู ้สึกไม่สบายใจเลย
วิญญาณแค้นในภูเขาฝูซางซานต่างก็แยกเขี้ยวกางเล็บ วิญญาณทุก
ดวงต่างก็กรี ดร้องด้วยความทรมานขณะมองมาทางจีเฉวียน หาก
มิใช่เพราะว่าโซ่ตรวนเหล่านั้นรัดรึ งเหล่าวิญญาณเอาไว้อย่างแน่น
หนา เกรงว่าพวกมันคงจะพากันพุง่ เข้ามาฉี กกระชากแยกร่ างจี
เฉวียนออกเป็ นส่ วนๆ ไปแล้ว
เพราะว่าเขาก็คือฮ่องเต้แห่งต้าโจว และยิง่ เพราะว่ามีรูปลักษณ์
คล้ายคลึงกับจีจา้ นท่านปู่ ของเขาอยูห่ ลายส่ วน
เมื่อเผชิญหน้ากับจีเฉวียน วิญญาณแค้นเหล่านั้นก็เสมือนได้
เผชิญหน้ากับจีจา้ นอย่างไรอย่างนั้น
ฉู่เจียงอยูด่ า้ นหลังของวิญญาณแค้นเหล่านั้น เขานัง่ อยูบ่ นต้นไม้
ใหญ่ตน้ หนึ่ง ในมือมีโซ่ตรวนสี แดงอยูม่ ากมาย
วิญญาณแค้นเหล่านั้นถูกเขาจับมัดตรึ งเอาไว้ เป็ นดังที่เขาเคยบอก
ทุกสิ่ งที่อยูใ่ นเขาฝูซางซานนี้ ล้วนแล้วแต่เป็ นของเขา
ในเมื่อเป็ นถึงหนึ่งในสิ บยมราช ย่อมไม่อาจทนดูให้วิญญาณแค้น
ทั้งหลายไปทาร้ายพวกมนุษย์
สุ ดท้ายแล้ว เขาก็ยงั คงหลงเหลือความรับผิดชอบในฐานะที่เป็ นยม
ราชเอาไว้อยู่
เพียงแต่วา่ ผ่านมาก็ต้ งั นานหลายปี แล้ว วิญาณแค้นเหล่านี้กย็ งั ไม่ได้
รับการปลดปล่อย ไอแค้นยิง่ ทียงิ่ เพิ่มพูนมากขึ้นทุกวัน
สุ ดท้ายแล้วก็มีไม่นอ้ ยที่กลายร่ างไปเป็ นปี ศาจชัว่ ร้าย เมื่อไร้หนทาง
ช่วยเหลือได้อีก ก็ตอ้ งถูกเขากลืนกินลงไป
ดวงตาของฉู่เจียงในยามนี้เอาแต่จบั จ้องอยูท่ ี่ต๋ ูกซู ิงหลันและจีเฉวียน
วันนี้เป็ นเพราะการมาของจีเฉวียน เหล่าวิญญาณแค้นที่กาลัง
อาละวาด หากมิใช่เพราะว่าถูกเขากักขังเอาไว้ เกรงว่าผลลัพธ์คงไม่
อาจคาดคิด
จีเฉวียนมองดูสาวน้อยที่อยูข่ า้ งกาย แล้วก็หนั ไปมองภูเขาฝูซางซาน
ที่ดา้ นนอก
“ซิงซิง ต่อไปเราจะต้องปกครองดินแดนแห่งนี้ท้ งั หมด” พระองค์
ตรัส
“แต่เราจะไม่เข่นฆ่าผูบ้ ริ สุทธิ์” จีเฉวียนยังคงคว้าชายเสื้ อของนาง
เอาไว้ดงั เดิม “คนใต้หล้าต่างก็คิดว่าเราไร้เมตตา แต่กลับไม่เคยรู ้วา่
เรามีความเห็นอกเห็นใจให้มากเพียงไร”
พระองค์จะกลายเป็ นประมุขผูค้ รองดินแดน นี่เป็ นโชคชะตาของ
พระองค์
และขั้นตอนแต่ละขั้นเหล่านี้ยอ่ มต้องแลกมาด้วยชีวิตและโลหิ ต
เรื่ องนี้ยอ่ มไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
แต่วา่ พระองค์จะพยายามอย่างที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการฆ่าฟันผู ้
บริ สุทธิ์ เนื่องเพราะจุดประสงค์แรกของพระองค์กเ็ พื่อให้ใต้หล้านี้
สงบสุ ขร่ มเย็น
เด็กได้รับการปกป้อง คนชรามีที่พ่ งึ พิง อิ่มอุ่นไม่ขาดแคลน สงบสุ ข
ทั้งแผ่นดิน
ไม่รู้วา่ เพราะอะไร ในชัว่ ขณะนั้น ตู๋กซู ิงหลันเกิดความรู ้สึก
ประทับใจในจีเฉวียนขึ้นมาทีละนิดทีละน้อย
ฮ่องเต้สุนขั แม้จะซ่อนความร้ายกาจไว้ภายในและเจ้าเล่ห์เพทุบาย แต่
ว่าในฐานะของฮ่องเต้แล้ว เขาถือว่าใช้ได้
“ฝ่ าบาทจะต้องทรงเป็ นผูน้ าที่ปราดเปรื่ องอย่างแน่นอน” ตู๋กซู ิงหลัน
ยิม้ จางๆ “ทาความดีวนั ละอย่าง นามาร้อยเรี ยงเป็ นกุศลยิง่ ใหญ่
ส่ งผลให้ได้รับความสุ ขความดีในชาติหน้า”
“เราไม่มุ่งหวังชาติหน้า เพียงหวังในชาติน้ ี” จีเฉวียนยืน่ พระหัตถ์ไป
ลูบไล้เส้นผมของนาง “ซิงซิงก็คือกุศลอันยิง่ ใหญ่ของเรา”
อ้ายย่าห์! ดูเอาเถอะ! ตู๋กซู ิงหลันค้นพบว่าคาหวานของฮ่องเต้สุนขั
ก้าวหน้าขึ้นทุกวันจนฟังแล้วใจสัน่ เข้าไปทุกที
วิญญาณที่อยูด่ า้ นข้างร้องเพลงขึ้นมา ‘ทุกสิ่ งมีเหตุส่งให้เกิดผล สิ่ ง
ตอบแทนที่เขาต้องการก็คือเจ้า’
นางไม่ใช่บุญกุศลตอบแทนอันใดของจีเฉวียนสักหน่อย ถ้าจะใช่ก็
คงเป็ นเคราะห์กรรมมากกว่า
จีเฉวียนทรงฟังแล้ว ก็มิได้หนั ไปเอาเรื่ องกับวิญญาณทมิฬ เพียงแต่
ประคองใบหน้าของนาง จูบลงไปบนหน้าผากอีกครั้ง
แผ่วเบาราวกับจูบหอมบุตรสาวสุ ดที่รัก
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกชาๆ บนหน้าผาก ทั้งยังคันนิดๆ
นางเบือนหน้าออกไป มองดูทิวทัศน์ดา้ นนอก “ข้าคิดจะชาระ
วิญญาณแค้นเหล่านี้ มิทราบว่าฝ่ าบาทจะทรงช่วยเหลือข้าได้
หรื อไม่?”
ถึงแม้วา่ วิญญาณแค้นมากมายที่กลายเป็ นปี ศาจจะถูกฉู่เจียงจับกลืน
กินไปแล้ว แต่วา่ ก็ยงั มีอีกนับพันที่กาลังทาท่าถมึงทึงอยูใ่ นตอนนี้
ชาระวิญญาณนับหมื่น บอกว่ายากก็ยากอยู่ บอกว่าไม่ยากก็ไม่ยาก
นักพรตโดยทัว่ ไป แต่ละครั้งอย่างมากก็สามารถชาระวิญญาณได้ที
ละสองสามตน
หากสามารถชาระวิญญาณได้ครั้งละร้อยตนก็ตอ้ งถือว่าเก่งกาจสุ ด
ยอดแล้ว
หากจะชาระวิญญาณมากถึงแสนตนในครั้งเดียว….เกรงว่ามีแต่
อาจารย์ของนางซื่อมัว่ เท่านั้นที่ทาได้
วิญญาณทมิฬร้องด้วยความประหลาดใจขึ้นมา “หลันหลัน เจ้า
อย่าได้ฝืนเกินไป วิญญาณแค้นเหล่านี้ให้ขา้ กินบ้างก็ได้….”
คิดจะชาระทั้งหมด คงยากเกินไปแล้ว
“หากว่าเป็ นการทาให้ร่างกายของเจ้าต้องอ่อนล้า เราจะไม่อนุญาต”
จีเฉวียนทอดพระเนตรออกไปด้านนอก
“เราจะสัง่ ให้พวกอู๋เจินมาที่นี่และชาระวิญญาณแค้นพวกนี้ เหล่า
นักพรตในอารามเทียนเก๋ อกวนอยูว่ า่ งๆ น่าเบื่อเกินไปแล้ว สมควร
ทาความดี สร้างกุศลให้มาก คิดว่าอู๋เจินก็คงยินดี”
นักพรตอู๋เจินที่อยูห่ ่างจากฮ่องเต้ไกลแสนไกล อยูๆ่ ก็จามครั้งใหญ่ๆ
ติดๆ กัน
ธูปที่พ่ งึ จะจุดบูชาบรรพอาจารย์อยูอ่ ยูก่ ด็ บั ไป อู๋เจินรี บนับนิ้วทานาย
ทายทัก
ตกอยูใ่ นอันตราย! เคราะห์ร้ายมาเยือน!
หากว่าไทเฮาน้อยยังอยูล่ ่ะก็ บางทีอาจช่วยให้รอดพ้นไปได้ แต่
เพราะเรื่ องสระสวรรค์ครั้งก่อน ……ไทเฮาน้อยถึงกับทรง……
ที่เชิงเขาฝูซางซาน ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่าอู๋เจินช่างน่าสงสารอยูบ่ า้ ง
ในมือของนางปรากฏยันต์สีชาดผืนหนึ่ง ยืน่ ส่ งไปถึงเบื้องหน้าจี
เฉวียน
“ขอฝ่ าบาททรงระลึกถึงพระทัยเมตตาที่ทรงมีต่อใต้หล้า หยดพระ
โลหิตลงบนยันต์แผ่นนี้”
จีเฉวียนทอดพระเนตรมองดูยนั ต์สีชาด ก็ยอ้ นคิดไปถึงยามที่อยูใ่ น
โลงทองแดง นางใช้ยนั ต์สีชาดเช่นนี้กกั ตัวพระองค์ ขณะที่ไม่อาจ
ขยับพระองค์ได้น้ นั นางก็หายไป
พอตอนนี้ได้เห็นยันต์แบบเดียวกัน จีเฉวียนก็ทรงต่อต้านขึ้นมา
กลัวว่านางจะหนีจากไปเหมือนตอนนั้น
“ซิงซิง เจ้าจะกลับไปกับเรา ใช่ไหม?”
พระองค์ตรัสถามออกไป ด้วยทีท่าน่าสงสาร
ตู๋กซู ิงหลันไม่เข้าใจเลยว่าอยูๆ่ เขาจะถามเรื่ องนี้ออกมาทาไม ตอนนี้
นางไม่สามารถกลับไปยังโลกปัจจุบนั ได้ ทั้งยังมีฐานะเป็ นไทเฮา
น้อย ย่อมต้องกลับไปอยูแ่ ล้ว
เอาไว้ขาหายแล้วค่อยว่ากันอีกที
ตู๋กซู ิงหลันผงกศีรษะ “ใช่อย่างแน่นอน”
“ห้ามไม่ให้เจ้าหลอกลวงเรา หลอกลวงเราคือหมิ่นเบื้องสู ง หมิ่น
เบื้องสู งต้อ….”
ตู๋กูซิงหลันคว้าลาคอของตนเองในทันที “ตัดหัวสุ นขั ของข้า?”
จีเฉวียน “…..”
——
ตอนต่อไป “เผ่ามังกรตะวันตก”
ไรท์: ไฮ้ยา่ ห์ มังกรก็มา?
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 342 เผ่ ามังกรตะวันตก
วันๆ ต้องคอยมานัง่ กังวลว่าจะถูกเขาตัดหัวเช่นนี้ สมองของนางคง
เติบโตอย่างไม่ค่อยสม่าเสมอเท่าไหร่
พระองค์ส่งริ มพระโอษฐ์ออกไป สัมผัสกับริ มฝี ปากของนางแผ่วเบา
ราวแมลงปอแตะผ่านผิวน้ า
“หากโกหก เราก็จะจูบเจ้า ต่อให้ไล่ตามไปถึงขอบฟ้าจรดมหาสุ มทร
ก็จะตามไปจูบเจ้า”
วิญญาณทมิฬรู ้สึกว่ามันกาลังจะขาดใจตายอยูแ่ ล้ว
วิชาจีบสาวของเจ้าฮ่องเต้สุนขั แตกฉานถึงขั้นไหน?
ผูท้ ี่สมควรจะต้องมาศึกษามากที่สุดก็คือตอไม้ซื่อมัว่ ผูน้ ้ นั !
ดูฝีปากของบุรุษผูน้ ้ ีสิ หวานปานน้ าผึ้งอย่างไรอย่างนั้น
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ตกตะลึงไป ยันต์สีชาดในมือเบาหวิวลงไป นางยัง
ไม่ได้ทนั ตอบรับเขาแท้ๆ …. ทาไมถึงได้รู้สึกเหมือนกับว่าเป็ นคู่ที่
กาลังเริ่ มคบหากันอย่างไรอย่างนั้น?
เอะอะก็กอดจูบ ประเด็นสาคัญก็คือนางเองก็มิได้ปฏิเสธ
แต่ถึงจะปฎิเสธไปก็คงจะไม่มีผลอะไร…..เพราะฮ่องเต้สุนขั หน้า
หนาอย่างกับอะไรดี
“อะเฮอะ อะเฮอะ” ขนาดนางยังทาหน้าไม่ถูกเสี ยแล้ว
“พวกเราจัดการเรื่ องสาคัญให้เรี ยบร้อยก่อนดีหรื อไม่? ท่านก็เห็นว่า
ขาของข้าใช้การไม่ได้แล้ว ข้ายังจะไปที่ใดได้”
“ไม่ไปแน่ๆ?” ฮ่องเต้ทรงขอคารับรองถึงสามรอบ
“ไม่ไปหรอกเพคะ” ตู๋กซู ิงหลันยิม้ อย่างว่างง่ายในใจก็ครุ่ นคิดว่า
หากจะไปก็ตอ้ งรอให้มีโอกาสก่อนถึงจะหนีไปได้
คราวนี้ พระทัยของจีเฉวียนถึงได้ผอ่ นคลายลง
จากนั้นก็ถึงรอบโหดแล้ว พระองค์ชกั กริ ชสั้นเล่มหนึ่งออกมาจาก
ข้างฉลองพระบาทตวัดลงไปบนหลังพระหัตถ์ครั้งหนึ่ง โลหิ ตทะลัก
ออกมามากมาย สาดกระจายลงไปบนยันต์สีชาดแผ่นนั้น
ยันต์สีชาดเรื องแสงขึ้นมา ตู๋กซู ิงหลันเองก็มิได้ลงั เลแม้แต่นอ้ ย นาง
กรี ดปลายนิ้วของตนเอง หยดเลือดลงไปบนแผ่นยันต์ แล้วก็เขวี้ยง
ยันต์ที่อาบโลหิตของทั้งสองขึ้นไปบนภูเขาฝูซางซาน
จากนั้นนางก็ประกบมือทาปางต่างๆ ออกมา ริ มฝี ปากท่องคาถา
ชาระวิญญาณ
แสงสว่างจากยันต์สีชาดสาดส่ องลงมาโอบล้อมดวงวิญญาณที่คบั
แค้นเอาไว้
เพียงครู่ เดียวเหล่าดวงวิญญาณก็สงบเสงี่ยมลง สี แดงเลือดในดวงตา
ทั้งสองข้างค่อยๆ จางหายไป
ไทเฮาน้อยเป็ นทายาทรุ่ นหลังขององค์หญิงเย่ว ในร่ างมีสายโลหิ ต
ของชาวกู่เย่วไหลเวียนอยู่
วิญญาณแค้นเหล่านี้ยอ่ มรับรู ้ได้
เสี ยงสวดคาถาส่ งวิญญาณสู่สาขวดี [1] ดังกึกก้องไปทัว่ ทุกมุมของ
ภูเขา แม้แต่ฉู่เจียงยังตะลึงงันไป
นางมีความสามารถถึงกับชาระวิญญาณแค้นจานวนมากมายขนาด
นี้?
นี่ใช่ความฝันหรื อไม่
วิญญาณแค้นนับแสนดวง แค่พลังแค้นที่มีอยูก่ แ็ ทรกซึมอยูใ่ นทุก
ดอกไม้ใบหญ้าของภูเขาฝูซางซานแล้ว อาศัยเพียงแค่ยนั ต์แผ่นเดียว
ก็คิดจะชาระวิญญาณแค้นทั้งหมดให้หมดจรด คิดช่วยปลดปล่อย
พวกเขา?
ใต้หล้านี้กลับมีคนที่ไม่รู้จกั ประมาณตนมากเกินไปเสี ยแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันเองก็เป็ นหนึ่งในนั้น
เขากากุญแจตรวนขังวิญญาณเอาไว้ในมือ ดวงตาหรี่ ลงจนเป็ นเส้น
เดียว จับตาดูอยูจ่ ากมุมหนึ่ง
คาถาชาระวิญญาณดังอยูท่ ี่ริมหูของเขา น้ าเสี ยงของสาวน้อยเรี ยบลื่น
นุ่มนวลน่าฟังดุจสายน้ าริ นไหล แม้แต่ฉู่เจียงเองฟังแล้วก็ยงั พลอย
รู ้สึกดื่มด่าไปด้วย
ไม่รู้วา่ ผ่านไปนานเพียงไร สายตาของเหล่าวิญญาณแค้นทั้งหลาย
ต่างก็พากันสงบเรี ยบลงในร่ างวิญญาณของพวกเขาบังเกิดแสงสว่าง
น้อยๆ ส่ องประกายวาบขึ้นมา
พลังของยันต์สีชาดกระจายเข้าสู่ วิญญาณของพวกเขา ขับไล่แรง
แค้นที่อยูภ่ ายในดวงวิญญาณออกไป
ดวงวิญญาณแค้นแต่ละดวงค่อยๆ กลับคืนสู่ รูปลักษณ์เดิมที่เคยเป็ น
ของตน
แคว้นกู่เย่วครั้งหนึ่งเคยเป็ นชนเผ่าที่มีราชวงค์สูงศักดิ์ พรั่งพร้อมไป
ด้วยขุนนางบุ๋นบู๊ พสกนิกรทั้งหลาย ยามนี้ท้ งั หมดต่างก็มองดูต๋ ูกู
ซิงหลันด้วยความสงบเสงี่ยมเรี ยบร้อย
คาถาชาระวิญญาณท่องจบไปรอบหนึ่ง หน้าผากของตู๋กซู ิงหลันก็
เปี ยกชื้นไปด้วยเหงื่อ
ตอนนี้นางไม่อาจทาพิธีส่งวิญญาณทั้งหมดในที่น้ ีได้ ได้แต่ใช้ความ
พยายามอย่างที่สุดเท่าที่ตนจะทาได้สลายไอแค้นในดวงวิญญาณของ
พวกเขาออกไป
ในส่ วนของการส่ งวิญญาณนั้น…..คงจะต้องมอบให้พวกอู๋เจินรับต่อ
แล้ว
ในเมื่อดวงวิญญาณมิได้ติดอยูใ่ นความแค้นอีกต่อไป การส่ งวิญญาณ
ก็คงจะไม่ยากสักเท่าไหร่ เพียงแต่วา่ จานวนผูค้ นค่อนข้างมาก
จะต้องทาหลายรอบสักหน่อยเท่านั้น
ฮ่องเต้ทรงหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาบนพระหัตถ์ ช่วยซับเหงื่อให้กบั
นาง เส้นผมตรงกรอบหน้าของนางเปี ยกชื้นจนลู่ติดใบหน้า ดูแล้ว
ช่างเหนื่อยยากนัก
ในพระทัยของพระองค์มีคาพูดมากมายคิดจะตรัสกับนาง แต่พอ
มาถึงริ มพระโอษฐ์กลับมิได้ตรัสสิ่ งใดออกมา
แค่ได้ทอดพระเนตรดูนาง ได้สมั ผัสนาง ก็เพียงพอแล้ว
………………………..
คืนสิ บห้าค่า ดวงจันทร์กลมดัง่ ถาดเงินยวง ส่ องจนทัว่ ทั้งเมืองกู่เย่ว
คล้ายดัง่ มีแสงสี เงินสว่างจางๆ
ตู๋กซู ิงหลันถูกจีเฉวียน ‘ใช้พิษขับพิษ’ ติดต่อกันมาหลายวันแล้ว
ไอหยินที่คา้ งอยูใ่ นเส้นชีพจรถูกกาจัดออกไปจนหมด
เพียงแต่วา่ พอถึงตอนนี้ เจียงชวี่ปิ้งกลับหายหัวไปไหนก็ไม่รู้
ตู๋กซู ิงหลันเขย่ากระดิ่งใบน้อยที่เขาให้เอาไว้จนพังก็ยงั ไม่เห็น
เจียงชวี่ปิ้งออกมาพบ
“จะต้องเป็ นเพราะว่าไอ้เฒ่านัน่ ไม่ยอมรักษาคาพูด ตั้งใจจะกลัน่
แกล้งเจ้า” ชือหลีโกรธเคืองราวกับเป็ นเด็กๆ “ข้าผูเ้ ป็ นเทพเองก็ตาม
หาเขามาหลายวันแล้ว ขนาดกวาดศาลเจ้าผุพงั ของเขาจนราบเรี ยบ
แล้วก็ยงั ไม่เจอคน ข้าว่าคงจะหนีไปเสี ยแล้ว”
ตู๋กซู ิงหลันมองดูกระดิ่งน้อยในมือ ก็รู้สึกว่าเรื่ องนี้ไม่ธรรมดา
“ทีน้ ีจะทาอย่างไร เจ้าจะติดตามฮ่องเต้ตา้ โจวผูน้ ้ นั กลับไปใช่ไหม?”
ชือหลีพนั ร่ างครึ่ งหนึ่งอยูบ่ นต้นไม้ดว้ ยท่าทางเกียจคร้านราวกับไม่มี
กระดูก “ข้าว่าฮ่องเต้แคว้นโจวผูน้ ้ นั มีใจผูกพันลึกล้ าให้กบั เจ้านะ
เขาพาเจ้ากลับไปแล้ว คงจะต้องเสาะหาหนทางมารักษาเจ้าอย่าง
แน่นอน”
หากว่ารักใครสักคนอย่างแท้จริ ง มีหรื อจะทนดูนางต้องทุกข์ทรมาน
ได้?
จีเฉวียนย่อมต้องเป็ นเช่นนั้นอย่างแน่นอน
ตู๋กซู ิงหลันไม่กล่าวอะไร เรื่ องของเมืองกู่เย่วถือว่ามาถึงจุดคลี่คลาย
แล้ว ต่อไปนางต้องกลับวังไปเผชิญหน้ากับเรื่ องที่ท้ งั น่าหวาดกลัว
และซับซ้อนวุน่ วาย
ยังดีที่ไอหยินนัน่ ถูกกาจัดออกไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงแต่เส้นเอ็น
ยังไม่ได้รับการเชื่อมต่อ นางจึงไม่อาจยืนขึ้นมาได้ ขาก็เริ่ มมี
ความรู ้สึกขึ้นมาบ้างแล้ว
ถึงแม้วา่ จะหาเจียงชวี่ปิ้งไม่เจอ แต่กลับไปค่อยๆ ทาการรักษาเอาก็
ได้
นางเก็บกระดิ่งของเจียงชวี่ปิ้งลงไป หันไปมองดูชือหลี “เจ้าล่ะ ยินดี
จะไปเมืองหลวงกับข้าหรื อไม่?”
ชือหลีช่วยเหลือนาง ทั้งยังคอยดูแลนางอยูน่ าน ตู๋กซู ิงหลันย่อม
สานึกในบุญคุณอยูแ่ ล้ว
“ข้าคือเทพธิดาแห่งสายน้ าลี่เหอ วันๆ จะเอาแต่ไปโน่นมานี่อยูไ่ ด้
อย่างไร” ชือหลีส่ายปลายหางน้อยๆ “ยิง่ ไปกว่านั้น ในเมื่อข้า
เสาะหาสิ่ งของที่ตอ้ งการเจอแล้ว ก็ไม่จาเป็ นจะต้องติดตามเจ้าไป
เมืองหลวงอีก”
ตู๋กซู ิงหลันประหลาดใจขึ้นมา นี่นางกาลังค้นหาสิ่ งใดอยู่
“เจ้าประหลาดใจมากหรื อ?” ชือหลีเท้าคาง “บอกความจริ งกับเจ้าก็
ไม่เห็นจะเป็ นอะไร….”
นางใช้ปลายนิ้วข้างหนึ่งลูบไล้กลุ่มผมสี แดงของตนเอง เงยหน้าขึ้น
ไปมองดูทอ้ งฟ้า “เจ้าเองก็รู้ ว่าข้ากับน้องสาวที่ชอบก่อเรื่ องของ
ข้า……ที่จริ งแล้วข้าน่ะใจดีมีเมตตา ไม่อาจหักใจทาลายให้เด็ดขาด
ไป เพียงแต่คิดจะส่ งดวงวิญญาณของนางกลับไปเกิดใหม่ที่เผ่ามังกร
ทะเลตะวันตกเท่านั้น”
พูดกันตามจริ งแล้ว ตู๋กซู ิงหลันก็รู้สึกว่าคาว่า ‘เมตตา’ สองคานี้ไม่
ค่อยจะเหมาะกับชือหลีสกั เท่าไหร่
เพียงแต่คาพูดของนางทาเอาตนเองตกตะลึงไปอยูบ่ า้ ง
“เผ่ามังกร?” ตู๋กูซิงหลันหันไปมองดูนาง “เจ้าไม่ใช่งูตวั หนึ่งหรอก
หรื อ?”
“เจ้าดูถูกข้าหรื ออย่างไร! งูบา้ นเจ้าสามารถเป็ นเทพได้หรื อ?” ชือห
ลีกรอกตาขาวมองบน “เป็ นเพราะว่าตอนนั้นครอบครัวของข้า
กระทาความผิด ถูกตระกูลลงทัณฑ์ให้จุติลงมาบนโลกมนุษย์ ข้ากับ
น้องสาวต่างก็ถูกถอดกระดูกมังกรออกไปจึงได้กลายร่ างเป็ นงูก็
เท่านั้น”
ตู๋กซู ิงหลันนับว่าได้เปิ ดหูเปิ ดตาแล้ว มิน่าเล่านางถึงได้ดูไม่ออก ที่
แท้ฐานะของชือหลีกม็ ีที่มาเช่นนี้เอง
“ในขุมสมบัติของแคว้นเซอปี่ ซือมีตราบัญชาวารี อยู่ แคว้นกู่เย่วก็มี
กุญแจไขตรา สิ่ งของทั้งสองอย่างนี้ขา้ หาพบแล้ว สมควรจะกลับไป
จัดการเรื่ องที่เผ่ามังกรตะวันตกได้แล้ว”
เผ่ามังกรตะวันตก…..สถานที่แห่งนั้นตู๋กซู ิงหลันไม่เคยได้ยนิ มา
ก่อน
โลกในมิติน้ ี เกรงว่าคงจะวุน่ วายมากกว่าที่นางเคยคาดคิดเอาไว้มาก
สิ่ งที่ได้พบได้เห็นมาในตอนนี้คงจะเป็ นเพียงแค่เศษเสี้ ยวของภูเขา
น้ าแข็งเท่านั้น
“เจ้าเองก็เคยได้เห็นใต้หล้ามามาก คงจะไม่แปลกใจเพราะเรื่ องนี้
หรอกนะ” ชือหลีพดู พลาง เด็ดดอกไห่ถางมาเป่ าใส่ นาง
——
ตอนต่อไป “เขาบอกว่าข้าน่าเกลียด ไม่ให้ขา้ เข้าวัง”
ไรท์: เดาออกกันเอ่ยมัย๊ ใครคือ “เขา” ใครคือ “ข้า”
——

[1] 往生咒=อุบตั ิสุขาวดีคาถา ใช้คู่กบั ยันต์ชื่อเดียวกันเพื่อ


เปิ ดทางนาวิญญาณไปสู่ วิสุทธิภูมิ ยันต์จะมีรูปเงินอีแปะจีนอยูต่ รง
กลาง มักเผายันต์น้ ีก่อนที่เราจะเผากระดาษเงินกระดาษทองให้ญาติ
ผูล้ ่วงลับ
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 343 เขาบอกว่ าข้ าน่ าเกลียด ไม่ ให้ ข้า
เข้ าวัง
กลีบดอกไม้ปลิวใส่ ใบหน้าของตู๋กซู ิงหลัน ส่ งกลิ่นหอมจางๆ ทาให้
คนรู ้สึกสดชื่น
ชือหลียมิ้ มองดูนาง “ในโลกนี้มิได้มีเพียงแผ่นดินแห่งนี้แห่งเดียว ยัง
มีดินแดนที่ท้ งั แข็งแกร่ งและอ่อนแออื่นๆ อีกมากมาย และไม่ได้มีแต่
พวกมนุษย์ แต่ยงั มีจิตวิญญาณภูติเทพผีปีศาจอื่นๆ อีกเยอะแยะ ต่างก็
มีที่ทางของตนเองทั้งนั้น”
“ในหมู่มนุษย์กม็ ีนกั พรตที่ฝึกฝนจนเป็ นเทพเซียน โบยบินขึ้นสู่
สวรรค์” ชือหลีวา่ ต่อไป “ต่อให้เป็ นเผ่ามังกรตะวันตก ก็ยงั เป็ นเพียง
แค่มุมเล็กๆ ของใต้หล้าเท่านั้น ในใต้หล้าที่กว้างใหญ่ไพศาลถึงเพียง
นี้ ข้าผูเ้ ป็ นเทพกลับได้พบกับเจ้าอย่างบังเอิญ ก็ถือเป็ นวาสนา ได้คบ
หาเจ้าเป็ นสหาย”
คาว่าสหายสองคานี้ ทาให้ชือหลีอยูๆ่ ก็คิดถึงคาพูดของตู๋กูเจวี๋ย
ขึ้นมา “มีสหายเพิ่มคนหนึ่งก็มีหนทางเพิ่มขึ้น มีพี่นอ้ งเพิ่มคนหนึ่งก็
มีครอบครัว”
จะว่าอย่างไรดี ตู๋กซู ิงหลันผูน้ ้ ีถือว่าควรค่าแก่การคบหาเป็ นสหายได้
อย่างแท้จริ ง
ไม่แน่วา่ อาจมีสกั วันหนึ่ง ตนอาจจะได้ไปที่ท่องเที่ยวในโลกโน้น
ของนางบ้างก็ได้
คาพูดนี้ของชือหลี ได้เปิ ดประตูบานใหญ่ให้กบั ตู๋กซู ิงหลัน นาง
เข้าใจแล้วว่าสิ่ งที่จะต้องเผชิญต่อไปในอนาคตนั้นไม่ใช่เพียงแค่โลก
ใบเล็กๆ นี้เท่านั้น
“โอรสสวรรค์ตา้ โจวผูน้ ้ นั ก็มิใช่คนธรรมดา จึงไม่อาจจะคาดเดาได้
เลยว่าต่อไปพวกเจ้าจะต้องเผชิญกับสิ่ งใด สมควรถนอมวันเวลา
ตรงหน้าทุกวันเอาไว้ อยูอ่ ย่างมีความสุ ขเถอะ” ชือหลีพดู พลางก็
เลื้อยเสี ยงสวบสาบลงมาจากบนต้นไม้ ส่ งไข่มุกสี ฟ้าลูกใหญ่ลูกหนึ่ง
ให้กบั ตู๋กูซิงหลัน “นี่คือไข่มุกมังกรแห่งทะเลตะวันตก ถือเป็ น
ของขวัญจากลาให้เจ้าละกัน”
ไข่มุกลูกใหญ่ส่องประกายแสงสี ฟ้างดงาม ภายในยังมีมงั กรน้อยสี
ทองอยูต่ วั หนึ่ง งดงามน่าดูอย่างยิง่
ไข่มุกมังกรนี้ ถือเป็ นสิ่ งของล้ าค่าของเผ่ามังกร ชือหลีพอมอบ
ของขวัญก็ให้สิ่งนี้กบั นาง ตู๋กซู ิงหลันถึงกับต้องตกตะลึงแล้ว
“ไข่มุกมังกรนี้เจ้าต้องเก็บรักษาเอาไว้ให้ดี อย่าเอาไปขายล่ะ” ชือหลี
สัง่ กาชับ “ภายหน้าพวกเราจะต้องได้พบกันอีก เผือ่ ว่าข้าจาเจ้าไม่ได้
แล้ว อย่างไรเสี ยก็ยงั จาไข่มุกมังกรนี้ได้”
พูดเสี ยเช่นนี้ใจของตู๋กซู ิงหลันก็รู้สึกหวิวๆ ขึ้นมา “การเดินทางไป
เผ่ามังกรตะวันตกของเจ้า มันตรายมากเลยหรื อ?”
มิเช่นนั้นไฉนจึงบอกได้วา่ คราวหน้าอาจจะไม่รู้จกั กัน
ชือหลีเงียบงันไปครู่ หนึ่ง ก็ส่งยิม้ หวานให้กบั นาง “หากว่าข้าเกิดตก
ในอันตรายจริ งๆ เจ้าจะมาช่วยข้าหรื อไม่?”
ยังไม่ตอ้ งพูดถึงเรื่ องอื่น ชือหลีน้ นั คือคนงามอย่างแท้จริ ง
เส้นผมสี แดงดวงตาสี ชาด งดงามอย่างหยิง่ ทนง บนร่ างยังเปล่ง
ประกายเสน่ห์ที่น่าดึงดูดเป็ นพิเศษบางอย่างออกมา
ตู๋กซู ิงหลันเองก็หวั เราะออกมาแล้ว “หากว่าเจ้ากลายเป็ นพี่สะใภ้รอง
ของข้า ข้าก็จะลองคิดๆ ดูดีไหม?”
“เพ้ย” ชือหลีกรอกตาขาวใส่ นาง “เจ้าพี่รองกระต่ายน้อยของเจ้า ไม่
เข้าตาเราผูเ้ ป็ นเทพหรอก”
ใช่แล้ว….นางผ่านการผิดหวังในความรักมาครั้งหนึ่งแล้ว เกือบจะ
ทาให้ตนเองถูกกลบฝังเสี ยด้วยซ้ า ไหนเลยจะยอมทาตัวโง่เง่าไปแส่
หาคนรักอีกครั้ง
ยิง่ ไปกว่านั้น เจ้ากระต่ายน้อยตู๋กเู จวี๋ยนัน่ ก็ยงั ปากมากเสี ยขนาดนั้น
หากว่านางอยูก่ บั เขา มีหวังต้องราคาญเขาจนตาย
“ไม่เข้าตาจริ งๆ หรื อ?” ตู๋กูซิงหลันจับจ้องมองดูนางด้วยสายตา
หยาดเยิม้ “พี่รองของข้าทั้งรู ปงาม ผิวก็ขาว ขาก็ยาว ใสซื่อบริ สุทธิ์
ดัง่ ดอกฉูจวี๋ [1] …..”
“พอเถอะๆๆ สตรี เช่นเจ้าเนี่ยนะ ทาไมถึงได้ไม่รู้จกั ความเขินอายกับ
เขาบ้าง” ชือหลีสะบัดแขนเสื้ อ “อยูด่ ีๆ ก็ทาตัวเป็ นยายแก่ นัน่ นะเป็ น
พี่ชายของเจ้านะ มิใช่เด็กน้อยในบ้านที่เจ้าต้องไปคอยดูแล”
ดูท่าทางของตู๋กซู ิงหลันสิ แตกต่างอะไรกับพวกย่ายายที่คอย
นาเสนอจับคู่ลูกหลานในบ้าน
ตู๋กซู ิงหลันเห็นนางหงุดหงิดจนอารมณ์เสี ย ก็มิได้หยอกเย้านางอีก
เพียงพูดว่า “เจ้าไม่ไปเมืองหลวงสักรอบเป็ นเพื่อนข้าจริ งๆ หรื อ ไป
เจอคนรู ้จกั เก่าๆ ก็ดีออกนะ?”
“ไม่ไป ไม่ไป” ในใจของชือหลีบงั เกิดความลังเล แต่ปากกับแข็งขืน
“คนบ้านเจ้าเป็ นพวกปากมากสื บทอดมาแต่บรรพชนเสี ยจริ งๆ
ทาไมถึงได้ไปเหมือนกับพี่ชายของเจ้าเช่นนี้ พูดมากอยูน่ นั่ ”
ตู๋กูซิงหลัน คิดดูอยูค่ รู่ หนึ่ง ก็ตอบอย่างจริ งจังว่า “พี่รองพูดเก่งกว่า
ข้าอยูช่ ดั ๆ”
ว่าแล้ว ก็จิ้มปลายหางของนางเล็กน้อย “หากว่าเจ้าไม่ไปเมืองหลวง
แล้วมีอะไรอยากจะฝากข้าไปหรื อไม่?”
“เจ้าอย่ามาทาเป็ นพอได้เปรี ยบก็ชกั จะเจ้าเล่ห์ข้ ึนมา” ชือหลีดึงหาง
ของตนเองกลับไป “ไข่มุกมังกรตะวันตกก็ให้เจ้าไปแล้ว ยังคิดจะ
เอาอะไรอีก เป็ นคนอย่าได้โลภมากนัก”
สตรี ผนู ้ ้ ีช่างละโมบเสี ยจนผูค้ นต้องหงุดหงิด
นางทางหนึ่งพูดไปทางหนึ่งก็ดึงเกล็ดงูชิ้นหนึ่งออกมา “ให้พี่ชายเจ้า
ไปเสี ย บอกให้เขาวาดภาพข้าให้ดีๆ หน่อย หางของข้าเป็ นสี เขียว
เหลื่อมพรายที่งดงาม ไหนเลยจะเป็ นสี น่าเกลียดเหมือนที่เขาวาด
ออกมากัน”
ตู๋กซู ิงหลันหัวเราะพลางเก็บเอาไว้ ขณะที่นางคิดจะพูดอะไรกับชือห
ลีต่ออีกสักหน่อย ก็ได้ยนิ เสี ยงนางเลื้อยสวบสาบขึ้นไปบนต้นไม้
ปี นกาแพงออกไป เพียงแวบเดียวก็จากไปโดยไม่เหลือเงาอีก
“ภูเขายังเขียวขจีสายน้ ายังริ นไหล พวกเราจะต้องได้พบกันอีก”
เสี ยงของชือหลีลอยมาในยามค่า สะท้อนกลับไปกลับมาในอากาศ
ตู๋กซู ิงหลันถือเกล็ดสี เขียวที่งดงามแผ่นนั้นเอาไว้ ริ มฝี ปากแดงขยับ
ยก “แล้วพบกันใหม่”
จะต้องได้เจอกันอีกแน่นอน
……………………..
เหลียงเซิงเซิงตื่นขึ้นมาในอีกเจ็ดวันให้หลัง เป็ นฉู่เจียงที่มารักษาให้
ด้วยตนเอง
เด็กน้อยผูน้ ้ ี ตื่นก็ตื่นขึ้นมาแล้ว เกรงว่าเพราะถูกฉู่เจียงกัดไปไม่เบา
พอรู ้สึกตัว ได้ยนิ ข่าวเรื่ องที่เหลียงป๋ อจากไปแล้ว คนก็กลายเป็ นสติ
สตางค์เลื่อนลอยขึ้นมา
หลังจากที่ร้องไห้น้ าตาไหลพรากอยูท่ ้ งั วันแล้ว พอตกดึกเงียบสงบ
ไร้ผคู ้ นก็ตระเตรี ยมเชือกออกมาเส้นหนึ่งจะเอาไปแขวนคอส่ งตัวเอง
ไปสวรรค์
พึ่งจะแขวนเชือกขึ้นไป ก็เห็นบนต้นไม้มีศีรษะคนหลายศีรษะหล่น
ลงมา
เหลียงเซิงเซิงตระหนกเสี ยจนวิญญาณเกือบจะหลุดออกจากร่ างอยู่
แล้ว
พอหันหน้าไปก็เห็นว่าฉู่เจียงกาลังอยูข่ า้ งกายนาง ดวงตาสี เขียวราว
มรกตคู่น้ นั จับจ้องมาที่ตวั นาง
จากนั้นเขาก็กวาดตามองขึ้นไปบนเชือกป่ านบนต้นไม้ “ยังไม่ทนั
ได้รับอนุญาตจากข้า เหยือ่ ตัวน้อยอย่างเจ้าก็กล้าจะตัดสิ นความเป็ น
ตายของตนเองแล้วหรื อ?”
เหลียงเซิงเซิงทั้งตกใจทั้งหวาดกลัว น้ าตาของนางไหลพราก “ไม่มี
ท่านปู่ แล้ว ข้าเสี ยใจเหลือเกิน มิสู้ติดตามท่านปู่ ไปดีกว่า ข้าตายไป
แล้วเจ้าจะขบข้า กัดข้า กินข้าอย่างไร ข้าก็ไม่กลัวอีกแล้ว”
สุ ดท้ายแล้วนางก็ยงั เป็ นเพียงสาวน้อยนางหนึ่งที่เหลียงจวิน้ อ๋ องเลี้ยง
ดูมาอย่างประคบประหงม ใสซื่อเสี ยจนคนอยากจะขยุม้ หัวตนเอง
“ปู่ ของเจ้าตายไปแล้ว เจ้าไม่คิดจะล้างแค้นให้เขา เอาแต่เฝ้าครุ่ นคิด
ด้วยความคิดถึงอย่างเดียว?” ฉู่เจียงกอดอกเอาไว้ ไล่บ้ ีนาง
“ข้า…ข้าเป็ นเพียงแค่เด็กสาวคนหนึ่ง ข้าจะไปแก้แค้นให้กบั ท่านปู่
ได้อย่างไร ฮือ ฮือ ฮือ”
“เจ้าเป็ นพระสนมกุย้ เฟยที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้องของฮ่องเต้
เป็ นหลานสาวของเหลียงจวิน้ อ๋ อง ติดตามฮ่องเต้เข้าวัง กลายเป็ นคน
ข้างหมอนของเขา พอเขาหลับเมื่อไหร่ ก็แทงคอเขาดาบหนึ่ง มิใช่วา่
แก้แค้นได้แล้วหรื อไร?”
ฉู่เจียงซึมซับไอแค้นมานาน ความคิดความอ่านออกไปทางดามืด
ชอบช่วยผูอ้ ื่นวางแผนร้าย
ที่จริ งแล้วเขามิได้คิดร้ายต่อจีเฉวียนและตู๋กซู ิ งหลัน เพียงคิดอย่าง
ง่ายๆ ว่าหากเหลียงเซิงเซิงทาเช่นนั้นจริ ง ก็คงจะเป็ นเรื่ องน่าสนุกไม่
น้อย
เหลียงเซิงเซิงตะลึงไป ครุ่ นคิดคาพูดของเขาอย่างละเอียด
เมื่อครู่ นางร่ าไห้ดว้ ยความเสี ยใจมากไป ตอนที่นางตื่นขึ้นมานั้น
ฮ่องเต้กไ็ ด้เสด็จมาเยีย่ มนาง
ท่านปู่ ก่อกบฏล้มเหลวพ่ายแพ้จนตัวตาย …….นางก็ถือเป็ น
ลูกหลานของกบฏ เมื่อไม่ถูกประหารก็ตอ้ งนับว่าเป็ นโชคดีแล้ว
ฝ่ าบาทยังทรงอุตส่ าห์เสด็จมาเยีย่ มนาง ยิง่ กลายเป็ นเรื่ องเหลือเชื่อ
แล้ว
นางเองก็เคยทูลถามออกไป ว่าฝ่ าบาทจะทรงมีพระประสงค์ให้นาง
เข้าวังหรื อไม่
แต่วา่ ฟังคา….ที่พระองค์ทรงตรัสออกมาสิ
“ฮือ ฮือ ฮือ ทรงตรัสว่าข้าน่าเกลียดเกินไปแล้ว ไม่ให้ขา้ เข้าวัง!” เหลี
ยงเซิงเซิงร้องไห้จนเสี ยงแหบแห้ง
——

[1] 雏菊ดอกเดซี่

——
ตอนต่อไป “ถูกเจ้าจับกิน”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 344 ถูกเจ้ าจับกิน
ตั้งแต่เล็กจนโต ทุกคนต่างก็บอกว่านางงดงามน่ารักเหมือนดัง่
ดอกไม้ มีแต่ฮ่องเต้พระองค์เดียวที่ตรัสว่านางน่าเกลียดจนไม่อยาก
เจอ
ทรงตรัสว่ารู ้สึกเสี ยพระทัยที่แต่งตั้งนางเป็ นพระสนม จะทรงเรี ยก
ราชโองการกลับคืน ให้นางไปเป็ นประชาชนคนธรรมดา
“ข้าไม่มีโอกาสแม้แต่จะเข้าวังแล้ว แล้วจะไปล่อลวงฮ่องเต้ได้
อย่างไร….ฮือ ฮือ ฮือ พระองค์ยงั ทรงรังเกียจว่าข้าอัปลักษณ์…..” เห
ลียงเซิงเซิงร้องไห้ออกมาอีกครั้ง คนลงไปนัง่ กับพื้น สะอึกสะอื้นฮึก
ฮัก เหมือนดัง่ เด็กน้อยที่ถูกรังแกโดยไม่ได้รับความยุติธรรม
“ยิง่ ไปกว่านั้น…..ในวังมีพระสนมตั้งมากมาย ข้าเคยได้ยนิ ท่านปู่
บอกว่า สตรี เหล่านั้นเก่งกาจและน่ากลัว ล้วนสามารถควักหัวใจเลาะ
กระดูก ถลกหนังผูค้ น ข้า…..ข้าแม้แต่มดยังไม่กล้าเหยียบ แล้วข้าจะ
ไปสู ้กบั พวกนางได้อย่างไร…..”
เหลียงเซิงเซิงยิง่ คิดก็ยงิ่ เสี ยใจ พึ่งจะสงบลงมาได้สกั หน่อยก็ร้องไห้
ออกมาอีก
“ฮือ แงๆ …..ข้ามันใช้ไม่ได้จริ งๆ! หน้าตาอัปลักษณ์แล้วยังโง่ ……
ท่านปู่ เซิงเซิงไม่ได้เรื่ อง เซิงเซิงได้แต่ตายไปอยูเ่ ป็ นเพื่อนท่าน….
ฮือ แง แง แง…”
พูดแล้ว นางก็ลุกขึ้นมา ยืน่ ลาคอเข้าไปในบ่วง เขย่งเท้าอยูบ่ นเก้าอี้
เตี้ย จะเอาตัวเองขึ้นไปแขวนคอจริ งๆ
ฉู่เจียงมองแล้วก็ยมิ้ ไม่ออก หัวเราะไม่ได้
ความใสซื่อนั้นก็เรื่ องหนึ่ง แต่นางก็รู้จกั ตนเองเป็ นอย่างดี
ทั้งยังคิดจะฆ่าตัวตายจริ งๆ!
ฉู่เจียงมองดูอยูด่ า้ นข้าง เห็นใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็ นดิ้นรนเอา
ชีวิตรอดจนสี เขียวคล้ า
เหลียงเซิงเซิงรู ้สึกถูกรัดคอเสี ยจนสมองมึนงง ความรู ้สึกอึดอัด
หายใจไม่ออกอย่างแรงนั้นทาเอานางสานึกเสี ยใจขึ้นมาแล้ว
ความตายไม่น่ากลัว…..ที่น่ากลัวคือความทรมานขณะที่กาลังจะตาย
นั้นต่างหาก
นางแยกเขี้ยวตะกายมือออกไป เห็นฉู่เจียงยืนมองตนเองอย่างเย้ย
หยัน
ก็หนั ไปหายืน่ มือไปทางเขา
ฉู่เจียงยืน่ มือออกไปในทันที คว้ามือของนางเอาไว้ “สานึกเสี ยใจ
แล้ว? ไม่อยากตายแล้ว?”
กลัวตายเป็ นธรรมชาติของมนุษย์ ไม่มีอะไรน่าละอาย
เหลียงเซิงเซิงผงกศีรษะ ทาท่าทาทางชี้ไปที่ลาคอของตนเอง อยาก
ให้ฉู่เจียงช่วยจัดการให้นางตายอย่างรวดเร็ ว
ฉู่เจียงขมวดหัวคิ้ว พอเห็นว่าใบหน้าของนางเริ่ มแดงดัง่ ตับหมูข้ ึนมา
ปลายนิ้วของเขาก็ขยับเล็กน้อย เชือกป่ านเส้นนั้นก็ขาดลงในทันที
เสี ยงของหล่นดัง ‘ตุบ’ เหลียงเซิงเซิงล้มลงไปบนพื้น ก้นกระแทก
กับแผ่นหินจนแทบแตกแล้ว
นางแสบคออย่างหนัก หอบหายใจเข้าไปอีกหลายครั้ง การขาด
อากาศทาให้นางมึนศีรษะจนตาลาย ต้องสู ดหายใจลึกๆ อยูห่ ลาย
รอบถึงได้ค่อยสงบลง
เมื่อครู่ …….นางดิ้นรนอยูบ่ นเส้นแบ่งของความตาย
ความรู ้สึกเมื่อครู่ น้ นั ช่างทรมานจริ งๆ ตอนนี้ยงิ่ เหมือนกับได้เกิด
ใหม่
“ขนาดตายยังไม่กลัว แล้วยังจะกลัวการมีชีวิตอยู?่ ” ฉู่เจียงยืน
ตระหง่านอยูต่ รงหน้านาง ดวงตาสี มรกตคู่น้ นั จับจ้องดูนาง “ใต้หล้า
นี้มีผคู ้ นตั้งมากมายเท่าไหร่ ที่ต่อสู ้ดิ้นรนอย่างสุ ดชีวิตเพื่อความอยู่
รอด เจ้ามาขอตายเอาง่ายๆ เป็ นการไม่ให้ความเคารพต่อคุณค่าของ
ชีวิต”
สาหรับฉู่เจียงแล้ว สิ่ งที่เขาชิงชังที่สุดก็คือคนที่ยอมจบชีวิตตนเอง
ไปอย่างง่ายๆ พวกนั้น…..
เขาจาไม่ได้แล้วว่ามันนานกี่ปีมาแล้ว ตอนที่เขายังเคยเป็ นมนุษย์อยู่
นั้น ก็เคยต่อสู ้ดิ้นรนอย่างสุ ดชีวิต เพื่อจะได้มีชีวิตอยูต่ ่อไปเช่นกัน
ความรู ้สึกในตอนนั้น เขายังคงจดจามันได้อย่างชัดเจนจนถึงตอนนี้
เหลียงเซิงเซิงยังโชคดีกว่าผูค้ นอื่นๆ อีกมากมาย
เหลียงป๋ อตายไปแล้ว แต่กย็ งั ทิ้งสมบัติเอาไว้ให้นางสามารถอยูไ่ ด้
อย่างสุ ขสบายไปจนชัว่ ชีวติ
จีเฉวียนไม่พานางเข้าวัง เพราะอยากเว้นทางรอดไว้ให้นาง
ไม่มีใครตามล่านาง นางสามารถอยูต่ ่อไปได้อย่างสบายแต่วา่ กลับ
อ่อนแอจนร้องหาความตาย
เหลียงเซิงเซิงลืมตาโตขึ้นมามองดูฉู่เจียง นางแทบจะไม่เชื่อสายตา
ของตนเอง
ว่านางจะมาได้ยนิ คาว่า ‘เคารพต่อคุณค่าของชีวติ ’ จากปากของเขา
นางเกือบจะสงสัยว่าตัวเองหูฝาดไปแล้ว
ตอนที่เขาตัดศีรษะคนนั้น ดวงตายังไม่ได้กระพริ บเลยเสี ยด้วยซ้ า
ราวกับว่าฆาตกรกาลังมาสัง่ สอนนาง ถ้อยคาที่จะมาโน้มน้าวสักคาก็
ไม่มี
เหลียงเซิงเซิงกุมลาคอของตนเองเอาไว้ กระแอมไอออกมาอีกหลาย
ครั้ง สี หน้าค่อยดูเป็ นปกติข้ ึนมา
นางมองดูฉู่เจียงตาไม่กระพริ บ กล่าวอย่างอ่อนล้าว่า “แต่วา่ ต่อให้ขา้
ไม่ตาย….ก็ตอ้ ง…ก็ตอ้ งโดนเจ้าจับกินอยูด่ ีนี่….”
“มีชีวิตอยูต่ อนถูกจับกิน มันเจ็บปวดมากเกินไปแล้ว …… หากว่า
ตายแล้วค่อยถูกกิน….ก็จะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแล้ว”
จนถึงตอนนี้นางก็ยงั จาความรู ้สึกที่ถูกฉู่เจียงกัดในตอนนั้นได้เป็ น
อย่างดี นี่คงจะกลายเป็ นเงาอยูใ่ นใจไปชัว่ ชีวิต
ฉู่เจียงถูกนางยัว่ โมโหจนต้องทั้งโกรธทั้งขาแล้ว
เพราะฉะนั้นที่นางคิดจะจัดการกับตนเองนั้นที่สุดแล้วก็เป็ นเพราะ
ตัวเขา?
“ก็อย่างที่ฮ่องเต้ทรงรับสัง่ ว่า เจ้ามันอัปลักษณ์ แล้วข้าจะกินเจ้า
ทาไม? ให้ตนเองกลายเป็ นอัปลักษณ์หรื อ?” ฉู่เจียงสองมือไขว้หลัง
พูดด้วยท่าทางกวนๆ
เหลียงเซิงเซิงที่พ่ งึ จะสงบอารมณ์ลงได้ ความเชื่อมัน่ ต้องพังทลายลง
อีกครั้ง
ตอนนี้นางชักจะจมดิ่งลงไปในความเชื่อที่วา่ ตนเองนั้นอัปลักษณ์เสี ย
จนผูค้ นชิงชังเทพผีรังเกียจ แม้แต่ปีศาจก็ยงั ไม่อยากจะกินนางแล้ว
หรื อ?
เหลียงเซิงเซิงเริ่ มสะอึกสะอื้นอีกครั้ง พอเริ่ มสะอื้น ฉู่เจียงก็ขมวดคิ้ว
ขึ้นมา
เขากลัวการได้ยนิ สตรี ร้องไห้ที่สุด แต่พอได้เห็นเหลียงเซิงเซิงที่
ทาท่าทาทางน่าสงสารกลับไม่ได้รู้สึกรังเกียจสักเท่าไร
มือของเขายืน่ ออกไปก็แบกนางขึ้นมาบนหัวไหล่
เหลียงเซิงเซิงปาดเช็ดจมูก นางถูกฉู่เจียงแบกเอาไว้ ก็ชกั จะรู ้สึกว่า
เลือดกาลังไหลไปรวมที่หวั หมดแล้ว
“เจ้าไม่ใช่ …..ไม่ใช่บอกว่าข้าอัปลักษณ์มากหรอกหรอ?” เหลียงเซิง
เซิงกล่าวอย่างระมัดระวังเกรงว่าจะทาให้เขาขุ่นเคือง ในใจยิง่ เต็มไป
ด้วยความกังวล
ประเด็นที่สาคัญที่สุดก็คือนางกลัวเจ็บ ….ถูกกินทั้งเป็ นจะต้องเจ็บ
มากอย่างแน่นอน
ที่กลัวที่สุดก็คือกลัวเขาจะกลับคา ถึงจะบอกว่านางอัปลักษณ์แต่กย็ งั
จะกินลงไป
ฉู่เจียงอยากจะตบหัวนางให้ป่นเป็ นผงลงไปในครั้งเดียวเสี ยจริ งๆ สี
หน้าของเขาเคร่ งขรึ ม “ข้าจะไม่กินเจ้า แต่จะพาเจ้ากลับไปเขาฝูซาง
ซาน ยกน้ าชาเทน้ าเจ้าทาได้ใช่ไหม?”
เหลียงเซิงเซิงถูกเลี้ยงดูมาอย่างคุณหนูนอ้ ยมาตั้งแต่เล็ก ยกน้ าชาเท
น้ าเป็ นกับเขาที่ไหนกัน
แต่พอคิดว่าให้ทาเรื่ องเหล่านี้กย็ งั ดีกว่าถูกกิน ก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรที่
รับไม่ได้
นางพยักหน้าอยูบ่ นหัวไหล่ของฉู่เจียง “ข้า….ข้าจะพยายามทาให้ดี
ที่สุด”
ทาไม่เป็ น ก็หดั เอาได้….
เหลียงเซิงเซิงกาหมัดขึ้นมา อย่างตัดสิ นใจได้แล้ว
นางเป็ นคนไร้ค่า ไม่มีความสามารถจะไปแก้แค้นให้กบั ท่านปู่ ต่อ
ให้มี….นางก็ไม่สามารถทาเรื่ องทาร้ายหรื อฆ่าคนได้ลง
นางมีนิสยั เมตตาอ่อนโยน ไม่อาจทนเห็นการเข่นฆ่าหลัง่ เลือด ให้
ไปรอคอยความตายอยูท่ ี่เขาฝูซางซานก็ดีไม่นอ้ ย
พอคิดได้ถึงตรงนี้ นางก็ไม่ขดั ขืนแล้ว ยอมอยูน่ ิ่งๆ บนไหล่ของฉู่
เจียงอย่างเชื่อฟัง ขณะที่กาลังจะออกจากเรื อนไปถึงได้ถามฉู่เจียง
ออกไปเบาๆ ด้วยความระมัดระวัง “ข้าสามารถ….เอาต้นไห่ถางไป
สักต้นได้ไหม?”
ฉู่เจียงหยุดลง ยืน่ มือไปถอนต้นไห่ถางเล็กๆ ต้นหนึ่งมาให้นาง “ที่
เขาฝูซางซาน สิ่ งเหล่านี้ไม่อาจปลูกได้”
เหลียงเซิงเซิง “ต่อให้มนั เฉาไป….ก็ยงั ใช้เป็ นที่ระลึกถึงได้”
ด้วยความเกรงว่านับจากวันนี้ไปนางคงไม่อาจออกมาจากภูเขาฝูซาง
ซานได้อีกแล้ว หากว่าคิดถึงบ้าน คิดถึงท่านปู่ ได้มองดูตน้ ไห่ถางนี้
บ้างก็ยงั ดี
ฉู่เจียงไม่กล่าวอะไร ขยับเท้าเล็กน้อยก็เหาะขึ้นไปในท้องฟ้า
เกี้ยวอ่อนสี แดงเลือดหลังหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ เขาก็นานางเข้า
ไป
ทันใดนั้น ด้านนอกของเกี้ยวก็ปรากฏศพสตรี ในชุดสี แดงขึ้นแปด
นางแบกเกี้ยวมุ่งหน้าไปทางเขาฝูซางซาน
สายลมพัดเข้ามา จนคนหนาวยะเยือก
เหลียงเซิงเซิงหวาดกลัวจนเอาแต่มองออกไปข้างนอก นางเห็น
ทิวทัศน์ท้งั หมดของเมืองกู่เย่วอยูใ่ ต้เท้าของตนเอง
ธัญพืชที่สุกเป็ นสี ทองไหวเอนอยูด่ า้ นล่าง ใบเฟิ่ งทั้งหลาย
เปลี่ยนเป็ นสี แดงแล้ว แดงดุจเดียวกับดอกไห่ถางไปทั้งแถบ ช่าง
งดงามน่าดู
——
ตอนต่อไป “กอดน้องสาวสุดที่รัก”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 345 “กอดน้ องสาวสุ ดที่รัก”
นางไม่เคยมองดูเมืองกู่เย่วจากมุมมองเช่นนี้มาก่อน
ถึงได้ไม่เคยรู ้วา่ ตลอดหลายปี มานี้ท่านปู่ ดูแลที่นี่จนงดงามเช่นนี้
จวนจวิน้ อ๋ องยิง่ ทียงิ่ ไกลตาออกไป ใจของนางก็ลอยห่างออกไปด้วย
ฉู่เจียงจ้องมองใบหน้าด้านข้างของนาง หากพิศดูให้ละเอียด นาง
และตู๋กซู ิงหลันก็มีส่วนคล้ายคลึงกันอยูบ่ า้ ง
ตอนนั้นที่พบกันบนภูเขาฝูซางซาน นางยังตัวเล็กเป็ นต้นถัว่ งอก ตัว
สู งไม่เกินเข่าของเขา
ร่ างของนางดูดซับไอทิพย์ได้โดยธรรมชาติ เป็ นที่ดึงดูดทั้งวิญญาณ
และภูติผปี ี ศาจ ดังนั้นเขาจึงได้ประทับคาสัญญาของปี ศาจเอาไว้บน
ร่ างของนาง จะได้เอาไว้ครอบครองแต่ผเู ้ ดียวในภายหลัง
บางที….หากดูดซับไอทิพย์จากร่ างของนาง แล้วฝึ กฝนต่อไปอีกพัน
ปี เขาก็อาจจะทาลายผนึกออกไปได้ ไปให้ไกลจากกรงแห่งนี้
ช่วงสั้นๆ ในตอนนี้ ก็ให้เด็กสาวนี้มาเป็ นเครื่ องคลายเหงาก่อนแล้ว
กัน
ต้องเลี้ยงเอาไว้ดีๆ ไม่ให้นางตายหรอก
……………….
ขณะที่เมืองหลวงได้รับหิมะแรกของฤดูน้ นั ฮ่องเต้กท็ รงนาไทเฮา
กลับมาแล้ว
ทุกคนต่างก็ได้ยนิ ข่าวว่า เหลียงจวิน้ อ๋ องเมืองกู่เย่วก่อกบฏไม่สาเร็ จ
ถึงแก่ความตาย
ฝ่ าบาทไม่เพียงแต่ไม่สงั่ ประหารทั้งตระกูล หนาซ้ ายังให้เขาได้รับ
การฝังกลบเฉกเช่นท่านโหวผูห้ นึ่ง
หลังจากนั้น กองกาลังของเมืองกู่เย่วทั้งหมดก็สวามิภกั ดิ์ต่อราช
สานัก ต่อไปจะไม่มีกองกาลังของอ๋ องแห่งเหมืองกู่เย่วอีกแล้ว
ระบอบประมุขศักดินาจึงถูกผลักดันขึ้นมาอีกครั้ง ขุนนางคนสาคัญ
จากฝ่ าบาทถูกส่ งไปสอดส่ องดูแลเมืองกู่เย่ว
เหล่าชนชั้นสู งและอ๋ องต่างๆ ในแคว้นต้าโจวที่ก่อนหน้านี้จะเป็ นจะ
ตายอย่างไรก็ไม่ยอมมอบอานาจในท้องที่ออกมา ตอนนี้กพ็ ากันเกิด
ความหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว
บิดาของพระสนมเอกซูหวงกุย้ เฟย นามาก่อนเป็ นคนแรก เขานา
ที่ดินในครอบครองทั้งหมดทูลถวายแก่ฝ่าบาท ยามออกจากวังมา
สองผูช้ รายังคงมีสีหน้าเคร่ งเครี ยด การจะเปลี่ยนแปลงระบบการ
ปกครองจากเจ้ารัฐ [1] ไปเป็ นประมุขศักดินา [2] ถือเป็ นงานใหญ่ จี
เฉวียนไม่เพียงแต่มีพระทัยทะยานอยาก แต่วา่ พระองค์ทรงมีพลัง
และความสามารถที่จะกระทาได้ดว้ ย
ดังนั้นสาหรับพวกเขาแล้ว การจะไปขวางทางจีเฉวียนก็มีแต่จะต้อง
ตายเท่านั้น
มิสู้ยอมศิโรราบอย่างอ่อนน้อม อย่างน้อยๆ ลูกหลานที่อยูถ่ ดั ไปอีก
สามรุ่ นก็ยงั ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุ ข
เมื่อกลายเป็ นเช่นนี้ บัลลังก์ฮ่องเต้ของจีเฉวียนจึงยิง่ มัน่ คงกว่าเดิม
นับตั้งแต่ที่ฝ่าบาททรงเสด็จกลับมาจากแคว้นกู่เย่ว สี พระพักตร์กด็ ี
ขึ้นทุกๆ วัน พระวรกายที่ผา่ ยผอมจนเห็นแต่หนังหุม้ กระดูกก็ดูจะ
หนาและบึกบึนขึ้นมา
ยามนี้ฮ่องเต้ผทู ้ รงสู งส่ งและงดงามดังเทพเซียนได้กลับคืนมาแล้ว
ส่ วนไทเฮาน้อยที่อยูใ่ นวังหลังผูน้ ้ นั
ฟังว่านับตั้งแต่เสด็จกลับมา ก็ประทับอยูแ่ ต่ในตาหนักเฟิ่ งหมิง ไม่
ออกมาแม้แต่กา้ วเดียว
การที่เหลียงจวิน้ อ๋ องก่อกบฏไม่สาเร็จในครั้งนี้ ไทเฮาทรงสร้าง
ผลงานเอาไว้อย่างยิง่ ใหญ่
เดิมทีต่างก็นึกกันว่าไทเฮาทรงหายไปในสระสวรรค์ของแคว้นเซอปี่
ซือแล้ว…. คิดไม่ถึงเลยว่านางกับลุยออกไปก่อนหน้าแล้ว
และเพราะในพระทัยของพระนางถือเอาแคว้นต้าโจวเป็ นสาคัญ จึง
ได้บุกไปเมืองกู่เย่วอย่างไม่หวัน่ เกรง เสาะหาคลังลับของเหลียงป๋ อที่
เก็บสะสมอาวุธไว้จนพบ ทาลายแผนการกบฏของเหลียงป๋ อลงไป
ในช่วงเวลาที่สาคัญที่สุด
ถึงคนในวังหลังจะไม่ยอมพูดอะไรออกมา แต่สายตาของขุนนางใน
ราชสานักที่มีต่อนางก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
ที่อดีตฮ่องเต้สิ้นเพราะได้เห็นความงามของนาง…..ก็ได้แต่โทษว่า
เป็ นเพราะคนเขาเกิดมามีใบหน้างดงามตามธรรมชาติ
อดีตฮ่องเต้ไม่อาจควบคุมพระองค์เอง ตื่นเต้นเกินไปจน
สิ้ นพระชนม์ นี่ยอ่ มไม่อาจไปถือโทษใส่ ต๋ ูกซู ิ งหลันได้
ยิง่ เรื่ องที่ก่อนหน้านี้หาว่านางไปล่อลวงฮ่องเต้พระองค์ใหม่น้ นั
ทั้งหมดก็เป็ นเพราะว่าถูกใส่ ความต่างหาก
ตอนนี้พอมาคิดๆ ดูแล้ว เหล่าขุนนางต่างก็รู้สึกว่าสิ่ งที่ได้ทาลงไป
กับตู๋กซู ิงหลันในตอนนั้นออกจะเกินไปแล้ว พอคิดให้ละเอียด
บุตรสาวของตนเอง หลานสาวของตนเอง ต่างก็อายุไล่เรี่ ยกัน พวก
นางยังเอาแต่ปักผ้าเก็บดอกไม้เลี้ยงปลาอยูเ่ ลย
แต่ดูไทเฮาน้อยสิ คนสามารถบุกเข้าไปทาลายแผนการของขุนนาง
กบฏได้ดว้ ยตนเอง
เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ชื่อเสี ยงของตู๋กซู ิงหลันในราชสานักก็
เปลี่ยนเป็ นดีข้ ึนมาก
ดังนั้นในวังหลัง ก็ยงิ่ ไม่ตอ้ งพูดถึงแล้ว
มีพระสนมไม่นอ้ ยที่เห็นว่า วันนั้นที่หิมะตกลงมาครั้งแรกๆ ฮ่องเต้
ทรงอุม้ ไทเฮาน้อยเข้าไปในตาหนักเฟิ่ งหมิงกงด้วยพระองค์เอง
และแม้แต่สายพระเนตรของฮ่องเต้เองก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
นัน่ เป็ นสายตาที่พวกนางเองก็ไม่เคยได้เห็นมาก่อน ราวกับว่ากาลัง
ทอดพระเนตรดูสมบัติล้ าค่า ด้วยความระมัดระวัง ปกป้องและทะนุ
ถนอม
แต่กบั พวกนางเหล่านางสนมที่ได้แต่เฝ้ามองตาละห้อยด้วย
ความหวังนั้น ฝ่ าบาทกลับมิได้ทรงเหลือบพระเนตรมองแม้แต่ครั้ง
เดียว
ราวกับว่าในสายพระเนตรในพระทัยมีแต่ไทเฮาน้อยเพียงผูเ้ ดียว
สตรี ในวังหลังล้วนมิใช่คนโง่ ….ย่อมรู ้วา่ จะต้องเกิดเรื่ องบาง
ประการขึ้นในเมืองกู่เย่วเป็ นแน่
ตู๋กซู ิงหลันเดิมทีกม็ ิใช่สตรี ที่ไร้เดียงสาอยูแ่ ล้ว
เดิมตั้งแต่ตอนที่อยูใ่ นวังหลวง นางก็มกั จะหาหนทางดึงดูดและ
ล่อลวงฝ่ าบาทอยูแ่ ล้ว
แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่เคยสนใจนาง ครั้งนี้ถึงได้งดั เอากระบวนท่านี้
ออกมา เริ่ มจากการไปหาสมบัติที่แคว้นเซอปี่ ซือก่อน หลังจากนั้นก็
ไปปราบความไม่สงบในเมืองกู่เย่ว ทั้งหมดนี้คือแผนการที่นางวาง
เอาไว้อย่างดิบดีแล้ว ที่นางลงทุนทาไปทั้งหมดก็เพื่อให้ได้มาซึ่งฝ่ า
บาท
ตอนนี้ดูท่า นางคงจะทาได้สาเร็ จแล้ว
เหล่านางสนมคลี่ยมิ้ กันแต่บนใบหน้า ในใจกลับก่นด่าอย่างเกรี้ ยว
กราด
หากนับเรื่ องฝี มือและการวางแผนแล้ว พวกนางสู ้ต๋ ูกูซิงหลันไม่ได้
จริ งๆ
……………
ฤดูหนาวปี นี้เย็นยะเยือกเป็ นพิเศษ ขาที่ไม่อาจเดินได้ของตู๋กซู ิง
หลันยิง่ กลัวความหนาว
ช่วงหลายวันมานี้นางเอาแต่นอนเป็ นอัมพาตอยูบ่ นเตียง ขาทั้งสอง
ขาถูกพันผ้าเอาไว้อย่างแน่นหนา
คนบางคนอายุกย็ งั น้อยอยูแ่ ท้ๆ แต่กลับเป็ นโรคคนชราที่ขาเย็นแข็ง
คนผูน้ ้ นั ก็คือนางนัน่ เอง
นับตั้งแต่ที่นางกลับมา เชียนเชียนก็คอยจับตาดูนางอยูต่ ลอดเวลา
ทั้งวี่ท้ งั วัน ด้วยความกลัวว่าแค่กระพริ บตานางก็จะหายไป
พี่ใหญ่พรี่ องต่างก็เข้ามายกน้ าชาเทน้ าขับไล่ความหนาวเติมความ
อบอุ่นอย่างวุน่ วายอยูใ่ นวังทั้งวี่ท้ งั วัน ตู๋กซู ิงหลันแค่ขาเสี ย แต่ใน
สายตาของพวกเขาเหมือนดัง่ โดนเอาชีวิตอย่างไรอย่างนั้น
พี่ใหญ่สวมเกราะที่เย็นเป็ นน้ าแข็งตัวหนึ่ง สี เงินบนเกราะมีหิมะเกาะ
เป็ นชั้นๆ อยูเ่ ต็มไปหมด
พอเขาเข้าประตูมาก็วางดาบเล่มใหญ่เอาไว้ดา้ นข้าง ส่ งกล่องอาหาร
ในมือวางลงบนโต๊ะตัวเล็กข้างเตียงตรงหน้าตู๋กูซิงหลัน
“น้องเล็ก นี่คือขาหมูร้านเหล่าสวีตรงกาแพงเมืองทิศใต้ พึ่งออกจาก
เตาเลย เสร็ จใหม่ๆ ยังร้อนๆ อยูเ่ ลย” ตู๋กจู ุนตักเอาขาหมูที่หนั่ เอาไว้ดี
แล้ววางไว้ขา้ งหน้าตู๋กูซิงหลัน
ขาหมูพะโล้ของร้านเหล่าสวีถือเป็ นอันดับหนึ่งในเมืองหลวง ขาย
หมดแต่เช้าทุกวัน เขาไปรอตั้งแต่ตอนที่ฟ้ายังไม่สาง เพื่อให้นอ้ งสาว
ได้กินเป็ นคนแรก
พี่รองตู๋กเู จวี๋ยถอดชุดคลุมหนาหนักของตนเองออกถือน้ าค้างเอาไว้
ในมือ ส่ งมาถึงตรงหน้าของนาง “น้องเล็ก นี่เป็ นน้ าที่พี่รองต้มจาก
น้ าค้างของดอกสาลี่ สดชื่นมากเลย ลองดื่มสิ ”
สองบุรุษตัวโตนัง่ ลงบนข้างเตียงของนาง
ยกมาให้กแ็ ล้วไปเถอะ แต่นี่ถึงกับจะป้อนเข้าปากของตู๋กซู ิงหลัน
“อ้า น้องเล็กอ้าปาก” ตู๋กจู ุนที่ร่างกายบึกบึนโครงหน้าคมเข้มยามจะ
ดูแลเอาใจใส่ นอ้ งสาวของตนเองขึ้นมานั้น จึงจะได้เห็นเขามีความ
อดทนสักครั้ง
“น้องเล็ก ดื่มน้ าสาลี่หิมะ” ตู๋กเู จวี๋ยตักน้ าสาลี่มาช้อนหนึ่ง เพราะกลัว
จะร้อนลวกนาง เป่ าอยูห่ ลายครั้งค่อยส่ งให้นางถึงปาก
เชียนเชียนเห็นจนไม่เป็ นที่ประหลาดใจอีกแล้ว ถึงภายในห้องจะจุด
ถ่านหยินซือ [3] นางก็ยงั ไปเอาเตาอุ่นมือใบน้อยมาให้ต๋ ูกซู ิงหลันอีก
ตู๋กซู ิงหลันเห็นท่าทางที่เอาใจใส่ ดูแลตนเองของพี่ชายทั้งสอง ในใจ
ก็บงั เกิดความละอายขึ้นมา
“พี่ใหญ่ พี่รอง ข้าเพียงแต่ขาพิการ มือยังไม่พกิ ารเสี ยหน่อย….ข้าทา
เองก็ได้” ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่าตนเองอายุขนาดนี้แล้วยังต้องให้คนมา
คอยป้อนอาหาร ช่างน่าละอายมากแล้ว
“เรี ยกว่าแค่ขาพิการที่ไหนกัน!” สองพี่ชายส่ งเสี ยงด้วยความขุ่นเคือง
น้องเล็กขาพิการ รู ้หรื อไม่วา่ สาหรับพวกเขาแล้วนี่เป็ นเรื่ องใหญ่เสี ย
ยิง่ กว่าฟ้าถล่มลงมาอีก?
นางไม่รู้หรื อว่า ตอนที่นางหายสาบสู ญไปนั้น พวกเขาค้นหาจน
แทบจะพลิกแคว้นต้าโจวขึ้นไปบนฟ้าแล้ว
พอรู ้วา่ นางยังไม่ตาย สองบุรุษตัวโตถึงกับหลัง่ น้ าตาร้องไห้ใหญ่โต
ออกมาในทันที
ทั้งยังขี่มา้ กลับมาเมืองหลวงโดยไม่มีหยุดพัก เพราะเพียงแค่อยากจะ
กอดน้องสาวสุ ดที่รักของพวกเขาเท่านั้น
——
ตอนต่อไป “วังหลังของตู๋กซู ิงหลัน”
——
[1] เจ้ารัฐ อ๋ องแคว้นต่างๆ มีกองทหารและอานาจในการปกครอง
ท้องที่ของตนเองโดยเด็จขาด แต่ให้ความเคารพฮ่องเต้ในฐานะ
ประมุขของบ้านเมือง
[2] ระบบรวมอานาจที่ฮ่องเต้ทรงเป็ นผูน้ าสู งสุ ดเพียงหนึ่งเดียว ที่
เหลือคือขุนนางซึ่งอยูใ่ ต้อานาจฮ่องเต้

[3] 银丝炭:ถ่านไหมเงิน
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 346 วังหลังของตู๋กซู ิงหลัน
ดูเอาเถอะ น้องเล็กโชคดีบุญรักษา รอดชีวิตมาได้
แต่นางกลับต้องขาพิการ!
นางพึ่งอายุสิบเจ็ดปี เท่านั้น! กลับต้องมาทนรับความเจ็บปวดถึงเพียง
นี้ พวกเขาล้วนไม่กล้าครุ่ นคิดเลยว่า ช่วงเวลาที่บาดเจ็บสาหัสอยูน่ ้ นั
นางที่เป็ นเพียงเด็กสาวอ่อนแอผูห้ นึ่งผ่านพ้นมันมาได้อย่างไร
พอคิดถึงตรงนี้ สองพี่นอ้ งก็ตอ้ งตาพร่ าไปด้วยหยาดน้ าตาขึ้นมาอีก
ตู๋กจู ุนยังนับว่าอดกลั้นได้เป็ นอย่างดีแล้ว ดวงตาของเขาชื้นไปด้วย
ไอหมอก เขายืน่ มือไปคีบขาหมูชิ้นหนึ่งส่ งถึงมุมปากของตู๋กซู ิงหลัน
“น้องเล็ก ต่อให้พี่ใหญ่จะต้องจับพวกหมอมาให้หมดทั้งแผ่นดิน ก็
จะต้องรักษาขาของเจ้าให้หายดีให้ได้”
ตู๋กเู จวี๋ยน้ าตาหยดแหมะๆ ไปตั้งแต่แรกแล้ว เดิมทีเขาก็เป็ นคนที่
อ่อนไหวง่ายอยูแ่ ล้ว น้องเล็กมาเป็ นเช่นนี้จะไม่ให้เขาปวดใจได้
อย่างไร?
“น้องเล็ก ขอเพียงเจ้าสามารถหายดี ต่อให้นบั จากวันนี้ไปพี่รอง
จะต้องกลายเป็ นคนใบ้กย็ อม”
ขอเพียงน้องเล็กอยูด่ ีมีสุข บุรุษตระกูลตู๋กอู ย่างพวกเขาก็ยนิ ดีจะทา
ทุกอย่าง
ตู๋กซู ิงหลันเห็นท่าทางของพวกเขา ในใจก็ยงิ่ สานึกผิดกว่าเดิม
นางทั้งใช้ร่างเนื้อของไทเฮาน้อย ทั้งได้รับความรักและการปกป้อง
จากพวกพี่ชาย แต่กลับมิได้ตอบแทนอะไรพวกเขาสักอย่าง
ตอนนั้นก็ยงั ทิ้งไปอย่างกระทันหัน…..
ตู๋กซู ิงหลันไม่กล้าคาดคิดเลยว่า หากว่านางหายไปตลอดชีวิตของ
พวกเขาจริ งๆ พวกพี่ๆ จะเป็ นเช่นไร…..
มีหวังคงเสี ยสติไปเลย
“พี่ใหญ่ พี่รอง พวกท่านดีกบั ข้ามากเกินไปแล้ว” ตู๋กซู ิงหลันเคี้ยวขา
หมูที่หอมอร่ อยไปจนถึงก้นบึ้งหัวใจ
“เจ้าเป็ นน้องสาวสุ ดที่รักของพวกเรา ทาดีกบั เจ้าเป็ นเรื่ องธรรมดาอยู่
แล้ว” ตู๋กจู ุนช่วยเช็ดน้ ามันที่เปื้ อนตรงมุมปากให้กบั นาง ดวงตาเต็ม
ไปด้วยความเอาใจใส่
ตู๋กเู จวี๋ยเองก็ผงกศีรษะ “เจ้าเป็ นชีวิตของพวกพี่ๆ ในใจของพี่รอง ใต้
หล้านี้ไม่มีหญิงใดสามารถเทียบได้กบั น้องเล็กของพวกเราตลอด
กาล”
ตู๋กจู ุนเก็บปากเก็บคาเอาไว้ ไม่อยากพูดจนทาให้นางต้องราคาญมาก
เกินไปในตอนนี้
ตู๋กซู ิงหลันอยากจะบอกฐานะที่แท้จริ งของนางกับพวกเขาแต่ทุกครั้ง
ที่คาพูดมาถึงปากก็ได้แต่กลืนลงไป
นี่เป็ นเรื่ องที่เจ็บปวดรวดร้าวที่สุดเรื่ องหนึ่ง
หากพวกเขาได้รู้วา่ น้องสาวของตนเองตายไปตั้งแต่แรก และที่อยู่
เบื้องหน้านี้เป็ นแค่ของทดแทน…..
สาหรับคนทั้งสองที่รักน้องอย่างบ้าคลัง่ แล้ว ตู๋กซู ิงหลันก็คิดไม่ออก
เลยว่าพวกเขาจะทาเรื่ องใดขึ้นมาได้บา้ ง
เกรงว่าเมื่อถึงตอนนั้น คนทั้งสองคงจะเปลี่ยนเป็ นน่ากลัวเสี ยยิง่ กว่า
จีเฉวียนอีกกระมัง
ตู๋กซู ิงหลันคิดๆ ดูแล้ว สมควรหาโอกาสที่เหมาะสมค่อยๆ สารภาพ
คงจะดีกว่า
พอตู๋กซู ิงหลันไม่พดู ไม่จา สองพี่นอ้ งก็คิดว่านางคงจะกังวลว่าขาที่
พิการไม่อาจรักษาได้ ตู๋กจู ุนเช็ดปากให้นางเสร็ จแล้ว ก็ลูบเส้นผม
บนกระหม่อมของนาง
“อีกไม่กี่วนั ท่านปู่ ก็จะกลับมาแล้ว ท่านปู่ มีประสบการณ์มากเห็น
โลกกว้างมากกว่าพวกเรา ย่อมต้องรู ้จกั ท่านหมอดีๆ อย่างแน่นอน”
“ท่านปู่ จะกลับมาแล้วหรื อเจ้าคะ?” ตู๋กซู ิงหลันเงยหน้าขึ้นมา
นับตั้งแต่ที่นางมายังโลกมิติน้ ีกเ็ กือบสองปี แล้ว ท่านปู่ ของไทเฮา
น้อยถูกพูดถึงกันอยูต่ ลอดเวลา แต่นี่จะเป็ นครั้งแรกที่ได้พบตัวจริ ง
“จะไม่ใช่ได้อย่างไร เจ้าที่เป็ นหลานสาวคนโปรดขาพิการแล้ว ท่าน
ปู่ มีหรื อจะไม่กลับมา?”
“น้องเล็กวางใจเถอะ ไม่วา่ เมื่อไหร่ เจ้ายังมีพวกเราอยูเ่ สมอ”
เพียงแค่ประโยคเดียวก็อบอุ่นไปถึงก้นบึ้งหัวใจ ตู๋กซู ิงหลันเองก็พกั
เรื่ องที่กงั วลใจทั้งหมดเอาไว้ก่อน
เมื่ออยูใ่ นโลกนี้ นางก็ได้เปลี่ยนฐานะกลายเป็ นไทเฮาน้อยไปแล้ว ก็
ต้องมีชีวติ ต่อไปในร่ างนี้ให้ดี
ในตอนนั้นเอง ได้ยนิ เชียนเชียนส่ งเสี ยงรายงานเข้ามาว่า “ไทเฮาเพ
คะ องค์หญิงใหญ่และพระสนมหยวนเฟยเสด็จมาเยีย่ มท่านแล้วเพ
คะ”
นางพึ่งจะร้องออกไป ก็เห็นท่านหญิงน้อยซุนเอ๋ อร์หอบกระโปรงตัว
น้อยวิ่งตึงๆ เข้ามาแล้ว นางวิ่งมากอดตู๋กซู ิงหลัน กระโจนเข้ามาใน
อ้อมอกของนางในครั้งเดียว ใช้ศีรษะน้อยๆ ของตนถูไปมา
“ท่านย่าน้อย ซุนเอ๋ อร์คิดถึงท่านเหลือเกิน” ซุนเอ๋ อร์กอดเอาไว้แน่น
พักใหญ่จึงยอมปล่อยนาง หลังจากนั้นก็ถอดสร้อยไข่มุกทองที่อยู่
บนข้อมือออกมาส่ งให้กบั นาง
“ท่านแม่บอกว่าเม็ดมุกพวกนี้สามารถนาโชคดีมาให้ ซุนเอ๋ อร์ให้
ท่านย่าน้อย ขอให้ต่อไปท่านย่าน้อยไม่เจ็บไม่โชคร้ายอีก ให้สงบสุ ข
ราบรื่ นตลอดชีวิต”
ตู๋กซู ิงหลันมองดูเด็กน้อย ไม่ได้พบกันนาน เด็กน้อยสู งขึ้นบ้างแล้ว
ทั้งยังสะสวยขึ้นด้วย
“ช่วงที่ผา่ นมานางคิดถึงเจ้าอยูต่ ลอด” องค์หญิงใหญ่ประทับยืนอยู่
ด้านข้าง พอได้เห็นตู๋กซู ิงหลันที่ตอ้ งมานอนอยูบ่ นเตียงในวันนี้ นาง
ก็เกิดความรู ้สึกสงสาร
ตู๋กูซิงหลันลูบศีรษะของเด็กน้อย ส่ งยิม้ หวานให้กบั นาง “ขอบคุณ
เจ้ามาก ซุนเอ๋ อร์”
แน่นอนว่าตู๋กจู ุนย่อมเป็ นฝ่ ายสละที่ให้กบั องค์หญิงใหญ่
องค์หญิงใหญ่พบกับเขาก็มิได้แสดงทีท่าขับไล่ หากแต่ทาเหมือนเขา
เป็ นอากาศธาตุ ไม่ตรัสอะไรด้วยแม้แต่ประโยคเดียว
หากมิใช่เพราะว่าตอนนั้นตู๋กซู ิงหลันได้ช่วยเหลือซุนเอ๋ อร์เอาไว้
เกรงว่าแม้แต่โอกาสที่จะได้เห็นพวกเขาทั้งสองยืนอยูใ่ กล้กนั ก็คงจะ
ไม่มีแล้ว
เมื่ออยูต่ ่อหน้าจีฉุน ตู๋กจู ุนก็คอยระมัดระวังตัวอยูต่ ลอดเวลา ด้วย
ความเกรงว่าจะไปทาอะไรให้นางไม่พอใจเข้า ถึงแม้วา่ จะมีนอ้ งสาว
ของตนเองอยูด่ ว้ ยก็ยงั เป็ นเช่นนี้
หยวนเฟยเห็นแล้ว ก็รู้สึกว่าหัวใจไร้รสชาติอย่างบอกไม่ถูก
ยากนักที่จะหาคนที่มีขนหน้าอกดกๆ ได้สกั คน แต่วา่ ในใจของเขา
กลับมีผอู ้ ื่นอยูแ่ ล้ว
นับตั้งแต่ที่ต๋ ูกซู ิงหลันหายตัวไป ตู๋กจู ุนก็ไม่กลับไปเป่ ยเจียง หากแต่
เสาะหาน้องอยูต่ ลอด
นางเองก็คอยช่วยเหลือเขา…..
ยิง่ ได้ใกล้ชิดกับตู๋กูจุน ก็ยงิ่ รู ้สึกว่าบุรุษที่คมเข้มและบึกบึนผูน้ ้ ีน่า
เกรงขามแต่ภายนอกเท่านั้น ที่จริ งแล้วเขาเป็ นคนที่จิตใจ
ละเอียดอ่อนอย่างยิง่
บางครั้งไม่ทนั ระวังก็บงั เอิญได้เห็นเขาอาบน้ า….จุ๊ จุ๊ …..ขนหน้าอก
แบบนั้นแม้แต่นกั รบอันดับหนึ่งของหนานเจียงก็ยงั เทียบไม่ได้เลย
ช่างน่าเสี ยดาย…..
นางเก็บสายตากลับมา เดินไปที่เบื้องหน้าของตู๋กซู ิงหลัน “ไทเฮาเพ
คะ หม่อมฉันก็คิดถึงท่านเช่นกัน”
คิดถึงตู๋กูซิงหลันนั้นเป็ นเรื่ องจริ ง ช่วงที่นางไม่อยูใ่ นวัง ตนก็เบื่อ
มากจริ งๆ
ตอนนี้ในเมื่อปลอดภัยกลับมา ก็นบั ว่าดีแล้ว
“ข้าเองก็คิดถึงเจ้า เสี่ ยวหยวนเฟย” ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกเหมือนกับว่าอยู่
ดีๆ ตนก็เปิ ดวังหลังส่ วนตัวขึ้นมา ในวังหลังนี้มีเหล่าคนน่ารักที่ตน
โปรดปรานมากมาย
คนนั้นนางก็อยากจะลูบๆ คลาๆ คนนี้นางก็คิดจะใกล้ชิดสนิทสนม
วุน่ วายทาอะไรไม่ทนั ไปหมดแล้ว
ทางนี้พ่ งึ จะพูดกันจบ ก็ได้ยนิ เสี ยงเรี ยกดังมาจากด้านนอก “อาห
ลัน!”
ทันใดนั้นก็เห็นซูกยุ้ เฟยที่ทอ้ งโตพุง่ เข้ามาอย่างรวดเร็ ว แม้แต่นาง
กานัลข้างกายของนางก็ยงั รั้งไว้ไม่ทนั
พอซูเม่ยมาถึงเบื้องหน้าตู๋กซู ิงหลัน แม้แต่ต๋ ูกเู จวี๋ยก็ยงั ต้องถอย
ออกไปด้านข้าง
“อาหลัน วันนี้ขา้ มาช้าไปแล้ว” ถึงซูเม่ยจะเห็นว่ามีผคู ้ นภายในห้อง
มากมาย ก็ยงั ไม่คิดจะเก็บอาการ เขาแทบจะเอาตัวครึ่ งหนึ่งพาดลง
ไปบนร่ างของตู๋กซู ิงหลันอยูแ่ ล้ว
เขาถึงกับสู ดดมกลิ่นกายจากตัวนางเข้าไปอย่างอาจหาญ ค่อยรู ้สึกว่า
จิตใจอิ่มเอิบ สบายใจขึ้น
“อาหลัน ข้าฝันถึงเจ้าทั้งคืนเลย เช้านี้กฝ็ ันถึงเจ้า ก็เลยตื่นสายไป
หน่อย” ซูเม่ยกอดแขนของนางเอาไว้ “ข้าฝันว่าเจ้าหายไปอีกแล้ว ทา
เอาข้าตกอกตกใจหมดเลย”
ซูเม่ยพูดพลาง ขนตาก็เปี ยกชุ่มไปด้วยหยดน้ า “อาหลัน เจ้าอย่าได้
หายไปอีกเลยนะ ได้ไหม?”
ตอนที่นางหายสาปสู ญไป เขาไม่เป็ นอันกินอันนอน และเพราะว่า
ฐานะของตนคือซูกยุ้ เฟย จึงไม่อาจไปตามหานางได้อย่างเปิ ดเผย ได้
แต่ตามหานางอย่างเงียบๆ
แต่มิวา่ อย่างไรก็ไม่เจอแม้แต่เงา พอคิดว่านางอาจจะ….หัวใจของ
เขาก็เย็นยะเยือกแล้ว
ตอนนี้ดีแล้ว นางกลับมาแล้ว
ขาพิการ
ก็ไม่เป็ นไร…..เขาจะต้องหาหนทางทาให้นางหายดี
ตู๋กซู ิงหลันมองดูซูเม่ย นับตั้งแต่ที่นางกลับมา ซูเม่ยก็ขยันมาเยีย่ ม
เหมือนกับพวกพี่ชาย อะไรดีอะไรอร่ อยล้วนต้องขนมายัดเยียดให้
นาง
——
คุยกันนิดนึง:
ไรท์: หยวนเฟยคะ บังเอิญยังไงให้ได้เห็นผูช้ ายอาบน้ าคะ
หยวนเฟย: (เขินอาย) บังเอิญตาดีค่ะ
——
ไรท์ : ตู๋กซู ิงหลัน อบอุ่นจนร้อนเลยไหม?
ตู๋กซู ิงหลัน: ข้าชอบ ครึ กครื้ นดีออก
ไรท์: งั้นเพิม่ อีกเบอร์เป็ นไง?
ตู๋กูซิงหลัน:???
ไรท์: เดี๋ยวก็รู้วา่ ใครมา….หุ หุ
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 347 ต้ องรักเขาอย่ างคลัง่ ไคล้
หลงใหลอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้ซูเม่ยยังมาหานางแต่เช้าก่อนพวกพี่ชายเสี ยอีก
จีเฉวียนเคยบอกนางว่า ซูเม่ยเป็ นบุรุษ
แต่ช่วงหลายวันนี้ นางมองซ้ายมองขวาอย่างไรก็ยงั มองไม่ออกว่าซู
เม่ยคนงามจะเป็ นบุรุษไปได้อย่างไร
ยิง่ ดูทอ้ งนัน่ ก็กลมดัง่ ลูกบอล …..หากว่าท้องอยูจ่ ริ งๆ ดูท่าอีกไม่
เกินสองเดือนก็คงจะคลอดแล้วกระมัง
ซูเม่ยมาปรากฏตัวอย่างถืออภิสิทธิ์ อยูใ่ กล้ชิดตู๋กซู ิงหลันมากที่สุด
กอดแขนตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ไม่ยอมวางมือราวกับว่าตนเองคือคน
โปรด
“อาหลัน เจ้าเองก็คิดถึงข้าเหมือนกันใช่ไหม?”
ทาถึงขั้นนี้ สองพีช่ ายตระกูลตู๋กกู ท็ นดูไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
ซูเม่ยออดอ้อนเสี ยจนไม่สนใจขอบเขต ยังคงกอดแขนของนางเอาไว้
“เจ้าอย่าได้เอาแต่คิดถึงหยวนเฟยนะ เจ้าต้องคิดถึงข้าด้วย ข้าคิดถึง
เจ้าจนจะขาดใจตายอยูแ่ ล้ว”
ผูค้ นทั้งหลาย “……”
ไม่รู้วา่ ทาไมตอนนี้พวกเขาถึงได้รู้สึกว่าตู๋กซู ิงหลันก็คือฮ่องเต้
ส่ วนพวกเขาก็เป็ นเหล่านางสนมที่มาแย่งชิงความโปรดปราน
โดยเฉพาะซูเม่ยนั้นทาเกินหน้าไปแล้ว!
นางถือว่าตนเองกาลังตั้งครรภ์ ยิง่ ต้องแย่งความโปรดปรานอย่างไม่
สนใจอะไรทั้งสิ้ น
ตู๋กซู ิงหลันไหนเลยจะเคยปฏิเสธคนงามมาก่อน แค่พดู ว่าตนก็คิดถึง
นาง ไม่ได้จะตายสักหน่อย
นางตบหลังมือของซูเม่ยเบาๆ หัวเราะเฮฮาตอบไปว่า “น่ารัก คิดถึงสิ
คิดถึงทุกคน!”
ดูผวิ ที่ออกจะนุ่มละมุนถึงเพียงนี้สิ แล้วจะเป็ นบุรุษไปได้อย่างไร?
คงจะต้องเป็ นเพราะว่าฮ่องเต้สุนขั นัน่ คิดจะหาทางออกให้กบั ความ
เจ้าชูข้ องตนเอง ถึงได้คิดหาเหตุผลมัว่ ๆ เช่นนี้ข้ ึนมา
ตู๋กซู ิงหลันครุ่ นคิดเช่นนี้อยูใ่ นใจ นางย่อมไม่มีทางทาถึงขั้นจับซูเม่ย
มาถอดเสื้ อผ้าเพื่อพิสูจน์ร่างกายอยูแ่ ล้ว
หากว่าซูเม่ยเป็ นหญิง แล้วขณะที่นางกาลังตั้งครรภ์อยูน่ ้ นั ก็ถูกคน
‘แย่งชิง’ สามี ตู๋กซู ิงหลันคิดแล้วก็รู้สึกละอายใจกว่าเดิม
หากให้ถอยออกมาคิดดู สมมติวา่ เขาเป็ นบุรุษจริ งๆ แล้วยังอุตส่ าห์
คิดหาหนทางร้อยพันวิธีเพือ่ แต่งให้กบั จีเฉวียน ก็ตอ้ งเป็ นเพราะว่า
รักเขาอย่างหลงใหลคลัง่ ไคล้อย่างแน่นอน
จะคิดกลับไปกลับมาอย่างไรก็เป็ นตนเองที่แย่งชิงความรักของผูอ้ ื่น
มา
ตู๋กซู ิงหลันตัดสิ นใจแล้วว่าต่อไปจะต้องชดเชยให้กบั ซูเม่ยให้มากๆ
ดูสิคนก็งามขนาดนี้ หากไม่ทนุถนอมเอาไว้ในมือ คงต้องผิด
คุณธรรมในใจจนจิตใจไม่สงบสุ ขแน่นอน
“น้องเล็ก เป็ นสตรี หากสนิทสนมใกล้ชิดกันมากไปจะไม่ค่อยดี” ตู๋กู
เจวี๋ยถูกบีบให้ออกจากวงไป ทั้งๆ ที่นนั่ เป็ นน้องสาวของตนเองแท้ๆ
แต่ตอนนี้เขากระทัง่ ตัวเองก็ยงั แทรกเข้าไปไม่ได้เลย
พอได้เห็นซูหวงกุย้ เฟยกับน้องสาวสนิทสนมใกล้ชิดกัน ก็คิดถึง
ใบหน้าแข็งทื่อของจีเฉวียนขึ้นมา
ทาให้เขาอดที่จะหนาวสัน่ ขึ้นมาไม่ได้ ฮ่องเต้ทรงมีเป้าหมายที่ไม่ถูก
ไม่ควรบางประการในตัวน้องเล็กอย่างแน่นอน
หากว่าพระองค์เสด็จมาเห็นภาพในยามนี้ เกรงว่าพระพักตร์คงจะดา
ทะมึนเสี ยยิง่ กว่าที่เขาคาดคิดไว้เสี ยอีก
พระสนมของพระองค์ แต่ละคนแต่ละองค์ลว้ นเอนเอียงมาทางน้อง
เล็กทั้งนั้น…..
ช่างบังเอิญโดยแท้ เขาพึ่งจะพูดจบไป อยูๆ่ ก็รู้สึกว่าแผ่นหลังเย็น
วาบขึ้นมา
“ตาหนักเฟิ่ งหมิงกงช่างครึ กครื้ นดีจริ งๆ” ฮ่องเต้เสด็จเข้ามาดัง่ สาย
ลม ยามเสด็จมาก็หอบเอาลมหนาวจากด้านนอกเข้ามาด้วย
ผูค้ นมองออกไป ก็เห็นว่าเส้นพระเกศาและพระอังสะมีละอองหิ มะ
ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมา พระองค์ยงั คงเย็นชาเสี ยยิง่ กว่า
เกล็ดหิมะที่ขาวๆ ฟูๆ เหล่านั้นเสี ยอีก
จีเฉวียนก้าวพระบาทเพียงไม่กี่กา้ วก็เสด็จถึงข้างกายตู๋กซู ิงหลัน สาย
พระเนตรเย็นชากวาดมองไปยังร่ างของซูเม่ยและหยวนเฟย
หยวนเฟยนับว่ารู ้ตวั ดี นางรี บถอยออกไปข้างๆ
นางเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง เรื่ องระหว่างฝ่ าบาทและไทเฮานั้น ต้อง
เรี ยกว่าแจ่มแจ้งชัดเจนจนไม่ตอ้ งพูดอะไรออกมาอีกแล้ว
ซูเม่ยนั้นไม่สนใจอะไรทั้งสิ้ น เขาหันหน้ามาสบตากับจีเฉวียนครั้ง
หนึ่ง มือก็ลูบลงไปบนหน้าท้องที่กลมเป็ นลูกบอลของตนเอง “ฝ่ า
บาท พระนัดดาทรงคิดถึงไทเฮามาก ต้องให้ไทเฮาทรงลูบบ่อยๆ จะ
ได้เติบโตและแข็งแรงนะเพคะ”
เขาพูดออกมาอย่างมีความหมายให้จีเฉวียนเข้าใจโดยเฉพาะ มือข้าง
หนึ่งก็คว้ามือของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ แอ่นท้องจนปูดขึ้นมา ทั้งยังทาสี
หน้าเหมือนไม่ได้รับความยุติธรรมอย่างเพียงพอ แต่ขา้ งในกลับลอบ
สะใจ ที่จีเฉวียนทาลงไปมิเท่ากับว่าขุดหลุมฝังตนเองหรอกหรื อ?
ตอนนี้ตนทาตามพระประสงค์แล้ว แบกท้องโตแล้วไง ก็ยงิ่ สามารถ
มาเกาะหนึบอยูข่ า้ งกายตู๋กูซิงหลันได้อย่างเปิ ดเผย
หากว่าพระองค์กล้าขับไล่เขาออกไป ก็มีแต่จะหาเรื่ องให้เป็ นขี้ปาก
ผูค้ นเท่านั้น
หากว่าเขากล้าทาท่าทาท่างโหดร้ายกับหวงกุย้ เฟยที่กาลังท้องโต มิ
เท่ากับว่ามอบโอกาสให้ผอู ้ ื่นที่กาลังมีแผนการอยูแ่ ล้วออกมาต่อต้าน
เขาหรอกหรื อ?
ดวงเนตรของจีเฉวียนหรี่ ลงเป็ นเส้นบาง นับตั้งแต่ที่พระองค์นาซิ
งซิงกลับมา คนที่มาคอยเกาะติดหนึบอยูข่ า้ งกายนางยิง่ ทียงิ่ เพิม่ ขึ้น
ทุกวันจนนับไม่ไหว
สองพี่นอ้ งตู๋กนู นั่ ก็แล้วไปเถอะ อย่างไรเสี ยก็เป็ นพี่ชายของนาง
แต่วา่ ซูเม่ยผูน้ ้ ีเหมือนดัง่ ก้อนอึที่ติดหนึบ ทั้งวี่ท้ งั วันเอาแต่เกาะติดอยู่
กับตู๋กซู ิงหลัน ไม่รู้สานึกตนบ้างเลยสักนิด
เสี่ ยวซิงซิงพระองค์เป็ นผูพ้ ากลับมา คิดว่าพระองค์จะยอมให้เขาแย่ง
ไปง่ายๆ หรื อ?
ฮ่องเต้ทรงพระสรวลเสี ยงเย็นชาออกมาครั้งหนึ่ง แต่มิได้จดั การกับซู
เม่ยอย่างแจ่มชัด พระองค์ประทับยืนอยูด่ า้ นข้าง สายพระเนตรทอด
ลงไปบนร่ างของตู๋กูซิงหลัน
แม้แต่น้ าเสี ยงก็เปลี่ยนเป็ นอบอุ่นขึ้นมา “อากาศหนาวมากแล้ว เรา
ไปล่าสัตว์มา โชคดีได้จิ้งจอกมาตัวหนึ่ง จึงให้ถลกหนังทาเป็ นเสื้ อ
คลุมมาให้เจ้า”
ตรัสแล้ว หลี่กงกงก็นาเสื้ อคลุมขนจิ้งจอกตัวนั้นเข้ามาถวาย
ขนจิ้งจอกเป็ นสี แดงราวกองเพลิง ทั้งยังเป็ นประกายมันวาว แสดง
ให้เห็นว่ายามปกติน้ นั เจ้าจิ้งจอกตัวนี้อยูด่ ีกินดีเพียงไร
“ปกติเจ้าชอบสวมใส่ แต่เสื้ อผ้าธรรมดา เราคิดว่า สี แดงราวอาทิตย์
ยามพลบค่าเช่นนี้เหมาะสมกับเจ้ามากนัก” จีเฉวียนตรัสแล้วก็หยิบ
เสื้ อคลุมขนจิ้งจอกตัวนั้นขึ้นมา
ส่ งถึงตรงหน้าตู๋กซู ิงหลัน น้ าเสี ยงของพระองค์ยงิ่ อ่อนโยนกว่าเดิม
“ลองลุกขึ้นมาสวมดูหน่อยไหม?”
ที่จริ งแล้วตัดขึ้นมาเพื่อนางโดยเฉพาะ ย่อมต้องพอดีตวั อยูแ่ ล้ว
จีเฉวียนจงใจส่ งเสื้ อคลุมจิ้งจอกไปตรงหน้าซูเม่ย
สี แดงเพลิงนั้นบาดตาอย่างยิง่ ซูเม่ยมองดูอยูส่ องรอบในสมองพลัน
เจ็บจี๊ดขึ้นมา ในใจบังเกิดความหวาดกลัวอย่างไร้สาเหตุ
ภาพมากมายไหลผ่านเข้ามาในสมอง เป็ นภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เป็ นภาพของจิ้งจอกสี แดงตัวหนึ่งที่ถูกโยนลงไปในวงล้อวัฏสังขาร
เขาเห็นชัดเลยว่า…คนที่โยนเขาลงไปนั้น มีสายตาที่เย็นชาแบบ
เดียวกันกับจีเฉวียน
ซูเม่ยรู ้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมาในทันที
ตอนที่เขาเกิดมานั้น เหล่าสรรพสัตว์ต่างก็พากันมาคานับถึงตาหนัก
หย่งเฉิงอ๋ อง บรรพชนของตนก็เป็ นจิ้งจอก
เรื่ องนี้เล่าลือกันไปทัว่ เมืองหลวง จนไม่มีอะไรน่าแปลกใจ ทั้งยังมี
คนเคยพูดว่าเขาเป็ นเซียนจิ้งจอกกลับชาติมาเกิด แม้แต่บิดามารดา
ของตนก็มิได้ปฏิเสธ
ที่จีเฉวียนเอาหนังจิ้งจอกมายืน่ ใส่ เขาตรงหน้าเขา ก็เพื่อตักเตือน และ
เพราะขยะแขยงเขา
ขณะที่ซูเม่ยกาลังจิตใจเลื่อนลอยอยูน่ ้ นั จีเฉวียนก็เบียดบังเข้ามานัง่
ลงตรงข้างกายตู๋กูซิงหลันอย่างคุน้ เคย
ยืน่ พระหัตถ์ออกมาคลุมเสื้ อหนังจิ้งจอกนั้นให้กบั นาง
สี หน้าของตู๋กซู ิงหลันกลับไม่ดีเท่าไร พอมองเห็นหนังจิ้งจอกสี แดง
เพลิง นางก็หวนนึกไปถึงจิ้งจอกน้อยที่เคยเลี้ยงเอาไว้ในโลกก่อน
ทันที
นางเฝ้าดูจิ้งจอกน้อยตัวนั้นฝึ กฝนและสัง่ สมตบะมาโดยตลอด…..ไม่
เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันอาจจะถูกคนจับไปถลกหนังกลายเป็ นเสื้ อผ้า
ไปได้
แต่ไหนแต่ไรตู๋กซู ิงหลันก็ไม่เคยสวมใส่ เสื้ อผ้าที่ทาจากขนหรื อหนัง
ของสัตว์
ไม่ใช่เพราะนางเป็ นพวกยอดมารดาแสนดีอะไร แต่เพราะว่าการทา
เสื้ อผ้าจากขนสัตว์เช่นนี้มนั โหดร้ายเกินไป
พวกนางอยูใ่ นสานักหุบเขาภูติเร้นลับเป็ นสานักที่ให้ความเคารพต่อ
ชีวิต กฏของสานักคือห้ามไม่ให้สวมใส่ เสื้ อผ้าที่ทาขึ้นมาจากขน
หนังของสัตว์
พอจีเฉวียนคลุมเสื้ อหนังจิ้งจอกลงมา ตู๋กซู ิงหลันส่ งเสี ยงอึกอักอยูค่ รู่
หนึ่งก็อาเจียนออกไป
อาเจียนใส่ จีเฉวียนทั้งตัว
พระองค์พ่ งึ จะเลิกว่าราชการ ทรงฉลองพระองค์ชุดมังกร ทั้งหัว
มังกรและเล็บมังกรล้วนถูกตู๋กูซิงหลันอาเจียนใส่ อย่างเต็มที่ ล้วน
เป็ นขาหมูที่กินเข้าไปแล้วยังไม่ทนั ย่อย
ผูค้ นทั้งหมดตื่นตะลึงไป
หยวนเฟยและองค์หญิงใหญ่ต่างก็ตื่นตัวขึ้นมา
พวกนางต่างก็รู้วา่ ฮ่องเต้ทรงรักความสะอาดมากเพียงไร ต้องเรี ยกว่า
รักความสะอาดอย่างบ้าคลัง่ จนคนต้องหวาดหวัน่ ขวัญผวาไปเลยดี
เดียว
หลี่กงกงยิง่ ตื่นตระหนกจนแทบจะขาดใจตายลงไปตรงนี้แล้ว เขาจา
ได้วา่ ครั้งหนึ่งขันทีนอ้ ยไม่ทนั ระมัดระวัง ขณะที่คีบอาหารถวายฝ่ า
บาท ไม่ทนั ระวังทาน้ าแกงกระเด็นใส่ ฝ่าบาท…….
ถูกฝ่ าบาทลงโทษให้ไปอยูโ่ รงซักล้าง ทาความสะอาดเสื้ อผ้าอยูถ่ ึง
สามเดือน
นี่ถึงขนาดอ้วกใส่ ชุดมังกรเลยรึ ท่านตู๋กซู ิงหลันช่างโหดเ**้้ยมต่อ
ผูค้ นเสี ยจริ งๆ
…………………………………..
ตอนต่อไป “นางมารที่ลม้ ชาติลา้ งเมือง”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 348 นางมารที่ล้มชาติล้างเมือง
“น้องเล็ก เจ้าเป็ นอะไรไป?” สองพี่ชายตกใจจนกระโดดเข้ามาหา
ไหนเลยยังจะมีอารมณ์ไปสนใจจีเฉวียนอยูอ่ ีก
ทั้งสองต่างก็บุกเข้าไปถึงด้านหน้าด้วยความหวัน่ เกรงว่าตู๋กซู ิงหลัน
จะเกิดเรื่ องอะไรขึ้นอีก
ยังไม่ทนั ที่ท้ งั สองจะได้สมั ผัสตัวตู๋กูซิงหลัน จีเฉวียนก็เขวี้ยงหนัง
จิ้งจอกในมือทิ้งไป คว้ามือของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้แน่น “ไม่สบาย
หรื อ?”
ผูค้ นทั้งหมดต่างก็ตื่นตระหนกขึ้นมา เนื่องเพราะว่านางขาพิการทั้ง
สองข้าง ไม่แน่วา่ บางทีร่างกายอาจจะมีอาการบาดเจ็บภายในอะไร
บางอย่างที่ไม่เคยรู ้มาก่อนก็ได้
ในขณะที่กาลังตื่นตระหนกกันอยูน่ ้ นั เอง ก็ได้ยนิ เสี ยงซุนเอ๋ อร์กล่า
วอย่างใสซื่อบริ สุทธิ์วา่ “ท่านย่าน้อยกาลังจะมีทารกหรื อเจ้าคะ?
ตอนที่ท่านแม่ต้ งั ครรภ์ซุนเอ๋ อร์กอ็ าเจียนเช่นนี้”
นางเองก็เคยได้ยนิ พวกหมัวมัวในจวนพูดกัน ท่านแม่ต้ งั ครรภ์นาง
อย่างลาบาก อาเจียนอยูท่ ุกๆ วัน
แค่ประโยคเดียวก็ทาเอาคนทั้งหมดตกใจจนชะงักค้างไป
ทันใดนั้นทุกคนต่างก็พากันหันสายตาไปมองดูจีเฉวียน
สองพี่ชายตระกูลตู๋กตู ่างก็ตาลุกโชนขึ้นมา ตอนนี้เกิดเงื่อนไขที่จะ
ให้พวกเขาก่อกบฏอย่างสมเหตุสมผลขึ้นตรงหน้าแล้ว
พอคิดดูให้ละเอียด ช่วงที่พวกเขาทั้งสองอยูใ่ นเมืองกู่เย่วนั้น จี
เฉวียนก็ทาตัวเหมือนหมาป่ าเฒ่าอยูต่ ลอด ส่ วนน้องเล็กนั้นถูก
กล่าวหาจนกลายเป็ นนางมารล้มบ้านล้างเมืองที่ทาเอาคนสงสัยกัน
กลุ่มใหญ่
เจ้าสุ นขั เฒ่าจีเฉวียน ไม่รู้วา่ ได้แอบทาเรื่ องอะไรที่ไม่ดีกบั น้องเล็ก
ไปหรื อไม่?
องค์หญิงใหญ่เองก็ตกใจไปด้วย นางไม่นึกไม่ฝันว่าซุนเอ๋ อร์จะพูด
อะไรออกมาเช่นนั้น
องค์หญิงใหญ่อบั อายจนสี พระพักตร์มีแต่ความขออภัย “เด็กน้อยไม่
รู ้ความ เด็กน้อยไม่รู้ความ”
ซุนเอ๋ อร์ไม่เข้าใจความนัย จึงเอียงศีรษะกล่าวว่า “ซุนเอ๋ อร์ไม่ได้
พูดจาไม่รู้เรื่ องนะเจ้าคะ ท่านย่าน้อยมิใช่วา่ กาลังจะมีทารกหรอก
หรื อ?”
ตู๋กูซิงหลันเดิมทีคิดจะอาเจียนออกมาอีก แต่เพราะได้ยนิ คาของซุน
เอ๋ อร์ทาเอานางชะงักจนกลืนทุกอย่างกลับไป
แหวะ…..ยิง่ น่าอ้วกกว่าเดิม
นางยิง่ ทียงิ่ อาเจียนอย่างหนัก ทั้งแหวะทั้งอาเจียนออกมาใส่ จีเฉวียน
ไปครึ่ งตัว
ฮ่องเต้ทรงตระหนกขึ้นมา รี บหันไปรับสัง่ กับหลี่กงกง “เรี ยกหมอ
หลวงมาเร็ วเข้า!”
ขายังไม่ทนั จะรักษาหาย หากว่ายังมีปัญหาอะไรขึ้นมาอีก มิใช่วา่ เขา
ต้องปวดใจหนักกว่าเดิมหรอกหรื อ!
พระองค์ทางหนึ่งตรัส ทางหนึ่งหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาช่วยตู๋กู
ซิงหลันเช็ดปาก โดยมิได้สนใจความสกปรกบนพระวรกายของ
พระองค์เอง ทั้งยังคว้าเอาน้ าค้างสาลี่หิมะในมือตู๋กเู จวี๋ยมาป้อนให้
นางด้วย
ตู๋กเู จวี๋ย “…..” น้องสาวของเขา เขาไม่มีสิทธิ์ดูแลหรื ออย่างไร? ถึง
ต้องให้ฮ่องเต้มาจัดการ?
ทั้งยังถูกพระองค์ยมื ดอกไม้ไหว้พระอีก [1] !
ตู๋กจู ุนเองก็แทบจะหันกลับไปคว้าดาบใหญ่ของตนเองขึ้นมาแล้ว
หลังดื่มน้ าค้างสาลี่หิมะลงไปหลายคา ตู๋กซู ิงหลันถึงได้ค่อยๆ สงบ
ลงได้บา้ ง
แต่พอมองเห็นหนังจิ้งจอกที่อยูด่ า้ นข้าง ตู๋กซู ิ งหลันก็คิดจะอาเจียน
ออกมาอีก
แค่คิดว่าจิ้งจอกน้อยที่นางเลี้ยงเอาไว้ถูกคนเอาไปถลกหนัง ในสมอง
ของนางก็เห็นภาพขึ้นมาทันที ทาเอาปวดใจจนอยากจะอาเจียน
“ฝ่ าบาทมีพระทัยกตัญญูน่าสรรเสริ ญ แต่น่าเสี ยดายที่แต่ไหนแต่ไร
หม่อมฉันไม่อาจทนใช้หนังหรื อขนสัตว์ได้” ตู๋กซู ิงหลันหันหน้า
กลับมา มองดูจีเฉวียน “ต่อไปฝ่ าบาทอย่าได้ทรงส่ งของพวกนี้มาให้
หม่อมฉันเลยนะเพคะ”
จีเฉวียนตะลึงไป หมอหลวงบอกว่านางไม่อาจทนความหนาว
ดังนั้นพระองค์จึงเสด็จไปยังเขตล่าสัตว์ของราชวงศ์ล่ามาให้นางเป็ น
กรณี พิเศษ
เสื้ อคลุมหนังจิ้งจอกตัวนี้พระองค์คอยทอดพระเนตรดูชาววัง
เหล่านั้นเย็บขึ้นมาแต่ละเข็ม หวังเพียงจะให้นางได้อบอุ่น
คิดไม่ถึงว่า สิ่ งของพวกนี้กลับทาให้นางเกิดความทรมาน
คาพูดของตู๋กซู ิงหลัน ทาให้องค์หญิงใหญ่ หยวนเฟย และหลี่กงกง
ตระหนกจนแทบจะกระโดดแล้ว
ฝ่ าบาทที่ทรงเป็ นพ่อไก่ขนเหล็กที่ไม่ยอมเสี ยทรัพย์แม้สกั อีกแปะ
กลับเป็ นฝ่ ายมอบของขวัญให้ผอู ้ ื่น นี่ตอ้ งถือว่าเป็ นบุญกุศลที่บรรพ
ชนทั้งสิ บแปดรุ่ นได้สงั่ สมมาแล้ว
ไทเฮาน้อยกลับปฏิเสธออกมาอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้?
ฝ่ าบาทจะต้องทรงพิโรธอย่างแน่นอน พิโรธอย่างรุ นแรงเสี ยด้วย
ทั้งสามต่างก็คิดเช่นนี้อยูใ่ นใจ แต่หลังจากนั้นพวกนางก็ตอ้ ง
ประหลาดใจด้วยความผิดคาดอย่างแรง
ฝ่ าบาทมิได้ทรงพิโรธเลยสักน้อยนิด พระองค์ประทับนัง่ ข้างกายตู๋กู
ซิงหลัน ดวงพักตร์ที่งดงามไร้ที่ติน้ นั กลับมีแต่การตาหนิพระองค์เอง
“เราผิดไปแล้ว ไม่สมควรมอบอะไรให้เจ้าอย่างไม่รอบคอบ”
ท่าทางของพระองค์น้ นั เกลียดชังพระองค์เองจนแทบจะตบพระ
พักตร์สักสองรอบ
ผูค้ นทั้งหลาย “???”
นี่มนั เรื่ องอะไรกัน? เมื่อครู่ พวกเขาได้ยนิ ว่าอะไรนะ?
ฮ่องเต้ทรงตรัสขอโทษ!
นอกจากสองพี่ชายตระกูลตู๋กแู ล้ว ผูอ้ ื่นต่างพากันสู ดลมหายใจเข้า
ไปอย่างเหน็บหนาว
สวรรค์ทรงโปรด! ไทเฮาน้อยทรงใช้วิธีการใดถึงได้สามารถจัดการ
พระองค์จนอยูห่ มัดได้ถึงเพียงนี้?
กลายเป็ นเชื่องเชื่อจนไม่ธรรมดาแล้ว!
นี่คือเชื่อฟังจนหมอบราบคาบแก้วหรื อว่าที่จริ งแล้วยังมีจุดประสงค์
อื่นแอบแฝง?
หากเป็ นก่อนหน้านี้ พวกนางต่างก็ไม่ยอมเชื่อ…..
นี่สมควรจะต้องเป็ นเพราะว่าฝ่ าบาททรงมีแผนการอื่นอยูอ่ ีก….
กาลังทรงดาริ จะให้ตระกูลตู๋กอู อกไปทาอะไรอีกแล้วใช่ไหม?
แดนเป่ ยเจียงก็ตีมาได้แล้ว ก้าวต่อไปสมควรถึงเวลาจัดการการาบ
พิชิตแคว้นอื่นแล้ว
ต้าเหยียน
ใช้แล้ว…พิชิตแคว้นเหยียน
ในดินแดนนี้ แคว้นที่ยงั พอจะสามารถเทียบเคียงกันได้อย่างมากก็คง
จะเป็ นแคว้นต้าฉิน
จะต้องเป็ นเพราะมีพระดาริ จะให้ตระกูลตู๋กูไปตีแคว้นต้าเหยียนเป็ น
แน่ ดังนั้นคราวนี้ถึงได้รีบเสด็จมาทาท่าลูกกตัญญูที่เชื่อฟัง
พวกองค์หญิงใหญ่ลว้ นแล้วแต่คิดเช่นนี้ดว้ ยกันทั้งนั้น
เนื่องเพราะว่าคนเช่นฮ่องเต้น้ นั ….แต่ไหนแต่ไรไหนเลยจะเคยมี
ความจริ งพระทัยให้กบั ใครเขากัน
พอดีกบั ที่สองพี่ชายตระกูลตู๋กกู ค็ ิดเช่นนี้อยูเ่ หมือนกัน
แดนเป่ ยเจียงถึงตอนนี้กน็ บั รวมเข้ามาอยูใ่ นแผนที่ของแคว้นต้าโจว
แล้ว ดังนั้นท่านปู่ จึงสามารถกลับมาจากเป่ ยเจียงได้อย่างวางใจ
ก้าวต่อไป ก็คือแคว้นเหยียนแล้ว
จีเฉวียนต้องการให้ตระกูลตู๋กขู ยายดินแดนให้กบั พระองค์ จึงได้มา
เล่นงิ้วให้พวกเขาดู
ฮึ ฮึ ……ฮ่องเต้สุนขั อย่างไรเสี ยก็ยงั เป็ นฮ่องเต้สุนขั แต่ละก้าวล้วน
คิดคานวนมาแล้วอย่างละเอียด เรี ยกว่าแทบจะอยากให้ทุกคนเข้าไป
อยูใ่ นแผนการของตน
ที่จริ งแล้วยามนี้ฮ่องเต้ไม่ทรงสนพระทัยแล้วว่าใครกาลังคิดอะไรอยู่
พระองค์ทอดพระเนตรมองดูต๋ ูกซู ิงหลันด้วยความกังวลพระทัย “ใน
เมื่อเจ้าไม่ชอบหนังจิ้งจอก เช่นนั้นพวกเราก็ไม่เอาอีกแล้ว นับจาก
วันนี้ไป ผูค้ นในต้าโจวทั้งหมดไม่อาจสวมใส่ หนังจิ้งจอกอีก”
พอฝ่ าบาททรงตรัสออกมา ก็เสมือนหนึ่งว่ามีราชโองการออกไป
แล้ว
ความรวดเร็ วเช่นนี้ ทาให้ผคู ้ นทั้งหลายต้องแปลกใจเป็ นรอบที่สาม
ดูเอาสิ ……เพราะความร้อนพระทัยที่อยากจะให้คนตระกูลตู๋กูไป
ออกรบ แม้แต่ราชโองการเช่นนี้กย็ งั มีออกมาได้!
ฝ่ าบาท แผนการนี้ของพระองค์มิใช่วา่ แสดงออกมาได้แจ่มแจ้ง
จนเกินไปแล้วหรื อไม่?
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ตกตะลึงไป ก่อนหน้านี้จีเฉวียนทรงตรัสอยู่
ตลอดเวลาว่าชอบนาง
แต่วา่ นี้เป็ นครั้งแรกที่จีเฉวียนทรงออกราชโองการเพราะความ
เคลื่อนไหวของนาง
อยูๆ่ นางก็รู้สึกว่าตนเองช่างคล้ายกับนางมารที่ลม้ ชาติลา้ งเมืองเข้า
จริ งๆ
หนังจิ้งจอกถูกนาออกไป ตู๋กซู ิงหลันก็ค่อยรู ้สึกดีข้ ึนมาหน่อย นาง
กระแอมเล็กน้อย “ฝ่ าบาท ขนที่ตดั ออกมาจากสัตว์ยงั สามารถใช้ได้
่ ..ขอเพียงมิได้พรากชีวติ ของสัตว์ลว้ นไม่เป็ นปั ญหาเพคะ”
อยู…
“เราจะออกราชโองการอย่างละเอียด ร่ างข้อกาหนดว่าอะไรสามารถ
สวมใส่ ได้ อะไรสวมใส่ ไม่ได้ ต่อไปภายหน้าในสายตาของเจ้า จะ
ได้ไม่ตอ้ งเห็นสิ่ งของที่ทาให้แสลงเช่นนี้อีก” จีเฉวียนประทับอยูข่ า้ ง
กายนาง ดึงมือของนางเข้ามา ตบลงบนหลังมือเบาๆ อย่างปลอบ
ประโลม
ความปวดใจที่สื่อออกมาทางสายตานั้นทาเอาตู๋กซู ิงหลันเลี่ยนแทบ
ตายแล้ว
เหล่าพี่ชายตระกูลตู๋กตู ่างก็คิดว่าการแสดงของฮ่องเต้สุนขั ช่างสม
บทบาทนัก คาพูดแต่ละคา ความเคลื่อนไหวแต่ละอย่าง กระทัง่
สายตาก็ยงั แสดงอารมณ์ความรู ้สึกออกมาอย่างชัดเจน
ช่างกตัญญูเกินไปแล้ว!
หากมิใช่เพราะว่าพวกเขาเข้าใจพระองค์เป็ นอย่างดี เกรงว่าตอนนี้คง
จะต้องถูกพระองค์หลอกลวงเข้าแล้ว
พอจีเฉวียนตรัสจบ หมอหลวงผูห้ นึ่งก็รีบรุ ดเข้ามา
เมื่อมีหมอหลวงซุนเป็ นตัวอย่างมาก่อน ก็แทบจะไม่มีหมอหลวงคน
ใดกล้ามาจับชีพจรถวายไทเฮาอีก ครั้งนี้ที่มาคือย่วนสื่ อ [2] ของ
สานักแพทย์หลวง
เขาสู งวัยมากจนใกล้จะมีอายุครบแปดสิ บปี แล้ว ทั้งสายตาและหูก็
ไม่ค่อยจะดีสกั เท่าไหร่ กระทัง่ มือของเขาก็ท้ งั เ**้่ยวทั้งแข็งจน
เปลี่ยนรู ปไปแล้ว
ขณะที่จบั ชีพจรถวายไทเฮาน้อยด้วยมือที่สนั่ เทา ใบหน้าของเขาก็
พลันแสดงสี หน้าปิ ติยนิ ดีออกมา “ฝ่ าบาท….นี่พระสนมทรงตั้งพระ
ครรภ์แล้วพะยะค่ะ!”
………………………………………
ไรท์: เป็ นเรื่ องแล้ว!!!
ตอนต่อไป “ซิงซิงตั้งครรภ์?”
——

[1] 借花献佛: ฉวยสิ่ งของของผูอ้ ื่นมามอบให้กบั อีกคน

[2] 太医院院使: ขุนนางขั้นห้ามีหน้าที่ดูแลความเรี ยบร้อย


ภายในทั้งหมดของสานักแพทย์หลวง
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 349 ซิงซิงตั้งครรภ์
“พรวด!” น้ าค้างสาลี่หิมะที่ต๋ ูกซู ิงหลันพึ่งจะกลืนลงไปคาหนึ่งพุง่ เข้า
ใส่ ใบหน้าชราอย่างเต็มที่
ท้องกับผีหรื อยังไง!
นางยังไม่เคยหลับนอนกับบุรุษ จะท้องได้อย่างไร?
จะให้ทอ้ งกับตัวเองหรื อ?
ผูค้ นทั้งหลายต่างก็อา้ ปากกว้างขึ้นมา ราวกับจะยัดไข่ไก่ลงไปได้ท้ งั
ใบ!
พระทัยของฮ่องเต้เหมือนถูกเข็มทิ่มแทง ผ่านไปแล้วพักใหญ่กย็ งั
ไม่ได้พระสติกลับมา!
ซิงซิงท้อง? ใครทากัน?
จีเฉวียนสาดพระเนตรเย็นชาไปที่ซูเม่ย เนื่องเพราะช่วงนี้ซูเม่ยขยัน
มาตาหนักเฟิ่ งหมิงอยูเ่ สมอ แทบจะอยากจะทาตัวติดกับซิงซิงอยู่
ตลอดเวลา เขาน่าสงสัยที่สุดแล้ว
อีกทั้งคนผูน้ ้ ียงั เป็ นตัวปี ศาจยัว่ ยวน ไม่แน่วา่ เขาอาจจะใช่เล่ห์กล
อะไร ไปล่อลวงซิงซิง
เกรงว่าซิงซิงเองคงจะไม่ทนั ได้รู้เรื่ องอะไร ก็ถูกเขา….
ฝ่ าบาทกาพระหัตถ์แน่น พยายามระงับความต้องการที่จะฆ่าคน
ในตอนนี้เอาไว้ก่อน
ซูเม่ยเองก็กาหมัดแน่นเช่นกัน ในใจของเขาพุง่ เป้าไปว่านี่จะต้อง
เป็ นการกระทาของฮ่องเต้ เขาลอบกัดฟันขบเขี้ยว คิดจะฆ่าคนอยู่
เช่นกัน
ตู๋กจู ุนกระชับดาบเล่มใหญ่ของเขาขึ้นมาแล้ว หากมิใช่เพราะว่าตู๋กู
เจวี๋ยพยายามห้ามเอาไว้อย่างสุ ดชีวิต เกรงว่าดาบเล่มใหญ่น้ ีคงจะบัน่
พระเศียรของฮ่องเต้สุนขั ลงมาแล้ว
องค์หญิงใหญ่และหยวนเฟยต่างก็คิดจะหลบออกไปจากที่นี่
พวกนางไม่ทนั ระวังตัวจึงบังเอิญได้มารับรู ้ความลับอันยิง่ ใหญ่ …..
หากว่ายังไม่ระมัดระวังอีกเกรงว่าอาจทาให้สมองต้องย้ายบ้านไป
ด้วย
แต่วา่ ซุนเอ๋ อร์กลับติดตามเหตุการณ์อย่างไม่ลดละ ทั้งยังเข้ามาจับมือ
ของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ดว้ ยความสนอกสนใจ “ท่านย่าน้อย เห็นไหม
ว่าซุนเอ๋ อร์พดู ไว้ไม่ผดิ เลย ท่านกาลังจะมีทารกแล้วจริ งๆ! เช่นนี้ก็
หมายความว่าซุนเอ๋ อร์กจ็ ะได้มีนอ้ งชายหรื อว่าน้องสาวแล้วใช่ไหม
เพคะ?”
สมองของตู๋กซู ิงหลันว่าตามอย่างมึนงง “จะเป็ นเสด็จอาชายหรื อว่า
เสด็จอาหญิงกันนะ”
พูดแล้วนางก็อยากจะตบหน้าตนเองสักครั้ง ท้องบ้าท้องบออะไรกัน
นางเป็ นอะไรไปแล้วถึงไปต่อคากับเด็กสาวตัวน้อย?
พอนางพูดประโยคนั้นออกไป ผูค้ นทั้งหลายได้ฟังแล้วต่างก็คิดว่ายัง
ไม่ทนั บีบคั้นก็สารภาพออกมาด้วยตนเองเสี ยแล้ว
เหล่าย่วนยิง่ ยิม้ กว้างเกลื่อนใบหน้าเ**้่ยวๆ “ฝ่ าบาททรงมีเรื่ อง
มงคลต่อเนื่องจริ งๆ หวงกุย้ เฟยใกล้จะทรงมีพระประสู ติกาล พระ
สนมก็ทรงพระครรภ์ข้ ึนมา กระหม่อมขอแสดงความยินดีกบั ฝ่ าบาท
ขอถวายพระพรฝ่ าบาท”
เขาอายุมากถึงปานนี้แล้ว มือไม่นิ่งแล้ว วิชาแพทย์กแ็ ทบจะคืนไป
หมดแล้ว
เหล่าตัวแสบในสานักแพทย์หลวงต่างก็บอกกับเขาว่า วันนี้ตอ้ งมา
จับชีพจรถวายพระสนมที่ฝ่าบาททรงโปรดปรานมากที่สุด พวกตน
เกรงว่าจะศึกษาวิชาแพทย์มาไม่แตกฉานพอ เกิดมองไม่ออกว่าเป็ น
อะไรอาจทาให้ไปกระตุน้ พระพิโรธของฝ่ าบาทเข้า
จึงได้แต่ตอ้ งให้ผเู ้ ฒ่ากระดูกผุเช่นเขาขึ้นเวทีดว้ ยด้วยตนเอง
โอ้ย… ตลอดทางมานี้เขาตื่นเต้นแทบตายแล้ว ตาก็ลายจนมึนงงไป
หมด ขนาดว่าคนที่ขา้ งหน้าก็ยงั เห็นหน้าไม่ชดั
ตอนที่จบั ชีพจรให้พระสนมผูน้ ้ นั ก็รู้สึกว่าชีพจรลื่นไหลเป็ นพิเศษ
จะต้องเป็ นเพราะว่าตั้งครรภ์เป็ นแน่
พระสนมตั้งครรภ์ แล้วเขาก็เป็ นผูต้ รวจเจอ หมอชรารู ้สึกว่าวันนี้ตน
ช่างมีโชคดีไม่ธรรมดาจริ งๆ
โดยมากหมอหลวงที่ตรวจพบว่าพระสนมตั้งครรภ์ ล้วนได้รับรางวัล
จากฝ่ าบาทอย่างงาม
เขาที่อายุปูนนี้กไ็ ม่คิดขอสิ่ งอื่นใดอีกแล้ว ขอเพียงได้อยูอ่ ย่างสุ ข
สบายในวังก็พอ
เหล่าย่วนกล่าวเพียงประโยคเดียว กลับทาให้ฝ่าบาททรงพระพักตร์
ดามืดกว่าเดิม
“เจ้าแน่ใจหรื อว่าตั้งครรภ์จริ งๆ?” จีเฉวียนนัง่ อยูข่ า้ งกายตู๋กซู ิงหลัน
ดวงเนตรมีแต่เส้นเลือดสี แดง
“กระหม่อมศึกษาวิชาแพทย์มาหลายสิ บปี ไม่เคยจับชีพจรผิดมาก่อน
พะยะค่ะ” เหล่าย่วนกราบทูลออกไปอย่างมัน่ ใจ
ตู๋กูซิงหลันถูกคาพูดของเขาทาร้ายจนปางตายแล้ว นางพิงลงไปบน
เบาะอ่อน นางกาลังคิดว่าเหล่าย่วนอาจจะถูกลูกสะใภ้นอ้ ยๆ คนใด
ซื้อตัวไว้หรื อไม่ ถึงได้จงใจหาเรื่ องให้นางเช่นนี้
แล้วดูเจ้าลูกชายสุ นขั ของนางสิ ….เกรงว่าป่ านนี้ในใจคงคิดจะสับ
นางให้กลายเป็ นเนื้อบดแล้วเอาไปเลี้ยงสุ นขั แล้วกระมัง
“น้องเล็ก เป็ นไอ้ชาติสุนขั ตัวใดกัน?” ตู๋กูจุนเดินมาที่ขา้ งกายนาง
ดาบใหญ่ในมือขยับครั้งหนึ่งก็ปักลงไปที่ขา้ งพระวรกายจีเฉวียน
น้องเล็กตั้งครรภ์เสี ยแล้ว คงจะต้องเป็ นเพราะถูกจีเฉวียนบังคับเป็ น
แน่ ไอ้บุรุษที่ชอบปล้นชิงตามไฟ [1] ผูน้ ้ ี หากไม่เอาชีวติ มันอย่าง
น้อยๆ ก็ตอ้ งถลกหนังออกมา!
“อย่าไปกลัว พวกพี่อยูน่ ี่ จะต้องจัดการระบายโทสะให้เจ้าอย่าง
แน่นอน”
ตู๋กเู จวี๋ยเองก็พยักหน้า “เชือดเนื้อ ตัดหัว เจ้าบอกมาเลยว่าจะให้
จัดการเจ้าบุรุษสุ นขั นัน่ เช่นไร?”
ในเมื่อมีพี่ใหญ่คอยหนุนหลังอยูข่ า้ งๆ เขาก็มีความกล้าขึ้นมา
ในทันที
จีเฉวียนกล้าบังคับหักหาญน้องเล็ก นี่ไม่เท่ากับว่าบีบให้พวกเขาก่อ
กบฏหรอกหรื อ?
ตู๋กซู ิงหลัน “….” พูดเสี ยอย่างกับว่านางกาลังท้องขึ้นมาจริ งๆ
อย่างไรอย่างนั้น
นางอ้าปากขึ้นมา กาลังจะอธิบายออกไป ก็เห็นฮ่องเต้ทรงกาพระ
หัตถ์ของพระองค์เอาไว้อย่างแนบแน่น ตรัสท่ามกลางผูค้ นว่า “เป็ น
เราเอง”
ผูค้ น “……”
ตู๋กูซิงหลัน “???!!!”
วิญญาณทมิฬ “ชิบหายแล้ว! พวกเจ้าได้เสี ยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ? นี่ขา้
ถึงกับความจาเสื่ อมไปหรื อเปล่า? หรื อว่าพวกเจ้าตบข้าจนสลบไป
แล้วค่อยเล่นจ้ าจี้กนั ?”
มันกล้าสาบานเลยนะว่า ตนเองไม่รู้สึกระแคะระคายอะไรเลย
หลันหลันเปิ ดกว้างเช่นนี้ต้ งั แต่เมื่อไหร่
บอกนอนก็นอนกันเลย? นอนกันแล้ว? แถมยังนอนจนได้ลูกมาคน
หนึ่ง?
แล้ว….ผูเ้ ฒ่าซื่อมัว่ นัน่ จะทาอย่างไร?
“ฝ่ าบาท…..พระองค์ทรงทาไปแล้ว แถมยังสาเร็ จในครั้งเดียว?”
หยวนเฟยมีหรื อจะไม่กลัวตาย นางค่อยๆ ยืน่ ศีรษะออกมาจากในหมู่
คนด้านข้าง ถามเบาๆ ด้วยความระมัดระวัง
องค์หญิงใหญ่รีบกระตุกเสื้ อของนาง ดึงนางถอยออกมาด้านหลัง
กลัวตายแล้วยังจะพูดมาก ก็คือคนอย่างหยวนเฟยนัน่ เอง
ซูเม่ยหน้าเขียวคล้ า น้ าตาหยดแหมะๆ “ฝ่ าบาท พระองค์ช่างเป็ น
บุรุษไร้น้ าใจ หม่อมฉันอุม้ ครรภ์ทอ้ งโตเพียงนี้ พระองค์กย็ งั ….
กระทัง่ พระมารดาของตนเองก็ยงั ไม่ยอมวางมือ พระองค์ทรงทาให้
หม่อมฉันต้องอับอาย และยังทาให้ไทเฮาต้องอับอายอีกด้วย?”
“หม่อมฉันทากรรมอันใดเอาไวกัน ถึงได้ตอ้ งมาเจอกับ….บุรุษ….
เสเพล มิสู้ให้หม่อฉันกับบุตรในครรภ์โขกศีรษะกับกาแพงให้จบสิ้ น
ไป!” ซูเม่ยพูดพลาง ก็หนั ไปพุง่ ศีรษะเข้าไปที่หน้าต่างที่อยูใ่ กล้ๆ ตู๋กู
ซิงหลัน
เขาเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า จงใจจะให้ต๋ ูกซู ิงหลันรั้งเขาเอาไว้
“ซูเม่ย เจ้าฟังข้าอธิบายก่อน” ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่าตอนนี้ศีรษะของนาง
พองโตขึ้นมาอีกหลายเท่า
หากนางรู ้วา่ เป็ นฝี มือของลูกสะใภ้ตวั น้อยคนไหนละก็ นางจะต้อง
จับมาตีเสี ยให้เข็ด
“ฮือ ฮือ ฮือ ข้าไม่ฟัง ข้าไม่ฟัง” ซูเม่ยส่ ายศีรษะอย่างไม่คิดชีวิต
ร้องไห้น้ าตานองอย่างเจ็บช้ า ราวกับสะใภ้ที่ถูกทอดทิ้งอย่างชอกช้ า
เขากอดตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ สู ดจมูกเช็ดน้ าตาไปกับร่ างของนาง
จะไม่ให้ชอกช้ าจนใจสลายได้อย่างไร ผักกาดขาวที่สวยงามที่สุดที่
เขาคอยเฝ้าดูมาตั้งแต่เล็ก กับถูกไอ้หมูอย่างจีเฉวียนมารวบกินไป
แล้ว!
แถมยังจะมีไอ้ลูกหมูออกมาอีก! นี่ไม่เท่ากับว่าขยี้หวั ใจของเขา
หรอกหรื อ?
“ซูเม่ย เราคือโอรสสวรรค์ ย่อมต้องเผือ่ แผ่สายพิรุณโดยทัว่ ถึง การ
แผ่ขยายกิ่งก้านของราชวงศ์คือหน้าที่ของเราในฐานะโอรสสวรรค์”
จีเฉวียนลากตัวของเขาออกมาจากตู๋กูซิงหลัน “เจ้าเป็ นพระสนมของ
เรา เอะอะโวยวายทาจะเป็ นจะตายไปได้”
วิญญาณทมิฬ “สุ ดยอด ช่างเป็ นบุรุษที่ไร้น้ าใจโดยแท้”
ซูเม่ยหลัง่ น้ าตาเป็ นสาย สองมือโอบกอดตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ แต่กไ็ ม่
กล้าใช้แรงมากเกินไป
ด้วยเกรงว่าตอนนี้นางท้องแล้ว หากว่าไม่ระมัดระวังอาจทาให้นาง
เกิดอันตรายได้ นัน่ คงต้องยา่ แย่แน่ๆ
เช่นนี้เรี่ ยวแรงของเขาจะไปสู ้กบั จีเฉวียนได้อย่างไร เพียงครู่ เดียวก็
ถูกจีเฉวียนลากออกไปด้านข้าง
จีเฉวียนประทับลงข้างกายตู๋กูซิงหลัน ดวงเนตรหงส์จดจ้องมองนาง
ราวกับจะมองเข้าไปข้างในให้ทะลุปรุ โปร่ ง
พระองค์ไม่ทราบว่าเป็ นใครที่กล้าแตะต้องนาง
แต่พระองค์ทรงรู ้วา่ …..นางจะต้องไม่เต็มใจอย่างแน่นอน จะต้อง
ทุกข์ทรมานอย่างมาก
นับตั้งแต่ตอนที่หายตัวไปจากแคว้นเซอปี่ ซือ นางคงต้องรับความ
ทุกข์ทรมานมาโดยตลอด ….พระองค์กลับมิได้อยูเ่ คียงข้างนางใน
ยามที่นางตกระกาลาบาก นี่ถือเป็ นความผิดของพระองค์
จีเฉวียนนอกจากจะทรงพิโรธอย่างรุ นแรงแล้ว ก็ทรงปวดพระทัย
อย่างที่สุด
หากว่าเป็ นที่ผา่ นมา สตรี คนใดในวังหลังกล้าสวมเขาให้พระองค์ คง
ต้องจบชีวิตลงอย่างอนาถยิง่ กว่าความตายเสี ยอีก
…………………
ไรท์ : ตอนต่อไป “……….” (อย่าพึ่งบอกดีไหม)
——

[1] 趁火打劫: คนที่ถือโอกาสซ้ าเติมผูอ้ ื่นในยามเดือดร้อน


ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 350 เขาจะยอมรับเด็กคนนีเ้ อาไว้
จริงๆ?
แต่พอถึงคราวที่เป็ นตู๋กซู ิงหลัน…..พระองค์ถึงได้ทรงพบว่าที่แท้
แล้วพระทัยของพระองค์สามารถแผ่กว้างได้ถึงเพียงนี้
พระองค์รักนาง มิวา่ สิ่ งใดที่มาจากนางก็สามารถยอมรับได้
ไม่อาจปกป้องนางให้ดี นี่เป็ นความผิดของพระองค์เอง
“เราจะรับผิดชอบเอง จะดูแลเจ้าอย่างดีไปชัว่ ชีวิต” จีเฉวียนคว้ามือ
ของนางเอาไว้ สายพระเนตรจับจ้องใบหน้าของนางแลเลยไปถึง
ท้องของนาง
ถึงแม้วา่ พระองค์คงไม่อาจทาดีกบั เด็กคนนี้เสมอเหมือนเป็ นบุตร
แท้ๆ ของพระองค์เองได้ …..แต่กจ็ ะไม่ทาร้ายเขา
นี่ถือว่าเป็ นขอบเขตที่สุดของพระองค์แล้ว
ที่จริ งแล้ว……มีอยูช่ วั่ แวบหนึ่ง ที่พระองค์ทรงคิดจะให้นางกาจัด
เด็กคนนี้ทิ้งไป
แต่หากทาเช่นนั้นก็เป็ นการเห็นแก่ตวั จนเกินไป และยังเป็ นการทา
ร้ายนาง เขาไหนเลยจะกล้าทา
พระองค์ยนิ ยอมรับความทุกข์น้ นั เอาไว้แต่เพียงผูเ้ ดียว ขอเพียงแค่ให้
นางได้อยูด่ ีเท่านั้น
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ถูกการแสดงออกที่เหนือความคาดหมายของจี
เฉวียนทาเอาตกตะลึงไปแล้ว….เขากลับทนได้?
นี่เป็ นเพียงแค่การรับปากลอยๆ ภายหลังค่อยหาทางจัดการเขา
หรื อไม่?
แต่เมื่อมองเห็นดวงเนตรที่มีแต่ความเจ็บปวดและต้องฝื นอดกลั้น
เอาไว้ของจีเฉวียนแล้ว ก็ทาให้ความคิดนี้ของนางสลายหายไป
ที่เขาพูดเป็ นเรื่ องจริ ง
เขาคิดจะยอมรับ ‘เด็กคนนี้’ เอาไว้จริ งๆ?
เชี่ยเอ๊ย! มีเด็กกะผีน่ะสิ !
สองพี่ชายของตู๋กูซิงหลันเองก็มีสีหน้าไม่น่าดู ไม่น่าแปลกใจหากว่า
พวกเขาจะคิดหาหนทางชัว่ ร้ายขึ้นมาบ้าง
ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลตู๋กแู ละจีเฉวียนก็ไม่ดีอยูแ่ ล้ว พระองค์
กลับใช้กาลังบีบบังคับกับน้องเล็ก ทั้งยังทาให้นอ้ งเล็กตั้งครรภ์ นี่
เท่ากับเป็ นการจับมัดสองตระกูลเอาไว้ดว้ ยกัน
หมากตานี้ของจีเฉวียน เดินได้อย่างร้ายกาจ
ข้อนิ้วของตู๋กจู ุนที่กมุ ดาบเล่มใหญ่เอาไว้ถึงกับซีดขาว
มือของตู๋กซู ิงหลันถูกจีเฉวียนกุมเอาไว้จนแน่น นางย่อมรู ้สึกได้ถึง
ความสัน่ เทาที่เขาพยายามจะระงับเอาไว้
นางมองตรงเข้าไปก็เห็นว่าในดวงตาทั้งสองของเขามีละอองน้ าอยู่
ชั้นหนึ่ง
สวรรค์โปรด! นี่เขากาลังร้องไห้หรื อ?
ทั้งโกรธเกรี้ ยว เสี ยใจและชอกช้ า ทุกความรู ้สึกนั้นพากันกดทับลง
ไปในพระทัยของจีเฉวียน พระองค์ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ตนเองจะ
เป็ นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวเช่นนี้
เรื่ องใดก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตู๋กูซิงหลัน ล้วนสามารถสัน่ คลอน
พระองค์ได้ท้ งั นั้น
ตู๋กซู ิงหลันไหนเลยยังจะทนมองดูได้อีกต่อไป นางเงยหน้าขึ้นมอง
ไปยังเหล่าย่วนกล่าวว่า “ข้ายังมีร่างกายบริ สุทธิ์ผดุ ผ่อง จะมีทารกได้
อย่างไร?”
เหล่าย่วนผูน้ ้ ีอายุมากแล้ว สายตาก็ฟ่าฟาง สมองก็ไม่ค่อยแจ่มใส
เมื่อครู่ พอได้ยนิ ผูค้ นทั้งหลายร้องเรี ยกว่าไทเฮาอยูท่ ุกคา….เขาถึงได้
รู ้วา่ ตนเองชนตอเข้าแล้ว
ไอ้พวกลูกกระต่ายในสานักหมอหลวงพวกนั้นวางหลุมพรางดักเขา!
นี่มนั ใช่พระสนมคนโปรดที่ไหนกัน นี่มนั พระมารดาของฝ่ าบาท
ชัดๆ!
เหล่าย่วนตกใจจนแทบจะฉี่ราดออกมาในทันที เขารี บโขกศีรษะกับ
พื้นอย่างสัน่ เทา ลนลานตอบว่า “ไทเฮาพะยะค่ะ กระหม่อมอายุมาก
แล้ว สายตาฝ้าฟาง..บางที….อาจจะจับชีพจรไม่ถูก…..”
เนื่องเพราะอายุมากแล้ว ความสามารถในการจับชีพจรของเขาจึงไม่
ค่อยจะได้เรื่ อง….
เมื่อครู่ เขาคิดแต่จะเอาความชอบ กลับกลายเป็ นทาให้ตนเองพลัดตก
ลงไปในหลุมพราง
“ขอทรงอนุญาตให้กระหม่อมตรวจดูไทเฮาใหม่อีกครั้ง” เหล่าย่วน
วิงวอนอย่างน่าสงสาร
ตู๋กซู ิงหลันกลับไม่ยอมเชื่อถือเขาแล้ว นางกระตุกชายเสื้ อของจี
เฉวียน “ยังคงให้หมอหลวงซุนมาตรวจดีกว่าเพคะ”
ในวังหลวงนี้ หมอหลวงที่ต๋ ูกซู ิงหลันคุน้ เคยยังคงเป็ นหมอหลวงซุน
“ตอนนี้เขาเป็ นเพียงแค่คนต้มยา ไหนเลยจะเหมาะสมกับการมาจับ
ชีพจรถวาย…” เหล่าย่วนไม่เพียงชราแต่ยงั ดื้อรั้น ตนเองมีดาบพาด
คออยูแ่ ล้ว ยังจะไปเคร่ งครัดเอากับเรื่ องพวกนี้อีก
จีเฉวียนไม่สนพระทัยเขา หันไปสัง่ ให้หลี่กงกงไปเรี ยกซุนต้มยามา
เข้าเฝ้า
ซุนต้มยาเองก็หวั ใจตุ๊มๆ ต่อมๆ มาตลอดทาง เขาถูกลงโทษไปเป็ น
คนต้มยาแล้ว หากว่าเกิดความผิดพลาดใดอีก เกรงว่าต่อไปแม้แต่
อาชีพเลี้ยงปากท้องก็คงไม่มีแล้ว ได้แต่ตอ้ งกลับบ้านไปขอข้าวจาก
ภรรยาเท่านั้น
พอมาถึงตาหนักเฟิ่ งหมิง เห็นสี หน้าของผูค้ นในตาหนัก ในใจของ
ซุนต้มยาก็ตอ้ งสัน่ สะท้าน
“จับชีพจรถวายไทเฮา” จีเฉวียนไม่เอ่ยนา ก็มีรับสัง่ ออกไปในทันที
ซุนต้มยาได้แต่จบั ชีพจรถวายด้วยความระมัดระวัง ทันทีที่ปลายนิ้ว
สัมผัสลงไปตนเองก็ตอ้ งตกใจแทบกระโดด
เขาหันไปมองดูต๋ ูกซู ิงหลันด้วยความประหลาดใจครั้งหนึ่ง …ชีพจร
แบบนี้คล้ายกับจะเป็ นการตั้งครรภ์แล้ว?
ฝ่ าบาททรงลงมือรวดเร็ วถึงเพียงนี้?
ประหลาดแล้ว!
สายตาของเขาทาเอาตู๋กซู ิงหลันตื่นตระหนกขึ้นมา ตู๋กซู ิงหลันได้แต่
จ้องตาเขากลับไป
ก่อนหน้านี้ซุนต้มยารับเคราะห์ยากลาบากไปไม่นอ้ ย เขาย่อมไม่กล้า
เอ่ยวาจามัว่ ซัว่
เขาจับชีพจรอย่างละเอียด จังหวะของชีพจรนี้ ดูเผินๆ เหมือนจะเป็ น
ชีพจรมงคลอย่างคนที่ต้ งั ครรภ์ แต่พอสัมผัสดูให้ละเอียดกลับไม่ใช่
ชีพจรไหลลื่นเสมือนไข่มุกบนถาด แต่ในร่ างคล้ายจะมีขมุ พลัง
บางอย่างทะลวงเส้นชีพจรและช่องโพรง
เขาศึกษาวิชาแพทย์มานานหลายปี แต่กไ็ ม่เคยได้พบเจออาการเช่นนี้
มาก่อน แต่ที่สามารถบอกได้อย่างมัน่ ใจก็คือไม่ใช่การตั้งครรภ์อย่าง
แน่นนอน
ผ่านไปพักใหญ่ซุนต้มยาถึงได้เก็บมือกลับมา หันไปถวายบังคมจี
เฉวียนและตู๋กซู ิงหลัน ทูลว่า “ช่วงนี้ไทเฮาอาจทรงได้รับการบารุ ง
มากจนเกินไป ร่ างกายรับไม่ไหว เกิดความอึดอัดแน่นอยูภ่ ายใน
ร่ างกาย ดังนั้นจึงเกิดผลกระทบกระเทือนถึงชีพจร”
“กระหม่อมขอให้ฝ่าบาท พระสนมและขุนนางทุกท่านอย่าได้บงั คับ
ให้ไทเฮาทรงเสวยมากจนเกินไป บารุ งเกินควรก็มิใช่เรื่ องดี”
คราวนี้ ผูค้ นทั้งหลายถึงได้ถอนหายใจออกมาได้อย่างโล่งอก
“น้องเล็กตั้งครรภ์หรื อไม่?” สองพี่ชายตระกูลตู๋กูยงั คงมีสีหน้า
เคร่ งเครี ยด ด้วยเกรงว่าซุนต้มยาจะกล่าวเลื่อนเปื้ อนไป
ซุนต้มยารี บส่ ายศีรษะ “ตั้งครรภ์น้ นั เป็ นไปไม่ได้ ….พระนางยังทรง
เป็ นเพียงสาวน้อย ที่ร่างกายยังไม่ได้เติบโตเต็มที่”
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ถอนใจออกมา “ก็ใช่แล้ว เราดูแลรักษาตนประดุจ
หยกตลอดมา ไม่คิดจะเพิ่มเติมขนิษฐาหรื ออนุชาให้ฝ่าบาทหรอก”
หลายวันมานี้นางเองก็รู้สึกว่าร่ างกายผิดปกติอยูบ่ า้ ง คงจะเป็ น
เพราะว่าก่อนหน้านี้จีเฉวียนทรงถ่ายพลังหยินให้กบั นางมาก
จนเกินไป
คลื่นพลังที่แฝงด้วยไอหยินเหล่านั้น พอซึมซาบเข้าสู่ ร่างกายของนาง
แล้ว ก็ค่อยๆ ทาให้โครงกระดูกของนางเกิดความเปลี่ยนแปลงไป
ถึงแม้วา่ นางจะยังคงขาพิการ แต่กร็ ู ้สึกได้วา่ ภายในร่ างกายมีขมุ พลัง
ที่ใช้ได้ไม่มีหมด
ความรู ้สึกเช่นนี้ คงจะเป็ นเพราะกล้ามเนื้อในร่ างกายเกิดการเติบโต
กระมัง
เหล่าย่วนนัน่ ถึงกับตาค้างไปแล้ว เขาคุกเข่าอยูข่ า้ งหนึ่งไม่กล้าแม้แต่
จะผายลมออกมา
“ย่วนสื่ ออายุมากแล้ว ส่ งกลับบ้านเกิดไปใช้ชีวิตยามชราเถอะไป”
พระหัตถ์ของจีเฉวียนที่ยงั คว้ามือของตู๋กูซิงหลันอีกข้างเอาไว้ยงั คง
สัน่ น้อยๆ
พระองค์มีพระบัญชาออกไป ไม่เปิ ดโอกาสให้เหล่าย่วนได้กล่าว
วาจาใดๆ หลี่กงกงก็นาองครักษ์เข้ามาลากตัวคนออกไปทันที
“ซุนเชวี่ย นับจากวันนี้เป็ นต้นไปเจ้าก็คือย่วนสื่ อของสานักแพทย์
หลวง มีหน้าที่ดูแลรักษาพระวรกายของไทเฮาโดยเฉพาะ” ว่าแล้ว
ฝ่ าบาทก็ทรงมีราชโองการแต่งตั้งออกมา
ซุนต้มยา “???” โชคหล่นทับลงมาอย่างรวดเร็วราวกับมังกรสะบัด
หาง
นี่เขาหูฝาดไปหรื อไม่?
เพียงครู่ เดียวก็กระโจนจากเด็กต้มยาไปเป็ นย่วนสื่ อ?
การเลื่อนขั้นเช่นนี้เร็ วเสี ยจนเขามึนงงไปหมดแล้ว
แต่พอได้สติคืนมา เขาก็ตอ้ งรี บขอบคุณบรรพบุรุษของไทเฮาทั้งสิ บ
แปดรุ่ น ทั้งยังพยักหน้าติดๆ กัน “กระหม่อมจะต้องถวายการดูแล
สุ ขภาพและพระวรกายของไทเฮาเป็ นอย่างดี จะดูแลพระนางด้วย
ความเคารพเสมือนหนึ่งเป็ นบรรพบุรุษของตนเอง”
จีเฉวียน “เพ้ย! เจ้าอย่าได้บงั อาจมาเป็ นลูกหลานของนาง”
ซุนเชวี่ย ถึงกับหน้าซีด
……………..
พอเรื่ องเข้าใจผิดไปเองนี้จบไป ฮ่องเต้กท็ รงไล่หยวนเฟยกับซูเม่ยก
ลับอย่างไม่สนพระทัย
จากนั้นก็พลิกสี หน้ามาเชิญพี่ชายทั้งสองของตู๋กซู ิงหลันกลับอย่าง
เกรงอกเกรงใจ
องค์หญิงใหญ่น้ นั รู ้พระองค์ดี นางเป็ นฝ่ ายออกมาอาลาพาท่านหญิง
น้อยกลับไปด้วยตนเอง
เชียนเชียนก็ออกไปเฝ้าที่ดา้ นนอก
เมื่อภายในห้องเหลือเพียงจีเฉวียนและตู๋กซู ิงหลัน บรรยากาศก็เงียบ
สงบจนแปลกประหลาด
จีเฉวียนจดจ้องมองดูนาง สายพระเนตรที่จอ้ งมองมาทาเอาตู๋กูซิงห
ลันขนลุกชันทัว่ ร่ าง ในใจบังเกิดความรู ้สึกที่ไม่ค่อยดีสกั เท่าไหร่
ทันใดนั้นก็เห็นว่าจีเฉวียนกาลัง…..
…………………………….
ตอนต่อไป “อู๋เหนียงในตานาน”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 351 อู๋เหนียงในตานาน
ทันใดนั้นก็เห็นว่าจีเฉวียนกาลัง…..
พุง่ เข้ามา กอดนางเอาไว้
แล้วก็ร้องไห้!
ฝ่ าบาทกอดนางเอาไว้ แล้วก็สะอึกสะอื้น สะอื้นฮึกฮักอยูค่ รึ่ งค่อน
วัน
ตู๋กซู ิงหลันกลายเป็ นก้อนหินไปแล้ว
สวรรค์โปรด นี่มนั สถานการณ์อะไรกัน!
นางมองดูจีเฉวียนที่สะอึกสะอื้นซุกอยูต่ รงหัวไหล่ ตู๋กซู ิงหลันก็รู้สึก
ว่าตนเองที่เป็ นมารดาเลี้ยงสมควรจะต้องปลอบใจเขาเสี ยหน่อย
ลูกเลี้ยงคงได้รับความสะเทือนใจอันใดอย่างใหญ่หลวง จึงได้ทาท่า
เสมือนหัวใจถูกแทงมาเช่นนี้
นางลังเลอยูค่ รู่ หนึ่ง ค่อยยืน่ มือออกไปตบหลังของเขาเบาๆ กล่าวว่า
“เอ่อก็นะ…หม่อมฉันยังมิได้ถึงคราวจะไปสวรรค์เสี ยหน่อย แล้วก็
ไม่ได้ต้ งั ครรภ์ทารกที่ไหนด้วย ฝ่ าบาทกลับทรงร่ าไห้เช่นนี้ ใช่
เพราะว่าหม่อมฉันไปกระทาเรื่ องอกตัญญูต่อฟ้าดินอันใดหรื อไม่ ถึง
ได้ทาให้พระองค์ตอ้ งเสี ยพระทัยเช่นนี้?”
พอตู๋กซู ิงหลันเอ่ยปากขึ้นมา ฮ่องเต้ก็ทรงหลัง่ น้ าตาอย่างโศกเศร้า
กว่าเดิม
“ซิงซิง เราช่างไม่ได้เรื่ องเลยใช่หรื อไม่?” เขากอดนางเอาไว้ดว้ ย
ความเสี ยใจ วางคางอยูบ่ นหัวไหล่ของนาง
ตู๋กซู ิงหลันไม่ค่อยเข้าใจ นี่มนั เกี่ยวข้องอันใดกับเรื่ องที่เขาไม่ได้
เรื่ องด้วย?
“ตอนอยูแ่ คว้นเซอปี่ ซือ เราก็สูญเสี ยเจ้าไปแล้วครั้งหนึ่ง หากว่าเรื่ อง
ที่เจ้าตั้งครรภ์เป็ นจริ งขึ้นมา ก็ยงิ่ แสดงว่าเราปกป้องเจ้าไม่ดี เจ้าไม่รู้
หรอกว่าเมื่อครู่ เราอยากจะฆ่าบุรุษทิ้งไปให้หมดทั้งโลก”
ตู๋กูซิงหลัน “???” ไม่ใช่แล้วมั้ง ทาไมความสัมพันธ์ของพวกนางมัน
ถึงได้ไปคล้ายคลึงกับการเป็ นคู่รักกันเข้าไปทุกทีแล้ว?
“ยังโชคดี ที่ยว่ นสื่ อผูน้ ้ นั เลอะเลือนไปเอง”
ตู๋กซู ิงหลันรู ้แต่วา่ ไหปลาร้าของนางเปี ยกชุ่มไปด้วยหยดย้าตาของ
เขา ในใจของนางยิง่ เหมือนมีคลื่นโหมสาดเข้ามา…..
ชัว่ ขณะนั้นนางเองก็ไม่รู้วา่ สมควรจะพูดอะไรออกไปดี ได้แต่ใช้มือ
ตบแผ่นหลังของเขาเบาๆ ต่อไป
“ฝ่ าบาท ถึงแม้วา่ เรื่ องนี้จะเป็ นความเข้าใจผิดของพวกเราเอง แต่วา่
พระองค์กลับยอมรับต่อหน้าผูอ้ ื่นในห้องว่าท่านคือบิดาของเด็ก ไม่
เกรงว่าทรงหาความลาบากให้พระองค์เองหรื อเพคะ?”
ตู๋กซู ิงหลันกล่าวต่อไป “กระโดดออกไปเป็ น จอมยุทธ์รับจาน [1]
เช่นนี้ มิใช่นิสยั ที่พระองค์น่าจะกระทา”
จีเฉวียน “หากว่าเราคือบิดาของเด็ก เราไหนเลยจะต้องร้องไห้ ดีใจ
ละไม่วา่ ”
พระองค์ทรงครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่งก็ตรัสต่อไปว่า “จอมยุทธ์รับจานคือ
ผูใ้ ด เขาเก่งกาจมากหรื อ?”
คาถามนี้ต๋ ูกซู ิงหลันสมควรจะอธิบายให้เขาฟังอย่างไรดี?
“ก็คือ….วีรบุรุษที่ยอมละทิ้งเหตุผล ยอมทาทุกอย่างเพื่อความรัก”
“เช่นนั้นเราก็จะขอเป็ นจอมยุทธ์รับจานผูน้ ้ นั แล้ว” จีเฉวียนตรัสอย่าง
ตัดสิ นพระทัยแล้ว “เราก็คือยอดจอมยุทธ์รับจานเหล่าโก่วปี้ ”
วิญญาณทมิฬที่อยูข่ า้ งๆ แทบจะพ่นหัวเราะออกมาแล้ว ตู๋กซู ิงหลัน
เจ้ามันร้ายกาจจริ ง!
หากว่าฮ่องเต้สุนขั ได้รู้ถึงความหมายที่แท้จริ งของคาพวกนี้ละก็ เกรง
ว่าจะจับตัวนางมาฟาดก้นสามวันสามคืนก็ไม่หยุดเป็ นแน่
อยูๆ่ ตู๋กูซิงหลันก็ชกั จะรู ้สึกว่าเขาช่างน่ารักจริ งๆ
ตู๋กูซิงหลันปลอบเขาเบาๆ นางเห็นฝ่ าบาทขนาดมีน้ าตานองหน้า ก็
ยังมีสีพระพักตร์ที่เอาจริ งเอาจัง
ไหนเลยจะเหมือนยามปกติที่ป้ ันพระองค์เป็ นเทพเซียนผูเ้ ย็นชา
ประดุจภูเขาน้ าแข็งกัน
ยามนี้ต๋ ูกูซิงหลันถึงได้เข้าใจว่า พระองค์ทรงเป็ นคนธรรมดาที่มีชีวิต
เป็ นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวอย่างยิง่
เพียงแต่วา่ พระองค์เก็บงาความรู ้สึกเอาไว้มากเกินไป มิวา่ จะสุ ขทุกข์
หรื อว่าเป็ นเช่นไรก็ไม่ยอมแสดงออกมา นี่คงจะเป็ นผลมาจากการที่
ต้องต่อสู ้กบั คนทั้งในที่ลบั และที่แจ้งกระมัง
อยูๆ่ ตู๋กูซิงหลันก็ช่างจะรู ้สึกสงสารเขาตะหงิดๆ ขึ้นมาบ้าง
นางยืน่ มือออกไป ปาดเช็ดน้ าตาบนดวงพักตร์ของจีเฉวียนจนแห้ง
คนก็ค่อยๆ สงบลงทีละน้อย
“ฝ่ าบาททรงเป็ นคนดี”
นางทูลออกไป
“เราเพียงอยากดีกบั เจ้าเท่านั้น”
จีเฉวียนทรงปล่อยให้นางเช็ดพระพักตร์ให้ มือของนางแสนจะ
อบอุ่น พอสัมผัสถูกใบหน้าที่เย็นยะเยือกของเขากลับให้ความรู ้สึกที่
สบายเหลือเกิน
“ก่อนหน้านี้เราไม่ดีกบั เจ้า ต่อไปจะต้องชดเชยให้มากๆ”
พระองค์คว้ามือของตู๋กูซิงหลันเอาไว้ จดจ้องมองดูนาง ด้วยความ
เกรงว่านางจะไม่ยอมให้โอกาสพระองค์
……………………….
ที่ดา้ นนอกตาหนักเฟิ่ งหมิงกง ฉางซุนซิ่วเอ๋ อร์ยนื อยูน่ านแล้ว
นับตั้งแต่ที่ต๋ ูกซู ิงหลันกลับมา ผูค้ นทั้งหลายก็เอาแต่รายล้อมอยู่
รอบตัวนาง
ยังดีที่….ท่าทางนางจะมิได้รู้เลยว่าคนที่ลงมือกับนางยามที่อยูใ่ น
ช่องว่างของมิติเวลานั้น ก็คือตนเอง
ในต้าโจว เขายังคงเป็ นท่านราชครู ผสู ้ ู งส่ ง
จีเฉวียนเองก็ให้ความนับถือเขาตามสมควร
แต่เมื่อได้เห็นพวกเขายิง่ ทียงิ่ ใกล้ชิดกันอย่างหวานชื่น เขาก็รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวอีกต่อไป
สายลมยามค่าคืนเย็นยะเยือก ละอองหิมะที่ตกลงบนร่ างของเขากลับ
กลายเป็ นหมึกสี ดา
………………
พระตาหนักตี้หวั
กลางดึกสงัด สตรี วยั กลางคนผูห้ นึ่งถูกเรี ยกเข้าวัง
สตรี ผนู ้ ้ นั สวมชุดคลุมสี ดาหนาตลอดทั้งร่ าง กระทัง่ เดินเข้าไปใน
ตาหนักตี้หวั ร่ างกายถึงได้พบกับความอบอุ่นจากกระถางไฟที่จุดอยู่
ทัว่ ทั้งตาหนัก
ฮ่องเต้ทรงประทับอยูใ่ นห้องทรงพระอักษร ทรงฉลองพระองค์ที่ตดั
มาอย่างพอดีตวั ส่ งเสริ มให้เห็นถึงพระวรกายที่งดงามไร้ที่ติ
สตรี ผนู ้ ้ นั คุกเข่าอยูท่ ี่เบื้องหน้าของพระองค์ ทั้งที่กม้ ศีรษะลงไป ก็ยงั
อดไม่ได้ที่จะแอบมองฝ่ าบาทอยูห่ ลายครั้ง
ภายใต้แสงเทียนสลัว ช่วยทาให้พระองค์มิได้น่าหลงใหลจนเกินไป
“หม่อมฉันแม่สื่อของทางการนางอู๋ซื่อ ถวายพระพรฝ่ าบาท” นาง
ถวายคานับลงไป ขณะที่สายตาก็ยงั คอยกวาดอยูบ่ นพระวรกายของ
ฝ่ าบาท
จีเฉวียนทรงวางฏีกาในพระหัตถ์ลง เหลือบพระเนตรมองนางแวบ
หนึ่ง “นัง่ ลงได้”
สตรี ผนู ้ ้ นั ค่อยเสาะหาเก้าอี้นงั่ ลง
“หม่อมฉันขอขอบพระทัยในพระเมตตาของฝ่ าบาทแทนบุรุษที่บา้ น
ผูน้ ้ นั ช่วงก่อนหน้านี้เขาเป็ นแค่เด็กต้มยา จึงถูกญาติและคนใกล้ชิด
เห็นเป็ นที่ขบขันอยูไ่ ม่นอ้ ย ตอนนี้ได้เป็ นปลาพลิกตัว จึงกลับบ้าน
อย่างยินดีปรี ดา” นางอู๋ซื่อเป็ นคนที่รู้จกั หาหัวข้อมาสนทนา ถึงแม้วา่
ที่นงั่ อยูเ่ บื้องหน้าจะเป็ นฮ่องเต้นางก็ไม่ได้หวาดกลัวสักเท่าไร
ฮ่องเต้เองก็ทรงเป็ นคนเช่นกัน ….หากมิได้คิดการใหญ่ก่อกบฏอะไร
ก็คงจะไม่ถูกบัน่ หัวง่ายๆ หรอก
“ซุนเชวี่ยวิชาแพทย์สูงล้ า ตาแหน่งย่วนสื่ อนี้ให้เขาเป็ นก็ถือว่า
สมควรแล้ว” จีเฉวียนตรัสต่อไป “ก่อนหน้านี้เราละเลยเขาไป ต่อไป
ชีวิตของพวกเจ้าทั้งสองจะต้องดีข้ ึนอย่างแน่นอน”
“หม่อมฉันขอบพระทัยในพระเมตตาเพคะ” นางอู๋ซื่อก้มศีรษะลงไป
อีกครั้ง
จากนั้นนางก็จบคาสนทนาเรื่ องคนในครอบครัวลงไป ตนเองเป็ น
ฝ่ ายทูลถามจีเฉวียนว่า “ฝ่ ายมีรับสัง่ ให้หม่อมฉันมาเข้าเฝ้าในยามดึก
หรื อว่าเส้นทางในการไล่ตามความรักจากภรรยาประสบปั ญหาอัน
ใดหรื อเพคะ?”
ฝ่ าบาททรงพยักพระพักตร์ ปลายพระดัชนีเคาะลงกับโต๊ะทรงงาน
เบาๆ “อู๋เหนียงจื่อ เรารู ้สึกว่านางชอบเรา แต่กค็ ล้ายไม่ได้ชอบเรา”
“ฝ่ าบาทรับสัง่ เช่นนี้หมายความว่าอย่างไรเพคะ?” อู๋เหนียงจื่อรับฟัง
อย่างตั้งใจ ที่จริ งแล้วบุรุษที่งดงามอย่างเจิดจรัสและทรงอานาจเช่น
ฝ่ าบาท สตรี ใดบ้างเห็นแล้วจะไม่หวัน่ ไหวกัน
ตลอดชีวิตนี้นางผูกด้ายแดงมาแล้วนับไม่ถว้ น ที่ยากจะจัดการมาก
ที่สุดก็คือคุณชายเจ้าสาราญและคุณหนูสูงศักดิ์คู่น้ นั
นางถ่ายทอดประสบการณ์กว่าครึ่ งชีวติ ถวายฝ่ าบาทไปแล้ว ฝ่ าบาท
ยังทรงไล่ตามไม่สาเร็ จอีกหรื อ?
ในใจของอู๋เหนียงจื่อรู ้สึกวิตกแต่อย่างไรก็ยงั คงไม่ยนิ ยอม
ในโลกนี้ไม่ควรจะมีเรื่ องจับคู่มงคลใดที่นางทาไม่สาเร็ จต่างหาก
“นางมิได้ปฏิเสธความใกล้ชิดจากเรา แต่กลับยังไม่ยอมรับความ
จริ งใจของเรา” จีเฉวียนตรัสอย่างปวดพระเศียร ทรงรู ้สึกว่าหนทาง
ความรักของพระองค์มาถึงคอขวดแล้ว พระองค์ปรารถนาจะเข้าใกล้
ซิงซิงอีกก้าวหนึ่ง
“นี่….” สมองของอู๋เหนียงจื่อครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง นางเกือบจะหลุด
พูดออกมาว่าฝ่ าบาททรงเป็ นพวกบุรุษที่ถูกหลอกใช้เสี ยแล้ว
ประโยคนี้นางจะกล้ากล่าวออกไปได้อย่างไร มิใช่วา่ เท่ากับแส่ หา
ความตายหรอกหรื อ?
ดูเอาสิ ก็เล่นไม่ยอมรับแต่กไ็ ม่ปฏิเสธ แสดงว่าจะเก็บเอาไว้ใช้งาน
มิใช่หรื อไร?
“คงมิใช่วา่ สตรี ผนู ้ ้ นั มีคนในใจแล้ว และยังพัวพันกันอยู่ ถึงได้ปฏิบตั ิ
ต่อฝ่ าบาทเช่นนี้?” อู๋เหนียงจื่อกล่าวอย่างลื่นไหล
นางย่อมรู ้วา่ แม่นางผูน้ ้ นั ก็คือไทเฮาน้อยแต่กไ็ ม่กล้าระบุชื่อเสี ยงเรี ยง
นามออกไป
คนที่บา้ นนัน่ วิ่งวุน่ ระหว่างพระตาหนักเฟิ่ งหมิงกงและพระตาหนักตี้
หัวทั้งวัน ทั้งยังมักจะเอ่ยถึงเรื่ องที่เกี่ยวข้องกับฝ่ าบาทและไทเฮา
น้อยอยูห่ ลายครั้ง
นางกล่าวแค่ประโยคเดียวสี หน้าของจีเฉวียนก็เปลี่ยนไปในทันที
สมองของพระองค์ผดุ ชื่อของคนผูห้ นึ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ ว—ซื่อมัว่
บุรุษที่พระองค์เองก็ไม่เคยจะได้พบผูน้ ้ นั ช่างเหมือนกับวิญญาณร้าย
ที่คอยหลอกหลอนอยูเ่ สมอ
พออู๋เหนียงจื่อได้เห็นสี พระพักตร์ ก็รู้ทนั ทีเลยว่ามีคนเช่นนั้นอยูผ่ ู ้
หนึ่ง
——
ตอนต่อไป “ตู๋กถู ิง”
——

[1] 接盘侠:คนที่ยอมรับของเหลือ/ของหรื อคนที่ผอู ้ ื่นทิ้ง


(สานวนชาวเน็ต)
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 352 ตู๋กถู ิง
“ฝ่ าบาท พระองค์อย่าพึ่งทรงเสี ยพระทัย…” นางรี บปลอบประโลม
ต่อไป “ผ่านวันยาวนานค่อยเห็นน้ าใจ หอสู งใกล้น้ าได้รับแสงจันทร์
ก่อน ขอเพียงพระองค์จริ งใจ สตรี ผนู ้ ้ นั ต่อให้ใจแข็งเป็ นหิ นผาก็ตอ้ ง
อบอุ่นขึ้นมาอย่างแน่นอน”
“ลองคิดในทางที่ดีสิเพคะ จากที่นางเคยต่อต้านพระองค์ ยามนี้ก็
เปลี่ยนเป็ นไม่ปฏิเสธพระองค์แล้วมิใช่หรื อเพคะ? อีกเพียงก้าวเดียว
นางจะต้องยอมรับพระองค์อย่างแน่นอน”
อู๋เหนียงจื่อทางหนึ่งกราบทูล ทางหนึ่งก็ลว้ งสมุดเล่มเล็กออกมาจาก
ในอกเสื้ อ ภายในสมุดนั้นบันทึกเรื่ องราวความสาเร็ จในการจับคู่ที่มี
ความลาบากเอาไว้
มีท้ งั เรื่ องของบุรษที่ตามจีบสตรี และเรื่ องที่สตรี ไล่ตามบุุรุ ษ ทั้งหมด
ล้วนถูกบันทึกเอาไว้อย่างละเอียดยิบ
“ฝ่ าบาท ขนาดหวังหม่าจื่อแห่งโรงถลุงเหล็กทางตะวันตกของเมือง
ไปชอบพอดาวเด่นของหอบุปผา คนเขายังต้องใช้เวลานานถึงสิ บปี
จึงได้มาครอบครอง นี่ช้ ีให้เห็นว่าไม่มีเรื่ องใดยากไปกว่าความ
พยายามของคนเรา”
“พระองค์ยงั มีเงื่อนไขดีกว่าหวังหม่าจื่อผูน้ ้ นั ตั้งหลายพันหลายหมื่น
เท่านะเพคะ!”
“เราไม่ได้เรี ยกเจ้ามาปลอบใจ” จีเฉวียนทรงใช้พระหัตถ์ขา้ งหนึ่งเท้า
คาง “เราเรี ยกเจ้ามาวางแผนการ”
มิเช่นนั้นดึกดื่นค่อนคืนแล้วเขาจะเรี ยกแม่สื่อมาที่หอ้ งทรงอักษร
ทาไม
“ใช่แล้วเพคะๆ หม่อมฉันกล่าวมากความไปเอง” อู๋เหนียงจื่อยิม้
ละไมอยูใ่ นหน้า
ว่ากันตามจริ งนั้น…..นางก็เคยมอบแผนการไปมากมายแล้ว ในช่วง
สั้นๆ จะให้คิดขึ้นมาอีกก็ออกจะติดขัดอยูบ่ า้ ง
นางกวาดตาไปทางโต๊ะทรงงานของจีเฉวียนแวบหนึ่ง บังเอิญ
เหลือบไปเห็นชื่อ ‘ตู๋กถู ิง’ สามตัวที่อยูบ่ นฏีกาบนโต๊ะหนังสื อ
อู๋เหนียงจื่อตบหน้าผาก เกิดแผนการขึ้นมาในทันที
“ฝ่ าบาทเพคะ ที่พระองค์ทรงไล่ตามนางอย่างยากลาบาก ล้วนเป็ น
เพราะว่าทรงออกศึกอย่างเพียงลาพังเพคะ”
จีเฉวียน “หมายความเช่นไร?”
“ทรงลองคิดดูนะเพคะ หากว่ามีคนช่วยเหลือฝ่ าบาทตามจีบสตรี ผนู ้ ้ ี
นั้นมิเท่ากับว่าออกแรงเพียงครึ่ งเดียวก็สาเร็ จงานแล้วหรอกหรื อเพ
คะ?”
จีเฉวียน “เจ้าก็ช่วยเราอยูม่ ิใช่หรื อ?”
อู๋เหนียงจื่อ “……”
“นี่ไม่อาจกล่าวได้วา่ เหมือนกันนะเพคะ ฝ่ าบาท”
อู๋เหนียงจื่อเก็บสมุดของตนเองลงไป จากนั้นก็กราบทูลอย่างเป็ น
การเป็ นงานกับพระองค์วา่ “หากว่าคนในครอบครัวของแม่นางผูน้ ้ นั
ชื่นชมพระองค์ นอกจากพระองค์แล้ว พวกเขาจะไปสนใจผูอ้ ื่นผูใ้ ด
อีก ต่างพากันร่ าร้องอ้อนวอนให้แม่นางผูน้ ้ นั แต่งกับฝ่ าบาท ทรงคิด
สิ เพคะ….นี่ไม่เท่ากับสาเร็ จไปแล้วครึ่ งหนึ่งหรอกหรื อ?”
“ความหมายของเจ้าก็คือเราสมควรจะเริ่ มลงมือจากครอบครัวของ
นางก่อนรึ ?”
ในที่สุดจีเฉวียนก็ทรงพบหนทางแล้ว
“ถูกแล้วเพคะ!” อู๋เหนียงจื่อสายตาเป็ นประกาย “จะเกลี้ยกล่อมสตรี
ผูห้ นึ่ง สมควรค่อยๆ เริ่ มจากครอบครัวของนางก่อน โดยเฉพาะพวก
ผูอ้ าวุโส ขอเพียงพี่และผูอ้ าวุโสของนางชื่นชมฝ่ าบาท พระองค์ไหน
เลยจะยังไล่ตามนางไม่สาเร็ จ?”
คาพูดของอู๋เหนียงจื่อ จีเฉวียนได้ทรงฟังแล้วก็รู้สึกว่ามีเหตุผล
นี่กเ็ ช่นเดียวกับการวางกลยุทธ์ คิดจะกาจัดคนผูห้ นึ่ง สมควรเก็บคน
ข้างกายของเขาทิ้งไปเสี ยก่อน
ในทานองเดียวกัน คิดจะได้คนผูห้ นึ่งมา ย่อมต้องเริ่ มจากญาติสนิท
มิตรสหายของนางก่อน
ฝ่ าบาททรงพยักพระพักตร์ “เราเข้าใจแล้ว”
พระองค์หรี่ พระเนตรลง ทอดพระเนตรมองดูอกั ษรตัวใหญ่หลายตัว
ที่อยูบ่ นฏีกานั้น พระขนงขมวดมุ่น
เกรงแต่วา่ ตอนนั้นลงมือหนักไปหน่อย อาจทาให้คนในตระกูลตู๋กู
ทั้งบนล่างล้วนไม่พอใจในตัวของพระองค์น่ะสิ
แต่เพื่อซิงซิงแล้ว พระองค์จะต้องทรงทาให้พวกเขาชื่นชมพระองค์
ให้จงได้
สาหรับจีเฉวียนแล้ว นี่นบั เป็ นความท้าทายที่ไม่เล็กเลย
เนื่องเพราะก่อนหน้านี้ พระองค์ไม่เคยต้องสนใจความรู ้สึกของผูใ้ ด
มาก่อนเลย
ยิง่ ไม่มีทางยอมเสี ยแรงไปเพื่อการเอาอกเอาใจผูใ้ ดมาก่อน
ตอนนี้เพียงแค่สองพี่ชายตระกูลตู๋กูกเ็ พียงพอจะทาให้พระเศียรพอง
โตขึ้นมาแล้ว …..แต่ครั้งนี้ท่านปู่ ของนางก็จะกลับมาแล้ว……คงจะ
ยิง่ หนักหนากว่าเดิม
ปลายพระดัชนีที่เคาะลงไปบนโต๊ะทรงงานยิง่ ระรัวกว่าเดิม
“ฝ่ าบาท กับผูอ้ าวุโสพระองค์ยงิ่ สมควรจะแย้มสรวลให้มากๆ เข้าไว้
หากทาพระพักตร์เคร่ งขรึ มเหมือนสะสมความแค้นมาย่อมไม่มีผใู ้ ด
ชื่นชม” อู๋เหนียงจื่อสละชีวิตเข้าแลกไปหลายครั้งแล้ว
จึงทูลประโยคนี้ออกไปอย่างไม่กลัวถูกตัดหัว
ก่อนหน้านี้นางเคยแนะนาให้ฝ่าบาททรงแย้มสรวลอย่างอบอุ่น ไม่รู้
ว่าได้ผลเช่นไรบ้าง จะถามดูกไ็ ม่กล้า
ฝ่ าบาททรงครุ่ นคิดเล็กน้อย ก็แย้มสรวลออกมาอย่างลึกลับชัว่ ร้าย
“แบบนี้?”
อู๋เหนียงจื่อเกือบจะวิญญาณหลุดออกจากร่ างไปแล้ว
………………………………
เมื่อย่างเข้าสู่ วนั ที่สามของต้นฤดูหนาว [1] ประมุขของตระกูลตู๋กกู ็
กลับมาถึงในที่สุด
เมื่ออยูภ่ ายใต้บญั ชาการของท่านผูน้ าตระกูล ใช้เวลาเพียงสองปี ก็
สามารถยึดเอาแดนเป่ ยเจียงมาไว้ได้ท้ งั หมด
เดิมทีฮ่องเต้ทรงตระเตรี ยมจะพระราชทานงานเลี้ยงเสมือนงานเลี้ยง
ของราชวงศ์ให้ ถือเป็ นการเลี้ยงต้อนรับที่กลับมาจากแดนไกล แต่
ว่าตู๋กถู ิงกลับปฏิเสธไป
แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่ชอบความครึ กครื้ น อยูใ่ นสมรภูมิมานาน กลับ
บ้านเพียงคิดแต่จะอยูร่ วมกับคนในครอบครัวอย่างอบอุ่นเท่านั้น
เจียงเหม่ยหยูว่ นุ่ วายตั้งแต่เช้า
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตอ้ งเสี ยท่าให้กบั ตู๋กซู ิงหลันไปหลายครั้งหลาย
หน นางก็เปลี่ยนเป็ นสงบเสงี่ยมขึ้นมากแล้ว
เดิมทีนึกว่าสวรรค์มีตา ในที่สุดก็กาจัดนังสวะตู๋กซู ิงหลันทิ้งไป แต่
ใครจะไปนึกว่านางจะกลับมาได้อีก
ทั้งยังสร้างผลงานยิง่ ใหญ่เอาไว้ในเมืองกู่เย่ว แม้แต่ขนุ นางทั้งเล็ก
และใหญ่ในราชสานักต่างก็พากันสนับสนุนนาง
ยังดีนะ….ที่นงั สวะนัน่ มันขาพิการไปแล้ว นับว่าสวรรค์ยงั เมตตา
สงสารตนเองอยูบ่ า้ ง
หันมาดูเหลียนเอ๋ อร์ที่เคยรู ้จกั ต่อสู ้เพื่อตนเองของนางสิ ตอนนี้วนั ๆ
เอาแต่ทาตนเป็ นเต่าหดหัวอยูใ่ นกระดอง แม้แต่ความกล้าหาญที่จะ
ไปต่อสู ้แย่งชิงอะไรกับตู๋กซู ิงหลันก็ยงั ไม่มี
นางที่เป็ นถึงท่านย่ากลับไม่มีตาแหน่งใดๆ ในบ้านเลยสักนิด
ยังดี นายท่านกลับมาแล้ว นางก็ถือได้วา่ มีที่พ่ งึ พิง
………………………..
ฤดูหนาวของทุกปี ต้นไม้ทวั่ เมืองหลวงล้วนถูกปกคลุมไปด้วยด้วย
หิมะและน้ าแข็งจนเป็ นสี ขาวเงินเปล่งประกาย
คนในจวนตระกูลตู๋กตู ่างก็พากันวุน่ วายเป็ นการใหญ่ หิ มะภายใน
จวนถูกกวาดเสี ยจนสะอาดเกลี้ยงเกลา
ต้นไห่ถางภายในจวนต่างก็โรยจนหมดแล้ว บนต้นมีแต่เกล็ดน้ าแข็ง
งดงามอย่างยิง่
วันนี้นายท่านกลับมาถึงจวนเป็ นวันที่สาม ตระกูลตู๋กจู ดั งานเลี้ยง
ฉลองภายในครอบครัว มีผสู ้ ู งศักดิ์และขุนนางไม่นอ้ ยส่ งของขวัญมา
แต่ท้ งั หมดล้วนถูกนายท่านปฏิเสธไป
เขาก็เป็ นคนเช่นนี้ตรงไปตรงมามากเกินไป นับตั้งแต่ปฐมฮ่องเต้ยงั
ทรงพระชนม์อยูแ่ ล้ว คนในราชสานักต่างก็รับทราบนิสัยของเขาดี
ถึงจะถูกปฏิเสธที่หน้าประตูต่างก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรอีก
ดูเอาเถอะ…..ด้วยนิสยั เช่นนี้ของเขา เกรงว่าอีกเพียงไม่กี่วนั คง
จะต้องมีเรื่ องขัดแย้งกับฮ่องเต้เป็ นแน่
วันคืนของตระกูลตู๋กเู พิ่งจะดีข้ ึนได้เพียงไม่กี่วนั เกรงว่าก็คงจะ
พังทลายลงไปในมือของตู๋กูถิงเสี ยแล้ว
เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างก็รู้ดีวา่ ตู๋กถู ิงนั้นแข็งกระด้างและเถรตรง
เสี ยจนกระทัง่ งานเลี้ยงที่ฝ่าบาททรงพระราชทานให้ดว้ ยพระองค์เอง
ก็ยงั กล้าปฏิเสธ
จุ๊ จุ๊….ด้วยพระอุปนิสยั ของฝ่ าบาท ที่จริ งแล้วก็คงจะชังน้ าหน้าของ
เขาตั้งแต่แรกแล้วเช่นกัน
ถนนตงต้าเจีย [2] ก็มิได้คึกคักเช่นนี้มานานแล้วผูค้ นไม่นอ้ ยต่างก็
ชุมนุมอยูใ่ นระแวกใกล้ๆ กับจวนตระกูลตู๋กู
ต่างก็อยากจะรอชมดูเสี ยหน่อยว่า ในวันที่เลี้ยงฉลองกันภายในบ้าน
เช่นนี้ ฝ่ าบาทจะทรงลงแส้กบั ตู๋กถู ิงเป็ นการตัดไม้ข่มนามเขาหรื อไม่
เนื่องเพราะการปฏิเสธพระเมตตาของฝ่ าบาทอย่างชัดแจ้งเช่นนี้
แสดงให้เห็นว่าดวงตาของเขานั้นเย่อหยิง่ เพียงไร ทาเช่นนี้มิเท่ากับ
ถือว่าตนมีผลงานเหนือล้ ากว่าเจ้าแผ่นดินหรอกหรื อ?
ภายในจวนตระกูลตู๋กู ตู๋กถู ิงถอดชุดเกราะออกแล้ว เขาสวมใส่ ชุดสี
เขียวที่เรี ยบหรู ยนื อยูใ่ ต้ตน้ ไม้ที่เย็นจนมีน้ าแข็งเกาะพราว
คนอายุได้หกสิ บกว่าแล้ว เส้นผมแซมด้วยสี ขาว แต่มองดูแล้วสุ ข
ภายร่ างกายก็ยงั คงแข็งแกร่ ง หากมองดูเฉพาะเงาหลังยังต้องเข้าใจว่า
เป็ นคนหนุ่มแน่นผูห้ นึ่ง
เส้นผมของเขาขมวดเป็ นมวยเอาไว้ บนมวยนั้นปั กปิ่ นไม้อยูช่ ิ้นหนึ่ ง
ตลอดทั้งร่ างเปล่งประกายสู งส่ ง
“นายท่าน ท่านกลับมาช้าไปเสี ยหน่อยแล้ว จึงไม่ทนั ได้เห็นวันที่
ดอกไม้ผลิบาน” ในตอนนั้นเอง เจียงเหม่ยหยูก่ เ็ ดินเข้ามาพร้อม
รอยยิม้ เกลื่อนใบหน้า ในมือของนางมีเสื้ อคลุมกันหนาวตัวหนึ่ง
มาถึงก็คลุมลงไปบนร่ างของเขา
——
ตอนต่อไป “ทุกเรื่ องให้คานึงถึงน้องสาวเป็ นหลัก”

[1] 冬月初三: วันที่สามของฤดูหนาวในปี นั้นๆ โดยนับตาม


ปฏิทินจันทรคติตกประมาณปลายเดือน11หรื อต้นเดือน12

[2] 东大街: ถนนสายตะวันออก


ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 353 ทุกเรื่ องให้ คานึงถึงน้ องสาวเป็ น
หลัก
“นับตั้งแต่ที่ท่านจากไป ข้าก็คอยดูแลเอาใจใส่ ตน้ ไห่ถางเหล่านี้
ประดุจเป็ นชีวิตตนเอง ตอนที่ดอกไม้ผลิบานนั้น เป็ นสี แดงราวแสง
ไฟจับอยูท่ วั่ ไปหมด น่าชมอย่างยิง่ จริ งๆ” เจียงเหม่ยหยูพ่ ดู พลางก็
วางสองมือลงบนบ่าของเขา
ตู๋กถู ิงหันมาเหลือบมองดูนางแวบหนึ่ง ก็ได้ยนิ เจียงเหม่ยหยูก่ ล่าว
ต่อไปว่า “ข้าน่ะคิดถึงท่านเหลือเกิน คิดถึงท่านเสี ยจนใกล้จะคลุม้
คลัง่ แล้ว”
วันนี้นางแต่งหน้าแต่งตามาเป็ นพิเศษ สวมชุดลายดอกไม้ผลิบาน ตู๋
กูถิงเห็นแล้วกลับสงสัยว่าบนใบหน้าของนางใช่โปะแป้งลงไปถึง
หนึ่งชัง่ ใช่หรื อไม่
“นายท่าน สองปี ที่ท่านไม่อยูน่ ้ ี ข้าเป็ นทุกข์จนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
เสี ยจริ งๆ” เห็นเขามิได้มีท่าทีปฏิเสธ เจียงเหม่ยหยูก่ ย็ งิ่ เคลื่อนไหว
ต่อไป นางเกาะยึดหัวไหล่ของตู๋กถู ิงเอาไว้ แทบจะโผศีรษะลงไปซบ
ยังไม่ทนั ได้ซบลงไป ก็เห็นตู๋กถู ิงยืน่ มือขึ้นมาปั ดผ่านใบหน้าของ
นางเบาๆ ก็ปาดเอาแป้งหนาๆ บนใบหน้าของเจียงเหม่ยหยูอ่ อกมา”
เจ้าเล่นไร้สาระอะไร แป้งน่ะมีไว้สาหรับทาอาหาร อย่าได้สิ้นเปลือง
เอามาพอกบนใบหน้าสิ สตรี สูงวัยก็สมควรจะมีลกั ษณะของสตรี สูง
วัย”
เจียงเหม่ยหยู่ “…….”
นางอุตส่ าห์ประทินโฉมเป็ นพิเศษมาตั้งแต่เช้า กลับถูกเขาปาดทิ้ง
ออกมาเช่นนี้!
แถมยังออกปากเรี ยกนางเป็ นสตรี สูงวัยอยูท่ ุกคา?
เจียงเหม่ยหยูร่ ู ้สึกว่าตนเองกาลังจะเป็ นบ้าไปแล้ว
หากจะบอกว่าเขาเป็ นคนไม่มีอารมณ์อ่อนหวาน ตอนที่เจียงเย่วยังมี
ชีวิตอยู่ มิวา่ จะเป็ นเครื่ องประทินโฉม หรื อเครื่ องบารุ งผิวใดๆ เขา
กลับซื้อเข้าบ้านมาเป็ นกุรุส ยิง่ พวกชาดแต้มตาทาปากก็ยงิ่ ซื้อมาถม
เอาไว้ในบ้านเป็ น**บๆ
แม้วา่ สิ่ งของเหล่านั้นเจียงเย่วแทบจะไม่สนใจเสี ยเลยด้วยซ้ า
ยามที่เจียงเย่วไม่แต่งหน้าทาปาก เขาก็ชมว่าเจียงเย่วเหมือนดัง่
เทพธิดาดอกบัว บริ สุทธิ์สะอาดเหนือโคลนตม ยามที่เจียงเย่วแต่ง
หน้าประทินโฉม เขาก็ชมว่านางงดงามเหมือนดัง่ เทพธิดาดอกมู่ตาน
แต่ทาไมพอมาถึงนาง กลับกลายเป็ นหญิงชราโปะหน้าด้วยแป้ง
ทากับข้าวไปได้?
“นายท่าน ท่านกล่าวเช่นนี้ทาให้ขา้ เสี ยใจแล้วนะรู ้ไหม” เจียงเหม่ย
หยูย่ งั ไม่ยอมถอดใจ “ข้าทาไปก็มิใช่เพราะเห็นแก่หน้าตาของท่าน
หรอกหรื อ ถึงได้พยายามแต่งเนื้อแต่งตัวให้ดี”
“หน้าตาของอ๋ องเช่นข้ายังต้องให้เจ้ามาคอยค้ าไว้หรื อยังไง?” ตู๋กูถิ
งไม่อยากจะสนทนากับนางเท่าไรนัก
เขาถอยมาก้าวหนึ่งก็เดินเข้าไปในห้องโถง
หลานชายทั้งสองเข้าวังไปรับตัวหลานสาวสุ ดที่รักของเขาแล้ว เขา
เองก็รออยูน่ านแล้ว น่าจะใกล้มาถึงแล้วกระมัง
นับตั้งแต่ที่เขากลับมาเมืองหลวง ก็ยงั ไม่ได้พบกับหลานสาวสุ ดที่รัก
ของตนเองเลย
จนถึงกับต้องทูลถวายฏีกา ขอให้ฝ่าบาททรงประทานอนุญาตให้
หลานสาวสุ ดที่รักได้กลับมาร่ วมรับประทานอาหารของครอบครัว
ด้วยกัน
นับตั้งแต่ที่เจียงเย่วสิ้ นไป เขาก็ได้สาบานเอาไว้วา่ ชีวิตนี้จะไม่กา้ ว
เท้าเข้าวังอีกแม้แต่กา้ วเดียว
หลายปี มานี้กเ็ อาแต่นาทัพออกรบมาโดยตลอด ถึงแม้วา่ นานๆ ครั้ง
จะกลับมาเมืองหลวง แต่กไ็ ม่เคยเข้าไปในวังสักครั้ง
ไม่ร่วมประชุมขุนนาง ไม่ไถ่ถามเรื่ องของราชสานัก ไม่เข้าเฝ้าฮ่องเต้
ช่วงแรกๆ ยังมีผคู ้ นวิพากษ์วิจารณ์เขากันยกใหญ่ แต่วา่ พอเนิ่นนาน
ไป ผูค้ นต่างก็พากันคุน้ เคยเสี ยแล้ว
แม้แต่ฮ่องเต้เองก็ยงั ลืมพระเนตรข้างหนึ่งหลับพระเนตรข้างหนึ่ง ขอ
เพียงแต่วา่ เขายังทางานให้แคว้นต้าโจว พระองค์กย็ งั ยอมปล่อยเขา
เอาไว้
เจียงเหม่ยหยูแ่ ทบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว นางยกกระโปรงหนาๆ
ขึ้นมา รี บก้าวเท้าติดตามไป
“นายท่าน ถึงอย่างไรข้าก็เป็ นภรรยาน้อยของท่าน นับตั้งแต่ที่พี่สาว
จากไป จวนตู๋กนู ้ ีก็เหลือแต่ขา้ เป็ นสตรี อยูเ่ พียงผูเ้ ดียวแล้ว”
“หากพี่สาวทราบว่านายท่านละเลยข้าเช่นนี้ มิรู้วา่ ยามอยูใ่ นปรภพจะ
รู ้สึกเสี ยใจเพียงไร”
เจียงเหม่ยหยูท่ างหนึ่งใช้ผา้ เช็ดหน้าซับน้ าตา ทางหนึ่งก็เหลือบ
มองดูต๋ ูกูถิง
พอนางพูดจบ ก็เห็นตู๋กถู ิงหยุดเท้าลง เขาหันหน้ากลับมา คว้าข้อมือ
ของนางเอาไว้ในทันที “เจ้ารู ้หรื อไม่ ที่เจ้าสามารถมีชีวิตสุ ขสบาย
ปลอดภัยมาได้จนถึงทุกวันนี้ ล้วนเป็ นเพราะฮูหยินทั้งนั้น?”
เจียงเหม่ยหยูต่ กตะลึงไปแล้ว ตอนนี้นางอยูอ่ ย่างสุ ขสบายหรื อ?
นางถูกรังแกจนถึงขนาดนี้แล้วต่างหาก? นายท่านตาบอดไปแล้ว
หรื อไม่?
ยิง่ ไปกว่านั้น ยังต้องอยูอ่ ย่างน่าอดสู ทั้งหมดนี้นางต้องต่อสู ้แย่งชิง
มาทั้งนั้น เจียงเย่วเคยทาอะไรที่ไหนให้กบั นางกัน?
“ตอนนั้นหากมิใช่เพราะว่านางพยายามปกป้องเจ้าอย่างสุ ดชีวิต เจ้าก็
คงตายไปในการสังหารหมู่ในแคว้นกู่เย่วไปแล้ว”
ตู๋กถู ิงเค้นเสี ยงเบาอยูใ่ นลาคอ เขาแทบจะบีบของมือของเจียงเหม่ย
หยูห่ กั ไปอยูแ่ ล้ว
เขากล่าวเพียงประโยคเดียว ก็ทาให้เจียงเหม่ยหยูต่ วั แข็งค้างไป
ในทันที พอคิดย้อนกลับไปถึงยามที่เลือดไหลนองดัง่ ท้องธารขึ้นมา
นางก็ยงั ต้องขวัญผวาอยูจ่ นถึงตอนนี้
ใช่ นางยอมรับว่าตอนนั้นเจียวเย่วช่วยนางเอาไว้….
แต่วา่ ดูเจียงเย่วสิ นางสกปรกโสโครกถึงเพียงไหน? ก็แค่เกิดมามี
ใบหน้าสะสวยเท่านั้นมิใช่หรื อ ทาไมเหล่าบุรุษทั้งหลายต่างต้องพา
กันไปชอบพอนางด้วย?
นางมันก็เหมือนกับน้ าคราสกปรก ที่ใครไปสัมผัสโดนเข้าก็ลว้ นไม่
มีจุดจบที่ท้ งั นั้น!
ฟ่ านอิง ปฐมฮ่องเต้ แล้วก็ยงั มีเหลียงจวิน้ อ๋ อง ดูบุรุษเหล่านี้สิ มีใคร
ที่มีจุดจบที่ดีบา้ ง?
หึ ก็เหลือแต่ต๋ ูกถู ิงเท่านั้น
แต่ถึงแม้วา่ จะดูเหมือนว่าเขามีชีวิตอยูอ่ ย่างมีเกียรติ แต่ความจริ งแล้ว
ล่ะ? นอกจากทาสงครามก็คือทาสงคราม ราวกับเป็ นศพเดินได้ที่ไร้
ชีวิตจิตใจ เคยมีชีวิตอย่างมีความสุ ขที่ไหนกัน?
“จงจดจาความดีของฮูหยินที่ทาเพื่อเจ้าเอาไว้ให้ดี อยูใ่ นจวนก็อย่าได้
คิดหาเรื่ องทาร้ายตนเอง ข้าสามารถจะให้เจ้าอยูอ่ ย่างไม่ลาบากไป
ตลอดชีวิต” ตู๋กถู ิงสะบัดนางออกไป ทั้งยังปั ดเศษแป้งที่อยูบ่ น
หัวไหล่
ท่าทางที่รังเกียจเช่นนั้น ทาร้ายจิตใจของเจียงเหม่ยหยูอ่ ย่างรุ นแรง
นางเองก็เคยผ่านวัยเยาว์มาก่อน เคยเป็ นสาวน้อยที่หวัน่ ไหวใจด้วย
ความหลงใหล
ตอนนั้นยามอยูใ่ นเมืองกู่เย่ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นตู๋กถู ิง นางก็ถูก
แม้ทพั หนุ่มน้อยผูน้ ้ ีดึงดูดจิตใจไปแล้ว
เขาขี่มา้ ตัวสู งใหญ่ รวบผมทรงหางม้าสู ง สวมชุดเกราะสี เงินยวง
ไพล่หอกเอาไว้ดา้ นหลัง สง่างามเหมือนดัง่ เทพบุตรที่เดินออกมา
จากในหนังสื อ
ในตอนนั้น นางไม่สนใจความขัดแย้งของทั้งสองแคว้น เพียงแต่
ต้องการได้อยูร่ ่ วมกับเขาเท่านั้น
ตลอดหลายปี มานี้ ไม่เคยมีเวลาไหนหรื อเมื่อไรที่นางจะไม่
ปรารถนาจะได้หวั ใจของเขามา
แต่วา่ ถึงแม้เจียงเย่วนางคนสวะนัน่ จะตายไปหลายปี แล้วก็ตาม หัวใจ
ของตู๋กถู ิงก็ยงั คงอยูก่ บั นาง
เจียงเย่วถือว่ามีดีอะไร?
เรื่ องที่ถูกจีจา้ นกระทาชาเราต่อหน้าผูค้ นมากมาย ใครๆ ต่างก็ได้รู้ได้
เห็น นางยังจะมีหน้ามาแต่งเป็ นภรรยาหลวงของตู๋กถู ิงอีก
ทั้งๆ ที่รู้อยูว่ า่ ตนชอบตู๋กถู ิง แต่นางกลับทิ้งจีจา้ น มาแก่งแย่งตู๋กถู ิง
กับตน?
มีพี่สาวเช่นนี้ตนยังจะต้องขอบคุณนางอยูอ่ ีกหรื อ?
หัวใจของเจียงเหม่ยหยูย่ งิ่ เกิดความชิงชังรังเกียจมากกว่าเดิม
นางยืนอยูข่ า้ งกายตู๋กถู ิง ก้มศีรษะลงไป สายตามีแต่ประกายเคียด
แค้น
ในตอนนั้นเอง ภายในสวนก็เกิดเสี ยงเอะอะขึ้นมา เป็ นตู๋กสู องพี่นอ้ ง
กลับเข้ามาแล้ว
คนหนึ่งสวมเกราะสี เงิน คนหนึ่งสวมชุดสี ขาว คนหนึ่งองอาจ คน
หนึ่งหล่อเหลา ต่างก็เป็ นลักษณะของคุณชายอันดับหนึ่ง
ตู๋กถู ิงเดินออกไปอย่างเร่ งร้อนอยูบ่ า้ ง เขามองผ่านพวกเขาไป
ทางด้านหลัง “น้องสาวของพวกเจ้าล่ะ? ทาไมไม่รับกลับมา? พวก
เจ้าทั้งสองที่เป็ นบุรุษตัวโตมีประโยชน์อะไร?”
ว่าแล้ว ก็ไม่รอให้ท้ งั สองได้เอ่ยปาก ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ หวั ของพวก
เขาแต่ละคน
ตู๋กจู ุนและตู๋กเู จวี๋ยกระทัง่ ลมก็ยงั ไม่กล้าผาย ได้แต่ยอมให้เขาทุบตี
“บอกกี่ครั้งกี่หนแล้ว ทุกเรื่ องให้เห็นแก่นอ้ งสาวเป็ นสาคัญ น้องสาว
ยังไม่กลับมา พวกเจ้าสองคนกลับมาทาอะไร?”
ตู๋กถู ิงระเบิดอารมณ์ไม่พอ ยังหันไปคว้าเอาไม้กวาดที่อยูด่ า้ นข้าง
ขึ้นมา ฟาดตีลงไปบนร่ างของทั้งสองรอยหนึ่ง
ตู๋กูเจวี๋ยเจ็บจนร้องโอดโอย รี บหลบไปอยูข้ า้ งหลังของตู๋กูจุน
ตู๋กจู ุนก็ยดื ร่ างเอาไว้ รับการทุบตีอย่างตรงๆ
เป็ นเช่นนี้มาตั้งแต่เล็กจนโต เขาเองก็ชินเสี ยแล้ว
“ท่านปู่ ฮ่องเต้ผนู ้ ้ นั กักตัวคนเอาไว้ไม่ยอมปล่อย พวกเราจะไปทา
อะไรได้ ตัดศีรษะเขาได้หรื อไม่เล่า…โอ้ยๆๆ …..” ตู๋กเู จวี๋ยกระโดด
ออกไปสามครั้งติดๆ กัน หลบหนีไม้กวาดของท่านปู่ ด้วยความ
รวดเร็ วประหนึ่งงูเลื้อย
อย่าได้เห็นว่าเป็ นแค่เพียงไม้กวาด ฟาดโดนคนขึ้นมาก็เจ็บเอาเรื่ อง
เขาไม่ได้ถูกตีมาสองปี แล้ว อยูๆ่ ก็กระหน่าลงมาเช่นนี้รับไม่ไหว
จริ งๆ
——
ไรท์: ในที่สุดท่านปู่ ก็เผยโฉมแล้ว ท่านปู่ ที่หล่อแบบรุ่ นใหญ่แถมใส่
ชุดเขียวทาให้ไรท์คิดถึงอึ้งเอี๊ยซือในดาบมังกรหยกเลย
ว่าด้วยเรื่ อง อ๋ อง: อ๋ องเป็ นตาแหน่งบรรดาศักดิ์ที่ฮ่องเต้พระราชทาน
ให้มีหลายแบบนะจ๊ะ แต่จะขอกล่าวถึงกว้างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่ องของเรา
เท่านั้น

ชินอ๋ อง (亲王) : พระญาติสนิท เช่น พี่นอ้ งร่ วมบิดามารดา ส่ วน


ใหญ่จะได้ตาแหน่งนี้ตอนที่ ไท่จื่อขึ้นเป็ นฮ่องเต้ แล้วแต่งตั้งพี่นอ้ ง
ร่ วมพระมารดาที่มีช่วยเหลือกันเป็ นชินอ๋ อง

จวิน้ อ๋ อง (郡王) : อ๋ องที่ปกครองแว่นแคว้น มณทลต่างๆ อาจเป็ น


ญาติห่างๆ หรื อขุนนางระดับสู งที่ถูกมอบหมายไปดูแลท้องที่
ห่างไกล
ทั้งนี้บรรดาศักดิ์และทรัพย์สินของอ๋ องสามารถส่ งต่อให้กบั ทายาท
ของตระกูลได้เป็ นการรักษาฐานะและอานาจไว้กบั ตระกูลใหญ่เพียง
ไม่กี่ตระกูล
ตู๋กถู ิงเรี ยกตนเองเป็ นอ๋ อง เพราะเขาเองก็เหมือนกับเหลียงป๋ อ (เหลี
ยงจวิน้ อ๋ อง) ที่ได้รับการแต่งตั้งจากคุณงามความดีที่รับใช้แผ่นดิน
ตอนต่อไป “ยังคงเป็ นพี่ใหญ่ที่เอ็นดูขา้ !”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 354 ยังคงเป็ นพีใ่ หญ่ ที่เอ็นดูข้า
“อ๋ อเดี๋ยวนี้รู้จกั เถียงแล้วใช่หรื อไม่?” ตู๋กถู ิงฟาดไม้กวาดออกไปใส่
แรงมากกว่าเดิม
“ที่ไม่ได้เรื่ องที่สุดก็คือเจ้า เจ้ารอง บอกให้เจ้าฝึ กวรยุทธ์กไ็ ม่ยอมฝึ ก
รู ้จกั แต่ใช้ปากพูดมากดีนกั ในเมื่อเจ้าพูดเก่งถึงเพียงนี้ ทาไมไม่เห็น
กล่อมให้ฮ่องเต้ทรงปล่อยน้องสาวของเจ้ากลับมาเฮอะ?”
“ท่านปู่ เองก็ถวายฏีกาไปแล้วมิใช่หรื อ? ก็ไม่เห็นว่าท่านจะพาน้อง
เล็กกลับมาได้เหมือนกันนิ” ดูท่าตู๋กเู จวี๋ยคงจะเกรงว่าตนเองจะมี
ชีวิตอยูน่ านเกินไปแล้ว ถึงได้กล้ามาต่อปากต่อคากับตู๋กถู ิง
แต่เขาก็หลบลี้เก่งกาจนัก ท่านปู่ ฟาดไม้กวาดมาทีไร ล้วนฟาดลงไป
ที่ร่างของพี่ใหญ่ท้ งั สิ้ น
ตู๋กจู ุนไม่ร้องแม้แต่คาเดียว ทั้งยังตัดสิ นใจออกปากปกป้องตู๋กเู จวี๋
ยอีกด้วย
“ท่านปู่ น้องรองร่ างกายไม่แข็งแรง ก่อนหน้านี้ยงั ถูกเทพธิดาแห่ง
สายน้ าลี่เหอกักตัวเอาไว้ใต้ดินนานถึงเกือบเดือน ท่านลงมือเบาๆ
หน่อย อย่าได้ตีเขาจนตาย”
ตู๋กเู จวี๋ยน้ าตาไหลพราก “ยังคงเป็ นพี่ใหญ่ที่เอ็นดูขา้ !”
“ไอ้เจ้ากระต่ายเปรี ยว กล้าไปท้าทายเทพพิทกั ษ์สายน้ า ไม่มี
ความสามารถจะออกมาเอง ยังจะต้องให้นอ้ งสาวไปช่วยเจ้า เจ้ามัน
น่าจะถูกเทพธิดาแห่งสายน้ าส่ งไปสวรรค์ยงิ่ นัก!” ตู๋กถู ิงโกรธจน
หนวดเคราปลิวกระจาย ถลึงตาโต “น้องสาวอายุเท่าไร่ เจ้ามันอายุ
เท่าไหร่ วันทั้งวันรู ้จกั แต่หาเรื่ องให้นอ้ งสาว เจ้ารู ้จกั ความละอาย
บ้างหรื อไม่?”
“ยังมีเจ้าอีก เจ้าใหญ่! ตัวหรื อก็ใหญ่โตเสี ยเปล่า กลับไม่เห็นเจ้า
ปกป้องน้องสาวให้ดี!”
ตู๋กจู ุน “ท่านปู่ ข้าผิดไปแล้ว”
สองพี่นอ้ งถูกอบรมให้ปกป้องน้องสาวด้วยชีวติ มาตั้งแต่เล็กจนโต
ที่จริ งความคิดเช่นนี่ฝังลึกจนแนบแน่นอยูแ่ ล้ว โดยเฉพาะกับตู๋กจู ุน
ที่เป็ นพี่ใหญ่ ยิง่ ต้องรับภาระหนักกว่า
“เจ้ารองเจ้ากระต่ายเปรี ยว หัดเรี ยนรู ้จากพี่ใหญ่เอาไว้บา้ ง ผิดแล้วก็
บอกว่าผิด อย่าได้มาเถียงกับข้าที่เป็ นผูอ้ าวุโส!”
ตู๋กถู ิงยกไม้กวาดขึ้นมาอีกครั้ง เริ่ มตีใหม่อย่างดุดนั
เจียงเหม่ยหยูถ่ ูกทอดทิ้งเหมือนดัง่ เป็ นอากาศธาตุ ได้แต่ยนื อยูข่ า้ งๆ
เฉยๆ
อย่าได้เห็นว่านี่เป็ น ‘การอบรมสัง่ สอน’ หลานทั้งสอง ในสายตา
ของเจียงเหม่ยหยูแ่ ล้ว นี่คือความรักความอบอุ่นอย่างที่สุด
นางถึงกับคาดหวังว่าเขาจะใส่ ใจลูกๆ และหลานๆ ของนางด้วยการ
ถามไถ่เช่นนี้บา้ ง แต่วา่ น่าเสี ยดายเขากลับไม่เคยเหลือบแลเลยสัก
ครั้ง แค่เลี้ยงเอาไว้เท่านั้น ดีกป็ ล่อยพวกเขา ไม่ดีกแ็ ล้วแต่พวกเขา….
ราวกับว่าเป็ นคนที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวพันกับเขาเลยทั้งสิ้ น
นี่ต่างหากคือบทลงโทษที่แท้จริ ง
เดิมทีนึกว่าพอเขากลับมาแล้วก็จะมาเป็ นที่พ่ งึ พิงให้กบั นาง แต่วา่
ตอนนี้ดูแล้ว ที่พ่ งึ อันใดกัน ใจของเขาอยูแ่ ต่กบั คนของบ้านสายหลัก
เท่านั้น…..ไม่เคยจะหันกลับมาเหลียวแลนางเลยสักนิดเดียว
เพียงครู่ เดียว ตู๋กถู ิงก็ถือไม้กวาดวิ่งไล่ตีต๋ ูกเู จวี๋ยไปทัว่ ทั้งสวนแล้ว
เหล่าคนใช้ในจวนที่เห็นล้วนไม่แปลกใจอะไร ก่อนหน้านี้ตอนที่
คุณหนูยงั อยูใ่ นจวน คุณชายรองก็เป็ นคนที่ถูกตีมากที่สุดอยูแ่ ล้ว
ภาพที่นายท่านถือไม้กวาดไล่ตีสงั่ สอนคนจึงพบเห็นเป็ นเรื่ อง
ธรรมดา
เพียงแค่ไม่ได้เห็นมาสองปี แล้วเท่านั้นเอง……
ตู๋กเู จวี๋ยถูกไล่ตีร้องหงิงๆ จนต้องวิ่งหนีออกไปที่นอกจวน
ด้านนอกจวนมีคนกลุ่มใหญ่คอยชมดูเรื่ องสนุกสนาน ในที่สุดพวก
เขาไม่ตอ้ งรอนาน ก็ได้เห็นใต้เท้าอวี้สื่อแห่งเมืองหลวง ถูกท่านปู่
ของตนเองไล่ตีอย่างดุดนั
ฮิ ฮิ ฮิ……ช่างไม่รู้จกั ละอายบ้างเสี ยเลย
ผูค้ นทั้งหลายต่างพากันหัวเราะ จะว่าไปแล้วคนในจวนตระกูลตู๋กูก็
ไม่มีท่าทางของพวกผูส้ ู งส่ งอย่างตระกูลใหญ่เอาเสี ยเลยจริ งๆ
มีที่ไหนกันที่ประมุขของบ้านจะมาถือไม้กวาดไล่ตีลูกหลานของ
ตนเอง ……นี่มิเท่ากับว่าส่ งเสริ มให้คนได้เห็นเรื่ องที่น่าขบขัน
หรอกหรื อ?
ผูค้ นต่างก็ชมดูจนเป็ นที่สนุกสนาน อย่างไรเสี ยก็มีคนมาเล่นงิ้วให้ดู
หากไม่ดูกถ็ ือว่าเสี ยเปล่า
ไม่แน่วา่ อีกประเดี๋ยวอาจจะมีทีเด็ดกว่านี้อยูอ่ ีกด้วย พวกเขาต่างก็พา
กันรอดูวา่ ฝ่ าบาทจะลงแส้อย่างไร
ก่อนหน้านี้จวนอ๋ องตระกูลตู๋กเู อาแต่ปิดประตูไม่รับแขกทาให้ผคู ้ น
ต่างก็ไม่พอใจ พอได้เห็นฉากเช่นนี้ในใจแต่ละคนต่างก็เกิดความ
ยินดีข้ ึนมา
“ได้ยนิ ว่าสองพี่นอ้ งไม่อาจเชิญไทเฮาน้อยออกจากวังมาได้ เพราะ
เหตุน้ ีจึงถูกตี”
“ฮิ ฮิ… ตู๋กถู ิงนึกว่าตนเองเก่งกาจมากนักหรื ออย่างไร? เขาต้องการ
ให้ไทเฮาออกจากวัง ฝ่ าบาทก็ตอ้ งทรงยอมหรื อ?”
“ยังมิใช่เพราะอวดเบ่งว่าตนเองมีคุณความดีหรอกหรื อ? เหลียงจวิน้
อ๋ องผูน้ ้ นั ก็ตายไปแล้ว แม่ทพั ก่อตั้งแคว้นอีกสามคนที่พิการก็พิการ
ไปแล้ว ที่ถูกเนรเทศก็โดนเนรเทศไปแล้ว ตอนนี้กเ็ หลือแต่เขาเพียง
ผูเ้ ดียว ทั้งยังสยบแดนเป่ ยเจียงลงได้ จะมิให้ภาคภูมิใจได้หรื อ?”
“จะภาคภูมิใจเพียงไรก็ไร้ประโยชน์ ในเมื่อสายตาของเขาไม่มีใคร
ทั้งสิ้ นเช่นนี้กถ็ ือเป็ นความผิดของเขาอยูด่ ี”
“ยิง่ ไปกว่านั้นสายตาของเขายังไม่เหลือบมองใคร ก็เท่ากับว่าไม่มีฝ่า
บาทอยูใ่ นสายตา!”
“ใช่เลย ก่อนหน้านี้เขาก็ปกป้องอี้อ๋องหนุนให้เป็ นฮ่องเต้ ตอนนี้ฝ่า
บาทไม่ทรงเอาความเขา เขากลับดีนกั ปฏิเสธงานเลี้ยงพระราชทาน
ทั้งยังจะขอให้ไทเฮาออกจากวัง? เฮอะ เฮอะ น่าหัวเราะ!”
ผูค้ นต่างก็พากันแทะเมล็ดแตง จิบน้ าชากันไปด้วยใบหน้ายิม้ แย้ม
ในตอนนั้นเอง ก็เห็นรถม้าสี ทองที่พว่ งอาชาแปดตัว ผ่านเข้ามาใน
ท้องถนน
แปดอาชาของโอรสสวรรค์ นี่เป็ นกฏของแคว้นต้าโจว
สี ทองที่เหลืองอร่ าม ยิง่ เป็ นสี ประจาของราชวงศ์ตา้ โจว นอกจาก
โอรสสวรรค์แล้ว ผูอ้ ื่นไม่อาจใช้ได้
พอผูค้ นเหลือบไปเห็นรถม้าคันนั้นต่างก็พากันตื่นตะลึงขึ้นมา
พวกเขาต่างก็คิดกันไปมากมายว่า ฮ่องเต้อาจจะทรงลงแส้ใส่ ต๋ ูกูถิง
แต่คิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้จะเสด็จมาด้วยพระองค์เอง?
นับตั้งแต่ฝ่าบาททรงขึ้นครองราชย์กท็ รงกระทาเรื่ องใหญ่ๆ มาแล้ว
ไม่นอ้ ย สามารถกล่าวได้วา่ ในบรรดาฮ่องเต้ท้ งั สามพระองค์ ฝ่ าบาท
ทรงเป็ นผูท้ ี่แสดงพระราชอานาจอยูเ่ สมอ
คราวนี้ เกรงว่าตู๋กถู ิงเองก็คงไม่รอดแน่!
เพียงครู่ เดียวรถม้าก็มาถึงปากประตูจวนตู๋กู
ทันทีที่ต๋ ูกเู จวี๋ยเห็นรถม้า ก็กลิ้งกระโดดไปหาเหมือนลิงตัวหนึ่ง
เขาคิดว่า…หากกระโดดไปอยูข่ า้ งกายฝ่ าบาท ท่านผูเ้ ฒ่าหรื อจะยังตี
เขาได้อีก?
พึ่งจะกระโดดโผเข้าไป ยังไม่ทนั ได้เห็นคนข้างในให้ชดั ๆ ก็ถูกเท้า
ข้างหนึ่งถีบออกมา
“โอ๊ย!” ตู๋กเู จวี๋ยส่ งเสี ยงร้องโอดโอย เท้านั้นเรี่ ยวแรงมหาศาล เขา
กลับต้องกลิ้งเกลือกไปตามพื้นอีกหลายตลบ ถึงจะลุกขึ้นมาได้ ทา
เอาเขาถึงกับมึนงงไปเลยทีเดียว
เมื่อครู่ เหมือนจะได้เห็นชายเสื้ อสี ทองแวบหนึ่ง…..เป็ นจีเฉวียน
หรื อ?
ฮ่องเต้สุนขั ผูน้ ้ นั อยูด่ ีๆ จะเตะเขาทาไม โมโหโกรธาเรื่ องใดมาหรื อ
ไง?
ท่านปู่ คือคนที่ผดิ ใจกับฝ่ าบาท แล้วมาลงที่เขาทาไม?
แถมยังถูกเตะออกมาต่อหน้าผูค้ นตั้งมากมาย ต่อให้เขาหน้าหนา
เพียงไรก็ยงั อดจะรู ้สึกอับอายไม่ได้
จะอย่างไรเขาก็เป็ นถึงขุนนางอวี้สื่อแห่งเมืองหลวง ต่อไปจะให้คน
มาหัวเราะเยาะได้หรื อ?
รอบๆ จวนตระกูลตู๋กลู ว้ นแล้วแต่เป็ นโรงน้ าชาและร้านค้า
ผูค้ นมองผ่านหน่าต่างและที่นงั่ ลงมาล้วนสามารถมองเห็นได้อย่าง
ชัดเจน
“ดูสิ ฝ่ าบาทกาลังทรงหาความลาบากใจมาให้ตระกูลตู๋กแู ล้ว!”
“เฮอะ เฮอะ ตู๋กเู จวี๋ยที่ปากมากผูน้ ้ นั สมควรถูกเตะมานานแล้ว ลูก
ถีบของฝ่ าบาทครั้งนี้ช่างทาได้โดนใจผูค้ นนัก!”
“เกรงว่านี่พ่ งึ จะเป็ นการเริ่ มต้นเท่านั้น ทุกท่านโปรดล้างตาคอยดูให้
ดี ดูสิวา่ ฝ่ าบาทของพวกเราจะทรงจัดการกับไอ้เฒ่าตู๋กถู ิงนัน่ เช่น
ไร!”
“เฮอะ เฮอะ เฮอะ……”
ผูค้ นต่างก็พากันหัวเราะพลาง เฝ้าดูไปพลางๆ ที่จริ งแล้วมิใช่เพราะ
พวกเขาชิงชังอะไรตู๋กถู ิง แต่เพราะคนผูน้ ้ นั กระทาตนอย่างไม่
คานึงถึงหน้าผูอ้ ื่น ทั้งยังเป็ นไอ้แก่หวั แข็งที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง จึง
อยากจะให้มีเรื่ องอะไรขึ้นมาสัง่ สอนเขาเพื่อลดทอนความหยิง่ ผยอง
ลงไปบ้าง
ที่สุดแล้ว จะอย่างไรแคว้นต้าโจวยังต้องการให้ตาเฒ่านัน่ ช่วยขยาย
ดินแดนออกไป ย่อมไม่อาจทาอะไรบีบคั้นเขาถึงตายได้
ตู๋กถู ิงเห็นตู๋กเู จวี๋ยถูกถีบออกมาครั้งหนึ่งก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็
เห็นเขาสาวเท้าเข้าไปหาตู๋กูเจวี๋ย
ตู๋กเู จวี๋ยคิดว่าท่านปู่ ใจดีมีเมตตา จะช่วยฉุดดึงเขาขึ้นมา คิดไม่ถึงว่า
ท่านปู่ กลับฟาดไม้กวาดลงมาอีกชุดใหญ่อย่างไม่เกรงอกเกรงใจ
“บอกให้เจ้าฝึ กยุทธ์ ก็ไม่ฝึก! ถึงได้ถูกคนเขาถีบเอามากกว่าผูอ้ ื่น เจ้า
บอกมาสิ เจ้ามันใช้การอะไรได้มงั่ !”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 355 ท่ านปู่ ข้ ายังมีประโยชน์ อยู่นะ
ตู๋กเู จวี๋ยชักจะรู ้สึกสงสัยแล้วสิ วา่ ตนเองใช่หลานแท้ๆ หรื อไม่
เขากอดแขน กอดอกตนเอง เกลือกกลิ้งอยูบ่ นพื้น “ท่านปู่ ข้ายังมี
ประโยชน์อยูน่ ะ ข้าสามารถเจรจาความบ้านเมืองได้ เป็ นขุนนางแถว
หน้าของต้าโจว!”
“เพ้ย! ปากอย่างเจ้าเช่นนี้ แค่ขา้ เห็นลิ้นไก่เจ้าก็ราคาญแล้ว!” ตู๋กูถิง
เล็งตรงไหนได้เป็ นต้องตีตรงนั้น ตีเสี ยจนตู๋กูเจวี๋ยต้องวิง่ หนีเป็ น
วงกลม
ตู๋กจู ุนไล่ตามมา พอเห็นเหตุการณ์แม้มีใจแต่ก็ไม่อาจช่วยเหลือได้
น้องรองปากมากจริ งๆ หากว่าพูดน้อยลงไปสักสองประโยคเชื่อว่า
ท่านปู่ คงจะยอมเพลามือลงไปบ้าง
เขาเองก็ไม่กล้าเข้าไปห้าม เพราะเกรงว่าหากยิง่ ห้ามท่านปู่ อาจจะตี
หนักยิง่ กว่าเดิม
ภายในรถม้า ฮ่องเต้ทรงทอดพระเนตรผ่านรอยแยกของผ้าม่าน
มองเห็นทั้งหมดอย่างชัดเจน
ตู๋กซู ิงหลันนัง่ อยูข่ า้ งกายเขา นางเห็นชัดเจนเลยว่ามุมพระโอษฐ์ของ
ฝ่ าบาทปรากฏรอยยูข่ ้ ึนมา
“ฝ่ าบาท….ทรงถีบพี่รองของข้าทาไม?” ตู๋กซู ิงหลันถามอย่างไม่
เข้าใจ
“เราเกรงว่าจะเป็ นคนร้าย มาทาอันตรายเจ้า” จีเฉวียนตรัสด้วยพระ
พักตร์เรี ยบนิ่ง
จะว่าอย่างไรดี…..พระองค์ได้รับคาเตือนจากอู๋เหนียงจื่อแล้วว่า
จะต้องเชื่อมไมตรี กบั คนในครอบครัวของซิงซิง แต่พอพึ่งจะมาถึง
ประตูบา้ นผูอ้ ื่น ก็ถีบพี่รองของนางเข้าให้แล้ว
ฝ่ าบาทกาลังทรงหงุดหงิดพระทัย
ชัว่ เวลาสั้นๆ ในตอนนั้น ตู๋กซู ิงหลันก็ไม่รู้วา่ สมควรจะพูดสิ่ งใดดี
นางมองดูพี่รองที่ถูกตีอย่างดุดนั มองดูท่านปู่ ที่มีผมขาวโพลน
ท่ามกลางอากาศที่เย็นจัดในฤดูหนาว เขากลับสวมใส่ เพียงเสื้ อสี
เขียวบางๆ เส้นผมเกล้ามวยเสี ยบปิ่ นไม้ชิ้นหนึ่งเท่านั้น
ทั้งๆ ที่อายุกม็ ากแล้ว แต่กลับยังดูหนุ่มแน่นองอาจอยูเ่ ลย
คิดๆ ดูแล้วยามที่อยูใ่ นวัยหนุ่มจะต้องหล่อเหลา เป็ นบุรุษที่ใครๆ ก็
หลงใหลเป็ นแน่
ตู๋กซู ิงหลันกวาดตามองไป ก็รู้สึกสนิทสนมคุน้ เคยอย่างยิง่
“ซิงซิง ดูเหมือนว่าเราจะทาให้เกิดเรื่ องยุง่ ยากขึ้นมาเสี ยแล้ว” จี
เฉวียนทอดพระเนตรมองดูต๋ ูกเู จวี๋ยที่ถูกตีอย่างดุดนั ก็ตอ้ งยืน่ พระ
หัตถ์ไปนวดคลึงขมับ
ตู๋กซู ิงหลันไม่รู้วา่ ที่ทรงตรัสนั้นหมายความเช่นไร เพียงตอบว่า “ฝ่ า
บาท ลูกถีบนี้ของพระองค์ไม่ได้ทาให้พี่รองถึงตาย ไม่ใช่เรื่ องใหญ่”
พี่รองที่ซื่อโง่เหมือนกับท่อนไม้ผนู ้ ้ นั โดนตีไปเสี ยบ้างก็ไม่เป็ นไร
ตอนที่นางมอบเกล็ดงูของชือหลีให้เขาไปนั้น รู ้ไหมว่าเขาพูดว่า
อะไร
“น้องชือหลีให้เกล็ดงูกบั ข้ามาทาไม? ทากวาซา [1] หรื อ?
“ไม่รู้วา่ จะใช้ได้หรื อไม่นะ…..อืมกลิ่นคาวนี่ออกจะหนักไปหน่อย
นะ”
“หากเอาไปใช้ขดู ผิวจนถลอก จะติดเชื้อหรื อไม่? หากข้าตายไปน้อง
เล็กจะเสี ยใจไหม? เจ้าเสี ยใจแล้วใครจะคอยปลอบใจเจ้ากัน….”
ตอนนั้นตู๋กซู ิงหลันที่หงุดหงิดขึ้นมาก็อยากจะซัดเขาให้ลงไปกอง
กับพื้นสักครั้งเหมือนกัน
ตอนนี้เห็นเขาถูกท่านปู่ ทุบตี จึงไม่เพียงไม่คิดจะเข้าไปห้าม แต่ยงั
อยากจะเสริ มให้อีกสักเท้าด้วยซ้ า
วิญญาณทมิฬ “….” ก็ไม่รู้วา่ ทาไม อยูๆ่ มันก็ชกั จะรู ้สึกสงสารตู๋กู
เจวี๋ยขึ้นมาบ้างแล้ว
ที่ดา้ นนอกรถม้า ในที่สุดตู๋กูถิงก็ไล่ตีจนเหนื่อย เขาค่อยสังเกตเห็น
รถม้าของโอรสสวรรค์
เขาคว้าเจ้าลูกกระต่ายตัวที่สองที่หวั ปูดโนนัน่ ขึ้นมา จากนั้นก็มอง
ไปทางรถม้า
วันนี้คือการกินเลี้ยงในบ้าน เขาแค่ตอ้ งการให้คนในครอบครัว
กลับมาอยูพ่ ร้อมหน้า ไม่ตอ้ งการให้ใครอื่นใดมาวุน่ วาย
ฮ่องเต้กบั ครอบครัวของเขาชะตาตกฟากไม่สอดคล้องกัน ไม่ใช่คน
ที่อยากจะต้อนรับสักเท่าไร
ภายในรถม้า จีเฉวียนยิง่ คิดก็ยงิ่ นึกถึงเรื่ องก่อนหน้านี้ที่เขาบีบคั้นตู๋กู
ซิงหลัน ทั้งยังบังคับให้ต๋ ูกูถิงไปออกรบที่เป่ ยเจียง
นี่สมควรจะทาเช่นไรดี?
เคราะห์กรรมกลับมาตามสนอง ฟ้าดินมิได้ปล่อยปละผูใ้ ดไปเปล่าๆ
ฝ่ าบาทกระแอมเสี ยงครั้งหนึ่ง สี พระพักตร์ยงั คงเรี ยบเฉย แต่ใน
พระทัยซ่อนความกังวลไว้….
ตู๋กูซิงหลันเหลือบตามองดูเขา ก็เห็นว่าพระหัตถ์ที่อยูบ่ นพระชานุ
ของจีเฉวียนกาแน่นขึ้นมา
นางเอียงศีรษะเกิดความคิดว่า หรื อเขาคงจะไม่ลงรอยกับท่านปู่ คิด
จะหาเรื่ อง?
นี่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ กระมัง?
พอคิดได้เช่นนี้ นางก็ยนื่ มือไปตบบนหลังพระหัตถ์ของจีเฉวียน
เบาๆ “ฝ่ าบาท ท่าทางของพระองค์ทาให้ผอู ้ ื่นหวาดกลัวแล้วนะเพ
คะ”
พอหลังมือได้สมั ผัสกับความอบอุ่นจากนาง จีเฉวียนก็รู้สึกผ่อน
คลายขึ้นมาเล็กน้อย แม้แต่กระดูกสันหลังที่เกร็ งจนแข็งของเขาก็ยงั
ผ่อนคลายลง
พระองค์พลิกพระหัตถ์มาจับมือของตู๋กูซิงหลันเอาไว้ “เรารู ้สึก
ตื่นเต้นอยูบ่ า้ ง”
ตู๋กูซิงหลัน “หืม?”
พระองค์เป็ นโอรสสวรรค์ จะมาเจอกับขุนนางของตนเองไยจะต้อง
ตื่นเต้นกัน?
คนที่จะต้องตื่นเต้นสมควรจะเป็ นท่านปู่ มากกว่า
นางชักจะไม่เข้าใจจีเฉวียนอีกแล้ว ไม่เข้าใจจริ งๆ ว่าเขาจะตื่นเต้น
ไปทาไม
จีเฉวียนเองก็มิได้ทรงอธิบายสิ่ งใด เพียงแต่สูดลมหายพระทัยลึกๆ
ต่อหน้าตู๋กซู ิงหลันอยูห่ ลายครั้ง ค่อยสัง่ ให้องครักษ์เปิ ดม่านรถขึ้น
เหล่าฝูงชนในโรงน้ าชาต่างก็พากันตื่นตัวขึ้นมา “มาแล้ว มาแล้ว ….
ฝ่ าบาทเสด็จมาด้วยพระองค์เองจริ งๆ แล้ว!”
“คราวนี้มีงิ้วสนุกๆ ให้ได้ดูกนั แล้ว!”
ทันทีที่ม่านของรถม้าเปิ ดออก จีเฉวียนก็ทรงสบพระเนตรกับท่านผู ้
เฒ่าโดยตรง
ตู๋กถู ิงเคยได้เข้าเฝ้าจีเฉวียนมาก่อนแล้ว เขาย่อมสามารถสงบใจได้
โดยง่าย แต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์ เขาก็คิดถึงพระ
พักตร์ของพระองค์ในครั้งก่อนที่ทรงใช้หลานสาวมาบีบบังคับเขา
ท่านผูเ้ ฒ่ารู ้สึกคันไม้คนั มือขึ้นมาในทันที อยากจะเอาไม้กวาดในมือ
ฟาดพระองค์สกั รอบเช่นกัน
เอาให้หนักหนากว่าไอ้เจ้าลูกกระต่ายนัน่ เสี ยอีก
ข้อนิ้วของท่านผูเ้ ฒ่าที่กาไม้กวาดเอาไว้กลายเป็ นสี ขาว ยามที่เขา
สวมใส่ ชุดสี เขียวเช่นนี้และไม่ได้ทุบตีผคู ้ น ดูไปแล้วก็เหมือน
สุ ภาพชนที่เยือกเย็นและดูสงบนิ่ง
น่าเสี ยดายที่สองตาคู่น้ นั มีแต่ไอสังหาร
ตู๋กถู ิงเข้าสู่ สนามรบตั้งแต่อายุได้สิบสามปี ทาสงครามต่อเนื่องมา
หลายสิ บปี ต่อให้ที่สวมใส่ เป็ นเพียงชุดผ้าฝ้ายธรรมดา แต่วา่ พลังที่
สะท้อนออกมาจากร่ างก็ทาให้คนต้องตระหนกอยูด่ ี
กลิ่นอายของโลหิตและไอสังหารหมุนเวียนอยูร่ อบตัวเขา เนื่อง
เพราะผ่านการฆ่าฟันมามากเกินไป กระทัง่ ตู๋กซู ิงหลันก็ยงั สามารถ
มองเห็นไอสี ดาที่เกิดจากการสังหารได้จากบนหน้าผากของเขา
เส้นคิว้ กระบี่ของเขาวาดยาวและชี้ข้ ึนบน เพียงแค่เขากวาดตามองดู
ใครเข้าสักครั้งก็แทบจะทาให้คนผูน้ ้ นั อ่อนละลายกลายเป็ นโคลนไป
ได้
ยังดีที่ผทู ้ ี่มาพบกับเขาก็คือจีเฉวียน หากเปลี่ยนเป็ นผูอ้ ื่นเกรงว่าคง
ต้องร้องไห้หาบิดามารดาขึ้นมาในทันทีแล้ว
มิน่าเล่าพี่ชายทั้งสองที่ยามปกติต่างก็ช่างก่อเรื่ องโผงผางกันไปคน
ละด้าน พออยูต่ ่อหน้าท่านปู่ ถึงได้มีแต่โดนตีสถานเดียว
จีเฉวียนย่อมมิใช่คนตาบอด ย่อมมองออกถึงสายตาที่มองมายัง
พระองค์น้ นั ปราศจากความปรานี
แต่ท้ งั หมดนี้ลว้ นอยูภ่ ายใต้ความคาดหมายของพระองค์อยูแ่ ล้ว
ฮ่องเต้ทรงประทับนัง่ อย่างสง่างาม เพียงแต่สายลมที่พดั ผ่านมาทาให้
เส้นพระเกศาที่รวบไว้เพียงครึ่ งเดียวปลิวกระจายขึ้นมา ถึงแม้วา่ ฝ่ า
บาทจะทรงอยากจะประทับนัง่ ให้ดูสุภาพเรี ยบร้อยที่สุด แต่
ภาพลักษณ์ที่ปรากฏออกมากลับไม่ใช่เลยสักนิด
นี่ควรต้องเรี ยกว่า ต้นไม้อยากหยุดนิ่งแต่สายลมกลับไม่หยุดพัด [2]
ทั้งพระเกศาและฉลองพระองค์โบกโบย ยิง่ หนุนนาให้พระองค์ทรง
ดูสูงส่ งและข่มผูอ้ ื่นยิง่ ขึ้นอีก
ยิง่ ยามเมื่อทรงสบพระเนตรกับท่านผูเ้ ฒ่า ก็แทบจะเกิดประกายไฟ
ฟาดระหว่างคนทั้งสอง
เหล่าคนที่มาชมงิ้วต่างก็ยงิ่ ตื่นเต้นดีใจ
“ดูสิประกายดาบคมธนูนนั่ สิ เฮอะ เฮอะ เฮอะ วันนี้จะต้องมีเรื่ อง
สนุกเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”
“เอ๋ พวกเจ้าคิดว่าฮ่องเต้ของพวกเรากับเจ้าเฒ่าหนังหนาผูน้ ้ นั ใครจะ
ได้เปรี ยบกว่ากัน?”
“คนหนึ่งเป็ นขุนนาง คนหนึ่งเป็ นเจ้าชีวิต นี่ยงั จะต้องเปรี ยบเทียบอีก
หรื อ ย่อมต้องเป็ นฮ่องเต้ของพวกเราเป็ นฝ่ ายกดขี่ข่มเหงอยูแ่ ล้วสิ ”
“ข้าว่าก็ไม่แน่ กับตู๋กถู ิงที่เป็ นไอ้เฒ่าหนังหนาผูน้ ้ นั อดีตฮ่องเต้เคย
ทรงมีราชโองการไปเรี ยกเขาเข้าเฝ้าถึงสิ บสองครั้ง กลับถูกเขาโยน
ทิ้งโดยไม่ยอมอ่านเสี ยด้วยซ้ า เขาหรื อจะเห็นฝ่ าบาทอยูใ่ นสายตา?”
“นี่ยอ่ มพูดยากแล้ว ต้องคอยดูให้ดีวา่ ฝ่ าบาทจะทรงจัดการกับไอ้เฒ่า
ผูน้ ้ ีเช่นไร”
ฝูงชนที่ถกเถียงกันยกใหญ่ เมื่อยังไม่ได้ขอ้ สรุ ปต่าก็พากันแทะเมล็ด
แตงจิบน้ าชากันต่อไป
สายลมที่พดั ขึ้นมาทาให้หิมะที่เกาะอยูบ่ นต้นไม้ในจวนตระกูลตู๋กู
ร่ วงกราวลงมาบนรถม้า
ม้าทรงพลันถีบกีบขึ้นมาด้วยความตื่นตกใจ!
ทันใดนั้นรถทรงก็เกิดโคลงเคลงขึ้นมา
——
ตอนต่อไป “พวกเจ้าช่างไร้น้ าใจ”
——
[1] การรักษาด้วยแพทย์แผนจีนที่ช่วยขับเลือดลมชนิดหนึ่ง ใช้หวีไม้
ขูดกับผิวหนังไล่เลือดเสี ยออกมา

[2] 树欲静而风不止: เปรี ยบเทียบว่าสถานการณ์ไม่


เป็ นไปตามใจคิด
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 356 พวกเจ้ ามันไร้ น้าใจ
จีเฉวียนทรงตัดสิ นพระทัยเข้าไปประคองสาวน้อยที่อยูข่ า้ งพระองค์
ม้าตื่นตระหนกอย่างยิง่ จนรถม้าแทบจะพลิกคว่าลงมาบนพื้น
ก่อนหน้านี้ผา้ ม่านบนรถม้าเปิ ดออกเพียงแค่ครึ่ งเดียว ตู๋กถู ิงจึงมอง
ไม่เห็นว่าภายในรถม้ายังมีหลานสาวของตนเองอยูด่ ว้ ย
พอม่านบนรถม้าไหววูบ ถึงได้เผยให้เห็นใบหน้าครึ่ งหนึ่งของตู๋กู
ซิงหลัน ไม้กวาดที่อยูใ่ นมือของตู๋กถู ิงร่ วงลงไปบนพื้นในทันที
เขาพุง่ ตัวออกไปข้างหน้า พลิกตัวขึ้นไปบนหลังม้าคว้าสายบังเ**ยน
เอาไว้ดว้ ยมือข้างเดียว คนก็ขี่อยูบ่ นหลังม้าที่กาลังตื่นตระหนก
ม้าตัวนั้นยิง่ ตื่นตกใจกว่าเดิม มันถีบเท้าส่ งเสี ยงร้องดังกึกก้อง
ฉากนี้ทาเอาคนทั้งหลายถึงกับพลอยตื่นตะลึงไปด้วย แค่หิมะตกลง
มาม้าก็ถึงกับแตกตื่นเลยหรื อ ตู๋กถู ิงผูน้ ้ นั จงใจวางแผนเอาไว้
หรื อไม่?
ที่เขากระโดดขึ้นไปขี่หลังม้าที่กาลังตื่น เพราะคิดจะจัดการฝ่ าบาทที่
อยูใ่ นรถม้าให้ถึงปางตายเลยใช่ไหม?
ท่ามกลางความตื่นตะลึงของผูค้ น ก็เห็นตู๋กถู ิงกาหมัดขึ้นมา ซัดหมัด
ลงไปที่หวั ม้าครั้งหนึ่ง
จนได้ยนิ เสี ยงดัง ‘ปัก’
ทันใดนั้นม้าที่ตื่นตระหนกก็พลันสงบลง มันส่ ายคอไปมา จากนั้นก็
ล้มลงไปบนพื้นทั้งตัว
ทาเอาม้าทรงอีกเจ็ดตัวตกใจอยูไ่ ม่นอ้ ย แต่กไ็ ม่กล้าเคลื่อนไหววูว่ าม
หมัดนั้นของตู๋กถู ิงที่ซดั ลงไปทาเอาสมองของม้าที่กาลังตื่นแทบจะ
แยกออกมา
คราวนี้ ทัว่ ทั้งถนนสายตะวันออกก็สงบเงียบลงไปในทันที เหลือแต่
เพียงเสี ยงหิมะที่ตกลงมาเบาๆ เท่านั้น
ม้าตัวนั้นหอบหายใจอย่างหนักหน่วง เพียงครู่ เดียวก็กลายเป็ นดัง่ ไส้
ตะเกียงที่ดบั ไป
ผ่านไปอีกพักใหญ่ผคู ้ นที่อยูบ่ นโรงน้ าชาถึงได้พากันได้สติข้ ึนมา
“ดูนนั่ สิ ! นี่เขาถึงกับกล้าจัดการกับม้าทรงตรงๆ เพื่อให้ฮ่องเต้ได้
ทอดพระเนตร!”
“ม้าทรงของราชวงศ์แพงถึงขนาดไหน เขาถึงกับต่อยมันตายภายใน
หมัดเดียว? แล้วเช่นนี้พระพักตร์ของฝ่ าบาทยังจะไปเหลืออะไรอีก?”
…………………….
ตู๋กถู ิงลงมาจากหลังม้าแต่แรกแล้ว จากนั้นก็มุดศีรษะเข้าไปภายใน
รถม้า
ทันทีที่มุดเข้าไปก็เห็นหลานสาวของตนเองถูกฝ่ าบาทโอบกอด
เอาไว้ในพระอุระอย่างแนบแน่น
เขาพลันรู ้สึกว่าผักกาดขาวที่กรอบหวานของตนเองถูกหมูกินเข้าไป
เสี ยแล้ว!
ตู๋กซู ิงหลันที่ขาพิการยังไม่ทนั หายดี ก็ตอ้ งมาถูกเขย่าอยูใ่ นรถม้า
เขย่าเสี ยจนหัวสมองของนางทั้งเจ็บทั้งมึนไปหมดแล้ว
หากมิใช่เพราะว่าถูกจีเฉวียนกอดเอาไว้ เกรงว่านางคงจะถูกเหวี่ยง
จนหลุดกระเด็นออกไปแล้ว
กลับเป็ นจีเฉวียนที่ถูกกระแทกไปมาจนกลายเป็ นเกราะเนื้อให้กบั
นาง
“นี่มนั เคราะห์กรรมอันใด!” ตู๋กถู ิงได้แต่กดจุดเหริ นจง [1] ของ
ตนเอง จากนั้นก็สูดลมหายใจลึกๆ อีกหลายๆ ครั้ง
เขาพยายามจ้องมองไปที่ต๋ ูกซู ิงหลัน ด้วยสายตาที่ท้ งั เจ็บปวดทั้งขุ่น
เคือง โดยไม่ยอมสนใจหมูที่มากินผักกาดขาวอย่างจีเฉวียน
เขายืน่ มือเข้าไปหาตู๋กูซิงหลัน “ดวงใจเอ๋ ย มาให้ปู่อุม้ เถอะ”
ตู๋กซู ิงหลันตกตะลึงไปเล็กน้อย ผ่านไปพักใหญ่นางถึงได้ค่อยๆ ยู่
ปากขึ้นมา “ท่านปู่ ขาของข้าใช้การไม่ได้แล้ว จึงลุกไม่ข้ ึน”
ตู๋กถู ิง “ดวงใจน้อยๆ เอ๋ ย ปู่ ปวดใจแทบแย่แล้ว”
ว่าแล้วเขาก็ขยับเข้าไปทั้งตัวจนถึงเบื้องหน้าจีเฉวียนและตู๋กซู ิงหลัน
หลังจากนั้นก็ส่งสายตาเป็ นเชิง ‘ขอให้พระองค์รู้สึกตัวเสี ยบ้าง’
ออกมา
จีเฉวียนมองดูเขา ก็หนั ไปมองดูสาวน้อยในอ้อมกอด ก็กล่าวอย่าง
จริ งจังว่า “เราอายุนอ้ ยร่ างกายบึกบึนแข็งแรง ให้เราอุม้ นาง
เหมาะสมที่สุดแล้ว ท่านผูเ้ ฒ่าอายุมากแล้ว หากพลาดล้มไปก็จะไม่
ดี”
ตรัสแล้ว พระองค์กท็ รงกอดตู๋กซู ิงหลันแนบแน่นกว่าเดิม หลังจาก
นั้นก็เสด็จลงจากรถม้าไปต่อหน้าต่อตาของตู๋กถู ิง
หลังจากที่ขาของตู๋กซู ิงหลันพิการ เวลาออกไปไหนๆ ล้วนไม่
ต้องการใช้ขาอีกแล้ว
จีเฉวียนก็คือสองขาที่เดินได้ของนาง ทั้งยังเป็ นขาที่มีพละกาลังเป็ น
พิเศษ
หากว่าต้องเป็ นเช่นนี้ต่อไปนางก็รู้สึกว่าคงจะไม่ดีเท่าไหร่ หลังจาก
ที่นางวอนขออยูห่ ลายครั้ง จีเฉวียนก็หาคนมาทารถเข็นให้กบั นาง
ตู๋กซู ิงหลันวาดแบบขึ้นมาด้วยตนเอง
เป็ นเก้าอี้รถเข็นที่สามารถบังคับความเร็ วและทิศทางได้ดว้ ยตนเอง
ฝี มืองดงาม
และยังสาเร็ จตามแบบที่นางวาดอีกด้วย
จีเฉวียนพึ่งจะอุม้ ตู๋กซู ิงหลันลงมา เหล่าองครักษ์กป็ ูเบาะนุ่มลงไป
บนเก้าอี้รถเข็นเรี ยบร้อยแล้ว
ที่ดา้ นข้างยังมีร่มคันหนึ่งอีกด้วย ป้องกันมิให้นางโดนละอองหิ มะ
จนเปี ยกชื้น
จีเฉวียนไม่อยากจะวางนางลงไปด้วยซ้ า ตัวนุ่มๆ เช่นนี้ พออุม้ เอาไว้
ช่างอบอุ่นเหลือเกิน
แต่วา่ เมื่อเช้านี้ได้ทรงตกลงกับนางแต่แรกแล้ว เขาย่อมไม่อาจ
บิดพลิ้ว
ได้แต่วางนางลงไปเบาๆ ค่อยคลุมผ้าห่มให้อย่างเรี ยบร้อย เขาห่อเสี ย
จนตู๋กซู ิงหลันกลายเป็ นบ๊ะจ่างลูกหนึ่ง
“น้องเล็ก เจ้ากลับมาแล้ว” พอตู๋กเู จวี๋ยเห็น ก็วิ่งออกมาในทันที เขา
คุกเข่าร้องไห้คร่ าครวญอยูเ่ บื้องหน้านาง “พอข้ากับพี่ใหญ่ไม่อาจรับ
เจ้ากลับมา ก็เกือบจะถูกท่านปู่ ตีจนขาหักแล้ว เจ้าดูสิ ข้าน่าสงสาร
หรื อไม่เล่า?”
“หากรู ้แต่แรกว่าจะถูกจัดการเช่นนี้ ข้าก็ควรจะหักขาตนเองทิ้งเสี ย
จะได้พิการเป็ นเพื่อนน้องเล็ก” ตู๋กูเจวี๋ยคร่ าครวญอย่างปราศจาก
น้ าตาสักหยด พอหันกลับไปมองดูต๋ ูกจู ุนที่ติดตามมาก็กล่าวว่า
“อย่างไรเสี ยพี่ใหญ่กม็ ีพละกาลังมาก อีกหน่อยก็มาเป็ นขามนุษย์ท้ งั
สองข้างให้ขา้ ก็แล้วกัน ตั้งแต่เล็กจนโตมีแต่เจ้าที่เขายอมอุม้ ยังไม่
เคยอุม้ ข้าบ้างเลยนะ!”
ทาไมตู๋กซู ิงหลันถึงได้รู้สึกว่าตัวแสบผูน้ ้ ีกาลังแอบจิกกัดจีเฉวียนอยู่
เล็กๆ กัน?
ตู๋กจู ุน “บ่าของข้า นอกจากน้องเล็กแล้วก็จะไม่แบกใครอีกทั้งนั้น”
ตู๋กเู จวี๋ย “พวกเจ้ามันไร้น้ าใจ!”
ตู๋กซู ิงหลัน คิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ก่อนหน้านี้พี่ใหญ่สมควรเคยอุม้ องค์หญิง
ใหญ่ ….และก็เคยอุม้ เสี่ ยวหยวนเฟยมาด้วยกระมัง?
“เจ้ากระต่ายรอง ข้าผูเ้ ฒ่าสมควรจะเย็บปากเจ้าไว้ ด้านนอกลมแรง
เจ้ากลับปล่อยให้นางอยูข่ า้ งนอก ตากลมตากหิ มะกระนั้นหรื อ?”
ตู๋กูเจวี๋ยรี บคว้ามือของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้แนบแน่น ครางหงิงๆ “น้อง
เล็ก เจ้าต้องช่วยข้านะ”
เขาพึ่งจะพูดจบก็เห็นตู๋กถู ิงกาลังลงมาจากรถม้า ก้าวเพียงแค่สอง
สามครั้งก็มาถึงเบื้องหน้าตู๋กซู ิงหลัน เขาไม่สนใจจะพูดกับตู๋กเู จวี๋
ยอีก ในสายตามีแต่เพียงหลานสาวยอดดวงใจเท่านั้น พอมองดูนาง
อารมณ์เมื่อครู่ กส็ ลายไปจนหมด “ยอดดวงใจเจ้ากลับมาแล้ว กลับมา
ก็ดีแล้ว”
พูดแล้ว ตู๋กถู ิงก็รีบหันหลังกลับไป ปาดเช็ดน้ าตาไหลลงมา
ท่าทางของเขาคล้ายดัง่ ชายชราที่ถูกทอดทิ้งไว้เพียงลาพังที่บา้ นมา
นานแล้ว
ฮ่องเต้ผไู ้ ม่ได้รับการใส่ พระทัยเลยแม้แต่นอ้ ยไม่เพียงไม่พิโรธ กลับ
ถอนพระทัยออกมาอย่างโล่งอก
มุมพระโอษฐ์ยงั คงขมวดแน่น ใกล้จะกลายเป็ นปมขึ้นมาแล้ว
เมื่ออยูต่ ่อหน้าท่านปู่ และพี่ชายของนาง เขาก็ไม่มีพ้นื ที่ให้แสดงเลย
สักนิด ได้แต่ยนื อยูข่ า้ งๆ เก้าอี้รถเข็นของนางเท่านั้น
ดังนั้นถึงแม้วา่ จะมีต๋ ูกถู ิงมายืนอยูต่ รงหน้า พระองค์กไ็ ม่มีทีท่าจะ
หลีกให้เลยสักนิด
มีแต่ได้ปกป้องอยูข่ า้ งกายนาง จีเฉวียนถึงได้รู้สึกวางใจ ดังนั้นจึงไม่
คิดจะย้ายไปที่ใดทั้งสิ้ น
สี หน้าของสองพี่ชายตู๋กไู ม่น่าดูอย่างที่สุด ส่ วนตู๋กถู ิงนั้นถึงกับเขียว
คล้ าไปแล้ว
“ดูบรรยากาศที่เปี่ ยมไปด้วยประกายดาบและคมธนูนนั่ สิ ที่ฝ่าบาท
ทรงนาไทเฮามาคงเพื่อใช้เป็ นตัวประกันละมั้ง?”
“ย่อมใช่แน่นอน เขาลือกันว่า……ที่ไทเฮาทรงขาพิการก็เป็ น
เพราะว่าฝ่ าบาททรงฟาดจนหักไป!”
“มีพดู กันเช่นนี้ดว้ ยหรื อ? มิใช่วา่ นางสร้างผลงานยิง่ ใหญ่ตอนอยูใ่ น
เมื่อกู่เย่วหรื อไร?”
“โถ่ นัน่ นับเป็ นอะไรได้กนั …..ต่อให้ไม่มีไทเฮา เพียงแค่
ความสามารถของฝ่ าบาท จะช้าหรื อเร็ วเหลียงจวิน้ อ๋ องผูน้ ้ นั ก็ตอ้ ง
จบสิ้ นอยูด่ ี ต้องตระกูลตู๋กนู ี่สิ ถึงจะนับว่าเป็ นพี่ใหญ่ตวั จริ ง! จะต้อง
เป็ นเพราะว่าฝ่ าบาททรงคิดจะบีบบังคับไทเฮาเพื่อสัง่ การตระกูลตู๋กู
แล้วไทเฮาผูน้ ้ นั จะยอมได้อย่างไรกัน นางคงจะหนี ถึงได้ถูกฝ่ าบาท
จับหักขาเสี ย มิเช่นนั้นทาไมถึงได้ไม่หายสักที?”
“ท่านผูน้ ้ ีกล่าวได้อย่างมีเหตุมีผล”
“ดูสีหน้าที่เขียวคล้ าของตาเฒ่านัน่ สิ นี่ชดั เจนเลยว่าพระองค์ทรง
กาลังควบคุมไทเฮาอยู่ พวกเจ้าว่าไทเฮาเหมือนกับเป็ นหุ่นเชิด
หรื อไม่เล่า?”
“คล้าย คล้ายมาก”
——
ตอนต่อไป “ลมกรรโชกก่อนพายุใหญ่จะมา”
——

[1] 人中: จุดที่อยูร่ ะหว่างปากกับจมูก แพทย์แผนจีนจะกดจุดนี้


เมื่อผูป้ ่ วยสลบหมดสติหรื อเป็ นลม เพื่อกระตุน้ สมองให้รู้สึกตัว
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 357 ลมกรรโชกก่อนพายุใหญ่ จะมา
ในตอนนั้นเอง ฝ่ าบาททรงคิดถึงถ้อยคาของอู๋เหนียงจื่อ พระองค์
ต้องรักษารอยยิม้ ไว้ ถึงจะทาให้คนในครอบครัวของนางเกิด
ความรู ้สึกใกล้ชิดสนิทสนม
พระองค์ทบทวนอยูใ่ นพระทัยครู่ หนึ่ง จากนั้นในขณะที่คนใน
ตระกูลตู๋กกู าลังมีสีหน้าคร่ าเครี ยด ก็ทรงแย้มสรวลออกมา
เป็ นรอยยิม้ ที่แสนจะยินดี
พระหัตถ์ที่ใหญ่โตของพระองค์กมุ เก้าอี้ของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้แน่น
ตอนนี้แม้แต่เขี้ยวทั้งสองก็ยงั เผยออกมา “เราพาไทเฮามาร่ วมงาน
เลี้ยงในบ้านของท่านผูเ้ ฒ่า ล่าช้าไปสักหน่อย ท่านคงไม่ตาหนิ
กระมัง?”
เฮอะ เขี้ยวขาวๆ นัน่ ช่างทิ่มแทงดวงตา ทาเอาตู๋กถู ิงมีโทสะขึ้น
มาแล้ว!
ข้าผูเ้ ฒ่าต้องการแค่ให้หลานสาวสุ ดที่รักกลับมาก็พอ ไอ้หมูที่คิดจะ
กินผักกาดขาวจะมาด้วยทาไม?
ยังจะมายิม้ อีก?
รอยยิม้ นัน่ ยิง่ เท่ากับว่าเป็ นการท้าทายตู๋กถู ิงและสองพีช่ ายตระกูลตู๋กู
นี่มนั เหมือนกับจีเฉวียนกาลังจงใจโอ้อวดว่า ‘เราจะใช้นางมาบีบ
บังคับพวกเจ้า โกรธหรื อ? พวกเจ้าจะโกรธก็โกรธไป เราสุ ขใจก็
พอแล้ว’
ที่คนตระกูลตู๋กมู ิได้ตีพระองค์ให้ตายในทันทีก็ตอ้ งถือว่าเห็นแก่พระ
พักตร์มากแล้ว
ตู๋กเู จวี๋ยยิง่ คอยจับตามองดูท่านปู่ เอาไว้ แอบภาวนาในใจอย่างดุดนั
ให้เขาคว้าไม้กวาดขึ้นมา
ท่านปู่ ฝี มือไล่ตีผอู ้ ื่นของท่านล่ะ? เมื่อครู่ ยงั ไล่ตีเขาแทบตายมิใช่
หรื อ? คนที่สมควรจะถูกฟาดโบยมากที่สุดก็มาแล้ว ท่านผูเ้ ฒ่าก็ลง
มือเสี ยเลยสิ !
เพ้ย! นี่มนั เท่ากับว่ารังแกคนอ่อนแอ หวาดเกรงผูเ้ ข้มแข็งชัดๆ
ตู๋กเู จวี๋ยได้แต่บ่นอุบอิบอยูใ่ นใจ ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
ผ่านไปอีกพักใหญ่ ตู๋กถู ิงถึงได้ยมิ้ แต่เพียงมุมปากแต่ไปไม่ถึงดวงตา
กราบทูลจีเฉวียนว่า “หลานสาวสามารถออกมาได้ กระหม่อมย่อมดี
ใจมากแล้ว ไหนเลยจะยังโทษว่าฝ่ าบาทได้อีก?”
น้ าเสี ยงที่กล่าวออกมาฝื ดเฝื่ อนพิกล กระทัง่ ตู๋กซู ิงหลันก็ยงั ฟังจน
รู ้สึกได้
“ฝ่ าบาททรงเป็ นประมุข พวกเราเป็ นขุนนาง ขุนนางย่อมต้องรู ้จกั
ขอบเขตฐานะของตน ไม่กล้าล่วงเกินแม้แต่นอ้ ย” ตู๋กเู จวี๋ยรี บเออออ
ตามไป
นี่ยอ่ มมิใช่การประจบประแจงฝ่ าบาท แม้วา่ คาพูดจะไม่มีอะไรผิด
แม้แต่นอ้ ย แต่น้ าเสี ยงของเขาออกจะแปลกประหลาด แทบจะกัดฟัน
กรอดๆ ขณะที่กราบทูล แล้วจะไม่ให้ผอู ้ ื่นคิดมากได้อย่างไร
นี่ไม่มากเกินไปหน่อยหรื อ หากมิใช่เพราะว่าก่อนหน้านี้ฮ่องเต้ทรง
กักตัวน้องเล็กเอาไว้ไม่ยอมให้พวกเขารับตัวกลับมา มีหรื อที่เขา
จะต้องมาถูกท่านปู่ ฟาดตีต่อหน้าผูค้ นมากมายเช่นนี้?
ถูกตีรอบนี้ เขาต้องเสี ยหน้าจนหมดสิ้ น ไหนเลยจะยอมกลืน
ความแค้นลงไปได้ง่ายๆ
ตู๋กจู ุนไม่พดู ไม่จา แต่วา่ สี หน้าก็ไม่น่าดู
ตู๋กซู ิงหลันนัง่ อยูบ่ นรถเข็น โดยไม่เข้าใจเลยว่าทาไมบรรยากาศ
ภายในบ้านถึงได้อึมครึ มนัก
ก็นางไม่ได้เห็นรอยยิม้ แสนจะยินดีของฝ่ าบาทนี่
นางกล่าวว่า “ยากนักที่จะได้ออกมาจากวังสักครั้ง วันนี้จะต้อง
รับประทานอาหารกับท่านปู่ และพี่ๆ ให้อร่ อยเลย”
พอพูดประโยคนี้ออกไป สี หน้าของตู๋กถู ิงก็ยงิ่ เขียวคล้ ากว่าเดิม ยอด
ดวงใจของปู่ เอ๋ ย สองปี มานี้คงจะลาบากมากสิ นะ
จากคาพูดของนาง แสดงว่าคงจะถูกจีเฉวียนกักขังเอาไว้ในวังไม่เคย
ได้ออกไปไหน
ถึงแม้วา่ หลานสาวของเขาจะอ่อนแอไปบ้าง แต่วา่ ก็ชอบออกจาก
บ้านไปเที่ยวเล่นอยูเ่ สมอ
เขาเองก็มกั จะพานางออกไปดูโลกกว้างอยูบ่ ่อยๆ ครั้งนี้พาเข้าวังไป
เหมือนไปนัง่ อยูใ่ นคุก ทาให้เขาต้องเจ็บปวดจนใจแทบสลาย
“ดี ดี ดี เจ้าว่าอย่างไรก็เอาตามนั้น” เห็นแก่หลานสาวสุ ดที่รัก ตู๋กูถิง
ก็ไม่คิดจะเอาความอะไรกับจีเฉวียนต่อไปอีก
คนกลับมาแล้ว เขาก็ได้เจอแล้ว แค่น้ ีกพ็ อใจมากแล้ว
ถึงแม้วา่ ก่อนหน้านี้จะได้รับข่าวจากในจดหมายมาแล้วว่านางขา
พิการ ในใจก็เตรี ยมใจเอาไว้แต่แรก แต่พอมาได้เห็นแล้วก็ยงั ต้อง
ปวดใจจนถึงกระดูก
องค์หญิงน้อยของบ้านที่ถูกถนอมเอาไว้ในมือมาตั้งแต่เล็ก ต้องรับ
ความยากลาบากมานานถึงสองปี
“ฝ่ าบาท หลานสาวของกระหม่อม ให้กระหม่อมเข็นนางเองเถอะ”
ตอนนี้ ตู๋กถู ิงคิดแต่เพียงว่า อยากจะใกล้ชิดกับตู๋กซู ิงหลันให้มากๆ
เท่านั้น มือของเขาก็สมั ผัสลงบนเก้าอี้รถเข็น ออกแรงดึงจนรถส่ ง
เสี ยงกึกกัก
จีเฉวียน “เรื่ องเช่นนี้ให้เราทาจะดีกว่า ไม่ขอรบกวนท่านผูเ้ ฒ่า”
ตู๋กถู ิงอยากจะยกไม้กวาดขึ้นมาอีกรอบจริ งๆ
เขาพยายามเก็บอารมณ์ในใจที่คุกรุ่ นขึ้นมา “ฝ่ าบาท พวกเราเพียงแต่
กินเลี้ยงกันในครอบครัวเท่านั้น”
จีเฉวียน “เรารู ้แล้ว จึงได้พาไทเฮาออกจากวังมาร่ วมงานเลี้ยงใน
ครอบครัวเป็ นพิเศษ ท่านผูเ้ ฒ่า มีปัญหาอันใดหรื อ?”
ฮ่องเต้ยงั ทรงรักษารอยแย้มสรวลอย่างยินดีเช่นนั้นเอาไว้ ตรัสอย่าง
ทาเป็ นไม่ทรงรู ้เรื่ องใดๆ ทั้งนั้น
ทาเอาตู๋กูถิงโกรธเสี ยจนอยากจะสับลงไปบนพระเศียรสักหนึ่งฝ่ ามือ
พระองค์ไม่เข้าพระทัยจริ งๆ หรื อว่าแกล้งไม่เข้าพระทัยกันแน่ เขา
แสดงออกจนเห็นได้ชดั ถึงเพียงนี้ แม้แต่คนโง่กย็ งั คงเข้าใจแล้ว
กระมัง?
จีเฉวียนเห็นเขาไม่กล่าวตอบ ก็ตรัสเสริ มขึ้นมาอีกว่า “ไทเฮาทรง
เป็ นพระมารดาในนามของเรา จะว่าไปแล้วเรากับท่านผูเ้ ฒ่าก็ตอ้ งถือ
เป็ นครอบครัวด้วยเหมือนกันนะ เป็ นคนครอบครัวเดียวกัน เรา
มาร่ วมย่อมไม่ถือว่าผิดอะไรจริ งไหม”
ในขณะที่ต๋ ูกซู ิงหลันยังไม่ยอมรับความรักจากจีเฉวียนนั้น
ความสัมพันธ์ภายนอกของพวกเขาทั้งสองย่อมไม่มีอะไร
เปลี่ยนแปลง
ยังคงเป็ นฮ่องเต้กบั ไทเฮาดังเดิม
พระองค์กาลังรอให้นางยอมรับพระองค์ ทันทีที่ยอมรับ พระองค์ก็
จะประกาศไปทัว่ ทั้งแผ่นดิน…..ว่านางก็คือฮองเฮาของพระองค์
ขณะที่เรื่ องราวยังไม่ได้ตกลงกันย่อมไม่สมควรเปิ ดเผยออกไป นี่
เป็ นการให้ความเคารพในตัวตนของตู๋กูซิงหลัน
ดังนั้นตอนนี้เมื่ออยูต่ ่อหน้าตู๋กถู ิง พระองค์กไ็ ด้แต่ใช้ฐานะเช่นนี้
แน่นอนว่านี่ถึงกับทาให้ท่านผูเ้ ฒ่ากล่าวอะไรไม่ออกทั้งสิ้ น ได้แต่
ต้องพูดว่า ฮ่องเต้หนุ่มพระองค์น้ ี ช่างไร้ยางอายเสี ยจริ งๆ
ชัว่ ขณะที่เงียบงันกันไปนั้น บรรยากาศคุกรุ่ นอย่างที่สุด
“ดูเอาสิ นี่คือสายลมกรรโชกก่อนที่พายุฝนจะมา เห็นไหมเล่าชักจะ
เป็ นเรื่ องเข้าแล้ว”
คนพวกนี้อยากเห็นเรื่ องสนุกโดยไม่สนใจว่าจะเป็ นเรื่ องหนักหนา
เพียงไร เมล็ดแตงก็ยงิ่ แทะกันอย่างเมามันกว่าเดิม
ที่จริ งแล้ว พวกเขาอยูห่ ่างออกไปมาก พวกเขาไม่ได้ยนิ เลยว่าจี
เฉวียนกับตู๋กถู ิงกาลังพูดอะไรกัน เพียงแค่สงั เกตจากสี หน้า ก็พอจะรู ้
แล้วว่าบรรยากาศคงไม่น่ารื่ นรมย์เท่าไรนัก
ยังดีที่ต๋ ูกูซิงหลันคอยสลายบรรยากาศที่อึดอัดเช่นนี้ทิ้งไป
ครั้งนี้นางตัดสิ นใจผลักล้อเก้าอี้พงุ่ เข้าไปข้างในก่อนแล้ว….
ทาเอาทั้งฝ่ าบาท ตู๋กผู เู ้ ฒ่า และสองพีช่ ายที่อยูด่ า้ นหลังต่างไล่ตามมา
อย่างรี บร้อน
…………..
เหล่าคนรับใช้ในจวนต่างก็พากันกวาดหิมะทิ้งไปอย่างบ้าคลัง่ ด้วย
เกรงว่าหิมะเพียงบางๆ ก็อาจจะทาให้นางลื่นล้มไปได้
เก้าอี้รถเข็นของตู๋กซู ิงหลันก็แสนจะยอดเยีย่ มทั้งยังรวดเร็ วอย่างยิง่
ผลักเบาๆ เพียงสองครั้งก็มาถึงห้องโถงแล้ว
นางเข้าไปข้างในได้ครู่ หนึ่งแล้ว คนเหล่านั้นจึงได้ตามมาถึง
เจียงเหม่ยหยูน่ งั่ อยูภ่ ายในห้องโถง พอได้เห็นตู๋กซู ิงหลันก็ท้ งั ชิงชัง
ทั้งโกรธเกลียดและทั้งริ ษยา
เพียงแต่วา่ ในยามนี้ไม่อาจพูดจาอะไรออกไป ทั้งยังต้องคลี่ยมิ้
ออกมาต้อนรับนาง
“วันนี้ไทเฮาทรงกลับมา หม่อมฉันยินดีเหลือเกิน” นางทางหนึ่งพูด
ไป ทางหนึ่งก็ช่วยขยับผ้าห่มให้กบั ตู๋กซู ิงหลัน
อะไรคือต้องห่มผ้าให้หนาซะขนาดนี้
อยากจะกลายเป็ นเครื่ องกันหนาวที่สวยงามงั้นรึ ? นางก็แค่ขาพิการ
จาเป็ นจะต้องเรี ยกร้องความสนใจถึงขนาดนี้เชียวหรื อ?
เห็นอยูช่ ดั ๆ ว่าอยากจะมาเพื่อร้องขอความเห็นใจจากนายท่าน
มากกว่า!
ทาตัวเช่นนี้ช่างเหมือนกับนังย่าชัว่ ของนางอย่างไรอย่างนั้น!
ตู๋กซู ิงหลันขยับเก้าอี้รถเข็นถอยหลังออกไปห่างๆ กลิ่นเครื่ องหอมที่
อยูบ่ นร่ างของเจียงเหม่ยหยูฉ่ ุนเกินไปแล้ว นางทนไม่ไหวจนต้อง
จามออกมายกใหญ่ ถูจมูกอยูห่ ลายครั้ง พอเงยหน้ามองดูเจียงเหม่ย
หยู่ ก็ตกกระใจจนแทบจะจาไม่ได้
นี่ใครแต่งหน้าให้กบั นางกัน? ก้าวออกมาซะ นางสัญญาว่าจะตีให้ถึง
ตาย!
บุรุษทั้งสี่ ที่พ่ งึ จะเข้ามาในห้อง เห็นนางจามยกใหญ่กพ็ ากันตื่นตัว
ขึ้นมา
ครั้งนี้ท่านปู่ ฉลาดขึ้นมาแล้ว เขาชิงเข้ามาอยูด่ า้ นหน้าสุ ด คุกเข่าลง
ไปตรงเบื้องหน้าตู๋กซู ิงหลันจับมือของนางเอาไว้ ถูเบาๆ พร้อมกับ
เป่ าลมหายใจลงไป สี หน้าก็เปี่ ยมไปด้วยความรักและความห่วงใย
“ดวงใจเอ๋ ย เจ้าเป็ นหวัดแล้วหรื อ?”
——
ตอนต่อไป “ฝ่ าบาท ทรงเข้าพระทัยหรื อไม่?”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 358 ฝ่ าบาท ทรงเข้ าพระทัย
หรื อไม่ ?
ตู๋กจู ุน “ทำไมวันนี้หอ้ งโถงถึงไม่ได้จุดกระถำงไฟ?”
ตู๋กเู จวี๋ย “จวนของพวกเรำยำกจนถึงขนำดนี้เชียวหรื อ? แม้แต่
กระถำงไฟก็ยงั ไม่มีจะจุด เครำะห์กรรมจริ งๆ!”
พูดแล้วเขำก็เหลือบมองไปทำงจีเฉวียน….
ในเมื่อวันนี้ฮ่องเต้สุดตระหนี่ผนู ้ ้ ีกล้ำก้ำวเข้ำถ้ ำเสื อมำ ก็อย่ำหวังเลย
ว่ำจะกลับออกไปได้อย่ำงสบำยๆ
จีเฉวียน “หลี่กงกง ไปนำถ่ำนไหมเงินในพระตำหนักตี้หวั กงส่ งมำที่
จวนตระกูลตู๋กูให้หมด”
ถ่ำนในตำหนักเฟิ่ งหมิงกงเขำจะต้องเก็บเอำไว้ เดี๋ยวซิงซิงกลับเข้ำวัง
ไปยังจะต้องใช้
จีเฉวียนกลัวหนำวที่สุด ทุกปี ในฤดูหนำวจะต้องใช้ถ่ำนไหมเงิน
จำนวนมำกมำเพิ่มควำมอบอุ่น
เพียงแต่ตอนนี้พระองค์รู้สึกว่ำตู๋กซู ิงหลันจำเป็ นจะต้องใช้มำกกว่ำ
พระองค์ ดังนั้นจึงไม่แม้แต่จะคิด ก็สงั่ ให้ส่งมำแล้ว
ที่จริ งช่วงหลำยวันมำนี้ หลี่กงกงก็เห็นจีเฉวียนคอยเอำอกเอำใจตู๋กู
ซิงหลันอย่ำงบ้ำคลัง่ มำกแล้ว แต่พอได้ยนิ รับสัง่ เช่นนี้ออกมำ เขำก็
ต้องตกตะลึงไปครู่ หนึ่ง
ฝ่ ำบำททรงทำเช่นนี้ รำวกับว่ำท่ำมกลำงฤดูหนำวที่เย็นยะเยือกจน
แทบจะทำให้พระองค์ตวั แข็งตำย กลับจะทรงส่ งฉลองพระองค์คลุม
ที่มีอยูเ่ พียงตัวเดียวให้กบั ไทเฮำน้อย
ที่จริ งแล้วถ่ำนเหล่ำนี้…สำหรับไทเฮำน้อยนั้นจะมีหรื อไม่มีกไ็ ด้
ทั้งนั้น แต่สำหรับฝ่ ำบำทแล้วกลับเป็ นสิ่ งจำเป็ นอย่ำงยิง่
“รี บไปเบิกเอำมำ” ฮ่องเต้ทรงกำชับ หลี่กงกงไหนเลยจะยังกล้ำลังเล
อยูอ่ ีก ได้แต่รีบทูลลำนำคนออกไป
ตู๋กเู จวี๋ยเองก็คิดไม่ถึง ว่ำตนเองแค่กล้ำวำจำเหลวไหลไปประโยค
หนึ่งก็สำมำรถจะแลกเอำถ่ำนไหมเงินในพระตำหนักตี้หวั มำได้?
ถ่ำนไหมเงินเป็ นถ่ำนที่แพงที่สุด ก้อนหนึ่งสำมำรถจุดได้ถึงสำมวัน
ให้ควำมอบอุ่นทัว่ ทั้งห้อง เพียงก้อนเดียวก็มีรำคำถึงหนึ่งตำลึงเงิน
คนทัว่ ไปไม่มีทำงได้ใช้
เขำอดไม่ได้ที่จะแอบคิดมูลค่ำอยูใ่ นใจ แค่ประโยคเดียวของเขำ
น่ำจะแลกได้เงินมำพันตำลึงทองกระมั้ง?
ฮิฮิ……
ตู๋กเู จวี๋ยอดจะแอบดีใจไม่ได้
พอคิดถึงว่ำเมื่อวันนั้นพระองค์รีบออกมำยอมรับ ‘ลูก’ ในท้องของ
น้องเล็กว่ำเป็ นของพระองค์….
ตู๋กเู จวี๋ยก็ยงิ่ เกิดควำมคิดคำดเดำอย่ำงอุกอำจ
พวกเขำเข้ำใจจีเฉวียนผิดไปแล้ว
ที่พระองค์เสด็จมำในวันนี้ไม่ใช่เพื่อใช้นอ้ งเล็กมำบีบบังคับตระกูลตู๋
กู วันนี้มำเพรำะจะใช้นอ้ งเล็กโน้มน้ำวพวกเขำ
ก็พระองค์กำลังอยำกจะให้ท่ำนปู่ ช่วยพระองค์โจมตีแคว้นเหยียน
มิใช่หรื อ?
ทันใดนั้น ในใจของเขำก็บงั เกิดควำมคิดชัว่ ร้ำยกว่ำเดิม
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ตกตะลึงไป เดิมทีนำงคิดจะปฏิเสธ แต่พอคิดว่ำลูก
ชำยเป็ นฝ่ ำยส่ งมอบทองคำพันตำลึงออกมำเอง แต่ทนั ใดนั้นควำมงก
ที่มีในหัวใจก็เข้ำมำหักห้ำมเอำไว้
ตู๋กถู ิงยังคงคุกเข่ำอยูต่ รงหน้ำนำง เขำเองก็ตกใจจนแทบจะถูเอำหนัง
มือของตู๋กซู ิงหลันหลุดออกมำชั้นหนึ่ง
เจียงเหม่ยหยูก่ ไ็ ด้แต่ยมิ้ อยูด่ ำ้ นข้ำงอย่ำงเก้อเขิน นังคนชั้นต่ำนั้นจง
ใจใช่หรื อไม่ มันคิดจะแสดงให้เห็นว่ำตนเองได้รับควำมโปรดปรำน
มำกถึงเพียงไหนใช่ไหม?
ดูเอำเถอะ บุรุษเต็มห้อง มีคนใดบ้ำงที่ไม่รักนำงปำนแก้วตำดวงใจ?
ยิง่ ได้เห็นท่ำทำงเช่นนี้ของตู๋กซู ิงหลัน เจียงเหม่ยหยูก่ ย็ งิ่ คิดไปถึง
เจียงเย่ว
ตอนนั้นเจียงเย่วเองก็เป็ นเช่นนี้ ทุกคนต่ำงก็พำกันชื่นชอบนำง หัน
ไปแอบรักนำง ทำเหมือนคนอื่นที่เหลืออยูล่ ว้ นมิใช่ตวั ดีมีคุณค่ำ
อะไร
เจียงเหม่ยหยูก่ ดั ฟันกรอดอยูใ่ นใจนับพันครั้ง แต่บนใบหน้ำก็ได้แค่
แย้มยิม้ หัวเรำะฮิฮะออกมำเพื่อดึงดูดควำมสนใจผูอ้ ื่น “นำยท่ำน ใน
เมื่อตอนนี้พวกเด็กๆ ล้วนกลับมำกันพร้อมหน้ำ สมควรเริ่ ม
รับประทำนกันได้แล้วกระมัง อำหำรที่หอ้ งครัวตระเตรี ยมไว้กใ็ กล้
เย็นหมดแล้ว”
ตู๋กถู ิง “ใช่แล้ว ทำเอำดวงใจน้อยๆ ของข้ำหิ วจะแย่แล้ว”
เจียงเหม่ยหยู่ “……”
ฮ่องเต้ที่ทรงพระพักตร์หนำพอก็เข้ำร่ วมงำนเลี้ยงไปด้วย ทั้งยังนัง่ อยู่
ข้ำงกำยตู๋กูซิงหลัน
เมื่อเป็ นเช่นนี้ ตู๋กูถิงจึงนัง่ อยูข่ ำ้ งซ้ำยของตู๋กซู ิงหลัน ฮ่องเต้ประทับ
ทำงขวำของนำง ส่วนสองพีช่ ำยก็ได้แต่เขยิบออกไปข้ำงๆ
เจียงเหม่ยหยูย่ งิ่ ไม่มีสิทธิแม้แต่จะนัง่ ลง ได้แต่ยนื ปรนนิบตั ิอยู่
ด้ำนข้ำง
ถึงแม้วำ่ ช่วงที่ต๋ ูกถู ิงไม่อยูบ่ ำ้ นนำงจะถือโอกำสตั้งตัวเป็ นประมุข
ฝ่ ำยหญิงของบ้ำน แต่ที่สุดแล้วก็เป็ นเพียงแค่อนุเท่ำนั้น
ว่ำกันตำมฐำนะแล้ว อนุคนหนึ่งย่อมไม่มีสิทธิรับประทำนอำหำร
ร่ วมกับประมุขของบ้ำนและบุตรธิดำสำยหลักอยูแ่ ล้ว
ยิง่ ไปกว่ำนั้นตอนนี้ยงั เพิ่มฮ่องเต้มำอีกพระองค์หนึ่ง นำงยิง่ ไม่มี
คุณสมบัติใดๆ ทั้งสิ้ น
เจียงเหม่ยหยูย่ นื อยูด่ ำ้ นข้ำงด้วยหัวใจที่อึมครึ มกว่ำเดิม
ตู๋กถู ิงเพียงสัง่ ให้นำงกลับไปล้ำงเครื่ องประทินโฉมออกให้หมดสิ้ น
กระทัง่ กลิ่นเครื่ องหอมที่รมผูค้ นจนแทบสำลักตำยนั้นก็ให้ลำ้ งทิ้งไป
ด้วย
เจียงเหม่ยหยูถ่ ึงกับกระอักเลือดแล้วจริ งๆ
จำกนั้นท่ำนผูเ้ ฒ่ำก็หนั กลับไปคีบอำหำรให้กบั ตู๋กซู ิงหลัน “ดวงใจ
น้อยๆ ปลำพวกนี้เจ้ำกินให้มำกๆ หน่อย”
ตะเกียบยังไม่ทนั วำงลงไป ก็ถูกฮ่องเต้ทรงยืน่ ตะเกียบมำกันเอำไว้
ตู๋กูถิง “?” ฮ่องเต้นอ้ ยผูน้ ้ ีจงใจหำเหตุหรื อยังไง?
เขำตัดสิ นใจหันหน้ำออกไปมองหำไม้กวำด มันไม่ใช่แค่พวก
หลำนชำยเท่ำนั้นที่สมควรจะต้องโดนฟำด
ฮ่องเต้ “ปลำนี่มีกำ้ ง”
ตรัสแล้ว ก็เห็นพระองค์คีบเอำปลำชิ้นนั้นลงมำในชำมของพระองค์
เอง จำกนั้นก็ไม่รู้วำ่ ทรงหยิบเอำมีดขนำดเล็กออกมำจำกที่ใด ค่อยๆ
เลำะเอำก้ำงปลำทั้งหมดออกจนหมด ค่อยคีบคืนให้ต๋ ูกซู ิ งหลัน
ผูค้ นทั้งหมด “???”
อยูๆ่ ตู๋กถู ิงก็รู้สึกว่ำไม้กวำดนัน่ วำงเอำไว้ก่อนก็ได้
สักพักหนึ่ง ตู๋กเู จวี๋ยก็เขี่ยๆ ไปที่จำนปลำ “ฝ่ ำบำท ปลำนี่เป็ นปลำปำ
เป่ ำหยู [1] ผลผลิตชื่อดังของทะเลตะวันตก ก้ำงของมันอ่อนมำก
สำมำรถรับประทำนได้เลย….”
เขำยังไม่กล้ำขนำดจะพูดออกไปว่ำฝ่ ำบำทคงจะไม่รู้จกั กระมัง
ฮ่องเต้ทรงฟังแล้วก็ตรัสโดยพระพักตร์ไม่เปลี่ยนสี วำ่ “ก้ำงถึงจะ
อ่อนแต่กต็ ำคนได้อยูด่ ี เอำออกหมดแล้วก็เป็ นกำรหลีกเลี่ยงควำม
เสี่ ยง”
ผูค้ นทั้งหลำย “…….” พระองค์ตรัสเสี ยมีเหตุมีผล ทำเอำเถียงไม่ได้
เลย
ตู๋กซู ิงหลันมองดูปลำที่อยูใ่ นชำมชิ้นนั้น อยูๆ่ ก็รู้สึกว่ำมันสู ญเสี ยจิต
วิญญำณแห่งปลำไปแล้ว
ปลำที่ไม่มีกำ้ ง ก็เหมือกับเมล็ดแตงที่ไม่มีเปลือก กินแบบนี้มนั จะไป
ได้รสชำติอะไร?
วิญญำณทมิฬเป็ นสัตว์อสู รในพันธะสัญญำของนำง ย่อมรู ้สึกได้ถึง
ควำมคิดในจิตใจของนำง
มันถึงกับกรอกตำขำวขึ้นมำ ส่ งเสี ยงคุยกับนำง ‘ในใจ’ ว่ำ “เจ้ำกล้ำ
พูดออกไปไหมเล่ำ?”
ครั้งนี้ไม่ใช่วำ่ มันพูดจำช่วยเหลือฮ่องเต้สุนขั แต่วำ่ สตรี ผนู ้ ้ ีได้คืบจะ
เอำศอกจริ งๆ
ตู๋กซู ิงหลันลังเลอยูค่ รู่ หนึ่ง ไม่ทนั รอให้นำงได้กล่ำวควำมในใจ
ออกมำ ก็เห็นท่ำนปู่ คีบผักชิ้นหนึ่งมำให้อีก “ดวงใจน้อยๆ นี่เป็ นผัก
สดกรอบที่เจ้ำชอบกินมำกที่สุด กินให้เยอะๆ หน่อย”
ครั้งนี้ฝ่ำบำทมิได้ทรงสกัดเอำไว้ แต่วำ่ คีบเอำขำหมูชิ้นหนึ่งมำให้
พลำงตรัสกับนำงอย่ำงอบอุ่นเป็ นพิเศษว่ำ “กินคู่กบั เนื้อนุ่มๆ ยิง่ ได้
รสชำติดี”
“ฝ่ ำบำท หม่อมฉันไม่ได้มือกุด หม่อมฉันจัดกำรเองได้เพคะ”
ตู๋กซู ิงหลันถูกคำว่ำเนื้อนุ่มๆ ของพระองค์ทำเอำตกใจขึ้นมำ วันนี้ลูก
ชำยลืมเสวยยำก่อนออกจำกวังใช่หรื อไม่ สมองถึงได้ดูไม่ปกติเท่ำไร
หำกมิใช่เพรำะว่ำท่ำนปู่ และพวกพี่ชำยต่ำงก็อยูด่ ว้ ย ดูท่ำจีเฉวียนคง
จะต้องกำรป้อนนำงด้วยตนเองอย่ำงแน่นอน
พอเห็นว่ำหลำนสำวของตนเองตั้งท่ำปฏิเสธอย่ำงจริ งจัง ท่ำนผูเ้ ฒ่ำก็
ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขำวำงตะเกียบในมือลง สี หน้ำดำคล้ ำ “ฝ่ ำ
บำท หลำนสำวของกระหม่อมคิดจะกินอะไรพระองค์กย็ งั ต้องยุง่
เกี่ยว เกรงว่ำจะเป็ นกำรเกินไปแล้วกระมั้ง?”
ในสำยตำของท่ำนผูเ้ ฒ่ำ ตู๋กูซิงหลันเป็ นดัง่ นักโทษที่ปรำศจำก
อิสรภำพใดๆ ทั้งสิ้ น ช่ำงน่ำสงสำรอย่ำงที่สุด
จีเฉวียน “เรำเป็ นห่วง”
“มีอะไรให้ฝ่ำบำทต้องทรงเป็ นห่วงกัน? ใช่หรื อไม่วำ่ นำงจะพูด
อะไร ทำอะไร ล้วนต้องกรำบทูลกับฝ่ ำบำทก่อน?”
ท่ำนผูเ้ ฒ่ำก็เป็ นคนที่อำรมณ์ร้ำยเช่นนี้เอง คนอื่นอำจเกรงกลัวจี
เฉวียน แต่เขำไม่
“นำงคือไทเฮำ และยิง่ เป็ นหลำนสำวของกระหม่อมตู๋กถู ิง! คือสตรี ที่
ทรงศักดิ์ที่สุดในแผ่นดิน นำงคิดจะทำสิ่ งใด คิดจะพูดอะไร คิดจะ
กินอะไร ล้วนต้องแล้วแต่ตวั นำงจะตัดสิ นใจเท่ำนั้น ฝ่ ำบำท ทรงเข้ำ
พระทัยหรื อไม่พะยะค่ะ?”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 359 พาฮ่ องเต้ สุนัขมาเข้ าพบผู้ใหญ่
ในบ้ าน
กำรระเบิดโทสะของท่ำนผูเ้ ฒ่ำในครั้งนี้ตอ้ งถือว่ำผ่ำนกำรอดทนมำ
มำกแล้ว
หำกมิใช่เพรำะว่ำในอดีตเขำเคยกล่ำวคำสำบำนอย่ำงหนักแน่นไว้กบั
ปฐมฮ่องเต้ ว่ำเขำจะสนับสนุนรำชวงศ์จีไปชัว่ ชีวิต ไม่ปันใจออก
ห่ำงโดยเด็ดขำด เกรงว่ำต่อให้เป็ นพระบิดำของจีเฉวียนก็ถูกตัดพระ
เศียรไปก่อน ส่ วนเขำก็ข้ ึนเป็ นฮ่องเต้ไปนำนแล้ว
ไหนเลยจะถึงรอบให้ไอ้เด็กนี่มำยุม่ ย่ำมกับดวงใจของเขำ
ที่ก่อนหน้ำนี้เขำยอมส่ งมอบกองทัพตระกูลตู๋กกู ว่ำครึ่ งออกไป
นอกจำกเพื่อหลำนสำวแล้ว ก็ยงั เป็ นเพรำะว่ำเขำได้ให้คำสำบำน
อย่ำงหนักแน่นเอำไว้กบั ปฐมฮ่องเต้
มิเช่นนั้นจีเฉวียนที่พ่ งึ จะขึ้นครองรำชย์จะนัง่ บัลลังก์ได้อย่ำงสงบสุ ข
หรื อ?
ตอนนั้นที่ตอ้ งทิ้งหลำนสำวสุ ดที่รักเอำไว้ในตำหนักเย็นเพียงลำพัง
เขำก็ละอำยใจจนแทบจะตำยอยูแ่ ล้ว ตอนนี้พอต้องมำทนเห็นฮ่องเต้
น้อยรังแกนำง ตู๋กูถิงย่อมต้องระเบิดลงแล้ว
ตู๋กเู จวี๋ยค่อยๆลุกขึ้นมำอย่ำงเงียบๆ หยิบเอำไม้กวำดมำวำงเอำไว้ใน
จุดที่มือของตู๋กถู ิงสำมำรถคว้ำถึง หลังจำกนั้นก็ค่อยๆย่องกลับไปนัง่
ที่เดิม แล้วคว้ำชำมข้ำวใบโตขึ้นมำ
ต้องรี บกินให้อิ่มก่อน เขำถึงจะมีแรงพูด!
ตอนท่ำนปู่ ลงมือให้ใช้แค่ไม้กวำดด้ำมนี้กพ็ อแล้ว…..
จีเฉวียนเองก็วำงตะเกียบลง และก่อนที่ไม้กวำดของท่ำนผูเ้ ฒ่ำจะถูก
โบกขึ้นมำ พระองค์กป็ ระทับขึ้นยืน
สู ดลมหำยพระทัยเข้ำไป กลั้นไว้ชวั่ ขณะ
ตู๋กซู ิงหลันเกือบจะยืน่ มือไปดึงฉลองพระองค์เพื่อขอให้ทรงพระทัย
เย็นลงหน่อยอยูแ่ ล้ว
นำงคิดไม่ถึงว่ำท่ำนปู่ จะเป็ นคนที่ร้ ันถึงเพียงนี้ ก่อนหน้ำนี้นำงรู ้สึก
ว่ำพี่ใหญ่ออกจะเป็ นทหำรมำกไป แต่คิดไม่ถึงว่ำท่ำนปู่ จะเป็ นคนที่
ดุดนั เสมือนหมำป่ ำ แถมยังดุเสี ยยิง่ กว่ำหมำป่ ำอีกต่ำงหำก
หำกมองดูไปทัว่ ทั้งแคว้นต้ำโจว เกรงว่ำคงจะมีแต่เขำเท่ำนั้นที่กล้ำ
ปฏิบตั ิต่อจีเฉวียนเช่นนี้
ในใจของนำงทั้งอบอุ่นทั้งหวำดกลัว ถึงแม้วำ่ ช่วงนี้จีเฉวียนจะทำตัว
อบอุ่นเหมือนคนทัว่ ไป แต่กย็ ำกที่จะรับรองได้ เพรำะว่ำหำกเขำ
อยำกจะพิโรธก็จะพิโรธ
พระองค์กเ็ ป็ นเหมือนกับระเบิดลูกหนึ่ง ยำมปกติกส็ งบนิ่งดีแต่หำก
ว่ำระเบิดขึ้นมำก็เป็ นอันจบกัน
เจียงเหม่ยหยูย่ นื มองดูงิ้วอยูห่ ่ำงๆ เฮอะ เฮอะ เอำละสิ ตอนนี้ตำเฒ่ำผู ้
นั้นชักจะพองขนขึ้นมำแล้วละมั้ง?
นำงเคยต้องเสี ยทีถูกรังแกยำมอยูต่ ่อหน้ำจีเฉวียนมำแล้วหลำยครั้ง
นำงรู ้ดีวำ่ พระองค์ทรงชิงชังตระกูลตู๋กเู พียงไร
ตอนนี้สุนขั จะกัดกันแล้ว มันช่ำงสะใจดีแท้!
เหล่ำองครักษ์ที่รออยูภ่ ำยในสวนของตระกูลตู๋กู ตอนนี้ต่ำงก็หวั ใจ
ตุ๊มๆต่อมๆขึ้นมำ….หำกว่ำฝ่ ำบำททรงพิโรธขึ้นมำ ไม่แน่วำ่ วันนี้
แม้แต่เมืองหลวงก็อำจจะไม่สงบสุ ขอีกต่อไปแล้ว
ท่ำนผูเ้ ฒ่ำตระกูลตู๋กผู นู ้ ้ นั ก็เช่นกัน….ฝ่ ำบำทก็แค่คีบอำหำรประทำน
ให้ไทเฮำเพียงสองครั้งเท่ำนั้นเองมิใช่หรื อ? เขำจะต้องมีน้ ำโหไป
ทำไม?
ในขณะที่คนทั้งหมดกำลังกังวลอยูน่ ้ นั จีเฉวียนก็ทรงโน้มพระองค์
โค้งลงไปทำงตู๋กูถิงดุจคันธนูคนั หนึ่ง
“เรำขออภัยในทุกสิ่ งที่ได้ทำลงไปก่อนหน้ำนี้”
ผูค้ นทั้งหลำย “! ! !”
นี่ นี่ นี่ นี่ นี่ ….พวกเขำเกิดตำฝำดหรื อว่ำหูฝำดขึ้นมำกัน?
ตู๋กถู ิงเองก็ตะลึงไปเช่นกัน ไม่เขำใจว่ำจีเฉวียนทำเช่นนี้หมำยควำม
ว่ำอย่ำงไร แล้วตอนนี้เขำควรจะหยิบไม้กวำดขึ้นมำดีหรื อไม่?
สองพี่ชำยตระกูลตู๋กตู ่ำงก็มีสีหน้ำงวยงง
จีเฉวียนที่สูงส่ งอยูเ่ สมอ อยูๆ่ ก็มำขออภัยต่อท่ำนปู่ ?
นี่ดวงอำทิตย์ยำ้ ยไปขึ้นทำงทิศตะวันตกแล้วหรื อไร? หรื อว่ำเขำมี
แผนกำรอื่นใดอีก?
ไม่มีใครอยำกจะเชื่อว่ำจีเฉวียนจะทรงทำเรื่ องนี้ดว้ ยควำมบริ สุทธิ์ใจ
แม้แต่ต๋ ูกูซิงหลันเองก็ยงั ไม่อยำกจะเชื่อ….วันนี้ตอนที่จีเฉวียนทรง
ขวำงนำงเอำไว้ไม่ให้นำงออกจำกวัง นำงก็ยงั นึกว่ำพระองค์ทรงคิด
จะทำเรื่ องอะไรใหญ่โตเสี ยอีก
คิดไม่ถึงว่ำ คนที่หยิง่ ยโสเช่นพระองค์ จะยอมก้มศีรษะขออภัยท่ำน
ปู่ ?
“ก่อนหน้ำนี้เรำไม่เข้ำใจในตัวซิงซิง เข้ำใจผิดนำงไปมำก เรำได้
สำนึกตนเองอย่ำงจริ งใจ ต่อไปจะต้องชดเชยสิ่ งที่ติดค้ำงคืนให้นำง
ทั้งหมด”
ตู๋กูถิง ตู๋กูจุน ตู๋กูเจวี๋ย “ซิงซิง?”
นี่มนั เรื่ องผีสำงอะไรกัน? เจ้ำทำไมไม่ไปร้องขอกับดวงจันทร์เล่ำ?
จีเฉวียนสี พระพักตร์จริ งจัง ตรัสด้วยน้ ำเสี ยงหนักแน่นว่ำ “ท่ำนผูเ้ ฒ่ำ
จำกเมืองหลวงไปสองปี สองปี นี้เกิดเรื่ องที่ท่ำนไม่รู้ข้ ึนมำกมำย
พวกเรำต่ำงก็ไม่เคยทำควำมเข้ำใจกันอย่ำงดีๆ ที่วนั นี้เรำพำซิงซิงมำ
ด้วยตนเองก็เพรำะอยำกจะให้โอกำส”
ท่ำนผูเ้ ฒ่ำรู ้สึกว่ำเขำไม่ได้ตอ้ งกำรโอกำสใดๆจำกพระองค์ท้ งั สิ้ น
หำกจะให้โอกำสก็สมควรที่เขำจะต้องเป็ นฝ่ ำยให้มำกกว่ำกระมัง?
ขณะที่พร้อมจะคว้ำไม้กวำดอยูท่ ุกเมื่อ ตู๋กถู ิงก็อำ้ ปำกขึ้นมำ เขำมอง
ไปที่จีเฉวียนด้วยควำมงุนงง และเคร่ งเครี ยด “ฝ่ ำบำท รับสัง่ เช่นนี้
ทรงหมำยควำมว่ำอย่ำงไรกันแน่ กระหม่อมงุนงงแล้ว”
อืม……ดูท่ำคงคิดจะเข้ำมำสร้ำงควำมใกล้ชิด เพื่อให้เขำไปตีแคว้น
เหยียนล่ะสิ
แม้ตอ้ งเผชิญหน้ำกับท่ำนผูเ้ ฒ่ำที่เปี่ ยมไปด้วยไอสังหำรทัว่ ร่ ำง
ฮ่องเต้กลับมิได้หวำดกลัวแม้แต่นอ้ ย ทรงยืดพระองค์ตรงดุจพูก่ นั สี
พระพักตร์เคร่ งขรึ ม
ครู่ ใหญ่ถึงได้ทรงตรัสออกมำว่ำ “เรำกำลังไล่ติดตำมเพื่อขอควำมรัก
จำกหลำนสำวสุ ดที่รักของท่ำน ตู๋กูซิงหลัน”
ตู๋กูถิง “? ? ?” ยำยเอ๋ ย ผักกำดขำวหัวงำมของบ้ำนเรำ ถูกไอ้หมูหมำย
ตำเขำเสี ยแล้ว!
นี่เขำอำยุมำกเกินไป จนโบกไม้กวำดไม่ไหวแล้วหรื อ?
สองพี่ชำยต่ำงก็มีสีหน้ำตกตะลึงไปเช่นกัน
ตู๋กูซิงหลันอยำกจะตะครุ บปำกของจีเฉวียนเอำไว้ …..ถ้ำนำง
สำมำรถลุกขึ้นยืนได้นะ
ยำมปกติเขำบอกเรื่ องนี้กบั นำงต่อหน้ำก็แล้วไปเถอะ แต่ทำไมพอ
มำถึงนี่กต็ อ้ งมำสำรภำพกับท่ำนปู่ ด้วยเล่ำ?
นำงกลัวว่ำเกิดท่ำนปู่ ทนรับไม่ได้ จะขำดใจตำยตรงนี้เลย
ก่อนหน้ำนี้หลำนสำวสุ ดที่รักก็แต่งให้กบั บุรุษที่แก่กว่ำบิดำของนำง
ตอนนี้กย็ งั จะมำพัวพันกับคนที่เป็ นบุตรอีก?
จะมีผอู ้ ำวุโสบ้ำนใดบ้ำงที่ไม่ข่นุ เคือง?
เจียงเหม่ยหยูต่ ำค้ำงไปแล้ว
นำงไม่นึกไม่ฝันเลยว่ำฝ่ ำบำทจะทรงถูกพระทัยในตัวนังตัวร้ำยตู๋กู
ซิงหลันนัน่ ทั้งยังไล่ตำมจีบไม่สำเร็ จอีกด้วย?
แล้วนี่ถึงกับต้องมำแจ้งแก่ผอู ้ ำวุโสในบ้ำน?
เป็ นถึงฮ่องเต้มีหรื อว่ำต้องกำรสตรี แบบใดแล้วจะไม่ได้ จำเป็ น
จะต้องสิ้ นเปลืองเรี่ ยวแรงมำโน้มน้ำวผูอ้ ื่นให้เป็ นพวกจนเป็ นเรื่ อง
ใหญ่ถึงเพียงนี้?
พอคิดไปถึงตู๋กเู หลียนหลำนสำวของตนเองที่ยงั คงตัวสัน่ สะท้ำน
แอบอยูใ่ นมุมมืด เจียงเหม่ยหยูก่ แ็ ทบจะอยำกระเบิดตัวเองแล้ว
ต่ำงก็เป็ นหลำนสำวของตระกูลตู๋กเู หมือนกัน คนหนึ่งถูกอดีตฮ่องเต้
หมำยตำ ทั้งยังถูกพระทัยฮ่องเต้องค์ปัจจุบนั อีกคนหนึ่งกลับเป็ น
เหมือนน้ ำครำในท่อน้ ำทิ้ง
ทำไมฟ้ำดินช่ำงไร้ควำมยุติธรรมถึงเพียงนี้?
อีกด้ำนหนึ่ง ทรวงอกของตู๋กถู ิงก็กระเพื่อมขึ้นมำ ว่ำกันตำมจริ งแล้ว
เขำอยำกจะใช้ดำบเดียวตัดพระเศียรของจีเฉวียนให้จบสิ้ นไป
สี หน้ำของเขำมืดครึ้ มรำวกับจะมีพำยุฝน
“ฝ่ ำบำท เมื่อครู่ ลมพัดแรงเกินไป กระหม่อมฟังไม่ค่อยชัดว่ำ
พระองค์รับสัง่ ว่ำอะไร”
ท่ำนผูเ้ ฒ่ำย่อมไม่อยำกจะยอมรับเรื่ องนี้ มิสู้แกล้งทำเป็ นไม่รู้เรื่ องจะ
ดีกว่ำ
เขำไหนเลยจะรู ้วำ่ ฝ่ ำบำทจะเอำจริ งเอำจังถึงเพียงนั้น หน้ำต่ำงภำยใน
ห้องไม่ได้เปิ ด ประตูกป็ ิ ดอยูจ่ ะเอำลมมำจำกไหนกัน?
เห็นอยูว่ ำ่ ตู๋กถู ิงกำลังหนีปัญหำนี้อยูช่ ดั ๆ
พระองค์ยงิ่ ตรัสด้วยน้ ำเสี ยงหนักแน่นกว่ำเดิมว่ำ “เรำชอบซิงซิง รัก
แต่ซิงซิง ค่ำคืนพลิกตื่นตลอดเวลำ คะนึงหำมิเว้นวำย”
วิญญำณทมิฬแทบจะถูกเขำเชื่อมจนหวำนเยิม้ ไปแล้ว มันคอย
กระซิบกระซำบทำงจิตกับตู๋กซู ิงหลันอยูต่ ลอดเวลำ “เจ้ำว่ำฮ่องเต้
สุ นขั ผูน้ ้ ีมีตำรำคำรมคำหวำนหรื อไม่ ไยอ้ำปำกขึ้นมำแต่ละทีกม็ ำ
เป็ นชุดเลย”
ตู๋กซู ิงหลันขี้เกียจจะไปสนใจมัน รู ้จกั กันมำก็นำนแล้ว ประกอบกับ
กำรแสดงออกในวันนี้ ตู๋กซู ิงหลันก็ชกั จะรู ้สึกเชื่อว่ำจีเฉวียนจริ งใจ
ขึ้นมำบ้ำงเหมือนกัน
ในโลกก่อนนำงก็เคยได้เล่นละครอยูห่ ลำยเรื่ อง บุรุษที่มีควำมจริ งใจ
คิดจะเคียงคู่กบั อีกฝ่ ำยไปจนชัว่ ชีวิต ล้วนทำเช่นเดียวกันกับจีเฉวียน
ให้ควำมเคำรพกับผูอ้ ำวุโส ด้วยท่ำทีที่จริ งใจอย่ำงแท้จริ ง
วันนี้ต้ งั แต่ตอนเช้ำ นำงเห็นจีเฉวียนเสด็จกลับไปกลับมำ ตรัสพึมพำ
คนเดียวอยูพ่ กั ใหญ่ นำงก็นึกว่ำเขำกำลังทำอะไรอยูเ่ สี ยอีก ที่แท้ก็
กำลังเตรี ยมตัวมำพบผูอ้ ำวุโสในบ้ำน
นำงก็นึกอย่ำงใสซื่อว่ำเป็ นแค่กำรกลับมำทำนข้ำวมื้อหนึ่งที่บำ้ น
เท่ำนั้น
ตู๋กซู ิงหลันไม่รู้วำ่ ควรจะร้องไห้ให้กบั ควำมซื่อของตนเองดี หรื อว่ำ
จะร้องไห้เพรำะตกใจกับกำรกระทำที่คำดไม่ถึงของจีเฉวียนดีกว่ำ
กัน
“ท่ำนผูเ้ ฒ่ำ ควำมจริ งใจของเรำที่มีต่อนำง ฟ้ำดินสำมำรถเป็ นพยำน
ได้”
——
ตอนต่อไป “เจ้ำไม่ได้เสเพล เจ้ำก็แค่รักไปเรื่ อยๆ”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 360 เจ้ าไม่ ได้ เสเพล เจ้ าก็แค่ รักไป
เรื่ อยๆ
เห็นท่ำนผูเ้ ฒ่ำไม่พดู ไม่จำไปพักใหญ่ จีเฉวียนก็เกรงว่ำเขำจะปฏิเสธ
จึงอดไม่ได้ที่จะพรั่งพรู ควำมรู ้สึกที่มีต่อตู๋กซู ิงหลันออกมำจนหมด
“ฝ่ ำบำท กระหม่อมเองก็เป็ นบุรุษ ย่อมรู ้ดีวำ่ ฝี ปำกของบุรุษนั้นไม่มี
สัจจะอยูจ่ ริ ง” ตู๋กูถิงมองพระองค์นิ่งอยูน่ ำน ก็หวั เรำะออกมำ
ตอนนั้นก่อนที่เจียงเย่วจะถูกพำกลับมำที่วงั เสด็จปู่ ของพระองค์จี
จ้ำนก็ออกพระโอษฐ์วำ่ จริ งใจอย่ำงแท้จริ ง แต่แล้วสุ ดท้ำยเล่ำ?
ก็ยงั หนีไม่พน้ วังหลังมีสนมสำมพันอยูด่ ี
พระองค์ทรงเป็ นหลำยชำยของจีจำ้ น โลหิตที่ปรำศจำกควำมจริ งใจ
นั้นไหลเวียนอยูใ่ นกระดูก….แล้วเขำจะไปเชื่อถือได้อย่ำงไร
หำกถอยออกมำพูดกัน ต่อให้หวั ใจของจีเฉวียนดวงนี้มีควำมจริ งใจ
เขำก็ไม่อำจอยูร่ ่ วมกับหลำนสำวยอดดวงใจของตนได้
เขำไม่เหมำะสม
“เรำจริ งใจ” ตลอดชีวิตที่ผำ่ นมำจีเฉวียนไม่ทรงเคยต้องมำอธิบำย
พระองค์เองต่อหน้ำผูอ้ ื่น
“ที่เรำมำในวันนี้ เพรำะต้องกำรมำพูดคุยให้ชดั เจน” จีเฉวียนตรัส
ต่อไป ขณะเดียวกันก็หนั มำทอดพระเนตรสตรี ขำ้ งกำย สำยพระ
เนตรมีแต่ควำมอ่อนโยน
“เรำหลงรักซิงซิง เป็ นควำมรักที่ปรำศจำกกำรวำงอุบำยใดๆ เรำไม่
เคยต้องทุกข์ทรมำนใจเพรำะผูใ้ ดมำก่อนเลย ขอเพียงแค่นำงยอม
พูดคุยกับเรำมำกขึ้นสักคำ ยอมมองเรำให้นำนขึ้นอีกหน่อยเรำก็
พอใจมำกแล้ว”
ตรัสแล้วจีเฉวียนก็เก็บสำยพระเนตรกลับมำ มองดูต๋ ูกถู ิง “ท่ำนผูเ้ ฒ่ำ
เองก็เคยมีควำมรักลึกซึ้งต่อคนผูห้ นึ่ง ย่อมต้องเข้ำใจควำมรู ้สึกของ
เรำ”
“ตอนที่นำงหำยสำบสู ญไปนั้น เป็ นช่วงเวลำที่มืดมนที่สุดในชีวิต
ของเรำ ยังมืดมนยิง่ กว่ำช่วงเวลำที่เรำไปเป็ นตัวประกันอยูใ่ นแคว้น
เหยียนอีกหลำยเท่ำนัก”
“ในตอนนั้น เรำเหมือนกับคนที่สูญเสี ยแสงแห่งชีวิตไปแล้ว คิดแต่
จะดำดิ่งลงไปในควำมมืดมิดเท่ำนั้น ตอนนั้นเรำแสนเคียดแค้น เคียด
แค้นฟ้ำดินช่ำงไร้ควำมเที่ยงธรรม ทำไมคนสำคัญของเรำเป็ นต้อง
จำกเรำไปจนหมดสิ้ น เรำอยำกจะให้คนทัว่ ทั้งแผ่นดินต้องทนทุกข์
ทรมำนเช่นเดียวกันกับเรำ”
“แต่พอได้พบนำงอีกครั้ง เรำก็วำดหวังให้ทวั่ ทั้งแผ่นดินมีควำมสุ ข
เช่นเดียวกันกับเรำ”
“ถึงแม้วำ่ นำงจะไม่เคยยอมรับเรำ แต่ขอเพียงแค่เรำได้เห็นนำงทุกๆ
วัน รู ้วำ่ นำงอยูใ่ กล้ๆเรำ มิได้ไปไหน หัวใจดวงนี้…. ก็พอใจมำก
แล้ว”
จีเฉวียนจับที่พระทัยของพระองค์เอง “เรำคิดว่ำ เรำจะต้องรักนำง
มำกมำยอย่ำงแน่นอน รักขนำดไม่อำจห่ำงกัน ไม่อำจจำกไปไหน”
คำพูดเหล่ำนี้อ๋ ูเหนียงจื่อไม่เคยสอนพระองค์มำก่อน
จีเฉวียนทรงรับสัง่ จำกพระทัยของพระองค์
วิญญำณทมิฬแทบจะอยำกหำสมุดมำเล่มหนึ่งเพื่อบันทึกถ้อยคำ
ทั้งหมดลงไป รอจนเมื่อกลับไปยังโลกโน้นแล้ว จะได้ให้ซื่อมัว่
ศึกษำเพื่อปรับปรุ งตัว หรื อว่ำอ่ำนตำมก็ยงั ดี
ตู๋กเู จวี๋ยเคยคิดว่ำตนเองคือคนที่พดู มำกที่สุดแล้ว แต่วำ่ พอตอนนี้ได้
เห็นฝ่ ำบำทอธิบำยควำมในพระทัยไม่ยอมหยุด เขำถึงได้พบว่ำ
ตนเองไม่อำจกล่ำววำจำแทรกได้เลยแม้แต่คำเดียว
ดูเหมือนว่ำ…..พระองค์จะทรงชอบน้องเล็กจริ งๆ
ฮ่องเต้สุนขั ผูน้ ้ ีถึงแม้วำ่ ก่อนหน้ำนี้จะกระทำกำรเกินเลยไปบ้ำง แต่วำ่
ก็ยงั มิได้ถึงขั้นทำให้พวกเขำต้องอับจน
เรื่ องที่นอ้ งเล็กขำพิกำรก็ไม่อำจโทษว่ำเขำ ….หำกพูดเฉพำะแค่ช่วง
ที่นอ้ งเล็กกลับมำนี้ฮ่องเต้สุนขั ก็ทุ่มเทจิตใจดูแลเอำใจใส่ นำงจริ งๆ
เดิมทีเขำนึกว่ำนี่เป็ นแผนตบตำของพระองค์เสี ยอีก…..
แต่วำ่ เมื่อได้สมั ผัสอย่ำงใกล้ชิด กำรที่คนผูห้ นึ่งจะจริ งใจหรื อเส
แสร้ง ย่อมสำมำรถสังเกตเห็นได้อยูแ้ ล้ว
หำกว่ำที่พระองค์ทำไปเพื่อน้องเล็กทั้งหมดนั้นเป็ นแค่กำรเสแสร้ง
ละก็……..ก็คงได้แต่บอกว่ำฮ่องเต้พระองค์น้ ีแสดงได้เหนือชั้น
เกินไปแล้ว
เกินขนำดที่ก่อนหน้ำนี้ต๋ ูกเู จวี๋ยที่คิดจะทำตัวเป็ นไม้ตกั ปุ๋ ย ตอนนี้ได้
แต่ตอ้ งยอมปิ ดปำกอย่ำงเชื่อฟัง
พอมองเห็นว่ำพี่ใหญ่ที่อยูด่ ำ้ นข้ำงก็คิดจะเอ่ยปำกขึ้นมำ เขำก็เข้ำไป
กระตุกชำยเสื้ อของพี่ใหญ่ ลำกคนออกไปที่ดำ้ นข้ำง
“พี่ใหญ่ พวกเรำลองมองดูกนั ก่อนว่ำที่จริ งแล้วฮ่องเต้ทรงมีพระ
ประสงค์จะทำเช่นใดกันแน่ พวกเรำล้วนอยูท่ ี่นี่กนั หมด พระองค์จะ
จับน้องเล็กกินได้อย่ำงไร?” ตู๋กเู จวี๋ยกล่ำวเสี ยงเบำ คอยดึงตู๋กจู ุน
เอำไว้ไม่ให้เขำเข้ำไปแทรกเป็ นไม้ตกั ปุ๋ ยอย่ำงเอำเป็ นเอำตำย
พี่ใหญ่ที่ดีแต่ล่ำบึกบึนย่อมไม่เข้ำอกเข้ำใจเรื่ องของควำมรักควำม
ใคร่ อะไรอยูแ่ ล้ว หำกปล่อยให้เข้ำไปมีหวังยิง่ ยุง่
ท่ำนปู่ ของพวกเขำผ่ำนโลกมำมำก อย่ำได้เห็นว่ำตอนนี้ออกจะหยำบ
กร้ำนไปสักหน่อย ตอนที่ท่ำนย่ำยังอยูน่ ้ นั เขำก็เคยใช้ชีวิตอย่ำงชื่น
มื่นมำก่อน
เป็ นบุรุษที่ให้ควำมสำคัญกับควำมรักเช่นกัน……..
เรื่ องกำรทุ่มเทให้กบั สตรี ที่รัก ท่ำนปู่ มีประสบกำรณ์มำกกว่ำพวกเขำ
สองพี่นอ้ งมำกมำยนัก
จะจริ งใจหรื อว่ำเสแสร้ง ท่ำนปู่ ย่อมต้องมองออกอย่ำงแน่นอน
อ๋ อ แต่กเ็ คยมองพลำดมำแล้วครั้งหนึ่งเหมือนกัน
ก็คือไอ้ตวั ไม่ได้เรื่ องอี้อ๋องจีเย่ผนู ้ ้ นั …..
คิดๆดูแล้วตอนนั้นจีเย่เองก็คงจะเอ่ยปำกออกมำอย่ำงชัดเจนว่ำรัก
น้องเล็ก ชัว่ ชีวิตนี้จะแต่งกับนำงเท่ำนั้นเหมือนกัน
แล้วดูเอำสิ ต่อมำเขำกลับทำอะไรลงไป?
เพื่อตำแหน่งฮ่องเต้ ถึงกับผลักไสน้องเล็กไปให้บิดำของตนเอง?
ตอนนั้นจีเย่เองก็แสดงออกมำจริ งใจอย่ำงลึกซึ้ง ไม่ได้นอ้ ยไปกว่ำจี
เฉวียนในตอนนี้เลย
ดังนั้นสองพี่ชำยจึงยังคงรักษำควำมระแวงสงสัยเอำไว้
เมื่อต้องเผชิญกับควำมเงียบงันของท่ำนผูเ้ ฒ่ำ ฮ่องเต้ก็ได้แต่ตอ้ งตรัส
ให้แจ่มกระจ่ำงกว่ำเดิม
“ท่ำนผูเ้ ฒ่ำอย่ำได้ลำบำกใจ เรำรักซิงซิง เป็ นควำมเต็มใจของเรำเอง
นำงไม่จำเป็ นต้องตอบสนอง”
“เรำเพียงแต่หวังให้ คนในครองครัวของซิงซิงไม่เป็ นเช่นดังก่อนนี้
เปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อเรำบ้ำง”
แต่ไหนแต่ไรฮ่องเต้ทรงตรัสแต่นอ้ ย วำงพระองค์สูงส่ งอยูเ่ สมอ
วันนี้ตอ้ งถือว่ำพระองค์ทรงทำตนต่ำต้อยที่สุดในชีวิตของพระองค์
แล้ว
ตู๋กซู ิงหลันคิดจะพูดอะไรออกไปบ้ำง แต่กไ็ ม่รู้วำ่ สมควรจะพูดอะไร
ดี
คำปฏิเสธก็เคยพูดออกไปหลำยรอบแล้ว ทั้งยังพูดออกไปอย่ำง
เด็ดขำดชัดเจน…..
หำกว่ำจะให้พดู ออกไปอีก ก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไร
วิญญำณทมิฬยังคงตื้อถำมนำงต่อไป “หลันหลัน เจ้ำไม่หวัน่ ไหว
แม้แต่นอ้ ยจริ งๆหรื อ?”
คำถำมนี้ต๋ ูกซู ิงหลันก็ฟังมำหลำยรอบแล้ว
“วิญญำณทมิฬ เจ้ำก็คิดว่ำข้ำใจแข็งเป็ นหินเกินไปใช่หรื อไม่” ตู๋กู
ซิงหลันแอบเลือกขำหมูมำกินเองอย่ำงเงียบๆ “มันแปลกมำกเลย ….
ทุกครั้งที่ขำ้ รู ้สึกว่ำจีเฉวียนพอจะมีขอ้ ดีอยูบ่ ำ้ ง ในใจจะเกิดควำม
เจ็บปวดขึ้นมำ”
ดังนั้นนำงจึงไม่กล้ำคิดถึงเรื่ องดีๆของจีเฉวียนเลย
แต่ขณะเดียวกันก็ไม่รู้วำ่ ทำไม ถึงได้ค่อยๆรู ้สึกคุน้ เคยกับจีเฉวียน
ขึ้นมำเรื่ อยๆ คุน้ เคยกับอ้อมกอดของเขำ คุน้ เคยกับกำรถูกเขำจูบ
คุน้ เคยกับกำรที่ทุกเช้ำลืมตำขึ้นมำต้องได้เห็นเขำอยูต่ รงหน้ำ
ทั้งหมดนี้….เป็ นเพียงแค่ควำมคุน้ เคยเท่ำนั้นหรื อ?
ตู๋กซู ิงหลันคิดไปเรื่ อยๆ “วิญญำณทมิฬ เจ้ำคิดว่ำข้ำเสเพลมำก
หรื อไม่?”
วิญญำณทมิฬ “เจ้ำอยำกจะฟังควำมจริ งหรื อว่ำคำลวงกันละ?”
ตู๋กูซิงหลัน “ถ้ำอย่ำงนั้นเจ้ำก็อย่ำพูดอะไรเลยจะดีกว่ำ”
วิญญำณทมิฬ “ไม่ เค้ำจะพูด เค้ำจะพูด เจ้ำไม่ใช่คนเสเพล เจ้ำก็แค่รัก
ไปเรื่ อยๆ เจอคนหนึ่งก็รักคนหนึ่ง ให้ควำมหวังกับเหล่ำเทพธิดำ
เซียนบุรษไปทั้วทั้งใต้หล้ำ”
หลังจำกนั้นก็ฉีกทึ้งควำมหวังทิ้งเป็ นชิ้นๆ
อืม พอคิดเช่นนี้ หลันหลันก็ไม่ใช่คนเสเพลเลยสักนิดเดียว
ตู๋กซู ิงหลัน “อย่ำได้คิดว่ำ เจ้ำแอบนินทำข้ำอยูใ่ นใจแล้วข้ำจะไม่รู้
นะ”
ขอเพียงแค่พวกนำงไม่ได้ปิดกั้นควำมคิดของตนเอง ก็สำมำรถรู ้สึก
ได้ถึงควำมคิดของอีกฝ่ ำย
วิญญำณทมิฬ “เค้ำเปล่ำจริ งๆนะ รักไปเรื่ อยๆก็ไม่ได้ผิดอะไรสัก
หน่อย ที่ผดิ คือพวกคนหน้ำตำดีพวกนี้ ต่ำงพำกันเข้ำมำล่อลวงเจ้ำ
ต่ำงหำก”
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่ำมันพูดดีมีเหตุผล
เมื่อเป็ นเช่นนี้ นำงก็สำมำรถกินขำหมูต่อไปได้อย่ำงสบำยใจ อืม…..
ช่ำงหอมจริ งๆ
อีกด้ำนหนึ่ง จีเฉวียนยังคงมุ่งมัน่ สำบำนต่อฟ้ำดินต่อไป หำกว่ำท่ำน
ผูเ้ ฒ่ำเป็ นสตรี เกรงว่ำคงถูกคำพูดของเขำโยกคลอนจนหวัน่ ไหวไป
แล้ว
หลังจำกที่จีเฉวียนพร่ ำเพ้อออกมำชุดใหญ่แล้ว สี หน้ำของท่ำนผูเ้ ฒ่ำ
เองก็แปรเปลี่ยนไปอีกหลำยรอบ ในที่สุดก็ได้ยนิ เขำกรำบทูลออกมำ
ว่ำ “ฝ่ ำบำท กระหม่อมกินเกลือมำยังมำกกว่ำที่พระองค์เคยเสวยข้ำว
[1]เสี ยอีก ควำมโปรดปรำนของพระองค์ กระหม่อมไม่อำจเชื่อได้”
“กระหม่อมเป็ นขุนนำงของแคว้นต้ำโจว ย่อมต้องทุ่มเทสติปัญญำ
และควำมสำมำรถ[2]เพื่อแคว้นต้ำโจวอยูแ่ ล้ว ฝ่ ำบำทไม่จำเป็ น
จะต้องใช้วิธีน้ ีมำซื้อใจกระหม่อมและตระกูลตู๋ก”ู
——
ตอนต่อไป “ ท่ำนปู่ ข้ำชอบกินแต่เนื้อ”
——

[1] 吃过的盐比你吃过的米多:เปรี ยบเทียบว่ำมี


ประสบกำรณ์สูงกว่ำ

[2] มำจำกวรรคทองในสำมก๊กที่วำ่ 鞠躬尽瘁, 死而后已


(jū gōng jìn cuì,sǐ ér hòu yǐ):ทุ่มเทปัญญำและควำมสำมำรถ
แม้ตำยก็ไม่เสี ยดำยชีวิต
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 361 ท่ านปู่ ข้ าชอบกินแต่ เนื้อ
“เรำไม่ได้ทำเพื่อซื้อใจตระกูลตู๋กู”
จีเฉวียนทรงทรำบดีวำ่ ในสำยตำของคนตระกูลตู๋กนู ้ นั พระองค์เอง
ทรงเป็ นคนที่เจ้ำแผนกำรมำแต่ไหนแต่ไร
ไม่เพียงแต่ต๋ ูกถู ิงที่คิดเช่นนี้ คนทัว่ ทั้งแผ่นดินต่ำงก็คิดเช่นนี้
ก่อนหน้ำนี้พระองค์มิได้ใส่ พระทัย แต่วำ่ ตอนนี้ถึงแม้วำ่ จะเปิ ดเผย
ควำมในใจออกไปแล้ว ก็ยงั คงถูกเข้ำใจผิดเช่นนี้อยูด่ ี
รำวกับว่ำคนทัว่ ทั้งใต้หล้ำต่ำงไม่เคยเชื่อถือพระองค์
“เฮอะ….” ตู๋กูถิงหัวเรำะออกมำเบำๆ “ฝ่ ำบำท พระองค์ยงั ทรงเป็ น
คนหนุ่มแน่น กระหม่อมนั้นเคยเห็นกลอุบำยในโลกนี้มำมำกแล้ว
พบหน้ำก็รักจำกแล้วก็จบ หำกว่ำฝ่ ำบำทจะทรงอำศัยเพียงแค่คำพูด
ว่ำโปรดเพียงคำเดียวก็สำมำรถขอหลำนสำวของกระหม่อมไป
พระองค์กท็ รงมองเรื่ องนี้อย่ำงง่ำยดำยเกินไปแล้ว”
“ยังไม่ตอ้ งพูดถึงว่ำดวงใจของบ้ำนเรำมิได้ยอมรับพระองค์ดว้ ยซ้ ำ
หำกถอยออกมำคุยกัน ต่อให้นำงยอมรับพระองค์ ด้วยสถำนะของ
พระองค์และนำงจะบอกกล่ำวกับผูค้ นใต้หล้ำว่ำอย่ำงไร?”
“พระองค์ทรงเป็ นฮ่องเต้ ต่อให้ทรงกระทำเรื่ องที่ผดิ ต่อฟ้ำดิน
เพียงไร ผูค้ นก็ยงั ไม่บงั อำจถือโทษกับฝ่ ำบำทได้ พวกเขำได้แต่พำ
กันมำลงที่ดวงใจของกระหม่อม ด่ำว่ำนำงไม่รักษำขนบธรรมเนียม
ล่อลวงคนแก่ไปแล้วยังไม่พอ ยังจะมำคว้ำเอำคนหนุ่มไปอีก”
“พระองค์กท็ รงทรำบดี คำพูดของคนเรำนั้นแสนน่ำกลัว ในโลกนี้ใช่
จะมีแต่เพียงมีดดำบที่ฆ่ำคนได้ คำพูดของคนก็เช่นเดียวกัน พระองค์
จะทรงให้นำงที่เป็ นเพียงเด็กสำวตัวน้อย ไปเผชิญกับคลื่นลมที่จะ
เกิดขึ้นหลังจำกนี้อย่ำงไร?”
“เพียงแค่คำว่ำชอบเพียงคำเดียวของฝ่ ำบำท? นำงก็ตอ้ งเสี ยสละ
มำกมำยถึงเพียงนั้น แถมยังไม่อำจรับประกันได้วำ่ ควำมโปรดปรำน
ของพระองค์น้ นั จะจริ งจัง จะทรงเปลี่ยนพระทัยในภำยหลัง
หรื อไม่?”
“มนุษย์น้ นั เป็ นสิ่ งที่ไม่แน่นอนที่สุด ยำมรักนั้นก็บอกว่ำจริ ง ยำมไม่
รักก็บอกว่ำจริ งเช่นกัน ผูใ้ ดก็ไม่อำจบอกได้วำ่ จะผิดหรื อถูก”
“กระหม่อมมีหลำนสำวเพียงแค่คนเดียว ตอนที่ตำมใจปล่อยให้นำง
อภิเษกกับอดีตฮ่องเต้ ที่จริ งก็เป็ นกำรตัดสิ นใจที่ผดิ พลำดที่สุดใน
ชีวิตของกระหม่อมแล้ว แล้วนี่ยงั จะให้ปล่อยนำงเข้ำไปในตำข่ำย
ควำมรักของฝ่ ำบำทอีก? กระหม่อมมิได้โง่เขลำถึงเพียงนั้น?”
ตู๋กถู ิงจะอย่ำงไรก็เป็ นคนที่ผำ่ นประสบกำรณ์มำมำก มองเห็นอะไร
อย่ำงทะลุปรุ โปร่ ง
ทุกคำพูดที่เขำกล่ำวออกไป ล้วนแล้วแต่เป็ นกำรไตร่ ตรองเพื่อ
หลำนสำวสุ ดที่รักทั้งนั้น
“ในเมื่อฝ่ ำบำททรงเปิ ดพระทัยรับสัง่ กับกระหม่อม เช่นนั้น
กระหม่อมก็ขอกรำบทูลกับฝ่ ำบำทอย่ำงชัดเจน”
ตู๋กถู ิงนัง่ ลง ซดน้ ำในขนมหวำนกลั้วคอคำหนึ่ง “ตัวกระหม่อมตู๋กถู ิง
มีสตรี ที่รักที่สุดในชีวิต ก็คือฮูหยินที่จำกไปแล้ว สตรี ที่ห่วงใยที่สุด
ก็คือหลันหลัน ตอนนั้นที่นำงต้องกำรจะแต่งให้อดีตฮ่องเต้ เป็ นกำร
ตัดสิ นใจอย่ำงเด็ดขำดของนำงเอง กระหม่อมรั้งไม่อยู่ ก็ได้แต่ตอ้ ง
ปล่อยตำมใจนำง”
“ไม่ใช่เพรำะว่ำตระกูลตู๋กขู องกระหม่อมต้องกำรจะเกี่ยวข้องกับ
รำชวงศ์จึงได้ให้นำงแต่งเข้ำไปอย่ำงเด็ดขำด”
“ต่อมำพอเกิดเรื่ องที่ใครก็ไม่คำดคิดเช่นนั้นขึ้นมำ ก็ถือว่ำเป็ นกำรตัด
จบปัญหำไปประกำรหนึ่ง เพื่อหลันหลัน อ๋ องเช่นกระหม่อม
สำมำรถสละกองทัพครึ่ งหนึ่งออกไป หรื อต่อให้เป็ นทั้งหมดของ
ตระกูลตู๋กหู ำกฝ่ ำบำทมีพระประสงค์กล็ ว้ นสำมำรถนำไปได้
ทั้งหมด”
“กระหม่อมเพียงของให้ฝ่ำบำททรงเข้ำพระทัยให้ชดั เจน หลันหลัน
คือคนที่ตระกูลตู๋กูของเรำโอบอุม้ เอำไว้ดว้ ยควำมรักถนอมอย่ำง
ที่สุด หำกนำงประสงค์สิ่งใดต่อให้พวกเรำต้องสละชีวิตลงไปก็ตอ้ ง
ทำให้นำงสมปรำรถนำให้จงได้ ยกเว้นเสี ยแต่ควำมโปรดปรำนของ
ฝ่ ำบำทเท่ำนั้น”
จีเฉวียนมิได้ขดั ขวำงคำพูดของตู๋กูถิง
สำหรับพระองค์แล้ว ซิงซิงสำมำรถมีผอู ้ ำวุโสที่รักใคร่ นำงถึงเพียงนี้
พระองค์กท็ รงปลำบปลื้มพระทัยอย่ำงยิง่ แล้ว
นำงสมควรจะเกิดมำเพื่อเป็ นบุคคลที่ถูกทนุถนอมเอำไว้ในมืออยู่
แล้ว
มีคนรักนำงเพิม่ ขึ้นอีกคน พระองค์ยอ่ มมีแต่จะดีพระทัย
เพียงแต่วำ่ พระองค์มิได้ทรงเห็นด้วยกับตู๋กถู ิง “สิ่ งที่ท่ำนผูเ้ ฒ่ำกังวล
ใจ เรำเองก็เคยคิดดูอย่ำงละเอียดถี่ถว้ นแล้ว ขอเพียงถึงวันที่นำง
ยินยอมพยักหน้ำรับเรำ ทุกสิ่ งทุกอย่ำงเรำจะจัดกำรจนเรี ยบร้อยเอง”
“ใต้หล้ำนี้จะไม่มีผใู ้ ดตำหนินำงได้แม้แต่ครึ่ งคำ”
หำกจะด่ำว่ำ…….ก็ให้พงุ่ มำที่พระองค์เพียงผูเ้ ดียว
เป็ นมหำรำชก็ดี ทรรำชก็ช่ำง เพื่อนำงแล้วพระองค์ไม่สนพระทัยว่ำ
จะต้องเป็ นคนเช่นไรทั้งนั้น
“ฝ่ ำบำท คำพูดสวยหรู มิวำ่ ผูใ้ ดก็ลว้ นสำมำรถกล่ำวออกมำได้ จริ งอยู่
ที่ไม่อำจปฏิเสธว่ำที่ทรงตรัสออกมำนั้นช่ำงน่ำดึงดูดใจผูค้ น เพียงแต่
นัน่ ก็เป็ นแค่เพียงคำพูดลอยๆเท่ำนั้น”
“เมื่อเป็ นเช่นนี้ขอทรงอนุญำตให้กระหม่อมทูลถำมอย่ำงอุกอำจ
แคว้นเหยียน ทรงต้องกำรให้กระหม่อมนำมำถวำยพระองค์ใช่
หรื อไม่?”
จีเฉวียนนิ่งเงียบไป ฮ่องเต้ชรำของแคว้นเหยียนพระพลำนำมัยยำ่ แย่
จนจะไม่ไหวอยูแ่ ล้ว รัชทำยำทของแคว้นเหยียนก็เสี ยพระเพลำไป
ตอนที่อยูใ่ นแคว้นเซอปี่ ซือ
เหยียนเฉี ยวหลัวพระธิดำที่ทรงโปรดปรำนมำกที่สุดก็ตำยไปแล้ว
องค์ชำยเจ็ดของแคว้นเหยียนก็เป็ นคนที่จิตใจทะเยอทะยำน
ตอนนี้ทวั่ ทั้งแคว้นเหยียนตกอยูใ่ นควำมวุน่ วำยอย่ำงที่สุด
สำมำรถกล่ำวได้วำ่ เป็ นช่วงเวลำที่เหมำะสมที่สุดที่จะโจมตีแคว้นเห
ยียน
แต่วำ่ อูฐที่ผำ่ ยผอมจะอย่ำงไรก็ยงั ใหญ่กว่ำม้ำ แคว้นเหยียนถือเป็ น
อันดับหนึ่งในสำมแคว้นใหญ่ หำกคิดว่ำจะได้มำอย่ำงง่ำยๆนั้นคงไม่
มีทำง
จีเฉวียนทรงต้องกำรแม่ทพั ออกศึก และตระกูลตู๋กกู ค็ ือตัวเลือกที่ดี
ที่สุด
หำกว่ำตอนนี้ต๋ ูกถู ิงนำทัพตระกูลตู๋กูออกไป คำดว่ำไม่ถึงหนึ่งปี ก็
สำมำรถกำรำบแคว้นเหยียนเอำไว้ได้
แต่หำกพระองค์ทรงส่ งแม่ทพั ท่ำนอื่นออกไปก็คงไม่แน่นกั
ดังนั้นเมื่อตู๋กถู ิงทูลถำมคำถำมนี้ออกมำ จีเฉวียนก็ทรงถึงกับตรัส
ตอบไม่ถูกไปชัว่ ขณะ
ตู๋กซู ิงหลันแทะขำหมูจนหมดจำนไปแล้ว ตอนนี้ถึงกับตักขนม
หวำนตรงหน้ำขึ้นมำซด จำกนั้นก็ค่อยเหลือบตำมองดูจีเฉวียนอยู่
ตลอดเวลำ
งำนนี้พอ่ ลูกชำยฮ่องเต้ได้เจอกับคู่ปรับแล้วจริ งๆ ถูกดักคอเสี ยจน
ยำกลำบำกเข้ำแล้ว
ขนมหวำนถ้วยนี้ นำงขอยกถ้วยให้กบั ท่ำนผูเ้ ฒ่ำ เพื่อเป็ นกำรแสดง
ควำมเคำรพที่สำมำรถเผชิญหน้ำกับจีเฉวียนได้อย่ำงตรงไปตรงมำ
ช่ำงสมกับเป็ นวีรบุรุษจริ งๆ
“ฝ่ ำบำทมิทรงตรัสอะไรแสดงว่ำทรงยอมรับสิ นะ” ตู๋กูถิงกะเอำไว้
แต่แรกแล้วว่ำต้องเป็ นเช่นนี้ “เห็นไหมเล่ำ คำพูดที่ออกจำกปำก กับ
กำรกระทำนั้น มันเป็ นคนละเรื่ องกัน ดังนั้นที่ฝ่ำบำททรงรับสัง่
ออกมำนั้น ต่อไปก็ทรงอย่ำได้พดู ถึงมันอีกเลยจะดีกว่ำ”
“ฝ่ ำบำทไม่จำเป็ นจะต้องเสี ยพละกำลังไปกับหลันหลัน พวกเรำ
ตระกูลตู๋กกู ย็ นิ ดีที่จะบุกตะวันออกกวำดทิศเหนือให้กบั ฝ่ ำบำทอยู่
แล้ว”
ตู๋กถู ิงพูดจบแล้ว ก็ยกถ้วยขนมหวำนขึ้นดื่มจนหมดถ้วย ด้วยกริ ยำ
ประหนึ่งกำลังดื่มเหล้ำชำมโตในครั้งเดียว
ครำวนี้ เขำถึงค่อยหันกลับมำคีบผักใส่ ชำมของตู๋กซู ิงหลันอย่ำงสงบ
นิ่งอีกครั้ง “ดวงใจของปู่ อย่ำได้เอำแต่กินเนื้อ เจ้ำต้องกินผักด้วย มิ
เช่นนั้นจะเจ็บป่ วยได้ง่ำย”
ตู๋กซู ิงหลัน “ท่ำนปู่ ข้ำชอบกินแต่เนื้อนี่นำ”
โดยเฉพำะขำหมูที่เปี่ ยมนุ่มชุ่มปำกเหล่ำนั้น
“ถึงอย่ำงนั้นก็ตอ้ งกินผัก ระวังเถอะวันๆกินแต่เนื้อ กินจนกลำยเป็ น
คนอวบอ้วนขึ้นมำ ถึงตอนนั้นเจ้ำจะไม่ใช่โฉมงำมอันดับหนึ่ง
ของต้ำโจวแล้ว”
ท่ำนปู่ และหลำนพูดคุยกันอย่ำงสนิทสนมกลมเกลียว
ฉำกนี้ยอ่ มอยูใ่ นสำยตำของสองพี่ชำยตระกูลตู๋กอู ยูแ่ ล้ว
ดูเอำเถอะ ถึงอย่ำงไรขิงแก่กย็ งั เผ็ดกว่ำ
ว่ำกันตำมจริ งแล้ว ท่ำนผูเ้ ฒ่ำไม่เพียงแต่ถนัดนำทัพจับศึกเท่ำนั้น
ฝี ปำกก็ยงั เป็ นหนึ่งไม่มีสองอีกด้วย ทำเอำฮ่องเต้ทรงกลำยเป็ นใบ้
รับสัง่ อะไรไม่ออกอีกเลย
นี่มิใช่วำ่ พูดแทงใจพระองค์จนหมดหนทำงจะแก้ต่ำงหรื อไร?
น่ำเสี ยดำยที่ต๋ ูกเู จวี๋ยยังเคยคิดไปว่ำพระองค์ทรงชอบน้องเล็กจริ งๆ
เสี ยอีก
เขำรู ้สึกว่ำหมดสนุกเสี ยแล้ว เขำปล่อยชำยแขนเสื้ อของตู๋กจู ุน หันมำ
ยกชำมข้ำวของตนเองขึ้นมำอีกครั้ง
ท่ำมกลำงอำหำรเลิศรสเต็มโต๊ะ ยังคงเป็ นข้ำวเปล่ำกับผักดองที่อร่ อย
ที่สุด แล้วก็เติมซีอิ้วกับพริ กเสี ยหน่อย อืม….กินข้ำวสำมชำมสบำยๆ
ตอนนี้ ฮ่องเต้ยงั คงประทับยืนอยูเ่ ลย
พระองค์ทรงชะงักงันไปชัว่ ครู่ ค่อยหันกลับมำประทับนัง่ ลงที่ขำ้ ง
กำยตู๋กซู ิงหลันอีกครั้ง พลำงฉวยมือของนำงขึ้นมำ จดจ้องนำงอย่ำง
จริ งจัง “ซิงซิง เจ้ำจะรอเรำครึ่ งปี ได้หรื อไม่?”
ตู๋กซู ิงหลัน “ฝ่ ำบำท อยูด่ ีๆตรัสเรื่ องนี้ทำไมหรื อเพคะ?”
ตอนนี้นำงก็ยงั กลับไปโลกปัจจุบนั ไม่ได้ ย่อมต้องอยูใ่ นวังไปก่อน
อยูแ่ ล้วนี่?
“เรำจะไปปรำบแคว้นเหยียนด้วยตนเอง อำจต้องใช้เวลำครึ่ งปี เรำ
เกรงว่ำครึ่ งปี ที่เรำไม่อยูน่ ้ นั จะถูกคนอื่นมำชิงตัวเจ้ำไป”
ขำของนำงก็ยงั ไม่หำยดี แล้วพระองค์จะทำพระทัยแข็งพำนำงไป
สนำมรบด้วยได้อย่ำงไร?”
แต่ต่อให้สองขำหำยดีแล้ว พระองค์กย็ งั หักพระทัยไม่ได้อยูด่ ี
นำงสมควรจะได้อยูอ่ ย่ำงสุ ขสบำยในเมืองหลวง ใช้ชีวิตเหมือนดัง่
ตัวมอดในกองข้ำว ไหนเลยจะไปเผชิญกับกองโลหิ ตในสยำมรบ
ทรมำนกับควำมทุกข์ยำกได้กนั ?
——
ไรท์ : ท่ำนปู่ สมกับเป็ นระดับตำนำนจริ งๆ มำช้ำ แต่วำ่ เด็ดดวงทุก
ประโยค
ตอนต่อไป “ซิงซิงหวำนพออยูแ่ ล้ว”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 362 ซิงซิงหวานพออยู่แล้ ว
“เดี๋ยวก่อนฝ่ ำบำท พระองค์จะทรงนำทัพด้วยตนเอง?” ตู๋กูเจวี๋ยที่ถือ
ชำมกินข้ำวอยูใ่ นมือ
อยูๆ่ ก็รู้สึกขึ้นมำว่ำพริ ก ซีอิ้วกับผักดองในชำมข้ำวชักจะไม่ค่อย
อร่ อยขึ้นมำแล้ว
จีเฉวียนพยักพระพักตร์ “ท่ำนผูเ้ ฒ่ำกำลังทดสอบควำมจริ งใจของเรำ
เรำเคยบอกเอำไว้แล้ว ว่ำหลงรักซิงซิง ไม่ใช่เพรำะต้องกำรกำลังและ
อำนำจ ดังนั้นแคว้นต้ำเหยียนนี้ เรำจะไปปรำบด้วยตนเอง”
แผ่นดินที่รวบรวมมำได้…..ก็จะมอบให้นำง
แม้แต่สีหน้ำของตู๋กถู ิงก็ยงั เปลี่ยนไปด้วย “ฝ่ ำบำท พระองค์ทรงเคย
เป็ นองค์ประกันอยูใ่ นแคว้นต้ำเหยียนมำระยะหนึ่ง ย่อมทรงทรำบว่ำ
คิดจะตีแคว้นต้ำเหยียนนั้นมิใช่เรื่ องง่ำย พระโอรสองค์โตของฝ่ ำ
บำทยังมิทนั มีประสู ติกำลด้วยซ้ ำ หำกว่ำพระองค์เกิดสิ้ นพระชนม์
ไปในสงครำม บำงทีแม้แต่ผจู ้ ะสื บทอดบัลลังก์กอ็ ำจจะไม่มีแล้ว”
ไม่อำจโทษว่ำตู๋กูถิงที่กล่ำวตำมควำมจริ ง….ถึงแม้วำ่ เขำจะมิได้
ชมชอบจีเฉวียน นั้นก็เป็ นเพรำะเรื่ องเก่ำก่อนของสองตระกูล ยำมนี้
สถำนกำรณ์แตกต่ำงกัน
เพรำะหำกให้พดู ตำมควำมจริ ง จีเฉวียนก็ทรงเป็ นฮ่องเต้ที่ดีมำกๆ
เรื่ องนี้ยอ่ มไม่อำจจะปฏิเสธไปได้
หำกว่ำพระองค์เกิดสิ้ นไปในแคว้นต้ำเหยียน แคว้นต้ำโจวก็คงจะ
วุน่ วำยมำกแล้ว
เรื่ องนี้สำหรับพวกเขำแล้ว นับว่ำเป็ นเรื่ องที่ยงุ่ ยำกกว่ำมำกๆ
“เรำชะตำแข็งแกร่ งมำตั้งแต่เยำว์วยั ไม่มีทำงตำยง่ำยๆ หรอก” จี
เฉวียนคว้ำมือของตู๋กซู ิงหลันเอำไว้ไม่ยอมปล่อย ดวงเนตรหงส์น้ นั
จ้องมองลึกลงไปในดวงตำของตู๋กซู ิงหลัน “ซิงซิง หลังจำกนี้ครึ่ งปี
เรำจะต้องกลับมำพร้อมกับชัยชนะ พอถึงตอนนั้น เมื่อเรำมอบฐำนะ
ใหม่ที่ถูกต้องให้กบั เจ้ำ เจ้ำจะยอมรับในตัวเรำได้หรื อไม่?”
พระองค์ทรงกลัวมำกว่ำตู๋กูซิงหลันจะปฏิเสธพระองค์อีกครั้ง จึง
ตรัสอีกว่ำ “ต่อให้ไม่ยอมรับเรำก็ไม่เป็ นไร….เรำเพียงหวังว่ำ ถึง
ตอนนั้นเจ้ำจะยอมให้โอกำสเรำสักครั้ง อยูร่ ่ วมกับเรำสองปี หำกว่ำ
เจ้ำยังไม่รักเรำ…..ถึงตอนนั้นเรำค่อยวำงมือถอดใจอย่ำงแท้จริ ง ได้
หรื อไม่?”
ฮ่องเต้ทรงตรัสถึงเพียงนี้แล้ว ต่อให้ต๋ ูกซู ิงหลันมีหวั ใจแข็งเป็ นหิ นก็
ยังต้องยอมอ่อนลง
หำกว่ำชำติน้ ีนำงไม่มีโอกำสไปจำกที่นี่ละก็ อยูอ่ ย่ำงสนุกสนำนกับ
ฮ่องเต้ลูกชำยก็เป็ นทำงเลือกที่ดีไม่นอ้ ย
ดูท่ำนำงคงจะถูกอะไรเข้ำสิ งแล้วถึงได้พยักหน้ำออกไป
หัวใจของวิญญำณทมิฬแตกดังเพล้ง มันอกหักแทนซื่อมัว่ เสี ยแล้ว
ดูเอำสิ เมื่อต้องเผชิญหน้ำกับฮ่องเต้ที่เอำแต่รุกคืบอยูต่ ลอดเวลำ ต่อ
ให้เป็ นหญิงสำวที่รักนวลสงวนตัวสุดๆ เช่นนำงก็ยงั ต้องยอมรับ
ครั้งนี้ไม่อำจโทษว่ำหลันหลันจริ งๆ ……..
วิญญำณทมิฬรู ้สึกว่ำ หำกมีคนที่ไล่ตำมจีบมันอย่ำงบ้ำคลัง่ มันก็
อำจจะยอมรับเหมือนกันนะ….ถึงแม้วำ่ มันจะเป็ นสัตว์อสู ร แต่ก็
โสดนิ
ทันที่ทีต๋ ูกซู ิงหลันรับปำก จีเฉวียนก็ทรงรู ้สึกว่ำพระองค์ทรงถูก
ควำมสุ ขมำกมำยโอบล้อมเอำไว้
หำกมิใช่เพรำะว่ำมีคนมำกมำยอยูใ่ นที่น้ ีดว้ ย พระองค์จะต้องจับตู๋กู
ซิงหลันเข้ำมำกอดในอ้อมพระพำหำและจุมพิตหนักๆ สักครั้ง
“เรำจะต้องไม่ทำให้เจ้ำผิดหวังอย่ำงแน่นอน” สำยพระเนตรของฝ่ ำ
บำทระยิบระยับรำวกับมีดวงดำวกระพริ บอยู่
อำหำรมื้อนี้สำหรับพระองค์แล้วถือว่ำมีคุณค่ำมำกกว่ำอำหำรมื้อ
ไหนๆ ที่เคยกินมำตลอดพระชนม์ชีพเสี ยอีก
ตอนนี้ฮ่องเต้ทรงถึงกับอธิบำยควำมรู ้สึกในพระทัยไม่ถูกเลยทีเดียว
หัวใจของพระองค์พลิ้วขึ้นมำเหมือนจะลอยขึ้นไป ลอยละล่องอยูใ่ น
หมู่เมฆ
ตู๋กซู ิงหลันเห็นเขำยินดีปรี ดำรำวกับเด็กๆ หัวใจของนำงก็พลัน
อบอุ่นขึ้นมำ แต่ในขณะเดียวกันก็พลันเกิดควำมรู ้สึกเจ็บปวดรำวกับ
ถูกแทงอย่ำงรุ นแรงด้วยเช่นกัน
รำวกับว่ำหัวใจถูกเจำะด้วยสิ่ วอย่ำงแรง
นำงพยำยำมฝื นใจสงบควำมรู ้สึกนั้นลงไป กะว่ำรอจนกลับไปแล้ว
ค่อยไปให้ซุนย่วนสื่ อตรวจดูให้ดีๆ ว่ำตนเองใช่ป่วยเป็ นโรคไม่อำจ
มีควำมรักกับใครใช่หรื อไม่
ครำวนี้ เหล่ำผูอ้ ำวุโสในตระกูลตู๋กูต่ำงก็ไม่อำจพูดอะไรอีกแล้ว
พวกเขำคิดไม่ถึงจริ งๆ ว่ำ ……ฮ่องเต้จะทรงทำเพื่อน้องเล็กได้ถึง
เพียงนี้
ว่ำกันตำมจริ ง ก็มีอยูช่ วั่ แวบหนึ่งที่พวกเขำต่ำงก็รู้สึกหวัน่ ไหวขึ้นมำ
อยูเ่ หมือนกัน
แต่พอหวนคิดให้ดี…..พระองค์จะไปเพื่อขยำยดินแดนให้กบั ตนเอง
ไม่ใช่วำ่ จะรบเอำแผ่นดินมำให้นอ้ งเล็กสักหน่อย พวกเขำจะไป
ตื่นเต้นด้วยทำไมกัน?
โดยเฉพำะท่ำนปู่ ตอนนี้ถึงกับพูดอะไรไม่ออกไปแล้ว
เขำเงียบงันไปพักใหญ่ พลำงตักขนมหวำนชำมใหญ่ให้กบั ตนเอง
เพื่อปลอบใจ
จะว่ำอย่ำงไรดีเล่ำ…….คลื่นลูกหลังใหญ่กว่ำ
ลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวเสื อ?
เขำคิดว่ำกำรทำสงครำมเป็ นเรื่ องง่ำยงั้นหรื อ?
ต้ำเหยียน….เป็ นเนื้อติดมันชิ้นงำม แต่กต็ ิดฟันด้วย คนที่ไม่เคยมี
ประสบกำรณ์ในกำรทำสงครำมมำก่อน อย่ำว่ำแต่สำมปี ห้ำปี เลย
เกรงว่ำแม้แต่สงครำมเดียวก็ไม่อำจชนะได้
ครึ่ งปี ?
ตู๋กถู ิงนำทัพมำหลำยสิ บปี แม้แต่ตวั เขำเองก็ยงั ไม่กล้ำตบอกออกมำ
รับรองว่ำจะสำมำรถยึดแคว้นเหยียนได้ภำยในครึ่ งปี
ก็ดี ให้ฮ่องเต้นอ้ ยไปแนวหน้ำเผชิญกับควำมยำกลำบำกเสี ยบ้ำง จะ
ได้ให้เขำได้รู้วำ่ โลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มำง่ำยๆ อย่ำงที่เขำคิด
“ภำยในครึ่ งปี แล้วหำกว่ำฝ่ ำบำทไม่อำจกลับมำได้เล่ำ?” ท่ำนปู่ ตู๋กทู ี่
ชำนำญกำรล้มกระดำนเอ่ยขึ้นมำอีกครั้ง
“ไม่มีทำงเป็ นเช่นนั้นไปได้หรอก” จีเฉวียนย่อมทรงรู ้พระองค์ดีวำ่
ทรงมีควำมสำมำรถเพียงใด
ตู๋กถู ิงหัวเรำะเบำๆ “ฝ่ ำบำท หำกไม่มีเรื่ องใดก็แล้วไป กระหม่อม
เพียงแต่ตอ้ งกำรจะหำสิ่ งรับประกันเอำไว้ให้หลำนสำวเท่ำนั้น หำก
ว่ำฝ่ ำบำทไม่อำจนำชัยชนะกลับมำได้ภำยในครึ่ งปี ก็จะทรงวำงมือ
จำกหลันหลันด้วยเป็ นอย่ำงไร?”
“พระองค์ยอ่ มไม่อำจปล่อยให้นำงต้องเป็ นฝ่ ำยรอคอยพระองค์อยู่
ฝ่ ำยเดียวไปตลอดกระมัง? ยิง่ ไปกว่ำนั้น….ตอนนี้หลันหลันของ
กระหม่อมก็ยงั มิได้ยอมรับในตัวฝ่ ำบำท เพียงแต่ยอมรับข้อเสนอ
ของพระองค์เท่ำนั้น”
หำกว่ำเป็ นผูอ้ ื่นคิดจะมำล้มกระดำนเช่นนี้ เกรงว่ำศีรษะของคนผูน้ ้ นั
คงต้องถูกฝังลงไปในก้นหลุมลึกแล้ว แต่วำ่ นี้คือท่ำนปู่ ของนำง จี
เฉวียนจึงได้แต่ตอ้ งให้ควำมเคำรพ
“เรำ พูดได้กต็ อ้ งทำได้”
เขำจะไม่ยอมให้เกิดเหตุกำรณ์เช่นนั้นขึ้นมำอย่ำงเด็ดขำด
“เป็ นเช่นนั้นก็ดี”
ตู๋กถู ิงว่ำต่อไป “ฝ่ ำบำทอย่ำได้ทรงเห็นว่ำกระหม่อมใจร้ำย เงื่อนไข
ออกรบด้วยพระองค์เองนี้พระองค์ทรงเสนอขึ้นมำเอง ฉะนั้น
สงครำมครั้งนี้กระหม่อมจะไม่เข้ำร่ วมด้วยแล้ว”
“แน่นอน” ในเมื่อฮ่องเต้ทรงตัดสิ นพระทัยจะเสด็จไปด้วยพระองค์
เองย่อมไม่ทรงต้องกำรควำมช่วยเหลือจำกเขำ
“แต่วำ่ หลำนชำยคนโตของกระหม่อมสำมำรถเป็ นผูช้ ่วยของ
พระองค์ได้ หำกว่ำฝ่ ำบำทมิทรงรังเกียจก็นำเขำไปด้วยเถอะพะยะ
ค่ะ”
ตู๋กถู ิงผลักตู๋กจู ุนออกไปในทันที “คนหนุ่มๆ ติดตำมฝ่ ำบำทไป
ฝึ กฝนให้มำกๆ ย่อมเป็ นกำรดี”
ตู๋กจู ุนก็มิได้ปฏิเสธ เขำต้องกำรไปกับจีเฉวียนจะได้คอยจับตำดู
ควำมเคลื่อนไหวของพระองค์
หำกท่ำนปู่ ยังมิได้มีคำสัง่ ให้กบฏ เมื่อถึงยำมคับขันเขำยังต้องปกป้อง
ชีวิตของจีเฉวียนเอำไว้ ไม่ให้ตำยไปได้
“กระหม่อมเต็มใจติดตำมฝ่ ำบำทไปทำสงครำมยังแนวหน้ำ” ยำกนัก
ที่ต๋ ูกจู ุนจะว่ำง่ำยขึ้นมำ แม้ในใจของเขำจะคิดว่ำ หำกว่ำจีเฉวียนมี
ควำมสำมำรถจะปรำบแคว้นต้ำเหยียนได้จริ ง ตลอดสงครำมนี้เขำก็
จะได้คอยดูวำ่ พระองค์ทรงเป็ นบุคคลเช่นใดกันแน่ และเหมำะสม
กับน้องเล็กหรื อไม่
จีเฉวียนหรี่ พระเนตรลง พวกเขำคิดอะไรกันอยูใ่ นใจ พระองค์ยอ่ ม
ทรงทรำบดีอยูแ่ ล้ว
แต่ไหนแต่ไรผูท้ ี่เป็ นฮ่องเต้ลว้ นเป็ นจิ้งจอกเฒ่ำ คิดจะวำงหมำกต่อ
หน้ำพระองค์…..แค่เหลือบพระเนตรดูกท็ รงมองออกแล้ว
อย่ำว่ำแต่จุดประสงค์ของท่ำนผูเ้ ฒ่ำถึงกับชัดเจนเพียงนี้ ต้อให้เป็ น
คนโง่กส็ ำมำรถคำดเดำได้
ฝ่ ำบำททรงพยักพระพักตร์ “ได้”
“อ้ำยย่ำห์ ถ้ำเช่นนั้นก็ตอ้ งขออวยพรให้ฝ่ำบำททรงกำรำบแคว้นต้ำ
เหยียนได้ในเร็ ววันแล้ว ขอให้แคว้นต้ำโจวของพวกเรำยิง่ ใหญ่เกรี ยง
ไกรเหนือดินแดนทั้งหมด!” ตู๋กเู จวี๋ยยกชำมขนมหวำนในมือขึ้นสู ง
“กระหม่อมขอดื่มถวำยก่อนถ้วยหนึ่ง ทุกท่ำนตำมสบำย”
ดูเอำเถอะ บรรยำกำศภำยในห้องกำลังเคร่ งเครี ยด แทบจะบีบคั้นคน
ให้ตำยอยูแ่ ล้ว
หำกเขำไม่กล่ำวอะไรออกมำผ่อนคลำยบรรยำกำศสักสองประโยค
เกรงว่ำตนเองคงต้องขำดใจตำยไปก่อน
จีเฉวียน “ขนมหวำนเรำไม่ขอรับ แค่ซิงซิงก็หวำนพอแล้ว เรำได้
หอมสักหน่อยก็พอใจแล้ว”
ทุกคนพำกันระเบิดตัวเอง
วิญญำณทมิฬเองก็แอบจดบันทึกคำพูดของจีเฉวียนเอำไว้อย่ำง
เงียบๆ ดูเอำเถอะ….หลันหลันกำลังจะกลำยเป็ นภรรยำของผูอ้ ื่นไป
แล้ว แต่วำ่ ซื่อมัว่ ยังไม่ทนั ได้สำรภำพควำมในใจออกมำเลยสักคำ
เดียว
ระหว่ำงคนกับคนทำไมถึงได้มีขอ้ แตกต่ำงกันมำกมำยเพียงนี้นะ?
………………………………………….
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 363 เรื่ องที่ปฐมฮ่ องเต้ ทาไม่ ได้ ข้ า
จะทาเอง
ยำมที่ฮ่องเต้เสด็จออกมำจำกตระกูลตู๋กนู ้ นั สี พระพักตร์ท้ งั สดชื่น
และแจ่มใส ช่ำงเหนือควำมคำดหมำยของผูค้ นไปมำกนัก!
คนในโรงน้ ำชำต่ำงก็เฝ้ำรอจนถึงมืดค่ำ เดิมทีนึกว่ำในจวนจะเกิด
เรื่ องอึกทึกครึ กโครมใดบ้ำงเสี ยอีก
สุ ดท้ำยกลับกลำยเป็ นเช่นนี้?
นี่กย็ งั แล้วไปเถอะ….ที่น่ำสนใจกว่ำก็คือท่ำนผูเ้ ฒ่ำถึงกับมำส่ งเสด็จ
ฝ่ ำบำทด้วยตนเอง!
ยิง่ ไปกว่ำนั้น ภำยในช่วงเวลำเพียงสั้นๆ ท่ำทีของเขำที่มีต่อฝ่ ำบำท
กลับเปลี่ยนแปลงมำกถึงเพียงนี้
คุณชำยตระกูลตู๋กูท้ งั สองคน ก็อมยิม้ ดุจดอกไม้ผลิบำน….จุ๊ จุ๊
ผูค้ นทั้งหลำยอดจะเกิดควำมสงสัยไม่ได้ ฮ่องเต้และตระกูลตู๋กู
จะต้องบรรลุขอ้ ตกลงอะไรที่ไม่อำจบอกผูค้ นได้เป็ นแน่
อย่ำงเช่น….ขำยหลำนสำวอะไรทำนองนี้?
อืม ….พูดถึงหลำนสำว ทำไมถึงไม่ได้เห็นไทเฮำน้อยเลย?
นำงไม่กลับวังแล้วหรื อ?
พอบรรลุขอ้ ตกลงได้ ก็เลยส่ งคนคืนให้?
“ทำอย่ำงไรดี อยำกจะรู ้มำกจริ งๆ ตกลงแล้วฝ่ ำบำททรงทำข้อตกลง
อะไรกับตระกูลตู๋กกู นั แน่นะ?”
ในโรงน้ ำชำ คนที่เกิดข้อสงสัยมิได้มีเพียงผูเ้ ดียว
ในมุมหนึ่งของโรงน้ ำชำ มีบุรุษที่นงั่ อยูท่ ี่นี่มำแล้วทั้งวันเช่นกัน สี
หน้ำของเขำอึมครึ มยิง่ นัก
เขำสวมหมวกคลุมหน้ำสี ดำ ปิ ดบังใบหน้ำทั้งหมดเอำไว้ เขำนัง่ อยู่
ในมุมด้ำนในสุ ด แทบไม่ทำให้รู้สึกถึงกำรคงอยูเ่ ลยด้วยซ้ ำ ทำให้ท้ งั
วันแทบจะมีอยูไ่ ม่กี่คนเท่ำนั้นที่เห็นเขำ
ยำมนี้พอเห็นว่ำจีเฉวียนเสด็จออกมำแล้ว ดวงตำที่อยูใ่ ต้หมวกคลุม
หน้ำนั้นก็มืดครึ้ มกว่ำเดิม
เขำยืดคอขึ้นมำน้อยๆ มองออกไปทำงประตูใหญ่ของจวนตระกูลตู๋กู
ก็เห็นว่ำตอนนี้จีเฉวียนกำลังจะเสด็จขึ้นไปบนรถม้ำ และก่อนที่จะ
ขึ้นไป พระองค์กท็ รงหันพระพักตร์มำทอดพระเนตรทำงโรงน้ ำชำนี้
แวบหนึ่งคล้ำยดัง่ มิได้ต้ งั ใจ
ชัว่ แวบนั้น ถึงแม้วำ่ จะเป็ นกำรมองผ่ำนๆ ในระยะที่ห่ำงไกล แต่ก็ทำ
ให้คนในชุดดำหัวใจเย็นวำบไปชัว่ ขณะหนึ่ง
จีเฉวียนเก็บสำยพระเนตรกลับมำอย่ำงรวดเร็ ว ก็หนั กลับมำกล่ำวลำ
ท่ำนผูเ้ ฒ่ำตู๋กอู ีกครั้ง ค่อยเสด็จกลับวังไป
ท่ำนผูเ้ ฒ่ำกับหลำนสำวแยกจำกกันมำนำนถึงสองปี จึงยังมีเรื่ อง
ต่ำงๆ ที่อยำกจะพูดคุยกันอีกมำก
พระองค์เองก็อยำกจะให้นำงได้มีควำมเป็ นส่ วนตัวบ้ำง
ดังนั้นฝ่ ำบำทจึงตัดสิ นพระทัยว่ำพรุ่ งนี้ยำมเช้ำค่อยเสด็จมำรับนำง
กลับไป
……………………..
ถึงจะบอกว่ำเป็ นงำนเลี้ยงภำยในบ้ำน ที่จริ งแล้วก็เป็ นเพียงแค่ม้ือ
อำหำรที่บริ บูรณ์มำกหน่อยมื้อหนึ่งเท่ำนั้น
พอจีเฉวียนเสด็จกลับไป ทุกคนต่ำงก็รับประทำนเรี ยบร้อยแล้ว ตู๋กถู ิ
งถึงได้นำตู๋กซู ิงหลันไปพูดคุยกันยังห้องเล็กๆ เพียงลำพัง
หลี่กงกง ส่ งถ่ำนไหมเงินจำกพระตำหนักตี้หวั กงทั้งหมดมำ
เรี ยบร้อยแล้ว ตอนนี้จุดเอำไว้ในห้องส่ วนตัวก่อนที่จะเข้ำวังของตู๋กู
ซิงหลัน
ท่ำนผูเ้ ฒ่ำนัง่ ลงบนเก้ำอี้ตวั เล็กๆ ปล่อยให้ต๋ ูกูซิงหลันนัง่ อยูบ่ นเก้ำอี้
รถเข็นที่สวยงำม
หลังจำกจดจ้องหลำนสำวของตนเองอยูค่ รู่ หนึ่ง ก็ค่อยเอ่ยว่ำ “ดวงใจ
เอ๋ ย เจ้ำต้องบอกปู่ มำตำมตรง ว่ำเจ้ำคิดจะยอมรับในตัวของฮ่องเต้
น้อยนัน่ จริ งๆ หรื อ?”
ช่วงนี้ต๋ ูกซู ิงหลันมักจะถูกคนถำมถึงเรื่ องนี้อยูต่ ลอดเวลำ
ถำมกันทีกป็ วดศีรษะขึ้นมำทีหนึ่ง
“ท่ำนปู่ เองก็คำดเอำไว้แล้วว่ำพระองค์ไม่มีทำงจะเสด็จกลับมำพร้อม
ชัยชนะภำยในครึ่ งปี ถึงได้ยอมลืมตำข้ำงปิ ดตำข้ำงมิใช่หรื อเจ้ำคะ?”
ตู๋กซู ิงหลันหัวเรำะออกมำ “ข้ำไม่มีโอกำสแม้แต่จะได้ตอบรับอยู่
แล้วแท้ๆ ท่ำนปู่ ยังจะต้องถำมเรื่ องนี้อีกทำไม”
“แล้วหำกว่ำเขำเกิดกลับมำได้จริ งๆ ล่ะ?” ถึงแม้วำ่ ตู๋กถู ิงจะรู ้สึกว่ำ
เป็ นไปไม่ได้ แต่กร็ ู ้สึกว่ำ….ฮ่องเต้จะต้องทุ่มเทพละกำลังอย่ำงถึง
ที่สุดแน่นอน
“ถ้ำเช่นนั้นข้ำรับปำกไปแล้วก็ตอ้ งทำให้ได้ ข้ำจะไม่โกหกเขำ”
รอยยิม้ บนใบหน้ำของตู๋กซู ิงหลันยังคงมิได้จำงหำยไป
ด้วยเกรงว่ำท่ำนผูเ้ ฒ่ำจะไถ่ถำมอะไรอีก นำงจึงได้หนั เหหัวข้อขึ้นมำ
ใหม่ “ท่ำนปู่ ที่จริ งแล้วข้ำมีคำถำมอยำกจะถำมอยูเ่ จ้ำค่ะ”
“หลันหลันถำมมำเถอะ”
“ตอนนั้นทำไมท่ำนย่ำถึงได้แต่งให้กบั ท่ำนเจ้ำคะ?”
ตู๋กซู ิงหลันเองก็มิได้ออ้ มค้อม คำถำมนี้คบั แน่นอยูใ่ นใจของนำงมำ
นำนแล้ว หำกไม่ได้คำตอบที่ชดั เจนออกมำจะต้องรู ้สึกอึดอัดไปทัว่
ทั้งร่ ำงอย่ำงแน่นอน
พอถำมคำถำมนี้ออกไป สี หน้ำของท่ำนผูเ้ ฒ่ำก็แข็งค้ำงขึ้นมำ
ในทันที
ที่จริ งแล้วหลำยปี มำนี้กไ็ ม่มีใครกล้ำเอ่ยถึงฮูหยิน ต่อหน้ำเขำมำนำน
มำกแล้ว
“ตอนที่ขำ้ อยูใ่ นเมืองกู่เย่ว ได้เห็นภำพควำมทรงจำของท่ำนย่ำ” ตู๋กู
ซิงหลันว่ำต่อไป “นำงดึงควำมทรงจำส่ วนหนึ่งของตนเองออกมำ
บรรจุไว้ในลูกแก้วและถูกเหลียงจวิน้ อ๋ องเก็บรักษำเอำไว้”
ตู๋กซู ิงหลันไม่คิดจะปิ ดบังเขำ “อดีตฮ่องเต้ทำลำยท่ำนย่ำ บังคับพำตัว
กลับมำ สุ ดท้ำยกลับแต่งให้กบั ท่ำนปู่ ในระหว่ำงนั้นเกิดเรื่ องอะไร
ขึ้นกันหรื อเจ้ำคะ?”
ตู๋กถู ิงได้ฟังแล้ว ก็นิ่งงันไปอยูน่ ำน…….
เขำเหมือนกับถูกสู บเรี่ ยวแรงออกไปจำกร่ ำงจนหมด นัง่ นิ่งอยูบ่ น
เก้ำอี้นงั่ อยูเ่ ช่นนั้นโดยไม่พดู ไม่จำอะไรสักคำเดียว
ตู๋กูซิงหลันเองก็มิได้เร่ งรัดอะไรเขำ นำงนัง่ อยูบ่ นรถเข็น รอคอยตู๋
กูถิงอยูอ่ ย่ำงนั้น
ผ่ำนไปอีกพักใหญ่ ถึงค่อยได้ยนิ เขำทอดถอนใจออกมำ เขำพิงตัวเอง
กับพนักพิง เอ่ยอย่ำงอ่อนโยนว่ำ
“ฮูหยินนำง…. คือสตรี ที่ดีงำมที่สุดในใต้หล้ำ”
“นำงเหมือนดัง่ คนที่รวบรวมทุกสิ่ งที่ดีงำมเอำไว้ ได้เห็นเพียงแวบ
เดียวก็สำมำรถทำให้คนพำกันชื่นชมหลงรัก ตอนที่ขำ้ ยังหนุ่มแน่น
เพรำะได้เห็นเพียงแวบนั้นแวบเดียว ก็ไม่อำจตัดใจได้อีกเลย”
ตู๋กซู ิงหลันเองก็เคยเห็นเจียงเย่วในควำมทรงจำ
ควำมงำมนั้นเป็ นแรงดึงดูดที่ไม่อำจอธิบำยออกมำได้ อย่ำว่ำแต่บุรุษ
เลย ขนำดนำงที่เป็ นสตรี เห็นแล้วก็ยงั ชื่นชอบ
คนเรำมักชื่นชอบสิ่ งที่งดงำมสะสวย นี่ไม่ใช่เรื่ องแปลกอะไร
ถึงแม้วำ่ เจียงเย่วจะมีควำมสำมำรถอย่ำงแมรี่ ซู แต่กเ็ พรำะควำมงำม
ของนำง ถึงได้นำหำยนะมำสู่ ตวั นำง
“พอนำงเข้ำวังไปแล้ว…ก็ใช้ชีวิตอย่ำงไม่มีควำมสุ ข นำงไม่ตอ้ งกำร
ฐำนะ ไม่ตอ้ งกำรควำมโปรดปรำน แต่กลับต้องทนรับควำมริ ษยำ
และปองร้ำยจำกทัว่ ทั้งวังหลัง”
เรื่ องในอดีตเหล่ำนี้พอถูกนำมำกล่ำวถึงอีกครั้ง หัวใจที่มีแผลเป็ น
ของท่ำนผูเ้ ฒ่ำก็เหมือนกับถูกฉีกกระชำกจนต้องหลัง่ เลือดออกมำอีก
ครั้ง
“ประกอบกับนำงเคียดแค้นชิงชังปฐมฮ่องเต้อยูต่ ลอดเวลำ มักจะเย็น
ชำใส่ พระองค์อยูเ่ สมอ ……จึงทำให้ปฐมฮ่องเต้ค่อยๆ หมดควำม
อดทนไปในที่สุด”
พอฟังแล้ว ตู๋กซู ิงหลันก็ตอ้ งขมวดคิ้วขึ้นมำ
ตอนที่จีจำ้ นต้องกำรครอบครองเจียงเย่วให้ได้น้ นั เขำแทบจะอยำก
ครองคู่อยูก่ บั นำงไปตลอดชัว่ นิจนิรันดร์นี่น่ำ
“คืนวันนั้น หิมะตกรุ นแรง ฝนก็ตกหนักมำก พอฮูหยินได้รู้วำ่ คนทัว่
ทั้งแคว้นกู่เย่วถูกฆ่ำจนหมดสิ้ น ก็คิดฆ่ำตัวตำย”
“นำงเสี ยเลือดไปมำก หมอหลวงก็พำกันหมดหนทำง ปฐมฮ่องเต้เอง
ก็สำนึกเสี ยพระทัยอย่ำงที่สุด มีดนั้นตัดเส้นชีพจรหัวใจ ลงมืออย่ำง
เฉียบขำด”
“ก่อนตำยนำงมีควำมปรำรถนำเพียงข้อเดียว ….ก็คือไปจำกวังหลวง
ตำยแล้วนำงอยำกจะกลับไปที่แคว้นเดิม ให้ฝังนำงใต้ตน้ ไห่ถำงที่
นำงรักที่สุด”
ท่ำนผูเ้ ฒ่ำนัง่ อยูต่ รงนั้นค่อยๆ เล่ำออกมำอย่ำงช้ำๆ รำวกับว่ำกำลัง
รำพันถึงเรื่ องที่โศกเศร้ำอย่ำงที่สุด ในแววตำของเขำมีแต่ควำมทุกข์
ระทม
ตู๋กซู ิงหลันเองก็พลอยสะเทือนใจไปกับเรื่ องนี้ดว้ ย นำงถำมเสี ยง
แหบพร่ ำออกไป “เป็ นท่ำนปู่ ที่ช่วยท่ำนย่ำเอำไว้?”
ท่ำนผูเ้ ฒ่ำเงียบขรึ มไปพักใหญ่ ค่อบตอบว่ำ “ถือว่ำใช่กแ็ ล้วกัน”
“ข้ำหลงรักนำง ตั้งแต่แวบแรกที่ได้เห็นก็หลงรักนำงเข้ำแล้ว ไม่วำ่
จะเกิดเรื่ องใดขึ้นกับนำง ข้ำก็ยนิ ดีจะทุ่มเทชีวิตทั้งหมดไปดูแลนำง”
“เรื่ องที่ปฐมฮ่องเต้ทรงทำไม่ได้ ข้ำจะทำเอง”
พูดแล้ว ท่ำนผูเ้ ฒ่ำก็ยกแขนเสื้ อขึ้นมำ เห็นที่ขอ้ มือของท่ำนปู่ มีรอย
แผลเป็ นรอยหนึ่ง เป็ นเส้นลึกรอบทั้งข้อมือ แม้ถึงตอนนี้กย็ งั
สำมำรถมองเห็นได้อย่ำงชัดเจน
แสดงว่ำกำรลงมีดในตอนนั้นจะต้องลึกมำกจริ งๆ
“ตอนนั้นในวังหลวงมีหมอผีที่เก่งกำจมำกอยูผ่ หู ้ นึ่ง เขำบอกว่ำหำก
ใช้ชีวิตแลกชีวิตก็อำจจะช่วยนำงเอำไว้ได้”
“วิธีกำรชีวิตแลกชีวิตนี้ จะต้องหำคนที่มีใจรักนำงอย่ำงแท้จริ ง สละ
เลือดครึ่ งหนึ่งในร่ ำงของตนเองเป็ นกระษัยยำ บำงทีอำจสำมำรถช่วย
นำงได้ โอกำสที่จะช่วยนำงได้สำเร็ จนั้นมีเพียงครึ่ งเดียว ส่ วนคนที่
สู ญเสี ยเลือดนั้นมีสิทธิ์จะตำยได้อย่ำงมำก”
“ในตอนนั้น ปฐมฮ่องเต้ทรงเกิดควำมลังเลเสี ยแล้ว เขำไม่กล้ำ เขำ
เป็ นฮ่องเต้ ไหนเลยจะสำมำรถเอำชีวติ ของตนเองไปเสี่ ยงเพื่อสตรี ผู ้
หนึ่งได้กนั ?”
……………………………..
ไรท์ : โอ้ย! ใจจะขำด ท่ำนปู่ รักย่ำมำก ท่ำนปู่ คือที่สุด ทำให้คิดถึง
เพลง “แลรักนิรันดร์กำล” ของปู่ จ๋ ำน
“ไม่ได้ตอ้ งกำรที่จะเป็ นตำนำนรัก แต่ใจต้องกำรนักแค่เพียงได้รัก
เธอเนิ่นนำน”
ตอนที่ 364 ใต้ หล้ านีน้ อกจากเขาก็ไม่ มบี ุรุษใดที่ดอี กี แล้ ว

ตู๋กูซิงหลันรู ้ ดีถึงความเลวของจี จา้ นแต่แรกแล้ว การที่เขาตัดสิ นใจ


ออกไปเช่นนี้จึงมิได้ทาให้แปลกใจอะไร

คนที่เห็นแก่ตวั อย่างรุ นแรง บอกรักเพียงลมปาก ทุกสิ่ งที่เขาทาลงไป


ล้วนเป็ นการผลักเจียงเย่วลงไปในหลุมลึกนั้นก็คือปฐมฮ่องเต้

“ท่านปู่ ท่านจะต้องรักท่านย่ามากที่สุดแน่เลย” ตู๋กูซิงหลันอดจะเกิด


ความเคารพต่อท่านผูเ้ ฒ่าที่อยูต่ รงหน้าไม่ได้

หากมิใช่เพราะว่ารักใครคนหนึ่งอย่างลึกล้ า ไหนเลยจะสามารถสละ
ชีวิตของตนเองเพื่อผูอ้ ื่นได้กนั ?

ยิ่งไปกว่านั้นทั้งๆ ที่ รู้อยู่ว่าเกิ ดเรื่ องเช่ นนั้นขึ้ นกับเจี ยงเย่ว …แต่ ก็


ยังคงดีต่อนางดุจเดิม

“ใช่แล้ว รักเหลือเกิน…..” ท่านผูเ้ ฒ่าถอนใจออกมา กล่าวต่อไปว่า


“หลังจากเกิดเรื่ องนั้น ปฐมฮ่องเต้ก็ไม่ได้บีบบังคับให้นางต้องอยูใ่ น
วังอีก ข้าจึงรับนางมาอยูใ่ นจวน”

“ตอนที่ ฟ่านอิ งตายไปนั้น ข้าเป็ นคนฝั งร่ างของเขาเอง บางที อาจ


เพราะเหตุน้ ี ฮู หยินจึ งมิ ได้ชิงชังข้าสักเท่าไร ต่อมาภายหลัง นางก็
แต่ งให้ขา้ ในที่ สุด วันนั้น นางสวมชุ ดแต่งงานสี แดงทัว่ ทั้งตัว ปั ก
ดอกไฮ่ถางเอาไว้ทวั่ ทั้งร่ าง….”

จนถึ ง วัน นี้ พอคิ ด ขึ้ น มาท่ า นผูเ้ ฒ่ า ก็ ย งั จดจ าได้อ ย่า งละเอี ย ดลออ
แม้แต่กระทัง่ บนร่ างของนางมี ดอกไห่ ถางอยู่กี่ดอกก็ยงั จาได้อย่าง
แม่นยา

พวกเขาไม่ ได้มีง านแต่ ง งาน เพี ย งแต่ ค นทั้ง สองสวมใส่ ชุ ดสี แดง
กราบไหว้ฟ้าดินร่ วมกัน

เนื่ อ งเพราะจี จ้า นเป็ นเหตุ เขาจึ ง ไม่ อ าจจัด งานแต่ ง งานที่ ใ หญ่ โต
ให้กบั นางได้ นี่เป็ นความเสี ยดายไปชัว่ ชีวิตของเขา

แต่ ว่ า ตลอดช่ ว งเวลาที่ ไ ด้อ ยู่ร่ ว มกับ นาง……คื อ ช่ ว งเวลาที่ เ ขามี


ความสุ ขที่สุดในชีวิตอย่างแท้จริ ง
ถึงแม้วา่ จะเป็ นเพราะ….นางถึงได้แต่งให้กบั เขา

ฟังเรื่ องเก่าๆ ถึงตรงนี้ ตู๋กูซิงหลันก็รู้แล้วว่า ท่านผูเ้ ฒ่านั้นรักเจียงเย่ว


อย่างแท้จริ ง

“เจ้าคงจะรู ้ สึกว่า ปู่ เองก็สับปลับใช่ หรื อไม่?” พอท่านผูเ้ ฒ่าหายใจ


ลอยก็เป็ นฝ่ ายเอ่ยกับนางเรื่ องเจียงเหม่ยหยู่

“ตอนนั้นท่ามกลางการประหัตประหารในแคว้นกู่เย่ว ฮูหยินพยายาม
ปกป้องเจียงเม่ยหยูอ่ ย่างสุ ดชีวิต ทั้งยังร้องขอให้ขา้ รับตัวนางไว้”

“ต่อมาหนึ่ งในข้อแม้ที่ฮูหยินตอบรับแต่งงานกับข้า ก็คือให้รับเจียง


เหม่ยหยูเ่ ป็ นอนุ หลายปี มานี้ ข้าไม่เคยทาผิดสัญญาต่อนาง”

ใต้หล้านี้ บุรุษที่มีสามภรรยาสี่ อนุมีให้เห็นอยูม่ ากมาย อย่าว่าแต่เป็ น


แม่ทพั ใหญ่ที่ผา่ นสงครามมามากมาย

แค่ให้รับอนุผหู ้ นึ่งไม่ถือเป็ นเรื่ องยากอะไร ดังนั้นที่ต่อมาเขามีลูกกับ


่ .ตู๋กซู ิ งหลันก็เข้าใจได้
เจียงเหม่ยหยู…
สาหรับเจียงเย่ว ดูท่าแล้วนางเพียงต้องการให้เจียงเหม่ยหยูม่ ีที่พกั พิง
ที่ปลอดภัย ถึงได้บงั คับให้ท่านผูเ้ ฒ่ารับนางเป็ นอนุ

“ท่านปู่ ทาเพื่อท่านย่ามากพอแล้ว” ตู๋กูซิงหลันกล่าวต่อไป ที่จริ งแล้ว


นางยังคิดจะถามว่าเจียงเย่วลาโลกไปได้อย่างไร

นางตายไปเกือบสิ บปี แล้ว

ตอนนั้นเจ้าของร่ างยังอายุนอ้ ยอยูเ่ ลย จึงมีความทรงจาไม่มากมายนัก

ท่านผูเ้ ฒ่ ามองความในใจของนางออก ก็กล่าวว่า “ข้ากับฮู หยินอยู่


ร่ ว มกัน สิ บ กว่ า ปี เดิ ม ที ก็ ใ ช้ชี วิ ต มี ค วามสุ ข อย่ า งเรี ยบง่ า ย……
ต่อมา…..เพราะเรื่ องของบิ ดามารดาของเจ้า ส่ งผลกระทบต่อนาง
อย่างมาก พอล้มป่ วยลงก็ลุกไม่ข้ ึนอีก ในที่สุดก็จากไป”

นี่เป็ นครั้งแรกที่ต๋ ูกซู ิ งหลันได้ยนิ คนเอ่ยถึงบิดามารดา

นางรู ้ แต่ว่าไทเฮาน้อยสู ญเสี ยบิ ดามารดาแต่เล็ก แต่กลับไม่รู้ชดั ว่า


สาเหตุเพราะอะไร

สองพี่ชายก็คงไม่มีทางเป็ นฝ่ ายบอกกับนาง


“ตู๋กูชิงชิ ง คือชื่ อของมารดาของเจ้า ” ท่านผูเ้ ฒ่าเอ่ยพลางก็หยิบเอา
หยกพกสี เขียวออกมา บนนั้นแกะเป็ นตัวอักษรชิงชิงสองตัว

“นางเกิ ดในเดื อนสาม เป็ นช่ วงปลายฤดู ใบไม้ผลิ ที่ธรรมชาติ อุ ดม


สมบูรณ์ แม้แต่ในอากาศก็มีกลิ่นหอมของใบหญ้า พวกเราจึงตั้งชื่อ
นางว่าชิงชิง”

ตู๋กูซิงหลันออกจะประหลาดใจอยูบ่ า้ ง เนื่องเพราะว่าไม่เคยมีใครเอ่ย
ถึ งบิ ดามารดามาก่ อน นางจึ งนึ กว่าตอนนั้นเย่วฮู หยินได้ให้กาเนิ ด
บุตรชาย

คิดไม่ถึงว่า จะเป็ นบุตรสาว?

“ชิ งชิ งนั้น แสนจะเอาแต่ใจ มีบุรุษมากมายมาสู่ ขอ นางก็ไม่เหลียว


แลเลยสักนิ ด กลับไปชอบไอ้หนุ่ มที่ ไม่มีที่มาคนหนึ่ ง ไอ้หนุ่ มนั้น
หน้าเหมือนสุ นขั เป็ นคนไม่รู้มารยาท แต่กข็ ยันขันแข็ง ต่อมาพอแต่ง
เข้ามาเป็ นเขยของบ้านเรา ก็นบั ว่าดีกบั แม่ของเจ้าไม่เลว”

“น่าเสี ยดาย…..มารดาเจ้าคลอดเจ้าได้ไม่นาน ไอ้คนที่สมควรถูกสับ


สักพันดาบนัน่ อยูๆ่ ก็หนีไป”
“ได้แต่ทิ้งจดหมายเอาไว้ฉบับหนึ่ง บอกว่าหมดวาสนากับมารดาของ
เจ้าแต่เพียงเท่านี้ ภูเขาสู งสายน้ าห่างไกลคงไม่ได้พบกันอีกแล้ว”

“เพียงแค่คืนเดียว มารดาของเจ้าจากคุณหนูในจวนอ๋ องผูส้ ู งส่ งก็กลับ


กลายเป็ นหญิงม่ายที่ถูกคนทอดทิ้ง นางเองก็บา้ ดีเดือด ไม่พูดไม่จา
คว้ากระบี่อ่อนได้กไ็ ล่ตามไปแล้ว”

นี่เป็ นเรื่ องที่แสนจะเจ็บช้ า….เพียงแต่เมื่อท่านผูเ้ ฒ่าเล่าออกมาเช่นนี้


ตู๋กซู ิ งหลันก็รู้สึกว่าออกจะน่าขาอยูบ่ า้ ง

“บิ ดารมารดาของไทเฮาน้อยเป็ นพวกนิ สัยประหลาดหรื อยังไง?”


วิญญาณทมิฬเกิดความสงสัยขึ้นมา

“หลังจากนั้นมีอยูว่ นั หนึ่ง ลูกน้องของข้าก็พบร่ างของมารดาเจ้าที่สุด


ขอบทะเลตะวันตก….” ขณะที่ท่านผูเ้ ฒ่าพูดถึงเรื่ องนี้ สี หน้าก็เปี่ ยม
ไปด้วยความแค้นเคือง

“ที่จริ งเน่าเปื่ อยจนเละเทะไปหมดแล้ว แม้แต่ใบหน้าก็ไม่อาจเห็นได้


อย่างชัดเจน ได้แต่อาศัยสิ่ งของและเสื้ อผ้าที่อยูบ่ นร่ างกายเป็ นเครื่ อง
ยืนยันตัวตน”
“หลั ง จากที่ ท่ านย่ า ของเจ้ า รู ้ เรื่ องเข้ า จิ ตใจก็ ไ ด้ รั บความ
กระทบกระเทือนอย่างรุ นแรง….”

จากคาพูดของท่านผูเ้ ฒ่า บิดาของไทเฮาน้อยนั้นเป็ นคนไม่ได้เรื่ อง

มารดากลับเป็ นคนที่ จ ริ ง จัง กับ ความรั ก ถึ ง กับ ไล่ ต ามไปแต่ เ พี ย ง


ลาพัง สุ ดท้ายแล้วก็ตอ้ งตกตายอยูท่ ี่ต่างแดน ทาให้คนอดที่จะต้องใจ
หายไม่ได้

“ยามที่บิดามารดาของเจ้าจากไป เจ้าพึ่งจะอายุสี่ขวบกว่าเท่านั้น คง
จาอะไรไม่ได้”

“หลันหลัน ตอนนี้เจ้าก็โตแล้ว เจ้ามีสิทธิจะได้รับรู ้เรื่ องเหล่านี้”

“พี่ใหญ่ของเจ้ารู ้จกั หนักเบาที่สุด ตอนนั้นเขาเองก็อายุได้สิบสองสิ บ


สามปี ติดตามข้าไปยังสนามรบแล้ว เรื่ องเหล่านี้ เขาล้วนทราบเป็ น
อย่างดี ตลอดหลายปี มานี้ เขามิได้บอกกับเจ้า เพราะว่าไม่อยากจะให้
เจ้าต้องเสี ยใจ”

ตู๋กูซิงหลันพยักหน้า “ท่านปู่ ข้าเองก็เป็ นผูใ้ หญ่แล้ว ย่อมรู ้ว่าสมควร


จะทาเช่นไร”
“ตลอดหลายปี มานี้ ข้าส่ งคนไปตามหาเบาะแสของบิดาเจ้ามาโดย
ตลอด เมื่อไหร่ ที่หาเขาพบ จะต้องให้เขาชดใช้ให้กบั มารดาของเจ้า
อย่างสาสม”

เมื่อเล่ามาถึงตรงนี้ สายตาของท่านผูเ้ ฒ่าก็เปี่ ยมไปด้วยไอสังหาร

“ตอนนั้นยามที่เขาอยูต่ ่อหน้าข้า ก็แสดงออกว่าจริ งใจอย่างที่สุด มิได้


น้อยไปกว่าฮ่องเต้นอ้ ยผูน้ ้ นั เลย”

พอคิดมาถึงตรงนี้ ท่านผูเ้ ฒ่าก็ยงิ่ มีโทสะขึ้นมา “ดังนั้นข้าจะบอกเลย


ว่า คาพูดของบุ รุษนั้นจริ งสามส่ วนเท็จเจ็ดส่ วน ไม่ อาจเชื่ อถื อได้
ทั้งหมด”

“ก่อนหน้านี้ใครกันนะ จีเย่ไอ้กระต่ายเปรี ยวนัน่ ก็บอกว่ารักเจ้าหมด


หัวจิตหัวใจเหมือนกัน เฮ่อ แต่วา่ ปู่ กลับถูกหลอกเข้าเสี ยเต็มเปา”

“หลันหลัน บิดาเจ้าเป็ นเดรัจฉานใหญ่ จี เย่น้ นั เป็ นเดรัจฉานน้อย ปู่


ของเจ้าถูกหลอกไปครั้ งที่ หนึ่ งครั้ งที่ สองได้ แต่ จะต้องไม่ มีครั้ งที่
สาม ดังนั้นฮ่ องเต้น้อยนั่น ข้าไม่ มีทางเชื่ อเขา เจ้าก็อย่าไปเชื่ อเขา
อย่างเด็ดขาด”
“ท่านปู่ เช่นนั้นท่านจริ งใจกับท่านย่าใช่หรื อไม่?”

ท่านผูเ้ ฒ่าตบอกเสี ยงดัง “จริ งแท้แน่นอน”

ท่านผูเ้ ฒ่ ามัน่ ใจเลยว่า ใต้หล้านี้ นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีบุรุษที่ ดีอีก


แล้ว

ตู๋กูซิงหลันแอบหัวเราะเบาๆ เจียงเย่วที่ผ่านประสบการณ์ถูกทาลาย
จนย่ อ ยยับ จนมาพบกับ ท่ า นปู่ ได้ผ่ า นชี วิ ต ที่ ส งบสุ ข สิ บ กว่ า ปี
สาหรับนางแล้วต้องถือว่าเป็ นความโชคดีในความโชคร้าย

ใต้หล้านี้ มีผคู ้ นเป็ นหมื่นเป็ นแสน แต่ไม่มีใครที่มีแต่ความสุ ขตั้งแต่


เกิดจนตาย

ว่าแล้ว ท่านผูเ้ ฒ่าก็ตบไหล่ของตู๋กูซิงหลันเบาๆ กล่าวอย่างจริ งจังว่า


“หลันหลัน เจ้าจะต้องจดจาเอาไว้ นอกจากคนในครอบครัวแล้ว คน
อื่นล้วนไม่เคยจริ งใจต่อเจ้า อย่าได้ถูกเจ้าฮ่องเต้นอ้ ยนั้นหลอกลวงไป
โดยง่าย เข้าใจไหม?”
“ครั้ งนี้ ที่ เ ขาไปท าสงครามกับ ต้า เหยี ย น ก็ ไ ม่ ใ ช่ เ พื่ อ เจ้า แต่ เ ป็ น
หนทางของเจ้าแผ่นดิ นที่เขาเลือกเอง เจ้าไม่จาเป็ นต้องรับผิดชอบ
ใดๆ ทั้งสิ้ น”
ตอนที่ 365 พ้ นยามจื่อไป ก็นับว่ าเป็ นวันที่สองแล้ ว

“ปู่ กลับมาครั้งนี้ จะอยู่เป็ นเพื่อนเจ้าระยะเวลาหนึ่ ง หลันหลันอยาก


ทาสิ่ งใดก็จงทาสิ่ งนั้น ไม่ตอ้ งเกรงกลัวผูใ้ ดทั้งสิ้ น” ท่านผูเ้ ฒ่าลูบไล้
ศีรษะของนางด้วยความรักถนอม

“หากว่าใครกล้ากลัน่ แกล้งรังแกเจ้าแม้เพียงนิดเดียว ปู่ ก็จะทุบหัวมัน


ให้แบะ ให้มนั ต้องสานึกเสี ยใจที่เกิดมาบนโลกนี้ไปเลย!”

“ยังมีอีก เรื่ องขาของเจ้าก็ไม่ตอ้ งกังวลใจไป แม่ยายของหัวหน้าเผ่า


อาปู้ไซ้ คื อยอดหมอผีในเผ่าของพวกเขา ปู่ จะเชิ ญนางมารั กษาขา
ของเจ้า”

คาพูดนี้ของท่านปู่ ทาให้หวั ใจของตู๋กซู ิ งหลันอบอุ่นจนละลายแล้ว

นางพยักหน้า คลี่ยมิ้ หวาน “เจ้าค่ะ”

…………………
ยามดึกสงัด ตู๋กูซิงหลันได้ยนิ เสี ยงหน้าต่างเปิ ดออก สายลมพัดเข้ามา
วูบหนึ่ง

นางก็รู้สึกตัวขึ้นมาอย่างตื่นตัว

นางหันหลังให้หน้าต่าง จึงมองเห็นไม่ชดั ว่าเป็ นใคร

ผ่ า นไปครู่ ห นึ่ ง ก็ รู้ สึ ก ว่ า มี มื อ ข้า งหนึ่ ง สั ม ผัส ลงบนใบหน้า ของ


ตนเอง

ตู๋กูซิงหลันยกมือขึ้นมาข้างหนึ่ง คว้ามือข้างนั้นเอาไว้อย่างแน่ นหนา


ทันทีที่จบั เอาไว้ได้ในใจก็ตอ้ งร้องครวญครางออกมาทันที

“ซิ งซิ ง เจ้าเองก็คิดถึงเราจนทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ใช่ไหม?”

ฮ่องเต้ถูกนางคว้าพระหัตถ์เอาไว้ แย้มสรวลออกมาดุจดอกไม้บาน

ตู๋กซู ิ งหลัน “……”

“ฝ่ าบาท ดึกดื่นแล้ว พระองค์พลิกหน้าต่างเข้ามาทาไม? มิใช่ว่าเสด็จ


กลับวังไปแล้วหรื อเพคะ?”
ตู๋กูซิงหลันพูดพลางก็คลายมือออก หันหน้าไปมองดูดวงพระพักตร์
ที่งดงามอย่างไร้ที่ติของฝ่ าบาท หากมิใช่ว่าพระองค์ทรงยิม้ แย้มอย่าง
โง่งม ก็คงดูแล้วสบายตาน่าชมกว่านี้

“ตอนที่เรากลับไปจากจวนตู๋กูก็บอกแล้วมิใช่หรื อว่า วันที่สองจะมา


รับเจ้ากลับไป?” จีเฉวียนเบียดเข้ามาที่บนเตียงของนาง ยืน่ พระหัตถ์
ออกมาคว้าตัวนางเข้าไปในอ้อมกอดทันที

แทบจะซบพระพักตร์ครึ่ งหนึ่งลงไปบนเส้นผมของนาง

“แต่ตอนนี้พ่ งึ จะครึ่ งคืนเองนะ พี่ชาย”

“เลยยามจื่ อ [1] มาก็ถื อ เป็ นวันที่ ส องแล้ว ” จี เ ฉวี ย นตรั ส อย่า งน่ า
สงสาร “พวกเราตกลงกันแล้วมิใช่หรื อ?”

พอได้สูดดมกลิ่ นหอมของดอกฮว๋ ายฮวาอย่างอุกอาจฮ่ องเต้ก็ทรง


รู ้สึกพึงพอใจอย่างเต็มที่ นี่เป็ นความรู ้สึกที่บ่งบอกไม่ถูก

ตู๋กซู ิ งหลันหันไปมองดูดวงจันทร์นอกหน้าต่าง ก็รู้สึกว่ายังดึกอยูเ่ ลย


“ซิ งซิ ง เราไม่ได้เจอเจ้าเพียงครู่ เดี ยวก็รู้สึกคิดถึงอย่างยิ่ง” จี เฉวียน
ยังคงเอาแต่กอดนางไม่ยอมห่ าง “พอคิดว่าอีกหน่อยต้องแยกจากเจ้า
นานถึงครึ่ งปี เราก็รู้สึกทรมานเหลือเกิน”

ตู๋กูซิงหลันรู ้สึกว่านางผิดไปแล้ว เขาไม่ใช่สุนขั เฒ่าอะไรทั้งนั้นแต่ที่


จริ งแล้วเขาคือลูกหมาน้อยต่างหาก

ต่อหน้าผูอ้ ื่นก็คือฮ่องเต้สุนขั ที่หยิง่ ผยองพองขน ลับหลังผูค้ นก็คือลูก


หมาน้อยขี้ออ้ นที่เย้ายวน

จี๊ด….

นางปวดฟันจริ งๆ

บางทีอาจเพราะถูกเขากอดเข้าบ่อยๆ เลยชักจะเคยชินขึ้นมาแล้ว

ขาก็พิการไปแล้ว ย่อมไม่อาจขัดขืน หรื อจะให้ถีบเขาตกเตียงไปดี?

ตู๋กูซิงหลันได้แต่นอนราบลงไป ถือเสี ยว่าข้างกายมีลูกหมาน้อยมา


นอนอยูด่ ว้ ยแล้วกัน

วิญญาณทมิฬพลันกระโจนออกมาอย่างผลุนผลัน “อะ นี่…”


มันกาลังจะอ้าปาก ฝ่ ามื อของฮ่ องเต้ก็ชิงตวัดออกมาก่ อ น “ซิ งซิ ง
หากว่าเจ้าง่วงมากละก็ เราจะนอนเป็ นเพื่อนเจ้า นอนตื่นแล้วพวกเรา
ค่อยกลับเข้าวังไป”

จีเฉวียนพึ่งจะตรัสจบ ก็เห็นว่าที่นอกหน้าต่างปรากฏเงาร่ างของคนผู ้


หนึ่งพุง่ เข้ามา

คนผูน้ ้ นั สวมใส่ ชุดสี เขียวยกไม้กวาดในมือขึ้นมาฟาดใส่ ฮ่องเต้ที่อยู่


บนเตียงอย่างดุดนั ชุดหนึ่ง

“ไอ้สุนขั ขี้ขโมยมาจากที่ใดกัน แม้แต่หลานสาวของเราผูเ้ ฒ่าก็ยงั กล้า


แตะต้องหรื อ?”

ตู๋กถู ิงแกล้งทาเป็ นตาบอดมองไม่ออก

เมื่อกลางวันไม้กวาดด้ามนี้ ยงั ไม้ทนั ได้ใช้กบั จีเฉวียน เขารู ้สึกว่าช่าง


ขาดทุนเหลือเกิน

คาดไม่ถึงว่า ฮ่องเต้นอ้ ยผูน้ ้ ีจะมีความกล้าล้นเหลือ ถึงกับปี นหน้าต่าง


มาหาหลานสาวของเขาตอนกลางคืน
เพื่อปกป้องผักกาดขาวหัวงามของบ้านตน คืนนี้ท่านผูเ้ ฒ่าจึงพักผ่อน
อยูใ่ นห้องข้างๆ ห้องของตู๋กซู ิ งหลัน

พอเกิดความเคลื่อนไหวเล็กน้อย เขาก็รู้สึกตัวทันที

ทั้งๆ ที่เห็ นอยู่ชดั ๆ ว่าเป็ นจี เฉวียน แต่กลับทาเป็ นตาบอดแม้อยู่ใน


บ้านของตนเอง ใครสนใจกันเล่า ตีก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ขณะที่ฮ่องเต้ทรงถูกฟาดรอบแรกนั้น ก็ตดั สิ นพระทัยยื่นพระหัตถ์


ออกไปปกป้องตู๋กซู ิ งหลันก่อน

พอโดนรอบที่ ส องก็ทรงทราบแล้ว ว่า ท่ า นผูเ้ ฒ่ าตี เ ฉพาะพระองค์


เท่านั้น จึงยิง่ ไม่กล้าส่ งเสี ยง

เอาแต่ กอดตู๋ กูซิงหลันเอาไว้ใ นอ้อ มพระพาหา บดบังอย่างมิ ด ชิ ด


ปล่อยให้ท่านผูเ้ ฒ่ากระหน่าตีพระองค์

วิญญาณทมิ ฬที่ เกื อบจะถู กตี จนแบนไปแล้วนั้น “ข้าก็แค่ อยากจะ


เตือนท่านว่า…..ท่านผูเ้ ฒ่าถือไม้กวาดมาแล้ว….”

จีเฉวียนถลึงพระเนตรใส่ มนั ครั้งหนึ่ง “สายไปแล้ว [2] ”


วิญญาณทมิฬ “…..” ขอโทษนะ ที่จริ งมันไม่น่าปากไวไปเตือนเขา
ก่อนเลย!

“ไอ้คนลามก ยังจะกล้าเกาะติดอยู่บนเตียงอีกหรื อ?” ไม้กวาดของตู๋


กูถิงด้ามนั้นมีหลากหลายกระบวนท่า ยามที่ทุบตีผูค้ นแรงกระหน่ า
ทะลุทะลวงเสื้ อผ้าไปถึงผิวเนื้อ เรี ยกว่าเจ็บจริ ง

แต่ฮ่องเต้ทรงเฉลียวฉลาดนัก ยื่นพระหัตถ์ไปคว้าเอาผ้าห่ มมาคลุม


ตัวพระองค์เองและตู๋กซู ิ งหลันเอาไว้ดว้ ยกัน

ทาเอาท่านผูเ้ ฒ่าแค้นเสี ยจนแทบจะถล่มเตียงให้หลุดเป็ นชิ้นๆ

เห็นว่าปฐมฮ่องเต้ทรงไร้ยางอายแล้ว คิดไม่ถึงว่าพอมาถึงรุ่ นหลานก็


มิได้นอ้ ยหน้ากว่ากันเลย

ทุบตีอยูต่ ้ งั นานก็ยงั ไม่เห็นผล เขาจึงไม่ใช้ไม้กวาดแล้ว แต่ว่าหันไป


คว้าเอาหอกประจาตัวขึ้นมาแทน

พอพุง่ ออกไปครั้งหนึ่งหอกนั้นก็แทงเข้าไปในผ้าห่ม
ทันทีที่ทะลุเข้ามา หอกด้ามนั้นก็ถูกจีเฉวียนทรงคีบเอาไว้อย่างแน่น
หนา “ท่านผูเ้ ฒ่า หากแทงลงมาเช่นนี้ จะมีคนตายได้นะ”

ทันใดนั้น จี เฉวียนก็ทรงลุกขึ้ นมาประทับนั่งอยู่บนเตี ยง พระองค์


ปล่อยพระเกศายาวสยาย สวมฉลองพระองค์สีทอง ดวงเนตรหงส์คู่
นั้นทาให้หวั ใจของทุกผูต้ อ้ งหนาวสะท้าน

จากที่ เป็ นลูกสุ นัขน้อยยามอยู่ต่อหน้าตู๋กูซิงหลัน คนก็เปลี่ ยนเป็ น


เทพเซี ยนผูส้ ู งส่ งขึ้นมาในทันที

“ซิ งซิ งเคยบอกเอาไว้ว่า ตระกูลตู๋กูของพวกท่านมีวิชาไม้กวาดฟาด


คน ตอนที่ ได้พบท่ านผูเ้ ฒ่ าเมื่ อกลางวันเราก็รู้อยู่แล้วว่าท่านอยาก
ทดสอบดู จึงได้มาในยามค่าเพื่อมอบโอกาสให้กบั ท่าน เป็ นอย่างไร
ฟาดจนพอใจแล้วกระมัง?”

สมองของตู๋กูซิงหลันเกิ ดเครื่ องหมายคาถามตัวใหญ่ข้ ึนมาในทันที


นางเคยบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ วา่ ต้นตระกูลมีวิชาไม้กวาดฟาดผูค้ น?

นางกระแอมคอส่ งเสี ยงหัวเราะออกมาคาหนึ่ ง “ฝ่ าบาท ที่บา้ นของ


หม่อมฉันสื บทอดกันมาคือวิชาตบใบหน้า….”
จีเฉวียน “ซิ งซิ ง เราคิดว่าวิชาไม้กวาด สามารถสื บทอดกันต่อไปได้
มากกว่าพันปี ”

ตู๋กูซิงหลันหัวเราฮิฮะคาหนึ่ ง พอหันหน้าไปก็เห็นว่าท่านผูเ้ ฒ่ายังคง


มีสีหน้างงงวย

เขาเตรี ย มใจเอาไว้ต้ งั แต่ แ รกว่ า จะต้อ งเผชิ ญ กับ พระพิ โ รธของจี


เฉวียนพระองค์กลับดีนกั มิได้ทรงพิโรธเลยสักนิด

ทั้งยังเป็ นฝ่ ายเสนอทางลงให้เขาเสี ยอีก?

ใบหน้าชราของตู๋กถู ิงชักจะละอายจนรับไม่ได้อยูบ่ า้ ง

ยิ่ง ไปกว่ า นั้น พลัง ที่ ส ะท้อ นออกมาจากหอกยัง รุ น แรงกว่ า ที่ เ ขา


คาดคิดเอาไว้มาก

เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า วรยุทธ์ของฮ่องเต้นอ้ ย….จะสู งล้ าถึงเพียง


นี้

ยอดฝี มือปะกระบวนท่า เพียงแค่ความเคลื่อนไหวเล็กน้อยก็รู้สึกได้


แล้ว
หอกของเขา ไม่เคยมีผใู ้ ดรับได้มาก่อน

คนที่เคยรับ ล้วนตายไปหมดแล้ว

แต่ พระองค์ก ลับ สามารถคว้า เอาไว้ใ นมื อ ด้ว ยความรวดเร็ ว และ


แม่นยา โดยมิได้ผดิ เพี้ยนแม้แต่นอ้ ย

ถึงแม้ว่าตัวเขาจะใช้กาลังไปเพียงแค่สองสามส่ วน แต่ก็เพียงพอที่จะ
แบะหัววัวได้แล้ว ตอนนี้กลับถูกฮ่องเต้คว้าจับเอาไว้โดยง่าย ทาให้ต๋ ู
กูถิงอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนมุมมองต่อพระองค์ไป

ไม่รู้ว่ายามที่ฮ่องเต้นอ้ ยไปเป็ นตัวประกันที่แคว้นเหยียน ต้องเผชิญ


กับประสบการณ์เช่นไร ถึงได้ทาให้เขาฝึ กฝนตนเองจนมีวิชาแก่กล้า
เช่นนี้

“หากว่าท่านผูเ้ ฒ่ายังตีไม่พอ ก็ยงั สามารถลงมือได้อีก เราจะไม่หลบ


หลีก”

จากนั้น จี เฉวียนก็นั่งหลังตรง “เราจะถื อว่าเป็ นการสั่งสอนจากผู ้


อาวุโส สามารถรับการเคี่ยวกราจากท่านผูเ้ ฒ่า เราถือว่าได้ประโยชน์
มหาศาล”
ตู๋กถู ิงส่ งสายตาทิ่มแทง ไอ้หนุ่มนี่คงจะคิดว่าเขาไม่กล้าตีสินะ?

ไอ้กระต่ายเปรี ยวสองตัวในบ้าน ถูกเขาตีมาตั้งแต่เล็กจนโต ฮ่องเต้


น้อยมีพระชนม์มายุพอๆ กับพวกเขา ดูๆ แล้วช่างน่าฟาดโบยดีนกั

[1] 子时

[2] 马后炮mǎ hòu pào


ตอนที่ 366 สามวันคิดถึงครั้งหนึ่ง?

ตู๋กถู ิงกามือแน่น เขาแทบจะพุง่ เข้าไปแล้ว

แต่กลับเห็นหลานสาวของตนเองโผล่ศีรษะออกมาเสี ยก่อน “ท่านปู่


หากว่าหอกของท่านยังคงแทงลงมา ฤกษ์ที่ฝ่าบาทจะเสด็จไปทาศึกก็
ต้องเลื่อนออกไปอีก”

สี หน้าของท่านผูเ้ ฒ่าคล้ าลง เขาคิดว่าสมควรส่ งฮ่องเต้นอ้ ยผูน้ ้ ีให้รีบ


ออกไปฝึ กฝนตนเองจะดีกว่า

หากปล่อยให้มาคลุกคลีอยู่ขา้ งๆ หลานสาวของตนทั้งวันทั้งคืนคง
ปวดหัวน่าดู

“ฝ่ าบาททรงล้อ กระหม่ อ มเล่ น แล้ว เมื่ อ ครู่ ก ระหม่ อ มนึ ก ว่ า เป็ น
หัว ขโมยมาจากที่ ใ ด ฝ่ าบาทเสด็ จ มาจวนตระกู ล ตู๋ กู ข องพวกเรา
ประตูใหญ่มีกลับไม่ผ่าน แต่กลับปี นหน้าต่างเข้ามา นี่ มิเท่ากับว่าทา
ให้ผคู ้ นเข้าใจผิดง่ายๆ หรอกหรื อ?”
ตู๋กูถิงกล่าวด้วยสี หน้ายิ้มแย้มแต่ดวงตากลับไม่ยิ้ม หอกในมือก็ส่ง
เสี ยงครื นครานออกมา

“ในเมื่ อ คื น นี้ ฝ่ าบาททรงบรรทมไม่ ห ลับ มิ สู้ ล องมาแลกเปลี่ ย น


กระบวนท่ากับกระหม่อมดี กว่าไหม? แคว้นต้าเหยียนมี แม่ ท พั ที่ ดุ
ร้ ายอยู่ผูห้ นึ่ งเกรงว่าคงไม่ แพ้แก่ ฝ่าบาทเป็ นแน่ ฝ่ าบาทจะได้ทรง
ทดลองดูก่อน”

ว่าตามจริ งแล้ว เขาก็สงสัยในความสามารถที่แท้จริ งของจีเฉวียนอยู่


เหมือนกัน

หากได้ประลองดูสกั รอบ ไม่แน่วา่ สามารถล้วงอะไรออกมาได้บา้ ง

“ก็ได้” ฮ่องเต้มิได้ทรงปฏิเสธ

พระองค์ย งั ทรงจดจ าค าแนะน าของอู๋ เ หนี ย งจื่ อ ได้ดี หากคนใน


ครอบครัวของซิ งซิ งมีขอ้ แม้อนั ใด ทางที่ดีสมควรจะรับปากไปให้
หมด

ฝ่ าบาทพลิกพระองค์ลงจากเตียง ทั้งยังทรงไม่ลืมห่ อตัวตู๋กูซิงหลันอ


ย่างมิดชิด
“สวนด้านนอกกว้างขวางพอดี ท่านผูเ้ ฒ่าโปรดสัง่ สอน”

ตรัสแล้ว จี เฉวียนก็ทรงเสด็จออกไปก่อน พลางยื่นพระหัตถ์ไปหัก


กิ่งไม้ลงมากิ่งหนึ่ง “ใช้กิ่งไม้น้ ีแทนอาวุธ จี้ถึงพึงหยุดลง”

ท่านผูเ้ ฒ่ากาหอกเอาไว้ในมือ พลิกร่ างไล่ตามไป

“ฝ่ าบาทสมควรใช้ดาบ กระหม่อมขอใช้หอกก็พอแล้ว”

จีเฉวียนพระสรวลเบาๆ “ท่านผูเ้ ฒ่าอายุมากแล้ว อย่าได้หกั โหมเลย”

ตู๋กถู ิงฟังแล้วแทบจะระเบิดตัวเอง

เขาควงหอกอยู่ครู่ หนึ่ งก็พุ่งเข้ามาถึงเบื้องหน้าของจีเฉวียน ทุ่มแทง


ปลายหอกออกมา ราวกับว่าต้องการต่อสู ้กบั จีเฉวียนอย่างจริ งจัง

ตู๋กซู ิ งหลันยังคงนอนอยูบ่ นเตียง นางไม่เข้าใจจริ งๆ ว่าทาไมอยูๆ่ ทั้ง


สองคนถึงได้ตีกนั ขึ้นมา

เพราะว่าตอนนี้นางง่วงแทบตายแล้ว
จึงไม่คิดจะสนใจอะไรพวกเขาอีก นางทาเป็ นไม่สนใจหลับสบายใน
ผ้าห่มต่อไป

พอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกว่าข้างกายมีอะไรเย็นๆ

แสงแดดสาดส่ อ งผ่ า นหน้า ต่ า งเข้า มา ตกต้อ งลงบนร่ า งของเขา


งดงามราวกับภาพฝัน

“ซิ งซิ ง อรุ ณสวัสดิ์” จีเฉวียนจุมพิตลงบนหน้าผากของนางครั้งหนึ่ ง


“หลับสบายดีไหม?”

ตู๋กซู ิ งหลันมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นในสวนมีแต่ความสงบนิ่ง

“ท่านปู่ เล่า?”

“ท่านผูเ้ ฒ่าเมื่อวานพ่ายแพ้การประลอง ตอนนี้คงกาลังพักผ่อนอยู”่ จี


เฉวียนยื่นพระหัตถ์มากอดหัวไหล่ของนางเอาไว้ สี พระพักตร์ แสน
จะอบอุ่น

ตู๋กูซิงหลันกวาดตามองดูจีเฉวียนอย่างละเอียดลออครั้งหนึ่ง เห็นเขา
สบายดีเป็ นปกติตลอดร่ าง แม้แต่รอยขีดข่วนสักนิดก็ไม่มี
“ท่ า นผูเ้ ฒ่ า รั บ ปากเรา แพ้แ ล้ว ก็จ ะยอมให้เ ราอยู่เ ป็ นเพื่ อนเจ้า ” จี
เฉวียนลูบศีรษะน้อยๆ ของนางเบาๆ “เจ้าช่ างเป็ นลูกหมูน้อยจริ งๆ
เรากับท่ านผูเ้ ฒ่ าอึ กทึ กครึ กโครมกันขนาดนั้น เจ้ากลับหลับอย่าง
สบาย เราอิจฉาเจ้านัก”

ลูกหมูนอ้ ยกับผีน่ะสิ

“หลายวัน นี้ เราจะขออยู่ก ับ เจ้า ตลอดเวลา อี ก ไม่ กี่ ว นั ก็ จ ะยกทัพ


ออกไปจัดการแคว้นเหยียนแล้ว ” จี เฉวียนเอนพระองค์อยู่ขา้ งกาย
นาง สายพระเนตรมีแต่ความอาวรณ์

“ครึ่ งปี ที่เราจากไปนี้ เจ้าจะหาเวลามาคิดถึงเราวันละนิดได้ไหม?”

ตู๋กซู ิ งหลันรู ้สึกว่าตนเองคงไม่คิดถึงเขาหรอก

“สามวันคิดถึงครั้งหนึ่งเป็ นอย่างไร?”

“ห้าวัน…..มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”

จีเฉวียนประคองหน้าของนางเอาไว้ “ทุกสิ บวันเราจะให้คนส่ งข่าว


มา ไม่ให้เจ้าต้องเป็ นห่วงไป”
ตู๋กซู ิ งหลันก็ไม่รู้สึกว่าตนเองจะต้องห่วงอะไร

“อืม”

ผ่านไปครึ่ งวันนางค่อยส่ งเสี ยงรับคาออกมา

นางชั ก จะรู ้ สึ ก ว่ า แง่ มุ ม ระหว่ า งตนเองกับ ฮ่ อ งเต้อ ยู่ ๆ ก็ ชั ก จะ


เปลี่ยนไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ เป็ นนางที่คอยประจบเขา เพราะกลัวว่าจะไปทาอะไรผิด


ใจ

ตอนนี้กลับกันแล้ว จีเฉวียนคอยเอาใจนาง กลัวว่านางจะไม่ชอบเขา

นี่ เรี ยกว่าอะไรนะ? สถานการณ์ เปลี่ ยนสถานะ ผลัดกันเป็ นสุ นัขขี้


ประจบ คนที่ตอ้ งชะเลียเป็ นคนสุ ดท้ายนั้นยังไม่รู้วา่ จะเป็ นใครเลย

“เจ้า ไม่ มีอ ะไรจะพูด กับ เรา ไม่ คิ ด จะท าอะไรให้ก ับ เราสัก หน่ อ ย
หรื อ?”

จีเฉวียนรอคอยด้วยความคาดหวังจากหัวใจ
ตู๋ กู ซิ ง หลัน คิ ด อยู่ค รึ่ งค่ อ นวัน ค่ อ ยกล่ า วออกมาค าหนึ่ ง “ฝ่ าบาท
เดินทางโดยสวัสดิภาพนะเพคะ”

จีเฉวียน “…..”

……………………………

บนดิ น แดนที่ ก ว้า งใหญ่ ไ พศาล แคว้น ต้ า โจวถื อ ว่ า ตั้ง อยู่ ต รง


ศูนย์กลาง

แคว้นเหยียนนั้นค่อนไปทางตะวันตกเฉี ยงใต้ ติดกับทะเล อากาศจึง


อบอุ่นกว่าแคว้นต้าโจวมาก

วันที่ฝ่าบาททรงยกทัพออกไปนั้น หิ มะตกอย่างหนัก

พระองค์สวมใส่ เกราะสี ทอง พระเศียรทรงหมวกเกราะ หมวกเกราะ


ใบนี้เป็ นสี ดาประดับด้วยพูไ่ ข่มุก

บั้นพระองค์แขวนกระบี่สีทอง

เหล่าทหารสวมใส่ เกราะนักรบยืนอยูท่ ่ามกลางหิ มะโปรยปรายทัว่ ฟ้า


เหล่าขุนนางฝ่ ายบุ๋นทั้งหมดอยู่ที่ประตูตงฮวาเหมินรอคอยส่ งเสด็จ
ฝ่ าบาทที่ออกรบด้วยพระองค์เอง

แคว้นต้าโจวผ่านการสถาปนามาแล้วถึงสามพระองค์ หลังจากที่ปฐม
ฮ่องเต้ทรงก่อตั้งแว่นแคว้นขึ้นมาก็ออกศึกด้วยพระองค์เองเพียงสอง
ครั้งเท่านั้น

อดี ตฮ่ องเต้ทรงเป็ นฮ่ องเต้ผูต้ ้ งั มัน่ อยู่ในความสงบอยู่เสมอ แม้แต่


ประตูเมืองหลวงก็ยงั ไม่เคยก้าวออกไปเลยสักครั้ง

ดังนั้นตอนแรกที่ได้ยนิ ข่าวว่าฝ่ าบาทจะเสด็จไปออกศึกด้วยพระองค์


เอง ทุกผูท้ ุกนามต่างก็พากันประหลาดใจ

คนส่ วนมากล้วนพากันคัดค้าน ….ทุกวันนี้แคว้นต้าโจวของพวกเขา


ควรเป็ นแคว้นมัง่ คัง่ ประชาชนเข้มแข็ง นี่ราวกับว่าแม่ทพั สักคนก็หา
ไม่ได้ จาเป็ นจะต้องให้ฝ่าบาทเสด็จไปด้วยพระองค์เองหรื อ?

เพี ย งแต่ ว่า เสี ย งคัด ค้า นเหล่ า นี้ พอไปถึ งจี เฉวี ย นก็สลายกลายเป็ น
ฟองอากาศไปจนหมด
เรื่ องที่ฝ่าบาทตัดสิ นพระทัยไปแล้วว่าจะทรงทา ใครก็ไม่อาจขวางได้
ทั้งนั้น

ยามนี้ ตู๋กซู ิ งหลันอยูบ่ นกาแพงเมือง ข้างกายของนางมีหยวนเฟยและ


เชียนเชียนยืนอยู่

เกล็ดหิ มะตกลงบนใบหน้า หนาวอย่างยิง่

ตู๋กซู ิ งหลันจับจ้องไปยังจีเฉวียน

เขาช่างดึงดูดสายตาอย่างยิง่

นางไม่เคยได้เห็นเขาสวมใส่ ชุดเกราะมาก่อนเลย

ชุ ดเกราะหนามาก แต่ เมื่ ออยู่บนร่ างของเขา ดู ไปแล้วเหมื อนมิ ได้


หนักเลยสักนิด

กลับส่ งเสริ มความองอาจที่ไม่ธรรมดา ให้ความรู ้สึกที่บ่งบอกไม่ถูก

หยวนเฟยเอาแต่จบั จ้องไปยังตู๋กจู ุนที่อยูข่ า้ งกายจีเฉวียน


เขามัก จะไปไหนมาไหนอยู่ต ลอดเวลา ไม่ เ คยใช้เ วลาอยู่ใ นเมื อง
หลวงเนิ่นนานมาก่อน

ถึงแม้ว่าจะสวมใส่ ชุดเกราะสี เงินยืนอยูข่ า้ งกายฝ่ าบาทแต่ก็มิได้ดอ้ ย


กว่าเลยสักนิด

ตู๋ กูซิ ง หลันเหลื อ บตามองดู น างแวบหนึ่ ง อากาศหนาวถึ ง เพี ย งนี้


หยวนเฟยยังคงสวมใส่ ชุดที่เปิ ดเผยเรี ยวขาและหน้าท้อง สาวน้อยเอา
แต่ จบั จ้องไปที่ ด้านล่ า งอยู่ตลอดเวลา แววตาบ่ งบอกว่านางก าลัง
พยายามอดทน

ตู๋กซู ิ งหลันเอ่ยขึ้นมา “อดห่วงไม่ได้หรื อ?”

“ใช่แล้ว” หยวนเฟยคล้อยตามคาพูดของนาง “ได้ยนิ มาว่าสตรี แคว้น


เหยียนเปิ ดเผยอย่างยิ่ง ขนหน้าอกเขาหนาขนาดนั้น…. จะต้องมีคน
ชื่นชอบมากๆ แน่เลยใช่ไหม?”

ตู๋กซู ิ งหลัน “ดูเหมือนว่าฝ่ าบาทจะไม่มีขนหน้าอกนะ?”

หยวนเฟย “…..”
นางพลันได้ส ติ ข้ ึ นมา ซอยก าปั้ นน้อ ยๆ ลงบนบ่ า ของตู๋ กูซิ งหลัน
“ไทเฮาเพคะ ทาไมถึงทรงเป็ นคนที่แย่เช่นนี้?”

ตู๋กูซิงหลันเกิดคาถามขึ้นมา ลูกสะใภ้มีใจเป็ นอื่น ลูกชายกาลังจะถูก


สวมหมวกเขียว นางที่เป็ นแม่เลี้ยงสมควรจะทาเช่นไรดี?

นี่ ยงั ไม่นับว่าเท่าไหร่ พอนางกวาดตามองออกไป ก็เห็ นองค์หญิ ง


ใหญ่ประทับยืนอยูใ่ นหมู่ฝงู ชนเช่นกัน

สายตานั้นหยุดอยูท่ ี่ร่างของตู๋กจู ุน

ตู๋กซู ิ งหลันแทบจะต้องตบเข่าฉาดออกมา เรื่ องชักจะยากจริ ง!

ช่างเถอะ ช่างเถอะ เรื่ องนี้นางอย่าได้สอดมือเข้าแทรกจะดีกว่า…..

สายตาของนางวกกลับมาที่พอ่ ลูกชาย อืม ดูองอาจกล้าหาญดีมาก

ท่ า มกลางหมู่ ฝู ง ชน ฝ่ าบาททรงหั น พระพั ก ตร์ กลั บ มา ก็


ทอดพระเนตรเห็ นว่าตู๋ กูซิงหลันกาลังมองพระองค์อยู่เช่ นกัน ใน
พระทัยพลันอบอุ่นขึ้นมา
บางทีเมื่อพระองค์สามารถครองแผ่นดิ นทั้งหมดได้แล้ว ระยะห่ าง
ระหว่างพระองค์กบั นางก็อาจจะสลายกลายเป็ นหมอกไป

คิ ด ได้เ ช่ น นี้ ฝ่ าบาทก็ ท รงชู ก ระบี่ ใ นพระหัต ถ์ข้ ึ น มา ชี้ ข้ ึ น ไปบน


ท้องฟ้า

“เหล่าทหารทั้งหลาย ติดตามเราออกศึก!”
ตอนที่ 367 เจ้ าว่ าเขาเป็ นปี ศาจหรื อไม่ ?

เมืองหลวงมิได้มีบรรยากาศที่ฮึกเหิ มน่าตื่นเต้นเช่นนี้มานานแล้ว

ทันทีที่ฝ่าบาททรงมีพระบัญชาออกไป ผูค้ นทั้งหมดก็อดไม่ได้ที่จะ


เกิดความคิดติดตามพระองค์ไปด้วย

พระองค์ทรงประสู ติมาพร้อมกับความเป็ นผูน้ า ความสู งส่ งและพระ


บารมีเปล่งประกายออกมาจากกระดูก ทาให้คนทั้งหลายต้องศิโรราบ

แม้แต่ต๋ ูกูซิงหลันเมื่อได้เห็นแล้ว ก็ยงั รู ้สึกว่าเขางดงามไร้ที่ติเหมือน


ดัง่ บุรุษที่มีอยูแ่ ต่ในละครเท่านั้น

นางนัง่ อยูบ่ นกาแพงเมือง ใช้สายตามองส่ งจีเฉวียนจากไป

เมื่อมองดูกองทัพของเขาจากไปไกลแล้ว ก็ไม่รู้ว่าทาไมในใจถึงได้
รู ้สึกว่างเปล่าขึ้นมา

……………………….
วันแรกที่ ฮ่องเต้เสด็จจากไป ไทเฮาทรงพระเกษมสาราญถึ งขนาด
เรี ยกเหล่าลูกสะใภ้ท้ งั หมดมาแทะเมล็ดแตงชมงิ้วด้วยกัน

วันที่สองที่ฮ่องเต้เสด็จจากไป ไทเฮาทรงเสด็จออกจากวังไปยังโรง
เตี้ยมอันดับหนึ่งของเมื่อหลวงกับพี่รองของตนเอง

วันที่ สามที่ ฮ่องเต้เสด็จจากไป ไทเฮาเสด็จไปทรงหมากรุ กกับเจ้า


อารามเทียนเก๋ อกวน ถูกท่านเจ้าอารามเทียนเก๋ อกวนกอดขาขอให้ร้ ัง
อยูเ่ ป็ นบรรพชน

วันที่…ฮ่องเต้เสด็จจากไป ไทเฮาทรงเริ่ มวนไปวนมาเป็ นวงกลมอยู่


ใต้กาแพงแล้ว

อิสระที่ไร้ผคู ้ วบคุม หลังจากสาเริ งสาราญจนสิ้ นแล้ว ที่หลงเหลืออยู่


ก็คือความหงอยเหงา

ความรู ้สึกเช่นนี้ต๋ ูกซู ิ งหลันไม่เคยมีมาก่อน

ติ๊งต๊องและราชาหมาป่ าตะวันตกถูกนาเข้าวังมาอยูข่ า้ งกายนาง


ครั้ งก่ อ นตอนที่ ก ลับจากเมื องกู่เย่วเพราะเดิ นทางอย่างรี บ ร้ อนจึ ง
หลงลืมพวกมันไป

ตอนนี้พอไปรับกลับมาในวังก็คึกคักอย่างยิง่

ต้นไห่ ถางที่เ**่่ยวเฉาในตาหนักเฟิ่ งหมิงกงกลับมาสดชื่ นอี กครั้ง


แล้ว ขนาดเป็ นช่ วงกลางฤดูหนาวก็ยงั แตกยอดใหม่ออกมาอย่างมี
ชีวิตชีวา

ทุกครั้งที่ราชาสุ นขั ป่ าถ่ายมูล ที่ปากประตูตาหนักเฟิ่ งหมิงกงแม้แต่ผี


สักตัวก็ยงั ไม่มี

กลิ่ น เหม็น สุ ด ทนทานนี้ เรี ย กว่ า ตลบอบอวลไปเกื อ บจะทัว่ ทั้ง วัง


หลวง

ในตอนนี้ เองตู๋ กูซิงหลันพลันคิ ดอะไรขึ้ นมาได้ นางออกคาสั่งให้


เรี ยกตัวอาปู้ทาลาเข้ามาในวัง ทั้งสองช่ วงกันสร้ างระเบิ ดมูลราชา
หมาป่ าขึ้นมา

“สิ่ งนี้ ยอดเยี่ยมมาก ขอเพียงฮ่ องเต้ทรงขว้างออกไปลูกหนึ่ ง อย่าง


น้อยๆ ศัตรู หนึ่งค่ายจะต้องสลบเหมือด”
อาปู้ทาลาทูลตอบอย่างเอาจริ งเอาจังว่า “ไทเฮาพะยะค่ะ พระองค์แน่
พระทัยหรื อว่าก่อนที่ฝ่าบาทจะทรงระเบิดศัตรู สลบไปนั้น จะไม่ทรง
สิ้ นพระสติไปเองเสี ยก่อน?”

หากว่าเขาจาได้ไม่ผิดล่ะก็ ฮ่องเต้ทรงแพ้กลิ่นเหม็นอย่างรุ นแรงมิใช่


หรื อ?

ดังนั้นตู๋กูซิงหลันจึงได้สร้างหน้ากากกันพิษขึ้นมาด้วยตนเอง ในครั้ง
แรกที่ หลงเซี ยวกลับมาส่ งข่าว ก็ฝากส่ งระเบิ ดมูลราชาสุ นัขป่ ากับ
หน้ากากกันพิษไปให้เขาพร้อมๆ กัน

หลงเซี ย วแสดงออกอย่า งชัดเจนเลยว่า ไม่ อ ยากจะนาระเบิ ด มู ลนี้


เดิ นทางไปด้วยสักเท่าไร….ก็เส้นทางห่ างไกลถึงเพียงนี้ หากว่าไม่
ทันระวังเกิดทามันระเบิดขึ้นมา เขาเกรงว่าตนเองคงจะเหม็นเน่าไป
ชัว่ ชีวิต

แต่วา่ ในเมื่อเป็ นรับสั่งของไทเฮาเขาย่อมไม่กล้าขัดขืน ได้แต่เดินทาง


อย่างระมัดระวังไปตลอดทางด้วยความหวาดกลัวว่ามันจะระเบิด

ดึกดื่นมากแล้ว ในตาหนักเฟิ่ งหมิงกงยังคงจุดตะเกียงเอาไว้


เงาของตู๋ กู ซิ ง หลัน สะท้อ นลงไปบนผ้า ม่ า น มิ ว่ า จะเป็ นใบหน้า
ด้านข้างหรื อว่าด้านตรง นางก็ยงั คงงดงามอย่างที่สุด

เมื่อมีติ๊งต๊องและราชาสุ นขั ป่ าสองเทพผูพ้ ิทกั ษ์เฝ้าอยู่นอกหน้าต่าง


ตาหนักเฟิ่ งหมิงกงนี้แม้แต่ยงุ ก็ยงั ไม่กล้าบินเข้ามาใกล้

วิ ญ ญาณทมิ ฬ เองก็ ต ัว สั่ น สะท้า นไปหมด……สวรรค์ท รงโปรด


สายตาของราชาสุ นขั ป่ ายามมองมาที่มนั นั้น น่ากลัวอย่างที่สุดจริ งๆ
ทั้งชัว่ ร้ายและเปี่ ยมไปด้วยความหื่ นกระหายอย่างรุ นแรง

ใกล้จะเป็ นเหมือนกับจีจา้ นในความทรงจาของเจี ยงเย่วเข้าไปทุกที


อยูแ่ ล้ว

ตอนนี้ มนั เอาแต่คอยติ ดตามตู๋ กูซิงหลันโดยไม่ออกห่ างแม้แต่ ก้าว


เดี ยว เพราะกลัวว่าเกิ ดตนเองไม่ ทนั ระมัดระวังตัวขึ้ นมาจะรั ก ษา
พรหมจรรย์เอาไว้ไม่ได้

ตอนนี้ต๋ ูกซู ิ งหลันนัง่ อยูข่ า้ งโต๊ะ ที่อยูใ่ นมือคือจดหมายที่จีเฉวียนทรง


เขียนด้วยพระองค์เอง
“ซิ งซิ ง วันนี้ เรายึดเมืองจิงหวาของแคว้นเหยียนได้แล้ว เมืองหลวง
แห่ งนี่ มีเนื้ อหมูดาเป็ นผลผลิตเลื่องชื่ อ ในฤดูหนาวชาวบ้านจะตาก
เนื้ อหมูดาเอาไว้เป็ นจานวนมาก เราชิมดูแล้ว รสชาติดีทีเดียว ซิ งซิ ง
จะต้องชอบกินอย่างแน่นอน”

“ใกล้จะถึงช่วงสิ้ นปี แล้ว ปี นี้ ไม่อาจอยู่ร่วมฉลองกับซิ งซิ ง เรารู ้ สึก


เสี ยดายอย่างยิง่ วันหน้าจะต้องอยูก่ บั ซิ งซิ งให้มาก จะไม่ยอมห่ างแม้
ชัว่ ขณะเลย”

“ซิ ง ซิ ง อยู่เ พี ย งล าพัง ในวัง กิ น อิ่ ม นอนหลับ หรื อ ไม่ มี ค วามสุ ข ดี


หรื อไม่?”

อักษรของจีเฉวียนก็เหมือนกับตัวของเขา สวยงามอย่างยิง่ แค่ได้เห็น


ก็รู้สึกว่าน่าประทับใจแล้ว

บนจดหมายยังเล่าถึงเรื่ องราวในชีวิตประจาวัน มองดูแวบแรกยังนึก


ว่าเป็ นบทกลอนเสี ยอีก

ทุกสิ บวัน หลงเซี ยวมักจะนาจดหมายของฝ่ าบาทและของขวัญมาส่ ง


ให้นาง
เครื่ องประดับ ชาดแต้มปาก บางครั้งก็เป็ นดอกไม้แห้ง แต่ส่วนใหญ่
แล้วก็คือของกินตากแห้งต่างๆ โดยเฉพาะพวกเนื้อจานวนมาก

ช่วงนี้ เชียนเชียนมักจะยุง่ อยูใ่ นห้องครัวเล็กทาข้าวอบกุนเชียงให้กบั


นาง กลิ่นหอมฟุ้งขจรขจายจนเข้ามาถึงในห้อง

ตู๋กซู ิ งหลันอดไม่ได้ตอ้ งกลืนน้ าลายแล้วกลืนน้ าลายอีก แม้แต่ตวั นาง


เองก็ยงั ไม่ทนั รู ้สึกเลยว่า ใบหน้าของตนเองนั้นเกลื่อนไปด้วยรอยยิม้

วิญญาณทมิฬได้แต่ซุกตัวถอนหายใจอยูใ่ นมุมมุมหนึ่ง

มัน รู ้ สึ ก ว่ า ถึ ง แม้ว่ า ปากของตู๋ กู ซิ ง หลัน นั้น จะไม่ ย อมรั บ แต่ ว่ า


ร่ างกายกับซื่ อสัตย์กว่ามาก

ช่วงหลายวันนี้ ช่างเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวจริ งๆ ขนาดไม่มีอะไรก็ยงั


ต้องเพียรหาอะไรให้ตนเองทา

ดู เอาเถอะ ทุกๆ ครั้ งที่ ได้รับจดหมายจากฮ่ องเต้สุนัขนั่น นางล้วน


ต้องยิม้ แย้มจนหน้าบานดุจดอกเก็กฮวย ฮ่องเต้สุนขั เป็ นนักเขียนเรื่ อง
ขาขันหรื ออย่างไร? จดหมายทุกฉบับล้วนสามารถทาให้นางหัวเราะ
อย่างสุ ขใจ?
ทั้งๆ ที่บอกว่าไม่ได้ยอมรับคนเขาแท้ๆ แต่ทาไมท่าทางที่แสดงออก
มาถึ งได้เหมื อนกับสามี หนุ่ มภรรยาสาวที่ พ่ ึงแต่งงานแล้วต้องแยก
จากกันอย่างไรอย่างนั้น

คราวนี้ ตู๋ กูซิ ง หลันเป็ นฝ่ ายยกพู่ก ันขึ้ นมา เริ่ มเขี ย นจดหมายตอบ
กลับไปให้จีเฉวียนบ้าง

แต่ ว่ า เปรี ย บเที ย บกับ จี เ ฉวี ย นแล้ว ตัว อัก ษรของนางโยกเยกโย้เ ย้


เหมือนกับงูเลื้อยกลับบ้านน่ะสิ

ว่าตามจริ ง พอมองดูอีกครั้งขนาดเป็ นตัวเองนางก็ยงั รับไม่ได้

พูดไปก็เป็ นเรื่ องแปลก ตอนเด็กๆ ท่านอาจารย์ถึงกับจับมือนางเขียน


หนังสื อ แต่นางกลับเขียนออกมาไม่ได้เรื่ อง

สุ ดท้ายแล้วแม้แต่ท่านอาจารย์กย็ งั ถอดใจ แต่วา่ ตัวอักษรโยกเยกโย้เย้


ของนางกลับเป็ นพรสวรรค์ที่เหมาะสมอย่างยิง่ กับการเขียนภาพยันต์

ก่ อนหน้านี้ นางยังไม่ รู้สึกอะไร คิ ดว่าอักษรของตนเองก็ไม่ ได้แย่


อะไรมากสักเท่าไหร่
แต่พอมาเปรี ยบเทียบกับของจีเฉวียน กลับน่ าเกลียดอัปลักษณ์แทบ
ตายแล้ว

นี่เรี ยกว่า หากไม่มีคู่เปรี ยบก็ไม่รู้จกั บาดเจ็บ

คนหนึ่งสู งส่ งยิง่ กว่ายอดปราชญ์ในเชิงอักษร อีกคนเหมือนเด็กที่ไม่


ยอมจบจากอนุบาล……

ประเด็นสาคัญก็คือตัวอักษรของต้าโจวนั้นซับซ้อนเขียนยาก พอตู๋กู
ซิ งหลันเขียนออกมาจึงกลายเป็ นมหาวิบตั ิอย่างแท้จริ ง

ที่จริ งนางถึงกับต้องขยากระดาษทิ้งไปมากมายก่ายกอง หมึกที่ฝนไว้


ในถาดก็แ ห้ง ไปแล้ว รอบหนึ่ ง ใบหน้า ก็เ ปรอะเปื้ อนเป็ นสี ด าไป
หมดแล้ว

นางวางจดหมายของจีเฉวียนเอาไว้ดา้ นข้าง จากนั้นก็เขียนอักษรลง


ไปอย่างตั้งใจ “ทูลฮ่องเต้….”

เขียนเพียงไม่กี่อกั ษร ยังอัปลักษณ์จนอยากร้องไห้
ตู๋กูซิงหลันแหงนหน้ามองฟ้า ส่ งเสี ยงถามวิญญาณทมิฬว่า “เจ้าว่าใน
โลกจะมีคนที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้อยูจ่ ริ งๆ หรื อ? เกิดมาหน้าตางดงาม
มีเงินมีอานาจยังไม่พอ ยังเก่งทั้งบุ๋นบู๊ปราบปี ศาจก็ได้ ที่สาคัญก็คือ
เขียนอักษรได้สวยมากๆ เจ้าว่าเขาเป็ นปี ศาจใช่หรื อไม่?”

วิญญาณทมิฬแคะจมูก “ข้าคิดว่านะ เจ้าเหมือนปี ศาจยิง่ กว่าอีก”

ตู๋กซู ิ งหลัน “……..”

วิญญาณทมิฬ “เจ้าก็ลองคิดแบบนี้สิ เขาหน้าตาดีมีเงินแต่เขาโหด เขา


เขียนอักษรสวยแต่ว่าสติปัญญาไม่ได้เรื่ อง ดูสิในจดหมายนัน่ เขี ยน
อะไรไว้บา้ ง? มีแต่น้ าท่วมทุ่งทั้งนั้น! ขนาดข้ายังเลิกเขียนจดหมาย
แบบนี้ ไปตั้งแต่เมื่อแปดร้อยปี ก่อนแล้วเลย พอคิดแบบนี้ เขาก็ดูไม่
ค่อยสมบูรณ์แบบแล้วใช่ไหม?”

ตู๋กูซิงหลัน “เรื่ องโหดนัน่ มันผ่านไปแล้ว เจ้าดูเขาตอนนี้สิ ส่ งทั้งเงิน


ทั้งทองทั้งอาหาร ที่ไม่ได้เขียนอะไรไพเราะเพราะพริ้ งมา…..คงจะ
เป็ นเพราะกลัวว่าข้าจะอ่านไม่เข้าใจละมั้ง? ถึ งได้เขี ยนเพียงคาพูด
ธรรมดา”
วิญญาณทมิฬ “เอาเถอะ เจ้าดีใจก็พอ”

“แต่ขา้ ยังรู ้สึกว่า ตัวอักษรของซื่ อมัว่ ยังสวยกว่าของเขามาก!”

ตู๋กซู ิ งหลัน “ข้าเห็นว่าไม่อาจแบ่งลาดับได้”


ตอนที่ 368 ฝ่ าบาทจะเป็ นยอดบุรุษ

วิญญาณทมิฬส่ ายศีรษะ รู ้สึกว่าสตรี ผนู ้ ้ ีช่างหมดทางเยียวยาแล้ว

ช่างกลิ้งกลอกดีนกั !

ยามที่คนเขาอยูด่ ว้ ย ก็ทาตัวห่ างเหิ นผลักออกไปไกลกันพันลี้ พอคน


ไม่อยูเ่ ท่านั้นล่ะ ก็ชกั จะรู ้สึกว่าคนเขาดีข้ ึนมาเชียวหรื อ?

ดังนั้นสตรี ถึงได้เป็ นสิ่ งประหลาดที่ แท้จริ ง คาดเดาความคิดไม่ถูก


เลย

มันเองก็ข้ ีเกียจจะไปถกเถียงกับนางแล้ว มันยืน่ มือสั้นๆ ไปซ้อนหลัง


ท้ายทอย เริ่ มกลับไปคิดถึงวันคืนในโลกเดิมที่จากมา

………………

เมืองหลวงแคว้นต้าเหยียน จิงหวาเฉิ ง

จวนอวี้สื่อฟู่
ค่ าคื นนี้ ขุนนางอวี้สื่อเมื องจิ งหวาจัดงานเลี้ ยงรั บรองฮ่ องเต้ตา้ โจว
เป็ นพิเศษ

นับตั้งแต่ที่ตา้ โจวเริ่ มเปิ ดสงครามโจมตีตา้ เหยียนก็ได้รับชัยชนะมา


โดยตลอด เพียงระยะเวลาสั้นแค่ สองเดื อนกว่าๆ ต้าเหยียนก็ต ้อ ง
สู ญเสี ยเมืองใหญ่นอ้ ยไปมากมาย

เมืองจิงหวาเป็ นเมืองใหญ่อนั ดับสามของต้าเหยียน มีประชากรอาศัย


อยูจ่ านวนมาก การค้าคึกคัก

อวี้สื่อผูน้ ้ ี เป็ นคนฉลาด รู ้ว่าแข็งข้อไปก็ไร้ประโยชน์ จึงได้ตดั สิ นใจ


เป็ น ‘คนทรยศชาติ’ อย่างรวบรัดชัดเจนไปเลย

เขาไม่เพียงเชื้ อเชิ ญจี เฉวียนเข้าเมื องมา ทั้งยังจัดสรรสตรี โฉมงาม


เอาไว้ขา้ งๆ

ใต้หล้านี้ใครๆ ต่างก็รู้วา่ ขอเพียงแค่เป็ นบุรุษ ก็ไม่มีผใู ้ ดไม่ชอบหญิง


งาม
อย่าว่าแต่สตรี ที่เขาตระเตรี ยมเอาไว้ยงั เป็ นสตรี ช้ นั หนึ่ งในหมู่หญิง
งาม แต่ไหนเลยจะรู ้ ว่า ในงานเลี้ ยงฮ่ อ งเต้กลับมิ ได้ทรงเหลี ยวแล
สตรี ผนู ้ ้ นั เลยสักแวบเดียว

ยิง่ ไปกว่านั้นทันทีที่ผตู ้ ิดตามของพระองค์นาจดหมายมาถวาย ก็ทรง


ยกเลิกงานเลี้ยงไปในทันที

นี่เป็ นครั้งที่เจ็ดที่ฝ่าบาททรงได้รับจดหมายตอบจากตู๋กซู ิ งหลัน

กระดาษจดหมายเป็ นกระดาษซวนเฉิ งจื่อ [1] ที่เลื่องชื่ อของต้าโจว


พอเปิ ดออกมาก็ได้เห็นภาพวาดกระยึกกระยืออยูบ่ นนั้น

ตู๋กูจุนยืนอยู่ดา้ นข้างด้วยสี หน้าสับสน ว่ากันตามจริ งแล้ว นอกจาก


ค าว่ า ‘กราบทู ล ฮ่ อ งเต้’ สี่ ค าแล้ว ที่ เ หลื อ ก็ เ ป็ นภาพหยัก ๆ โค้ง ๆ
ทั้งหมด เขาดูไม่ออกจริ งๆ ว่าน้องเล็กกาลังเขียนอะไรอยู่

แต่ ก ลับได้เ ห็ นจี เ ฉวี ย นมี สี พระพัก ตร์ ที่ อ่ อ นโยนทั้ง ยัง แย้มสรวล
ออกมา
“นางบอกว่าเนื้อหมูดาอร่ อยมาก ถึงกับต้องกินข้าวสามชาม หิ มะใน
เมืองหลวงหยุดแล้ว ขนาดต้นไม้ยงั แทงยอดใหม่ นางสุ ขสบายดีทุก
อย่าง”

ตู๋กจู ุน “???”

เขาอดไม่ได้ที่จะยืน่ ศีรษะเข้าไปมองดูภาพที่เลอะเทอะไปด้วยหมึกสี
ดาจนลายตาเหล่านั้น

เอ่อ มีรูปคนตัวเล็กๆ ที่หัวเหมือนไม้ขีดไฟ ถืออะไรกลมๆ สามอัน


ข้างๆ มีรูปหัวหมู

จากนั้นก็มีรูปต้นไม้ บนกิ่งของต้นไม้เขียนอักษรคาว่ายอดเอาไว้

สุ ดท้ายเป็ นรู ปใบหน้ายิม้ กลมๆ

หากมองตามนี้ จากคาอธิบายของฮ่องเต้กด็ ูจะไม่มีอะไรผิดพลาด?

หากว่าเขาจดจาได้ไม่ผิดไปละก็ ก่อนหน้านี้ น้องเล็กคือคนที่ เขี ยน


อักษรได้วิจิตรบรรจงอย่างที่สุดผูห้ นึ่ ง นางวาดรู ปดอกมู่ตานขาวดา
ด้วยหมึกได้อย่างงดงามชนิ ดที่เหล่าอาจารย์ยงั ต้องเทิดทูน นี่ คือผล
สื บเนื่ องจากการฆ่าตัวตายในครั้งนั้น ทาให้สูญเสี ยความทรงจาจน
แม้แต่วิธีการเขียนอักษรและวาดรู ปก็ยงั เปลี่ยนไป?

ตู๋กูจุนเกิดความสงสัยขึ้นมา เขาสงสัยว่านี่จะต้องไม่ใช่นอ้ งเล็กเขียน


อย่างแน่นอน

เกรงว่าน้องเล็กคงขี้เกี ยจจะสนใจฮ่ องเต้ ถึ งได้มอบหมายให้เชี ยน


เชียนเขียนแทน

ฮ่ องเต้กลับทรงคิ ดต่ างไปจากเขาอย่างสิ้ นเชิ ง พระองค์แย้มสรวล


ตรัสว่า “ในใต้หล้านี้กลับมีสาวน้อยที่น่ารักอย่างซิ งซิ งอยูด่ ว้ ยหรื อ?

ตู๋กจู ุน “น้องสาวของกระหม่อมย่อมไม่มีผใู ้ ดเทียบได้”

ที่ ฮ่องเต้ตรั สนั้นเขาย่อมยินดี ฟังอยู่แล้ว น้องเล็กเหมื อนดัง่ น้ าตาล


ก้อน หวานล้ าฉ่ าถึงหัวใจดัง่ ผลไม้เชื่อม

หลัง จากนั้ น ฮ่ อ งเต้ก็ ท รงเก็ บ จดหมายเอาไว้ใ นสาบเสื้ อฉลอง


พระองค์ พลางตบพระอุระเบาๆ “นางยังบอกด้วยว่าคิดถึงเรามากๆ”

ตู๋กจู ุน “ข้อนั้นกระหม่อมมองไม่ออกเลย”
เขารู ้สึกว่าน้องเล็กย่อมต้องคิดถึงเขาที่เป็ นพี่ใหญ่มากกว่าเป็ นแน่

“นางเขียนจดหมายให้เรา ก็ตอ้ งเพราะคิดถึงเราอยู่แล้ว ไม่ง้ นั ทาไม


ถึงไม่เห็ นนางเขียนจดหมายให้เจ้าบ้าง?” ฮ่องเต้ทรงหันไปทาพระ
พักตร์ ดูถูก จึงได้ทอดพระเนตรเห็นว่าตู๋กูจุนสี หน้าดาคล้ าจนจะเป็ น
ก้นหม้อไหม้อยูแ่ ล้ว

ฝ่ าบาททรงตรั สอย่างประหลาดพระทัยว่า “ท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตเป็ น


อะไรไปแล้ว? กาลังฝึ กฝนวิชาใหม่วิชาหน้าดาขับไล่ศตั รู หรื อ?”

ตู๋กจู ุน “…..”

“ฝ่ าบาท นี่ เป็ นของฝากที่นอ้ งสาวส่ งมาให้กระหม่อม แผ่นบารุ งผิว


และความงาม”

ก่อนหน้านี้ นอ้ งเล็กเห็ นว่าผิวของเขาหยาบกระด้าง จึงมอบสิ่ งนี้ มา


ให้เขามากมายหลายห่ อ ตอนแรกเขายังรู ้สึกเขินอายไม่กล้าใช้ แต่ว่า
ตอนนี้คุน้ เคยมากแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นพอใช้แล้วก็รู้สึกติดจนหยุดไม่ได้ หลังจากไปฆ่าคนมา
เป็ นต้องหยิบมาใช้แผ่นหนึ่ง ใช้แล้วก็รู้สึกว่าผิวหน้าสดชื่นเบาสบาย
ไปหมด

ฮ่องเต้เหล่พระเนตรมองเขาอย่างลับๆ มิน่าเล่า….ก่อนหน้านี้ ถึงได้


รู ้สึกว่าตู๋กจู ุนมีอะไรแปลกๆ ไป

ออกศึกรบพุ่งอยูใ่ นสนามรบอยูท่ ุกๆ วัน แต่ผิวพรรณก็ยงั คงดีอยูเ่ ลย


ที่แท้ลว้ นเป็ นเพราะสิ่ งที่ซิงซิ งเหนื่อยยากลาบากทาขึ้นมา

“ฝ่ าบาท น้องเล็กได้ส่งของมาถวายพระองค์บา้ งหรื อไม่พะยะค่ะ?” ตู๋


กู จุ น เสี ย บมี ด ลงไปโดยไม่ ห่ ว งว่ า ใครจะเจ็ บ ปวด สี พ ระพัก ตร์ ที่
เปลี่ยนเป็ นดาคล้ าในทันควันนั้นได้บ่งบอกออกมาจนหมดแล้ว แวว
พระเนตรยังสื่ อความว่าสมควรตายอีกด้วย

จีเฉวียน “เรารู ปโฉมงดงามมาแต่กาเนิ ด ต่อให้เผชิญลมฝนก็ไม่มีผล


แม้แต่นอ้ ย ซิ งซิ งรู ้เรื่ องนี้ดีอยูแ่ ล้ว จึงไม่ได้ส่งมาให้เรา”

ว่าแล้ว ฮ่องเต้ก็แทงดาบสวนกลับไปอีกครั้ง “ดูท่าแล้วในสายตาของ


นาง มีแต่คนที่น่าเกลียดถึงสมควรได้ใช้ เจ้าว่าใช่หรื อไม่?”
ตู๋กูจุน “….” ดาบใหญ่ของเขาชักจะกระหายเลือดขึ้นมาแล้ว ให้ตาย
เถอะ

“ท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิต เจ้าอายุปูนนี้ แล้วยังไม่ มีศรี ภรรยา นี่ ยิ่งเป็ นข้อ
พิสูจน์ที่ชดั เจนว่า เรื่ องของใบหน้านั้น เจ้ามันใช้ไม่ได้”

ฮ่องเต้ทรงตบไหล่ของเขาเบาๆ “แต่กไ็ ม่ตอ้ งรี บร้อน ลองดูสิวา่ ในต้า


เหยียนนี้ มีสตรี ที่น่าพึงพอใจหรื อไม่ เราจะประทานให้เจ้าไปเป็ นศรี
ภรรยา”

ตู๋กูจุนตั้งใจว่า พอกลับไปบ้านแล้วจะต้องให้นอ้ งสาวอยูห่ ่ างฮ่องเต้


สุ นขั ให้มากๆ!

ไอ้คนไม่ใช่คน!

โสดแล้วผิดตรงไหน? หลายปี มานี้เขาก็แค่ไม่อาจตัดใจจากจีฉุนได้ ก็


เลยทาให้ไม่เปิ ดใจรับหญิงอื่นเท่านั้น

มิเช่ นนั้นแล้ว ด้วยรู ปโฉมและศักดิ์ ฐานะของเขานั้น ป่ านนี้ คงจะมี


หญิงสาวมากมายพากันไล่ตามมาแล้ว
กลางดึกคืนนั้น ในกระโจมแม่ทพั ของตู๋กจู ุนมีขโมยบุกเข้ามา

ของที่ หายไปมิ ใช่ แก้วแหวนเงิ นทองล้ าค่าอะไร ทั้งยังไม่ ใช่ อาวุธ


หรื อแผนที่ทางทหาร แต่ว่ายาบารุ งผิวห่ อใหญ่ที่นอ้ งเล็กส่ งมาให้เขา
กลับหายไปแล้ว?

แถมเขายังไม่อาจจับตัวเจ้าหัวขโมยนั้นได้ดว้ ย

ถึ ง แม้จ ะรู ้ ว่า เก้า ในสิ บจะต้องเป็ นฮ่ องเต้ท รงส่ งคนมาขโมยอย่าง
แน่นอน แต่เพราะว่าไร้หลักฐาน จึงไม่อาจจะทาอย่างไรกับพระองค์
ได้

ดังนั้นตลอดหลายวันหลังจากนั้น ท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตจึ งคอยจับตาดู


ฮ่องเต้อย่างเอาเป็ นเอาตาย

ยามออกรบก็คอยจับตาดู อยู่ตลอด ยามพักผ่อนก็ไม่ว่างเว้น แม้แต่


เวลาไปปลดทุกข์กค็ อยเฝ้าไว้

เขาจะดูสิวา่ หากเฝ้าจับตาดูอยูต่ ลอดเวลา พระองค์จะไปพอกหน้าได้


อย่างไรกัน?
ขโมยมาได้แล้วอย่างไรกัน ก็ใช้ไม่ได้! ไง? เคืองไหมเล่า?

ฮ่องเต้กลับทรงรักษาความสงบนิ่งอยูต่ ลอด ทาเสมือนว่าไม่มีเรื่ องใด


เกิดขึ้นทั้งนั้น

จนกระทัง่ ตู๋กูจุนชักจะเริ่ มเกิดความสงสัยว่าตนเองคาดเดาอะไรผิด


ไปหรื อไม่ …..ในที่สุดเขาก็ผ่อนคลายการจับสังเกตในตัวพระองค์
ไปในที่สุด

ในยามดึ ก ของคื น ที่ ส ายลมพัด แรงคื นหนึ่ ง ฝ่ าบาททรงพอกพระ


พักตร์ ที่งดงามเป็ นหนึ่ งไม่มีสองด้วยโคลนดาจนเต็มใบหน้าอยู่ใน
กระโจมของพระองค์

ใบหน้าเย็นสบาย ได้กลิ่นของยาสมุนไพร ให้ความรู ้สึกที่ชุ่มชื้นอย่าง


ยิง่

ฮ่องเต้ทรงทอดพระเนตรมองดูพระองค์เองในบานกระจกทองแดง
เหลียวซ้ายแลขวา ตรงลาคอก็ดูแดงๆ อยูบ่ า้ ง ทั้งยังหยาบเล็กน้อย

บุรุษที่ตอ้ งออกมาทาศึกในสนามรบ จะอย่างไรเสี ยก็ตอ้ งหยาบกร้าน


ยากนักที่จะหลีกเลี่ยงปั ญหาเรื่ องผิวไปได้ อย่างเช่นพระองค์ที่ช่วงนี้
มักจะต้องอดหลับอดนอนข้ามคืนเพื่อทาศึก ทั้งยังต้องตากแดดอาบ
ฝนอยูเ่ สมอ จนใบหน้าเกิดสิ วเสี้ ยนแล้ว

แต่ เ มื่ อ อยู่ต่ อ หน้า ซิ ง ซิ ง จะอย่า งไรก็ ไ ม่ อ าจให้ พ ระพัก ตร์ น้ ี ของ
พระองค์มีขอ้ ตาหนิได้อย่างเด็จขาด

เมื่ อเป็ นเช่ นนี้ ฝ่าบาทจึ งทรงเข้าบรรทมไปพร้ อมๆ กับการพอกยา


บารุ งผิว ทรงคิดว่าพอตื่นมาในวันที่สอง สิ่ งวิเศษที่แปลกประหลาด
นี้ จะต้องทาให้พระองค์ฟ้ื นฟูผิวพรรณจนถึงขั้นเปล่งปลัง่ อย่างที่สุด
แน่นอน

เพราะว่าเจ้าสิ่ งแปลกประหลาดนี้ สามารถทาให้ต๋ ู กูจุนที่ มีใบหน้า


หยาบและสากราวกระดาษทรายเปลี่ยนเป็ นเรี ยบเนี ยนขึ้นมาได้ สิ ว
หลายเม็ดบนใบหน้าของเขา แค่คืนเดี ยวก็ควรกลับเป็ นเรี ยบเนี ยน
แล้ว
วันรุ่ งขึ้น……

เมื่อเหล่าแม่ทพั ทั้งหลายได้เห็นฝ่ าบาทนั้น ต่างก็ตอ้ งตาค้างไปตามๆ


กัน

ตู๋กจู ุนนั้นยิง่ ถึงขั้นพูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว

——

กระดาษซวนเฉิ งจื่อ: ไอเท็มสาคัญที่ปรากฏอยูใ่ นนิยายจีนหลายเรื่ อง


กระดาษชนิ ดนี้ ได้ชื่อมาจากเมืองที่เป็ นต้นกาเนิ ดในการผลิต (เมือง
ซวนเฉิ ง มณฑลอันฮุย) ถือเป็ นหนึ่ งในสิ นค้าส่ งออกของเมืองซวน
เฉิ งมาแต่โบราณ ด้วยคุณสมบัติที่มีผวิ ละเอียด เนื้อกระดาษขาว อ่อน
นุ่ ม ไม่ ข าดง่ า ย ไม่ เ ปลี่ ย นสี ดู ด ซึ ม หมึ ก ได้ดี ไม่ มี แ มลงกัด แทะ
(อยากจะร้องว่า ‘เพอร์ เฟคโต้’ ด้วยสาเนี ยงอิตาลี) จึงเหมาะสมอย่าง
ที่สุดที่จะใช้เขียนอักษรและวาดภาพ จนได้ชื่อว่าสี่ สิ่งล้ าค่าในห้อง
หนังสื อ (文房四宝)

[1] 宣城纸
ตอนที่ 369 ตัวบัดซบที่จ่ายยา

“ฝ่ าบาท ช่วงนี้ ได้ทรงเสวยอะไรที่ทาให้ร้อนในหรื อไม่พะยะค่ะ….


นี่พระองค์….” หมอหลวงที่ติดตามกองทัพมามีสีหน้าเจ็บปวด

ฝ่ าบาททรงพอกหน้าเอาไว้ขา้ มคืน พอตื่นบรรทมในวันที่สองถึงได้


ล้างออก

คราวนี้เป็ นเรื่ องแล้ว ทาเอาเกิดเม็ดสิ วเกลื่อนทัว่ พระพักตร์

คิดภาพนั้นออกไหมเล่า? ดวงพักตร์ ที่เคยงดงาม…..ถึงกับมีสิวอยูท่ วั่


ใบหน้า

แต่ว่าฝ่ าบาทก็ยงั แสร้งทาเป็ นวีรบุรุษประทับอยูบ่ นพระเก้าอี้อย่างขึง


ขัง “ใจเรามุ่งแต่จะยึดแคว้นเหยียนให้ได้ในเร็ ววัน เกิ ดความกังวล
มากไป จนร้ อ นในเข้า เสี ย แล้ว จะอย่า งไรบุ รุ ษ ที่ เ ป็ นผูน้ าย่อ มไม่
กังวลเรื่ องผิวพรรณบนใบหน้า”
“พวกเจ้าเองก็ไม่ตอ้ งเป็ นห่วงมากไป”

ต่อให้ตีให้ตาย คนอย่างฝ่ าบาทก็ไม่มีทางยอมรับหรอกว่าพระองค์


ขโมยยาบารุ งของผูอ้ ื่นมาพอกจนเกิดสิ วทัว่ ใบหน้า

ตู๋กจู ุนจับตามองดูพระองค์เสแสร้งอย่างเงียบงัน

เรื่ องนี้ ช่างมีสีสันเหลือเกิน เขาย่อมต้องส่ งข่าวกลับไปบอกน้องเล็ก


อย่างแน่นอน ให้นางได้รู้วา่ ฮ่องเต้น้ นั คือตัวโง่งมอันดับหนึ่ง

ตู๋ กู จุ น ต้อ งฝื นความต้อ งการจะหัว เราะออกไปอย่า งบ้า คลั่ง ของ


ตนเอง ในชัว่ แวบเดี ยวเนื้ อหาที่จะเขียนลงไปในจดหมายก็คิดออก
หมดแล้ว

ฝ่ าบาทไล่ แ ม่ ท ัพ ทั้ง หมดออกไป เหลื อ เพี ย งหมอหลวงที่ ติ ด ตาม


กองทัพเอาไว้แต่เพียงผูเ้ ดียว

ตอนนี้ หมอหลวงถึงกับตัวสั่นสะท้าน เขาคือหมอหลวงอันดับสอง


ของส านัก หมอหลวง ซึ่ งก่ อ นหน้ า นี้ ไม่ ค่ อ ยถู ก กับ ซุ น เชวี่ ย สั ก
เท่าไหร่ ยามที่ซุนเชวี่ยถูกลดขั้นไปเป็ นเด็กต้มยา จึงเคยหาเรื่ องเขา
เอาไว้ไม่นอ้ ย
จบกันแล้ว ตอนนี้คนเขาอยูใ่ นขาขึ้น มีหรื อจะไม่เอาคืน

ถึงได้ส่งเขามาเป็ นหมอติดตามกองทัพ นี่ก็เท่ากับว่าต้องแขวนศีรษะ


เอาไว้ที่ ข ้า งสะเอวอยู่ต ลอดเวลา หากฝ่ าบาทมิ ไ ด้ท รงประชวรก็
นับว่าแล้วไป แต่ถา้ เกิดทรงปวดพระเศียรร้อนรุ่ มขึ้นมาเมื่อไหร่ เขา
เป็ นต้องเคร่ งเครี ยดปางตาย

ตอนนี้กเ็ ป็ นเรื่ องแล้ว….อยูๆ่ ก็มีสิวขึ้นเต็มพระพักตร์

“ใบหน้า ของเรา มี ท างรั ก ษาได้ห รื อ ไม่ ?” ฝ่ าบาททรงรอจนแน่


พระทัยแล้วว่าที่ดา้ นนอกไม่มีผคู ้ นแล้วจึงได้ตรัสถามออกมา

หมอหลวงเฉี ยนทูลตอบด้วยน้ าเสี ยงสั่นสะท้าน “ขอฝ่ าบาทประทาน


อนุญาตให้กระหม่อมได้ตรวจดูโดยละเอียด”

แต่ไหนแต่ไรจีเฉวียนไม่โปรดให้ผใู ้ ดมาสัมผัสแตะต้องพระองค์ แต่


พอทรงคิดว่าหากต่อไปซิ งซิ งต้องมาเห็นพระพักตร์ ที่เป็ นเช่นนี้ เกรง
ว่ากระทัง่ อาหารเย็นที่นางพึ่งจะกินเข้าไปก็คงจะต้องอาเจียนออกมา
เขาย่อมไม่อาจให้เรื่ องเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างเด็ดขาด

ดังนั้นจึงอนุญาตให้หมอหลวงเฉี ยนสัมผัสพระวรกายได้

หลัง จากการตรวจดู หมดหลวงเฉี ย นก็ พ บร่ อ งรอยของยาพอก


บางส่ วนจากบนพระพักตร์

ตอนนี้ เขาได้แ ต่ แ ขวนศี ร ษะเอาไว้บ นเส้ น ด้า ยเสี่ ย งตายทู ล ถาม


ออกไปว่า “ฝ่ าบาท พระองค์ได้ทรงทาสิ่ งใดลงไปบนพระพักตร์ บา้ ง
หรื อไม่พะยะค่ะ?”

จีเฉวียน “เราเกิดมาพร้อมกับรู ปโฉมที่งดงาม ไม่จาเป็ นจะต้องทายา


บารุ งผิวอะไรทั้งนั้น”

หมอหลวงเฉี ยน “……….”

“ช่ะ ใช่ ใช่แล้วพะยะค่ะ ฝ่ าบาททรงพระสิ ริโฉมแต่กาเนิ ด ไหนเลย


จะต้องทาของบารุ งพวกนั้นกัน?” หมอหลวงเฉี ยนแทบจะร้องของ
ชีวิตอยูแ่ ล้ว
เขารี บกล่ าวคล้อยตามจี เฉวี ย นไปว่า “จะต้องเป็ นเพราะว่า ไม่ ทนั
ระวังจึ งบังเอิญไปสัมผัสโดยอะไรเข้า ขอทรงประทานอนุ ญาตให้
กระหม่อมได้ศึกษาสิ่ งเหล่านี้ บา้ ง กระหม่อมจะต้องคิดหาหนทาง
ออกมาได้อย่างแน่นอน”

ฝ่ าบาททรงพยักพระพักตร์อย่างไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

พอฝ่ าบาทพยักพระพักตร์ ให้ หมอหลวงเฉี ยนก็ค่อยพกความกล้า


หาญไปขูดเอากากยาบนพระพักตร์ ออกมา เพราะไม่ทนั ระมัดระวัง
จึงไปขูดโดนสิ วเม็ดหนึ่งแตกเข้า

หมอหลวงเฉี ยนรู ้สึกว่าศีรษะของตนเองคงจะต้องถูกกลบฝังไปเป็ น


เพื่อนกับสิ วเม็ดหนึ่งแน่แล้ว!

เขาคุกเข่าลงไปบนพื้นดังตึ้ง ทัว่ ทั้งร่ างสัน่ สะท้าน

“ฝ่ าบาท กระ….กระหม่อม กระหม่อม…..ฮะ ฮือๆๆ …..”


“จะร้องทาไม ก็แค่สิวเม็ดหนึ่ งแตก มิใช่ว่าเราจะตายเสี ยหน่ อย ลุก
ขึ้นมาพูดเร็ วๆ เข้า” ฝ่ าบาทขมวดพระขนงแน่น “ขอแค่ให้ใบหน้านี้
หายก่อนที่จะกลับไปเมืองหลวงก็พอ เจ้ายังมีเวลาอีกมาก”

หมอหลวงเฉี ยนไม่มีความมัน่ ใจเลยแม้แต่นอ้ ย……

เขาคุ กเข่ าอยู่บนพื้นไม่ กล้าลุ กขึ้ นมา ดู จากสถานการณ์ เบื้ องหน้า


ในตอนนี้ เมื่อมีฝ่าบาทเป็ นผูน้ าทัพ กองทัพนี้ จึงมีแต่ชยั ชนะโดยไร้
พ่าย แคว้นต้าเหยียนจึงเป็ นเหมือนกับแผ่นกระดาษที่อีกเพียงไม่นาน
ก็คงจะฉี กขาดจนหมดสิ้ นแล้ว

เวลาของเขายังจะเหลือมากมายที่ไหนกัน

ก็ไม่รู้ว่าเป็ นตัวบัดซบตัวไหน ตอนที่จ่ายยาพอกนี้ถวายฝ่ าบาท กลับ


ไม่ได้กราบทูลให้ทรงทราบว่าต้องล้างออก ไม่อาจทิ้งเอาไว้บนพระ
พักตร์นานเกินไป?
แล้วก็ตอ้ งล้างออกให้สะอาดในเวลาที่กาหนดด้วย!

ขึ้นชื่อว่าเป็ นยาอย่างไรเสี ยก็มีพิษสามส่ วน ต่อให้เป็ นเพียงสิ่ งที่พอก


ลงบนใบหน้า นัน่ ก็ยงั เป็ นยาอยูด่ ี

“กระหม่อมจะพยายามสุ ดความสามารถ” หมอหลวงเฉี ยนเองก็ไม่


กล้ารับประกัน ยานี่พอกเอาไว้นานเกินไป ฝ่ าบาททรงแพ้พิษของมัน
เข้าแล้ว พิษซึ มเข้าภายใน เพราะฉะนั้นถึงได้เกิดเป็ นสิ วทัว่ ใบหน้า

จาเป็ นจะต้องมียาถอนจึงจะขับพิษออกไปได้มิใช่หรื อ?

ประเด็นสาคัญก็คือตัวบัดซบที่ผสมยานี้ ข้ ึนมา ใช้ส่วนผสมของยาที่


ยุง่ ยากซับซ้อน….

ท้ายที่สุดหมอหลวงเฉี ยนได้แต่ใช้ขอ้ อ้างขอตัวไปเข้าห้องน้ า ค่อย


ปลีกตัวออกไปจากกระโจมของฝ่ าบาทได้ ก่อนที่จะออกไป ห่ อสี ดา
ใบหนึ่งก็ตกลงมาอยูเ่ บื้องหน้าของเขา
แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าจะต้องเป็ นยาพอกนัน่ อย่างแน่นอน

หมอหลวงเฉี ย นหยิ บ ขึ้ น มาด้ว ยอาการสั่ น เทา จากนั้น ก็ รี บ ถอย


ออกไปโดยที่แม้แต่ลมก็ยงั ไม่กล้าผายสักครั้ง

ฝ่ าบาททรงทอดพระเนตรพระพักตร์ ของตนเอง ในพระทัยก็เ กิ ด


ความคิดอย่างเงียบงัน นี่คงไม่อาจให้ซิงซิ งได้เห็นใบหน้านี้ไปจนชัว่
ชีวิตแล้ว

………………………..

ปี นี้ต๋ ูกูซิงหลันร่ วมฉลองวันส่ งท้ายปี เก่าต้อนรับปี ใหม่กบั ท่านปู่ และ


พี่รอง

จดหมายของพี่ใหญ่มาถึงมือของท่านปู่ แล้ว

ในจดหมายเน้นหนักถึงเรื่ องที่ฮ่องเต้สุนขั โง่เขลาจนทาให้ตนเองมี


สิ วเต็มใบหน้า
ตู๋ กูเจวี๋ยที่ ปากเป็ นพิษอยู่แล้ว ย่อมต้องหัวเราเยาะออกมาในทันที
“อ้ายย่าห์ ข้าบอกแล้ว ฮ่องเต้คือคนโง่ใช่มยั๊ ล่ะ? ฮ่า ฮ่า ฮา ฮา ….”

หลัง จากนั้น ก็ หัน ไปจ้อ งตู๋ กู ซิ ง หลัน “น้อ งเล็ ก บุ รุ ษ ที่ งี่ เ ง่ า เช่ น นี้
อย่าได้ไปคว้ามาอย่างเด็ดขาด เจ้าที่โดดเด่นถึงเพียงนี้ สมควรจะต้อง
ครองคู่กบั บุรุษดีงามที่ชาญฉลาดเท่านั้น”

ท่านผูเ้ ฒ่า “ใช่แล้ว เจ้าโง่น้ นั ไม่เหมาะสมกับเจ้า”

ตู๋กูซิงหลัน “….” ไม่นะ ทาไมนางถึ งได้รู้สึกว่าจี เฉวียนงี่ เง่ าอย่าง


น่ารักขึ้นมาได้?

จีเฉวียนจากไปเป็ นเดือนที่สาม….คิดย้อนไปจากทุกเศษเสี้ ยวความ


ทรงจายามที่เขาเคยอยูใ่ กล้ ยิง่ ทียงิ่ รู ้สึกว่าเขาช่างน่ารักมากขึ้นมากขึ้น
แล้ว?

ตู๋กูซิงหลันเอาแต่เงียบงันไม่พูดไม่จา ถ่านไหมเงินภายในห้องร้อน
ปริ ออกจนส่ งเสี ยงเปาะแปะ หมูเค็มที่จีเฉวียนให้หลงเซี ยวส่ งมาหอม
กรุ่ น ไปทั่ว ทั้ง เรื อ น ครอบครั ว อยู่ พ ร้ อ มกัน หน้า เตาผิ ง ช่ า งเป็ น
ความสุ ขที่บ่งบอกไม่ถูก

อีกเพียงสองวัน ภรรยาของหัวหน้าเผ่าอาปู้ไซ้กจ็ ะมาถึงแล้ว

ขาที่บาดเจ็บมานานถึงครึ่ งปี ของตู๋กูซิงหลันในที่สุดก็มีความหวังที่


จะรักษาหายแล้ว

กระดิ่งใบน้อยของเจียงชวี่ปิ้งนางก็ยงั คงเก็บรักษาเอาไว้ เดิมทีกระดิ่ง


ใบนั้นยังมีกลิ่นอายของกระแสจิตที่เข็มข้น แต่ว่ากลิ่นอายนั้นยิ่งทีก็
ยิง่ เบาบางลงไปมากแล้ว

นี่มิใช่เท่ากับบ่งบอกว่า เจียงชวี่ปิ้งเกิดปั ญหาหรอกหรื อ?

ช่วงหลายวันนี้ นางเองก็มิได้อยูใ่ นวังอย่างเปล่าประโยชน์

มือสี ดาของคนที่ทาร้ายนางยามที่อยูใ่ นช่องว่างกาลเวลานั้น นางเอง


ก็มีคนที่สงสัยอยู่

ช่วงที่ผา่ นมานี้ นางเองก็พยายามสื บหาอย่างเงียบๆ มาโดยตลอด


แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับเก็บตัวเงี ยบ ไม่กระทาสิ่ งใดทั้งสิ้ น ทั้งยังจงใจ
หลีกหนีการพบหน้ากับนาง

หลายครั้งที่เห็นกันอย่างห่างๆ เขาก็ออ้ มหลบไป

ตู๋กซู ิ งหลันก็มิได้แหวกหญ้าให้งูตื่น

วันนี้ เป็ นวันสิ้ นปี จึงได้วางเรื่ องนั้นเอาไว้ชวั่ คราว อยู่ร่วมกับคนใน


ครอบครัวอย่างสงบสุ ข

พอตกดึก ทิศที่เป็ นที่ต้ งั ของวังหลวงก็มีการจุดพลุ

แสงพลุระเบิดออกในคืนที่มืดมิดดุจน้ าหมึก ช่างงดงามอย่างที่สุด

ตู๋กูซิงหลันอดไม่ได้ที่จะคิดย้อนกลับไปถึงเมื่อปี ที่แล้ว…. ตอนนั้น


คล้า ยกับ ว่า นางจะดื่ มมากไปหน่ อ ย ไปหยอกเย้า จี เ ฉวี ย นต่ อ หน้า
ผูค้ น?

พอไม่ทนั คิ ดเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ ว แค่เพียงแวบเดี ยวก็ครบปี


แล้ว
ปี นี้ ที่แคว้นต้าเหยียนคงจะไม่มีการจุดพลุอย่างแน่ นอน จี เฉวียนจะ
ได้เสวยอาหารข้ามปี ร้อนๆ บ้างหรื อไม่นะ?

ไม่รู้ว่าทาไม ช่ วงนี้ ต๋ ูกูซิงหลันถึงได้รู้สึกว่าคิดถึงจี เฉวียนบ่อยครั้ง


ขึ้นมาเรื่ อยๆ อาการเจ็บหัวใจก็หนักขึ้นเรื่ อยๆ เช่นกัน

แต่กไ็ ม่รู้วา่ ทาไมสมองถึงได้หยุดคิดไม่ได้เลย

พอคิ ด ถึ ง ขึ้ นมาก็รู้ สึ ก ว่า หวานล้ า อยู่ไม่ น้อ ย ถึ ง แม้ว่า เขาจะโอหัง


ลาพองและโง่งมอยูบ่ า้ งก็ตาม

แต่ยงิ่ รู ้สึกถึงความหอมหวาน หัวใจก็ยงิ่ เจ็บปวดรุ นแรงมากขึ้นทุกที

การโต้รุ่ ง ในวัน ส่ ง ท้า ยปี เก่ า (จี น ) : ( 守 岁过年 ) sh ǒ u su


ì gu ò ni á : กิจกรรมนี้ เป็ นส่ วนหนึ่ งของประเพณี ในวันสิ้ นปี ที่คน
ในครอบครัวจะมาอยูร่ ่ วมกันเพื่อกินอาหารมื้อใหญ่พร้อมหน้า ( 年
夜 饭 ) หลังรับประทานอาหารแล้ว ทุกคนจะไม่หลับไม่นอน แต่
จะนัง่ พูดคุยกินน้ าชาน้ าหวานและของขบเคี้ยวกันง่วงไปจนกว่าจะ
พ้นเที่ยงคืน นัยว่าป้ องกันไม่ให้สิ่งอัปมงคลมาเข้าฝันยามหลับ และ
เป็ นการคอยต้อนรับเทพเจ้าแห่งโชคลาภที่จะมาในวันปี ใหม่

ส่ วนอาหารมื้อใหญ่ที่ท้ งั ครอบครัวรับประทานพร้อมหน้า ( 年夜
饭 ) ส่ วนใหญ่แล้วก็จะเป็ นอาหารที่มีชื่อเป็ นมงคลต่างๆ เช่น จี’ (
鸡 ไก่) และ ‘อวี๋’ ( 鱼 ปลา) แทนความหมาย ‘จี๋เสี ยงหยูอวี้ ( 吉
祥如意 เป็ นสิ ริมงคลสมดังปรารถนา) ’ และ ‘เหนี ยนเหนี ยน
โหยว่อวี๋ ( 年年有余 มีเงินทองเหลือใช้ทุกปี ) ’ ถ้าเป็ นคนทาง
ภาคเหนื อก็จะต้องกิน เจี่ยวจือ ( 饺子 เกี๊ยว) ที่ห่อเอง เพราะแป้ ง
เกี้ ยวเป็ นสัญลักษณ์ ของการผนึ กหรื อเชื่ อมโยง รู ปทรงเป็ นรู ปเงิ น
โบราณ สามารถใส่ ไส้ที่เป็ นชื่ อมงคลต่างๆ กินแล้วจะรับทรัพย์ ถ้า
เป็ นคนทางใต้ก็จะกิ นลูกชิ้ นกลมๆ ที่เป็ นสัญลักษณ์ของความอุดม
สมบูรณ์บริ บูรณ์พูนสุ ข นอกจากนี้ แล้วก็มีท้ งั เมนูถวั่ งา ผักสด ขนม
หวานต่างๆ เรี ยกว่าอิ่มกันข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว
ตอนที่ 370 ผีดบิ

ซุ นย่วนซื่ ออธิ บายให้นางฟั งอย่างละเอียดว่าเป็ นความต้านทานต่อ


ความใกล้ชิดผิดปกติแต่กาเนิด

นางเองได้เปิ ดหูเปิ ดตาแล้ว กลับมีโรคเช่นนี้อยูด่ ว้ ย

จากคาพูดของซุ นย่วนซื่ อ คนที่มีอาการป่ วยเช่นนี้ ส่ วนใหญ่แล้วจะ


เป็ นเพราะว่าเคยผ่านประสบการณ์ที่หนักหนาในเรื่ องความรู ้สึกมา
ก่ อน เมื่ อไม่อาจคลี่ คลายความเจ็บปวดในจิ ตใจได้ ร่ างกายจึ งเกิ ด
ปฏิกริ ยาปกป้องตนเองอย่างสู งขึ้นมาแทน

ตู๋กูซิงหลันลองคิดๆ ดู ดูเหมือนว่าตนเองไม่เคยมีความรักสักหน่ อย
นี่?

แล้วจะไปบาดเจ็บมาจากไหนกัน?

ดังนั้นคาพูดนี้ ของซุ นย่วนซื่ อจึงไม่ค่อยน่ าเชื่ อถือสักเท่าไร เขาเป็ น


หมอรักษาร่ างกาย อยูๆ่ จะเปลี่ยนเป็ นหมอจิตเวทได้อย่างไร?
“ไทเฮาไม่จาเป็ นต้องกังวลพระทัยมากไป หากว่าใต้หล้านี้ สามารถ
เจอคนที่รักท่านมากกว่าตัวของเขาเอง และยินดีอุทิศชีวิตของตนเอง
ให้กบั ท่าน ไม่แน่วา่ อาการนี้ของท่านก็อาจจะหายขาดได้”

เรื่ องการพูดไปเรื่ อยเปื่ อย ดูท่าซุ นย่วนซื่ อจะได้รับการถ่ายทอดวิชา


มาจากฮ่องเต้จนหมดสิ้ น

ต่อมาตู๋กซู ิ งหลันก็ไม่ได้สนใจว่าอาการเจ็บหัวใจนี้จะเป็ นเรื่ องสาคัญ


อะไรอีก

อยากเจ็บก็เจ็บไป แยกสมองกับหัวใจออกจากกันก็สิ้นเรื่ อง

……………..

แคว้นต้าเหยียน ยามนี้มีดาราสุ กสกาวเต็มท้องฟ้า

จี เ ฉวี ย นทอดพระเนตรมองดู ด าวเกลื่ อ นฟ้ า สายพระเนตรก็


เปลี่ยนเป็ นนุ่มนวล
การการาบแคว้นเหยียนล้วนเป็ นไปโดยราบรื่ น….คาดว่าอีกไม่ถึง
สองเดือนเขาก็คงจะสามารถกลับไปได้แล้ว

เขาวาดแผนการอยูใ่ จ

ทันใดนั้นก็ทรงได้ยนิ เสี ยงร้องโหยหวนมาจากกระโจมในค่าย

เสี ยงโหยหวนนั้นทาลายความสงบสุ ขทั้งหมดในค่าคืนนี้ไปจนสิ้ น

ตู๋ กูจุนมาถึ งข้างกายพระองค์เป็ นคนแรก …..ในอากาศมี กลิ่ นคาว


เลือดฟุ้งกระจายขึ้นมาอย่างรวดเร็ ว

ที่ดา้ นหลังยังมีเสี ยงกรี ดร้องตะโกนอย่างน่าหวาดผวาออกมาอีก ทั้ง


ยังรุ นแรงอย่างโหยหวนกว่าเดิม

เหล่าแม่ทพั ทั้งหมดต่างพากันมาเข้าเฝ้ าที่เบื้องหน้ากระโจมของฝ่ า


บาท แต่ละคนมีสีหน้าหนักอึ้งและตื่นตัว

“ตรวจสอบให้ชดั เจน เกิดเรื่ องอะไรขึ้น?” สี พระพักตร์ ของฝ่ าบาท


เย็นชาและสงบนิ่ง
ทันทีที่ตรัสจบ ก็เห็นทหารนายหนึ่ งพุ่งเข้ามาพร้อมกับเลือดท่วมตัว
ใบหน้าของเขาถูกกัดไปกว่าครึ่ ง ลาคอเหวอะหวะเนื้อขาดหายไป

เขากุมลาคอของตนเองเอาไว้อย่างแน่ นหนา สู ดลมหายใจทูลด้วย


ความหวาดผวาว่า “ฝ่ าบาท…..ฝ่ าบาท…..มีศพคืนชีพ!”

พูดแล้ว ก็เห็นนายทหารผูน้ ้ นั ล้มลงไปบนพื้น คนเริ่ มบิดเบี้ยวไปทั้ง


ร่ าง เพียงแค่ ครู่ เดี ยว เขาประคองร่ างที่ บิดเบี้ ยวขึ้ นมาใหม่ อีกครั้ ง
ดวงตาทั้งสองแปรเปลี่ยนเป็ นว่างเปล่า เล็บที่แหลมคมของเขางอก
ยาวออกมา

ข้างกายของเขามีแม่ทพั ผูห้ นึ่งที่ไม่ทนั ได้ระวังตัว ถูกนายทหารผูน้ ้ นั


คว้าข้อเท้าเอาไว้ กัดกินอย่างคลุม้ คลัง่ ขึ้นมา

ถึงแม้ว่าปฏิกริ ยาของแม่ทพั ผูน้ ้ นั จะรวดเร็ ว แต่ก็ยงั ถูกเขากัดกินเนื้อ


ไปแล้วคาใหญ่
แม่ ท พั ผูน้ ้ ันได้รั บ ความเจ็บ ปวด ส่ ง เสี ย งร้ อ งออกมา ก็ส ะบัด เท้า
ออกไปเตะนายทหารผูน้ ้ นั กระเด็นออกไปไกลหลายสิ บเมตร

“แม่งเอ้ย เล่นบ้าอะไร กัดคนได้เจ็บโคตร” แม่ทพั ผูน้ ้ นั มองดูขอ้ เท้า


ของตนเองที่ ถูกกัดเนื้ อออกไปคาโต เจ็บแผลนั้นก็แล้วไปเถอะ ที่
สาคัญก็คือเจ็บใจเกินทน เขาสงสัยว่านัน่ จะเป็ นไส้ศึกที่ศตั รู ส่งเข้ามา

เนื่ องเพราะถึ งแม้คนผูน้ ้ นั จะเป็ นบุรุษหนุ่ มที่ แข็งแรงบึ กบึ นผูห้ นึ่ ง
แต่ ถูกเขาถี บออกไปเช่ นนี้ ต่ อให้ไม่ ตายก็ตอ้ งเหลื อชี วิตเพียงครึ่ ง
เดียว

แต่นายทหารผูน้ ้ นั กลับลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง ด้วยร่ างกายที่บิดเบี้ยวไป


ทั้งร่ าง ที่ ดา้ นหลังของเขา ก็ปรากฏเหล่าทหารที่ มีร่างกายบิ ดเบี้ยว
เหมือนกับเขาขึ้นมามากมาย…..

พวกเขากางเล็บแยกเขี้ยว พุ่งเข้ามาอย่างคลุม้ คลัง่ โดยไม่สนใจสิ่ งใด


ทั้งสิ้ น ทั้งหมดบุกเข้ามาเป็ นจานวนมาก ด้วยความรวดเร็ ว!
“คุม้ ครองฝ่ าบาท!” เหล่าแม่ทพั และนายทหารต่างก็มิได้หวัน่ เกรง
แยกย้ายกันถือโล่ คุม้ ครองจีเฉวียนเอาไว้ดา้ นหลัง

ตู๋ กูจุนยืนอยู่ขา้ งกายจี เฉวียน สี หน้าของเขาเปลี่ ยนเป็ นย่าแย่อย่าง


ที่สุด

ในสมองของเขาเกิดภาพที่เขาฆ่าราชบุตรเขยกับมือซ้อนทับขึ้นมาซ้ า
แล้วซ้ าอีก

ศึกที่ริวกิวตอนนั้น ตระกูลตู๋กตู อ้ งสู ญเสี ยกองทัพไปนับหมื่น!

นี่เป็ นเงามืดในใจที่เขาไม่อาจลืมได้ลงไปชัว่ ชีวิต

ยามนี้ พอเห็ นพวกมันพากันบุ ก เข้า มา ดาบใหญ่ ข องเขาก็โ บยบิ น


ออกไปในทันที

“ฝ่ าบาท พวกเราเผชิ ญ กับ สถานการณ์ ที่ เ ลวร้ า ยเข้า แล้ว ” ตู๋ กูจุ น
กลายเป็ นเคร่ งเครี ยดขึ้นมา “แคว้นเหยียนตระเตรี ยมจะใช้วิธี มัจฉา
ตายตาข่ายขาด [1] ”
จี เฉวียนหรี่ พระเนตรลง ด้วยสถานการณ์ เบื้ องหน้านี้ ต่อให้ต๋ ูกูจุน
ไม่ได้บอกอะไร พระองค์กพ็ อจะเดาได้

การศึ กที่ เมื องริ วกิ ว ในตอนนั้น พระองค์ก็ทรงทราบความเป็ นไป


อย่ า งถ่ อ งแท้ เพี ย งแต่ คิ ด ไม่ ถึ ง ว่ า จะต้อ งมาเจอกับ สถานการณ์
เช่นเดียวกันในแคว้นต้าเหยียน

“กองทัพของแคว้นเหยียนในยามนี้ ไม่อาจต้านทานการบุกของพวก
เราได้ ถึงได้ใช้ฝีมือต่าช้าเช่นนี้ออกมา” ดวงตาของตู๋กูจุนปรากฏเส้น
เลือดสี แดงกระจายขึ้นมา

เป็ นศพคืนชีพนัน่ ก็แล้วไปเถอะ ตัวประหลาดพวกนั้นจะอย่างไรก็ยงั


มีความคิดเป็ นของตนเอง ยังพอจะควบคุมได้

แต่ที่พวกเขากาลังเผชิญอยูใ่ นตอนนี้ ก็คือผีดิบ!

พวกมันปราศจากชีวิตและจิตใจ ทันทีที่ติดพิษแห่ งความตายจากศพ


เหล่านี้ ก็จะกลายเป็ นผีดิบไปในทันที
หนึ่ งแพร่ ไปสิ บ สิ บกลายเป็ นร้ อ ย ร้ อยกลายเป็ นพัน เป็ นสิ่ ง ที่ น่า
หวาดหวัน่ อย่างที่สุด

พวกมันไม่มีความรู ้สึกนึกคิดใดๆ ทั้งสิ้ น รู ้จกั แต่กดั คน กินคน ถึงแม้


เป็ นเพียงชาวบ้านทัว่ ไปก็ไม่ละเว้น

ตอนนั้นเขาต้องสู ญเสี ยกองทัพตระกูลตู๋กูไป….เรี ยกว่าเกือบจะสิ้ น


กองทัพไปภายใต้พิษชนิดนี้

เขาคิ ด ไม่ ถึ ง ว่ า ราชวงศ์ต ้า เหยีย น จะยอมเปลี่ ย นแคว้น ต้า เหยี ย น


ทั้งหมดเป็ นนรก เพียงเพื่อลากพวกเขาลงไปด้วย

ตู๋ กู จุ น พึ่ งพู ด ขาดค า ก็ เ ห็ น ว่ า แม่ ท ั พ ที่ เ มื่ อ ครู่ ถู ก กั ด มี สี หน้ า


เปลี่ยนแปลงไป หันไปตะครุ บคนข้างตัวมากัดกินอย่างคลุม้ คลัง่

ทันใดนั้น ทัว่ ทั้งกองทัพก็ตกอยูใ่ นความอลหม่าน

สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน ผูค้ นจานวนมากตั้งตัวไม่ทนั


พิษแห่ งความตายแพร่ กระจายไปอย่างรวดเร็ ว เพียงแค่ไม่ถึงครึ่ งคืน
กว่าครึ่ งหนึ่งของกองทัพก็ติดเชื้อกันไปหมดแล้ว
เหล่าทหารที่ติดเชื้อพากันบุกเข้าไปในเมืองจิงหวา พอพบเห็นผูค้ นก็
บุกเข้าไปกัดกินอย่างคลุม้ คลัง่

เพียงแค่เวลาสั้นๆ คื นเดี ยว เมื องจิ งหวาที่ ใหญ่เป็ นอันดับสามของ


แคว้นเหยียนก็กลายเป็ นขุมนรกบนดิ นความสิ้ นหวังปกคลุมไปทัว่
ทั้งเมือง

กองทัพต้าโจวที่หลงเหลือเพียงครึ่ งเดียว ถอนกาลังออกจากเมืองจิง


หวาอย่างรวดเร็ ว

น่ าเสี ยดายว่าในกองกาลังของกองทัพที่ถอนออกมานั้นก็มีคนที่ถูก
กัดอยูด่ ว้ ย พิษนี้จึงไม่จบสิ้ น เกิดการแพร่ กระจายอย่างรวดเร็ วขึ้นอีก

“ขอฝ่ าบาททรงมีพระบัญชา ให้เผาเหล่าผูท้ ี่ติดเชื้ อทิ้งให้หมด” ตู๋กู


จุนคือแม่ทพั ใหญ่ที่ผา่ นประสบการณ์จากศึกเมืองริ วกิวมาแล้ว ตอน
นั้นเขาก็ใช้วิธีเผาเหล่าผูต้ ิ ดเชื้ อทั้งหมดในครั้งเดี ยว…..จึ งสามารถ
รักษาขุมกาลังสุ ดท้ายเอาไว้ได้
ฮ่องเต้มิทรงแสดงสี พระพักตร์ใดๆ ใครเลยจะคิดว่าเมืองจิงหวาที่เมื่อ
วานยังคงรุ่ งเรื องอยูแ่ ท้ๆ จะแปรเปลี่ยนเป็ นนรกไปในคืนเดียว

ตอนที่พวกเขาถอยทัพออกมานั้นก็ได้ปิดประตูเมืองเอาไว้ดว้ ย ผีดิบ
เหล่านั้นจึงออกมาไม่ได้

บนกาแพงเมื องมี ทหารที่ กลายเป็ นผีดิบอยู่มากมาย ล้วนเป็ นเหล่า


ทหารที่พวกเขานาพามาจากเมืองหลวง

จีเฉวียนกาหมัดแนบแน่ น สายพระเนตรทอประกายสังหารออกมา
อย่างลึกล้ า

พระองค์ทรงนาพวกเขามา แต่ว่ากลับไม่อาจพากลับไป…..พวกเขา
ล้วนเป็ นสามี เป็ นบุตร เป็ นที่พ่ งึ หลักของครอบครัว

เพื่อเส้นทางการเป็ นจักรพรรดิของเขา ทั้งหมดล้วนต้องเสี ยสละอยู่


ที่นี่
“ขอฝ่ าบาททรงมี พระบัญชาโดยเร็ ว!” ตู๋กูจุนกวาดดาบยักษ์ในมื อ
ตวัดเข้าใส่ เหล่าคนที่ติดเชื้อไปแล้ว

เขาเข้าใจความรู ้ สึกในพระทัยของจี เฉวียนเป็ นอย่างดี ตอนนั้นเมื่อ


เกิดเหตุการณ์ข้ ึนกับกองทัพตระกูลตู๋ก…
ู ..เขาเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

ต่างก็เป็ นเหล่าพี่นอ้ งที่ร่วมเป็ นร่ วมตายมาด้วยกัน …… แล้วจะให้ลง


มือไปได้อย่างไร?

“หากฝ่ าบาทยังทรงลังเล ก็จะต้องมีคนตายอีกจานวนมาก” ตู๋กูจุน


แทบจะอยากออกคาสัง่ แทนเขาอยูแ่ ล้ว

พอหันหน้ากลับไปก็เห็นว่ามีกองทัพผีดิบพุง่ เข้ามาหาจีเฉวียน

…………………….

[1] 鱼死网破 : ต่อสู ้กนั จนบาดเจ็บล้มตายทั้งสองฝ่ าย


ตอนที่ 371 พีส่ าวใหญ่ ตวั น้ อย

ถอยทัพออกมาอย่างรี บร้อน ฝ่ าบาทไม่ได้ทรงชุดเกราะเสี ยด้วยซ้ า

บนร่ างของพระองค์มีแต่ เพียงฉลองพระองค์สีทองตัวบางเท่านั้น


เนื่องเพราะเป็ นยามดึกกระทัง่ เส้นพระเกษาก็ปล่อยสยาย

พอผีดิบตัวนั้นโผเข้ามา ก็พงุ่ เข้ากัดลาคอของจีเฉวียนอย่างคลุม้ คลัง่

………………

คืนนี้ ตู๋กซู ิ งหลันตกอยูใ่ นฝันร้ายนางตื่นขึ้นกลางดึก มีเหงื่อออกท่วม


ศี รษะในความฝั นจี เฉวียนหลัง่ เลื อดท่วมใบหน้า เนื้ อหนังของเขา
หายไปต่อหน้าต่อตานางทีละนิ้วๆ จนกลายเป็ นเพียงกองกระดูกขาว
ในที่ สุด ใต้ร่างของนางมี แต่ กองศพเป็ นภู เขา กระดู กมากมายกอง
พะเนิ น เลื อดนองไปทัว่ ทุกที่ กลิ่ นคาวเลือดคละคลุง้ จนทาให้นาง
แทบจมลงไป ตู๋กซู ิ งหลันมีเหงื่อท่วมตัวจนแม้แต่ผา้ ห่มยังเปี ยกชื้น
“จี เฉวียน” นางเอ่ยชื่ อของเขาออกมา เกื อบจะโผลุกจากเตียงลงไป
แล้ว

หมอผีจากเผ่าอาปู้ไซ้ท่านนั้นช่วยเชื่อมต่อเส้นเอ็นให้นางมาหลายวัน
แล้ว ขาคู่น้ ีจึงใกล้จะเหยียบพื้นได้อีกครั้ง

แต่ ก็ แ ค่ ยื น ได้ ค รู่ หนึ่ งเท่ า นั้ น หากจะเดิ น หรื อวิ่ ง ยัง คงต้ อ งใช้
ระยะเวลาฟื้ นฟูอีกพักใหญ่

คนอย่างตู๋กซู ิ งหลัน ปกติมกั ไม่เคยฝันร้ายพอฝันร้ายขึ้นมาก็ไม่มีเรื่ อง


ดีอย่างแน่นอน

ในมือของนางเพิ่มยันต์แผ่นหนึ่ง พอดีดปลายนนิ้วก็ปรากฏดวงไฟสี
น้ า เงิ น ขึ้ น มายัน ต์แ ผ่น นั้น ลุ ก โชนขึ้ น มา หลัง จากนั้น ก็ ก ลายเป็ น
อักษรควันสองตัวต่ อหน้านาง ‘อันตราย’ตู๋ กูซิงหลันขมวดคิ้ ว มุ่ น
จากนั้นก็ลุกลงจากเตียงแต่ขาก็อ่อนแรงลงไปทันที จนแทบจะทรุ ด
ลงไปบนพื้น
“พี่สาวใหญ่ ตวั น้อย ดึ กดื่ นค่ อนคื นเจ้าจะไปที่ ไหนกัน?” วิญญาณ
ทมิฬตื่นขึ้นมาเพราะนางเช่นกัน

“ไปแคว้นเหยียน” ตู๋กูซิงหลันเกาะเตียงเอาไว้ พยายามจะพยุงตัวเอง


ขึ้นมา

ทันใดนั้นนางก็ได้ยนิ เสี ยง

“ผัว่ ะ!” ติ๊งต๊องยกขาขึ้นมาถีบเพียงครั้งเดียวประตูกเ็ ปิ ดออก

ขยับสองปี กส่ ายสะโพกยืน่ หน้าเขามาหานาง “กะ กะ กะต๊าก?”

พี่สาวตัวน้อยมีเรื่ องจะให้มนั ไปทาหรื อ?

อยูแ่ ต่ในวังน่าเบื่อมาตั้งนาน จนมันเกือบจะขึ้นราอยูแ่ ล้ว ที่สาคัญยัง


ถู ก กลิ่ น มู ล ของราชาสุ นัข ป่ ารมทุ ก วัน จนไม่ อ ยากอาหาร ดู สิ ม ัน
ผ่ายผอมลงไปตั้งมากแล้ว
แม้แต่ขนบนปี กก็ไม่ได้มนั วาวเป็ นประกายดุจเดิมเลย

“แบกข้าไหวหรื อไม่?” ตู๋กซู ิ งหลันคว้าลาคอของมันเอาไว้

“กะ กะ กะต๊าก” ไม่มีปัญหาพี่สาวตัวน้อย อาเฮียแข็งแรงมากนะ

ติ๊งต๊องพึ่งจะส่ งเสี ยงรับรอง ก็เห็นศีรษะที่ใหญ่โตของราชาหมาป่ า


โผล่เข้ามาในทันที

“บรู ้ วว์ว์” ราชาสุ นัข ป่ าตะกุยเท้า แสดงออกว่าเรื่ องเช่ นนี้ ให้เ ป็ น


หน้าที่ของมันดีกว่า

เจ้า นายของวิ ญ ญาณทมิ ฬ ก็ คื อ เจ้า นายของมัน เพราะจะอย่า งไร


ทั้งหมดก็ตอ้ งเป็ นครอบครัวเดียวกันในไม่ชา้ อยูแ่ ล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นกลางฤดู หนาวเช่ นนี้ มันมี ขนหนา ร่ างกายก็ใหญ่โต


อบอุ่นกว่ามาก
ราชาสุ นัข ป่ าทางหนึ่ ง ตะกุย เท้า อี ก ทางก็จ้อ งมองวิ ญญาณทมิ ฬด้วย
สายตาเป็ นประกาย วิญญาณทมิฬหดตัว ส่ ายหัวเงี ยบๆ ให้ต๋ ูกูซิงหลัน
อย่างรุ นแรง

หากขึ้ นหลังของเจ้านี่ นี่ ก็มิเท่ ากับว่าเอามันที่ ตวั เล็ก อ่ อนแอและ


บอบบางไปขายให้เปล่าๆ หรอกหรื อ?

มันไหนเลยจะรู ้ว่าสตรี เช่นตู๋กูซิงหลันนั้นไม่มีน้ าใจเลยสักนิ ด ตอบ


รับคาเชิญของราชาสุ นขั ป่ าอย่างรวบรัดในทันที

นางฉวยชุดกระโปรงตัวหนึ่ งมาสวมใส่ พอราชาสุ นขั ป่ าคาบคอเสื้ อ


เอาไว้ได้กเ็ หวี่ยงนางขึ้นไปบนหลัง

ไม่มีใครรู ้ว่าไทเฮาแห่ งแคว้นต้าโจว เสด็จออกจากเมืองหลวงไปทั้ง


ยามราตรี นอกเสี ยจาก….ซูเม่ย

ซูเม่ยล้วงเอาสิ่ งที่ซุกอยูใ่ นท้องออกมา เปลี่ยนเป็ นชุดบุรุษสี แดง


ท่ามกลางแสงดาวระยิบ เสื้ อผ้าและเส้นผมของเขาพลิ้วอยูใ่ นสายลม
งดงามเย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก

เห็นเขาท่องคาถาบนริ มฝี ปาก เงาร่ างสี แดงดุจลูกไฟก็พงุ่ ออกมา

นัน่ เป็ นจิ้งจอกไฟสี แดงที่มีเก้าหางงดงามอย่างยิง่ !

ในยามค่าคืน งดงามดุจปี ศาจเย้ายวน

ซูเม่ยนัง่ อยูบ่ นหลังของจิ้งจอกเก้าหาง ไล่ตามไปอย่างรวดเร็ ว

เขาพลาดจากนางสองครั้งแล้ว….ไหนเลยจะยอมพลาดจากนางอีก
หน

แคว้นเหยียนอยูต่ ิดทะเล ลมทะเลพัดมาจากทะเลตะวันตก

พอพัดมาถึงแคว้นเหยียน ก็ทาให้เกิดความเปี ยกชื้นไปทัว่

และเพราะตอนนี้ เป็ นช่ วงฤดู หนาว ความชื้ นนี้ จึงเย็นเข้าไปถึ งใน


กระดูก
ดิ น แดนสามส่ ว นของแคว้น เหยี ย นที่ จี เ ฉวี ย นยึ ด ได้ไ ปแต่ แ รก
เชื่ อมโยงถึงกันกิ นพื้นที่ถึงครึ่ งหนึ่ งของแคว้นเหยียน มองดูผิวเผิน
แทบจะเป็ นผืนเดียวกันทั้งหมด

เพียงแต่ยงิ่ เข้าใกล้ทิศทางเมืองหลวงของแคว้นเหยียนก็ยงิ่ มีไอหยิน


เข้มข้นขึ้นเรื่ อยๆ

ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้มีไอแห่งความตายที่เข้มข้นปะปนอยู่

แม้แต่ในอากาศก็ยงั มีหมอกสี ดาที่สามารถมองเห็นได้ดว้ ยตาเปล่า

ข้างทางมีโครงกระดูกอยูไ่ ม่นอ้ ย ถึงจะบอกว่าเป็ นกระดูก ….แต่สิ่ง


ที่ตายไปแล้วเหล่านั้นกลับยัง ‘มีชีวิต’

และท่ามกลาง ‘โครงกระดู ก ’ เหล่านั้น ก็ยงั มี ‘ศพ’ มนุ ษย์ ทั้งๆ ที่


ขาดวิ่นเป็ นชิ้นแล้ว แต่กย็ งั แยกเขี้ยวกางเล็บปี นป่ ายขึ้นมาอยูต่ ลอด
ท่ามกลางฤดูหนาวแต่กลับมีแมลงวันเคลื่อนไหววนเวียนอยูโ่ ดยรอบ
วางไข่ลงบน ‘ศพ’ พวกนั้นอย่างไม่แยแส

ตู๋กซู ิ งหลันรู ้ทนั ทีเลยว่าเกิดเรื่ องใหญ่ข้ ึนแล้ว

สถานการณ์เช่นนี้……ในโลกก่อนนางก็เคยพบเห็นมาครั้งหนึ่ง

ในโลกเดิมของนางเรี ยกพวกมันว่า ‘ซอมบี้’

พวกมันแพร่ เชื้อได้อย่างรวดเร็ ว หากว่าควบคุมได้ไม่ทนั การ ทัว่ ทั้ง


แผ่นดินก็จะถึงจุดจบ

ต่อให้เป็ นนักพรตที่เก่งกาจ เมื่อต้องมาเผชิญกับสิ่ งเหล่านี้ ก็ยงั ตึงมือ


ยากลาบาก

นี่ เป็ นเชื้ อโรคที่ แพร่ กระจายติ ดต่ อกันทางร่ างกายสิ่ งมี ชีวิต ไม่ ใช่
พวกภูติผปี ี ศาจ ไม่ใช่เหล่าวิญญาณแค้นที่ยงั พอจะควบคุมได้บา้ ง
ต่อให้เป็ นเหล่านักพรต หากว่าติดเชื้ อเข้าไปแล้วก็ยงั ต้องกลายเป็ น
ซอมบี้ไปเช่นกัน

ตอนนั้นขนาดเพียงแค่ซอมบี้กลุ่มเล็กๆ ยังทาให้รัฐบาลของประเทศ
แห่ งหนึ่ งต้องตัดสิ นใจระเบิดเมืองทั้งเมืองทิ้งไปเพื่อแลกกับความ
ปลอดภัย

นางไม่รู้ว่าทาไมโลกมิติน้ ี ถึงได้เกิดสถานการณ์ระบาดเช่ นนี้ ข้ ึ นมา


ได้

ในใจของนางครุ่ นคิดถึงแต่จีเฉวียน …..เขาอยูใ่ นเมืองจิงหวา…..

ตู๋กูซิงหลันบุกไปถึงเมืองจิงหวาอย่างรี บร้อนโดยมิได้หยุดพักผ่อน
ดื่มกินตลอดทาง

หากว่ า โรคร้ า ยนี้ ระบาดออกมาได้ถึ ง ภายนอกแล้ว ล่ ะ ก็ แสดงว่า


ภายในเมืองจิงหวาก็คงจะมิได้ดีกว่าสักเท่าไร

ในใจของนางเกิดความกังวลถึงสถานการณ์ที่แย่ที่สุดเอาไว้แล้ว
ต่อให้จีเฉวียนแข็งแกร่ งเพียงไร แต่ว่าเมื่อต้องเผชิญกับฝูงซอมบี้นบั
พันนับหมื่น ต่อให้เป็ นเขาก็นบั ว่าอันตรายอยูด่ ี

ถึงเขาจะมีความสามารถอยูก่ บั ตัว แต่นนั่ ก็เป็ นวิชาที่ใช้ต่อสู ้กบั ภูติผี


ปี ศาจ ไม่ใช่สาหรับต่อสู ้กบั สิ่ งที่อยูน่ อกเหนือขอบข่ายพวกนี้

ตลอดทางที่ มา ตู๋ กูซิงหลันเองก็เผชิ ญกับการบุ กเข้ามาโจมตี อย่าง


กระทันหันจากซอมบี้พวกนั้นอยูไ่ ม่นอ้ ย

ครั้งนี้นางต้องพับยันต์เก็บไป เปลี่ยนเป็ นใช้กาลังแทน

ก่อนออกเดินทางนางไปเบิกเอาธนู คนั ใหญ่มากจากจวนตระกูลตู๋กู


นัน่ เป็ นธนูของเจียงเย่วที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้เป็ นอย่างดี ยังดีดุจเดิม

ตู๋ กูซิ ง หลันเหมื อ นดัง่ เครื่ อ งยิง ธนู ที่ ไ ร้ จิ ต ใจ ทุ ก ครั้ งล้ว นยิง อย่า ง
แม่นยา ทะลวงศีรษะเหล่านั้นระเบิดไป
ซอมบี้เหล่านั้นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ ว แต่ว่าก็ยงั ไม่เร็ วไปกว่าธนู
ของนาง

ติ๊งต๊องยิ่งเก่งกล้าสามารถ อ้าปากขึ้นมาก็พ่นไฟใส่ ไม่สนว่าเจ้าเป็ น


คนหรื อเป็ นศพ เผาก่อนค่อยว่ากัน

มันนัง่ กระพือปี กอยู่ดา้ นหน้าตู๋กูซิงหลันใช้ไฟสี ทองเปิ ดทางให้กบั


นาง ตลอดทางนี้ มี ผูห้ ลบหนี เอาชี วิตรอดอยู่ไม่น้อย ต่างก็หนี เอา
ชีวิตรอดออกมาจากเมืองหลวงของแคว้นต้าเหยียน ตอนนี้กลับมองดู
สาวน้อยผูห้ นึ่งเดินทางสวนเข้าไปเพียงลาพัง

สายตาของนางมีแต่ความมุ่งมัน่ นางยิงธนูได้อย่างแม่นยา องอาจเสี ย


ยิง่ กว่าบุรุษหลายเท่า

ไม่มีใครรู ้ ว่าสาวน้อยผูน้ ้ ี มาจากที่ ใด พวกเขาไม่มีโอกาสและไม่ มี


เวลาจะไถ่ถาม

ตอนนี้ เมืองหลวงแคว้นเหยียนเป็ นขุมนรกไปแล้ว พวกเขาไหนเลย


จะยังมีเวลาไปสนอกสนใจเรื่ องของผูอ้ ื่น?
ยามที่ ต๋ ู กูซิงหลันรี บรุ ดไปถึ งเมื องจิ งหวานั้น ก็เห็ นที่ นั่นมี แต่ ซาก
ปรักหักพังทัว่ ทั้งเมืองถูกเผาทาลาย พระเพลิงเผาผลาญทั้งเมืองอยู่
หลายวันหลายคืน กระทัง่ เมืองที่รุ่งเรื องถูกเผาทาลายไป บนกาแพง
เมืองยังมีธงสัญลักษณ์ของต้าโจวที่ยงั ไม่ร่วงลงมา

“สายไปแล้ว เขาไม่อยูแ่ ล้ว” วิญญาณทมิฬสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน


ว่าสายตาของตู๋กซู ิ งหลันมีแต่ความเคร่ งเครี ยด
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 372 เจ้ าคิดถึงเราขนาดนีเ้ ชียวหรื อ?
ตู๋กซู ิงหลันหยุดอยูท่ ี่นนั่ เนิ่นนาน สายตาของนางจับจ้องอยูบ่ น
กาแพงเมือง ราวกับจะได้เห็นจีเฉวียนที่ยนื อย่างองอาจอยูบ่ นนั้น
นานพักใหญ่ นางถึงได้กม้ ศีรษะลงมา ขยับข้อมือเบาๆ ก็เห็นว่า
เส้นด้ายบนข้อมือนั้นยังอยู่
นี่เป็ นด้ายที่จีเฉวียนเคยผูกเอาไว้ระหว่างพวกนางเมื่อนานมาแล้ว แต่
ไหนแต่ไรก็ไม่เคยถอดออก
ภายในขอบเขตระดับหนึ่ง ต่างก็สามารถรู ้สึกถึงความคงอยูข่ องอีก
ฝ่ ายผ่านเส้นด้ายนี้
ด้ายแดงปรากฏแสง แสดงว่าเขาอยูห่ ่างจากตนเองไปไม่ไกล
นอกเมืองจิงหวากลายเป็ นดินแดนของซอมบี้ไปแล้ว คันธนูในมือ
ของตู๋กซู ิงหลันนับตั้งแต่ยกขึ้นมาก็ไม่เคยได้วางลงมาตลอด
ติ๊งต๊องพ่นไฟมาตลอดทางจนตอนนี้รู้สึกคอแห้งเสี ยแล้ว กระทัง่
ลาคอยังสาลักควันออกมา
ทาเอามันอยูๆ่ ก็รู้สึกว่าท่าทางเช่นนี้ไม่หล่อเหลาสักเท่าไร
“เจ้าฮ่องเต้สุนขั ผูน้ ้ นั ชะตาชีวิตยิง่ ใหญ่ ไหนเลยจะตายไปได้ง่ายๆ
ไม่ตอ้ งกังวลเกินไปหรอก” วิญญาณทมิฬยังคงปลอบตู๋กซู ิงหลัน
ต่อไป
ตอนนั้นที่ซื่อมัว่ ไปปราบพวกซอมบี้ ไม่เห็นนางจะมีท่าทีกงั วลใจใน
ตัวอาจารย์เท่านี้มาก่อน
ว่าแล้ว…..บุรุษที่รู้จกั กล่าวคาพูดหวานหูยอ่ มมีน้ าตาลกิน
ตู๋กซู ิงหลันไม่สนใจมันอีก เอาแต่จบั ความรู ้สึกจางๆ บนเส้นด้าย
จากนั้นก็ตามหาจีเฉวียนต่อไป
…………………….
เมืองหลวงแคว้นเหยียน
เกรงว่าที่นี่คงจะเป็ นพื้นที่ที่ยงั สงบปลอดภัยเพียงแห่งเดียวในแคว้น
เหยียนแล้ว
ฮ่องเต้ผชู ้ ราประชวรอยูบ่ นเตียง รับฟังข่าวสารที่ถูกส่ งมาก็พระ
สรวลเสี ยงดังในทันที….”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า จีเฉวียนไอ้เด็กเมื่อวานซืนนัน่ สมน้ าหน้า…..สมน้ าหน้า
มันแล้ว…..”
พระสรวลแล้ว พระองค์กม็ ีพระกรรสะอีกหลายครั้ง แต่ละครั้งแทบ
จะทาให้ขอ้ กระดูกของพระองค์หลุดออกจากกัน
ข้างกายพระองค์มีคนสวมชุดดาอยูผ่ หู ้ นึ่ง เขาสวมหมวกคลุมหน้าสี
ดาเอาไว้ ยืน่ มือมาช่วยตบพระขนองของพระองค์เบาๆ “ฝ่ าบาท
สถานการณ์ในตอนนี้ได้พสิ ู จน์แล้วว่า การตัดสิ นพระทัยของ
พระองค์น้ นั ถูกต้องแล้ว อย่าได้ทรงตื่นเต้นจนเกินไป จีเฉวียนผูน้ ้ นั
จะต้องตายอย่างอนาถอย่างแน่นอน”
“มันต้องการแคว้นต้าเหยียนของเรา เอาเลย เราจะให้มนั ไป! มอบ
แคว้นต้าเหยียนที่มีแต่ไอแห่งความตายคละคลุง้ ให้มนั ไป น่า
เสี ยดาย….ที่ตอนนี้มนั ไม่มีชีวิตจะมารับไปเสี ยแล้ว!” ฮ่องเต้ชรา
ตรัสอย่างยินดี
จากนั้น พระองค์กเ็ งยพระพักตร์ทอดพระเนตรไปยังคนชุดดา “นี่
ต้องลาบากพิษแห่งความตายของเจ้าแล้ว ถึงได้ทาให้สามารถทาลาย
ล้างทัพอาชาเหล็กของจีเฉวียนได้โดยง่าย”
“สามารถทางานถวายฝ่ าบาท ถือเป็ นเกียรติของกระหม่อม” คนชุด
ดาทูลตอบด้วยความเคารพ “ที่ตอ้ งลาบากก็คือฝ่ าบาทที่ทรงรับภาระ
อันยิง่ ใหญ่ สามารถหักพระทัยจัดการเรื่ องนี้ได้ และบางทีอาจเพราะ
เหตุน้ ีกระมัง แคว้นต้าเหยียนที่สถาปนามานานห้าร้อยปี ถึงได้
สามารถยืนหยัดอยูเ่ หนือแคว้นต้าโจวที่พ่ งึ จะตั้งมาเพียงสามรัชสมัย
เท่านั้น?”
“ยิง่ ไปกว่านั้น จีเฉวียนผูน้ ้ นั ยังเคยเป็ นตัวประกันอยูใ่ นแคว้นต้าเห
ยียนเสี ยด้วยซ้ า สาหรับแคว้นต้าเหยียนแล้ว เขามันก็แค่สตั ว์ช้ นั ต่า
หยาบช้า ที่ไม่เพียงไม่รู้จกั สานึกบุญคุณที่ตา้ เหยียนไม่ได้เอาชีวิต
กลับยังกล้าหันมาแว้งกัดเจ้านายได้อีก ที่จริ งฝ่ าบาททรงมีพระเมตตา
ต่อเขามากแล้ว”
ฮ่องเต้ผชู ้ ราทรงรู ้สึกว่าเขากล่าวอย่างมีเหตุผล
ก่อนที่จะทรงประชวรอยูแ่ ต่บนแท่นบรรทม รัชทายาทที่พระบาท
ขาดเหยียนหยุนกับองค์ชายเจ็ดเหยียนฉิ ว และคนกลุ่มใหญ่ใน
ราชวงศ์แคว้นเหยียน ต่างพากันมาคุกเข่าอยูเ่ บื้องหน้าพระองค์
ฮ่องเต้ผชู ้ รากวาดพระเนตรมองดูพวกเขา ทั้งยังพระกรรสะอย่าง
รุ นแรงออกมาอีกหลายครั้ง
“จีเฉวียนไอ้เด็กนัน่ มันฆ่าบุตรสาวสุ ดที่รักของเรา ตัดขารัชทายาท
ของเราไปข้างหนึ่ง วันนี้มนั ยังคิดจะกลืนกินแคว้นต้าเหยียนของเรา
แคว้นต้าเหยียนของเราต่อให้ตอ้ งเปลี่ยนเป็ นซากศพก็จะไม่ขอยอม
ให้มนั ได้สมดัง่ ใจหวัง ยังดีที่ตอนนี้แนวหน้าส่งข่าวมาแล้วว่ามันถูก
ผีดิบกัดเข้าแล้ว”
“เหยียนหยุน นี่ถือว่าเราได้แก้แค้นให้กบั เจ้าแล้ว” ฮ่องเต้ชราทรงจับ
จ้องไปที่เหยียนหยุน “เมื่อเราตายไปแล้ว เจ้าต้องสื บทอดปณิ ธาน
ของเรา ไม่อาจก้มศีรษะให้กบั ต้าโจวตลอดกาล!”
“เหยียนฉิ ว หากว่าพี่ชายของเจ้ากล้าก้มศีรษะ เจ้าก็ฆ่าเขาทิ้งเสี ย แล้ว
ให้เจ้าขึ้นเป็ นฮ่องเต้แห่งต้าเหยียนต่อไป!”
“เรารู ้ดี ว่าพวกเจ้าพี่นอ้ งยามปกติกม็ ิได้ปรองดองกัน แต่วา่ ตอนนี้
มาถึงจุดที่แว่นแคว้นใกล้จะล่มสลายอยูแ่ ล้ว เราหวังให้พวกเจ้าผนึก
กาลังต่อสู ้กบั ภายนอก”
เหยียนหยุนเงียบงันไม่พดู ไม่จา แต่เหยียนฉิวกลับรับคาอย่างกระตื
นรื อร้น เขาแทบจะคุกเข่าลงไปข้างกายฮ่องเต้ผชู ้ รา คว้าพระหัตถ์
ของพระองค์เอาไว้ “พระบิดาโปรดวางพระทัย ลูกจะต้องทาตาม
พระประสงค์ และจะปรองดองกับรัชทายาท ต่อให้พวกเราต้อง
เปลี่ยนเป็ นผีดิบก็ไม่ขอยอมแพ้ต่อแคว้นต้าโจว”
หึ….กลายเป็ นผีดิบรึ ? นัน่ ไม่มีทางเป็ นไปได้อยูแ่ ล้ว!
คนชุดดาที่อยูข่ า้ งกายพระบิดา เขาเป็ นผูเ้ สาะหามาเอง พวกเราทา
ข้อตกลงกันเอาไว้เรี ยบร้อยแล้ว
“พระบิดา ที่จริ งประชาชนเหล่านั้นล้วนเป็ นผูบ้ ริ สุทธิ์….” ในก้นบึ้ง
หัวใจของเหยียนหยุนนั้นไม่ได้เห็นด้วยกับวิธีการของฮ่องเต้ผชู ้ รา
“แคว้นเหยียนเป็ นสิ่ งที่บรรพชนทรงสร้างขึ้นมาจนเจริ ญรุ่ งเรื องและ
เป็ นดินแดนที่งดงาม …….แต่วนั นี้กลับกลายเป็ นนรกบนดิน เป็ น
เพราะพระบิดาทรงเปลี่ยนประชาชนให้กลายเป็ นซากศพที่เดินได้
ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง …..แคว้นต้าเหยียนนี้จึงไม่ใช่
แคว้นต้าเหยียนดังเดิมอีกแล้ว”
ตอนที่อยูใ่ นแคว้นเซอปี่ ซือ เขาก็รู้แล้วว่า สักวันหนึ่ง จีเฉวียนจะต้อง
กลืนกินพวกเขาลงไป
ตั้งแต่แรกแล้วขณะที่พวกเขากาลังเหลิงลาพองกับความยิง่ ใหญ่ของ
ตนเองอยูน่ ้ นั จีเฉวียนเองก็เข้มแข็งยิง่ กว่าที่ผใู ้ ดจะคาดคิดอยูแ่ ล้ว
เมื่อเขาเสี ยขาไป ความคิดที่จะต่อต้านก็ถูกจีเฉวียนกลืนกินไปจน
หมดสิ้ น
ชัว่ ชีวิตนี้เพียงคิดที่จะอยูอ่ ย่างสงบสุ ข ถึงแม้ไม่อาจจะได้เป็ นฮ่องเต้
แห่งต้าเหยียน….เขาก็ขอยอมรับแล้ว
แต่ตอนนี้พอต้องมาทนเห็นแคว้นต้าเหยียนกลายเป็ นขุมนรกไปกับ
ตา ในหัวใจของเขาก็มีแต่ความเจ็บปวด
เหยียนหยุนทูลพลาง ก็อดจะเหลือบตามองดูคนชุดดาผูน้ ้ นั อีกหลาย
ครั้ง
คนชุดดาผูน้ ้ นั ปิ ดบังใบหน้าอย่างมิดชิด ทาให้ไม่อาจมองเห็น
ใบหน้าของเขาได้เลย
แต่ถึงจะเป็ นเช่นนั้น กลิ่นอายที่กาจายออกมาจากร่ างของเขาก็ทาให้
ผูค้ นรู ้สึกไม่สบายใจอยูด่ ี
อีกทั้งคนผูน้ ้ ีกย็ งั มีสิ่งที่ทาให้คนกลายเป็ นผีดิบ เห็นชัดว่าเขาเป็ น
บุคคลอันตราย
เขาไม่อาจชักจูงพระบิดาให้ออกห่างจากคนผูน้ ้ ีได้…..เขามันคนไร้
ความสามารถ
คาพูดของเขา ทาให้ฮ่องเต้ผชู ้ ราทรงพิโรธจนแทบจะลุกขึ้นมานัง่ ได้
“เจ้ามันเนรคุณ!”
“พระบิดาอย่าได้ทรงพิโรธ” เหยียนฉิ วรี บเข้ามาปลอบพระองค์
“หากทรงขุ่นเคืองจะทาร้ายพระพลามัยของพระองค์เอง นัน่ ไม่ดีเลย
พะยะค่ะ”
“เจ้าดูสิ ฉิวเอ๋ อร์รู้เรื่ องขนาดไหน! ไหนเลยจะเนรคุณเหมือนกับเจ้า
กัน!” ฮ่องเต้ผชู ้ ราขุ่นเคืองพระทัยอย่างเห็นได้ชดั “เราเห็นว่าเจ้ามัน
ถูกไอ้เด็กน้อยอย่างจีเฉวียนทาให้หวาดกลัวจนกลายเป็ นสุ นขั ไป
แล้ว หากว่าเจ้ามันไร้ความสามารถถึงเพียงนี้ เช่นนั้นบัลลังก์ฮ่องเต้
แห่งต้าเหยียนก็ยกให้นอ้ งชายของเจ้าไปก็แล้วกัน!”
ฮ่องเต้ผชู ้ ราตรัสแล้วก็สงั่ ให้คนไปนาตราลัญจกรมา
คิดจะส่ งมอบบัลลังก์ให้กบั เหยียนฉิ วเสี ยแต่ตอนนี้
“จีเฉวียนไอ้เด็กเมื่อวานซืนนัน่ ถูกผีดิบกัดไปแล้ว อีกเพียงไม่นาน
มันก็จะต้องกลายเป็ นผีดิบ กองทัพของแคว้นต้าโจวจะต้องจบสิ้ นอยู่
บนแผ่นดินต้าเหยียนของเรา เมื่อไม่มีไอ้เด็กน้อยจีเฉวียนนัน่ แล้ว ต้า
โจวจะตกอยูใ่ นความวุน่ วาย พวกเราก็จะสามารถฉวยโอกาสนัน่
เปลี่ยนเป็ นฝ่ ายรุ ก”
ฮ่องเต้ผชู ้ ราทรงกรรสะอย่างรุ นแรงอีกหลายครั้ง “ขอเพียงเจ้าชักนา
ผีดิบเหล่านั้นไปยังแคว้นต้าโจว ในเวลาเพียงไม่นาน แคว้นต้าโจ
วก็จะกลายเป็ นนรกบนดินเช่นกัน”
“โรคผีดิบนัน่ ไม่มียารักษา จีเฉวียนและแคว้นต้าโจวจะต้องได้รับ
ค่าตอบแทนจากการกระทาของพวกมัน!”
ฮ่องเต้ผชู ้ ราหายพระทัยอย่างกระหืดกระหอบ แม้แต่พระเนตรก็ปูด
โปนออกมา
“พระบิดาโปรดวางพระทัย ลูกจะต้องทาให้สาเร็ จตามพระประสงค์”
เหยียนฉิ วแสดงออกดัง่ ว่าเป็ นบุตรสุ ดกตัญญู
“ฝ่ าบาทโปรดวางพระทัย กระหม่อมจะคอยสนับสนุนอยูเ่ คียงข้าง
ฮ่องเต้พระองค์ใหม่” คนชุดดาก็แสดงออกถึงความจงรักภักดี
“มีคารับรองจากเจ้า เราก็วางใจได้แล้ว….” ฮ่องเต้ผชู ้ ราคว้ามือของ
คนชุดดาเอาไว้ ตบลงไปบนหลังมือนัน่ เบาๆ
หลังจากนั้นก็คารามเสี ยงดังขึ้นมาอีก “จีเฉวียนไอ้เด็กเมื่อวานซืน….
เจ้าจะต้องได้รับผลจากการกระทาของเจ้า เจ้ามันสมควรตาย…
สมควรตายเฮอะ….”
น้ าเสี ยงที่แหบพร่ าของพระองค์ดงั สะท้อนไปทัว่ ทั้งพระตาหนัก
บรรทม
ทันทีที่สิ้นเสี ยงก็ได้ยนิ เสี ยงคนถีบประตูบานใหญ่เปิ ดออก
ที่ดา้ นนอกประตู มีเงาของร่ างในชุดสี ดาทองยืนอยู่ ร่ างนั้นบดบัง
แสงสว่างจากภายนอกทั้งหมดเอาไว้
ดวงเนตรหงส์ที่เย็นชาคู่น้ นั จับจ้องไปยังพระวรกายของฮ่องเต้ผชู ้ รา
“ฮ่องเต้แคว้นเหยียน เจ้าคิดถึงเรามากขนาดนี้เชียวหรื อ?”
……………………………

เหยียนฉิ ว (虬 [qiú] ) : ‘ฉิ ว’ ตัวนี้ในภาษาจีนมีการกล่าวถึงอยูส่ อง


ตารา ตาราแรกแปลว่ามังกรที่ยงั เป็ นเพียงรุ่ นลูก มังกรเด็กๆ ที่ยงั ไม่
มีเขา พึ่งเกิดขึ้นมาไม่กี่ร้อยปี (ชื่อเรี ยกจะเปลี่ยนไปตามอายุ แบบว่า
ยิง่ แก่กย็ งิ่ เก่ง) อีกตาราหนึ่งบอกว่า มังกรที่ไม่มีเขานั้นไม่ใช่มงั กร
ดังนั้นฉิวที่หน้าตาเหมือนมังกรแต่ไม่มีเขาจึงเท่ากับ ‘งู’ นัน่ เอง เรา
มาดูกนั ว่าเหยียนฉิ วจะได้เป็ นมังกรหรื องูกนั แน่?
ตอนต่อไป “ความเมตตาในฐานะที่เป็ นฮ่องเต้”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 373 ความเมตตาในฐานะที่เป็ น
ฮ่ องเต้
น้ าเสี ยงที่ทุม้ ลึกนั้นแทบจะดังสะท้อนไปทัว่ ทั้งพระตาหนักบรรทม
ทุกคนต่างก็พากันมองออกไปที่ดา้ นนอกประตูใหญ่
เงาร่ างที่เปล่งประกายสี ทองนั้นดูราวกับจอมมารที่ผดุ ขึ้นมาจากนรก
ทั้งๆ ที่มีเพียงแค่คนๆ เดียวแต่พลังที่กดดันออกมากลับให้ความรู ้สึก
ว่าเหนือกว่ากองทัพนับพันนับหมื่น
ฮ่องเต้ผชู ้ ราของแคว้นเหยียนเบิกพระเนตรโต ตรัสอะไรไม่ออก
ทั้งสิ้ น
เป็ นไป เป็ นไปได้อย่างไร…..
เมื่อครู่ ทหารใต้บญั ชาพึ่งจะมาส่ งข่าวว่าไอ้เด็กน้อยจีเฉวียนนัน่ ถูกผี
ดิบกัด จนร่ างกายติดโรคไปแล้ว
ทาไมมันถึงได้เข่นฆ่าจนบุกเข้ามาถึงวังของพระองค์ได้กนั ทั้งยัง
เงียบงันจนไร้สุ้มเสี ยง?
เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรออกไป ก็เห็นว่าในพระหัตถ์ของจีเฉวียน
นั้นทรงง้าว เสด็จเพียงไม่กี่กา้ วก็เข้ามาถึงในตาหนัก
ที่ผา่ นมาจีเฉวียนทรงใช้กระบี่มาโดยตลอด แต่ตอนนี้กลับ
เปลี่ยนเป็ นง้าวเล่มหนึ่ง
ง้าวเล่มนั้นยาวเพียงหนึ่งจั้ง (1.3เมตร) คมง้าวสี ดาทองแม้วา่ จะอยูใ่ น
ที่อบั แสงก็ยงั เปล่งประกายที่เย็นยะเยือกออกมา
ท่ามกลางอากาศที่เหน็บหนาวในฤดูหนาว
แต่ทุกก้าวที่สาวพระบาทเข้ามาล้วนเพิม่ พูนไอเย็นที่กาจายออกจาก
พระวรกายขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง จนทาให้คนทรมานเสี ยยิง่ กว่าลมหิ มะ
อีก
ในตาหนักเดิมทีก็มีเหล่าองครักษ์อยูไ่ ม่นอ้ ย แต่ตอนนี้กลับไม่มีผใู ้ ด
กล้าเข้าไปขวางทางพระองค์
ยิง่ ไปกว่านั้น…..พวกเขายังพากันถอยออกไปด้านหลังอีกด้วย
แสงโคมในพระตาหนักบรรทมสว่างอย่างยิง่ เมื่อพระองค์เสด็จเข้า
มาถึงกลางพระตาหนักก็ทาให้ทุกผูไ้ ด้เห็นพระพักตร์ได้อย่างชัดเจน
ความหนาวเย็นที่พาให้สนั่ สะท้าน ครึ่ งพระพักตร์เปรอะเปื้ อนไป
ด้วยเลือด นัน่ เป็ นใบหน้าที่งดงามอย่างที่สุดเกินจะหาใดเปรี ยบ
เลือดแข็งตัวจนจับเป็ นก้อนอยูบ่ นพระพักตร์ที่งดงามยากจะ
เปรี ยบเทียบ น่าเสี ยดายที่….มีสิวเต็มไปหมด?
ไม่ถูกต้อง…..นี่จะต้องเป็ นสัญญานเตือนของอาการโรคผีดิบกาเริ บ
ของเขา
ทั้งฮ่องเต้ผชู ้ ราและคนอื่นๆ ต่างก็คิดเช่นนี้
แต่คนชุดดาผูน้ ้ นั กลับถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ภายใต้ผา้ โปร่ งสี ดา
ดวงตาคู่น้ นั จับจ้องอยูท่ ี่จีเฉวียน เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อ ว่าพระองค์
จะบุกเข้ามาได้ถึงที่นี่?
“ถวายอารักขาสิ มัวตกตะลึงอะไรกันอยู?่ ” องค์ชายเจ็ดเหยียนฉิวมี
ปฏิกริ ยาขึ้นมาเป็ นคนแรก ทั้งยังหันไปคว้าโล่จากทหารด้านข้างมา
กันเอาไว้เบื้องหน้าตนเอง
ไม่ใช่เพราะว่าเขาเกรงกลัวจีเฉวียน เพียงแต่วา่ หากอีกสักครู่ จีเฉวียน
อาการกาเริ บขึ้นมา อาละวาดกัดคน นัน่ ต่างหากที่จะทาให้ลาบาก
ที่สุด
ที่เขาร้องเรี ยกให้ถวายอารักขาก็ไม่ใช่เพียงแค่จะให้อารักขาฮ่องเต้
ชราเท่านั้น
ไอ้แก่ผหู ้ นึ่งอยูม่ าตั้งนานถึงเพียงนี้กส็ มควรที่จะตายๆ ไปได้แล้ว
กระมัง?
เหยียนหยุนอ้าปากค้างขึ้นมา เขายังคงได้แต่กมุ ไม้เท้าด้ามหนึ่งเอาไว้
ครั้งก่อนยามเมื่อแยกกันในแคว้นเซอปี่ ซือ จีเฉวียนทาให้เขาเกิดเงา
มืดอยูใ่ นใจอย่างล้ าลึก
ก็ใครเลยจะคาดคิดได้กนั ? ว่าเด็กน้อยขนอ่อนที่ผา่ ยผอมในตอนนั้น
คนที่เคยถูกเขารังแกมาก็ไม่นอ้ ย ถึงตอนนี้กลับจะแข็งแกร่ งจนน่า
หวาดกลัวได้ขนาดนี้
เมื่ออยูต่ ่อหน้าเขา ตนก็ได้แต่กม้ ศีรษะลงไปอย่างศิโรราบเท่านั้น
หากจะบอกว่าไม่ได้เกลียดชังจีเฉวียน นั้นคงเป็ นไปไม่ได้
เพียงแต่เขาไม่กล้า…….
ดวงพักตร์ของฮ่องเต้เย็นชา เสด็จเข้ามาจนเกือบจะถึงเบื้องหน้าของ
ฮ่องเต้ชราแคว้นเหยียน
เหล่าองครักษ์ถึงได้ค่อยได้สติข้ ึนมาพากันขยับเข้ามาขวางเขาไว้
อย่างแน่นขนัด ช่วยกันล้อมฮ่องเต้ชราและเหยียนฉิ วเอาไว้ภายใน
ฝ่ าบาททรงหยุดอยูท่ ี่เบื้องหน้าของเหล่าองครักษ์ ดวงเนตรทั้งคู่ยงั คง
จับจ้องฮ่องเต้ชราอยูเ่ ช่นนั้น พลางตรัสเรี ยกด้วยน้ าเสี ยงเย็นชาว่า
“เหยียนเหลียน”
เหยียนเหลียนคือพระนามของฮ่องเต้ผชู ้ ราแห่งต้าเหยียน
พระองค์ทรงคุน้ เคยกับการที่ผคู ้ นทั้งหลายต่างเรี ยกหาพระองค์ดว้ ย
ความเคารพว่าฝ่ าบาท พออยูๆ่ ถูกเรี ยกชื่อตรงๆ ขึ้นมา ก็รู้สึกไม่
คุน้ เคยสักเท่าไร
“ไอ้เด็กน้อยจีเฉวียน!” ฮ่องเต้ผชู ้ ราแสดงพระพิโรธรุ นแรง “เจ้าฆ่า
บุตรสาวสุ ดที่รักของเรา ตัดขาบุตรชายของเรา แย่งชิงดินแดนของ
เรา วันนี้ยงั กล้าบุกเข้ามาถึงในวังของเรา ทาไม เจ้ากลัวว่าจะตายช้า
ไปหรื ออย่างไร?”
ฮ่องเต้ชราระเบิดพระพิโรธ แทบจะทรงโผขึ้นมาจากเตียงบรรทม
ตอนที่ยงั ทรงหนุ่มแน่นพระองค์กเ็ คยมีช่วงเวลาที่ยงิ่ ใหญ่เกรี ยงไกร
มาก่อน หากว่าสามารถกลับไปหนุ่มแน่นได้อีกสักหลายสิ บปี ใคร
ว่าพระองค์จะมิใช่คู่มือของจีเฉวียนกัน
จีเฉวียนทรงคร้านที่จะอธิบายอะไรให้เขาฟังแล้ว เหยียนเฉียวหลัว
ตายเพราะความร้ายกาจของนางเอง เหยียนหยุนที่ขาขาดยิง่ มิได้เกี่ยว
อะไรกับพระองค์เลยแม้แต่นอ้ ย
เรื่ องที่เป็ นเสมือนน้ าคราเหล่านี้ เมื่อผูอ้ ื่นปั กใจว่าตนเป็ นคนทา จะ
อธิบายไปก็ไร้ประโยชน์
“เดิมที่เราคิดว่า หลังการาบแคว้นเหยียนแล้ว จะเหลือทางรอดให้กบั
ราชวงศ์เหยียนของเจ้าสายหนึ่ง” จีเฉวียนประทับยืนอยูท่ ่ามกลางโล่
มากมาย พระหัตถ์ใหญ่ของพระองค์กมุ ง้าวเอาไว้อย่างแนบแน่น
ขนาดเส้นเลือดหลังพระหัตถ์กย็ งั ปูดโปนขึ้นมา
“แต่วา่ คิดไม่ถึงเลย เพื่อบัลลังก์แคว้นเหยียน เจ้ากลับผลักไส
ประชาชนแคว้นเหยียนลงไปในกองไฟ” พอตรัสถึงตรงนี้สีพระ
พักตร์ของจีเฉวียนก็ยงิ่ มืดครึ้ มลงไปอีกหลายส่ วน
“เมืองจิงหวากลายเป็ นกองขี้เถ้า กว่าครึ่ งของแคว้นเหยียนกลายเป็ น
นรกบนดิน นี่คือสิ่ งที่เจ้าต้องการหรื อ?”
“เจ้าเคยมีความเมตตาในฐานะที่เป็ นฮ่องเต้บา้ งสักนิดหรื อไม่?”
“ไอ้เด็กน้อยจีเฉวียน ทั้งหมดก็เป็ นเพราะว่าเจ้าบุกโจมตีแคว้นเหยียน
ของเราก่อน เจ้าคิดจะทาลายแคว้นเหยียนของเรา แล้วตอนนี้ยงั จะมา
พูดถึงเรื่ องความเมตตากับเราอีกหรื อ?” ฮ่องเต้ผชู ้ ราแย้มสรวลเย็นชา
พระองค์ถึงขนาดป่ ายปี นลงมาจากเตียงบรรทม ผลักพวกองครักษ์ที่
ถือโล่บงั ไว้ออกไป จดจ้องไปที่จีเฉวียนอย่างคลุม้ คลัง่
“หากว่าไม่โจมตีแคว้นของเรา ประชาชนของเราก็ยงั อยูอ่ ย่างสงบ
สุ ขสามัคคีดงั เดิม ที่แคว้นเหยียนกลายเป็ นนรกทั้งหมดก็เป็ นเพราะ
ฝี มือของเจ้า เจ้ามันมีสิทธิอะไรจะมาสัง่ สอนเรากัน?”
“เรื่ องเดียวที่เราสานึกเสี ยใจก็คือ ตอนที่เจ้ามาเป็ นตัวประกันอยูใ่ น
แคว้นเหยียนของเรา เราไม่ได้ฆ่าเจ้าสัตว์เดรัจฉานอย่างเจ้ากับมือ!
ถึงได้ทาให้กลายเป็ นเภทภัยต่อแคว้นเหยียนของเรา”
“นับตั้งแต่ที่เราบุกเข้าแคว้นเหยียน ก็ไม่ได้ทาร้ายราษฏร์เลยสักนิด”
จีเฉวียนตรัสพลางกระแทกง้าวในพระหัตถ์ลงบนพื้น
ทันทีที่ได้ยนิ เสี ยงกระแทกโครมลงไป พื้นโดยรอบก็ระเบิดออกโดย
มีพระองค์เป็ นศูนย์กลาง
รอยแตกราวนั้นพุง่ กระจายออกไปจนถึงเบื้องพระพักตร์ของเหยียน
เหลียน
ฮ่องเต้เหยียนเหลียนพระบาทอ่อนแรง คนโอนเอนจนเกือบจะล้มลง
ไป
“แคว้นเหยียนสถาปนามาถึงห้าร้อยปี ฮ่องเต้แต่ละพระองค์สืบทอด
คุณธรรม ทนุบารุ งแว่นแคว้นจนรุ่ งเรื อง แต่พอมาถึงรุ่ นของบิดาของ
เจ้ากลับฟุ่ มเฟื อยสุ รุ่ยสุ ร่าย โดยเฉพาะเจ้าที่เอาแต่เสพสุ ขอยูแ่ ต่กบั
สุ รานารี ไม่เคยสนใจชีวิตของราษฏร์ ที่ตอ้ งล่มสลายนั้นก็เป็ นเพียง
แค่เรื่ องช้าหรื อเร็ วเท่านั้น”
พระองค์เป็ นตัวประกันอยูท่ ี่นี่ถึงแปดปี ต้องป่ ายปี นขึ้นมาจากชั้น
ต่าสุ ดของแคว้นเหยียนด้วยพระองค์เองทีละขั้น
ย่อมทรงทราบดีวา่ แคว้นต้าเหยียนที่ภายนอกดูยงิ่ ใหญ่รุ่งเรื องนั้น ใน
กระดูกมีความดามืออยูเ่ พียงไร
คนแย่งชิงอาหารกับสุ นขั คนชั้นล่างเพื่อจะได้อาหารมาสักมื้อ กลับ
ต้องขายบุตรชายบุตรสาวทิ้งไปก็มีมากมาย
ฮ่องเต้ไร้เมตตา ขุนนางไร้คุณธรรม ความเป็ นอยูข่ องคนชั้นสู งล้วน
ได้มาจากการสู บเลือดเนื้อของราษฏร์ ‘รากหญ้า’
แม้แต่……ชีวิตของคนก็ถูกมองเป็ นแค่เพียงวัชพืช
ขนาดตัวประกันเช่นพระองค์ที่เป็ นองค์ชาย ยังถูกจับไปเป็ นทาสเพื่อ
ต่อสู ้กบั สัตว์อสู ร เพื่อให้คนชมดูดว้ ยความสาราญ
เหยียนเหลียนไม่เคยทรงรู ้สึกมาก่อนเลยว่า แคว้นเหยียนที่อยูภ่ ายใต้
การปกครองของเขานั้นผุพงั จากแก่นกระดูกมาเนิ่นนานแล้ว
ดังนั้นเมื่อพระองค์ยกทัพเข้ามายังแคว้นต้าเหยียน มีหลายเมืองที่ไม่
ขัดขวาง ทั้งยังยอมอ่อนน้อม ประชาชนพากันมาตั้งแถวถวายการ
ต้อนรับ นี่ยงิ่ ชัดเจนเลยว่า คนผูน้ ้ ีเป็ นฮ่องเต้แคว้นเหยียนได้ลม้ เหลว
เพียงไร
“พูดจาไร้สาระ!” ต่อให้ตายเหยียนเหลียนก็ไม่ทรงยอมรับ “เรา
ได้รับความเคารพรักจากราษฎร์ เจ้าจะทาสงครามก็ทาสงครามเถอะ
ยังจะต้องมาหาข้ออ้างทาให้ตนเองดูสูงส่ งไปอีกทาไม? จีเฉวียน เรา
เกลียดที่ตนเองมีเมตตาเกินไป ไม่เพียงแต่ปล่อยเจ้าไว้ ทั้งยังเลี้ยงดู
เดรัจฉานอย่างเจ้าให้กินอยูอ่ ย่างสุ ขสบาย!”
เหยียนเหลียนพิโรธจนร่ างสัน่ สะท้าน “ราษฏร์ในแคว้นต้าเหยียนเรา
ต่อให้ตอ้ งตายก็จะไม่ขอศิโรราบให้กบั กองทัพอาชาเหล็กของเจ้า!”
“เป็ นเจ้าที่ทาให้พวกเขาต้องตายและกลายเป็ นผีดิบ เจ้าคือคนที่
สมควรถูกสาปแช่งไปอีกพันปี !”
ผูท้ ี่เป็ นฮ่องเต้ ล้วนไม่มีใครยอมแบกรับชื่อเสี ยงเสี ยหายให้คนก่นด่า
ไปนับพันปี เหยียนเหลียนเองก็เช่นกัน
………………………………………
ไรท์ : นานมากแล้วไรท์เคยอ่านนิยายเรื่ องหนึ่งที่ประชาชนลุกขึ้นมา
ต่อต้านผูค้ รองนคร มีประโยคหนึ่งที่ยงั จาได้จนถึงทุกวันนี้ “สนิม
เหล็กเกิดจากเหล็ก ฉันใดก็ฉนั นั้น”
ตอนต่อไป “สนับสนุนฮ่องเต้ตา้ โจว”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 374 สนับสนุนฮ่ องเต้ ต้าโจว
เขาทาลายแคว้นเหยียนทั้งแคว้นลงไปกับมือ แต่กลับไม่รู้จกั สานึก
เลยสักนิด
เอาแต่จะโยนความผิดที่ตอ้ งถูกก่นด่าประนามไปนับพันปี ไปให้กบั จี
เฉวียนเท่านั้น
จีเฉวียนแย้มสรวลอย่างเย็นชา “อย่างงั้นหรื อ?”
“ย่อมต้องใช่อยูแ่ ล้ว จีเฉวียน เจ้าทาลายชีวิตของประชาชนผูบ้ ริ สุทธิ์
ไปมากมาย ในใจไม่รู้สึกละอายบ้างเลยหรื ออย่างไร? ไม่กลัวหรื อว่า
ยามค่าคืนเวลานอนจะได้ฝันเห็นคนเหล่านั้นมาทวงชีวิตกับเจ้า
หรอกหรื อ?” องค์ชายเจ็ดเหยียนฉิวเองก็เอ่ยขึ้นมาบ้าง
เขาจับจ้องไปที่จีเฉวียนอย่างไม่ละสายตา ในใจก็ครุ่ นคิดอยูว่ า่ ทาไม
มันถึงได้ไม่กลายเป็ นผีดิบเสี ยที
จากด้านที่เขาอยู่ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าบนลาคอของจีเฉวียนมี
บาดแผล แค่ดูกร็ ู ้วา่ ถูกกัดมา
โรคผีดิบนัน่ จะช้าเร็ วก็ตอ้ งกาเริ บขึ้นอย่างแน่นอน พวกเขาแค่คอย
ถ่วงเวลาเอาไว้ มันก็จะต้องมีแต่ตายกับตายเท่านั้น
แนวหน้าส่ งข่าวมาแล้วว่า ทหารม้าของจีเฉวียนถูกทาลายไปในเมือง
จิงหวากว่าครึ่ ง พอออกมาจากเมืองจิงหวาได้กม็ ีคนอีกเกินครึ่ งที่ติด
เชื้อผีดิบ ดังนั้นกองกาลังของเขาในยามนี้….เกรงว่าต่อให้รวมเข้า
ด้วยกันทั้งหมดก็คงจะไม่เกินพันคน
เมืองหลวงแคว้นต้าเหยียนของพวกเขามีทหารแกร่ งอย่างน้อยๆ ก็
นับแสนคน แล้วทาไมจะต้องไปกลัวเขาอีกกัน?
เหยียนฉิ วผูน้ ้ นั กลับไม่ฉุกคิดดูสกั หน่อยเลยว่า ขนาดตอนนี้ทวั่ ทั้ง
ตาหนักมีเพียงแค่จีเฉวียนผูเ้ ดียว……พวกเขาก็ยงั ไม่กล้าบุกเข้าไป
เลย
ยิง่ ไม่ได้คิดถึงว่า จีเฉวียนเข้ามาในตาหนักได้อย่างไร
น้ าเสี ยงของเหยียนฉิวพึ่งขาดหาย ก็เห็นประตูใหญ่และหน้าต่าง
ทั้งหมดของตาหนักถูกเปิ ดออก แสงสว่างที่เจิดจ้าสาดเข้ามา
ในใจของทุกคนต่างก็พากันเกิดความตื่นตัว พอกวาดสายตามอง
ออกไป ก็เห็นระเบียงรอบตาหนักที่เดิมเคยว่างเปล่า ตอนนี้กลับมี
ราษฏร์แคว้นเหยียนยืนอยูอ่ ย่างแน่นขนัดไปหมด
และทหารของแคว้นต้าโจวมากกว่าพันคนต่างก็คอยพิทกั ษ์อยู่
ด้านหลังของประชาชน
จีเฉวียนหันพระองค์กลับไปทอดพระเนตรมองดูราษฏร์ที่ยนื อยูบ่ น
ระเบียง ทันทีที่พระองค์กวาดพระเนตรมองก็เห็นราษฏร์พากัน
คุกเข่าลงไป
“ฮ่องเต้แห่งต้าโจว โปรดช่วยเหลือพวกเราด้วยเถอะ!”
แม่เฒ่าผูห้ นึ่งยืนอยูด่ า้ นหน้าสุ ด นางกล่าวทั้งน้ าตาว่า
“พวกลูกๆ และหลานๆ ของข้าต่างก็ทาการค้าขายอยูใ่ นเมืองจิงหวา
ครึ่ งเดือนก่อนยังส่ งจดหมายกลับมา บอกว่ากองทัพต้าโจวเข้าเมือง
มา แต่มิได้ทาร้ายผูค้ นแม้แต่คนเดียว ทุกอย่างล้วนเหมือนดังเดิม
บอกให้คนชราอย่างข้าไม่ตอ้ งกังวล”
“แต่ใครจะคิดกันว่า….แค่เพียงไม่กี่วนั ….เมืองจิงหวาจะเปลี่ยนเป็ น
ขุมนรก…..ลูกๆ หลานๆ ของข้า พวกเขาไม่ได้ทาผิดอะไรเลย….”
แม่เฒ่าพูดจบแล้ว ก็เห็นสตรี มีครรภ์ผหู ้ นึ่งลุกขึ้นมา มือข้างหนึ่งยัน
หลังเอาไว้ มืออีกข้างโอบลงไปบนท้อง นางหลัง่ น้ าตาดัง่ สายฝน
“ข้ากับสามีแต่งงานกันมาสามปี ยังไม่มีทายาท สามีไม่เพียงไม่
รังเกียจข้า แต่ยงั ดีกบั ข้าเหมือนยามแรก ในที่สุดฟ้าก็เมตตาให้พวก
เรามีบุตร แต่น่าเสี ยดายบุตรยังไม่ทนั ได้เกิดมาก็ไม่มีโอกาสจะได้
พบหน้าบิดาของเขาแล้ว….”
“สามีที่น่าสงสารของข้า แค่เพราะเห็นว่าข้าชอบกินลูกพลับแห้งของ
ร้านเหล่าซุนที่เป็ นแผงข้างเมือง ……เขาไปแล้วก็ไม่กลับมา คนที่
หนีเอาชีวติ รอดยังบอกว่า…..บอกว่าเขากลายเป็ นผีดิบไปแล้ว ….
บนร่ างของเขายังแบกลูกพลับแห้งที่ขา้ ชอบกินที่สุดอยูด่ ว้ ยซ้ าฮือๆ
…”
แม่ม่ายตั้งครรภ์ผนู ้ ้ นั กล่าวจบ ก็อดทนไม่ไหว ร่ าไห้เสี ยดังออกมา
“บิดาและมารดาของพวกเราก็ไม่อยูแ่ ล้ว…..” พี่สาวน้องชายคู่หนึ่ง
ลุกขึ้นมาร้องไห้เสี ยงดัง
ตอนนี้นอกจากเมืองหลวง เมืองอื่นๆ ต่างก็กลายเป็ นขุมนรกไป
หมดแล้ว
คนที่ยงั อยูใ่ นเมืองหลวง มีสกั กี่คนที่ครอบครัวยังอยูค่ รบ?
เพียงครู่ เดียว ทั้งหมดก็พากันร้องไห้ออกมา
ยิง่ ไปกว่านั้นคนที่ยงั เหลืออยูใ่ นเมืองเช่นพวกเขา ต่างก็ถูกจับไปไว้
ที่กาแพงเมือง
ด้านนอกกาแพงเมืองหลวง รอบด้านล้วนมีแต่ผดี ิบวนเวียนอยูเ่ ต็ม
ไปหมด….ทุกระยะเวลาหนึ่ง พวกเขาที่เป็ นเพียงคนธรรมดาจะต้อง
ถูกจับโยนลงไปทีละหลายๆ คนเพื่อเป็ นอาหารของผีดิบเหล่านั้น….
มิเช่นนั้นพวกมันก็จะพากันบุกเข้าประตูเมืองมาอย่างสุ ดชีวิต
ตอนนี้พวกเขาใช่คนที่ไหนกัน ในสายตาของฮ่องเต้ตา้ เหยียนแล้ว
พวกเขามิได้ต่างอะไรกับปศุสัตว์
ยังดีนะ……ที่ฮ่องเต้ตา้ โจวนาทัพเข้ามา…..ช่วยเหลือพวกเขาเอาไว้
ได้ทนั
ต่อให้ฝันพวกเขาก็ยงั คิดไม่ถึงว่า พวกเขาที่เป็ นราษฏร์ของแคว้นเห
ยียนแท้ๆ สุ ดท้ายแล้วกลับต้องมาถูกฮ่องเต้ของแคว้นตัวเองพรากลูก
พรากเมียจนครอบครัวแตกสลาย กระทัง่ ตนเองก็ยงั ต้องกลายเป็ น
เหมือนสัตว์ที่เลี้ยงเอาไว้เป็ นเหยือ่
และผูท้ ี่มาช่วยพวกเขากลับเป็ นฮ่องเต้ของแคว้นศัตรู
คนหนึ่งคือฮ่องเต้โฉดพระทัยชัว่ ร้ายที่ทาให้คนของแคว้นตนเอง
กลายเป็ นผีดิบ อีกคนคือฮ่องเต้ผมู ้ ีเมตตาน้ าพระทัยกว้างขวางของ
แคว้นศัตรู
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาก็ได้แต่เกลียดชังตนเอง
ที่ไม่ได้เป็ นคนแคว้นต้าโจว
“ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าโจว ตั้งแต่วนั นี้เป็ นต้นไป พวกเรายินดีเป็ นคน
แคว้นต้าโจว ขอฝ่ าบาททรงช่วยเหลือพวกเราด้วยเถอะ…..”
ฝูงชนต่างก็พากันร้องไห้คร่ าครวญไม่ยอมหยุดจนเสี ยงดังเข้าไปใน
พระตาหนัก ทาให้เหยียนเหลียนทรงกริ้ วจนตะโกนด่าออกมาว่า
“พวกเจ้ามันเป็ นพวกคนขายชาติหรื ออย่างไร? ทาไมถึงได้ยอมแพ้
แก่ศตั รู ? พวกเจ้าเกิดมาเป็ นคนแคว้นต้าเหยียน ตายไปก็ตอ้ งเป็ นผี
ของต้าเหยียน! ห้ามมิให้คุกเข่ายอมแพ้ให้กบั ไอ้เด็กเมื่อวานซืออย่าง
จีเฉวียน!”
ฮ่องเต้ผชู ้ ราทรงรู ้สึกว่าตลอดชีวิตที่ผา่ นมาพระองค์ไม่เคยถูกลบหลู่
ดูหมิ่นเช่นนี้มาก่อนเลย!
พระองค์ยงั ไม่ทนั ตายแท้ๆ แต่วา่ ราษฏร์ของพระองค์กลับยอมคุกเข่า
ลงตรงหน้าจีเฉวียน ต่อหน้าต่อตาพระองค์เอง?
“พวกเจ้าสมองเพี้ยนกันไปหมดแล้วหรื ออย่างไร? หากมิใช่เพราะว่า
จีเฉวียนมาบุกแคว้นของพวกเรา ญาติมิตรของเจ้า ก็คงไม่มีทางต้อง
กลายเป็ นผีดิบเช่นนี้! ในเมื่อเป็ นคนแคว้นต้าเหยียน ต่อให้ตอ้ ง
เปลี่ยนเป็ นผีดิบ ก็ยงั ต้องปกป้องแคว้นของตนเองสิ !”
“เหล่าคนที่ตายไปนั้น จะต้องภาคภูมิใจที่ได้เสี ยสละตนเพื่อพวกเจ้า
อย่างแน่นอน! พวกเจ้าเองก็เช่นเดียวกัน! ในเมื่อมีโอกาสจะได้
ปกป้องแคว้นต้าเหยียนเอาไว้เช่นนี้ ก็ถือว่าเป็ นบุญกุศลของพวกเจ้า
แล้ว!”
พอเห็นว่าไม่มีผใู ้ ดสนใจตนเอง ฮ่องเต้ผชู ้ ราก็กริ้ วหนักเสี ยจนแทบ
จะกระอักเลือดออกมา
ในขณะเดียวกันก็ได้ยนิ แม่เฒ่าร่ าร้องออกมาด้วยความโกรธเกรี้ ยว
เช่นกัน “เป็ นบุญ บุญกุศลพ่อแม่เจ้าน่ะสิ !”
“บุญกุศลนี้ทาไมเจ้าถึงไม่เอาไว้เองเล่า? ทาไมเจ้าถึงไม่ไปตายเสี ย?
บ้านเมืองแว่นแคว้นหรื อ? พวกเราในตอนนี้มีบา้ นเมืองแว่นแคว้นที่
ไหนกัน? ต่อให้ไม่มีตา้ โจวมาโจมตี พวกเราก็ตอ้ งใช้ชีวิตเหมือน
ไม่ใช่คนอยูแ่ ล้ว! จะช้าหรื อเร็ วก็ตอ้ งมีคนกบฏต่อเจ้า!”
สตรี มีครรภ์เองก็ตอบรับ “เจ้าสัง่ ให้แพร่ โรคระบาดด้วยตนเอง คนที่
สามารถอามหิตกับราษฏร์ของตนเอง ยังจะมีหน้าอะไรมาขอให้พวก
เรายอมตายเพื่อปกป้องแคว้นอีก?”
“ฮือ ฮือ ฮือ ข้าไม่ชอบที่นี่ ไม่ชอบเลยสักนิด ขอฮ่องเต้ตา้ โจวโปรด
ช่วยพวกเราด้วยเถอะ” สองพี่นอ้ งตัวน้อยร้องไห้ออกมา
คราวนี้ ฮ่องเต้ถูกผูค้ นตะโกนใส่ อย่างโกรธแค้น
“ตอนนี้พวกเราจะสนับสนุนฮ่องเต้ตา้ โจว! ฮ่องเต้ตา้ เหยียนสมควร
ตาย ไม่มีเสี ยก็ดี!”
“สนับสนุนฮ่องเต้ตา้ โจว!”
ราษฏร์ท้ งั หลายต่างพากันส่ งเสี ยงสนับสนุนขึ้นมา หากว่าไม่มีฮ่องเต้
ต้าโจวล่ะก็ เกรงว่าพวกเขายังคงถูกจับขังอยูใ่ ต้กาแพงเมือง รอให้ถูก
โยนเป็ นเหยือ่ ของผีดิบต่อไป
เหยียนเหลียนไม่เคยเห็นพวกเขาเป็ นคนของตนเอง พวกเขาไหนเลย
จะต้องไปปกป้องแว่นแคว้นของเขาด้วย?
“กบฏแล้ว! กบฏแล้ว ก่อกบฏกันหมดแล้ว!” เหยียนเหลียนกริ้ วจน
พ่นควันออกทางนาสิ ก รี บหันไปตรัสกับเหยียนฉิ วว่า “ทั้งหมดทั้ง
มวลนี้เป็ นพวกกบฏ ไอ้พวกสวะชั้นต่า ฆ่าพวกมันให้กบั เรา อย่าได้
เหลือเอาไว้แม้แต่คนเดียว!”
“แคว้นเหยียนของเราไม่ตอ้ งการคนเนรคุณที่อ่อนแอขี้ขลาดแล้วยัง
มาทาเป็ นอวดดี!”
“พระบิดา พระองค์ตอ้ งการให้มีคนตายอีกมากมายเท่าใดกัน?” เห
ยียนหยุนทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ทวั่ ทั้งแคว้นต้าเหยียนเหลือ
แต่เพียงคนในเมืองหลวงเท่านั้นที่ยงั มีชีวิตอยู่
หากว่าพระองค์มีพระบัญชาให้สงั หารราษฏร์ท้ งั หมด….เช่นนั้น
แคว้นต้าเหยียนจะต่างอะไรกับแคว้นที่ล่มสลายไปแล้ว?
“ไอ้คนอกตัญญู เจ้าหุบปากให้เรา!” เหยียนเหลียนโผร่ างที่กาลังจะ
ล้มลงเข้าไปตบกกหูของเหยียนหยุน
“แค่ก แค่ก แค่ก…..” พระองค์ฉวยผ้าเช็ดพระพักตร์ข้ ึนมา กรรสะ
ออกมาเป็ นเลือด
“เสด็จพ่อ!” เหยียนฉิวทาเสี ยงตระหนกอย่างเสแสร้งคาหนึ่ง
“พระองค์ถูกรัชทายาทยัว่ โทสะจนจะกริ้ วตายแล้ว”
………………………….
ตอนต่อไป “จีเฉวียน ไอ้เด็กเมื่อวานซืน”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 375 จีเฉวียน ไอ้เด็กเมื่อวานซื น
เหยียนหยุน “…..”
เขาไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่ถอยไปยืนอยูด่ า้ นข้าง
ฮ่องเต้ผชู ้ ราทรงกรรสะอยูอ่ ีกพักใหญ่ ถึงได้สงบลมหายใจลงได้
พระองค์ทรงรู ้ดีวา่ บั้นปลายของลมหายใจกาลังจะมาถึง
จึงได้ยงิ่ พิโรธโกรธาขึ้นไปใหญ่ ทรงคว้ามือของเหยียนฉิวเอาไว้
“ฉิวเอ๋ อร์ ฆ่าพวกมันให้เรา! แคว้นต้าเหยียนของเราไม่ตอ้ งการไอ้
พวกกบฏทรยศเหล่านี้!”
ตรัสแล้วก็ทรงส่ งพระราชลัญจกรให้กบั เหยียนฉิ ว
เหยียนฉิ วรับราชลัญจกรไปก็หนั ไปออกคาสัง่ ให้ประหารทั้งหมด
ในทันที
เหล่าทหารแกร่ งในพระราชวังมีมากพอที่จะกรุ ้มรุ มกันเข้าไป ต่อให้
ด้านนอกมีทหารของจีเฉวียนอยู่ แต่รวมกันแล้วก็ยงั ไม่ถึงพัน ไหน
เลยจะจัดการกับเขาไม่ได้กนั
เหยียนฉิ วสายตาทอประกายชัว่ ร้าย ส่ งเสี ยงออกคาสัง่ ขึ้นมาในทันที
“ฆ่า!”
ทันทีที่สงั่ ออกไป ทัว่ ทั้งกาแพงตาหนักรายล้อมไปด้วยพลธนู
ลูกศรที่เย็นชาไร้ปราณี ท้ งั หมดเล็งไปยังเหล่าผูค้ นที่ไร้อาวุธอย่าง
แม่นยา
ลูกศรยังไม่ทนั ได้พงุ่ ออกไป ก็เห็นจีเฉวียนทรงสะบัดง้าวขึ้นมาปาด
ใส่ เหยียนฉิวเพียงเบาๆ
เหล่าองครักษ์รีบยกโล่ข้ ึนมาปกป้องเหยียนฉิ วเอาไว้
เหยียนฉิ วยิม้ อย่างเย็นชาอยูบ่ นใบหน้า เขาไม่เชื่อหรอกว่า แค่จี
เฉวียนเพียงผูเ้ ดียวก็จะสามารถพลิกฟ้าคว่าดินลงได้?
ตอนนั้นที่จีเฉวียนเป็ นตัวประกันอยูใ่ นต้าเหยียน ยังไม่มีแม้แต่
ศักดิ์ศรี และคุณสมบัติจะมาถือรองเท้าให้กบั เขา
ตอนนี้คิดจะทาร้ายเขา? ไยไม่ลองชัง่ น้ าหนักของตนเองดูบา้ ง
องค์ชายเจ็ดเหยียนฉิวยืน่ ศีรษะออกมาด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
ทั้งยังไม่ระวังป้องกันเลยสักนิด
แต่เมื่อดวงตาเขามองออกมา ก็เห็นชัดเลยว่าง้าวของจีเฉวียนทะลวง
ผ่านโล่ที่กาบังอยูด่ า้ นหน้าของเขาจนเกิดเป็ นเสี ยงดังบาดหู
เหยียนฉิ วตัดสิ นใจใช้ตราหยกในมือขึ้นมากาบัง
ก็ได้ยนิ เสี ยงดัง ‘แคร๊ ก’ ง้าวของจีเฉวียนทะลวงผ่านตราหยกจนมัน
แตกออกเป็ นเสี่ ยงๆ
ง้าวของเขาก็ยงั ไม่หยุดอยูเ่ พียงแค่น้ นั แต่วา่ แทงตรงเข้าสู่ ลาคอของ
เขา
เหยียนฉิ วหน้าเปลี่ยนสี หลบไปด้านหลังวูบหนึ่งลาคอถูกบาดเป็ น
ทางเลือดไหลอาบลงมา
ตราลัญจกรในมือของเขาแตกสลายกลายเป็ นเศษหยก ร่ วงกราวลง
บนพื้น
“คิดว่าเราถือเอาไว้เพื่ออวดเฉยๆ หรื อ?” จีเฉวียนตรัสด้วยน้ าเสี ยง
เย็นชา ง้าวในพระหัตถ์ช้ ีไปที่ลาคอของเหยียนฉิ ว
“เจ้า เจ้า เจ้า…คิดจะฆ่าโอรสของเราต่อหน้าต่อตาเราหรื อไง?” ฮ่อง
เต่ผชู ้ รากระอักโลหิตออกมาไม่นอ้ ย ทรงกลัวว่าจะต้องจากไปอย่าง
ไม่ยนิ ยอมพร้อมใจเช่นนี้ จึงได้แต่ผนื ร่ างกายเอาไว้
จีเฉวียนขมวดพระขนง เมื่อได้ยนิ เสี ยงฮ่องเต้ชราตรัสเช่นนั้น ง้าวใน
พระหัตถ์กข็ ยับขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ วและไร้ความเมตตา
แทงทะลุลาคอของเหยียนฉิ วออกไปในทันที
ด้วยความเร็ วที่แม้แต่องครักษ์ที่อยูด่ า้ นข้างก็ไม่อาจป้องกันได้ทนั
ง้าวด้ามนั้นแม่นยาอย่างยิง่ เหยียนฉิ วไม่มีโอกาสแม้แต่จะส่ งเสี ยง
เขาโยนเศษตราหยกในมือลงไป สองมือคว้าง้าวของจีเฉวียนเอาไว้
อย่างแน่นหนา
ดวงตาทั้งสองข้างเบิกโพลง เปี่ ยมไปด้วยความโกรธเกรี้ ยวและไม่
ยินยอม
เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ภายใต้การปกป้องของผูค้ นตั้งมากมาย เขายังจะ
ถูกจีเฉวียน…..
ฮ่องเต้มิได้ทรงเปิ ดโอกาสให้เขาได้ดิ้นรน ใช้พละกาลังในพระหัตถ์
ออกไป สะบัดเพียงครั้งเดียวใบมีดบนด้ามง้าวก็หลุดลอยออกจาก
ศีรษะของเหยียนฉิ วไป
เหลือเพียงผิวเนื้อและเส้นเอ็นที่ร้ ังศีรษะที่ขาดนั้นเอาไว้ กลายเป็ น
ภาพที่น่าสยดสยอง
ทันทีที่เก็บง้าวกลับมา ก็เห็นเลือดจากบนลาคอของเหยียนฉิ วกระฉูด
ขึ้นมา สาดกระเด็นไปโดนใบหน้าของฮ่องเต้ผชู ้ รา
ฮ่องเต้ผชู ้ ราพระเนตรค้าง พระสติหลุดลอยจนแข็งไปทั้งร่ าง
แต่กลับยังได้ยนิ เสี ยงจีเฉวียนตรัสว่า “เราไม่ชอบการถูกใส่ ร้ายมา
ก่อน ในเมื่อเจ้าบอกว่าเราฆ่าลูกของเจ้าต่อหน้า เช่นนั้นเราก็จะฆ่า
เสี ยเลย”
น้ าเสี ยงของพระองค์แผ่วเบาดุจก้อนเมฆ แต่กลับเย็นเฉี ยบไปจนถึง
กระดูก
พระองค์ประทับอยูต่ รงหน้าเหล่าองครักษ์และโล่มากมาย แต่ดูราว
กับว่านัน่ เป็ นเพียงของเล่น
“จีเฉวียน! เจ้ามันจะต้องไม่ตายดี ไม่ตายดี!” พักใหญ่ฮ่องเต้ผชู ้ ราถึง
ได้พระสติข้ ึนมา ทอดพระเนตรมองดูเหยียนฉิ วที่ลม้ ลงไปอยูบ่ นพื้น
พระองค์ร้องตะโกนออกมา จนน้ าเสี ยงแหบพร่ า
“ถ้าเช่นนั้นเรายิง่ ไม่อาจทาตามที่เจ้าปรารถนาแล้ว เจ้าตายแล้ว เราจะ
ควักลูกตาทั้งสองของเจ้าออกมา แขวนเอาไว้บนกาแพงเมือง ให้เจ้า
ได้เห็นว่าเรานั้น—จะยิง่ ใหญ่ไปอีกนานนับพันปี ”
จีเฉวียนตรัสแล้วก็สะบัดง้าวในพระหัตถ์ออกไป กวาดผ่านโล่
มากมายที่แน่นขนัดอยูเ่ บื้องพระพักตร์จนแตกสลายลงเป็ นชิ้นๆ
ง้าวในพระพัตถ์ของพระองค์ หลอมจากทองคาดาในเป่ ยเจียง เป็ น
ยอดศาสตราที่สามารถตัดเหล็กได้เหมือนหัน่ ดินเหนียว
โล่ของแคว้นเหยียนตีข้ ึนจากเหล็กธรรมดา ประกอบกับจีเฉวียนเอง
ก็ทรงร้ายกาจอยูแ่ ล้ว โล่เหล่านี้ในสายพระเนตรของพระองค์กเ็ ป็ น
เหมือนแผ่นกระดาษเท่านั้น
เหล่าองครักษ์แคว้นเหยียนต่างก็ตกตะลึงจนแข็งค้างไปแล้ว
ฮ่องเต้ผชู ้ ราเองก็พระพักตร์แข็งค้าง พระองค์ทรงทราบว่าจีเฉวียนมี
ความสามารถ แต่วา่ ทั้งหมดนี้มนั มากเกินไปแล้ว!
พระองค์ทรงจาได้วา่ ตอนนั้นเขาใช้กาลังของตนเองแต่เพียงผูเ้ ดียว
เอาชนะสัตว์อสู รนับพันถือเป็ นผูม้ ีพรสวรรค์อนั น่ากลัว
แต่ตอนนี้เพียงแค่กวาดง้าวออกมาเพียงครั้งเดียว ก็ทาให้องครักษ์
ของพระองค์ท้ งั หมดล้มลงไปแล้ว?
พระองค์แทบจะไม่มีเวลาไปเสี ยพระทัยให้กบั เหยียนฉิ วที่ตายไป
“เหยียนเหลียน คนเรายิง่ อยูส่ ู ง ยิง่ ต้องเห็นแก่ชีวิตของส่ วนรวม
ตาแหน่งฮ่องเต้น้ ีเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่นอ้ ย” คราวนี้จีเฉวียนทรงกวาด
พระเนตรไปทางฮ่องเต้ชราอย่างเฉยชา
“เราจะใช้โลหิตและศีรษะของเจ้า มาเส้นไหว้ให้กบั วิญญาณของ
เหล่าทหารต้าโจวของเรา รวมทั้งเหล่าราษฏร์แคว้นเหยียนที่ถูกเจ้า
ทาร้ายด้วย”
หลังออกจากเมืองจิงหวา จีเฉวียนทรงสู ญเสี ยกองทัพไปจานวนมาก
โดยเฉพาะเหล่าคนที่ติดโรคที่จาเป็ นต้องสังหารด้วยพระหัตถ์ของ
พระองค์ ….แต่ละคนล้วนติดตามพระองค์มาจากแคว้นต้าโจว แต่
พระองค์กลับไม่อาจพาพวกเขากลับไปบ้านเกิดอย่างมีชีวิต
หากว่าเป็ นการสู ้ศึกจนตัวตายในสนามรบ เหล่าทัพยังถือว่าตายอย่าง
สมศักดิ์ศรี
แต่น้ ีกลับเป็ นเพราะถูกฝี มือที่ชวั่ ร้ายทาร้ายจนตาย ….จีเฉวียนย่อม
ไม่อาจอดทนต่อไปได้อีก
“มัวแต่ตะลึงอะไรกันอยู่ มาปกป้องเราเร็ ว!” คราวนี้ เหยียนเหลียน
ไม่สนใจเหล่าราษฏร์ที่กาลังกบฏแล้ว พระองค์รีบตะโกนเรี ยกกอง
ทหารให้มาถวายการอารักขา
จีเฉวียนกลับพระสรวลอย่างเย็นชา
“เจ้าหัวเราะทาไม?” เหยียนเหลียนถูกเสี ยงพระสรวลที่เย็นยะเยือก
นั้นทาให้แข็งค้าง ในใจบังเกิดลางสังหรณ์ไม่เป็ นมงคลขึ้นมา
จีเฉวียนไม่ตรัสตอบ จากนั้นก็เห็นพระองค์หยิบหน้ากากกันพิษใบ
หนึ่งขึ้นมาอย่างไม่เร็ วไม่ชา้ …..
จากนั้นทัว่ ทั้งพระตาหนักก็อบอวลไปด้วยกลิ่นเหม็นสุ ดทนทาน
กลิ่นเหม็นสุ ดคลื่นเ**ยนพวยพุง่ เข้ามาในห้องบรรทมอย่างรวดเร็ ว
ทาให้คนที่อยูใ่ นนั้นทั้งหมดต่างก็ตอ้ งอาเจียนออกมาอย่างสุ ดชีวิต
ที่ดา้ นนอก ตู๋กจู ุนนากองทัพที่มีอยูไ่ ม่ถึงพันคนเตรี ยมตัวพร้อม
เอาไว้แต่แรกแล้ว แต่ละคนสวมใส่ หน้ากากกันพิษคนละอัน เหล่า
ราษฏร์ต่างก็รีบพากันล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าที่บรรจุถ่านเอาไว้ข้ ึนมา ผูก
เอาไว้ใต้จมูกอย่างแน่นหนา
กองทหารของแคว้นเหยียนมิได้เตรี ยมตัวเอาไว้ก่อน ย่อมต้องพากัน
อาเจียนโอ้กอ้ากออกมาจนหมดเรี่ ยวแรง แม้แต่จะเงยหน้าหาทิศทาง
ก็ยงั ไม่ไหว
ในตาหนักบรรทมเกิดควันสี เหลืองอมเขียวพวยพุง่ ขึ้นมา กลิ่นเหม็น
เน่านั้นยังร้ายกาจเสี ยยิง่ กว่าซากศพนับพันที่เน่าเปื่ อยแล้วเสี ยอีก…..
“จีเฉวียน ไอ้เด็กเลว….! เจ้าใช้ควันพิษรึ ! เจ้ามันชั้นต่าเสี ยยิง่ กว่าสิ่ ง
ใดทั้งหมด! อะ…อ้วกกก” ฮ่องเต้ผชู ้ รากุมพระอุระเอาไว้ ทางหนึ่งด่า
ทอ ทางหนึ่งก็อาเจียนออกมามากมาย
จีเฉวียนด่าว่าพระองค์แพร่ เชื้อผีดิบ แต่วา่ ตัวเองเล่า?
กลับใช้กลิ่นพิษ!
แคว้นต้าโจวผนวกหนานเจียงได้สาเร็ จไปตั้งแต่หลายปี ก่อนแล้ว
หนานเจียงมีพวกหมอผีอยูไ่ ม่นอ้ ย จะต้องเป็ นเพราะว่ามันจับพวก
หมอผีไปได้ไม่นอ้ ย แล้วให้สร้างไอ้สิ่งนี้ข้ ึนมา
คนที่สูดดมกลิ่นเหม็นนี้เข้าไปย่อมถูกพิษกาเริ บจนตายเป็ นแน่ จี
เฉวียนมีเมตตายิง่ กว่าพระองค์ที่ไหนกัน?
ภายใต้หน้ากาก สายพระเนตรของจีเฉวียนกลับมีแต่ความเยือกเย็น
พระองค์คร้านที่จะตรัสถ้อยคาไร้สาระกับฮ่องเต้ชราอีกต่อไปแล้ว
ง้าวในพระหัตถ์พงุ่ ตรงไปที่พระอุระของเหยียนเหลียน
ทันทีที่งา้ วนั้นพุง่ ออกไป ก็เห็นคนชุดดาที่ยนื อยูข่ า้ งกายฮ่องเต้ชราเค
ลื่นไหว ยืน่ มือออกมารับเอาไว้
เขาสวมใส่ ถุงมือไหมเงินในมือทั้งคู่ ใช้มือนั้นสกัดง้าวอย่างตรงๆ
โดยมิได้รับบาดเจ็บแม้แต่นอ้ ย
“ฝ่ าบาท พระองค์ทรงลืมไปแล้วหรื อว่าพวกเรายังมีไม้ตายสุ ดท้าย
อยู?่ ”
……………………………
ตอนต่อไป “เจ้ายังจานางได้”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 376 ท่ านยังจานางได้
เขาไม่ได้มองไปที่จีเฉวียน แต่กลับโน้มร่ างลงไปกระซิบที่ริมพระ
กรรณของฮ่องเต้ผชู ้ ราเบาๆ
จีเฉวียนทรงสังเกตเห็นเขาแต่แรกแล้ว ยามนี้สายพระเนตรของ
พระองค์กท็ อดไปยังถุงมือไหมเงินทั้งสองข้างของเขา
ถุงมือไหมเงินสวรรค์ มีความสามารถในการป้องกันอย่างสู ง ต่อให้
เป็ นศาสตราที่หลอมขึ้นมาจากทองคาดาก็ยงั สามารถสกัดเอาไว้ได้
ไหมเงินสวรรค์ล้ าค่าอย่างที่สุด ต่อให้เป็ นในท้องพระคลังของแคว้น
ต้าโจวเกรงว่าก็ยงั มีไม่ถึงสิ บชัง่
ของสิ่ งนี้ พระองค์เคยเห็นมันที่ริมทะเลสาบแคว้นเซอปี่ ซือ
คนชุดดาเพียงแต่กระซิบที่ขา้ งพระกรรณฮ่องเต้ชรากล่าววาจาอยู่
หลายคา ก็เห็นสายพระเนตรของฮ่องเต้ชราเปล่งประกายขึ้นมา
“ใช่แล้ว เราเกือบจะลืมไปแล้ว…..”
ตรัสแล้ว สายพระเนตรของพระองค์กเ็ ปลี่ยนเป็ นชัว่ ร้ายขึ้นมา
สายพระเนตรนั้นจับจ้องไปยังจีเฉวียน “ในเมื่อเจ้าไม่ได้ให้ทางรอด
แก่เรา เช่นนั้นก็มาลงนรกด้วยกันเถอะ! คิดจะได้แคว้นเหยียนของ
เรารึ ! ฝันไปเถอะ! เฮอะ เฮอะ เฮอะ!”
พระองค์ตรัสพึ่งตรัสจบ พระบาทของจีเฉวียนก็ถีบออกไป ทาเอา
ฮ่องเต้ผชู ้ ราหลัง่ พระโลหิตจากทวารทั้งเจ็ด สมองมึนงงไปหมด
แทบจะสิ้ นพระสติไปในทันที
“พูดมากเสี ยจริ ง” ฮ่องเต้ทรงคลายพระหัตถ์ปล่อยง้าวนั้นไป ประทับ
ยืนอยูข่ า้ งกายฮ่องเต้ผชู ้ รา
องครักษ์ที่รายล้อมอยูท่ ้ งั สี่ ดา้ นไม่มีผใู ้ ดกล้าเข้ามาห้ามปราม
พระองค์
ฝูงชนต่างก็ถูกกลิ่นเหม็นรมจนจะขาดใจตายอยูแ่ ล้ว เหยียนหยุนยิง่
คว้าไม้เท้าเอาไว้แน่น ไม่คิดจะรั้งอยูต่ รงนี้อีกต่อไป
ตอนนี้ที่นี่กลายเป็ นสนามรบไปแล้ว หากพลาดแม้แต่เพียงก้าวเดียว
เขามีหวังต้องกลายเป็ นกระดูกป่ นอยูใ่ นนี้
“จีเฉวียน ไอ้เด็กน้อย เจ้า….” ฮ่องเต้ชราพยายามยามดิ้นรนลุกขึ้นมา
แต่วา่ ตรัสได้ยงั ไม่ทนั ถึงสองคา จีเฉวียนก็ทรงกระทืบพระบาทลงมา
อีกครั้ง
ยามจะกระทืบคนพึงกระทืบที่ใบหน้า นี่เป็ นแนวทางของฝ่ าบาทอยู่
แล้ว
“หนวกหูจริ งๆ” จีเฉวียนทรงกระทืบลงไปอีกหลายครั้ง ในที่สุดก็ทา
ให้ฮ่องเต้ชราผูน้ ้ นั หุบปากลงไปได้
“คิดว่าเราจะโง่จนปล่อยให้เจ้าขุดหลุมทาร้ายเราหรื อ?” จีเฉวียนแย้ม
สรวลเย็นชา ดวงเนตรหงส์ใต้หน้ากากหนังจับจ้องไปบนร่ างของคน
ชุดดา
ทันทีที่พระองค์สบพระเนตรกับคนในชุดสี ดาผูน้ ้ นั เขาก็ปล่อยง้าว
ของจีเฉวียน ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง คิดจะขยับตัวหลบหนีไป
จีเฉวียนกลับตรัสรั้งเขาเอาไว้
“ท่านราชครู ”
คนชุดดาก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว ดวงตาใต้ผา้ คลุมคู่น้ นั มีท้ งั
ความเคียดแค้นและความประหลาดใจ
“ฮ่องเต้แห่งต้าโจว พระองค์ทรงจาคนผิดแล้ว” เขากล่าวเสี ยงแหบ
แห้ง ซุกซ่อนน้ าเสี ยงที่แท้จริ งของตนเองในทันที
ทันทีที่สิ้นเสี ยง จีเฉวียนก็ทรงชักกระบี่ออกมาจากบั้นพระองค์ ชี้ไป
ยังหัวไหล่ของเขา “เจ้ากล้าทาเรื่ องเหล่านี้ แต่วา่ ไม่กล้ายอมรับ
หรื อ?”
จีเฉวียนทรงหน้ากากอยู่ จึงไม่มีใครเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพระองค์
กาลังทรงรู ้สึกเช่นไร แม้แต่ถอ้ ยคาที่รับสัง่ ถามออกไปนั้น น้ าเสี ยงก็
แสนจะเรี ยบนิ่ง
คนชุดดามองดูกระบี่ที่ช้ ีมายังศีรษะของตนเอง พักใหญ่ เขาก็ค่อย
หัวเราะเสี ยงเย็นออกมา “ฝ่ าบาททรงสงสัยกระหม่อมตั้งแต่แรก
แล้ว?”
ทันทีที่เขาเอ่ยออกมา กระบี่ในมือของจีเฉวียนก็สะบัดออกไปกรี ด
ผ้าคลุมหน้าของเขาออกเป็ นสองส่ วน
ผ้าคลุมขาดออก ลอยพลิ้วออกไปด้านหลัง
เปิ ดเผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามประดุจหยกไร้ตาหนิออกมา
ใบหน้านั้นมีดวงตาดุจลูกแก้ว ขนตาแต้มประกายไข่มุกยิง่ ทาให้
ดึงดูดสายตา สายรัดบนผมของเขาถูกจีเฉวียนตัดขาดไปด้วย เส้นผม
ทั้งหมดจึงสยายลงมา ดวงตาทั้งสองนั้นกาลังจ้องมองไปที่จีเฉวียน
“ย่อมใช่อยูแ่ ล้ว ท่านเป็ นคนฉลาดอยูแ่ ล้ว ทั้งยังถนัดวางแผนการ
บางทีท่านอาจจะไม่เคยเชื่อใจข้ามาตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ ใช่หรื อไม่?”
“เราเติบโตมาพร้อมกับเจ้าตั้งแต่เด็ก ไหนเลยจะไม่เชื่อใจเจ้า?” จี
เฉวียนขมวดพระขนงแนบแน่น พระองค์เคยคิดถึงสถานการณ์ที่
ต้องฉีกหน้ากากของเขาออกมาเช่นนี้อยูห่ ลายครั้ง แต่เมื่อถึงคราว
จริ งๆ นอกจากความโกรธกริ้ วแล้ว ก็ยงั มีความผิดหวัง ผิดหวังอย่าง
ยิง่
ฉางซุนซิ่วมองดูพระองค์ มุมปากยิม้ อย่างเย็นชา “ฝ่ าบาทยังทรงจา
ได้วา่ เติบโตขึ้นมาพร้อมกับกระหม่อม?”
ขณะที่เขาพูดอยูน่ ้ นั ฮ่องเต้ชราที่สลบไปก็เริ่ มได้พระสติข้ ึนมา
ฮ่องเต้ชราทอดพระเนตรไปยังจีเฉวียน และก็หนั ไปทางฉางซุนซิ่ว
“เจ้า……พวกเจ้า?”
ตอนนี้พระองค์ถึงได้ทรงรู ้สึกตัวว่าตนเองถูกหลอกเข้าแล้ว!
รอบนี้พระองค์ถูกฉางซุนซิ่วถีบใส่ อีกเท้าหนึ่ง ทรงกระเด็นออกไป
จนทาให้สมองของฮ่องเต้ผชู ้ ราดับวูบ
ในที่สุดพระองค์กป็ ิ ดพระโอษฐ์ลงแล้ว ตรัสไม่ออกอีกตลอดกาล
…………………………
ที่ดา้ นนอกตาหนัก ตู๋กูซิงหลันขี่ราชาสุ นขั ป่ าตะวันตกมาถึง
ราชาสุ นขั ป่ ากระโดดผ่านกาแพงสู งระดับหัวคนเข้ามา หย่อนตัวลง
บนพื้นระเบียงกลางตาหนัก ขณะที่มนั กาลังจะส่ งเสี ยงหอนดัง
ออกไปในสายลมก็ได้กลิ่นเหม็นหึ่งเข้ามาเต็มปากเต็มจมูก
“แค่ก แค่ก แค่ก….” มันสาลักจนต้องไออย่างรุ นแรงออกมาในทันที
ไอไปก็เริ่ มด่าไป
อึของผูใ้ ดทาไมถึงได้เหม็นขนาดนี้?
ติ๊งต๊องพ่นไฟมาตลอดทาง ลาคอแห้งผาดมาแต่แรกแล้ว ตอนนี้อยูๆ่
ก็ได้กลิ่นอึคละคลุง้ อยูใ่ นอากาศ ทาเอามันเกือบจะคายอาหารเก่า
ออกมา
ราชาสุ นขั ป่ าถูกรมอยูเ่ ป็ นนานถึงได้รู้สึกว่ากลิ่นนี้ออกจะคุน้ เคยอยู่
บ้าง?
มันหันหัวกลับไปมองดูกน้ ของตนเอง จากนั้นก็ต้ งั ใจตดออกมาเป็ น
พิเศษ ส่ ายหางไปมาแล้วก็ดมๆ ดู
อ้ายย่าห์……กลิ่นอึนนั่ เป็ นกลิ่นเดียวกันกับกลิ่นตดของมันเลย!
นึกไม่ถึงเลยว่า ในใต้หล้านี้จะยังมีสิ่งมีชีวิตที่สามารถอึได้เหม็น
เหมือนกับมันไม่มีผดิ ?
นี่คือพี่นอ้ งร่ วมอุดมการณ์ใช่หรื อไม่ หากไม่ได้พบหน้ากันสักหน่อย
ช่างน่าเสี ยดายจริ งๆ ….
ตู๋กซู ิงหลันเห็นมันซื่อจนเซ่อถึงขนาดนั้นก็ได้แต่เงียบงันไปพูดอะไร
ไม่ออก
พอหันมามองดูติ๊งต๊อง ก็เห็นมันกระพือปี กโอบรอบๆ ท้องตัวเอง
อาเจียนโอ๊กอ๊ากออกมาเป็ นสาย……
อาเจียนลงไปโดนอุง้ เท้าของตนเอง สักพักก็ใช้ปีกไปเกาอุง้ เท้า
ตู๋กูซิงหลัน “……”
นี่สินา้ ที่เขาว่าไม่มีใครที่โง่ที่สุด มีแต่คนที่โง่ยงิ่ กว่า
ผูค้ นทั้งหลายต่างก็ถูกสุ นขั ป่ าที่อยูๆ่ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาทาเอาตกใจ
จนตื่นตระหนก จากตอนแรกที่ดูองอาจน่าเกรงขาม แต่วา่
ตอนนี้……ตัวหนึ่งคิดจะตดก็ตด ตัวหนึ่งคิดจะเกาอุง้ เท้าก็เกา ไม่
ต้องรักษาภาพลักษณ์กนั ขนาดนี้เลย?
ในอากาศคละคลุง้ ไปด้วยกลิ่นเข้มข้นจากควันสี เหลืองอมเขียว
ดังนั้นจึงไม่มีใครมองเห็นโฉมหน้าของสาวน้อยได้อย่างชัดเจน
จากนั้นก็เห็นตู๋กซู ิงหลันพลิกตัวลงมา นัง่ อยูบ่ นหลังของติ๊งต๊อง
ด้ายโชคชะตาในมือเปล่งแสงสี แดงระเรื่ อออกมา นางมองเข้าไปใน
ตาหนักบรรทมข้างหน้า
ก็เห็นบุรุษผูห้ นึ่งสวมใส่ ชุดเกราะสี ดาทอง ยืนหันหลังให้กบั นาง
เขาถือกระบี่ที่มีไอเย็นเล่มหนึ่งอยูใ่ นมือ ร่ างเหยียดตรง เส้นผมยาว
สลวยพลิ้วตามลม มีกแ็ ต่จีเฉวียนเท่านั้นที่จะมีราศีเช่นนี้
ก้อนหินที่ลอยคว้างอยูใ่ นใจของตู๋กซู ิงหลันในที่สุดก็สามารถวางลง
ได้เสี ยที
เขายังมีชีวิตอยู่ ยังอยูด่ ี
นางกวาดตามองไปรอบๆ ก็เห็นพี่ใหญ่ของตนเองกาลังนากองทัพ
ต่อสู ้และเข่นฆ่าเหล่าทหารแคว้นเหยียนท่ามกลางกลิ่นเหม็นตลบ
อบอวล
นี่มิใช่การต่อสู ้ฆ่าฟัน…..แต่เป็ นการโจมตีอยูแ่ ต่ฝ่ายเดียว
พี่ใหญ่สวมหน้ากากกันพิษเอาไว้ นางต้องอาศัยเสื้ อผ้าจึงจะจาเขาได้
พวกเขาล้วนปลอดภัย…..ดีจริ ง
ตู๋กซู ิงหลันตบลงไปบนลาคอของติ๊งต๊องเบาๆ กระตุน้ ให้ติ๊งต๊องวิ่ง
เข้าไปในตาหนักบรรทมทั้งๆ อุง้ เท้าที่ยงั เช็ดได้ไม่ค่อยจะสะอาดสัก
เท่าไหร่
พอเข้าไปถึงประตูใหญ่ ก็ได้ยนิ เสี ยงของบุรุษดังออกมา
“ตอนที่ท่านอายุได้หา้ ขวบ เสด็จอาหญิงฮองเฮาทรงสิ้ นพระชนม์
เสี ยนไท่เฟยได้รับความโปรดปราน ตระกูลฉางซุนสู ญเสี ยอานาจ
ท่านไร้ที่พ่ งึ พิง ถูกส่ งไปเป็ นตัวประกันที่แคว้นเหยียน ครอบครัวเรา
กลัวว่าท่านเดินทางไปคนเดียวจะโดดเดี่ยวอ้างว้าง จึงได้ให้นอ้ งสาว
แท้ๆ ของข้าอิงเอ๋ อร์ติดตามท่านมายังแคว้นต้าเหยียนด้วย”
ตู๋กซู ิงหลันชะงักไป เงาร่ างของจีเฉวียนแทบจะบดบังฉางซุนซิ่ว
เอาไว้จนหมด ดังนั้นตู๋กซู ิงหลันจึงมองไม่เห็นโฉมหน้าของเขา
แต่วา่ เพียงแค่ได้ยนิ เสี ยง นางก็รู้แล้วว่าผูท้ ี่อยูเ่ บื้องหน้าจีเฉวียนนั้น
คือใคร
นางสัง่ ให้ติ๊งต๊องพาหลบไปด้านข้าง ไม่ได้เข้าไปรบกวนในทันที
อีกด้านหนึ่ง จีเฉวียนก็มิได้ปฏิเสธอะไร แสดงว่าที่ฉางซุนซิ่วพูด
ออกมาทั้งหมดล้วนเป็ นความจริ ง
“ส่ วนข้า ถูกคนในครอบครัวส่ งไปฝึ กวิชาเวทย์ที่เขาฮว่าชิงซาน
ทั้งหมดก็เพียงเพื่อจะได้คอยเป็ นกาลังช่วยเหลือท่านอีกแรง”
“ท่านดูสิ ขณะที่ท่านสู ญเสี ยมารดา หมดสิ้ นความรักเอ็นดูจากบิดา
กลับยังมีคนอีกตั้งมากมายที่ยอมทาทุกอย่างเพื่อท่าน ท่านช่างโชคดี
ขนาดไหนแล้ว”
……………………………………………
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 377 ให้ ท้งั แคว้ นเหยียนถูกกลบฝัง
เป็ นเพื่อนนาง!
ฉางซุนซิ่วพูดพลางก็ทรุ ดลงนัง่ บนพื้น กลิ่นเหม็นที่ตลบอบอวลอยู่
ภายในตาหนักคล้ายจะมิได้ส่งผลกระทบอะไรกับเขาทั้งนั้น
ทางด้านซ้ายของเขาคือร่ างของเหยียนฉิว ทางด้านขวาคือฮ่องเต้ชรา
ที่ถูกเขากระทืบจนพระเศียรแตกร้าว
เขานัง่ อยูต่ รงกลาง สี หน้ายังคงมีรอยยิม้ เย็นชา “ตอนนั้นท่านยังอายุ
น้อย อยูใ่ นแคว้นต้าเหยียนย่อมถูกรังแกอยูเ่ สมอ แต่นอ้ งสาวของข้า
ละ? นางโชคดีกว่าท่านที่ไหนกัน? นางเป็ นหิ นรองเท้าให้ท่าน ยอม
ถูกหมิ่นหยาม โดยไม่ตดั พ้อต่อว่า …..อดทนกล้ ากลืนอย่าง
ยากลาบากจนกระทัง่ ถึงวัยกลายเป็ นสาวน้อยบอบบาง แต่สุดท้าย
สุ ดท้ายเพื่อท่านแล้ว ก็มามีจุดจบอยูใ่ นต่างบ้านต่างเมือง”
“ฝ่ าบาท หลายปี มานี้ ท่านเคยคิดถึงนางบ้างหรื อไม่ เคยราลึกถึง
ความดีของนางบ้างไหม?”
ฉางซุนซิ่วดวงตาแดงก่า น้ าเสี ยงที่ถามออกไปของเขาสงบนิ่งอย่าง
มาก แต่วา่ ดวงตาคู่น้ นั กลับฉายแววคลุม้ คลัง่
“ท่านไม่เคยเลย” เขาหัวเราะเสี ยเย็นออกมา เขาทุบมือลงไปบนพื้น
“แม้แต่ชื่อของนางท่านก็ไม่เคยเอ่ยถึง!”
“เดิมทีขา้ เคยคิดว่าท่านมันเป็ นคนที่ใจแข็งโหดเ**้้ยม ไม่วา่ กับใคร
ก็ไร้น้ าใจไร้ความรู ้สึก แต่แล้วยังไง? ท่านมีสิทธิอะไรจะไปชอบตู๋กู
ซิงหลันกัน?”
“นางเคยทาอะไรเพื่อท่านบ้าง? เสี ยสละอะไรบ้างไหม? แต่ท่านกลับ
ชอบนาง ชอบนางจนจะเป็ นจะตาย แล้วกับอิงเอ๋ อร์ที่สละชีวิตเพื่อ
ท่านไยจึงไม่เคยมีความละอายไม่เคยคิดถึงเลยสักนิด?”
จีเฉวียนเงียบงั้นอยูต่ รงนั้น พระหัตถ์ของพระองค์กาด้ามง้าวเอาไว้
อย่างแนบแน่น
“ตอนที่นางตาย มีแต่เลือดท่วมตัว ตลอดร่ างไม่เหลือผิวเนื้อที่ดีเลย
สักแห่ง นางกอดข้าเอาไว้ บอกว่า ‘พี่จ๋า อิงเอ๋ อร์เจ็บเหลือเกิน….’ ”
ฉางซุนซิ่วปิ ดตาลง ราวกับว่าไม่ยนิ ดีจะคิดถึงเรื่ องนั้นอีก แต่ยงิ่ ไม่
อยากจะคิด ภาพนั้นก็เอาแต่วนเวียนอยูใ่ นสมองของเขา “จีเฉวียน
ท่านรู ้หรื อไม่วา่ นางตายเพื่อท่าน! ตอนที่ท่านถูกฮ่องเต้ตา้ เหยียน
เรี ยกไปเข้าเฝ้า ตอนที่จะให้ท่านต่อสู ้กบั สัตว์อสู รหงเหมิง [1] นั้น!
สาวน้อยที่โง่งมนางนี้ นางกลัวว่าท่านจะเกิดเรื่ อง ดังนั้นจึงแอบ
ออกไปขอร้องแทนท่าน สุ ดท้ายไม่เพียงถูกคนกระทาชาเรา ยังถูก
คนทุบตีอย่างโหดร้ายจนตาย ตอนนั้นนางพึ่งจะอายุได้สิบสามเอง!”
พอพูดถึงตรงนี้ ฉางซุนซิ่วก็น้ าตาไหลอาบนอง
“หากว่าตอนนั้นข้า……ไปถึงแคว้นต้าเหยียนเร็ วขึ้นอีกวันหนึ่ง….
นางก็คง…..นางก็คงไม่ตอ้ งตายแล้ว….ข้าจะต้องปกป้องนางได้แน่ๆ
ปกป้องนางอย่างดี”
“ทั้งที่เป็ นเช่นนี้ นางก็ยงั ขอให้ขา้ อย่าได้เกลียดชังท่าน! ขอให้ขา้
สนับสนุนท่านอย่างที่สุด!”
“ข้าเชื่อฟังคาขอของอิงเอ๋ อร์ ตลอดหลายปี มานี้คอยช่วยเหลือท่าน
ขจัดอุปสรรค กาจัดศัตรู กรุ ยหนทางแห่งบัลลังก์ฮ่องเต้ให้กบั ท่าน
อยูเ่ คียงข้างท่านมาตลอด….”
ในมุมที่ซ่อนอยู่ หัวใจของตู๋กซู ิงหลันหล่นวูบ
ตอนที่อยูท่ ี่สระสวรรค์ในแคว้นเซอปี่ ซือ….ขณะที่นางถูกเหยียน
เฉียวหลัวลากลงไปในน้ านั้น ก็เคยได้ยนิ ชื่อของฉางซุนอิงมาก่อน
ตอนนั้นนางไม่ทนั ได้ใส่ ใจ
ช่วงที่ผา่ นมาที่จีเฉวียนลุกไล่ตามจีบนางอย่างบ้าคลัง่ นางเองก็ไม่เคย
ถามเรื่ องของฉางซุนอิงมาก่อน
นางไม่ได้ถาม จีเฉวียนก็ยงิ่ ไม่เคยเอ่ยถึง
แต่คิดไม่ถึงว่า จะมีอดีตเช่นนี้อยู?่
สหายติ๊งต๊องเองก็ตกตะลึงเป็ นไก่ตาแตก มันรู ้แต่แรกแล้วว่าฮ่องเต้ผู ้
นั้นมิใช่ตวั ดี…..แต่ไม่คิดว่าเขาจะเสเพลจนชัว่ ร้ายขนาดนี้เชียว?
วิญญาณทมิฬชักจะรู ้สึกว่า ซื่อมัว่ เริ่ มจะมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
แล้ว
…………………….
ฉางซุนซิ่วพยายามบังคับตนเองให้สงบสติลง เขาถอนหายใจอย่าง
ยืดยาว ค่อยเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองจีเฉวียน
“แต่ดูท่านสิ ท่านทาอะไรลงไป? ท่านลืมเลือนอิงเอ๋ อร์ไปจนหมด
สิ้ นตั้งแต่แรกแล้ว! ท่านสงสัยในตัวข้า ตรวจสอบข้า เพื่อตระกูลตู๋กู
ที่สร้างความยากลาบากให้กบั ท่าน ท่านกลับละทิ้งข้า”
“ไม่เพียงแต่อิงเอ๋ อร์ ตอนนั้นญาติผพู ้ ี่ของข้าอาซู่กย็ งั ต้องมาตายด้วย
น้ ามือของตู๋กจู ุน”
“ฝ่ าบาทยังทรงจาได้หรื อไม่วา่ ตอนที่ข้ ึนครองราชย์น้ นั ตรัสกับข้าไว้
ว่าอย่างไร”
“ท่านบอกว่า จะต้องล้างตระกูลตู๋กทู ิ้ง”
“ท่านบอกว่า จะรวบรวมใต้หล้าด้วยกันกับข้า ทาให้แผ่นดินมีแต่
ความสงบสุ ข”
“คาพูดของฝ่ าบาท ข้าเองก็หลงเชื่อเข้าแล้ว…..”
เพราะเหตุน้ ีตอนนั้นเขาถึงได้กาจัดตัวหมากของตาหนักซิวหลัว
เตี้ยนที่คิดร้ายกับพระองค์ทิ้งไป
ตลอดหลายปี มานี้ แม้แต่ท่านประมุขก็ยงั ถูกเขาปิ ดบังความจริ ง
เอาไว้
ตระกูลฉางซุนของเขาเพื่อจีเฉวียนแล้วได้เสี ยสละไปอย่างมากมาย
….แม้แต่วยั เด็กของเขาก็ยงั เคยเป็ นเงาติดตามจีเฉวียนอยูต่ ลอด
ใครเลยจะรู ้วา่ เบื้องหลังของเขาฮว่าชิ่งซานที่สวยสดงดงาม จะแฝง
เอาไว้ดว้ ยเงามืดและความสกปรกมากมายเพียงไหน
จีเฉวียนผ่านวัยเยาว์มาอย่างยากลาบาก แล้วเขาผ่านมาอย่างสุ ขสบาย
หรื อไร?
ฮ่องเต้ทรงประทับอยูเ่ บื้องหน้าเขา โดยมิได้ตรัสวาจาใดๆ อยูน่ าน
ที่จริ งแล้วเรื่ องมากมายที่ผา่ นมาทั้งหมด พระองค์ทรงทราบเป็ นอย่าง
ดีวา่ เกี่ยวข้องกับเขาอย่างแน่นอน แต่เพราะว่าพวกเขาเคยผ่าน
ประสบการณ์ต่างๆ มาด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก ดังนั้นจีเฉวียนจึงปล่อย
เขาไปครั้งแล้วครั้งเล่า
คนเราล้วนมีความเปลี่ยนแปลง ฉางซุนซิ่วเปลี่ยนแปลง พระองค์จี
เฉวียนเองก็ทรงเปลี่ยนแปลง
ไม่มีใครที่จะรับรองได้วา่ ตนเองเหมือนเดิมไปตลอด
“ฝ่ าบาท นับตั้งแต่วนั ที่ท่านกลายเป็ นตัวประกัน ข้าฉางซุนซิ่วก็ถูก
บ่มเพาะให้กลายเป็ นเงาของท่าน ท่านไม่เคยรู ้เลยว่าตลอดหลายปี
นั้นข้าต้องผ่านประสบการณ์เช่นไรมาบ้าง….”
“ทุกสิ่ งที่เป็ นของข้า ล้วนมอบให้กบั ท่านจนหมดสิ้ นสุ ดจิตใจ แต่พอ
ถึงที่สุดแล้ว …..กลับต้องถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวเพียงลาพัง”
“หลายปี มานี้เหล่าผูอ้ าวุโสในตระกูลฉางซุนต่างก็พากันจากไปจน
หมดสิ้ นแล้ว ข้าไม่หลงเหลือญาติมิตรที่แซ่ฉางซุนอีกแล้ว ทั้งยังเอา
ใจออกห่างจากท่าน ข้าเกลียดชังท่าน นัน่ ย่อมเป็ นเรื่ องที่แน่นอนอยู่
แล้ว”
ในที่สุด จีเฉวียนค่อยเอ่ยวาจาออกมา “เรารู ้วา่ เจ้าเกลียดชังเรา แต่
ทั้งหมดนี้ เจ้าสมควรมาคิดบัญชีกบั เรา นี่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับซิงซิง
ยิง่ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับกองทัพต้าโจวและราษฏร์ชาวต้าเหยียน
ทั้งสิ้ น”
“เจ้าไม่ควรจะไปแตะต้องนางแม้แต่นอ้ ย ยิง่ ไม่สมควรแพร่ กระจาย
เชื้อผีดิบออกไป ทาร้ายชีวิตของผูค้ นมากมาย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ….” ฉางซุนซิ่วหัวเราะเหมือนกับว่าได้ยนิ เรื่ องขาขันบัล
ลือโลกอย่างไรอย่างนั้น
“ถึงตอนนี้ท่านก็ยงั จะห่วงใยนาง? แล้วยังจะเสแสร้งแกล้งเป็ นมี
เมตตาต่อสรรพชีวติ ? เฮอะ ชีวิตของพวกมันมีค่า….แล้วชีวิตของ
น้องสาวข้าไม่มีค่าหรื ออย่างไร?”
“ตอนที่คนเหล่านั้นทาร้ายอิงเอ๋ อร์ ทาร้ายพวกเรา มีใครเคยคิดบ้าง
หรื อไม่วา่ อิงเอ๋ อร์น้ นั เป็ นผูบ้ ริ สุทธิ์?”
“ท่านเองก็รู้สึกว่าอิงเอ๋ อร์สมควรจะต้องตายกระนั้นหรื อ?”
ฉางซุนซิ่วจะพยายามระงับอารมณ์เอาไว้อย่างที่สุด หมัดที่อยูภ่ ายใต้
แขนเสื้ อนั้นกาแน่นเข้าหากัน เพราะออกแรงมากไปข้อนิ้วทั้งหมด
จึงขาวโพลน
คาพูดเหล่านี้ เขาไม่เคยเอ่ยกับจีเฉวียนมาก่อนเลยสักครั้ง
วันนี้พอได้กล่าวออกมา ความโกรธเกรี้ ยวที่เก็บกดเอาไว้กร็ ะงับไม่
อยูอ่ ีกต่อไป
เขาเคยนึกว่าพระองค์จะไร้ความรู ้สึกต่อคนทั้งมวล…..หากเป็ น
เช่นนั้นก็แล้วไปเถอะ
แต่วา่ พระองค์กลับมีพระทัยให้กบั ตู๋กซู ิงหลัน!
“อิงเอ๋ อร์ไม่เคยได้รับความเห็นใจจากท่านเลยแม้แต่นอ้ ย นางตาย
อย่างทรมาน แม้จะตายก็ยงั รู ้สึกว่าตนเองนั้นสกปรก ไม่กล้าพบหน้า
ท่าน”
“นางตายอย่างน่าอนาถ ตายอย่างน่าสงสาร! จีเฉวียนคนเช่นท่านมี
สิ ทธิ์อะไรจะก้าวข้ามเลือดเนื้อของนางไปมีความสุ ข?”
“ท่านมันไม่คู่ควร! ท่านมันสมควรจะต้องโดดเดี่ยวจนแก่เฒ่าไปชัว่
ชีวิต มีแต่วนั ที่เหน็บหนาวอันยาวนานอยูเ่ คียงคู่ตลอดไปเท่านั้น!”
ฉางซุนซิ่วคารามเสี ยงเบา ในดวงตาของเขามีแต่เส้นเลือด คร่ าครวญ
ด้วยน้ าเสี ยงแหบแห้งปานจะขาดใจ
ที่ผา่ นมายามอยูต่ ่อหน้าผูค้ น เขาคือท่านราชครู ผงู ้ ดงาม
ปราชญ์เปรื่ อง สุ ภาพและอ่อนโยน
แต่ตอนนี้ เขากลับเป็ นเหมือนคนบ้าผูห้ นึ่ง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ท่านเห็นไหม มีแต่ขา้ ที่เป็ นพี่ชายเท่านั้นที่รักนางที่สุด ใช่
หรื อไม่? ในเมื่อนางต้องตายอย่างอนาถในแคว้นเหยียน ข้าก็จะให้
ทัว่ ทั้งแคว้นเหยียนถูกกลบฝังเป็ นเพื่อนนาง! ในเมื่อท่านไม่เคย
สนใจนาง ข้าก็จะให้ท่านต้องลงนรกตามไปด้วย!
เดิมทีขา้ เคยคิดเอาไว้วา่ รอให้ท่านตายแล้ว….ก็จะฝังท่านกันอิงเอ๋ อร์
เอาไว้ดว้ ยกัน”
………………………………….
ตอนต่อไป “อย่างมากก็คืออดีตหญิงคนรัก”
——

[1] 鸿蒙巨兽 (สัตว์อสู รในบรรพกาล)


ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 378 อย่ างมากก็เป็ นอดีตหญิงคนรัก
“เมื่อไปถึงยมโลก พอท่านได้พบกับนาง…. จะมีความละอายบ้างสัก
นิดหรื อไม่?”
ฉางซุนซิ่วหัวเราะจนน้ าตาริ นไหลออกมา วันนี้ความรู ้สึกที่ถูกเก็บ
กดเอาไว้ในหัวใจมาเนิ่นนานหลายปี ได้ถูกตีแผ่ออกมาจนหมด
เปลือก เขาค่อยสามารถผ่อนคลายตนเองลงได้
จีเฉวียนทรงกุมกระบี่เหมันต์ในพระหัตถ์เอาไว้ สี พระพักตร์เย็นชา
เรื่ องในตอนนั้น พระองค์ไม่มีอะไรจะต้องมาอธิบายอีก
ก่อนที่จะได้พบกับตู๋กซู ิงหลัน เมื่อทรงตัดสิ นพระทัยจะเป็ นฮ่องเต้ผู ้
มีความทะเยอทะยานอันยิง่ ใหญ่ พระองค์ไม่เคยมีหวัน่ ไหวพระทัย
ไปกับผูใ้ ดทั้งนั้น
สาหรับฉางซุนอิงนั้น……
เหล่าคนที่เคยทาร้ายนาง ตอนหลังล้วนถูกพระองค์เชือนเนื้อออกมา
ป้อนสุ นขั ไปจนหมดแล้ว
ศีรษะของคนเหล่านั้น ล้วนถูกพระองค์เตะส่ งเข้าไปในสุ สานไร้ญาติ
หลังจากที่ฉางซุนอิงตายแล้ว พระองค์ทรงเฝ้าอยูห่ น้าสุ สานของนาง
เจ็ดวันเจ็ดคืน ชาติน้ ีพระองค์ติดค้างนาง หากว่านางยังมีชีวิตอยูล่ ะก็
พระองค์จะต้องทรงพยายามอย่างที่สุดที่จะทาทุกสิ่ งเพื่อชดใช้ให้
นาง
หลายปี ที่นางติดตามพระองค์ไปนั้น ต้องทนรับความยากลาบาก
อย่างที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยเจอ เผชิญกับประสบการณ์ความดามืดของ
มนุษย์
นางเคยบอกเอาไว้วา่ ความปรารถนาเดียวในชาติน้ ีกค็ ือขอให้ใต้หล้า
สงบสุ ข ไม่มีการแก่งแย่งชิงดี ขอให้พระองค์ทรงเป็ นฮ่องเต้ผู ้
ปราชญ์เปรื่ อง
ทั้งหมดนั้น….พระองค์ทรงทาอยูท่ ีละก้าว ทีละก้าว
“เจ้าไม่เคยเข้าใจ ความปรารถนาของอาอิง” จีเฉวียนทอดพระเนตร
มองดูฉางซุนซิ่วที่กาลังคลุม้ คลัง่ ส่ ายพระเศียรเบาๆ
อาอิง แค่คาๆ เดียว พระองค์ไม่เคยตรัสเรี ยกมาสิ บกว่าปี แล้ว
นับตั้งแต่ที่ฉางซุนอิงตายไป ก็ไม่เคยตรัสอีกเลย
ต่อให้เป็ นยามอยูเ่ บื้องหน้าฉางซุนซิ่วก็ไม่เคยตรัสถึงมาก่อน
คราวนี้ ฉางซุนซิ่วตกตะลึงจนแข็งค้างไป
เขาเงยหน้าขึ้นมองดูจีเฉวียนอย่างเนิ่นนาน พอกระพริ บตา น้ าตาก็
ไหลหยดลงมา “ที่ไม่เข้าใจคือฝ่ าบาทต่างหาก”
“ท่านคิดแต่วา่ ตอนเยาว์วยั ตนเองมีชีวิตอย่างปราศจากความสุ ข
ตนเองต้องรับความยากลาบากและถูกรังแก แต่กลับไม่รู้เลยว่า ใต้
หล้านี้ยงั มีคนที่ตอ้ งทนทุกข์ทรมานมากมายขนาดไหนเพราะท่าน
เป็ นเหตุ….”
เพราะเขากับน้องสาวไม่เคยเอ่ยมาก่อนเลย
“แต่ละคนล้วนต้องมีเรื่ องราวหนหลังของตนเอง ต่างก็มีสุขทุกข์
โศกศัลย์ดว้ ยกันทั้งนั้น ไม่ใช่วา่ ท่านจะแตกต่างออกไป”
แต่วา่ ความสุ ขทุกข์ของเขาและน้องสาวในชาติน้ ี ล้วนขึ้นอยูก่ บั
พระองค์เพียงผูเ้ ดียว
ฉางซุนซิ่วเงยศีรษะขึ้นมา ให้น้ าตาทั้งหมดไหลย้อนกลับไป
เขาเองก็เหมือนกับจีเฉวียน ที่เก็บงาความรู ้สึกได้เป็ นอย่างดีมาโดย
ตลอด
แต่วา่ ตอนนี้ กลับทนไม่ไหวอีกแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันที่แอบอยูใ่ นมุมๆ หนึ่ง นางไม่อาจจะบรรยายความรู ้สึก
ในตอนนี้ของตนเองออกมาได้เลย
วิญญาณทมิฬเองก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย หากว่าเรื่ อง
ทั้งหมดในตอนนั้นเป็ นเช่นที่ฉางซุนซิ่วบอกออกมาจริ งๆ นี่เท่ากับ
ว่าสาวน้อยวัยแรกแย้มผูห้ นึ่งกลับต้องมาตายอย่างอนาถเพราะจี
เฉวียน
แต่หลายสิ บปี มานี้เขากลับไม่เคยเก็บนางเอาไว้ในใจเลยแม้แต่
น้อย….
เช่นนั้นบุรุษผูน้ ้ ีกไ็ ร้รักเสี ยจนน่าหวาดกลัวแล้ว
แต่ถา้ หากว่าจีเฉวียนมีฉางซุนอิงอยูใ่ นใจ…..
แล้วจะให้หลันหลันทาเช่นไร?
สตรี ที่โง่เขลาผูน้ ้ ี….ยังไม่รู้จกั ยอมรับหัวใจของตนเองอีกหรื อ?
หากไม่ใช่เพราะว่าชอบจีเฉวียน นางไหนเลยจะไม่แม้แต่จะคิด ก็
ออกจากแคว้นต้าโจวทั้งยามค่าคืน เข่นฆ่ามาตลอดทาง……
จนไม่ได้หลับพักผ่อนมาตลอดสามวันสามคืน
กระทัง่ นาทีที่ได้เห็นว่าเขาปลอดภัย ถึงได้วางใจลงได้
“อย่างมากก็เป็ นแค่อดีตหญิงคนรัก….ไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไรสัก
หน่อย” วิญญาณทมิฬคิดๆ ดูแล้ว ก็รู้สึกว่าสมควรจะต้องปลอบใจ
นางสักหน่อย “เจ้าดูสิวงั หลังยังมีพระสนมมากมายขนาดนั้น ซูเม่ยก็
ยังแบกท้องใหญ่โต….”
เพราะว่านี่กเ็ ป็ นครั้งแรกที่หลันหลันหวัน่ ไหวใจมิใช่หรื อ?
พอมันหันศีรษะไปดู ก็เห็นว่าตู๋กซู ิงหลันมีสีหน้าหนักอึ้ง
นางไม่ได้นอนหลับพักผ่อนมาสามวันสามคืน เส้นผมบนศีรษะล้วน
รุ่ ยร่ าย ขอบตาดาคล้ าลึกโบ๋
เพราะว่ากังวลในตัวจีเฉวียนมากจนเกินไป นางจึงไม่ได้กินอะไรเลย
มาตลอดทาง เพียงแค่ดื่มน้ าไม่กี่คา สี หน้าก็ซีดขาวอย่างที่สุด
วิญญาณทมิฬพยายามจะสัมผัสถึงความรู ้สึกของตู๋กูซิงหลัน
แต่วา่ มันกลับรู ้สึกได้แต่เพียงความว่างเปล่า
นางตัดขาดความรู ้สึกของตนเองออกจากมัน
สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้นอ้ ยมาก….ครั้งก่อน คือตอนที่ศิษย์นอ้ ง
ของนางตายในทะเล
เมื่อสัมผัสความรู ้สึกไม่ได้ นี่จึงจะเรี ยกว่าน่ากลัวจริ งๆ
จนถึงตอนนี้มนั ก็ยงั จาได้วา่ หลังจากที่ศิษย์นอ้ งตายไป…..
การรับรู ้ของตู๋กซู ิงหลันก็พงั ทลายไปเกือบครึ่ งเดือน
ช่วงนั้นนางเอาแต่มืดมนอยูต่ ลอดเวลา ทุกครั้งที่ร้องไห้เป็ นต้องเสี ย
อกเสี ยใจจนหัวใจแทบสลาย
จนมีคนให้ฉายาว่า พี่สาวเจ้าน้ าตา
ปกตินางมักจะเข้มงวดกับตนเอง…..ยิง่ เป็ นเรื่ องการร้องไห้ ยิง่ ต้อง
หาเหตุในการร้องที่จริ งจัง
ตอนนี้เพียงเพราะแค่เรื่ องราวในอดีตที่ผา่ นมาของฮ่องเต้สุนขั ….นาง
ก็ถึงกับตัดขาดความรู ้สึกของตนเอง
วิญญาณทมิฬรู ้แต่วา่ สถานการณ์ไม่สู้ดี แต่พอหันไปมองดู ก็เห็นสี
หน้าของนางเรี ยบเฉย นอกจากเคร่ งขรึ มไปหน่อยแล้ว ก็แทบจะไม่มี
อะไรที่ดูผิดปกติ?
ในตอนนั้นเอง สายตาของฉางซุนซิ่วก็จบั จ้องไปยังกระบี่ในพระ
หัตถ์ของจีเฉวียน เขายิม้ อย่างเย็นชาออกมา “ตอนนี้แคว้นเหยียนก็
กลายเป็ นเพื่อนร่ วมกลบฝังของนางแล้ว ความมุ่งหวังเดียวในชีวิต
ของข้าก็สาเร็ จเสร็ จสิ้ นแล้ว ถึงแม้วา่ จะยังมีเรื่ องที่น่าเสี ยดายอีกมาก
แต่เมื่อเทียบกันแล้วก็ไม่ได้มีค่าสักเท่าไร ท่านก็ฆ่าข้าเสี ยเถอะ”
หากต้องปะทะกับพระองค์ เขาก็ยงั ไม่ใช่คู่มือของพระองค์อยูด่ ี ทั้ง
ยังคร้านที่จะต่อสู ้ดิ้นรนอีกด้วย
“ได้ตายในเงื้อมือของฝ่ าบาท นับว่าเป็ นจุดจบที่ไม่เลวแล้ว”
“เจ้าเป็ นพี่ชายของอาอิง เราจะไม่ฆ่าเจ้า” จีเฉวียนเก็บกระบี่เหมันต์
ในพระหัตถ์ไป
พอคิดถึงฐานะที่สาคัญของเขา พระองค์ยงิ่ ไม่มีทางปล่อยให้ฉางซุน
ซิ่วตายได้ง่ายๆ
ก็เพราะคิดถึงฐานะกับสิ่ งที่หลายปี มานี้เขาได้ทาให้พระองค์ยอม
อดทนให้เขาท้าทายครั้งแล้วครั้งเล่า
ตอนนี้ เนื่องเพราะเรื่ องของซิงซิงและอีกหลายชีวิตมากมาย
พระองค์ไม่อาจจะปล่อยเขาไปได้อีกแล้ว
“ไม่ฆ่าข้าหรื อ?” ฉางซุนซิ่วหน้าเปลี่ยนสี “นัน่ เท่ากับว่าจะทรมานข้า
ไปชัว่ ชีวติ ? จะจับข้าไปใส่ ไว้ในคุกหรื อว่าขังในตาหนักลงทัณฑ์
ของราชวงศ์กนั ละ? ทาลายอิสระภาพชัว่ ชีวิต ให้ต่าต้อยดุจมดตัว
หนึ่ง?”
“จีเฉวียน เห็นแก่ความสัมพันธ์ของพวกเรา ท่านให้ความรวบรัดกับ
ข้าได้หรื อไม่?”
ฉางซุนซิ่วเป็ นคนที่หยิง่ ทนงผูห้ นึ่ง ไหนเลยจะยอมถูกกักขังอยูใ่ นที่
ที่ไร้เดือนไร้ตะวัน ออกไปไหนไม่ได้ชวั่ ชีวิต
หากเป็ นเช่นนี้มิสู้ฆ่าเขาให้ตายๆ ไปเสี ย ยังรวบรัดสมใจยิง่ กว่า!
ในตาหนักบรรทมยังมีเหล่าองครักษ์จานวนหนึ่ง เหล่าพระสนม
และแม้กระทัง่ เหยียนหยุนก็อยูด่ ว้ ย
เพียงแต่วา่ เมื่ออยูต่ ่อหน้าจีเฉวียน และฉางซุนซิ่ว พวกเขาก็เป็ นได้
เพียงฉากหลังที่เลือนลางเท่านั้น ไม่มีใครกล้าพูดจาหรื อว่า
เคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้ น
เนื่องเพราะว่าฮ่องเต้ผชู ้ ราของเขาและฮ่องเต้พระองค์ใหม่….คน
หนึ่งอยูท่ างซ้าย คนหนึ่งอยูท่ างขวา ต่างก็นอนร่ างแข็งทื่อไปแล้ว
ใครเล่าจะกล้าคิดว่า คนที่ยวั่ ยุวางแผนให้ฮ่องเต้ผชู ้ ราแพร่ เชื้อผีดิบ
ใส่ ผคู ้ น จะเป็ นราชครู แห่งแคว้นต้าโจวนัน่ เอง?
หากมิใช่วา่ ตอนนี้คนทั้งสองกลายเป็ นศัตรู กนั พวกเขาย่อมต้อง
สงสัยแน่วา่ ทั้งสองร่ วมมือกันทาร้ายผูอ้ ื่น
ขณะที่ฟังคาพูดของฉางซุนซิ่ว สี หน้าของเหยียนหยุนก็วนุ่ วายใจ
อย่างยิง่
พอย้อนคิดกับไปถึงเรื่ องเหล่านั้นเขาก็จดจามันได้เป็ นอย่างดี
โดยเฉพาะเรื่ องของฉางซุนอิง
ตอนนั้นจีเฉวียนอายุยงั น้อย ด้วยฐานะที่เป็ นตัวประกันของเขาจึง
มักจะถูกกลัน่ แกล้งอยูเ่ สมอ ทุกสองสามวันเป็ นต้องถูกจับยัดเข้าคุก
ไปโดนทุบตีอยูเ่ รื่ อย
แต่ถึงอย่างนั้นก็มกั จะมีเด็กหญิงที่เงียบงันอยูค่ นหนึ่งคอยอยูเ่ คียงข้าง
เขาตลอดเวลา
เด็กหญิงผูน้ ้ นั หน้าตางดงาม พูดจาแต่นอ้ ย มักจะเอาแต่กม้ หน้า สวม
ใส่ เสื้ อผ้าเก่าขาด ไม่กล้าสบตาใครทั้งสิ้ น
ต่อให้ซ้ือซาลาเปามาได้สกั ลูกหนึ่ง ก็จะเก็บไส้ไว้ให้จีเฉวียน ตนเอง
กินแต่เปลือก
ตอนนั้นเพียงเพื่อขอเงินไม่กี่ตาลึง ถึงกับยอมมาทางานเป็ นนาง
กานัลซักล้างในตาหนักของเขาอยูส่ ามเดือน
เหล่าคนรับใช้มกั จะกลัน่ แกล้งนาง …… แต่นางก็ไม่เคยบ่นว่า
ขนาดถูกตีกย็ งั ยิม้ ได้ อะไรก็ยอมรับว่าเป็ นความผิดของตนเองอยู่
เสมอ
อายุเพียงแค่เจ็ดแปดขวบเท่านั้น……ต้องทาตัวต่าต้อยราวสุ นขั ตัว
หนึ่ง
เหยียนหยุนจดจานางได้อย่างแม่นยา…..
ปี นั้นที่นางอายุได้สิบสามปี จีเฉวียนเองก็มีที่ทางยืนหยัดอยูใ่ นแคว้น
เหยียนได้แล้ว
เขาเลี้ยงดูนางให้อยูด่ ีมีกิน ฐานะของพวกเขาค่อยๆ เขยิบขึ้นมา
เรื่ อยๆ …..
………………………………………
ตอนต่อไป “เฉวียน หลายปี มานี้ขา้ คิดถึงท่านมาตลอด”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 379 เฉวียน หลายปี มานีข้ ้ าคิดถึง
ท่ านมาตลอด
แคว้นเหยียนนิยมการต่อสู ้กบั สัตว์ร้าย แม้แต่ในเมืองหลวงยังมีการ
แสดงการต่อสู ้กบั สัตว์เพื่อสร้างความบันเทิงอยูเ่ สมอ
จีเฉวียนป่ ายปี นขึ้นมาจากทาสที่ต่อสู ้กบั สัตว์จนมาถึงระดับเทพนักสู ้
กับสัตว์อสู รของต้าเหยียน แต่ในสายตาของชนชั้นสู งของต้าเหยียน
เขาก็ยงั เป็ นเพียงแค่ทาสตัวประกันที่เอาไว้ต่อสู ้กบั สัตว์ร้ายเท่านั้น
เขาไม่เคยได้รับเกียรติหรื อความเคารพนับถือใดๆ ทั้งสิ้ น
ต่อมาแคว้นต้าเหยียนจับสัตว์อสู รหงเหมิงได้ตวั หนึ่ง ….สัตว์อสู รตัว
นั้นแค่กางกรงเล็บออกมาก็สามารถตบคนตายไปสิ บคน
ทาสนักสู ้นบั พันนับหมื่นตายไปใต้กรงเล็บของมัน
ในตอนนั้น เหล่าผูส้ ู งศักดิ์ในแคว้นเหยียนถึงได้คิดถึง ‘เทพนักสู ้
สัตว์อสู รขึ้นมา’
จึงได้บีบบังคับให้จีเฉวียนไปต่อสู ้กบั สัตว์อสู รหงเหมิงตัวนั้น…..
สาวน้อยหวาดกลัวแล้ว กลัวว่าเขาจะต้องไปต่อสู ้จริ งๆ …..
ดังนั้นนางจึงเที่ยวขอร้องคนไปทัว่ …… สุ ดท้าย เหยียนเฉียวหลัวก็
ให้ความหวังกับนาง
พอคิดถึงเหยียนเฉียวหลัว สี หน้าของเหยียนหยุนก็เปลี่ยนเป็ นยา่ แย่
เหยียนเฉี ยวหลัวถูกใจจีเฉวียน แต่น่าเสี ยดายที่ได้รับแต่การปฏิเสธ
จากเขามาโดยตลอด….ทั้งข้างกายเขาก็ยงั มีสาวน้อยที่สุดจะงามผู ้
หนึ่ง
บางทีอาจเป็ นเพราะความรักที่ก่อให้เกิดความชัง…. นางถึงได้ฉวย
โอกาสนี้พาสาวน้อยผูน้ ้ นั ไปพบกับแม่ทพั ใหญ่ที่ทรงอานาจมาก
ที่สุดในตอนนั้น
ทั้งยังบอกกับนางว่า ขอเพียงสามารถทาให้ท่านแม่ทพั ใหญ่ผนู ้ ้ ีพอใจ
ได้ จีเฉวียนก็จะไม่ตอ้ งไปต่อสู ้กบั สัตว์อสู ร
สาวน้อยผูน้ ้ นั ทั้งๆ ที่กเ็ คยผ่านประสบการณ์ดามืดในใต้หล้ามา
มากมาย แต่กย็ งั คงใสซื่อ….คาพูดของเหยียนเฉี ยวหลัวนางก็ยงั จะ
ยอมเชื่อ
ในจวนของแม่ทพั ใหญ่ผนู ้ ้ นั นางตกเป็ นของเล่นของเหล่าผูส้ ู งศักดิ์
ทั้งหลาย…..
เหล่าบุรุษที่อยูใ่ นคืนนั้น…..ทั้งหนุ่มทั้งแก่มีกนั ทั้งหมดสิ บสองคน
สาวน้อยที่บอบบางวัยสิ บสามปี ต้องตายอนาถภายใต้การทรมาน
เกรงว่าจีเฉวียนและฉางซุนซิ่วจนถึงวันนี้กย็ งั ไม่เคยรู ้วา่ คนที่เป็ นต้น
คิดแผนการในวันนั้นก็คือเหยียนเฉียวหลัว
เหยียนเฉี ยวหลัวตายไปในสระสวรรค์ของแคว้นเซอปี่ ซือแล้ว เรื่ อง
นี้จึงไม่จาเป็ นจะต้องเอ่ยถึงขึ้นมาอีก
เหยียนหยุนย้อนคิดขึ้นมาในตอนนี้ ในใจก็ได้แต่รู้สึกละอาย…..
ตอนนั้นเขาบังเอิญพบเหยียนเฉี ยวหลัวกาลังพาตัวฉางซุนอิงไปยัง
จวนแม่ทพั ใหญ่อยูแ่ ท้ๆ ….
แต่เขากลับมิได้ร้ ังนางเอาไว้
มิเช่นนั้น สาวน้อยที่ใสบริ สุทธิ์ผนู ้ ้ นั ก็อาจจะไม่ตอ้ งตาย
ใครใช้ให้ตอนนั้น…..เขาชิงชังจีเฉวียนถึงเพียงนั้นกัน
ตอนนี้เขาได้แต่เกาะไม้เท้าอยูด่ า้ นข้าง ช่วงนี้เขาได้แต่ติเตียนตนเอง
ติเตียนแคว้นเหยียน
เพราะยิง่ ทีกย็ งิ่ ได้พบว่า แคว้นเหยียนมีความดามืดซุกซ่อนอยูม่ าก
เพียงไร
ตอนนั้นจีเฉวียนสามารถป่ ายปี นขึ้นมาจากเส้นทางที่ดามืดเช่นนั้น
ได้ เขาจะต้องมีความมุ่งมัน่ และกล้าหาญถึงเพียงไหน
เหยียนหยุนพบว่า ที่แท้เขาก็พา่ ยแพ้ให้กบั จีเฉวียนตั้งแต่แรกแล้ว
พ่ายแพ้อย่างหมดรู ป
…….
อีกด้านหนึ่ง จีเฉวียนเก็บกระบี่ลงไป ทอดพระเนตรดูฉางซุนซิ่ว
“เราจะปล่อยเจ้าไป”
ฉางซุนซิ่วเลิกคิ้วขึ้นมา ไม่เข้าใจว่าพระองค์ทรงหมายความเช่นไร
หลังจากนั้นก็ได้ยนิ จีเฉวียนรับสัง่ ว่า “ขอเพียงเจ้ายอมสารภาพ……
ถึงอานาจที่อยูเ่ บื้องหลังออกมาทั้งหมด”
ได้ยนิ แล้ว ฉางซุนซิ่วก็หวั เราะเสี ยงเย็นชาออกมา “ข้ายังนึกว่า….เจ้า
คานึงถึงน้ าใจเก่าก่อนเสี ยอีก…..ที่แท้กค็ ิดถึงเรื่ องนี้อยูห่ รื อ?”
พอถึงตอนนี้เขาถึงได้เข้าใจ ว่าที่ผา่ นมาทั้งหมด จีเฉวียนจงใจปล่อย
เบ็ดยาวเพื่อตกปลาใหญ่นนั่ เอง
ที่พระองค์วางพระทัยปล่อยตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ในวังที่เมืองหลวงแต่
เพียงผูเ้ ดียว ก็เพราะคาดเดาอย่างแม่นยาแล้วว่าการเสด็จมาการาบ
แคว้นเหยียนครั้งนี้ เขาจะต้องลงมือแทรกแซงอย่างแน่นอน
พอพระองค์ปล่อยเบ็ดยาวเช่นนี้ออกไป…..ที่พระองค์ทรงยอมปล่อย
ให้เขาได้เคลื่อนไหวอย่างลับๆ มาตลอด ก็เพื่อให้เขาเป็ นฝ่ ายเปิ ดเผย
เบื้องหลังของตาหนักซิวหลัวเตี้ยนออกมาทั้งหมด
ฮ่องเต้แห่งต้าโจว …..ที่สุดแล้วก็เป็ นคนที่ไร้น้ าใจอย่างแท้จริ ง มิ
เช่นนั้นไหนเลยจะยอมปล่อยเขาไปโดยง่าย?
ฉางซุนซิ่วยิม้ ขมขื่นจากหัวใจ “ในที่สุดฝ่ าบาทก็รู้จกั หวัน่ เกรงขุม
กาลังจากภายนอกบ้างแล้ว?”
“ไม่ตอ้ งรี บหรอก…. ขุมกาลังเหล่านั้นยังแข็งแกร่ งกว่าที่พระองค์
คาดคิดเอาไว้มากมาย พวกเขาย่อมไม่ยอมล้มเลิกง่ายๆ ขอเพียงท่าน
ยังไม่ตาย แคว้นโจวยังไม่ล่มสลาย พวกเขาจะต้องตามพัวพันท่าน
อย่างไม่เลิกลา”
“ใต้หล้านี้ มิใช่มีแต่ขา้ เพียงผูเ้ ดียวที่ไม่ตอ้ งการให้ท่านได้อยูอ่ ย่าง
สงบสุ ข”
น้ าตาบนใบหน้าเหื อดแห้งไปแล้ว เขาจึงหัวเราะออกมาอย่างมีลบั ลม
คมนัย
“ประมุขของตาหนักซิวหลัวเตี้ยนที่สุดแล้วคือผูใ้ ด เกี่ยวข้องอันใด
กับเรา กับแคว้นต้าโจว?” จีเฉวียนตรัสเสี ยงเข้ม หากว่าเปลี่ยนเป็ น
ผูอ้ ื่น พระองค์จะต้องใช้ความทรมานให้สารภาพเป็ นแน่น แต่วา่ คน
ผูน้ ้ ีคือฉางซุนซิ่ว
ถึงแม้วา่ ขุมกาลังของพระองค์จะแข็งแกร่ ง แต่เรื่ องที่เกี่ยวข้องกับ
ตาหนักซิวหลัวเตี้ยน องครักษ์ของพระองค์กลับไม่สามารถ
ตรวจสอบได้สกั เท่าไหร่ รู ้แต่เพียงว่าเป็ นขุมกาลังที่ล้ ีลบั แห่งหนึ่ง
เท่านั้น
และเหล่าผูค้ นที่เป็ นส่ วนหนึ่งของขุมกาลังนี้ลว้ นเป็ นผูเ้ ข้มแข็ง
คนอย่างเช่นเสี ยนไท่เฟย ศพคืนชีพชรา และอันหร่ วน อย่างมากก็
เป็ นเพียงแค่หมากตัวเล็กๆ ที่ไม่อยูใ่ นสายตาของตาหนักซิวหลัว
เตี้ยนเท่านั้น
แต่เพียงแค่ตวั หมากที่ไม่เข้าตาเหล่านี้ ก็สามารถทาให้เกิดความไม่
สงบได้แล้ว
หากว่ายังไม่รู้ต้ืนลึกหนาบางเกรงว่าทัว่ ทั้งแคว้นต้าโจวคงจะต้องตก
อยูใ่ นอันตรายโดยไม่รู้ตวั
พระองค์จบั จ้องเขาอย่างเงียบงัน เห็นดวงตาทั้งคู่ของฉางซุนซิ่วหม่น
หมองลง
“ฝ่ าบาทจับอันหร่ วน บีบบังคับให้สารภาพ หรื อไม่ทรงทราบว่าใน
โลกนี้ยงั มีสิ่งที่เรี ยกว่าคาสาปผนึกวาจาอยู?่ ” ฉางซุนซิ่วกล่าวอย่าง
คลุม้ คลัง่
เขาชี้ไปที่สมองของตนเอง “ทางที่ดี ฝ่ าบาทช่วยไปให้ไกลจาก
กระหม่อมหน่อย…. มิเช่นนั้นอีกเดียวพระองค์จะทรงได้ยนิ เสี ยง
แตกดัง ‘โผละ’ …..จากสมองของกระหม่อม….”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เขาหัวเราะออกมาอย่างสะใจ “ท่านว่ามันน่าสนใจไหมเล่า ท่านไม่
ฆ่าข้า เพราะต้องการถามเรื่ องของตาหนักซิวหลัวเตี้ยนจากข้า นี่มิ
เท่ากับว่าบีบบังคับให้ขา้ ต้องตายหรอกหรื อ? ฮ่า ฮ่า ฮ่า จีเฉวียน ท่าน
มันเป็ นคนที่สับสนในตนเองจริ งๆ!”
ขณะที่ฉางซุนซิ่วหัวเราะอยูน่ ้ นั ในมือของตู๋กซู ิงหลันก็ปรากฏยันต์
แผ่นหนึ่งขึ้นมา
คาสาปผนึกวาจาเช่นนี้……มิใช่วา่ จะไม่มีหนทางแก้ไข
ขณะที่นางกาลังเอ่ยคาถากากับขึ้นมาก็ได้ยนิ เสี ยงๆ หนึ่ง
“พี่จ๋า”
น้ าเสี ยงที่นุ่มนวลของอิสตรี ลอยเข้ามาจากนอกตาหนัก
เพียงแค่เสี ยงเบาๆ คาเดียว ก็ทาให้จีเฉวียน ฉางซุนซิ่ว และตู๋กูซิงห
ลันต้องหันหน้ากลับไปมอง
จากนั้นก็เห็นรองเท้าปักลายดอกบัวคู่หนึ่งล่องลอยผ่านประตูใหญ่
เข้ามาในตาหนักบรรทม
จากนั้นในสายตาก็ปรากฏเงาร่ างของสาวน้อยในชุดสี ฟ้าขาวผูห้ นึ่ง
ท่ามกลางวันที่อากาศหนาวเย็นนางกลับสวมใส่ ชุดที่บางเบา
กระโปรงชั้นในเป็ นสี ฟ้า ชั้นนอกเป็ นผ้าโปรงสี ขาว เป็ นสี ฟ้าและ
ขาวที่เข้ากันอย่างงดงาม
ผิวของนางขาวมาก….ขาวจนแทบจะไม่มีสีเลือด ริ มฝี ปากที่เป็ นสี
แดงสดทาให้ผวิ หน้าของนางยิง่ ดูขาวจนไร้สีเลือดไปกว่าเดิมอีก
นางมีคิ้วโค้วยาวดุจเนินเขา
แม้ดวงตาของนางมิได้โต แต่กโ็ ค้งมน เมื่อประกอบกับหัวคิ้วรู ปเนิน
เขาก็ยงิ่ เสริ มให้ดูอ่อนโยนอย่างบอกไม่ถูก
เส้นผมที่ยาวสลวยของนางถักเป็ นเปี ยยาวเอาไว้ดา้ นข้าง
ทันทีที่กา้ วเท้าเข้ามาเส้นกระดิ่งที่เท้าก็ดงั กรุ ้งกริ้ ง
นี่เป็ นสาวน้อยที่บริ สุทธิ์งดงามผูห้ นึ่ง……
ขณะที่ผา่ นหน้าของตู๋กซู ิงหลันไปนั้น นางก็หยุดชะงักเล็กน้อย และ
หันมาเหลือบตามองดูเป็ นพิเศษแวบหนึ่ง
จากนั้นก็เร่ งฝี เท้าจากไป จนกระดิ่งส่ งเสี ยงกรุ ้งกริ้ งไปตลอดทางนาง
เดินไปจนถึงข้างกายฉางซุนซิ่วและจีเฉวียน
พอมองดูพวกเขา นางก็ขยับเข้าไปหาจีเฉวียนก่อน
นางเขย่งปลายเท้า ยืน่ มือออกไปคล้องพระศอของพระองค์ลงมา
กอดเอาไว้อย่างแนบแน่น ซุกศีรษะลงไปบนบ่าของพระองค์ กล่าว
เสี ยงเบาว่า “เฉวียน หลายปี มานี้ขา้ คิดถึงท่านเหลือเกิน”
ร่ างของนางสู งเพียงแค่พระพาหาของจีเฉวียน เมื่อจะคล้องพระศอ
ของพระองค์กต็ อ้ งพยายามให้มากแล้ว
แต่นางก็ยงั เขย่งขึ้นไปอีกจุมพิตเบาๆ ลงบนบาดแผลบนพระศอ
“เฉวียน ท่านบาดเจ็บแล้ว พอจูบก็จะไม่เจ็บแล้วใช่ไหม?”
——
ไรท์: อ้ายย่าห์ แฟนเก่าเขามาแล้ว ทาไงดี
ตอนต่อไป “ชอบแต่กลับไม่รู้ตวั ”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 380 ชอบแต่ กลับไม่ รู้ตัว
วิญญาณทมิฬ “???!!!”
ตอนนั้นมันถึงกับตกใจจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว ได้แต่หนั หน้า
กลับไปมองดูต๋ ูกูซิงหลัน
พอมองก็ยงิ่ ยา่ แย่เข้าไปใหญ่ สี หน้าของนางเรี ยบสนิท แต่วา่ มุมปาก
กลับมีเลือดไหลออก
เลือดสดๆ!
แต่วา่ นางกลับไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด….ยังคงมองดูจีเฉวียนและสาว
น้อยผูน้ ้ นั อย่างเลื่อนลอย
“หลันหลัน เจ้ากระอักเลือดแล้ว?” วิญญาณทมิฬร้องเตือนนางอย่าง
เจ็บปวดใจ
ถ้าหากยังจะบอกว่านางไม่ได้หวัน่ ไหวใจไปกับจีเฉวียนละก็…..มัน
จะยอมแต่งกับราชาสุ นขั ป่ าพร้อมมีลูกด้วยกันไปเลย!
ราชาสุ นขั ป่ าตะวันตกคล้ายจะจับความรู ้สึกบางอย่างได้ จึงตื่นเต้น
ยินดีข้ ึนมา
ตู๋กูซิงหลันพึ่งจะรู ้สึกตัว นางยกมือขึ้นมาปาดเช็ดเลือดทิ้งไป
นี่คงจะเป็ นเพราะ….โรคไม่อาจมีความรักกับใครเขาของนางกาเริ บ
ขึ้นมา นางถึงได้กระอักเลือด…..จะต้องเป็ นเพราะแบบนั้นแน่ๆ
อีกด้านหนึ่ง สาวน้อยคลายมือจากจีเฉวียน มุมปากของนางยังคงมี
โลหิตของจีเฉวียนติดอยู่
ส่ วนฝ่ าบาท กลับตัวแข็งทื่อไปแล้ว
นอกจากตู๋กูซิงหลันแล้ว นี่เป็ นสตรี คนที่สองที่พระองค์มิได้ปฏิเสธ
การเข้าใกล้
สาวน้อยไม่สนใจจะเช็ดเลือดที่มุมปาก นางเดินไปถึงข้างกายฉางซุน
ซิ่ว ก็คุกเข่าลงไป ทั้งยังยืน่ มือไปคล้องคอเขากอดเอาไว้อย่างแนบ
แน่น “พี่จ๋า ข้ากลับมาแล้ว”
นับตั้งแต่ที่นางปรากฏตัวขึ้นมา ฉางซุนซิ่วก็ตวั แข็งกลายเป็ นหิ นไป
แล้ว
หากมิใช่เพราะว่าได้รับสัมผัสกอดรัดที่สมจริ งเช่นนี้ เขาจะต้องรู ้สึก
ว่าทั้งหมดนี้เป็ นแค่ความฝัน
ตอนนั้น….เขาเป็ นคนฝังอิงเอ๋ อร์กบั มือ แล้วนางจะ…..จะมีชีวิต
ขึ้นมาได้อย่างไร?
นี่เป็ นไปไม่ได้!
แต่วา่ ใบหน้านี้….เป็ นน้องสาวของเขาจริ งๆ นางตายไปตั้งหลายปี
แล้ว แต่นางในตอนนี้คล้ายกับว่าไม่ได้เติบโตขึ้นมาเลย ยังคงดู
เหมือนตอนที่อายุสิบสามปี อย่างไรอย่างนั้น
หากว่าตอนนั้นนางยังคงมีชีวิตอยูล่ ะก็…..ตอนนี้สมควรมีอายุยสี่ ิ บสี่
ปี แล้ว
“พี่ ข้าคืออิงเอ๋ อร์ไงเจ้าคะ ท่านจาข้าไม่ได้แล้วหรื อ?” สาวน้อยปล่อย
ตัวเขา ใช้มือสัมผัสใบหน้าของเขา พลางกล่าวสาทับว่า “ข้ากลับ
มาแล้ว จะไม่ไปจากพี่อีกแล้วนะเจ้าคะ”
นางสวมใส่ ถุงมือสี ขาวราวหิมะ บนถุงมือปั กลายดอกบัวเอาไว้ แม้
จะเป็ นการสัมผัสผ่านถุงมือแต่ฉางซุนซิ่วกลับไม่ได้รู้สึกถึงไออุ่น
จากตัวนางแม้แต่นอ้ ย
เขาไม่อาจแยกแยะว่านางยังมีชีวิตอยูจ่ ริ งๆ หรื อว่าไม่ได้มีชีวิตอยู่
แล้วกันแน่
“อิงเอ๋ อร์….เป็ นเจ้าจริ งๆ? ตอนนั้น…..”
สาวน้อยหันมาสบตาเขาครั้งหนึ่ง สายตากวาดเลยไปยังศพทั้งสอง
ทางซ้ายและขวาแต่กเ็ หมือนมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้น นางนัง่ ลง
บนพระศพของฮ่องเต่ผชู ้ รา พลางกอดแขนของฉางซุนซิ่วเอาไว้ “พี่
เจ้าคะ ข้าตายไปนานหลายปี แล้ว”
เพียงแค่ประโยคเดียว กลับทาให้หวั ใจของฉางซุนซิ่วสัน่ สะท้าน
“แต่มีท่านเซียนผูห้ นึ่งสงสารข้า จึงเก็บรักษาวิญญาณของข้าเอาไว้
แล้วใช้รากบัวเซียนกับดินจากสุ สานสร้างร่ างเนื้อขึ้นมาให้ขา้ ใหม่”
สาวน้อยกล่าวเบาๆ หลายปี มานี้ขา้ ไม่ได้กลับมาอยูข่ า้ กายพี่และ
เฉวียน ข้าผิดไปแล้ว”
วิญญาณทมิฬที่อยูห่ ่างออกไป “คาพูดนี้เอาไว้หลอกผีสิไม่วา่ ? นี่นาง
เป็ นนาจาหรื อไง? แล้วจะบอกข้าว่าท่านเซียนหญิงผูน้ ้ นั คือไท่เอ่อ
เจินเหริ นหรื อเปล่า?
ตู๋กซู ิงหลันเองก็พดู อะไรไม่ออก เมื่อครู่ ตอนที่สาวน้อยผูน้ ้ นั ผ่าน
หน้านางไป นางเองก็ได้กลิ่นดินจากสุ สานเช่นกัน
จมูกของจีเฉวียนฉับไวขนาดนั้น ไม่มีทางที่เขาจะไม่ได้กลิ่น
ดังนั้นนางย่อมไม่มีทางปิ ดบังได้อย่างแน่นอน
ในเมื่อไม่อาจปิ ดบัง ก็เลยสารภาพออกมาอย่างเปิ ดเผยเสี ยเลย
การจะสร้างร่ างเนื้อขึ้นมาใหม่น้ นั มีแต่เทพเซียนผูย้ งิ่ ใหญ่เท่านั้นที่
ทาได้ ตู๋กูซิงหลันเคยเห็นแต่ในบันทึกของตาราเวทย์เท่านั้น
ใช้ดินจากสุ สานมาเป็ นตัวชักนา แล้วผสานเข้ากับวัตถุวิเศษ ก็อาจจะ
สามารถสร้างร่ างเนื้อขึ้นมาได้
จากนั้นชักนาวิญญาณของผูต้ ายเข้าสู่ ร่างใหม่ ที่น้ ีกจ็ ะทาให้สามารถ
คงอยูต่ ่อไปได้
ในนิทานปรัมปราของโลกปัจจุบนั ก็มีอยูเ่ ช่นเรื่ องของนาจา
ถึงแม้วา่ จะเป็ นเทพนิยาย แต่วา่ ย่อมต้องมีเคร้าโครงที่เป็ นจริ งอยูบ่ า้ ง
สาหรับนางแล้ว สิ่ งที่อยูต่ รงหน้านี้เกรงว่าจะเป็ นโครงเรื่ องเก่าที่เคย
ได้เห็นมาจนหมดแล้ว
จิตใจของตู๋กซู ิงหลันว้าวุน่ อย่างยิง่ สมองก็สบั สนวุน่ วายไปหมด….
นางพยายามจะบังคับตนเองให้สงบลง ตอนนี้นางไม่รู้แล้วว่าการที่
ตนเองอยูท่ ี่นี่จะยังมีความหมายอะไรอีก
จีเฉวียนตอนนี้กย็ งั มีชีวิตอยู…
่ .ทั้งยังได้พบกับแสงจันทราในชีวิต
แล้ว
ถึงแม้วา่ แสงจันทราดวงนี้จะไม่ใช่มนุษย์แต่วา่ สาหรับเขาแล้วก็คง
ไม่ใช่เรื่ องสาคัญอะไร
นางตบคอของติ๊งต๊องเบาๆ ส่ งสัญญาณให้มนั พาตนเองจากไป
ช่วงเวลาที่สาคัญเช่นนี้ …..ติ๊งต๊องช่างฉลาดสมกับชาติตระกูลไก่
ของมัน
มันกางอุง้ เท้าออกมา ตะกุยดินลงไป จากนั้นก็พงุ่ เข้าใส่ จีเฉวียน ยก
จงอยปากที่แหลมคมของมันขึ้นมา จิกลงไปอย่างบ้าคลัง่
ทางหนึ่งจิก ทางหนึ่งก็ส่งเสี ยงกะต๊าก กะต๊ากไม่ยอมหยุด
เจ้าฮ่องเต้สุนขั จอมเสเพล!
ตอนอยูใ่ นวังปากก็บอกว่ารักชอบพีส่ าวตัวน้อย พอหันหน้าไป
เท่านั้นก็ไปกอดรัดกับหญิงสาวนางอื่นได้หรื อ?
หากไม่ได้จิกขาที่สามของเขาให้ขาดไป มันไม่ขอใช้แซ่ติ๊งแล้ว!
มันอาละวาดใหญ่แล้ว ตู๋กซู ิงหลันแทบจะถูกมันสะบัดตกลงมา
ยังดีที่จีเฉวียนสายพระเนตรไวพระหัตถ์กค็ ล่องแคล่ว แค่ยนื่ พระ
หัตถ์ออกไปก็โอบอุม้ นางมาไว้ในอ้อมพระอุระอย่างรวดเร็ ว
ทั้งยังอุม้ นางในท่าอุม้ เจ้าหญิง
“ซิงซิง?” จีเฉวียนประหลาดพระทัยนัก จึงโอบกอดนางแนบแน่น
กว่าเดิม
“หากไม่มาไหนเลยจะรู ้วา่ เจ้ากินในชามแล้วยังขยักในหม้อเอาไว้
อีก?” วิญญาณทมิฬเริ่ มใช้วิชาด่ากระทบอีกครั้ง
แต่วา่ คราวนี้ จีเฉวียนคล้ายจะไม่เข้าใจอยูบ่ า้ ง
“เจ้าเห็นหมดแล้ว?” พอทอดพระเนตรมองดูสาวน้อยในอ้อมพระกร
พระทัยของจีเฉวียนก็ยงิ่ หนักหน่วงกว่าเดิม
พระองค์ช่าง…..เชื่องช้าเสี ยจนไม่รู้ถึงการคงอยูข่ องนาง
นี่จะต้องเป็ นเพราะว่าหน้ากากกันพิษใบนี้ ส่ งผลต่อประสาทรับกลิ่น
ทาให้พระองค์ไม่รู้สึก
ตอนแรกพระองค์คิดจะถอดหน้ากากออกมา แต่พอคิดได้วา่ พระ
พักตร์มีแต่สิว ก็ทรงรี บกดหน้ากากกลับไปในทันที
พระองค์ที่เป็ นเช่นนี้ ไม่ควรทาให้นางต้องตกใจจะดีกว่า
“อะไรคือ ‘เจ้าเห็นหมดแล้ว’ ?” วิญญาณทมิฬอยากจะชาระแค้น
แทนตู๋กซู ิงหลัน “นี่มนั เท่ากับยอมรับสารภาพโดยมิตอ้ งบอกแท้ๆ!
บัดซบ เจ้าชูเ้ สเพล แล้วยังจะกล้ามาทาอย่างเปิ ดเผยถึงขนาดนี้ ข้าพึ่ง
จะเคยได้เห็นเป็ นครั้งแรก!”
ตู๋กซู ิงหลันส่ งสายตาให้มนั “ไม่ตอ้ งพูดแล้ว”
นางขยับตัวเล็กน้อย กล่าวว่า “ได้ยนิ ว่าที่แคว้นเหยียนเกิดเรื่ อง ข้า
เป็ นห่วงความปลอดภับของพี่ใหญ่ จึงได้มาชมดู”
พี่ใหญ่ต๋ ูกจู ุนที่จดั การเรื่ องด้านนอกเรี ยบร้อยแล้วจึงรี บเข้ามาด้านใน
“?”
เมื่อครู่ ตอนที่เขานาทัพต่อสู ้อยูด่ า้ นนอก ไม่เห็นน้องเล็กจะลงมือ
ช่วยอะไรเลย แน่ใจหรื อว่าเป็ นห่วงความปลอดภัยของเขาจริ งๆ?
“หม่อมฉันไม่ได้เป็ นอะไร ฝ่ าบาททรงปล่อยหม่อมฉันลงเสี ยดีกว่า
หม่อมฉันยืนเองได้”
ตู๋กซู ิงหลันก็ไม่รู้วา่ ทาไมตอนนี้นางถึงได้รู้สึกต่อต้านอ้อมกอดของจี
เฉวียนอย่างมาก
ไม่วา่ จีเฉวียนจะเคยผ่านประสบการณ์กบั สตรี คนใดมาก่อน นางก็
ไม่ได้ใส่ใจ แต่วา่ ในเมื่อเขาเคยมีรักลึกซึ้งถึงกระดูกมาก่อน ทาไม
จะต้องมาบอกกับนางว่าไม่เคยหวัน่ ไหวกับผูใ้ ดมาก่อนด้วย?
ตู๋กซู ิงหลันฉุนจนขึ้นสมองแล้ว นางเองก็ไม่เข้าใจว่าสิ่ งที่เป็ นอยู่
ในตอนนี้มนั คืออะไรกันแน่
เดิมทีนางก็ไม่ได้ชอบจีเฉวียน แล้วจะต้องมาอึดอัดไปทาไม?
“เราไม่ปล่อย” จีเฉวียนยังคงอุม้ นางเอาไว้ และเพราะเกรงว่ากลิ่น
คาวเลือดจากพระศอของพระองค์จะรบกวนนาง จึงจงใจขยับพระ
ศอออกห่างจากนางอีกหน่อย
“ดูสิ ในใจมีพิรุธแล้ว!” วิญญาณทมิฬชี้อย่างเอาเป็ นเอาตาย
สหายติ๊งต๊องก็ยงิ่ ให้ความร่ วมมือจะจิกขาที่สามของพระองค์ให้ถึง
ตายให้จงได้
ฝ่ าบาททรงสะบัดพระบาทออกไป ได้ยนิ เสี ยงติงตัง รองพระบาท
เหล็กถึงกลับเป็ นรู
แต่ลูกถีบนี้กส็ ามารถส่ งติ๊งต๊องลอยกระเด็นไปไกลได้เหมือนกัน
พระองค์หนั พระพักตร์กลับมามองดูต๋ ูกซู ิงหลัน พยายามยับยั้ง
พระทัยที่จะจูบนางอย่างกระทันหัน
“ซิงซิงมาแล้ว เป็ นเพราะว่าเป็ นห่วงเราสิ นะ”
………………………….
ตอนต่อไป “เราเป็ นคนช่างจดจาความแค้น”
นาจา (哪吒) : ว่ากันว่านาจาคือสุ ดยอดของเด็กแสบ พวกเทพมา
เกิดแต่สร้างปัญหาไปทัว่ ทั้งถล่มวังมังกร ก่อสงคราม หลังจากที่นา
จาเฉือนเนื้อคืนแม่ เฉือนกระดูกคืนพ่อเพื่อชดใช้ความผิด วิญญาณก็
ลอยกลับไปซบอกอาจารย์ ท่านอาจารย์สงสารจึงใช้รากบัวเซียนมา
ปั้นเป็ นร่ างเนื้อชุบชีวิตให้เขาใหม่อีกครั้ง ตอนหลังนาจาสานึกตน
ได้ เลิกก่อความเดือดร้อน จึงได้กลับใจเป็ นเทพที่ดี
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 381 เราเป็ นคนช่ างจดจาความแค้ น
“ฝ่ าบาททรงคิดมากไปแล้วเพคะ” สี หน้าของตู๋กูซิงหลันไร้
ความรู ้สึก นางพยายามใช้กาลังทั้งหมดขัดขืน
“เสื้ อผ้าที่เจ้าสวมใส่ ลว้ นเป็ นเสื้ อผ้าที่เราสัง่ ให้คนตัดให้เจ้าเป็ นพิเศษ
เจ้าสวมชุดนี้มาหาเรา ก็เพราะว่าคิดถึงเรา เป็ นห่วงเรา….”
หากว่ากันตามจริ งเสื้ อผ้าชุดไหนของตู๋กซู ิงหลันที่ไม่ใช่เขามอบให้
นางกัน?
หรื อต้องให้นางวิ่งมาตัวเปล่าถึงจะแสดงให้เห็นว่านางไม่ได้คิดถึง
เขา?
นางคร้านจะสนใจเขาแล้ว พอพยายามดิ้นอีก จีเฉวียนก็ยงั ไม่ยอม
ปล่อยนาง กระทัง่ เห็นว่ามุมปากของนางมีเลือดไหลออกมาอีก
พระองค์กท็ รงเข้าพระทัยว่าทรงใช้พละกาลังมากจนเกินไป ทาร้าย
นางเข้า จึงได้เปลี่ยนพระทัยเป็ นปล่อยนาง
ตู๋กูซิงหลันผละออกจากอ้อมพระอุระในทันที พอสองเท้าของนาง
สัมผัสกับพื้น ก็เกิดความรู ้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุด
ก่อนที่จะเดินทางมายังหวงตูเมืองหลวงของแคว้นเหยียน ภรรยาของ
หัวหน้าเผ่าอาปู้ไซ้ช่วยเชื่อมต่อเส้นเอ็นให้นางอยู่ นัน่ เป็ นขั้นตอนที่
เจ็บปวดอย่างยิง่ เดิมที่จะต้องทาการรักษาอย่างต่อเนื่องตลอดหนึ่ง
เดือน แต่วา่ นางพึ่งจะรักษาได้เพียงไม่กี่วนั เท่านั้น
เมื่อครู่ นางลงสู่ พ้นื เร็ วไป ขากระแทกพื้นอย่างแรง ต้องเจ็บปวดราว
กับถูกเข็มมากมายทิ่มแทง ถึงจะเป็ นตู๋กซู ิงหลันก็ยงั เจ็บจนสัน่
สะท้านไปทั้งร่ าง
แต่เพราะนางเป็ นคนใจแข็ง จึงฝื นใจรวบรวมกาลังยืนหยัดเอาไว้
ตู๋กูจุนเห็นแล้ว ก็รีบฉวยดาบใหญ่ของเขาวิ่งเข้ามาประคองนางเอาไว้
ช่วงก่อนหน้านี้เขาเคยได้รับจดหมายจากทางบ้านว่าขาของน้องเล็ก
มีหนทางรักษา
ดูท่าตอนนี้คงจะเห็นผลบ้างแล้ว
ตู๋กจู ุนมองดูนาง เดิมทีสมควรจะดีใจ แต่พอเห็นสี หน้าของน้องสาว
เรี ยบเฉย มุมปากก็ยงั มีรอยเลือดในใจของเขาพลันเกิดความเจ็บปวด
นางรี บร้อนเดินทางมาจากแคว้นต้าโจวแต่เพียงลาพังตลอดทางมีแต่
พวกผีดิบ
เขาไม่กล้าคาดคิดจริ งๆ ว่าสาวน้อยนางหนึ่งเช่นนางจะต้องเผชิญกับ
อะไรบ้าง
ต่อให้เป็ นเหล่าผูแ้ ข็งแกร่ ง นี่กย็ งั อันตรายมากอยูด่ ี ไม่รู้วา่ อาจจะตาย
ได้ไปแล้วกี่หน
“น้องเล็ก ให้พี่ใหญ่อุม้ ” ตู๋กจู ุนอยากจะแบกนางขึ้นไปบนบ่า
ในทันที
“ข้าไม่เป็ นไร พี่ใหญ่ไม่ตอ้ งกังวลใจไป” นางคว้าข้อมือของตู๋กูจุน
เอาไว้ ตบลงไปบนหลังมือของเขาเบาๆ
นางไม่หนั ไปมองดูจีเฉวียนอีก สายตาเพียงจับจ้องอยูท่ ี่ร่างของฉาง
ซุนซิ่วและฉางซุนอิง
ยามที่มองไปนั้น คนทั้งสองก็มองมาที่นางเช่นกัน
ดวงตาของฉางซุนซิ่วมีไอสังหาร ส่ วนฉางซุนอิงค่อยๆ เบือนหน้ามา
ขนตาบนดวงตาโค้งคูน้ ้ นั กระพริ บถี่ๆ
ก่อนที่พวกเขาจะเอ่ยปาก ตู๋กูซิงหลันก็พดู ขึ้นมาก่อน
“ราชครู ”
น้ าเสี ยงของนางเย็นชา ราวกับภูเขาน้ าแข็งในร่ างของจีเฉวียน
“ไทเฮาทรงมีเรื่ องใดจะสัง่ สอน” ฉางซุนซิ่วคว้ามือของฉางซุนอิง
เอาไว้ กล่าวอย่างไม่ได้เกรงกลัวตู๋กซู ิงหลันเลยสักนิด
“ความแค้นในช่องว่างกาลเวลา พวกเราสมควรจะมาชาระบัญชีกนั
ได้แล้ว” ตู๋กซู ิงหลันสงบนิ่งอย่างยิง่
นางพึ่งกล่าวออกไป ก็เห็นติ๊งต๊องวิ่งเข้ามาส่ งง้าวในปากให้อย่าง
รวดเร็ ว
ตู๋กซู ิงหลันรับด้ามง้าวมา เหยียดร่ างยืนตรงดุจพูก่ นั
ฉางซุนซิ่วเองก็มิได้หลบหลีก เขากล่าวด้วยน้ าเสี ยงเย็นชาว่า “เจ้าจะ
คิดบัญชีกบั ข้าอย่างไร?”
เขากล่าวด้วยท่าทางยโสอย่างยิง่ !
ตู๋กซู ิงหลันกาง้าวในมือเอาไว้อย่างแนบแน่น ง้าวเล่มนี้เหมือนกับ
ง้าวในพระหัตถ์ของจีเฉวียนล้วนจัดสร้างขึ้นจากทองคาดา ถืออยูใ่ น
มือก็หนักพอสมควร
ใบมีดยังมีเลือดติดอยู่
ต่อให้เป็ นคนหนุ่มที่แข็งแรง เมื่อต้องถือง้าวเช่นนี้กต็ อ้ งนับว่ากิน
แรงอยูม่ าก แต่วา่ ตู๋กซู ิงหลันกลับทาเสมือนว่าไม่มีเรื่ องใด
นางยกขึ้นมาเบาๆ ปลายง้าวชี้ไปที่ลาคอของฉางซุนซิ่ว “เจ้าวางแผน
ทาร้ายเรารอบแล้วรอบเล่า ตอนนี้กย็ งั แพร่ เชื้อผีดิบ ทาร้ายผูบ้ ริ สุทธิ์
มากมาย แม้ตายก็ยงั ไม่พอจะชดใช้ความผิด”
พูดแล้ว นางก็เหลือบตามองไปทางจีเฉวียนแวบหนึ่ง
เขาสวมใส่ หน้ากากเอาไว้ ตู๋กซู ิงหลันจึงไม่อาจคาดเดาความรู ้สึก
ของเขาได้ เห็นแต่เพียงว่าดวงตาหงส์คู่น้ นั เย็นยะเยือกอย่างล้ าลึก
เลือดที่ติดอยูบ่ นใบมีดง้าวหยดลงไปบนลาคอของฉางซุนซิ่ว ตู๋กู
ซิงหลันขยับด้ามง้าวแทงเข้าไป
ใบมีดจมเข้าไปในผิวเนื้อ ลาคอของเขาหลัง่ เลือดออกมา “ข้าเป็ นคน
ที่ช่างจดจาความแค้น หากมีแค้นแล้วไม่ชาระย่อมอึดอัดคับข้องไป
ตลอดชีวิต เจ้าฆ่าคนย่อมต้องชดใช้ดว้ ยชีวิตนี่คือหลักการของฟ้า
ดิน”
ไม่วา่ เขาจะผ่านประสบการณ์ดามืดใดมาก็ตามก็ไม่สมควรจะจับเอา
ผูบ้ ริ สุทธิ์มาลงมีด
ที่นางถูกแรงงกดดันเค้นกระดูกอยูใ่ นช่องว่างของกาลเวลา เกือบ
จะต้องสิ้ นชีวิตกลายเป็ นวิญญาณไปอีกครั้ง
เมื่อย้อนคิดถึงความทรมานในตอนนั้น ช่างเกินว่าที่คนทัว่ ไปจะทน
ได้จริ งๆ
ตู๋กซู ิงหลันมิใช่คนมากเมตตาจนถึงขนาดจะให้ละเว้นชีวิตของคู่
แค้นได้ขนาดนั้น
ก่อนหน้านั้น กับฉางซุนซิ่วนางมีเมตตากรุ ณาเขาอยูเ่ สมอ มัน่ ใจว่า
ตนเองไม่เคยกระทาเรื่ องใดที่ทาร้ายเขามาก่อน
แต่ตอนนี้พอมาคิดๆ ดู เรื่ องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวังหลวงล้วนมีส่วน
เกี่ยวข้องกับเขาอย่างหลีกหนีไม่พน้
นับตั้งแต่เรื่ องผึ้งพิษ จนถึงเรื่ องวิญญาณอาฆาต ยังมีเรื่ องของเสี ยน
ไท่เฟย อันหร่ วน และอื่นๆ อีก….เรื่ องทั้งหมดล้วนเกี่ยวพันกับตัว
เขาทั้งสิ้ น
ตลอดทางที่นางเดินทางผ่านมาเห็นแต่เมืองต้าเหยียนที่ถูกทาลาย
เหล่าผีดิบเร่ ร่อนไปทัว่ ทั้งแผ่นดินมีแต่ซากศพ ทัว่ ทั้งแคว้นต้าเห
ยียนมีแต่ไอของความตายปกคลุม
ในบรรดาผีดิบเหล่านั้นมีอยูค่ นหนึ่งที่แบกทารกเอาไว้บนหลัง ทารก
ผูน้ ้ นั ตายไปนานแล้ว แม้แต่ผวิ หนังบนใบหน้าก็เน่าเปื่ อยจนเละเทะ
ดูไม่ได้ ร่ างหลุดเป็ นชิ้น…..
บนลาคอของทารกน้อยผูน้ ้ นั ยังแขวนกุญแจอายุยนื เอาไว้อยูเ่ ลย…..
แม้แต่นางเองก็ไม่อาจช่วยเหลือพวกเขาได้…..
คนที่กลายเป็ นผีดิบแม้แต่วญ
ิ ญาณก็ยงั ต้องตกลงไปในขุมนรกที่ไร้
ขอบเขต รับทรมานอยูใ่ นนรก อย่างไม่อาจกลับคืนถึงสามชาติสาม
ภพ
ถึงประสบการณ์ที่ฉางซุนซิ่วได้รับมาจะน่าสงสาร แต่วา่ ดวง
วิญญาณนับหมื่นเหล่านี้กย็ งั คงเป็ นผูบ้ ริ สุทธิ์อยูด่ ี
ไยเขาจะต้องเอาความแค้นของตนเองไปลงกับคนที่ไร้ความผิดด้วย?
ตู๋กซู ิงหลันไม่ได้สงสารเขาแม้แต่นอ้ ย
เรื่ องที่ฉางซุนซิ่วได้ประสบมาทั้งหมดนั้น คนที่ผดิ ต่อเขาก็คือจี
เฉวียน ไม่ใช่นางตู๋กซู ิงหลัน ยิง่ ไม่ใช่วิญญาณเหล่านี้ดว้ ย!
ตู๋กูซิงหลันหรี่ ดวงตาลง ง้าวในมือของนางขยับพุง่ อย่างหมายจะเอา
ชีวิตเขา แต่กลับเห็นว่าฉางซุนอิงที่อยูด่ า้ นข้างโผเข้ามา
มือของนางตะครุ บใบมีดบนง้าวเอาไว้อย่างแนบแน่น แต่สายตากลับ
หันไปมองดูจีเฉวียน “เฉวียน….ท่านกับพี่ชายมิใช่วา่ สนิทสนมกัน
ที่สุดหรอกหรื อ? อย่าให้พี่ตอ้ งตายได้หรื อไม่? ขอร้องท่านแล้ว……
ข้าไม่ตอ้ งการสู ญเสี ยคนใดในพวกท่านไป”
นางหลับตาลงแต่กลับไม่มีน้ าตาไหลออกมาสักหยด
“โปรดเห็นแก่ตอนนั้นที่ขา้ ….” พอพูดมาถึงตรงนี้นางก็เงียบงันไป
“โปรดเห็นแก่ความผูกพันในครั้งก่อน….” ผ่านไปพักใหญ่นางถึง
ได้กล่าวออกมาอีกประโยคหนึ่ง
จีเฉวียนถึงได้หนั กลับมาเหลือบมองดูนางแวบหนึ่ง และก่อนที่งา้ ว
ของตู๋กซู ิงหลันกาลังจะพุง่ เข้าไปในลาคอของฉางซุนซิ่ว พระหัตถ์ที่
ใหญ่หนาของพระองค์กช็ ิงคว้าหอกด้ามนั้นเอาไว้ก่อน
“ซิงซิง” พระองค์ตรัสเรี ยกนางครั้งหนึ่ง
หัวใจของตู๋กซู ิงหลันหล่บวูบลงไป นางหันหน้ากลับไปมอง “ท่าน
คิดจะขัดขวางข้าหรื อ?”
จีเฉวียนจับจ้องมองนาง ทรงเห็นอย่างชัดเจนเลยว่านางกาลังโกรธ
เกรี้ ยว
จริ งอยูท่ ี่พระองค์เคยตรัสว่า พระองค์จะมอบดาบใส่ ในมือของนาง
ให้นางได้ชาระแค้น แต่วา่ ….ตอนนี้ยงั ไม่ถึงเวลา
“เขายังตายไม่ได้” พระหัตถ์ของจีเฉวียนที่กาง้าวเอาไว้โดยมิได้คลาย
ออก พระองค์ใช้พละกาลังกระชากถอยหลัง ดึงง้าวทั้งด้ามออกมา
“เฮอะ เฮอะ เฮอะ” ฉางซุนซิ่วหัวเราะเสี ยงเย็นขึ้นมาในทันที เขารู ้
แล้วว่ามิวา่ อย่างไรจีเฉวียนก็จะไม่ฆ่าเขา หรื อไม่จริ ง?
“เฉวียน ขอบคุณท่านเหลือเกิน” ฉางซุนอิงเองก็เผยใบหน้าซาบซึ้ง
ออกมา “ข้ารู ้อยูแ่ ล้ว ท่านจะต้องเห็นแก่ความผูกพันในตอนนั้น”
ฉางซุนอิงพึ่งจะพูดจบ ก็เห็นจีเฉวียนกระชับง้าวด้ามนั้น สะบัดเพียง
ครั้งเดียวก็ตดั ผ่านขาของฉางซุนซิ่วออกไป
ทันทีที่ใบง้าวผาดผ่าน ก็ตดั ขาของฉางซุนซิ่วออกมา
ด้วยความรวดเร็ วที่เกินว่าผูใ้ ดจะทันได้มีปฏิกริ ยา
ฉางซุนซิ่วคารามโหยหวน ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด
เขาลืมตาโตเบิกโพลง ไม่อยากจะเชื่อว่า จีเฉวียนจะ……
“ขาทั้งสองข้างนี้ ถือเป็ นสิ่ งที่เจ้าต้องชดเชยให้กบั ซิงซิง” จีเฉวียนดึง
ง้าวกลับมา “เรายอมไว้ชีวติ เจ้า แต่ไม่อาจยอมให้เจ้ามิตอ้ งจ่าย
ค่าตอบแทนใดๆ”
ตู๋กซู ิงหลันหรี่ ดวงตาลงในทันที นางมองดูฉางซุนซิ่วที่เลือดไหล
นองด้วยสายตาเย็นชา
……………………………………….
ไรท์: ฉางซุนซิ่วกลายเป็ นไอ้ดว้ นไปแล้ววว!!! แต่วา่ แค่น้ ีจะทาให้ห
ลันหลันยอมหายโกรธได้หรอ?
ตอนต่อไป “มารดาของเขาก็คือข้า”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 382 มารดาของเขาก็คือข้ า
สี หน้าของนางเคร่ งเขรึ มเย็นชา ไม่มีความเห็นใจแม้แต่นอ้ ย
นางไม่ได้ตอ้ งการให้จีเฉวียนมาลงมือแทน หากเป็ นเรื่ องที่สามารถ
ทาได้ดว้ ยตนเอง แล้วจะต้องไปพึ่งเขาอีกทาไม?
ตู๋กจู ุนจับตาดูอยูด่ า้ นข้าง ก่อนหน้านี้เขาสู ้ศึกอยูท่ ี่ดา้ นนอกอยูต่ ลอด
ด้านในพูดคุยเรื่ องอะไรกันไปบ้าง เขาล้วนไม่รู้เรื่ อง
แม่นางน้อยที่อยูอ่ ยูก่ ป็ รากฏตัวขึ้นมาดูแล้วก็ลึกลับไม่ธรรมดา
แต่ไม่วา่ จะเกิดเหตุการณ์ใดก็ตาม เขาย่อมยืนอยูฝ่ ่ ายน้องเล็กของตน
อยูเ่ สมอ
ที่ผา่ นมาเขานึกว่าขาทั้งสองข้าของน้องเล็กประสบอุบตั ิเหตุจากสระ
สวรรค์ในแคว้นเซอปี่ ซือเสี ยอีก แต่พอมองดูจากสถานการณ์
ในตอนนี้ ดูท่าราชครู จะต้องมีส่วนเกี่ยวพันอย่างแน่นอน
ประกายตาของเขาเคร่ งขรึ มลง ไม่วา่ จะเป็ นใคร หากทาร้ายน้องเล็ก
ก็จงอย่าหวังว่าจะได้มีชีวิตที่สงบสุ ขอีกเลยในชาติน้ ี!
จะว่าไปแล้ว ตลอดหลายปี มานี้ เขากับราชครู กไ็ ม่เคยมีอะไรที่
ขัดแย้งกัน
ในเมื่อเป็ นบุรุษคนสุ ดท้ายของตระกูลฉางซุน จีเฉวียนมอบตาแหน่ง
ราชครู ให้กบั เขา มอบเกียรติยศและอานาจราชศักดิ์ที่ไม่มีผใู ้ ดจะ
เสมอเหมือนให้ ในสายตาของผูอ้ ื่นนี่คือเรื่ องที่น่าอิจฉาอย่างยิง่ !
แต่หากมองจากเรื่ องที่เขาแพร่ เชื้อผีดิบออกไป ก็สมควรตายอย่าง
ที่สุด
พอคิดย้อนไปถึงศึกที่ริวกิวในตอนนั้น……จนกระทัง่ ถึงปั จจุบนั นี้ต๋ ู
กูจุนก็ยงั เสาะหาตัวคนที่แพร่ เชื้อผีดิบไม่พบ….ตอนนี้เมื่อได้เห็นฉาง
ซุนซิ่ว สายตาของเขาก็เกิดไอสังหารขึ้นมา
“พี่!” ฉางซุนอิงร้องออกมาอย่างตื่นตระหนกในทันที นางรี บใช้มือ
กดปาดแผลของฉางซุนซิ่วเอาไว้ ถุงมือสองข้างที่ขา้ วสะอาดถูกย้อม
ไปด้วยเลือดอย่างรวดเร็ ว
นางลืมตาโตมองดูจีเฉวียน “เฉวียน…….”
คาพูดอัดแน่นไปหมด คิดจะกล่าวอะไรก็พดู ไม่ออกทั้งสิ้ น
ครู่ ใหญ่นางถึงได้พดู ว่า “หลายปี มานี้ขา้ ฝึ กฝนกับท่านอาจารย์ผเู ้ ป็ น
เซียนมาตลอด เมื่อเร็ วๆ นี้ขา้ ทานายพบว่าท่านจะมีเคราะห์หนัก จึง
ได้มาหาท่านโดยไม่สนใจสิ่ งใดทั้งสิ้ น
คิดจะช่วยท่าน…. แต่ไยท่านกับใจร้ายถึงเพียงนี้ ตัดขาพี่ชายทั้งสอง
ข้าง?”
พูดแล้ว สายตาของนางก็จบั จ้องไปที่ร่างของตู๋กซู ิงหลัน ใช้มือที่
เปื้ อนเลือดชี้ไปที่นาง “เป็ นเพราะเพื่อนาง?”
แขนเสื้ อของนางเลื่อนลงมา พอดีเผยให้เห็นรอยสี แดงสดบนข้อมือ
จีเฉวียนและฉางซุนซิ่วต่างก็เกิดความเจ็บปวดเพราะรอยไฝนั้น
ถึงแม้วา่ เมื่อครู่ พวกเขาจะยังมีขอ้ ขัดแย้งใดๆ แต่พอได้เห็นตาหนิบน
ร่ างกายนี้พวกเขาต่างก็พดู อะไรไม่ออก
นี่เป็ นการสร้างร่ างขึ้นมาใหม่ ที่แม้แต่ไฝฝ้าบนร่ างก็ยงั คืนมา
เรื่ องนี้ฟังดูแล้วช่างน่าเหลือเชื่อ แต่วา่ นางก็คือสิ่ งที่เห็นอยูต่ รงหน้า
จริ งๆ
พักใหญ่จีเฉวียนถึงได้ตรัสว่า “อาอิง เรื่ องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า”
“ทุกเรื่ องของท่านล้วนเกี่ยวกับข้าทั้งสิ้ น!” ฉางซุนอิงล้วงผ้าเช็ดหน้า
ออกมาช่วยพันแผลให้กบั ฉางซุนซิ่ว ปากก็ยงั คงพร่ าต่อไปว่าแต่
ไหนแต่ไรล้วนเกี่ยวข้องกับข้า….”
“ท่านรังเกียจข้าแล้วใช่หรื อไม่ ……. เห็นว่าข้าตายอย่างสกปรก ทั้ง
ยังรังเกียจที่ขา้ เป็ นคนก็ไม่ใช่เป็ นผีกไ็ ม่เชิง?”
“ไม่ใช่” จีเฉวียนวางง้าวในมือ เสด็จเข้าไปพยุงนางขึ้นมา “เราไม่เคย
รังเกียจเจ้ามาก่อน”
พระหัตถ์ที่ใหญ่หนานั้นกุมข้อมือที่นวลเนียนละเอียดของฉางซุนอิง
เอาไว้เพียงเบาๆ ราวกับว่าหากใช้แรงมากไปก็จะทาให้หกั ได้
“อาอิง เจ้าสามารถอาศัยวิธีเช่นนี้กลับมาได้ เราประหลาดใจมาก
และก็ดีใจมากด้วย”
หืมมม ฉากตรงหน้านี้ทาเอาขนาดตู๋กจู ุนเองก็ยงั ควันออกทัว่ ทั้ง
ใบหน้า!
การกระทาเช่นนี้มนั หมายความว่าอะไรรึ ?
ก่อนหน้านี้ยงั เอาแต่พวั พันน้องเล็กสุ ดจิตสุ ดใจจะต้องแต่งกับนางให้
ได้ แต่นี่เป็ นไงได้พบกับแสงจันทร์ในหัวใจอีกครั้ง เลยดีใจหนัก
หนา?
เช่นนี้แล้วน้องเล็กนับเป็ นอะไรกันแน่?
ไอ้สุนขั เสเพล! ดาบยักษ์ของพี่ใหญ่ส่งเสี ยงระงม น่าเสี ยดาย
ช่วงเวลาที่ผา่ นมาเขาอุตส่ าห์เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อฮ่องเต้ผนู ้ ้ ีไปบ้าง
แล้ว ทั้งๆ ที่อุตส่ าห์คิดว่าพระองค์มิใช่คนที่น่ารังเกียจสักเท่าไร
แต่ดูเอาเถอะ เจ้าแผ่นดินอย่างไรเสี ยก็ยงั เป็ นเจ้าแผ่นดิน มีสตรี นบั
ไม่ถว้ น คาหวานมากมายเหลือคณา
ตู๋กูซิงหลัน “……”
วิญญาณทมิฬ “หลันหลัน หากว่าเจ้ารู ้สึกว่าทรมาน เจ้าก็ร้องไห้
ออกมาเถอะ เจ้ามีฉายาว่าพี่สาวเจ้าน้ าตามิใช่หรื อ? ร้องออกมาแช่ง
ให้มารดาเขาตายไปเลย! นางเป็ นแสงจันทราแล้วอย่างไร ใช่วา่ พวก
เราจะต้องพ่ายแพ้เสี ยหน่อย!
ตู๋กซู ิงหลัน “มารดาของเขาก็คือข้า!
วิญญาณทมิฬ “ไอ้ชวั่ ไอ้คนไร้น้ าใจ!”
“งั้นพวกเรามาเปลี่ยนวิธีกนั หากว่ามีอยูว่ นั หนึ่งตาแก่ที่เป็ นอาจารย์
ของเจ้าตายไปเพราะเจ้า แล้วอยูๆ่ ก็กลับมามีชีวิตกระดุกกระดิกได้
เจ้าเองก็จะไม่แปลกใจหรื อ? ไม่ดีใจหรื อ?” วิญญาณทมิฬเห็นว่าใน
ฐานะที่เป็ นสัตว์อสู ร มันสมควรจะต้องปลอบใจนางเสี ยหน่อย
ไม่ง้ นั หากว่าอยูด่ ีๆ นางเกิดคิดไม่ตกขึ้นมา มันมิตอ้ งจบสิ้ นไปด้วย
หรอกหรื อ?
ตู๋กซู ิงหลัน “นัน่ มันไม่เหมือนกัน ท่านอาจารย์เแข็งแกร่ งจะตายไป
ต่อให้เขาตาย พวกยมบาลก็ไม่กล้ามารับตัวเขาไปหรอก”
วิญญาณทมิฬน้ าตาอาบหน้า เจ้าช่างเชื่อมัน่ ในตัวของซื่อมัว่
เหลือเกิน!
“ลองคิดดูนะ สมมติวา่ เจ้าไปไล่ล่าเหยือ่ ตัวน้อยทั้งหลายกับข้าแล้ว
เกิดตายไปเพราะข้า จากนั้นก็คืนชีพขึ้นมา….” ตู๋กูซิงหลันหัวเราะ
ออกมาในทันใด “ข้าต้องย่อมรู ้สึกยินดีเป็ นอย่างยิง่ เลยใช่ไหม?”
วิญญาณทมิฬถึงกับพูดอะไรไม่ออกไปเลย
มันชักจะรู ้สึกขึ้นมาว่าสตรี ผนู ้ ้ ีเล่าเรื่ องขาขันได้อย่างไร้น้ าจิตน้ าใจ
มาก!
ไม่ใช่สกั หน่อย……หากเจ้ามีความสุ ขดีกแ็ ล้วไป แต่วา่ นี่มุมปากก็มี
เลือดไหลอยูน่ ะพี่สาว!
แน่ใจหรื อว่าตัวเองกาลังมีความสุ ขดี ไม่ใช่กาลังหัวใจสลายอยูใ่ ช่
ไหม?
อีกด้านหนึ่ง จีเฉวียนทรงคลายพระหัตถ์จากฉางซุนอิง
ทอดพระเนตรมองดูฉางซุนซิ่ว จากนั้นก็ยนื่ พระหัตถ์ขา้ งหนึ่งไป
เหนือกระหม่อมของเขา ไอสี ดากลุ่มหนึ่งซึมเข้าไปในพระหัตถ์
ทันใดนั้นร่ างของเขาก็สนั่ สะท้านอย่างแรง สี หน้าบูดเบี้ยวเหยเก
ไอสี ดาที่ไม่อาจมองเห็นได้ดว้ ยตาเปล่าจากร่ างฉางซุนซิ่วล้วนถูก
พระองค์ดูดซับไปจนหมด
รอจนจีเฉวียนถอนพระหัตถ์กลับไป ก็เห็นฉางซุนซิ่วล้มลงไปกอง
อยูบ่ นพื้น ราวกับว่าถูกคนดูดพลังชีวิตออกไปจนหมดสิ้ น
จีเฉวียนไม่เพียงแต่ตดั ขาของเขาทิ้งไปเท่านั้น แต่วา่ ยังทาลายพลังใน
ร่ างของเขาจนหมดสิ้ น
นับจากวันนี้เป็ นต้นไป เขาเป็ นได้แต่เพียงคนพิการเท่านั้น!
ฉางซุนซิ่วย่อมไม่ยนิ ยอม หากให้เป็ นคนพิการนัน่ มิเท่ากับว่าให้เขา
ต้องตายหรอกหรื อ!
เพื่อที่จะได้ชดเชยให้กบั สตรี ผหู ้ นึ่ง พระองค์ถึงกับทากับเขาเช่นนี้!
“เฮอะ เฮอะ เฮอะ ….” เขายิม้ ออกมาอย่างพิลึกพิลนั่ ส่ งสายตาเคียด
แค้นไปยังตู๋กซู ิงหลัน หากว่าเขายังไม่ตาย จะต้องไม่ให้นางได้อยูด่ ี
แน่นอน!
ไม่เพียงแต่นางเท่านั้น แต่เป็ นทุกๆ คนที่นางห่วงใย!
ลองคิดดูสิ….หากว่าคนเหล่านั้นได้รู้วา่ ร่ างเนื้อนี้ถูกเปลี่ยนวิญญาณ
ไปแล้ว ในโลกนี้ยงั จะมีใครที่ชอบนางอยูอ่ ีกหรื อไม่?
อิงเอ๋ อร์น้ นั เปลี่ยนร่ างเนื้อไป ตู๋กซู ิงหลันก็เปลี่ยนจิตวิญญาณ…..
หากเอามาเปรี ยบเทียบกันก็ไม่มีอะไรแตกต่าง
“นับจากวันนี้เป็ นต้นไป เจ้าไม่ใช่ราชครู แห่งแคว้นต้าโจวอีกแล้ว
เราจะเห็นแก่ความผูกพันเก่าก่อน คุมขังเจ้าในคุกของราชวงศ์ ชาติน้ ี
จงสานึกผิดอยูใ่ นนั้นไปก็แล้วกัน”
จีเฉวียนไม่สนพระทัยเสี ยงหัวเราะที่เจ็บปวดของเขาอีกต่อไป เพียง
หันไปปรายพระเนตรมองดูฉางซุนอิงแวบหนึ่ง “ส่ วนอาอิง เราจะ
ดูแลนางเอง”
เพียงประโยคเดียว ก็ทาให้เสี ยงหัวเราะของเขาหยุดอย่างกระทันหัน
ดวงตาของเขาตกลง อ่อนแรงไปทั้งร่ าง
จีเฉวียนทาเช่นนี้…..เพราะว่าต้องการข่มขู่เขา หรื อว่าต้องการจะ
ดูแลอาอิงอย่างจริ งใจกันแน่?
เขาดูไม่ออกเลย
ถึงตอนนี้ ตู๋กซู ิงหลันก็มิได้ดึงดันเอาแต่ใจอีกต่อไป สาหรับคนอย่าง
ฉางซุนซิ่วแล้ว การกักขังเขาเอาไว้ชวั่ ชีวิต ยังเจ็บปวดยิง่ กว่าการแทง
เขาให้ตายในดาบเดียวเสี ยอีก
จีเฉวียนทาถึงเพียงนี้แล้ว หากว่านางยังคงไล่บ้ ีต่อไปอีก ก็คงต้องฉี ก
หน้ากันแล้ว
ความมีเหตุผลและสติเตือนให้นางสงบนิ่งลง อนาคตยังอีกยาวไกล
ไม่จาเป็ นจะต้องเอาชนะในตอนนี้
แต่ในตอนนั้นเอง ดาบใหญ่ของพี่ใหญ่กต็ วัดลงมา “ฝ่ าบาท
กระหม่อมยังมีเรื่ องที่อยากจะสอบถามเขา เชื้อผีดิบในศึกที่ริวกิว ก็
เป็ นฝี มือของเขาใช่หรื อไม่?”
ดาบใหญ่ของเขาส่ งเสี ยงระงมด้วยแรงสัน่ สะเทือน คมดาบกรี ดร้อง
ด้วยความกระหายเลือด
คมดาบที่ส่องประกายวาววามสะท้อนเข้าไปในดวงตาที่มืดครึ้ มทั้งคู่
ของฉางซุนซิ่ว
“หากว่ามีความสามารถ ทาไมเจ้าไม่ไปสื บหาเอาเอง?” ฉางซุน
ซิ่วสบตาเขาแวบหนึ่ง ด้วยท่าทีไม่ใส่ ใจอย่างไรทั้งสิ้ น
“หากว่าเป็ นเจ้าจริ งๆ เจ้าก็สมควรจะไปขอขมาพี่ชายของเจ้าฉางซุน
ซู่ในปรโลก!”
…………………………………………..
ตอนต่อไป “ติดตามข้ามา มีเนื้อให้กิน”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 383 ติดตามข้ ามีเนื้อให้ กนิ
ตู๋กจู ุนเค้นเสี ยงออกมา “เขาติดเชื้อผีดิบเข้า….เขายอมตายแต่ไม่ยอม
กลายเป็ นศพที่เดินได้ เขาร้องขออย่างหนักแน่นยอมตายในมือข้า
เขาคือผูก้ ล้าที่ทาเพื่อชาติบา้ นเมือง ส่ วนเจ้า….เจ้ามันไม่สมควรจะ
เกิดเป็ นคนตระกูลฉางซุน!”
ตลอดหลายปี มานี้ ตู๋กจู ุนไม่เคยเอ่ยถึงสาเหตุการตายของฉางซุนซู่
กับใครมาก่อน…..
ทั้งยังยอมให้องค์หญิงใหญ่เข้าใจผิดมาหลายปี
ตอนนี้พอได้ระบายออกมาในครั้งเดียว ความอัดอั้นที่ทบั ถมอยูใ่ นใจ
ทั้งหมดค่อยคลายออก
ฉางซุนซิ่วอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกไปในทันที
เขามิได้ยอมรับ แต่กไ็ ม่ได้ปฏิเสธ ได้แต่ทาตาตก ไม่มีใครรู ้วา่ เขา
กาลังคิดอะไรอยูใ่ นใจ
“ทูลฝ่ าบาท ที่ดา้ นนอกของเมืองหลวงพวกผีดิบกาลังรวมตัวจะบุก
เข้ามาในเมืองแล้วพะยะค่ะ” ในตอนนั้นเองนายทหารผูห้ นึ่งรี บรุ ด
เข้ามารายงาน
สายพระเนตรของจีเฉวียนมืดครึ้ มลงไป ขณะเดียวกันก็ได้ยนิ ทหาร
อีกคนกราบทูลว่า “ฝ่ าบาท กองกาลังสิ บหมื่นของแคว้นเหยียนก็ไม่
ยอมแพ้ คิดขัดขืนจนตัวตาย กาลังพลของเราไม่เพียงพอ พละกาลัง
ของกองทัพใกล้จะถึงขีดสุ ดแล้วพะยะค่ะ”
นี่เป็ นปัญหาที่สาคัญอย่างยิง่
เมื่ออยูร่ ะหว่างกองทัพสิ บหมื่นและกองทัพผีดิบ ด้านหนึ่งเป็ นสุ นขั
ป่ าด้านหนึ่งเป็ นเสื อ สองทางล้วนไม่มีอะไรที่ดีท้ งั สิ้ น
สี พระพักตร์ของจีเฉวียนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทรงฉวยกระบี่เหมันต์
ขึ้นมาไว้นพระหัตถ์ เตรี ยมจะรุ ดออกไป แต่ฉางซุนอิงกลับถลันมา
รั้งเอาไว้ “เฉวียน ท่านอาจารย์เซียนของข้าเป็ นผูส้ ู งส่ ง ถึงแม้วา่ ไม่
อาจจะรักษาเหล่าคนที่เป็ นผีดิบไปแล้ว แต่วา่ ยังมียาที่สามารถ
ป้องกันมิให้คนเป็ นกลายเป็ นผีดิบอยู่ ที่ขา้ รี บรุ ดมาในครั้งนี้ ก็เพื่อนา
ยามามอบให้กบั ท่าน”
ฉางซุนอิงพูดพลางก็ลว้ งเอาห่อยาออกมาจากในอกเสื้ อ “เหนือ
สุ สานคนตายมีดอกหวางหลิงฮวาผลิบาน สามารถใช้กลีบดอกของ
มันเป็ นยาได้ หากโรยลงไปบนร่ างสามารถป้องกันเชื้อผีดิบ”
ว่าแล้ว นางก็พยักหน้าให้กบั พระองค์อย่างหนักแน่น “ท่าโปรดเชื่อ
ข้าเถอะ ข้าไม่เคยทาร้ายท่านมาก่อน”
วิญญาณทมิฬอยากจะปรมมือให้นางจริ งๆ ดูท่าทีของนางที่ใน
สายตามีแต่ฮ่องเต้ผนู ้ ้ นั แต่เพียงผูเ้ ดียวสิ นะ พี่ชายของตนเองขาขาด
ไปแล้วยังไม่คิดจะหันไปเหลือบดูสกั หน่อยหรื อ?
พอหันมามองดูหลันหลันของฝ่ ายตนเอง ตลอดทางรี บร้อนเดินทาง
มาอย่างบ้าคลัง่ ระหว่างทางถึงกลับยอมใช้ยนั ต์โลหิ ตไปไม่นอ้ ย
เห็นอยูช่ ดั ๆ ว่ากังวลห่วงใยอย่างยิง่ ทุ่มเทไปเสี ยขนาดนี้แล้ว แต่
กลับไม่ยอมพูดอะไรออกไปสักคา
นี่เรี ยกว่าอะไรดี? เด็กที่รู้จกั ร้องไห้ยอ่ มมีน้ าตาลกิน!
มันรี บหันไปส่ งสายตาให้กบั ตู๋กซู ิงหลันในทันที อาหลัน…..
ตู๋กซู ิงหลันไม่สนใจมันเลยสักนิด สองขาของนางเจ็บปวดอย่างยิง่
นางได้แต่ตอ้ งหันไปขี่หลังติ๊งต๊อง
ติ๊งต๊องส่ งเสี ยงร้องกะต๊ากๆ ก็รีบพานางออกไปด้านนอกในทันที
ภายในสวน ราชาสุ นขั ป่ านัง่ อยูอ่ ย่างสง่างาม หลังจากที่มนั ได้ตด
ออกไปหลายต่อหลายครั้ง ก็รมเหล่าทหารต้าเหยียนจนอ้วกแตกไป
มากมาย
“ไปที่กาแพงเมือง” ตู๋กซู ิงหลันพูดพลางก็ยา้ ยไปขี่หลังของราชาสุ นขั
ป่ า
ตู๋กจู ุนไม่พดู พร่ าทาเพลง ติดตามมาอย่างรวดเร็ ว ขาของน้องเล็กยัง
ไม่หายดี เขาจะวางใจปล่อยนางไปคนเดียวได้อย่างไร
จีเฉวียนเองก็ติดตามมาเช่นกัน แต่วา่ กลับถูกฉางซุนอิงรั้งเอาไว้ นาง
โอบพระศอของพระองค์เอาไว้ กล่าวอย่างหนักแน่นจริ งจังว่า
“เฉวียน ท่านอย่าได้ไปที่แนวหน้ามากเกินไป ข้าเป็ นห่วงท่าน….”
เนื่องเพราะว่ามีหน้ากากปิ ดอยูน่ างจึงมองสี พระพักตร์ของจีเฉวียน
ไม่ออก เห็นแต่วา่ พระองค์ปัดมือของตนออกไป
“เจ้ารั้งอยูท่ ี่นี่ เราย่อมต้องกลับมา”
ตรัสแล้ว พระองค์กร็ ับสัง่ เรี ยกหลงเซี ยวให้เขามาคอยเฝ้าฉางซุนซิ่ว
กับนาง
หลงเซียวอยูๆ่ ก็ตอ้ งมารับมอบงานนี้ ในใจของเขารู ้สึกปวดใจอย่าง
ยิง่ ….
เขาขวางอยูด่ า้ นหน้าฉางซุนอิงด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย พอมองดูสาวน้อย
ที่มีรูปโฉมบริ สุทธิ์ผดุ ผ่องผูน้ ้ ี ในใจก็แอบครุ่ นคิดอย่างเงียบๆ ไม่รู้
ว่าฝ่ าบาททรงมีรสนิยมเช่นนี้ต้ งั แต่เมื่อใดกัน
จะมองซ้ายมองขวา ….. มองอย่างไรไทเฮาน้อยก็ยงั ทรงงดงามกว่า
มาก
เหยียนหยุนที่คอยดูอยูด่ า้ นข้างมาโดยตลอด นับตั้งแต่ที่ต๋ ูกซู ิงหลัน
ปรากฏตัวขึ้นมา สายตาของเขาก็จบั จ้องอยูท่ ี่นาง
เขาไม่นึกไม่ฝันเลยว่า ชาติน้ ีจะมีโอกาสได้พบกับนางอีก
นับตั้งแต่ตอนที่อยูใ่ นแคว้นเซอปี่ ซือคราวนั้น เขาส่ งคนไปตามหา
นางที่ตา้ โจว แต่กลับไม่มีข่าวคราวเลยแม้แต่นอ้ ย
คิดไม่ถึงเลยว่า ที่แท้แล้วนางก็คือไทเฮาแห่งต้าโจว!
เขาเข้าใจผิดมาตลอดว่า นางคือสนมคนโปรดของจีเฉวียน….
สถานการณ์ดา้ นนอกกาลังวุน่ วาย ขณะที่ดา้ นในตาหนักบรรทม
หลงเซียวไม่ได้ใส่ใจกับตัวเขา
เหยียนหยุนเก็บตราราชลัญจกรหยกที่แตกหักขึ้นมาจากบนพื้น
อาศัยไม้เท้าค้ ายันไล่ตามออกไปที่ดา้ นนอกบ้าง
บนกาแพงเมือง สายลมกรรโชกแรง
ตู๋กซู ิงหลันขี่ราชาสุ นขั ป่ ามาถึง นางสะพายคันธนูเอาไว้บนแผ่นหลัง
นางเขวี้ยงยันต์สีเหลืองออกไป
เกิดเสี ยงระเบิด ‘บรึ ม’ ดังสะท้อนไปทัว่ ท้องฟ้าในทันที
คนที่กาลังต่อสู ้เอาเป็ นเอาตายต่างก็พากันตกใจ หยุดมือและมอง
ขึ้นมาบนกาแพงเมือง
เห็นบนทาแพงเมืองมีสาวน้อยผูห้ นึ่งขี่หลังสุ นขั ป่ าตัวใหญ่พว่ งพี
นางสวมใส่ ชุดกระโปรงสี เขียวอมดา ดวงตาเปล่งประกายสุ กสกาว
เส้นผมสยายปลิวออกไป มือข้างหนึ่งถือคันธนูดว้ ยท่วงท่าองอาจ
งามสง่า ประหนึ่งขุนพลหญิง
“เราคือไทเฮาแห่งต้าโจว!” ตู๋กซู ิงหลันกล่าวด้วยเสี ยงทุม้ กังวาน
นางใช้ยนั ต์ส่งสาเนียงที่ทาให้ทุกมุมในเมืองหวงตูลว้ นสามารถได้
ยินเสี ยงของนาง
เหล่าทหารและประชาชนธรรมดาในแคว้นต้าเหยียนต่างก็ตอ้ งพา
กันประหลาดใจ พวกเขารู ้แต่วา่ ฮ่องเต้แคว้นต้าโจวเสด็จมาแล้ว แต่
คิดไม่ถึงว่าไทเฮาน้อยที่เล่าลือกันก็เสด็จมาด้วย
ยิง่ คิดไม่ถึงว่าไทเฮาน้อยจะเป็ นสตรี ที่งดงามถึงเพียงนี้
ความงามเช่นนี้….แม้จะได้มองจากไกลๆ ก็ยงั รู ้สึกว่าเหนือธรรมดา
ทั้งๆ ที่รูปร่ างก็เล็กบาง แต่กลับให้ความรู ้สึกถึงพลังอันยิง่ ใหญ่ ใน
ร่ างของนางคล้ายกับว่ามีขมุ พลังบางอย่างที่ดึงดูดผูค้ นเข้าไป
“ตอนนี้แคว้นเหยียนเหลือเพียงเมืองหลวงหวงตูเท่านั้นที่ยงั เป็ น
พื้นที่ปลอดภัย เมื่อฮ่องเต้แคว้นเหยียนสิ้ นพระชนม์ แคว้นเหยียน
ย่อมล่มสลายตามกฎของธรรมชาติ ที่พวกเจ้าควรปกป้องคือราษฎร์
แคว้นเหยียน มิใช่เหล่าเชื้อพระวงค์แซ่เหยียนที่เหลวไหลเลอะ
เทอะ!”
“พวกเจ้าล้วนก็เป็ นคนเหมือนกัน ต่างก็เป็ นสามี และบิดา สิ่ งที่แบก
อยูบ่ นบ่ามิใช่เพียงแว่นแคว้น แต่ยงิ่ กว่านั้นคือคนในครอบครัว! มี
แต่คุม้ ครองครอบครัวของตนเองจึงจะสาคัญที่สุด!”
ถ้อยคาของนางสะกดใจของเหล่าทหารแคว้นเหยียนอย่างลึกซึ้ง
เมื่อตนเป็ นทหารของแคว้นเหยียนพวกเขาสมควรต่อสู ้จนถึงคน
สุ ดท้าย
ถึงฮ่องเต้จะสิ้ นพระชนม์ไปแล้ว แต่วา่ แคว้นยังอยู่
แต่ที่นางกล่าวออกมานั้นก็ถูกต้อง พวกเขาล้วนมีญาติพี่นอ้ ง ญาติพี่
น้องที่ปราศจากอาวุธยิง่ สมควรจะต้องปกป้อง
“ตอนนี้ผีดิบกาลังบุกโจมตีกาแพงเมืองด้านนอก ทุกคนสมควรใช้
เหตุผล รวมใจกันเป็ นหนึ่ง ปกป้องญาติพี่นอ้ งและผืนแผ่นดิน
สุ ดท้ายเอาไว้!”
นี่ไม่อาจโทษว่าตู๋กซู ิงหลันที่ฉวยโอกาสนี้กระทาตนเป็ นวีรสตรี ที่
จริ งแล้วสานักหุบเขาภูติเร้นลับมีกฎมากมายที่ทาให้คนกลายเป็ น
วีรษุรุษวีรสตรี อยูแ่ ล้ว
เมื่อพบเห็นภัยพิบตั ิพึงให้ความช่วยเหลือ นางไม่อาจอยูเ่ ฉยๆ
“ปกป้องได้แล้วจะได้อะไร ยังไงแคว้นต้าเหยียนก็ตอ้ งถูกต้าโจว
ทาลายล้าง…..พวกเราก็ตอ้ งตายอยูด่ ี!” นายทหารแคว้นต้าเหยียน
ถลันออกมา ไม่ยอมแพ้โดยง่าย
“เราขอสาบานในฐานะไทเฮาแห่งแคว้นต้าโจว หากชาวเหยียนยอม
อ่อนน้อมต่อต้าโจว จะไม่เข่นฆ่าผูบ้ ริ สุทธิ์”
“เจ้าเป็ นแค่สตรี นางหนึ่ง สักแต่พดู จะใช้ได้อย่างไร ใครจะไปเชื่อเจ้า
กัน?”
“จริ งด้วย…..พวกเรามีกองทัพสิ บหมื่น ยังจะสู ้พวกเจ้าต้าโจวที่มีอยู่
ไม่ถึงพันไม่ได้หรื อไง?”
เหล่าทหารมิใช่คนโง่ คิดจะใช้กลยุทธไม้อ่อนมาสยบแข็ง โป้ปด
ผูค้ นหรื ออย่างไร? พวกเขาล้วนมิใช่เด็กสามขวบนะ
ตู๋กูซิงหลันหรี่ ตาลง “กองกาลังสนับสนุนของต้าโจวกาลังจะมาถึง
แล้ว หากว่าพวกเจ้าอยากจะกลายเป็ นเนื้อบด และทาให้แคว้นเหยียน
กลายเป็ นขุมนรกตลอดกาล เช่นนั้นก็เชิญต่อต้านกันต่อไป”
“น่าสงสารก็แต่เหล่าภรรยา คนชรา และเด็ก คนทั้งครอบครัวล้วน
ต้องติดตามพวกเจ้าไปยังปรโลก!”
“ความเป็ นความตายล้วนอยูใ่ นมือของพวกเจ้าเอง เราจะปกป้องแต่
คนที่ติดตามเราเท่านั้น หากติดตามต้าโจวพวกเจ้าจะไม่ตาย และมี
เนื้อกิน!”
……………………………….
ตอนต่อไป “ฮ่องเต้ทรงทรยศน้องเล็ก พวกเราขอกบฏแล้ว!
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 384 ฮ่ องเต้ ทรงทรยศน้ องเล็ก พวก
เรากบฏแล้ ว!
ติดตามนางมีเนื้อกิน คาพูดนี้นบั ว่ากล่าวได้อย่างเหมาะสม ติดดิน
อย่างที่สุด
ทั้งยังตรงที่สุดแล้ว
เหล่าทหารต่างก็ลงั เลขึ้นมาแล้ว เพราะประชาชนแคว้นเหยียนต่างก็
ยอมนอบน้อมให้กบั ต้าโจวไปตั้งแต่แรกแล้ว….
ทหารอย่างพวกเขาที่ยงั ต่อต้านอยูน่ ้ นั ก็เป็ นเพราะว่าทาตามพระ
บัญชาเท่านั้น
หากฮ่องเต้มีพระบัญชาลงมา แม้ตายก็ตอ้ งปฏิบตั ิตาม! นี่เป็ นข้อ
ปฏิบตั ิที่สืบทอดกันมาตามขนบของกองทหารแคว้นต้าเหยียนมานับ
ร้อยปี ย่อมไม่อาจล้มเลิกโดยง่าย
แต่ตอนนี้คาพูดของไทเฮาน้อยกลับทาให้พวกเขาหวัน่ ไหวแล้ว
อย่าว่าแต่ดว้ ยลักษณะจากภายในของไทเฮาน้อยยังมีพลังบางอย่างที่
ทาให้คนต่างต้องเกิดการยอมรับ
ขณะที่พวกเขากาลังลังเลอยูน่ ้ นั ก็เห็นท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิตตู๋กจู ุนขึ้นมา
บนกาแพงเมือง มือหนึ่งกุมดาบเล่มใหญ่เอาไว้ อีกมือหนึ่งหิ้วเหยียน
หยุนที่ขาพิการขึ้นมา
เหยียนหยุนใช้ไม้เท้าพยุงตัวย่อมเดินได้ไม่เร็ ว ตู๋กจู ุนได้แต่ตอ้ งยอม
ออกแรงช่วยเหลือเขาสักครั้ง
ก่อนหน้านี้กเ็ ป็ นตู๋กจู ุนที่ยนื่ มือช่วยเหลือเขาจากน้ ามือของอันหร่ วน
เช่นกัน
นี่จะต้องเป็ นพรหมลิขิตที่สาคัญประการหนึ่งสิ นะ
“น้องเล็ก นี่เป็ นเพราะว่าเจ้าได้รับความสะเทือนใจมากเกินไปใช่
หรื อไม่? จึงได้คิดจะรับแคว้นต้าเหยียนเอาไว้ ตระเตรี ยมจะก่อกบฏ
สิ นะ?” พี่ใหญ่กระชับดาบยักษ์ในมือ มองดูนอ้ งเล็กด้วยความปวด
ใจ
ก่อนหน้านี้ถึงน้องเล็กจะไม่ยอมรับออกมา แต่เขาที่เป็ นพี่ใหญ่ยอ่ ม
ทราบดี ความรู ้สึกที่นางมีต่อฮ่องเต้สุนขั จีเฉวียนผูน้ ้ นั มิใช่วา่ จะ
ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเลย
ดูสิ นางทั้งตอบจดหมาย ทั้งทาระเบิด ทาหน้ากากที่ส่งมาให้เขาด้วย
ตนเอง
นี่มนั ก็แสดงว่ามีใจให้ไปมากกว่าครึ่ งแล้ว!
แต่อยูด่ ีๆ กลับมีสาวน้อยที่เป็ นแสงจันทราของเขาโผล่ออกมา เป็ น
ใครจะทนได้กนั ?
ตู๋กูจุนมองดูใบหน้าของน้องสาวตนเองอย่างพิจารณาด้วยความ
ระมัดระวัง ดูสิหน้าดาเป็ นก้นหม้อถึงขนาดนั้น นี่มิใช่วา่ ได้รับความ
สะเทือนใจจนกลายเป็ นดาคล้ าไปหรอกหรื อ?
ตู๋กซู ิงหลันถูกคาพูดของเขาทาเอาตกใจจนแทบจะกระโดดขึ้นมา
ไม่ใช่นะ….พี่ใหญ่ท่านเข้าใจอะไรผิดไปถึงไหนแล้ว?
นางแค่เป็ นโรคชอบช่วยเหลือมนุษยชาติ ไม่เกี่ยวอะไรกับจีเฉวียน
สักหน่อย!
“ไทเฮาพะยะค่ะ ตัวข้าขอสนับสนุนท่าน!” เหยียนหยุนที่อยูอ่ ีกด้าน
หนึ่งพยักหน้าอย่างไม่คิดชีวติ “ท่านเป็ นผูท้ ี่มีจิตใจดีเปี่ ยมไปด้วย
เมตตา หากว่าแคว้นเหยียนอยูใ่ นมือของท่านจะต้องสามารถฟื้ นฟู
ชีวิตขึ้นมาได้อย่างแน่นอน ตัวข้าขอสนับสนุนยกท่านเป็ นฮ่องเต้
พระองค์ใหม่!”
ตู๋กูซิงหลัน “???” ผีหลอกแล้ว?
“นี่มนั ….”
นางกาลังจะเอ่ยปาก ก็เห็นเหยียนหยุนเอาตราหยกที่แหลกเป็ นชิ้น
แล้วชูข้ ึนมา ตะโกนบอกต่อทหารแคว้นต้าเหยียนที่อยูใ่ ต้กาแพง
เมืองว่า “เราขออาศัยฐานะรัชทายาทแห่งแคว้นต้าเหยียน ออกคาสัง่
ให้ทงั่ หมดศิโรราบต่อไทเฮาแห่งต้าโจว นับจากวันนี้เป็ นต้นไปจะจง
รักต่อไทเฮา ภักดีต่อไทเฮา! ราชวงศ์เหยียนนั้นจบสิ้ นไปแล้ว นับแต่
นี้คือราชวงศ์ต๋ ูก!ู ”
ผูค้ นทั้งหลายต่างพากันตกตะลึงไป ตอนนี้ฮ่องเต้ชราและองค์ชาย
เจ็ดต่างก็สิ้นพระชนม์กนั ไปหมดแล้ว คนอื่นๆ ที่อยูใ่ นราชวงศ์เห
ยียนก็ไม่มีผใู ้ ดกล้าเสนอตัวออกมา
เหยียนหยุนทรงเป็ นองค์ชายรัชทายาท กลับเป็ นฝ่ ายยอมนอบน้อม
ต่อไทเฮาแห่งต้าโจวก่อนใคร เดิมทีพวกเขาก็หวัน่ ไหวใจอยูแ่ ล้ว
เพียงแต่หาเหตุผลที่เหมาะสมไม่ได้เท่านั้น
ทันใดนั้นเองก็เห็นศีรษะดาๆ มากมายพากันวางอาวุธ คุกเข่าลงไป
“พวกกระหม่อมขอถวายความจงรักภักดีต่อตู๋กูไทเฮา! ติดตามไทเฮา
ไปกินเนื้อ!”
ตู๋กูซิงหลัน “ข้าจะ….” บ้าตาย
เหยียนหยุนนัน่ บ้าไปแล้ว นี่มิเท่ากับว่าบังคับให้นางก่อกบฏหรื อ?
นี่จะบรรยายอย่างไรดี? คล้ายกับว่าจีเฉวียนลาบากตรากตราก่อสร้าง
เก้าสิ บเก้าชั้น จากนั้นนางก็แค่มาทาหลังคาครอบ แต่วา่ อาคารทั้ง
หลังกลับกลายเป็ นของนางไป?
เจ้าฮ่องเต้สุนขั ผูน้ ้ นั ไม่โกรธตายก็ประหลาดแล้ว
วิญญาณทมิฬเองก็ทาสี หน้าประหลาดใจยกใหญ่ “อ้ายย๋ าห์ เอาละ
โว้ย รี บๆ ก่อกบฏกันเลย ปล่อยให้ไอ้บุรุษเสเพลผูน้ ้ นั ไปอี๋อ๋อกับแม่
แสงจันทราของเขาไป พวกเรากลายเป็ นฮ่องเต้หญิงไม่ดีกว่าหรื อ
ไง?”
ตู๋กจู ุน “น้องเล็ก เลือกวันมงคลก็มิสู้คล้อยตามฟ้าดิน พวกเรา
วางแผนจะกบฏกันมามิใช่วา่ แค่วนั สองวัน”
ตู๋กูซิงหลัน “!!!”
นี่มนั อะไรกัน คนนี้กย็ งั จะมาจริ งจังกว่าอีกคนอีก?
“ภายหน้ามิวา่ เจ้าต้องการบุรุษเช่นไร พวกพี่ๆ จะจับมัดมาให้เจ้าเอง
ต่อให้เจ้าอยากจะมีวงั หลัง พวกพี่ๆ ก็ไม่วา่ อะไร!”
ถึงแม้วา่ ตู๋กจู ุนจะเป็ นบุรุษแท้อกสามศอก แต่กร็ ู ้ดีกว่า วิธีรักษา
อาการบาดเจ็บที่ดีที่สุด ก็คือเสาะหาบุรุษโฉมงามมาสักคนหรื อว่า
หลายๆ คน พอมีคนใหม่กย็ อ่ มสามารถลืมคนเก่าได้เอง
พี่ใหญ่จาเป็ นจะต้องทาให้ถึงเพียงนั้นเลยหรื อ?
ตู๋กซู ิงหลันยังไม่ทนั ได้ตอบคาเลย ก็เห็นนอกเมืองหลวงต้าเหยียนมี
ฝุ่ นลอยคลุง้ ทัว่ ท้องฟ้า
“อ้าวหวูว้ ว์……..”
เสี ยงสุ นขั ป่ าเห่าหอนดังมาแต่ไกล
นางมองลงไป เห็นที่ดา้ นหน้าสุ ดเป็ นสุ นขั ป่ าสี ดาตัวหนึ่ง
เหล่าสุ นขั ป่ าพากันร้องคาราม เข่นฆ่าเหล่าผีดิบจนกลายเป็ นเนื้อบด
กลายเป็ นถนนโลหิตสายหนึ่งขึ้นมา
สุ นขั ป่ าสี ดานับพันนับหมื่นตัว บนหลังสุ นขั ป่ าเหล่านั้นคือกองทัพ
ของตระกูลตู๋กู!
พวกเขาแบกธงประจาแคว้นต้าโจวและตระกูลตู๋กมู าแต่ไกล บุกเข้า
มาอย่างไร้การสกัดขัดขวาง
ท่านผูเ้ ฒ่าตู๋กถู ิงย่อมนาอยูด่ า้ นหน้าสุ ด
“นี่มนั เป็ นฝี มือของไอ้อ่อนที่ไหนกัน ข้าผูเ้ ฒ่าทาศึกมานานปี ไม่เคย
เห็นอะไรที่อนาถขนาดนี้มาก่อนเลย!” ท่านผูเ้ ฒ่าขี่สุนขั ป่ ามาถึง
กาแพงเมือง ก็ยงั อดที่จะออกปากไม่ได้
เดินทีต่อให้ตายเขาก็ไม่คิดจะยืน่ มือช่วยเหลือจีเฉวียน
แต่ดูสิ ตอนนี้หลานสาวตัวเองกลับไม่เสี ยดายชีวิตแล้ว ถึงกับวิ่งออ
อกมาคุม้ ครองฮ่องเต้กลางดึก เขาอาจจะไม่สนใจฮ่องเต้นอ้ ยจีเฉวียน
ผูน้ ้ นั ได้ แต่วา่ หลานสาวของตนเองคือแก่นชีวิต!
ตอนนี้แคว้นต้าเหยียนวุน่ วายจนกลายเป็ นขุมนรกบนดินไปแล้ว ที่
เขากลัวก็คือจะเกิดอะไรขึ้นกับนางที่เป็ นหญิงสาวอ่อนแอคนหนึ่ง
ยามนี้ท่านผูเ้ ฒ่าเงยหน้าขึ้นมา พอมองเห็นตู๋กูซิงหลันขี่หลังสุ นขั ป่ า
อยูห่ วั ใจที่เคว้งคว้างมาตลอดถึงได้กลับเข้าไปในอกได้
“หลันหลัน ไม่ตอ้ งกลัว ปู่ มาช่วยเจ้าแล้ว!”
ขณะที่ท่านผูเ้ ฒ่าเอ่ยขึ้นมา ก็มีผดี ิบนับร้อยเข้ามารายล้อมเขาเอาไว้
หอกในมือของท่านผูเ้ ฒ่ากวาดออกไป เพียงชัว่ แวบเดียวก็ตดั ศีรษะ
นับสิ บร่ วงระนาวลงมา โดยที่ตนเองมิได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้ น
พี่ใหญ่ที่อยูบ่ นกาแพงเมืองยังคงโกรธแค้นไม่หาย เขาตะโกนลงไป
ที่ใต้กาแพงเมืองว่า “ท่านปู่ ฮ่องเต้ทรงทรยศน้องเล็กแล้ว พวกเรา
กบฏเถอะ!”
ท่านปู่ สะบัดหอกออกไปตัดอีกศีรษะลงมา ค่อยเงยหน้าขึ้น “นี่เล่น
อะไรกันอยู?่ ”
“พวกเรากบฏแล้ว” พี่ใหญ่กล่าวอย่างหนักแน่น “จะยกตาแหน่ง
ฮ่องเต้ให้นอ้ งเล็กนัง่ ”
ตู๋กูซิงหลัน “ฉิบหาย!”
นี่เป็ นครั้งแรกที่นางต้องยอมรับว่าตนเองไร้มารยาท พูดอะไรไม่
ออกได้แต่ร้องฉิบหายออกมาแล้ว
ท่านปู่ “ข้าหมายถึงประโยคแรกเมื่อครู่ เจ้าว่าใหม่อีกครั้งซิ?”
พี่ใหญ่คิดอยูช่ วั่ แวบ ก็ตอบกลับไปอย่างจริ งจังว่า “ฮ่องเต้ทรง
ทอดทิ้งน้องเล็ก!”
ท่านผูเ้ ฒ่าระเบิดโทสะขึ้นมาในทันที “ข้าเคยบอกแล้วไงว่าเขามัน
เจ้าเล่ห์จอมเสแสร้ง! หลันหลันอย่าได้ร้องไห้ ปู่ กับพวกพี่ๆ ยังอยู่
มา! เป็ นฮ่องเต้หญิงสักตั้งเป็ นไง!”
ท่านผูเ้ ฒ่าพิโรธโกรธาสุ ดหัวใจ ตลอดหลายวันมานี้ จากจดหมาย
ของเจ้าใหญ่ที่ส่งหนังสื อทางบ้านมา ทาให้เขาเกือบจะเชื่อว่าจี
เฉวียนไอ้เด็กน้อยงี่เง่านั้นเป็ นคนดีข้ ึนมาแล้ว
หลันหลันไม่ห่วงอันตรายบุกมาช่วยเหลือเขา เขากลับกล้าหักหลังห
ลันหลัน?
เจ้าชาติสุนขั !
ท่านผูเ้ ฒ่าเคยให้สัตย์สาบานกับปฐมฮ่องเต้เอาไว้วา่ ชัว่ ชีวิตนี้ตนจะ
ไม่กบฏ
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว ที่นี่คือแคว้นเหยียน เขาก็แค่แย่งแคว้น
หนึ่งมาให้หลานสาวของตนเอง ไม่ได้กบฏต่อต้าโจวสักหน่อย
“เปิ ดประตูเมือง!” เพียงครู่ เดียว ตู๋กจู ุนสัง่ ให้คนเปิ ดประตูเมือง
เปิ ดทางให้ท่านผูเ้ ฒ่านากองทหารตระกูลตู๋กเู ข้ามา
เหล่าผีดิบยังคิดจะบุกเข้ามาอย่างคลุม้ คลัง่ ติ๊งต๊องก็พน่ ไฟเผาผลาญ
ออกไป ทาให้พวกผีดิบที่พงุ่ เข้ามาเหล่านั้นมอดไหม้กลายเป็ นเถ้า
ถ่านลงตรงหน้า
ท่านปู่ นากาลังคนมานับหมื่น แต่ละคนขี่สุนขั ป่ าหนึ่งตัว ทันทีที่เข้า
มาเหล่ากองทหารต้าเหยียนต่างก็ตอ้ งตัวสัน่ สะท้าน
ตู๋กูถิง!
นัน่ คือบุคคลในตานานที่ฆ่าคนโดยไม่กระพริ บตา ที่ผคู ้ นต่างก็เรี ยก
กันเป็ นพยายมมีชีวิต แม่ทพั โลหิตแห่งต้าโจว!
ที่แท้ ที่ไทเฮาน้อยทรงรับสัง่ ว่าทัพหนุนของต้าโจวกาลังมาถึงแล้ว ก็
ไม่ได้โกหกพวกเขา!
ยังดีนะ……ที่พวกเขายอมอ่อนน้อมไปแล้ว
……………………………….
ไรท์ : พระเอกตัวจริ งมาแล้ว รุ่ นใหญ่ ใจป๋ า กล้าได้กล้าเสี ย! เก่งกว่า
ปู่ ไม่มีอีกแล้ว ว่าง่ายๆ ไม่ได้กบฏแค่ชิงแคว้นอื่นมาให้หลานนัง่ เล่น!
ตอนต่อไป “แม่จะเป็ นฮ่องเต้หญิงเอง”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 385 แม่ เลีย้ งตัวน้ อยจะเป็ นฮ่ องเต้
หญิงเอง
ถึงแม้วา่ พวกเขาจะมีกนั ถึงสิ บหมื่นนาย!
แต่วา่ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพยายมมีชีวิต นัน่ จะนับเป็ นอะไรได้!
พวกเขาถึงกับเข่นฆ่าผีดิบจานวนนับไม่ถว้ นมาตลอดทาง
ตอนนี้พอเหล่าทหารทั้งหลายนึกย้อนไปต่างก็รู้สึกหวาดหวัน่ ใจ
หากว่าพวกเขายังคงมัวเมาต่อต้านไทเฮาน้อยต่อไป…..ตอนนี้กค็ ง
จะต้องกลายเป็ นส่ วนหนึ่งของก้อนเนื้อบดเละๆ กองหนึ่งจริ งๆ
อีกด้านหนึ่ง จีเฉวียนยังไม่ทนั ขึ้นไปบนกาแพงเมือง ก็เห็นตู๋กูถิงนา
กาลังทัพเข้ามาอย่างขึงขัง
ดวงเนตรหงส์ของฝ่ าบาทเคร่ งขรึ มลง เงยพระพักตร์ทอดพระเนตร
ขึ้นไปบนกาแพงเมือง
นี่เป็ นครั้งแรกที่พระองค์ประทับอยูด่ า้ นล่างถึงเพียงนี้ แล้ว
ทอดพระเนตรขึ้นไปมองดูนาง
นางดูราวกับแม่ทพั หญิงที่นากองทัพนับหมื่น สู งส่ ง สง่างามเกินใคร
เทียบ
พระองค์ไม่เคยเห็นนางในมุมนี้มาก่อนเลย
ก่อกบฏสองคานี้พระองค์ทรงได้ยนิ อย่างชัดเจนแล้ว เมื่อสองปี ก่อน
ก็เคยได้ยนิ มาแล้ว วันนี้พอถูกยกขึ้นมาอีกครั้งทาเอาพระองค์ทรง
งุนงงไปในช่วงสั้นๆ
แคว้นเหยียนนี้……ทรงมีพระประสงค์จะตีมาให้นางตั้งแต่แรกอยู่
แล้ว!
เพื่อที่จะให้นางได้เปลี่ยนแปลงฐานะอย่างเหมาะสม จากไทเฮา
ของต้าโจวกลายเป็ นฮ่องเต้หญิงแห่งแคว้นเหยียน
ถึงตอนนั้นฮ่องเต้แห่งต้าโจวจะทรงขออภิเษกสมรสกับฮ่องเต้หญิง
แห่งต้าเหยียน…..กลายเป็ นการร่ วมมือที่เข้มแข็ง ทั้งยังปิ ดปากพวก
ที่มีวาจาไร้สาระทั้งหลายได้อย่างสนิท
ใต้หล้านี้จะไม่มีผใู ้ ดกล้ากล่าวตาหนินางแม้แต่ครึ่ งคา หากจะพูด ก็มี
แต่จะด่าว่าพระองค์ที่เป็ นฮ่องเต้ตา้ โจวเท่านั้น
จีเฉวียนทรงคิดคานวนทุกอย่างเอาไว้อย่างจริ งจังแต่แรกแล้ว
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า…..
“ฝ่ าบาท เช่นนี้แล้วจะทาอย่างไรดี?” เหล่าทหารของต้าโจวต่างก็ตก
ตะลึงกันไปหมด
ใครมันจะไปคาดคิดกันว่า ตระกูลตู๋กคู ิดจะก่อกบฏก็แล้วไปเถอะ
แต่กลับจะมากบฏเอาตาตาเสี ยขนาดนี้!
นี่มิใช่เท่ากับว่าปล้นชิงตามไฟ ฉวยโอกาสให้ได้มาหรอกหรื อ?
จีเฉวียน “ไม่ตอ้ งรี บร้อน”
เหล่าผูต้ ิดตาม “ฝ่ าบาท ไฟไหม้ลามถึงหัวคิ้วแล้ว ยังไม่รีบได้อีกหรื อ
พะยะค่ะ?”
ฮ่องเต้มิได้ทรงตรัสตอบ เพียงทอดพระเนตรตู๋กซู ิงหลันที่อยูบ่ น
กาแพงเมือง ทรงคิดจะตรัสอะไรกับนางสักสองประโยค แต่วา่ นาง
มิได้หนั มามองที่พระองค์เองเลยสักนิด
นางกาลังโกรธ กาลังโกรธอย่างยิง่
“ฮ่องเต้นอ้ ย!” ในตอนนั้นเอง ท่านผูเ้ ฒ่าขี่สุนขั ป่ าตัวใหญ่มาถึงเบื้อง
พระพักตร์ของจีเฉวียน แค่ประโยคที่เรี ยกพระองค์เป็ นฮ่องเต้นอ้ ย ก็
แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าเขากาลังโกรธาถึงขนาดไหนกัน
จีเฉวียน “เราอายุยสี่ ิ บห้า ไม่เด็กแล้ว”
ท่านผูเ้ ฒ่าเกือบจะถ่มน้ าลายใส่ พระพักตร์ของฝ่ าบาทอยูร่ อมร่ อ
ขณะที่มองดูจีเฉวียนด้วยความขุ่นเคือง หอกในมือของเขายังเสี ยบ
ศีรษะของคนผูห้ นึ่งเอาไว้อยูเ่ ลย “เจ้ามันเหมือนกับจีจา้ นปู่ ของเจ้า
จีเย่พี่นอ้ งของเจ้าจริ งๆ ต่างก็รู้จกั แต่ใช้คาพูดอ่อนหวานประสา
ดอกไม้มาหลอกล่อหญิงสาว! ยังดีที่เราผูเ้ ฒ่าดวงตาแจ่มใส ถึงได้ไม่
ยอมให้หลันหลันหลงกลของเจ้าเข้า!”
ท่านผูเ้ ฒ่าโทสะครอบงา จนไม่สนใจขนบธรรมเนียมใดๆ อีกแล้ว
มีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้วา่ ยามที่เขาได้อ่านจดหมายที่หลันหลันทิ้ง
เอาไว้ฉบับหนึ่งว่าจะมาช่วยฝ่ าบาท เขาวิตกกังวลจนวิญญาณแทบ
หลุดออกจากร่ าง
พอมาถึงก็ได้ข่าวว่าจีเฉวียนรังแกนาง ย่อมต้องโกรธเคืองจนร่ างจะ
ระเบิดอยูร่ อมร่ อแล้ว
“ความจริ งใจของเรา ไม่เคยเปลี่ยนแปลง”
จีเฉวียนตรัสพลางก็โผขึ้นไปกับสายลมท่ามกลางสายตาของผูค้ น
ทั้งหลาย เพียงได้ยนิ เสี ยงสะบัดพระบาทไม่กี่ครั้งก็เสด็จขึ้นไปถึงบน
กาแพงเมืองแล้ว จากนั้นก็ร่อนลงที่ขา้ งกายตู๋กูซิงหลันอย่างแผ่วเบา
เพียงแค่ครู่ เดียวบนกาแพงเมืองก็เต็มไปด้วยผูค้ น
ขณะที่จีเฉวียนกาลังร่ อนลงที่ขา้ งกายตู๋กซู ิงหลัน ก็ถูกตู๋กจู ุนถลันเข้า
มาขวางเอาไว้
สี หน้าของพี่ใหญ่ไม่พอใจอย่างยิง่ พอคิดถึงเหตุการณ์ในตาหนัก
บรรทมเมื่อครู่ เขาก็โมโหแทนน้องสาวจนไฟลุก
ตู๋กซู ิงหลันเองกลับตกอยูใ่ นความงุนงง นางอยูข่ องนางดีๆ ตอนนี้ก็
จะให้ไปก่อกบฏ?
พอหันศีรษะไปมองดูฮ่องเต้สุนขั หน้ากากใบนั้นก็ปิดบังใบหน้า
เอาไว้ จนมองอารมณ์ของเขาไม่ออก เห็นแต่วา่ ดวงตาของเขามีแต่
เส้นเลือดขึ้นมาเต็มไปหมด
นี่ใช่วา่ กาลังโกรธจนระเบิดแล้ว คิดจะมาสังการ ‘กบฏ’ แล้วใช่
ไหม?
“ซิงซิง เราสามารถอธิบายให้ฟังได้” จีเฉวียนประทับอยูต่ รงหน้านาง
อยากจะตรัสกับนางดีๆ เหลือเกิน
เรื่ องของฉางซุนอิง นางไม่ได้เรี ยบง่ายเหมือนดัง่ ที่เห็นภายนอก
“ยังมีอะไรจะต้องอธิบายกัน! สตรี ผนู ้ ้ นั ถึงกับจูบคอเจ้าแล้ว! แต่เจ้า
กับไม่ปฏิเสธเลยสักนิด แถมยังบอกว่าจะดูแลนางอีก!” พี่ใหญ่
ตอนนี้ถึงกับระเบิดความสามารถในการพูดจาของตระกูลออก
มาแล้ว
สาหรับบุรุษแล้ว การไม่ได้ปฏิเสธก็แสดงว่าเป็ นการยอมรับ
เขาเป็ นฮ่องเต้วงั หลังจะมีหญิงสาวมากมายถึงเพียงใดก็เป็ นเรื่ อง
ธรรมดา แต่ในขณะที่เขากาลังไล่จีบน้องเล็กอย่างบ้าคลัง่ นั้น เขาไม่
ควรผุดสตรี อื่นขึ้นมาอีกมิใช่หรื อ?
จีเฉวียน “….”
ท่านปู่ ก็ติดตามขึ้นมาเช่นกัน “ฝ่ าบาท ขณะที่พระองค์กินอยูก่ บั ปาก
อยากอยูก่ บั ท้อง ก็อย่าได้มายุง่ กันหลันหลันจะดีกว่า ถึงแม้วา่ ข้าไม่
อาจกบฏต่อต้าโจว แต่วา่ หากจะให้นางเป็ นฮ่องเต้หญิงของแคว้นอื่น
ก็มิใช่เรื่ องยากอันใด!”
ตู๋กซู ิงหลัน “…..” ไม่ใช่แล้ว คนเราจะกบฏก็สามารถทาได้อย่างอาจ
หาญถึงเพียงนี้เลยหรอ?
นางไม่ได้คิดจะแย่งชิงแคว้นเหยียนกับจีเฉวียนเลยสักนิด รู ้ไหม?
ก็แค่มีอาชีพบ้าช่วยเหลือสรรพชีวิตนะ เข้าใจไหม?
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาพูดกันเรื่ องนี้ แคว้นเหยียนกาลังวุน่ วาย ท่าน
ปู่ พี่ใหญ่ รัชทายาทแคว้นเหยียน พวกเรามีแต่ตอ้ งร่ มมือกันทาลายผี
ดิบและหยุดการแพร่ เชื้อจึงจะสาคัญที่สุด”
ตู๋กซู ิงหลันกล่าวอย่างสงบอารมณ์
ฮ่องเต้ทรงได้ยนิ ว่าจะอย่างไรนางก็มิได้นบั พระองค์เองเข้าเป็ นส่ วน
หนึ่งด้วย พระทัยก็หล่นวูบลงไป
“ไอ้ตวั ประหลาดพวกนั้นมันติดตามกลิ่นของคนเป็ นมาจนถึงหวงตู
เมืองหลวงแคว้นเหยียนแล้ว รอให้พวกมันรวมตัวกันเข้า ก็จดั การ
เผาให้วอดในครั้งเดียว” ครู่ หนึ่ง ฮ่องเต้กท็ รงตรัสออกมาอีกว่า “ซิ
งซิง ไม่จาเป็ นต้องกังวลใจไป”
ตู๋กูซิงหลัน “…….”
นางไม่เข้าใจเลยจริ งๆ ว่า แสงจันทร์ในดวงใจของเขากลับมาแล้ว
เขายังจะสามารถเรี ยกนางได้เช่นนี้โดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนลมหายใจ
ไม่สะดุดได้อย่างไรกัน
“ตอนนี้แคว้นเหยียนสับสนวุน่ วาย การฟื้ นฟูหลังจากถูกเผาทาลาย
จึงจะเป็ นงานหนักที่ยากลาบาก ทัว่ ทั้งเมืองหวงตูยงั ตกอยูใ่ นสภาวะ
ที่ขาดแคลนทั้งน้ าและอาหาร เจ้าไม่เคยปกป้องราชสานักมาก่อน
ย่อมไม่รู้วา่ จะต้องทาเช่นไร”
จากนั้นจีเฉวียนก็ทรงเสริ มขึ้นอีกประโยค “เราจะช่วยเจ้า”
“ขอบคุณมาก แต่ไม่จาเป็ น”
มีครอบครัวอยูข่ า้ งๆ ย่อมทาให้นางกล้าขึ้นมาอีกหลายขั้น
“เรื่ องเหล่านี้ลว้ นมิตอ้ งให้ฝ่าบาทกังวลพระทัยแล้ว” ท่านผูเ้ ฒ่าตู๋กู
และพี่ใหญ่ลว้ นสนับสนุนอยูด่ า้ นข้าง
……………………….
เกิดเรื่ องใหญ่ข้ ึนมาแผ่นดินนี้แล้ว
แคว้นเหยียนถูกถล่ม ถล่มโดยต้าโจว!
แต่วา่ เจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่กบั มิใช่โอรสสวรรค์แห่งต้าโจว….เดา
สิ วา่ เป็ นใครกัน?
แซ่ต๋ ูกตู ่างหาก!
นี่เป็ นข่าวใหญ่ที่ดงั ไปทั้งแผ่นดินเลยทีเดียว!
กี่ปีมาแล้วใต้หล้านี้ไม่มีฮ่องเต้หญิง?
เกรงว่าจะต้องมีมากว่าพันปี กระมัง!
ฟังมาว่าโอรสสวรรค์แห่งต้าโจวผูน้ ้ นั เกือบจะได้ครองต้าเหยียนอยู่
รอมร่ ออยูแ่ ล้ว …… แต่วา่ สุ ดท้ายแล้ว กลับถูกแม่เลี้ยงของตนเองยก
พลมา แย่งเอาไป!
ฟังมาว่าไทเฮาน้อยผูน้ ้ นั ทอดทิ้งหน้าที่ ไม่ตอ้ งการตาแหน่งไทเฮาอีก
ต่อไปแล้ว กลับนัง่ เป็ นฮ่องเต้หญิงอย่างสุ ขสบายใจ
ผีดิบในแคว้นเหยียนถูกเผากาจัด ทัว่ ทั้งแคว้นรกร้างว่างเปล่า แทบ
จะมีแต่ซากปรักหักพัง
แต่วา่ ฮ่องเต้หญิงผูน้ ้ นั กลับรู ้จกั วิธีการปกครองอยูบ่ า้ ง จัดสรรที่ดิน
ใหม่ สร้างบ้านเรื อน ขุดคลองเพิ่ม ละทิ้งข้อกฏระเบียบเดิมๆ ของ
ราชวงศ์เหยียน จัดตั้งกฏระเบียบแบบแผนใหม่
แถมทักษะทางการเมืองการปกครองนั้นก็แสนจะยอดเยีย่ ม มีแต่
ฝี มืออันแพรวพราวที่ไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน ทาเอาพวกเขาถึงกับ
งุนงงจนหูตาลาย
ใครเลยจะคิดว่า ไทเฮาน้อยผูน้ ้ นั จะมีความสามารถถึงเพียงนี้?
ตอนนี้แคว้นเหยียนทั้งคนชั้นบนและชั้นล่างต่างก็รวมใจกัน แทบจะ
อยากยกนางเทิดทูนเป็ นบรรพชนอยูแ่ ล้ว
โดยเฉพาะเหล่าราษฏร์ท้ งั หลาย ต่างก็พดู กันว่านางเป็ นเทพเซียนลง
มาจุติ เพื่อปกครองแผ่นดิน
ส่ วนฮ่องเต้ตา้ โจวผูน้ ้ นั ก็เท่ากับขุดหลุมฝังตนเอง หากว่าตอนนั้นเขา
ถือทิฐิให้มากกว่านี้หน่อย ต่อให้ตายก็ไม่ยอมยกบัลลังก์ฮ่องเต้ให้ ก็
คงจะทาให้ตนเองไม่ตอ้ งมาเผชิญกับปัญหาใหญ่โตถึงเพียงนี้แล้ว
……………………………
ตอนต่อไป “บุรุษโฉมงามอันดับหนึ่งในแผ่นดิน”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 386 บุรุษโฉมงามอันดับหนึ่งใน
แผ่ นดิน
แคว้นเหยียน เมืองหลวงหวงตู
ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิที่หิมะละลายจนหมดสิ้ น สายลมในฤดูใบไม้ผลิ
พัดโชย นาพาให้ทุกชีวิตฟื้ นคืน
ภายในวังหลวง ณ ตาหนักบรรทมของฮ่องเต้หญิง
กลางวันแท้ๆแต่กลับหับหน้าต่างจนหมดสิ้ น ปิ ดผ้าม่าน จุดเพียง
โคมไฟ
ที่จริ งนี่กถ็ ึงยามเที่ยงแล้วแท้ๆ แต่บนเตียงบรรทมของฮ่องเต้หญิง ขา
ที่เรี ยวยาวข้างหนึ่งยังเลื้อยลงมาจากบนเตียง
ผ้าโปร่ งสี แดงพลิว้ ไหวเบาๆ แสงเทียนสลัวๆ บนเตียงบรรทมมีเสี ยง
ลมหายใจแผ่วเบา ทั้งนุ่มนวลและสงบสุ ข
ในความง่วงงุน ตู๋กซู ิงหลันพลิกตัว มือไปสัมผัสกับเนื้อนุ่มๆ
บางอย่าง
นางจึงค่อยๆกระพริ บตาสองครั้ง….อืม นุ่มดี ลื่นดีมาก อืม ผิวดี
จริ งๆ
จากนั้นจึงค่อยลืมตาขึ้นมาดูอย่างจริ งจัง
พอลืมตาขึ้นมามองก็เห็นใบหน้าดวงหนึ่งกระจ่างอยูต่ รงหน้า หนุ่ม
น้อยผูน้ ้ นั นอนอยูข่ า้ งกายนาง
เขามีริมฝี ปากแดงฟันสี ขาว พอเห็นว่านางกาลังมองดูตนเองอยูก่ ร็ ี บ
ก้มหน้าลงไป กล่าวอย่างเขินอายคาหนึ่งว่า “ฝ่ าบาท ทรงตื่นแล้ว~

ตู๋กซู ิงหลันเหม่อลอยไปเล็กน้อย จากนั้นก็เก็บมือที่สมั ผัสบนใบหน้า
ของเขากลับมาอย่างเงียบงัน
ค่อยเหลือบตามองดูหนุ่มน้อยที่ผอมบาง และเสื้ อผ้าเนื้อบางที่
หลุดรุ่ ย
หนุ่มน้อยดูเขินอายกว่าเดิม พลางเขยิบเข้ามาด้านข้างอีกนิด “ฝ่ าบาท
ข้าพึ่งจะเข้ามาอยูใ่ นวัง ไม่รู้ขนบธรรมเนียม ……. เสื้ อผ้าเช่นนี้ก็
ออกจะน่าอายไปสักหน่อย …… แต่วา่ ใต้เท้าตู๋กบู อกว่า …..ต้องสวม
ใส่ แบบนี้ฝ่าบาทจึงจะทรงโปรด”
หนุ่มน้อยยิง่ พูดเสี ยงก็ยงิ่ เบาลงไป แทบจะเอาใบหน้ามุดลงไปกับ
เตียงบรรทมอยูแ่ ล้ว
ตู๋กูซิงหลัน “…….”
นางลุกขึ้นนัง่ พิงร่ างลงไปกับเบาะอิงนุ่มๆ มองดูหนุ่มน้อยที่เขินอาย
เสี ยจนใบหน้าแดงก่า ด้วยสายตาพิจารณาอย่างจริ งจัง
หนุ่มน้อยหลุบตาลง ไม่กล้าสบตากับนาง เปลี่ยนเป็ นนัง่ อย่าง
เรี ยบร้อยอยูข่ า้ งเตียง ในใจก็เต็มไปด้วยความประหม่าได้แต่คาดหวัง
ว่าจะได้รับความโปรดปรานจากนาง
นับตั้งแต่ฮ่องเต้หญิงทรงขึ้นครองราชย์ ก็ผา่ นมาได้หลายเดือนมาก
แล้ว มีบุรุษโฉมงามไม่นอ้ ยถูกคัดเลือกเข้ามาถวายงานรับใช้ฝ่าบาท
ในวัง
ตอนแรกๆ ที่ถูกคัดเลือกเขาเองก็ยงั รู ้สึกต่อต้าน
ใต้หล้ากว้างใหญ่ไพศาลล้วนถือธรรมเนียมเคารพบุรุษกดขี่สตรี มา
นานหลายปี แต่วา่ ตอนนี้อยูๆ่ ก็มีฮ่องเต้หญิงปรากฏพระองค์ข้ ึนมา
….ทั้งยังต้องการให้มีบุรุษปรนิบตั ิ นี่มนั ช่างน่าละอายเหลือเกิน
หากมิใช่เพราะว่าก่อนหน้านี้มีสงคราม ในบ้านแทบจะขาดแคลนจน
ไม่มีอาหารเพียงพอจะรับประทาน เขาก็คงจะไม่ขายตัวเข้ามาอยูใ่ น
วังหรอก
ก่อนที่จะได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้หญิง เขาก็พยายามบ่ายเบี่ยงอยูห่ ลายครั้ง
แต่วา่ ตอนนี้….ความกังวลใจทั้งหมดล้วนหายไปจนสิ้ นแล้ว
เขาถูกคัดเลือกขึ้นมาจากเหล่าบุรุษอายุเยาว์ที่มีความโดดเด่น จน
มาถึงการเป็ นผูท้ ี่มีคุณสมบัติได้ปีนเตียงของฝ่ าบาทได้แล้ว
คนทัว่ ไปต่างก็กล่าวว่า ฮ่องเต้หญิงทรงเป็ นผูท้ ี่มีสิริโฉมงดงามเหนือ
ผูใ้ ดในโลกหล้า ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าคาพูดเหล่านั้นออกจะเกินจริ ง
มากไป
แต่พอตอนนี้ได้มาเห็นแล้ว ดวงเนตรดอกท้อที่สามารถควักวิญญาณ
ได้ เส้นคิ้วโก่งโค้งดัง่ ไต้หยู่ ริ มฝี ปากที่ชุ่มฉ่ าดัง่ ผลอิงเถาอีก แล้วยัง
จะมีเรี ยวขาที่โผล่ออกมา ทั้งตรง ยาว ขาวกระจ่างกว่าหิ มะ ทั้งยัง
งดงามยิง่ กว่าเนื้อหยก
ไม่รู้วา่ สวรรค์จะต้องทุ่มเทจิตใจเท่าใดจึงจะสร้างขึ้นมาได้……
ยามนี้หากว่าสามารถได้รับความโปรดปรานจากฝ่ าบาทสักแวบหนึ่ง
เกรงว่าจะทาให้เขาแม้ตายก็ไม่รู้สึกเสี ยดายแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันสวมใส่ แต่เพียงชุดนอน นางค่อยๆเก็บขาที่โผล่ออกมา
ด้านนอกกลับเข้าไป หลังจากสารวจหนุ่มน้อยอยูพ่ กั ใหญ่ ค่อยตรัส
ว่า ขอโทษที เจ้าไม่ใช่แบบที่ขา้ ชอบ”
หนุ่มน้อยรู ้สึกเหมือนถูกราดน้ าเย็นไปทั้งศีรษะในทันที
“ฝ่ าบาท….เป็ นเพราะว่าข้าทาสิ่ งใดผิดไปหรื อไม่? ข้าจะต้องแก้ไข
เป็ นอย่างดี ฝ่ าบาทอย่าได้ทรงผลักไสข้าได้หรื อไม่?” หนุ่มน้อยน้อย
อกน้อยใจ ดวงตากลมโตแทบจะมีน้ าตาไหลริ นออกมา
นี่เรี ยกว่า ได้โปรดสงสารข้าเถิด!
ตู๋กซู ิงหลันรี บปาดเช็ดน้ าตาให้เขา “ โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะ โอ๋ ไม่ร้อง ตัว
น้อยที่น่าสงสาร….”
วิญญาณทมิฬ “หลันหลัน เจ้าทาเช่นนี้ดูวิปริ ตอย่างยิง่ ”
ทั้งที่ไม่ได้ชมชอบผูอ้ ื่น แต่กลับเรี ยกผูอ้ ื่นเป็ นตัวน้อยที่น่าสงสาร นี่
ไม่เท่ากับว่ากาลังหย่อนเบ็ดตกปลาหรอกหรื อ?
ยิง่ ทียงิ่ เสเพล ยิง่ กล้าใหญ่แล้ว หยอดคนอื่นเขาไปทัว่
ตู๋กซู ิงหลันค้อนตาขวาใส่ มนั ครั้งหนึ่ง ค่อยๆบรรจงช่วยเช็ดน้ าตาให้
หนุ่มน้อย “เด็กน้อยเจ้าหน้าตาดี ช่างน่าเอ็นดู มาอยูข่ า้ งกายข้าทุกๆ
วันยกน้ าเทชาดีกว่า เตียงนี้ ต่อไปไม่ตอ้ งขึ้นมาแล้ว ได้ไหม?
หนุ่มน้อยน้ าตาหยดปรอยๆ พอได้ยนิ ว่ายังสามารถรั้งอยูข่ า้ งกายนาง
ได้ ก็คลี่ยมิ้ ออกมา
“ข้าจะตั้งอกตั้งใจรับใช้ฝ่าบาท”
เขารี บลงจากเตียง โขกศีรษะหนักๆติดๆกัน ใบหน้ายังคงแดงก่าไม่
หาย กล่าวเสี ยงหวานว่า “ข้ามีชื่อเรี ยกว่า เซี่ยวเหลี่ย……”
หากว่าฝ่ าบาททรงจดจาชื่อแซ่ของตนเองได้นนั่ จะเป็ นโชคดีถึงเพียง
ไหน
ตู๋กซู ิงหลันแย้มยิม้ อย่างงดงาม โบกพระหัตถ์เบาๆ “รู ้แล้วล่ะ ครั้ง
หน้าสวมใส่ เสื้ อผ้าให้เรี ยบร้อยค่อยมาดูแลเราเถอะ”
พอหนุ่มน้อยล่าถอยออกไป ก็เห็นตู๋กเู จวี๋ยวิ่งเข้ามาด้วยสี หน้ายินดี
“น้องเล็ก ครั้งนี้เป็ นอย่างไร พอใจหรื อไม่?”
“พี่รอง บอกท่านไปตั้งหลายครั้งแล้ว ข้าไม่ขาดแคลนบุรุษ ยิง่ ไม่
อยากจะพอลืมตาตื่นมาก็เห็นบุรุษน้อยน้ าตาไหลเปาะแปะอยู่
ตรงหน้า” ตู๋กซู ิงหลันลงจากเตียงด้วยเท้าเปล่า ค่อยยืนอยูบ่ นพรมที่
อ่อนนุ่ม
หลังจากผ่านการรักษามานานหลายเดือน ขาของนางก็ดีข้ ึนมากแล้ว
นางสวมใส่ ชุดนอนสี ขาวตลอดทั้งร่ าง เส้นผมสี ดาสนิทยาวสยาย
ล้อมวงหน้าของนางที่งดงามเกินใดจะเปรี ยบ
ภายใต้แสงเทียนอ่อนจาง ทัว่ ทั้งร่ างของนางเปล่งประกายสู งส่ งอย่าง
อธิบายไม่ถูก
พี่รองได้แต่บ่นพึมพาว่า “หากไม่ตอ้ งการแล้วทาไมเจ้าถึงยิม้ เหมือน
พวกอาอี้เลยละ?”
“ตอนนี้เจ้าเป็ นฮ่องเต้หญิงแล้ว! แล้วจะปล่อยให้วงั หลังว่างเปล่าได้
อย่างไร?” ตู๋กเู จวี๋ยกล่าวอย่างเป็ นจริ งเป็ นจัง “พวกพี่ๆเสาะหาบุรุษ
มาให้เจ้า ย่อมต้องผ่านการเลือกสรรเป็ นอย่างดี รับรองว่าแต่ละคน
จะต้องทั้งสายตา ทั้งในใจต้องมีแต่เจ้าเท่านั้น เจ้าสนใจแค่คอย
จัดการพวกเขาก็พอ พอเบื่อแล้วพวกเราก็เปลี่ยนเป็ นคนใหม่!”
ตู๋กซู ิงหลันถูกคาพูดของเขาทาเอาตาโตขึ้นมาบ้างแล้ว
นี่พี่ๆของนางไปประสบอะไรเข้าจนไม่พอใจขึ้นมา?
วันๆถึงได้คิดแต่จะผลักบุรุษขึ้นเตียงของน้องสาว…..
แต่อย่าว่าไป สายตาของพวกพี่ๆช่างดีจริ งๆ พ่อเนื้ออ่อนเหล่านี้แต่
ละคนยิง่ ทียงิ่ นุ่มดีงามขึ้นเรื่ อยๆ ช่วยกระตุน้ เลือดลมดีนกั ขนาดดู
เฉพาะแค่รูปร่ างหน้าตานะ ล้วนไม่มีแพ้เหล่าดาราหนุ่มในยุค
ปัจจุบนั เลย
ตลอดหลายเดือนมานี้ ทุกช่วงระยะเวลาไม่กี่วนั ตู๋กซู ิงหลันลืมตา
ขึ้นมาเป็ นต้องได้เห็นใบหน้าใหม่ๆอยูบ่ นเตียงของนางอยูเ่ สมอ
ว่าก็วา่ เถอะ พี่ชายน้อยๆที่หน้าตาดีเหล่านั้น จะผลักไสออกไปย่อม
ไม่ดี ได้แต่ตอ้ งรั้งเอาไว้คอยปรนนิบตั ิในวังแล้ว
ยกน้ าชา เทน้ า หากใช้การอะไรไม่ได้กม็ าคอยตบบ่านวดไหล่ให้นาง
ก็แล้วกัน
แค่ช่วงสั้นๆเพียงไม่กี่เดือนนี้ เหล่าพี่ชายตัวน้อยที่คอยปรนนิบตั ิใน
ตาหนักบรรทมของนางก็มีมากเสี ยจนจะตั้งทีมเตะบอลได้แล้ว
ยามที่ต๋ ูกูเจวี๋ยโผมาถึงเบื้องหน้าของนางนั้น เขาก็พดู อย่างมีลบั ลม
คมนัยว่า “บอกข่าวดีให้เจ้าฟัง เมื่อเร็วๆนี้พวกพี่ๆหมายตาบุรุษ
อันดับหนึ่งในเมืองหวงตูเอาไว้แล้ว ตระเตรี ยมจะใช้เชือกไปมัดมา
ส่ งให้กบั เจ้า คราวนี้เจ้าจะต้องถูกตาถูกใจอย่างแน่นอน!”
ตู๋กูซิงหลัน “เมืองหวงตูมีบุรุษอันดับหนึ่งตั้งแต่เมื่อไหร่ กนั ?”
เรื่ องที่พวกพี่ๆจับบุรุษกลับมานั้น นางเห็นจนชินชาเสี ยแล้ว เรื่ อง
การบังคับยัดเยียดมาให้น้ ีนางไม่เพียงแต่หา้ มไม่อยู่ ตอนนี้ยงั รู ้สึก
ตื่นเต้นที่ได้เฝ้ารออยูบ่ า้ งเหมือนกัน?
พอได้เป็ นฮ่องเต้หญิงขึ้นมา วังหลังก็เต็มไปด้วยอู๋เสี่ ยงฝายเอย หลัว
เสี่ ยวซีเอย หูเสี่ ยวเกอเอย อี้เสี่ ยงสี่ เอย เป็ นใคร ใครจะอยากปฏิเสธ
กัน!
ต่อให้วนั ๆได้แต่ปล่อยให้เดินไปเดินมาอยูใ่ นวัง นัน่ ก็ยงั ถือว่าเป็ น
ทัศนียภาพที่น่าชื่นชมอย่างหนึ่งแล้ว!
ตอนนี้อยูๆ่ ก็มีบุรุษโฉมงามอันดับหนึ่งของหวงตูข้ ึนมา จะต้อง
งดงามถึงเพียงไรถึงจะสามารถมีความมัน่ ใจในตนเองได้เช่นนั้น?
ตู๋กซู ิงหลันชักจะเกิดความสนใจขึ้นมาแล้ว
ตู๋กเู จวี๋ยเห็นดวงเนตรทั้งสองของนางทอประกายแวววาว ก็เงียบขรึ ม
ไปครู่ หนึ่ง
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 387 วายร้ ายตัวฉกาจ
เรื่ องที่เขาตกลงกับพี่ใหญ่ไว้น้ นั ถูกต้องแล้ว ในเมื่ออกหัก ก็ตอ้ งใช้
บุรุษงามมารักษา หากว่าคนเดียวยังไม่พอ ก็เพิ่มเป็ นสอง
สองคนยังไม่พอ ถ้างั้นก็โขยงหนึ่งไปเลย!
ดูสิ นับตั้งแต่ที่แยกทางกับฮ่องเต้ตา้ โจวเป็ นต้นมา น้องเล็กก็มี
ความสุ ขดีมิใช่หรื อ?
รอบกายมีแต่บุรุษโฉมงามรายล้อม ได้รับความเคารพจากคนทั้ง
แผ่นดิน
พวกราษฏร์ที่ถูกทอดทิ้งในแคว้นเหยียน ก็ได้รับการดูแลจากนาง
เป็ นอย่างดี
ว่ากันตามจริ ง ก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่เคยรู ้มาก่อนเลยว่าน้องเล็กมี
ฝี มือในการปกครองแคว้น!
ก่อนหน้านี้ยามอยูใ่ นแคว้นต้าโจว ตู๋กเู จวี๋ยมีชื่อเสี ยงในเรื่ อง
ความสามารถเคียงคู่กบั ฉางซุนซิ่ว ตอนนี้พอได้ยนิ น้องสาววิจารณ์
การปกครองออกมา ก็ตอ้ งตื่นตะลึงไป
อะไรคือหลักการปกครองที่วา่ ต้องกินอิ่มนอนอุ่นก่อน จึงจะมี
ความคิดทานุบารุ งแว่นแคว้นได้ ก่อนหน้านี้ต๋ ูกเู จวี๋ยไม่เคยแม้แต่จะ
ได้ยนิ มาก่อนเลย
เรื่ องสร้างสถานศึกษา สนับสนุนให้ริเริ่ มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ยิง่ ทา
ให้เขาตะลึงจนอ้าปากค้าง
สรุ ปว่าตอนนี้แคว้นเหยียนถือว่ากลับมามีพลังอีกครั้งแล้ว
ว่ากันตามจริ ง ก่อนหน้านี้ตอนได้ยนิ ข่าวสารที่ส่งมาว่าคนใน
ครอบครัวก่อกบฏ เขายังอยูใ่ นจวนแทะเมล็ดแตงอยูเ่ ลย
นี่มนั แบบว่า……..เอ่ยถึงสายลมแต่กลับมาเป็ นพายุฝนแท้ๆ ทาเอา
คนตกใจแทบตาย
เขาต้องถึงกับม้วนเสื้ อหลบหนีมาทั้งคืน ยังดีที่วิ่งได้เร็ ว ไม่เช่นนั้นก็
ไม่แน่วา่ อาจจะถูกจีเฉวียนกลัน่ แกล้งอย่างไรบ้าง
ดูเอาสิ คนเขาลาบากตรากตราตีแผ่นดินมาได้ แต่กลับถูกน้องเล็กฮุบ
มาเช่นนี้ แล้วจะไม่โกรธได้หรื อ?
พูดไปแล้วก็นบั ว่าแปลกอยู่ ทาไมช่วงหลายวันมานี้ ทางด้านต้าโจ
วถึงได้สงบนิ่งนัก
แผ่นดินที่ชิงมาถูกฮุบไปแล้ว แต่กลับยังสงบนิ่งได้อย่างไม่น่าจะเชื่อ
ดังนั้นเขาจึงแอบส่งคนไปสื บเสาะดู นี่เรี ยกว่าตอนไม่รู้กย็ งั แล้วไป
พอได้รู้เท่านั้นเป็ นต้องตกใจแทบกระโดด
แม่นางน้อยที่นามว่าฉางซุนอิงผูน้ ้ นั ถึงกับมีฝีมืออันร้ายกาจ……
แค่เพียงช่วงเวลาสั้นๆก็กลายเป็ นหอมกรุ่ นจนระอุไปทัว่ ทั้งวังหลัง
แล้ว?
ขนาดซูหวงกุย้ เฟยที่กาลังทรงพระครรภ์ยงั ถูกนางจัดการจนแท้ง
แล้วถูกส่ งเข้าตาหนักเย็นไป?
เรื่ องนี้ทาเอาคนล้วนไม่เข้าใจ
ขนาดตู๋กเู จวี๋ยยังรู ้สึกสงสารซูเม่ยขึ้นมา…..ทราบข่าวว่า หลังจากที่
ถูกส่ งเข้าไปในตาหนักเย็น ซูหวงกุย้ เฟยก็ไม่อาจทนรับความลาบาก
ได้ไหวถึงกับแขวนคอตายไปแล้ว
หย่งเฉิงอ๋ องและพระชายาพอได้ทราบข่าว ก็เป็ นลมหมดสติไป
ในทันที
ตาหนักหย่งเฉิงอ๋ องแขวนผ้าขาวตลอดหนึ่งเดือน พระชายา
เปลี่ยนเป็ นสติเลื่อนลอย เอาแต่ร้องไห้ด่าทอฮ่องเต้วา่ บ้าอานาจ
โหดร้ายอยูเ่ ป็ นพักๆ
เรื่ องเล่านี้ ตู๋กเู จวี๋ยไม่กล้าบอกกับนาง
ใครจะไปคิดว่า จีเฉวียนจะกลายเป็ นคนเช่นนี้?
ทั้งๆที่รู้วา่ ฉางซุนอิงผูน้ ้ นั ไม่ใช่แม้แต่มนุษย์ ก็ยงั จะเอาเข้าไปไว้ใน
วังหลังอีก
ตอนนี้เขาโชคดีแล้ว น้องเล็กกลายเป็ นฮ่องเต้หญิง เขาก็ไม่จาเป็ น
จะต้องทางานอยูข่ า้ งกายจีเฉวียนอีกต่อไป
เพราะฉะนั้นบุรุษโฉมงามอันดับหนึ่งในแผ่นดินผูน้ ้ นั จะอย่างไรก็
ต้องจับมัดมาสร้างความยินดีให้นอ้ งเล็ก
นับตั้งแต่ที่ข้ ึนเป็ นฮ่องเต้หญิง การแต่งกายของตู๋กซู ิงหลันก็
เปลี่ยนแปลงไป
ตอนนี้นางอายุสิบเจ็ดแล้ว รู ปร่ างยิง่ ทีกย็ งิ่ งดงาม นางสวมชุด
กระโปรงสี แดงทั้งตัว เอวที่บอบบางและ ท่อนขาที่เรี ยวยาวเปิ ดเผย
ออกมาเป็ นบางครั้งอย่างไม่ต้ งั ใจ ริ มฝี ปากแดงฉ่ า ยิง่ ส่ งเสริ ม
ภาพลักษณ์ของฮ่องเต้หญิงขึ้นมา
ตู๋กเู จวี๋ยจับจ้องอยูท่ ี่นอ้ งสาวของตนเอง เห็นนางนัง่ อยูข่ า้ งโต๊ะ
แต่งหน้า นาชาดทาปากสี แดงก่าทาลงบนริ มฝี ปาก
นางยังแต่งขอบตาด้วยเส้นสี ดาที่ดึงดูดวิญญาณผูค้ น ทาขอบตาด้วย
สี แดงอ่อน ปัดคิว้ ด้วยขนปี กนก
เขานัง่ ลงตรงข้างนาง วางมือลงบนหัวไหล่ ชื่นชมอยูเ่ ป็ นนาน
“น้องเล็ก เจ้างดงามน่าดูมากอยูแ่ ล้ว สิ่ งของพวกนี้ไม่จาเป็ นจะต้อง
เอามาทาถูใบหน้าก็ได้ม้งั ?”
เขาทนดูไม่ไหว ชาดทาปากที่แดงจนเกือบดาเช่นนี้…….ใครทาเข้า
ไปก็ดูเป็ นมารร้าย!
“หากว่าข้าไม่แต่งหน้าทาปากใครจะรู ้วา่ ข้าเป็ นฮ่องเต้หญิง?” ตู๋กูซิง
หลันว่าพลางทาชาดทับลงไปอีกครั้งหนึ่ง
ตอนที่อยูใ่ นวังหลวงของต้าโจว นางมีลูกสะใภ้มากมายเป็ นโขยง ใน
เมื่อตนเองเป็ นไทเฮา จะมาแต่งหน้าทาปากให้มากไปก็รู้สึกไม่ดี
ตอนนี้เป็ นฮ่องเต้หญิงแล้ว อยากจะทาอย่างไรก็ยอ่ มได้
วิญญาณทมิฬตัวสัน่ สะท้านอยูใ่ นมุมๆหนึ่ง สตรี ที่อกหักช่างน่ากลัว
จริ งๆ ดูหลันหลันเป็ นตัวอย่างก็รู้แล้ว
แต่งหน้าแต่งกายเช่นนั้น….มันจาได้อย่างแม่นยา เป็ นวิธีการแต่งตัว
ยามที่นางสวมบทเป็ นวายร้ายตัวฉกาจตอนแสดงละครในโลกก่อน
หลังจากที่ถูกบุรุษสุ ดที่รักทอดทิ้ง ตัวร้ายฝ่ ายอธรรมก็แต่งกายเช่นนี้
สุ ดท้ายแล้วทุกคนในละครก็ถูกตัวร้ายผูน้ ้ ีฆ่าทิ้งจนเหลือแต่ชื่อ
จุ๊ จุ๊ จุ๊ ……พูดตามตรงนะ ละครเรื่ องนั้นได้ทิ้งเงามืดที่น่ากลัวเอาไว้
ในใจของมันอย่างไม่อาจลืมเลือน
อย่าได้เห็นว่าภายนอกนางดูปลอดโปร่ งสบายๆ ปากบอกว่าไม่ได้
สนใจไยดีฮ่องเต้สุนขั แต่เกรงว่าในใจคงจะเกลียดเขาเข้ากระดูกดา
ไปแล้ว
ตู๋กเู จวี๋ยหยิบบรรดาขวดและตลับต่างๆของนางขึ้นมาดู พลางถาม
อย่างจริ งจังว่า “สตรี ท้ งั หลายชอบสิ่ งของพวกนี้มากหรื อ?”
“ย่อมใช่อย่างแน่นอน ไม่มีสตรี คนใดจะไม่ชอบ”
“เช่นนั้นให้พี่รองสักตลับได้หรื อไม่?” ตู๋กเู จวี๋ยพูดพลาง ก็ยดั สิ่ งของ
เข้าไปในอกไปด้วย “คราวหน้าพอเจอกับชือหลี ให้นางได้ลองใช้
สิ่ งของของมนุษย์ธรรมดาพวกนี้ดู”
ตู๋กูซิงหลันเหลือบมองไป เห็นเขาเลือกเอาชาดสี ชมพูจดั จ้านราวปาก
ตุ๊กตาไปตลับหนึ่ง นางก็ยมิ้ อย่างชัว่ ร้ายออกมาในทันที “ชือหลี
จะต้องชอบแน่นอน”
“แฮะ แฮะ” พี่รองหัวเราะราวกับว่าเป็ นคนโง่ “ข้ายังนึกว่านางชอบ
ดื่มเหล้าเสี ยอีก เยีย่ มเลย ต่อไปไม่เอาสุ ราไปฝากแล้ว ซื้อพวกชาดทา
ปากและแป้งฝุ่ นพวกนี้ไปฝากนางให้มากๆดีกว่า!”
พอเอ่ยถึงชือหลี นับตั้งแต่ที่จากกันครั้งที่แล้ว ตู๋กซู ิงหลันก็ไม่ได้ข่าว
คราวของนางแม้แต่นอ้ ย
แต่กลับเป็ นไข่มุกมังกรที่นางมอบให้ตน ช่วงนี้กลับเกิดความ
เปลี่ยนแปลงขึ้นมาแล้ว
มุกมังกรสี ฟ้า ค่อยๆเปลี่ยนเป็ นสี แดง
ช่วงนี้สีแดงยิง่ ทีกย็ งิ่ เข้มขึ้นมา……
ทิศตะวันตกของแคว้นเหยียนติดกับทะเลตะวันตก ที่จริ งก็ไม่นบั ว่า
ไกลกันเท่าไหร่ เดิมตู๋กซู ิงหลันก็เคยมีความคิดจะไปชมดูสกั ครั้งอยู่
แล้ว
เมื่อหลายปี ก่อน ศพของมารดาไทเฮาน้อยก็ถูกพบในสถานที่ที่ใกล้ๆ
กับทะเลตะวันตกเช่นกัน
ส่ วนเรื่ องฐานะของบิดาที่แท้จริ งของนางนั้น ขนาดจนถึงตอนนี้ท่าน
ปู่ ก็ยงั ไม่อาจสื บได้ชดั เจน
บางทีหากว่านางเดินทางไปทะเลตะวันตกสักครั้งก็อาจจะได้ผลลัพธ์
ออกมาบ้างก็ได้
ตอนนี้สถานการณ์ให้แคว้นเหยียนก็สงบลงแล้ว สองขาของนางก็ดี
ขึ้นมากแล้ว
นางยิง่ ไม่คิดจะปล่อยตนเองให้อยูว่ า่ งอีกต่อไป พอว่างขึ้นมาก็จะคิด
ไปถึงเรื่ องของจีเฉวียนและฉางซุนอิง
พอคิดหัวใจก็วา้ วุน่ ไปหมด
หาเรื่ องอะไรให้ตนเองทาจะได้ไม่ตอ้ งไปคิดถึงมัน
“ฝ่ าบาท ที่ดา้ นนอกมีบุรุษผูห้ นึ่งบอกว่าตนคือโฉมงามอันดับหนึ่ง
ในแผ่นดิน มาขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ”
ในตอนนั้นเอง ก็ได้ยนิ เสี ยงคนรายงานเข้ามา
ตู๋กซู ิงหลันชะงักไปครู่ หนึ่ง ก็หนั ไปหัวเราะฮิฮิกบั พี่รองของตนเอง
“รวดเร็ วอะไรเช่นนี้?”
ตู๋กูเจวี๋ยยังคงมีสีหน้างงงัน เขายังไม่ทนั จะได้ลงมือเลย …..นี่พี่ใหญ่
ทางานเร็ วขนาดนี้เชียว?
ช่างสมกับเป็ นพี่ใหญ่ที่เน้นหนักด้านการลงมือทา พอบอกว่าลมพัด
ก็ส่งฝนมาเลย!
ตู๋กซู ิงหลันลุกขึ้นยืน เสด็จด้วยเท้าเปล่าไปบนพรมจนถึงปากประตู
ตาหนัก
ฉลองพระองค์สีแดงเพลิงพลิ้วไหวไปทัง่ ร่ าง ส่ วนที่เป็ นกระโปรงผ่า
ยาวจนถึงต้นขา เผยให้เห็นเรี ยวขาขาว ยาว ตรง และนวลละเอียด
มงกุฏหงส์บนพระเศียรฮ่องเต้หญิงสัน่ ไหวเบาๆ ส่ งเสี ยงกรุ ้งกริ้ ง ตู๋กู
เจวี๋ยมองดูเงาหลังของนาง ได้แต่รู้สึกประทับใจจนบอกอะไรไม่ถูก
พอตู๋กซู ิงหลันเสด็จมาถึงปากประตูตาหนัก ก็เห็นร่ างที่สวมใส่ ชุดสี
แดงเพลิงเหมือนกับนางหันมาทางตน เขาเดินขึ้นบันไดหิ นอ่อน
ขึ้นมาทีละก้าวๆ คุกเข่าลงข้างหนึ่งตรงเบื้องหน้านาง เอ่ยคาหนึ่งว่า
“กราบทูลฮ่องเต้หญิง…..”
………………………………………………
ไรท์ : ใครมานะ?
ตอนต่อไป “ขอแต่งงาน”
ไรท์ : เฮ้ย เดี๋ยวสิ มาถึงก็จะขอแต่งเลย ใครมันกล้าขนาดนี้?
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 388 ขอแต่ งงาน
ตู๋กซู ิงหลันชะงักงันไปครู่ ใหญ่ ขยับไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง ก็
ตัดสิ นใจยืน่ มือออกไปพยุงเขาขึ้นมา “ซู…..”
“ซูเยา” บุรุษหนุ่มผูน้ ้ นั ส่ งยิม้ งดงามเย้ายวนให้กบั นาง แต่ต๋ ูกซู ิง
หลันกลับมองเห็นหยาดน้ าตาจากดวงตาของเขาได้อย่างชัดเจน
“กระหม่อมคือบุรุษโฉมงามอันดับหนึ่งในแผ่นดิน ขอถวายพระพร
ฝ่ าบาท”
เขาคลี่ยมิ้ ให้กบั นาง เป็ นรอยยิม้ ที่เปี่ ยมไปด้วยหยาดน้ าตา จากนั้นก็
คุกเข่าลงถวายคานับตู๋กซู ิงหลันอย่างเต็มพิธีการครั้งหนึ่ง
“ฟังมาว่าในวังหลวงของฝ่ าบาทรับบุรุษงามเอาไว้ มิทราบว่าจะรับ
ข้าที่เป็ นโฉมงามอันดับหนึ่งในแผ่นดินไว้ได้หรื อไม่?”
ตู๋กซู ิงหลันยังยืน่ มือออกไปพยุงเขาอยู่ พอเขาคานับนางเสร็ จจึงคว้า
มือของนางเอาไว้ มองดูนางด้วยดวงตาลึกล้ าราวสุ นขั จิ้งจอก ในใจ
เปี่ ยมล้นไปด้วยความยินดี จนแทบอยากจะกู่ร้องเสี ยงดังออกมา
ดวงตาจิ้งจอกคู่น้ นั แทบจะมองลึกเข้าไปถึงก้นบึ้งหัวใจของตู๋กูซิงห
ลัน นางเองก็ไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้น ในใจพลันเกิดความปวดราวขึ้นมา
ขุมหนึ่ง ในสมองปรากฏภาพของสุ นขั จิ้งจอกน้อยในโลกก่อนตัว
นั้นขึ้นมา
มือที่กมุ มือของเขาเอาไว้จึงยิง่ กระชับแน่นกว่าเดิม จากนั้นก็ดึงเขา
ขึ้นมา
นางมีแรงมาก แทบจะดึงเขาเข้าไปในอ้อมอก
หนุ่มน้อยที่งดงามเย้ายวนซบลงไปบนบ่าของนาง เขาเข้าไปอยูใ่ น
อ้อมอกของนางอย่างกระตือรื อล้น ยืน่ จมูกขึ้นไปสู ดดมกลิ่นหอม
จากร่ างของนางเบาๆ
แม้มีถอ้ ยคาเป็ นพันเป็ นหมื่น ก็ได้แต่กระซิบที่ขา้ งหูนางคาเดียวว่า
“อาหลัน….ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน…..”
ตอนที่นางบุกมาที่แคว้นเหยียนนั้น เขาติดตามนางมาตลอดทาง ยาม
เมื่อตกอยูใ่ นอันตรายร้ายแรงก็คอยลอบช่วยนางเข่นฆ่าทาง
สายโลหิตขึ้นมา
ตอนนั้นตู๋กซู ิงหลันไม่เคยรู ้เลย
หลังจากนั้น….พอนางได้ข้ ึนเป็ นฮ่องเต้หญิงของแคว้นเหยียนอย่าง
ปลอดภัย เขาก็กลับไปที่เมืองหลวงของต้าโจวอีกครั้ง
เมื่อไม่มีนางอยูใ่ นวังหลวง ก็ไม่มีความจาเป็ นที่จะต้องมีซูเม่ยอีก
ต่อไปแล้ว
เขาทาข้อตกลงกับจีเฉวียนรอบหนึ่ง ปล่อยให้ซูเม่ย ‘ตาย’ อยูใ่ นวัง
ขจัดข้อกังวลและความเสี่ ยงของครอบครัวออกไป ค่อยกลับคืน
ฐานะเดิมของตนเองเพื่อมาอยูข่ า้ งกายนาง
หลังจากผ่านมาหลายปี ในที่สุดก็สามารถยืนเคียงข้างนางใต้แสง
สว่างได้เสี ยที
ตู๋กซู ิงหลันทอดสายตามองดูเขา ยกมือขึ้นทัดปอยผมที่ขา้ งหูให้อย่าง
ช้าๆ ไม่รู้วา่ ทาไมในจมูกของนางพลันรู ้สึกแสบร้อนขึ้นมา ริ มฝี ปาก
แดงเม้มแน่น กระทัง่ น้ าเสี ยงก็ยงั สัน่ เครื ออยูบ่ า้ ง “ต้องเดินทางมา
เช่นนี้ ลาบากเจ้าแล้ว”
พูดแล้ว ก็จูงมือเขาเข้าไปในตาหนักบรรทม
พอขยับไปได้สองก้าว ก็ร้ ังฝี เท้าลง ถามว่า “พี่สาวของเจ้าซูเม่ย
สบายดีหรื อไม่?”
ตั้งแต่ที่นางพลาดไปกลายเป็ นฮ่องเต้หญิงของแคว้นเหยียนอย่างไม่
ทันรู ้ตวั ทั้งวันทั้งคืนก็คิดแต่เรื่ องจะฟื้ นฟูแคว้นเหยียน ส่ วนด้านของ
แคว้นโจวนั้น ในเมื่อพวกพีๆ่ ต่างก็ไม่ตอ้ งการให้นางรู ้ นางก็ไม่ได้
ถามออกไปแม้แต่คาเดียว
“พี่สาวตกพระครรภ์สูญเสี ยทารกไป จากนั้นถูกส่ งเข้าตาหนักเย็น
แต่ทาพระทัยไม่ได้จึงแขวนคอตายแล้ว” ซูเยาหรุ บดวงตาจิ้งจอกคู่
นั้นลง เพียงกระพริ บขนตาแต่เบาๆ บนปรายขนตาเหล่านั้นก็มีหยด
น้ าตาหยดน้อยๆเกาะอยู่
ตู๋กซู ิงหลันได้ยนิ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะกุมมือของเขาให้แน่นกว่าเดิม
นิ้วมือของเขาเรี ยวยาว ผิวพรรณบนหลังมือนั้นละเอียดเนียน บนร่ าง
ก็ยงั หอมจางๆที่มีกลิ่นของดอกกุหลาบ
ตู๋กซู ิงหลันมิใช่คนโง่ ถึงตอนนี้ นางรู ้อยูแ่ ล้วว่า
ซูเม่ยคือเขา ซูเยาก็ยงิ่ ใช่ตวั เขา
ตอนที่นางออกจากเมืองกู่เว่ยกลับไปที่ตาหนักเฟิ่ งหมิงกงนั้น ซูเม่ย
ที่แบกท้องโตวิง่ มาหานาง ส่ งข้าวส่ งน้ า จับมือถือแขนกันอยูท่ ุกๆวัน
ใบหน้าของคนเรานั้นอาจแปลงโฉมกันได้ แต่วา่ มือนั้นเปลี่ยนแปลง
ไม่ได้
จีเฉวียนเองก็เคยบอกฐานะที่แท้จริ งของซูเม่ยกับนาง แต่นางคิดว่า
เขาเอามากลบเกลื่อนเรื่ องความ ‘เสเพล’ ของเขา จึงไม่ได้สืบเสาะ
ต่อไป
กระทัง่ ถึงตอนนี้ นางก็ยงั คิดว่า ซูเม่ยหลงรักจีเฉวียนอย่างคลัง่ ไคล้
ถึงได้ยนิ ยอมซ่อนฐานะบุรุษเพื่อเข้าวังกลายเป็ น ‘พระสนม’ ของเขา
ตอนนี้เขายอมละทิ้งฐานะ ยิง่ เท่ากับแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เขา
ผิดหวังในตัวจีเฉวียนเพียงไร
โชคดี ถึงซูเม่ย ‘ตาย’ ไปแล้ว แต่วา่ ซูเยายังมีชีวิตอยู่
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกขอบคุณสวรรค์ ทุกครั้งที่นางได้เห็นซูเม่ยมักจะอด
ไม่ได้ที่จะนึกถึงเจ้าจิ้งจอกน้อยจากโลกก่อน และบางทีในใจของ
นางอาจจะเห็นเขาเป็ นเจ้าจิ้งจอกน้อยตั้งแต่แรกแล้ว
ดังนั้น นางจึงรู ้สึกยินดีที่เขายังมีชีวิตอยู่
“ต่อไปเราจะคอยดูแลเจ้าเอง” นางหลุบตาลง หันร่ างกลับไปกอดซู
เยาอย่างหนักแน่นครั้งหนึ่ง “เราจะรักเอ็นดูเจ้า เอ็นดูเจ้าไปตลอด
ชีวิต”
ซูเยานิ่งงันไปเนิ่นนาน เขารู ้สึกคลับคล้ายคลับคราว่าคาพูดเช่นนี้เคย
ได้ยนิ จากที่ใดมาก่อน
นัน่ เป็ นเสี ยงของสาวน้อยผูห้ นึ่งที่กล่าวกับเขา ว่าจะรักเอ็นดูเขาไป
ชัว่ ชีวิต
ตอนนี้พอได้ยนิ อีกครั้ง คล้ายกับว่าโลกใบเก่าได้หมุนกลับมาอีกครั้ง
เขาพลิกสองมือขึ้นมา เป็ นฝ่ ายกุมมือของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ กระซิบ
แผ่วเบาที่ริมหูของนาง “ควรเป็ นข้าที่จะปกป้องเจ้ามากกว่า”
“เจ้าเป็ นอิสตรี สมควรถูกทนุถนอมเอาไว้บนฝ่ ามือ ปกป้องเอาไว้ใน
แก่นกระดูก ให้ความรักถนอม ใส่ ใจอยูต่ ลอดเวลา” แสงในดวงตา
ของซูเยากระพริ บ คลี่ยมิ้ อย่างอ่อนหวานให้กบั นาง “เพียงแต่วา่
ตอนนี้ซูเยาไม่มีบา้ นให้กลับไปอีกแล้ว มิทราบว่าฮ่องเต้หญิงจะทรง
รับข้าเอาไว้ในวังได้หรื อไม่?”
พวกเขาถึงกับเข้ามาในตาหนักบรรทมแล้ว แสงเทียนภายในก็แสน
จะอบอุ่นอ่อนโยน ถึงตัวเย้ายวนนี้จะร้ายกาจอย่างยิง่ แต่กลับถูก
หลอมรวมเข้ากับแสงที่อบอุ่นนี้ คนเปลี่ยนเป็ นบริ สุทธิ์และอบอุ่น
อ่อนโยนจนบ่งบอกไม่ถูก
“ต่อไปที่นี่กค็ ือบ้านของเจ้า” ตู๋กซู ิงหลันสะกิดจมูกที่โด่งเป็ นสันของ
เขาเบาๆ ดวงตาดอกท้อมีประกายน้ าขึ้นมา นางมองดูเขา ก็ยงิ่ รู ้สึก
คล้ายกับว่าคนที่เคยสู ญเสี ยไปเมื่อนานมาแล้วได้กลับมาอยูข่ า้ งกาย
ตนเอง
ความรู ้สึกเช่นนี้ เหมือนกับว่าหัวใจที่ถูกทะลวงเป็ นรู ได้กลับมาเต็ม
อีกครั้ง
เขาช่างเหมือนกับเจ้าจิ้งจอกน้อยและศิษย์นอ้ งที่รวมเข้าด้วยกัน ทั้ง
ร้ายกาจและนุ่มนวลเชื่อฟัง
การกลับมาเกิดใหม่หรื อ อาจบางทีพวกเขาได้กลับมาเกิดใหม่ที่ขา้ ง
กายตนอีกครั้งก็เป็ นได้กระมั้ง?
ตู๋กซู ิงหลันคิดไปเรื่ อยๆ กระทัง่ สายตาก็อ่อนลงมาก
ซูเยาคว้าชายเสื้ อของนางเอาไว้ ส่ ายศีรษะกล่าวว่า “อาหลัน ข้าอยาก
เป็ นคนในครอบครัวของเจ้าอย่างแท้จริ ง”
“แบบที่เป็ นบุรุษของเจ้า”
พอประโยคนี้หลุดออกมาจากปาก ใบหน้าที่เย้ายวนของเขาก็ปรากฏ
สี แดงซ่านขึ้นมา เขายกมือขึ้นมาล้วงเข้าไปในอกเสื้ อหยิบเอาแหวน
ลายจิ้งจอกสี แดงออกมาวงหนึ่ง พลางคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น
ประคองมือของนางเอาไว้เตรี ยมจะสวมให้กบั นาง”
“ข้าเห็นคนบนโลกเวลาขอแต่งงาน ต่างต้องมอบสิ่ งของแทนใจ
หยกสี แดงนี้ต้ งั แต่ตอนที่ขา้ เกิดมาข้าก็พกติดตัวอยูต่ ลอด ต่อมาข้าก็
เสาะหาคนแกะมันเป็ นแหวนขึ้นมา คิดเอาไว้วา่ สักวันหนึ่ง จะต้อง
มอบให้กบั สตรี ที่ขา้ รักสวมใส่ มนั กับมือ”
แหวนวงนั้นยังไม่ทนั ได้เข้ามาใกล้ ตู๋กซู ิงหลันก็รู้สึกว่าฝ่ ามือร้อน
ลวก
โดยเฉพาะลวยลายจิ้งจอกที่สีแดงราวกับไฟ ยิง่ บาดตาจนนางเกิด
ความเจ็บปวด
“จิ้งจอกน้อย!” นางอดไม่ไหวร้องออกมาคาหนึ่ง เข่าอ่อนคุกเข่าลง
ไปตรงหน้าเขา ทั้งยังโอบคอของเขาเอาไว้ กอดอย่างแนบแน่น
ดูเอาเถอะ สิ่ งที่สวรรค์ติดค้างท่าน ย่อมต้องหาสักหนทางชดใช้คืน
ให้ในเวลาใดเวลาหนึ่ง
นางเคยคิดว่ามันตายไปแล้ว
แต่โชคชะตา ก็ทาให้กลับมาอยูข่ า้ งกายนางในอีกรู ปแบบหนึ่ง ทั้งยัง
เกิดมางดงามเย้ายวนถึงเพียงนี้
“ดีเลย งั้นต่อไปเจ้าก็เรี ยกข้าว่าจิ้งจอกน้อยเถอะ” เขาชะงักไปครู่ หนึ่ง
ก็ยมิ้ ออกมาอย่างอ่อนหวาน สวมแหวนวงนั้นลงบนนิ้วมือของนาง
“ข้ารู ้อยูแ่ ล้ว ว่าเจ้าจะต้องชอบข้าอย่างแน่นอน แต่รับปากแล้วนะ
รับข้าเข้าวัง ให้ขา้ เป็ นบุรุษของเจ้า?”
………………………………
ไรท์: อ้าวเฮ้ย หรื อเราจะแจวเรื อผิดลามาตลอด มิน่าเล่าเรื อเอื่อยมาก
นี่ถา้ ลงเรื อซูเยาแต่แรกอาจจะถึงฝั่งไปแล้ว
ซูเยา: สายตาของเจ้ายังอ่อนด้อยอยูม่ าก
………………………………………….
ไรท์: พอหลันหลันเป็ นฮ่องเต้หญิง เมื่ออยูต่ ่อหน้าที่ไม่ใช่ครอบครัว
ก็เรี ยกตัวเองเป็ น เจิ้น(朕) = เรา เวลาพูดกับคนสนิทก็ยงั ใช้ ข้า(我)
เราก็แปลตามนั้นนะคะ ส่ วนราชาศัพท์น้ นั แล้วแต่บริ บทที่เหมาะสม
ค่ะ
……………………………………………
ตอนต่อไป “เจ้าเป็ นของข้ามาโดยตลอด”
ไรท์: โอเค ดูจากชื่อตอน ขอเปิ ดท่าเทียบให้ทุกท่านย้ายเรื อได้ตาม
อัธยาศัย
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 389 เจ้ าเป็ นของข้ ามาโดยตลอด
พอนิ้วมือของนางถูกหยกสี แดงเพลิงนั้นสวมเอาไว้ กระแสความ
ร้อนขุมหนึ่งจากหยกสี แดงก็แผ่เข้าสู่ ร่างกาย
ทั้งๆที่ไม่ได้มีลมพัด แต่พลังที่แผ่ออกมาก็ทาให้ฉลองพระองค์และ
เส้นพระเกศาปลิวขึ้นมา แม้แต่ดวงเนตรดอกท้อคู่น้ นั ก็ยงั ถูกหลอม
ไปด้วยเปลวเพลิงปี ศาจที่ร้อนระอุช้ นั หนึ่ง
กลิ่นอายมารที่เข้มข้นจนถึงขั้นบริ สุทธิ์ทะลวงเข้าไปในร่ างราวกับ
ประตูที่ถูกผลักให้เปิ ด
ยามที่เข้าไปในร่ างของนางแล้ว ก็ผนึกตัว กลมกลืนเข้ากับตราหยก
สรรพชีวติ ในดวงจิตของนางอย่างสมบูรณ์แบบ
ผ่านไปอีกพักใหญ่ ความรู ้สึกถึงพลังขุมนั้นถึงได้จางลงไป ตู๋กซู ิงห
ลันรู ้สึกแต่เพียงว่าตอนนี้ในร่ างกายของนางเปี่ ยมไปด้วยพลัง
ในตอนนั้นเองแหวนหยกสี แดงวงนั้นได้กลายเป็ นรอยประทับสี แดง
เลือดอยูบ่ นนิ้วของนาง
ซูเยายังคงคุกเข่าข้างหนึ่งอยูเ่ บื้องหน้านาง คราวนี้ดวงตาทั้งคู่เปล่ง
ประกายขึ้นมา “อาหลัน แม้แต่มนั ก็ยงั ยอมรับเจ้าแล้ว”
หยกแดงชิ้นนี้เป็ นสิ่ งที่มีพลังชีวิต มีแต่เมื่อได้พบกับสตรี ที่ฟ้า
กาหนดมาของเขา จึงจะคล้อยตามความปรารถนา
ตู๋กซู ิงหลันยกมือขึ้นมา มองดูรอยประทับรุ ปจิ้งจอกบนนิ้วมือที่ดูราว
กับมีชีวิตทั้งยังมีแสงเงินออกมาจางๆ
นางยืน่ มือออกไป พยุงซูเยาขึ้นมา
ดวงตาจิ้งจอกคู่น้ นั เปล่งประกายราวกับลูกแก้วอยูแ่ ต่แรกแล้ว เขา
จัดแจงเสื้ อผ้าเล็กน้อย กระแอมลาคอที่แห้งผากเบาๆ ให้ตนเองได้
ผ่อนคลายลงบ้าง
จากนั้นก็กลับมาจับมือของนางอีกครั้ง วางลงบนหัวใจของตนเอง
“อาหลัน นับจากวันนี้เป็ นต้นไป ข้าก็เป็ นคนของเจ้าแล้ว”
น้ าเสี ยงนั้นเย้ายวนอย่างที่สุด หัวใจของเขาก็ร้อนระอุจนแทบจะโลด
ออกมาที่เบื้องหน้าของนางเหมือนกัน
ทันใดนั้นนเขาก็ขยับเข้าไป จุมพิตลงบนหน้าผากของนางอย่างตรา
ตรึ งครั้งหนึ่ง
“พวกเราสัญญากันแล้วนะ”
“เจ้าเป็ น……จิ้งจอกน้อยของข้าตลอดกาล” ตู๋กซู ิงหลันยืนยันกับเขา
ริ มฝี ปากขยับยิม้ ขณะที่มือก็ยนื่ เข้าไปลูบในกลุ่มผมของเขาอย่าง
อ่อนโยน
เหมือนกับที่นางเคยลูบไล้เจ้าจิ้งจอกน้อยในโลกก่อน
ซูเยายิม้ ออกมาในทันที
พี่รองยังคงอยูใ่ นตาหนัก จึงได้เห็นฉากนี้เข้าพอดี
เขามองดูหนุ่มน้อยที่เย้ายวนผูน้ ้ นั ทั้งซ้ายและขวา ยิง่ ดูกย็ งิ่ รู ้สึกว่าคุน้
ตามากจริ งๆ……
ส่ งบุรุษเข้าวังมาก็ต้ งั มากมาย ไม่เห็นนางจะชอบใครสักเท่าไร ที่แท้
ก็ชอบแบบที่เป็ นปี ศาจน้อยจอมเย้ายวนเช่นนี้นนั่ เอง
พี่รองแอบจดจาความชอบของนางเอาไว้อย่างเงียบๆ เอาไว้นางเบื่อ
เจ้าปี ศาจน้อยจอมเย้ายวนนี้เมื่อไร ค่อยหาที่คล้ายๆกันมาอีก
แต่พอคิดดูให้ละเอียด รู ปร่ างหน้าตาเช่นนี้ เกรงว่าทัว่ ทั้งแผ่นดินคง
จะหาไม่ได้ง่ายๆอีกแล้ว
วิญญาณทมิฬมองดูอย่างเข้าใจกระจ่าง ที่พลัดกันไปพลาดกันไป จะ
ชีวิตก่อนหรื อชีวิตนี้ ในที่สุดก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้งแล้ว
ตอนนั้นที่เจ้าจิ้งจอกบรรลุการฝึ กฝนจนกลายร่ างได้ เกรงว่าเขาเองก็
คงจะจาไม่ได้แล้วว่า ความชอบที่หลันหลันมีให้กบั เขานั้น ไม่ใช่
ความรักหรอกนะ…..
เป็ นความรู ้สึกสานึกผิด เสี ยใจ ติดค้าง และต้องการชดเชย
เหมือนกับความรู ้สึกที่มีให้กบั น้องชาย ความรักที่มีให้คนใน
ครอบครัวไง!
เจ้าเด็กน้อยนี้เข้าใจผิดไปใหญ่แล้วมั้ง?
………………………..
พระตาหนักบรรทมของฮ่องเต้หญิงเรี ยกว่าหย่งหนิงกง (สันติสุขน์ ิ
รันตร์)
ตอนนี้ในพระตาหนักหย่งหนิงกงเพิ่มตัวเย้ายวนที่งดงามเป็ นเอก
ขึ้นมาอีกหนึ่ง พอเขามาถึงทัว่ ทั้งตาหนักก็ไม่ได้สงบสุ ขอีกต่อไป
แล้ว
เหล่าผูถ้ วายการรับใช้ในพระตาหนักล้วนแล้วแต่เป็ นพวกพี่ชายตัว
น้อยที่งดงามด้วยกันทั้งนั้น
แต่เมื่ออยูต่ ่อหน้าซูเยาที่งดงามจนเย้ายวน ก็กลายเป็ นว่าถูกสะกดข่ม
เอาไว้จนหมดสิ้ น
หากว่ากันตามคุณสมบัติแล้ว ก็ยงิ่ นามาเปรี ยบเทียบกัน
ไม่ได้………..
ดังนั้นตอนนี้แต่ละคนจึงลุกขึ้นมาออกแรงแต่งเนื้อแต่งตัว
ยามที่ต๋ ูกูซิงหลันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ก็เห็นเซี่ยวเหลี่ยเฝ้ารออยูแ่ ล้ว
ร่ างที่บอบบางสวมใส่ ชุดลายดอกทั้งตัว คุกเข่าอยูข่ า้ งเตียงรอเข้าเฝ้า
แต่เช้า
“ฝ่ าบาท กระหม่อมจะสวมฉลองพระองค์ถวายนะพะยะค่ะ” เซี่ยวเห
ลี่ยโผเข้ามาที่ขา้ งเตียง ยื่นมือเข้ามาประคองนาง”
“ฝ่ าบาท กระหม่อมจะช่วยล้างพระพักตร์” บุรุษงามอีกผูห้ นึ่งอุม้ อ่าง
น้ าร้อนเอาไว้รออยูด่ า้ นข้าง
“ฝ่ าบาท กระหม่อมจะวาดคิว้ ถวาย”
…………………….
ริ มหูของตู๋กซู ิงหลันระงมไปด้วยเสี ยงของเหล่าบุรุษ
คนที่พวกพี่ชายส่ งมาส่ วนมากล้วนถูกนางไล่กลับไปจนเกือบหมด
เหลือเอาไว้ประมาณสิ บคนเพื่อทางานจุกจิกในพระตาหนักหย่งหนิง
เท่านั้น
ยามปกติกไ็ ม่เห็นพวกเขาจะกระตืนรื อร้นเท่าไร โดยเฉพาะบางคนก็
เป็ นประเภทขี้อาย หรื อไม่กถ็ ือตัว พอเห็นนางเป็ นต้องเดินอ้อมไป
แต่ตอนนี้แต่ละคนต่างก็รีบร้อนแย่งกันมาปรนนิบตั ิแล้ว?
นี่เป็ นเพราะว่าพระอาทิตย์ยา้ ยไปขึ้นทางตะวันตกแล้วหรื อไง?
ตู๋กซู ิงหลันลืมตาโตอย่างงุนงง นางสะบัดผ้าห่มออกไป สองเท้าที่
งดงามดัง่ หยกพึ่งจะยืน่ ออกมา ก็มีมือที่คุน้ เคยคู่หนึ่งรั้งเอาไว้
นางกวาดตามองไปก็เห็นร่ างในชุดสี แดงที่ดูเย้ายวนไปทั้งตัวรั้งฝ่ า
เท้าของนางเอาไว้ พลางหันมาส่ งยิม้ ให้กบั นาง “อาหลัน ให้ขา้
ปรนนิบตั ิเจ้าสวมรองเท้าเถอะ”
ฝ่ าเท้าของนางเล็กและละเอียดนุ่มมาก ทั้งยังขาวนวลราวกับหยกมัน
แพะ นิ้วโป้งแม้เท้าก็กลมมน ดูน่ารักมาก
“อาหลันนั้นแสนงาม เท้ายิง่ น่าดู” เขากุมเท้าหยกของนางเอาไว้ ส่ ง
ยิม้ พลางกล่าวอย่างชื่นชมออกมา จากนั้นก็โน้มตัวลงจูบลงไปบน
หลังเท้าของนางครั้งหนึ่ง
ชัว่ ขณะนั้น เหล่าหนุ่มน้อยที่รายล้อมอยูร่ อบๆต่างก็แทบจะระเบิด
ตัวเองกันแล้ว!
ต่างก็รู้สึกขึ้นมาในทันใดว่าที่พวกตน ยกน้ าชา เทน้ าร้อน ช่วยสวม
เสื้ ออะไรต่างๆนานาล้วนสูไ้ ม่ได้ท้ งั สิ้ น!
ดูไอ้คนที่มาใหม่ผนู ้ ้ นั สิ นั้นถึงจะเรี ยกว่าประจบตบก้นม้าเก่งที่สุด!
ตามธรรมเนียมของแผ่นดินนี้ เท้าของสตรี คือสิ่ งที่เล้นลับ
ทรงคุณค่ามาโดยตลอด
สตรี ทวั่ ไปหากว่าถูกบุรุษมองเห็นเท้าที่เปล่าเปลือย ก็อาจจะต้อง
ถึงกับถูกบังคับให้แต่งงานเป็ นภรรยาไปเลย
พวกเขาคอยปรนนิบตั ิรับใช้ฮ่องเต้หญิงมาตลอด เห็นพระบาทที่
เปลือยเปล่าของพระนางจนเป็ นเรื่ องปกติ แต่เรื่ องที่จะไปจูบหลัง
พระบาทนั้น…..ไม่เคยมีใครที่กล้าทาถึงขนาดนั้นมาก่อนเลย!
เจ้าที่มาใหม่ผนู ้ ้ ี ไม่เพียงแต่มีรูปโฉมแต่วา่ ยังมีความกล้ามากอีกด้วย!
จัดแจงแย่งชิงความสาคัญถึงเพียงนี้ จะให้ฮ่องเต้หญิงไม่ทรง
หวัน่ ไหวพระทัยก็คงจะยากละมั้ง?
ตู๋กซู ิงหลันมองดูท่าทางของซูเยาอยูๆ่ ก็คิดขึ้นมาว่าตนเองก็เคยจูบ
หลังเท้าของผูอ้ ื่นเช่นกัน
ในสมองพลันเกิดภาพทะเลสาบหยูจ่ ื่อถานปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
ช่างน่าตายจริ งๆ! ทั้งๆที่ตดั สิ นใจจะโยนคนผูน้ ้ นั ทิ้งไปให้ไกลพันลี้
แล้วแท้ๆ พอไม่ทนั ระวัง ใจก็เกิดคิดขึ้นมาเสี ยได้!
นางขมวคคิ้วแนบแน่น สี หน้าไม่สบอารมณ์
เหล่าพี่ชายตัวน้อยๆที่เมื่อครู่ กาลังอิจฉาริ ษยากันใหญ่กพ็ ลันยินดี
ขึ้นมา
คนมาใหม่มีความกล้าก็เรื่ องหนึ่ง แต่ดูท่าจะประจบจนเกินงามไป
แล้ว
ดูฮ่องเต้หญิงสิ เห็นชัดเลยว่าไม่ได้ทรงสบพระทัย
ซูเยาก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เขาคุกเข่าข้างหนึ่งอยูท่ ี่ขา้ งเตียงของตู๋กู
ซิงหลัน มือข้างหนึ่งประคองฝ่ าเท้าหยกของนาง มืออีกข้างก็สวม
รองเท้าปักลายบุปผาสี แดงลงไป
จากนั้น ก็สวมอีกข้างให้นางอย่างไม่รีบไม่ร้อน
ราวกับว่าเป็ นสุ ภาพชนที่มีความยับยั้งช่างใจเป็ นอย่างดี
“อาหลัน วันนี้อากาศดีมากเลย พวกเราออกไปข้างนอกด้วยกันดี
ไหม?”
จากนั้นซูเยาก็ยนื่ มือไปช่วยพยุงนางลงมา “ตอนที่ขา้ มาถึง เห็น
ดอกไม้ในเมืองหวงตูผลิบานงดงามตลอดทางไปจนถึงนอกเมืองเลย
ช่างน่าชมอย่างยิง่ อยากจะไปดูพร้อมๆกับเจ้า”
นี่เป็ นวันแรกที่เขากับอาหลันอยูร่ ่ วมกัน ถือว่าเป็ นการนัดหมายเล็กๆ
ระหว่างเขากับนางแล้วกัน
แค่ได้เดินชมอะไรไปเรื่ อยๆกับนางเขาก็มีความสุ ขมากแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันมองไปนอกหน้าต่างแวบหนึ่ง ท้องฟ้ายังไม่ทนั สว่างดีนกั
ไม่รู้วา่ เขาดูออกได้อย่างไรว่าอากาศดี
“เรายังต้องออกว่าราชการยามเช้า” นางลุกขึ้นยืน รับฉลองพระองค์
คลุมชั้นนอกจากพี่ชายตัวน้อยผูห้ นึ่งมาสวมใส่ จากนั้นก็ลูบไล้ศีรษะ
ของซูเยาเบาๆ “เราเลิกประชุมเช้าแล้วค่อยมาอยูเ่ ป็ นเพื่อนเจ้า คนดี”
ซูเยาสู งกว่านางครึ่ งศีรษะแท้ๆ
แต่เขากลับย่อเข่าลงให้นางลูบผม
“ตกลง” ว่าแล้วซูเยาก็พยักหน้า ดวงตาเป็ นประกายราวกับดวงดาว
กระพริ บ “งั้นข้าจะรอเจ้านะ”
เจ้าตัวร้าย ยามยิม้ หวานออกมายังเห็นถึงเขี้ยวน้อยๆ
เขาอายุมากกว่านาง ร่ างสู งกว่านาง แต่วา่ ในสายตาของตู๋กซู ิงหลัน
กลับเห็นเป็ นลูกจิ้งจอกน้อยไม่หย่านมที่ยงั ไม่มีกระทัง่ กรงเล็บเสี ย
อย่างนั้น
นางยิง่ ลูบผมเบาๆอย่างนุ่มนวลกว่าเดิม
เหล่าหนุ่มน้อยทั้งหลายพากันอิจฉาริ ษยาจนตาแดงแล้ว ต่างก็ลอ้ ม
เข้ามารอบกายตู๋กูซิงหลัน “ฝ่ าบาท พวกเราก็อยากจะออกไปเป็ น
เพื่อนพระองค์”
…………………………………………
ไรท์:
ตอนต่อไป “มนุษย์มจั ฉาจากทะเลตะวันตก”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 390 มนุษย์ มัจฉาจากทะเลตะวันตก
“ฝ่ าบาท พระองค์มิอาจประทานพระเมตตาเพียงแค่บางคนนะพะยะ
ค่ะ!” หนุ่มน้อยเซี่ยวเหลี่ยที่เมื่อวานพึ่งจะได้นอนข้างพระองค์ วันนี้
ก็ตอ้ งสู ญเสี ยความโปรดปรานไปเสี ยแล้ว
ในหัวใจมีแต่น้ าขมๆ
เขาน้ าตาคลอหน่วย พลางกัดริ มฝี ปากด้วยท่าทางน่าสงสาร
“หากว่าฝ่ าบาททรงรังเกียจว่าพวกเราไม่น่าดูเท่ากับเขา พวกเราจะ
สวมหน้ากากเอาไว้กไ็ ด้พะยะค่ะ”
เหล่าหนุ่มน้อยยอมถอยจนถึงที่สุดแล้ว
มิวา่ จะอย่างไร การได้อยูข่ า้ งกายฝ่ าบาทก็นบั ว่าดีกว่าใช่หรื อไม่? จะ
ได้เผยโฉมหรื อไม่ลว้ นไม่สาคัญ
ยิง่ ไปกว่านั้น หากว่าเผยโฉมหน้า…….แล้วต้องมาโดนเปรี ยบเทียบ
กับคนใหม่ผนู ้ ้ นั มีหวังต้องถูกเปรี ยบจนหมดความมัน่ ใจในตนเอง
แบบนี้มิสู้ปิดเอาไว้ดีกว่า
“ไปสิ ไปกันหมดทุกคนเลย” ตู๋กซู ิงหลันแจกจ่ายความรักอย่างเท่า
เทียม
วิญญาณทมิฬกลอกตาขาว……นับตั้งแต่ที่ได้เป็ นฮ่องเต้หญิงสตรี ผู ้
นี้กเ็ อาแต่ใจใหญ่แล้ว สร้างต้นแบบของสตรี เสเพลขึ้นมา
แต่วา่ พ่อหนุ่มน้อยเหล่านั้นกลับยินดีถูกหยอกเย้าอย่างเต็มใจ
แต่ละคนๆ หากนาไปเลี้ยงดูปลุกปั้นที่โลกโน้นละก็ ต้องได้เป็ นยอด
นายแบบหรื อไม่ดาราใหญ่ไปแล้ว!
รู ปร่ างหน้าตาอย่างพวกเจ้า หากออกไปภายนอกต้องการสตรี แบบ
ไหนล้วนหาได้ท้ งั นั้นกลับจะมายอมเป็ นของตายอยูก่ บั หลันหลัน
เช่นนี้?
เจ้าจิ้งจอกตัวนั้นกลับไม่โกรธเคือง ไม่เพียงไม่โกรธ ซ้ ายังยิม้ แย้ม
พราวอย่างใจกว้างออกมา “อาหลัน ไปข้างนอกมีฉากหลังติดตามก็
ถือว่าดีไม่เลว”
วิญญาณทมิฬ “เฮอะ เฮอะ เฮอะ…..เจ้าสุ นขั จิ้งจอก เจ้ามันร้าย!”
ตู๋กูซิงหลัน “ซุกซนนัก”
………………………………………………
เมืองหวงตูของแคว้นเหยียนติดกับทะเล ภูมิอากาศจึงอบอุ่นกว่าต้า
โจวมาก
ยังไม่ทนั ถึงต้นฤดูร้อน เมืองหวงตูกม็ ีสาระพัดบุปผาเบ่งบานแล้ว
ดอกซานฉาคือดอกไม้ประจาแคว้นเหยียน ดอกซานฉาสี แดง เหลือง
ชมพู ขาว ล้วนผลิบานตลอดสองข้างทางของเมืองหวงตู
สดสวน และงดงาม
ตาร้านอาหารและโรงเตี้ยมมีผคู ้ นมากมาน ส่ งเสี ยงครึ กครื้ น การค้าก็
คึกคัก ทัว่ ทั้งเมืองหวงตูมีแต่ความเจริ ญรุ่ งเรื อง
นับตั้งแต่ที่ต๋ ูกซู ิงหลันขึ้นเป็ นฮ่องเต้ ผูค้ นที่มายังแคว้นเหยียนเพื่อทา
การค้าก็มีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
เมืองหวงตูของแคว้นเหยียนจึงยิง่ คึกคักกว่าเดิม
พอมีพอ่ ค้าจากต่างแคว้นผ่านไปผ่านมา สิ นต้าที่แปลกตาก็ยงิ่ มี
หลากหลายเพิม่ ขึ้น
ท่ามกลางความคึกคักวุน่ วาย มีร่างสี แดงสองร่ างดึงดูดสายตาผูค้ น
บนถนนตะวันตก มีผคู ้ นไม่นอ้ ยต่างคอยมองตาม
ทั้งสองต่างสวมใส่ ชุดสี แดงเหมือนกัน คุณชายที่ตวั สู งกว่าดูงดงาม
อย่างร้ายกาจ คุณชายที่ตวั เล็กกว่าเล็กน้อยดูองอาจสง่างามเกิน
ธรรมดา
ที่ดา้ นหลังของพวกเขา มีบุรุษหน้าตาดีอีกสิ บกว่าคนติดตามมา
แต่ละคนรู ปร่ างสู งโปร่ ง รู ปโฉมไม่ธรรมดา
องครักษ์ของตระกูลตู๋กูเพียงคอยติดตามมาอารักขาอย่างเงียบๆ
นับตั้งแต่ที่ฝ่าบาททรงขึ้นครองราชย์มาก็เอาแต่เก็บพระองค์อยูใ่ นวัง
ไม่เคยเสด็จออกมาก่อน
คุณชายใหญ่และคุณชายรองต่างก็กงั วลว่านางจะเก็บกดจนเกิด
ปัญหา จึงพยายามจะชักชวนให้นางออกมาเพื่อผ่อนคลายบ้าง แต่ก็
ไม่เคยทาได้สาเร็ จ
คิดไม่ถึงว่า ฝ่ าบาทจะเสด็จออกมาด้วยพระองค์เอง
……………………………..
ตู๋กซู ิงหลันเดินนาอยูด่ า้ นหน้าสุ ด นางสวมใส่ ชุดแดงทั้งร่ าง ยามก้าว
เดินก็พลิ้วไหว
ที่ผา่ นมานางมักจะคอยถ่อมตัว สวมใส่ แต่สีเขียวอมดา ดูนุ่มนวล
และสุ ขมุ
ตอนนี้กลับให้ความรู ้สึกว่า เกิดเป็ นคนสมควรได้ทาตามอาเภอใจ
บ้าง เมื่อสวมสี แดงลงไปบนร่ างยิง่ ส่ งเสริ มให้นางดูโดดเด่นองอาจ
กว่าเดิม
คนหนึ่งเดินนาอยูด่ า้ นหน้า ด้านหลังมีเนื้อหวานหอมติดตามมาเป็ น
พรวน ยิง่ ทาให้นางรู ้สึกถึงความอูฟ้ โอ่ ู่ อ่าของตนเอง!
นี่เป็ นครั้งแรกที่พาเหล่าละอ่อนน้อยออกมาสร้างความตระการตา
บนถนน แต่ละคนจึงวางตนเรี ยบร้อยเกินธรรมดา
หากว่านางมองดูสิ่งใดนานอยูส่ กั หน่อย ทันใดนั้นเหล่าหนุ่มน้อยก็
จะพากันกุลีกจุ อนับสิ่ งนั้นส่ งมาถึงเบื้องหน้านาง
ในเมื่อรู ปโฉมหรื อราศีกไ็ ม่อาจเทียบได้กบั คนที่สวมใส่ ชุดแดงผูน้ ้ นั
ย่อมต้องเคลื่อนไหวให้เร็ วหน่อยมิใช่หรื อ?
สามารถรับใช้อยูข่ า้ งกายฮ่องเต้หญิง นับเป็ นบุญวาสนาที่พวกเขาสัง่
สมมาแปดชาติ ย่อมต้องขยันขันแข็งให้มากไว้
“อาหลัน ชิมลูกอม” ซูเยาก็ไม่ได้ข่นุ เคือง หยิบนัน่ เลือกนี่จากบรรดา
สิ่ งของที่พวกเขาส่ งเข้ามาจนได้ลูกอมมาเม็ดหนึ่ง
พอแกะห่อออก ก็ส่งให้ถึงปากของนาง คลี่ยมิ้ ดุจฤดูใบไม้ผลิออกมา
ยิง่ เมื่อมีฉากหลังเป็ นดอกซานฉาที่กาลังผลิบาน ยิง่ เป็ นภาพที่งดงาม
เหนือบรรยาย
ลูกอมเม็ดหนึ่งพอเข้าปาก ก็ส่งกลิ่นหอมของดอกไม้และให้รส
หวานที่ทาให้ชื่นอกชื่นใจออกมา
สิ่ งของมากมายที่เหล่าหนุ่มน้อยส่ งมา สุ ดท้ายพอถึงมือของเขา ย่อม
ต้องเลือกเฟ้นที่ดีที่สุดให้กบั ตู๋กซู ิงหลัน
ผูค้ นทั้งหลาย “……..”
ดังนั้นพวกเขาที่เป็ นฉากหลังหยิบนัน่ ฉวยนี่กนั อย่างวุน่ วายก็ยงั
เป็ นได้แค่เพียงแบกหามทางานให้กบั เจ้าจิ้งจอกผูน้ ้ นั ใช่หรื อไม่?
พวกเขาล้วนหงุดหงิดใจแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา ใครใช้ให้ผอู ้ ื่น
คือคนโปรดกันเล่า?
ตลอดทางมานี้ ตู๋กูซิงหลันถูกยัดทนานจนอิ่มหนาไปแล้ว
“เวลาอาหลันกินอาหาร ก็น่ารักมากเลย” ซูเยาคอยชมนางอยู่
ตลอดเวลา หูตาพราวระยับ หวานเสี ยจนฟันจะร่ วง
“เจ้าเองก็น่ารัก” ตู๋กซู ิงหลันยิม้ ให้กบั เขา พอดีกบั ที่มีกลีบดอกไม้
จากด้านบนปลิวลงมา หล่นลงบนศีรษะของเขา
นางยืน่ มือไปหยิบออกให้
ในตอนนั้นเอง เกิดสายลมพัดกรู บนถนน ได้ยนิ เสี ยงเฟี้ ยว ขวับ ดัง
มาเป็ นระยะคล้ายจะเป็ นเสี ยงแส้ฟาด
ตู๋กซู ิงหลันหันหน้ากลับไปก็เห็นเบื้องหน้าไปไม่ไกลมีผคู ้ นคึกคัก
ทั้งยังมีกลินทะเลโชยมาจากทางนั้นอีกด้วย
นางเก็บมือกลับไป เดินไปชมดู
ซูเยาเองก็ติดตามอยูไ่ ม่ห่าง
เหล่าหนุ่มน้อยทั้งหลายต่างก็รีบติดตามมา
“มนุษย์มจั ฉาที่พ่ งึ จะจับมาจากทะเลตะวันตก! อ้าว วันนี้จะให้ทุก
ท่านได้เปิ ดหูเปิ ดตากันแล้ว!”
ในตอนนั้นเอง ได้ยนิ น้ าเสี ยงหยาบหนาตะโกนดังๆออกมา
ตู๋กซู ิงหลันเบียดเข้าไปในฝูงชน ก็เห็นบุรุษที่กายาล่าสันหลายคน
แบกกรงอันหนาใหญ่มา กรงใบใหญ่น้ นั มีผา้ สี เทาคลุมเอาไว้
ครึ่ งบนของกรงเหล็กถูกครอบเอาไว้ ครึ่ งล่างปล่อยโล่ง ทาให้
มองเห็นขาสี เขียวอมฟ้าที่มีครี บและพังผืดคู่หนึ่ง
“มนุษย์มจั ฉา?”
คนที่รายล้อมอยูต่ ่างก็พากันคึกคักขึ้นมา แคว้นเหยียนติดกับทะเล จึง
มีเรื่ องเล่าขานมานานแล้ว กลางทะเลตะวันตกมักมีมนุษย์มจั ฉา
ปรากฎตัว
เมื่อหลายปี ก่อนเคยมีคนจับมาได้ เพียงแต่วา่ สิ่ งมีชีวิตอย่างมนุษย์
มัจฉานัน่ เจ้าเล่ห์มากไป หลบหนีกเ็ ก่งกาจ จึงจับตัวได้ยาก หลายปี
มานี้จึงไม่ได้พบเห็นอีก
นับตั้งแต่ที่ฮ่องเต้หญิงทรงขยายการค้าให้เปิ ดกว้าง ในเมืองหวงตูน้ ี
สิ่ งแปลกประหลาดใดๆก็มีให้เห็น
แม้กระทัง่ มนุษย์มจั ฉาที่สาปสู ญไปนานแล้วก็ยงั มี
“นี่มนั ใช่ของจริ งหรื อไม่!” บางคนยังรู ้สึกประหลาดใจเกินคาด
พอเขาเอ่ยออกมา ก็เห็นหนึ่งในบุรุษกายา เปิ ดผ้าคลุมกรงออก
ทันใดนั้นกลิ่นน้ าทะเลที่เข้มข้นก็กาจายออกมา
กรงใบนั้นมีขนาดเพียงห้องเล็กห้องหนึ่ง แต่เหล็กกลับหนาขนาด
เท่านิ้วมือเชื่อมเป็ นลูกกรงอย่างแน่นหนา
เห็นภายในมุมหนึ่งของกรงใบใหญ่มีร่างเล็กๆร่ างหนึ่งคุดคูอ้ ยู่ ดู
คล้ายร่ างมนุษย์ ที่ขอ้ มือและข้อเท้าของเขาล้วนถูกล่ามเอาไว้
ผิวกายของเขาเป็ นสี ฟ้าอมเขียว ปกคลุมไปด้วยเกล็ดทั้งร่ าง สองมือ
กอดหัวเข่าเอาไว้ ศีรษะก็ซุกลงไปในอ้อมแขนดวงตาสี เขียวราวกับ
ลูกแก้วกาลังมองดูคนที่รายล้อมอยูด่ ว้ ยความหวาดกลัว
“เฮ้ย ไอ้ตวั น้อย เงยหน้าขึ้นมาให้ทุกคนได้เห็นกันหน่อย!” บุรุษ
กายาผูน้ ้ นั กระชากโซ่เหล็กกระตุกดึงข้อมือของเขาออกมา
มนุษย์มจั ฉาตัวน้อยถูกตะคอกใส่ ก็เงยหน้าสี เขียวอมฟ้าขึ้นมาให้คน
ตรงหน้าได้ชม
สองข้างแก้มของเขายังมีครี บปลา พอได้รับความตกใจก็อา้ ปาก
ขึ้นมา เผยให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ส่ งเสี ยงกรี ดร้องใส่ ฝงู ชน
“อ้ายย่าห์!” ฝูงชนต่างตื่นตระหนกจนต้องสู ดลมหายใจเย็นเฉี ยบเข้า
ไป
ดูจากลักษณะท่าทางแล้ว คงจะเป็ นมนุษย์มจั ฉาอย่างที่เล่าขานกันมา
อย่างแน่นอน
“เจ้าตัวน้อยนี่ ยังกล้าข่มขู่ผคู ้ นด้วย!” บุรุษกายาผูน้ ้ นั ยกแส้ข้ ึนมา
ฟาดหนักๆลงไปบนกรงเหล็กครั้งหนึ่ง
เสี ยงฟาดดังเพี้ยะ เจ้าตัวนั้นก็ได้แต่ตื่นตระหนกจนหลบเข้าไปในมุม
ลึกสุ ดอีกครั้ง
จากนั้นบุรุษกายาผูน้ ้ นั ก็หนั ไปกล่าวกับฝูงชนว่า “ทุกท่านสามารถ
ชมดูให้ดี นี่เป็ นมนุษย์มจั ฉาจากทะเลตะวันตกจริ งๆ น้ าตามนุษย์
มัจฉากลายเป็ นไข่มุก เมือกมัจฉาสามารถสร้างโคมฉางหมิงเติง เนื้อ
มนุษย์มจั ฉากินแล้วจะมีอายุยนื ยาวนาน ทัว่ ทั้งร่ างล้วนเป็ นสมบัติล้ า
ค่าเชียวนะ!”
……………………………..

โคมฉางหมิงเติง (炼长明灯, โคมนิรันดร์) : โคมโบราณที่


จัดสร้างด้วยเทคนิคพิเศษ มีคุณสมบัติสามารถส่ องสว่างอย่าง
ยาวนานนับร้อยนับพันปี มักพบในสุ สานโบราณต่างๆ ว่ากันว่าที่จุด
ได้นานเพราะวัตถุดิบที่ใช้สร้างแก่นเทียนนั้นทาจากเมือกหรื อไม่ก็
ไขมัน (ไม่น่าจะมีนะ ส่ วนมากหุ่นดีทุกตน) ของมนุษย์มจั ฉา (鲛
人) แต่ที่จริ งแล้ง จากการศึกษาทางประวัติศาสตร์คาดว่าน่าจะเป็ น
ไขที่ได้จากมันของปลาวาฬมากกว่า ส่ วนเรื่ องที่วา่ ทาไมโคมจึง
สามารถจุดได้นานนับร้อยปี นั้น นักโบราณคดีคาดว่าเนื่องด้วยสภาพ
ที่ปิดตายและแห้งในสุ สาน ทาให้อากาศค่อยๆหมดไปเทียนจึงดับอยู่
โดยรักษาสภาพไว้ พอมีการเปิ ดสุ สานในอากาศถ่ายเทเข้ามา ด้วย
คุณสมบัติที่ถูกสร้างให้จุดติดได้ง่ายบางประกาย ทาให้ผทู ้ ี่เข้าไปใน
สุ สานเข้าใจว่า เทียนถูกจุดอยูต่ ลอดเวลา
ตอนต่อไป “เผ่ามังกรทมิฬ”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 391 เผ่ ามังกรทมิฬ
“เนื่องด้วยฮ่องเต้หญิงทรงเปิ ดกว้างทางการค้า ดังนั้นพวกเราจึงได้
นาสมบัติล้ าค่าชิ้นนี้มาขายที่เมืองหวงตู!”
“วันนี้นบั ว่าเป็ นบุญตาของทุกท่านที่ได้เห็นแล้ว! มนุษย์มจั ฉาน้อยที่
ยากจะได้พบพาน วันนี้ขอนาออกมาประมูลในเมืองหวงตู ราคา
เริ่ มต้นที่พนั ตาลึงทอง ผูใ้ ห้ราคาสู งสุ ดจะได้รับไปครอบครอง!”
บุรุษกายาผูน้ ้ นั โก่งคอตะโกน พลางกาแส้เอาไว้ในมือ
ผูช้ นต่างก็พากันมาดูดว้ ยความตื่นเต้นอย่างไม่ขาดสาย ……มนุษย์จ
มัจฉานัน่ เป็ นตัวจริ งหรื อตัวปลอมพวกเขาล้วนดูไม่ออก
ขอเพียงแค่ได้ชมความคึกครื้ นบ้างก็พอแล้ว
เนื่องเพราะอดีตรัชทายาทเหยียนหยุนเป็ นผูท้ ี่กระตุน้ ให้เกิดการ
ศิโรราบแต่แรกๆ ราชวงศ์เหยียนจึงมิได้ถูกประหัตประหารล้าง
ผลาญ
ทั้งในเมืองหวงตูกย็ งั มีเหล่าผูล้ ากมากดีอยูก่ ลุ่มหนึ่ง ซึ่งส่ วนใหญ่มี
ลูกหลานเป็ นเหล่าคุณชายเจ้าสาราญ พอได้เห็นสิ่ งที่น่าดึงดูดใจถึง
เพียงนี้กส็ ะกิดให้หวั ใจของแต่ละคนคันคะเยอขึ้นมา
หากว่าซื้อตัวไปได้ แล้วนาไปถวายฮ่องเต้หญิงใช่วา่ จะได้หน้าได้ตา
อย่างยิง่ หรื อไม่?
ตู๋กซู ิงหลันเปลี่ยนเป็ นสวมใส่ ชุดบุรุษ ทั้งยังติดหนวดบางๆ พวก
ลูกหลานของคนในราชสานักจึงจดจานางไม่ออก
ตู๋กซู ิงหลันที่อยูท่ ่ามกลางกลุ่มคนจดจ้องไปยังมนุษย์มจั ฉาน้อยผูน้ ้ นั
อยูเ่ นิ่นนาน
“นัน่ เป็ นตัวจริ ง” ซูเยายืนอยูข่ า้ งกายนาง “มนุษย์มจั ฉาจากทะเล
ตะวันตก อาศัยอยูใ่ นท้องทะเลมานานแล้ว ยากนักที่จะปรากฏตัวให้
คนพบ ทัว่ ทั้งร่ างกายของพวกเขามีค่า เนื้อของพวกเขา สตรี กินแล้ว
จะบารุ งความงาม บุรุษกินแล้วจะแข็งขันคึก…”
ยามพูดสองคาหลักนั้น เขาก็อดที่จะอึกอักอยูบ่ า้ งไม่ได้ พลางกล่าวที่
ข้างหูนางด้วยเสี ยงเบาลงว่า “แน่นอนอยูแ่ ล้วว่า อาหลันไม่จาเป็ น
จะต้องบารุ งความงาม ข้าก็ไม่ตอ้ งบารุ งให้แข็งขันมากเกิน”
น่าอายเกินไปแล้ว!
เพียงแค่ครู่ เดียว ก็เห็นเหล่าคนในกลุ่มของพวกราชวงศ์เก่าเริ่ มแย่ง
ชิงกันขึ้นมาแล้ว
ตู๋กูซิงหลันเอาแต่จบั ตามองดูมนุษย์มจั ฉาน้อย พอสายตาจับจ้องไป
มนุษย์มจั ฉาน้อยผูน้ ้ นั ก็สงั เกตเห็นนางขึ้นมาในทันที
เขาจับจ้องมาที่ต๋ ูกูซิงหลันด้วยสายตาที่สนั่ สะท้าน จากนั้นก็ผดุ ลุก
ขึ้นมาและพุง่ ตัวเข้าหานาง ส่ งเสี ยงตะโกนบางอย่างออกมาจากใน
กรง
เขายืม่ มือไปทางนาง ด้วยท่าทางที่วอนขอความช่วยเหลือ
ทันทีที่ยนื่ มือออกไป มนุษย์มจั ฉาน้อยก็ถูกฟาดแส้ใส่ หนักๆครั้ง
หนึ่ง ข้อมือสี เขียวอมฟ้าถูกตวัดจนเป็ นแผล จนเลือดสดๆสี ฟ้าไหล
ซึมออกมา
“เจ้าสัตว์ตวั น้อย รู ้จกั สงบเสงี่ยมหน่อย!” บุรุษผูน้ ้ นั ตะโกนใส่
จากนั้นก็หนั ไปทาการค้าขายต่อไป
มนุษย์มจั ฉาน้อยมิได้ถอยหลบไป หากแต่ยงั คงยืน่ มือไปทางตู๋กซู ิงห
ลัน
อยูๆ่ ตู๋กซู ิงหลันก็รู้สึกอุ่นวาบจากในอก บางสิ่ งกาลังไหลซึมออกมา
นางก้มศีรษะลงมองดูครั้งหนึ่ง สี หน้าและแววตาก็เปลี่ยนไป
ในทันที “ส่ งเขามาที่ตาหนักหย่งหนิงกงภายในหนึ่งก้านธูป”
ในบรรดาเหล่าหนุ่มน้อยที่ติดตามตู๋กูซิงหลันมาตลอดทางย่อมไม่
ขาดผูม้ ีฐานะร่ ารวยอยูด่ ว้ ย อย่างเช่น เฉาโหยวเฉียน ลูกหลานของ
ครอบครัวเศรษฐีในต้าเหยียน เดิมเขาก็ถูกตู๋กจู ุนจับมัดใส่ ถุงกลับมา
เหมือนกัน
สุ ดท้ายพอได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้หญิงก็เกิดใจรักแรกพบ ทั้งๆที่เป็ นถึง
หลายชายคนโตของตระกูลใหญ่ แต่กลับเต็มใจรั้งอยูใ่ นตาหนัก
หย่งหนิงกงยกน้ าชาเทน้ าร้อน
ในตอนนั้นเอง ท่ามกลางเสี ยงแก่งแย่งกัน คุณชายเฉาก็โยนทองคา
หลายก้อนออกไป
ผูค้ นทั้งหมดต่างก็ตกตะลึงจนปากค้าง
………………………..
ในตาหนักหย่งหนิงกง ตู๋กซู ิงหลันนัง่ อยูข่ า้ งหน้ากระจกทองเหลือง
ในมือของนางมีไข่มุกมังกรที่เปลี่ยนเป็ นสี แดงราวโลหิตไปแล้ว
ตอนนี้ไข่มุกมังกรนั้นกาลังมีของเหลวซึมออกมา เหมือนกับเลือดที่
ซึมออกมาทีละหยดทีละหยด
ทั้งยังส่ งผ่านความอุ่นร้อนสายหนึ่งสู่ มือของนาง เพียงครู่ เดียวก็
กลายเป็ นลูกแก้วโลหิตสี แดงลูกเล็กๆลูกหนึ่ง
มนุษย์มจั ฉาน้อยถูกจับอาบน้ าล้างตัวจนสะอาดสะอ้านจึงได้ถูกนา
ตัวมาพบนาง กลิ่นน้ าทะเลบนร่ างของเขาจางไปมาก
เขายังคงถูกขังอยูใ่ นกรง ข้อมือและข้อเท้ายังคงถูกล่ามตรวนเอาไว้
พลางแยกคมเขี้ยวในปากออกมา
กระทัง่ ถูกนามาอยูเ่ บื้องหน้าตู๋กซู ิงหลัน เขาถึงได้สงบนิ่งลง
พอมองเห็นไข่มุกมังกรในมือของตู๋กซู ิงหลัน ดวงตาก็เบิกโต อ้าปาก
ค้างตะโกนเป็ นภาษามนุษย์มจั ฉาออกมา
“ทะเลตะวันตก…..องค์หญิงหลี……..ท่านรู ้จกั นางใช่หรื อไม่?”
เขาพึ่งจะเอ่ยออกมา นางก็เห็นพี่รองวิง่ เข้ามาอย่างรี บร้อน
“น้องเล็ก เกล็ดของชือหลีเปลี่ยนสี ได้ดว้ ยหรื อ? เป็ นสี แดงไปแล้ว!
เจ้าคิดว่านางไปก่อเรื่ องอะไรกับใครหรื อไม่ ถูกเอาไปตุ๋นแล้วหรื อ
เปล่า!”
ตู๋กูซิงหลัน “……”
“พวกกุง้ พวกปูพอสุ ก ก็กลายเป็ นสี แดง นางเองก็เช่นกันใช่
หรื อไม่?” ตู๋กูเจวี๋ยล้วงเกล็ดสี แดงออกมาจากในอก วางลงไปบนฝ่ า
มือของตู๋กูซิงหลัน
อุ่นร้อน!
“องค์หญิงหลี…..” มนุษย์มจั ฉาน้อยมองดูเกล็ดชิ้นนั้น ก็ยงิ่ ตื่นเต้น
ขึ้นมา “พวกท่านช่วยนางได้หรื อไม่?”
“ในมือของท่านมีไข่มุกมังกรจากพลังชีวิตขององค์หญิง ท่าน
สามารถฟังคาพูดของข้าออก” มนุษย์มจั ฉาน้อยหันมาอ้อนวอนตู๋กู
ซิงหลัน “เผ่ามังกรทมิฬ! นางไปถึงที่นนั่ เช่นนี้เท่ากับว่าตายสถาน
เดียว!”
ตู๋กซู ิงหลันขมวดคิ้วแนบแน่น นางไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่า ยายตัว
แสบชือหลีจะมอบไข่มุกมังกรจากแก่นชีวิตให้กบั นาง
นี่จะเรี ยกว่าใจกว้างหรื อว่าเชื่อถือนางจนหมดใจดี?
สิ่ งของชิ้นนี้ นับว่ามีพลังตบะที่ชือหลีสะสมมามากกว่าครึ่ ง
ตอนนั้นนางเคยบอกเอาไว้วา่ จะไปที่ทะเลตะวันตกเพื่อฟื้ นคืนดวง
จิตของน้องสาว…..ตอนนั้นตู๋กซู ิงหลันก็รู้สึกได้วา่ นางกาลังจะไป
เสี่ ยงอันตราย คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่ องขึ้นเร็ วขนาดนี้
ในเมื่อนางมอบไข่มุกมังกรให้กบั ตน…..แล้วจะปกป้องตัวเองได้
อย่างไร?
ยิง่ ไปกว่านั้นเผ่ามังกรทมิฬ…..นัน่ คืออะไร
ในขณะที่ใจของนางมีคาถามมากมาย ก็สงั่ ให้คนเปิ ดกรงออก ปล่อย
ตัวมนุษย์มจั ฉาผูน้ ้ นั ออกมา
……………………
ณ แคว้นต้าโจว
ที่นี่มีฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวันแล้ว เรี ยกว่าตลอดทั้งเดือนนี้
แทบจะไม่มีวนั ที่ฟ้าใสอากาศดีเลยด้วยซ้ า
ซุนย่วนพึ่งออกมาจากตาหนักตี้หวั กง ก็เห็นว่าภรรยาของตนเอง
กาลังสนทนาอยูก่ บั หัวหน้าราชองครักษ์ลบั หลงเซียว
ทั้งสองยืนอยูข่ า้ งกันในมุมหนึ่ง กระซิบกระซาบกันเบาๆ พอเห็นเขา
ออกมา อู๋เหนียงจื่อก็เดินเข้าไปรับหน้า
นางสะบัดคางไปทางตาหนักตี้หวั กง จากนั้นก็ถามออกมาว่า
“ว่าอย่างไร?”
ซุนย่วนส่ ายศีรษะติดๆกัน เหลือบตามองซ้ายมองขวาโดยรอบ
“มารดาของข้า นี่เจ้ายังจะกล้ายุง่ เกี่ยวเรื่ องของฝ่ าบาทกับไทเฮาน้อย
อีกหรื อ”
อู๋เหนียงจื่อตบอกรัวๆ “นัน่ จะไม่ยงุ่ ได้หรื อไร? ใต้หล้านี่ไม่มีดา้ ย
แดงเส้นใดที่ขา้ อู๋เหนียงจื่อผูกไม่ได้หรอกนะ!”
นางพูดพลาง ก็เหลือบมองไปทางตาหนักตี้หวั พลาง
“เจ้ายังคงตัดใจเสี ยเถอะ ไม่เห็นหรื อว่าตอนนี้คนที่ได้รับความโปรด
ปรานที่สุดในวังหลังคือใคร” สี หน้าของซุนย่วนมีแต่ความเหน็ด
เหนื่อย “เจ้านายน้อยผูน้ ้ นั มิใช่ผทู ้ ี่ใครๆก็จะรับใช้ได้โดยง่ายนะ เห็น
อยูว่ า่ ไม่ได้เป็ นอะไรอยูช่ ดั ๆ ก็ยงั จะมาบอกว่าปวดหัวตัวร้อน ถาม
แต่วา่ ข้าตรวจดูแล้วนางเป็ นอะไร?”
ซุนย่วนเองก็มีแต่ความกลัดกลุม้ อยูเ่ ต็มหัวใจ นับตั้งแต่ที่ในวังมีฉาง
ซุนอิงเพิม่ ขึ้นมา เรื่ องราวต่างๆก็ไม่ราบรื่ นอีกต่อไป
เริ่ มจากซูหวงกุย้ เฟยที่ไปชนกับนางโดยไม่ทนั ระวัง เห็นๆอยูว่ า่ ทั้ง
สองตกลงมาด้วยกัน หวงกุย้ เฟยกับสู ญเสี ยพระครรภ์ไป…..
แต่วา่ ฮ่องเต้กลับทรงปกป้องฉางซุนอิง น่าเสี ยดายครรภ์มงั กรที่
เกือบจะใกล้ครบกาหนดอยูแ่ ล้วแท้ๆ….
ที่ยงิ่ น่าสงสารก็คือซูหวงกุย้ เฟย ที่ถูกส่ งเข้าตาหนักเย็นเพราะฉางซุน
อิง สุ ดท้ายต้องมาผูกคอตาย
ตอนนี้ฉางซุนอิงก็เริ่ มจะมาหาเรื่ องเขาเข้าแล้ว
ประเดี๋ยวก็รู้สึกไม่สบาย ประเดี๋ยวก็เจ็บตรงนั้นปวดตรงนี้ ทุกๆวัน
เป็ นต้องตามไปตรวจชีพจร
ดูเอาเถอะ คนที่ไม่มีแม้แต่ชีพจรอย่างนาง จะให้เขาตรวจว่าเป็ น
อะไร
นี่มิใช่วา่ ต้องการจะสร้างความลาบากให้เขาชัดๆหรอกหรื อ?
ประเด็นที่สาคัญก็คือภรรยาในบ้านก็ยงิ่ ทาให้คนลาบากใจ ทุกครั้ง
ไม่วา่ มีเรื่ องใดหรื อไม่เป็ นต้องคอยกระตุน้ ให้เขาเอ่ยถึงไทเฮาน้อย
สักสองประโยค
วันนี้เขาก็เอ่ยขึ้นมาแล้ว แต่สีพระพักตร์ของฝ่ าบาทกลับไม่มีสิ่งใด
เปลี่ยนแปลง
ท่าทางประหนึ่งว่ามิได้ทรงสนพระทัยเลยเสี ยด้วยซ้ า!
ดูเอาเถอะ อยูด่ ีๆแคว้นที่ตีชิงมาได้กลับถูกไทเฮาน้อยฮุบไปเสี ยอย่าง
นั้น แล้วฝ่ าบาทจะมิทรงพิโรธได้หรื อ?
ที่มิได้ไปทาสงครามอีกในขณะที่เหล่าราษฏร์ของแคว้นเหยียนกาลัง
มัวแต่ร่าเริ งยินดี ก็ตอ้ งนับว่าทรงพระทัยดีมีเมตตามากแล้ว
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 392 เผ่ าพันธุ์ที่สายเลือดคลุ้มคลัง่
สายลมโชยผ่านบานหน้าต่าง
ฤดูใบไม้ร่วงของปี ที่แล้ว ในตาหนักตี้หวั กงปลูกต้นฮว๋ ายเอาไว้ตน้
หนึ่ง งดงามโดดเด่นอยูท่ ่ามกลางหมู่ตน้ เย่วกุย้
ดอกฮว๋ ายผลิบานแล้ว ส่ งกลิ่นหอมอ่อนๆ
จีเฉวียนทอดพระเนตรมองดูช่อดอกที่ขาวพราวตาอยูค่ รู่ หนึ่ง ใน
ที่สุดก็ตรัสออกมาว่า “เรายินดีแทนนาง ย่อมต้องส่ งของขวัญไปให้
อย่างแน่นอน”
ฉางซุนอิงยิม้ ออกมาในทันที “ข้ายินดีจะไปส่ งของขวัญแทนฝ่ า
บาท”
“เรื่ องสาคัญของบ้านเมือง เจ้าอย่าได้มากังวลใจอีกเลย”
แค่ประโยคเดียวของจีเฉวียน ก็ทาให้ฉางซุนอิงหนาวเหน็บเข้าไปใน
หัวใจ
“ข้า….” นางอ้าปากขึ้นมา
แต่กลับถูกจีเฉวียนดักเอาไว้ “ในเมื่อร่ างกายไม่ค่อยสบาย ต่อไปก็ไม่
ต้องมาที่ตาหนักตี้หวั บ่อยๆ ตาหนักหยูเ่ ฉียนบริ บูรณ์ดว้ นธาตุหยิน
เจ้าซึมซับให้มากๆเข้า ก็จะดีกบั ตัวเจ้าเอง”
สี หน้าของฉางซุนอิงเปลี่ยนเป็ นไม่น่าดูแล้ว “แต่วา่ ตาหนักหยูเ่ ฉี ย
นกงนัน่ ข้าอยูแ่ ล้วรู ้สึกไม่ค่อยสบายเลย ……..ฟังว่าก่อนหน้านี้
ตาหนักนัน่ เป็ นที่อยูข่ องเหลียงไฉเหริ น ฉี ผนิ …..แล้วก็ยงั มีองค์
หญิงแคว้นเหยียน เหยียนเฉี ยวหลัวอีก แต่ละคนล้วนไม่มีจุดจบอัน
ดี”
“ยิง่ ไปกว่านั้นตาหนักหยูเ่ ฉี ยนกงอยูไ่ กลจากตาหนักตี้หวั กงตั้งมาก”
ฉางซุนอิงพูดพลางเบ้ปากออกมา นางขยับเข้าไปใกล้จีเฉวียนอีกก้าว
กระดิ่งบนข้อเท้าส่ งเสี ยงกรุ ้งกริ้ ง “เฉวียน ข้าคิดว่าตาหนักเฟิ่ งหนิง
กงน่าจะดีกว่าหน่อย ข้าอยากอยูท่ ี่ตาหนักเฟิ่ งหมิงกง ได้ไหม?”
“นัน่ ไม่ใช่ที่ที่เจ้าควรจะคิดถึง” จีเฉวียนปฏิเสธในทันที
“ทาไมถึงไม่ได้ละ?” ฉางซุนอิงอดทนมานานแล้ว ตอนแรกๆจี
เฉวียนอะไรๆก็ตามใจนางใจโดยตลอด แต่วา่ ตอนนี้คล้ายว่าไม่วา่
อะไรก็ไม่ได้เสี ยแล้ว
ไม่ให้นางนัง่ บนเก้าอี้ตวั นั้น ไม่ให้นางควักอัญมณี ไป แล้วยังไม่ยอม
ให้นางไปอยูท่ ี่ตาหนักเฟิ่ งหมิงกงอีกด้วย
ในพระทัยของพระองค์ ยังคงครุ่ นคิดถึงคนผูน้ ้ นั อยูช่ ดั ๆใช่ไหม?
“อาอิง เราสามารถชดเชยให้เจ้ามากมาย ยกเว้นแต่ศกั ดิ์ฐานะและ
ความรักเท่านั้นที่ไม่อาจให้เจ้าได้ เจ้าเข้าใจหรื อไม่?”
นอกจากตู๋กูซิงหลันแล้ว จีเฉวียนก็ไม่เคยอดทนกับสตรี ใดเท่านี้มา
ก่อน
“แต่วา่ ถึงตอนนี้ทุกคนล้วน….เข้าใจว่าข้าคือสตรี ของท่านนี่!” ฉาง
ซุนอิงกุมอกของตนเองเอาไว้ “เฉวียน ท่านรู ้หรื อไม่ คนภายนอก
ล้วนพูดกันว่าข้าเป็ นคนก็ไม่ใช่ เป็ นผีกไ็ ม่เชิง ทั้งยังเป็ นสนมปี ศาจที่
ล่มบ้านล้างเมือง แต่วา่ ข้ากลับไม่เคยได้รับความรักจากท่านเลยด้วย
ซ้ าไป”
“ข้าไม่ตอ้ งการ….ไม่ตอ้ งการให้เป็ นเช่นนี้….ต้องให้บอกว่าข้าเป็ น
สนมปี ศาจ ถ้าเช่นนั้นข้าก็ตอ้ งได้เป็ นสนมของท่านก่อน!”
“ท่านไม่ยอมให้แม้แต่ฐานะใดๆกับข้า …..แม้แต่เหม่ยเหริ นก็ยงั
ไม่ได้”
“กับข้าแล้ว…..นอกจากความสงสารและติดค้างแล้ว ความรู ้สึกฉันท์
ชายหญิงก็ไม่มีเลยสักนิด”
นางก้มศีรษะลงไปด้วยความอยากจะร้องไห้ แต่วา่ น้ าตาสักหยดกลับ
ไม่ยอมไหลออกมา
“ท่านดูขา้ สิ …..ทั้งเนื้อทั้งตัวล้วนเป็ นตัวประหลาด…..ขนาดคิดจะ
ร้องไห้กย็ งั ไม่มีน้ าตาสักหยด…..” นางยิง่ ราพึงต่อไป “ข้าเคยคิดมา
ตลอดว่า ขอเพียงสักวันหนึ่งได้กลับมาอยูข่ า้ งกายท่าน ความลาบาก
ทุกข์ยากทั้งหลายที่เคยได้รับมาก็จะสามารถลืมมันไปได้หมด”
“แต่วา่ ทาไม ท่านถึงได้ทากับข้าเช่นนี้? ทั้งๆที่ท่านก็รู้ดีวา่ ข้าชอบ
ท่านมากมายเพียงไร….ชอบท่านจนถึงขนาดที่จะตายเพื่อท่านได้
และกลับมามีชีวิตเพื่อท่าน”
ฉางซุนอิงสะอึกสะอื้นอยูค่ รู่ หนึ่ง ค่อยพยายามสงบจิตใจของตนเอง
ลงไป ค่อยกล่าวต่ออีกว่า “ท่านลืมไปแล้วหรื อ? พอข้าตายไป ท่านก็
สังหารฆาตกรเหล่านั้นด้วยตนเอง แล้วไปเฝ้าอยูท่ ี่หน้าสุ สานของข้า
เจ็ดวันเจ็ดคืน ….. ข้าไม่เชื่อหรอก ไม่เชื่อหรอกว่าท่านจะมิได้มีรัก
ให้ขา้ เลยสักนิด”
“เฉวียน ที่จริ งแล้วท่านเคยชอบข้าต่างหาก! เพียงแต่วา่ พอผ่านไป
นานหลายปี เข้า ใจของท่านก็ไปมีผอู ้ ื่นเสี ยแล้ว”
“แต่ขา้ ไม่โทษท่านหรอก ข้าเพียงแต่ขอให้ในใจของท่านมีขา้ อยูส่ กั
มุมหนึ่ง ต่อให้เป็ นมุมเล็กๆสักเท่าไรก็ได้ท้ งั นั้น”
น้ าเสี ยงของนางแหบแห้งเหลือเกิน เนื่องเพราะอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
มากไป กระทัง่ ร่ างกายก็ยงั สั่นสะท้านเบาๆไปด้วย “ท่านรู ้หรื อไม่วา่
เพื่อจะได้พบกับท่านอีกครั้ง ตลอดหลายปี มานี้ขา้ ต้องผ่านความ
มืดมนมาเพียงไร …..นัน่ เป็ นสิ่ งที่ท่านไม่มีทางเข้าใจได้แม้แต่
น้อย….”
นางเงยหน้าขึ้นมา มองดูพระพักตร์ของพระองค์
นับตั้งแต่ที่นางติดตามพระองค์กลับวัง ก็ยงั ไม่เคยได้เห็นพระองค์
แย้มสรวลเลยสักครั้ง
พระองค์ดูคล้ายดัง่ เป็ นคนที่ไม่มีน้ าจิตน้ าใจไม่มีความรู ้สึก ดวง
พักตร์ที่งดงามนั้นเย็นยะเยือกอยูต่ ลอดเวลา มิวา่ นางจะกล่าวเรื่ องใด
กับพระองค์ พระองค์กไ็ ม่เคยมีสีพระพักตร์ใดๆทั้งสิ้ น
ตอนนี้ขนาดนางกาลังร่ าร้องอยูต่ รงหน้าแท้ๆ แต่กเ็ หมือนกับเล่น
ละครอยูผ่ เู ้ ดียว
ผ่านไปอีกพักใหญ่ จีเฉวียนถึงได้ตรัสออกมาประโยคหนึ่ง
“ดังนั้นเราจะคอยดูแลเจ้าเอง”
“ท่านก็รู้ ว่าข้าไม่ได้ตอ้ งการให้ท่านมาดูแล เพียงแค่ตอ้ งการจะอยู่
ร่ วมกับท่านจริ งๆเท่านั้น”
จีเฉวียนไม่สนพระทัยนางอีกต่อไป หันไปตรัสเรี ยกหลี่กงกงให้นา
ตัวคนกลับไปยังตาหนักหยูเ่ ฉียนกง
…………………..
พอฉางซุนอิงไปแล้ว ทัว่ ทั้งห้องพระอักษรก็เงียบสงัดลงไป
จีเฉวียนกวาดพระเนตรไปยังทิศทางที่นางหายไปด้วยแววพระเนตร
ที่เย็นชา
พลางรับสัง่ ให้คนในตาหนักล่าถอยออกไป ค่อยเสด็จไปที่ดา้ นหน้า
ของเก้าอี้ตวั นั้น พลางคุกเข่าลงไป
ทรงล้วงเอาผ้าผืนหนึ่งออกมา แตะน้ า ค่อยเริ่ มเช็ดถูทาความสะอาด
ทีละน้อย
พระองค์รักความสะอาดอย่างบ้าคลัง่ เมื่อสิ่ งของของตนเองถูกผูอ้ ื่น
สัมผัสเข้า ก็จะรู ้สึกว่าไม่สะอาด
เก้าอี้ตวั นี้พระองค์ให้ต้ งั เอาไว้ตรงเบื้องพระพักตร์เพื่อจะได้
ทอดพระเนตรทุกๆวัน เพราะคิดถึงยามที่นางเคยนัง่ แทะเมล็ดแตง
กินแตงหวานอย่างเกียจคร้านอยูบ่ นเก้าอี้
อัญมณี บนเก้าอี้หลากสี สนั บาดตา ที่จริ งแล้วมิได้เข้ากับเก้าอี้ไม้แดง
สักเท่าไหร่
แต่ในเมื่อเป็ นเก้าอี้ของนางเช่นนั้นย่อมน่าดูอย่างที่สุด
จีเฉวียนทรงเช็ดถูอย่างละเอียด พระหัตถ์สมั ผัสลงไปบนอัญมณี
เหล่านั้นอย่างแผ่วเบา ราวกับว่าจะสามารถรับรู ้ได้ถึงกลิ่นอายของ
นาง
สายลมพัดเข้ามา กลิ่นหอมของดอกฮว๋ ายคล้ายคลึงกับกลิ่นกายของ
นางยิง่ นัก ราบกับว่านางกาลังอยูข่ า้ งกายของพระองค์
ถึงตอนนี้พระองค์กย็ งั ทรงจดจาได้อย่างดี สี หน้าที่นางแสดงออกมา
ยามที่อยูบ่ นกาแพงเมืองแคว้นเหยียนในตอนนั้น
ผิดหวัง โกรธแค้น แต่กต็ อ้ งเก็บงาเอาไว้
นางแทบจะอยากตัดสิ้ นทุกสิ่ งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ให้
หมดสิ้ น
จีเฉวียนคิดขึ้นมาในยามนี้ พระทัยก็ยงั คงรู ้สึกเจ็บปวดอยูเ่ ลย
พระองค์คุกเข่าอยูข่ า้ งเก้าอี้ตวั นั้น เอ่ยฟ้องเบาๆกับอัญมณี ที่เม็ดใหญ่
ที่สุด “ตัวโง่เขลานั้น ไม่เชื่อถือข้าถึงเพียงนี้
“ไม่เชื่อ…..ก็ดีเหมือนกัน”
………….
หลงเซียวเข้ามาในตาหนัก พอดีได้เห็นฝ่ าบามตรัสกับเพชรพลอย
เม็ดใหญ่
เขาชะงักไปชัว่ ครู่ จากนั้นก็ทาท่าจะถอยออกไปเงียบๆ
“มีเรื่ องอะไร?”
จีเฉวียนทรงหันหลังให้กบั เขา เก็บผ้าผืนนั้นเข้าไปในอกเสื้ อ
“ฝ่ าบาท …..ไทเฮาน้อย….ไม่ใช่ ฮ่องเต้หญิงแคว้นเหยียน …..คล้าย
กับว่ากาลังจะเสด็จไปทะเลตะวันตกแล้ว”
“ทะเลตะวันตกหรื อ?”
“คล้ายกับว่าเทพธิดาแห่งสายน้ าลี่โจวเกิดเรื่ องบางอย่างขึ้น ฮ่องเต้
หญิงจึงจะเสด็จไปช่วย”
หลงเซียวทูลพลาง ก็ขยับเข้าไปใกล้ ถวายจดหมายลับในมือของตน
ให้จีเฉวียนกับพระหัตถ์ดว้ ยความเคารพนบนอบ “ในสารมีลาย
ละเอียดทั้งหมดอยูพ่ ะยะค่ะ”
จีเฉวียนประทับยืนขึ้นมา เสด็จกลับไปที่โต๊ะพระอักษร แล้วประทับ
นัง่ ลง
ฉลองพระองค์พลิกลงไป เส้นพระเกศาตกลงมา ทอดพระเนตรดู
เนื้อความในสาร สายพระเนตรก็ครึ้ มลงอีกหลายส่ วน
คนผูน้ ้ ีช่างมีรูปลักษณ์ดีจริ งๆ แค่ทาท่าอ่านนู่นอ่านนี่เฉยๆก็ยงั ดูดี
มากถึงขนาดนี้
“เผ่ามังกรทมิฬ ….. หากว่าเราจาไม่ผดิ ล่ะก็เป็ นเผ่าพันธุ์ที่มีสายเลือด
คลุม้ คลัง่ ”
“ใช่แล้วพะยะค่ะ”
หลงเซียวทูลรับ ตนเองก็เปิ ดบันทึกโบราณเล่มหนึ่งขึ้นมา “ในคาภีร์
《บันทึกเหล่าเทพ》มีการจดบันทึกเอาไว้ เผ่ามังกรทมิฬอาศัยอยู่
ในส่ วนลึกของทะเลตะวันตก ในบรรดาเผ่ามังกรทั้งหลายนับว่าเป็ น
เผ่าพันธุ์ที่มีพละกาลังเข้มแข็ง อุปนิสยั กระหายเลือด จึงถูกทวยเทพ
กักขังเอาไว้ในทะเลลึก ไม่อาจออกมาได้”
“มีบนั ทึกถึงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” จากนั้นหลงเซียวก็กราบทูลจี
เฉวียนอีกว่า “ฝ่ าบาท จะทรงโปรดให้กระหม่อมรวบรวมข่าวสารให้
มากกว่านี้หรื อไม่พะยะค่ะ?”
จีเฉวียนทรงเผาสารในพระหัตถ์ทิ้งไป กดพระหัตถ์ลงไปบนโต๊ะ
อักษรอยูค่ รู่ หนึ่ง “คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของทางนั้นเอาไว้
ตลอดเวลา”
………………………………….
ไรท์: ตอนแรกที่อ่านเรื่ องนี้กค็ ิดว่าเป็ นเรื่ องของชาววัง แปลไปๆชัก
จะออกทะเล ลงสุ สาน เข้าถ้ า บุกทะเลทราย ตอนนี้กก็ าลังจะออก
ทะเลจริ งๆแล้วสิ นะ! แล้วเราจะทายังไงดี? (หยิบมือถือสัง่ เรื อดาน้ า
ล่วงหน้าเลยแล้วกัน เดี๋ยวติดวันหยุดแล้วช้า)
ตอนต่อไป “ตัวอบอุ่นที่ท้ งั น่ารักทั้งน่าหยิก”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 393 ตัวอบอุ่นที่ท้งั น่ ารักทั้งน่ าหยิก
“ยังมีอีกเรื่ องหนึ่งพะยะค่ะ” หลงเซียวลังเลอยูค่ รู่ หนึ่ง ก็ไม่รู้วา่ จะ
กราบทูลอย่างไรดี
“อยูต่ ่อหน้าเราไม่ตอ้ งมาทาอึกๆอักๆ”
“ไทเฮา น่ะ….ฮ่องเต้หญิง ทรงมีสมั ผัสใกล้ชิดกับบุรุษโฉมงาม
อันดับหนึ่งของแผ่นดิน ตอนนี้ท้ งั สองอยูด่ ว้ ยกันแทบจะตลอดเวลา
หวานชื่นราวดัง่ คู่สามีภรรยาที่พ่ งึ จะแต่งงานอย่างไรอย่างนั้น”
หลงเซียวทูลจบ ก็รู้สึกว่ามีเหงื่อเย็นๆไหลออกมาท่วมศีรษะ
พอเงยหน้าขึ้นดู ก็เห็นสี พระพักตร์ของฝ่ าบาทเปลี่ยนเป็ นเลวร้าย
สองพระหัตถ์ภายใต้แขนฉลองพระองค์กาแน่นเสี ยจนเส้นพระ
โลหิตปูดโปนขึ้นมา
“ฝ่ าบาท นี่เป็ นข่าวสารที่องครักษ์ลบั ส่ งกลับมา …..บางทีพวกเขา
อาจจะตาฝาด มองผิดไป” หลงเซียวรี บกล่าวปลอบพระทัยไปอีก
สองประโยค
ความปลอดภัยของเขาเป็ นเรื่ องสาคัญอย่างยิง่ ในตอนนี้!
“ฝ่ าบาท หากว่าซูเยาผูน้ ้ นั ไม่รักษาคาพูด …..พวกเราก็ไม่จาเป็ น
จะต้องรักษาคาสัญญา หย่งเฉิงอ๋ องสองสามีภรรยายังคงอยูใ่ นเมือง
หลวง หากว่าไม่ได้ฝ่าบาททรงคุม้ ครองเอาไว้แต่แรก สองผูเ้ ฒ่านัน่ ก็
คงจะ…..”
ฝ่ าบาททรงทาพระองค์เป็ นขวดแก้วเสี ยแล้ว มิวา่ เรื่ องใดๆก็เก็บ
เอาไว้กบั พระองค์แต่เพียงผูเ้ ดียว
อะไรก็ไม่ยอมอธิบายออกไป เอาแต่แอบทาอย่างเงียบๆ
พูดตามตรง สุ ดท้ายแล้วนี่มิเท่ากับว่าเป็ นการทาร้ายพระองค์เอง
หรอกหรื อ?
ตอนนี้ละเป็ นเรื่ องแล้ว นี่มิเท่ากับว่าอยูด่ ีๆก็ไปส่ งเสริ มซูเยาผูน้ ้ นั
หรอกรึ
นับตั้งแต่ที่เจ้าผูน้ ้ นั ไปอยูก่ บั ฮ่องเต้หญิง ก็มีอิสระเสรี อย่างที่สุด
ความสัมพันธ์กใ็ กล้ชิด แทบจะนอนด้วยกันอยูแ่ ล้ว!
หากว่าเป็ นเช่นนี้ต่อไป ……เกรงว่าอีกไม่กี่วนั ก็อาจจะนอนด้วยกัน
ขึ้นมาก็ได้ละมั้ง?
พระหัตถ์ที่กาหมัดของฝ่ าบาทมิได้คลายออก ดวงเนตรหงส์คู่น้ นั
เปลี่ยนเป็ นเย็นยะเยือกขึ้นมา พระองค์หนั ไปจดจ้องหลงเซียว ตรัส
ว่า “เจ้าบอกมาสิ วา่ ใครคือบุรุษที่งามที่สุดในแผ่นดินนี้?”
หลงเซียว “อ่า……ฝ่ าบาท หากว่าจะให้เปรี ยบเทียบกันจริ งๆ
พระองค์กบั ซูเยานั้นเป็ นคนละประเภทกันนะพะยะค่ะ”
“เราถามเจ้า ว่าใครคือบุรุษที่งามที่สุดในแผ่นดิน?”
หลงเซียว “นัน่ ย่อมต้องเป็ นฝ่ าบาทแน่นอนอยูแ่ ล้วพะยะค่ะ! ใต้หล้า
นี้ยอ่ มไม่มีบุรุษใดที่จะงดงามไปกว่าฝ่ าบาทอีกแล้ว! ต่อให้มี ก็ตอ้ ง
เป็ นเรื่ องเข้าใจผิดไปอย่างแน่นอน!”
“ในเมื่อเราคือบุรุษที่งดงามที่สุดในใต้หล้า ที่บอกว่าผูกพันใกล้ชิด
แนบแน่นกับฮ่องเต้หญิง ย่อมไม่มีสิ่งใดผิด”
หลงเซียว “? ? ? “ ทาไมเขาถึงได้รู้สึกว่าฟังไม่เข้าใจว่าฝ่ าบาททรง
หมายความเช่นไร?
หลงเซียวยังไม่ทนั จะได้ทาความเข้าใจ ก็ได้ยนิ จีเฉวียนตรัสว่า “ไป
หาซุนย่วนขอยาพอกมา”
หลงเซียวรู ้สึกว่าทาเช่นนี้ไม่ดีละมั้ง?
ครั้งก่อนพอกไปรอบหนึ่ง ก็เกิดสิ วขึ้นเต็มพระพักตร์ยงั ไม่เข็ดอีก
หรื ออย่างไร?
หลงเซียวคิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าหากเป็ นเรื่ องของความงดงามฝ่ าบาท
นั้นยังพ่ายแพ้ให้กบั ซูเยาอยูบ่ า้ งจึงจะถูก
………………..
เพียงไม่ถึงสองวัน ในวังก็มีข่าวลือออกมา ว่าซุนเชวี่ยย่วนสื่ อแห่ง
สานักหมอหลวงได้รับแต่งตั้งอยูไ่ ด้ไม่นานก็ตอ้ งตกต่าลงไปอีกครั้ง
แล้ว
ครั้งนี้ยงั อนาถกว่าตอนเป็ นเด็กต้มยาเสี ยอีก เพราะกลายเป็ นหมอ
รักษาสัตว์ไปเสี ยแล้ว ทุกๆวันเป็ นต้องไปขลุกอยูท่ ี่คอกม้า คอย
สอดส่ องดูแลบรรดาสัตว์ต่างๆในวังหลวง
ฟังว่าเป็ นเพราะวิชาแพทย์ของเขามันไม่ได้เรื่ อง ไม่สามารถตรวจ
รักษาฉางซุนอิงได้?
ดูเอาสิ …..ฝ่ าบาททรงหลงใหลสตรี ผนู ้ ้ นั ถึงขนาดนี้เลย?
วันนี้คนที่ถึงคราวรับเคราะห์กค็ ือซุนย่วนซื่อ คนต่อไปที่จะต้องโชค
ร้ายไม่แน่วา่ อาจจะเป็ นพระองค์เองก็ได้?
หากว่าวันๆทรงเอาแต่หมกมุ่นอยูอ่ ย่างนี้ต่อไป คนต้าโจวย่อมอด
ไม่ได้ที่จะราลึกถึงวันดีๆยามที่ไทเฮายังทรงอยู่
นี่เรี ยกว่าอะไรเล่า หากไม่มีการเปรี ยบเทียบก็คงไม่รู้วา่ อะไรเจ็บกว่า
กัน!
ไทเฮาน้อยอย่างมากก็แค่เปลือกนอกเอาแต่พระทัยอยูบ่ า้ ง แต่แก่น
แท้แล้วยังคงมีความเมตตาอยู่
นางได้ทาสิ่ งใดเพื่อต้าโจวเอาไว้บา้ ง?
ในงานเลี้ยงของราชสานักนางสามารถเลือกไข่มุกได้ถูกต้อง
ช่วยเหลือท่านหญิงน้อยที่ถูกลักพาตัวไปจากจวนองค์หญิงใหญ่
เสด็จไปค้นหาสมบัติร่วมกับฝ่ าบาท ทั้งยังใช้ความเฉลียวฉลาด
ทาลายแผนกบฏของจวิน้ อ๋ องเมืองกู่เย่ว
ไทเฮาน้อยมักจะทรงรับสัง่ อยูเ่ สมอว่า ‘เราตั้งใจจะทาทุกสิ่ งเพื่อต้า
โจว’
ตอนนี้พอมาย้อนคิดดูแล้ว ทุกสิ่ งที่นางได้ทาไว้ แต่ละเรื่ องล้วนทา
เพื่อแคว้นต้าโจวมิใช่หรื อ?
ส่ วนเรื่ องที่เมื่อเร็ วๆนี้นางชิงเอาแคว้นต้าเหยียนที่พ่ งึ ตีได้ไปล่ะ……
คงจะมีสาเหตุอื่นอีกกระมัง?
แล้วลองดูแม่นางฉางซุนผูน้ ้ นั สิ …….ทาเรื่ องอันใดไปบ้าง
ราชโอรสองค์โตที่คนทั้งแคว้นต่างตั้งตารอคอยถูกกาจัดทิ้งไป
แล้ว…..
ตอนนี้ในใจของชาวต้าโจวทั้งหลายต่างก็รู้สึกว่าเหมือนกับว่า ‘ก่อน
หน้านี้บุตรชายในบ้านไปชื่นชอบหญิงสาวที่ออกจะนอกกรอบไป
หน่อยผูห้ นึ่ง แต่เหล่าผูอ้ าวุโสภายในบ้านต่างก็ไม่เห็นด้วย คราวนี้
ละเป็ นเรื่ องแล้ว บุตรชายไปรับเอางูพิษกลับมา ทุกคนถึงได้ค่อยพา
กันนึกถึงความดีของหญิงสาวที่นอกกรอบไปบ้างผูน้ ้ นั ’
ในแคว้นต้าโจว ชื่อเสี ยงของแม่นางฉางซุนอิงยังยา่ แย่กว่าตู๋กซู ิ งห
ลันเมื่อตอนแรกๆอีกมากโข
ตอนนี้พวกเขาได้แต่เฝ้าหวังว่าเมื่อไหร่ ฝ่าบาทจะทรงคิดได้เสี ยที
แล้วไปคืนดีกบั ไทเฮาน้อย เมื่อสองคนดีกนั สองแคว้นจะได้มี
สัมพันธ์อนั ดี จับมือกันครองความเป็ นใหญ่ในแผ่นดินนี้จึงจะเป็ น
หนทางที่ถูกที่ควร!
……………………………….
แคว้นเหยียน
เมื่อเข้าสู่ ยามสนธยา สายลมยามค่าในต้นฤดูสารทก็พดั เอาความชื้น
จากทะเลมาด้วย กลีบบุปผาพลิ้วไปในอากาศจนทัว่ ทั้งเมือง
ในพระตาหนักหย่งหนิง ตอนนี้ยงั คงจุดเทียนอยู่
ตู๋กซู ิงหลันนัง่ อยูข่ า้ งโต๊ะ บนโต๊ะมีหนังสื อโบราณสู งเป็ นตั้งๆ
นางอดหลับอดนอนจนสองตาแดงก่า ดวงตาปูดโปนไปด้วยเส้น
เลือด
ข่าวที่มนุษย์มจั ฉาน้อยบอกมานั้นไม่ใช่เรื่ องดีสกั เท่าไร…
มารดาแท้ๆของชือหลีเดิมเป็ นองค์หญิงของเผ่ามังกรตะวันตก แต่
เพราะการแต่งงานที่ผดิ พลาดสุ ดท้ายจึงต้องมีจุดจบที่น่าอนาถ
แม้แต่เผ่ามังกรตะวันตกเองก็พลอยตกต่าไปเพราะเจ้ามังกรทรยศผู ้
นั้นไปด้วย
เป็ นผลให้ชือหลีและชือฉิงสองสาวพี่นอ้ งต้องถูกถอดกระดูกมังกร
ออก จนต้องไปอยูใ่ นโลกของมนุษย์ธรรมดา
พอกลับไปครั้งนี้กย็ งั ต้องประสบเคราะห์กรรม เพราะบังเอิญเป็ น
ช่วงที่รัชทายาทของเผ่ามังกรทมิฬที่อยูใ่ ต้ทะเลลึกไร้กน้ บึ้งจะเลือกคู่
พอดี
มังกรบิดาตัวร้ายที่ใจดาอามหิตจนผิดเพี้ยนผูน้ ้ นั ก็จบั ชือหลีส่งออก
ไปในทันที
แต่ละบ้านต่างก็มีเหตุแห่งความทุกข์ยากของตนเอง เผ่ามังกร
ตะวันตกเผ่านี้กม็ ิได้อยูน่ อกเหนือออกไป ยามใจดาขึ้นมาแม้แต่กบั
เลือดเนื้อเชื้อไขก็ยงั ไม่เหลือน้ าใจให้สกั นิด
…………………………
นางย่อมต้องการไปช่วยเหลือชือหลี แต่วา่ ไม่อาจไปอย่างบุ่มบ่ามได้
เดิมทีตวั นางเองก็มีโรคกลัวน้ าลึกที่หนักหนาอยูแ่ ล้ว หากไม่เตรี ยม
ตัวให้พร้อม อย่าว่าแต่จะช่วยชือหลีเลย เกรงว่าแม้แต่ตวั นางเองก็คง
ต้องมอดม้วยไปด้วย
“อาหลัน……” ซูเยา นาของว่างมื้อดึกเข้ามา “บอกให้เจ้าพักผ่อนเจ้า
ก็ยงั ไม่ยอมนอน ถ้าเช่นนั้นก็กินอะไรตุ๋นๆร้อนๆบารุ งร่ างกายเสี ย
หน่อยแล้วกัน”
เขาพูดพลางก็ตกั ขึ้นมาช้อนหนึ่ง ยกขึ้นมาถึงริ มฝี ปากแล้วเป่ าเบาๆ
จากนั้นก็ค่อยส่ งเข้าปากของนาง
ตู๋กซู ิงหลันอ้าปากขึ้นอย่างคุย้ เคย พอกลืนลงไปคาหนึ่งก็อบอุ่นไป
ถึงหัวใจ
นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ฝี มือการครัวของเจ้าจิ้งจอกน้อยจะดีถึง
เพียงนี้
ขนาดแค่ของตุ๋นร้อนที่เรี ยบง่ายชามหนึ่งก็ยงั ตุ๋นได้อร่ อยมาก
ซูเยาป้อนนางจนหมดชาม ค่อยเลื่อนตะเกียงมาที่ขา้ งหน้านางมาก
กว่าเดิม “แสงเทียนสลัวเกินไปทาร้ายดวงตาแล้ว”
เจ้าจิ้งจอกน้อยผูน้ ้ ีช่างเป็ นตัวอบอุ่นที่ท้ งั น่ารักทั้งน่าหยิกจริ งๆ
ตู๋กซู ิงหลันวางตาราโบราณในมือลง อดไม่ได้ที่จะยืน่ มือไปลูบ
ศีรษะของเขาเบาๆ “เจ้าไปนอนก่อนเถอะ ไม่ตอ้ งรอข้าหรอก”
คาพูดเหล่านี้ช่างทาให้คนฟังเข้าใจผิดโดยง่ายเสี ยจริ งๆ
ราวกับว่าคนทั้งสองนอนบนเตียงหลังเดียวกันอย่างไรอย่างนั้น
เมื่ออยูต่ ่อหน้าตู๋กซู ิงหลัน ซูเยาก็ยมิ้ ง่ายอยูเ่ สมอ
เขาพยักหน้าหงึกๆ “ข้าจะอ่านเป็ นเพื่อนเจ้า ค่อยนอนพร้อมเจ้า หาก
เจ้าไม่นอนข้าก็นอนไม่หลับหรอก”
ถึงแม้วา่ อาหลันจะยังไม่เคยนอนเตียงเดียวกันกับเขา
แต่วา่ ตอนนี้เขาก็คือคนที่นางโปรดปรานมากที่สุดมิใช่หรื อ?
ขอแค่ได้เฝ้าดูนางนอน แล้วตนเองค่อยหลับทีหลังก็พอใจมาก
แล้ว….นัน่ เป็ นความสุ ขที่บ่งบอกไม่ถูกเลย!
……………………………..
ตาหนักบรรทมของนางมีบานหน้าต่างที่เปิ ดค้างเอาไว้ครึ่ งหนึ่ง
ที่ดา้ นนอกหน้าต่าง ดวงตาหงส์คู่น้ นั หรี่ อยูค่ รึ่ งๆ รอบตัวล้วนมีแต่
ความมืดมิด
เขามองดูอย่างใจจดใจจ่อ จึงไม่ทนั สังเกตว่าที่ดา้ นหลังมีคนผูห้ นึ่ง
เดินมา
พอพระอังสาถูกคนผูน้ ้ นั ตบเบาๆ ฝ่ าบาทถึงได้หนั พระเศียรกลับไป
จึงได้เห็นว่าเป็ นบุรุษที่สวมใส่ ชุดหลวมๆรุ่ ยร่ ายผูห้ นึ่งยืน่ ศีรษะเข้า
มามองดูพระองค์
“สหายผูน้ ้ ี เจ้าคงเป็ นคนใหม่ที่พ่ งึ จะเข้าวังมาสิ นะ?”
………………………………….
ตอนต่อไป “ฝึ กฝนฝ่ าบาทให้ได้เป็ นคนโปรด”
ไรท์ : แค่ชื่อตอนก็บอกแล้วว่า หากคิดจะชิงกับซูเยา งานนี้ฉวนฉวน
คงต้องทาการบ้านหนักหน่อยนะ
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 394 ฝึ กฝนฝ่ าบาทให้ ได้ เป็ นคน
โปรด
จีเฉวียนหันพระพักตร์กลับไป ภายใต้แสงจันทร์กระจ่าง ดวงพักตร์
ที่งดงามดุจเทพเซียนนี้ทาให้ดวงตาของบุรุษผูน้ ้ นั กระจ่างขึ้นมาจน
แทบจะตาพร่ าไป
เขาได้พบกับสมบัติช้ นั เลิศเข้าแล้ว
เขาวางหยินเอ๋ อทัง(เห็ดหูหนูต๋ ุน)ในมือลงอย่างทันที พลางยืน่ มือไป
คว้าพระหัตถ์ของจีเฉวียนเอาไว้ จูงเข้าพุม่ ไม้ที่อยูใ่ นวังไปอย่างรี บ
ร้อน
ชนิดที่เรี ยกว่าพาหนีอย่างหัวซุกหัวซุน
คนผูน้ ้ ีคุน้ เคยกับเส้นทางภายในวังหลวงของแคว้นเหยียนอย่างยิง่
สามารถหลบหลีกสายตาขององครักษ์ที่เฝ้ายามได้อย่างง่ายดาย
จนกระทัง่ มาถึงจุดที่มนั่ ใจแล้วว่าปลอดภัยไร้ผคู ้ น เขาถึงได้หยุดลง
พิจารณาดูจีเฉวียนอย่างละเอียด
สวรรค์ทรงโปรด!
เดิมทีเขานึกว่าเจ้าปี ศาจจิ้งจอกที่ทาตัวติดกับฝ่ าบาทของเขาอยูท่ ุกวี่
ทุกวันนั้นงดงามจนทาให้คนต้องตกตะลึงมากแล้ว!
แต่วา่ พอได้เห็นสหายผูน้ ้ ี!
ไม่รู้วา่ ชาติก่อนทาบุญไปมากขนาดไหน ถึงได้เกิดมามีรูปโฉมที่งาม
เช่นนี้!
หากจะบอกว่าซูเยาผูน้ ้ นั เป็ นปี ศาจจิ้งจอก สหายที่ตรงหน้าผูน้ ้ ีก็คง
เป็ นระดับเทพมารแล้ว!
เขามองดูอยูค่ รึ่ งค่อนวัน ค่อยแนะนาตัวด้วยความตกตะลึงจนตื่นเต้น
ว่า “ผูน้ อ้ ยคือเฉาโหย่วเฉียน เป็ นชายบาเรอในตาหนักหย่งหนิงกง”
ชายบาเรอสองคานี้ เขากลับพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจเป็ นพิเศษ
แต่ฝ่าบาทฟังแล้ว กลับเสี ยดแทงพระกรรณอย่างยิง่
สี พระพักตร์ของพระองค์ยงั คงเคร่ งขรึ ม พยายามฝื นทนความพลุ่ง
พล่านที่ตอ้ งการจะจัดการให้ ‘ชายบาเรอ’ ตรงหน้ากลายเป็ นเนื้อบด
ไป
“แค่ดูกร็ ู ้วา่ เจ้าคือคนที่มาใหม่ ไม่รู้เรื่ องอะไรละสิ ?” คุณชายใหญ่เฉา
กระซิบอย่างมีลบั ลมคมนัย พลางทาท่าทางบุย้ ใบ้ไปทางตาหนัก
หย่งหนิงกง “อย่าได้คิดว่าด้วยรู ปลักษณ์ภายนอกของเจ้าจะทาให้มีที่
ถือดีได้เป็ นพิเศษ ตอนนี้เจ้าปี ศาจจิ้งจอกนัน่ ทาให้ฝ่าบาทหลงใหล
จนหัวปักหัวปาไปแล้ว ไม่มีทางจะเปลี่ยนรสนิยมได้ง่ายๆหรอก!”
ที่จริ งองครักษ์ลบั ของจีเฉวียนคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของนาง
อยูต่ ลอด
เรื่ องที่สองพี่ชายตระกูลตู๋กสู ่ ง ‘ชายบาเรอ’ มาให้นางตั้งมากมาย
พระองค์กท็ รงทราบดีอยูแ่ ล้ว
ฝ่ าบาททรงหรี่ พระเนตรมองดูคุณชายใหญ่เฉาผูน้ ้ ีครู่ หนึ่ง ก็ชกั จะ
ทรงสงสัยในรสนิยมของซิงซิงขึ้นมาบ้างแล้ว
หากโยนคนผูน้ ้ ีเข้าไปกลางฝูงชน คงต้องเสี ยเวลาตามหาอยูค่ รึ่ งค่อน
วันจึงจะเจอ…….นางถูกใจเข้าที่ตรงไหนกัน?
หรื อจะเป็ นเพราะว่าก่อนหน้านี้อยูใ่ กล้ชิดกับพระองค์ที่เป็ น ‘บุุรุ ษ
โฉมงามอันดับหนึ่งในแผ่นดิน’ มากเกิน จนเกิดโรคเอียนความงาม
ขึ้นมาแล้ว?
เหมือนกับพอได้กินเนื้อกินปลาดีๆมากเกินไป ก็ชกั จะรู ้สึกว่านานๆ
ทีได้กินผักป่ าขึ้นมาก็อร่ อยถูกปากอยูเ่ หมือนกัน?
“เฉา…..” ฝ่ าบาททรงพยายามฝื นอดกลั้นความคิดที่จะต่อยเขาให้
ตายไปเสี ยเอาไว้ก่อน เอ่ยเพียงแซ่ของเขาขึ้นมา
“โหย่วเฉียน[1]” คุณชายเฉาประคองมือคานับ “ท่านปู่ ของข้าเป็ น
เศรษฐีของแคว้นเหยียน….”
ฮ่องเต้ “อ้อ”
เช่นนั้นก็ถือว่ามีเหตุผลแล้วว่า ทาไมเจ้างัง่ นี่ถึงได้สามารถรั้งอยูเ่ ป็ น
‘ชายบาเรอ’ ข้างกายนางได้กนั
ซิงซิงจะอย่างไรก็รักเงินทองเป็ นชีวิตจิตใจ หากจะเก็บคนโง่ที่
หน้าตาเหมือนปลาหัวโตแต่มีเงินหนาเอาไว้ขา้ งกายเอาไว้สกั คน
ย่อมเป็ นนิสยั ของนางอยูแ่ ล้ว
“ยังมิได้ทราบเลยว่า ชื่อแซ่ของสหายคือ?” ดวงตาทั้งสองของ
คุณชายใหญ่เฉาเปล่งประกายระยิบอย่างตัดสิ นใจแล้วว่า มิวา่
อย่างไรก็จะต้องจัดการอบรมให้สมบัติลบั ที่ล้ าค่าชิ้นนี้กลายเป็ นชาย
บาเรอที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดให้จงได้
จะต้องจัดการกดเจ้าปี ศาจจิ้งจอกซูเยาผูน้ ้ นั ลงไปให้จมมิด
มิเช่นนั้น ไม่แน่วา่ อีกเพียงไม่นานพวกเขาอาจจะถูกขับออกไปจาก
ตาหนักหย่งหนิงกงก็เป็ นได้
ช่วงหลายวันมานี้ เขาได้ให้คนที่บา้ นเสาะหาบุรุษโฉมงามอยูต่ ลอด
…….เพราะต้องการจะหาบุรุษโฉมงามที่สามารถจะมาประชันความ
งามกับซูเยาได้สกั คน จากนั้นก็ดึงตัวมาเป็ นพรรคพวกของตนเอง
มิวา่ อย่างไรไม่อาจปล่อยให้ซูเยาได้เป็ นคนโปรดอยูแ่ ต่เพียงผูเ้ ดียว
ฮ่องเต้ทรงคิดครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ถึงได้ตรัสว่า “เนี่ยซิง” (คิดถึง
ดวงดาว)
“เนี่ยซิง?” คุณชายใหญ่เฉารู ้สึกประหลาดใจอย่างยิง่ “มีคนใช้แซ่เนี่ย
ด้วยหรื อ?”
ฝ่ าบาท “ใต้หล้ากว้างใหญ่เรื่ องแปลกประหลาดใดๆก็ลว้ นมี”
คุณชายโง่เง่าแต่เงินหนา “ก็จริ งอยูน่ ะ กระทัง่ แซ่พี่ (ตด) ยังมีเลย….”
ฝ่ าบาท “…….”
“สหายแซ่เนี่ย ข้าจะบอกให้เจ้าฟังนะ เส้นทางชายบาเรอนี้มิได้
ง่ายดาย หากว่าไม่มีคนชี้นาอยูเ่ บื้องหน้า เกรงว่าเจ้ายังไม่ทนั ไปถึง
เบื้องพระพักตร์ของฝ่ าบาท ก็คงจะถูกโยนทิ้งออกไปเสี ยก่อนก็ได้
คนที่ฝ่าบาทของพวกเราโยนออกไปนั้น อาจไม่ถึงร้อย แต่กม็ ีหลาย
สิ บแล้วละมั้ง?”
คุณชายเฉารู ้สึกว่าตนเองช่างชาญฉลาดอย่างยิง่ นี่เรี ยกว่าอะไรนะ
ตัดไม้ข่มนาม ขู่ให้กลัวเอาไว้ก่อน
จากนั้นค่อยส่ งพุทราเชื่อมให้ คนก็จะว่าง่ายขึ้นมามิใช่หรื อ?
“เช่นนั้นข้าสมควรจะทาเช่นไรจึงจะดี?” ยากนักที่ฝ่าบาทจะทรงยอม
ร่ วมมือกับคนโง่ที่เงินหนาได้สกั ครั้ง
“สหายแซ่เนี่ย เจ้าถามถูกทางแล้ว!” คุณชายเฉากล่าวอย่างยินดี
ทั้งยังดึงฉลองพระองค์ของจีเฉวียนให้นงั่ ลงที่เก้าอี้ใต้ตน้ ไม้ดว้ ยกัน
จากนั้นก็บอกกล่าวอย่างละเอียดลออว่า “อย่างแรก ฝ่ าบาทของพวก
เรานั้นทรงดูจากใบหน้าเป็ นหลัก! ถึงแม้วา่ รู ปโฉมของเจ้าจะด้อย
กว่าข้าไปสักหน่อย….แต่วา่ ยังโชคดี อย่างไรก็พอจะผ่านด่านไปได้
อยู”่
ฮ่องเต้ทรงอดไม่ได้ที่จะเหลือบพระเนตรมองดูเขาอีกสองครั้ง นี่
พระองค์ทรงอัปลักษณ์ยงิ่ กว่าคนหัวโตเหมือนหัวปลาผูน้ ้ ีจริ งๆหรื อ?
ขนาดหลี่ตา้ ชิงยังดูดีกว่าคนหัวโตเป็ นหัวปลาผูน้ ้ ีเลยด้วยซ้ า!
“คราวนี้ เจ้าจะต้องรู ้จกั สาออย ต้องแกล้งทาเป็ นน่าสงสาร ก้นต้อง
แน่น เอวต้องบาง ต้นขาต้องยาว กล้ามเนื้อเป็ นรู ป ใช่แล้ว เหมือน
อย่างข้าไง”
คุณชายเฉาแหวกเสื้ อผ้าที่หลวมกว้างของตนออกให้ดู
ฝ่ าบาททรงกวาดพระเนตรผ่านแวบหนึ่ง ก็ยงั ทรงรู ้สึกว่าปวดตา
นอกจากไขมันเป็ นชั้นๆแล้ว ก็ไม่ทรงเห็นอะไรทั้งนั้น
“เรื่ องรู ปลักษณ์ภายนอก ข้าเห็นว่าสมควรข้ามไปได้แล้ว” ฝ่ าบาท
ทรงเอ่ยขึ้นมา “ลองบอกเรื่ องอื่นที่เป็ นประโยชน์ออกมาบ้าง”
คุณชายเฉาส่ งสายตาอย่างมีความหมายให้ในทันที “เจ้าต้องให้
สัญญาว่าหากเกิดได้รับความโปรดปรานขึ้นมา ยามอยูเ่ บื้องพระ
พักตร์จะต้องชื่นชมข้าให้มากๆ อย่าได้ปล่อยให้นางผลักไสข้า
ออกไปเด็ดขาด”
“นางไม่มีทางผลักเจ้าออกไปแน่นอน” ฝ่ าบาทตรัสอย่างรับรอง
อืม เราจะถีบเจ้าออกไปอย่างไม่เกรงใจเอง
ประโยคนี้พระองค์ยอ่ มมิได้ตรัสออกไป คุณชายเฉาผูโ้ ง่งมแต่เงิน
หนาพลันรู ้สึกว่าตนเองถูกรางวัลใหญ่เข้าแล้ว
เขายกมือขึ้นมา ป้องลงไปที่ริมพระกรรณของจีเฉวียน กล่าวว่า
“เดี๋ยวพรุ่ งนี้เช้า เจ้าก็จงสวมใส่ เสื้ อผ้าแบบข้า ชิงถวายปรนนิบตั ิสวม
ฉลองพระบาทและฉลองพระองค์ตดั หน้าเจ้าซูเยาผูน้ ้ นั ”
“หลังจากนั้นเล่า?”
“หลังจากนั้นเจ้าก็แกล้งทาตัวน่าสงสารต่อหน้าฝ่ าบาท ทางที่ดีนะเอา
ให้ตายกันหมดบ้าน ไร้หนทางให้กลับ หากถูกขับออกนอกวังไป คง
ต้องอดตายอยูข่ า้ งถนนเป็ นแน่อะไรแบบนั้น!” คนหัวโตพูดต่อไป
“อย่าได้เห็นว่าภายนอกฝ่ าบาททรงสู งส่ งและเย็นชา ที่จริ งแล้วทรง
พระทัยอ่อนมาก”
“เดิมทีขา้ ก็น่าสงสารอยูแ่ ล้ว” จีเฉวียนทรงพยักพระพักตร์ “ข้อนี้ไม่มี
ปัญหาแน่นอน”
ว่าที่ภรรยาที่ทุ่มเทใจไปตั้งมากมายจนเกือบจะหวัน่ ไหวใจอยูแ่ ล้ว
อยูๆ่ ก็บอกว่าไม่เหลือเยือ่ ใยอีกต่อไป แค่น้ ียงั จะไม่น่าสงสารอีก
หรื อ?
“เจ้ามันน่าสงสารมากขนาดนั้นจริ งๆหรื อ?” คนหัวโตทาสี หน้าเห็น
ใจ
ฝ่ าบาท “น่าสงสารมากเลย”
“มีอะไรจะเพิ่มเติมอีกหรื อไม่?”
คนหัวโตเป็ นหัวปลาคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง อยูๆ่ ก็กล่าวอย่างหนักแน่นขึ้นมา
ว่า “ต้องอ่อย! อ่อยให้หนักถึงขนาดที่แม่เจ้าก็ยงั จาไม่ได้ไปเลย!”
ฝ่ าบาท “? ??” พระองค์ไม่เคยทรงทราบมาก่อนเลยว่ารสนิยมของซิ
งซิงนั้นจะจัดจ้านถึงเพียงนี้?
“เช่นไรรึ ?”
คนหัวโตรี บลุกขึ้นในทันที จากนั้นก็เริ่ มสาธิตให้พระองค์
ทอดพระเนตร
เขาถกคอเสื้ อของตนเอง จนเผยลึกไปถึงไขมันหนาๆขาวอวบของ
ตนเอง
จากนั้นก็ถกชายกางเกงขึ้นมาถึงต้นขา ใช้มือลูบขึ้นมาตามเรี ยวขา
จนถึงตัก
ทางหนึ่งลูบไล้ทางหนึ่งก็ปิดเอวไปด้วย มืออีกข้างก็ไต่ไปตามพระ
อังสาของจีเฉวียน “ฝ่ าบาท ผูอ้ ื่นตั้งแต่ได้เห็นพระองค์เป็ นครั้งแรก
ทัว่ ทั้งร่ างก็…..”
เขาพูดยังไม่ทนั จบ จีเฉวียนก็ทรงซัดฝ่ ามือออกไป ตบคนผูน้ ้ นั สลบ
ไปในทันที
ขอโทษที บังคับมือไม่อยูจ่ ริ งๆ พระองค์ทรงขยะแขยงจะแย่แล้ว
คนหัวโตสลบเหมือดจนลงไปกองแน่นิ่งอยูก่ บั พื้นเย็นๆ
ฮ่องเต้จึงทรงถอดเสื้ อผ้าของเขาออกมาเปลี่ยนกับของพระองค์เอง
“เราต้องการหน้ากากใบหนึ่ง ส่ งมาก่อนฟ้าสาง”
ตรัสแล้ว พระองค์กเ็ หลือบพระเนตรไปทางมุมมืด
ได้ยนิ เสี ยงใบไม้ไหววูบครั้งหนึ่ง ก็เห็นเงามืดหลายเงาโผออกไป
——

[1] 有前 (โหย่วเฉียน): แปลว่ามีอนาคต แต่คานี้พอ้ งเสี ยงกับคาว่า


有钱 ที่แปลว่ามีเงินมีทอง

………………………………………….
ไรท์: ตอนแรกนึกว่าเฉวียนเฉวียนจะโดนพี่เฉาฉุด เปลี่ยนเรื่ อง
กลายเป็ นชายได้ชายขึ้นมาเสี ยอีก ที่แท้กจ็ ะซุ่มสอนวิชากัน ใจหาย
วาบเลย เอาละเจ้าค่ะ เฉวียนเฉวียนสาเร็ จวิชาชายงามแล้ว พร้อมลง
สนาม มาดูกนั ว่าหลันหลันจะซื้อไหม
ตอนต่อไป “เขาติดอยูใ่ นกระดานหมาก”
……………………………………………………..
ไรท์: วันนี้ขออนุญาตเปิ ดครัวจีนกันสักหน่อยมื้อนี้เป็ นของหวานจ้า

หยินเอ๋ อทัง(银耳汤/เห็ดหูหนูต๋ ุน)= คือเห็ดหูหนูขาวที่ต๋ ุนใน


น้ าตาลกรวดกับพุทราแดงและเก๋ ากี้ นิยมทานแบบอุ่นร้อน พุทรา
แดงและเก๋ ากี้ถือเป็ นอาหารเสริ มธาตุร้อน ที่เพิม่ ความอบอุ่นให้กบั
ร่ างกาย เพราะทั้งเห็ดหูหนู พุทราแดง และเก๋ ากี้ลว้ น เป็ นของหวาน
เบาๆที่เหมาะกับสาวๆ เป็ นอาหารเสริ มเพื่อความงามตามตาราจีน
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 395 พระองค์ ติดอยู่ในหมาก
กระดาน แต่ป้องกันนางให้อยูภ่ ายนอก
จีเฉวียนทรงก้มพระพักตร์ลงทอดพระเนตรพระองค์เอง เสื้ อผ้าชุดนี้
ทั้งหลวมทั้งบางและก็รุ่ยร่ าย แทบจะเผยทรวงอกออกมาครึ่ งหนึ่ง
สายลมยามค่าคืนพัดเอาความเย็นเข้ามาถึงพระองค์
พระองค์ทรงใส่ พระทัยในรู ปร่ างอยูเ่ สมอ ดังนั้น อย่างน้อยๆย่อม
ต้องไม่ถูกนางรังเกียจอย่างแน่นอน
ทรงแยกห่างจากนางมานานถึงสามเดือนกับอีกห้าวันแล้ว
พระองค์จึงเสด็จมาหานางทั้งกลางดึกเช่นนี้ มาที่ตาหนักหย่งหนิง
กง….มองดูนางแต่ไกล
นางสู งขึ้นแล้ว ยิง่ ทีกย็ งิ่ ดูเป็ นสตรี ข้ ึนมาทุกทีแล้ว
มีอยูห่ ลายครั้ง ที่พระองค์อยากจะโผไปที่เบื้องหน้าของนาง ถึงแม้จะ
เป็ นเพียงการได้ตรัสแค่สองประโยคก็ยงั ดี
แต่พระองค์กต็ อ้ งทรงอดทนเอาไว้ก่อน…….
การปรากฏตัวของฉางซุนซิ่ว มิใช่เรื่ องบังเอิญ……. เบื้องหลังของ
ราชครู ยงั มีตาหนักซิวหลัวเตี้ยนที่มีอานาจมัน่ คง และมีขมุ กาลังที่
แข็งแกร่ ง ซึ่งแม้แต่พระองค์เองก็ยงั ทอดพระเนตรไม่ออก
‘การคืนชีพ’ ของฉางซุนอิง เกรงว่าคงจะเป็ นฝี มือของซิวหลัวเตี้ยนอ
ย่างแน่นนอน
หากว่าปล่อยให้ซิงซิงกับฉางซุนอิงอยูด่ ว้ ยกัน ก็ไม่รู้วา่ จะนาเภทภัย
ใดๆมาให้นางบ้าง
หอกในที่แจ้งยังหลบได้แต่ธนูลบั ยากจะป้องกัน[1] ปล่อยให้นาง
เป็ นฮ่องเต้หญิงอยูใ่ นแคว้นเหยียนยังปลอดภัยกว่ารั้งนางไว้ที่ตา้ โจ
วมาก
ถูกแล้ว…..หลายเดือนมานี้พระองค์กาลังใช้แผนซ้อนแผน ใช้
ประโยชน์จางฉางซุนอิง
ทรง‘โปรดปราน’ตามใจนางจนแทบจะยกขึ้นฟ้า แล้วก็สืบหาบางสิ่ ง
จากตัวนางไปด้วย ขณะเดียวกันก็ทาให้นางกลายเป็ น ‘สนมปี ศาจ’ที่
มีชื่อเสี ยงเน่าเหม็นไปทัว่
เรื่ องที่ซูเม่ยสู ญเสี ยครรภ์จนต้องไปอยูต่ าหนักเย็น และถูกบีบคั้นจน
ต้องแขวนคอตาย ต่างก็เป็ นแค่เรื่ องที่พระองค์กบั ซูเม่ยร่ วมมือกัน
แสดงเท่านั้น
พอซูเม่ย ‘ตาย’ไป พระองค์กอ็ าศัยความเอาแต่ใจของฉางซุนอิง
จัดการล้างวังหลังจนสะอาดสะอ้าน
ทั้งหมดที่พระองค์ทรงทาลงไปทุกวันนี้ ก็เพื่อปูทางในอนาคต
สาหรับพระองค์และนางทั้งสิ้ น
เส้นทางนี้พระองค์ตอ้ งอาศัยความอดทนเข้าไว้
พระองค์ทรงเป็ นผูท้ ี่ร้ายกาจไร้น้ าใจพออยูแ่ ล้ว….
และพระองค์กย็ งั ทรงมีสติรู้ตวั ดี
อาอิงที่แท้จริ งเป็ นสตรี ที่จิตใจดีมีเมตตา……และนางก็ไม่เคยรัก
พระองค์มาก่อนเลย
ความผูกพันระหว่างพระองค์กบั นาง คือพี่ชายและน้องสาว
ไม่มีทางเป็ นความรักใคร่ แบบนั้นไปได้….
คนที่ทาให้ ‘นาง’ ‘คืนชีพ’ขึ้นมาผูน้ ้ นั อาจคิดคานวนเอาไว้ทุกอย่าง
แต่คาดไม่ถึงว่า…..ตอนนั้นในใจของนางเฝ้าครุ่ นคิดถึงคนผูห้ นึ่งอยู่
คนผูน้ ้ นั พระองค์ได้ส่งเขาลงนรกไปเป็ นเพื่อนนางตั้งนานแล้ว
อาอิงหลงรักคนผิด…..จนเป็ นเหตุให้จบสิ้ นทั้งชีวิต
ดังนั้นนับตั้งแต่วนั ที่ ‘ฉางซุนอิง’ กลับมาพบพระองค์เป็ นครั้งแรก
และจุมพิตบาดแผลของพระองค์ จีเฉวียนก็ทรงแน่พระทัยแล้วว่า
…..นางมิใช่นางคนเดิม
แต่พระองค์มิได้ทรงเปิ ดเผยออกไปตั้งแต่แรก ทั้งยังลวงอีกฝ่ าย
ต่อไป ทาให้อีกฝ่ ายเข้าใจผิดว่าอาอิงมีความผูกพันกับพระองค์อย่าง
ลึกล้ าจริ งๆ
หมากตัวเดียว ก็สามารถสร้างผลกระทบไปทัว่ ทั้งกระดาน และ
แม้แต่คนที่เดินหมากผูน้ ้ นั ก็จะต้องถูกกระชากออกมาด้วย
ความลับที่ซ่อนอยูใ่ นนั้น จะต้องเป็ นเรื่ องที่แม้แต่กระทัง่ ฉางซุนซิ่
วเองก็ไม่รู้มาก่อน
เบื้องหลังทั้งหมดนี้ อาจเป็ น ‘สานัก’ ที่ตาหนักซิวหลัวเตี้ยนทุ่มเท
ความคิดและจิตใจเพื่อสร้างขึ้นมา
พระองค์อาจจะทรงติดอยูใ่ นหมากกระดาน แต่จะต้องป้องกันนาง
ให้อยูภ่ ายนอก……รอให้พระองค์ทรงสะสางทุกอย่างเรี ยบร้อบแล้ว
จะต้องทรงอธิบายให้นางฟังอย่างชัดเจนอย่างแน่นอน
ทุกสิ่ งในยามนี้ ให้พระองค์ทรงเสี่ ยงเพียงลาพังก็พอ
……………………………………
เดี๋ยวนี้ต๋ ูกูซิงหลันคุน้ เคยกับการตื่นนอนแต่เช้าเพื่อออกว่าราชการ
แล้ว
ทุกๆวันพอฟ้าสางนางก็จะลุกขึ้นจากเตียง พอลืมตาอย่าง
สะลึมสะลือ ก็สะบัดผ้าห่มออกไปตามความเคยชิน พึ่งจะยืน่ เท้าลง
ไป ข้อเท้าก็ถูกคนคว้าเอาไว้
หืม ไม่ใช่ความอบอุ่นแบบที่คุน้ เคย?
นางลืมตาขึ้นมา ก็เห็นว่าเบื้องหน้ามีคนผูห้ นึ่งคุกเข่าอยู่
เขาสวมใส่ ถุงมือผ้าไหม ในมือกุมข้อเท้าของนางเอาไว้
เขาสวมใส่ เสื้ อผ้าเนื้อบางที่หลวมและรุ่ ยร่ าย เผยให้เห็นทรวงอก
เกือบครึ่ งหนึ่ง
เนื่องเพราะเสื้ อผ้าหลวมกว้างจนเกินไปพอมองจากมุมของนางจึง
สามารถมองเห็นไปถึงองค์เอวที่ผอมบาง และผิวพรรณสี เดียวกับ
ข้าวสาลียงิ่ ทาให้เกิดเป็ นความงามพร้อมจนไม่อาจเปรี ยบเปรย
ตู๋กซู ิงหลันชะงักไปครู่ หนึ่ง ความง่วงงุนหายไปกว่าครึ่ ง
ยามนี้นางถึงได้มาพิจารณาดูบุรุษที่คุกเข่าข้างหนึ่งตรงหน้า
เขาสวมหน้ากากเอาไว้ใบหนึ่ง หน้ากากใบนี้ออกจะจริ งจังเกินไป
แล้ว เพราะแม้แต่ดวงตาก็ยงั ไม่ให้เห็น ได้แต่มองดูลูกกระเดือกของ
เขาเท่านั้น
ตู๋กซู ิงหลันจึงยิง่ ประหลาดใจกว่าเดิม คนที่มาปรนนิบตั ินางในวัง
ต่างก็อยากจะให้นางเห็นหน้าค่าตาอยูต่ ลอดทุกๆวันด้วยกันทั้งนั้น
เรื่ องอะไรจะต้องมาปิ ดหน้าปิ ดตาไปเพื่ออะไร?
นี่เป็ นวิธีดึงดูดความสนใจแบบใหม่หรื อ?
ปิ ดบังแต่กลับเชื้อเชิญ?
นางหรี่ ดวงตาลง มองดูเส้นผมที่ปล่อยสยายของเขา มองดูเรื อนร่ าง
ผอมแต่ก็มิได้ซูบซีด ชัว่ ขณะนั้นอยูๆ่ นางรู ้สึกว่ามีความคุน้ เคย
บางอย่าง
นางชะโงกตัวไปข้างหน้า พลางยืน่ มือออกไปช้าๆคิดจะปลด
หน้ากากของเขาลงมา
กลับกลายเป็ นว่าเขาเอนร่ างท่อนบนไปทางด้านหลังเล็กน้อย ค่อย
เอ่ยกับนางขึ้นมาว่า “ฝ่ าบาททรงมีพระวรกายสู งส่ ง ข้าเป็ นเพียงคน
หยาบกระด้าง ไม่เหมาะสมที่จะได้รับสัมผัสจากพระองค์”
——

[1] 明枪易躲暗箭难防 อันตรายที่เห็นชัดยังป้องกันได้


ง่ายกว่าการลอบทาร้าย
……………………………
ตอนต่อไป “กล้ามาทาการละเล่นเช่นนี้กบั เรา?”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 396 กล้ามาทาการละเล่นเช่ นนีก้ บั
เรา?
กล่าวจบแล้วจีเฉวียนก็ทรงเงียบงันไปครู่ หนึ่ง
พระองค์กม้ พระเศียรลง หลบหนีสายตาของนาง พระหัตถ์ที่กุม
ชายเสื้ อมุมหนึ่งเอาไว้กช็ กั จะสงบนิ่งไม่อยูแ่ ล้ว
“หืม?” ริ มฝี ปากสี แดงฉ่ าของตู๋กูซิงหลันโค้งตัวน้อยๆ ดวงตาดอก
ท้อเป็ นประกายขึ้นมา “ไม่ได้หรื อ?”

“ฝ่ าบาท~” จีเฉวียนทรงครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่งก็ดึงสาบเสื้ อมุมหนึ่ง


ออกเผยให้เห็นเอวสอบ สิ่ งที่กระจ่าง
อยูภ่ ายใต้แสงเทียนนั้นเป็ นมัดกล้ามที่แข็งแรงสวยงามดึงดูดผูค้ น
เขาถอนใจยาวครางเสี ยงอ่อยเอื่อยที่มีเสน่ห์จนทาให้คนต้องจิตใจ
เตลิดเปิ ดเปิ ง
ทางหนึ่งดึงทึ้งเสื้ อผ้า อีกทางก็ขยับเข้าไปใกล้ต๋ ูกซู ิงหลันอีกนิด
เสื้ อผ้ารุ่ ยร่ ายออกมา เผยช่วงหัวไหล่หนากว้างออกมากว่าครึ่ ง
ชายเสื้ อถูกขยุม้ ม้วนเอาไว้ เป็ นปมปมหนึ่ง
จากนั้นก็เห็นพระองค์ใช้หวั ไหล่สมั ผัสกับเรี ยวแขนของตู๋กซู ิงหลัน
เพียงเบาๆ “เป็ นเพราะรู ปร่ างของข้าไม่ดีพอหรื อไร? ไม่ดึงดูด
พระทัยฝ่ าบาทบ้างหรื อ…..ถึงได้ทรงอยากจะทอดพระเนตรใบหน้า
ที่หยาบกระด้างนี้?”
พอตู๋กซู ิงหลันถูกสัมผัสก็รู้สึกขนลุกซู่ข้ ึนมาในทันที
นางอดที่จะรู ้สึกหนาวขึ้นมาไม่ได้ ความหนาวเย็นชนิดหนึ่งกาจาย
ออกมาจากแก่นกระดูก
นางถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ดวงตาดอกท้อมีประกายของความแตกตื่น
บุรุษที่ขายเรื อนร่ าง!
ทั้งยังเป็ นพวกชั้นยอด!
“ฝ่ าบาท คุณค่าของบุรุษอยูท่ ี่เรื อนร่ าง มิใช่ใบหน้า อย่างว่าแต่พอดับ
เทียนแล้วก็เหมือนๆกันทั้งนั้น ใบหน้านี้ยอ่ มไม่จาเป็ นต้อง
ทอดพระเนตรแล้วกระมัง? รู ปร่ างของข้านับว่ากระชับแน่นอยูบ่ า้ ง
หากไม่ทรงเชื่อก็ลองสัมผัสดูสิพะยะค่ะ”
พระองค์ไม่เพียงแต่ทาตามเคล็ดลับที่ได้รับถ่ายทอดมาจากบุรุษหัว
โตผูน้ ้ นั แต่ยงั เสริ มเน้นไปอีกขั้น
ตอนนี้เรี ยกว่าแทบจะแนบร่ างติดไปกับตู๋กซู ิงหลันแล้ว
พระวรกายของจีเฉวียนจะอย่างไรก็ยงั คงเย็นฉ่ า เปี่ ยมไปด้วยกลิ่น
อายที่เหน็บหนาวอยูเ่ ช่นนั้น
พอทรงเข้าใกล้ ก็ทาให้รู้สึกได้ถึงลมหายใจเย็นๆที่พวยพุง่ ออกมา
ตู๋กูซิงหลันขมวดคิ้วแนบแน่น ครั้งนี้นางไม่ได้ถอยห่างออกไปแล้ว
สายตาของนางเป็ นประกายเย็นชาวาวโรจน์ข้ ึนมา ฝ่ ามือข้างหนึ่งซัด
ลงไปบนทรวงอกของเขา
พอผลักไปทางแท่นบรรทม ก็ทาให้จีเฉวียนทรงล้มลงไปบนเตียง
อย่างพอดิบพอดี
ทรงทิ้งพระองค์หนักๆลงไปบนเตียง เสื้ อผ้าและเส้นผมกระจายอยู่
บนฟูก กระดูกไหปลาร้าทั้งสองข้างเผยออกมาอย่างไร้การปิ ดบัง
ดวงพักตร์ที่สวมใส่ หน้ากากเอาไว้หนั ไปข้างหนึ่ง พระองค์ทอด
ถอนลมหายใจออกมาเบาๆ “ฝ่ าบาท พระองค์มีเรี่ ยวแรงมากจริ งๆ”
ฝ่ ามือนี้ ตู๋กซู ิงหลันมิได้ใช้เรี่ ยวแรงมากสักเท่าไหร่ แต่วา่ จีเฉวียนก็
ยังทรงรู ้สึกได้ถึงขุมพลังหลากหลายที่ผสมผสานอยูใ่ นนั้น
แค่ผา่ นไปเพียงไม่กี่เดือน นางก็เปลี่ยนเป็ นแข็งแกร่ งขึ้นมาก
ตู๋กซู ิงหลันยืนอยูข่ า้ งฟูกที่นอน หลุบตาลงก้มศีรษะลงไป ขนตาที่
งามงอนทาทาบจนเกิดเป็ นเงา
ฮ่องเต้หญิงผูส้ ู งส่ งยืนค้ าอยูเ่ หนือบุรุษที่นอนทอดกายอยูบ่ นฟูก
นางมิได้สนใจต่อท่าทางที่อ่อนระทวยของเขา ขณะที่เขากาลังจะลุก
ขึ้นมา นางก็ยกขาขึ้นมาเหยียบลงไปอย่างแรง
ฝ่ าเท้านี้เหยียบลงไปกลางอกของเขา รองพระบาทปั กลายบุปผาสี
แดงเพลิงขยี้อยูบ่ นผิวพรรณของเขา
หัวรองเท้าปักเป็ นดอกเซาเหยา[1]สี ทองดอกหนึ่ง พอปลายเท้าของ
นางสะกิดเบาๆก็ปัดเสื้ อผ้าของเขาจนแหวกออก
ดวงตาดอกท้อคู่น้ นั สารวจดูอย่างละเอียดละออ นับตั้งแต่ช่วงหน้า
ท้องไล่เลียงขึ้นไปเรื่ อยๆ
สุ ดท้ายก็ไปหยุดอยูท่ ี่บริ เวณลาคอของเขา ทันทีที่ได้เห็นรอย
แผลเป็ นจางๆรอยหนึ่ง ดวงตาดอกท้อคู่น้ นั ก็สาดประกายเย็นยะ
เยือกออกมาในทันที
จีเฉวียนหันพระพักตร์ไปด้านข้าง ได้แต่ปรายพระเนตรเหลือบดูแวว
ตาที่เย็นชาของนาง
ถึงตอนนี้พระองค์จึงได้เข้าพระทัยว่า …..ที่ผา่ นมานั้นไทเฮาน้อย
แห่งต้าโจวได้อดทนปิ ดกั้นตนเองมามากเท่าไร
นางในตอนนี้ ดุดนั เย็นชา ราวกับพายุหิมะที่กดทับลงมาจนทาให้
ผูค้ นแทบจะหายใจไม่ออก
จีเฉวียนทรงชะงักไปอยูบ่ า้ ง ทรงเห็นว่าฝ่ าเท้าของนางมิได้ขยับไป
ไหนแม้แต่นิดเดียว ทั้งยังโน้มร่ างลงมาเล็กน้อย แทบจะถ่ายเท
น้ าหนักทั้งร่ างลงมายังพระองค์
นางยืน่ มือออกมา ปลายนิ้วขยับน้อยๆ สัมผัสลงไปบนพระหนุ
(คาง)
“กล้ามาทาการละเล่นเช่นนี้กบั เรา?” ริ มฝี ปากสี แดงฉ่ าของนางเอ่ย
ออกมาอย่างเย็นชาที่สุด ปลายนิ้วของนางเลื่อนลงไป ปลายเล็บที่
แหลมคมไล้ผา่ นลูกกระเดือก แทบจะแทรกลงไปใต้ผวิ เนื้อ นางเอ่ย
ออกมาอย่างเย็นชาคาหนึ่ง “เจ้าช่างกล้าดี”
จีเฉวียนถูกนางกดเอาไว้ ตัวของนางเบามาก แต่วา่ กลับมีเรี่ ยวแรง
มหาศาล แทบจะทับลงมาบนพระองค์ท้ งั ตัว
อืม และยังรู ้จกั เลือกจุดที่จะเหยียบ
นางเหยียบลงมาบนปอด ทาเอาคนแทบจะหายใจไม่ออก ทั้งยังกด
กระดูกเอาไว้ จนเจ็บลึกลงไปจริ งๆแล้ว
คาว่า ‘เรา’ ที่เอ่ยออกมาตรงหน้านี้ พอออกจากปากของนาง ทาให้
รู ้สึกถึงความหยิง่ ผยองอย่างอธิบายไม่ถูก
จีเฉวียนชะงักไปชัว่ ครู่ ทรงขยับปลายดัชนีนอ้ ยๆ เอ่ยกับนางว่า
“หรื อเพราะว่าข้าเผลอทาอะไรลงไป ที่ทาให้ฝ่าบาทไม่สบพระทัย?”
ดูเหมือนว่านางจะไม่ชอบพระองค์อย่างยิง่
“เฮอะ” ตู๋กซู ิงหลันส่ งเสี ยงหัวเราะอย่างเย็นชาออกมาคาหนึ่ง ปลาย
เล็บยังคงสะกิดลงไปบนรอยแผลเป็ นที่อยูบ่ นพระศอ
ปลายเล็บของนางสะกิดเป็ นวงกลม แทบจะคว้านลงไปในผิวหนัง
ของพระองค์ จากนั้นก็กระซิบเบาๆลงไปที่ขา้ งพระกรรณ “รู ้หรื อไม่
ว่าเราชิงชังสิ่ งใดมากที่สุด?”
“สิ่ งสกปรก”
แค่สามคา ทาเอาจีเฉวียนทรงสะท้านจนร่ างแข็งไป
หมายถึงพระองค์หรอกหรื อ?
“สิ่ งของของข้า ผูอ้ ื่นกลับมาเลียไปคาหนึ่ง แล้วยังจะให้ขา้ ต้องกลืน
ลงไป เจ้าว่ามันน่าสะอิดสะเอียนหรื อไม่?”
นางสะกิดลงไปบนรอยแผลเป็ น เอ่ยด้วยน้ าเสี ยงเย็นชาสุ ดหยัง่
ที่แท้กพ็ ดู ถึงพระองค์จริ งๆ
‘สิ่ งของของข้า’?
นัน่ หมายถึงพระองค์ใช่ไหม?
หากว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดเรื่ องเช่นนั้นขึ้น …..หรื อว่านางเตรี ยมจะ
ยอมรับพระองค์แล้ว
พระทัยของจีเฉวียนตื่นเต้นอย่างครึ กโครม ความรู ้สึกที่หลากหลาย
ประดังประดาขึ้นมาอย่างพร้อมเพรี ยงกัน
พระองค์ท้ งั ตื่นตะลึง ทั้งประหลาดพระทัย ทั้งยินดี และปวดร้าว
ความรู ้สึกมากมายปะปนกันจนสับสนปนเปไปหมด ยิง่ ทาให้
พระองค์ทรงชะงักค้างไปทัว่ ทั้งร่ าง
ในขณะที่ทรงพระทัยลอยอยูน่ ้ นั หน้ากากบนใบหน้าก็ถูกถอด
ออกไป
ในยามนั้นเองสายลมก็พดั โชยเข้ามา เป่ าผ้าม่านให้พลิ้วขึ้นไป ค่อย
หล่นลงมาบังพระพักตร์เอาไว้อย่างพอดิบพอดี
เผยให้เห็นแต่เพียงแค่แววพระเนตรเท่านั้น
ถึงจะมีผา้ โปร่ งบางเบาสี แดงมากั้น แต่กท็ าให้เห็นโฉมหน้าของบุรุษ
ที่งดงามราวภาพแกะสลักได้อย่างชัดเจน
จีเฉวียนหันพระพักตร์ไปยังด้านข้าง ยกพระหัตถ์ขา้ งหนึ่งขึ้นมาบัง
เอาไว้
พระหัตถ์พ่ งึ จะขวางเอาไว้ ข้อพระกรก็ถูกตู๋กซู ิงหลันคว้าเอาไว้อย่าง
แน่นหนา
มือของนางผอมบาง ไม่อาจกาข้อพระกรได้รอบเสี ยด้วยซ้ า แต่วา่
กลับมีพละกาลังมากมาย
จับพระองค์เอาไว้อย่างแน่นหนา จนพระองค์ไม่มีโอกาสที่จะ
หลบหนีไปได้
มืออีกข้างก็เลื่อนขึ้นมาปัดผ้าโปร่ งสี แดงผืนนั้นออกไป
ภายใต้แสงเทียนอ่อนจาง ดวงหน้านั้นก็ถูกเปิ ดเผยออกมาตู๋กซู ิ งหลัน
ขมวดหัวคิ้วแน่น…..ไม่ใช่เขาหรื อ?
นี่เป็ นยอดบุรุษที่งดงามมากผูห้ นึ่ง งดงามถึงขนาดที่วา่ แม้แต่เส้นคิ้ว
และขนตาก็ยงั คมคายงดงามและชัดเจน ราวกับดวงจันทราที่กระจ่าง
อยูท่ ่ามกลางสายลม ทั้งๆที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็ นดวงหน้าละมุน
ที่แสนจะอ่อนโยน แต่วา่ กลับให้ความรู ้สึกที่เย็นชาจนหนาวเหน็บ
ออกมา
ราวกับว่าป่ ายปี นขึ้นมาจากขุมนรกที่เย็นยะเยือกสุ ดหยัง่
หน้าตากับบรรยากาศที่ออกมาจากตัวเขาช่างตรงข้ามกันอย่าง
สิ้ นเชิง!
นางคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ คิดจะสัมผัสถึงไอหยางจากร่ างกายของ
เขา
แต่วา่ กลับไม่รู้สึกถึงเลยสักนิด
นี่มนั เรื่ องอะไรกัน?
นางจับจ้องไล่เรี ยงเขาด้วยสายตาเย็นชา พยายามจะขุดหาตาหนิจาก
ใบหน้านี้ออกมาให้ได้
ดวงตาของเขาดาขลับ และลึกล้ า คล้ายดัง่ ไม่อาจมองเห็นก้นบึ้งทั้งยัง
ทาให้คนเหน็บหนาวไปจนถึงกระดูก
“คิดไม่ถึงว่าฝ่ าบาท….จะทรงโปรดข้ามากถึงขนาดนี้” พระองค์
ยังคงนอนทอดกาย มองดูนางอยูเ่ ช่นนั้น
ระยะห่างระหว่างทั้งสองน้อยมาก จนลมหายใจกระทบใส่ ใบหน้า
ของอีกฝ่ าย ในตาหนักบรรทมนี้เงียบเชียบเสี ยจนแม้เข็มตกก็คงจะ
ได้ยนิ
ทาให้ได้ยนิ แม้กระทัง่ เสี ยงพระทัยของพระองค์ที่เต้นดัง ‘ตึก…
ตึก….ตึก….’
ตู๋กซู ิงหลันหรี่ ดวงตามองดูเขา นางยืน่ มือไปหยิกแก้มของเขา
แต่กไ็ ม่สามารถดึงหนังหรื อแผ่นหน้ากากใดๆออกมาได้……
ในที่สุดนางก็ลุกขึ้นยืน กวาดตามองดูเขาใหม่อีกรอบ “เจ้าเป็ นใคร
กันแน่?”
“เนี่ยซิง ชายบาเรอคนใหม่ของฝ่ าบาท”
——

[1] 芍药 (โบตัน๋ )

……………………………………………..
ไรท์: หลันหลัน เขามาเสิ ร์ฟถึงปากแล้ว เรากินก่อนค่อยสอบสวนก็
แล้วกัน ดีไหม?
ตอนต่อไป “เรี ยกเราว่าฮ่องเต้หญิง!”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 397 เรียกเราว่ าฮ่ องเต้ หญิง
จีเฉวียนลุกขึ้นประทับนัง่ พลางจัดแจงเสื้ อผ้าอย่างช้าๆ
ใต้หล้านี้มีวิชาแปลงโฉมอยูช่ นิดหนึ่ง ที่หากมองด้วยตาเปล่าย่อมไม่
อาจแยกแยะได้ และต่อให้ใช้มือสัมผัสก็ตรวจสอบไม่พบ
ช่างบังเอิญ…..ที่พระองค์ทรงเป็ นวิชานี้อยู่
ดังนั้นก่อนมายังตาหนักหย่งหนิงกงจึงได้ทรงตระเตรี ยมพระองค์
เอาไว้ถึงสองขั้น
แต่พระองค์คาดไม่ถึงว่า เมื่อปิ ดบังใบหน้าทั้งหมด จนเหลือแต่เพียง
แค่ลูกกระเดือกแล้ว นางจะยังคงสงสัยในตัวพระองค์ได้อีก
หรื อว่าวิชาแปลงโฉมที่ลึกล้ า เมื่ออยูต่ ่อหน้านางกลับยังเผยพิรุธ
ออกมา
……………….
พระเกศากลุ่มหนึ่งปัดผ่านพระศอ ปิ ดบังรอยแผลเป็ นบนพระศอ
เอาไว้
จีเฉวียนทรงพลาดไปแล้ว……นี่เป็ นบาดแผลที่ได้รับจากการมา
แคว้นเหยียนเมื่อครั้งก่อน บาดแผลลึก ทิ้งเป็ นรอยแผลเป็ นที่จะ
อย่างไรก็ไม่หาย
ตอนนี้พระองค์ถึงได้ทรงคิดได้วา่ ตอนนั้นที่ถูก ‘ฉางซุนอิง’ สัมผัส
ที่ตรงนี้ ….. ได้ทิ้งร่ อยรอยที่ไม่อาจลบล้างเอาไว้ในใจของนาง
นางยังคงโกรธอยู่ เนื่องเพราะห่วงและหวงจึงได้โกรธ
พระทัยของจีเฉวียนสับสนวุน่ วายไปหมดแล้ว
ความรักที่พระองค์มีให้ต๋ ูกูซิงหลัน ไม่ใช่แต่เพียงคาพูดเท่านั้น แต่ยงั
คิดจะปกป้องนาง ปกป้องนางให้ปลอดภัยที่สุด
เส้นทางในอนาคตของพระองค์กบั นาง ให้พระองค์เป็ นผูก้ รุ ยทาง
ขึ้นมาก็พอแล้ว
ก่อนที่จะได้พบกับนาง พระองค์ไม่เคยต้องคานึงถึงผลใดๆที่จะ
ตามมา….
ฮ่องเต้ที่กาเนิดขึ้นมาจากความมืดมิด แต่ไหนแต่ไรย่อมต้องโหดเ**
้้ยมเจ้าเล่ห์อยูแ่ ล้ว
ดังนั้นรอยประทับจูนนั่ พระองค์จึงไม่เคยใส่ พระทัยเลยเสี ยด้วยซ้ า
แต่มิได้ทรงคิดว่านางจะ…
พระองค์มองดูต๋ ูกูซิงหลัน เห็นดวงตาของนางวาวโรจน์ดว้ ยความ
คลางแคลงและขุ่นเคือง
พระองค์เสด็จลงจากแท่นบรรทมตรงไปยังเชิงเทียน เป่ าเทียนดับลง
และยกเชิงเทียนขึ้นมา
ปลายที่แหลมคงของเชิงเทียนกรี ดลงไปบนพระศอในทันที บาดรอย
แผลเป็ นนั้นจนเหวอะหวะอีกครั้ง
แผ่นหนังชิ้นหนึ่งถูกเฉือนออกมา โลหิตสดๆไหลนอง
จากนั้นค่อยหันไปทางตู๋กซู ิงหลัน “ฝ่ าบาททรงชิงชังรอยแผลเป็ น
บนคอของข้า….แผลนั้นต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว”
ขณะที่โลหิตจากพระศอไหลผ่านไหปลาร้าลงไปยังพระอุระ พระ
ขนงของพระองค์กลับไม่ได้ขมวดเลยด้วยซ้ า
เสื้ อผ้าชุดขาวที่หลวมกว้างตัวนั้นถูกย้อมสี ไปแถบใหญ่จนดูบาดตา
“พอมีเนื้อใหม้ข้ ึนมา ก็จะสะอาดแล้ว”
พระองค์จดจ้องไปยังนาง กดความคิดถึงสุ ดพระทัยนั้นลงไป
ตู๋กซู ิงหลันมองดูแผ่นหนังชิ้นใหญ่ในมือของเขา ประกายจากดวงตา
ดอกท้อตื่นตะลึง กระทัง่ ความคุกรุ่ นเมื่อครู่ กส็ งบลง
นางไม่ได้เอ่ยอะไรทั้งสิ้ น
เพียงแต่หนั ร่ างกลับไป หยิบเอาฉลองพระองค์ฮ่องเต้หญิงออกมา
จากตูเ้ สื้ อผ้าในห้องบรรทม จัดการสวมใส่ ดว้ ยตนเอง
ปลายนิ้วขาวสะอาดละเอียดนวลยืน่ ออกมาจากแขนเสื้ อฉลอง
พระองค์สีแดงเล็กน้อย บนเอวที่บอบบางคือเข็มขัดที่ทาจากทองคา
และหยก
จีเฉวียนจับจ้องไปยังนาง ด้วยความต้องการจะช่วยนางสวมเครื่ อง
แต่งตัว
แต่เพราะพระหัตถ์เปรอะเปื้ อนไปด้วยพระโลหิ ต จึงได้แต่ร้ ัง
พระองค์เอาไว้ห่างๆ
ได้แต่ทอดพระเนตรไปเรื่ อยๆ จนพระทัยลอย
นิ้วของนางบอบบางเหมือนดัง่ ต้นหอม ปลายเล็บเคลือบด้วยสี แดง
เข้มของดอกเทียน
สายรัดเอวสี แดงเข้มทาบอยูบ่ นปลายนิ้วมือ ช่างดึงดูดสายตาอย่าง
บอกไม่ถูก
เมื่อสายรัดเส้นบางๆถูกผูกจนเสร็ จเรี ยบร้อย มือของนางถึงได้หยุด
ลง นางถึงได้ปรายตากลับมา ขนตาที่ท้ งั ยาวและหนาของนาง
กระพริ บครั้งหนึ่ง
“ฮ่องเต้สุนขั ”
อยูๆ่ นางก็เอ่ยขึ้นมาคาหนึ่ง
ปฏิกริ ยาที่จีเฉวียนมีออกไปในทันทีก็คือ เสี ยง ‘หื อ’
ทันทีที่สิ้นเสี ยง ก็เห็นนางเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาเป็ นประกายเย็นชา
สุ ดหยัง่
ทั้งเย็นยะเยือกและแหลมคม
“ไม่เล่นละครต่อไปแล้ว?” ปลายนิ้วที่บอบบางของนางพันอยูบ่ น
เกลียวผม พอสายตามองไปยังพระองค์ แส้เส้นหนึ่งก็พงุ่ ออกมาจาก
ข้างเอว
แส้สีแดงฉาน! ที่เข้ากันกับฉลองพระองค์ของนาง
“วิชาแปลงโฉม หรื อมนต์ลวงตา? ตอนที่เรายังเล่นละครเหล่านั้นอยู่
เกรงว่าเจ้ายังเล่นโคลนอยูเ่ ลย!”
แค่ถอ้ ยคาเย็นชาประโยคเดียว ก็ตดั เส้นทางที่จีเฉวียนคิดจะไม่
ยอมรับไปจนหมดสิ้ น
คาก็เรา สองคาก็เรา ช่างเอ่ยได้อย่างคล่องปากนัก
ตาแหน่งฮ่องเต้หญิงนี้ พอได้เป็ นถึงได้รู้วา่ ช่างสุ ขสบายกว่าไทเฮา
น้อยมากนัก
แววพระเนตรของจีเฉวียนเปี่ ยมไปด้วยความประหลาดพระทัย
นางสวมใส่ ชุดแดงทั้งร่ าง เส้นผมดายาวดุจน้ าตก กระทัง่ แสงเทียนที่
อ่อนโยนก็ยงั ไม่อาจกลบเกลื่อนราศีอนั องอาจของนางลงไปได้
หากเปรี ยบเทียบกับไทเฮาน้อยที่สามารถประจบประแจงได้อย่าง
คล่องแคล่วแล้วราวกับว่าเป็ นคนละคนกันเลยทีเดียว
นี่จึงจะเป็ น…..ตัวจริ งของนาง
งดงามบาดตา มอมเมาผูค้ น!
ตู๋กซู ิงหลันถือแส้หนังเอาไว้ในมือ พอเกิดเสี ยงตวัดออกไปครั้งหนึ่ง
แส้กพ็ งุ่ ใปยังพระหัตถ์ของจีเฉวียน
เชิงเทียนในมือถูกกระชากออกไป น้ าตาเทียนสาดลงไปบนพื้น
กระจายไปทั้งแถบ
“ตระเตรี ยมมาถึงสองชั้น แต่กย็ งั ไม่อาจลวงเจ้าได้” จีเฉวียนถึงกับ
พระสรวลออกมา “ซิงซิง ในใจของเจ้ามีเราอยู่ เป็ นยอดดวงใจ”
ตู๋กซู ิงหลันสะบัดแส้ออกไปในทันที ปลายแส้ตวัดลงไปบนแผ่น
หลังของพระองค์ เรี ยกโลหิตออกมาแถบหนึ่ง
“คนตอแหล หุบปากเสี ย!”
ที่เขาว่ากันว่า ลมปากบุรุษลวงหลอกได้กระทัง่ ผีสาง!
ก็คือคนอย่างจีเฉวียนนี่ไง!
ตอนนี้พอตู๋กซู ิงหลันเห็นเขา ในหัวก็มีแต่ภาพยามที่เขากับฉางซุน
อิง……
เกือบไปแล้ว อีกนิดเดียวนางก็จะทาตามความรู ้สึก ยอมอยูร่ ่ วมกับ
เขาโดยไม่สนใจอาการเจ็บหัวใจที่ปวดจนเกือบถึงตายนั้นแล้ว
ได้เห็นธาตุแท้แต่แรกก็ถือว่าดีเหมือนกัน
จีเฉวียนถูกแส้ของนางโบยตรงๆ พระองค์มิเพียงไม่หลบแต่ยงั ไม่ส่ง
เสี ยง เอาแต่ยอมรับเอาไว้
พระองค์อา้ พระโอษฐ์ข้ ึนมา แต่กไ็ ม่รู้วา่ จะอธิบายให้นางฟังอย่างไร
ดี
ทรงยืนอยูท่ ี่เดิม บนหน้าผากมีแต่เหงื่อบางๆชั้นหนึ่ง
ในแส้ของนางแฝงเอาไว้ดว้ ยพลังจิตและพลังของไอหยิน ทาให้คน
เจ็บปวดสุ ดทนทาน ไม่เพียงแต่เจ็บปวดแต่ยงั ส่ งความเย็นสุ ดขั้วชนิด
หนึ่งแทรกผ่านผิวหนังเข้าไปในเนื้ออีกด้วย
พอพระองค์เงียบ ตู๋กซู ิงหลันก็กระชากแส้กลับไป
นางนัง่ ลงตรงหน้ากระจกทองแดงบานใหญ่ เท้าข้างหนึ่งพาดอยูบ่ น
เก้าอี้ มือข้างหนึ่งเท้าคางเอาไว้ มืออีกข้างกาแส้ สายตาก็มองมาที่จี
เฉวียน
“ส่ งองครักษ์ลบั มาคอยสอดส่ องความเคลื่อนไหวในวังของเรา จับ
ตาดูเราอยูท่ ุกวัน วันนี้กย็ งั วิ่งมาถึงที่นี่แปลงโฉมเป็ นชายบาเรอ เจ้า
คิดจะวางแผนขุดหลุมพรางอันใดกับเราอีก?”
ดวงตาดอกท้อดูน้ นั จดจ้องมายังพระองค์
เมื่อมายังโลกใบนี้ นางได้เปลี่ยนจากความระแวงในตัวจีเฉวียน
กลายเป็ นความไว้เนื้อเชื่อใจ
จากที่สะสมมาทีละนิดๆ ก็กลายเป็ นถูกทาลายลงจนหมด
ตอนนี้จีเฉวียนในสายตาของนาง ก็เป็ นแค่จิ้งจอกเฒ่าที่เห็นหัวไม่
เห็นหาง ในปากไม่เคยมีความจริ งใดๆทั้งนั้น
นับตั้งแต่ที่นางขึ้นครองราชย์มา ลูกเล่นเล็กๆน้อยๆที่จีเฉวียนวาง
เอาไว้ในวังหลวงของแคว้นเหยียน…….นางได้ตรวจสอบอย่าง
ละเอียดหมดแล้ว
เขายังคงทาตัวเป็ นพยัคฆ์ซุ่มคอยจับตาดูจากด้านข้างมาตลอด
“ข้าไม่ได้ขดุ หลุมพราง” ในที่สุดจีเฉวียนก็ยอมอธิบายออกมา
ประโยคหนึ่ง
อ๋ อ…..คราวนี้ไม่เรี ยกตัวเองเป็ นเราแล้วรึ
ที่ผา่ นมาเขาเรี ยกตัวเองเป็ นเราอยูต่ ลอด ทาเอานางเกิความคุน้ เคยอยู่
เหมือนกัน
“ซิงซิง…..” พระองค์ตรัสเรี ยกนาง ชื่อนี้อยากจะเรี ยกไปอีกนับพันๆ
ครั้ง
แต่พอตอนนี้เอ่ยออกมา กลับออกจะอึดอัดอยูบ่ า้ ง
พึ่งจะเอ่ยพระโอษฐ์ ตู๋กซู ิงหลันก็สะบัดแส้ออกมาอีก ฟาดลงไปบน
กระดูกสะบักของพระองค์ จนเกิดแถบโลหิ ตหนาเท่านิ้วโป้งอีกเส้น
ผิวหนังถลอกออกไป โลหิตไหลโชกชุ่ม
“เราไม่ได้สนิทกับเจ้า!”
จากนั้นนางก็ส่งสายตาเย็นชาไปให้เขา “จงเรี ยกเราว่าฮ่องเต้หญิง!”
จีเฉวียน “ทูลฮ่องเต้หญิง พวกเราเคยกอดกัน เคยจูบกัน นับว่าสนิท
สนม”
“หากยังไม่ถือว่าสนิทสนมละก็……ภายหน้ายังสามารถใกล้ชิดขึ้น
ไปได้อีกขั้นหนึ่ง”
จะฟาดก็ฟาดไปเถอะ ต่อให้โดนนางฟาดโบยอีกหลายครั้งก็ยงั ไม่ทา
ให้พระองค์ตายไปได้
ฮ่องเต้ทรงคิดเช่นนี้อยูใ่ นพระทัย
“หน้าไม่อาย!” ตู๋กูซิงหลันยกแส้ข้ ึนมาอีกครั้ง
พอนึกถึงเรื่ องที่ผา่ นมา นางก็รู้สึกว่าสมองของตนเองถูกลาถีบใส่ !
“มือข้างนี้ฟาดจนเมื่อยแล้ว จะเปลี่ยนเป็ นอีกข้างหน่อยไหม?” จี
เฉวียนทรงเตือนนางอย่างใส่ พระทัย
ทั้งๆที่แผ่นหลังยังแสบร้อนจนถึงกระดูกอยูแ่ ท้ๆ แต่พระองค์กย็ งั
อดทนเอาไว้
ทั้งยังถอดเสื้ อตัวบนที่หลวมกว้างออกมาจนเกลี้ยงเกลา
เผยให้เห็นเรื อนร่ างที่เปี่ ยมไปด้วยกล้ามเนื้อ ผิวพรรณสี ขา้ วสาลี
ยิง่ กระะจ่างตา แผ่นอกและหน้าท้องที่มีแต่กล้ามเนื้อที่สมบูณณ์
ชัดเจนทั้งแปดส่ วนกลับเปรอะเปื้ อนไปด้วยโลหิต กลายเป็ นความ
งามภายใต้ความโหดเ**้้ยมที่บรรยายไม่ถูก
เจ้าสุ นขั ผูน้ ้ นั ยังคงเอ่ยอีกว่า “ถอดเสื้ อผ้าออกเสี ยเลย เจ้าจะได้ฟาด
ได้ถนัดมือกว่าเดิม”
…………………………………………….
ไรท์ : เอาเข้าไป ก่อนนี้มีท้ งั ผีท้ งั เทพ มีเวทย์มีคาถา ตอนนี้ท้ งั กรี ด
เลือด ทั้งฟาดแส้ มากันครบแล้ว ยัง…..ยังขาดอะไรอีกที่เรื่ องนี้ไม่มี
อ๋ อ สวีท! อย่าว่าแต่รีดเลย ไรท์กใ็ จจะขาดแล้ว
ตอนต่อไป “ตัวร้ายลึก”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 398 ตัวร้ ายลึก
หมัดที่ชกลงไปบนนุ่นนั้นให้ความรู ้สึกเช่นนี้ไง?
ยามนี้ต๋ ูกูซิงหลันก็ได้รู้แล้ว
ฟาดโบยเขาอย่างโหดเ**้้ยมไปรอบหนึ่ง เขายังจะมาถามว่านาง
เจ็บมือบ้างหรื อไม่ นี่มนั น่าเจ็บใจหรื อไม่เล่า?
นางคันมือขึ้นมาแล้ว!
พอฟาดโบยต่อเนื่องกันไปอีกสองแส้ ทรวงอกของเขาก็เพิม่ แถบ
โลหิตขึ้นมาอีกสองรอย
จีเฉวียนทางหนึ่งทนรับเอาไว้ อีกท่านหนึ่งก็ตรัสกับนางว่า “เรื่ อง
พวกนั้น เอาไว้เราจะอธิบายให้เจ้าฟังอย่างละเอียด”
“ทูลฮ่องเต้หญิงซิงซิง ข้ารักเจ้า ตั้งแต่แรกเริ่ มจนถึงตอนนี้กย็ งั ไม่เคย
เปลี่ยน”
ทางหนึ่งก็กอดแสงจันทราในดวงใจ ทางหนึ่งก็มาบอกรักนาง?
ตู๋กูซิงหลันอยากจะหัวเราะแล้ว
พอฟาดไปหลายแส้เข้า นางก็คร้านจะโบยเขาอีกต่อไป สิ้ นเปลือง
พละกาลังเสี ยเปล่า
ในเมื่อพละกาลังสิ้ นเปลืองไปกับกองนุ่น ก็ไม่มีความหมายอะไรอีก
ต่อไป
นางพิงลงไปบนเก้าอี้ เสยเส้นผมสยายลงมาช้าๆ ท่อนขาที่เรี ยวยาว
พาดอยูบ่ นที่เท้าแขนอย่างตามสบาย
ดวงตาจับจ้องไปทางเขาอย่างเย็นชา “อย่าได้เอ่ยเรื่ องไร้สาระ ใต้
หล้านี้คนที่หลงรักข้ามีอยูม่ ากมาย ไม่จาเป็ นจะต้องเป็ นเจ้า”
“แต่วา่ ข้ารักแต่เพียงเจ้าเท่านั้น” ทัว่ ทั้งร่ างของจีเฉวียนมีแต่โลหิ ต ทั้ง
ยังมีแต่บาดแผลเต็มไปหมด ทาให้เขาเหมือนดัง่ ตัวน่าสงสารที่ถูก
รังแกทั้งเป็ น
ในตาหนักบรรทมไม่มีผอู ้ ื่นอยูอ่ ีก ด้วยพละกาลังของเขาย่อม
เหนือกว่านางอย่างเกินพอ
แต่วา่ เขาก็ยงั คงเป็ นเช่นดังแต่ก่อน
ไม่ยอมโต้ตอบใดๆทั้งนั้น
พอได้ฟังแล้ว ตู๋กซู ิงหลันก็หวั เราะออกมาในทันที นางปิ ดปากเบาๆ
ดวงตาดอกท้อที่เย็นชาคู่น้ นั มีแต่ความเย้ยหยัน “เก็บคารักพวกนั้น
ไปเถอะ เราไม่อยากจะฟัง”
ก่อนหน้านั้นเขาก็เป็ นเช่นนี้ คาหวานมีเป็ นชุด
แต่วา่ เขาเคยทาเรื่ องใดให้เห็นจริ งๆบ้างเล่า?
ตู๋กซู ิงหลันจดจาไม่ได้แล้ว……..
วันนั้นตอนที่อยูบ่ นกาแพงเมือง นางเคยให้โอกาสเขาได้อธิบาย
แต่วา่ สุ ดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้พดู อะไร ทั้งยังพาฉางซุนอิงกลับไปต้า
โจวต่อหน้าต่อตาของนาง
ของสกปรก นางทิ้งเสี ยก็เป็ นอันจบ
ตอนนี้ยงั จะให้นางเก็บกลับมาหรื อ? ฝันไปเถอะ
ยามปกติคนอย่างตู๋กซู ิงหลันนั้นย่อมเป็ นคนที่ไร้น้ าใจ พอดีกบั ใคร
ขึ้นมาก็แทบจะยกขึ้นไปให้ถึงสวรรค์เลย
แต่พอมีเรื่ องให้ปวดใจขึ้นมาครั้งหนึ่ง ต่อให้เป็ นสุ สานของบรรพชน
ทั้งสิ บแปดรุ่ นของเจ้าก็จะขุดขึ้นมาให้หมด
และตอนนี้นางก็กาลังเป็ นอย่างหลังนั้นอยู่
……………………….
ที่ดา้ นนอกตาหนักหย่งหนิงกง เหล่า ‘ชายบาเรอ’ที่มีเฉาโหยวเฉี ยว
เป็ นแกนนากาลังแอบมองดูอยูแ่ ต่ไกล
เนื่องเพราะอยูห่ ่างมากจึงฟังได้ไม่ชดั ว่าฮ่องเต้หญิงกับชายบาเรอคน
ใหม่กาลังพูดกันเรื่ องอะไร
เห็นแต่วา่ แต่ละแส้ที่ฟาดออกมานั้นช่างดุเดือดรุ นแรงอย่างยิง่
“คุณชายเฉา……คนที่ท่านหามาครั้งนี้ ช่างทนทายาดดีแท้! กระทัง่
ขนาดนี้แล้วก็ยงั ไม่เปลี่ยนสี หน้า?”
เหล่าพี่นอ้ ยชายบาเรอต่างก็พากันแปลกใจ
ไม่รู้วา่ คนมาใหม่ผนู ้ ้ นั ทาเรื่ องอะไรให้ฝ่าบาททรงขุ่นพระทัย
นับตั้งแต่ที่พวกเขาเข้าวังมา ฝ่ าบาทก็มีแต่ดา้ นที่นุ่มนวลอยูเ่ สมอ
แม้แต่ถอ้ ยคาแรงสักคาก็ยงั ไม่เคยตรัสกับพวกเขา
อย่าว่าแต่จะลุกขึ้นมาทุบตีผคู ้ นเลย
ถึงแม้วา่ พวกเขาจะไม่ได้รับความโปรดปราน แต่วา่ ก็ทรงปฏิบตั ิ
ตอบอย่างดีอยูเ่ สมอ
“พวกเจ้าจะไปเข้าใจอะไร? นี่เรี ยกว่าหยอกเย้า!” คุณชายเฉาที่
เปลี่ยนเป็ นชุดสุ ภาพเรี ยบร้อยแล้วถลึงตาให้คนด้านหลัง
“เจ้าไม่เคยเห็นฝ่ าบาททรงทุบตีพวกเขามาก่อนใช่หรื อไม่? ที่ตบตี
เช่นนี้เรี ยกว่าตีเพราะรัก คนอย่างสหายเนี่ยซิงนั้น ข้าจะบอกให้พวก
เจ้าฟัง ต่อให้เสาะหาจนทัว่ แคว้นเหยียนก็ไม่มีคนที่สองอีกแล้ว”
“พวกเราจะสามารถไปต่อได้อย่างยืนยาวหรื อไม่ ก็ตอ้ งดูที่การ
แสดงออกของสหายเนี่ยซิงแล้ว!”
ทุกคนต่างก็ยอมฟังคาพูดของเฉาโหยวเฉียน
เนื่องเพราะต่อให้พวกเขารวมตัวร่ วมมือกันแล้วก็ยงั ไม่อาจต่อกร
กับซูเยาได้เลย ดังนั้นได้แต่เสาะหาคนที่มีกาลังพอฟัดพอเหวี่ยวกัน
มาแย่งชิงความโปรดปรานแล้ว
คราวนี้ผคู ้ นทั้งหลายต่างก็แอบเอาใจช่วยจีเฉวียนอย่างเงียบๆ
……………..
“เฮอะ เฮอะ เฮอะ” เพียงแค่ครู่ เดียว ก็ได้ยนิ เสี ยงหัวเราะอย่างเย็นชา
ลอยมาจากด้านหลัง
เหล่าหนุ่มน้อยทั้งหลายต่างก็หนั หน้ากลับไปด้วยอาการขนลุกชัน
พอเบือนหน้าไป สิ่ งที่ปรากฏขึ้นในสายตาคือสี แดงเพลิงกลุ่มหนึ่ง
สองมือของเขาซ่อนอยูภ่ ายใต้แขนเสื้ อตัวกว้าง ดวงตาสุ นขั จิ้งจอกคู่
นั้นทั้งเย้ายวนและชัว่ ร้าย
ยามอยูต่ ่อหน้าของตู๋กซู ิงหลัน รอยยิม้ ของเขาอ่อนหวานจนคนแทบ
จะถูกเชื่อมตาย
แต่วา่ เมื่ออยูต่ ่อหน้าเหล่าชายบาเรอ รอยยิม้ ของเขาก็ปรากฎเขี้ยวสี
ขาวยาวๆออกมา
เขี้ยวของซูเยาทั้งขาวสะอาด ยาวและแหลมคมกว่าผูอ้ ื่น หากว่าบน
ศีรษะเพิม่ ใบหูสตั ว์ข้ ึนมาละก็ จะยิง่ ดูเหมือนสุ นขั จิ้งจอกอย่าง
แน่นอน
ตอนนี้ เขาคลี่ยมิ้ ของมารร้ายออกมา ทาเอาเหล่าหนุ่มน้อยทั้งหลาย
ต่างพากันขนหัวลุก
“เหล่าฉากหลังทั้งหลาย ดูท่ายามปกติขา้ จะปล่อยปละละเลยพวกเจ้า
มากไปเสี ยแล้วละมั้ง?”
เหล่าชายบาเรอ “…..” นี่ พวกเขามีชื่อมีแซ่นะ

“คนที่ไม่เชื่องสมควรถูกกินให้เรี ยบ~”เขาหรี่ ดวงตาลงราวกับสตว์


ป่ าที่พร้อมจะล่าเหยือ่
เหล่าชายบาเรอทั้งหลายต่างก็ใจหายวาบ อยูๆ่ ในใจก็เกิดความ
หวาดกลัวขึ้นมา
จากนั้นก็เห็นเจ้าจิ้งจอกผูน้ ้ นั โฉบไปโฉบมาเพียงสองสามแวบก็หาย
ลับไปจากสายตาของพวกเขาพุง่ เข้าไปในตาหนักบรรทม
……………..
ภายในตาหนักบรรทม
จีเฉวียนหอบร่ างที่มีแต่บาดแผล เขยิบเข้าไปหาตู๋กซู ิงหลันอีกสอง
ก้าว
พระองค์เสด็จเข้ามาก้าวหนึ่ง ปากแผลก็ฉีกออกขึ้นไปอีก โลหิ ตไหล
ริ นมากกว่าเดิม
ตอนนี้พระองค์ปรารถนาจะอยูใ่ กล้นางอีกนิด บาดแผลทัว่ ร่ าง
เพียงแค่น้ ียอ่ มไม่อาจขัดขวางไปได้
พอเพิง่ จะขยับเข้าไปใกล้นาง ก็เห็นเงาร่ างสี แดงสายหนึ่งพุง่ เข้ามา
ในตาหนักหย่งหนิงกง
ยามที่ซูเยาบิดร่ างทิ้งเอวเดินเข้ามานั้น ชุดสี แดงบนร่ างพลิ้วไปกับ
สายลม สายตาของเขาไม่ได้เหลือบดูจีเฉวียนเลยแม้แต่นอ้ ย ร่ างสี
แดงโฉบเข้าไปหาตู๋กซู ิงหลันดัง่ โบยบินคิ้วโก่งโค้งดวงตาก็เป็ น
ประกาย
“อาหลัน นี่คือ?”
พอมาถึงข้างกายตู๋กูซิงหลัน เขาถึงได้กวาดสายตามองไปยังจีเฉวียน
ดวงตาจิ้งจอกคู่น้ นั เผยความไม่สบอารมณ์ออกมาเล็กน้อย
ขณะเดียวกันก็ยกมือขึ้นไปลูบปอยผมทัดไว้หลังใบหูให้กบั ตู๋กซู ิงห
ลัน
เขากวาดตาดูรูปโฉมของจีเฉวียนอย่างรวดเร็ ว แต่กก็ ลับจดจาไม่ออก
ตู๋กซู ิงหลันเก็บแส้ภายในมือ เอ่ยเสี ยงราบเรี ยบว่า “ฮ่องเต้สุนขั ข้าง
บ้าน”
ซูเยา “……”
เรี ยกตรงๆถึงเพียงนี้?
พอเขาหันไปมอง ก็เห็นว่าจีเฉวียนเองก็กาลังมองมาเช่นกัน
ดวงเนตรคู่น้ นั อาบไปด้วยหมอกโลหิ ตชั้นหนึ่ง ไอสังหารเข้มข้น
ซูเยาหรี่ ดวงตาลง หันหน้ากลับไป กล่าวกับตู๋กซู ิงหลันว่า “ถึงจะส่ ง
เข้าประตูมา แต่หากไม่ตอ้ งการก็คือไม่ตอ้ งการมิใช่หรื อ?”
“หากโบยไปรอบแล้วยังไม่หายโกรธละก็ เช่นนั้นก็โบยสักสองรอบ
เป็ นอย่างไร?”
ว่าแล้ว เขาก็ปลดแส้ของตนเองให้กบั ตู๋กซู ิงหลัน นัน่ เป็ นแส้ที่ทาจาก
เหล็กกล้า บนแส้ยงั มีหนามเล็กๆมากมาย หากโดนฟาดไปสักรอบ
เกรงว่ากระทัง่ เลือดเนื้อก็คงถูกกระชากออกมจนหมด
ความทรมานเป็ นที่คาดคิดได้
เขายิม้ แย้มอย่างร่ าเริ ง “โบยเสร็ จแล้วก็จบั ขังเอาไว้ พอเจ้านึกขึ้นมา
ได้กส็ งั่ สอนสักรอบหนึ่ง เจ้าฮ่องเต้ผนู ้ ้ ีมิใช่ตวั ดี ทาให้อาหลันขุ่น
เคือง ย่อมต้องจ่ายค่าตอบแทน”
ตู๋กูซิงหลันรับแส้ของเขามา นางเหลือบเห็นแววตาที่ร้ายกาจของเขา
เดิมทีพอเจ้าจิ้งจอกน้อยปรากฏตัว นางยังคิดจะเบามือรักษาน้ าใจ
เอาไว้บา้ ง เพราะว่าอย่างไรเขาก็เคยเป็ น ‘พระสนม’ ของจีเฉวียนมา
ก่อน
ทั้งยังรักอย่างลุ่มลึกจนถึงขั้นยอมกลายเป็ นหวงกุย้ เฟยอยูใ่ นวัง
แต่ตอนนี้พอดูแล้ว เหมือนจะเป็ นว่า รักยิง่ ลึกล้ า ความแค้นก็ยงิ่ หนัก
หนากว่านางเสี ยอีก?
ท่าทางที่สงบเสงี่ยมแต่จริ งๆกลับร้ายลึกเช่นนี้ ทาให้คนเกลียดไม่ลง
จริ งๆ
จีเฉวียนทอดพระเนตรดูซูเยาด้วยแววตาที่เย็นยะเยือกราวกับดาบที่
พร้อมจะเชือดเฉือน
เขาลืมข้อตกลงระหว่างพวกเขาไปแล้วหรื อ?
หากว่าจริ ง…..ก็ถือว่าเป็ นจิ้งจอกใจคดตัวหนึ่ง
โดนฟาดโบยถือว่าเป็ นเรื่ องเล็ก แต่พอเห็นเขาเข้ามาสนิมสนม
ใกล้ชิดกับตู๋กซู ิงหลัน พระทัยของจีเฉวียนกลับเหมือนจะระเบิดออก
พระองค์แย้มสรวลออกมาจางๆ “ซิงซิง ไม่ตอ้ งรู ้สึกสานึกผิดหรอก
เราหนังหนา เนื้อเยอะตีไปก็ไม่ตาย”
ตรัสแล้ว ก็หนั ไปสบตากับซูเยาครั้งหนึ่ง “แต่กลับเป็ นหย่งเฉิ งอ๋ อง
สามีภรรยา ที่มากบอกกับเราว่า บุตรชายของพวกเขาหายสาปสู ญไป
ตอนนี้ดูท่าแล้ว เป็ นเรื่ องโกหกกระมั้ง?”
…………………………
ตอนต่อไป “พี่รองเป็ นอะไรไป?”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 399 พีร่ องเป็ นอะไรไป?
ประเด็นสำคัญมิใช่วำ่ รักษำสัญญำหรื อไม่ หำกแต่เป็ นเรื่ องของหย่ง
เฉิงอ๋ องสำมีภรรยำ
ประโยคเดียวของจีเฉวียน ทำเอำสี หน้ำของซูเยำแปรเปลี่ยนไป
เล็กน้อย
คำข่มขู่เช่นนี้ ไม่วำ่ เป็ นใครก็ลว้ นฟังออก
จีเฉวียนรวบเสื้ อขึ้นมำสวมใส่ อย่ำงไม่รีบร้อน เหลือเพียงท่อนแขน
ครึ่ งหนึ่งอยูน่ อกชำยผ้ำ
ร่ ำงกำยของพระองค์ ให้ซิงซิงได้เห็นเพียงผูเ้ ดียวก็พอแล้ว
พวกลูกน้องที่มีฝีมือต่ำต้อยช่ำงใช้กำรไม่ได้ ไม่อำจรั้งตัวเจ้ำจิ้งจอก
ตัวนี้เอำไว้ ทำให้มนั โผล่มำทำลำยเรื่ องดีๆในตอนนี้
จีเฉวียนหรี่ พระเนตรลง มุมพระโอษฐ์กห็ ยักขึ้นเล็กน้อย สำยพระ
เนตรปรำกฏแววสังหำร “เรำอนุญำตให้เจ้ำเป็ นอิสระ ก็เพรำะจะให้
เจ้ำปกป้องนำง ไม่ใช่ให้เจ้ำมำตำมติดนำง ยึดนำงเอำไว้ เข้ำใจ
หรื อไม่?”
เมื่ออยูต่ ่อหน้ำตู๋กซู ิงหลัน พระองค์กย็ อมเป็ นลูกพลับนิ่มที่จะบีบ
อย่ำงไรก็ได้
แต่เมื่ออยูต่ ่อหน้ำผูอ้ ื่น โดยเฉพำะเมื่อเป็ นเจ้ำจิ้งจอกที่ไม่รู้จกั เชื่อฟัง
แล้ว พระองค์กค็ ือจอมมำร
สำยตำของตู๋กซู ิงหลันสลับสับไปมำระหว่ำงคนทั้งสอง
ยำมเมื่อสำยพระเนตรของจีเฉวียนและสำยตำของซูเยำปะทะกันก็
เกิดประกำยสำยฟ้ำที่แทบจะลุกเป็ นไฟ
รำวกับพ่อไก่สองตัวที่พองขนเข้ำใส่ กนั …….
ไอปี ศำจที่อยูใ่ นร่ ำงของซูเยำคล้ำยจะเก็บเอำไว้ไม่อยูอ่ ีกต่อไป
ตู๋กูซิงหลันวำงแส้ในมือของนำงลงในทันที ล้วงเอำลูกอมเม็ดหนึ่ง
ออกมำจำกในอกเสื้ อ แกะกระดำษหุม้ ได้กย็ ดั เข้ำไปในปำกเขำทันที
นำงไม่ตอ้ งกำรให้คนทั้งสองมำทะเลำะกันที่นี่
หำกว่ำเปลี่ยนเป็ นที่อื่น นำงอำจจะช่วยซูเยำลงมือทุบตีดว้ ยกัน
ยำมเมื่อฝ่ ำมือที่ละเอียดลออและนุ่มนวลส่ งลูกอมหวำนๆเข้ำมำใน
ปำก รสหวำนที่ได้น้ นั แทบจะกำซำบไปถึงหัวใจ
ซูเยำเปลี่ยนเป็ นโอนอ่อนลง ไอปี ศำจกลับเข้ำไปสงบอยูใ่ นร่ ำง เขำ
ยืน่ มือออกมำจับชำยเสื้ อของนำงเอำไว้ ดวงตำจิ้งจอกคู่น้ นั เผยแววตำ
ที่น่ำสงสำรรำวถูกรังแกออกมำ
“อำหลัน เจ้ำยังคงคิดถึงเขำอยูอ่ ีกหรื อ?”
และเพรำะเกรงจะได้ยนิ คำตอบเช่นนั้นจำกนำง เขำจึงชิงเป็ นฝ่ ำย
ยอมโอนอ่อนก่อน “หำกว่ำยังคงคิดถึงอยูบ่ ำ้ งละก็ จะเพิ่มพื้นหลัง
อย่ำงพวกนั้นอีกสักตัวหนึ่งก็ยงั ได้ …..ข้ำไม่ติดใจอะไร ขอเพียงเป็ น
ควำมต้องกำรของเจ้ำ ข้ำก็ทนได้”
จีเฉวียน “……”
เขำทำแก้มปูด ทั้งยังอมลูกอมเอำไว้ เวลำพูดออกมำจึงยิง่ ไม่ชดั สัก
เท่ำไหร่ คล้ำยกับเจ้ำตัวน้อยที่ยงั ไม่หย่ำนม
ซูเยำมีนิสยั ประหลำดอยูอ่ ย่ำงหนึ่ง นัน่ คือชอบกินลูกอม
โดยเฉพำะลูกอมที่ต๋ ูกซู ิงหลันส่ งเข้ำปำกมำให้ พอมีกลิ่นอำยจำก
ปลำยนิ้วของนำงอยู่ ก็ยงิ่ รู ้สึกว่ำหวำนล้ ำไปถึงจิตวิญญำณ
คล้ำยกับว่ำ …..ก่อนหน้ำนี้กเ็ คยมีคนป้อนลูกอมให้เขำกินอยูบ่ ่อยๆ
เช่นกัน
พอผ่ำนไปครู่ หนึ่ง ก็ทำให้คนที่ใจร้อนเช่นเขำค่อยๆสงบลงได้
เขำจับจ้องไปยังตู๋กซู ิงหลัน “ถึงแม้วำ่ ข้ำจะไม่ชอบเขำ แต่วำ่ ขอแค่
ให้เจ้ำชอบ….ก็พอ”
คำพูดนี้กล่ำวออกมำ…รำวกับภรรยำหลวงที่ตอ้ งคัดเลือกเมียน้อย
ให้กบั สำมี
ทั้งใจกว้ำงเป็ นพิเศษ และเข้ำอกเข้ำใจ
แต่หำกเปลี่ยนมุมมองกันสักหน่อย ก็ดูเหมือนเจ้ำดอกบัวขำวที่แสร้ง
ทำตนเป็ นคนดีมำกกว่ำ
แม้แต่ฮ่องเต้เองก็ยงั ทรงคิดไม่ถึงว่ำ สักวันหนึ่งตนเองจะถูกคนเห็น
เป็ นเช่นนี้
ฉำกหลัง?
เฮอะ!
ดอกท้อที่งดงำมเช่นนำง จะช้ำเร็ วเขำย่อมต้องเด็ดลงมำอย่ำง
แน่นอน!
ที่ครั้งนี้ยอมเสี่ ยงอันตรำยปล่อยเจ้ำจิ้งจอกไปตัวหนึ่ง ถือเป็ นควำม
ผิดพลำดของพระองค์เอง
แต่ในสำยตำของตู๋กซู ิงหลัน เจ้ำจิ้งจอกน้อยของตนเอง จะอย่ำงไร
ย่อมดีอยูแ่ ล้ว
นำงนวดขมับ พอกวำดตำออกไป ก็เห็นจีเฉวียนเอ่ยขึ้นว่ำ “ซิงซิง ข้ำ
ก็ชอบกินลูกอม”
ตู๋กูซิงหลัน “ไสหัวไป”
แค่คำเดียว แต่ท้ งั เย็นชำ ทั้งหนักแน่น
ตอนนี้นำงไม่คิดจะต่อควำมกับจีเฉวียน เพียงต้องกำรจะไล่เจ้ำสุ นขั
ตัวนี้ออกไป หำกมองมำกไปก็ปวดหัว
“ไม่ไป” จีเฉวียนส่ ำยศีรษะ “เจ้ำขังข้ำ ทรมำนข้ำเถอะ คุกของแคว้น
เหยียนข้ำคุน้ เคยอยูแ่ ล้ว ถือเสี ยว่ำกลับมำเยีย่ มบ้ำนเก่ำ”
ตอนที่ยงั เยำว์วยั เขำจะอำศัยอยูใ่ นนั้น ถึงจะได้เข้ำไปอีกครั้งก็ไม่
เห็นเป็ นอะไร
ทำงด้ำนแคว้นต้ำโจว อีกหลำยวันพระองค์ค่อยเสด็จกลับไปก็ได้
หลงเซียวย่อมสำมำรถจัดกำรทุกอย่ำงได้เอง
ตู๋กูซิงหลัน “……”
ซูเยำ “……”
ซูเยำเคยคิดว่ำตัวเองเป็ นคนหน้ำหนำพอตัวแล้ว แต่ตอนนี้ท่ำทำงจะ
เป็ นครั้งแรกได้เจอคู่ปรับ
เขำเป็ นสนมอยูใ่ นวังหลังมำนำน เคยเห็นแต่จีเฉวียนทำตัวสู งส่ งไร้
ยำงอำย
ไม่เคยคิดมำก่อนเลยว่ำ เขำจะยอมลดตัวมำโดนฟำดโบยแล้วส่ งเข้ำ
คุก?
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ำ ลูกอมในปำกไม่หวำนซะแล้ว
………
ตอนที่พี่รองเดินเข้ำมำ เขำก็ได้ยนิ คำว่ำ “ขังคุก ฟำดโบย”
เขำก้ำวเข้ำมำแล้ว แต่กอ็ ดไม่ได้ที่จะยั้งเท้ำ แล้วถอยหลังกลับ
เขำเหมือนจะได้ยนิ อะไรที่ไม่สมควรเข้ำแล้ว
น้องเล็กจะเล่นสนุกอะไรนั้นก็ยอ่ มได้อยู่ แต่นี่ชกั จะสนุกจนเกินไป
แล้วหรื อไม่…..
เขำกวำดตำมองไป เห็นบุรุษถึงสองคน?
ตอนนี้นำงเป็ นฮ่องเต้หญิง หำกคิดจะโปรดปรำนบุรุษบำเรอของ
ตนเองอย่ำงไรก็ลว้ นทำได้ท้งั นั้น…..เนื่องเพรำะว่ำคนที่เป็ นฮ่องเต้ก็
มักจะชวนสนมหลำยๆคนมำ ‘สนุก’ ด้วยกันอยูแ่ ล้วมิใช่หรื อ?
ตู๋กจู ุนมิใช่คนที่อยูใ่ นกรอบประเพณี อยูแ่ ล้ว
เรื่ องอื่นนั้นยังไม่ถือเป็ นปัญหำ ที่เขำห่วงใยนั้นก็คือน้องเล็กอำยุนอ้ ย
อยูเ่ ลย ก็เล่นสนุกถึงเพียงนี้แล้ว…..รอจนอำยุเพิ่มมำกขึ้น ร่ ำงกำยจะ
ยังไหวหรื อ?
มีหวังถูกสู บจนกลวงหรื อไม่?
เขำคิดไปคิดมำแล้ว ก็เปลี่ยนใจเป็ นขยับเข้ำไปแอบดูสกั หน่อยดีกว่ำ
จีเฉวียนประทับยืนหันหลังให้กบั เขำ เรื อนร่ ำงเพรี ยวโชลมไปด้วย
โลหิต ตั้งแต่เอวขึ้นไปไม่มีส่วนใดที่เป็ นไขมันส่ วนเกินแม้แต่นอ้ ย
ถึงแม้วำ่ จะชโลมไปด้วยเลือด แต่กย็ งั ทำให้คนเกิดควำมรู ้สึก……….
อยำกจะยึดครองเขำอย่ำงอธิบำยไม่ถูก
กลิ่นโลหิตลอยเข้ำจมูก พุง่ เข้ำไปถึงในสมอง
ทันใดนั้นดวงตำที่ใสกระจ่ำงของเขำ อยูๆ่ ก็เกิดหมอกสี เลือดขึ้นมำ
ชั้นหนึ่ง
ตู๋กจู ุนรู ้สึกว่ำลำคอแห้งผำด เขำจดจ้องเงำหลังของจีเฉวียนอย่ำงใจ
ลอย พลำงเกิดควำมรู ้สึกหิวกระหำยขึ้นมำ
เป็ นควำมรู ้สึกกระหำยเลือด!
กลิ่นโลหิตสดใหม่จำกร่ ำงนั้นโชยเข้ำมำ และถูกสู ดเข้ำไปในอก
แทบจะทันที
เขำขยับเท้ำ ก้ำวยำวๆเข้ำไปข้ำงใน
เดินตรงเข้ำหำจีเฉวียนที่อยูต่ รงหน้ำ
ตู๋กซู ิงหลันคุน้ เคยกับกำรที่พี่รองของตนเองเข้ำมำโดยไม่เคำะประตู
อยูแ่ ล้ว ตอนแรกจึงไม่ทนั ได้สงั เกตถึงควำมผิดปกติ
จีเฉวียนเหลือบพระเนตรมองมำครั้งหนึ่ง ก็เห็นตู๋กเู จวี๋ยมำยืนอยูต่ รง
เบื้องพระพักตร์ ยืน่ ศีรษะเข้ำมำ
ตู๋กเู จวี๋ยรู ปร่ ำงบอบบำง ทั้งยังเตี้ยกว่ำพระองค์หนึ่งดรรชนี ยำมที่ฝ่ำ
บำทกวำดพระเนตรไปก็มองเห็นกระหม่อมของเขำพอดี
“หอมมำกเลย…..”
ทันใดนั้น ตู๋กเู จวี๋ยก็เงยหน้ำขึ้นมำ เผยอริ มฝี ปำก ทั้งยังยิม้ อย่ำงลึกลับ
ชัว่ ร้ำยใส่ จีเฉวียน
“เจ้ำหอมมำกเลยจริ งนะ…..” เขำยืน่ จมูกไปสู ดดมเป็ นกำรใหญ่
ยิง่ พอได้เห็นโลหิตสี แดงมำกมำยทัว่ พระองค์ ก็ยงิ่ กลืนน้ ำลำยอย่ำง
อดใจไม่ไหว แลบลิ้นเลียริ มฝี ปำกไปมำ แววตำมีแต่ควำมกระหำย
ตู๋กเู จวี๋ยขยับเข้ำไปใกล้อีกนิดจนใบหน้ำแทบจะติดกับพระวรกำย
ของจีเฉวียนอยูแ่ ล้ว
จำกนั้นเขำก็ยนื่ ปำกเข้ำไปอย่ำงรวดเร็ ว คิดจะเลียสักคำ
ฮ่องเต้ทรงยกพระหัตถ์ข้ ึนมำยันเอำไว้ในทันที ทรงตะปบจับ
หน้ำผำกของเขำเอำไว้ ผลักออกไปอย่ำงปฏิเสธ
เมื่อมีบทเรี ยนจำกครั้งก่อน
นอกจำกตู๋กซู ิงหลันแล้ว พระองค์ยอ่ มไม่ปล่อยให้ผใู ้ ดมำสัมผัสพระ
วรกำยอีกต่อไป
ต่อให้เป็ นพี่ชำยของนำงก็ไม่ได้!
ตู๋กเู จวี๋ยอำรมณ์เสี ยขึ้นมำในทันที พยำยำมยืน่ ทั้งมือและเท้ำออกไป
จะโผเข้ำไปหำพระองค์
แต่ช่ำงน่ำเสี ยดำยที่มือของเขำกลับสั้นไปกว่ำจีเฉวียนเล็กน้อย จะ
คว้ำอย่ำงไรก็ยงั คว้ำได้ไม่ถึงร่ ำงของพระองค์
เขำหงุดหงิดคลุม้ คลัง่ กว่ำเดิม เพิม่ กำลังทั้งมือและเท้ำ ดวงตำก็
กระเ**้้ยนกระหือกว่ำเก่ำ ปำกก็ส่งเสี ยงพึมพำออกมำว่ำ “เจ้ำหอม
มำกเลย มำให้ขำ้ กินสักคำ!”
คำพูดเช่นนี้ฟังดูแล้วเหมือนจะ…..คลัง่ รักอยูบ่ ำ้ ง
สี หน้ำของตู๋กซู ิงหลันและซูเยำต่ำงก็ทำหน้ำพิกลไปในทันที
ฝ่ ำบำท “เรำไม่หอม เหม็นมำก ไม่ให้เจ้ำกินแน่นอน!”
ชิ………
ตู๋กูซิงหลันทำหน้ำเบ้ไปในทันที
ซูเยำ “อำหลัน ที่แท้แล้วเป้ำหมำยของฮ่องเต้ก็คือพี่ชำยของเจ้ำ”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 400 นางพรายทะเลลึก
แขนเสื้ อที่หลวมกว้ำงปิ ดบังริ มฝี ปำกทั้งสองเอำไว้ เผยให้เห็นแต่
เพียงมุมปำกข้ำงหนึ่งกำลังยกยิม้ อยู่ กระทัง่ ดวงตำจิ้งจอกทั้งคู่น้ นั ก็
ยังเปี่ ยมไปด้วยควำมสงสัย
ลูกอมในปำกยังไม่ทนั ได้กลืนลงไปเลย แต่ร่ำงครึ่ งหนึ่งของเขำก็
เอนเข้ำไปหำตู๋กูซิงหลันแล้ว
ในก้นบึ้งของแววตำมีไอมำรที่ไม่อำจกดเอำไว้กำจำยออกมำจำงๆ
ยำมที่เขำสบโอกำสได้กระซิบลงไปที่ริมหูของตู๋กซู ิงหลัน กระทัง่
ลมหำยใจที่ปล่อยออกมำก็ยงั หวำนหอม
ตู๋กูซิงหลันถูกเขำเป่ ำหูจนรู ้สึกคันยุบยิบอยูบ่ ำ้ ง ซูเยำคงจะเกลียดจี
เฉวียนมำกสิ นะ แต่ควำมร้ำยกำจเช่นนี้กลับถูกใจนำง
“พี่รองถูกคนจับจองเอำไว้แล้ว ไม่มีทำงมีวำสนำกับเขำหรอก” ตู๋กู
ซิงหลันตอบอย่ำงเรี ยบเฉยประโยคหนึ่ง เรี ยวขำยำวๆก้ำวออกไป
จนถึงข้ำงกำยตู๋กูเจวี๋ย
พระหัตถ์ของจีเฉวียนยังคงยันหน้ำผำกของเขำเอำไว้ ผลักออกไปให้
ไกลที่สุด
หำกว่ำคลำยมือออก คนบ้ำผูน้ ้ ีมีหวังต้องพุง่ เข้ำมำกัดพระองค์แน่
ยำมที่ต๋ ูกูซิงหลันมำถึง ตู๋กเู จวี๋ยยังคงยกมือวำดเท้ำอย่ำงบ้ำคลัง่ ทั้ง
เตะทั้งต่อยอย่ำงอุตลุด
นำงกำลังจะยืน่ มือเข้ำไป จีเฉวียนกลับยืน่ พระหัตถ์อีกข้ำงหนึ่งมำกัน
นำงเอำไว้
“อันตรำย อย่ำได้เข้ำมำใกล้”
ทันทีที่ยนื่ พระหัตถ์ขำ้ งนั้นออกมำ ตู๋กเู จวี๋ยก็สบโอกำส เขำเบี่ยง
ศีรษะ อ้ำปำกกัดลงไปคำหนึ่ง
กัดอย่ำงสุ ดชีวิต!
จนสำมำรถกัดเนื้อของจีเฉวียนลงไปได้คำหนึ่งก็ฉีกกระชำกออกมำ
ทั้งเนื้อและหนัง กลืนลงไปพร้อมกับเลือดในทันที
กลิ่นโลหิตยิง่ คลุง้ กระจำยขึ้นมำในอำกำศ
จีเฉวียนทรงอดทนรับเอำไว้ เพียงคำรำมเสี ยงต่ำออกมำคำหนึ่ง
“หอมมำกเลย….” ตู๋กเู จวี๋ยกลืนลงไปคำหนึ่งดวงตำก็เพิ่มพูนควำม
กระหำยเลือดยิง่ กว่ำเดิม
เขำหัวเรำะฮิฮะออกมำ ท่ำทำงประหนึ่งต้องอำคมบำงอย่ำง
กลืนลงไปคำหนึ่งแล้ว เขำก็ยงั พุง่ ศีรษะเข้ำมำจะกินอีกคำหนึ่ง
ตู๋กซู ิงหลันคว้ำหัวไหล่ของเขำเอำไว้ในครำเดียว ยันต์ในมือแผ่น
หนึ่งถูกผนึกลงไปกลำงแผ่นหลังแทรกเข้ำสู่ ร่ำงของเขำอย่ำงรวดเร็ ว
ทันใดนั้นก็เห็นหมอกสี ดำแดงกลุ่มหนึ่งถูกเค้นออกมำจำกกลำง
หน้ำผำกของเขำ
ผ่ำนไปอีกพักใหญ่ หมอกสี เลือดในดวงตำของตู๋กเู จวี๋ยถึงได้
สลำยตัวไป
เขำค่อยมีสติข้ ึนมำบ้ำง พอเห็นว่ำตนเองกำลังคว้ำแขนของบุรุษผู ้
หนึ่งเอำไว้กง็ ุนงงจนตกตะลึงไป
กลิ่นอำยบนร่ ำงของบุรุษผูน้ ้ ีให้ควำมรู ้สึกที่ออกจะคุน้ เคยอยูบ่ ำ้ ง…..
ในปำกมีแต่กลิ่นคำวโลหิต แม้แต่ในลำคอก็ชุ่มไปด้วยเลือดที่เย็นจัด
จนเข้ำกระดูก แต่ไม่รู้วำ่ ทำไม เขำไม่เพียงไม่รู้สึกขยะแขยง…..แต่
กลับรู ้สึกว่ำอยำกจะกินอีกสักหน่อย
ตู๋กเู จวี๋ยนิ่งงันไปเนิ่นนำนอย่ำงไม่รู้วำ่ เกิดอะไรขึ้นกับตนเอง
ตัวเขำมีปัญหำที่เคยชินอย่ำงหนึ่งมำตั้งแต่เล็ก นั้นคือไม่กินเนื้อ
ตอนนั้นที่ถูกชือหลีจบั ขังเอำไว้ในคุกใต้ดินของอำรำมร้ำง ทั้งๆที่หิว
จนเกือบจะอดตำยอยูแ่ ล้วก็ยงั ไม่ยอมกินเนื้อกระต่ำยแม้แต่ครึ่ งคำ
แต่วำ่ ตอนนี้ตนเองกลับกิน…..เนื้อ
เนื้อคนดิบๆ?
บนหน้ำผำกของเขำยังมีไอหมอกสี ดำแดงถูกเค้นออกมำไม่หยุด รอ
จนเขำคืนสติข้ ึนมำเรี ยบร้อยแล้ว เนื้อที่กลืนผ่ำนลำคอลงไปอย่ำง
ไหลลื่นคำนั้นก็ลงไปในกระเพำะแล้ว
พอถึงตอนนี้ควำมรู ้สึกคลื่นไส้อย่ำงรุ นแรงก็ลุกลำมไปทั้วตัว ตู๋กู
เจวี๋ยสะบัดตัวออกจำกจีเฉวียน วิ่งออกไปกอดเสำด้ำนข้ำงโก่งคอ
อำเจียนออกมำ
อำเจียนอยูเ่ ป็ นนำน กลับไม่มีอะไรอะไรออกมำทั้งสิ้ น
แต่กลับเป็ นว่ำมือที่กอดเสำต้นนั้นเอำไว้ กลับมีเกล็ดดำๆงอกเงย
ขึ้นมำ
สี หน้ำของตู๋กซู ิงหลัน จีเฉวียน และซูเยำทั้งสำมเปลี่ยนไปในทันที
ถึงแม้วำ่ เกล็ดบนมือของเขำจะปรำกฏขึ้นมำเพียงชัว่ แวบเดียวเท่ำนั้น
แต่พวกเขำต่ำงก็เห็นมันอย่ำงชัดเจน
ตู๋กเู จวี๋ยมัวแต่วนุ่ วำย จึงไม่ได้รู้สึกอะไรเลยแม้แต่นอ้ ย เขำเอำแต่
อำเจียนจนหน้ำแดงก่ำ กระทัง่ น้ ำตำก็ไหลคลอออกมำอย่ำงน่ำ
สงสำร
เนื้อชิ้นนั้นก็ยงั ไม่ยอมออกมำ
“น้องเล็ก….”
เขำมองดูต๋ ูกซู ิงหลันที่ยนื อยูข่ ำ้ งๆอย่ำงอ่อนแรง จำกนั้นก็ถำม
ออกมำอย่ำงไม่เหลือภำพลักษณ์วำ่ “เจ้ำบอกหน่อยสิ วำ่ นี่ขำ้ ท้อง
แล้วหรื อเปล่ำ?”
ตู๋กซู ิงหลัน “เจ้ำเป็ นบุรุษ ท้องไม่ได้หรอก”
“แต่วำ่ ข้ำเคยเห็นในหนังสื อเรื่ องประหลำดพวกนั้น มีเรื่ องที่บุรุษตั้ง
ท้องอยูด่ ว้ ย…นี่เป็ นเพรำะว่ำข้ำกินอะไรที่ไม่ควรกิน ดื่มอะไรที่ไม่
ควรดื่มลงไปหรื อไม่?” เขำกล่ำวอย่ำงจริ งจัง
จำกนั้นเขำก็เหมือนกับว่ำนึกอะไรขึ้นมำได้ จึงหันไปจ้องมองจี
เฉวียน
“หรื อว่ำเป็ นเพรำะเขำ? ชำยบำเรอคนใหม่ของเจ้ำเป็ นปี ศำจ แบบที่
พอกินเนื้อของเขำเข้ำไปคำหนึ่งก็จะท้องขึ้นมำแบบนั้น!”
จีเฉวียนยังคงอยูใ่ นรู ปโฉมที่ปลอมแปลงขึ้นมำ ตู๋กเู จวี๋ยจึงจดจำ
ไม่ได้
ตู๋กูซิงหลัน “……”
“ไม่มีเรื่ องอะไรเช่นนั้นหรอก”
นำงกล่ำวเสี ยงเข้ม จำกนั้นก็กวำดตำไปเหลือบมองจีเฉวียนที่อยู่
ข้ำงๆแวบหนึ่ง เห็นพระหัตถ์ของพระองค์ยงั คงมีโลหิ ตไหลนองไม่
หยุด บริ เวณที่โดนกัดเนื้อแหว่งไปชิ้นใหญ่
ทั้งๆที่เขำสำมำรถผลักพี่รองออกไปได้แท้ๆ แต่วำ่ กลับไม่ได้ทำ
เช่นนั้น
พี่รองของตนเองนำงย่อมรู ้จกั เขำดี เขำเป็ นประเภทที่ไหล่ไม่อำจ
แบกหำม มือไม่อำจออกแรง อำศัยแต่ริมฝี ปำกเดินอำดๆไปทัว่ หล้ำ
เขำไหนเลยจะมีพละกำลังมำกระโดดกัดแขนของจีเฉวียน ฉี กเอำ
เนื้อไปกินคำหนึ่งได้กนั
พอคิดถึงหมอกสี ดำแดงที่ถูกเค้นออกมำจำกหน้ำผำกของเขำ กับ
เกล็ดสี ดำที่เกิดขึ้นบนหลังมือของเขำชัว่ แวบหนึ่ง
แววตำของตู๋กซู ิงหลันก็มืดครึ้ มลงไปมำกกว่ำเดิม
เกล็ดชิ้นนั้น ไม่ใช่เกล็ดของงู
……………
ทะเลฝำกตะวันตกของแคว้นเหยียน
เนื่องเพรำะช่วงก่อนมีคนสำมำรถจับมนุษย์มจั ฉำจำกทะเลตะวันตก
ได้ ซ้ ำยังขำยออกไปจนได้ทองคำรำคำงำม
นัน่ สำมำรถทำให้คนธรรมดำมีกินมีใช้ไปจนชัว่ ชีวิตเชียวนะ!ใคร
บ้ำงจะไม่อิจฉำจนตำแดงก่ำเล่ำ?
ดังนั้นช่วงนี้ รอบๆบริ เวณทะเลตะวันตกจึงเกิดกระแสจับมนุษย์
มัจฉำขึ้นมำ
ทั้งชำวประมง พ่อค้ำ และกระทัง่ เหล่ำนักพรตต่ำงก็ยกกระบวนกัน
มำ
ทุกส่ วนของมนุษย์มจั ฉำล้วนล้ ำค่ำ แน่นอนว่ำมีประโยชน์มหำศำล
ต่อผูฝ้ ึ กตน ในเมื่อมีโอกำสอันดีเช่นนี้พวกเขำย่อมต้องไม่ยอมปล่อย
ไปโดยง่ำย
ถึงแม้วำ่ จะดึกดื่นค่อนคืนแล้ว บนผิวน้ ำของทะเลตะวันตกก็ยงั คงมี
เรื อหำปลำขนำดใหญ่หลำยสิ บลำลอยอยู่ บนเรื อประมงจุดคบเพลิง
เอำไว้ เรื อล่องลอยไปตำมผิวน้ ำเรื่ อยๆ
ที่จริ งชำวเรื อที่หำปลำในทะเลตะวันตกมีขอ้ ห้ำมที่สืบทอดกันมำข้อ
หนึ่ง
นัน่ คือไม่ออกทะเลหลังอำทิตย์ตกดิน
เพรำะเล่ำขำนกันมำว่ำในทะเลมีนำงพรำย พอถึงยำมค่ำก็จะออกมำ
ล่อลวงเรื อที่ผำ่ นไปพบเข้ำ ผูค้ นที่ผำ่ นเข้ำมำต่ำงก็ไม่อำจต้ำนทำน
ควำมลุ่มหลงต่อนำงพรำย สุ ดท้ำยแล้วคนบนเรื อทั้งลำก็จะต้องจมลง
ไปในทะเล กลำยเป็ นอำหำรของนำงพรำย
แต่เพรำะว่ำตอนนี้เกิดกระแสจับมนุษย์มจั ฉำขึ้นมำอย่ำงร้อนแรง
ผูค้ นจึงไม่สนใจไยดีวำ่ เรื่ องนี้ยงั เป็ นอำถรรพ์อยูห่ รื อไม่
ถึงแม้วำ่ มืดค่ำแล้วก็ยงั ลอยเรื ออยูบ่ นทะเลกันต่อไป
“เหนื่อยยำกกันมำตั้งหลำยวันแล้ว แม้แต่เงำของมนุษย์มจั ฉำสักตนก็
ยังไม่มีให้เห็น ช่ำงอัปโชคเสี ยจริ ง! นี่มนั ควำมซวยอันใดกัน!”
เหน็ดเหนื่อยติดต่อกันมำนำนหลำยวัน มีผคู ้ นที่หงุดหงิดมำกแล้วอยู่
ไม่นอ้ ย
อำกำศกลำงฤดูร้อนในท้องทะเล มีแต่ลมชื้นๆหนักๆอยูต่ ลอด พอ
สู บเข้ำคอไปนำนๆ ก็รู้สึกว่ำเหนอะหนะ ไม่สบำยไปหมด
“จะรี บร้อนไปทำไม แค่จบั ได้สกั ตัวก็จะมีเงินพอใช้ไปทั้งชีวิต นี่มนั
ย่อมต้องใช้ควำมอดทนรอคอยอยูแ่ ล้ว”
บนเรื อมีเสี ยงพึมพำขึ้นมำอย่ำงไม่ขำดสำย แม้เรื อจะโคลงเคลงไปมำ
แต่ทุกลำก็ยงั คงมุ่งหน้ำไปทำงทะเลลึก
ฟังมำว่ำมนุษย์มจั ฉำตัวนั้นถูกจับมำได้ในยำมกลำงดึกเช่นนี้นี่เอง
พอคิดว่ำขอแค่จบั ได้สกั ตัวก็พอแล้ว ผูค้ นต่ำงก็พยำยำมอดทนเอำไว้
มุ่งหน้ำพำยเรื อกันต่อไป
กระทัง่ เสื้ อผ้ำเปี ยกชื้นลีบติดตัว
คลื่นที่มำกระแทกกับเรื อยิง่ รุ นแรงกว่ำเดิม เบื้องหน้ำมีแต่ควำมดำ
มืดอยูต่ ลอด เหมือนกับหลงทำงอยูใ่ นหมอกหนำ ที่เป็ นดังปำกขนำด
ยักษ์ของปี ศำจที่กำลังกลืนกินผูค้ นเข้ำไป
ท่ำมกลำงหมอกทึบนั้น บนก้อนหินสี ดำขนำดใหญ่ที่ลอยอยูเ่ หนือ
น้ ำ มีเงำร่ ำงที่งดงำมร่ ำงหนึ่ง
ทั้งผ่ำยผอม และเหยียดยำว
เงำร่ ำงของคนผูน้ ้ นั นัง่ อยูบ่ นก้อนหิน ดวงตำทั้งสอง มองผ่ำนหมอก
ที่หนำทึบ จับจ้องไปยังเรื อหำปลำที่ยงิ่ ทียงิ่ เข้ำมำใกล้
ครู่ ต่อมำ ก็ได้ยนิ เสี ยงเพลงที่ไพเรำะจับใจลอยออกมำจำกหมอกหนำ
กลุ่มนั้น
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 401 เรื่ องในอดีตของชื อหลี
เสี ยงเพลงนั้นเหมือนกับว่ำจะพลิ้วมำกับสำยลม แต่ในขณะเดียวกัน
ก็เหมือนกับว่ำจะสะท้อนขึ้นมำจำกเกลียวคลื่น ทั้งลึกลับ และดังอยู่
ไกลออกไป
“เป็ นนำงพรำยในทะเลตะวันตก….นำงพรำยกำลังร้องเพลง!”
ผูค้ นบนเรื อประมงต่ำงก็ตื่นเต้นขึ้นมำ ควำมหวำดกลัวขุมหนึ่ง
ครอบคลุมลงไปยังร่ ำงของคนทั้งหลำย
เรื่ องที่ในทะเลตะวันตกมีนำงพรำยร้องเพลงเรี ยกอยูน่ ้ นั …..เป็ นเพียง
เรื่ องเล่ำเท่ำนั้น
หลำยปี มำนี้แทบจะไม่มีผใู ้ ดออกเรื อยำมกลำงคืน ดังนั้นจึงแทบจะ
ลืมเรื่ องเล่ำนี้กนั ไปหมดแล้ว
พวกเขำออกเรื อกันมำตั้งหลำยวันแล้ว ก็ไม่เห็นจะมีอะไรทั้งสิ้ น
ตอนนี้อยูๆ่ ก็บงั เอิญเจอะเจอขึ้นมำจึงเริ่ มบังเกิดควำมหวำดกลัว
สี หน้ำของชำวประมงและพ่อค้ำล้วนยำ่ แย่ เหล่ำนักพรตยังคงสงบ
นิ่งได้มำกกว่ำ พวกเขำสัง่ ให้ผคู ้ นรี บอุดหูเอำไว้ ไม่ตอ้ งไปฟัง
บนโขดหิน เงำร่ ำงที่สวยงำมนั้นแย้มยิม้ มำกกว่ำเดิม
มีผฝู ้ ึ กตนด้วยรึ ? เช่นนั้นก็ยงิ่ ดีนะสิ
หมอกหนำทึบลอยช้ำๆ เสี ยงเพลงที่แสนจะไพเรำะดังสะท้อน
กลับไปกลับมำบนท้องทะเล……
ในเสี ยงเพลงที่ดงั สะท้อนไปทัว่ ท่ำมกลำงควำมมืดของยำมค่ำคืน มี
เสี ยงกรี ดร้องของเลือดเนื้อที่ถูกฉีกกระชำกปะปนอยู่
………………………..
วันรุ่ งขึ้น มีข่ำวลือดังไปทัว่ น่ำนน้ ำของทะเลตะวันตก
เรื อสิ บกว่ำลำที่ออกทะเลไปจับมนุษย์มจั ฉำเมื่อวำนล้วนจบสิ้ นแล้ว
บนเรื อไม่เหลือคนที่มีชีวิตแม้แต่คนเดียว
เมื่อเข้ำใกล้เวลำเย็น มีเรื อเปล่ำๆลอยลำลอยเท้งเต้งกลับมำ
บนเรื อมีแต่เลือดสำดไปทัว่ …..และรอยขีดข่วนอยูเ่ ต็มไปหมด
………………………
ณ ก้นทะเลตะวันตก ในมุมที่มืดมิด มังกรหิ นขนำดใหญ่ตวั หนึ่งขด
เป็ นวงกลม
บนมังกรหินปกคลุมไปด้วยพืชน้ ำและสำหร่ ำย บนนั้นมีเหล่ำกุง้ ปู งู
ทะเลกำลังปี นป่ ำยไปมำอย่ำงขวักไขว่
มังกรหินขนำดใหญ่อำ้ ปำกกว้ำง น้ ำทะเลสำมำรถไหลผ่ำนเข้ำไป อีก
ทั้งภำยในก็ยงั มีแสงสว่ำงเรื องรองออกมำ
ที่นี่คือวังมังกรทะเลตะวันตก หลังจำกบรรพชนแห่งมังกรได้ล่วงลับ
ไป ร่ ำงก็กลำยเป็ นหิน กลำยเป็ นสถำนที่ปกป้องคุม้ ภัยอันแสน
ปลอดภัยให้กบั เหล่ำลูกหลำน
เมื่อผ่ำนเข้ำไปทำงปำกมังกรหิน ก็จะได้พบวังมังกรที่อยูภ่ ำยใน
ภำยในมังกรหิน แต่ละวัง แต่ละตำหนัก ถูกสร้ำงด้วยหินหยกสี เขียว
ที่ส่องประกำยแวววำว
ไข่มุกขำวนวลและอัญมณี มำกมำยถูกประดับเอำไว้บนยอดตำหนัก
ยำมเมื่อกระสบแสงไฟแม้เพียงเล็กน้อยก็จะส่ องประกำยระยิบระยับ
รำวกับแสงดำวพร่ ำงพรำวไปหมด
แมงกระพรุ นสี เงินอมฟ้ำเกำะอยูบ่ นป้ำยด้ำนหน้ำ เรี ยงตัวเป็ นอักษร
‘วังมังกรทะเลตะวันตก’ สี่ ตวั
………………………….
ภำยในตำหนักกลำง บนเสำสี ทองที่แกะสลักอย่ำงงดงำมนั้น มีสตรี
ซึ่งมีร่ำงกำยครึ่ งล่ำงเป็ นงูอยูผ่ หู ้ นึ่ง
นำงก้มหน้ำลง เส้นผมสี แดงที่ยำวสลวยปกคลุมไปทัว่ เรื อนร่ ำง บน
อกของนำงมีตะปูกระดูกแท่งยำวเกือบคืบปั กอยู่ ตะปูกระดูกแทง
ทะลุทรวงอกตรึ งนำงติดเอำไว้กบั เสำสลักสี ทอง
ใบหน้ำของนำงซีดขำว ลมหำยใจรวยริ น
ในตอนนั้นเอง ประตูใหญ่ของวังมังกรก็เปิ ดออก เงำคนสองคนก้ำว
เข้ำมำ
หนึ่งบุรุษ หนึ่งสตรี ทั้งสองสวมใส่ ชุดสี ครำมที่วิจิตรงดงำม เขำ
มังกรบนศีรษะยิง่ ส่ งเสริ มควำมสู งส่ ง
บุรุษผูน้ ้ นั ก็คือรำชำมังกรตะวันตก ลู่กว่ำง สตรี ผนู ้ ้ นั ก็คือรำชินีมงั กร
ตะวันตก หลิ่วฮุ่ย
ยำมที่ท้ งั สองมำถึง ชือหลีกล็ ืมตำขึ้นมำอย่ำงช้ำๆ สำยตำของนำงมี
แต่ควำมชิงชังรังเกียจ
รำชำมังกรลู่กว่ำงทรงเห็นสำยตำที่ชิงชังนั้นอย่ำงเต็มที่ สี หน้ำของ
เขำไม่สบอำรมณ์อย่ำงยิง่ “กลับบ้ำนมำตั้งนำนแล้ว แต่กลับไม่เคยทำ
หน้ำทำตำให้ดีเลยสักครั้ง ตอนนี้ยงั จะกล้ำมำชักสี หน้ำถลึงตำใส่ ขำ้
อีกหรื อ?”
ชือหลีส่งเสี ยงเย็นชำออกมำคำหนึ่ง ก็เบือนหน้ำไปทำงอื่น คร้ำนจะ
พูดกับเขำอีก
“เจ้ำดูเอำสิ ช่ำงจองหองเหมือนกับมำรดำของนำงไม่มีผดิ ! ในสำยตำ
ไม่เคยมีผอู ้ ำวุโส สมควรตำยนัก!” รำชำมังกรทรงพิโรธแล้ว แทบ
อยำกจะเอำแส้มำเฆี่ยนตีนำงเสี ยเดี๋ยวนี้เลย
เดิมทีชือหลีหลุบตำลงไปแล้ว แต่ทนั ใดนั้นนำงก็ข่นุ เคืองจนเงยหน้ำ
ขึ้นมำ จดจ้องไปที่เขำอย่ำงจริ งจัง กล่ำวด้วยน้ ำเสี ยงไม่พอใจว่ำ
“อย่ำได้เอ่ยถึงมำรดำของข้ำ เจ้ำมันไม่คู่ควร!”
รำชำมังกรพิโรธจนยกหัตถ์ข้ ึนมำตบลงไปบนใบหน้ำของชือหลี
ในทันที “ใครสัง่ สอนให้เจ้ำใช้วำจำเช่นนี้กล่ำวกับข้ำกัน?”
ฝ่ ำมือนี้พอตบลงไปก็ทำให้ใบหน้ำของชือหลีหนั ไปอีกทำง
ริ มฝี ปำกของนำงมีเลือดไหลซึมออกมำ ในดวงตำมีแต่ควำมขุ่นแค้น
รำชำมังกรพิโรธจนตบลงไปอีกสองฝ่ ำมือติดๆกัน รำชินีถึงได้ค่อย
ยั้งเขำเอำไว้ ช่วยลูบหน้ำอกให้กบั เขำ “ท่ำนพี่โปรดคลำยโทสะ ผ่ำน
ไปหำยปี หลีเอ๋ อร์พ่ งึ จะกลับมำเป็ นครั้งแรก พวกท่ำนบิดำและ
บุตรสำวยำกนักที่จะได้กลับมำเจอกัน นำงยังเป็ นเด็กอยู่ ย่อมต้องไม่
รู ้เรื่ องอยูบ่ ำ้ ง ท่ำนสัง่ สอนเอำก็พอแล้ว ไม่จำเป็ นจะต้องรุ นแรงถึง
เพียงนี้หรอก”
“เจ้ำออกตัวแทนนังเด็กสำรเลวนี่รึ!” รำชำมังกรไม่เพียงแต่คลำย
พิโรธ แต่ยงั ถลึงเนตรขึ้นมำ “ตอนนั้นหำกมิใช่เพรำะว่ำมำรดำของ
นำง เผ่ำมังกรตะวันตกของพวกเรำก็คงจะไม่ตอ้ งตกต่ำถึงเพียงนี้!”
ชือหลีหวั เรำะเย็นชำออกมำ มุมปำกของนำงมีแต่เลือดนำงขบริ ม
ฝี ปำกเอำไว้ แววตำมีแต่ควำมหยำมหมิ่น “ไอ้แก่สำรเลว ข้ำบอกแล้ว
ไง อย่ำได้เอ่ยถึงมำรดำของข้ำ!”
“อย่ำได้ลืมสิ วำ่ เจ้ำก็คือคนที่แต่งเข้ำมำ มังกรตะวันตกล้วนใช้แซ่ชือ
ไม่ใช่แซ่ลู่!”
เนื่องเพรำะควำมขุ่นเคือง ทรวงอกของนำงจึงสะท้อนขึ้นลง บด
เบียดกับตะปูกระดูกมำกกว่ำเดิม สร้ำงควำมเจ็บปวดจนใบหน้ำ
ของชือหลีมีแต่เหงื่อท่วมทัว่
เพียงแค่ประโยคเดียว กลับทำให้รำชำมังกรโกรธแค้นจนชักกระบี่
ออกมำ แทบจะสับนำงอยูแ่ ล้ว
ยังดีที่ฮองเฮำยืน่ มืออกไปรั้งเขำเอำไว้ในทันที “ท่ำนพี่อย่ำได้หุนหัน
ไป หลีเอ๋ อร์เป็ นบุตรสำวของท่ำนนะเจ้ำคะ!”
ว่ำแล้ว นำงก็กล่ำวเสริ มอีกประโยคหนึ่ง “หำกว่ำท่ำนสังหำรนำงไป
แล้วใครจะแต่งไปเผ่ำมังกรทมิฬกันเล่ำ?”
ประโยคหลังนั้นทำให้รำชำมังกรยอมสงบลง …..หำกฆ่ำชือหลี แล้ว
ใครจะแต่งไปเผ่ำมังกรทมิฬกัน?
“ไอ้แก่สำรเลว เจ้ำลงมือสิ ?” ชือหลีหวั เรำะออกมำ “ฆ่ำข้ำเสี ยเลย
แล้วก็ให้บุตรสำวสุ ดที่รักของเจ้ำ ลู่เวย แต่งไปแทนไม่ดีหรื อไง?”
คำพูดของชือหลีน้ ี ทำให้กระทัง่ ฮองเฮำเองก็ไม่ยนิ ดีข้ ึนมำบ้ำงแล้ว
สำยตำของนำงอึมครึ มลง สี หน้ำปรำกฏควำมลำบำกใจออกมำ “หลี
เอ๋ อร์ ทำไมเจ้ำถึงได้ใจร้ำยเช่นนี้เล่ำ? เวยเอ๋ อร์เป็ นพี่สำวแท้ๆของเจ้ำ
นำงจะแต่งไปยังเผ่ำมังกรตะวันตกได้อย่ำงไรกัน?”
“เจ้ำจะไปพูดกับนำงทำไม เวยเอ๋ อร์เป็ นสมบัติล้ ำค่ำของพวกเรำ แล้ว
จะให้แต่งไปยังสถำนที่เช่นนั้นได้อย่ำงไร?” รำชำมังกรยังคงพิโรธ
ไม่คลำย เขำเบิ่งเนตรโต กำหมัดจนส่ งเสี ยงกรอบออกมำ “เวยเอ๋ อร์
คือควำมภำคภูมิใจของพวกเรำ เป็ นควำมหวังของเผ่ำมังกร ใน
อนำคตเผ่ำมังกรทั้งหมดยังต้องพึ่งพำนำงนำไปสู่ ควำมรุ่ งเรื อง”
ฮองเฮำซ่อนสี หน้ำขุ่นเคืองเอำไว้ นำงหลุบตำลงด้วยท่วงท่ำน่ำ
สงสำร “จะฝ่ ำมือหรื อหลังมือก็ลว้ นเป็ นเนื้อ หลีเอ๋ อร์เองก็เป็ น
บุตรสำวของท่ำนพี่ …..ข้ำไม่อำจจะหักใจอยูบ่ ำ้ งจริ งๆ”
“ฮูหยินมีเมตตำเกินไปแล้ว ไม่จำเป็ นจะต้องสำนึกผิดใดๆต่อนังเด็ก
สำรเลวนี่ท้ งั นั้น” รำชำมังกรสี หน้ำไร้อำรมณ์ “สำมำรถแต่งให้กบั
เผ่ำมังกรทมิฬได้ ก็ตอ้ งถือว่ำเป็ นบุญวำสนำที่นำงสัง่ สมมำถึงแปด
ชำติแล้ว! เจ้ำควรจะยินดีกบั นำงถึงจะถูก”
ครำวนี้ชือหลีหวั เรำะออกมำแล้ว
เมื่อได้เห็นบุรุษที่ชวั่ ช้ำตรงหน้ำ บิดำแท้ๆของนำง กล่ำวออกมำอย่ำง
ไร้น้ ำใจและไม่รักศักดิ์ศรี ใดๆ หัวใจของนำงก็เย็นยะเยือกลงไปอีก
ทั้งๆที่เขำก็เป็ นเพียงแค่ชำวมังกรตะวันตกตนหนึ่งแท้ๆ แต่เพรำะ
ตอนนั้นได้รับกำรเหลือบแลจำกมำรดำ จึงได้เข้ำมำเป็ นส่ วนหนึ่ง
ของวังมังกร พอได้ครองบัลลังก์ ก็ค่อยๆยึดเอำอำนำจกำรปกครอง
ทุกอย่ำงไปจนสิ้ น
ใครจะไปนึกว่ำ พออดีตรำชมังกรพึ่งจะสิ้ นไป เขำก็สำแดงนิสยั ที่ชวั่
ช้ำออกมำ ไม่เพียงแต่ทอดทิ้งมำรดำของนำง แต่ยงั นำเอำสตรี ที่แอบ
เลี้ยงดูอยูภ่ ำยนอกอย่ำงหลิ่วฮุ่ยเข้ำวัง
ทั้งยังยกย่องหลิ่วฮุ่ยให้เป็ นภรรยำที่มีฐำนะเท่ำเทียมกันโดยมิได้
สนใจควำมรู ้สึกของมำรดำแม้แต่นอ้ ย
มำรดำถูกทำร้ำยอย่ำงหนัก ด้วยควำมโกรธเคืองจึงฉี กหน้ำเลิกกับเขำ
เกิดเป็ นสงครำมยิง่ ใหญ่ที่พลิกท้องทะเลจนคว่ำ คลื่นทะเลซัดโหม
จนจมเมืองริ มทะเลไปทั้งเมือง
และในสงครำมครั้งนั้น เขำได้สงั หำรมำรดำของนำง!
จำกนั้น….บุรุษผูน้ ้ ีกผ็ ลักเอำควำมผิดทั้งหมดมำไว้ที่มำรดำของนำง
คนที่ตำยไปแล้วจะให้แก้ตวั ได้อย่ำงไร? ในเมื่อตำยไปแล้วก็ได้แต่
ต้องยอมแบกควำมผิดนั้นเอำไว้กบั ตัว
ตอนนั้นนำงพึ่งจะมีอำยุครบร้อยปี เท่ำนั้นเอง ยังเป็ นเพียงมังกรน้อย
ที่อ่อนเยำว์ตวั หนึ่ง
น้องสำวของนำงชือฉิงพึ่งจะออกมำจำกเปลือกไข่มงั กร…..
ในขณะที่พวกนำงยังไม่รู้เรื่ องรู ้รำวใดๆ ก็ถูกเขำลำกออกไปรับโทษ
แทน….
นำงไม่มีทำงลืมเลือนควำมเจ็บปวดยำมเมื่อถูกกระชำกกระดูกมังกร
ออกไป……ควำมเจ็บปวดที่ลึกลงไปถึงแก่นกระดูกนั้น ย่อมจดจำ
ได้ไปชัว่ ชีวิต
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 402 มังกรทอง
ควำมเจ็บปวดนั้นกลำยเป็ นฝันร้ำยไปชัว่ ชีวิต พอยำมดึกที่มีแต่ควำม
เงียบเชียบไร้ผคู ้ น ทุกครั้งที่นึกขึ้นมำ ล้วนทำให้นำงต้องสัน่ สะท้ำน
น้องสำวของนำงชือฉิงเนื่องเพรำะอำยุยงั น้อpเกินไป เมื่อถูกควัก
กระดูกมังกรออกไป จึงส่ งผลต้องกำรบำเพ็ญทำให้ท้ งั ชีวิตของนำง
ไม่อำจมีควำมก้ำวหน้ำ จำต้องใช้เวลำนำนหลำยปี ถึงจะสำมำรถ
กลำยร่ ำงเป็ นร่ ำงมนุษย์ได้
ชือฉิงได้แต่อำศัยนำงที่เป็ นพี่สำวเฝ้ำเลี้ยงดูจนเติบโตขึ้นมำ
ดังนั้นหลังจำกที่ชือชิงทำเรื่ องที่ผดิ ต่อนำงเช่นนั้น ชือหลีจึงลงโทษ
นำงอย่ำงรุ นแรง แต่สุดท้ำยแล้วก็ยงั เลือกที่จะให้อภัยนำง…..
ชือฉิงไม่รู้จกั โลกภำยนอก ถูกบุรุษหลอกลวงจนลุ่มหลง มอบหัวใจ
ทั้งหมดให้ไป ทุกสิ่ งที่นำงทำลงไปล้วนเป็ นเพรำะถูกบุรุษเสเพล
อย่ำงจีหร่ ำนผูน้ ้ นั หลอกลวง
ชือหลียงั คงจดจำได้อยูเ่ สมอ ก่อนที่มำรดำจะตำยได้สงั่ เสี ยให้นำง
คอยดูแลน้องสำวให้ดี
จะอย่ำงไรส่ วนลึกในจิตใจของนำงก็ยงั คงคอยย้ำเตือนถึงควำมถูก
พันทำงสำยเลือดนี้อยูเ่ สมอ
ดังนั้นนำงจึงคิดจะหำทำงนำดวงวิญญำณของชือฉิ งกลับมำยังเผ่ำ
มังกรตะวันตก คิดจะเสำะหำกระดูกมังกรของชือฉิ ง….ช่วยให้นำง
ได้คืนร่ ำงอีกครั้ง
ตอนนั้นหลังจำกถูกถอดกระดูกมังกรออกไป นำงก็ไม่เคยกลับมำที่
เผ่ำมังกรตะวันตกอีกเลย
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่ำกำรกลับมำครั้งนี้ จะบังเอิญพบกับเรื่ องที่เผ่ำ
มังกรทมิฬส่ งคนมำสู่ ขอเข้ำพอดี
เผ่ำมังกรทมิฬ……คือเผ่ำที่โหดเ**้้ยมและน่ำกลัวที่สุดในหมู่เผ่ำ
มังกร
พวกเขำกระหำยเลือดจนเป็ ยนิสยั หลำยหมื่นปี ก่อน ถือเป็ นเผ่ำพันธุ์
ที่น่ำกลัวที่สุดในใต้หล้ำ
ตอนมำเมื่อถูกเหล่ำเทพเซียนร่ วมมือกันกักขังเอำไว้ในทะเลลึกไร้
ก้นบึ้ง ถึงได้แลกมำซึ่งควำมสงบสุ ขของใต้หล้ำ
แม้วำ่ จะถูกกักเอำไว้ใต้ทะเลไร้กน้ บึ้ง แต่เมื่อเอ่ยถึงเผ่ำมังกรทมิฬ
เหล่ำมังกรทะเลทั้งหลำยก็ยงั ต้องครั่นคร้ำม
เผ่ำมังกรอื่นๆล้วนอยำกหยิบยืมกำลังของเผ่ำมังกรทมิฬ ดังนั้นจึงได้
ทำพันธสัญญำกับมังกรทมิฬ ทุกช่วงเวลำหลำยปี ก็จะส่ งมอบหญิง
สำวบริ สุทธิ์ไปเป็ นบรรณนำกำรแก่เผ่ำมังกรทมิฬ
จำกนั้นก็จะได้รับพลังวิญญำณจำกพวกทมิฬ มำคุม้ ครองหรื อเสริ ม
ควำมยิง่ ใหญ่ให้กบั เผ่ำของตนเอง
ครั้งนี้ ถึงรอบของทะเลตะวันตกแล้ว
ฝ่ ำยโน่นระบุออกมำว่ำต้องกำรตัวองค์หญิงทะเลตะวันตก
พอนำงพึ่งจะกลับไปถึงวังมังกร ลู่กว่ำงก็แสดงท่ำบิดำผูอ้ ำรี ออกมำ
หลัง่ น้ ำตำบอกว่ำอยำกจะชดเชยให้กบั นำง
หลิ่วฮุยก็ยงิ่ ปฏิบตั ิต่อนำงเสมือนกับว่ำเป็ นบุตรสำวของตนเองก็ไม่
ปำน….
แต่แล้วที่จริ งกลับวำงแผนเอำไว้
ผ่ำนไปเพียงแค่ไม่กี่วนั ทั้งสองก็เปิ ดเผยโฉมหน้ำที่แท้จริ งออกมำ
พวกเขำต้องกำรให้นำงแต่งไปยังเผ่ำมังกรทมิฬแทนที่ลู่เวย
เฮอะ เฮอะ
พอนำงไม่ยอม ถึงได้ถูกตะปูตรึ งมังกรตอกตรึ งเอำไว้กบั เสำทอง
กลำงตำหนัก
พอเพียงแค่เผ่ำมังกรทมิฬส่ งคนมำรับ ก็จะให้นำงแต่งออกไป
ในบรรดำของขวัญที่เผ่ำมังกรทมิฬมอบให้ นอกจำกไข่มุกและอัญ
มณี มำกมำยแล้ว ก็ยงั มีพลังของเผ่ำมังกรทมิฬ พลังนี้ถูกผนึกเอำไว้
ในไข่มุกพลังวิญญำณ
หำกได้รับพลังมำแม้จะเป็ นเพียงแค่หนึ่งในร้อยส่ วน แต่กเ็ พียง
พอที่จะทำให้เผ่ำมังกรตะวันตกกลำยเป็ นผูย้ งิ่ ใหญ่ของใต้หล้ำนี้แล้ว
ใช่บุตรสำวที่ทอดทิ้งไปตั้งแต่เล็กแลกมำซึ่งของขวัญชิ้นใหญ่เช่นนี้
ย่อมดีงำมรำวกับได้เปล่ำ
ส่ วนเรื่ องแต่งบุตรสำว…..ถึงจะบอกว่ำแต่งออกไป …..แต่ใครบ้ำงที่
จะไม่รู้ เมื่อถูกส่ งไปยังเผ่ำมังกรทมิฬที่ถูกขังอยูใ่ นแดนไร้ตะวัน
ตลอดกำล นัน่ ก็คือมีแต่ควำมตำยเท่ำนั้น
ตลอดหลำยปี มำนี้ เหล่ำสตรี เผ่ำมังกรที่ ‘แต่ง’ ให้กบั เผ่ำมังกรทมิฬ
ไป ไม่เคยมีใครได้กลับออกมำแม้แต่คนเดียว
พวกนำงก็เหมือนกับของเล่นที่ถูกส่ งไปทอดทิ้งเท่ำนั้น!
…………………….
ดัวนั้น เมื่อชือหลีได้ยนิ ลู่กว่ำงเอ่ยออกมำว่ำถือเป็ น ‘บุญวำสนำ’ จึง
ได้หวั เรำะออกมำอย่ำงเย็นชำ
“ ‘บุญวำสนำ’เช่นนี้ กลับไม่ให่ลู่เวยได้รับไป ใช่วำ่ เป็ นเรื่ องที่น่ำ
เสี ยดำยหรื อไม่?” มุมปำกของนำงยังคงมีเลือดไหลซึมออกมำ ใน
แววตำมีแต่ควำมเย็นชำ
พอชือหลีกล่ำวจบ ก็ได้ยนิ เสี ยงกระดิ่งเงินลอยมำแต่ไกล
นำงเงยหน้ำขึ้นมอง ก็เห็นมังกรสี ทองงดงำมจนที่ส่องประกำย
ระยิบระยับเหำะเข้ำมำ
ยำมที่เข้ำมำในลำนกว้ำงในตำหนักก็ยงั จงใจว่ำยวนอีกหนึ่งรอบ
จำกนั้นมังกรทองตัวนั้นจึงได้ร่อนลงตรงหน้ำนำง
มังกรทองตัวนั้นเชิดคำงขึ้นสู ง เขำมังกรบนศีรษะเปล่งแสงสุ กใส
ส่ องประกำยสว่ำงจ้ำ นำงหยิง่ ทนงรำวกับลงมำจำกบนสวรรค์ช้ นั เก้ำ
หลังเหลือบแลชือหลีอยูพ่ กั ใหญ่กค็ ่อยเปลี่ยนร่ ำงกลำยเป็ นสำวน้อย
ในชุดสี ทอง
รู ปร่ ำงหน้ำตำของนำงมีควำมคล้ำยคลึงกับชือหลีอยูส่ องส่ วน
เพียงแต่มีนยั ตำสี ทองที่หำได้ยำก
“ตั้งแต่ขำ้ เกิดมำก็เป็ นมังกรทองแล้ว ข้ำคือควำมภำคภูมิใจของเผ่ำ
มังกรทะเลตะวันตก โชควำสนำเช่นนั้นจึงไม่จะเป็ นอีก พี่สำวเป็ น
คนที่น่ำสงสำร จึงต้องกำรวำสนำที่ยงิ่ ใหญ่” สำวน้อยในชุดสี ทองส่ ง
ยิม้ เย็นชำให้กบั นำง
มังกรทอง ต่อให้นบั รวมเผ่ำมังกรทุกเผ่ำเข้ำด้วยกัน พันปี ถึงจะมี
ขึ้นมำสักตัว
นับตั้งแต่นำงถือกำเนิดขึ้นมำ ก็ถือครองพลังวิญญำณมังกร ระดับ
กำรฝึ กฝนจึงยิง่ กว้ำงหน้ำกว่ำมังกรอื่นๆมำกมำยนัก
มังกรทอง ถือเป็ นสิ่ งที่หำได้ยำกที่สุดในเผ่ำพันธุ์มงั กร เป็ นสิ่ งที่
มังกรทุกตัวต่ำงต้องริ ษยำ
นำเสี ยงของนำงน่ำฟังเป็ นอย่ำงยิง่ ไพเรำะดุจดังสำเนียงของนำงฟ้ำ
ยำมกระทบหูไม่วำ่ ผูใ้ ดล้วนเกิดควำมสนใจ มิวำ่ นำงพูดอะไรออกไป
ต่ำงก็รู้สึกว่ำน่ำคล้อยตำม
ชือหลีไม่เคยได้ยนิ เสี ยงของใครที่น่ำฟังเช่นนี้มำก่อน
ใบหน้ำของนำงถูกลู่กว่ำงตบจนบอบช้ ำ ดวงตำข้ำงซ้ำยถึงกับปูด
บวมขึ้นมำ เมื่ออยูต่ ่อหน้ำสำวน้อยในชุดสี ทองจึงกลำยเป็ นควำม
แตกต่ำงดัง่ มังกรทองกับงูดิน
“พระบิดำและพระมำรดำส่ งเจ้ำไปแต่งกับเผ่ำมังกรทมิฬ ก็เพื่อตัวเจ้ำ
เอง เจ้ำถูกถอดกระดูกมังกรไปแล้ว ชำติน้ ีท้ งั ชำติยอ่ มไม่มีโอกำส
บินขึ้นไปถึงบนสวรรค์เก้ำชั้นฟ้ำได้อีก ไม่แน่วำ่ แต่งให้กบั เผ่ำมังกร
ทมิฬแล้ว อำจจะยังพอมีโอกำสมีวำสนำอื่นอีกบ้ำง”
สำวน้อยยังคงยิม้ หวำนต่อไป ทั้งยังยืน่ มืออกไปเชยใบหน้ำของชือห
ลี นำงออกจำกเปลือกไข่ก่อนชือหลีหลำยวัน
ตอนนั้นก่อนที่ลู่กว่ำงจะแต่งให้กบั องค์หญิงตะวันตก ก็มี
ควำมสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหลิ่วฮุยอยูก่ ่อนแล้ว
ดังนั้นนำงจึงถือกำเนิดขึ้นมำก่อนชือหลี และเนื่องเพรำะว่ำนำงคือ
มังกรทอง ทำให้ลู่กว่ำงยิง่ ตัดสิ นใจอย่ำงแน่วแน่ มิวำ่ จะอย่ำงไรก็
ต้องทำให้พวกนำงแม่ลูกได้รับกำรยอมรับให้ได้
ชือหลีขมวดคิ้ว เบื้องหน้ำออกไป เอ่ยด้วยน้ ำเสี ยงเย็นชำว่ำ “อย่ำมำ
แตะต้องข้ำ”
หำกมิใช่เพรำะว่ำตอนนั้นนำงถูกถอดกระดูกมังกรออกไป ….นำง
ย่อมไม่มีทำงกลำยเป็ นเช่นนี้
สำวน้อยผูน้ ้ นั ก็มิได้โกรธเคือง มุมปำกของนำงยกขึ้น ค่อยๆดึงมือ
กลับไป จำกนั้นก็เช็ดมือกับเสื้ อผ้ำ รำวกับว่ำนำงพึ่งจะไปสัมผัสกับ
สิ่ งสกปรกมำอย่ำงไรอย่ำงนั้น
พอได้เห็สำวน้อยในชุดมังกรทอง ดวงพักตร์ของรำชำมังกรและ
ฮองเฮำก็แช่มชื่นขึ้นมำ
“เวยเออร์…..” รำชำมังกรกวำดเนตรมำทำงนำง ก็เห็นประกำยสี ทอง
บนร่ ำงของนำงเข้มข้นขึ้นกว่ำเดิมอีกหลำยส่ วน
ดวงเนตรของรำชำมังกรก็เปล่งประกำยขึ้นในทันที “กำรฝึ กฝนของ
เจ้ำก้ำวหน้ำขึ้นมำอีกกว้ำงใหญ่แล้วหรื อ ช่ำงทำให้บิดำภำคภูมิใจยิง่
นัก!”
เขำยืน่ หัตถ์ออกไปลูบไล้ศีรษะของนำงเบำๆ ยำมอยูต่ ่อหน้ำของชื
อหลีดวงพักตร์ของเขำควำมฝึ นทนและชัว่ ร้ำย แตกต่ำงกับตอนนี้ที่
เปี่ ยมไปด้วยควำมโปรดปรำนรักใคร่ อย่ำงที่สุด
ลู่เวยคลี่ยมิ้ บำงๆ นำงงดงำมอย่ำงอ่อนหวำนกว่ำชือหลี ดวงตำสี ทอง
ทั้งสองยิง่ สวยงำมน่ำดูอย่ำงที่สุด
คนที่อยูบ่ นเรื อนับสิ บลำล้วนถูกนำงดูดกลืนจนหมดสิ้ น แล้วพลัง
ของนำงจะไม่กำ้ วหน้ำได้อย่ำงไร?
อย่ำว่ำแต่บนเรื อเหล่ำนั้นยังมีเหล่ำนักพรตอยูไ่ ม่นอ้ ย
“ตั้งแต่เล็กๆแล้ว เวยเออร์ของพวกเรำก็สำมำรถฝึ กฝนได้รวดเร็ วกว่ำ
ผูอ้ ื่น ตอนนี้ในบรรดำผูเ้ ยำว์ของเผ่ำมังกร เกรงว่ำไม่มีผใู ้ ดที่เหนือล้ ำ
กว่ำนำงไปได้อีก” ขณะที่เบือนหน้ำไปทำงรำชำมังกร ดวงพักตร์
ของฮองเฮำหลิ่วฮุยเองก็เปี่ ยมไปด้วยรอยยิม้ เช่นกัน
“รอให้เผ่ำมังกรทมิฬส่ งไข่มุกพลังวิญญำณมำ ก็ให้ลู่เวยดูดกลืนเข้ำ
ไปจนหมด ถึงตอนนั้นเผ่ำมังกรตะวันตกของพวกเรำก็จะสำมำรถ
เงยหน้ำขึ้นมำได้อีกครั้ง”
รำชำมังกรพยักเศียรอย่ำงเห็นพ้องต้องกัน “ข้ำอำยุมำกแล้ว พลังที่
เผ่ำมังกรทมิฬให้มำย่อมต้องมอบให้เวยเออร์ท้ งั หมด”
กับลูกสำวคนนี้ เขำให้ควำมโปรดปรำนอย่ำงไม่มีเงื่อนไข
แต่กลับไม่เคยคิดจะแบ่งปันน้ ำใจนั้นไปให้กบั ลูกสำวอีกสองคน
แม้แต่นอ้ ย
อ๋ อ….บำงทีเขำอำจจะจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ ำ ว่ำตนเองยังมีลูกสำวที่
ชื่อชือฉิงอยูอ่ ีกคนหนึ่ง
เวลำผ่ำนมำก็เนิ่นนำนปำนนี้แล้ว เขำไหนเลยจะยังจดจำบุตรสำวที่
พอพึ่งจะออกจำกเปลือกไข่กถ็ ูกถอดกระดูกมังกรออกไปได้กนั
“ใกล้แล้ว อีกเพียงแค่สำมวัน เผ่ำมังกรทมิฬก็จะส่ งคนมำรับตัว
เลวร้ำยนี่ไปแล้ว ถึงตอนนั้นพวกเขำก็จะมอบไข่มุกพลังวิญญำณ
ให้กบั พวกเรำ บิดำจะต้องส่ งต่อให้เจ้ำในทันที”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 403 เจ้ าเชื่ อหรื อไม่ ว่าผลกรรมมี
จริง?
สำยตำที่เปี่ ยมไปด้วยควำมรักใคร่ โปรดปรำนของลู่กว่ำงแทบจะ
สำมำรถคั้นน้ ำออกมำได้อยูแ่ ล้ว
เขำเอ่ยต่อไปว่ำ “สมบัติล้ ำค่ำที่เผ่ำมังกรทมิฬมอบให้ เจ้ำสำมำรถ
เลือกไปได้ตำมใชชอบ บิดำจำได้วำ่ คงโหของเจ้ำพังแล้วมิใช่หรื อ?
สิ่ งของที่พวกเขำกำลังจะส่ งมำล้วนเป็ นสมบัติโบรำณที่ล้ ำค่ำ นับว่ำ
เหมำะสมคู่ควรกับเวยเอ๋ อร์ของพวกเรำพอดี”
ลู่กว่ำงอำรมณ์ดีจนสรวลออกมำ สำยตำยำมมองดูเวยเอ๋ อร์ เปล่ง
ประกำยรำวกับคนที่ได้เห็นทองคำสุ กปลัง่
อำรมณ์ที่ข่นุ เคืองเพรำะชือหลีกถ็ ูกคลี่คลำยไปอย่ำงรวดเร็ ว
ดูสิ …… ต่ำงก็เป็ นบุตรสำวของเขำเหมือนกัน ทำไมถึงได้แตกต่ำง
กันเช่นนี้?
คนหนึ่งทำให้เขำปลำบปลื้มอย่ำงที่สุด แต่อีกคนกลับทำให้เขำมีแต่
ควำมละอำย
“เสด็จพ่อ จะมำกจะน้อยน้องชือหลีกก็ ำลังจะแต่งออกไปแล้ว ถึง
ตอนนั้นสมควรจัดสรรสิ นเจ้ำสำวไปให้กบั นำงบ้ำง” ลู่เวยยิม้ บำงๆ
“ข้ำมีเสื้ อผ้ำและเครื่ องประดับอยูจ่ ำนวนหนึ่ง ถึงตอนนั้นเสด็จพอก็
ให้คนจัดใส่ **บเป็ นสิ นเดิมเจ้ำสำวให้นำงไปเถอะ จะได้ไม่มีใคร
กล้ำพูดว่ำพวกเรำข่มเหงนำง”
ใช่แล้ว นำงมีเสื้ อผ้ำเก่ำและเครื่ องประดับอยูช่ ุดหนึ่ง ที่เปื้ อนเลือด
ยำมฆ่ำคนอยูพ่ อดี ของพวกนั้นอัปมงคลอย่ำงยิง่ กำลังคิดจะเอำไป
ทิ้งเสี ยเลย
พอดีสำมำรถยกให้นำงถือเป็ นกำรแสดงควำมเมตตำกรุ ณำ
“เวยเอ๋ อร์คิดได้อย่ำงรอบคอบแล้ว” รำชำมังกรลู่กว่ำงผงกเศียร
ติดๆกัน “เวยเอ๋ อร์ของพวกเรำช่ำงเหมือนกับมำรดำของเจ้ำ ล้วน
จิตใจดีมีเมตตำ”
หลิ่วฮุยฮองเฮำก็คอยสนับสนุนอยูด่ ำ้ นข้ำง “ท่ำนพี่โปรดวำงใจ อีก
สำมวันข้ำจะแต่งหน้ำแต่งตำชือหลีให้สวยสดงดงำม ให้นำงได้แต่ง
ออกไปอย่ำงเอิกเกริ ก เพรำะอย่ำงไรก็เป็ นถึงองค์หญิงมังกร
ตะวันตกของพวกเรำมิใช่หรื อ ย่อมต้องไม่ให้ผใู ้ ดหัวเรำะเยำะได้อยู่
แล้ว”
ชือหลีเห็นคนในครอบครัวนี้ต่ำงก็ช่วยกันเล่นละครต่อหน้ำนำง ทำ
เอำสะอิดสะเอียนจนอยำกอำเจียนออกมำ
หลำยปี มำนี้นำงกลำยเป็ นเทพธิดำพิทกั ษ์สำยน้ ำลี่เหอ อุปนิสยั มีแต่
ควำมจริ งใจและตรงไปตรงมำ
พอได้มำเห็นคนในครอบครัวนี้ เห็นไอ้แก่ที่ต่ำช้ำลู่กว่ำง ก็ยงิ่ อย่ำงจะ
ให้เลือดที่อยูใ่ นกำยแห้งผำดไปเสี ย…..หำกในร่ ำงมีเลือดของบุรุษผู ้
นี้อยูใ่ นกำย นำงรู ้สึกว่ำช่ำงสกปรกจริ งๆ!
นอกจำกรู ้สึกสะอิดสะเอียนแล้ว ก็ไม่รู้วำ่ ทำไมถึงได้คิดถึงตู๋กเู จวี๋ย
ขึ้นมำได้กนั
หรื อว่ำเป็ นเพรำะได้พบคนจิตใจต่ำช้ำมำมำกเกินไป พอได้พบกับ
เจ้ำกระต่ำยน้อยอย่ำงเขำ จึงได้รู้สึกว่ำน่ำรักขึ้นมำ
แม้แต่ต๋ ูกูซิงหลันก็ยงั น่ำรักกว่ำมำกนัก
นำงหลุบตำลง ขนต่ำงที่ยำวหนำเป็ นแพสัน่ สะท้ำนน้อยๆ
กำรเดินทำงมำครั้งนี้ มีแต่อนั ตรำยเหลือคณำนับ ดังนั้นนำงจึงได้
มอบมุกมังกรแห่งชีวิตของตนเองให้กบั ตู๋กซู ิงหลัน
เพรำะคิดว่ำหำกตนเองโชคร้ำยตำยไป อย่ำงน้อยๆจิตวิญญำณ
บำงส่ วนก็อำจจะกลับไปยังมุกมังกรก็เป็ นได้
บำงที….ด้วยกำลังและควำมสำมำรถของตู๋กซู ิงหลัน อย่ำงน้อยๆก็คง
จะไม่ปล่อยให้จิตวิญญำณของนำงต้องสู ญสลำยไป
ชือหลีคิดไปเรื่ อยๆ มุมปำกก็ปรำกฏรอยยิม้ ขึ้นมำ
“น้องชือหลียมิ้ อย่ำงยินดีเช่นนี้ ดูท่ำคงจะพอใจกับกำรจัดกำรของ
เสด็จพ่อและเสด็จแม่สินะ” ลู่เวยเองก็หวั เรำะขึ้นมำ “อ๋ อ ใช่แล้ว ข้ำ
มีชุดสี แดงสดอยูช่ ุดหนึ่งอยูพ่ อดี ถึงตอนนั้นจะมอบให้นอ้ งชือหลี
เป็ นชุดแต่งงำนก็แล้วกัน”
น้ ำเสี ยงของนำงสำมำรถหลอมละลำยจิตใจผูค้ น นำงกระซิบลงไปที่
ริ มหูของชือหลีเอ่ยว่ำ “เสื้ อผ้ำชุดนั้น แดงรำวกับเลือด เหมำะกับ
ดวงตำของเจ้ำเป็ นอย่ำงยิง่ เลย”
เลือดของคนตำย พอจับมำเข้ำคู่กบั ดวงตำที่กำลังจะกลำยเป็ นคนตำย
จะไม่เหมำะเจำะกันได้อย่ำงไร?”
ลู่เวยเกลียดชังนำง
หำกมิใช่เพรำะนำงมีมำรดำที่เป็ นองค์หญิงผูแ้ ข็งแกร่ ง ตอนนั้น
ตนเองและมำรดำคงมิตอ้ งมีชีวิตอยูอ่ ย่ำงหลบๆซ่อนๆ ลำบำก
ยำกแค้นไม่มีจะกินเช่นนั้น
หนึ่งร้อยปี แห่งควำมยำกลำบำกนั้น เพียงพอที่จะให้นำงฉี กร่ ำงทึ้ง
กระดูกชือหลีเป็ นพันชิ้น
ก่อนหน้ำนี้ นำงก็เป็ นคนปล่อยข่ำวลือออกไปเอง ….ว่ำทะเล
่ ..ที่ทำเช่นนี้ก็
ตะวันตกมีกระดูกมังกรของชือหลีและชือฉิ งอยู…
เพื่อที่จะหลอกล่อให้นงั โง่ผนู ้ ้ ีกลับมำ
แล้วดูสิ นังคนที่ไม่รู้จกั ใช้หวั สมองผูน้ ้ ี ก็กลับมำอย่ำงโง่ๆจริ งๆด้วย
มิใช่เท่ำกับว่ำรี บกลับมำ ‘แต่งงำน’ แทนนำงพอดีหรอกหรื อ?
ลู่เวยไม่คิดจะสงสำรเห็นใจนำงแม้แต่นอ้ ย ทั้งหมดนี้คือสิ่ งที่ตวั นำง
และองค์หญิงมำรดำของนำงติดค้ำงตนเอง!
นำงสมควรไปตำยแทนตนเอง และแลกเปลี่ยนเป็ นของขวัญจำกเผ่ำ
มังกรทมิฬมำให้กบั ตนอยูแ่ ล้ว!
ตนเองจึงจะเป็ นองค์หญิงของทะเลตะวันตกที่แท้จริ ง และคือเทพ
เซียนที่จะได้โบยบินขึ้นสู่ ทอ้ งฟ้ำในอนำคต
ชือหลี นับเป็ นอะไรได้กนั ?
“ลู่เวย อย่ำได้ด่วนดีใจเร็ วไป” ชือหลีลืมตำขึ้นมำอีกครั้ง ริ มฝี ปำก
ของนำงมีแต่ครำบเลือด ก่อนจะเอ่ยถำมออกไป “เจ้ำเชื่อหรื อไม่วำ่
ผลกรรมนั้นมีจริ ง?”
“นัน่ เป็ นเรื่ องของพวกมนุษย์” ลู่เวยหัวเรำะอย่ำงเย็นชำ “ยิง่ ไปกว่ำ
นั้นข้ำก็เป็ นผูท้ ี่มีเมตตำมำโดยตลอด หำกจะมีผลใดตำมมำ….ก็มีแต่
ผลดีเท่ำนั้น”
“เห็นไหมเล่ำ เจ้ำก็คือผลดีที่ขำ้ ได้รับมิใช่รึ”
“เวยเอ๋ อร์ จะไปเสี ยเวลำพูดจำไร้สำระกับนังตัวร้ำยนัน่ ไปทำไม” ลู่
กว่ำงเอ่ยอย่ำงเกลียดชังชือหลีอย่ำงยิง่
พอพูดถึงผลกรรมตำมสนอง ก็ไม่รู้วำ่ ทำไม ในใจของเขำจึงเกิด
ควำมหวัน่ ไหวขึ้นมำ
เรื่ องชัว่ ช้ำบำงเรื่ องเมื่อได้กระทำไปแล้ว ควำมสงบสุ ขในจิตใจย่อม
ไม่เหลืออยูอ่ ีกต่อไป ทำให้ใจต้องหวำดผวำ….
“น้ ำเสี ยงที่ไพเรำะของเจ้ำ นังตัวร้ำยนี้ไม่คู่ควรที่จะได้ฟังหรอก!” ลู่
กว่ำงมีสีพกั ตร์ไม่พอพระทัย หำกมิใช่วำ่ ยังจะต้องให้นงั ตัวร้ำยชือห
ลีแต่งงำนไปแทนเวยเอ๋ อร์ เพียงแค่ท่ำทำงที่นำงแสดงออกมำเช่นนี้
เขำก็คงฆ่ำนำงทิ้งไปกับมือแล้ว
ชือหลีเห็นพวกเขำพูดจะสนับสนุนกันไปมำ ก็ได้แต่กำหมัดแนบ
แน่นขึ้นกว่ำเดิม
……………………..
เหนือทะเลตะวันตก ลมทะเลกรรโชกอย่ำงรุ นแรง
ตู๋กซู ิงหลันยืน่ อยูบ่ นฝั่ง นำงสวมใส่ ชุดสี แดงดุจเปลวเพลิง ดวงตำ
ดอกท้อจับจ้องไปยังน้ ำทะเลสี ฟ้ำที่ใสกระจ่ำงที่สะท้อนกับแสงแดด
จนส่ องประกำยระยิบระยับ
ผิวน้ ำทะเลเกิดเป็ นหมอกหนำ มีเหล่ำดวงวิญญำณที่ถูกฆ่ำนับร้อย
ล่องลอยขึ้นมำ
พอริ มฝี ปำกของนำงเอื้อนเอ่ยคำถำออกมำ แผ่นยันต์สีเหลืองในมือก็
พุง่ ออกไป เพียงครู่ เดียวก็ลอ้ มเอำดวงวิญญำณคนตำยเหล่ำนั้นเอำไว้
เนื่องเพรำะพวกเขำเป็ นวิญญำณคนตำยที่ตกตำยอย่ำงอนำถ เมื่อตำย
แล้วหำกมิได้รับกำรชำระล้ำงวิญญำณ ก็มีแต่ตอ้ งวนเวียนอยูใ่ นที่
เดิมตลอดไป
ตู๋กซู ิงหลันจับดวงวิญญำณดวงหนึ่งมำสอบถำม ถึงได้รู้วำ่ พวกเขำ
ถูก ‘นำงพรำยทะเลลึก’ กินเข้ำไป
ดวงวิญญำณของคนตำยเหล่ำนี้มีแต่กลิ่นอำยของเลือดอย่ำงเข้มข้น
แสดงว่ำควำมหวำดกลัวก่อนตำยได้ฝังลึกอยูใ่ นดวงจิต
ตู๋กซู ิงหลันปิ ดตำลงก็รับรู ้ได้ ในสมองของนำงเกิดภำพของใบหน้ำที่
มีส่วนละม้ำยคล้ำยคลึงกับชือหลีอยูส่ องส่ วน
เพียงแต่วำ่ คนผูน้ ้ นั มีนยั ตำเป็ นสี ทอง
ยำมลืมตำขึ้นมองอีกครั้ง ดวงตำดอกท้อก็เปล่งประกำยขึ้นกว่ำเดิม
นำงล้วงเอำมุกมังกรของชือหลีออกมำ มุกมังกรที่เดิมทีเป็ นสี น้ ำเงิน
ตอนนี้กลำยเป็ นสี แดงทั้งหมดแล้ว สิ่ งที่แดงเหมือนกับเลือดยังคง
ไหลซึมออกมำไม่ยอมหยุด
มังกรน้อยสี ทองที่อยูภ่ ำยในนั้นยิง่ ดูกย็ งิ่ อ่อนแอลงไปเรื่ อยๆ
เจ้ำไก่ดำขนฟูและรำชำสุ นขั ป่ ำตะวันตกล้วนยืนอยูข่ ำ้ งกำยนำง บน
หลังของรำชำสุ นขั ป่ ำ คือตู๋กเู จวี๋ยที่ยงั มีสีหน้ำทั้งงุนงงและประหลำด
ใจ
“น้องเล็ก ต่อไปพีร่ องจะไม่เที่ยวกัดคนไปทัว่ แล้ว เจ้ำปล่อยข้ำไปได้
หรื อไม่?” ตู๋กเู จวี๋ยนัง่ อยูบ่ นหลังของรำชำสุ นขั ป่ ำ เห็นน้องสำวของ
ตนเองนำกระทัง่ ดำบยักษ์ของพี่ใหญ่มำด้วย
นำงที่มีรูปร่ ำงที่บอบบำงกับสำมำรถสะพำยดำบที่ใหญ่กว่ำตัวเอง
เอำไว้ได้อย่ำงสบำยและคล่องแคล่ว
เขำพึ่งจะตื่นขึ้นมำพอรู ้ตวั ก็อยูบ่ นหลังของรำชำสุ นขั ป่ ำแล้ว เบื้อง
หน้ำของเขำคือท้องทะเลอันกว้ำงใหญ่ไร้ขอบเขต หรื อว่ำน้องเล็ก
อยำกจะจับเขำโยนลงทะเลไปเป็ นอำหำรปลำกัน
ลมทะเลพัดมำ ทำให้ชุดสี แดงของนำงพลิ้วขึ้นรำวกับกำลังเริ งระบำ
ตู๋กซู ิงหลันจับตำมองดูคลื่นน้ ำที่ไม่เคยสงบนิ่ง เอ่ยขึ้นมำประโยค
หนึ่งว่ำ “ยังอยำกจะมีภรรยำอยูอ่ ีกหรื อไม่?”
ตู๋กูเจวี๋ย “หำ?”
“ถ้ำยังอยำกจะมี ก็ติดตำมลูกพี่ไปตัดหัวคนด้วยกัน!”
ตู๋กซู ิงหลันว่ำแล้ว ก็กำ้ วเท้ำลงไปในน้ ำทะเล ทันใดนั้นก็เห็นน้ ำ
ทะเลใต้ฝ่ำเท้ำแยกออกเป็ นสองด้ำน
น้ ำทะเลแยกออกเป็ นเส้นทำงสำยหนึ่ง ทอดตัวยำวลึกลงไปยัง
ด้ำนล่ำง
ตู๋กซู ิงหลันสะพำยดำบยักษ์ของพี่ใหญ่เอำไว้ ออกเดินนำหน้ำ
รำชำสุ นขั ป่ ำพำติ๊งต๊องและพี่รองติดตำมลงไปอย่ำงกระชั้นชิด
“นี่คือพลังจำกมุกมังกรของชือหลี นำงจะต้องมีฐำนะที่ไม่ธรรมดำ
อย่ำงแน่นอน” วิญญำณทมิฬนัง่ อยูบ่ นบ่ำของนำง มองดูพ้นื ดิน
บริ เวณที่พวกนำงเดินผ่ำน น้ ำทะเลค่อยผสำนกลับเข้ำมำก็รู้สึกว่ำน่ำ
อัศจรรย์ใจอย่ำงยิง่
……………………….
ไรท์: เรื่ องนี้ออกทะเลแล้วจริ งๆ แต่เป็ นแหวกลงไปกลำงทะเลเลย
รี ดทั้งหลำยโปรดหยิบยืมครี บหำงขึ้นมำโดยด่วน แล้วตำมข้ำพเจ้ำ
มำ! เรำจะบุกวังมังกรกันแล้ว!
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 404 อหังการ
เส้นทำงนั้นดิ่งลึกลงไปใต้ทอ้ งทะเล มุ่งตรงสู ้มงั กรหิ นตนนั้น
ยำมเมื่อได้เห็นน้ ำทะเลถอยห่ำงออกไปจำกร่ ำงของตน และพอเดิน
ผ่ำนลงไปก็ค่อยม้วนกลับเข้ำ ตู๋กเู จวี๋ยก็มีสีหน้ำตื่นเต้นด้วยควำม
ประหลำดใจ จนนึกว่ำนี่ตนเองกำลังฝันไป จึงอดไม่ได้ที่จะหยิกต้น
ข้ำของตนเองครั้งหนึ่ง
ตั้งแต่เล็กๆเขำก็ชื่นชอบเรื่ องเร้นลับต่ำงๆอยูเ่ สมอมำ จึงพกพำสมุด
เล่มเล็กเอำไว้จดบันทึกเรื่ องรำวของพวกภูตผีปีศำจอยูเ่ สมอ เพียงแต่
นี่เป็ นครั้งแรกที่ได้เห็นกับตำ
“บ้ำนเดิมของชือหลีอยูใ่ นทะเลลึกนัน่ หรื อ?” เขำยืน่ หน้ำมองออกไป
ด้วยควำมสงสัย
“น้องเล็ก เจ้ำดูปลำตัวนั้นสิ บนหัวของมันมีโคมไฟอยูด่ ว้ ย หำกจับ
มันไปเลี้ยงในอ่ำง ตอนกลำงคืนก็ไม่ตอ้ งจุดตะเกียงแล้วใช่ไหม?”
ปลำที่มีดวงไฟส่องอยูเ่ หนือหัวถลึงตำใส่ เขำครั้งหนึ่ง หันมำสะบัด
หำง ส่ งเสี ยงขู่ใส่ เขำแล้วก็วำ่ ยหนีไปไม่ยอมหันกลับมำอีก
ตู๋กเู จวี๋ย “ช่ำงเถอะ ปลำตัวนั้นมันท่ำทำงจะนิสยั ไม่ดี”
“น้องเล็ก เจ้ำดูเต่ำตัวนั้นสิ ตัวใหญ่เกือบหนึ่งจั้งเลย ทั้งยังว่ำยน้ ำได้
เร็ วมำกขนำดนั้น ไปจับมันมำขี่ดีหรื อไม่?”
ตู๋กซู ิงหลันเหลือบตำไปมองดูเจ้ำเต่ำทะเลตัวนั้นครั้งหนึ่ง ก็ถอนใจ
ออกมำเบำๆ
รำชำสุ นขั ป่ ำก็ถลึงตำใส่ เขำครั้งหนึ่ง มันแทบจะอยำกเหวี่ยงเขำลง
มำจำกหลังอยูแ่ ล้ว มันเป็ นถึงรำชำสุ นขั ป่ ำตะวันตก ยอมสละตนให้
เขำนัง่ เป็ นพำหนะเขำยังจะไม่พอใจ?
ยังจะไปหมำยตำเจ้ำเต่ำใหญ่นนั่ อีกหรื อ?
“ไม่ชอบงั้นหรื อ…” ตู๋กเู จวี๋ยโคลงศีรษะไปมำ จำกนั้นก็มองซ้ำยมอง
ขวำต่อไป เห็นเบื้องล่ำงมีแต่ปะกำรังมำกมำยรำวป่ ำทึบ
ปะกำรังเหล่ำนั้นแต่ละต้นสู งตระหง่ำนรำวกับต้นไห่ถำงใน
ตำหนักเฟิ่ งหมิงกง มีสีสนั หลำกหลำยทั้งยังส่ องประกำยระยิบระยับ
ท่ำมกลำงสถำนที่ที่ดงำมเช่นนี้ มีมงั กรสี ทองตัวหนึ่งปรำกฏกำย
ขึ้นมำ
มังกรสี ทองเหลืองอร่ ำม ท่ำทำงหยิง่ ผยอง มันส่ งเสี ยงตวำดคำรำม
ออกมำครั้งหนึ่งใส่ พวกเขำ ขวำงเส้นทำงของพวกเขำเอำไว้
มันหยุดอยูเ่ บื้องหน้ำพวกเขำ นัยตำที่เป็ นสี ทองทั้งสองข้ำงมองตรง
มำ
มังกรตัวนั้นลอยตัวอยูใ่ นน้ ำ เกล็ดสี ทองที่เป็ นประกำยเหล่ำนั้นยัง
แวววำวยิง่ กว่ำปะกำรังมำกนัก
ตู๋กเู จวี๋ยชะงักไปครู่ หนึ่ง เขำไม่เคยเห็นสิ่ งมีชีวิตใดที่สวยงำมขนำดนี้
มำก่อนเลย ตลอดร่ ำงเป็ นสี ทองแวววำว ยังน่ำดูกว่ำเหล่ำตัว
ประหลำดที่ในหนังสื อมีบนั ทึกเอำไว้มำกมำยนัก
ครู่ หนึ่ง เขำค่อยยืน่ ปลำยนิ้วออกมำ ชี้ไปยังเจ้ำมังกรทองตรงหน้ำ
“น้องเล็ก…..หรื อจะจับเจ้ำตัวนั้นมำเป็ นพำหนะดีไหม?”
ทันทีที่สิ้นเสี ยง ก็เห็นเจ้ำมังกรทองตัวนั้นหัวเรำะคิกคักออกมำ
จำกนั้นก็กลำยร่ ำงเป็ นสำวน้อยที่บอบบำงแน่งน้อยในชุดสี ทองต่อ
หน้ำต่อตำพวกเขำ
ดวงตำและคิ้วของนำงมีส่วนคล้ำยคลึงกับชือหลีอยูส่ องส่ วน นัยตำสี
ทองทั้งคู่จบั จ้องมำยังพวกเขำ
“พำหนะ?” นำงยกชำยแขนเสื้ อขึ้นมำบิดบังรอยยิม้ ส่ งเสี ยงหัวเรำะที่
น่ำฟังรำวไข่มุกกระทบจำนหยก
นัยตำสี ทองคู่น้ นั มองผ่ำนตู๋กเู จวี๋ยไปอย่ำงเย็นชำ ค่อยหยุดลงบนร่ ำง
ของตู๋กูซิงหลัน
ในตอนนั้นเอง หัวคิ้วของนำงก็โค้งขึ้นมำ ดวงตำสี ทองเปล่งประกำย
เปี่ ยมไปด้วยแสงแห่งควำมละโมภ
นี่เรี ยกว่ำอะไรนะ…..พอคิดจะนอนก็มีคนส่ งหมอนหนุนมำให้พอดี
หำกเปรี ยบเทียบกันในเรื่ องควำมงำม นำงไม่อำจสู ้ชือหลีได้จริ งๆ
มำรดำของชือหลี คือ ชือฉำง องค์หญิงแห่งทะเลตะวันตก ผูเ้ ป็ นโฉม
สะครำญอันดับหนึ่งแห่งทะเลตะวันตก
ควำมงดงำมนั้นย่อมเป็ นอะไรที่หลิ่วฮุย มำรดำของนำงไม่อำจเทียบ
ได้อยูแ่ ล้ว
ดังนั้นบุตรสำวที่ให้กำเนิดออกมำย่อมมีควำมแตกต่ำงกัน
ลู่เวยมองดูหญิงสำวที่งดงำมปำนจะล่มบ้ำนล่มเมืองตรงหน้ำ ก็ยงิ่
เกิดควำมคิดอยูใ่ นใจ คนที่มีรูปโฉมงดงำมเช่นนี้ หำกว่ำจับเอำไปทำ
เป็ นยำเม็ดบำรุ งควำมงำม กินลงไปเพียงเม็ดเดียว เกรงว่ำไม่เพียงแค่
ทะเลตะวันตก แต่วำ่ ในบรรดำสตรี ของเผ่ำมังกรทุกเผ่ำ ย่อมไม่มี
ผูใ้ ดจะสำมำรถเทียบกับนำงได้ท้ งั นั้น
ค่ำคืนนี้ เผ่ำมังกรทมิฬก็จะส่ งคนมำรับตัวเจ้ำสำวแล้ว รอให้นำงได้
ดูดซับเอำพลังของไข่มุกพลังวิญญำณเข้ำไป เผ่ำมังกรทัว่ ทั้งสี่ ทะเล
จะต้องเพิ่มพูนควำมเคำรพที่มีต่อตัวนำงอย่ำงแน่นอน
ถึงตอนนั้นโอกำสที่จะได้เผยโฉมออกไปก็จะมีมำกขึ้น ใบหน้ำนี้ยงิ่
สมควรจะต้องบำรุ งให้งดงำมยิง่ ขึ้นไปอีกมิใช่หรื อ?
ช่วงนี้ช่ำงมีโชคเหลือเกิน พึ่งจะได้กินมนุษย์และเหล่ำนักพรตไปตั้ง
มำกมำย ก็ยงั มีพวกที่ไม่รักชีวิตส่ งตัวเองลงมำถึงใต้ทอ้ งทะเลให้อีก
นำงกวำดตำประเมินมองตู๋กซู ิงหลันอยูค่ รู่ หนึ่ง ก็มองเห็นมุกมังกร
ในมือของนำง
“เอ๋ ? น้องสำวตัวดีของข้ำกำลังจะแต่งงำน ตอนนี้กเ็ ลยมีมิตรสหำยมำ
มอบของขวัญกระนั้นหรื อ?” ลู่เวยยิม้ เย็นชำ น้ ำเสี ยงของนำงแฝง
พลังที่ล่อลวงให้คนลุ่มหลง
นำงไม่รู้วำ่ จะบอกว่ำชือหลีน้ นั ฉลำดเจ้ำเล่ห์หรื อว่ำโง่เง่ำดี
มุกมังกรที่เป็ นแก่นแท้ของชีวิตก็ยงั กล้ำถอดออกไป?
มอบออกไปแล้ว ยังจะกล้ำพำตัวกลับมำยังทะเลตะวันตกอีก…..คง
จะเพรำะในใจหวังว่ำเสด็จพ่อจะยังคิดถึงนำง อำจมอบทำงรอด
ให้กบั นำงสำยหนึ่ง?
เฮอะ เฮอะ
หำกบอกว่ำนำงโง่ มุกมังกรที่นำงถอดออกไปก็ยงั สำมำรถเป็ น
หนทำงรอดให้กบั ตนเองได้อยู่
ดูสิ นี่มิใช่วำ่ ยกทัพหนุนมำช่วยกันหรอกหรื อ?
พี่รองรู ้สึกว่ำน้ ำเสี ยงนั้นคล้ำยจะสะท้อนเข้ำไปถึงในหัวใจ ทำให้
อยำกจะมอบทุกสิ่ งทุกอย่ำงที่มีอยูอ่ อกไป
“เจ้ำเปลี่ยนเป็ นมังกรยังจะน่ำดูมำกกว่ำ …..หน้ำตำคล้ำยชือหลี แต่
กลับสวยสู ้นำงไม่ได้ ข้ำเห็นแล้วอึดอัด” บุรุษที่เที่ยงแท้อย่ำงเขำยำม
พูดควำมจริ งออกมำตรงๆก็เสมือนผลักคนให้ไปตำยเท่ำนั้น
สี หน้ำของลู่เวยบูดเบี้ยว ตั้งแต่เล็กมำแล้วใครๆต่ำงก็พำกันกล่ำวว่ำชื
อหลีงดงำมกว่ำนำง ……นำงทนฟังมำร้อยปี เต็มแล้ว!
นี่เป็ นปมในใจของนำง ตลอดหลำยปี มำนี้ไม่มีผใู ้ ดกล้ำเอ่ยขึ้นมำ
แม้แต่ประโยคเดียว เจ้ำมนุษย์ธรรมดำที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษผูน้ ้ นั กลับ
กล้ำลบหลู่นำง?
มือของลู่เวยเอื้อมไปทำงด้ำนหลัง
ตู๋กซู ิงหลันแบกดำบยักษ์เล่มใหญ่เอำไว้บนบ่ำ ไม่รอให้ลู่เวยล้วงสิ่ ง
ที่อยูด่ ำ้ นหลังออกมำ นำงก็ยกดำบยักษ์ฟำดฟันออกไปแล้ว
เมื่อมีมุกมังกรที่เป็ นแก่นชีวิตของชือหลีอยูใ่ นมือ น้ ำทะเลก็ได้แต่
ถอยห่ำงจำกตัวนำง สิ่ งนี้ยงั ทรงอิทธิฤทธิ์เหนือล้ ำกว่ำลูกแก้ววำรี นบั
ร้อยนับพันเท่ำ
ถึงแม้วำ่ จะอยูใ่ นน้ ำ แต่กส็ ำมำรถเปิ ดพื้นที่วำ่ งช่วงหนึ่งให้กบั นำงได้
เลย
โรคกลัวน้ ำลึกของตู๋กซู ิงหลันย่อมถูกสกัดกั้นเอำไว้
พอเห็นดำบนั้นสะบัดออกมำ ลู่เวยที่ยงั ไม่ทนั ชักอำวุธออกมำก็ได้แต่
ต้องหลบหลีกออกไปด้ำนข้ำง
ดำบยักษ์สะบั้นลงไปเฉียดผ่ำนหัวไหล่ของนำง สะกิดโดนเสื้ อผ้ำสี
ทองขำดเป็ นรอย เผยผิวบนหัวไหล่ของนำงออกมำเล็กน้อย
ร่ ำงของนำงลอยอยูก่ ลำงน้ ำทะเล จุดที่นำงอยูเ่ มื่อครู่ ถูกดำบยักษ์
สะบั้นจนแยกออก ครู่ ต่อมำน้ ำทะเลถึงได้กลับมำรวมกันเหมือนเดิม
ตู๋กซู ิงหลันสวมชุดสี แดงดุจแสงเพลิง เส้นผมสี ดำยำวพลิ้วไหวรำว
เริ งระบำ สองมือกุมดำบยักษ์เอำไว้อย่ำงแนบแน่น ดวงตำดอกท้อ
เปล่งประกำยแหลมคมเสี ยยิง่ กว่ำคมดำบ
ดำบเดียวที่ฟำดออกไป ห่วงที่ร้อยบนตัวดำบก็ส่งเสี ยงร้องรับออกมำ
ลู่เวยเหลือบตำไปด้ำนข้ำง มองดูริ้วรอยที่อยูบ่ นหัวไหล่ของตนเอง
ค่อยเงยหน้ำขึ้นมองดูสตรี เผ่ำมนุษย์ผนู ้ ้ นั อีกครั้ง
ก็ได้ยนิ นำงเอ่ยขึ้นมำช้ำๆอย่ำงไม่ใส่ ใจนักว่ำ “พึ่งหัดใช้ดำบ ก็เลยไม่
ค่อยถนัด”
ดำบยักษ์ของพี่ใหญ่มิใช่สิ่งที่คนธรรมดำจะสำมำรถควบคุมได้
เฉพำะน้ ำหนักเกือบร้อยจิน คนธรรมดำก็ยกมันไม่ข้ ึนแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันพึ่งจะเอำมำใช้เป็ นครั้งแรก ย่อมไม่คุน้ เคยอยูบ่ ำ้ ง
แต่ในสำยตำของลู่เวย ท่ำทำงเช่นนั้น ช่ำงเหมือนกับกำรโอ้อวด
อหังกำรอย่ำงยิง่ !
“เจ้ำรู ้หรื อไม่วำ่ ผูท้ ี่อยูต่ รงหน้ำของเจ้ำนี้คือใคร?” สี หน้ำของลู่เวยยิง่
บึ้งตึง ระเบิดควำมโกรธเกรี้ ยวออกมำอย่ำงเต็มที่ นำงถอยไป
ด้ำนข้ำงอีกครั้งหนึ่ง ชักดำบกระดูกออกมำจำกด้ำนหลัง
ดำบกระดูกสี ทอง บนตัวดำบมีตรำสัญลักษณ์เฉพำะของเผ่ำมังกร
ทันทีที่ดำบกระดูกมังกรปรำกฏขึ้น แม้แต่รำชำสุ นขั ป่ ำตะวันตกยัง
บังเกิดควำมคิดที่จะคุกเข่ำลงไปอย่ำงกระทันหัน จนต้องส่ งเสี ยง
หอนออกมำ
เผ่ำมังกร คือรำชำของสรรพสัตว์ ย่อมมีพลังอำนำจในกำรสะกดข่ม
โดยธรรมชำติ
ดำบกระดูกเล่มนั้น หลอมขึ้นจำกกระดูกมังกร จึงแฝงพลังของเผ่ำ
มังกรที่ไม่มีสตั ว์ใดสำมำรถต่อต้ำนได้เอำไว้
เหล่ำสัตว์น้ ำทัว่ ท้องทะเลต่ำงก็มำรวมตัวกันอยูท่ ี่เบื้องหลังของลู่เวย
ฝูงฉลำมรวมกลุ่มกันเป็ นกองทัพอยูใ่ ต้ฝ่ำเท้ำของนำงกลำยเป็ นฉำกที่
งดงำมตระกำรตำใต้ทอ้ งทะเลลึก
แต่ในขณะเดียวกันฉำกนี้กใ็ ห้ควำมรู ้สึกน่ำสะพรึ งกลัวอยูด่ ว้ ย
ลู่เวยถือดำบกระดูกมังกรเอำไว้ในมือ สะกิดปลำยเท้ำ พลิกฝ่ ำมือพุง่
เข้ำหำตู๋กูซิงหลัน
ดำบนี้พงุ่ ตรงเข้ำลำคอของนำง หมำยเอำชีวิต!
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 405 มังกร? ก็จะทุบตีเจ้ าอยู่ด!ี
ในตอนนี้หวั ใจของพี่รองแทบจะกระดอนขึ้นมำถึงคอหอยอยูแ่ ล้ว
หำกบอกว่ำน้องเล็กกำลังทุบตีตวั ประหลำดอื่นๆก็แล้วไปเถอะ….
มิใช่วำ่ เขำจะไม่เคยเห็นมำก่อน
แต่วำ่ เจ้ำตัวที่อยูต่ รงหน้ำนัน่ คือมังกรของแท้ตวั เป็ นๆ!
น้องเล็กไม่ทนั ได้กระพริ บตำ ก็ลงมือทุบตีอย่ำงโหดเ**้้ยมไปแล้ว
ซวยแน่!
ดำบกระดูกมังกรนั้นพอปรำกฏออกมำ เพียงแค่แรงกดดันก็ทำเอำ
คนแทบจะหำยใจไม่ออกแล้ว
ขณะที่เห็นว่ำดำบนั้นกำลังจะแทงเข้ำไปในลำคอของตู๋กซู ิงหลัน
ติ๊งต๊องก็เตรี ยมพร้อมจะพ่นไฟเอำไว้อยูแ่ ล้ว…..แต่วำ่ เมื่ออยูใ่ นท้อง
ทะเล พ่นไฟคงมิได้ช่วยอะไรเท่ำไหร่ กระมั้ง?
ทันใดนั้นเอง ก็เห็นดำบใหญ่ในมือของตู๋กซู ิงหลันควงตัวรอบหนึ่ง
เปลี่ยนเป็ นกำบังอยูด่ ำ้ นหน้ำ สกัดดำบกระดูกมังกรนั้นเอำไว้อย่ำง
ตรงๆ
ลู่เวยหัวเรำะอย่ำงเย็นชำคำหนึ่ง “อำวุธของคนธรรมดำก็จะขัดขวำง
ข้ำได้หรื อ?”
ดำบที่หลอมขึ้นจำกกระดูกมังกร แฝงพลังหนักแน่นสำมำรถผ่ำ
ขุนเขำ นำงคิดจะใช้ดำบยักษ์ของมนุษย์ธรรมดำมำสกัดตน?
นี่มิใช่เท่ำกับว่ำเอำเปลือกไข่มำกระทบกับก้อนหิ นหรอกหรื อ?
“สำยตำของชือหลีช่ำงใช้กำรไม่ได้เสี ยจริ งๆ เรี ยกทัพหนุนมำทั้งที
กลับมีแต่พวกโง่งม! ถึงจะมีควำมกล้ำหำญอยูบ่ ำ้ ง แต่กเ็ ป็ นแค่พวก
บ้ำบิ่นที่ไร้สมอง!” นำงเอ่ยอย่ำงเย็นชำ ถ่ำยทอดพลังผ่ำนฝ่ ำมือ พลัง
ที่แข็งแกร่ งโหมออกไปเป่ ำเสื้ อผ้ำของตู๋กซู ิงหลันปลิวขึ้นไป
ขนำดมุกมังกรในฝ่ ำมือของนำงยังเกิดควำมสัน่ สะท้ำนขึ้นมำ
ตู๋กซู ิงหลันควงดำบยักษ์ดว้ ยมือเดียว กลับสำมำรถต้ำนทำนดำบเล่ม
นั้นเอำไว้ได้
เสี ยง ‘เปรี้ ยง’ สะท้อนออกมำจำกจุดที่ดำบกระดูกมังกรและดำบ
ยักษ์กระแทกกันจนเกิดแสงสว่ำงบำดตำ
ทันทีที่แสงสว่ำงนั้นระเบิดออก เหล่ำสัตว์ทะเลที่พำกันรำยล้อมอยู่
ต่ำงก็แยกย้ำยถอยหลังออกไป
ตู๋กซู ิงหลันใช้พลังยกดำบยักษ์ข้ ึนมำ ใจกลำงฝ่ ำมือของนำงบังเกิด
หมอกสี ดำขุมหนึ่ง หมอกสี ดำนั้นแทรกซึมเข้ำสู่ ตวั ดำบยักษ์ พอสัน่
สะท้ำนขึ้นมำ ก็กระแทกดำบกระดูกมังกรของลู่เวยกลับออกไป
ลู่เวยถูกกระแทกจนต้องถอยกรู ดกลับไปหลำยก้ำว ฝ่ ำมือถูกแรง
กระแทกสะท้อนเข้ำใส่ จนสะท้ำนไปหมด จนเกือบจะจับดำบเอำไว้
ไม่ไหวอีกต่อไป
นำงใจหำยวำบ รู ้แค่วำ่ ไอเย็นที่เหน็บหนำวขุมหนึ่งทะลวงผ่ำนดำบ
กระดูกมังกรเข้ำสู่ ใจกลำงฝ่ ำมือ แทรกซึมและหมุนวนอยูภ่ ำยในร่ ำง
ของนำง
กลำยเป็ นไอแห่งควำมตำยที่หน่วงเหนี่ยวร่ ำง รำวกับพลังที่จะลำก
คนลงไปยังขุมนรก
ทำให้นำงต้องมองดูสตรี เผ่ำมนุษย์ตรงหน้ำนี้ใหม่อีกครั้ง…..
บนโลกใบนี้ เผ่ำมังกรไม่เคยมีใครต้องมำเสี ยทีให้กบั มนุษย์ธรรมดำ
มำก่อน
ต่อให้เป็ นเหล่ำนักพรตของพวกมนุษย์ ก็ยงั ไม่เคยมีใครได้รับกำร
เหลือบแลจำกเผ่ำมังกรทั้งนั้น
พวกเขำคือผูท้ ี่สูงส่ งกว่ำอยูเ่ สมอมำ
โดยเฉพำะลู่เวย นำงคือควำมภำคภูมิใจของเผ่ำมังกรตะวันตก คือว่ำ
ที่ผนู ้ ำของเหล่ำมังกรทั้งสี่ ทอ้ งทะเลในอนำคต …… ตลอดหลำยปี
มำนี้ในบรรดำผูเ้ ยำว์ของมังกรเผ่ำต่ำงๆ ยำกที่จะหำผูใ้ ดมำเทียบเคียง
ฝี มือกับนำงได้สกั คน
แต่วำ่ ตอนนนี้……นำงกลับถูกสัง่ สอนโดยฝี มือของสำวน้อยในเผ่ำ
มุนษย์คนหนึ่ง?
นัยตำสี ทองของนำงทอประกำยที่ชวั่ ร้ำยออกมำ
นำงกระชับดำบกระดูกมังกรในมือสะบัดออกไปอย่ำงรวดเร็ ว
ทันใดนั้นเหล่ำสัตว์น้ ำทะเลที่เดิมทีรำยล้อมอยูร่ อบตัวของนำงก็
ชะงักไปชัว่ ครู่ จำกนั้นก็เปลี่ยนเป็ นพุง่ เข้ำหำตู๋กซู ิงหลัน
มีควำมสำมำรถแล้วจะอย่ำงไร?
ที่นี่คือทะเลตะวันตก! ที่ถิ่นฐำนของนำง ลู่เวย องค์หญิงแห่งทะเล
ตะวันตก!
นำงไหนเลยจะยอมปล่อยให้มนุษย์ผหู ้ นึ่งมำสร้ำงควำมวุน่ วำยได้
กัน? ทั้งฉลำมยักษ์ วำฬ งูทะเล มีอยูม่ ำกมำยนับพันตัว นำงจะ
สำมำรถสังหำรได้หมดด้วยดำบเล่มเดียวหรื อ?
ลู่เวยคลี่ยมิ้ เย็นชำออกมำ “ฆ่ำนำงเสี ย! เก็บร่ ำงเอำไว้ ข้ำผูเ้ ป็ นองค์
หญิงยังต้องกำรใช้สอย!”
ทันทีที่สิ้นเสี ยง เหล่ำสรรพสัตว์ในท้องทะเลต่ำงก็พำกันถำโถมเข้ำ
ไป
ตู๋กซู ิงหลันมิได้รีบร้อน ในมือของนำงมียนั ต์ผืนหนึ่ง ริ มฝี ปำกเอื้อน
เอ่ยคำถำ ทันใดนั้นก็เห็นเหล่ำวิญญำณคนตำยจำนวนมำกมำยผุดขึ้น
ที่ขำ้ งกำยนำง
ทั้งหมดนี้คือเหล่ำคนที่ถูกลู่เวยกินเข้ำไป
เมื่ออยูใ่ ต้กำรบัญชำของตู๋กซู ิงหลันพวกมันก็กลำยเป็ นกองทัพ
วิญญำณคนตำย บุกออกไปโรมรันพันตูกบั เหล่ำสัตว์ทะเลทั้งหลำย
เมื่อมีพลังจำกหยกสรรพชีวติ ของตู๋กูซิงหลันเกื้อหนุน วิญญำณคน
ตำยแต่ละดวงก็มีพลังต่อสู ้สู่งส่ งยิง่ กว่ำดวงวิญญำณแค้นเสี ยอีก เมื่อ
ปะทะกับเหล่ำสัตว์น้ ำทะเล ก็มิได้เสี ยเปรี ยบแต่อย่ำงใด
ฉำกกำรต่อสู ้ที่เกิดขึ้นทำให้ลู่เวยถึงกับหุบปำกไม่ลง นำงกำดำบ
กระดูกมังกรในมือแน่น ถอยหลังออกไปอีกไกล
ชัว่ ชีวิตนี้นำงฆ่ำคนไปมำกมำย แต่ก็ไม่เคยมีวิญญำณคนตำยติดตำม
มำล้ำงแค้นมำก่อน!
คนธรรมดำผูน้ ้ ีมำจำกที่ใดกัน ถึงได้สำมำรถบังคับควบคุมเหล่ำ
วิญญำณคนตำยได้มำกมำยถึงเพียงนี้?
ลู่เวยหรี่ ตำดูอย่ำงพิจำรณำ คิดจะค้นหำควำมจริ งจำกร่ ำงของนำง แต่
กลับพบว่ำ ในตอนนั้นตู๋กซู ิงหลันได้หอบเอำดำบยักษ์บุกเข้ำมำถึง
เบื้องหน้ำนำงแล้ว
ดำบเล่มนั้นสะบั้นลงมำอีกครั้ง ครั้งนี้นำงลงมืออย่ำงพลิ้วไหว
กว่ำเดิม ครั้งนี้ ลู่เวยหลบไม่ทนั แล้ว ได้แต่ยกดำบกระดูกมังกรขึ้นมำ
ขวำงเอำไว้
แต่วำ่ ตู๋กซู ิงหลันกับรวดเร็ วกว่ำหลำยส่ วน ดำบนี้สะบั้นลงไป ก็ตดั
แขนขวำของนำงลงมำโดยไม่พลำดแม้แต่นอ้ ย
เลือดสดสำดกระจำยออกมำในทันที ละลำยรวมกับน้ ำทะเลอย่ำง
รวดเร็ ว
แขนที่ขำดของนำงจมลงสู่ พ้นื ทะเล ในมือยังคงกำดำบกระดูกมังกร
เอำไว้อย่ำงแนบแน่น
ลู่เวยเจ็บปวดจนกรี ดร้องออกมำ นำงไถลร่ ำงออกไปด้ำนข้ำง นำงคิด
อย่ำงเร่ งร้อนจะพุง่ ไปคว้ำดำบกระดูกมังกรของตนเองกลับมำ แต่
ว่ำตู๋กซู ิงหลันกลับเตะขำข้ำงหนึ่งออกไป
ถีบลงไปบนท้องของนำงอย่ำงพอดิบพอดี
ลูกถีบนั้น ต่อให้ววั ตัวหนึ่งก็ตอ้ งถูกนำงถีบตำยไป
พี่รองที่ชมดูอยูด่ ำ้ นข้ำงยังต้องตกใจว่ำเกินจริ งไปหรื อไม่
ตั้งแต่กลับมำจำกเมืองลี่โจว เขำก็รู้อยูแ่ ล้วว่ำน้องเล็กของตนเองที่
จริ งแล้วเป็ นผูเ้ ก่งกล้ำที่ซุกงำประกำยเอำไว้ เพียงแต่คิดไม่ถึงว่ำ นำง
จะแข็งแกร่ งถึงปำนนี้!
เพียงแค่เวลำสั้นๆไม่กี่เดือนในแคว้นเหยียน …..นำงก็เปลี่ยนแปลง
ไปมำกอย่ำงรวดเร็วรำวกับว่ำเป็ นตัวประหลำดไปแล้ว!
พี่รองทั้งตระหนกทั้งภำคภูมิใจ เขำขี่หลังรำชำสุ นขั ป่ ำเอำไว้ เอ่ย
ออกไปว่ำ “น้องเล็ก หำกว่ำเจ้ำเป็ นบุรุษ พี่กข็ อแต่งให้กบั เจ้ำแล้ว!”
ตู๋กูซิงหลัน “……”
วังหลังของนำงมีคนมำกมำยจนจะล้นอยูแ่ ล้ว ไม่ตอ้ งกำรคน
ปำกมำกมำเพิ่มอีกหรอก
ติ๊งต๊องเองก็ส่งเสี ยงกะต๊ำกๆออกมำ มันกระพือปี กเริ งระบำอย่ำง
ยินดี มันเองก็อยำกจะแต่งให้กบั พี่สำวตัวน้อยเหมือนกัน นี่ช่ำง
องอำจเกินไปแล้ว!
วิญญำณทมิฬกลับเห็นจนชินชำไปแล้ว …..หลันหลันในโลกก่อน
ต่ำงหำกจึงจะเรี ยกว่ำผูแ้ ข็งแกร่ ง!
แข็งแกร่ งขนำดที่สำมำรถทำให้พวกเจ้ำตกใจตำยไปได้! แต่พอมำอยู่
ที่โลกนี้กลับต้องคุดคูอ้ ยูใ่ นเปลือกนิ่มๆ ควำมสำมำรถถูกจำกัดด้วย
ขอบเขตของร่ ำงกำย
หลำยเดือนที่ผำ่ นมำตอนที่อยูใ่ นแคว้นเหยียน ในที่สุดก็สำมำรถดูด
ซับพลังจำกเศษหยกทั้งหกชิ้นเข้ำไปได้จนหมด จำกนั้นก็ฝึกฝน
ตนเองอย่ำงบ้ำคลัง่ รอบใหญ่ ควำมก้ำวหน้ำของร่ ำงเนื้อนี้ยอ่ มทำให้
ผูค้ นตระหนกจนตกใจตำยได้
ยิง่ เมื่อผสำนกับ…..พลังมำรที่เจ้ำจิ้งจอกนั้นถ่ำยทอดมำให้
สำมำรถกล่ำวได้วำ่ หลันหลันในตอนนี้ฟ้ื นคืนพลังเดิมในโลกก่อน
ได้สำมสี่ ส่วนแล้ว เมื่ออยูใ่ นโลกมิติน้ ี นับว่ำเป็ นระดับตัวพ่อตัวแม่ผู ้
หนึ่ง ไม่วำ่ ใครก็ไม่อำจมำหยำมได้ง่ำยๆ
หำกว่ำเป็ นโลกก่อนนั้น….อย่ำว่ำแต่มงั กรตัวหนึ่งเลย ต่อให้ยกกัน
มำทั้งรัง ก็ตอ้ งถูกนำงทุบตีอยูด่ ี!
ใช้แล้ว นำงก็อหังกำรเช่นนี้เอง!
วิญญำณทมิฬมองดูภำพตรงหน้ำ ก็รู้สึกสบำยอกสบำยใจอย่ำงบอก
ไม่ถูก เมื่อไม่ตอ้ งถูกบีบคั้นอย่ำงก่อนหน้ำนี้ ทัว่ ทั้งร่ ำงค่อยรู ้สึกเบำ
สบำย
มันมองดูต๋ ูกซู ิงหลัน ก็เห็นดวงตำดอกท้อทั้งคู่ของสำวน้อยผูน้ ้ นั
เปล่งประกำยที่ท้ งั ป่ ำเถื่อนทั้งดุร้ำย
เหล่ำสัตว์น้ ำขนำดใหญ่ต่ำงก็ได้กลิ่นเลือดจนเกิดควำมดุร้ำยจนคลุม้
คลัง่ ขึ้นมำ
เมื่อไม่มีดำบกระดูกมังกรเป็ นอำญำสิ ทธิ์ พวกมันก็ติดตำมกลิ่นเลือด
ไปโดยสัญชำติญำณ กลำยเป็ นกลับมำรำยล้อมรอบตัวของลู่เวย
พอไม่ได้เห็นสิ่ งที่เป็ นเครื่ องหมำยแสดงฐำนะขององค์หญิงเผ่ำมังกร
แต่ละตัวก็สำดสำยตำหิวกระหำยออกมำ
ตู๋กซู ิงหลันเข้ำไปเก็บดำบกระดูมงั กรจำกมือที่ขำดข้ำงนั้นขึ้นมำ
อย่ำงช้ำๆ
ตัวดำบทอประกำยสี ทองออกมำจำงๆ เป็ นสี ทองที่เหมือนกับสี ทอง
ของมังกรน้อยในมุกมังกรที่ชือหลีมอบให้กบั นำง
พอสู ดดมดูอย่ำงละเอียด บนตัวดำบนั้นมีกลิ่นอำยของชือหลี…..ถูก
กักเอำไว้ กลิ่นอ่อนจำงอย่ำงยิง่ แต่วำ่ ก็ยงั สำมำรถสัมผัสได้
………………………………………
ไรท์ : ยัง ยังไม่พอ นี่แค่เริ่ มต้นเท่ำนั้น เพรำะว่ำ
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 406 รังแกมันกลับไป!
“เจ้ำมันคือตัวอะไรกันแน่?”
ลู่เวยล้วงเอำยำออกมำสองเม็ดกลืนกินลงไป เพื่อหยุดเลือดเอำไว้
นำงปิ ดปำกแผลบนท่อนแขนเอำไว้ จดจ้องไปยังตู๋กซู ิงหลัน
ดำบกระดูกมังกร….มีแต่สำยเลือดของเผ่ำมังกรที่แท้จริ งเท่ำนั้นจึง
จะสำมำรถยกขึ้นมำได้!
ไม่….. มังกรธรรมดำก็ยงั ไม่อำจจะทำให้มนั ขยับ…..แม้แต่ตวั นำงก็
ยังต้องฝึ กฝนอยูน่ ำนหลำยปี จึงจะสำมำรถทำให้ดำบเล่มนั้น
กลำยเป็ นอำวุธของตนเองได้
“แค่มนุษย์ธรรมดำผูห้ นึ่ง คิดจะอำศัยอะไรมำขยับอำวุธของข้ำผูเ้ ป็ น
องค์หญิง?”
ตู๋กซู ิงหลันกุมดำบเล่มนั้นเอำไว้ ชมดูอย่ำงละเอียดลออครู่ หนึ่ง
จำกนั้นก็สำดสำยตำกลับไป “อำวุธของเจ้ำงั้นรึ ?”
น้ ำเสี ยงนั้นเย็นเป็ นน้ ำแข็ง รำวกับแท่งน้ ำแข็งที่สำมำรถตัดผ่ำนคน
ออกมำ
ลู่เวยตกตะลึงไปครู่ หนึ่ง…..
ก็ส่งเสี ยงโวยวำยออกมำว่ำ “ในเมื่อหยิบออกมำจำกด้ำนหลังของข้ำ
หำกไม่ใช่อำวุธของข้ำ แล้วจะเป็ นของเจ้ำหรื ออย่ำงไร?”
“ข้ำคือองค์หญิงแห่งทะเลตะวันตก วันนี้เจ้ำกล้ำตัดแขนข้ำข้ำงหนึ่ง
เท่ำกับก่อควำมแค้นที่ยงิ่ ใหญ่ดุจท้องฟ้ำ! แล้วยังคิดจะช่วงชิงของ
ของข้ำ? พวกมนุษย์ลว้ นโลภมำกไม่มีสิ้นสุ ดเช่นนี้นะหรื อ?”
เมื่อครู่ น้ ี นำงพึ่งจะปล่อยงูน้ ำตัวหนึ่งจำกแขนเสื้ อไปส่ งข่ำว ขอเพียง
สำมำรถถ่วงเวลำเอำไว้ได้ครู่ หนึ่ง เสด็จพ่อกับเสด็จแม่จะต้องมำ
ช่วยเหลือนำงอย่ำงแน่นอน
ถึงตอนนั้น…..นังมนุษย์ผนู ้ ้ ีกอ็ ย่ำได้คิดว่ำจะรอดไปได้เลย!
ตู๋กซู ิงหลันหรี่ ดวงตำลง ก็เขวี้ยงมีดบินเล่มหนึ่งออกไปจำกแขนเสื้ อ
ตัดเจ้ำงูน้ ำตัวนั้นขำดสะบั้นเป็ นสองท่อนในทันที
แต่วำ่ ลู่อิงกลับมองไม่ทนั เสี ยด้วยซ้ ำ
ตู๋กูซิงหลันสะพำยดำบยักษ์เอำไว้บนหลัง ใช้มือข้ำงเดียวกุมดำบ
กระดูกมังกรเอำไว้ สะบัดดำบออกไป ปำดลงบนข้ำงแก้มของลู่เวย
กรี ดลงไปบนปำกของนำงให้ขำดออกมำ
“บนตัวดำบเล่มนี้ มีกลิ่นอำยของชือหลีอยู่ เจ้ำยังจะกล้ำบอกว่ำเป็ น
อำวุธของเจ้ำ?” น้ ำเสี ยงของตู๋กซู ิงหลันเย็นเฉียบอย่ำงที่สุด
มนุษย์มจั ฉำผูน้ ้ นั ได้บอกเล่ำสถำนกำรณ์ของชือหลีให้นำงฟังจน
หมดแล้ว
ชือหลีเองก็เคยบอกเอำไว้วำ่ เนื่องเพรำะคนในครอบครัวของนำงเคย
กระทำผิด นำงและชือฉิงที่เป็ นน้องสำวจึงถูกถอดกระดูกมังกร
ออกไป
ต้องฝึ กฝนบำเพ็ญเพียรอย่ำงหนักหน่วง จึงสำมำรถอำศัยร่ ำงงู
กลำยเป็ นเทพพิทกั ษ์แม่น้ ำลี่เหอ
ดำบกระดูมงั กรนี้หลอมขึ้นมำจำกกระดูกของมังกร ถึงแม้วำ่ จะผ่ำน
เวลำมำนำนหลำยปี แล้ว แต่กย็ งั คงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอำยดัง่ เดิมยำม
ก่อกำเนิดได้อยู่
เป็ นกลิ่นอำยที่เหมือนกันกับชือหลีอย่ำงไม่ผดิ เพี้ยน
นำงไม่เพียงแต่ถูกบิดำเสเพลผูน้ ้ นั ทำร้ำย ครอบครัวนี้ยงั เอำกระดูก
มังกรของนำงไปหลอมเป็ นดำบ มอบให้กบั พี่สำวต่ำงมำรดำของ
นำง?
ตู๋กซู ิงหลันหัวเรำะออกมำอย่ำงเย็นชำ ในรอยยิม้ นั้นมีเลือดปนอยู่
นำงกับชือหลีผำ่ นประสบกำรณ์เสี่ ยงชีวิตมำด้วยกัน ย่อมถือว่ำชือห
ลีคือสหำยของนำงมำตั้งนำนแล้ว
นำงเป็ นคนรักพวกพ้อง รักพวกพ้องอย่ำงยิง่ !
คนของนำง ผูอ้ ื่นล้วนไม่อำจแตะต้อง!
หำกว่ำ กล้ำลงมือ ก็ตอ้ งสนองกลับไปเป็ นร้อยเป็ นพันเท่ำ!
มุมปำกของลู่เวยถูกกรี ดขำด ดวงตำของนำงมีแต่ควำมเคียดแค้นยิง่
กว่ำเดิม!
มีกลิ่นอำยของชือหลีแล้วจะอย่ำงไร?
นำงมันก็แค่เศษสวะ! กระดูกของมันสำมำรถมำหลอมเป็ นดำบให้
นำงใช้ได้กต็ อ้ งถือเป็ นวำสนำของมันแล้ว!
มำรดำที่ไร้ค่ำของนำง ตอนนั้นทำร้ำยผูค้ นจนต้องกลำยเป็ นวิญญำณ
ไปทั้งเมือง ทำผิดด้วยก่อกำรฆ่ำฟันครั้งยิง่ ใหญ่ นำงคือลูกหลำนของ
นักโทษ แล้วจะมำเปรี ยบเทียบกับตนที่เป็ นองค์หญิงที่แท้จริ งของ
ทะเลตะวันตกได้อย่ำงไร?
ตัวนำงลู่เวยเห็นค่ำในกระดูกมังกรของชือหลี ก็ตอ้ งถือว่ำเป็ นบุญที่ชื
อหลีสงั่ สมมำแปดชำติดว้ ยซ้ ำ!
นำงอ้ำปำกขึ้นมำ คิดจะเถียงกลับไป ก็เห็นตู๋กูซิงหลันพุง่ มำถึง
ด้ำนหน้ำของนำงกระโดดถีบลงมำทั้งสองเท้ำ
“อย่ำมำกล่ำววำจำไร้สำระกับเจ้!” นำงไม่มีอำรมณ์จะมำอดทนอีก
ต่อไป พอกำดำบกระดูกมังกรเอำไว้ในมือ ก็รู้สึกเหมือนถือกระดูก
ของชือหลีเอำไว้ หนักหน่วงอย่ำงยิง่
ตู๋กเู จวี๋ยก็พลิกร่ ำงลงจำกหลังของรำชำสุ นขั ป่ ำเช่นกัน ใบหน้ำที่เคย
แต่อบอุ่นอ่อนโยนมำโดยตลอด ตอนนี้ยงั ดูถมึงทึงเสี ยยิง่ กว่ำตู๋กูซิงห
ลันอีก
เขำไม่ใช่คนโง่ ถึงแม้จะไม่รู้อย่ำงชัดเจนว่ำเกิดอะไรขึ้นกับชือหลี
แต่จำกคำสนทนำที่โต้ตอบกันก็รู้แล้วว่ำ ชือหลีถูกคนรังแก
ตู๋กเู จวี๋ยคุกเข่ำลง กำหมัดซัดลงไปบนใบหน้ำของลู่เวย “มำรดำมัน
พวกเจ้ำทำอะไรกับชือหลี?”
ถึงตู๋กเู จวี๋ยเป็ นคนปำกมำก แต่ยำมพูดจำก็มีมำรยำทและหลักกำรอยู่
เสมอ
นี่เป็ นครั้งแรกที่เขำหยำบคำย
พอคิดว่ำช่วงที่ผำ่ นมำชือหลีคงจะถูกพวกที่ไม่ใช่คนเหล่ำนี้รังแกมำ
โดยตลอด ดวงตำของเขำก็แดงก่ำขึ้นมำแล้ว
ช่ำงสมควรตำย……เขำนึกว่ำนำงเป็ นเทพ ที่มีควำมสำมำรถตบตี
ผูอ้ ื่นอยูเ่ สมอ แต่กลับนึกไม่ถึงว่ำ เทพก็ถูกรังแกได้เหมือนกัน
หนึ่งหมัดที่กระแทกลงไปทำให้แผลตรงปำกของลู่เวยฉี กขำดมำก
กว่ำเดิม
นำงเจ็บจนต้องสู ดลมหำยใจเข้ำไปอึกหนึ่ง มองดูบุรุษที่ผำ่ ยผอมชุด
ขำวผูน้ ้ ี
ทำไมมนุษย์ธรรมดำสองคนถึงสำมำรถทำร้ำยนำงได้ถึงเพียงนี้?
ไม่รอให้ลู่เวยตอบคำถำม ก็เห็นตู๋กเู จวี๋ยต่อยอีกหมัดตำมลงไป “พวก
เจ้ำถอดกระดูกของชือหลีเอำมำทำดำบหรื อ?”
เห็นท่ำทำงของน้องเล็กเขำก็รู้แล้ว
ตู๋กซู ิงหลันหรี่ ตำมองดู พี่รองที่สองตำแดงก่ำ หนุ่มน้อยผูน้ ้ ีช่ำงชักช้ำ
อืดอำดจริ งๆ…..หำกไม่ช่วยเหลือเขำสักหน่อยเกรงว่ำทั้งชำติคงไม่
อำจหำภรรยำได้สักคนเดียว
นำงปล่อยให้เขำได้ระบำยอำรมณ์อย่ำงเต็มที่
พี่รองกระหน่ำลงไปเจ็ดแปดหมัดติดต่อกัน จนแทบจะทำให้ศีรษะ
ของลู่เวยกลำยเป็ นหมัน่ โถไปแล้ว เขำถึงได้หยุดมือ
อย่ำได้เห็นว่ำยำมปกติหนุ่มน้อยผูน้ ้ ีรู้จกั แต่สุภำพนุ่มนวล พอลงมือ
ขึ้นมำก็สุดชีวิตเหมือนกัน พละกำลังก็ยงั มำกมำยเกินกว่ำที่ต๋ ูกซู ิงห
ลันคำดกำรณ์เอำไว้เสี ยอีก
นำงเหลือบมองดูหมัดของเขำ เห็นมันแดงก่ำ จนผิวก็ยงั ถลอก
ออกมำ
ตู๋กซู ิงหลันเก็บดำบกระดูกมังกรขึ้นมำ เอ่ยกับพี่รองของตนเองคำ
หนึ่ง “ครั้งนี้ชือหลีถูกรังแกจนยำ่ แย่แล้ว”
“ถ้ำเช่นนั้นก็ยงิ่ ต้องรังแกกลับไป!” ดวงตำของพี่รองแดงเข้มขึ้นมำ
ในทันที
เขำเข้ำมำถึงข้ำงกำยตู๋กูซิงหลัน ยืน่ มือไปจับดำบยักษ์ที่นำงแบก
เอำไว้บนหลัง
ยกมัน แต่กลับไม่มีอะไรขยับแม้แต่นอ้ ย
ตู๋กเู จวี๋ย “…..” เขำชักจะสงสัยว่ำ ตนเองไม่ใช่ลูกแท้ๆของบิดำ
มำรดำหรื อเปล่ำ ทำไมเวลำเห็นพี่ใหญ่กบั น้องเล็กแบกดำบยักษ์น้ ี
เอำไว้ กลับดูง่ำยดำยเหมือนดัง่ ยกมีดหัน่ ผัก
ผ่ำนไปอีกพักใหญ่เขำถึงได้เก็บมือกลับไป
“ต่อให้ขำ้ ต้องน้ ำลำยแห้งผำด ก็จะขอถุยใส่ เจ้ำพวกต่ำช้ำที่รังแกนำง
ให้ถึงตำย!”
ตู๋กซู ิงหลัน “มีควำมก้ำวหน้ำ”
…………………….
พูดจบแล้วก็เห็นบรรดำสัตว์น้ ำที่รำยล้อมพวกเขำเอำไว้พำกัน
แตกตื่นขึ้นมำ
เดิมทีพวกมันกำลังจดจ้องมำที่ลู่เวย กลิ่นคำวจำกเลือดของนำงน่ำ
ดึงดูดมำกเกินไปแล้ว แต่เพรำะว่ำตู๋กซู ิงหลันยังอยูใ่ กล้ๆกับลู่เวย ใน
มือของนำงถือดำบกระดูกมังกรอยู่ จึงไม่กล้ำเคลื่อนไหวอย่ำงวูว่ ำม
เหล่ำวิญญำณคนตำยหลำยร้อยยังคงคอยอยูด่ ำ้ นหลังของตู๋กซู ิงหลัน
ล่องลอยไปมำอยูใ่ นท้องทะเล แต่ละตนมีไอแค้นรุ นแรง ยังดูดุร้ำย
ยิง่ กว่ำพวกผีตำยโหงเสี ยอีก
แต่แล้วในตอนนั้นเอง เหล่ำสัตว์น้ ำพำกันแตกตื่นขึ้นมำ แม้แต่พวก
วิญญำณคนตำยก็ยงั พลอยไม่สงบไปด้วย
แต่ละตนมองลึกเข้ำไปในท้องน้ ำ
ที่นนั่ มีเสี ยงดนตรี ล่องลอยออกมำ
“ยำมตำยของเจ้ำมำถึงแล้ว!” ลู่เวยทนเจ็บ เอ่ยออกมำด้วยควำมเกรี้ ยว
กรำด
จะต้องเป็ นเสด็จพ่อเสด็จแม่ที่ได้รับข่ำวของนำงจึงรี บมำช่วยเหลือ
อย่ำงแน่นอน!
ดวงตำของตู๋กซู ิงหลันเย็นชำดุจน้ ำแข็ง นำงสะบัดเท้ำออกไป ถีบใส่
ปำก ครำวนี้กระทัง่ ฟันก็ยงั ร่ วงออกมำ
นำงเอ่ยออกมำด้วยน้ ำเสี ยงเย็นชำคำหนึ่ง “ยำมตำยของพวกเจ้ำมำถึง
แล้วต่ำงหำก”
จำกนั้นมือข้ำงหนึ่งก็คว้ำคอเสื้ อของลู่เวยขึ้นมำ ยันต์สีเหลืองแผ่น
หนึ่งถูกผนึกลงไปบนหน้ำผำกของนำง ตู๋กซู ิงหลันก้ำวเท้ำออกไป
ข้ำมผ่ำนเหล่ำสัตว์น้ ำมำกมำย มุ่งตรงไปยังทิศทำงของวังมังกร
เหล่ำวิญญำณคนตำยต่ำงก็ติดตำมอยูด่ ำ้ นหลังของนำง กลำยเป็ น
กองทัพที่คึกคักฮึกเหิม
ตู๋กซู ิงหลันหิ้วลู่เวยเอำไว้รำวกับว่ำเป็ นลูกเจี๊ยบตัวหนึ่ง นำงสะพำย
ดำบยักษ์ นำพี่รอง รำชำสุ นขั ป่ ำและติ๊งต๊องผ่ำนปำกประตูวงั มังกร
เข้ำไปภำยใน
………………………….
ส่ วนลึกของทะเลตะวันตกไม่มีกำรแบ่งแยกกลำงวันหรื อกลำงคืน
วันนี้วงั มังกรแต่งบุตรสำว ถือเป็ นมงคล
แต่ละตำหนักในวังประดับประดำไปด้วยไข่มุกรำตรี จนทัว่ ทั้ง
ตำหนักเปล่งประกำยสุ กใส
บนเสำทองของตำหนักกลำงยังคงมีครำบเลือดเกำะอยู่ แต่กลับไม่มี
เงำของชือหลีแล้ว
ตอนที่ 408 “พีส่ ะใภ้ ข้ ามารับท่ านแล้ว”
ฮ่องเต้หญิงแคว้นเหยียน?
รำชำรำชินีมงั กรครุ่ นคิดอยูค่ ่อนวันค่อยนึกออกว่ำบนฝั่งมีแคว้นเห
ยียนอยู่ เมื่อหลำยเดือนก่อนพึ่งจะเปลี่ยนฮ่องเต้พระองค์ใหม่ ฟังว่ำ
เป็ นเด็กหญิงผูห้ นึ่ง ทั้งยังมีควำมสำมำรถในกำรปกครองบ้ำนเมือง
อยูบ่ ำ้ ง
ที่ผำ่ นมำเผ่ำมังกรล้วนไม่เคยไปแทรกแซงเรื่ องรำวของพวกมนุษย์
แคว้นใดจะเปลี่ยนฮ่องเต้ กระทำเรื่ องอันใด ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับ
พวกเขำทั้งนั้น
เนื่องเพรำะเผ่ำมังกรมีอำยุยนื ยำว เผ่ำมนุษย์ลว้ นเป็ นพวกตัวกระจ้อย
ร่ อยเสมือนมดเล็กๆบนปลำยนิ้ว ไม่จำเป็ นจะต้องเห็นพวกเขำอยูใ่ น
สำยตำเสี ยด้วยซ้ ำ
เรื่ องที่เกี่ยวข้องกับฮ่องเต้หญิงผูน้ ้ ี พวกเขำจึงรู ้แต่เพียงเล็กน้อย
เท่ำนั้น
แต่คิดไม่ถึงเลยว่ำ นำงไม่อยูท่ ี่แคว้นเหยียนเป็ นฮ่องเต้ให้สบำย กลับ
บุกมำระรำนถึงวังมังกรทะเลตะวันตก?
………………………..
ประกำยแสงจำกไข่มุกรำตรี ทอดลงบนร่ ำงของนำง ขับเน้นชุดสี แดง
ให้เจิดจ้ำดัง่ แสงเพลิงจนบำดตำผูค้ น
นำงพลิกฝ่ ำมือแบกดำบยักษ์ที่แวววำวเป็ นประกำยเอำไว้บนหัวไหล่
เผยให้เห็นเอวบำงแน่งน้อย บนใบมีดของดำบยักษ์ยงั มีเลือดอำบ
ไหลหยดอยูไ่ ม่หำย
ตู๋กซู ิงหลันก้ำวเท้ำเข้ำมำ ชำยเสื้ อสี แดงพลิ้วไปด้ำนหลังรำวกับเหิ น
บิน เส้นผมยำวพลิ้วออกไป นำกองทัพที่ฮึกเหิ มบุกเข้ำมำยังลำน
กว้ำงของตำหนักกลำง
สำยตำของนำงจับจ้องไปที่ชือหลีก่อน ริ มฝี ปำกสี แดงขยับน้อยๆ
ดำบยักษ์กวำดผ่ำนใบหน้ำฝูงชนทั้งหลำยออกไป “พี่สะใภ้ ข้ำมำรับ
ท่ำนแล้ว”
ตั้งแต่ที่นำงปรำกฏตัว สำยตำของชือหลีกผ็ นึกติดอยูก่ บั ร่ ำงของนำง
อย่ำงไม่อำจเคลื่อนไปไหน
นำงทั้งองอำจ และฮึกเหิม รำวกับเทพสงครำมหญิงที่ลงมำจำก
สวรรค์ช้ นั เก้ำ แม้อยูต่ ่อหน้ำเผ่ำมังกรก็มิได้มีทีท่ำตื่นเต้นกังวลแม้แต่
น้อย
ไม่รู้วำ่ ทำไม แต่แค่ประโยคเดียวของตู๋กซู ิงหลัน ก็สำมำรถทำให้
หัวใจที่เหมือนถูกผนึกเอำไว้ในกลำงฤดูหนำว กระเทำะน้ ำแข็ง
ออกมำได้
ดวงตำของชือหลีพลันมีน้ ำตำคลอจนเปี ยกชื้น
ปลำยจมูกแสบร้อน จนอดทนไม่ไหว
นำงไม่เคยนึกมำก่อนเลยว่ำ ตู๋กซู ิงหลันจะมำช่วยนำง
ตอนนั้นที่ทิ้งมุกมังกรเอำไว้ให้กบั นำง ก็เพียงแค่เพรำะหวังว่ำ…..
หำกนำงตำยไป ตู๋กซู ิงหลันอำจนึกถึงมิตรภำพเก่ำ ช่วยรักษำดวงจิต
ที่เหลือของนำงเอำไว้
แต่วำ่ นำงกลับบุกมำแล้ว!
พอได้เห็นสำวน้อยที่ฮึกเหิ มดัง่ แสงเพลิงผูน้ ้ นั หัวใจของนำงก็พลัน
อบอุ่นขึ้นมำ
ขำของนำงหำยดีแล้ว ซ้ ำยังแข็งแกร่ งกว่ำเดิม
ชือหลีรู้สึกยินดีแทนนำง
ที่ดำ้ นหลังของตู๋กซู ิงหลัน รำชำสุ นขั ป่ ำแบกตู๋กเู จวี๋ยวิ่งเข้ำมำ เขำ
สวมชุดขำวตลอดทั้งตัว ร่ ำงเพรี ยวบำงพลิ้วมำกับสำยลม ดวงตำคู่
นั้นมีแต่ควำมมุ่งมัน่
พอเขำเห็นชือหลี เห็นสี หน้ำของนำงซีดขำว หัวใจก็พลันเจ็บปวด
ขึ้นมำ
เขำพลิกร่ ำงลงจำกหลังของรำชำสุ นขั ป่ ำ วิ่งออกไปในทันที
เหล่ำทหำรกุง้ ปูที่อยูด่ ำ้ นหน้ำพำกันดำหน้ำเข้ำมำขวำงเอำไว้ ตู๋กซู ิง
หลันกวำดดำบยักษ์ในมือออกไป ก็เกิดเป็ นรังสี สงั หำรรุ นแรงกดทับ
ลงไป ทำเอำพวกมันพำกันขำสัน่ แทบจะต้องคุกเข่ำลงไป
เมื่อมีปรำกำรอย่ำงตู๋กซู ิงหลัน เส้นทำงที่ตรงไปยังชือหลีกร็ ำบรื่ นไร้
สิ่ งกีดขวำง
ตู๋กเู จวี๋ยพุง่ เข้ำไปถึงเบื้องหน้ำของชือหลีในทันที จับมือของนำง
ขึ้นมำอย่ำงไม่มีลงั เล “กลับบ้ำนกับพวกเรำ”
ในสำยตำของชือหลี ตู๋กเู จวี๋ยจะอย่ำงไรก็เหมือนกับเจ้ำกระต่ำยน้อย
เขำเป็ นพวกบัณฑิตอ่อนแอ ที่ตอ้ งฟูมฟักเอำไว้ในเรื อนอันอบอุ่น
เลี้ยงดูอย่ำงเอำใจใส่ แต่วำ่ มือที่จบั กุมนำงเอำไว้ กลับมีพลังส่ งไปถึง
กระดูกแทบจะบีบมือของนำงแตกเสี ยด้วยซ้ ำ
แค่ต๋ ูกซู ิงหลันบุกมำ นำงก็ประหลำดใจมำกแล้ว
แต่เจ้ำกระต่ำยน้อยผูน้ ้ ีกย็ งั ติดตำมมำด้วย ชือหลีรู้สึกว่ำเกินกว่ำที่
คำดหมำยเอำไว้มำกมำยเหลือเกิน
คำว่ำกลับบ้ำนนี้ ทำให้นำงถึงกับตกตะลึงไปแล้ว
บ้ำน….กี่ปีมำแล้วที่นำงไม่เคยได้ยนิ คำนี้?
นำงชะงักอยูก่ บั ที่ จิตใจเลื่อนลอย
นำงก็สำมำรถ….มีบำ้ นได้หรื อ?
ตู๋กซู ิงหลันมิได้พงุ่ ออกไปก่อน เรื่ อง‘วีรบุรุษช่วยหญิงงำม’ นี้
สมควรปล่อยให้พี่รองจัดกำรไปเถอะ มิเช่นนั้นชำติน้ ีท้ งั ชำติเขำคง
ไม่อำจตำมจีบชือหลีได้สำเร็จ
ส่ วนนำง จะรับผิดชอบงำนกวำดล้ำงตรงหน้ำเอง
ขอแค่ชือหลียงั มีชีวิตอยู่ ทุกอย่ำงล้วนไม่สำยจนเกินไป
………………..
อีกด้ำนหนึ่ง หลิ่วฮุ่ยโอบอุม้ ลู่เวยที่มึนงงจนใกล้จะหมดสติข้ ึนมำ
ใบหน้ำที่เคยสุ ขมุ และนุ่มนวลตอนนี้รักษำไว้ไม่อยูแ่ ล้ว
ปำกของลู่เวยฉีกจนเละเทะ นำงลืมตำขึ้นมองหลิ่วฮุ่ยอย่ำงอ่อนแรง
ยกมือขึ้นชี้ไปทำงตู๋กซู ิงหลัน “เสด็จแม่ เป็ นนำง …..นี่เป็ นทัพหนุน
ที่ชือหลีเรี ยกมำ….คิดฆ่ำล้ำงสังหำรข้ำโดยไม่แยกแยะเหตุผลใดๆ
ทั้งนั้น”
ลู่เวยกระอักเลือดออกมำ แม้แต่นิ้วมือก็ยงั สัน่ สะท้ำน
“ข้ำก็แค่อยำกจะหำของขวัญแต่งงำนให้กบั ชือหลีเป็ นพิเศษ คิดไม่
ถึงว่ำจะเกือบเอำชีวิตไม่รอด…..นำงยังชิงดำบกระดูกมังกรของข้ำ
ไปด้วย”
หลิ่วฮุ่ยเคยภำคภูมิใจในตัวบุตรสำวผูน้ ้ ีมำโดยตลอด นำงทุ่มเทเลือด
เนื้อและจิตใจไปมำกมำยถึงได้สำมำรถสร้ำงผูท้ ี่มีพรสวรรค์เช่นนี้
ขึ้นมำได้
ที่จริ งแล้ว….แม้แต่ร่ำงสี ทองของลู่เวย….ก็ยงั ….
ตลอดหลำยปี มำนี้ ในบรรดำรุ่ นเยำว์ของเผ่ำมังกรทั้งสี่ ทะเล ลู่เอ๋ อร์
ไม่เคยต้องเสี ยทีให้กบั ผูใ้ ดมำก่อนเลย แต่วำ่ ตอนนี้กลับถูกสตรี เผ่ำ
มนุษย์ผหู ้ นึ่งทุบตีจนเกือบตำย?
เผ่ำมนุษย์….ในสำยตำของเผ่ำพันธุ์ที่สูงส่ งแล้ว ก็เป็ นเพียงแค่
สิ่ งมีชีวิตชั้นต่ำในหกภพเท่ำนั้น พวกเขำต่ำต้อยเสมือนผงธุลี ได้แต่
เงยขึ้นมองเผ่ำมังกรจำกโคลนตม แต่กลับสำมำรถทำร้ำยเวยเอ๋ อร์ได้
ถึงเพียงนี้?
ดวงตำของหลิ่วฮุ่ยเปี่ ยมไปด้วยควำมเคียดแค้น เมื่อเงยหน้ำขึ้นมำ
ดวงตำก็มีแต่หยำดน้ ำตำคลอหน่วย

มองไปยังรำชำมังกรลู่กว่ำงด้วยควำมคำดหวัง “ท่ำนพี่~ลู่เวยของ
พวกเรำทำผิดบำปอันใด นำงเพียงแต่รักเอ็นดูนอ้ งสำว ออกไปหำ
ของขวัญ กลับต้องมำโดนเผ่ำมนุษย์คนหนึ่งทำร้ำยถึงเพียงนี้…..”
“ทะเลตะวันตกของพวกเรำ ตอนนี้กลับตกต่ำถึงขนำดที่พวกมนุษย์ที่
เหมือนกับมดปลวกจะมำยำ่ ยีได้แล้วหรื อ?”
นำงทำงหนึ่งพูดทำงหนึ่งก็หลัง่ น้ ำตำออกมำ สี พกั ตร์ของรำชำมังกร
ลู่กว่ำงบูดบึ้งอย่ำงที่สุด
ลู่เวยคือสมบัติล้ ำค่ำในฝ่ ำมือของเขำ ทะเลตะวันตกนี้กเ็ ป็ นถิ่นฐำน
ของตนเอง!
นำงถูกทำร้ำยถึงเพียงนี้ในท้องที่ของตนเอง แล้วเขำที่เป็ นรำชำมังกร
จะวันตกจะเอำหน้ำไปไว้ที่ไหนได้กนั !
เขำคุกเข่ำลงไปที่ขำ้ งกำยลู่เวย ให้นำงกลืนยำเม็ดสี ทองลงไปเม็ด
หนึ่ง ด้วยสี หน้ำถมึงทึง
ตู๋กูซิงหลันมองดูรำชำมังสำมีภรรยำด้วยสำยตำเย็นชำและเฉยเมย ดู
ลีลำกำรแสดงของรำชินีผนู ้ ้ นั สิ …..จุ๊ จุ๊ ไม่ไปเอำตุ๊กตำทองคำมำมอบ
ให้กบั นำงสักตัวช่ำงเป็ นเรื่ องที่ตอ้ งขออภัยนำงแล้ว
มิน่ำเล่ำ….ทั้งที่หน้ำตำหรื อก็ไม่เท่ำไหร่ แต่วำ่ กลับใช้ปีนป่ ำยจนมี
ฐำนะขึ้นมำได้ ทั้งยังบีบคั้นจนภรรยำและลูกสำยหลักหมดหนทำง
สี หน้ำของชือหลีเองก็ยำ่ แย่ นำงกำลังสัน่ สะท้ำนไปทั้งร่ ำง
ที่ผำ่ นมำหลิ่วฮุ่ยใช้หน้ำกำกเมตตำมำแสดงอยูเ่ สมอ นำงเห็นจนไม่
เป็ นที่ประหลำดใจอีกต่อไปแล้ว แต่วำ่ คำด่ำทอว่ำเป็ นมดปลวกนัน่
กลับทำให้นำงคับข้องใจอย่ำงที่สุด
นำงสำมำรถทนรับกำรหยำมหมิ่นได้ แต่นำงไม่อำจยอมให้สตรี ผนู ้ ้ นั
มำดูถูกตู๋กูซิงหลัน
ขณะที่นำงกำลังจะเอ่ยปำก ก็เห็นที่ลำนกลำงตำหนัก ตู๋กซู ิงหลันยก
ดำบยักษ์ข้ ึนมำกวำดดำบออกไปเบำๆ ชี้ไปทำงหลิ่วฮุ่ย
“ตอนที่เรำเล่นละคร เจ้ำยังเป็ นเพียงแค่ไข่อยูเ่ ลย” ดำบยักษ์พงุ่ นำไป
เบื้องหน้ำ ร่ ำงของตู๋กซู ิงหลันก็ติดตำมไปอย่ำงกระชั้นชิด
คมดำบที่กระหำยเลือดแหวกผ่ำนไปในอำกำศ ด้วยพลังรุ นแรงดุจ
สำยฟ้ำฟำดลงมำ
ยำมสังหำรคนมุ่งตัดศีรษะ!
พอดำบนี้พงุ่ มำถึง หลิ่วฮุ่ยก็ตอ้ งหน้ำเปลี่ยนสี
รำชำมังกรรี บกระชำกนำงออกมำเหวี่ยงออกไปไกลที่ดำ้ นหลัง นำง
ถึงได้หลบดำบยักษ์ที่พงุ่ มำได้พน้
ขณะเดียวกัน ในมือของพระองค์กเ็ กิดประกำยแสงสี เงินออกมำ ใจ
กลำงฝ่ ำมือของพระองค์ปรำกฏหอกสำมง่ำมสี เงินด้ำมยำวขนำดเท่ำ
ร่ ำงคน
เมื่อตวัดหอกสำมง่ำมออกไป ก็ปรำกฏลำแสงสี เงินพุง่ เข้ำหำตู๋กูซิงห
ลัน
หัวใจของชือหลีกระตุกขึ้นมำ นำงรู ้วำ่ ตู๋กซู ิงหลันแข็งแกร่ ง แค่นำง
สำมำรถจัดกำรกับลู่เวยได้กถ็ ือว่ำเหนือควำมคำดหมำยของตนเอง
แล้ว
แต่วำ่ ผูท้ ี่นำงกำลังเผชิญหน้ำอยูใ่ นตอนนี้กค็ ือไอ้แก่ชวั่ ลู่เวย….
โอกำสที่จะชนะ….มีเพียงน้อยนิด
ตู๋กูซิงหลันพลิกข้อมือคว้ำด้ำมของดำบยักษ์ที่เหำะออกไปเอำไว้
ขยับข้อมือขึ้นสกัดกั้น
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 409 จอมมารน้ องเล็ก
ลู่กว่างยิม้ ออกมาอย่างเย็นชา
ราชามังกรทั้งสี่ ทะเลล้วนมีศาสตราพิเศษของตนเอง นัน่ เป็ นสิ่ งที่
ราชามังกรแต่ละรุ่ นตกทอดสื บต่อกันมา เป็ นสุ ดยอดศาสตราแต่
บรรพกาล
เพียงแค่ฟาดออกไปก็สามารถชาแหละหัวฉลามยักษ์ออกเป็ นสอง
ส่ วน
แค่ดาบยักษ์หยาบๆของพวกมนุษย์เล่มหนึ่ง คิดจะเอามาสกัดหอก
สามง่ามของเขา?
ฝันไปเถอะ!
ที่เขาฟาดออกไป ยังมิได้ใช้พลังทั้งหมดเสี ยด้วยซ้ า เขาไม่คิดจะ
เห็นตู๋กซู ิงหลันอยูใ่ นสายพระเนตรแม้แต่นอ้ ย
เนื่องเพราะอย่างไร ฮ่องเต้หญิงของพวกมนุษย์ผนู ้ ้ ี นอกจากใบหน้า
ที่น่าดู และในร่ างมีไอหยินหนักแน่นอยูบ่ า้ งแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดที่พิเศษ
อีก
ต่อให้นางเป็ นยอดนักพรต ก็ไม่รู้วา่ ใช้วิธีร้ายกาจอันใดจึงสามารถ
ทาร้ายเวยเอ๋ อร์ของเขาจนเกือบตายได้
ได้แต่คาดว่าเวยเอ๋ อร์คงจะประมาทไปเอง จึงได้หลงกลของนางเข้า
หากว่าใช้พลังต่อสู ้กนั อย่างจริ งจัง นางจะต่อสู ้กบั เวยเอ๋ อร์ได้
อย่างไร?
มนุษย์ผนู ้ ้ ีมิได้รู้ถึงความหนักเบาของเรื่ องราวเสี ยเลยด้วยซ้ า ว่าผูท้ ี่
นางกาลังท้าทายอยูใ่ นตอนนี้กค็ ือราชามังกรแห่งทะเลตะวันตก
“ที่เบื้องหน้าของเจ้า คือราชามังกรทะเลตะวันตก!” ลู่กว่างตรัสด้วย
ความเกรี้ ยวกราด “นังเด็กร้ายกาจชือหลีไปอยูใ่ นโลกมนุษย์เสี ยนาน
แม้แต่พวกมดปลวกก็ยงั ไปนับเป็ นสหาย ช่างทาให้เผ่ามังกรของเรา
เสี ยหน้ายิง่ นัก!”
“ไอ้แก่ชวั่ หุบปากเสี ยเถอะ!” พี่รองจับมือของชือหลีเอาไว้แนบแน่น
เขารู ้วา่ นางกาลังโกรธจนสัน่ ไปทั้งร่ างแล้ว
ชือหลีอ่อนแอมาก ตอนนี้ไม่อาจช่วยเหลืออันใดตู๋กซู ิงหลันได้
เรื่ องด่าทอผูค้ น พี่รองย่อมรับภาระเอาไว้เอง เรื่ องการใช้วรยุทธ์เขา
ไม่นบั เป็ นอะไรได้ ย่อมช่วยเหลืออะไรไม่ได้เช่นกัน
แต่วา่ หากได้ด่าไอ้แก่ชวั่ นี้จนหัวใจระเบิดก็ไม่เลว
“หน้าตา? อย่างเจ้ายังรู ้จกั รักหน้าตาอยูอ่ ีกหรื อ? ใครไม่รู้คงนึกว่าเจ้า
มีตูดอยูบ่ นหัว เวลาพูดออกมาก็ใช้รูตูด ถึงได้เหม็นขนาดนี้!”
“ชือหลีช่างโชคร้ายจริ งๆ ดันมามีบิดาที่น่าสะอิดสะเอียนอย่างเจ้า
เนี่ย?”
ไหนๆก็จะด่าให้หยาบคายแล้ว ย่อมไม่กงั วลว่าจะน่าฟังหรื อไม่
ลู่กว่างไม่เคยถูกผูใ้ ดด่าทอเช่นนี้มาก่อนในชีวิต เขาพิโรธโกรธา หัน
ไปถลึงตาใส่ ต๋ ูกเู จวี๋ยครั้งหนึ่ง
ดูดูสิ….ธิดามังกรที่ยงั ไม่ทนั ได้แต่งออกไป ทั้งๆที่เป็ นวันออกเรื อน
กลับมาจูงมือจูงไม้กบั มนุษย์ช้ นั ต่าผูห้ นึ่ง ไม่รู้วา่ น่าเกลียดถึงเพียง
ไหน!
ปากของมนุษย์ผนู ้ ้ นั ก็สกปรกเหลือทน!
เขากุมหอกสามง่ามเอาไว้แน่น คิดจะสับมนุษย์ผนู ้ ้ นั ให้แหลกเละ
แต่วา่ หอกนี้ยงั ไม่ทนั ได้ฟาดออกไป ก็เห็นฮ่องเต้หญิงในชุดสี แดงผู ้
นั้นกระชับดาบยักษ์ในมือสะกิดปลายเท้าพุง่ เข้ามาหาเขาทั้งร่ างแล้ว
นางสามารถรับพลังจากหอกสามง่ามของเขาไว้ได้?
“นี่เป็ นไปได้อย่างไร?” ลู่กว่างอัศจรรย์ใจเหลือประมาณ
เมื่อครู่ เขาพึ่งจะถูกตู๋กเู จวี๋ยด่าจนเสี ยสมาธิ ทั้งยังประมาทตู๋กูซิงหลัน
เพียงแค่ชวั่ เวลาแวบเดียวนี้ ตู๋กซู ิงหลันก็ถือดาบยักษ์เหาะมาถึงเบื้อง
หน้าของเขาแล้ว
ดาบยักษ์กวาดออกไป ดูไปเหมือนไม่มีกระบวนท่าอันใด เพียงแค่
ฟาดฟันอย่างมัว่ ซัว่ เท่านั้น แต่เพราะผูท้ ี่ใช้มนั นั้นแสนจะงดงาม ต่อ
ให้เป็ นการฟันมัว่ ๆ ท่วงท่าก็ยงั คงงดงามเสมือนเมฆเคลื่นคล้อย
สายน้ าริ นไหล
ลู่กว่างได้แต่ยกสามง่ามขึ้นสกัด
ดาบยักษ์ฟาดลงมาตรงหน้าต่อเนื่องกัน เขาได้แต่ฝืนใช้หอกสามง่าม
รับเอาไว้
ทุกดาบที่ฟันลงมา ล้วนหนักแน่นดัง่ ภูเขากดเข้าใส่
ดาบนี้หนักมาก!
ฮ่องเต้หญิงเผ่ามนุษย์เองก็มีพละกาลังล้นเหลือ!
เมื่อทั้งสองประสาน ก็กลายเป็ นแรงกดทับที่ใครก็ไม่อาจต้านทาน
ได้
ไม่เพียงแค่น้ นั แต่ละดาบของนางยังฟันออกมาอย่างรุ นแรงขึ้น
เรื่ อยๆ นอกจากพลังกดทับดัง่ ขุนเขา ไอสังหารที่มาพร้อมกับตัวดาบ
ก็กดทับจนกระทัง่ อาภรณ์ที่วิจิตรงดงามของเขาฉี กขาด
ผิวหนังถูกพลังจากคบดาบบาดจนเจ็บปวด!
ดาบเล่มนี้…..มิใช่อาวุธของมนุษย์ธรรมดากระมั้ง?
หลังจากฟาดฟันออกมาสิ บกว่าครั้ง คมดาบไม่เพียงแต่มิได้บิ่นหัก
แต่ประกาบดาบกลับเพิม่ พูนขึ้นมากกว่าเดิม
ส่ วนหอกสามง่ามในหัตถ์ของเขาพอรับดาบนั้นเข้าไปหลายๆครั้ง
เข้าประกายหอกก็หมองมัวลงไป
ทุกครั้งที่ปะทะกันก็เห็นว่าประกายแสงของหอกสามง่ามถูกดาบ
ยักษ์ดูดกลืน
ดาบเล่มนี้……ที่แท้แล้วกาลังดูดกลืนพลังของหอกสามง่าม?
หัวใจของลู่กว่างแทบจะระเบิด!
เขาหันไปพิจารณาดูฮ่องเต้หญิงเผ่ามนุษย์อย่างละเอียดอีกครั้ง ก็พบ
แต่สายตาที่สูงส่ งและ
เย็นชาของอีกฝ่ าย ที่เหลือบแลลงมายังเขาเท่านั้น
สถานการณ์เช่นนี้ทาให้หลิ่วฮุ่ยเองก็ตกตะลึงไปเช่นกัน ……ลู่กว่าง
คือราชามังกร ถึงแม้วา่ พละกาลังจะไม่อาจเทียบเทียมได้กบั ราชา
มังกรในรุ่ นก่อน แต่อย่างไรก็เป็ นถึงราชาของทะเลแห่งหนึ่ง พลัง
นั้นย่อมแข็งแกร่ งเช่นกัน
แต่วา่ ตอนนี้กลับถูกฮ่องเต้หญิงเผ่ามนุษย์ผหู ้ นึ่งบดขยี้?
“เสด็จแม่…..มนุษย์ผนู ้ ้ นั ร้ายกาจมาก ลงมืออย่างไร้กฏเกณฑ์ ทั้งยัง
สามารถบังคับภูติผี จิตใจก็ชวั่ ร้ายและเจ้าเล่ห์ จะต้องบอกให้พระ
บิดาระมัดระวังให้มากนะเพคะ….” ลู่เวยที่อยูใ่ นอ้อมกอดของนาง
ฝื นประคองลมหายใจเอาไว้
นางเองก็ตื่นตะลึงอย่างยิง่ เช่นกัน เดิมคิดว่าเป็ นเพราะตนเอง
ประมาทเกินไป ถึงได้ตอ้ งมาตกที่นงั่ ลาบากบาดเจ็บจนเกือบตาย
เช่นนี้
เสด็จพ่อทรงเป็ นราชามังกรทะเลตะวันตก แค่ลงมือก็สมควรจะ
จัดการสตรี ผนู ้ ้ นั ให้ถึงตายได้อย่างง่ายดายมิใช่หรื อ?
แต่วา่ ทาไม….เรื่ องราวกลับไม่เป็ นไปตามที่นางคาดคิดเอาไว้?
หลิ่วฮุ่ยปาดเช็ดขอบตาที่แทบจะไม่มีน้ าตาเสี ยด้วยซ้ า นางจับจ้องไป
ที่ต๋ ูกซู ิงหลันและดาบยักษ์ของนางอย่างจดจ่อ
ก็เห็นว่าดาบยักษ์เล่มนั้นส่ องแสงเป็ นประกาย ปรากฏลวดลาย
อักขระสี ดาที่ซบั ซ้อนขึ้นมา
ส่ วนฮ่องเต้หญิงเผ่ามนุษย์ผนู ้ ้ นั ก็เหมือนกับเครื่ องมือสังหารที่ไร้ชีวิต
จิตใจ ไม่พดู ไม่จา ฟันตรงไหนได้กฟ็ ันลงไปตรงนั้น
ถึงแม้วา่ ดาบยักษ์เล่มนั้นจะยังไม่ได้เฉือนโดนเนื้อ แต่วา่ รังสี ดาบ
ของดาบยักษ์ก็ยงิ่ หนักแน่นขึ้นทุกที ทาลายอาภรณ์จนฉี กขาด บาด
ผิวหนัง ฟันลงมาจนร่ างของลู่กว่างมีแต่ความสะบักสะบอม
เวลาผ่านไปยังไม่ทนั จะถึงครู่ หนึ่ง ก็เห็นหอกสามง่ามด้ามนั้น
สู ญเสี ยประกายสี เงินที่เคยมีกลายเป็ นแท่งเหล็กทึบที่ไร้ประกาย
ในตอนนั้นเอง ตู๋กซู ิงหลันก็ยกดาบฟาดลงมาอีกครั้ง
ได้ยนิ เสี ยง ‘เคร้ง’ ดังขึ้น หอกสามง่ามของลู่กว่างก็ถูกนางฟันจนหัก
ไปแล้ว!
หัวหอกหักทิ่มลงไป เหลือแต่แท่งเหล็กที่ไร้ประโยชน์!
ชือหลีแทบจะอยากคุกเข่าให้นางแล้ว!
นางเป็ นเผ่ามังกร ย่อมเข้าใจอย่างลึกซึ้งดีวา่ หอกสามง่ามมี
ความสาคัญเพียงไร เพียงถือเอาไว้ในมือก็สามารถบัญชาการได้ทวั่
ท้องทะเล
นี่คือสัญลักษณ์แทนองค์ของราชามังกรที่บรรจุพลังของท้องทะเล
เอาไว้ภายใน สร้างขึ้นจากกระดูกมังกรของราชามังกรรุ่ นแรก ตลอด
หลายปี มานี้ ราชามังกรแต่ละรุ่ นได้สืบทอดต่อกันมา
ถึงแม้วา่ นางจะไม่เคยได้เห็นหอกสามง่ามนี้แสดงพลังที่น่าอัศจรรย์
มาก่อน
แต่วา่ ศัสตราวุธที่แข็งแกร่ งถึงเพียงนี้ ก็ไม่อาจทนรับกระบวนท่าที่
ฟาดฟันออกมาอย่างมัว่ ซัว่ เพียงสิ บกว่าท่าของตู๋กซู ิงหลัน?
แม้แต่ชือหลีเองก็ยงั ตื่นตระหนกขึ้นมา……นี่นางจับพลัดจับผลูไป
ผูกมิตรเป็ นสหายกับท่านเซียนหรื ออย่างไร
สายตาของตู๋กเู จวี๋ยถูกชุดสี แดงของน้องเล็กดึงดูดเอาไว้จนหมดสิ้ น
เขาเคยเห็นพี่ใหญ่ใช้ดาบยักษ์เล่มนี้สู้รบกับศัตรู ในสนามรบมาก่อน
เขาสังหารคนมากมายอย่างบ้าคลัง่ เสมือนดัง่ เป็ นมารปี ศาจ
แต่วา่ ตอนนี้นอ้ งเล็กที่กมุ ดาบยักษ์ของพี่ใหญ่เอาไว้ ทุกดาบที่ฟันลง
ไปช่างไร้ความปราณี
หากว่าพี่ใหญ่คือมารปี ศาจ เช่นนั้นน้องเล็กก็ตอ้ งเป็ นจอมมารที่เป็ น
หัวหน้าของปี ศาจแล้ว
เท่ที่สุด!
ตู๋กซู ิงหลันฟันหอกสามง่ามของลู่กว่างหักลงไปแล้ว ก็มิได้หยุดมือ
นางเพียงแต่เหลือบตาดูดาบยักษ์เล็กน้อย ก็เห็นบนตัวดาบปรากฏ
อักขระสี ดาที่ดูซบั ซ้อน หรื อเพราะว่าใช้ดาบมากไป พอถือเอาไว้ใน
มือจึงได้รู้สึกว่ามันเบาขึ้นมา
นางกุมดาบยักษ์เอาไว้ หันไปมองดูชือหลี ถามออกไปคาหนึ่ง “ไอ้
ปลาดุกเฒ่าตัวนี้ เจ้าอยากให้มนั อยูห่ รื อให้มนั ตาย?”
คาว่าปลาดุกเฒ่า ยังเหยียดหยามลู่กว่างยิง่ กว่าไอ้แก่ชวั่ ช้า
จริ งอยูว่ า่ ตู๋กซู ิงหลันย่อมมาเพื่อเอาคืนให้ชือหลีเป็ นสองเท่า!
แต่วา่ คนผูน้ ้ ีถึงอย่างไรก็เป็ นบิดาแท้ๆของชือหลี นางไม่อาจคิด
อยากจะสับก็สบั นางนับชือหลีเป็ นสหายก็ยอ่ มต้องเคารพในตัวชื
อหลี
ชือหลีชะงักไปครู่ หนึ่ง เพราะนึกไม่ถึงว่าตู๋กซู ิงหลันยังคิดจะฟัง
ความต้องการของนาง
คราวนี้ ก็เห็นแววตาของนางมืดครึ้ มลงไป นัยตาสี แดงนั้นเป็ น
ประกายราวเหยีย่ วที่ล่าเหยือ่ “ข้าต้องการให้เขา อยูม่ ิสู้ตาย”
“เจ้าเดรัจฉาน นี่ถึงกับร่ วมมือกับคนนอกมาสังหารบิดาแท้ๆของ
ตนเองหรื อ?” ลู่กว่างพิโรธสุ ดขีดแล้ว เขาถลึงตาไปที่ชือหลี “เจ้า
อย่าได้ลืมไปนะว่ากระดูกในร่ างของเจ้ามาจากผูใ้ ด!”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 410 ติดค้ างกระดูกก็ต้องคืนด้ วย
กระดูก
ดูมนั สิ นี่นะหรื อคือบุตรสาวแท้ๆของเขา!
ทั้งๆที่ไม่เคยสร้างความภาคภูมิใจใดๆให้กบั ทะเลตะวันตกเคยสัก
ครั้ง แล้วตอนนี้ยงั คิดจะให้เขาอยูม่ ิสู้ตายอีก?
เจ้าเดรัจฉานน้อยนัน่ ตอนนั้นเขาไม่สมควรจะให้นางได้เกิดมาบน
โลกนี้เลย ต้องโทษที่เขามีเมตตามากเกินไป!
“เฮอะ” สายตาของชือหลียงิ่ เกลียดชังอย่างลึกล้ ากว่าเดิม “กระดูก
มังกรของข้าถูกถอดออกไปตั้งนานมาแล้ว เจ้าเป็ นคนถอดเองกับมือ
ลืมแล้วหรื อ?”
“ข้าชือหลีไม่ได้ติดค้างอะไรไอ้แก่ชวั่ อย่างเจ้าทั้งนั้น!”
นางไม่รู้สึกว่าการที่ต๋ ูกซู ิงหลันช่วยแก้แค้นแทนนางเป็ นเรื่ องน่า
ละอายอันใด นางไม่มีกระดูกมังกรแล้ว เรื่ องการแก้แค้นย่อมเป็ นไป
ไม่ได้ในชาติน้ ี
แต่ครั้งนี้นางติดค้างตู๋กซู ิงหลันแล้ว ย่อมต้องตอบแทนนางไปชัว่
ชีวิต!
“เจ้า!” ลู่กว่างพิโรธเดือดดาล “ตอนนั้นมารดาของเจ้าจมผูค้ นไปทั้ง
เมือง ทาผิดอย่างมหันต์ เจ้าต้องรับโทษแทนมารดา แต่กลับเอา
ความผิดนั้นมาสุ มใส่ ศีรษะของเรา ใครสัง่ สอนให้เจ้าไม่รู้จกั
แยกแยะเช่นนี้?”
ว่าแล้ว เขาก็หนั ไปมองทางตู๋กซู ิงหลัน ด้วยสายตาคมกริ บราวมีด
ดาบ “เป็ นเพราะว่ามนุษย์ผนู ้ ้ ีหลอกลวงเจ้าใช่หรื อไม่? เผ่ามนุษย์
ล้วนเจ้าเล่ห์หลอกลวงมาโดยตลอด เจ้าก็ยงั จะไปเชื่อ?”
“ใช่แล้ว หลีเอ๋ อร์ ตอนนั้น…..เหล่าเทพบนสวรรค์ต่างก็ตอ้ งการชีวิต
ของเจ้า แต่วา่ ท่านพี่กลับออกหน้าวิงวอนอยูห่ ลายครั้ง ถึงได้สามารถ
รักษาชีวิตของเจ้ากับชือฉิงเอาไว้ได้ พวกเจ้าเพียงแค่ถูกถอดกระดูก
มังกร แต่วา่ เสด็จพ่อของเจ้ากลับสู ญเสี ยความสาคัญในสายตาทวย
เทพเชียวนะ”
“ตอนนี้เสด็จพ่อของเจ้าเลือกการแต่งงานที่ดีงามให้กบั เจ้า ได้แต่งไป
ยังเผ่ามังกรทมิฬนัน่ เป็ นความใฝ่ ฝันของหญิงสาวในเผ่ามังกรตั้ง
เท่าไร เจ้าจะเห็นคนอื่นดีกว่าคนในครอบครัวได้อย่างไร ทั้งยังชักนา
หมาป่ ามาทาร้ายคนในบ้านตนเองอีก?”
ตู๋กูซิงหลันเคยเห็นคนที่ไร้ยางอายมามาก แต่ที่ไร้ยางอายได้จนถึง
ขนาดนี้นางนับว่าได้เปิ ดหูเปิ ดตาแล้ว
วิญญาณทมิฬโกรธจนอยากจะหัวเราะออกมา มันเอ่ยออกมาอย่าง
เรื่ อยเฉื่อยว่า “นี่มนั จะต่างอะไรกับ ‘เจ้าสู ญเสี ยขาไปข้างหนึ่ง ส่ วน
ไอ้ชวั่ นัน่ ต้องสู ญเสี ยความรักของนางไป’?”
ชือหลีเชิดจมูกขึ้นมา “นับจากวันนี้เป็ นต้นไป ตู๋กซู ิงหลันคือ
ครอบครัวของข้า อย่างเจ้านับเป็ นอะไรได้กนั ?”
ตู๋กเู จวี๋ยกระซิบที่ขา้ งหูของนางว่า “ข้าด้วยนะ! ข้าก็เป็ นคนใน
ครอบครัวด้วย!”
ชือหลี “…….”
หากว่าตู๋กซู ิงหลันเป็ นบุรุษละก็ นางจะต้องแต่งให้อย่างแน่นอน
หน้าตางดงาม มีท้ งั ฐานะและอานาจ วรยุทธ์กล็ ้ าเลิศ ให้ความรู ้สึก
ปลอดภัยอย่างเต็มเปี่ ยม แล้วสตรี ใดจะไม่ชอบกันเล่า?
ส่ วนเจ้ากระต่ายน้อยตู๋กเู จวี๋ยนั้น กลิ่นน้ านมยังไม่จางเลยด้วยซ้ า
ขณะที่ต๋ ูกูซิงหลันสามารถลงมือทุบตีได้น้ นั นางย่อมไม่จาเป็ น
จะต้องพูดจาไร้สาระอันใด
สู ้ไม่ไหวก็หนี หากสู ้ได้กต็ ีมนั ให้ตายไปเลย นางคือคนที่ยดื ได้หดได้
อยูแ่ ล้ว
ขณะที่ลู่กว่างยังคิดจะตีโพยตีพายต่อไปอยูน่ ้ นั นางก็กระชับดาบ
ยักษ์เอาไว้ในมือ กระโดดโผร่ างขึ้นไปเหนือเศียรของเขา ฝ่ าเท้าข้าง
หนึ่งกระทืบลงไปบนหน้าผาก
ลู่กว่างที่เหาะอยูก่ ลางอากาศถึงกับดิ่งวูบลงมาจนเกือบจะโหม่งกับ
พื้นกระจกอยูแ่ ล้ว
ทันทีที่ต๋ ูกซู ิงหลันกระทืบลงมานั้น ก็เหมือนกับถูกภูเขาลูกหนึ่งกด
ทับลงไป จนร่ างของเขาเหมือนถูกถีบลงไปสู่ กน้ เหว
เขาถูกเหยียบจนจมลงไปบนพื้น แผ่นกระจกแวววาวที่ปูอยูบ่ นพื้น
ถูกกระแทกแตกกระจายจนยุบลงไปเป็ นหลุม ฝุ่ นผงกระจายจนคลุง้
ขึ้นมา
เขาเค้นพลังมังกรในร่ างออกมา คิดจะสะบัดตู๋กซู ิงหลันลงไปจาก
ร่ าง
แต่วา่ พลังมังกรพึ่งจะเคลื่อนไหว ก็เห็นปลายนิ้วของตู๋กซู ิงหลัน
ปรากฏยันต์แผ่นหนึ่ง เพียงพริ บตาเดียวก็ผนึกลงไปในร่ างของเขา
กักขังพลังมังกรในร่ างของเขาเอาไว้
ราชามังกร นั้นย่อมแข็งแกร่ ง
แต่แข็งแกร่ งแล้วจะอย่างไร หากเขาไม่อาจใช้พลังในร่ างออกมาได้ก็
เท่ากับว่าสู ญเปล่า!
ยันต์กกั จิตวิญญาณของตู๋กซู ิงหลัน สิ้ นเปลืองเวลาของนางไปถึงสาม
วันสามคืน ต่อให้เจ้าเป็ นเทพมารปี ศาจอันใด เมื่อถูกผนึกยันต์น้ ีเข้า
ไปแล้ว พลังทัว่ ทั้งร่ างก็จะถูกกักขังเอาไว้จนหมดสิ้ น
หากว่าผูถ้ ูกกักขังพลังยิง่ แข็งแกร่ ง ระยะเวลาในการกักขังก็จะยิง่ สั้น
ลงไปเรื่ อยๆ
ก่อนหน้านี้นางมีพลังไม่เพียงพอ ไม่อาจวาดยันต์เช่นนี้ออกมาได้ แต่
ว่าตอนนี้……นางมิใช่ต๋ ูกซู ิงหลันเมื่อสองปี ก่อนแล้ว
ถึงแม้วา่ พื้นฐานนิสยั ของนางจะกล้าจนบ้าบิ่น แต่กม็ ิใช่คนที่ไร้
สมอง
มิวา่ จะลงมือทาสิ่ งใด นางล้วนต้องชัง่ น้ าหนักของตนเองและ
ตระเตรี ยมการเอาไว้ก่อนอยูเ่ สมอ คิดจะบุกวังมังกรมาช่วยคน ไหน
เลยจะไม่มีการตระเตรี ยมใดๆได้กนั
พอยันต์แผ่นหนึ่งผนึกลงไป แม้แต่ลู่กว่างเองก็ตอ้ งตื่นตะลึงไปแล้ว
ตอนที่หอกสามง่ามถูกดูดพลังออกไป และหักจนกลายเป็ นเศษเหล็ก
ไร้ค่านั้น เขาก็ยงั ไม่แตกตื่นเท่านี้
ตอนนี้พอถูกสกัดกั้นพลังในร่ างทั้งหมด เขาถึงได้ร้อนรนขึ้นมา
จริ งๆ
ทันใดนั้น ตู๋กซู ิงหลันก็ยกเท้าขึ้นมา เตะเขาจนกลิ้งไปกับพื้น
คนที่เป็ นถึงราชามังกร ถูกนางเตะลงไปกองอยูใ่ นหลุมบนพื้น ครึ่ ง
ค่อนวันก็ยงั ปี นขึ้นมาไม่ได้
เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์กลายเป็ นเช่นนี้ หลิ่วฮุ่ยก็ยงิ่ ไม่กล้าเข้าไป
ช่วยเหลืออะไรทั้งนั้น…..
ตอนนั้นเพื่อให้ลู่เวยสามารถกาเนิดเป็ นร่ างมังกรทอง……นางได้
สละพลังทั้งหมดในร่ างออกไปเป็ นการแลกเปลี่ยน ถึงแม้วา่ จะเป็ น
เผ่ามังกร แต่กเ็ ป็ นตัวไร้ประโยชน์ที่ไม่มีพลังใดๆทั้งสิ้ น
หลังจากนั้นนางก็ซ้ือตัวหมอตาแย ให้แสดงละคร ‘คลอดยาก’ฉาก
ใหญ่ข้ ึนมา ทาให้ลู่กว่างเข้าใจว่าเพราะนางให้กาเนิดมังกรทอง จึง
ได้สูญสิ้นพลังทั้งหมดในร่ างไป
ดังนั้นตอนหลังเขาไม่เพียงไม่รังเกียจนาง แต่กลับยังรู ้สึกติดค้างจน
อยากจะชดเชยให้กบั นางอยูเ่ สมอ
ตลอดหลายปี มานี้ทะเลตะวันตกก็สงบสุ ขมาโดยตลอด เวยเอ๋ อร์ก็
เอาถ่าน จึงไม่มีเรื่ องใดให้นางต้องใช้พลังวรยุทธ์เลยด้วยซ้ า
นางไม่เคยคิดเลยว่า สักวันหนึ่งจะมีเผ่ามนุษย์บุกเข้าประตูมาและลู่
กว่างก็ยงั ถูกทาร้ายถึงเพียงนี้
ขณะที่กาลังร้อนรนไปหมดแล้วนั้น หลิ่วฮุ่ยก็ใช้บญั ชาราชามังกร
เพื่อเรี ยกกองทัพของทะเลตะวันตกออกมา
ทั้งหมดล้วนเป็ นตัวประหลาดในท้องทะเลที่สาเร็ จเป็ นภูติหรื อปี ศาจ
จึงแข็งแกร่ งกว่าพวกทหารกุง้ ปูปลามากมายนัก
คราวนี้ หัวใจของหลิ่วฮุ่ยค่อยรู ้สึกว่ามีแต้มต่ออยูบ่ า้ ง
แต่วา่ นางยังไม่ทนั จะได้หายใจให้คล่องคอ ก็เห็นว่าบนแผ่นหลังที่
กว้างของราชาสุ นขั ป่ าตัวใหญ่ มีเจ้าไก่สีดาตัวหนึ่งใช้สองปี กเท้า
สะเอวอยู่ มันอ้าปากพ่นไฟสี ทองออกมา เผาผลาญเหล่าปี ศาจใน
ท้องทะเลเหล่านั้นจนวอดตายไปทั้งแถวในชัว่ พริ บตา
ครู่ ต่อมาก็สามารถได้กลิ่นหอมที่เข้มข้นลอยออกมา
เจ้าไก่ดาขนฟูทาตาเป็ นประกาย ใช้ปีกตบลงไปบนศีรษะของราช
สุ นขั ป่ า “กะกะต๊าก!
อาหวังเพือ่ นยาก เย็นนี้มากินอาหารทะเลมื้อใหญ่ดว้ ยกันเถอะ อาเฮีย
จะเลี้ยงเจ้าเอง!”

ราชาสุ นขั ป่ า “อาวบรู๊ ~” ได้เลย ไม่มีปัญหา ขอบคุณนะเฮียไก่!


วิญญาณทมิฬเหลือบมองดูพวกมันแวบหนึ่ง เจ้าสองตัวนี้พอใช้เวลา
ด้วยกันมากเข้า ก็สนิทสนมกลมเกลียวกันจนต้องเรี ยกว่าไร้เส้นแบ่ง
อืม …….มันก็อยากจะกินอาหารทะเลอยูเ่ หมือนกัน!
เพลิงสี ทองของติ๊งต๊อง แม้แต่ชือหลีกย็ งั ต้องกริ่ งเกรงอยูบ่ า้ ง เจ้า
ปี ศาจในท้องทะเลเหล่านั้นต่อให้เก่งกาจเพียงไรก็ยงั ไม่เหนือกว่าชื
อหลีไปได้
พอถูกเผาผลาญกันไปแถบหนึ่ง พวกที่เหลืออยูก่ ม็ ีบางส่ วนที่ไม่คิด
จะขายชีวิตให้อีกต่อไปแล้ว ต่างก็ชกั ขาถอยหลังกลับไป
โดยเฉพาะหมึกยักษ์แปดขานับว่าหนีได้ไวที่สุด!
แน่นอนว่ายังมีบางพวกที่จงรักภักดีถึงขนาดยอมตายถวายชีวิตอยู่
บ้าง แต่กถ็ ูกวิญญาณคนตายกลุม้ รุ มเข้าไป ฉี กกระชากฆ่าฟันอย่างไร้
ปราณี
ฮ่องเต้หญิงผูน้ ้ นั ได้ให้สญ
ั ญาเอาไว้แล้ว หากว่าพวกมันทางานสาเร็ จ
จะช่วยทาการชาระวิญญาณให้กบั พวกมัน ให้พวกมันได้มีโอกาสไป
เวียนว่ายตายเกิดอีกครั้ง
ยากนักที่จะได้เจอเทพเซียนผูย้ งิ่ ใหญ่เช่นนี้สกั ครั้ง พวกมันย่อมต้อง
เชื่อฟังอย่างว่าง่ายอยูแ่ ล้ว
ครั้งนี้……หลิ่วฮุ่ยต้องตะลึงงันไปแล้ว แม้แต่ส่งเสี ยงก็ยงั ไม่กล้าเอ่ย
ออกมาสักแอะหนึ่ง ได้แต่หุบปากเงียบเอาไว้
นางเริ่ มจะหวาดกลัวขึ้นมาจริ งๆแล้ว
ลู่เวยเองก็ใจสัน่ ขึ้นมาเช่นกัน……
ปี ศาจในท้องทะเลของวังมังกร ไม่วา่ ตัวไหนๆต่างก็สามารถล่มเรื อ
ใหญ่ลงได้อย่างง่ายดาย แต่วา่ ตอนนี้พวกมันกลับถูกไก่ตวั หนึ่งเผา
วอดวายไปอย่างง่ายๆ?
ตู๋กซู ิงหลัน …… สตรี ผนู ้ ้ ีเป็ นใครกันแน่? ขนาดแค่ไก่ที่อยูข่ า้ งกาย
ตัวหนึ่งก็ยงั เก่งกาจจนประหลาดล้ าถึงเพียงนี้?
……………………..
อีกด้านหนึ่ง
ตู๋กซู ิงหลันปักดาบยักษ์ลงไปบนพื้นข้างกายของตนเอง สิ่ งที่อยู่
ด้านหลังล้วนปล่อยให้เป็ นหน้าที่ของพวกติ๊งต๊องจัดการ
ตอนนี้นางสนใจแต่จะแก้แค้นให้กบั ชือหลีเท่านั้น
คราวนี้ นางกุมดาบกระดูกมังกรขึ้นมา แทงดาบลงไป กรี ดลึกลงไป
ตามแนวกระดูกสันหลังของลู่กว่าง
ริ มฝี ปากสี แดงฉ่ าของนางยกขึ้น น้ าเสี ยงก็เย็นชาลึกล้ า “ติดหนี้คืน
เงิน ติดค้างกระดูกก็คืนกระดูก”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 411 มันกาลังเคลื่อนไหว!
ดาบนั้นแทงลึกลงไปยังแนวกระดูกสันหลังอย่างแม่นยา ทาเอาลู่
กว่างเจ็บปวดจนหลัง่ เหงื่อท่วมใบหน้า
จากนั้นก็ค่อยๆแทรกใบมีดลงไปอย่างช้าๆทีละนิ้วทีละนิ้ว
เขาสามารถรู ้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่าผิวหนังของตนเองถูกกรี ดออก
เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อรอบกระดูกสันหลังถูกเลาะออกมา
ลู่เวยมองดูอย่างตกตะลึง สตรี ผนู ้ ้ ีจงใจใช่หรื อไม่?
จงใจใช้อาวุธของนางไปทาร้ายเสด็จพ่อใช่ไหม?
“เจ้ามันหญิงชัว่ ใจอามหิต รู ้หรื อไม่วา่ ทาร้ายราชามังกรมีโทษหนัก
สถานใด? เผ่ามังกรทั้งสี่ ทะเลจะไม่มีผใู ้ ดยอมปล่อยเจ้าไป!” ลู่เวยฝื น
ประคองลมหายใจร้องตะโกนออกมา
ที่นางกังวลไปยิง่ กว่านั้นก็คือจะไม่อาจเอาดาบกระดูกมังกรของนาง
คืนมาได้…..
หากไม่มีดาบกระดูกมังกร พลังของนางก็จะลดทอนลงไป
ตลอดหลายปี มานี้ที่นางสามารถกลายเป็ นผูเ้ ยาว์ที่โดดเด่นของเผ่า
มังกรได้น้ นั ดาบกระดูกมังกรมีความสาคัญไม่นอ้ ยเลยทีเดียว
ตอนนี้หากดาบกระดูกมังกรถูกใช้เลาะกระดูกของเสด็จพ่อ แล้ว
ต่อไปนางจะใช้มนั ได้อย่างไรกัน?
ถึงแม้วา่ นางจะเป็ นมังกรทอง…..แต่คล้ายกับว่านางจะแตกต่างจาก
มังกรทองตัวอื่นๆ
พอฝึ กฝนไปจนถึงระดับหนึ่งก็ยากที่จะทะลวงขึ้นไปได้อีก ตั้งแต่
เล็กเสด็จแม่กต็ อ้ งเสาะหาเม็ดยาจานวนมากมายส่ งเสริ มการฝึ กฝน
ของนาง ถึงได้ทาให้นางหลบเลี่ยงความบกพร่ องที่ไม่เหมาะสมกับ
ฐานะของมังกรทองไปได้
เพื่อจะได้เพิม่ พูนพลังในการฝึ กฝน หลายปี มานี้นางจึงกินคนไปไม่
น้อย….
ดงนั้นในสายตาของคนภายนอก นางจึงยังคงเป็ นมังกรทองอยู่
“แม่นาง ข้าเองก็ขอเตือนเจ้าสักคา เป็ นคนสมควรมีความเมตตา
ปราณี อยูบ่ า้ ง เจ้าใช้ดาบของเวยเอ๋ อร์ไปทาร้ายเสด็จพ่อของนาง นี่
มันเป็ นจิตใจที่ชวั่ ช้าเพียงไร?” หลิ่วฮุ่ยรู ้ถึงความหมายในวาจาของลู่
เวย จึงรี บเอ่ยขึ้นมา
“ดาบนี้มีที่มาอย่างไร ในใจของพวกเจ้ามิใช่รู้ดีอยูแ่ ล้วหรื อ?” ตู๋กูซิง
หลันกวาดสายตาเย็นชาไปยังสองแม่ลูก ทั้งเย็นยะเยือกทั้งเด็ดขาด
หัวใจของสองแม่ลูกพลันกระตุกขึ้นมา จนใจสัน่ สะท้าน แต่วา่ บน
ใบหน้ายังคงไม่ยอมแสดงสิ่ งใดออกมาทั้งสิ้ น
ชือหลีเองก็เห็นดาบในมือของนางแล้ว……นัน่ คือกระดูกของ
ตนเอง นางย่อมต้องคุย้ เคยยิง่ กว่าผูใ้ ด
นางไม่เคยคิดเลยว่า ……กระดูกของนางจะถูกนาไปหลอมเป็ นดาบ!
ตอนนั้นที่ลู่กว่างลงมือเลาะกระดูกของนางด้วยตนเองก็เพื่อที่จะเอา
ไปทาศาสตราวุธให้กบั ลู่เว่ย?
ชัว่ ขณะนั้น เยือ่ ใยความผูกพันในสายเลือดที่ยงั หลงเหลืออยูเ่ ล็กน้อย
ของชือหลีกเ็ หือดแห้งไปในทันที
จะต้องมีจิตใจที่ชวั่ ช้าถึงเพียงไรถึงจะสามารถเลาะกระดูกของ
บุตรสาวคนหนึ่งไปทาเป็ นอาวุธให้กบั บุตรสาวอีกคนโดยไม่เปลี่ยน
สี หน้าได้กนั ?
ที่นางต้องการย่อมมิใช่แค่ให้ลู่กว่างอยูม่ ิสู้ตายอีกต่อไปแล้ว!
“ไอ้สารเลว!” นางกาหมัดขึ้นมา นัยตาสี แดงมีแต่ความเคียดแค้นสุ ด
หยัง่ !
หากมิใช่เพราะว่าบนทรวงอกยังคงมีตะปูตรึ งมังกรที่ยงั มิได้ถอน
ออกไป ตอนนี้นางจะต้องพุง่ เข้าไปถอดกระดูก เลาะเส้นเอ็น ดื่ม
เลือดของเขาด้วยตนเองเป็ นแน่!
“อาหลัน! เจ้ารี บสังหารไอ้แก่สารเลวนั้นเสี ย!” ชือหลีปราศจาก
ความลังเลแม้แต่นอ้ ย
ตู๋กูซิงหลัน “เข้าใจแล้ว”
แค่ประโยคเดียวของชือหลี ก็ทาให้ลู่กว่างระเบิดโทสะออกมา
ในทันที
เขาพยายามทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อทะลวงออกจากขอบเขตยันต์กกั จิต
วิญญาณของตู๋กซู ิงหลัน แต่วา่ ยิง่ ดิ้นรนร่ างกายก็ยงิ่ สิ้ นไร้เรี่ ยวแรง
เขานอนแผ่ลงไป ส่ งเสี ยงคารามออกมา เสื้ อผ้าบนร่ างล้วนขาดวิน่
บนร่ างค่อยๆเปลี่ยนเป็ นเกล็ดสี น้ าตาลอย่างรวดเร็ ว
จากนั้นด้วยความเร็ วที่ดวงตาสังเกตเห็นได้เขาก็กลายเป็ นมังกรยักษ์
ที่ยาวถึงห้าจั้ง
ถึงพลังกาลังภายในร่ างถูกผนึกเอาไว้ แต่อย่างไรเขาก็เป็ นถึงราชา
มังกร ย่อมสามารถเปลี่ยนร่ างกลับเป็ นมังกรได้อยู่
พอเห็นว่าลู่กว่างยังสามารถจะกลายเป็ นร่ างจริ งได้ หลิ่วฮุ่ยกับลู่เวยก็
ผ่อนลมหายใจออกมา
ยามที่มงั กรอยูใ่ นร่ างจริ ง จึงจะแข็งแกร่ งอย่างที่สุด
ร่ างแท้ของราชามังกรย่อมมิอาจมองข้าม ต่อให้ใช้เพียงกาลังจากเนื้อ
หนังก็ยงั สามารถมอบความตายให้กบั ฮ่องเต้หญิงเผ่ามนุษย์ได้อยู!่
ร่ างสี น้ าตาลของมังกรยักษ์เหยียดขยายออกไปจนเต็มลานกว้างของ
ตาหนักกลาง เขายกเศียรขนาดใหญ่ข้ ึนสู ง เกล็ดทัว่ ร่ างเหมือนดัง่
แผ่นหิน พอมองเห็นตู๋กซู ิงหลันที่อยูต่ รงหน้าก็กางกรงเล็บตะปบลง
ไป
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ไม่ได้ใช้ดาบใหญ่
นางเหาะถอยหลังออกไปอย่างพลิ้วไหวก็หลบพ้นการตะครุ บของ
มังกรยักษ์ไปได้
ร่ างของมังกรยักษ์ใหญ่โตมาก แต่การเคลื่อนไหวก็ยงั คล่องแคล่ว
ว่องไว ถึงเขาจะไม่อาจใช้พลังเวทย์ เช่นนั้นก็ยงั สามารถใช้ร่างเนื้อ
ทั้งร่ างเข้ากดทับ
ตู๋กเู จวี๋ยคว้ามือของชือหลีเอาไว้แน่นอยูต่ ลอดเวลา ดวงตาของเขา
เป็ นประกาย “น้องเล็กของข้าแข็งแกร่ งไร้ตา้ น ไอ้ปลาดุกเฒ่านั้นไม่
มีทางสู ้นางได้แน่นอน ไม่ตอ้ งกลัวไป”
ชือหลี “ข้าก็ไม่เคยคิดว่านางจะพ่ายแพ้”
……………
ดาบกระดูกมังกรในมือของตู๋กูซิงหลันยังคงมีเลือดหยาดหยด นาง
ขมวดคิ้วเบาๆ ขณะที่มงั กรยักษ์ใช้กรงเล็บตะปบลงมาอีกครั้ง นางก็
ยืน่ มือออกไปคว้ากรงเล็กของมังกรยักษ์เอาไว้ไต่ข้ ึนไปตามแผ่น
เกล็ดหนาๆของเขา เพียงสองสามครั้งก็ปีนขึ้นไปจนถึงลาคอของ
มังกร
ที่ดา้ นหลังลาคอ มีรอยแผลลึกจากดาบอยูร่ อยหนึ่ง เป็ นบาดแผลที่
เมื่อครู่ ต๋ ูกซู ิงหลันแทงเอาไว้
ต่อให้แปลงเป็ นร่ างมังกร รอยแผลจากคมดาบนั้นก็ยงั ไม่อาจสมาน
ตัวได้
นางสวมชุดแดงตลอดร่ าง ยืนตระหง่านอยูบ่ นหลังคอของมังกรยักษ์
แสงแวววาวจากไข่มุกราตรี ทวั่ ทั้งตาหนักคล้ายจะทอทาบลงไปบน
ร่ างของนาง
มังกรยักษ์ขยับร่ างอย่างคลุม้ คลัง่ คิดจะสะบัดนางให้หล่นลงมา
ตู๋กซู ิงหลันย่อตัวลงเล็กน้อย คว้าเขามังกรบนเศียรของเขาเอาไว้ คน
ก็ยนื อยูไ่ ด้อย่างมัน่ คง ทั้งยังไม่ยอมเสี ยเวลา ใช้ดาบแทงซ้ าลงไปบน
ปากแผลกรี ดลึกลงไปในเนื้อ
“โฮ่ว~” มังกรยักษ์ส่งเสี ยงคารามกึกก้องออกมา ดาบกระดูกมังกร
แทงลึกลงไปบนผิวเนื้อของมันทีละนิ้วๆ
เนื่องเพราะว่าเขาเปลี่ยนร่ างกลับเป็ นมังกรยักษ์ ความยาวของดาบ
กระดูกมังกรนี้จึงสั้นเกินไป ไม่อาจกรี ดลงไปให้ถึงแนวกระดูกของ
เขา แต่แค่กรี ดผิวหนังออกมาก็สร้างความเจ็บปวดจนเขาต้องม้วน
ร่ างลงไปแล้ว
จนถึงตอนนี้เขาก็ยงั คงไม่เข้าใจว่า ทาไมสตรี เผ่ามนุษย์ผนู ้ ้ ีจึง
สามารถใช้ดาบกระดูกมังกรได้อย่างสะดวกสบาย
เพราะขนาดเป็ นเวยเอ๋ อร์…..ยังต้องใช้เวลาฝึ กฝนอยูเ่ ป็ นนานจึงจะ
สามารถยกดาบเล่มนี้ข้ ึนมาได้
นางเป็ นเพียงแค่เผ่ามนุษย์เท่านั้น……ไยจึงสามารถใช้าตราของเผ่า
มังกรได้กนั ?
ตู๋กูซิงหลันมิได้รีบร้อน
นางไม่ได้ใช้ดาบยักษ์เฉือนเจ้ามังกรยักษ์ตวั นี้ แต่เลือกใช้ดาบกระดูก
มังกร
ใช้กระดูกของชือหลี มาล้างแค้นให้กบั ชือหลี! นี่คือการแสดงความ
เคารพนับถือต่อชือหลี
พอดาบกระดูกมังกรไม่อาจแทงลึงลงไปได้มากกว่านี้แล้ว ตู๋กซู ิงห
ลันก็กระชับข้อมือลากยาวไปตามแนว กรี ดเป็ นปากแผลยาวไล่ลง
ไป
แต่วา่ ความยาวของตัวดาบจะมีขอ้ จากัด เพียงกรี ดเอาเนื้อหนัง
ออกมา ยังคงไม่ลึกถึงข้อกระดูก
ลู่กว่างรู ้สึกได้แล้วเช่นกัน เจ็บปวดนั้นก็ส่วนเจ็บปวด แต่วา่ เขาก็
ไม่ได้ร้อนรนแล้ว
หากคานวนตามเวลา คนที่จะมารับตัวเจ้าสาวจากเผ่ามังกรทมิฬ
กาลังจะมาถึงแล้ว
ถึงอย่างไรเผ่ามังกรทมิฬก็ถือเป็ นผูน้ าของเผ่ามังกรทั้งสี่ ทะเล เมื่อ
เห็นเขาที่เป็ นราชามังกรทะเลตะวันตกถูกรังแก ไหนเลยจะนัง่ ดูอยู่
เฉยๆโดยไม่สนใจได้กนั ?
ขอเพียงเขาใช้ร่างจริ งต้านทานเอาไว้ ไม่ปล่อยให้นางถอดกระดูก
ของตนเองออกไป ก็จะสามารถพ้นวิกฤตนี้ไปได้
เขายังคงพลิกร่ างม้วนลงไป ไม่ให้นางลงมือได้โดยง่าย
ลู่เวยฝื นลุกขึ้นมานัง่ นางแทบจะใช้กาลังออกไปทั้งหมด ฉวยโอกาส
นี้ปล่อยลูกดอกลับใส่ ต๋ ูกซู ิงหลัน
ลูกดอกลับเจ็ดแปดดอกพุง่ เข้าใส่ หวั ใจของตู๋กซู ิงหลัน อย่างไม่อาจ
หลบพ้น
“ระวัง!” ชือหลีร้องเสี ยงดังออกมา เตะเท้าออกไปใส่ **บสิ นเจ้าสาว
ตรงหน้า คิดจะใช้มนั สกัดกั้นลูกดอกลับของลู่เวยเอาไว้
นางถูกตะปูตรึ งมังกรกักพลังเอาไว้จึงไม่มีกาลังมากพอจะสกัดพวก
มันได้ทนั
ลูกดอกลับเหล่านั้นยังคงพุง่ เข้าใส่ ต๋ ูกซู ิงหลัน
ขณะที่เห็นอยูว่ า่ กาลังจะเข้าสู่ หวั ใจของนางอยูแ่ ล้ว
ตู๋กซู ิงหลันก็ยนื่ มือเปล่าออกมาข้างหนึ่ง คว้าลูกดอกลับทั้งหมดรวบ
เอาไว้ในฝ่ ามือ
ผลักฝ่ ามือส่ งกลับออกไป ลูกดอกลับทั้งเจ็ดแปดดอกก็พงุ่ เข้าไปใน
ร่ างของลู่เวย แทบจะทาให้นางทะลุเป็ นกระชอน
ขณะที่ต๋ ูกูซิงหลันคว้าลูกดอกเหล่านั้นขึ้นมาไว้ในมือ ก็สกิดโดนฝ่ า
มือเป็ นปากแผลเล็กๆ หยดโลหิตสองหยดไหลออกมา พอดีหยดลง
ไปบนดาบกระดูกมังกร
ทันใดนั้นเองก็เห็นดาบกระดูกมังกรเปล่งแสงสว่างจ้าออกมา…..มัน
กาลังเคลื่อนไหว ราวกับหัวใจที่เต้นอยู!่
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 412 นางมิใช่ เผ่ ามนุษย์ทั่วๆไป
โลหิตของตู๋กซู ิงหลันไหลผ่านคมดาบเข้าสู่ ใจกลางของตัวดาบ
กระดูกมังกร
พอได้รับโลหิตของนาง ดาบเล่มนี้กเ็ หมือนจะมีชีวิตขึ้นมา พลังของ
โลหิตปลุกจิตของดาบกระดูกมังกรให้เปล่งประกายดาบออกไป
เพียงพริ บตาเดียวประกายดาบนั้นก็ทะลวงผ่านร่ างของลู่กว่าง
ออกไป จิตดาบทะลุลงไปถึงพื้นดิน
เกิดเป็ นฝุ่ นธุลีระเบิดขึ้นไปถึงท้องฟ้า

“โฮ่ว~” ลู่กว่างส่ งเสี ยงโหยหวนดังกึกก้อง ปากมังกรกระอัก


เลือดออกมาคาโต
เขาปิ ดร่ างเป็ นเกลียว คิดจะดิ้นรน
ลู่เวยที่ถูกลูกดอกซัดเข้าใส่ ก็ตื่นตะลึงแล้ว หลายปี มานี้มิวา่ ทา
อย่างไรนางก็ไม่อาจปลุกจิตของดาบกระดูกมังกรขึ้นมาได้…..แต่
เผ่ามนุษย์ผนู ้ ้ ีใช้เพียงแค่โลหิตไม่กี่หยดก็สามารถปลุกมันได้แล้ว?
ศัสตราวุธประเภทดาบและกระบี่น้ ี ถือเอาจิตดาบและจิตกระบี่เป็ น
สิ่ งที่แข็งแกร่ งที่สุด ขอเพียงปลุกจิตของดาบขึ้นมาได้ เช่นนั้นก็ยงิ่
แข็งแกร่ งขึ้นไปอีกเรื่ อยๆ
เพียงแต่วา่ เดิมดาบกระดูกมังกรเองก็แข็งแกร่ งมากอยูแ่ ล้ว ต่อให้ไม่
อาจปลุกจิตของดาบ ก็เพียงพอจะให้นางการาบเผ่ามังกรทั้งหมด
เอาไว้ในมือ
เดิมทีนางคิดว่า ชัว่ ชีวิตนี้คงจะไม่อาจปลุกจิตของดาบได้แล้ว
แต่วา่ ตอนนี้…….
ลู่เวยอ้าปากที่มีแต่เลือดขึ้นมา นางไม่กล้าจะเชื่อสายตาของตนเอง
หลิ่วฮุ่ยเองก็ตาค้างไปแล้ว พอเงยหน้ามองไปก็เห็นว่าตู๋กซู ิงหลัน
มิได้เปิ ดโอกาสให้กบั ลู่กว่างได้ดิ้นรนเลยแม้แต่นอ้ ย
สี หน้าของนางเย็นยะเยือก สองมือกุมดาบเอาไว้ กรี ดยาวลงไปตาม
ปากแผลของลู่กว่างอีกครั้ง จิตดาบวาดคมออกมาตัดเหล็กเสมือน
เฉือนโคลน!
คราวนี้ต่อให้ลู่กว่างมีเกล็ดเป็ นแผ่นเหล็กกล้าก็ยงั กั้นไม่อยูอ่ ีกต่อไป
แล้ว
แผลนี้พอลากยาวลงไป ก็ลึกถึงครึ่ งเมตร กรี ดจนเนื้อหนังชั้นนอก
ของมังกรอย่างลู่กว่างปลิ้นออกมา
จนสามารถมองเห็กระดูกที่อยูใ่ นกล้ามเนื้อได้อย่างชัดเจน กระดูก
แต่ละท่อนเรี ยงต่อกันไปกับเนื้อและเส้นเอ็น
เลือดมังกรไหลทะลักออกมาจากแผล เจิ่งนองไปทัว่ ทั้งแผ่นพื้น
กระจก ทัว่ ทั้งตาหนักหลังใหญ่มีแต่กลิ่นคาวคละคลุง้ ของเลือดเต็ม
ไปหมด
เขาส่ งเสี ยงร้องอย่างโหยหวน แต่ภรรยาและลูกของเขากลับเอาแต่
มองดูอยูอ่ ย่างนั้น
หลิ่วฮุ่ยถึงกับเกิดความคิดจะหลบหนีข้ ึนมาแล้ว
เมื่อมองดูสถานการณ์ในตอนนี้…..ชัดเจนเลยว่าพวกนางไม่อาจ
ต่อกรได้อีกต่อไป
นางติดตามลู่กว่างมานานหลายปี ที่ทุ่มกาลังไปก็มากเกินพอแล้ว…..
ทั้งที่นางยังอ่อนเยาว์กย็ อมเป็ นอนุลบั ๆของเขา ยอมถูกสายตาดูหมิ่น
เหยียดหยามมานานหลายปี ทั้งยังคลอดบุตรสาวที่โดดเด่นเก่งกล้า
ให้กบั เขาขนาดนี้ เขาสมควรต้องซาบซึ้งใจต่อนางแล้ว
นางอยากจะหลบหนี แต่วา่ ก็ไม่มีโอกาส
บนหลังมังกร ตู๋กูซิงหลันใช้ดาบเดียวกรี ดลงไปจากกระดูกสันหลัง
ข้อแรกไปจนถึงกระดูกปลายหางมังกร
ลู่กว่างเจ็บปวดสุ ดทนทาน เขาเกลือกกลิ้งร่ างกายอันใหญ่โตลงไป
บนพื้น เจ็บจนหอบหายใจ
ตู๋กซู ิงหลันชักดาบออกมาจากปลายหางมังกร มือของนางโชกชุ่มไป
ด้วยเลือดของลู่กว่าง ดวงตาดอกท้อเปี่ ยมด้วยละอองเลือดที่สาด
กระเซ็น
ขณะที่ฝงู ชนกาลังจับจ้องมองอยูน่ ้ นั นางก็ยกมือขึ้นมาข้างหนึ่ง
เสื อกลงไประหว่างเนื้อหนังของลู่กว่าง จับปลายกระดูกท่อนสุ ดท้าย
ตรงหางมังกรเอาไว้
พอใช้กาลังกระชากขึ้นมา ก็เห็นเป็ นกระดูกมังกรที่มีเนื้อติดถูก
กระชากขึ้นมาจากร่ างของลู่กว่างทีละนิ้วๆ
ฝี มือนั้น ทั้งรวดเร็วและแม่นยา คล่องแคล่วอย่างที่สุด!
นางเหมือนกับจอมมารที่สงั หารมังกรมาแล้วนับร้อยนับพันตัว เพียง
ลงมือแค่ครั้งเดียวก็ถอดออกมาได้ท้ งั เส้น!
นัน่ คือกระดูกมังกร!
แต่กลับถูกนางดึงออกมาเหมือนกับขี้กงุ้ บนแผ่นหลัง!
ถอดออกมาทั้งเส้น ไม่เหลือเศษเสี้ ยวเอาไว้แม้แต่นอ้ ยนิด!
ที่จริ งแล้ว ……การจะถอดกระดูกมังกรออกจากร่ างของเผ่ามังกร
เป็ นเรื่ องยากเย็นแสนเข็น
ตอนนั้นลู่กว่างถอดกระดูกมังกรของชือหลี ……เขาต้องสิ้ นเปลือง
พลังไปอย่างมากมาย ใช้เวลาถึงสามวันเต็มๆถึงจะถอดออกมาได้
แต่วา่ ตู๋กซู ิงหลันเล่า? ลงมือเพียงครู่ เดียว?!
ที่สุดแล้วนางมีพลังมากมายถึงเพียงไหนกันแน่? ผูค้ นทั้งหลายต่างก็
ไม่มีใครคาดเดาออก
ชือหลีเองก็ตกตะลึงไปเช่นกัน ตู๋กซู ิงหลัน ยังแข็งแกร่ งกว่าที่นาง
คาดคิดเอาไว้มากมายนัก
ตามสถานการณ์แล้ว กระดูกมังกรมิวา่ เอาไว้ทาเป็ นอะไร ……มีแต่
เผ่ามังกรเท่านั้นที่จะใช้งานได้
แต่วา่ นางไม่เพียงสามารถใช้มนั ได้ ยังถึงกับ ‘ปลุกจิต’ ของมันขึ้นมา
ได้ดว้ ยซ้ า…..
แล้วนางจะเป็ นเผ่ามนุษย์ธรรมดาไปได้อย่างไร?
……..
อีกด้านหนึ่ง ตู๋กซู ิงหลันโยนกระดูกมังกรท่อนนั้นทิ้งลงไปบนพื้น
ลู่กว่างที่ถูกถอดกระดูกมังกรออกไปนอนแน่นิ่งอยูบ่ นพื้นดังตัว
หนอนที่ตายไปแล้วตัวหนึ่ง
ผ่านไปอีกครึ่ งวันร่ างของเขาถึงได้กลับกลายเป็ นร่ างมนุษย์ได้
ร่ างของเขาแดงเถือกไปทัว่ ตัว นอนคว่าแผ่อยูบ่ นพื้น แม้แต่เศษผ้าจะ
ปิ ดกายสักชิ้นก็ยงั ไม่มี
บริ เวณตั้งแต่ตน้ คอตรงกระดูกสันหลังไปจนถึงปลายกระดูกก้นกบ
เป็ นปากแผลยาวที่มีเลือดไหลอาบ เมื่อไม่มีกระดูกสันหลังแล้ว เขาก็
ได้แต่นอนพังพาบอยูบ่ นพื้น แม้แต่จะพลิกตัวก็ยงั ทาไม่ได้
เป็ นถึงราชามังกร แต่วา่ ตอนนี้กลับกลายเป็ นสวะที่แม้แต่จะลุกขึ้น
ยืนก็ยงั ทาไม่ได้!
ชือหลีมองดูเขา……ตอนนั้นเมื่อนางและน้องสาวถูกถอดกระดูก
มังกรไปแล้ว ก็ถูกขับไล่ออกไปจากทะเลตะวันตกในคืนนั้นเลย
ในคืนที่ฝนฟ้ากระหน่าพายุลงมา นางเกือบจะตายอยูใ่ นลารางระบาย
น้ าแล้ว
หลังจากนั้นตลอดเกือบร้อยปี นางก็ไม่เคยยืนขึ้นได้อีกเลย
จนกระทัง่ ร่ างเนื้องอกกระดูกใหม่ข้ ึนมาอีกครั้ง
แต่วา่ มันก็ไม่ใช่กระดูกมังกรอีกแล้ว ……อย่างมากก็เป็ นเพียงแค่
กระดูกงูเท่านั้น
พอเห็นท่าทางของลู่กว่าง นางจึงมิได้รู้สึกสงสารเลยสักนิด…..หาก
เทียบกับสิ่ งที่นางได้รับไปในตอนนั้นแล้ว ลู่กว่างในตอนนี้นบั เป็ น
อะไรได้?
………………….
อีกด้านหนึ่ง ดาบในมือของตู๋กูซิงหลันอาบไปด้วยเลือด พอได้อาบ
เลือดของมังกรเข้าไปแล้ว ก็กลายเป็ นยิง่ คมกริ บและแข็งแกร่ งขึ้นมา
กว่าเดิม
ยามที่ถือดาบเล่มนี้เอาไว้ในมือยังรู ้สึกได้ถึงเสี ยงของหัวใจที่กาลัง
เต้นอยู่
พอนางตวัดมือครั้งหนึ่ง ดาบกระดูกมังกรในมือก็บินออกไป
กลับไปอยูข่ า้ งกายชือหลีในทันที ซ้ ายัง ปั กลึกลงไปบนพื้นข้างตัว
นาง
ตู๋กซู ิงหลันเอ่ยกับนางว่า “ใช้กระดูกของเจ้าเลาะกระดูกของเขา
ออกมา ในเมื่อใช้เสร็ จแล้ว ก็ขอคืนให้กบั เจ้า”
นี่คือกระดูกของชือหลี นางย่อมต้องคืนให้กบั ชือหลีอยูแ่ ล้ว
เพียงแต่วา่ นางเองก็ออกจะประหลาดใจอยูเ่ หมือนกัน โลหิ ตเพียงแค่
สองหยดของตนเองก็สามารถจะ ‘ปลุกจิต’ ของดาบกระดูกมังกร
ขึ้นมาได้แล้วหรื อ……..
พอคิดไปถึงว่าตอนนั้นหลังมือของพีร่ องอยูๆ่ ก็มีเกล็ดปรากฏขึ้นมา
ในใจของตู๋กซู ิงหลันก็เกิดความคาดเดาบางประการ
ตัวดาบกาลังสัน่ น้อยๆ ส่ งเสี ยงเวิงๆออกมาเบาๆ
มือของชือหลีสนั่ สะท้าน นางลังเลอยูเ่ ป็ นนานถึงได้ดึงมันขึ้นมา
ทันทีที่มือสัมผัสลงไป ก็รู้สึกได้ถึงกระแสอุ่นร้อนสายหนึ่งกาลังพุง่
เข้าไปในร่ างกาย
นัน่ คือ…….สิ่ งที่สมควรเป็ นของนางแต่แรก ได้กลับคืนมาแล้ว
ลู่เวยเห็นแล้วก็ร้อนรนขึ้นมา นางไม่สนใจรอยบาดแผลที่อยูบ่ นร่ าง
อีกต่อไป “ชือหลี เจ้าเป็ นบ้าไปแล้วหรื อ? คิดจะดูดกลืนดาบกระดูก
มังกรของข้าหรื อยังไง? เจ้ามันก็เป็ นเพียงแค่สวะที่ไร้ค่า เจ้ามันไม่
คู่ควร!”
“เดิมทีมนั ก็เป็ นกระดูกของข้าอยูแ่ ล้ว หากข้าไม่คู่ควร แล้วเจ้าคู่ควร
หรื ออย่างไร?” ชือหลีส่งสายตาเย็นชาไปให้นาง
“มารดาที่ร้ายกาจของเจ้าทาผิดอย่างร้ายแรง ถึงได้ทาให้เจ้าต้องถูก
ถอดกระดูก นับตั้งแต่ที่มนั ถูกถอดออกมาก็ไม่ใช่ของเจ้าอีกแล้ว!” ลู่
เวยยังคงหาเรื่ องมาแย้ง ดาบกระดูกมังกรเป็ นสิ่ งที่มีจิตใจ มันพึ่งจะ
ถูกปลุกขึ้นมา กาลังจะยอมรับเจ้านาย
หากว่ามันยอมรับชือหลีเป็ นนาย วันข้างหน้าคิดจะแย่งชิงกับมาก็
เป็ นเรื่ องยากแล้ว
น้ าเสี ยงของนางแหลมสู ง ไม่เหมือนกับยามปกติที่ไพเราะราวไข่มุก
บนจานหยกอีกแล้ว
ใบหน้าของนางก็บูดเบี้ยวอย่างที่สุด
ดาบกระดูกมังกรคือชีวิตของนาง! เรื่ องอะไรจะยอมเสี ยไป?
“ข้าคือองค์หญิงทะเลตะวันตก เกิดมาก็เป็ นมังกรทองแต่แรกแล้ว มี
แต่ติดตามการนาพาของข้า ทะเลตะวันตกจึงจะสามารถลุกขึ้นมา
ผงาดใหม่ได้อีกครั้ง!” ลู่เว่ยตะโกนร้องต่อไป “เจ้ามันก็เป็ นเพียงแค่
เศษสวะ ต่อให้ได้ดาบกระดูกมังกรไปก็สูญเปล่า! อย่าว่าแต่มนั เป็ น
ของข้ามาแต่แรกแล้ว! เจ้าเป็ นชาวมังกรตะวันตกผูห้ นึ่ง แต่ไม่เคยทา
คุณประโยชน์อนั ใดให้กบั ทะเลตะวันตก แล้วยังจะชักนาจิ้งจอกเข้า
บ้านมาเลาะกระดูกเสด็จพ่อ วันนี้สิ่งของของข้าก็ยงั แย่งชิง! เจ้าไม่
กลัวว่าฟ้าจะผ่าใส่ บา้ งหรื อไง?”
เนื่องเพราะตู๋กซู ิงหลันมัวแต่กาลังขบคิดถึงปั ญหา ถึงได้กลายเป็ น
โอกาสให้นางพล่ามวาจาไร้สาระออกมา
ลู่กว่างแม้จะลุกขึ้นมาไม่ได้ แต่วา่ สติยงั คงครบถ้วนอยู่
เขากัดฟัน ฝื นความเจ็บปวด พูดออกไปว่า “ชือหลี หากเจ้าคืนมัน
ให้กบั เวยเอ๋ อร์ แล้วข้าจะยังถือว่าเดรัจฉานอย่างเจ้าเป็ นบุตรี อยู!่ ”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 413 เจ้ าสาวอยู่ที่ไหน?
“มิเช่นนั้นเจ้าจะถูกถอดชื่อออกไปจากเผ่ามังกรทะเลตะวันตกชัว่
ชีวิต!”
ตอนนี้เขากลายเป็ นคนพิการไปแล้ว เวยเอ๋ อร์คือความหวังเพียงหนึ่ง
เดียวของเขา นางคือมังกรทอง! คือผูท้ ี่มีพรสวรรค์ช้ นั ยอดที่สุดของ
เผ่ามังกร!
ต่อให้เขาต้องตายก็จะไม่ยอมปล่อยให้ดาบของนางตกไปอยูใ่ นมือ
ของนังลูกเดรัจฉานนัน่ !
นางไม่คู่ควร!
มีแต่เวยเอ๋ อร์เท่านั้นที่คู่ควรจะใช้ดาบเล่มนั้น!
ตอนนี้ ลู่กว่างไม่เพียงแต่คิดเสี ยดายโอกาส ในใจยังจงเกลียดจงชังชื
อหลีอย่างที่สุดอีกด้วย หากมิใช่เพราะว่านังเดรัจฉานนี้ชกั นาเผ่า
มนุษย์ที่โหดเ**้้ยมมาเป็ นทัพหนุน เขาไหนเลยจะต้องมาอยูใ่ น
สภาพนี้!”
ชือหลีอยากจะหัวเราะแล้ว ตู๋กเู จวี๋ยรี บช่วยตอกย้ากลับไป “ข้าว่าที่
น้องเล็กเลาะออกมาคงไม่ใช่กระดูกมังกรของเจ้าหรอก แต่วา่ เป็ น
สมองของเจ้ามากกว่า! ไอ้ปลาดุกเฒ่าอย่างเจ้าทาไมถึงได้โอ้อวดคา
โตได้โดยไม่รู้สึกกระดากอายเลยสักนิด?”
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ไม่คิดจะเสี ยเวลากล่าววาจาไร้สาระกับเขาอีกต่อไป
นางเดินไปยังดาบยักษ์ของตนเอง ยืน่ มือข้างหนึ่งไปจับเอาไว้ ก็ดึง
ดาบยักษ์ข้ ึนมาแบกเอาไว้บนบ่า
จากนั้นก็หนั ไปมองดูลู่เวยด้วยสายตาเย็นชา
“มังกรทองหรื อ?” ฮึ….” น้ าเสี ยงที่หวั เราะออกมาอย่างเย็นชานั้น
แฝงเอาไว้ดว้ ยความเหยียดหยามอย่างที่สุด
หลิ่วฮุ่ยที่อยูข่ า้ งกายลู่เวยรู ้สึกเหมือนถูกมองจนทะลุ เสี ยงหัวเราะ
ของตู๋กซู ิงหลันทาให้นางต้องหน้าชา ใจสัน่ อยูล่ ึกๆ
ตู๋กซู ิงหลันขยับปลายนิ้ว ขณะที่ใจกลางฝ่ ามือของนางกาลังปรากฏ
มุกมังกรขึ้นมา ก็ได้ยนิ เสี ยงเครื่ องดนตรี ปี่พาทย์ดงั มาจากด้านนอก
เสี ยงดนตรี เหล่านั้นแฝงความลึกลับอึมครึ มบางอย่าง
ดวงตาของหลิ่วฮุ่ยแม่ลูกเปล่งประกายขึ้นมาในทันที
“มาแล้ว! พวกเขามาแล้ว!”
ลู่กว่างที่นอนพังพาบอยูบ่ นพื้นก็ตื่นเต้นขึ้นมาเช่นกัน…..ถึงแม้วา่ อีก
ฝ่ ายจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง แต่กย็ งั คงไม่สาย กระดูกมังกรพึ่งถูกถอด
ออกมา ยังสามารถใส่ กลับเข้าไปได้
คนของเผ่ามังกรทมิฬย่อมไม่มีทางมองดูเขาที่ได้ชื่อว่าเป็ น ‘ญาติ’
ถูกรังแกอย่างแน่นอน
มิเช่นนั้นนัน่ มิเท่ากับว่าตบหน้าพวกเขาหรอกหรื อ?
“รี บไปจากที่นี่!” พอรู ้สึกถึงความอึมครึ มที่กาลังเคลื่อนเข้ามา สี หน้า
ของชือหลีกเ็ ปลี่ยนเป็ นยา่ แย่ นางหันไปบอกกับตู๋กซู ิงหลันว่า “พวก
เขาไม่ใช่คนที่เจ้าจะไปหาเรื่ องได้!”
เผ่ามังกรทมิฬ…..ถือเป็ นอันดับหนึ่งเหนือเผ่ามังกรทั้งสี่ ทะเล ในหก
ภพภูมิลว้ นสามารถทาให้ทุกผูค้ นบังเกิดความหวาดผวา
ตอนที่ยงั เล็กยามเมื่อนางดื้อดึง มารดาจะยกเผ่ามังกรทมิฬมาขู่นาง
ทุกครั้งที่ได้ยนิ หลายคานั้น นางล้วนกลัวจนต้องยอมเชื่อฟังแต่โดยดี
กลัวว่าจะถูกจับไปยังทะเลไร้กน้ กลายเป็ นอาหารของเผ่ามังกรทมิฬ
ความกลัวที่ฝังอยูใ่ นใจนี้แม้ผา่ นไปแล้วหลายปี ก็ยงั ไม่จางหาย
หลายปี มานี้ เผ่ามังกรทมิฬที่ถูกกักขังเอาไว้ใต้กน้ ทะเลลึกเริ่ มเกิด
ความเคลื่อนไหวขึ้นมาบ้างแล้ว…..
เดิมทีนางกาลังจะถูกลู่กว่างส่ งไปแต่งงานเป็ นอนุของไท่จื่อ (รัช
ทายาท)ของเผ่ามังกรทมิฬ ครั้งนี้ถึงแม้วา่ จะมิใช่ไท่จื่อเผ่ามังกรทมิฬ
เสด็จมาด้วยตนเอง แต่วา่ คนของเผ่ามังกรทมิฬที่มารับตัวแม้แต่ลู่
กว่างก็ยงั ไม่อาจเทียบชั้นได้
ที่จริ งแล้ว…..เผ่ามังกรทั้งสี่ ทะเลและเผ่ามังกรทมิฬมิใช่ฝ่ายเดียวกัน
ด้วยซ้ า
เผ่ามังกรทมิฬนั้น…..คือเผ่าที่มีความสามารถจะต่อกรกับเหล่าทวย
เทพเบื้องบนได้
“เฮอะ เฮอะ ตอนนี้รู้จกั เกรงกลัวบ้างแล้วหรื อ? สายไปแล้วละ!” ลู่
เวยหัวเราะเสี ยเย็นออกมา นางรู ้วา่ เช่นนี้เรี ยกว่าอะไร?
คืนสนอง!
ถึงแม้วา่ พวกนางจะสู ้เผ่ามนุษย์ผนู ้ ้ นั ไม่ได้ แต่วา่ คนของเผ่ามังกร
ทมิฬสมควรทาได้กระมั้ง?
ตู๋กซู ิงหลันมิใช่คนที่หลบหนีง่ายๆ นางแบกดาบยักษ์เอาไว้บนบ่า
ยืนอยูบ่ นลานกลางตาหนัก มองออกไปด้านนอก
พอมองออกไป สิ่ งแรกที่ได้เห็นก็คือดวงตาสี ครามคู่หนึ่ง
เป็ นดวงตารู ปดอกท้อเหมือนกับนาง เพียงแต่นยั ตาต่างสี กนั
นัยตาที่ดูลึกล้ าดัง่ อัญมณี ใต้ทะเล ขนตาเป็ นแพคมชัด ดวงตาของ
นางเหมือนดังท้องทะเลกว้าง
อีกฝ่ ายก็มองมาที่นางเช่นกัน
พอดวงตาสี ครามคู่น้ นั หรี่ ลงน้อยๆ ก็เหาะจากลานด้านนอกเข้ามา
ข้างในโดยทันที
ชุดสี ครามตลอดร่ างพลิ้วไหวราวโบยบิน เส้นผมเป็ นลอนยาวตาม
ธรรมชาติอย่างผ่านการดัดงอสยายยาวอยูด่ า้ นหลัง ราวกับสาหร่ าย
น้ าที่กาลังเริ งระบา
บนศีรษะนั้นมีรัดเกล้าสี เงินชิ้นเดียว
และเพราะอยูใ่ ต้ทอ้ งทะเลลึกมานานปี โดยมิได้พบกับแสงแดด
ผิวพรรณของนางจึงขาวสะอาดดุจหยกมันแพะ ทั้งยังแวววาว
นี่เป็ นสุ ดยอดโฉมงามผูห้ นึ่ง!
ดูจากภายนอกคล้ายจะมีอายุไม่ต่างจากตู๋กซู ิงหลันเท่าใด นัยตาคู่นยั
ก็คล้ายคลึงกับนางมา ผิดแต่คละสี เท่านั้น
ที่ดา้ นหลังของนาง มีแมงกระพรุ นสี น้ าเงินขนาดใหญ่ตวั หนึ่ง
ด้านหลังของเจ้าแมงกระพรุ นมีเผ่ามังกรสวมเกราะสิ บกว่าคน
ติดตามมาด้วย
แต่ละคนล้วนมีไอทมิฬในร่ างอย่างเข้มข้น
ชาวมังกรที่ยนื อยูด่ า้ นหน้าสุ ดนั้น ถือเปลือกหอยสี ดาตัวหนึ่งเอาไว้
ในมือ
ถึงแม้วา่ จะยืนอยูห่ ่างกันช่วงหนึ่ง ตู๋กูซิงหลันก็ยงั รู ้สึกได้ถึงขุมพลัง
อันแข็งแกร่ งที่กาจายของมาจากเปลือกหอยนั้น
ยามที่ได้เห็นสาวน้อยในชุดสี ครามตลอดร่ างผูน้ ้ นั แม้แต่ต๋ ูกเู จวี๋ยก็ยงั
ตะลึงไป ดวงตาของนางกับน้องเล็กช่าง…….คล้ายคลึงกันเกินไป
แล้ว
หากไม่นบั สี สนั ที่ต่างกัน เพียงมองดูเฉพาะดวงตาของคนทั้งสอง
เกรงว่าแม้แต่เขาที่เป็ นพี่ชายก็อาจจะแยกแยะไม่ถูกก็เป็ นได้
สาวน้อยผูน้ ้ นั เหาะลงมาตรงหน้าของตู๋กซู ิงหลันอย่างช้าๆ ดวงตาที่
สงบนิ่งคู่น้ นั กวาดมองดูสถานการณ์โดยรอบเบื้องหน้า สุ ดท้ายก็ไป
หยุดอยูท่ ี่ร่างของลู่กว่างที่นอนครึ่ งเป็ นครึ่ งตายอยูบ่ นพื้น
“เจ้าสาวอยูท่ ี่ใด?”
นางมิได้ไต่ถามว่าที่นี่เกิดเรื่ องอันใดขึ้นด้วยซ้ า!
ลู่กว่างตะลึงไปเล็กน้อย “คนที่สวมใส่ ชุดสี แดงนัน่ คือบุตรสาวของ
ข้า…..”
เขาถูกถอดกระดูกมังกรออกไปแล้ว ร่ างกายไม่อาจเคลื่อนไหว
เพียงแต่เมื่อสาวน้อยผูน้ ้ นั เอ่ยปากขึ้นมา ก็เกิดแรงกดดันบางอย่างที่
เขาไม่อาจฝื นทนอยูไ่ ด้
ตู๋กเู จวี๋ยตัดสิ นใจปกป้องชือหลีเอาไว้ที่ดา้ นหลัง เขามีความรู ้สึกว่า
สาวน้อยผูน้ ้ ีไม่ควรไปหาเรื่ องด้วย
ไม่แน่วา่ นางอาจจะเป็ นคนประเภทเดียวกับน้องเล็ก
ทันทีที่ลู่กว่างเอ่ยขึ้นมา ก็เห็นสายตาของสาวน้อยผูน้ ้ นั หันกลับไป
หยุดมองอยูบ่ นร่ างของตู๋กซู ิงหลันใหม่อีกครั้ง
นางเองก็สวมใส่ ชุดสี แดงเช่นกัน
หัวคิ้วของนางขมวดน้อยๆ นัยตาเป็ นประกายเย็นชาจนผูค้ นไม่กล้า
เข้าใกล้
ได้ยนิ มานานว่า บุตรสาวของราชามังกรตะวันตกงดงามอย่างยิง่
ดังนั้นหลังจากเลือกเฟ้นไปมาอยูน่ าน จึงได้ตดั สิ นใจเลือกตระกูล
ของพวกเขา
นี่ยงั งดงามกว่าที่นางคาดคิดเอาไว้มากนัก
แต่ตลอดทั้งร่ างมีแต่เลือด
นางไม่คิดจะยุง่ เกี่ยวกับเรื่ องไร้สาระ โบกมือขึ้นมา ก็เห็นชาวเผ่า
มังกรที่อยูด่ า้ นหลังส่ งเปลือกหอยสี ดานั้นมาที่เบื้องหน้าของลู่กว่าง
ด้านในมีไข่มุกวิญญาณที่มีพลังของเผ่ามังกรทมิฬ
“สิ่ งของมอบให้เจ้า คนพวกเราจะพาไปแล้ว”
สาวน้อยกล่าวเสี ยเข้ม คล้ายไม่ได้แปลกใจเลยสักนิดว่าผูท้ ี่เป็ นถึง
ราชามังกรทะเลตะวันตกทาไมถึงได้ถูกคนเลาะกระดูกออกไป
ทันทีที่พดู จบ ชาวมังกรที่สวมใส่ เกราะหลายคนนั้นก็ขยับเข้ามาที่
ด้านหน้าตู๋กูซิงหลัน
“พวกเจ้าพาไปผิดคนแล้ว!” ลู่เวยที่อยูด่ า้ นข้างตะโกนออกมาอย่าง
รี บร้อน “นางเป็ นคนเผ่ามนุษย์ที่ต่าต้อย เจ้าสาวคือน้องสาวของข้าชื
อหลี นางอยูท่ ี่นนั่ !”
ขณะที่พดู ออกไปนางก็ยกมือขึ้นมาอย่างกินแรง ชี้ไปยังชือหลีที่ถูกตู๋
กูเจวี๋ยปกป้องเอาไว้ดา้ นหลัง
“ท่านผูท้ ี่มารับเจ้าสาว…..ท่านคงไม่รู้ บุตรสาวของข้านิสยั ดื้อรั้น
นางไม่เต็มใจแต่งไปเป็ นอนุขององค์ไท่จื่อ เห็นหรื อไม่ ถึงได้ไป
ร่ วมมือกับคนนอกมาบุกทาลายวังมังกร ทั้งยังถอดกระดูกของบิดา
ตนเองออกมา…..แม้แต่นอ้ งสาวแท้ๆของตนเองก็ยงั ถูกทุบตีจน
เกือบตาย ทั้งยังแย่งชิงศาสตราวุธที่สาคัญเท่าชีวิตของนางไป”
หลิ่วฮุ่ยรี บเอ่ยแทรกขึ้นมา นางลุกขึ้นยืน ในเมื่อมีผรู ้ ับตัวจากเผ่า
มังกรทมิฬมาแล้ว นางก็ชกั จะมีความกล้าขึ้นมา
นางพลิกเรื่ องราวกลับขาวเป็ นดาเติมน้ ามันราดพริ กลงไปอย่างเต็มที่
จากนั้นก็หลัง่ น้ าตาออกมา “องค์ไท่จื่อพอพระทัยในบุตรสาวของ
พวกเรา ก็ถือเป็ นวาสนาของนาง แต่ใครจะไปคิดว่านางจะก่อคดี
เช่นนี้ข้ ึนมากัน?”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 414 มองผิด เห็นตาปลาเป็ นไข่ มุก
สาวน้อยผูน้ ้ นั รับฟังอย่างตั้งใจ ทั้งยังไม่ขดั คาพูดของนาง เพียงแต่
ขณะที่ฟังคาพูดเหล่านั้นไปสายตาของนางก็ยงั หยุดอยูบ่ นร่ างของตู๋กู
ซิงหลัน
นับตั้งแต่ที่นางเข้ามาในวังมังกร ก็เห็นนางตั้งแต่แรกแล้ว
สตรี ผนู ้ ้ ีงดงามเพียงพอ มีคุณสมบัติจะเป็ นอนุของไท่จื่อ
หลิ่วฮุ่ยยังคงราพันด้วยความขื่นขมต่อไป “ท่านผูม้ ารับตัวเจ้าสาว
ท่านโปรดจัดการให้กบั พวกเราด้วย เวยเอ๋ อร์ของข้าเป็ นมังกรทอง
เป็ นผูม้ ีพรสวรรค์และความหวังของทะเลตะวันตก หากเผ่ามังกร
ทมิฬต้องการจะผงาดขึ้นมาอีกครั้ง ย่อมไม่พน้ ต้องการกาลังจากพวก
เราทะเลตะวันตกใช่หรื อไม่?”
“ชือหลี บุตรสาวที่ไม่รักดีของข้าผูน้ ้ นั ถูกพวกมนุษย์ช้ นั ต่าหลอกลวง
จนสองตามืดมัวไปแล้ว ของเพียงท่านช่วยแก้แค้นให้กบั พวกเรา นา
ศาสตราวุธของเวยเอ๋ อร์กลับคืนมา ต่อไปพวกเราทั้งทะเลตะวันตกก็
จะขอฟังคาบัญชาของเผ่ามังกรทมิฬ!”
ในสายตาของนาง ถึงเผ่ามังกรทมิฬจะแข็งแกร่ ง แต่กย็ งั ถูกกักขัง
เอาไว้ใต้กน้ ทะเลจะอย่างไรก็ยงั ต้องพึ่งพาความช่วยเหลืองของเผ่า
มังกรทั้งสี่ ทะเลอยู่
เงื่อนไขที่นางมอบออกไปในตอนนี้มิได้เกินไป
เพียงแต่พอเอ่ยออกไป ก็เห็นสาวน้อยผูน้ ้ นั มองดูนางด้วยสายตาเย็น
ชาแวบหนึ่ง
ทั้งเย็นชาและโหดเ**้้ยม!
แทบจะไม่ต่างอะไรกับตู๋กซู ิงหลัน!
ในใจของนางรู ้สึกหวาดผวาขึ้นมาในทันที ที่จริ งแล้ว ตอนที่เห็นว่าผู ้
ที่มารับตัวเจ้าสาวเป็ นเพียงสาวน้อยนางหนึ่ง นางก็ไม่ได้เห็นอยูใ่ น
สายตาเท่าใดนัก
แต่วา่ แววตานั้น ทาให้นางคิดไปถึงพลังยามที่ต๋ ูกซู ิงหลันฆ่าฟัน
ขึ้นมา
จนอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ าลาย รู ้สึกเจ็บแปลบไปทั้งตัว
“เจ้าเป็ นใครกัน? ถึงมีสิทธิจะมาถกเงื่อนไขกับข้า?” สาวน้อยสะบัด
แขนเสื้ อขึ้นมา สายลมหอบหนึ่งก็ซดั ออกไป ตบใบหน้าของหลิ่วฮุ่ย
จนเลือดกลบปากทั้งยังต้องถ่มฟันออกมาสองซี่
ไม่ชอบฟังวาจาไร้สาระ….อืม แม้แต่จุดนี้กไ็ ม่ต่างกับตู๋กซู ิงหลัน
เท่าไหร่
ว่าแล้ว นางก็หนั ไปมองดูลู่เวยแวบหนึ่ง ในดวงตามีแต่ความรังเกียจ
อย่างที่สุด “มังกรทอง? คนของเผ่ามังกรตาบอดกันไปหมดตั้งแต่
เมื่อไหร่ กนั ทองจริ งหรื อทองปลอม ก็แยกแยะไม่ออกแล้วหรื อ?”
พอนางเอ่ยขึ้นมา คนที่หน้าเสี ยก่อนใครก็คือลู่กว่าง
“ท่านผูร้ ับเจ้าสาวหมายความเช่นไร? เวยเอ๋ อร์เกิดมาก็เป็ นมังกรทอง
ตั้งแต่แรกแล้ว! หลายปี มานี้นางฝึ กฝนจนก้าวหน้าอย่างว่องไว เป็ นผู ้
มีพรสวรรค์แถวหน้าของเผ่ามังกรทั้งสี่ ทะเลเลยนะ!”
ตลอดหลายปี มานี้ ลู่กว่างถือเอาการมีบุตรสาวเป็ นมังกรทองคือ
ความภาคภูมิใจของตนมาโดยตลอด
เหล่าราชามังกรอีกสามทะเลต่างก็พากันอิจฉาเขาอย่างยิง่ ตลอด
หลายปี มานี้ สามราชามังกรทะเลเหล่านั้นต่างก็คอยอ้าปากชะเง้อขอ
แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กบั เขา
เหล่าองค์ชายมังกรทั้งหลายต่างก็ทาตัวเป็ นผักขาดขาวขอให้เขาไป
ทาการเลือกสรร แต่พอคิดถึงฐานะมังกรทองของเวยเอ๋ อร์ เขาย่อม
ไม่เห็นองค์ชายมังกรเหล่านั้นอยูใ่ นสายตา
มังกรทองสมควรคู่กบั มังกรทอง
รอให้เหล่าผูเ้ ยาว์ของเผ่ามังกรเผ่าไหนกาเนิดเป็ นมังกรทองออกมา
ค่อยพิจารณาให้คู่กบั เวยเอ๋ อร์ของพวกเขา
แต่วา่ ตอนนี้กลับมีคนบอกว่าอะไร? ทองจริ งทองปลอมแยกแยะไม่
ออก?
ลู่กว่างยอมไม่เห็นด้วยอยูแ่ ล้ว!
เขาคิดว่าคนของเผ่ามังกรทมิฬคงจะอยูใ่ ต้กน้ ทะเลลึกมานานเกินไป
จึงแยกแยะตาปลากับไข่มุกไม่ออกแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันก็เหลือบตามองดูสาวน้อยผูน้ ้ นั แวบหนึ่ง
หัวคิ้วของสตรี ผนู ้ ้ นั ขยับยกขึ้น กวาดตามองผูค้ นอื่นราวกับมาจาก
เบื้องบน ดวงตามีแต่ความเย็นชา ทั้งยังแฝงความรังเกียจ
ช่างไม่เหมือนกันเผ่ามังกรทมิฬที่นางเคยคิดเอาไว้สกั เท่าไร
สาวน้อยผูน้ ้ ีมิได้ใส่ ใจใยดีราชามังกรตะวันตกและครอบครัวของเขา
เลยสักนิด
ทั้งยังฉีกหน้าเปิ ดเผยฐานะมังกรทองจอมปลอมของลู่เวยออกมา
หากฝ่ ายตรงข้ามยังไม่ลงมือ นางก็จะไม่เคลื่อนไหววูว่ าม
เนื่องเพราะอย่างไรความเข้าใจที่มีต่อเผ่ามังกรทมิฬที่นางรู ้กม็ ีแต่ใน
ตาราโบราณเท่านั้น
ตู๋กซู ิงหลันย่อมมิได้หวาดกลัว นางกุมดาบยักษ์ของพี่ใหญ่เอาไว้ ใน
มือเปรอะไปด้วยเลือดของลู่กว่าง
มืออีกข้างหนึ่งของตู๋กซู ิงหลันแผ่ออกมา ใจกลางฝ่ ามือมีมุกมังกรที่
เกิดจากแก่นชีวิตของชือหลี สี แดงเลือดที่อยูบ่ นมุกเลือนหายไปแล้ว
กลับคืนเป็ นสี ฟ้าดังเดิม
ด้านในมีมงั กรสี ทองตัวน้อยตัวหนึ่งนอนอยู่
แม้แต่ลู่กว่างก็ยงั สามารถมองเห็นมังกรตัวนั้นได้อย่างชัดเจน
มุกมังกร คือสิ่ งที่เมื่อเผ่ามังกรของพวกเขาสามารถแปลงเป็ นร่ าง
มนุษย์ได้แล้ว ก็จะทาการฝึ กฝนบาเพ็ญเพียรจนสามารถสร้างลูกแก้ว
แก่นชีวิตขึ้นมา
ปกติแล้วในมุกมังกรจะไม่มีสิ่งใดทั้งนั้น แต่วา่ ในมุกมังกรนี้ทาไมถึง
ได้มีมงั กรทองตัวน้อยอยูด่ ว้ ย?
เขาไม่เข้าใจเลย
สี หน้าของหลิ่วฮุ่ยเปลี่ยนเป็ นยา่ แย่ พอนางคิดถึงเรื่ องเมื่อหลายปี
ก่อนขึ้นมา….นางก็อดที่จะใจสัน่ ไม่ได้
ฝ่ ามือของตู๋กซู ิงหลันปัดออกไปเบาๆ ก็ส่งมุกมังกรนั้นผนึกกลับเข้า
ไปในร่ างของชือหลีอีกครั้ง
มุกมังกรคืนสู่ ร่าง นางก็เปลี่ยนเป็ นสดชื่นขึ้นมา สี หน้าไม่ซีดขาว
เป็ นกระดาษอีกต่อไป
เหลือแต่ตะปูตรึ งมังกรที่อยูบ่ นอกของนางดอกนั้นที่ยงั ไม่ได้ถูกถอด
ออกมา
มีแต่เผ่ามังกรเท่านั้นที่จะสามารถถอดตะปูตรึ งมังกรออกได้
“เห็นแล้วหรื อไม่? มุกมังกรนี้เป็ นของบุตรสาวที่เจ้าเรี ยกว่า ‘เศษ
สวะ’” ตู๋กซู ิงหลันมองดูลู่กว่างด้วยสายตาเย็นยะเยือก
ลู่กว่างแทบจะ….ไม่อยากเชื่อเลยว่า ชือหลีที่ถูกถอดกระดูกมังกร
ออกไปแล้ว ยังจะสามารถฝึ กฝนจนสร้างมุกมังกรได้ นี่มนั เป็ นเรื่ อง
ที่เป็ นไปไม่ได้
พอคิดย้อนกลับไป นางถูกถอดกระดูกมังกร ขับไล่ออกจากทะเล
ตะวันตก ทอดทิ้งให้แตกดับไปเอง แต่หลังจากนั้นมีหลายปี ก็ยงั
สามารถสร้างกระดูกใหม่ข้ ึนมา ถึงจะบอกว่าเป็ นกระดูกงู….แต่กย็ งั
เป็ นเทพธิดาแห่งสายน้ าไปได้
ถึงแม้วา่ การเป็ นเทพของมนุษย์…..จะไม่ถือว่าเก่งกาจอันใด
แต่วา่ จาก ‘เศษสวะ’ผูห้ นึ่งก็ยงั สามารถทาได้ถึงเพียงนี้ ……หัวใจก็
พลันหนาวยะเยือกขึ้นมา
ยามที่สาวน้อยจากเผ่ามังกรทมิฬผูน้ ้ นั ได้เห็นมุกมังกร นางมิเพียง
ไม่ได้แปลกใจ ซ้ ายังกล่าวอย่างไร้อารมณ์วา่ “มังกรทองตัวนี้ก่อนที่
จะถือกาเนิดขึ้นมาก็ถูกลอบเล่นงานแล้ว ถูกลักเอาร่ างมังกรทองไป
แต่วา่ น่าเสี ยดาย….ที่ขโมยผูน้ ้ นั ไม่อาจทาได้อย่างหมดจด ได้ไปแต่
ร่ างทองภายนอก สิ่ งที่อยูบ่ นแก่นกระดูกย่อมไม่อาจเอาไปได้”
นางมองเพียงแวบเดียวก็ดูออกแล้ว
ช่างแข็งแกร่ งอย่างยิง่
“ใช่แล้ว ดังนั้นมุกมังกรที่ชือหลีสร้างขึ้นมา จึงเป็ นพลังจากร่ าง
มังกรทองที่มิได้ถูกลักขโมยไป”
เพียงแค่ประโยคเดียว ก็ทาเอาหลิ่วฮุ่ยระเบิดอารมณ์ออกมา นาง
กาลังหวาดกลัวความผิด จนตัวสัน่ ไปทัง่ ร่ าง “เจ้าพูดจาไร้สาระอัน
ใดกัน? ใต้หล้านี้จะมีเรื่ องแบบนั้นได้อย่างไรกัน!”
ตอนนั้นนางใช้พลังในร่ างไปจนหมดถึงสามารถแลกกับเวทย์ที่
สามารถลักร่ างมังกรทองมาได้ แต่กลับไม่อาจเอามาได้ท้ งั หมด?
มิน่าเล่า…..มิน่าถึงเวยเอ๋ อร์จะมีร่างเป็ นมังกรทอง แต่พอใช้พลังใน
ร่ างทะลวงการฝึ กฝนกลับสุ ดแสนยากลาบาก…..ตลอดหลายปี มานี้
เพียงเพราะต้องการเสาะหาเม็ดยาเพื่อช่วยเสริ มการฝึ กฝนให้กบั ลูก
นางก็ตอ้ งสละสมบัติควรเมืองต่างๆไปมากมายไม่รู้เท่าใด
ผูท้ ี่ช่วยเหลือนางลักพลังของร่ างทองในตอนนั้นหลอกลวงนาง!
มิได้ดึงออกมาอย่างหมดจด!
ลู่กว่างสายตาเลื่อนลอยไปแล้ว ความหมายของพวกนางก็คือ ชือหลี
ต่างหากที่เป็ นมังกรทอง ส่ วนลู่เวยที่เขาโปรดปรานมานานหลาย
ปี ……ไม่เพียงเป็ นแค่หวั ขโมย ทั้งยังเป็ นของปลอม?
ตอนนั้น…..เพราะเข้าใจว่าลู่เวยคือร่ างมังกรทอง ดังนั้นพอเขารับสื บ
ทอดตาแหน่งราชามังกรมาไว้ในมือ ก็รีบต้อนรับพวกนางแม่ลูกเข้า
วังมังกร เป็ นเหตุให้ชือฉางมักจะทะเลาะกับเขาอย่างใหญ่โตอยู่
เสมอ ถึงได้ทาให้เกิด น้ าท่วมใหญ่ในภายหลัง
เหล่าทวยเทพเกิดโทสะ เขาไม่มีหนทางอื่นได้แต่ถอดกระดูกชือหลี
และชือฉิงเพื่อแสดงการชดเชย
นับตั้งแต่น้ นั เป็ นต้นมา ทะเลตะวันตกก็หมดความสาคัญในสายตา
ของเหล่าทวยเทพเบื้องบน หลายปี มานี้ตอ้ งผ่านวันเวลาไปอย่าง
ทุลกั ทุเล
ที่แท้แล้ว เขาก็พลาดไปเห็นตาปลาเป็ นไข่มุกหรื อ?
คาพูดนั้นหากออกจากปากของผูอ้ ื่น บางทีเขาอาจจะไม่เชื่อถือ แต่วา่
มันกลับมาจากปากของคนเผ่ามังกรทมิฬที่มารับตัวเจ้าสาว
เผ่ามังกรทั้งสี่ ทะเลต่างก็รู้ดีวา่ ในสายตาของเผ่ามังกรด้วยจะไม่ยอม
ให้มีผงทรายปะปน
ลู่กว่างตื่นตระหนกเข้าจริ งๆแล้ว…..
คาพูดของหลิ่วฮุ่ยทาให้สาวน้อยผูน้ ้ นั หันกลับมาจ้องมองนาง
ในทันที “เจ้ากาลังสงสัยในตัวข้าหรื อ?”
เผ่ามังกรที่ประคองเปลือกหอยสี ดาเอาไว้กวาดตามองไป ก็จบั จ้อง
หลิ่วฮุ่ยด้วยสายตาโหดเ**้้ยมว่า “เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ ผูท้ ี่ยนื อยูเ่ บื้อง
หน้าของเจ้านี้คือผูใ้ ดกัน?”
ตอนที่ 415 “เยีย่ อิง”
หลิ่วฮุ่ยถูกขู่จนหวาดผวาขึ้นมา
เป็ นใครกัน? ก็แค่คนที่มารับตัวเจ้าสาวมิใช่หรื อ? อย่างมากก็คงจะ
เป็ นเพียงแค่คนข้างกายองค์ไท่จื่อที่ได้รับความโปรดปรานอยูบ่ า้ ง
สักคน หรื อไม่กเ็ ป็ นอนุคนโปรดขององค์ไท่จื่อเอง?
เพราะได้ข่าวมาว่า ไท่จื่อของเผ่ามังกรทมิฬผูน้ ้ นั ตลอดหลายปี มานี้
ไม่เคยทรงอภิเษกชายาเอกมาก่อนเลย มีแต่รับอนุ รับเหล่าอนุเข้าไป
ตั้งมากมาย
เรื่ องที่ให้อนุของเขาไปรับตัวอนุอีกคนหนึ่ง ก็ใช่วา่ เขาจะไม่เคยทา
มาก่อน
นางเป็ นถึงราชินีของราชามังกรตะวันตก….หรื อว่ายังจะต้องมาถูก
คนที่มารับตัวเจ้าสาวเช่นนี้รังเกียจเดียจฉันท์ดว้ ย?
หลิ่วฮุ่ยงัดความกล้าขึ้นมาถลึงตากลับไป
แต่วา่ กลับถูกผูท้ ี่ประคองเปลือกหอยเอาไว้ยกเท้าเตะใส่ “องค์หญิงผู ้
สู งส่ งและล้ าค่าของพวกเราใช่ผทู ้ ี่ราชินีกระจอกอย่างเจ้าจะมาถลึงตา
ใส่ ได้หรื อ?”
อะไรนะ? องค์หญิง!
ลู่กว่าง หลิ่วฮุย และลู่เวยต่างก็พากันตกตะลึงไปแล้ว
ต่อให้ตีให้ตายพวกเขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่า คนที่มารับตัวเจ้าสาว
ตรงหน้าจะเป็ นองค์หญิงของเผ่ามังกรทมิฬ?
ก่อนหน้านี้กเ็ คยได้ยนิ มาบ้างว่า…..องค์หญิงของเผ่ามังกรทมิฬเยีย่
อิง เป็ นคนที่หยิง่ ทนงในศักดิ์ศรี อย่างยิง่
ทั้งยังอารมณ์ร้าย!
นางเป็ นน้องสาวแท้ๆของ เยีย่ เฉิน ไท่จื่อแห่งเผ่ามังกรทมิฬ
ที่แท้แล้วก็เป็ นน้องสาวมารับอนุให้กบั พี่ชายนัน่ เอง?
ทั้งสามคนต่างก็ตาค้างไปแล้ว
แม้แต่ต๋ ูกูซิงหลันก็ยงั ต้องเหลือบตาดูสาวน้อยผูน้ ้ ีอีกหลายครั้ง
เช่นกัน
อ๋ อ? องค์หญิงเผ่ามังกรทมิฬ?
มิน่าเล่า…..รัดเกล้าสี ครามและเงินยวงบนศีรษะถึงได้เตะตานัก
สายตาของเยีย่ อิงเปล่งประกายเย็นชา หันไปมองดูลู่กว่างอีกครั้ง
“คนตาบอดผูห้ นึ่งกลายเป็ นราชามังกรตะวันตก ดูท่าทะเลตะวันตก
คงต้องถึงจุดจบแล้ว”
ลู่กว่างอยากจะกระอักเลือด
เขาหันไปถลึงตาใส่ หลิ่วฮุ่ยครั้งหนึ่ง ส่ งเสี ยงอย่างโกรธแค้น “ตอน
นั้นเจ้าทาอะไรลงไปกันแน่?”
หลิ่วฮุ่ยหัวใจสัน่ เทา นางคิดจะหาทางแก้ตวั ให้กบั ตนเอง แต่วา่
สายตาที่คมกริ บของตู๋กซู ิงหลันกับเยีย่ อิงตวัดมาทางนี้อย่างรวดเร็ ว
คาพูดของนางพอมาถึงริ มฝี ปากก็ตอ้ งกลืนกับลงไป
“เสด็จแม่ ท่านพูดสิ ข้าก็คือมังกรทองนี่….ข้าคือผูม้ ีพรสวรรค์รุ่น
เยาว์ของสี่ ทะเล นี่เป็ นเรื่ องที่ทุกเผ่ามังกรต่างก็ทราบดีอยูแ่ ล้ว!” ลู่เวย
โวยวายไม่ยอมหยุด
เดิมทีนางคิดเอาไว้วา่ วันนี้พอได้รับมุกพลังวิญญาณจากเผ่ามังกรดา
นางก็จะได้ครองตาแหน่งผูเ้ ยาว์อนั ดับหนึ่งของเผ่ามังกร
แต่วา่ ในวันนี้ นางไม่เพียงแต่ถูกทุบตีเกือบตาย ทั้งยังสู ญเสี ยดาบ
กระดูกมังกร ตอนนี้แม้แต่ร่างสี ทองก็ยงั เป็ นของปลอม?
นางแทบจะเป็ นบ้าไปแล้ว!
หลิ่วฮุ่ยไหนเลยจะยังกล้าบิดพลิ้วอีกต่อไป …..ตอนนี้แค่นางอ้าปาก
ขึ้นมา ก็มีคนพร้อมจะฆ่านางอยูแ่ ล้ว
นางหวาดกลัวตู๋กูซิงหลันมากพออยูแ่ ล้ว ตอนนี้กย็ งั มีองค์หญิงเผ่า
มังกรทมิฬมาเพิ่มอีกคน ทั้งสองต่างก็โหดเ**้้ยม แค่สายตาของ
พวกนางกวาดผ่านมา ร่ างกายของนางก็คล้ายว่าจะถูกฉี กเป็ นชิ้นๆ
ไปเสี ยแล้ว
เมื่อไม่พดู ก็เท่ากับว่ายอมรับ…..
ลู่กว่างเห็นท่าทางเช่นนั้นของนาง หัวใจก็เย็นวาบลงไปในทันที
ทันใดนั้นก็กระอักเลือดคาโตออกมา
ความพยายามตลอดหลายปี มานี้ของเขา…..ล้วนสิ้ นสู ญไปอย่างเปล่า
ประโยชน์!
เขามองดูชือหลี เห็นพอมุกมังกรกลับเข้าสู่ ร่างของนาง ร่ างของนางก็
ค่อยๆทอประกายสี ทองออกมา
ดาบกระดูกมังกรที่อยูใ่ นมือของนาง ก็ค่อยๆหลอมรวมเข้ากับ
ร่ างกายอย่างรวดเร็ว
ทั้งๆที่ไม่มีสายลมใดๆ แต่เสื้ อผ้าและเส้นผมของชือหลีกลับพลิ้ว
ขึ้นมา แสงสว่างสี ทองยิง่ ทีกย็ งิ่ สว่างชัดเจนกว่าเดิม
พอเห็นภาพที่เกิดขึ้นเช่นนั้น หัวใจของลู่กว่างก็ยงิ่ แตกสลาย เขา
กระอักเลือดออกมามากมาย แทบจะขาดใจตายลงไปตรงนี้แล้ว
ที่แท้เขา….ที่แท้เขาก็ทาลายชือหลี บุตรสาวที่เป็ นมังกรทองของตน
ลงไปกับมือ แถมยังไปสนับสนุนลู่เวยที่เป็ นขยะไร้ค่า?
พอครุ่ นคิดอย่างละเอียด ถึงแม้วา่ ตอนนั้นเขาจะยอมอยูก่ บั ชือฉาง
เพราะมุ่งหมายในบัลลังก์มงั กร แต่วา่ ก็เคยมอบความจริ งใจให้ไป
เล็กน้อยเช่นกัน
หากว่าไม่มีหลิ่วฮุ่ยกัยลู่เวย ……บางที่เขากับชือฉางอาจอยูร่ ่ วมกัน
อย่างดีได้ต่อไป
ชือฉางถึงแม้จะหยิง่ ยโส และอารมณ์ร้าย แต่ทุกเรื่ องที่ทาลงไปล้วน
ปรารถนาดีต่อเขา
แม้กระทั้งตาแหน่งราชามังกรตะวันตก ก็เป็ นเพราะชือฉางวอนขอ
มาจากราชามังกรเฒ่าให้กบั เขา….
ตลอดหลายปี มานี้ หลิ่วฮุ่ยต่อหน้าอ่อนโยน แต่ลบั หลังกลับผลาญ
สมบัติของทะเลตะวันตกไปมากมายเพียงใดก็ไม่รู้….วังมังกรแห่งนี้
ใกล้จะถูกนางควักออกไปจนว่างเปล่าแล้ว
มีแต่ใช้ออกไป ไม่เคยมีอะไรกลับเข้ามา
ลู่กว่างยิง่ คิดก็ยงิ่ โกรธเคือง ยิง่ โกรธก็ยงิ่ แค้น ยิง่ แค้นก็ยงิ่ สานึก
เสี ยใจ หากว่าตอนนี้เขายังสามารถเคลื่อนไหวได้ละก็ ย่อมต้อง
ฆ่านังคนหลอกลวงหลิ่วฮุ่ยกับมือ
ชือหลีเองก็ตกตะลึงไปแล้ว นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าตนเอง
คือมังกรทอง
วันเวลาหลายปี ที่ยากลาบากมาตลอดนั้น นางอดทนจนผ่านมาได้…
ด้วยร่ างงู
หากว่าไม่มีต๋ ูกซู ิงหลัน เกรงว่าชาติน้ ีท้ งั ชาติ นางก็คงจะไม่มีทางรู ้วา่
ตนเอง ที่จริ งแล้วแข็งแกร่ งถึงขนาดนี้
พอมุกมังกรและดาบกระดูกมังกรเข้าสู่ ร่าง นางก็รู้สึกปลอดโปร่ งไป
ทั้งร่ าง
ส่ วนลู่กว่างและครอบครัวของเขาแต่ะคนกลับมีสีหน้าเหมือนกินอึ
เข้าไป
“ท่านพี่ ข้า….” หลิ่วฮุ่ยไม่กล้าไปแก้ตวั กับตู๋กูซิงหลันและเยีย่ อิง ได้
แต้หนั มามองไปทางลู่กว่าง
“หุบปาก เจ้ามันนังคนชัว่ !” ลู่กว่างด่าทอออกมายกใหญ่ “ข้ามันตา
บอดไปแล้วจริ งๆ ถึงได้ไปแต่งเอาตัววิบตั ิอย่างเจ้ามา!”
“เสด็จพ่อ ท่านเป็ นเช่นนี้ได้อย่างไร!” ลู่เวยไม่เคยถูกปฏิบตั ิดว้ ย
เช่นนี้มาก่อน นางย่อมโกรธเกรี้ ยวอย่างยิง่ “คนอื่นพูดอย่างไรท่านก็
เชื่อเช่นนั้นหรื อ? ท่านเป็ นไอ้โง่ไปแล้วหรื อไง?”
ถึงอย่างไรไอ้แก่นี่กถ็ ูกถอดกระดูกทิ้งไปแล้ว ยังจะต้องไปเกรงกลัว
เขาอีกทาไม?
หากว่าเขาตายไป นางก็จะรี บป่ าวประกาศไปถึงอีกสามทะเล ว่าเขา
ตายภายใต้น้ ามือของชือหลีและฮ่องเต้หญิงแคว้นเหยียน ถึงตอนนั้น
เมืองบาดาลทั้งใต้หล้าก็จะไม่มีที่ใดยอมรับชือหลีอีก
“เจ้าหุบปากให้ขา้ เสี ยเดียวนี้ ไอ้เดรัจฉานน้อยที่ไม่รู้จกั ที่ต่าที่สูง!” ลู่
กว่างจดจ้องนางอย่างแค้นเคือง พอเห็นลู่เวยเผยไอสังหารออกมา
ทางสี หน้า ถึงได้รู้วา่ นางที่วา่ ง่ายเชื่อฟังมาโดยตลอดนั้นเป็ นเพียงแค่
การเสแสร้งเท่านั้น
“ไปขออภัยต่อน้องสาวของเจ้าเดี๋ยวนี้!” เขากล่าวด้วยน้ าเสี ยงเย็นชา
“ในเมื่อเผ่ามังกรทมิฬต้องการคน เจ้าก็แต่งไปซะ เจ้าไปสวมชุด
เจ้าสาวมาให้ขา้ เดี๋ยวนี้ รี บไสหัวไป!”
เขาไม่มีทางให้ชือหลีแต่งไปอย่างแน่นอน
นางต่างหากที่เป็ นมังกรทอง เขาจะต้องชดเชยให้กบั นางอย่างดี
ชือหลีอยากจะหัวเราะแล้ว….คนบ้านนี้กดั กันเองราวกับสุ นขั ช่าง
สนุกสนานจริ งๆ
“เรื่ องอะไรข้าจะต้องไปขอโทษนาง? ฝันไปเถอะ! ไอ้เฒ่าปลาดุก คิด
จะให้ขา้ แต่งงานออกไป แต่งไปเป็ นอนุนะรึ ! ท่านมันบ้าไปแล้ว?” ลู่
เวยฉีกหน้ากับเขาแล้วจริ งๆ นางพาลเรี ยกเขาเป็ นปลาดุกเฒ่าอย่างตู๋กู
ซิงหลันบ้าง แม้แต่คาว่าเดรัจฉานเฒ่าก็ยงั อยากจะด่าออกไป
“ข้าจะบอกให้รู้เอาไว้เลยนะ จะให้ขา้ แต่งออกไป นัน่ ไม่มีทาง! ไอ้
แก่ที่ไม่ยอมตายอย่างท่าน มันเห็นแก่ตวั อย่างที่สุด คิดจะเอาข้าไป
แลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์หรอ ท่านคิดจะให้ขา้ ถูกเผ่ามังกรทมิฬ
กลัน่ แกล้งจนตายไปหรื อไง?”
ลู่เวยถึงกับฉีกหน้าทุบหม้อข้าวแล้ว วันนี้นางต้องพบกับความ
ผิดหวังมากจนเกินไป บิดาที่รักถนอมตนเองเสมือนไข่มุกบนฝ่ ามือ
ถึงกับมาทากับนางเช่นนี้อีก ทาเอาจิตใจของนางถึงแหลกสลายแล้ว
หลิ่วฮุ่ยเห็นเช่นนั้น ก็กล่าวอย่างคล้อยตาม “ลู่กว่าง ท่านอย่าได้ทา
เกินไปนัก มีสิทธิอะไรจะมาส่ งเวยเอ๋ อร์ของข้าไปตายกัน? หากจะ
ตายก็สมควรเป็ นท่านนัน่ แหละ!”
ลู่กว่างโกรธแค้นจนกระอักเลือดติดต่อกัน แต่วา่ เขาถูกถอดกระดูก
มังกรออกไปแล้ว ยามนี้จึงไม่อาจทาอย่างไรกับแม่ลูกคู่น้ ีได้
เขาได้แต่มองไปทางชือหลี ปรับเปลี่ยนสี หน้าที่เคยแต่โหดร้ายกับ
นาง “หลีเอ๋ อร์ เป็ นบิดาผิดต่อเจ้าแล้ว คนชัว่ สองคนนั้นเจ้าคิดจะ
จัดการอย่างไรก็ตามแต่ใจของเจ้าเถิด ต่อไป บิดาจะต้องชดเชย
ให้กบั เจ้าอย่างดี เจ้ายกโทษให้กบั ข้าได้หรื อไม่?”
ชือหลีคร้านจะสนใจเขาอีกแล้ว นางมองไปทางเยีย่ อิง “องค์หญิงเพ
คะ พี่สาวของนางคือเจ้าสาวที่พวกท่านหมั้นหมายเอาไว้ ความเข้าใจ
ผิดเล็กน้อยจึงทาให้เสี ยเวลาไปบ้าง เช่นนี้สมควรรี บนาตัวไปเลยดี
หรื อไม่?”
หากเทียบกับเรื่ องที่จะคิดบัญชีกบั ครอบครัวนี้อย่างไรดีน้ นั นางยัง
อยากจะรี บไล่คนเผ่ามังกรทมิฬกลุ่มนี้ไปมากกว่า
เพราะว่า…..พวกเขาอันตรายอย่างยิง่
เยีย่ อิงกวาดตามองดูนางอย่างเรี ยบเฉย โดยมิได้มองดูลู่เวยเลยสักนิด
เพียงเอ่ยว่า “นังโง่นนั่ ไม่คู่ควรจะเป็ นอนุของพีช่ ายข้า”
ว่าแล้ว นางก็หนั สายตามาจับจ้องไปที่ต๋ ูกซู ิงหลัน “เจ้า คู่ควร!”
………………………………..
ไรท์: อ้าวเฮ้ย! ไงหวยมาออกทางนี้ได้กนั ! อยากจะร้องเพลงว่า “ผิด
คนแล้ว อย่ามาห่วงฉันเลยเธอ….”
งานเข้าหลันหลันของแม่แล้ว
ตอนต่อไป “ข้าไม่สนใจไท่จื่อของพวกท่าน”
ไรท์: ชื่อตอนก็ส่อแววอีก งานนี้ไม่จบง่ายๆแน่ รี ดทั้งหลายหาที่
กาบังด่วน!
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 416 ข้ าไม่ สนใจไท่ จื่อของพวกท่ าน
พอเอ่ยคานั้นออกไป ผูค้ นทั้งหมดก็พากันตกตะลึง!
จะให้ต๋ ูกูซิงหลันไปเป็ นอนุ?
นัยตาสี ครามจับจ้องอยูบ่ นร่ างของตู๋กซู ิงหลัน โดยเฉพาะดวงตาคู่
นั้นของนาง ช่างมีชีวิตชีวางดงามดุจดอกท้อ พอยิง่ มองดูอย่าง
ละเอียดลออขึ้นไปอีก นัยตาสี ดานั้นช่างเย็นชาและลึกล้ าสุ ดหยัง่
เยีย่ อิงพึงพอใจอย่างยิง่
ริ มฝี ปากสี แดงของนางยกยิม้ “เจ้าสมควรขอบคุณตนเองที่เจ้าเกิดมา
มีรูปโฉมเช่นนี้ ถึงได้มีคุณสมบัติเข้าสู่ เผ่ามังกรทมิฬของข้า
กลายเป็ นอนุภรรยาในพี่ชายของข้า”
ปลายนิ้วของตู๋กซู ิงหลันเคาะลงไปบนใบมีอของดาบยักษ์เบาๆ
“หืม?”
เยีย่ อิงโบกมือเบาๆ ก็เห็นชาวมังกรผูน้ ้ นั เก็บของขวัญกลับคืนมาจาก
ลู่กว่าง นามายืน่ ตรงหน้าตู๋กซู ิงหลันแทน
“นี่คือไข่มุกพลังวิญญาณของเผ่ามังกรทมิฬของเรา พอเจ้าแต่งเข้ามา
ไข่มุกพลังวิญญาณนี้กจ็ ะเป็ นของเจ้า” เส้นผมยาวสลวยสี ครามที่
หยิกเป็ นลอนราวสาหร่ ายในท้องทะเลของเยีย่ อิงพลิ้วไหวราวกับ
กาลังเริ งระบา นางมีความสู งพอๆกับตู๋กซู ิงหลัน ดวงตาคู่น้ นั มอง
ตรงมายังนาง
“ของขวัญที่มอบให้กบั วังมังกรตะวันตกก่อนหน้านี้กจ็ ะเก็บคืนมา
ทั้งหมด และมอบให้กบั เจ้าด้วย”
ว่าแล้ว เปลือกหอยสี ดาชิ้นนั้นก็เปิ ดออกมา ภายในมีไข่มุกสี ดาขนาด
เท่าไข่ไก่อยูเ่ ม็ดหนึ่ง มันเปี่ ยมไปด้วยพลังวิญญาณและพลังมังกรที่
แข็งแรง ให้ความรู ้สึกประหนึ่งถูกหางมังกรโอบรัดเอาไว้
ลู่เวยมองดูไข่มุกที่แฝงพลังมังกรเม็ดนั้น ก็ริษยาจนสองตาแดงก่าจน
เลือดแทบจะหยดออกมา
มุกพลังวิญญาณมังกรเม็ดนี้ เดิมทีจะต้องเป็ นของนางต่างหาก!
ทาไมถึงได้นาไปให้กบั มนุษย์บดั ซบผูน้ ้ นั ได้?
นางเป็ นเพียงแค่มนุษย์ผหู ้ นึ่ง มีคุณสมบัติอนั ใดจะได้เป็ นอนุของ
ไท่จื่อเผ่ามังกรทมิฬกัน?
ชือหลีเองก็งงงันไปแล้ว นางคิดไม่ถึงว่า องค์หญิงผูน้ ้ นั จะไปถูกใจตู๋
กูซิงหลันเข้า
ตู๋กเู จวี๋ยสี หน้าบูดบึ้งขึ้นมาในทันที น้องสาวของตนเองเป็ นถึงฮ่องเต้
หญิงแห่งแคว้นเหยียน คนที่ไล่ตามนางมีอยูท่ วั่ แผ่นดิน แล้วจะให้
ไปเป็ นอนุของมังกรตัวหนึ่ง?
ช่างน่าหัวเราะ!
ยิง่ ไปกว่านั้น เคยได้ยนิ มาว่าพวกมังกรอุปนิสยั วิปริ ต น้องสาวที่โดด
เด่นงดงามของเขาแต่งไปมิใช่วา่ จะถูกรังแกจนตายหรอกหรื อ?
ตู๋กเู จวี๋ยก้าวออกไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง คิดจะไปถกเหตุผลกับองค์
หญิงผูน้ ้ นั
แต่พอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว ก็ถูกชือหลีกระตุกแขนเสื้ อดึง
กลับมา
กลับเป็ นชือหลีที่กา้ วเท้าออกไปก้าวหนึ่ง บังตู๋กเู จวี๋ยเอาไว้ดา้ นหลัง
นัยตาสี แดงคู่น้ นั มองไปยังเยีย่ อิง
“องค์หญิงเพคะ นี่คงจะไม่ดีเท่าไหร่ กระมั้ง?”
นางเอ่ยต่อไป “นางเป็ นสหายของข้า ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับเรื่ องนี้เลย
ที่พวกท่านต้องการคือองค์หญิงทะเลตะวันตก มิใช่ผอู ้ ื่น”
ตู๋กซู ิงหลันมาเพื่อช่วยเหลือนาง แล้วนางจะปล่อยให้ต๋ ูกซู ิงหลันถูก
เผ่ามังกรทมิฬหมายตาได้อย่างไร?”
“นังมนุษย์ผนู ้ ้ นั นิสัยยโสโอหังจะตายไป ไหนเลยจะมองเห็นไท่จื่อ
ของเผ่ามังกรทมิฬอยูน่ สายตา?” ลู่เวยฉวยโอกาสกล่าวต่อไป “คน
เขาเป็ นถึงฮ่องเต้แห่งแคว้นเหยียน ใครจะไปยอมละทิ้งตาแหน่ง
ฮ่องเต้ ไปเป็ นอนุกนั ?”
คาพูดของลู่เวยสร้างความไม่พอใจให้กบั เยีย่ อิง เส้นผมของนาง
สยายขึ้นมา หัวคิ้วบังเกิดลายมังกรสี ดาตัวหนึ่งกาลังเคลื่อนไหว
ตู๋กซู ิงหลันเหลือบตาไปมองดูลู่เวยแวบหนึ่ง สายลมหอบหนึ่งก็ซดั
ออกไปจากฝ่ ามือ เสี ยงฝ่ ามือฟาดลงไปบนศีรษะของลู่เวยดังเปรี้ ยง
นางรู ้สึกเหมือนสมองพลิกกลับไปรอบหนึ่ง
คนมึนงงจนคิดจะอาเจียนออกมา
“หนวกหู” ตู๋กซู ิงหลันเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาคาหนึ่ง
จากนั้นดวงตาทั้งคู่กห็ นั กลับไปมองดูเยีย่ อิง “แต่วา่ นางก็พกู ถูก ข้า
ไม่สนใจไท่จื่อของพวกท่าน”
นางพูดพลาง ก็ควงดาบยักษ์บนหัวไหล่ “ข้าตู๋กซู ิงหลันชีวิตนี้จะไม่
เป็ นอนุของผูใ้ ดทั้งนั้น”
กริ ยาของนางทั้งเย็นชาทั้งหยิง่ ทนง
ถึงแม้วา่ ฝ่ ายตรงข้ามจะเป็ นองค์หญิงของเผ่ามังกรทมิฬ แต่ความ
ทรนงในตนเองของตู๋กซู ิงหลันก็มิได้ลดลงไปแม้แต่นอ้ ย
คนอย่างตู๋กซู ิงหลันนั้น หากมีผใู ้ ดให้ความเคารพนางหนึ่งนิ้ว นางก็
จะเคารพเขาหนึ่งจั้ง
แต่หากใครไม่เคารพในตัวนาง นางย่อมไม่เกรงใจอีกต่อไป
“เป็ นแค่มนุษย์สามัญผูห้ นึ่ง แต่กลับกล้าโอหังได้ถึงเพียงนี้?” คราวนี้
แม้แต่เยีย่ อิงที่มาจากเผ่ามังกรก็ยงั ขุ่นเคืองขึ้นมา
ถึงแม้วา่ จะถูกกักเอาไว้ยงั ก้นทะเล แต่วา่ ในแก่นแท้ของพวกเขา
ยังคงหยิง่ ทนงในความสู งส่ง เผ่ามนุษย์ ในสายตาของพวกเขานั้น
แทบจะไม่ต่างอะไรกับพวกมด
อย่าว่าแต่จะให้นางเป็ นอนุของไท่จื่อเลย แม้แต่เป็ นเพียงสาวใช้ที่
ล้างเท้าให้กบั ไท่จื่อ นางก็สมควรจะคุกเข่าลงกราบกรานด้วยความ
ซาบซึ้งใจแล้ว แล้วยังจะกล้ามาบอกว่าไม่สนใจไท่จื่อของพวกเขา
อีกหรื อ?
เยีย่ อิงจดจ้องไปยังนาง นางเคยพบเจอพวกมนุษย์มาเหมือนกัน แต่ก็
ไม่เคยเห็นมนุษย์ที่หยิง่ ทนงขนาดนี้มาก่อน
นางพยายามข่มอารมณ์ข่นุ เคืองในใจลงไป ส่ งยิม้ เย็นชาไปให้กบั ตู๋กู
ซิงหลัน “แล้วเจ้าจะต้องเสี ยใจ”
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ส่งยิม้ กลับไป “ขอโทษที ในพจนานุกรมของเราไม่
มีคาว่า ‘เสี ยใจ’ สองคานี้”
เส้นผมยาวสลวยของนางพลิ้วไปด้านหลัง ชุดกระโปรงสี แดงก็ไหว
เบาๆ ชักสี นางที่เคยใช้ยามแสดงละครเรื่ อง BOSSออกมา
ริ มฝี ปากแดงราวสี เลือดของนางเผยความเ**้้ยมเกรี ยมโดยไม่ตอ้ ง
เอ่ยคาพูด
ข้างกายยังมีกระดูกมังกรที่อาบไปด้วยเลือดสดๆทั้งเส้นวางอยู่ กลิ่น
เลือดคาวคละคลุง้ ระเหยเป็ นไอหมอกสี แดงไปทัว่ ด้านหลังของนาง
แม้แต่เยีย่ อิงก็ยงั รู ้สึกได้ ว่าสตรี ผนู ้ ้ ีจะต้องร้ายกาจอย่างยิง่
นางยิง่ เกิดความสนใจในตัวของตู๋กซู ิงหลันมากกว่าเดิม…..
มนุษย์ที่สามารถเลาะกระดูกราชามังกรได้ผหู ้ นึ่ง มนุษย์ที่มีความกล้า
จะต่อต้านนางได้ผหู ้ นึ่ง ยังน่าสนใจกว่าสตรี เผ่ามังกรทั้งสี่ ทะเลมาก
นัก
สตรี ผนู ้ ้ ีหากว่าสามารถคลอดบุตรให้กบั พี่ชายละก็….บางทีอาจจะ
เป็ นทารกศักดิ์สิทธิ์กเ็ ป็ นได้?
ประกายตาของเยีย่ อิงเข้มข้นขึ้นมา นางขยับร่ างวูบหนึ่ง แส้สีเงินใน
มือก็สะบัดออกไปในทันที
เป็ นความรวดเร็ วประหนึ่งสายฟ้าฟาดทาให้คนไม่อาจหลบพ้นได้
ต่อให้เป็ นชือหลี ก็เห็นเป็ นเพียงแสงแวบเดียว แค่ชวั่ แวบนั้นก็พงุ่
มาถึงตัวของตู๋กูซิงหลันแล้ว
พวกเขาได้แต่หลัง่ เหงื่อๆเย็นออกมาทัว่ ร่ าง
เผ่ามังกรทมิฬ…..ยังคงเป็ นผูท้ ี่ไม่อาจล่วงเกินได้แม้แต่นอ้ ย!
ความแข็งแกร่ งของพวกเขายังมากกว่าที่คาดคิดเอาไว้ เผ่ามังกรทั้งสี่
ทะเลได้แต่ตอ้ งกราบกรานเป็ นบรรพชนเท่านั้น
วันนี้องค์หญิงเสด็จมาด้วยพระองค์เอง แต่วา่ ตู๋กซู ิงหลันกลับไม่ได้
เห็นนางอยูใ่ นสายตา
แส้น้ ีพอฟาดออกไป ต่อให้ไม่ตายก็ตอ้ งถลกหนังออกมาชั้นหนึ่ง
พวกลู่เวยต่างก็ยนิ ดีข้ ึนมา มนุษย์ผนู ้ ้ นั ชัง่ ยโสโอหังเกินไปแล้ว ……
อีกประเดี๋ยว นางจะต้องชดใช้ค่าตอนแทนในความยโสของนาง
แส้ของเยีย่ อิงฟาดออกไป ได้ยนิ เสี ยง ‘เปรี้ ยง’ ขึ้นมาครั้งหนึ่ง ก็เห็น
ว่าตู๋กซู ิงหลันใช้ดาบยักษ์สกัดเอาไว้
เมื่อทั้งสองฝ่ ายปะทะกัน ก็เกิดเป็ นดอกไม้เพลิงขนาดใหญ่ที่แสน
งดงาม
ทันทีที่แรงระเบิดที่รุนแรงนั้นสว่างวาบออกไป เสาหลักทั้งสี่ ตน้ ใน
ตาหนักกลางของวังมังกรก็แตกร้าวขึ้นมา
ทัว่ ทั้งตาหนักเกิดเสี ยงสัน่ สะเทือนเลือนลัน่ มีแต่เศษฝุ่ นละอองตก
ลงมาใส่ ศีรษะ
ภายในวังมังกรนั้นไม่มีน้ าทะเล สิ่ งของต่างๆจึงตกลงมากระแทกพื้น
อย่างรุ นแรง
อาวุธของเยีย่ อิงนั้นหากมองดูอย่างผิวเผินก็คือแส้เส้นหนึ่ง แต่วา่ เมื่อ
มองดูอย่างละเอียดถึงได้เห็นว่าเป็ นดาบกระดูกที่พลิ้วไหวได้เล่ม
หนึ่ง เป็ นใบมีดดาบสิ บสองชิ้นเชื่อมต่อกัน พอสะบัดออกไปก็เป็ น
เหมือนดัง่ แส้เส้นหนึ่ง
พอฟาดลงมายังตู๋กูซิงหลัน ถึงได้เห็นชัดว่าดาบกระดูกที่คมกริ บเล่ม
นั้น ร้อยรัดอยูบ่ นดาบยักษ์ท้ งั เล่ม
เยีย่ อิงนั้นแต่ไหนแต่ไรมิใช่คนที่ชอบพูดพล่ามอย่างไร้สาระ ตอนนี้
นางอดทนมาเกินพอแล้ว จึงคิดแต่จะคว่าตู๋กูซิงหลันลงให้จงได้
เดิมที ดาบยักษ์ในมือของตู๋กซู ิงหลัน นางเองก็มิได้เห็นอยูใ่ นสายตา
ด้วยซ้ า
แต่ใครจะรู ้วา่ ดาบที่มองดูแล้วเหมือนจะสามัญธรรมดาเล่มนั้น กลับ
สามารถสะกัดดาบโซ่ของนางเอาไว้ได้?
ดาบโซ่กระดูกสิ บสองข้อพันอยูบ่ นดาบยักษ์ เปล่งประกายแสงที่
เยือกเย็นออกมา
เยีย่ อิงเพิ่มพลังในมือ คิดจะกระชากดาบยักษ์ในมือของตู๋กซู ิงหลันอ
อกมา
ตู๋กซู ิงหลันย่อมไม่เปิ ดโอกาสให้กบั นาง พลิกฝ่ ามือออกไป
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 417 นี่ไปหาเรื่ องกับจอมมารตนใด
เข้าแล้ว?
คราวนี้ไม่เพียงแต่แผ่พลังในร่ างออกมา แม้แต่เส้นผมและเสื้ อผ้าของ
ทั้งสองก็พลิ้วขึ้นไป
ทั้งสองห่างกันประมาณหนึ่งจั้ง แต่กลับเกิดพลังบดกระแทกปานจะ
เคี้ยวเลือดเนื้อให้แหลกเหลวกระจายออกไปรอบด้าน
ลู่กว่างยังติดอยูใ่ นอาณาเขตนี้ดว้ ย เขารู ้สึกว่าทัว่ ทั้งร่ างกาลังถูกบด
ขยี้จนใกล้จะแตกสลาย บีบอัดจนหายใจไม่ออก มีแต่ความ
หวาดกลัวเกาะกุมจิตใจอย่างไรอย่างนั้น
เขายืน่ มือออกไป พยายามคืบคลานออกไปอย่างสุ ดแรง
แรงบดขยี้ดา้ นหลังยังไล่ตามมา เขาคืบคลานอย่างเชื่องช้า จึงได้เห็น
ว่าสองขาของตนเองกาลังถูกบดขยี้จนกลายเป็ นก้อนเนื้อที่แหลก
เหลว!
เขาเจ็บปวดจนมีแต่เหงื่อท่วมศีรษะ ไม่กล้าหันศีรษะกลับไป ต้อง
เค้นกาลังจนถึงที่สุดถึงได้หลุดพ้นจากพื้นที่ต่อสู ้ พอหันกลับไปมอง
ก็เห็นว่าร่ างท่อนล่างของตนเองนั้นไม่มีอีกแล้ว
เหลือแต่เพียงร่ างท่อนบนที่ไม่มีกระดูกมังกรแล้วกาลังดิ้นรนอย่าง
อ่อนแรง
ดูแล้วช่างอนาถอย่างที่สุด
ตอนนี้ไม่มีใครสนใจเขาอีกแล้ว ทุกคนหันไปมองดูแต่ต๋ ูกซู ิงหลัน
และเยีย่ อิง
ไม่วา่ ใครก็คิดไม่ถึงว่า…..ฮ่องเต้หญิงของเผ่ามุนษย์ผหู ้ นึ่งจะ
สามารถประมือกับองค์หญิงของเผ่ามังกรได้ โดยไม่มีเสี ยเปรี ยบ?
ตู๋กเู จวี๋ยเองก็ตกตะลึงไปแล้ว เขานึกไม่ถึงเลยว่าน้องสาวของตนเอง
จะแข็งแกร่ งถึงขนาดนี้
“องค์หญิง!” ชาวมังกรทมิฬเองก็อดจะประหลาดใจไม่ได้ ยามปกติ
แล้ว หากว่าองค์หญิงทรงลงมือ มีแต่จะได้เห็นเลือดโดยไม่ไว้ชีวติ
แต่วา่ มนุษย์ผนู ้ ้ ี นางกลับสามารถ…..
บนแผ่นดินนี้มีผทู ้ ี่เก่งกาจถึงเพียงนี้เพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ กนั ?
ทาไมพวกเขาถึงไม่เคยได้ยนิ มาก่อนเลย?
ตู๋กซู ิงหลันมิได้ประมาทแม้แต่นอ้ ย นางกุมดาบยักษ์เอาไว้ในมือข้าง
หนึ่ง ใช้กระบวนท่าออกไปอย่างดุดนั ต้านทานดาบโซ่ที่ร้อยต่อกัน
ของเยีย่ อิงเอาไว้ อีกมือหนึ่ งถือแผ่นยันต์เอาไว้ คิดจะปิ ดฉากการ
ต่อสู ้อย่างรวดเร็ ว
เยีย่ อิงเห็นนางหยิบยันต์ข้ ึนมา ก็ดึงดาบโซ่ที่ร้อยต่อกันกลับไป
จากนั้นก็เคลื่อนไหวร่ างวูบหนึ่ง คนก็พงุ่ มาถึงเบื้องหน้าตู๋กซู ิงหลัน
พอนางตวัดฝ่ ามือขึ้นมา ทันใดนั้น ก็เห็นที่ดา้ นหลังของนางปรากฏ
เงาร่ างของมังกรสี ครามขนาดใหญ่
เงามังกรตัวนั้นคารามอย่างกึกก้อง ก็กลายเป็ นพลังที่รุนแรงสายหนึ่ง
บนฝ่ ามือของเยีย่ อิง พุง่ เข้าใส่ ร่างของตู๋กซู ิงหลัน
ตู๋กซู ิงหลันยกดาบยักษ์ข้ ึนมาขวาง พลางถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
จากนั้นพลิกมือขึ้นสกัดเอาไว้
ไหนเลยจะรู ้วา่ พลังฝ่ ามือของเยีย่ อิงกลับสามารถทะลวงดาบยักษ์เข้า
มาได้ ทั้งยังกระแทกเข้าสู่ ร่างของนาง
พลังรุ นแรงอย่างยิง่ !
เป็ นพลังที่รุนแรงราวกับถังดินปื นนับสิ บใบระเบิดออกมาพร้อมกัน!
นางถูกกระแทกจนลอยละลิ่วออกไป
ยังโชคดีที่กระดูกในร่ างกายผ่านการหลอมรวมกับหยกสรรพชีวติ
มาแล้วรอบหนึ่ง จึงแข็งแกร่ งอย่างยิง่ แม้วา่ บริ เวณทรวงอกก็ยงั มี
รอยขีดข่วนอยูห่ ลายรอย แต่กไ็ ม่ได้เป็ นอะไรมาก
นางถอยหลังไปอีกหลายก้าว ค่อยยืนขึ้นได้อย่างมัน่ คง
นัยตาสี ดาคู่น้ นั ใสกระจ่างอย่างปราศจากฝุ่ นละอองและผงธุลีใดๆ
จับจ้องไปยังเยีย่ อิง
ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า…..องค์หญิงผูน้ ้ ีแข็งแกร่ งอย่างยิง่
จะอย่างไรก็สมกับที่เป็ นเผ่ามังกรทมิฬ เผ่าที่ครั้งหนึ่งเคยผงาดขึ้นมา
ต่อสู ้กบั เหล่าทวยเทพเบื้องบน
เยีย่ อิงมองดูนาง ฝ่ ามือนี้นางใช้กาลังออกไปถึงแปดส่ วน ต่อให้เบื้อง
หน้ามีฉลามยักษ์รออยู่ ก็มีหวังต้องถูกฝ่ ามือนี้ทาลายจนร่ างแหลก
กระดูกหัก
แต่วา่ สตรี ผนู ้ ้ ี กลับเพียงแค่ผวิ ถลอกเล็กน้อย?
นางหรี่ ตาลง เลือดในดวงตาสู บฉีดอย่างคึกคัก นัน่ เป็ นความตื่นเต้น
ยินดีอย่างบอกไม่ถูก
นางยิง่ เกิดความรู ้สึกว่า สตรี ผนู ้ ี่จะต้องสามารถคลอดทารกศักดิ์สิทธิ์
ให้กบั พี่ชายได้อย่างแน่นอน
เหล่าสตรี ก่อนหน้านี้ลว้ นอ่อนแอเกินไปแล้วไม่คู่ควรกับพี่ชาย!
“ข้าผูเ้ ป็ นองค์หญิงจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง” นางจับจ้องไปยังตู๋กซู ิงห
ลัน กล่าวโดยน้ าเสี ยงที่ปราศจากความอบอุ่นแม้แต่นอ้ ย “จงเชื่อฟัง
วาจา ไปเป็ นอนุให้พี่ชายของข้าแต่โดยดี แล้วเจ้าจะไม่เสี ยเปล่าอย่าง
แน่นอน”
นางพูดพลางก็เดินเข้าไปหาตู๋กซู ิงหลันเรื่ อยๆ
ดาบโซ่ที่ร้อยติดกันในมือเมื่ออยูภ่ ายใต้แสงของไข่มุกราตรี กย็ งิ่ เรื อง
แสงเย็นยะเยือกที่ลึกล้ าสุ ดหยัง่ ออกมา
ตู๋กเู จวี๋ยเกือบจะสะอึกออกไปด้านหน้าเพื่อบังตู๋กซู ิงหลันเอาไว้อยู่
แล้ว
น้องเล็กจะแข็งแกร่ งแค่ไหน แต่อย่างไรก็ยงั เป็ นมนุษย์…..แล้วจะ
ไปปะทะกับเผ่ามังกรที่อยูใ่ นตานานได้อย่างไร?
“อย่าได้สร้างความยากลาบากให้กบั นาง!” ชือหลีดึงตัวเขาเอาไว้
ไม่ให้ขยับ “อาหลันมิได้อ่อนแออย่างที่เจ้าคิด!”
ตอนนี้หากพวกนางทั้งสองเข้าไป ก็มีแต่จะทาให้ต๋ ูกซู ิงหลันยุง่ ยาก
กว่าเดิม
ตู๋กูซิงหลันกล้าลงมือ แสดงว่าต้องเตรี ยมการไว้พร้อมแล้ว
ชือหลีคลุกคลีอยูก่ บั ‘ตัวตนที่แท้จริ ง’ ของนางมาตั้งนาน ย่อมเข้าใจ
นิสัยของนางดี
“แต่วา่ …..” จะให้ต๋ ูกเู จวี๋ยไม่ห่วงใยน้องสาวของตนเองได้อย่างไร
กัน ดูสิขนาดขาทั้งสองข้างของลู่กว่างก็ยงั ขาดไปแล้ว ……เมื่อครู่
น้องเล็กก็พ่ งึ จะถูกกระแทกออกมา….
ถูกกระแทกจนลอยออกมาเช่นนั้น เกรงกว่ากระดูกคงหักไปหลาย
ชิ้นแล้วละมั้ง!
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น!” สายตาของชือหลีสงบนิ่ง “พวกเราต้องเชื่อใจ
นาง!”
ตอนนี้สิ่งที่นางสามารถทาได้น้ นั คือป้องกันไม่ให้เยีย่ อิงลงมือในที่
ลับกับตู๋กูซิงหลัน ถึงแม้วา่ นางไม่อาจเข้าร่ วมกาารต่อสู ้ในครั้งนี้ แต่
จะต้องดูให้แน่ใจได้วา่ ด้านหลังของตู๋กซู ิงหลันนั้นปลอดภัยจริ งๆ
ตู๋กเู จวี๋ยก็มิได้พดู อะไรขึ้นมาอีก
เขาอายุปานนี้แล้ว นี่พ่ งึ จะเป็ นครั้งแรกที่รู้สึกเสี ยใจที่ไม่ฟังคาสัง่
ท่านปู่ ให้เรี ยนวรยุทธ์…..หากว่าเขามีวรยุทธ์เช่นเดียวกับพี่ใหญ่
ตอนนี้ยอ่ มสามารถช่วยเหลือน้องเล็กได้บา้ ง
ในใจของเขามีแต่ความกังวล ขณะที่มองดูเยีย่ อิงเดินเข้าไปไกลขึ้น
เรื่ อยๆ และทันใดนั้นก็หยุดลง
ขณะที่นางยืนห่างไปจากตู๋กูซิงหลันประมาณหนึ่งเมตร ใบหน้าก็
เปลี่ยนสี ไปอย่างรุ นแรงทันที
ในขณะเดียวกันรอบตัวของนางก็ผดุ ยันต์สีเหลืองขึ้นมาอย่าง
มากมายนับไม่ถว้ น ยันต์เหล่านั้นร้อยเรี ยงกันดุจลูกโซ่อยูเ่ บื้อง
หน้าเยีย่ อิง กักขังนางเอาไว้ภายในทั้งร่ าง
สายตาของเยีย่ อิงเย็นชากว่าเดิม นางยกขาขึ้นมา แต่ขาก็เหมือนถูก
ตรึ งเอาไว้โดยไม่อาจขยับได้แม้แต่นิดเดียว
ยันต์สีเหลืองที่ลอ้ มอยูห่ มุนวนจนทาเอาสมองของนางมึนงงไป
หมดแล้ว
บนร่ างเหมือนมีภูเขากดทับลงมา บี้จนหายใจไม่ออก
พอมองออกมาระหว่างช่องว่างของยันต์สีเหลือง นางก็เห็นสาวน้อย
ในชุดสี แดงตลอดร่ าง กุมดาบยักษ์เอาไว้อีกครั้ง พลางมองดูนางด้วย
สายตาลึกล้ า
และเย็นชาอย่างถึงขีดสุ ด!
เยีย่ อิงรู ้สึกว่าตนเองถูกลบหลู่อย่างรุ นแแรง แววตาของนางมีแต่
หมอกเลือดเข้มข้น “เจ้าวางกับดักข้า?”
ตู๋กซู ิงหลันส่ ายศีรษะ ค่อยๆจัดแจงเสื้ อผ้าและเส้มผมให้ตนเองอย่าง
ช้าๆ ตอบอย่างจริ งจังกลับไปว่า “นี่เรี ยกว่าการทหารไม่หน่ายอุบาย
ไง?”
ตอนที่ถูกกระแทกออกมานั้น นางก็ซดั ยันต์สีเหลืองลงไปบนพื้น
โดยรอบ ขอเพียงนางก้าวเข้ามาในอาณาเขต ก็จะติดอย่ในหุบเขาห้า
ยอด[1]
หากนางไม่คลายพันธนาการ ต่อให้เป็ นเทพเซียนผูย้ งิ่ ใหญ่มาจาก
ไหนก็คลายไม่ออกอยูด่ ี
อ๋ อ ยกเว้นอาจารย์ของนาง
เยีย่ อิงกุบดาบโซ่ที่ร้อยเรี ยงกันเอาไว้ คิดจะสะบัดออกไป แต่วา่ คราว
นี้ แม้แต่จะยกมือขึ้นมาก็ยงั รู ้สึกว่ายากลาบากแล้ว
ดาบโซ่ที่ร้อยต่อกับถูกฟาดไปทางยันต์สีเหลืองที่หมุนวนไปมาอยู่
นั้น
ทั้งๆที่เห็นอยูว่ า่ เป็ นเพียงแค่ยนั ต์สีเหลือง แต่วา่ กลับแข็งแกร่ งดุจ
กาแพงเหล็กกล้า พอฟาดฟันลงไปดาบโซ่กถ็ ูกสะท้อนกลับมา
ในทันที ทั้งยังบาดมือของนางเป็ นแผลแห่งหนึ่ง
“เจ้าทาอะไรลงไป? รี บปลดปล่อยองค์หญิงของพวกเราเดี๋ยวนี้นะ!”
คนเผ่ามังกรทมิฬตะโกนอย่างโกรธแค้น เมื่อครู่ พวกเขายังไม่ทนั ได้
เห็นอย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น องค์หญิงก็ถูกกักขังเอาไว้แล้ว
ยันต์สาปแช่งพวกนี้ เผ่ามนุษย์มกั ใช้มนั การาบภูติผี ตอนนี้ถึงกับ
นามาใช้กบั องค์หญิง?
นี่มิเท่ากับว่าเป็ นการดูถูกองค์หญิงหรอกหรื อ?
ตู๋กูซิงหลันคร้านจะสนใจพวกเขา นางยืนอยูน่ อกอาณาเขตของอาคม
นัยตาเปล่งประกาย ความหยิง่ ทนงบนหัวคิ้วที่โก่งงามราวกับจะบิน
เหิ น พอกวาดตาไปเพียงแค่ครั้งเดียว ก็ทาให้ชาวมังกรทมิฬเหล่านั้น
หนาวยะเยือกขึ้นมา
หากว่าสายตาของนาง…สามารถเปลี่ยนเป็ นสิ่ งที่สมั ผัสได้จริ งละก็
เกรงว่าพวกเขาทุกคนที่อยูต่ รงนี้คงจะถูกสังหารเรี ยบร้อยไปแล้ว!
หลิ่วฮุ่ยและลู่เวยก็กอดกันจนตัวสัน่ เทา
สวรรค์โปรด!
นี่พวกนางไปหาเรื่ องกับจอมมารตนใดเข้าแล้ว? แม้แต่องค์หญิงเยีย่
อิงก็ยงั การาบนางไม่ได้หรื อ?
——

[1] 五指山: หุบเขาที่พระยูไลใช้กกั ตัวซุนหงอคงถึงห้าร้อยปี


ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 418 จีเฉวียนมิใช่ ตัวอะไร
อยูๆ่ พวกนางก็รู้สึกขึ้นมาว่า ที่พวกนางไม่ได้ถูกตู๋กซู ิ งหลันสังหาร
ตายไปตั้งแต่แรกนั้นที่จริ งต้องถือว่าโชคดีแล้ว
เยีย่ อิงขุ่นเคืองอย่างยิง่ ยันต์สีเหลืองเหล่านี้ไม่เพียงแต่กกั ขังร่ างเนื้อ
ของนางเท่านั้น แม้แต่พลังวิญญาณของนางก็ยงั ถูกกักขังเอาไว้ดว้ ย
นางกาดาบโซ่เอาไว้ในมืออย่างแน่นหนา สู ดลมหายใจเข้าไปลึกๆ
จับตามองดูต๋ ูกซู ิงหลัน เอ่ยด้วยเสี ยงเย็นชาว่า “เจ้ารู ้หรื อไม่วา่ จุดจบ
ของผูท้ ี่กล้ามาเป็ นปรปักษ์กบั เผ่ามังกรทมิฬคือเช่นไร?”
ตู๋กซู ิงหลันเชิดริ มฝี ปากสี แดงขึ้น ตอบกลับไปว่า “เช่นนั้นเจ้าก็รู้
หรื อไม่วา่ หากเป็ นปรปักษ์กบั เราตู๋กูซิงหลันจะต้องมีจุดจบเช่นไร?”
ท่าทางที่ยโสโอหังเช่นนั้น ราวกับว่าถึงแม้เหล่าทวยเทพบนสวรรค์
ชั้นฟ้าจะลงมาตรงหน้า นางก็ยงั คงจะไม่เห็นอยูใ่ นสายตาอยูด่ ี
เยีย่ อิงถึงกับพูดอะไรไม่ออกไปชัว่ ขณะ ทัว่ ทั้งหกภพภูมิต่างก็มีผทู ้ ี่
่ ……แต่นางถึงกับวางตนเองเอาไว้เหนือ
แข็งแกร่ งและน่ากลัวอยู…
เผ่ามังกรทมิฬ?
ที่ดา้ นหลังของตู๋กซู ิงหลัน เป็ นบัลลังก์ของราชามังกรตะวันตกพอดี
บางที่อาจเพราะยืนจนเมื่อยแล้ว นางจึงได้นงั่ ลงไป ทั้งยังชันขาข้าง
หนึ่งขึ้นมายันอยูบ่ นบัลลังก์
ดาบยักษ์วางอยูบ่ นพื้นอย่างไม่ใส่ ใจ เพียงจ้องมองไปยังเยีย่ อิง
ขณะที่จบั ตามองดูองค์หญิงจากเผ่ามังกรทมิฬผูน้ ้ นั ในใจของตู๋กซู ิงห
ลันก็บงั เกิดความคิดชัว่ ร้ายขึ้นมา
นางใช้มือข้างหนึ่งเท้าคางเอาไว้ หรี่ ตามองไป “อ้อ ลืมบอกเจ้าไป ว่า
ข้ายังมีคนให้ทา้ ยอีกด้วย”
“อะไรนะ?” เยีย่ อิงตะลึงไปเล็กน้อย
ผูอ้ ื่นล้วนพากันตกใจขึ้นมา นางแข็งแกร่ งจนถึงขั้นตัวประหลาด
ขนาดนี้แล้ว …..แล้วยังจะต้องมีตวั ประหลาดจากไหน มาคอยให้
ท้ายนางอีกหรื อ?
ตู๋กเู จวี๋ยย่อมต้องนึกไปถึงคนในครอบครัวในทันที
ตัวเขานอกจากจะอาศัยฝี ปากเป็ นที่พ่ งึ แล้ว….ก็ดูเหมือนจะไม่มี
คุณค่าอื่นใดอีก
เช่นนั้นก็คงจะเป็ นพี่ใหญ่และท่านปู่ แล้ว ….สมควรใช่อยู่ พญายมมี
ชีวิตทั้งสองคนนั้น สามารถเป็ นกองหนุนให้กบั น้องเล็กได้อย่าง
แน่นอน
ขณะที่เขากาลังคิดอยูน่ ้ นั ก็ได้ยนิ เสี ยงตู๋กซู ิงหลันเอ่ยอย่างเรื่ อยเฉื่ อย
ออกไปว่า “โอรสสวรรค์แห่งต้าโจว จีเฉวียน เคยได้ยนิ หรื อไม่?”
ผูค้ นทั้งหลาย “?”
ชื่อหลี “……” ทาไมนางถึงได้รู้สึกว่า สตรี ผนู ้ ้ นั กาลังจะก่อเรื่ องเข้า
แล้ว
และแล้ว ก็เห็นนัยตาของตู๋กซู ิงหลันมีประกายเหน็บหนาวขึ้นมา
ในทันที “ก็คือ บุรุษที่ท้ งั สู งทั้งหล่อทั้งเย็นชา บุตรชายของข้า……ผู ้
ที่แข็งแกร่ งแบบไร้เหตุผล”
ในมุมอับของวังมังกร จีเฉวียนได้ทรงฟังคาพูดทั้งหมดนั้นอย่าง
ชัดเจน
หลงเซียวที่อยูข่ า้ งพระวรกาย กล่าวย้าขึ้นมาอีกหนหนึ่ง “ฝ่ าบาท
ไทเฮาทรงชมพระองค์วา่ ทั้งสู งทั้งหล่อทั้งเย็นชาและแข็งแกร่ งนะพะ
ยะค่ะ”
แววพระเนตรของจีเฉวียนเปล่งประกาย “เราไม่ได้หูหนวก”
หลงเซียว “ฝ่ าบาท พระองค์ดีพระทัยหรื อไม่พะยะค่ะ?”
ฮ่องเต้มิได้ทรงสนพระทัยเขาอีก ที่ซิงซิงพูดมาล้วนเป็ นความจริ ง
พระองค์ยงั จะต้องไปดีอกดีใจทาไมกัน
คราวก่อนพระองค์ทรงถูกมัดมือมัดเท้าหิ้วออกไปจากตาหนักหย่งห
นิงกง……
หลังจากนั้นทุกๆวันก็จะปรากฏพระองค์ที่เบื้องหน้านางในที่เดิม
เวลาเดิม
ตอนแรกๆ ซิงซิงก็ยงั คอยเฆี่ยนพระองค์อีกหลายแส้ แต่หลังจากนั้น
ก็คร้านจะโบยตีพระองค์อีกแล้ว
แต่กลับทาเสมือนพระองค์ทรงเป็ นอากาศธาตุ
ครั้งนี้นางพาตู๋กเู จวี๋ยลงมาในทะเลตะวันตก พระองค์กแ็ อบตามมา
อย่างเงียบๆแต่แรกแล้ว
ตลอดเวลานั้นมีอยูห่ ลายๆครั้งที่ทรงแทบจะทนไม่ไหวคิดจะลงมือ
บ้าง….แต่สุดท้ายแล้วก็ยงั คงอดทนอยูไ่ ด้
นางแข็งแกร่ งมาก ยังแข็งแกร่ งกว่าที่พระองค์ได้คาดคิดเอาไว้มาก
นัก
นางก้าวหน้าขึ้นอีกแล้ว ต่อไปจะต้องมีอนาคตอีกยาวไกล พระองค์มิ
อาจทาเหมือนดังเช่นครั้งก่อนๆ เอาแต่ปกป้องอยูต่ ลอดเวลา จาเป็ น
จะต้องเรี ยนรู ้การปล่อยมือดูบา้ ง
วันนี้ ก็เช่นกัน
หลงเซียวยืนอยูข่ า้ งพระองค์ อย่างมิค่อยเข้าใจฝ่ าบาทของตนเอง
เท่าไรนัก ทั้งๆที่ทรงห่วงใยจะเป็ นจะตาย แต่กลับไม่กล้าเผยพระ
พักตร์ออกไป
ได้แต่แอบดูการประลองอยูต่ รงนี้
พอไทเฮาน้อยบาดเจ็บขึ้นมานิดหนึ่ง ก็เห็นสายพระเนตรของ
พระองค์มีเส้นโลหิ ตแดงเกิดขึ้นมาในทันที
แต่วา่ ถึงตอนนี้กย็ งั ทรงอดทนเอาไว้ได้
“นัน่ คือตัวอะไรกัน?”
เยีย่ อิงมิได้สนใจคนผูน้ ้ นั เลยแม้แต่นอ้ ย นางคิดแต่จะจับสตรี ผนู ้ ้ ี
กลับไปคลอดบุตรให้พี่ชายเท่านั้น
“เขาไม่ใช่ตวั อะไร” ตู๋กซู ิงหลันทาปากยืน่ “บุตรชายผูน้ ้ ีเก่งกาจอย่าง
ไม่ตอ้ งหาเหตุผล เกรงว่าแม้แต่พี่ชายของเจ้าก็ยงั สามารถสับได้ราว
กับแตงโม คนเผ่ามังกรทมิฬของเจ้าบุกมาคนหนึ่ง เขาก็สามารถ
สังหารได้คนหนึ่ง มาคู่หนึ่งก็สามารถสังหารได้ท้ งั สองคน เอาเป็ น
ว่าจะอย่างไรข้าก็ไม่กลัว เพราะว่าขอแค่มีเขาอยู่ เกรงว่าพวกเจ้าคง
ไม่อาจแตะต้องข้าได้แม้แต่เส้นผมสักเส้น”
ตู๋กูซิงหลันเบื่อหน่ายกับการตามตื้อในระยะนี้ของจีเฉวียนเต็มทีแล้ว
ที่สาดน้ าคราใส่ รอบนี้ เพราะคิดจะหาเรื่ องให้กบั โอรสสวรรค์ที่วา่ ง
จนเบื่อโลกผูน้ ้ นั ทาบ้าง
เยีย่ อิงได้ยนิ นางพูดเช่นนั้น ก็ชกั จะไม่ยนิ ดีข้ ึนมา
พี่ชายคือเทพบุรุษในใจของนาง นี่ถึงกับกล้าคุยโม้วา่ มีคนที่สามารถ
สับเขาได้เหมือนผ่าแตงโม?
นัยตาของนางจุดประกายหนาวเย็นขึ้นมา ฝ่ ามือกาเป็ นหมัดยกขึ้นมา
อย่างช้าๆ พลังมังกรในร่ างอัดแน่นจนคลุม้ คลัง่ อยูภ่ ายในร่ าง
“จาเอาไว้นะ ก็ที่จะมาหาเรื่ องข้า อย่าลืมไปผ่านด่านบุตรชายของข้า
มาก่อน หากทาไม่ได้ ชาติน้ ีพวกเจ้าก็อย่าได้หวังจะแตะต้องข้าได้
เลย”
ดูนางทาหน้าทาตาเข้าสิ พูดเสี ยราวกับว่าเป็ นจริ งอย่างไรอย่างนั้น
ทาเอาพวกเขาอดจะลังเลไม่ได้ นี่พวกตนกาลังโอหังเกินไปหรื อไม่
ฮ่องเต้ของเผ่ามนุษย์แต่ละคน ยังเหนือล้ ายิง่ กว่าอีกคนหนึ่งจริ งหรื อ?
ขนาดอยูต่ ่อหน้าเผ่ามังกรทมิฬก็ยงั สามารถโอ้อวดได้ถึงเพียงนี้?
ตอนนี้ ชือหลีและตู๋กเู จวี๋ยต่างก็เข้าใจแล้ว …..ตู๋กซู ิงหลันกาลังลาก
ความแค้นไปทางจีเฉวียนนัน่ เอง
ชือหลีอยูใ่ นวังมังกรตะวันตกมาพักใหญ่แล้วจึงไม่รู้วา่ โลกภายนอก
เกิดเรื่ องใดขึ้นกัน
นางมองดูต๋ ูกูเจวี๋ยแวบหนึ่ง คิดจะฟังคาอธิบาย
ตู๋กเู จวี๋ยก็ให้ความร่ วมมือเป็ นอย่างดี กระซิบที่ริมหูนางอย่างจะให้
ได้ยนิ กันเพียงสองคนว่า “เจ้าฮ่องเต้สุนขั นัน่ หอบเอาแสงจันทราก
ลับไป ทาร้ายจิตใจของน้องข้า นี่เป็ นการแก้แค้นเขา”
ชือหลีประหลาดใจอย่างที่สุดขึ้นมา….นี่ช่างทาให้ผคู ้ นต้องปวดฟัน
กันใหญ่แล้ว
ตู๋กซู ิงหลัน….กาลังหวัน่ ไหวใจอยูช่ ดั ๆ และเพราะว่าโกรธจนไม่มีที่
ระบายถึงได้ทาลงไปเช่นนี้
สตรี น้ นั ….ยามที่ชอบใครสักคน ก็สามารถจะเปลี่ยนเป็ นคนที่คิด
เล็กคิดน้อยได้อย่างง่ายดาย
โดเฉพาะคนอย่างตู๋กซู ิงหลัน ที่ยามปกติมีแต่ความเย็นชา แต่วา่ พอ
ตกหลุมรักขึ้นมา ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนั้นย่อมรุ นแรงกว่าคน
ทัว่ ไปหลายต่อหลายเท่า
มิน่าเล่านางจึง…..
ขณะที่ต๋ ูกูซิงหลันลากเชื้อไฟแห่งความชิงชังไปเรื่ อยนั้น ดวงตาสี
ครามของเยีย่ อิงก็ยงิ่ ทียงิ่ แดงก่าขึ้นเรื่ อยๆ
ทันใดนั้นเอง ได้ยนิ เสี ยงนางคารามขึ้นมาครั้งหนึ่ง จากนั้นก็กลาย
ร่ างเป็ นมังกรยักษ์สีครามตัวหนึ่งในทันที!
ทัว่ ทั้งร่ างแผ่กระจายความกดดันที่สุดจะเย็นยะเยือกออกมา แรง
กดดันทาให้เผ่ามังกรทั้งหลายจาต้องคุกเข่าลงไปบนพื้น แม้แต่ชือห
ลีเองก็ไม่แตกต่าง!
นางถลึงตาทั้งคู่ เล็บมังกรที่แข็งแกรงดุจเหล็กกล้าตะปบลงมา ทาให้
แผ่นยันต์สีเหลืองของตู๋กซู ิงหลันฉีกขาดจนกลายเป็ นผุยผงไปจน
หมด!
จากนั้นก็เห็นนางกางกรงเล็บมังกรที่แหลมออกมาพุง่ เข้าใส่ ต๋ ูกซู ิ งห
ลัน
ด้วยพลังที่ท้ งั ดุดนั ทั้งโหดเ**้้ยมและหนาวเย็นสุ ดหยัง่ !
พลังที่กระจายของมาจากร่ างนั้นแทบจะทาให้วงั มังกรทั้งหลัง
ทะลายลงมาแล้ว!
แผ่นหินด้านบนขนาดใหญ่ถล่มลงมาใส่ หวั เรื่ อยๆ กระแทกกับพื้น
จนกลายเป็ นหลุมบ่อมากมาย
ตู๋กซู ิงหลันลุกขึ้นยืน เส้นผมที่สยายยาวของนางถูกพลังของเยีย่ อิง
พัดจนปลิวไปด้านหลัง
กรงเล็บมังกรของเยีย่ อิงมีขนาดใหญ่กว่าดาบยักษ์ของนางอีก พอ
สะบัดลงมาแต่ละที ก็มุ่งเป้าตะครุ บลงไปบนอกของนาง
ตู๋กซู ิงหลันขยับร่ างหลบหลีก ก็เห็นลู่เวยที่อยูด่ า้ นข้างพุง่ เข้ามาอย่าง
ไม่คิดชีวติ กอดขาของนางเอาไว้แนบแน่น ส่ งเสี ยงตะโกนว่า “องค์
หญิงเพคะ ข้าช่วยท่านจับนางเอาไว้แล้ว ท่านรี บฆ่านางเลย!”
ตู๋กซู ิงหลันเตะนางกระเด็นออกไปในครั้งเดียว แต่เพราะการขัดขวาง
ในชัว่ วินาทีของลู่เวย ทาให้กรงเล็บของเยีย่ อิงพุง่ เข้ามาถึงตัวของ
นาง จะหลบอย่างไรก็ไม่ทนั แล้ว!
แววตาของนางวาววาบขึ้นมา ทันใดนั้นประกายแสงสี ทองก็พงุ่ เข้า
มาตรงหน้านางด้วยความเร็ วกว่าสายฟ้าฟาด
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 419 บุรุษที่หนุนหลังซิงซิง
ประกายสี ดาทองของกระบี่ยาวมาถึงในชัว่ พริ บตา จิตกระบี่สว่าง
วาบฟาดเป็ นลาแสงทอดยาวออกไป
พอกระบี่น้ ีมาถึง ก็ได้ยนิ เสี ยงโลหะเสี ยดสี ดงั โครมครามบาดหูอย่าง
รุ นแรงไปทัว่ ทั้งตาหนัก
จากนั้นก็ได้ยนิ เสี ยงของตกดังตึง เห็นกรงเล็บมังกรของเยีย่ อิงถูกตัด
ลงมา!
เลือดสดทะลักไหลนองลงไป เงาร่ างสี ดาทองร่ างนั้นบังอยูด่ า้ นหน้า
ของตู๋กซู ิงหลัน ทัว่ ร่ างของเขามีหมอกสี ดาอยูช่ ้ นั หนึ่งสะท้อน
ละอองเลือดของเยีย่ อิงทั้งหมดออกไป
ผูค้ นต่างก็พากันตกตะลึงแล้ว!
นัน่ คือ….องค์หญิงของเผ่ามังกรทมิฬ!
นัน่ เป็ น….ร่ างจริ งขององค์หญิง!
แต่แค่กระบี่เดียวก็สามารถตัดกรงเล็บมังกรข้างหนึ่งทิ้งได้?
ทุกคนต่างพากันหันไปมองดูบุรษที่พ่ งึ จะปรากฏตัวขึ้นมา…….
นี่ช่างเป็ นบุรุษที่โดดเด่นงดงามจนไร้คู่เปรี ยบในใต้หล้า! รู ปโฉมที่
หมดจดงดงามเช่นนั้นแม้แต่เผ่ามังกรที่ได้ชื่อว่าเลื่องลือในเรื่ องความ
งามก็ยงั มิอาจเทียบเคียงได้
ลู่กว่างมองดูเพียงแวบเดียว…..หัวใจก็ตอ้ งชะงักไป
บรรดาบุตรหลานของราชามังกรอีกทั้งสามทะเลเขาเลยได้เห็นมา
หมดแล้ว แต่กไ็ ม่เคยเห็นว่าจะมีองค์ชายองค์ใดจะสามารถเทียบกับ
บุรุษที่อยูต่ รงหน้าผูน้ ้ ีได้เลย
ไม่เพียงแต่รูปโฉมที่ยอดเยีย่ มเหลือธรรมดาเท่านั้น แม้แต่พลังที่อยู่
ภายในร่ าง….นัน่ จะใช่สิ่งที่มนุษย์ธรรมดาจะมีได้อย่างไร?
เขาเองก็เคยพบเจอเหล่าเทพเบื้องบนมา แต่กย็ งั รู ้สึกว่า ราศีของบุรุษ
ผูน้ ้ ียงั โดดเด่นยิง่ กว่าเทพเบื้องบนเสี ยอีก
ตู๋กซู ิงหลันเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นแต่เงาหลังของจีเฉวียน
เส้นผมของเขาพลิ้วผ่านใบหน้าของนางเบาๆ ทาให้คนั นิดๆ
แผ่นหลังของเขากว้างมาก บดบังแสงสว่างตรงด้านหน้าของนาง
เอาไว้จนหมด…..
จากมุมมองของนาง เห็นแต่มุมหน้าด้านข้างของเขา และเรื องร่ างได้
รู ปงดงามไร้ที่เปรี ยบ
เจ้าตัวยุง่ ผูน้ ้ ี…..ตามมาด้วยหรื อ?
ตลอดทางที่มานี้ นางไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด!
“เจ้าคือใครกัน?” เยีย่ อิงที่สูญเสี ยกรงเล็บมังกรไป จับจ้องมองไปยังจี
เฉวียนด้วยความโกรธเกรี้ ยวจนแทบจะแยกเขี้ยวพ่นไฟได้
“เมื่อครู่ เจ้าได้ยนิ ไม่ชดั หรอกหรื อ?” จีเฉวียนกวาดตามองดูนางอย่าง
เย็นชาครั้งหนึ่ง จากนั้นก็กา้ วถอยไปด้านหลังหนึ่งก้าว ยืน่ มือไป
โอบเอวของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ ยืนแนบชิดกับนาง เอ่ยทีละคาว่า “เรา
ก็คือบุรุษที่ท้ งั สู ง ทั้งหล่อ ทั้งเย็นชา เก่งกาจอย่างไร้เหตุผล และหนุน
หลังหลันหลันอยูผ่ นู ้ ้ นั ”
ตู๋กูซิงหลัน “……”
อะแฮ่ม อะแฮ่ม เจ้าตัวยุง่ ผูน้ ้ ีไม่เพียงแต่ติดตามมา ทั้งยังแอบฟัง
คาพูดของนางอยูด่ า้ นหลังหรื อ?
จีเฉวียนตรัสแล้ว กระบี่เหมันต์ในมือก็วาดออกไป “ก็เป็ นอย่างที่ซิ
งซิงว่าเอาไว้ ใครที่กล้าแตะต้องนางแม้แต่ปลายผม ต้องถามกระบี่
ในมือของเราก่อนว่าได้หรื อไม่”
กระบี่น้ ีพอวาดออกไป ก็แผ่ไอเย็นสุ ดขั้วออกมา
ทาเอาทัว่ ทั้งวังมังกรสู ญเสี ยความอบอุ่นไปจนหมด ที่ดา้ นหลังของจี
เฉวียนมีแต่ความเย็นยะเยือกราวขุมนรก ในขุมนรกนั้นมีแต่ภูติผี
ปี ศาจมากมายกาลังร่ าร้องด้วยความโหยหวน ต่อสู ้ย้อื แย่งกันจะหนี
ออกมา
ความเย็นยะเยือกแทรกซึมเข้าไปในร่ างของคนทั้งหลาย ทาเอาแม้แต่
คนเผ่ามังกรก็ยงั อดจะสัน่ สะท้านไปทั้งร่ างไม่ได้
บุรุษผูน้ ้ ี ……เป็ นมนุษย์จริ งๆหรื อ?
“พูดจาไร้สาระได้เป็ นกระบุง แล้วยังมาทาเป็ นหล่อเหลาอันใด?”
เยีย่ อิงทนดูต่อไปไม่ได้แม้แต่นอ้ ย
ในสายตาของนางมีแต่พี่ชายของตนเองเท่านั้น บุรุษอื่นมิได้เข้าตา
นางแม้แต่นอ้ ย
รวมถึงบุรุษที่งดงามดุจเทพมารตรงเบื้องหน้าผูน้ ้ ีดว้ ย
ในสายตาของเยีย่ อิง ไม่เพียงแต่ไม่หล่อเหลา ทั้งยังเลี่ยนเกินไปอีก
ด้วย!
นางไม่ได้กลายเป็ นร่ างจริ งมาหลายร้อยปี แล้ว……ตอนแรกที่กลาย
ร่ างก็เพียงเพราะจะใช้พลังมังกรทะลวงออกจากข่ายยันต์ของตู๋กซู ิงห
ลันเท่านั้น
ร่ างมังกรที่ใหญ่โตโอฬารของนางยังมียนั ต์สีเหลืองหลายใบติดอยู่
บนร่ าง แต่วา่ ยันต์เหล่านั้นก็ขาดวิ่นหมดแล้ว
ยามนี้นางไม่สนใจสิ่ งใดอีกแล้ว นางคารามเสี ยงดังกึกก้อง ระเบิด
พลังมังกรออกมา สะบัดหางมังกรออกไปในทันที
หางมังกรยังสะบัดไปไม่ทนั ถึง แต่สายลมที่แฝงกลิ่นเลือดหอบหนึ่ง
ก็พดั ออกไปแล้ว
เกิดเป็ นแรงกดดันที่ทาให้คนหายใจไม่ออก ทัว่ ทั้งตาหนัก
สัน่ สะเทือนอย่างรุ นแรง
แผ่นหินด้านบนแต่ละก้อนหนักนับร้อยชัง่ พอตกกระแทกลงมา
เพียงแค่ครู่ เดียวก็ทาให้ทวั่ ทั้งตาหนักทะลุเป็ นแผ่นตะแกรง
จีเฉวียนโอบอุม้ ตู๋กูซิงหลันเหาะออกไปนอกตาหนัก ชักนาเยีย่ อิง
ออกไป
เยีย่ อิงรี บไล่ตามไป ตอนนี้นางสู ญเสี ยเหตุผลไปหมดแล้ว ในใจเพียง
ต้องการทาลายคนทั้งสองให้เป็ นผุยผงเท่านั้น
เยีย่ อิงมีนิสยั เช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร สิ่ งของที่ไม่อาจได้มาเป็ นต้อง
ทาลายทิ้ง
ในเมื่อสตรี ผนู ้ ้ นั ไม่เต็มใจจะแต่งเป็ นอนุให้กบั พี่ชาย เช่นนั้นก็ไม่
อาจปล่อยให้ผอู ้ ื่นได้ไปง่าย!
หัวใจของชาวมังกรทมิฬทั้งหลายต่างก็พากันสัน่ สะท้านขึ้นมา
ครั้งก่อนที่องค์หญิงทรงพิโรธ…..เผ่ามังกรทมิฬถูกนางทาลายไป
เกือบครึ่ งแล้ว!
ชาวมนุษย์ผนู ้ ้ นั กระตุน้ โทสะของนางเข้าแล้วจริ งๆ!
เยีย่ อิงอารมณ์ร้ายมาแต่ไหนแต่ไร หากเกิดโทสะขึ้นมา ต่อให้ววั สิ บ
ตัวก็ยงั รั้งนางเอาไว้ไม่อยู่ นางมักจะใช้กาลังการต่อสู ้เข้าตัดสิ นอยู่
เสมอ
พอออกจากวังมังกร น้ าทะเลก็เคลื่อนเข้ามาหา
เดิมทีต๋ ูกูซิงหลันคิดจะซัดฝ่ ามือผลักตนเองให้หลุดออกจากจีเฉวียน
แต่เพราะว่าตอนนี้นางไม่มีมุกมังกรของชือหลีแล้ว ทั้งยังไม่มี
ลูกแก้ววารี คุม้ ครองร่ างกาย ได้แต่อาศัยหมอกดาบนร่ างของจีเฉวียน
ผลักน้ าทะเลออกไป
นางพยายามอดทนเอาไว้ ปล่อยให้เขากอดตนเอง
“ซิงซิง กอดเราให้แน่นๆหน่อย อย่าได้ตกลงไป” จีเฉวียนกลับไม่
รู ้จกั พอ “ทะเลแห่งนี้มีปลายักษ์อยูม่ ากมาย พวกมันชอบกินสตรี
งดงามมากๆ”
ตู๋กูซิงหลัน “…….”
ในใจของนางมีแต่คาผรุ สวาทที่ไม่ควรเอ่ยออกมา เห็นนางเป็ นเด็ก
สามขวบหรื ออย่างไร?
“หลันหลัน เจ้าเป็ นโรคกลัวน้ าลึก อย่าพึ่งไปดื้อดึงกับเขาเลย”
วิญญาณทมิฬกระโดดออกมา มือสั้นๆของมันเกาะอยูบ่ นเสื้ อผ้า
ของตู๋กซู ิงหลันอย่างแนบแน่น ในใจก็คิดไปว่าเจ้าฮ่องเต้สุนขั ผูน้ ้ ี
จะต้องจงใจพาหลันหลันออกมานอกวังมังกรอย่างแน่นอน
จากนั้นก็ฉวยโอกาสกับนาง
“ซิงซิง ยามที่เจ้าตกอยูใ่ นอันตราย ก็คิดจะพึ่งพาเรา เรายินดี
เหลือเกิน” จีเฉวียนพระหัตถ์ขา้ งหนึ่งถือดาบ พระหัตถ์อีกข้างกอด
นางเอาไว้ มุ่งออกไปยังจุดที่ไกลจากวังมังกร
มังกรตัวนี้ร้ายกาจอย่างยิง่ หากว่ามันอาละวาดออกมาอย่างสุ ดพลัง
ในระยะสิ บลี้ลงไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลือรอดไปได้
อย่างไรเสี ยตู๋กเู จวี๋ยผูน้ ้ นั ก็เป็ นพี่ชายของซิงซิง จีเฉวียนนั้นรักบ้าน
เผือ่ แผ่นกกา จึงคิดเผือ่ ถึงความปลอดภัยของคนในครอบครัวของ
นางด้วย
ตู๋กซู ิงหลันสี หน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ “เจ้าไม่เห็นหรื อว่า ข้ากาลัง
สร้างความลาบากให้เจ้าหรอกหรื อ?”
จีเฉวียน “ไม่ลาบาก นี่เป็ นความสุ ข”
ตู๋กูซิงหลัน “เฮอะ”
ปากของบุรุษ!
พูดไม่ทนั ขาดคาก็ได้ยนิ เสี ยงเยีย่ อิงไล่ตามมาแล้ว
มังกรสี ครามเมื่ออยูใ่ นทะเลลึกก็เหมือนดัง่ ปลาได้น้ า ความเร็ วนี้
ยังคงไวกว่าสายฟ้าฟาดอีกหลายส่ วน
ทันใดนั้นเองร่ างของนางก็ขดเป็ นวง ล้อมพวกเขาเอาไว้ขา้ งใน
ดวงตาสี ครามนั้นมีแต่ไอสังหาร นางไม่พดู พร่ าทาเพลง อ้าปากขึ้น
ปล่อยลาแสงที่หนาวเย็นออกมา
เดิมทีรอบกายของตู๋กซู ิงหลันและจีเฉวียนยังมีสตั ว์ทะเลอยูบ่ า้ ง
แต่สตั ว์ทะเลเหล่านั้นพอสัมผัสโดนลาแสงที่เหน็บหนาวนั้นเข้าก็
แตกสลายกลายเป็ นผุยผง!
“เป็ นแค่เผ่ามนุษย์ธรรมดา กลับกล้ามาโอ้อวดต่อหน้าข้า!” เยีย่ อิงส่ ง
เสี ยงเย็นชา แม้แต่หลายคาที่เอ่ยออกมาก็แฝงพลังที่เยือกแข็ง ทาให้
พวกเขาไม่อาจหลบหนี!
นางจะทาลายพวกมันให้จบสิ้ น จากนั้นค่อยนาซากกลับไปยังเผ่า
มังกรทมิฬ ให้พวกมันไม่มีทางได้สงบสุ ขอีกตลอดกาล!
ลาแสงที่เย็นยะเยือกนั้นยังไม่ทนั ได้พงุ่ ออกมา เพียงแค่แรงกดดันที่
แผ่ออกมาก็สามารถทาให้คนต้องแหลกเหลววิญญาณสลายได้แล้ว
ไม่เสี ยทีที่เป็ นถึงองค์หญิงของเผ่ามังกรทมิฬ …..อย่างไรเสี ยก็ยงั
เป็ นผูแ้ ข็งแกร่ งที่แท้จริ ง
ตู๋กซู ิงหลันหรี่ ตาลง ในมือล้วงเอายันต์ออกมาแผ่นหนึ่งอย่างรวดเร็ ว
ริ มฝี ปากเริ่ มเอื้อนเอ่ยคาถา
แต่วา่ จีเฉวียนกลับชิงลงมือก่อนด้วยความฮึกเหิ ม พระองค์ควงกระบี่
ด้วยพระหัตถ์ขา้ งเดียว เบื้องหลังของพระองค์เกิดเป็ นฉากสี ดาที่มืด
มิด พระเกศายาวพลิ้วราวกาลังเริ งระบา พอสะบัดดาบนั้นออกไป ก็
ผ่าท้องทะเลจนกรี ดแยกออก
จากนั้นก็ชิงพุง่ เข้าปะทะกับลาแสงที่หนาวเย็นของเยีย่ อิง ลาแสงที่
หนาวเย็นปะทะกับจิตกระบี่ กลับถูกความมืดในจิตกระบี่น้ นั
ดูดกลืนเข้าไป จากนั้นพลังที่ดามืดนั้นก็พงุ่ เข้าใส่ เยีย่ อิง….
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 420 เจ้ าสามารถเรียกเขาว่ า สหาย
ควายน้ อย
ความมืดครึ้ มกลุ่มหนึ่งครอบคลุมอยูเ่ หนือศีรษะของลู่อิง
บนศีรษะมีแต่ไอหนาวเย็นที่ลึกล้ า ราวกับก่อตัวเป็ นภูเขาน้ าแข็งอยู่
ด้านบน คล้ายจะกดลงมาบีบอัดทับถมนาง
เยีย่ อิงตกตะลึงไปเล็กน้อย ก็อา้ ปากขึ้นจะพ่นลาแสงที่เย็นยะเยือก
ออกมา
ขณะที่ลาแสงนั้นยังไม่ทนั ระเบิดออกไป ก็เห็นกระบี่ในมือของจี
เฉวียนก่อให้เกิดไอมืดขุมหนึ่งจู่โจมเข้าใส่ ลาแสงนั้น
ร่ างกายที่ใหญ่โตของเยีย่ อิงตกอยูภ่ ายใต้ลาแสงที่หนาวเย็น เกล็ด
มังกรสี ครามบนลาตัวของนางส่ งเสี ยงสัน่ สะเทือนเปรี้ ยงปร้าง ราว
กับว่าร่ างกายถูกกระแสไฟฟ้าช็อตตลอดร่ าง
นางอ้าปากขึ้นมาส่ งเสี ยงร้องคาราม ร่ างกายหดเล็กลงอย่างรวดเร็ ว
ท่ามกลางแสงสี ครามก็กลับเป็ นสาวน้อยที่งดงามอีกครั้ง
นางครางออกมาเบาๆ มุมปากมีเลือดไหลออกมา
นางใช้มือข้างหนึ่งกดทรวงอกเอาไว้ เคลื่อนตัวถอยหลังไปอีกหลาย
เมตร ดวงตาสี ครามคู่น้ นั จับจ้องไปยังจีเฉวียนอย่างไม่ค่อยมัน่ ใจนัก
บุรุษผูน้ ้ ี…..ไม่เพียงสามารถดูดกลืนลาแสงที่หนาวเย็นของนาง
เอาไว้ได้ ยังถึงกับตอบโต้ดว้ ยพลังที่เหนือล้ ายิง่ กว่าย้อนใส่ ร่างของ
นาง ทาให้นางไม่อาจคงอยูใ่ นรู ปมังกรต่อไปได้
สามารถหยิบยืมพลังของผูอ้ ื่นมาเป็ นพลังของตนเอง …..ใต้หล้านี้
ถึงกับมีผทู ้ ี่สามารถดูดกลืนพลังของเผ่ามังกรทมิฬอยูด่ ว้ ย?
บางทีอาจเป็ นเพราะว่าพวกนางไม่ได้ยงุ่ เกี่ยวกับพวกมนุษย์มานาน
แล้ว จึงไม่รู้วา่ ตอนนี้พวกมนุษย์เปลี่ยนเป็ นเก่งกล้าถึงขนาดนี้แล้ว?
เยีย่ อิงถูกลาแสงหนาวเย็นของตนเองย้อนเข้าใส่ ตวั เกิดความปวด
แปลบในอก
ตู๋กูซิงหลันเองก็ประหลาดใจเช่นกัน ชัว่ พริ บตาเมื่อครู่ น้ ี อาณาเขต
ทั้งสิ บลี้ทวั่ ท้องทะเลคล้ายจะถูกส่ องจนสว่างจ้า
สิ่ งมีชีวิตต่างๆก็พากันหลบหนีอย่างสุ ดชีวิตราวกับเจอผีหลอก
ตู๋กซู ิงหลันรู ้วา่ จีเฉวียนนั้นเก่งมาก แต่กย็ งั นึกไม่ถึงว่าเขาจะมี
ความสามารถถึงขนาดที่ดูดกลืนพลังของผูอ้ ื่นมาแล้วส่ งย้อนกลับไป
ด้วยความรุ นแรงกว่าเดิม
ในแสงที่หนาวเย็นเมื่อสะท้อนกลับไปก็มีพลังหยินที่ซบั ซ้อนจาก
ร่ างของเขาปะปนอยูด่ ว้ ย
ตู๋กซู ิงหลันเหลือบตามองดูเขาแวบหนึ่ง ดวงตาดอกท้อคู่น้ นั หรี่ ตาลง
ฐานะที่แท้จริ งของฮ่องเต้ผนู ้ ้ ี เกรงว่าคงจะซับซ้อนยิง่ กว่าที่นางเคย
คาดคิดเอาไว้เสี ยอีก
อีกด้านหนึ่ง เยีย่ อิงกดทรวงอกเอาไว้ เนื่องเพราะเมื่อครู่ เปลี่ยนเป็ น
ร่ างมังกร เสื้ อผ้าที่สวมติดกายในตอนนี้จึงขาดวิ่น เผยให้เห็นท่อน
แขนบอบบางและท่อนขาเรี ยวยาวได้รูป
บนท่อนแขนนั้นยังมีร่อยรอยของเกล็ดมังกรให้เห็นอยูจ่ างๆ
นางกุมดาบโซ่เอาไว้ในมือ จับจ้องไปยังจีเฉวียน “เจ้าเป็ นใครกัน
แน่?”
นางเคยได้ยนิ พระมารดาเอ่ยว่า มีชนเผ่าที่สามารถดูดซับพลังของ
ผูอ้ ื่นมาเป็ นพลังต่อสู ้ของตนเอง
เผ่าหมิง
แต่เผ่าหมิงนี้หายสาปสู ญไปนานปี แล้ว แถมบุรุษตรงหน้าผูน้ ้ ี….ก็มี
เลือดเนื้อ เป็ นมนุษย์อย่างแน่นอน
เขาเป็ นฮ่องเต้ของเผ่ามนุษย์ แล้วจะไปเกี่ยวข้องกับเผ่าหมิงได้อย่าง
ไรกัน
จีเฉวียนมิได้ตรัสตอบนาง เพียงกุมกระบี่เหมันต์เอาไว้ในมือ ขยับ
ร่ างเพียงเบาๆก็พงุ่ ไปถึงเบื้องหน้าของเยีย่ อิง
เขาเหลือบแลดูนาง จากด้านบน “เจ้าเพียงต้องจดจาเอาไว้วา่ เรามิใช้
ผูท้ ี่เจ้าจะสามารถหาเรื่ องได้!”
ว่าแล้ว ก็หนั ไปมองดูต๋ ูกซู ิงหลันที่อยูข่ า้ งกาย เอ่ยอย่างเรี ยบเรื่ อยว่า
“นาง ก็เช่นกัน”
ใต้หล้านี้ หากว่ามาหาเรื่ องกับคนอย่างจีเฉวียนอาจจะยังพอมีทาง
รอดอยูส่ ายหนึ่ง แต่วา่ หากหาเรื่ องนาง….ต่อให้ตอ้ งขึ้นสวรรค์หรื อ
ลงนรกจีเฉวียนก็ไม่มีทางปล่อยไปอย่างเด็ดขาด
เยีย่ อิงคร้านจะฟังคาพูดเลี่ยนๆของเขาอีก นางกุมด้าบดาบโซ่ที่ร้อย
เรี ยงกันเอาไว้อย่างแนบแน่น นัยตาสี ครามเปล่งประกายลึกล้ าขึ้นมา
ครั้งนี้เป็ นครั้งแรกที่นางมารับตัวเจ้าสาวให้กบั พี่ชาย คิดไม่ถึงว่าแค่
ครั้งแรกก็จะได้เจอกับผูเ้ ข็มแข็งเข้าแล้ว
นางยังไม่ทนั ได้ขยับมือ ก็เห็นจีเฉวียนสะบัดกระบี่ออกมา เพลง
กระบี่กวาดผ่านเพียงครั้งเดียวพลังก็พงุ่ ตัดผ่านสายน้ ามาถึง
พลังที่มืดครึ้ มสายหนึ่งแปรเป็ นจิตกระบี่ ตัดผ่านน้ าทะเลจนแยก
ออกจากกัน พุง่ ออกไปยังภูเขาเล็กๆที่อยูใ่ ต้ทะเลซึ่งห่างไปไม่ไกล
ตัดผ่าภูเขาลูกนั้นจนกลายเป็ นสองส่ วน!
ภาพที่ปรากฏนั้นน่าตื่นตระหนกอย่างที่สุด!
“เจ้าไม่ใช่คู่มือของเรา” จีเฉวียนทอดพระเนตรดูนางด้วยสายพระ
เนตรเย็นชา แววตาส่ องประกายย้าเตือน
เยีย่ อิงพลิกร่ างหลบ เกือบจะโดนตัดแขนขาดไปทั้งข้าง
ก่อนหน้านี้นางโดนตัดกรงเล็บมังกรทิ้งไปแล้ว ตอนนี้ใต้แขนเสื้ อมี
แต่ความว่างเปล่า ปากแผลก็ยงั ปิ ดไม่สนิท พอขยับก็ยงั มีเลือดไหล
ซึมออกมา
ดวงตาของนางสงบนิ่ง ไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างวูว่ ามอีก แต่เอื้อยเอ่ย
บางสิ่ งอยูใ่ นใจ
ทันใดนั้นเอง ก็ได้ยนิ เสี ยงแปลกประหลาด เคลื่อนมาทางด้านหลัง
ของนาง
จากนั้นก็เห็นแสงสี ฟ้าที่สว่างวาวแล้วก็จางหายสับกันไปมาจากท้อง
ทะเลที่ไกลออกไป พอได้ยนิ เสี ยงแปลกประหลาดนั้นอีกครั้ง ก็เห็น
แมงกระพรุ นตัวใหญ่ที่ติดตามนางมาแต่แรกว่ายมาถึง
มันมีขนาดราวห้องเล็กๆห้องหนึ่ง กระโปรงชั้นนอกเป็ นสี ฟ้า ชั้นใน
เป็ นสี เงินยวง ราวกับถูกคลุมด้วยผ้าโปรงสี ผา้ ผืนบาง
บนผ้าโปรงผืนนั้นยังมีประกายระยิบระยับงดงามน่าดูอย่างยิง่
เมื่ออยูใ่ ต้ทะเลลึกเช่นนี้ ก็ดูเหมือนดัง่ ยอดงานศิลปะที่งดงามชิ้นหนึ่ง
แม้แต่ต๋ ูกูซิงหลันยังอดจะมองดูอยูห่ ลายรอบไม่ได้
แมงกระพรุ นตัวนั้นหยุดลงที่ขา้ งกายของเยีย่ อิง โบกกระโปรงสี ฟ้าที่
โปร่ งบางของมันไปมา ประกายแสงจากร่ างของมันสะท้อนลงไป
บนใบหน้าของเยีย่ อิงจนเกิดแสงระยิบวับวาว
จีเฉวียนมองดูเจ้าตัวประหลาดนัน่ ในสมองอดไม่ได้ที่จะคิดไปว่า ตู๋
กูซิงหลันชมชอบสิ่ งของที่ระยิบระยับแวววาว
พระองค์ไม่ค่อยได้ลงมาใต้ทะเล ดังนั้นแม้แต่พระองค์กย็ งั ทรงรู ้สึก
ว่าสิ่ งนี้สวยงาม
ฮ่องเต้ทรงคิดไปว่า หากเฉือนกระโปรงชั้นนอกของเจ้าสิ่ งนี้ออกมา
ทาเป็ นเสื้ อผ้าให้นางสวมใส่ คงจะยิง่ งดงามน่าดู
พอความคิดบังเกิด พระองค์กก็ ระชับกระบี่พงุ่ ออกไป
ตู๋กซู ิงหลันไม่รู้วา่ เขาต้องการจะทาอะไร แต่เพราะว่าตัวนางไม่มี
ลูกแก้ววารี ย่อมไม่อาจออกห่างจากเจ้าฮ่องเต้สุนขั ผูน้ ้ ี
หลังจากนั้นก็เห็นเขาพุง่ มาถึงข้างกายแมงกระพรุ น วาดกระบี่
ออกไปเบาๆ เกิดเป็ นปากแผลแห่งหนึ่งบนกระโปรงของ
แมงกระพรุ น
“ฟู่ ….” ทันใดนั้นเอง ของเหลวงเข้มข้นสี ฟ้าก็ไหลพรู ออกมาจาก
กระโปรงของมัน
ของเหลวนัน่ แพร่ กระจายไปในน้ าอย่างรวดเร็ ว จนเกิดกลิ่นเหม็น
ยากจะทนทาน
ทั้งเหม็นและทั้งแสบตา!
แต่ไหนแต่ไรจีเฉวียนก็ทรงมีความรู ้สึกไวต่อกลิ่นเหม็นอยูแ่ ล้ว
พระองค์กลั้นนาสิ กในทันที แต่วา่ ในชัว่ วินาทีน้ นั เจ้าแมงกระพรุ นก็
แง้มกระโปรงของมันออกมาช่องหนึ่ง พลางครอบกระโปรงลงมา
บนศีรษะของพวกนาง
อย่าได้เห็นว่ามันร่ างกายใหญ่โต ที่จริ งยังเคลื่อนไหวได้รวดเร็ ว
ประดุจสายฟ้า
ความเคลื่อนไหวทั้งหมดใช้เวลาไปเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
ทั้งตู๋กซู ิงหลันกับจีเฉวียนก็ถูกมันกลืนลงไปในตัวแล้ว
ทันทีที่หลุดเข้าไป ภายในตัวแมงกระพรุ นก็เกิดปุ่ มหนามเล็กๆ
มากมายงอกออกมา แม้ไม่ใช่หนามแหลมอันใด แต่วา่ ปุ่ มหนามที่
เรื องแสงสี ฟ้าเหล่านั้นก็คืบคลานเข้ามาแนบติดกับร่ างกายของพวก
นาง
แม้แต่หมอกสี ดาบนร่ างของจีเฉวียนก็ยงั ไม่อาจป้องกันตนเองไป
จากมันได้
พลังในการแทรกซึมของมันสู งล้ าอย่างยิง่ พอสัมผัสกับร่ างกายก็ทา
ให้ผวิ พรรณของพวกเขาถูกอาบย้อมเป็ นสี ฟ้า ร่ างกายหนักอึ้งลงไป
ในทันที
ตู๋กูซิงหลัน “…..”
ตอนนี้ในใจของนางมีแต่ความสับสนไปหมด นอกจากคาว่า ‘งี่เง่า’
แล้วนางก็ไม่รู้วา่ จะหาคาไหนมาอธิบายจีเฉวียนได้อีก
วิญญาณทมิฬ “ไม่ ไม่ ไม่ เจ้าควรจะเรี ยกเขาว่า สหายควายน้อย”
แมงกระพรุ นเป็ นสัตว์ที่มีพิษ
แมงกระพรุ นที่มีขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้ พิษจะต้องร้ายแรงมากอย่าง
แน่นอน
จีเฉวียนวาดกระบี่ใส่ มนั มันย่อมต้องกระจายพิษออกมา ตอนนี้พวก
นางถูก ‘จับ’ เข้าไปในตัวแมงกระพรุ น ทั้งยังถูกของเหลวสี ฟ้านัน่
แทกซึมเข้าสู่ ร่างกาย ต้องเรี ยกว่าโดนพิษซ้ าแล้วซ้ าอีก
แต่เมื่อถูกจีเฉวียนสาดสายพระเนตรเย็นชาใส่ วิญญาณก็ตอ้ งปิ ดปาก
ลง พลางลูบก้นของตนเองไปมา
พอเยีย่ อิงเห็นคนทั้งสองถูกกักเอาไว้ในแมงกระพรุ น ร่ างกายที่ฝืน
อดทนมาตลอดก็สิ้นสติไป
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 421 ทะเลลึกไร้ ก้น
แมงกระพรุ นยักษ์โบกสะบัดกระโปรงของมันออกไปด้านข้าง ม้วน
พันร่ างที่สิ้นสติไปแล้วของเยีย่ อิงขึ้นมา จากนั้นก็พงุ่ ตัวเข้าสู่ ส่วนลึก
ของทะเล
มันว่ายน้ ามุ่งหน้าไปยังทะเลลึกลงไปเรื่ อยๆ
พระหัตถ์ขา้ งหนึ่งของจีเฉวียนยังคงโอบเอวของตู๋กูซิงหลันเอาไว้
พระองค์พยายามใช้พระหัตถ์และร่ างกายของตนเองปกป้องตู๋กซู ิงห
ลันจากของเหลวสี ฟ้าที่แทรกซึมเข้ามาอยูต่ ลอดเวลา
พระองค์ยงั พอจะเคลื่อนไหวได้ แต่วา่ กระบี่ในพระหัตถ์ยงิ่ ทีกย็ งิ่
หนักกว่าเดิม
แต่ไหนแต่ไรร่ างกายของพระองค์กแ็ ข็งแกร่ งดุจเหล็กกล้า แต่วา่
คราวนี้กลับไม่อาจรอดพ้นพิษจากแมงกระพรุ นไปได้
“ซิงซิง” พระองค์กม้ พระพักตร์ลงไป ทอดพระเนตรดูสาวน้อยใน
อ้อมพระกร
เห็นนางใบหน้าซีดขาว ริ มฝี ปากกลับเป็ นสี แดงอมม่วงราวผลเบอร์รี่
“เจ้าถูกพิษไปไม่นอ้ ย ปากดาคล้ าหมดแล้ว” พระองค์ตรัสต่อไป “เรา
เคยได้ฟังมาว่า คนที่ถูกพิษจะต้องรี บดูดพิษออกไป มิเช่นนั้นทิ้งไว้
จะยิง่ เกิดผลเลวร้าย”
ตรัสแล้ว พระองค์กข็ ยับพระศอเข้ามา ริ มพระโอษฐ์ยนื่ มาถึงริ ม
ฝี ปากของนาง คิดจะจูบนาง
ตู๋กซู ิงหลันเบือนหน้าหนีอย่างกินแรง เอ่ยด้วยสายตาเย็นชา “ชาดทา
ปากสี แดงมนุษย์ป้า เจ้าไม่เคยเห็นมาก่อนหรื อไง?”
จีเฉวียนตรัสอย่างจริ งจัง “ข้าไม่เคยเห็นป้าของเจ้า ไม่รู้วา่ ป้าของเจ้า
เป็ นสี อะไร”
ตู๋กูซิงหลัน “…..”
จีเฉวียน “เราโดนพิษก็ไม่เป็ นไร แต่วา่ ไม่อาจปล่อยให้เจ้าบาดเจ็บ
ได้”
พระองค์ตรัสแล้ว ก็พยายามจะช่วยนางดูดพิษ
ด้วยวิธีปากต่อปาก!
ตู๋กูซิงหลันอยากจะถอดรองเท้าออกมาตบกะโหลกของเขาจริ งๆ!
แมงกระพรุ นที่กกั คนทั้งสองเอาไว้เคลื่อนไปในน้ าด้วยความรวดเร็ ว
ราวสายฟ้าฟาด ที่มนั สามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็ วเช่นนี้เป็ น
เพราะมีลกั ษณะเฉพาะในการเคลื่อนไหว ซึ่ งทาให้คนทั้งสองยิง่ ทีก็
ยิง่ กอดกันแนบแน่นกว่าเดิม
ตู๋กซู ิงหลันล้มลงไปอยูบ่ นพื้น จีเฉวียนกดทับอยูด่ า้ นบน พระโอษฐ์
บางคู่น้ นั กาลังกดลงมา
ขณะที่เห็นอยูว่ า่ กาลังจะกระทบริ มฝี ปากของนาง ตู๋กซู ิงหลันก็
ล้วงมือลงไปดึงวิญญาณทมิฬออกมาจากอ้อมอก ขวางเอาไว้ตรงริ ม
พระโอษฐ์จีเฉวียนพอดิบพอดี
ริ มพระโอษฐ์ของพระองค์สมั ผัสลงไปบนก้นกลมๆของมัน
ทั้งนุ่มนิ่ม และเรี ยบลื่น ให้ความรู ้สึกที่ดีมากๆ

“ปูด~” วิญญาณทมิฬให้ความร่ วมมืออย่างยิง่ ด้วยการปล่อยตด


ออกมาครั้งหนึ่ง
ด้วยระยะที่ใกล้กนั มาก จึงทาให้รู้สึกได้วา่ ลมตดนั้นพุง่ เข้าใส่ พระ
พักตร์อย่างเต็มที่
จีเฉวียนพระพักตร์เปลี่ยนสี ไปในทันมี……
พิษสี ฟ้าที่รายล้อมอยูถ่ ูกจีเฉวียนใช้ร่างกายรับเอาไว้เสี ยส่ วนใหญ่
ตอนนี้ยงั มาถูกวิญญาณทมิฬที่ตดเหม็นอย่างไร้เทียมทานเข้าอีก จี
เฉวียนจึงถึงกับสิ้ นสติลงไปต่อหน้าต่อตาตู๋กซู ิ งหลันเลยทีเดียว
วิญญาณทมิฬ “เชี่ยเอ๋ ย! นี่จะบอกว่าตดของอัว๊ ยังร้ายแรงกว่าพิษของ
แมงกระพรุ นอีกหรื อ?”
พื้นที่ภายในตัวของแมงกระพรุ นเป็ นเหมือนดัง่ ลิฟต์ที่ปิดตาย พอ
วิญญาณทมิฬปล่อยตดออกมา ภายในตัวของแมงกระพรุ นก็คละคลุง้
ไปด้วยกลิ่นที่ทาให้คนอยากจะอาเจียนออกมา
ประกอบกับกลิ่นเดิมของแมงกระพรุ นเองก็ยา่ แย่พออยูแ่ ล้ว เมื่อ
กลิ่นเหม็นทั้งสองผสมรวมกัน ก็กลายเป็ นส่ วนผสมทางเคมีที่
สามารถเอาชีวิตคนได้เลย
ฮ่องเต้สุนขั ยังทับอยูด่ า้ นบน ทั้งยังกดลงไปตรงหน้าท้องของนาง
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่ากระเพาะปั่นป่ วนราวกับท้องทะเลพลิกคว่า แทบ
จะสลบไสลตามไปด้วยอยูแ่ ล้ว
บางครั้ง การจะล้มยอดฝี มือได้กไ็ ม่จาเป็ นจะต้องใช้กระบวนท่าที่
แข็งแกร่ งขนาดทาลายฟ้าทะลวงดินแต่อย่างไร
แต่วา่ เป็ นแค่ ลมตดก็พอแล้ว! จริ งๆนะ!
ในที่สุด….แม้แต่แมงกระพรุ นตัวนี้กย็ งั ทนไม่ไหว เมื่อมองผ่าน
กระโปรงที่ก่ ึงทึบกึ่งสว่างของมัน ก็จะเห็นว่าด้านในของมันมีหูรูดที่
กระเพื่อมขึ้นๆลงๆอยูแ่ ห่งหนึ่ง ราวกับกาลังจะอาเจียนออกมา
มันพยายามฝื นอดทนเอาไว้ พุง่ ผ่านความมึดมิดเข้าไป จนลึกลงไป
ถึงโลกอีกแห่งหนึ่ง ในที่สุดมันก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไป พอ
กระโปรงขยับก็ส่งเสี ยงอาเจียนพลางขย้อนคนทั้งหมดออกมาพร้อม
กัน
พลังในการขย้อนของมันรุ นแรงมาก ราวกับมือสังหารที่ขว้างลูก
ระเบิดออกมา
ที่ดา้ นหน้าเป็ นขอบหินแห่งหนึ่งพอดี ศีรษะของตู๋กซู ิงหลันก็
กระแทกลงไปอย่างแรง
พิษที่อยูใ่ นร่ างยังไม่ทนั จะขับออกไป นางแม้อยากจะหลบก็หลบไม่
พ้น พอโหม่งเข้าไปเช่นนี้เลือดก็ไหลออกมาท่วมศีรษะ
จีเฉวียนเองก็ถูกขย้อนทิ้งไปในหลืบมุมที่ดามืดแห่งหนึ่ง
จากนั้นเจ้าแมงกระพรุ นก็พาเยีย่ อิงลอยเข้าไปในตาหนักแห่งหนึ่งไม่
ไกลออกไป
มันลอยไปก็ขยับปุ่ มหนามภายในตัวไปด้วยตลอดเวลา คล้ายจะ
พยายามสารอกเอาสิ่ งเน่าเหม็นน่าสะอิดสะเอียนที่อยูภ่ ายในตัวเอง
ออกมาให้หมด
………………………….
เนินหินในบริ เวณใกล้ๆนั้นเต็มไปด้วยโขดหิ นหลากสี สนั มีบุรุษใน
ชุดสี ดาผูห้ นึ่งนอนเล่นอยู่
ท่ามกลางความมืดมิดย่อมไม่อาจมองเห็นรู ปโฉมของเขาได้อย่าง
ชัดเจน
ก้อนหินที่ต๋ ูกซู ิงหลันโหม่งเข้ามานั้น เป็ นโขดหิ นที่อยูข่ า้ งกายเขา
พอดี
พอนางกระแทกเข้ามาเช่นนี้กอ้ นหินก็แตกออกมาทั้งก้อน
เมื่อได้กลิ่นของเลือดที่โชยขึ้นมา บุรุษผูน้ ้ นั ถึงได้ชายตาไปมอง
ทันทีที่มองออกไปก็เห็นว่าเป็ นสตรี สวมชุดแดงผูห้ นึ่งอยูบ่ นพื้น
นางสวมใส่ เสื้ อผ้าเนื้อบาง เรี ยวขาที่ยาวข้ามหนึ่งโผล่พน้
ชายกระโปรงออกมา ทั้งขาวผุดผ่องและยาวตรงดุจพูก่ นั นางคว่า
หน้าลงไป ร่ างครึ่ งบนถูกเส้นผมปกเอาไว้ องค์เอวที่บอบบางมีเส้น
ผมยาวสลวยเคลียอยูข่ า้ งๆ แต่ทวั่ ทั้งศีรษะมีแต่เลือดอาบ
บุรุษผูน้ ้ นั ขมวดคิว้ มอง ค่อยพลิกตัวลงไปจากก้อนหิ น ลอยลงไป
ช้าๆข้างกายของนาง
หลังมองดูอยูค่ รู่ หนึ่ง ก็เตะใส่ ช่วงเอวของนางครั้งหนึ่ง
เขาเตะเพียงเบาๆ ตู๋กซู ิงหลันก็พลิกตัวขึ้นมา เส้นผมของนางรุ่ ยร่ าย
คนนอนหงายอยูบ่ นพื้น
เมื่ออยูใ่ นอาณาเขตของเผ่ามังกรทมิฬ น้ าทะเลก็ถูกกีดกันเอาไว้
ภายนอก
ศีรษะของนางยังมีเลือดไหลอาบ สลบไสลจนสิ้ นสติไปแล้ว
บุรุษผูน้ ้ นั จับจ้องอยูท่ ี่ใบหน้า และมองดูอาภรณ์สีแดงของนาง….
ค่อยเงยหน้าขึ้นมองเห็นแมงกระพรุ นยักษ์ที่ลอยลึกเข้าไปในตาหนัก
สี ดาที่อยูล่ ึกเข้าไป ก็เข้าใจอะไรขึ้นมา
นี่คงจะเป็ นอนุคนที่สองร้อยห้าสิ บของเขา
ที่เสี่ ยวอิงไปรับตัวกลับมา
ดูท่าสตรี ผนู ้ ้ ีคงจะก่อเรื่ องบางประการในระหว่างทาง ทาให้นอ้ งสาว
ของเขาไม่สบอารมณ์ พอพามาถึงวังมังกรก็เลยโยนคนทิ้งเอาไว้
เขาหรี่ ตามอง เห็นทรวงอกของนางยังคงเคลื่อนไหวอยู่ อืม ยังไม่
ตาย มีลมหายใจอยู่
จึงยืน่ มือลงไปอุม้ สตรี ผนู ้ ้ นั ขึ้นมา แบกเอาไว้บนบ่า พอขยับร่ างเพียง
วูบเดียว ก็เข้าไปในวังมังกรทมิฬด้วยความรวดเร็ ว
บนใบหน้าเปรอะไปด้วยเลือด ทาให้เห็นรู ปโฉมได้ไม่ชดั เจน ส่ งไป
อาบน้ าล้างตัวก่อนแล้วกัน หากว่าพอดูได้ ค่อยรับนางเป็ นอนุ
หากว่าน่าเกลียด ก็โยนลงไปในหุบเหวไร้กน้ เป็ นซากอาหารให้
เหล่าวิญญาณ
ศีรษะของตู๋กูซิงหลันถูกกระแทกจนแตก นางสลบไสลไปแล้ว
แม้แต่วิญญาณทมิฬก็ได้แต่แอบอยูอ่ ย่างเงียบๆ
…………………
ภายในวังมังกรทมิฬ ตาหนักของไท่จื่อ
เหล่านางกานัลในตาหนักกาลังทางานอย่างวุน่ วาย….วันนี้เป็ นวัน
มงคลที่ไท่จื่อจะทรงรับอนุคนที่สองร้อยห้าสิ บเข้ามา
อนุคนใหม่เมื่อมาถึง ย่อมต้องอาบน้ าล้างตัว จากนั้นจึงค่อยส่ งไป
ถวายตัวต่อไท่จื่อได้
ไม่มีผใู ้ ดเห็นองค์ไท่จื่อตั้งแต่เช้าแล้ว ได้ยนิ ว่าอนุคนที่สองร้อยห้า
สิ บผูน้ ้ ี คือองค์หญิงจากทะเลตะวันตกที่ไท่จื่อทรงคัดเลือกด้วย
พระองค์เองรู ปโฉมงงดงามดุจบุปผาสะคราญดุจจันทรา ทั้งยังเกิดมา
เป็ นมังกรทอง
ในเมื่อเป็ นมังกรทอง ย่อมสมควรคลอดทารกศักดิ์สิทธ์ให้กบั ไท่จื่
อได้กระมัง
เหล่านางกานัลต่างก็คิดกันไป หวังว่าอนุที่มาใหม่ผนู ้ ้ ีจะไม่อ่อนด้อย
เหมือนกับอนุคนก่อนๆ…..
สระน้ าภายในตาหนัก ถูกเติมน้ าร้อนเอาไว้จนเต็มแล้ว บนผิวน้ าโรย
เอาไว้ดว้ ยกลีบดอกไม้สีแดงชั้นหนึ่ง เป็ นดอกกุหลาบ
นี่เป็ นพืชพันธุ์ของพวกมนุษย์ สิ่ งของเหล่านี้ไม่อาจปลูกในอาณาเขต
ของเผ่ามังกรทมิฬ จึงได้แต่ตอ้ งนามาจากเผ่ามนุษย์ ตากแห้งเอาไว้
ค่อยนามาใช้
ไท่จื่อทรงโปรดปรานกลิ่นของดอกกุหลาบ ดังนั้นอนุที่มาใหม่ทุก
คนต่างก็ตอ้ งอาบน้ ากุหลาบก่อนจึงจะได้ไปถวายตัว
ไม่รู้วา่ องค์หญิงมังกรจากทะเลตะวันตกผูน้ ้ ีมีรูปโฉมเช่นไร….
ขณะที่เหล่านางกานัลกาลังครุ่ นคิดกันอยูน่ ้ นั ก็เห็นบุรุษในชุดสี ดา
ปรากฏกายขึ้นมา แบกสตรี ชุดแดงเอาไว้บนไหล่ผา่ นเข้าไปสู่ ดา้ นใน
ของตาหนัก
เขาเดินไปจนถึงริ มสระด้วยสี หน้าที่ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ จากนั้นก็
ขยับมือโยนคนลงไปในสระน้ า
พลางเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาว่า “อาบให้สะอาด ค่อยส่ งไปที่เตียง”
เหล่านางกานัลตะลึงไปเล็กน้อย ก็พากันคุกเข่ายวบลงไป สายตาจับ
อยูแ่ ต่บนพื้น ไม่กล้าเหลือบมองอะไรทั้งสิ้ น
ตอนที่ 422 ขอเพียงแค่ เจ้ าสามารถคลอดทารกศักดิ์สิทธิ์
ผูท้ ี่อยูเ่ บื้องหน้านี้….คือองค์ไท่จื่อเผ่ามังกรทมิฬของพวกเขา!
ทุกคนต่างก็รู้วา่ องค์ไท่จื่อไม่โปรดให้ผใู ้ ดจ้องมองพระองค์ ดังนั้น
ถึงแม้วา่ พวกนางจะทางานอยูใ่ นตาหนักของไท่จื่อมาเนิ่นนานแล้ว
แต่กไ็ ม่เคยได้มองดูพระองค์อย่างชัดเจนเลยสักครั้ง
ฟังว่า….ก่อนหน้านี้มีนางกานัลที่กล้าดีไปสบตากับองค์ไท่จื่อเข้า จึง
ถูกจับโยนลงไปในหุบเหวไร้กน้ ในทันที
จุ๊ จุ๊ …..หุบเหวไร้กน้ บึ้ง นัน่ เป็ นสถานที่เช่นไรกัน?
หากถูกโยนลงไปแม้แต่เศษกระดูกก็ไม่มีเหลือ!
มันคือสถานที่ตอ้ งห้ามที่แม้แต่วิญญาณยังต้องถูกกลืนกิน!
สาหรับคนเผ่ามังกรทมิฬแล้ว หากถูกโยนลงไปที่นนั่ ย่อมถือเป็ น
การลงโทษขั้นสู งสุ ด!
บุรุษผูน้ ้ นั มิได้กล่าวอะไรให้มากความ พอโยนหญิงสาวที่อยูบ่ นบ่า
ลงไปแล้ว ก็เดินจากไปในทันที
เขาเดินพลางก็ถอดเสื้ อผ้าท่อนบนทิ้งไปตลอดทาง
กระทัง่ เหลือแต่ร่างท่อนบนที่เปลือยเปล่า และมีแต่มดั กล้ามเนื้อ
เส้นผมสี ดาที่ยาวสลวยของเขาปล่อยสยายอยูด่ า้ นหลัง จึงช่วยปิ ด
กล้ามเนื้อนั้นไว้กว่าครึ่ ง รู ปร่ างสู งใหญ่ ดูมนั่ คง ทาให้คนที่ได้เห็น
เป็ นต้องสู ดลมหายใจยาวเข้าไป
พอถอดถึงชิ้นสุ ดท้าย ก็ได้ยนิ เสี ยงเขาเอ่ยขึ้นมาว่า “เสื้ อผ้าชุดนี้เปื้ อน
เลือดแล้ว เอาไปทิ้งเสี ย”
“เพคะ ฝ่ าบาท!” นางกานัลสองคนตอบรับอย่างพร้อมเพรี ยง แล้ว
กุลีกจุ อวิ่งไปเก็บเสื้ อผ้าขึ้นมาจากพื้น
อาภรณ์สีดาแม้วา่ เปรอะเปื้ อนเลือด แต่กม็ องเห็นได้ไม่ชดั
แต่พอหยิบเสื้ อผ้าขึ้นมา ถึงได้เห็นว่าเลือดซึมลงไปถึงบนพื้น เป็ นวง
สี แดงๆ
บุรุษผูน้ ้ นั มิได่กล่าวอะไรอีก เพียงเดินตรงไปยังห้องบรรทมที่อยู่
ด้านข้าง
เตียงของเขาเป็ นเปลือกหอยสี ดาขนาดใหญ่
เขาตะแคงร่ างนอนลงไปบนเปลือกหอย ถึงแม้วา่ จะถอดเสื้ อผ้า
ออกไปแล้ว แต่วา่ บนร่ างกายก็ยงั เปรอะเปื้ อนไปด้วยเลือดของตู๋กซู ิง
หลันอยู่
เขาก้มลงมองท่อนแขนที่เปื้ อนเป็ นสี แดง เลือดนัน่ ยังไม่แห้ง
เขายืน่ ปลายนิ้วก้อยออกมา แตะไปเบาๆ ก็นามาสู ดดมใต้จมูก
จากนั้นค่อยงอนิ้วก้อย วางลงบนริ มฝี ปากใช้ปลายลิ้นชิมดูเล็กน้อย
อืม….เลือดนี่รสชาติไม่เหมือนเหล่าอนุที่ผา่ นมา มีรสหวานน้อยๆ
เขาหรี่ ตาลงครุ่ นคิดไปว่าอนุคนที่สองร้อยห้าสิ บนี้ หากว่าไม่
สามารถตอบสนองให้เขาพึงพอใจได้ละก็ เลี้ยงเอาไว้รอเลือดก็ไม่
เลว
……………………….
ในสระน้ า ตู๋กซู ิงหลันยังไม่ทนั รู ้สึกตัวร่ างกายก็ถูกเหล่านางกานัล
ขัดถูจนสะอาดสะอ้านเรี ยบร้อยแล้ว
พวกนางช่วยกันทาแผลบนศีรษะให้อย่างละเอียดลออ ใส่ ยา ปิ ดปาก
แผลจนเรี ยบร้อย
เมื่ออยูใ่ นตาหนักของไท่จื่อนานเข้า ความสามารถในการ
รักษาพยาบาลย่อมต้องเป็ นอยูบ่ า้ ง
เหล่าอนุก่อนหน้านี้ ล้วนเคยมีการบาดเจ็บยิง่ กว่าผูท้ ี่อยูต่ รงหน้ามา
มากมายนัก…..
หักแขน ตัดขาล้วนมีให้เห็น แม่นางผูน้ ้ ีเพียงแค่ศีรษะแตกเท่านั้น ขอ
เพียงยังมีลมหายใจ ล้วนไม่หนักหนา
จะอย่างไรนางก็เป็ นถึงองค์หญิงทะเลตะวันตก …..เปรี ยบเทียบกับ
คนก่อนๆหน้านี้แล้วยังมีฐานะสู งส่ งกว่ามาก ทั้งยังมีร่างเป็ นมังกร
ทอง บางทีนางอาจจะสามารถคลอดทารกศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้?
ดังนั้นยามที่เหล่านางกานัลปรนนิบตั ินางอาบน้ าต่างก็กระทาด้วย
ความระมัดระวัง
พอเลือดบนใบหน้าถูกชะล้างออกไปจนหมดสิ้ นแล้ว ทุกคนต่างก็
ต้องสู ดลมหายใจเข้าไปจนเย็นวาบ
พวกนางเคยได้ยนิ มาว่า องค์หญิงจากทะเลตะวันตกผูน้ ้ ีงดงามอย่าง
ยิง่ ถือเป็ นโฉมงามระดับต้นๆของเผ่ามังกรทั้งสี่ ทะเล
แต่คิดไม่ถึงว่า …..จะงดงามจนถึงเพียงนี้?
เดี๋ยวนี้คุณสมบัติดา้ นความงามของสตรี เผ่ามังกรทั้งสี่ ทะเลถึงกับมี
ข้อกาหนดเข้มงวดเพียงใดกันแล้ว?
รู ปโฉมของผูท้ ี่อยูต่ รงหน้า เป็ นเพียงแค่แนวหน้าเท่านั้นหรื อ มิใช่วา่
เป็ นระดับสุ ดยอด?
เช่นนั้นพวกนางก็คิดไม่ออกแล้วว่า สตรี ที่ยงั จะงดงามไปกว่าคนผูน้ ้ ี
จะมีรูปโฉมเลิศเลอถึงเพียงใด!
เพราะแค่…..รู ปโฉมของแม่นางผูน้ ้ ี เมื่อเปรี ยบเทียบกับองค์หญิงเยีย่
อิง ก็ตอ้ งนับว่าไม่อ่อนด้อย ซ้ ายังออกจะเหนือล้ ากว่าด้วยซ้ า
หลายปี มานี้ เหล่าอนุทุกนางล้วนเป็ นโฉมสะคราญดุจบุปผาและ
จันทราด้วยกันทั้งนั้น ไม่เคยมีผใู ้ ดที่น่าเกลียดมาก่อนเลย
ดังนั้นเหล่านางกานัลจึงยิง่ ปรนนิบตั ิต๋ ูกซู ิงหลันด้วยความขยัน
ขันแข็งยิง่ กว่าเดิม
พวกนางช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้อย่างละเอียดลออ แม้แต่ซอกเล็บก็ยงั
จัดการจนสะอาดสะอ้าน
กลิ่นเลือดบนร่ างของแม่นางผูน้ ้ ีเข้นข้นมาก ยังดีที่พวกนางมิได้มีคน
เดียว
จนกระทัง่ คราบเลือดบนร่ างของตู๋กซู ิงหลันถูกขจัดไปจนหมดแล้ว
พวกนางถึงได้หยุดมือ
จากนั้นก็ยกนางขึ้นมาจากน้ า ให้นางสวมใส่ ชุดนอนสี ดาที่มีลวดลาย
งดงาม
ชุดนอนนี้มีเนื้อผ้าแวววาว ขับผิวให้ดูขาวนวลละเอียดเนียน
ก่อนหน้านี้ พวกนางรู ้สึกว่าประโยชน์ของเสื้ อผ้าชุดนี้มีไว้เพื่อ
ส่ งเสริ มความงามของเหล่าอนุ
แต่ตอนนี้พอสวมชุดลงไปบนร่ างของตู๋กซู ิงหลัน พวกนางถึงได้
เข้าใจว่า….ผูท้ ี่งดงามล้ าเลิศเช่นนี้ แม้แต่เสื้ อผ้าที่เป็ นประกายงดงาม
ก็ยงั ถูกนางข่มจนดูหมองลงไป
แวบแรกพอมองไป สิ่ งที่เข้าสู่ สายตาก็ยงั คงเป็ นนางเท่านั้น มิใช้
เสื้ อผ้าอาภรณ์
เหล่านางกานัลทั้งหลายต่างก็พากันอ้ าอึ้งไป
“พวกเจ้าว่า องค์หญิงทะเลตะวันตกผูน้ ้ ี…จะเป็ นที่โปรดปรานของ
องค์ไท่จื่อหรื อไม่?”
มีคนตอบคาถามขึ้นมาว่า
“ต่อให้ไม่อาจคลอดทารกศักดิ์สิทธิ์ได้ เพียงแค่รูปโฉมนี้ ไท่จื่อก็คง
จะทรงโปรดปรานมากแล้วกระมัง?”
“จริ งด้วย พวกเรารับใช้ไท่จื่อมาเนิ่นนาน ไม่เคยเห็นใครจะงดงาม
เช่นนางมาก่อนเลย”
ต่างก็กระซิบกระซาบต่อกัน กระทัง่ เห็นสตรี ที่เป็ นหัวหน้านางกานัล
นาผงไข่มุกเข้ามา
“พวกเจ้าอย่าพึ่งรี บร้อนดีใจ”
หัวหน้านางกานัลเอ่นขึ้นมา “ฟังมาว่าก่อนหน้านี้องค์หญิงมังกร
ตะวันตก มีเหล่ามังกรมากมายเฝ้าติดตามอยูไ่ ม่ขาด อายุกพ็ นั กว่าปี
แล้ว …..ยากที่จะรับประกันได้วา่ นางไม่เคยมีความสัมพันธ์กบั บุรุษ
ใดมาก่อน”
“หากว่านางมิได้มีร่างกายที่บริ สุทธิ์ผดุ ผ่อง เช่นนั้นก็คงจะถูกโยนลง
ไปในหุบเหวไร้กน้ ก็ได้”
ขณะที่นางกานัลผูน้ ้ นั พูด นางกานัลอีกสองคนก็ช่วยกันยกแขน
ของตู๋กซู ิงหลันขึ้นมา เผยผิวบนเรี ยวแขนขาวนวลละเอียด
ทั้งหมดต่างก็กลั้นลมหายใจเข้าไป มองดูหวั หน้านางกานัลใช้ไม้สี
ทองแตะแต้มผงไข่มุก
จากนั้นก็ประทับผงไข่มุกลงไปบนข้อมือของนาง
นี่เป็ นวิธีที่เผ่ามังกรทมิฬของพวกนางใช้พิสูจน์ความบริ สุทธ์ของ
ร่ างกาย
หากว่ายังเป็ นพรหมจรรย์ ผงไข่มุกก็จะติดอยูบ่ นนั้นไม่หลุดออก
หากว่านางเคยมีความสัมพันธ์ฉนั สามีภรรยากับบุรุษใดมาก่อน
จนสู ญเสี ยพรหมจรรย์ไปแล้ว เช่นนั้นมิวา่ ทาอย่างไรผงไข่มุกก็จะ
ไม่ติด
เพื่อเป็ นการรับประกันว่าทารกที่เกิดมาเป็ นสายเลือดที่บริ สุทธิ์ เหล่า
อนุทุกนางของไท่จื่อจะต้องเป็ นสตรี พรหมจรรย์เท่านั้น
องค์หญิงจากทะเลตะวันตกผูน้ ้ ี…..ก็ไม่อาจนอกเหนือไปได้เช่นกัน
หัวหน้านางกานัลกดลงไปอยูเ่ ป็ นนาน จึงค่อยๆคลายมือออกช้าๆ
พอเห็นบนข้อมือของตู๋กซู ิงหลันมีแต้มสี แดงเข้มเพิ่มขึ้นมา ทั้งหมด
ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“แม่นางน้อย ขอเพียงเจ้าสามารถคลอดทารกศักดิ์สิทธิ์ออกมา ก็จะ
กลายเป็ นผูม้ ีบุญญาบารมีสูงส่ งแล้ว” หัวหน้านางกานัลส่ งยิม้ ให้
ขณะที่พดู กับตู๋กซู ิงหลันที่ยงั คงสลบไสลอยู่
ถึงร่ างกายของตู๋กูซิงหลันยังคงสลบไสลอยู่ แต่ที่จริ งนางรู ้สึกตัวบ้าง
แล้ว
ที่คนอื่นๆพูดกันนั้นนางล้วนได้ยนิ อย่างชัดเจน แต่เพราะว่าถูกพิษ
ทั้งยังถูกแมงกระพรุ นตัวนั้นโยนทิ้งออกมา กระแทกจนศีรษะแตก
นางจึงยังต้องการเวลาพักฟื้ นอีกช่วงหนึ่ง
ขณะที่ถูกเหล่านางกานัลจับอาบน้ า แล้วส่ งเข้าไปในห้องบรรทม
ของไท่จื่อ นางก็รู้สึกตัวอยูต่ ลอดเวลา
เยีย่ เฉินคุน้ เคยกับภาพที่มีสตรี ถูกแบกมาส่ งอยูแ่ ล้วเขาจึงมิได้เหลือบ
แลแม้แต่นอ้ ย
กระทัง่ เมื่อสาวน้อยผูน้ ้ นั ถูกวางลงบนเตียง เผยให้เห็นดวงหน้าที่
งดงามจนหน้าตื่นตะลึง
แววตาของเขา จึงเปลี่ยนไป…….
………………………………….
ไรท์: หลันๆของแม่จะถูกปอกแล้ว!!! กองหนุนอยูไ่ หน? หรื อมีแต่
กองเชียร์? (ปอกเลยๆๆ)
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 423 เยีย่ เฉิน
ปลายลิ้นยังมีรสเลือดของนางอยู่ ในใจจดจาความหวานนั้นได้
ดวงหน้าที่ก่อนนี้เปรอะเปื้ อนไปด้วยเลือด จนไม่อาจมองเห็นรู ป
โฉมได้อย่างชัดเจน ตอนนี้พอได้เห็นอีกครั้ง แม้แต่เยีย่ เฉิ นยังต้อง
หยุดมองอยูเ่ นิ่นนาน
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเห็นองค์หญิงทะเลตะวันตกอยูใ่ นสายตา จึงไม่
มีความสนใจเลยแม้แต่นอ้ ย
ที่เลือกนางก็เพียงเพราะฐานะของมังกรทองเท่านั้น
คิดไม่ถึงว่า อนุคนที่สองร้อยห้าสิ บ จะสามาสรถสร้างความตื่นเต้น
ยินดีให้กบั เขาได้ถึงเพียงนี้!
เขามองดูจุดสี แดงสดบนข้อมือที่ขาวสะอาดและละเอียดลออของ
นาง
ริ มฝี ปากบางค่อยมีรอยยิม้ ผุดขึ้นมา
บุตรของเขา จะต้องเกิดมามีรูปลักษณ์ที่ล้ าเลิศเท่านั้น ดังนั้นมารดา
ของบุตรต่อให้ไม่ได้เป็ นยอดหญิงที่งดงามล่มบ้านล่มเมือง ก็ตอ้ งมี
รู ปโฉมดัง่ บุปผางดงามดุจจันทรา
สาหรับโฉมสะคราญที่ล้ าเลิศตรงหน้านี้…..เขาย่อมพึงพอใจอย่าง
ที่สุด
เขาเอนร่ างลงไป สูดดมกลิ่นกายจากร่ างของนางเข้าไปในจมูกช้าๆ
กลิ่นดอกกุหลาบกลบกลิ่นดอกฮว๋ ายฮวาจางๆบนร่ างของนางไป แต่
ก็ปลุกเร้าผูค้ นได้ดงั่ เปลวไฟ
ฝ่ ามือที่ได้รูปสัมผัสลงไปบนองค์เอวของนาง ปลายนิ้วบัดผ่านไป
เบาๆ ค่อยคลายสายรัดบนเอวของนางออก
เผยให้เห็หน้าท้องแบนเรี ยบและขาวเกลี้ยงเกลา
เอวของนางบอบบาง ไม่มีเนื้อส่ วนเกินแม้แต่นอ้ ย แค่ฝ่ามือเดียวก็สา
มารกอบกุมไปได้เกินครึ่ งแล้ว
สตรี ผนู ้ ้ ีงามล้ าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
เยีย่ เฉินก้มลงมอง เขาผ่านอิสตรี มามากมาย …แต่ละคนนับว่าเป็ น
ชั้นยอด แต่เมื่อเทียบกับนางแล้ว ก็ตอ้ งถือว่าอ่อนด้อยไปหมด
สตรี ผนู ้ ้ ี…..เป็ นของชั้นยอด
เขาขยับมือ ปลายนิ้วสัมผัสลงบนผิวพรรณของนาง
ทันใดนั้น ดวงตาที่ปิดอยูก่ ล็ ืมตาขึ้นมาในทันที สายตาที่ลึกล้ าคู่หนึ่ง
เปล่งประกายขึ้นมา
ชัว่ พริ บตาที่สบตากันนั้น ทาให้มือของเยีย่ เฉิ นหยุดชะงักลง
เขาเงยหน้าขึ้น เห็นประกายตาของนางเปี่ ยมไปด้วยแววสังหาร!
หน้าผากของตู๋กซู ิงหลันยังพันด้วยผ้าพันแผลอยู่ แต่แววตาที่พงุ่
ออกมา แหลมคมอย่างยิง่
“ตื่นแล้ว?” มือของเยีย่ เฉินถอยออกไปเพียงครึ่ งนิ้ว
เขาจดจ้องมองดูต๋ ูกซู ิงหลัน ก็เข้าใจไปว่าสายตาของนางนั้นคือความ
หวาดกลัว
นางพึ่งจะมาถึง ไม่รู้จกั ขนบธรรมเนียมในตาหนักไท่จื่อ ถึงได้จด
จ้องเขาเช่นนี้ เขาจะปล่อยให้นางได้บงั อาจสักครั้ง แต่วา่ เพียงแค่ครั้ง
เดียวเท่านั้น
นางเป็ นอนุ ไม่ได้ต่างอะไรกับคนรับใช้ คนรับใช้ยอ่ มไม่มีสิทธิจะ
มาจดจ้องเขาเช่นนี้
ตู๋กูซิงหลันมองดูบุรุษตรงหน้า
ช่างคล้ายคลึงกับเยีย่ อิงมาก!
เส้นผมสี น้ าเงินเข้มอมดา นัยตาก็เป็ นสี น้ าเงินเข้ม แตกต่างกันเพียง
รู ปร่ างของเขามีขอ้ มุมกว่าอย่างใบหน้าของบุรุษ จมูกโด่งเป็ นสัน
ดวงตาลึก คล้ายจะมีสดั ส่ วนของเลือดผสมอยูบ่ า้ ง
ขนตาของเขายาวและหนาเป็ นแพ กึ่งกลางหน้าผากมีรูปมังกร
ที่ดูท้ งั สู งส่ งและโหดเ**้้ยมตัวหนึ่ง!
ตั้งแต่ที่ต๋ ูกซู ิงหลันเริ่ มค่อยๆรู ้สึกตัว ก็พยายามจะขยับควบคุม
ร่ างกาย เพราะที่จริ งแล้วร่ างกายของนางในตอนนี้แข็งแกร่ งกว่าเดิม
มาก
ที่ศีรษะแตกนั้นเป็ นเรื่ องเล็ก เพียงแต่วา่ พิษของแมงกระพรุ นนั้น
ยังคงอยูใ่ นร่ าง ขับออกไปไม่หมด
ด้วยระดับของนางในตอนนี้ ขอเพียงมิใช่พิษที่ถึงกับพิฆาตชีวิต
ในทันที ก็สามารถจะค่อยๆขับออกไปด้วยกาลังของตนเองได้อยู่
พิษยังไม่ทนั หมด บุรุษผูน้ ้ ีก็ถือเอาว่าตนเองเป็ นอนุของเขา คิดจะจับ
นางทานัน่ ทานี้เสี ยแล้ว
นางได้แต่ฝืนประคองร่ างกายเอาไว้ก่อน อย่างไรไม่อาจปล่อยให้
ผูอ้ ื่นกลืนลงไปเพราะพลาดพลั้งมิใช่หรื อ?
ตู๋กซู ิงหลันกวาดตามองโดยรอบครั้งหนึ่ง ตาหนักบรรทมสร้างด้วย
ชั้นหินทั้งหมด ไม่มีหน้าต่าง มีแต่ประตูที่ปิดเอาไว้ครึ่ งหนึ่ง ด้าน
นอกมีแต่ความมืดมิดจนมองไม่เห็นอะไรชัดเจน
สุ ดท้ายนางค่อยกวาดตากลับมาที่ร่างของเยีย่ เฉิ น
“ไท่จื่อทรงคิดจะลงมือกับคนที่สิ้นสติ ไม่รู้สึกว่าน่าเบื่อหรอกหรื อ?”
ริ มฝี ปากสี แดงของนางเชิดน้อยๆ หางตาแตะแต้มด้วยละอองสี แดง
บางๆ เป็ นเสน่ห์ที่บรรยายไม่ถูก
นางเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่นอ้ ย
เยีย่ เฉินจะอย่างไรก็ผา่ นสตรี มามากแล้ว เพียงครู่ เดียวก็เข้าใจ
ความหมาย
เขารู ้สึกประหลาดใจอย่างมาก สตรี ที่ไม่เคยผ่านเรื่ องเช่นนี้มาก่อน
พอเอ่ยปากขึ้นก็พดู เรื่ องเช่นนี้ข้ ึนมา
เขาขยับเขาไปใกล้ข้ ึนอีกทั้งตัว ปลายนิ้วเชยคางของนางขึ้นมา
จากนั้นก็จบั จ้องไปยังดวงตาดอกท้อของนาง ยิง่ ดูกย็ งิ่ ใกล้ข้ ึน
กว่าเดิม ค่อยกระซิบลงไปที่ขา้ งหูของนางว่า “เจ้าตื่นแล้ว ก็ไม่น่า
เบื่อแล้ว”
แน่นอน ทาเรื่ องอย่างว่ากับคนที่หมดสติยอ่ มไม่สนุกสนานอันใด
ดวงตาของนางคล้ายคลึงกับดวงตาของเยีย่ อิงมาก
ก่อนหน้านี้ตอนที่ปิดตาอยูจ่ ึงยังไม่รู้ ตอนนี้พอนางลืมตา จึงยิง่ เห็น
ได้อย่างชัดเจน
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าใต้หล้านี้จะมีนยั ตาที่เหมือนกันได้ถึงขนาดนี้
น่าเสี ยดาย……ที่เขาไม่อาจมีลูกกับเสี่ ยวอิงได้
บางทีนี่อาจจะเป็ นการชดเชยให้กบั เขาก็เป็ นได้
ถึงได้พบกับคนที่คล้ายกับเสี่ ยวอิง……
ตู๋กซู ิงหลันฝื นความรู ้สึกรังเกียจเอาไว้ในใจ นางพยายามรวบรวม
พลัง ขับพิษที่อยูใ่ นร่ างกายออกไป
สานักหุบเขาภูตเร้นลับของนางมีวิชาพลังจิต สามารถดึงดูดพลังใน
ธรรมชาติเข้าสู่ ร่างกายกลายเป็ นพลังจิตของตนเองได้
ตู๋กซู ิงหลันเองก็เป็ นของแปลก นอกจากฝึ กฝนพลังจิตแล้ว นางยัง
ฝึ กฝนพลังวิญญาณ
นางสามารถใช้พลังจิตและพลังวิญญาณได้พร้อมๆกัน พลังทั้งสอง
ด้านถูกนางควบรวมเข้าด้วยกัน เมื่อเป็ นเช่นนี้จึงส่ งเสริ มนางให้
กลายเป็ นสุ ดยอดปรมาจารย์ไสยเวทย์ของโลกปัจจุบนั
เมื่อมาอยูใ่ นโลกนี้ ผ่านมาก็สองปี แล้ว นางฟื้ นฟูพลังขึ้นมาได้สามสี่
ส่ วนอย่างที่ได้เห็นไป
เมื่อถูกแมงกระพรุ นจับมายังรังของเผ่ามังกรทมิฬ ถึงแม้จะรู ้วา่ ตนมี
พลังอยูพ่ อควร แต่นางก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างวูว่ าม
บุรุษตรงหน้ามีท้ งั พลังมังกรสู่ งส่ งและความโหดเ**้้ยม ย่อมต้อง
แข็งแกร่ งกว่าเยีย่ อิงมากมาย
ขณะที่ต๋ ูกูซิงหลันยังไม่อาจขับพิษได้หมด นางย่อมไม่ก่อความ
วุน่ วายกว่าเดิม
ในเมื่อเฉพาะหน้านี้ยงั ไม่อาจใช้กาลัง เช่นนั้นก็ตอ้ งใช้ปัญญา
เยีย่ เฉินพูดแล้ว ก็คว้าหัวไหล่ของนาง กระตุกเบาๆก็ดึงแขนเสื้ อชุด
นอนของนางลงมา
เผยผิวพรรณที่ละเอียดราวเนื้อหยกบนหัวไหล่ของนาง ฝ่ ามือที่
ใหญ่โตของเขายิง่ คว้าลงไป
ขณะที่มือของเขาคว้าลงมา ปลายนิ้วของตู๋กซู ิงหลันก็วาดปั ดออกไป
เคลื่อนไหวอยูบ่ นทรวงอกของเขา
นางหัวเราะน้อยๆ “ไท่จื่อเพคะ ข้าเคยได้ยนิ มาว่า หากสตรี มีอารมณ์
ร่ วมจึงจะทาให้ต้ งั ครรภ์บุตรที่แข็งแรง เช่นนี้ไยพวกเราจึงไม่ทา
อะไรที่น่าสนุกสนานกันสักหน่อย เมื่อต่างคนต่างก็เกิดความสุ ขสม
จะไม่ยงิ่ ดีกว่าหรอกหรื อ”
ว่าแล้ว ใบหน้าของตู๋กซู ิงหลันเผยความตื่นเต้นเขินอายออกมา
ก่อนหน้านี้ได้ยนิ พวกนางกานัลเอ่ยขึ้นมาแล้วบ้างบางส่ วน องค์ไท่จื่
อแห่งเผ่ามังกรทมิฬผูน้ ้ ี รับอนุมาตั้งมากมาย ก็เพื่อต้องการให้กาเนิด
‘ทารกศักดิ์สิทธิ์’
เขาย่อมต้องให้ความสาคัญกับ ‘ทารกศักดิ์สิทธิ์’อย่างแน่นนอน
ถึงแม้ต๋ ูกซู ิงหลันจะไม่รู้วา่ ‘ทารกศักดิ์สิทธิ์’นี้จะมีประโยชน์อย่างไร
แต่กร็ ู ้วา่ หากนามาเป็ นข้ออ้าง จะต้องได้ผลอย่างอย่างแน่นอน
เยีย่ เฉินยังคงไม่คลายมือจากหัวไหล่ของนาง หัวคิ้วของเขาเลิกขึ้นมา
คล้ายกับว่าไม่เคยพบเจอกับสตรี กล้าเสนอข้อแม้กบั เขามาก่อน
มือของเขาเพิ่มแรงอีกเล็กน้อย จากนั้นค่อยคลายออกช้าๆ ดวงตาก็
เพิ่มประกายสนใจ “เจ้าลองพูดมาซิ เจ้าจะเล่นสนุกสนานอย่างไร?”
ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า เขาคาดหวังว่าสตรี ผนู ้ ้ ีจะสามารถให้กาเนิด
‘ทารกศักดิ์สิทธิ์’ได้
ถึงแม้วา่ สิ่ งที่นางกาลังทาในตอนนี้อาจทาให้นางสมควรตาย เขาก็จะ
ปล่อยตามใจนาง
ไม่เพียงยอมทาตามนาง ทั้งยังเกิดความสนอกสนใจขึ้นมา
ไม่เคยมีสตรี ใดเป็ นเช่นนางมาก่อน…..ทั้งขวัญกล้าและมีเสน่ห์
เฉพาะตัว!
ตู๋กซู ิงหลันวาดมือเป็ นวงอยูบ่ นทรวงอกของเขา แววตาเพิ่มรอยยิม้
นัยตาก็เพิ่มพูนความเย็นยะเยือกที่ดูลึกล้ ากว่าเดิม
นางเอ่ยปากด้วยน้ าเสี ยงที่ฟังดูยวั่ เย้าจนลึกลับอยูบ่ า้ ง “แน่นอนว่า
……ต้องเล่นให้หนักอยูแ่ ล้ว”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 424 อนุ หืม?
“แน่นอนว่า ……ต้องเล่นให้หนักอยูแ่ ล้ว” ว่าแล้วสายตาของนางก็
ทอประกายโหดร้ายขึ้นมา
ในชัว่ แวบนั้น เยีย่ เฉินก็รู้สึกถึงไอสังหารที่พวยพุง่ ขึ้นมาจากร่ างของ
นาง และในชัว่ พริ บตานั้นทรวงอกของเขาก็เย็นวาบขึ้นมาในทันที
เห็นกริ ชเล่มหนึ่งพุง่ ออกมาจากในแขนเสื้ อของนาง ปั กเข้าใส่ ทรวง
อกของเขาอย่างไม่มีลงั เล
ตัวกริ ชที่แฝงพลังจิตจากร่ างที่เปี่ ยมไปด้วยไอสังหารของตู๋กซู ิงหลัน
ปักลงไปในผิวเนื้อของเขา…..
ทรวงอกของเยีย่ เฉิ นรับมีดนัน่ เข้าไปเต็ม แต่วา่ ร่ างกายของเขา
แข็งแกร่ งอย่างยิง่ มีดนี้ของตู๋กซู ิงหลันจึงเจาะได้เพียงผิวชั้นหนึ่งของ
เขาเท่านั้น
เลือดสดไหลออกจากทรวงอก เยีย่ เฉินพลิกมือเป็ นคว้าจับมือของ
นางเอาไว้
แต่ต๋ ูกซู ิงหลันใช้มือข้างหนึ่งยันเอาไว้แต่แรก คนลอยละลิ่วยืนห่าง
ออกไปอีกหลายเมตร
ดวงตาดอกท้อคู่น้ นั มองดูเยีย่ เฉินด้วยสายตาเย็นชา “ไท่จื่อ ที่บา้ น
ของพวกเรา นี่เรี ยกว่า ความสนุกสนานอย่างหนึ่ง ท่านไม่รู้จกั สนุก
บ้างหรื ออย่างไร?”
เยีย่ เฉินสี หน้ามืดครึ้ มขึ้นมา เหลือบตาดูปากแผลแวบหนึ่ง เขายกมือ
ขึ้นมา ในกลางฝ่ ามือมีพลังขุมหนึ่ง เพียงชัว่ แวบเดียวก็ทาให้ปาก
แผลปิ ดสนิทดังเดิม
ไม่เหลือร่ องรอยเลยแม้แต่นอ้ ย
จากนั้นก็จอ้ งไปยังสตรี ที่ขวัญกล้าอย่างบังอาจผูน้ ้ นั “งั้นให้ขา้ แทง
เจ้าดาบหนึ่ง ดูสิวา่ เจ้ายังจะสนุกอยูอ่ ีกหรื อไม่?”
ทันทีที่สิ้นเสี ยง เขาก็สะกิดร่ างพุง่ มาถึงเบื้องหน้าตู๋กซู ิงหลันในทันที
มือข้างหนึ่งพุง่ เข้าหาลาคอของนาง
ปลายนิ้วของเขามีกรงเล็บยาวงอกเงยขึ้นมา ทันทีที่กรงเล็บพุง่ เข้ามา
เส้นผมของตู๋กซู ิงหลันก็ถูกตัดขาดลงไปหลายเส้น
ตู๋กซู ิงหลันไม่ต่อสูก้ บั เขาตรงๆ เดิมนางคิดว่าจะทาให้เขาบาดเจ็บ
ค่อยหาทางหลบหนี อาณาเขตของเผ่ามังกรทมิฬทั้งกว้างใหญ่และ
มืดมิด ย่อมต้องมีสกั ที่ที่ให้นางสามารถหลบซ่อนตัวได้
พิษในร่ างของนางยังไม่หมดสิ้ นไป หากว่าสามารถขับพิษได้หมด
สิ้ น บางทีนางอาจจะทาให้เขาบาดเจ็บได้จริ งๆ
ไท่จื่อแห่งเผ่ามังกรทมิฬผูน้ ้ ียงั แข็งแกร่ งกว่าที่นางคาดคิดเอาไว้มาก
นัก
สี หน้าของนางเย็นชา สะกิดปลายเท้าเพียงเล็กน้อย ก็ถอยหลังไปทาง
ประตูบานใหญ่อีกหลายเมตร
เยีย่ เฉินไหนเลยจะยอมปล่อยนางไป?
เขาอยูใ่ นเผ่ามังกรมานาน กลับไม่เคยเจอะเจอสตรี เช่นนี้มาก่อน!
ถูกเขาระบุตวั ให้มาเป็ นอนุ แล้วยังจะคิดฆ่าเขา?
ตอนนี้เผ่ามังกรในสี่ ทะเลกล้าเหิมเกริ มถึงเพียงนี้เลยหรื อ?
หากจะฆ่าสตรี เช่นนี้ ก็ไม่จาเป็ นที่เขาจะต้องใช้อาวุธด้วยซ้ า แค่กรง
เล็บก็สามารถดับชีวิตนางให้สิ้นไปได้แล้ว!
นัยตาสี น้ าเงินเข้มของเขาเปล่งประกายสังหารขึ้นมา ตู๋กูซิงหลัน
เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ ว แต่วา่ เขายังเหนือกว่านางก้าวหนึ่ง
กรงเล็บนี้พอพุง่ ออกไป ก็มุ่งเป้าไปที่ช่องท้องของนาง!
สตรี ที่บงั อาจถึงเพียงนี้ หากฆ่าตายในครั้งเดียวย่อมไม่มีความหมาย
อะไร
ต้องเก็บเอาไว้ค่อยๆเล่นด้วย จึงจะสนุกสนานมิใช่หรื อ?
พลังอันแข็งแกร่ งที่เปี่ ยมไปด้วยแรงกดดันครอบคลุมออกไป ราวกับ
จะทาให้คนสิ้ นไร้หนทางหลบหนี
ดาบยักษ์ของตู๋กซู ิงหลันไม่รู้วา่ หล่นไปอยูท่ ี่ใดแล้ว ตอนนี้จึงได้แต่
อาศัยแรงกายเข้าต่อสู ้
นางถอยมาถึงประตูแล้ว ด้านนอกมีแต่ความมืดและเงียบเชียบ ราว
กับปากของสัตว์อสู ร ที่มองไม่เห็น
นางเหลือบตาดูอย่างไม่ประมาท มือข้างหนึ่งก็ยงั ขับพิษที่คงั่ ค้างอยู่
เล็กน้อยออกไป มืออีกข้างหนึ่งก็หยิบยันต์ข้ ึนมา
เพียงพริ บตาเดียวก็ปะทะเข้ากับกรงเล็บของเยีย่ เฉิ น
ทันทีที่แผ่นยันต์กระทบถูกกรงเล็บของเยีย่ เฉิ นก็เกิดเสี ยงระเบิด
กึกก้อง
เสื้ อผ้าและเส้นผมของตู๋กซู ิงหลันฉีกขาดจนปลิวขึ้นมา กระดูกใน
ร่ างของนางส่ งเสี ยงเลื่อนลัน่ คนละลิ่วถอยไปด้านหลังอีกหลายต่อ
หลายก้าว
บุรุษผูน้ ้ ีแข็งแกร่ งจนน่าตระหนกแล้ว!
นางกัดฟันเอาไว้ ยันต์ในมือถูกเยีย่ เฉิ นฉีกจนขาดวิ่น
เขาหรี่ ตาลง มองดูสตรี ที่ฝืนต้านทานตรงหน้า
ในเผ่ามังกรยังมีผทู ้ ี่สามารถใช้ยนั ต์ได้ดว้ ยหรื อ?
องค์หญิงจากทะเลตะวันตกผูน้ ้ ียงิ่ ทีจะยิง่ สร้างความประหลาดใจเกิน
กว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้……..
ยันต์แผ่นนั้นถึงกับสามารถต้านทานพลังของเขาได้ชวั่ แวบหนึ่ง
เขาหรี่ ตาลง วาดกรงเล็บออกไปอีกครั้ง
ครั้งนี้ใช้กาลังถึงสิ บส่ วน
เยีย่ เฉินกระทาเรื่ องใดล้วนไม่ชอบความยืดเยื้อ หากจบเรื่ องได้ใน
ครั้งเดียว ย่อมต้องไม่ปล่อยให้มีฝ่ามือที่สองอีกเด็ดขาด
ขณะที่ต๋ ูกูซิงหลันกาลังหยิบยันต์แผ่นที่สองขึ้นมา กรงเล็บนั้นก็พงุ่
มาถึงแล้ว แม้แต่เสื อหิมะที่สลักจากก้อนหิ นที่อยูน่ อกประตูคู่น้ นั ก็ยงั
แตกสลายเป็ นผุยผง
ตู๋กซู ิงหลันรับฝ่ ามือนี้เข้าไปอย่างเต็มที่ คนแทบจะลอยละลิ่วออกไป
ช่วงท้องเจ็บร้าว นางถอยไปด้านหลังอีกหลายก้าว ทันใดนั้นที่
ด้านหลังก็ปรากฏมือข้างหนึ่ง เข้ามาประคองนางเอาไว้
ทันใดนั้นเอง ไอหยินที่หนักแน่นและแข็งแกร่ งขุมหนึ่งก็แผ่ออกมา
จากด้านหลัง ไหลผ่านร่ างกายและ พุง่ เข้าไปในแผ่นยันต์ของนาง
“ปั้ ง!” ทันทีที่ได้ยนิ เสี ยง ยันต์แผ่นนั้นก็บินออกไป พุง่ เข้าสู่ ร่างของ
เยีย่ เฉิน และระเบิดเป็ นประกายแสงสว่างและเย็นวาบอย่างรุ นแรง
ตาหนักของไท่จื่อทั้งหลังสัน่ สะเทือน เหล่านางกานัลต่างก็ยนื ไม่อยู่
รู ้แต่วา่ มีสิ่งที่รุนแรงระเบิดออกมา แทบจะกวาดล้างผูค้ นออกไปราว
ฝุ่ นผง
“เกิดเรื่ องอันใดกัน?”
ผูค้ นทั้งหมดต่างตกตะลึง รี บมองหาต้นเหตุอย่างเร่ งด่วน
คราวนี้ หัวไหล่ของเยีย่ เฉินถูกระเบิดจนเลือดไหลทะลัก
พลังที่เย็นยะเยือกสายนั้นยังฝังลึกลงไปในปากแผลอีกด้วย
เขาขมวดหัวคิว้ มองไปทางตู๋กซู ิงหลันที่ยนื อยูน่ อกประตู
ทันทีที่กวาดตามองออกไป ก็เห็นที่ดา้ นหลังของนางมีบุรุษชุดดา
ประกายทองยืนอยูผ่ หู ้ นึ่ง
ริ มฝี ปากของเขายังเป็ นสี ม่วงจางๆ ทัว่ ทั้งร่ างมีแต่ละอองหมอกสี ดา
กาจายออกมาอย่างเข้มข้น แทบจะทาให้ตาหนักของไท่จื่อจมอยูใ่ น
ความมืดมิด
เยีย่ เฉินไม่เคยได้เจอบุรุษผูน้ ้ ีมาก่อน
และก็ไม่เคยเห็นบุรุษที่หล่อเหลางดงามถึงเพียงนี้
เขาใช้มือข้างหนึ่งประคบปากแผลเอาไว้ อาศัยพลังจิตรักษาบาดแผล
เพียงแต่ระดับความเร็ วในการรักษาช้ากว่าตอนที่โดนกรี ดบนทรวง
อกอย่างมาก
“ผูใ้ ดกัน?” เขามองดูบุรุษผูน้ ้ นั อย่างเย็นชา
พอเอ่ยปาก ก็เห็นอีกฝ่ ายโอบกอดอนุคนที่สองร้อยห้าสิ บเอาไว้
ดวงตาหงส์คู่น้ นั กวาดมองมา
แฝงด้วยไอสังหารที่เย็นยะเยือก ที่พร้อมจะทาลายเขาให้กลายเป็ น
ผุยผง!
เยีย่ เฉินเกิดความสนใจขึ้นมาแล้ว……
บุรุษผูน้ ้ ีกาลังสะท้อนความโกรธเกรี้ ยวในร่ างออกมา พลังของเขาก็
แข็งแกร่ งอย่างยิง่
ในมือของเขาปรากฏแสงสี ดากลุ่มหนึ่งขึ้นมา จากนั้นท่ามกลายแสง
สี ดาก็ปรากฏดาบยาวเล่มหนึ่ง
เยีย่ เฉินขยับร่ างเพียงวูบเดียวก็พงุ่ เข้ามาถึงด้านหน้าของพวกเขา
กระบี่เล่มนั้นชี้ออกไป ขณะเอ่ยด้วยน้ าเสี ยงเย็นชาว่า “แม้แต่อนุตวั
น้อยของข้าก็ยงั กล้ามายุง่ เกี่ยว เกรงว่าเจ้าคงจะมีชีวิตอยูอ่ ย่างสบาย
เกินไปละมั้ง?”
จีเฉวียนโอบกอดตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ ไม่ได้หลบหลีกแม้แต่นอ้ ย พอ
ดาบสี ดาลายทองปรากฏขึ้นในมือ ก็พลิกมือต้านทานกระบี่ของเยีย่
เฉินเอาไว้
“อนุตวั น้อย หืม?”
น้ าเสี ยงของเขาเหมือนจะถูกย้อมด้วยเลือด ทั้งอหังการและโหดเ**
้้ยม
เพราะก่อนหน้านี้โดนพิษ แถมยังถูกโยนทิ้งลงไปในความมืดมิด
แห่งหนึ่ง
ขณะที่ยงั ไม่ทนั หล่นลงไป ก็แขวนอยูบ่ นต้นไม้ตน้ หนึ่ง เขาอาศัย
ด้ายผูกชะตาตามหาตู๋กซู ิงหลันจนเจอ ก็พบว่านางกาลังตกอยูใ่ น
อันตรายพอดี
ที่แท้กถ็ ูกจับตัวมาเป็ นอนุ?
พอมองเห็นว่าบุรุษผูน้ ้ นั เปลือยร่ างท่อนบนอยู่ หมอกดาบนร่ างของจี
เฉวียนก็ยงิ่ เข้มข้นยิง่ ขึ้นไปอีก
แม้แต่ดาบในมือก็ยงั ถูกย้อมด้วยหมอกสี ดา พอตวัดดาบนั้นออกไป
ก็แทบจะผ่าเยีย่ เฉิ นออกเป็ นสองส่ วน!
กระบวนท่าทั้งร้ายกาจและโหดเ**้้ยม!
ตู๋กูซิงหลันถูกเขาโอบเอาไว้ในอกด้วยมือข้างเดียวอย่างไม่ทนั ได้มี
ปฏิกริ ยาใดๆ
ฝ่ ามือที่มีไอหยินที่ลึกล้ าและแข็งแกร่ งเมื่อครู่ เป็ นพลังของฮ่องเต้
สุ นขั …..
นางคิดไม่ถึงว่า เขาจะสามารถตามหาจนเจอด้วยเวลาสั้นๆเพียงเท่านี้
ดูจากท่าทางแล้ว คล้ายมิได้รับผลใดๆจากพิษแมงกระพรุ น
……………………………….
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 425 นางพบว่าจีเฉวียนนั้นมีปัญหา
“จะบอกว่าสมบัติล้ าค่าที่เราถนอมเอาไว้ในมือ ไปเป็ นอนุของเจ้า
หรื อ?” จีเฉวียนยังคงจับจ้องเยีย่ เฉิ นอยูเ่ ช่นนั้น ทัว่ ทั้งร่ างแผ่กระแส
ความยิง่ ใหญ่ของผูค้ รองใต้หล้าออกมา “เจ้ามันเป็ นตัวอะไร!”
ในเมื่อดาบแรกยังไม่อาจสับเยีย่ เฉินได้ เขาก็ส่งดาบที่สองออกไป
พลังที่รุนแรงนั้นทาให้แม้แต่เยีย่ เฉินยังต้องสะท้าน
เขาใช้พลังในการรักษาตัวไปมาก บาดแผลบนร่ างปิ ดเข้าหากันด้วย
ความเร็ วที่สามารถมองเห็นได้ดว้ ยตาเปล่า
แต่วา่ จีเฉวียนกลับสามารถทาให้เขาบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ วยิง่ กว่า!
เพียงไม่กี่ชวั่ พริ บตา ร่ างท่อนบนของเยีย่ เฉิ นก็เต็มไปด้วยบาดแผล
มากมาย เนื้อหนังปลิ้นออกมา เลือดไหลนอง
“อย่าได้สูร้ บยืดเยื้อ พวกเราไปกัน” ตู๋กซู ิงหลันเห็นจีเฉวียนที่ดวง
เนตรแดงก่า ก็รีบกระซิบลงไปที่ขา้ งหูของเขา
ที่นี่จะอย่างไรก็เป็ นรังหลักของเผ่ามังกรทมิฬ นอกจากองค์ไท่จื่อ
แล้ว ขุมกาลังอื่นๆพวกนางยังไม่รู้จกั อย่างชัดเจน จากว่าสู ้กนั ยาว
ยืดเยื้อนานไป จะทาให้เกิดเหตุพลิกผันได้
จีเฉวียนยังคงมีสีหน้าดุจภูเขาน้ าแข็งพันปี ที่ไม่มีวนั ละลาย ดวงตา
หงส์มีเส้นเลือดขึ้นราวกับถูกย้อมด้วยหมอกสี เลือดจางๆ
เขาจับมือข้างนั้นของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้อย่างแนบแน่น กล่าวช้าๆทีละ
คาว่า “เขารังแกเจ้า สมควรตาย”
ตอนที่ต๋ ูกูซิงหลันได้ยนิ คาว่า ‘รังแก’ สองคาจากปากเขาก็เข้าใจผิด
ไป
รอบด้านมีเสี ยงฝี เท้าดังขึ้นมาทัว่ ทุกทิศทาง นางรี บถกแขนเสื้ อขึ้นมา
ให้เขาดู “ก็แค่ลอ้ เล่นกันนิดหน่อย แต้มพรหมจรรย์น้ ี แดงราวกับจะ
เป็ นหยดเลือดอยูแ่ ล้ว แสดงว่าข้าไม่ได้เสี ยหายอะไรไม่ใช่หรื อ? เขา
ยังไม่ทนั ได้รังแกข้า ท่านคิดมากไปแล้ว”
สี พระพักตร์ของจีเฉวียนเปลี่ยนเป็ นประหลาดใจขึ้นมาในชัว่ พริ บตา
จากนั้นก็เปลี่ยนเป็ นสงบนิ่งลง ตรัสเสี ยงเย็นชาว่า “ที่เราพูดไป
หมายถึงที่เขาทุบตีเจ้า”
ตู๋กูซิงหลัน “…..”
ว่าแล้ว ดวงเนตรหงส์กเ็ ป็ นประกายขึ้นมา แม้แต่แววตาที่ฉายออกมา
ก็ยงั นุ่มนวลลงไปอีกหลายส่ วน
“ซิงซิง เจ้ารี บร้อนอธิบายให้เราฟัง แสดงว่าในใจห่วงใยกังวลในตัว
เราอยูช่ ดั ๆ จริ งไหม?”
“เวลาแบบนี้ ยังจะมาพูดเรื่ องรักๆใคร่ ๆอะไรกัน มันใช่ที่หรื อ?” ตู๋กู
ซิงหลันแทบจะคุกเข่าให้กบั เขาแล้ว
พึ่งจะฟื้ นขึ้นมาได้ไม่กี่ลมหายใจ นางก็ใช้ยนั ต์ไปสิ บกว่าใบแล้ว
ในบรรดายันต์เหล่านั้นยังมียนั ต์สีชาดที่ ยามคับขันสามารถช่วยชีวิต
ได้ดว้ ยใบหนึ่ง
“เรารู ้วา่ เจ้าจะต้องห่วงใยเราอย่างแน่นอน” เห็นนางไม่ปฏิเสธ ใน
พระทัยของจีเฉวียนก็ยงิ่ ปิ ติยนิ ดี
พระองค์ตรัสต่อไป “เรื่ องของฉางซุนอิง ข้าสามารถอธิบายให้ฟัง
ได้”
ตู๋กซู ิงหลัน “พี่ชาย ท่านช่วยลืมตาดูสถานการณ์หน่อยได้ไหม?”
ตอนนี้นางไม่มีอารมณณ์จะฟังคาอธิบายของเขาแม้แต่นอ้ ย
ยิง่ ไปกว่านั้น….ทาไมนางจะต้องไปฟังคาอธิบายของเขาด้วย?
ของที่ไม่เอาไว้ ต่อให้พยายามจะคืบคลานกลับมาอย่างไร นางก็ไม่
คิดจะเหลือบแลแม้แต่นอ้ ย
เยีย่ เฉินประเมินสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างชัดเจน นี่มนั ชัดเลยว่า
บุรุษผูน้ ้ ีคือคนที่ไล่ติดตามอนุตวั น้อยของเขามา
ส่ วนอนุของเขา ก็ไม่ได้ชอบอีกฝ่ ายเลยสักนิด
กระบี่ในมือของเขาวาดออกไปก็เห็นรอบด้านบังเกิดความ
เคลื่อนไหว
จากนั้นก็เป็ นมังกรขนาดยักษ์สีดาพุง่ ออกมาจากด้านบนของตาหนัก
ล้อมตัวกันเป็ นวงกลม จับจ้องลงมาที่พวกนางด้วยไอสังหารเป็ น
ตาเดียว
ตู๋กซู ิงหลันพบว่าจีเฉวียนนั้นคือตัวปั ญหา!
ใครอยูใ่ กล้เขา เป็ นต้องพบกับความโชคร้ายไม่จบไม่สิ้น!
ถูกแมงกระพรุ นยักษ์จบั ไปปล่อยพิษใส่ ที่จริ งก็เป็ นเรื่ องที่น่าละอาย
ที่สุดในชีวิตของนางแล้ว
พอเขาปรากฏตัวขึ้นมาก็เป็ นต้องลากเอาเคราะห์กรรมต่างๆมาด้วย
นางได้แต่เอามือนวดขมับ เพราะตอนนี้รู้สึกว่าความดันโลหิ ตใกล้จะ
ทะลุอยูแ่ ล้ว
ตอนนี้ มังกรสี ดาที่ตวั ใหญ่ที่สุดยอบตัวลงมาเบื้องหน้าเยีย่ เฉิ น
เยีย่ เฉินสะกิดร่ างพลิกตัวขึ้นไปบนศีรษะมังกร บาดแผลบนร่ างของ
เขาดีข้ ึนเจ็ดแปดส่ วนแล้ว เขายืนอยูบ่ นเศียรมังกรมองลงมาดูต๋ ูกูซิงห
ลันและจีเฉวียนที่ดา้ นล่าง
เอ่ยเบาๆอย่างเฉื่อยชาว่า “จับสตรี ผนู ้ ้ นั เอาไว้ แล้วค่อยฆ่าบุรุษนัน่ ”
คนอย่างเขา หากว่ามีคนกล้ามายื้อแย่งอะไร เขาก็จะยิง่ ไปช่วงชิงมา
ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว เขาจะร่ วมรักกับอนุคนที่สองร้อยห้าสิ บต่อ
หน้าต่อตาบุรุษผูน้ ้ ี
อนุนอ้ ยชอบเรื่ องสนุกสนาน
เช่นนั้นหากว่ามีสมั พันธ์รักกับนางต่อหน้าต่อตาบุรุษที่คลัง่ ไคล้นาง
ไยมิใช่เรื่ องที่ยงิ่ สนุกสนานใหญ่หรอกหรื อ?
เยีย่ เฉินยกยิม้ มุมปาก สี หน้ายิง่ ตื่นเต้นยินดี
เขาไม่เคยรู ้สึกครุ่ นคิดถึงสตรี ใดเช่นนี้มาก่อน ปรารถนาจะต้องได้มา
ให้ได้
เหล่ามังกรดาต่างรับคาสัง่ พุง่ เข้าหาตู๋กซู ิงหลันและจีเฉวียนในทันที
มังกรดาหลายสิ บตัวพุง่ เข้ามาอย่างพร้อมเรี ยง กลายเป็ นภาพที่
เหมือนกับเป็ นวาระสุ ดท้ายของโลกกาลังมาถึงก็ไม่ปาน
เมื่อมังกรนับสิ บตัวพุง่ เข้ามาใกล้กแ็ ผ่แรงกดดันมหาศาลออกมา
ศีรษะที่ใหญ่โตเคลื่อนไหวอยูเ่ บื้องหน้า แต่ละตัวล้วนสามารถสร้าง
แรงกดดันบีบคั้นจนหายใจไม่ออก
แม้แต่แผ่นยันต์ที่อยูใ่ นมือก็ยงั สัน่ สะท้านน้อยๆ
ในตอนนั้นเอง ด้านหลังของจีเฉวียนก็ปรากฏหมอกสี ดาที่เข้มข้น
จานวนมากออกมา
ร่ างของเมียๆในตอนนี้ใหญ่โตกว่าที่ต๋ ูกซู ิงหลันเคยเห็นในครั้งแรก
มากนัก
ร่ างของมันเป็ นสี ดาขลับ จนใกล้จะสามารถมองเห็นรู ปกายที่แท้จริ ง
ได้แล้ว
ทัว่ ร่ างเป็ นเกล็ดสี ดาเหลื่อมประกายสี ทองตลอดทั้งตัว
ร่ างของมันคล้ายกับกิเลน ด้านหลังมีปีกขนาดใหญ่คู่หนึ่ง
หากว่ามันไม่ร้องเมียเมียละก็ จะต้องดูแล้วองอาจขึงขังหน้าเกรงขาม
อย่างที่สุดแน่นอน
แม้วา่ จะอยูต่ ่อหน้ามังกรนับสิ บตัว เมียเมียก็ไม่ได้มีทีท่าตื่นตระหนก
เลยสักนิด
มันมีดวงตาสี ดาประกายทองคู่หนึ่ง พอดวงตาของมันมองมา ใน
ดวงตาปรากฏแววตื่นเต้นยินดี
จีเฉวียนโอบกอดตู๋กซู ิงหลัน พลิกร่ างขึ้นไปบนหลังของเมียเมีย
เมียเมียก็กางปี กออกมา โผบินขึ้นไปกลางอากาศ
มังกรดาหลายสิ บตัวนั้นไล่ตามมา ทั้งยังอ้าปากเปล่งแสงเย็นวาบ
ออกมา
ลาแสงเย็นวาบนั้นรวมกับเป็ นระเบิดแสงลูกหนึ่ง กาลังกลืนกินเมีย
เมียลงไป
ระเบิดแสงนั้นสัน่ สะเทือนเลื่อนลัน่ เสมือนหนึ่งสายฟ้าที่ฟาดลงมา
อย่างแรง ทุกสิ่ งที่อยูโ่ ดยรอบถูกระเบิดจนราบเรี ยบเป็ นหน้ากลอง
เหลือเพียงละอองธุลีลอยคละคลุง้
บนหลังของมังกรเยีย่ อิงกอดอกยืนชมอยูบ่ นนั้นด้วยดวงตาเย็นชาดุจ
ดัง่ เหยีย่ วราตรี ตวั หนึ่ง
เส้นผมที่ยาวสลวยของเขาพลิ้วไปด้านหลัง
คิดดิ้นรนรึ ?
ฮึ……
เมื่ออยูใ่ นอาณาเขตของเผ่ามังกรทมิฬ ก็มีแต่ตอ้ งตายเท่านั้น! มิใช่วา่
พอจะมีฝีมืออยูบ่ า้ งก็จะรอดไปได้!
น้ าเสี ยงที่เย็นชาของเขาพึ่งจะขาดหายไป ก็เห็นว่าท่ามกลางระเบิด
แสงที่ฟ้งุ กระจายมีเงาสี ดาเงาหนึ่งปรากฏขึ้นมา!
เป็ นเมียเมีย!
มันขยับบิน โผบินออกมาจากระเบิดแสงเหมือนกับตอนที่พ่ งึ จะ
ปรากฏตัวขึ้นมา
ระเบิดแสงนั้นถูกความมืดขุมหนึ่งดูดกลืนลงไปทั้งหมด!
เยีย่ เฉินตกตะลึงไปครู่ หนึ่ง ในตอนนั้นเองความมืดขุมนั้นก็พงุ่ มาถึง
เหนือศีรษะของเขา
ในความมืดมิดได้ยนิ เสี ยงสัน่ สะเทือนเลื่อนลัน่ เสมือนสายฟ้าฟาดอยู่
ภายใน
ทันใดนั้น ก็เห็นระเบิดแสงที่หายไปปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง เสี ยงตูม
ตามดังอยูเ่ หนือศีรษะของเยีย่ เฉิน
ในระเบิดแสงนั้นมีสายฟ้าสี ดาฟาดลงมาด้วยความรุ นแรง แทบจะ
ทาลายตาหนักของไท่จื่อจนราบเรี ยบ
กลายเป็ นฉากของสายอสนีที่ฟาดลงมา ทั้งยังเป็ นอสนีของทวยเทพ
เบื้องบน!
บนหลังของเมียเมีย พระหัตถ์ขา้ งหนึ่งของจีเฉวียนโอบตู๋กูซิงหลัน
เอาไว้ อีกข้างหนึ่งกุมกระบี่เหมันต์ ดวงเนตรคู่น้ นั กวาดมองลงไป
เย็นชาจนทาให้ผคู ้ นต้องสัน่ สะท้าน
“ซิงซิง” จีเฉวียนเอ่ยเรี ยกนาง
“เจ้าดูสิ เราเก่งกาจมากเลยใช่หรื อไม่?”
ตู๋กูซิงหลัน “…….”
ในมุมมืดแห่งหนึ่ง ดวงตาสี ครามคู่หนึ่งลืมตาขึ้น พลางกวาดมองมา
จากจุดที่มิได้ไกลสักเท่าไร
…………………………………..
守宫砂 (แต้มพรหมจรรย์): โส่ วกงซา: เห็นมาหลายเรื่ องแล้ว
พอเกี่ยวกับพรหมจรรย์ เป็ นต้องเอ่ยถึงจุดสี แดงที่แต้มอยูบ่ น
ท้องแขน มันมาจากไหน? คืออะไร? ตามที่คน้ คว้า 守宫(โส่ วกง)
นี้เป็ นอีกชื่อหนึ่งของตุ๊กแก! โดยคนเลี้ยงจะป้อนแร่ สีแดงชนิดหนึ่ง
ให้มนั กินเข้าไปจนผิวกลายเป็ นสี แดง (แต่ในทางวิทยาศาสตร์แล้ว
เขาบอกว่าที่มนั เป็ นสี แดงเพราะตัวเมียอยูใ่ นช่วยฤดูผสมพันธ์จา้ ไม่
ต้องกินอะไรมันก็แดงเอง) ค่อยนามันมาบดเป็ นผง แล้วจึงนามาแต้ม
บนแขนของสตรี ที่ผา่ นการคัดเลือดในวัง เป็ นเครื่ องหมายว่า นาง
ผ่านการตรวจแล้วว่าเป็ นหญิงสาวบริ สุทธิ์ เชื่อกันว่าพอผ่านการมี
สามี จุดแดงนี้จะหายไปเอง ซึ่งไม่ใช่ความจริ งแต่อย่างใดนะคะ ไม่
ต้องไปเสี ยเวลาลอง
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 426 หวาชางสุ่ ย
หวาชางสุยนัง่ อยูใ่ นหอคอยที่สูงที่สุดในวังมังกรทมิฬ
นางทอดสายตาออกไปด้านนอกหน้าต่าง มองดูพลังของอสนีบาตที่
ฟาดกระหน่าลงมาอย่างต่อเนื่อง
“องค์ราชินีเพคะ นี่มาจากทิศทางของตาหนักไท่จื่อ” สี หน้าของนาง
กานัลที่ยนื อยูข่ า้ งกายเปลี่ยนแปลงไปในทันที ขณะก้มลงมากระซิบ
ที่ริมหูของนาง “วันนี้ ที่จริ งสมควรจะเป็ นวันมงคลที่ไท่จื่อรับอนุ
ทาไมถึงได้….”
หวาชางสุ่ยหรี่ ดว้ ยตาสี น้ าเงินเข้ม นัยตาของนางเป็ นประกายแวววาว
สะท้อนภาพแสงของ ‘อสนีบาต’ ที่ยงั คงฟาดลงมาไม่มีหยุด
เผ่ามังกรทมิฬมิได้มีเรื่ อง ‘น่าตื่นเต้น’ เช่นนี้มาเนิ่นนานแล้ว
“องค์ราชินีเพคะ ไท่จื่อทรงอยูต่ รงจุดที่อสนีบาตฟาดลงมา หรื อจะ
เป็ นเพราะว่าไท่จื่อทรงฝึ กฝนการบาเพ็ญจนเกิดผลสาเร็ จแล้ว จึงได้
ทาให้เกิดอสนีบาตขึ้น…ตอนนั้นที่องค์ราชามังกรทรงบรรลุถึง
ระดับเดียวกับเทพไท้เบื้องบน ก็มีอสนีบาต เก้าเก้า แปดสิ บเอ็ดสาย
ฟาดลงมาเช่นกันนะเพคะ….”
แววตาของนางกานัลผูน้ ้ นั ดูตื่นเต้นยินดี ตบะของนางมีพลังจากัด จึง
มิอาจมองเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้้ นบนตาหนักไท่จื่อได้อย่างชัดเจน
จึงเข้าใจไปว่าไท่จื่อทรงทาให้เกิดอสนีบาต
ในหกภพภูมิน้ ียามเมื่อผูท้ รงบาเพ็ญเพียรชั้นสู งทะยานสู่ ขอบเขต
ใหม่ ต่างก็ตอ้ งเผชิญกับด่านวิบากกรรมด้วยกันทั้งนั้น
อาจเป็ นอสนีวิบาก หรื อวิบากกรรมในชาติภพ
เผ่ามังกรก็มิได้นอกเหนือไปจากนั้น
เพียงแต่จาไม่ได้แล้วว่ากี่ปีมาแล้วที่เผ่ามังกรทมิฬของพวกนางไม่มี
ผูใ้ ดผ่านด่านอสนีวิบาก
วันนี้ในเมื่อมีสายฟ้าฟาดลงมา ย่อมต้องเป็ นเรื่ องดีอนั ยิง่ ใหญ่!
นางมองดูสายฟ้าสี ดาที่พาดผ่านท่ามกลางกลุ่มระเบิดแสงตรงหน้า
ในใจก็ตื่นเต้นยินดีอย่างระงับไว้ไม่อยู่
ตอนนั้นที่ราชามังกรทรงรับวิบากสายฟ้าฟาดทั้งแปดสิ บเอ็ดสายก็มี
สายฟ้าสี ดาปรากฏอยูด่ ว้ ยเช่นกัน
“องค์ราชินี….อนุที่รับเข้ามาในวันนี้สมควรเป็ นดาวนาโชคของ
ไท่จื่อแล้วเพคะ พอมาถึงก็นาพาอสนีบาตมาด้วยบางทีเมื่อทรงให้
กาเนิดทารกออกมา ไท่จื่ออาจจะทรงสามารถสื บทอดพลังของเผ่า
ทมิฬได้แล้วนะเพคะ”
หวาชางสุ่ยเหลือบตามองดูนางแวบหนึ่ง ก็เอ่ยเสี ยงหนักว่า “หุบ
ปาก”
ด้วยพลังบาเพ็ญเพียรของนาง มิวา่ การมองเห็นหรื อได้ยนิ ล้วนสู งล้ า
กว่ามาก
ถึงแม้วา่ จะอยูห่ ่างไกลกันถึงเพียงนี้แต่กย็ งั สามารถมองเห็น
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบ‘อสนีวิบาก’ นั้นได้อย่างชัดเจน
นัน่ มิใช่อสนีวิบากใดๆทั้งสิ้ น
ความสว่างจากระเบิดแสงนัน่ นางรู ้จกั และคุน้ เคยดี นัน่ เป็ นพลังของ
เฉินเอ๋ อร์และเหล่ามังกรดาใต้บญั ชาของเขา
พลังที่ระเบิดออกมาแต่ละครั้ง ล้วนรุ นแรงอย่างที่สุด หญ้าแพรก
แหลกลาญ มิวา่ สิ่ งใดก็ไม่หลงเหลืออยูอ่ ีก
แต่วา่ พลังเหล่านั้นกลับถูก วิชา‘หอกนั้นคืนสนอง’สะท้อนกลับมา
ได้?
นางคิดไม่ถึงว่า วิชาเวทย์ที่สูงส่ งเช่นนั้นจะมาปรากฏอยูใ่ นเผ่ามังกร
ทมิฬได้?
ทั้งยังใช้กบั บุตรของนาง
เฉินเอ๋ อร์แม้วา่ จะยังไม่ได้รับสื บทอดพลังทมิฬจากพระบิดาของเขา
แต่กผ็ า่ นการฝึ กฝนบาเพ็ญเพียรมานานหลายปี นับว่าแข็งแกร่ งอย่าง
ยิง่ แล้ว
ผูท้ ี่สามารถจะสะท้อนพลังของเขากลับได้ จะต้องเป็ นผูท้ ี่แข็งแกร่ ง
จนถึงระดับใดกัน?
เผ่าหมิง?
นางไม่กล้าระบุลงไป….
นางเพียงหรี่ ตามองดูเยีย่ เฉิ นอย่างเรี ยบเฉยครู่ หนึ่ง ไม่ถึงกับตาย ไม่
จาเป็ นจะต้องกังวลให้มากเกินไป
“องค์ราชินี…….” นางกานัลข้างกายประหลาดใจอย่างยิง่
ภายใต้แสงเทียนเกศาขององค์ราชิน้ ีเป็ นสี ขาวโพลน แสงเทียนที่จบั
ลงบนใบหน้าก็สะท้อนให้เห็นความซีดขาวอย่างคนป่ วยไข้ ราวกับ
คนที่ไม่เคยถูกแสงอาทิตย์มาก่อนเลย ผิวพรรณบอบบาง จนสามารถ
มองเห็นเส้นเลือดสี เขียวได้อย่างชัดเจน
ในทันใดนั้นเอง นัยตาสี น้ าเงินเข้มก็ทอประกายแห่งความโหดเ**
้้ยมออกมา
นางกานัลที่งงงวยไปก็พลันรู ้สึกตัวขึ้นมา หรื อนัน่ จะมิใช่อสนีวิบาก
มิเช่นนั้นไยองค์ราชิน้ ีจึงจะมีปฏิกริ ยาเช่นนี้ได้กนั
นางติดตามอยูข่ า้ งกายองค์ราชินีมานานปี ย่อมรู ้ชดั เจนกว่าผูใ้ ด ว่า
องค์ราชินีปรารถนาให้ไท่จื่อทรงสื บทอดพลังของเผ่าทมิฬยิง่ กว่า
ผูใ้ ด
ท่าทางเช่นนี้ของพระนางแค่เห็นก็รู้แล้วว่า จะต้องเกิดเรื่ องใหญ่ข้ ึน
แน่แล้ว
นางเก็บสายตากลับมา ก้มศีรษะลงไป เพ่งมองดูประกายแสงที่สว่าง
จ้าเหล่าแสงกลุ่มนั้น
คล้ายกับว่า จะได้เห็นเงาร่ างที่ดูคุน้ เคยอยูบ่ า้ ง?
พอหันกลับไปมองดูองค์ราชินีอีกครั้ง เห็นพระนางเอาแต่จบั จ้อง
มองไปที่นนั่
ทันทีที่สายตาของหวาชางสุ่ยจับจ้องไปยังร่ างของตู๋กซู ิงหลัน นางก็
ชะงักงันไปทั้งร่ าง หัวใจกระดอนออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
นางที่เดิมทีนงั่ อยูบ่ นตัง่ ก็ผดุ ลุกขึ้นมาในทันที เดินไปจนถึงริ ม
หน้าต่าง ลาคอที่ยาวระหงของนางตั้งตรง จดจ้องไปยังตู๋กซู ิงหลัน
สาวน้อยผูน้ ้ นั ….มีความคล้ายคลึงกับนางแพศยานัน่ อยูห่ ลายส่ วน?!
หวาชางสุ่ยขมวดคิ้วมุ่น ทันใดนั้น นัยตาของนางก็เปี่ ยมไปด้วยไอ
สังหาร!
นางกานัลเองก็ตระหนกไม่นอ้ ย นางมองตามทิศทางสายตาขององค์
ราชินีไป จึงได้เห็นเงาร่ างสี แดงเงาหนึ่ง รู ปลักษณ์ที่ปรากฏขึ้นมายิง่
ดูคุน้ เคยอย่างน่าประหลาด
“สาวน้อยผูน้ ้ นั หรื อจะเป็ น….อนุคนใหม่ขององค์ไท่จื่อหรื อเพคะ?”
นางพยายามเอ่ยเตือนองค์ราชินี
หวาชางสุ่ยนัยตาทอประกาย เป็ นอนุคนใหม่ของเฉิ นเอ๋ อร์หรื อ?
เพียงแค่มีรูปร่ างหน้าตาเหมือนกับนังแพศยานัน่ อยูห่ ลายส่ วน…..
หรื อว่ายังมีความนัยอื่นใดซ่อนอยูก่ นั แน่?
เพียงครู่ เดียว ฝ่ ามือใต้แขนเสื้ อก็กาขึ้นเป็ นหมัด
นางจดจ้องไปยังทิศทางที่ต๋ ูกซู ิงหลันอยู่ ในสมองบังเกิดภาพที่ชวั่
ชีวิตก็ไม่อาจลืมเลือนไปได้
แต่ละภาพๆที่ปรากฏขึ้นมาล้วนทิ่มแทงหัวใจจนเจ็บแปลบ แม้แต่
เลือดในกายก็ยงั จับแข็งไปทัว่ ทั้งร่ าง
ความทรงจาที่ไม่คิดจะแตะต้อง พลันผุดขึ้นมาอีกครั้ง แทบจะทาให้
นางหายใจไม่ออก
ผ่านไปอีกพักหนึ่ง นางถึงได้สูดลมหายใจเข้าไปใหม่ ลืมตาขึ้นมาอีก
ครั้ง
ผ่านมาก็หลายปี แล้ว นางไม่เคยไปหาเรื่ องเดรัจฉานเหล่านั้น…..แต่
เจ้าเดรัจฉานน้อยนัน่ กลับพาตัวเองมาถึงประตู?
มิวา่ จะใช่หรื อไม่….แต่แค่มีใบหน้าเช่นนั้น นางก็สมควรตาย!
คิดแล้ว นางก็ยนื่ มือไปหยิบปิ่ นปักผมรู ปพัดออกมาจากมวยผม
ในทันที
ใจกลางฝ่ ามือบังเกิดพลังวิญญาณขุมหนึ่ง พัดในมือของนางเล่มนัน่
ก็ขยายใหญ่ข้ ึนเรื่ อยๆ กลายเป็ นพัดหยกขนาดใหญ่เกือบครึ่ งเมตร
“องค์ราชินีเพคะ!” นางกานัลร้องด้วยความตระหนกแทบจะคุกเข่า
ลงไปบนพื้น
พัดวายุ นางไม่ได้เห็นองค์ราชินีทรงใช้พดั วายุน้ ีมานับสิ บปี แล้ว!
ทาไมอยูด่ ีๆถึงได้ทรงนามันออกมาอย่างกระทันหัน?
พัดนี้ เพียงโบกออกไปแค่วบู เดียวทัว่ ทั้งเผ่ามังกรทมิฬคงไม่อาจอยู่
อย่างสงบสุ ขได้อีกต่อไปแล้ว!
“ผูใ้ ดทาให้ท่านขุ่นพระทัยถึงขนาดจะทรงใช้พดั เล่มนี้? ร่ ายกายของ
ท่าน….” นางกานัลเอ่ยด้วยความกังวล แม้วา่ จะหวาดกลัวแต่กย็ งั อด
ไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือน
ทันใดนั้น ไต้ฝนหอบหนึ
ุ่ ่ งก็พดั ออกจากหอสู งออกไปอย่างคลุม้ คลัง่
ด้วยพลังที่ยงั รุ นแรงกว่าระเบิดแสงเหล่านั้นหลายเท่าเสี ยอีก ทุกที่ที่
มันพัดผ่านล้วนระเนระนาด
ตาหนักหลังหนึ่งที่ขวางอยูต่ รงหน้าถึงกับกลายเป็ นซากปรักหักพัง
ลงไปในทันที!
พายุลูกนั้นพัดจนฝุ่ นผงตลบอบอวลมันม้วนหางดิ่งตรงเข้าหาตู๋กู
ซิงหลันและจีเฉวียน
ความรุ นแรงของไต้ฝนที ุ่ ่มาถึงอย่างกระทันหันนั้น แม้แต่หมอกดา
บนร่ างของจีเฉวียนก็ยงั ถูกพัดจนอ่อนจางลงไป
พายุที่คลุม้ คลัง่ กระชากจนเสื้ อผ้าของทั้งสองขาดวิ่น!
สายลมที่โหมกระหน่ากรี ดลงไปบนผิวหนังบาดลงไปถึงกระดูก
แทบจะทาให้ร่างคนต้องแหลกเละ!
นัน่ เป็ นพลังวิญญาณและแรงกดดันที่แข็งแกร่ งจนไม่อาจต้านทาน
ได้
แม้แต่เมียเมียก็ยงั ต้านเอาไว้ไม่อยู่ มันพยายามขยับปี ก แต่ปีกกลับถูก
สายลมบาดจนขาดวิ่น ราวกับโดนเครื่ องบดเนื้อ
พลังที่แข็งแกร่ งขุมหนึ่งบดขยี้ใส่ มนั ราวกับจะทาให้มนั ต้องแหลก
ละเอียดเป็ นเนื้อบด!
เมื่อไต้ฝนลู ุ่ กนี้พดั มาถึง แม้แต่เยีย่ เฉิ นเองก็ยงั ต้องตกตะลึงไป
ถึงแม้ตอนนี้ร่างของเขากาลังเกิดบาดแผลจากระเบิดแสงที่สะท้อน
กลับมา แต่กย็ งั อดไม่ได้ที่จะมองกลับไปยังหอสู งแวบหนึ่ง
คนต่างเผ่าผูห้ นึ่งและอนุผหู ้ นึ่งถึงกับทาให้พระมารดาพิโรธได้ขนาด
นี้?
ประสงค์จะให้พวกเขาถึงกับตายไร้ที่กลบฝัง?
บาดแผลจากระเบิดแสงลึกถึงกระดูกทั้วร่ าง เลือดไหลนองลงไป แต่
ปากแผลก็กาลังผสานเข้ามาอย่างรวดเร็ ว
เขาไม่ตอ้ งการให้อนุผนู ้ ้ นั ตายไปอย่างง่ายๆเช่นนี้
ตอนที่ 427 รอยประทับ บงกชดาทองคา
เหยือ่ สดใหม่ที่ยงั ไม่ทนั ได้ลิ้มลอง หากตายไปเสี ยอย่างนี้ ก็ช่างน่า
เสี ยดาย
ยิง่ ไปกว่านั้น เขายังต้องการในสตรี ผนู ้ ้ ีคลอดทารกศักดิ์สิทธิ์ให้กบั
เขา!
พอคิดเช่นนี้ เยีย่ อิงก็ขยับร่ างวูบหนึ่ง ทะยานออกจากกลุ่มระเบิด
แสง คิดจะคว้าตัวตู๋กูซิงหลันออกมาจากไต้ฝนหอบนั
ุ่ ้น
แต่แล้วกลับถูกมังกรดาขนาดยักษ์ขวางเอาไว้
“ฝ่ าบาท! องค์ราชินีทรงลงมือ ย่อมมีพระประสงค์ให้ตกตาย
พระองค์ไม่ควรเข้าไปขัดขวาง!” ศีรษะที่ใหญ่โตของมังกรตัวนั้นก้ม
ลงอยูต่ รงหน้าเขา
เยีย่ เฉินมองไปทางหอสู ง ก็สามารถมองเห็นหวาชางสุ่ ยที่มีเส้นผม
ขาวหมดจรด เห็นในมือของนางเคลื่อนไหวไม่มีหยุด พัดเล่มนั้น
โบกสะพัดลงไปอีกครั้ง
เหล่ามังกรพาเยีย่ เฉินถอยหลบออกไป
หากจะบอกว่าพลังของพัดแรกรุ นแรงถึงขนาดทาลายเลือดเนื้อของ
สิ่ งมีชีวิตทั้งมวลละก็ พลังจากพัดที่สองก็คงถึงขั้นกวาดล้างถล่ม
ปฐพี ให้ทุกชีวิตกลายเป็ นผุยผง
ดวงตาของหวาชางสุ่ ยมีแต่ความโกรธแค้นชิงชัง นางคิดไม่ถึงเลยว่า
พัดแรกของตนเองโบกออกไปแล้ว เดรัจฉานนัน่ จะยังมีชีวิตอยูไ่ ด้
พัดวายุโบกออกไป สมควรทาให้มนั ดับดิ้นสิ้ นวิญญาณไปแล้ว
นังเดรัจฉานนัน่ มีใครปกป้องอยูก่ นั นอกจากเสื้ อผ้าที่ขาดวิ่นแล้ว ก็
มิได้บุบสลายเลยแม้แต่นอ้ ย?
พัดที่สองโบกมาถึงตรงหน้าอย่างรวดเร็ ว
ครั้งนี้ยอ่ มมีกาลังรุ นแรงกว่าครั้งแรกอีกหลายเท่า
ตู๋กซู ิงหลันถูกจีเฉวียนบดบังอยูด่ า้ นหลัง นางเห็นอย่างชัดเจนเลยว่า
เสื้ อผ้าของเขาถูกกรี ดจนขาดวิ่น ผิวหนังก็ถูกบาดจนเป็ นแผล
เลือดไหลออกมาจากผิวหนัง
แต่สีหน้าของเขายังคงเยือกเย็น ทุกความเคลื่อนไหวของเขามีแต่
ปกป้องนางอย่างเข้มแข็ง “ซิงซิงไม่ตอ้ งกลัว ข้าอยูน่ ี่”
เขาพูดพลางก็ลว้ งเอาผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งออกมาจากในอก ผูกเอาไว้
บนตาของตู๋กูซิงหลัน
ฮ่องเต้ทรงถอดฉลองพระองค์ช้ นั นอกที่ขาดวิ่นบนร่ างออกมา คลุม
ลงไปบนร่ างของนาง
เรื อนร่ างได้รูปต้านทานอยูท่ ่ามกลางสายลมคลุม้ คลัง่ ที่เป็ นดัง่ พัน
ดาบกรี ดบาดเข้ามา
ถึงแม้วา่ ร่ างกายของเขาจะแข็งแกร่ งเพียงไร ยามนี้กย็ งั ถูกบาดจน
โลหิตริ นไหล
หมอกสี ดาที่เข้มข้นพวยพุง่ ขึ้นมาจากในร่ าง ดวงเนตรหงส์สีดาคู่น้ นั
ย้อมไปด้วยเลือด จนเกิดเส้นสายสี แดงขึ้นมา
พระองค์ประทับยืนอยูเ่ บื้องหน้าตู๋กซู ิงหลัน ใช้หมอกสี ดาในร่ างราย
ล้อมนางเอาไว้
ริ มโอษฐ์ของจีเฉวียนยังคงเป็ นสี ม่วง พิษที่ได้รับก่อนหน้านี้ยงั ไม่
ทันกาจัดออกไปได้หมด ย่อมส่ งผลถึงพลังภายในร่ างของพระองค์
ยามนี้ พระองค์ประทับอยูบ่ นหลังของเมียเมียที่เคลื่อนไหวด้วยความ
ยากลาบาก ในพระหัตถ์ถือดาบสี ดาลายทอง สายพระเนตรจับจ้อง
ไปทางหอสู ง
เมื่อสายพระเนตรนั้นมองไป ก็สบเข้ากับสายตาของหวาชางสุ่ ย
ในทันที
ความเย็นยะเยือกขุมหนึ่งทะลวงเข้าดุจสายลมที่คมกริ บ ทาให้นาง
สะท้านจะแข็งไปทั้งร่ าง
หวาชางสุ่ยกุมพัดในมืออย่างแนบแน่น
ทันทีที่ได้เห็นดวงตาคู่น้ นั นางก็มนั่ ใจว่า ….บุรุษผูน้ ้ ีจะต้องเป็ นคน
ของเผ่าหมิงอย่างแน่นอน!
พลังในร่ างของเขาแข็งแกร่ งเกินไป เพียงแค่แววตาก็สามารถทาให้
ผูอ้ ื่นสะท้านจนตัวแข็งได้แล้ว
เผ่าหมิงสาปสู ญหลังความวุน่ วายไปนับพันปี แล้ว แม้แต่สิบยมราชผู ้
ยิง่ ใหญ่ก็ยงั ถูกส่ งไปยังมิติต่างๆ อยูๆ่ ก็ปรากฏบุรุษผูน้ ้ ีข้ ึนมา….เขา
คือผูใ้ ดในเผ่าหมิงกัน?
หนึ่งในสิ บยมราชกระนั้นหรื อ?
ดูเหมือนจะไม่คล้าย
จีเฉวียนเองก็ทอดพระเนตรเห็นหวาชางสุ่ ยอย่างชัดเจน สายพระ
เนตรของพระองค์มืดครึ้ ม กระชับดาบสี ดาลายทองขึ้นมาท่ามกลาง
พายุ
ทันใดนั้นรอบตัวดาบก็ปรากฏหมอกสี ดาพวยพุง่ ขึ้นมาเป็ นชั้นๆ
ท่ามกลายหมอกสี ดาบังเกิดเสี ยงกรี ดร้องและคารามกึกก้อง โครง
กระดูกขนาดภูเขาลูกย่อมๆจานวนมากมายผุดขึ้นมา ต่างมุ่งหน้าไป
ทางหอสูง
พอดีกบั ที่หวาชางสุ่ยโบกพัดครั้งที่สามออกมา
พอคลื่นพายุกบั โครงกระดูกปะทะกัน พื้นที่กว่าครึ่ งของเผ่ามังกร
ทมิฬก็พงั ทะลายลงไป
พายุพดั โหมใส่ โครงกระดูกสี ดา ขณะเดียวกันโครงกระดูกเหล่านั้น
ก็ดูดกลืนพายุลงไป ทั้งสองฝ่ ายต่างก็ไม่ยงิ่ หย่อนไปกว่ากัน
แรงปะทะสัน่ สะเทือนเลื่อนลัน่ อย่างรุ นแรง ทาให้คนที่แม้อยู่
ห่างไกลยังต้องตัวชาวาบ
เหล่าชาวมังกรทมิฬที่อยูใ่ กล้เกินไปต่างก็ได้รับผลกระทบกระทัง่
เลือดออกเจ็ดทวาร จนต้องดับสิ้ น
กระดูกในร่ างของพวกเขาถูกแรงบีบอันจนส่ งเสี ยงลัน่ กรอบๆ ทั้งที่
มิได้สมั ผัสกับแรงกดดันเหล่านั้นแม้แต่นอ้ ย แต่ร่างก็เหมือนกันถูก
บดขยี้จนแยกชิ้นส่ วนไปแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันยืนอยูด่ า้ นหลังของจีเฉวียน มองเห็นแต่ร่องรอยบาดแผล
มากมายที่ปรากฏอยูบ่ นแผ่นหลังของเขา
รอบดาบ รอยกระบี่ รอยแส้
มีท้ งั บาดแผลเก่า และบาดแผลใหม่
บาดแผลจากแส้น้ นั ดูใหม่ที่สุด เกิดขึ้นจากตอนที่เขาปลอมตัวเป็ น
บุรุษบาเรอของนาง
รอยดาบและกระบี่น้ นั ค่อนข้างนานมาแล้ว แต่กส็ ามารถคาดคะเน
ได้เลยว่าตอนนั้นจะต้องเป็ นแผลลึกถึงขนาดไหน ถึงได้ทาให้ทิ้ง
เป็ นแผลเป็ นบนร่ างเอาไว้อย่างชัดเจนถึงเพียงนี้
บาดแผลเหล่านี้ปรากฏขึ้นมา เพราะเส้นผมของเขาพัดพลิ้วขึ้นไปจน
หมด ช่างบาดตายิง่ นัก
ตู๋กูซิงหลันถูกเขาบดบังเอาไว้ดา้ นหลังจนหมด บนร่ างยังมีหมอกดา
จากร่ างของเขาครอบคลุม หากเทียบกับเมื่อครู่ ที่ถูกสายลมกรี ดบาด
ย่อมดีกว่ามากแล้ว
เพียงว่าตอนนี้ดา้ นหน้าเกิดอะไรขึ้นมา นางก็ไม่อาจเห็นชัด
หมอกสี ดาของเขาบดบังดวงตาของนาง สิ่ งที่เห็นจึงมีแต่แผ่นหลังที่
เลือนลางของเขาเท่านั้น
เขาถอดเสื้ อผ้าท่อนบนบนร่ างจนหมด ช่วงเอวก็ยงั ถูกสายลมกรี ด
บาดเป็ นแผล ตรงบริ เวณบั้นเอวปรากฏตราประทับสี ดาทอง
นั้นเป็ นบงกชดาทองดอกหนึ่ง
ที่มีขนาดเล็กเพียงแมงมุมตัวน้อย
หากเป็ นยามปกติส่วนนั้นย่อมต้องถูกขอบกางเกงปิ ดบังเอาไว้ แม้
ว่าตู๋กซู ิงหลันจะเคยได้เห็นร่ างกายท่อนบนของเขามาหลายครั้ง
หลายคราว แต่กไ็ ม่เคยเห็นบริ เวณนั้นมาก่อน
รอบประทับรู ปดอกบัวสี ดาทองรอยนั้น ทาเอานางถึงกับตื่นตะลึง
จนชาวาบไปทั้งตัว
แม้แต่วิญญาณทมิฬเองก็ตาค้างไปแล้ว
“นี่มนั ?”
ต่อให้มนั หลับฝันก็ยงั ไม่คาดคิดว่าฮ่องเต้สุนขั จะมีรอยประทับเช่นนี้
อยูบ่ นร่ างได้!
ตู๋กซู ิงหลันมองดูอยูเ่ นิ่นนานก็ยงั พูดอะไรไม่ออก
ในสมองของนางปรากฏโฉมหน้าที่งดงามของคนผูห้ นึ่งขึ้นมา
ใบหน้านั้นกลมกลืนเข้ากับใบหน้าของจีเฉวียนอย่างช้า กลายเป็ น
ความคล้ายคลึงอย่างบ่งบอกไม่ถูก
นางยืน่ มือออกไป ปลายนิ้วที่เย็นจัดสัมผัสลงบนรอยประทับรู ป
ดอกบัวบนบั้นเอวของจีเฉวียนอย่างแผ่วเบา
แตะเพียงเล็กน้อย จมูกของนางก็รูปสึ กแสบร้อนขึ้นมาในทันที
“อา….จารย์…..”
นางไม่อาจควบคุมตนเองได้อีกต่อไป น้ าเสี ยงที่สนั่ สะท้านเอ่ยเรี ยก
เขาขึ้นมา
รอยประทับนี้…..นางเห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต
ทุกมุมทุกกลีบทุกรายละเอียดของมันล้วนจดจาได้โดยไม่มีผดิ พลาด
ในใต้หล้านี้ มีแต่ซื่อมัว่ ท่านอาจารย์ของนางเท่านั้นที่จะมีรอย
ประทับบงกชดาทอง
ผูอ้ ื่นผูใ้ ดล้วนไม่อาจลอกเลียบแบบได้!
เสี ยงเรี ยกอาจารย์เพียงคาเดียว ทาให้จีเฉวียนที่กาลังต่อสู ้อยูถ่ ึงกับ
เสี ยสมาธิไปชัว่ ขณะ
สิ่ งที่เขากลัวที่สุดก็คือสองคาที่เอ่ยออกมาจากปากของตู๋กซู ิงหลันนี้
ในช่วงเวลาเช่นนี้….ผูท้ ี่นางคิดถึงก็คือซื่อมัว่ ผูน้ ้ นั ?
บุรุษที่ประทับอยูใ่ นใจของนางอย่างลึกล้ า!
และเพราะขณะที่เสี ยสมาธิไปชัว่ วูบ หวาชางสุ่ยก็โบกพัดออกมาอีก
ครั้งหนึ่ง พลังที่รุนแรงพัดโหมมาอีกครั้ง จีเฉวียนใช้เนื้อหนังบน
ร่ างกายบดบังเอาไว้ ไม่ให้พลังเหล่านั้นกระทบถูกตู๋กซู ิงหลันไม่แต่
น้อย
ภยันตรายทั้งหมดทั้งมวลเขาจะรับเอาไว้แต่เพียงผูเ้ ดียว
ชัว่ ขณะนั้น พลังจากพัดวายุโหมซัดใส่ ร่างของจีเฉวียน
ถึงอย่างไรร่ างของเขาก็เป็ นเลือดเนื้อ เมื่อถูกพายุระดับทาลายเมือง
ทั้งเมืองพัดโหมเข้าใส่ คนก็ตกจากหลังของเมียเมีย หล่นลงไปยัง
เบื้องล่าง
ราวกับใบไม้เก่าที่เหลืองกรอบ ปลิดปลิวไปตามแรงลมอย่างหมด
สิ้ นชีวิต
ใต้ร่างของเขา คือความมืดมิดที่ไร้กน้ บึ้ง แม้มองลงไปก็ไร้ขอบเขต
หมอกสี ดาที่ครอบคลุมอยูบ่ นร่ างจางหายไปอย่างรวดเร็ ว ตู๋กซู ิงห
ลันไม่ครุ่ นคิดอะไรทั้งสิ้ น นางสะกิดปลายเท้าทุ่มเทกาลังทั้งหมดไล่
ตามลงไปอย่างรวดเร็ ว
ร่ างของนางเหมือนดัง่ ผีเสื้ อตัวน้อยที่พงุ่ เข้าหากองไฟ ถึงแม้เบื้อง
หน้าคืออันตรายที่ไม่อาจคาดคะเนได้ นางก็ยงั ติดตามไป
ขณะที่เห็นว่าร่ างทั้งร่ างของเขากาลังร่ วงลงไปในความมืดมิดที่ไร้
ก้นบึ่งนั้น ปลายนิ้วของนางคว้าชายผ้าที่ขากางเกงของจีเฉวียนเอาไว้
ได้แล้ว
………………………………………..
ไรท์ “ใครเตะปลัก๊ ! ขอไฟฉายด่วน!”
ตอนที่ 428 ราวกับผีเสื้ อที่ร่วงหล่นลงไปในหุบเหวลึก
พลังของพัดวายุยอ่ มไม่ธรรมดา จีเฉวียนกลับรับพลังของมันเอาไว้
ด้วยตัวคนเดียวทั้งหมด คนจึงลอยออกไปไกลหลายพันเมตร
ถึงตู๋กซู ิงหลันทุ่มเทพลังทั้งหมดไล่ตามลงไป แต่สุดท้ายก็ยงั ชักช้า
ไปวูบหนึ่ง
เบื้องหน้าของพวกนางคือหุบเหวไร้กน้ บึ้ง ที่ปรากฏออกมาจาก
ความว่างเปล่า ใต้หุบเขาลงไปเต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่โหดเ**้้ยม
และชัว่ ร้าย
แม้วา่ ยังไม่ทนั เข้าไปใกล้กร็ ู ้สึกถึงความอึดอัดคับข้องไปทัว่ ร่ าง
ข้างใต้น้ นั ราวกับมีมือที่ดิ้นรนอยูท่ ่ามกลางความสิ้ นหวังอยูม่ ากมาย
นับไม่ถว้ น ที่กาลังต้องการฉุดดึงผูค้ นลงไปใต้หุบเหว
ตู๋กซู ิงหลันเห็นจีเฉวียนร่ วงลงไปเบื้องล่างกับตา เขาเปลือยร่ างท่อน
บน แผ่นหลังหันเข้าหานาง บงกชสี ดาทองที่อยูบ่ นบั้นเอวดอกนั้น
เด่นชัดอยูใ่ นสายตาของนาง
ตู๋กซู ิงหลันไม่ครุ่ นคิดใดๆทั้งสิ้ น บังคับร่ างพุง่ ลงไปในหุบเหว
นางยังไม่ทนั หล่นลงไปในหุบเหว เยีย่ เฉิงที่กลายร่ างเป็ นมังกรโฉบ
เข้ามา
กรงเล็บที่ใหญ่โตของเขากวาดออกมา คว้าตู๋กซู ิงหลันเอาไว้อย่าง
แม่นยา ลากนางกลับขึ้นมาจากปากหุบเขาไร้กน้ บึ้ง
ร่ างจริ งของเขาก็เป็ นมังกรสี ครามตัวหนึ่งเช่นกัน ทั้งยังใหญ่โตกว่า
ร่ างจริ งของเยีย่ อิงอยูม่ าก พลังก็แข็งแกร่ งกว่าเยอะ
กรงเล็บที่คว้าตู๋กซู ิงหลันเอาไว้น้ นั หากว่าใช้แรงมากไปเล็กน้อย
เกรงว่าคงจะบีบนางจนแหลกเละไปแล้ว
เยีย่ เฉิงโกรธเกรี้ ยวแล้ว เขาจ้องมองดูสตรี ในกรงเล็บ ถามอย่างขุ่น
เคืองว่า “ไม่ตอ้ งการชีวิตแล้วหรื อไร? รู ้หรื อไม่วา่ ที่นี่คือที่ไหนกัน?”
อนุของเขาคิดจะฆ่าตัวตายเพื่อบุรษจากเผ่าอื่นหรื อ?
ในมือของตู๋กซู ิงหลันยังคงกาผ้าจากชายกางเกงของจีเฉวียนเอาไว้
อย่างแนบแน่น นางมองไปที่เยีย่ เฉินด้วยสายตาเย็นชา ตะโกนเสี ยง
ดังว่า “ปล่อยข้านะ!”
“ข้าช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้ เจ้ากลับขู่ตะคอกใส่ ขา้ หรื อ?” เยีย่ เฉินชะโงก
ศีรษะมังกรที่ใหญ่โตลงมา เขารู ้สึกว่าสตรี ผนู ้ ้ ีไม่รู้จกั ดีชวั่ เกินไปแล้ว
ในชีวิตนี้เขาไม่เคยกระทาเรื่ องดีๆมีเมตตาเช่นนี้มาก่อน หากมิใช่
เพราะว่านางคืออนุของเขา ทั้งยังเป็ นอนุที่ยงั บริ สุทธิ์ผดุ ผ่อง ยังไม่
เคยรับการโปรดปรานมาก่อน เขาหรื อจะยอมช่วยนางเช่นนี้
ตอนนี้พอเห็นนางทาเพื่อบุรุษอื่นโดยไม่คิดจะรักษาชีวิตของตนเอง
เขาก็รู้สึกราวกับว่าบนศีรษะมีหญ้าเขียวงอกเงยขึ้นมามากมายแล้ว
ตู๋กซู ิงหลันถูกกรงเล็บของเขาจับเอาไว้อย่างแน่นหนา ก็ไม่พดู ไม่จา
ชักกริ ชขึ้นมาแทงรัวๆลงไป
เยีย่ เฉินแทบจะถูกสตรี ที่ไม่รู้ผดิ ชอบชัว่ ดีผนู ้ ้ ีทาเอาโกรธจนแทบบ้า
ไปแล้ว
“เจ้าอยากจะตายนักหรื อ?” ความโกรธของเขาแทบจะครอบคลุมไป
ทัว่ ทั้งเผ่ามังกรทมิฬ
แม้แต่เยีย่ อิงที่สลบไสลไปแล้วก็ยงั ถูกเสี ยงคารามของเขาปลุกจนตื่น
ขึ้นมา
นางมือขาดไปข้างหนึ่ง ปากแผลเจ็บปวดอย่างยิง่ ได้แต่ระงับ
บาดแผลเอาไว้ชวั่ คราวแล้วติดตามเสี ยงออกมา
เกิดอะไรขึ้น….กับพี่ชาย?
“เจ้าจงฟังข้าให้ดี! ที่นี่คือหุบเหวไร้กน้ บึ้ง! หากตกลงไปมีแต่จะ
กระดูกหักร่ างแหลกสลาย แม้แต่จิตวิญญาณก็จะถูกดูดกินจนหมด
สิ้ น!” กรงเล็บของเยีย่ เฉินบีบแน่นขึ้นกว่าเดิม จนกระดูกทัว่ ร่ าง
ของตู๋กซู ิงหลันส่ งเสี ยงดังลัน่
ตั้งแต่ตน้ จนจบนางกลับไม่ได้มองดูเยีย่ เฉิ นเลยสักแวบ
ในหูกไ็ ด้ยนิ แต่คาพูดของเขาที่วา่ …..กระดูกหัก ร่ างแหลก วิญญาณ
สลาย
แต่เพราะว่ากรงเล็บของเยีย่ เฉินบีบแน่นมากเกินไป กริ ชของนาง
แทงลงไปหลายต่อหลายครั้ง กลับทาได้เพียงขีดข่วนจนเพิ่มรอย
เลือดจางๆบนกรงเล็บของเขาเท่านั้น
เยีย่ เฉินมิได้เป็ นอะไรเลย
“เจ้าอยากจะไปตายกับบุรุษเถื่อนผูน้ ้ นั มากนักหรื อ? ข้าจะไม่ปล่อย
เจ้าไป!” เยีย่ เฉิงระเบิดโทสะอย่างรุ นแรง
เหล่าอนุของเขา มีใครบ้างที่จะไม่คิดยื้อแย่งความรักความโปรด
ปรานจากเขา ทาไมคนที่พ่ งึ จะมาใหม่นางนี้ ถึงได้ไม่รู้จกั เป็ นเหมือน
ผูอ้ ื่นจนถึงขนาดนี้?
หากเปรี ยบเทียบรู ปโฉม พลังความสามารถและแม้กระทัง่ ฐานะแล้ว
เขามีสิ่งใดที่เทียบไม่ได้กบั บุรุษต่างเผ่าผูน้ ้ นั กัน?
นางถึงได้เฝ้าคิดถึงถึงเพียงนี้?
หัวใจของเยีย่ เฉิงไม่มีความสงบแม้แต่นอ้ ย เขาจะต้องการาบอนุผนู ้ ้ ี
ทาให้นางยินยอมให้กาเนิดทารกศักดิ์สิทธิ์ให้กบั ตนเองด้วยความ
เต็มใจ
พอพูดออกไปมากมาย ในที่สุดตู๋กซู ิงหลันก็ยอมเงยหน้าขึ้นมามอง
เขาแวบหนึ่ง
แววตาแวบนั้น มีแต่ความเย้ยหยันอย่างที่สุด!
จากนั้นก็เห็นตู๋กซู ิงหลันชูกริ ชของนางขึ้นมา
เยีย่ เฉินยิม้ อย่างเย็นชา “สิ่ งนั้นไม่มีผลอะไรกับข้า เจ้าคิดจะฆ่าข้า
ต้องไปฝึ กมาใหม่อีกพันปี !”
สายตาของตู๋กซู ิงหลันเปี่ ยมไปด้วยความมุ่งมัน่ อย่างคนที่ตดั สิ นใจ
แล้ว นางมองดูเขา ยกริ มฝี ปากขึ้น คลี่ยมิ้ ที่เจิดจร้างดงามดุจบุปผา
บานในฤดูใบไม่ผลิ
ริ มฝี ปากแดงของนางขยับ เอ่ยด้วยน้ าเสี ยงเย็นชาอย่างที่สุดว่า “เจ้า
ต้องการตัวข้ามิใช่หรื อ?”
หากว่าเหลือแต่ร่างเล่า ยังต้องการอีกไหม?
เยีย่ เฉิงชะงักงั้นไป นับตั้งแต่แวบแรกที่ได้เห็นเขาก็รู้สึกว่าสตรี ผนู ้ ้ ี
งดงามอย่างไม่น่าเชื่อ
งดงามจนทาให้ผคู ้ นเกิดความคิดอยากยึดครองนางเอาไว้
แต่พอนางเผยรอยยิม้ ออกมา เขาถึงได้รู้วา่ แม้แต่สิ่งที่งดงามที่สุดใน
โลกล้าก็ยงั ไม่อาจเทียบเคียงกับนางได้
ขณะที่เขาตกตะลึงอยูน่ ้ นั กริ ชที่ต๋ ูกซู ิงหลันชูข้ ึนสู ง ก็กาลังพุง่ เข้าสู่
ลาคอของนาง
เยีย่ เฉิงชะงักค้าง กรงเล็บคลายออกอย่างไม่ต้ งั ใจ
ชัว่ พริ บตานั้น ตู๋กูซิงหลันก็พลิกร่ างกระโดดลงไปในหุบเหวไร้กน้
ในทันที
เสมือนหนึ่งผีเสื้ อน้อยที่หล่นลงสู่ กน้ บึ้ง
เยีย่ เฉิ นเกรี้ ยวกราดขึ้นมา หางมังกรของเขาสะบัดออกไป คิดจะไล่
ตามลงไปลากตู๋กูซิงหลันขึ้นมาอีกครั้ง
แต่วา่ มังกรสี ครามอีกตัวกลับพุง่ เข้ามาชนเขาอย่างรวดเร็ ว
เยีย่ อิงไม่เคยเห็นเยีย่ เฉิงทาอะไรอย่างผลีผลามเพื่อสตรี ผหู ้ นึ่งมาก่อน
เลย!
หากว่านางชักช้าไปก้าวหนึ่งละก็ ไม่แน่วา่ แม้แต่พี่ชายก็คงจะลงไป
ในหุบเหวไร้กน้ บึ้งนี้ดว้ ย
นางผลักเยีย่ เฉิงไปจนไกลจากหุบเขาไร้กน้ บึ้ง
เหล่าชาวมังกรทมิฬที่ได้เห็นเหตุการณ์ต่างก็พากันตกตะลึงไป
หมด…..ทุกคนต่างรู ้ดีวา่ ไท่จื่อทรงรักใคร่ เอ็นดูองค์หญิงมาก
เพียงไร ทั้งสองมักจะร่ วมกินร่ วมดื่มและอยูด่ ว้ ยกันเสมอ ถึงขนาดที่
เรี ยกว่า ‘รักกัน’ ยิง่ กว่าสามีภรรยาเสี ยอีก
แทบจะไม่เคยเห็นทั้งสองมีขอ้ ขัดแย้งใดๆมาก่อนเลย
พอมังกรสี ครามทั้งสองร่ อนลงไปบนพื้น ค่อยกลายร่ างกลับเป็ นร่ าง
มนุษย์
เยีย่ เฉินยังคงมีโทสะคุกรุ่ นไม่หาย เพียงแต่วา่ เมื่ออยูต่ ่อหน้าเยีย่ อิง
เขาย่อมไม่ระเบิดอารมณ์ออกมา
“เจ้าขวางข้าทาไม?”
“หากข้าไม่ขวางท่านไว้ ท่านก็จะไปตายเพื่อมนุษย์ผหู ้ นึ่งงั้นหรื อ?”
ปิ ดบังมือข้างที่ถูกตัดไปเอาไว้ นางเอ่ยอย่างขุ่นเคืองว่า “ท่านเป็ น
ไท่จื่อของเผ่ามังกรดา คือความหวังของคนทั้งเผ่า แล้วจะเสี ยสติ
เพราะสตรี ผหู ้ นึ่งได้อย่างไร?”
เยีย่ เฉิน “นางเป็ นอนุของข้า ใช้เผ่ามนุษย์ที่ไหนกัน? ข้าไม่อาจ
ช่วยเหลือสตรี ของตนเองหรื ออย่างไร?”
คาว่า ‘สตรี ของตนเอง’ เสี ยดแทงหัวใจของเยีย่ อิงจนเจ็บแปลบ
“พี่ชาย ท่านตาบอดแล้วหรื อ? แม้แต่เผ่ามนุษย์และเผ่ามังกรก็
แยกแยะไม่ออกแล้วหรื อไง?” นางพยายามสงบใจของตนเองลง
มองดูเยีย่ เฉิงที่กาลังเปี่ ยมไปด้วยโทสะ ขณะเดียวกันก็เหลือบตาไป
ทางหุบเหวไร้กน้
จากนั้นค่อยยิม้ ออกมาเย็นชา “สตรี ผนู ้ ้ นั คือฮ่องเต้หญิงแคว้นเหยียน
เป็ นเผ่ามนุษย์ต้ งั แต่หวั จรดเท้า แต่วา่ กลับมีฝีมืออยูบ่ า้ ง สามารถบุก
ไปทาลายวังมังกรทะเลตะวันตกได้เพียงลาพัง นางยังแข็งแกร่ งกว่า
มังกรทัว่ ไปมากมายนัก”
เยีย่ เฉิงขมวดหัวคิว้ “ฮ่องเต้หญิงแคว้นเหยียน?”
มิใช่องค์หญิงทะเลตะวันตก? เขามีโอกาสได้สมั ผัสนางอย่างใกล้ชิด
เขารู ้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่าในร่ างของนางมีพลังของเผ่ามังกรอยู่
เยีย่ อิงสี หน้าเย็นชาปานน้ าแข็ง พอนางอ้าปากขึ้น ก็เห็นหวาชางสุ่ ยที่
มีเส้นผมขาวโพลนเหาะลงมาจากหอสู ง
นางสวมชุดกระโปรงยาวสี ดา บนกระโปรงปักลายมังกรโผบิน
เอาไว้ตวั หนึ่ง
กระโปรงสี ดาและเส้นผมสี ขาวกลายเป็ นความตัดกันอย่างชัดเจน
สี หน้าของนางทั้งสี ขาวและบึ้งตึง
“พระมารดา…..”
เยีย่ เฉินและเยีย่ อิงพบนาง ก็ถอยไปด้านข้างก้าวหนึ่ง พลางส่ งเสี ยง
เรี ยกหาด้วยความเคารพนบนอบ
หวาชางสุ่ยเพียงแต่มองไปทางหุบเขาไร้กน้ บึ้ง นัยตามีแต่ความเเย็น
ชาและเหน็บหนาว นังเดรัจฉานน้อยนัน่ ช่างเหมือนกับมารดาของ
มันนัก ดวงแข็งอย่างยิง่
ต่างก็เป็ นพวกไม่กลัวความตาย
หึ
แต่วา่ มิวา่ อย่างไรก็ไม่ควรจะกระโดดลงไปในหุบเหวไร้กน้ บึ้งนัน่ !
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 429 ใช่ คนเดียวกันหรื อไม่ ?
หุบเหวไร้กน้ บึ้งคือสถานที่ตอ้ งห้ามของเผ่ามังกรทมิฬ แต่ไหนแต่ไร
มีแต่ลงไปได้แต่ไม่อาจขึ้นมาได้
ตลอดพันปี มานี้ นางไม่เคยเห็นผูใ้ ดสามารถรอดกลับออกมาได้
แม้แต่คนเดียว….
ตอนนั้น นางแพศยานัน่ ก็กระโดดลงไปเฉกเช่นกัน
เพื่อสตรี เผ่ามนุษย์ผนู ้ ้ นั ….เยีย่ จ้าน…ก็กระโดดลงไปเช่นกัน และ
ตลอดหลายปี มานี้ ก็ไม่เคยกลับออกมา
นางส่ งคนเผ่ามังกรทมิฬกว่าพันคนลงไปเสาะหาเขา สุ ดท้ายแล้วชาว
มังกรเหล่านั้นก็ไม่มีผใู ้ ดกลับขึ้นมาได้สกั คน
นี้จะเรี ยกว่าอะไร? วิบากกรรมเดิมๆ
ผ่านมาหลายปี เดรัจฉานน้อยของพวกเขาก็กระโดดลงไปจากที่นี่
เช่นกัน!
ตายแล้วก็ตายไปเถอะ แต่วา่ กลับไม่ได้ถ่ายทอดพลังของราชามังกร
ทมิฬให้กบั เฉินเอ๋ อร์ ทาให้เฉินเอ๋ อร์ไม่อาจสื บทอดตาแหน่งราชา
ต่อไปได้ หลายปี มานี้ได้แต่รักษาสถานะไท่จื่อเอาไว้
หวาชางสุ่ยจับจ้องมองดูหุบเหวไร้กน้ บึ้งนั้น จากนั้นก็หนั หน้า
กลับมาพร้อมดวงตาที่เปี ยกชื้น
“พระมารดา…” เยีย่ อิงเดินมาถึงข้างกายนาง ด้วยความห่วงใย หลาย
ปี มานี้ร่างกายของพระมารดามิสู้ดีมาโดยตลอด วันนี้กย็ งั ใช้พดั วายุ
ไปอีกหลายครั้ง…
ท่าทางที่พระมารดาทอดพระเนตรไปยังหุบเหวไร้กน้ บึ้งเช่นนั้น ทา
ให้นางกังวลว่าพระนางจะได้รับความสะเทือนพระทัย
ตอนที่เกิดเหตุในปี นั้นนางและพี่ชายไม่ได้อยูใ่ นเผ่ามังกรทมิฬ จึงไม่
รู ้ชดั ว่าเกิดเรื่ องใดขึ้น …..ทราบเพียงแต่วา่ พระบิดาทอดทิ้งภรรยา
และลูกๆไปเพื่อสตรี เผ่ามนุษย์คนหนึ่ง
สุ ดท้ายก็หายสาปสู ญอย่างไม่รู้ชะตากรรม
พระมารดายิง่ ไม่เคยเอ่ยอะไร ตลอดหลายปี มานี้ นางคล้ายกับว่าคอย
เก็บรักษาความลับเอาไว้อยูเ่ สมอ
เยีย่ เฉินมองดูหุบเหวที่มีแต่ความสงบเงียบ สายตาก็มืดครึ้ มลง
“นางชื่อว่าอะไร?” เขาเอ่ยถามกับเยีย่ อิง
“ตู๋กซู ิงหลัน” เยีย่ อิงเอ่ยทีละคาด้วยความแค้น
นางคิดจะพาอนุที่แข็งแกร่ งสักคนกลับมาให้พี่ชาย หวังว่าสตรี ผนู ้ ้ นั
จะสามารถคลอดทารกศักดิ์สิทธิ์ให้กบั พี่ชายได้ แต่นางไม่เคยคิดมา
ก่อนเลยว่าสตรี ผนู ้ ้ นั จะเข้าไปอยูใ่ นใจของพี่ชาย
พี่ชายมีอนุกว่าสองร้อยนาง แต่วา่ ในสายตาของเขา ทั้งหมดไม่ต่าง
อะไรกับเครื่ องมือที่มีชีวิต
ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เลี้ยง
แต่วา่ สตรี ผนู ้ ้ นั ทาให้เขาเกือบจะกระโดดลงไปในหุบเหวไร้กน้ บึ้ง
เพื่อมนุษย์ผหู ้ นึ่ง!
ตู๋กสู องคา ยิง่ ทาให้สีหน้าของหวาชางสุ่ ยอึมครึ มกว่าเดิม
ู ..ที่แท้กเ็ ป็ นตระกูลตู๋ก!ู
ตู๋ก…
เป็ นลูกของนังแพศยาตู๋กชู ิงชิงนัน่ !
นางเงยหน้าขึ้นมา ดวงหน้าที่ซีดขาวยิง่ ปราศจากสี เลือดกว่าเดิม!
เนื่องเพราะตู๋กชู ิงชิง นางจึงเกลียดชังเผ่ามนุษย์!
หากว่าเผ่ามังกรทมิฬสามารถออกจากทะเลลึกได้เมื่อไหร่ เรื่ องแรก
ที่นางจะกระทาก็คือทาลายเผ่ามนุษย์ให้ราบเป็ นหน้ากลอง!
ทุกสิ่ งที่เยีย่ จ้านเฝ่ าทนุถนอมเอาไว้ นางจะทาลายมันทั้งหมดให้เขา
ดู!
ต่อให้เป็ นปรโลก ก็จะไม่ให้เขาได้มีวนั สงบสุ ขอีกต่อไป!
“นับจากวันนี้เป็ นต้นไป ให้จบั ตาเฝ้าดูหุบเหวไร้กน้ อยูต่ ลอด ต่อให้
ที่บินขึ้นมาเป็ นเพียงแมลงวันตัวหนึ่ง ก็ตอ้ งให้มนั ตายไม่เหลือซาก!”
หวาชางสุ่ยออกคาสัง่ ต่อผูท้ ี่อยูเ่ บื้องหน้าทั้งหมด
ถึงแม้วา่ สิ่ งที่ตกลงไปในหุบเหวไร้กน้ จะไม่มีทางกลับออกมาได้
นางก็ไม่ขอวางใจ
“พระมารดา…” เยีย่ เฉินเอ่ยเรี ยกนางคาหนึ่ง ในใจของเขายังคงรู ้สึก
เสี ยดายตู๋กซู ิงหลันอยูบ่ า้ ง คาดหวังว่านางจะยังมีชีวิตอยู…

นางเป็ นเพียงแค่มนุษย์ แต่สามารถอาศัยกาลังของตนเองทาลายวัง
มังกรทะเลตะวันตก สตรี เช่นนี้จะต้องแข็งแกร่ งอย่างมิตอ้ งสงสัย
บางทีนางอาจจะสามารถคลอดทารกศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้
“เฉิ นเอ๋ อร์ มารดารู ้วา่ เจ้ากาลังคิดอะไรอยู่ สตรี ผนู ้ ้ นั นางไม่อาจ
เป็ นได้” เมื่อหันหน้าไปมองเยีย่ เฉิน สี หน้าของหวาชางสุ่ ยก็อ่อนลง
เล็กน้อย
“ผูท้ ี่เป็ นองค์หญิงทะเลตะวันตกตัวจริ ง คือมังกรทอง นางสามารถ
คลอดบุตรให้กบั เจ้าได้ ข้าได้สงั่ ให้คนไปจับตัวนางมาให้กบั เจ้าแล้ว
มิให้เจ้าต้องเสี ยเวลาเข้าหอไปอย่างเปล่าประโยชน์”
“พะยะค่ะ” เยีย่ เฉิ นผงกศีรษะรับคา มิได้อิดออดอีกต่อไป เพียงเอ่ยว่า
“ทุกสิ่ งแล้วแต่พระมารดาจะตัดสิ นใจ”
สุ ขภาพร่ างกายของหวาชางสุ่ ยไม่สู้ดี วันนี้กใ็ ช้พลังวิญญาณไป
มากมาย เยีย่ เฉินไม่คิดจะทาให้นางต้องขุ่นเคืองอีก
“เสี่ ยวอิง ส่ งพระมารดากลับไป ให้พกั ผ่อนอย่างดี” ว่าแล้ว เยีย่ เฉิ นก็
มองไปทางเยีย่ อิงอีกครั้ง
เยีย่ อิงซ่อนมือเอาไว้ดา้ นหลัง เพราะเกรงว่าเขาจะพบเห็น
แต่เยีย่ เฉิ นสังเกตเห็นความผิดปกติเล็กน้อยของนางแล้ว เพียงแต่
มิได้เปิ ดโปงออกมา
“พี่ชาย ท่านอย่าได้คิดถึงเผ่ามนุษย์ผนู ้ ้ นั อีกเลย องค์หญิงทะเล
ตะวันตกชือหลี ก็มีความสามารถ ให้นางคลอดลูกให้ท่านก็ได้
เหมือนกัน”
เยีย่ อิงว่าแล้ว ก็หนั ไปประคองแขนของหวาชางสุ่ ย เอ่ยเบาๆว่า “พระ
มารดา ข้าจะส่ งท่านกลับไป”
หวาชางสุ่ยไม่คิดจะรั้งอยูท่ ี่ริมหุบเหวไร้กน้ นานไป นางรับคาเบาๆก็
ล่าถอยไป
เหลือแต่เพียงเยีย่ เฉินที่เฝ้ามองหุบเหวไร้กน้ อีกเนิ่นนาน
……………….
มืดมิด เหม็นเน่า หนาวเย็น
ยามที่ต๋ ูกูซิงหลันรู ้สึกตัวขึ้นมานั้น ก็สมั ผัสได้เช่นนี้
ในจมูก ในปาก มีแต่โคลนตมที่เหม็นเน่าคละคลุง้ แม้แต่ดวงตายัง
แทบจะถูกปิ ด
ต้องรวบรวมเรี่ ยวแรงมากมายนางถึงได้สามารถลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย
แล้วก็เห็นวิญญาณทมิฬกลายร่ างเป็ นสุ นขั ป่ าสี ดาตัวใหญ่ ขมวดหาง
เอาไว้กบั กิ่งของต้นไม้สีดาที่อยูข่ า้ งๆ ปากก็คาบคอเสื้ อของนาง
เอาไว้ ไม่ให้นางตกลงไป
นางถึงได้ลืมตาสารวจสภาพรอบกายของตนเอง
นี่เป็ นบึงโคลนตม ในบึงโคลนมีกระดูกและซากของสิ่ งมีชีวิต
มากมายปะปนกัน ในจานวนนั้นมีกระดูกมังกรมากที่สุด อากาศมีแต่
กลิ่นเหม็นเน่าจนทาให้แสบตา
นางตกลงมาในอยูใ่ นบึงโคลนทั้งตัว ตัวแต่ศีรษะลงไปมีแต่โคลน
ดาๆเปรอะทัว่ ตัว
อากาศรอบกายเป็ นสายลมอับๆ ที่มีแต่กลิ่นเน่าน่าสะอิดสะเอียนจน
ทาให้คนยา่ แย่
“เจ้าสลบไปสามวันแล้ว” วิญญาณทมิฬสื่ อสารกับนางผ่านทางจิต
“ที่นี่มีแต่อนั ตราย ในโคลนนัน่ มีแต่จระเข้ผดี ิบกินศพเต็มไปหมด
พวกมันถูกข้าบังคับขับไล่ไปอย่างฝื นใจ”
บนร่ างของวิญญาณทมิฬมีแต่ริ้วรอยบาดแผล มันน้อยครั้งนักที่จะ
กลายร่ าง ต้องต่อสู ้กบั จระเข้ผดี ิบเหล่านั้น คงบาดเจ็บหนักจนยา่ แย่
แล้ว
กัดไม่ขาด ฆ่าไม่ตาย ช่างเหนื่อยยากจริ งๆ
“ทุกวันพวกมันจะโผล่ข้ ึนมาเพียงชัว่ ครู่ ชวั่ ยาม ควานหาอาหาร
ท่ามกลางบึงโคลน พอเวลาผ่านไปก็จะหายสาปสู ญไปเอง หาก
คานวนดู นี่กใ็ กล้จะได้เวลามาแล้วละ” วิญญาณทมิฬเอ่ยอย่างอ่อน
ล้า
มันเป็ นร่ างจิตวิญญาณ ดังนั้นย่อมสามารถหลุดออกมาจากบึงโคลน
ได้
มันก็คิดจะพาตู๋กซู ิงหลันออกไปจากบึงโคลน แต่ยงิ่ มันดึงนางขึ้น
นางก็ยงิ่ จมลึกลงไป
มันจึงได้แต่งบั นางเอาไว้ ไม่ให้นางตกลงไปทั้งร่ าง
ตู๋กซู ิงหลันใช้เวลาอยูพ่ กั หนึ่งถึงได้ค่อยๆเข้าใจสภาพแวดล้อมของ
ตนเอง ท่ามกลางบึงโคลน ในมือของนางยังกาเศษผ้าจากชายกางเกง
ของจีเฉวียนเอาไว้แน่น
นางกวาดตาดูรอบบึงโคลนไปทัว่ นอกจากกองกระดูกที่ทาให้ให้คน
ต้องขนลุกทั้งตัวแล้วก็ไม่มีสิ่งอื่นใดอยูอ่ ีก
“เขาไม่ได้อยูท่ ี่นี่ ตอนที่พวกเราตกลงมา ที่นี่กไ็ ม่มีแม้แต่ร่องรอย
ของเขาแล้ว” วิญญาณทมิฬรู ้วา่ นางกาลังคิดถึงอะไร จึงเอ่ยต่อไปว่า
“เจ้าอย่าได้รีบร้อน เขามีชะตาเข้มแข็ง…” คิดถึงรอยประทับบงกชที่
อยูต่ รงบั้นเองของจีเฉวียน …..คาด่าที่วิญญาทมิฬเตรี ยมจะใช้กบั เจ้า
ฮ่องเต้สุนขั พอมาถึงริ มฝี ปากก็ตอ้ งกลืนลงไป เปลี่ยนเป็ นเอ่ย
ปลอบโยนแทน
รอยประทับบงกชนั้นพอติดตามตู๋กูซิงหลันแล้วมันก็เคยได้เห็นมา
ครั้งหนึ่ง เพียงแค่ครั้งเดียว ก็ไม่มีทางลืมไปชัว่ ชีวิต
นัน่ เป็ นเครื่ องหมายของซื่อมัว่ แต่เพียงผูเ้ ดียวเท่านั้น มันคิดไม่ออก
เลยว่าจะมาปรากฏอยูบ่ นร่ างของจีเฉวียนได้อย่างไร
หากจะบอกว่าจีเฉวียนคือซื่อมัว่ มันก็ไม่เชื่อ
คนทั้งสองมิวา่ รู ปโฉม หรื อกลิ่นอายแตกต่างกันมากเกินไป
แล้วจะเป็ นคนเดียวกันได้อย่างไร?
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ไม่อาจยืนยันได้เช่นกัน นางพยายามควบคุมอารมณ์
ของตนเองเอาไว้ก่อน ตกลงมาจากด้านบนเช่นนี้ ร่ างกายเหมือน
โดนเครื่ องมือขนาดใหญ่หล่นทับ นางพยายามขยับปลายนิ้ว ยังโชค
ดี ร่ างกายยังพอมีกาลังอยูบ่ า้ ง
พอพึ่งจะขยับตัวได้ ก็เห็นในบึงโคลนเกิดความเคลื่อนไหว
ตอนที่ 430 แมลงกินวิญญาณ
เพียงครู่ เดียวกลิ่นเหม็นเน่าในบึงโคลนก็ยงิ่ คละคลุง้ ขึ้นมา
กลิ่นเหม็นเหล่านี้เกิดจากซากศพของร่ างที่แหลกเละ เป็ นแก๊สพิษ ที่
ฟุ้งกระจายขึ้นมา พบได้ทวั่ ไปตามหุบเหวและสุ สาน
กลิ่นเหม็นเน่าเหล่านี้เสี ยดแทงเข้าไปในจมูก ทั้งยังปวดร้าวภายใน
ปอด
ทันใดนั้นเองก็เห็นว่ากลางแอ่งโคลนมีบางสิ่ งบางอย่างกาลังผุด
ขึ้นมา
พวกมันซุ่มซ่อนอยูใ่ นแอ่งโคลน ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ๆนางเรื่ อยๆ
พอเข้ามาจนได้ระยะห่างจากนางอยูช่ ่วงหนึ่ง ก็เห็นพวกมันผุดขึ้นมา
จากโคลนแต่ละตัวมีหวั ขนาดใหญ่พอๆกับหัวจระเข้ตวั โต
ตัวที่ใหญ่ที่สุดนั้น ยาวกว่าเจ็ดหรื อแปดเมตร!
ตัวที่ใหญ่ทีสุดย่อมเข้ามาใกล้ที่สุด ภายใต้การนาของมัน จระเข้ตวั
อื่นได้แต่จอ้ งมองเขม็งด้วยสองตา พวกมันจับจ้องมาที่ต๋ ูกซู ิงหลันอ
ย่างกระเ**้้ยนกระหือรื อ
ตลอดสามวันมานี้ พวกมันโจมตีมาสามรอบแล้ว ทุกครั้งล้วนถูก
สัตว์อสู รของนางขับไล่ออกไป
ตลอดสามวัน สาวน้อยที่ผา่ ยผอมผูน้ ้ นั เอาแต่สลบไสล วันนี้นางตื่น
ขึ้นมาแล้ว แค่เห็นแววตาก็รู้แล้วว่ามิใช่เจ้านายที่จะตอแยได้ง่ายๆ
ตู๋กซู ิงหลันมิได้ตื่นเต้นตกใจ นางขับพลังวิญญาณภายในร่ างให้หมุน
วน ลาแขนข้างหนึ่งค่อยหลุนพ้นจากโคลนตมขึ้นมา
พอพึ่งขยับตัวก็เห็นจระเข้ผีดิบเหล่านั้นพากันบุกเข้ามา
พวกมันส่ ายหาง เรื อนร่ างที่ใหญ่โตกลับสามารถเคลื่อนไหวใน
โคลนตมได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ละตัวล้วนอ้าปากกว้างชุ่มเลือด ยาม
ที่บุกเข้ามาทุกตัวล้วนก็เล็งไปที่ศีรษะของนาง!
หุบเหวไร้กน้ ไม่อาจมีคนมีชีวิต!
พอจระเข้ผดี ิบเหล่านั้นเข้ามาใกล้ ตู๋กซู ิงหลันก็ได้กลิ่นเหม็นเน่า
ปะทะเข้ามาในจมูก
กลิ่นน่าสะอิดสะเอียนที่เข้มข้นรุ นแรงนั้น ทาให้คนจะอาเจียน
ในมือของนางหยิบยันต์ที่เปรอะเปื้ อนโคลนไปหมดแล้วได้ใบหนึ่ง
เห็นแต่มุมที่มีจุดสี แดงเหลืออยูจ่ ุดหนึ่ง โผล่ออกมาจากโคลน
ตู๋กูซิงหลันกวาดตามองไปแวบเดียว ริ มฝี ปากก็ร่ายคาถา ขณะที่
จระเข้ผดี ิบตัวใหญ่ที่สุดตัวนั้นพุง่ เข้ามา ก็เห็นนางส่ งยันต์แผ่นนั้น
เข้าไปในปากของมันอย่างรวดเร็ ว
“ยันต์หุ่นเชิด?” วิญญาณทมิฬตื่นตะลึงไป มันนึกไม่ถึงเลยว่าใน
สถานการณ์แบบนี้ต๋ ูกซู ิงหลันยังจะสามารถเสกยันต์คาสาปเช่นนี้
ขึ้นมาได้
ชื่อของยันต์บ่งบอกความหมาย ผูท้ ี่ถูกยันต์สาปนี้จะเป็ นดัง่ สัตว์เลี้ยง
กลายเป็ นหุ่นเชิดให้กบั ผูบ้ งการอย่างไร้ขอ้ แม้
จะสร้างยันต์น้ ีได้จะต้องใช้พลังจานวนมาก ทั้งยังอาจทาไม่สาเร็ จ
ตู๋กซู ิงหลันช่างเป็ นตัวประหลาดจริ งๆ ยิง่ ตกอยูใ่ นสถานการณ์
ลาบาก นางก็ยงิ่ เปล่งประกายสุ ขมุ รู ้ตวั ดีวา่ ตนเองต้องการอะไร
เพียงแวบเดียวก็เห็นยันต์ของนางเปล่งประกายสี เหลืองที่งดงาม
ออกมา จากนั้นแสงสว่างก็ซึมซาบเข้าไปภายในร่ างของจระเข้ผดี ิบ
จระเข้ตวั นั้นนิ่งงันไปครู่ หนึ่ง เหล่าจระเข้ที่อยูด่ า้ นหลังของมันก็พา
กันขยับเข้ามาอย่างพร้อมเพรี ยง
ในชัว่ ขณะนั้นเอง ตู๋กซู ิงหลันก็คว้ากรามล่างของจระเข้ที่ถูกผนึก
ยันต์เอาไว้ จระเข้ตวั นั้นก็ใช้กาลังฉุดนางขึ้นมาจากโคลนตม แล้วก็
สะบัดนางขึ้นไปไว้บนหลังของมัน
ทัว่ ทั้งร่ างของตู๋กซู ิงหลันมีแต่โคลนดาที่เหม็นเน่า พอนางถูกสะบัด
ลงมาก็ก่ ึงนัง่ กึ่งคุกเข่าอยูบ่ นหลังของเจ้าจระเข้ยกั ษ์
หลังจากนั้นก็เห็นนางถอดเสื้ อคลุมบนร่ างลงมาอย่างรวดเร็ ว นั้น
เป็ นเสื้ อคลุมที่จีเฉวียนใส่ ให้กบั นาง
เสื้ อคลุมตัวนั้นถูกนางฟั่นจนกลายเป็ นเชือก แล้วคล้องลงไปบน
ลาคอของจระเข้อย่างรวดเร็วใช้เป็ นบังเ**ยน
นางกวาดตามองไปรอบด้าน ทุกที่ลว้ นมีแต่กลิ่นเน่าเหม็นแต่เมื่อ
ตั้งใจฟังก็ยงั ได้ยนิ เสี ยงสายลมที่พดั ผ่านความเงียบงัน
ตู๋กซู ิงหลันใช้บงั เหยียนบังคับเจ้าจระเข้ยกั ษ์ตวั นั้นได้เคลื่อนที่ไป
ทางที่มีสายลม
เมื่อมีลมแปลว่ามีทางออก นางขยับข้อมือ ก็รู้สึกได้วา่ ด้ายผูกชะตา
ยังอยู่
จีเฉวียนยังมีชีวิตอยู่ …..เพียงแต่วา่ เส้นด้ายยิง่ ทียงิ่ เปราะบาง
สถานการณ์ของเขาจะต้องยา่ แย่อย่างแน่นอน
พอคิดถึงตราประทับบงกชบนบั้นเอวของเขา สายตาของตู๋กซู ิงหลัน
ก็ยงิ่ เคร่ งขรึ มกว่าเดิม
พอจระเข้ยกั ษ์วา่ ยไปตามแอ่งโคลน เหล่าจระเข้ผดี ิบตัวอื่นก็กพ็ ากัน
ว่ายตามมาอย่างแน่นขนัด ไล่ตามมาตลอดทาง
ตอนนี้ต๋ ูกูซิงหลันไม่มีกาลังเหลือเฟื อจะไปรับมือกับพวกมัน
เป้าหมายแรกของนางก็คือไปให้ไกลจากบึงโคลนนี้ สารวจสภาพ
โดยรอบให้ชดั เจน ตามหาจีเฉวียน จากนั้นก็พาเขาไปจากที่นี่
หุบเหวไร้กน้ บึ้ง……..
จระเข้ยกั ษ์เคลื่อนไหวได้รวดเร็ ว ลมเหม็นเน่าพัดผ่านใบหน้าติดบน
ผิวจนเหนอะหนะ
ตู๋กซู ิงหลันใช้มือปาดไปปาดมาอยูส่ องครั้ง ขณะเดียวกันพยายาม
รักษาด้ายผูกชะตาไม่ให้จางหายไป
พอเงยหน้าขึ้นมาดู ก็เห็นรอบด้านมีแต่หุบเหวที่มืดมิดไปหมด มอง
อย่างไรก็มองไม่เห็นด้านบน
ท่ามกลางกลิ่นเหม็นเน่า คล้ายกับว่ามีบางสิ่ งกาลังลอยละล่องมา
อย่างช้าๆ
เห็นแต่เพียงเงาเลือนลางที่ดูแปลกประหลาดลึกลับ
พวกมันมีไอหยินหนาแน่น….คล้ายจะเป็ นวิญญาณคนตายที่ไม่อาจ
หลุดพ้น
นางทอดถอนใจ ปรับลมหายใจของตนเอง ไม่ไปสนใจสิ่ งที่กาลัง
ล่องลอยไปมาเหล่านั้น
หลังจากที่จระเข้ยกั ษ์เคลื่อนไปข้างหน้าเรื่ อยๆ เบื้องหน้าคล้ายจะมี
แสงสว่างจางๆ
พอขยับเข้าไปใกล้ข้ ึนเรื่ อยๆถึงได้เห็นว่าแสงสว่างเล็กๆที่ล่องลอย
ไปมานั้น คือบางสิ่ งที่คล้ายคลึงกับหิงห้อย
พอตู๋กซู ิงหลันพึ่งไปถึง เหล่า ‘หิ่งห้อย’ ก็กรู กนั เข้ามาราวกับฝูงผึ้ง
หิ่งห้อยเหล่านั้นพากันโบกปี ก พุง่ เข้ามายังร่ างของนาง
“แมลงกินวิญญาณ!” วิญญาณทมิฬเกาะอยูบ่ นบ่าของตู๋กซู ิงหลัน ร่ าง
ที่หดเล็กอยูเ่ มื่อครู่ กลายเป็ นสุ นขั ป่ าตัวใหญ่อีกครั้ง
มันสะบัดหางส่ ายไปมา ช่วยตู๋กซู ิงหลันขับไล่แมลงเหล่านั้น
แมลงกินวิญญาณดูดกินพลังวิญญาณเป็ นอาหารหลัก ต่อให้เป็ นผูท้ ี่
ฝึ กฝนจนมีร่างกายแข็งแกร่ งดุจเหล็กกล้าก็ยงั สามารถดูดกลืนจน
กระดูกกรอบได้เช่นกัน!
ตอนนี้พวกมันแต่ละตัวล้วนอ้วนท้วนราวกับแม่พนั ธุ์ ไม่รู้วา่ ดูดกลืน
พลังวิญญาณของผูฝ้ ึ กฝนไปมากมายเพียงใด
เหล่าคนที่ตกลงมาต่อให้ไม่ถึงหมื่นแต่กค็ งมีอยูน่ บั พัน
ตู๋กซู ิงหลันฟุบร่ างลงไป หยิบยันต์ข้ ึนมาในมืออีกหลายใบ
ครั้งนี้ ยันต์เหล่านั้นถูกเขวี้ยงไปทางเหล่าจระเข้ที่ยงั คงไล่ตามมา
อย่างบ้าคลัง่ เหล่านั้น
พอยันต์มากมายถูกผนึกลงไป ก็เห็นบนร่ างของพวกมันเปล่งแสงสี
เงินออกมา
แสงสี เงินบนร่ างร่ างของพวกมันเกิดจากยันต์คาสาปของตู๋กซู ิงหลัน
ที่คล้ายจะเป็ นพลังวิญญาณ
เหล่าแมลงวิญญาณพอเห็นเข้า ก็คลุม้ คลัง่ ขึ้นมา ละทิ้งตู๋กูซิงหลัน
แล้วพากันไปกลุม้ รุ มอยูบ่ นตัวของจระเขีผดี ิบเหล่านั้น
วิญญาณทิมฬหันกลับไปมองดูกเ็ ห็นศีรษะที่ใหญ่โตของจระเข้
เหล่านั้นเพียงแค่ชวั่ ขณะเดียวก็ถูกแทะกัดกินจนสามารถมองเห็น
กระดูกได้เลย!
สวรรค์!
เจ้าพวกนั้นไม่เพียงแต่ดูดกินพลังวิญญาณ แม้แต่เนื้อและกระดูกก็ยงั
ไม่เว้น!
มิน่าเล่าหุบเหวไร้กน้ บึ้งนี่จึงเป็ นสุ สานของสิ่ งมีชีวิต เพียงแค่เจอเจ้า
พวกนี้ ต่อให้ไม่ตายก็ตอ้ งถูกลอกหนังออกมาชั้นหนึ่งแล้ว!
ตอนที่ 431 จระเข้ น้อยที่น่ารัก
วิญญาณทมิฬนั้นมีประสบการณ์ร่วมต่อสู ้เคียงบ่าเคียงไหล่กบั ตู๋กซู ิง
หลันมาไม่นอ้ ย เมื่ออยูใ่ นสถานการณ์เช่นนี้มนั ย่อมไม่ก่อความ
วุน่ วาย
สามารถหยิบยืมกาลังของแมลงกินวิญญาณพวกนี้ไปจัดการกับพวก
จระเข้ผีดิบที่ไล่หลังมา คนที่สามารถใช้สมองได้ถึงเพียงนี้มิวา่ อยูท่ ี่
ใดย่อมต้องมีทางรอดอยูเ่ สมอ
เขวี้ยงยันต์ออกไปมากมายหลายใบ นางก็ยงั คงไม่เปลี่ยนสี หน้า
มือของนางกุมบังเ**ยนที่ทาจากเสื้ อคลุมของจีเฉวียนเอาไว้อย่าง
แนบแน่น สัง่ ให้จระเข้ยกั ษ์ตวั นั้นมุ่งหน้าต่อไป
กลิ่นเหม็นเน่าโชยชายมาจากหมอกสี ดาคละคลุง้ ที่อยูข่ า้ งกาย นางก็
ไม่สนอกสนใจพวกมัน ดองตาดอกท้อทั้งคู่เพียงมองไปยังเบื้องหน้า
เท่านั้น
เจ้าจระเข้ยกั ษ์นานางมุ่งไปเรื่ อยๆจนถึงจุดที่สายลมรุ นแรง จึงได้เห็น
ว่าเส้นทางที่มืดมิดตรงหน้าขยายออกกว้าง บึงโคลนที่อยูด่ า้ นหลัง
กลายเป็ นแม่น้ าสี ดาสายหนึ่ง
ในแม่น้ าสี ดามีดอกบัวสี ดาอยูม่ ากมาย บนดอกบัวเหล่านั้นเต็มไป
ด้วยไข่หนอนของแมลงกินวิญญาณ เมื่อเกาะอยูบ่ นดอกบัว ก็เป็ น
ประกายเล็กๆที่สวยงามน่าชม
ตู๋กซู ิงหลันไม่มีกระจิตกระใจจะไปชื่นชมทิวทัศน์ตรงหน้า
นางก้มศีรษะลงไปมองดูอยูแ่ วบหนึ่ง น้ าถึงจะเป็ นสี ดาแต่กใ็ ส จน
สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีปลาประหลาดขนาดใหญ่ มันไล่
ตามมาคิดจะขบกัดนางสักหลายคา แต่น่าเสี ยดายที่นางอยูบ่ นหลัง
จระเข้ยกั ษ์ จึงได้แต่วา่ ยกลับไปกลับมาอยูข่ า้ งๆ
รอบกายของปลาตัวใหญ่น้ นั เต็มไปด้วยกระดูกมนุษย์ และกระดูก
มังกร
น้ าสี ดามีกลิ่นเหม็นเข้มข้น พอมุ่งหน้าต่อไป ก็เปลี่ยนเป็ นทวนน้ าที่
ไหลเชี่ยวกว่าเดิมขึ้นไป จนลาดชันขึ้นไปถึงเกือบจะเป็ นมุมฉาก
บนนั้นเป็ นน้ าตกสี ดาสายหนึ่ง
จระเข้ยกั ษ์นานางไต่สูงขึ้นไป ท่ามกลางสายน้ าที่สาดซัดลงมาใส่
ศีรษะ
ร่ างกายเริ่ มหนักมากขึ้นเรื่ อยๆ แทบจะไหลลงไปได้ตลอดเวลา
ดอกบัวดาไหวเอนอยูท่ ่ามกลางสายน้ า ไข่หนอนของแมลงกิน
วิญญาณบนดอกบัวถูกแรงน้ าตกที่กระเซ็นมาพัดจนหล่นลงไปใน
น้ าสี ดา จมลงไปในความดามืด
ตู๋กซู ิงหลันประคองร่ างเอาไว้ นางเกาะอยูบ่ นร่ างของจระเข้ยกั ษ์ กา
สายบังเหยียนเอาไว้อย่างแนบแน่น พอถูกน้ าสี ดารดราดลงมา โคลน
บนร่ างของนางก็ถูกชาระล้างออกไป เผยใบหน้าที่ขาวกระจ่าง
ออกมา
เพียงแต่วา่ ชุดสี แดงบนร่ างถูกน้ าสี ดาย้อมไปทั้งตัว คนจึงดูเหมือนตัว
ประหลาดที่มีแต่ความดามืด
“พรู่ ตึง!”
ได้ยนิ เสี ยงดังสนัน่ อยูเ่ บื้องหน้า จระเข้ยกั ษ์พามุดเข้าไปในน้ าตก
รอบตัวจึงมีแต่ความมืดมิดหนาวเย็นรายล้อม
ในจมูกและริ มหูมีแต่น้ าสี ดาไหลเข้ามา ในหูมีแต่น้ าสี ดาจนปวด
แปลบ
ตู๋กซู ิงหลันกลั้นลมหายใจเอาไว้ บังเ**ยนในมือยังคงกระชับแน่น
ไข่ของแมลงกัดวิญญาณที่มีอยูม่ ากมายสะท้อนใต้น้ าจนมีแสงสว่าง
ราไรขึ้นมา นางกระพริ บตา มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าท่ามกลาง
สายน้ าเบื้องหน้า เป็ นรากขนาดใหญ่ของต้นไม้
สี รากของต้นไม้อ่อนกว่าน้ าสี ดาอยูบ่ า้ ง รากของมันเกี่ยวกระหวัด
พันเข้าด้วยกัน เกรงว่าต่อให้ใช้คนนับสิ บคนก็ยงั ไม่อาจล้อมรากไม้
เหล่านี้ได้รอบ
บนรากมีไข่หนอนของแมลงกินวิญญาณอยูไ่ ม่นอ้ ย พอมองดูให้
ละเอียดถึงได้เห็นว่าไข่หนอนเหล่านั้นกาลังฝังตนเข้าไปในรากของ
ต้นไม้
มิใช่….แต่เป็ นถูกรากไม้ดูดกลืนเข้าไป!
ไข่หนอนที่กลมเกลี้ยงเหล่านั้นถูกดูดกลืนเข้าไปจนฟี บลง!
ยิง่ ไปกว่านั้น ยังกลายเป็ นเส้นแสงสี เงินจางๆ ไหลไปตามรากไม้ถูก
ดูดกลืนเข้าไปเรื่ อยๆ
ไม่เพียงแต่แมลงวิญญาณเหล่านั้น แม้แต่พอจระเข้ยกั ษ์เข้าไปใกล้ ตู๋
กูซิงหลันเองก็รู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดมหาศาลจากรากไม้กาลังดึงดูด
พวกนางเข้าไปใกล้ข้ ึนเรื่ อยๆ
นางกาสายบังเ**ยนของจระเข้ยกั ษ์จนแน่นกว่าเดิม เปลี่ยนทิศทาง
ของเจ้าจระเข้ยกั ษ์ ให้มนั ว่ายสู งขึ้นไป
จระเข้ยกั ษ์อา้ ปากขึ้นมา ในลาคอของมันมีรอยประทับที่ฝังลึกอยู่
มันส่ งเสี ยงร้องคารามครั้งหนึ่ง สะบัดหางออกไป จนสะท้านไปทั้ง
ร่ างจึงค่อยๆว่ายขึ้นไปด้านบน
ตู๋กซู ิงหลันขาดอากาศอย่างรุ นแรงแล้ว ในศีรษะมีแต่เสี ยงวิง้ วั้งดังไป
หมด
แต่วา่ มือของนางยังกาบังเ**ยนที่ทาจากเสื้ อคลุมของจีเฉวียนเอาไว้
อย่างแนบแน่น
นางยังตายไม่ได้!
พื้นน้ าห่างจากผิวน้ าเพียงสามสิ บกว่าเมตรเท่านั้น แต่กว่าที่ต๋ ูกซู ิงห
ลันจะถูกจระเข้ยกั ษ์พาขึ้นสู่ ผวิ น้ ากลับรู ้สึกว่านานจนเหมือนได้เกิด
ใหม่กไ็ ม่ปาน
ร่ างเปี ยกชื้นไปทั้งตัว หนาวจนสัน่ สะท้าน ใบหน้าของนางแดงก่า
การขาดอากาศนานทาให้สมองของนางมีแต่เสี ยงวิง้ ๆอยูต่ ลอดเวลา
นางอ้าปากหอบหายใจเข้าไป อากาศที่เข้าไปในปากมีแต่กลิ่นคาว
เลือด
ตู๋กซู ิงหลันหอบหายใจอยูห่ ลายครั้ง ค่อยรู ้สึกดีข้ ึนมาบ้าง เสี ยงวิง้ วั้ง
ที่ดงั อยูใ่ นสมองค่อยๆบรรเทาลงไป
พอลืมตาขึ้นมา ก็เห็นว่าเบื้องหน้าคือต้นไม้สีดาทะมึนขนาดใหญ่
ต้นไม้น้ ีงอกอยูบ่ นน้ าตก มันผุดขึ้นมาจากใต้ผืนน้ าสี ดา รากที่ยดื ยาว
เหยียดขยายไปจนครอบคลุมบริ เวณที่เป็ นน้ าตกทั้งหมด
แสงสี เงินที่เลือนรางไหลไปตามรากจนขึ้นไปบนลาต้น
จากนั้นก็ข้ ึนไปจนถึงปลายกิ่งทาให้ใบทั้งหมดของมันมีแสงสี เงินวับ
วาว
ท่ามกลางความมืดมิด มีแต่เพียงแสงสว่างสี เงินที่งดงามนี้เท่านั้น
แสงนั้นทั้งนุ่มนวลและสวยงาม ส่ องจนรอบด้านสว่างเรื องรอง
ขึ้นมา
ที่ใต้ตน้ ไม้ เต็มไปด้วยดอกบัวสี ดามากมาย บนกลีบดอกตรงใจกลาง
ดอกบัว เต็มไปด้วยไข่ของแมลงกินวิญญาณ
แสงสว่างเรื องรองส่ องประกายออกมาจากไข่หนอนเหล่านั้น คล้าย
ดัง่ เป็ นไข่มุกใต้ทอ้ งทะเล งดงามจนต้องหยุดหายใจ
อากาศบริ เวณรอบๆต้นไม้ใหญ่บริ สุทธิ์สะอาดขึ้นมาก
ตู๋กซู ิงหลันยืนอยูบ่ นหลังของจระเข้ยกั ษ์ มองดูภาพตรงหน้า อย่างที่
อดจะตื่นตะลึงไม่ได้
ใครจะไปคิดว่า ใต้หุบเหวไร้กน้ จะมีทศั นียภาพเช่นนี้
นางเงยหน้าขึ้นมา ปาดเช็ดหยดน้ าสี ดาบนใบหน้า หยิบเศษผ้า
กางเกงของจีเฉวียนใส่ เข้าไปในอกเสื้ อ
ตอนมองอย่างผิวเผิน ก็คิดว่าต้นไม้บิดโค้งจนผิดรู ้ ตอนนี้ถึงได้รู้วา่
มันเหมือนกับมังกรยักษ์ตวั หนึ่ง
กิ่งก้านที่สูงเขียวชะอุ่มที่สุดสองกิ่งนั้น ก็คือ ‘เขามังกร’ ของมัน
มันกาลังดูดซับพลังวิญญาณจากไข่หนอน!
หรื ออาจจะบอกได้วา่ เหล่าแมงกินวิญญาณที่อยูด่ า้ นนอกนัน่ ก็คือ
เครื่ องมือของต้นไม้ตน้ นี้…..มิวา่ สิ่ งใดก็ตามที่ตกลงมาในหุบเหวไร้
ก้นแห่งนี้ ขอเพียงเป็ นสิ่ งที่มีชีวิตและจิตวิญญาณ พอถูกแมลงกิน
วิญญาณกัดกินแล้ว ก็จะกลายเป็ นไข่ จากนั้นก็จะถูกต้นไม้ตน้ นี้ดูด
ซับไป
ถึงแม้วา่ ตู๋กซู ิงหลันจะเคยเห็นสิ่ งต่างๆมามากมายแต่วา่ ก็ไม่เคยเห็น
ต้นไม้เช่นนี้มาก่อนเลย
ดูราวกับมังกรมีชีวิตที่กลายเป็ นต้นไม้ไปแล้ว!
จระเข้ยกั ษ์หยุดอยูต่ รงนี้ ถึงแม้วา่ จะถูกยันต์หุ่นเชิดของตู๋กซู ิงหลัน
บีบคั้นอย่างไรก็ไม่ยอมขยับไปข้างหน้าอีกแล้ว
ทั้งๆที่มนั เป็ นผีดิบแต่วา่ ดวงตาที่เหมือนกับดวงตาของปลาตายทั้งคู่
ก็ยงั แสดงความหวาดกลัวออกมา
มิวา่ ตู๋กซู ิงหลันจะทาเช่นไรกับมัน มันก็ไม่ยอมขยับไปไหนอีก
ตู๋กซู ิงหลันจึงมิได้บีบบังคับมันอีกต่อไป
บริ เวณรอบๆต้นไม้มีพ้นื ดินอยูบ่ า้ ง ด้านบนยังมีหญ้าที่สูงถึงครึ่ งตัว
คน
นางสัง่ ให้จระเข้ยกั ษ์ไปที่ริมตลิ่ง ค่อยพลิกตัวลงไป
นางไม่ได้คลายสะกดของยันต์หุ่นเชิดให้กบั มัน แต่ใช่เสื้ อผ้าที่ถกั
เป็ นบังเ**ยนนั้นล่ามมันเอาไว้กบั พุม่ ไม้พมุ่ หนึ่ง
เจ้าจระเข้ยกั ษ์ใช้ตาปลาตายของมันมองมาที่นางด้วยท่าทางน่า
สงสารราวกับสุ นขั ตัวหนึ่ง
ตู๋กซู ิงหลันใช้มือตบลงไปบนตะปุ่ มตะป่ าที่อยูบ่ นหัวอันใหญ่โตของ
มัน เอ่ยคาหนึ่งว่า “รออยูน่ ี่ดีๆ”
เมื่ออยูใ่ นหุบเหวไร้กน้ บึ้งนางยังจาเป็ นต้องใช้พาหนะสาหรับ
เดินทาง วิญญาณทมิฬเป็ นเพียงแค่ร่างจิต นางไม่อาจฝากความ
คาดหวังอะไรได้ เจ้าจระเข้ยกั ษ์ตวั นี้จึงเป็ นตัวเลือกที่ดีที่สุด
ว่าแล้วก็ไม่ลืมเอ่ยกับวิญญาณทมิฬว่า “เจ้าจระเข้นอ้ ยนัน่ ก็น่ารักดี
นะ”
วิญญาณทมิฬมองดูเจ้าจระเข้ยกั ษ์ที่ตวั แข็งเหมือนกับผีดิบนัน่ แวบ
หนึ่ง ก็ไม่อาจทาความเข้าใจได้วา่ มัน ‘น่ารัก’ ที่ตรงไหน
จระเข้ยกั ษ์ขยับตัวไปมาอยูห่ ลายครั้ง แต่ในเมื่อหนีไปไหนไม่รอดจึง
ล้มเลิกที่จะดิ้นรน กลับตัวไปนอนรออยูใ่ นคูน้ าตื้นๆ ดูท่าท่างไร้
ทางเลือก
ท่ามกลางกอหญ้าสู งท่วมเอว ตู๋กซู ิงหลันก็บงั เอิญคลาไปเจอบางสิ่ ง
แข็งๆเย็นๆที่นางรู ้สึกคุน้ เคยเข้าพอดี
ตอนที่ 432 เจ้ าก็คือซิงซิงผู้น้ัน?
ท่ามกลางแสงสลัว นางคว้าสิ่ งนั้นเอาไว้ในมือใช้กาลังฉุ ดดึงมัน
ขึ้นมา ก็เห็นว่าเป็ นดาบยักษ์ของพี่ใหญ่ที่นางทาหล่นหายไปนัน่ เอง
แสงสี เงินยวงที่แวววาวพลันเปลี่ยนเป็ นแสงสี ดาทะมึนขึ้นมา
นางกระชับดาบเล่มนั้นเอาไว้ในมือ ตัวดาบที่หนักจมดินไปแล้วกว่า
ครึ่ ง พอดึงขึ้นมาจึงมีโคลนดาๆเกาะอยูเ่ ต็มไปหมด
ตู๋กซู ิงหลันออกจะประหลาดใจอยูบ่ า้ ง ไม่รู้วา่ ดาบใหญ่เล่มนี้มาที่นี่
ได้อย่างไร
นางนัง่ ลงพักผ่อนที่กอ้ นหินใหญ่ขา้ งๆอยูค่ รู่ หนึ่ง พอร่ างกายมีกาลัง
ขึ้นมาหน่อยก็ค่อยแบกดาบเล่มนั้นไปที่ริมแม่น้ าสี ดา จุ่มลงไปแกว่ง
ไปแกว่งมา
ทันใดนั้นเอง บนศีรษะก็มีกิ่งเถาวัลย์สองสามกิ่งห้อยลงมา
น้ าในแม่น้ าเป็ นสี ดาสนิท จึงทาให้มองไม่เห็นเงาสะท้อนบนศีรษะ
แม้แต่นอ้ ย ตู๋กซู ิงหลันพึ่งจะก้มเอวลงไป กิ่งเถาวัลย์เหล่านั้นก็พนั ลง
มาอย่างรวดเร็ ว
นางถอยไปด้านข้างวูบหนึ่ง ใช้มือเดียวกุมดาบยักษ์พลิกมือฟัน
กลับไป
“ตึง…..” ได้ยนิ แต่เสี ยงของโลหะกระทบกันครั้งหนึ่ง เป็ นเสี ยงของ
ดาบยักษ์กระแทกเข้ากับกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่จนส่ งเสี ยงดังบาดหู
เกิดเป็ นสะเก็ดไฟที่สวยงามกระเด็นขึ้นมา และหล่นลงไปในน้ าสี ดา
ราวกับถ่านแดงๆที่ถูกแช่ลงไปในน้ าเย็นจัด
ตู๋กซู ิงหลันเขม่นตามองออกไป ตระเตรี ยมตั้งรับขึ้นมาในทันที
ดาบยักษ์ของพี่ใหญ่ ขนาดตอนที่ใช้สบั ราชามังกรทะเลตะวันตกลู่
กว่างก็ยงั ทาได้เหมือนหัน่ แตงโม
แต่วา่ ตอนนี้แค่กิ่งสองกิ่งกลับตัดไม่ขาด?
เรี ยวแขนที่บอบบางพ้นชายเสื้ อออกมา ยามฟาดดาบลงไปสามารถ
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าท่อนแขนของนางเกร็ งจนกล้ามขึ้น
พอกิ่งเถาวัลย์เพียงสองกิ่งไม่อาจจัดการนางได้ ก็มีกิ่งเถาวัลย์อีกนับ
สิ บกิ่งหล่นลงมาจากด้านบนในทันที
กิ่งเถาวัลย์เหล่านี้ลว้ นมีชีวิตจิตใจ บนกิ่งมีใบสี ดา บางใบพอดูดซึม
ไข่ของแมลงกินวิญญาณเข้าไปแล้วก็เปลี่ยนเป็ นแสงสี เงินยวง
ตู๋กซู ิงหลันกวัดแกว่งดาบยักษ์ออกไป กาลังที่ใช้ออกยังโหดเ**้้ยม
กว่าตอนที่ใช้กบั ลู่กว่างมากนัก แต่วา่ กิ่งเถาวัลย์พวกนี้กลับแข็งแกร่ ง
อย่างไร้เหตุผล!
นางสับลงไปจนส่งเสี ยงดังตึงตังๆ ก็ยงั ไม่มีใบหล่นลงมาสักใบ!
กลับเป็ นตู๋กซู ิงหลันที่ถูกพวกกิ่งเถาวัลย์นบั สิ บกิ่งรายล้อมเข้ามาพัน
ตัวจนขยับไม่ได้
ได้ยนิ เสี ยง ‘ซวบ’ดังขึ้นมา คราวนี้แม้แต่ดาบยักษ์ของนางก็ยงั ถูก
รวบขึ้นไปบนต้นไม้ดว้ ยพร้อมๆกัน
วิญญาณทมิฬที่ช่วยเหลืออยูด่ า้ นข้าง พยายามทั้งกัดและกระชากแต่
กิ่งไม้พวกนั้นก็ไม่เป็ นอะไร มันกัดเสี ยจนฟันโยกแล้ว
พอตู๋กซู ิงหลันถูกลากขึ้นไป วิญญาณทิมฬก็ถูกมัดขึ้นไปด้วยเช่นกัน
ริ มหูได้ยนิ เสี ยงลมพลิ้วผ่าน ยิง่ สู งขึ้นไปกลิ่นเหม็นก็ยงิ่ จางลง
ต้นไม้ตน้ นี้สูงมาก ยังสู งกว่าน้ าตกสี ดานั้นอีกครึ่ งหนึ่ง
ลาต้นขนาดใหญ่แทบจะครอบคลุมอยูเ่ หนือน้ าตกทั้งหมด พอตู๋กู
ซิงหลันถูกลากขึ้นไปถึงได้มองเห็นสภาพโดยรอบได้ชดั เจนมากขึ้น
ท่ามกลางความมืดมิด มีแสงสี เงินเล็กๆทอประกายราวกับหมู่ดาวใน
ยามราตรี
มือที่กมุ ดาบยักษ์เอาไว้ถูกมัดจนแน่นหนา ทัว่ ทั้งร่ างถูกพันทบไปมา
จนเป็ นลูกบ๊ะจ่าง คนถูกลากขึ้นไปเรื่ อยๆจนเกือบจะถึงจุดที่เป็ น
‘เขามังกร’ ต้นไม้ตน้ นั้นถึงได้หยุดลง
ได้ยนิ เสี ยงดังซวบซาบดังมา กิ่งเถาวัลย์เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ วจับตู๋
กูซิงหลันมัดเอาไว้บนกิ่งกิ่งหนึ่ง
พอมองลงไป ก็สูงจากพื้นถึงร้อยกว่าเมตร!
ใต้เท้ามีแต่ความว่างเปล่า หากว่าไม่ระมัดระวังจนตกลงไปมีหวัง
ต้องพบกับจุดจบที่กระดูกหักทัว่ ร่ าง
ตู๋กซู ิงหลันกลั้นลมหายใจเอาไว้ ขณะเดียวกันก็พบว่ากิ่งเถาวัลย์
ต่างๆค่อยๆถอยออกไป เหลือเพียงไม่กี่กิ่งทาหน้าที่คอยช่วยพยุงนาง
เอาไว้
พอนางคิดจะหยิบยันต์ข้ ึนมา เพียงแค่ขยับมือก็ถูกจับมัดไว้อีกครั้ง
แม้แต่ดาบยักษ์ก็ยงั ถูกต้นไม้ตน้ นี้ลากออกไปจนไกลจากนาง
ทันใดนั้นเอง ก็ได้ยนิ เสี ยงของบุรุษที่ผา่ นโลกมามากผูห้ นึ่ง “ช่าง
เป็ นสาวน้อยที่อารมณ์ร้ายนัก”
น้ าเสี ยงนั้นดังมาจากทุกทิศทาง จนแยกไม่ออกว่ามาจากที่ใดกันแน่
ตู๋กซู ิงหลันเบิกตาโต ถามออกไปว่า “ท่านผูอ้ าสุ โสคือผูใ้ ด?”
ตั้งแต่ตอนที่นางตกลงมาในหุบเหวไร้กน้ ก็ไม่เคยได้พบกับคนที่ยงั
มีชีวิตมาก่อน อยูๆ่ พอได้ยนิ เสี ยงที่สามารถใช้ภาษามนุษย์สื่อสารกัน
ได้จึงรู ้สึกว่าน่าสนิทสนมขึ้นมา
คืนต้นไม้ตน้ นี้น่ะหรื อ?
หรื อว่าเป็ นเทพเซียนที่อยูเ่ บื้องหลังของมันกัน?”
ด้วยความสามารถขนาดที่เจ้าจระเข้ผีดิบยังกริ่ งเกรงและสามารถ
บังคับเหล่าแมลงกินวิญญาณเท่านี้กม็ ิอาจมองข้ามได้แล้ว
“เจ้าถามว่าข้าเป็ นใครหรื อ?” คนผูน้ ้ นั รู ้สึกเหมือนได้ยนิ เรื่ องขาขัน
จนต้องหัวเราะออกมา “เจ้าตกลงมาในหุบเหวไร้กน้ กลับไม่รู้วา่ ข้า
คือผูใ้ ดหรื อ?”
“ทาไมเด็กรุ่ นหลังในตอนนี้ จึงไม่รู้เรื่ องรู ้ราวถึงเพียงนี้….”
ตู๋กูซิงหลัน “…….” นางต้องของอภัยในความไม่รู้เรื่ องของตนเอง
แต่วา่ มันคือเรื่ องจริ ง!
ต้นไม้น้ นั มิได้รัดนางจนแนบแน่น แต่วา่ นางก็ไม่อาจดิ้นหลุดได้
นางก้มหน้าลง กระพริ บตาเบาๆ ก็เห็นว่าด้ายผูกชะตาบนข้อมมือ
เป็ นสี แดงเข้มขึ้นมา
หัวใจของนางกระตุกวาบ มองออกไป ก็เห็นว่าไม่ไกลออกไป ตรง
จุดหนึ่งบนยอดไม้ที่มีกิ่งเถาวัลย์พนั ไปมาจนมิดชิด มีเงาร่ างร่ างหนึ่ง
ถูกห่อหุม้ เอาไว้
เพราะถูกกิ่งก้านที่สลับซับซ้อนบดบังสายตา ตอนแรกจึงมองไม่เห็น
“ว่าอย่างไร พวกเจ้ารู ้จกั กันด้วยหรื อ?” ครู่ หนึ่งเสี ยงนั้นก็ดงั ขึ้นมาอีก
ด้วยน้ าเสี ยงที่หยอกเย้า
ตู๋กซู ิงหลันไม่ได้ตอบคาถาม นางยังไม่รู้ชดั ว่าอีกฝ่ ายคือใครมาจาก
ไหน ย่อมไม่ยอมตอบกลับไปง่ายๆ
มีเพียงข้อหนึ่งที่น่าจะยืนยันได้นนั่ ก็คืออีกฝ่ ายเป็ นผูท้ ี่แข็งแกร่ ง เป็ น
พวกสุ ดยอดของความแข็งแกร่ ง!
หากว่าพลาดไปเพียงนิดเดียว ก็อาจทาให้ตนเองต้องแหลกลาญได้
อย่างแน่นอน!
เห็นนางไม่ตอบ อีกฝ่ ายก็ไม่ได้โกรธ เพียงเอ่ยเรื่ อยๆให้ได้ยนิ ว่า
“คนหนุ่มผูน้ ้ ี ตอนที่ตกลงมา ก็บงั เอิญกระแทกเข้ากับจุดที่มีหินที่
แข็งที่สุดของหุบเหวไร้กน้ เดิมทีกไ็ ด้รับบาดเจ็บหนักอยูแ่ ล้ว คราวนี้
จึงถึงกับกระดูกแตกแหลกละเอียด ช่างน่าเสี ยดายรู ปโฉมที่งดงาม
นัน่ จริ งๆ….”
ประโยคนี้ ถึงกับทาให้หวั ใจของตู๋กซู ิงหลันผวาขึ้นมาอย่าง่ายดาย?
เขา…..กระดูกแตกแหลกละเอียด?
“พอตกลงมา ก็ยงั พึมพาเรี ยกหาซิงซิงอะไรนัน่ ?”
คนผูน้ ้ นั เอ่ยต่อไปว่า “เจ้าก็คือซิงซิงผูน้ ้ นั หรื อเปล่า?”
หัวใจของตู๋กซู ิงหลันหดเล็กลง ร่ างโน้มออกไปด้านหน้าในทันที กิ่ง
เถาวัลย์ที่พนั รัดนางเอาไว้จึงยิง่ ขมวดแน่นกว่าเดิม
“จะตื่นเต้นเคร่ งเครี ยดไปใย?” คนผูน้ ้ นั หัวเราะเบาๆ “เจ้าก็คือซิงซิง
(ดาว) ดวงนั้นจริ งๆ?”
ตู๋กซู ิงหลันถอนหายใจ จากนั้นเอ่ยเสี ยงต่าว่า “ซิงหลันไร้แซ่ เป็ นแม่
ของเขา! เกิดเรื่ องกับลูก แม่คนใดจะไม่ห่วงใยบ้างเล่า?”
คนผูน้ ้ นั “…..”
แม้แต่วิญญาณทมิฬเองก็ยงั นิ่งอึ้งไป เจ้านี่มนั ยึดติดกับการเป็ นแม่
มากเกินไปแล้ว!
หลังจากนั้นอีกครู่ ใหญ่ ที่เบื้องหน้าพลันปรากฏแสงสี เงินทึมๆขึ้นมา
ได้ยนิ เสี ยงวิง้ ๆ ก็เห็นประกายแสงเหล่านั้นรวมตัวกันเป็ นเงาร่ างร่ าง
หนึ่งอย่างช้าๆ
แสงสี เงินเรื องรองตรงหน้า ดุจดัง่ เทพเซียน
รู ปร่ างของเขาสู งโปร่ ง มีเส้นผมยาวสี เงินยวง หันหลังให้กบั ตู๋กูซิงห
ลัน เสื้ อผ้าบนร่ างพลิ้วไหว เผยใบหน้าด้านข้างให้เห็นเพียงบางส่ วน
เท่านั้น
เป็ นรู ปโฉมที่งดงามจนไม่อาจจะหาใครมาเทียบเทียม!
เขาหันหลังให้กบั ตู๋กซู ิงหลัน พลางเคลื่อนมายังด้านหน้าอีกสองก้าว
พอมาถึงเบื้องหน้าของตู๋กซู ิงหลัน ก็คว้ากิ่งเถาวัลย์กิ่งหนึ่งเอาไว้
สอบถามอย่างจริ งจังว่า “เจ้าชื่ออะไรนะ?”
ตู๋กูซิงหลัน “……”
“นัน่ เอ่อ ท่านผูอ้ าวุโส ข้าอยูด่ า้ นหลังของท่าน….” ผ่านไปพักใหญ่ต๋ ู
กูซิงหลันค่อยเอ่ยขึ้นมา
“อ้อ……อายุมากแล้ว สายตาจึงไม่ค่อยดี” คนผูน้ ้ นั นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย
ค่อยหมุนร่ างกลับมา เดินมาทางข้างกายตู๋กซู ิ งหลัน ……ตรงหน้า
วิญญาณทมิฬ ก็ยนื่ มือออกไปลูบคลา
“ นี่เจ้ามีขนยาวด้วยหรื อ?” เขามีสีหน้าจริ งจัง คล้ายไม่ได้เสแสร้ง ว่า
แล้วก็คลาดูอีกหลายรอบ
วิญญาณทมิฬถูกคว้าคอเอาไว้ มันไม่กล้าขยับตัวแม้แต่นอ้ ย
คนผูน้ ้ ีมีพลังสุ ดแข็งแกร่ งอยูภ่ ายในร่ าง เพียงแค่มายืนอยูต่ รงหน้า ก็
แทบจะทาให้มนั คุกเข่าลงไปบนพื้นร้องเรี ยกเป็ นบิดาแล้ว
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 433 บิดาคนงาม
วิญญาณทมิฬคิดว่าคงเป็ นเพราะมันสู ญเสี ยร่ างเนื้อไป พละกาลังยัง
ไม่ฟ้ื นคืน ถึงได้ทาให้มนั หงอยเช่นนี้!
ต้องใช่แน่นอน….มิเช่นนั้นมันที่เป็ นถึงพี่ใหญ่ของภูติผที ้ งั หลาย
จะต้องมาถูกกดขี่เช่นนี้ได้อย่างไร?
ตู๋กูซิงหลันเบือนหน้าหันไปมอง สิ่ งที่เห็นในสายตาคือใบหน้าที่
หล่อเหลาจนคนต้องหยุดหายใจ
ใช่แล้ว หล่อเหลามากๆ
ต้องเรี ยกว่าเป็ นคุณชายผูส้ ู งศักดิ์เท่านั้นจึงจะเหมาะสม
บุรุษทัว่ ไปหากว่าหน้าตาดี อย่างมากตู๋กซู ิงหลันก็จะให้คานิยามว่า
‘เท่ดี’ แค่น้ นั
แต่วา่ บุรุษตรงหน้าผูน้ ้ ี…ดูองอาจกล้าหาญหล่อเหล่าดุจยอดอัศวิน
โบราณในยุโรป
เส้นผมสี เงินของเขาพลิ้วไหว สองตาปิ ดสนิท ใต้ตาไม่มีรอยคล้ า คิ้ว
เข้มโดยมิตอ้ งวาด องคาพยพทั้งหน้าชัดเจน ตรงกึ่งกลางหน้าผาก ยัง
มีตราประทับรู ปมังกรสี ดาอยูร่ ู ปหนึ่ง
บนศีรษะของเขามีเขามังกร เป็ นสี เงินยวง แต่วา่ มีแต่เขาข้างซ้าย
เท่านั้นที่ยงั สมบูรณ์ เขาข้างขวานั้นหายไปครึ่ งหนึ่ง รอยนั้นเรี ยบ
สนิทราวกับว่าถูกตัดไป
แต่วา่ ทั้งหมดนี้มิได้ส่งผลต่อรู ปโฉมที่หล่อเหลางดงามของเขา
เขาสวมใส่ ชุดสี เงินที่งดงามตลอดร่ าง เพียงแค่ยนื อยูเ่ ฉยๆก็ดูเหมือน
ภาพน้ าหมึกที่งดงามอย่างยิง่ ภาพหนึ่ง
รู ปลักษณ์หล่อเหลาแบบยุคโบราณที่สมบูรณ์แบบและราศีที่องอาจ
กล้าหาญ
ทั้งสองสิ่ งผสมกันอย่างลงตัว จึงดูโดดเด่นงดงามอย่างบอกไม่ถูก
ในโลกใบนี้ ตู๋กซู ิงหลันเคยพบเห็นบุรุษที่หล่อเหลามาไม่นอ้ ย ต่างก็
ต้องถือว่าอยูใ่ นระดับที่น่าชื่นชมอย่างยิง่ โดยเฉพาะจีเฉวียน
แต่วา่ ตอนนี้นางกลับถูกรู ปลักษณ์และราศีของบุรุษตรงหน้าทาให้
ตื่นตะลึงจนนิ่งอึ้งไปแล้ว
มือของเขาสวยงามมาก นิ้วทั้งเรี ยวยาวและขาวนวล แต่วา่ แค่มือ
เช่นนี้ขา้ งเดียวก็แทบจะทาให้วิญญาณทมิฬหงอจนหัวล้านแล้ว
“เจ้ามีขนปุกปุย แล้วจะเรี ยกว่าซิงหลันได้อย่างไร?” เขาลูบคลาร่ าง
ท่อนบนของมันจนทัว่ แล้ว ก็เริ่ มลูบไปยังร่ างท่อนล่าง
พอคลาลงไปถึงเม็ดๆที่เล็กเสี ยจนน่าละอายใจสองเม็ด สี หน้าก็
เปลี่ยนเป็ นเคร่ งขรึ มลง ฝ่ ามือนั้นเขกลงมาบนหัวของวิญญาณทมิฬ
ครั้งหนึ่ง “เจ้ามันเป็ นตัวผู ้ แล้วจะเรี ยกว่าซิงหลันได้อย่างไร?!”
วิญญาณทมิฬถูกฝ่ ามือนี้ซดั ลงมาก็มึนงงจนแทบจะสลบคาที่ ไม่ใช่
นะ…..ประเด็นสาคัญท่านเทพเซียนผูย้ งิ่ ใหญ่ท่านไม่ได้เปิ ดโอกาส
ให้ขา้ ได้อธิบายเลยต่างหาก
แล้วสองตาที่ไม่ยอมลืมขึ้นมาเลยนัน่ คืออะไร? ท่านลองเหลือบดูขา้
สักแวบสิ !
ตู๋กซู ิงหลันเองก็พดู อะไรไม่ออก นางกระแอมไออยูส่ องครั้ง ค่อย
เอ่ยว่า “ท่านผูอ้ าวุโส มันคือถวนจื่อ เป็ นเพียงวิญญาณน้อยๆ ข้า
ต่างหากถึงจะเป็ นซิงหลัน”
ตอนนี้ต๋ ูกูซิงหลันมัน่ ใจอย่างหนึ่งแล้วว่า บุรุษขาโหดผูน้ ้ ีคงจะ
สายตาไม่ดีอย่างแน่นอน….
อืม อาจจะเรี ยกว่าตาบอดก็ได้!
น่าเสี ยดายเหลือเกิน หรื อฟ้าดินจะริ ษยาผูค้ น!
แต่วา่ เป็ นเช่นนี้กด็ ีเหมือนกัน หากว่าเขาตาบอด นางจะได้ช่วยเหลือ
จีเฉวียนได้อย่างไม่ยากเกินไปนัก
นางหลุบตาลง มองดูดา้ ยผูกชะตาที่ส่องแสงสี แดงระเรื่ อบนข้อมือ
อย่างแทบจะมัน่ ใจอย่างเต็มที่เลยว่า คนที่อยูห่ ่างไปไม่ไกลผูน้ ้ นั
จะต้องเป็ นจีเฉวียนอย่างแน่นอน
เขาบาดเจ็บหนักมาก ….ยังดีที่พ้นื ฐานร่ างกายแข็งแกร่ ง จึงยัง
ประคองชีวิตเอาไว้ได้
ตอนนั้นนางขาพิการ ก็ยงั รักษาจนหายได้…..คนที่แข็งแกร่ งอย่างจี
เฉวียน ต่อให้กระดูกแหลก…..
ตู๋กซู ิงหลันหวังว่า เขาจะกลับมาหายดีได้
เพราะเรื่ องของฉางซุนอิง ในใจของตู๋กซู ิงหลันจึงเกิดความเกลียดชัง
เขา เกลียดชังส่ วนเกลียดชัง แต่ไม่ได้คิดจะอยากให้เขาต้องถึงตาย
เมื่อครู่ พอได้ยนิ ว่าเขา ‘กระดูกแตกแหลกหมด’ หัวใจของนางก็วบู
ลงไป
ปวดเหลือเกิน
นางคิดว่า….ต่อให้ไม่ได้เห็นรอยประทับดอกบัวตรงบั้นเอวของเขา
นางก็ยงั คงจะกระโดลงมาช่วยเขาอยูด่ ี
ตอนนี้พอมัน่ ใจได้วา่ เขายังมีชีวิตอยู่ หัวใจของนางก็โล่งไปเปราะ
หนึ่ง
ตอนนี้จึงตัดสิ นใจจะคลาทางผูกมิตรกับ ‘ท่านเทพผูย้ งิ่ ใหญ่’
ตรงหน้าให้ดีเสี ยก่อน จากนั้นค่อยดาเนินการหาทางช่วยเหลือ
พอนางเอ่ยออกไป จึงเห็นว่า ‘ท่านเทพผูย้ งิ่ ใหญ่’หันมาทางนี้ พลาง
ก้าวมาตรงหน้านาง
เดินมาได้สองก้าว เท้าของเขาก็พลิกออก เหยียบลงไปในอากาศ!
จากนั้นก็ร่วงลงไปจากบนต้นไม้
“อัยย่ะ!” เขาร้องออกมา ขณะที่ร่างยังตกลงไปเรื่ อยๆ!
ตู๋กูซิงหลัน “ ! ! !”
อะไรเนี่ย….นางกาลังเจอกับคนประหลาดหรื อ?
เมื่อกี้ตอนพูดจายังดูองอาจเก่งกล้าอยูเ่ ลยมิใช่หรื อ? นี่กลายเป็ นว่า
ต้นไม้ที่อยูด่ า้ นหลังยังเก่งกว่าเขาอีกหรื อ!
ขณะที่ต๋ ูกูซิงหลันกาลังนินทาอยูใ่ นใจอย่างดุดนั นั้น ก็เห็นกิ่งเถาวัลย์
เส้นหนึ่งพุง่ ตามลงไป เพียงพริ บตาเดียวก็โอบรัดเอวของชายผูน้ ้ นั
เอาไว้ ค่อยๆดึงเขากลับขึ้นมาจากด้านล่าง จากนั้นก็วางลงที่
ด้านหน้าของตู๋กซู ิงหลันอย่างมัน่ คง
พอทั้งสองหันหน้าเขาหากันตู๋กซู ิงหลันถึงมองเห็นได้ชดั เจนว่า
ใบหน้านั้นงดงามอย่างยิง่ ถึงเพียงไหน!
วิญญาณทมิฬเองก็ตะลึงไป มันอยากจะบอกว่า ใบหน้าของคนผูน้ ้ ีมี
ส่ วนคล้ายคลึงกับหลันหลันในโลกก่อนอยูห่ ลายส่ วน!
นางในโลกโน้นและไทเฮาน้อยในโลกนี้ เดิมทีกม็ ีรูปโฉมที่
คล้ายคลึงกันอยูห่ า้ หกส่ วน ต่างก็เป็ นยอดโฉมงาม แต่วา่ ตอนนี้เมื่อ
เปรี ยบเที่ยบดู ‘เยีย่ ซิงหลัน’ ดูจะคล้ายคลึงกับ ‘ท่านเทพผูย้ งิ่ ใหญ่’
มากกว่า
องคาพยพที่คมเข้มเด่นชัด น้ าเสี ยงอบอุ่นอ่อนโยนนั้นถามวว่า
“เจ้าเรี ยกว่าซิงหลัน?” เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากกิ่งเถาวัลลัย ์
‘ท่านเทพผูย้ งิ่ ใหญ่’ ก็ค่อยยืนได้ถูกทาง
ไม่รอให้ต๋ ูกซู ิงหลันตอบรับ เขาก็ยนื่ มือออกมา มือที่เย็นๆนั้นลูบลง
ไปบนใบหน้าของตู๋กูซิงหลัน
ตั้งแต่หวั คิ้วจนถึงจมูกและริ มฝี ปาก ลูบไปทัว่ ใบหน้า
ทีละน้อยๆ อย่างละเอียดลออ
เดิมตู๋กซู ิงหลันก็ถูกกิ่งเถาวัลย์มดั เอาไว้อยูแ่ ล้ว จึงไม่อาจหลีกหนีได้
อยูด่ ี ได้แต่ปล่อยให้ ‘ท่านเทพผูย้ งิ่ ใหญ่’สัมผัสใบหน้าของนาง
ไม่รู้วา่ ทาไม ชัว่ ขณะที่มือของเขาสัมผัสลงบนใบหน้าของตนเอง ตู๋กู
ซิงหลันก็เกิดความรู ้สึกคุน้ เคยและปลอดภัย….ที่ยากจะอธิบาย
ออกมา
‘ท่านเทพผูย้ งิ่ ใหญ่’สัมผัสดูใบหน้าของนางอย่างละเอียดโดยไม่
คลาดอะไรไปแม้แต่นอ้ ย ราวกับว่ากาลังหาข้อยืนยันอะไรบางอย่าง
มือของเขาลูบผ่านปลายคางของนาง
ยามที่มือของเขาแตะลงไปบนหน้าผากของตู๋กูซิงหลันอย่างแผ่วเบา
อีกครั้ง ก็สมั ผัสได้ถึงจิตวิญญาณที่อยูภ่ ายใน ใบหน้าที่สงบนิ่งของ
เขาก็บงั เกิดความประหลาดใจและตื่นเต้นยินดีอย่างไม่น่าเชื่อขึ้นมา
เขาปล่อยมือลงกางแขนทั้งสองข้างออก คิดจะเข้าไปกอดนาง
แต่กร็ ู ้สึกว่าตนเองทาอะไรอย่างผลีผลามมากเกินไป จึงได้แต่
พยายามหักห้ามความตื่นเต้นเหล่านั้นเอาไว้ก่อน
ขนตาที่ยาวและหนาเป็ นแพของเขากระพริ บถี่ๆ แต่ก็มิได้ลืมตา
ขึ้นมา ตู๋กูซิงหลันจึงไม่อาจมองเห็นประกายในดวงตาของเขา
จากนั้นอีกพักใหญ่ ค่อยได้ยนิ เขาเอ่ยขึ้นมาว่า “สหายตัวน้อย เจ้าไม่
รู ้สึกว่า เจ้ากับข้าหน้าตาคล้ายกันหรอกหรื อ?”
ตู๋กซู ิงหลัน “หรื อว่าท่านเป็ นบรรพบุรุษของข้า?”
ถ้านับกันตามอายุ….ก็น่าจะเป็ นรุ่ นบรรพชนได้กระมั้ง?
ประโยคเดียวนั้น แลกมากับความเงียบกริ บในอากาศ
เขาหัวเราะเสี ยงต่าๆออกมา “เจ้าช่างมีอารมณ์ขนั เหมือนกับมารดา
ของเจ้าไม่มีผดิ ”
ตู๋กูซิงหลัน “……”
ไม่ใช่บรรพบุรุษ?
นางสู ดลมหายใจเข้าไปจนลึก เปลี่ยนคาพูดใหม่วา่ “ท่านพ่อ?”
คาว่าพ่อเพียงคาเดียว ก็สามารถเรี ยก ‘น้ าตาของผูเ้ ฒ่าไหลริ น’ ได้
ในทันที
คนที่งดงาม แม้แต่ยามหลัง่ น้ าตาก็ยงั น่าชมอย่างที่สุด!
“อืม!” เขารับคาอย่างรวบรัด แล้วก็กางอ้อมแขนออกอีกครั้ง เอ่ยว่า
“ยัยตัวน้อย มาให้พอ่ อุม้ หน่อย”
พูดส่ วนพูด ร่ างของเขาโอนเอน พอโน้มลงมาก็กอดกิ่งเถาวัลย์เอาไว้
เต็มรัก
ต้นไม้นนั่ อยูๆ่ ก็ได้รับความรักใคร่ พลันมีสีแดงระเรื่ อขึ้นมา บิดตัว
จนโค้งงอ
ตู๋กูซิงหลัน “……”
ดูท่าจากสถานการณ์ในตอนนี้…..นางจะบังเอิญได้พบกับบิดาคน
งามของไทเฮาน้อยเข้าแล้ว?
เป็ นคนตาบอดที่งดงาม……
“ไม่ใช่ เขาดูคล้ายคลึงกับตัวเจ้าในโลกโน้นมากกว่า” วิญญาณทมิฬ
ส่ ายศีรษะ อย่างบอกไม่ถูกว่าทาไมคิดเช่นนั้น
ครู่ ต่อมา บิดาคนงามค่อยปล่อยกิ่งเถาวัลย์ คลาทางไปคลาทางมาอยู่
พักหนึ่งถึงได้มาถึงด้านหน้าของตู๋กูซิงหลัน
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 434 “ชีวติ ที่เรียบง่ ายที่สุดนั่นคือ
ความสุ ขที่สุดแล้ว”
ครั้งนี้เขากางสองแขนเข้ามาอย่างช้าๆ โอบกอดนางเอาไว้อย่างแผ่ว
เบา
กอดร่ างที่ผอมบางของนางจนรู ้สึกได้ถึงความหนาวเย็นภายในร่ าง
ของนาง มือของเขาลูบลงไปบนเส้นผม กระซิ บเบาๆที่ริมหู “จากกัน
ไปหลายปี เจ้าตัวน้อยเติบโตขึ้นมากแล้ว…..”
น้ าเสี ยงนั้นรักใคร่ อย่างยิง่
รู ปลักษณ์ของเขาคล้ายดัง่ คนที่มีอายุไม่ถึงสามสิ บด้วยซ้ า คนทั้งสอง
จึงดูคล้ายคู่พี่นอ้ งมากกว่า
“ตอนนั้นที่ส่งเจ้าออกไป เจ้ายังเป็ นเพียงทารกอยูเ่ ลย” มืออีกข้าง
หนึ่งของเขาตบลงบนบ่าของตู๋กซู ิงหลันเบาๆ “ตอนนั้น ตัวน้อยนิด
เดียว ทั้งขาวทั้งนุ่ม งดงามเหมือนดังตุ๊กตา….
จากกันไปนานปี เขาไม่อาจได้เห็นนางยามที่เติบโตขึ้นมา
ได้แต่อาศัยมือคลาดูเท่านั้น แม้แต่จิตวิญญาณที่อยูภ่ ายในร่ างนั้น เขา
ก็ตอ้ งใช้จิตมังกรของตนสัมผัส
ยามที่เขาเอ่ยถึง ‘ตอนนั้นที่ส่งเจ้าออกไป’ ตู๋กูซิงหลันกลับไม่ทนั ได้
ฟังอย่างชัดเจน นางกาลังตกตะลึงกับการที่ท้ งั สองได้กลับมาพบกัน
อีกครั้งในที่เช่นนี้
ใต้หล้ากว้างใหญ่ไพศาล คนที่สมควรจะได้พบกันจะอย่างไรก็ตอ้ ง
ได้เจอกันสิ นะ……
ตู๋กซู ิงหลันไม่ได้ผลักเขาออกไป ปล่อยให้เขากอดเอาไว้ ทั้งร่ างกาย
และจิตใจไม่อาจต่อต้านบุรุษผูน้ ้ ี
ไม่วา่ เขาจะใช่บิดาของไทเฮาน้อยจริ งๆหรื อไม่ ตู๋กซู ิงหลันก็รู้สึกว่า
อ้อมกอดนี้ช่างดูคุน้ เคย ทาให้นางอยากเข้าไปใกล้เขา
นางยังไม่รู้เลยว่าตกลงแล้วเขามีฐานะเป็ นใครกันแน่
บนศีรษะมีเขามังกร….ก็ตอ้ งเป็ นเผ่ามังกรอย่างแน่นอนแล้ว
ผูท้ ี่สามารถอยูใ่ นหุบเหวไร้กน้ ที่ดูดกลืนทุกชีวิตได้อย่างสุ ขสบาย
…..จะต้องเป็ นคนสาคัญของเผ่ามังกรอย่างแน่นอน
“ยังไม่ได้แนะนาตัวให้ดีเลย….” กอดอยูเ่ นิ่นนาน เขาก็ค่อยยอม
ปล่อยนาง มือที่ใหญ่โตปัดเถาวัลย์ที่รายล้อมตู๋กซู ิงหลันไว้ออกไป
เขาจูงมือของตู๋กซู ิงหลัน ไปนัง่ อยูบ่ นกิ่งก้านขนาดใหญ่ของต้นไม้
“พ่อของเจ้าชื่อว่า เยีย่ จ้าน” เขาแนะนาตนเองออกมา “เป็ นราชาของ
เผ่ามังกรทมิฬ”
ได้ฟังข้อสรุ ปเช่นนี้ ตู๋กซู ิงหลันเพียงแต่แปลกใจอยูบ่ า้ งเท่านั้น นาง
สมควรคิดได้ต้ งั แต่แรกแล้ว…
ตั้งแต่ที่ได้เห็นดวงตาทั้งสองของเยีย่ อิง ก็สมควรจะคิดถึงฐานะของ
ไทเฮาน้อยออกแล้ว
เพียงแต่ตอนนั้นเลือกที่จะยังไม่ไปคิดถึงมัน
ตอนนี้เมื่อความจริ งปรากฏตรงหน้า….ต่อให้นางไม่อยากจะเชื่อก็
ไม่มีหนทาง
“เจ้าไม่ประหลาดใจหรื อ?” เยีย่ จ้านเอ่ยพลางก็คว้ามือของนางไว้
แนบแน่นกว่าเดิม
พอคิดๆดูแล้ว….ตั้งแต่ที่นางได้เจอเขาจนถึงตอนนี้กด็ ูสงบนิ่งอย่าง
มาก ราวกับว่าถึงอยูๆ่ จะมีคนมาบอกว่าเป็ นบิดา ก็ได้มีผลกระทบ
อะไรต่อนางเลย
“ดวงตาของท่าน มองไม่เห็นหรื อ?” ตู๋กูซิงหลันมิได้ตอบคาถามเขา
ตรงๆ เพียงแต่ยนื่ มือข้างหนึ่งมาโบกไปมาอยูต่ รงหน้าเขา
เยีย่ จ้านมิได้มีปฏิกริ ยา เพียงคว้ามือที่วนุ่ วายของนางเอาไว้ “บอด
แล้ว บอดมายีส่ ิ บปี แล้ว”
ยีส่ ิ บปี …..คือช่วงเวลาที่ไทเฮาน้อยสู ญเสี ยบิดามารดาไปพอดี
“ทาไม….ถึงตาบอดเล่า?” ที่จริ งตู๋กซู ิงหลันคิดจะถามว่ามารดาของ
ไทเฮาน้อยยังมีชีวิตอยูห่ รื อไม่มากกว่า…..
แต่วา่ พอคาพูดมาถึงริ มฝี ปาก นางก็ได้แต่กลืนกลับลงไป
หลายปี ก่อนนั้นศพของมารดาไทเฮาน้อยถูกพบที่ริมทะเล
ตะวันตก….ตอนที่เจอ นางตายอย่างอนาถ ถึงกับไม่อาจแยกแยะจาก
รู ปโฉมได้
เรื่ องราวในตอนนั้น แม้แต่ท่านตาก็ยงั ไม่อยากจะเอ่ยถึง
แต่วา่ ตู๋กซู ิงหลันยังคงกอดความหวังที่เรื อนลางเอาไว้ วาดฝันไปว่า
บางทีต๋ ูกูชิงชิงอาจจะยังไม่ตายก็เป็ นได้
อาจจะได้มีโอกาสกลับมาอยูด่ ว้ ยกันอย่างพร้อมหน้า
ถึงแม้วา่ นางจะใช้ร่างของไทเฮาน้อย แต่กถ็ ือว่าตระกูลตู๋กูเป็ น
ครอบครัวของตนเองแต่แรกอยูแ่ ล้ว
เรื่ องบางเรื่ อง ตอนที่ยงั ไม่รู้คาตอบก็ครุ่ นคิดไปเป็ นร้อยเป็ นพัน
หนทางให้ได้รู้
แต่วา่ รอจนคาตอนนั้นมาอยูต่ รงหน้า กลับอยากจะยืดเวลา
ออกไป…..
กลัวว่าจะได้ยนิ คาตอบที่ไม่อยากจะได้ยนิ เข้า
“ดวงตาคู่น้ ี เป็ นเพราะว่าข้าติดค้างมารดาของเจ้า….” มือของเยีย่ จ้าน
สัน่ เทาน้อยๆ
ตลอดหลายปี มานี้ ไม่มีวนั ใดที่ผา่ นไปอย่างไม่ตอ้ งอดทนกล้ า
กลืน….
“ตอนนั้น….. ท่านแม่ไม่รู้ฐานะที่แท้จริ งของท่านใช่หรื อไม่?” ตู๋กู
ซิงหลันนัง่ อยูข่ า้ งเขา ที่จริ งนางก็คิดว่าตนเข้าใจดี คนหนึ่งเป็ นสาว
น้อยชาวมนุษย์ อีกคนเป็ นราชาเผ่ามังกรทมิฬ
การมาพบกันของทั้งสอง ….จะต้องไม่บงั เกิดผลดี โดยเฉพาะกับเผ่า
มังกรทมิฬที่เป็ นเผ่ากระหายเลือดอยูแ่ ล้ว…..
อย่าได้เห็นว่ารู ปลักษณ์ภายนอกของเยีย่ จ้านสู งศักดิ์งามสง่า โลหิ ตที่
ไหลอยูใ่ นกายจะอย่างไรก็เป็ นเช่นนั้นอยูด่ ี
“ตอนนั้น…..” เยีย่ จ้านเบือนหน้าออกไป ดวงตาที่ปิดสนิทอยูแ่ ง้ม
เป็ นเส้นบางๆ จึงทาให้เห็นว่าในนั้นเป็ นช่องสี ดาที่วา่ งเปล่า
ดวงตาดอกท้อที่เคยงดงามคู่น้ นั ไม่มีลูกตาอีกแล้ว
ขนตาที่หนาเป็ นแพทาบทับลงมา ภายใต้แสงสลัวของแมลงกิน
วิญญาณ เกิดเป็ นเงาจางๆ
ช่วยปิ ดบังความว่างเปล่าใต้ดวงตาคู่น้ นั เอาไว้
“นัน่ เป็ นเรื่ องเมื่อสามสิ บปี มาแล้ว….” เขาเอ่ยขึ้นมา แล้วก็ถอน
หายใจยาวๆ “เจ้าสามารถมาถึงที่นี่ได้ ย่อมต้องรู ้วา่ ที่นี่คือก้นทะเล
ลึก คือที่อยูข่ องเผ่ามังกรทมิฬ คือเผ่าที่ถูกเหล่าเทพเจ้ากดเอาไว้ให้อยู่
แต่ในความมืดมิดไปตลอดกาล
“ในเมื่อข้าเป็ นถึงราชาของเผ่ามังกรทมิฬ แต่ไหนแต่ไรย่อมไม่อาจ
ทนรับการกดขี่เช่นนี้ หลายปี ที่ผา่ นมาจึงไม่เคยถอดใจที่จะทะลวง
ผ่านการคุมขังนี้ออกไปให้ได้” เยีย่ จ้านพูดไป หัวคิ้วก็ขมวดเข้าหา
กันน้อยๆ “ครั้งนั้น หลังจากที่ถูกกักขังมานานนับพันปี ในที่สุดข้าก็
สามารถทะลวงออกไปจากการกักขังได้สาเร็ จ….ราคาที่ตอ้ งแลกไป
ก็คือการบาดเจ็บหนัก จนสู ญเสี ยความทรงจา”
“แล้วท่านแม่กช็ ่วยท่านเอาไว้?”
เยีย่ จ้านพยักหน้า “ตอนที่ชิงชิงอยูใ่ นวัยสาว นางชมชอบท่องเที่ยว
ไปทัว่ ตอนนั้นนางอยูท่ ี่ทะเลตะวันตกพอดี จึงช่วยข้าขึ้นมาจากริ ม
ทะเล แล้วก็พาข้ากลับไป”
“ตอนนั้น ข้าไม่รู้วา่ ตนเองคือใคร แม้แต่ชื่อของตนเองก็ยงั ไม่รู้….”
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ถอนใจออกมาครั้งหนึ่ง
จะว่าอย่างไรดี….นี่อาจเป็ นชะตากรรมหรื อฟ้าดินกาหนดไว้
ไม่เช่นนั้นใยจึงจะต้องเป็ นมารดาที่ไปช่วยเหลือเขาอย่างพอดิบ
พอดี?
เรื่ องราวภายหลังจากนั้นมิตอ้ งให้เยีย่ จ้านพูดออกมา ตู๋กซู ิงหลันก็เดา
ได้อยูแ่ ล้ว
ด้วยรู ปลักษณ์ระดับราชามังกรทมิฬ ไม่ตอ้ งพูดว่าเป็ นตู๋กชู ิงชิง ต่อ
ให้เป็ นหญิงสาวอื่นๆในใต้หล้าหากได้พบเห็นก็เป็ นต้องหลงรัก
จนถึงแก่นกระดูก
การพบกันของพวกเขานั้นแสนจะธรรมดา และพวกเขาก็ตกหลุมรัก
กันอย่างเรี ยบง่าย
“นางพาข้ากลับไปยังแคว้นต้าโจว ตั้งชื่อใหม่ให้กบั ข้า จากนั้นพวก
เราก็รักกัน ท่านผูเ้ ฒ่าจึงอนุญาต ให้ขา้ แต่งเข้าไปเป็ นเขย ตลอด
หลายปี ที่อยูใ่ นตระกูลตู๋กนู ้ นั ข้ากับชิงชิงรักใคร่ กลมเกลียว พวกเรา
มีบุตรชายสองคน….”
ตอนที่เยีย่ จ้านเล่าเรื่ องเล่านี้ออกมา สี หน้าทั้งอบอุ่นและอ่อนโยน
นัน่ เป็ นความทรงจาที่แสนหวาน ทุกวันนี้แม้นึกถึงขึ้นมา ก็ยงั รู ้สึก
หวานล้ าเข้าไปถึงกระดูก
เขาเคยเป็ นราชามังกรทมิฬที่เหล่าทวยเทพต่างก็ยาเกรง คือผูท้ ี่มี
ชื่อเสี ยงในเรื่ องความน่าหวาดกลัวไปทัว่ ทั้งหกภพภูมิเทียบเท่ากับ
ราชันย์ของเผ่าหมิง
เขาเคยเลือดเย็น ไร้รักไร้ความผูกพัน
เขาก็เคยดูถูกพวกมนุษย์วา่ ต่าต้อยไร้ค่า เป็ นทาสของเจ็ดอารมณ์และ
หกปรารถนา
จนกระทัง่ เขาได้พบกับตู๋กชู ิงชิง….ถึงได้รู้วา่ ความเรี ยบง่ายนั้น จึง
จะเป็ นความสุ ขที่แท้จริ ง
ตอนนั้นเขาคิดแต่จะอยูเ่ คียงข้างนางเพียงผูเ้ ดียวจนกระทัง่ ผมขาว
มองดูลูกมีหลาน หลานมีเหลน ไปกับนางจนแก่เฒ่า
แต่ทุกอย่างกลับสิ้ นสุ ดลงเมื่อซิงหลันถือกาเนิดขึ้นมา
นางได้รับพลังอันแข็งแรงของเผ่ามังกรทมิฬมาแต่กาเนิด…..
ในคืนนั้น คืนที่นางถือกาเนิดออกมา แม้แต่พระจันทร์กก็ ลายเป็ นสี
แดง คลื่นในทะเลบ้าคลัง่ ….เหล่าสรรพสัตว์พากันเคลื่อนไหว
พลังที่แข็งแกร่ งนั้นได้ปลุกพลังมังกรภายในร่ างของเขาขึ้นมา เขาจึง
ค่อยจดจาเรื่ องราวทั้งหมดได้
รวมถึงตัวตนที่แท้จริ งของตนเองด้วย……
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 435 ข้ าจะรักเอ็นดูนาง เหมือนดั่ง
เป็ นบุตรสาวของตนเอง
คืนที่ต๋ ูกซู ิงหลันถือกำเนิดมำนั้น แม้แต่สวรรค์เก้ำชั้นฟ้ำก็ยงั มีควำม
เคลื่อนไหว
ในตอนนั้นปฏิกริ ยำอย่ำงแรกที่เขำมีก็คือหำทำงปกป้องพวกนำงแม่
ลูก
ดังนั้นเขำจึงผนึกพลังของเผ่ำมังกรทมิฬในตัวของนำงเอำไว้ ทั้ง
ยัง….ถ่ำยเทพลังของสำยเลือดคลุม้ คลัง่ ในกระดูกของนำงไปไว้ที่
ร่ ำงของบุตรคนรอง
บุตรชำยจะอย่ำงไรก็มีภูมิตำ้ นทำนมำกกว่ำบุตรสำว ต่อให้เลือดคลุม้
คลัง่ นั้นตื่นขึ้นมำ ก็คงจะไม่ทรมำนสักเท่ำไร
เยีย่ จ้ำนคิดแต่เพียงว่ำของเพียงพลังในร่ ำงของตู๋กซู ิงหลันไม่ถูกพบ
เจอ ครอบครัวของเขำก็ยงั จะสำมำรถมีชีวิตเช่นนี้ต่อไปได้
อย่ำงน้อยๆ…..เขำก็อยำกจะอยูก่ บั ชิงชิงไปจนเส้นผมขำวโพลน
แต่ใครจะไปรู ้วำ่ นำงจะได้รับมรดกทำงสำยเลือดของเผ่ำมังกรทมิฬ
มำอย่ำงสมบูรณ์พร้อม ทั้งๆที่เป็ นเพียงทำรก แต่แค่โบกมือเพียง
เบำๆก็สำมำรถทำลำยก้อนหินขนำดใหญ่ภำยในจวนจนกลำยเป็ นผง
ธุลีไปได้
พลังเช่นนี้ถือเป็ นควำมเมตตำที่ฟ้ำประทำนให้ แต่ในขณะเดียวกันก็
เป็ นเภทภัยด้วย
พลังของเผ่ำมังกรทมิฬที่เยีย่ เฉินไม่ได้รับสื บทอดไป….กลับถูกส่ ง
ต่อมำให้เสี่ ยวหลัน….เรื่ องเช่นนี้ขอเพียงหวำชำงสุ่ ยรู ้เข้ำ ผลลัพธ์
ย่อมเลวร้ำยเกินกว่ำจะคำดคิด
ดังนั้นสุ ดท้ำยแล้ว เขำจึงทำกำรตัดสิ นใจที่ยำกลำบำกที่สุด
ในตอนที่นำงอำยุครบเดือน เขำเปิ ดทำงช่องว่ำงกำลเวลำด้วยตนเอง
ส่ งนำงไปยังสถำนที่ที่ปลอดภัย มอบให้กบั คนที่สำมำรถฝำกฝัง
เอำไว้ได้
ที่หลงเหลืออยูใ่ นตระกูลตู๋กู จึงเป็ นเพียงร่ ำงเนื้อของนำง…..และ
‘ตัวแทน’ ที่เกิดจำกเศษเสี้ ยวของวิญญำณนำงเท่ำนั้น
อำจกล่ำวได้วำ่ จิตวิญญำณที่อยูใ่ นร่ ำงเนื้อแต่เดิมนั้น ก็คือตัวแทน ที่
เขำใช้พลังวิญญำณของนำงมำสร้ำงเป็ นตัวแทน
นี่จึงเป็ นสำเหตุที่ทำให้ต่อมำ ‘ตู๋กซู ิงหลัน’ กลำยเป็ นคนอ่อนแออย่ำง
ยิง่ เป็ นเพียงลูกพลับนิ่มที่ไม่วำ่ ใครก็สำมำรถบีบได้
ร่ ำงที่ส่งไปในอีกโลกหนึ่งเป็ นร่ ำงที่เขำใช้เลือดเนื้อและกระดูกของ
ตนเองสร้ำงขึ้นมำให้กบั นำง
เขำนึกว่ำเมื่อตนเองทำเช่นนี้แล้วก็จะสำมำรถปิ ดบังฟ้ำดินได้สำเร็ จ
ให้นำงเติบโตขึ้นมำอย่ำงปลอดภัย และใช้ชีวิตอย่ำงรำบรื่ นภำยใต้
ควำมคุม้ ครองของคนผูน้ ้ นั
คิดไม่ถึงว่ำ สุ ดท้ำยแล้วนำงที่เป็ นเจ้ำของร่ ำงที่แท้จริ งก็ยงั จะกลับมำ
ที่นี่อยูด่ ี
ท่ำมกลำงควำมมืดมิดและสับสนวุน่ วำย…..บำงสิ่ งคงจะถูกกำหนด
เอำไว้แต่แรกแล้วกระมัง
นำงไปจำกที่นี่ สุ ดท้ำยก็ยงั ต้องกลับมำที่นี่อยูด่ ี
เยีย่ จ้ำนถอนหำยใจ เอ่ยว่ำ “เสี่ ยวหลัน หลำยปี มำนี้ ซื่อมัว่ ดีกบั เจ้ำ
หรื อไม่?”
ตู๋กูซิงหลันตกตะลึงจนหน้ำเปลี่ยนสี นำงนึกว่ำตนเองกำลังหูฝำดไป
แล้ว
เขำว่ำอะไรนะ?
“ดูท่ำคงจะไม่ดีสกั เท่ำไร…เขำไม่ได้คอยดูแลเจ้ำให้ดี ถึงได้ปล่อยให้
เจ้ำกลับมำที่นี่…” เยีย่ จ้ำนส่ ำยศีรษะเบำๆ “หำกรู ้วำ่ เป็ นเช่นนี้แต่แรก
ก็คงไม่ส่งเจ้ำให้กบั เขำแล้ว”
ตู๋กซู ิงหลันสี หน้ำงุนงงไปอย่ำงไม่เข้ำใจเลยว่ำเขำกำลังหมำยควำมว่ำ
อะไร?
เขำมอบนำงให้กบั อำจำรย์? ทั้งยังเรี ยกชื่อของอำจำรย์ตรงๆ?
“เขำกับข้ำเป็ นสหำยที่เคยช่วยชีวิตกันเอำไว้ เดิมทีที่ส่งเจ้ำให้กบั เขำ
ก็คิดว่ำเจ้ำจะได้ใช้ชีวิตอย่ำงสงบสุ ขปลอดภัยอยูใ่ นโลกโน้น” เยีย่
จ้ำนส่ ำยศีรษะต่อไป พลำงยกมือขึ้นมำลูบศีรษะของนำง “เขำเลี้ยงดู
เจ้ำจนเติบโตก็นบั ว่ำไม่ง่ำยดำยแล้ว ข้ำจะไม่ถือโทษเขำ”
เพียงแต่วำ่ จะอย่ำงไรก็มิใช่บิดำแท้ๆ จะเลี้ยงดูอย่ำงไรก็คงจะไม่ดี
เท่ำกับตนเอง
ตู๋กูซิงหลัน “? ? ?”
เยีย่ จ้ำนเองก็ไม่ได้อมพะนำปิ ดบังนำงต่อไป แต่ค่อยๆเล่ำเรื่ องรำว
ทั้งหมดออกมำให้นำงได้ฟัง
ตู๋กซู ิงหลันจำกที่รู้สึกประหลำดใจเล็กน้อย ตอนนี้ถึงกับงุนงงไป
หมดแล้ว
วิญญำณทมิฬเองก็ตกตะลึงจนขนลุกฟอง
“สรุ ปแล้วที่เล่ำกันมำครึ่ งค่อนวัน เจ้ำก็คือเจ้ำของร่ ำงตัวจริ ง? ที่แท้
‘ไทเฮำน้อย’ ผูน้ ้ นั ต่ำงหำกที่เป็ นตัวสำรอง?”
วิญญำณทมิฬรู ้สึกว่ำตนเองจะต้องจัดลำดับกำรรับรู ้ใหม่แล้ว
นี่มนั ช่ำงซับซ้อนเหลือเกิน!
ใครจะไปนึกว่ำคนที่เติบโตอยูใ่ นโลกปั จจุบนั ผูห้ นึ่ง ที่จริ งแล้วกลับ
ถูกส่ งข้ำมมิติมำจำกโลกใบนี้?
คนที่เลี้ยงดูนำง ก็ยงั เป็ นเกลอเก่ำของบิดำอีกด้วย?
เช่นนี้จะเรี ยกว่ำเป็ นบิดำบุญธรรมสักคำก็คงจะไม่ผดิ ละมั้ง?
ตู๋กซู ิงหลันนิ่งงันไปพักใหญ่จึงค่อยได้สติกลับมำ….
ควำมสัมพันธ์ที่ซบั ซ้อนเช่นนี้ นำงต้องกำรเวลำมำค่อยๆทำควำม
เข้ำใจ
เยีย่ จ้ำนเองก็ไม่ได้บีบคั้นนำง เขำเพียงแต่วำดฝ่ ำมือออกไป ด้ำนหน้ำ
ของตู๋กซู ิงหลันก็ปรำกฏภำพๆหนึ่งขึ้นมำ
เป็ นตอนที่นำงพึ่งจะครบเดือนแล้วเขำใช้เลือดเนื้อและกระดูกของ
ตนเองสร้ำงร่ ำงใหม่ให้กบั นำง จำกนั้นก็ยำ้ ยวิญญำณของนำงจำกร่ ำง
เดิมเข้ำไปในร่ ำงใหม่ ค่อยส่ งร่ ำงใหม่น้ ีไปยังโลกปั จจุบนั
ตอนนั้นเยีย่ จ้ำนยังไม่ได้ตำบอด ….ยำมอยูใ่ นเผ่ำมนุษย์เส้นผมของ
เขำดกดำ สวมเสื้ อผ้ำเรี ยบง่ำยธรรมดำ ดูไปแล้วยังถ่อมตนลงกว่ำ
ตอนนี้อยูม่ ำก
เขำโอบอุม้ ทำรกหญิงตัวน้อยเอำไว้ ค่อยๆประคองส่ งนำงให้กบั คนผู ้
หนึ่ง
คนผูน้ ้ นั อยูใ่ นหมอกสี ดำทัว่ ทั้งร่ ำง
ขณะที่รับตัวนำงไปก็เอ่ยออกมำประโยคหนึ่ง “เผิงอี้ ข้ำจะรักเอ็นดู
นำง เหมือนดัง่ เป็ นบุตรสำวของตนเอง”
เผิงอี้ เป็ นชื่อรองของเยีย่ จ้ำน
คนที่สำมำรถเรี ยกชื่อนี้ของเขำได้ แสดงว่ำควำมสัมพันธ์ของทั้งสอง
จะต้องใกล้ชิดสนิทสนมอย่ำงยิง่
ตู๋กซู ิงหลันคิดอย่ำงไรก็คำดไม่ถึงว่ำ ….นำงจะได้ยนิ เสี ยงของท่ำน
อำจำรย์ในโลกใบนี้
ถึงแม้วำ่ ไม่อำจมองเห็นรู ปลักษณ์ของคนที่อยูใ่ นเงำมืด …..แต่วำ่
น้ ำเสี ยงนัน่ นำงฟังมำแล้วมำกมำยหลำยปี ….
เยีย่ จ้ำนสะบัดแขนเสื้ อภำพตรงหน้ำก็ค่อยๆเลือนหลำยไป เงำร่ ำง
ของคนที่อยูใ่ นภำพก็ค่อยๆเลือนลำงไปเหมือนดังพระจันทร์ที่ลบั ไป
ตู๋กซู ิงหลันพูดอะไรไม่ออกอยูน่ ำน นำงรู ้วำ่ ที่เยีย่ จ้ำนพูดมำทั้งหมด
ไม่ใช่เรื่ องปั้นแต่ง….
“เสี่ ยวหลัน เจ้ำไม่ตอ้ งประหลำดใจไป” เห็นนำงไม่พดู ไม่จำอยูเ่ ป็ น
นำน มือของเยีย่ จ้ำนก็ตบลงบนบ่ำของนำงเบำๆ “ด้วยควำมสำมำรถ
ของเจ้ำในตอนนี้ ยังคงไม่อำจเข้ำใจโลกของผูเ้ ข้มแข็ง ก็เป็ นเรื่ อง
ธรรมดำ”
ตู๋กซู ิงหลัน “…….” อยูๆ่ ก็รู้สึกเหมือนตนเองถูกดูหมิ่น นำงควรทำ
เช่นไรดี?
“ในเมื่อกลับมำแล้ว…ก็แสดงว่ำซื่อมัว่ ไม่อำจปกป้องเจ้ำได้ดี เขำเอง
ก็คงมีขอ้ ติดขัดที่ทำให้ตอ้ งลำบำกเช่นกัน” เยีย่ จ้ำนมิได้โทษว่ำซื่อมัว่
เพรำะแต่เดิมเขำก็ไม่ได้มีขอ้ เกี่ยวข้องผูกพันใดๆกับเสี่ ยวหลัน
“ท่ำนอำจำรย์เค้ำ…ที่จริ งก็รักษำคำพูด เลี้ยงดูขำ้ ดุจบุตรสำวผูห้ นึ่ง”
ตู๋กซู ิงหลันแก้ตวั แทนซื่อมัว่
กำรเลี้ยงดูให้เติบโตย่อมมีระยะเวลำเป็ นขั้นเป็ นตอน ย่อมต้องอำศัย
ควำมทุ่มเท
ตลอดหลำยปี ในโลกปัจจุบนั นั้น ถึงแม้ท่ำนอำจำรย์จะเข้มงวดกับ
นำง แต่วำ่ ทุกครั้งที่นำงประสบปัญหำ คนแรกที่ออกมำเช็ดก้นให้กบั
นำงก็คืออำจำรย์
ตอนยังเด็ก เขำมักจะบอกอยูเ่ สมอว่ำ…นำงไม่มีบิดำมำรดำ ย่อมต้อง
ดูแลเอำใจใส่ ให้มำกหน่อย
ยำมอยูใ่ นสำนักหุบเขำภูต อะไรดีอะไรอร่ อยอะไรที่สนุก นำงล้วนมี
อย่ำงครบครัน
นอกจำกห้ำมไม่ให้ถ่ำยละครอีกต่อไปแล้ว ซื่อมัว่ ไม่เคยกีดกัน
ควำมชอบของนำง นำงคิดจะทำอะไร ก็ปล่อยให้นำงได้ทำตำม
สบำยอยูเ่ สมอ สิ่ งที่นำงต้องกำรแต่วำ่ ไม่อำจหำมำได้ดว้ ยตนเอง
อยูๆ่ ก็ มักจะถูกส่ งมำถึงมือของนำงอย่ำง ‘ไม่รู้เหนือรู ้ใต้’ อยูเ่ สมอ
ควำมปรำรถนำดีที่ซื่อมัว่ มีต่อนำง เกรงว่ำแม้แต่บิดำแท้ๆก็ไม่แน่วำ่
จะเทียบได้
ที่นำงกลับมำยังโลกใบนี้ ก็เป็ นเพรำะว่ำนำงไปหำเรื่ องตำยเอง ไม่
เกี่ยวข้องอะไรกับท่ำนอำจำรย์เลยทั้งสิ้ น
ท่ำนอำจำรย์ถึงกับเสกยันต์ฟ้ื นคืนวิญญำณรักษำดวงจิตให้นำง….
เป็ นนำงที่เป็ นศิษย์อกตัญญูต่ำงหำก
พอได้ยนิ นำงกล่ำวเช่นนั้น เยีย่ จ้ำนก็ประเมินได้แล้ว
“ถ้ำเป็ นเช่นนั้น ก็เท่ำกับว่ำข้ำติดค้ำงซื่อมัว่ แล้ว ต่อไปยังจะต้องตอบ
แทนเขำ” เยีย่ จ้ำนก็หนั ศีรษะไปทำงจีเฉวียน
คนที่เดิมสมควรจะกระดูกแตกแหลกละเอียดผูน้ ้ ี ถูกเขำช่วยเอำไว้
ในร่ ำงของเขำมีกลิ่นอำยของซื่อมัว่ ….แต่วำ่ เขำก็ไม่ใช่ซื่อมัว่
จุดนี้แม้แต่เยีย่ จ้ำนเองก็รู้สึกว่ำแปลกประหลำด
ตู๋กซู ิงหลันไม่เข้ำใจที่เขำบอกว่ำ ‘ยังจะต้อง’ นั้นหมำยควำมว่ำอะไร
ชัว่ ระยะเวลำเพียงสั้นๆก็ได้รับรู ้เรื่ องรำวมำกมำย นำงยังมีบำงอย่ำงที่
ไม่ทนั ได้ทำควำมเข้ำใจ….นำงคือตู๋กซู ิงหลันและก็คือเยีย่ ซิงหลัน
ตอนที่ 436 ขอเคียงข้ างนางทุกชาติไป
เหล่ำคนที่นำงถือว่ำเป็ น ‘ญำติสนิท’ ที่แท้กเ็ ป็ นญำติสนิทของนำง
จริ งๆ
นำงมิใช่กำพร้ำ นำงมีท่ำนตำ มีพี่ชำยสองคน และก็ยงั มีบิดำเป็ น
รำชำมังกรทมิฬ
มิน่ำเล่ำ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกับพวกเขำ นำงก็รู้สึกสนิทสนม
คุน้ เคยอย่ำงยิง่
เช่นนั้น….มำรดำเล่ำ?
นำงหันหน้ำกลับไป มองดูใบหน้ำด้ำนข้ำงที่งำมล้ ำของเยีย่ จ้ำน
มองดูจุดมืดๆที่วำ่ งเปล่ำภำยใต้หนังตำที่แย้มอยูเ่ ล็กน้อยนัน่
คำพูดที่มำถึงริ มฝี ปำก ก็ตอ้ งกลืนลงไปอีกครั้ง
ตอนนี้นำง รู ้สึกกลัวที่จะได้ยนิ คำตอบยิง่ กว่ำตอนแรกเสี ยอีก
“สำเหตุที่ขำ้ เหลือ ‘ตัวแทน’ ของเจ้ำเอำไว้ หนึ่งก็เพื่อจะปิ ดบังเหล่ำ
เทพเจ้ำเบื้องบน สองก็เพรำะเกรงว่ำจะทำให้ซิงซิงเสี ยใจ” เยีย่ จ้ำนรู ้
ถึงควำมคิดของนำง จึงเอ่ยต่อไป “เนื่องเพรำะว่ำ ‘ตัวแทน’ ของเจ้ำ
ร่ ำงกำยเปรำะบำงตั้งแต่เด็ก อุปนิสยั ก็อ่อนแอ ดังนั้นทุกคนจึง
ประคอง ‘นำง’ เอำไว้ในฝ่ ำมือ”
“ข้ำเองก็อยำกจะรั้งอยูใ่ นจวนตระกูลตู๋กตู ่อไป แต่วำ่ จิตวิญญำณ
มังกรในร่ ำงตื่นขึ้นมำแล้ว ควำมทรงจำก็กลับคืนมำทั้งหมด รำชำ
มังกรทมิฬนั้น คือผูท้ ี่กระหำยเลือด….”
“หำกข้ำยังรั้งอยูใ่ นตระกูลตู๋กตู ่อไป ก็มีแต่จะนำพำภัยพิบตั ิมำให้กบั
พวกเขำ”
“ดังนั้นท่ำนจึงเลือกที่จะจำกไป?”
“เดิมทีกค็ ิดจะลบควำมทรงจำของชิงชิงที่เกี่ยวกับข้ำออกไป…” สี
หน้ำของเยีย่ จ้ำนปวดร้ำว “แต่วำ่ สุ ดท้ำยแล้วข้ำกลับทำไม่ได้ เสี่ ยวห
ลัน หำกเจ้ำไม่เคยตกหลุมรัก เจ้ำย่อมไม่มีวนั เข้ำใจควำมรู ้สึก
เช่นนั้น…อยำกจะให้นำงปลอดภัยและมีควำมสุ ขแต่กไ็ ม่อยำกให้
นำงลืมเลือนตนเอง…”
“ดังนั้นข้ำจึงทิ้งสมบัติล้ ำค่ำเอำไว้มำกมำย หวังว่ำชิงชิงและลูกๆจะ
อยูอ่ ย่ำงสุ ขสบบำยไปชัว่ ชีวติ
“คิดไม่ถึงว่ำ นิสยั ของนำงจะดื้อรั้นถึงเพียงนี้ ไล่ตำมข้ำมำจนถึง
ทะเลตะวันตก”
“นำงว่ำยน้ ำก็ไม่เป็ น แต่เพื่อบีบให้ขำ้ ปรำกฏตัว จึงกระโดดลงไปใน
ทะเล”
วิธีกำรแก้ปัญกำของเยีย่ จ้ำน ตู๋กซู ิงหลันไม่รู้วำ่ จะวิจำรณ์อย่ำงไรดี
เขำเป็ นถึงรำชำมังกรทมิฬ เดิมก็มีภรรยำ—รำชินี อยูแ่ ล้ว
แต่เพรำะอำกำรบำดเจ็บจำกกำรฝ่ ำด่ำนกักขัง จึงสู ญเสี ยควำมทรงจำ
ในขณะที่เกิดช่องว่ำงของควำมทรงจำนี้เอง ก็เกิดควำมรักกับ
มำรดำ….
ไม่อำจตำหนิวำ่ เขำเป็ นบุรุษเสเพล ….เพรำะว่ำควำมรักที่เขำมีให้กบั
มำรดำนั้นก็เป็ นควำมรักที่แท้จริ ง
นำงเคยได้ยนิ ท่ำนตำบอกว่ำ ตลอดเวลำหลำยปี หลังแต่งงำนนั้น
มำรดำใช้ชีวิตอย่ำงมีควำมสุ ข…แต่เพรำะว่ำบิดำหำยตัวไป….นำงถึง
ได้…..
จำกทุกสิ่ งที่เยีย่ จ้ำนทำลงไป นำงเชื่อว่ำเขำรักมำรดำอย่ำงแน่นอน
สำหรับกับรำชินีของเขำนั้น…..
ตู๋กซู ิงหลันไม่รู้วำ่ เขำคิดเห็นเช่นไรกันแน่
“ข้ำไม่อำจขัดนำง จึงได้พำนำงกลับไปยังก้นทะเลลึก” ใบหน้ำที่
หล่อเหลำของเยีย่ จ้ำนแสดงสี หน้ำของสำนึกเสี ยใจอย่ำงที่สุด “นั้น
เป็ นเรื่ องที่ขำ้ ผิดพลำดที่สุดในชีวิต”
“องค์รำชินีไม่อำจยอมรับมำรดำ” ตู๋กซู ิงหลันไม่ตอ้ งถำมเขำก็รู้
คำตอบดี
ไม่อำจบอกว่ำมำรดำคือมือที่สำม …..นำงเองก็ตกหลุมรักบิดำใน
สถำนกำรณ์บงั เอิญที่
ไม่รู้เช่นกัน เรื่ องจึงยำกจะตัดสิ นว่ำใครผิดใครถูก
เยีย่ จ้ำนมิได้ตอบรับ เขำเป็ นสำมีภรรยำกับหวำชำงสุ ยมำหมื่นกว่ำปี
ถูกหมั้นหมำยกันตั้งแต่เล็ก พอเติบใหญ่กแ็ ต่งงำนกัน
กับหวำชำงสุ่ ย เขำถือว่ำนำงเป็ นรำชินีของเผ่ำมังกรทมิฬ…..แต่วำ่ ไม่
เคยมีควำมรักใคร่ มำก่อน
ก่อนที่จะได้เจอกับชิงชิง เขำก็ไม่เคยรู ้จกั ว่ำควำมรักคืออะไร
“ตอนที่ชิงชิงไล่ตำมมำถึงทะเลตะวันตกนั้น นำงก็ยงั ไม่รู้จกั ฐำนะที่
แท้จริ งของข้ำ” เยีย่ จ้ำนว่ำต่อไป ตอนนั้น…เขำไม่รู้จริ งๆว่ำจะเอ่ย
ปำกกับนำงอย่ำงไรดี เพื่อบอกนำงว่ำ เขำมิใช่ตวั ดี
ยิง่ ไปกว่ำนั้นเขำยังมีรำชินี มีบุตรชำยหญิงคู่หนึ่ง
“ข้ำบอกกับนำงแค่วำ่ ข้ำเป็ นมังกรที่เฝ้ำสมบัติของเผ่ำมังกรทมิฬตัว
หนึ่ง”
“นำงก็เชื่อ…แต่ไหนแต่ไรมิวำ่ ข้ำบอกอะไรนำงก็เชื่ออยูแ่ ล้ว สตรี ที่
โง่เขลำเอ๋ ย….”
เยีย่ จ้ำนหัวเรำะขึ้นมำ หัวเรำะอย่ำงเจ็บปวดแล้ว แต่เพรำะว่ำไม่มีลูก
ตำ เขำจึงไม่อำจมีน้ ำตำสักหยดได้เลย
“ช่วงนั้น นำงต้องอยูแ่ ต่ในห้องเล็กๆในวังมังกร ทุกวันต้องรอคอย
นับสิ บกว่ำชัว่ ยำม จึงจะได้เจอข้ำสักครู่ หนึ่ง…”
“ข้ำซ่อนนำงเอำไว้ รำวกับซุกซ่อนสมบัติล้ ำค่ำที่ไม่อำจโดน
แสงแดดได้ นำงเชื่อฟังอย่ำงยิง่ ไม่เคยก้ำวออกจำกห้องแม้แต่กำ้ ว
เดียว
หัวใจของตู๋กูซิงหลันเจ็บปวดแล้ว เจ็บปวดแทนมำรดำ
กำรรักใครสักคน จะต้องรักถึงเพียงไหน ถึงทำให้ไม่วำ่ อีกฝ่ ำยพูด
อะไร นำงก็เชื่อเช่นนั้นหมด?
โง่หรื อไม่? หรื อว่ำเพรำะรักจนไม่เป็ นตัวของตัวเอง ไม่อำจหักห้ำม
ตนเอง…..
“ต่อมำเผ่ำมังกรทมิฬเกิดเรื่ องใหญ่ข้ ึน ข้ำไม่ได้ไปหำนำงติดต่อกัน
ถึงสำมวัน นำงร้อนใจแล้ว จึงออกจำกห้องเป็ นครั้งแรก”
“นำงจับพลัดจับผลูคลำทำงไปเรื่ อยๆจนไปถึงตำหนักบรรทมของ
ข้ำ….วันนั้นหวำชำงสุ่ ยดื่มมำกเกินไป จึงเข้ำมำในตำหนักของข้ำ
เช่นกัน….”
เยีย่ จ้ำนไม่กล้ำบอกกับบุตรสำวของตนเองว่ำ ‘มำรดำของเจ้ำเห็น
สตรี ที่แต่งตัวไม่เรี ยบร้อยผูห้ นึ่งโผเข้ำหำข้ำ’
เขำเป็ นรำชำเผ่ำมังกรทมิฬ บนบ่ำของเขำแบกรับควำมสงบสุ ขของ
คนในเผ่ำทั้งเผ่ำ…..ชีวิตของผูค้ นนับหมื่นนับแสนขึ้นอยูก่ บั เขำ ยิง่
ั ญำต่อกันอยู่
ไปกว่ำนั้น เขำกับซื่อมัว่ ก็ยงั มีสญ
จึงทำให้เขำไม่อำจคำนึงถึงเพียงควำมรักระหว่ำงชำยหญิงได้
หวำชำงสุ่ยคือรำชินีที่เขำอภิเษกมำอย่ำงถูกต้องตำมธรรมเนียม
เกี่ยวข้องกับควำมสัมพันธ์ของสองเผ่ำ ถึงแม้วำ่ มิได้รัก…..แต่กไ็ ม่
อำจเพียงเพรำะว่ำเขำไปมีภรรยำบนโลกจึงจะหย่ำขำดจำกนำงได้
เยีย่ จ้ำนยอมรับว่ำ….เขำมิใช่สำมีที่ดี
นับตั้งแต่ที่เขำกลับจำกเผ่ำมนุษย์มำยังเผ่ำมังกรทมิฬก็ไม่เคยแตะ
ต้องหวำชำงสุ่ ย …..
หรื อที่จริ งต้องบอกว่ำ นับตั้งแต่พนั ปี ก่อนที่เขำกับหวำชำงสุ่ ยให้
กำเนิดเยีย่ อิงแล้ว ก็ไม่เคยแตะต้องนำงอีกเลย
“กระดำษไม่อำจห่อไฟอยูแ่ ล้ว” ตู๋กซู ิ งหลันตอบ
ในใจของนำงกำลังขุ่นเคืองที่มำรดำไม่ได้รับควำมยุติธรรม แต่พอ
หันกลับมำคิดถึงฐำนะของเยีย่ จ้ำน…..ก็พอจะเข้ำใจเขำอยูบ่ ำ้ ง
มิใช่วำ่ เขำไม่รักมำรดำเพียงพอ….
แต่วำ่ ภำระบนบ่ำมำกมำยเกินไป
ก็เหมือนกับที่จีเฉวียนเอ่ยปำกบอกว่ำรักนำง แต่วำ่ ก็ยงั คงกระทำทุก
อย่ำงเพื่อประชำชนของเขำ พยำยำมใช้พลังอำนำจทุกอย่ำงเพื่อจะ
เป็ นฮ่องเต้ที่ดี
บำงครั้ง เรื่ องบำงอย่ำงก็ยำกเกินไป
“วันนั้น…นำงได้รู้ฐำนะที่แท้จริ งของข้ำ….นำงไม่ร้องไห้ไม่ตีโพยตี
พำย เพียงแต่กลับไปยังห้องเล็กๆของตนเอง”
“พอข้ำรี บร้อนไปถึงก็เห็นนำงเก็บข้ำวของเรี ยบร้อยแล้ว…….ทั้งยัง
ควักดวงตำของตนเองออกมำ”
“นำงบอกว่ำ นำงดูคนผิดไป ดวงตำคู่น้ ีเก็บเอำไว้ต่อไปก็ไม่มี
ประโยชน์ จำกนี้นำงและข้ำไม่ติดค้ำงต่อกันต่ำงคนต่ำงเดินทำงของ
ตน”
พอคิดถึงตอนที่ดวงตำของนำงกลิ้งลงมำอยูต่ รงหน้ำตนเอง เยีย่ จ้ำนก็
ยังรู ้สึกสัน่ สะท้ำนไปทั้งร่ ำง
เป็ นเพรำะเขำหลอกลวงชิงชิง นำงจึงได้ตดั ขำดควำมสัมพันธ์กบั เขำ
ตอนนั้น เขำถึงได้รู้วำ่ ตนเองได้สูญเสี ยนำงไปแล้ว
เขำไม่อำจหำข้อแก้ตวั ให้กบั ตนเอง…….
“ข้ำตู๋กูชิงชิง ชีวิตนี้จะไม่มีทำงเป็ นสตรี ที่ทำลำยครอบครัวของผูอ้ ื่น
เผิงอี้ ขอให้ท่ำนโชคดี ประสบควำมสุ ขตลอดชีวิต”
เขำยังคงจดจำคำพูดตอนจำกลำของนำงได้อยูเ่ สมอ
ตอนนั้น เขำเองก็ไม่กล้ำรั้งนำงเอำไว้ ได้แต่ปล่อยให้นำงจำกไป
กระทัง่ ตอนที่นำงก้ำวออกจำกวังไปนั้น เขำจึงควักดวงตำของตนเอง
ออกมำ มอบให้กบั นำง
นำงใช่คนที่ทำร้ำยครอบครัวของผูอ้ ื่นที่ไหนกัน…..
ที่ที่มีนำง จึงจะเป็ นบ้ำนของพวกเขำต่ำงหำก….
ตอนนั้น เขำคิดแต่เพียงว่ำ ขอให้สำเร็ จภำรกิจของเผ่ำมังกรทมิฬแล้ว
…..เขำก็ไม่ตอ้ งกำรจะเป็ นมังกรอีกต่อไป ขอเพียงแค่ได้กลับไปอยู่
เป็ นเพื่อนนำงก็พอ
ชำติน้ ี หรื อชำติหน้ำ…..ก็จะขอเคียงข้ำงนำงทุกชำติไป
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 437 มังกรแปลงร่ างเป็ นต้ นไม้ เพื่อ
รวบรวมเศษเสี้ยววิญญาณของนาง
ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่ำ ทั้งหัวใจ ตับ ไต ไส้พงุ ของนำงล้วนเจ็บปวดจน
รวดร้ำวไปหมด
นำงยกมือขึ้นมำข้ำงหนึ่งกดลงไปบนหัวใจของตนเอง ไม่รู้วำ่ ทำไม
ตนเองถึงได้รู้สึกเจ็บปวดไปด้วยเช่นกัน
ดวงตำดอกท้อของนำงมีน้ ำตำรื้ อขึ้นมำ
เจ็บปวดแทนมำรดำ
ที่ตอ้ งมำอยูเ่ พียงคนเดียวตำมลำพังในเผ่ำมังกรทมิฬ มำรดำคือ
คุณหนูใหญ่ของตระกูลตู๋กู แต่พอเข้ำใจว่ำสำมีของตนเองเป็ นเพียง
แค่มงั กรเฝ้ำคลังสมบัติตวั เล็ก นำงก็ไม่ได้ตดั พ้อแต่อย่ำงใด
สุ ดท้ำยแล้วถึงได้พบว่ำ….เขำก็คือรำชำมังกรของเผ่ำมังกรทมิฬ ทั้ง
ยังมีรำชินีของตนเองอยูแ่ ล้ว
นำงเป็ นเพียงคนสกปรกที่ไม่อำจได้เจอแสงสว่ำง ถูกเขำซุกซ่อน
เอำไว้
ที่ผำ่ นมำนำงยอมอดทนอยูใ่ นห้องแคบๆเล็กๆรอคอยเขำกลับมำ
กลับเป็ นได้เพียงพบหน้ำเขำเช่นคนต่ำต้อยเท่ำนั้น
ควำมรักของพวกเขำ พอนำงมำถึงเผ่ำมังกรทมิฬก็กลำยเป็ นเรื่ องที่
ไม่ถูกต้องไปเสี ยแล้ว
ยิง่ ไปกว่ำนั้น สุ ดท้ำยแล้วกลับต้องมำพบว่ำตนเองก็คือ ‘มือที่สำม’
เรื่ องเช่นนี้หำกว่ำเปลี่ยนเป็ นสตรี คนใดก็คงไม่อำจทนรับได้ท้ งั นั้น
นิสยั เช่นมำรดำ จะยอมรับได้อย่ำงไร?
ดังนั้นนำงจึงเลือกทำงที่จะละทิ้งเขำไป
เพียงแต่วำ่ ต่อจำกนั้น….
“นำงไม่ตอ้ งกำรดวงตำของข้ำ แม้แต่ตวั ข้ำก็ไม่ตอ้ งกำรแล้ว” เยีย่
จ้ำนตอบเขำพิงร่ ำงลงไปบนต้นไม้ใหญ่ดำ้ นหลัง
เขำมังกรบนศีรษะ คล้ำยจะยังมีรอยเลือดอยู่
ตลอดหลำยปี มำนี้ เขำเหมือนกับเด็กกำพร้ำที่ถูกทอดทิ้งให้เฝ้ำอยูใ่ ต้
หุบเขำไร้กน้ ผ่ำนวันเวลำที่มีแต่ควำมมืดมิด เหมือนกับนำงที่ตอน
นั้นต้องรอคอยอยูแ่ ต่ในห้องเล็กๆแคบๆ
ตอนนั้น ทุกๆวันนำงยังได้พบหน้ำเขำครั้งหนึ่ง
แต่วำ่ เขำอยูใ่ ต้หุบเขำไร้กน้ นี้นำนถึงสิ บสองปี แล้ว ก็ยงั ไม่ได้พบ
หน้ำของนำงแม้แต่ครั้งเดียว
“เป็ นข้ำที่ทำร้ำยนำง….” เยีย่ จ้ำนยืน่ มือขึ้นมำ คว้ำมือของตู๋กซู ิงหลัน
วำงลงไปบนหัวใจของตนเอง “เสี่ ยวหลัน เจ้ำคิดว่ำข้ำช่ำงใช้กำร
ไม่ได้ แม้แต่สตรี ที่ตนเองรักก็ยงั ไม่อำจปกป้องได้ใช่หรื อไม่?”
มือของตู๋กซู ิงหลันสัมผัสได้ถึงถึงจังหวะหัวใจที่เต้นอยูข่ องเขำได้
อย่ำงชัดเจน
นำงพูดไม่ออก หัวใจของนำงเองก็กำลังเจ็บปวดอยูเ่ ช่นกัน
แต่วำ่ นำงมิใช่คนในเหตุกำรณ์ นำงไม่มีสิทธิ์จะไปตัดสิ นว่ำใครถูก
ใครผิด
นำงเพียงแต่เอ่ยถำมว่ำ “มำรดำตำยแล้ว….ตำยได้อย่ำงไร?”
กับมำรดำนำงเคยนึกหวังว่ำ อำจจะยังพอมีควำมหวังที่จะมีชีวิตอยู่
สักเล็กน้อย …….
“เป็ นฝี มือของหวำชำงสุ่ ย?” ต่อให้ต๋ ูกซู ิงหลันใช้หวั แม่เท้ำคิด ก็คำด
เดำได้ …..รำชินีผนู ้ ้ นั ไหนเลยจะยอมปล่อยมำรดำไปง่ำยๆ?
ตอนนี้นำงคิดออกแล้ว ก่อนหน้ำนี้ตอนที่อยูใ่ นวังมังกรทมิฬ อยูๆ่ ก็มี
พำยุพดั กระหน่ำขึ้นมำ ……และสตรี ที่อยูเ่ บื้องหลังพำยุผนู ้ ้ นั
กำรโจมตีที่ดุดนั และโหดเ**้้ยมขึ้นเรื่ อยๆนั้น เป็ นเพรำะว่ำนำง
มองมำเห็นตนเอง?
ถึงได้ตอ้ งกำรกำจัดให้สิ้นซำก?
ผ่ำมมำก็ต้ งั นำนหลำยปี แล้ว แม้แต่ ‘เศษ’อย่ำงตนเอง นำงก็ยงั ไม่
ยอมปล่อย แล้วจะยอมปล่อยมำรดำได้อย่ำงไร?
“ชิงชิงสู ญเสี ยดวงตำไปแล้ว แต่วำ่ นำงรักพวกเจ้ำ นำงไม่ได้อยำกจะ
คิดสั้น” เรื่ องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นกำลังทยอยผุดขึ้นมำอีกครั้ง หัวใจ
ของเยีย่ จ้ำนเหมือนดัง่ ถูกกรี ดด้วยมีดสั้นออกมำทีละชั้นอย่ำงเ**
้้ยมโหด
เส้นผมสี เงินของเขำพลิ้วไหว ภำยใต้แสงสว่ำงจำงๆของแมลงกิน
วิญญำณ จึงมองเห็นสี หน้ำที่เจ็บปวดของเขำได้อย่ำงชัดเจน
ตอนนั้น…..ชิงชิงคิดจะไปจำกก้นทะเลลึก กลับบ้ำนไปดูแลลูกๆ
แต่ยงั ไม่ทนั ได้ออกจำกก้นทะเลไป ก็ถูกหวำชำงสุ่ ยจับกลับมำ ทั้งยัง
บีบคั้นให้นำงกระโดดลงไปใต้หุบเหวไร้กน้
นำงเป็ นคนที่แข็งกระด้ำงมำตลอดอยูแ่ ล้ว แล้วจะยอมละเว้นสตรี
เช่นชิงชิงเอำไว้ได้อย่ำงไร?
ตอนนั้น ชิงชิงกำลังเกลียดชังเขำอย่ำงสุ ดขีด ….เขำได้แต่ส่งคน
ติดตำมไปคุม้ ครองนำง ส่ วนตนเองก็เฝ้ำดูอยูห่ ่ำงๆ
เยีย่ จ้ำนเกิดมำพร้อมกับควำมพิกำรหูขวำ ทั้งยังเป็ นคนที่หลงทิศทำง
อยูเ่ สมอ พอสู ญเสี ยดวงตำทั้งสองข้ำงไป ประสำทสัมผัสในกำรจับ
ทิศทำงจึงยิง่ ยำ่ แย่
ดังนั้นตอนที่ชิงชิงเกิดเรื่ องขึ้นมำ เขำจึงไม่อำจไปปกป้องนำงได้ทนั
นำงเป็ นเผ่ำมนุษย์ กระโดดลงมำในหุบเหวไร้กน้ …..ตกลงมำย่อมมี
แต่กระดูกหักร่ ำงกำยแหลกเหลว
ตอนนั้น เขำจึงคลุม้ คลัง่ ไปแล้ว
อะไรคือควำมรับผิดชอบของรำชำมังกร อะไรคือควำมสงบสุ ขของ
สองเผ่ำ แม้แต่คำมัน่ สัญญำร่ วมกับซื่อมัว่ ที่จะสร้ำงควำมสงบสุ ขให้
ใต้หล้ำล้วนถูกโยนทิ้งไปจำกสมอง
เขำคลุม้ คลัง่ ทำเอำหวำชำงสุ่ยเกือบตำย
เขำต้องกำรใช้นำงชดใช้ชีวิตให้กบั ชิงชิง!
วันนั้น วังมังกรของเผ่ำมังกรทมิฬถูกเขำทำลำยจนย่อยยับ…..หำก
มิใช่เพรำะว่ำเยีย่ เฉิ นและเยีย่ อิงรี บกลับมำทัน หวำชำงสุ่ ยก็คงตำยไป
แล้ว
เยีย่ จ้ำนจะอย่ำงไรก็ยงั คำนึงถึงควำมผูกพันเล็กน้อยทำงสำยเลือด
ของเด็กทั้งสอง
เขำทั้งโศกเศร้ำและโกรธแค้น หลังจำกทุบตีหวำชำงสุ่ ยจนปำงตำย ก็
พลิกร่ ำงกระโดดลงมำในหุบเหวไร้กน้ คิดจะตำยตำมกันไป
หุบเหวไร้กน้ คือสนำมรบในสงครำมของสงครำมมหำเทพยุค
โบรำณ ที่ฆ่ำล้ำงกันอย่ำงนองเลือด มีแต่กลิ่นอำยโลหิ ต หำกตกลง
มำมีแต่ตอ้ งตำยเท่ำนั้น
แม้แต่วิญญำณก็ยงั ต้องสู ญสลำย!
แต่เพรำะว่ำเขำคือรำชำมังกรทมิฬ หุบเหวไร้กน้ น่ำหวำดกลัวเพียงไร
ก็ยงั ไม่อำจจะเอำชีวิตของเขำได้
เขำตกลงมำก็ได้สำมวันถึงได้ฟ้ื นขึ้นมำ…..
พอฟื้ นขึ้นมำก็ตำมหำนำงในก้นหุบเหวอย่ำงบ้ำคลัง่
แต่วำ่ สุ ดท้ำยแล้ว เขำก็พบแต่รองเท้ำปักของนำงเพียงข้ำงเดียว
เท่ำนั้น…..
ตอนที่พวกเขำแต่งงำนด้วยกันในโลกมนุษย์ เขำไปที่ร้ำนปั กผ้ำด้วย
ตนเองขอให้ช่ำงปั กสอนเขำทำ
นกเป็ ดน้ ำด้ำนบนถูกเขำปักกลำยเป็ นเป็ ดบ้ำนๆคู่หนึ่ง แต่วำ่ นำง
กลับทะนุถนอมอยูเ่ สมอ สวมใส่ อยูต่ ลอดเวลำ
ตอนนี้ เป็ ดน้ ำคู่เหลืออยูเ่ พียงตัวเดียว
เหมือนกับเขำที่ตอ้ งอยูเ่ พียงลำพัง
ตู๋กซู ิงหลันฟังเขำเล่ำถึงเรื่ องรำวหนหลัง เอำรองเท้ำปั กที่เหลือเพียง
ข้ำงเดียวออกมำจำกในอกเสื้ อ
รองเท้ำปักสี แดงเข้ม ปักรู ปเป็ ดเล่นน้ ำเอำไว้ตวั หนึ่ง ฝี เข็มหยำบๆ
แต่กด็ ูออกว่ำใช้ควำมตั้งใจ
รองเท้ำข้ำงนั้นถูกลูบไล้เสี ยจนเป็ นขุยแล้ว แสดงให้เห็นว่ำตลอด
หลำยปี มำนี้…..เยีย่ จ้ำนคงจะกอดเอำไว้ ลูบคลำอยูท่ ุกวัน
นี่เป็ นสิ่ งเดียวที่มำรดำเหลือเอำไว้ให้กบั เขำ
ส้นรองเท้ำสึ กไปมำกแล้ว แสดงว่ำตอนนั้นมำรดำคงจะชอบใส่
รองเท้ำคู่น้ ีอยูเ่ สมอ…..
เยีย่ จ้ำนกอดรองเท้ำข้ำงนั้นเอำไว้ในอ้อมอกอย่ำงแนบแน่น รำวกับ
ว่ำมันคือสมบัติที่ล้ ำค่ำที่สุดของเขำ
“นำงจะต้องกลับมำ….ต่อให้เป็ นพันปี หมื่นปี ข้ำก็จะรอนำง”
เขำพึมพำกับตนเอง
หำกว่ำตอนนั้น….เขำไม่ห่วงเรื่ องอื่นมำกไป วำงนำงเอำไว้เป็ น
อันดับแรก เขำและนำงก็คงจะไม่ตอ้ งมำมีจุดจบเช่นในวันนี้
สิ บสองปี ก่อน เขำสละพลังวิญญำณมังกรกว่ำครึ่ งในร่ ำง เพียงเพื่อ
เสำะหำจิตวิญญำณที่แหลกสลำยของนำง
เพรำะคนธรรมดำเมื่อตกลงมำในหุบเหวไร้กน้ ไม่เพียงแต่
กระดูกหักแหลกละเอียด แม้แต่กระทัง่ วิญญำณยังต้องแหลกลำญ
ไม่อำจไปผุดไปเกิดใหม่ได้
ดังนั้นหลำยปี มำนี้ เขำจึงเฝ้ำอยูท่ ี่กน้ หุบเหวแต่เพียงลำพัง เพื่อจะ
เสำะหำและรวบรวมเศษเสี้ ยวของจิตวิญญำณของนำงเข้ำด้วยกัน ต่อ
ให้เป็ นเพียงละอองเล็กๆก็ตำม สักวันหนึ่งจะเขำจะต้องรวบรวมได้
จนครบ
ถึงตอนนี้…..ในที่สุด ในที่สุดก็สำมำรถรวบรวมได้กลุ่มหนึ่งแล้ว
เขำจึงแปลงร่ ำงมังกรของตนเป็ นต้นไม้ เพื่อปกป้องจิตวิญญำณของ
นำงที่เพียงแค่เป่ ำก็สลำยได้เอำไว้ในต้นไม้มงั กรอย่ำงทะนุถนอม
รอให้รวบรวมจิตวิญญำณของนำงได้เป็ นกลุ่มก้อน ถึงตอนนั้น….
เขำจะไปวิงวอนต่อเหล่ำพระโพธิสตั ว์ท้ งั หลำย ต่อให้ตอ้ งแลกด้วย
ชีวิตของตนเอง….ก็จะต้องให้นำงได้มีโอกำสกลับมำเกิดใหม่อีก
ครั้งให้ได้!
พวกเขำมิใช้เฝ้ำฝันอยำกจะเอำชีวิตของรำชำมังกรทมิฬหรอกหรื อ?
เอำไปสิ !
ขอเพียงสำมำรถแลกชิงชิงคืนมำ ชีวิตของเขำจะนับเป็ นอะไรได้?
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 438 “ข้ ารู้แต่ ว่า ฆ่ าคนชดใช้ ชีวติ ”
ตู๋กซู ิงหลันเหม่อมองดูเขำแล้วพูดอะไรไม่ออกไปชัว่ ขณะ
เดิมทีนำงคิดว่ำต้นไม้ที่ดูดซับจิตวิญญำณด้ำนหลังนัน่ ….เกิดจำก
ควำมประสงค์ของผูเ้ ป็ นเจ้ำของต้นไม้ที่อยูเ่ บื้องหลัง
คิดไม่ถึงว่ำ ที่จริ งแล้วจะถูกเยีย่ จ้ำนใช้เพื่อ…..
นำงมองดูตน้ ไม้ที่อยูด่ ำ้ นหลังแวบหนึ่ง แม้แต่นำงเองก็ยงั ไม่อำจ
สัมผัสได้ถึงจิตวิญญำณที่แสนจะอ่อนแอของมำรดำในนั้น….
นำงเป็ นถึงสุ ดยอดปรมำจำรย์ไสยเวทย์ของโลกโน้น มีพรสวรรค์ใน
กำรสัมผัสกับจิตวิญญำณอย่ำงแข็งแกร่ ง หำกว่ำแม้แต่นำงยังสัมผัส
ไม่ได้ นัน่ จะน่ำกลัวถึงเพียงไร
หุบเหวไร้กน้ เมื่อสิ บสองปี ก่อนคงจะต้องยิง่ โหดเ**้้ยมและ
อันตรำยกว่ำตอนนี้อีกเป็ นร้อยเป็ นพันเท่ำ
สิ่ งที่หลงเหลืออยูใ่ นสนำมรบของสงครำมมหำเทพโบรำณ เพียงแค่
ไอสังหำรก็คงสำมำรถทำลำยร่ ำงของมนุษย์ได้แล้ว
มำรดำจะอย่ำงไรก็เป็ นเพียงมนุษย์ธรรมดำ ….แล้วนำงจะไป
ต้ำนทำนได้อย่ำงไร?
เยีย่ จ้ำนเป็ นรำชำมังกรของเผ่ำมังกรทมิฬ ผูท้ ี่แข็งแกร่ งเช่นเขำ กลับ
ใช้พลังวิญญำณมังกรครึ่ งหนึ่ง สละเวลำไปสิ บกว่ำปี ถึงได้เสำะหำ
จิตวิญญำณของมำรดำได้เล็กน้อยจนแทบจะสัมผัสไม่ได้….
ตู๋กซู ิงหลันไม่รู้เลยว่ำ หำกจะรวบรวมจิตวิญญำณให้ครบถ้วน
สมบูรณ์ จะต้องใช้เวลำมำกมำยเพียงไร
บำงที…..เรื่ องนี้อำจจะเป็ นเรื่ องที่เป็ นไปไม่ได้เสี ยเลยด้วยซ้ ำ
เขำกำลังสละกำลังและพลังชีวิต ไปรอคอยสิ่ งที่ไม่มีวนั ประสบ
ผลสำเร็ จ
ตู๋กซู ิงหลันนัง่ อยูข่ ำ้ งกำยเขำ ล้วงเอำยันต์สีเหลืองหลำยใบออกมำ
จำกในอกเสื้ อ ริ มฝี ปำกก็เอ่ยเอื้อนคำถำ ก็เห็นยันต์เหล่ำนั้นบิน
ออกไปทั้งสี่ ทิศ
มีบำ้ งที่เกำะลงบนต้นไม้ ผนึกเข้ำไปในลำต้น มีบำ้ งบินเข้ำไปใน
ควำมมืดมิด ลึกเข้ำไปในหุบเขำ
“ยันต์รวบรวมวิญญำณ?” เยีย่ จ้ำนสมกับที่เป็ นสหำยเก่ำแก่ของซื่อมัว่
ได้เห็นเพียงแค่แวบเดียวเขำก็รู้แล้ว
ซื่อมัว่ มิได้เก็บงำวิชำ ควำมรู ้ควำมสำมำรถทั้งหมดที่มีลว้ นถ่ำยทอด
ให้กบั บุตรสำวของเขำจนสิ้ น
ยันต์ที่สำมำรถรวบรวมจิตวิญญำณได้น้ ี แต่ละใบล้วนแสนล้ ำค่ำ
ตู๋กซู ิงหลันพอใช้ออกก็ซดั ออกไปสิ บกว่ำใบ ทั้งยังสำมำรถใช้งำน
ได้อย่ำงทรงอำนุภำพ
หำกว่ำเป็ นเพียงสถำนกำรณ์ธรรมดำทัว่ ๆไป ยันต์รวบรวมวิญญำณ
มำกมำยเพียงนี้ตอ้ งสำมำรถเสำะหำจิตวิญญำณคืนมำได้สำมส่ วน
หรื อเจ็ดส่ วนแล้ว
แต่วำ่ สถำนกำรณ์ตรงหน้ำค่อนข้ำงซับซ้อน….ตู๋กซู ิงหลันเองก็ยงั ไม่
กล้ำรับประกันว่ำยันต์รวบรวมวิญญำณเหล่ำนี้จะใช้ได้ผลหรื อไม่
“บำงที…จะมำกจะน้อยอำจจะพอมีประโยชน์อยูบ่ ำ้ ง” ตู๋กซู ิงหลัน
พูดพลำงลุกขึ้นยืน แนบใบหน้ำกับต้นไม้ รับฟังเสี ยงจำกต้นไม้ตน้ นี้
อย่ำงตั้งใจ
นี่เป็ นต้นไม้ที่เยีย่ จ้ำนสร้ำงขึ้นจำกร่ ำงจริ งของเขำ ฝังรำกลึกอยูใ่ ต้
หุบเขำไร้กน้ ดูดซับพลังวิญญำณจำกพื้นดินทั้งหลำยเพื่อคุม้ ครองจิต
วิญญำณของมำรดำ
ในต้นไม้มีเสี ยงหัวใจเต้นสะท้อนออกมำอย่ำงแผ่วเบำ กิ่งก้ำนและ
ใบที่อยูเ่ หนือศีรษะโน้มลงมำ โอบกอดนำงเอำไว้อย่ำงแผ่วเบำ
เหมือนดัง่ มือของมำรดำที่ลูบไล้เบำๆ
ไม่รู้วำ่ ทำไม จมูกของตู๋กซู ิงหลันถึงได้รู้สึกแสบร้อนขึ้นมำ
นำงกำงแขนออก สวมกอดต้นไม้น้ นั เบำๆทั้งยังแนบใบหน้ำเข้ำไป
มิวำ่ จะอย่ำงไร นำงจะต้องทุ่มเทควำมสำมำรถทั้งหมดที่มี ไป
รวบรวมจิตวิญญำณทั้งหมดของมำรดำกลับมำ
เรื่ องรำวในตอนนั้น….ตู๋กซู ิงหลันไม่โทษว่ำเยีย่ จ้ำน
ได้แต่บอกว่ำเขำแบกภำระเอำไว้ในร่ ำง มีควำมจำใจของตนเอง
ตอนนี้เขำเลือกที่จะเสำะหำจิตวิญญำณของมำรดำอยูใ่ ต้หุบเขำไร้กน้
รอคอยให้นำงกลับมำ
แสดงว่ำเขำให้คุณค่ำของควำมรักมำกกว่ำควำมแค้น
แต่วำ่ ตู๋กซู ิงหลันนั้นไม่เหมือนกัน
ครู่ ต่อมำ ก็เห็นนำงปล่อยต้นไม้ ดวงตำดอกท้อมีแต่ควำมเย็นยะเยือก
สุ ดหยัง่ มือของนำงสัมผัสกับดำบยักษ์ที่อยูข่ ำ้ งๆ กระชับด้ำมดำบ
เอำไว้ ไอสังหำรบนร่ ำงเข้มข้นเสี ยจนแม้แต่เยีย่ จ้ำนที่ตำบอดก็ยงั
รู ้สึกได้อย่ำงชัดเจน
“เจ้ำคิดจะทำอะไร?” เขำเอ่ยถำมเบำๆ
“ล้ำงแค้น” ตู๋กซู ิงหลันบอกออกไปสองคำอย่ำงรวบรัด
“ท่ำนพ่อเป็ นรำชำมังกร ย่อมไม่อำจใช้ดำบประหัตประหำรรำชินี
ของตนเองได้ แต่ขำ้ ไม่เหมือนกัน ข้ำไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับนำง”
แววตำของตู๋กซู ิงหลันเย็นยะเยือก “ข้ำรู ้แต่วำ่ ฆ่ำคนต้องชดใช้ชีวิต
นำงทำให้มำรดำร่ ำงแหลกลำญจิตวิญญำณแตกสลำย นำงก็ตอ้ ง
ได้รับโทษทัณฑ์ตำมสมควร”
มำรดำมิใช่มือที่สำม!
ตอนนั้นมำรดำได้ตดั สิ นใจถอยออกจำกควำมรักควำมแค้นนี้แล้ว!
นำงไม่เคยทำร้ำยหวำชำงสุ่ ย ทั้งยังเลือกที่จะส่ งเสริ มพวกเขำ
เสี ยสละควำมสุ ขของตนเอง
หำกว่ำหวำชำงสุ่ ยมิได้ลงมือกับมำรดำ ตู๋กซู ิงหลันคงจะรู ้สึกสงสำร
นำงอยูบ่ ำ้ ง นำงเองก็ ‘จับพลัดจับผลู’ กลำยเป็ นเหยือ่ ที่ถูกทำร้ำยของ
เหตุกำรณ์น้ ีเช่นกัน
แต่วำ่ มำรดำก็อุตส่ ำห์ทำถึงขั้นนี้แล้ว นำงกลับโหดเ**้้ยมถึงกับลง
มือฆ่ำฟัน เอำชีวิตมำรดำ!
ตู๋กซู ิงหลันย่อมไม่มีทำงอภัยให้นำง!
เยีย่ จ้ำนอ้ำปำกค้ำง ผ่ำนไปนำนก็ยงั ไม่พดู อะไร
ตอนนั้น…..เป็ นเพรำะเขำมีขอ้ กังวลมำกไป สุ ดท้ำยแล้วจึงไม่ได้ฆ่ำ
นำง
เพียงแต่ทุบตีนำงจนปำงตำย นำงบำดเจ็บสำหัส บำดแผลนี้ ชัว่ ชีวิตก็
ไม่อำจหำยขำดได้
เสี่ ยวหลันต้องกำรฆ่ำนำงเพื่อแก้แค้นให้กบั มำรดำ เขำไม่มี
คุณสมบัติจะไปห้ำมปรำม
ตู๋กซู ิงหลันเรี ยกเขำ ‘ท่ำนพ่อ’ คำหนึ่ง ก็เท่ำกับว่ำยอมรับฐำนะของ
เขำแล้ว
เขำรู ้ดีวำ่ …..นำงไม่ได้เกลียดเขำ และไม่โทษว่ำเขำ
บุตรสำวผูน้ ้ ี รู ้จกั แยกแยะเรื่ องรำวอย่ำงชัดเจน
ครู่ ใหญ่ เขำค่อยเอ่ยว่ำ “ตอนนี้เจ้ำยังเป็ นเพียงมนุษย์ธรรมดำ มิใช่
คู่มือของนำง”
“แม้แต่ จะเป็ นคู่มือของเยีย่ เฉิงและเยีย่ อิงก็ยงั ไม่ได้”
ตู๋กซู ิงหลันควงดำบยักษ์ในมือรอบหนึ่ง “ท่ำนมิใช่บอกว่ำในร่ ำงของ
ข้ำมีพลังที่หลับใหลของเผ่ำมังกรทมิฬหรอกหรื อ?”
ริ มฝี ปำกแดงของตู๋กซู ิงหลันคลี่ออกมำ ดำบยักษ์ในมือยิง่ เปล่งแสง
เย็นยะเยือกที่ทึมทึบ นำงลืมตำกว้ำงมองดูควำมมืดมิดที่อยูเ่ หนือ
ต้นไม้ข้ ึนไป
ตอนนี้นำงถึงได้เข้ำใจแล้วว่ำทำไมเยีย่ เฉิ งถึงได้ตอ้ งกำรรับอนุอยู่
ตลอดเวลำ ต้องกำรจะมีบุตรให้ได้ ของเพียงคลอดทำรกศักดิ์สิทธิ์
ออกมำได้
ถึงแม้วำ่ เขำมิได้รับสื บทอดพลังของเผ่ำมังกรทมิฬ แต่กค็ ิดจะใช้วิธี
สื บทอดสำยเลือดทำงบิดำให้กำเนิด ‘ทำรกศักดิ์สิทธิ์’ ขึ้นมำ
จำกนั้นค่อยดูดซับพลังของ ‘ทำรกศักดิ์สิทธิ์’ มำเป็ นพลังของตนเอง
‘พลังของเผ่ำมังกรทมิฬ’ นั้นซุกซ่อนอยูใ่ นสำยเลือดที่สืบทอดต่อกัน
มำ ถึงแม้วำ่ จะเป็ นกำรข้ำมรุ่ นก็ยงั สำมำรถกระทำได้ เพียงแต่วำ่
โอกำสนั้นมีไม่มำก
เขำก็ไม่ยอ่ ท้อที่จะทดลองไปเรื่ อยๆ
สิ่ งที่เยีย่ เฉินทุ่มเทชีวิตจิตใจเพื่อจะได้มำ กลับอยูใ่ นร่ ำงกำยของนำง
ตู๋กซู ิงหลันไม่เคยคิดว่ำตนเองเป็ นไก่อ่อนมำก่อน
ตอนที่นำงพึ่งจะมำถึงโลกนี้ ร่ ำงกำยนี้อ่อนแอเสี ยจนไม่น่ำเหลียวแล
แต่วำ่ ตอนนี้ เพียงแค่เวลำสั้นๆสองเดือน ก็ถูกนำงฝึ กฝนจน
กลำยเป็ นร่ ำงกำยที่แข็งแกร่ งได้แล้ว
นำงสมควรคิดได้ต้ งั แต่แรกแล้วว่ำ ร่ ำงกำยนี้เป็ นร่ ำงของผูม้ ี
พรสวรรค์อนั แข็งแกร่ ง!
ถึงเยีย่ จ้ำนจะมองไม่เห็น แต่วำ่ ในสมองก็บงั เกิดภำพ บุตรสำวของ
เขำถือดำบเอำไว้ดว้ ยดวงตำเป็ นประกำย
ตอนนั้นพลังทั้งหมดในร่ ำงของนำงถูกเขำสะกดเอำไว้ …พลังที่นำง
มีอยูใ่ นร่ ำงกำยตอนนี้ยอ่ มเกิดจำกกำรที่นำงฝึ กฝนขึ้นมำด้วยตนเอง
บุตรสำวผูน้ ้ ี ยังแข็งแกร่ งกว่ำที่เขำคำดคิดเอำไว้มำกมำย
ตอนนั้นที่สะกดเอำไว้ ก็เพื่อจะปกป้องนำง
บุตรสำวที่เติบโตอยูภ่ ำยใต้กำรคุม้ ครองของเขำและซื่อมัว่ วันนี้ได้
เติบใหญ่แล้ว มีควำมคิดเป็ นของตนเอง เขำไม่มีเหตุผลใดที่จะต้อง
ไปปิ ดกั้นนำงเอำไว้อีก
“บิดำจะคลำยสะกดให้กบั เจ้ำ” พักใหญ่ เยีย่ จ้ำนถึงได้เอ่ยขึ้นมำ
จำกนั้นก็คล้ำยกับว่ำคิดอะไรขึ้นได้ เขำชี้ไปทำงจีเฉวียนที่อยูห่ ่ำง
ออกไป
“เจ้ำต้องกำรแก้แค้นให้กบั มำรดำ แล้วคนผูน้ ้ ีเล่ำ?”
ยำกนักที่เขำจะชี้ไปได้ถูกทำง ตู๋กซู ิงหลันมองตำมนิ้วมือของเขำไป
ต้นไม้ตน้ นี้กเ็ ชื่อฟังอย่ำงยิง่ พอรู ้วำ่ ตู๋กซู ิงหลันกำลังมองไปที่จี
เฉวียน ก็รีบส่ งคนมำ
เขำถูกกิ่งไม้พนั เอำไว้จบั นอนหงำยขณะส่ งมำถึงเบื้องหน้ำของตู๋กู
ซิงหลัน ตลอดทั้งร่ ำงของเขำมีแต่บำดแผล คนหลับลึกไปไม่ได้สติ
เส้นผมดำยำวพลิ้วเบำๆ
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 439 ต้ าโจวไม่ อาจไร้ ฮ่องเต้
ใบหน้ำที่งดงำมนั้นแม้อยูใ่ ต้แสงสว่ำงรำไรของแมลงกินวิญญำณก็
ยังงดงำมเกินกว่ำจะเป็ นจริ ง
ในชัว่ ขณะหนึ่ง ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่ำเขำเหมือนกับคนที่ถูกสร้ำงขึ้นมำ
จำกควำมฝัน
“เจ้ำกระโดดลงมำยังหุบเหวไร้กน้ เพื่อคนผูน้ ้ ี” เยีย่ จ้ำนเอ่ยเบำๆ อย่ำง
มัน่ ใจ
ตู๋กซู ิงหลันไม่มีอะไรจะโต้แย้ง นำงมองดูจีเฉวียนนิ่งๆ บำดแผลของ
เขำยังไม่สมำนตัว ปำกแผลยังมีรอยเลือดให้เห็นอยู่
“เสี่ ยวหลัน เจ้ำชอบคนผูน้ ้ ีใช่หรื อไม่ ชอบอย่ำงยิง่ ?” เยีย่ จ้ำนถำม
ต่อไป
เขำเข้ำใจควำมรู ้สึกนี้เป็ นอย่ำงดี ตอนนั้นเพื่อชิงชิง เขำก็กระโดดลง
มำในหุบเหวไร้กน้ เช่นกัน
หำกมิใช่เพรำะว่ำรักชอบจนถึงในกระดูก ใครเล่ำจะยอมสละทุกสิ่ ง
ทุกอย่ำงเพื่ออีกคนหนึ่ง แม้แต่ชีวิตของตนก็ยงั ทุ่มเทลงไป
ตู๋กซู ิงหลันเงียบงัน ที่จริ ง ขำดไปอีกนิดเดียวนำงก็เกือบจะยอมรับ
เขำ เกือบจะหลงรักเขำเข้ำแล้ว
เป็ นเขำเข้ำมำพัวพันนำง ทำลำยระยะห่ำงระหว่ำงคนทั้งสอง และก็
เป็ นเขำที่ผลักไสนำงออกไปจนไกล
นำงไม่มีทำงยอมรับกำรที่เขำจะมีแสงจันทรำอื่นอยูใ่ นใจ
ขณะเดียวกันก็เข้ำหำนำงได้
ที่กระโดดตำมเขำลงมำในหุบเขำไร้กน้ ….เพรำะไม่คิดจะติดค้ำง
อะไรเขำ และก็เพรำะตรำประทับบงกชดำทองที่บ้ นั เอวของเขำด้วย
พอนำงยืน่ มือออกไป ก็เห็นกิ่งไม้ช่วยกันส่ งจีเฉวียนมำตรงหน้ำนำง
เส้นผมสี ดำของเขำพลิ้วไปตำมแรงลม สัมผัสกับมือของนำงเบำๆ
อย่ำงอ่อนโยน
ตู๋กูซิงหลันมองดูเขำ เขำได้รับบำดเจ็บสำหัสมำกจริ งๆ ใบหน้ำซีด
ขำวดุจกระดำษ แม้แต่ริมฝี ปำกทั้งสองก็ยงั มีรอยเลือดแห้งเกรอะอยู่
จำงๆ
นำงยืน่ มือออกไป เหนือใบหน้ำของเขำ
แต่พอห่ำงเพียงแค่ครึ่ งนิ้วก็พลันหยุดลงเสี ยดื้อๆ
นำงหันหน้ำกลับไป มองไปยังเยีย่ จ้ำน กล่ำวอย่ำงจริ งจังว่ำ “ท่ำนพ่อ
ข้ำป่ วยเป็ นโรคที่หำกชอบใครขึ้นมำหัวใจก็จะเจ็บปวด ควำมรัก
สำหรับข้ำแล้วคือควำมทรมำนที่ฟุ่มเฟื อยอย่ำงหนึ่ง”
ดังนั้นตอนแรกนำงไม่สนใจอำกำรเจ็บปวดของตนเองก็คิดจะ
ยอมรับเขำ ชอบเขำให้ได้ ….ทั้งยังคิดจะอยูร่ ่ วมกับเขำอย่ำงจริ งจัง
เยีย่ จ้ำนออกจะประหลำดใจอยูบ่ ำ้ ง เขำขยับริ มฝี ปำกน้อยๆ ยืน่ มือ
ออกไปตำมทิศทำงที่คิดว่ำเป็ นมือข้อมือของนำง
พลังวิญญำณสำยหนึ่งแทรกซึมเข้ำไปในร่ ำงของตู๋กซู ิงหลันแต่ยงั ไม่
ทันลงลึกเข้ำไป ก็ถูกบำงสิ่ งสกัดกั้นออกไป
หัวคิ้วที่งดงำมของเขำขมวดน้อยๆ พลังมังกรของเขำสัมผัสได้วำ่
หัวใจของนำงถูกพลังคำสำปสกัดกั้นเอำไว้ พอคำสำปวิญญำณนั้น
ถูกฉีกออกส่ วนหนึ่ง หัวใจของนำงก็ถูกฉี กเป็ แผลรอยหนึ่ง
บุตรสำวถูกคนสำปแช่ง!
ไม่อำจชมชอบผูอ้ ื่น ….มิเช่นนั้นจะทำให้อำกำรกำเริ บ สร้ำงควำม
ทุกข์ทรมำนให้กบั ตนเอง
คำสำปนี้ไม่เพียงแต่ประทับอยูใ่ นร่ ำงของนำง แม้แต่จิตวิญญำณของ
นำงก็ถูกสำปด้วย ….หำกจะบอกว่ำโหดร้ำยก็ไม่ใช่ เพรำะไม่ได้ทำ
ร้ำยถึงเอำชีวิต
เพียงแต่….ออกจะไร้แก่นสำรเกินไป
ตอนที่นำงยังเป็ นทำรกนั้น เขำไม่เคยรู ้สึกถึงคำสำปเช่นนี้มำก่อน
พอเห็นสี หน้ำของเขำ ตู๋กซู ิงหลันก็รู้แล้วว่ำเรื่ องรำวไม่ธรรมดำ
“เรื่ องนี้ ซื่อมัว่ เองก็ไม่รู้หรื อ?” ผ่ำนไปอีกครู่ หนึ่ง เยีย่ จ้ำนถึงได้ถำม
ออกไป ถูกคนสำปวิญญำณ เรื่ องที่ไม่อำจชอบใครได้ท้ งั นั้นเช่นนี้
บอกว่ำเป็ นเรื่ องใหญ่กไ็ ม่ใหญ่เ เรื่ องเล็กก็ไม่เล็ก….ดูกำรบำเพ็ญ
เพียรของซื่อมัว่ เขำสมควรจะรู ้อย่ำงชัดเจนต่ำงหำก
“ก่อนที่จะได้พบโอรสสวรรค์แคว้นโจวผูน้ ้ ี ข้ำไม่เคยชอบใครมำ
ก่อนเลย ท่ำนอำจำรย์ยอ่ มไม่รู้” ตู๋กซู ิ งหลันว่ำแล้วก็เหลือบมองไป
ทำงจีเฉวียนอีกแวบหนึ่ง
คำว่ำชอบที่นำงหมำยถึงย่อมเป็ นกำรชอบพอกันระหว่ำงชำยหญิง
นำงอยูข่ ำ้ งกำยท่ำนอำจำรย์มำนำนหลำยปี ….ก็ไม่เคยรู ้สึกปวดใจ
ท่ำนอำจำรย์ยอ่ มไม่เคยทรำบ
นำนอีกพักใหญ่ เยีย่ จ้ำนถึงได้ถอนหำยใจออกมำ เขำชักจะอยำกรู ้
จริ งๆแล้วว่ำโอรสสวรรค์แคว้นโจวผูน้ ้ ีมีรูปลักษณ์เช่นไร ถึงได้ทำ
ให้บุตรสำวของเขำถึงกับยอมทนต่ออำกำรเจ็บหัวใจเพื่อไปชอบเขำ
คนผูน้ ้ นั ตกลงมำอย่ำงกระทันหัน และบังเอิญหล่นลงมำบนต้นไม้
มังกรของเขำเข้ำพอดี ไม่ตอ้ งไปลูบคลำดูกร็ ู ้ได้วำ่ ร่ ำงกำยของเขำถูก
ทำร้ำยโดยพลังของพัดวำยุ
เรื่ องนี้ต่อให้ใช้หวั แม่เท้ำคิดดูกบ็ อกได้วำ่ จะต้องเกี่ยวข้องกับหวำ
ชำงสุ่ ยอย่ำงแน่นอน
พอเขำยืน่ มือไปสัมผัสใบหน้ำของคนผูน้ ้ นั ก็รู้ได้เลยว่ำนี่เป็ นบุรุษ
ยอดที่งดงำมอย่ำงยิง่ …..ยิง่ ไปกว่ำนั้นในร่ ำงของเขำก็ยงั มีพลังของ
ซื่อมัว่ อยูด่ ว้ ย
นี่ยงิ่ ประหลำดเข้ำไปใหญ่แล้ว เพรำะมีพลังของซื่อมัว่ ถึงได้สำมำรถ
ต้ำนทำนพลังทำลำยล้ำงของพัดวำยุได้ แถมยังมีชีวิตอยู่
แต่เพรำะอย่ำงไรก็ยงั เป็ นร่ ำงของมนุษย์ ดังนั้นจึงต้องกระดูกหักไป
เจ็ดแปดท่อน อวัยวะภำยในบำดเจ็บสำหัส ถึงจะผ่ำนมำหลำยวัน
แล้วก็ยงั คงไม่ฟ้ื นได้สติข้ ึนมำ
คิดไม่ถึงว่ำ คนที่เผอิญช่วยเอำไว้ จะเป็ น ‘คนในดวงใจ’ ของ
บุตรสำวเข้ำพอดี
ในใจของเยีย่ จ้ำนเกิดควำมว้ำวุน่ ขึ้นมำ ….เขำอยำกจะรู ้ฐำนะที่
แท้จริ งของ ‘โอรสสวรรค์แคว้นโจว’ ผูน้ ้ ีให้ชดั เจน อยำกจะรู ้วำ่ คนผู ้
นี้เกี่ยวข้องอย่ำงไรกับซื่อมัว่
เขำยืน่ มือออกไป สำรวจลึกลงไปในร่ ำงกำยของจีเฉวียน ในชัว่ ขณะ
นั้น ก็สำมำรถสัมผัสถึงพลังหยินที่เย็นยะเยือกและพลังของพัดวำยุที่
บิดเกลียวอยูภ่ ำยในร่ ำง กำลังโรมรันกันอยูท่ ี่ภำยในร่ ำงกำยของเขำ
ผูท้ ี่มีร่ำงกำยเป็ นเพียงแค่มนุษย์ กลับสำมำรถทนรับพลังขนำดนี้ได้
ด้วยข้อจำกัดของร่ ำงกำยมนุษย์ เมื่อต้องรับพลังมำกมำยเช่นนี้ หำก
เปลี่ยนเป็ นผูอ้ ื่นก็สมควรจะตำยไปตั้งแต่แรกหลำยรอบแล้ว
แต่วำ่ เขำกลับยังอยูร่ อดมำได้ ไม่เพียงแค่น้ นั ในร่ ำงกำยของเขำก็ยงั มี
พลังของหยกสรรพชีวิตอยูด่ ว้ ย
พลังของหยกสรรพชีวิตนี้สมควรจะเข้ำสู่ ร่ำงกำยของเขำได้ไม่นำน
อย่ำงไรไม่เกินครึ่ งปี
ใช้ร่ำงกำยของมนุษย์มำรองรับพลังเหล่ำนี้….เห็นชัดว่ำมิใช่ธรรมดำ
หรื อบำงทีแม้แต่ตวั เขำเองก็อำจจะไม่รู้ชดั เจน ว่ำเขำมีพลังเช่นนี้ได้
อย่ำงไร
ขนตำของเยีย่ จ้ำนกระพริ บเบำๆ ขณะที่คิดจะสัมผัสพลังเหล่ำนั้นให้
มำกขึ้น ก็พบว่ำพลังของจีเฉวียนผลักไสพลังของเขำออกมำ ทำให้
เขำต้องหยุดลง
แต่พลังนั้นก็ไม่อำจทำร้ำยเยีย่ จ้ำนได้เช่นกัน
“เขำมีปัญหำอะไรหรื อเจ้ำคะ?” ตู๋กซู ิ งหลันเห็นเยีย่ จ้ำนนิ่งเงียบไป
จึงเข้ำใจว่ำเขำสังเกตสิ่ งใดออก
เยีย่ จ้ำนส่ ำยศีรษะ “แปลกมำกๆ แข็งแกร่ งเกินมนุษย์มนำ”
เรื่ องที่ในร่ ำงกำยของเขำมีพลังของซื่อมัว่ เยีย่ จ้ำนไม่ได้บอกกับตู๋กู
ซิงหลัน
เรื่ องที่แม้แต่ตวั เขำเองก็ยงั ไม่เข้ำใจชัดเจน ไม่ควรบอกออกไปให้
บุตรสำวกังวลใจ
ตู๋กซู ิงหลันย่อมรู ้วำ่ จีเฉวียนแข็งแกร่ ง แต่วำ่ แข็งแกร่ งถึงเพียงไหน
แม้แต่ตวั นำงเองก็ไม่รู้ชดั เจน
“เจ้ำสำมำรถวำงใจได้ เขำไม่ตำยหรอก พลังในร่ ำงกำยของเขำ
แข็งแกร่ งอย่ำงยิง่ อยูใ่ นหุบเขำไร้กน้ นี้ไปอีกสักปี กว่ำๆ กระดูกใน
ร่ ำงของเขำก็จะประสำนกันได้เอง”
ปี กว่ำๆ สำหรับรำชำมังกรมีชีวิตยืนยำวรำวกับชัว่ กำลนำนเช่นเขำก็
เหมือนเพียงแค่พริ บตำเดียวเท่ำนั้น
“แคว้นต้ำโจวไม่อำจไร้ฮ่องเต้” ตู๋กซู ิงหลันกระพริ บตำครั้งหนึ่ง
“หำกแว่นแคว้นวุน่ วำย บ้ำนก็ไม่อำจเป็ นบ้ำน ทำร้ำยชีวิตมำกมำย”
แต่ไหนแต่ไรนำงก็เป็ นคนที่แยกแยะเรื่ องรำวชัดเจนอยูแ่ ล้ว ย่อมไม่
ปล่อยให้เป็ นเพรำะเรื่ องของนำงกับจีเฉวียนกระทบกระเทือนถึง
ชีวิตควำมเป็ นอยูข่ องรำษฏร
หำกแคว้นหนึ่งปรำศจำกฮ่องเต้….นำนถึงปี กว่ำ ย่อมต้องเกิดควำม
วุน่ วำยครั้งใหญ่ ถึงตอนนั้นย่อมกลำยเป็ นภัยพิบตั ิต่อหลำยชีวิต
ถึงแม้วำ่ จีเฉวียนจะกระทำเรื่ องที่ผดิ ต่อนำงอย่ำงไร ก็ไม่อำจ
เปลี่ยนแปลงควำมจริ งที่วำ่ เขำเป็ นฮ่องเต้ที่ดี
ต้ำโจวต้องกำรเขำ
เยีย่ จ้ำนชะงักไปเล็กน้อย จึงค่อยยิม้ ออกมำอ่อนๆ “บุตรสำวที่แสนดี
ของข้ำห่วงใยใต้หล้ำ เป็ นสตรี ดีงำมที่มีควำมคิดอ่ำน”
ไม่เสี ยทีที่ซื่อมัว่ เลี้ยงดูจนเติบโตมำ…ถึงแม้วำ่ จะมีสำยเลือดของเผ่ำ
มังกรทมิฬ แต่กถ็ ูกซื่อมัว่ สัง่ สอนจนกลำยเป็ นคนรุ่ นเยำว์ที่มีควำมดี
อยูใ่ นตัว
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 440 คนคร่าครึที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ าย
เขำเกือบจะลืมไปแล้ว ว่ำตำแก่อย่ำงซื่อมัว่ เดิมทีกเ็ ป็ นคนคร่ ำครึ ที่
เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ำย
ยำมดีๆนั้น….ต่อให้เหล่ำพระโพธิสตั ว์ท้ งั หลำยก็ไม่มีผใู ้ ดจะเปี่ ยม
ไปด้วยเมตตำบำรมีต่อสรรพชีวิตได้เท่ำเขำ
ยำมร้ำยขึ้นมำ….เยีย่ จ้ำนคิดๆดูแล้วก็รู้สึกหนำวๆอยูบ่ ำ้ ง
ยังดีที่หำกไม่มีสถำนกำรณ์ผดิ ปกติอะไร…..ซื่อมัว่ ก็จะดีอยูเ่ สมอ
ลูกศิษย์ที่เขำอบรมขึ้นมำ ต่อให้นอกลู่นอกทำงไปบ้ำงก็ไม่หลุดไป
ไหนไกล
ตู๋กซู ิงหลันไม่ตอบคำ นำงเพียงแต่จดจำคำของจีเฉวียนได้อย่ำง
แม่นยำ จดจำควำมตั้งใจในกำรที่จะเป็ นฮ่องเต้ของเขำ
มือของนำงวำงลงบนร่ ำงของเขำ จนสัมผัสได้ถึงควำมเคลื่อนไหวที่
อยูภ่ ำยใน ท่ำนพ่อมีหนทำงจะช่วยเหลือเขำหรื อไม่เจ้ำคะ? หรื อว่ำมี
หนทำงใดจะส่ งเขำกลับไปต้ำโจวได้บำ้ ง?”
ยำมที่นำงไม่อยูใ่ นต้ำเหยียน ก็ยงั มีท่ำนตำและพี่ใหญ่คอย
รักษำกำรณ์อยู่ แต่หำกจีเฉวียนไม่อยูใ่ นต้ำโจว…เรื่ องก็คงจะ
ซับซ้อนและอันตรำยกว่ำมำก
อย่ำว่ำแต่….ตู๋กซู ิงหลันเองก็กระจ่ำงแก่ใจดีวำ่ เบื้องหลังของพวกเขำ
ยังมีกลุ่มอำนำจที่คอยเคลื่อนไหวในควำมมืดแอบซ่อนอยู่
เรื่ องของรำชครู ถือเป็ นเพียงจุดเริ่ มต้นเท่ำนั้น มิใช่จุดสิ้ นสุ ด
มีคนจงใจจัดฉำก แต่คนผูน้ ้ นั เป็ นใครแม้แต่ตวั นำงก็ยงั คลำไม่
เจอ…..คนที่ซ่อนตัวอยูด่ ำ้ นหลังของฉำงซุนซิ่วผูน้ ้ นั ……
จะต้องเป็ นคนที่คอยจุดไฟขึ้นมำ
เยีย่ จ้ำนถึงกับเคยเปิ ดช่องว่ำงของกำลเวลำมำแล้ว ทั้งยังส่ งนำงไปยัง
โลกปัจจุบนั ได้ บำงทีอำจจะมีหนทำงส่ งเขำกลับไปยังต้ำโจว
ตู๋กซู ิงหลันเอ่ยปำกก็เรี ยกหำบิดำ เรี ยกอย่ำงสนิมสนมลื่นไหล
ฟังแล้วหัวใจของเยีย่ จ้ำนก็อบอุ่นอย่ำงยิง่ ต่อให้นำงต้องกำรดวงดำว
บนท้องฟ้ำ เขำที่เป็ นบิดำก็จะเด็ดลงมำให้กบั นำง!
เมื่อครู่ เขำพึ่งจะกลับมำนัง่ ลงที่ขำ้ งกำยตู๋กซู ิงหลัน พอได้ยนิ คำพูด
ของนำงก็ลุกขึ้นอีกครั้ง เดินไปข้ำงหน้ำอีกสองก้ำว ก็พึมพำกับกิ่งไม้
ใหญ่วำ่ “นับว่ำเด็กน้อยอย่ำงเจ้ำโชคดี ที่มีบุตรสำวคนดีของข้ำมำขอ
ควำมเมตตำแทนเจ้ำ…”
กิ่งไม้ใหญ่ “…..” มันไม่ใช่เด็กน้อยนะ ขอบคุณ
ตู๋กซู ิงหลัน “ท่ำนพ่อ….เขำอยูท่ ำงขวำมือของท่ำน”
เยีย่ จ้ำนยืน่ มือออกไปคลำกิ่งไม้ใหญ่ดูเล็กน้อย ก็กระแอมไอออกมำ
พลำงหันไปทำงขวำมืออย่ำงไร้ซุ่มเสี ยง
ขณะที่คลำไปตำมร่ ำงของจีเฉวียนนั้น ใจกลำงฝ่ ำมือของเขำก็ปรำกฏ
ลำแสงสี เงินออกมำ แสงสี เงินนั้นซึมซำบลงไปในหน้ำผำกของจี
เฉวียน
ในตอนนั้นเอง กิ่งไม้ที่พนั อยูร่ อบตัวเขำก็ถอยออกไปด้ำนข้ำง
เส้นผมของจีเฉวียนพลิ้วไหวรำวกับปลิวลม พอแสงสี เงินของเยีย่
จ้ำนแทรกซึมผ่ำนหน้ำผำกของจีเฉวียนลงไป ทัว่ ทั้งร่ ำงของเขำก็
เปล่งประกำยแสงสี เงินออกมำชั้นหนึ่ง
เพียงครู่ เดียวก็เห็นร่ ำงกำยของเขำขับเอำหมอกสี ดำออกมำ
หมอกสี ดำเหล่ำนั้นรำยล้อมแสงสี เงินเอำไว้ จนห่อหุม้ ร่ ำงของเขำทั้ง
ร่ ำง….ก็เห็นพลังของสำยลมที่คมกริ บหอบหนึ่งถูกหมอกสี ดำและ
แสงสี เงินผลักดันออกไปจำกร่ ำงกำยของเขำ
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงชัว่ เวลำหนึ่งก้ำนธูปเท่ำนั้น ตอนแรกๆพลัง
ของสำยลมที่คมกริ บยังรุ นแรงอย่ำงยิง่
ขนำดตู๋กูซิงหลันที่อยูด่ ำ้ นข้ำงยังรู ้สึกได้เลยว่ำผิวเนื้อทัว่ ร่ ำงเจ็บปวด
อยูบ่ ำ้ ง
เดิมทีเสื้ อผ้ำบนร่ ำงของนำงก็ถูกสำยลมที่คมกริ บนั้นบำดจนขำดไม่
มีชิ้นดีอยูแ่ ล้ว
นำงไม่ได้สนใจตนเอง เอำแต่มองดูเหตุกำรณ์ตรงหน้ำอย่ำงใจจดใจ
จ่อ…..
พลังจำกพัดของหวำชำงสุ่ ยนำงเคยประจักษ์มำแล้ว แต่นำงก็นึกไม่
ถึงว่ำพลังนั้นจะรุ กเข้ำไปในร่ ำงกำยของจีเฉวียน จะกลำยเป็ นสำยลม
ที่เกรี้ ยวกรำด อำละวำดอยูภ่ ำยในร่ ำงกำยของเขำ
สำมลมที่น่ำกลัวเช่นนี้ หำกทำร้ำยคนที่ร่ำงกำยภำยนอกสักครั้งหนึ่ง
ก็เพียงพอจะตัดขำของคนธรรมดำออกไป….. แต่จีเฉวียนกับรับ
เอำไว้ท้ งั อย่ำงนั้น
นำงไม่อำจจินตนำกำรได้เลยว่ำจีเฉวียนจะต้องเจ็บปวดสักเพียงไร
พอเวลำผ่ำนไปเรื่ อยๆ กำลังของลมที่คมกริ บก็อ่อนลงไปทุกที
สุ ดท้ำยก็เหลือเพียงสำยลมจำงๆ
เยีย่ จ้ำนถอนใจออกมำครั้งหนึ่ง แสงสี เงินในฝ่ ำมือของเขำก็จำงลง
ไป
ตู๋กซู ิงหลันสังเกตเห็นว่ำขนำดเป็ นผูท้ ี่แข็งแกร่ งเช่นบิดำของนำง บน
หน้ำผำกก็ยงั มีเหงื่อบำงๆชั้นหนึ่ง
ร่ ำงกำยที่แท้จริ งของเขำถูกเขำเปลี่ยนเป็ นต้นไม้มงั กรไปแล้ว ทั้งยัง
ใช้พลังมังกรกว่ำครึ่ งในร่ ำงไปตำมหำจิตวิญญำณของมำรดำ
กลับมำ….เยีย่ จ้ำนในวัยนี้ ย่อมมิได้แข็งแกร่ งเช่นดังก่อนแล้ว
“ยังดี ที่กระดูกในร่ ำงของเขำแข็งแกร่ งอย่ำงยิง่ จึงไม่ถูกสำยลมบำด
จนกลำยเป็ นเนื้อเละๆ” ผ่ำนไปอีกครู่ หนึ่งท่ำนพ่อคนงำมจึงได้เอ่ย
ขึ้นมำ “พลังของพัดวำยุในร่ ำงของเขำสลำยไปหมดแล้ว ด้วยควำม
แข็งแกร่ งของร่ ำงนี้ อีกไม่นำนก็จะฟื้ นฟูได้เอง”
พอเขำยืน่ มือออกไป ก็เห็นกิ่งไม้กิ่งหนึ่งเคลื่อนลงมำ
กิ่งไม้น้ นั พันรัดลูกแก้วใสกระจ่ำงเอำไว้ลูกหนึ่ง ลูกแก้วที่ทอ
ประกำยสว่ำงและนุ่มนวล หล่นลงบนฝ่ ำมือของเยีย่ จ้ำนเบำๆ
เยีย่ จ้ำนใช้ปลำยนิ้วคลำสัมผัสลูกแก้ว จำกนั้นค่อยส่ งมำที่ดำ้ นหน้ำ
ของตู๋กซู ิงหลัน “ลูกหลัน เจ้ำแน่ใจแล้วหรื อว่ำจะส่ งเขำกลับไปที่ตำ้
โจว?”
ไม่รอให้ต๋ ูกซู ิงหลันตอบคำ เขำก็เอ่ยขึ้นอีกว่ำ “จำกกันครั้งนี้ เกรงว่ำ
คงยำกที่จะได้เจอกันอีกครั้งแล้ว”
ในชีวิตของเขำ เคยตัดสิ นใจพลำดเรื่ องหัวใจไปแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้
เขำสู ญเสี ยสตรี ที่รักที่สุดไป ต้องเฝ้ำอยูใ่ ต้หุบเหวไร้กน้ เนิ่นนำน ไม่
รู ้กี่วนั เดือนปี
เขำไม่อยำกให้บุตรสำวต้องมำ…….โดดเดี่ยวอ้ำงว้ำงเช่นเดียวกัน
ก้นทะเลลึกแห่งนี้เดิมทีกเ็ ป็ นเขตแดนต้องห้ำมอยูแ่ ล้ว หำกคน
ธรรมดำคิดจะอำศัยกำลังของตนเองผ่ำนเข้ำมำ ก็คงจะยำกเย็นยิง่ กว่ำ
ปี นป่ ำยขึ้นฟ้ำ….
โอรสสวรรค์ผนู ้ ้ ีไล่ตำมบุตรสำวของเขำมำถึงที่นี่ หัวใจดวงนั้นย่อม
มิใช่เท็จ
จีเฉวียนยังไม่ได้สติ จึงไม่มีใครเห็นว่ำขนตำของเขำกำลังกระพริ บ
น้อยๆ
ตู๋กซู ิงหลันเงียบงันไปเนิ่นนำน นำงลูบคลำดำบยักษ์ในมือ จำกนั้น
ค่อยขยับริ มฝี ปำกสี แดง “ท่ำนพ่อ ใต้หล้ำนี้คนที่สำมำรถฝำกชีวิตแก่
กันในสนำมรบ นอกจำกพี่นอ้ งแล้วคือใครอีก?”
เยีย่ จ้ำนตะลึงไปเล็กน้อย “หืม?”
“คนรักไง” ตู๋กซู ิงหลันตอบเขำอย่ำงมัน่ ใจ
นำงพลิกดำบยักษ์กลับขึ้นไปบนบ่ำ ดวงตำดอกท้อคู่น้ นั มองดูจี
เฉวียน “ข้ำกับเขำมิใช่พี่นอ้ งกัน ยิง่ มิใช่คนรัก จึงไม่มีเหตุผลที่จะรั้ง
เขำเอำไว้ที่นี่”
เยีย่ จ้ำน “……” พูดไปก็มีเหตุผลอยูบ่ ำ้ ง แต่ทำไมเขำถึงได้รู้สึกว่ำมี
อะไรไม่ถูกต้องอยู่
บุตรสำวคนดีคงจะไม่ได้….ไม่ตอ้ งกำรลำกโอรสสวรรค์แคว้นโจว
เข้ำมำพัวพัน คิดจะแบกดำบลุยเดี่ยวออกไปทัว่ ทิศแต่เพียงลำพัง?
นิสยั เช่นนี้….มีส่วนคล้ำยคลึงกับตัวเขำในยำมหนุ่มอยูห่ ลำยส่ วน
เยีย่ จ้ำนดูแล้วก็เห็นว่ำบุตรสำวกำลังปกป้องโอรสสวรรค์แคว้นโจวอ
ยูเ่ ป็ นแน่
ปำกบอกว่ำไม่ชมชอบ แต่มิวำ่ ทำอะไรล้วนคำนึงถึงเขำอย่ำง
รอบคอบ
เขำเป็ นบิดำ ไม่สะดวกจะวิพำกษ์วิจำรณ์มำกเกินไป พักใหญ่ต่อ
มำถึงเอ่ยว่ำ “หำกเจ้ำคิดดีแล้วก็แล้วไป”
“คิดดีแล้วเจ้ำค่ะ”
ตู๋กซู ิงหลันตอบนำงกำด้ำมดำบแน่นเข้ำ จีเฉวียนช่วยนำงทอนพลัง
ของหวำชำงสุ่ ยไปแล้วครั้งหนึ่ง
นำงไม่ตอ้ งกำรให้เขำมำทนรับอะไรแทนนำงอีก
ที่ขอให้บิดำรักษำเขำ และส่ งเขำกลับไป ถือว่ำเป็ นกำรตอบแทน
น้ ำใจของเขำจำกนำง
แค้นของมำรดำ! นำงย่อมต้องจัดกำรด้วยมือตนเอง!
เยีย่ จ้ำนเห็นนำงท่ำทำงหนักแน่นรำวเหล็กกล้ำ ก็ไม่ได้พดู อะไรอีก
สองมือของเขำประคองลูกแก้วเอำไว้ ริ มฝี ปำกเอื้อนเอ่ยคำถำ ใจ
กลำงฝ่ ำมือก็ผดุ พลังสำยหนึ่งขึ้นมำ
จำกนั้นก็เห็นกิ่งไม้ที่อยูบ่ นศีรษะเลื่อนลงมำ พวกมันลอยอยูเ่ หนือ
ลูกแก้ว ส่ งพลังวิญญำณที่ได้จำกแมลงกินวิญญำณเข้ำไปภำยใน
ลูกแก้วอย่ำงต่อเนื่อง
เพียงแค่ครู่ เดียว ก็เห็นในลูกแก้วที่เปล่งประกำยสุ กใสปรำกฏภำพ
ของวังหลวงของแคว้นต้ำโจว
พอภำพนั้นหมุนไป ก็เปลี่ยนจำกตำหนักเฟิ่ งหมิงกงเป็ นตำหนักตี้หวั
ไปหยุดตรงต้นฮว๋ ำยสองต้นที่ปลูกอยูต่ รงปำกประตูพระตำหนัก
ดอกฮว๋ ำยฮวำกำลังผลิบำน

You might also like