Professional Documents
Culture Documents
ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง เล่ม4
ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง เล่ม4
射人先射马,擒贼先擒王 มาจากคาภีร์《前出
塞》มาจากประโยคเต็มที่วา่ “ยิงคนยิงม้าก่อน จับโจรพึงจับ
หัวหน้า” เป็ นหนึ่งในกลยุทธ์สายโจมตีในสามสิ บหกกลยุทธ์ มุ่งเน้น
จับกุมหรื อสังหารผูน้ าของฝ่ ายตรงข้าม เพื่อทาลายขวัญกาลังใจของ
กองทัพศัตรู
ไรท์: กาลังมันเลยง่ะ เรื่ องหน้าไรท์ควรไปสายบู๊ไหม หรื อตลก
ต่อไป?
ตอนต่อไป “วัวแก่กินหญ้าอ่อน?”
ตอนที่ 332 วัวแก่กนิ หญ้ าอ่อน? / ตอนที่ 333 โอกาสที่ผ่านพ้น
[1] 山有木兮木有枝,心悦汝兮汝不知
“ขุนเขามีแมกไม้ พืชพันธุม์ ีกิ่งก้าน ในใจข้ามีท่าน ไหนเลยเคยรู ้”
= บนภูเขามีตน้ ไม้ ต้นไม้แตกกิ่งก้านใบ (ความสมบูรณ์ สาเร็ จ
งดงาม) ใจของข้าแอบหลงรักท่าน แต่ท่านกลับไม่เคยรู ้เลย
[1] 雏菊ดอกเดซี่
——
ตอนต่อไป “ถูกเจ้าจับกิน”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 344 ถูกเจ้ าจับกิน
ตั้งแต่เล็กจนโต ทุกคนต่างก็บอกว่านางงดงามน่ารักเหมือนดัง่
ดอกไม้ มีแต่ฮ่องเต้พระองค์เดียวที่ตรัสว่านางน่าเกลียดจนไม่อยาก
เจอ
ทรงตรัสว่ารู ้สึกเสี ยพระทัยที่แต่งตั้งนางเป็ นพระสนม จะทรงเรี ยก
ราชโองการกลับคืน ให้นางไปเป็ นประชาชนคนธรรมดา
“ข้าไม่มีโอกาสแม้แต่จะเข้าวังแล้ว แล้วจะไปล่อลวงฮ่องเต้ได้
อย่างไร….ฮือ ฮือ ฮือ พระองค์ยงั ทรงรังเกียจว่าข้าอัปลักษณ์…..” เห
ลียงเซิงเซิงร้องไห้ออกมาอีกครั้ง คนลงไปนัง่ กับพื้น สะอึกสะอื้นฮึก
ฮัก เหมือนดัง่ เด็กน้อยที่ถูกรังแกโดยไม่ได้รับความยุติธรรม
“ยิง่ ไปกว่านั้น…..ในวังมีพระสนมตั้งมากมาย ข้าเคยได้ยนิ ท่านปู่
บอกว่า สตรี เหล่านั้นเก่งกาจและน่ากลัว ล้วนสามารถควักหัวใจเลาะ
กระดูก ถลกหนังผูค้ น ข้า…..ข้าแม้แต่มดยังไม่กล้าเหยียบ แล้วข้าจะ
ไปสู ้กบั พวกนางได้อย่างไร…..”
เหลียงเซิงเซิงยิง่ คิดก็ยงิ่ เสี ยใจ พึ่งจะสงบลงมาได้สกั หน่อยก็ร้องไห้
ออกมาอีก
“ฮือ แงๆ …..ข้ามันใช้ไม่ได้จริ งๆ! หน้าตาอัปลักษณ์แล้วยังโง่ ……
ท่านปู่ เซิงเซิงไม่ได้เรื่ อง เซิงเซิงได้แต่ตายไปอยูเ่ ป็ นเพื่อนท่าน….
ฮือ แง แง แง…”
พูดแล้ว นางก็ลุกขึ้นมา ยืน่ ลาคอเข้าไปในบ่วง เขย่งเท้าอยูบ่ นเก้าอี้
เตี้ย จะเอาตัวเองขึ้นไปแขวนคอจริ งๆ
ฉู่เจียงมองแล้วก็ยมิ้ ไม่ออก หัวเราะไม่ได้
ความใสซื่อนั้นก็เรื่ องหนึ่ง แต่นางก็รู้จกั ตนเองเป็ นอย่างดี
ทั้งยังคิดจะฆ่าตัวตายจริ งๆ!
ฉู่เจียงมองดูอยูด่ า้ นข้าง เห็นใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็ นดิ้นรนเอา
ชีวิตรอดจนสี เขียวคล้ า
เหลียงเซิงเซิงรู ้สึกถูกรัดคอเสี ยจนสมองมึนงง ความรู ้สึกอึดอัด
หายใจไม่ออกอย่างแรงนั้นทาเอานางสานึกเสี ยใจขึ้นมาแล้ว
ความตายไม่น่ากลัว…..ที่น่ากลัวคือความทรมานขณะที่กาลังจะตาย
นั้นต่างหาก
นางแยกเขี้ยวตะกายมือออกไป เห็นฉู่เจียงยืนมองตนเองอย่างเย้ย
หยัน
ก็หนั ไปหายืน่ มือไปทางเขา
ฉู่เจียงยืน่ มือออกไปในทันที คว้ามือของนางเอาไว้ “สานึกเสี ยใจ
แล้ว? ไม่อยากตายแล้ว?”
กลัวตายเป็ นธรรมชาติของมนุษย์ ไม่มีอะไรน่าละอาย
เหลียงเซิงเซิงผงกศีรษะ ทาท่าทาทางชี้ไปที่ลาคอของตนเอง อยาก
ให้ฉู่เจียงช่วยจัดการให้นางตายอย่างรวดเร็ ว
ฉู่เจียงขมวดหัวคิ้ว พอเห็นว่าใบหน้าของนางเริ่ มแดงดัง่ ตับหมูข้ ึนมา
ปลายนิ้วของเขาก็ขยับเล็กน้อย เชือกป่ านเส้นนั้นก็ขาดลงในทันที
เสี ยงของหล่นดัง ‘ตุบ’ เหลียงเซิงเซิงล้มลงไปบนพื้น ก้นกระแทก
กับแผ่นหินจนแทบแตกแล้ว
นางแสบคออย่างหนัก หอบหายใจเข้าไปอีกหลายครั้ง การขาด
อากาศทาให้นางมึนศีรษะจนตาลาย ต้องสู ดหายใจลึกๆ อยูห่ ลาย
รอบถึงได้ค่อยสงบลง
เมื่อครู่ …….นางดิ้นรนอยูบ่ นเส้นแบ่งของความตาย
ความรู ้สึกเมื่อครู่ น้ นั ช่างทรมานจริ งๆ ตอนนี้ยงิ่ เหมือนกับได้เกิด
ใหม่
“ขนาดตายยังไม่กลัว แล้วยังจะกลัวการมีชีวิตอยู?่ ” ฉู่เจียงยืน
ตระหง่านอยูต่ รงหน้านาง ดวงตาสี มรกตคู่น้ นั จับจ้องดูนาง “ใต้หล้า
นี้มีผคู ้ นตั้งมากมายเท่าไหร่ ที่ต่อสู ้ดิ้นรนอย่างสุ ดชีวิตเพื่อความอยู่
รอด เจ้ามาขอตายเอาง่ายๆ เป็ นการไม่ให้ความเคารพต่อคุณค่าของ
ชีวิต”
สาหรับฉู่เจียงแล้ว สิ่ งที่เขาชิงชังที่สุดก็คือคนที่ยอมจบชีวิตตนเอง
ไปอย่างง่ายๆ พวกนั้น…..
เขาจาไม่ได้แล้วว่ามันนานกี่ปีมาแล้ว ตอนที่เขายังเคยเป็ นมนุษย์อยู่
นั้น ก็เคยต่อสู ้ดิ้นรนอย่างสุ ดชีวิต เพื่อจะได้มีชีวิตอยูต่ ่อไปเช่นกัน
ความรู ้สึกในตอนนั้น เขายังคงจดจามันได้อย่างชัดเจนจนถึงตอนนี้
เหลียงเซิงเซิงยังโชคดีกว่าผูค้ นอื่นๆ อีกมากมาย
เหลียงป๋ อตายไปแล้ว แต่กย็ งั ทิ้งสมบัติเอาไว้ให้นางสามารถอยูไ่ ด้
อย่างสุ ขสบายไปจนชัว่ ชีวติ
จีเฉวียนไม่พานางเข้าวัง เพราะอยากเว้นทางรอดไว้ให้นาง
ไม่มีใครตามล่านาง นางสามารถอยูต่ ่อไปได้อย่างสบายแต่วา่ กลับ
อ่อนแอจนร้องหาความตาย
เหลียงเซิงเซิงลืมตาโตขึ้นมามองดูฉู่เจียง นางแทบจะไม่เชื่อสายตา
ของตนเอง
ว่านางจะมาได้ยนิ คาว่า ‘เคารพต่อคุณค่าของชีวติ ’ จากปากของเขา
นางเกือบจะสงสัยว่าตัวเองหูฝาดไปแล้ว
ตอนที่เขาตัดศีรษะคนนั้น ดวงตายังไม่ได้กระพริ บเลยเสี ยด้วยซ้ า
ราวกับว่าฆาตกรกาลังมาสัง่ สอนนาง ถ้อยคาที่จะมาโน้มน้าวสักคาก็
ไม่มี
เหลียงเซิงเซิงกุมลาคอของตนเองเอาไว้ กระแอมไอออกมาอีกหลาย
ครั้ง สี หน้าค่อยดูเป็ นปกติข้ ึนมา
นางมองดูฉู่เจียงตาไม่กระพริ บ กล่าวอย่างอ่อนล้าว่า “แต่วา่ ต่อให้ขา้
ไม่ตาย….ก็ตอ้ ง…ก็ตอ้ งโดนเจ้าจับกินอยูด่ ีนี่….”
“มีชีวิตอยูต่ อนถูกจับกิน มันเจ็บปวดมากเกินไปแล้ว …… หากว่า
ตายแล้วค่อยถูกกิน….ก็จะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแล้ว”
จนถึงตอนนี้นางก็ยงั จาความรู ้สึกที่ถูกฉู่เจียงกัดในตอนนั้นได้เป็ น
อย่างดี นี่คงจะกลายเป็ นเงาอยูใ่ นใจไปชัว่ ชีวิต
ฉู่เจียงถูกนางยัว่ โมโหจนต้องทั้งโกรธทั้งขาแล้ว
เพราะฉะนั้นที่นางคิดจะจัดการกับตนเองนั้นที่สุดแล้วก็เป็ นเพราะ
ตัวเขา?
“ก็อย่างที่ฮ่องเต้ทรงรับสัง่ ว่า เจ้ามันอัปลักษณ์ แล้วข้าจะกินเจ้า
ทาไม? ให้ตนเองกลายเป็ นอัปลักษณ์หรื อ?” ฉู่เจียงสองมือไขว้หลัง
พูดด้วยท่าทางกวนๆ
เหลียงเซิงเซิงที่พ่ งึ จะสงบอารมณ์ลงได้ ความเชื่อมัน่ ต้องพังทลายลง
อีกครั้ง
ตอนนี้นางชักจะจมดิ่งลงไปในความเชื่อที่วา่ ตนเองนั้นอัปลักษณ์เสี ย
จนผูค้ นชิงชังเทพผีรังเกียจ แม้แต่ปีศาจก็ยงั ไม่อยากจะกินนางแล้ว
หรื อ?
เหลียงเซิงเซิงเริ่ มสะอึกสะอื้นอีกครั้ง พอเริ่ มสะอื้น ฉู่เจียงก็ขมวดคิ้ว
ขึ้นมา
เขากลัวการได้ยนิ สตรี ร้องไห้ที่สุด แต่พอได้เห็นเหลียงเซิงเซิงที่
ทาท่าทาทางน่าสงสารกลับไม่ได้รู้สึกรังเกียจสักเท่าไร
มือของเขายืน่ ออกไปก็แบกนางขึ้นมาบนหัวไหล่
เหลียงเซิงเซิงปาดเช็ดจมูก นางถูกฉู่เจียงแบกเอาไว้ ก็ชกั จะรู ้สึกว่า
เลือดกาลังไหลไปรวมที่หวั หมดแล้ว
“เจ้าไม่ใช่ …..ไม่ใช่บอกว่าข้าอัปลักษณ์มากหรอกหรอ?” เหลียงเซิง
เซิงกล่าวอย่างระมัดระวังเกรงว่าจะทาให้เขาขุ่นเคือง ในใจยิง่ เต็มไป
ด้วยความกังวล
ประเด็นที่สาคัญที่สุดก็คือนางกลัวเจ็บ ….ถูกกินทั้งเป็ นจะต้องเจ็บ
มากอย่างแน่นอน
ที่กลัวที่สุดก็คือกลัวเขาจะกลับคา ถึงจะบอกว่านางอัปลักษณ์แต่กย็ งั
จะกินลงไป
ฉู่เจียงอยากจะตบหัวนางให้ป่นเป็ นผงลงไปในครั้งเดียวเสี ยจริ งๆ สี
หน้าของเขาเคร่ งขรึ ม “ข้าจะไม่กินเจ้า แต่จะพาเจ้ากลับไปเขาฝูซาง
ซาน ยกน้ าชาเทน้ าเจ้าทาได้ใช่ไหม?”
เหลียงเซิงเซิงถูกเลี้ยงดูมาอย่างคุณหนูนอ้ ยมาตั้งแต่เล็ก ยกน้ าชาเท
น้ าเป็ นกับเขาที่ไหนกัน
แต่พอคิดว่าให้ทาเรื่ องเหล่านี้กย็ งั ดีกว่าถูกกิน ก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรที่
รับไม่ได้
นางพยักหน้าอยูบ่ นหัวไหล่ของฉู่เจียง “ข้า….ข้าจะพยายามทาให้ดี
ที่สุด”
ทาไม่เป็ น ก็หดั เอาได้….
เหลียงเซิงเซิงกาหมัดขึ้นมา อย่างตัดสิ นใจได้แล้ว
นางเป็ นคนไร้ค่า ไม่มีความสามารถจะไปแก้แค้นให้กบั ท่านปู่ ต่อ
ให้มี….นางก็ไม่สามารถทาเรื่ องทาร้ายหรื อฆ่าคนได้ลง
นางมีนิสยั เมตตาอ่อนโยน ไม่อาจทนเห็นการเข่นฆ่าหลัง่ เลือด ให้
ไปรอคอยความตายอยูท่ ี่เขาฝูซางซานก็ดีไม่นอ้ ย
พอคิดได้ถึงตรงนี้ นางก็ไม่ขดั ขืนแล้ว ยอมอยูน่ ิ่งๆ บนไหล่ของฉู่
เจียงอย่างเชื่อฟัง ขณะที่กาลังจะออกจากเรื อนไปถึงได้ถามฉู่เจียง
ออกไปเบาๆ ด้วยความระมัดระวัง “ข้าสามารถ….เอาต้นไห่ถางไป
สักต้นได้ไหม?”
ฉู่เจียงหยุดลง ยืน่ มือไปถอนต้นไห่ถางเล็กๆ ต้นหนึ่งมาให้นาง “ที่
เขาฝูซางซาน สิ่ งเหล่านี้ไม่อาจปลูกได้”
เหลียงเซิงเซิง “ต่อให้มนั เฉาไป….ก็ยงั ใช้เป็ นที่ระลึกถึงได้”
ด้วยความเกรงว่านับจากวันนี้ไปนางคงไม่อาจออกมาจากภูเขาฝูซาง
ซานได้อีกแล้ว หากว่าคิดถึงบ้าน คิดถึงท่านปู่ ได้มองดูตน้ ไห่ถางนี้
บ้างก็ยงั ดี
ฉู่เจียงไม่กล่าวอะไร ขยับเท้าเล็กน้อยก็เหาะขึ้นไปในท้องฟ้า
เกี้ยวอ่อนสี แดงเลือดหลังหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ เขาก็นานางเข้า
ไป
ทันใดนั้น ด้านนอกของเกี้ยวก็ปรากฏศพสตรี ในชุดสี แดงขึ้นแปด
นางแบกเกี้ยวมุ่งหน้าไปทางเขาฝูซางซาน
สายลมพัดเข้ามา จนคนหนาวยะเยือก
เหลียงเซิงเซิงหวาดกลัวจนเอาแต่มองออกไปข้างนอก นางเห็น
ทิวทัศน์ท้งั หมดของเมืองกู่เย่วอยูใ่ ต้เท้าของตนเอง
ธัญพืชที่สุกเป็ นสี ทองไหวเอนอยูด่ า้ นล่าง ใบเฟิ่ งทั้งหลาย
เปลี่ยนเป็ นสี แดงแล้ว แดงดุจเดียวกับดอกไห่ถางไปทั้งแถบ ช่าง
งดงามน่าดู
——
ตอนต่อไป “กอดน้องสาวสุดที่รัก”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 345 “กอดน้ องสาวสุ ดที่รัก”
นางไม่เคยมองดูเมืองกู่เย่วจากมุมมองเช่นนี้มาก่อน
ถึงได้ไม่เคยรู ้วา่ ตลอดหลายปี มานี้ท่านปู่ ดูแลที่นี่จนงดงามเช่นนี้
จวนจวิน้ อ๋ องยิง่ ทียงิ่ ไกลตาออกไป ใจของนางก็ลอยห่างออกไปด้วย
ฉู่เจียงจ้องมองใบหน้าด้านข้างของนาง หากพิศดูให้ละเอียด นาง
และตู๋กซู ิงหลันก็มีส่วนคล้ายคลึงกันอยูบ่ า้ ง
ตอนนั้นที่พบกันบนภูเขาฝูซางซาน นางยังตัวเล็กเป็ นต้นถัว่ งอก ตัว
สู งไม่เกินเข่าของเขา
ร่ างของนางดูดซับไอทิพย์ได้โดยธรรมชาติ เป็ นที่ดึงดูดทั้งวิญญาณ
และภูติผปี ี ศาจ ดังนั้นเขาจึงได้ประทับคาสัญญาของปี ศาจเอาไว้บน
ร่ างของนาง จะได้เอาไว้ครอบครองแต่ผเู ้ ดียวในภายหลัง
บางที….หากดูดซับไอทิพย์จากร่ างของนาง แล้วฝึ กฝนต่อไปอีกพัน
ปี เขาก็อาจจะทาลายผนึกออกไปได้ ไปให้ไกลจากกรงแห่งนี้
ช่วงสั้นๆ ในตอนนี้ ก็ให้เด็กสาวนี้มาเป็ นเครื่ องคลายเหงาก่อนแล้ว
กัน
ต้องเลี้ยงเอาไว้ดีๆ ไม่ให้นางตายหรอก
……………….
ขณะที่เมืองหลวงได้รับหิมะแรกของฤดูน้ นั ฮ่องเต้กท็ รงนาไทเฮา
กลับมาแล้ว
ทุกคนต่างก็ได้ยนิ ข่าวว่า เหลียงจวิน้ อ๋ องเมืองกู่เย่วก่อกบฏไม่สาเร็ จ
ถึงแก่ความตาย
ฝ่ าบาทไม่เพียงแต่ไม่สงั่ ประหารทั้งตระกูล หนาซ้ ายังให้เขาได้รับ
การฝังกลบเฉกเช่นท่านโหวผูห้ นึ่ง
หลังจากนั้น กองกาลังของเมืองกู่เย่วทั้งหมดก็สวามิภกั ดิ์ต่อราช
สานัก ต่อไปจะไม่มีกองกาลังของอ๋ องแห่งเหมืองกู่เย่วอีกแล้ว
ระบอบประมุขศักดินาจึงถูกผลักดันขึ้นมาอีกครั้ง ขุนนางคนสาคัญ
จากฝ่ าบาทถูกส่ งไปสอดส่ องดูแลเมืองกู่เย่ว
เหล่าชนชั้นสู งและอ๋ องต่างๆ ในแคว้นต้าโจวที่ก่อนหน้านี้จะเป็ นจะ
ตายอย่างไรก็ไม่ยอมมอบอานาจในท้องที่ออกมา ตอนนี้กพ็ ากันเกิด
ความหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว
บิดาของพระสนมเอกซูหวงกุย้ เฟย นามาก่อนเป็ นคนแรก เขานา
ที่ดินในครอบครองทั้งหมดทูลถวายแก่ฝ่าบาท ยามออกจากวังมา
สองผูช้ รายังคงมีสีหน้าเคร่ งเครี ยด การจะเปลี่ยนแปลงระบบการ
ปกครองจากเจ้ารัฐ [1] ไปเป็ นประมุขศักดินา [2] ถือเป็ นงานใหญ่ จี
เฉวียนไม่เพียงแต่มีพระทัยทะยานอยาก แต่วา่ พระองค์ทรงมีพลัง
และความสามารถที่จะกระทาได้ดว้ ย
ดังนั้นสาหรับพวกเขาแล้ว การจะไปขวางทางจีเฉวียนก็มีแต่จะต้อง
ตายเท่านั้น
มิสู้ยอมศิโรราบอย่างอ่อนน้อม อย่างน้อยๆ ลูกหลานที่อยูถ่ ดั ไปอีก
สามรุ่ นก็ยงั ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุ ข
เมื่อกลายเป็ นเช่นนี้ บัลลังก์ฮ่องเต้ของจีเฉวียนจึงยิง่ มัน่ คงกว่าเดิม
นับตั้งแต่ที่ฝ่าบาททรงเสด็จกลับมาจากแคว้นกู่เย่ว สี พระพักตร์กด็ ี
ขึ้นทุกๆ วัน พระวรกายที่ผา่ ยผอมจนเห็นแต่หนังหุม้ กระดูกก็ดูจะ
หนาและบึกบึนขึ้นมา
ยามนี้ฮ่องเต้ผทู ้ รงสู งส่ งและงดงามดังเทพเซียนได้กลับคืนมาแล้ว
ส่ วนไทเฮาน้อยที่อยูใ่ นวังหลังผูน้ ้ นั
ฟังว่านับตั้งแต่เสด็จกลับมา ก็ประทับอยูแ่ ต่ในตาหนักเฟิ่ งหมิง ไม่
ออกมาแม้แต่กา้ วเดียว
การที่เหลียงจวิน้ อ๋ องก่อกบฏไม่สาเร็จในครั้งนี้ ไทเฮาทรงสร้าง
ผลงานเอาไว้อย่างยิง่ ใหญ่
เดิมทีต่างก็นึกกันว่าไทเฮาทรงหายไปในสระสวรรค์ของแคว้นเซอปี่
ซือแล้ว…. คิดไม่ถึงเลยว่านางกับลุยออกไปก่อนหน้าแล้ว
และเพราะในพระทัยของพระนางถือเอาแคว้นต้าโจวเป็ นสาคัญ จึง
ได้บุกไปเมืองกู่เย่วอย่างไม่หวัน่ เกรง เสาะหาคลังลับของเหลียงป๋ อที่
เก็บสะสมอาวุธไว้จนพบ ทาลายแผนการกบฏของเหลียงป๋ อลงไป
ในช่วงเวลาที่สาคัญที่สุด
ถึงคนในวังหลังจะไม่ยอมพูดอะไรออกมา แต่สายตาของขุนนางใน
ราชสานักที่มีต่อนางก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
ที่อดีตฮ่องเต้สิ้นเพราะได้เห็นความงามของนาง…..ก็ได้แต่โทษว่า
เป็ นเพราะคนเขาเกิดมามีใบหน้างดงามตามธรรมชาติ
อดีตฮ่องเต้ไม่อาจควบคุมพระองค์เอง ตื่นเต้นเกินไปจน
สิ้ นพระชนม์ นี่ยอ่ มไม่อาจไปถือโทษใส่ ต๋ ูกซู ิ งหลันได้
ยิง่ เรื่ องที่ก่อนหน้านี้หาว่านางไปล่อลวงฮ่องเต้พระองค์ใหม่น้ นั
ทั้งหมดก็เป็ นเพราะว่าถูกใส่ ความต่างหาก
ตอนนี้พอมาคิดๆ ดูแล้ว เหล่าขุนนางต่างก็รู้สึกว่าสิ่ งที่ได้ทาลงไป
กับตู๋กซู ิงหลันในตอนนั้นออกจะเกินไปแล้ว พอคิดให้ละเอียด
บุตรสาวของตนเอง หลานสาวของตนเอง ต่างก็อายุไล่เรี่ ยกัน พวก
นางยังเอาแต่ปักผ้าเก็บดอกไม้เลี้ยงปลาอยูเ่ ลย
แต่ดูไทเฮาน้อยสิ คนสามารถบุกเข้าไปทาลายแผนการของขุนนาง
กบฏได้ดว้ ยตนเอง
เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ชื่อเสี ยงของตู๋กซู ิงหลันในราชสานักก็
เปลี่ยนเป็ นดีข้ ึนมาก
ดังนั้นในวังหลัง ก็ยงิ่ ไม่ตอ้ งพูดถึงแล้ว
มีพระสนมไม่นอ้ ยที่เห็นว่า วันนั้นที่หิมะตกลงมาครั้งแรกๆ ฮ่องเต้
ทรงอุม้ ไทเฮาน้อยเข้าไปในตาหนักเฟิ่ งหมิงกงด้วยพระองค์เอง
และแม้แต่สายพระเนตรของฮ่องเต้เองก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
นัน่ เป็ นสายตาที่พวกนางเองก็ไม่เคยได้เห็นมาก่อน ราวกับว่ากาลัง
ทอดพระเนตรดูสมบัติล้ าค่า ด้วยความระมัดระวัง ปกป้องและทะนุ
ถนอม
แต่กบั พวกนางเหล่านางสนมที่ได้แต่เฝ้ามองตาละห้อยด้วย
ความหวังนั้น ฝ่ าบาทกลับมิได้ทรงเหลือบพระเนตรมองแม้แต่ครั้ง
เดียว
ราวกับว่าในสายพระเนตรในพระทัยมีแต่ไทเฮาน้อยเพียงผูเ้ ดียว
สตรี ในวังหลังล้วนมิใช่คนโง่ ….ย่อมรู ้วา่ จะต้องเกิดเรื่ องบาง
ประการขึ้นในเมืองกู่เย่วเป็ นแน่
ตู๋กซู ิงหลันเดิมทีกม็ ิใช่สตรี ที่ไร้เดียงสาอยูแ่ ล้ว
เดิมตั้งแต่ตอนที่อยูใ่ นวังหลวง นางก็มกั จะหาหนทางดึงดูดและ
ล่อลวงฝ่ าบาทอยูแ่ ล้ว
แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่เคยสนใจนาง ครั้งนี้ถึงได้งดั เอากระบวนท่านี้
ออกมา เริ่ มจากการไปหาสมบัติที่แคว้นเซอปี่ ซือก่อน หลังจากนั้นก็
ไปปราบความไม่สงบในเมืองกู่เย่ว ทั้งหมดนี้คือแผนการที่นางวาง
เอาไว้อย่างดิบดีแล้ว ที่นางลงทุนทาไปทั้งหมดก็เพื่อให้ได้มาซึ่งฝ่ า
บาท
ตอนนี้ดูท่า นางคงจะทาได้สาเร็ จแล้ว
เหล่านางสนมคลี่ยมิ้ กันแต่บนใบหน้า ในใจกลับก่นด่าอย่างเกรี้ ยว
กราด
หากนับเรื่ องฝี มือและการวางแผนแล้ว พวกนางสู ้ต๋ ูกูซิงหลันไม่ได้
จริ งๆ
……………
ฤดูหนาวปี นี้เย็นยะเยือกเป็ นพิเศษ ขาที่ไม่อาจเดินได้ของตู๋กซู ิง
หลันยิง่ กลัวความหนาว
ช่วงหลายวันมานี้นางเอาแต่นอนเป็ นอัมพาตอยูบ่ นเตียง ขาทั้งสอง
ขาถูกพันผ้าเอาไว้อย่างแน่นหนา
คนบางคนอายุกย็ งั น้อยอยูแ่ ท้ๆ แต่กลับเป็ นโรคคนชราที่ขาเย็นแข็ง
คนผูน้ ้ นั ก็คือนางนัน่ เอง
นับตั้งแต่ที่นางกลับมา เชียนเชียนก็คอยจับตาดูนางอยูต่ ลอดเวลา
ทั้งวี่ท้ งั วัน ด้วยความกลัวว่าแค่กระพริ บตานางก็จะหายไป
พี่ใหญ่พรี่ องต่างก็เข้ามายกน้ าชาเทน้ าขับไล่ความหนาวเติมความ
อบอุ่นอย่างวุน่ วายอยูใ่ นวังทั้งวี่ท้ งั วัน ตู๋กซู ิงหลันแค่ขาเสี ย แต่ใน
สายตาของพวกเขาเหมือนดัง่ โดนเอาชีวิตอย่างไรอย่างนั้น
พี่ใหญ่สวมเกราะที่เย็นเป็ นน้ าแข็งตัวหนึ่ง สี เงินบนเกราะมีหิมะเกาะ
เป็ นชั้นๆ อยูเ่ ต็มไปหมด
พอเขาเข้าประตูมาก็วางดาบเล่มใหญ่เอาไว้ดา้ นข้าง ส่ งกล่องอาหาร
ในมือวางลงบนโต๊ะตัวเล็กข้างเตียงตรงหน้าตู๋กูซิงหลัน
“น้องเล็ก นี่คือขาหมูร้านเหล่าสวีตรงกาแพงเมืองทิศใต้ พึ่งออกจาก
เตาเลย เสร็ จใหม่ๆ ยังร้อนๆ อยูเ่ ลย” ตู๋กจู ุนตักเอาขาหมูที่หนั่ เอาไว้ดี
แล้ววางไว้ขา้ งหน้าตู๋กูซิงหลัน
ขาหมูพะโล้ของร้านเหล่าสวีถือเป็ นอันดับหนึ่งในเมืองหลวง ขาย
หมดแต่เช้าทุกวัน เขาไปรอตั้งแต่ตอนที่ฟ้ายังไม่สาง เพื่อให้นอ้ งสาว
ได้กินเป็ นคนแรก
พี่รองตู๋กเู จวี๋ยถอดชุดคลุมหนาหนักของตนเองออกถือน้ าค้างเอาไว้
ในมือ ส่ งมาถึงตรงหน้าของนาง “น้องเล็ก นี่เป็ นน้ าที่พี่รองต้มจาก
น้ าค้างของดอกสาลี่ สดชื่นมากเลย ลองดื่มสิ ”
สองบุรุษตัวโตนัง่ ลงบนข้างเตียงของนาง
ยกมาให้กแ็ ล้วไปเถอะ แต่นี่ถึงกับจะป้อนเข้าปากของตู๋กซู ิงหลัน
“อ้า น้องเล็กอ้าปาก” ตู๋กจู ุนที่ร่างกายบึกบึนโครงหน้าคมเข้มยามจะ
ดูแลเอาใจใส่ นอ้ งสาวของตนเองขึ้นมานั้น จึงจะได้เห็นเขามีความ
อดทนสักครั้ง
“น้องเล็ก ดื่มน้ าสาลี่หิมะ” ตู๋กเู จวี๋ยตักน้ าสาลี่มาช้อนหนึ่ง เพราะกลัว
จะร้อนลวกนาง เป่ าอยูห่ ลายครั้งค่อยส่ งให้นางถึงปาก
เชียนเชียนเห็นจนไม่เป็ นที่ประหลาดใจอีกแล้ว ถึงภายในห้องจะจุด
ถ่านหยินซือ [3] นางก็ยงั ไปเอาเตาอุ่นมือใบน้อยมาให้ต๋ ูกซู ิงหลันอีก
ตู๋กซู ิงหลันเห็นท่าทางที่เอาใจใส่ ดูแลตนเองของพี่ชายทั้งสอง ในใจ
ก็บงั เกิดความละอายขึ้นมา
“พี่ใหญ่ พี่รอง ข้าเพียงแต่ขาพิการ มือยังไม่พกิ ารเสี ยหน่อย….ข้าทา
เองก็ได้” ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกว่าตนเองอายุขนาดนี้แล้วยังต้องให้คนมา
คอยป้อนอาหาร ช่างน่าละอายมากแล้ว
“เรี ยกว่าแค่ขาพิการที่ไหนกัน!” สองพี่ชายส่ งเสี ยงด้วยความขุ่นเคือง
น้องเล็กขาพิการ รู ้หรื อไม่วา่ สาหรับพวกเขาแล้วนี่เป็ นเรื่ องใหญ่เสี ย
ยิง่ กว่าฟ้าถล่มลงมาอีก?
นางไม่รู้หรื อว่า ตอนที่นางหายสาบสู ญไปนั้น พวกเขาค้นหาจน
แทบจะพลิกแคว้นต้าโจวขึ้นไปบนฟ้าแล้ว
พอรู ้วา่ นางยังไม่ตาย สองบุรุษตัวโตถึงกับหลัง่ น้ าตาร้องไห้ใหญ่โต
ออกมาในทันที
ทั้งยังขี่มา้ กลับมาเมืองหลวงโดยไม่มีหยุดพัก เพราะเพียงแค่อยากจะ
กอดน้องสาวสุ ดที่รักของพวกเขาเท่านั้น
——
ตอนต่อไป “วังหลังของตู๋กซู ิงหลัน”
——
[1] เจ้ารัฐ อ๋ องแคว้นต่างๆ มีกองทหารและอานาจในการปกครอง
ท้องที่ของตนเองโดยเด็จขาด แต่ให้ความเคารพฮ่องเต้ในฐานะ
ประมุขของบ้านเมือง
[2] ระบบรวมอานาจที่ฮ่องเต้ทรงเป็ นผูน้ าสู งสุ ดเพียงหนึ่งเดียว ที่
เหลือคือขุนนางซึ่งอยูใ่ ต้อานาจฮ่องเต้
[3] 银丝炭:ถ่านไหมเงิน
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 346 วังหลังของตู๋กซู ิงหลัน
ดูเอาเถอะ น้องเล็กโชคดีบุญรักษา รอดชีวิตมาได้
แต่นางกลับต้องขาพิการ!
นางพึ่งอายุสิบเจ็ดปี เท่านั้น! กลับต้องมาทนรับความเจ็บปวดถึงเพียง
นี้ พวกเขาล้วนไม่กล้าครุ่ นคิดเลยว่า ช่วงเวลาที่บาดเจ็บสาหัสอยูน่ ้ นั
นางที่เป็ นเพียงเด็กสาวอ่อนแอผูห้ นึ่งผ่านพ้นมันมาได้อย่างไร
พอคิดถึงตรงนี้ สองพี่นอ้ งก็ตอ้ งตาพร่ าไปด้วยหยาดน้ าตาขึ้นมาอีก
ตู๋กจู ุนยังนับว่าอดกลั้นได้เป็ นอย่างดีแล้ว ดวงตาของเขาชื้นไปด้วย
ไอหมอก เขายืน่ มือไปคีบขาหมูชิ้นหนึ่งส่ งถึงมุมปากของตู๋กซู ิงหลัน
“น้องเล็ก ต่อให้พี่ใหญ่จะต้องจับพวกหมอมาให้หมดทั้งแผ่นดิน ก็
จะต้องรักษาขาของเจ้าให้หายดีให้ได้”
ตู๋กเู จวี๋ยน้ าตาหยดแหมะๆ ไปตั้งแต่แรกแล้ว เดิมทีเขาก็เป็ นคนที่
อ่อนไหวง่ายอยูแ่ ล้ว น้องเล็กมาเป็ นเช่นนี้จะไม่ให้เขาปวดใจได้
อย่างไร?
“น้องเล็ก ขอเพียงเจ้าสามารถหายดี ต่อให้นบั จากวันนี้ไปพี่รอง
จะต้องกลายเป็ นคนใบ้กย็ อม”
ขอเพียงน้องเล็กอยูด่ ีมีสุข บุรุษตระกูลตู๋กอู ย่างพวกเขาก็ยนิ ดีจะทา
ทุกอย่าง
ตู๋กซู ิงหลันเห็นท่าทางของพวกเขา ในใจก็ยงิ่ สานึกผิดกว่าเดิม
นางทั้งใช้ร่างเนื้อของไทเฮาน้อย ทั้งได้รับความรักและการปกป้อง
จากพวกพี่ชาย แต่กลับมิได้ตอบแทนอะไรพวกเขาสักอย่าง
ตอนนั้นก็ยงั ทิ้งไปอย่างกระทันหัน…..
ตู๋กซู ิงหลันไม่กล้าคาดคิดเลยว่า หากว่านางหายไปตลอดชีวิตของ
พวกเขาจริ งๆ พวกพี่ๆ จะเป็ นเช่นไร…..
มีหวังคงเสี ยสติไปเลย
“พี่ใหญ่ พี่รอง พวกท่านดีกบั ข้ามากเกินไปแล้ว” ตู๋กซู ิงหลันเคี้ยวขา
หมูที่หอมอร่ อยไปจนถึงก้นบึ้งหัวใจ
“เจ้าเป็ นน้องสาวสุ ดที่รักของพวกเรา ทาดีกบั เจ้าเป็ นเรื่ องธรรมดาอยู่
แล้ว” ตู๋กจู ุนช่วยเช็ดน้ ามันที่เปื้ อนตรงมุมปากให้กบั นาง ดวงตาเต็ม
ไปด้วยความเอาใจใส่
ตู๋กเู จวี๋ยเองก็ผงกศีรษะ “เจ้าเป็ นชีวิตของพวกพี่ๆ ในใจของพี่รอง ใต้
หล้านี้ไม่มีหญิงใดสามารถเทียบได้กบั น้องเล็กของพวกเราตลอด
กาล”
ตู๋กจู ุนเก็บปากเก็บคาเอาไว้ ไม่อยากพูดจนทาให้นางต้องราคาญมาก
เกินไปในตอนนี้
ตู๋กซู ิงหลันอยากจะบอกฐานะที่แท้จริ งของนางกับพวกเขาแต่ทุกครั้ง
ที่คาพูดมาถึงปากก็ได้แต่กลืนลงไป
นี่เป็ นเรื่ องที่เจ็บปวดรวดร้าวที่สุดเรื่ องหนึ่ง
หากพวกเขาได้รู้วา่ น้องสาวของตนเองตายไปตั้งแต่แรก และที่อยู่
เบื้องหน้านี้เป็ นแค่ของทดแทน…..
สาหรับคนทั้งสองที่รักน้องอย่างบ้าคลัง่ แล้ว ตู๋กซู ิงหลันก็คิดไม่ออก
เลยว่าพวกเขาจะทาเรื่ องใดขึ้นมาได้บา้ ง
เกรงว่าเมื่อถึงตอนนั้น คนทั้งสองคงจะเปลี่ยนเป็ นน่ากลัวเสี ยยิง่ กว่า
จีเฉวียนอีกกระมัง
ตู๋กซู ิงหลันคิดๆ ดูแล้ว สมควรหาโอกาสที่เหมาะสมค่อยๆ สารภาพ
คงจะดีกว่า
พอตู๋กซู ิงหลันไม่พดู ไม่จา สองพี่นอ้ งก็คิดว่านางคงจะกังวลว่าขาที่
พิการไม่อาจรักษาได้ ตู๋กจู ุนเช็ดปากให้นางเสร็ จแล้ว ก็ลูบเส้นผม
บนกระหม่อมของนาง
“อีกไม่กี่วนั ท่านปู่ ก็จะกลับมาแล้ว ท่านปู่ มีประสบการณ์มากเห็น
โลกกว้างมากกว่าพวกเรา ย่อมต้องรู ้จกั ท่านหมอดีๆ อย่างแน่นอน”
“ท่านปู่ จะกลับมาแล้วหรื อเจ้าคะ?” ตู๋กซู ิงหลันเงยหน้าขึ้นมา
นับตั้งแต่ที่นางมายังโลกมิติน้ ีกเ็ กือบสองปี แล้ว ท่านปู่ ของไทเฮา
น้อยถูกพูดถึงกันอยูต่ ลอดเวลา แต่นี่จะเป็ นครั้งแรกที่ได้พบตัวจริ ง
“จะไม่ใช่ได้อย่างไร เจ้าที่เป็ นหลานสาวคนโปรดขาพิการแล้ว ท่าน
ปู่ มีหรื อจะไม่กลับมา?”
“น้องเล็กวางใจเถอะ ไม่วา่ เมื่อไหร่ เจ้ายังมีพวกเราอยูเ่ สมอ”
เพียงแค่ประโยคเดียวก็อบอุ่นไปถึงก้นบึ้งหัวใจ ตู๋กซู ิงหลันเองก็พกั
เรื่ องที่กงั วลใจทั้งหมดเอาไว้ก่อน
เมื่ออยูใ่ นโลกนี้ นางก็ได้เปลี่ยนฐานะกลายเป็ นไทเฮาน้อยไปแล้ว ก็
ต้องมีชีวติ ต่อไปในร่ างนี้ให้ดี
ในตอนนั้นเอง ได้ยนิ เชียนเชียนส่ งเสี ยงรายงานเข้ามาว่า “ไทเฮาเพ
คะ องค์หญิงใหญ่และพระสนมหยวนเฟยเสด็จมาเยีย่ มท่านแล้วเพ
คะ”
นางพึ่งจะร้องออกไป ก็เห็นท่านหญิงน้อยซุนเอ๋ อร์หอบกระโปรงตัว
น้อยวิ่งตึงๆ เข้ามาแล้ว นางวิ่งมากอดตู๋กซู ิงหลัน กระโจนเข้ามาใน
อ้อมอกของนางในครั้งเดียว ใช้ศีรษะน้อยๆ ของตนถูไปมา
“ท่านย่าน้อย ซุนเอ๋ อร์คิดถึงท่านเหลือเกิน” ซุนเอ๋ อร์กอดเอาไว้แน่น
พักใหญ่จึงยอมปล่อยนาง หลังจากนั้นก็ถอดสร้อยไข่มุกทองที่อยู่
บนข้อมือออกมาส่ งให้กบั นาง
“ท่านแม่บอกว่าเม็ดมุกพวกนี้สามารถนาโชคดีมาให้ ซุนเอ๋ อร์ให้
ท่านย่าน้อย ขอให้ต่อไปท่านย่าน้อยไม่เจ็บไม่โชคร้ายอีก ให้สงบสุ ข
ราบรื่ นตลอดชีวิต”
ตู๋กซู ิงหลันมองดูเด็กน้อย ไม่ได้พบกันนาน เด็กน้อยสู งขึ้นบ้างแล้ว
ทั้งยังสะสวยขึ้นด้วย
“ช่วงที่ผา่ นมานางคิดถึงเจ้าอยูต่ ลอด” องค์หญิงใหญ่ประทับยืนอยู่
ด้านข้าง พอได้เห็นตู๋กซู ิงหลันที่ตอ้ งมานอนอยูบ่ นเตียงในวันนี้ นาง
ก็เกิดความรู ้สึกสงสาร
ตู๋กูซิงหลันลูบศีรษะของเด็กน้อย ส่ งยิม้ หวานให้กบั นาง “ขอบคุณ
เจ้ามาก ซุนเอ๋ อร์”
แน่นอนว่าตู๋กจู ุนย่อมเป็ นฝ่ ายสละที่ให้กบั องค์หญิงใหญ่
องค์หญิงใหญ่พบกับเขาก็มิได้แสดงทีท่าขับไล่ หากแต่ทาเหมือนเขา
เป็ นอากาศธาตุ ไม่ตรัสอะไรด้วยแม้แต่ประโยคเดียว
หากมิใช่เพราะว่าตอนนั้นตู๋กซู ิงหลันได้ช่วยเหลือซุนเอ๋ อร์เอาไว้
เกรงว่าแม้แต่โอกาสที่จะได้เห็นพวกเขาทั้งสองยืนอยูใ่ กล้กนั ก็คงจะ
ไม่มีแล้ว
เมื่ออยูต่ ่อหน้าจีฉุน ตู๋กจู ุนก็คอยระมัดระวังตัวอยูต่ ลอดเวลา ด้วย
ความเกรงว่าจะไปทาอะไรให้นางไม่พอใจเข้า ถึงแม้วา่ จะมีนอ้ งสาว
ของตนเองอยูด่ ว้ ยก็ยงั เป็ นเช่นนี้
หยวนเฟยเห็นแล้ว ก็รู้สึกว่าหัวใจไร้รสชาติอย่างบอกไม่ถูก
ยากนักที่จะหาคนที่มีขนหน้าอกดกๆ ได้สกั คน แต่วา่ ในใจของเขา
กลับมีผอู ้ ื่นอยูแ่ ล้ว
นับตั้งแต่ที่ต๋ ูกซู ิงหลันหายตัวไป ตู๋กจู ุนก็ไม่กลับไปเป่ ยเจียง หากแต่
เสาะหาน้องอยูต่ ลอด
นางเองก็คอยช่วยเหลือเขา…..
ยิง่ ได้ใกล้ชิดกับตู๋กูจุน ก็ยงิ่ รู ้สึกว่าบุรุษที่คมเข้มและบึกบึนผูน้ ้ ีน่า
เกรงขามแต่ภายนอกเท่านั้น ที่จริ งแล้วเขาเป็ นคนที่จิตใจ
ละเอียดอ่อนอย่างยิง่
บางครั้งไม่ทนั ระวังก็บงั เอิญได้เห็นเขาอาบน้ า….จุ๊ จุ๊ …..ขนหน้าอก
แบบนั้นแม้แต่นกั รบอันดับหนึ่งของหนานเจียงก็ยงั เทียบไม่ได้เลย
ช่างน่าเสี ยดาย…..
นางเก็บสายตากลับมา เดินไปที่เบื้องหน้าของตู๋กซู ิงหลัน “ไทเฮาเพ
คะ หม่อมฉันก็คิดถึงท่านเช่นกัน”
คิดถึงตู๋กูซิงหลันนั้นเป็ นเรื่ องจริ ง ช่วงที่นางไม่อยูใ่ นวัง ตนก็เบื่อ
มากจริ งๆ
ตอนนี้ในเมื่อปลอดภัยกลับมา ก็นบั ว่าดีแล้ว
“ข้าเองก็คิดถึงเจ้า เสี่ ยวหยวนเฟย” ตู๋กซู ิงหลันรู ้สึกเหมือนกับว่าอยู่
ดีๆ ตนก็เปิ ดวังหลังส่ วนตัวขึ้นมา ในวังหลังนี้มีเหล่าคนน่ารักที่ตน
โปรดปรานมากมาย
คนนั้นนางก็อยากจะลูบๆ คลาๆ คนนี้นางก็คิดจะใกล้ชิดสนิทสนม
วุน่ วายทาอะไรไม่ทนั ไปหมดแล้ว
ทางนี้พ่ งึ จะพูดกันจบ ก็ได้ยนิ เสี ยงเรี ยกดังมาจากด้านนอก “อาห
ลัน!”
ทันใดนั้นก็เห็นซูกยุ้ เฟยที่ทอ้ งโตพุง่ เข้ามาอย่างรวดเร็ ว แม้แต่นาง
กานัลข้างกายของนางก็ยงั รั้งไว้ไม่ทนั
พอซูเม่ยมาถึงเบื้องหน้าตู๋กซู ิงหลัน แม้แต่ต๋ ูกเู จวี๋ยก็ยงั ต้องถอย
ออกไปด้านข้าง
“อาหลัน วันนี้ขา้ มาช้าไปแล้ว” ถึงซูเม่ยจะเห็นว่ามีผคู ้ นภายในห้อง
มากมาย ก็ยงั ไม่คิดจะเก็บอาการ เขาแทบจะเอาตัวครึ่ งหนึ่งพาดลง
ไปบนร่ างของตู๋กซู ิงหลันอยูแ่ ล้ว
เขาถึงกับสู ดดมกลิ่นกายจากตัวนางเข้าไปอย่างอาจหาญ ค่อยรู ้สึกว่า
จิตใจอิ่มเอิบ สบายใจขึ้น
“อาหลัน ข้าฝันถึงเจ้าทั้งคืนเลย เช้านี้กฝ็ ันถึงเจ้า ก็เลยตื่นสายไป
หน่อย” ซูเม่ยกอดแขนของนางเอาไว้ “ข้าฝันว่าเจ้าหายไปอีกแล้ว ทา
เอาข้าตกอกตกใจหมดเลย”
ซูเม่ยพูดพลาง ขนตาก็เปี ยกชุ่มไปด้วยหยดน้ า “อาหลัน เจ้าอย่าได้
หายไปอีกเลยนะ ได้ไหม?”
ตอนที่นางหายสาปสู ญไป เขาไม่เป็ นอันกินอันนอน และเพราะว่า
ฐานะของตนคือซูกยุ้ เฟย จึงไม่อาจไปตามหานางได้อย่างเปิ ดเผย ได้
แต่ตามหานางอย่างเงียบๆ
แต่มิวา่ อย่างไรก็ไม่เจอแม้แต่เงา พอคิดว่านางอาจจะ….หัวใจของ
เขาก็เย็นยะเยือกแล้ว
ตอนนี้ดีแล้ว นางกลับมาแล้ว
ขาพิการ
ก็ไม่เป็ นไร…..เขาจะต้องหาหนทางทาให้นางหายดี
ตู๋กซู ิงหลันมองดูซูเม่ย นับตั้งแต่ที่นางกลับมา ซูเม่ยก็ขยันมาเยีย่ ม
เหมือนกับพวกพี่ชาย อะไรดีอะไรอร่ อยล้วนต้องขนมายัดเยียดให้
นาง
——
คุยกันนิดนึง:
ไรท์: หยวนเฟยคะ บังเอิญยังไงให้ได้เห็นผูช้ ายอาบน้ าคะ
หยวนเฟย: (เขินอาย) บังเอิญตาดีค่ะ
——
ไรท์ : ตู๋กซู ิงหลัน อบอุ่นจนร้อนเลยไหม?
ตู๋กซู ิงหลัน: ข้าชอบ ครึ กครื้ นดีออก
ไรท์: งั้นเพิม่ อีกเบอร์เป็ นไง?
ตู๋กูซิงหลัน:???
ไรท์: เดี๋ยวก็รู้วา่ ใครมา….หุ หุ
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 347 ต้ องรักเขาอย่ างคลัง่ ไคล้
หลงใหลอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้ซูเม่ยยังมาหานางแต่เช้าก่อนพวกพี่ชายเสี ยอีก
จีเฉวียนเคยบอกนางว่า ซูเม่ยเป็ นบุรุษ
แต่ช่วงหลายวันนี้ นางมองซ้ายมองขวาอย่างไรก็ยงั มองไม่ออกว่าซู
เม่ยคนงามจะเป็ นบุรุษไปได้อย่างไร
ยิง่ ดูทอ้ งนัน่ ก็กลมดัง่ ลูกบอล …..หากว่าท้องอยูจ่ ริ งๆ ดูท่าอีกไม่
เกินสองเดือนก็คงจะคลอดแล้วกระมัง
ซูเม่ยมาปรากฏตัวอย่างถืออภิสิทธิ์ อยูใ่ กล้ชิดตู๋กซู ิงหลันมากที่สุด
กอดแขนตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ไม่ยอมวางมือราวกับว่าตนเองคือคน
โปรด
“อาหลัน เจ้าเองก็คิดถึงข้าเหมือนกันใช่ไหม?”
ทาถึงขั้นนี้ สองพีช่ ายตระกูลตู๋กกู ท็ นดูไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
ซูเม่ยออดอ้อนเสี ยจนไม่สนใจขอบเขต ยังคงกอดแขนของนางเอาไว้
“เจ้าอย่าได้เอาแต่คิดถึงหยวนเฟยนะ เจ้าต้องคิดถึงข้าด้วย ข้าคิดถึง
เจ้าจนจะขาดใจตายอยูแ่ ล้ว”
ผูค้ นทั้งหลาย “……”
ไม่รู้วา่ ทาไมตอนนี้พวกเขาถึงได้รู้สึกว่าตู๋กซู ิงหลันก็คือฮ่องเต้
ส่ วนพวกเขาก็เป็ นเหล่านางสนมที่มาแย่งชิงความโปรดปราน
โดยเฉพาะซูเม่ยนั้นทาเกินหน้าไปแล้ว!
นางถือว่าตนเองกาลังตั้งครรภ์ ยิง่ ต้องแย่งความโปรดปรานอย่างไม่
สนใจอะไรทั้งสิ้ น
ตู๋กซู ิงหลันไหนเลยจะเคยปฏิเสธคนงามมาก่อน แค่พดู ว่าตนก็คิดถึง
นาง ไม่ได้จะตายสักหน่อย
นางตบหลังมือของซูเม่ยเบาๆ หัวเราะเฮฮาตอบไปว่า “น่ารัก คิดถึงสิ
คิดถึงทุกคน!”
ดูผวิ ที่ออกจะนุ่มละมุนถึงเพียงนี้สิ แล้วจะเป็ นบุรุษไปได้อย่างไร?
คงจะต้องเป็ นเพราะว่าฮ่องเต้สุนขั นัน่ คิดจะหาทางออกให้กบั ความ
เจ้าชูข้ องตนเอง ถึงได้คิดหาเหตุผลมัว่ ๆ เช่นนี้ข้ ึนมา
ตู๋กซู ิงหลันครุ่ นคิดเช่นนี้อยูใ่ นใจ นางย่อมไม่มีทางทาถึงขั้นจับซูเม่ย
มาถอดเสื้ อผ้าเพื่อพิสูจน์ร่างกายอยูแ่ ล้ว
หากว่าซูเม่ยเป็ นหญิง แล้วขณะที่นางกาลังตั้งครรภ์อยูน่ ้ นั ก็ถูกคน
‘แย่งชิง’ สามี ตู๋กซู ิงหลันคิดแล้วก็รู้สึกละอายใจกว่าเดิม
หากให้ถอยออกมาคิดดู สมมติวา่ เขาเป็ นบุรุษจริ งๆ แล้วยังอุตส่ าห์
คิดหาหนทางร้อยพันวิธีเพือ่ แต่งให้กบั จีเฉวียน ก็ตอ้ งเป็ นเพราะว่า
รักเขาอย่างหลงใหลคลัง่ ไคล้อย่างแน่นอน
จะคิดกลับไปกลับมาอย่างไรก็เป็ นตนเองที่แย่งชิงความรักของผูอ้ ื่น
มา
ตู๋กซู ิงหลันตัดสิ นใจแล้วว่าต่อไปจะต้องชดเชยให้กบั ซูเม่ยให้มากๆ
ดูสิคนก็งามขนาดนี้ หากไม่ทนุถนอมเอาไว้ในมือ คงต้องผิด
คุณธรรมในใจจนจิตใจไม่สงบสุ ขแน่นอน
“น้องเล็ก เป็ นสตรี หากสนิทสนมใกล้ชิดกันมากไปจะไม่ค่อยดี” ตู๋กู
เจวี๋ยถูกบีบให้ออกจากวงไป ทั้งๆ ที่นนั่ เป็ นน้องสาวของตนเองแท้ๆ
แต่ตอนนี้เขากระทัง่ ตัวเองก็ยงั แทรกเข้าไปไม่ได้เลย
พอได้เห็นซูหวงกุย้ เฟยกับน้องสาวสนิทสนมใกล้ชิดกัน ก็คิดถึง
ใบหน้าแข็งทื่อของจีเฉวียนขึ้นมา
ทาให้เขาอดที่จะหนาวสัน่ ขึ้นมาไม่ได้ ฮ่องเต้ทรงมีเป้าหมายที่ไม่ถูก
ไม่ควรบางประการในตัวน้องเล็กอย่างแน่นอน
หากว่าพระองค์เสด็จมาเห็นภาพในยามนี้ เกรงว่าพระพักตร์คงจะดา
ทะมึนเสี ยยิง่ กว่าที่เขาคาดคิดไว้เสี ยอีก
พระสนมของพระองค์ แต่ละคนแต่ละองค์ลว้ นเอนเอียงมาทางน้อง
เล็กทั้งนั้น…..
ช่างบังเอิญโดยแท้ เขาพึ่งจะพูดจบไป อยูๆ่ ก็รู้สึกว่าแผ่นหลังเย็น
วาบขึ้นมา
“ตาหนักเฟิ่ งหมิงกงช่างครึ กครื้ นดีจริ งๆ” ฮ่องเต้เสด็จเข้ามาดัง่ สาย
ลม ยามเสด็จมาก็หอบเอาลมหนาวจากด้านนอกเข้ามาด้วย
ผูค้ นมองออกไป ก็เห็นว่าเส้นพระเกศาและพระอังสะมีละอองหิ มะ
ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมา พระองค์ยงั คงเย็นชาเสี ยยิง่ กว่า
เกล็ดหิมะที่ขาวๆ ฟูๆ เหล่านั้นเสี ยอีก
จีเฉวียนก้าวพระบาทเพียงไม่กี่กา้ วก็เสด็จถึงข้างกายตู๋กซู ิงหลัน สาย
พระเนตรเย็นชากวาดมองไปยังร่ างของซูเม่ยและหยวนเฟย
หยวนเฟยนับว่ารู ้ตวั ดี นางรี บถอยออกไปข้างๆ
นางเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง เรื่ องระหว่างฝ่ าบาทและไทเฮานั้น ต้อง
เรี ยกว่าแจ่มแจ้งชัดเจนจนไม่ตอ้ งพูดอะไรออกมาอีกแล้ว
ซูเม่ยนั้นไม่สนใจอะไรทั้งสิ้ น เขาหันหน้ามาสบตากับจีเฉวียนครั้ง
หนึ่ง มือก็ลูบลงไปบนหน้าท้องที่กลมเป็ นลูกบอลของตนเอง “ฝ่ า
บาท พระนัดดาทรงคิดถึงไทเฮามาก ต้องให้ไทเฮาทรงลูบบ่อยๆ จะ
ได้เติบโตและแข็งแรงนะเพคะ”
เขาพูดออกมาอย่างมีความหมายให้จีเฉวียนเข้าใจโดยเฉพาะ มือข้าง
หนึ่งก็คว้ามือของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้ แอ่นท้องจนปูดขึ้นมา ทั้งยังทาสี
หน้าเหมือนไม่ได้รับความยุติธรรมอย่างเพียงพอ แต่ขา้ งในกลับลอบ
สะใจ ที่จีเฉวียนทาลงไปมิเท่ากับว่าขุดหลุมฝังตนเองหรอกหรื อ?
ตอนนี้ตนทาตามพระประสงค์แล้ว แบกท้องโตแล้วไง ก็ยงิ่ สามารถ
มาเกาะหนึบอยูข่ า้ งกายตู๋กูซิงหลันได้อย่างเปิ ดเผย
หากว่าพระองค์กล้าขับไล่เขาออกไป ก็มีแต่จะหาเรื่ องให้เป็ นขี้ปาก
ผูค้ นเท่านั้น
หากว่าเขากล้าทาท่าทาท่างโหดร้ายกับหวงกุย้ เฟยที่กาลังท้องโต มิ
เท่ากับว่ามอบโอกาสให้ผอู ้ ื่นที่กาลังมีแผนการอยูแ่ ล้วออกมาต่อต้าน
เขาหรอกหรื อ?
ดวงเนตรของจีเฉวียนหรี่ ลงเป็ นเส้นบาง นับตั้งแต่ที่พระองค์นาซิ
งซิงกลับมา คนที่มาคอยเกาะติดหนึบอยูข่ า้ งกายนางยิง่ ทียงิ่ เพิม่ ขึ้น
ทุกวันจนนับไม่ไหว
สองพี่นอ้ งตู๋กนู นั่ ก็แล้วไปเถอะ อย่างไรเสี ยก็เป็ นพี่ชายของนาง
แต่วา่ ซูเม่ยผูน้ ้ ีเหมือนดัง่ ก้อนอึที่ติดหนึบ ทั้งวี่ท้ งั วันเอาแต่เกาะติดอยู่
กับตู๋กซู ิงหลัน ไม่รู้สานึกตนบ้างเลยสักนิด
เสี่ ยวซิงซิงพระองค์เป็ นผูพ้ ากลับมา คิดว่าพระองค์จะยอมให้เขาแย่ง
ไปง่ายๆ หรื อ?
ฮ่องเต้ทรงพระสรวลเสี ยงเย็นชาออกมาครั้งหนึ่ง แต่มิได้จดั การกับซู
เม่ยอย่างแจ่มชัด พระองค์ประทับยืนอยูด่ า้ นข้าง สายพระเนตรทอด
ลงไปบนร่ างของตู๋กูซิงหลัน
แม้แต่น้ าเสี ยงก็เปลี่ยนเป็ นอบอุ่นขึ้นมา “อากาศหนาวมากแล้ว เรา
ไปล่าสัตว์มา โชคดีได้จิ้งจอกมาตัวหนึ่ง จึงให้ถลกหนังทาเป็ นเสื้ อ
คลุมมาให้เจ้า”
ตรัสแล้ว หลี่กงกงก็นาเสื้ อคลุมขนจิ้งจอกตัวนั้นเข้ามาถวาย
ขนจิ้งจอกเป็ นสี แดงราวกองเพลิง ทั้งยังเป็ นประกายมันวาว แสดง
ให้เห็นว่ายามปกติน้ นั เจ้าจิ้งจอกตัวนี้อยูด่ ีกินดีเพียงไร
“ปกติเจ้าชอบสวมใส่ แต่เสื้ อผ้าธรรมดา เราคิดว่า สี แดงราวอาทิตย์
ยามพลบค่าเช่นนี้เหมาะสมกับเจ้ามากนัก” จีเฉวียนตรัสแล้วก็หยิบ
เสื้ อคลุมขนจิ้งจอกตัวนั้นขึ้นมา
ส่ งถึงตรงหน้าตู๋กซู ิงหลัน น้ าเสี ยงของพระองค์ยงิ่ อ่อนโยนกว่าเดิม
“ลองลุกขึ้นมาสวมดูหน่อยไหม?”
ที่จริ งแล้วตัดขึ้นมาเพื่อนางโดยเฉพาะ ย่อมต้องพอดีตวั อยูแ่ ล้ว
จีเฉวียนจงใจส่ งเสื้ อคลุมจิ้งจอกไปตรงหน้าซูเม่ย
สี แดงเพลิงนั้นบาดตาอย่างยิง่ ซูเม่ยมองดูอยูส่ องรอบในสมองพลัน
เจ็บจี๊ดขึ้นมา ในใจบังเกิดความหวาดกลัวอย่างไร้สาเหตุ
ภาพมากมายไหลผ่านเข้ามาในสมอง เป็ นภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เป็ นภาพของจิ้งจอกสี แดงตัวหนึ่งที่ถูกโยนลงไปในวงล้อวัฏสังขาร
เขาเห็นชัดเลยว่า…คนที่โยนเขาลงไปนั้น มีสายตาที่เย็นชาแบบ
เดียวกันกับจีเฉวียน
ซูเม่ยรู ้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมาในทันที
ตอนที่เขาเกิดมานั้น เหล่าสรรพสัตว์ต่างก็พากันมาคานับถึงตาหนัก
หย่งเฉิงอ๋ อง บรรพชนของตนก็เป็ นจิ้งจอก
เรื่ องนี้เล่าลือกันไปทัว่ เมืองหลวง จนไม่มีอะไรน่าแปลกใจ ทั้งยังมี
คนเคยพูดว่าเขาเป็ นเซียนจิ้งจอกกลับชาติมาเกิด แม้แต่บิดามารดา
ของตนก็มิได้ปฏิเสธ
ที่จีเฉวียนเอาหนังจิ้งจอกมายืน่ ใส่ เขาตรงหน้าเขา ก็เพื่อตักเตือน และ
เพราะขยะแขยงเขา
ขณะที่ซูเม่ยกาลังจิตใจเลื่อนลอยอยูน่ ้ นั จีเฉวียนก็เบียดบังเข้ามานัง่
ลงตรงข้างกายตู๋กูซิงหลันอย่างคุน้ เคย
ยืน่ พระหัตถ์ออกมาคลุมเสื้ อหนังจิ้งจอกนั้นให้กบั นาง
สี หน้าของตู๋กซู ิงหลันกลับไม่ดีเท่าไร พอมองเห็นหนังจิ้งจอกสี แดง
เพลิง นางก็หวนนึกไปถึงจิ้งจอกน้อยที่เคยเลี้ยงเอาไว้ในโลกก่อน
ทันที
นางเฝ้าดูจิ้งจอกน้อยตัวนั้นฝึ กฝนและสัง่ สมตบะมาโดยตลอด…..ไม่
เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันอาจจะถูกคนจับไปถลกหนังกลายเป็ นเสื้ อผ้า
ไปได้
แต่ไหนแต่ไรตู๋กซู ิงหลันก็ไม่เคยสวมใส่ เสื้ อผ้าที่ทาจากขนหรื อหนัง
ของสัตว์
ไม่ใช่เพราะนางเป็ นพวกยอดมารดาแสนดีอะไร แต่เพราะว่าการทา
เสื้ อผ้าจากขนสัตว์เช่นนี้มนั โหดร้ายเกินไป
พวกนางอยูใ่ นสานักหุบเขาภูติเร้นลับเป็ นสานักที่ให้ความเคารพต่อ
ชีวิต กฏของสานักคือห้ามไม่ให้สวมใส่ เสื้ อผ้าที่ทาขึ้นมาจากขน
หนังของสัตว์
พอจีเฉวียนคลุมเสื้ อหนังจิ้งจอกลงมา ตู๋กซู ิงหลันส่ งเสี ยงอึกอักอยูค่ รู่
หนึ่งก็อาเจียนออกไป
อาเจียนใส่ จีเฉวียนทั้งตัว
พระองค์พ่ งึ จะเลิกว่าราชการ ทรงฉลองพระองค์ชุดมังกร ทั้งหัว
มังกรและเล็บมังกรล้วนถูกตู๋กูซิงหลันอาเจียนใส่ อย่างเต็มที่ ล้วน
เป็ นขาหมูที่กินเข้าไปแล้วยังไม่ทนั ย่อย
ผูค้ นทั้งหมดตื่นตะลึงไป
หยวนเฟยและองค์หญิงใหญ่ต่างก็ตื่นตัวขึ้นมา
พวกนางต่างก็รู้วา่ ฮ่องเต้ทรงรักความสะอาดมากเพียงไร ต้องเรี ยกว่า
รักความสะอาดอย่างบ้าคลัง่ จนคนต้องหวาดหวัน่ ขวัญผวาไปเลยดี
เดียว
หลี่กงกงยิง่ ตื่นตระหนกจนแทบจะขาดใจตายลงไปตรงนี้แล้ว เขาจา
ได้วา่ ครั้งหนึ่งขันทีนอ้ ยไม่ทนั ระมัดระวัง ขณะที่คีบอาหารถวายฝ่ า
บาท ไม่ทนั ระวังทาน้ าแกงกระเด็นใส่ ฝ่าบาท…….
ถูกฝ่ าบาทลงโทษให้ไปอยูโ่ รงซักล้าง ทาความสะอาดเสื้ อผ้าอยูถ่ ึง
สามเดือน
นี่ถึงขนาดอ้วกใส่ ชุดมังกรเลยรึ ท่านตู๋กซู ิงหลันช่างโหดเ**้้ยมต่อ
ผูค้ นเสี ยจริ งๆ
…………………………………..
ตอนต่อไป “นางมารที่ลม้ ชาติลา้ งเมือง”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 348 นางมารที่ล้มชาติล้างเมือง
“น้องเล็ก เจ้าเป็ นอะไรไป?” สองพี่ชายตกใจจนกระโดดเข้ามาหา
ไหนเลยยังจะมีอารมณ์ไปสนใจจีเฉวียนอยูอ่ ีก
ทั้งสองต่างก็บุกเข้าไปถึงด้านหน้าด้วยความหวัน่ เกรงว่าตู๋กซู ิงหลัน
จะเกิดเรื่ องอะไรขึ้นอีก
ยังไม่ทนั ที่ท้ งั สองจะได้สมั ผัสตัวตู๋กูซิงหลัน จีเฉวียนก็เขวี้ยงหนัง
จิ้งจอกในมือทิ้งไป คว้ามือของตู๋กซู ิงหลันเอาไว้แน่น “ไม่สบาย
หรื อ?”
ผูค้ นทั้งหมดต่างก็ตื่นตระหนกขึ้นมา เนื่องเพราะว่านางขาพิการทั้ง
สองข้าง ไม่แน่วา่ บางทีร่างกายอาจจะมีอาการบาดเจ็บภายในอะไร
บางอย่างที่ไม่เคยรู ้มาก่อนก็ได้
ในขณะที่กาลังตื่นตระหนกกันอยูน่ ้ นั เอง ก็ได้ยนิ เสี ยงซุนเอ๋ อร์กล่า
วอย่างใสซื่อบริ สุทธิ์วา่ “ท่านย่าน้อยกาลังจะมีทารกหรื อเจ้าคะ?
ตอนที่ท่านแม่ต้ งั ครรภ์ซุนเอ๋ อร์กอ็ าเจียนเช่นนี้”
นางเองก็เคยได้ยนิ พวกหมัวมัวในจวนพูดกัน ท่านแม่ต้ งั ครรภ์นาง
อย่างลาบาก อาเจียนอยูท่ ุกๆ วัน
แค่ประโยคเดียวก็ทาเอาคนทั้งหมดตกใจจนชะงักค้างไป
ทันใดนั้นทุกคนต่างก็พากันหันสายตาไปมองดูจีเฉวียน
สองพี่ชายตระกูลตู๋กตู ่างก็ตาลุกโชนขึ้นมา ตอนนี้เกิดเงื่อนไขที่จะ
ให้พวกเขาก่อกบฏอย่างสมเหตุสมผลขึ้นตรงหน้าแล้ว
พอคิดดูให้ละเอียด ช่วงที่พวกเขาทั้งสองอยูใ่ นเมืองกู่เย่วนั้น จี
เฉวียนก็ทาตัวเหมือนหมาป่ าเฒ่าอยูต่ ลอด ส่ วนน้องเล็กนั้นถูก
กล่าวหาจนกลายเป็ นนางมารล้มบ้านล้างเมืองที่ทาเอาคนสงสัยกัน
กลุ่มใหญ่
เจ้าสุ นขั เฒ่าจีเฉวียน ไม่รู้วา่ ได้แอบทาเรื่ องอะไรที่ไม่ดีกบั น้องเล็ก
ไปหรื อไม่?
องค์หญิงใหญ่เองก็ตกใจไปด้วย นางไม่นึกไม่ฝันว่าซุนเอ๋ อร์จะพูด
อะไรออกมาเช่นนั้น
องค์หญิงใหญ่อบั อายจนสี พระพักตร์มีแต่ความขออภัย “เด็กน้อยไม่
รู ้ความ เด็กน้อยไม่รู้ความ”
ซุนเอ๋ อร์ไม่เข้าใจความนัย จึงเอียงศีรษะกล่าวว่า “ซุนเอ๋ อร์ไม่ได้
พูดจาไม่รู้เรื่ องนะเจ้าคะ ท่านย่าน้อยมิใช่วา่ กาลังจะมีทารกหรอก
หรื อ?”
ตู๋กูซิงหลันเดิมทีคิดจะอาเจียนออกมาอีก แต่เพราะได้ยนิ คาของซุน
เอ๋ อร์ทาเอานางชะงักจนกลืนทุกอย่างกลับไป
แหวะ…..ยิง่ น่าอ้วกกว่าเดิม
นางยิง่ ทียงิ่ อาเจียนอย่างหนัก ทั้งแหวะทั้งอาเจียนออกมาใส่ จีเฉวียน
ไปครึ่ งตัว
ฮ่องเต้ทรงตระหนกขึ้นมา รี บหันไปรับสัง่ กับหลี่กงกง “เรี ยกหมอ
หลวงมาเร็ วเข้า!”
ขายังไม่ทนั จะรักษาหาย หากว่ายังมีปัญหาอะไรขึ้นมาอีก มิใช่วา่ เขา
ต้องปวดใจหนักกว่าเดิมหรอกหรื อ!
พระองค์ทางหนึ่งตรัส ทางหนึ่งหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาช่วยตู๋กู
ซิงหลันเช็ดปาก โดยมิได้สนใจความสกปรกบนพระวรกายของ
พระองค์เอง ทั้งยังคว้าเอาน้ าค้างสาลี่หิมะในมือตู๋กเู จวี๋ยมาป้อนให้
นางด้วย
ตู๋กเู จวี๋ย “…..” น้องสาวของเขา เขาไม่มีสิทธิ์ดูแลหรื ออย่างไร? ถึง
ต้องให้ฮ่องเต้มาจัดการ?
ทั้งยังถูกพระองค์ยมื ดอกไม้ไหว้พระอีก [1] !
ตู๋กจู ุนเองก็แทบจะหันกลับไปคว้าดาบใหญ่ของตนเองขึ้นมาแล้ว
หลังดื่มน้ าค้างสาลี่หิมะลงไปหลายคา ตู๋กซู ิงหลันถึงได้ค่อยๆ สงบ
ลงได้บา้ ง
แต่พอมองเห็นหนังจิ้งจอกที่อยูด่ า้ นข้าง ตู๋กซู ิ งหลันก็คิดจะอาเจียน
ออกมาอีก
แค่คิดว่าจิ้งจอกน้อยที่นางเลี้ยงเอาไว้ถูกคนเอาไปถลกหนัง ในสมอง
ของนางก็เห็นภาพขึ้นมาทันที ทาเอาปวดใจจนอยากจะอาเจียน
“ฝ่ าบาทมีพระทัยกตัญญูน่าสรรเสริ ญ แต่น่าเสี ยดายที่แต่ไหนแต่ไร
หม่อมฉันไม่อาจทนใช้หนังหรื อขนสัตว์ได้” ตู๋กซู ิงหลันหันหน้า
กลับมา มองดูจีเฉวียน “ต่อไปฝ่ าบาทอย่าได้ทรงส่ งของพวกนี้มาให้
หม่อมฉันเลยนะเพคะ”
จีเฉวียนตะลึงไป หมอหลวงบอกว่านางไม่อาจทนความหนาว
ดังนั้นพระองค์จึงเสด็จไปยังเขตล่าสัตว์ของราชวงศ์ล่ามาให้นางเป็ น
กรณี พิเศษ
เสื้ อคลุมหนังจิ้งจอกตัวนี้พระองค์คอยทอดพระเนตรดูชาววัง
เหล่านั้นเย็บขึ้นมาแต่ละเข็ม หวังเพียงจะให้นางได้อบอุ่น
คิดไม่ถึงว่า สิ่ งของพวกนี้กลับทาให้นางเกิดความทรมาน
คาพูดของตู๋กซู ิงหลัน ทาให้องค์หญิงใหญ่ หยวนเฟย และหลี่กงกง
ตระหนกจนแทบจะกระโดดแล้ว
ฝ่ าบาทที่ทรงเป็ นพ่อไก่ขนเหล็กที่ไม่ยอมเสี ยทรัพย์แม้สกั อีกแปะ
กลับเป็ นฝ่ ายมอบของขวัญให้ผอู ้ ื่น นี่ตอ้ งถือว่าเป็ นบุญกุศลที่บรรพ
ชนทั้งสิ บแปดรุ่ นได้สงั่ สมมาแล้ว
ไทเฮาน้อยกลับปฏิเสธออกมาอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้?
ฝ่ าบาทจะต้องทรงพิโรธอย่างแน่นอน พิโรธอย่างรุ นแรงเสี ยด้วย
ทั้งสามต่างก็คิดเช่นนี้อยูใ่ นใจ แต่หลังจากนั้นพวกนางก็ตอ้ ง
ประหลาดใจด้วยความผิดคาดอย่างแรง
ฝ่ าบาทมิได้ทรงพิโรธเลยสักน้อยนิด พระองค์ประทับนัง่ ข้างกายตู๋กู
ซิงหลัน ดวงพักตร์ที่งดงามไร้ที่ติน้ นั กลับมีแต่การตาหนิพระองค์เอง
“เราผิดไปแล้ว ไม่สมควรมอบอะไรให้เจ้าอย่างไม่รอบคอบ”
ท่าทางของพระองค์น้ นั เกลียดชังพระองค์เองจนแทบจะตบพระ
พักตร์สักสองรอบ
ผูค้ นทั้งหลาย “???”
นี่มนั เรื่ องอะไรกัน? เมื่อครู่ พวกเขาได้ยนิ ว่าอะไรนะ?
ฮ่องเต้ทรงตรัสขอโทษ!
นอกจากสองพี่ชายตระกูลตู๋กแู ล้ว ผูอ้ ื่นต่างพากันสู ดลมหายใจเข้า
ไปอย่างเหน็บหนาว
สวรรค์ทรงโปรด! ไทเฮาน้อยทรงใช้วิธีการใดถึงได้สามารถจัดการ
พระองค์จนอยูห่ มัดได้ถึงเพียงนี้?
กลายเป็ นเชื่องเชื่อจนไม่ธรรมดาแล้ว!
นี่คือเชื่อฟังจนหมอบราบคาบแก้วหรื อว่าที่จริ งแล้วยังมีจุดประสงค์
อื่นแอบแฝง?
หากเป็ นก่อนหน้านี้ พวกนางต่างก็ไม่ยอมเชื่อ…..
นี่สมควรจะต้องเป็ นเพราะว่าฝ่ าบาททรงมีแผนการอื่นอยูอ่ ีก….
กาลังทรงดาริ จะให้ตระกูลตู๋กอู อกไปทาอะไรอีกแล้วใช่ไหม?
แดนเป่ ยเจียงก็ตีมาได้แล้ว ก้าวต่อไปสมควรถึงเวลาจัดการการาบ
พิชิตแคว้นอื่นแล้ว
ต้าเหยียน
ใช้แล้ว…พิชิตแคว้นเหยียน
ในดินแดนนี้ แคว้นที่ยงั พอจะสามารถเทียบเคียงกันได้อย่างมากก็คง
จะเป็ นแคว้นต้าฉิน
จะต้องเป็ นเพราะมีพระดาริ จะให้ตระกูลตู๋กูไปตีแคว้นต้าเหยียนเป็ น
แน่ ดังนั้นคราวนี้ถึงได้รีบเสด็จมาทาท่าลูกกตัญญูที่เชื่อฟัง
พวกองค์หญิงใหญ่ลว้ นแล้วแต่คิดเช่นนี้ดว้ ยกันทั้งนั้น
เนื่องเพราะว่าคนเช่นฮ่องเต้น้ นั ….แต่ไหนแต่ไรไหนเลยจะเคยมี
ความจริ งพระทัยให้กบั ใครเขากัน
พอดีกบั ที่สองพี่ชายตระกูลตู๋กกู ค็ ิดเช่นนี้อยูเ่ หมือนกัน
แดนเป่ ยเจียงถึงตอนนี้กน็ บั รวมเข้ามาอยูใ่ นแผนที่ของแคว้นต้าโจว
แล้ว ดังนั้นท่านปู่ จึงสามารถกลับมาจากเป่ ยเจียงได้อย่างวางใจ
ก้าวต่อไป ก็คือแคว้นเหยียนแล้ว
จีเฉวียนต้องการให้ตระกูลตู๋กขู ยายดินแดนให้กบั พระองค์ จึงได้มา
เล่นงิ้วให้พวกเขาดู
ฮึ ฮึ ……ฮ่องเต้สุนขั อย่างไรเสี ยก็ยงั เป็ นฮ่องเต้สุนขั แต่ละก้าวล้วน
คิดคานวนมาแล้วอย่างละเอียด เรี ยกว่าแทบจะอยากให้ทุกคนเข้าไป
อยูใ่ นแผนการของตน
ที่จริ งแล้วยามนี้ฮ่องเต้ไม่ทรงสนพระทัยแล้วว่าใครกาลังคิดอะไรอยู่
พระองค์ทอดพระเนตรมองดูต๋ ูกซู ิงหลันด้วยความกังวลพระทัย “ใน
เมื่อเจ้าไม่ชอบหนังจิ้งจอก เช่นนั้นพวกเราก็ไม่เอาอีกแล้ว นับจาก
วันนี้ไป ผูค้ นในต้าโจวทั้งหมดไม่อาจสวมใส่ หนังจิ้งจอกอีก”
พอฝ่ าบาททรงตรัสออกมา ก็เสมือนหนึ่งว่ามีราชโองการออกไป
แล้ว
ความรวดเร็ วเช่นนี้ ทาให้ผคู ้ นทั้งหลายต้องแปลกใจเป็ นรอบที่สาม
ดูเอาสิ ……เพราะความร้อนพระทัยที่อยากจะให้คนตระกูลตู๋กูไป
ออกรบ แม้แต่ราชโองการเช่นนี้กย็ งั มีออกมาได้!
ฝ่ าบาท แผนการนี้ของพระองค์มิใช่วา่ แสดงออกมาได้แจ่มแจ้ง
จนเกินไปแล้วหรื อไม่?
ตู๋กซู ิงหลันเองก็ตกตะลึงไป ก่อนหน้านี้จีเฉวียนทรงตรัสอยู่
ตลอดเวลาว่าชอบนาง
แต่วา่ นี้เป็ นครั้งแรกที่จีเฉวียนทรงออกราชโองการเพราะความ
เคลื่อนไหวของนาง
อยูๆ่ นางก็รู้สึกว่าตนเองช่างคล้ายกับนางมารที่ลม้ ชาติลา้ งเมืองเข้า
จริ งๆ
หนังจิ้งจอกถูกนาออกไป ตู๋กซู ิงหลันก็ค่อยรู ้สึกดีข้ ึนมาหน่อย นาง
กระแอมเล็กน้อย “ฝ่ าบาท ขนที่ตดั ออกมาจากสัตว์ยงั สามารถใช้ได้
่ ..ขอเพียงมิได้พรากชีวติ ของสัตว์ลว้ นไม่เป็ นปั ญหาเพคะ”
อยู…
“เราจะออกราชโองการอย่างละเอียด ร่ างข้อกาหนดว่าอะไรสามารถ
สวมใส่ ได้ อะไรสวมใส่ ไม่ได้ ต่อไปภายหน้าในสายตาของเจ้า จะ
ได้ไม่ตอ้ งเห็นสิ่ งของที่ทาให้แสลงเช่นนี้อีก” จีเฉวียนประทับอยูข่ า้ ง
กายนาง ดึงมือของนางเข้ามา ตบลงบนหลังมือเบาๆ อย่างปลอบ
ประโลม
ความปวดใจที่สื่อออกมาทางสายตานั้นทาเอาตู๋กซู ิงหลันเลี่ยนแทบ
ตายแล้ว
เหล่าพี่ชายตระกูลตู๋กตู ่างก็คิดว่าการแสดงของฮ่องเต้สุนขั ช่างสม
บทบาทนัก คาพูดแต่ละคา ความเคลื่อนไหวแต่ละอย่าง กระทัง่
สายตาก็ยงั แสดงอารมณ์ความรู ้สึกออกมาอย่างชัดเจน
ช่างกตัญญูเกินไปแล้ว!
หากมิใช่เพราะว่าพวกเขาเข้าใจพระองค์เป็ นอย่างดี เกรงว่าตอนนี้คง
จะต้องถูกพระองค์หลอกลวงเข้าแล้ว
พอจีเฉวียนตรัสจบ หมอหลวงผูห้ นึ่งก็รีบรุ ดเข้ามา
เมื่อมีหมอหลวงซุนเป็ นตัวอย่างมาก่อน ก็แทบจะไม่มีหมอหลวงคน
ใดกล้ามาจับชีพจรถวายไทเฮาอีก ครั้งนี้ที่มาคือย่วนสื่ อ [2] ของ
สานักแพทย์หลวง
เขาสู งวัยมากจนใกล้จะมีอายุครบแปดสิ บปี แล้ว ทั้งสายตาและหูก็
ไม่ค่อยจะดีสกั เท่าไหร่ กระทัง่ มือของเขาก็ท้ งั เ**้่ยวทั้งแข็งจน
เปลี่ยนรู ปไปแล้ว
ขณะที่จบั ชีพจรถวายไทเฮาน้อยด้วยมือที่สนั่ เทา ใบหน้าของเขาก็
พลันแสดงสี หน้าปิ ติยนิ ดีออกมา “ฝ่ าบาท….นี่พระสนมทรงตั้งพระ
ครรภ์แล้วพะยะค่ะ!”
………………………………………
ไรท์: เป็ นเรื่ องแล้ว!!!
ตอนต่อไป “ซิงซิงตั้งครรภ์?”
——
หากมิใช่เพราะว่ารักใครคนหนึ่งอย่างลึกล้ า ไหนเลยจะสามารถสละ
ชีวิตของตนเองเพื่อผูอ้ ื่นได้กนั ?
จนถึ ง วัน นี้ พอคิ ด ขึ้ น มาท่ า นผูเ้ ฒ่ า ก็ ย งั จดจ าได้อ ย่า งละเอี ย ดลออ
แม้แต่กระทัง่ บนร่ างของนางมี ดอกไห่ ถางอยู่กี่ดอกก็ยงั จาได้อย่าง
แม่นยา
พวกเขาไม่ ได้มีง านแต่ ง งาน เพี ย งแต่ ค นทั้ง สองสวมใส่ ชุ ดสี แดง
กราบไหว้ฟ้าดินร่ วมกัน
เนื่ อ งเพราะจี จ้า นเป็ นเหตุ เขาจึ ง ไม่ อ าจจัด งานแต่ ง งานที่ ใ หญ่ โต
ให้กบั นางได้ นี่เป็ นความเสี ยดายไปชัว่ ชีวิตของเขา
“ตอนนั้นท่ามกลางการประหัตประหารในแคว้นกู่เย่ว ฮูหยินพยายาม
ปกป้องเจียงเม่ยหยูอ่ ย่างสุ ดชีวิต ทั้งยังร้องขอให้ขา้ รับตัวนางไว้”
ตู๋กูซิงหลันออกจะประหลาดใจอยูบ่ า้ ง เนื่องเพราะว่าไม่เคยมีใครเอ่ย
ถึ งบิ ดามารดามาก่ อน นางจึ งนึ กว่าตอนนั้นเย่วฮู หยินได้ให้กาเนิ ด
บุตรชาย
“ยามที่บิดามารดาของเจ้าจากไป เจ้าพึ่งจะอายุสี่ขวบกว่าเท่านั้น คง
จาอะไรไม่ได้”
ตู๋กูซิงหลันแอบหัวเราะเบาๆ เจียงเย่วที่ผ่านประสบการณ์ถูกทาลาย
จนย่ อ ยยับ จนมาพบกับ ท่ า นปู่ ได้ผ่ า นชี วิ ต ที่ ส งบสุ ข สิ บ กว่ า ปี
สาหรับนางแล้วต้องถือว่าเป็ นความโชคดีในความโชคร้าย
…………………
ยามดึกสงัด ตู๋กูซิงหลันได้ยนิ เสี ยงหน้าต่างเปิ ดออก สายลมพัดเข้ามา
วูบหนึ่ง
นางก็รู้สึกตัวขึ้นมาอย่างตื่นตัว
ฮ่องเต้ถูกนางคว้าพระหัตถ์เอาไว้ แย้มสรวลออกมาดุจดอกไม้บาน
แทบจะซบพระพักตร์ครึ่ งหนึ่งลงไปบนเส้นผมของนาง
“เลยยามจื่ อ [1] มาก็ถื อ เป็ นวันที่ ส องแล้ว ” จี เ ฉวี ย นตรั ส อย่า งน่ า
สงสาร “พวกเราตกลงกันแล้วมิใช่หรื อ?”
จี๊ด….
นางปวดฟันจริ งๆ
บางทีอาจเพราะถูกเขากอดเข้าบ่อยๆ เลยชักจะเคยชินขึ้นมาแล้ว
พอเกิดความเคลื่อนไหวเล็กน้อย เขาก็รู้สึกตัวทันที
พอพุง่ ออกไปครั้งหนึ่งหอกนั้นก็แทงเข้าไปในผ้าห่ม
ทันทีที่ทะลุเข้ามา หอกด้ามนั้นก็ถูกจีเฉวียนทรงคีบเอาไว้อย่างแน่น
หนา “ท่านผูเ้ ฒ่า หากแทงลงมาเช่นนี้ จะมีคนตายได้นะ”
ใบหน้าชราของตู๋กถู ิงชักจะละอายจนรับไม่ได้อยูบ่ า้ ง
คนที่เคยรับ ล้วนตายไปหมดแล้ว
ถึงแม้ว่าตัวเขาจะใช้กาลังไปเพียงแค่สองสามส่ วน แต่ก็เพียงพอที่จะ
แบะหัววัวได้แล้ว ตอนนี้กลับถูกฮ่องเต้คว้าจับเอาไว้โดยง่าย ทาให้ต๋ ู
กูถิงอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนมุมมองต่อพระองค์ไป
[1] 子时
หากปล่อยให้มาคลุกคลีอยู่ขา้ งๆ หลานสาวของตนทั้งวันทั้งคืนคง
ปวดหัวน่าดู
“ฝ่ าบาททรงล้อ กระหม่ อ มเล่ น แล้ว เมื่ อ ครู่ ก ระหม่ อ มนึ ก ว่ า เป็ น
หัว ขโมยมาจากที่ ใ ด ฝ่ าบาทเสด็ จ มาจวนตระกู ล ตู๋ กู ข องพวกเรา
ประตูใหญ่มีกลับไม่ผ่าน แต่กลับปี นหน้าต่างเข้ามา นี่ มิเท่ากับว่าทา
ให้ผคู ้ นเข้าใจผิดง่ายๆ หรอกหรื อ?”
ตู๋กูถิงกล่าวด้วยสี หน้ายิ้มแย้มแต่ดวงตากลับไม่ยิ้ม หอกในมือก็ส่ง
เสี ยงครื นครานออกมา
“ก็ได้” ฮ่องเต้มิได้ทรงปฏิเสธ
ตู๋กถู ิงฟังแล้วแทบจะระเบิดตัวเอง
เพราะว่าตอนนี้นางง่วงแทบตายแล้ว
จึงไม่คิดจะสนใจอะไรพวกเขาอีก นางทาเป็ นไม่สนใจหลับสบายใน
ผ้าห่มต่อไป
พอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกว่าข้างกายมีอะไรเย็นๆ
“ท่านปู่ เล่า?”
ตู๋กูซิงหลันกวาดตามองดูจีเฉวียนอย่างละเอียดลออครั้งหนึ่ง เห็นเขา
สบายดีเป็ นปกติตลอดร่ าง แม้แต่รอยขีดข่วนสักนิดก็ไม่มี
“ท่ า นผูเ้ ฒ่ า รั บ ปากเรา แพ้แ ล้ว ก็จ ะยอมให้เ ราอยู่เ ป็ นเพื่ อนเจ้า ” จี
เฉวียนลูบศีรษะน้อยๆ ของนางเบาๆ “เจ้าช่ างเป็ นลูกหมูน้อยจริ งๆ
เรากับท่ านผูเ้ ฒ่ าอึ กทึ กครึ กโครมกันขนาดนั้น เจ้ากลับหลับอย่าง
สบาย เราอิจฉาเจ้านัก”
ลูกหมูนอ้ ยกับผีน่ะสิ
“สามวันคิดถึงครั้งหนึ่งเป็ นอย่างไร?”
“ห้าวัน…..มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”
“อืม”
“เจ้า ไม่ มีอ ะไรจะพูด กับ เรา ไม่ คิ ด จะท าอะไรให้ก ับ เราสัก หน่ อ ย
หรื อ?”
จีเฉวียนรอคอยด้วยความคาดหวังจากหัวใจ
ตู๋ กู ซิ ง หลัน คิ ด อยู่ค รึ่ งค่ อ นวัน ค่ อ ยกล่ า วออกมาค าหนึ่ ง “ฝ่ าบาท
เดินทางโดยสวัสดิภาพนะเพคะ”
จีเฉวียน “…..”
……………………………
วันที่ฝ่าบาททรงยกทัพออกไปนั้น หิ มะตกอย่างหนัก
บั้นพระองค์แขวนกระบี่สีทอง
แคว้นต้าโจวผ่านการสถาปนามาแล้วถึงสามพระองค์ หลังจากที่ปฐม
ฮ่องเต้ทรงก่อตั้งแว่นแคว้นขึ้นมาก็ออกศึกด้วยพระองค์เองเพียงสอง
ครั้งเท่านั้น
เพี ย งแต่ ว่า เสี ย งคัด ค้า นเหล่ า นี้ พอไปถึ งจี เฉวี ย นก็สลายกลายเป็ น
ฟองอากาศไปจนหมด
เรื่ องที่ฝ่าบาทตัดสิ นพระทัยไปแล้วว่าจะทรงทา ใครก็ไม่อาจขวางได้
ทั้งนั้น
ตู๋กซู ิ งหลันจับจ้องไปยังจีเฉวียน
เขาช่างดึงดูดสายตาอย่างยิง่
นางไม่เคยได้เห็นเขาสวมใส่ ชุดเกราะมาก่อนเลย
หยวนเฟย “…..”
นางพลันได้ส ติ ข้ ึ นมา ซอยก าปั้ นน้อ ยๆ ลงบนบ่ า ของตู๋ กูซิ งหลัน
“ไทเฮาเพคะ ทาไมถึงทรงเป็ นคนที่แย่เช่นนี้?”
สายตานั้นหยุดอยูท่ ี่ร่างของตู๋กจู ุน
“เหล่าทหารทั้งหลาย ติดตามเราออกศึก!”
ตอนที่ 367 เจ้ าว่ าเขาเป็ นปี ศาจหรื อไม่ ?
เมืองหลวงมิได้มีบรรยากาศที่ฮึกเหิ มน่าตื่นเต้นเช่นนี้มานานแล้ว
เมื่อมองดูกองทัพของเขาจากไปไกลแล้ว ก็ไม่รู้ว่าทาไมในใจถึงได้
รู ้สึกว่างเปล่าขึ้นมา
……………………….
วันแรกที่ ฮ่องเต้เสด็จจากไป ไทเฮาทรงพระเกษมสาราญถึ งขนาด
เรี ยกเหล่าลูกสะใภ้ท้ งั หมดมาแทะเมล็ดแตงชมงิ้วด้วยกัน
วันที่สองที่ฮ่องเต้เสด็จจากไป ไทเฮาทรงเสด็จออกจากวังไปยังโรง
เตี้ยมอันดับหนึ่งของเมื่อหลวงกับพี่รองของตนเอง
ตอนนี้พอไปรับกลับมาในวังก็คึกคักอย่างยิง่
ดังนั้นตู๋กูซิงหลันจึงได้สร้างหน้ากากกันพิษขึ้นมาด้วยตนเอง ในครั้ง
แรกที่ หลงเซี ยวกลับมาส่ งข่าว ก็ฝากส่ งระเบิ ดมูลราชาสุ นัขป่ ากับ
หน้ากากกันพิษไปให้เขาพร้อมๆ กัน
วิญญาณทมิฬได้แต่ซุกตัวถอนหายใจอยูใ่ นมุมมุมหนึ่ง
คราวนี้ ตู๋ กูซิ ง หลันเป็ นฝ่ ายยกพู่ก ันขึ้ นมา เริ่ มเขี ย นจดหมายตอบ
กลับไปให้จีเฉวียนบ้าง
ประเด็นสาคัญก็คือตัวอักษรของต้าโจวนั้นซับซ้อนเขียนยาก พอตู๋กู
ซิ งหลันเขียนออกมาจึงกลายเป็ นมหาวิบตั ิอย่างแท้จริ ง
เขียนเพียงไม่กี่อกั ษร ยังอัปลักษณ์จนอยากร้องไห้
ตู๋กูซิงหลันแหงนหน้ามองฟ้า ส่ งเสี ยงถามวิญญาณทมิฬว่า “เจ้าว่าใน
โลกจะมีคนที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้อยูจ่ ริ งๆ หรื อ? เกิดมาหน้าตางดงาม
มีเงินมีอานาจยังไม่พอ ยังเก่งทั้งบุ๋นบู๊ปราบปี ศาจก็ได้ ที่สาคัญก็คือ
เขียนอักษรได้สวยมากๆ เจ้าว่าเขาเป็ นปี ศาจใช่หรื อไม่?”
ช่างกลิ้งกลอกดีนกั !
………………
เมืองหลวงแคว้นต้าเหยียน จิงหวาเฉิ ง
จวนอวี้สื่อฟู่
ค่ าคื นนี้ ขุนนางอวี้สื่อเมื องจิ งหวาจัดงานเลี้ ยงรั บรองฮ่ องเต้ตา้ โจว
เป็ นพิเศษ
แต่ ก ลับได้เ ห็ นจี เ ฉวี ย นมี สี พระพัก ตร์ ที่ อ่ อ นโยนทั้ง ยัง แย้มสรวล
ออกมา
“นางบอกว่าเนื้อหมูดาอร่ อยมาก ถึงกับต้องกินข้าวสามชาม หิ มะใน
เมืองหลวงหยุดแล้ว ขนาดต้นไม้ยงั แทงยอดใหม่ นางสุ ขสบายดีทุก
อย่าง”
ตู๋กจู ุน “???”
เขาอดไม่ได้ที่จะยืน่ ศีรษะเข้าไปมองดูภาพที่เลอะเทอะไปด้วยหมึกสี
ดาจนลายตาเหล่านั้น
จากนั้นก็มีรูปต้นไม้ บนกิ่งของต้นไม้เขียนอักษรคาว่ายอดเอาไว้
ตู๋กจู ุน “ข้อนั้นกระหม่อมมองไม่ออกเลย”
เขารู ้สึกว่าน้องเล็กย่อมต้องคิดถึงเขาที่เป็ นพี่ใหญ่มากกว่าเป็ นแน่
ตู๋กจู ุน “…..”
“ท่านแม่ทพั ผูพ้ ิชิต เจ้าอายุปูนนี้ แล้วยังไม่ มีศรี ภรรยา นี่ ยิ่งเป็ นข้อ
พิสูจน์ที่ชดั เจนว่า เรื่ องของใบหน้านั้น เจ้ามันใช้ไม่ได้”
ไอ้คนไม่ใช่คน!
แถมเขายังไม่อาจจับตัวเจ้าหัวขโมยนั้นได้ดว้ ย
ถึ ง แม้จ ะรู ้ ว่า เก้า ในสิ บจะต้องเป็ นฮ่ องเต้ท รงส่ งคนมาขโมยอย่าง
แน่นอน แต่เพราะว่าไร้หลักฐาน จึงไม่อาจจะทาอย่างไรกับพระองค์
ได้
ฮ่องเต้ทรงทอดพระเนตรมองดูพระองค์เองในบานกระจกทองแดง
เหลียวซ้ายแลขวา ตรงลาคอก็ดูแดงๆ อยูบ่ า้ ง ทั้งยังหยาบเล็กน้อย
แต่ เ มื่ อ อยู่ต่ อ หน้า ซิ ง ซิ ง จะอย่า งไรก็ ไ ม่ อ าจให้ พ ระพัก ตร์ น้ ี ของ
พระองค์มีขอ้ ตาหนิได้อย่างเด็จขาด
——
[1] 宣城纸
ตอนที่ 369 ตัวบัดซบที่จ่ายยา
ตู๋กจู ุนจับตามองดูพระองค์เสแสร้งอย่างเงียบงัน
ดังนั้นจึงอนุญาตให้หมอหลวงเฉี ยนสัมผัสพระวรกายได้
หมอหลวงเฉี ยน “……….”
ฝ่ าบาททรงพยักพระพักตร์อย่างไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
เวลาของเขายังจะเหลือมากมายที่ไหนกัน
จาเป็ นจะต้องมียาถอนจึงจะขับพิษออกไปได้มิใช่หรื อ?
………………………..
จดหมายของพี่ใหญ่มาถึงมือของท่านปู่ แล้ว
หลัง จากนั้น ก็ หัน ไปจ้อ งตู๋ กู ซิ ง หลัน “น้อ งเล็ ก บุ รุ ษ ที่ งี่ เ ง่ า เช่ น นี้
อย่าได้ไปคว้ามาอย่างเด็ดขาด เจ้าที่โดดเด่นถึงเพียงนี้ สมควรจะต้อง
ครองคู่กบั บุรุษดีงามที่ชาญฉลาดเท่านั้น”
ตู๋กูซิงหลันเอาแต่เงียบงันไม่พูดไม่จา ถ่านไหมเงินภายในห้องร้อน
ปริ ออกจนส่ งเสี ยงเปาะแปะ หมูเค็มที่จีเฉวียนให้หลงเซี ยวส่ งมาหอม
กรุ่ น ไปทั่ว ทั้ง เรื อ น ครอบครั ว อยู่ พ ร้ อ มกัน หน้า เตาผิ ง ช่ า งเป็ น
ความสุ ขที่บ่งบอกไม่ถูก
ตู๋กซู ิ งหลันก็มิได้แหวกหญ้าให้งูตื่น
ส่ วนอาหารมื้อใหญ่ที่ท้ งั ครอบครัวรับประทานพร้อมหน้า ( 年夜
饭 ) ส่ วนใหญ่แล้วก็จะเป็ นอาหารที่มีชื่อเป็ นมงคลต่างๆ เช่น จี’ (
鸡 ไก่) และ ‘อวี๋’ ( 鱼 ปลา) แทนความหมาย ‘จี๋เสี ยงหยูอวี้ ( 吉
祥如意 เป็ นสิ ริมงคลสมดังปรารถนา) ’ และ ‘เหนี ยนเหนี ยน
โหยว่อวี๋ ( 年年有余 มีเงินทองเหลือใช้ทุกปี ) ’ ถ้าเป็ นคนทาง
ภาคเหนื อก็จะต้องกิน เจี่ยวจือ ( 饺子 เกี๊ยว) ที่ห่อเอง เพราะแป้ ง
เกี้ ยวเป็ นสัญลักษณ์ ของการผนึ กหรื อเชื่ อมโยง รู ปทรงเป็ นรู ปเงิ น
โบราณ สามารถใส่ ไส้ที่เป็ นชื่ อมงคลต่างๆ กินแล้วจะรับทรัพย์ ถ้า
เป็ นคนทางใต้ก็จะกิ นลูกชิ้ นกลมๆ ที่เป็ นสัญลักษณ์ของความอุดม
สมบูรณ์บริ บูรณ์พูนสุ ข นอกจากนี้ แล้วก็มีท้ งั เมนูถวั่ งา ผักสด ขนม
หวานต่างๆ เรี ยกว่าอิ่มกันข้ามวันข้ามคืนเลยทีเดียว
ตอนที่ 370 ผีดบิ
ตู๋กูซิงหลันลองคิดๆ ดู ดูเหมือนว่าตนเองไม่เคยมีความรักสักหน่ อย
นี่?
แล้วจะไปบาดเจ็บมาจากไหนกัน?
อยากเจ็บก็เจ็บไป แยกสมองกับหัวใจออกจากกันก็สิ้นเรื่ อง
……………..
เขาวาดแผนการอยูใ่ จ
เนื่ องเพราะถึ งแม้คนผูน้ ้ นั จะเป็ นบุรุษหนุ่ มที่ แข็งแรงบึ กบึ นผูห้ นึ่ ง
แต่ ถูกเขาถี บออกไปเช่ นนี้ ต่ อให้ไม่ ตายก็ตอ้ งเหลื อชี วิตเพียงครึ่ ง
เดียว
ในสมองของเขาเกิดภาพที่เขาฆ่าราชบุตรเขยกับมือซ้อนทับขึ้นมาซ้ า
แล้วซ้ าอีก
“ฝ่ าบาท พวกเราเผชิ ญ กับ สถานการณ์ ที่ เ ลวร้ า ยเข้า แล้ว ” ตู๋ กูจุ น
กลายเป็ นเคร่ งเครี ยดขึ้นมา “แคว้นเหยียนตระเตรี ยมจะใช้วิธี มัจฉา
ตายตาข่ายขาด [1] ”
จี เฉวียนหรี่ พระเนตรลง ด้วยสถานการณ์ เบื้ องหน้านี้ ต่อให้ต๋ ูกูจุน
ไม่ได้บอกอะไร พระองค์กพ็ อจะเดาได้
“กองทัพของแคว้นเหยียนในยามนี้ ไม่อาจต้านทานการบุกของพวก
เราได้ ถึงได้ใช้ฝีมือต่าช้าเช่นนี้ออกมา” ดวงตาของตู๋กูจุนปรากฏเส้น
เลือดสี แดงกระจายขึ้นมา
น่ าเสี ยดายว่าในกองกาลังของกองทัพที่ถอนออกมานั้นก็มีคนที่ถูก
กัดอยูด่ ว้ ย พิษนี้จึงไม่จบสิ้ น เกิดการแพร่ กระจายอย่างรวดเร็ วขึ้นอีก
ตอนที่พวกเขาถอยทัพออกมานั้นก็ได้ปิดประตูเมืองเอาไว้ดว้ ย ผีดิบ
เหล่านั้นจึงออกมาไม่ได้
จีเฉวียนกาหมัดแนบแน่ น สายพระเนตรทอประกายสังหารออกมา
อย่างลึกล้ า
พระองค์ทรงนาพวกเขามา แต่ว่ากลับไม่อาจพากลับไป…..พวกเขา
ล้วนเป็ นสามี เป็ นบุตร เป็ นที่พ่ งึ หลักของครอบครัว
พอหันหน้ากลับไปก็เห็นว่ามีกองทัพผีดิบพุง่ เข้ามาหาจีเฉวียน
…………………….
………………
หมอผีจากเผ่าอาปู้ไซ้ท่านนั้นช่วยเชื่อมต่อเส้นเอ็นให้นางมาหลายวัน
แล้ว ขาคู่น้ ีจึงใกล้จะเหยียบพื้นได้อีกครั้ง
แต่ ก็ แ ค่ ยื น ได้ ค รู่ หนึ่ งเท่ า นั้ น หากจะเดิ น หรื อวิ่ ง ยัง คงต้ อ งใช้
ระยะเวลาฟื้ นฟูอีกพักใหญ่
ในมือของนางเพิ่มยันต์แผ่นหนึ่ง พอดีดปลายนนิ้วก็ปรากฏดวงไฟสี
น้ า เงิ น ขึ้ น มายัน ต์แ ผ่น นั้น ลุ ก โชนขึ้ น มา หลัง จากนั้น ก็ ก ลายเป็ น
อักษรควันสองตัวต่ อหน้านาง ‘อันตราย’ตู๋ กูซิงหลันขมวดคิ้ ว มุ่ น
จากนั้นก็ลุกลงจากเตียงแต่ขาก็อ่อนแรงลงไปทันที จนแทบจะทรุ ด
ลงไปบนพื้น
“พี่สาวใหญ่ ตวั น้อย ดึ กดื่ นค่ อนคื นเจ้าจะไปที่ ไหนกัน?” วิญญาณ
ทมิฬตื่นขึ้นมาเพราะนางเช่นกัน
ทันใดนั้นนางก็ได้ยนิ เสี ยง
เขาพลาดจากนางสองครั้งแล้ว….ไหนเลยจะยอมพลาดจากนางอีก
หน
ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้มีไอแห่งความตายที่เข้มข้นปะปนอยู่
สถานการณ์เช่นนี้……ในโลกก่อนนางก็เคยพบเห็นมาครั้งหนึ่ง
นี่ เป็ นเชื้ อโรคที่ แพร่ กระจายติ ดต่ อกันทางร่ างกายสิ่ งมี ชีวิต ไม่ ใช่
พวกภูติผปี ี ศาจ ไม่ใช่เหล่าวิญญาณแค้นที่ยงั พอจะควบคุมได้บา้ ง
ต่อให้เป็ นเหล่านักพรต หากว่าติดเชื้ อเข้าไปแล้วก็ยงั ต้องกลายเป็ น
ซอมบี้ไปเช่นกัน
ตอนนั้นขนาดเพียงแค่ซอมบี้กลุ่มเล็กๆ ยังทาให้รัฐบาลของประเทศ
แห่ งหนึ่ งต้องตัดสิ นใจระเบิดเมืองทั้งเมืองทิ้งไปเพื่อแลกกับความ
ปลอดภัย
ตู๋กูซิงหลันบุกไปถึงเมืองจิงหวาอย่างรี บร้อนโดยมิได้หยุดพักผ่อน
ดื่มกินตลอดทาง
ในใจของนางเกิดความกังวลถึงสถานการณ์ที่แย่ที่สุดเอาไว้แล้ว
ต่อให้จีเฉวียนแข็งแกร่ งเพียงไร แต่ว่าเมื่อต้องเผชิญกับฝูงซอมบี้นบั
พันนับหมื่น ต่อให้เป็ นเขาก็นบั ว่าอันตรายอยูด่ ี
ตู๋ กูซิ ง หลันเหมื อ นดัง่ เครื่ อ งยิง ธนู ที่ ไ ร้ จิ ต ใจ ทุ ก ครั้ งล้ว นยิง อย่า ง
แม่นยา ทะลวงศีรษะเหล่านั้นระเบิดไป
ซอมบี้เหล่านั้นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ ว แต่ว่าก็ยงั ไม่เร็ วไปกว่าธนู
ของนาง
………………………………………….
ไรท์: ตอนแรกนึกว่าเฉวียนเฉวียนจะโดนพี่เฉาฉุด เปลี่ยนเรื่ อง
กลายเป็ นชายได้ชายขึ้นมาเสี ยอีก ที่แท้กจ็ ะซุ่มสอนวิชากัน ใจหาย
วาบเลย เอาละเจ้าค่ะ เฉวียนเฉวียนสาเร็ จวิชาชายงามแล้ว พร้อมลง
สนาม มาดูกนั ว่าหลันหลันจะซื้อไหม
ตอนต่อไป “เขาติดอยูใ่ นกระดานหมาก”
……………………………………………………..
ไรท์: วันนี้ขออนุญาตเปิ ดครัวจีนกันสักหน่อยมื้อนี้เป็ นของหวานจ้า
[1] 芍药 (โบตัน๋ )
……………………………………………..
ไรท์: หลันหลัน เขามาเสิ ร์ฟถึงปากแล้ว เรากินก่อนค่อยสอบสวนก็
แล้วกัน ดีไหม?
ตอนต่อไป “เรี ยกเราว่าฮ่องเต้หญิง!”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 397 เรียกเราว่ าฮ่ องเต้ หญิง
จีเฉวียนลุกขึ้นประทับนัง่ พลางจัดแจงเสื้ อผ้าอย่างช้าๆ
ใต้หล้านี้มีวิชาแปลงโฉมอยูช่ นิดหนึ่ง ที่หากมองด้วยตาเปล่าย่อมไม่
อาจแยกแยะได้ และต่อให้ใช้มือสัมผัสก็ตรวจสอบไม่พบ
ช่างบังเอิญ…..ที่พระองค์ทรงเป็ นวิชานี้อยู่
ดังนั้นก่อนมายังตาหนักหย่งหนิงกงจึงได้ทรงตระเตรี ยมพระองค์
เอาไว้ถึงสองขั้น
แต่พระองค์คาดไม่ถึงว่า เมื่อปิ ดบังใบหน้าทั้งหมด จนเหลือแต่เพียง
แค่ลูกกระเดือกแล้ว นางจะยังคงสงสัยในตัวพระองค์ได้อีก
หรื อว่าวิชาแปลงโฉมที่ลึกล้ า เมื่ออยูต่ ่อหน้านางกลับยังเผยพิรุธ
ออกมา
……………….
พระเกศากลุ่มหนึ่งปัดผ่านพระศอ ปิ ดบังรอยแผลเป็ นบนพระศอ
เอาไว้
จีเฉวียนทรงพลาดไปแล้ว……นี่เป็ นบาดแผลที่ได้รับจากการมา
แคว้นเหยียนเมื่อครั้งก่อน บาดแผลลึก ทิ้งเป็ นรอยแผลเป็ นที่จะ
อย่างไรก็ไม่หาย
ตอนนี้พระองค์ถึงได้ทรงคิดได้วา่ ตอนนั้นที่ถูก ‘ฉางซุนอิง’ สัมผัส
ที่ตรงนี้ ….. ได้ทิ้งร่ อยรอยที่ไม่อาจลบล้างเอาไว้ในใจของนาง
นางยังคงโกรธอยู่ เนื่องเพราะห่วงและหวงจึงได้โกรธ
พระทัยของจีเฉวียนสับสนวุน่ วายไปหมดแล้ว
ความรักที่พระองค์มีให้ต๋ ูกูซิงหลัน ไม่ใช่แต่เพียงคาพูดเท่านั้น แต่ยงั
คิดจะปกป้องนาง ปกป้องนางให้ปลอดภัยที่สุด
เส้นทางในอนาคตของพระองค์กบั นาง ให้พระองค์เป็ นผูก้ รุ ยทาง
ขึ้นมาก็พอแล้ว
ก่อนที่จะได้พบกับนาง พระองค์ไม่เคยต้องคานึงถึงผลใดๆที่จะ
ตามมา….
ฮ่องเต้ที่กาเนิดขึ้นมาจากความมืดมิด แต่ไหนแต่ไรย่อมต้องโหดเ**
้้ยมเจ้าเล่ห์อยูแ่ ล้ว
ดังนั้นรอยประทับจูนนั่ พระองค์จึงไม่เคยใส่ พระทัยเลยเสี ยด้วยซ้ า
แต่มิได้ทรงคิดว่านางจะ…
พระองค์มองดูต๋ ูกูซิงหลัน เห็นดวงตาของนางวาวโรจน์ดว้ ยความ
คลางแคลงและขุ่นเคือง
พระองค์เสด็จลงจากแท่นบรรทมตรงไปยังเชิงเทียน เป่ าเทียนดับลง
และยกเชิงเทียนขึ้นมา
ปลายที่แหลมคงของเชิงเทียนกรี ดลงไปบนพระศอในทันที บาดรอย
แผลเป็ นนั้นจนเหวอะหวะอีกครั้ง
แผ่นหนังชิ้นหนึ่งถูกเฉือนออกมา โลหิตสดๆไหลนอง
จากนั้นค่อยหันไปทางตู๋กซู ิงหลัน “ฝ่ าบาททรงชิงชังรอยแผลเป็ น
บนคอของข้า….แผลนั้นต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว”
ขณะที่โลหิตจากพระศอไหลผ่านไหปลาร้าลงไปยังพระอุระ พระ
ขนงของพระองค์กลับไม่ได้ขมวดเลยด้วยซ้ า
เสื้ อผ้าชุดขาวที่หลวมกว้างตัวนั้นถูกย้อมสี ไปแถบใหญ่จนดูบาดตา
“พอมีเนื้อใหม้ข้ ึนมา ก็จะสะอาดแล้ว”
พระองค์จดจ้องไปยังนาง กดความคิดถึงสุ ดพระทัยนั้นลงไป
ตู๋กซู ิงหลันมองดูแผ่นหนังชิ้นใหญ่ในมือของเขา ประกายจากดวงตา
ดอกท้อตื่นตะลึง กระทัง่ ความคุกรุ่ นเมื่อครู่ กส็ งบลง
นางไม่ได้เอ่ยอะไรทั้งสิ้ น
เพียงแต่หนั ร่ างกลับไป หยิบเอาฉลองพระองค์ฮ่องเต้หญิงออกมา
จากตูเ้ สื้ อผ้าในห้องบรรทม จัดการสวมใส่ ดว้ ยตนเอง
ปลายนิ้วขาวสะอาดละเอียดนวลยืน่ ออกมาจากแขนเสื้ อฉลอง
พระองค์สีแดงเล็กน้อย บนเอวที่บอบบางคือเข็มขัดที่ทาจากทองคา
และหยก
จีเฉวียนจับจ้องไปยังนาง ด้วยความต้องการจะช่วยนางสวมเครื่ อง
แต่งตัว
แต่เพราะพระหัตถ์เปรอะเปื้ อนไปด้วยพระโลหิ ต จึงได้แต่ร้ ัง
พระองค์เอาไว้ห่างๆ
ได้แต่ทอดพระเนตรไปเรื่ อยๆ จนพระทัยลอย
นิ้วของนางบอบบางเหมือนดัง่ ต้นหอม ปลายเล็บเคลือบด้วยสี แดง
เข้มของดอกเทียน
สายรัดเอวสี แดงเข้มทาบอยูบ่ นปลายนิ้วมือ ช่างดึงดูดสายตาอย่าง
บอกไม่ถูก
เมื่อสายรัดเส้นบางๆถูกผูกจนเสร็ จเรี ยบร้อย มือของนางถึงได้หยุด
ลง นางถึงได้ปรายตากลับมา ขนตาที่ท้ งั ยาวและหนาของนาง
กระพริ บครั้งหนึ่ง
“ฮ่องเต้สุนขั ”
อยูๆ่ นางก็เอ่ยขึ้นมาคาหนึ่ง
ปฏิกริ ยาที่จีเฉวียนมีออกไปในทันทีก็คือ เสี ยง ‘หื อ’
ทันทีที่สิ้นเสี ยง ก็เห็นนางเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาเป็ นประกายเย็นชา
สุ ดหยัง่
ทั้งเย็นยะเยือกและแหลมคม
“ไม่เล่นละครต่อไปแล้ว?” ปลายนิ้วที่บอบบางของนางพันอยูบ่ น
เกลียวผม พอสายตามองไปยังพระองค์ แส้เส้นหนึ่งก็พงุ่ ออกมาจาก
ข้างเอว
แส้สีแดงฉาน! ที่เข้ากันกับฉลองพระองค์ของนาง
“วิชาแปลงโฉม หรื อมนต์ลวงตา? ตอนที่เรายังเล่นละครเหล่านั้นอยู่
เกรงว่าเจ้ายังเล่นโคลนอยูเ่ ลย!”
แค่ถอ้ ยคาเย็นชาประโยคเดียว ก็ตดั เส้นทางที่จีเฉวียนคิดจะไม่
ยอมรับไปจนหมดสิ้ น
คาก็เรา สองคาก็เรา ช่างเอ่ยได้อย่างคล่องปากนัก
ตาแหน่งฮ่องเต้หญิงนี้ พอได้เป็ นถึงได้รู้วา่ ช่างสุ ขสบายกว่าไทเฮา
น้อยมากนัก
แววพระเนตรของจีเฉวียนเปี่ ยมไปด้วยความประหลาดพระทัย
นางสวมใส่ ชุดแดงทั้งร่ าง เส้นผมดายาวดุจน้ าตก กระทัง่ แสงเทียนที่
อ่อนโยนก็ยงั ไม่อาจกลบเกลื่อนราศีอนั องอาจของนางลงไปได้
หากเปรี ยบเทียบกับไทเฮาน้อยที่สามารถประจบประแจงได้อย่าง
คล่องแคล่วแล้วราวกับว่าเป็ นคนละคนกันเลยทีเดียว
นี่จึงจะเป็ น…..ตัวจริ งของนาง
งดงามบาดตา มอมเมาผูค้ น!
ตู๋กซู ิงหลันถือแส้หนังเอาไว้ในมือ พอเกิดเสี ยงตวัดออกไปครั้งหนึ่ง
แส้กพ็ งุ่ ใปยังพระหัตถ์ของจีเฉวียน
เชิงเทียนในมือถูกกระชากออกไป น้ าตาเทียนสาดลงไปบนพื้น
กระจายไปทั้งแถบ
“ตระเตรี ยมมาถึงสองชั้น แต่กย็ งั ไม่อาจลวงเจ้าได้” จีเฉวียนถึงกับ
พระสรวลออกมา “ซิงซิง ในใจของเจ้ามีเราอยู่ เป็ นยอดดวงใจ”
ตู๋กซู ิงหลันสะบัดแส้ออกไปในทันที ปลายแส้ตวัดลงไปบนแผ่น
หลังของพระองค์ เรี ยกโลหิตออกมาแถบหนึ่ง
“คนตอแหล หุบปากเสี ย!”
ที่เขาว่ากันว่า ลมปากบุรุษลวงหลอกได้กระทัง่ ผีสาง!
ก็คือคนอย่างจีเฉวียนนี่ไง!
ตอนนี้พอตู๋กซู ิงหลันเห็นเขา ในหัวก็มีแต่ภาพยามที่เขากับฉางซุน
อิง……
เกือบไปแล้ว อีกนิดเดียวนางก็จะทาตามความรู ้สึก ยอมอยูร่ ่ วมกับ
เขาโดยไม่สนใจอาการเจ็บหัวใจที่ปวดจนเกือบถึงตายนั้นแล้ว
ได้เห็นธาตุแท้แต่แรกก็ถือว่าดีเหมือนกัน
จีเฉวียนถูกแส้ของนางโบยตรงๆ พระองค์มิเพียงไม่หลบแต่ยงั ไม่ส่ง
เสี ยง เอาแต่ยอมรับเอาไว้
พระองค์อา้ พระโอษฐ์ข้ ึนมา แต่กไ็ ม่รู้วา่ จะอธิบายให้นางฟังอย่างไร
ดี
ทรงยืนอยูท่ ี่เดิม บนหน้าผากมีแต่เหงื่อบางๆชั้นหนึ่ง
ในแส้ของนางแฝงเอาไว้ดว้ ยพลังจิตและพลังของไอหยิน ทาให้คน
เจ็บปวดสุ ดทนทาน ไม่เพียงแต่เจ็บปวดแต่ยงั ส่ งความเย็นสุ ดขั้วชนิด
หนึ่งแทรกผ่านผิวหนังเข้าไปในเนื้ออีกด้วย
พอพระองค์เงียบ ตู๋กซู ิงหลันก็กระชากแส้กลับไป
นางนัง่ ลงตรงหน้ากระจกทองแดงบานใหญ่ เท้าข้างหนึ่งพาดอยูบ่ น
เก้าอี้ มือข้างหนึ่งเท้าคางเอาไว้ มืออีกข้างกาแส้ สายตาก็มองมาที่จี
เฉวียน
“ส่ งองครักษ์ลบั มาคอยสอดส่ องความเคลื่อนไหวในวังของเรา จับ
ตาดูเราอยูท่ ุกวัน วันนี้กย็ งั วิ่งมาถึงที่นี่แปลงโฉมเป็ นชายบาเรอ เจ้า
คิดจะวางแผนขุดหลุมพรางอันใดกับเราอีก?”
ดวงตาดอกท้อดูน้ นั จดจ้องมายังพระองค์
เมื่อมายังโลกใบนี้ นางได้เปลี่ยนจากความระแวงในตัวจีเฉวียน
กลายเป็ นความไว้เนื้อเชื่อใจ
จากที่สะสมมาทีละนิดๆ ก็กลายเป็ นถูกทาลายลงจนหมด
ตอนนี้จีเฉวียนในสายตาของนาง ก็เป็ นแค่จิ้งจอกเฒ่าที่เห็นหัวไม่
เห็นหาง ในปากไม่เคยมีความจริ งใดๆทั้งนั้น
นับตั้งแต่ที่นางขึ้นครองราชย์มา ลูกเล่นเล็กๆน้อยๆที่จีเฉวียนวาง
เอาไว้ในวังหลวงของแคว้นเหยียน…….นางได้ตรวจสอบอย่าง
ละเอียดหมดแล้ว
เขายังคงทาตัวเป็ นพยัคฆ์ซุ่มคอยจับตาดูจากด้านข้างมาตลอด
“ข้าไม่ได้ขดุ หลุมพราง” ในที่สุดจีเฉวียนก็ยอมอธิบายออกมา
ประโยคหนึ่ง
อ๋ อ…..คราวนี้ไม่เรี ยกตัวเองเป็ นเราแล้วรึ
ที่ผา่ นมาเขาเรี ยกตัวเองเป็ นเราอยูต่ ลอด ทาเอานางเกิความคุน้ เคยอยู่
เหมือนกัน
“ซิงซิง…..” พระองค์ตรัสเรี ยกนาง ชื่อนี้อยากจะเรี ยกไปอีกนับพันๆ
ครั้ง
แต่พอตอนนี้เอ่ยออกมา กลับออกจะอึดอัดอยูบ่ า้ ง
พึ่งจะเอ่ยพระโอษฐ์ ตู๋กซู ิงหลันก็สะบัดแส้ออกมาอีก ฟาดลงไปบน
กระดูกสะบักของพระองค์ จนเกิดแถบโลหิ ตหนาเท่านิ้วโป้งอีกเส้น
ผิวหนังถลอกออกไป โลหิตไหลโชกชุ่ม
“เราไม่ได้สนิทกับเจ้า!”
จากนั้นนางก็ส่งสายตาเย็นชาไปให้เขา “จงเรี ยกเราว่าฮ่องเต้หญิง!”
จีเฉวียน “ทูลฮ่องเต้หญิง พวกเราเคยกอดกัน เคยจูบกัน นับว่าสนิท
สนม”
“หากยังไม่ถือว่าสนิทสนมละก็……ภายหน้ายังสามารถใกล้ชิดขึ้น
ไปได้อีกขั้นหนึ่ง”
จะฟาดก็ฟาดไปเถอะ ต่อให้โดนนางฟาดโบยอีกหลายครั้งก็ยงั ไม่ทา
ให้พระองค์ตายไปได้
ฮ่องเต้ทรงคิดเช่นนี้อยูใ่ นพระทัย
“หน้าไม่อาย!” ตู๋กูซิงหลันยกแส้ข้ ึนมาอีกครั้ง
พอนึกถึงเรื่ องที่ผา่ นมา นางก็รู้สึกว่าสมองของตนเองถูกลาถีบใส่ !
“มือข้างนี้ฟาดจนเมื่อยแล้ว จะเปลี่ยนเป็ นอีกข้างหน่อยไหม?” จี
เฉวียนทรงเตือนนางอย่างใส่ พระทัย
ทั้งๆที่แผ่นหลังยังแสบร้อนจนถึงกระดูกอยูแ่ ท้ๆ แต่พระองค์กย็ งั
อดทนเอาไว้
ทั้งยังถอดเสื้ อตัวบนที่หลวมกว้างออกมาจนเกลี้ยงเกลา
เผยให้เห็นเรื อนร่ างที่เปี่ ยมไปด้วยกล้ามเนื้อ ผิวพรรณสี ขา้ วสาลี
ยิง่ กระะจ่างตา แผ่นอกและหน้าท้องที่มีแต่กล้ามเนื้อที่สมบูณณ์
ชัดเจนทั้งแปดส่ วนกลับเปรอะเปื้ อนไปด้วยโลหิต กลายเป็ นความ
งามภายใต้ความโหดเ**้้ยมที่บรรยายไม่ถูก
เจ้าสุ นขั ผูน้ ้ นั ยังคงเอ่ยอีกว่า “ถอดเสื้ อผ้าออกเสี ยเลย เจ้าจะได้ฟาด
ได้ถนัดมือกว่าเดิม”
…………………………………………….
ไรท์ : เอาเข้าไป ก่อนนี้มีท้ งั ผีท้ งั เทพ มีเวทย์มีคาถา ตอนนี้ท้ งั กรี ด
เลือด ทั้งฟาดแส้ มากันครบแล้ว ยัง…..ยังขาดอะไรอีกที่เรื่ องนี้ไม่มี
อ๋ อ สวีท! อย่าว่าแต่รีดเลย ไรท์กใ็ จจะขาดแล้ว
ตอนต่อไป “ตัวร้ายลึก”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 398 ตัวร้ ายลึก
หมัดที่ชกลงไปบนนุ่นนั้นให้ความรู ้สึกเช่นนี้ไง?
ยามนี้ต๋ ูกูซิงหลันก็ได้รู้แล้ว
ฟาดโบยเขาอย่างโหดเ**้้ยมไปรอบหนึ่ง เขายังจะมาถามว่านาง
เจ็บมือบ้างหรื อไม่ นี่มนั น่าเจ็บใจหรื อไม่เล่า?
นางคันมือขึ้นมาแล้ว!
พอฟาดโบยต่อเนื่องกันไปอีกสองแส้ ทรวงอกของเขาก็เพิม่ แถบ
โลหิตขึ้นมาอีกสองรอย
จีเฉวียนทางหนึ่งทนรับเอาไว้ อีกท่านหนึ่งก็ตรัสกับนางว่า “เรื่ อง
พวกนั้น เอาไว้เราจะอธิบายให้เจ้าฟังอย่างละเอียด”
“ทูลฮ่องเต้หญิงซิงซิง ข้ารักเจ้า ตั้งแต่แรกเริ่ มจนถึงตอนนี้กย็ งั ไม่เคย
เปลี่ยน”
ทางหนึ่งก็กอดแสงจันทราในดวงใจ ทางหนึ่งก็มาบอกรักนาง?
ตู๋กูซิงหลันอยากจะหัวเราะแล้ว
พอฟาดไปหลายแส้เข้า นางก็คร้านจะโบยเขาอีกต่อไป สิ้ นเปลือง
พละกาลังเสี ยเปล่า
ในเมื่อพละกาลังสิ้ นเปลืองไปกับกองนุ่น ก็ไม่มีความหมายอะไรอีก
ต่อไป
นางพิงลงไปบนเก้าอี้ เสยเส้นผมสยายลงมาช้าๆ ท่อนขาที่เรี ยวยาว
พาดอยูบ่ นที่เท้าแขนอย่างตามสบาย
ดวงตาจับจ้องไปทางเขาอย่างเย็นชา “อย่าได้เอ่ยเรื่ องไร้สาระ ใต้
หล้านี้คนที่หลงรักข้ามีอยูม่ ากมาย ไม่จาเป็ นจะต้องเป็ นเจ้า”
“แต่วา่ ข้ารักแต่เพียงเจ้าเท่านั้น” ทัว่ ทั้งร่ างของจีเฉวียนมีแต่โลหิ ต ทั้ง
ยังมีแต่บาดแผลเต็มไปหมด ทาให้เขาเหมือนดัง่ ตัวน่าสงสารที่ถูก
รังแกทั้งเป็ น
ในตาหนักบรรทมไม่มีผอู ้ ื่นอยูอ่ ีก ด้วยพละกาลังของเขาย่อม
เหนือกว่านางอย่างเกินพอ
แต่วา่ เขาก็ยงั คงเป็ นเช่นดังแต่ก่อน
ไม่ยอมโต้ตอบใดๆทั้งนั้น
พอได้ฟังแล้ว ตู๋กซู ิงหลันก็หวั เราะออกมาในทันที นางปิ ดปากเบาๆ
ดวงตาดอกท้อที่เย็นชาคู่น้ นั มีแต่ความเย้ยหยัน “เก็บคารักพวกนั้น
ไปเถอะ เราไม่อยากจะฟัง”
ก่อนหน้านั้นเขาก็เป็ นเช่นนี้ คาหวานมีเป็ นชุด
แต่วา่ เขาเคยทาเรื่ องใดให้เห็นจริ งๆบ้างเล่า?
ตู๋กซู ิงหลันจดจาไม่ได้แล้ว……..
วันนั้นตอนที่อยูบ่ นกาแพงเมือง นางเคยให้โอกาสเขาได้อธิบาย
แต่วา่ สุ ดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้พดู อะไร ทั้งยังพาฉางซุนอิงกลับไปต้า
โจวต่อหน้าต่อตาของนาง
ของสกปรก นางทิ้งเสี ยก็เป็ นอันจบ
ตอนนี้ยงั จะให้นางเก็บกลับมาหรื อ? ฝันไปเถอะ
ยามปกติคนอย่างตู๋กซู ิงหลันนั้นย่อมเป็ นคนที่ไร้น้ าใจ พอดีกบั ใคร
ขึ้นมาก็แทบจะยกขึ้นไปให้ถึงสวรรค์เลย
แต่พอมีเรื่ องให้ปวดใจขึ้นมาครั้งหนึ่ง ต่อให้เป็ นสุ สานของบรรพชน
ทั้งสิ บแปดรุ่ นของเจ้าก็จะขุดขึ้นมาให้หมด
และตอนนี้นางก็กาลังเป็ นอย่างหลังนั้นอยู่
……………………….
ที่ดา้ นนอกตาหนักหย่งหนิงกง เหล่า ‘ชายบาเรอ’ที่มีเฉาโหยวเฉี ยว
เป็ นแกนนากาลังแอบมองดูอยูแ่ ต่ไกล
เนื่องเพราะอยูห่ ่างมากจึงฟังได้ไม่ชดั ว่าฮ่องเต้หญิงกับชายบาเรอคน
ใหม่กาลังพูดกันเรื่ องอะไร
เห็นแต่วา่ แต่ละแส้ที่ฟาดออกมานั้นช่างดุเดือดรุ นแรงอย่างยิง่
“คุณชายเฉา……คนที่ท่านหามาครั้งนี้ ช่างทนทายาดดีแท้! กระทัง่
ขนาดนี้แล้วก็ยงั ไม่เปลี่ยนสี หน้า?”
เหล่าพี่นอ้ ยชายบาเรอต่างก็พากันแปลกใจ
ไม่รู้วา่ คนมาใหม่ผนู ้ ้ นั ทาเรื่ องอะไรให้ฝ่าบาททรงขุ่นพระทัย
นับตั้งแต่ที่พวกเขาเข้าวังมา ฝ่ าบาทก็มีแต่ดา้ นที่นุ่มนวลอยูเ่ สมอ
แม้แต่ถอ้ ยคาแรงสักคาก็ยงั ไม่เคยตรัสกับพวกเขา
อย่าว่าแต่จะลุกขึ้นมาทุบตีผคู ้ นเลย
ถึงแม้วา่ พวกเขาจะไม่ได้รับความโปรดปราน แต่วา่ ก็ทรงปฏิบตั ิ
ตอบอย่างดีอยูเ่ สมอ
“พวกเจ้าจะไปเข้าใจอะไร? นี่เรี ยกว่าหยอกเย้า!” คุณชายเฉาที่
เปลี่ยนเป็ นชุดสุ ภาพเรี ยบร้อยแล้วถลึงตาให้คนด้านหลัง
“เจ้าไม่เคยเห็นฝ่ าบาททรงทุบตีพวกเขามาก่อนใช่หรื อไม่? ที่ตบตี
เช่นนี้เรี ยกว่าตีเพราะรัก คนอย่างสหายเนี่ยซิงนั้น ข้าจะบอกให้พวก
เจ้าฟัง ต่อให้เสาะหาจนทัว่ แคว้นเหยียนก็ไม่มีคนที่สองอีกแล้ว”
“พวกเราจะสามารถไปต่อได้อย่างยืนยาวหรื อไม่ ก็ตอ้ งดูที่การ
แสดงออกของสหายเนี่ยซิงแล้ว!”
ทุกคนต่างก็ยอมฟังคาพูดของเฉาโหยวเฉียน
เนื่องเพราะต่อให้พวกเขารวมตัวร่ วมมือกันแล้วก็ยงั ไม่อาจต่อกร
กับซูเยาได้เลย ดังนั้นได้แต่เสาะหาคนที่มีกาลังพอฟัดพอเหวี่ยวกัน
มาแย่งชิงความโปรดปรานแล้ว
คราวนี้ผคู ้ นทั้งหลายต่างก็แอบเอาใจช่วยจีเฉวียนอย่างเงียบๆ
……………..
“เฮอะ เฮอะ เฮอะ” เพียงแค่ครู่ เดียว ก็ได้ยนิ เสี ยงหัวเราะอย่างเย็นชา
ลอยมาจากด้านหลัง
เหล่าหนุ่มน้อยทั้งหลายต่างก็หนั หน้ากลับไปด้วยอาการขนลุกชัน
พอเบือนหน้าไป สิ่ งที่ปรากฏขึ้นในสายตาคือสี แดงเพลิงกลุ่มหนึ่ง
สองมือของเขาซ่อนอยูภ่ ายใต้แขนเสื้ อตัวกว้าง ดวงตาสุ นขั จิ้งจอกคู่
นั้นทั้งเย้ายวนและชัว่ ร้าย
ยามอยูต่ ่อหน้าของตู๋กซู ิงหลัน รอยยิม้ ของเขาอ่อนหวานจนคนแทบ
จะถูกเชื่อมตาย
แต่วา่ เมื่ออยูต่ ่อหน้าเหล่าชายบาเรอ รอยยิม้ ของเขาก็ปรากฎเขี้ยวสี
ขาวยาวๆออกมา
เขี้ยวของซูเยาทั้งขาวสะอาด ยาวและแหลมคมกว่าผูอ้ ื่น หากว่าบน
ศีรษะเพิม่ ใบหูสตั ว์ข้ ึนมาละก็ จะยิง่ ดูเหมือนสุ นขั จิ้งจอกอย่าง
แน่นอน
ตอนนี้ เขาคลี่ยมิ้ ของมารร้ายออกมา ทาเอาเหล่าหนุ่มน้อยทั้งหลาย
ต่างพากันขนหัวลุก
“เหล่าฉากหลังทั้งหลาย ดูท่ายามปกติขา้ จะปล่อยปละละเลยพวกเจ้า
มากไปเสี ยแล้วละมั้ง?”
เหล่าชายบาเรอ “…..” นี่ พวกเขามีชื่อมีแซ่นะ
มองไปยังรำชำมังกรลู่กว่ำงด้วยควำมคำดหวัง “ท่ำนพี่~ลู่เวยของ
พวกเรำทำผิดบำปอันใด นำงเพียงแต่รักเอ็นดูนอ้ งสำว ออกไปหำ
ของขวัญ กลับต้องมำโดนเผ่ำมนุษย์คนหนึ่งทำร้ำยถึงเพียงนี้…..”
“ทะเลตะวันตกของพวกเรำ ตอนนี้กลับตกต่ำถึงขนำดที่พวกมนุษย์ที่
เหมือนกับมดปลวกจะมำยำ่ ยีได้แล้วหรื อ?”
นำงทำงหนึ่งพูดทำงหนึ่งก็หลัง่ น้ ำตำออกมำ สี พกั ตร์ของรำชำมังกร
ลู่กว่ำงบูดบึ้งอย่ำงที่สุด
ลู่เวยคือสมบัติล้ ำค่ำในฝ่ ำมือของเขำ ทะเลตะวันตกนี้กเ็ ป็ นถิ่นฐำน
ของตนเอง!
นำงถูกทำร้ำยถึงเพียงนี้ในท้องที่ของตนเอง แล้วเขำที่เป็ นรำชำมังกร
จะวันตกจะเอำหน้ำไปไว้ที่ไหนได้กนั !
เขำคุกเข่ำลงไปที่ขำ้ งกำยลู่เวย ให้นำงกลืนยำเม็ดสี ทองลงไปเม็ด
หนึ่ง ด้วยสี หน้ำถมึงทึง
ตู๋กูซิงหลันมองดูรำชำมังสำมีภรรยำด้วยสำยตำเย็นชำและเฉยเมย ดู
ลีลำกำรแสดงของรำชินีผนู ้ ้ นั สิ …..จุ๊ จุ๊ ไม่ไปเอำตุ๊กตำทองคำมำมอบ
ให้กบั นำงสักตัวช่ำงเป็ นเรื่ องที่ตอ้ งขออภัยนำงแล้ว
มิน่ำเล่ำ….ทั้งที่หน้ำตำหรื อก็ไม่เท่ำไหร่ แต่วำ่ กลับใช้ปีนป่ ำยจนมี
ฐำนะขึ้นมำได้ ทั้งยังบีบคั้นจนภรรยำและลูกสำยหลักหมดหนทำง
สี หน้ำของชือหลีเองก็ยำ่ แย่ นำงกำลังสัน่ สะท้ำนไปทั้งร่ ำง
ที่ผำ่ นมำหลิ่วฮุ่ยใช้หน้ำกำกเมตตำมำแสดงอยูเ่ สมอ นำงเห็นจนไม่
เป็ นที่ประหลำดใจอีกต่อไปแล้ว แต่วำ่ คำด่ำทอว่ำเป็ นมดปลวกนัน่
กลับทำให้นำงคับข้องใจอย่ำงที่สุด
นำงสำมำรถทนรับกำรหยำมหมิ่นได้ แต่นำงไม่อำจยอมให้สตรี ผนู ้ ้ นั
มำดูถูกตู๋กูซิงหลัน
ขณะที่นำงกำลังจะเอ่ยปำก ก็เห็นที่ลำนกลำงตำหนัก ตู๋กซู ิงหลันยก
ดำบยักษ์ข้ ึนมำกวำดดำบออกไปเบำๆ ชี้ไปทำงหลิ่วฮุ่ย
“ตอนที่เรำเล่นละคร เจ้ำยังเป็ นเพียงแค่ไข่อยูเ่ ลย” ดำบยักษ์พงุ่ นำไป
เบื้องหน้ำ ร่ ำงของตู๋กซู ิงหลันก็ติดตำมไปอย่ำงกระชั้นชิด
คมดำบที่กระหำยเลือดแหวกผ่ำนไปในอำกำศ ด้วยพลังรุ นแรงดุจ
สำยฟ้ำฟำดลงมำ
ยำมสังหำรคนมุ่งตัดศีรษะ!
พอดำบนี้พงุ่ มำถึง หลิ่วฮุ่ยก็ตอ้ งหน้ำเปลี่ยนสี
รำชำมังกรรี บกระชำกนำงออกมำเหวี่ยงออกไปไกลที่ดำ้ นหลัง นำง
ถึงได้หลบดำบยักษ์ที่พงุ่ มำได้พน้
ขณะเดียวกัน ในมือของพระองค์กเ็ กิดประกำยแสงสี เงินออกมำ ใจ
กลำงฝ่ ำมือของพระองค์ปรำกฏหอกสำมง่ำมสี เงินด้ำมยำวขนำดเท่ำ
ร่ ำงคน
เมื่อตวัดหอกสำมง่ำมออกไป ก็ปรำกฏลำแสงสี เงินพุง่ เข้ำหำตู๋กูซิงห
ลัน
หัวใจของชือหลีกระตุกขึ้นมำ นำงรู ้วำ่ ตู๋กซู ิงหลันแข็งแกร่ ง แค่นำง
สำมำรถจัดกำรกับลู่เวยได้กถ็ ือว่ำเหนือควำมคำดหมำยของตนเอง
แล้ว
แต่วำ่ ผูท้ ี่นำงกำลังเผชิญหน้ำอยูใ่ นตอนนี้กค็ ือไอ้แก่ชวั่ ลู่เวย….
โอกำสที่จะชนะ….มีเพียงน้อยนิด
ตู๋กูซิงหลันพลิกข้อมือคว้ำด้ำมของดำบยักษ์ที่เหำะออกไปเอำไว้
ขยับข้อมือขึ้นสกัดกั้น
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 409 จอมมารน้ องเล็ก
ลู่กว่างยิม้ ออกมาอย่างเย็นชา
ราชามังกรทั้งสี่ ทะเลล้วนมีศาสตราพิเศษของตนเอง นัน่ เป็ นสิ่ งที่
ราชามังกรแต่ละรุ่ นตกทอดสื บต่อกันมา เป็ นสุ ดยอดศาสตราแต่
บรรพกาล
เพียงแค่ฟาดออกไปก็สามารถชาแหละหัวฉลามยักษ์ออกเป็ นสอง
ส่ วน
แค่ดาบยักษ์หยาบๆของพวกมนุษย์เล่มหนึ่ง คิดจะเอามาสกัดหอก
สามง่ามของเขา?
ฝันไปเถอะ!
ที่เขาฟาดออกไป ยังมิได้ใช้พลังทั้งหมดเสี ยด้วยซ้ า เขาไม่คิดจะ
เห็นตู๋กซู ิงหลันอยูใ่ นสายพระเนตรแม้แต่นอ้ ย
เนื่องเพราะอย่างไร ฮ่องเต้หญิงของพวกมนุษย์ผนู ้ ้ ี นอกจากใบหน้า
ที่น่าดู และในร่ างมีไอหยินหนักแน่นอยูบ่ า้ งแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดที่พิเศษ
อีก
ต่อให้นางเป็ นยอดนักพรต ก็ไม่รู้วา่ ใช้วิธีร้ายกาจอันใดจึงสามารถ
ทาร้ายเวยเอ๋ อร์ของเขาจนเกือบตายได้
ได้แต่คาดว่าเวยเอ๋ อร์คงจะประมาทไปเอง จึงได้หลงกลของนางเข้า
หากว่าใช้พลังต่อสู ้กนั อย่างจริ งจัง นางจะต่อสู ้กบั เวยเอ๋ อร์ได้
อย่างไร?
มนุษย์ผนู ้ ้ ีมิได้รู้ถึงความหนักเบาของเรื่ องราวเสี ยเลยด้วยซ้ า ว่าผูท้ ี่
นางกาลังท้าทายอยูใ่ นตอนนี้กค็ ือราชามังกรแห่งทะเลตะวันตก
“ที่เบื้องหน้าของเจ้า คือราชามังกรทะเลตะวันตก!” ลู่กว่างตรัสด้วย
ความเกรี้ ยวกราด “นังเด็กร้ายกาจชือหลีไปอยูใ่ นโลกมนุษย์เสี ยนาน
แม้แต่พวกมดปลวกก็ยงั ไปนับเป็ นสหาย ช่างทาให้เผ่ามังกรของเรา
เสี ยหน้ายิง่ นัก!”
“ไอ้แก่ชวั่ หุบปากเสี ยเถอะ!” พี่รองจับมือของชือหลีเอาไว้แนบแน่น
เขารู ้วา่ นางกาลังโกรธจนสัน่ ไปทั้งร่ างแล้ว
ชือหลีอ่อนแอมาก ตอนนี้ไม่อาจช่วยเหลืออันใดตู๋กซู ิงหลันได้
เรื่ องด่าทอผูค้ น พี่รองย่อมรับภาระเอาไว้เอง เรื่ องการใช้วรยุทธ์เขา
ไม่นบั เป็ นอะไรได้ ย่อมช่วยเหลืออะไรไม่ได้เช่นกัน
แต่วา่ หากได้ด่าไอ้แก่ชวั่ นี้จนหัวใจระเบิดก็ไม่เลว
“หน้าตา? อย่างเจ้ายังรู ้จกั รักหน้าตาอยูอ่ ีกหรื อ? ใครไม่รู้คงนึกว่าเจ้า
มีตูดอยูบ่ นหัว เวลาพูดออกมาก็ใช้รูตูด ถึงได้เหม็นขนาดนี้!”
“ชือหลีช่างโชคร้ายจริ งๆ ดันมามีบิดาที่น่าสะอิดสะเอียนอย่างเจ้า
เนี่ย?”
ไหนๆก็จะด่าให้หยาบคายแล้ว ย่อมไม่กงั วลว่าจะน่าฟังหรื อไม่
ลู่กว่างไม่เคยถูกผูใ้ ดด่าทอเช่นนี้มาก่อนในชีวิต เขาพิโรธโกรธา หัน
ไปถลึงตาใส่ ต๋ ูกเู จวี๋ยครั้งหนึ่ง
ดูดูสิ….ธิดามังกรที่ยงั ไม่ทนั ได้แต่งออกไป ทั้งๆที่เป็ นวันออกเรื อน
กลับมาจูงมือจูงไม้กบั มนุษย์ช้ นั ต่าผูห้ นึ่ง ไม่รู้วา่ น่าเกลียดถึงเพียง
ไหน!
ปากของมนุษย์ผนู ้ ้ นั ก็สกปรกเหลือทน!
เขากุมหอกสามง่ามเอาไว้แน่น คิดจะสับมนุษย์ผนู ้ ้ นั ให้แหลกเละ
แต่วา่ หอกนี้ยงั ไม่ทนั ได้ฟาดออกไป ก็เห็นฮ่องเต้หญิงในชุดสี แดงผู ้
นั้นกระชับดาบยักษ์ในมือสะกิดปลายเท้าพุง่ เข้ามาหาเขาทั้งร่ างแล้ว
นางสามารถรับพลังจากหอกสามง่ามของเขาไว้ได้?
“นี่เป็ นไปได้อย่างไร?” ลู่กว่างอัศจรรย์ใจเหลือประมาณ
เมื่อครู่ เขาพึ่งจะถูกตู๋กเู จวี๋ยด่าจนเสี ยสมาธิ ทั้งยังประมาทตู๋กูซิงหลัน
เพียงแค่ชวั่ เวลาแวบเดียวนี้ ตู๋กซู ิงหลันก็ถือดาบยักษ์เหาะมาถึงเบื้อง
หน้าของเขาแล้ว
ดาบยักษ์กวาดออกไป ดูไปเหมือนไม่มีกระบวนท่าอันใด เพียงแค่
ฟาดฟันอย่างมัว่ ซัว่ เท่านั้น แต่เพราะผูท้ ี่ใช้มนั นั้นแสนจะงดงาม ต่อ
ให้เป็ นการฟันมัว่ ๆ ท่วงท่าก็ยงั คงงดงามเสมือนเมฆเคลื่นคล้อย
สายน้ าริ นไหล
ลู่กว่างได้แต่ยกสามง่ามขึ้นสกัด
ดาบยักษ์ฟาดลงมาตรงหน้าต่อเนื่องกัน เขาได้แต่ฝืนใช้หอกสามง่าม
รับเอาไว้
ทุกดาบที่ฟันลงมา ล้วนหนักแน่นดัง่ ภูเขากดเข้าใส่
ดาบนี้หนักมาก!
ฮ่องเต้หญิงเผ่ามนุษย์เองก็มีพละกาลังล้นเหลือ!
เมื่อทั้งสองประสาน ก็กลายเป็ นแรงกดทับที่ใครก็ไม่อาจต้านทาน
ได้
ไม่เพียงแค่น้ นั แต่ละดาบของนางยังฟันออกมาอย่างรุ นแรงขึ้น
เรื่ อยๆ นอกจากพลังกดทับดัง่ ขุนเขา ไอสังหารที่มาพร้อมกับตัวดาบ
ก็กดทับจนกระทัง่ อาภรณ์ที่วิจิตรงดงามของเขาฉี กขาด
ผิวหนังถูกพลังจากคบดาบบาดจนเจ็บปวด!
ดาบเล่มนี้…..มิใช่อาวุธของมนุษย์ธรรมดากระมั้ง?
หลังจากฟาดฟันออกมาสิ บกว่าครั้ง คมดาบไม่เพียงแต่มิได้บิ่นหัก
แต่ประกาบดาบกลับเพิม่ พูนขึ้นมากกว่าเดิม
ส่ วนหอกสามง่ามในหัตถ์ของเขาพอรับดาบนั้นเข้าไปหลายๆครั้ง
เข้าประกายหอกก็หมองมัวลงไป
ทุกครั้งที่ปะทะกันก็เห็นว่าประกายแสงของหอกสามง่ามถูกดาบ
ยักษ์ดูดกลืน
ดาบเล่มนี้……ที่แท้แล้วกาลังดูดกลืนพลังของหอกสามง่าม?
หัวใจของลู่กว่างแทบจะระเบิด!
เขาหันไปพิจารณาดูฮ่องเต้หญิงเผ่ามนุษย์อย่างละเอียดอีกครั้ง ก็พบ
แต่สายตาที่สูงส่ งและ
เย็นชาของอีกฝ่ าย ที่เหลือบแลลงมายังเขาเท่านั้น
สถานการณ์เช่นนี้ทาให้หลิ่วฮุ่ยเองก็ตกตะลึงไปเช่นกัน ……ลู่กว่าง
คือราชามังกร ถึงแม้วา่ พละกาลังจะไม่อาจเทียบเทียมได้กบั ราชา
มังกรในรุ่ นก่อน แต่อย่างไรก็เป็ นถึงราชาของทะเลแห่งหนึ่ง พลัง
นั้นย่อมแข็งแกร่ งเช่นกัน
แต่วา่ ตอนนี้กลับถูกฮ่องเต้หญิงเผ่ามนุษย์ผหู ้ นึ่งบดขยี้?
“เสด็จแม่…..มนุษย์ผนู ้ ้ นั ร้ายกาจมาก ลงมืออย่างไร้กฏเกณฑ์ ทั้งยัง
สามารถบังคับภูติผี จิตใจก็ชวั่ ร้ายและเจ้าเล่ห์ จะต้องบอกให้พระ
บิดาระมัดระวังให้มากนะเพคะ….” ลู่เวยที่อยูใ่ นอ้อมกอดของนาง
ฝื นประคองลมหายใจเอาไว้
นางเองก็ตื่นตะลึงอย่างยิง่ เช่นกัน เดิมคิดว่าเป็ นเพราะตนเอง
ประมาทเกินไป ถึงได้ตอ้ งมาตกที่นงั่ ลาบากบาดเจ็บจนเกือบตาย
เช่นนี้
เสด็จพ่อทรงเป็ นราชามังกรทะเลตะวันตก แค่ลงมือก็สมควรจะ
จัดการสตรี ผนู ้ ้ นั ให้ถึงตายได้อย่างง่ายดายมิใช่หรื อ?
แต่วา่ ทาไม….เรื่ องราวกลับไม่เป็ นไปตามที่นางคาดคิดเอาไว้?
หลิ่วฮุ่ยปาดเช็ดขอบตาที่แทบจะไม่มีน้ าตาเสี ยด้วยซ้ า นางจับจ้องไป
ที่ต๋ ูกซู ิงหลันและดาบยักษ์ของนางอย่างจดจ่อ
ก็เห็นว่าดาบยักษ์เล่มนั้นส่ องแสงเป็ นประกาย ปรากฏลวดลาย
อักขระสี ดาที่ซบั ซ้อนขึ้นมา
ส่ วนฮ่องเต้หญิงเผ่ามนุษย์ผนู ้ ้ นั ก็เหมือนกับเครื่ องมือสังหารที่ไร้ชีวิต
จิตใจ ไม่พดู ไม่จา ฟันตรงไหนได้กฟ็ ันลงไปตรงนั้น
ถึงแม้วา่ ดาบยักษ์เล่มนั้นจะยังไม่ได้เฉือนโดนเนื้อ แต่วา่ รังสี ดาบ
ของดาบยักษ์ก็ยงิ่ หนักแน่นขึ้นทุกที ทาลายอาภรณ์จนฉี กขาด บาด
ผิวหนัง ฟันลงมาจนร่ างของลู่กว่างมีแต่ความสะบักสะบอม
เวลาผ่านไปยังไม่ทนั จะถึงครู่ หนึ่ง ก็เห็นหอกสามง่ามด้ามนั้น
สู ญเสี ยประกายสี เงินที่เคยมีกลายเป็ นแท่งเหล็กทึบที่ไร้ประกาย
ในตอนนั้นเอง ตู๋กซู ิงหลันก็ยกดาบฟาดลงมาอีกครั้ง
ได้ยนิ เสี ยง ‘เคร้ง’ ดังขึ้น หอกสามง่ามของลู่กว่างก็ถูกนางฟันจนหัก
ไปแล้ว!
หัวหอกหักทิ่มลงไป เหลือแต่แท่งเหล็กที่ไร้ประโยชน์!
ชือหลีแทบจะอยากคุกเข่าให้นางแล้ว!
นางเป็ นเผ่ามังกร ย่อมเข้าใจอย่างลึกซึ้งดีวา่ หอกสามง่ามมี
ความสาคัญเพียงไร เพียงถือเอาไว้ในมือก็สามารถบัญชาการได้ทวั่
ท้องทะเล
นี่คือสัญลักษณ์แทนองค์ของราชามังกรที่บรรจุพลังของท้องทะเล
เอาไว้ภายใน สร้างขึ้นจากกระดูกมังกรของราชามังกรรุ่ นแรก ตลอด
หลายปี มานี้ ราชามังกรแต่ละรุ่ นได้สืบทอดต่อกันมา
ถึงแม้วา่ นางจะไม่เคยได้เห็นหอกสามง่ามนี้แสดงพลังที่น่าอัศจรรย์
มาก่อน
แต่วา่ ศัสตราวุธที่แข็งแกร่ งถึงเพียงนี้ ก็ไม่อาจทนรับกระบวนท่าที่
ฟาดฟันออกมาอย่างมัว่ ซัว่ เพียงสิ บกว่าท่าของตู๋กซู ิงหลัน?
แม้แต่ชือหลีเองก็ยงั ตื่นตระหนกขึ้นมา……นี่นางจับพลัดจับผลูไป
ผูกมิตรเป็ นสหายกับท่านเซียนหรื ออย่างไร
สายตาของตู๋กเู จวี๋ยถูกชุดสี แดงของน้องเล็กดึงดูดเอาไว้จนหมดสิ้ น
เขาเคยเห็นพี่ใหญ่ใช้ดาบยักษ์เล่มนี้สู้รบกับศัตรู ในสนามรบมาก่อน
เขาสังหารคนมากมายอย่างบ้าคลัง่ เสมือนดัง่ เป็ นมารปี ศาจ
แต่วา่ ตอนนี้นอ้ งเล็กที่กมุ ดาบยักษ์ของพี่ใหญ่เอาไว้ ทุกดาบที่ฟันลง
ไปช่างไร้ความปราณี
หากว่าพี่ใหญ่คือมารปี ศาจ เช่นนั้นน้องเล็กก็ตอ้ งเป็ นจอมมารที่เป็ น
หัวหน้าของปี ศาจแล้ว
เท่ที่สุด!
ตู๋กซู ิงหลันฟันหอกสามง่ามของลู่กว่างหักลงไปแล้ว ก็มิได้หยุดมือ
นางเพียงแต่เหลือบตาดูดาบยักษ์เล็กน้อย ก็เห็นบนตัวดาบปรากฏ
อักขระสี ดาที่ดูซบั ซ้อน หรื อเพราะว่าใช้ดาบมากไป พอถือเอาไว้ใน
มือจึงได้รู้สึกว่ามันเบาขึ้นมา
นางกุมดาบยักษ์เอาไว้ หันไปมองดูชือหลี ถามออกไปคาหนึ่ง “ไอ้
ปลาดุกเฒ่าตัวนี้ เจ้าอยากให้มนั อยูห่ รื อให้มนั ตาย?”
คาว่าปลาดุกเฒ่า ยังเหยียดหยามลู่กว่างยิง่ กว่าไอ้แก่ชวั่ ช้า
จริ งอยูว่ า่ ตู๋กซู ิงหลันย่อมมาเพื่อเอาคืนให้ชือหลีเป็ นสองเท่า!
แต่วา่ คนผูน้ ้ ีถึงอย่างไรก็เป็ นบิดาแท้ๆของชือหลี นางไม่อาจคิด
อยากจะสับก็สบั นางนับชือหลีเป็ นสหายก็ยอ่ มต้องเคารพในตัวชื
อหลี
ชือหลีชะงักไปครู่ หนึ่ง เพราะนึกไม่ถึงว่าตู๋กซู ิงหลันยังคิดจะฟัง
ความต้องการของนาง
คราวนี้ ก็เห็นแววตาของนางมืดครึ้ มลงไป นัยตาสี แดงนั้นเป็ น
ประกายราวเหยีย่ วที่ล่าเหยือ่ “ข้าต้องการให้เขา อยูม่ ิสู้ตาย”
“เจ้าเดรัจฉาน นี่ถึงกับร่ วมมือกับคนนอกมาสังหารบิดาแท้ๆของ
ตนเองหรื อ?” ลู่กว่างพิโรธสุ ดขีดแล้ว เขาถลึงตาไปที่ชือหลี “เจ้า
อย่าได้ลืมไปนะว่ากระดูกในร่ างของเจ้ามาจากผูใ้ ด!”
ยอดไทเฮาเขย่ าวังหลัง – ตอนที่ 410 ติดค้ างกระดูกก็ต้องคืนด้ วย
กระดูก
ดูมนั สิ นี่นะหรื อคือบุตรสาวแท้ๆของเขา!
ทั้งๆที่ไม่เคยสร้างความภาคภูมิใจใดๆให้กบั ทะเลตะวันตกเคยสัก
ครั้ง แล้วตอนนี้ยงั คิดจะให้เขาอยูม่ ิสู้ตายอีก?
เจ้าเดรัจฉานน้อยนัน่ ตอนนั้นเขาไม่สมควรจะให้นางได้เกิดมาบน
โลกนี้เลย ต้องโทษที่เขามีเมตตามากเกินไป!
“เฮอะ” สายตาของชือหลียงิ่ เกลียดชังอย่างลึกล้ ากว่าเดิม “กระดูก
มังกรของข้าถูกถอดออกไปตั้งนานมาแล้ว เจ้าเป็ นคนถอดเองกับมือ
ลืมแล้วหรื อ?”
“ข้าชือหลีไม่ได้ติดค้างอะไรไอ้แก่ชวั่ อย่างเจ้าทั้งนั้น!”
นางไม่รู้สึกว่าการที่ต๋ ูกซู ิงหลันช่วยแก้แค้นแทนนางเป็ นเรื่ องน่า
ละอายอันใด นางไม่มีกระดูกมังกรแล้ว เรื่ องการแก้แค้นย่อมเป็ นไป
ไม่ได้ในชาติน้ ี
แต่ครั้งนี้นางติดค้างตู๋กซู ิงหลันแล้ว ย่อมต้องตอบแทนนางไปชัว่
ชีวิต!
“เจ้า!” ลู่กว่างพิโรธเดือดดาล “ตอนนั้นมารดาของเจ้าจมผูค้ นไปทั้ง
เมือง ทาผิดอย่างมหันต์ เจ้าต้องรับโทษแทนมารดา แต่กลับเอา
ความผิดนั้นมาสุ มใส่ ศีรษะของเรา ใครสัง่ สอนให้เจ้าไม่รู้จกั
แยกแยะเช่นนี้?”
ว่าแล้ว เขาก็หนั ไปมองทางตู๋กซู ิงหลัน ด้วยสายตาคมกริ บราวมีด
ดาบ “เป็ นเพราะว่ามนุษย์ผนู ้ ้ ีหลอกลวงเจ้าใช่หรื อไม่? เผ่ามนุษย์
ล้วนเจ้าเล่ห์หลอกลวงมาโดยตลอด เจ้าก็ยงั จะไปเชื่อ?”
“ใช่แล้ว หลีเอ๋ อร์ ตอนนั้น…..เหล่าเทพบนสวรรค์ต่างก็ตอ้ งการชีวิต
ของเจ้า แต่วา่ ท่านพี่กลับออกหน้าวิงวอนอยูห่ ลายครั้ง ถึงได้สามารถ
รักษาชีวิตของเจ้ากับชือฉิงเอาไว้ได้ พวกเจ้าเพียงแค่ถูกถอดกระดูก
มังกร แต่วา่ เสด็จพ่อของเจ้ากลับสู ญเสี ยความสาคัญในสายตาทวย
เทพเชียวนะ”
“ตอนนี้เสด็จพ่อของเจ้าเลือกการแต่งงานที่ดีงามให้กบั เจ้า ได้แต่งไป
ยังเผ่ามังกรทมิฬนัน่ เป็ นความใฝ่ ฝันของหญิงสาวในเผ่ามังกรตั้ง
เท่าไร เจ้าจะเห็นคนอื่นดีกว่าคนในครอบครัวได้อย่างไร ทั้งยังชักนา
หมาป่ ามาทาร้ายคนในบ้านตนเองอีก?”
ตู๋กูซิงหลันเคยเห็นคนที่ไร้ยางอายมามาก แต่ที่ไร้ยางอายได้จนถึง
ขนาดนี้นางนับว่าได้เปิ ดหูเปิ ดตาแล้ว
วิญญาณทมิฬโกรธจนอยากจะหัวเราะออกมา มันเอ่ยออกมาอย่าง
เรื่ อยเฉื่อยว่า “นี่มนั จะต่างอะไรกับ ‘เจ้าสู ญเสี ยขาไปข้างหนึ่ง ส่ วน
ไอ้ชวั่ นัน่ ต้องสู ญเสี ยความรักของนางไป’?”
ชือหลีเชิดจมูกขึ้นมา “นับจากวันนี้เป็ นต้นไป ตู๋กซู ิงหลันคือ
ครอบครัวของข้า อย่างเจ้านับเป็ นอะไรได้กนั ?”
ตู๋กเู จวี๋ยกระซิบที่ขา้ งหูของนางว่า “ข้าด้วยนะ! ข้าก็เป็ นคนใน
ครอบครัวด้วย!”
ชือหลี “…….”
หากว่าตู๋กซู ิงหลันเป็ นบุรุษละก็ นางจะต้องแต่งให้อย่างแน่นอน
หน้าตางดงาม มีท้ งั ฐานะและอานาจ วรยุทธ์กล็ ้ าเลิศ ให้ความรู ้สึก
ปลอดภัยอย่างเต็มเปี่ ยม แล้วสตรี ใดจะไม่ชอบกันเล่า?
ส่ วนเจ้ากระต่ายน้อยตู๋กเู จวี๋ยนั้น กลิ่นน้ านมยังไม่จางเลยด้วยซ้ า
ขณะที่ต๋ ูกูซิงหลันสามารถลงมือทุบตีได้น้ นั นางย่อมไม่จาเป็ น
จะต้องพูดจาไร้สาระอันใด
สู ้ไม่ไหวก็หนี หากสู ้ได้กต็ ีมนั ให้ตายไปเลย นางคือคนที่ยดื ได้หดได้
อยูแ่ ล้ว
ขณะที่ลู่กว่างยังคิดจะตีโพยตีพายต่อไปอยูน่ ้ นั นางก็กระชับดาบ
ยักษ์เอาไว้ในมือ กระโดดโผร่ างขึ้นไปเหนือเศียรของเขา ฝ่ าเท้าข้าง
หนึ่งกระทืบลงไปบนหน้าผาก
ลู่กว่างที่เหาะอยูก่ ลางอากาศถึงกับดิ่งวูบลงมาจนเกือบจะโหม่งกับ
พื้นกระจกอยูแ่ ล้ว
ทันทีที่ต๋ ูกซู ิงหลันกระทืบลงมานั้น ก็เหมือนกับถูกภูเขาลูกหนึ่งกด
ทับลงไป จนร่ างของเขาเหมือนถูกถีบลงไปสู่ กน้ เหว
เขาถูกเหยียบจนจมลงไปบนพื้น แผ่นกระจกแวววาวที่ปูอยูบ่ นพื้น
ถูกกระแทกแตกกระจายจนยุบลงไปเป็ นหลุม ฝุ่ นผงกระจายจนคลุง้
ขึ้นมา
เขาเค้นพลังมังกรในร่ างออกมา คิดจะสะบัดตู๋กซู ิงหลันลงไปจาก
ร่ าง
แต่วา่ พลังมังกรพึ่งจะเคลื่อนไหว ก็เห็นปลายนิ้วของตู๋กซู ิงหลัน
ปรากฏยันต์แผ่นหนึ่ง เพียงพริ บตาเดียวก็ผนึกลงไปในร่ างของเขา
กักขังพลังมังกรในร่ างของเขาเอาไว้
ราชามังกร นั้นย่อมแข็งแกร่ ง
แต่แข็งแกร่ งแล้วจะอย่างไร หากเขาไม่อาจใช้พลังในร่ างออกมาได้ก็
เท่ากับว่าสู ญเปล่า!
ยันต์กกั จิตวิญญาณของตู๋กซู ิงหลัน สิ้ นเปลืองเวลาของนางไปถึงสาม
วันสามคืน ต่อให้เจ้าเป็ นเทพมารปี ศาจอันใด เมื่อถูกผนึกยันต์น้ ีเข้า
ไปแล้ว พลังทัว่ ทั้งร่ างก็จะถูกกักขังเอาไว้จนหมดสิ้ น
หากว่าผูถ้ ูกกักขังพลังยิง่ แข็งแกร่ ง ระยะเวลาในการกักขังก็จะยิง่ สั้น
ลงไปเรื่ อยๆ
ก่อนหน้านี้นางมีพลังไม่เพียงพอ ไม่อาจวาดยันต์เช่นนี้ออกมาได้ แต่
ว่าตอนนี้……นางมิใช่ต๋ ูกซู ิงหลันเมื่อสองปี ก่อนแล้ว
ถึงแม้วา่ พื้นฐานนิสยั ของนางจะกล้าจนบ้าบิ่น แต่กม็ ิใช่คนที่ไร้
สมอง
มิวา่ จะลงมือทาสิ่ งใด นางล้วนต้องชัง่ น้ าหนักของตนเองและ
ตระเตรี ยมการเอาไว้ก่อนอยูเ่ สมอ คิดจะบุกวังมังกรมาช่วยคน ไหน
เลยจะไม่มีการตระเตรี ยมใดๆได้กนั
พอยันต์แผ่นหนึ่งผนึกลงไป แม้แต่ลู่กว่างเองก็ตอ้ งตื่นตะลึงไปแล้ว
ตอนที่หอกสามง่ามถูกดูดพลังออกไป และหักจนกลายเป็ นเศษเหล็ก
ไร้ค่านั้น เขาก็ยงั ไม่แตกตื่นเท่านี้
ตอนนี้พอถูกสกัดกั้นพลังในร่ างทั้งหมด เขาถึงได้ร้อนรนขึ้นมา
จริ งๆ
ทันใดนั้น ตู๋กซู ิงหลันก็ยกเท้าขึ้นมา เตะเขาจนกลิ้งไปกับพื้น
คนที่เป็ นถึงราชามังกร ถูกนางเตะลงไปกองอยูใ่ นหลุมบนพื้น ครึ่ ง
ค่อนวันก็ยงั ปี นขึ้นมาไม่ได้
เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์กลายเป็ นเช่นนี้ หลิ่วฮุ่ยก็ยงิ่ ไม่กล้าเข้าไป
ช่วยเหลืออะไรทั้งนั้น…..
ตอนนั้นเพื่อให้ลู่เวยสามารถกาเนิดเป็ นร่ างมังกรทอง……นางได้
สละพลังทั้งหมดในร่ างออกไปเป็ นการแลกเปลี่ยน ถึงแม้วา่ จะเป็ น
เผ่ามังกร แต่กเ็ ป็ นตัวไร้ประโยชน์ที่ไม่มีพลังใดๆทั้งสิ้ น
หลังจากนั้นนางก็ซ้ือตัวหมอตาแย ให้แสดงละคร ‘คลอดยาก’ฉาก
ใหญ่ข้ ึนมา ทาให้ลู่กว่างเข้าใจว่าเพราะนางให้กาเนิดมังกรทอง จึง
ได้สูญสิ้นพลังทั้งหมดในร่ างไป
ดังนั้นตอนหลังเขาไม่เพียงไม่รังเกียจนาง แต่กลับยังรู ้สึกติดค้างจน
อยากจะชดเชยให้กบั นางอยูเ่ สมอ
ตลอดหลายปี มานี้ทะเลตะวันตกก็สงบสุ ขมาโดยตลอด เวยเอ๋ อร์ก็
เอาถ่าน จึงไม่มีเรื่ องใดให้นางต้องใช้พลังวรยุทธ์เลยด้วยซ้ า
นางไม่เคยคิดเลยว่า สักวันหนึ่งจะมีเผ่ามนุษย์บุกเข้าประตูมาและลู่
กว่างก็ยงั ถูกทาร้ายถึงเพียงนี้
ขณะที่กาลังร้อนรนไปหมดแล้วนั้น หลิ่วฮุ่ยก็ใช้บญั ชาราชามังกร
เพื่อเรี ยกกองทัพของทะเลตะวันตกออกมา
ทั้งหมดล้วนเป็ นตัวประหลาดในท้องทะเลที่สาเร็ จเป็ นภูติหรื อปี ศาจ
จึงแข็งแกร่ งกว่าพวกทหารกุง้ ปูปลามากมายนัก
คราวนี้ หัวใจของหลิ่วฮุ่ยค่อยรู ้สึกว่ามีแต้มต่ออยูบ่ า้ ง
แต่วา่ นางยังไม่ทนั จะได้หายใจให้คล่องคอ ก็เห็นว่าบนแผ่นหลังที่
กว้างของราชาสุ นขั ป่ าตัวใหญ่ มีเจ้าไก่สีดาตัวหนึ่งใช้สองปี กเท้า
สะเอวอยู่ มันอ้าปากพ่นไฟสี ทองออกมา เผาผลาญเหล่าปี ศาจใน
ท้องทะเลเหล่านั้นจนวอดตายไปทั้งแถวในชัว่ พริ บตา
ครู่ ต่อมาก็สามารถได้กลิ่นหอมที่เข้มข้นลอยออกมา
เจ้าไก่ดาขนฟูทาตาเป็ นประกาย ใช้ปีกตบลงไปบนศีรษะของราช
สุ นขั ป่ า “กะกะต๊าก!
อาหวังเพือ่ นยาก เย็นนี้มากินอาหารทะเลมื้อใหญ่ดว้ ยกันเถอะ อาเฮีย
จะเลี้ยงเจ้าเอง!”