You are on page 1of 1100

ตอนที่ 801 ข่ าววงใน (2)

แคว้นหยานเป็ นเจ้าภาพจัดศึกประลองวิญญาณมาตลอด และตั้งแต่


เริ่ มจัดมาก็ไม่เคยมีการแอบชักใยบงการใด ๆ เกิดขึ้นเลย แต่ปีนี้องค์
ชายรัชทายาทเล่ยเฉินได้ใช้ตาํ แหน่งของเขากดขี่ข่มเหงผูเ้ ข้าแข่งขัน
เพื่อให้แน่ใจว่าจวินเสี ยจะผ่านเข้ารอบในการประลอง!
นัน่ เป็ นข่าวที่อ้ือฉาวครึ กโครมที่สุดในเมืองหลวง!
บางคนก็ยงั ข้องใจถึงความถูกต้องแม่นยําของข่าวนี้ แต่เมื่อผูค้ นเห็น
ศิษย์ที่ควรจะประลองกับจวินเสี ยในรอบที่ 3 ปรากฏตัวขึ้นบนถนน
ด้วยอาการบาดเจ็บ ข้อสงสัยทั้งหมดก็หายไปทันที
และข่าวนี้กไ็ ปเข้าหูศิษย์จากทุกสํานักอย่างรวดเร็ ว
เรื่ องที่เล่ยเฉินสนิทสนมกับสํานักศึกษาวายุประจิมเป็ นสิ่ งที่เห็นได้
อย่างชัดเจน และคําเรี ยกขานว่า “น้องชายจวิน” ของเล่ยเฉินที่งาน
เลี้ยงก็ยงั สดใหม่อยูใ่ นใจของทุกคน เมื่อพวกเขารวมเรื่ องทุกอย่าง
เข้าด้วยกัน ทุกคนก็เริ่ มเข้าใจถึงจุดประสงค์ที่ซ่อนเร้นของเล่ยเฉิน
เขาใช้อาํ นาจของเขาในทางที่ผดิ เพื่อให้แน่ใจว่าจวินเสี ยจะเข้ารอบ
ไปได้ลึก ๆ ในศึกประลองวิญญาณ!
หลังจากนั้นไม่นาน ผูเ้ ข้าแข่งขันศึกประลองวิญญาณทุกคนก็พากัน
เดือดดาลเป็ นอย่างมาก ที่สาํ นักศึกษาต่าง ๆ มาเข้าร่ วมศึกประลอง
วิญญาณนี้กนั อย่างมากมายก็เพราะการประลองนี้มีความยุติธรรม
และเป็ นกลางมาตลอด ผูเ้ ยาว์คนใดที่มีความสามารถย่อมแสดงออก
ได้อย่างเต็มที่
การกระทําของเล่ยเฉินกําลังทําลายความยุติธรรมที่ทาํ ให้การ
ประลองนี้เป็ นที่นิยมอย่างมหาศาล
ในเวลานั้น ความน่าเกรงขามที่สาํ นักศึกษาวายุประจิมเพิ่งได้รับมาก็
ถูกกลบไปจนสิ้ นในทันทีดว้ ยเสี ยงคัดค้านและโกรธเกรี้ ยวอย่าง
รุ นแรง!
จวินอู๋เสี ยรู ้ข่าวนี้จากเฟยหยาน ในรอบแรกที่หลินฉี สละสิ ทธิ์ไป
นางไม่คิดว่ามีอะไรผิดปกติ แต่พอสองรอบต่อมาที่คู่ต่อสู ท้ ้ งั สอง
ของนางประกาศสละสิ ทธิ์ในวันประลอง นางก็เริ่ มคิดว่ามันแปลก
เมื่อคิดย้อนกลับไปที่คาํ พูดของเล่ยเฉินที่พดู เอาไว้เมื่อวันก่อนการ
ประลองรอบแรกของนาง จวินอู๋เสี ยก็เดาได้คร่ าว ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตาม…
การกระทําของเล่ยเฉิ นไม่ได้ทาํ ให้นางรู ้สึกยินดีเลยแม้แต่นอ้ ย
“องค์รัชทายาทนัน่ มันมีข้ ีเลื่อยอยูใ่ นหัวรึ ไง? ทําบ้าอะไรลงไป
เนี่ย!?” เชียวชูพดู อย่างหงุดหงิดขณะที่นงั่ อยูบ่ นเก้าอี้ ใบหน้าบึ้งตึง
และโกรธจนควันออกหู เมื่อไม่กี่วนั ก่อน เขากับฮัว่ เหยาและคนอื่น ๆ
ได้รับชัยชนะมาอย่างสวยหรู ทําให้ชื่อเสี ยงของวายุประจิมขึ้นไปสู่
จุดสู งสุ ดได้อีกครั้ง แล้วตอนนี้เล่ยเฉิ นก็ทาํ มันพังด้วยการตัดสิ นใจ
ใช้อาํ นาจแบบผิด ๆ เอาเอง เขาทําลายความพยายามทั้งหมดของพวก
เขาและทําให้วายุประจิมต้องเสื่ อมเสี ยชื่อเสี ยง!
ในตอนนี้เมื่อผูค้ นพูดถึงวายุประจิม พวกเขาไม่พดู ถึงผูเ้ ยาว์ที่มีพลัง
วิญญาณขั้นสี ฟ้าที่น่าตื่นตะลึงอีกต่อไป แต่กลับดูหมิ่นเหยียดหยาม
และเยาะเย้ยถากถางพวกเขาที่ไปเลียแข้งเลียขาองค์รัชทายาทเพื่อ
เป็ นที่โปรดปราน เมื่อพวกเขาออกไปเดินบนถนน ศิษย์จากสํานัก
ศึกษาอื่น ๆ ก็จะพากันชี้นิ้วมาที่พวกเขาและกระซิบกระซาบด้วย
ถ้อยคําที่ไม่น่าฟัง
ฟ่ านจินถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ชื่อเสี ยงของสํานักศึกษาวายุ
ประจิมในช่วงไม่กี่วนั ที่ผา่ นมานี้ราวกับรถไฟเหาะตีลงั กา มันดํ่าดิ่ง
ลงเหว แล้วฮัว่ เหยากับคนอื่น ๆ ก็ดึงมันขึ้นมา พอได้ชื่นใจกับผล
แห่งความพยายามได้ไม่เท่าไร ก็ถูกเล่ยเฉินลากกลับลงมาอีก
ตั้งแต่วนั ที่สาํ นักศึกษาวายุประจิมได้ก่อตั้งมา พวกเขาก็ไม่เคยต้อง
แบกรับความอับอายที่ถูกกล่าวหาใส่ ความกันเช่นนี้
วายุประจิมนั้นยอมตกตํ่าซะยังจะดีกว่า พวกเขาไม่มีวนั ละทิ้งความ
ภาคภูมิใจและความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวของพวกเขาหรอก ไม่มีวนั ที่
พวกเขาจะไปเลียแข้งเลียขาประจบประแจงใคร!
“ดูจากที่เล่ยเฉินทําลงไป ข้าไม่คิดว่าเขาจะปล่อยให้ใครมาสู ก้ บั น้อง
เสี ยแน่ ข้าเคยสงสัยนะว่าเขาจะใช้วธิ ีไหนมาเอาชนะใจพวกเรา แต่
ไม่คิดเลยว่าจะมาทื่อ ๆ ตรง ๆ แบบนี้” เฟยหยานพูดอย่างรังเกียจใน
วิธีการใช้อาํ นาจข่มขู่อย่างโจ่งแจ้งของเล่ยเฉิ น
“ปกติเล่ยเฉินจะปกป้องชื่อเสี ยงของตัวเองมากเลยนะ ถึงเราจะรู ้กนั
ว่าเขาจ้องจะเอาเราเป็ นพวกอยู่ แต่เขาก็ไม่น่าจะทําอะไรชัดเจนและ
เกินขอบเขตแบบนี้…” ฟ่ านจัว๋ หรี่ ตา เขารู ้สึกว่าสิ่ งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้
เข้ากับภาพลักษณ์ของเล่ยเฉินเลย
ตอนที่ 802 ข่ าววงใน (3)
จวินอู๋เสี ยส่ ายศีรษะทันที
“ข่าวไม่ได้ถูกปล่อยจากตัวเล่ยเฉิน”
“ทําไมเจ้าพูดอย่างนั้นล่ะ?” เชียวชูถาม
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “เรื่ องที่เกิดขึ้นเล่ยเฉิ นเป็ นคนลงมือจริ ง ๆ ไม่ตอ้ ง
สงสัยเลย แต่ข่าวเรื่ องนี้ไม่ได้รั่วออกมาจากเล่ยเฉิ น ถ้าเล่ยเฉินอยาก
ให้ศิษย์พวกนั้นถูกตัดออกจากการแข่งขัน เขาย่อมไม่โง่ที่จะทิ้ง
บาดแผลไว้บนหน้าของศิษย์อย่างชัดเจนแบบนั้นหรอก นอกจากนั้น
คนที่ถูกพบว่ามีบาดแผลพวกนั้นก็คือคู่ต่อสู ใ้ นรอบที่สามของข้า เขา
เป็ นแค่ศิษย์จากสํานักศึกษาที่ไม่มีชื่อเสี ยงอะไร ด้วยตําแหน่งและ
อํานาจของเล่ยเฉิน เขาไม่จาํ เป็ นต้องทําให้ศิษย์คนนั้นบาดเจ็บเลย
แค่สินบนสักเล็กน้อยตามความเหมาะสม เขาก็สามารถทําให้คนผู ้
นั้นยินยอมได้แล้ว แต่ศิษย์คนนั้นกลับแสดงตัวต่อหน้าทุกคนด้วย
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยบาดแผล พวกเจ้าไม่คิดว่ามันแปลกรึ ไง? ถ้าข้า
เดาไม่ผดิ คนที่ปล่อยข่าวน่าจะกําลังพยายามทําลายชื่อเสี ยงของเล่ย
เฉิ น”
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตา นางไม่สนใจปัญหาภายในของแคว้นหยาน แต่
คนร้ายดันมาใช้นางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเขา แถมยังลากเอาวายุ
ประจิมลงมาให้เสี ยหายอีกด้วย
ในแคว้นหยานนั้น ชื่อเสี ยงของเล่ยเฉิ นแทบไม่ด่างพร้อยอะไรเลย
และการเป็ นเจ้าภาพศึกประลองวิญญาณในปี นี้น้ นั อยูใ่ นความ
รับผิดชอบของเล่ยเฉินอย่างเต็มที่ ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นในการประลอง
ปี นี้ มันย่อมสร้างความเสี ยหายอย่างหนักต่อชื่อเสี ยงที่เล่ยเฉินใช้
เวลาหลายปี สร้างสมมันขึ้นมา
ถึงแม้จวินอู๋เสี ยจะไม่ได้ชอบเล่ยเฉินนัก แต่นางก็เชื่อว่าด้วยนิสยั ใจ
คอของเล่ยเฉิน เขาจะไม่ปล่อยให้ศตั รู ของเขามีโอกาสจัดการกับเขา
ได้ง่ายนัก
คนฉลาดอย่างเขาย่อมรู ้วา่ จะปกป้องชื่อเสี ยงของตัวเองได้อย่างไร
“หมายความว่ามีใครบางคนมีปัญหากับเล่ยเฉินงั้นเหรอ? แต่จะเป็ น
ใครได้ล่ะ? เขาเป็ นองค์รัชทายาทของแคว้นหยานเชียวนะ และเป็ นที่
โปรดปรานขององค์จกั รพรรดิดว้ ย ใครจะไปมีเรื่ องกับเขาได้กนั ?”
ฟ่ านจัว๋ เองก็กาํ ลังคิดหนัก การคาดเดาของจวินอู๋เสี ยไม่ได้ผดิ แต่
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันค่อนข้างแปลก
สําหรับองค์รัชทายาทที่ให้ความสําคัญกับชื่อเสี ยงของตัวเองเป็ น
อย่างมากนั้น จะเป็ นไปได้อย่างไรที่จะทําเรื่ องที่สร้างความเสี ยหาย
ให้กบั ชื่อเสี ยงของเขาอย่างง่ายดายแบบนั้น?
เช่นนั้นแล้วเป็ นใครกันล่ะที่กล้าวางแผนร้ายต่อเล่ยเฉิ น?
จวินอู๋เสี ยก้มหน้าลง จู่ ๆ นางก็นึกถึงโม่เฉียนหยวนในฐานะที่ท้ งั คู่
เป็ นองค์รัชทายาทของแคว้นเหมือนกัน สถานการณ์ของโม่เฉี ยนห
ยวนในแคว้นฉียา่ ํ แย่มากมาตั้งแต่แรก ถือครองตําแหน่งรัชทายาทก็
แต่ในนามเท่านั้น ซํ้ายังถูกลอบวางแผนการชัว่ ร้ายโดยองค์
จักรพรรดิซ่ ึงเป็ นพ่อของเขาและองค์ชายที่เป็ นน้องชายของเขาเอง
ดูผวิ เผินแล้ว โม่เฉี ยนหยวนกับเล่ยเฉิ นอยูใ่ นสถานการณ์ที่แตกต่าง
กันอย่างสิ้ นเชิง แต่…
จวินอู๋เสี ยยังจําได้อย่างชัดเจน ก่อนที่องค์จกั รพรรดินีแห่งแคว้นฉี
องค์ก่อนสิ้ นพระชนม์ ชื่อเสี ยงของโม่เฉียนหยวนในสายตา
ประชาชนก็เหมือนเล่ยเฉินในตอนนี้ จนกระทัง่ องค์จกั รพรรดินี
สิ้ นพระชนม์ดว้ ยอาการป่ วยและตระกูลของนางถูกสังหารจนหมด
สิ้ นซึ่ งทําให้การสนับสนุนองค์รัชทายาทถูกตัดขาดไปทั้งหมด โม่
เฉียนหยวนจึงค่อย ๆ ถูกผลักให้ตกลงสู่ สภาพอันเลวร้ายกลายเป็ น
องค์รัชทายาทที่ไม่ได้เรื่ อง
และเหตุการณ์ในศึกประลองวิญญาณครั้งนี้กท็ าํ ให้ความสงสัยในใจ
ของจวินอู๋เสี ยเพิ่มมากขึ้น
เล่ยเฉินกําลังประสบชะตากรรมเดียวกับที่โม่เฉียนหยวนเคยเจอมา
ก่อนใช่หรื อไม่?
การเป็ นเจ้าภาพศึกประลองวิญญาณคือภาระรับผิดชอบที่หนักหนา
มาก แต่กลับถูกวางให้เล่ยเฉิ นจัดการอย่างเต็มตัว และหลังจากศึก
ประลองวิญญาณเริ่ มต้นได้ไม่นาน ความผิดพลาดโง่ ๆ ก็เกิดขึ้น
“แคว้นหยานมีองค์ชายทั้งหมด 4 คนใช่ไหม?” จู่ ๆ จวินอู๋เสี ยก็เงย
หน้าขึ้นมาถามเฟยหยาน
เฟยหยานพยักหน้า “ใช่แล้ว มี 4 คน นอกจากเล่ยเฉินก็ยงั มีองค์ชาย
อีก 3 พวกเราเคยพบกับองค์ชายรอง เล่ยหยวน แล้วที่งานเลี้ยง ส่ วน
องค์ชายอีก 2 คนที่ไม่มางานคือองค์ชายสาม เล่ยฉิว กับองค์ชายสี่
เล่ยฟ่ าน เล่ยฉิวปรากฏตัวน้อยที่สุดในบรรดาองค์ชายทั้งสี่ ส่ วนองค์
ชายสี่ เล่ยฟ่ านก็ไม่ได้เกิดจากองค์จกั รพรรดินี เขาถูกทิ้งให้อยูใ่ น
ความดูแลขององค์จกั รพรรดินีมาตั้งแต่เล็ก ทําให้เล่ยเฉินกับเล่ยฟ่ า
นค่อนข้างสนิทกัน”
ตอนที่ 803 ข่ าววงใน (4)
“ถ้าสนิทกัน งั้นทําไมงานเลี้ยงที่วงั ขององค์รัชทายาทเขาถึงไม่มาล่ะ
เล่ยหยวนยังมาเลย” ฟ่ านจัว๋ ถามพร้อมกับเลิกคิ้ว
เฟยหยานยักไหล่ แสดงท่าทางว่าเขาเองก็ไม่รู้
“แต่ในบรรดาองค์ชายทั้งสี่ คนที่องค์จกั รพรรดิโปรดปรานมากที่สุด
ก็คือองค์ชายสี่ แต่เขายังเด็กมาก เพิง่ อายุแค่ 14 ปี เท่านั้น” เฟยหยาน
พูด
“14 งั้นรึ ” จวินอู๋เสี ยหรี่ ตาลง เทียบกับองค์ชายอีก 3 คน เขาเด็กไป
นิดจริ ง ๆ แต่…อายุของเล่ยเล่ยฟ่ านทําให้จวินอู๋เสี ยนึกอะไรได้ นาง
คิดเรื่ องนี้อยูค่ รู่ หนึ่งแต่ไม่พดู มันออกมา กลับพูดแค่วา่ “ไม่สาํ คัญ
หรอกว่าใครจะมีเรื่ องกับเล่ยเฉิน แต่ถา้ มันผูน้ ้ นั ใช้ขา้ เพื่อทําลาย
ชื่อเสี ยงของเล่ยเฉิน เพื่อไม่ให้ชื่อของวายุประจิมต้องเสื่ อมเสี ยไป
ด้วย เราต้องปรับแผนกันหน่อยแล้วล่ะ”
พวกเขาเข้าร่ วมศึกประลองวิญญาณเพื่อกอบกูช้ ื่อเสี ยงของวายุ
ประจิม ถ้าข่าวลือพวกนี้ยงั คงแพร่ กระจายต่อไปล่ะก็ ชื่อของวายุ
ประจิมไม่เพียงจะไม่กลับสู่ ความรุ่ งโรจน์ในอดีตเท่านั้น แต่มนั จะ
เสื่ อมเสี ยอย่างมากเลยทีเดียว
“เจ้ามีแผนในใจแล้วหรื อ?” ฟ่ านจัว๋ ถามจวินอู๋เสี ยพร้อมกับเลิกคิ้ว
ขึ้น
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชื่อของวายุประจิม เรา
ทําได้แค่ขีดเส้นระหว่างเรากับเล่ยเฉิ นให้ชดั เจน ไม่วา่ ใครกําลัง
วางแผนร้ายต่อเขา เราต้องไม่ปล่อยให้วายุประจิมถูกลากลงไปด้วย
ดังนั้นเราต้องลงมือก่อนที่จะเกิดเรื่ อง”
ตอนแรกนางตั้งใจจะใช้ความสัมพันธ์กบั เล่ยเฉินให้ได้แผนที่มา
หลังจากศึกประลองวิญญาณจบลง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ทาํ ให้
ต้องเปลี่ยนแผน
“ถ้าเราสร้างความวุน่ วายขึ้น มันจะไม่ดึงคนจากอาณาจักรกลางมา
ที่นี่เหรอ?” หลงลัว่ ถาม
ถ้าเล่ยเฉิ นขอให้อาณาจักรกลางยืน่ มือเข้ามายุง่ พวกเขาก็จะไม่
สามารถเข้าร่ วมศึกประลองวิญญาณต่อได้
แต่จวินอู๋เสี ยกลับส่ ายหัว
“เราแค่ตอ้ งหาว่าแผนที่อยูท่ ี่ไหนและให้เฟยหยานคัดลอกมัน
เท่านั้น” แม้วา่ การได้ตน้ ฉบับมาจะเป็ นเรื่ องดี แต่ในสถานการณ์
ตอนนี้ พวกเขาจําเป็ นต้องเอาเท่าที่พวกเขาสามารถเอาได้
จวินอู๋เสี ยอยากได้ท้ งั แผนที่และช่วยกอบกูช้ ื่อเสี ยงของวายุประจิม
นางไม่อยากละทิ้งสิ่ งใดสิ่ งหนึ่งไป
“เราจะลงมือเมื่อไร?” ฮัว่ เหยาถามพลางมองไปที่จวินอู๋เสี ย
“คืนนี้” จวินอู๋เสี ยพูดอย่างใจเย็น
ทุกคนต่างมองหน้ากันแล้วพยักหน้า
“ฟ่ านจิน เดินทางไปที่วงั ขององค์รัชทายาทแล้วแจ้งพวกเขาว่าเราจะ
ไปที่วงั คืนนี้”
ฟ่ านจินลุกขึ้นทันทีที่ได้ยนิ คําพูดของจวินอู๋เสี ยและออกจากตําหนัก
เซียนไป
ในขณะเดียวกันที่วงั ขององค์รัชทายาท เล่ยเฉิ นนัง่ ขมวดคิ้วอยูใ่ น
ห้องหนังสื อของเขา เขาไล่องครักษ์ท้ งั หมดออกไปและนัง่ อยูท่ ี่โต๊ะ
เพียงลําพัง ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่รายงานข่าวในมือที่เพิ่งได้
รับมาอย่างโกรธเคือง
“พวกเขาลงมือแล้วงั้นรึ ?” เล่ยเฉินกําจดหมายในมือแน่น ดวงตาเต็ม
ไปด้วยความเกลียดชังและความเจ็บปวดจากความอยุติธรรม
“ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าได้ทาํ ตามใจหรอก ชีวติ ของข้า ลมหายใจของ
ข้า ไม่ยกให้ใครเอาไปแน่!” เล่ยเฉินหรี่ ตาลงอย่างอันตราย เขาถือ
จดหมายอยูเ่ หนือเปลวไฟจากเทียน เฝ้ามองกระดาษติดไฟและค่อย
ๆ ถูกเปลวไฟกลืนกินไปอย่างช้า ๆ จนกลายเป็ นเถ้าสี ดาํ แต่แววตา
ของเล่ยเฉินก็ไม่ได้อ่อนลงเลยแม้แต่นอ้ ย
เขากําลังจะหมดเวลา ถ้าเขายังไม่ลงมือก็อาจจะไม่มีโอกาสอีก
แล้ว…
ต่อให้ตอ้ งแลกทุกสิ่ งทุกอย่างที่มีให้กบั ปี ศาจ เขาก็จะไม่ลงั เลเลยสัก
นิด
ขณะที่ไฟกําลังลุกไหม้มว้ นกระดาษไปเรื่ อย ๆ เสี ยงเคาะประตูจาก
ข้างนอกก็ดงั ขึ้น
เล่ยเฉินข่มแววตาอันตรายในดวงตาของเขาลงและถามด้วยเสี ยงนุ่ม
ว่า “มีอะไรงั้นหรื อ?”
ตอนที่ 804 องค์ รัชทายาทแห่ งแคว้ นหยาน (1)
เล่ยเฉินข่มแววตาอันตรายในดวงตาของเขาลงและถามด้วยเสี ยงนุ่ม
ว่า “มีอะไรงั้นหรื อ?”
“ฝ่ าบาท! ฟ่ านจินจากสํานักศึกษาวายุประจิมมาที่นี่พร้อมแจ้งว่าศิษย์
ของสํานักศึกษาวายุประจิมจะขอเข้าเฝ้าฝ่ าบาทคืนนี้พะย่ะค่ะ” เสี ยง
ขององครักษ์ดงั ขึ้นจากด้านนอก
เล่ยเฉินตาโต เขารี บตอบทันทีวา่ “บอกเขาว่าเรายินดีตอ้ นรับพวกเขา
ทุกเมื่อ”
[เขายังมีโอกาส!]
“ท่านยังไม่ยอมแพ้อีกหรื อ?” ทันใดนั้นเสี ยงของผูช้ ายก็ดงั ขึ้นจาก
หลังฉากที่อยูด่ า้ นหลังที่นงั่ ของเล่ยเฉิ น
เล่ยเฉินตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที และเขาพูดขึ้นโดยไม่หนั กลับมองว่า
“ท่านมาที่นี่ทาํ ไม? จะเกลี้ยกล่อมให้ขา้ ยอมแพ้ง้ นั รึ ? ทําไมข้าต้อง
ยอมแพ้ดว้ ย!? ข้าไม่ใช่หุ่นเชิดของใครนะ แล้วก็ไม่ใช่ตวั ตายตัวแทน
ของใครด้วย! ข้าแค่สูเ้ พื่อหาทางรอดให้ตวั เอง ผิดตรงไหนงั้นรึ !?”
ชายที่อยูห่ ลังฉากถอนใจเบา ๆ ฟังดูเหนื่อยอ่อนและหมดหนทาง
เล่ยเฉินสลัดท่าทางสุ ภาพอ่อนโยนตามปกติของเขาทิ้งไป มือของเขา
กําแน่นอยูบ่ นโต๊ะ เขาไม่หนั กลับไป ไม่อยากที่จะหันกลับไป เขารู ้
ว่าเสี ยงนั้นเป็ นของผูใ้ ด รู ้ดีวา่ ชายคนนั้นมีจุดประสงค์อะไรในการ
มาที่นี่ แต่มนั สําคัญยังไงล่ะ?
“หลายปี มานี้สิ่งที่คนพวกนั้นทําลงไปท่านก็รู้ดียงิ่ กว่าข้า ท่านรู ้
สถานการณ์ของข้าในตอนนี้แล้วจะยังขอให้ขา้ ยอมแพ้อีกหรื อ?”
เล่ยเฉินถามด้วยเสี ยงลอดไรฟัน
แต่ชายคนนั้นก็ยงั พูดว่า “ข้ารู ้ถึงความเจ็บปวดในใจของท่าน แต่ขา้
ไม่อยากให้ท่านจมอยูก่ บั มัน สิ่ งที่ท่านเป็ นในตอนนี้แตกต่างจากที่
ท่านเคยเป็ นในอดีตโดยสิ้ นเชิง” เสี ยงของชายคนนั้นมีร่องรอยการ
รําลึกถึงอดีตและความเศร้าเสี ยใจ และยังเต็มไปด้วยความอับจน
หนทางเป็ นอย่างมาก
เล่ยเฉินหัวเราะอย่างขมขื่น “ดังนั้นท่านก็เลยมาที่นี่เพื่อบอกข้าว่า
ท่านดูแคลนข้าแล้วงั้นรึ ? เพราะศิษย์ของท่านได้กลายเป็ นคนหน้า
ด้านไร้ยางอาย ลุ่มหลงในตัณหา และชัว่ ช้าเลวทราม เพราะงั้น…
ท่านจึงอับอายในตัวข้า ใช่ไหม? ท่านอาจารย์… ไม่สิ! ข้าควรเรี ยก
ท่านว่าท่านมหาอํามาตย์มากกว่าสิ นะ!”
เล่ยเฉินยืนขึ้นทันทีและมองไปยังฉาก แสงไฟสลัว ๆ จากเทียนไข
ส่ องให้เห็นเงาราง ๆ ของร่ างอันสู งเพรี ยวงามสง่าที่ยนื ด้านหลังฉาก
“ข้าคิดว่าการเรี ยกท่านว่าอาจารย์จะทําให้ท่านรู ้สึกว่าข้าทําให้หูของ
ท่านต้องแปดเปื้ อน ในเมื่อท่านไม่อยากเห็นข้ากลายเป็ นคนตํ่าทราม
สร้างความอัปยศอดสู เช่นนั้น ท่านก็ไม่ควรลําบากมาถึงวังรัชทายาท
นี่! ข้าขอวิงวอนให้ท่านมหาอํามาตย์ผนู ้ ่านับถือของเราเดินอยูใ่ นวัง
ของท่านเองหากว่าท่านต้องการเดินกินลมชมวิว วังรัชทายาทของข้า
ไม่สามารถรับรองตัวตนอันน่าเคารพนับถือของท่านได้หรอก” เสี ยง
ของเล่ยเฉินเต็มไปด้วยการเสี ยดสี เหน็บแนมอย่างไม่ปิดบัง นํ้าเสี ยง
แสดงความเกลียดชัง ใบหน้าหล่อเหลาก็ไม่มีความอ่อนโยนหรื อ
เป็ นมิตรเลยแม้แต่นอ้ ย
“เล่ยเฉิ น ทําไมท่านถึงยืนกรานจะทําเช่นนี้กบั ตัวเองด้วยเล่า?” ชาย
หลังฉากถอนใจด้วยความเศร้า การเสี ยดสี เหน็บแนมของเล่ยเฉิ น
ไม่ได้ส่งผลใด ๆ ต่อเขาเลย
เล่ยเฉินไม่ใส่ ใจท่าทีที่แสดงถึงความอดทนอดกลั้นและการให้อภัย
ของชายคนนั้น เขาหันกลับทันทีและเดินตรงไปที่ประตูหอ้ งหนังสื อ
“ผูเ้ ยาว์จากวายุประจิมจะมาที่นี่คืนนี้ ข้าแน่ใจว่าท่านมหาอํามาตย์
ต้องเคยได้ยนิ เรื่ องของพวกเขา ผูเ้ ยาว์อายุ 16 และ 17 ปี ที่มีพลัง
วิญญาณสี ฟ้า! ช่างแข็งแกร่ งยิง่ นัก! ตอนนี้พวกเขาเป็ นเพื่อนกับข้า
ด้วยความช่วยเหลือของพวกเขา ข้าจะไม่พา่ ยแพ้! ตอนนี้พวกเขาเป็ น
แขกที่สาํ คัญที่สุดของข้า และถ้าท่านมหาอํามาตย์ไม่มีธุระกับข้าอีก
ข้าขอให้ท่านจากไปโดยเร็ ว ข้าไม่อยากให้แขกของข้าพบเจอท่านที่
วังรัชทายาท” ทันที่พดู จบเล่ยเฉินก็กา้ วยาว ๆ ออกจากห้องไป
ชายที่อยูห่ ลังฉากมาตลอดถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทาง ร่ าง
ของเขาหายไปจากห้องหนังสื ออย่างรวดเร็ ว เงียบเชียบและไม่มีใคร
เห็นเหมือนเช่นตอนมา
คืนนั้นเล่ยเฉินเตรี ยมอาหารที่วงั รัชทายาทรอคอยการมาถึงของจ
วินอู๋เสี ยและสหาย นี่เป็ นครั้งแรกที่จวินอู๋เสี ยกับคนอื่น ๆ เป็ นฝ่ าย
ชวน ทําให้เล่ยเฉิ นมีความสุ ขเป็ นอย่างมาก
ตอนที่ 805 องค์ รัชทายาทแห่ งแคว้ นหยาน (2)
เมื่อจวินอู๋เสี ยกับสหายมาถึงหน้าประตูวงั ขององค์รัชทายาท เล่ยเฉิน
ได้ยนื อยูท่ ี่นนั่ แล้ว การที่องค์รัชทายาทออกมายืนต้อนรับแขกถึงที่นี่
นั้นเป็ นการแสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็ นอย่างมาก
เมื่อทุกคนนัง่ ลงที่โต๊ะอาหาร เล่ยเฉินก็ยมิ้ และพูดว่า “เป็ นเกียรติ
อย่างยิง่ ที่พวกท่านมาที่นี่ ข้าขอดื่มให้กบั พวกท่านทุกคน” พูดจบเล่ย
เฉินก็ยกถ้วยขึ้นดื่มทันที
หลังจากนั้นเขาก็นงั่ ลงและหันไปมองจวินเสี ยอย่างขอโทษ
“ข้าคิดว่าเหตุผลที่นอ้ งจวินมาที่นี่วนั นี้น่าจะเพราะข่าวลือที่กาํ ลัง
แพร่ กระจายอยูใ่ นเมืองหลวงใช่ไหม?” เล่ยเฉินไม่โง่ เขารู ้วา่ จวินเสี ย
กับเพื่อน ๆ ของเขาจะไม่มาที่นี่โดยไม่มีเหตุผล
[ศึกประลองวิญญาณรอบที่สามเพิ่งจบลงวันนี้ และจวินเสี ยเจอกับคู่
ต่อสู ท้ ี่สละสิ ทธิ์ถึงสามครั้ง ถูกตราหน้าว่าเป็ นคนประจบประแจง
จอมเจ้าเล่ห์ สําหรับคนที่มีนิสยั เย็นชาและพึ่งพาตนเองอย่างจวินเสี ย
ไม่มีทางที่เขาจะยินดีกบั เรื่ องนี้]
“ถูกต้อง” จวินอู๋เสี ยตอบแบบไร้ความรู ้สึก
เล่ยเฉินยิม้ อย่างขมขื่นและตอบว่า “ข้าต้องบอกว่าข้าตัดสิ นใจ
ผิดพลาดจริ ง ๆ ในเรื่ องนี้ ตอนแรกข้าตั้งใจว่าจะให้นอ้ งชายจวินได้
ขึ้นอันดับไปแบบง่าย ๆ สักเล็กน้อย แต่ขา้ กลับนําความเดือดร้อนมา
ให้นอ้ งจวินแทนซะนี่”
เล่ยเฉินได้เข้าหาศิษย์ที่จะสู ้กบั จวินเสี ยเป็ นการส่ วนตัวจริ ง ๆ เขาจับ
ตามองฝ่ ายผูร้ ักษาวิญญาณของสํานักศึกษาวายุประจิมมานานแล้ว
และย่อมเคยได้ยนิ เรื่ องของศิษย์ฝ่ายผูร้ ักษาวิญญาณมามาก จาก
ข้อมูลที่เขาได้มา ศิษย์ในฝ่ ายผูร้ ักษาวิญญาณมักจะไม่ค่อยได้บ่ม
เพาะพลังวิญญาณเท่าไรนัก พวกเขาใช้เวลาส่ วนใหญ่ไปกับการขัด
เกลาวิชารักษาวิญญาณ ถึงแม้สาํ นักศึกษาวายุประจิมจะทําได้เกิน
กว่าที่คาดเอาไว้ แต่จวินเสี ยยังเด็กมากและยังเป็ นศิษย์ของฝ่ าย
ผูร้ ักษาวิญญาณ นอกจากนั้นเล่ยเฉินยังได้เข้าหาผูเ้ ยาว์หลายคนที่เคย
อยูว่ ายุประจิมและถามพวกเขาเกี่ยวกับจวินเสี ย
คนพวกนั้นบอกเขาว่าตั้งแต่ที่จวินเสี ยได้เข้าเป็ นศิษย์ของสํานัก
ศึกษาวายุประจิม ไม่มีใครเคยเห็นเขาบ่มเพาะพลังวิญญาณเลย แต่
เขาใช้เวลาทั้งหมดไปกับการปรับปรุ งพัฒนาวิชารักษาวิญญาณ และ
จากข้อมูลพวกนั้นเล่ยเฉิ นจึงคิดเอาว่าระดับพลังวิญญาณของจวิน
เสี ยน่าจะแค่ธรรมดางั้น ๆ
ในตอนแรก เล่ยเฉิ นไม่ได้ต้ งั ใจจะเข้าหาคนพวกนั้นหรอกเนื่องจาก
คู่ต่อสู ใ้ นรอบแรกของจวินเสี ยคือศิษย์จากสํานักศึกษาผูพ้ ิชิตมังกร
เขาเพิ่งทําให้สาํ นักผูพ้ ิชิตมังกรต้องขายหน้าไปเมื่อเร็ ว ๆ นี้ จึงคิดว่า
ต่อให้เขาเข้าไปหาเพื่อปรึ กษาเรื่ องนี้ ด้วยสถานะของสํานักผูพ้ ิชิต
มังกร พวกเขาคงไม่ใส่ ใจใด ๆ เป็ นแน่
แต่ไม่คาดเลยว่าสํานักผูพ้ ิชิตมังกรเลือกที่จะสละสิ ทธิ์ในวันประลอง
ด้วยตัวเอง เล่ยเฉินยินดีและประหลาดใจในเหตุการณ์ที่พลิกผัน
อย่างกะทันหันนั้น
เล่ยเฉินไม่รู้วา่ ทําไมหลินฉี แห่งสํานักผูพ้ ิชิตมังกรจึงสละสิ ทธิ์ในการ
ประลองกับจวินเสี ย แต่ดว้ ยเหตุการณ์ที่เริ่ มต้นขึ้นเช่นนั้น มันจึงเป็ น
เหตุเป็ นผลที่ทาํ ให้เขาลงมือทําเรื่ องต่อมา เขาได้บอกจวินเสี ยกับ
สหายไว้แล้วว่าเขาจะช่วยเหลือพวกเขาสักเล็กน้อย และสํานักศึกษา
ผูพ้ ิชิตมังกรก็บงั เอิญให้โอกาสนั้นมา เขาไม่เห็นเหตุผลว่าทําไมจึง
ไม่ควรสานต่อ
ดังนั้นเขาจึงไปพบกับคู่ต่อสู ใ้ นรอบที่สองและสามของจวินเสี ย ใช้
เงินและคําสัญญาเป็ นสิ่ งแลกเปลี่ยนให้พวกเขาสละสิ ทธิ์การ
ประลอง
อย่างไรเสี ยการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู จ้ ากสํานักศึกษาที่ทาํ ผลงานได้ดี
ในการประลองนั้น พวกเขามีโอกาสน้อยนิดที่จะได้รับชัยชนะ ใน
เมื่อไม่มนั่ ใจว่าจะชนะ พวกเขาจึงเลือกยอมรับข้อเสนอของเล่ยเฉิ น
ซึ่งมีผลประโยชน์ต่อพวกเขามากกว่า
ทุกอย่างเกิดขึ้นตามที่เล่ยเฉิ นคิดว่ามันจะเป็ น แต่วนั นี้ผเู ้ ยาว์คนหนึ่ง
ก็ปรากฏตัวขึ้นบนถนนด้วยอาการบาดเจ็บ และข่าวลือก็
แพร่ กระจายไปทัว่ ทันที และลากเอาเล่ยเฉินเข้าไปด้วย
“ไม่จาํ เป็ นต้องทําเช่นนั้นเลย” จวินอู๋เสี ยพูดพลางมองดูเล่ยเฉินที่มีที
ท่าสํานึกผิด
แต่เล่ยเฉิ นส่ ายหน้า “เป็ นความผิดของข้าที่ทาํ ให้นอ้ งจวินต้องติด
ร่ างแหไปด้วย ไม่ใช่วา่ ข้าสงสัยในพลังของน้องจวินหรอกนะ แต่ขา้
แค่อยากช่วย น้องจวินอย่าตําหนิขา้ เลยนะ”
จวินอู๋เสี ยเทสุ ราใส่ ถว้ ยอย่างช้า ๆ และด้วยการบิดข้อมือครั้งเดียว
นางก็ส่งมันไปอยูต่ รงหน้าของเล่ยเฉิ น
ตอนที่ 806 องค์ รัชทายาทแห่ งแคว้ นหยาน (3)
“ดื่ม แล้วข้าจะไม่ตาํ หนิท่าน” เสี ยงเย็นชาเล็กน้อยของจวินอู๋เสี ยดัง
ขึ้นเบา ๆ
เล่ยเฉิ นสะดุง้ เนื่องจากเขาไม่คิดว่าจวินเสี ยจะพูดเช่นนั้นและลืมไป
สิ้ นว่าตนเองคือองค์ชาย แต่เล่ยเฉิ นตกใจอยูแ่ ค่แปบเดียวเท่านั้นเขาก็
ยิม้ และหยิบถ้วยสุ ราที่จวินเสี ยส่ งให้เขาขึ้นดื่มอย่างรวดเร็ ว และควํ่า
ถ้วยลงเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่มีสุราเหลืออยูแ่ ม้แต่หยดเดียว
“ข้าจะยึดตามคําพูดของน้องจวิน ในเมื่อข้าดื่มสุ ราหมดถ้วยแล้ว ก็
หมายความว่าน้องจวินจะไม่ตาํ หนิขา้ อีกต่อไป”
“แน่นอน” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับเบนสายตาที่มีแววแปลก ๆ ไปทาง
อื่น
หลังจากได้ยนิ คําพูดของจวินอู๋เสี ย เล่ยเฉิ นก็โล่งอกได้ในที่สุด
อารมณ์ของเขาดีข้ ึนมาก เขาพูดคุยและดื่มกินกับจวินเสี ยและสหาย
อย่างมีความสุ ข สุ ราชั้นดีถูกยกมาที่โต๊ะขวดแล้วขวดเล่าก่อนจะ
เกลี้ยงฉาดไปอย่างรวดเร็ ว เวลาผ่านไปจนถึงกลางดึก เล่ยเฉิ นก็นงั่
มึนเมาตัวเอียงอยูท่ ี่โต๊ะ
จวินอู๋เสี ยกับคนอื่น ๆ เมาพับหมดสติ ฟุบลงกับโต๊ะไปแล้วเรี ยบร้อย
เล่ยเฉินยืนขึ้นแบบโงนเงนและสัน่ หัวเพื่อไล่อาการมึนงง
“ทหาร! พาแขกของเราไปส่ ง…” เล่ยเฉินอยากจะส่ งจวินเสี ยกับ
สหายของเขากลับไปที่ตาํ หนักเซียน แต่หลังจากคิดอยูค่ รู่ หนึ่งเขาก็
เปลี่ยนใจและพูดว่า “จัดห้องรับรองให้พวกเขาพักผ่อนที่ตึก
ตะวันตก”
แม้วา่ จะมึนหัวแต่เล่ยเฉิ นก็ยงั ไม่ลืมที่จะคว้าโอกาสเอาชนะใจจวิน
เสี ย
สําหรับองค์รัชทายาทในตอนนี้ เหล่าผูเ้ ยาว์จากสํานักศึกษาวายุ
ประจิมสําคัญยิง่ กว่าอะไรทั้งนั้น
ทหารจากวังรัชทายาทปฏิบตั ิตามคําสัง่ พวกเขาช่วยพยุงศิษย์ของ
วายุประจิมไปยังห้องรับรองเพื่อนอนหลับพักผ่อน ขณะที่เล่ยเฉิ น
เองก็ยอมแพ้ต่อฤทธิ์สุราและถูกข้ารับใช้ช่วยพยุงไปที่หอ้ งนอนของ
เขา
วังขององค์รัชทายาทตกสู่ ความเงียบ ภายในความเงียบยามคํ่าคืน
จวินอู๋เสี ยที่น่าจะหลับฝันหวานอยูก่ พ็ ลันลืมตาขึ้น ดวงตาเย็นชาคู่
นั้นใสกระจ่าง ไม่มีร่องรอยมึนเมาเลยแม้แต่นอ้ ย
จวินอู๋เสี ยลุกขึ้นนัง่ และก้าวเท้าลงบนพื้น เจ้าแมวดํากระโจนขึ้นบน
ไหล่ของนางอย่างเงียบเชียบ ในขณะที่จวินอู๋เสี ยผลักประตูเปิ ดออก
และก้าวเท้าออกไปข้างนอกอย่างช้า ๆ
ตึกตะวันตกของวังรัชทายาทถูกใช้สาํ หรับแขกที่พกั ค้างคืน
โดยเฉพาะ และเพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของแขกที่มาพัก ทหาร
รักษาการณ์จะยืนเฝ้าอยูท่ ี่ทางเข้าเท่านั้น
ภายในความมืดได้ปรากฏร่ างคนหลายคนขึ้นที่ลานอันเงียบสงัด
“ยาของน้องเสี ยนี่ได้ผลดีจริ ง ๆ นี่ดื่มไปมากขนาดนั้น ข้ายังไม่รู้สึก
เมาเลยสักนิด” เชียวชูพดู ขึ้นพร้อมกับเดินมาหาจวินเสี ย นอกจาก
กลิ่นสุ รารุ นแรงที่ออกมาจากร่ างของเขาแล้ว ใบหน้าของเขาดูไม่เมา
เลยสักนิดราวกับว่าเขาไม่ได้ดื่มสุ ราเลยแม้แต่หยดเดียว
ฮัว่ เหยากับคนอื่น ๆ ยืนอยูร่ อบ ๆ จวินอู๋เสี ยแล้ว ก่อนที่จะเริ่ มกิน
เลี้ยงกัน พวกเขาทุกคนได้กินยาล้างพิษสุ ราที่จวินอู๋เสี ยปรุ งขึ้น จึงไม่
มีใครรู ้สึกเมามายจากสุ ราชั้นดีที่เล่ยเฉินนํามาให้ดื่มอย่างต่อเนื่องเลย
สักนิด ต่อให้พวกเขาดื่มต่ออีกหลายรอบ พวกเขาก็จะรู ้สึกอย่างที่
พวกเขากําลังรู ้สึกอยูต่ อนนี้
“ทุกคนรู ้แล้วใช่ไหมว่าห้องของเล่ยเฉิ นอยูท่ ี่ไหน?” ฟ่ านจัว๋ ถาม
ขณะจัดแจงเสื้ อผ้าให้เรี ยบร้อย การใช้ชีวติ อยูก่ บั ยามายาวนานหลาย
ปี ทําให้ฟ่านจัว๋ ไม่ได้แตะต้องสุ ราเลยสักหยด ถึงแม้เขาจะไม่เมา
หลังจากดื่มในคืนนี้ แต่กลิ่นสุ ราอันรุ นแรงที่ออกมาจากร่ างกายก็ทาํ
ให้เขารู ้สึกไม่สบายเท่าไรนัก
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าและวางแมวดําตัวน้อยลงบนพื้น เจ้าแมวดํา
เหยียดร่ างทันทีที่องุ ้ เท้าแตะพื้นดิน ไม่นานนักมันก็กระโจนออกไป
ข้างนอกอย่างเงียบเชียบและรวดเร็ ว
กลางดึกในช่วงเวลาที่ผคู ้ นหลับลึกมากที่สุด ทหารรักษาการณ์สอง
คนที่ทางเข้าตึกตะวันตกกําลังพยายามอย่างหนักที่จะให้ตวั เองตื่นอยู่
ตอนที่ 807 องค์ รัชทายาทแห่ งแคว้ นหยาน (4)
ลมกลางคืนพัดพาเอาความเย็นมาด้วย จู่ ๆ ทหารรักษาการณ์ท้ งั สอง
ก็รู้สึกง่วงขนาดหนัก และในชัว่ พริ บตาพวกเขาก็เอนตัวพิงหอก
อย่างทนความง่วงไม่ไหว
เมื่อพวกเขากรนเสี ยงดัง ศีรษะเอนห้อยไปด้านข้างแล้ว จวินอู๋เสี ยกับ
สหายของนางก็กา้ วผ่านประตูตึกตะวันตกออกมาโดยไม่ปกปิ ด
ตัวตนเลย
พื้นที่วงั ขององค์รัชทายาทนั้นกว้างใหญ่ และระยะทางระหว่างตึก
ตะวันตกกับห้องนอนขององค์รัชทายาทในตึกตะวันออกก็ค่อนข้าง
ห่างกัน แม้วา่ จะเป็ นกลางดึกแต่ทหารรักษาการณ์ที่เดินลาดตระเวน
อยูภ่ ายในวังก็ไม่ได้กาํ ลังพักผ่อนอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้สงั เกตเห็นว่า
มีแมวดําตัวเล็กขนาดเท่าฝ่ ามือกําลังศึกษาเส้นทางลาดตระเวนของ
พวกเขาและเวลาที่พวกเขาลาดตระเวนเสร็ จ 1 นาทีหลังจากที่ทหาร
ลาดตระเวนเดินผ่านทางเดินยาวไป จวินอู๋เสี ยกับสหายก็วงิ่ ผ่านไป
อย่างรวดเร็ วตรงไปยังห้องนอนของเล่ยเฉิ น
คืนนี้เล่ยเฉินเมาค่อนข้างมาก เขานอนหลับไม่ได้สติอยูบ่ นเตียง นิ่ง
สนิทไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่นอ้ ย
หลังจากที่พวกเขาทําให้ทหารรักษาการณ์ที่ทางเข้าหลับแล้ว จวินอู๋
เสี ยก็เดินเข้าไปในห้องนอนของเล่ยเฉิน ในห้องจุดเทียนไว้เล่มเดียว
แสงไฟสลัวรางนั้นทําให้ความมืดมิดสว่างขึ้นเล็กน้อย
เมื่อเชียวชูเดินผ่านประตูเข้ามา เขาก็เห็นเล่ยเฉินนอนนิ่งอยูบ่ นเตียง
หลับสนิทไม่รู้สึกตัว รอยยิม้ ชัว่ ร้ายก็พลันปรากฏขึ้นบนริ มฝี ปาก
ของเขา
ในงานเลี้ยงคืนนั้นพวกเขาได้เห็นว่าเล่ยเฉินคอแข็งมาก และก็รู้วา่
ด้วยนิสยั ของเล่ยเฉิน เขาจะไม่ปล่อยให้ตวั เองเมามายไร้สติ แต่คืนนี้
มันไม่ได้ข้ ึนอยูท่ ี่เขาอีกแล้ว ในถ้วยสุ ราที่จวินอู๋เสี ยส่ งให้เล่ยเฉิ นนั้น
จวินอู๋เสี ยได้ลอบวางยาลงไป ดังนั้นไม่วา่ เล่ยเฉินจะคอแข็งสักแค่
ไหนก็ตาม เขาก็ไม่สามารถทนต่อยาของจวินอู๋เสี ยได้
“สภาพแบบนี้เราจะถามอะไรเขาได้ง้ นั เหรอ?” เชียวชูมายืนอยูข่ า้ ง
เตียงของเล่ยเฉินและลงนัง่ ยอง ๆ เอานิ้วจิ้มแก้มแดง ๆ ของเล่ยเฉิ น
เขาหลับสนิทจริ ง ๆ !
เชียวชูสงสัยเอามาก ๆ เลยว่าเล่ยเฉินที่หมดสติไปโดยสมบูรณ์แบบ
นี้จะสามารถตอบคําถามของจวินอู๋เสี ยได้อย่างไร
พวกเขามาถึงที่นี่ในวันนี้ไม่ใช่เพราะสุ ราอาหารฟรี แต่เพื่อหาโอกาส
ค้นหาที่อยูข่ องแผนที่ส่วนที่ 4 เพื่อที่เฟยหยานจะได้คดั ลอกมันมา
แล้วพวกเขาจะได้ตดั ความสัมพันธ์กบั เล่ยเฉิน
ปัญหายุง่ ยากภายในของแคว้นหยานไม่ใช่สิ่งที่จวินอู๋เสี ยใส่ ใจ
เป้าหมายของนางกระจ่างชัดเสมอ
“เอาตัวเขาขึ้นมา” จวินอู๋เสี ยพูด
เชียวชูเข้าไปทันทีและดึงตัวเล่ยเฉินขึ้น
หัวของเล่ยเฉินเอียงพับไปด้านหนึ่ง ไม่มีทีท่าจะได้สติเลยแม้แต่นอ้ ย
“ง้างปากเขา” จวินอู๋เสี ยพูด
เฟยหยานก้าวเข้ามาง้างปากของเล่ยเฉิน ดูจะคุน้ เคยกับการทํา
เช่นนั้นมาก จวินอู๋เสี ยหย่อนยาเข้าไปในปากของเล่ยเฉินทันที
เชียวชูพยุงตัวเล่ยเฉินมานัง่ ที่เก้าอี้ขา้ งห้องและก้าวหลบไปด้านข้าง
เขามองดูเล่ยเฉิ นอย่างตื่นเต้น
“น้องเสี ย เจ้าเอาอะไรให้เขากิน?” เชียวชูถามอย่างอยากรู ้อยากเห็น
เขากระโดดมายืนอยูข่ า้ ง ๆ จวินอู๋เสี ย ในมือของจวินอู๋เสี ยมักจะมียา
แปลก ๆ อยูเ่ สมอ หลายอย่างเป็ นยาที่เขาไม่เคยรู ้มาก่อนว่ามีอยูย่ า
แบบนี้อยูบ่ นโลกด้วย
“ยาที่จะทําให้เขาพูด” จวินอู๋เสี ยพูดเรี ยบ ๆ ไม่อยูใ่ นอารมณ์ที่จะ
สนองความอยากรู ้อยากเห็นของเชียวชู
คนอื่นที่เหลือยืนรออย่างอดทนอยูด่ า้ นข้างอย่างรู ้จกั กาลเทศะ ปล่อย
ให้ทุกอย่างอยูใ่ นมือของจวินอู๋เสี ยด้วยรู ้วา่ สิ่ งที่พวกเขาทุกคนต้อง
ทําก็คือรอคอยผลลัพธ์
หลังจากนั้นไม่นาน เล่ยเฉิ นที่ไม่ได้สติกพ็ ลันขยับตัว เขาเงยหน้าขึ้น
ช้า ๆ และลืมตาขึ้น แต่ดวงตาคู่น้ นั ไม่ได้จบั จ้องอยูท่ ี่สิ่งใดและไร้
ชีวติ ชีวา เขาแค่มองตรงไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย ไม่มีอารมณ์หรื อ
ความรู ้สึกใด ๆ อยูบ่ นใบหน้าหล่อเหลานั้นแม้แต่นอ้ ย มองดูเหมือน
เขากําลังละเมอและยังไม่ตื่นเต็มที่
ตอนที่ 808 พบเข้ าโดยบังเอิญ (1)
จวินอู๋เสี ยยืนอยูข่ า้ งหน้าเล่ยเฉิน นางมองดวงตาคู่น้ นั ที่ไม่ได้จบั จ้อง
มองสิ่ งใด
“ท่านชื่ออะไร?” จวินอู๋เสี ยถามช้า ๆ
“เล่ยเฉิน” เล่ยเฉินตอบทื่อ ๆ สี หน้าไม่แสดงความรู ้สึกใด ๆ แต่เสี ยง
ของเขาได้ยนิ ชัดเจน
เชียวชูที่ยนื อยูด่ า้ นข้างกะพริ บตาอย่างสงสัย เขามองดูท่าทีแปลก
ประหลาดของเล่ยเฉิ น
“ฤทธิ์ของยาตัวนี้สุดยอดไปเลย! ถ้าคราวหน้าเราเจอสถานการณ์
แบบนี้อีก เราก็ให้นอ้ งเสี ยเอายานี่ให้คนนั้นกิน แล้วเราก็จะได้รู้ทุก
อย่างที่อยากรู ้จากคนผูน้ ้ นั !” เชียวชูกระซิบเบา ๆ พร้อมกับเอาไหล่
ดันฮัว่ เหยาที่อยูข่ า้ ง ๆ
ฮัว่ เหยาไม่ละสายตาจากเล่ยเฉินขณะที่พดู ด้วยเสี ยงตํ่าว่า “ไม่ใช่ทุก
อย่างจะใช้ได้ผลกับทุก ๆ คนหรอกนะ”
เชียวชูยกั ไหล่และไม่พดู อะไรอีก
ภายใต้แสงเทียนอันริ บหรี่ เล่ยเฉินนัง่ เงียบอยูบ่ นเก้าอี้ไม่ขยับเขยื้อน
ทําเพียงแค่ตอบทุกสิ่ งที่จวินอู๋เสี ยถามเขาเท่านั้น
จวินอู๋เสี ยถามเขา 3 คําถามง่าย ๆ ติด ๆ กันเพื่อให้แน่ใจว่ายาออก
ฤทธิ์กบั เล่ยเฉินแล้ว หลังจากนั้นนางก็หรี่ ตาลงและถามด้วยเสี ยงเย็น
ชาว่า “ท่านเคยติดต่อกับคนจากอาณาจักรกลางรึ เปล่า?”
เล่ยเฉินที่ตอบคําถามโดยไม่มีการลังเลเลยก็ดูเหมือนจะนิ่งค้างไป
ทันที ใบหน้าไร้ความรู ้สึกของเขาบิดเบี้ยวราวกับกําลังดิ้นรน
จวินอู๋เสี ยประหลาดใจเล็กน้อยกับปฏิกิริยานั้น ยาที่นางให้เล่ยเฉิ น
เป็ นยาชนิดที่จะทําให้สติสมั ปชัญญะและระบบประสาทด้านชาหมด
ความรู ้สึก ฤทธิ์ยาจะแสดงออกมาก็ต่อเมื่อกินร่ วมกับสุ ราเป็ น
จํานวนมากเท่านั้น นี่เป็ นครั้งแรกที่นางใช้มนั ตั้งแต่มาเกิดใหม่
ถึงแม้วา่ นางเคยใช้มนั บ่อย ๆ ตอนที่ยงั อยูก่ บั องค์กรก็ตาม และ
ปฏิกิริยาของเล่ยเฉิ นก่อให้เกิดความรู ้สึกแปลก ๆ ในใจของจวินอู๋
เสี ย
ในสถานการณ์น้ นั มันเป็ นไปไม่ได้ที่เล่ยเฉินจะแสดงความรู ้สึกใด ๆ
ออกมา เนื่องจากสมองของเขาน่าจะมึนชาไปหมดแล้ว และระบบ
ประสาทก็จะไม่สามารถส่ งสัญญาณถ่ายทอดความรู ้สึกใด ๆ ออกมา
ได้
“เขา…ทําไมเขาไม่ตอบแล้วล่ะ?” เชียวชูที่กาํ ลังคาดหวังให้เล่ยเฉิ น
เปิ ดเผยความจริ งออกมาให้พวกเขาได้รู้ แล้วพอกําลังเข้าประเด็น
สําคัญเขาก็ดนั นิ่งค้างไปซะดื้อ ๆ
จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้วขึ้น สายตาจับจ้องที่ใบหน้าบิดเบี้ยวของเล่ยเฉิ น
“มีอะไรผิดปกติเหรอ?” ฟ่ านจัว๋ สังเกตเห็นว่าจวินอู๋เสี ยมีท่าทาง
ผิดปกติ จึงถามขึ้นทันที
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “มีบางอย่างไม่ถูกต้อง”
“ไม่ถูกต้อง?”
จวินอู๋เสี ยกัดริ มฝี ปากแล้วพูดว่า “เว้นแต่วา่ เขาจะผ่านการฝึ กพิเศษมา
ก่อน แต่ถา้ ไม่ใช่เขาก็น่าจะตอบทุกอย่างที่ขา้ ถามโดยไม่ลงั เล” ใน
ชาติก่อนของนาง นางเคยเจอผูค้ นที่ผา่ นการฝึ กต่อต้านการสะกดจิต
คนกลุ่มนั้นจะฟื้ นสภาพได้เร็ วมากและยาพวกนี้ที่ใช้ควบคุมระบบ
ประสาทก็จะใช้ไม่ได้ผล แค่ยาที่นางใช้น้ นั ไม่สามารถสะกดพวกเขา
ได้อย่างสมบูรณ์
แต่หลังจากที่เกิดใหม่ในโลกนี้มาเป็ นเวลานาน นางไม่เคยพบเห็น
หรื อได้ยนิ การกล่าวถึงสิ่ งที่ใช้สะกดจิตในโลกใบนี้เลย และถ้ามัน
ไม่มีแล้วเล่ยเฉินจะเคยผ่านการฝึ กต่อต้านมันได้อย่างไร?
จวินอู๋เสี ยคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง และนางก็ตดั สิ นใจเปลี่ยนวิธีการเข้าถึง
ข้อมูล นางอ้าปากถามขึ้นว่า “ท่านเคยส่ งคนกลุ่มหนึ่งไปที่ผาสุ ด
สวรรค์หรื อไม่?”
ทันทีที่คาํ ถามออกจากปากของจวินอู๋เสี ย อาการดิ้นรนบนใบหน้า
ของเล่ยเฉินก็หายไปในทันที สี หน้าของเขากลับมามึนซึมไร้
ชีวติ ชีวาและไม่มีความรู ้สึก เขาตอบอย่างรวดเร็ วว่า “เคย”
“ตอนนั้นท่านให้แผนที่พวกเขาไปฉบับหนึ่ง แล้วท่านเก็บแผนที่
ต้นฉบับเอาไว้ที่ไหน?” จวินอู๋เสี ยถาม
“ไม่มีตน้ ฉบับ แผนที่นนั่ เป็ นฉบับคัดลอกที่เอามาจากองครักษ์ของ
เสด็จพ่อ” ใบหน้าไร้ความรู ้สึกของเล่ยเฉินไม่เปลี่ยนไปแม้แต่นอ้ ย
ขณะที่พดู แต่คาํ พูดพวกนั้นทําให้ทุกคนในห้องตัวแข็งทื่ออย่าง
ตกใจ
[แผนที่ไม่ได้อยูก่ บั เล่ยเฉิน!? เรื่ องมันเป็ นยังไงกันแน่!?]
ตอนที่ 809 พบเข้ าโดยบังเอิญ (2)
เชียวชูและคนอื่น ๆ มองเล่ยเฉิ นอย่างสงสัย ถ้าไม่ใช่เพราะสี หน้าไร้
ความรู ้สึกโดยสิ้ นเชิงของเล่ยเฉินและดวงตาที่ไม่จบั จ้องมองสิ่ งใด
ของเขา พวกเขาคงคิดว่าเล่ยเฉิ นตั้งใจที่จะไม่พดู ความจริ งกับพวก
เขา
“มันยังไงกันเนี่ย? แผนที่ไม่ได้อยูท่ ี่เล่ยเฉิ นเหรอ? เขาพูดความจริ งรึ
เปล่า?” เชียวชูหนั ไปถามจวินอู๋เสี ยทันที
จวินอู๋เสี ยเงียบอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เขาพูดความจริ ง”
ก่อนหน้านี้นางรู ้สึกว่าปฏิกิริยาของเล่ยเฉิ นค่อนข้างแปลก เนื่องจาก
เป็ นไปไม่ได้ที่เขาจะได้รับการฝึ กใด ๆ มา ซึ่งหมายความว่าเขาไม่
น่าจะต่อต้านยาสะกดได้ แต่พอนางถามเขาเรื่ องความสัมพันธ์ของ
เขากับอาณาจักรกลาง เขากลับแสดงอาการดิ้นรนออกมาอย่าง
ชัดเจน ซึ่งเหตุการณ์เช่นนั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อได้ผา่ นการฝึ กพิเศษ
มาและคําถามนั้นสําคัญมากต่อคนที่อยูภ่ ายใต้การสะกดจิต แต่กม็ ี
อีกกรณี ที่อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้ข้ ึนได้…
ถ้าคนที่ถูกถามไม่มีขอ้ มูลเกี่ยวกับคําถามนั้นอยูเ่ ลย หรื อเขาไม่เคยได้
ยินมันมาก่อน สมองของคนที่ถูกสะกดจิตก็จะสับสนอย่างหนักจน
ไม่สามารถตอบคําถามได้
จวินอู๋เสี ยก็เดาเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ตอนนี้นางแน่ใจแล้ว
แผนที่น้ นั ไม่เคยอยูท่ ี่เล่ยเฉิ นเลย!
“มิน่าล่ะ ครั้งที่แล้วเจ้าดําน้อยถึงไม่พบคนจากอาณาจักรกลางในวัง
ขององค์รัชทายาทเลย” จวินอู๋เสี ยพึมพํากับตัวเองเบา ๆ
“ท่านมีสาํ เนาแผนที่อีกไหม?”
เล่ยเฉินตอบว่า “นัน่ เป็ นแผนที่ฉบับเดียวที่มี ข้ากลัวว่าจะถูกพบเข้าก็
เลยไม่ได้คดั ลอกเอาไว้”
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตา “ท่านได้แผนที่ฉบับนั้นมายังไง?” ถึงแม้แผนที่จะ
ไม่ได้อยูใ่ นการครอบครองของเล่ยเฉิน แต่พวกเขาก็ได้ขอ้ มูลมาว่า
แผนที่อาจจะเกี่ยวข้องกับองค์จกั รพรรดิแห่งแคว้นหยาน และถ้านัน่
เป็ นความจริ ง การจะเอาแผนที่น้ นั มาก็จะยากยิง่ ขึ้นไปกว่าตอนที่
พวกเขาคิดว่ามันอยูก่ บั เล่ยเฉิน
ในฐานะผูป้ กครองแห่งแคว้นที่ใหญ่ที่สุดและมีอาํ นาจมากที่สุด
จักรพรรดิแห่งแคว้นหยานย่อมไม่ขาดแคลนยอดฝี มืออันแข็งแกร่ ง
และมีความสามารถสู งอยูข่ า้ งกาย ไม่ใช่อะไรที่อดีตจักรพรรดิโง่ ๆ
แห่งแคว้นฉีอนั เล็กจ้อยจะเทียบได้
เล่ยเฉินตอบอย่างไม่เร่ งรี บ ดวงตาไม่ขยับเคลื่อนไหวเลยตลอดเวลา
ที่พดู “วันนั้นข้าไปคารวะเสด็จแม่และน้องสี่ กอ็ ยูท่ ี่วงั ของเสด็จแม่
ด้วย ข้าไม่อยากพบเขาก็เลยเลี่ยงซะ คิดว่าจะเข้าไปหลังจากที่เขา
กลับไปแล้ว เพราะงั้นข้าเลยเตร็ ดเตร่ แบบไร้จุดหมายอยูใ่ นวังหลวง
และบังเอิญไปเห็นองครักษ์ที่เสด็จพ่อไว้ใจกําลังส่ งจดหมายให้
ทหารคนหนึ่งจากมุมที่ซ่อนอยู่ ถึงข้าจะไม่ได้ยนิ ว่าพวกเขาพูดอะไร
กัน แต่ขา้ ก็เห็นว่าพวกเขาสบตากันแบบมีพิรุธ ข้าก็เลยแอบตาม
ทหารคนนั้นออกไปนอกวังหลวงและฆ่าเขาโดยไม่มีใครรู ้เพื่อยึดเอา
จดหมายจากมือเขามา แผนที่ฉบับนั้นคือสิ่ งที่ขา้ พบในจดหมายนัน่ ”
นํ้าเสี ยงของเล่ยเฉิ นราบเรี ยบ แต่สิ่งที่เขาพูดได้เปิ ดเผยเรื่ องใหญ่เข้า
แล้ว
“ไหนว่าองค์ชายสี่ มีความสัมพันธ์ที่ดีกบั เล่ยเฉินไม่ใช่เหรอ? แล้ว
ทําไม…เล่ยเฉินถึงไม่อยากเจอหน้าเขาล่ะ?” เฟยหยานลูบคางพลาง
วิเคราะห์สิ่งที่ได้ยนิ คําพูดของเล่ยเฉินได้เปิ ดเผยปัญหาอื่นขึ้นมาอีก
สองประเด็น หนึ่งคือความสัมพันธ์ของเล่ยเฉิ นกับองค์ชายสี่ ไม่ได้
เป็ นมิตรกันอย่างที่คนภายนอกคิดว่าเป็ น และอย่างที่สองนั้น
น่าสนใจมากกว่า…เล่ยเฉิ นกังวลกับสิ่ งที่องค์จกั รพรรดิทาํ มากจน
ถึงกับทําการฆาตกรรมเพื่อเอาจดหมายนัน่ สําหรับองค์รัชทายาทที่
ตําแหน่งดูไม่น่าจะสัน่ คลอนได้ ทั้งการกระทําและวิธีการของเล่ย
เฉินนั้นค่อนข้างแปลกประหลาดและไม่น่าเชื่อ
“ทําไมข้ารู ้สึกว่าตําแหน่งของเล่ยเฉินในฐานะองค์รัชทายาทมัน
แตกต่างจากที่ขา้ คิดเอาไว้ล่ะเนี่ย?” หลงลัว่ ถามพร้อมกับเลิกคิว้ ขึ้น
จวินอู๋เสี ยมองเล่ยเฉิ น สิ่ งที่เล่ยเฉินพูดได้เปิ ดเผยเรื่ องที่น่าตกใจ
และจวินอู๋เสี ยต้องทบทวนการคาดเดาที่ตวั เองได้คิดเอาไว้ในใจอีก
ครั้ง
“ในจดหมายฉบับนั้น นอกจากแผนที่แล้วมีอะไรอย่างอื่นอีกไหม?”
“ไม่มี”
“ทําไมท่านถึงส่ งคนไปที่ผาสุ ดสวรรค์?”
“ข้าอยากรู ้วา่ เสด็จพ่อกําลังค้นหาอะไรที่นนั่ ”
ตอนที่ 810 พบเข้ าโดยบังเอิญ (3)
เล่ยเฉินอยูภ่ ายใต้ฤทธิ์ยาจึงพูดทุกสิ่ งที่เขารู ้ออกมาอย่างละเอียดตาม
คําถามของจวินอู๋เสี ย บอกทุกสิ่ งทุกอย่างที่เขาสามารถบอกได้ จาก
สิ่ งที่นางรวบรวมได้จากคําพูดของเล่ยเฉิ น จวินอู๋เสี ยก็สามารถสรุ ป
ได้วา่ มีความเป็ นไปได้สูงที่แผนที่ตน้ ฉบับจะอยูใ่ นความครอบครอง
ขององค์จกั รพรรดิแห่งแคว้นหยาน
“เรื่ องชักจะยากมากขึ้นแล้วนะ ถ้าของอยูก่ บั องค์จกั รพรรดิ มันก็จะ
ยากขึ้นมากเลยถ้าเราอยากจะไปเข้าเฝ้า” ฟ่ านจัว๋ พูดพร้อมกับมองจ
วินอู๋เสี ย “ตอนนี้เรื่ องเป็ นแบบนี้แล้ว เราคงไม่สามารถแยกตัวออก
จากเล่ยเฉิ นได้ชวั่ คราว”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า “เราจะมีโอกาสเข้าเฝ้าองค์จกั รพรรดิได้ผา่ นทาง
เล่ยเฉินเท่านั้น”
องค์จกั รพรรดิแห่งแคว้นหยานไม่ค่อยสบายในช่วงหลายปี มานี้และ
แทบจะไม่ได้ออกจากวังหลวงเลย ถ้าไม่มีเล่ยเฉิ น หนทางเดียวที่
พวกเขาจะสามารถเข้าเฝ้าองค์จกั รพรรดิได้กค็ งเป็ นการบุกเข้าวัง
หลวง แต่พวกเขายังไม่เข้าใจสถานการณ์ภายในวังหลวงดีนกั การ
บุกเข้าไปแบบส่ งเดชก็อาจจะทําให้พวกเขาถูกยอดฝี มือที่อยูข่ า้ งกาย
องค์จกั รพรรดิโจมตีเอาได้
ถ้าหากไม่มนั่ ใจว่าพวกเขาจะทําได้สาํ เร็ จ จวินอู๋เสี ยจะไม่มีวนั เลือก
เดินทางนั้น
“เรายังใช้ประโยชน์เล่ยเฉินได้อยูน่ ะ แต่ตอนนี้เล่ยเฉินเป็ นเป้าหมาย
ของใครบางคนอยู่ และถ้าเรายังข้องเกี่ยวกับเขาต่อไป ชื่อเสี ยงของ
วายุประจิมก็จะ…” เสี ยงของฮัว่ เหยาขาดหายไป เขามองฟ่ านจัว๋ อ
ย่างมีความหมาย
“ข้าเชื่อว่าต่อให้ชื่อของวายุประจิมถูกใส่ ร้ายอย่างตอนนี้ แต่วนั หนึ่ง
ทุกอย่างจะกระจ่างออกมา ยิง่ กว่านั้นต่อให้มีคนจงใจทําให้วายุ
ประจิมเสื่ อมเสี ยชื่อเสี ยงแล้วยังไง? ตราบใดที่เราชนะศึกประลอง
วิญญาณในปี นี้อย่างยิง่ ใหญ่ ทุกคนก็ทาํ ได้แค่หุบปากเงียบเท่านั้น
แหละ” ฟ่ านจัว๋ รู ้วา่ ฮัว่ เหยากังวลเรื่ องความห่วงใยของเขาต่อฟ่ านจิน
ดังนั้นเขาจึงตอบฮัว่ เหยาด้วยรอยยิม้ อ่อนโยนโดยไม่แสดงความ
กังวลใด ๆ
“ไม่จาํ เป็ น” จวินอู๋เสี ยขัดขึ้นมา
ทุกคนหันไปมองนางทันที
“น้องเสี ย เจ้าบอกว่าไม่จาํ เป็ นรึ ?” ฟ่ านจัว๋ ถาม สายตาเต็มไปด้วย
ความสับสนงุนงง
จวินอู๋เสี ยมองเล่ยเฉิ นอย่างใคร่ ครวญแล้วถามทุกคนว่า “พวกเจ้าคิด
ว่าเราจะสามารถเอาแผนที่จากองค์จกั รพรรดิแห่งแคว้นหยานได้ง่าย
อย่างงั้นเชียวรึ ?”
คําถามของจวินอู๋เสี ยที่โยนใส่ พวกเขาทําให้ทุกคนนัง่ อึ้งไปชัว่ ขณะ
นอกจากแผนที่ที่ฟ่านจัว๋ ให้พวกเขามา ก่อนที่พวกเขาจะได้แผนที่อีก
สองส่ วนมา พวกเขาต้องผ่านการต่อสู อ้ ย่างดุเดือดกับผูท้ ี่ครอบครอง
แผนที่ วังหลวงนั้นไม่อาจเปรี ยบได้กบั วังขององค์รัชทายาท
เนื่องจากมันไม่อนุญาตให้พวกเขาเดินไปมาได้ตามใจชอบเหมือนวัง
รัชทายาท
“ถ้าแผนที่หายไป สิ บสองวิหารจะไม่ปล่อยเรื่ องนี้ให้ผา่ นไปง่าย ๆ
แน่” จวินอู๋เสี ยพูดนิ่ง ๆ สําหรับคนอย่างเค่อฉางจูและหนิงรุ่ ยนั้น
แผนที่พวกนั้นเป็ นเหมือนโอกาสที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดของพวกเขา แต่ใน
เวลาเดียวกันก็เป็ นอันตรายที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดด้วย ถ้าแผนที่ที่ถูกส่ งมอบ
ให้กบั พวกเขาหายไปล่ะก็ จินตนาการได้เลยว่าคนจากสิ บสองวิหาร
จะโกรธมากขนาดไหน!
ดังนั้น ไม่วา่ จะเป็ นการสู เ้ พื่อผลประโยชน์ของตัวเองหรื อการ
ปกป้องชีวติ ของตัวเองก็ตาม จักรพรรดิแห่งแคว้นหยานจะป้องกัน
แผนที่น้ นั ด้วยทุกสิ่ งทุกอย่างที่เขามีอย่างแน่นอน
และถ้าจวินอู๋เสี ยกับสหายของนางอยากจะเอาแผนที่น้ นั มาจากองค์
จักรพรรดิ ก็ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าจะเป็ นการต่อสู ท้ ี่ดุเดือดขนาดไหน
สายตาของจวินอู๋เสี ยกวาดมองผ่านใบหน้าของเล่ยเฉิน ถ้านาง
สามารถผลักดันให้โม่เฉียนหยวนขึ้นครองบัลลังก์ได้ นางก็ไม่
รังเกียจที่จะทําเช่นนั้นอีกครั้งกับเล่ยเฉิ น แต่ก่อนหน้านั้น นาง
จําเป็ นต้องรู ้สถานการณ์ภายในแคว้นหยานให้มากขึ้น
โดยผิวเผินแล้วตําแหน่งของเล่ยเฉินดูจะมัน่ คง แต่จากการที่มีคนจง
ใจเล่นงานเขา และจากที่เล่ยเฉินบอกออกมาเองในการซักถามด้วย
ยา ก็ชดั เจนแล้วว่าตําแหน่งองค์รัชทายาทนั้นดูดีนอ้ ยกว่าที่ดูเหมือน
จะเป็ น
เมื่อรู ้สึกได้ถึงท่าทางที่ตดั สิ นใจไม่ได้ของจวินอู๋เสี ย เชียวชูกก็ ลืน
นํ้าลายเสี ยงดังพร้อมกับถามอย่างระวังว่า “เจ้าคิดจะทําอะไรหรื อ
น้องเสี ย?” ไม่รู้วา่ ทําไม เมื่อเห็นสี หน้าเช่นนั้นของจวินอู๋เสี ยก็ทาํ ให้
เขารู ้สึกอย่างรุ นแรงขึ้นมาว่าบางสิ่ งที่น่ากลัวกําลังจะเกิดขึ้นเร็ ว ๆ นี้
แต่จวินอู๋เสี ยกลับสัน่ หัว นางประเมินเวลาที่ผา่ นไปก่อนจะลง
ความเห็นว่าฤทธิ์ยาจะหมดลงในอีกไม่นาน พวกเขาไม่สามารถคุย
กันต่อได้แล้วในวันนี้
“กลับก่อนเถอะ”
ตอนที่ 811 ถอยเพื่อรุ ก (1)
เมื่อเล่ยเฉิ นตื่นขึ้นก็เป็ นตอนเช้าวันรุ่ งขึ้นแล้ว พอลุกจากเตียงเขาก็
เรี ยกข้ารับใช้ให้เข้ามาช่วยเขาอาบนํ้าเปลี่ยนเสื้ อผ้า
“คุณชายจวินกับสหายของเขาตื่นรึ ยงั ?” เขาไม่ได้เมาขนาดนี้มานาน
แล้ว เล่ยเฉินยังคงรู ้สึกปวดหัวตุบ ๆ
“ตื่นแล้วพะย่ะค่ะ”
เล่ยเฉินพยักหน้าและสัง่ ให้ขา้ รับใช้ไปเชิญจวินเสี ยกับเพื่อนมา
รับประทานอาหารเช้าด้วยกัน
ในห้องอาหาร จวินอู๋เสี ยกับคนอื่น ๆ มาถึงแล้ว เล่ยเฉินมาถึงช้ากว่า
เล็กน้อย และเมื่อเขาเห็นจวินเสี ยกับคนอื่น ๆ ก็มีสีหน้ายินดีข้ ึนทันที
“เมื่อคืนหลับสบายดีไหม?”
“ดีมากเลย” จวินอู๋เสี ยพยักหน้า
“ดี ๆ ข้าไม่มีแขกมาพักที่วงั รัชทายาทมาพักใหญ่แล้ว เลยเกรงว่า
อาจจะจัดการที่พกั ได้ไม่ดีพอและทําให้ทุกคนไม่สะดวกสบาย” เล่ย
เฉินพูดพร้อมหัวเราะ
เชียวชูมองเล่ยเฉิ นอย่างระมัดระวังแล้วเคลื่อนตัวไปยืนข้าง ๆ ฮัว่
เหยา และพูดขึ้นด้วยเสี ยงที่ได้ยนิ กันแค่สองคนว่า “พี่ฮวั่ พี่วา่ น้อง
เสี ยจะทําอะไรต่อไป?”
ฮัว่ เหยาส่ ายหน้า
สิ่ งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ทาํ ให้แผนของจวินอู๋เสี ยต้องเปลี่ยนใหม่
ทั้งหมด หลังจากที่พวกเขากลับไปที่หอ้ งของตัวเอง พวกเขาก็ไม่รู้
ว่าจวินอู๋เสี ยคิดแผนการอื่นขึ้นมาให้พวกเขาอีกรึ เปล่า
ขณะที่คนอื่น ๆ กําลังคิดว่าพวกเขาจะทําอะไรต่อไป จวินอู๋เสี ยก็พดู
ขึ้นว่า “ฝ่ าบาท เรื่ องข่าวลือที่แพร่ ไปทัว่ เมืองหลวงเมื่อวานนี้ ท่านคิด
จะทํายังไงกับมัน?”
เล่ยเฉินชะงักไปครู่ หนึ่ง ไม่คิดว่าจวินเสี ยจะเอาเรื่ องข่าวลือมาพูดขึ้น
ในวันนี้
“นัน่ …ข้าจะส่ งคนไปอธิบายเรื่ องทั้งหมดเอง น้องชายจวินไม่ตอ้ ง
กังวลไป”
จวินอู๋เสี ยมองเล่ยเฉิ นนิ่ง แล้วตวัดสายตาไปที่ขา้ รับใช้ที่ยนื อยูข่ า้ ง
ห้อง “ขอฝ่ าบาทไล่ขา้ รับใช้ออกไปก่อนได้ไหม? ข้ามีเรื่ องอยากพูด
กับท่าน”
เล่ยเฉินเห็นสายตาที่จวินเสี ยส่ งมาก็เข้าใจความหมายของนาง
ในทันที หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะเมื่อคิดว่าจวินเสี ยมีเรื่ องส่ วนตัว
จะคุยกับเขา เขาสัง่ ให้ขา้ รับใช้ท้ งั หมดออกไปและปิ ดประตูตามหลัง
“น้องจวินต้องการอะไรจากข้างั้นหรื อ? ตอนนี้พดู ได้แล้วล่ะ” สี หน้า
ของเล่ยเฉินยิม้ แย้มอ่อนโยนแม้วา่ ในใจจะกระวนกระวายอยูก่ ต็ าม
เขาพยายามทําให้ศิษย์จากวายุประจิมกลายมาเป็ นพวกของเขาครั้ง
แล้วครั้งเล่า แต่พวกเขาไม่เคยแสดงความกระตือรื อร้นใด ๆ ต่อเขา
เลย เมื่อวานนี้จู่ ๆ พวกเขาก็เป็ นฝ่ ายมาเข้าพบที่วงั รัชทายาท แต่ก็
กลายเป็ นว่าพวกเขามาที่นี่กเ็ พราะข่าวลือที่แพร่ ไปทัว่ เมืองหลวง
ตอนแรกเขาก็กงั วลว่าข่าวลือพวกนั้นจะทําให้จวินเสี ยกับคนอื่น ๆ ที่
พยายามสร้างความรุ่ งโรจน์ของสํานักขึ้นมาใหม่จะไม่พอใจ แต่ดู
จากตอนนี้แล้ว มันอาจจะไม่แย่อย่างที่เขาคิดเอาไว้
จวินอู๋เสี ยมองรอยยิม้ คาดหวังบนใบหน้าของเล่ยเฉินแล้วถามขึ้น
ช้า ๆ ว่า “ฝ่ าบาทรู ้วา่ ใครคือคนที่แพร่ ขา่ วลือใช่หรื อไม่?”
เล่ยเฉินตัวแข็งทื่อ เขาคิดว่าจวินเสี ยขอให้เขาไล่ขา้ รับใช้ออกไปก็
เพราะอยากจะพูดคุยเรื่ องการเป็ นพันธมิตรหรื อตั้งใจจะทํางานรับใช้
เขา แต่จวินอู๋เสี ยกลับยังคุยเรื่ องข่าวลืออยู่ ทําให้เล่ยเฉิ นแสดงแววตา
สับสนออกมาอย่างไม่ได้ต้ งั ใจแวบนึง
เขารู ้ดีวา่ ใครเป็ นคนร้าย แต่เขาไม่สามารถบอกเล่ารายละเอียดใคร
ฟังได้
“เรื่ องนั้นยังอยูใ่ นการสอบสวน เรายังระบุตวั คนร้ายที่อยูเ่ บื้องหลัง
ไม่ได้”
จวินอู๋เสี ยก้มหน้าลงจิบชา กลิ่นหอมของชาอบอวลอยูใ่ นปากของ
นาง นางเงยหน้าขึ้นช้า ๆ สายตาเย็นยะเยือกราวทะเลสาบในฤดู
ใบไม้ร่วงนั้นจ้องมองไปยังเล่ยเฉิน
“ข่าวลือนั้นส่ งผลกระทบกับสํานักศึกษาวายุประจิมของเรา และเพื่อ
ไม่ให้ชื่อเสี ยงของสํานักต้องเสี ยหาย ข้ากับสหายของข้าไม่ควรจะ
ติดต่อใกล้ชิดกับฝ่ าบาทให้ผอู ้ ื่นเห็นบ่อย ๆ”
ใจของเล่ยเฉินหล่นไปกองอยูท่ ี่ตาตุ่ม จวินเสี ยตัดสัมพันธ์กบั เขางั้น
หรื อ? พอความคิดนั้นผุดขึ้นมาในหัว เล่ยเฉินก็ตื่นตระหนกขึ้นมา
ทันที เขาจะทําอะไรไม่ได้เลยถ้าไม่มีคนจากวายุประจิมพวกนี้
“น้องจวิน นัน่ ไม่ได้ช่วยอะไรใครได้เลยนะ ข้าปฏิบตั ิกบั พวกเจ้าทุก
คนที่มาจากวายุประจิมอย่างสุ ภาพและให้เกียรติเสมอมา ทําไมน้องจ
วินถึงอยากเปลี่ยนแผนของตัวเองเพียงเพราะข่าวลือไม่จริ งที่คนอื่น
พูดด้วยเล่า?” เล่ยเฉิ นพูดอย่างร้อนรน
ตอนที่ 812 ถอยเพื่อรุ ก (2)
“ยิง่ กว่านั้นข้าก็กาํ ลังจะจัดการเรื่ องที่เกิดขึ้นนี้เร็ ว ๆ นี้อยูแ่ ล้ว ข้า
ขอให้นอ้ งจวินโปรดวางใจว่าเรื่ องนี้จะจบลงในอีกไม่นาน รับรองว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบกับวายุประจิมอย่างแน่นอน
ข้ารู ้วา่ ตําแหน่งของวายุประจิมในตอนนี้ค่อนข้างอ่อนไหวมาก เรื่ อง
นี้จะไม่บานปลายไปกว่านี้แน่” สี หน้าของเล่ยเฉิ นเจือแววตระหนก
เล็กน้อย และนํ้าเสี ยงของเขาก็ฟังดูร้อนรนเช่นกัน
ฟ่ านจัว๋ สังเกตเห็นอาการปั่ นป่ วนไม่สบายใจของเล่ยเฉินทั้งหมด เขา
เหลือบมองจวินอู๋เสี ยด้วยหางตาอย่างระวัง พวกเขาเพิ่งค้นพบเมื่อ
คืนว่าแผนที่อยูก่ บั องค์จกั รพรรดิแห่งแคว้นหยาน และการที่พวกเขา
จะมีโอกาสเข้าใกล้องค์จกั รพรรดิได้น้ นั พวกเขามีเพียงเล่ยเฉินเป็ น
สะพานเชื่อมโยงเดียวเท่านั้น แต่จวินอู๋เสี ยกลับพูดแบบนั้นกับเล่ย
เฉินซึ่งเป็ นการบอกอย่างชัดเจนว่าพวกเขาอยากตัดสัมพันธ์กบั องค์
รัชทายาท
ท่าทีที่แตกต่างกันของเมื่อวานและวันนี้ทาํ ให้ฟ่านจัว๋ เลิกคิว้ ขึ้น
สายตามีแววสนใจแวบผ่าน เขามัน่ ใจว่าจวินอู๋เสี ยมีจุดประสงค์อยู่
ในใจเป็ นแน่
อย่างไรก็ตาม จวินอู๋เสี ยยังถามต่ออย่างไม่เร่ งรี บว่า “เรื่ องนี้จะจบ
แบบนั้นแน่รึ?” ตอนที่พดู ดวงตาเย็นชาของนางมองจ้องเล่ยเฉิ น
ตรง ๆ โดยไม่ละสายตาเลย
คําพูดที่เล่ยเฉินคิดจะพูดก็พลันติดอยูท่ ี่ลาํ คอ ดวงตาคู่น้ นั ดูเหมือนจะ
มองทะลุทุกสิ่ งทุกอย่าง
“นี่ขนาดภายในเมืองหลวงของแคว้นหยานเองแท้ ๆ ก็ยงั สามารถ
กระจายข่าวลือที่สร้างความเสี ยหายให้แก่ฝ่าบาทที่เป็ นถึงองค์รัช
ทายาทได้ ตัวตนของคนผูน้ ้ นั ต้องเป็ นคนที่มีภูมิหลังไม่ธรรมดาเป็ น
แน่ ท่านไม่คิดเช่นนั้นหรื อ? ถ้าฝ่ าบาทมีวธิ ีจดั การกับมันจริ ง ๆ ฝ่ า
บาทก็คงไม่ตกอยูใ่ นสภาพเช่นนี้หรอก องค์รัชทายาทไม่รู้วา่ ใครคือ
คนร้ายจริ ง ๆ งั้นหรื อ? หรื อว่า…ท่านกลัวที่จะพูดกันแน่?” เสี ยง
ของจวินอู๋เสี ยอบอุ่นอ่อนโยนแต่เจือด้วยแววเย็นชาอยูเ่ ล็กน้อย และ
ในเช้าที่หนาวเย็นเช่นนั้น คําพูดอันเย็นชาพวกนั้นแทบจะทําให้
ร่ างกายรู ้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บ
เล่ยเฉินเบิกตากว้างพลางจ้องมองจวินเสี ยอย่างเหลือเชื่อ ทุกคําที่จ
วินเสี ยพูดออกมา ทั้งหมดนั้นดูเหมือนว่า…กําลังบอกเขาว่าจวินเสี ย
รู ้บางอย่างเบื้องหลังเรื่ องทั้งหมดนี้…
เป็ นไปไม่ได้!
ทุกการกระทําที่คนผูน้ ้ นั ได้ทาํ ลงไป นอกจากท่านมหาอํามาตย์กบั
ตัวเขาเองแล้ว เป็ นไปไม่ได้ที่จะมีใครล่วงรู ้ แล้วจวินเสี ยอยูใ่ นเมือง
หลวงนี่มานานเท่าไรกัน? และจวินเสี ยยังไม่เคยพบกับคนผูน้ ้ นั มา
ก่อนด้วย เขาจะรู ้เรื่ องนี้ได้อย่างไร?
“น้องจวินพูดเรื่ องอะไรเนี่ย? ข้าไม่เข้าใจจริ ง ๆ” เล่ยเฉินหัวเราะ
เจื่อน ๆ พยายามที่จะหลบตา เขาไม่สามารถมองสบตาที่ดูเหมือนจะ
มองทะลุทุกอย่างของจวินเสี ยได้
จวินอู๋เสี ยไม่ใส่ ใจว่าเล่ยเฉินกําลังหลบเลี่ยงนาง “ถ้านี่เกี่ยวข้องกับ
คนอื่น ข้าก็จะไม่เสี ยเวลาถามหรอก แต่ในเมื่อมันเกี่ยวข้องสํานัก
ศึกษาวายุประจิมของเรา การตัดสิ นใจของฝ่ าบาทจะส่ งผลต่อ
ชื่อเสี ยงของวายุประจิมโดยตรงเช่นกัน ยิง่ กว่านั้นข้าไม่เชื่อว่าฝ่ า
บาทจะสามารถจัดการอะไรกับคนผูน้ ้ นั ได้”
หัวใจของเล่ยเฉินเต้นรัว สายตาของเขาจับจ้องอยูท่ ี่ขอบโต๊ะ คลื่น
อารมณ์โหมกระหนํ่าอยูภ่ ายในหลังจากได้ยนิ คําพูดของจวินเสี ย
“ถ้าฝ่ าบาทอยากจะเป็ นเพื่อนกับพวกเราจริ ง ๆ ก็ไม่จาํ เป็ นต้อง
ปกปิ ดอีกแล้ว ถ้าเราเป็ นพันธมิตรกัน เรื่ องมันจะดีข้ ึนถ้ารู ้ทุกอย่าง
อย่างชัดเจน เราจะได้ร่วมมือกันคิดหาวิธีแก้ไขสถานการณ์” คําพูด
ของจวินอู๋เสี ยพลิกกลับทันควัน นางเกี่ยวเหยือ่ แล้วเหวีย่ งเบ็ด
ออกไป
เล่ยเฉินหันไปมองจวินเสี ยทันทีดว้ ยสี หน้าแปลก ๆ
“พวกเจ้าจะช่วยข้ารึ ?”
จวินอู๋เสี ยเลิกคิว้ ขึ้นข้างหนึ่ง “แล้วฝ่ าบาทคิดว่าที่พวกเราทุกคนยัง
นัง่ อยูท่ ี่นี่เพราะอะไรกันล่ะ?”
เล่ยเฉินรู ้สึกได้วา่ เซลล์ทุกเซลล์ในร่ างกายของเขากําลังเดือดพล่าน
เขาพยายามที่จะควบคุมตัวเองอย่างเต็มที่ ความตื่นเต้นกําลังเปี่ ยมล้น
อยูใ่ นใจเขา “ทําไมล่ะ? น้องจวินดูเหมือนไม่สนใจที่จะทํางานกับข้า
เอาเลยนี่นา อย่างน้อยข้าก็เห็นได้อย่างชัดเจนนะ แล้วทําไมถึง
เปลี่ยนใจซะล่ะ?”
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “เรื่ องทั้งหมดนี้มนั รบกวนข้านี่นา ถ้าเรื่ องมันพุง่
ตรงไปที่ฝ่าบาทคนเดียว ข้าก็ไม่เข้าไปยุง่ หรอก แต่ในเมื่ออีกฝ่ ายลาก
เอาวายุประจิมเข้ามาเกี่ยวพันด้วย เราก็จะไม่อยูเ่ ฉย ๆ แน่”
เล่ยเฉินยืนขึ้นทันที เขาหันมองไปรอบ ๆ เพือ่ ให้แน่ใจว่าประตู
หน้าต่างปิ ดสนิทแน่นหนาดีอยู่ เมื่อแน่ใจแล้วเขาก็หนั กลับมาด้วย
สายตาเคร่ งเครี ยดจริ งจัง เขามองดูผเู ้ ยาว์ทุกคนที่นงั่ อยูท่ ี่โต๊ะอย่าง
ช้า ๆ ทีละคน คล้ายกับว่ากําลังค้นหาอะไรบางอย่าง…
ตอนที่ 813 ถอยเพื่อรุ ก (3)
“ข้าจะถามเป็ นครั้งสุ ดท้าย พวกเจ้าทุกคนเต็มใจจะช่วยข้าจริ ง ๆ
หรื อ?” เล่ยเฉินถามด้วยสี หน้ากระวนกระวาย
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า
ทันใดนั้นเล่ยเฉินก็ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้พร้อมกับอ้าปากหายใจ ไม่รู้วา่
เป็ นเพราะเขาวิตกกังวลมากเกินไปหรื อเพราะได้ยกก้อนหิ นใหญ่
ออกจากอก เขาไม่รีบร้อนที่จะพูด เพียงแค่มองดูจวินเสี ย ฮัว่ เหยา
และคนอื่น ๆ ทีละคน พยายามจะให้แน่ใจว่าทุก ๆ คนจริ งจังมากแค่
ไหนจากสี หน้าของพวกเขา
แม้วา่ คนพวกนี้จะสําคัญต่อเขามาก แต่เขาสามารถเชื่อใจพวกเขาได้
จริ งหรื อ?
“ในเมื่อน้องจวินรู ้แล้วว่าใครคือคนร้าย ก็คงรู ้ถึงตัวตนของคนผูน้ ้ นั
แล้วซินะ เช่นนั้นเจ้าก็ตอ้ งรู ้แก่ใจดีแล้วว่าในฐานะองค์รัชทายาท ข้า
ก็เป็ นแค่เด็กคนหนึ่งที่ถูกใช้เป็ นหุ่นเชิดในสายตาเขาเท่านั้น ทั้งยศ
ตําแหน่งและอํานาจ ข้าด้อยกว่าเขาทั้งหมด ถ้าน้องจวินมีสิ่งที่อยาก
ได้จากข้า คนผูน้ ้ นั ย่อมสามารถให้เจ้าได้มากกว่าที่ขา้ ทําได้ ถึงอย่าง
นั้นพวกเจ้าทุกคนก็ยงั อยากจะช่วยข้างั้นรึ ?” เล่ยเฉิ นถามพร้อมกับ
มองจวินเสี ยตรง ๆ เขาเข้าใจแล้วว่าในกลุ่มผูเ้ ยาว์จากวายุประจิมนี้
คนที่เป็ นผูน้ าํ ของทุกคนก็คือ จวินเสี ย คนที่เด็กที่สุดในกลุ่ม
นํ้าเสี ยงของเล่ยเฉินเปลี่ยนไปจากเดิม ยิม้ น้อยลง แทนที่ดว้ ยความ
เคร่ งขรึ มจริ งจัง
คําพูดของเขาทําให้เชียวชูทาํ ตาโตอย่างประหลาดใจและเต็มไปด้วย
ความสับสน
[จวินอู๋เสี ยรู ้ตวั คนร้ายที่เล่นงานองค์รัชทายาทแล้วเหรอ? แล้วทําไม
ไม่มีใครรู ้เรื่ องนี้เลยล่ะ?]
เชียวชูหนั ไปมองจวินอู๋เสี ยด้วยสายตาสับสนงุนงง แต่จวินอู๋เสี ยกลับ
ไม่ใส่ ใจแม้แต่จะเหลือบหางตามองมาสักนิด เชียวชูพยายามเค้น
สมองนึกแต่ไม่วา่ จะคิดเท่าไรเขาก็จาํ ไม่ได้วา่ เมื่อวานจวินอู๋เสี ยเคย
พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่ องที่รู้ตวั คนร้ายที่เล่นงานองค์รัชทายาท!
เขากําลังจะอ้าปากกระซิบถามฮัว่ เหยา แต่ฮวั่ เหยาก็จอ้ งมาที่เขาแล้ว
เบนสายตาไปทางอื่น
“ข้าไม่ไปจัดการกับคนที่ไม่ได้เล่นงานข้าหรอก จริ งที่วา่ ตอนแรก
สํานักศึกษาวายุประจิมไม่ได้คิดที่จะทํางานกับฝ่ าบาทมาก่อน และ
เราไม่จาํ เป็ นจะต้องกลัวใคร ที่เราเป็ นพันธมิตรกันตอนนี้กไ็ ม่ใช่ดว้ ย
เหตุผลอื่นเลยนอกจากเพราะอีกฝ่ ายใช้วายุประจิมของเราเป็ น
เครื่ องมือสร้างปัญหา ถึงแม้วายุประจิมจะไม่ได้ยงิ่ ใหญ่และเป็ นที่
เคารพนับถือเหมือนเมื่อก่อน แต่พวกเราก็ไม่ใช่พวกขี้แพ้ที่จะปล่อย
ให้ตวั เองถูกชักใยได้ง่าย ๆ” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับหัวเราะเย็นยะ
เยือก
ดวงตาของเล่ยเฉินจับจ้องอยูท่ ี่จวินเสี ย เป็ นความจริ งที่ก่อนเมื่อวาน
จวินเสี ยกับคนอื่น ๆ ไม่เคยเป็ นฝ่ ายเข้าพบเขาเลยสักครั้ง มีเพียงหลัง
เกิดเรื่ องขึ้นเท่านั้นที่พวกเขาทําตรงข้ามกับที่เคยทําตามปกติ
“ถ้าเป็ นเช่นนั้นจริ ง ก็โปรดรับการคารวะจากเล่ยเฉิ นผูน้ ้ ีดว้ ย!” เล่ย
เฉินยืนขึ้นและโดยไม่พดู อะไรอีก เขาทําการคารวะจวินเสี ยกับคน
อื่น ๆ ด้วยการโค้งตัวตํ่าจนถึงเอว
แม้กระทัง่ ต่อหน้าการคารวะครั้งใหญ่ที่แสดงถึงความนอบน้อมจาก
องค์รัชทายาท จวินอู๋เสี ยก็ยงั ไม่ขยับเขยื้อน นัง่ รับการคารวะที่แสดง
ถึงความขอบคุณนั้นอย่างง่ายดาย
“ขอให้แขกผูม้ ีเกียรติของข้ารอสักครู่ ข้ามีบางอย่างอยากจะให้พวก
ท่านได้เห็น” เล่ยเฉินยืดตัวขึ้นและออกจากห้องอาหารไปในทันที
หลังจากเล่ยเฉินออกไปแล้ว เชียวชูที่อดรนทนไม่ได้อีกต่อไปก็หนั
ไปหาจวินอู๋เสี ยทันที แล้วถามขึ้นอย่างร้อนใจว่า “น้องเสี ย! ใครเป็ น
คนเล่นงานองค์รัชทายาทเหรอ? แล้วเจ้ารู ้ได้ยงั ไงน่ะ?”
จวินอู๋เสี ยยกถ้วยชาขึ้นจิบช้า ๆ ก่อนจะพูดว่า “ข้าไม่รู้หรอก”
“ห๊ะ!?” เชียวชูถึงกับพูดอะไรไม่ออก
[ไม่รู้ง้ นั เหรอ!?]
“ข้าแค่ตบตาเขาเท่านั้น” จวินอู๋เสี ยตอบพร้อมกับหันไปมองเชียวชู
นิ่ง ๆ
“…” [ตบตา…] เชียวชูจอ้ งมองจวินอู๋เสี ยตาโตเท่าไข่ห่าน ทุกคําพูด
ของจวินอู๋เสี ยทั้งเฉี ยบขาดและตรงประเด็น ต้อนเล่ยเฉินไปเรื่ อย ๆ
อย่างต่อเนื่อง กระทัง่ ตัวเขาเองก็ยงั ตื่นเต้นมาก! แต่วา่ …
[นางหลอกตบตาเล่ยเฉินมาตลอดเลยเหรอ?]
“งั้น…งั้นก็…” เชียวชูเริ่ มติดอ่าง
จวินอู๋เสี ยรู ้วา่ เขาอยากถามอะไร นางจึงตอบเขาไปตรง ๆ “ไม่
จักรพรรดิกอ็ งค์ชายสี่ นนั่ แหละ จะให้เล่ยเฉินเชื่อว่าเราตั้งใจช่วยเขา
จริ ง ๆ เราก็ตอ้ งทําให้เขาคิดว่าเรารู ้ตวั คนร้ายแล้ว และเราก็ไม่สนใจ
เรื่ องยศตําแหน่งอะไรของเขา เขาถึงจะยอมเชื่อ”
ตอนที่ 814 ถอยเพื่อรุ ก (4)
“เจ้ารู ้ได้ยงั ไงว่าถ้าไม่ใช่องค์จกั รพรรดิกเ็ ป็ นองค์ชายสี่ น่ะ? องค์
จักรพรรดิ…ยังไงก็เป็ นพ่อของเล่ยเฉิ นนะ ถึงแม้เล่ยเฉิ นจะดูวา่ มี
ความคิดเป็ นของตัวเอง แต่เขาก็ยงั ทําหน้าที่ในฐานะองค์รัชทายาท
ได้ดี อย่างน้อยดูเผิน ๆ เขาก็ทาํ ได้ค่อนข้างดีนะ ทําไมองค์จกั รพรรดิ
ถึงจะ…ทําแบบนี้กบั เขาล่ะ?” เชียวชูกาํ ลังรู ้สึกว่าตัวเองอาจจะใช้งาน
สมองมากเกินไปหน่อย
จวินอู๋เสี ยนิ่งเงียบไปครู่ หนึ่งก่อนจะถามขึ้นว่า “เจ้ารู ้รึเปล่าว่าใครคือ
จักรพรรดิของแคว้นฉี ?”
เชียวชูคิดแล้วตอบว่า “ข้ารู ้ คนที่เคยเป็ นองค์รัชทายาทใช่ไหม?”
เนื่องจากจวินอู๋เสี ยคือคุณหนูแห่งวังหลินของแคว้นฉี ดังนั้นกระทัง่
เชียวชูกเ็ คยได้ยนิ เรื่ องของแคว้นฉีมาบ้าง
“งั้นเจ้ารู ้ไหมว่าตอนที่เขาเป็ นองค์รัชทายาท แม่ของเขากับตระกูล
ทางฝั่งแม่ท้ งั หมดถูกสังหารโดยจักรพรรดิองค์ก่อน?” จวินอู๋เสี ยถาม
“จะเป็ นไปได้ยงั ไง?” เชียวชูถาม ดวงตาเบิกกว้าง
“ไม่มีอะไรเป็ นไปไม่ได้” จวินอู๋เสี ยพูดด้วยสี หน้าเรี ยบเฉยราวกับ
กําลังบอกเล่าเรื่ องราวที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองเลยแม้แต่นอ้ ย “จักรพรรดิ
องค์ก่อนไม่ชอบองค์รัชทายาท เขาวางแผนจะทําให้องค์ชายรองขึ้น
เป็ นรัชทายาทของเขา แต่เนื่องจากเขาห่วงเรื่ องชื่อเสี ยงในสายตา
ประชาชน ก็เลยไม่สามารถกําจัดองค์รัชทายาทได้อย่างโจ่งแจ้ง ก็
เลยใช้วธิ ีลอบวางแผนร้ายแทน ในขณะที่เขาผลักองค์รัชทายาทไปสู่
ความตายอย่างช้า ๆ เขาก็ยงั ทําลายชื่อเสี ยงขององค์รัชทายาทใน
สายตาของประชาชนอีกด้วย พร้อม ๆ กับดันองค์ชายรองให้ข้ ึนมา
ถ้าไม่ใช่เพราะเกิดเรื่ องไม่คาดคิดขึ้น จักรพรรดิแห่งแคว้นฉี
ในตอนนี้กค็ งเป็ นอีกคนไปแล้ว”
ความลับอันสลับซับซ้อนภายในวังหลวง นัน่ เป็ นครั้งแรกที่เชียวชู
กับคนอื่น ๆ ได้ฟังเรื่ องราวเช่นนี้ ถึงแม้จวินอู๋เสี ยจะเล่าด้วยนํ้าเสี ยง
เรี ยบนิ่งก็ตาม แต่คนอื่น ๆ ก็พากันตกใจกลัวเมื่อได้ฟัง
“ในฐานะองค์รัชทายาท…เขาต้องมีชีวติ ที่อนั ตรายและอับจน
หนทางอย่างนั้นเลยหรื อ?” แค่คิดเชียวชูกร็ ู ้สึกเห็นใจองค์จกั รพรรดิ
แห่งแคว้นฉีในตอนนี้เป็ นอย่างมาก
ฟ่ านจัว๋ กลับมองจวินอู๋เสี ยอย่างใช้ความคิดแล้วพูดว่า “เจ้าคิดว่าเล่ย
เฉินจะตกอยูส่ ถานการณ์เหมือนที่องค์จกั รพรรดิแห่งแคว้นฉีเคย
โดนมาก่อนงั้นหรื อ?”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าช้า ๆ “ตอนแรกข้าก็ไม่แน่ใจ แต่เมื่อวานนี้ขา้
ยืนยันได้แล้ว ศึกประลองวิญญาณปี นี้เป็ นกับดักที่จกั รพรรดิแห่ง
แคว้นหยานวางไว้เพื่อโค่นองค์รัชทายาท”
“แต่ทาํ ไมเขาต้องทําอย่างนั้นด้วยล่ะ? องค์จกั รพรรดิมีลูกชาย 4 คน
นอกจากองค์รัชทายาท องค์ชายรองก็โง่ท่ ึม องค์ชายสามก็อ่อนแอขี้
ขลาด ส่ วนองค์ชายสี่ กย็ งั เด็กเกินไป นอกจากนั้นทั้งองค์ชายสี่ กบั เล่ย
เฉินก็ถูกจักรพรรดินีที่เป็ นแม่แท้ ๆ ของเล่ยเฉินเลี้ยงมา ในขณะที่
องค์ชายสี่ เกิดจากสนมตํ่าต้อยคนหนึ่งเท่านั้น ต่อให้องค์จกั รพรรดิ
อยากจะเปลี่ยนผูส้ ื บทอดบัลลังก์จริ ง ๆ มันก็ไม่มีตวั เลือกที่ดีกว่า
เหลืออยูแ่ ล้ว!” เฟยหยานพูดแทรกขึ้นมา บรรยายคุณสมบัติขององค์
ชายทั้งสี่ แห่งแคว้นหยานอย่างรวดเร็ ว และได้ขอ้ สรุ ปว่านอกจากเล่ย
เฉินก็ไม่มีใครเหมาะสมอีกแล้วจริ ง ๆ
“การสถาปนารัชทายาทผูส้ ื บทอดบัลลังก์คนใหม่ไม่ใช่สิ่งที่ทาํ ได้ใน
เวลาสั้น ๆ ถึงแม้องค์ชายสี่ จะยังเด็กอยู่ แต่อีกไม่กี่ปีเขาจะกลายเป็ น
ผูม้ ีคุณสมบัติที่เหมาะสม ถึงเวลานั้นชื่อเสี ยงขององค์รัชทายาทก็ตก
ตํ่าลงแล้ว มันก็จะเป็ นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการดันองค์ชายสี่ ข้ ึน”
จวินอู๋เสี ยพูดนิ่ง ๆ
“องค์ชายสี่ เหรอ? เจ้าคิดจริ ง ๆ เหรอว่าเป็ นเขา?” ฮัว่ เหยาถามพร้อม
กับขมวดคิ้ว
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า “ข้าเดาว่าเล่ยเฉินก็รู้เหมือนกัน ไม่ง้ นั เขาคงไม่
หลบเลี่ยงองค์ชายสี่ ขนาดนั้น”
แค่เพราะองค์ชายสี่ อยูใ่ นวังของจักรพรรดินี เล่ยเฉินก็เลือกที่จะไม่
เข้าไปคารวะองค์จกั รพรรดินี ระดับความรังเกียจที่แสดงออกมาใน
เหตุการณ์น้ นั ไม่อาจจะชัดมากไปกว่านี้ได้แล้ว
“แต่ต่อให้องค์จกั รพรรดิมีความตั้งใจเช่นนั้น ข้าก็คิดว่าองค์
จักรพรรดินีไม่น่าจะเห็นด้วย ตระกูลขององค์จกั รพรรดินีแห่ง
แคว้นหยานมีตาํ แหน่งระดับสู งและอํานาจของพวกเขาก็
ค่อนข้างมากทีเดียว เล่ยเฉินเป็ นลูกชายแท้ ๆ ขององค์จกั รพรรดินี
จะเป็ นไปได้อย่างไรที่องค์จกั รพรรดินีจะเห็นองค์ชายสี่ ที่เป็ นบุตร
บุญธรรมดีกว่า และปล่อยให้องค์จกั รพรรดิดาํ เนินแผนการทําร้าย
ลูกชายของตัวเองโดยไม่พดู อะไรเลย?” ฟ่ านจัว๋ ยังเห็นว่ามีบางส่ วน
ของเรื่ องนี้ที่ขาดหายไป
ตอนที่ 815 ความลับของวังหลัง (1)
“แม้วา่ จะยังมีเรื่ องที่ไม่สอดคล้องกันอยู่ แต่นนั่ ก็ไม่น่าไกลไปจาก
ความจริ งนักหรอก” จวินอู๋เสี ยแน่ใจในข้อสรุ ปของตัวเอง ไม่วา่ จะ
จากวิธีที่ข่าวลือเริ่ มต้นขึ้นหรื อจากคําพูดของเล่ยเฉินในการซักถาม
เมื่อวาน
“เพื่อให้ได้คาํ ตอบสุ ดท้ายมา เราต้องให้เล่ยเฉิ นเล่ามันออกมาด้วย
ตัวเอง และเพื่อให้เขาเต็มใจเปิ ดเผยกับเรา ก็มีแต่การเป็ นพันธมิตร
กับเขาเท่านั้นแหละ” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับวางถ้วยชาในมือลง
ฟ่ านจัว๋ พยักหน้า “เพราะงั้นตอนแรกเจ้าก็ถอยเพื่อล่อเขาเข้ามา และ
สุ ดท้ายก็บีบคั้นให้เขาเป็ นพันธมิตรกับเจ้า”
หลังเหตุการณ์เมื่อวาน จวินอู๋เสี ยก็ไม่คิดที่จะตัดสัมพันธ์กบั เล่ยเฉิน
อีก เพื่อหาแผนที่ทางเดียวที่เหลืออยูส่ าํ หรับพวกเขาก็คือใช้เล่ยเฉิ น
ทุกสิ่ งที่นางทําลงไปก็เพื่อดึงเอาความรู ้สึกในใจของเล่ยเฉิ นออกมา
ทําให้เขาตื่นกลัว ทําให้เขาเห็นว่าเขาไม่สามารถทําอะไรได้ถา้ ไม่มี
สํานักศึกษาวายุประจิม
หลังจากนั้นไม่นาน เล่ยเฉิ นก็กลับมาอย่างรี บเร่ งพร้อมกับถือกล่อง
ไหมทองเข้ามาด้วย
“นัน่ อะไรน่ะ?” หลงลัว่ ถาม
รอยยิม้ บนใบหน้าของเล่ยเฉินหายไป เขาเปิ ดกล่องออก และภายใน
นั้นคือจดหมายที่เขียนด้วยเลือด ตัวอักษรสี แดงบนจดหมายเลือดทํา
ให้เขาตาแดงกํ่า เขาเอามันไปไว้ตรงหน้าจวินอู๋เสี ยกับคนอื่น ๆ
จวินอู๋เสี ยมองจดหมายนัน่ ด้วยแววตาสงสัย
แล้วความไม่สอดคล้องกันที่จวินอู๋เสี ยกับฟ่ านจัว๋ คุยกันเมื่อครู่ กถ็ ูก
ทําให้กระจ่างด้วยจดหมายเลือดฉบับนี้
“ใครให้สิ่งนี้กบั ท่าน?” จวินอู๋เสี ยถามขณะเงยหน้าขึ้นมองเล่ยเฉิ น
เล่ยเฉินยิม้ อย่างขมขื่น “นางกํานัลขององค์จกั รพรรดินี หรื อข้าควร
จะเรี ยกว่า…แม่แท้ ๆ ของข้า”
เมื่อได้ยนิ คําพูดของเล่ยเฉิน เชียวชูกบั คนอื่น ๆ ที่ไม่เห็นข้อความใน
จดหมายเลือดก็พลันเบิกตากว้าง
เล่ยเฉินพูดว่า “พูดไปก็ตลกดีนะ องค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยาน
แท้จริ งแล้วเป็ นลูกไม่มีพอ่ ที่ไม่มีสายเลือดราชวงศ์อยูเ่ ลย แม่ของข้า
เป็ นนางกํานัลรับใช้องค์จกั รพรรดินีมาตั้งแต่ยงั เด็ก ตอนนั้นองค์
จักรพรรดินีได้ให้กาํ เนิดบุตรชายและในช่วงเวลาเดียวกันแม่ของข้า
ได้ลกั ลอบมีสมั พันธ์กบั ทหารรักษาการณ์คนหนึ่งและคลอดข้า
ออกมา องค์จกั รพรรดินีอยากจะประหารนางแต่โอรสของพระนาง
เกิดก่อนกําหนดและตายหลังจากคลอดออกมาได้ไม่กี่วนั เพื่อรักษา
ตําแหน่งจักรพรรดินีเอาไว้ พระนางจึงเอาตัวข้าไปเลี้ยงเป็ นลูก
ตลอดหลายปี มานี้ ข้าคิดว่าองค์จกั รพรรดินีคือแม่ที่แท้จริ งของข้า
จนกระทัง่ …น้องสี่ เกิดมา ตอนนั้นเองที่ขา้ ได้พบว่าทุกอย่างที่ผา่ นมา
คือเรื่ องโกหกทั้งเพ”
เล่ยเฉินไม่ได้เกิดจากองค์จกั รพรรดินี องค์จกั รพรรดินีแค่ปล่อยให้
เขากับแม่แท้ ๆ ของเขามีชีวติ อยูเ่ พื่อรักษาตําแหน่งจักรพรรดินีของ
นางเอาไว้ เนื่องจากเขาเป็ นลูกคนเดียวของนาง องค์จกั รพรรดินีจึง
ให้ความรักความห่วงใยแก่เล่ยเฉินอย่างมากมาย คนภายนอกคิดมา
ตลอดว่าองค์จกั รพรรดิและจักรพรรดินีรักใคร่ กนั อย่างลึกซึ้ ง ไม่มี
ใครรู ้วา่ ผูห้ ญิงที่องค์จกั รพรรดิรักอย่างแท้จริ งไม่ใช่จกั รพรรดินี แต่
เป็ นนางกํานัลที่รับใช้องค์จกั รพรรดิมาตั้งแต่เด็ก หลังจากที่องค์
จักรพรรดิข้ ึนครองราชย์ เขาก็ยา้ ยนางกํานัลคนนั้นเข้าวังหลังใน
ฐานะพระสนม และให้ความรักความโปรดปรานและเอาอกเอาใจ
นางอย่างมากมาย นางกํานัลคนนั้นได้ให้กาํ เนิดเด็กชายคนหนึ่งเมื่อ
10 กว่าปี ที่แล้ว แต่นางตายจากภาวะแทรกซ้อนในการให้กาํ เนิดบุตร
เด็กทารกคนนั้นถูกองค์จกั รพรรดินีรับเลี้ยงเอาไว้อย่างใจกว้าง แต่
ความตั้งใจที่แท้จริ งของนางก็เพื่อใช้เด็กข่มขู่องค์จกั รพรรดิ หลังจาก
ที่เด็กคนนั้นถูกองค์จกั รพรรดินีเอาตัวไปได้ไม่นาน พระนางก็จบั
เด็กถ่วงนํ้าในสระบัวจนตาย และองค์ชายสี่ เล่ยฟ่ าน ในตอนนี้กค็ ือ
ลูกนอกสมรสระหว่างองค์จกั รพรรดินีกบั อัครมหาเสนาบดีของ
แคว้นหยาน…
จักรพรรดิแห่งแคว้นหยานไม่รู้เรื่ องนี้เลยแม้แต่นอ้ ย เขาคิดอยูเ่ สมอ
ว่าเล่ยฟ่ านคือลูกของเขากับผูห้ ญิงที่เขารักมากที่สุด เขาตามใจเด็ก
คนนั้นมาตั้งแต่เล็ก และองค์จกั รพรรดินีกด็ ูเหมือนจะชอบเด็กคน
นั้นด้วย จึงตามใจเขาไม่ต่างกัน นัน่ ทําให้องค์จกั รพรรดิดีใจเป็ น
อย่างมากซึ่งทําให้ตาํ แหน่งจักรพรรดินีของนางมัน่ คงยิง่ ขึ้น แต่เมื่อ
ทั้งความสนใจและความหวังทั้งหมดขององค์จกั รพรรดิและ
จักรพรรดินีอยูท่ ี่เล่ยฟ่ าน เล่ยเฉินที่เป็ นแค่เครื่ องมือขององค์
จักรพรรดินีกก็ ลายเป็ นตัวเกะกะขวางหูขวางตาของคนทั้งคู่!
ตอนที่ 816 ความลับของวังหลัง (2)
องค์จกั รพรรดิคิดว่าเล่ยฟ่ านคือลูกแท้ ๆ ของเขา และเขาไม่พอใจที่
เล่ยเฉินคือองค์รัชทายาทมาตลอด เนื่องจากเขาอยากให้ลูกของเขา
กับผูห้ ญิงที่เขารักมากที่สุดได้ตาํ แหน่งรัชทายาท ซึ่ งองค์จกั รพรรดินี
เองก็ยนิ ดียงิ่ นัก มีเพียงนางที่รู้วา่ เล่ยเฉิ นเป็ นเพียงเจ้าเด็กบัดซบที่เกิด
จากการลักลอบมีความสัมพันธ์กนั ระหว่างนางกํานัลและทหาร
ขณะที่เล่ยฟ่ านซึ่งเป็ นที่โปรดปรานขององค์จกั รพรรดิคือลูกของ
นางกับชูร้ ักของนาง ความเกลียดชังจากความเมินเฉยเย็นชาที่นาง
ได้รับจากองค์จกั รพรรดิมาตลอดหลายปี เพิ่มพูนขึ้น องค์จกั รพรรดินี
ได้แต่หวังให้องค์จกั รพรรดิได้รับเจ็บปวดทรมานจากการกระทํา
ของเขาเอง
และเล่ยเฉินที่อยูต่ รงกลางระหว่างแผนร้ายของคนทั้งคู่กต็ อ้ งถูก
สังเวยให้กบั ความขัดแย้งและแผนการร้ายของพวกเขา
การที่เล่ยฟ่ านโตขึ้นเรื่ อย ๆ และด้วยการยินยอมอย่างเงียบ ๆ ของ
องค์จกั รพรรดินี องค์จกั รพรรดิจึงเริ่ มลงมือเล่นงานเล่ยเฉิน การวาง
ภาระหน้าที่ท้ งั หมดในการเป็ นเจ้าภาพศึกประลองวิญญาณในปี นี้
ให้แก่เล่ยเฉินเป็ นคนจัดการเป็ นเพียงขั้นแรกของแผนการโค่นเล่ย
เฉินลงจากตําแหน่ง
เมื่อเล่ยเฉิ นทําความผิดพลาดในศึกประลองวิญญาณ องค์จกั รพรรดิ
จะมีเหตุผลที่ดีในการจัดการกับเขา และก่อนที่เล่ยฟ่ านจะโตพอ เล่ย
เฉินจะถูกดึงลงจากตําแหน่งองค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยาน!
“จดหมายฉบับนี้คือสิ่ งที่แม่แท้ ๆ ของข้าทิ้งไว้ให้ก่อนตาย นางยังอยู่
รับใช้องค์จกั รพรรดินีมาตลอดแต่ขา้ ไม่เคยรู ้เลย ข้าไปที่วงั ขององค์
จักรพรรดินีมานับครั้งไม่ถว้ น แต่ไม่เคยพบนางเลยสักครั้ง ไม่รู้เลย
ว่าข้าได้เรี ยกฆาตกรว่าแม่มาตลอด” เสี ยงของเล่ยเฉินแหบเครื อ เขา
ส่ ายหน้าหัวเราะอย่างขมขื่นให้ตวั เอง
องค์จกั รพรรดินีกงั วลว่าความลับจะถูกเปิ ดเผย และได้ยดั เยียด
ความผิดให้แก่แม่แท้ ๆ ของเล่ยเฉินและโบยนางจนถึงแก่ความตาย
เมื่อหลายปี ก่อน จนกระทัง่ แม่ตาย เล่ยเฉินก็ยงั ไม่รู้วา่ คนผูน้ ้ นั คือแม่
แท้ ๆ ของเขา ตอนนั้นเล่ยเฉินยังพักอยูใ่ นวังหลวงและเขาจะไปที่วงั
ขององค์จกั รพรรดินีบ่อย ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่อยูท่ ี่วงั ขององค์
จักรพรรดินี เขาได้พบจดหมายฉบับนี้ถูกซ่อนอยูใ่ นหมอนของเขา
และได้เข้าใจทุกอย่าง ในที่สุดเขาก็รู้วา่ ทําไมหลังจากเล่ยฟ่ านเกิดมา
องค์จกั รพรรดินีถึงไม่เมตตาเขาขึ้นมาอย่างกะทันหัน…
ฮัว่ เหยากับคนอื่น ๆ ได้อ่านข้อความในจดหมายที่เขียนด้วยเลือด
ทั้งหมด พวกเขาต่างรู ้สึกเศร้ากับโศกนาฏกรรมเบื้องหลังการ
วางแผนร้ายในวัง พวกเขาไม่คิดว่าจะมีแผนการชัว่ ร้ายขนาดนี้อยูใ่ น
วังหลัง ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าการวิเคราะห์สถานการณ์ของจ
วินอู๋เสี ยไม่ใช่การคิดไปเอง
ที่มนั แม่นยําขนาดนี้กเ็ พราะนางเคยผ่านเหตุการณ์ที่โม่เฉียนหยวน
เคยตกเป็ นเหยือ่ มาแล้ว นางจึงไม่เห็นว่าเหตุการณ์เช่นนี้เป็ นเรื่ อง
แปลกอีกต่อไป
“การต่อสู เ้ พื่อให้ได้อาํ นาจสู งสุ ดภายในวังหลังมักจะเต็มไปด้วย
แผนการสมคบคิดอันชัว่ ร้าย แต่ขา้ ว่ามันน่าหัวเราะ ข้าไม่ใช่คนใน
ราชวงศ์ที่แท้จริ งด้วยซํ้า แต่เพราะความต้องการที่เห็นแก่ตวั ของ
จักรพรรดินีเพียงคนเดียว ข้าต้องถูกลากเข้ามาติดอยูใ่ นวังวนอัน
โสมมเช่นนี้” หลังจากเล่ยเฉิ นได้รู้ความจริ ง เขาก็เริ่ มเว้นระยะห่าง
จากองค์จกั รพรรดินี และหาข้ออ้างย้ายออกจากวังหลวงมาอยูใ่ นวัง
ขององค์รัชทายาทข้างนอกกําแพงวังแทน
“ท่านต้องการบัลลังก์ง้ นั หรื อ?” จวินอู๋เสี ยถามนิ่ง ๆ นํ้าเสี ยงของนาง
ปราศจากร่ องรอยตกใจใด ๆ
“ไม่! ข้าไม่สนอํานาจอะไรทั้งนั้น! ต่อให้ยกตําแหน่งนั้นมาให้ขา้ ข้า
ก็ไม่สนใจ! แต่ขา้ ต้องการให้องค์จกั รพรรดิ จักรพรรดินี และเล่ย
ฟ่ าน ต้องชดใช้! ข้าจะไม่เป็ นหุ่นเชิดให้พวกเขาใช้ประโยชน์อีก
แล้ว!” สายตาของเล่ยเฉินลุกโชนไปด้วยความเกลียดชัง
“ข้าต้องการความช่วยเหลือจากพวกท่านทุกคน ตอนนี้องค์
จักรพรรดิลงมือโจ่งแจ้งมากขึ้นจากวิธีที่เขาพยายามทําลายชื่อเสี ยง
ของข้า ถ้าข้ารออยูเ่ ฉย ๆ ก็คงจะมีแต่ความตายเท่านั้นที่รอข้าอยู่ ข้า
จะไม่ยอมแพ้! ได้โปรดให้ขา้ ยืมความแข็งแกร่ งของพวกท่านทุกคน
เพื่อต่อต้านพวกเขาด้วยเถอะ!” เล่ยเฉิ นจ้องมองจวินอู๋เสี ย เขาเผยทุก
อย่างออกมาหมดแล้วในวันนี้เพื่อขอความช่วยเหลือจากผูเ้ ยาว์ที่อยู่
ตรงหน้าเขา
“ตกลง” จวินอู๋เสี ยพยักหน้า
เล่ยเฉินถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างโล่งอกในทันที และ
รอยยิม้ โล่งใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
หลังจากได้เห็นความแข็งแกร่ งของศิษย์จากสํานักศึกษาวายุประจิม
เขาก็รู้แน่แก่ใจว่าตราบใดที่เขาสามารถทําให้คนพวกนี้เป็ นพวก
เดียวกับเขาได้ ศึกประลองวิญญาณก็จะไม่เป็ นปัญหากับเขาอีก
ต่อไป ผูเ้ ยาว์พวกนี้ครอบครองพลังที่สามารถเอาชนะทุกคนในศึก
ประลองวิญญาณนี้ได้อย่างสบาย และต่อให้องค์จกั รพรรดิตอ้ งการ
ใช้การประลองนี้เล่นงานเขา เขาก็จะไม่มีโอกาสทําสําเร็ จอีกต่อไป
ตอนที่ 817 ความลับของวังหลัง (3)
หลังจากพูดคุยกับเล่ยเฉิ นต่ออีกเล็กน้อย จวินอู๋เสี ยกับคนอื่น ๆ ก็
ออกจากวังขององค์รัชทายาท ขณะที่พวกเขาเดินทางกลับ เหตุการณ์
ที่ถูกเปิ ดเผยให้ทราบในเช้าวันนี้กว็ นเวียนอยูใ่ นหัวของพวกเขา
เรื่ องทั้งหมดได้เปิ ดหูเปิ ดตาพวกเขาจริ ง ๆ และได้เผยให้เหล่าผูเ้ ยาว์
ได้เห็นถึงตัวอย่างของความซับซ้อนยุง่ เหยิงที่เกี่ยวพันกับการดิ้นรน
เอาตัวรอดภายในราชวงศ์
“ข้าไม่เคยรู ้เลยว่าจะมีการวางแผนการร้ายมากมายขนาดนี้เบื้องหลัง
ฉากหน้าอันสู งส่ งของราชวงศ์ การได้รู้เห็นเรื่ องทั้งหมดนี้ทาํ ให้ขา้
รู ้สึกว่าเรื่ องยุง่ ๆ ที่หนิงรุ่ ยก่อขึ้นกลายเป็ นเรื่ องจิ๊บจ๊อยไปเลย”
ฟ่ านจัว๋ หัวเราะทั้ง ๆ ที่ส่ายหน้า เทียบกับองค์จกั รพรรดินีแห่ง
แคว้นหยาน แผนการร้ายของหนิงรุ่ ยก็ดูเหมือนเป็ นเรื่ องธรรมดาไม่
ซับซ้อนอะไรเลย
“แต่ยงั มีอยูอ่ ย่างหนึ่งที่ขา้ คิดว่ามันแปลกอยูน่ ะ” จู่ ๆ ฟ่ านจัว๋ ก็พดู ขึ้น
พร้อมกับหันไปมองจวินอู๋เสี ย
จวินอู๋เสี ยมองฟ่ านจัว๋ โดยไม่พดู อะไร
“ถึงแม้นอ้ งเสี ยจะวางแผนทําให้เล่ยเฉิ นเห็นว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่น
นอกจากเป็ นพันธมิตรกับเรา แต่การที่เขาเปิ ดเผยความลับที่ดาํ มืด
ที่สุดของเขาออกมาให้เรารู ้อย่างไม่ลงั เลเช่นนี้ มันจะไม่ระมัดระวัง
และง่ายเกินไปรึ เปล่าสําหรับคนอย่างเล่ยเฉิ น จะมีจุดประสงค์อื่น
แอบซ่อนไว้อยูร่ ึ เปล่า?” ฟ่ านจัว๋ ถามเป็ นเชิงเตือน เล่ยเฉินเปิ ดเผย
เกินไปในการบอกความลับทุกอย่างให้พวกเขาได้ฟังในวันนี้
จวินอู๋เสี ยส่ ายหน้าและพูดว่า “ไม่มีหรอก”
“ทําไมล่ะ?”
“ข้าทําให้เขาพูดออกมาทั้งหมดเอง” จวินอู๋เสี ยตอบนิ่ง ๆ
“…” คราวนี้ไม่เพียงแต่ฟ่านจัว๋ ที่มองจวินอู๋เสี ยอย่างงุนงง คนอื่น ๆ
ก็พากันหันมามองจวินอู๋เสี ยด้วยสี หน้าแปลก ๆ กันหมด
[นางทําให้เล่ยเฉินพูดทั้งหมดนัน่ งั้นหรื อ?]
“ข้าเตรี ยมทุกอย่างไว้ก่อนที่เราจะออกจากห้องนอนของเขาเมื่อคืน”
จวินอู๋เสี ยมองกลับไปที่เหล่าสหายของนางด้วยดวงตาสงบนิ่ง
ฤทธิ์ของยาสะกดอาจจะใช้ได้กจ็ ริ ง แต่สิ่งที่เล่ยเฉินรู ้เกี่ยวกับแผนที่
นั้นมีอยูน่ อ้ ยนิด เพื่อให้พวกเขาดําเนินการขั้นต่อไปในการหาแผนที่
จวินอู๋เสี ยจึงต้องเป็ นพันธมิตรกับเล่ยเฉินให้เร็ วที่สุดเท่าที่จะเป็ นไป
ได้ แต่…นางไม่รู้สึกอยากจะเสี ยเวลากับเล่ยเฉินมากจนเกินไป
ดังนั้นนางจึงตัดสิ นใจใช้วธิ ีสะกดจิตเข้าไปในจิตใต้สาํ นึกของเล่ย
เฉินด้วยวิธีใช้คาํ พูดกระตุน้ ก่อนที่พวกเขาจะออกจากห้องในจิตใต้
สํานึกของเล่ยเฉินได้ไว้วางใจจวินเสี ยอย่างเต็มที่แล้ว
ถึงแม้ผลกระทบของคําพูดกระตุน้ ขณะที่อยูภ่ ายใต้การสะกดจิตจะ
ไม่ชดั เจนนัก แต่ถา้ คนผูน้ ้ นั มีความโน้มเอียงต่อการกระทําที่ถูก
กระตุน้ อยูใ่ นใจอยูแ่ ล้วแม้เพียงเล็กน้อย คําพูดกระตุน้ ในจิตใต้สาํ นึก
ของเขาก็จะขยายเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด นัน่ เป็ นสิ่ งที่ทาํ ให้เล่ย
เฉินเปิ ดเผยทุกอย่างให้จวินอู๋เสี ยได้รู้โดยไม่มีการปิ ดบังอะไรเอาไว้
ในเช้าวันนี้
“อะแฮ่ม ข้าสาบานว่าข้าจะไม่มีวนั หาเรื่ องน้องเสี ยเด็ดขาด!” เชียวชู
ยกมือขวาขึ้นกล่าวคําสาบานต่อสวรรค์เบื้องบนด้วยสี หน้าเคร่ งขรึ ม
จริ งจัง ยิง่ เขาอยูก่ บั จวินอู๋เสี ยนานเท่าไร เขาก็ยงิ่ ตระหนักได้วา่ เด็ก
สาวตัวเล็ก ๆ คนนี้แท้จริ งแล้วน่ากลัวขนาดไหน แค่ยาแปลก ๆ ของ
นางทําให้ศตั รู หมดหนทางจะจัดการนางได้แล้ว และเหนืออื่นใดนาง
ยังมีสมองอันน่าเหลือเชื่อนัน่ อีก…
เชียวชูเชื่อจากใจเลยว่าต่อให้มีเขาสองคนก็ยงั ไม่พอมือจวินอู๋เสี ย
“เห็นด้วย” เฟยหยานเห็นพ้องต้องกันทันทีอย่างไม่ลงั เล เป็ นการ
เห็นด้วยอย่างเป็ นเอกฉันท์ที่หาได้ยากยิง่ ระหว่างเชียวชูกบั เขา
หลงลัว่ พูดพร้อมหัวเราะ “โชคดีที่นอ้ งเสี ยเป็ นพวกเดียวกับเรา ไม่
งั้นพวกเราเดือดร้อนหนักแน่”
มันสมอง, ชั้นเชิงไหวพริ บ, และความสามารถที่ไม่มีขีดจํากัด
เหนือกว่าทุกผูค้ น เด็กผูห้ ญิงคนนี้เกิดมาเพื่อทําลายความมัน่ ใจและ
คุณค่าในตัวเองของคนอื่นแท้ ๆ เลย อย่าได้ไปตัดสิ นนางจาก
ใบหน้าเล็ก ๆ และท่าทีเย็นชานัน่ เชียว ความจริ งแล้วนัน่ เป็ นใบหน้า
ของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่สามารถใช้เล่ห์เหลี่ยมแผนการหลอกลวงได้
อย่างรวดเร็ วโดยไม่กระพริ บตา เป็ นปี ศาจที่ร้ายกาจที่สุดจําแลงร่ าง
มา
จวินอู๋เสี ยมองคนอื่น ๆ พูดกันแล้วนางก็บอกกับพวกเขาอย่างใจเย็น
ว่า “วางใจได้ ข้าไม่มีวนั ใช้ของพวกนั้นกับพวกเจ้าหรอก”
เชียวชูยมิ้ ออกมาทันที เขาเกือบจะกระโดดอย่างยินดีแล้ว แต่คาํ พูด
ต่อมาของจวินอู๋เสี ยก็ทาํ ให้รอยยิม้ บนใบหน้าของพวกเขาแข็งทื่อ
ขึ้นมาทันที
“ไม่อยากเสี ยของน่ะ” จวินอู๋เสี ยบอกพวกเขาอย่างจริ งจังสุ ด ๆ
เหล่าสหายต่างแข็งเป็ นหิ นอยูก่ บั ที่ในทันที
[จะมาเล่นงานกันเองแบบนี้ไม่ได้นะ!!]
หลังจากชื่นชมสี หน้าที่เหมือนจะร้องไห้แบบไม่มีน้ าํ ตาของเพื่อน ๆ
แล้ว จวินอู๋เสี ยก็หนั กลับและเดินไปที่หอ้ งของนาง เมื่อหันหลังให้
แล้ว มุมปากของนางก็ยกขึ้นเล็กน้อยเป็ นรอยยิม้ บาง ๆ
มีพวกตัวตลกกลุ่มนี้อยูด่ ว้ ยก็…สนุกดีแฮะ
ตอนที่ 818 อย่ าถามหาความตายแล้ วเจ้ าจะมีชีวติ อยู่ (1)
หลังจากยืนยันการเป็ นพันธมิตรกับเล่ยเฉิ นแล้ว ศึกประลองวิญญาณ
ที่เหลือก็จะเป็ นช่วงเวลาแห่งการฉายแสงของจวินอู๋เสี ยกับสหาย
ของนาง
อย่างไรก็ตาม เมื่อจวินอู๋เสี ยก้าวขึ้นเวทีประลองในรอบที่สี่
เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ผูเ้ ยาว์ที่ควรจะประลองกับจ
วินอู๋เสี ยในรอบนี้กอ็ อกจากการประลองไปเหมือนกับคนอื่น ๆ ก่อน
หน้าเขา และครั้งนี้มนั รุ นแรงมากยิง่ ขึ้น!
ผูเ้ ยาว์คนนั้นไม่ใช่แค่ไม่มาแสดงตัวในการประลองเท่านั้น แต่เขา
เสี ยชีวติ อยูท่ ี่มุมหนึ่งของเมืองหลวง นี่เป็ นครั้งแรกที่มีการฆาตกรรม
เกิดขึ้นในศึกประลองวิญญาณตั้งแต่เริ่ มจัดการแข่งขันมา และข่าวนี้
ก็ดึงดูดความสนใจของผูเ้ ข้าแข่งขันทุกคนในทันที!
การสละสิ ทธิ์สองสามรอบที่แล้วก็เกี่ยวกับจวินเสี ย และเหตุผล
เบื้องหลังการตัดสิ นใจถอนตัวของศิษย์พวกนั้นก็ถูกถกเถียงกันอย่าง
ร้อนแรงไปแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังเชื่อมโยงกับ เล่ยเฉิน องค์รัช
ทายาทแห่งแคว้นหยานอีกด้วย ทุกคนต่างสงสัยว่าเล่ยเฉิ นคือคนที่
ชักใยอยูเ่ บื้องหลัง บังคับพวกผูเ้ ยาว์ดว้ ยสิ นบนและการข่มขู่ให้ยอม
ทิ้งโอกาสในการประลองไปซะ แต่ครั้งนี้เรื่ องมันบานปลายมาก
เกินไปแล้ว
ถึงกับมีคนเสี ยชีวติ จริ ง ๆ
ฝูงชนในลานประลองอยากรู ้มากว่าเกิดอะไรขึ้น และตอนนี้พวกเขา
กําลังเกรี้ ยวกราดอย่างมาก พวกศิษย์ที่เข้ารอบที่ 5 ไปแล้วก็พากัน
โกรธเคืองเนื่องจากไม่รู้วา่ ใครจะเป็ นคู่ต่อสู ค้ นต่อไปของจวินอู๋เสี ย!
สําหรับพวกเขามันเห็นได้ชดั แล้วว่าเล่ยเฉิ นออกคําสัง่ ให้จวินเสี ย
ชนะและฆ่าคนตาย นัน่ ไม่ใช่การส่ งข้อความบอกคนที่เหลือหรอก
หรื อว่าถ้าพวกเขายังแข่งขันต่อไป หนทางข้างหน้าของพวกเขาก็มี
แต่ความตายเพียงเท่านั้น!?
เมื่อจู่ ๆ เรื่ องที่ยงั ไม่กระจ่างชัดแก่ทุก ๆ คนพลันมีกลิ่นคาวเลือด
ขึ้นมา ความกลัวก็แพร่ ไปในหมู่ศิษย์ที่ได้เข้าสู่ รอบต่อไป ทําให้พวก
เขาตึงเครี ยดและกระวนกระวายใจมาก เหตุการณ์ได้มาถึงจุดเดือด
แล้ว ศิษย์จากสํานักศึกษาต่าง ๆ ที่ตอนแรกแค่ดูถูกวายุประจิมที่
ประจบประแจงเล่ยเฉิน แต่ตอนนี้พวกเขาพากันสาปแช่งด่าทออย่าง
รุ นแรงและถ่มนํ้าลายใส่ อย่างไร้ความปรานี
ความเสี ยหายที่เกิดขึ้นไม่แค่เรื่ องเล็กน้อยอีกต่อไป เมื่อสํานักศึกษา
วายุประจิมโดนข้อหาเป็ นเหตุให้ผอู ้ ื่นถึงแก่ความตาย ก็ไม่สาํ คัญ
แล้วว่าศิษย์ของวายุประจิมจะแข็งแกร่ งแค่ไหนในศึกประลอง
วิญญาณ มันไม่สามารถกูช้ ื่อเสี ยงที่ด่างพร้อยของพวกเขาได้แล้ว!
จวินอู๋เสี ยเรี ยกเล่ยเฉินมาหาในทันทีเพื่อถามเขาถึงเหตุที่เกิดขึ้น
จริ ง ๆ เบื้องหลังเหตุการณ์น้ ี
ครั้งนี้เล่ยเฉินไม่รู้เรื่ องอะไรเลย หลังจากเป็ นพันธมิตรกันแล้ว เขาก็
รู ้วา่ เขาไม่ตอ้ งลงมืออะไรแล้วและไม่ตอ้ งใช้เล่ห์เพทุบายอะไรอีก
เขาล้มเลิกความตั้งใจก่อนหน้านี้ของเขาไปแล้ว และครั้งนี้…เขา
ไม่ได้เข้าใกล้ผเู ้ ยาว์ที่จะสู ก้ บั จวินเสี ยในรอบที่สี่เลย ความจริ งแล้ว
เขาไม่รู้ดว้ ยซํ้าว่าใครคือคู่ต่อสู ค้ นต่อไปของจวินเสี ย!
“ไม่ใช่ท่านรึ ?” จวินอู๋เสี ยถามพลางมองที่เล่ยเฉิน
เล่ยเฉินแทบจะสาบดานต่อสวรรค์ เขาพูดด้วยสี หน้าอยากจะร้องไห้
ว่า “ไม่ใช่ขา้ จริ ง ๆ ! ถึงข้าจะดูเหมือนโง่แต่ขา้ ไม่ทาํ อะไรเกินเลย
แบบนี้ในเวลาเช่นนี้หรอก! ขืนทําก็เท่ากับเติมเชื้อเพลิงลงกองไฟน่ะ
ซิ”
จวินอู๋เสี ยใช้ความคิดอีกครั้ง ถ้าเล่ยเฉินไม่ได้เป็ นคนทํา งั้นก็ตอ้ ง
เป็ นฝี มือของคนที่อยากจะลากเล่ยเฉิ นลงจากตําแหน่ง จักรพรรดิ
แห่งแคว้นหยาน มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถลงมือได้ในเวลาเช่นนี้
“เขาค่อนข้างโหดไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย” จวินอู๋เสี ยหรี่ ตา เพื่อที่จะ
บังคับให้เล่ยเฉินลงจากตําแหน่งรัชทายาท องค์จกั รพรรดิแห่ง
แคว้นหยานถึงกับลอบลงมือกับผูเ้ ข้าแข่งขันที่มาเข้าร่ วมการ
ประลองถึงที่นี่ ถ้าข่าวนี้รั่วออกไปล่ะก็ ต่อจากนี้ไปแคว้นหยานลืม
เรื่ องที่จะเป็ นเจ้าภาพงานอย่างศึกประลองวิญญาณได้เลย
“แล้วตอนนี้เราจะทํายังไงกันดี? สํานักศึกษาที่เข้าร่ วมการแข่งขัน
ประท้วงกันใหญ่แล้ว และเรื่ องก็ไปถึงเสด็จพ่อแล้วด้วย ถ้าเขาใช้
เรื่ องนี้มาบังคับข้าให้ยอมทําตามความต้องการของเขาล่ะก็…” เล่ย
เฉินวิตกกังวลอย่างหนัก เขากระวนกระวายมากจนคิดหาทางออก
ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม จวินอู๋เสี ยยังคงใจเย็นอยู่ ความสงบนิ่งของนางทําให้
เล่ยเฉินยิง่ กระวนกระวายมากขึ้น
“นี่ท่านไม่กงั วลเลยหรื อ? เรื่ องที่เกิดขึ้นทั้งหมด…ก็ส่งผลกับท่าน
ด้วยนะรู ้ใช่ไหม?” เล่ยเฉินมองจวินอู๋เสี ยอย่างคาดหวัง
จวินอู๋เสี ยยังดูเหมือนไม่สะทกสะท้านใด ๆ นางพูดขึ้นช้า ๆ ว่า
“ท่านไม่ตอ้ งร้อนใจไปหรอก ข้าจะจัดการเอง ถ้าองค์จกั รพรรดิ
ยืนยันจะเอาผิดท่านเรื่ องการตายของศิษย์คนนั้น สิ่ งเดียวที่ท่านต้อง
ทําก็คือลากเรื่ องนี้ไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทําได้ แค่น้ นั ก็พอแล้ว”
ตอนที่ 819 อย่ าถามหาความตายแล้ วเจ้ าจะมีชีวติ อยู่ (2)
“ท่านจะจัดการเองเหรอ? แต่…ท่านคิดจะจัดการมันยังไง?” เล่ยเฉิ น
มองจวินเสี ยอย่างไม่แน่ใจเล็กน้อย เขาสื บเรื่ องของจวินเสี ยมาก่อน
ถึงแม้เขาจะมีวชิ ารักษาวิญญาณที่ทาํ ให้ผคู ้ นสนใจได้มาก แต่นนั่ ก็ยงั
ไม่อาจเปลี่ยนความจริ งที่วา่ เขายังเป็ นแค่ผเู ้ ยาว์อายุนอ้ ย
ตอนนี้เรื่ องมันบานปลายใหญ่โตจนแม้แต่เขาก็ยงั เห็นว่าเกินที่จะ
จัดการได้แล้ว แล้วจวินเสี ยจะมีวธิ ีแก้ปัญหานี้ยงั ไง?
จวินอู๋เสี ยตอบเรี ยบ ๆ ว่า “พวกเขาแต่ตอ้ งการสร้างความวุน่ วาย
อย่างต่อเนื่องก็แค่น้ นั และการจบความวุน่ วายนี้กง็ ่ายมาก”
เล่ยเฉินอึ้งไปเล็กน้อย ข่าวลือในเมืองหลวงทั้งหมดมาจากการที่คู่
ต่อสู ข้ องจวินเสี ยได้สละสิ ทธิ์การประลองไปทีละคน และเหตุผลที่
เรื่ องบานปลายไปใหญ่โตเช่นนี้กเ็ พราะหนึ่งในคู่ต่อสู ข้ องเขาไม่
เพียงแต่ละทิ้งการประลองเท่านั้น แต่ถึงกับเสี ยชีวติ เลยทีเดียว
ประเด็นหลักก็คือ ถ้าพวกเขาอยากให้ข่าวลือจางหายไป พวกเขา
จะต้องให้จวินเสี ยต่อสู ก้ บั คู่ต่อสู ข้ องเขาในการประลองรอบต่อไป
แต่…
“ในเมื่อคนผูน้ ้ นั กําลังใช้ความสัมพันธ์ระหว่างวายุประจิมกับข้า
สร้างปัญหาขึ้นมา เขาย่อมส่ งคนไปจัดการกับคู่ต่อสู ข้ องท่านในรอบ
ต่อไป ถึงข้าจะมีคนอยูใ่ นบังคับบัญชาของข้า แต่พวกเขาไม่อาจสู ้
คนของชายคนนั้นได้หรอก…” เล่ยเฉินพูด เขาอยากจะหยุดปัญหาที่
ชายคนนั้นก่อขึ้นจริ ง ๆ แต่ชายคนนั้นคือคนที่นงั่ อยูบ่ นจุดสู งสุ ด
เหนือทุกคนในแคว้นหยาน และนัน่ ไม่ใช่อาํ นาจที่เขาซึ่งเป็ นเพียง
องค์รัชทายาทจะสามารถต่อต้านได้
“ข้าไม่ตอ้ งใช้ท่าน” จวินอู๋เสี ยพูด
เล่ยเฉินมองจวินเสี ยอย่างสงสัย อยากรู ้วา่ เด็กคนนี้คิดจะแก้ปัญหา
อย่างไร ถ้าเรื่ องยังคงเป็ นเช่นนี้ต่อไป เขารู ้วา่ ชื่อเสี ยงของเขาจะถูก
ทําลายลงอย่างยับเยินแน่นอน ขณะที่สาํ นักศึกษาวายุประจิมจะถูก
สาปแช่งด่าทอและดูถูกเหยียดหยาม และตัวจวินเสี ยเองที่เป็ นเหยือ่
ในแผนการชัว่ ร้ายนี้กจ็ ะตกอยูใ่ นสภาพอันเลวร้ายเช่นเดียวกับเขา
เล่ยเฉินอยากจะถามเพิ่มอีกสองสามคําถาม แต่จวินอู๋เสี ยไม่สนใจที่
จะคุยต่อและไล่เล่ยเฉิ นออกไปจากตําหนักเซียน
หลังจากเล่ยเฉินจากไป จวินอู๋เสี ยก็เรี ยกเฟยหยานให้มาหาทันที และ
ถามว่าใครคือคู่ต่อสู ใ้ นรอบถัดไปของนาง
“จ้าวซุนจากสํานักศึกษาฮัว่ หวัน ทําไมถามถึงเขาล่ะ?” ในฐานะ
แหล่งข้อมูลของพรรคพวก บอกได้เลยว่าเฟยหยานมีรายชื่อส่ วน
ใหญ่ของผูเ้ ข้าแข่งขันศึกประลองวิญญาณ การที่จวินอู๋เสี ยตามหาเขา
เพื่อถามเรื่ องคู่ต่อสู ใ้ นรอบต่อไปของนางทําให้เฟยหยานรู ้สึกว่ามัน
แปลก ๆ เล็กน้อย
จากการแข่งขันรอบที่ผา่ น ๆ มาของจวินอู๋เสี ย คู่ต่อสู ข้ องนางถ้าไม่
กลัวจนไม่กล้าเข้าแข่งก็เสี ยชีวติ อย่างลึกลับ และดูจากสิ่ งที่เกิดขึ้น
จวินอู๋เสี ยก็น่าจะไม่ตอ้ งสู ก้ บั คู่ต่อสู ค้ นต่อไปของนางเช่นกัน
“ช่วยข้าหาทีวา่ ช่วงนี้เขาไปที่ไหนบ่อย ๆ” จวินอู๋เสี ยสัง่ ง่าย ๆ
เฟยหยานยักไหล่และออกไปสื บทันที
พลังวิญญาณของจ้าวซุนก็ไม่เลวนัก แต่เนื่องจากเขาศึกษาอยูใ่ น
สํานักศึกษาฮัว่ หวันที่ไม่มีชื่อเสี ยง จึงมีคนไม่มากที่เคยได้ยนิ ชื่อเขา
และในศึกประลองวิญญาณปี นี้ เขาแสดงความสามารถได้ค่อนข้างดี
ในการประลองซึ่งไปเตะตาแมวมองอยูส่ องสามคน ยิง่ กว่านั้น…คู่
ต่อสู ใ้ นรอบต่อไปของเขาก็คือจวินเสี ย คนที่เป็ นศูนย์กลางข่าวลือ
ทั้งหมด ตอนที่การจับสลากจบลง ชื่อของจ้าวซุนก็กระจายไปทัว่ เขต
ประลองที่หนึ่งทันที
ที่ร้านอาหารหรู แห่งหนึ่งในเมืองหลวง จ้าวซุนพร้อมด้วยผูเ้ ยาว์อีก
สองสามคนล้อมวงกันอยูร่ อบโต๊ะบนชั้นสอง
“ข้าว่านะศิษย์พี่จา้ ว ท่านจะสู ก้ บั จวินเสี ยพรุ่ งนี้อยูแ่ ล้ว ท่านน่าจะ
ระวังตัวมากกว่านี้ คนที่หนุนหลังเจ้าเด็กนัน่ คือองค์รัชทายาทเชียว
นะ คนอื่น ๆ ที่จบั คู่ประลองกับหมอนัน่ ถูกจัดการไปหมดแล้ว คู่
ต่อสู ข้ องเขาในรอบที่แล้วก็…ท่านก็รู้” ผูเ้ ยาว์คนหนึ่งพูดขึ้นพลาง
มองจ้าวซุนอย่างเป็ นห่วง ชื่อของจวินเสี ยในศึกประลองวิญญาณปี นี้
พูดได้วา่ ดังที่สุด หรื ออื้อฉาวที่สุด จนถึงขั้นสะเทือนการแข่งขัน
ทั้งหมดเลยทีเดียว
ตอนที่ 820 อย่ าถามหาความตายแล้ วเจ้ าจะมีชีวติ อยู่ (3)
การได้รับ “บัตรผ่านตลอด” ในศึกประลองวิญญาณแบบนี้เป็ นสิ่ งที่
ไม่เคยได้ยนิ มาก่อน
จ้าวซุนไม่กงั วล เขาจิบสุ ราและพูดอย่างไม่แยแสว่า “เจ้าคิดว่าการ
สละสิ ทธิ์การแข่งขันจะทําให้เจ้าเคราะห์ร้ายงั้นรึ ? คําสัญญาคําเดียว
จากองค์รัชทายาทจะให้ผลประโยชน์มากกว่าที่พวกเราทุกคนทําได้
ในการแข่งขันซะอีก ยังไงซะพวกเราทุกคนที่นี่ที่เข้าร่ วมการแข่งขัน
ก็ไม่สามารถไปถึง 10 อันดับแรกได้อยูแ่ ล้ว แต่ที่เราทุกคนยังอยูท่ ี่นี่
ก็เพราะหวังว่าจะทําให้เรามีอนาคตที่ดีเท่านั้น ถ้าเราได้รับคําสัญญา
ในเรื่ องนั้นแล้ว ต่อให้ตอ้ งสละสิ ทธิ์แล้วยังไงล่ะ?”
พวกผูเ้ ยาว์ต่างมองหน้ากัน จากคําพูดของจ้าวซุน พวกเขาจับได้วา่ มี
บางอย่างผิดปกติ
แต่จา้ วซุนทําท่าราวกับว่าเขาไม่สงั เกตเห็นว่ามีอะไรผิดปกติกบั สิ่ งที่
เขาพูดออกมา และยังพูดต่อไปว่า “พวกเจ้ายังจําตอนที่พวกเราอยูท่ ี่
งานเลี้ยงก่อนการแข่งขันจะเริ่ มขึ้นได้รึเปล่าว่ามันยิง่ ใหญ่และ
หรู หราขนาดไหน? นัน่ คือสถานที่ที่ปกติแล้วพวกเราจะไม่ได้รับ
อนุญาตให้กา้ วเท้าเข้าไปตลอดชีวติ และข้าจะไม่ปล่อยโอกาสเช่นนี้
ไปหรอก แค่สละสิ ทธิ์การแข่งขันไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไรสักหน่อย…”
หลังจากพูดจบ เขาก็ฉีกยิม้ กว้างและดื่มสุ ราเข้าไปอีกหลายถ้วยอย่าง
สําราญใจ
ผูเ้ ยาว์หลายคนที่นงั่ ร่ วมโต๊ะกับจ้าวซุนกําลังคิดกันว่าคําพูดของจ้าว
ซุนฟังดูแปลก ๆ และต่างลอบสบตากัน แต่พวกเขาไม่อยากพูดอะไร
มากต่อหน้าจ้าวซุน
“เอาล่ะ! ข้าต้องกลับไปแล้ว! เอิ๊ก…แข่งพรุ่ งนี้ทาํ ให้ดีล่ะ! ข้าจะไม่
ไปร่ วมสนุกด้วยหรอกนะ” จ้าวซุนที่เมาเล็กน้อยยืนโงนเงนและโบก
มือให้ขณะออกจากร้านอาหารไป ทันทีที่เขาก้าวเท้าออกไป พวก
ผูเ้ ยาว์ที่โต๊ะก็ลอ้ มวงกันกระซิบกระซาบทันที
“คําพูดของจ้าวซุนหมายความว่าองค์รัชทายาทได้ไปหาเขาแล้วใช่รึ
เปล่า?”
“ก็สงสัยอยูว่ า่ ทําไมเขาถึงปล่อยตัวขนาดนี้ก่อนการประลอง ดู
เหมือนข่าวลือจะเป็ นความจริ งนะ! องค์รัชทายาทใช้ทุกวิธีเพื่อดัน
เจ้าเด็กที่ชื่อจวินเสี ยให้ข้ ึนไปถึง 10 อันดับแรกจริ ง ๆ !”
“ข้าเห็นจวินเสี ยนัน่ แล้ว ตัวเล็กนิดเดียวแล้วก็ผอมมาก องค์รัช
ทายาทเห็นอะไรในตัวเขากันแน่!?”
“เฮ้อ ศึกประลองวิญญาณที่มีเกียรติเช่นนี้กลายเป็ นงานปาหี่ น่า
รังเกียจไปแล้ว มันช่าง…”
ความอิจฉา เสี ยใจ และการคาดเดาไม่รู้จบ แค่คาํ พูดไม่กี่ประโยค
ของจ้าวซุน แต่ทาํ ให้เกิดการถกเถียงกันในหมู่ผเู ้ ยาว์ที่โต๊ะนั้น
จ้าวซุนเดินออกจากร้านอาหารไปด้วยฝี เท้าที่ไม่มนั่ คงนัก เขาไม่ได้
กลับไปที่โรงเตี๊ยมที่พกั ของสํานักศึกษาฮัว่ หวันในทันที แต่เดิน
โซเซเข้าไปในตรอกเล็ก ๆ ไร้ผคู ้ นแห่งหนึ่ง พอเดินเข้าไปในตรอก
เล็ก ๆ นัน่ อาการเมามายของจ้าวซุนก็หายไปทันที ในตรอกนั้นมี
ชายในชุดคลุมสี ดาํ มืดคนหนึ่งยืนอยู่ ดูเหมือนเขากําลังรอให้จา้ วซุน
ปรากฏตัว
“นายท่าน!” พอเห็นชายชุดดําคนนั้น จ้าวซุนก็โค้งตัวตํ่าในทันที
ชายชุดดํามองจ้าวซุนที่ท้ งั ร่ างมีกลิ่นสุ ราแล้วถามด้วยสี หน้าบึ้งตึงว่า
“ทุกอย่างเรี ยบร้อยไหม?”
จ้าวซุนสลัดท่าทีไม่แยแสสนใจอะไรที่เขาแสดงออกตอนอยูท่ ี่
ร้านอาหารเมื่อครู่ ทิ้งไป ใบหน้าของเขาเคร่ งขรึ มจริ งจังขณะตอบว่า
“ข้าน้อยปล่อยข่าวเรี ยบร้อยแล้วขอรับ เชื่อว่าภายในคืนนี้ ไม่ตอ้ งรอ
ถึงการประลองพรุ่ งนี้หรอก ทุกสํานักจะรู ้วา่ ข้าได้ยอมรับข้อเสนอ
สิ นบนขององค์รัชทายาทแล้ว และตัดสิ นใจสละสิ ทธิ์การแข่งขัน”
ชายชุดดําพยักหน้าอย่างพอใจ “เจ้าทําได้ดี วางใจเถอะ ตราบใดที่เจ้า
ทํางานได้ดี เจ้าก็จะมีอนาคตที่ยงิ่ กว่าที่ศึกประลองวิญญาณจะให้เจ้า
ได้”
“ขอบคุณนายท่านที่เชื่อใจข้า สามารถช่วยนายท่านได้เช่นนี้เป็ น
ความโชคดีของข้าน้อยยิง่ นัก” จ้าวซุนพูดขณะที่ดวงตาฉายแววยินดี
ตอนที่ชายชุดดําเข้ามาหาเขาตอนแรก เขากลัวมาก ไม่คิดว่ามันจะ
กลายเป็ นของขวัญที่หล่นจากสวรรค์ลงสู่ มือของเขาเช่นนี้
“คนที่รู้จกั เอนไปตามสถานการณ์จะเป็ นผูป้ ระสบความสําเร็ จ ตราบ
ใดที่เจ้าปฏิบตั ิภารกิจได้ดี ผลประโยชน์ยอ่ มมาหาเจ้า แต่ถา้ ทําไม่ดี
ล่ะก็…ชะตากรรมของคนที่ตายก่อนหน้านี้กจ็ ะเป็ นของเจ้าด้วย
เช่นกัน” เสี ยงของชายชุดดําพลันเย็นยะเยือกขึ้นทันที
จ้าวซุนตัวสัน่ ความเย็นแล่นผ่านไปทัว่ ร่ าง เขากลืนนํ้าลายอึกใหญ่
และรี บพยักหน้ารัว ๆ
ตอนที่ 821 อย่ าถามหาความตายแล้ วเจ้ าจะมีชีวติ อยู่ (4)
“ภารกิจที่นายท่านมอบหมายให้ขา้ จะเป็ นไปด้วยดีแน่นอนขอรับ
หลังการประลองวันพรุ่ งนี้ ข้าจะกระจายข่าวลือให้มากขึ้นอีก
รับรองว่านายท่านจะไม่ผดิ หวังแน่ขอรับ” จ้าวซุนพูด
ชายชุดดําพยักหน้า จากนั้นก็หนั หลังจากไปทันที
จ้าวซุนเฝ้ามองชายคนนั้นจากไปด้วยความสุ ภาพ ในที่สุดเขาก็ถอน
ใจออกมาอย่างโล่งอก ในขณะเดียวกันหัวใจของเขาก็โลดขึ้นอย่าง
ยินดี
เมื่อเรื่ องนี้จบลง อนาคตอันสดใสพร้อมด้วยความรํ่ารวยและชีวติ ที่
หรู หรากําลังรอเขาอยู!่
จ้าวซุนที่เต็มไปด้วยความหวังอย่างสู งเดินฮัมเพลงกลับไปที่
โรงเตี๊ยม ความปลาบปลื้มยินดีบนใบหน้าของเขาดูไม่เหมือนคนที่
กําลังจะเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู ท้ ี่แข็งแกร่ งเลย ศิษย์ร่วมสํานักของเขา
เริ่ มกระซิบกระซาบกัน แทบทุกคนเดาว่าจ้าวซุนต้องได้รับ
“ผลประโยชน์จากองค์รัชทายาท” มาแล้ว และกําลังจะสละสิ ทธิ์การ
ประลองในวันพรุ่ งนี้ และนัน่ คือเหตุผลที่เขาผ่อนคลายและไม่กงั วล
ใจใด ๆ เลย
ตกดึกจ้าวซุนกลับไปที่หอ้ งของเขาอย่างมีความสุ ขและตั้งใจจะไป
นอนหลับฝันดีก่อนจะทําตามคําสัง่ ของชายคนนั้นต่อไป แต่เมื่อเขา
ผลักประตูหอ้ งของเขาเปิ ดออก เขาก็พบว่าในห้องมืดสนิท เขายังไม่
ทันได้จุดเทียนห้องก็สว่างขึ้นด้วยแสงเทียนที่มีคนจุดขึ้นมา
ภายใต้แสงสว่างจากเทียนไข จ้าวซุนมองเห็นผูเ้ ยาว์ที่ไม่รู้จกั หลาย
คนปรากฏตัวขึ้นในห้องของเขา!
“พวกเจ้าเป็ นใคร?” จ้าวซุนถามอย่างตกใจพลางมองพวกผูเ้ ยาว์ใน
ห้องของเขา
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะจําข้าไม่ได้” ผูเ้ ยาว์รูปร่ างบอบบางที่นงั่ อยูบ่ นเก้าอี้
พูดขึ้น เขามองจ้าวซุนที่กระวนกระวายพร้อมกับเลิกคิ้ว แล้วผูเ้ ยาว์
คนหนึ่งที่ยนื อยูข่ า้ งประตูกป็ ิ ดประตูหอ้ งในทันที
“พวกเจ้าต้องการอะไร?” จ้าวซุนถามเมื่อเห็นว่าประตูถูกปิ ดลง เขา
เคร่ งเครี ยดและระวังตัวขึ้น เขามองดูพวกผูเ้ ยาว์อย่างระวัดระวัง
เล็กน้อยและตระหนักขึ้นมาได้วา่ พวกที่อยูใ่ นห้องของเขานั้นใส่
เครื่ องแบบของสํานักศึกษาวายุประจิม!
“พวกเจ้ามาจากวายุประจิมงั้นเหรอ?” จ้าวซุนถามขึ้นทันที
“พูดให้ตรงกว่านั้น ข้าคือคู่ต่อสู ใ้ นการประลองของเจ้าในวันพรุ่ งนี้”
ผูเ้ ยาว์ที่ดูบอบบางพูดขึ้นพร้อมกับชําเลืองมองจ้าวซุนแวบนึง
จ้าวซุนประหลาดใจอยูค่ รู่ หนึ่ง เขามองดูผเู ้ ยาว์ตวั เล็กที่ดูเหมือนอายุ
14-15 ปี ตรงหน้าเขา และดวงตาก็ทอแววตกใจในทันที “เจ้าคือจวิน
เสี ย!?”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า
เม็ดเหงื่อเย็น ๆ ไหลลงมาจากหน้าผากของจ้าวซุน เขามองผูเ้ ยาว์อีก
3 คนในห้องและเดาออกว่าคนพวกนี้เป็ นใคร
“ข้าขอเรี ยนถามว่าคุณชายจวินมาหาข้าถึงที่นี่คืนนี้ดว้ ยจุดประสงค์
อะไรงั้นหรื อ?” จ้าวซุนพยายามวางท่าสงบนิ่ง เขาไม่คุน้ เคยกับคน
ของวายุประจิม ตอนที่เขารู ้วา่ เขาจะต้องเผชิญหน้ากับจวินเสี ยใน
รอบต่อไป เขากังวลมาก แต่หลังจากนายท่านมาหา เขาก็ไม่กลัว
อะไรอีกต่อไป แต่เขาไม่คิดว่าจวินเสี ยจะโผล่มาอยูต่ รงหน้าเขาใน
คืนก่อนการแข่งขันเช่นนี้!
“ก็ไม่มีอะไร ข้าแค่มาถามว่าเจ้าจะเข้าร่ วมการแข่งขันพรุ่ งนี้รึเปล่า”
จวินอู๋เสี ยถามเบา ๆ ดวงตาไม่แสดงอารมณ์ใดออกมาแม้แต่นอ้ ย
เมื่อจ้าวซุนได้ยนิ เช่นนั้น เขาก็ยมิ้ ออกมาทันที เขาก็สงสัยอยูว่ า่ มัน
เรื่ องอะไรกัน ที่แท้กแ็ ค่มาถามเขาเรื่ องการประลองวันพรุ่ งนี้!
ผลงานของสํานักศึกษาวายุประจิมในศึกประลองวิญญาณปี นี้น้ นั
โดดเด่นมาก ยกเว้นจวินเสี ยที่ไม่ได้สูเ้ ลยสักครั้ง คนอื่น ๆ ต่าง
แข็งแกร่ งจนน่าตกใจ ตั้งแต่การประลองรอบแรกมา จวินเสี ย
เข้ารอบมาโดยไม่ตอ้ งขยับสักนิ้วเดียวทั้ง ๆ ที่เป็ นผูเ้ ข้าแข่งขันที่อายุ
น้อยที่สุดในศึกประลองวิญญาณปี นี้ จ้าวซุนได้ยนิ ว่าเป็ นเพราะจวิน
เสี ยมีความสนิทสนมกับองค์รัชทายาท เขารู ้แค่วา่ จวินเสี ยเป็ นผู ้
แข่งขันที่อายุนอ้ ยที่สุด แต่เนื่องจากจวินเสี ยไม่ได้สูเ้ ลยสักครั้ง เขาจึง
ไม่คิดว่าตัวจวินเสี ยเองจะแข็งแกร่ งอะไรมากมาย แต่รู้วา่ ผูเ้ ยาว์อีก 3
คนในห้องของเขานั้นแข็งแกร่ งมากแน่ ๆ
ตอนที่ 822 อย่ าถามหาความตายแล้ วเจ้ าจะมีชีวติ อยู่ (5)
“งั้นก็เรื่ องนี้นี่เอง คุณชายจวินโปรดวางใจ การประลองวันพรุ่ งนี้ขา้
จะไม่โผล่ไปแน่นอน คุณชายจะได้เข้ารอบต่อไปได้” จ้าวซุนเริ่ ม
ผ่อนคลาย เขาคิดว่าจวินเสี ยจะไม่ปฏิเสธข้อเสนอที่เป็ นประโยชน์
กับเขาแน่
ถึงแม้นายท่านจะเป็ นคนมาเกลี้ยกล่อมให้เขาสละสิ ทธิ์ แต่จวินเสี ย
จะไม่ยนิ ดีหรอกหรื อที่ได้รู้วา่ เขาจะสามารถเข้ารอบต่อไปได้อย่าง
ราบรื่ นไร้อุปสรรคในวันพรุ่ งนี้? จวินเสี ยต้องคิดว่าองค์รัชทายาท
เป็ นคนจัดการทุกอย่างให้เขา และเขามาถึงที่นี่คืนนี้กเ็ พื่อถามว่าคู่
ต่อสู ข้ องเขาจะไปประลองในวันพรุ่ งนี้หรื อไม่
“อ๋ อ งั้นหรื อ?” จวินเสี ยถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
จ้าวซุนหัวเราะและพูดต่อว่า “เป็ นความประสงค์ขององค์รัชทายาท
ขอให้คุณชายจวินรับไว้ดว้ ยเถอะ” นายท่านสัง่ เอาไว้แล้ว ไม่วา่ จะ
พูดกับใครก็ตาม เขาต้องพูดว่าเล่ยเฉิ นเป็ นคนจัดการเรื่ องทั้งหมดนี้
และจ้าวซุนย่อมไม่กล้าลืมแน่นอน
“งั้นเจ้าก็กาํ ลังบอกข้าว่าองค์รัชทายาทเป็ นคนจัดการเรื่ องทั้งหมดนี้ซิ
นะ” จวินอู๋เสี ยถามจ้าวซุนนิ่ง ๆ
จ้าวซุนพยักหน้าแต่ในใจดูถูกจวินเสี ยอยูเ่ ล็กน้อย เจ้าเด็กนี่กล้าเข้า
ร่ วมศึกประลองวิญญาณทั้งที่อายุแค่น้ ีแล้วยังจะโชคดีขนาดนี้อีก!
ไม่วา่ ใครจะเป็ นคนจัดการก็ตาม แต่ความจริ งก็คือจวินเสี ยสามารถ
เลี่ยงการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู ท้ ี่แข็งแกร่ งและยังได้เข้ารอบไปแบบ
สบาย ๆ โคตรโชคดีเลย และจวินเสี ยก็น่าจะดีใจมากด้วย
จวินอู๋เสี ยยกถ้วยชาจากโต๊ะข้าง ๆ นางขึ้นช้า ๆ และจิบเล็กน้อย
ดวงตาอันงดงามของนางลดตํ่าลง ริ มฝี ปากของนางเผยอออก
เล็กน้อยเป็ นคําพูดว่า “เจ้าโง่เชียว”
“ว่ามา!” เชียวชูที่ยนื อยูเ่ งียบ ๆ ด้านข้างก้าวออกมา
“จับเขาไว้” จวินอู๋เสี ยพูดเบา ๆ
จ้าวซุนไม่มีเวลาตอบโต้ดว้ ยซํ้าตอนที่เห็นร่ างของเชียวชูแวบมา
ปรากฏตัวข้าง ๆ เขา เขาไม่ทนั ขยับเลยแม้แต่นอ้ ย ขาของเชียวชูกเ็ ตะ
เข้ามาที่ดา้ นหลังเข่าของเขาแล้ว!
ขาของจ้าวซุนทรุ ดลงทันที เขาล้มลงคุกเข่าตรงหน้าจวินเสี ย เขา
อยากจะดิ้นรนลุกขึ้นยืนแต่มือของเชียวชูกก็ ดบ่าเขาเอาไว้อย่างแรง
ทําให้เขาต้องคุกเข่าอยูบ่ นพื้นอย่างหมดหนทาง
“เจ้า!”
“พูดอีกคําข้าจะตัดลิ้นเจ้าออกมา” สายตาของจวินอู๋เสี ยราวกับใบมีด
อันเยือกเย็นสองเล่มแทงทะลุผา่ นร่ างของจ้าวซุน
จ้าวซุนนิ่งงันไปเมื่อถูกสายตาอันน่ากลัวของจวินเสี ยจับจ้อง คําพูด
ของจวินเสี ยทําให้เขากลัว และพอเขาอยากจะพูดโต้ตอบ เขาก็เห็น
เฟยหยานที่ยนื อยูข่ า้ ง ๆ จวินเสี ยชักมีดออกมาถือไว้ในมือ ปลายอัน
แหลมคมของมันส่ องประกายแวววาวอยูใ่ นแสงเทียน เขารี บกลืน
คําพูดกลับลงไปในทันที
[เจ้าเด็กนัน่ ไม่ได้ลอ้ เล่น!]
[เขาจะทําจริ ง ๆ !]
เหงื่อเย็น ๆ ไหลลงมาตามใบหน้าของจ้าวซุน เขามองจวินเสี ยอย่าง
กระสับกระส่ าย ถึงเขาจะไม่คิดว่าจวินเสี ยจะสู เ้ ขาได้ แต่พลังของคน
อื่น ๆ จากวายุประจิมนั้นเขารู ้ดี จะดึงเอาคนไหนออกมาก็เป็ นผูใ้ ช้
พลังวิญญาณขั้นสี ฟ้าทั้งนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ผใู ้ ช้พลังขั้นสี สม้ อ่อนแอไร้
พลังเช่นเขาจะสามารถขัดขืนได้!
“เจ้ากล้าจัดฉากให้ขา้ เช่นนี้กค็ วรจะเตรี ยมตัวรับผลที่ทาํ เอาไว้จะ
ดีกว่านะ คิดว่าข้าโง่นกั หรื อไง?” จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้วพร้อมกับจ้องมอง
ใบหน้าซีดขาวของจ้าวซุน เสี ยงของนางเย็นเยียบจนทําให้เขารู ้สึก
หนาวไปทั้งตัว
“ข้า…ข้า…ไม่ได้…” จ้าวซุนกลืนนํ้าลายเสี ยงดัง เขาไม่รู้วา่ ทําไม แต่
ความกลัวเริ่ มคืบคลานเข้ามาในใจเขา
ดวงตาเย็นชาคู่น้ นั ดูราวกับจะมองทะลุถึงจิตวิญญาณของเขา และ
เขาก็จะไม่สามารถปกปิ ดคําโกหกเอาไว้ได้อีกต่อไป
“ใครสัง่ ให้เจ้าสละสิ ทธิ์?” จวินอู๋เสี ยถามขึ้น
“องค์รัชทายาท…”
ก่อนที่จา้ วซุนจะได้พดู จบประโยค เชียวชูที่กดตัวเขาเอาไว้กต็ ่อยเข้า
ที่หน้าของเขาทันที แก้มของจ้าวซุนบวมขึ้นมาทําเอาใบหน้าของเขา
บวมไปครึ่ งหนึ่ง!
ตอนที่ 823 อย่ าถามหาความตายแล้ วเจ้ าจะมีชีวติ อยู่ (6)
เสี ยงร้องด้วยความเจ็บปวดยังไม่ทนั จะออกจากปากของจ้าวซุน
เชียวชูกเ็ อามือมาปิ ดปากเขาเอาไว้แล้ว ใบหน้าของจ้าวซุนแดงเถือก
ขึ้นมาทันทีพร้อมกับความเจ็บปวด
“อย่าให้ขา้ ต้องถามอีกครั้ง” จวินอู๋เสี ยมองจ้าวซุนโดยปราศจาก
ความเห็นใจใด ๆ ดวงตาของนางเย็นชาจนน่ากลัว
เชียวชูปล่อยมือช้า ๆ และจ้าวซุนก็พบว่ามือที่จบั บ่าเขาเอาไว้ได้
เลื่อนไปคว้าคอของเขาแล้ว จ้าวซุนรู ้วา่ แค่เชียวชูออกแรงอีกนิดเดียว
เท่านั้น คอของเขาก็จะหักทันทีอย่างง่ายดาย
จ้าวซุนไม่เคยโดนข่มขู่เช่นนี้มาก่อน เขาเป็ นศิษย์ของสํานักศึกษา
ธรรมดาทัว่ ไปคนหนึ่ง และพวกเขาเคยแต่หยุดการต่อสู ใ้ นการปะทะ
โดนตัวครั้งแรกในการฝึ กซ้อมประลองกันเท่านั้น วันนี้เป็ นครั้งแรก
ที่เขารู ้สึกว่าความตายอยูใ่ กล้แค่เอื้อม!
เขาหวาดกลัวจนลนลานขณะที่มองจวินเสี ยนัง่ ลงที่เก้าอี้ ความรู ้สึก
เหยียดหยามในใจกลายเป็ นความกลัวอย่างรวดเร็ ว เขาไม่เคยคิดฝัน
เลยสักครั้งว่าเด็กที่ทุกคนจากทุกสํานักชี้หน้าว่าเป็ นสวะและต้อง
พึ่งพิงองค์รัชทายาทในการผ่านเข้ารอบการแข่งขันจะชัว่ ร้ายและ
โหดเหี้ ยมขนาดนี้!
“เจ้า…เจ้าต้องการอะไรจากข้า? ที่นี่มีศิษย์จากสํานักฮัว่ หวันเต็มไป
หมด อย่าบอกนะว่าเจ้ากล้าฆ่าข้าที่นี่จริ ง ๆ ? ถ้าเจ้าทําอย่างนั้น เรื่ อง
มันจะยิง่ เลวร้ายมากขึ้นสําหรับเจ้าในการประลองวันพรุ่ งนี้!” ความ
กลัวทําให้ร่างกายของจ้าวซุนเย็นเฉียบ แต่เขายังไม่กล้าพูดความจริ ง
ถ้าเขาพูดออกมาสักคํา ต่อให้จวินเสี ยไว้ชีวติ เขา นายท่านก็คงไม่
ปล่อยเขาไปอยูด่ ี
“จะลองดูกไ็ ด้” จวินอู๋เสี ยยักไหล่ ไม่หวัน่ ไหวกับคําขู่ของจ้าวซุนเลย
แม้แต่นอ้ ย
จ้าวซุนกําลังจะพูดอีก แต่จวินอู๋เสี ยไม่มีความอดทนพอที่จะฟังเรื่ อง
เหลวไหลไร้สาระ นางพยักหน้าให้เชียวชูและทันใดนั้นมือของเชียว
ชูที่กาํ อยูร่ อบคอของจ้าวซุนก็บีบแน่นขึ้น!
แค่แปบเดียวเท่านั้น! ใบหน้าของจ้าวซุนก็เขียวคลํ้า เขาดิ้นรนอย่าง
หมดหวัง พยายามทุกอย่างที่สามารถทําได้เพือ่ ให้หลุดจากมือของ
เชียวชู แต่ความแข็งแกร่ งอันน้อยนิดของเขาไม่สามารถง้างมือของ
เชียวชูออกได้เลยแม้แต่นิดเดียว
“ถ้าไม่ใช่เพราะเราต้องใช้เจ้า ป่ านนี้เจ้าตายไปแล้ว” จวินอู๋เสี ยพูด
พลางมองจ้าวซุนที่ใบหน้าซีดขาวอย่างเย็นชา นางไม่ได้ลงมืออะไร
ก่อนหน้านี้กเ็ พราะนางไม่แน่ใจว่าองค์จกั รพรรดิใช้วธิ ีรุนแรงแค่
ไหนในการเล่นงานเล่ยเฉิน แต่นนั่ ไม่ได้หมายความว่านางจะนิ่ง
เงียบไปตลอดและปล่อยให้ตวั เองถูกใช้เป็ นเบี้ยในกระดานต่อไป
เรื่ อย ๆ
ถ้าเขากล้าจัดฉากนาง เขาก็ตอ้ งเตรี ยมตัวเผชิญหน้ากับความตาย
ด้วย!
ใบหน้าซีดขาวของจ้าวซุนเปลี่ยนเป็ นสี ม่วง แขนขาบิดและดิ้นรน
อย่างเจ็บปวด ดวงตาเบิกกว้าง มือทั้งสองข้างกําแขนเสื้ อของเชียวชู
เอาไว้แน่น แววตาหมดหวัง
“ปล่อยเขา” จวินอู๋เสี ยพูดก่อนที่จา้ วซุนจะขาดอากาศตาย
เชียวชูปล่อยมือออก
อากาศเข้าสู่ ปอดของเขาอีกครั้ง จ้าวซุนนอนกองอยูบ่ นพื้นพร้อมกับ
ไออย่างแรง การดิ้นรนจากความตายที่ใกล้เข้ามาเมื่อครู่ ทาํ ให้เขา
สําลักอย่างหนักจนนํ้ามูกนํ้าตาไหลออกมาเปรอะเปื้ อนไปทั้งหน้า
แต่เขาไม่สนใจเลยแม้แต่นอ้ ยเนื่องจากความหวาดกลัวในใจที่ทาํ ลาย
ตัวตนของเขาอย่างต่อเนื่อง เขาพยายามเงยหน้าขึ้นมองร่ างที่นงั่ อยู่
บนเก้าอี้อย่างเฉยเมยด้วยความหวาดกลัว และไม่สงสัยเลยสักนิดว่า
ถ้าครั้งหน้าเขายังกล้าเลี่ยงที่จะตอบคําถามตรง ๆ จวินเสี ยจะสัง่ ให้
เชียวชูฆ่าเขาอย่างไม่ลงั เล!
“ข้า…ข้าไม่รู้วา่ เขาเป็ นใคร…เขามาหาข้าหลังจับสลากเสร็ จ เขา…
เขาบอกให้ขา้ สละสิ ทธิ์การแข่งขันรอบต่อไป และต้องการให้ขา้ พูด
เป็ นนัยให้ทุกคนรอบตัวข้าฟังว่าทั้งหมดนี้คือฝี มือขององค์รัช
ทายาท…ข้าไม่รู้จริ ง ๆ ว่าเขาเป็ นใคร! ทุกอย่างที่ขา้ พูดคือความจริ ง
นะ!” จ้าวซุนพูดไปพลางร้องไห้ไปพลาง นํ้าตาผสมนํ้ามูกเปื้ อนไป
ทัว่ ใบหน้า สภาพน่าสังเวชอย่างแท้จริ ง
ตอนที่ 824 อย่ าถามหาความตายแล้ วเจ้ าจะมีชีวติ อยู่ (7)
จ้าวซุนกลัวมากจริ ง ๆ เขาไม่เคยเจอผูเ้ ยาว์ที่โหดเหี้ ยมขนาดนี้มา
ก่อน คนที่ไม่เปิ ดโอกาสให้วางแผนใด ๆ และโหดร้ายซะจนทําให้
ไม่กล้าคิดออกนอกลู่นอกทาง
“พูด” จวินอู๋เสี ยพูดด้วยเสี ยงเย็นชา
จ้าวซุนตัวสัน่ เขารี บคายทุกอย่างที่รู้ออกมาทันที
ความจริ งถูกเปิ ดเผยออกมาว่า จ้าวซุนได้พบกับชายชุดดําในคืนที่เขา
จับสลากหาคู่ต่อสู ร้ อบต่อไปขณะที่เขาเดินทางกลับโรงเตี๊ยมที่พกั
ของสํานักของพวกเขา ชายคนนั้นสัง่ คนของเขาให้ลกั พาตัวเขา และ
เขาไม่ได้บอกกล่าวถึงตัวตนของเขาอย่างชัดเจน ชายคนนั้นบอกจ้าว
ซุนว่าตราบใดที่เขาทําตามคําสัง่ จ้าวซุนก็จะได้ทุกอย่างที่อยากได้
“เขาไม่ได้บอกข้าว่าเขาเป็ นใคร บอกแค่วา่ ให้เรี ยกเขาว่านายท่าน ข้า
เห็นว่าเขาใส่ เสื้ อผ้าเนื้อดีมีราคา นอกจากนั้น…ลูกน้องของเขาก็
แข็งแกร่ งมาก เขาอยากให้ขา้ กระจายข่าวลือเล่นงานองค์รัชทายาท
ข้าเลยคิดว่าเขาน่าจะมีตาํ แหน่งสู งมากด้วย…” จ้าวซุนพูดตามตรง
เขากลัวเกินกว่าจะคิดใช้ลูกเล่นอะไร ตอนแรกเขาก็สงสัยในตัวตน
ของชายชุดดําเนื่องจากมีคนไม่มากนักในแคว้นหยานที่มี
ความสามารถในการต่อต้านองค์รัชทายาทได้ แต่เมื่อเขาพบว่าชะตา
กรรมของเขาอาจจะจบลงแบบเดียวกับผูเ้ ข้าแข่งขันที่ถูกฆ่าคนก่อน
ได้ถา้ เขาไม่ทาํ ตามคําสัง่ ของชายคนนั้น จ้าวซุนจึงไม่กล้าสื บค้นเรื่ อง
นี้อีก
“เขาพูดว่าถ้าข้าไม่ทาํ ตามคําสัง่ ของเขา ข้าก็ลืมเรื่ องที่จะเดินออกจาก
แคว้นหยานไปแบบมีชีวติ ได้เลย! ข้าไม่กล้าขัดขืนเขาจริ ง ๆ !” จ้าว
ซุนพูดทั้งนํ้าตา
จวินอู๋เสี ยไม่ตอบเขา นางเพียงแค่กม้ หน้าคิดเรื่ องที่จา้ วซุนพูด
ออกมา คําตอบของจ้าวซุนค่อนข้างใกล้เคียงกับสิ่ งที่นางคาดเดา
เอาไว้ ถ้าคนร้ายตั้งใจจะใช้ศึกประลองวิญญาณดึงเล่ยเฉิ นลงมาจาก
ตําแหน่ง ความคิดจิตใจของเขาก็น่าจะคล้ายคลึงกับอดีตจักรพรรดิ
แห่งแคว้นฉีมาก ด้วยสถานภาพที่ต่าํ ต้อยของจ้าวซุน เขาก็ไม่น่าจะ
ได้พบกับตัวคนบงการโดยตรง ดังนั้นนายท่านที่จา้ วซุนพูดถึงก็
น่าจะเป็ นแค่ลูกน้องของคนผูน้ ้ นั
“พี่ฮวั่ ” จวินอู๋เสี ยเรี ยก
ฮัว่ เหยาก้าวออกมาจากด้านข้างทันที
“ดูหน้าเขาไว้ดีแล้วรึ ยงั ?” จวินอู๋เสี ยถามพร้อมกับชี้ไปที่จา้ วซุน
ฮัว่ เหยาหันไปตรวจสอบจ้าวซุนอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนจะหัน
กลับไปพูดว่า “เรี ยบร้อยแล้ว”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าช้า ๆ และหันไปมองจ้าวซุนอีกครั้ง แล้วเสี ยงเย็น
ชาของนางก็ดงั ขึ้น
“เจ้าตายได้แล้ว”
จ้าวซุนตกใจ เขาลนลานจะลุกขึ้น “ข้า…ข้าบอกเจ้าทุกอย่างแล้ว…
ข้าบอกทุกอย่างที่ขา้ รู ้หมดแล้ว…ทําไม…เจ้า…ฆ่าข้าไม่ได้…”
จ้าวซุนยังพูดไม่ทนั จบประโยค เชียวชูที่ยนื อยูข่ า้ งหลังเขาก็เอามือ
จับที่คางและหัวของเขา จากนั้นก็หมุนบิดอย่างแรง!
เสี ยงกรอบดังขึ้น และคอของจ้าวซุนก็หกั อย่างง่ายดาย…
จ้าวซุนลงไปกองนิ่งอยูก่ บั พื้น กระทัง่ ตอนตายเขาก็ยงั ไม่รู้วา่ จวินอู๋
เสี ยที่สงั่ ให้ปลิดชีวติ เขาโดยไม่ลงั เลแม้แต่นอ้ ยนั้นสามารถโหดเหี้ ยม
ดุร้ายได้มากขนาดไหน
“จุ๊ ๆ น้องเสี ย เจ้าให้ฆ่าเขาแบบนั้นแล้ว ต่อไปจะจัดการกับ
สถานการณ์น้ ียงั ไงล่ะ?” เชียวชูถามพลางลูบคาง เขามองร่ างที่นอน
นิ่งอยูต่ รงหน้า
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตา “ข้าไม่ชอบถูกใส่ ร้ายแบบนี้”
แทนที่จะเสี ยเวลาต่อรองกับขยะแบบนี้ ฆ่าพวกมันทิ้งยังจะง่ายซะ
กว่า
เชียวชูยกั ไหล่ ความเด็ดขาดในการกําจัดศัตรู อย่างไม่ลงั เลของนาง
ทําให้เชียวชูคิดถึง “ความอ่อนโยน” และท่าทางเรื่ อย ๆ เฉื่อย ๆ ตอน
อยูท่ ี่สาํ นักศึกษาวายุประจิม เจ้าพวกที่เคยกล่าวร้ายนางที่วายุประจิม
จะต้องจุดธูปกราบกรานกันยกใหญ่แน่
“ในเมื่อศัตรู ไม่ให้ทางออกแก่เราเลย เราก็ไม่ตอ้ งแสดงความใจดี
อะไรให้พวกมันแล้ว ข้าอยากเห็นจริ ง ๆ ว่าชัยชนะในรอบนี้จะ
ออกมาเป็ นยังไง” จวินอู๋เสี ยพูดอย่างเย็นชา ในเมื่อพวกเขาตกลงเป็ น
พันธมิตรกับเล่ยเฉิ นแล้ว และจักรพรรดิแห่งแคว้นหยานยังคงทํา
เช่นนี้อยู่ นางก็ยงิ่ กว่าเต็มใจที่จะต่อสู ก้ บั เขา!
ตอนที่ 825 อย่ าถามหาความตายแล้ วเจ้ าจะมีชีวติ อยู่ (8)
ที่นิ่งเงียบก่อนหน้านี้กแ็ ค่เพราะเรื่ องที่เกิดขึ้นไม่ได้มีผลกระทบกับ
นาง แต่สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว ท่าทีและการกระทําของจวินอู๋
เสี ยในเรื่ องนี้จึงเปลี่ยนไปด้วย
“อะแฮ่ม แล้วเราจะทํายังไงกับศพนี้ดี?” เชียวชูถามพร้อมกับไว้อาลัย
ให้จกั รพรรดิแห่งแคว้นหยานอยูใ่ นใจ เขาอาจจะไม่รู้เรื่ องอะไรมาก
นัก แต่เขาเคยได้ยนิ มาจากเฟยหยานว่าจวินอู๋เสี ยมีส่วนเกี่ยวข้องกับ
การเปลี่ยนผูค้ รองบัลลังก์ของแคว้นฉี
หนึ่งแคว้นฉี อีกหนึ่งก็ตระกูลชิงอวิน๋ แล้วยังสํานักศึกษาวายุประจิม
อีก และจักรพรรดิแห่งแคว้นหยานก็อาจจะกลายเป็ นอีกหนึ่ง
“ความสําเร็ จ” ของจวินอู๋เสี ย
จวินอู๋เสี ยเอาขวดกระเบื้องเคลือบสี ขาวออกมาและโยนมันไปให้
เชียวชู
“โปรยให้ทวั่ ร่ าง”
เชียวชูพยักหน้า เขาเดินไปโปรยผงอะไรสักอย่างลงบนร่ างของจ้าว
ซุน ในชัว่ พริ บตาศพนั้นก็เน่าเปื่ อยอย่างรวดเร็ ว แม้แต่กระดูกก็ไม่
ละเว้น ในเวลาไม่กี่นาทีส้ นั ๆ ร่ างทั้งร่ างที่นอนอยูบ่ นพื้นก็กลายเป็ น
แอ่งเลือด จวินอู๋เสี ยเอาอ่างนํ้าในห้องมาเทนํ้าลงบนพื้น ล้างรอย
เลือดที่เหลืออยูใ่ ห้หายไปอย่างรวดเร็ ว
เมื่อแก้ปัญหาจนเกือบเสร็ จแล้ว ฮัว่ เหยาก็หยิบเอาชุดเครื่ องแบบของ
สํานักศึกษาฮัว่ หวันในห้องของจ้าวซุนมา และทุกคนก็ออกจากที่นน่ั
อย่างรวดเร็ วด้วยเส้นทางเดียวกับที่เข้ามา
เช้าวันต่อมา ศึกประลองวิญญาณรอบต่อไปก็ได้เริ่ มขึ้น ศิษย์จาก
สํานักศึกษาต่าง ๆ เริ่ มออกเดินทางไปยังลานประลองของตน สํานัก
ศึกษาฮัว่ หวันยังคงมีศิษย์ 3 คนที่เข้ารอบนี้มาได้ ตอนแรกทั้ง 3 คน
นั้นอยากจะรอจ้าวซุนก่อนจะออกเดินทาง แต่หลังจากรออยูน่ าน
พวกเขาก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของจ้าวซุน พวกเขาไปเคาะประตูที่หอ้ ง
ของจ้าวซุนและไม่มีเสี ยงตอบกลับมาเลย ทุกคนเริ่ มคิดว่าแปลกแต่ก็
นึกขึ้นได้วา่ เมื่อคืนจ้าวซุนกลับดึก และเขาได้แสดงให้เห็นอย่าง
ชัดเจนว่าเขาจะไม่เข้าร่ วมการแข่งขันในวันนี้ พอนึกได้วา่ คู่ต่อสู ข้ อง
จ้าวซุนวันนี้เป็ นใคร พวกผูเ้ ยาว์กเ็ ลิกรอและพากันเดินออกไป
พวกเขาคิดว่าจ้าวซุนต้องรับข้อเสนอขององค์รัชทายาทแล้วและยอม
ละทิ้งการแข่งขัน
สถานการณ์เช่นนั้นไม่แปลกอีกต่อไป
จํานวนคนในเขตประลองที่หนึ่งลดลงมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้
บรรยากาศในลานประลองตอนนี้กผ็ อ่ นคลายขึ้นมาก พวกผูเ้ ยาว์ที่
ไปที่นนั่ แต่เช้ากําลังอบอุ่นร่ างกายและเตรี ยมตัวให้พร้อมสําหรับ
การแข่งขัน พวกเขาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและคําแนะนําจากรอบ
ที่แล้วกัน พวกเขาต่างทําความคุน้ เคยกันและพูดคุยกันในกลุ่ม
ลานประลองมีเสี ยงดังเอะอะอึกทึก แต่เมื่อร่ างเล็ก ๆ ร่ างหนึ่งปรากฏ
ตัวขึ้นที่หน้าประตูเขตประลองที่หนึ่ง ทั้งลานประลองก็เงียบกริ บ
ทันที สายตาทุกคู่หนั ไปมองร่ างเล็ก ๆ ที่เดินเข้าลานประลองมา
“มันจะมาทําอะไรที่นี่?” ผูเ้ ยาว์บางคนพูดขึ้นอย่างเหยียดหยาม
ขณะที่มองจวินเสี ยเดินเข้ามาในลานประลอง รอบที่แล้ว ๆ มาตั้งแต่
เริ่ มการแข่งขัน จวินเสี ยไม่ได้สูเ้ ลยสักครั้งเนื่องจากคู่ต่อสู ท้ ุกคน
สละสิ ทธิ์ไปซะทุกรอบ นัน่ ทําให้พวกศิษย์ที่ต่อสู อ้ ย่างดุเดือดในทุก
รอบการแข่งขันรู ้สึกไม่พอใจเป็ นอย่างมาก
“แค่มาไปงั้นล่ะมั้ง? เขาก็รู้วา่ ยังไงซะก็ไม่ตอ้ งสู อ้ ยูแ่ ล้ว”
“คู่ต่อสู เ้ ขาวันนี้คือจ้าวซุนใช่ไหม?”
“ใช่ ข้าดื่มกับจ้าวซุนเมื่อคืนนี้ เขาบอกพวกเราแล้วว่าวันนี้เขาจะไม่
โผล่มาหรอก ต่อให้ใช้หวั แม่เท้าคิดก็รู้วา่ มีใครบางคนไปร้องไห้
อ้อนวอนองค์รัชทายาท ขอให้ท่านจัดการกับคู่ต่อสู ข้ องเขา โชคดี
ชะมัด! คนอย่างพวกเราไม่มีทางโชคดีอย่างนั้นได้เลย” ผูเ้ ยาว์หลาย
คนพูดเสี ยงดังอย่างดูถูก มีท้ งั คนที่อิจฉาจวินเสี ยและคนที่ดูถูก
เหยียดหยามเขา
และในกลุ่มคนที่อยูต่ รงนั้น มีฉูหลิงเย่ที่ทาํ หน้านิ่วคิ้วขมวดมองไป
ที่จวินเสี ยที่เดินเข้ามาในลานประลองช้า ๆ อย่างกังวล
ตอนที่ 826 ขอโทษนะ ถึงทีข้าบ้ างล่ะ (1)
การประลองยังไม่ทนั เริ่ ม จวินอู๋เสี ยก็กลายเป็ นจุดสนใจของทุกคน
ซะแล้ว สายตาทุกคู่จบั จ้องมาที่นางแต่นางยังคงก้าวเดินอย่างช้า ๆ
เข้าไปในลานประลอง ดูเหมือนว่าสายตาที่ทิ่มแทงนางจากทุกหน
แห่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนางแม้แต่นอ้ ย
“บางคนก็เกิดมาโชคดีชะมัด ขนาดไม่ได้ทาํ อะไร ไม่รู้อะไรเลย ก็ยงั
มีคนปูทางไว้ให้เดินซะดิบดี ไม่เหมือนพวกเราที่ตอ้ งสู เ้ สี่ ยงชีวติ
ไม่ได้หยุดแต่กย็ งั ไม่ประสบความสําเร็ จอย่างที่คนบางคนได้รับมา
เพียงแค่พดู ไม่กี่คาํ ” พวกผูเ้ ยาว์กระซิบเสี ยงดังด้วยนํ้าเสี ยงที่เต็มไป
ด้วยความอิจฉาขณะที่มองจวินอู๋เสี ย เสี ยงของพวกเขาดังพอที่คน
รอบ ๆ จะได้ยนิ อย่างชัดเจนซึ่งหลายคนที่ได้ยนิ ส่ วนใหญ่กจ็ ะเห็น
ด้วยกับผูเ้ ยาว์พวกนี้ ต่างอิจฉา “ความโชคดี” ที่น่าเหลือเชื่อของจ
วินอู๋เสี ยเป็ นอย่างมาก
ถึงแม้จะเสี ยดสี เหน็บแนมกัน แต่พวกเขาก็ไม่กล้าทําไปมากกว่านี้
ต่อหน้าจวินเสี ย ยังไงซะศิษย์ที่ถูกฆ่าตายไปนัน่ ก็มีส่วนเกี่ยวพันกับจ
วินเสี ย และพววกเขาทุกคนก็หวาดกลัวในอํานาจของเล่ยเฉิน แต่
ความกลัวนั้นก็ยงิ่ เป็ นเชื้อเพลิงให้พวกเขาอิจฉามากยิง่ ขึ้น
ในที่สุดการแข่งขันก็เริ่ มต้นขึ้น เสี ยงของการต่อสู ด้ งั มาจากเวที
ประลองไม่หยุดตั้งแต่รอบแรก พวกผูเ้ ยาว์ต่างแสดงความสามารถ
ของตัวเองอย่างเต็มที่ หวังว่าจะมีตาํ แหน่งให้พวกเขาในศึกประลอง
ครั้งนี้
“แม่นางฉู ไม่คิดเหรอว่าเจ้านัน่ มันทําเกินไป? ทําเรื่ องตํ่าช้าขนาดนั้น
เอาไว้แล้วยังมีหน้ามาที่นี่อีก” ผูเ้ ยาว์คนหนึ่งที่ค่อนข้างสนิทสนมกับ
คนของสํานักศึกษาธงศึกเข้ามายืนอยูข่ า้ ง ๆ ฉูหลิงเย่ ท่าทางของเขา
ไม่พอใจเป็ นอย่างมาก
ในเขตประลองที่หนึ่งนี้ พวกเขาต่างผ่านการต่อสู อ้ นั ดุเดือดกันมา
หลายรอบ ผูเ้ ข้าแข่งขันหลายคนได้แสดงความสามารถและพลังอัน
โดดเด่น ฉูหลิงเย่จากสํานักศึกษาธงศึกได้รับการยอมรับว่าเป็ นคนที่
แข็งแกร่ งที่สุดในบรรดาผูเ้ ยาว์ท้ งั หมดจากเขตประลองที่หนึ่ง นาง
ไม่เพียงแต่เป็ นศิษย์อนั ดับต้น ๆ ในสํานักศึกษาธงศึกเท่านั้น แต่นาง
ยังเป็ นคุณหนูแห่งเมืองพันอสู รด้วย ทั้งสถานะและตําแหน่งของนาง
ทําให้มีคนจํานวนน้อยนิดเท่านั้นที่สามารถเทียบเคียงได้
แน่นอนว่าฉูหลิงเย่ได้กลายเป็ นตัวเก็งที่จะชนะในเขตประลองที่
หนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด อย่างไรก็ตาม นอกจากฉูหลิงเย่แล้ว
เขตประลองที่หนึ่งยังมีอีกคนที่มีโอกาสเข้าไปถึง 10 อันดับแรก นัน่
ก็คือจวินเสี ย แต่ทุกคนมีความรู ้สึกต่อโอกาสในการผ่านเข้ารอบ
ของจวินเสี ยแตกต่างไป…พวกเขาไม่รู้สึกภูมิใจในตัวนางเลยสักนิด
ฉูหลิงเย่ชาํ เลืองมองผูเ้ ยาว์คนนั้นแวบนึงแต่ไม่พดู อะไรออกมา
ผูเ้ ยาว์คนนั้นไม่ละความพยายามที่จะพูดคุยกับฉูหลิงเย่ “จริ ง ๆ แล้ว
เรื่ องแบบนี้มนั ผิดกฎนะ มีคนแบบหมอนัน่ อยู่ กฎของศึกประลอง
วิญญาณต้องโดนดูหมิ่นเป็ นแน่ แต่ขา้ เชื่อว่าแม่นางฉูจะไม่ปล่อยให้
คนพรรค์น้ นั ทําตามใจตัวเองต่อไปได้ หวังว่าแม่นางฉูจะทําให้คน
อย่างมันลดความยโสลงได้จริ ง ๆ”
พูดได้วา่ นอกจากฉูหลิงเย่แล้ว คนทั้งเขตประลองที่หนึ่งไม่มีใครที่
สามารถต่อต้านอํานาจขององค์รัชทายาทได้เลย ทุกคนที่นนั่ แอบ
หวังให้จวินเสี ยเจอกับฉูหลิงเย่ในการประลองเร็ วที่สุดเท่าที่จะ
เป็ นไปได้ และให้ฉูหลิงเย่เอาชนะเขาอย่างขาดลอย ทุกคนจะได้โล่ง
ใจกันได้ซะที
ฉูหลิงเย่เดาะลิ้น ไม่อยากจะพูดอะไรกับผูเ้ ยาว์คนนั้น ในตอนนี้นาง
รู ้สึกสับสนพอสมควร เด็กสาวก้าวเท้าออกจากที่นนั่ แต่สายตาของ
นางยังคงจับจ้องอยูท่ ี่จวินเสี ยโดยไม่ได้ต้ งั ใจ แววตาของนางเจือ
ความสงสัยและกังวล
การประลองจบลงไปคู่แล้วคู่เล่าและใกล้จะถึงตาของจวินเสี ยแล้ว
ไม่มีใครสักคนเชื่อว่าจวินเสี ยจะก้าวขึ้นเวทีประลองและต่อสู จ้ ริ ง ๆ
สายตาของทุกคนกวาดมองไปทัว่ ลานประลองอยูห่ ลายครั้ง แต่กไ็ ม่
เห็นวีแ่ ววของจ้าวซุนเลย และดวงตาของทุกคนก็ทอแววดูถูกเหยียด
หยามทันที
[อย่างที่คิด มันเอาอีกแล้ว!]
จวินอู๋เสี ยก้มหน้าลง มุมปากของนางขยับเล็กน้อยราวกับนางกําลัง
คํานวณอะไรอยู่ เมื่อนางได้ยนิ เสี ยงเรี ยกชื่อของนาง นางก็เงยหน้า
ขึ้นและเดินตรงไปที่กลางเวทีประลอง
ตอนที่ 827 ขอโทษนะ ถึงทีข้าบ้ างล่ะ (2)
พิธีกรมองจวินเสี ยที่ยนื อยูก่ ลางเวทีประลองด้วยกันกับเขา ริ มฝี ปาก
โค้งขึ้นอย่างเย้ยหยันเมื่อคิดถึงหลายครั้งหลายคราที่คู่ต่อสู ท้ ุกคน
ของจวินเสี ยสละสิ ทธิ์การประลองไป เขารู ้แก่ใจดี และแม้วา่ จะพูด
ออกมาดัง ๆ ไม่ได้ แต่สีหน้าของเขาก็แสดงความดูถูกจวินเสี ยออก
มาอย่างชัดเจน
ทุกสายตาที่ลานประลองจับจ้องไปที่จวินเสี ย และแทบทุกครั้งที่จวิน
เสี ยยืนอยูบ่ นเวทีน้ นั ไม่มีใครจะขึ้นมายืนฝั่งตรงข้ามกับเขาได้เลย
วันนี้ฝงู ชนต่างก็คิดว่าสิ่ งเดียวกันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง พวกเขาไม่ได้ลุน้
อะไรขณะรอคอยเวลา 1 ชัว่ โมงให้หมดไป พวกเขาอยากจะให้เวลา
ผ่านไปเร็ ว ๆ ซะด้วยซํ้า จะได้ทาํ การประลองรอบต่อไปได้
วินาทีผา่ นไปเป็ นนาที ผูค้ นในลานประลองเริ่ มส่ งเสี ยงดังอย่างหมด
ความอดทนขึ้นเรื่ อย ๆ พวกเขาไม่มองจวินเสี ยที่กาํ ลังยืนอยูค่ นเดียว
บนเวทีอีกต่อไป และผูเ้ ข้าแข่งขันรอบต่อไปก็กาํ ลังเตรี ยมตัวสําหรับ
การประลองของพวกเขา
พิธีกรดูเวลาแล้ว เหลือเวลาอีกไม่มากก็จะหมดชัง่ โมง เขาจึงอด
ไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “คุณชายจวิน ข้าคิดว่าวันนี้จา้ วซุนก็คงไม่มา
เหมือนกัน เราควรเริ่ มการประลองรอบต่อไปได้แล้ว”
ความหมายของเขาก็คือให้จวินเสี ยหยุดเสแสร้งซะที อย่าทําให้ทุก
คนต้องเสี ยเวลาอีกเลย
“เวลายังไม่หมดเลย” จวินอู๋เสี ยตอบเรี ยบ ๆ ขณะที่เงยหน้ามอง
พิธีกร
ชายคนนั้นถอนใจและถอยไปยืนด้านข้าง
เห็นได้ชดั จากท่าทีของเขาว่าเขาไม่อยากเห็นการกระทําของจวินเสี ย
อีก
“เวลาจะหมดรึ ไม่หมดแล้วมันจะต่างกันยังไง? ทุกคนรู ้กนั หมดแล้ว
ว่าเกิดอะไรขึ้น จะแกล้งทําไปให้ใครดู?” ลานประลองอยูใ่ นความ
เอะอะวุน่ วาย ถ้าไม่ใช่เพราะความกลัวเล่ยเฉิ นที่หนุนหลังจวินเสี ย
อยู่ ฝูงชนอาจจะโยนจวินเสี ยออกไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ภายใต้เสี ยงเอะอะโวยวายที่กาํ ลังเพิ่มขึ้นนัน่ ร่ างสู ง
ร่ างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูลานประลอง
กลุ่มผูเ้ ยาว์ที่กาํ ลังกระซิบกันอยู่ พอเห็นคนที่อยูต่ รงประตูกแ็ ข็งค้าง
กันไปตาม ๆ กัน
พวกเขามองผูเ้ ยาว์ที่กาํ ลังเดินช้า ๆ มาที่เวทีประลองอย่างไม่อยากจะ
เชื่อ ผูค้ นต่างพากันขยี้ตาและคิดว่าตัวเองตาฝาดไปรึ เปล่า!
คนที่เพิ่งปรากฏตัวขึ้นที่ประตูไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน
นัน่ คือจ้าวซุนที่เป็ นคู่ต่อสู ข้ องจวินเสี ยในวันนี้!
“ทําไมเขามาที่นี่ล่ะ?”
พวกผูเ้ ยาว์มองจ้าวซุนอย่างสงสัยและไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
จ้าวซุนเดินตรงขึ้นไปที่กลางเวทีประลองภายใต้สายตาที่จอ้ งมองมา
จํานวนนับไม่ถว้ น เขายืนอยูต่ รงหน้าจวินเสี ยด้วยท่าทางสบาย ๆ
และไม่แยแส
“เราเริ่ มกันได้แล้วซิ” จวินอู๋เสี ยพูดขึ้นทันที
พิธีกรที่ทาํ หน้าที่ในการประลองนิ่งอึ้งอย่างเห็นได้ชดั เขานิ่งเงียบอยู่
อย่างนั้นครู่ หนึ่งก่อนจะหันไปมองจ้าวซุนอย่างไม่แน่ใจและถาม
ด้วยนํ้าเสี ยงสงสัยว่า “จ้าวซุน เจ้ามาทําอะไรที่นี่?”
จ้าวซุนเลิกคิ้วขึ้นและพูดอย่างดูถูกว่า “วันนี้เป็ นวันประลองของข้า
ไม่ใช่รึไง? ถามข้าว่ามาทําอะไรที่นี่เนี่ยนะ ท่านก็น่าจะรู ้ดีอยูแ่ ล้วนี่”
พิธีกรสับสนกับคําพูดของจ้าวซุน ใบหน้าของเขาซี ดขาว เขาหันไป
มองจ้าวซุนกับจวินเสี ยสลับกัน สี หน้ายังคงตกตะลึง
พวกผูเ้ ยาว์ในลานประลองส่ งเสี ยงฮือฮาขึ้นมาอย่างดีอกดีใจ ตอน
แรกพวกเขาคิดว่าจ้าวซุนอาจจะมาเพื่อประกาศสละสิ ทธิ์การ
ประลอง แต่ในที่สุด…
เขาจะสู ก้ บั จวินเสี ยจริ ง ๆ หรื อ!?
การเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงอย่างกะทันหันนั้นทําให้ทุกคนไม่ทนั
ตั้งตัว
เมื่อวานจ้าวซุนได้บอกเป็ นนัย ๆ เอาไว้แล้วว่าเขาได้ยอมรับข้อเสนอ
ขององค์รัชทายาทและตั้งใจที่จะทิ้งการแข่งขัน แต่…ทําไมวันนี้เขา
ถึงมาที่นี่ล่ะ? แถมยังแสดงออกอย่างเต็มที่วา่ อยากจะประลองกับจ
วินเสี ยด้วย!
ทุกคนต่างพากันสับสนอย่างที่สุด
“อะแฮ่ม ในเมื่อเป็ นเช่นนั้น…งั้นก็เริ่ มได้” พิธีกรถอยไปด้านข้าง
อย่างกระอักกระอ่วน ในใจยิง่ สับสนมากขึ้นเรื่ อย ๆ
ตอนที่ 828 ขอโทษนะ ถึงทีข้าบ้ างล่ะ (3)
จวินเสี ยและจ้าวซุนยืนเผชิญหน้ากันตรงกลางเวทีประลอง
บรรยากาศตึงเครี ยดขึ้นทันที พวกผูเ้ ยาว์เฝ้าดูพวกเขาอยูน่ านก่อนจะ
ได้สติ ดูเหมือนว่าการประลองในรอบนี้กาํ ลังจะเริ่ มขึ้นแล้ว!
“จ้าวซุน! เจ้าเป็ นลูกผูช้ ายจริ ง ๆ ! กล้ายืนหยัดต่อต้านองค์รัชทายาท!
การประลองรอบนี้จะต้องยอดเยีย่ มแน่!”
“ก็อย่างที่ขา้ พูดไปไง วันหนึ่งจะต้องมีคนมาสัง่ สอนบทเรี ยนให้จวิน
เสี ย เจ้าเด็กนัน่ กล้าพูดว่าเวลายังไม่หมด ไงล่ะก้อนหิ นที่หยิบมาหล่น
ใส่ เท้าตัวเองแล้ว! จ้าวซุนโผล่มาแล้ว ดูแขนขาผอมแห้งของเด็กนัน่
ซิ ข้าว่าทนการโจมตีของจ้าวซุนไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียวแน่”
เมื่อเห็นว่าการต่อสู ก้ าํ ลังจะเริ่ ม พวกผูเ้ ยาว์ในเขตประลองที่หนึ่งก็
แทบจะเดือดพล่านด้วยความคาดหวัง ทุกคนไม่กล้าต่อต้านเล่ยเฉิ น
แต่กไ็ ม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ยนิ ดีที่ได้เห็นจวินเสี ยพ่ายแพ้!
ในลานประลอง ร่ างเล็ก ๆ ของจวินอู๋เสี ยยิง่ ดูบอบบางและอ่อนแอ
เมื่ออยูต่ ่อหน้าร่ างสู งใหญ่ของจ้าวซุน เพียงมองแค่แวบเดียวก็บอก
ได้อย่างชัดเจนว่าใครแข็งแกร่ งกว่า
ทุกคนแอบคาดหวังที่จะได้เห็นว่าจวินเสี ยจะโดนตบหน้าอย่างไรต่อ
หน้าทุกคน!
เมื่อเสี ยงระฆังเริ่ มการประลองดังขึ้น จวินอู๋เสี ยที่ยนื อยูบ่ นเวที
ประลองก็เริ่ มลงมือ!
และเพียงการเคลื่อนไหวแรกของนาง ทัว่ ทั้งลานประลองที่เตรี ยมตัว
โห่ร้องและล้อเลียนเต็มที่กพ็ ากันเงียบกริ บ!
สายตาทุกคู่จอ้ งไปที่แสงสี เขียวสว่างไสวของพลังวิญญาณที่ออกมา
จากร่ างของจวินเสี ย แสงนั้นสว่างจ้าซะจนเกือบทําให้ตาของผูเ้ ยาว์
ทุกคนมองอะไรไม่เห็น!
“พลังวิญญาณสี เขียว! เป็ นไปได้ยงั ไง!!?”
เสี ยงร้องด้วยความตกใจดังอื้ออึงไปทัว่ ! ทุกคนไม่อยากจะเชื่อ
สายตาของตัวเองขณะที่มองดูร่างเล็ก ๆ ที่ห่อหุม้ ด้วยแสงสี เขียว
สว่างเจิดจ้านั้น!
ผูเ้ ยาว์อายุ 15 ปี ที่มีพลังวิญญาณสี เขียว ไม่เคยมีใครได้ยนิ เรื่ องแบบนี้
มาก่อน!
ทุกคนพากันขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองตาไม่ฝาด!
ร่ างของจวินอู๋เสี ยเคลื่อนไหวบนเวทีประลองราวกับสายฟ้า เมื่ออยู่
ต่อหน้าแสงสี เขียวเจิดจ้านั้น พลังวิญญาณสี สม้ ของจ้าวซุนก็ดูเล็ก
จ้อยจนมองไม่เห็น! การเคลื่อนไหวของผูใ้ ช้พลังวิญญาณสี เขียวนั้น
รวดเร็ วมากจนทุกคนไม่อาจมองได้ทนั พวกเขาเห็นแค่แสงสี เขียว
เจิดจ้านั้นพุง่ ตรงไปหาจ้าวซุนด้วยความเร็ วที่น่าเหลือเชื่อ!
ในตอนนั้นทุกคนพากันเงียบกริ บกันหมด จวินอู๋เสี ยแค่ปล่อยพลัง
วิญญาณของนางเท่านั้นก็ตบหน้าทุก ๆ คนอย่างแรงได้แล้ว!
พวกผูเ้ ยาว์ที่เคยกล่าวหานางว่าประจบประแจงเล่ยเฉิ น พวกที่อิจฉา
ความโชคดีที่ไม่สมควรจะได้ของนาง บัดนี้ต่างก็พดู อะไรไม่ออก
พลังวิญญาณสี เขียว…ไม่จาํ เป็ นต้องแอบขอความช่วยเหลือจากใคร
ทั้งนั้น ด้วยพลังขนาดนั้นเขาสามารถเอาชนะทั้งเขตประลองที่หนึ่ง
ได้อย่างสบายเลยทีเดียว!
ต่อหน้าพลังขนาดนั้น ทุกข้อกล่าวหาก็กลายเป็ นเรื่ องตลกไปอย่าง
รวดเร็ ว
หลังจากนี้ไม่มีใครพูดได้อีกแล้วว่าเป็ นเพราะจวินเสี ยอ่อนแอเกินไป
เขาจึงต้องแอบบังคับให้คู่ต่อสู ข้ องเขาถอนตัวจากการประลอง
จากสิ่ งที่พวกเขาเห็น ทัว่ ทั้งเขตประลองที่หนึ่ง ไม่มีสกั คนที่สามารถ
ยืนหยัดต่อต้านเขาได้
ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ทั้งลานประลองตกอยูใ่ นความเงียบ พวก
ผูเ้ ยาว์ที่ลอ้ เลียนและเย้ยหยันอยูเ่ มื่อครู่ กพ็ ากันหน้าร้อนฉ่า ถ้าบอกว่า
พลังวิญญาณสี เขียวเป็ นขยะ แล้วพวกเขาจะเป็ นอะไรกันล่ะ? ไม่ยงิ่
กว่าขยะอีกหรื อ?
การต่อสู จ้ บลงในพริ บตา พลังวิญญาณสี สม้ ไม่มีโอกาสต่อต้านพลัง
วิญญาณสี เขียวได้เลย ก่อนที่ทุกคนจะได้สติจากอาการตกใจ จ้าวซุน
ที่ยนื อยูบ่ นเวทีกล็ อยขึ้นไปกลางอากาศจากลูกเตะเพียงครั้งเดียว
ของจวินเสี ย ร่ างสู งของเขาลอยละลิ่วตกลงมากระแทกที่มุมเวที
ประลองอย่างรุ นแรง!
จวินอู๋เสี ยลงมือแค่ครั้งเดียว เขาก็เอาชนะไปได้ภายใน 1 วินาที
เท่านั้น!
พลังที่เหนือกว่ามากมายเช่นนี้ทาํ ให้ผเู ้ ยาว์ทุกคนที่ดูถูกจวินเสี ยพา
กันกลืนนํ้าลายด้วยความหวาดกลัว
ตอนที่ 829 ขอโทษนะ ถึงทีข้าบ้ างล่ะ (4)
นัน่ มันเรื่ องตลกอะไรกันนี่!? จวินเสี ยเป็ นสัตว์ประหลาดเรอะ! องค์
รัชทายาทคิดอะไรอยูก่ นั แน่!? เขาคิดว่าสัตว์ประหลาดนัน่ จะผ่าน
เข้ารอบการประลองนี้ไปไม่ได้ได้ยงั ไง!? ไม่มีความจําเป็ นที่เขา
จะต้องแอบสัง่ ให้ผเู ้ ข้าแข่งขันสละสิ ทธิ์เลยสักนิด! เรื่ องทั้งหมดนี้ไม่
กลายเป็ นเรื่ องตลกสําหรับทุกคนไปแล้วเหรอ?
พวกผูเ้ ยาว์ที่เชื่อว่าจวินเสี ยทําเรื่ องขี้ขลาดตาขาวเพราะเขาอ่อนแอ
และหมดหนทาง ก็พลันพบว่าตัวเองไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้
เลย
ด้วยระดับพลังวิญญาณของจวินเสี ย เขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู ไ้ ด้
อย่างง่ายดายในวินาทีเดียว แล้วทําไมเขาจะต้องทําเรื่ องยุง่ ยาก
ทั้งหมดนี้ดว้ ย?
บนเวทีประลอง แสงจากพลังวิญญาณรอบตัวจวินอู๋เสี ยจางหายไป
แล้ว นางจัดแจงเสื้ อผ้าให้เรี ยบร้อยอย่างเงียบ ๆ แล้วหันไปมอง
พิธีกรที่ยนื อ้าปากค้างอยูด่ า้ นข้าง
“ประกาศผลได้แล้วมั้ง”
พิธีกรยืนอ้าปากค้างอยูอ่ ีกครู่ หนึ่งก่อนจะหุบปากฉับ เขากลืนนํ้าลาย
อึกใหญ่และมองจวินอู๋เสี ยที่ยนื ทําหน้านิ่งเฉยด้วยสี หน้าประหลาด
ใจ เขาไม่กล้าแสดงความดูถูกเหยียดหยามอย่างที่ทาํ เมื่อครู่ อีก ใน
แววตาของเขามีแต่ความหวาดกลัวอย่างมากมาย
“จวินเสี ยจากสํานักศึกษาวายุประจิมเป็ นผูช้ นะ!” พิธีกรพูดพลาง
มองไปที่สตั ว์ประหลาดน่ากลัวนั้น
[เด็กนัน่ อย่างมากก็อายุ 15 เท่านั้นเอง!]
[แล้วมีพลังวิญญาณสี เขียวแล้วเนี่ยนะ!?]
สํานักศึกษาวายุประจิมสัน่ สะเทือนการประลองทั้งหมดด้วยผูเ้ ยาว์
อายุ 17 และ 18 ปี ที่มีพลังวิญญาณขั้นสี ฟ้าหลายคนยังไม่พอ ตอนนี้
ยังมีผเู ้ ยาว์อายุ 15 ปี ที่มีพลังวิญญาณขั้นสี เขียวอีก!?
พิธีกรพลันรู ้สึกสํานึกขอบคุณอย่างใหญ่หลวงที่เขาไม่ได้พดู อะไร
เสี ยดสี เหน็บแนมจวินเสี ยเนื่องจากกลัวการแก้แค้นจากเล่ยเฉิ นเมื่อ
ครู่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเล่ยเฉินไม่จาํ เป็ นต้องกระดิกนิ้ว จวินเสี ยก็
สามารถบี้เขาเหมือนแมลงได้ดว้ ยตัวเองอยูแ่ ล้ว!
เสี ยงของพิธีกรดังก้องไปทัว่ ลานประลอง คนที่ยงั ไม่ได้สติจากการ
ตกใจก็พลันได้สติกลับคืนมา พวกเขาหันไปมองจวินเสี ยที่เดินลง
เวทีประลองไปช้า ๆ อย่างไม่เชื่อสายตา
ทันใดนั้นเอง ฝูงชนที่ลอ้ มรอบเวทีอยูก่ แ็ ยกออกเป็ นทางโดยไม่รู้ตวั
ให้จวินเสี ยเดินผ่านไปได้อย่างง่ายดาย ไม่มีใครกล้าพูดอะไรกับเขา
หัวใจของพวกเขายังคงเต้นรัวจากความตกใจ
จวินอู๋เสี ยเดินลงจากเวทีอย่างสงบนิ่งภายใต้สายตานับไม่ถว้ นที่จบั
จ้องมองมาที่นาง จนกระทัง่ แผ่นหลังของนางหายไปจากทางออก
ของลานประลอง สายตาของพวกเขาก็ยงั มองไปที่ประตูที่จวินเสี ย
เพิง่ เดินออกไปอย่างเหม่อลอย
มันก็แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง แต่ทุกอย่างดูเกินจริ งไปมากราวกับ
ความฝัน
ไม่มีใครสังเกตสักคนว่าจ้าวซุนที่ถูกจวินเสี ยเตะกระเด็นไปนั้นได้
ฉวยโอกาสตอนที่เห็นทุกคนตกใจและมึนงงลุกขึ้นอย่างเงียบ ๆ
ใบหน้าของเขาไม่มีวแี่ ววของความเจ็บปวดใด ๆ เขาปั ดฝุ่ นออกจาก
เสื้ อผ้าแล้วก็ออกจากลานประลองไปโดยไร้เสี ยง
วันนี้เป็ นครั้งแรกที่ได้เห็นจวินเสี ยลงมือในศึกประลองวิญญาณ และ
การลงมือเพียงครั้งเดียวนั้นก็เกินพอที่จะลบมลทินที่แปดเปื้ อนชื่อ
ของจวินเสี ยออกไปได้ท้ งั หมด
ถ้าจวินเสี ยเป็ นผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี สม้ เรื่ องก็คงจะไม่ถึงขนาดนี้
และผูค้ นก็จะไม่ตกใจกันมากขนาดนี้ดว้ ย
แต่เมื่อนางแสดงพลังวิญญาณขั้นสี เขียวออกมา ก็ไม่มีขอ้ สงสัย
แม้แต่นอ้ ยว่าเขาจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู ค้ นใดก็ได้อย่างขาดลอย
ในเขตประลองที่หนึ่ง
พูดได้เลยว่าด้วยสายพันธุ์พิเศษชนิดหายากของพวกสัตว์ประหลาด
จากสํานักศึกษาวายุประจิมนี้ ผูเ้ ข้าแข่งขันศึกประลองวิญญาณทุก
คน ไม่อาจจะหาใครที่สามารถยืนหยัดต่อต้านพลังอันเหนือชั้นของจ
วินเสี ยได้ เมื่อพวกเขาเห็นเด็กคนนั้นมีพลังที่น่าเหลือเชื่อจนเกือบ
เป็ นปี ศาจเช่นนี้ ทุกคนก็ไม่อาจเข้าใจได้วา่ ทําไมองค์รัชทายาทถึง
ต้องทําเรื่ องน่าอัปยศในการแข่งขันเช่นนั้น
หลายคนยังคิดไปถึงขั้นที่วา่ คู่ต่อสู ท้ ี่ถอนตัวจากการแข่งขันไปก่อน
หน้านี้โชคดีมากจริ ง ๆ
อย่างน้อยการสละสิ ทธิ์ออกไปเองก็ดีกว่าการให้ทุกคนได้เห็นตัวเอง
ถูกกระทืบเละเทะโดยคู่ต่อสู ท้ ี่อายุนอ้ ยกว่าและตัวเล็กกว่า อย่างน้อย
ศักดิ์ศรี ของพวกเขาก็ยงั ไม่ถูกทําลายอย่างจ้าวซุนในวันนี้ที่พา่ ยแพ้
ให้แก่จวินเสี ยในวินาทีเดียวด้วยการโจมตีเพียงแค่หนึ่งครั้ง นัน่ เป็ น
เรื่ องที่น่าอายเอามาก ๆ ไม่ตอ้ งพูดถึงอย่างอื่นเลย แค่โอกาสที่จะถูก
มองเป็ นอะไรที่ใกล้เคียงกับคําว่าน่ากลัวก็ถูกบดขยี้โดยสมบูรณ์
ตอนที่ 830 ขอโทษนะ ถึงทีข้าบ้ างล่ะ (5)
ขณะที่ทุกคนในเขตประลองที่หนึ่งยังตกตะลึงกันอยู่ ชายคนหนึ่งที่
เฝ้ามองทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นนั่ ก็ทาํ สี หน้าบึ้งตึง พร้อมกับออกทาง
ประตูหลังของลานประลองไปอย่างเงียบ ๆ
จ้าวซุนกําลังเดินอยูบ่ นถนนใหญ่สายหนึ่งที่เป็ นเส้นทางกลับ
โรงเตี๊ยมที่พกั ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีคนเข้ามาประชิดตัวจาก
ด้านหลัง เขายังไม่ทนั หันหน้ากลับไปก็มีมือขยุม้ ลงบนบ่าของเขา
พร้อมกับที่รู้สึกถึงปลายแหลมแข็ง ๆ เย็น ๆ กดลงที่ดา้ นหลัง
“อย่าส่ งเสี ยงแล้วตามข้ามา” เสี ยงแหบตํ่าดังขึ้นจากด้านหลังของจ้าว
ซุน ร่ างของจ้าวซุนพลันแข็งทื่อและมีสีหน้าหวาดกลัว เขาพยักหน้า
อย่างเชื่อฟัง
ชายคนนั้นผลักจ้าวซุนเข้าไปในตรอกมืด ๆ แห่งหนึ่ง
ในตรอกนั้นมีชายชุดดํายืนเอามือไพล่หลังอยู่ ใบหน้านั้นก็ไม่น่า
มองตั้งแต่แรกอยูแ่ ล้ว แต่ตอนนี้ยงิ่ น่ากลัวเข้าไปใหญ่ เขามองจ้าวซุน
ที่ถูกลูกน้องของเขาลากเข้ามาด้วยแววตาน่ากลัว สายตาของเขาเต็ม
ไปด้วยความโกรธอย่างรุ นแรง
“รู ้ไหมว่าทําอะไรลงไป?” ชายชุดดําคนนั้นมองจ้าวซุนอย่างเย็นชา
เสี ยงของเขาสัน่ ด้วยความโกรธ
จ้าวซุนตัวสัน่ ใบหน้าซีดขาว
“ข้าสัง่ ให้เจ้าไปกระจายข่าวลือแล้วก็สละสิ ทธิ์การประลอง แล้วเจ้า
โผล่หวั ไปที่นนั่ ทําไม?” ดวงตาของชายชุดดําคนนั้นลุกวาวด้วย
โทสะที่โหมกระหนํ่า
จ้าวซุนตอบแข็งทื่อตะกุกตะกัก “ข้า…ข้า…ข้าคิดว่า…ข้าสามารถ
เอาชนะเขาได้…”
“ไอ้บดั ซบ!” ดวงตาของชายชุดดํายิง่ เบิกกว้างมากขึ้นขณะที่จอ้ งมอง
จ้าวซุน “ใครบอกว่าเจ้าตัดสิ นใจทําอะไรเองได้! ไม่อยากมีชีวติ อยู่
แล้วใช่ไหม!? ลืมคําสัง่ ข้าไปแล้วรึ ไง!? แผนสมบูรณ์แบบเช่นนั้น
ต้องมาพังเพราะไอ้โง่คนหนึ่งนี่นะ! สิ่ งที่ขา้ อยากให้เจ้าทําก็คือไป
ทําลายชื่อเสี ยงของจวินเสี ย! ทําลายชื่อเสี ยงขององค์รัชทายาท! แต่
เจ้ากลับไปยืน่ โอกาสให้จวินเสี ยแทนซะงั้น! ข่าวเรื่ องจวินเสี ย
เอาชนะเจ้าในวันนี้จะกระจายไปเร็ วมาก! พลังวิญญาณขั้นสี เขียว
ของเขาถูกเปิ ดเผยออกมาแล้ว! เจ้าคิดว่าคนจะยังเชื่อว่าเขาเป็ นแค่ไอ้
สวะที่รู้แค่วธิ ีตีสนิทคนมีอาํ นาจอีกไหม!?!”
ชายชุดดํากําลังจะระเบิดโทสะอยูแ่ ล้ว แผนการดําเนินอย่างราบรื่ น
มาตลอดจนถึงจุดนี้ จ้าวซุนตกลงทําตามทุกอย่างแล้ว ใครจะรู ้วา่ มัน
เกิดบ้าอะไรขึ้นมาถึงได้ตดั สิ นใจโผล่ไปที่เขตประลองที่หนึ่งใน
วันนี้ และยังทําให้จวินเสี ยมีโอกาสแสดงพลังของเขาอีกด้วย!
ด้วยการกระทําโง่ ๆ แค่ครั้งเดียว ทั้งหมดที่พวกเขาทํามาก็พงั พินาศ
ไม่เป็ นท่า! พลังขั้นสี เขียวของเด็กนัน่ ถูกเปิ ดเผยออกมาแล้ว มัน
พอที่จะลบล้างคําโกหกและข่าวลือทั้งหมดได้เลย!
จ้าวซุนตัวสัน่ และไม่พดู อะไรออกมาอีก
“ในเมื่อโง่ขนาดนี้แถมยังไม่มีประโยชน์อะไรเลย ก็ไม่จาํ เป็ นที่
จะต้องเก็บเจ้าเอาไว้อีกต่อไป!” ชายชุดดําหรี่ ตาและส่ งสายตาเป็ น
สัญญาณให้คนของเขาจัดการกับจ้าวซุน
มีดที่กดอยูท่ ี่หลังของจ้าวซุนก็แทงเข้ามาทันที!
แต่ในขณะที่มีดกําลังจะแทงทะลุเข้ามา จ้าวซุนก็ทรุ ดตัวลงทันทีดว้ ย
ความหวาดกลัว เขาล้มตัวลงนัง่ บนพื้น หลุดออกจากการจับกุมของ
ลูกน้องของชายชุดดํา!
ชายคนนั้นอยากจะจับตัวเขา แต่จา้ วซุนก็กลิ้งตัวออกไป เขาพยายาม
ตะเกียกตะกายหนีออกไป!
“จับมัน เอาตัวมันกลับมา!” ชายชุดดําตกใจ เขาไม่คิดว่าจ้าวซุนจะ
สามารถหลบหนีการจับกุมของลูกน้องของเขาไปได้!
จ้าวซุนวิง่ หนีสุดกําลังและทันทีที่เขากําลังจะออกจากตรอกมืด ๆ
นั้น ดวงตาของเขาก็ทอประกายรื่ นเริ ง!
“อย่าฆ่าข้า! อย่าฆ่าข้าเลย! ข้าไม่ได้ต้ งั ใจขัดคําสัง่ ของท่าน! ข้าผิดไป
แล้ว! ข้าไม่ควรไปประลอง! ข้าควรจะฟังท่านและถอนตัวออกจาก
การแข่งขันแล้วก็โยนความผิดไปให้องค์รัชทายาท! ข้าผิดไปแล้ว
จริ ง ๆ ! ขอร้อง อย่าฆ่าข้าเลย!”
ในชัว่ ระยะเวลาสั้น ๆ ที่เขาวิง่ ออกไปจากตรอกมืดและเงียบนั้น จ้าว
ซุนก็ส่งเสี ยงร้องโหยหวนออกมาทันที เสี ยงของเขาดังชัดเจนได้ยนิ
ไปไกลและดึงดูดความสนใจของผูค้ นมากมายที่เดินผ่านไปมาบน
ถนนได้อย่างรวดเร็ ว!
ตอนที่ 831 ขอโทษนะ ถึงทีข้าบ้ างล่ะ (6)
มันยังเป็ นเวลาเช้าอยู่ ถนนใหญ่ในเมืองหลวงของแคว้นหยานจึงเต็ม
ไปด้วยผูค้ นที่เดินผ่านไปมา และเสี ยงกรี ดร้องแสบแก้วหูกด็ งั ขึ้น
จากในกลุ่มคนที่พลุกพล่านจอแจ ผูค้ นจากทุกทิศทางต่างมองตรง
ไปยังต้นเสี ยง
พวกเขาเห็นผูเ้ ยาว์ที่ใบหน้าซีดขาวคนหนึ่งกําลังกรี ดร้องโหยหวน
พลางตะเกียกตะกายฝ่ าฝูงชน
เสี ยงวิงวอนขอร้องที่ดงั ออกจากปากของผูเ้ ยาว์คนนั้นทําให้ผคู ้ นบน
ถนนต่างชะงักค้างอยูก่ บั ที่ดว้ ยความตกใจและประหลาดใจ
ดูจากหน้าตาและเสื้ อผ้าของผูเ้ ยาว์คนนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะเป็ น
ผูเ้ ข้าร่ วมการแข่งขันในศึกประลองวิญญาณ ทุกคนต่างสงสัยว่า
ทําไมจู่ ๆ ผูเ้ ยาว์คนนี้ถึงมาปรากฏตัวที่นี่พร้อมกับกรี ดร้องด้วย
ถ้อยคําที่น่าตกใจให้คนมากมายบนถนนได้ยนิ
ศึกประลองวิญญาณอันยิง่ ใหญ่มกั จะดึงดูดความสนใจของทุกคนใน
เมืองหลวงในทุก ๆ ปี และเรื่ องที่เกิดขึ้นในศึกประลองวิญญาณปี นี้
นั้น ผูค้ นต้องเคยได้ยนิ มาบ้างไม่มากก็นอ้ ย
เพื่อปกป้องศิษย์คนหนึ่งจากสํานักศึกษาวายุประจิม องค์รัชทายาท
ได้แอบบังคับให้ศิษย์จากสํานักศึกษาอื่นถอนตัวออกจากการแข่งขัน
และข่าวลือพวกนั้นก็ได้กระจายไปทัว่ ทุกมุมของเมืองหลวง
เรี ยบร้อยแล้ว
แต่สิ่งที่ผเู ้ ยาว์คนนั้นพูดอยูน่ ้ ี…ได้กระตุน้ ความสงสัยในใจของคนที่
อยูบ่ นถนนให้มากขึ้น
เมื่อชายที่ไล่ตามจ้าวซุนเห็นเขาวิง่ เข้าไปในฝูงชนพร้อมทั้งกรี ดร้อง
และพ่นคําพูดพล่อย ๆ ออกมา ใบหน้าของเขาก็มืดหม่นทันที ชาย
ชุดดําที่เพิ่งก้าวตามหลังมาก็แทบจะหมดสติไปด้วยความโกรธอย่าง
ที่สุดเมื่อได้ยนิ สิ่ งที่จา้ วซุนพูดออกมา
[ไอ้โง่บดั ซบนัน่ มาพูดอะไรตรงนี้!]
“จัดการปิ ดปากมันเดี๋ยวนี้! อย่าให้มนั ได้พดู อะไรออกมาอีก!” ชาย
ชุดดําโกรธจนหน้าซีด! เขาไม่เคยคิดฝันว่าจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด
เกิดขึ้นจนทําให้เรื่ องบานปลายเกินควบคุมถึงขนาดนี้ ฝูงชนแออัด
ยัดเยียดกันอยูบ่ นถนนและเสี ยงของจ้าวซุนก็ดงั จนแสบหู ตอนนี้คน
จํานวนมากได้ยนิ คําพูดพวกนั้นแล้ว ผลลัพธ์ของมันจะเป็ น
อย่างไร!?
ชายหลายคนกระโจนเข้าใส่ จา้ วซุนที่อยูก่ ลางถนนทันทีพร้อมกับมีด
ในมือ พวกเขาต้องการจัดการกับจ้าวซุนให้เร็ วที่สุดเท่าที่จะทําได้
แต่ไม่รู้วา่ ทําไม ผูเ้ ยาว์ท่ีดูตื่นตระหนกและกลัวจนลนลานถึงได้ลื่น
ยังกับปลาไหล เขาเคลื่อนผ่านผูค้ นที่เบียดเสี ยดอยูบ่ นถนนอย่าง
คล่องแคล่ว ทําให้ผทู ้ ี่ไล่ตามไม่มีโอกาสเข้าใกล้เขาได้เลย และปาก
ของเขาก็ยงั กรี ดร้องอยูต่ ลอดเวลา พ่นถ้อยคําบัดซบพวกนั้นใส่ พวก
เขา!
เหตุการณ์เกิดขึ้นเพียงแค่ 10 กว่านาทีเท่านั้น ร่ างของจ้าวซุนก็
หายไปท่ามกลางฝูงชน ส่ วนคนที่ไล่ตามมาก็ไม่มีทางเลือกนอกจาก
กลับไปพร้อมกับความเดือดดาล
แต่การไล่ตามอย่างไม่ปราณี ของพวกเขาก็ไม่พน้ สายตาของผูค้ น
จํานวนนับไม่ถว้ นที่อยูบ่ นถนน และด้วยคําพูดที่จา้ วซุนกรี ดร้อง
ออกมาขณะที่หลบหนี การคาดเดาแปลก ๆ ก็เกิดขึ้นและ
แพร่ กระจายไปทัว่ อย่างรวดเร็ ว
และเมื่อได้ยนิ การคาดเดานั้น ผูค้ นจากเขตประลองที่หนึ่งก็สร้าง
ทฤษฎีสมคบคิดขึ้นทันทีที่การแข่งขันในวันนั้นจบลง!
ผูเ้ ยาว์ที่คู่ต่อสู ข้ องเขาสละสิ ทธิ์ครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดก็ได้ต่อสู ้
แล้ววันนี้ และการต่อสู น้ ้ นั เองที่เขาได้แสดงพลังที่น่าเหลือเชื่อและ
น่าตกใจ พลังวิญญาณขั้นสี เขียว!
ด้วยพลังอันเหนือชั้นของจวินเสี ย ทําให้พวกชอบสอดรู ้สอดเห็นเริ่ ม
คิดว่าสถานการณ์มนั แปลก ๆ พลังขนาดนี้ไม่มีความจําเป็ นเลยที่เด็ก
คนนี้จะต้องลอบทําเรื่ องเช่นนั้น!
ขณะที่ทุกคนกําลังงุนงงอยูน่ นั่ เอง ข่าวอีกอันก็แพร่ กระจายราวกับ
ไฟป่ า
ตอนเช้าในวันเดียวกันนั้นเอง ผูค้ นได้พบเห็นผูเ้ ยาว์คนหนึ่งที่สวม
เครื่ องแบบของสํานักศึกษาฮัว่ หวันถูกไล่ตามฆ่าอยูบ่ นถนนใหญ่ใน
เมืองหลวง! และผูเ้ ยาว์ท่ีถูกตามล่านั้นกรี ดร้องอ้อนวอนอยู่
ตลอดเวลา! และจากคําพูดอ้อนวอนของเขาได้บอกถึงข่าวสําคัญอีก
อย่างหนึ่ง!
การสละสิ ทธิ์ของคู่ต่อสู ค้ นก่อน ๆ ของจวินเสี ยไม่ได้เป็ นฝี มือของ
องค์รัชทายาท แต่เป็ นคนอื่นที่ไปข่มขู่คูต่ ่อสู ข้ องจวินเสี ยและบังคับ
ให้พวกเขาสละสิ ทธิ์ แล้วโยนความผิดไปให้องค์รัชทายาท
เมื่อนําข่าวที่น่าตกใจทั้งสองมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ภาพทั้งหมดก็
ถูกเปิ ดเผยออกมาและแพร่ กระจายไปราวกับไฟป่ าที่ถูกลมแรงโหม
กระหนํ่านําพาข่าวนี้ไปยังทุกซอกทุกมุมในเมืองหลวงของแคว้น
หยาน!
ตอนที่ 832 ขอโทษนะ ถึงทีข้าบ้ างล่ะ (7)
ในเมืองหลวงของแคว้นหยาน ที่นงั่ อยูห่ ลังโต๊ะสู งในห้องทรงพระ
อักษรคือจักรพรรดิองค์ปัจจุบนั ใบหน้าของเขาซี ดเผือดไร้สีเลือด
ขณะที่มองชายชุดดําที่กาํ ลังคุกเข่าอยูต่ รงหน้าโต๊ะทํางานของเขา เขา
โกรธจนหน้าเขียว กํามือแน่น ข่าวเพิ่งมาถึง และที่อยูบ่ นม้วน
กระดาษคือบันทึกเหตุการณ์ในวันนั้น ข่าวลือและกระแสลมในเมือง
หลวงได้เปลี่ยนไปแล้ว
“ไหนว่าจัดการทุกอย่างได้อย่างดีไม่ใช่รึ? หื มมมม?” จักรพรรดิหรี่
ตา เขาปาม้วนกระดาษใส่ หน้าของชายชุดดําทันที!
ชายชุดดํายังคงคุกเข่านิ่งอยูบ่ นพื้น ไม่กล้าพูดโต้ตอบอะไรออกมา
แม้แต่คาํ เดียว
“ข้าสัง่ ให้เจ้าไปทํางานให้สาํ เร็ จ แล้วเจ้าไปทําอะไรห๊ะ? นี่มนั
หมายความว่ายังไง? นี่อะไร? ทําไมศิษย์ของฮัว่ หวันถึงไปโผล่ที่ศึก
ประลองวิญญาณได้? เจ้าเด็กที่ชื่อจวินเสี ยนัน่ ก็แสดงพลังวิญญาณ
ขั้นสี เขียวออกมาอีก นัน่ ไม่ใช่การบอกทุกคนหรอกหรื อว่าคําโกหก
ทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็ นแค่เรื่ องตลก? แล้วปล่อยให้ความจริ งถูก
เปิ ดเผยออกมาไม่พอ ไอ้พวกลูกน้องปั ญญาอ่อนของเจ้าทําบ้าอะไร
หลังจากนั้น? คนทั้งกลุ่มปล่อยให้ศิษย์ฮวั่ หวันไปวิง่ บ้าคลัง่ อยูก่ ลาง
ถนนพ่นเรื่ องเหลวไหลพวกนั้นออกมาได้ยงั ไง! พวกเจ้าคิดว่าข้ามี
เรื่ องปวดหัวไม่พอรึ ไง? พวกเจ้าทําให้เรื่ องมันยิง่ อื้อฉาวมากขึ้น!?”
จักรพรรดินงั่ อยูบ่ นเก้าอี้ เขาหายใจแรงด้วยความโกรธอย่างมหาศาล
ที่กาํ ลังเดือดพล่านอยูภ่ ายใน ดวงตาสี แดงกํ่าของเขาจ้องเขม็งตรงไป
ยังชายชุดดําที่กาํ ลังคุกเข่าอยูบ่ นพื้นตรงหน้าเขา
ชายชุดดําตัวแข็งทื่อ เขาก้มหัวลงตํ่ามากยิง่ ขึ้น
“เรื่ องนี้เป็ นความผิดพลาดของกระหม่อมเอง กระหม่อมไม่คิดว่า
ศิษย์จากฮัว่ หวันจะกลับคําพูดกะทันหันแบบนั้น กระหม่อมส่ งคน
ออกไปสื บหาที่อยูข่ องจ้าวซุนแล้วพะย่ะค่ะ ถ้าเราเจอตัวเขาเมื่อไร
เขาจะต้องเสี ยใจแน่”
หลังจากจ้าวซุนก่อความวุน่ วายขึ้นในเมืองหลวงแล้ว เขาก็หายตัวไป
เลย เพื่อจะจับตัวจ้าวซุนพวกเขาจึงไปเฝ้าอยูท่ ี่โรงเตี๊ยมที่พกั ของ
สํานักศึกษาฮัว่ หวัน แต่หลังจากรออยูท่ ้ งั คืน พวกเขาไม่เห็นวีแ่ วว
ของจ้าวซุนเลย เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่ องบานปลายไปมากกว่านี้ พวก
เขาจึงทําได้แค่ส่งคนออกค้นหาตัวจ้าวซุนทัว่ เมืองหลวงแบบลับ ๆ
แต่หลังจากค้นหาไปทัว่ เมืองหลวง พวกเขาไม่เห็นแม้แต่เงาของจ้าว
ซุนเหมือนกับว่าเจ้านัน่ หายตัวไปจากพื้นโลกนี้แล้ว
“ไม่วา่ ยังไงก็ตอ้ งหาตัวจ้าวซุนให้เจอ!” องค์จกั รพรรดิหรี่ ตา เขา
สะกดกลั้นความโกรธในใจลง “อีกอย่าง เราทําเรื่ องนี้ต่อไปไม่ได้
แล้ว พลังของจวินเสี ยถูกเปิ ดเผยออกมาแล้ว ถ้าเรายังขืนทําต่อ ก็มี
แต่จะถูกหัวเราะเยาะ ไม่มีใครเชื่อว่าผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี เขียวจะ
ต้องการความช่วยเหลือเช่นนั้นจากเล่ยเฉิน”
ในที่สุดองค์จกั รพรรดิกห็ วั โล่งพอจะคิดอะไรได้ สํานักศึกษาวายุ
ประจิมกลายเป็ นจุดสนใจในเขตประลองหลายเขต เขาเองก็ได้ยนิ มา
บ้างแต่ไม่คิดว่าผูเ้ ข้าแข่งขันที่อายุนอ้ ยที่สุดจากวายุประจิมจะมีพลัง
ที่น่ากลัวเช่นนั้นด้วย
“พะย่ะค่ะ” ชายชุดดําตอบรับ
องค์จกั รพรรดิสูดหายใจเข้าลึก “สถานการณ์ที่วายุประจิมเกินกว่าที่
ข้าคาดเอาไว้ในตอนที่พวกเขาสนิทสนมกับองค์รัชทายาท ในเมื่อไม่
มีทางที่เราจะใช้ประโยชน์จากคนของวายุประจิมให้บรรลุ
วัตถุประสงค์อื่นได้แล้ว งั้นเราก็พยายามดึงพวกผูเ้ ยาว์ที่มีพรสวรรค์
สู งพวกนั้นให้มาเป็ นพวกเราแทน” องค์จกั รพรรดิพดู และหยุด สี
หน้าโกรธเคืองหายไปแล้ว ขณะที่ริมฝี ปากกลายเป็ นรอยยิม้ เอ็นดู
“ช่วงนี้ลูกฟ่ านอยูแ่ ต่ในวัง น่าจะออกไปผ่อนคลายบ้างสักเล็กน้อย
เขาควรใช้ประโยชน์จากศึกประลองวิญญาณที่ยงั แข่งกันอยูไ่ ปคลุก
คลีกบั คนเก่ง ๆ จากสํานักต่าง ๆ บ้าง เผือ่ จะได้เลือกคนเก่ง ๆ มาอยู่
ข้างกายคอยคุม้ ครองเขาได้ในอนาคต”
เมื่อพูดถึงองค์ชายสี่ แววตาขององค์จกั รพรรดิกอ็ ่อนโยนขึ้นมาก
“แล้วเรื่ องขององค์รัชทายาท…” ชายชุดดําถามอย่างระมัดระวัง
สี หน้าขององค์จกั รพรรดิบ้ ึงตึงขึ้นมาทันที “ให้เรื่ องมันซาลงก่อน
รอจนกว่าจะตัดสิ น 10 คนสุ ดท้ายในศึกประลองวิญญาณค่อย
ดําเนินการต่อ เจ้ากับคนของเจ้าเพิ่งจะก่อเรื่ องวุน่ วายขึ้น ถ้าขืนยังทํา
ต่อจะทําให้เกิดความสงสัยโดยไม่จาํ เป็ นขึ้นมา”
ตอนที่ 833 ขอโทษนะ ถึงทีข้าบ้ างล่ะ (8)
จ้าวซุนหายตัวไป ตั้งแต่ที่เห็นเขาครั้งสุ ดท้ายตอนถูกนักฆ่าไล่ตาม
เขาก็หายไปตัวไปเลย มีคนมากมายบนถนนได้ยนิ คําพูดสุ ดท้ายของ
เขาซึ่งกลายเป็ นหลักฐานให้ผคู ้ นต้องครุ่ นคิดอย่างหนัก
กระแสลมในเมืองหลวงแคว้นหยานได้เปลี่ยนทิศทางแล้ว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้บ่งบอกว่าองค์รัชทายาทไม่มีความผิดใด ๆ
ในทันทีที่เล่ยเฉินได้รับข่าว เขาไม่สามารถนัง่ อยูเ่ ฉย ๆ ได้ แต่เขาก็รู้
ว่าเขาต้องไม่ทาํ อะไรบุ่มบ่ามในตอนนี้ จนกระทัง่ ตอนดึกเขาถึงได้
แอบเดินทางไปหาจวินเสี ยที่ตาํ หนักเซียน
“น้องชายแซ่จวิน! ท่านทําได้ยงั ไงน่ะ? จ้าวซุนนัน่ ท่านทําให้เขาไป
ปรากฏตัวที่ศึกประลองวิญญาณเพื่อสู ก้ บั ท่านได้ยงั ไง!?” เล่ยเฉิ น
พยายามระงับความตื่นเต้นเนื่องจากเมื่อเช้านี้ข่าวลือที่เล่นงานเขาอยู่
ได้พลิกกลับจากหน้ามือเป็ นหลังมือ องค์รัชทายาทส่ งคนออกไปฟัง
ผูค้ นในเมืองหลวงพูดคุยถกเถียงกัน และพบว่าพวกเขาไม่โยง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้ากับเขาอีกต่อไป ทําให้เขาถอนใจออกมาเฮือก
ใหญ่อย่างโล่งอก
จวินอู๋เสี ยอุม้ แมวดําตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนและนัง่ อย่างสงบอยูบ่ น
เก้าอี้ นางมองเล่ยเฉินที่กาํ ลังตื่นเต้นดีใจเป็ นอย่างมากด้วยสี หน้านิ่ง
เฉยอย่างที่เคยเป็ น
“เขาก็น่าจะมาอยูแ่ ล้ว” จวินอู๋เสี ยตอบนิ่ง ๆ
เล่ยเฉินถามขึ้นว่า “แล้วตอนนี้จา้ วซุนอยูท่ ี่ไหน? ข้ากลัวว่าเขาจะ
กําลังเดือดร้อนมาก ในเมื่อเขาเลือกอยูฝ่ ่ ายท่าน งั้นข้าก็น่าจะส่ ง
ทหารไปคุม้ กันเขา”
จวินอู๋เสี ยส่ ายหน้าและตอบว่า “เขาหายตัวไปแบบนี้ดีต่อท่านที่สุด
แล้ว”
การที่ยงั คงหาตัวจ้าวซุนไม่พบเช่นนี้จะทําให้การถกเถียงในเรื่ องที่
เกิดขึ้นยิง่ ทวีความร้อนแรง ทุกวันที่จา้ วซุนยังคงหายตัวไป คําพูด
สุ ดท้ายที่ได้ยนิ จากเขาก็จะยังคงอยูใ่ ห้ผคู ้ นขุดคุย้ ค้นหากันต่อไป
“ก็จริ ง…แต่…ตราบใดที่จา้ วซุนยังอยูใ่ นเมืองหลวง เขาก็จะถูกพบ
ไม่ชา้ ก็เร็ ว ถ้าเสด็จพ่อของข้าหาเขาเจอก่อนและบังคับให้เขาเปลี่ยน
คําพูด นัน่ จะไม่…” เล่ยเฉินอดเป็ นกังวลต่อไม่ได้ การเปลี่ยนแปลง
ที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็ นเพราะอย่างแรกเลยคือพลังอันเหนือชั้นของ
จวินเสี ย และอย่างที่สองก็เพราะคําพูดสุ ดท้ายของจ้าวซุนก่อนที่เขา
จะหายตัวไป ถ้าคําพูดของจ้าวซุนเปลี่ยนไปล่ะก็ ผลที่ออกมาใน
ตอนสุ ดท้ายก็จะกลายเป็ นหายนะของเขาอย่างแน่นอน
จวินอู๋เสี ยลูบขนแมวดําในอ้อมแขนนางอย่างไม่แยแสสนใจสิ่ งใด ดู
ไม่กงั วลเลยสักนิด “ไม่มีใครหาตัวเขาพบหรอก เขาจะไม่ปรากฏตัว
ให้เห็นอีกแล้ว”
สําหรับคนที่กลายสภาพเป็ นแอ่งเลือดซึ มลงไปในพื้นดิน ใครจะไป
หาตัวเขาเจอกันล่ะ?
เล่ยเฉินมองจวินอู๋เสี ยอย่างงุนงง เขาอยูส่ ภาพยํา่ แย่มาจนถึงตอนนี้
แต่ผา่ นไปแค่วนั เดียวจวินเสี ยก็พลิกสถานการณ์ท้ งั หมดได้ และด้วย
ชั้นเชิงไหวพริ บที่น่าทึ่งนี้เอง ทําให้ไม่มีใครพบช่องโหว่ของ
แผนการได้เลย เล่ยเฉินไม่อาจเข้าใจได้วา่ ผูเ้ ยาว์ที่อายุนอ้ ยขนาดนี้
สามารถคิดแผนการที่สมบูรณ์แบบเช่นนั้นได้อย่างไร
หลังจากเหตุการณ์น้ ี เล่ยเฉิ นไม่กล้ามองจวินเสี ยที่สามารถพลิกกลับ
ความคิดและความเชื่อของคนทั้งเมืองหลวงภายในวันเดียวเป็ นเพียง
ผูเ้ ยาว์ธรรมดาทัว่ ไปได้อีกต่อไป ความสามารถเช่นนี้แม้แต่ตวั เขาเอง
ยังต้องนับถือยําเกรง
“ในเมื่อน้องชายแซ่จวินมัน่ ใจเช่นนั้น ข้าก็ไม่มีอะไรต้องกังวล หลัง
เหตุการณ์น้ ีขา้ เชื่อว่าเสด็จพ่อจะต้องคิดหนักก่อนจะเริ่ มแผนการอื่น
เพื่อเล่นงานข้า หวังว่าช่วงนี้ขา้ จะได้ผอ่ นคลายสักหน่อยนะ” เล่ย
เฉินพูดพร้อมหัวเราะ ตั้งแต่วนั ที่ศึกประลองวิญญาณเริ่ มขึ้นจนถึง
ตอนนี้ วันนี้เป็ นวันที่เขามีความสุ ขที่สุด
เขาแทบจะจินตนาการได้เลยว่า ตอนที่คนที่นงั่ บัลลังก์รู้เรื่ องที่
เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้ ปฏิกิริยาของเขาจะยอดเยีย่ มน่าดูชมขนาด
ไหน
“ท่านผ่อนคลายไม่ได้นะ” จวินอู๋เสี ยพูดขึ้นทันควัน
เล่ยเฉินประหลาดใจ
“ถึงเขาจะไม่สามารถทําตามแผนเดิมได้ แต่จกั รพรรดิแห่งแคว้น
หยานจะไม่ยอมทิ้งโอกาสไปง่าย ๆ แน่ ท่านจะต้องเตรี ยมตัวเอาไว้
ให้ดี” นิ้วของจวินอู๋เสี ยลูบไล้อยูบ่ นขนเรี ยบลื่นของเจ้าแมวดํา นาง
ตั้งตารอดูอุบายอื่น ๆ ขององค์จกั รพรรดิผยู ้ งิ่ ใหญ่แห่งแคว้นหยานที่
แข็งแกร่ งที่สุดว่าจะสามารถทําให้เกิดอะไรขึ้นได้บา้ ง
ตอนที่ 834 องค์ ชายสี่ (1)
ในการประลองรอบต่อไป จวินอู๋เสี ยเอาชนะคู่ต่อสู ข้ องนางไปได้
ด้วยพลังที่เหนือกว่า ไม่มีสกั คนที่สามารถรอดจากการโจมตีครั้งแรก
ของนางไปได้ และทุกคนที่กา้ วขึ้นเวทีจะถูกโยนลงมาจากเวที
ประลองในชัว่ อึดใจเดียว
เมื่อเจอเข้ากับการต่อสู แ้ บบทีเดียวจอดอย่างต่อเนื่องของจวินอู๋เสี ย
ทุกคนก็เริ่ มรู ้สึกว่าการประลองที่ผลออกมาว่ามีการสละสิ ทธิ์ในรอบ
ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้แตกต่างไปจากตอนนี้สกั เท่าไร ยังไงซะทุกคน
ก็แพ้ในพริ บตาเหมือนกันหมด
ในตอนนี้ไม่มีใครกล้ามองจวินเสี ยด้วยสายตาเย้ยหยันล้อเลียนอีก
พวกผูเ้ ยาว์ที่เคยพูดไม่ดีเกี่ยวกับจวินเสี ยตอนนี้กไ็ ด้กม้ หน้าหลบตา
เมื่อเห็นจวินเสี ย ไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาด้วยกลัวว่า
จวินเสี ยอาจจะฆ่าพวกเขาทิ้งซะตรงนั้นเลยก็ได้
ยังเหลือการแข่งขันอีก 3 รอบเพื่อหาผูช้ นะในแต่ละเขต การประลอง
ที่ผา่ นไปรอบแล้วรอบเล่าได้ทาํ ให้ผเู ้ ข้าแข่งขันตกรอบไปเป็ น
จํานวนมาก มีผเู ้ ข้าแข่งขันอยูอ่ ีกน้อยนิดเท่านั้นที่ยงั คงอยู่ แม้วา่ ผูเ้ ข้า
แข่งขันจํานวนมากจะตกรอบไปแล้ว แต่ลานประลองทุกเขตยังคง
เต็มไปด้วยผูค้ นมากมายนับไม่ถว้ น พวกผูเ้ ยาว์ที่ออกจากการแข่งขัน
ไปแล้วไม่ได้จากไปไหน ถึงจะแพ้แต่พวกเขาก็ยงั อยูต่ ่อเพื่อ
สังเกตการณ์ต่อสู ข้ องคนอื่น ๆ จะได้มีประสบการณ์มากขึ้นในเรื่ อง
วิชาการต่อสู ต้ ่าง ๆ เพื่อเตรี ยมพร้อมสําหรับการแข่งขันในปี ต่อไป!
ในวันนี้การแข่งขันก็ดาํ เนินไปตามปกติ มีเพียงเขตประลองที่หนึ่ง
เท่านั้นที่มีแขกพิเศษปรากฏตัวขึ้น
ในขณะที่พวกผูเ้ ยาว์กาํ ลังเตรี ยมตัวสําหรับการต่อสู ท้ ี่ใกล้เข้ามา
ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นกองทหารที่สวมเครื่ องแบบของวังหลวงเดิน
เรี ยงแถวเข้ามาในลานประลอง
ผูเ้ ยาว์ทุกคนในลานประลองหันไปมองทหารหลวงที่จู่ ๆ ก็เข้ามา
อย่างตื่นกลัว ดูจากชุดเกราะแล้วพวกเขาแน่ใจว่าทหารพวกนี้เป็ น
ทหารรักษาการณ์ของวังหลวงแห่งแคว้นหยาน
[แต่ทหารพวกนี้มาทําอะไรที่นี่? ทําไมอยู่ ๆ ก็โผล่มา?]
ขณะที่ทุกคนยังสับสนงุนงงอยูน่ ้ นั เอง เสี ยงสดใสร่ าเริ งของคนผู ้
หนึ่งก็ดงั ขึ้น
“นี่คือเขตประลองที่หนึ่งงั้นหรื อ? ข้านึกว่าการแข่งขันใกล้จะจบ
แบบนี้คนจะน้อยกว่านี้ซะอีก” เสี ยงนั้นดังมาจากด้านนอกทางเข้า
ลานประลอง และที่มาพร้อมกับเสี ยงนั้นก็คือผูเ้ ยาว์หน้าตาหล่อเหลา
คนหนึ่งในชุดสี เหลืองปักด้วยไหมทองเดินช้า ๆ เข้ามาในลาน
ประลอง
ใบหน้าของเขาราวกับหยกขาวเนื้อดี ดวงตามีแววยิม้ แย้มอยู่
ตลอดเวลา มีหยกสี ขาวชิ้นหนึ่งห้อยอยูท่ ี่สะโพก มันแกว่งไปมา
เล็กน้อยตามจังหวะก้าวเดินของเขา
เมื่อเห็นผูเ้ ยาว์คนนั้นเดินเข้ามา ทุกคนก็พากันแข็งค้างอยูก่ บั ที่
จวินอู๋เสี ยยืนสังเกตผูเ้ ยาว์คนนั้นอย่างรอบคอบระมัดระวังอยูท่ ี่มุม
หนึ่ง ในสมองของนางกําลังบันทึกข้อมูลทุกอย่างที่นางสังเกตได้
จากผูเ้ ยาว์คนนั้น
เล่ยฟ่ าน องค์ชายสี่ แห่งแคว้นหยาน โดยผิวเผินเป็ นที่รู้กนั ว่าเขาเป็ น
ลูกที่เกิดจากองค์จกั รพรรดิกบั พระสนมที่เขารักมากที่สุดและถูก
เลี้ยงดูโดยองค์จกั รพรรดินี แต่ในความเป็ นจริ ง เขาคือเด็กนอก
สมรสที่เกิดจากองค์จกั รพรรดินีกบั ชูร้ ักของนาง อายุของเล่ยเฉิน
น้อยกว่าองค์ชายอีก 3 คนเล็กน้อย เขามีใบหน้าที่หมดจดงดงามเต็ม
ไปด้วยรอยยิม้ ที่ดูน่ารักเป็ นอย่างยิง่ ยิง่ กว่านั้นเขายังเด็กมากและเป็ น
ที่โปรดปรานขององค์จกั รพรรดิ
ในองค์ชายทั้งสี่ แห่งแคว้นหยาน มีเพียงองค์น้ ีเท่านั้นที่ยงั อยูใ่ นวัง
หลวง เทียบกับองค์ชายอีกสามแล้ว เล่ยฟ่ านได้รับการปฏิบตั ิที่ดีกว่า
มากมาตั้งแต่เกิด องค์จกั รพรรดิไม่เพียงแต่จะเลือกอาจารย์มาสอน
เขาอย่างพิถีพิถนั ด้วยตัวเองเท่านั้น แต่ยงั มีส่วนดูแลในเรื่ อง
ประจําวันอื่น ๆ อีกหลายเรื่ อง อย่างเช่น อาหาร เสื้ อผ้า ที่พกั อาศัย
และสถานที่ท่ีจะไปอีกด้วย
เทียบกับเล่ยฟ่ านแล้ว องค์ชายสามแห่งแคว้นหยานแทบจะถูก
กระทําราวกับเด็กที่เก็บมาจากข้างถนน
ตอนที่ 835 องค์ ชายสี่ (2)
เล่ยฟ่ านมักจะอยูแ่ ต่ในวังหลวงและแทบจะไม่ออกมาข้างนอกเลย
และพอออกมาก็มกั จะมาเป็ นขบวนแห่อย่างวันนี้
จวินอู๋เสี ยกอดอกนิ่ง ไม่สนใจเสี ยงอึกทึกครึ กโครมรอบตัว นางพินิจ
พิเคราะห์เล่ยฟ่ านที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ลานประลองอย่างละเอียด
ตั้งแต่วนั ที่ศึกประลองวิญญาณเริ่ มต้นขึ้นจนถึงตอนนี้ องค์ชายสี่
แห่งแคว้นหยานผูน้ ้ ีไม่เคยปรากฏตัวเลยสักครั้ง แม้แต่วนั ที่เล่ยเฉิ น
จัดงานเลี้ยงและเชิญผูเ้ ข้าแข่งขันทั้งหมดมาร่ วมงาน เล่ยฟ่ านก็ยงั ไม่
มา การปรากฏตัวอย่างกะทันหันที่นี่วนั นี้จึงทําให้ผคู ้ นมากมายรู ้สึก
ประหลาดใจ
คนที่มีหน้าที่ดูแลการประลองในเขตที่หนึ่งรี บตรงเข้ามาต้อนรับ
แขกคนสําคัญนี้ ทุกคนรู ้วา่ องค์จกั รพรรดิรักใคร่ โปรดปรานองค์ชาย
สี่ มาก ความสนใจที่ทุ่มเทให้เขายังมากกว่าที่องค์รัชทายาทได้รับ
ด้วยซํ้า!
“กระหม่อมไม่ทราบว่าองค์ชายสี่ จะเสด็จมา ขอประทานอภัยที่มา
ต้อนรับช้าด้วยพะย่ะค่ะ!” ชายคนนั้นพูดตัวสัน่
ดวงตายิม้ แย้มมาตั้งแต่เกิดของเล่ยฟ่ านหรี่ ลงเล็กน้อย ดูเหมือนไม่ได้
ติดใจอะไร แต่กลับเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาราวเด็กน้อย “ท่าน
สุ ภาพเกินไปแล้ว ข้าก็แค่มาดูเท่านั้น เชิญท่านให้ทุกคนแข่งต่อกัน
เถอะ อย่ามัวกังวลถึงข้าเลย”
ชายคนนั้นรี บพยักหน้าอย่างรวดเร็ ว
ความรู ้สึกที่เล่ยฟ่ านให้กบั ผูค้ นนั้นแตกต่างจากเล่ยเฉินโดยสิ้ นเชิง
ภาพลักษณ์ที่เล่ยเฉิ นพยายามสร้างก็คือผูน้ าํ ที่สุภาพอ่อนน้อมถ่อม
ตนซึ่งทําให้เขาเข้าถึงได้ง่าย แต่ผคู ้ นก็ยงั จําได้วา่ เขาเป็ นใคร มี
สถานะและตําแหน่งอะไร ส่ วนเล่ยฟ่ านนั้นกลับไม่มีอะไรแตกต่าง
จากเด็กคนอื่น ๆ เลย ดูบริ สุทธิ์ไร้เดียงสา ใบหน้ายิม้ แย้มนั้นทําให้
ผูค้ นลืมไปได้อย่างง่ายดายว่าเขาเป็ นถึงองค์ชายผูส้ ู งศักดิ์
ดูเหมือนว่าหลังจากที่เล่ยฟ่ านพูดบรรยากาศตึงเครี ยดในลาน
ประลองก็ผอ่ นคลายอย่างรวดเร็ ว คนมากมายพากันชอบเล่ยฟ่ าน
มากขึ้นทันทีจากท่าทางไร้เดียงสาของเขา
เล่ยฟ่ านหาที่นงั่ ให้ตวั เองในลานประลองซึ่งก็บงั เอิญเหลือเกินที่เขา
ทิ้งตัวลงนัง่ ข้าง ๆ ฉูหลิงเย่พอดี
ฉูหลิงเย่คุน้ เคยกับเล่ยฟ่ านอยูแ่ ล้ว เนื่องจากนางเป็ นคุณหนูแห่งเมือง
พันอสู รจึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปในวังหลวงอยูบ่ ่อย ๆ และ
ค่อนข้างรู ้จกั องค์ชายทั้งหลายเป็ นการส่ วนตัว เมื่อเล่ยฟ่ านมานัง่
ข้าง ๆ นาง ฉูหลิงเย่จึงไม่ได้ประหลาดใจนัก
“วันนี้พี่หลิงเย่จะขึ้นประลองด้วยใช่ไหม?” เล่ยฟ่ านถาม พร้อมกับ
มองฉูหลิงเย่ยมิ้ ๆ ถามคําถามออกมาอย่างเป็ นธรรมชาติโดยไม่
สงวนท่าที
ฉูหลิงเย่พยักหน้า นางไม่ได้สนิทสนมกับเล่ยฟ่ านมากนัก แต่ท่าทาง
การวางตัวของเล่ยฟ่ านทําให้ผคู ้ นไม่สามารถที่จะไม่พอใจเขาได้
“หม่อนฉันแข่งเป็ นคนสุ ดท้ายเพคะ นี่ยงั เพิ่งเริ่ มต้นเอง”
เล่ยฟ่ านเอามือเท้าคางและกระพริ บตามองดูพวกผูเ้ ยาว์ต่อสู ก้ นั บน
เวที ถึงแม้สายตาของเขาจะดูเฉยเมยไม่สนใจ แต่ที่จริ งเขาแอบ
สังเกตทุกคนในลานประลอง เขามองไปจนครบรอบก็ยงั ไม่เห็น
เป้าหมายของเขา เขาอดสงสัยขึ้นมานิดนึงไม่ได้จึงหันไปถามฉูหลิง
เย่วา่ “เสด็จพ่อบอกข้าว่าศึกประลองวิญญาณปี นี้มีผเู ้ ข้าแข่งขันที่สุด
ยอดมาด้วย และสัง่ ให้ขา้ มาดูและเรี ยนรู ้จากพวกเขา เสด็จพ่อบอกข้า
ว่าข้ากําลังโตขึ้น จะทําตัวไร้แก่นสารไปตลอดไม่ได้ พีห่ ลิงเย่ ข้าได้
ยินมาว่ามีอจั ฉริ ยะปรากฏตัวที่เขตประลองที่หนึ่งนี่ ดูเหมือนว่าเขา
จะชื่อ…จวินเสี ยใช่ไหม? เป็ นความจริ งรึ เปล่า?”
ฉูหลิงเย่มองเล่ยฟ่ าน เขาเด็กกว่านางเล็กน้อย เมื่อรวมกับนํ้าเสี ยงใส
ซื่อไร้เดียงสานัน่ แล้ว นางก็ไม่ได้คิดอะไรมากและสันนิษฐานเอาว่า
เขาแค่เบื่อที่ตอ้ งอยูใ่ นวัง
“เป็ นความจริ งเพคะ คนที่อยูต่ รงนั้นคือจวินเสี ยเพคะ” ฉูหลิงเย่ยก
มือขึ้นชี้ไปที่คนที่ยนื อยูด่ า้ นหลังกลุ่มคนทั้งหมด ร่ างเล็ก ๆ นัน่ แทบ
จะมองไม่เห็นเลย
เมื่อเล่ยฟ่ านมองเห็นจวินเสี ย ดวงตาของเขาก็ทอแววแปลก ๆ ขึ้น
แวบนึง และเขาก็ยมิ้ ออกมาอย่างเป็ นธรรมชาติ
“จวินเสี ยดูจะอายุใกล้เคียงกับข้า ข้าควรจะไปเรี ยนรู ้จากเขาสัก
หน่อย” พร้อมกับพูด เล่ยฟ่ านก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินตรงไปยัง
ทิศทางที่จวินเสี ยยืนอยู่
ตอนที่ 836 องค์ ชายสี่ (3)
พอเล่ยฟ่ านยืนขึ้น จวินอู๋เสี ยก็รู้ทนั ทีวา่ องค์ชายสี่ คิดจะทําอะไร
รอยยิม้ เย็น ๆ แวบผ่านริ มฝี ปากของนาง นางยืนนิ่งอยูก่ บั ที่พร้อมกับ
สังเกตเล่ยฟ่ านที่เข้ามาใกล้เรื่ อย ๆ ด้วยหางตา
การประลองในเขตที่หนึ่งเริ่ มขึ้นแล้ว แต่ผเู ้ ยาว์ทุกคนในลาน
ประลองก็ละความสนใจจากการต่อสู อ้ ย่างกะทันหัน สายตามอง
ตามร่ างของเล่ยฟ่ านไปอย่างไม่ต้ งั ใจ
แม้วา่ เล่ยเฉินจะเป็ นองค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยาน แต่กเ็ ป็ นที่รู้กนั
ทัว่ แผ่นดินว่าองค์ชายสี่ เป็ นที่รักใคร่ โปรดปรานมากที่สุด ถ้าเล่ย
ฟ่ านชอบใคร ก็จะเป็ นโอกาสที่ยงิ่ ใหญ่ของคนผูน้ ้ นั อย่างไม่ตอ้ ง
สงสัยเลย
อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกคนเห็นเล่ยฟ่ านเดินตรงเข้าไปหาจวินเสี ยที่ยนื
อยูต่ รงมุมหนึ่ง ในใจของทุกคนก็รู้สึกเหมือนถูกกระทืบอย่างแรง
แม้แต่องค์ชายสี่ กย็ งั สนใจจวินเสี ย!
พวกผูเ้ ยาว์ที่มีความหวังผุดขึ้นมาในใจก็รู้สึกเหมือนถูกถีบตกลงมา
จากสวรรค์
ถ้าเป็ นคนอื่น พวกเขาอาจจะไม่รู้สึกสิ้ นหวังขนาดนี้ แต่ในบรรดา
คนทั้งหมดนี้ ทําไมคน ๆ นั้นต้องเป็ นจวินเสี ย…
เจ้าสัตว์ประหลาดที่เอาชนะพวกเขาทุกคนได้อย่างขาดลอยเนื่องจาก
พลังวิญญาณที่เหนือกว่า และยังเป็ นที่โปรดปรานขององค์รัชทายาท
แล้วพวกเขาจะเอาอะไรไปแข่งกับจวินเสี ยได้? พวกเขาทุกคน
รวมกันก็ยงั ไม่พอที่จะล้มจวินเสี ยได้เลย!
ผูเ้ ยาว์ทุกคนต่างตกอยูใ่ นภาวะซึมเศร้ากันอย่างรวดเร็ ว ทําได้เพียง
มองเล่ยฟ่ านเดินเข้าไปหาจวินเสี ยพร้อมด้วยรอยยิม้ สดใสบน
ใบหน้า
“ท่านคือจวินเสี ยใช่ไหม?” เล่ยฟ่ านถามขึ้นขณะที่มายืนอยูต่ รงหน้า
จวินเสี ย เขาเอียงคอพร้อมกับกระพริ บตาอย่างไร้เดียงสาราวกับ
กําลังมองดูบางอย่างที่น่าสนใจมากสําหรับเขา
“ใช่” จวินอู๋เสี ยตอบห้วน ๆ
“ข้าชื่อเล่ยฟ่ าน เสด็จพี่ของข้าบอกว่าท่านเป็ นคนที่แข็งแกร่ งที่สุดใน
เขตประลองที่หนึ่ง และอยากให้ขา้ มาเรี ยนรู ้จากท่านบ้าง เขาบอกว่า
ข้าโตเร็ วแต่ยงั เที่ยวเล่นไปทัว่ เหมือนเด็กไม่รู้จกั โต” เล่ยฟ่ านพูด
พร้อมกับมองจวินเสี ยยิม้ ๆ ขณะที่พดู เขาก็ยงั มีท่าทางเหนียมอาย
เล็กน้อยต่อหน้าจวินเสี ย เขาเอามือเกาหัวด้วยสี หน้าเขินอาย
จวินอู๋เสี ยมองดูการแสดงของเล่ยฟ่ านอย่างเย็นชา ต้องพูดว่าถึงเล่ย
ฟ่ านจะยังเด็กแต่ทกั ษะการแสดงของเขานั้นยิง่ กว่าเล่ยเฉินซะอีก แค่
ไม่กี่ประโยคเขาก็แสดงตัวเองเป็ นเด็กไร้เดียงสาที่ไม่รู้เรื่ องรู ้ราว
อะไรได้แล้ว และถ้อยคําที่เขาพูดออกมาอย่างไม่ระวังนัน่ ก็ยงิ่
น่าสนใจ…
ทุกคนรู ้วา่ องค์รัชทายาทสนิทสนมกับสํานักศึกษาวายุประจิม เขาให้
ความใส่ ใจเป็ นพิเศษกับจวินเสี ยเหนือศิษย์ทุกคน เล่ยฟ่ านดึงเอาเล่ย
เฉินมาอ้างในประโยคแรกเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์อย่างรวดเร็ ว
นับว่าเป็ นวิธีการที่ฉลาดและทําได้อย่างงดงามมาก
ถึงจะเพิ่งพบกัน แต่จวินอู๋เสี ยก็รู้วา่ เล่ยฟ่ านไม่ใช่เด็กธรรมดา ที่องค์
จักรพรรดิรักใคร่ ในตัวเขามากขนาดนี้ เหตุผลหนึ่งก็คือ “แม่” ของ
เขาที่เป็ นผูห้ ญิงที่องค์จกั รพรรดิรักมากที่สุด และเหตุผลที่สอง…ก็
ต้องเป็ นเพราะองค์ชายสี่ “ฉลาด” มากนัน่ เอง
“องค์ชายสี่ สุภาพอ่อนน้อมยิง่ นัก จวินเสี ยไม่สมควรได้รับหรอก
พะย่ะค่ะ” จวินอู๋เสี ยตอบบ่ายเบี่ยงอย่างฉลาด นางอยากจะดูวา่ องค์
ชายสี่ คิดจะทําอะไรถึงมาหานางในวันนี้
เล่ยฟ่ านไม่ได้แสดงท่าทางไม่พอใจต่อคําตอบอันเย็นชาเฉยเมย
ของจวินเสี ย เขาพูดต่อยิม้ ๆ ว่า “จวินเสี ย ท่านไม่ควรถ่อมตัวเช่นนั้น
เสด็จพี่ของข้าเล่าให้ขา้ ฟังทุกอย่างแล้ว ท่านมีพลังวิญญาณขั้นสี เขียว
ทั้งที่อายุนอ้ ยขนาดนี้ ทัว่ ทั้งแผ่นดินจะหาคนที่เก่งกาจอย่างท่านได้
จากที่ไหน? พูดตรง ๆ นะ ถึงภูติประจําตัวข้าจะตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ใน
ด้านพลังวิญญาณ การพัฒนาของข้าค่อนข้างน่าผิดหวัง เสด็จพ่อก็ดุ
ว่าข้าในเรื่ องนี้”
เล่ยฟ่ านหยุดนิดนึงและพูดกับจวินเสี ยด้วยนํ้าเสี ยงจริ งจังมากว่า
“จวินเสี ย…ข้ามาที่นี่วนั นี้กเ็ พราะมีบางอย่างที่อยากจะปรึ กษาท่าน”
ตอนที่ 837 องค์ ชายสี่ (4)
“คืออย่างนี้ ข้าเพิ่งเริ่ มเรี ยนการบ่มเพาะพลังวิญญาณ และมีหลาย
อย่างที่ขา้ ยังไม่เข้าใจดีนกั เพราะงั้นข้าอยากรู ้วา่ …ท่านจะสอนข้า
บ้างได้ไหม? เสด็จพ่อยังหาเพื่อนเรี ยนที่เหมาะสมให้กบั ข้าไม่ได้ พอ
ข้าได้ยนิ เสด็จพี่พดู ถึงท่าน แล้วเราก็อยูใ่ นวัยเดียวกัน ถ้าท่านไม่
รังเกียจ จะมาเป็ นเพื่อนเรี ยนกับข้าได้รึเปล่า?” เล่ยฟ่ านมองจวินเสี ย
อย่างกระตือรื อร้น และรี บพูดเสริ มขึ้นมาว่า
“ไม่ตอ้ งห่วง ถึงจะเป็ นเพื่อนร่ วมเรี ยนของข้า แต่ท่านจะได้รับการ
ปฏิบตั ิที่ไม่ดอ้ ยกว่าใครแน่”
เพื่อนเรี ยนขององค์ชายมักจะเลือกมาจากบุตรชายและญาติพี่นอ้ งที่
อายุนอ้ ยกว่าของพวกขุนนางในวัง ชาวบ้านทัว่ ไปไม่เคยได้รับ
โอกาสเช่นนี้ ถึงแม้จะเป็ นแค่เพื่อนเรี ยน แต่หนทางเข้าไปสู่ ราชวงศ์
ความรํ่ารวยมหาศาล และอนาคตอันสดใสก็แทบจะแน่นอน ถึงองค์
ชายสี่ จะไม่ใช่ผสู ้ ื บทอดบัลลังก์ แต่องค์จกั รพรรดิแห่งแคว้นหยานก็
รักเขามาก เหนือกว่าองค์รัชทายาทเล่ยเฉิ นซะอีก ดังนั้นการที่
สามารถเป็ นเพื่อนร่ วมเรี ยนของเล่ยฟ่ านได้กค็ ือโอกาสที่ทุกคนต่อสู ้
กันอย่างดุเดือดเพือ่ จะได้มา แต่กย็ งั ไม่ได้รับโอกาสนั้น
เสี ยงของเล่ยฟ่ านไม่เบาเลย เมื่อคนอื่น ๆ ได้ยนิ คําพูดของเขา พวก
ผูเ้ ยาว์ในลานประลองก็อา้ ปากค้างอย่างตกใจ!
เพื่อนร่ วมเรี ยนขององค์ชายเป็ นตําแหน่งที่จะกลายเป็ นผูช้ ่วยที่องค์
ชายไว้ใจมากที่สุด เมื่อองค์ชายน้อยโตขึ้นและได้รับตําแหน่งสําคัญ
จากองค์จกั รพรรดิ สถานะเพื่อนร่ วมเรี ยนก็จะสู งขึ้นตามมา และ
จากนั้นก็จะได้รับตําแหน่งระดับสู งในแคว้นหยานอย่างง่ายดาย
ยิง่ กว่านั้น เล่ยฟ่ านก็เป็ นคนที่ได้รับการโปรดปรานมากที่สุดใน
บรรดาองค์ชายทั้งหมด การได้เป็ นเพื่อนร่ วมเรี ยนของเขาก็จะดี
เทียบเท่าการเป็ นคนขององค์รัชทายาทเลยทีเดียว!
นัน่ เป็ นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวติ ที่ไม่ควรพลาด!
ผูเ้ ยาว์ทุกคนต่างอิจฉาจวินเสี ยอย่างมาก หวังให้ตวั เองสามารถไป
แทนที่จวินเสี ยและตอบรับข้อเสนอนั้นทันที!
เล่ยฟ่ านมองจวินเสี ยอย่างคาดหวังในฉากหน้า แต่ในใจของเขาลอบ
หัวเราะ เขาไม่รู้สึกสักนิดว่าจวินเสี ยจะปฏิเสธคําชวนของเขา ไม่วา่
จวินเสี ยจะสนิทสนมกับองค์รัชทายาทแค่ไหนก็ตาม นัน่ ก็เป็ นแค่
ความสัมพันธ์ส่วนตัว เมื่อจวินเสี ยตกลงเป็ นเพื่อนร่ วมเรี ยนของเขา
นัน่ เท่ากับว่าได้รับการยอมรับจากองค์จกั รพรรดิแห่งแคว้นหยานเอง
เลยทีเดียว เทียบองค์จกั รพรรดิกบั องค์รัชทายาท ทุกคนก็รู้วา่ ใครมี
อํานาจในมือมากกว่ากัน
จวินอู๋เสี ยไม่ได้ให้คาํ ตอบเล่ยฟ่ านในทันที นางเพียงแค่มองเล่ยฟ่ าน
ราวกับกําลังครุ่ นคิดอย่างหนัก ดวงตาเย็นชาของนางยากที่จะอ่าน
ออก ทําให้ไม่อาจเดาได้วา่ นางกําลังคิดอะไรอยูใ่ นใจ
“ว่ายังไง? ข้าตั้งใจมาที่นี่เพื่อชวนท่านเลยนะ” เล่ยฟ่ านพูดขึ้น
แต่จวินอู๋เสี ยกลับเบนสายตาออกไปเมื่อชื่อของนางถูกเรี ยกจากเวที
ประลอง
“องค์ชายสี่ กระหม่อมต้องขึ้นเวทีประลองแล้ว” นางไม่ได้ให้
คําตอบเล่ยฟ่ าน และหลังจากพูดเสร็ จนางก็เดินตรงไปที่เวทีประลอง
ทันที
เล่ยฟ่ านที่คาดหวังสู งว่าจวินเสี ยจะตกลงถึงกับช็อค เขาไม่คิดว่าผล
จะออกมาเป็ นแบบนี้
[จวินเสี ยไม่เพียงแต่ไม่หมอบคลานสํานึกบุญคุณ แต่ยงั …ไม่สนใจ
คําชวนของเขาเลยสักนิด?]
[เป็ นไปได้ยงั ไง!?]
ใบหน้ายิม้ แย้มของเล่ยฟ่ านแข็งค้างทันที ดวงตาสดใสทอประกาย
อาฆาตมาดร้ายขึ้นแวบนึง
เนื่องจากองค์จกั รพรรดิทุ่มเทความเมตตาให้เขาอย่างมากมาย เมื่อไร
ที่เขาเอ่ยปากขอ ไม่มีอะไรที่จะไม่ได้ ถึงแม้จวินเสี ยจะไม่ได้พดู
ปฏิเสธคําชวนของเขาตรง ๆ แต่การเฉยเมยและไม่สนใจเลยสักนิด
นัน่ ก็คือการปฏิเสธอย่างหนึ่งแล้ว
“เจ้ากล้ามาก” เล่ยฟ่ านพูดเสี ยงตํ่าลอดไรฟัน ถูกจวินเสี ยเหยียดหยาม
ต่อหน้าทุกคนเช่นนี้ ไม่วา่ เล่ยฟ่ านจะแสดงได้ดีแค่ไหนก็ตาม สี หน้า
ของเขาก็มืดคลํ้าขึ้นเล็กน้อย
สายตาที่ผเู ้ ยาว์คนอื่น ๆ มองมาก็ยงิ่ ทําให้เขาโกรธมากยิง่ ขึ้น
เขาไม่คิดเลยว่าจวินเสี ยจะปฏิเสธเขาอย่างชัดแจ้งแบบนี้
สายตาของเขาจ้องมองจวินเสี ยที่กา้ วขึ้นเวทีเขม็ง เขาไม่อาจทนนัง่
อยูท่ ี่นนั่ ต่อไปได้แล้ว เล่ยฟ่ านลุกขึ้นทันทีและออกจากเขตประลอง
ที่หนึ่งไปโดยไม่หนั กลับมามองอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว นี่เป็ นครั้ง
แรกในชีวติ ที่เขาได้เจอกับการถูกปฏิเสธ รสชาติขม ๆ นัน่ ไม่ใช่สิ่งที่
เขาอยากประสบพบเจออีกครั้งอย่างแน่นอน
ตอนที่ 838 องค์ ชายสี่ (5)
ข่าวองค์ชายสี่ ไปที่เขตประลองที่หนึ่งแพร่ กระจายไปทัว่ วังหลวง
อย่างรวดเร็ ว และมาพร้อมกับข่าวที่วา่ คําชวนของเล่ยฟ่ านถูกจวิน
เสี ย…เมินโดยสิ้ นเชิง
เล่ยเฉินพุง่ ตรงไปที่ตาํ หนักเซี ยนในทันที ตอนนั้นจวินอู๋เสี ยกับคน
อื่น ๆ กําลังกินข้าวกันอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นเล่ยเฉินโผล่เข้ามา
กะทันหันด้วยสี หน้าแตกตื่นกังวล ทุกคนก็พากันวางตะเกียบลง
“เกิดอะไรขึ้น? ฝ่ าบาทอยากกินข้าวกับเราหรื อพะย่ะค่ะ?” เชียวชู
ถามพร้อมกับหัวเราะ ตะเกียบยังคาอยูท่ ี่มือ
เล่ยเฉินไล่บริ กรให้ออกไป จากนั้นเขาก็รีบเข้ามานัง่ ข้าง ๆ จวินเสี ย
“เล่ยฟ่ านมาหาท่านงั้นหรื อ?” เล่ยเฉิ นถาม เสี ยงของเขาเจือความวิตก
กังวลเป็ นอย่างมาก
จวินอู๋เสี ยเคี้ยวอาหารในปากช้า ๆ แล้วกลืนลงไป ก่อนจะหันไปเห็น
ว่ามีเหงื่อออกเต็มหน้าเล่ยเฉิ น
“ท่านกําลังกลัว” นางพูดนิ่ง ๆ
เล่ยเฉินไม่สนใจว่าความกังวลของเขาจะแสดงออกมาอย่างชัดเจน
ต่อหน้าจวินเสี ย เขาพยักหน้ารัว ๆ
“ข้ากลัว กลัวมาก ที่เล่ยฟ่ านไปหาท่านต้องเป็ นคําสัง่ ของเสด็จพ่อ
แน่ เขาไม่สามารถลงมือทําอะไรหุนหันพลันแล่นได้ชวั่ คราว แต่เขา
ก็เห็นว่าข้าสนิทสนมกับพวกท่านที่มาจากวายุประจิม พวกท่านทุก
คนเก่งกาจและโดดเด่นมากในศึกประลองวิญญาณและดึงดูดความ
สนใจได้มากมาย ดังนั้นเสด็จพ่อย่อมไม่พอใจที่เห็นคนที่มีพลัง
แข็งแกร่ งขนาดนี้มาสนิทสนมกับข้า เขาตั้งใจจะเตะข้าลงจาก
ตําแหน่งองค์รัชทายาทและให้องค์ชายสี่ ลูกรักขึ้นมาแทน เขาทําทุก
อย่างที่ทาํ ได้เพื่อให้สิ่งที่ดีที่สุดกับน้องสี่ แล้วข้าจะไม่กงั วลได้ยงั ไง?
เทียบกับอํานาจขององค์จกั รพรรดิแล้ว ข้าที่เป็ นเพียงองค์รัชทายาท
จะไปทําอะไรได้?”
เล่ยเฉินอดกลัวไม่ได้ เขาไม่เข้าใจว่าทําไมจวินเสี ยกับพรรคพวกถึง
อยากจะช่วยเขา ถ้าเป็ นเพราะเรื่ องที่พวกเขาถูกใส่ ร้ายก่อนหน้านี้
ปัญหาก็ถูกจวินเสี ยแก้ไขไปแล้ว และถ้าเป็ นเพราะอํานาจ ความ
รํ่ารวย และความสําเร็ จ จักรพรรดิแห่งแคว้นหยานย่อมสามารถให้
ได้มากกว่าเขา
หลังจากเล่ยเฉินรู ้ถึงพลังที่น่าตกใจและสมองอันชาญฉลาดของจวิน
เสี ย เขาก็ยงิ่ กังวลว่าจวินเสี ยจะย้ายข้างไปอยูก่ บั เล่ยฟ่ าน
จวินอู๋เสี ยมองสี หน้าของเล่ยเฉิ นด้วยดวงตานิ่งสงบ
“ข้าไม่สนใจจะเป็ นเพื่อนเรี ยนของใคร” จวินอู๋เสี ยพูดเรี ยบ ๆ แม้วา่
เสี ยงของนางจะเฉยเมย มันก็ทาํ ให้เล่ยเฉินถอนหายใจเฮือกใหญ่
ออกมาอย่างโล่งอก
“น้องเสี ยจะต้องบ้าซะก่อนล่ะถ้าจะไปเป็ นเพื่อนเรี ยนของใคร” เชียว
ชูพึมพําเบา ๆ
เล่ยเฉิ นหันไปมองเชียวชูอย่างสงสัย แต่เชียวชูรีบก้มหน้าลงพุย้ ข้าว
เข้าปากอย่างดุเดือด
“ถ้าท่านไม่มีความตั้งใจเช่นนั้น ข้าก็โล่งอก พูดตามจริ งเลย ถ้าท่าน
ไปจากข้า ข้าก็ไม่มีอะไรไปตอบโต้เขาได้แล้ว” เล่ยเฉิ นพูดพร้อมกับ
ถอนหายใจ คําพูดพวกนั้นไม่ได้พดู เพื่อให้จวินเสี ยพอใจ มันเป็ น
การพูดตามความจริ ง
ถ้าจวินเสี ยย้ายข้างไปช่วยเล่ยฟ่ าน เล่ยเฉินก็ไม่มีความมัน่ ใจใด ๆ ที่
จะรับมือแผนการของจวินเสี ยได้
“ข้าปฏิเสธไปแล้ว” จวินอู๋เสี ยพูด ที่จริ งการอธิบายเพิ่มไปอีกขั้น
แบบนี้เป็ นสิ่ งที่หาได้ยาก
การเมินเฉยต่อเล่ยฟ่ านในลานประลองเป็ นคําตอบที่ดีที่สุด นางยังจํา
ได้วา่ หลังจากนางก้าวขึ้นเวทีประลองไปแล้ว สี หน้าของเล่ยฟ่ านบิด
เบี้ยวอย่างพยายามฝื นสะกดกลั้นความโกรธขณะที่เดินออกไปจาก
ลานประลอง
“เล่ยฟ่ านฉลาดกว่าท่าน แต่ยงั ไม่ฉลาดพอ เขายังอ่อนประสบการณ์
อยู”่ จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับอุม้ แมวดําไว้ในอ้อมแขน ถึงแม้เล่ยเฉิ น
จะฉลาด เขาก็ไม่สามารถจะแสดงละครได้อย่างที่เล่ยฟ่ านทํา แต่ชีวติ
ของเล่ยฟ่ านราบรื่ นสุ ขสบายยิง่ กว่าโรยด้วยกลีบกุหลาบซะอีก และ
ถึงแม้เขาจะมีสมองที่ชาญฉลาด แต่นิสยั หยิง่ ยโสทระนงตัวของเขา
คือข้อเสี ยข้อใหญ่เลยทีเดียว
อย่างน้อยตอนที่นางแสดงความเมินเฉยอย่างเดียวกันนี้ต่อเล่ยเฉิ น
หลายครั้งตอนที่พวกเขาพบกันครั้งแรก เล่ยเฉิ นก็ไม่ได้มีทีท่าไม่
พอใจอย่างชัดเจนเช่นนี้
“เขามักแสดงความฉลาดในระดับสู งอยูเ่ สมอ และถ้าข้าไม่ได้เป็ นรัช
ทายาทก่อนเขาเกิด ข้าก็คงพ่ายแพ้เขาไปแล้ว” ต่อหน้าจวินเสี ย เล่ย
เฉินไม่เห็นความจําเป็ นที่จะต้องปกปิ ดการไร้ความสามารถของเขา
ตอนที่ 839 องค์ ชายสี่ (6)
“อืม” จวินอู๋เสี ยพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
สี หน้าของเล่ยเฉินยิง่ หมองลง
เชียวชูที่มองพวกเขาอยูเ่ กือบหลุดหัวเราะออกมาเสี ยงดัง เด็กนัน่
ตรงไปตรงมาเสมอ นางทําให้คนอื่นโมโหจนแทบกระอักเลือด เขา
มองดูหน้าขององค์รัชทายาทที่เปลี่ยนเป็ นสี เขียวจนเกือบเป็ นสี
เดียวกับผักในจาน
“แต่ตอนนี้เล่ยฟ่ านมาปรากฏตัวตรงหน้าท่านแล้ว แสดงว่าเสด็จพ่อ
จะลงมือกับท่านต่อ อยากให้ขา้ ทําอะไรไหม?” เล่ยเฉิ นถามพลาง
มองจวินอู๋เสี ย
“ไม่ตอ้ ง” จวินอู๋เสี ยส่ ายหน้า
เล่ยเฉินไม่ถามต่อและหันไปคุยกับเชียวชูและคนอื่น ๆ อีกครู่ หนึ่ง
ก่อนจะกลับไป
หลังจากเล่ยเฉินกลับไปแล้ว จวินอู๋เสี ยกับคนอื่น ๆ ก็กินข้าวกันต่อ
เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่คนในตําหนักเซียนสงบนิ่งใจเย็นกัน
อยูน่ ้ นั ใครบางคนในวังหลวงกลับไม่สงบเลย
“เสด็จพ่อ! จวินเสี ยคิดว่าตัวเองเป็ นใคร? ลูกของท่านชวนเขามาเป็ น
เพื่อนเรี ยนอย่างสุ ภาพมีมารยาทขนาดนั้น แต่เขาไม่ใช่แค่ปฏิเสธ เขา
เมินข้าไปเลย! เขาไปได้ยนิ ข่าวลือที่ไม่จริ งเกี่ยวกับข้าแล้วเลยไม่
ชอบข้าที่เป็ นองค์ชายสี่ ง้ นั หรื อ?” เล่ยฟ่ านยืนทําหน้าเศร้าอยูใ่ นห้อง
ทรงพระอักษร ใบหน้าอันงดงามของเขาแสดงท่าว่าใกล้จะร้องไห้
ออกมาอยูแ่ ล้ว
เมื่อองค์จกั รพรรดิเห็นองค์ชายน้อยดูโศกเศร้าเสี ยใจเช่นนั้น หัวใจ
ของเขาก็พลันเจ็บปวด เขามองดูใบหน้าที่เหมือนผูห้ ญิงที่เขารักมาก
ที่สุดแล้วรี บพูดปลอบใจทันที “ก็แค่เจ้าเด็กนัน่ มันไม่คู่ควรกับเจ้า
ขนาดลูกฟ่ านลดตัวลงไปพูดดีดว้ ยขนาดนั้นแล้ว เด็กนัน่ ยังไม่รู้วา่
อะไรดีสาํ หรับตัวเอง อย่าเสี ยใจไปเลย ในเมื่อเขาทิ้งโอกาสที่เรา
หยิบยืน่ ให้ วันหน้าพ่อจะหาเพื่อนร่ วมเรี ยนที่เก่งกาจให้เจ้านะ”
สายตาของเล่ยฟ่ านเปลี่ยนไปทันที แม้วา่ เขาจะโกรธความโอหัง
หยาบคายของจวินเสี ย แต่พลังอันโดดเด่นของจวินเสี ยก็ยงั
ประทับใจเขา เขาสัง่ คนให้หาข้อมูลของสํานักศึกษาวายุประจิมและ
ได้รู้วา่ วายุประจิมมีศิษย์มาเข้าร่ วมการแข่งขันแค่ 6 คนเท่านั้น และ
ทุกคนล้วนแต่เป็ นอัจฉริ ยะที่โดดเด่นและหายาก!
และในหมู่พวกนั้น จวินเสี ยคือคนที่มีศกั ยภาพมากที่สุด นอกจาก
พลังวิญญาณในตอนนี้ของเขาจะบรรลุถึงขั้นสี เขียวแล้ว เล่ยฟ่ านยัง
ได้รู้วา่ จวินเสี ยเป็ นศิษย์ของฝ่ ายผูร้ ักษาวิญญาณด้วย แค่เรื่ องที่จวิน
เสี ยรู ้วชิ ารักษาวิญญาณอย่างเดียวก็ทาํ ให้เล่ยฟ่ านไม่อยากยอมแพ้
ง่าย ๆ ในเรื่ องที่จะดึงเอาจวินเสี ยมาเป็ นพวก
“เสด็จพ่อ เขาต้องไปได้ยนิ เรื่ องโกหกใส่ ร้ายและเข้าใจข้าผิดแน่ ถึง
ข้าจะเสี ยใจและเจ็บปวดใจ แต่ขา้ ก็รู้วา่ เขาเป็ นอัจฉริ ยะที่หายาก และ
พรสวรรค์อนั มหัศจรรย์เช่นนี้ตอ้ งเก็บรักษาไว้ในแคว้นหยาน เรา
ควรทําเพือ่ แคว้นหยานนะพะย่ะค่ะ คนที่มีพรสวรรค์โดดเด่นมักจะมี
ความทระนงตน ลูกของท่านยังรับมือได้ ข้าแค่ไม่รู้จะทําอย่างไรถึง
จะทําให้เขารู ้วา่ ข้าจริ งใจจริ ง ๆ” เล่ยฟ่ านพูดพลางมององค์จกั รพรรดิ
ด้วยแววตาเศร้าเสี ยใจและเป็ นกังวล เขาไม่อยากให้คนของวายุ
ประจิมทั้งหมดนัน่ ไปตกอยูใ่ นมือของเล่ยเฉิน
“ลูกฟ่ านช่างเฉลียวฉลาดมีเหตุผลและยังมองที่ภาพรวมก่อน” องค์
จักรพรรดิพดู อย่างซึ้ งใจขณะที่มองเล่ยฟ่ าน “วางใจเถอะลูกพ่อ ใน
เมื่อเจ้าต้องการจวินเสี ย พ่อจะทําให้เจ้าสมหวังให้ได้”
คนจากวายุประจิมพวกนี้ ตัวองค์จกั รพรรดิเองก็ต้ งั ใจไว้อยูแ่ ล้วที่จะ
ไม่ปล่อยพวกเขาให้หลุดมือไปง่าย ๆ ผูม้ ีพรสวรรค์ที่หายากเช่นนี้ใช่
ว่าจะพบตัวได้ง่าย ๆ การเก็บพวกเขาไว้ที่แคว้นหยานย่อมต้องช่วย
พวกเขาได้มากอย่างแน่นอน
เล่ยฟ่ านยิม้ เยาะอยูใ่ นใจอย่างยินดี แต่ฉากหน้าเขาก็แค่พยักหน้าอย่าง
เชื่อฟัง
หลังจากปลอบใจเล่ยฟ่ านอีกครั้งด้วยการมอบสมบัติให้กองใหญ่
แล้ว องค์จกั รพรรดิกใ็ ห้เล่ยฟ่ านออกไปได้ และทันทีที่เล่ยฟ่ านออก
ไป รอยยิม้ ใจดีบนใบหน้าของจักรพรรดิกห็ ายไปอย่างรวดเร็ ว เขา
เรี ยกชายชุดดําซึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องทรงพระอักษรทันที
“ฝ่ าบาทมีพระประสงค์ให้กระหม่อมรับใช้สิ่งใดหรื อพะย่ะค่ะ?”
ชายชุดดําถามขณะที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้น
“จากความล้มเหลวของเจ้าเรื่ ององค์รัชทายาท ข้าจะให้โอกาสเจ้าแก้
ตัวอีกครั้ง” องค์จกั รพรรดิพดู
“โปรดรับสัง่ พะย่ะค่ะ!”
“ลูกฟ่ านอยากได้จวินเสี ยจากสํานักศึกษาวายุประจิม แต่เจ้าเด็ก
โอหังนัน่ ไม่รู้วา่ อะไรดีสาํ หรับมัน ผูเ้ ยาว์ที่ยโสโอหังแบบนี้
จําเป็ นต้องทําให้ลดความอวดดีลงสักหน่อย” องค์จกั รพรรดิพดู
พร้อมกับหรี่ ตาลงอย่างน่ากลัว สายตาของเขาเปลี่ยนเป็ นชัว่ ร้ายทันที
ตอนที่ 840 แผนการใส่ ร้าย (1)
การแข่งขันในทุก ๆ เขตได้มาถึงรอบสุ ดท้ายแล้ว และในเขต
ประลองที่หนึ่ง ผูเ้ ข้าแข่งขันสองคนสุ ดท้ายที่เหลืออยูก่ ค็ ือจวินอู๋เสี ย
กับฉูหลิงเย่
ถึงแม้ฉูหลิงเย่จะแข็งแกร่ ง แต่ระดับพลังวิญญาณของจวินเสี ย
เหนือกว่านางมากนัก ผลของการต่อสู ร้ อบสุ ดท้ายนี้ได้กลายเป็ นที่
สนใจของผูค้ นมากมายเนื่องจากผูช้ นะจะได้ตาํ แหน่งหนึ่งใน 10
อันดับแรกของศึกประลองวิญญาณด้วย และสิ่ งที่ 10 อันดับแรกของ
ศึกประลองวิญญาณจะได้รับในทุก ๆ ปี ตอนจบการแข่งขันมักจะทํา
ให้ผคู ้ นนํ้าลายไหลอยูเ่ สมอ
ในวันนี้ ผูเ้ ข้าแข่งขันในเขตที่หนึ่งมาที่ลานประลองกันทั้งหมด พวก
เขาตื่นเต้นที่จะได้ดูการต่อสู ใ้ นรอบสุ ดท้ายด้วยตาตนเอง
แน่นอนว่าพวกเขาอยากเห็นการต่อสู ม้ ากกว่าผลลัพธ์ เนื่องจากจวิน
เสี ยมีพลังวิญญาณขั้นสี เขียว พวกเขาจึงรู ้วา่ เขาอยูเ่ หนือทุกคน แม้แต่
ฉูหลิงเย่กไ็ ม่ใช่คู่มือของเขา
แต่ทว่า…
คู่ต่อสู ท้ ุกคนที่ประลองกับจวินเสี ย ไม่มีใครสักคนที่สามารถรอด
จากการโจมตีครั้งแรกไปได้เลย ในเขตประลองที่หนึ่งนั้นพลังของฉู
หลิงเย่ดอ้ ยกว่าจวินเสี ยเพียงคนเดียวเท่านั้น ทุกคนจึงคาดหวังมากที่
จะได้เห็นว่าฉูหลิงเย่จะสามารถอยูร่ อดได้นานกว่าคนอื่นสักหน่อยรึ
เปล่าภายใต้การลงมือของจวินเสี ย…
อย่างน้อย…แค่อีกนิดนึงก็ยงั ดี…
การประลองยังไม่เริ่ ม ลานประลองก็เต็มแน่นไปด้วยผูค้ นแล้ว จวิน
เสี ยกับฉูหลิงเย่มาถึงแล้วและกําลังเดินอยูบ่ นเวที
ฉูหลิงเย่ผนู ้ ่ารักมองผูเ้ ยาว์ที่ยนื อยูต่ รงหน้านาง แต่ไม่กล้ามองตรงไป
ที่ใบหน้า ดูเหมือนว่าแค่จอ้ งมองนาน ๆ ภาพจําลองของคนผูห้ นึ่งก็
จะปรากฏขึ้น
จวินอู๋เสี ยยืนนิ่งอยูบ่ นเวที นางไม่เห็นว่าปฏิกิริยาของฉูหลิงเย่แปลก
อีกแล้ว เด็กสาวน่ารักคนนี้มกั จะหลบอยูเ่ สมอเวลาที่พวกเขาพบกัน
แต่จวินอู๋เสี ยมองออกว่าฉูหลิงเย่ไม่ได้มีเจตนาร้าย
หลังจากนั้นไม่นาน เสี ยงระฆังก็ดงั ขึ้นเป็ นสัญญาณเริ่ มการแข่งขัน
ทุกสายตาเบิกกว้างจับจ้องไปบนเวทีโดยไม่ละสายตา
จวินอู๋เสี ยเรี ยกพลังวิญญาณออกมาส่ องสว่างเจิดจ้า ขณะเดียวกันฉู
หลิงเย่กร็ วบรวมพลังวิญญาณเอาไว้ในมือ
ทันใดนั้น!
ร่ างของจวินอู๋เสี ยก็หายไปจากเวที ความเร็ วในการเคลื่อนไหวของ
นางเหมือนกับการประลองครั้งที่แล้ว ๆ มาของนาง
ฉูหลิงเย่ตกใจ นางพยายามมองหาร่ างของจวินเสี ยแต่กไ็ ร้ผล ความ
แตกต่างระหว่างระดับขั้นพลังวิญญาณของพวกเขาทําให้นางรู ้สึก
อ่อนแอไร้ทางสู !้
และเมื่อแสงสี เขียวสว่างจ้าพุง่ เข้ามาถึงข้างตัวฉูหลิงเย่ นางก็มีสีหน้า
เจ็บปวดทันที และในชัว่ พริ บตาฉูหลิงเย่กก็ ระอักเลือดออกมา ร่ าง
เพรี ยวบางของนางทรุ ดลงต่อหน้าต่อตาทุกคน!
จวินอู๋เสี ยรี บดึงพลังวิญญาณในมือกลับไปและปรากฏตัวขึ้นข้าง ๆ
ฉูหลิงเย่
“เกิดอะไรขึ้น!?” ทุกคนพากันตกใจ พิธีกรพุง่ ตัวขึ้นไปบนเวทีอย่าง
ลุกลี้ลุกลนเพื่อตรวจสอบอาการของฉูหลิงเย่ ใบหน้าของฉูหลิงเย่ซีด
ขาว นางกระอักเลือดออกมาไม่หยุด คราบเลือดสี แดงที่เปรอะเปื้ อน
นั้นดูน่ากลัว กลิ่นคาวเลือดเริ่ มกระจายไปทัว่ ลานประลอง
“จวินเสี ย! การแข่งขันนี้กแ็ ค่ให้เอาชนะคู่ต่อสู เ้ ท่านั้น! เจ้าไม่รู้รึไง!”
พิธีกรรี บพยุงฉูหลิงเย่ข้ ึน ใบหน้าเขาบิดเบี้ยวอย่างโกรธจัดขณะที่
จ้องมองจวินอู๋เสี ย ฉูหลิงเย่น้ นั เป็ นคนพิเศษ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับ
นางในศึกประลองวิญญาณ คนจากเมืองพันอสู รจะไม่ปล่อยพวกเขา
ไปง่าย ๆ แน่
จวินอู๋เสี ยยังคงยืนขมวดคิ้วมองหน้าแหลิงเย่ที่ซีดขาวขึ้นเรื่ อย ๆ
ไม่มีใครรู ้วา่ นางยังไม่ทนั ได้ลงมือโจมตีฉูหลิงเย่เลย นางก็ลม้ ลงไป
แล้ว ตั้งแต่ตน้ จนจบ นางไม่ได้แตะต้องฉูหลิงเย่เลยแม้แต่เส้นผม
ลานประลองโกลาหลวุน่ วายขึ้นทันที ฉูหลิงเย่ถูกส่ งตัวไปรักษา
อย่างรวดเร็ ว ส่ วนคนอื่น ๆ ที่ยงั เหลืออยูใ่ นลานประลองก็พากัน
มองจวินอู๋เสี ยด้วยความหวาดกลัว
ตอนที่ 841 แผนการใส่ ร้าย (2)
ทุกคนรู ้ดีถึงพลังของจวินเสี ย แม้วา่ จวินเสี ยจะเอาชนะคู่ต่อสู ค้ น
ก่อน ๆ ในชัว่ พริ บตาทุกคน เขาก็ไม่เคยทําให้ใครบาดเจ็บหนักเลย
สักครั้ง แต่วนั นี้จวินเสี ยโจมตีฉูหลิงเย่จนนางกระอักเลือดออกมาไม่
หยุดต่อหน้าต่อตาพวกเขา เมื่อทุกคนเห็นสภาพของฉูหลิงเย่ที่ถูก
หามออกไป พวกเขาก็รู้วา่ เรื่ องนี้ไม่ดีแน่แล้ว
จากที่พวกเขาเห็น ฉูหลิงเย่บาดเจ็บภายในอย่างหนัก!
ในขณะที่ลานประลองตกอยูใ่ นภาวะสับสนวุน่ วายอยูน่ ้ นั กองทหาร
ก็เข้ามาทันที พวกเขาถือดาบเอาไว้ในมือและมองไปที่จวินเสี ยที่ยงั
ยืนอยูบ่ นเวที
“เจ้าคือจวินเสี ยรึ ?”
สายตาเย็นชาของจวินเสี ยกวาดมองพวกทหารพร้อมกับหรี่ ตา
“ใช่”
“ศึกประลองวิญญาณห้ามผูเ้ ข้าแข่งขันทําร้ายกันจนถึงแก่ชีวติ ฉูหลิง
เย่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็ นตายเท่ากัน การโจมตีของเจ้าโหดร้าย
รุ นแรงเกินไป ขัดต่อกฎของศึกประลองวิญญาณ เราคงต้องขอให้เจ้า
มากับเรา!” ทหารคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยนํ้าเสี ยงเย็นชา
ลานประลองเกิดเสี ยงดังเอะอะขึ้นอีกรอบ ศึกประลองวิญญาณมีกฎ
เช่นนั้นจริ ง ๆ พวกเขาได้รับอนุญาตให้ต่อสู ้ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้
ฆ่าคู่ต่อสู ้ ถ้าพวกเขาทําคนตาย พวกเขาก็จะถูกลงโทษ
จวินอู๋เสี ยมองพวกทหารที่เตรี ยมตัวมาอย่างดีดว้ ยสายตาเย็นชา มุม
ปากของนางยกขึ้นเป็ นรอยยิม้ เย็น จากนั้นก็ยกมือทั้งสองขึ้น
ตรงหน้า แต่การเคลื่อนไหวนั้นทําให้ทหารทุกคนปั่นป่ วนขึ้นมา
ทันที!
“นัน่ เจ้าคิดจะทําอะไร!?”
จวินอู๋เสี ยเลิกคิว้ ขึ้นข้างหนึ่งและถามว่า “พวกท่านไม่ได้พดู ว่าจะเอา
ตัวข้าไปหรอกหรื อ?” นางเอาแขนชิดกัน สายตาทอประกายขบขัน
[พวกนี้มาที่นี่กนั เร็ วจริ ง ๆ]
พวกทหารพากันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทุกคนรู ้วา่ จวินเสี ย
มีพลังวิญญาณขั้นสี เขียว และในหมู่พวกเขาไม่มีสกั คนที่จะเป็ นคู่มือ
ของจวินเสี ยได้ โชคดีที่จวินเสี ยยอมร่ วมมือ ทหารคนหนึ่งรี บเอาโซ่
ตรวนมาทันทีและเดินไปยืนตรงหน้าจวินเสี ยเพื่อที่จะล่ามมือของ
นางเอาไว้อย่างแน่นหนาก่อนจะนําตัวออกมาอย่างรวดเร็ ว
จวินอู๋เสี ยปล่อยให้พวกทหารพาตัวนางไป นางถูกโยนเข้าไปในคุก
ขณะที่ทวั่ ทั้งเมืองหลวงก็โกลาหลกันอีกครั้ง
คุณหนูแห่งเมืองพันอสู ร ฉูหลิงเย่ ได้รับบาดเจ็บสาหัสในศึก
ประลองวิญญาณ และคนผิดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็ นคนที่ทุกคน
พูดถึงกันมาตลอด ผูเ้ ยาว์มหัศจรรย์ จวินเสี ย!
ข่าวแพร่ สะพัดไปอย่างรวดเร็ วในเวลาไม่นาน
จวินอู๋เสี ยนัง่ อยูใ่ นคุกของเมืองหลวงเพียงลําพัง ในคุกที่มืดและ
หนาวเย็น มีเพียงกองฟางแห้ง ๆ สกปรกกองหนึ่งบนพื้นและกลิ่น
เหม็นชวนอาเจียนตลบอบอวลไปทัว่ คุก
จวินอู๋เสี ยนัง่ ลงบนกองฟางและก้มหน้ามองโซ่ที่ล่ามมืออยู่ รอยยิม้
บางปรากฏขึ้นบนริ มฝี ปาก
“เหมียว”
[ทั้งชาติก่อนกับชาติน้ ี นี่เป็ นครั้งแรกที่ท่านถูกขังคุกเลยนะเนี่ย!
รู ้สึก……แปลกพิลึกดีแท้]
เจ้าแมวดําเดินวนรอบตัวจวินอู๋เสี ย
“ทุกอย่างก็ตอ้ งมีครั้งแรกทั้งนั้น” จวินอู๋เสี ยพูดเบา ๆ ถึงจะตกอยูใ่ น
สภาพเลวร้ายแบบนี้ ก็ดูเหมือนนางจะไม่กงั วลอะไรเลย สิ่ งที่อยูใ่ น
ใจนางตอนนี้กค็ ือเกิดอะไรขึ้นกับฉูหลิงเย่
นางคิดอย่างละเอียดรอบคอบมาตั้งแต่แรกแล้ว ฉูหลิงเย่ไม่มีท่าที
ผิดปกติอะไรเลยก่อนการต่อสู จ้ ะเริ่ ม และทันทีที่การต่อสู เ้ ริ่ มต้นขึ้น
นางก็กระอักเลือดออกมาและล้มลงไป นางแน่ใจว่าตนเองไม่ได้แตะ
ต้องฉูหลิงเย่เลย จึงเป็ นไปไม่ได้ที่นางจะเป็ นคนทําให้ฉูหลิงเย่
บาดเจ็บ
นางไม่ได้ให้ความสนใจฉูหลิงเย่มากนัก แต่กม็ องออกได้ไม่ยากว่าฉู
หลิงเย่น้ นั ใสซื่อบริ สุทธิ์ เด็กสาวที่ไร้เดียงสาเช่นนั้นจะไม่มีแผนเล่น
งานเธอแน่
จวินอู๋เสี ยแทบจะแน่ใจเลยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้คือแผนการ
ของใครบางคนอย่างแน่นอน และมันก็เล็งเป้าหมายมาที่นาง
โดยตรง!
“เป็ นจักรพรรดิหรื อองค์ชายสี่ กนั นะ? ต้องยอมรับเลยว่าแผนการ
ครั้งนี้ลงมือได้เร็ วมาก” จวินอู๋เสี ยยิม้ บาง ๆ แต่แววตาเย็นเยียบน่า
กลัว
ตอนที่ 842 แผนการใส่ ร้าย (3)
ในคุกตอนกลางคืนเงียบมาก จวินอู๋เสี ยนัง่ อยูใ่ นห้องขังของนางเพียง
ลําพังโดยไม่มีทีท่าท้อถอยผิดหวังหรื อไม่พอใจอะไรเลย นางแค่นงั่
อยูต่ รงนั้นเงียบ ๆ เงียบเหมือนที่นางเป็ นอยูเ่ สมอราวกับอยูใ่ นห้อง
ของตัวเอง ผูค้ ุมเดินมาตรวจอยูส่ องครั้ง พวกเขาไม่เคยเห็นใครที่ถูก
จับโยนเข้าคุกจะใจเย็นและสงบนิ่งได้ขนาดนี้ ท่าทางไม่กงั วลสิ่ งใด
ของจวินอู๋เสี ยทําให้คนลืมไปว่านางยังเป็ นเด็ก แต่เมื่อเห็นว่าเด็กชาย
ไม่ได้สร้างปัญหาอะไร ผูค้ ุมก็ไม่ได้พดู อะไรมากเช่นกัน
ตกดึกพวกผูค้ ุมไม่สามารถทนต่อความง่วงได้อีกต่อไป เปิ ดโอกาส
ให้คนหลายคนเข้ามาในคุกอย่างเงียบ ๆ
“ขอพูดหน่อยเหอะ……เจ้านัง่ เล่นอยูใ่ นคุกนี่ จะไม่ดูสบายใจไป
หน่อยเหรอ?” เชียวชูพดู พลางมองจวินอู๋เสี ยด้วยสี หน้าโกรธเคือง
พวกเขาได้ข่าวหลังจากจวินอู๋เสี ยถูกจังไม่นาน คนที่มาส่ งข่าวเป็ น
ทหารจากวังขององค์รัชทายาท แม้วา่ เล่ยเฉิ นจะไม่ได้มาเอง แต่เขา
ได้ส่งข้อความมาถึงพวกเขา
จวินอู๋เสี ยเงยหน้าขึ้นอย่างเกียจคร้านและมองไปที่คนหลายคนที่ยนื
อยูข่ า้ งนอกห้องขังของนาง
ฮัว่ เหยา เชียวชู เฟยหยาน หลงลัว่ ……แม้แต่ฟ่านจัว๋ ก็ตามมาด้วย
“มาแล้วเหรอ” จวินอู๋เสี ยพูดอย่างใจเย็น ไม่ประหลาดใจกับการ
ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของพวกเขาแม้แต่นอ้ ย
“ถ้าเราไม่มา เจ้าคิดจะอยูท่ ี่นี่ไปตลอดรึ ไง?” เชียวชูถามพร้อมกับเลิก
คิ้ว เขามองไปที่กญุ แจตรงประตูขา้ งหน้าห้องขังแล้วพูดว่า “หยาน
น้อย เราต้องพึ่งเจ้าแล้วล่ะ”
เฟยหยานมองเชียวชูแล้วพูดอย่างดูถูกว่า “ถ้าเจ้าไม่ได้เรี ยกข้าว่า
หยานน้อยบ้า ๆ นัน่ ข้าอาจจะอยากช่วยมากกว่านี้”
เชียวชูยกั ไหล่ เฟยหยานยืน่ มือออกมาวางบนกุญแจทันที เขา
รวบรวมพลังวิญญาณเอาไว้ในมือเตรี ยมที่จะทําลายกุญแจ
“ข้าไม่ได้คิดที่จะออกไป” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับมองบรรดาสหายที่
เตรี ยมช่วยนางแหกคุกเต็มที่ ถึงแม้นางจะดีใจที่พวกเขามา แต่นาง
ไม่ได้คิดจะออกไปจากที่นี่ตอนนี้
“อะไรนะ?” เชียวชูตกใจ เฟนหยานที่รวมพลังวิญญาณในมืออยูเ่ มื่อ
ได้ยนิ คําพูดของจวินอู๋เสี ยก็สลายพลังทันที
“น้องเสี ย พวกมันทรมานเจ้าหรื อ?” เชียวชูถามอย่างร้อนใจพร้อม
กับรี บสํารวจจวินอู๋เสี ยตั้งแต่หวั จรดเท้า หลังจากแน่ใจว่าจวินอู๋เสี ย
ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“หัวก็ไม่ได้กระแทกอะไรนี่นา ทําไมถึงได้พดู จาไร้เหตุผลอย่างนั้น?
อย่าบอกนะว่าเจ้าเห็นว่าที่นี่สบายกว่าที่ตาํ หนักเซียนน่ะ!?”
จวินอู๋เสี ยกรอกตามองเชียวชู
“ฉูหลิงเย่เป็ นยังไงบ้าง?” จวินอู๋เสี ยถามขึ้น
“ข้าไปดูนางมาแล้ว อาการนางไม่ดีเลย ตอนนี้หมอทุกคนในเมือง
หลวงไปที่สาํ นักธงศึกกันหมด แม้แต่หมอหลวงก็ไปด้วย แต่นางก็
ยังไม่ได้สติเลย อาการบาดเจ็บของนางสาหัสมาก ขนาดไม่ได้สติ
แบบนั้นก็ยงั กระอักเลือดออกมาไม่หยุด” เฟยหยานพูดพร้อมกับลูบ
คาง เขาแอบไปที่โรงเตี๊ยมที่สาํ นักศึกษาธงศึกพักอยูเ่ พื่อดูวา่
สถานการณ์ที่นนั่ เป็ นอย่างไรบ้าง และพบว่าฉูหลิงเย่ยงั นอนหน้าซี ด
อยูบ่ นเตียง
“น้องเสี ย เจ้ามีเรื่ องอะไรกับฉูหลิงเย่เหรอ? เจ้าโหดร้ายกับนางมาก
เลยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะยายืดชีวติ ที่สาํ นักธงศึกให้นางกิน นางคงตาย
ไปแล้ว” เชียวชูพดู พร้อมกับมองจวินอู๋เสี ยอย่างเสี ยใจ เขาไม่เคยข้อง
ใจในความโหดร้ายของจวินอู๋เสี ยที่มีต่อศัตรู ของนางเลยสักครั้ง
“แม้แต่เจ้าก็คิดว่าข้าเป็ นคนทํางั้นรึ ?” จวินอู๋เสี ยถามพร้อมกับเลิกคิ้ว
ขึ้น
เชียวชูชะงักค้างอย่างประหลาดใจ จากนั้นก็รีบถามขึ้นว่า “เจ้าไม่ได้
ทํารึ ?”
จวินอู๋เสี ยไม่ตอบ
ที่จริ งนางไม่ควรตําหนิเชียวชูที่คิดเช่นนั้น จวินอู๋เสี ยโหดเหี้ ยม
อํามหิ ตมากในภารกิจสองครั้งก่อนหน้านี้ และเมื่อเขาเห็นฉูหลิงเย่
อยูใ่ นสภาพเป็ นตายเท่ากันเช่นนั้น จึงเป็ นเรื่ องปกติที่เชียวชูกบั คน
อื่น ๆ จะคิดว่า……
ตอนที่ 843 แผนการใส่ ร้าย (4)
จวินอู๋เสี ยต้องมีความแค้นกับเด็กสาวคนนั้นแน่ ไม่อย่างนั้นจะอยาก
เอาชีวติ นางทําไม?
“เจ้าไม่ได้ทาํ งั้นก็มีคนอยากใส่ ร้ายเจ้าน่ะซิ ” ฟ่ านจัว๋ พูดขึ้นทันที
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า “ข้าไม่ได้แตะต้องนางเลยสักนิด ก่อนที่ขา้ จะลง
มือโจมตี นางก็ลม้ ลงไปแล้ว” นางเคลื่อนไหวเร็ วมากและเข้าใกล้ฉู
หลิงเย่จริ ง ๆ ในสายตาของคนอื่นจึงดูเหมือนนางโจมตีฉูหลิงเย่ดว้ ย
ความเร็ วที่มองไม่เห็น
แต่ไม่มีใครรู ้ดีไปกว่าจวินอู๋เสี ยว่าที่จริ งแล้วเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น
คําพูดของจวินอู๋เสี ยทําให้เชียวชูกบั คนอื่น ๆ คิดหนักทันที ตอนแรก
พวกเขาคิดว่าฉูหลิงเย่ทาํ บางอย่างที่ทาํ ให้จวินอู๋เสี ยทํากับนาง
เช่นนั้น แต่เมื่อได้ยนิ ที่ฟ่านจัว๋ กับจวินอู๋เสี ยคุยกัน พวกเขาก็ตาสว่าง
ทันที
ถ้าจวินอู๋เสี ยต้องการเล่นงานใครสักคนจริ ง ๆ นางจะไม่ใช่วธิ ีที่
ดึงดูดความสนใจมาที่ตวั เองมากขนาดนี้อย่างแน่นอน นางไม่เคย
เปิ ดเผยเจตนาที่แท้จริ งของตัวเองก่อน และยิง่ เป็ นไปไม่ได้ที่นางจะ
พยายามฆ่าโดยไม่ได้มีการเตรี ยมตัวอะไรเอาไว้เลย
เมื่อคิดย้อนกลับไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฉูหลิงเย่ไม่เหมือนวิธีการ
ตามปกติของจวินอู๋เสี ยเลยสักนิด
“เจ้ารู ้ไหมว่าใครเป็ นคนที่อยูเ่ บื้องหลังเรื่ องนี้?” ฮัว่ เหยาถามขึ้น
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “ถ้าไม่ใช่องค์จกั รพรรดิกเ็ ป็ นองค์ชายสี่ นนั่ แหละ
ข้าเพิ่งปฏิเสธคําชวนขององค์ชายสี่ ไป จากนิสยั หยิง่ ยโสของเขา เขา
ไม่ปล่อยมันผ่านไปแบบนั้นแน่ สําหรับพวกเขาแล้วการวางแผนยัด
ข้าเข้าคุกวันนี้ แสดงว่าหลังจากนี้จะมีอะไรตามมาอีกแน่นอน”
นางอยากรู ้จริ ง ๆ ว่าองค์จกั รพรรดิกบั องค์ชายสี่ จะมีความสามารถ
มากขนาดไหนกัน
“ข้าไม่คิดที่จะออกไปจากที่นี่ตอนนี้ เฟยหยาน ช่วยจับตามองฉูหลิง
เย่อย่างใกล้ชิดให้ขา้ ที พวกนั้นไม่กล้าปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับฉู
หลิงเย่จริ ง ๆ หรอก” ฉูหลิงเย่น้ นั เป็ นคนพิเศษ ทําให้ไม่มีใครกล้าทํา
ร้ายนาง เหตุผลที่พวกนั้นเลือกใช้ฉูหลิงเย่กเ็ พราะอย่างแรกฉูหลิง
เย่คือคู่ต่อสู ค้ นต่อไปของนาง และอย่างที่สองพวกนั้นตั้งใจจะใช้
เมืองพันอสู รที่แข็งแกร่ งที่อยูเ่ บื้องหลังของฉูหลิงเย่ทาํ เรื่ องนี้ให้ใหญ่
ขึ้น
ถ้าเป็ นผูเ้ ยาว์คนอื่นก็คงปิ ดเรื่ องได้ง่ายดาย และเรื่ องคงไม่ใหญ่โตถึง
ขนาดนี้
“เราต้องขอความช่วยเหลือจากเล่ยเฉิ นรึ เปล่า?” เชียวชูถามขึ้น
“เรื่ องนี้เล่ยเฉินมาเกี่ยวข้องไม่ได้หรอก เจ้าคิดว่าทําไมพวกเขาถึง
เลือกฉูหลิงเย่ล่ะ? ในฐานะคุณหนูแห่งเมืองพันอสู ร ถ้ามีอะไรเกิด
ขึ้นกับนางล่ะก็ คนของเมืองพันอสู รจะถูกลากเข้ามาเกี่ยวด้วยอย่าง
แน่นอน เล่ยเฉินเป็ นเพียงองค์รัชทายาทของแคว้นหยาน เขาไม่
สามารถเข้ามายุง่ ได้อยูแ่ ล้ว ยิง่ กว่านั้นองค์จกั รพรรดิไม่มีทางให้
โอกาสเขาเข้ามายุง่ กับเรื่ องนี้ดว้ ยเหมือนกัน” จวินอู๋เสี ยอธิบายอย่าง
ใจเย็น ถ้าเล่ยเฉินสามารถทําอะไรกับสถานการณ์น้ ีได้ ตอนนี้นางคง
ไม่นงั่ อยูใ่ นห้องขังอยูแ่ บบนี้หรอก
“ตาแก่จกั รพรรดินนั่ เลอะเลือนไปแล้วรึ ไง? เขาต้องใช้วธิ ีน้ ีดว้ ยงั้น
หรื อ? เล่ยเฉินกับเล่ยฟ่ านก็เป็ นลูกชายเขาทั้งคู่ไม่ใช่เหรอ? อย่าบอก
นะว่าเขารู ้แล้วว่าเล่ยเฉินไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเขาน่ะ?” เชียวชูถาม
รอยยิม้ ร้ายกาจปรากฏขึ้นบนริ มฝี ปากของเขา
เด็กชายทั้งสองไม่มีสายเลือดขององค์จกั รพรรดิเลยแม้แต่นอ้ ย และ
ถ้าชายแก่คนนั้นรู ้เข้า เขาจะต้องโกรธมากจนอกแตกตายแน่นอน
“ถ้าเขารู ้ ป่ านนี้เล่ยเฉิ นตายไปแล้ว” จวินอู๋เสี ยมองเชียวชูอย่างอ่อน
อกอ่อนใจ [เมื่อไรเจ้าเด็กโข่งนี่จะฉลาดขึ้นสักที?]
“องค์จกั รพรรดิแค่อยากให้เล่ยเฉินลงจากตําแหน่งองค์รัชทายาท
เท่านั้น ไม่ได้อยากฆ่าเขาจริ ง ๆ สักหน่อย แต่เล่ยฟ่ านอาจจะไม่ได้
คิดแบบเดียวกัน” จวินอู๋เสี ยเคยเจอเล่ยฟ่ านแค่ครั้งเดียวและเป็ นการ
พบกันแค่ช่วงสั้น ๆ เท่านั้น แต่แค่น้ นั นางก็สามารถรู ้ถึงนิสยั ใจคอ
และภาวะอารมณ์ของเล่ยฟ่ านได้วา่ ไม่เหมือนคนทัว่ ไป นางแค่
ปฏิเสธคําชวนเป็ นเพื่อนร่ วมเรี ยนของเขาเท่านั้น ในเวลาต่อมานางก็
พบว่าตัวเองถูกโยนเข้าคุกซะแล้ว
เขาลงมือได้รวดเร็ วจริ ง ๆ
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตา ดวงตาทอประกายความรู ้สึกที่อ่านไม่ออก
ตอนที่ 844 แผนการใส่ ร้าย (5)
จวินอู๋เสี ยเงยหน้าขึ้นทันทีและมองตรงไปที่ฮวั่ เหยาที่ยงั จมอยูใ่ น
ความคิด
“พี่ฮวั่ ทุกคนแข่งกันเสร็ จแล้วใช่ไหม?”
ฮัว่ เหยาพยักหน้า นอกจากเขตหนึ่งที่เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นในวันนี้
เขตอื่น ๆ ทุกเขตต่างแข่งกันเสร็ จแล้ว และได้ตวั ผูช้ นะจากทั้ง 9 เขต
เรี ยบร้อย โดยที่ฮวั่ เหยากับคนอื่น ๆ รวม 5 คนได้เข้าไปใน 10
อันดับแรกอย่างง่ายดาย
“อีกกี่วนั จะถึงวันตัดสิ น 10 อันดับแรกเหรอ?” จวินอู๋เสี ยถามต่อ
“อีก 5 วัน” ฮัว่ เหยาตอบ
“5 วัน……” จวินอู๋เสี ยก้มหน้าลงและลุกขึ้นยืนทันที นางเดินไปที่
ประตูหอ้ งขังและดึงเอาปิ่ นเงินออกจากผม จากนั้นก็เอื้อมมือออกไป
นอกห้องขังและขยับปิ่ นไปมาที่รูกญ ุ แจ
เสี ยงกริ๊ กดังขึ้นและประตูหอ้ งขังก็เปิ ดออก
เชียวชูกบั คนอื่น ๆ ที่ยนื อยูข่ า้ งนอกห้องขังพากันอ้าปากค้าง พวกเขา
ตกตะลึงกับความสามารถในการสะเดาะกุญแจของจวินอู๋เสี ย
“น้องเสี ย……เจ้าไปเรี ยนวิชาแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไร?” เชียวชูถาม
พร้อมกับกลืนนํ้าลายเสี ยงดัง พวกเขาเตรี ยมพร้อมพังกุญแจกันเต็มที่
แต่จวินอู๋เสี ยกลับสะเดาะกุญแจได้ดว้ ยปิ่ นเงินอันเล็ก ๆ แค่อนั เดียว
“ข้าเรี ยนมาจากเพื่อน” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับเสี ยบปิ่ นกลับไปที่ผม
นางเรี ยนวิชาสะเดาะกุญแจจากใครบางคน และมันทําให้นางไป
ไหนมาไหนได้ตามใจชอบเมื่ออยูท่ ี่องค์กร นางไม่คิดว่าหลังจากมา
เกิดใหม่ที่โลกนี้แล้วมันจะมีประโยชน์ต่อนางแบบนี้
“สุ ดยอดไปเลย!” เชียวชูอุทาน
จวินอู๋เสี ยไม่คิดเช่นนั้นและพูดขึ้นว่า “ข้าไม่เก่งหรอก ถ้าเป็ นนาง จะ
ใช้เวลาไม่ถึง 3 วินาทีดว้ ยซํ้า……” เสี ยงของจวินอู๋เสี ยขาดหายไป
นางสลัดความรู ้สึกที่เอ่อล้นขึ้นมาในใจทิ้ง แล้วเดินออกจากห้องขัง
“ข้านึกว่าเจ้าไม่คิดที่จะออกมาแล้ว” หลงลัว่ ล้อจวินอู๋เสี ย
“ข้าไม่ได้จะออก” จวินอู๋เสี ยตอบ ทําให้ทุกคนพากันสับสน นางหัน
ไปมองฮัว่ เหยา “พี่ฮวั่ ช่วยอยูท่ ี่นี่แทนข้าหน่อย”
“……” ฮัว่ เหยาประหลาดใจจนพูดไม่ออก ครู่ หนึ่งเขาถึงนึกได้วา่
จวินอู๋เสี ยกําลังพูดถึงอะไร
“ข้าต้องออกไปตอนกลางวัน พี่ฮวั่ จะอยูใ่ นห้องขังแทนที่ขา้ แล้วข้า
จะกลับมาที่นี่ตอนกลางคืน” จวินอู๋เสี ยไม่อยากออกไปแบบนั้น ใน
เมื่อมีคนอยากให้นางถูกขังอยูใ่ นคุก นางจะปล่อยให้พวกเขาทํา
ตามใจชอบได้อย่างไร?
“เจ้าคิดจะทําอะไร?” เชียวชูถาม
“ฉูหลิงเย่เป็ นคนเดียวที่รู้ดีที่สุดว่าที่จริ งแล้วเกิดอะไรขึ้น เมื่อนางได้
สติกลับมา ความจริ งจะถูกเปิ ดเผย พวกนั้นก็จะไม่มีเหตุผลที่จะขัง
ข้าไว้ในคุกอีกต่อไป” จวินอู๋เสี ยพูดพลางยิม้ มุมปากเล็กน้อย
[ในเมื่ออยากจะเล่นเกมนัก นางก็จะจัดให้อย่างดีเลยเชียว]
เมื่อเข้าใจว่าจวินอู๋เสี ยหมายถึงอะไร ฮัว่ เหยาก็ไม่ถามอะไรต่อ และ
จัดการเคลื่อนย้ายกระดูกในร่ างทันที จากนั้นก็หมุนตัวหันไปมอง
จวินเสี ย
นิสยั ของฮัว่ เหยาเย็นชาและเว้นระยะห่างจากผูอ้ ื่นคล้ายกับจวินอู๋เสี ย
และเมื่อเขาตั้งใจเลียนแบบท่าทางและสี หน้าของจวินอู๋เสี ยแล้ว ก็
แยกออกได้ยากมาก ๆ ว่าใครเป็ นใครเมื่อพวกเขายืนอยูด่ ว้ ยกัน
“จะออกไปตอนนี้หรื อพรุ่ งนี้?” ฮัว่ เหยาถามด้วยเสี ยงที่เหมือนกับ
เสี ยงของจวินอู๋เสี ยเป๊ ะ
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “คืนนี้”
ฮัว่ เหยาพยักหน้าและเดินเข้าไปในห้องขังโดยไม่ลงั เล และยังจัดการ
ล็อคกุญแจกลับเข้าที่ตอนเข้าไปด้วย เนื่องจากทั้งสองคนสวม
เครื่ องแบบของวายุประจิมอยูแ่ ล้ว จึงไม่จาํ เป็ นต้องเปลี่ยนเสื้ อผ้าอีก
จวินอู๋เสี ยออกมาจากคุกพร้อมกับเชียวชูและคนอื่น ๆ ในขณะที่ยงั
มืดมิดและเงียบสงัด ผูค้ ุมทั้งสองที่อยูต่ รงประตูคุกกําลังนอนกรน
กันอยู่ ไม่รู้ตวั เลยสักนิดว่านักโทษที่พวกเขาขังเอาไว้ได้สลับตัวกัน
ไปแล้ว
หลังออกจากคุกมาไม่นาน จวินอู๋เสี ยก็เรี ยกเย่ฉาออกมา
“ไปที่วงั หลวง” จวินอู๋เสี ยสัง่
เย่ฉาพยักหน้าน้อย ๆ ร่ างสู งของเขาหายไปในความมืดยามราตรี
อย่างรวดเร็ ว
ตอนที่ 845 หมออัจฉริยะ (1)
ตอนที่จวินอู๋เสี ยถูกโยนเข้าไปในคุก เล่ยเฉิ นวิง่ เต้นไปทัว่ แต่ผลที่ได้
กลับน่าผิดหวัง องค์จกั รพรรดิไล่เขาออกมาหลังจากพูดได้ไม่กี่คาํ
และยังไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปในคุกอีก เล่ยเฉิ นถูกทิ้งให้กงั วลจน
แทบเป็ นบ้าอยูใ่ นวังรัชทายาท
“ฝ่ าบาท ศิษย์จากสํานักศึกษาวายุประจิมขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ”
เล่ยเฉินประหลาดใจ เขารี บพูดขึ้นทันทีวา่ “ให้พวกเขาเข้ามาเร็ ว”
ก่อนที่เขาจะจัดแจงเสื้ อผ้าให้เรี ยบร้อย พยายามไม่ให้ดูแย่เกินไปนัก
เชียวชูพาคนที่คลุมผ้าคลุมสี ดาํ เข้ามาในห้องทํางานของเล่ยเฉิ นด้วย
อีกคนหนึ่ง เล่ยเฉิ นมองคนที่อยูข่ า้ ง ๆ เชียวชูอย่างสงสัย เขาหันพูด
กับเชียวชูวา่ “คุณชายเชียว ท่านมาที่นี่วนั นี้เพราะเรื่ องที่เกิดกับจวิน
เสี ยใช่ไหม?”
เชียวชูเกาหัวพลางตอบอย่างกระอักกระอ่วนว่า “จะว่าอย่างนั้นก็ได้”
เล่ยเฉินยิม้ ให้เขาอย่างขมขื่น “ข้าช่างไร้พลังอํานาจจริ ง ๆ ข้าอยากจะ
ไปคุยกับเสด็จพ่อเรื่ องนี้ แต่เสด็จพ่อไม่ให้โอกาสข้าพูดเลย และ
เตือนข้าไม่ให้ยงุ่ เกี่ยวกับเรื่ องนี้ ข่าวเรื่ องฉูหลิงเย่ได้รับบาดเจ็บ
สาหัสไปถึงเมืองพันอสู รแล้ว และคนจากเมืองพันอสู รก็จะมาถึงที่นี่
เร็ ว ๆ นี้”
เล่ยเฉินอัดอั้นตันใจมาก ฉูหลิงเย่เป็ นอีกคนที่เขาอยากดึงมาเป็ นพวก
และได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความสนิทสนมกับฉูหลิงเย่ ใคร
จะคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ทาํ ให้ฉูหลิงเย่ตอ้ งได้รับบาดเจ็บสาหัส
เช่นนี้ แม้แต่จวินเสี ยก็ยงั ถูกลากเข้ามาพัวพันด้วย นัน่ ทําให้เขาวิตก
กังวลอย่างที่สุด และองค์จกั รพรรดิกย็ งั ห้ามเขาเข้าไปยุง่ อีก เขาทํา
อะไรไม่ได้เลยนอกจากนัง่ อยูเ่ ฉย ๆ จนจะบ้าตายอยูแ่ ล้ว
“อาการของฉูหลิงเย่เป็ นยังไงบ้าง?” เชียวชูเหลือบมองคนที่ยนื อยู่
ข้าง ๆ โดยไม่เป็ นที่สงั เกตแล้วถามขึ้น
เล่ยเฉินถอนใจเฮือกใหญ่ “ไม่ดีเลย หมอหลวงทําการรักษานาง
ตลอดทั้งคืนแต่แทบไม่ได้ผลอะไร ข้าไปดูนางเมื่อวานนี้ นางดู
เปราะบางมาก พวกหมอทําได้เพียงให้ยายืดชีวติ กับนางเพื่อทําให้
หัวใจของนางยังเต้นอยู่ แต่นนั่ ก็เป็ นเพียงมาตรการชัว่ คราวเท่านั้น
ถ้ายังเป็ นเช่นนี้ต่อไปเรื่ อย ๆ ล่ะก็……นางอาจจะไม่รอดก็ได้ และ
ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนาง คนจากเมืองพันอสู รจะไม่ปล่อยให้นอ้ งชาย
แซ่จวินรอดไปได้แน่! เจ้าเมืองพันอสู รเป็ นคนเกรี้ ยวกราดดุร้าย
แม้แต่องค์รัชทายาทอย่างข้าก็ไม่อยูใ่ นสายตาเขา ข้าเกรงว่าข้าจะไม่
สามารถช่วยน้องชายแซ่จวินได้”
เชียวชูพยักหน้าและชําเลืองมองไปที่คนข้าง ๆ เขาอีกครั้งก่อนจะพูด
ขึ้นว่า “ถ้าเป็ นเรื่ องอาการบาดเจ็บล่ะก็ ข้ามีหมออัจฉริ ยะอยาก
แนะนําให้ฝ่าบาทอยูน่ ี่คนหนึ่ง”
“หื อ? จริ งหรื อ?” ตาของเล่ยเฉิ นส่ องประกายทันที
เชียวชูพยักหน้าและชี้ไปที่คนข้าง ๆ พร้อมกับพูดว่า “ความจริ งแล้ว
ข้ามาที่นี่วนั นี้กเ็ พื่อพาคนผูน้ ้ ีมาหาท่าน”
เล่ยเฉินหันไปมองคนที่ยนื อยูด่ า้ นข้างทันที เมื่อคนผูน้ ้ นั ดึงเอาผ้า
คลุมออก ใบหน้าอันงดงามที่ไม่มีผใู ้ ดเสมอเหมือน งามจนสามารถ
ล่มเมืองได้ ก็พลันปรากฏขึ้นตรงหน้าเล่ยเฉิ น เพียงแค่มองเล่ยเฉิ นก็
ลืมหายใจทันที เขาอ้าปากค้าง สายตาตกตะลึงของเขาไม่อาจละไป
จากใบหน้าของคนผูน้ ้ นั ได้เลย
ในฐานะที่เป็ นองค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยาน เขาได้พบเจอหญิงงาม
มานับไม่ถว้ น แต่ไม่มีใครงดงามน่าหลงใหลจับจิตจับใจได้เท่าสาว
น้อยที่อยูต่ รงหน้าเขาคนนี้ ดวงตาคู่น้ นั ราวกับเป็ นผลงานที่ดีที่สุด
ของสรวงสวรรค์ สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
เล่ยเฉินคิดอยูเ่ สมอว่าฝูซวนนั้นสวยงามน่าหลงใหลและมีเสน่ห์ ฉู
หลิงเย่กด็ ว้ ย นางเหมือนดอกกล้วยไม้ที่ข้ ึนอยูโ่ ดดเดี่ยวในช่องเขา
แต่ความงามของทั้งสองคนไม่สามารถเทียบได้กบั เด็กสาวที่ยนื อยู่
ตรงหน้าเขาคนนี้ สาวงามทั้งหมดที่อยูใ่ นความทรงจําของเล่ยเฉิ น
พลันเลือนหายไปจนสิ้ น
“เอ่อ นี่คือ……” เป็ นเวลานานทีเดียวกว่าเล่ยเฉินจะหาเสี ยงของ
ตัวเองเจอ และคําพูดง่าย ๆ สามคํานั้นก็ทาํ ให้เห็นถึงความประหม่าที่
แม้แต่ตวั เล่ยเฉินเองก็ไม่ได้สงั เกตเห็นมัน
จวินอู๋เสี ยสังเกตสี หน้าตกตะลึงของเล่ยเฉินอยูเ่ งียบ ๆ ดวงตาของ
นางกระจ่างใสแต่เย็นชา
“แม่นางผูน้ ้ ีคือคุณหนูจวินอู๋เสี ยแห่งวังหลินจากแคว้นฉี ” เชียวชู
กล่าวแนะนําพลางกระแอมในลําคอ เขาไม่ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริ ง
ของจวินอู๋เสี ยมานาน จึงอดไม่ได้ที่จะแอบมองนางอยูห่ ลายครั้ง
ตอนที่ 846 หมออัจฉริยะ (2)
เล่ยเฉินชะงักค้างไปครู่ หนึ่ง แววตาตกตะลึงหายไปและถูกแทนที่
ด้วยความสับสนงุนงง
“วังหลิน? วังหลินที่บญั ชากองทัพรุ่ ยหลินน่ะหรื อ?” ถึงแม้แคว้น
หยานจะเป็ นแคว้นที่ใหญ่ที่สุด แต่ในช่วงหลายปี มานี้พวกเขากลับ
ไม่กล้าลงมือทําอะไรบุ่มบ่ามต่อแคว้นฉี แคว้นฉี เป็ นเพียงแคว้นเล็ก ๆ
และไม่ได้มีความสําคัญทางเศรษฐกิจหรื อมีความแข็งแกร่ งทาง
การทหารเลย พวกเขาไม่อาจเทียบกับแคว้นหยานที่ยงิ่ ใหญ่ได้ แต่
เป็ นเพราะเหตุผลเดียวนัน่ ก็คือแคว้นฉีมีกองทัพรุ่ ยหลินที่ดุร้ายป่ า
เถื่อน ในช่วง 10 ปี ที่ผา่ นมานี้ไม่มีใครกล้าลงมือกับแคว้นฉี เล็ก ๆ
นัน่ เลย
ชื่อเสี ยงของกองทัพรุ่ ยหลินดังมาถึงหูของเล่ยเฉิ นด้วยเช่นกัน
“ใช่แล้ว” เชียวชูพยักหน้าพร้อมกับยิม้ กว้างจนปากจะถึงใบหู
สายตาของเล่ยเฉินเจือความเคารพนับถือเพิ่มขึ้นมาเมื่อมองไปยัง
จวินอู๋เสี ย “ยินดีที่ได้พบแม่นางจวิน”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า
“คุณชายเชียว ตอนที่ท่านพูดว่าอยากแนะนําหมออัจฉริ ยะให้ขา้ ท่าน
คงไม่ได้หมายถึง……” แววตาของเล่ยเฉิ นแสดงความไม่แน่ใจ
เชียวชูตอบอย่างภูมิใจว่า “เป็ นนางนัน่ แหละ”
“……” เล่ยเฉินตกใจและประหลาดใจมาก เขาคิดว่าเชียวชูจะ
แนะนําหมออัจฉริ ยะให้เขาจริ ง ๆ ไม่คิดเลยว่า……จะเป็ นแม่นาง
น้อยผูม้ ีภูมิหลังไม่ธรรมดาคนนี้ ผูซ้ ่ ึ งทําให้ความงามของดอกไม้
ทั้งหมดต้องจืดจางลงไป เล่ยเฉินรู ้สึกเหมือนเป็ นลูกโป่ งที่ถูกปล่อย
ลมออกจนแฟบ
“คุณชายเชียว นี่ไม่ใช่เวลามาล้อเล่นกันนะ” เล่ยเฉิ นเตือนอย่าง
สุ ภาพ
“ข้าไม่ได้ลอ้ เล่น ความสามารถทางการแพทย์ของอู๋เสี ยยอดเยีย่ ม
ที่สุดแล้ว เชื่อข้า ข้ารับรองว่าท่านจะไม่ผดิ หวัง” เชียวชูพดู
เล่ยเฉินรู ้สึกอยากจะร้องไห้ [เชียวชูผนู ้ ้ ีตรงไปตรงมาและเปิ ดเผยอยู่
เสมอ แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะมาสร้างปัญหา อาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่
สาหัสมาก และหมอที่มีชื่อเสี ยงที่สุดในแคว้นหยานก็มารวมตัวกันที่
ฉูหลิงเย่แล้วในตอนนี้ แม้แต่หมอหลวงก็อยูก่ บั นางทั้งวันทั้งคืน ไม่
กล้าปล่อยปละละเลยเลยแม้แต่นอ้ ย ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครสามารถทํา
ให้อาการของฉูหลิงเย่ดีข้ ึนได้เลย ยังคงสับสนกันอยูเ่ ลยว่าจะรักษา
อาการบาดเจ็บของนางได้อย่างไร]
[แล้วเชียวชูกลับพาแม่นางน้อยผูง้ ดงามที่อายุนอ้ ยกว่าเขาด้วยซํ้า มา
อ้างว่านางเป็ นหมออัจฉริ ยะเนี่ยนะ] เล่ยเฉิ นแทบจะร้องไห้แบบไร้
นํ้าตาต่อหน้าเชียวชู
[ถ้าให้เดาอายุของจวินอู๋เสี ย อย่างมากนางก็น่าจะประมาณ 14-15 ปี
และต่อให้นางฝึ กวิชาแพทย์มาตั้งแต่เด็ก แต่นางจะเทียบกับหมอ
หลวงในวังได้อย่างไร?]
เล่ยเฉินอับจนคําพูดจริ ง ๆ เนื่องจากตัวตนของจวินอู๋เสี ยทําให้เขาไม่
กล้าพูดสิ่ งที่คิดออกไปตรง ๆ เขาทําได้เพียงมองเชียวชูอย่างสิ้ นหวัง
จวินอู๋เสี ยเห็นถึงความกังวลของเล่ยเฉิ น นางจึงถามขึ้นด้วยนํ้าเสี ยง
นุ่มนวลว่า “ฝ่ าบาทสงสัยในความสามารถทางแพทย์ของหม่อมฉัน
หรื อเพคะ?”
เล่ยเฉิ นยิม้ อย่างกระอักกระอ่วน
“จากสถานการณ์ของฝ่ าบาทในตอนนี้ หม่อมฉันเกรงว่าฝ่ าบาทไม่
ควรกังวลเรื่ องพวกนี้เลยเพคะ การที่หม่อมฉันเปิ ดเผยภูมิหลังของ
ตัวเองเช่นนี้แสดงว่าหม่อมฉันต้องมีความมัน่ ใจอยูม่ าก ไม่เช่นนั้น
หม่อมฉันจะสร้างศัตรู ที่แข็งแกร่ งมากถึงสองฝ่ ายให้กบั วังหลินที่
เป็ นครอบครัวของหม่อมฉันอย่างไร้เหตุผลนะเพคะ” นํ้าเสี ยงของ
จวินอู๋เสี ยสงบนิ่งและหนักแน่น นางแตะถูกจุดสําคัญเลยทีเดียว
เล่ยเฉินชะงัก เขาลังเลอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะหันไปทางเชียวชู
เชียวชูแตะจมูกตัวเองแล้วพูดว่า “เป็ นจวินเสี ยที่บอกให้ขา้ เชิญนาง
มาที่นี่ เขาบอกว่าแม่นางจวินจะสามารถแก้ไขวิกฤตทั้งหมดนี้ได้
อย่างแน่นอน” พูดตามจริ งแล้ว เชียวชูยงั ไม่เข้าใจว่าทําไมจวินอู๋เสี ย
ถึงต้องปรากฏตัวต่อหน้าเล่ยเฉิ นด้วยตัวตนที่แท้จริ ง แต่จาก
เหตุการณ์ตอนนี้ จวินอู๋เสี ยทําเช่นนี้กเ็ พื่อขจัดความแคลงใจของเล่ย
เฉิน อย่างไรเสี ยสําหรับคนที่อายุนอ้ ยเช่นนี้ หากต้องการให้คน
เชื่อถือในความสามารถทางการแพทย์กจ็ าํ เป็ นต้องมีเสาหลักที่
แข็งแกร่ งคอยหนุนหลัง
และชื่อเสี ยงของวังหลินก็เป็ นเสาหลักที่ใหญ่ที่สุดที่นางสามารถ
นํามาใช้ได้
“น้องชายแซ่จวินเป็ นคนจัดการเรื่ องนี้ง้ นั หรื อ?” คิ้วที่ขมวดมุ่นของ
เล่ยเฉินคลายออกได้ในที่สุด เขาเชื่อใจจวินเสี ยมากอย่างไม่มี
เงื่อนไขเลยทีเดียว
“ใช่”
เล่ยเฉินกัดริ มฝี ปากขณะพิจารณาสถานการณ์ และหันไปมองจวินอู๋
เสี ยครู่ หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “อาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่คือสิ่ งที่น่า
เป็ นห่วงมากที่สุดและผลที่ตามมามันเกินมือเราไปแล้ว แต่ในเมื่อ
น้องชายแซ่จวินเลือกที่จะเชื่อใจท่าน ข้าก็จะทําอย่างที่เขาคิดว่าควร
ทํา ขอความกรุ ณาคุณหนูจวินช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่
และช่วยพวกเราให้พน้ จากวิกฤตนี้ดว้ ย”
ตอนที่ 847 หมออัจฉริยะ (3)
โรงเตี๊ยมที่สาํ นักศึกษาธงศึกพักอยูใ่ นช่วงสองสามวันมานี้เต็มไป
ด้วยผูค้ น เนื่องจากอาการบาดเจ็บสาหัสของฉูหลิงเย่ องค์จกั รพรรดิ
แห่งแคว้นหยานจึงส่ งหมอที่มีชื่อเสี ยงทั้งหมดทัว่ เมืองหลวงไป
รักษานาง แต่ถึงแม้จะมีหมอ 20 กว่าคนมาดูแลตลอดทั้งคืน ก็ยงั ไม่
สามารถหาวิธีรักษาอาการของฉูหลิงเย่ได้ ตอนนี้พวกเขาทําได้แค่ใช้
วิธีรักษาแบบประคับประคองเพื่อยืดชีวติ ของฉูหลิงเย่ไปก่อน
ในโรงเตี๊ยม ฝูซวนขมวดคิ้วมองดูชายชรากลุ่มหนึ่งยืนอยูห่ น้าประตู
ของฉูหลิงเย่ พวกเขารวมตัวกันเพื่อปรึ กษาหาวิธีการรักษาอย่าง
กระตือรื อร้น
“ศิษย์พี่ฝ…
ู …หลิงเย่……จะหายใช่ไหม?” ผูเ้ ยาว์หน้าตาดีคนหนึ่ง
ถามขึ้น เขามองไปที่ประตูหอ้ งของฉูหลิงเย่ดว้ ยสายตาที่เต็มไปด้วย
ความวิตกกังวล
“ข้าไม่รู้” ฝูซวนพูดพร้อมกับสัน่ หัว
ผูเ้ ยาว์คนนั้นสู ดหายใจเข้าลึกและพูดอย่างโกรธแค้นว่า “เป็ นเพราะ
ไอ้จวินเสี ยจากวายุประจิมนัน่ แท้ ๆ ! ศึกประลองวิญญาณก็แค่ให้
เอาชนะคู่ต่อสู เ้ ท่านั้น ทําไมต้องโจมตีแรงขนาดนั้นด้วย!? เป็ นผูใ้ ช้
พลังวิญญาณขั้นสี เขียวแล้วยังไง? มีสิทธิอะไรมาทํารุ นแรงป่ าเถื่อน
ผิดกฎแบบนี้? ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉูหลิงเย่ ข้าจะไม่ปล่อยมันเอาไว้
แน่!” สายตาของผูเ้ ยาว์คนนั้นทอแววเกลียดชัง
สี หน้าของฝูซวนแข็งทื่อ นางพูดปลอบขึ้นว่า “ตอนนี้รักษาฉูหลิงเย่
ให้หายเป็ นเรื่ องสําคัญที่สุด อย่าเพิ่งคิดเรื่ องอื่นเลย”
ผูเ้ ยาว์คนนั้นขบกรามแน่นแล้วพยักหน้า
ฝูซวนมองออกไปนอกหน้าต่าง ภายนอกดูเหมือนสงบนิ่ง แต่ภายใน
ใจนั้นกําลังวุน่ วายขัดแย้งกันอย่างหนัก นางสนิทสนมกับเล่ยเฉิ นมา
นาน ย่อมรู ้วา่ ช่วงนี้เล่ยเฉิ นสนิทกับสํานักศึกษาวายุประจิม
โดยเฉพาะอย่างยิง่ ผูเ้ ยาว์ที่ชื่อจวินเสี ยนัน่ คนที่เล่ยเฉินโปรดปราน
เป็ นพิเศษ ฝูซวนรู ้วา่ เหตุการณ์ที่ฉูหลิงเย่ได้รับบาดเจ็บครั้งนี้จะทํา
ให้ท้ งั สํานักศึกษาธงศึกพากันเกลียดชังและเป็ นศัตรู กบั สํานักศึกษา
วายุประจิม คําพูดที่ผเู ้ ยาว์คนนั้นเพิ่งพูดออกมาไม่ใช่ครั้งแรกที่นาง
ได้ยนิ จากคนในสํานักธงศึก
“ฝ่ าบาทคิดหาหนทางให้ได้เร็ ว ๆ จะดีกว่านะเพคะ ไม่ง้ นั เด็กที่ท่าน
โปรดปรานจะต้องแย่แน่ ๆ” ฝูซวนพูดกับตัวเองพร้อมถอนหายใจ
สายตาของนางมองลงไปข้างล่างด้านนอกหน้าต่าง ทันใดนั้นนางก็
เห็นรถม้าจากวังขององค์รัชทายาทมาจอดที่ดา้ นล่าง หัวใจของนาง
โลดขึ้นและนางก็รีบลงไปข้างล่างทันที
เล่ยเฉินพาจวินอู๋เสี ยมาที่โรงเตี๊ยมที่คนของสํานักศึกษาธงศึกพักอยู่
เพียงแค่กา้ วแรกที่เข้ามาในโรงเตี๊ยมเขาก็ชะงักลังเลและก้าวช้าลง
เขากังวลมากและหันไปมองจวินอู๋เสี ยที่อยูข่ า้ ง ๆ เขาครั้งแล้วครั้งเล่า
ถึงจะยอมรับในตัวจวินเสี ยและมีวงั หลินที่อยูเ่ บื้องหลังจวินอู๋เสี ย
รับประกันอยูก่ ต็ าม เขาก็ยงั รู ้สึกหวัน่ ๆ อยูด่ ี
เขาไม่สามารถทําให้ตวั เองเชื่อได้วา่ เด็กสาวที่มีอายุเพียงเท่านี้จะมี
ความรู ้ลึกซึ้งทางด้านการแพทย์
“ฝ่ าบาทมาแล้ว” ฝูซวนวิง่ ลงบันไดมาจากข้างบน และเมื่อนางเห็น
จวินอู๋เสี ยที่อยูข่ า้ ง ๆ เล่ยเฉิน รอยยิม้ กว้างบนใบหน้าของนางก็แข็ง
ค้างทันที
“อืม อาการของหลิงเย่เป็ นยังไงบ้าง?” เล่ยเฉิ นไม่ได้สงั เกตเห็น
ท่าทางผิดปกติของฝูซวน
ฝูซวนได้สติอย่างรวดเร็ ว รอยยิม้ แข็งทื่อบนใบหน้าหายไป นางพูด
อย่างนุ่มนวลว่า “อาการของศิษย์นอ้ งฉูยงั ไม่ดีข้ ึนเลยเพคะ”
เล่ยเฉินพยักหน้าและพูดกับจวินอู๋เสี ยที่ยนื อยูข่ า้ ง ๆ ว่า “แม่นางจวิน
อยากไปดูอาการของฉูหลิงเย่ก่อนรึ เปล่า?”
“แน่นอนเพคะ” จวินอู๋เสี ยตอบ
“เช่นนั้นขอให้ท่านตามข้ามา” เล่ยเฉิ นพูดพร้อมกับสู ดหายใจเข้า
มาถึงขนาดนี้แล้ว เขาต้องไม่ลงั เลอีก!
เล่ยเฉินนําจวินอู๋เสี ยขึ้นไปที่ช้ นั สองโดยมีฝซู วนตามมาด้วย สายตา
ของฝูซวนลอบประเมินจวินอู๋เสี ยตั้งแต่หวั จรดเท้าอยูห่ ลายครั้ง ดู
เหมือนกําลังมองหาอะไรบางอย่าง
เมื่อพวกเขามาถึงชั้นสอง ผูเ้ ยาว์ที่คุยกับฝูซวนเมื่อครู่ กบ็ งั เอิญมาเจอ
เล่ยเฉินเข้า เขากําลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พอเห็นจวินอู๋เสี ยที่อยู่
ข้าง ๆ เล่ยเฉิน เขาก็ทาํ ตาโตเป็ นไข่ห่านเลยทีเดียว
ตอนที่ 848 หมออัจฉริยะ (4)
ผูเ้ ยาว์คนนั้นไม่เคยเห็นผูห้ ญิงที่งดงามน่าหลงใหลขนาดนี้มาก่อน
เพียงแค่มองเสี ยงเอะอะอึกทึกรอบตัวเขาก็หายไปจนสิ้ น เขารับรู ้ได้
แต่จวินอู๋เสี ยที่อยูข่ า้ งหน้าเขาเท่านั้น
“จื่อซู มองอะไรอยูน่ ่ะ?” เล่ยเฉินสังเกตเห็นเหมินจื่อซูจอ้ งไปที่
จวินอู๋เสี ยโดยไม่ละสายตา เขาจึงจําเป็ นต้องพูดเตือน
เหมิงจื่อซูดึงสติกลับมาอย่างประหม่า และเมื่อเขาสบตาที่ใสกระจ่าง
เย็นชาของจวินอู๋เสี ย ใบหน้าเขาก็ข้ ึนสี แดงระเรื่ อทันที
“ข้า……ข้า……ข้าแค่มองไปเรื่ อยน่ะฝ่ าบาท” เหมิงจื่อซูกม้ หน้าด่า
ตัวเองอยูใ่ นใจที่เผลอสติหลุดไปแบบนั้น ศิษย์พี่ฉูยงั นอนอยูใ่ นห้อง
เขายังมีอารมณ์มองสาวอยูอ่ ีก แถมยังจ้องมองอ้าปากค้างแบบโง่ ๆ
ด้วย สมควรถูกตบจริ ง ๆ !
“อืม” เล่ยเฉินไม่อยูใ่ นอารมณ์ที่จะมาคุยเล่นกับเหมิงจื่อซู เขาจึงเดิน
นําจวินอู๋เสี ยไปที่หน้าห้องของฉูหลิงเย่
พวกหมอที่รวมตัวอยูห่ น้าประตูพากันสะดุง้ เมื่อเห็นเล่ยเฉิน พวกเขา
รี บโค้งคารวะทันที เจียงหยิงหลงที่กาํ ลังถามอาการของฉูหลิงเย่กบั
พวกหมอก็สงั เกตเห็นเล่ยเฉิ นเดินเข้ามา
“ข้าไม่ทราบว่าองค์รัชทายาทเสด็จมาก็เลยรับเสด็จช้า ขอฝ่ าบาท
ประทานอภัยด้วย” เจียงหยิงหลงกล่าวอย่างสุ ภาพ เขาเป็ นผูท้ ี่มี
หน้าที่ดูแลศิษย์ของสํานักธงศึกที่มาเข้าแข่งขันศึกประลองวิญญาณ
“ท่านอาจารย์เจียงสุ ภาพเกินไปแล้ว ข้ามาที่นี่วนั นี้กเ็ พื่อดูวา่ ฉูหลิง
เย่เป็ นอย่างไรบ้าง” เล่ยเฉิ นพูดด้วยรอยยิม้ เขาไม่สนิทสนมคุน้ เคย
กับเจียงหยิงหลงมากนัก เจียงหยิงหลงเข้ามาเป็ นอาจารย์ที่สาํ นัก
ศึกษาธงศึกหลังจากที่เล่ยเฉินจบออกไปแล้ว
“ข้าซาบซึ้ งยิง่ นักที่ฝ่าบาททรงห่วงใย” เจียงหยิงหลงพูดพร้อมกับยิม้
อย่างนอบน้อม สายตาของเขาเหลือบมองไปยังจวินอู๋เสี ย ดวงตาของ
เขามีแววดูถูกปรากฏขึ้นแวบหนึ่งก่อนจะถูกซ่อนเอาไว้อย่างรวดเร็ ว
“พวกหมอกําลังจะเข้าไปตรวจอาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่ ถ้าฝ่ าบาท
ไม่รังเกียจเข้าไปด้วยกันนะพะย่ะค่ะ”
เล่ยเฉินพยักหน้า
ประตูหอ้ งของฉูหลิงเย่เปิ ดออก และในบรรดาหมอทั้งหลายมีหมอ
หลวงอยูส่ องสามคน พวกเขาเป็ นที่เคารพนับถือในความสามารถ
และความรู ้ทางการแพทย์อย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงอยูใ่ นตําแหน่ง
หน้าสุ ดขณะที่เดินเข้าไป
จวินอู๋เสี ยเดินเข้าไปในห้อง และเมื่อก้าวเข้าไปนางก็ได้กลิ่นเลือด
เข้มข้นทันที
และในกลิ่นเลือดนั้น นางก็ได้กลิ่นสมุนไพรที่คุน้ เคยอยูจ่ าง ๆ อีก
ด้วย
ฉูหลิงเย่นอนนิ่งอยูบ่ นเตียง ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่นอ้ ย ใบหน้า
ของนางปราศจากสี เลือดโดยสิ้ นเชิง และริ มฝี ปากที่เดิมเป็ นสี
กุหลาบก็เปลี่ยนเป็ นซี ดขาวจนเกือบเขียว แค่คืนเดียวเท่านั้นเอง
นํ้าหนักของนางก็เหมือนจะลดลง และนางดูเปราะบางมาก
พวกเขาวางอ่างทองแดงไว้ขา้ งเตียงของฉูหลิงเย่ ผ้าเช็ดหน้าเปื้ อน
เลือดหลายผืนแช่อยูใ่ นนั้น นํ้ามีสีแดงจากเลือดเจือปนอยู่ และบน
พื้นกระดานก็มีเลือดแห้งเปื้ อนอยู่
พวกหมอผลัดกันจับชีพจรของฉูหลิงเย่ หลังจับชีพจรเสร็ จแล้ว สี
หน้าของพวกเขาก็ดูอบั จนปัญญา ทุกคนพากันส่ ายหัวพร้อมกับถอนใจ
“ฉูหลิงเย่เป็ นยังไงบ้าง? อาการของนางดีข้ ึนไหม?” เล่ยเฉินถามพวก
หมอ
“กราบทูลฝ่ าบาท อาการบาดเจ็บของแม่นางฉูสาหัสยิง่ นัก พวกเรา
ทุกคนวิเคราะห์และปรึ กษากันทั้งคืนก็ยงั ไม่พบวิธีรักษาที่เหมาะสม
กับนางเลยพะย่ะค่ะ ตอนนี้พวกเราทําได้แค่พยายามคงอาการของ
นางเอาไว้ไม่ให้ทรุ ดลงไปกว่านี้ แต่……ถ้าขืนยังเป็ นแบบนี้ต่อไป
เรื่ อย ๆ ล่ะก็ ร่ างกายของแม่นางฉูจะไม่สามารถทนได้พะย่ะค่ะ”
หมอหลวงคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างอับจนหนทาง
เล่ยเฉินขมวดคิ้วเข้าด้วยกัน
ขณะที่เล่ยเฉินพูดอยูก่ บั หมอหลวง จวินอู๋เสี ยก็เดินไปที่ขา้ งเตียงของ
ฉูหลิงเย่และพินิจพิเคราะห์ร่างอันซีดขาวของฉูหลิงเย่อย่างละเอียด
ตอนนั้นเองนางก็เห็นรอยชํ้าเล็ก ๆ ที่หลังหูของฉูหลิงเย่ รอยชํ้านั้น
ซ่อนอยูใ่ ต้เส้นผมจึงไม่อาจเห็นได้อย่างชัดเจน ถ้าไม่ดูให้ละเอียดถี่
ถ้วนก็จะไม่สงั เกตเห็นมันเลย
ตอนที่ 849 หมออัจฉริยะ (5)
จวินอู๋เสี ยยืน่ มือออกไป ปลายนิ้วของนางแตะที่ขอ้ มือของฉูหลิงเย่
“เจ้าจะทําอะไร?” ตั้งแต่เดินผ่านประตูเข้ามา เจียงหยิงหลงก็จบั ตา
มองจวินอู๋เสี ยทุกการกระทํา เมื่อเขาสังเกตเห็นจวินอู๋เสี ยเข้าใกล้ฉู
หลิงเย่ เขาก็คิดสงสัยอยูแ่ ล้ว และเมื่อเห็นจวินอู๋เสี ยยืน่ มือมาแตะ
ฉูหลิงเย่ เขาก็ร้องออกมาเสี ยงดังทันที
เสี ยงตะโกนนัน่ ทําให้สายตาของทุกคนหันมามองอย่างรวดเร็ ว และ
พวกเขาก็เห็นเด็กสาวผูง้ ดงามคนหนึ่งกําลังวางมือบนข้อมือของฉู
หลิงเย่ ดูเหมือนนางกําลังจับชีพจร
“แม่นางน้อยผูน้ ้ ีคือ?” หมอหลวงคนหนึ่งถามขึ้นพร้อมกับมอง
เล่ยเฉินอย่างสงสัย
เล่ยเฉินตอบว่า “แม่นางผูน้ ้ ีคือคุณหนูแห่งวังหลินจากแคว้นฉี
บังเอิญว่านางมาเที่ยวพักผ่อนที่แคว้นหยานของเรา ข้าได้ยนิ ว่านางมี
ความสามารถทางการแพทย์ที่ยอดเยีย่ ม และเมื่อคิดถึงอาการของฉู
หลิงเย่ขา้ จึงเชิญนางมาที่นี่เพื่อตรวจดูสกั หน่อย” ในตอนที่เล่ยเฉิ น
พูดคําพูดเหล่านั้นออกมา มือของเขาที่ซ่อนอยูใ่ นแขนเสื้ อก็กาํ แน่น
“เชิญนางมาดู? ฝ่ าบาทพูดจริ งหรื อพะย่ะค่ะ?” พวกหมอต่างงุนงง
พวกเขามองเล่ยเฉินจากนั้นก็หนั ไปมองจวินอู๋เสี ย และรู ้สึกว่า
สถานการณ์น้ ีช่างน่าขัน
พวกเขาไม่สนใจว่าจวินอู๋เสี ยจะเป็ นใคร แค่คิดว่าเด็กสาวอายุไม่ถึง
15 ปี กล้ามาแสดงตัวตรงหน้าหมอที่มีชื่อเสี ยงทั้งกลุ่มอย่างพวกเขาก็
น่าขําจะแย่แล้ว!
ในตอนนั้นสี หน้าของหมอหลาย ๆ คนบ่งบอกถึงความไม่พอใจ
ขึ้นมา
“ถ้าฝ่ าบาทรู ้สึกว่าพวกเราไม่สามารถทํางานนี้ได้ ก็บอกเราตรง ๆ ได้
พะย่ะค่ะ จําเป็ นด้วยหรื อที่ตอ้ งพาเด็กสาวมาล้อพวกเราเล่นเช่นนี้?
พวกเราทุกคนวิเคราะห์และปรึ กษาอาการของแม่นางฉูมาพักใหญ่
แล้ว ยังไม่สามารถหาวิธีรักษาที่เหมาะสมได้ แล้วจู่ ๆ ฝ่ าบาทก็พา
เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นนํ้านมมาที่นี่ จะไม่เป็ นการตบหน้าหมอทุกคน
ที่นี่หรื อพะย่ะค่ะ?” หมอหลวงที่อายุมากที่สุดพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
เล่ยเฉินหันไปมองชายคนนั้น เขาหัวเราะอย่างเย็นชาอยูใ่ นใจ ชายผู ้
นี้คือหมอหลวงประจําตัวของเสด็จพ่อ เล่ยเฉินไม่คิดเลยว่าเสด็จพ่อ
จะส่ งชายคนนี้มา
ตําแหน่งและสถานะของคนผูน้ ้ ีพิเศษและแตกต่างจากหมอหลวงคน
อื่น ๆ แม้แต่ยามเผชิญหน้ากับเล่ยเฉิน เขาก็ยงั ไม่แสดงความเกรงใจ
เท่าไรนัก
“ทําไมท่านหมอหลวงหลี่พดู เช่นนั้นล่ะ? ข้าแค่พยายามทําในส่ วน
ของข้าเท่านั้นเอง” เล่ยเฉินพูด
หมอหลวงหลี่พดู ต่อด้วยนํ้าเสี ยงดูถูก “ฝ่ าบาทกําลังจะบอกว่าเราทุก
คนแก่แล้ว สายตาฝ้าฟางกันหมดแล้วงั้นหรื อพะย่ะค่ะ? เด็กคนนี้อายุ
เท่าไรกัน? นางมีประสบการณ์ในวิชาแพทย์แค่ไหน? ฝ่ าบาทคิดได้
อย่างไรว่าเด็กสาวคนนี้จะสามารถช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของแม่
นางฉูได้? ถ้าเป็ นความจริ ง ฝ่ าบาทก็กาํ ลังจะบอกว่าหมอหลวงและ
หมอที่นี่ทุกคนเป็ นแค่ไอ้โง่ไร้ประโยชน์ง้ นั หรื อ? พวกเราเทียบกับ
เด็กผูห้ ญิงคนเดียวที่อายุแค่ 15 ปี ไม่ได้หรื อพะย่ะค่ะ?”
คําพูดของหมอหลวงหลี่ทาํ ให้หมอคนอื่น ๆ อีกหลายคนพยัก
หน้าตามอย่างเห็นด้วย
สี หน้าของเล่ยเฉินเคร่ งเครี ยดขึ้นทันที เขาแน่ใจว่าหมอหลวงหลี่ตอ้ ง
ได้รับคําสัง่ มาจากองค์จกั รพรรดิแน่ นัน่ เป็ นเหตุผลที่เขากล้าใช้
นํ้าเสี ยงอวดดีไม่เกรงใจกันเช่นนี้
“แม่นางฉูเป็ นคุณหนูของเมืองพันอสู ร ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนางใน
แคว้นหยานของเรา คงไม่มีใครตอบคําถามของเจ้าเมืองพันอสู รได้
เมื่อคนของเมืองพันอสู รมาถึงที่นี่ เราควรบอกพวกเขาหรื อว่าองค์รัช
ทายาทแห่งแคว้นหยานส่ งเด็กสาวไม่รู้เรื่ องรู ้ราวมาทําการรักษา
คุณหนูของพวกเขา? ฝ่ าบาท ถ้าเรื่ องนี้รั่วไหลออกไป พระองค์ไม่คิด
ว่ามันฟังดูน่าขํามัง่ หรื อพะย่ะค่ะ?” หมอหลวงหลี่บงั อาจมากที่เดียว
ที่ใช้คาํ พูดยโสโอหังเช่นนั้น เขาไม่เชื่อสักนิดว่าจวินอู๋เสี ยจะรู ้เรื่ อง
การแพทย์อะไรมากมาย เด็กน้อยเช่นนี้จะไปรู ้อะไร?
เล่ยเฉินโกรธจัดกับความบังอาจและนํ้าเสี ยงท้าทายของหมอหลวง
หลี่ จวินอู๋เสี ยที่อยูด่ า้ นข้างพลันเปิ ดปากพูดขึ้นว่า “เช่นนั้น หลังจาก
วิเคราะห์อาการของแม่นางฉูอยูน่ าน ข้าอยากรู ้วา่ พวกท่านทุกคนได้
ข้อสรุ ปว่าอย่างไร?”
คําถามของจวินอู๋เสี ยทําให้ทุกคนหันกลับไปสนใจนางในทันที
ตอนที่ 850 หมออัจฉริยะ (6)
“จะมีขอ้ สรุ ปหรื อไม่กไ็ ม่ใช่สิ่งที่เด็กน้อยเช่นนั้นควรจะถามเรา”
หมอหลวงหลี่พดู เสี ยงของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก เขาไม่มอง
จวินอู๋เสี ยเลยสักนิด แต่พดู กับเล่ยเฉิ นว่า “ฝ่ าบาท อาการบาดเจ็บของ
แม่นางฉูไม่ใช่เรื่ องเล่น ๆ และข้ากับหมอทุกคนก็เค้นสมองและใช้
ความรู ้ท้ งั หมดของเราแล้ว ได้โปรดเถอะฝ่ าบาท อย่าทําเรื่ องให้
ยุง่ ยากเพิ่มขึ้นเลย”
เล่ยเฉินขบกรามแน่น แต่เขาไม่อาจปล่อยให้ตวั เองระเบิดความโกรธ
ออกมาได้
แต่จวินอู๋เสี ยกลับพูดต่อว่า “ถ้าท่านหมอรู ้สึกว่าอายุของข้าทําให้ขา้
ไม่น่าเชื่อถือ เช่นนั้นพวกท่านก็บอกผลตรวจของท่านแก่ขา้ และช่วย
ให้ผเู ้ ยาว์ได้เรี ยนรู ้อะไรบ้างเถอะ” สายตาของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย
พร้อมกับเชิดคางขึ้น “หรื อว่าหลังจากวิเคราะห์ปรึ กษากันมาทั้งคืน
แล้วก็ยงั ไม่ได้ขอ้ สรุ ป?”
“เด็กน้อยอย่างเจ้าจะไปรู ้อะไร! คิดว่านี่เป็ นที่ ๆ เจ้าจะมาพูดอะไรได้
งั้นรึ ?” หมอหลวงหลี่โต้กลับอย่างหยาบคาย
“อ้าว ก็ในเมื่อพวกท่านไม่อยากพูด ทําไมไม่ให้ขา้ พูดแทนล่ะ? ถ้ามี
อะไรไม่ถูกต้อง ก็ขอให้พวกท่านช่วยชี้แนะข้าด้วย” จวินอู๋เสี ยพูด
พร้อมกับยืนขึ้นช้า ๆ สายตาเย็นชาของนางกวาดมองทุกคนในห้องนี้
“อาการบาดเจ็บของแม่นางฉูมาจากการบาดเจ็บที่เส้นลมปราณ
หัวใจ ดูจากลักษณะอาการแล้ว เหมือนมีคนใช้พลังวิญญาณ
กระแทกเข้าที่เส้นลมปราณหัวใจส่ งผลให้เลือดและพลังปราณใน
ร่ างสับสน ทําให้หวั ใจเต้นผิดจังหวะ และยังมีความแปรปรวนที่เส้น
ลมปราณหลักอื่น ๆ ด้วย เนื่องจากการไหลเวียนของพลังวิญญาณใน
ร่ างสับสนจนไม่อาจควบคุมได้ ทําให้พลังวิญญาณที่แตกกระจายไป
ทําร้ายอวัยวะภายในที่สาํ คัญอย่างต่อเนื่อง ส่ งผลให้อาการบาดเจ็บ
ของนางเลวร้ายมากขึ้นเรื่ อย ๆ ”
จวินอู๋เสี ยกล่าวช้า ๆ คําพูดของนางทําให้พวกหมอที่มองนางอย่างดู
ถูกแสดงแววตาประหลาดใจในทันที
แต่จวินอู๋เสี ยยังคงพูดต่อว่า “ดูจากอาการของแม่นางฉูในตอนนี้
พวกท่านน่าจะใช้ยากําเนิดใจเพื่อรักษาเส้นลมปราณหัวใจของนาง
เอาไว้ และใส่ โสม ฝูหลิง ชะเอมอบแห้ง แล้วก็เบญจมาศหนามเป็ น
ส่ วนผสมเพิ่มเติม และเพื่อช่วยให้ออกฤทธิ์ดียงิ่ ขึ้นก็ใส่ ตงั กุย ถุงมือ
จิ้งจอก โบตัน๋ ขาว กับชวนซยงเพื่อบํารุ งเลือด สมุนไพรพวกนี้มีฤทธิ์
อ่อน ไม่รุนแรง เหมาะกับการใช้พยุงอาการบาดเจ็บของแม่นางฉู
และเพื่อไม่ให้เป็ นภาระหนักกับร่ างกายที่อ่อนแอเปราะบางของนาง
ด้วย ผูเ้ ยาว์พดู ถูกทั้งหมดหรื อไม่?” จวินอู๋เสี ยถามพร้อมกับเงยหน้า
ขึ้น นางมองไปที่หมอหลวงหลี่
หลังจากจวินอู๋เสี ยสรุ ปการวินิจฉัยของนางเสร็ จ ทั้งห้องก็ตกอยูใ่ น
ความเงียบทันที พวกหมอต่างมองจวินอู๋เสี ยด้วยสายตาประหลาดใจ
และตกใจ
[เด็กสาวคนนี้เพิ่งเข้าห้องมาไม่นาน และได้จบั ชีพจรของฉูหลิงเย่แค่
แปบเดียวเท่านั้น แต่นางกลับบอกอาการของฉูหลิงเย่ได้หมดอย่าง
ถูกต้องแม่นยํา นางสามารถแจกแจงรายชื่อยาและสมุนไพรทั้งหมด
ที่พวกเขาใช้ออกมาได้โดยไม่ผดิ เลยแม้แต่อย่างเดียว!]
[นี่มนั น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!]
สี หน้าของหมอหลวงหลี่ไม่น่าดูข้ ึนมาทันที เขาไม่เคยคิดเลยสักนิด
ว่าจะมีความเป็ นไปได้ท่ีเด็กสาวตรงหน้าเขาจะสามารถวินิจฉัยโรค
ได้อย่างแม่นยําในเวลาสั้น ๆ แค่น้ ี! แม้แต่คนอย่างเขาที่เป็ นหมอ
หลวงอันดับต้น ๆ ผูเ้ ชี่ยวชาญในด้านการแพทย์เป็ นอย่างดีกย็ งั ไม่
สามารถรวบรวมเบาะแสและข้อบ่งชี้มากมายขนาดนี้แล้วมาชี้แจง
ผลการตรวจได้แบบนี้
การที่สามารถบอกอาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่ได้น้ นั ไม่ใช่เรื่ อง
ยากเย็นอะไรนัก สิ่ งที่ทาํ ให้เขาตกใจก็คือจวินอู๋เสี ยสามารถระบุชนิด
ของยาและสมุนไพรที่ฉูหลิงเย่ได้รับจากการจับชีพจรเพียงเท่านั้น!
ความสามารถเช่นนี้มนั เหลือเชื่อเกินไป
“เจ้ารู ้ได้ยงั ไง? หรื อว่าฝ่ าบาทบอกเจ้า?” หน้าของหมอหลวงหลี่แทบ
จะกลายเป็ นสี เขียว ต่อให้ตีเขาให้ตาย เขาก็ไม่ยอมเชื่อเด็ดขาดว่า
ความสามารถของจวินอู๋เสี ยจะเหนือกว่าพวกเขาทุกคน
จวินอู๋เสี ยมองตรงมาที่หมอหลวงหลี่และย้อนกลับไปว่า “ฝ่ าบาทจะ
รู ้เรื่ องพวกนี้ได้ยงั ไง? หรื อท่านจะบอกว่ามีใครในหมู่พวกท่านไป
บอกฝ่ าบาทกันล่ะ?”
คําพูดของจวินอู๋เสี ยทําให้ทุกคนพากันหุบปาก พวกเขาได้รับคําสัง่
ให้มาที่นี่เพื่อช่วยชีวติ ฉูหลิงเย่ ตั้งแต่พวกเขาก้าวเท้าเข้ามาที่นี่ พวก
เขายังไม่ได้กา้ วออกไปจากที่นี่เลยแม้แต่กา้ วเดียว แล้วพวกเขาหา
โอกาสไหนไปติดต่อกับองค์รัชทายาทได้ แถมยังเล่าให้ฟังทั้งหมด
ด้วยเนี่ยนะ
ตอนที่ 851 หมออัจฉริยะ (7)
“ฮึ่ม! หม้อที่พวกเราใช้ปรุ งยาให้แม่นางฉูอยูต่ รงนั้น คนที่รู้เรื่ อง
การแพทย์อยูบ่ า้ งและคุน้ เคยกับกลิ่นสมุนไพรก็รู้ได้ไม่ยากหรอกว่า
เราเอายาอะไรให้นาง ยิง่ กว่านั้นที่นี่กม็ ีคนอยูต่ ้ งั เยอะ อาการบาดเจ็บ
ของแม่นางฉูกบั ผลตรวจอาการของนางก็ไม่ใช่ความลับ คนที่อยากรู ้
แค่ถามคนแถวนี้สกั หน่อยแล้วก็คุยกับพวกบริ กรกับคนรับใช้ใน
โรงเตี๊ยมก็รู้เรื่ องทั้งหมดแล้ว” หมอหลวงหลี่พดู พร้อมกับหัวเราะ
อย่างดูถูก ไม่วา่ จะมองยังไง เขาก็ไม่รู้สึกว่าจะมีใครในโลกนี้ที่
สามารถระบุอาการบาดเจ็บของผูป้ ่ วยได้อย่างถูกต้องแม่นยําจนถึง
ขนาดบอกชนิดของยาและสมุนไพรที่ผปู ้ ่ วยได้รับในช่วงระยะเวลา
สั้น ๆ ขนาดนี้
คําพูดพวกนั้นและข้อกังขาของหมอหลวงหลี่ไม่ได้ทาํ ให้จวินอู๋เสี ย
โกรธเลยแม้แต่นอ้ ย นางแค่หนั กลับไปอย่างไม่สนใจและมองฉูหลิง
เย่ที่นอนอยูบ่ นเตียง
ทันใดนั้น นางก็กม้ ตัวลงพร้อมกับยืน่ มือออกไปแถว ๆ คอของฉู
หลิงเย่
เจียงหยิงหลงที่ยนื อยูด่ า้ นหนึ่งร้องตะโกนเสี ยงดังออกมาอย่างตกใจ
“นัน่ เจ้าจะทําอะไรฉูหลิงเย่?”
แต่จวินอู๋เสี ยทําเป็ นไม่ได้ยนิ เสี ยงตะโกนของเขา มือขาวราวหิ มะ
ของนางเคลื่อนผ่านคอของฉูหลิงเย่ดว้ ยความเร็ วสู ง แสงสะท้อน
ของเข็มเงินแวบขึ้นที่ปลายนิ้วและเข็มเงินนั้นก็แทงเข้าที่หูของฉู
หลิงเย่ และทันทีที่เข็มแทงเข้าไปในเนื้อ มันก็ถูกจวินอู๋เสี ยถอน
ออกมาด้วยความเร็ วราวสายฟ้า
นางใช้เข็มด้วยความเร็ วสู งมากจนไม่มีใครในห้องสังเกตเห็นการ
กระทําของนาง
เจียงหยิงหลงพุง่ ตัวเข้ามาที่จวินอู๋เสี ยและจับมือนางเอาไว้
“ถึงเจ้าจะเป็ นคนที่องค์รัชทายาทพามา แต่จากอาการของฉูหลิงเย่
ตอนนี้ เจ้าไม่ควรแตะต้องนางหากเกิดอะไรขึ้นกับนาง เจ้าจะตอบ
คําถามได้ง้ นั หรื อ?” เจียงหยิงหลงพูดพร้อมกับหรี่ ตาที่เต็มไปด้วยไฟ
โทสะ
จวินอู๋เสี ยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเย็นชาของนางสบเข้ากับดวงตา
เกรี้ ยวกราดของเจียงหยิงหลง
เล่ยเฉินแอบกลัวแทนจวินอู๋เสี ย จากนํ้าเสี ยงท้าทายไม่มีความเกรงใจ
ที่หมอหลวงหลี่ใช้พดู กับเขา เขาก็รู้แน่วา่ ชายที่นงั่ อยูบ่ นบัลลังก์ได้
สัง่ ไม่ให้เขาเข้ามายุง่ กับเรื่ องนี้ นัน่ คือสาเหตุที่หมอหลวงหลี่กล้า
ทําท่าโอหังเช่นนั้น
“โอ้? งั้นข้าอยากจะถามท่านอาจารย์ของสํานักศึกษาธงศึกจริ ง ๆ ที่
ท่านต่อต้านข้าไม่ให้รักษาแม่นางฉูถึงขนาดนี้ และยังไม่ยอมให้ขา้
ตรวจอาการของนางอีก ท่านไม่กลัวหรื อว่าท่านอาจจะพลาดโอกาส
ในการช่วยชีวติ นางเอาไว้? ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับแม่นางฉูจริ ง ๆ ข้า
คิดว่าคนของเมืองพันอสู รคงไม่ปล่อยท่านไปง่าย ๆ ด้วยเหมือนกัน”
จวินอู๋เสี ยพูดด้วยสี หน้าสงบนิ่ง มีเพียงดวงตาที่มองเจียงหยิงหลงอยู่
ที่ส่องประกายเย็นเยียบจนน่ากลัว
สี หน้าของเจียงหยิงหลงแข็งค้างไป
หมอหลวงหลี่อา้ ปากพูดขึ้นทันที “อาจารย์เจียงผิดตรงไหนที่ห่วงใย
สวัสดิภาพศิษย์ในสํานัก? เด็กน้อยอย่างเจ้าจะไม่พดู เกินจริ งไป
หน่อยหรื อ? ถ้าเจ้ามีความรักษาแม่นางฉูจากอาการบาดเจ็บได้จริ ง ๆ
ล่ะก็ พวกหมอหลวงกับหมอที่เป็ นที่นบั หน้าถือตาทั้งหมดที่นี่ไม่
กลายเป็ นตัวตลกไปหมดเหรอ? ประสบการณ์ทางด้านการแพทย์
ตลอดทั้งชีวติ ของพวกเราเทียบกับเด็กน้อยเช่นเจ้าไม่ได้ง้ นั รึ ?”
จวินอู๋เสี ยตอบอย่างไม่ลงั เลว่า “ในเมื่อพวกท่านทุกคนเป็ นผูอ้ าวุโส
ที่มีท้ งั ความสามารถและความรู ้ทางด้านการแพทย์อย่างยอดเยีย่ ม
หากผูเ้ ยาว์อย่างข้าทําอะไรไม่ถูกต้องเหมาะสม พวกท่านจะไม่มีใคร
บอกได้เลยหรื อ? เผอิญว่าข้ามียาอยูข่ วดหนึ่งและคิดว่ามันเหมาะกับ
อาการของแม่นางฉูตอนนี้มาก ถ้าพวกท่านไม่ไว้ใจข้า ท่านก็เอายา
ไปตรวจสอบก่อนก็ได้ หากพบอะไรไม่เข้าท่าในนั้น ข้าก็เต็มใจรับ
การลงโทษที่พวกท่านคิดว่าสมควร” จวินอู๋เสี ยเอาขวดกระเบื้องสี
ขาวออกมาหนึ่งขวดและโยนไปให้เจียงหยิงหลง
เจียงหยิงหลงรับเอาไว้ เขายุง่ ยากใจเป็ นอย่างมาก แววตาที่มองจวินอู๋
เสี ยเต็มไปด้วยความสับสน เขาไม่เชื่อว่าจวินอู๋เสี ยจะมีความสามารถ
ทางการแพทย์ที่ยอดเยีย่ มทั้ง ๆ ที่อายุนอ้ ยขนาดนี้ แต่สิ่งที่นางมอบ
ให้คือยาซึ่งไม่ได้ข้ ึนอยูก่ บั ความสามารถหรื อความรู ้ทางการแพทย์
ของนาง
ตอนที่ 852 หมออัจฉริยะ (8)
เจียงหยิงหลงขมวดคิ้ว ในฐานะอาจารย์ที่มีหน้าที่ดูแลศิษย์ของสํานัก
ศึกษาธงศึกที่มาเข้าร่ วมศึกประลองวิญญาณในปี นี้ เขารู ้วา่ ถ้ามีอะไร
เกิดขึ้นกับฉูหลิงเย่ในระหว่างการแข่งขันจริ ง ๆ ล่ะก็ เขาก็จะไม่
สามารถตอบคําถามคนจากเมืองพันอสู รได้ ด้วยความคิดที่จะลองดู
สักครั้ง เจียงหยิงหลงจึงปล่อยแขนของจวินอู๋เสี ยและเอาขวดยาไป
ยืนตรงหน้าหมอหลวงหลี่
“นี่เป็ นเรื่ องความเป็ นความตายของฉูหลิงเย่ ตราบใดที่มีความหวัง
แม้เพียงเล็กน้อย ข้าก็ไม่อยากทิ้งมันไป ท่านหมอหลวงหลี่ช่วยดูให้
ข้าหน่อยเถอะขอรับว่ายานี้ประกอบด้วยอะไร”
หมอหลวงหลี่ชะเลืองมองจวินอู๋เสี ยแวบหนึ่ง สายตาเต็มไปด้วย
ความไม่พอใจ เขาคว้าขวดยาไปเปิ ดฝาออกแล้วเอาขวดไปจ่อที่จมูก
เพื่อสู ดกลิ่น
กลิ่นหอมจาง ๆ บางเบาที่แตะจมูกเขาเป็ นกลิ่นที่แค่สูดดมอย่างเดียว
ก็ทาํ ให้รู้สึกสดชื่นและตื่นตัวได้แล้ว
ตาของหมอหลวงหลี่เป็ นประกาย เขาส่ งขวดยาไปให้พวกหมอที่อยู่
ข้าง ๆ เพื่อให้พวกเขาตรวจสอบ
“เป็ นอย่างไรบ้าง?” เจียงหยิงหลงถามขึ้น
หมอหลวงหลี่มองไปที่จวินอู๋เสี ยและเสี ยงหัวเราะเย็นชาก็ดงั ขึ้น
“ข้าคิดว่าจะมีอะไรซะอีก ก็แค่ยารวมใจ ไม่มีอะไรผิดปกติในยานั้น
หรอก แต่ยารวมใจไม่ใช่ของหายากอะไร มันเป็ นแค่ยาบํารุ งและ
รวมพลังปราณเพิม่ สมาธิเท่านั้น เด็กน้อยเจ้ากล้าอวดอ้างว่ายาเช่นนี้
ใช้ได้ผลกับอาการของแม่นางฉู มันไม่น่าขําไปหน่อยงั้นรึ ? ยาแบบ
นี้พวกเราทุกคนที่นี่กม็ ีติดตัว ถ้ายานี่ช่วยแก้ไขอาการบาดเจ็บของแม่
นางฉูได้ ทําไมพวกเขาต้องให้เราทุกคนมาที่นี่ดว้ ยเล่า?”
เมื่อหมอหลวงหลี่พดู จบ หมอคนอื่น ๆ อีกหลายคนก็เห็นด้วยกับเขา
ถึงแม้พวกเขาจะไม่พบสิ่ งผิดปกติในยารวมใจของจวินอู๋เสี ย แต่ยา
ธรรมดาทัว่ ไปแบบนั้น ถ้าเอามาใช้กบั อาการของฉูหลิงเย่ มันก็ยงั ไม่
ดีพอหรอก เหมือนนํ้าแก้วเดียวกับไฟที่เผาฟื นกองใหญ่ท้ งั คันเกวียน
ไม่มีผลอะไรอยูแ่ ล้ว
“ข้าแค่จะถามว่า ถ้าแม่นางฉูได้รับยานี้เข้าไป จะส่ งผลเสี ยต่ออาการ
บาดเจ็บของนางหรื อไม่?” จวินอู๋เสี ยไม่สนใจคําพูดถากถางของ
หมอหลวงหลี่เลยแม้แต่นอ้ ย
พวกหมอทุกคนพากันส่ ายหน้าโดยพร้อมเพรี ยงกัน
“ถึงยารวมใจจะไม่ส่งผลร้ายต่ออาการของแม่นางฉู แต่……มันก็
ไม่ได้ช่วยอะไรนางได้มากเช่นกัน ก็อาจจะเหมือนกับพวกยา
สมุนไพรที่นางได้รับไปแล้วนัน่ แหละ” ชายชราคนหนึ่งที่มีผมสี ขาว
พูดขึ้น
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าอย่างพอใจ
“ในเมื่อมันไม่ได้ส่งผลเสี ยต่อนางแต่มีผลดีอยูบ่ า้ งเล็กน้อย แล้ว
ทําไมเราถึงไม่ลองล่ะ? ถ้าไม่ลองเราจะรู ้ได้อย่างไรว่าไม่ได้ผล?”
“นัน่ ……” หมอผมขาวอึ้งไปและมองไปที่หมอหลวงหลี่
หมอหลวงหลี่รับยารวมใจกลับคืนมาจากหมอคนอื่น ๆ และโยน
ให้จวินอู๋เสี ย “เป็ นเรื่ องดีที่พวกผูเ้ ยาว์มีความคิดเป็ นของตัวเอง แต่ถา้
สิ่ งที่คิดมันห่างไกลจากความเป็ นจริ งไปมาก มันก็เป็ นได้แค่เรื่ อง
เพ้อฝันเท่านั้นล่ะ ถึงยารวมใจจะส่ งผลดีต่ออาการของแม่นางฉูอยู่
บ้างนิดหน่อย แต่มนั ก็เป็ นแค่การเทนํ้าแก้วเดียวลงบนกองไฟกอง
ใหญ่นนั่ ล่ะ”
“ต่อให้เป็ นการเทนํ้าแก้วเดียวลงบนกองไฟที่เผาฟื นทั้งคันเกวียน เรา
ก็ตอ้ งลองดูเพื่อให้แน่ใจไม่ใช่หรื อ?” สายตาของจวินอู๋เสี ยทอแวว
หัวเราะเย็นเยียบ นางไม่อยากเสี ยเวลากับหมอหลวงหลี่อีกต่อไป จึง
หันไปมองเจียงหยิงหลง
“อาจารย์เจียง ท่านได้ยนิ สิ่ งที่หมอทุกคนพูดอย่างชัดเจนแล้ว เราจะ
ลองดูหรื อไม่ข้ ึนอยูก่ บั ท่านแล้ว”
เจียงหยิงหลงลังเล เขาคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง สุ ดท้ายก็พยักหน้า
“ในเมื่อยารวมใจมีผลดีต่ออาการของฉูหลิงเย่ถึงจะแค่เล็กน้อยก็ตาม
ยังไงมันก็คือผลดี แต่ขา้ ขอประกาศจุดยืนของข้าก่อน เมื่อแม่นาง
จวินยืนกรานว่ายารวมใจสามารถรักษาบาดเจ็บของฉูหลิงเย่ได้ และ
เพื่อเห็นแก่องค์รัชทายาท ข้าจะยอมให้แม่นางจวินลองดูสกั ครั้ง แต่
ถ้ากินยารวมใจไปแล้วฉูหลิงเย่ยงั ไม่ดีข้ ึน ข้าต้องขอให้ฝ่าบาทกับแม่
นางจวินอย่าเข้ามายุง่ เกี่ยวกับการรักษาฉูหลิงเย่อีกต่อไป”
ตอนที่ 853 หมออัจฉริยะ (9)
“ตกลง” จวินอู๋เสี ยรับปากในทันที
หมอหลวงหลี่รีบพูดขึ้นด้วยนํ้าเสี ยงเหยียดหยาม “อาจารย์เจียงเป็ น
คนที่อดทนจริ ง ๆ ที่ยอมให้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นนํ้านมทําเช่นนี้”
เจียงหยิงหลงได้แต่ยมิ้ อย่างอ่อนใจให้หมอหลวงหลี่
หลังจากได้รับอนุญาตจากเจียงหยิงหลง จวินอู๋เสี ยก็ไม่ชกั ช้ารํ่าไร
นางเทยาลงในมือหนึ่งเม็ด ส่ วนอีกมือหนึ่งนางทําท่าเหมือนจับคอ
ของฉูหลิงเย่ข้ ึน จากนั้นก็ป้อนยาเข้าไปในปากของฉูหลิงเย่ จึง
เป็ นไปไม่ได้ที่จะมีคนสังเกตเห็นว่าจวินอู๋เสี ยซ่อนเข็มเงินเอาไว้
ระหว่างนิ้วและแทงเข้าไปที่หลังคอของฉูหลิงเย่ เมื่อยาถูกป้อนเข้า
ไปในปาก นางก็ถอนเข็มเงินออกมาอย่างรวดเร็ ว ด้วยความเร็ ว
เช่นนั้นจึงไม่มีใครสังเกตเห็นเลยสักคน
หลังจากป้อนยาให้ฉูหลิงเย่ จวินอู๋เสี ยก็ถอยออกมายืนด้านข้างโดย
ไม่คิดที่จะพูดอะไรอีก ขณะที่พวกหมอที่นาํ โดยหมอหลวงหลี่พากัน
ชี้มาที่นางและกระซิบกระซาบกัน ดูเหมือนกําลังพยายามเดาว่า
จวินอู๋เสี ยคิดจะทําอะไร
เจียงหยิงหลงเดินไปที่ขา้ งเตียงของฉูหลิงเย่อย่างกังวล เขาตรวจสอบ
สี หน้าของฉูหลิงเย่อย่างละเอียด
เล่ยเฉินเองก็มองไปที่เตียงอย่างวิตกกังวลเช่นกัน
หมอหลวงหลี่ชาํ เลืองมองอย่างอยากรู ้และไม่เห็นว่าฉูหลิงเย่จะมี
ท่าทีดีข้ ึน นางยังคงนอนหายใจรวยริ นอยูบ่ นเตียง เขายกยิม้ มุมปาก
คําเยาะเย้ยของเขายิง่ รุ นแรงขึ้น
“พอคิดว่ามีคนที่คิดว่ายารวมใจเป็ นของลํ้าค่าแล้วก็นะ มันช่าง
น่า……”
แต่ก่อนที่หมอหลวงหลี่จะพูดจบประโยค เจียงหยิงหลงก็ส่งเสี ยง
กระหื ดกระหอบออกมาดังลัน่ !
จู่ ๆ ฉูหลิงเย่ที่นอนอยูบ่ นเตียงก็ขมวดคิ้ว มือเรี ยบเนียนที่วางอยูข่ า้ ง
เตียงก็ขยับเล็กน้อย
เจียงหยิงหลงจ้องมองอย่างไม่เชื่อสายตา ตั้งแต่ฉูหลิงเย่หมดสติไป
นางก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลยทั้งสิ้ น นี่เป็ นครั้งแรกที่เขาเห็นนางมี
ปฏิกิริยาขึ้นมา
“หลิงเย่ขยับแล้ว! หลิงเย่ขยับแล้ว!” เจียงหยิงหลงเงยหน้าขึ้นมอง
พวกหมอที่อยูใ่ นห้องอย่างดีอกดีใจ
พวกหมอพากันตกใจและประหลาดใจมากกับเสี ยงตะโกนของ
เจียงหยิงหลง แต่พวกเขาก็ได้สติอย่างรวดเร็ วและเดินมาดูฉูหลิงเย่
ในทันที
ฉูหลิงเย่ที่นอนอยูบ่ นเตียงเริ่ มมีเลือดฝาดกลับคืนมาด้วยความเร็ วที่
เห็นได้อย่างชัดเจน ผิวซี ดขาวราวคนตายก่อนหน้านี้ของนางจู่ ๆ ก็
หายไปอย่างไร้ร่องรอย แม้วา่ นางจะยังนอนนิ่งอยูบ่ นเตียง แต่ลม
หายใจของนางก็แรงขึ้นและคงที่ข้ ึน เลือดกลับคืนมาที่ใบหน้าของ
นางอีกครั้ง ขับไล่ความซูบซีดก่อนหน้านี้หายไปจนสิ้ น!
เล่ยเฉินสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของฉูหลิงเย่ เขาแอบชําเลือง
ไปทางจวินอู๋เสี ย และเห็นสายตาของจวินอู๋เสี ยบอกให้เขาใจเย็น ๆ
ไว้ก่อน
“เป็ นไปได้ยงั ไง!?” หมอหลวงหลี่มองฉูหลิงเย่ที่มีอาการดีข้ ึนอย่าง
ไม่อยากจะเชื่อ เขารี บเข้ามาที่ขา้ งเตียงของฉูหลิงเย่และจับชีพจรนาง
และชีพจรที่เขาสัมผัสได้จากข้อมือของฉูหลิงเย่กท็ าํ ให้ใบหน้าของ
เขาซีดขาวในทันที
ชีพจรของฉูหลิงเย่ที่เคยสับสนปรวนแปรตอนนี้กลับคืนเป็ นปกติ
แล้ว และจากที่เขาสัมผัสชีพจรได้ ฉูหลิงเย่หายจากอาการบาดเจ็บ
สาหัสแล้วด้วย เขาตรวจสอบอาการบาดเจ็บไม่เจออีกต่อไป อาการ
เดียวที่มีตอนนี้กค็ ือการเสี ยเลือดไปมาก นอกนั้นนางสบายดีไม่เป็ น
อะไรเลย
ชีพจรนัน่ ไม่วา่ จะดูยงั ไงก็ไม่เหมือนคนเดียวกับคนที่ดูเหมือนกําลัง
ยืนอยูร่ ะหว่างความเป็ นความตายเลยแม้แต่นอ้ ย!
หมอหลวงหลี่เซถอยหลัง เขามองมือของตัวเองที่เพิ่งจับชีพจรอย่าง
เหม่อลอย นี่มือของเขาต้องตรวจสอบอะไรผิดพลาดไปแน่ ๆ
เจียงหยิงหลงกําลังรอให้หมอหลวงหลี่พดู และเมื่อเขาเห็นหมอ
หลวงหลี่ยนื เหม่ออยูด่ า้ นข้าง เขาก็ขอให้หมอคนอื่นช่วยตรวจชีพจร
ของฉูหลิงเย่ พวกหมอจับชีพจรของฉูหลิงเย่กนั ทีละคน และ
ปฏิกิริยาของพวกเขาหลังจับชีพจรก็เหมือนกับหมอหลวงหลี่ แต่ละ
คนพากันจ้องมองไปยังพื้นที่วา่ งเปล่าโดยไร้คาํ พูดใด ๆ
ตอนที่ 854 หมออัจฉริยะ (10)
“อาการของฉูหลิงเย่เป็ นยังไงบ้าง?” เจียงหยิงหลงถามอย่างร้อนใจ
ริ มฝี ปากของหมอหลวงหลี่ซีดขาว ไม่อยากจะเปิ ดปากพูดเลยแม้แต่
น้อย
อย่างไรก็ตาม หมอคนหนึ่งที่ยนื อยูด่ า้ นข้างก็เริ่ มพูดขึ้นด้วยสี หน้า
งุนงง “อาการบาดเจ็บของแม่นางฉู……ดูจากชีพจรของนางก็
เหมือนจะหายสนิทดีแล้ว แต่ที่นางยังหมดสติกเ็ พราะเสี ยเลือดมาก
เกินไปเท่านั้นเอง……”
“อะไรนะ?” เจียงหยิงหลงตาโต ไม่อาจจะเชื่อในสิ่ งที่เพิ่งได้ยนิ
“ฉูหลิงเย่แค่เสี ยเลือดมากเกินไปเนี่ยนะ? แต่……แต่พวกท่านบอก
เองไม่ใช่เหรอว่านางได้รับบาดเจ็บสาหัส?”
หน้าของหมอคนนั้นเต็มไปด้วยงุนงงอย่างที่สุด “นัน่ ……ก็ใช่ ตอน
ที่เรามาถึงและจับชีพจรของแม่นางฉู ชีพจรของนางสับสนอย่างมาก
แต่พอเราจับชีพจรครั้งที่สองนี่กพ็ บว่าอาการบาดเจ็บภายในของนาง
หายสนิทดีแล้ว จากประสบการณ์หลายสิ บปี ในฐานะหมอของพวก
เรา ข้าก็เพิง่ เจอเหตุการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้เป็ นครั้งแรก”
คนที่กาํ ลังหมิ่นเหม่อยูร่ ะหว่างปากเหวแห่งความเป็ นความตายจู่ ๆ ก็
กลับเป็ นปกติ ถ้าคนอื่นมาพูดให้ฟังล่ะก็ คงไม่มีใครเชื่อง่าย ๆ อย่าง
แน่นอน
เจียงหยิงหลงนิ่งอึ้งไปครู่ หนึ่ง ก่อนจะนึกขึ้นได้วา่ จวินอู๋เสี ยได้ทาํ
อะไรลงไป เขารี บเข้ามายืนตรงหน้าจวินอู๋เสี ยและพูดขึ้นว่า “แม่นาง
จวิน เป็ นยารวมใจของเจ้าใช่ไหม?”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า
“ยารวมใจเป็ นแค่ยาธรรมดาทัว่ ไป เป็ นไปได้ยงั ไงที่จะทําให้อาการ
บาดเจ็บสาหัสของแม่นางฉูหายไป?” พวกหมอที่สบั สนงุนงงพากัน
ยกข้อข้องใจของตัวเองขึ้นมาพูดในทันที
“แต่มนั ก็แปลกจริ ง ๆ นะ พอแม่นางฉูกินยารวมใจเข้าไปปุ๊ บ อาการ
ของนางก็ดีข้ ึนทันทีเลย”
พวกหมอถกเถียงกันถึงเรื่ องผิดธรรมดานี้อย่างดุเดือด และหลังจาก
เถียงกันอยูน่ านพวกเขาก็ยงั ไม่สามารถหาข้อสรุ ปได้ สถานการณ์น้ ี
พวกเขาไม่เคยได้ยนิ มาก่อน อย่าว่าแต่จะได้ประสบพบเจอเองเลย
หมอหลวงหลี่ลอบสังเกตจวินอู๋เสี ย จากนั้นก็หนั ไปมองเล่ยเฉิ นที่มี
รอยยิม้ กว้างบนใบหน้า เขากัดฟันอย่างหงุดหงิดแล้วพูดขึ้นว่า “จะ
เป็ นเพราะยารวมใจหรื อเปล่าก็ยงั ไม่รู้ ยังไงซะพวกเราหลายคนที่นี่ก็
ตรากตรํารักษากันมานานและได้ป้อนยากับสมุนไพรให้แม่นางฉูไป
ตั้งหลายอย่าง ยาที่ให้ไปก่อนหน้านี้อาจจะเพิง่ ออกฤทธิ์กไ็ ด้ เราบอก
ไม่ได้หรอกว่าแม่นางฉูอาการดีข้ ึนเพราะแม่นางจวิน”
รอยยิม้ บนใบหน้าของเล่ยเฉินพลันหายไปเพราะคําพูดของหมอ
หลวงหลี่
แต่จวินอู๋เสี ยไม่สนใจและไม่คิดจะเอาหมอหลวงหลี่มาใส่ ใจเลย
แม้แต่นอ้ ย นางหันไปหาเจียงหยิงหลงและพูดว่า “แม่นางฉูยงั
ต้องการการดูแลรักษาต่ออีกเล็กน้อย ข้าคิดว่าหมอหลายคนที่อยูท่ ี่นี่
คงดูแลจัดการงานง่าย ๆ เช่นนั้นได้เป็ นอย่างดี เพราะฉะนั้นข้าก็ควร
จะกลับแล้ว”
พูดจบจวินอู๋เสี ยก็หมุนตัวเดินจากไปทันที
เจียงหยิงหลงอยากให้จวินอู๋เสี ยอยูต่ ่ออีกสักหน่อยเพื่อถามเกี่ยวกับ
สถานการณ์น้ ีเพิ่มเติม แต่จวินอู๋เสี ยไปเร็ วมาก ไม่ให้เขามีโอกาสได้
อ้าปากถามด้วยซํ้า
เล่ยเฉินตามหลังมาติด ๆ เมื่อทั้งสองคนก้าวพ้นประตูโรงเตี๊ยมและ
ปี นขึ้นรถม้าจากวังขององค์รัชทายาทแล้ว ในที่สุดเล่ยเฉิ นก็ยอมให้
ความรู ้สึกที่เขาพยายามอย่างหนักที่จะเก็บไว้ระเบิดออกมา “แม่นาง
จวิน ข้ามันตาบอดจริ ง ๆ และประเมินท่านตํ่าไป ข้าไม่คิดว่า
ความสามารถทางด้านการแพทย์ของแม่นางจวินจะยอดเยีย่ มถึงเพียง
นี้ ถ้าข้าเคยล่วงเกินท่านไป ขอให้แม่นางจวินอย่าถือโทษโกรธเคือง
ข้าเลย”
“พูดจริ ง ๆ นะ การที่แม่นางจวินทําเป็ นไม่สนใจเมื่อกี้น่ะช่วยเปิ ด
โปงตัวตนของพวกหมอที่นนั่ ทั้งกลุ่มเลย ตอนที่ขา้ ออกมาข้าเห็นสี
หน้าของเจียงหยิงหลงชัดเจนเลย มันบอกว่าเขาอยากให้ท่านอยูต่ ่อ
ล่ะ แล้วก็สีหน้าซี ดเซี ยวของหมอหลวงหลี่กน็ ่าดูชะมัด”
“นี่ยงั ไม่ใช่เวลาดีใจหรอกเพคะ” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับมองออกไป
นอกหน้าต่าง
“หมายความว่ายังไง?” เล่ยเฉิ นชะงักไปเล็กน้อย
แต่จวินอู๋เสี ยไม่อยูใ่ นอารมณ์ที่จะพูดอะไรต่อ
ตอนที่ 855 การมาเยือนคุก (1)
เมื่อรถม้ามาถึงวังขององค์รัชทายาท จวินอู๋เสี ยก็จากไปพร้อมเชียวชู
ที่ยงั คงรออยูโ่ ดยปฏิเสธคําเชิญให้อยูร่ ับประทานอาหารเย็นของเล่ย
เฉิน
จวินอู๋เสี ยกลับไปที่ตาํ หนักเซียนพร้อมเชียวชู ฟ่ านจัว๋ กับคนอื่น ๆ
รออยูท่ ี่นนั่ นานแล้ว
“เป็ นยังไงบ้าง?” ฟ่ านจัว๋ เทนํ้าอุ่นใส่ แก้วแล้วส่ งให้จวินอู๋เสี ย
“เรื่ องนี้มนั มีอะไรมากกว่าที่ตาเห็น” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับรับแก้ว
นํ้ามาดื่ม
“สังเกตเห็นอะไรบ้างรึ เปล่า?” ฟ่ านจัว๋ มัน่ ใจในความสามารถทาง
การแพทย์ของจวินอู๋เสี ยอย่างที่สุดเนื่องจากตัวเขาเองก็เคยเป็ นคนไข้
ของนาง
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า แต่ไม่คิดจะอธิบายอะไรเพิม่ เติม
“ข้าจะไปสลับตัวกับพี่ฮวั่ คืนนี้ ถ้ามีข่าวเกี่ยวกับอาการของฉูหลิงเย่ก็
ไปบอกข้าด้วย” จวินอู๋เสี ยหยุดครู่ หนึ่งแล้วพูดกับเฟยหยานว่า “ครั้ง
หน้าที่ไปสื บข่าวของฉูหลิงเย่ อย่าลืมตรวจด้วยว่ามีรอยชํ้าที่หลังหู
ของนางรึ เปล่า”
แม้วา่ เฟยหยานจะไม่เข้าใจความหมายของจวินอู๋เสี ยนัก แต่เขาก็
พยักหน้าโดยไม่ถาม
คืนนั้นจวินอู๋เสี ยกลับไปที่หอ้ งขังของนางเพื่อเปลี่ยนตัวกับพี่ฮวั่ และ
หลังจากที่พวกเขาสลับตัวกันไม่นาน ก็มีแขกพิเศษคนหนึ่งมาที่คุก
“จวินเสี ย!” เสี ยงใสชัดเจนของผูเ้ ยาว์คนหนึ่งดังเป็ นพิเศษในคุกเงียบ ๆ
ยามดึกดื่นเช่นนี้
จวินอู๋เสี ยเงยหน้าขึ้นช้า ๆ และเห็นองค์ชายสี่ เล่ยฟ่ าน ในชุดปั กไหม
สี ทองหรู หรายืนอยูน่ อกห้องขังของนาง
และแล้วเขาก็มาอย่างที่คาดไว้
จวินอู๋เสี ยหัวเราะอยูใ่ นใจแต่ภายนอกไม่มีอะไรแสดงออกมาแม้แต่
น้อย
“ฝ่ าบาทเสด็จมาที่นี่ทาํ ไม?” จวินอู๋เสี ยถามเสี ยงเรี ยบ ดวงตาใส
กระจ่างเย็นชาของนางนิ่งสงบไม่มีความรู ้สึกใด ๆ
“จวินเสี ย เจ้าต้องมาลําบากอยูท่ ี่นี่ ข้าได้ยนิ เสด็จพ่อพูดถึงเจ้าเลยรู ้วา่
เจ้าถูกขังอยูท่ ี่นี่ ข้าพยายามหาทุกวิธีที่จะมาพบเจ้า ข้ารู ้วา่ เจ้าไม่ใช่
คนแบบนั้น เจ้าไม่เคยโจมตีผหู ้ ญิงโหดเหี้ ยมแบบนั้นเลย ข้าคิดว่าเจ้า
ต้องไม่ได้ต้ งั ใจแน่” เล่ยฟ่ านพูด เขายืนอยูน่ อกห้องขังพลางมอง
จวินเสี ยอย่างเป็ นห่วง ดวงตาที่มีเสน่ห์ของเขาดูวติ กกังวลมาก
เล่ยฟ่ านกัดริ มฝี ปาก เขามองจวินเสี ยด้วยสี หน้าที่ดูเศร้าเสี ยใจมาก
“ก่อนหน้านี้ ถึงเจ้าจะปฏิเสธคําชวนของข้า แต่ขา้ ก็ยงั ชอบเจ้ามากอยู่
ดี เจ้าอาจจะไม่อยากเป็ นเพื่อนร่ วมเรี ยนของข้าแต่ขา้ ยังอยากมีเพื่อน
แบบเจ้าอยูน่ ะ พอข้ารู ้วา่ เจ้าถูกขังคุก จะให้ขา้ อยูเ่ ฉย ๆ โดยไม่ทาํ
อะไรเลยได้ยงั ไง?”
“ขอบพระทัยในความห่วงใยของฝ่ าบาท ข้าไม่เป็ นไรพะย่ะค่ะ”
จวินอู๋เสี ยไม่ได้ซาบซึ้ งเลยสักนิด
“เจ้าไม่ตอ้ งวางท่าเก่งกล้าแบบนี้กไ็ ด้” เล่ยฟ่ านพูดพร้อมกับถอนใจ
เขามองไปรอบ ๆ คุกมืดที่เปี ยกชื้นและหนาวเย็น แล้วพูดต่อว่า
“ต้องอยูใ่ นสถานที่แบบนี้ เจ้าจะไม่เป็ นไรได้อย่างไร? แต่คนที่เจ้าทํา
ร้ายครั้งนี้เป็ นคุณหนูของเมืองพันอสู ร และเมืองพันอสู รก็เป็ นกอง
กําลังที่แข็งแกร่ งมาก คนทัว่ ไปส่ วนใหญ่ไม่กล้าต่อต้านพวกเขา
หรอก แล้วนี่เจ้าทําร้ายคุณหนูของพวกเขา เมืองพันอสู รย่อมไม่
ปล่อยเรื่ องนี้ไปง่าย ๆ แน่”
ขณะที่พดู เล่ยฟ่ านก็แสดงสี หน้าวิตกกังวล
จวินอู๋เสี ยหัวเราะเย็นชาอยูใ่ นใจ แต่สีหน้าของนางก็ไม่ได้ทรยศ
ความคิดในใจเลยแม้แต่นอ้ ย นางเพียงแค่มองหน้าเล่ยฟ่ านที่ดูเป็ น
กังวลอย่างหนักโดยไม่ยนิ ดียนิ ร้ายใด ๆ
“ถูกหรื อผิด วันหนึ่งความจริ งก็จะเปิ ดเผยออกมาเอง”
เล่ยฟ่ านตอบว่า “เจ้าก็พดู ง่าย แต่รู้ไหมว่าคุณหนูเมืองพันอสู รนัน่ ยัง
หมดสติอยูเ่ ลย เสด็จพ่อเรี ยกตัวหมอที่มีชื่อเสี ยงที่สุดกับหมอหลวง
จากวังแล้วส่ งพวกเขาทั้งหมดไปที่นนั่ แล้ว แต่นางก็ยงั ไม่ทีท่าว่าจะ
หายเลย ข้าแอบไปถามพวกหมอหลวงแล้ว พวกเขาพูดว่า…พวกเขา
ว่าฉูหลิงเย่อาจจะทนได้อีกไม่นาน”
ตอนที่ 856 การมาเยือนคุก (2)
“ถ้าฉูหลิงเย่ตาย เมืองพันอสู รจะต้องเอาชีวติ เจ้าเป็ นการแลกเปลี่ยน
แน่ จวินเสี ย ข้ารู ้วา่ เจ้าหยิง่ ในศักดิ์ศรี มาก แต่ตอนนี้ชีวติ ของเจ้า
สําคัญกว่านะ ความโกรธแค้นของเมืองพันอสู รน่ะ ต่อให้เป็ นสํานัก
ศึกษาวายุประจิมก็ปกป้องเจ้าไม่ได้หรอก” เล่ยฟ่ านพูดด้วยเสี ยงที่
เจือความวิตกกังวล และดูเหมือนจะมองว่าจวินเสี ยคือผูท้ ี่เขาไว้ใจ
จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทําให้แน่ใจว่าเขาจะยังปลอดภัยดี
“งั้นฝ่ าบาทมีแผนอะไรงั้นหรื อ?” จวินอู๋เสี ยถาม
รอยยิม้ แวบผ่านดวงตาของเล่ยเฉิ นและถูกซ่อนอย่างรวดเร็ ว สี หน้า
ของเขาดูจริ งใจอีกครั้งขณะที่พดู ว่า “จวินเสี ย แม้วา่ ข้าจะเทียบกับ
เสด็จพี่ที่เป็ นผูส้ ื บทอดบัลลังก์แห่งแคว้นหยานไม่ได้ แต่อย่างน้อย
ข้าก็เป็ นองค์ชายสี่ แห่งแคว้นหยาน ถ้าเจ้าเป็ นเพื่อนเรี ยนของข้า ข้าก็
จะสามารถใช้ความรักของเสด็จพ่อวิงวอนให้ท่านช่วยปกป้องเจ้า
จากอันตรายได้ แน่นอนว่า…นี่เป็ นแค่แผนเท่านั้น ถ้าเจ้าไม่อยากอยู่
ข้างกายข้าหลังจากแก้ไขปั ญหานี้ได้แล้ว ข้าก็จะไม่บงั คับจิตใจเจ้า
ข้าอยากช่วยเจ้าจริ ง ๆ แค่เจ้ายอมรับตําแหน่งผูช้ ่วยที่ขา้ ไว้ใจมาก
ที่สุด เสด็จพ่อก็จะพยายามปกป้องเจ้าอย่างเต็มที่แล้ว”
จวินอู๋เสี ยไม่ได้ตอบในทันที แต่มองหน้าเล่ยฟ่ านต่อไปราวกับกําลัง
ค้นหาอะไรบางอย่างจากเขา
เล่ยฟ่ านยังคงดูมนั่ คงเด็ดเดี่ยวขณะที่มองจวินเสี ย
แล้วจู่ ๆ จวินอู๋เสี ยก็ส่ายหน้า
“ขอบพระทัยในพระเมตตาของฝ่ าบาท แต่ขา้ ไม่ตอ้ งการ”
จวินอู๋เสี ยปฏิเสธข้อเสนออีกครั้ง ทําให้สีหน้าของเล่ยฟ่ านแข็งทื่อ
เขาไม่คิดว่าทั้ง ๆ ที่อยูใ่ นสภาพเลวร้ายอย่างนี้ จวินเสี ยก็ยงั ปฏิเสธ
ข้อเสนอในการช่วยชีวติ เขาอีก เขาสู ดหายใจลึกเพื่อสะกดกลั้นความ
ไม่พอใจที่เอ่อล้นอยูภ่ ายใน พยายามเต็มที่ที่จะคงท่าทีเป็ นมิตรเอาไว้
“ที่เจ้าปฏิเสธเจตนาดีของข้า เป็ นเพราะเสด็จพี่รึเปล่า?”
“ทําไมถึงตรัสเช่นนั้นล่ะพะย่ะค่ะ?” จวินอู๋เสี ยถาม
เล่ยฟ่ านพูดพร้อมกับหัวเราะ “ข้ารู ้วา่ เจ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกบั เสด็จ
พี่ แล้วเสด็จพี่กเ็ ป็ นถึงผูส้ ื บทอดบัลลังก์แห่งแคว้นหยาน องค์ชาย
น้อยเช่นข้าย่อมไม่สามารถเทียบกับเขาได้ แต่จวินเสี ย เจ้าไม่ได้
สังเกตเลยหรื อ? ในช่วงที่เจ้าอยูใ่ นคุกนี่ เสด็จพี่ได้มาเยีย่ มเยียนเจ้า
สักครั้งหรื อเปล่า? เขาเคยคิดที่จะช่วยเจ้าออกจากที่นี่บา้ งไหม? ด้วย
พลังอันแข็งแกร่ งของเจ้า ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าเสด็จพี่ตอ้ งอยากได้เจ้า
ไปเป็ นพวกอยูแ่ ล้ว แต่ฉูหลิงเย่ไม่ใช่คนธรรมดาทัว่ ไป นางเป็ น
คุณหนูของเมืองพันอสู ร ว่ากันตามจริ งเสด็จพี่ต้ งั ใจที่จะเอาชนะใจ
นางมาโดยตลอด เขาแสดงความห่วงใยและใส่ ใจฉูหลิงเย่มาก แต่สิ่ง
ที่เขาต้องการจริ ง ๆ ก็คือเมืองพันอสูรที่หนุนหลังฉูหลิงเย่อยู่
ต่างหาก!”
“แล้วตอนนี้เจ้าก็ทาํ ร้ายฉูหลิงเย่จนบาดเจ็บ เสด็จพี่จึงจําต้องเลือกว่า
จะสละคนใดคนหนึ่ง จวินเสี ย ไม่สาํ คัญว่าเจ้าจะแข็งแกร่ งมากขนาด
ไหน ในสายตาของเสด็จพี่ เจ้าเทียบกับเมืองพันอสู รที่หนุนหลังฉู
หลิงเย่ไม่ได้หรอก รู ้ไหมว่าในช่วงที่เจ้าอยูใ่ นคุกนี่ เสด็จพี่ไปที่
โรงเตี๊ยมที่สาํ นักศึกษาธงศึกพักอยูเ่ พื่อสอบถามอาการของฉูหลิงเย่
บ่อยมาก อย่าบอกข้านะว่าเจ้ายังดูการกระทําของเขาไม่ออกอีก เขา
ตั้งใจจะทิ้งเจ้าเพื่อปกป้องความสัมพันธ์ของเขากับเมืองพันอสู ร!”
ยิง่ พูดเล่ยฟ่ านยิง่ ร้อนใจ มือของเขาจับลูกกรงห้องขังเอาไว้แน่น
ดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อยนั้นเต็มไปด้วยความกังวลและเจ็บใจ
ใบหน้าของเขาขึ้นสี แดงเล็กน้อยจากความร้อนใจของเขาเอง
แต่จวินอู๋เสี ยกลับมองเล่ยฟ่ านนิ่ง ท่าทีสงบนิ่งของนางทําให้การ
ระเบิดอารมณ์ของเล่ยฟ่ านกลายเป็ นเรื่ องตลกไปซะอย่างนั้น
“ฝ่ าบาทคิดมากไปแล้ว ข้าไม่ได้คาดหวังให้องค์รัชทายาทมาช่วยข้า
ออกไปจากที่นี่หรอกพะย่ะค่ะ” จวินอู๋เสี ยพูดช้า ๆ
“งั้นทําไมเจ้าถึงปฏิเสธข้อเสนอของข้าที่จะช่วยชีวติ เจ้า? ข้าอยาก
ช่วยเจ้าจริ ง ๆ นะ!” เล่ยฟ่ านโวยวายอย่างร้อนใจ
“คุกไม่ใช่สถานที่ที่ฝ่าบาทควรจะมา ฝ่ าบาทควรจะกลับไปได้แล้ว
พะย่ะค่ะ” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับก้มหน้าลง เชิญแขกพิเศษให้
กลับไปแบบนิ่ง ๆ
ตอนที่ 857 การมาเยือนคุก (3)
สี หน้าของเล่ยฟ่ านฉายแววมุ่งร้ายในทันที ภายใต้แสงเทียนอันสลัว
รางในคุก ใบหน้าหล่อเหลานั้นดูเยียบเย็น เขาก้าวถอยหลังช้า ๆ ร่ าง
ของเขากลืนเข้ากับความมืด สายตาที่จอ้ งเขม็งไปยังจวินเสี ยทอประ
กายเกลียดชังภายใต้แสงสลัว ๆ นั้น
“ถ้าเจ้าไม่อยากเชื่อข้าตอนนี้ ข้าก็จะไม่ตาํ หนิเจ้า ข้าเพียงแต่หวังว่า
เจ้าจะคิดได้ในเร็ ววัน อีกสองวันคนจากเมืองพันอสู รจะมาถึงที่นี่ ถ้า
เจ้ารอจนกระทัง่ พวกเขามาถึง มันก็จะสายไปแล้ว ข้าจะลงมือก่อน
และเจ้าก็ควรพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบในตอนที่ขอ้ เสนอของข้า
ยังอยู”่ หลังพูดจบเล่ยฟ่ านก็ตดั สิ นใจไม่ดนั ทุรังต่อไป เขาเดินออก
จากคุกไปในทันที
เมื่อเล่ยฟ่ านก้าวออกมาจากคุก ทหารที่รออยูน่ อกคุกก็เข้ามาหาเขา
ทันที แล้วจู่ ๆ เล่ยฟ่ านก็ยกเท้าขึ้นเตะทหารคนนั้นล้มลงกับพื้น!
“ไอ้เลวนัน่ ไม่รู้วา่ อะไรดีกบั ตัวเอง! คิดว่าตัวเองเจ๋ งนักรึ ไง!” เสี ยง
ของเล่ยฟ่ านฟังดูร้ายกาจมาก สายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความ
อาฆาตมาดร้าย
“จวินเสี ย ข้าไม่คิดจริ ง ๆ ว่าจะมีไอ้โง่ที่ไม่รู้จกั ปรับตัวตาม
สถานการณ์แบบนี้! ตกอยูใ่ นสภาพแบบนั้นแล้วยังจะกล้าปฏิเสธ
ข้อเสนออันใจกว้างของข้า ข้าจะปล่อยให้เจ้าได้นอนเล่นอยูใ่ นคุก
จริ ง ๆ แล้ว” เล่ยฟ่ านกัดฟันด่า เขาหันไปทางทหารที่เพิ่งลุกขึ้นจาก
พื้น
“ไปบอกพวกผูค้ ุมให้ดูแลคุณชายจวินให้ดี เครื่ องมือทรมานในคุก
ไม่ได้ใช้มานานแล้ว ไม่ควรทิ้งเอาไว้ให้ฝนจั
ุ่ บ”
ทหารคนนั้นตัวสัน่ เขารี บวิง่ เข้าไปในคุกเพื่อถ่ายทอดคําสัง่ ของเล่ย
ฟ่ าน
เล่ยฟ่ านปี นขึ้นรถม้า สายตาทอแววเย็นชา
“เจ้าปฏิเสธไมตรี ขา้ เองนะ ข้าจะรอดูวา่ ความจองหองของเจ้าจะ
เอาชนะความทรมานในคุกได้รึเปล่า เมื่อวันนั้นมาถึงข้าจะทําให้เจ้า
อ้อนวอนขอร้องข้า!”
………………………
หลังจากที่เล่ยฟ่ านกลับไป จวินอู๋เสี ยก็นงั่ อยูต่ ามลําพังในห้องขัง ใน
คุกที่มีแสงอันน้อยนิดนั้น แมวดําตัวเล็กได้กระโจนกลับเข้ามาเงียบ ๆ
โดยไม่มีใครสังเกตเห็น ในตอนที่เล่ยฟ่ านออกไปจากที่นี่ เจ้าแมวดํา
ก็กระโจนออกไปด้วยพร้อมกัน
“เหมียว”
[นายหญิง คราวนี้ท่านถูกลงโทษแล้ว องค์ชายสี่ จอมชัว่ นัน่ สัง่ ให้
พวกผูค้ ุมดูแลท่านให้ดี ข้าว่าพรุ่ งนี้ท่านได้เจอการทรมานในคุก
แน่นอน]
จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้วขึ้น แต่ไม่ได้กงั วลเลยแม้แต่นอ้ ย
“ก็แค่อยากบังคับให้ขา้ ยอมจํานน อยากทําร้ายข้างั้นรึ ? งั้นก็ตอ้ ง
ดูก่อนว่ามีปัญญาทําได้รึเปล่า” จวินอู๋เสี ยยิม้ มุมปากเย็นเยียบ ถึงจะ
ถูกขังอยูใ่ นคุก แต่นางไม่ใช่หมูในอวยที่ใครจะมาชักเชิดบงการ
อะไรก็ได้
“เหมียว?”
[ข้าขอถามนายหญิงหน่อยสิ เมื่อไรท่านจะลงมืองั้นหรื อ?]
“ไม่รีบ ต้องตอบแทนนํ้าใจที่ได้รับมาก่อนสิ ในเมื่อพวกเขาดูแลข้าดี
ขนาดนี้ ข้าก็ตอ้ งทําให้แน่ใจก่อนว่านํ้าใจไมตรี ของพวกเขาจะได้รับ
การตอบแทนเป็ นอย่างดี” จวินอู๋เสี ยพูดเสี ยงเรี ยบ นางยืน่ มือออกมา
อุม้ เจ้าแมวดํา นิ้วของนางลูบไล้ขนอันนุ่มนิ่มของมัน
“เหมียว?”
[ตอบแทนนํ้าใจของเขางั้นหรื อ?]
จวินอู๋เสี ยตอบเสี ยงเบาว่า “คนของเมืองพันอสู รยังมาไม่ถึงใช่ไหม?”
“เหมียว”
[ใช่แล้ว]
“ถึงเมืองพันอสู รจะไม่ยงิ่ ใหญ่เท่าแคว้นหยาน แต่ถา้ พวกเขาเกลียด
ชังแคว้นหยานขึ้นมาจริ ง ๆ แคว้นหยานก็ไม่อาจจะต้านทานเมือง
พันอสู รได้ง่ายดายนักหรอก” จวินอู๋เสี ยลดสายตาลงตํ่า ความคิด
มากมายวิง่ วนอยูใ่ นหัว
มันยังเพิ่งเริ่ มต้น นางยังมีเวลาเล่นกับองค์ชายและองค์จกั รพรรดิได้
อยู่
นางแค่หวังว่าพวกเขาจะสามารถเล่นต่อไปได้อีกสักหน่อย
ไม่อย่างนั้นที่นางจัดการเตรี ยมโชว์สนุกไว้ให้พวกเขาจะเป็ นการเสี ย
แรงเปล่า
ตอนที่ 858 การทรมาน (1)
กลางดึกของคืนวันที่ 2 เชียวชูกแ็ อบเข้ามาพบกับจวินอู๋เสี ยในคุกอีก
ครั้ง
“ดูเจ้าจะสบายใจจังเลยนะอยูใ่ นคุกเนี่ย ข้างนอกวุน่ วายกันใหญ่โต
จะแย่แล้ว เจ้ายังไม่ทุกข์ร้อนอะไรอยูไ่ ด้” เมื่อเห็นจวินอู๋เสี ยนัง่ ลูบ
ขนเจ้าแมวดําอยูใ่ นห้องขังอย่างใจเย็น เชียวชูกอ็ ดยิม้ อย่างจนใจ
ไม่ได้
จวินอู๋เสี ยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วมองไปที่เชียวชู “ข้างนอกเป็ น
ยังไงบ้าง?”
“หลังจากที่เจ้าไปหาฉูหลิงเย่กบั เล่ยเฉิ นวันนั้น เมื่อวานอาการของฉู
หลิงเย่กด็ ีข้ ึนอย่างรวดเร็ ว แต่พอเช้าตรู่ วนั นี้ จู่ ๆ อาการบาดเจ็บของ
นางก็แย่ลงอีก นางหมดสติและอาเจียนเป็ นเลือด ทําเอาพวกหมอทั้ง
กลุ่มแทบจะบ้าตาย เจ้าหมอหลวงหลี่นนั่ โกรธกระฟัดกระเฟี ยดบอก
ว่าการกระทําก่อนหน้านี้ของแม่นางแซ่จวินเป็ นวิธีการต้มตุ๋น
หลอกลวงผูค้ น แม้แต่เล่ยเฉิ นก็ยงั ไม่วายโดนด่าไปด้วย เจ้าเจียงหยิง
หลงนัน่ ก็โง่เกินเยียวยา พอองค์รัชทายาทไปเยีย่ มอีกครั้ง เขาก็ให้คน
ของสํานักธงศึกไปขวางประตูไม่ให้เข้า ดูเหมือนว่าที่เจ้าทําไปเมื่อ
วานไม่เพียงแต่จะทําให้คนจากสํานักศึกษาธงศึกไว้ใจไม่ได้แล้ว ยัง
ทําให้พวกเขารู ้สึกต่อต้านเล่ยเฉินรุ นแรงขึ้นไปอีกนะ” เชียวชูอาจจะ
พูดด้วยนํ้าเสี ยงไม่ใส่ ใจ แต่เฟยหยานที่ไปหาข่าวที่นนั่ ด้วยตัวเองได้
เห็นสถานการณ์ท้ งั หมดทุกรายละเอียดอย่างชัดเจน
เล่ยเฉินถูกขวางเอาไว้นอกประตูและหมอหลวงหลี่กส็ บถด่าจากข้าง
ในห้องของฉูหลิงเย่ ไม่วา่ เมื่อวานจวินอู๋เสี ยจะทําให้ตกใจและ
ประหลาดใจมากแค่ไหนก็ตาม วันนี้มนั ได้กลายเป็ นคําด่าทอหยาบ
คายแบบเต็มที่
“อย่างที่คิดไว้เลย” มุมปากของจวินอู๋เสี ยยกขึ้นกลายเป็ นรอยยิม้ เย็น
ชา
เชียวชูมองปฏิกิริยาของจวินอู๋เสี ยอย่างงุนงง “เจ้ารู ้อยูแ่ ล้วว่าจะเป็ น
แบบนี้ง้ นั หรื อ?”
จวินอู๋เสี ยตอบช้า ๆ ว่า “ตอนแรกข้าก็ไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ขา้ แน่ใจ
แล้ว”
“แล้วเจ้าก็ยงั ไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลยเนี่ยนะ? เจ้ายังมัน่ ใจว่าจะ
รักษาอาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่ได้รึเปล่า? นี่เป็ นครั้งแรกที่ขา้ ได้
เห็นคนไข้ที่ผา่ นมือเจ้าไปแล้วอาการทรุ ดลง” เชียวชูถามพร้อมกับ
เกาหัว
เขาเชื่อและไว้ใจความสามารถทางด้านการแพทย์ของจวินอู๋เสี ยอย่าง
เต็มที่ แต่อาการที่ทรุ ดลงของฉูหลิงเย่กเ็ ป็ นสิ่ งที่เฟยหยานเห็นมากับ
ตา
“ทุกอย่างย่อมมีครั้งแรกเสมอ ไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไรเลย” จวินอู๋เสี ย
ไม่ได้แสดงอาการอะไรมากนัก
เชียวชูรายงานต่อว่า “พูดกันว่าเย็นวันพรุ่ งนี้คนจากเมืองพันอสู รจะ
มาถึงเมืองหลวงแคว้นหยาน ถ้าตอนนั้นพวกเขาเห็นว่าฉูหลิงเย่ยงั
นอนอาการร่ อแร่ อยูบ่ นเตียงล่ะก็ พวกเขาอาจจะมาเล่นงานเจ้าถึงที่นี่
เลยนะ เจ้าจะไม่เตรี ยมตัวอะไรสักหน่อยเหรอ?”
จวินอู๋เสี ยส่ ายหน้า
“พวกเขาจะไม่มีเวลามาเล่นงานข้าหรอก”
เชียวชูชะงักไป เขาไม่สามารถรู ้ได้เลยว่าจวินอู๋เสี ยกําลังคิดอะไรอยู่
“ยังไงก็เถอะ ถึงจะรู ้วา่ เจ้ามีความคิดดี ๆ อยูต่ ลอด แต่ขา้ ก็อยากบอก
เจ้าว่าอย่าปล่อยให้ตวั เองต้องเจ็บล่ะ ถ้าเรื่ องมันแก้ไขไม่ได้แล้วก็
ออกไปจากที่นี่แล้วบอกเราว่าอยากให้พวกเราทําอะไร เจ้าไม่ตอ้ ง
ออกหน้าทําเอง”
“ข้ามีแผนอยู”่ จวินอู๋เสี ยพูดเบา ๆ
ขณะที่คนทั้งสองกําลังพูดคุยกัน เสี ยงฝี เท้าก็ดงั ขึ้นท่ามกลางความ
เงียบในคุก เชียวชูกระโจนขึ้นไปที่คานด้านบนและซ่อนตัวในเงามืด
ผูค้ ุมสองคนปรากฏตัวขึ้นข้างหน้าห้องขังของจวินอู๋เสี ย พวกเขาถือ
โซ่และกุญแจอยูใ่ นมือขณะที่ไขกุญแจประตูหอ้ งขังและเดินเข้าไป
“ฝ่ าบาทมีรับสัง่ ให้เปลี่ยนโซ่กบั กุญแจของคุณชายจวิน ขอให้
คุณชายจวินให้ความร่ วมมือด้วยขอรับ” ผูค้ ุมถามด้วยรอยยิม้ อย่าง
สุ ภาพนอบน้อมต่อจวินเสี ย
ความแข็งแกร่ งของจวินอู๋เสี ยในฐานะผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี เขียว
ไม่ใช่สิ่งที่ผคู ้ ุมระดับตํ่าพวกนี้จะสามารถขู่ให้กลัวได้ ดังนั้นในช่วง
สองสามวันที่จวินอู๋เสี ยอยูใ่ นคุก พวกผูค้ ุมจึงยังสุ ภาพและไม่กล้าทํา
เรื่ องยุง่ ยาก อาหารที่นางได้รับก็เป็ นไปตามกฎและทุกอย่างก็ดู
เหมือนปกติดีจนถึงเดี๋ยวนี้
ตอนที่ 859 การทรมาน (2)
สายตาของจวินอู๋เสี ยมองไปที่โซ่และกุญแจชุดนั้น เทียบกับชุดที่อยู่
ที่มือและเท้าของนางตอนนี้ ชุดใหม่น้ ีจาํ กัดการเคลื่อนไหวได้
มากกว่าเยอะ กุญแจมือและโซ่ล่ามขานั้นเสริ มด้วยโลหะ และเมื่อ
ล็อคไปแล้วคนที่ถูกล็อคจะไม่สามารถขยับได้ ประกายหัวเราะเย็น
เยียบปรากฏขึ้นในดวงตาของจวินอู๋เสี ย นางลอบมองไปยังที่ที่เชียว
ชูซ่อนตัวอยูท่ างหางตาแต่ไม่พดู อะไรออกมา จากนั้นนางก็ยนื่ มือ
ออกมาเพือ่ แสดงว่านางยินยอมให้ความร่ วมมือ
ผูค้ ุมสองคนนั้นแอบสบตากัน ใบหน้าปรากฏรอยยิม้ กว้างขณะที่เอา
โซ่ตรวนอันเก่าออกจากจวินเสี ยและพูดว่า “ช่วงที่ผา่ นมานี้คุณชาย
จวินสุ ขสบายดีรึเปล่าขอรับ? ห้องขังสกปรกโกโรโกโสแบบนี้ตอ้ ง
ทําให้คุณชายจวินลําบากแน่ แต่คุณชายจวินโปรดวางใจ พวกเราจะ
ไม่ทาํ อะไรรุ นแรงกับคุณชายจวินหรอกขอรับเพราะคุณชายเป็ น
สหายขององค์รัชทายาท พวกเราไม่กล้าละเลยหรอกขอรับ”
“ใช่แล้ว คุณชายจวินคงต้องทนอีกสักสองสามวันนะขอรับ พอเรื่ อง
จบแล้วคุณชายก็จะได้ออกไปจากที่นี่”
ผูค้ ุมทั้งสองรับคําเป็ นลูกคู่กนั ดิบดี ดูเหมือนจะพยายามอย่างเต็มที่ที่
จะทําให้จวินเสี ยวางใจ พวกเขาใส่ โซ่ตรวนชุดใหม่ให้จวินเสี ยอย่าง
เงียบ ๆ ระมัดระวังทุกขั้นตอน พร้อมกับลอบชําเลืองมองจวินเสี ยอยู่
เป็ นระยะ เมื่อพวกเขาเห็นว่าจวินเสี ยไม่มีทีท่าระแวงอะไร ก็พากัน
ลอบถอนใจอย่างโล่งอก
เสี ยงกริ๊ กสองครั้งดังขึ้นเมื่อกุญแจเหล็กทั้งสองถูกสวมเข้าที่มือของ
จวินอู๋เสี ย โซ่รอบ ๆ เท้าของนางก็มดั เท้าเอาไว้ดว้ ยกันอย่างแน่น
หนา สําหรับจวินอู๋เสี ยตอนนี้แค่ขยับให้ได้สกั ครึ่ งนิ้วก็เป็ นเรื่ อง
ยากเย็นแล้ว
เชียวชูที่ซ่อนตัวอยูใ่ นความมืดเฝ้าสังเกตการกระทําของผูค้ ุมทั้งสอง
พร้อมกับขมวดคิ้วนิ่วหน้า ถึงแม้เขาจะไม่คุน้ เคยกับโซ่ตรวนในคุก
แต่แค่เห็นโซ่ตรวนชุดใหม่ที่ถูกสวมให้จวินอู๋เสี ย เขาก็รู้แล้วว่ามี
บางอย่างผิดปกติ
แขนขาทั้งสี่ ขา้ งของจวินอู๋เสี ยถูกล่ามเอาไว้อย่างแน่นหนา ไม่ตอ้ ง
พูดเรื่ องเดินเลย แค่จะนัง่ ลงบนพื้นก็ยากแล้ว ไม่วา่ จะดูอย่างไรโซ่
พวกนั้นก็ไม่เหมือนโซ่ที่เอาไว้ใช้กบั นักโทษธรรมดาทัว่ ไปเลย
หลังจากผูค้ ุมทั้งสองใส่ กญ
ุ แจเรี ยบร้อยแล้ว พวกเขาก็กระตุกโซ่
เหล็กอย่างแรงเพื่อตรวจสอบ เมื่อแน่ใจว่าแน่นหนาดีแล้ว พวกเขาก็
ก้าวถอยหลังทันที รอยยิม้ บนใบหน้าของทั้งคู่หายไปและแทนที่ดว้ ย
ความยินดีในโชคร้ายของผูอ้ ื่น
“จวินเสี ย ท่านอยูใ่ นคุกนี้มาตั้งนาน ข้าเชื่อว่าท่านคงคุน้ เคยกับที่นี่
แล้ว รู ้ไหมว่าคนที่ถูกเข้ามาในนี้ทุกคนจะได้รับ “การดูแลด้วยความ
รักอย่างอ่อนโยน” จากพวกเรา?” ผูค้ ุมคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับหรี่ ตา
และดึงเอาแส้หนาสองนิ้วที่หอ้ ยอยูท่ ี่สะโพกออกมา
“ช่วงที่ผา่ นมาคุณชายจวินคงพักอยูท่ ี่นี่อย่างสุ ขสบาย แต่วนั ดี ๆ
พวกนั้นจบลงแล้ว แม้วา่ พวกเราไม่ได้ต้ งั ใจให้คุณชายจวินต้อง
ลําบาก แต่กฎในคุกก็เปลี่ยนตามใจเราไม่ได้หรอกนะ คุณชายจวินดู
แส้น้ ีซิขอรับ นักโทษทุกคนที่เข้ามาที่นี่ ไม่มีใครหนีรอดจากเจ้านี่ได้
เลยสักคน แส้น้ ีแข็งแรงทนทานเป็ นพิเศษและยังติดตะขอเอาไว้ดว้ ย
หวดแค่ทีเดียวไม่ใช่แค่เสื้ อผ้าจะขาดนะแต่เนื้อก็ขาดด้วย ข้าสงสัยจัง
ว่าผิวเนียน ๆ ของคุณชายจวินจะทนได้สกั กี่ที?” ผูค้ ุมพูด สี หน้าของ
เขาเปลี่ยนไปทันที เขามองจวินเสี ยอย่างมุ่งร้าย เขาจงใจสะบัดแส้สี
ดําในมือต่อหน้าจวินเสี ย ตะขอที่ยนื่ ออกมาบนแส้เห็นได้อย่าง
ชัดเจน ในแสงเทียนริ บหรี่ สลัว ๆ แบบนี้มนั ดูน่ากลัวกว่าปกติมาก
“คํ่าคืนนี้ยงั อีกยาวนาน คุณชายจวินไม่จาํ เป็ นต้องรี บร้อนไป คืนนี้
เราสองคนจะทําให้คุณชายคุน้ เคยกับเครื่ องมือทรมานที่เรามีอยูใ่ น
คุก พวกเรารับประกันว่าคุณชายจวินจะได้พบกับประสบการณ์ที่ลืม
ไม่ลงเลยทีเดียว!”
ตอนที่ 860 การทรมาน (3)
“เราไม่รู้จริ ง ๆ ว่าร่ างกายผอม ๆ บอบบางของคุณชายจะทนเครื่ อง
ทรมานทั้ง 72 ชุดที่เรามีในคุกนี้ได้รึเปล่า รู ้ไหมว่าคนที่เคยผ่าน
เครื่ องทรมานทั้งหมดที่นี่ต่อให้รอดชีวติ ไปได้กก็ ลายเป็ นพวกสวะ
ใช้การไม่ได้ไปแล้ว มันคงจะน่าอายนะถ้าคุณชายจวินที่มีพลัง
วิญญาณขั้นสู งขนาดนั้นยังไม่รอดน่ะ” ผูค้ ุมที่ถือแส้พดู ขึ้น เขายกแส้
ขึ้นมาและสะบัดมันเสี ยงดัง แส้พงุ่ ฝ่ าอากาศฟาดลงที่พ้นื ข้าง ๆ
จวินอู๋เสี ยอย่างแรง ทิ้งรอยแส้สีขาวไว้ที่พ้นื ห้องขัง
จวินอู๋เสี ยมองสองผูค้ ุมที่ยนื ทําหน้าชัว่ ร้ายด้วยแววตาเย็นชา
เชียวชูที่ยงั ซ่อนตัวอยูใ่ นความมืดเห็นเหตุการณ์ท้ งั หมด ไอ้ผคู ้ ุมสอง
คนนี้กาํ ลังจะทรมานจวินอู๋เสี ยชัด ๆ !
เชียวชูเกือบยั้งตัวเองไว้ไม่ได้และกําลังจะลงไปกระทืบไอ้สารเลว
สองคนนัน่ ให้จมธรณี แต่เขาก็เห็นจวินอู๋เสี ยมองมาทางเขาและแอบ
ส่ ายหน้า
ใจของเชียวชูกระตุกวูบ เขาพยายามอดกลั้นความโกรธที่กาํ ลังจะ
ระเบิดเอาไว้อย่างเต็มที่และซ่อนตัวอยูใ่ นเงามืดต่อไป
ผูค้ ุมสองคนเดินวนรอบตัวจวินอู๋เสี ย ดูเหมือนพยายามจะตัดสิ นใจ
ว่าตรงไหนคือตําแหน่งที่ดีที่สุดในการลงแส้ครั้งแรก ความสงบนิ่ง
ไม่ยนิ ดียนิ ร้ายของจวินเสี ยเริ่ มทําให้พวกเขาเสี ยขวัญ ในขณะที่คน
อื่น ๆ ที่ถูกโยนเข้ามาในคุกนี้จะกรี ดร้อง ร้องไห้ และอ้อนวอนกัน
ทุกคน แต่ผเู ้ ยาว์คนนี้กลับต่างจากคนอื่น ๆ ตั้งแต่วนั แรกที่ถูกจับขัง
เขาก็ไม่เปิ ดปากพูดออกมาเลยสักคําเดียว ทั้ง ๆ ที่ถูกขังคุกเขาก็ไม่ได้
แสดงท่าทีโกรธแค้นหรื อวิตกกังวลออกมาเลยสักนิด
บนใบหน้าอ่อนเยาว์น้ นั พวกเขาเห็นเพียงแค่สีหน้าเย็นชาเหิ นห่าง
เท่านั้น ความเศร้าสร้อยสิ้ นหวังไม่มีอยูใ่ นแววตาของผูเ้ ยาว์คนนั้น
เลย
“คุณชายจวิน บอกหน่อยซิวา่ ข้าควรจะลงแส้ที่กน้ หรื อที่หลังของ
ท่านก่อนดี? วางใจเถอะขอรับ ข้าน้อยรู ้วา่ จะลงแส้ที่ไหนดี ข้าจะไม่
ทําให้ใบหน้าของท่านบาดเจ็บเลยสักนิดเดียว รับรองว่าหลังจาก
เปลี่ยนเสื้ อผ้าแล้วจะไม่มีใครบอกได้เลยว่าท่านถูกทรมาน” ผูค้ ุมพูด
พร้อมกับหัวเราะอย่างชัว่ ร้าย
จวินอู๋เสี ยยืนนิ่งอยูก่ บั ที่โดยไม่ขยับเขยื้อนเลย ดวงตาใสกระจ่างเย็น
ชาของนางเหลือบมองผูค้ ุมทั้งสองแค่แวบเดียว
“ตอนที่เจ้าลงมือกับข้า เจ้าจะต้องเสี ยใจแน่” จู่ ๆ เสี ยงอันเย็นชา
ของจวินอู๋เสี ยก็ดงั ขึ้น
ผูค้ ุมสองคนชะงักไปครู่ หนึ่งแล้วระเบิดเสี ยงหัวเราะออกมาดังลัน่
“คุณชายจวิน ท่านล้อเล่นอะไรเนี่ย? ตลกชะมัด! เสี ยใจเหรอ!? อย่า
ว่าข้าเลยนะที่ไม่ได้เตือนท่านก่อน รู ้ไหมว่าทําไมเราถึงใส่ โซ่ตรวน
ชุดใหม่ให้ท่าน? ข้าจะบอกความจริ งให้รู้นะ โซ่ที่ท่านใส่ อยูต่ อนนี้
เคยใช้ล่ามผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี ฟ้า ถึงท่านจะมีพลังวิญญาณขั้นสี
เขียว แต่จะทําลายโซ่ชุดนี้มนั ก็เกินกําลังท่าน ต่อให้จะพยายามขนาด
ไหนก็ตามที” ผูค้ ุมคนนั้นพูดเย้ยหยัน จะทรมานผูใ้ ช้พลังวิญญาณ
ขั้นสี เขียวทั้งที พวกเขาจะไม่เตรี ยมตัวเลยได้ยงั ไง?
การที่พวกเขากล้าก้าวร้าวแบบนี้กเ็ พราะพวกเขาเชื่อว่าจวินอู๋เสี ยไม่
สามารถตอบโต้ได้เลยแม้แต่นอ้ ย
จวินอู๋เสี ยเชิดคางขึ้นเล็กน้อยและไม่มองผูค้ ุมทั้งสองคนอีก
ผูค้ ุมที่ถือแส้พลันยกมือขึ้น จากนั้นก็ส่งปลายแส้แหวกผ่านอากาศ
ตรงเข้าไปที่หลังของจวินอู๋เสี ย!
เชียวชูที่ซ่อนตัวอยูใ่ นเงามืดใจหายวาบ เขากําหมัดแน่นเพื่อห้าม
ตัวเองไม่ให้โจมตีออกไป
แต่ในเสี้ ยววินาทีน้ นั เอง เงาร่ างอันใหญ่โตก็พลันปรากฏขึ้นในห้อง
ขัง มันคือสัตว์อสู รดุร้ายตัวขนาดมหึ มา และในตอนที่มนั ปรากฏตัว
ขึ้นนั้นเอง มันก็งบั ลงบนแส้ที่พงุ่ ตรงเข้าใส่ ร่างของจวินอู๋เสี ย!
การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของสัตว์อสู รสี ดาํ ทําให้ผคู ้ ุมทั้งสอง
ตัวแข็งทื่อในทันที ผูค้ ุมที่ถือแส้ยงั ไม่ทนั ได้ขยับตัว สัตว์อสู รตัว
มหึ มาที่งบั แส้อยูน่ ้ นั ก็เหวีย่ งเขาไปกระแทกเข้ากับกําแพงหิ นอย่าง
แรงในทันที!
ตอนที่ 861 การทรมาน (4)
ผูค้ ุมคนนั้นกระแทกกับกําแพงอย่างแรง เขาทําได้แค่ร้องคราง
ออกมาคําเดียวก่อนจะรู ้สึกมึนหัวและล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง
หมดสติไปในทันที
“กรร!” สัตว์อสู รสี ดาํ ตัวใหญ่น้ นั ยืนขวางระหว่างจวินอู๋เสี ยกับผูค้ ุม
อีกคน มันกัดแส้ดว้ ยฟันที่แข็งแรงของมันเสี ยงดังกร้วม
เมื่อผูค้ ุมอีกคนเห็นขนาดตัวของสัตว์อสู รสี ดาํ ขาของเขาก็หมดแรง
ทันที เขาทรุ ดตัวลงนัง่ กับพื้นด้วยความกลัว
“ข้าบอกพวกเจ้าแล้ว เจ้าจะต้องเสี ยใจ” พร้อมกับเสี ยงกริ๊ กที่ดงั ขึ้น
สองครั้ง แผ่นเหล็กและโซ่ตรวนที่มือและขาของจวินอู๋เสี ยก็หล่นลง
กระทบพื้น นางหันไปมองคนที่นงั่ อยูบ่ นพื้นอย่างช้า ๆ ใบหน้าของ
ผูค้ ุมคนนั้นซีดขาว
“อะ……” ผูค้ ุมคนนั้นกําลังจะอ้าปากกรี ดร้อง จวินอู๋เสี ยก็พดู ขึ้นว่า
“ถ้าเจ้ากล้าส่ งเสี ยงออกมาอีกล่ะก็ ข้าจะให้เจ้าเหมียวนี่ขยํ้าคอเจ้า”
สัตว์อสู รสี ดาํ ตัวนั้นโชว์เขี้ยวแหลมคมของมันภายใต้แสงเทียนอัน
ริ บหรี่ แสงสะท้อนแวววาวจากเขี้ยวของมันทําให้เย็นวาบไปทั้งสัน
หลัง
ผูค้ ุมคนนั้นกลัวจนเกือบฉี่ ราดกางเกง เขาไม่สามารถทําอะไรได้
นอกจากนัง่ ตัวสัน่ ด้วยความหวาดกลัวและมองไปที่จวินเสี ยด้วยแวว
ตาตกใจ ที่ผคู ้ ุมสองคนนั้นลําพองใจมากขนาดนั้นก็เพราะแน่ใจว่า
จวินเสี ยจะไม่สามารถทําลายโซ่ตรวนอันแข็งแรงพวกนั้นได้ ผูใ้ ช้
พลังวิญญาณขั้นสี เขียวที่ไม่สามารถขยับได้ยอ่ มไม่อาจทําให้พวก
เขากลัวได้ พวกเขาไม่มีอะไรจะต้องกังวล แต่พวกเขาลืมเรื่ องสําคัญ
ไปอย่างหนึ่ง นอกจากพลังวิญญาณอันแข็งแกร่ งของจวินเสี ยแล้ว
ภูติประจําตัวของเขายังไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าใครเลยสักครั้ง!
สัตว์อสู รสี ดาํ ขนาดใหญ่และทรงพลังมาประจันหน้ากับพวกเขาราว
กับเทพแห่งความตาย ทําให้ผคู ้ ุมทั้งสองคนที่ชวั่ ร้ายเจ้าเล่ห์
หวาดกลัวและตกใจจนขยับไม่ได้
โซ่ตรวนชุดใหม่ที่พวกผูค้ ุมเชื่อมัน่ ก็กลายเป็ นของเด็กเล่นในมือ
จวินเสี ย เขาใช้เวลาแค่แปบเดียวก็สามารถทําให้ตวั เองเป็ นอิสระได้
แล้ว
ผูค้ ุมที่ยงั มีสติอยูม่ องไปที่สตั ว์อสู รสี ดาํ ดุร้ายตัวนั้นแล้วก็หนั ไป
มองจวินเสี ยที่เป็ นอิสระแล้ว เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้อีกต่อไป
ร่ างทั้งร่ างสัน่ เทาราวกับลูกหมาตัวน้อยที่กาํ ลังหวาดกลัว ไม่มี
ท่าทางอวดดีอย่างเมื่อครู่ อีกเลย
“เล่ยฟ่ านเป็ นคนสัง่ ให้พวกเจ้ามาทรมานข้าใช่ไหม?” จวินอู๋เสี ยถาม
สายตากวาดมองผูค้ ุมที่กาํ ลังหวาดกลัว
ผูค้ ุมคนนั้นกลัวมากจนฟันกระทบกัน สี หน้ายังคงอยูใ่ นอาการตกใจ
“เจ้าดําน้อย” จวินอู๋เสี ยเรี ยกอย่างหมดความอดทน
สัตว์อสู รสี ดาํ ด้านข้างยกเท้าที่ท้ งั หนาและหนักขึ้นทันที และโจมตี
เข้าที่หน้าอกของผูค้ ุมคนนั้นอย่างแรง!
มันแรงมากจนทําให้ผคู ้ ุมคนนั้นแทบกระอักเลือดออกมา กรงเล็บ
อันแหลมคมของสัตว์อสู รสี ดาํ ตวัดเข้าที่หน้าอกของผูค้ ุมทะลุเสื้ อผ้า
ฉีกเนื้อออกจนเป็ นแผลขนาดใหญ่!
เสี ยงร้องครํ่าครวญดังออกมาจากปากของผูค้ ุมคนนั้นทันที เลือด
ไหลทะลักออกจากบาดแผล มืออันสัน่ เทาของเขายกขึ้นมาไว้
ด้านหน้าหน้าอก แต่เขาไม่กล้าแตะที่บาดแผลลึกนั้น แค่ยกเอาไว้
ห่าง ๆ จากหน้าอก เขาลงคลานกับพื้น ร่ างกายกระตุกเป็ นช่วง ๆ
“เจ้าดําน้อยรู ้วา่ จะต้องโจมตีที่ไหน ข้ารับรองว่าหลังจากเปลี่ยน
เสื้ อผ้าแล้วจะไม่มีใครเห็นบาดแผลบนตัวเจ้าเลย” จวินอู๋เสี ยพูด
พร้อมกับมองผูค้ ุมที่ตอนนี้ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษอย่างเย็น
ชา นางย้อนคําพูดที่พวกผูค้ ุมเคยพูดกับนางเมื่อครู่
“ถ้าเจ้ายังอมพะนําไม่ยอมบอกความจริ งอยูแ่ บบนี้ ก็ไม่มีความ
จําเป็ นที่จะมาบอกทีหลังแล้ว” จวินอู๋เสี ยพูดขึ้นด้วยนํ้าเสี ยงที่เย็นชา
กว่าเดิม
ผูค้ ุมไม่กล้านิ่งเงียบอีกต่อไป เมื่อกี้เขาลังเลแค่แปบเดียวเท่านั้น เด็ก
นี่กใ็ ห้ภูติประจําตัวโจมตีเขาอย่างรุ นแรงทันที ถ้าขืนยังไม่ยอมบอก
ทุกสิ่ งที่รู้ล่ะก็ ผูเ้ ยาว์คนนี้จะต้องฆ่าเขาอย่างแน่นอน!
“เป็ นองค์ชายสี่ ขอรับ! องค์ชายสี่ สงั่ ให้เราทํา! เขาให้พวกเราดูแล
ท่านให้ดี คุณชายจวิน……เราไม่ได้คิดจะสร้างความลําบากให้ท่าน
จริ ง ๆ แต่เมื่อเป็ นคําสัง่ ขององค์ชายสี่ พวกเราก็ไม่มีทางเลือก
นอกจากต้องทําตามคําสัง่ ขอรับ!” เพื่อรักษาชีวติ ตัวเอง ผูค้ ุมคนนั้น
จึงไม่มีทางเลือกนอกจากเล่าถึงคําสัง่ ของเล่ยฟ่ าน
ตอนที่ 862 แขกจากเมืองพันอสู ร (1)
“อย่างที่คิด” จวินอู๋เสี ยหัวเราะอย่างเย็นชา
“คุณชายจวินโปรดไว้ชีวติ ข้าด้วย! เราแค่ทาํ ตามคําสัง่ เท่านั้น!” ผูค้ ุม
คนนั้นคุกเข่าลงอ้อนวอน ไม่สนใจบาดแผลบนร่ างตัวเองแล้ว
“อ้าปาก” จวินอู๋เสี ยพูด
ผูค้ ุมชะงักไป พอเขาชะงักนิ่ง สัตว์อสู รสี ดาํ ก็ส่งเสี ยงคํารามตํ่า ๆ ทํา
ให้ผคู ้ ุมคนนั้นอ้าปากกว้างทันที จวินอู๋เสี ยโยนยาเม็ดหนึ่งเข้าไปใน
ปากของเขาและผูค้ ุมคนนั้นก็กลืนลงไปอย่างตกใจ
“ง้างปากเขา” จวินอู๋เสี ยกวาดตามองไปที่ผคู ้ ุมที่นอนหมดสติอยูบ่ น
พื้น ชายคนนั้นรี บเข้าไปง้างปากเพื่อนทันที จวินอู๋เสี ยโยนยาอีกเม็ด
เข้าไปในปาก
“ถ้ายังอยากมีชีวติ อยู่ ปิ ดปากเงียบเอาไว้ให้ดี อีกสองวันข้าจะเอายา
แก้พิษให้” จวินอู๋เสี ยพูดอย่างเย็นชา
ผูค้ ุมคนนั้นพยักหน้ารัว ๆ
“ไสหัวไป” จวินอู๋เสี ยพูดห้วน ๆ
ผูค้ ุมคนนั้นรี บลากเพื่อนออกไปจากคุกทันที
หลังจากผูค้ ุมทั้งสองคนออกไปแล้ว เชียวชูกก็ ระโดดลงจากขื่อที่
ซ่อนตัวอยู่
“ดูเหมือนว่าข้าจะกังวลไปเปล่า ๆ นะเนี่ย แค่แมลงตัวเล็ก ๆ เจ้า
จัดการได้โดยไม่เปลืองแรงอยูแ่ ล้ว” เชียวชูรู้สึกว่าตัวเองงี่เง่าขึ้นมา
อย่างฉับพลันเมื่อนึกได้วา่ เขาเกือบพุง่ ออกมาโดยไม่สามารถยั้ง
ตัวเองเอาไว้ได้ ถ้าจวินอู๋เสี ยจัดการผูค้ ุมชั้นตํ่าแค่สองคนไม่ได้นี่ซิถึง
จะแปลก
“แต่องค์ชายสี่ นี่โหดร้ายจริ ง ๆ ทําไมเขาถึงอยากทรมานเจ้าล่ะ?”
“เขามาที่นี่เมื่อคืน” จวินอู๋เสี ยตอบ
เชียวชูถึงบางอ้อทันที เข้าใจเลยว่าองค์ชายสี่ จะต้องพยายามชวน
จวินอู๋เสี ยอีกครั้งแน่ และก็คงถูกปฏิเสธไปอย่างไร้เยือ่ ใยอีกรอบ
และนัน่ ทําให้เขาโกรธจนทําให้อยากสัง่ สอนจวินอู๋เสี ย
[น่าสงสาร……]
[เล่นผิดคนซะแล้ว!]
“พอคนจากเมืองพันอสู รมาถึงให้พี่ฮวั่ มาเปลี่ยนตัวกับข้าด้วย” จวินอู๋
เสี ยบอกเชียวชู
“ได้” เชียวชูเริ่ มฉลาดขึ้นแล้ว อะไรที่ไม่เข้าใจเขาตัดสิ นใจที่จะไม่
ถามแต่ทาํ ตามคําสัง่ ไป
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าและมองเชียวชูโดยไม่พดู อะไร เชียวชูรู้ทนั ทีวา่
จะต้องทําอะไร เขาออกไปจากที่นนั่ อย่างรวดเร็ วโดยไม่กล้าชักช้า
สักนาทีเดียว
……………………….
คนจากเมืองพันอสู รเข้าเมืองหลวงมาในเย็นวันรุ่ งขึ้น เมื่อรถม้าที่
ประดับธงของเมืองพันอสู รเข้ามาในเมืองหลวง มันก็ดึงดูดสายตา
คนจํานวนมาก
เมืองพันอสู รไม่ใช่เมืองขึ้นของแคว้น มันเป็ นเมืองอิสระขึ้นต่อ
ตัวเอง ถึงแม้ดินแดนที่ครอบครองจะเทียบกับแคว้นอื่น ๆ ไม่ได้ แต่
ภูมิประเทศนั้นยอดเยีย่ มมาก มีชายแดนติดกับหลายแคว้น เมืองพัน
อสู รยืนอยูโ่ ดดเดี่ยวโดยไม่ถูกรังควานจากกองกําลังชายแดนของ
ใครเลย เหตุผลนั้นไม่ใช่แค่เพราะเมืองนี้เคยมีผใู ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี
ม่วงถึงสองคนหรอก แต่ยงั เป็ นเพราะว่าเมืองพันอสู รนั้นมีความ
พิเศษอยูอ่ ย่างหนึ่ง
เมืองพันอสู รตั้งอยูบ่ นยอดเขาที่ลอ้ มรอบด้วยป่ าทึบ ทุกเส้นทางจาก
ตีนเขาจนถึงยอดเขานั้นมีสตั ว์อสู รวิญญาณอยูท่ ุกหนทุกแห่ง สัตว์
อสู รวิญญาณพวกนั้นไม่เคยโจมตีคนจากเมืองพันอสู รเนื่องจากเจ้า
เมืองพันอสู รครอบครองขลุ่ยกระดูกควบคุมวิญญาณ มีข่าวลือว่า
ขลุ่ยกระดูกนั้นสามารถควบคุมพลังของสัตว์อสู รวิญญาณได้ และ
เสี ยงขลุ่ยนั้นสามารถกําราบสัตว์อสู รวิญญาณหลายหมื่นตัวให้เชื่อ
ฟังคําสัง่ ได้ นัน่ คือที่มาของชื่อเสี ยงของเมืองพันอสู ร
แม้แต่แคว้นหยานที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดก็ยงั ไม่คิดที่จะหาเรื่ องเมืองพันอสู ร
ถึงแม้มนั จะเป็ นแค่เมืองเล็ก ๆ เมืองเดียว แต่สตั ว์อสู รวิญญาณ
จํานวนนับไม่ถว้ นนัน่ ก็เป็ นโล่ที่แข็งแกร่ งที่สุดของเมืองพันอสู ร
กองกําลังทหารนั้นสามารถเอาชนะได้ แต่สตั ว์อสู รวิญญาณนั้นมี
จํานวนมหาศาลเกินไป ตราบใดที่ขลุ่ยกระดูกควบคุมวิญญาณยังอยู่
ในความครอบครองของเมืองพันอสูร ก็ไม่มีใครกล้ามีเรื่ องกับเมือง
พันอสู รเลยแม้แต่นอ้ ย
เมืองพันอสู รอยูไ่ ม่ไกลจากแคว้นหยาน สองขั้วอํานาจนี้มี
ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอมา แต่คนจากเมืองพันอสู รแทบจะไม่
ออกมาจากเมืองเลย เมื่อจู่ ๆ รถม้าของพวกเขาปรากฏขึ้นในเมือง
หลวงของแคว้นหยานจึงทําให้ทุกคนนึกขึ้นได้ทนั ทีถึงเหตุการณ์ที่
ทําให้คุณหนูของเมืองพันอสู รได้รับบาดเจ็บสาหัส
ตอนที่ 863 แขกจากเมืองพันอสู ร (2)
รถม้าของเมืองพันอสู รหยุดลงตรงหน้าโรงเตี๊ยมที่พกั ของสํานัก
ศึกษาธงศึก เจียงหยิงหลงได้ข่าวทันทีจึงรี บออกมาต้อนรับ
ชายที่ดูโดดเด่นสามคนก้าวออกจากรถม้า หนึ่งในนั้นอายุประมาณ
35 ปี ใบหน้าของเขาดูดุดนั แข็งแกร่ ง เป็ นชายที่ดูน่าเกรงขาม อีกคน
หนึ่งนั้นอายุนอ้ ยกว่า ดูเหมือนประมาณ 24-25 ปี แต่ในสามคนนี้
คนที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดก็คือชายชราที่มีเส้นผมสี ขาวทั้งหัว
แม้วา่ ใบหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยริ้ วรอยเหี่ ยวย่น แต่ดวงตาคู่น้ นั ดู
เหมือนเด็กหนุ่ม
ในสามคนนั้น ชายวัยกลางคนดูเหมือนจะเป็ นหัวหน้า แต่มนั ก็ดูออก
ได้ไม่ยากว่าไม่วา่ จะเป็ นชายวัยกลางคนหรื อชายหนุ่ม ท่าทางของ
พวกเขาต่อชายชราคนนั้นก็เต็มไปด้วยความเคารพอย่างมาก
“น่าตกใจจริ ง ๆ! เป็ นท่านหัวหน้าตึกเซี ยงนี่เอง! ขอท่านโปรดอภัยที่
ข้าออกมาต้อนรับช้าด้วยเถอะ!” เจียงหยิงหลงใจเต้นผิดจังหวะเมื่อ
เห็นชายวัยกลางคนคนนั้น
เมืองพันอสู รปกครองด้วยเจ้าเมือง ลําดับขั้นตํ่าลงมาคือหัวหน้าตึก
ทั้งสี่ ที่ควบคุมดูแลทุกซอกทุกมุมของเมืองพันอสู ร และชายตรงหน้า
เจียงหยิงหลงก็คือหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธ เซี ยงป้า!
สถานะของหัวหน้าตึกทั้งสี่ ในเมืองพันอสู รเป็ นรองเพียงแค่เจ้าเมือง
เท่านั้น เจียงหยิงหลงไม่คิดว่ากลุ่มคนที่มายังเมืองหลวงจะมีหวั หน้า
ตึกมาด้วย! เห็นได้ชดั เลยว่าเมืองพันอสู รโกรธมากจริ ง ๆ และพวก
เขาเอาจริ งมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งคนที่มีตาํ แหน่งสู งอย่างหัวหน้า
ตึกเซียงป้ามา!
เซียงป้าเป็ นคนที่เหมือนกับชื่อของเขา ตรงเหมือนลูกธนู เด็ดขาด
และแข็งกร้าว ในหมู่หวั หน้าตึกทั้งสี่ เขาเป็ นคนที่หุนหันพลันแล่น
ที่สุดและพูดคุยด้วยได้ยากที่สุด ทันทีที่เห็นเซียงป้า เจียงหยิงหลงก็
เริ่ มเหงื่อแตกทันที
เซียงป้าจ้องเจียงหยิงหลงหน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วเสี ยงทุม้ ลึกของเขาก็
ดังขึ้น
“ข้าได้ข่าวว่าคุณหนูของเราบาดเจ็บงั้นรึ ? อาการของนางตอนนี้เป็ น
ยังไงบ้าง?”
เจียงหยิงหลงใจหายวาบ เขาตอบทันทีวา่ “เรื่ องนั้น……ข้าอยากเชิญ
ท่านหัวหน้าตึกเข้าไปข้างในก่อนแล้วข้าจะค่อย ๆ เล่าให้ท่านฟัง”
เซียงป้าพูดเสี ยงดังลัน่ ขึ้นอีกครั้ง “ไม่ตอ้ งมาอ้อมค้อมไร้สาระ!
เหตุผลที่ขา้ มาที่นี่วนั นี้เพื่อให้แน่ใจว่าคุณหนูจะปลอดภัยเท่านั้น ไม่
ต้องคุยเรื่ องอื่นกับข้า บอกมาแค่วา่ อาการของคุณหนูเรายังสาหัสอยู่
หรื อดีข้ ึนแล้ว!”
ในฐานะอาจารย์ของสํานักศึกษาธงศึก เขาไม่เคยถูกดูแคลนและ
ตําหนิอย่างหนักเช่นที่โดนอยูใ่ นตอนนี้ คําพูดของเซียงป้าไม่ได้
แสดงถึงความเคารพหรื อเหลือพื้นที่ให้เขาถอยอย่างสง่างามเลย แต่
เขาก็รู้วา่ เขาไม่สามารถขัดแย้งกับเซี ยงป้าได้ ดังนั้นเขาจึงทําได้แค่
พูดแหย ๆ ว่า “อาการของหลิงเย่ไม่ดีข้ ึนเลย องค์จกั รพรรดิแห่ง
แคว้นหยานรวบรวมหมอที่มีชื่อเสี ยงที่สุดทั้งหมดที่นี่มาให้แล้ว
แม้แต่หมอหลวงในวังก็ถูกส่ งมาที่นี่ดว้ ย แต่อาการบาดเจ็บของ
หลิงเย่ร้ายแรงมาก พวกเราทุกคนหมดหนทางกันแล้ว”
ดวงตาของเซียงป้าเบิกกว้าง แววตาดุดนั เขาขยุม้ เสื้ อด้านหน้าของ
เจียงหยิงหลงแล้วพูดว่า “ตอนที่เราทิ้งคุณหนูของเราไว้ที่สาํ นักธง
ศึก นางยังแข็งแรงดี ตอนแรกนางไม่อยากเข้าร่ วมศึกประลอง
วิญญาณปี นี้ดว้ ยซํ้า แต่อาจารย์ใหญ่ของเจ้าก็ส่งคําเชิญไปให้เราครั้ง
แล้วครั้งเล่า ทําให้ท่านเจ้าเมืองต้องจําใจตกลง แต่แล้วเจ้ากลับปล่อย
ให้นางโดนทําร้ายในการประลอง! คุณหนูได้รับบาดเจ็บตั้งหลายวัน
แล้ว แล้วเจ้าสวะทั้งกลุ่มนี่ยงั รักษานางไม่ได้อีก! เจ้ามัน……”
เซียงป้าโกรธจัดจนดวงตาแดงกํ่า เขาตะโกนออกมาอย่างเกรี้ ยวกราด
ชายหนุ่มด้านหลังเห็นว่าเซียงป้าเกือบจะฉี กเจียงหยิงหลงออกเป็ น
ชิ้น ๆ อยูแ่ ล้ว เขาจึงรี บก้าวออกมาพูดว่า “หัวหน้าตึกเซียง! ปล่อย
อาจารย์เจียงก่อนเถอะ! เราควรไปดูอาการของคุณหนูก่อนเป็ นอย่าง
แรกนะ! ในเมื่อเรื่ องมันเกิดขึ้นแล้ว ถ้าท่านยังเสี ยเวลาอยูท่ ี่นี่กไ็ ม่ทาํ
ให้สถานการณ์ดีข้ ึนหรอก เราให้ผอู ้ าวุโสเฟิ งไปดูอาการของคุณหนู
ก่อนไม่ดีกว่าหรื อ?”
เซี ยงป้าขมวดคิ้วคิดอยูแ่ ปบนึง ในที่สุดเขาก็พน่ ลมออกมาทางจมูก
อย่างดูถูกแล้วปล่อยมือ “ในเมื่อคนจากแคว้นหยานและสํานักศึกษา
ธงศึกไร้ความสามารถ งั้นก็ให้เมืองพันอสู รจัดการเรื่ องนี้เองแล้ว
กัน!”
ตอนที่ 864 แขกจากเมืองพันอสู ร (3)
เขาเตรี ยมจะเชิญแขกเข้าข้างในก็มีรถม้าที่ดูคุน้ ๆ วิง่ มาหยุดอยูห่ น้า
ประตู
เล่ยเฉินก้าวออกมาจากรถม้าและที่ตามหลังลงมาก็คือจวินอู๋เสี ย เมื่อ
ชายหนุ่มจากเมืองพันอสู รได้เห็นใบหน้าของจวินอู๋เสี ย เขาก็ทาํ
ตาโตโดยไม่รู้ตวั
“องค์รัชทายาท…” เจียงหยิงหลงมองเล่ยเฉิ นที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นด้วย
สายตาแปลก ๆ เมื่อเขามองไปยังจวินอู๋เสี ย เขาก็ขมวดคิ้วหน้าบึ้ง
“อาจารย์เจียง” เล่ยเฉินพยักหน้าให้เจียงหยิงหลง จากนั้นก็ดูเหมือน
จะสังเกตเห็นรถม้าของเมืองพันอสู รจอดอยู่ เขาจึงหันไปมองที่หน้า
ประตูและเห็นร่ างอันใหญ่โตสู งตระหง่านของเซียงป้ายืนอยูท่ ี่นนั่
“นี่ใช่หวั หน้าตึกของเมืองพันอสู ร ท่านเซี ยงป้าแห่งตึกเพลิงพิโรธรึ
เปล่า?” เล่ยเฉินถามขึ้นอย่างประหลาดใจ
เซียงป้าอาจจะเกรี้ ยวกราด แต่เขาก็ไม่ได้โง่ เมื่อได้ยนิ เจียงหยิงหลง
เรี ยกคนที่เพิ่งมาถึงว่า “องค์รัชทายาท” เขาก็รู้ถึงตัวตนของอีกฝ่ าย
ทันที แต่เนื่องจากฉูหลิงเย่ได้รับบาดเจ็บในเมืองหลวงของแคว้น
หยาน เซียงป้าจึงไม่อยากมีมารยาทกับเล่ยเฉิ นนัก
“กระหม่อมเอง” เซียงป้าตอบห้วน ๆ
“ท่านหัวหน้าตึกเซียงเดินทางมาไกลและยังเป็ นแขกคนสําคัญของ
แคว้นหยาน ข้าคิดว่าท่านหัวหน้าตึกเซียงคงร้อนใจอยากไปดูอาการ
ของหลิงเย่แล้ว งั้นข้าก็จะไม่พดู อะไรให้ท่านหัวหน้าตึกต้องล่าช้า
ไปอีก ข้ามาที่นี่ดว้ ยจุดประสงค์เดียวกับท่านหัวหน้าตึกเซียง
เพราะฉะนั้นเราเข้าไปข้างในด้วยกันเถอะ” เล่ยเฉินพูดด้วยรอยยิม้
ท่าทางของเขาอ่อนโยนและสุ ภาพ ใบหน้าประดับด้วยรอยยิม้ แสดง
ความเป็ นมิตร ใครเล่าจะไม่พอใจ
เซียงป้าร้อนใจอยากจะเข้าไปดูฉูหยิงเย่ เขาพยักหน้าโดยเร็ ว
เจียงหยิงหลงทําหน้าบึ้งขณะที่มองจวินอู๋เสี ยที่อยูด่ า้ นหลังเล่ยเฉิ น ดู
เหมือนเขากําลังจะพูดอะไรออกมาแต่สุดท้ายก็ตดั สิ นใจไม่พดู และ
หันหลังนําทุกคนตรงไปที่หอ้ งของฉูหลิงเย่
ในห้องของฉูหลิงเย่ หมอหลวงหลี่กาํ ลังนัง่ คุยกับหมอคนอื่น ๆ ดู
เหมือนเขาพูดบางอย่างที่น่าสนใจและหมอคนอื่น ๆ ก็หวั เราะ
ออกมา ไม่มีใครสังเกตเห็นสักนิดว่าประตูถูกผลักเปิ ดออก พวกเขา
ยังคุยกันต่อเบา ๆ
“พวกนี้คือหมอที่แคว้นหยานหามาให้ดูแลคุณหนูของเรางั้นรึ ?”
ทันทีที่เซียงป้าเข้ามาในห้อง เขาก็ได้เห็นภาพนั้นพอดี ความโกรธ
ปะทุข้ ึนมาในอกเขาทันที
ใบหน้าของเจียงหยิงหลงแข็งทื่อ เขาไม่รู้จะตอบอย่างไรดี ไม่คิดเลย
ว่าเซียงป้าจะเข้ามาเห็นภาพแบบนี้
หมอหลวงหลี่ที่กาํ ลังคุยกับคนอื่น ๆ เกิดสังเกตเห็นเซียงป้าและกลุ่ม
คนด้านหลัง เขาไม่ทนั ได้สงั เกตรู ปร่ างหน้าตาของเซียงป้ากับคน
ของเขาก็พลันมองเห็นจวินอู๋เสี ยเข้าซะก่อน เขาลุกพรวดขึ้นทันที
และพูดด้วยสี หน้าเครี ยดขึ้งว่า “ยัยเด็กโง่อวดดีน้ ีมาทําอะไรที่นี่? เจ้า
ยังสร้างเรื่ องไม่พออีกเรอะ?!”
จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้วและมองไปที่หมอหลวงหลี่
หมอหลวงหลี่กาํ ลังจะพูดอย่างอื่นต่อ ทันใดนั้นเซียงป้าที่ถูกเมินก็
ระเบิดขึ้น!
“มีหมออยูเ่ ต็มห้อง แต่กลับทิ้งคุณหนูเราให้นอนอยูค่ นเดียว ส่ วนตัว
เองมาจับกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนานเนี่ยนะ!? นี่มนั เรื่ องบ้าอะไร!?”
เซียงป้าตะโกนเสี ยงดังพลางจ้องมองหมอหลวงหลี่ดว้ ยความโกรธ
หมอหลวงหลี่ที่ถูกตะโกนใส่ ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ ว ในที่สุดเขา
ก็รู้ตวั ว่านอกจากเล่ยเฉินและจวินอู๋เสี ย ยังมีคนแปลกหน้าอีกสามคน
มาด้วย
ชายหนุ่มที่ตามหลังเซียงป้ามาเลิกคิ้วขึ้น แต่ไม่ได้ระเบิดลงเหมือน
เซียงป้า เขาเดินไปที่เตียงทันทีและมองฉูหลิงเย่ที่ดูเปราะบางและ
ใบหน้าซีดขาว
“คุณหนู! เกิดอะไรขึ้นกับท่าน คุณหนู!” ชายหนุ่มคนนั้นมีสีหน้า
เสี ยใจ เขามองฉูหลิงเย่ที่ไม่ได้สติและไม่ตอบสนองเสี ยงเรี ยกของ
เขา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
ตอนที่ 865 แขกจากเมืองพันอสู ร (4)
เซียงป้าไม่อยูใ่ นอารมณ์จะมาด่าว่าหมอหลวงหลี่ เขาพุง่ ไปที่ขา้ ง
เตียงของฉูหลิงเย่ทนั ที เมื่อเห็นใบหน้าเล็ก ๆ ที่คุน้ เคยนั้นดู
เปราะบางและอ่อนแอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวด
หัวหน้าตึกทุกคนเฝ้าดูฉูหลิงเย่เติบโตขึ้นมาเป็ นเด็กสาวที่น่ารักมา
ตลอด ตอนที่เจ้าเมืองยุง่ กับงานของเมือง ฉูหลิงเย่นอ้ ยก็มกั จะอยูใ่ น
ความดูแลของหัวหน้าตึก แม้วา่ นางจะมีสถานะสู งกว่าพวกเขา แต่
พวกเขาก็ปฏิบตั ิกบั ฉูหลิงเย่เหมือนคนในครอบครัว เมื่อเห็นฉูหลิง
เย่อยูใ่ นสภาพนอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนอยูบ่ นเตียง นอกจากเซียงป้าจะ
รู ้สึกเจ็บปวดใจแล้ว ความไม่พอใจคนของสํานักศึกษาธงศึกและ
แคว้นหยานก็ข้ ึนไปจนเกือบถึงจุดเดือด
“เจียงหยิงหลง! เราส่ งคุณหนูของเราให้สาํ นักธงศึกดูแล แล้วนี่คือสิ่ ง
ที่เจ้าทํากับนางเรอะ!? คุณหนูของเราไม่เคยได้รับบาดเจ็บสาหัส
ขนาดนี้มาก่อน นางไม่ได้สติมาหลายวันแล้วด้วย! ข้าหวังว่าสํานัก
ศึกษาธงศึกจะมีคาํ อธิบายที่ดีนะ” เซียงป้าพูดด้วยความโกรธ
ใบหน้าของเจียงหยิงหลงขมขื่น เขารี บอธิบายว่า “ท่านหัวหน้า
ตึกเซียงใจเย็น ๆ ก่อนขอรับ เหตุการณ์น้ ีเป็ นอุบตั ิเหตุจริ ง ๆ ไม่ใช่
สิ่ งที่เราป้องกันได้เลยนะขอรับ กฎของศึกประลองวิญญาณก็แค่ให้
เอาชนะคู่ต่อสู เ้ ท่านั้น ใครจะรู ้วา่ ศิษย์จากวายุประจิมจะโจมตีใส่
คู่แข่งอย่างโหดร้ายแบบนั้น! พวกเราก็เจ็บปวดเหมือนท่านนะขอรับ
ที่เห็นนางตกอยูใ่ นสภาพนี้”
ด้วยความกลัวว่าความโกรธของเมืองพันอสู รจะมาลงที่สาํ นักศึกษา
ธงศึก เจียงหยิงหลงจึงโยนความผิดไปที่จวินเสี ยในทันที
“ใครทําร้ายคุณหนูของเรานะ!?” เซียงป้าตะโกนถาม
เจียงหยิงหลงรี บตอบว่า “ศิษย์ของสํานักศึกษาวายุประจิมชื่อจวิน
เสี ยขอรับ”
“สํานักศึกษาวายุประจิม?” ชายหนุ่มจากเมืองพันอสู รเลิกคิ้วขึ้น
“ไม่ใช่วา่ สถานการณ์ของวายุประจิมปี นี้แตกต่างไปแล้วเหรอ? พวก
เขายังสามารถหาคนในสํานักที่สามารถเอาชนะคุณหนูของเราได้อีก
เหรอ?”
ถึงแม้ฉูหลิงเย่จะอายุนอ้ ยอยู่ แต่นางก็ได้เป็ นถึงอันดับสู งสุ ดในศึก
ประลองวิญญาณของสํานัก ในสามสุ ดยอดสํานักนั้น คนที่สามารถ
ต่อสู ก้ บั ฉูหลิงเย่ได้อย่างสู สีมีอยูไ่ ม่กี่คน และยิง่ คนที่สามารถ
เอาชนะนางได้น้ นั ยิง่ หายากเข้าไปใหญ่
ข่าวเรื่ องภาวะตกตํ่าของสํานักศึกษาวายุประจิมนั้นแพร่ กระจายไป
ไกล จึงยากที่จะเชื่อว่าสํานักศึกษาวายุประจิมที่อยูใ่ นสภาพนั้นจะยัง
สามารถส่ งคนที่สามารถเอาชนะฉูหลิงเย่ได้อีก
“สิ่ งที่ขา้ พูดอาจจะฟังดูเหลือเชื่อ แต่ถา้ พวกท่านไปถามคนในเมือง
หลวงแคว้นหยาน ท่านก็จะพบว่าสิ่ งที่ขา้ พูดเป็ นความจริ ง! สํานัก
ศึกษาวายุประจิมส่ งคนเข้าร่ วมการแข่งขันในปี นี้แค่ 6 คนเท่านั้น
และทั้ง 6 คนนั้นต่างมีพลังในระดับที่น่าตกใจ! 5 คนในนั้นมีพลัง
วิญญาณถึงขั้นสี ฟ้าแล้ว ทุกคนอายุแค่ 16-17 ปี เท่านั้น! ส่ วนคนที่ทาํ
ร้ายฉูหลิงเย่คือจวินเสี ย คนที่เด็กที่สุดในพวกนั้น ถึงแม้เขาจะอายุแค่
15 ปี แต่พลังวิญญาณของเขาก็ข้ ึนไปถึงขั้นสี เขียวแล้ว!”
ตอนที่ได้ยนิ คําพูดของเจียงหยิงหลง ทั้งชายหนุ่มและเซียงป้าต่างทํา
สี หน้าเหลือเชื่ออย่างที่สุด พวกเขาใช้เวลาหลายปี ในการบ่มเพาะ
พลัง ย่อมรู ้ดีวา่ มันยากเย็นแค่ไหนที่จะทําให้พลังวิญญาณก้าวหน้า
ไปได้ ไม่ตอ้ งพูดถึงเลยว่าผูเ้ ยาว์จากวายุประจิมพวกนั้นอายุเท่าไร
ต่อให้อายุมากกว่านี้สกั สองสามเท่า มันก็ยงั ยากที่จะบรรลุถึงขั้นนั้น
อยูด่ ี
“เป็ นความจริ งหรื อ?” ชายหนุ่มคนนั้นถามอย่างตกใจ
เจียงหยิงหลงพยักหน้า “จริ งขอรับ ข้าไม่กล้าหลอกลวงพวกท่าน
หรอก ถ้าท่านหัวหน้าตึกเซี ยงไม่เชื่อข้า ก็ไปถามใครก็ได้ในเมือง
หลวงดูเลยขอรับ แล้วท่านจะรู ้วา่ ที่ขา้ พูดน่ะเป็ นความจริ ง”
เซียงป้าและชายหนุ่มคนนั้นสบตากัน แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วย
ความตกใจและประหลาดใจ
อายุเพียงเท่านั้นมีพลังวิญญาณถึงขั้นนั้นแล้ว เรื่ องนี้มนั เกินกว่าที่
พวกเขาเคยรับรู ้มาทั้งชีวติ เกี่ยวกับการบ่มเพาะพลังวิญญาณ ทัว่
แผ่นดินนี้ต้ งั แต่โบราณมามีกี่คนกันที่สามารถบรรลุถึงระดับขั้นที่น่า
ตกใจขนาดนี้ได้ต้ งั แต่อายุเพียงเท่านี้?
ตอนที่ 866 แขกจากเมืองพันอสู ร (5)
“เป็ นผูใ้ ช้พลังขั้นสี เขียวแล้วยังไง? ใครจะสนว่ามันคิดว่าตัวมันเป็ น
ใคร!? กล้ามาทําร้ายคุณหนูของเราเช่นนี้ เมืองพันอสู รไม่ปล่อยมัน
ไปง่าย ๆ แน่!” เซียงป้าพูดขึ้น
เจียงหยิงหลงลอบถอนใจอย่างโล่งอกและพูดขึ้นว่า “ถูกต้องขอรับ
เจ้าจวินเสี ยนัน่ จบไม่สวยแน่ แต่สิ่งที่สาํ คัญที่สุดตอนนี้กค็ ือรักษา
อาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่ก่อน”
เซียงป้าพยักหน้า สายตากวาดมองไปยังคนที่เมื่อครู่ คุยอยูก่ บั หมอ
คนอื่น ๆ อย่างสนุกสนาน หมอหลวงหลี่
“หมอของแคว้นหยานไร้ความสามารถ เราไม่คาดหวังอะไรจากพวก
เขานักหรอก เมืองพันอสู รจะใช้หมอของเราเอง” พูดจบเซียงป้าก็
หันไปทางชายชราผมขาวข้าง ๆ เขาและพูดอย่างเคารพนบนอบว่า
“ท่านผูอ้ าวุโสเฟิ งโปรดช่วยคุณหนูของเราด้วยเถอะขอรับ”
ชายชราพยักหน้า “นัน่ เป็ นจุดประสงค์ในการมาที่นี่ของชายแก่คนนี้
อยูแ่ ล้ว หัวหน้าตึกเซียงวางใจเถอะ ข้าจะทําทุกอย่างที่สามารถทําได้”
หมอหลวงหลี่มองชายชราคนนั้น ในใจเต็มไปด้วยความระแวง เมื่อ
เซียงป้าเรี ยกชายชราคนนั้นว่าผูอ้ าวุโสเฟิ ง คําพูดคัดค้านที่จ่อรออยูท่ ี่
ปลายลิ้นของหมอหลวงหลี่กถ็ ูกกลืนกลับลงไปในคอทันที
ในช่วงเวลาปัจจุบนั นี้หมอที่มีชื่อเสี ยงที่สุดทัว่ ทั้งโลกนั้น นอกจาก
ตระกูลชิงอวิน๋ ที่จู่ ๆ ก็ระเหยหายไปในอากาศแล้ว ยังมีหมอ
มหัศจรรย์อยูอ่ ีกหยิบมือหนึ่งกระจายกันไป คนพวกนี้ใช้ชีวติ ยังกับ
พวกฤาษี อาศัยอยูต่ ามป่ าเขาลึก ๆ เป็ นเวลานานหลายปี แทบจะไม่
ปรากฏตัวต่อหน้าผูค้ น แต่ผคู ้ นก็ไม่เคยลืมเลือนความสามารถ
ทางด้านการแพทย์อนั มหัศจรรย์ของพวกเขา แม้วา่ พวกเขาจะเทียบ
กับตระกูลชิงอวิน๋ ในด้านการปรุ งยาไม่ได้ แต่ความรู ้และ
ความสามารถในการรักษาของพวกเขาก็ทิ้งห่างพวกหมอมืออาชีพ
ไปไกลจนไม่เห็นฝุ่ น
และในจํานวนนี้ มีคนที่ถูกยกย่องให้เป็ นหมอเทวดาอยูส่ ามคน หนึ่ง
ในนั้นชื่อว่าเฟิ งเย่หยาง ว่ากันว่าเขาเริ่ มอ่านตําราแพทย์ต้ งั แต่ยงั เด็ก
มาก ๆ และมีชื่อเสี ยงมาตั้งแต่ยงั เป็ นเพียงผูเ้ ยาว์เท่านั้น สุ ดท้ายเมื่อ
อายุมากขึ้นเขาก็เร้นตัวเข้าไปอยูใ่ นภูเขา แต่เมื่อไม่กี่ปีที่แล้วนี่เอง มี
คนที่อา้ งว่าเป็ นหนึ่งในสามหมอเทวดาเข้าร่ วมกับเมืองพันอสูรและ
กลายเป็ นหมอประจําเมืองพันอสู ร
หมอหลวงหลี่น้ นั มักจะหยิง่ ยโสอยูเ่ สมอ แต่เมื่ออยูต่ ่อหน้าเฟิ งเย่
หยาง เขาก็ไม่กล้าแสดงทีท่าอวดดีไม่เคารพออกมาเลยแม้แต่นอ้ ย
“ข้าเพิง่ รู ้วา่ เป็ นท่านผูอ้ าวุโสเฟิ งนี่เองที่อยูต่ ่อหน้าข้า ผูน้ อ้ ยได้ยนิ
ชื่อเสี ยงด้านการแพทย์อนั มหัศจรรย์ของท่านมานาน โชคดีเหลือเกิน
ที่ได้พบท่านในวันนี้ เป็ นเกียรติของผูน้ อ้ ยยิง่ นัก” หมอหลวงหลี่
สุ ภาพขึ้นมาทันที เขาโค้งตัวลงตํ่าเพื่อทําการคารวะต่อเฟิ งเย่หยาง
เฟิ งเย่หยางชําเลืองมองเขาแล้วพยักหน้า จากนั้นก็เดินไปที่ขา้ งเตียง
ของฉูหลิงเย่เพื่อจับชีพจรของนาง ทันใดนั้นทั้งห้องก็พากันเงียบ
กริ บ ไม่มีใครกล้ารบกวนเฟิ งเย่หยางขณะที่ทาํ การตรวจรักษา หมอ
หลวงหลี่ลอบมองไปที่จวินอู๋เสี ยที่ยนื อยูด่ า้ นหลังเล่ยเฉิ น รอยยิม้ เย็น
ชาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
สี หน้านั้นดูเหมือนจะบอกว่าเจ้าหนูนอ้ ยอย่าได้หวังจะเทียบเคียงกับ
หมอเทวดาเฟิ งเย่หยางเลย
ครู่ ต่อมา เฟิ งเย่หยางก็ขมวดคิ้ว เขาหันไปเผชิญหน้ากับทุก ๆ คน
เซียงป้าทั้งร้อนใจทั้งกังวล เขาถามขึ้นว่า “ท่านผูอ้ าวุโสเฟิ ง คุณหนู
ของเราบาดเจ็บตรงไหนหรื อ? อาการหนักไหม? ท่านผูอ้ าวุโสเฟิ งจะ
สามารถ……”
เฟิ งเย่หยางยกมือขึ้นเพื่อหยุดคําถามแบบรัวไม่หยุดของเซียงป้า
“หัวหน้าตึกเซียง อย่าเพิ่งรี บร้อน ข้าแน่ใจในอาการของคุณหนูแล้ว
ตอนนี้ขา้ ต้องถามหมอคนอื่น ๆ ก่อน ขอให้หวั หน้าตึกเซียงใจเย็นลง
ก่อนเถอะ”
เซียงป้าทําอะไรไม่ได้นอกจากถอยไปยืนด้านข้างแบบเงียบ ๆ
สายตายังเต็มไปด้วยความกระวนกระวายและวิตกกังวล
“ในช่วงที่ผา่ นมานี้ พวกท่านทุกคนเป็ นคนรักษาคุณหนูของเราใช่
ไหม?” เฟิ งเย่หยางถามขึ้น มองตรงไปที่หมอหลวงหลี่กบั หมอคน
อื่น ๆ
หมอทั้งกลุ่มพยักหน้าอย่างรวดเร็ ว พวกเขาทุกคนได้ยนิ ชื่อของเฟิ ง
เย่หยางมานาน แม้วา่ พวกเขาจะเป็ นหมอที่มีชื่อเสี ยง แต่เมื่อ
เผชิญหน้ากับเฟิ งเย่หยาง พวกเขาก็ทาํ ได้แค่ยอมทําตามเขาอย่างเชื่อ
ฟัง
“ท่านเอายากับสมุนไพรทั้งหมดที่ให้กบั คุณหนูของเราในช่วงที่ผา่ น
มานี้มาให้ชายแก่คนนี้ดูสกั หน่อยได้หรื อไม่?” เฟิ งเย่หยางถามเบา ๆ
“ได้ขอรับ! ผูอ้ าวุโสเฟิ งโปรดรอที่นี่สกั ครู่ พวกเราจะไปเอามา
เดี๋ยวนี้” พวกหมอทั้งหลายรี บวิง่ ออกไปอย่างรวดเร็ ว ครู่ ต่อมาก็
กลับมาพร้อมยาและสมุนไพรทั้งหมดที่พวกเขาได้ให้กบั ฉูหลิงเย่ไป
ในช่วงไม่กี่วนั ที่ผา่ นมา
ตอนที่ 867 แขกจากเมืองพันอสู ร (6)
เฟิ งเย่หยางแกะถุงสมุนไพรออกและตรวจสอบสมุนไพรที่ใช้อย่าง
ละเอียดถี่ถว้ น จากนั้นก็ตรวจสอบยาอย่างละเอียดก่อนจะวางพวก
มันลง
“เป็ นยังไงบ้างขอรับ? พวกเขาเอายาผิดให้รึเปล่า? ถ้าไม่ใช่ ทําไม
คุณหนูของเราถึงยังไม่ฟ้ื น?” เซียงป้าถามขึ้นอย่างร้อนใจ หลังจาก
เห็นหมอหลวงหลี่คุยกับหมอคนอื่น ๆ อย่างสนุกสนานตอนที่เขา
ก้าวเข้ามาในห้องครั้งแรก เขาก็ไม่เชื่อถือพวกหมอกํามะลอกลุ่มนี้
อีกต่อไป
หมอหลวงหลี่ทนหุบปากเงียบอยูไ่ ม่ได้อีกต่อไป “หัวหน้าตึกเซี ยง
ถึงแม้พวกเราจะไม่เก่งหรื อไม่มีความรู ้เท่าผูอ้ าวุโสเฟิ ง แต่เราก็เป็ น
หมอที่มีความรับผิดชอบ แม่นางฉูเป็ นคนพิเศษ พวกเราจะกล้าเสี่ ยง
ให้ยาอะไรก็ได้ที่อาจจะไม่เหมาะกับอาการของนางได้อย่างไร?”
เซียงป้าส่ งเสี ยงฮึออกมาอย่างดูถูก
เฟิ งเย่หยางส่ ายหน้าแล้วพูดว่า “หัวหน้าตึกเซี ยงกังวลเกินไป ยาที่
หมอที่นี่ให้คุณหนูของเราไม่มีตวั ไหนไม่เหมาะกับอาการของนาง
เห็นได้จากฤทธิ์ยาอ่อน ๆ นี่วา่ พวกเขาระมัดระวังมาก แต่อาการ
บาดเจ็บของคุณหนูน้ นั สาหัสมาก ทั้งยังซับซ้อนนัก การให้ยาที่มี
ฤทธิ์รุนแรงกับคุณหนูโดยไม่มนั่ ใจถึงผลที่ตามมาจะสร้างภาระหนัก
ให้กบั ร่ างกายของคุณหนูมากยิง่ ขึ้นเท่านั้น”
คําพูดของเฟิ งเย่หยางทําให้หมอหลวงหลี่สงบลง ใบหน้าของเขามี
เลือดฝาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
แต่คาํ พูดของเฟิ งเย่หยางก็พลิกกลับอีกด้านทันทีเมื่อเขาพูดต่อว่า
“ถึงแม้ยาที่มีฤทธิ์อ่อนจะไม่เป็ นอันตรายกับคุณหนู แต่การใช้วธิ ี
รักษาที่ปลอดภัยไว้ก่อนจนเกินไปแบบนี้ ก็เป็ นเรื่ องเพ้อฝันล่ะที่หวัง
ว่าอาการของคุณหนูจะดีข้ ึนได้ พูดตามตรงนะ อาการของคุณหนูน่ะ
ซับซ้อนยุง่ ยากมากจริ ง ๆ แม้แต่ขา้ เองยังต้องใช้เวลาในการ
เตรี ยมการนานมากเพื่อที่จะรักษานางให้หายดี และดูจากอาการของ
คุณหนูในตอนนี้แล้ว ร่ างกายของนางอาจจะทนไปได้อีกไม่นาน”
เฟิ งเย่หยางถอนใจ เสี ยงของเขาเจือไปด้วยร่ องรอยของความกังวล
สี หน้าของเซียงป้ายิง่ วิตกกังวลมากขึ้น แม้แต่ชายหนุ่มข้าง ๆ เขาก็ดู
ทุกข์ใจมาก
ในตอนนั้นเอง เสี ยงเย็นชาเสี ยงหนึ่งก็ดงั ขึ้น
“แค่อาการบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านี้ มันยุง่ ยากมากขนาดนั้นเลยรึ ?”
ทันทีที่เสี ยงนั้นดังขึ้น ทุกคนก็พากันหันไปมองทางต้นเสี ยง
จวินอู๋เสี ยที่ไม่พดู อะไรเลยสักคํามาตลอดถูกทุกคนจ้องมองกันเป็ น
ตาเดียวทันที
“เจ้าเด็กสารเลว! จะมาก่อความเดือดร้อนอะไรที่นี่อีก! เจ้าตกลงแล้ว
ไม่ใช่หรื อว่าถ้าไม่สามารถรักษาได้ จะไม่โผล่หวั มาที่นี่อีก!?” พอ
หมอหลวงหลี่ได้ยนิ คําพูดของจวินอู๋เสี ยก็ระเบิดความโกรธออกมา
ทันที เขากระโจนออกมาชี้หน้าด่าจวินอู๋เสี ย
จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งพลางมองหมอหลวงหลี่ที่เต้นเป็ นเจ้า
เข้าแล้วพูดว่า “ข้าแค่พดู ความจริ ง จําเป็ นจะต้องโกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ
ขนาดนี้เลยหรื อ?”
“เจ้า!”
“แม่นางน้อย เจ้ามาจากไหน? รู ้รึเปล่าว่าพูดอะไรออกมา!?” เซี ยงป้า
พูดขึ้นพร้อมกับขมวดคิว้ มองจวินอู๋เสี ย เขากังวลเรื่ องอาการบาดเจ็บ
ของฉูหลิงเย่มาก จึงไม่ได้สงั เกตคนที่อยูข่ า้ ง ๆ เล่ยเฉินเลย ตอนนี้
เมื่อดูดี ๆ เขาก็เห็นว่าเด็กสาวคนนี้หน้าตาดีมาก แต่วธิ ีที่นางพูดทํา
ให้ผคู ้ นไม่อาจจะชอบนางได้จริ ง ๆ
“ความจริ งไง” จวินอู๋เสี ยตอบพลางเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย นางกอดอก
มองกลุ่มคนที่กาํ ลังวุน่ วายใจอยูต่ รงหน้าด้วยท่าทีสงบนิ่งและใจเย็น
ทันทีที่เจียงหยิงหลงเห็นว่าสถานการณ์เริ่ มไม่ดี เขาก็รีบก้าวออกมา
พูดกับเล่ยเฉินว่า “ฝ่ าบาท ข้าเชื่อว่าฝ่ าบาทคงไม่ลืมข้อตกลงที่เราทํา
กันไว้นะพะย่ะค่ะ”
เล่ยเฉินเลิกคิ้วทําเป็ นไม่ใส่ ใจ
ชายหนุ่มจากเมืองพันอสู รสัมผัสได้วา่ มีบางอย่างซ่อนอยูใ่ นความ
สับสนนี้ เขาจึงถามขึ้นทันทีวา่ “ช่วยบอกข้าหน่อยได้ไหมว่าอาจารย์
เจียงทําข้อตกลงอะไรไว้กบั องค์รัชทายาท?”
เจียงหยิงหลงสะดุง้ รู ้ตวั ทันทีวา่ ถูกจับได้แล้ว
ถ้าคนของเมืองพันอสู รรู ้วา่ เขาอนุญาตให้เด็กน้อยมาทําการรักษา
คุณหนูของพวกเขาล่ะก็ เซี ยงป้าจะต้องโกรธจนคลัง่ อย่างไม่ตอ้ ง
สงสัยเลย!
ตอนที่ 868 หมอเถื่อน (1)
เจียงหยิงหลงอยากปกปิ ดความจริ ง แต่เมื่อเจอกับสายตาเกรี้ ยวกราด
ของเซียงป้า เขาก็ไม่กล้าปฏิเสธ จึงไม่มีทางเลือกนอกจากทําใจกล้า
พูดไปว่า “องค์รัชทายาทเคยตรัสว่าแม่นางน้อยที่อยูข่ า้ ง ๆ พระองค์
มีความสามารถทางการแพทย์ที่ยอดเยีย่ ม นางรู ้วธิ ีช่วยชีวติ หลิงเย่
แต่ขา้ คิดว่าแม่นางจวินยังเด็กเกินไปและดูไม่เหมือนว่านางจะรู ้เรื่ อง
การแพทย์อะไรมากนัก แต่ขา้ ก็ไม่สามารถต้านทานการยืนกรานของ
ฝ่ าบาทได้ และเพื่อไม่ให้การรักษาหลิงเย่ของหมอคนอื่น ๆ ต้อง
ล่าช้าออกไป ข้าก็เลยจําใจอนุญาตให้แม่นางจวินลองสักครั้ง และทํา
ข้อตกลงกับฝ่ าบาทว่า ถ้าแม่นางจวินไม่สามารถรักษาอาการของ
หลิงเย่ พวกเขาจะไม่มารบกวนเราที่นี่อีก……”
ยิง่ พูดเสี ยงของเจียงหยิงหลงยิง่ เบาลง เขาพยายามเต็มที่ที่จะโยน
ความผิดทั้งหมดไปให้เล่ยเฉิ นด้วยกลัวว่าเซี ยงป้าจะโกรธจนซัดเขา
ให้ตายด้วยฝ่ ามือเดียว
อย่างที่คาด หลังจากเซียงป้าได้ยนิ ที่เจียงหยิงหลงพูด ดวงตาของเขา
ก็เบิกกว้างพร้อมกับจ้องจวินอู๋เสี ยด้วยความโกรธอย่างไม่ปิดบัง
“เจียงหยิงหลง! เจ้ากล้ามากนะ! ถึงกับอนุญาตให้เด็กไม่รู้เรื่ องรู ้ราว
มารักษาคุณหนูของเรางั้นรึ !? สํานักศึกษาธงศึกยังเคารพเมืองพัน
อสู รอยูร่ ึ เปล่า!? มิน่าอาการของคุณหนูถึงไม่ดีข้ ึนเลย เพราะพวกเจ้า
รักษากันแบบขอไปทีอย่างนี้เอง! ไอ้พวกหมอเถื่อนเอ๊ย! กะแค่เด็ก
คนหนึ่งกับหมอเถื่อนอีกกลุ่มหนึ่งจะไปมีน้ าํ ยาอะไรมารักษาคุณหนู
ของเราได้!?” เซียงป้าโกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ ไม่วา่ จะดูยงั ไงอายุของ
จวินอู๋เสี ยอย่างมากก็แค่ 15 ปี เท่านั้น อายุแค่น้ นั ต่อให้รู้เรื่ องการ
แพทย์จริ ง ๆ ก็รู้แค่ผวิ เผินเท่านั้นแหละ
[เจียงหยิงหลงบังอาจให้เด็กพรรค์น้ นั มาทําการรักษาฉูหลิงเย่ นัน่
เป็ นเรื่ องที่น่ากลัวและน่าตกใจมาก ๆ]
ตามปกติเสี ยงของเซียงป้าก็ดงั อยูแ่ ล้ว เมื่อผสมความโกรธเข้าไปด้วย
แบบนี้ เสี ยงตะโกนของเขาจึงยิง่ ดังจนแก้วหูแทบแตก
“องค์รัชทายาทเล่ยเฉิน! ต่อให้ท่านเป็ นถึงองค์รัชทายาทแห่งแคว้น
หยาน ท่านก็ไม่มีสิทธิทาํ กับคุณหนูของเมืองพันอสู รอย่างชุ่ย ๆ
แบบนี้! ถ้าท่านเอาคนอื่นมายกย่องเป็ นหมอก็คงไม่เป็ นไร แต่ดูแม่
นางจวินที่อยูข่ า้ งท่านซิ! นางอายุเท่าไรกัน? นางจะมีความสามารถ
ช่วยชีวติ คนได้ยงั ไง? องค์รัชทายาทเล่ยเฉิน ท่านเห็นความเป็ นความ
ตายของคุณหนูเราเป็ นเรื่ องเล่น ๆ งั้นรึ !? ท่านปล่อยให้เด็กน้อยอย่าง
นี้มารักษาได้ยงั ไง!? องค์รัชทายาทเล่ยเฉินอยากเป็ นสาเหตุให้
คุณหนูของเราเสี ยชีวติ งั้นหรื อพะย่ะค่ะ!?” เซียงป้าโกรธจนหน้าดํา
หน้าแดง ดวงตาของเขากลายเป็ นสี แดงกํ่า ถ้าไม่ใช่ชายหนุ่มคนนั้น
ขวางเอาไว้ เซียงป้าคงพุง่ เข้าไปบีบคอเด็กสาวที่ไม่รู้เรื่ องรู ้ราวคน
นั้นแล้ว
เจียงหยิงหลงเบี่ยงเบนความโกรธของเซียงป้าไปลงที่จวินอู๋เสี ย
กับเล่ยเฉิ นได้สาํ เร็ จ หมอหลวงหลี่ที่เฝ้าดูอยูแ่ อบหัวเราะอยูใ่ นใจ
นิสยั ของหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธก็เป็ นเหมือนชื่อตึกของเขา โกรธเป็ น
ไฟอยูต่ ลอด เมื่อเซียงป้ารู ้วา่ เล่ยเฉินจัดการเรื่ องนี้แบบสะเพร่ า เซี ยง
ป้าก็จะไม่ไว้หน้าเล่ยเฉินอีกต่อไป
ราวกับหมอหลวงหลี่จะคิดว่าบรรยากาศยังไม่เร่ าร้อนพอ เขาจึง
แสร้งทําเป็ นพูดดีวา่ “หัวหน้าตึกเซียง ใจเย็นลงก่อนเถอะ องค์รัช
ทายาททรงมีเจตนาดีจริ ง ๆ พระองค์รู้วา่ แม่นางฉูได้รับบาดเจ็บ
สาหัสจึงร้อนใจมากจนทําให้เกิดความคิดไม่เข้าท่าแบบนั้น ต่อให้
พวกเราทุกคนจะรู ้สึกว่าอายุของแม่นางจวินจะ…ดูไม่เหมือนว่านาง
จะมีความสามารถทางด้านการแพทย์จริ ง ๆ แต่ยงั ไงก็เป็ นเจตนาที่ดี
ขององค์รัชทายาท แม้วา่ วิธีที่ใช้จะไม่ถูกต้องซะทีเดียว โชคดีที่เรื่ อง
นี้ไม่ได้ทาํ ให้อาการบาดเจ็บของแม่นางฉูเลวร้ายไปกว่านี้ ยิง่ ไปกว่า
นั้น พวกเราทุกคนได้ใช้ทุกอย่างที่เรามีเพื่อคงอาการของแม่นางฉู
เอาไว้ไม่ให้ทรุ ดไปกว่านี้ ข้าขอร้องหัวหน้าตึกเซี ยงอย่าเอาเรื่ องไป
มากกว่านี้เลย”
หมอหลวงหลี่จบคําพูดตัวเองอย่างสวยงาม แต่เขาพูดเป็ นนัยอยู่
ตลอดว่าการรักษาของจวินอู๋เสี ยไม่ได้เป็ นผลดีต่อฉูหลิงเย่เลยแม้แต่
น้อย แต่มนั กลับทําให้อาการของนางเลวร้ายลง และเนื่องจากการ
ทํางานอย่างไม่รู้จกั เหน็ดเหนื่อยของหมอทั้งกลุ่มนี้ทาํ ให้พวกเขา
สามารถกูส้ ถานการณ์เอาไว้ได้
ตอนที่ 869 หมอเถื่อน (2)
คําพูดนั้นไม่เพียงแต่ดบั ความโกรธของเซี ยงป้าไม่ได้ แต่มนั กลับยิง่
ทําให้โกรธหนักไปกันใหญ่ เขาจ้องตาของจวินอู๋เสี ยเขม็ง ดูราวกับ
ว่าเขาจะกลืนนางเข้าไปทั้งตัวอยูแ่ ล้ว
แม้แต่ชายหนุ่มที่สงบนิ่งใจเย็นมาโดยตลอดก็ยงั ทําหน้านิ่วคิ้วขมวด
ส่ วนเฟิ งเย่หยางก็ส่ายหน้าพร้อมกับถอนใจ
เล่ยเฉินกับจวินอู๋เสี ยกลายเป็ นเป้าโจมตีของทุกคนไปในทันที
เล่ยเฉินกํามือแน่นด้วยความรู ้สึกกระสับกระส่ าย ถึงแม้สถานการณ์
ตอนนี้จะยังเป็ นสิ่ งที่เขาคาดการณ์เอาไว้แล้ว แต่เขาก็อดกังวล
เล็กน้อยไม่ได้ เขาหันไปมองจวินอู๋เสี ยโดยไม่รู้ตวั ตอนที่จวินอู๋เสี ย
พูดขึ้นเมื่อครู่ มันรู ้สึกเหมือนกับว่านางกําลังนําพาเซียงป้าและคน
อื่น ๆ ให้กดดันเรื่ องนี้ให้มากขึ้น
เขาไม่เข้าใจจริ ง ๆ ว่าคุณหนูจวินกําลังคิดอะไรอยู่
เมื่อเผชิญหน้ากับความโกรธของเซียงป้าที่มีหมอหลวงหลี่เติม
เชื้อเพลิงเข้าไป จวินอู๋เสี ยก็ยงั มีสีหน้าเย็นชาเหิ นห่างเช่นเดิม ดวงตา
เย็นเยียบของนางกวาดผ่านใบหน้าของเซี ยงป้าและคนอื่น ๆ นาง
เงียบอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “ดูเหมือนว่าหัวหน้าตึกเซียงเลือกที่
จะเชื่อคําพูดของพวกหมอเถื่อนกลุ่มนี้ซินะ” ใบหน้าของหมอ
หลวงหลี่ซีดขาว เขาไม่คิดว่าขนาดตกอยูใ่ นสถานการณ์เช่นนี้ จวินอู๋
เสี ยจะยังกล้าพูดจาถากถางเช่นนี้อีก
คําตอบของเซียงป้าก็คือ “ข้าจะถามเจ้าแค่วา่ เจ้าได้ทาํ การรักษา
คุณหนูของเรารึ เปล่า”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าทันทีโดยไม่ลงั เล
“งั้นเจ้าจะมาโต้แย้งอะไรได้อีกเล่า!?” เซียงป้าตะโกนอย่างเกรี้ ยว
กราด
แต่จวินอู๋เสี ยกลับยกมุมปากขึ้นและพูดอย่างเย็นชาว่า “หัวหน้า
ตึกเซียง ทําไมท่านไม่ถามพวกเขาล่ะว่าหลังจากข้าทําการรักษาแล้ว
อาการของฉูหลิงเย่เป็ นอย่างไรบ้าง?”
เซียงป้าเลิกคิ้วขึ้น “หมายความว่ายังไง?”
จวินอู๋เสี ยมองเจียงหยิงหลงแล้วพูดว่า “เจียงหยิงหลง ท่านบอกเขา
เองเถอะ หลังจากที่ขา้ รักษาฉูหลิงเย่แล้ว นางหายสนิทดีรึเปล่า?”
เซียงป้ากับกลุ่มของเขาพากันสะดุง้ พวกเขาทุกคนหันไปมองเจียง
หยิงหลงโดยไม่ได้ต้ งั ใจ
เมื่อเจียงหยิงหลงพบว่าตัวเองถูกเซียงป้าจ้อง เขาก็ไม่กล้าบิดเบือน
ความจริ ง จึงพูดตะกุกตะกักออกมาว่า “แม่นางจวิน…หลังจากทํา
การรักษา…หลิงเย่แล้ว…อาการของหลิงเย่ก… ็ ดูเหมือนจะหายสนิท
ดีแล้ว แต่…แค่อ่อนเพลียเล็กน้อยจากการเสี ยเลือดไปมากเท่านั้น…”
ขณะที่พดู เขาก็หยุดครู่ หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นพูดทันทีวา่ “แต่นนั่
ก็แค่ครึ่ งวันเท่านั้น หลังจากนั้นหลิงเย่กท็ รุ ดลงอีกและเป็ นแบบนี้มา
ตั้งแต่ตอนนั้น…”
เซียงป้าขมวดคิ้วจนคิ้วแทบจะผูกกันเป็ นปมแล้ว คําพูดที่ได้ยนิ ทํา
ให้เขาสับสน จากการพูดเป็ นนัยของหมอหลวงหลี่บอกว่าการรักษา
ของจวินอู๋เสี ยไม่เพียงทําให้อาการของฉูหลิงเย่ดีข้ ึนไม่ได้เท่านั้น ยัง
ทําให้อาการของนางแย่ลงอีกด้วย แต่เจียงหยิงหลงกลับบอกว่า
หลังจากการรักษาของจวินอู๋เสี ย อาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่หาย
สนิทดีแล้ว ถึงแม้วา่ จะแค่ครึ่ งวันก็ตาม แต่จากการตรวจของเฟิ งเย่
หยางเมื่อครู่ อาการบาดเจ็บของนางสาหัสมาก เป็ นไปได้อย่างไรที่
นางจะทําให้ฉูหลิงเย่หายสนิทในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนั้น?
หมอหลวงหลี่ด่าเจียงหยิงหลงอยูใ่ นใจที่ทาํ แผนเขาพังยับ เขารี บก้าว
ออกมาพูดทันทีวา่ “เรื่ องนี้ขา้ ได้อธิบายให้อาจารย์เจียงฟังแล้ว ที่
อาการของแม่นางฉูดีข้ ึนก็เพราะหมอทุกคนที่นี่ช่วยกันรักษาแม่นาง
ฉูตลอดเวลาโดยไม่ได้หยุดพัก เมื่อได้ยาสมุนไพรไปมากขนาดนั้น
และการดูแลเอาใจใส่ อย่างต่อเนื่องจากพวกเราทุกคน ก็ทาํ ให้อาการ
ของแม่นางฉูมีสญ ั ญาณที่ดีข้ ึน แม่นางจวินแค่บงั เอิญมาขโมยความดี
ความชอบที่ควรจะมาจากความพยายามอันไม่รู้จกั เหน็ดเหนื่อยของ
พวกเราไปเท่านั้น นัน่ เป็ นเหตุผลที่แท้จริ งที่อาการของนางดีข้ ึน
พวกท่านคงไม่ลืมว่าตอนนั้นที่แม่นางจวินทําก็แค่ป้อนยารวมใจให้
แม่นางฉูอย่างเดียวเท่านั้น ข้าขอถามท่านผูอ้ าวุโสเฟิ ง อาการของแม่
นางฉูน้ นั เป็ นไปได้หรื อว่าจะรักษาได้ดว้ ยยารวมใจแค่เม็ดเดียว?”
เฟิ งเย่หยางส่ ายหัวทันที “ยารวมใจเป็ นแค่ยาเสริ มพลังปราณธรรมดา
เท่านั้น ด้วยอาการบาดเจ็บของคุณหนู มันย่อมไม่ส่งผลต่อนางมาก
นัก”
ตอนที่ 870 หมอเถื่อน (3)
หมอหลวงหลี่รีบพูดด้วยรอยยิม้ ทันที “แม้แต่ผอู ้ าวุโสเฟิ งก็พดู แบบ
เดียวกัน ยังจะมีขอ้ สงสัยอะไรอีกไหม? ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเราทุก
คนพยายามรักษากันทุกทางที่ทาํ ได้แล้วล่ะก็ อย่าบอกข้านะว่าแม่
นางจวินใช้ยารวมใจแค่เม็ดเดียวก็รักษาอาการบาดเจ็บสาหัสของแม่
นางฉูได้ มันไม่ฟังดูน่าตลกหรอกหรื อ?”
เซียงป้าขมวดคิ้วจ้องจวินอู๋เสี ย ดูเหมือนเขากําลังพิจารณาคําพูดของ
หมอหลวงหลี่
จวินอู๋เสี ยจึงพูดขึ้นเสี ยงเรี ยบว่า “ในเมื่อหมอหลวงหลี่พดู ว่ามันเป็ น
เพราะความพยายามของท่านและกลุ่มของท่าน เช่นนั้นข้าก็ขอถาม
ว่า ตั้งแต่วนั นั้นฉูหลิงเย่ได้อยูภ่ ายใต้การดูแลของพวกท่านอย่าง
เต็มที่ พวกท่านทั้งหมดสามารถทําให้อาการของนางดีข้ ึนได้
หรื อไม่?”
เสี ยงนัน่ เหมือนกับทะเลสาบนํ้าแข็งที่ไหลเข้ามาในใจของผูค้ น
ความเย็นยะเยือกนั้นได้ทาํ ให้ชายทั้งสามจากเมืองพันอสู รตระหนัก
ถึงความจริ งในคําพูดของจวินอู๋เสี ย
ถ้าช่วงเวลาครึ่ งวันที่อาการของฉูหลิงเย่ดีข้ ึนเป็ นเพราะจวินอู๋เสี ย
บังเอิญขโมยความดีความชอบไปจากหมอหลวงหลี่และกลุ่มของเขา
จริ ง ๆ ล่ะก็ ด้วยเหตุผลนั้นความดีความชอบก็ควรตกอยูท่ ี่หมอ
หลวงหลี่กบั หมอคนอื่น ๆ แต่ภายใต้การดูแลรักษาของพวกเขา
ตั้งแต่วนั นั้น อาการของฉูหลิงเย่กไ็ ม่มีทีท่าจะเปลี่ยนแปลงไปเลยสัก
นิด นางยังคงไม่ได้สติเช่นเดิม นัน่ มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย
หมอหลวงหลี่นิ่งงันไปกับคําพูดของจวินอู๋เสี ย เขาทําได้แค่ยนื หน้า
ซีดอยูต่ รงนั้นพลางจ้องมองจวินอู๋เสี ยด้วยความโกรธ
จวินอู๋เสี ยไม่อยากจะเสี ยเวลาไปกับพวกคนโง่เช่นนั้น นางจึงหันไป
หาเฟิ งเย่หยางทันที
“ในเมื่อผูอ้ าวุโสเฟิ งจับชีพจรของฉูหลิงเย่แล้ว และเห็นยากับ
สมุนไพรที่หมอหลวงหลี่ให้กบั ฉูหลิงเย่ ข้าเชื่อว่าด้วยความสามารถ
และความรู ้ทางด้านการแพทย์ของผูอ้ าวุโสเฟิ ง ท่านย่อมรู ้ดีวา่ ยาพวก
นี้จะสามารถส่ งผลได้แค่ไหน”
เฟิ งเย่หยางพยักหน้า “ยาพวกนั้นเพียงแค่ทาํ ให้อาการของนางคงที่
เท่านั้น แต่ไม่ทาํ ให้คุณหนูของเราหายได้หรอก”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าอย่างพอใจและหันไปทางหมอหลวงหลี่แล้วพูด
ว่า “หมอเถื่อน”
ดวงตาของหมอหลวงหลี่ลุกวาบ เขาอยากจะกระโจนเข้าฉีกเด็กน้อย
นัน่ เป็ นชิ้น ๆ เพราะปากเน่า ๆ ของนาง
“เจ้าพยายามจะพูดอะไร? เจ้าเด็กสารเลว! ถ้าอาการของแม่นางฉู
ไม่ได้ดีข้ ึนเพราะการดูแลรักษาอย่างพิถีพิถนั ของพวกเรา อย่าบอก
นะว่ามันเป็ นเพราะยารวมใจเม็ดเดียวของเจ้า!”
เฟิ งเย่หยางก็กาํ ลังรู ้สึกสับสน อาการของฉูหลิงเย่น้ นั ไม่วา่ จะเป็ นวิธี
รักษาที่ส่งผลอ่อน ๆ ของหมอหลวงหลี่หรื อยารวมใจของจวินอู๋เสี ย
ทั้งสองวิธีต่างก็ไม่สามารถทําให้อาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่ดีข้ ึนได้
ถึงจะเถียงกันให้ตาย ก็มีจุดหนึ่งที่เขาไม่เข้าใจอยูด่ ี
นัน่ ก็คืออาการของฉูหลิงเย่หายสนิทเป็ นเวลาครึ่ งวันจริ ง ๆ
เรื่ องนั้นสร้างความสับสนงุนงงให้เฟิ งเย่หยางที่เป็ นที่เคารพนับถือ
ในความสามารถทางการแพทย์เป็ นอย่างมาก
จวินอู๋เสี ยมองหมอหลวงหลี่ที่โกรธจนแทบคลัง่ อย่างเย็นชา แล้วพูด
ขึ้นว่า “ใครบอกเจ้าว่าข้าใช้แค่ยารวมใจเม็ดเดียว?”
หมอหลวงหลี่สะดุง้ เขายืนแข็งทื่อไปครู่ หนึ่ง ดวงตายังเต็มไปด้วย
ความโกรธขณะที่มองไปยังจวินอู๋เสี ย
“ไม่ใช่ง้ นั หรื อ? วันนั้นข้าเห็นกับตา เจ้าแค่ป้อนยารวมใจให้แม่นางฉู
เม็ดเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นอีก! อย่ามาพูดจาเหลวไหล
ที่นี่ให้มากนัก!”
จวินอู๋เสี ยยังคงมองหมอหลวงหลี่ที่โกรธเกรี้ ยวขึ้นเรื่ อย ๆ พร้อมกับ
ส่ ายหน้าช้า ๆ นางมองเข้าไปในดวงตาของหมอหลวงหลี่ดว้ ยสายตา
ที่แสดงความดูถูกเหยียดหยามอย่างที่สุด
“ในฐานะหมอแล้ว ท่านเหมาะสมกับคําว่าหมอเถื่อนจริ ง ๆ ”
ใบหน้าซีดขาวของหมอหลวงหลี่เปลี่ยนเป็ นสี เขียวด้วยความโกรธ
ยิง่ ฟังทั้งสองคนพูด เซียงป้าก็ยงิ่ สับสน “ข้า เซียงป้า เป็ นแค่ตาสี ตาสา
ไม่เข้าใจคําพูดที่พวกหมอ ๆ พูดกันหรอก ข้าอยากจะถามแค่หนึ่ง
คําถามเท่านั้น เจียงหยิงหลง เจ้าบอกความจริ งข้ามา ก่อนหน้านี้
อาการของคุณหนูเราดีข้ ึนจริ ง ๆ ใช่ไหม?”
เจียงหยิงหลงพยักหน้าโดยไม่กล้าปกปิ ดสิ่ งใดเอาไว้
เซียงป้าจึงหันไปมองจวินอู๋เสี ย “แม่นางจวิน เจ้าบอกว่าอาการของ
คุณหนูดีข้ ึนก็เพราะเจ้า เช่นนั้นก็บอกข้ามา นอกจากยารวมใจแล้ว
เจ้าทําอะไรอีก? โปรดบอกมาให้หมดด้วย”
จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งแล้วถามว่า “นี่พวกท่านทุกคนคิดว่าฉู
หลิงเย่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจริ ง ๆ หรื อ?”
ตอนที่ 871 ตบหน้ าครั้งที่ 9 (1)
คําพูดของจวินอู๋เสี ยทําให้ทุกคนในห้องตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ
ในทันที
หมอหลวงหลี่มีสีหน้าตื่นกลัวปรากฏขึ้นแวบนึง แต่เขาก็รีบระงับ
อาการอย่างรวดเร็ ว
“แม่นางจวิน ท่านหมายความว่ายังไง? หมอตั้งหลายคนได้ตรวจ
อาการของฉูหลิงเย่แล้ว แม้แต่การวินิจฉัยของผูอ้ าวุโสเฟิ งก็ยนื ยัน
ตรงกัน ท่านถามแบบนั้นไม่คิดว่ามันแปลกหรื อไง?” ชายหนุ่มจาก
เมืองพันอสู รเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับหันไปมองจวินอู๋เสี ย เรื่ องที่ฉูหลิงเย่
ได้รับบาดเจ็บก็เห็นอยูช่ ดั ๆ เป็ นเรื่ องจริ งที่แย้งไม่ได้ ถึงแม้พวกเขา
จะไม่ได้ไว้ใจหมอของแคว้นหยานอย่างเต็มที่ แต่เฟิ งเย่หยางก็ยนื ยัน
ความถูกต้องแล้ว เป็ นไปไม่ได้ที่เขาจะผิดพลาด
“นัน่ เป็ นความจริ งแน่หรื อ?” จวินอู๋เสี ยถามพร้อมกับเลิกคิ้ว
“เด็กอย่างเจ้ามาพูดจาเหลวไหลไร้สาระที่นี่ได้ยงั ไง เจ้าอายุเท่าไร
กัน? อย่างเจ้าจะไปรู ้เรื่ องอะไร!? ต่อให้เจ้าไม่เชื่อในความสามารถ
ทางการแพทย์ของพวกเรา แต่ท่านผูอ้ าวุโสเฟิ งคือหนึ่งในสามหมอ
เทวดา ท่านวิเคราะห์โรคหรื ออาการบาดเจ็บได้อย่างแม่นยํา ที่นี่
ไม่ใช่ที่ให้เจ้ามาออกความคิดเห็น!” หมอหลวงหลี่พดู โต้ตอบ
“ผูอ้ าวุโสเฟิ ง ท่านคิดอย่างเดียวกันนี้จริ ง ๆ หรื อ?” จวินอู๋เสี ยหันไป
ถามเฟิ งเย่หยาง
เฟิ งเย่หยางครุ่ นคิดอยูค่ รู่ หนึ่งแล้วพูดว่า “คนก็พดู กันเกินไป แม้วา่
ชายแก่คนนี้จะได้รับฉายาที่ไม่สมควรได้เช่นนั้นจากผูค้ น แต่ขา้ ก็ไม่
กล้าพูดหรอกว่าข้าสามารถวิเคราะห์และตรวจสอบโรคภัยไข้เจ็บทุก
อย่างได้ แต่สาํ หรับอาการของคุณหนูในตอนนี้ ชายแก่คนนี้ยงั
สามารถระบุสาเหตุได้อยู่ ข้าไม่รู้วา่ ทําไมแม่นางจวินถึงอยากจะถาม
เรื่ องนี้อีก”
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “ถ้าเช่นนั้น งั้นก็ให้ความจริ งพูดออกมาเองแล้ว
กัน” พร้อมกับพูดเช่นนั้น นางก็เดินตรงไปที่ขา้ งเตียงของฉูหลิงเย่
พอหมอหลวงหลี่เห็นการกระทําของนาง เขาก็รีบตะโกนขึ้นทันที
“ยัยเด็กนัน่ คิดจะทําอะไร!?”
จวินอู๋เสี ยหันไปมองเขา “ก็พวกหมอกํามะลออย่างท่านไม่สามารถ
ทําได้ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะสอนพวกท่านสักอย่างสองอย่างหรอก”
หมอหลวงหลี่มองจวินอู๋เสี ยด้วยแววตาตื่นตระหนก เขาหันไปทาง
เซียงป้าทันที
“หัวหน้าตึกเซียง ท่านจะปล่อยให้เด็กนัน่ ก่อเรื่ องต่อไปแบบนี้ง้ นั รึ ?”
เซียงป้าทําหน้านิ่วคิ้วขมวด ถึงแม้เขาจะไม่เชื่อว่าจวินอู๋เสี ยจะมี
ความรู ้ทางการแพทย์ที่เหนือกว่าเฟิ งเย่หยางจริ ง ๆ ด้วยอายุเพียง
เท่านี้ แต่อาการหายดีของฉูหลิงเย่กเ็ กี่ยวข้องกับนาง เขาจึงอดลังเล
อยูค่ รู่ หนึ่งไม่ได้ เซี ยงป้าหันไปปรึ กษากับเฟิ งเย่หยางอย่างรอบคอบ
ว่า “ข้าไม่รู้เรื่ องการแพทย์เลยสักอย่าง ท่านผูอ้ าวุโสเฟิ งคิดว่าก่อน
หน้านี้ที่อาการของคุณหนูดีข้ ึนกะทันหันเป็ นเพราะอะไรขอรับ?”
เฟิ งเย่หยางสัน่ หัว ตามการวินิจฉัยของเขา ถึงจะให้เขามารับมือกับ
อาการของฉูหลิงเย่ต้ งั แต่ตน้ เขาก็ยงั ต้องใช้เวลาเกือบปี ในการรักษา
นางให้หายดี แล้วที่พวกเขาพูดกันคือแค่วนั เดียวเท่านั้น เวลาสั้น ๆ
แค่น้ นั ลืมเรื่ องหายสนิทไปได้เลย ต่อให้เขาสามารถทําให้อาการ
บาดเจ็บพวกนั้นทรงตัวอยูไ่ ด้ แต่แค่ทาํ ให้แสดงอาการว่าดีข้ ึนนั้นยัง
เป็ นเรื่ องที่ยากมาก
เมื่อได้คาํ ตอบจากเฟิ งเย่หยาง เซียงป้าก็กา้ วเข้าไปยืนตรงหน้าจวินอู๋
เสี ยทันทีเพื่อขวางไม่ให้นางไปต่อได้
“ข้าไม่รู้วา่ เจ้ามาจากที่ไหน แต่คุณหนูของเมืองพันอสู รไม่ใช่คนที่
ใครจะมารักษาชุ่ย ๆ ได้ ข้าต้องขอเจ้าไม่ให้สร้างเรื่ องวุน่ วายขึ้นที่นี่
ไม่อย่างนั้นข้าคงต้องใช้กาํ ลัง” ถึงแม้จะสงสัยอยูใ่ นใจ แต่เซียงป้าก็
ไม่อาจปล่อยให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้มารักษาฉูหลิงเย่ได้ โดยเฉพาะอย่าง
ยิง่ เมื่อนัน่ เป็ นแค่เด็กสาวคนหนึ่ง
จวินอู๋เสี ยมองเซียงป้าพร้อมเลิกคิ้วเล็กน้อย มุมปากของนางยกขึ้น
เป็ นรอยยิม้ เย็นชา นางพูดขึ้นเสี ยงนุ่มว่า “ท่านคิดว่าแค่ยนื ขวางทาง
ข้าไว้แบบนี้แล้วจะหยุดข้าได้ง้ นั รึ ?”
เซียงป้าชะงักกับคําตอบนั้น และก่อนที่เขาจะทันโต้ตอบ จวินอู๋เสี ยก็
ยกมือขวาขึ้น มีแสงวาบยิงออกจากปลายนิ้วของนางพุง่ เข้าใส่ ฉูหลิง
เย่ที่นอนอยูบ่ นเตียงในชัว่ พริ บตา!
“นัน่ เจ้าทําอะไร!?” เซี ยงป้าตะโกนออกมาอย่างตกใจและเกรี้ ยว
กราด เขาคว้าคอเสื้ อของจวินอู๋เสี ยและยกนางขึ้นทั้งตัว
ตอนที่ 872 ตบหน้ าครั้งที่ 9 (2)
แต่จวินอู๋เสี ยไม่กลัวเลยแม้แต่นอ้ ย นางแค่หนั ไปมองเฟิ งเย่หยาง
อย่างใจเย็น
“ผูอ้ าวุโสเฟิ ง ท่านลองจับชีพจรของฉูหลิงเย่ดูอีกครั้งเถอะ”
เซี ยงป้ายังคงจ้องมองจวินอู๋เสี ย เขาไม่รู้วา่ นางคิดจะทําอะไร
เฟิ งเย่หยางขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาลังเลนิดนึงก่อนจะเดินช้า ๆ ไปที่
เตียงของฉูหลิงเย่และจับชีพจรของนางอีกครั้ง
“ถ้าคุณหนูของเราเป็ นอะไรไปล่ะก็ ต่อให้เจ้าเป็ นแค่เด็กผูห้ ญิงตัว
เล็ก ๆ ข้าก็จะให้เจ้าต้องชดใช้!” เซียงป้าจ้องจวินอู๋เสี ยด้วยความ
โกรธ สายตามีรังสี อาํ มหิ ตลุกโชน
แต่สายตาอํามหิ ตนั้นไม่อาจกดดันจวินอู๋เสี ยได้เลยสักนิด นางตอบ
ด้วยเสี ยงเย็นชาว่า “ท่านไม่มีโอกาสทําเช่นนั้นหรอก”
“หัวหน้าตึกเซียง! เด็กนัน่ กล้าลงมือกับแม่นางฉูต่อหน้าต่อตาท่าน!
ใครจะรู ้วา่ เจตนาที่แท้จริ งของนางคืออะไร!?” หมอหลวงหลี่กา้ ว
ออกมาอย่างร้อนรน สายตาของเขาลอบมองไปทางเล่ยเฉิน “วันนั้น
เด็กนัน่ ก็อวดดีสามหาวแบบนี้! พวกเราเถียงกับนางอยูน่ าน แต่องค์
รัชทายาทก็ยนื กรานให้เราปล่อยให้นางรักษาแม่นางฉู พวกเราเป็ น
แค่หมอย่อมไม่มีอาํ นาจคัดค้าน ข้าได้ยนิ องค์รัชทายาทพูดว่า แม่นาง
จวินผูน้ ้ ีเป็ นคุณหนูแห่งวังหลินของแคว้นฉี จวินอู๋เสี ย คนทั้งโลกก็รู้
ว่าวังหลินไม่ได้มีชื่อเสี ยงทางด้านการแพทย์เลย เจตนาของแม่นาง
จวินจึงน่าสงสัยมาก! ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่านางจะไม่ทาํ ร้าย
แม่นางฉู”
เซี ยงป้ารู ้สึกประหลาดใจ เขามองจวินอู๋เสี ยอย่างงุนงง
“เจ้ามาจากวังหลินงั้นหรื อ?”
จวินอู๋เสี ยเพียงแค่เลิกคิว้ ขึ้นเป็ นสัญญาณว่ายอมรับอย่างเงียบ ๆ
“วังหลินกับเมืองพันอสู รต่างไม่กา้ วก่ายกันและไม่ได้มีความ
สัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน แต่ถา้ เจ้ามาก่อเรื่ องขึ้นที่นี่ล่ะก็ ต่อให้วงั หลินมี
กองทัพรุ่ ยหลินที่แข็งแกร่ งอยูเ่ ป็ นแสน ฝูงสัตว์อสู รวิญญาณของ
เมืองพันอสู รก็จะไม่ปล่อยเรื่ องนี้เอาไว้แน่!” เซียงป้ากัดฟันพูด
หมอหลวงหลี่แอบยิม้ อย่างชัว่ ร้าย
แต่ขณะที่หมอหลวงหลี่กาํ ลังคาดหวังว่าจะได้เห็นความโกรธเกลียด
ของเซียงป้ารุ นแรงขึ้นจนระเบิดออกหลังจากที่ได้รู้ตวั จริ งของจวินอู๋
เสี ย เสี ยงที่แสดงความประหลาดใจก็ดงั ขึ้น!
“เป็ นไปได้ยงั ไง!?” เสี ยงของเฟิ งเย่หยางดังเข้าหูของทุกคนที่อยูใ่ น
ห้อง
ทุกสายตาหันไปมองที่เฟิ งเย่หยางกันเป็ นตาเดียว เซียงป้าไม่อยาก
เถียงกับจวินอู๋เสี ยต่อ เขารี บหันไปมองด้วยความกังวล
แล้วเขาก็เห็นมือของเฟิ งเย่หยางยังคงอยูท่ ี่ขอ้ มือของฉูหลิงเย่ ใบหน้า
เหี่ ยวย่นนั้นมีสีหน้าตกตะลึงและเหลือเชื่ออย่างที่สุด ดวงตาเบิก
กว้าง ปากอ้าค้างเหมือนกําลังตกใจในอะไรบางอย่าง
เมื่อหมอหลวงหลี่เห็นปฏิกิริยาของเฟิ งเย่หยาง เขาก็หวั เราะอยูใ่ นใจ
สายตาเย้ยหยันของเขามองไปที่จวินอู๋เสี ยที่ยงั ถูกเซี ยงป้าจับยกอยู่
กลางอากาศ
ความโกรธแค้นระเบิดจากในอกของเซียงป้า เขาจ้องมองด้วยสายตา
อํามหิ ตและตะโกนด้วยเสี ยงดังลัน่ “เจ้าทําอะไรคุณหนูของเรา!? ถ้า
เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนู วันนี้ขา้ จะ…”
“หัวหน้าตึกเซียง!” ทันใดนั้นเฟิ งเย่หยางก็ตะโกนขึ้นเสี ยงดัง
เขารี บสลัดความตกใจทิ้งไปและเข้ามายืนข้าง ๆ เซียงป้าพร้อมกับ
พูดด้วยนํ้าเสี ยงตําหนิวา่ “หัวหน้าตึกเซียง! วางแม่นางจวินลง
เดี๋ยวนี้! เจ้าหยาบคายถึงขนาดนี้ได้ยงั ไง!?”
เซียงป้าพูดไม่ออก เขาหันไปมองเฟิ งเย่หยางด้วยสี หน้างุนงงสับสน
ไม่อาจเข้าใจได้วา่ ทําไมเฟิ งเย่หยางจึงพูดแทนจวินอู๋เสี ย
“ท่านผูอ้ าวุโสเฟิ ง! นี่ท่านกําลังพูดเรื่ องอะไร!?”
“วางแม่นางจวินลงเดี๋ยวนี้!” เฟิ งเย่หยางกล่าวยํ้าอย่างหนักแน่น
“แต่…แต่…” เซี ยงป้ายังคงพูดไม่ออก
เฟิ งเย่หยางขมวดคิ้วหน้าบึ้งด้วยความโกรธ เขาพูดว่า “เมื่อไรเจ้าจะ
เปลี่ยนความหุนหันพลันแล่นนี้ซะที!? มีอะไรผิดคาดเจ้ารับมือด้วย
ความรุ นแรงก่อนทุกที ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าทําไมท่านเจ้าเมืองถึง
ยืนยันให้ชิงหยูมากับเจ้า นิสยั แบบนี้จะสร้างความเดือดร้อนให้พวก
เราสักวันแน่ ๆ !”
ตอนที่ 873 ตบหน้ าครั้งที่ 9 (3)
เจอคําดุด่าอย่างแรงจากเฟิ งเย่หยางเข้าไป เซี ยงป้าก็ถึงกับอึ้งไปครู่
หนึ่ง
“ท่านผูอ้ าวุโสเฟิ ง ท่าน…ท่านว่าอะไรนะ?” เซียงป้าพูดอย่างสลด
“ข้าว่าอะไรงั้นรึ !? ข้าบอกว่าเจ้ากล้าทํากับผูม้ ีพระคุณที่ช่วยชีวติ
คุณหนูเราด้วยท่าทางก้าวร้าวแบบนั้น คราวนี้เจ้าทําเกินไปแล้ว
จริ ง ๆ !” เฟิ งเย่หยางพูดด้วยนํ้าเสี ยงไม่พอใจ
“อะ…อะไร…ผูม้ ีพระคุณ…ของคุณหนู?” เซี ยงป้าทําตาโต สงสัย
อย่างจริ งจังว่าหูของเขามีอะไรผิดปกติไปหรื อเปล่า
“ยังไม่วางลงอีก!?” เฟิ งเย่หยางจ้องเซียงป้าอย่างเกรี้ ยวกราด
สมองของเซียงป้าว่างเปล่าขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาทําได้แค่ทาํ ตาม
คําพูดของเฟิ งเย่หยาง เขาวางจวินอู๋เสี ยลง แค่คราวนี้เขาทําอย่าง
นุ่มนวลมาก บอกได้เลยว่าเขาระมัดระวังแบบสุ ด ๆ
เมื่อเท้าถึงพื้น จวินอู๋เสี ยก็จดั แจงเสื้ อผ้าและคอเสื้ อที่เซียงป้าทํายุง่
เอาไว้ให้เรี ยบร้อยอย่างใจเย็น
เฟิ งเย่หยางเข้ามายืนข้าง ๆ จวินอู๋เสี ยทันที เขาประสานมือและก้มหัว
ลงคารวะจวินอู๋เสี ยแบบโค้ง 90 องศาเลยทีเดียว!
ภาพนั้นทําให้ทุกคนในห้องนิ่งอึ้งอย่างตกตะลึง
เฟิ งเย่หยางอยูใ่ นสถานะใดกัน? ในใจของหมอทุกคนที่นนั่ เขาเป็ น
เหมือนจุดสู งสุ ดของความแข็งแกร่ ง พลังวิญญาณขั้นสี ม่วงนัน่ เลย!
และในวันนี้ท้ งั ๆ ที่ผมหงอกขาวทั้งหัวและยังมีความรู ้ความสามารถ
ทางการแพทย์ที่ไม่มีใครเทียบได้ เฟิ งเย่หยางกลับโค้งคารวะให้กบั
เด็กสาวตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่อายุยงั ไม่ถึง 15 ปี ต่อหน้าทุก ๆ คน
ทุกคนในห้องต่างพากันสับสนในทันที
“ชายแก่ผนู ้ ้ ีตาบอดนัก มองไม่เห็นความเฉลียวฉลาดของท่าน ข้ามัน
กบในกะลาแท้ ๆ มองท้องฟ้าจากในบ่อนํ้าแล้วก็เข้าใจแม่นางจวิน
ผิดไปอย่างมาก ขอให้แม่นางจวินอภัยให้ขา้ ด้วย” นํ้าเสี ยงของเฟิ งเย่
หยางไม่มีความถือตัวและเฉยเมยเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป ทั้งยัง
สัน่ อยูน่ ิดหน่อยด้วย ความสัน่ ในนํ้าเสี ยงนั้นมาจากความตื่นเต้นที่
เขารู ้สึกอยูใ่ นตอนนั้น
“ไม่เป็ นไร” จวินอู๋เสี ยตอบอย่างไม่แยแส ไม่ได้มีทีท่าซาบซึ้งใจ
แม้แต่นอ้ ย นางไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจที่จะยอมรับคําขอโทษอย่าง
จริ งใจของเฟิ งเย่หยางเลย
คนทั้งห้องมองเฟิ งเย่หยางอย่างสับสน ลืมสนิทไปแล้วว่าเกิดอะไร
ขึ้น ทําไมจู่ ๆ เฟิ งเย่หยางถึงได้แสดงความเคารพนับถือจวินอู๋เสี ย
ด้วยการคารวะสู งสุดเช่นนั้นและยังขอโทษขอโพยนางอีกด้วย!
“ท่านผูอ้ าวุโสเฟิ ง?” ใบหน้าของเซียงป้ากระตุกเล็กน้อย “ที่ท่านพูด
เมื่อครู่ มันหมายความว่ายังไงหรื อ? ท่านหมายถึงอะไรตอนที่ท่าน
พูดว่า…ผูม้ ีพระคุณที่ช่วยชีวติ คุณหนู?”
เฟิ งเย่หยางมองเซี ยงป้าอีกครั้งแล้วพูดว่า “เจ้านี่มนั หัวขี้เลื่อยจริ ง ๆ
ถ้าเมื่อกี้เจ้าทําร้ายแม่นางจวินล่ะก็ พอเรากลับไปที่เมืองพันอสู ร ชาย
แก่คนนี้จะรายงานท่านเจ้าเมืองแน่ ให้เจ้าได้รับผลจากการกระทํา
ของเจ้า”
เซียงป้ารู ้สึกหดหู่กบั สถานการณ์ของตัวเองมาก หลังจากโดนเฟิ งเย่
หยางด่าว่าเอาอย่างเจ็บแสบซํ้า ๆ เขาก็ยงั ไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้นอยูด่ ี
เฟิ งเย่หยางถอนใจและพูดว่า “ชายแก่คนนี้เองก็โง่เขลานัก และ
เกือบจะทําผิดแบบเดียวกับเจ้า โชคดีที่แม่นางจวินใจกว้างและให้
อภัย”
จวินอู๋เสี ยยักไหล่อย่างไม่ใส่ ใจ
เฟิ งเย่หยางพูดต่อว่า “เจ้ารู ้ไหมว่าตอนที่ขา้ จับชีพจรของคุณหนูครั้ง
ที่สองน่ะผลออกมาเป็ นยังไง?”
เซียงป้าสัน่ หัว
เฟิ งเย่หยางร้องออกมา “คุณหนูของเราหายดีแล้ว ตอนนี้นางแค่เสี ย
เลือดไปมากเท่านั้น เส้นลมปราณที่หวั ใจของนางหายดีแล้ว พลัง
วิญญาณในร่ างก็กลับเข้าสู่ ภาวะปกติแล้วด้วย”
“อะไรนะ?” เซียงป้าร้องออกมาอย่างเหลือเชื่อ เขาทําตาโตอย่าง
ตกใจ
ชายหนุ่มที่ชื่อชิงหยูกแ็ สดงความร้อนรนออกมาเล็กน้อยเช่นกัน เขา
ซักถามรายละเอียดเพิ่มเติมว่า “ท่านผูอ้ าวุโสเฟิ งหมายความว่า…”
เฟิ งเย่หยางพูดว่า “ถึงแม้ขา้ จะไม่รู้วา่ เมื่อครู่ แม่นางจวินได้ทาํ อะไร
แต่คุณหนูของเราหายดีแล้วจริ ง ๆ นางต้องการแค่การดูแลพยาบาล
อีกเล็กน้อยเท่านั้นก็จะกลับมาแข็งแรงดีเหมือนเดิม ทีน้ ีรู้รึยงั ว่าเมื่อกี้
เจ้าทําเรื่ องโง่แค่ไหน เจ้าโง่! เจ้าเกือบทําร้ายผูม้ ีพระคุณที่ช่วยชีวติ
คุณหนูของเราแล้ว! ยังจะมีหน้ามาจ้องข้าอีก!?”
เฟิ งเย่หยางพูดยังไม่ทนั จะขาดคํา ทุกคนในห้องก็พร้อมใจกันอ้าปาก
ค้างทันที!
ตอนที่ 874 ตบหน้ าครั้งที่ 9 (4)
ไม่มีใครสงสัยคําพูดของเฟิ งเย่หยาง ถ้าเขาลงความเห็นว่าฉูหลิงเย่
หายดีแล้ว มันก็ตอ้ งเป็ นความจริ งตามนั้น!
แต่หมอทุกคนที่นนั่ คือคนที่ทาํ การรักษาฉูหลิงเย่ในช่วงหลายวันที่
ผ่านมานี้ และพวกเขาก็รู้อาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่ดี จึงรู ้สึกว่ามัน
น่าเหลือเชื่อที่ฉูหลิงเย่หายสนิทได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ แบบนี้…แทบ
จะเรี ยกว่าชัว่ พริ บตาได้เลย มันเป็ นไปได้อย่างไรกัน?
สี หน้าของเซียงป้าตกตะลึงขีดสุ ดขณะที่มองเฟิ งเย่หยางก่อนจะหัน
ไปมองจวินอู๋เสี ยที่ยนื สงบนิ่งอยูด่ า้ นหนึ่ง
“จะ…จริ งหรื อขอรับ?” เซี ยงป้าพูดตะกุกตะกัก
“เจ้าคิดว่าข้าจะโกหกเจ้ารึ ?” เฟิ งเย่หยางพูดเสี ยดสี
ร่ างสู งใหญ่ของเซียงป้าสัน่ เล็กน้อย
เขารี บหันไปหาจวินอู๋เสี ยแล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่งทันที พร้อมกับพูด
อย่างขึงขังว่า “เมื่อครู่ ขา้ หยาบคายและล่วงเกินแม่นางจวิน ได้โปรด
อภัยให้ขา้ ด้วย!”
หัวหน้าตึกเพลิงพิโรธที่ดุร้ายและก้าวร้าวคุกเข่าลงเพื่อขอโทษจวินอู๋
เสี ยจริ ง ๆ เหตุการณ์ที่พลิกกลับอย่างฉับพลันนี้ทาํ ให้ทุกคนที่นนั่
ตะลึงงันกันไปหมด
เป็ นไปได้ยงั ไงที่จวินอู๋เสี ยจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของฉูหลิง
เย่ได้? นัน่ ต้องเป็ นเรื่ องล้อกันเล่นแน่ ๆ !
หมอทุกคนในห้องตกใจจนพูดไม่ออกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ตรงหน้า พวกเขาแทบจะบ้ากันอยูแ่ ล้ว ไม่รู้แล้วว่านี่เป็ นความฝัน
หรื อความจริ ง
“ลุกขึ้นเถอะ” จวินอู๋เสี ยพูด
เซี ยงป้าลุกขึ้นยืน สี หน้ายังคงเจื่อนอยู่ ดูเหมือนเขาจะรู ้สึกเสี ยใจมาก
ท่าทางดุร้ายรุ นแรงก่อนหน้านี้หายไปจนหมดสิ้ น ตรงกันข้ามสายตา
ที่มองจวินอู๋เสี ยนั้นดูสาํ นึกผิดและเสี ยใจ
“แม่นางจวิน เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูกนั แน่? แล้วเมื่อครู่ ท่านทํา
อะไร? ทําไมอยูด่ ี ๆ นางก็หายทันที?” ครั้งนี้เซียงป้าพูดกับจวินอู๋เสี ย
ด้วยนํ้าเสี ยงที่สุภาพและเคารพเป็ นอย่างมาก
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “นางไม่ได้บาดเจ็บเลยสักนิด เพราะงั้นก็ไม่
จําเป็ นต้องวิตกกังวลกันเลย”
“ไม่บาดเจ็บ?” เซี ยงป้ามองจวินอู๋เสี ยอย่างสับสน
จวินอู๋เสี ยเดินไปที่เตียงของฉูหลิงเย่และจับผมของนางยกขึ้นให้เห็น
คอ ที่ผวิ เนียนเรี ยบที่คอนั้นมีเข็มเงิน 3 เล่มแทงลงไปในเนื้อครึ่ งหนึ่ง
ตรงกลางของเข็มทั้ง 3 เล่มนั้นคือรอยชํ้าจาง ๆ ที่เห็นได้เนื่องจากผิว
สี ขาวเนียนนั้น
“นี่คือ?” ดวงตาของเฟิ งเย่หยางทอประกายงุนงงทันทีที่เห็นรอยชํ้า
นั้น มันถูกซ่อนเอาไว้อย่างดีที่ดา้ นหลังของฉูหลิงเย่ภายใต้ผมยาว
สยายของนาง แม้แต่เขาก็ยงั สังเกตไม่เห็นความผิดปกติ
“บางครั้งการทําให้คนดูเหมือนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็ไม่จาํ เป็ น
จะต้องทําร้ายร่ างกายกันจริ ง ๆ แค่ปิดผนึกเส้นลมปราณเอาไว้เพือ่ ทํา
ให้ชีพจรสับสนก็ได้ผลแล้ว” จวินอู๋เสี ยอธิบาย
ในที่สุดเฟิ งเย่หยางก็เข้าใจ “ที่แม่นางจวินพูดก็คือคุณหนูของเรา
ไม่ได้บาดเจ็บใช่ไหม? แต่ที่ชีพจรของนางเป็ นแบบนั้นก็เพราะมีคน
ตั้งใจทําให้ดูเป็ นแบบนั้น”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า
หมอหลวงหลี่มองจวินอู๋เสี ยอธิบายเรื่ องราวด้วยใบหน้าปราศจากสี
เลือด เขาพยายามอย่างหนักที่จะซ่อนความตื่นตระหนกในใจเอาไว้
และเคลื่อนที่ไปด้านหลังกลุ่มหมออย่างช้า ๆ ทีละนิด ตั้งใจว่าจะ
แอบหนีออกจากห้อง
“หมอหลวงหลี่ ท่านจะไม่อธิบายให้ทุกคนที่นี่ฟังหน่อยหรื อ?” จู่ ๆ
เสี ยงของจวินอู๋เสี ยก็ดงั ขึ้นโดยไม่ได้หนั มา!
เมื่อได้ยนิ เสี ยงเรี ยกนั้น ทุกสายตาก็หนั ไปมองหมอหลวงหลี่ที่กาํ ลัง
เตรี ยมตัวหนี
หมอหลวงหลี่หน้าซี ด เขามองจวินอู๋เสี ยแล้วรี บทําเป็ นใจกล้าพูดขึ้น
ว่า “ทําไมข้าต้องอธิบายอะไรด้วย!?”
“อ้าว?” จวินอู๋เสี ยเลิกคิว้ ขึ้นข้างหนึ่ง มุมปากยกขึ้นเป็ นรอยยิม้ เย็น
เยียบ “ก็ตอนที่ขา้ ปลดผนึกเส้นลมปราณให้ฉูหลิงเย่คราวที่แล้ว
อาการของนางก็หายเป็ นปกติดีแล้วนี่”
ตอนที่ 875 ตบหน้ าครั้งที่ 9 (5)
“อ้าว?” จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง มุมปากยกขึ้นเป็ นรอยยิม้ เย็น
เยียบ “ก็ตอนที่ขา้ ปลดผนึกเส้นลมปราณให้ฉูหลิงเย่คราวที่แล้ว
อาการของนางก็หายเป็ นปกติดีแล้วนี่ แต่กน็ ่าสนใจนะว่าหลังจาก
นั้นแค่คืนเดียว นางก็กลับเป็ นเหมือนเดิมอีก ถ้าไม่มีคนไปปิ ดผนึก
เส้นลมปราณของนางอีกในคืนนั้น เหตุการณ์แบบนี้กค็ งไม่เกิด”
“ข้าอยากรู ้อยูอ่ ย่างหนึ่ง การรักษาฉูหลิงเย่ในช่วงหลายวันที่ผา่ นมานี้
อยูใ่ นความรับผิดชอบของหมอทั้งกลุ่มที่นี่แบบเต็ม ๆ แล้วในคืนนั้น
พวกท่านทุกคนจัดเวรสลับกันเฝ้าดูแลนาง งั้นใครเป็ นคนที่แอบทํา
ร้ายนางกันล่ะ? หมอหลวงหลี่ไม่มีอะไรจะพูดเลยหรื อ?” จวินอู๋เสี ย
ถามยิม้ ๆ ดวงตาเป็ นประกายแวววาว
นางไม่คิดว่านางจะทําการรักษาฉูหลิงเย่ได้อย่างเต็มที่ในครั้งแรก แต่
นางตั้งใจมาหาตัวคนร้ายต่างหาก ตอนนี้นางเห็นภาพชัดเจนแล้วว่า
เกิดอะไรขึ้นกันแน่ นางจึงไม่รังเกียจที่จะให้คนร้ายได้ลิ้มรสชาติยา
ของตัวเอง!
“ข้า…ข้าจะไปรู ้ได้ยงั ไงว่าใครเป็ นคนทํา? พวกเรามีกนั ตั้งสิ บกว่า
คนสลับสับเปลี่ยนเวรกันทุกคืน และก็จะเฝ้าดูแลแม่นางฉูกนั ตาม
ลําพัง ไม่มีทางที่เราจะรู ้หรอกว่าใครคือคนร้าย” หมอหลวงหลี่พดู
พยายามหาทางรอดให้ตวั เอง
“ยังงั้นหรื อ? เช่นนั้นเราก็คงต้องขอให้หวั หน้าตึกเซียงสอบสวนเรื่ อง
นี้เพื่อหาตัวคนร้าย ใครกันที่กล้าใช้ฉูหลิงเย่เพื่อใส่ ร้ายคนอื่น? ฉูหลิง
เย่เป็ นถึงคุณหนูของเมืองพันอสู ร ตัวตนของนางพิเศษและแตกต่าง
จากคนทัว่ ไปมาก ใครกันที่อยากใช้อาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่เพื่อ
กระตุน้ ความโกรธของเมืองพันอสู ร?”
จวินอู๋เสี ยไม่ได้พดู ทุกอย่างที่อยูใ่ นใจออกมา นางรู ้วา่ สิ่ งที่นางพูดมา
นั้นเพียงพอแล้ว
เซี ยงป้าขมวดคิ้วทันทีและพูดว่า “ขอบคุณแม่นางจวินที่ช่วยเตือน
ข้าจะสอบสวนเรื่ องนี้ดว้ ยตัวเอง จะไม่ปล่อยให้คนที่คิดทําร้าย
คุณหนูของเราลอยนวลไปได้แน่”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า
จักรพรรดิและองค์ชายสี่ อยากจะใช้อาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่เพื่อ
ทําให้เมืองพันอสู รโกรธและป้ายความผิดให้นาง ขณะเดียวกันก็ทาํ
ให้องค์รัชทายาทเสื่ อมเสี ยชื่อเสี ยงไปด้วย ดังนั้นนางจึงแก้ไข
เหตุการณ์เล็กน้อย เมื่อความจริ งเบื้องหลังอาการบาดเจ็บของฉูหลิง
เย่ถูกเปิ ดเผยออกมา คนที่เมืองพันอสูรอยากจะตั้งคําถามก็จะไม่ใช่
องค์รัชทายาทเล่ยเฉินอีกต่อไป แต่…เป็ นองค์จกั รพรรดิแห่งแคว้น
หยานเองนี่แหละ!
ผลไม้ขม ๆ ลูกนี้คือของขวัญที่นางมอบให้กบั องค์จกั รพรรดิและ
องค์ชายสี่
“หมอหลวงหลี่ เรื่ องนี้จาํ เป็ นจะต้องสอบสวนอย่างละเอียด ข้าคง
ต้องรบกวนหมอทุกคนที่ทาํ การรักษาคุณหนูให้ช่วยร่ วมมือกับเมือง
พันอสู รด้วย ก่อนที่เรื่ องนี้จะกระจ่าง ข้าขอให้ทุกท่านอย่าออกไป
จากที่นี่” ใบหน้าของเซียงป้ามืดทะมึนและดูคุกคาม เขาบังคับให้
หมอทุกคนเข้าไปในที่คุมขัง
หมอหลวงหลี่ตื่นกลัวขึ้นมาทันที เขาพูดกับเซียงป้าอย่างร้อนรน “นี่
หมายความว่ายังไงหัวหน้าตึกเซียง? ต่อให้ตอ้ งมีการสอบสวน แต่
เหตุการณ์เกิดขึ้นในเมืองหลวงของแคว้นหยาน ย่อมต้องเป็ นหน้าที่
ของแคว้นหยานในการตรวจสอบ หัวหน้าตึกเซียงเป็ นแขกที่
เดินทางมาไกล ท่านควรปล่อยให้กองกําลังของเมืองหลวงเราจัดการ
กับเรื่ องนี้ให้ท่าน”
เซียงป้าส่ งเสี ยงฮึออกมาอย่างดูถูกแล้วพูดว่า “ปล่อยให้เมืองหลวง
จัดการงั้นรึ ? เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณหนูเราก็เกิดที่เมืองหลวงใน
แคว้นหยานนี่ และคนร้ายที่วางแผนชัว่ ก็อาจจะเป็ นคนของแคว้น
หยานด้วยเหมือนกัน ทําไมเราต้องปล่อยให้แคว้นหยานสอบสวน
เองด้วย!?”
คําพูดแบบขวานผ่าซากปราศจากความเกรงใจของเซียงป้าแทบจะ
ทําให้หมอหลวงหลี่กระอักเลือด ไม่สามารถหาคําดี ๆ มาโต้แย้งได้
เลย ดวงตาตื่นตระหนกของเขาหันไปทางเล่ยเฉินที่ยนื อยูด่ า้ นข้าง
อย่างรวดเร็ ว แล้วก็คิดขึ้นมาได้วา่ คน ๆ เดียวที่จะสามารถห้ามเซี ยง
ป้าไม่ให้เอาพวกเขาเข้าห้องสอบสวนได้ในตอนนี้กค็ ือองค์รัช
ทายาทแห่งแคว้นหยานเท่านั้น!
“องค์รัชทายาท! ท่านคือผูส้ ื บทอดบัลลังก์ของแคว้นหยาน ได้โปรด
เถอะพะย่ะค่ะ ช่วยพูดให้พวกเราด้วย ถ้าเมืองพันอสู รเป็ นคนจัดการ
เรื่ องของแคว้นหยานแล้วเรื่ องรั่วไหลออกไป แคว้นหยานจะเอาหน้า
ไปไว้ที่ไหน” เสี ยงหมอหลวงหลี่ตื่นกลัว ท่าทางของเขาที่มีต่อเล่ย
เฉินก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่มีความยโสจองหองไม่เกรงใจเหมือน
ก่อนหน้านี้อีก
ตอนที่ 876 ตบหน้ าครั้งที่ 9 (6)
สิ่ งที่เกิดขึ้นที่นี่ เล่ยเฉิ นเดาเอาไว้ในใจอยูแ่ ล้ว แต่ไม่วา่ เขาจะคิดยังไง
เรื่ องนี้มนั ก็เป็ นปัญหาภายในที่เกิดขึ้นในแคว้นหยานอยูด่ ี เล่ยเฉิ นไม่
อยากเห็นเมืองพันอสู รกลายเป็ นศัตรู กบั แคว้นหยานเพราะเรื่ องนี้
เล่ยเฉินหรี่ ตา แม้วา่ เขาจะคิดเช่นเดียวกับหมอหลวงหลี่ แต่เขาก็ไม่
อยากช่วยพวกหมอเถื่อนกลุ่มนี้จริ ง ๆ แต่เนื่องจากเรื่ องนี้จะกระทบ
ความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นหยานกับเมืองพันอสู ร เขาจะยืนเฉย ๆ
ไม่ได้หากว่านี่จะทําให้ความสัมพันธ์มีปัญหา
พอเล่ยเฉินกําลังจะอ้าปากพูด ทันใดนั้นเขาก็เห็นสายตาเย็นชาของ
จวินอู๋เสี ยที่มองมา ทําให้เขาชะงักนิ่งไปในทันที
จวินอู๋เสี ยกําลังบอกเขาว่าอย่าเข้าไปยุง่ เกี่ยวกับเรื่ องนี้
เล่ยเฉินลังเลอยูค่ รู่ ก่อนจะพูดว่า “ที่หวั หน้าตึกเซี ยงพูดก็ถูก
เหตุการณ์น้ ีเกิดขึ้นเนื่องจากแคว้นหยานของเราเป็ นเจ้าภาพที่ไม่ดี
ข้าหวังว่าหัวหน้าตึกเซียงจะสามารถหาตัวคนร้ายที่อยูเ่ บื้องหลังเรื่ อง
นี้ได้พบ และจะปล่อยให้การสอบสวนเรื่ องนี้อยูใ่ นความรับผิดชอบ
ของหัวหน้าตึกเซียง”
เซียงป้าพยักหน้าอย่างพอใจ ขณะที่หมอหลวงหลี่ยงิ่ ดูตื่นตระหนก
มากขึ้น เขามองเล่ยเฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไม่อาจยอมรับได้วา่ เล่ย
เฉิ นจะยอมรับคําขอของเซียงป้าอย่างง่ายดายเช่นนั้น
“ฝ่ าบาท! องค์รัชทายาท!” หมอหลวงหลี่เรี ยกด้วยนํ้าเสี ยงวิงวอนสิ้ น
หวัง
เล่ยเฉินไม่ยอมมองเขาเลยสักนิด
หมอคนอื่นมองร่ างสู งใหญ่ของเซียงป้าแล้วพากันตัวสัน่ ทุกคนรู ้วา่
ต่อให้พวกเขารวมกันก็ยงั สู ้ชายร่ างยักษ์คนนี้ไม่ได้
เมื่อเซียงป้าแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนแล้ว และเล่ยเฉินก็เห็นด้วย เรื่ อง
เป็ นแบบนี้กไ็ ม่มีทางออกอื่นอีกแล้ว พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจาก
ยอมจํานน
“วิกฤตของคุณหนูผา่ นพ้นไปได้ในครั้งนี้กเ็ พราะความช่วยเหลือของ
แม่นางจวิน เซียงป้าหุนหันพลันแล่นจนล่วงเกินแม่นางจวิน ขอแม่
นางจวินอภัยให้ดว้ ย หากแม่นางจวินไม่รังเกียจ…ข้าอยากจะขอให้
แม่นางจวินช่วยดูแลคุณหนูต่อไปพร้อมกับผูอ้ าวุโสเฟิ งด้วย” เซี ยง
ป้าหันไปมองจวินอู๋เสี ย แววตาเปลี่ยนเป็ นกระตือรื อร้น นํ้าเสี ยงของ
เขาทั้งจริ งใจและเคารพ
จวินอู๋เสี ยกวาดสายตามองเซี ยงป้าแล้วนิ่งเงียบอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะพูด
ว่า “ได้สิ”
เซียงป้ายิม้ ออกมาทันที เขาขอบคุณจวินอู๋เสี ยอย่างมากมายไม่หยุด
ในขณะเดียวกัน หมอหลวงหลี่ที่หน้าซีดขาวกําลังแอบมองจวินอู๋
เสี ย เขาไม่เข้าใจจริ ง ๆ ว่าเด็กผูห้ ญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้สงั เกตเห็นสิ่ งที่
หลุดรอดจากการสังเกตของหมอเทวดา เฟิ งเย่หยาง ไปได้ยงั ไง?
และนางยังแก้ไขอาการนี้ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
เจียงหยิงหลงละอายแก่ใจตัวเองยิง่ นัก เขาทําตามคําสัง่ ของเซียงป้าที่
ให้ “เชิญ” หมอทุกคนไปพักที่หลังโรงเตี๊ยมชัว่ คราวเพือ่ รอการ
สอบสวนของเซียงป้า
หมอทั้งหมดในห้องเดินออกจากห้องไป เหลือเพียงคนทั้งสามที่มา
จากเมืองพันอสู รและจวินอู๋เสี ยกับเล่ยเฉินที่อยูใ่ นนั้น
เมื่อคนพากันออกจากห้องไปหมดแล้ว เซียงป้าก็มีโอกาสพูดสิ่ งเก็บ
ไว้ในใจออกมา “แม่นางจวินเป็ นคนของแคว้นฉี แล้วทําไมถึงมาอยู่
ที่เมืองหลวงแคว้นหยานได้ล่ะขอรับ? สาเหตุที่แท้จริ งของเหตุการณ์
นี้ ข้าเชื่อว่าแม่นางจวินมีความคิดในใจอยูแ่ ล้ว แต่ขา้ ไม่รู้วา่ แม่นาง
จวินคิดอะไรอยูถ่ ึงไม่เปิ ดเผยความจริ งออกมาต่อหน้าทุกคน”
จากการที่เห็นจวินอู๋เสี ยแก้ไขความลึกลับเบื้องหลังอาการของฉูหลิง
เย่ได้อย่างง่ายดายนั้น และเมื่อเห็นนางเรี ยกหมอหลวงหลี่ขณะที่เขา
กําลังพยายามหลบหนี ถึงเซียงป้าจะไม่ฉลาดมากนัก แต่เขาก็ยงั คิด
ได้วา่ เด็กสาวคนสวยตรงหน้าเขานั้นฉลาดเฉลียวและมีไหวพริ บเป็ น
อย่างมาก
นางจะต้องมองทะลุถึงแผนการของคนร้ายได้อย่างแน่นอน
จวินอู๋เสี ยไม่แปลกใจกับคําถามของเซี ยงป้า นางเดินไปนัง่ ที่เก้าอี้ เท
ชาลงในถ้วยก่อนจะยกขึ้นจิบช้า ๆ
ตอนที่ 877 ตบหน้ าครั้งที่ 9 (7)
จากนั้นนางก็ตอบว่า “เรื่ องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับแคว้นฉี เลย เป็ น
เพราะองค์รัชทายาทได้ขอให้ขา้ มาช่วยฉูหลิงเย่เท่านั้น นี่เป็ นเรื่ อง
ระหว่างแคว้นหยานกับเมืองพันอสู ร วังหลินไม่ได้คิดจะเข้ามาข้อง
เกี่ยวอยูแ่ ล้ว แคว้นฉีไม่พร้อมที่จะมีศตั รู อย่างแคว้นหยานหรอก”
ชิงหยูพดู ขึ้นว่า “ข้าเข้าใจความกังวลของแม่นางจวินในเรื่ องนี้ และ
พวกเรารู ้สึกขอบคุณในความช่วยเหลือขององค์รัชทายาทเช่นกัน”
เล่ยเฉินที่อยู่ ๆ ก็ได้รับคําขอบคุณจากพวกเขาก็รู้สึกประหลาดใจ เขา
คิดว่าหลังเรื่ องนี้ถูกเปิ ดเผยขึ้นมา เมืองพันอสูรจะต้องเกลียดแคว้น
หยานเอามาก ๆ เป็ นแน่ แต่ดูเหมือนเหตุการณ์จะแตกต่างจากที่เขา
คิดเอาไว้เล็กน้อย เขาหันไปมองหน้าจวินอู๋เสี ยโดยไม่ได้ต้ งั ใจแล้วก็
ฉุกคิดขึ้นมาได้
เขารู ้แล้วว่าที่จวินอู๋เสี ยไม่ยอมออกหน้าเรื่ องการรักษาฉูหลิงเย่น้ นั
ไม่ใช่สาเหตุอื่นใดเลยนอกจากจะยกความดีความชอบในเรื่ องนี้
ให้กบั เขา!
ที่นางพูดว่านางแค่เข้ามาช่วยก็เพราะคําขอร้องของเขานั้น ก็เพื่อทํา
ให้เมืองพันอสู รเป็ นหนี้บุญคุณเขาครั้งใหญ่! ไม่วา่ คนจากเมืองพัน
อสู รพวกนี้จะเป็ นศัตรู กบั แคว้นหยานยังไงก็ตาม แต่กบั องค์รัช
ทายาทแล้ว พวกเขาจะมีแต่ความสํานึกบุญคุณ!
เพื่อทําให้เมืองพันอสู รกลายเป็ นพวกเดียวเขา เล่ยเฉินได้ลงทั้งแรง
และความคิดไปมากมายเป็ นเวลานานหลายปี เขาจําไม่ได้วา่ เขาเอา
อกเอาใจฉูหลิงเย่ไปมากแค่ไหน แต่ผลที่ได้รับกลับมาก็เล็กน้อย
เหลือเกิน เขาไม่คิดเลยว่าแค่คาํ พูดไม่กี่คาํ จากจวินอู๋เสี ยในวันนี้ นาง
จะทําให้เขาบรรลุวตั ถุประสงค์ที่พยายามมานานหลายปี ได้สาํ เร็ จ!
ตอนนั้นเล่ยเฉินแทบจะหลัง่ นํ้าตาด้วยความซาบซึ้งให้แก่แม่นาง
จวิน!
ถ้าจวินอู๋เสี ยไม่ได้เกิดที่วงั หลินในแคว้นฉีล่ะก็ เล่ยเฉินคงไม่ลงั เลที่
จะขอให้นางมาช่วยเหลือเขา
“ไม่จาํ เป็ นต้องขอบคุณหรอก ฉูหลิงเย่กบั ข้าก็เป็ นศิษย์ร่วมสํานัก
เดียวกัน เห็นนางตกอยูใ่ นสภาพเช่นนี้ทาํ ให้ขา้ เจ็บปวดนัก ที่อาการ
ของนางดีข้ ึนก็เป็ นรางวัลตอบแทนที่เพียงพอแล้ว” เล่ยเฉินไม่ใช่คน
โง่ เขารู ้วา่ เขาต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้
“ไม่วา่ เรื่ องนี้จะจบลงยังไง ฝ่ าบาทก็คือมิตรของเมืองพันอสู ร
ตลอดไปพะย่ะค่ะ” เซียงป้าพูดพร้อมกับหัวเราะดังลัน่ เขาเอามือทุบ
อกของตัวเอง
เล่ยเฉินพยักหน้า
หลังจากนั้นเฟิ งเย่หยางและจวินอู๋เสี ยก็ทาํ การรักษาฉูหลิงเย่ต่อ ตอน
ที่เส้นลมปราณของนางถูกปิ ดผนึก มันได้ทาํ ให้แก่ร่างกายของนาง
สับสนปรวนแปรอย่างมาก ถึงแม้ทุกอย่างจะกลับเข้าที่เข้าทางแล้ว
แต่การที่นางอาเจียนเป็ นเลือดครั้งแล้วครั้งเล่านั้นก็ทาํ ให้นางเสี ย
เลือดไปมาก แต่เมื่อมีหมอเทวดาอย่างเฟิ งเย่หยางกับจวินอู๋เสี ย
อาการบาดเจ็บง่าย ๆ เช่นนั้นก็ไม่เกินความสามารถของพวกเขา
หลายชัว่ โมงต่อมาฉูหลิงเย่กฟ็ ้ื นตัวขึ้นมากและคาดว่านางจะฟื้ น
ขึ้นมาในคืนนั้น
จวินอู๋เสี ยกับเล่ยเฉิ นจึงบอกลาเซียงป้ากับคนอื่น ๆ
แต่ก่อนที่พวกเขาจะจากไป เล่ยเฉินก็ลงั เลอยูค่ รู่ หนึ่งและสุ ดท้ายก็
หันกลับไปและเดินไปหาเซียงป้า “ท่านหัวหน้าตึกเซี ยง ผูน้ อ้ ยมี
เรื่ องจะขอร้องท่าน”
เซี ยงป้าพูดขึ้น “ฝ่ าบาทสุ ภาพเกินไปแล้ว หากมีสิ่งใดที่พวกเรา
สามารถทําให้ได้ ฝ่ าบาทตรัสมาเลยพะย่ะค่ะ”
“อาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่เกิดขึ้นในรอบตัดสิ นหาผูช้ นะของเขต
ในศึกประลองวิญญาณ ผูเ้ ยาว์ที่เป็ นคู่ต่อสู ข้ องนางตอนนี้ยงั ถูกคุมขัง
อยูใ่ นคุกของเมืองหลวง เมื่อความจริ งปรากฏแล้วว่าอาการบาดเจ็บ
ของนางไม่ได้เกี่ยวข้องกับผูเ้ ยาว์คนนั้นเลย ข้าหวังว่าหัวหน้าตึก
เซียงจะไปพูดให้ผเู ้ ยาว์คนนั้นพ้นผิดได้ พวกเขาจะได้ปล่อยเด็กคน
นั้นเร็ ว ๆ” เล่ยเฉิ นเป็ นห่วงจวินเสี ยที่ถูกจับขังคุกมาก ไม่ได้รู้เลยว่า
เจ้าตัวที่เขาห่วงอยูน่ ้ นั กําลังยืนอยูห่ ่างจากเขาไม่ถึงสามก้าว
เซียงป้าประหลาดใจเล็กน้อย เขาตอบทันทีวา่ “ข้าทําแน่ ผูเ้ ยาว์ที่
ชื่อจวินเสี ยนัน่ คงลําบากมากที่อยู่ ๆ ก็ซวยแบบนั้น พรุ่ งนี้เช้าข้าจะ
เดินทางไปที่นนั่ ทันที ฝ่ าบาทโปรดวางใจ”
เมื่อเซี ยงป้ารับคําเช่นนั้น เล่ยเฉินก็โล่งอก หลังจากกล่าวคําอําลาเขา
ก็จากไปพร้อมจวินอู๋เสี ย
“ข้าต้องขอบคุณแม่นางจวินอย่างที่สุดสําหรับความช่วยเหลือของ
ท่านในครั้งนี้” ภายในรถม้า เล่ยเฉินเอาแต่กล่าวคําขอบคุณจวินอู๋เสี ย
ซํ้า ๆ อยูอ่ ย่างนั้น
ตอนที่ 878 ตื่นตระหนก (1)
จวินอู๋เสี ยส่ ายหน้าและไม่ได้พดู อะไรมากนัก เพียงแต่ให้เล่ยเฉินส่ ง
นางที่ตาํ หนักเซี ยนแล้วแยกย้ายกันไป
เล่ยเฉินไม่เคยคิดเลยว่า หลังจากครั้งนี้แล้ว ครั้งต่อไปที่เขาได้พบ
กับจวินอู๋เสี ยด้วยโฉมหน้าที่แท้จริ งของนาง แคว้นหยานจะ
เปลี่ยนไปอย่างสิ้ นเชิง
…………….
ฉูหลิงเย่ฟ้ื นขึ้นมาในคืนนั้นอย่างที่คาดการณ์ไว้ หลังจากได้สติ
กลับมา นางก็ได้รู้ทุกสิ่ งที่เกิดขึ้นในขณะที่นางหมดสติไปซึ่งทําให้
นางตกใจมาก นางจําไม่ได้เลยว่าโดนจวินเสี ยโจมตีในตอนที่มีสติ
อยู!่ สิ่ งเดียวที่นางจําได้คือก่อนที่จะหมดสติไป อยู่ ๆ นางก็รู้สึกเจ็บ
แปลบ ๆ ที่ดา้ นหลังคอ หลังจากนั้นนางก็หมดสติไป
พอนางรู ้วา่ จวินเสี ยยังถูกคุมขังอยูใ่ นคุก ฉูหลิงเย่กไ็ ม่สนใจว่าตัวเอง
เพิ่งจะฟื้ นขึ้นมา และยืนกรานจะเดินทางไปที่คุกในคืนนั้นเพื่อเอา
จวินเสี ยออกจากที่นนั่ นางขอโทษขอโพยเขายกใหญ่แต่จวินเสี ยแค่
ตอบรับพอเป็ นพิธีแล้วก็เดินทางกลับตําหนักเซี ยนทันที
และข่าวเรื่ องนี้กไ็ ปถึงวังหลวงอย่างรวดเร็ ว
องค์จกั รพรรดิที่นงั่ อยูใ่ นห้องทรงพระอักษรกําลังพิจารณาฎีกาอยูท่ ี่
โต๊ะ พอเห็นเล่ยฟ่ านพุง่ เข้ามาอย่างตื่นตระหนกเขาก็วางพูก่ นั ลง
ทันที และถามขึ้นด้วยรอยยิม้ ใจดีวา่ “ดึกแล้วนะลูก มาที่นี่ทาํ ไม
หรื อ?”
“เสด็จพ่อ!” เล่ยฟ่ านคุกเข่าลงตรงหน้าจักรพรรดิโดยไม่พดู พรํ่าทํา
เพลง
“เกิดอะไรขึ้น? ลุกขึ้นแล้วบอกพ่อ” จักรพรรดิลุกขึ้นทันที ตั้งใจจะ
ช่วยพยุงเล่ยฟ่ านให้ลุกขึ้น
ใบหน้ามีเสน่ห์ของเล่ยฟ่ านบิดเบี้ยวด้วยความกลัว “ฉูหลิงเย่ฟ้ื นแล้ว
พะย่ะค่ะ!”
“อะไรนะ?” มือของจักรพรรดิที่ยนื่ ออกไปค้างอยูก่ บั ที่ รอยยิม้ ใจดี
ของเขาก็แข็งค้างเช่นกัน
“ลูกเพิ่งได้ข่าวนี่เอง! คนของเมืองพันอสู รมาถึงเมืองหลวงวันนี้
พวกเขาตรงไปที่โรงเตี๊ยมที่สาํ นักศึกษาธงศึกพักอยูท่ นั ที ไม่มีใครรู ้
ว่าทําไมแต่จู่ ๆ พี่ใหญ่กพ็ าจวินอู๋เสี ยจากวังหลินของแคว้นฉีไปที่นนั่
และจวินอู๋เสี ยก็รักษาฉูหลิงเย่จนหายดีต่อหน้าคนจากเมืองพันอสู ร!
นางยังบอกความจริ งเบื้องหลังอาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่ให้คนของ
เมืองพันอสู รรู ้อีกด้วย! ตอนนี้คนของเมืองพันอสู รจับหมอหลวงหลี่
กับหมอคนอื่น ๆ กักตัวไว้ที่โรงเตี๊ยม และจะสอบสวนพวกเขาด้วย
ตัวเองพะย่ะค่ะ!” เล่ยฟ่ านพูดด้วยสี หน้าใกล้จะร้องไห้ ตอนแรกที่
เขาได้ยนิ ข่าว เขาก็รู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาด
“มันกลายเป็ นแบบนี้ไปได้ยงั ไง? แคว้นฉี? วังหลิน? เล่ยเฉินไปรู ้จกั
กับคนของวังหลินได้ยงั ไง?” องค์จกั รพรรดิสบั สนไปหมด เขาคิดว่า
หลังจากคนของเมืองพันอสู รมาถึง ทุกอย่างจะเป็ นไปตามแผนที่เขา
วางไว้ เมืองพันอสู รจะไม่ปล่อยให้จวินเสี ยพ้นโทษไปได้แน่ และ
เมื่อจวินเสี ยจะถูกเมืองพันอสู รเอาตัวไปลงโทษ เขาจะต้องยอมรับ
ข้อเสนอของเล่ยฟ่ านอย่างแน่นอน เมื่อเวลานั้นมาถึงเขาก็จะให้คน
ปล่อยข่าวว่าจวินเสี ยสนิทสนมกับองค์รัชทายาท และจะโยน
ความผิดให้องค์รัชทายาทซึ่งจะทําให้เมืองพันอสู รเกิดความไม่พอใจ
องค์รัชทายาทเป็ นอย่างมาก
เมื่ออารมณ์ของคนจากเมืองพันอสู รเดือดเต็มที่แล้ว เขาก็จะสัง่ ให้
หมอหลวงหลี่ “รักษา” ฉูหลิงเย่ แล้วแคว้นหยานก็จะไม่มีความ
ขัดแย้งทางการเมืองกับเมืองพันอสู ร
แผนการของเขาทุก ๆ ขั้นตอนถูกคิดคํานวณมาอย่างละเอียดถี่ถว้ น
ถ้าเป็ นไปตามที่วางแผนไว้ ทั้งองค์รัชทายาทและจวินเสี ยก็จะต้อง
เดือดร้อน แต่เหตุการณ์กพ็ ลิกกลับแบบไม่คาดคิด ทําเอาแผนของ
เขาพังยับเยิน
“ลูกก็ไม่รู้เหมือนกัน! ที่ลูกรู ้กค็ ือฉูหลิงเย่ไปที่คุกและปล่อยจวินเสี ย
ให้เป็ นอิสระแล้ว! เสด็จพ่อ! เราจะทํายังไงกันดี?” แม้เล่ยฟ่ านจะไม่
รู ้ถึงการกระทําทั้งหมดของเสด็จพ่อของเขา แต่เขาก็พอจะเดาได้
คร่ าว ๆ ตอนนี้แผนทั้งหมดถูกทําลายลงแล้ว นอกจากเมืองพันอสู ร
จะไม่โกรธจวินเสี ยกับเล่ยเฉิ นแล้ว พวกเขากลับรู ้สึกเป็ นหนี้บุญคุณ
เล่ยเฉินซะอีก เพราะเล่ยเฉิ นเป็ นคนเชิญคุณหนูจากวังหลินให้มา
รักษาฉูหลิงเย่
ตอนที่ 879 ตื่นตระหนก (2)
ตรงกันข้าม กลับเป็ นหมอหลวงหลี่ที่ถูกจักรพรรดิสงั่ ให้ไปคอยเฝ้าฉู
หลิงเย่ที่ตอ้ งอยูใ่ นสถานการณ์ลาํ บากในตอนนี้
เมื่อคนของเมืองพันอสู รเริ่ มทําการสอบสวน ตาแก่กระดูกผุอย่าง
หมอหลวงหลี่ยอ่ มไม่สามารถทนได้อย่างแน่นอน!
ไม่นานหรอกเขาจะต้องเปิ ดเผยความจริ งที่วา่ จักรพรรดิเป็ นผูส้ งั่ เขา
ให้ทาํ เช่นนี้
“ไม่ตอ้ งตื่นตระหนกไปหรอกลูก พ่อจะจัดการเรื่ องนี้เอง” องค์
จักรพรรดิพดู พร้อมกับตบบ่าเล่ยฟ่ านให้วางใจ และบอกให้เขาเลิก
เครี ยด จากนั้นองค์จกั รพรรดิกส็ งั่ อีกเล็กน้อยถึงสิ่ งที่เขาควรทําแล้ว
ให้เขากลับไปพักผ่อน
หลังจากรอจนเล่ยฟ่ านออกไปแล้ว องค์จกั รพรรดิกไ็ ม่ได้กลับไปนัง่
ที่เก้าอี้
ทันใดนั้นชายชุดดําคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องทรงพระอักษร
“จวินอู๋เสี ยอะไรนัน่ มันยังไงกันแน่? ลูกน้องเจ้ามันไม่ได้เรื่ องกันเลย
รึ ไง? คนจากแคว้นฉีที่มีชื่อเสี ยงขนาดนั้นมาที่เมืองหลวง แต่พวกเจ้า
กลับไม่รู้เรื่ องกันสักคน!?” องค์จกั รพรรดิพดู ขึ้นพร้อมกับจ้องมอง
ชายชุดดําอย่างโกรธจัด
ชายชุดดําคนนั้นตัวแข็งทื่อ เขากลืนนํ้าลายเงียบ ๆ “กระหม่อมพลาด
ที่ตรวจไม่พบเรื่ องนี้ แต่ในช่วงที่ผา่ นมานี้ กระหม่อมไม่ได้ข่าวเรื่ อง
คนจากแคว้นฉีเข้ามาในเมืองหลวงเลยพะย่ะค่ะ คิดว่าคุณหนูวงั หลิน
แห่งแคว้นฉีผนู ้ ้ ีตอ้ งปกปิ ดตัวตนตอนที่เข้ามาในเมืองแน่ ถึงได้ไม่มี
ใครรู ้เรื่ องเลยสักคน”
“ไอ้พวกสวะไม่ได้เรื่ อง! แย่อยูแ่ ล้วยิง่ แย่เข้าไปอีก! จนถึงวันนี้กย็ งั
หาตัวจ้าวซุนไม่เจอ แล้วนี่ยงั จะปล่อยให้คนจากวังหลินเข้านอก
ออกในเมืองหลวงแคว้นหยานของเราได้ตามอําเภอใจอีก!” องค์
จักรพรรดิตวั สัน่ ด้วยความโกรธ
ถึงแม้แคว้นฉีจะเป็ นแคว้นเล็ก ๆ แต่พวกเขาก็มีกองทัพรุ่ ยหลิน กอง
กําลังที่ได้ชื่อว่าโจมตีได้ดุดนั ที่สุดอยูภ่ ายใต้บงั คับบัญชาของวังหลิน
และตอนนี้คุณหนูแห่งวังหลินก็ทาํ ท่าว่าจะเป็ นพวกเดียวกับเล่ยเฉิ น
อีก ซึ่งนัน่ ทําให้องค์จกั รพรรดิหงุดหงิดกังวลเป็ นอย่างมาก
“แล้วนี่เจ้าไม่ควรออกไปสื บหาอยูห่ รอกหรื อว่าองค์รัชทายาทกับ
จวินอู๋เสี ยมีความสัมพันธ์กนั แบบไหน!? ไปดูซิวา่ พวกเขาทํา
ข้อตกลงอะไรกันไว้รึเปล่า!?”
“พะย่ะค่ะ! กระหม่อมจะไปเดี๋ยวนี้!”
แต่องค์จกั รพรรดิกพ็ ดู ขึ้น “เดี๋ยว!”
“ฝ่ าบาทมีอะไรให้กระหม่อมรับใช้อีกหรื อพะย่ะค่ะ?”
องค์จกั รพรรดิหรี่ ตาที่ส่องประกายชัว่ ร้ายออกมา
“ช่วยข้ากําจัดคนอีกคน”
“ใครพะย่ะค่ะ?”
“หมอหลวงหลี่”
ชายชุดดําประหลาดใจ หมอหลวงหลี่เป็ นหมอที่รับใช้ขา้ งกายองค์
จักรพรรดิและรับคําสัง่ จากองค์จกั รพรรดิโดยตรง ทัว่ แคว้นหยาน
ความสามารถทางการแพทย์ของเขาถูกจัดว่าสู งที่สุด และหมอ
หลวงหลี่กเ็ ป็ นที่ไว้ใจขององค์จกั รพรรดิเสมอมา
แต่บดั นี้องค์จกั รพรรดิกลับต้องการฆ่าหมอหลวงหลี่!
“คนจากเมืองพันอสู รสงสัยเรื่ องอาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่แล้ว ข้า
จะปล่อยให้พวกเขาได้คาํ สารภาพจากหมอหลวงหลี่ไปไม่ได้ หมอ
หลวงหลี่อาจจะจงรักภักดีกไ็ ด้ แต่วา่ ในโลกใบนี้มีเพียงคนตาย
เท่านั้นที่รักษาความลับเอาไว้ได้” องค์จกั รพรรดิพดู เสี ยงตํ่า
“ไปจัดการซะและอย่าทิ้งร่ องรอยอะไรไว้อีกล่ะ”
“เข้าใจแล้วพะย่ะค่ะ!” ชายชุดดําพยักหน้าแล้วล่าถอยออกจากห้อง
ทรงพระอักษรไปทันที
เมื่อนัง่ อยูค่ นเดียวในห้อง องค์จกั รพรรดิกถ็ อนใจออกมาเฮือกใหญ่
บางทีเขาก็รู้สึกว่าหลังจากศึกประลองวิญญาณเสร็ จไปครึ่ งหนึ่ง
บรรยากาศในเมืองหลวงแคว้นหยานก็น่าอึดอัดเหลือเกิน เหมือนมี
บางอย่างที่คอยขัดขวางแผนการของเขาซุกซ่อนอยู่
……………
ในที่สุดจวินอู๋เสี ยก็ถูกปล่อยออกจากคุกและกลับมาที่ตาํ หนักเซี ยน
เชียวชูกบั คนอื่น ๆ ลากนางไปเฮฮาไร้สาระด้วยกัน เมื่อนางกลับไป
ที่หอ้ งของตัวเองก็ดึกมากแล้ว นางกําลังจะพักผ่อนก็ได้ข่าวจากเย่ฉา
ที่ไปสื บข่าวในวัง
“หื อ? จักรพรรดิแห่งแคว้นหยานพูดอย่างนั้นจริ ง ๆ หรื อ?” จวินอู๋
เสี ยถาม นางนัง่ ไขว้ขาเอาศอกวางบนขาและเอามือเท้าคาง นางรู ้สึก
ง่วงมากจนตาจะปิ ดอยูแ่ ล้ว
“ขอรับ! คุณหนูตอ้ งการให้ขา้ ไปช่วยหมอหลวงหลี่รึเปล่าขอรับ?” เย่
ฉาถาม
ตอนที่ 880 ตื่นตระหนก (3)
“ช่วยเขา? ช่วยทําไม?” จวินอู๋เสี ยถามพลางเลิกคิ้ว
“ก็คนของเมืองพันอสู รไม่ได้จะสอบสวนหมอพวกนั้นเพื่อหาความ
จริ งหรอกเหรอขอรับ?” เย่ฉาถามอย่างงุนงง
จวินอู๋เสี ยกลับโบกมืออย่างเกียจคร้านแล้วพูดว่า “ถ้าจักรพรรดิอยาก
หาเรื่ องตาย ทําไมข้าต้องไปห้ามด้วย ปล่อยไปเหอะ”
เย่ฉายิง่ งงหนักขึ้น
จวินอู๋เสี ยจึงพูดอย่างอดทนว่า “ต่อให้คนของเมืองพันอสูรสื บหา
ความจริ งมาได้ พวกเขาก็ทาํ ได้แค่เก็บความเกลียดชังเอาไว้ในใจ เจ้า
เมืองของพวกเขาน่าจะฉลาดพอที่จะไม่มีเรื่ องมีราวกับแคว้นที่ใหญ่
ที่สุดและมีอาํ นาจมากที่สุด นอกจากนั้นฉูหลิงเย่กไ็ ม่ได้บาดเจ็บจาก
เหตุการณ์น้ ีจริ ง ๆ พวกเขาจึงไม่น่าจะทําให้เรื่ องราวมันใหญ่โต
ขึ้นมา จะฆ่าหมอหลวงหลี่รึไม่กไ็ ม่ต่างกันหรอก แต่วธิ ีจดั การปัญหา
ขององค์จกั รพรรดิแห่งแคว้นหยานก็เป็ นแค่การฝังหัวตัวเองลงใน
ทรายเท่านั้นแหละ ฆ่าหมอหลวงหลี่ตายก็ไม่ต่างกับการที่หมอ
หลวงหลี่พดู ความจริ ง ต่อให้เซียงป้าไม่เข้าใจ แต่พอเขากลับไป
รายงานให้เจ้าเมืองฟัง เจ้าเมืองของพวกเขาก็จะรู ้เองว่าใครคือผูอ้ ยู่
เบื้องหลังเรื่ องทั้งหมดนี้”
เมื่อจวินอู๋เสี ยอธิบายให้ฟัง เย่ฉาจึงเข้าใจจุดประสงค์ของจวินอู๋เสี ย
ในทันที
“จักรพรรดิแห่งแคว้นหยานอยากได้เมืองพันอสู รมาเป็ นพวก ข้าก็จะ
ขัดขวางเขา เมื่อเขาไม่ชอบเล่ยเฉิน ข้าก็จะให้เมืองพันอสู รสํานึกใน
บุญคุณของเล่ยเฉิ น” จวินอู๋เสี ยยิม้ อย่างเย็นเยียบ ใครที่คิดจะวางแผน
เล่นงานนางต้องดูตวั เองให้ดีก่อนว่ามีความสามารถพอรึ เปล่า
“แผนการของคุณหนูสมบูรณ์แบบจริ ง ๆ ขอรับ!” เย่ฉาประทับใจใน
ความเฉลียวฉลาดของจวินอู๋เสี ยอีกครั้ง แม้แต่ในต่างแคว้นที่ทุก
อย่างไม่คุน้ เคย นางยังสามารถใช้ทุกอย่างที่มีพลิกสถานการณ์ได้!
“ไปได้แล้ว” จวินอู๋เสี ยรู ้สึกเหนื่อยมาก นางต้องการพักผ่อนแล้ว
เย่ฉาจึงออกจากห้องไปทันที
เช้าตรู่ วนั รุ่ งขึ้น พบการฆาตกรรมที่โรงเตี๊ยมที่พกั ของสํานักศึกษาธง
ศึก เหยือ่ คือหมอหลวงหลี่ที่คอยรับใช้องค์จกั รพรรดิโดยตรงมา
เสมอ เจ้าหน้าที่บา้ นเมืองของเมืองหลวงแคว้นหยานได้ส่งคนมา
สอบสวนเรื่ องที่เกิดขึ้น ว่ากันว่าหมอหลวงหลี่ถูกฆ่าอย่างโหดร้าย
เลือดกระจัดกระจายไปทัว่ สถานที่เกิดเหตุ
การตายอย่างกะทันหันของหมอหลวงหลี่ทาํ ให้เซียงป้าหงุดหงิดมาก
แต่กท็ าํ อะไรไม่ได้ หลังจากเกิดเรื่ องขึ้นเซียงป้าก็ถามคําถามหมอคน
ที่เหลือพอเป็ นพิธีแล้วก็ปล่อยไปทันที แม้วา่ จะไม่ได้ขอ้ สรุ ปอะไร
จากคําให้การของพวกเขาก็ตาม
อีกเพียงวันเดียวก็จะถึงรอบตัดสิ นตําแหน่ง 10 อันดับแรกในศึก
ประลองวิญญาณแล้ว เพราะเรื่ องที่เกิดขึ้นระหว่างจวินเสี ยกับฉูหลิง
เย่ในรอบตัดสิ นหาผูช้ นะในเขตของพวกเขา ทั้งสองคนจึงเสี ยสิ ทธิ์
ในการเข้าสู่ 10 อันดับแรก แต่หลังจากฉูหลิงเย่ฟ้ื นขึ้นมาและจวิน
เสี ยก็พน้ ผิดแล้ว ทั้งสองคนจึงน่าจะประลองกันอีกครั้งแต่ฉูหลิงเย่
ได้ประกาศถอนตัวอย่างรวดเร็ ว
การถอนตัวของฉูหลิงเย่น้ นั ไม่ตอ้ งพูดอะไรกันมากเนื่องจากผูเ้ ยาว์ที่
ได้เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นที่จวินเสี ยกับฉูหลิงเย่เผชิญหน้ากันด้วย
ตาตัวเองรู ้อยูแ่ ก่ใจดีวา่ ต่อให้แข่งกันใหม่อีกครั้ง ผูช้ นะก็คือจวิน
เสี ยอย่างไม่ตอ้ งสงสัย
เมื่อไม่ถูกตราหน้าว่าเป็ นคนทําให้คู่ต่อสู บ้ าดเจ็บสาหัสแล้ว ชื่อเสี ยง
ของจวินเสี ยก็ยงิ่ โด่งดังขึ้นไปอีก พวกคนที่เกลียดเขาจากการโจมตีฉู
หลิงเย่อย่างโหดร้าย หลังจากได้รู้ความจริ งก็รู้สึกเสี ยใจกับจวินเสี ยที่
เขาถูกจับขังคุกทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทาํ ผิดอะไรเลย และเกือบจะไม่สามารถ
เข้าแข่งขันชิง 10 อันดับแรกของศึกประลองวิญญาณได้แล้ว!
ช่วงที่ดึงดูดความสนใจได้มากที่สุดของศึกประลองวิญญาณทั้งหมด
เริ่ มขึ้นแล้ว การแข่งขันเพื่อ 10 อันดับแรกในปี นี้แทนที่จะเป็ นการ
ต่อสู ก้ นั ระหว่างผูแ้ ข่งขันทั้งหลายอย่างที่เคย มันกลับเหมือนการ
โชว์เดี่ยวของสํานักศึกษาวายุประจิม
สํานักศึกษาวายุประจิมมีผเู ้ ข้าแข่งขันในปี นี้ท้ งั หมด 6 คน และใน 10
อันดับแรกนั้น 6 คนในนั้นมาจากวายุประจิมทั้งหมด พูดได้วา่ การ
ประลองปี นี้เป็ นความสําเร็ จอันยิง่ ใหญ่ของสํานักศึกษาวายุประจิม!
ความเห็นของผูค้ นแกว่งไปมามากจากที่เคยถูกผลักออกจากสํานัก
ศึกษาที่เท่าเทียมกับสํานักธงศึกและสํานักผูพ้ ิชิตมังกร
ตอนนี้ได้กลายเป็ นม้ามืดที่ทุกคนพูดถึงกันทัว่ ทั้งเมืองไปแล้ว
ตอนที่ 881 ตื่นตระหนก (4)
อีก 4 คนที่เข้ามาใน 10 อันดับแรกได้ประกาศยอมแพ้ไป ไม่ใช่
เพราะพวกเขาขี้ขลาด แต่เพราะระดับพลังที่ห่างชั้นกันเกินไป ต่อให้
พวกเขาขึ้นประลอง แต่ต่อหน้าสัตว์ประหลาดทั้ง 6 คนของสํานัก
ศึกษาวายุประจิม พวกเขาก็พา่ ยแพ้ยบั เยินอยูด่ ี แทนที่จะทําให้ตวั เอง
ต้องอับอาย พวกเขาก็เลือกยอมรับอันดับที่ต่าํ กว่าแล้วถอนตัวออก
จากการประลองซะตั้งแต่ตน้
การประลอง 10 อันดับแรกที่น่าจะเป็ นที่สนใจมากที่สุดกลายเป็ น
การประลองที่ไม่น่าตื่นเต้นและน่าเบื่อเอามาก ๆ หลังจากผูเ้ ข้า
แข่งขันคนอื่นถอนตัวไป ก็เหลือแต่ผเู ้ ข้าแข่งขันของวายุประจิม
เท่านั้น จวินอู๋เสี ยกับคนอื่น ๆ ไม่สูใ้ ห้เสี ยเวลาด้วยซํ้า พวกเขาแค่
โผล่หน้าไปขึ้นเวทีเพียงเพื่อจะยกมือประกาศยอมแพ้ ดันฟ่ านจัว๋ ขึ้น
สู่ อนั ดับ 1 ของศึกประลองวิญญาณ
สําหรับตัวฟ่ านจัว๋ เองนั้น…
การถูกดันขึ้นสู่ อนั ดับ 1 แบบนั้น เขาไม่รู้สึกถึงชัยชนะเลยสักนิด!
แต่เขาก็รู้แก่ใจดีวา่ จวินอู๋เสี ยกับคนอื่น ๆ ทําเช่นนี้กเ็ พราะเหตุผล
เดียวเท่านั้น นัน่ ก็คือเขาแซ่ฟ่านนัน่ เอง!
การที่คนของตระกูลฟ่ านได้อนั ดับสู งสุ ดในศึกประลองวิญญาณนั้น
สําหรับฟ่ านจินและสํานักศึกษาวายุประจิมแล้ว มันเป็ นสิ่ งที่จะ
เสริ มสร้างความมัน่ ใจให้กบั ผูค้ นได้
หลังศึกประลองวิญญาณจบลง ฟ่ านจินก็ดื่มจนเมามายตั้งแต่เที่ยง
เขาถูกฟ่ านจัว๋ แบกกลับเข้าห้องไปพักผ่อนพร้อมด้วยรอยยิม้ เต็ม
ใบหน้า
ตามกําหนดการของศึกประลองวิญญาณ หลังจากการประลองรอบ
10 อันดับแรกจบลง จักรพรรดิแห่งแคว้นหยานจะเชิญผูช้ นะ 10
อันดับแรกเข้าร่ วมงานเลี้ยง และปี นี้กไ็ ม่มีขอ้ ยกเว้น
ในวันที่สองหลังจบศึกประลองวิญญาณ จวินอู๋เสี ยกับคนอื่น ๆ ก็
ได้รับพระราชโองการเชิญพวกเขาให้เดินทางไปร่ วมงานเลี้ยงที่วงั
หลวง เล่ยเฉินส่ งของขวัญแสดงความยินดีให้กบั พวกเขาด้วย และ
บอกว่าเขาจะไปฉลองกับพวกเขาอีกครั้งที่งานเลี้ยงคืนนั้น
“ข้ากล้าสาบานว่าองค์จกั รพรรดิตอ้ งร่ างราชโองการอันนี้ไปกระอัก
เลือดไปแน่ ๆ” เชียวชูพดู ขึ้น เขาพลิกม้วนกระดาษไปมาอยูห่ ลาย
รอบเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด แล้วหัวเราะขึ้นมาเสี ยงดังลัน่ ไม่
หยุด
เย่ฉาได้ข่าวมาจากในวังว่าจักรพรรดิต้ งั ใจที่จะก่อเรื่ องอีกรอบใน
ระหว่างการประลอง 10 อันดับแรก แต่ใครจะไปคิดว่าจวินอู๋เสี ยกับ
คนอื่น ๆ จะจบการแข่งขันที่น่าจะตื่นเต้นเร้าใจที่สุดลงในเวลาไม่ถึง
ครึ่ งวัน คนขององค์จกั รพรรดิเพิง่ จะเตรี ยมตัวทําตามแผนก็พบว่า
การแข่งขันจบลงแล้ว
นัน่ ทําให้องค์จกั รพรรดิไม่สามารถระบายความโกรธที่จุกอกอยู่
ออกมาได้และทําให้เขายิง่ โมโหหนักเข้าไปอีก
“มันคงยากสําหรับเขาจริ ง ๆ นะ เขาไม่อยากเจอพวกเราเลยสักนิด
แต่กต็ อ้ งจําใจเชิญพวกเรา” เฟยหยานพูดยิม้ ๆ แผนที่องค์จกั รพรรดิ
คิดขึ้นพังไม่เป็ นท่าก่อนจะได้เริ่ มสร้างความวุน่ วายขึ้นในรอบ
ตัดสิ น 10 อันดับแรกซะอีก ใคร ๆ ก็เห็นว่าพวกเขาสนิทสนมกับเล่ย
เฉินที่สุด และตามกําหนดพวกเขาจะกลับสํานักกันหลังจากศึก
ประลองวิญญาณจบลง องค์จกั รพรรดิจะไม่มีโอกาสชิงตัวพวกเขา
อีก ได้แต่เฝ้ามองความสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรระหว่างเล่ยเฉิ นกับ
พวกเขาเข้มแข็งขึ้นเรื่ อย ๆ โดยไม่มีปัญญาทําอะไรได้ จะต้องรู ้สึก
อึดอัดคับข้องใจมากขนาดไหนกัน
“คืนนี้ขา้ จะดื่มอวยพรให้เล่ยเฉินอีกหลาย ๆ รอบต่อหน้าต่อตาองค์
จักรพรรดิเลย!” เชียวชูพดู ดวงตาส่ องประกายชัว่ ร้าย
“ต้องดื่มอวยพรอยูแ่ ล้วซิ! จะยิง่ สมบูรณ์แบบถ้าเป็ นการคล้องแขน
ดื่มอวยพรงานแต่ง! ข้าว่าเจ้าเป็ นคนที่เหมาะที่สุดเลยล่ะ” เฟยหยาน
พูดพร้อมกับกะพริ บตาปิ๊ ง ๆ ๆ ใส่ เชียวชู
เชียวชูหยุดหัวเราะแล้วคว้าเอาแจกันขึ้นมาเขวี้ยงใส่ เฟยหยานซึ่ งก็
รับไว้ได้อย่างง่ายดาย
“ข้าไม่สนใจหรอกว่าจักรพรรดิจะรู ้สึกยังไง ที่ขา้ อยากรู ้มากกว่าก็คือ
น้องเสี ยคิดจะทํายังไงต่อไป พวกเราไม่มีโอกาสเข้าวังหลวงมากนัก
หรอกนะ ถ้าคืนนี้ไม่สามารถลงมือได้ เราจะต้องหาข้ออ้างอยูใ่ น
เมืองต่อและพยายามหาทางเข้าวังค้นหาแผนที่ผา่ นทางเล่ยเฉิน”
ฟ่ านจัว๋ พูด เอามือจับคางตัวเองพร้อมกับมองไปที่จวินอู๋เสี ย
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “คืนนี้เราจะลองดู”
ตอนที่ 882 งานเลีย้ งในวัง (1)
ตกกลางคืน เมืองหลวงของแคว้นหยานสว่างไสวด้วยโคมไฟ
จํานวนนับไม่ถว้ น แสงไฟละลานตาส่ องสว่างขับไล่ความมืดที่ปก
คลุมเมืองให้ออกไป
รถม้าของวายุประจิมสองคันเคลื่อนที่ออกจากตําหนักเซียนไปยัง
ประตูวงั หลวงอย่างช้า ๆ
ขณะที่เคลื่อนผ่านถนน มีผเู ้ ยาว์มากมายจากสํานักศึกษาต่าง ๆ ที่ยงั
ไม่ออกจากเมืองหยุดดูพวกเขา ก่อนที่ศึกประลองวิญญาณจะเริ่ ม ไม่
มีใครคิดว่าสํานักศึกษาวายุประจิมที่ดูเหมือนตกอยูใ่ นภาวะยํา่ แย่จะ
แสดงความแข็งแกร่ งในศึกประลองวิญญาณปี นี้ได้อย่างน่าตกใจ
ชื่อเสี ยงของวายุประจิมตอนนี้ยงิ่ เพิ่มขึ้นจนทุกคนรู ้สึกว่าพวกเขา
อาจจะเหนือกว่าสํานักศึกษาธงศึกและสํานักศึกษาผูพ้ ิชิตมังกร อยู่
ในตําแหน่งสู งสุ ดของสํานักศึกษาทั้งหมด
วังหลวงเต็มไปด้วยโคมไฟและธงหลากสี เพื่อต้อนรับผูท้ ี่มี
พรสวรรค์ที่โดดเด่นเหนือคนอื่น ๆ ในศึกประลองวิญญาณปี นี้ท้ งั 10
คน ทุกที่ประดับประดาไปด้วยของตกแต่งเฉลิมฉลอง
รถม้าจากสํานักศึกษาอื่น ๆ หยุดตรงหน้าประตูวงั ใน 10 อันดับแรก
นอกจากสํานักศึกษาวายุประจิมที่ได้ไป 6 ตําแหน่งแล้ว สํานักศึกษา
ธงศึกและผูพ้ ิชิตมังกรก็ได้ไปสํานักละ 2 ตําแหน่ง ผูเ้ ยาว์ 10 คน
มาถึงประตูวงั เกือบพร้อมกัน ศิษย์ท้ งั 4 คนจากสํานักธงศึกและผู ้
พิชิตมังกรสวมใส่ เสื้ อผ้าหรู หรา เห็นได้ชดั ว่าแต่งตัวมาอย่าง
พิถีพิถนั ทุกคนยืนใต้ทอ้ งฟ้ายามคํ่าคืน พร้อมกับแหงนหน้ามอง
ประตูวงั ที่ต้ งั ตระหง่านด้วยแววตาตกตะลึง
ส่ วนอีก 6 คน จวินอู๋เสี ยกับพรรคพวกยังคงสวมเครื่ องแบบวายุ
ประจิมราวกับว่าพวกเขาไม่มีชุดอื่นนอกจากนี้
แต่เมื่อคนทั้ง 6 ปรากฏตัว ท่าทีของสํานักธงศึกและผูพ้ ิชิตมังกรก็
อ่อนลงทันที ความหยิง่ ยโสของพวกเขาหายไปอย่างรวดเร็ ว
ความแข็งแกร่ งของทั้ง 6 คือเครื่ องสวมใส่ ที่ดีที่สุดโดยไม่จาํ เป็ นต้อง
ประดับประดาอะไรให้มากความ พวกเขาถูกมองเป็ นสัตว์ประหลาด
ไร้ผตู ้ า้ นไปแล้ว!
ขันทีนอ้ ยในวังนําคนทั้ง 10 เข้าไปข้างใน แคว้นหยานสมกับเป็ น
แคว้นที่เจริ ญรุ่ งเรื องที่สุดจริ ง ๆ การประดับตกแต่งภายในทุกส่ วน
หรู หราและยิง่ ใหญ่ แม้วา่ ผูเ้ ยาว์ท้ งั 4 จากสํานักธงศึกและผูพ้ ิชิต
มังกรจะพยายามซ่อนความตื่นเต้นไว้มากแค่ไหนก็ตาม แต่แววตา
ของพวกเขาก็ลุกวาวเป็ นประกายอยูต่ ลอดเวลา
ตรงข้ามกับจวินอู๋เสี ยและเพื่อน ๆ ของนางที่สงบนิ่ง จวินอู๋เสี ยเป็ น
คุณหนูของวังหลิน นางไม่ใช่คนแปลกหน้าของวัง วังหลวงของ
แคว้นฉีคือสวนหลังบ้านของนางที่จะไปจะมาเมื่อไรก็ได้ที่ตอ้ งการ
ส่ วนเชียวชูกบั คนอื่น ๆ ที่อยูอ่ ย่างยากจนข้นแค้นมานานนั้น ตอน
เด็ก ๆ ก็อยูใ่ นสิ บสองวิหาร และความหรู หราของอาณาจักรกลาง
เป็ นสิ่ งอาณาจักรล่างยากจะเทียบเคียงได้
หลังจากเดินมาเกือบครึ่ งวัง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงงานเลี้ยง ในห้อง
โถงนั้นที่นงั่ ของพวกเขาถูกจัดเอาไว้แล้ว และพวกเขาไม่ได้มาถึง
ตั้งแต่แรก ๆ จึงมีคนนัง่ รออยูบ่ า้ งแล้ว
องค์ชายทั้ง 4 ของแคว้นหยานอยูท่ ี่นนั่ กันหมด นอกจากนั้นก็มีคน
จากเมืองพันอสู รซึ่งประกอบด้วยเซี ยงป้า เฟิ งเย่หยาง ชิงหยู และฉู
หลิงเย่ที่พากันนัง่ หลังตรงอย่างเป็ นทางการอยูใ่ นที่ของตัวเอง เซียง
ป้าเคยเจอจวินเสี ยครั้งหนึ่งในวันที่พวกเขาไปเอาตัวจวินเสี ยออก
จากคุก และตอนนี้เขาก็มองจวินเสี ยเป็ นผูเ้ ยาว์บอบบางที่ได้รับ
ความอยุติธรรมอย่างไม่สมควร เมื่อเซียงป้าเห็นจวินเสี ยเข้ามาใน
งาน เขาก็พยักหน้าให้พร้อมรอยยิม้ บนใบหน้า
ส่ วนฉูหลิงเย่น้ นั มองจวินเสี ยด้วยสี หน้าละอายใจ นางยิม้ ให้แค่แวบ
เดียวก่อนจะก้มหน้าลงไม่กล้ามองจวินเสี ยอีก
จวินอู๋เสี ยกับคนอื่น ๆ ลงนัง่ ในที่ของตัวเอง เสี ยงดนตรี อนั ไพเราะ
ดังไปทัว่ วัง ข้ารับใช้ในวังนําผลไม้และสุ รามาให้พวกเขา ทุกคนดื่ม
ดํ่ากับช่วงเวลานี้อย่างเงียบ ๆ รอคอยให้งานเลี้ยงเริ่ ม
เล่ยเฉินมองไปที่จวินเสี ย รอยยิม้ กว้างของเขาแสดงให้เห็นว่าเขา
ยินดีมากแค่ไหน เล่ยเฉินรู ้ดีวา่ เล่ยฟ่ านที่นงั่ อยูข่ า้ ง ๆ เขาตอนนี้กาํ ลัง
ทุรนทุรายด้วยความอิจฉา รอยยิม้ กว้างของเขายิง่ ทําให้เกรี้ ยวกราด
หนัก มือที่ซ่อนอยูโ่ ต๊ะก็กาํ ลังขูดโต๊ะจนเป็ นรอยนับไม่ถว้ นอยูข่ า้ ง
ใต้
ตอนที่ 883 งานเลีย้ งในวัง (2)
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าให้เล่ยเฉิ น แม้วา่ จะไม่มีรอยยิม้ บนใบหน้าของ
นาง แต่ยงั ไงก็ยงั เป็ นท่าทางที่สุภาพ
การตอบสนองของจวินอู๋เสี ยยิง่ ทําให้ความโกรธของเล่ยฟ่ านพุง่ ทะลุ
จุดเดือด เขาข่มกลั้นความโกรธอย่างหนัก ใบหน้ายังคงประดับด้วย
รอยยิม้
ถ้าไม่ใช่เพราะเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดกับเรื่ องของฉูหลิงเย่ ตอนนี้จวิน
เสี ยคงเป็ นผูช้ ่วยที่ใกล้ชิดที่สุดของเขาไปแล้ว เล่ยเฉินจะไม่มีโอกาส
อวดความสนิทสนมของเขากับจวินเสี ยที่นี่แน่
ความเกลียดชังของเขายิง่ รุ นแรงขึ้นจนอยากจะเตะเล่ยเฉินลงนรกไป
แต่เขาต้องฝื นยิม้ ไร้เดียงสาเอาไว้ เล่ยฟ่ านแทบจะกระอักเลือดจาก
การข่มกลั้นความโกรธ
ในที่สุดองค์จกั รพรรดิกเ็ ดินมาที่งานเลี้ยงอย่างช้า ๆ ชุดคลุมยาวสี
เหลืองปักลวดลายมังกรทองปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคนขณะที่เขาเดิน
ช้า ๆ ไปนัง่ บนบัลลังก์
“ข้าทําให้แขกผูม้ ีเกียรติท้ งั หลายต้องรอแล้ว ศึกประลองวิญญาณปี นี้
น่าประทับใจนัก แม้วา่ ข้าจะไม่โชคดีพอที่จะได้ไปดูการต่อสู ข้ อง
ผูเ้ ยาว์ที่มีพรสวรรค์โดดเด่นของเราก็ตาม แต่ขา้ ก็ได้ยนิ ได้ฟังมามาก
คืนนี้ขา้ ได้เชิญทุกคนมาฉลองกันที่นี่ ขอให้พวกเจ้าทุกคนประสบ
ความสําเร็ จและเป็ นจดจําไปทัว่ แผ่นดิน!” จักรพรรดิพดู ขึ้นพร้อม
รอยยิม้ กว้าง เขายกถ้วยสุ ราขึ้นเพื่ออวยพร
“ขอบพระทัยฝ่ าบาท!”
ผูเ้ ยาว์ท้ งั 10 คนยืนขึ้นโดยพร้อมเพรี ยงกัน แล้วกระดกสุ ราลงไปใน
ทีเดียว
“ทุกคนนัง่ ลงเถอะ คืนนี้ขอให้สนุกให้เต็มที่” องค์จกั รพรรดิพดู
พร้อมหัวเราะ สายตาแอบชําเลืองมองไปทางคนของสํานักศึกษาวายุ
ประจิมทั้ง 6 คน เขามองไปทีละคนและพบว่าตัวเองรู ้สึกประหลาด
ใจเป็ นอย่างมาก
ถึงแม้เขาจะเคยเห็นรู ปวาดของจวินเสี ยกับคนอื่น ๆ มาก่อน และรู ้วา่
5 ใน 6 คนนี้หน้าตาดีมาก แต่เขาก็คน้ พบว่าเมื่อมาเห็นตัวจริ งกับตา
ในวันนี้ พวกเขาดูดีกว่าที่เห็นในรู ปล้านเท่า
และทั้ง 6 คนก็โดดเด่นมาก แค่มองครั้งเดียวก็บอกได้วา่ ผูเ้ ยาว์พวกนี้
มีอนาคตไกลอย่างแน่นอน
เมื่อคิดว่าผูเ้ ยาว์ที่ไม่ธรรมดาทั้ง 6 กลายเป็ นพวกของเล่ยเฉิ น องค์
จักรพรรดิกร็ ู ้สึกแน่นหน้าอกอย่างอธิบายไม่ถูก ถ้าคนที่ผเู ้ ยาว์พวกนี้
สนิทสนมด้วยคือเล่ยฟ่ าน เขาคงจะมีความสุ ขยิง่ นัก
เฟยหยานที่เพิ่งนัง่ ลงเอียงตัวเข้าไปใกล้จวินอู๋เสี ย
“คนที่นงั่ ข้าง ๆ เล่ยเฉินคือองค์ชายสี่ เล่ยฟ่ านใช่รึเปล่า?”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าเล็กน้อย เล่ยฟ่ านมาหานางสองครั้ง และทั้งสอง
ครั้งเพื่อน ๆ ของนางไม่ได้อยูด่ ว้ ยเลย
“งั้นก็แปลกมาก” เฟยหยานยิม้ แบบครุ่ นคิด
“อะไร?” จวินอู๋เสี ยพูดเสี ยงตํ่า
“เจ้ารู ้วา่ ข้ารวบรวมข้อมูลของแคว้นหยานเพิ่มใช่ไหม? ข้าบังเอิญไป
เจอรู ปของพระสนมที่องค์จกั รพรรดิทรงโปรดมากที่สุด นางสวย
มากทีเดียว จากที่เล่ยเฉินเล่าให้พวกเราฟัง เล่ยฟ่ านไม่ได้เกิดจาก
ผูห้ ญิงคนนั้น แต่…หน้าตาของเล่ยฟ่ านเหมือนผูห้ ญิงในรู ปภาพนั้น
มากเลย” เฟยหยานค้นพบเรื่ องที่น่าสนใจเข้าแล้ว
ลูกนอกสมรสของจักรพรรดินีกบั ขุนนางระดับสู งหน้าตาเหมือน
หญิงสาวที่จกั รพรรดิหลงรักงั้นหรื อ? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตา ตอนที่นางพบกับเล่ยฟ่ านก่อนหน้านี้ นางไม่ได้ให้
ความสนใจหน้าตาของเขามากนัก
“ไม่สงสัยเลยว่าทําไมองค์จกั รพรรดิถึงได้รักองค์ชายสี่ มากขนาดนั้น
หน้าตาแบบนั้นเตือนให้องค์จกั รพรรดินึกถึงผูห้ ญิงที่เขารักอยูต่ ลอด
แล้วแบบนี้จะไม่ทุ่มเทความรักให้เล่ยฟ่ านได้ยงั ไง?” เฟยหยาน
หัวเราะกับตัวเอง
“วิชาปลอมแปลงใบหน้า” จวินอู๋เสี ยพูดเบา ๆ
“แก้ได้ไหม?” เฟยหยานถามอย่างตื่นเต้น
“ข้าต้องรู ้วา่ พวกเขาใช้วธิ ีไหนก่อน” จวินอู๋เสี ยเลือกที่จะไม่รับรอง
แบบชุ่ย ๆ มีวธิ ีมากมายที่จะปลอมแปลงใบหน้าในโลกใบนี้ จะ
เปิ ดเผยมันก็ตอ้ งรู ้ก่อนว่าเป้าหมายใช้วธิ ีไหน
เล่ยฟ่ านดูเหมือนจะสังเกตได้วา่ จวินเสี ยมองไปทางเขา นอกจากจะ
ประหลาดใจแล้ว เขายังยิม้ กว้างออกมาทันที เขายกถ้วยขึ้นชูไป
ทางจวินเสี ยและพูดว่า “จวินเสี ยมองข้าแบบนั้น ทําข้ารู ้สึกอายจริ ง ๆ
โอกาสที่เราจะมาดื่มในที่เดียวกันเช่นนี้หายากนัก ข้าหวังว่าจวินเสี ย
จะกรุ ณา”
ตอนที่ 884 งานเลีย้ งในวัง (3)
ที่งานเลี้ยง คําพูดของเล่ยฟ่ านดึงความสนใจของทุกคน พวกเขาต่าง
หันไปมองจวินเสี ย แม้วา่ จะมีรอยยิม้ บนใบหน้าของเล่ยเฉิน แต่
รอยยิม้ นั้นก็ไปไม่ถึงดวงตา
จวินอู๋เสี ยไม่ตอบสนองในทันที นางมองใบหน้ายิม้ ๆ ของเล่ยฟ่ าน
นิ่งอยูค่ รู่ จากนั้นก็ยกถ้วยสุ ราขึ้นช้า ๆ และจิบเล็กน้อยพอเป็ นพิธี
องค์จกั รพรรดิพดู ขึ้นยิม้ ๆ ว่า “นี่ตอ้ งเป็ นผูแ้ ข่งขันที่เด็กที่สุดของ
สํานักศึกษาวายุประจิมแน่ ชื่อจวินเสี ยใช่ไหม?”
จวินอู๋เสี ยยืนขึ้นตอบว่า “พะย่ะค่ะ”
“ดี ๆ ๆ ! วีรบุรุษค้นพบได้จากผูเ้ ยาว์จริ ง ๆ ข้าไม่คิดเลยว่าคนที่เด็ก
มากขนาดนี้จะสามารถบรรลุถึงขั้นนั้นได้ อนาคตของเจ้าไร้ขีดจํากัด
จริ ง ๆ ! เจ้าอายุรุ่นราวคราวเดียวกับองค์ชายสี่ แบบนี้ พวกเจ้าทั้งสอง
คนน่าจะเข้ากันได้ดีนะ” องค์จกั รพรรดิพดู พร้อมหัวเราะ ดวงตายิม้
ๆ ของเขาพิจารณาจวินเสี ยอย่างละเอียดตั้งแต่หวั จรดเท้า แต่พอ
สายตาของเขากวาดไปถึงแหวนที่จวินเสี ยสวมอยูท่ ี่นิ้ว รอยยิม้ ของ
เขาก็แข็งค้างไปทันที!
“จวินเสี ย เจ้าเป็ นผูเ้ ข้าแข่งขันที่อายุนอ้ ยที่สุดในศึกประลองวิญญาณ
เด็กที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขัน อัจฉริ ยะน้อย เข้ามาให้ขา้ เห็น
เจ้าชัด ๆ ซิ” จักรพรรดิพดู ต่อโดยไม่แสดงท่าทีผดิ ปกติใด ๆ ออกมา
จวินอู๋เสี ยไม่อยากทําให้จกั รพรรดิอบั อายต่อหน้าทุกคน นางจึงลุก
จากที่นงั่ ออกมายืนตรงหน้าจักรพรรดิ
ใบหน้าของจักรพรรดิยงั คงยิม้ แต่ในแววตาของเขามีร่องรอยของ
ความตกใจปนอยู่
[แหวนบนนิ้วของจวินเสี ยนัน่ ! เขาไม่เคยลืมมันเลย!]
“จวินเสี ย แหวนบนนิ้วของเจ้าคือแหวนประจําตัวของเจ้าหรื อ? นี่
เป็ นครั้งแรกที่ขา้ เห็นคนสวมแหวนประจําตัวที่นิ้วนั้น” ตามปกติ
แล้วแหวนประจําตัวจะสวมอยูบ่ นนิ้วกลางมือขวา และตัวเจ้าของก็
ไม่ได้เป็ นคนเลือกเองด้วย แต่เมื่อแหวนประจําตัวตื่นขึ้น มันจะ
ปรากฏที่นิ้วกลางเอง และคนส่ วนใหญ่กจ็ ะไม่เปลี่ยนตําแหน่งแหวน
ประจําตัวด้วย
แต่แหวนเงินที่มือของจวินเสี ยกลับสวมอยูท่ ี่นิ้วนาง
จวินอู๋เสี ยก้มหน้าลงมองแหวนที่นิ้วนาง มันเป็ นแหวนที่นางหยิบมา
จากกระท่อมหิ นที่ดา้ นล่างของผาสุ ดสวรรค์ หลังเดินทางออกจากผา
สุ ดสวรรค์ นางก็สวมมันไว้ตลอด ไม่ได้เอาออกเลยตั้งแต่น้ นั
เหตุผลแรกก็คือมันเป็ นของเพียงอย่างเดียวที่ “อาจารย์” ของนางทิ้ง
เอาไว้ อีกเหตุผลคือไม่มีใครมองเห็นแหวนประจําตัวของนาง การ
สวมแหวนเงินนี้เอาไว้จะสามารถทําให้คู่ต่อสู ข้ องนางสับสนได้
“ใช่แล้วพะย่ะค่ะ” จวินอู๋เสี ยตอบ แม้วา่ จักรพรรดิจะพยายามปกปิ ด
เอาไว้ แต่นางก็ยงั สังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปเล็ก ๆ นั้นได้วา่
จักรพรรดิสนใจแหวนวงนี้มาก
“งั้นเหรอ” จักรพรรดิพดู รู ้สึกโล่งอกขึ้นมาเล็กน้อย แต่ความกังวล
ในแววตายังไม่หายไป
“ข้าก็แค่อยากรู ้เท่านั้น จวินเสี ย เจ้ากลับไปนัง่ ที่เถอะ วันนี้เป็ นวัน
เฉลิมฉลองให้กบั ผูช้ นะศึกประลองวิญญาณทุกคน เพราะฉะนั้นก็
ตามสบายเลยนะ”
จวินอู๋เสี ยกลับไปนัง่ ที่ แต่ในใจนั้นนางจับตามองท่าทางที่น่าสงสัย
ของจักรพรรดิอย่างใกล้ชิด
งานเลี้ยงเริ่ มต้นขึ้นอย่างเป็ นทางการ นางรําออกมาร่ ายรําพร้อม
เสี ยงเพลงอันไพเราะ กลิ่นอันหอมหวานของสุ ราชั้นดีล่องลอยอยูใ่ น
อากาศ บรรยากาศสนุกสนานครึ กครื้ นเป็ นอย่างมาก
หลังจากดื่มไปสามรอบ งานเลี้ยงก็ยงิ่ เสี ยงดังครึ กครื้ น องค์ชายสี่
ชวนแขกในงานคุยเป็ นระยะ ศิษย์จากสํานักศึกษาธงศึกกับผูพ้ ิชิต
มังกรก็ดื่มอวยพรให้จกั รพรรดิอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของจักรพรรดิ
ยังคงยิม้ แย้ม แต่สายตาแสดงออกว่าในใจของเขาคิดเรื่ องอื่นอยู่ เขา
ตอบรับคําอวยพรของทุกคนแค่สองสามคําพอเป็ นพิธีเท่านั้น
เล่ยฟ่ านฉวยโอกาสตอนที่คนอื่น ๆ คุยกันลุกขึ้นเดินตรงมาทางจวิน
เสี ย
ตอนที่ 885 งานเลีย้ งในวัง (4)
เล่ยเฉินกําลังจะลุกขึ้นเดินตามไปแต่เล่ยหยวนดึงแขนเสื้ อเขาเอาไว้
“น้องรอง เจ้าทําอะไร?” เล่ยเฉินขมวดคิ้วถามเจ้าอ้วนเล่ยหยวน
เล่ยหยวนพูดเสี ยงตํ่าว่า “เสด็จพี่ฉลาดออกปานนี้ น่าจะเข้าใจสิ่ งที่
เสด็จพ่อพูดอยูแ่ ล้วซิ ในเมื่อเสด็จพ่อตั้งใจจะให้นอ้ งสี่ ได้พดู คุยกับ
จวินเสี ยให้มากขึ้น มันก็จะดีกว่านะถ้าเสด็จพี่ไม่ไปขัดขวางความ
ต้องการของเสด็จพ่อ ข้ารู ้วา่ ท่านสนิทกับสํานักวายุประจิม ถึงจะ
เสี ยจวินเสี ยให้นอ้ งสี่ ไปสักคน ท่านก็ยงั มีคนอื่น ๆ อีกไม่ใช่หรื อ?”
เล่ยหยวนเคยเห็นพลังของจวินเสี ยมาแล้ว แต่ที่จกั รพรรดิพดู ในวันนี้
ว่าเขาอยากเห็นจวินเสี ยกับเล่ยฟ่ านได้พดู คุยกันให้มากขึ้น เสด็จพ่อ
ของพวกเขายังไม่ชดั เจนพออีกหรื อ?
เล่ยเฉินหรี่ ตา เขาหันไปมองบนบัลลังก์และเห็นว่าจักรพรรดิดูไม่มี
สมาธิเอาซะเลย สายตาของจักรพรรดิมองไปที่จวินเสี ยอย่างไม่ต้ งั ใจ
เล่ยเฉินคิดอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะตัดสิ นใจล้มเลิกความตั้งใจเดิมของตน
และนัง่ ลงดื่มแก้กลุม้
เล่ยฟ่ านเดินมายืนอยูข่ า้ ง ๆ จวินเสี ย เขามองจวินเสี ยยิม้ ๆ และพูดว่า
“จวินเสี ยคิดว่างานเลี้ยงวันนี้สนุกรึ เปล่า?”
จวินอู๋เสี ยนิ่งเงียบ ไม่พดู อะไรสักคํา
เล่ยฟ่ านดูจะเคยชินกับนิสยั เหิ นห่างเย็นชาของจวินเสี ยแล้วและ
ไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เล่ยฟ่ านตั้งใจจะถามจวินเสี ยต่อไปอีก ทหาร
จากนอกวังคนหนึ่งก็เข้ามา
“กราบทูลฝ่ าบาท ท่านมหาอํามาตย์มาพะย่ะค่ะ”
องค์จกั รพรรดิดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ ว เขากําลังจะพูดอะไร
บางอย่าง แต่พอสายตาเหลือบไปเห็นจวินเสี ยอย่างไม่ต้ งั ใจ เขาก็รีบ
พูดขึ้นว่า “ข้านึกขึ้นมาได้วา่ จวินเสี ยยังเด็กอยูน่ ี่นะ คงไม่สนุกกับ
งานเลี้ยงที่น่าเบื่อแบบนี้หรอก ลูกฟ่ าน เจ้าเป็ นองค์ชาย ต้องทํา
หน้าที่เจ้าภาพที่ดีให้จวินเสี ยนะ การแสดงแบบนี้คงไม่ใช่รสนิยม
ของเขา ทําไมเจ้าไม่พาจวินเสี ยไปเดินเล่นที่สวนล่ะ ปี นี้เราเพิง่ ปลูก
ต้นเบญจมาศใหม่ที่นนั่ ”
คําแนะนําอย่างกะทันหันของจักรพรรดิทาํ ให้ทุกคนในงานเลี้ยง
ประหลาดใจเป็ นอย่างมาก ทหารเพิ่งเข้ามารายงานว่ามหาอํามาตย์
มาถึง แล้วทําไมจักรพรรดิถึงไม่สงั่ ให้ทหารพาแขกเข้ามา แต่กลับ
บอกให้เล่ยฟ่ านพาจวินเสี ยไปเดินเล่นในสวนแทน?
ผูค้ นในงานเลี้ยงต่างเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ มีเพียงผูเ้ ยาว์ที่ยงั เด็ก
และใสซื่ออ่อนต่อโลกจากสํานักศึกษาธงศึกและผูพ้ ิชิตมังกรเท่านั้น
ที่แอบอิจฉาจวินเสี ยที่จกั รพรรดิแสดงความโปรดปรานเช่นนั้น
องค์จกั รพรรดิจดั งานเลี้ยงยิง่ ใหญ่ขนาดนี้ให้แล้ว ยังจะเป็ นห่วงว่า
เด็กอย่างจวินเสี ยจะเบื่อและสัง่ ให้องค์ชายอย่างเล่ยฟ่ านพาจวินเสี ย
ไปเดินเล่นรอบ ๆ วังอีก เป็ นเกียรติอนั ยิง่ ใหญ่อะไรขนาดนั้น!
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าทันที ไม่ปฏิเสธคําแนะนําของจักรพรรดิเลยสัก
นิด
เล่ยฟ่ านเหลือบมองเล่ยเฉินอย่างผูช้ นะ และเดินนําจวินเสี ยออกไป
จากงานเลี้ยงด้วยรอยยิม้ เริ งร่ า เมื่อทั้งสองคนเดินออกมา จวินอู๋เสี ยก็
เห็นร่ างที่สง่างามของคนผูห้ นึ่งอยูข่ า้ งนอก
เขาเป็ นชายที่ดูดีมีเสน่ห์มาก ดูเหมือนจะอายุ 20 ต้น ๆ สวมชุดคลุม
ยาวสี เทาเงิน ใบหน้าอันงดงามของเขาเหมือนพระจันทร์อนั สว่าง
ไสวบนฟากฟ้า แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของจวินอู๋เสี ยก็คือผมของ
ชายคนนั้น
ผมสี เงินถักเป็ นเปี ยยาวลงมามัดเอาไว้ดว้ ยสายรัดสี เทาเงิน ใบหน้า
ของเขาประดับด้วยรอยยิม้ อ่อนโยนบาง ๆ เมื่อเขาเห็นจวินอู๋เสี ย
กับเล่ยฟ่ าน เขาก็มองมาด้วยแววตายิม้ ๆ แต่ไม่ได้พดู อะไร
หลังจากจวินอู๋เสี ยกับเล่ยเฉิ นจากไปแล้ว ชายผมเงินที่ยนื อยูห่ น้า
ประตูกถ็ ามขันทีนอ้ ยที่ยนื อยูข่ า้ ง ๆ เขาว่า “ผูเ้ ยาว์ที่เพิ่งออกไปพร้อม
กับองค์ชายสี่ เป็ นใครหรื อ?”
ขันทีผนู ้ ้ นั พูดไปตามความจริ งว่า “เขาเป็ นศิษย์ของสํานักศึกษาวายุ
ประจิมชื่อจวินเสี ย เป็ นแขกที่ฝ่าบาททรงเชิญมางานคืนนี้เจ้าค่ะ”
“หื ม? นัน่ คือจวินเสี ยงั้นหรื อ” ชายผมเงินพูดพร้อมกับยิม้ ออกมา
และจู่ ๆ เขาก็ออกเดินและเปลี่ยนทิศทางทันที
ตอนที่ 886 งานเลีย้ งในวัง (5)
ขันทีสบั สนลุกลี้ลุกลนขึ้นมาทันที เขาเรี ยกไล่หลังชายผมเงินไปว่า
“ท่านมหาอํามาตย์! ท่านจะไปไหน?”
“พระจันทร์อุตส่ าห์ส่องสว่างให้เห็นภาพอันงดงามเช่นนี้ ข้าจะทําให้
มันผิดหวังได้ยงั ไง? เจ้าไปรายงานองค์จกั รพรรดิเถอะว่าข้าจะไป
งานเลี้ยงช้านิดนึง” พูดจบชายผมเงินก็หนั หลังจากไปโดยไม่หนั
กลับมามองอีก
หลังจากนั้นไม่นาน ข้ารับใช้คนหนึ่งออกมาจากงานเลี้ยงเพื่อ
ถ่ายทอดคําสัง่ ของจักรพรรดิที่ให้เชิญมหาอํามาตย์เข้าไปร่ วมในงาน
เลี้ยง แต่ทว่า…มหาอํามาตย์ได้ออกไปแล้ว
เล่ยฟ่ านนําจวินเสี ยไปที่สวน งานเลี้ยงยังคงดําเนินอยู่ ในสวนจึงว่าง
เปล่าไม่มีคนอยูเ่ ลยสักคน โคมไฟแขวนห้อยเอาไว้ทวั่ ทุกแห่งเมื่อ
รวมกับแสงจันทร์กท็ าํ ให้บริ เวณนั้นสว่างไสว ตอนนี้ยงั ไม่ถึงฤดู
ใบไม้ผลิ ยังเป็ นฤดูหนาวอยู่ เมื่อไม่กี่วนั ก่อนก็มีหิมะตกหนักใน
เมืองหลวงแคว้นหยาน หิ มะสี ขาวปกคลุมพื้นที่มากมายทัว่ เมือง
หลวง และในสวนของวังหิมะบนพื้นถูกกวาดไปแล้วแต่บนกิ่งไม้
และยอดไม้ยงั คงมีหิมะปกคลุมอยู่ แสงจันทร์สะท้อนหิ มะสี ขาวทํา
ให้สวนสว่างไสวไปทัว่ ในยามคํ่าคืน
“ศึกประลองวิญญาณจบแล้ว จวินเสี ยมีแผนอะไรต่อไปงั้นหรื อ?”
เล่ยฟ่ านถามยิม้ ๆ ตอนเดินมาที่นี่เขาพยายามหาโอกาสชวนคุยจวิน
เสี ยคุยอยูส่ องสามครั้ง แต่กไ็ ม่ได้รับการตอบสนองมากนัก ความ
อดทนของเขาใกล้จะหมดแล้ว
สายตาของจวินอู๋เสี ยกวาดมองพืชพันธุ์ต่าง ๆ ในสวน เนื่องจากมีบวั
หิ มะอยูใ่ นตัวนาง นางจึงมีสมั ผัสที่ไวขึ้นและสามารถรับรู ้ได้ถึงชีวติ
ของพวกต้นไม้ แม้วา่ สวนในวังของเมืองหลวงแคว้นหยานจะดู
ธรรมดาทัว่ ๆ ไป แต่นางก็สามารถสัมผัสได้วา่ ภายใต้หิมะสี ขาวมี
พืชพันธุ์ที่ไม่ธรรมดาซุกซ่อนอยูใ่ นสวน ต้นไม้พวกนั้นให้พลัง
วิญญาณได้มากพอสมควร แม้วา่ จะเทียบไม่ได้กบั บัวหิ มะ แต่กย็ งั
ดีกว่าต้นไม้อื่น ๆ อยูม่ าก
“องค์ชายสี่ ถามทําไมพะย่ะค่ะ?” จวินอู๋เสี ยตอบกลับ
เล่ยฟ่ านพูดด้วยรอยยิม้ ว่า “ในหลายปี ที่ผา่ นมา หลังจากศึกประลอง
วิญญาณจบลง คนที่ได้อนั ดับต่าง ๆ ถ้าไม่เลือกกลับไปสํานักเพื่อ
ศึกษาต่อก็หาที่ไปที่ดีกว่าให้ตวั เอง จวินเสี ยแข็งแกร่ งถึงขนาดนี้แล้ว
ทั้ง ๆ ที่อายุเพียงเท่านี้ ข้าเชื่อว่าผูค้ นที่อยากให้เจ้าไปอยูด่ ว้ ยคงมี
มากมายเป็ นแน่ ถึงแม้เจ้าจะปฏิเสธข้อเสนอของข้าหลายครั้งแล้ว แต่
ข้าก็ยงั อยากชวนเจ้าอีกครั้ง เจ้าจะมาเป็ นเพื่อนร่ วมเรี ยนของข้าได้รึ
เปล่า ข้าไม่อยากเห็นคนที่ขา้ อยูด่ ว้ ยแล้วสบายใจตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ
กันแยกจากไปไกลเช่นนี้จริ ง ๆ”
หลังจากพูดจบ เล่ยฟ่ านก็ถอนใจออกมาราวกับรู ้สึกหดหู่อย่างมาก
จวินอู๋เสี ยนิ่งเงียบอีกครั้ง แต่สายตาของนางลอบพิจารณาใบหน้า
ของเล่ยฟ่ านอย่างละเอียด สิ่ งที่เฟยหยานพูดก่อนหน้านี้จุดประกาย
ความสนใจของนาง นางแน่ใจว่าใบหน้านี้ไม่ใช่ใบหน้าเดิมของเล่ย
ฟ่ าน
นัน่ เป็ นเรื่ องที่อยูใ่ นความเชี่ยวชาญของจวินอู๋เสี ย จึงไม่ยากที่นางจะ
มองทะลุการปลอมตัวของเล่ยฟ่ าน
การปลอมแปลงใบหน้าแยกออกได้ 3 ประเภท วิธีที่ 1 คือสิ่ งที่นาง
ทําอยู่ ปกคลุมใบหน้าเดิมของตัวเองเพื่อเปลี่ยนหน้าตาให้เป็ นอย่างที่
ต้องการ วิธีที่ 2 ต้องทําร้ายเส้นเอ็นและกระดูกเพื่อเปลี่ยนแปลง
ใบหน้าด้วยวิธีแก้ไขปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระดูก วิธีที่ 3 จะคล้าย
กับฮัว่ เหยาที่ใช้วชิ าเคลื่อนย้ายกระดูก แต่พวกเขาไม่ได้ควบคุมการ
เปลี่ยนกระดูกด้วยตัวเอง แต่ผา่ นการใช้ยาเพื่อแปลงโฉมชัว่ คราว
ใน 3 วิธีน้ นั วิธีแรกเป็ นวิธีที่ง่ายที่สุดแต่กถ็ ูกค้นพบได้ง่ายที่สุดด้วย
ตราบใดที่รู้วธิ ีปลอมแปลงใบหน้าสักเล็กน้อยล่ะก็ พวกเขาก็จะ
สามารถหารอยตําหนิได้
ส่ วนวิธีที่ 2…จวินอู๋เสี ยเชื่อว่าเนื่องจากเล่ยฟ่ านเป็ นลูกแท้ ๆ ของ
จักรพรรดินี นางคงไม่อยากให้เขาต้องผ่านวิธีที่เจ็บปวดทรมาน
เช่นนั้น นอกจากนั้นเล่ยฟ่ านก็ยงั เด็กมาก โครงสร้างกระดูกของเขา
ยังไม่โตเต็มที่ ให้เขาผ่านมีดหมอตอนนี้กไ็ ม่ได้รับประกันว่าพอโต
ขึ้นหน้าตาของเขาจะเป็ นอย่างที่พวกเขาต้องการ
ตอนที่ 887 งานเลีย้ งในวัง (6)
วิธีที่ 3 จะอยูไ่ ด้นานกว่าวิธีแรกและตรวจพบข้อบกพร่ องได้ยาก
และเมื่อเทียบกับวิธีที่ 2 มันก็ทรมานน้อยกว่าเยอะ
จวินอู๋เสี ยแอบสังเกตใบหน้าของเล่ยฟ่ านและไม่พบร่ องรอยอะไร
ภายนอก และไม่มีรอยที่แสดงว่าเขาผ่านมีดหมอมา นางจึงสรุ ปได้วา่
เล่ยฟ่ านต้องใช้วธิ ีที่ 3 ในการแปลงโฉม
วิชาเคลื่อนย้ายกระดูกเป็ นความสามารถเฉพาะตัวของเผ่าผูใ้ ช้
กระดูกในอาณาจักรกลางเท่านั้น ดังนั้นการปลอมแปลงใบหน้าของ
เล่ยฟ่ านจะต้องมาจากผลของยาอย่างแน่นอน
แววตาของจวินอู๋เสี ยเป็ นประกายขึ้นมา เสี ยงพูดของเล่ยฟ่ านยังคง
ดังเข้าหูนางอย่างต่อเนื่อง เขาพยายามจะทําให้ได้รับความสนใจ
จากจวินเสี ย
เล่ยฟ่ านพยายามที่จะคุยกับจวินเสี ยอย่างเต็มที่ จึงไม่ทนั ได้
สังเกตเห็นหมอกสี ดาํ ที่ก่อตัวขึ้นข้าง ๆ จวินเสี ย มันรวมตัวเป็ นร่ าง
ของแมวดําตัวเล็กอย่างเงียบ ๆ จวินอู๋เสี ยหย่อนขวดยาจากข้างใน
แขนเสื้ อลงอย่างเงียบ ๆ เจ้าแมวดํากระโจนขึ้นทันทีและเอาหางม้วน
รับไว้ได้ก่อนที่ขวดจะตกลงกระแทกพื้น
“ทําไมองค์ชายสี่ ถึงได้ยดึ มัน่ กับกระหม่อมนัก?” จวินอู๋เสี ยตอบ
กลับเล่ยฟ่ านอย่างที่หาได้ยากยิง่ เล่ยฟ่ านพูดขึ้นทันทีวา่ “เพราะข้า
รู ้สึกสบายใจเวลาอยูใ่ กล้ ๆ เจ้า! เราเป็ นเจ้าภาพจัดศึกประลอง
วิญญาณมาหลายปี มีเจ้าเท่านั้นที่อายุใกล้เคียงข้าที่สุด ยิง่ กว่านั้นเจ้า
ก็มีความสามารถสู งมาก นัน่ ทําให้ขา้ ยิง่ ชื่นชมเจ้ามากขึ้น”
จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้วและตอบว่า “ถ้าข้าจําไม่ผดิ วันเกิดครบ 16 ปี ของฝ่ า
บาทเพิ่งผ่านไปเมื่อปี ที่แล้วนี้เอง ถ้าดูที่อายุใกล้เคียงกัน ข้าคิดว่าคน
อื่นก็น่าจะใกล้กว่านะพะย่ะค่ะ”
รอยยิม้ ของเล่ยฟ่ านแข็งทื่อ ข้อโต้แย้งของจวินเสี ยทําให้เขาตกใจ
อย่างกะทันหัน
ขณะที่เล่ยฟ่ านกําลังจะตอบกลับ ก็มีเงาดําสายหนึ่งกระโจนเข้ามา
ตรงหน้าเขา ก่อนที่เขาจะทันเห็นว่ามันคืออะไร ของเหลวที่ไม่รู้จกั ก็
ถูกสาดใส่ หน้าเขา!
ในคืนฤดูหนาวเช่นนี้บวกกับความเย็นยะเยือกที่ใบหน้า ทําให้เล่ย
ฟ่ านไม่อาจช่วยตัวเองได้ ร่ างกายของเขาสัน่ สะท้าน
“บัดซบ! อะไรเนี่ย!?” เล่ยฟ่ านเอามือเช็ดของเหลวออกจากหน้าและ
มองไปรอบ ๆ อย่างโกรธเคืองเพื่อหาร่ องรอยของเงาที่หายไปอย่าง
รวดเร็ วนั้น
จวินอู๋เสี ยหยุดเดินทันที สายตาของนางจับจ้องอยูท่ ี่ใบหน้าของเล่ย
ฟ่ าน
“ทําไมจวินเสี ยถึงมองข้าแบบนั้น? มีอะไรที่หน้าข้าหรื อ?” เล่ยฟ่ าน
ถามจวินเสี ยพลางลูบไปทัว่ ใบหน้า เขาก้มหน้าลงมองของเหลวที่มือ
และเห็นว่ามันดูคล้ายกับนํ้าใส ๆ เขาสันนิษฐานเอาว่ามันเป็ นแค่น้ าํ
และไม่ได้สนใจมันจริ งจังนัก
“เจ้านัน่ คงเป็ นหมาหรื อแมวที่ซ่อนอยูใ่ นสวน พวกผูห้ ญิงในวังหลัง
ชอบเลี้ยงเพื่อฆ่าเวลา ฤดูหนาวที่หิมะยังไม่ละลายแบบนี้เจ้าตัวนั้น
คงมีหิมะอยูบ่ นตัวแล้วกระเด็นมาโดนหน้าข้า” เล่ยฟ่ านพูดพร้อมกับ
ยิม้ ดูไม่ได้ใส่ ใจอะไรแล้ว
แต่จวินอู๋เสี ยกลับพูดขึ้นว่า “ฝ่ าบาท หน้าของท่าน…”
“หน้าข้า? หน้าข้ามีอะไรหรื อ?” เล่ยฟ่ านไม่รู้ตวั ว่าเกิดอะไรขึ้น เขา
ยังคงยิม้ กว้างขณะที่ถาม แต่ไม่นานก็ยมิ้ ไม่ออก เขาใช้มือตรวจสอบ
ใบหน้าแล้วทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเนื้อที่หน้ากําลังเคลื่อนย้าย เขารู ้สึก
ราวกับมีแรงดึงกระดูกที่หน้าของเขา ความเจ็บปวดรุ นแรงแล่นไป
ทัว่ ร่ าง!
“อ๊ากกกกก!!” ทันใดนั้นเล่ยฟ่ านก็ลม้ ลงบนพื้น มือทั้งสองปิ ด
ใบหน้าพลางร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ภายใต้ความเจ็บปวด
ทรมานนั้น ความหวาดกลัวในใจก็เพิ่มขึ้น
ความเจ็บปวดนั้นเป็ นสิ่ งที่เขาคุน้ เคยดี เขาต้องเจอกับมันเกือบทุก
เดือน ไม่มีใครรู ้จกั มันดีไปกว่าเขาว่าผลที่ออกมาหลังความเจ็บปวด
นี้จบลงคืออะไร!
ตอนที่ 888 งานเลีย้ งในวัง (7)
ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทัว่ ทุกส่ วนในร่ าง และความกลัวกําลังเกาะ
กุมจิตใจเขา
ยาน่าจะยังไม่หมดฤทธิ์ แล้วทําไมถึงได้เกิดเรื่ องนี้ข้ ึนตอนนี้!?
จวินอู๋เสี ยมองเล่ยฟ่ านที่ชกั ดิ้นชักงอร้องโหยหวนอยูบ่ นพื้นไม่หยุด
อย่างเย็นชา ดวงตาของนางสะท้อนแสงจันทร์อนั เยือกเย็น
แม้วา่ เล่ยฟ่ านจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะซ่อนใบหน้าของเขา แต่จวิน
เสี ยก็ยงั เห็นได้อย่างชัดเจน กระดูกบนหน้าของเล่ยฟ่ านเริ่ มย้ายที่
แล้ว หน้าตาของเขากําลังเปลี่ยนไปทีละนิด!
ทันใดนั้นร่ างสู งเพรี ยวร่ างหนึ่งก็กา้ วเข้ามาในสวนท่ามกลางแสง
จันทร์ “เกิดอะไรขึ้นกับองค์ชายสี่ ? ทหาร! พาองค์ชายสี่ กลับไป
รักษาที่วงั เดี๋ยวนี้!”
เมื่อจวินอู๋เสี ยได้ยนิ เสี ยงนั้น นางก็เงยหน้าขึ้นช้า ๆ และเห็นชายผม
เงินที่นางเจอข้างนอกงานเลี้ยงเมื่อครู่ ตอนนี้เขากําลังยืนอยูห่ ่างจาก
นางไม่กี่กา้ ว สิ่ งที่ทาํ ให้นางงุนงงก็คือนางไม่สงั เกตเห็นเลยว่าเขาเข้า
มาใกล้
ชายผมเงินยิม้ และพยักหน้าให้จวินอู๋เสี ย ทหารข้างนอกสวนรี บวิง่
เข้ามาเมื่อได้ยนิ เสี ยงตะโกนของชายคนนั้น พวกเขาเหม่อมองเล่ย
ฟ่ านที่ยงั คงร้องโหยหวนเอามือปิ ดหน้าอยูบ่ นพื้น และตัดสิ นใจไม่
ถูกว่าจะทํายังไงดี
“ท่านมหาอํามาตย์! เกิดอะไรขึ้นกับองค์ชายขอรับ?” ทหารคนหนึ่ง
ถามอย่างร้อนรน
มหาอํามาตย์พดู อย่างใจเย็นว่า “อาจจะเป็ นเพราะความเย็นของฤดู
หนาวทําให้ประชวร รี บแบกองค์ชายกลับไปที่วงั ของจักรพรรดินี
เถอะ พระนางจะได้ให้หมอหลวงมารักษา”
พวกทหารไม่กล้าลังเลอีก พวกเขาแบกเล่ยฟ่ านจากไปในทันที ขณะ
ที่เล่ยฟ่ านถูกยกขึ้นมา ความเจ็บปวดรุ นแรงทัว่ ร่ างก็แทบจะฉีกร่ าง
เขาให้แตกสลาย แต่เขายังคงเอามือปิ ดหน้าไว้แน่น ไม่ยอมให้ใคร
เห็นใบหน้าของเขาในตอนนี้เลยสักนิด
ขณะที่เขาถูกแบกออกไป ดวงตาที่ซ่อนอยูห่ ลังมือของเล่ยฟ่ านก็มอง
ไปที่จวินเสี ยอย่างดุร้าย
[เขาเห็นแล้ว!]
[เขาต้องเห็นแล้วแน่ ๆ !]
หลังจากที่เล่ยฟ่ านถูกแบกออกไป มหาอํามาตย์กถ็ อนใจออกมาและ
หันไปพูดกับจวินเสี ยที่ยนื สงบนิ่งอยูด่ า้ นหนึ่งว่า “กลางคืนหนาว
เย็นนัก คุณชายจวินไม่ควรออกมาข้างนอกเลย”
จวินอู๋เสี ยกําลังประเมินชายผมเงินตรงหน้า จากที่ทหารเรี ยกเขา นาง
ก็รู้แล้วว่าเขาเป็ นใคร มหาอํามาตย์แห่งแคว้นหยาน เหวินหยู
ชายที่หน้าตาดีมากคนนี้ยงั เป็ นผูท้ ี่รู้จกั กันดีวา่ เป็ นชายที่งดงามที่สุด
ในแคว้นหยานอีกด้วย
จวินอู๋เสี ยเคยชินกับหน้าตาอันงดงามสมบูรณ์แบบไม่มีใครเทียบได้
ของจวินอู๋เหยาแล้ว แต่กย็ งั พูดได้วา่ ใบหน้าของเหวินหยูน้ นั คน
ธรรมดาทัว่ ไปไม่อาจเทียบได้จริ ง ๆ เขาดูดีนอ้ ยกว่าจวินอู๋เหยาแค่
นิดเดียวเท่านั้น
“เป็ นคําเชิญขององค์จกั รพรรดิ คนตํ่าต้อยเช่นข้าจะปฏิเสธได้
อย่างไร?” จวินอู๋เสี ยตอบเบา ๆ ตอนนี้เหวินหยูน่าจะอยูท่ ี่งานเลี้ยง
ทําไมเขาถึงมาโผล่ที่นี่ได้? จังหวะเหมาะซะจริ ง!
“ก็จริ งนะ” เหวินหยูพดู พลางหัวเราะเบา ๆ สายตาของเขากวาด
มองจวินเสี ยอย่างอ่อนโยน แต่เมื่อเขาเห็นแหวนบนนิ้วของจวินเสี ย
เขาก็แสดงสี หน้าตกใจออกมาเล็กน้อย
“ท่านมหาอํามาตย์ดูเหมือนจะสนใจแหวนวงนี้ของข้ามาก” จวินอู๋
เสี ยไม่พลาดที่จะสังเกตเห็นสี หน้าแปลก ๆ ที่แวบขึ้นมาและหายไป
อย่างรวดเร็ วของเหวินหยู ปฏิกิริยานั้นทําให้นางเริ่ มสนใจ องค์
จักรพรรดิกส็ นใจแหวนวงนี้มากและเมื่อเหวินหยูเห็นแหวนวงนี้เขา
ก็มีปฏิกิริยาเดียวกัน
เหวินหยูระงับอาการตกใจที่แสดงออกทางแววตาและเงยหน้าขึ้น
มองจวินเสี ยแล้วพูดว่า “เมื่อคุณชายจวินไม่สนใจงานเลี้ยงในวังก็
ควรกลับไปก่อน ศึกประลองวิญญาณจบแล้ว ได้เวลาที่คนจากสํานัก
ต่าง ๆ ต้องออกจากเมืองหลวงแล้ว ข้าคิดว่าคุณชายจวินจาก
ครอบครัวมานานพอสมควรแล้ว หากกลับไปเร็ ว ๆ ก็จะทําให้ท่าน
ไปหาครอบครัวของท่านได้ดว้ ย”
คําพูดของเหวินหยูไม่ชดั เจนนัก แต่ในคําพูดพวกนั้น เขากําลังบอก
ให้จวินเสี ยรี บไปจากที่นี่ให้เร็ ว!
นี่เป็ นครั้งแรกที่จวินเสี ยได้พบกับเหวินหยู พวกเขาไม่เคยติดต่อ
พูดคุยกันมาก่อน ทําไมจู่ ๆ เหวินหยูถึงได้พดู กับนางเช่นนั้น?
ตอนที่ 889 งานเลีย้ งในวัง (8)
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตาเล็กน้อย การกระทําแปลก ๆ ของเหวินหยูดูเหมือน
จะเริ่ มขึ้นหลังจากที่เขาเห็นแหวนบนมือของนาง
จักรพรรดิกค็ นนึงแล้ว นี่ยงั มหาอํามาตย์อีกคน ทั้งสองคนดูจะสนใจ
แหวนที่นางสวมอยูม่ ากทีเดียว
แต่ส่ิ งหนึ่งที่จวินอู๋เสี ยแน่ใจก็คือเหวินหยูไม่ได้เป็ นศัตรู กบั นาง
“ทําไมท่านมหาอํามาตย์พดู เช่นนี้ล่ะขอรับ?” จวินอู๋เสี ยรู ้สึกได้วา่
เหวินหยูกาํ ลังบอกใบ้บางอย่าง แต่ตอนนี้นางคิดหาเหตุผลไม่ออกว่า
ทําไม
เหวินหยูมองใบหน้าเล็ก ๆ ของจวินอู๋เสี ย เขาไม่อยากเข้าไป
เกี่ยวข้องกับเรื่ องนี้ แต่เด็กคนนี้ค่อนข้างสนิทสนมกับเล่ยเฉิน และ
เขาพบว่าเขาชอบดวงตาเฉลียวฉลาดคู่น้ นั ถึงแม้วา่ จะเย็นชาและเหิ น
ห่างแต่ดูไม่เหมือนดวงตาของคนที่เก็บซ่อนเจตนาร้ายต่อผูค้ น
“ทําไมล่ะ? คุณชายจวินไม่อยากกลับไปอยูก่ บั ครอบครัวเร็ ว ๆ
หรอกหรื อ?”
ดวงตาของจวินอู๋เสี ยหม่นหมองลงทันที
[กลับไปอยูก่ บั ครอบครัวงั้นหรื อ?]
[ทําไมนางจะไม่อยากกลับ? ทุกอย่างที่นางกําลังทําก็เพื่อจะได้
กลับไปยังแคว้นฉีและวังหลินได้โดยไม่ตอ้ งกังวลอะไร]
เหวินหยูเห็นแววตาสลดหดหู่ของจวินเสี ยก็รู้ตวั ว่าคงพูดอะไรผิดไป
จึงรี บพูดขึ้นทันทีวา่ “ข้าขอโทษ ข้าพูดสิ่ งที่ไม่ควรพูดไปซะแล้ว แต่
จากที่ขา้ ได้ยนิ มา ช่วงที่คุณชายจวินอยูใ่ นเมืองหลวงเพื่อเข้าร่ วมศึก
ประลองวิญญาณนี่ ดูเหมือนท่านจะดึงดูดเรื่ องยุง่ ยากมาเยอะทีเดียว
ท่าทางเมืองหลวงจะไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะกับคุณชายจวิน เพื่อ
หลีกเลี่ยงเรื่ องเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นอีก มันจะดีกว่าถ้าคุณชายจวินจะ
ไปจากที่นี่เร็ ว ๆ”
“เรื่ องเดือดร้อนหรื อ? จะมีเรื่ องอะไรอีกหรื อขอรับ?” จวินอู๋เสี ยถาม
พร้อมกับมองตรงไปที่เหวินหยู พยายามหาเบาะแสจากสี หน้าของ
เขา แต่เหวินหยูกไ็ ม่ได้แสดงอะไรออกมาเลย
เหวินหยูหวั เราะเบา ๆ “ข้าหวังว่าคุณชายจวินจะออกเดินทางกลับ
เร็ ว ๆ นี้ และเนื่องจากตอนนี้กด็ ึกมากแล้ว ถ้าเราไม่กลับไปตอนนี้
งานเลี้ยงก็คงใกล้จะเลิกแล้ว คุณชายจวินจะกลับไปที่งานเลี้ยงพร้อม
กับข้าไหม?”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า ทั้งสองคนเดินกลับไปที่งานเลี้ยงด้วยกัน
ในงานเลี้ยงทุกอย่างยังคงเป็ นอย่างที่ควรจะเป็ น ดนตรี กาํ ลังบรรเลง
นางรํากําลังร่ ายรําอย่างอ่อนช้อยสวยงาม
จวินอู๋เสี ยเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของวังพร้อมกับเหวินหยู
จักรพรรดิที่ขมวดคิว้ นิ่วหน้าเหมือนกําลังคิดหนักอยูก่ เ็ งยหน้าขึ้น
เมื่อเขาเห็นคนทั้งสองเข้ามาในห้องโถง หัวใจก็แทบจะหล่นลงไป
กองอยูท่ ี่ตาตุ่ม!
“ฝ่ าบาท” เหวินหยูคาํ นับเล็กน้อยเป็ นการทักทาย
ใบหน้าของจักรพรรดิแข็งทื่อขึ้นมาทันที แต่เขารี บตั้งสติและยิม้ ใจดี
อย่างที่เคยพร้อมกับพูดว่า “ข้ากําลังคิดอยูเ่ ชียวว่าท่านมหาอํามาตย์
ไปไหน ท่านก็กลับมาพร้อมจวินเสี ยพอดี แล้วลูกฟ่ านอยูไ่ หนล่ะ?
เขาออกไปเดินเล่นในสวนพร้อมกับจวินเสี ย แล้วทําไมจวินเสี ยถึง
กลับมาที่นี่คนเดียว?”
เหวินหยูตอบว่า “กระหม่อมเห็นพระจันทร์คืนนี้สวยดีกเ็ ลยอยากไป
เดินเล่นที่สวนขึ้นมากะทันหันน่ะพะย่ะค่ะ แต่พอกระหม่อมไปถึง
สวนก็เห็นองค์ชายสี่ ไม่สบายนอนอยูบ่ นพื้น กระหม่อมก็เลยสัง่ ให้
ทหารพาองค์ชายสี่ กลับ แล้วกระหม่อมก็พาจวินเสี ยกลับมาที่งาน
เลี้ยง กระหม่อมเป็ นห่วงว่าเด็กคนนี้อาจจะไม่รู้ทางก็เลยมาที่นี่พร้อม
กับเขา”
เมื่อได้ยนิ ว่าเล่ยฟ่ านไม่สบาย จักรพรรดิกม็ ีสีหน้ากังวลทันที เขาถาม
ว่า “ลูกฟ่ านไม่สบายหรื อ? เกิดอะไรขึ้น?”
“กระหม่อมก็ไม่ทราบพะย่ะค่ะ แต่กระหม่อมสัง่ ให้ทหารส่ งองค์ชาย
สี่ ไปที่วงั ขององค์จกั รพรรดินีแล้ว ที่วงั ของพระนางมีหมอหลวงที่
คอยดูแลองค์ชายสี่ มาตั้งแต่เด็ก ข้าเชื่อว่าคงไม่มีปัญหาอะไรมาก
หรอกพะย่ะค่ะ” เหวินหยูตอบ
ถึงเหวินหยูจะรับรองเช่นนั้น แต่จกั รพรรดิที่เป็ นห่วงเรื่ องสุ ขภาพ
ของเล่ยฟ่ านมากก็ยงั คงไม่สบายใจ
“คืนนี้ดึกมากแล้ว เชิญแขกทุกท่านกลับไปพักผ่อนกันเถอะ” องค์
จักรพรรดิที่เครี ยดขึ้นมากะทันหันก็ออกปากไล่แขกกลับเอาดื้อ ๆ
แขกทุกคนไม่พดู อะไร พวกเขาพากันลุกขึ้นจากไป
เล่ยเฉินพาจวินอู๋เสี ยกับคนอื่น ๆ ออกจากวังหลวง และขณะที่ยนื อยู่
ข้างนอกประตูวงั สายตาของเขาก็มองตามหลังรถม้าของวายุประจิม
ที่แล่นจากไป
ตอนที่ 890 แหวนจักรพรรดิหยาน (1)
“ทําไมท่านมหาอํามาตย์ถึงกลับไปที่งานเลี้ยงพร้อมกับน้องชายแซ่
จวินได้ล่ะ?” เล่ยเฉินไม่ได้หนั ไปมอง แต่คาํ พูดของเขาส่ งตรงไปที่
มหาอํามาตย์ที่กาํ ลังจะเดินออกไป
เหวินหยูถามขึ้นว่า “ฝ่ าบาทกังวลสิ่ งใดงั้นหรื อ?”
เล่ยเฉินขมวดคิว้ เขาหันมามองเหวินหยูดว้ ยสายตาคมปลาบ
“ท่านมหาอํามาตย์อยากทําอะไรข้าก็จะไม่ยงุ่ และสิ่ งที่ขา้ จะทําข้าก็
หวังว่าท่านมหาอํามาตย์จะไม่ยนื่ จมูกเข้ามายุง่ เช่นกัน ข้าสนิทกับคน
ของวายุประจิม ถ้าท่านมหาอํามาตย์วางแผนอะไรกับพวกเขาล่ะก็
ข้าจะไม่พอใจมาก”
เมื่อเห็นสายตาดื้อรั้นที่เล่ยเฉิ นส่ งมาให้ เหวินหยูกไ็ ด้แต่ถอนใจอย่าง
จํานนและพูดขึ้นว่า “เรื่ องนั้นกระหม่อมเกรงว่าจะทําให้ฝ่าบาททรง
ผิดหวังซะแล้ว กระหม่อมเพิ่งบอกให้คุณชายจวินเดินทางออกจาก
เมืองหลวงให้เร็ วที่สุด”
“อะไรนะ!?” เล่ยเฉิ นมองมหาอํามาตย์ตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ มือ
ของเขากําแน่นอยูใ่ นแขนเสื้ อ!
“ท่านเคยสัญญากับข้าอย่างชัดถ้อยชัดคําแล้วนี่วา่ จะไม่ยงุ่ เกี่ยวกับ
เรื่ องระหว่างข้าและเล่ยฟ่ าน! ท่านก็รู้วา่ ข้าคิดจะใช้ความแข็งแกร่ ง
ของสํานักศึกษาวายุประจิม และท่านก็บอกให้พวกเขารี บไปจากที่นี่
เนี่ยนะ!? ท่านมหาอํามาตย์! ท่านกําลังเล่นอะไรอยู!่ ? ท่านอยากช่วย
จักรพรรดิของท่านมากเลยซินะ!!?”
เล่ยเฉินด่าว่าเขาด้วยความโกรธ ถ้าเขาไม่ได้พยายามยั้งตัวเองเอาไว้
เขาอาจจะต่อยหน้าเหวินหยูตรงนั้นแล้วก็ได้
เหวินหยูมองหน้าเล่ยเฉินที่แทบจะระงับความโกรธเอาไว้ไม่ได้อย่าง
ใจเย็น เขารู ้สึกปวดใจมาก เด็กคนนี้เป็ นคนที่เขาเฝ้าดูการเติบโตมา
ด้วยตัวเอง หลังจากเล่ยฟ่ านเกิด สถานะของเล่ยเฉิ นก็ลาํ บาก เหวิน
หยูทนเห็นเด็กน้อยต้องตกเป็ นหมากในแผนการอันชัว่ ร้ายในวัง
ไม่ได้ เขาจึงขอให้จกั รพรรดิอนุญาตให้เล่ยเฉิ นมาเป็ นศิษย์ของเขา
คิดจะใช้ตาํ แหน่งของเขาในฐานะมหาอํามาตย์ปกป้องเด็กน้อย แต่
เมื่อเล่ยเฉิ นค้นพบความจริ ง ฉากหน้าในวังที่ดูเหมือนจะรักใคร่ กลม
เกลียวกันดีกร็ ักษาเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป
“ฝ่ าบาทรู ้ไหมว่าทําไมกระหม่อมถึงเข้าไปในงานเลี้ยงพร้อมกับจวิน
เสี ยได้?” เหวินหยูถามขึ้นอย่างจนปัญญา
เล่ยเฉิ นส่ งเสี ยงหึ ออกมาแล้วพูดว่า “ท่านไม่ได้บอกไปแล้วเหรอ?
ท่านอยากให้เขาไปจากวังนี้ให้เร็ วที่สุดเท่าที่จะเป็ นไปได้! เพื่อตัด
คนที่จะคอยคํ้าจุนข้าออกไป!”
เหวินหยูส่ายหน้า
“เมื่อครู่ กระหม่อมรอคําสัง่ เรี ยกตัวให้เข้าไปอยูน่ อกประตูงานเลี้ยง
แต่ไม่นานองค์ชายสี่ กพ็ าจวินเสี ยออกจากงานเลี้ยง และกระหม่อม
ยังไม่ได้รับคําสัง่ ให้เข้าไป ท่านไม่คิดว่ามันแปลกหรื อ?”
เล่ยเฉินขมวดคิ้ว เขาเองก็คิดว่ามันแปลก พอองค์จกั รพรรดิได้ข่าวว่า
เหวินหยูมาถึง แทนที่จะอนุญาตให้เหวินหยูเข้ามาก่อน กลับสัง่ ให้
เล่ยฟ่ านพาจวินเสี ยออกไป เหตุการณ์พวกนี้ยากที่จะยอมรับได้วา่
เป็ นเรื่ องปกติ
“กระหม่อมไม่รู้วา่ ท่านจะรู ้สึกเหมือนกันหรื อไม่ แต่กระหม่อมรู ้สึก
ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ใช่ กระหม่อมรู ้วา่ ท่านสนิทสนมกับจวินเสี ย
มาก และเรื่ องระหว่างท่านกับเล่ยฟ่ านกระหม่อมยิง่ รู ้ดี ดังนั้นเพื่อ
ป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด กระหม่อมจึงตามพวกเขาไปและก็
บังเอิญไปเห็นเล่ยฟ่ านล้มลงบนพื้น กระหม่อมสัง่ ให้ทหารพาตัวเขา
กลับไป ตอนแรกกระหม่อมอยากจะดูวา่ จวินเสี ยมีนิสยั ยังไง ไม่ได้
คิดที่จะไปแทรกแซงแผนการของท่านเลย แต่ที่ตวั เด็กคนนั้น
กระหม่อมพบบางสิ่ งที่ไม่น่าเชื่อ” เหวินหยูขมวดคิว้ เล็กน้อย ถ้าเขา
ไม่เจอสิ่ งนั้น เขาก็คงไม่บอกให้จวินเสี ยจากไป
“อะไร?” เล่ยเฉินประหลาดใจ เขารี บถามทันที
เหวินหยูตอบว่า “แหวนจักรพรรดิหยาน”
เล่ยเฉินเบิกตากว้างทันทีอย่างไม่รู้ตวั สายตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
“แหวนจักรพรรดิหยาน!? ท่านหมายถึงแหวนของจักรพรรดิหยานที่
เป็ นของจักรพรรดิแห่งแคว้นหยานที่หายตัวไปน่ะเหรอ!?” เสี ยงของ
เล่ยเฉินเปลี่ยนไป เขาไม่คิดเลยว่าสิ่ งที่เหวินหยูคน้ พบจะเป็ นแหวน
จักรพรรดิหยาน!
เหวินหยูพยักหน้า “ใช่แล้ว แหวนวงนั้นแหละ”
ตอนที่ 891 แหวนจักรพรรดิหยาน (2)
เล่ยเฉิ นเซถอยหลังไปหลายก้าวอย่างตกใจ สี หน้าแตกตื่นตกตะลึง
เป็ นอย่างมาก ไม่สามารถยอมรับสิ่ งที่ได้ยนิ ว่าเป็ นเรื่ องจริ ง
“กระหม่อมอยากรู ้มากว่าทําไมองค์จกั รพรรดิถึงได้จงใจไล่จวินเสี ย
ออกไปตอนที่กระหม่อมมาถึง แต่ตอนนี้กระหม่อมเข้าใจแล้ว ทัว่
แคว้นหยานนี้คนที่จาํ แหวนจักรพรรดิหยานได้นอกจากองค์
จักรพรรดิกบั พระพันปี หลวงแล้วก็มีแต่กระหม่อมนี่แหละ พระองค์
คงกลัวว่ากระหม่อมจะจําแหวนจักรพรรดิหยานที่มือของจวินเสี ยได้
ก็เลยทําเช่นนั้น” เหวินหยูพดู
“แล้ว…ที่ท่านอยากให้จวินเสี ยไปจากที่นี่กเ็ พราะท่านกลัวว่า…” สี
หน้าของเล่ยเฉินดูไม่สบายใจขึ้นมาทันที ใบหน้าปราศจากสี เลือด
อย่างรวดเร็ ว
เหวินหยูพยักหน้า
“จักรพรรดิองค์ก่อนเคยพูดเอาไว้ ผูท้ ี่ครอบครองแหวนจักรพรรดิ
หยานคือผูป้ กครองแคว้นหยานที่แท้จริ ง ไม่วา่ จะเป็ นลูกหลานเหลน
โหลนรุ่ นไหนก็ตาม หากพบผูค้ รอบครองแหวนจักรพรรดิหยาน
พวกเขาจะต้องสละราชบัลลังก์และคืนมันให้กบั ผูค้ รอบครอง
แหวน”
บัลลังก์แห่งแคว้นหยานไม่ควรจะเป็ นของจักรพรรดิองค์ปัจจุบนั
แต่เป็ นเพราะจู่ ๆ จักรพรรดิที่นาํ แคว้นหยานให้กลายเป็ นแคว้นที่
ยิง่ ใหญ่ที่สุดในโลกได้หายตัวไป เวลานั้นพระอนุชาของจักรพรรดิที่
ตอนนั้นเป็ นองค์ชายได้ส่งกองกําลังออกค้นหาเบาะแสของ
จักรพรรดิที่หายไปจนทัว่ แผ่นดิน เขาค้นหาอยู่ 10 ปี โดยไม่ได้ผล
อะไรเลย
แคว้นจะปราศจากผูน้ าํ ไม่ได้ และเพื่อป้องกันการปฏิวตั ิในแคว้น
พวกเขาจึงต้องแต่งตั้งผูค้ รองแคว้นคนใหม่
จักรพรรดิที่หายไปไม่มีผสู ้ ื บสกุลเลยสักคน ดังนั้นบัลลังก์จึงตกเป็ น
ของน้องชายของเขา
องค์ชายผูน้ ้ นั สนิทสนมกับจักรพรรดิที่หายไปซึ่ งเป็ นเสด็จพี่ของเขา
มาก พวกเขาสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก หลังจากที่นอ้ งชายได้ข้ ึน
ครองราชย์ คําสัง่ แรกที่ออกมาก็คือเรื่ องการสื บทอดบัลลังก์
เขาเชื่อว่าพี่ชายของเขายังไม่ตายและเชื่อเหลือเกินว่าเสด็จพี่หรื อ
ทายาทของเสด็จพี่จะกลับมาสักวัน ดังนั้นเขาจึงออกพระราช
โองการว่า เมื่อคนที่มีแหวนจักรพรรดิหยานปรากฏตัวขึ้นในแคว้น
หยาน ไม่วา่ เวลาจะผ่านไปนานเท่าไรก็ตาม ทายาทของเขาที่นงั่
บัลลังก์อยูใ่ นเวลานั้นจะต้องสละราชบัลลังก์ทนั ที และแต่งตั้งผู ้
ครอบครองแหวนจักรพรรดิหยานเป็ นจักรพรรดิองค์ใหม่ของ
แคว้นหยาน!
และพระราชโองการแรกนั้นก็ผา่ นไปเกือบ 100 ปี แล้ว จักรพรรดิ
องค์ปัจจุบนั คือผูส้ ื บทอดของจักรพรรดิองค์น้ นั ส่ วนพระพันปี หลวง
องค์ปัจจุบนั ที่ยงั คงมีพระชนม์ชีพอยูก่ ค็ ือจักรพรรดินีของจักรพรรดิ
องค์น้ นั …
“แต่เรื่ องก็เกิดขึ้นตั้งนานแล้ว ข้าคิดว่าเสด็จพ่อคงไม่ได้สนใจมัน
มากนักหรอก” ถึงแม้เล่ยเฉินจะเคยได้ยนิ เรื่ องนี้จากพระพันปี หลวง
มาตั้งแต่เขายังเด็ก แต่เรื่ องมันก็เกิดขึ้นมานานมากแล้ว และแหวน
จักรพรรดิหยานก็ไม่เคยปรากฏมาก่อน เขาจึงเริ่ มลืมเลือนมันไป
จนกระทัง่ เหวินหยูพดู ขึ้นในวันนี้ ทําให้เขานึกเรื่ องทุกอย่างที่เคยรู ้
ขึ้นมาได้
เหวินหยูพดู ว่า “ก็จริ งที่วา่ มันผ่านมานานแล้ว แต่ฝ่าบาทอย่าลืมซิ
เวลานี้พระพันปี หลวงยังคงมีอิทธิพลอยูภ่ ายในวังหลัง! ถึงแม้พระ
พันปี หลวงจะไม่ได้ยงุ่ เกี่ยวในเรื่ องราชการงานเมืองมานานแล้วก็
ตาม แต่นางก็สนิทสนมกับพี่ชายของจักรพรรดิองค์ก่อนมาก เพื่อ
สนองพระประสงค์ของจักรพรรดิองค์ก่อน พระพันปี หลวงจะต้องสู ้
สุ ดชีวติ เพื่อทําให้สาํ เร็ จอย่างไม่ตอ้ งสงสัยเลย จักรพรรดิองค์ปัจจุบนั
ไม่กล้าแตะต้องพระพันปี หลวงอยูแ่ ล้ว ดังนั้นเขาก็จะต้องกําจัดจวิน
เสี ยเพื่อขจัดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้บลั ลังก์ของแคว้นหยานอยู่
กับเขา!”
ในโลกใบนี้มีเพียงคน 3 คนเท่านั้นที่สามารถระบุแหวนจักรพรรดิ
หยานได้ และพระพันปี หลวงก็เป็ นคนที่ยดึ มัน่ ถือมัน่ พระนางจะบีบ
บังคับให้จกั รพรรดิองค์ปัจจุบนั ทําตามพระราชโองการของ
จักรพรรดิองค์ก่อนอย่างแน่นอน
ตราบใดที่จวินเสี ยยังมีชีวติ อยู่ บัลลังก์ของจักรพรรดิกจ็ ะไม่มนั่ คง
ดังนั้นเขาลงมือแน่ เหวินหยูพดู เป็ นนัยให้จวินเสี ยรี บไปจากที่นี่
หลายครั้งก็เพราะเขาหวังให้เด็กคนนั้นหลบพ้นภัยพิบตั ิไปได้
ครั้งนี้ไม่ใช่กรณี ที่จกั รพรรดิตอ้ งการใช้จวินเสี ยเพื่อเอาองค์รัช
ทายาทลงจากตําแหน่งอีกต่อไป แต่เป็ นความตั้งใจที่จะฆ่าจวินเสี ย
โดยตรงเลย!
ตอนที่ 892 แหวนจักรพรรดิหยาน (3)
แม้วา่ จักรพรรดิไม่ได้ชอบเล่ยเฉินนัก แต่เขาก็ยงั คิดว่าเล่ยเฉินเป็ นลูก
ของเขา และเพียงแค่ตอ้ งการบีบให้เขาลงจากตําแหน่งองค์รัชทายาท
เท่านั้น ไม่เคยคิดจะเอาชีวติ ของเล่ยเฉิ นเลย แต่กรณี ของจวินเสี ยนั้น
แตกต่างกัน
“ด้วยนิสยั ใจคอขององค์จกั รพรรดิ พระองค์ไม่ไว้ชีวติ จวินเสี ยแน่ มี
เพียงแค่ให้จวินเสี ยออกไปจากแคว้นหยานเท่านั้นเขาถึงจะ
ปลอดภัย” เหวินหยูพดู เสี ยงเครี ยด
เล่ยเฉิ นตกใจมาก เขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าแหวนบนนิ้วของจวินเสี ยจะ
เป็ นแหวนจักรพรรดิหยานแห่งแคว้นหยานที่ร่ ําลือกัน
“เป็ นไปได้หรื อ…เป็ นไปได้จริ ง ๆ หรื อว่าจวินเสี ยคือผูส้ ื บทอดของ
พี่ชายของจักรพรรดิองค์ก่อน?” เล่ยเฉิ นถามด้วยดวงตาเบิกกว้าง
เหวินหยูสนั่ หัว “เรื่ องนั้นกระหม่อมก็ไม่แน่ใจ กระหม่อมแน่ใจอยู่
อย่างเดียวคือแหวนจักรพรรดิหยานเป็ นแหวนที่จกั รพรรดิผกู ้ ่อตั้ง
แคว้นหยานได้เหลือทิ้งเอาไว้ ซึ่ งจักรพรรดิผคู ้ รองแคว้นก็ได้สืบ
ทอดกันมารุ่ นต่อรุ่ น ในแหวนนั้นไม่มีภูติอยูแ่ ล้ว จึงถูกส่ งต่อให้ผู ้
ครองแคว้นรุ่ นถัดไปใช้หลอมแหวนใหม่อยูเ่ สมอ จากนั้นมันจึงได้
ชื่อว่าแหวนจักรพรรดิหยาน กระหม่อมคิดว่าต่อให้จวินเสี ยไม่ใช่
ทายาทของพี่ชายของจักรพรรดิองค์ก่อน เขาก็ตอ้ งเกี่ยวข้องกับท่าน
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่ได้ครอบครองแหวน
จักรพรรดิหยาน”
เล่ยเฉิ นมองเหวินหยูอย่างตะลึงงันอยูค่ รู่ หนึ่ง แล้วจู่ ๆ …เขาก็
หัวเราะออกมาดังลัน่
“ฮ่า ๆ ๆ ! ฮ่า ๆ ๆ ! สวรรค์เข้าข้างข้าแล้ว! สวรรค์เข้าข้างข้า!”
เหวินหยูมองเล่ยเฉินที่หวั เราะอย่างบ้าคลัง่ ด้วยความงุนงง ความรู ้สึก
ไม่สบายใจผุดขึ้นมา
“ฝ่ าบาท นี่ท่าน…”
เล่ยเฉิ นหยุดหัวเราะอย่างฉับพลัน เขาหันมามองเหวินหยูแล้วพูดว่า
“ข้าไม่ได้มีสายเลือดราชวงศ์อยูใ่ นตัว เล่ยฟ่ านก็ไม่มีเหมือนกัน ข้าที่
เป็ นองค์รัชทายาทเป็ นลูกไม่มีพอ่ เล่ยฟ่ านที่เสด็จพ่อคิดจะให้เขาสื บ
ทอดบัลลังก์กเ็ ป็ นลูกชู!้ น้องรองก็เป็ นสวะ! น้องสามก็ข้ ีขลาดตาขาว
เหมือนหนู ไม่มีใครเหมาะสมที่จะสื บทอดบัลลังก์สกั คน! ข้าไม่เคย
ปรารถนาในราชบัลลังก์! ข้าต่อสู ก้ เ็ พราะความอยุติธรรมที่ขา้ ได้รับ
เท่านั้น! แล้วตอนนี้สวรรค์กส็ ่ งจวินเสี ยมาปรากฏตัวตรงหน้าข้า
ไม่ใช่วา่ จะช่วยให้ขา้ บรรลุวตั ถุประสงค์ของข้าหรอกหรื อ? จวินเสี ย
ครอบครองแหวนจักรพรรดิหยาน นัน่ ทําให้เขาเป็ นผูส้ ื บทอด
บัลลังก์ที่แท้จริ ง! ฮ่า ๆ ๆ ! ข้าจะช่วยให้จวินเสี ยได้ครองบัลลังก์แห่ง
แคว้นหยาน! ข้าอยากจะเห็นหน้าของเสด็จพ่อนักตอนที่เขาพบว่า
ตัวเองพ่ายแพ้อย่างหมดรู ปในขณะที่คิดว่าชัยชนะได้อยูใ่ นกํามือ
แล้ว!”
เล่ยเฉิ นพูดพร้อมกับกัดฟันแน่น ทําไมเขาต้องเป็ นหุ่นเชิดให้คนอื่น
มาตั้งแต่เกิดด้วย? ทําไมเขาต้องเจอกับความอยุติธรรม? เขาอยากแก้
แค้น! แก้แค้นโชคชะตาที่ไม่ยตุ ิธรรมของเขา!
เหวินหยูมองเล่ยเฉิ นอย่างตกใจ เขาไม่เคยคิดเลยว่าเล่ยเฉิ นจะมี
ความคิดเช่นนี้ได้
“เล่ยเฉิ น! นี่ท่านบ้าไปแล้วหรื อ?” เหวินหยูรู้วา่ เล่ยเฉินเกลียด
จักรพรรดิ เกลียดจักรพรรดินี และเกลียดเล่ยฟ่ านมาก แต่ไม่มีอะไร
บอกให้เขาเตรี ยมใจมาก่อนสําหรับการตัดสิ นใจอย่างกะทันหันของ
เล่ยเฉิ นที่จะดันจวินเสี ยให้ข้ ึนครองบัลลังก์แห่งแคว้นหยาน!
“เอาเรื่ องที่วา่ จะทํางานนี้ให้สาํ เร็ จมันยากแค่ไหนไว้ก่อน ตัวจวินเสี ย
เองอาจจะไม่เห็นด้วยก็ได้ ฝ่ าบาทแค่จะเอาตัวเองให้รอดยังยากเลย
แล้วนี่…” เสี ยงของเหวินหยูขาดหายไป เขามองเล่ยเฉินอย่างค้นหา
เล่ยเฉิ นพูดขึ้นมาว่า “เสด็จพ่ออยากให้รัชทายาทคนนี้ลงจาก
ตําแหน่ง งั้นก็เอาเลยซิ! ข้าไม่สนใจหรอก! ฮ่า ๆ ยังไงเล่ยฟ่ านก็ไม่
สามารถนัง่ บัลลังก์ได้อยูด่ ี!” มีจวินเสี ยแค่คนเดียว เขาก็สามารถ
บรรลุเป้าหมายแก้แค้นของเขาได้ ตําแหน่งองค์รัชทายาทนี้ไม่ใช่สิ่ง
ที่เขาสนใจเลยสักนิด!
สิ่ งที่เขาต้องการไม่ใช่การครองบัลลังก์ เขาแค่ตอ้ งการให้พวกที่คอย
บงการเขาไปลงนรกซะ!
“ฝ่ าบาท! ท่านคิดหรื อว่าองค์จกั รพรรดิจะปล่อยให้จวินเสี ยอยูใ่ น
แคว้นหยานต่อไปได้จริ ง ๆ ? ถ้าเขาไม่ไปจากที่นี่ องค์จกั รพรรดิ
จะต้องฆ่าเขาแน่!” เหวินหยูอดไม่ได้ที่จะสาดนํ้าเย็นเข้าใส่ เล่ยเฉิ น
แต่เล่ยเฉินกลับหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ถึงคนอื่น ๆ จะไม่รู้ แต่ขา้
จะไม่รู้เชียวหรื อว่าจวินเสี ยสามารถทําอะไรได้บา้ ง? ข้าเชื่อว่าเขาจะ
ไม่โดนแผนการชัว่ ร้ายของเสด็จพ่อเล่นงานเอาแน่ ๆ !”
ตอนที่ 893 ลอบโจมตี (1)
“แล้วเขาจะแก้แค้นความอยุติธรรมทุกอย่างที่เขาได้รับ เมื่อเขารู ้วา่
เสด็จพ่อตั้งใจจะฆ่าเขา เขาจะเป็ นฝ่ ายลงมือก่อนโดยที่เสด็จพ่อไม่
ทันรู ้ตวั อย่างแน่นอน!” ดวงตาของเล่ยเฉิ นเป็ นประกายชัว่ ร้าย เขา
ไว้ใจจวินเสี ยอย่างเต็มที่วา่ จะทําความฝันเขาให้เป็ นจริ งได้ใน
อนาคตอันใกล้น้ ี เขาจะได้เห็นชายคนนั้นถูกเตะลงจากบัลลังก์
เหวินหยูได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา แม้วา่ เขาจะรู ้วา่ จวินเสี ยมี
ความสามารถที่โดดเด่นจนเรี ยกได้วา่ เป็ นสัตว์ประหลาด แต่…ถึง
ยังไงเขาก็ยงั เป็ นแค่ผเู ้ ยาว์คนหนึ่ง จะหวังว่าเขาจะไปคัดง้างกับผู ้
ครองแคว้นได้อย่างไร?
ย้อนกลับไปที่วงั หลวง จักรพรรดิเดินวนอยูใ่ นห้องทรงพระอักษร
ด้วยความรู ้สึกกระสับกระส่ ายและวิตกกังวลเป็ นอย่างมาก ชายชุด
ดําปรากฏตัวขึ้นในห้องทรงพระอักษร เมื่อเขาเห็นสี หน้ากระวน
กระวายขององค์จกั รพรรดิ เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
ในใจของจักรพรรดิสบั สนวุน่ วายมาก เขาไม่คิดว่าผูค้ รอบครอง
แหวนจักรพรรดิหยานจะมีอยูจ่ ริ ง
จักรพรรดิองค์ก่อนสิ้ นพระชนม์ไปหลายปี แล้ว พระราชโองการที่
จักรพรรดิองค์ก่อนร่ างไว้กอ็ ยูใ่ นมือของพระพันปี หลวงมาตลอด
ไม่ใช่วา่ องค์จกั รพรรดิไม่เคยคิดแอบฉวยเอาพระราชโองการมา
ทําลายทิ้ง แต่เขาไม่สามารถทําได้เพราะรอบ ๆ ตัวพระพันปี หลวงมี
ราชองครักษ์ลบั ที่แข็งแกร่ งมากอยูห่ ลายคน และความสามารถของ
ราชองครักษ์ลบั พวกนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่คนของจักรพรรดิจะสามารถ
ต่อกรได้ เขาเคยพยายามขโมยพระราชโองการนั้นครั้งหนึ่ง แต่คนที่
เขาส่ งไปทั้งหมดถูกฆ่าตายในวังของพระพันปี หลวงอย่างเงียบเชียบ
ต้องรู ้ก่อนว่าในกลุ่มคนที่จกั รพรรดิส่งไปนั้น 5 คนในนั้นเป็ นยอด
ฝี มือที่มีพลังวิญญาณขั้นสี ฟ้า!
แต่กระนั้นทั้ง 5 คนก็ถูกฆ่าตาย แม้แต่ร่างก็ยงั หาไม่พบ ตั้งแต่น้ นั มา
จักรพรรดิกอ็ ยูห่ ่าง ๆ จากพระพันปี หลวง เมื่อคิดว่ายังไงซะผู ้
ครอบครองแหวนจักรพรรดิหยานก็จะไม่มีวนั ปรากฏตัวขึ้นมา เขาก็
ล้มเลิกความคิดนั้นไป
อย่างไรก็ตาม การได้เห็นแหวนจักรพรรดิหยานบนมือของจวินเสี ย
วันนี้ ก็ทาํ ให้จกั รพรรดิตอ้ งเลือกหนทางที่ไม่อาจหันหลังกลับมาได้
จวินเสี ยสนิทสนมกับเล่ยเฉิ นมาก ถึงแม้พระพันปี หลวงแทบจะไม่
ออกมาให้ผคู ้ นในวังเห็นเลย แต่พระนางก็รักใคร่ เล่ยเฉิ นที่เป็ น
หลานชายคนโตมาก ไม่อย่างนั้นองค์จกั รพรรดิคงไม่ปล่อยให้เล่ย
เฉินนัง่ อยูใ่ นตําแหน่งองค์รัชทายาทมาหลายปี หรอก
องค์จกั รพรรดิกงั วลว่าถ้าพระพันปี หลวงรู ้เรื่ องนี้เข้า บัลลังก์ของ
แคว้นหยานก็จะได้เปลี่ยนผูค้ รอบครองเข้าจริ ง ๆ !
สิ่ งที่ทาํ ให้จกั รพรรดิยงิ่ ลําบากใจมากขึ้นก็คือมหาอํามาตย์เหวินหยูดู
จะสังเกตเห็นแหวนจักรพรรดิหยานที่มือของจวินเสี ยแล้ว แม้วา่ เห
วินหยูจะมีทีท่าเป็ นกลางมาโดยตลอด แต่เขาก็เคยเป็ นอาจารย์ของ
เล่ยเฉิ น ถึงเล่ยเฉินจะตัดขาดความสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์ระหว่างพวก
เขาแล้วก็ตาม แต่องค์จกั รพรรดิกย็ งั กังวลอยูด่ ี ถ้าเหวินหยูบอกให้
เล่ยเฉิ นรู ้เรื่ องนี้ ก็จบสิ้ นกันแล้ว!
ทางเลือกเดียวที่เหลืออยูก่ ค็ ือเร่ งตัดสิ นใจกําจัดปมปัญหานั้นซะ เขา
จําเป็ นต้องกําจัดจวินเสี ยให้เร็ วที่สุดเท่าที่จะทําได้เพื่อเอาแหวน
จักรพรรดิหยานมา จะได้แน่ใจว่ามันจะไม่สร้างปัญหาอะไรให้เขา
อีก!
“เจ้า! ข้าต้องการให้เจ้าทํางานให้ขา้ อย่างหนึ่ง!” ในที่สุดองค์
จักรพรรดิกค็ ิดอะไรขึ้นมาได้ เขาหรี่ ตามองชายชุดดําที่คุกเข่าอยูบ่ น
พื้น
“กระหม่อมรอรับบัญชาพะย่ะค่ะ”
“ข้าอยากให้เจ้า…”
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ในวังจักรพรรดินีกโ็ กลาหลวุน่ วายกันยก
ใหญ่
ในตอนที่เล่ยฟ่ านถูกแบกกลับไปที่นนั่ เขาก็หมดสติไปแล้ว แต่มือ
ของเขายังคงปิ ดหน้าเอาไว้แน่น เมื่อจักรพรรดินีเห็นเขาตกอยูใ่ น
สภาพนั้น นางก็ไล่ขา้ รับใช้ท้ งั หมดออกไป ภายในวังเหลือแค่คน
สนิทที่สุดของนางแค่ไม่กี่คนเท่านั้น จากนั้นนางก็เอามือของเล่ยฟ่ า
นออกมา
สิ่ งที่เห็นทําให้องค์จกั รพรรดินีใจหายวาบ
ใบหน้าของเล่ยฟ่ านเปลี่ยนไปแล้ว ใบหน้ายิม้ แย้มงดงามของเขา
หายไปจนหมดสิ้ น เด็กชายที่นอนอยูบ่ นเตียงตอนนี้ไม่วา่ จะมอง
อย่างไรก็ดูเหมือนองค์จกั รพรรดินีมากเหลือเกิน
องค์จกั รพรรดินีที่ยงั ตกใจอยูร่ ี บเรี ยกให้คนของนางตรวจอาการของ
เล่ยฟ่ านทันที
สองชัว่ โมงต่อมาเล่ยฟ่ านก็ฟ้ื นขึ้นมาอย่างมึนงง
และสิ่ งแรกที่เขาพูดเมื่อตื่นขึ้นมาก็คือ…
“เสด็จแม่! ต้องฆ่าจวินเสี ย! ข้าอยากให้ฆ่าจวินเสี ย! เขาเห็นหน้าข้า!
เห็นหน้าที่แท้จริ งของข้า!”
ตอนที่ 894 ลอบโจมตี (2)
องค์จกั รพรรดินีนงั่ มองเล่ยฟ่ านที่กาํ ลังร้องไห้อย่างหนักอยูท่ ี่ขา้ ง
เตียงอย่างจนใจ นางพยายามปลอบเขาว่า
“ลูกฟ่ านอย่าร้องไห้ เกิดอะไรขึ้น? หมอหลวงเพิ่งให้เจ้ากินยาไปเมื่อ
ไม่กี่วนั ก่อนไม่ใช่หรื อ? ทําไมหน้าของเจ้าถึงได้เปลี่ยนกลับ
กะทันหันแบบนี้ล่ะ?”
เล่ยฟ่ านกัดฟันพูดขึ้นว่า “ลูกก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ลูก
รู ้แต่วา่ มีสตั ว์ตวั หนึ่งอยูใ่ นสวนของวัง จู่ ๆ มันก็สาดอะไรไม่รู้เข้ามา
ที่หน้าลูก พอลูกได้สติลูกก็ออกอาการแบบตอนฤทธิ์ยาหมดไป
แล้ว”
“มีใครเห็นหน้าลูกตอนนั้นไหม?” จักรพรรดินีรู้สึกกลัวขึ้นมา ถ้ามี
ใครเห็นหน้าของเล่ยฟ่ านตอนนั้น พวกเขาจบสิ้ นทุกอย่างแน่!
เล่ยฟ่ านพูดขึ้นทันที “มีแค่จวินเสี ยพะย่ะค่ะ!”
จักรพรรดินีกดั ริ มฝี ปาก นางใคร่ ครวญสถานการณ์อยูค่ รู่ หนึ่งแล้ว
พูดขึ้นว่า “จวินเสี ยที่ลูกพูดถึงใช่ผเู ้ ยาว์ที่เสด็จพ่อของเจ้าอยากให้เจ้า
เอามาเป็ นพวกรึ เปล่า?”
เล่ยฟ่ านพยักหน้า ตาของเขาแดงจากการร้องไห้ และตอนนี้มนั ก็ลุก
โชนขึ้นมาด้วยความเกลียดชัง “เขานัน่ ล่ะ! ลูกชวนเขาอย่างสุ ภาพตั้ง
หลายครั้ง แต่เขาก็ปฏิเสธซํ้าแล้วซํ้าเล่า เขาต้องเป็ นพันธมิตรกับองค์
รัชทายาทแล้วแน่! และตอนนี้เขาก็เห็นหน้าที่แท้จริ งของลูกแล้วด้วย
เขาจะต้องไปบอกเล่ยเฉิ นแน่ ๆ ! พอเล่ยเฉินรู ้เรื่ องนี้ เขาจะต้อง
กราบทูลเสด็จพ่อแน่ ๆ ! เสด็จแม่! เสด็จแม่ตอ้ งช่วยลูกนะ!”
จักรพรรดินีตกใจมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้เกินความ
คาดหมายของนาง ตอนแรกนางคิดว่าแผนเปลี่ยนตัวองค์ชายนี้จะทํา
ให้ชีวติ นางต้องแขวนอยูบ่ นเส้นด้าย ถ้าความจริ งถูกเปิ ดเผย สิ่ งที่รอ
พวกเขาอยูก่ ม็ ีแต่ความตายเท่านั้น
“ลูกฟ่ าน วางใจเถอะ แม่จะแก้ปัญหาทั้งหมดเอง ไม่ตอ้ งกังวลหรอก
นะ ลูกเพิ่งผ่านความเจ็บปวดทรมานมา ดังนั้นตอนนี้กพ็ กั ผ่อนซะ
นะ” จักรพรรดินีพดู นางมองเล่ยฟ่ านด้วยสายตาเจ็บปวด ตลอด
หลายปี มานี้เล่ยฟ่ านได้รับความรักจากองค์จกั รพรรดิอย่างมากมาย
และจักรพรรดิกก็ าํ ลังเริ่ มลงมือทําให้องค์รัชทายาทลงจากตําแหน่ง
และแต่งตั้งเล่ยฟ่ านขึ้นเป็ นรัชทายาทแทน ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
แบบนี้ นางจะไม่ยอมให้เด็กคนหนึ่งมาทําลายแผนที่นางดําเนินการ
มาหลายปี อย่างแน่นอน!
เล่ยฟ่ านมองจักรพรรดินีพลางสะอึกสะอื้น แล้วลงนอนบนเตียงเพื่อ
พักผ่อนอย่างเงียบ ๆ แต่ในใจของเขาตอนนั้นเต็มไปด้วยความ
หวาดกลัวและความต้องการที่จะให้จวินเสี ยตาย
หลังจากจักรพรรดินีปลอบเล่ยฟ่ านให้สงบลงได้แล้ว นางก็เขียน
จดหมายทันที บอกเล่าเรื่ องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนั้น แล้วส่ ง
จดหมายปิ ดผนึกให้ทหารที่เป็ นหนึ่งในผูช้ ่วยที่นางไว้ใจมากที่สุด
“เจ้าต้องเดินทางไปที่จวนของท่านอัครมหาเสนาบดีเดี๋ยวนี้ และส่ ง
จดหมายนี้ให้ท่านด้วยตัวเอง บอกเขาว่าเพื่อไม่ให้เกิดฝันร้ายขึ้นใน
อนาคต เราต้องแก้ปัญหานี้ให้เรี ยบร้อย และ…จะต้องไม่ทิ้งร่ องรอย
อะไรเอาไว้ ผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้!”
ทหารคนนั้นพยักหน้าและจัดการเปลี่ยนชุดเป็ นชุดสี ดาํ ก่อนจะออก
เดินทางไปนอกวัง
งานเลี้ยงแค่ 2 ชัว่ โมงได้ก่อความวุน่ วายโกลาหลขึ้นในแคว้นหยาน
ชาวบ้านธรรมดาทัว่ ไปในเมืองหลวงที่นอนหลับฝันหวานไปแล้ว
ไม่ได้รู้เลยว่าแคว้นหยานกําลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผล
กระทบต่อพวกเขา!
ในตําหนักเซียน จวินอู๋เสี ยกับพรรคพวกของนางเพิ่งกลับมาถึง พวก
เขาแยกย้ายกันเข้าห้องของตัวเองเพื่อล้างกลิ่นสุ ราบนตัว ไม่ได้
รวมตัวกันปรึ กษาเรื่ องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ แต่พากันเข้านอนเพื่อ
พักผ่อน
มีเพียงจวินอู๋เสี ยที่นอนลืมตาอยูบ่ นเตียง ภาพเหตุการณ์ในงานเลี้ยง
คืนนี้ยงั คงวนเวียนอยูใ่ นหัวของนาง
ปฏิกิริยาขององค์จกั รพรรดิและเหวินหยูทาํ ให้นางสงสัยเป็ นอย่าง
มาก นางยกมือขึ้นมองแหวนเงินที่อยูบ่ นนิ้ว
แหวนวงนี้ถูกหยิบมาจากกระท่อมหิ นที่ดา้ นล่างของผาสุ ดสวรรค์
มันมีความลับอะไรซ่อนอยูก่ นั แน่? ถึงดึงดูดความสนใจของทั้ง
จักรพรรดิแห่งแคว้นหยานและมหาอํามาตย์ได้พร้อมกันในคืนเดียว?
จวินอู๋เสี ยหลับตาลง ในสมองนึกถึงถ้อยคําที่จารึ กอยูบ่ นกําแพงของ
กระท่อมหิ น
ทันใดนั้นนางก็ลืมตาขึ้น แหวนเงินตรงหน้าสะท้อนแสงเทียน
วาววับ!
ตอนที่ 895 ลอบสั งหาร (1)
เวลาผ่านไปอย่างเงียบเชียบ พระจันทร์ซ่อนอยูใ่ นหมู่เมฆ แสงสี เงิน
ส่ องสว่างอยูท่ ี่เส้นขอบฟ้าทิศตะวันออก
มันเป็ นเวลาที่ผคู ้ นกําลังหลับสนิท เมืองหลวงของแคว้นหยานที่
คึกคักจอแจกลายเป็ นเงียบสงัด มีเพียงเปลวไฟจากเทียนที่ยงั ไม่ดบั
ส่ องแสงริ บหรี่ วบู วาบไปมา
ในเวลาที่เงียบสงัดเช่นนี้ มีกลุ่มคนสวมชุดดําปรากฏตัวขึ้นที่กาํ แพง
ด้านหลังของตําหนักเซี ยน พวกเขากระโจนขึ้นไปบนกําแพงอย่าง
คล่องแคล่ว จากนั้นก็แอบเข้าไปข้างในโรงเตี๊ยม
เด็กรับใช้กะกลางคืนนัง่ อยูท่ ี่สวนด้านหลังของโรงเตี๊ยม เขาดูเหนื่อย
และง่วง ดวงตาที่เปิ ดอยูค่ รึ่ งหนึ่งไร้ชีวติ ชีวา หัวห้อยลงมาเหมือน
กําลังหลับ สายลมเย็นเฉี ยบพัดผ่านเขาจนสะดุง้ ตื่นขึ้นมาอย่างตกใจ
ทันใดนั้นเขาก็เห็นชายชุดดํากลุ่มหนึ่งกระโจนเข้ามาในสวน!
ดวงตาของเด็กรับใช้เบิกกว้าง เขากําลังจะกรี ดร้องออกมาแต่ชายชุด
ดําคนหนึ่งกระโจนไปข้างหลัง เอามือตะปบมาที่ปากของเด็กรับใช้
คนนั้น จากนั้นก็บิดหัวของเขาอย่างแรง!
เสี ยงกร๊ อบดังขึ้น คอของเด็กรับใช้คนนั้นหักทันที เสี ยงร้องของเขา
ติดอยูใ่ นลําคอตลอดกาล
ชายชุดดําวางร่ างอ่อนปวกเปี ยกของเด็กรับใช้คนนั้นลงบนพื้นอย่าง
เงียบเชียบ
ชายชุดดําอีกคนส่ งสัญญาณมือ และทั้งกลุ่มก็กระโจนเข้าไปใน
โรงเตี๊ยมทันที
ในแสงสลัว ๆ ยามรุ่ งอรุ ณ โรงเตี๊ยมเงียบสนิท ผูค้ นต่างหลับใหล
โดยไม่ได้รู้เลยว่าฝันร้ายกําลังมาเยือนแล้วอย่างเงียบเชียบและ
ปราศจากการเตือนล่วงหน้า
เด็กรับใช้ที่หลับอยูใ่ นโถงใหญ่ของโรงเตี๊ยมยังไม่ตื่นจากความฝัน
ด้วยซํ้าตอนที่ใบมีดเฉือนผ่านลําคอของเขา เลือดอุ่น ๆ สี แดงไหล
ท่วมโต๊ะลงไปนองอยูบ่ นพื้น
ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง…
จวินอู๋เสี ยไม่ได้หลับเลยทั้งคืน นางนอนอยูบ่ นเตียงและเอาแหวน
ออกจากนิ้วมาตรวจสอบอย่างละเอียดหลายครั้ง ด้านในแหวนเงิน
นางเห็นตัวอักษรเล็ก ๆ ภาษาจีนสลักอยูห่ นึ่งคํา หยาน!
ทันใดนั้น นางก็ได้กลิ่นเลือดจาง ๆ กลิ่นที่คุน้ เคยนั้นจางมาก นางลุก
ขึ้นทันที สายตาเย็นชาจับจ้องอยูท่ ี่ประตูหอ้ งซึ่ งลงกลอนเอาไว้อย่าง
แน่นหนา
ครัวของโรงเตี๊ยมอยูด่ า้ นหลัง และอาหารเช้าที่นี่กไ็ ม่เคยมีเนื้อหรื อ
ปลา ยิง่ กว่านั้นมันก็เช้ามืดเกินไปที่คนงานในโรงเตี๊ยมจะเริ่ มทํางาน
ของตัวเอง
“แบะ?” ท่านแบะแบะที่นอนหลับอยูข่ า้ ง ๆ จวินอู๋เสี ยตื่นขึ้นจากการ
ขยับตัวของนาง มันสะบัดกีบเท้าทั้งสี ขา้ งและลุกขึ้นยืนช้า ๆ บน
เตียง เมื่อขนของมันงอกขึ้นมาใหม่ ร่ างของมันก็กลับมากลมดิ๊กอีก
ครั้ง
มันเอียงคอมองจวินอู๋เสี ยที่แต่งตัวและลุกออกจากเตียง
“เหมียว” เจ้าแมวดํากระโดดขึ้นมาบนไหล่ของจวินอู๋เสี ย มันงอตัว
เล็กน้อยพร้อมกับหรี่ ตา
[ข้าได้ยนิ เสี ยงคน]
หูแมวนั้นไวกว่ามนุษย์หลายเท่า เสี ยงพวกนั้นจวินอู๋เสี ยไม่ได้ยนิ แต่
มันได้ยนิ อย่างชัดเจน
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตา ในใจย้อนกลับไปคิดถึงคําพูดของเหวินหยูในสวนที่
วังเมื่อคืนที่บอกให้นางกลับไป
[เมืองหลวงนั้นไม่เหมาะกับคุณชายจวิน เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่ องร้าย ๆ ที่
จะเกิดขึ้นอีก คุณชายจวินควรไปจากที่นี่ให้เร็ วที่สุดเท่าที่จะทําได้]
จวินอู๋เสี ยยิม้ มุมปากอย่างเย็นชา ใจของเหวินหยูใสราวกับกระจก
เขาต้องไม่คิดแน่วา่ “เรื่ องร้าย ๆ” จะเกิดขึ้นเร็ วขนาดนี้ ไม่มีเวลาให้
นางจากไปด้วยซํ้า
จวินอู๋เสี ยค่อย ๆ รวบรวมพลังวิญญาณ นางจ้องมองประตูที่ลง
กลอนไว้แน่นโดยไม่ละสายตา
พวกชายชุดดําที่ข้ ึนมาถึงชั้นสองเบาฝี เท้าลง หัวหน้ากลุ่มโบกมือ
เป็ นสัญญาณ พวกเขาจัดตําแหน่งกันตรงหน้าประตูของห้องอื่น ๆ ที่
ชั้นสองทันที
ตอนที่ 896 ลอบสั งหาร (2)
ชายชุดดําหลายคนยืนอยูห่ น้าประตูหอ้ งพักบนชั้นสอง เอียงหัวเอาหู
แนบประตูเพื่อฟังเสี ยงภายในห้อง เมื่อแน่ใจว่าทุกห้องเงียบกริ บ คน
ข้างในยังหลับใหลกันอยู่ พวกเขาก็พากันพยักหน้าให้หวั หน้ากลุ่ม!
นอกจากชายชุดดําหลายคนที่ยนื อยูห่ น้าห้องพักอื่น ๆ แล้ว คนที่
เหลืออีก 10 คนรวมตัวกันอยูห่ น้าห้องห้องหนึ่ง พวกเขาใช้ปลาย
ดาบง้างกลอนประตูออกอย่างเงียบ ๆ และทันใดนั้นก็ผลักประตูเปิ ด
ออกกว้าง!
แต่เมื่อพวกเขาพุง่ เข้ามาในห้องที่มีเพียงแสงตะเกียงริ บหรี่ พวกเขา
กลับพบว่าทั้งห้องว่างเปล่า บนเตียงที่ยงุ่ เหยิงไม่มีร่องรอยเป้าหมาย
ของพวกเขาอยูเ่ ลย
ขณะที่พวกเขายังคงงุนงงกันอยูน่ ้ นั ประตูดา้ นหลังของพวกเขาก็
พลันปิ ดลง!
เสี ยงประตูลนั่ ดังเอี๊ยด พวกชายชุดดําที่เข้ามาในห้องหันหน้าไปมอง
ด้านหลังทันที!
พวกเขาเห็นผูเ้ ยาว์คนหนึ่งที่มีรูปร่ างบอบบางกําลังยืนหรี่ ตามองพวก
เขาอยูห่ น้าประตู
“ใครส่ งพวกเจ้ามา?” จวินอู๋เสี ยมองแขกที่ไม่ได้รับเชิญในห้องของ
นางอย่างเย็นชา ตอนที่คนพวกนี้เข้ามา ฝี เท้าของพวกเขาทั้งเบาและ
รวดเร็ ว แต่เจ้าแมวดําตัวน้อยก็ยงั ได้ยนิ และบอกจํานวนพวกเขาได้
นอกจากชายสิ บคนที่พงุ่ เข้ามาในห้องของนาง ยังน่าจะมีอีกสิ บกว่า
คนที่ยนื เฝ้าอยูด่ า้ นนอกห้องของฮัว่ เหยากับคนอื่น ๆ แต่ไม่ได้คิดจะ
เข้าไป
เห็นได้ชดั ว่าเป้าหมายที่ชายชุดดํามาเยือนแบบไม่คาดคิดก็คือนาง!
ชายชุดดํามองจวินเสี ยอย่างประหลาดใจ ดาบที่พวกเขาถืออยูใ่ นมือ
ส่ องประกายเย็นเยียบ ไม่มีคนอื่นนอกจากผูเ้ ยาว์คนนี้ที่เผชิญหน้า
กับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของพวกเขา ผูเ้ ยาว์คนนี้ไม่ได้แสดง
ท่าทีตื่นตระหนกหรื อหวาดกลัวเลยแม้แต่นอ้ ย ตรงกันข้ามนางกลับ
สงบนิ่งและเฉยเมยมาก
“มีคนต้องการชีวติ เจ้า” ชายชุดดําคนหนึ่งพูดขึ้นเสี ยงตํ่าพร้อมกับส่ ง
สัญญาณมือให้พรรคพวกทันที
วินาทีต่อมา ชายชุดดําทั้งหมดก็พงุ่ เข้าใส่ จวินเสี ยโดยพร้อมเพรี ยง
กัน!
ร่ างของจวินอู๋เสี ยวูบหายไป ตอนที่นางเคลื่อนที่ผา่ นชายพวกนั้น
นางสังเกตเห็นว่าในกลุ่มชายชุดดํานั้น มีหลายคนที่อยูใ่ นขั้นสี เขียว
เช่นกัน! และบางคนก็เป็ นขั้นสี ฟ้า!
การเลื่อนระดับพลังวิญญาณเป็ นสิ่ งที่ยากมาก และคนที่ไม่มีพลัง
หรื ออํานาจจะไม่สามารถส่ งคนที่มีพลังวิญญาณสี เขียวและฟ้ามา
เป็ นกลุ่มลอบสังหารได้ง่ายดายขนาดนี้!
จักรพรรดิเหรอ? หรื อองค์ชายสี่ ?
ในขณะที่จวินอู๋เสี ยหลบ นางก็พิจารณาและระบุตวั ผูต้ อ้ งสงสัยใน
เรื่ องนี้อย่างรวดเร็ว
ชายชุดดํารู ้ก่อนมาที่นี่แล้วว่าผูเ้ ยาว์ที่พวกเขามาเผชิญหน้าในครั้งนี้
ไม่ใช่เป้าหมายธรรมดาทัว่ ไป ดังนั้นพวกเขาจึงรวมกลุ่มกันแบบนี้
เพื่อให้แน่ใจว่าผูเ้ ยาว์ที่มีพลังวิญญาณขั้นสี เขียวคนนี้จะถูกฆ่าตาย
อย่างแน่นอน!
แต่เมื่อพวกเขาลงมือ ความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นในแววตาของ
หัวหน้ากลุ่มชายชุดดํา แม้วา่ เขาจะรู ้วา่ ผูเ้ ยาว์ที่ชื่อจวินเสี ยเป็ นผูใ้ ช้
พลังวิญญาณขั้นสี เขียว แต่เขาไม่คิดจริ ง ๆ ว่าเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู
หลายคนที่มีพลังวิญญาณอยูใ่ นระดับเดียวกับเขาเช่นนี้ และบางคนก็
ยังมีพลังสู งกว่าด้วยซํ้า ผูเ้ ยาว์คนนี้ยงั สามารถหลบการโจมตี
ประสานของพวกเขาได้!
ความรวดเร็ วว่องไวเช่นนี้ คงไม่ง่ายที่จะล้มเขาลงได้
แต่เขาเชื่อว่าจวินเสี ยจะไม่สามารถประคองตัวไปได้นาน เมื่อเห็นว่า
ผูเ้ ยาว์คนนี้ใช้พลังวิญญาณไปมากเพื่อตั้งสมาธิในการหลบ พลัง
วิญญาณที่ถูกใช้ไปมากมายเช่นนั้นไม่ชา้ ก็จะหมดลง ในตอนนั้น
ความตายก็จะมาเยือนผูเ้ ยาว์คนนี้!
ดาบอันแหลมคมสองเล่มแทงเข้ามาพร้อมกันที่หน้าอกของจวินอู๋
เสี ย นางหลบและกําลังจะถอยหลังก็พบว่าชายชุดดําอีกหลายคน
ล้อมนางไว้ ไม่เหลือพื้นที่ให้หนีไปไหนได้
“คุณชายจวิน วันนี้เจ้าจะต้องทิ้งชีวติ เอาไว้ที่นี่ ถึงจะมีพลังวิญญาณ
ขั้นสี เขียวก็ช่วยชีวติ เจ้าไม่ได้หรอก ข้าแนะนํานะว่าดิ้นรนโดยไม่
จําเป็ นเลย อย่างน้อยก็จะได้ตายเร็ ว ๆ ไง” หัวหน้ากลุ่มชายชุดดํา
เห็นว่าจวินเสี ยจนมุมแล้ว เขาก็หวั เราะออกมาอย่างเย็นชาทันที
ตอนที่ 897 ลอบสั งหาร (3)
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตาเล็กน้อย ไม่มีร่องรอยความตื่นกลัวในแววตาของ
นางเลยสักนิด แต่ก่อนที่ดาบทั้งหลายจะแทงเข้ามาที่ร่างของนาง
จวินอู๋เสี ยก็เงยหน้าขึ้นและพูดด้วยเสี ยงเย็นชาว่า “เจ้าแน่ใจหรื อ?”
ชายชุดดําคนนั้นสะดุง้ เขาไม่เข้าใจว่าผูเ้ ยาว์คนนี้ยงั ใจเย็นอยูไ่ ด้ยงั ไง
ในสถานการณ์เช่นนี้
และในทันทีที่ดาบสองเล่มกําลังจะแทงจวินอู๋เสี ย ร่ างสู งร่ างหนึ่งก็
พลันปรากฏขึ้นตรงหน้าจวินอู๋เสี ย! ดาบสองเล่มที่พงุ่ ตรงเข้าใส่
จวินอู๋เสี ยก็ถูกหยุดเอาไว้ได้โดยผูม้ าใหม่ซ่ ึ งใช้นิ้วสองนิ้วคีบดาบ
เอาไว้ขา้ งละเล่ม ดาบทั้งสองไม่สามารถขยับไปข้างหน้าได้เลย
แม้แต่นิ้วเดียว!
พวกชายชุดดําจ้องมองชายที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน พวกเขา
แน่ใจว่าไม่มีคนอื่นอยูแ่ ถวนี้แล้วตอนที่พวกเขาเข้ามา หน้าต่างก็ยงั
ปิ ดสนิท แล้วชายคนนี้โผล่มาจากที่ไหนกัน?
“ขออภัยที่มาช้าขอรับ คุณหนูตอ้ งการให้ขา้ เก็บไว้คนหนึ่งรึ เปล่า
ขอรับ?” เย่ฉากวาดสายตาเย็นเยียบมองพวกชายชุดดําในห้อง ดวงตา
ของเขาทอแววอํามหิ ต
“นอกจากเขา กําจัดคนที่เหลือทั้งหมด” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับชี้ไปที่
หัวหน้าของคนพวกนั้น
“ขอรับ!” เย่ฉาตอบรับทันที
ชายชุดดํารู ้สึกประสาทเสี ยขึ้นมา จังหวะในการโจมตีของเขาเสี ย
เพราะการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเย่ฉา แต่เขาก็ได้สติอย่าง
รวดเร็ วและพูดขึ้นว่า “ฆ่าพวกมันให้หมด!”
ทันใดนั้น ชายชุดดําทั้งเก้าคนก็กระโจนเข้าใส่ เย่ฉา จวินอู๋เสี ยถูกเย่
ฉากันไว้ในตําแหน่งที่ปลอดภัย ไม่วา่ พวกชายชุดดําจะโจมตีเข้ามา
หนักขนาดไหนก็ตาม พวกเขาก็ไม่สามารถทําลายการป้องกันของเย่
ฉาเพียงคนเดียวเพื่อเข้าไปสังหารจวินอู๋เสี ยได้ ไม่สามารถเข้าใกล้
นางได้เลยแม้แต่นิ้วเดียว
หัวหน้าของพวกชายชุดดําเห็นผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี เขียวสองคน
ของกลุ่มเขาถูกเย่ฉาหักคออย่างรวดเร็ วก็ใจหายวาบ คนของเขาทุก
คนเป็ นทหารรับจ้างที่มีความสามารถสู งซึ่ งอัครมหาเสนาบดีได้จา้ ง
เอาไว้ พวกเขาถูกเรี ยกมาทําภารกิจนี้เพราะไม่อาจจะล้มเหลวได้เลย
แม้แต่ครั้งเดียว แต่ชายที่อยู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องคนนี้เป็ นใคร
กัน?
ภายใต้การโจมตีประสานของผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี เขียวและสี ฟ้า
พร้อม ๆ กันเช่นนี้ ดูเหมือนเขาจะรับมือทุกคนได้อย่างสบาย สิ่ งที่ทาํ
ให้เขารู ้สึกหวาดกลัวขึ้นไปอีกก็คือชายคนนี้ฆ่าคนของเขาใน
สถานการณ์ที่ยากจะรับมือเช่นนี้ได้ดว้ ย!
[ชายคนนี้แข็งแกร่ งขนาดไหนกัน!?]
[เขาเป็ นผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี ครามงั้นหรื อ?]
[เป็ นไปไม่ได้!]
[ไม่ใช่แค่ข้นั สี ครามแน่นอน!]
ตัวชายชุดดําเองมีพลังวิญญาณขั้นสี คราม ในตอนที่เย่ฉาต่อสู ้กบั คน
ของเขา เขาสามารถตรวจจับได้วา่ เย่ฉามีพลังสู งกว่าเขาและไม่ใช่แค่
นิดหน่อยด้วย
[เป็ นไปได้ไหมว่าเขาเป็ นผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วง?]
เขาตกใจขึ้นมาทันทีกบั การคาดเดาของตัวเอง แต่เขาก็ไม่สามารถ
ตรวจจับร่ องรอยของพลังวิญญาณจากเย่ฉาได้เลย
ชายชุดดําเริ่ มตื่นกลัวเมื่อเห็นคนของเขาอีกคนถูกเย่ฉาฆ่าตาย ในใจ
ร้อนรนกระวนกระวายขึ้นมา ถ้ายังเป็ นแบบนี้ต่อไป พวกเขาจะ
ไม่ใช่แค่ทาํ ภารกิจล้มเหลว แต่ยงั จะถูกฆ่าตายที่นี่ท้ งั หมดอีกด้วย!
เขาจะยืนอยูเ่ ฉย ๆ ต่อไปไม่ได้แล้ว!
สายตาของเขาเหลือบมองไปที่จวินเสี ยที่ยนื ใจเย็นอยู่ เขาหรี่ ตา
พร้อมกับยกดาบเข้าจู่โจมจวินเสี ยทันที
ต่อให้ตอ้ งเสี ยคนไปอีกสักสองสามคน เขาก็ตอ้ งกําจัดจวินเสี ยให้
ได้!
พลังวิญญาณขั้นสี ครามของเขาส่ องแสงสว่างขึ้น ชายชุดดําโจมตี
ตรงไปที่จุดตายของจวินเสี ยด้วยพลังทั้งหมดของเขา
เขาเชื่ออย่างแรงกล้าว่า ถ้าหากจวินเสี ยถูกโจมตีดว้ ยพลังของผูใ้ ช้
พลังขั้นสี ครามอย่างเขา จวินเสี ยจะไม่มีโอกาสรอดไปได้อย่าง
แน่นอน!
อย่างไรก็ตาม เมื่อชายคนนั้นเข้าใกล้จวินเสี ย ดวงตาของจวินเสี ยก็
หันมาทางเขาทันที ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นปรากฏรอยยิม้ เย้ยหยันเย็นชา
ความรู ้สึกแปลก ๆ คืบคลานเข้าสู่ หวั ใจของชายชุดดํา แต่เขาโจมตี
ออกไปแล้วและไม่มีเวลาคิดอะไรอีกแล้ว!
“เจ้ารี บตายขนาดนั้นเลยหรื อ?” เสี ยงของจวินอู๋เสี ยดังขึ้น
ตอนที่ 898 ลอบสั งหาร (4)
ทันทีที่ดาบของชายชุดดําแทงตรงเข้าไปที่ลาํ คอของจวินอู๋เสี ย พลัง
วิญญาณสี เขียวที่อยูร่ อบตัวนางก็พลันเปลี่ยนเป็ นสี ม่วง!
ชัว่ พริ บตาพลังวิญญาณสี ม่วงก็กระจายไปทัว่ ร่ างของจวินอู๋เสี ย นาง
ยกมือขึ้นจับดาบที่พงุ่ ตรงเข้ามาหน้าตาเฉย เนื่องจากพลังวิญญาณที่
ห่อหุม้ อยูร่ อบมือ นางจึงไม่กลัวคมดาบ เมื่อชายชุดดําเห็นพลัง
วิญญาณสี ม่วงที่ส่องแสงจ้าอยูร่ อบตัวจวินเสี ย ตาของเขาก็เบิกกว้าง
อย่างตกใจและเหลือเชื่อ ก่อนที่เขาจะได้สติ จวินอู๋เสี ยก็ดึงดาบเข้า
หาตัว ส่ งผลให้ชายชุดดําถูกดึงเข้ามาใกล้นาง ฝ่ ามือหนึ่งถูกซัด
ออกมาโจมตีตรงเข้าที่หน้าอกของชายชุดดําคนนั้นอย่างจัง!
ชายชุดดําคนนั้นส่ งเสี ยงร้องโหยหวนออกมา ร่ างปลิวไปกระแทกตู ้
เสื้ อผ้าในห้องจนแตกเป็ นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั้นเขาก็หล่นลงมาชัก
กระตุกอยูบ่ นพื้น ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีก
เขารู ้สึกเหมือนว่ากระดูกทัว่ ร่ างแตกละเอียด ชายชุดดํานอนเหยียด
ยาวอยูบ่ นพื้น พยายามจะยกหัวขึ้นมามองแสงสี ม่วงสว่างเจิดจ้าที่
ส่ องออกมาจากร่ างของผูเ้ ยาว์ตรงหน้าอย่างตกใจสุ ดขีด
“พลังวิญญาณสี ม่วง…เป็ นพลังขั้นสี ม่วงได้ยงั ไง…” กระทัง่ ในฝัน
ร้ายที่สุดของเขาก็ยงั ไม่เคยคิดว่าเป้าหมายลอบสังหารของพวกเขา
ในวันนี้จะเป็ นผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วงในตํานาน!
[เป็ นไปได้ยงั ไง? พลังที่ผเู ้ ยาว์คนนี้แสดงออกมาตลอดศึกประลอง
วิญญาณเป็ นแค่ข้ นั สี เขียวเท่านั้นนี่!]
ผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี เขียวที่อายุ 15 ปี ก็น่าเหลือเชื่อมากพออยูแ่ ล้ว
แล้วนี่มาพูดถึงเรื่ องเพิ่มพลังวิญญาณขึ้นเป็ นขั้นสี ม่วง…
ชายชุดดําไม่เคยเชื่อว่ามนุษย์ที่มีสามารถต้านสวรรค์เช่นนั้นจะมีอยู่
จริ ง
แต่แสงสี ม่วงที่อยูร่ อบตัวของจวินเสี ยก็ชดั เจนซะจนทิ่มตา มันเป็ น
ความจริ งที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้ไม่วา่ จะอยากปฏิเสธแค่ไหนก็ตาม
การที่มีพลังวิญญาณขั้นสี คราม เขาก็คิดว่าจะสามารถล้มจวินเสี ยที่มี
พลังวิญญาณขั้นสี เขียวได้ดว้ ยการโจมตีแค่ครั้งเดียว เขาไม่เคยคิด
เลยว่าจวินเสี ยจะเพิ่มพลังวิญญาณของเขาขึ้นไปที่ข้นั สี ม่วงได้อย่าง
กะทันหัน!
แม้วา่ พลังวิญญาณขั้นสี ครามกับขั้นสี ม่วงจะต่างกันแค่ข้นั เดียว แต่
ความแตกต่างขั้นเดียวนั้นเป็ นช่องว่างที่ผคู ้ นจํานวนนับไม่ถว้ นไม่
อาจจะข้ามไปถึงได้ต่อให้พยายามกันทั้งชีวติ ก็ตาม!
ไม่นานเย่ฉาก็จดั การชายชุดดําคนอื่น ๆ ลงได้ท้ งั หมด ร่ างที่กระจัด
กระจายอยูบ่ นพื้นไม่มีผรู ้ อดชีวติ อยูเ่ ลย และทุกร่ างไม่มีบาดแผลเลย
สักแผลเดียว แม้วา่ การต่อสู ้อนั ดุเดือดเพิ่งจะจบลง และมีคนเสี ยชีวติ
ไป 9 คน แต่กลับไม่มีกลิ่นเลือดแปดเปื้ อนห้องของจวินอู๋เสี ยเลย
แม้แต่นอ้ ย
เย่ฉายืนเคร่ งอยูด่ า้ นหนึ่ง มือห้อยลงข้างลําตัว เขาเข้ามายืนข้าง ๆ
จวินอู๋เสี ย
“ไม่เลว” จวินอู๋เสี ยกวาดสายตามองพื้นที่สะอาดหมดจด ดูเหมือนเย่
ฉาจะรู ้จกั นางดี เขารู ้วา่ นางไม่ชอบกลิ่นเลือด จึงฆ่าคนทั้งหมดโดย
ไม่ให้มีเลือดออกมาเลยสักหยด
เย่ฉาสามารถจัดการคนทั้งหมดได้ในไม่กี่วนิ าที แต่เพื่อไม่ให้หอ้ ง
ของจวินอู๋เสี ยแปดเปื้ อน เขาจึงพยายามเป็ นพิเศษที่จะไม่ให้กลิ่นคาว
เลือดอันน่าขยะแขยงปนอยูใ่ นห้อง
“เป็ นคําสัง่ ของนายท่านอู๋เหยาขอรับ ข้าน้อยไม่กล้าลืม” เย่ฉาพูด
เสี ยงตํ่า แม้แต่ในสถานการณ์แบบนั้น เขาก็ไม่ลืมที่จะช่วยนายท่าน
ให้มีตวั ตนต่อคุณหนู
สายตาแปลก ๆ แวบเข้ามาในดวงตาของจวินอู๋เสี ย แต่มนั ก็แค่แวบ
เดียวก่อนจะกลับเป็ นปกติอย่างรวดเร็ว
“ไปกําจัดคนที่เหลือข้างนอกห้องด้วย” จวินอู๋เสี ยพูด ดวงตาจับจ้อง
อยูท่ ี่ชายชุดดําบนพื้นที่ไม่สามารถขยับได้อีกแล้ว
แต่เย่ฉาตอบว่า “สําหรับพวกข้างนอกนัน่ ข้าเชื่อว่าไม่มีความจําเป็ น
ที่ขา้ จะต้องลงมือแล้วล่ะขอรับ”
เย่ฉาพูดไม่ทนั ขาดคํา ประตูหอ้ งของจวินอู๋เสี ยก็ถูกผลักเปิ ดออก เมื่อ
ประตูเปิ ดกว้าง กลิ่นเลือดฉุนกึกก็ลอยเข้ามาในห้อง ทําเอาจวินอู๋เสี ย
ขมวดคิ้วทันที
ตอนที่ 899 ลอบสั งหาร (5)
ข้างนอกห้องมีเลือดกระจายอยูท่ วั่ ไปหมดทั้งประตูและหน้าต่าง
ทางเดินที่ไม่ได้กว้างมากนักก็เจิ่งนองไปด้วยเลือดสี แดงเข้ม ศพ
ทั้งหลายนอนกระจัดกระจายไร้การเคลื่อนไหวตลอดทางเดินยาว
เชียวชูที่เลือดจากศัตรู เต็มตัวไปหมดยืนยิม้ กว้างอยูท่ ี่ประตูพร้อมกับ
โบกมือเปื้ อนเลือดให้จวินอู๋เสี ย!
“พวกข้างนอกถูกจัดการไปแล….” เชียวชูเริ่ มพูด
“ออกไป” จวินอู๋เสี ยพูดพลางขมวดคิ้วหน้าบึ้ง
เชียวชูชะงัก มือที่โบกไปมาแข็งค้างอยูก่ ลางอากาศ
เย่ฉากระแอมเบา ๆ แล้วพูดว่า “คุณหนูไม่ชอบกลิ่นเลือดน่ะขอรับ”
เชียวชูกะพริ บตาปริ บ ๆ เขาไม่เคยสังเกตเห็นเรื่ องนั้นมาก่อนเลย
จวินอู๋เสี ยไม่ได้นอนมาทั้งคืนและอึดอัดคับข้องใจกับปัญหาทั้งหมด
ที่อยูใ่ นใจ ตอนนี้กลิ่นเลือดที่นางเกลียดก็เต็มห้องไปหมด นางจะ
อารมณ์ดีได้ยงั ไง?
“คุณชายเชียวน่าจะไปล้างตัวก่อนนะขอรับ” เย่ฉาพูดพร้อมกับมอง
มือที่เต็มไปด้วยเลือดของเชียวชู
เชียวชูได้สติทนั ที และเมื่อมองหน้าบึ้ง ๆ ของจวินอู๋เสี ย เขาก็หดคอ
แล้วรี บวิง่ กลับไปที่หอ้ งทันทีพร้อมกับปิ ดประตูตามหลัง
เฟยหยานกับคนอื่น ๆ ที่กาํ ลังค้นศพและพยายามหาของที่จะระบุตวั
ผูล้ อบสังหารหันไปมองเชียวชูท่ีพงุ่ เข้าห้องไปอย่างรวดเร็ วด้วย
สายตางุนงง
“ทําไมออกมาอีกล่ะ?” เฟยหยานถาม
เชียวชูมองสํารวจเพื่อน ๆ ที่ต่างก็เปื้ อนเลือดไม่นอ้ ยไปกว่าเขาแล้ว
พูดอย่างสลดหดหู่วา่ “ข้าแนะนําให้พวกเจ้าทุกคนไปล้างเนื้อล้างตัว
เปลี่ยนเสื้ อผ้าชุดใหม่ก่อนจะเข้าไปหาน้องเสี ย แล้วก็…บอกเถ้าแก่
ให้เอาคนมาทําความสะอาดทางเดินด้วย ถ้า…ยังมีคนรอดชีวติ อยู่
นะ”
หลงลัว่ ลงไปดูที่ช้ นั หนึ่งมาแล้ว และพบว่าเด็กรับใช้ที่เข้าเวร
กลางคืนไม่หายใจแล้ว
เฟยหยานกับฮัว่ เหยามองสบตากันอย่างงุนงง ไม่เข้าใจว่าทําไมเชียว
ชูถึงพูดเช่นนั้น
เด็กรับใช้สองคนตายในตําหนักเซียนคืนนั้น คนที่เหลือที่พกั ผ่อนกัน
อยูร่ อดตัวไป เถ้าแก่โรงเตี๊ยมตื่นขึ้นด้วยเสี ยงตะโกนของเชียวชู เขา
ยังไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเชียวชูลากเขาไปยืนข้างหน้าศพคนตาย
ทั้งหมด เถ้าแก่โรงเตี๊ยมที่ครึ่ งหลับครึ่ งตื่นก็ตาสว่างทันที
แม้วา่ จะรู ้สึกตกใจกลัวจนตัวสัน่ แต่เขาก็ให้คนมาทําความสะอาด
ตําหนักเซียนให้เรี ยบร้อย ศพชายชุดดําถูกย้ายมากองรวมกันที่
ด้านหลัง
เมื่อเชียวชูกบั คนอื่น ๆ ทําความสะอาดเนื้อตัวและเปลี่ยนชุดใหม่
เรี ยบร้อย จวินอู๋เสี ยก็นงั่ อยูท่ ี่หอ้ งโถงบนชั้นสองแล้ว เย่ฉาจับชายชุด
ดําที่ยงั เหลือรอดอยูค่ นเดียวเอาไว้ดา้ นหนึ่ง
“คนพวกนี้มาจากไหน? พวกเขาเก่งน่าดูเลยนะ คนที่อ่อนแอที่สุดก็มี
พลังวิญญาณขั้นสี เขียว แล้วยังมีผใู ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี ครามสองคน
ด้วย” เชียวชูพดู ขณะที่นงั่ เอนหลังอยูบ่ นเก้าอี้ เขาเอียงคอมองชายชุด
ดําที่อาการร่ อแร่ เต็มที
เฟยหยานพูดเสริ มขึ้นว่า “เมื่อครู่ ขา้ ตรวจสอบร่ างพวกเขาแล้ว ไม่
เจออะไรที่บอกได้เลยว่าพวกเขาเป็ นใคร ดูเหมือนว่าคนที่ส่งพวกเขา
มาจะเตรี ยมตัวมาดีเชียวล่ะ”
“ชายคนนี้พดู อะไรมัง่ หรื อยัง?” หลงลัว่ ถามพร้อมกับมองชายที่เย่ฉา
จับเอาไว้
เย่ฉาส่ ายหน้า เขาเอื้อมมือมาจับหน้าของชายชุดดําให้เงยขึ้น
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น ทั้งคณะจึงเห็นว่ากรามของชายชุดดําถูกเย่ฉาทํา
ให้เคลื่อนหลุดจากที่ ปากของเขาตอนนี้หอ้ ยลงมาและอ้ากว้าง เขา
ไม่สามารถส่ งเสี ยงอะไรออกมาได้เลย
“นี่มนั …” เชียวชูพดู พร้อมกับมองชายคนนั้นอย่างงุนงง
“เขาอยากฆ่าตัวตายด้วยการกัดลิ้น” จวินอู๋เสี ยพูดเบา ๆ
ชายชุดดําเป็ นคนใจเด็ดทีเดียว เมื่อรู ้วา่ เขาทําภารกิจล้มเหลวแน่แล้ว
เขาก็ไม่ได้ดิ้นรนหรื ออ้อนวอนเลยสักนิด แต่พยายามฆ่าตัวตาย
ในทันที
ตอนที่ 900 ลอบสั งหาร (6)
โชคดีที่เย่ฉาพบทันเวลาและจัดการเคลื่อนกรามล่างของเขาให้หลุด
ออกเพื่อจะได้กดั ลิ้นตัวเองไม่ได้ เย่ฉาเฝ้าดูเขาอย่างใกล้ชิดทําให้
เป็ นไปไม่ได้ที่จะลงมือฆ่าตัวตาย
“เรามีคนใจเด็ดอยูค่ นซินะ ใช่ไหม?” เชียวชูเดินเข้าไปหาและมอง
ชายชุดดํา ชายคนนั้นหน้าตาธรรมดาทัว่ ๆ ไปแต่ดวงตาของเขา
มุ่งมัน่ เด็ดเดี่ยว
“ถ้าข้าเอากรามของเขากลับเข้าที่ เขาจะฆ่าตัวตายทันที” เย่ฉาพูด
พร้อมกับขมวดคิ้ว ความภักดีต่อคนที่รับใช้อย่างแน่วแน่เช่นนี้เป็ น
นิสยั ที่ตวั เขาเองรู ้จกั ดี
จวินอู๋เสี ยเอายาออกมาและส่ งต่อให้เชียวชู
“ป้อนเขา”
เชียวชูตวั สัน่ ทันทีเมื่อเห็นยา ถึงแม้เขาจะไม่รู้วา่ ยานี้มีฤทธิ์ยงั ไง แต่
ยาจากมือของจวินอู๋เสี ยกี่อย่างกันที่ทาํ ให้ศตั รู ของนางรู ้สึกดี?
“เฮ้อ ทําอะไรไว้กไ็ ด้อย่างนั้นล่ะนะ” เชียวชูพดู อย่างสงสาร เขายัดยา
เข้าไปในปากของชายชุดดํา ชายชุดดําทําหน้านิ่วคิ้วขมวด เขา
พยายามดิ้นรนแต่ไม่อาจต่อกรกับเย่ฉาที่จบั เอาไว้ได้
พวกเขาเฝ้าดูชายชุดดํากลืนยาลงไป หลังจากรออยูค่ รู่ หนึ่ง จวินอู๋เสี ย
ก็พยักหน้าให้เย่ฉาซึ่ งก็จดั การเอากรามล่างของชายชุดดํากลับเข้าที่
ทันที
ทันทีที่พบว่าตัวเองสามารถขยับกรามล่างได้แล้ว ชายคนนั้นก็
พยายามกัดลิ้นเพื่อฆ่าตัวตายทันที
แต่ในขณะที่ฟันแตะลิ้นนัน่ เอง ความเจ็บปวดทรมานอย่างรุ นแรงก็
แล่นผ่านเส้นประสาท เหงื่อไหลลงมาตามหน้าผาก ใบหน้าซี ดขาว
ร่ างทั้งร่ างเริ่ มสัน่
“อยากฆ่าตัวตายงั้นหรื อ? เอาเลยซิ” จวินอู๋เสี ยไม่มองชายคนนั้นด้วย
ซํ้า นางพูดกับเย่ฉาว่า “ปล่อยเขา”
เย่ฉาปล่อยมือ ชายคนนั้นล้มลงกับพื้นทันทีเมื่อไม่มีเย่ฉาคอยจับไว้!
แต่เมื่อร่ างของเขาล้มลงบนพื้น ความเจ็บปวดทรมานอย่างรุ นแรงก็
แล่นไปทัว่ ร่ าง ความเจ็บปวดทรมานที่ไม่อาจจินตนาการได้น้ นั ทํา
ให้เขารู ้สึกเหมือนกระดูกทัว่ ร่ างถูกบดละเอียด เนื้อก็เหมือนถูกฉี ก
ออก
ไม่วา่ ความตั้งใจของเขาจะแน่วแน่อย่างไรก็ตาม เมื่อเจอเข้ากับความ
ทรมานที่บา้ คลัง่ ขนาดนี้ ชายคนนั้นก็พงั ทลายอย่างสิ้ นเชิง นํ้ามูก
นํ้าตาไหลออกมา ใบหน้าซีดขาวจนน่ากลัว
เมื่อเห็นชายที่มุ่งมัน่ เด็ดเดี่ยวอยูเ่ มื่อครู่ นอนกองสะอึกสะอื้นตัวสัน่
เทาอยูต่ รงหน้า เชียวชูกห็ นั ไปถามจวินอู๋เสี ยอย่างงุนงงทันที “น้อง
เสี ย เจ้าให้ขา้ เอาอะไรให้เขากิน? ทําไมเขาถึง…”
[ทําไมเขาถึงเจ็บปวดทรมานขนาดนั้นทั้ง ๆ ที่ขยับแค่นิดเดียว?]
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “ประสาทสัมผัสของร่ างกายมนุษย์น้ นั แตกต่างกัน
บางคนเจ็บปวดรุ นแรงเพียงแค่หนังถลอก ขณะที่บางคนต่อให้โดน
ตัดเนื้อจนถึงกระดูกก็ยงั ทนได้ นัน่ เป็ นผลจากระดับความไวของ
เส้นประสาทที่ถ่ายทอดความเจ็บปวดรวมถึงพลังใจของคน ๆ นั้น
ชายคนนี้มีพลังใจที่เข้มแข็งมาก ข้าอยากจะดูวา่ ความภักดีอนั แน่ว
แน่ของเขาจะสามารถทนทานต่อความเจ็บปวดรุ นแรงได้หรื อไม่ ยา
นั้นเพียงแค่ทาํ ให้เส้นประสาทที่ถ่ายทอดความเจ็บปวดในร่ างเขา
ถ่ายทอดความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นอย่างไม่จาํ กัด เพียงแค่แตะเบา ๆ ก็ทาํ
ให้เขารู ้สึกเหมือนกระดูกถูกบดเนื้อถูกฉี กได้แล้ว”
เชียวชูทาํ ตาโตอย่างสะพรึ ง แม้วา่ เขาจะไม่เข้าใจเรื่ องเส้นประสาท
ถ่ายทอดความเจ็บปวดอะไรนัน่ แต่…แค่ดูปฏิกิริยาของชายชุดดําก็
บอกได้แล้วว่ายาของจวินอู๋เสี ยนั้นถึงจะมองเผิน ๆ เหมือนไม่ได้
พิเศษอะไร แต่ฤทธิ์ของมันนั้น…น่าตกใจอย่างที่สุด
แค่แตะเบา ๆ เพียงผิวสัมผัสเท่านั้นก็เจ็บปวดเหมือนถูกตะไบขูดเอา
เนื้อออก
จวินอู๋เสี ยไม่จาํ เป็ นต้องทําอะไรชายคนนั้นเลย แต่ละการเคลื่อนไหว
ของเขาแม้เพียงเล็กน้อยก็สร้างความทรมานให้เขาอย่างไม่จบสิ้ น
แล้ว
ภายใต้ความทรมานอย่างที่สุดนั้น ไม่จาํ เป็ นต้องพูดถึงการกัดลิ้นฆ่า
ตัวตายเลย แค่แตะลิ้นนิดเดียวก็เจ็บปวดยิง่ กว่ากัดลิ้นตายไม่รู้กี่เท่า
ไม่วา่ พลังใจของเขาจะเข้มแข็งขนาดไหนก็ตาม เขาก็ไม่สามารถทน
ความทรมานเช่นนี้ได้
ตอนที่ 901 ลอบสั งหาร (7)
ในระหว่างที่อา้ ปากหายใจอยูน่ ้ นั เขาก็ได้ยนิ คําพูดทั้งหมดของจวินอู๋เสี ย ชายคนนั้นไม่
สามารถทําอะไรได้นอกจากนอนนิ่งอยูบ่ นพื้น ไม่มีใครเข้าใจความรู ้สึกของเขาใน
ตอนนั้นได้หรอก ทุกสิ่ งที่จวินอู๋เสี ยพูดเป็ นความจริ ง!
เขาแค่ลม้ ลงบนพื้นเท่านั้น ความเจ็บปวดที่ไม่อาจจินตนาการได้กท็ าํ ให้เขารู ้สึกเหมือน
กําลังจะตาย
หลังจากนั้นไม่มีใครสนใจว่าเขาทําอะไร และไม่มีใครถามคําถามเขาเลยสักคํา
จวินอู๋เสี ยกับเพื่อน ๆ ของนางทําอะไรไปตามปกติอย่างที่เคยทํา พวกเขานัง่ ลงที่โต๊ะ
เพื่อรับประทานอาหารเช้าอันหรู หราของพวกเขา เด็กรับใช้ที่ขวัญกระเจิงจาก
เหตุการณ์เมื่อคืนตัวสัน่ กระสับกระส่ ายในขณะที่เสิ ร์ฟอาหาร ตาของเขาเอาแต่มอง
ตรงไปข้างหน้าโดยไม่กล้ามองไปที่ชายที่นอนแผ่อยูบ่ นพื้น นิ่งสนิทไม่ขยับเหมือนกับ
ซากศพ
ชายคนนั้นนอนอยูบ่ นพื้นโดยไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด แขนขาของเขาหมดความรู ้สึก
อย่างรวดเร็ ว ไม่ใช่วา่ เขาไม่อยากขยับ แต่เป็ นเพราะทุกครั้งที่เขาขยับ มันจะทําให้เขา
เจ็บปวดอย่างรุ นแรงเหมือนถูกฉี กออกเป็ นชิ้น ๆ
ความทรมานทําให้เขาไม่สามารถทําอะไรได้เลยนอกจากนอนนิ่ง ๆ อยูบ่ นพื้น แต่พ้ืน
เย็น ๆ ก็ทรมานเส้นประสาทเขาไม่หยุดเช่นกัน พื้นอาจจะเย็นแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่
เขารู ้สึกเหมือนถูกโยนลงทะเลสาบนํ้าแข็งในฤดูหนาวอย่างไร้ความปราณี ร่ างกายของ
เขาที่สมั ผัสพื้นอยูน่ ้ นั ทําให้เขารู ้สึกเย็นไปถึงกระดูก รู ้สึกเหมือนว่าเขาคงจะแข็งตายอยู่
ตรงนั้นเอง
ในขณะที่เขานอนทรมานอย่างหมดหนทางอยูน่ ้ นั จวินอู๋เสี ยกับเพื่อน ๆ ของนางก็นงั่
คุยกันอย่างครื้ นเครงพร้อมกับรับประทานอาหารอย่างเอร็ ดอร่ อย
เมื่อเปรี ยบเทียบสถานการณ์ท้ งั สองฝั่งแล้ว ยิง่ ทําให้สถานการณ์ของเขาเกินจะทนได้
เข้าไปอีก
เขาไม่กลัวที่จะฆ่าตัวตาย แม้วา่ การเชือดคอจะเป็ นความตายที่น่ากลัว แต่อย่างน้อยมัน
ก็รวดเร็ ว ตอนนี้เขาไม่เห็นจุดจบของความทรมานอันน่ากลัวนี้เลยด้วยซํ้า ชะตากรรม
เช่นนี้เลวร้ายยิง่ กว่าความตายซะอีก มันผลักเขาลงไปในหลุมแห่งความสิ้ นหวังและไม่
สามารถจะดึงตัวเองขึ้นมาได้เลย
“ข้าจะพูด……ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่าง……” ในที่สุดเสี ยงสัน่ ๆ ของชายคนนั้นก็ดงั ขึ้น
เชียวชูกบั คนอื่น ๆ เงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสี ยทันที
นี่ยงั ไม่ถึง 1 ชัว่ โมงเลย ชายคนนี้กย็ อมสารภาพแล้วงั้นหรื อ?
คนที่ไม่กลัวกระทัง่ ความตาย คนที่จะกัดลิ้นฆ่าตัวตายเพื่อรักษาความลับ ยอมจํานน
ให้กบั ยาของจวินอู๋เสี ยเพียงเม็ดเดียวงั้นหรื อ? นางไม่ได้ทาํ อะไรอย่างอื่นกับเขาอีกเลย
ด้วยซํ้า แค่ปล่อยให้เขานอนบนพื้นโดยไม่ถามอะไรซักคําด้วย แค่ยาเม็ดเดียวชายคนนี้
ก็ยอมสารภาพแล้ว?
สายตาของเพื่อน ๆ ที่มองนางเต็มไปด้วยความสงสัย พวกเขาอยากรู ้มากว่าฤทธิ์ยาที่
จวินอู๋เสี ยให้ชายคนนี้น่ากลัวขนาดไหน ถึงทําลายคนที่มุ่งมัน่ เด็ดเดี่ยวขนาดนั้นให้ตก
อยูใ่ นสภาพที่น่าเวทนาได้ในเวลาไม่ถึง 1 ชัว่ โมง
จวินอู๋เสี ยวางชามกับตะเกียบลงช้า ๆ สายตาของนางมองไปที่เย่ฉา
เย่ฉายกตัวชายคนนั้นขึ้นทันที
การกระทําที่รวดเร็ วเพียงครั้งเดียวนั้นกระตุน้ ให้เกิดเสี ยงร้องกรี ดหัวใจจากชายคนนั้น
เสี ยงร้องที่น่ากลัวนั้นทําให้ใบหน้าของเถ้าแก่โรงเตี๊ยมกับเด็กรับใช้ที่อยูช่ ้ นั หนึ่งซี ด
ขาวในทันที
“เป็ นอัครมหาเสนาบดี……อัครมหาเสนาบดีเป็ นคนสัง่ ให้พวกเรามาฆ่าเจ้า” ชายคน
นั้นใช้เวลาพักฟื้ นอยูน่ านก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสี ยงสัน่ ๆ
“อัครมหาเสนาบดี?” จวินอู๋เสี ยถามพลางเลิกคิ้วขึ้น
“เอ๋ ? อัครมหาเสนาบดีของแคว้นหยาน นี่เขา……ไม่ใช่วา่ เขา……” ดูเหมือนเชียวชูจะ
นึกอะไรขึ้นได้อย่างกะทันหัน เขากะพริ บตาข้างหนึ่งให้จวินอู๋เสี ยซํ้า ๆ พยายามจะ
บอกใบ้อะไรบางอย่าง
จวินอู๋เสี ยมองผ่านเชียวชูไป ไม่สนใจเขาเลยสักนิด
“ทําไมเขาถึงอยากฆ่าข้า?” จวินอู๋เสี ยถาม
“ข้าไม่รู้เหตุผลจริ ง ๆ ข้าแค่รับหน้าที่กาํ จัดคนที่อคั รมหาเสนาบดีตอ้ งการเท่านั้น
เหตุผลเบื้องหลังนั้นข้าไม่กล้าถาม และอัครมหาเสนาบดีกค็ งไม่บอกข้าด้วย” ชายคน
นั้นตอบ
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า นางรู ้วา่ เขาไม่ได้โกหก เมื่อได้คาํ ตอบนางก็พยักหน้าให้เย่ฉา เย่
ฉาจึงจัดการหักคอชายคนนั้นทันที
ตอนที่ 902 แหวน (1)
ขณะที่ลมหายใจสุ ดท้ายออกจากร่ าง ใบหน้าของชายคนนั้นก็ปรากฏรอยยิม้ บาง ๆ
เทียบกับความตายแล้ว ยาของจวินอู๋เสี ยเป็ นสิ่ งที่เกินทนมากกว่า
“ทําไมชูร้ ักของจักรพรรดินีถึงได้อยากเอาชีวติ เจ้า?” เชียวชูถามพร้อมกับมองจวินอู๋เสี ย
พวกเขาไม่มีใครเคยพบกับอัครมหาเสนาบดีของแคว้นหยานเลยสักคน แต่จากที่เล่ย
เฉิ นบอกทําให้พวกเขารู ้วา่ อัครมหาเสนาบดีของแคว้นหยานคือชูร้ ักของจักรพรรดินี
พวกเขามีลูกด้วยกันซึ่ งก็คือองค์ชายสี่ ในตอนนี้ เล่ยฟ่ าน
ไม่ตอ้ งพูดถึงว่าจวินอู๋เสี ยยังไม่เคยพบกับอัครมหาเสนาบดี กับจักรพรรดินีเองนางก็ยงั
ไม่เคยพบเลยสักครั้ง ความเชื่อมโยงที่ใกล้เคียงที่สุดก็คือองค์ชายสี่ เล่ยฟ่ าน แล้วทําไม
อยู่ ๆ อัครมหาเสนาบดีถึงได้ตอ้ งการชีวติ ของนางขึ้นมา?
“พ่อแท้ ๆ ขององค์ชายสี่ ไม่ได้ตามล่าผิดคนหรอกเหรอ? ข้ายังจําได้วา่ ตอนงานเลี้ยง
เมื่อคืน เล่ยฟ่ านยังพยายามเอาชนะใจเจ้าอยูเ่ ลย อย่างเดียวที่ยงั ไม่ได้ทาํ ก็คือสัง่ ให้เจ้า
ยอมเชื่อฟังเขา ทําไมหลังจากนั้นแค่คืนเดียว ตาแก่นนั่ ถึงได้ส่งมือสังหารมาฆ่าเจ้าล่ะ?”
ยิง่ คิดเชียวชูกย็ งิ่ รู ้สึกสับสน
“เขาไม่ได้ตามล่าผิดคนหรอก” จวินอู๋เสี ยพูดอย่างใจเย็น
“ไม่ผดิ เหรอ?” ฟ่ านจัว๋ ถามพร้อมกับเลิกคิ้ว “เจ้าไปที่สวนกับเล่ยฟ่ าน แต่ตอนขากลับ
เจ้ามาพร้อมกับมหาอํามาตย์เพราะเล่ยฟ่ านเกิดป่ วยขึ้นมากะทันหัน ดูเหมือนว่าจะเป็ น
เพราะเจ้างั้นสิ ”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า “ข้าล้างผลของยาแปลงโฉมที่เขาใช้น่ะ”
พวกผูเ้ ยาว์พากันมองจวินอู๋เสี ยตาโต
“ยาแปลงโฉมเหรอ? หมายความว่ายังไง?” เชียวชูเริ่ มปวดหัว
เฟยหยานอธิบายว่า “เมื่อคืนข้าเพิ่งบอกน้องเสี ยไปว่าหน้าตาของเล่ยฟ่ านค่อนข้าง
แปลกน่ะ เขาเป็ นลูกแท้ ๆ ของจักรพรรดินีแต่กลับดูเหมือนผูห้ ญิงที่เป็ นที่รักของ
จักรพรรดิมากจนแทบจะเหมือนเป๊ ะ ข้าคิดว่ามันต้องมีอะไรแน่ ๆ แต่ไม่คิดว่าน้องเสี ย
จะลงมือเร็ วขนาดนี้ ถึงขนาดตรวจสอบความจริ งในคืนนั้นเลย”
“งั้นก็อธิ บายทุกอย่างได้แล้ว” ฟ่ านจัว๋ พูดพร้อมหัวเราะเย้ยหยันให้กบั สถานการณ์ “เล่ย
ฟ่ านต้องรู ้วา่ โฉมหน้าที่แท้จริ งของเขาถูกเห็นแล้ว ถึงจะอยากได้เจ้าไปเป็ นพวก แต่เจ้า
ก็ปฏิเสธเขาซํ้าแล้วซํ้าอีก นอกจากนั้นเจ้าก็ถูกมองว่าเป็ นเพื่อนกับเล่ยเฉิ น เพื่อป้องกัน
ไม่ให้เจ้าเปิ ดเผยความลับของเขาให้เล่ยเฉิ นรู ้ เขาก็จาํ เป็ นต้องปิ ดปากเจ้าซะ ที่อคั รมหา
เสนาบดีลงมือในคืนนี้กเ็ พราะจักรพรรดินีกบั เล่ยฟ่ านนัน่ เอง”
แม้วา่ เล่ยเฉิ นจะรู ้ตวั จริ งของเล่ยฟ่ าน และถึงแม้หน้าตาของเล่ยฟ่ านจะเป็ นเรื่ องที่แปลก
มาก แต่เขาก็ไม่สามารถค้นหาความจริ งได้และได้แต่เก็บทุกอย่างเอาไว้กบั ตัว
ตอนนี้จวินอู๋เสี ยถอนฤทธิ์ยาแปลงโฉมของเล่ยฟ่ านได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นทั้งหมดที่
พวกเขาต้องทําก็คือลากเล่ยฟ่ านไปตรงหน้าจักรพรรดิแล้วก็แฉเรื่ องนี้ซะ จักรพรรดิคง
จะโกรธจนหน้าเขียวแน่!
“ดูเหมือนว่าเล่ยฟ่ าน จักรพรรดินี กับอัครมหาเสนาบดีจะจัดหนักเลยนะเพื่อที่จะกําจัด
เจ้าน่ะ หลังจากล้มเหลววันนี้ พวกเขาก็จะต้องมาเอาชีวติ เจ้าอีกแน่” ฟ่ านจัว๋ พูดพลาง
ลูบคาง ดูไม่ห่วงจวินอู๋เสี ยเลยสักนิด
จวินอู๋เสี ยพูดเสริ มขึ้นทันทีวา่ “คนที่จะจัดการข้าไม่ได้มีแค่สามคนนี้หรอก”
“อะไรนะ? จะมีใครอีกล่ะเนี่ย?” เชียวชูทาํ ตาโตอีกครั้ง แค่คืนเดียวจวินอู๋เสี ยก็หาเรื่ อง
จักรพรรดินีแห่งแคว้นหยาน องค์ชายที่จกั รพรรดิโปรดปรานมากที่สุด และหัวหน้า
ของพวกขุนนาง อัครมหาเสนาบดี ความสามารถในการสร้างความเกลียดชังของนาง
จะสุ ดยอดไร้ผตู ้ า้ นเกินไปแล้ว แล้วนี่นางยังบอกพวกเขาว่ามีคนที่ตอ้ งการชีวติ นางเพิ่ม
อีกเหรอ?
จวินอู๋เสี ยยกมือขึ้นเพื่อให้ทุกคนเห็นแหวนที่นิ้วของนาง
“พวกเจ้าสังเกตเห็นกันไหมว่าจักรพรรดิสนใจแหวนวงนี้ของข้ามาก?”
ทุกคนพยักหน้า แหวนนี้ถูกนํามาจากด้านล่างของผาสุ ดสวรรค์ จวินอู๋เสี ยได้ไข
ความลับวิธีเพิ่มระดับขั้นพลังวิญญาณชัว่ คราวจากสิ่ งที่เจ้าของแหวนได้เขียนทิ้งเอาไว้
ที่กระท่อมหิ น
พูดได้วา่ แหวนวงนี้มีความหมายต่อจวินอู๋เสี ยเป็ นพิเศษ
ตอนที่ 903 แหวน (2)
“พวกเจ้ายังจําข้อความที่สลักไว้บนกําแพงในกระท่อมหิ นนัน่ ได้รึเปล่า?” จวินอู๋เสี ย
ถามพร้อมกับหรี่ ตา
เชียวชูกบั คนอื่น ๆ พยายามนึกทันที ผ่านไปครู่ หนึ่งฮัว่ เหยาเป็ นคนแรกที่นึกออก เขา
เงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาเป็ นประกายแสดงความเข้าใจ
“เจ้ากําลังบอกว่าคนที่ติดอยูด่ า้ นล่างผาสุ ดสวรรค์เกี่ยวข้องกับแคว้นหยานเหรอ?”
“จวินอู๋เสี ยเอาแหวนออกจากนิ้วแล้วส่ งให้ฮวั่ เหยากับคนอื่น ๆ ตรวจสอบดูใกล้ ๆ
ฮัว่ เหยากับคนอื่น ๆ พบตัวอักษรจีน “หยาน” อย่างรวดเร็ ว
“ข้าจําได้วา่ ……คนที่ถูกกล่าวถึงในข้อความพวกนั้นเป็ นจักรพรรดิของแคว้นไหนสัก
แคว้น อย่าบอกนะว่า……เขาเป็ นจักรพรรดิองค์ก่อนของแคว้นหยานน่ะ? เพราะเขา
หายตัวไปจักรพรรดิองค์น้ ีถึงได้ครองบัลลังก์ง้ นั เหรอ?” เชียวชูทาํ ตาโตอีกครั้ง เขาไม่
เคยคิดมาก่อนเลยว่าแหวนที่จวินอู๋เสี ยบังเอิญหยิบมาจากด้านล่างของผาสุ ดสวรรค์จะ
เกี่ยวข้องกับแคว้นหยาน
“ไม่ใช่ คํานวณจากเวลาที่ผา่ นมาแล้ว ตอนที่ชายคนนั้นลงไปที่ผาสุ ดสวรรค์นนั่ เกือบ
100 ปี มาแล้ว ไม่เกินไปจากนั้นมากนักหรอก แต่อายุของจักรพรรดิองค์ปัจจุบนั ไม่ตรง
กับช่วงเวลานั้น” ฮัว่ เหยาพูดขึ้นทันทีพร้อมกับสัน่ หัวอย่างไม่เห็นด้วย
เฟยหยานหรี่ ตาเหมือนกําลังใช้ความคิดอย่างหนัก ครู่ ต่อมา ดวงตาของเขาก็ส่อง
ประกาย
“ข้านึกออกแล้ว!”
สี หน้าของเฟยหยานตื่นเต้นขึ้นทันที เขามองจวินอู๋เสี ยแล้วพูดว่า “ก่อนหน้านี้ขา้ สื บค้น
ข้อมูลของแคว้นหยานแล้วได้ยนิ เรื่ องของผูค้ รองแคว้นรุ่ นก่อน ๆ จักรพรรดิแคว้น
หยานองค์แรกของสายเลือดนี้เป็ นปู่ ของจักรพรรดิองค์ปัจจุบนั แต่เดิมจักรพรรดิของ
แคว้นหยานเป็ นพี่ชายของเขา แต่จู่ ๆ วันหนึ่งพี่ชายของเขาก็หายตัวไป แคว้นหยานตก
อยูใ่ นความวุน่ วายโกลาหลหลายปี จักรพรรดิองค์แรกของสายนี้จึงถูกเลือกขึ้นมาครอง
บัลลังก์เพื่อให้ประเทศมีความมัน่ คง ดูจากเวลาที่เกิดเรื่ องชายคนที่อยูใ่ นกระท่อมหิ น
นัน่ น่าจะเป็ นพี่ชายของจักรพรรดิองค์แรกของสายนี้นนั่ แหละ จักรพรรดิที่จู่ ๆ ก็หาย
ตัวไป!”
“ที่เจ้าพูดก็ฟังดูเข้าเค้านะ แต่นนั่ มันก็นานมาแล้วนี่ มันเกี่ยวอะไรกับเรื่ องที่เกิดขึ้น
ตอนนี้ล่ะ?” ฟ่ านจัว๋ ถามพร้อมกับหันไปมองจวินอู๋เสี ย
จวินอู๋เสี ยเล่าให้พวกเขาฟังว่า “เมื่อคืนตอนที่ขา้ เจอมหาอํามาตย์ในสวน ตอนแรกเราก็
แค่ทกั ทายกันสองสามคําพอเป็ นพิธี แต่พอเหวินหยูเห็นแหวนที่นิ้วข้า เขาก็บอกเป็ น
นัย ๆ ให้ขา้ รี บออกไปจากแคว้นหยาน เขาพูดว่าถ้าข้ายังอยูท่ ี่นี่ อาจจะเกิดเรื่ องไม่ดีข้ ึน
ได้ ตอนแรกข้าคิดว่าเขาพูดถึงการพยายามลอบสังหารของมหาเสนาบดี แต่พอคิดดู
ดี ๆ แล้ว ข้าว่าเล่ยฟ่ านอยากฆ่าข้าเพราะข้าเห็นใบหน้าที่แท้จริ งของเขา ไม่ใช่เพราะ
แหวนวงนี้ แต่สิ่งที่เหวินหยูพดู ต้องเกี่ยวข้องกับแหวนนี้แน่”
เห็นได้ชดั ว่าอันตรายที่เหวินหยูพดู ถึงไม่เกี่ยวกับเล่ยฟ่ าน
“งั้นก็แปลก ต่อให้แหวนนี้เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิของแคว้นหยานสักองค์จริ ง ๆ แล้ว
แหวนนี้จะทําอะไรได้ล่ะ? จะเป็ นไปได้ยงั ไงที่จู่ ๆ จักรพรรดิจะพยายามฆ่าเจ้าเพียง
เพราะแหวนเก่า ๆ วงหนึ่ง? มันไม่แปลกไปหน่อยหรื อไง? ต่อให้อยากได้แหวนนั้นคืน
เขาก็ขอเจ้าตรง ๆ เลยก็ได้นี่” เชียวชูยงั คงไม่เข้าใจว่าแหวนวงเดียวจะนําพาอันตราย
อะไรมาให้ได้
“เรื่ องนั้นข้าก็ยงั ไม่กระจ่างนัก แต่คาํ พูดของเหวินหยูไม่ใช่เรื่ องไร้เหตุผลแน่ ๆ เขาต้อง
รู ้อะไรบางอย่างหรื อมีเหตุผลให้คาดเดาถึงบางสิ่ งได้ เพราะงั้นเขาถึงได้เตือนข้า”
จวินอู๋เสี ยพูดขณะที่สวมแหวนกลับเข้าไปที่นิ้ว แม้วา่ ตอนนี้นางจะรู ้แล้วว่าเดิมทีแหวน
วงนี้มาจากที่ไหน แต่นางก็ยงั ไม่เข้าใจว่าทําไมเหวินหยูถึงบอกให้นางรี บไปจาก
แคว้นหยาน
ตอนที่ 904 กองทหารราชองครักษ์ หลวง (1)
เฟยหยานคิดอยูน่ านก็ไม่สามารถหาความเชื่อมโยงของสถานการณ์น้ ีกบั ข้อมูลที่เขา
รวบรวมมาได้เลย เขาไม่สามารถตรวจสอบแคว้นหยานในช่วงเวลาที่นานขนาดนั้นได้
ข้อมูลที่เขามีจึงไม่สมบูรณ์ การที่สามารถหาข้อมูลของจักรพรรดิที่หายตัวไปมาได้ก็
เก่งมากแล้ว
พวกเขาปรึ กษากันไปเรื่ อย ๆ จนฟ้าสว่าง เมืองหลวงกลับสู่ ความเร่ งรี บคึกคักอย่างที่
เคยเป็ นตามปกติ พอเถ้าแก่โรงเตี๊ยมตําหนักเซียนถามจวินอู๋เสี ยกับคนอื่น ๆ ว่าอยากจะ
รายงานเหตุลอบสังหารให้เจ้าหน้าที่ตรวจการของเมืองหลวงรู ้ไหม เขาก็ถูกปฏิเสธ
เสี ยงเรี ยบ
เย่ฉาก่อกองไฟกองใหญ่ข้ ึนมาเผาศพจนไม่เหลืออะไร
ไม่วา่ แหวนวงนั้นจะซ่อนความลับอะไรเอาไว้ ตอนนี้กเ็ ป็ นที่แน่นอนแล้วว่าเล่ยฟ่ าน
กับองค์จกั รพรรดิอยากให้จวินอู๋เสี ยตาย ครั้งนี้พวกเขาอาจจะล้มเหลว แต่พวกเขาต้อง
พยายามอีกครั้งแน่
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทุกคนกําลังคิดว่าจะจัดการกับเรื่ องของเล่ยฟ่ านยังไง ทหารกลุ่ม
หนึ่งที่สวมชุดเกราะหนักเต็มยศก็เดินเรี ยงแถวไปตามถนนใหญ่ของเมืองหลวงตรงไป
ที่โรงเตี๊ยมตําหนักเซี ยน
“เกิดอะไรขึ้น?” ด้านนอกตําหนักเซี ยนเต็มไปด้วยเสี ยงเซ็งแซ่ของผูค้ น พวกเขาที่กาํ ลัง
คุยกันอยูก่ ร็ ู ้สึกถึงความวุน่ วายข้างนอก เชียวชูพงุ่ ไปที่หน้าต่างทันทีและเห็นว่ามีกอง
ทหารล้อมตําหนักเซียนอยู่
“มีทหารล้อมที่นี่เต็มไปหมดเลย” เชียวชูหนั ไปบอกเพื่อน ๆ ทันที
“เป็ นไปได้ไหมว่าเล่ยฟ่ านส่ งทหารมาที่นี่?” เฟยหยานถามพร้อมกับขมวดคิ้ว เขาเดิน
ไปมองที่หน้าต่างและรู ้ทนั ทีวา่ ตัวเองเดาผิด
“ไม่ใช่คนของอัครมหาเสนาบดี เป็ นกองทหารราชองครักษ์หลวง!”
“ราชองครักษ์หลวง?”
กองทหารราชองครักษ์หลวงของแคว้นหยานนําโดยผูบ้ ญั ชาการองครักษ์หลวงซึ่ งรับ
คําสัง่ จากองค์จกั รพรรดิเท่านั้น เห็นได้ชดั ว่าการมาอย่างกะทันหันของราชองครักษ์
หลวงพวกนี้ไม่เกี่ยวข้องกับอัครมหาเสนาบดี แต่เป็ นคําสัง่ ขององค์จกั รพรรดิโดยตรง
“ทําไมจักรพรรดิถึงส่ งราชองครักษ์มาที่นี่ล่ะ? อย่าบอกนะว่าคําพูดของมหาอํามาตย์
เป็ นความจริ งน่ะ? เจ้าจักรพรรดิแก่นนั่ ตามล่าน้องเสี ยเพราะแหวนเล็ก ๆ ธรรมดาวง
เดียวเนี่ยนะ?” หลงลัว่ ยืนขึ้นทันที นางขมวดคิ้วพร้อมทําหน้างุนงง
ราชองครักษ์หลวงมาถึงที่นี่เร็ วมาก ตั้งแต่งานเลี้ยงจบจนถึงตอนนี้กไ็ ม่กี่ชวั่ โมงเท่านั้น
จักรพรรดิกส็ ่ งกองทหารมาแล้ว จากความใจร้อนของศัตรู ก็ยากที่พวกเขาจะมอง
สถานการณ์ในแง่ดีได้
การเคลื่อนพลของกองทหารราชองครักษ์หลวง ไม่เพียงทําให้จวินอู๋เสี ยกับเพื่อน ๆ
ระวังตัวเท่านั้น มันยังดึงดูดความสนใจจากผูค้ นในเมืองหลวงเป็ นอย่างมาก กองทหาร
ราชองครักษ์หลวงทําหน้าที่รักษาความปลอดภัยของวังหลวง พวกเขาแทบจะไม่
ปรากฏตัวที่อื่นในเมืองเลย การเล่นใหญ่ในวันนี้เป็ นภาพที่หาดูได้ยากสําหรับทุกคน
ผูค้ นมากมายพากันอยากรู ้อยากเห็นเมื่อพวกเขาเห็นกองทหารราชองครักษ์หลวง
เคลื่อนพล ฝูงชนเดินตามกองทหารมาก่อนจะพบว่าจุดหมายของกองทหารราช
องครักษ์หลวงก็คือตําหนักเซี ยน!
เมื่อพูดถึงตําหนักเซี ยน มันก็เป็ นแค่โรงเตี๊ยมธรรมดา แต่ในตอนนี้ตาํ หนักเซี ยนเป็ นที่
พักของผูช้ นะศึกประลองวิญญาณปี นี้ที่มาจากสํานักศึกษาวายุประจิม ผูเ้ ข้าแข่งขันทั้ง
6 คนของวายุประจิมได้ 6 อันดับแรกของศึกประลองวิญญาณอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขามี
ชื่อเสี ยงโด่งดังมาก แต่นอกจากนั้นแล้ว ตําหนักเซี ยนก็เกิดเรื่ องโชคร้ายขึ้นมากมาย
เช่นกัน
ก่อนที่การประลองตัดสิ น 10 อันดับสุ ดท้ายจะเริ่ มขึ้นไม่นานนัก ก็มีเจ้าหน้าที่ตรวจ
การของเมืองหลวงส่ งคนมาเอาตัวจวินเสี ยไปจากตําหนักเซี ยน แม้วา่ สุ ดท้ายจะพิสูจน์
แล้วว่าเป็ นการเข้าใจผิด มันก็ยงั ทําให้คนมากมายรู ้สึกไม่สบายใจอยูด่ ี
และตอนนี้กองทหารราชองครักษ์หลวงของแคว้นหยานก็มาด้วย ดูจากท่าทีเอาเรื่ อง
ของพวกทหารแล้ว พวกเขาไม่น่าจะมาที่นี่ดว้ ยเรื่ องที่น่ายินดีแน่
ตอนที่ 905 กองทหารราชองครักษ์ หลวง (2)
ตอนนี้ที่ไม่รู้กค็ ือใครในตําหนักเซี ยนที่ทาํ ความผิดเอาไว้จนพวกราชองครักษ์หลวงที่
รับคําสัง่ จากองค์จกั รพรรดิโดยตรงต้องระดมกําลังกันมาเช่นนี้!
สิ่ งที่น่าตกใจยิง่ กว่าก็คือผูบ้ ญั ชาการกองทหารราชองครักษ์หลวง หยวนเปี ยว เป็ นผูท้ ี่
นํากองทหารมาในครั้งนี้ดว้ ยตัวเอง!
การปรากฏตัวของหยวนเปี ยวทําให้ทุกคนตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่ องในวันนี้
“พระราชโองการจากองค์จกั รพรรดิ จวินเสี ย ศิษย์ของสํานักศึกษาวายุประจิมได้ไป
งานเลี้ยงเมื่อคืนและระหว่างนั้นได้ออกจากงานเลี้ยงและทําร้ายองค์ชายสี่ ในอุทยาน
หลวง กองทหารราชองครักษ์หลวงได้รับคําสัง่ ให้มาที่นี่เพื่อจับกุมตัวผูก้ ระทําผิดไป
สอบสวน!”
หยวนเปี ยวกระโดดลงจากม้ามาอ่านพระราชโองการ ข้อความในนั้นระบุวา่ จวินเสี ย
พยายามฆ่าเล่ยฟ่ านอย่างไม่ตอ้ งสงสัยเลย!
ฝูงชนที่มุงดูอยูต่ กใจกันมาก
องค์ชายสี่ เป็ นที่ชื่นชอบมากที่สุดในบรรดาองค์ชายทั้งหมด เขาไม่เพียงแต่เป็ นที่โปรด
ปรานขององค์จกั รพรรดิเท่านั้น แต่ยงั ได้รับการปกป้องจากองค์จกั รพรรดินีดว้ ย พูดได้
ว่านอกจากเรื่ องที่เขาไม่ได้มีตาํ แหน่งองค์รัชทายาท องค์ชายสี่ เป็ นที่รักใคร่ มากที่สุด
ในบรรดาองค์ชายทั้งสี่ ใครจะไปคิดว่าจะมีคนกล้าทําร้ายองค์ชายสี่ และยังทําในวัง
หลวงอีกด้วย!
ฝูงชนที่มุงกันอยูร่ อบ ๆ ต่างส่ งเสี ยงพูดคุยกันเซ็งแซ่
เชียวชูที่ยนื อยูข่ า้ งหน้าต่างที่ช้ นั สองได้ยนิ สิ่ งที่หยวนเปี ยวอ่านทุกถ้อยคําอย่างชัดเจน
เขาทําตาพองอย่างโกรธจัดและไม่เชื่อในสิ่ งที่ได้ยนิ พร้อมกับหันไปมองจวินอู๋เสี ย
“เจ้าโจมตีเล่ยฟ่ านจริ ง ๆ เหรอ?”
ที่งานเลี้ยงเมื่อคืนจวินอู๋เสี ยออกไปจากงานจริ ง ๆ แต่นนั่ เป็ นคําสัง่ ขององค์จกั รพรรดิ
หลังจากที่พวกเขาออกไปจากงานเลี้ยง นางก็ไปที่อุทยานหลวงกับเล่ยฟ่ าน แต่สุดท้าย
ก็กลับมาคนเดียว พวกเขาได้ฟังจากจวินอู๋เสี ยว่านางล้างฤทธิ์ยาแปลงโฉมของเล่ยฟ่ า
นออก ทําให้เล่ยฟ่ านไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหนี แต่พวกเขาก็ไม่รู้รายละเอียดของ
เหตุการณ์
จวินอู๋เสี ยกรอกตามองบนใส่ เชียวชูแล้วพูดว่า “ข้าให้เจ้าดําน้อยสาดนํ้ายาใส่ เขา ข้า
ไม่ได้แตะต้องเขาเลยสักนิดตั้งแต่ตน้ จนจบ”
แม้วา่ นางจะอยากเปิ ดเผยปริ ศนาที่อยูใ่ นใจ แต่นางก็ยงั มีสติพอที่จะรู ้วา่ ทําอะไรได้แค่
ไหนและเส้นไหนที่ไม่ควรข้าม
“จักรพรรดิใส่ ร้ายเจ้าเหรอ?” เชียวชูทาํ ตาโตอย่างตกใจ อีกแล้วเหรอนี่! กี่ครั้งกี่หน
แล้ว! พวกเซเลบในแคว้นหยานต้องพากันใส่ ร้ายและเป็ นปรปักษ์กบั จวินอู๋เสี ยกันหมด
เลยรึ ไง!
จวินอู๋เสี ยพูดว่า “ข้อความในพระราชโองการนัน่ ทั้งจริ งและไม่จริ ง มันบิดเบือนโยน
ความผิดมาให้ขา้ ”
ทุกคนในงานเลี้ยงเมื่อคืนรู ้ดีวา่ นางไปที่อุทยานหลวงกับเล่ยฟ่ าน พวกเขารู ้ดว้ ยว่าเล่ย
ฟ่ านไม่ได้กลับมาพร้อมกับจวินเสี ย เหวินหยูพดู ในงานเลี้ยงว่าเล่ยฟ่ านไม่ค่อย
สบาย……ถ้าพวกเขาเอาเรื่ องทั้งหมดมารวมกัน ทุกอย่างก็ดูเหมาะเจาะอย่างที่องค์
จักรพรรดิกล่าวอ้างไว้
“คนที่อ่านพระราชโองการคือผูบ้ ญั ชาการกองทหารราชองครักษ์หลวงใช่ไหม?” ฮัว่
เหยาถามพร้อมกับมองหยวนเปี ยวที่ยนื อยูด่ า้ นหน้ากองทหาร
“ใช่” เฟยหยานตอบ
“เขาเป็ นคนเดียวกับที่เข้าหาจ้าวซุนก่อนหน้านี้ ที่ตรอกวันนั้น คนนี้แหละคือคนที่จะ
ฆ่าข้าตอนที่ขา้ ปลอมตัวเป็ นจ้าวซุน” ฮัว่ เหยาพูดพร้อมกับหรี่ ตา ใบหน้าของหยวน
เปี ยวเป็ นใบหน้าที่เขายังจําได้อย่างชัดเจน
“อย่างที่คิดไว้ จักรพรรดิเป็ นคนที่พยายามทําให้เล่ยเฉิ นเสี ยชื่อเสี ยงจริ ง ๆ ” เฟยหยาน
พูดพร้อมกับหัวเราะเสี ยงเย็น
“ตอนนี้ดูเหมือนจักรพรรดิมุ่งมัน่ กําจัดน้องเสี ยอยูน่ ะ ถึงขั้นระดมพลกองทหารราช
องครักษ์หลวงเลย ดูท่าทางแล้วเราคงต้องขัดพระราชโองการกันแล้วล่ะ” ฟ่ านจัว๋ พูด
“จากสถานการณ์ตรงหน้า ข้าเห็นเลยว่าทันทีที่นอ้ งเสี ยถูกจับและถูกพาตัวไปวันนี้พวก
เขาจะฆ่าน้องเสี ยทันที แหวนแค่วงเดียวนัน่ มีความลับอะไรนะถึงทําให้จกั รพรรดิแห่ง
แคว้นหยานต้องลงมือรุ นแรงถึงขนาดนี้?”
ฟ่ านจัว๋ สู ดหายใจเข้าลึกและหันไปมองจวินอู๋เสี ย “น้องเสี ย เจ้าต้องไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้
ไม่วา่ จักรพรรดิจะตามล่าเจ้าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เจ้าต้องไม่ตกอยูใ่ นมือของพวกเขา
ครั้งนี้มนั แตกต่างกันมาก พวกเขาจะไม่ให้เจ้าได้เตรี ยมตัวหรอก ทันทีที่ถูกจับได้
ชะตากรรมเดียวของเจ้าก็คือความตายเท่านั้น”
ตอนที่ 906 กองทหารราชองครักษ์ หลวง (3)
ความหมายของฟ่ านจัว๋ นั้นชัดเจน พวกเขาไม่สามารถท้าทายอํานาจของราชองครักษ์
หลวงแห่งแคว้นหยานอย่างเปิ ดเผยต่อหน้าผูค้ นมากมายได้ นอกซะจากพวกเขาตั้งใจ
จะต่อต้านแคว้นหยานอย่างโจ่งแจ้ง และเนื่องจากพวกเขายังไม่ได้แผนที่มาไว้ในมือ
เลย ถ้าสู ก้ บั กองทหารราชองครักษ์หลวงตอนนี้ โอกาสและความเป็ นไปได้ที่พวกเขา
จะแทรกซึ มเข้าไปในวังหลวงเพื่อเอาแผนที่ในอนาคตย่อมหมดไป
“ข้าเข้าใจ” จวินอู๋เสี ยพยักหน้าน้อย ๆ แต่ประกายตายังคงเย็นเยียบ
ทั้งลูกชายและตาแก่ตามล่านางพร้อมกันแบบนี้ คนนึงมาแล้วตามด้วยอีกคน แสดงให้
เห็นว่าพวกเขาใจตรงกันจริ ง ๆ แต่นางก็ไม่ใช่คนที่จะมาเล่นด้วยได้ง่าย ๆ เหมือนกัน
ในเมื่อพวกเขาพร้อมจะยกเลิกมิตรภาพปลอม ๆ แล้ว นางก็ยนิ ดีอย่างยิง่ ที่จะส่ ง
“ของขวัญ” กลับไปให้เป็ นการตอบแทน
“พวกเจ้าทุกคนอย่าไปตอบโต้พวกเขาตรง ๆ ล่ะ” จวินอู๋เสี ยเตือนพรรคพวกของนาง
อีกครั้งก่อนจะจากไป
เชียวชูกบั คนอื่น ๆ มองตามหลังจวินอู๋เสี ยและหันกลับไปมองราชองครักษ์หลวงที่เข้า
มาในตําหนักเซี ยนด้วยแววตาอํามหิ ต
พวกเขาไม่ได้อยากเข้าไปยุง่ เกี่ยวกับเรื่ องของแคว้นหยานเลย แต่จกั รพรรดิกบั องค์ชาย
ของแคว้นหยานกลับทําเกินไป ปล่อยให้พวกนั้นคิดว่าตัวเองได้เปรี ยบไปอีกสักสอง
สามวันเถอะ! แล้วพวกเขาจะตอบแทนให้สาสม!
จวินอู๋เสี ยกลับไปที่หอ้ งของนางและเปลี่ยนเสื้ อผ้าอย่างรวดเร็ ว นางอุม้ ท่านแบะแบะ
ไว้ในมือข้างหนึ่งและอุม้ เจ้าแมวดําด้วยมืออีกข้าง ก่อนจะกระโดดออกไปทางหน้าต่าง
ด้านหลังอย่างเงียบ ๆ
พวกราชองครักษ์หลวงวิง่ เข้ามาในตําหนักเซี ยน หอกในมือพวกเขาชี้ตรงไปที่เชียวชู
กับเพื่อน ๆ สี หน้าของฟ่ านจินตกใจสุ ดขีด เมื่อคืนเขาเมาจนหมดสติไปในห้อง และ
เพิ่งตื่นมาเห็นภาพน่ากลัวแบบนั้น แต่เขารู ้ดีวา่ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาซักถามคนอื่น ๆ
พวกราชองครักษ์หลวงค้นหาทั้งข้างนอกข้างในตําหนักเซี ยน แต่หลังจากค้นหาอยู่
นานก็ไม่เห็นวีแ่ ววของจวินเสี ยเลย พวกเขาจึงลากตัวเถ้าแก่โรงเตี๊ยมกับเด็กรับใช้ของ
ตําหนักเซี ยนออกมาสอบสวนทันที
เถ้าแก่โรงเตี๊ยมกลัวมากอยูแ่ ล้วจากเหตุการณ์ลอบสังหารก่อนหน้านี้ พอโดนพวกราช
องครักษ์ตะคอกใส่ เขาก็ลม้ ลงบนพื้นอย่างหวาดกลัว
“ข้า……ข้าไม่รู้วา่ คุณชายจวินออกไปตอนไหน……เมื่อกี้เขายังอยูแ่ ถวนี้อยูเ่ ลย……”
หยวนเปี ยวขมวดคิ้วมองเถ้าแก่โรงเตี๊ยมแล้วหมุนตัวเดินตรงไปหาเฟยหยานที่สวม
เสื้ อผ้าผูห้ ญิง เทียบกับพวกผูเ้ ยาว์คนอื่น ๆ ของวายุประจิมแล้ว เขาเชื่อว่าสาวน้อยแสน
สวยคนนี้เป็ นคนที่ข้ ีกลัวที่สุด
“เจ้า! บอกมาว่าไอ้ผรู ้ ้ายจวินเสี ยไปไหน!” หยวนเปี ยวชักดาบออกมาแล้วเอาปลายดาบ
จ่อคอเฟยหยาน ปลายอันแหลมคมของมันกรี ดผิวของเฟยหยานจนเลือดสี แดงซึ ม
ออกมา
เฟยหยานเหลือบตาขึ้นมองสี หน้าดุร้ายของหยวนเปี ยว ริ มฝี ปากของเขาขยับเล็กน้อย
แล้วทันใดนั้น! สี หน้าของเขาก็ดูน่าสงสารอย่างที่สุด นํ้าตาใส ๆ ไหลลงมาตามใบหน้า
ทันที
“ฮือออออ……ข้าจะไปรู ้ได้ยงั ไงว่าเจ้าเด็กนัน่ หนีไปไหน? เมื่อกี้เขายังอยูแ่ ถวนี้อยูเ่ ลย
แต่พอพวกท่านเข้ามา ข้ายังไม่ทนั รู ้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็วงิ่ ไปที่ประตูหลังแล้ว! ข้า
ไม่รู้จริ ง ๆ ว่าเขาไปไหน!”
ถึงจะเห็นสาวงามสะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสารเช่นนั้น สี หน้าเคร่ งเครี ยดของหยวนเปี ยว
ก็ไม่ได้ผอ่ นคลายลงเลย
“ส่ งคนไปที่ดา้ นหลังตําหนักเซี ยน ไล่ตามไปทางประตูหลัง!” หลังจากออกคําสัง่
หยวนเปี ยวก็หนั กลับไปทางเฟยหยานแล้วพูดว่า “เจ้าบอกความจริ งมาดีกว่า จวินเสี ย
ทําร้ายองค์ชายสี่ นัน่ ไม่ใช่ความผิดเล็ก ๆ เลย ถ้าพวกเจ้าคนใดกล้าช่วยเหลือเขา พวก
เจ้าจะถูกจับข้อหาสมรู ้ร่วมคิด!”
“ข้าไม่กล้า! ข้าไม่กล้า!” เฟยหยานพูดพร้อมกับแสร้งทําเป็ นร้องห่มร้องไห้อย่างหมด
หนทาง ดูราวกับลูกไก่บาดเจ็บ น่าสงสารเป็ นที่สุด……
ตอนที่ 907 กองทหารราชองครักษ์ หลวง (4)
หยวนเปี ยวมองเฟยหยานที่ดูหวาดกลัวอย่างพอใจ ก่อนจะถอนดาบออกมาช้า ๆ
“ก่อนที่จวินเสี ยจะถูกจับกุม ห้ามพวกเจ้าทุกคนออกไปจากที่นี่! ทหารราชองครักษ์
หลวงจะเฝ้าที่นี่ท้ งั วันทั้งคืน ถ้าพวกเจ้าคนใดคิดว่าจะเดินออกไปได้โดยไม่ได้รับ
อนุญาตล่ะก็ อย่าหาว่าพวกเราใจร้ายก็แล้วกัน!”
พูดจบหยวนเปี ยวก็นาํ ทหารราชองครักษ์หลวงไปจากชั้นสอง เมื่อเขาออกมาข้างนอก
ตําหนักเซี ยนแล้วก็สงั่ ให้คนของเขาล้อมโรงเตี๊ยมนี้ไว้ท้ งั ข้างนอกและข้างใน
เชียวชูกบั คนอื่น ๆ ช่วยกันพาเฟยหยานที่ “หวาดกลัวสุ ดขีด” กลับไปที่หอ้ ง พอประตู
ปิ ดสนิท เฟยหยานที่สะอึกสะอื้นนํ้าตาไหลก็สะบัดมือเชียวชูออกทันที ยกเท้าข้างหนึ่ง
ขึ้นเหยียบบนเก้าอี้แล้วชี้ออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับสบถด่าหยวนเปี ยว “ไอ้บดั ซบ
บังอาจมาข่มขู่นายน้อยคนนี้เรอะ! ข้าจะปล่อยให้เจ้าดีใจไปอีกสองสามวัน พอเรื่ อง
ทั้งหมดนี้จบลง ข้าจะซัดเจ้าให้ร้องไห้หาแม่เลย!”
เมื่อกี้น้ ีเขายังดูเหมือนสาวงามที่อ่อนแอเปราะบางอยูเ่ ลย พออ้าปากพูดเท่านั้นแหละ
กลายเป็ นโจรหยาบช้าป่ าเถื่อนทันที
“น้องหยาน ความสามารถทางการแสดงของเจ้าพัฒนาขึ้นอีกแล้ว สุ ดยอดจริ ง ๆ !”
เชียวชูพดู พร้อมกับมองเฟยหยานอย่างนับถือ อย่าตัดสิ นเฟยหยานจากเสื้ อผ้าผูห้ ญิงที่ดู
อ่อนหวานนัน่ เชียว นิสยั ข้างในของหมอนัน่ เหมือนโจรป่ าหยาบช้าหน้าไม่อาย โอกาส
ที่จะได้เห็นเฟยหยานทําตัวเป็ นสาวน้อยอ่อนแอเช่นนี้หายากจะตาย เขาแอบหัวเราะ
ก๊ากอยูใ่ นใจตลอดเลย
“ลองยิม้ ออกมาซิ ได้เห็นดีแน่! เชื่อไหมล่ะว่าข้าตบทีเดียวก็ทาํ เจ้าตายได้น่ะ!?” เฟย
หยานชูกาํ ปั้น เขามีพละกําลังแข็งแกร่ งที่สุดในกลุ่ม และภูติประจําตัวของเขาก็เป็ นลิง
ยักษ์ พลังแขนของเฟยหยานเป็ นสิ่ งที่เชียวชูไม่อาจต้านทานได้
เชียวชูรู้วา่ ถึงเวลาถอยแล้ว เขารี บสัน่ หัวทันที
“เจ้าหยวนเปี ยวนี่ไม่ได้โง่อย่างหน้าตาเลยนะ เขารู ้วา่ จะต้องถามเถ้าแก่โรงเตี๊ยมก่อนจะ
ถามพวกเรา แถมยังฉลาดพอที่จะเลือกคนที่ดูข่มขู่ให้ “กลัว” ได้ง่ายที่สุด ดูแล้วพวกเขา
คงไม่เลิกราถ้าหาน้องเสี ยไม่พบ เมื่อมาที่ตาํ หนักเซียนแล้วไม่ได้เรื่ อง เป้าหมายต่อไป
คงเป็ นวังขององค์รัชทายาทแน่” ฟ่ านจัว๋ วิเคราะห์พลางลูบคางอย่างใช้ความคิด เขายัง
มัน่ ใจในความสามารถของจวินอู๋เสี ยอย่างเต็มที่ แผนการอันซับซ้อนของนางไม่ใช่สิ่ง
ที่คนธรรมดาทัว่ ไปจะแก้ไขได้
นอกจากนั้น จวินอู๋เสี ยยังมีเจ้าแมวดํา ท่านแบะแบะ บัวเมา กับเย่ฉาไปคอยคุม้ ครอง
ด้วย ต่อให้พวกทหารราชองครักษ์หลวงมากันทั้งกองทัพ ก็อย่าฝันว่าจะแตะต้องนาง
ได้แม้ปลายเส้นผม
อย่างไรก็ตาม……
“ข้าไม่เข้าใจจริ ง ๆ ว่าทําไมจักรพรรดิแห่งแคว้นหยานถึงอยากฆ่าจวินเสี ยนัก แหวน
นัน่ มีความลับอะไรกันแน่?” ไม่วา่ จะคิดยังไง ฟ่ านจัว๋ ก็ไม่สามารถไขปริ ศนาลึกลับอัน
นี้ได้
“เรื่ องนั้นข้าเชื่อว่าน้องเสี ยจะเข้าใจได้เองหลังจากไปพบเล่ยเฉินแล้ว ถึงยังไงเล่ยเฉินก็
เป็ นองค์รัชทายาทของแคว้นหยาน สิ่ งที่เขารู ้ยอ่ มต้องมากกว่าที่พวกเราจะหามาได้อยู่
แล้ว” เฟยหยานให้เหตุผล
ฟ่ านจัว๋ พยักหน้า
“ข้าไม่ห่วงเรื่ องน้องเสี ยหรอก ต่อให้จกั รพรรดิร่วมมือกับคนอื่นก็ยงั ฉลาดสู น้ อ้ งเสี ย
ไม่ได้อยูด่ ี ข้าอยากรู ้มากกว่าว่าครั้งนี้นอ้ งเสี ยจะตอบโต้ยงั ไง?” เชียวชูมนั่ ใจใน
ความสามารถของจวินอู๋เสี ยอย่างเต็มเปี่ ยม เขาแทบจะรอดูไม่ไหวแล้วว่าจวินอู๋เสี ยจะ
ใช้สมองอัจฉริ ยะของนางจัดการกับจักรพรรดิ องค์ชายสี่ จักรพรรดินี และอัครมหา
เสนาบดียงั ไง
“ข้าว่าจักรพรรดิจะต้องเสี ยใจอย่างสุ ดซึ้งแน่ที่จบั น้องเสี ยไม่ได้ในวันนี้” ฟ่ านจัว๋ พูด
พลางหัวเราะเย้ยหยัน
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง กองทหารราชองครักษ์หลวงก็ออกค้นหาร่ องรอยของจวินเสี ย
ทุกที่ทวั่ เมืองหลวง ทั้งเมืองหลวงพากันตื่นตกใจกับการกระทําของพวกราชองครักษ์
และการพูดคุยถกเถียงกันก็ขยายไปทัว่ ในหมู่ประชาชน และในขณะที่กองทหารราช
องครักษ์หลวงกําลังสร้างความสับสนอลหม่านไปทัว่ ทั้งเมืองนัน่ เอง ….
ร่ างเล็ก ๆ ร่ างหนึ่งก็มาถึงประตูหลังวังรัชทายาทแล้วอย่างเงียบ ๆ และลอบเข้าไปข้าง
ในด้วยฝี เท้าที่แผ่วเบา!
ตอนที่ 908 กองทหารราชองครักษ์ หลวง (5)
“อะไรนะ? เสด็จพ่อส่ งหยวนเปี ยวไปจับตัวจวินเสี ยจริ งเหรอ?” เล่ยเฉิ นถาม เขามอง
ทหารที่นาํ ข่าวมาบอกอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“แล้วตอนนี้นอ้ งชายแซ่จวินอยูท่ ี่ไหน? เขาถูกหยวนเปี ยวจับรึ เปล่า?”
“ตอนนี้กองทหารราชองครักษ์หลวงล้อมตําหนักเซี ยนเอาไว้อย่างแน่นหนาเลยพะย่ะ
ค่ะ ห้ามไม่ให้ใครเข้าออกเลย กระหม่อมทําได้เพียงเฝ้าสังเกตอยูด่ า้ นนอก แต่กไ็ ม่เห็น
คุณชายจวินถูกผูบ้ ญั ชาการราชองครักษ์หลวงนําตัวออกมาเลยพะย่ะค่ะ ตอนที่ผู ้
บัญชาการออกมาจากตําหนักเซี ยน เขาออกมาคนเดียว ดูสถานการณ์แล้วกระหม่อม
เดาว่าคุณชายจวินคงไม่อยูท่ ี่ตาํ หนักเซี ยน หยวนเปี ยวจึงยังจับตัวคุณชายจวินไม่ได้พะ
ย่ะค่ะ” ทหารคนนั้นรายงาน
เล่ยเฉิ นถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก ตั้งแต่ที่เขาได้รู้วา่ จวินเสี ยครอบครอง
แหวนจักรพรรดิหยานเมื่อคืนนี้ เขาก็เริ่ มวางแผนขั้นต่อไป แต่ไม่คิดเลยว่าจักรพรรดิ
จะลงมือรวดเร็ วขนาดนี้ เล่นระดมพลกองทหารราชองครักษ์หลวงมาทันทีที่ฟ้าสว่าง
“ดูท่าทางแล้วเสด็จพ่อจ้องจะเอาชีวติ น้องชายจวินแน่ ๆ ” เล่ยเฉิ นพูดพร้อมกับขบ
กรามแน่น เมื่อคิดไปถึงสิ่ งที่เหวินหยูพดู เอาไว้ เขาก็อดรู ้สึกไม่ได้วา่ ตัวเองมองง่าย
เกินไป
เหวินหยูตอ้ งเดาได้วา่ จักรพรรดิจะทําเช่นนี้ เขาถึงได้กงั วลมากและบอกให้จวินเสี ยไป
จากที่นี่เร็ ว ๆ
“ฝ่ าบาท เราควรส่ งคนของเราไปหาตัวคุณชายจวินไหมพะย่ะค่ะ?” ทหารคนนั้นถาม
เล่ยเฉิ นส่ ายหน้าทันที “น้องชายจวินฉลาดมาก เขาต้องมีหนทางหลบหนีหยวนเปี ยว
แน่ เมื่อหยวนเปี ยวหาตัวเขาที่ตาํ หนักเซี ยนไม่เจอ เขาจะต้องมาที่วงั รัชทายาทนี่ต่อ
แน่นอน เขารู ้วา่ ข้าสนิทสนมกับน้องชายจวินมาก ในเมื่อเขาไม่ได้อะไรจากตําหนัก
เซี ยน เขาก็จะมาค้นหาที่นี่แน่ ถ้าข้าบุ่มบ่ามออกไปตามหาน้องชายจวินตอนนี้ พวก
องครักษ์หลวงต้องพบแน่ และจะทําให้นอ้ งชายจวินเดือดร้อนโดยไม่จาํ เป็ น”
เล่ยเฉิ นสงบใจลง สถานการณ์มนั กะทันหันมาก เขาไม่มีเวลาเตรี ยมตัวเลย จักรพรรดิ
เคลื่อนกองทหารราชองครักษ์หลวงไปเร็ วมาก ซึ่ งบอกให้เขารู ้วา่ จักรพรรดิจะไม่ยอม
ให้จวินเสี ยมีทางหนีรอดไปได้!
และอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ หลังจากที่เล่ยเฉิ นได้ข่าวไม่นาน หยวนเปี ยวก็มาถึงวังของ
องค์รัชทายาทพร้อมทหารกลุ่มหนึ่ง
“ตามพระราชโองการ กระหม่อมกําลังตามล่าตัวผูร้ ้ายหลบหนีจวินเสี ยอยูพ่ ะย่ะค่ะ
ขอให้ฝ่าบาทอนุญาตให้พวกกระหม่อมได้ทาํ หน้าที่ดว้ ย” หยวนเปี ยวมาที่ประตูวงั รัช
ทายาทพร้อมด้วยทหารกลุ่มใหญ่
เล่ยเฉิ นออกมาเผชิญหน้ากับเขาที่ประตู
“ผูบ้ ญั ชาการหยวนพูดแปลก ๆ นะ ท่านต้องการจับจวินเสี ยแล้วทําไมมาที่วงั รัชทายาท
ของข้าล่ะ?” เล่ยเฉิ นโต้กลับพร้อมหัวเราะเย็นชา
หยวนเปี ยวไม่สนใจ “รู ้กนั อยูว่ า่ ฝ่ าบาทสนิทกับจวินเสี ยมาก และตอนนี้จวินเสี ยก็
หลบหนีไปอย่างไร้ร่องรอย กระหม่อมแค่ทาํ ตามพระราชโองการเท่านั้น หวังว่าฝ่ า
บาทจะไม่สร้างความยุง่ ยากให้กระหม่อม”
เล่ยเฉิ นพูดว่า “ท่านอยากค้นวังรัชทายาทของข้างั้นรึ ? เพราะท่านพูดอย่างนั้นก็ทาํ ได้
เลยงั้นรึ ?”
หยวนเปี ยวไม่อยากเสี ยเวลาต่อไปอีก เขาจึงเอาพระราชโองการออกมา
“ที่กระหม่อมถืออยูน่ ี่คือพระราชโองการที่องค์จกั รพรรดิร่างขึ้นด้วยพระองค์เอง ซึ่ ง
อนุญาตให้กระหม่อมค้นหาตัวผูร้ ้ายหลบหนีในวังขององค์รัชทายาทได้ ฝ่ าบาทอยาก
ขัดพระราชโองการขององค์จกั รพรรดิจริ ง ๆ หรื อพะย่ะค่ะ?”
เล่ยเฉิ นกัดฟัน พระราชโองการที่หยวนเปี ยวเอาออกมาคงต้องเขียนขึ้นก่อนที่เขาจะ
ออกจากวังเมื่อเช้านี้แน่ เห็นได้ชดั เลยว่าจักรพรรดิคิดว่ามีความเป็ นไปได้ที่จวินเสี ยจะ
หนีไป และเขาได้เตรี ยมตัวล่วงหน้ามาอย่างดี
ถึงแม้เล่ยเฉินจะรู ้สึกไม่พอใจการกระทําของหยวนเปี ยวมากแค่ไหนก็ตาม แต่ดว้ ยพระ
ราชโองการตรงหน้ารวมกับเรื่ องที่จวินเสี ยไม่ได้มาที่วงั รัชทายาท เขาจึงไม่ได้ต่อต้าน
หยวนเปี ยวรุ นแรงนัก
“เมื่อมีพระราชโองการของเสด็จพ่อ เช่นนั้นก็เชิญผูบ้ ญั ชาการหยวนเถอะ” เล่ยเฉิ นก้าว
ถอยหลังไปก้าวนึงเพื่อเปิ ดทางที่เขายืนขวางประตูวงั รัชทายาทเอาไว้
หยวนเปี ยวพยักหน้าน้อย ๆ พอเป็ นพิธี และนําคนของเขาเข้าไปในวังขององค์รัช
ทายาททันที!
ตอนที่ 909 กองทหารราชองครักษ์ หลวง (6)
ทหารราชองครักษ์หลวงละเอียดรอบคอบและมีประสิ ทธิภาพ พวกเขากระจายกันออก
ค้นหาทุกแห่งในวังขององค์รัชทายาททันที เล่ยเฉิ นยืนอยูก่ ลางห้องโถงใหญ่ เฝ้ามอง
พวกทหารราชองครักษ์หลวงทําหน้าที่ของพวกเขาแล้วหัวเราะอย่างเย็นชาอยูใ่ นใจ
หยวนเปี ยวยืนลอบสังเกตปฏิกิริยาของเล่ยเฉินอยูด่ า้ นข้าง ตอนที่เขาไม่พบจวินอู๋เสี ยที่
ตําหนักเซี ยน สถานที่แรกที่เขาคิดถึงก็คือวังขององค์รัชทายาท จวินเสี ยไม่มีเพื่อนหรื อ
ครอบครัวอยูใ่ นเมืองหลวงแคว้นหยานและไม่คุน้ เคยกับที่นี่ นอกจากตําหนักเซี ยน ที่
เดียวที่เขาจะไปได้กม็ ีแต่วงั ขององค์รัชทายาทเท่านั้น
แต่สิ่งที่หยวนเปี ยวพบว่าแปลกก็คือในตอนที่กองทหารราชองครักษ์หลวงออกค้นหา
ไปทัว่ วังนั้น นอกจากสี หน้าที่แสดงว่าไม่พอใจมากแล้ว เล่ยเฉิ นก็ไม่ได้มีสีหน้ากังวล
หรื อรู ้สึกผิดเลยสักนิด ถ้าไม่ใช่เพราะเล่ยเฉิ นแสดงละครได้ยอดเยีย่ มแล้วล่ะก็ งั้นก็
หมายความได้แค่วา่ จวินเสี ยไม่ได้อยูใ่ นวังขององค์รัชทายาทจริ ง ๆ
ไม่นานทหารราชองครักษ์หลวงที่แทบจะพลิกวังค้นหาก็กลับมารวมตัวกันที่หอ้ งโถง
ใหญ่ พวกเขาไม่พบร่ องรอยของจวินเสี ยในวังเลย
หยวนเปี ยวขมวดคิ้ว เล่ยเฉิ นทําสี หน้าเย้ยหยันแล้วถามว่า “ทีน้ ีท่านผูบ้ ญั ชาการพอใจรึ
ยังล่ะ?”
หยวนเปี ยวตอบว่า “กระหม่อมขอให้ฝ่าบาทเรี ยกทุกคนในวังมาที่นี่ได้ไหมพะย่ะค่ะ?
นักโทษหลบหนีรายนี้เจ้าเล่ห์แสนกลนัก กระหม่อมกลัวว่าเขาจะปลอมตัวเป็ นข้ารับ
ใช้ในวังเพื่อหนีการจับกุม”
เล่ยเฉิ นพูดด้วยนํ้าเสี ยงเยาะเย้ยว่า “ผูบ้ ญั ชาการหยวนช่างเป็ นคนที่รอบคอบนัก ท่าน
แน่ใจมากเลยหรื อว่าจวินเสี ยซ่อนตัวอยูใ่ นวังของข้า? ก็ได้! ทหาร ไปเรี ยกทุกคนในวัง
มาที่นี่ให้ผบู ้ ญั ชาการตรวจสอบหน่อย”
ทุกคนในวังรัชทายาทพากันเดินมาที่หอ้ งโถงใหญ่ตามคําสัง่ ของเล่ยเฉิ น ทหารราช
องครักษ์หลวงไปตรวจสอบดูทุกห้องเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครซ่อนอยูอ่ ีก
มีขา้ รับใช้หลายสิ บคนทํางานอยูใ่ นวังขององค์รัชทายาท ทั้งชายและหญิง เด็กและคน
แก่
หยวนเปี ยวเดินไปตรงหน้าทุกคน ดวงตาแข็งกร้าวของเขากวาดมองไปทีละคนโดยไม่
ยอมให้พลาดอะไรที่อาจจะดูน่าสงสัยแม้เพียงเล็กน้อยเลย
เล่ยเฉิ นไม่รู้สึกกังวลเลยสักนิดเนื่องจากจวินเสี ยไม่ได้มาหาเขาเลย เขากวาดสายตา
มองตามหยวนเปี ยวไปและเมื่อเห็นข้ารับใช้แก่ ๆ หลังค่อมคนหนึ่ง เขาก็มีแววตา
สงสัยขึ้นมาทันที
ถึงแม้วา่ ในวังจะมีขา้ รับใช้อยูห่ ลายคน แต่พวกเขาก็ทาํ งานรับใช้เขามาหลายปี พูดได้
ว่าเขาคุน้ หน้าข้ารับใช้ของเขาทุกคน แต่ทว่าชายแก่คนนั้นไม่คุน้ หน้าเขาเลยสักนิด
แต่เนื่องจากหยวนเปี ยวยังอยูต่ รงนั้น เล่ยเฉิ นจึงไม่คิดต่อและรี บเบนสายตาออกไป
อย่างรวดเร็ ว
ในที่สุดหยวนเปี ยวก็ตรวจสอบเสร็ จ เขาให้ความสนใจข้ารับใช้ที่อายุนอ้ ยเป็ นพิเศษ
หลังจากแน่ใจว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่ปลอมตัวมา เขาก็เดินขมวดคิ้วออกไป
“ผูบ้ ญั ชาการหยวนเจอตัวคนที่ท่านตามหารึ เปล่า?” เล่ยเฉิ นเย้ยหยันพร้อมหัวเราะเสี ยง
เย็นชา
หยวนเปี ยวส่ ายหน้า เขาประสานมือตรงหน้าและพูดว่า “กระหม่อมขอให้ฝ่าบาทเข้าใจ
ด้วยที่กระหม่อมต้องมารบกวนความสงบในวังขององค์รัชทายาทวันนี้ แต่เพราะผูร้ ้าย
หลบหนีจวินเสี ยทําร้ายองค์ชายสี่ ทําการเหยียดหยามเกียรติของราชวงศ์ กระหม่อมจึง
ต้องทําหน้าที่อย่างยุติธรรม”
เล่ยเฉิ นมองหยวนเปี ยว แล้วยิม้ กว้างและพูดว่า “ข้าจะกล้าตําหนิผบู ้ ญั ชาการหยวนได้
อย่างไร? แต่ในเมื่อท่านไม่พบผูร้ ้ายหลบหนีที่นี่ เช่นนั้นท่านก็คืนความสงบสุ ขให้วงั
ของข้าได้รึยงั ?”
หยวนเปี ยวตอบทันที “ได้พะย่ะค่ะ”
แล้วหยวนเปี ยวก็นาํ ทหารราชองครักษ์หลวงออกไปจากวังรัชทายาททันที ส่ วนพวก
ข้ารับใช้ในวังก็แยกย้ายกันไปเช่นกัน
ไม่นานทหารของวังรัชทายาทก็นาํ ข่าวมาบอกว่า ถึงหยวนเปี ยวจะออกไปแล้ว แต่เขาก็
แอบส่ งทหารราชองครักษ์หลวงกลุ่มหนึ่งมาคอยเฝ้าดูอยูข่ า้ งนอกวัง เพื่อเตรี ยมพร้อม
รอจับกุมจวินเสี ย
ตอนที่ 910 แผนการอันซับซ้ อน (1)
“อยากรอก็ให้รอไป น้องชายจวินจะโง่ขนาดไม่รู้เจตนาของพวกนั้นได้ยงั ไง? เขาไม่มา
ที่นี่หรอก” เล่ยเฉิ นพูดอย่างมัน่ ใจ เขาเชื่อมัน่ ในสติปัญญาของจวินเสี ยมาก
“เห็นฝ่ าบาทมัน่ ใจในตัวกระหม่อมมากขนาดนี้ กระหม่อมว่ากระหม่อมคงจะทําให้ฝ่า
บาทผิดหวังซะแล้ว”
ทันใดนั้น เสี ยงคุน้ หูมากเสี ยงหนึ่งก็ดงั ขึ้นด้านหลังเล่ยเฉิ น
เล่ยเฉิ นหันกลับไปอย่างประหลาดใจและสับสน แล้วก็พบจวินเสี ยเดินออกมาจาก
ด้านหลังห้องโถงใหญ่พร้อมกับถือชุดข้ารับใช้ในวังขององค์รัชทายาทมาด้วย
“ขอประทานอภัยที่กระหม่อมยืมชุดไปโดยไม่ได้ขออนุญาต” จวินเสี ยพูดอย่างใจเย็น
ขณะที่เดินไปหยุดตรงหน้าเล่ยเฉิ นและโยนเสื้ อผ้าในมือไปให้ทหารที่ยนื ตกใจอยู่
ด้านข้าง
ทหารคนนั้นมองจวินอู๋เสี ยตาไม่กะพริ บ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองไม่รู้สึกเลยว่าจวิน
เสี ยเข้ามาใกล้
“เจ้า……” เล่ยเฉิ นมองจวินเสี ยอย่างสับสน แล้วใบหน้าของชายแก่แปลกหน้าก็แวบ
เข้ามาในหัว “ชายแก่เมื่อครู่ คือเจ้าปลอมตัวมาหรื อเนี่ย?”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า “หยวนเปี ยวละเอียดรอบคอบมาก เขาตรวจสอบข้ารับใช้ที่เป็ น
เด็กชายเด็กหญิงทุกคนที่อายุใกล้เคียงกับกระหม่อมอย่างละเอียด”
เล่ยเฉิ นเลยพูดว่า “แต่เขาไม่คิดว่าเจ้าจะปลอมตัวเป็ นชายแก่หลังค่อมซินะ เจ้าหลอก
กระทัง่ ข้า!” พอพูดเช่นนั้นเล่ยเฉิ นก็มองออกไปนอกประตูทนั ทีและรี บสัง่ ทหารที่ยนื
อยูด่ า้ นข้าง “ให้คนของเราออกไปยืนเฝ้าข้างนอก อย่าปล่อยให้พวกทหารราชองครักษ์
หลวงคนใดเล็ดลอดเข้ามาในวังได้เด็ดขาด”
“พะย่ะค่ะ!” ทหารคนนั้นจากไปทันที และตอนที่ออกไปเขาก็หนั กลับมาปิ ดประตูดว้ ย
“เจ้ามาที่นี่เมื่อไร?” พอไม่มีคนอื่นอยูใ่ นห้อง เล่ยเฉิ นก็ไปยืนข้าง ๆ จวินเสี ยทันทีและ
มองสํารวจจวินเสี ยขึ้น ๆ ลง ๆ
“ก่อนที่พวกราชองครักษ์จะมา” หลังออกจากตําหนักเซี ยน นางก็พงุ่ ตรงมาที่วงั ของ
องค์รัชทายาททันที และเข้ามาที่นี่ก่อนทหารราชองครักษ์หลวงแค่กา้ วเดียวเท่านั้น
‘ตึก ตึก ตึก’
เสี ยงฝี เท้าดังขึ้น เล่ยเฉิ นสะดุง้ แล้วหันไปดูทางต้นเสี ยงทันที เขาเห็นแกะตัวเล็ก ๆ อ้วน
กลมเดินยืดออกมาจากด้านหลังห้องโถงใหญ่ กีบเท้าทั้งสี่ ขา้ งของมันก้าวเข้ามาอย่าง
ไม่เร่ งรี บ มันเข้ามาอยูข่ า้ ง ๆ เท้าของจวินเสี ยโดยไม่สนใจสายตางุนงงของเล่ยเฉิ นเลย
สักนิด
“นี่คือ……” เล่ยเฉิ นมองเจ้าตัวเล็กอย่างสับสน เพราะอะไรก็ไม่รู้เขาถึงรู ้สึกว่าสายตา
ของแกะตัวนี้มองมาที่เขาแบบแปลก ๆ
“สัตว์เลี้ยงของกระหม่อม” จวินอู๋เสี ยพูดหน้าตาเฉย นางอุม้ ท่านแบะแบะขึ้นมาแล้ว
เดินไปนัง่ ที่เก้าอี้
“เจ้านี่กล้ามากจริ ง ๆ ก็รู้อยูว่ า่ พวกนั้นจะมาหาตัวเจ้าที่นี่ ยังจะกล้ามาอีก” เล่ยเฉิ นพูด
พร้อมกับมองจวินเสี ยอย่างจนปัญญา ช่างไม่กลัวอะไรซะบ้างเลย แถมยังมาหลอกเขา
ซะสนิทเลย
“กระหม่อมมาที่นี่เพราะมีเรื่ องอยากถามฝ่ าบาท” จวินอู๋เสี ยพูดอย่างใจเย็น
เล่ยเฉิ นประหลาดใจ เขาชะงักไปครู่ หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เจ้าตั้งใจมาถามข้าว่าทําไม
เสด็จพ่อถึงอยากฆ่าเจ้างั้นรึ ?”
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “ทั้งใช่และไม่ใช่พะย่ะค่ะ”
เล่ยเฉิ นสับสนขึ้นมาทันที
จวินอู๋เสี ยยกมือขึ้นให้เล่ยเฉิ นดูแหวนบนนิ้วของนาง
“ฝ่ าบาทรู ้ไหมว่าแหวนนี้แต่เดิมเป็ นของที่ไหน?”
เมื่อเห็นแหวนจักรพรรดิหยาน ดวงตาของเล่ยเฉินก็เป็ นประกายขึ้นมาทันที!
“นัน่ คือแหวนจักรพรรดิหยาน!” เสี ยงของเล่ยเฉิ นเกือบสัน่ ด้วยความตื่นเต้น
“โอ้?” จวินอู๋เสี ยขึ้นเสี ยงสู งพร้อมกับเลิกคิ้ว ดูเหมือนว่านางจะเดาถูก
“ผูค้ รองแคว้นหยานในอดีตจะรับสื บทอดแหวนนัน่ จากบรรพบุรุษและหลอมมันเข้า
กับแหวนประจําตัว พูดได้วา่ แหวนจักรพรรดิหยานนี้คือสัญลักษณ์ของผูค้ รองแคว้น
หยาน มีเพียงผูค้ รองแคว้นหยานที่แท้จริ งเท่านั้นถึงจะได้ครอบครอง!” เล่ยเฉิ นมอง
จวินอู๋เสี ยด้วยสายตาเร่ าร้อน
ตอนที่ 911 แผนการอันซับซ้ อน (2)
จวินเสี ยมองอย่างสงสัย เล่ยเฉินจึงเล่าทุกอย่างที่รู้เกี่ยวกับแหวน
จักรพรรดิหยานให้จวินเสี ยฟัง ตั้งแต่จกั รพรรดิองค์แรกของ
สายเลือดผูค้ รองแคว้นในปัจจุบนั นี้จนถึงการยืนกรานอย่างมัน่ คง
ของพระพันปี หลวง …
จวินอู๋เสี ยฟังเรื่ องทั้งหมดอย่างเงียบ ๆ แม้วา่ นางจะเดาถูกว่าแหวนนี่
มาจากที่ไหน แต่นางไม่คิดว่าแหวนที่นางหยิบมาโดย
รู ้เท่าไม่ถึงการณ์น้ นั จะมีความลับยิง่ ใหญ่ซ่ ึ งสําคัญมากขนาดนั้น
ซ่อนอยู่
“ครอบครองแหวนจักรพรรดิหยานเท่ากับครอบครองแคว้นหยาน
งั้นรึ ? นี่คือเหตุผลที่จกั รพรรดิตอ้ งการฆ่ากระหม่อมเหรอ?” จวินอู๋
เสี ยเลิกคิ้วถาม
เล่ยเฉินพยักหน้า
“เสด็จพ่อต้องกังวลว่าพระพันปี หลวงจะทรงทราบเรื่ องที่เจ้า
ครอบครองแหวนจักรพรรดิหยาน เขาจึงตัดสิ นใจปิ ดปากเจ้าไป
ตลอดกาล”
เล่ยเฉินหยุดชะงักและลุกขึ้นทันที เขามองจวินเสี ยด้วยสี หน้าตื่นเต้น
“พระราชโองการนี้เขียนขึ้นโดยจักรพรรดิองค์แรกของสายเรา
เพราะฉะนั้นถึงเป็ นเสด็จพ่อก็ไม่อาจขัดคําสัง่ ได้! ตอนนี้ผสู ้ ื บทอด
บัลลังก์โดยชอบธรรมของแคว้นหยานกลายเป็ นเรื่ องตลกเหลวไหล
ไปแล้ว น้องรองก็ไม่ทะเยอทะยานและขาดคุณสมบัติ น้องสามก็ข้ ี
ขลาด ทั้งสองขาดความสามารถที่จะเป็ นผูส้ ื บทอดบัลลังก์ที่
เหมาะสม ในขณะที่ท้ งั ข้าและเล่ยฟ่ านไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็ นผูส้ ื บทอด
ทั้งคู่ ตอนนี้นอ้ งชายจวิน เจ้า …”
เสี ยงของเล่ยเฉินตื่นเต้นขึ้นเรื่ อย ๆ สายตากระตือรื อร้นจนแทบลุก
เป็ นไฟ
โดยไม่รอให้เขาพูดจบ จวินอู๋เสี ยก็ยกมือปางห้ามญาติข้ ึนขัดเล่ยเฉิ น
ทันที
“กระหม่อมไม่สนใจแคว้นหยาน”
“อะไรนะ?” เล่ยเฉิ นตะลึงงัน “แคว้นหยานเป็ นแคว้นที่ใหญ่ที่สุด
และมีอาํ นาจมากที่สุดทัว่ ดินแดนนี้! ในฐานะจักรพรรดิแห่งแคว้น
หยาน โลกครึ่ งใบจะอยูใ่ นกํามือเจ้าเลยนะ! น้องชายแซ่จวิน! ข้ารู ้วา่
เจ้ามีนิสยั เย็นชาและไม่แยแสอะไร แต่เจ้ามีความสามารถที่ไม่
ธรรมดานะ และถึงเจ้าจะออกไปสร้างชื่อเสี ยงของตัวเอง สิ่ งที่เจ้าจะ
ได้กเ็ ทียบไม่ได้กบั ที่เจ้าจะได้จากบัลลังก์แห่งแคว้นหยานหรอกนะ!
ถ้าเจ้ากังวลว่าประชาชนและพวกขุนนางของแคว้นหยานจะไม่
ยอมรับเจ้า เจ้าก็วางใจได้เรื่ องนั้นได้เลย พระราชโองการนัน่ สื บทอด
กันมานานหลายปี แล้ว ถึงแม้ผคู ้ นจะค่อย ๆ เลิกพูดถึงมันมานาน
แล้ว แต่พระราชโองการต้นฉบับก็ยงั อยูก่ บั พระพันปี หลวง! ท่าน
ทวดให้ความสําคัญกับการตัดสิ นใจของจักรพรรดิองค์แรกเสมอ ถ้า
พระนางนําพระราชโองการของจักรพรรดิองค์แรกออกมาด้วย
พระองค์เอง มันก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว!”
เล่ยเฉินมองจวินเสี ยอย่างกระวนกระวาย เขาไม่เข้าใจว่าทําไมจวิน
เสี ยถึงไม่ซาบซึ้งเอาซะเลยที่โอกาสอันหายากและไม่น่าเชื่อนี้มาอยู่
ตรงหน้า
นี่คือโอกาสที่จะได้เป็ นผูค้ รองแคว้นหยานเลยนะ!
ตําแหน่งที่คนมากมายนับไม่ถว้ นได้แต่ฝันถึง!
ความยิง่ ใหญ่ของแคว้นหยานเหนือกว่าแคว้นอื่น ๆ ทั้งหมด การได้
เป็ นจักรพรรดิแคว้นหยานก็เท่ากับอยูเ่ หนือคนทั้งโลก ทั้งความ
รํ่ารวย สถานะ อํานาจ …ไม่มีทางไหนที่ดีกว่าการเป็ นจักรพรรดิ
แห่งแคว้นหยานอีกแล้ว!
ในโลกนี้มีวรี บุรุษที่เป็ นที่นบั หน้าถือตามากเท่าไรที่ตอ้ งต่อสู ต้ ลอด
ทั้งชีวติ ของพวกเขา แต่เกียรติยศและความสําเร็ จตลอดชัว่ ชีวติ ของ
พวกเขาก็ยงั เทียบไม่ได้กบั อํานาจและความยิง่ ใหญ่ของจักรพรรดิ
แห่งแคว้นหยาน ไม่วา่ จวินเสี ยจะปรารถนาสิ่ งใด ในสายตาของเล่ย
เฉินบัลลังก์แห่งแคว้นหยานจะสามารถทําให้ความปรารถนานั้นเป็ น
จริ งได้
“ไม่สนพะย่ะค่ะ” คําตอบของจวินอู๋เสี ยยังคงเย็นชาและเฉยเมย
เหมือนเดิม ยศตําแหน่งและอํานาจไม่ใช่สิ่งที่นางสนใจสักนิด
“ทําไมล่ะ?” เล่ยเฉิ นยังคงตกตะลึง
“กระหม่อมไม่ชอบ” จวินอู๋เสี ยตอบ
บัลลังก์แห่งแคว้นหยานอาจจะเป็ นที่ปรารถนาของคนอื่น แต่
สําหรับนางมันไม่มีประโยชน์ ถ้านางกระหายในอํานาจจริ ง ๆ ล่ะก็
จักรพรรดิแห่งแคว้นฉี องค์ปัจจุบนั คงไม่ใช่โม่เฉียนหยวนแล้ว
เล่ยเฉินมองจวินเสี ยอย่างอึ้ง ๆ ในหัวเต็มไปด้วยความคิดและ
ความรู ้สึกมากมาย ไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าจวินเสี ยจะปฏิเสธ
“แต่ …คนบริ สุทธิ์กย็ งั มีความผิดเพียงแค่ครอบครองหยกนะ ต่อให้
เจ้าไม่สนใจบัลลังก์แห่งแคว้นหยาน เสด็จพ่อก็ไม่ปล่อยเจ้าไว้อยูด่ ี
ถึงเจ้าจะส่ งมอบแหวนจักรพรรดิหยานให้ เขาก็ยงั จะปิ ดปากเจ้าเพื่อ
ป้องกันไม่ให้ใครรู ้เรื่ องนี้อยูด่ ี!”
ตอนที่ 912 แผนการอันซับซ้ อน (3)
จวินอู๋เสี ยเลิกคิว้ มองเล่ยเฉิน
“กระหม่อมพูดเมื่อไรว่าจะมอบแหวนให้เขา?”
เล่ยเฉินมองจวินเสี ยอย่างสับสนเป็ นที่สุด
“ถ้าเขาอยากให้กระหม่อมตายก็ลองดูได้ ถ้ากระหม่อมตายก็เป็ น
เพราะกระหม่อมไร้ความสามารถ แหวนวงนี้เป็ นสิ่ งที่เหลืออยูเ่ พื่อ
ระลึกถึงอาจารย์ของกระหม่อม ไม่วา่ ใครจะมาตามล่ากระหม่อม
กระหม่อมก็ไม่มอบแหวนให้หรอก” จวินอู๋เสี ยพูด จะให้มอบแหวน
เพื่อแลกกับความปลอดภัยน่ะเรอะ? จวินอู๋เสี ยผูน้ ้ ีไม่มีวนั เลือก
หนทางขี้ขลาดเช่นนั้นหรอก!
“งั้นเจ้าก็นงั่ รอความตายอยูเ่ ฉย ๆ ที่นี่ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?” เล่ยเฉินถาม
และเริ่ มวิตกแทนจวินเสี ย
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “ในเมื่อเขาแสดงความตั้งใจออกมาชัดขนาดนี้
แล้วทําไมกระหม่อมจะต้องนัง่ รอเขาลงมือด้วย? เขาเป็ นฝ่ ายเริ่ มนี่
เพราะฉะนั้นกระหม่อมก็ไม่จาํ เป็ นต้องเป็ นมิตรด้วยแล้ว”
พูดจบ ดวงตาของนางก็ทอประกายเย็นเยียบ
นางไม่สนใจเรื่ องภายในของแคว้นหยาน ความตั้งใจตั้งแต่แรกของ
นางมีแค่การเอาแผนที่จากจักรพรรดิเท่านั้น แต่ตอนนี้ท้ งั จักรพรรดิ
องค์ชายสี่ จักรพรรดินี และอัครมหาเสนาบดีต่างต้องการฆ่านางเพื่อ
จบปัญหาของตัวเอง ถ้านางไม่ตอบโต้ นางก็จะทําให้พวกเขาผิดหวัง
ที่อุตส่ าห์พากันแสดงความ “สนใจ” ในตัวนางน่ะซิ
“เจ้า …จะทําอะไร?” เล่ยเฉิ นมองจวินเสี ยตาไม่กระพริ บ สายตาเต็ม
ไปด้วยความคาดหวัง
จวินอู๋เสี ยกวักมือเรี ยกให้องค์รัชทายาทเข้าไปใกล้ ๆ เขาจึงเอียงหูเข้า
ไป
หยวนเปี ยวกําลังนัง่ รอข่าวอยูใ่ นร้านอาหาร ทหารราชองครักษ์
หลวงที่ทิ้งไว้ที่ตาํ หนักเซียนและวังขององค์รัชทายาทได้เข้ามา
รายงานเมื่อครู่ วา่ คนของวายุประจิมที่อยูใ่ นตําหนักเซียนรวมกลุ่ม
กันอยูน่ ิ่ง ๆ ไม่ได้ทาํ อะไรขัดคําสัง่ ของเขาเลย
ส่ วนทหารที่อยูน่ อกวังขององค์รัชทายาทก็ส่งข่าวมาว่า หลังจาก
หยวนเปี ยวไปได้ไม่นาน ข้ารับใช้จากวังรัชทายาทก็ออกจากวัง
ทหารราชองครักษ์หลวงแอบติดตามคน ๆ นั้นไปและพบว่าเขาไปที่
โรงเตี๊ยมที่คนของสํานักศึกษาธงศึกพักอยู่ ทหารราชองครักษ์หลวง
ไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้จึงได้แต่รออยูข่ า้ งนอก หลังจากนั้นพักใหญ่
ข้ารับใช้คนนั้นก็ออกมาพร้อมเซียงป้ากับฉูหลิงเย่จากเมืองพันอสู ร
พวกเขาขึ้นรถม้าและมุ่งหน้าไปที่วงั ขององค์รัชทายาท
ทหารราชองครักษ์หลวงที่ตามพวกเขาไปเห็นกับตาตัวเองในตอนที่
รถม้าหยุด มีแค่ขา้ รับใช้คนนั้นที่กา้ วลงมาพร้อมเซี ยงป้าและฉูหลิงเย่
ในรถม้าไม่มีคนอื่นอีก
“ท่านผูบ้ ญั ชาการ! องค์รัชทายาททรงเชิญคนจากเมืองพันอสู รไปที่
วังกะทันหันแบบนี้ ทรงวางแผนอะไรหรื อขอรับ?” ทหารราช
องครักษ์คนนั้นถาม เขาไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ท้ งั หมดได้
หยวนเปี ยวพูดว่า “องค์รัชทายาทพยายามดึงเมืองพันอสู รมาเป็ น
พวกนานแล้ว ก่อนหน้านี้ที่ฉูหลิงเย่บาดเจ็บสาหัส ก็องค์รัชทายาท
ไม่ใช่หรื อที่เชิญคุณหนูแห่งแคว้นฉีอะไรนัน่ มารักษาฉูหลิงเย่? คน
จากเมืองพันอสู รจะจดจําความช่วยเหลือขององค์รัชทายาทเอาไว้
ตอนนี้จวินเสี ยถูกตราหน้าว่าเป็ นอาชญากร องค์รัชทายาทย่อมไม่
ปล่อยเป้าหมายอื่นที่เขาจะเป็ นพันธมิตรด้วยไปหรอก” หยวนเปี ยว
หัวเราะอย่างเย็นชาและพูดต่อว่า “ข้าต้องพูดเลยว่าองค์รัชทายาทไม่
ยอมเสี ยเวลาไปเปล่า ๆ จริ ง ๆ พอจวินเสี ยหมดคุณค่า เขาก็กลับไป
หาคนจากเมืองพันอสู รทันที”
“พวกเจ้าแค่จบั ตามองเอาไว้ให้ดีกพ็ อ องค์จกั รพรรดิไม่ตอ้ งการให้
เกิดปัญหากับคนของเมืองพันอสู ร ทุกคนจําไว้นะ ก่อนที่จะเจอ
ร่ องรอยของจวินเสี ย ห้ามให้คนของเมืองพันอสูรรู ้วา่ พวกเขาถูก
ติดตามอยูเ่ ด็ดขาด”
“ขอรับ!” ทหารราชองครักษ์คนนั้นตอบและจากไปอย่างรวดเร็ ว
ในวังขององค์รัชทายาท เซียงป้ากับฉูหลิงเย่ถูกพาไปหาเล่ยเฉิน เมื่อ
เล่ยเฉินไล่ขา้ รับใช้ออกไปแล้ว เซียงป้าจึงพูดขึ้นทันที “ฝ่ าบาทเชิญ
พวกเรามาที่นี่กะทันหันแบบนี้ ไม่ทราบว่ามีเรื่ องอะไรหรื อพะย่ะ
ค่ะ?”
เพราะเรื่ องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่ฉูหลิงเย่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เซี ยง
ป้าจึงเกลียดชังจักรพรรดิแห่งแคว้นหยานยิง่ นัก แต่เนื่องจากเล่ยเฉิ น
ได้เชิญจวินอู๋เสี ยไปช่วยพวกเขา เขาจึงชอบองค์รัชทายาทมากทีเดียว
ยิง่ กว่านั้นฉูหลิงเย่กบั เล่ยเฉิ นก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดย
ตลอด ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกว่าเป็ นคนอื่นคนไกลที่ไหน
ตอนที่ 913 แผนการอันซับซ้ อน (4)
เล่ยเฉินผายมือไปทางเก้าอี้ “เชิญพวกท่านนัง่ ก่อนเถอะแล้วเราค่อย
คุยกัน”
เซียงป้ากับฉูหลิงเย่นงั่ ลงทันที
“หัวหน้าตึกเซียงคิดยังไงเรื่ องที่ฉูหลิงเย่ได้รับบาดเจ็บ?” เล่ยเฉินถาม
เซียงป้าประหลาดใจ ไม่คิดว่าเล่ยเฉินจะถามคําถามเช่นนั้น เซีย
งป้ามองฉูหลิงเย่อย่างอึดอัดใจ
ฉูหลิงเย่ถูกใช้เป็ นเครื่ องมือ นางต้องทรมานโดยไม่จาํ เป็ น ในฐานะ
คนของเมืองพันอสูร เขาไม่พอใจมาก แต่ดว้ ยสถานะและอํานาจของ
แคว้นหยาน ไม่วา่ เมืองพันอสู รจะไม่พอใจในเรื่ องนี้มากขนาดไหน
เขาก็ไม่สามารถประกาศสงครามกับแคว้นที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดแบบ
เปิ ดเผยได้ แล้วจู่ ๆ เล่ยเฉินที่เป็ นองค์รัชทายาทของแคว้นหยานก็
ถามเขาเช่นนั้น ทําให้เซียงป้าลําบากใจมาก เขาไม่สามารถว่ากล่าว
แคว้นหยานต่อหน้าองค์รัชทายาทของแคว้นได้
ฉูหลิงเย่เห็นสี หน้าลําบากใจของเซียงป้า นางจึงพูดขึ้นว่า “คําถาม
ของศิษย์พี่ทาํ ให้ท่านอาเซียงต้องลําบากใจแล้ว ศิษย์พี่กร็ ู ้เรื่ อง
ทั้งหมดดี ถ้าท่านอยากให้ท่านอาเซียงพูดว่าเขาไม่ใส่ ใจก็คงเป็ นไป
ไม่ได้ ในฐานะที่ศิษย์พี่เป็ นองค์รัชทายาทของแคว้นหยาน ถ้าท่าน
อาเซี ยงพูดอะไรออกไป มันคงไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไรนัก” ฉูหลิงเย่
สนิทสนมกับเล่ยเฉินมากกว่า นางจึงไม่ตอ้ งระวังคําพูดต่อหน้าเล่ย
เฉิน
เล่ยเฉินหัวเราะเสี ยงดัง
“ข้านี่ไม่มีมารยาทจริ ง ๆ ไม่ทนั คิดว่าคําถามของข้าจะทําให้หวั หน้า
ตึกเซียงไม่สบายใจ งั้นข้าถามอีกแบบแล้วกัน ถ้ามีโอกาสท่าน
ต้องการให้มีการชดใช้ให้กบั ความอยุติธรรมที่ได้รับหรื อไม่?”
คราวนี้กระทัง่ ฉูหลิงเย่กย็ งั ตะลึงงันไป
“ศิษย์พี่หมายความว่ายังไง?”
เล่ยเฉินอธิบายว่า “เรื่ องที่เกิดขึ้นกับศิษย์นอ้ งหลิงเย่เป็ นแคว้นหยาน
ที่กระทําการไม่สมควร แต่เสด็จพ่อของข้าก็ยงั ไม่ให้คาํ อธิบายอะไร
ในเรื่ องนี้ แคว้นหยานกับเมืองพันอสู รมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
เสมอมา ข้ารู ้สึกว่าการกระทําของเสด็จพ่อในครั้งนี้มนั เกินไปจริ ง ๆ
ถึงแม้วา่ ข้าจะเป็ นองค์รัชทายาทของแคว้นหยาน แต่ขา้ ก็เป็ นศิษย์พี่
ของฉูหลิงเย่ดว้ ย เห็นศิษย์นอ้ งต้องทนเจ็บปวดทรมานโดยไม่จาํ เป็ น
เช่นนั้น ข้าจะรู ้สึกดีได้ยงั ไง? ไม่อย่างนั้นข้าจะเชิญคุณหนูจวินมา
ช่วยทําไมกัน?”
คําพูดของเล่ยเฉินทําให้เซี ยงป้ากับฉูหลิงเย่มองสบตากัน พวกเขาไม่
คิดว่าเล่ยเฉินจะเชิญพวกเขามาที่นี่เพื่อบอกเรื่ องนี้
หลังจากได้ยนิ คําพูดของเล่ยเฉิน พวกเขาก็เข้าใจได้เลา ๆ แล้วว่าเล่ย
เฉินหมายความว่าอย่างไร
แต่ที่พวกเขายังคงไม่เข้าใจก็คือ ทําไมเล่ยเฉินถึงได้ทาํ เช่นนี้
“ข้าเดาว่าพวกท่านทั้งสองคงกําลังสับสนกับคําพูดของข้า มีเรื่ องนึง
ที่ขา้ ไม่ได้บอกพวกท่าน” เล่ยเฉินพูด
“อะไรหรื อพะย่ะค่ะ?” เซียงป้าถาม
“ที่จริ งแล้วข้าไม่ได้รู้จกั คุณหนูจวินดีขนาดนั้นหรอก ก่อนที่จะเชิญ
นางมารักษาหลิงเย่ ก็พดู ได้วา่ ข้าไม่รู้จกั นางเลยด้วยซํ้า คนที่พา
คุณหนูจวินมาที่นี่เพื่อให้รักษาหลิงเย่ไม่ใช่ขา้ แต่เป็ นคนอื่น” เล่ย
เฉินพูดพร้อมกับยิม้
“ไม่ใช่ฝ่าบาทหรื อพะย่ะค่ะ?” เซียงป้าถามอย่างตกใจ
เล่ยเฉินพยักหน้า
“คนที่นาํ คุณหนูจวินมาที่นี่กค็ ือคนที่ท้ งั สองคนรู ้จกั เช่นกัน นัน่ ก็คือ
เพื่อนของข้า จวินเสี ย”
เซียงป้าจําผูเ้ ยาว์ที่มีรูปร่ างบอบบางนั้นได้ทนั ที
“เป็ นเขางั้นหรื อ?” ฉูหลิงเย่อุทาน นางอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
เล่ยเฉินพูดต่อว่า “เรื่ องที่ฉูหลิงเย่ได้รับบาดเจ็บทําให้เขาต้องเข้ามา
พัวพันด้วย และเขาย่อมไม่อยากกลายเป็ นแพะรับบาป เขาก็เลยเชิญ
คุณหนูจวินมาที่นี่และขอให้ขา้ พานางไปหาหลิงเย่ ส่ วนเรื่ องที่เหลือ
ก็อย่างที่ท่านรู ้ ข้าละอายใจเหลือเกินที่ตอ้ งบอกว่าข้าไม่สมควรได้
รับคําขอบคุณจากหัวหน้าตึกเซียงเลย”
ดวงตาของเซียงป้ายังคงจับจ้องอยูท่ ี่เล่ยเฉิน “ทําไมฝ่ าบาทถึงได้
เปิ ดเผยเรื่ องนี้ให้เรารู ้ล่ะพะย่ะค่ะ?”
เล่ยเฉินจึงถามขึ้นพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชาว่า “ทั้งสองคนยัง
ไม่ได้ยนิ ข่าวหรอกหรื อ?”
“ข่าวอะไรพะย่ะค่ะ?”
ตอนที่ 914 แผนการอันซับซ้ อน (5)
“ตอนนี้นอ้ งชายแซ่จวินของข้าถูกประกาศว่ามีความผิด กองทหาร
ราชองครักษ์หลวงกําลังออกตามจับอยู!่ ”
“อะไรนะ!?” เซียงป้าเบิกตาโพลงทันที
“เป็ นไปได้ยงั ไง? คุณชายจวินเพิ่งไปงานเลี้ยงกับเราเมื่อคืน แล้ว
วันนี้เขา …” ฉูหลิงเย่ร้องอุทานพร้อมกับเอามือปิ ดปากอย่างตกใจ
เล่ยเฉินพูดต่อว่า “เรื่ องนี้เกี่ยวข้องกับเรื่ องของหลิงเย่ก่อนหน้านี้ดว้ ย
ข้าไม่รู้วา่ เสด็จพ่อไปได้ยนิ มาจากไหนว่าจวินเสี ยเป็ นคนเชิญ
คุณหนูจวินมาที่นี่ แล้วการที่หลิงเย่หายจากอาการบาดเจ็บทําให้
แผนการของเสด็จพ่อเสี ยหาย เขาไม่สามารถใช้หลิงเย่ทาํ ให้บรรลุ
เป้าหมายได้อีกต่อไป ก็เลยระบายความหงุดหงิดลงที่จวินเสี ยด้วย
การกล่าวหาว่าเขาทําร้ายองค์ชายสี่ แต่ขา้ ไปที่วงั จักรพรรดินีมาเมื่อ
คืนและพบว่าน้องสี่ ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย เห็นได้ชดั เลยว่าเสด็จ
พ่อทําเช่นนั้นเพื่อที่จะหาเหตุผลฆ่าจวินเสี ย!”
คําพูดของเล่ยเฉินทําให้เซียงป้ากับฉูหลิงเย่ตกตะลึง เป็ นความจริ งที่
พวกเขาพบว่าอาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่น้ นั แปลกประหลาดมาก
และเซียงป้าก็กาํ ลังจะสอบสวนพวกหมอ แต่จู่ ๆ หมอหลวงหลี่กถ็ ูก
ฆ่าตายอย่างลึกลับ แม้วา่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ถูกตัดสิ น แต่เซี ยง
ป้ากับคนของเขาก็พอจะนึกออกว่าที่จริ งแล้วเกิดอะไรขึ้น
“คุณชายจวินต้องเข้ามาพัวพันเรื่ องทั้งหมดนี้กเ็ พราะข้า!” ฉูหลิงเย่มี
สี หน้าวิตกกังวลและรู ้สึกผิดมาก ตอนที่นางได้รับบาดเจ็บและ
กลายเป็ นเหยือ่ โดยไม่รู้ตวั คราวที่แล้วก็ทาํ ให้จวินเสี ยต้องเดือดร้อน
ไปครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้เขาก็ถูกลากเข้ามาพัวพันอีกครั้งเพราะว่าเขา
ต้องการช่วยนางในตอนนั้น
เล่ยเฉินลอบสังเกตปฏิกิริยาของเซียงป้ากับฉูหลิงเย่ แล้วก็รู้สึกโล่
งอกขึ้นมาเล็กน้อย
คําพูดของเขาเป็ นความจริ งแค่ครึ่ งเดียวเท่านั้น อีกครึ่ งแต่งเรื่ องเอา
ล้วน ๆ นอกจากคนที่รู้ความจริ งเรื่ องนี้แล้ว ไม่มีใครเดาได้หรอกว่า
เหตุผลที่จวินเสี ยถูกข่มเหงอย่างหนักเป็ นเพราะแหวนที่มือวงเดียว
เท่านั้น
จักรพรรดิเชิญจวินเสี ยไปร่ วมงานเลี้ยงเมื่อคืนและไม่ได้แสดงความ
เกลียดชังอะไรออกมาเลย แต่จู่ ๆ จักรพรรดิกส็ งั่ ให้ฆ่าจวินเสี ยใน
วันรุ่ งขึ้นซะอย่างนั้น
เพียงแค่ไม่กี่ประโยคเล่ยเฉิ นก็โยนความผิดเรื่ องที่จวินเสี ยโดนข่ม
เหงไปที่ฉูหลิงเย่ได้ แม้วา่ เซียงป้ากับนางจะมีขอ้ สงสัยอะไรในเรื่ อง
นี้ พวกเขาก็ไม่มีทางหาเหตุผลอื่นได้อีก จักรพรรดิเองก็จะไม่มีวนั
ปล่อยให้เรื่ องที่จวินเสี ยครอบครองแหวนจักรพรรดิหยานรู ้ไปถึงหู
คนอื่นแน่!
ไม่นานเซียงป้ากับฉูหลิงเย่กเ็ ชื่อคําพูดของเล่ยเฉิน เนื่องจากลําดับ
เหตุการณ์ต้ งั แต่ตน้ จนจบสอดคล้องกันดี ทําให้พวกเขาไม่สงสัย
อะไรเลย
“เห็นน้องชายแซ่จวินต้องเผชิญกับเรื่ องร้ายแรงเช่นนั้น แต่ถึงข้า
อยากจะช่วยแค่ไหนก็ไม่มีปัญญาทําอะไรได้เลย พูดตามความจริ ง
ถึงข้าจะเป็ นองค์ชายรัชทายาท แต่ตอนนี้ขา้ ก็ยงั ถูกกองทหารราช
องครักษ์หลวงแอบจับตาดูอยูเ่ ลย ข้าถึงได้เชิญทั้งสองคนมาที่นี่เพื่อ
ถามว่า ถ้ามีโอกาสพวกท่านอยากจะได้รับการชดใช้จากความอ
ยุติธรรมที่ตอ้ งเจอรึ เปล่า?” เล่ยเฉินถามอีกครั้ง
ฉูหลิงเย่กาํ ลังจะพูดแต่เซี ยงป้าก็หา้ มนางไว้
“พวกกระหม่อมลากน้องชายจวินมาพัวพันกับเรื่ องนี้อย่างไม่ตอ้ ง
สงสัยเลย แต่ฝ่าบาทน่าจะทราบว่าเมืองพันอสูรไม่คิดที่จะเป็ น
ปรปักษ์กบั แคว้นหยาน พวกกระหม่อมช่วยน้องชายจวินหลบหนี
จากแคว้นหยานได้ แต่อย่างอื่นกระหม่อมเกรงว่าเราจะไม่สามารถ
ทําได้” แม้วา่ เซียงป้าจะสํานึกในบุญคุณที่จวินเสี ยยืน่ มือมาช่วยพวก
เขา และรู ้สึกละอายที่เป็ นสาเหตุให้จวินเสี ยต้องเข้ามาพัวพันด้วย แต่
เมืองพันอสู รจะต้องมาก่อน ในฐานะที่เป็ นหัวหน้าตึกคนหนึ่ง เขา
ไม่สามารถทําตามความรู ้สึกได้เมื่อเรื่ องนั้นเกี่ยวข้องกับเมืองพัน
อสู รทั้งเมือง
ฉูหลิงเย่ดึงแขนเสื้ อเซียงป้าอย่างร้อนใจ ดูเหมือนนางอยากจะพูด
อะไรบางอย่าง แต่กถ็ ูกเซียงป้าห้ามเอาไว้อีกครั้ง
เล่ยเฉินยังคงลอบสังเกตปฏิกิริยาของเซียงป้ากับฉูหลิงเย่อยู่ และถึง
เขาจะยิม้ อยูใ่ นใจแต่กไ็ ม่ได้แสดงออกทางสี หน้าเลย
“ข้าเกรงว่าหัวหน้าตึกเซียงคงเข้าใจผิด เรื่ องนี้ท่านไม่ตอ้ งทําอะไร
เลยนอกจากพาน้องชายจวินเข้าไปในวังหลวงเท่านั้นเอง” เล่ยเฉิ น
พูด
“พาเข้าไปในวังหลวง? เรื่ องนั้นกระหม่อมเชื่อว่าฝ่ าบาทอยูใ่ น
ตําแหน่งที่จะทําได้ดีกว่าพวกกระหม่อมนะพะย่ะค่ะ” เซียงป้าตอบ
อย่างระวัง
ตอนที่ 915 แผนการอันซับซ้ อน (6)
เล่ยเฉินหัวเราะอย่างขมขื่นพลางส่ ายหน้า “ไม่ใช่วา่ ข้าไม่อยากทํา
แต่เสด็จพ่อสงสัยว่าข้าซ่อนตัวน้องชายแซ่จวินเอาไว้ ตราบใดที่ยงั
หาจวินเสี ยไม่พบ ต่อให้ขา้ จะเข้าไปในวังหลวง ข้าก็ไม่ได้รับ
อนุญาตให้พาใครเข้าไปกับข้าได้หรอก แต่กรณี ของหัวหน้าตึกเซียง
นั้นแตกต่างกัน เชื่อข้าเถอะ พวกท่านแค่ทาํ ภารกิจง่าย ๆ แล้วจะมีคน
ทําให้เสด็จพ่อต้องชดใช้ให้พวกท่านเอง”
เซียงป้าขมวดคิ้วคิดหนัก ถ้าไม่ตอ้ งใช้พวกเขาไปต่อสู ก้ บั แคว้นห
ยาน เขาก็ยนิ ดีที่จะช่วยจวินเซีย
ฉูหลิงเย่ทนนิ่งต่อไปไม่ได้อีก นางไม่สนใจเซี ยงป้าที่พยายามห้าม
นางพูดอยูห่ ลายรอบ และพูดโพล่งออกมาว่า “ศิษย์พี่กาํ ลังบอกว่า
ตอนนี้คุณชายจวินอยูใ่ นวังรัชทายาทเหรอคะ?”
เล่ยเฉินพยักหน้า
ฉูหลิงเย่ตอบทันที “เราตกลงค่ะ!”
เซียงป้าทําตาโตอย่างตกใจทันที “คุณหนู! ท่าน!”
ฉูหลิงเย่มองเซียงป้าอย่างวิงวอน “ท่านอาเซียง เหตุการณ์ท้ งั หมดมัน
เริ่ มขึ้นก็เพราะข้า ยิง่ กว่านั้นท่านอาเซียงก็เคยพูดไม่ใช่หรื อ? ครั้งนี้
แคว้นหยานทําเกินไปมาก และก็เพราะอํานาจที่ยงิ่ ใหญ่ของแคว้นห
ยานทําให้เราเป็ นศัตรู กบั พวกเขาอย่างเปิ ดเผยไม่ได้ แต่ตอนนี้พวก
เรามีโอกาสช่วยเหลือคุณชายจวินไปพร้อม ๆ กับให้คนพวกนั้น
ชดใช้ให้กบั ข้า แล้วทําไมเราถึงจะปฏิเสธล่ะ? เว้นแต่วา่ …ท่าน
อาเซียงจะทนดูหลิงเย่ได้รับความอยุติธรรมโดยไม่มีการชดใช้อะไร
เลยได้?”
ฉูหลิงเย่พดู ไปก็น้ าํ ตาคลอไป
เซี ยงป้ารู ้สึกปวดใจเมื่อเห็นเช่นนั้น เขาพยายามปลอบเด็กสาว
สุ ดท้ายเขาก็พา่ ยแพ้ให้กบั นํ้าตาของนาง เซียงป้าไม่อาจทําอะไรได้
นอกจากยอมตกลง
“ข้าหวังว่าฝ่ าบาทจะคิดเรื่ องนี้โดยละเอียดรอบคอบแล้ว ถึงคุณหนู
ของเราเต็มใจช่วยเหลือ แต่เราก็ไม่ปรารถนาให้เรื่ องนี้ก่อให้เกิด
ปัญหาใด ๆ ขึ้นมา เซียงป้ายํ้าจุดยืนของเขา
เล่ยเฉินพยักหน้าทันที
“งั้น …เราต้องพาคุณชายจวินออกไปจากที่นี่ก่อนใช่ไหม?” ฉูหลิงเย่
ถาม
เล่ยเฉินพยักหน้าและหันไปมองทางด้านหลังทันที
ฉูหลิงเย่กบั เซียงป้ามองตาม และทันใดนั้นพวกเขาก็ตะลึงค้างอยูก่ บั
ที่!
ประมาณสองชัว่ โมงหลังจากเซียงป้ากับฉูหลิงเย่เข้าไปในวังของ
องค์รัชทายาท ในที่สุดทั้งสองก็กลับออกมา ทหารราชองครักษ์
หลวงที่แอบดูอยูก่ ต็ รวจสอบอย่างละเอียดว่ามีคนเพิ่มมากับพวกเขา
รึ เปล่า แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือฉูหลิงเย่กาํ ลังอุม้ แกะตัวเล็กไว้ใน
อ้อมแขน นอกจากนั้นแล้วพวกเขาก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติอีก
หลังจากทั้งสองคนปี นขึ้นรถม้าแล้ว ฉูหลิงเย่กเ็ อนหลังพิงที่นงั่ มือ
เล็ก ๆ ของนางลูบท่านแบะแบะช้า ๆ
สายตาของเซียงป้ายังเต็มไปด้วยความตกตะลึงขณะที่นงั่ อยูต่ รงข้าม
กับ “ฉูหลิงเย่”
“คุณชายจวิน …” เสี ยงของเซียงป้าสัน่ เล็กน้อยขณะที่เอ่ยปากเรี ยก
แบบแปลก ๆ
“ฉูหลิงเย่” ที่กม้ หน้าอยูก่ เ็ งยหน้าขึ้น ดวงตาใสกระจ่างคู่น้ นั มี
ประกายเย็นชา
“ขอบคุณท่านหัวหน้าตึกเซียง” เสี ยงเย็นชาเล็กน้อยดังออกมาจาก
ปากของ “ฉูหลิงเย่”
เซี ยงป้ากลืนนํ้าลาย พยายามอย่างเต็มที่ที่จะทําความคุน้ เคยกับ “ฉู
หลิงเย่” ที่ไม่คุน้ เคยคนนี้
ในวังขององค์รัชทายาท ฉูหลิงเย่ได้เปลี่ยนมาอยูใ่ นชุดเครื่ องแบบ
ของสาวใช้และนัง่ ดื่มชาอยูท่ ี่โต๊ะกับเล่ยเฉิ น สายตาของนางมอง
ออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่ได้ต้ งั ใจ
“ข้าหวังว่าแผนของคุณชายจวินจะดําเนินไปอย่างราบรื่ น” ฉูหลิงเย่
พูดเบา ๆ ตอนที่เซียงป้ากับนางเห็นจวินเสี ยที่ปลอมตัวจนเหมือน
นางเป๊ ะ ทั้งสองคนก็พากันตกตะลึง พวกเขาไม่คิดว่าแผนของจวิน
เสี ยคือการเปลี่ยนตัวกับนาง
ฉูหลิงเย่เปลี่ยนเสื้ อผ้าชุดเดิมของนางออกและเอาให้จวินเสี ยใส่
จากนั้นจวินเสี ยก็ออกจากวังขององค์รัชทายาทไปพร้อมกับเซียงป้า
ด้วยการปลอมตัวเป็ นนาง
ตอนที่ 916 แผนการอันซับซ้ อน (7)
ฉูหลิงเย่เปลี่ยนเสื้ อผ้าชุดเดิมของนางออกและเอาให้จวินเสี ยใส่
จากนั้นจวินเสี ยก็ออกจากวังขององค์รัชทายาทไปพร้อมกับเซียงป้า
ด้วยการปลอมตัวเป็ นนาง
แม้แต่ทหารราชองครักษ์หลวงที่แอบเฝ้าอยูด่ า้ นนอกก็ไม่สามารถ
สังเกตเห็นความผิดปกติได้
เล่ยเฉินยกถ้วยชาขึ้นแล้วชูไปทางฉูหลิงเย่
“ข้าขอขอบคุณในความช่วยเหลือของน้องหลิงเย่ครั้งนี้ ข้ารู ้วา่ เจ้าไม่
คิดที่จะแก้แค้น เจ้าทําเช่นนี้กเ็ พื่อช่วยข้ากับน้องจวินเท่านั้น” เล่ย
เฉินเคยคิดที่จะเข้าหาฉูหลิงเย่เพื่อดึงให้เมืองพันอสู รเป็ นพวกของ
เขา นัน่ ทําให้เขารู ้นิสยั ของฉูหลิงเย่ดี
ฉูหลิงเย่มีหวั ใจที่บริ สุทธิ์ นางไม่มีความคิดแค้นเคืองใด ๆ เมื่อครู่ ที่
นางทําเป็ นเจ็บปวดและเสี ยใจจนน่าสงสารต่อหน้าเซียงป้าก็เพื่อบีบ
คั้นให้เขาตกลงทําตามแผน
“ทําไมศิษย์พี่พดู อย่างนั้นล่ะคะ? ข้าก็ทาํ เพื่อตัวเองด้วยไม่ใช่หรื อ?”
ฉูหลิงเย่พดู พร้อมกับส่ งยิม้ หวานให้เล่ยเฉิ น
เล่ยเฉินก้มหน้า ต้องบอกว่าฉูหลิงเย่เป็ นเด็กสาวที่นิสยั ดีมากจริ ง ๆ
แล้วเขาเคยต้องการใช้นางเพื่อการแก้แค้นของตัวเองด้วย ตอนนี้เขา
อดรู ้สึกเกลียดตัวเองไม่ได้ที่มีเจตนาชัว่ ร้ายเช่นนั้นต่อเด็กสาว
ตรงหน้าเขาคนนี้
นางเป็ นคนดีจริ ง ๆ เขาไม่คิดจะทําให้นางต้องแปดเปื้ อนอีกต่อไป
แล้ว
หวังเพียงว่านางจะมีชีวติ ที่ดีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุ ขตั้งแต่น้ ี
เป็ นต้นไป!
พวกทหารราชองครักษ์หลวงด้านนอกได้ตามรถม้าของเมืองพัน
อสู รกลับไปที่โรงเตี๊ยมที่คนของสํานักศึกษาธงศึกพักอยู่ จากนั้น
คอยดูจนแน่ใจว่ามีเพียง ‘ฉูหลิงเย่’ กับเซี ยงป้าเท่านั้นที่ลงมาจากรถ
พวกเขาทํากระทัง่ ไปตรวจสอบรถม้าหลังจากที่มนั ไปจอดที่
ด้านหลังโรงเตี๊ยมเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครซ่อนอยูข่ า้ งในก่อนจะ
กลับไปรายงานหยวนเปี ยว
ทั้งตําหนักเซียนและวังขององค์รัชทายาทยังคงถูกกองทัพทหารราช
องครักษ์หลวงเฝ้าดูอยู่
ผ่านไปทั้งวันหยวนเปี ยวก็ยงั ไม่พบร่ องรอยของจวินเสี ย เมื่อเขาไป
รายงานข่าวนี้ให้จกั รพรรดิที่อยูใ่ นวังฟัง จักรพรรดิกต็ บโต๊ะอย่าง
โกรธจัด
“เจ้าพวกไร้ประโยชน์! มีทหารอยูต่ ้ งั เยอะแยะยังปล่อยให้เด็กคน
เดียวหนีไปได้ง้ นั เรอะ? เจ้ากําลังบอกข้าว่ากองทัพทหารราช
องครักษ์ของข้าเป็ นพวกสวะไร้ประโยชน์ใช้การอะไรไม่ได้ท้ งั
กองทัพเลยรึ ไง!?” จักรพรรดิมองหยวนเปี ยวที่คุกเข่าอยูต่ รงหน้า
อย่างโกรธจัด ยิง่ เรื่ องนี้ลากยาวไปนานเท่าไร ความกลัวเรื่ องแหวน
จักรพรรดิหยานจะถูกเปิ ดเผยก็มากขึ้นเท่านั้น
“เจ้าไปค้นที่วงั รัชทายาทรึ ยงั !?” จักรพรรดิตะคอกอย่างเกรี้ ยวกราด
“ค้นแล้วพะย่ะค่ะ จวินเสี ยไม่ได้อยูใ่ นวังขององค์รัชทายาท” หยวน
เปี ยวตอบ
“งั้นก็ไปตามหาตรวจสอบให้ทวั่ เมืองหลวง! ข้าต้องการให้เจอตัว
จวินเสี ยให้เร็ วที่สุดเท่าที่จะทําได้!” จักรพรรดิตะคอกต่อ จากนั้นก็
นึกอะไรขึ้นมาได้ เขาพูดขึ้นว่า “ไปที่จวนของมหาอํามาตย์! ไป
ตรวจสอบที่นนั่ ด้วย!”
หยวนเปี ยวตกใจมาก เขาเงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิที่โกรธจัดจน
เกือบร้องไห้อย่างงุนงง
“ฝ่ าบาท? ฝ่ าบาทสัง่ ให้กระหม่อมไปค้นจวนของท่านมหาอํามาตย์
หรื อพะย่ะค่ะ?”
“ต้องเป็ นมหาอํามาตย์แน่! ต้องเป็ นมัน! ตอนที่ไอ้หน้าสวยนัน่
กลับมาที่งานเลี้ยงพร้อมจวินเสี ย ข้าน่าจะคิดออกแล้ว! ทําเป็ นไม่ยงุ่
เรื่ องกิจการงานเมือง แต่มนั ได้ยศมหาอํามาตย์จากพี่ชายของ
จักรพรรดิองค์แรกของสายเรา! มันสนิทกับเขามาก ต้องเป็ นมัน มัน
แน่ ๆ ! มันต้องเห็นแหวนจักรพรรดิหยานแล้ว มันต้องอยากให้ …
ไปได้แล้ว!” จักรพรรดิรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นเรื่ อย ๆ
นอกจากคนในราชวงศ์ของแคว้นหยาน ไม่มีใครที่รู้วา่ มหาอํามาตย์
เหวินหยูคนปัจจุบนั นี้แท้จริ งแล้วเป็ นชายแก่อายุเกินร้อย เขาปรากฏ
ตัวขึ้นตั้งแต่ร้อยกว่าปี ก่อนแล้ว จักรพรรดิที่ครองบัลลังก์ตอนนั้นคือ
พี่ชายของจักรพรรดิองค์แรกของสายราชวงศ์ปัจจุบนั เขาได้แต่งตั้ง
ให้เหวินหยูเป็ นมหาอํามาตย์และหายตัวไปหลังจากนั้น จักรพรรดิ
องค์แรกจึงสื บทอดบัลลังก์เพื่อทําตามความตั้งใจของพี่ชายซึ่ งทําให้
ตําแหน่งของเหวินหยูมนั่ คงขึ้นไปอีก
มหาอํามาตย์ทุกรุ่ นจะหน้าตาดีเป็ นพิเศษอยูเ่ สมอ และมีผมตรงยาวสี
ขาวล้วน ความไม่ธรรมดานี้จกั รพรรดิทุกรุ่ นมักจะบอกกับคนอื่น ๆ
ว่าเป็ นเพราะมหาอํามาตย์ได้รับสื บทอดพลังจากสวรรค์ มีเพียงคน
ในราชวงศ์เท่านั้นที่ตอ้ งเก็บความลับกันเรื่ องที่วา่ มหาอํามาตย์น้ นั มี
เพียงเหวินหยูคนเดียว เป็ นคนนี้คนเดียวมาตลอด!
เป็ นเพราะตํานานที่สืบทอดกันมานี้ทาํ ให้ตาํ แหน่งมหาอํามาตย์อยู่
ในหัวใจของประชาชนแคว้นหยานอย่างที่ไม่มีใครมาแทนที่ได้!
ตอนที่ 917 เปิ ดม่ าน (1)
“ฝ่ าบาท! จักรพรรดิทุกพระองค์ไม่มีใครเคยพูดว่าจักรพรรดิมีสิทธิ์
ค้นจวนของมหาอํามาตย์เลยนะพะย่ะค่ะ! ถ้าฝ่ าบาททําเช่นนั้นจริ ง ๆ
กระหม่อมเกรงว่า …” หยวนเปี ยวรี บเตือนจักรพรรดิทนั ทีวา่ จวน
ของมหาอํามาตย์ไม่ใช่สถานที่ที่จะเข้าไปค้นได้
แม้วา่ มหาอํามาตย์เหวินหยูจะเป็ นที่เคารพนับถือของประชาชนเป็ น
อย่างมาก แต่เขาก็แทบจะไม่เข้าไปยุง่ เรื่ องของแคว้นหยานเลย
บรรยากาศลึกลับรอบตัวมหาอํามาตย์ทาํ ให้ไม่มีใครกล้าเป็ นศัตรู กบั
เขา
คนที่อยูม่ านานเกิน 100 ปี แต่ยงั ดูเหมือนอายุ 20 กว่า ๆ ย่อมไม่ใช่คน
ธรรมดาอย่างแน่นอน!
กระทัง่ คนอย่างหยวนเปี ยวก็ไม่กล้าไปหาเรื่ องมหาอํามาตย์คนนี้
ด้วยคําเตือนของหยวนเปี ยว จักรพรรดิจึงได้สติข้ ึนมา สี หน้าอันบ้า
คลัง่ ก็ค่อย ๆ เบาลงอย่างช้า ๆ
“ลืมมันซะ …ลืมมัน …เจ้าให้คนไปเฝ้าข้างนอกจวนมหาอํามาตย์ไว้
แล้วกัน แล้วถ้าเห็นคนน่าสงสัยก็ค่อยลงมือ” ความโกรธของ
จักรพรรดิสงบลงแล้ว ในหัวของเขามีคาํ สัง่ ที่เสด็จพ่อของเขา
จักรพรรดิองค์ก่อนทิ้งเอาไว้ผดุ ขึ้นมาในความทรงจํา
[อย่าได้แสดงความไม่เคารพต่อมหาอํามาตย์อย่างเด็ดขาด!]
นัน่ เป็ นคําพูดสุ ดท้ายที่จกั รพรรดิองค์ก่อนพูดกับเขาในตอนที่มอบ
ราชบัลลังก์ให้ เขาจดจําคําพูดเหล่านั้นมาตลอดหลายปี ที่ได้
ครองราชย์ แต่เพราะความเฉยเมยของเหวินหยูทาํ ให้เขาค่อย ๆ ลืม
มันไป ตอนนี้เขาจํามันได้แล้ว จักรพรรดิรู้สึกถึงความเยือกเย็นที่เข้า
เกาะกุมหัวใจขึ้นมาทันที
มหาอํามาตย์เหวินหยูเป็ นคนที่แม้แต่จกั รพรรดิองค์แรกยังให้การ
เคารพนับถือ ถ้าเขาเป็ นศัตรู กบั มหาอํามาตย์อย่างเปิ ดเผยล่ะก็ …
จักรพรรดิรู้สึกสัน่ สะท้านขึ้นมาทันที
หยวนเปี ยวเห็นว่าจักรพรรดิใจเย็นลงแล้วก็ลอบเป่ าปากอย่างโล่งอก
และขอตัวจากไปทันทีหลังได้รับคําสัง่ แล้ว
จักรพรรดิยงั คงรู ้สึกกังวล เขาส่ งทหารไปเฝ้าด้านนอกวังของพระ
พันปี หลวงเพิ่ม และยังสัง่ ด้วยอีกว่าเขาต้องได้รับรายงานทันทีถา้
มหาอํามาตย์หรื อองค์รัชทายาทมาที่วงั หลวง
หลังจากจัดการเรื่ องที่จาํ เป็ นทั้งหมดแล้ว จักรพรรดิกท็ รุ ดตัวลงนัง่
บนเก้าอี้อย่างเหน็ดเหนื่อย
พวกทหารยังคงค้นหาต่อไป ทําให้ประชาชนในเมืองหลวงเกิดความ
กลัวและความวิตกกังวลเป็ นอย่างมาก
หลังจากนั้นไม่กี่วนั ข่าวเรื่ องเซียงป้ากับคนจากเมืองพันอสู รจะออก
จากเมืองหลวงแคว้นหยานก็ไปถึงจักรพรรดิซ่ ึ งก็นึกขึ้นมาได้ทนั ที
ว่าเขาได้ใช้ฉูหลิงเย่ในเหตุการณ์ครั้งก่อนไว้อย่างไรบ้างถึงแม้
แผนการของเขาจะล้มเหลวก็ตามที เมืองพันอสู รยังคงนิ่งเงียบและ
ไม่กล้าเป็ นปรปักษ์กบั แคว้นหยานอย่างเปิ ดเผย อย่างไรก็ตาม
จักรพรรดิกไ็ ม่โง่พอที่จะปล่อยเรื่ องเอาไว้ให้กลัดหนองแบบนั้น เขา
รู ้วา่ เมืองพันอสู รมีพลังอํานาจมากพอด้วยตัวเองอยูแ่ ล้ว เมื่อไม่มี
ทางเลือกจักรพรรดิกต็ ดั สิ นใจว่าเขาไม่อยากสร้างศัตรู ที่มีศกั ยภาพ
อย่างพวกนั้น
จักรพรรดิเชิญฉูหลิงเย่, เซียงป้า, เฟิ งเย่หยาง และชิงหยูแห่งเมืองพัน
อสู รมาที่วงั หลวงในทันทีเพื่อจะทําให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาดี
ขึ้นบ้าง หรื ออย่างน้อยก็เกลี้ยกล่อมเซียงป้าไม่ให้รายงานเรื่ องนี้อย่าง
รุ นแรงเกินไปนักในตอนที่เขากลับไป
เซียงป้ากับคนอื่น ๆ ตอบรับคําเชิญและเดินทางไปที่วงั หลวง
จักรพรรดิสงั่ ให้คนรออยูท่ ี่ประตูวงั แล้ว เมื่อพวกเขาเห็นแขกมาถึง
จึงรี บเดินไปต้อนรับทันที และนําพวกเขาไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิ
โดยเร็ ว
“ข้าได้ยนิ ว่าพวกท่านจะกลับไปที่เมืองพันอสูรเร็ ว ๆ นี้ ขอโทษพวก
ท่านจริ ง ๆ ที่ปล่อยให้เกิดเรื่ องแบบนั้นขึ้นในแคว้นหยาน ต้องโทษ
ข้าที่ดูแลแคว้นหยานได้ไม่ดีพอ” จักรพรรดิพดู พลางมองเซี ยงป้ายิม้
ๆ จากนั้นก็มองไปที่ฉูหลิงเย่ที่ยนื อยูด่ า้ นข้างด้วยสายตาสํานึกผิด
เซียงป้าและจักรพรรดิพดู คุยกันอย่างสุ ภาพอีก 2-3 ประโยค ตรงข้าม
กับฉูหลิงเย่ที่ดูเหมือนจะใจลอยออกไป
นัน่ ทําให้จกั รพรรดิค่อนข้างกังวล เซียงป้าอาจจะเป็ นคนส่ งรายงาน
กลับไปที่เมืองพันอสู ร แต่ถา้ ตัวคุณหนูของพวกเขาเองยังไม่พอใจ
คําพูดที่นางอาจจะพูดกับเจ้าเมืองก็จะส่ งผลกระทบได้รุนแรงกว่า
“หลิงเย่คงรู ้สึกว่าที่นี่น่าเบื่อล่ะมั้ง?” จักรพรรดิถามด้วยรอยยิม้
กว้างขวางเป็ นมิตร
ฉูหลิงเย่มองจักรพรรดิแล้วก้มหน้าลงทันทีพร้อมกับสัน่ หัว
จักรพรรดิจึงพูดพร้อมหัวเราะว่า “เจ้ายังเด็กนี่นะ ให้นงั่ เฉย ๆ อยูท่ ี่นี่
ก็คงน่าเบื่อแย่”
ตอนที่ 918 เปิ ดม่ าน (2)
“บังเอิญว่าช่วงสองสามวันนี้เล่ยฟ่ านรู ้สึกดีข้ ึนมากแล้ว ข้าจะให้เขา
พาเจ้าไปเดินเล่นแล้วกัน” จักรพรรดิแสร้งทําเป็ นใจดี แต่เขามี
แผนการอื่นซ่อนอยู่
จักรพรรดิรู้วา่ เล่ยเฉินเล็งฉูหลิงเย่เอาไว้เนื่องจากเมืองพันอสู รที่หนุน
หลังนางอยู่ แต่จกั รพรรดิกร็ ู ้วา่ เขาจะไม่มอบบัลลังก์ให้เล่ยเฉิน
ดังนั้นเขาจึงคิดว่าถ้าจะมีใครเป็ นพันธมิตรกับเมืองพันอสู ร เขาก็
ปรารถนาจะให้เป็ นองค์ชายที่เขารักมากที่สุด เล่ยฟ่ าน
แม้วา่ เล่ยฟ่ านจะไม่รู้จกั ฉูหลิงเย่ดีเท่าเล่ยเฉิ น แต่อย่างน้อยพวกเขาก็
รู ้จกั กัน และถ้าเขาทําให้เล่ยฟ่ านกับฉูหลิงเย่สนิทสนมกันได้ เขาก็คง
จะดีใจมากเป็ นสองเท่า ด้วยการตามใจลูกชายคนเล็กอย่างที่สุดและ
เชื่อในเสน่ห์ของลูกชายมาก เขาจึงคิดว่าเล่ยฟ่ านจะสามารถช่วยทํา
ให้ฉูหลิงเย่ลดความไม่พอใจในแคว้นหยานลงได้ ในขณะเดียวกันก็
หวังว่าเล่ยฟ่ านจะสามารถใช้โอกาสนี้พฒั นาความสัมพันธ์ของเขา
กับฉูหลิงเย่ได้
ฉูหลิงเย่นิ่งเงียบไปนิดนึงก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย
จักรพรรดิยมิ้ กว้าง เขารี บสัง่ ให้คนไปตามเล่ยฟ่ านมาทันที เขาบอก
ให้เล่ยฟ่ านพาฉูหลิงเย่ไปเดินดูรอบ ๆ วังหลวงและยํ้าว่าให้ดูแลฉู
หลิงเย่ดี ๆ
เมื่อได้รับคําสัง่ จากองค์จกั รพรรดิ เล่ยฟ่ านก็รู้ทนั ทีวา่ จักรพรรดิคิด
อะไรอยู่ เมื่อเรื่ องเป็ นแบบนี้เขาจึงทําตามอย่างมีความสุ ข ตราบใดที่
สามารถฉกฉวยสิ่ งที่เล่ยเฉิ นต้องการมาได้ เขาก็ยนิ ดีร่วมมืออย่าง
เต็มที่
เมื่อรวมกับเรื่ องที่ฉูหลิงเย่เป็ นสาวงามน่ารักอ่อนหวาน เขาก็ไม่มี
เหตุผลที่จะปฏิเสธ
เล่ยฟ่ านพาฉูหลิงเย่ออกไป พวกเขาเดินเคียงกันโดยมีขนั ทีสองสาม
คนเดินตามมาด้วย
“ศิษย์พี่หลิงเย่ ถึงข้าจะเรี ยกท่านว่าศิษย์พี่ แต่ท่านดูเหมือนจะอายุ
มากกว่าข้าไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง ว่ากันว่าผูห้ ญิงไม่ชอบให้คนอื่นพูด
ถึงอายุและเกลียดการถูกเรี ยกให้แก่ งั้นตั้งแต่น้ ีไปข้าเรี ยกท่านว่าห
ลิงเย่เฉย ๆ ได้ไหม?” เล่ยฟ่ านถามยิม้ ๆ เขาคิดว่าองค์รัชทายาทเล่ย
เฉินกําลังลําบากอยูแ่ น่ และเขาก็ไม่รังเกียจที่จะเพิ่มปัญหาให้เล่ยเฉิ น
เข้าไปอีก
ฉูหลิงเย่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย นางเหลือบมองเล่ยฟ่ านแวบนึง
หลังจากนิ่งไปนิดนางก็พยักหน้า
เล่ยฟ่ านจึงพูดขึ้นพร้อมหัวเราะว่า “ทําไมวันนี้หลิงเย่ไม่พดู เลยล่ะ?”
ฉูหลิงเย่ช้ ีไปที่คอแล้วอ้าปากเล็กน้อยพร้อมกับส่ งเสี ยงแหบ ๆ
ออกมา
เล่ยเฉินประหลาดใจเล็กน้อย เขารี บแสร้งทําเป็ นห่วงใยและพูดว่า
“หลิงเย่เป็ นหวัดเหรอ? เจ็บคอไหม? ให้ขา้ เรี ยกหมอหลวงมาดู
หน่อยไหม?”
ฉูหลิงเย่ส่ายหน้า
เล่ยฟ่ านจึงพูดว่า “หลิงเย่ยงั ไม่พอใจแคว้นหยานจากเรื่ องก่อนหน้านี้
เลยพยายามเว้นระยะห่างจากข้าเพื่อหลบเลี่ยงพวกเรารึ เปล่า? ข้าได้
ยินเรื่ องที่เกิดขึ้นจากเสด็จพ่อแล้ว เป็ นความประมาทเลินเล่อของ
แคว้นหยานเอง ทําให้คนมีโอกาสลอบทําร้ายหลิงเย่ ทําให้ท่านต้อง
ทรมานโดยไม่จาํ เป็ น” ขณะที่พดู เล่ยฟ่ านก็มองฉูหลิงเย่ดว้ ยสี หน้า
รู ้สึกผิดเป็ นอย่างมาก
แต่ดูเหมือนฉูหลิงเย่จะไม่ซาบซึ้งเลย สี หน้าของนางยังคงเฉยเมย
ไม่รู้ทาํ ไม เมื่อได้มาเจอฉูหลิงเย่ที่พดู ไม่ได้วนั นี้แล้ว เล่ยฟ่ านก็รู้สึก
แปลก ๆ ขึ้นมา เขารู ้สึกว่าฉูหลิงเย่ในตอนนี้ให้ความรู ้สึกคล้ายกับ
จวินเสี ย
สถานการณ์ในตอนนี้เหมือนตอนที่เขาเจอกับจวินเสี ย เล่ยฟ่ านเป็ น
ฝ่ ายที่พยายามพูดคุยแต่จวินเสี ยก็เย็นชาและเฉยเมยกับเขาตลอด
เมื่อความคิดนั้นผุดขึ้นมาในหัว เล่ยฟ่ านก็ส่ายหัวไล่ความคิดนั้น
ออกไปจากสมอง และเห็นว่าตัวเองคิดอะไรงี่เง่า
ถึงแม้ฉูหลิงเย่จะตัวเล็กจนเกือบเท่าจวินเสี ย แต่นี่เป็ นเด็กผูห้ ญิงนะ!
เขาจะเปรี ยบเทียบนางกับเด็กผูช้ ายได้ยงั ไง?
เขาสลัดความคิดงี่เง่านัน่ ออกไปแล้วบอกตัวเองว่า ฉูหลิงเย่เป็ น
เช่นนี้กเ็ พราะว่าวันนี้นางเจ็บคอ ก็เลยทําให้ความคิดงี่เง่า ๆ แบบนั้น
ผุดขึ้นมาในหัวเขา
ทั้งสองคนเดินเคียงกันไปโดยมีขนั ทีเดินตามหลังมา สักพักพวกเขา
ก็มาถึงอุทยานหลวง
ตอนที่ 919 เปิ ดม่ าน (3)
อุทยานในวันนี้แตกต่างจากคืนนั้น มันยังอยูใ่ นฤดูหนาวก็จริ ง แต่ตน้
พลัมก็ออกดอกเต็มไปหมด
ฉูหลิงเย่มองอุทยานตรงหน้า แล้วมุมปากของนางก็โค้งขึ้นเป็ น
รอยยิม้ เย็นโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
รอยยิม้ นั้นจางหายไปอย่างรวดเร็ ว ไม่มีใครทันเห็นมันสักคน
ขณะที่เล่ยฟ่ านกําลังจะพูดบางอย่างกับฉูหลิงเย่ เงาดําก็กระโจนมา
ยืนตรงหน้าคนทั้งสอง!
ชายคนนั้นสวมชุดดําทั้งตัว และมีผา้ สี ดาํ ปิ ดหน้าไว้เกินครึ่ งหน้า
จู่ ๆ เขาก็ปรากฏออกมาทําให้พวกขันทีกรี ดร้องอย่างหวาดกลัว!
เล่ยฟ่ านมองชายชุดดําที่จู่ ๆ ก็โผล่มาอย่างตกใจ เขาใจหายวาบ
จากนั้นก็ตะโกนขึ้นทันที “ผูบ้ ุกรุ ก! เจ้ากล้ามากที่บุกเข้ามาในวัง!
ทหาร! จัดการเจ้านักฆ่าซะ!”
เสี ยงตะโกนของเล่ยฟ่ านทําให้ทหารทุกคนที่อยูด่ า้ นนอกอุทยานวิง่
เข้ามาทันที ทหารหลายสิ บคนนั้นถือดาบยาววิง่ เข้ามาล้อมชายชุดดํา!
อย่างไรก็ตาม เมื่อทหารทุกคนกําลังจะพุง่ เข้าใส่ นกั ฆ่าคนนั้น ชาย
คนนั้นก็ลงมือทันที!
การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็ วราวสายฟ้า เขาพุง่ เข้าใส่ เล่ยฟ่ านที่ยนื
ยโสโอหังอยูต่ ่อหน้าต่อตาทุกคน!
เล่ยฟ่ านคิดว่าทหารจํานวนมากเช่นนี้จะปกป้องเขาได้ เขาจึงเตรี ยม
อวดเก่งต่อหน้าฉูหลิงเย่ ใครจะไปรู ้วา่ ชายชุดดําจะเคลื่อนไหวได้
รวดเร็ วจนไม่มีใครตามทัน! พอรู ้ตวั เขาก็พบว่าตัวเองถูกชายชุดดํา
จับเป็ นตัวประกันเอาไว้แล้วโดยมีดาบจ่ออยูท่ ี่คอของเขา
“ถ้าเจ้ากล้าทําอะไรโง่ ๆ ข้าเอาชีวติ เจ้าแน่” ชายชุดดําเตือนเขาเสี ยง
เย็น
เล่ยฟ่ านหน้าซีดทันทีดว้ ยความกลัว ความยโสเมื่อครู่ หายวับไปกับ
ตา!
พอพวกทหารเห็นองค์ชายสี่ ถูกจับเป็ นตัวประกัน พวกเขาก็อยากจะ
พุง่ เข้าไปช่วยทันที
ชายชุดดํากดดาบลงที่คอของเล่ยฟ่ านแล้วพูดว่า “บอกให้พวกมัน
ถอยไป ไม่ง้ นั ดาบในมือข้าไม่ใจดีกบั เจ้าแน่”
พอเล่ยฟ่ านได้ยนิ เช่นนั้น เขาก็แทบจะฉี่ราดกางเกง ตั้งแต่เด็กทั้ง
จักรพรรดิและจักรพรรดินีกค็ อยพะเน้าพะนอรักใคร่ ตามใจเขา แล้ว
เขาจะไปทนการทรมานแบบนี้ได้ยงั ไง!?
เขารี บตะโกนขึ้นทันที “พวกเจ้าถอยไปเดี๋ยวนี้! ห้ามใครก้าวเข้ามา
เด็ดขาดนะ!”
พวกทหารไม่กล้าขัดคําสัง่ เล่ยฟ่ าน ทุกคนไม่กา้ วออกไปเลย
“ดีมาก” ชายชุดดําพูดและหัวเราะอย่างเย็นชา ทันใดนั้นเขาก็ยนื่ มือ
ออกมาและก่อนที่เล่ยฟ่ านจะทันตั้งตัว ยาเม็ดนึงก็ถูกยัดเข้าใส่ ปาก
เขา เล่ยฟ่ านถูกบังคับให้กินยาอะไรก็ไม่รู้เข้าไป ดวงตาของเขาเบิก
กว้างด้วยความกลัว
“เจ้า! เจ้าบังอาจเอายาพิษให้ขา้ กิน! ถ้าข้าตาย เจ้าจะไม่มีวนั หนีรอด
ไปจากเมืองหลวงได้แน่! เสด็จพ่อจะทําให้เจ้าต้องชดใช้ดว้ ยชีวติ !”
เล่ยฟ่ านเริ่ มกรี ดร้องเสี ยงแหลมด้วยความกลัว
แต่คาํ ขู่ของเขาไม่มีผลอะไรกับชายชุดดําซึ่งดูเหมือนจะตั้งใจทําให้
เขาหวาดกลัวด้วยการกดดาบให้แทงเข้าไปที่คอครึ่ งนิ้ว ความ
เจ็บปวดวาบขึ้นมาที่ลาํ คอของเขา
“จะพูดต่อก็ได้ ข้าจะได้เฉือนคอเจ้าซะ” ชายชุดดําพูดเสี ยงเย็น
เล่ยฟ่ านหุบปากทันทีดว้ ยความกลัว เมื่อเผชิญหน้ากับความตาย
เช่นนี้ เขาก็ไม่กล้าส่ งเสี ยงอะไรอีกเลย
พวกทหารรอบ ๆ ไม่สามารถทําอะไรได้นอกจากล้อมชายชุดดํา
เอาไว้อย่างนั้น องค์ชายสี่ ที่จกั รพรรดิรักมากที่สุดอยูใ่ นกํามือเขา
พวกเขาไม่กล้าทําอะไรบุ่มบ่าม
ชายชุดดําลดเสี ยงลงมาจนเป็ นกระซิบ เขาพูดข้างหูเล่ยฟ่ านว่า “จําไว้
ให้ดี มีเพียงเลือดจากพ่อแท้ ๆ ของเจ้าเท่านั้นที่จะช่วยชีวติ เจ้าได้”
พูดจบชายชุดดําก็ผลักเล่ยฟ่ านออกไป แล้วทันใดนั้นเขาก็หายตัวไป
ต่อหน้าต่อตาทุกคนโดยไม่ทิ้งร่ องรอยอะไรเอาไว้เลย!
เล่ยฟ่ านล้มลงกับพื้น เขายังไม่ได้สติกลับมาเนื่องจากความตกใจ
และทําได้เพียงนัง่ กุมบาดแผลที่คอเอาไว้พร้อมกับอ้าปากสู ดเอา
อากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่
ตอนที่ 920 เปิ ดม่ าน (4)
คําพูดที่ชายชุดดําพูดเอาไว้ก่อนหายตัวไปทําให้เล่ยฟ่ านรู ้สึกกลัว
เป็ นอย่างมาก
“ฝ่ าบาท!” พวกขันทีรีบวิง่ เข้ามาช่วยพยุงเล่ยฟ่ านขึ้นจากพื้นทันที
แม้วา่ จะยังอยูใ่ นสถาวะตื่นกลัว แต่เล่ยฟ่ านก็ยนื ขึ้นจนได้ เขาผลัก
พวกขันทีออกไปอย่างหงุดหงิด จู่ ๆ ชายชุดดําก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วก็
หายตัวไปอย่างแปลกประหลาด นอกจากบาดแผลเล็ก ๆ ที่คอกับยา
ที่เขาถูกบังคับให้กินแล้ว ก็ดูเหมือนว่าชายชุดดําแค่ตอ้ งการผลักเขา
ออกไปเท่านั้น
การที่เกือบถูกลอบสังหารในอุทยานต่อหน้าต่อตาทหารกลุ่มใหญ่
เช่นนั้น ทําให้เล่ยฟ่ านรู ้สึกขายหน้าต่อหน้าฉูหลิงเย่มาก และสิ่ งที่ยงิ่
ทําให้เขาหวาดกลัวขึ้นไปอีกก็คือยาอะไรก็ไม่รู้ที่เขาถูกบังคับให้
กลืนลงไป!
“เร็ วเข้า! ไปเรี ยกหมอหลวงมาเร็ ว! ให้พวกนั้นมาดูขา้ ซิวา่ เจ้านัน่ เอา
อะไรให้ขา้ กิน!” เล่ยฟ่ านไม่อาจจะมัวห่วงกังวลเรื่ องอื่นอยูไ่ ด้ ชีวติ
ของเขาจะต้องมาก่อนทุกอย่าง!
พวกทหารรี บไปเรี ยกหมอหลวงทันที ขณะที่เล่ยฟ่ านยังคงยืนอ้าปาก
หายใจอยูใ่ นอุทยาน
แต่แล้วปรากฏการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น รอยแผลเล็ก ๆ ที่คอของเล่ย
ฟ่ านเริ่ มมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด ปริ มาณเลือดที่ไหลออกมาจาก
บาดแผลเล็ก ๆ นั้นมากพอจะเปรอะเปื้ อนเต็มมือของเขา เลือดอุ่น ๆ
ยังคงไหลออกจากคอไม่หยุด และเขาก็รู้ตวั แล้วว่ามันต้องไม่ใช่แค่
รอยบาดธรรมดา ๆ แน่!
เล่ยฟ่ านกุมคอเอาไว้แน่น เขารู ้สึกเย็นเยียบไปทั้งร่ าง ดวงตาเบิก
กว้างและความไม่สบายใจก็รุนแรงขึ้นเรื่ อย ๆ
“ฝ่ าบาท! เกิดอะไรขึ้นพะย่ะค่ะ!?” พวกขันทีพากันตื่นตระหนก ก็
เห็นอยูช่ ดั ๆ ว่านัน่ เป็ นแค่แผลเล็ก ๆ แต่ปริ มาณเลือดที่ไหลออกมา
นั้นน่าตกใจอย่างยิง่ เหตุประหลาดนี้ทาํ ให้ทุกคนรู ้สึกหวาดกลัว
ขึ้นมาทันที!
“เรี ยกหมอหลวงมาเร็ ว! เรี ยกหมอหลวงเร็ วเข้า!” ท่ามกลางเสี ยงร้อง
โหยหวนของพวกขันที เล่ยฟ่ านที่เสี ยเลือดไปมากก็พลันหมดสติ
ไป! พวกขันทีกบั ทหารในอุทยานช่วยกันแบกเล่ยฟ่ านไปที่ตาํ หนัก
ของจักรพรรดินีกนั อย่างสับสนอลหม่าน
ไม่มีใครให้ความสนใจฉูหลิงเย่ที่ยนื เงียบอยูด่ า้ นข้างโดยไม่พดู อะไร
ออกมาเลยสักคํา ตอนที่เล่ยฟ่ านเป็ นลมหมดสติ นางก็เผยรอยยิม้ เย็น
ออกมา
จักรพรรดิใส่ ร้ายนางว่าทําร้ายองค์ชายสี่ ในอุทยานหลวงไม่ใช่หรื อ?
เช่นนั้นนางก็จะทําให้คาํ พูดว่าร้ายนั้นเป็ นความจริ งในวันนี้!
ไม่มีใครคิดว่าฉูหลิงเย่ที่เข้าวังมาพร้อมกับเซียงป้าและคนอื่น ๆ จะ
ถูกสลับตัวไปเมื่อไม่กี่วนั ก่อน และคนที่มาที่นี่วนั นี้ไม่ใช่ฉูหลิงเย่แต่
เป็ นคนที่หยวนเปี ยวกําลังพลิกเมืองหลวงทั้งเมืองค้นหาอยู่ จวินเสี ย!
จวินอู๋เสี ยมองเล่ยฟ่ านที่ถูกแบกออกไปอย่างเย็นชา นางระงับรอยยิม้
ให้หายไปอย่างช้า ๆ แต่ภายในดวงตาคู่น้ นั ยังคงส่ องประกายเยียบ
เย็น
นี่เพิ่งจะเปิ ดม่านขึ้นเท่านั้น!
ตอนที่เล่ยฟ่ านถูกแบกกลับไปที่ตาํ หนักของจักรพรรดินี ร่ างกายของ
เขาก็เต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าของเขาซีดขาวราวกระดาษ
จักรพรรดินีกาํ ลังนัง่ แต่งตัวอยูท่ ี่โต๊ะแต่งตัวพลันเห็นเล่ยฟ่ านที่เปื้ อน
เลือดทั้งตัว นางก็แทบจะตกจากเก้าอี้ดว้ ยความตกใจ!
“ลูกฟ่ าน! ลูกฟ่ าน! เกิดอะไรขึ้น! อย่าทําให้แม่กลัวแบบนี้ซิ!”
จักรพรรดินีกระวนกระวายจนแทบคลัง่ เครื่ องประดับที่หอ้ ยอยูท่ ี่
ผมนางหลุดออกและหล่นลงกระแทกพื้น นางมองพวกขันทีแบกเล่ย
ฟ่ านไปที่เตียง จากนั้นก็มองหน้าพวกขันทีและถามว่า “เกิดอะไร
ขึ้น!?”
ขันทีตวั สัน่ เขารี บเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในอุทยานให้จกั รพรรดินีฟัง
ทันใดนั้นจักรพรรดินีรู้สึกเหมือนห้องทั้งห้องหมุน นางไม่เคยคิดเลย
ว่าจะมีคนกล้ามาลอบสังหารลูกชายของนางถึงในวังหลวง
ตอนที่ 921 เปิ ดม่ าน (5)
หมอหลวงรี บวิง่ มาและมาถึงเร็ วมาก หลังจากจักรพรรดิได้ข่าว เขาก็
อยูต่ อ้ นรับเซียงป้ากับคนอื่น ๆ ไม่ได้อีกต่อไป เขาตรงมาที่ตาํ หนัก
ของจักรพรรดินีพร้อมกับเซียงป้าและคนของเขา จวินอู๋เสี ยที่ปลอม
ตัวเป็ นฉูหลิงเย่กต็ ามมาด้วย
ตอนที่พวกเขาเข้าไปก็เห็นหมอหลวงทั้งกลุ่มกําลังล้อมเตียงเล่ยฟ่ าน
ที่นอนหน้าซีดขาวราวกับกระดาษอยู่
จักรพรรดิพงุ่ ตัวเข้าไปเหมือนลูกธนูเพื่อดูเล่ยฟ่ านที่กาํ ลังนอนอยู่
เตียง ใบหน้าที่เหมือนกับผูห้ ญิงที่เขารักมากนั้นบัดนี้ปราศจากสี
เลือด หัวใจของเขาเจ็บปวดขึ้นมา ภาพเมื่อตอนที่ผหู ้ ญิงที่เขารักมาก
ที่สุดจากโลกนี้ไปหวนกลับมาในความทรงจํา ความเจ็บปวดในใจ
ของเขายิง่ รุ นแรงขึ้น
“องค์ชายสี่ เป็ นอะไรไป? พวกเจ้ารักษาเร็ ว ๆ ไม่ได้รึไง? ถ้าพวกเจ้า
รักษาองค์ชายสี่ ไม่ได้ล่ะก็ พวกเจ้าได้ถูกฝังไปพร้อมกับเขาทั้งกลุ่ม
แน่!” จักรพรรดิตวาดลัน่ ด้วยสี หน้าเกรี้ ยวกราด เสี ยงของเขาเต็มไป
ด้วยความหวาดกลัว
หมอหลวงทั้งกลุ่มตัวสัน่ จากเสี ยงตวาดของจักรพรรดิ ทุกคนก้ม
หมอบเอาหน้าผากจรดพื้นวิงวอนขอความเมตตา
จักรพรรรดินีร้องไห้ครํ่าครวญอยูข่ า้ งเตียงอย่างหมดสภาพไม่เหลือ
มาดนางพญาอย่างที่เคยเป็ น
“ฝ่ าบาท! ช่วยลูกฟ่ านด้วยเพคะ!”
จักรพรรดิพยักหน้าอย่างเศร้าหมอง
“ข้าจะไม่ปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับลูกฟ่ านแน่”
เซี ยงป้าแอบตกใจเมื่อเห็นเล่ยฟ่ าน เขามองไปทางจวินเสี ยโดยไม่ได้
ตั้งใจ และเห็นจวินเสี ยยืนนิ่งเฉยเย็นชาไม่รู้ร้อนรู ้หนาว ไม่มีใคร
สังเกตว่ามีเขาอยูด่ ว้ ย แต่เซียงป้ารู ้สึกไม่สบายใจและกังวลมาก
จักรพรรดิสงั่ ให้หมอหลวงตรวจอาการของเล่ยฟ่ านอย่างละเอียดอีก
ครั้ง ก่อนจะเรี ยกพวกขันทีที่อยูก่ บั เล่ยฟ่ านเมื่อครู่ มาถามถึง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอุทยาน
พวกขันทีทุกคนต่างหวาดกลัวมากจากความโกรธของจักรพรรดิ
พวกเขาได้แต่คุกเข่าตัวสัน่ ด้วยความกลัวอยูบ่ นพื้นราวกับลูกเจี๊ยบ
เพิ่งเกิดที่ช่วยตัวเองไม่ได้ พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอุทยาน
อย่างตะกุกตะกัก เมื่อจักรพรรดิได้ฟังเรื่ องที่เกิดขึ้น ใบหน้าของเขาก็
ถมึงทึงทันที
เล่ยฟ่ านถูกโจมตีหลังจากไปถึงอุทยานได้ไม่นาน และเล่ยฟ่ านก็ถูก
บังคับให้กินยาอะไรก็ไม่รู้ต่อหน้าต่อตาทหารทั้งกลุ่ม นัน่ เป็ น
เหมือนการตบหน้าจักรพรรดิตรง ๆ เลย
“ส่ งคนไปปิ ดวังหลวงทันที ไม่วา่ ยังไงก็ตอ้ งจับเจ้านักฆ่านัน่ ให้ได้!”
จักรพรรดิพดู รอดไรฟัน
พวกขันทีทาํ ตามทันที พวกเขายังคงกลัวจนตัวสัน่
จากคําบอกเล่าของพวกขันที จักรพรรดิกเ็ ข้าใจได้วา่ ‘ฉูหลิงเย่’
ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาจึงไม่ได้พดู อะไรกับนาง
แต่นงั่ ลงที่ขา้ งเตียงและมองดูเล่ยฟ่ านด้วยความกังวลใจ
ตรงกันข้ามกับเซียงป้าที่มองจวินเสี ยด้วยสายตาสงสัย นอกจากพวก
เขาแล้ว ไม่มีใครรู ้วา่ ฉูหลิงเย่ที่อยูต่ รงหน้าพวกเขาคนนี้แท้จริ งแล้ว
คือจวินเสี ยปลอมตัวมา
เรื่ องทั้งหมดที่พวกขันทีเล่าเมื่อกี้ เซียงป้าย่อมได้ยนิ อย่างชัดเจนด้วย
เช่นกัน เหตุการณ์น้ ีดูเหมือนไม่ได้เกี่ยวข้องกับจวินเสี ยเลยแม้แต่
น้อย แต่ไม่รู้ทาํ ไมเซียงป้าอดรู ้สึกไม่ได้วา่ เรื่ องที่เล่ยฟ่ านถูกโจมตีน้ ี
ต้องเกี่ยวข้องกับจวินเสี ยสักทาง
มันบังเอิญมากเกินไป ทุกครั้งที่เล่ยฟ่ านโดนทําร้ายเช่นนั้น มันต้อง
เกิดขึ้นหลังจากที่จวินเสี ยไปกับเขาแล้วพวกเขาก็ถูกโจมตีหลังจาก
นั้นไม่นาน
เซียงป้าอดรู ้สึกกระวนกระวายไม่ได้ เขายอมตกลงพาจวินเสี ยเข้าวัง
ก็เพราะฉูหลิงเย่ขอร้องและเป็ นคําขอของเล่ยเฉิน แต่เขาไม่อยาก
เห็นจักรพรรดิพบว่าเหตุการณ์น้ ีเกี่ยวข้องกับเมืองพันอสู รเลย
โชคดีที่จกั รพรรดิเชื่อพวกขันทีและไม่ได้สอบถามอะไรเพิม่ เติม นัน่
ทําให้เซียงป้าโล่งใจมาก
ท่ามกลางสายตาวิตกกังวลของจักรพรรดิและดวงตาที่เต็มไปด้วย
นํ้าตาของจักรพรรดินี ในที่สุดพวกหมอหลวงก็วนิ ิจฉัยอาการ
เบื้องต้นของเล่ยฟ่ านเสร็ จ และผลที่ได้ทาํ ให้จกั รพรรดิและ
จักรพรรดินีตกใจมาก
“กราบทูลฝ่ าบาท องค์ชายสี่ ได้รับพิษสายโลหิ ตพะย่ะค่ะ”
ตอนที่ 922 เปิ ดม่ าน (6)
“พิษสายโลหิ ต?” จักรพรรดิเลิกคิว้ มองหมอหลวง เขาไม่รู้วา่ มันคือ
อะไร
หมอหลวงยังคงคุกเข่าอยูบ่ นพื้น เขาลอบกลืนนํ้าลายก่อนจะพูดว่า
“มันเป็ นพิษชนิดหนึ่งที่ทาํ ให้เหยือ่ เสี ยเลือดปริ มาณมากพะย่ะค่ะ
แม้วา่ ฤทธิ์ของพิษนี้จะไม่รุนแรง แต่มนั ทําให้บาดแผลของเหยือ่ ไม่
สามารถปิ ดได้ เลือดจะไม่แข็งตัวและไหลไม่หยุด ทําให้บาดแผล
นั้นมีเลือดออกมากกว่าที่ควรจะเป็ นพะย่ะค่ะ”
“แล้วมันหมายความว่ายังไงกันแน่?” จักรพรรดินีคิดว่าคําพูดของ
หมอหลวงฟังดูประหลาดเล็กน้อย นางจึงถามขึ้นทันที
หมอหลวงพูดว่า “บาดแผลที่คอขององค์ชายสี่ ไม่ร้ายแรงเลยพะย่ะ
ค่ะ แต่เพราะพิษสายโลหิ ตทําให้แผลไม่ปิดและเลือดออกไม่หยุด
เป็ นผลให้เกิดอาการเสี ยเลือดมากเกินไป……”
จักรพรรดินีตกใจมาก นางเอามือกุมไว้ที่หน้าอก สี หน้าของ
จักรพรรดิกท็ ะมึนขึ้นทุกที
“ไม่มีอะไรถอนพิษได้น้ ีได้เลยเหรอ?” จักรพรรดิรู้สึกเกลียดชัง
คนร้ายขึ้นมาจับใจ บาดแผลที่เล่ยฟ่ านได้รับนั้นเล็กน้อยมาก แต่
เพราะยาพิษที่เขาใช้ทาํ ให้บาดแผลเล็ก ๆ กลายเป็ นบาดแผลที่ทาํ ให้
ถึงตาย!
หมอหลวงเหงื่อออกชุ่มโชก เขาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากแล้วพูดว่า
“กระหม่อมได้ให้ยาแก้พิษกับองค์ชายแล้วพะย่ะค่ะ แต่มนั ก็ช่วย
บรรเทาอาการเสี ยเลือดได้แค่ชวั่ คราวเท่านั้น แต่การจะถอนพิษ
สายโลหิ ตได้แบบสมบูรณ์มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น! ชื่อพิษสายโลหิ ตก็
ตั้งมาจากวิธีการถอนพิษมันนัน่ แหละพะย่ะค่ะ”
“งั้นก็พดู มาเร็ ว!” จักรพรรดิรู้สึกอยากจะเตะหมอหลวงที่มวั แต่อ้ าํ อึ้ง
แรง ๆ สักที
“มันต้องใช้……ผูท้ ี่มีสายเลือดเดียวกับเหยือ่ พะย่ะค่ะ เอาเลือดของ
เขามาช่วยล้างพิษในเลือดของเหยือ่ และใช้ยาอย่างอื่นช่วย
สนับสนุนก่อนที่มนั จะได้ผล” พอพูดจบหมอหลวงก็โขกศีรษะกับ
พื้นสามครั้ง
“เลือดของผูท้ ี่มีสายเลือดเดียวกันงั้นหรื อ?” จักรพรรดิตกตะลึงอยูค่ รู่
หนึ่ง แล้ว จากนั้นเขาก็ถามขึ้นทันทีวา่ “เลือดของพี่นอ้ งใช้ได้รึเปล่า?”
หมอหลวงรี บตอบว่า “ถ้าใช้เลือดของพี่นอ้ ง จะต้องเป็ นพี่นอ้ งที่เกิด
จากทั้งพ่อและแม่เดียวกันพะย่ะค่ะ และคนที่ให้เลือดก็ตอ้ งเป็ นผูช้ าย
ด้วยถึงจะได้ผล”
คําพูดของหมอหลวงทําให้จกั รพรรดินิ่งเงียบไป ขณะที่ทาง
จักรพรรดินีกห็ น้าซี ดเผือดทันที สายตาของนางเต็มไปด้วยความตื่น
ตระหนก นอกจากความเป็ นห่วงเล่ยฟ่ านแล้ว ตอนนี้กม็ ีความกลัว
จาง ๆ แฝงอยูใ่ นแววตาโดยไม่มีใครสังเกตเห็นเลยสักคน
หมอหลวงที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้นเริ่ มตัวสัน่ มากขึ้น ทุกคนรู ้วา่ องค์ชายสี่
เล่ยฟ่ านเกิดจากพระสนมที่เสี ยชีวติ ไปแล้ว จักรพรรดิและพระสนม
มีลูกด้วยกันแค่คนเดียวเท่านั้นคือเล่ยฟ่ าน ไม่มีพี่นอ้ งสายเลือด
เดียวกันคนไหนอีกแล้ว
ดังนั้นคนที่สามารถช่วยชีวติ เล่ยฟ่ านได้กค็ ือจักรพรรดิเพียงคนเดียว
เท่านั้น!
จักรพรรดิกาํ หมัดทั้งสองแน่น เล่ยฟ่ านเป็ นลูกชายที่เขารักมากที่สุด
แม้วา่ เขาจะห่วงความปลอดภัยของตัวเองมากแค่ไหนก็ตาม แต่เขาก็
ไม่ปรารถนาจะเห็นเล่ยฟ่ านเสี ยชีวติ
จักรพรรดิเงียบไปครู่ หนึ่งก่อนจะถามขึ้นว่า “ต้องใช้เลือดเท่าไร?”
หมอหลวงพูดว่า “สามชามพะย่ะค่ะ และต้องเทลงไปในคอขององค์
ชายสี่ เพื่อให้เข้าสู่ ร่างกายในทันที ถ้าชักช้ามันจะไม่ได้ผล”
เลือด 3 ชาม มากพอที่จะส่ งผลกระทบต่อร่ างกายคนได้มาก
จักรพรรดิขมวดคิว้ เขากําลังจะอ้าปากพูด จักรพรรดินีที่หน้าซี ดขาว
ก็เข้ามาคุกเข่าตรงหน้าจักรพรรดิทนั ที!
“หม่อมฉันรู ้วา่ องค์จกั รพรรดิรักลูกฟ่ านมาก แต่ฝ่าบาทเป็ นโอรส
แห่งสวรรค์นะเพคะ พวกเราจะทําร้ายร่ างมังกรเพื่อเอาเลือดออกมา
ได้ยงั ไง? แถมยังต้องใช้เลือดเยอะมากด้วย ถ้าเป็ นเช่นนี้ร่างกายของ
ฝ่ าบาทจะแย่เอานะเพคะ! หม่อมฉันขอร้อง ได้โปรดอย่าทําร้าย
ตัวเองเลยเพคะ” จักรพรรดินีออ้ นวอนอย่างน่าสงสาร
ตอนที่ 923 เปิ ดม่ าน (7)
จักรพรรดิยงิ่ ขมวดคิว้ มากขึ้นอีก “เจ้าน่าจะรู ้ดีที่สุดว่าข้ารู ้สึกยังไง
กับเล่ยฟ่ าน ตลอดหลายปี มานี้ลูกฟ่ านเติบโตขึ้นมาข้างกายเจ้า และ
ข้าก็เห็นว่าเจ้าห่วงใยลูกฟ่ านมากมายนัก แต่เรื่ องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว
เจ้าก็ได้ยนิ หมอหลวงพูดชัดเจนแล้วนี่ ถ้าข้าไม่ให้เลือดของข้า ลูก
ฟ่ านก็ตอ้ งตายแน่ ๆ !”
ใบหน้าของจักรพรรดินีเต็มไปด้วยนํ้าตา นางยังคงคุกเข่าอยูท่ ี่พ้นื
เรื่ องที่จกั รพรรดิต้งั ใจจะช่วยเล่ยฟ่ านนั้นไม่ใช่เรื่ องน่าแปลกใจ
สําหรับนาง แต่นางไม่อาจปล่อยให้เขาทําเช่นนั้นได้ ถ้าเล่ยฟ่ านเป็ น
ลูกชายของจักรพรรดิจริ ง ๆ นางย่อมปรารถนาให้จกั รพรรดิ
ช่วยชีวติ เล่ยฟ่ านมากกว่าอะไรทั้งหมด แต่ความจริ งแล้ว ไม่มีใครรู ้ดี
ไปกว่านางว่าใครคือพ่อที่แท้จริ งของเล่ยฟ่ าน!
ถ้าจักรพรรดิยอมให้เลือดมาและเล่ยฟ่ านได้กินเข้าไป แล้วถอนยา
พิษในตัวเล่ยฟ่ านไม่ได้ จักรพรรดิตอ้ งพบว่าเรื่ องนี้น่าสงสัยอย่าง
แน่นอน และด้วยนิสยั ขี้ระแวงของจักรพรรดิ ความลับเรื่ องชาติ
กําเนิดของเล่ยฟ่ านจะต้องถูกจักรพรรดิคน้ พบโดยเร็ วแน่
ถ้าเป็ นเช่นนั้น ไม่เพียงแต่เล่ยฟ่ านจะไม่ปลอดภัย พวกเขาทุกคนก็
จะต้องตายกันหมดอย่างแน่นอน!
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้วา่ จักรพรรดินีจะร้อนใจอยากช่วยเล่ย
ฟ่ านมากแค่ไหน นางก็รู้วา่ นางต้องห้ามจักรพรรดิให้ได้ จะปล่อยให้
เขาให้เลือดเล่ยฟ่ านไม่ได้เด็ดขาด!
“ฝ่ าบาทเพคะ! ท่านก็รู้จกั ลูกฟ่ านดี เขาเป็ นเด็กกตัญญูมาตั้งแต่เล็ก
ถ้าเขารู ้วา่ ท่านทําร้ายตัวเองเพื่อช่วยเขาล่ะก็ เขาจะต้องเกลียดตัวเอง
แน่ ๆ ! ได้โปรดทบทวนเรื่ องนี้ใหม่ดว้ ยเพคะ! หม่อมฉันเคยได้ยนิ
เรื่ องพิษสายโลหิ ตนี้มาก่อน เห็นว่ามันมีวธิ ีถอนพิษมากกว่าหนึ่งวิธี
นะเพคะ ทําไมเราไม่ให้หมอหลวงประคองอาการของลูกฟ่ านเอาไว้
ก่อน แล้วให้หม่อมฉันปรึ กษาหมอในเมืองหลวงเพื่อหาวิธีรักษา เรา
อาจจะพบหนทางที่ดีกว่านี้นะเพคะ!” จักรพรรดินีครํ่าครวญพร้อม
กับมองไปที่จกั รพรรดิอย่างกระสับกระส่ ายร้อนรน
จักรพรรดิขมวดคิว้ นิ่วหน้า ปริ มาณเลือดที่ตอ้ งการนั้นมากโขอยู่ ทํา
ให้เขาตัดสิ นใจได้ลาํ บาก คําพูดของจักรพรรดินียงิ่ ทําให้เขาลังเล
และในขณะที่ลงั เลอยูน่ ้ นั เอง เล่ยฟ่ านที่นอนอยูบ่ นเตียงก็ได้สติ
ขึ้นมา เขาเริ่ มพึมพําอะไรบางอย่าง
จักรพรรดินีหนั หน้าไปทันทีและเห็นเล่ยฟ่ านลืมตาขึ้นช้า ๆ นางดึง
ชายกระโปรงขึ้นและวิง่ ไปที่ขา้ งเตียงพร้อมกับพูดทั้งนํ้าตาว่า
“ลูกฟ่ านของแม่ ใครกันใจร้ายนัก ให้เจ้ากินพิษสายโลหิ ตที่ตอ้ งใช้
การถ่ายเลือดจากพ่อของเจ้าเพื่อช่วยชีวติ เจ้า ลูกฟ่ าน เสด็จพ่อของเจ้า
ยอมถ่ายเลือดให้เจ้านะ แล้วมันต้องใช้เลือดตั้ง 3 ชาม! โธ่ ลูกแม่…”
จักรพรรดินีร้องไห้ครํ่าครวญและพูดไม่หยุด นางพยายามบอกใบ้ให้
เล่ยฟ่ านรู ้
เนื่องจากเสี ยเลือดไปมาก เล่ยฟ่ านจึงยังคงเบลอ ๆ อยู่ เขารู ้สึกมึนหัว
มาก แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ยนิ จักรพรรดินีพดู ถึง ‘เสด็จพ่อ’ อย่าง
ชัดเจน
ตอนนั้นเองที่ในหัวของเขาย้อนคิดไปถึงคําพูดของชายชุดดําที่พดู
เอาไว้ก่อนจากไป
“มีเพียงเลือดจากพ่อที่แท้จริ งของเจ้าเท่านั้นที่ช่วยชีวติ เจ้าได้”
เท่านั้นเองเขาก็เข้าใจสิ่ งที่จกั รพรรดินีพยายามบอกใบ้เขาทันที เล่ย
ฟ่ านพยายามดิ้นรนลุกขึ้นจนเจ็บไปทัว่ ร่ าง หมอหลวงเข้ามาช่วยพยุง
ให้เขาลุกขึ้นนัง่ เขามองจักรพรรดิดว้ ยใบหน้าซีดขาว
“เสด็จพ่อ! เสด็จพ่ออย่าแม้แต่คิดทําเช่นนั้นนะพะย่ะค่ะ! ถ้าลูกเป็ น
ต้นเหตุให้เสด็จพ่อทําร้ายตัวเองล่ะก็ ลูกคงละอายจนไม่สามารถมี
ชีวติ อยูใ่ นโลกนี้ได้อีกแล้ว! ได้โปรดเถอะเสด็จพ่อ เชื่อในความ
สามารถของหมอหลวงแล้วให้พวกเขาหาวิธีอื่นรักษาลูกเถอะพะย่ะค่ะ!”
เมื่อเห็นลูกชายที่ตอนนี้โดนพิษจนร่ างกายอ่อนแอยังคงห่วงใย
ปกป้องเขา และเต็มใจที่จะยืดเวลาถอนพิษออกไปเพื่อเขา จักรพรรดิ
ก็รู้สึกตื้นตันใจมาก เขารู ้สึกว่าเล่ยฟ่ านช่างสมกับเป็ นลูกชายของเขา
กับผูห้ ญิงที่เขารักจริ ง ๆ อ่อนไหวและห่วงใยใส่ ใจเหมือนแม่ไม่มีผดิ
ตอนที่ 924 เปิ ดม่ าน (8)
“ลืมมันซะ ในเมื่อทั้งเจ้าและแม่เจ้ายืนกรานขนาดนี้ ข้าก็จะไม่ฝืนทํา
แล้ว แต่ขา้ จะยอมให้เวลาเจ้าแค่ครึ่ งวันเท่านั้นนะ ถ้าภายในครึ่ งวัน
พวกหมอหลวงยังไม่สามารถหาวิธีรักษาอื่นได้ ข้าก็ตอ้ งทําตามที่
หมอหลวงพูด” จักรพรรดิพดู เป็ นเชิงบังคับ แต่สายตาของเขาเต็มไป
ด้วยความห่วงใยเล่ยฟ่ านอย่างลึกซึ้ ง
แต่เล่ยฟ่ านตอนนี้ไม่อาจจะสนใจว่าจักรพรรดิจะรักเขามากขึ้นหรื อ
เปล่าได้ หลังของเขาเปี ยกชุ่มไปด้วยเหงื่อแล้ว
“เพคะ” จักรพรรดินีพดู ขึ้นโดยเร็ ว นางกลัวมากว่าจักรพรรดิจะกลับ
คําขึ้นมากะทันหัน
เมื่อจักรพรรดิเห็นเล่ยฟ่ านได้สติข้ ึนมาแล้ว สี หน้าของเขาก็ดีข้ ึน
และเพื่อให้เล่ยฟ่ านได้พกั ผ่อนอีกสักหน่อย รวมทั้งพวกหมอหลวง
จะได้ทาํ การรักษาต่อ จักรพรรดิจึงออกจากตําหนักของจักรพรรดินี
พร้อมกับเซียงป้าและคนอื่น ๆ
หลังจากออกมาจากตําหนัก จักรพรรดิกพ็ ดู ว่า “ก่อนที่จะจับคนร้าย
ได้ วังหลวงถูกปิ ดไม่ให้เข้าออก ข้าขอให้พวกท่านพักอยูท่ ี่วงั หลวง
ชัว่ คราว พอจับคนร้ายได้แล้วพวกท่านค่อยกลับ”
เซียงป้าพยักหน้าแต่ไม่พดู อะไร จักรพรรดิกไ็ ม่อยูใ่ นอารมณ์ที่จะคุย
กับพวกเซียงป้าเช่นกัน เขาจึงสัง่ ให้ขนั ทีจดั เตรี ยมสถานที่ให้พวกเขา
ได้พกั ผ่อน
ขันทีได้เดินมากับพวกเขาตลอดทาง ดังนั้นแม้เซียงป้าจะมีคาํ ถาม
มากมายอยูใ่ นใจ แต่เขาก็ไม่พดู ออกไป เขาจ้องมองจวินเสี ยอย่างไม่
ยอมละสายตา จนกระทัง่ พวกเขาถูกพาเข้ามายังที่พกั และขันทีกลับ
ออกไปแล้ว เซี ยงป้าที่ทนเก็บความสงสัยและความร้อนใจเอาไว้
ไม่ได้อีกต่อไปก็ตรงเข้ามายืนตรงหน้าจวินเสี ย
“คุณชายยจวิน! ถึงข้าจะสัญญากับคุณหนูวา่ จะพาท่านเข้ามาในวัง
แต่ขา้ ไม่ได้รับปากว่าจะช่วยท่านทําร้ายองค์ชายนะ ท่านเล่นทําอะไร
ตามใจตัวเองอย่างนี้ ถ้าจักรพรรดิรู้เข้า มันจะทําให้เมืองพันอสู ร
เดือดร้อนไปด้วย! ท่านรู ้ตวั บ้างรึ เปล่าว่าทําอะไรลงไป?”
จวินอู๋เสี ยมองเซียงป้าอย่างเฉยเมย ความโกรธของเซียงป้าเป็ นสิ่ งที่
นางคิดเอาไว้อยูแ่ ล้ว “ท่านหัวหน้าตึกเซี ยงคิดว่าข้าเป็ นคนทําให้องค์
ชายเป็ นแบบนั้นงั้นหรื อ?”
เซียงป้าพูดว่า “นอกจากท่านแล้วจะมีใครอีกเล่า?”
จวินเสี ยออกไปพร้อมกับเล่ยฟ่ าน แล้วเล่ยฟ่ านก็โดนทําร้ายทันที
นัน่ มันมากเกินกว่าจะเป็ นความบังเอิญแล้วในสายตาของเซียงป้า
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “ท่านหัวหน้าตึกเซียงคิดว่าถ้าข้ามีความสามารถพา
คนเข้ามาในวังหลวงได้ รวมทั้งทําร้ายองค์ชายสี่ ต่อหน้าทหาร
มากมายแล้วยังป้อนยาพิษให้กินได้อีกด้วย ถ้าทําได้อย่างนั้นข้าจะ
รบกวนท่านให้ช่วยพาข้าเข้ามาในวังหลวงทําไม?”
คําพูดของจวินอู๋เสี ยทําให้เซี ยงป้าอึ้งไปชัว่ ขณะ เวลาที่เล่ยฟ่ านโดน
โจมตีมนั บังเอิญมากเกินไป เซียงป้าจึงโยงเข้ากับจวินเสี ยโดยไม่
ลังเลเลย แต่จากคําบอกเล่าของพวกขันที ชายที่โจมตีเล่ยฟ่ านมีความ
สามารถสู งมาก นอกจากจะหลบการตรวจจากทหารลาดตระเวนได้
แล้ว เขายังจับองค์ชายเป็ นตัวประกันต่อหน้าทหารจํานวนมาก เรื่ อง
เช่นนี้ต่อให้เป็ นเซียงป้าเองก็ไม่สามารถทําได้
“ไม่ใช่ท่านจริ ง ๆ หรื อ?” เซี ยงป้าถามอย่างลังเลพลางมองไปที่จวิน
เสี ย
จวินอู๋เสี ยยักไหล่ “ใช่หรื อไม่ใช่ ท่านหัวหน้าตึกเซียงอยากเชื่อเช่น
ไรก็แล้วแต่ท่านเถอะ”
ยิง่ จวินเสี ยใจกว้าง เซี ยงป้าก็ยงิ่ รู ้สึกว่าเขาใจแคบและระแวงมาก
เกินไป เขารู ้สึกละอายใจเล็กน้อย จึงรี บขอโทษจวินเสี ยทันที แต่ดู
เหมือนจวินเสี ยจะไม่ใส่ ใจหรื อถือโทษโกรธเคืองอะไรเซี ยงป้า
ในทางตรงกันข้าม เซี ยงป้าที่ถูกจวินเสี ยเบี่ยงเบนไปได้ง่าย ๆ ด้วย
คําพูดไม่กี่คาํ นั้น ไม่ได้สงั เกตเลยว่าจวินเสี ยไม่ได้ตอบคําถามเขา
ตรง ๆ เลย แต่กลับตอบคําถามด้วยคําถามแทน โดยที่ไม่ได้ยอมรับ
หรื อปฏิเสธข้อกล่าวหาเลย
“ข้าไม่คิดว่าเราจะมาเจอเรื่ องแบบนี้ในวัง พิษสายโลหิ ตไม่ได้จดั ว่า
เป็ นของหายากอะไรมากมาย แต่เดี๋ยวนี้นอ้ ยคนนักที่สามารถปรุ งมัน
ได้สาํ เร็ จ ไม่คิดเลยว่าชายแก่คนนี้จะมีชีวติ อยูน่ านพอที่จะได้เห็นพิษ
สายโลหิ ตกับตาตัวเอง” เฟิ งเย่หยางพูดพร้อมกับถอนใจ
ส่ วนจวินอู๋เสี ยก็เดินไปนัง่ ที่เก้าอี้ สายตาที่มองลงตํ่านั้นเป็ นประกาย
เย็นเยียบ
ตอนที่ 925 ยืมมือตบ-ครั้งที่ 1 (1)
ในขณะเดียวกันจวินอู๋เสี ยก็เดินไปนัง่ ที่เก้าอี้ สายตาที่มองลงตํ่านั้น
เป็ นประกายเย็นเยียบ
นี่เพิง่ จะเปิ ดม่านเท่านั้นเอง
ที่ตาํ หนักของจักรพรรดินี จักรพรรดิเพิ่งจากไปไม่นาน ความตื่น
ตระหนกหายไปจากใบหน้าของจักรพรรดินีแล้ว นางเช็ดคราบนํ้าตา
ออกจากใบหน้า แล้วขมวดคิ้วมองพวกหมอหลวงที่กาํ ลังรักษาเล่ย
ฟ่ านอยู่
“ที่นี่ไม่ตอ้ งการพวกเจ้าแล้ว เจ้าพวกหมอเถื่อน แค่ถอนพิษ
สายโลหิ ตก็ทาํ ไม่ได้! ข้ามีวธิ ีของข้า พวกเจ้าทุกคนออกไปเดี๋ยวนี้!”
เมื่อถูกจักรพรรดินีด่าว่าอย่างรุ นแรง พวกหมอหลวงจึงรี บออกจาก
ตําหนักในทันที
เมื่อประตูตาํ หนักปิ ดลง ท่าทางขึงขังของจักรพรรดินีกห็ ายไป
“เสด็จแม่! เสด็จแม่ช่วยข้าด้วย! ข้าไม่อยากตาย! ข้าไม่อยากตาย
จริ ง ๆ !” เล่ยฟ่ านร้องไห้ครํ่าครวญอย่างน่าสงสารอยูบ่ นเตียง คนอื่น
ไม่รู้ถึงชาติกาํ เนิดที่แท้จริ งของเขา แต่เขารู ้ตวั เองดี ที่เมื่อครู่ เขาพูด
กับจักรพรรดิเช่นนั้นก็เพราะเขากลัวว่าความจริ งจะถูกเปิ ดเผย แต่
ตอนนี้ไม่มีคนนอกอยูด่ ว้ ยแล้ว เขาทําได้แค่ฝากความหวังทั้งหมด
ของเขาเอาไว้ที่จกั รพรรดินี
จักรพรรดินีนงั่ สิ้ นหวังอยูข่ า้ งเตียง นางจับไหล่เล่ยฟ่ านและเมื่อรู ้สึก
ว่าลูกชายของนางกําลังตัวสัน่ ด้วยความหวาดกลัว นางก็เจ็บปวดไป
ทั้งใจ
นางเคยให้กาํ เนิดลูกชายอีกคนมาก่อนแต่เขาก็เสี ยชีวติ ไปด้วย
อุบตั ิเหตุ และเพราะลูกชายคนโตตายไปแล้วนี่เองนางจึงรักเล่ยฟ่ าน
สุ ดจิตสุ ดใจ ถ้าไม่ใช่เพราะจักรพรรดิไม่สามารถช่วยเล่ยฟ่ านได้
นางก็คงไม่หา้ มเขาแบบนั้น
“ลูกฟ่ าน อย่ากลัวไปเลยลูก แม่อยูท่ ี่นี่แล้ว เราแค่ตอ้ งใช้เลือดของพ่อ
เจ้าใช่ไหมล่ะ? องค์จกั รพรรดิช่วยเจ้าไม่ได้ แต่อย่าลืมซิวา่ พ่อเจ้าช่วย
ได้” จักรพรรดินีบอกเล่ยฟ่ าน
เล่ยฟ่ านอึ้งไปครู่ หนึ่ง
พ่อของเขา พ่อแท้ ๆ ของเขาคืออัครมหาเสนาบดีไม่ใช่หรื อ?
“แต่……แต่ท่านพ่อจะเข้ามาที่นี่ได้ยงั ไง?” เล่ยฟ่ านถาม
จักรพรรดินีหวั เราะแล้วพูดว่า “แม่เป็ นจักรพรรดินีนะ แม่ยอ่ มมีวธิ ี
ของแม่ ลูกฟ่ านไม่ตอ้ งกังวลไป หมอหลวงของแม่กม็ ีความรู ้เรื่ อง
การถอนพิษเหมือนกัน ในเมื่อเขารู ้เรื่ องของเจ้าอยูแ่ ล้ว การให้เขา
รักษาเจ้าจะเป็ นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด ส่ วนพ่อของเจ้าแม่ให้คนไปเรี ยก
เขามาที่นี่แล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานเขาก็ได้ข่าวเรื่ องนี้ เพราะงั้นลูกฟ่ าน
เจ้าไม่ตอ้ งกังวลอะไรนะ แม่จะไม่ยอมให้เจ้าเป็ นอะไรไปแน่”
ขณะที่พดู นางก็ตบไหล่เล่ยฟ่ านเพื่อให้วางใจ พยายามทําให้เขาสงบ
ลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้
หลังจากได้ยนิ สิ่ งที่จกั รพรรดินีพดู เล่ยฟ่ านก็ถอนหายใจออกมา
อย่างโล่งอก แต่พอเขานึกถึงคําพูดของชายชุดดําก่อนที่จะหายตัวไป
ขึ้นมาได้ เขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอีกครั้ง
“เสด็จแม่! คนที่ทาํ ร้ายข้าบอกข้าก่อนหายตัวไปว่า มีเพียงพ่อที่
แท้จริ งของข้าเท่านั้นที่สามารถช่วยชีวติ ข้าได้ อย่าบอกนะว่า……มี
คนอื่นรู ้ความลับเรื่ องชาติกาํ เนิดของข้าแล้ว?”
จักรพรรดินีตกใจ เรื่ องระหว่างนางกับอัครมหาเสนาบดีถูกเก็บเป็ น
ความลับอย่างดี นอกจากข้ารับใช้ที่ใกล้ชิดที่สุดของนางแล้วก็ไม่มี
ใครอื่นที่รู้เรื่ องนี้อีก นอกจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ไม่ได้พบกันบ่อย ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิง่ หลังจากที่เล่ยฟ่ านเกิดมา อัครมหาเสนาบดีกแ็ ทบ
จะไม่มาพบจักรพรรดินีที่ตาํ หนักเลย ตลอดหลายปี มานี้ นาง
ระมัดระวังอย่างที่สุดเพราะกลัวว่าจักรพรรดิจะรู ้เข้า ในเมื่อระวังกัน
ถึงขนาดนี้กไ็ ม่น่าจะมีใครรู ้เรื่ องนี้ซิ
“อย่าคิดมากเลย ถ้าเจ้านัน่ รู ้ความจริ งเรื่ องชาติกาํ เนิดของลูก มันก็แค่
บอกองค์จกั รพรรดิเจ้าก็ไม่รอดแล้ว แต่นี่มนั กลับทําเรื่ องให้ยงุ่ ยาก
ขึ้นด้วยการบุกเข้าวังมาทําร้ายเจ้า จุดประสงค์ที่แท้จริ งของมัน
อาจจะเพื่อทําร้ายองค์จกั รพรรดิกไ็ ด้ ไม่ใช่ลูก” จักรพรรดินีพดู
หลังจากคิดทบทวนเรื่ องความสัมพันธ์ของนางกับอัครมหาเสนาบดี
และแน่ใจว่าเป็ นไปไม่ได้ที่จะมีใครรู ้เรื่ องนี้
เมื่อจักรพรรดินีรับรองอย่างมัน่ ใจเช่นนั้น เล่ยฟ่ านก็ผอ่ นคลายและ
วางใจลงได้ในที่สุด แล้วก็หนั มาสนใจพิษในร่ างกายได้อย่างเต็มที่
ตอนที่ 926 ยืมมือตบ-ครั้งที่ 1 (2)
“เสด็จแม่ ท่านต้องให้ท่านพ่อมาที่นี่เร็ ว ๆ นะ ไม่ง้ นั ลูกชายท่าน
ทรมานจนตายแน่เลย”
จักรพรรดินีหนั ไปทางเล่ยฟ่ านที่ดูเจ็บปวดแล้วพยักหน้า
เซียงป้ากับคนอื่น ๆ พักอยูใ่ นวังอย่างว่าง่าย พวกเขาไม่อยากเอา
ตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่ องอะไรทั้งนั้น สักพักจวินอู๋เสี ยก็เดินเข้า
ห้องไปและปิ ดประตูตามหลัง เซียงป้ารู ้สึกผิดกับเขาจึงไม่อยาก
รบกวนเขามากไปกว่านี้
แต่เขาไม่ได้รู้เลยว่า หลังจากเข้ามาในห้อง จวินอู๋เสี ยก็เปิ ดหน้าต่าง
ด้านหลังออกอย่างเงียบ ๆ ทันที เย่ฉาที่อยูใ่ นชุดดําทั้งตัวเหมือนที่
เคยยืนรออยูน่ อกหน้าต่างนานแล้ว ในมือของเขาถือดาบที่กรี ดคอ
เล่ยฟ่ านอยู่ เขาเข้ามาในห้องแบบเงียบ ๆ และคุกเข่าลงตรงหน้า
จวินอู๋เสี ย
“รายงานคุณหนู คนจากตําหนักจักรพรรดินีออกไปที่จวนของอัคร
มหาเสนาบดีแล้วขอรับ”
“งั้นหรื อ?” จวินอู๋เสี ยถามพลางเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
“ต้องบอกเลยว่านางลงมือได้เร็ วดีจริ ง ๆ”
เย่ฉาพูดต่อว่า “จักรพรรดิให้เวลาพวกเขาแค่ครึ่ งวัน จักรพรรดินีไม่
กล้าชักช้าหรอกขอรับ”
จวินอู๋เสี ยเดินไปที่เก้าอี้อย่างไม่รีบร้อน นางนัง่ ลงก่อนจะพูดว่า “เรา
มาคอยดูกนั วันนี้วงั หลวงแคว้นหยานไม่สงบสุ ขแน่”
“ขอรับ!”
จวินอู๋เสี ยพูดต่อว่า “ไปบอกเล่ยเฉินให้ลงมือได้แล้ว”
“ขอรับ!” พอพูดจบเย่ฉาก็กระโจนออกไปทางหน้าต่างทันที เงาดํา
นั้นพร่ ามัวและหายไปต่อหน้าจวินอู๋เสี ย
จวินอู๋เสี ยเอามือเท้าคางและเอียงคอ นางเอานิ้วจุ่มลงไปในชาและ
เขียนตัวอักษรสองสามตัวลงบนโต๊ะ
เล่ยเฉินรี บเข้าวังมาอย่างรวดเร็ ว จักรพรรดิได้ข่าวเล่ยเฉิ นเข้าวังอย่าง
กะทันหันก็สงสัย หลังจากแน่ใจว่าเขามาคนเดียว จักรพรรดิกย็ อม
ให้เขาเข้ามาและสัง่ ให้นาํ เขามาที่หอ้ งทรงพระอักษร
“มาที่นี่ทาํ ไม?” จักรพรรดิยงั กังวลถึงอาการของเล่ยฟ่ านมาก จึงไม่มี
อารมณ์มาแสดงความเป็ นมิตรอะไรต่อเล่ยเฉิ น
เล่ยเฉินคุกเข่าข้างหนึ่งตรงหน้าจักรพรรดิ และยกกล่องกํามะหยีข่ ้ ึน
ถวายองค์จกั รพรรดิ
“กระหม่อมได้ข่าวว่าน้องสี่ ถูกลอบสังหารได้รับบาดเจ็บก็เลยเป็ น
ห่วงพะย่ะค่ะ กระหม่อมถูกเลี้ยงมาในตําหนักของจักรพรรดินีพร้อม
กับน้องสี่ มาตั้งแต่เล็ก เราย่อมสนิทสนมกันยิง่ กว่าผูอ้ ื่น เมื่อ
กระหม่อมรู ้วา่ น้องสี่ เสี ยเลือดมากก็อยากจะเจ็บแทนน้องเหลือเกิน
แต่มนั ก็เป็ นไปไม่ได้ ทําได้เพียงนําโลหิ ตหลิงฉีอนั ลํ้าค่าที่กระหม่อม
เก็บเอาไว้มาให้ โลหิ ตหลิงฉีมีคุณค่าสู งในการบํารุ งเลือดพะย่ะค่ะ
เหมาะที่สุดสําหรับอาการของน้องสี่ ในตอนนี้”
จักรพรรดิประหลาดใจอยูช่ วั่ ครู่ เขาวางแผนที่จะเอาเล่ยฟ่ านขึ้นเป็ น
องค์รัชทายาทแทนเล่ยเฉินมาตลอด ดังนั้นจึงมักจะมองเล่ยเฉินเป็ น
ศัตรู ของเล่ยฟ่ าน แต่เขาลืมไปว่าสองพี่นอ้ งนี้สนิทสนมกันมาตลอด
แม้วา่ เล่ยเฉินจะเป็ นองค์ชายที่เกิดจากจักรพรรดินี แต่จกั รพรรดินีก็
ไม่ได้แสดงความโปรดปรานเขาเลยสักนิด แต่กลับไปรักและห่วงใย
เล่ยฟ่ านมากกว่า ไม่วา่ อะไรที่เล่ยฟ่ านต้องการ เล่ยเฉินไม่เคยสู ้
น้องชายได้เลยสักครั้ง
เมื่อคิดเช่นนั้นจักรพรรดิกย็ อมรับได้อย่างรวดเร็ วว่าการรี บร้อนเข้า
วังหลวงเพื่อมอบยาของเล่ยเฉินนั้นเป็ นความจริ งใจไม่เสแสร้งและ
ไม่มีเจตนาร้ายซุกซ่อนอยู่ เขารู ้สึกสบายใจขึ้นมากเมื่อเห็นสาย
สัมพันธ์อนั แน่นแฟ้นของพีน่ อ้ ง
ภาพของพี่นอ้ งที่เป็ นมิตรและสนับสนุนกันและกันในใจของ
จักรพรรดิทาํ ให้ท่าทีของจักรพรรดิต่อเล่ยเฉิ นดีข้ ึนเล็กน้อย
“ข้าสบายใจขึ้นมากที่เจ้าเป็ นห่วงน้องของเจ้าขนาดนี้ น้องสี่ ของเจ้า
กําลังทรมาน โลหิ ตหลิงฉี น้ ีถา้ ข้าจําไม่ผดิ น่าจะเป็ นอันที่เจ้าไปเที่ยว
เสาะหามาอย่างยากลําบากเพื่อถวายแก่พระพันปี หลวงใช่ไหม?”
จักรพรรดิถามพร้อมกับยิม้ ให้อย่างใจดี
ตอนที่ 927 ยืมมือตบ-ครั้งที่ 1 (3)
เล่ยเฉินพยักหน้า “พระพันปี หลวงไม่อยากเห็นกระหม่อมสิ้ นเปลือง
เรี่ ยวแรงและเงินทองไปมากมายเช่นนั้น พระนางจึงไม่ยอมรับ
ของขวัญชิ้นนี้พะย่ะค่ะ”
จักรพรรดิพยักหน้าและพูดว่า “ไม่สาํ คัญหรอกว่ายานี้จะถูกทิ้งเอาไว้
ที่วงั ของเจ้ามาเนิ่นนาน ที่สาํ คัญคือเจ้าเอามันออกมาเพื่อช่วยลูกฟ่ าน
ในยามจําเป็ นเช่นนี้ เห็นพวกเจ้าพี่นอ้ งเป็ นเช่นนี้ ข้าก็ปลื้มใจนัก”
ภายนอกเล่ยเฉิ นดูเคารพนบนอบ แต่ในใจของเขากําลังหัวเราะอย่าง
เย็นชา แต่ความรู ้สึกที่แท้จริ งของเขาก็ไม่ได้แสดงออกทางสี หน้าเลย
สักนิด มีเพียงสี หน้าเป็ นกังวลอย่างมากเท่านั้น “กระหม่อมอยากรู ้วา่
ตอนนี้นอ้ งสี่ เป็ นยังไงบ้าง ให้กระหม่อมไปส่ งโลหิ ตหลิงฉี น้ ีดว้ ย
ตัวเองได้ไหมพะย่ะค่ะ กระหม่อมอยากให้นอ้ งสี่ หายเร็ ว ๆ”
จักรพรรดิพยักหน้าอย่างพอใจ ว่ากันตามจริ งการนัง่ รออยูเ่ ฉย ๆ ใน
ห้องทรงพระอักษรนาน ๆ ก็ทาํ ให้เขากระวนกระวายมากเหมือนกัน
“ในเมื่อเจ้าห่วงน้องขนาดนี้ ข้าก็จะไปด้วย จะได้ไปดูดว้ ยว่าแม่ของ
เจ้าหาวิธีรักษาอย่างอื่นได้หรื อยัง”
“วิธีรักษาอย่างอื่น?” เล่ยเฉิ นแกล้งมองจักรพรรดิอย่างงุนงง
จักรพรรดิจึงพูดว่า “ถูกต้อง การถอนพิษในร่ างของเล่ยฟ่ านจะต้อง
ใช้เลือดของพ่อแท้ ๆ ของเขา ลูกฟ่ านไม่มี่พี่นอ้ งร่ วมสายเลือดเลย
สักคน แถมยังเด็กเกินไปที่จะมีลูกหลาน ก็เหลือแต่เลือดของข้านี่
แหละที่ใช้ได้ แต่เด็กนัน่ พูดเหมือนแม่เจ้า ไม่ยอมให้ขา้ ทําร้ายตัวเอง
ข้าปวดใจจริ ง ๆ ที่ได้ยนิ อย่างนั้น” จักรพรรดิพดู เสี ยงสัน่ เครื อ
เล่ยเฉินยิม้ มุมปากอย่างเย็นชาแต่กร็ ี บซ่อนรอยยิม้ อย่างรวดเร็ ว
“น้องสี่ เป็ นเด็กที่กตัญญูและอ่อนไหวมาตั้งแต่เล็ก เขาย่อมไม่อยาก
ให้เสด็จพ่อทําร้ายตัวเองเพราะเขา”
พ่อลูกคุยกันไปพลางขณะที่เดินทางไปยังตําหนักของจักรพรรดินี
ตั้งแต่ที่เล่ยฟ่ านโดนยาพิษเวลาก็ผา่ นไปพอสมควรแล้ว อีกไม่นานก็
จะหมดเวลาที่จกั รพรรดิกาํ หนดไว้
อย่างไรก็ตาม เมื่อจักรพรรดิกบั เล่ยเฉินไปถึงตําหนักของจักรพรรดิ
นี พวกเขาก็พบหมอหลวงทั้งกลุ่มที่น่าจะอยูท่ าํ การรักษาเล่ยฟ่ านข้าง
ในกําลังนัง่ คุกเข่าอยูเ่ ป็ นแถวอย่างเป็ นระเบียบเรี ยบร้อยนอกประตู
ตําหนัก
ใบหน้าของจักรพรรดิถมึงทึงขึ้นทันที เขาตวาดว่า “ไอ้พวกปัญญา
อ่อน! มานัง่ คุกเข่าทําอะไรที่นี่? รี บไปรักษาองค์ชายสี่ เร็ ว ๆ เข้า!”
พวกหมอหลวงนัง่ คุกเข่าอยูต่ รงนั้นมาครึ่ งค่อนวันจนแข้งขาปวด
เมื่อยและอ่อนแรงกันแล้ว เมื่อพวกเขาเห็นจักรพรรดิมาถึงจึงแทบจะ
ล้มลงด้วยความตกใจ
“กราบทูลฝ่ าบาท! องค์จกั รพรรดินีพบวิธีแก้พษิ สายโลหิ ตแล้วพะย่ะ
ค่ะ ตอนนี้กาํ ลังทําการรักษาให้องค์ชายสี่ อยู่ ก็เลยให้พวกกระหม่อม
มาคุกเข่ารออยูข่ า้ งนอกนี่” หมอหลวงคนหนึ่งละลํ่าละลักตอบ
สี หน้าเกรี้ ยวกราดของจักรพรรดิเปลี่ยนเป็ นงุนงงทันที จากนั้น
ดวงตาก็เริ่ มเปล่งประกายยินดีออกมา
“ที่เจ้าพูดเป็ นความจริ งรึ เปล่า? จักรพรรดินีพบวิธีถอนพิษสายโลหิ ต
จริ ง ๆ เหรอ?”
“พวกกระหม่อมไม่กล้าหลอกลวงฝ่ าบาทพะย่ะค่ะ!” หมอหลวงทั้ง
กลุ่มประสานเสี ยงกัน
เล่ยเฉินมองสํารวจ ๆ รอบ ๆ ด้านในตําหนักจักรพรรดินีและเห็นว่า
ไม่มีขนั ทีหรื อนางกํานัลอยูเ่ ลยสักคน ประกายตาของเขารื่ นเริ ง
ขึ้นมาทันที เขารี บหันไปหาจักรพรรดิที่มีสีหน้าดีอกดีใจแล้วพูดว่า
“สวรรค์เมตตาน้องสี่ แล้ว สวรรค์คงเห็นใจในความรักของเสด็จพ่อ
ที่มีต่อน้องสี่ จึงทําให้เสด็จแม่คน้ พบวิธีรักษาเร็ วขนาดนี้”
จักรพรรดิเมื่อได้รู้วา่ ไม่ตอ้ งเฉือนแขนตัวเองเพื่อถ่ายเลือดแล้วลูก
ชายก็ยงั ปลอดภัย เขาจึงเบิกบานใจมากอย่างเห็นได้ชดั
“เร็ ว! ตามข้าไปดูลูกฟ่ านกันว่าดีข้ ึนรึ ยงั ” จักรพรรดิร้อนใจขึ้นมา
ทันที เล่ยเฉินจึงต้องรี บตามไป
จักรพรรดิตื่นเต้นมากที่จะได้พบลูกชายคนโปรดจนไม่ได้สงั เกตลูก
ชายอีกคนที่ตามหลังมาเลยว่ามีประกายเย็นเยียบวาบเข้ามาในดวงตา
ของเขา
จักรพรรดิพงุ่ ตัวไปโดยไม่อาจทนรอได้อีก เขามาถึงหน้าประตู
ห้องนอนของจักรพรรดินี ในขณะที่กาํ ลังยกมือขึ้นเพื่อจะผลักประตู
เข้าไป ก็มีเสี ยงของจักรพรรดินีดงั ออกมา
“ที่ลูกฟ่ านรอดตายวันนี้กเ็ พราะท่านมาทันเวลาพอดี! ไม่อย่างนั้นข้า
ก็คงไม่รู้จะทํายังไงดีแล้ว!”
ตอนที่ 928 ยืมมือตบ-ครั้งที่ 1 (4)
“ที่ลูกฟ่ านรอดตายวันนี้กเ็ พราะท่านมาทันเวลาพอดี! ไม่อย่างนั้นข้า
ก็คงไม่รู้จะทํายังไงดีแล้ว!”
เมื่อจักรพรรดิได้ยนิ เสี ยงของจักรพรรดินี เขาก็ยมิ้ ออกมา มิน่าล่ะ
จักรพรรดินีถึงได้พดู ว่านางรู ้วธิ ีรักษาแบบอื่น คนที่อยูใ่ นห้องของ
นางต้องเป็ นหมอเทวดาที่นางพามาแน่!
ขณะที่จกั รพรรดิกาํ ลังจะผลักประตูเข้าไปอีกครั้ง อีกเสี ยงหนึ่งก็ดงั
ขึ้นทําให้รอยยิม้ บนใบหน้าของจักรพรรดิแข็งค้าง
“ท่านส่ งข่าวด่วนไปเช่นนั้น กระหม่อมจะกล้าชักช้าได้อย่างไร?”
เสี ยงนั้นเป็ นเสี ยงของคนที่ช่วยงานจักรพรรดิมามากกว่า 10 ปี อัคร
มหาเสนาบดีแห่งราชสํานักคนปั จจุบนั !
ทําไมอัครมหาเสนาบดีถึงมาอยูใ่ นห้องนอนของจักรพรรดินีได้?
จักรพรรดิขมวดคิ้ว แต่เขาก็คิดว่าเขาอาจจะเข้าใจอะไรผิดไปก็ได้
“เป็ นเพราะข้ากวนท่านไม่หยุดงั้นเหรอ? หรื อเป็ นเพราะพ่ออยากรี บ
มาเจอหน้าลูกชายกันแน่?” เสี ยงของจักรพรรดินีดงั ขึ้น มีแวว
ล้อเลียนอยูใ่ นนํ้าเสี ยงของนาง
“คําพูดของเสี่ ยวฮุ่ยบาดใจข้านัก ลูกฟ่ านเป็ นลูกชายข้า ท่านกับข้าให้
กําเนิดเขาไม่ใช่หรื อ? ข้าเจ็บปวดที่เห็นสิ่ งที่เกิดกับลูกข้า หรื อท่าน
ไม่รู้สึกเจ็บกันล่ะ?”
จักรพรรดิโกรธจนหน้าเขียวทันที!
เสี่ ยวฮุ่ยเป็ นชื่อเดิมของจักรพรรดินีก่อนที่นางจะเข้ามาถวายตัวใน
วัง!
“พูดอะไรของท่าน! ข้ากลัวจนเกือบคิดอะไรไม่ออกอยูแ่ ล้ว ข้าไม่
เข้าใจเจ้านักฆ่านัน่ จริ ง ๆ เจ้านัน่ คิดว่าจะใช้ลูกฟ่ านทําร้ายองค์
จักรพรรดิได้ นี่ถา้ ไม่ใช่เพราะลูกฟ่ านไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ขององค์
จักรพรรดิและเลือดขององค์จกั รพรรดิไม่สามารถช่วยลูกฟ่ านได้ล่ะ
ก็ ข้าจะพยายามคัดค้านถึงขนาดนั้นไปทําไม?”
“เสี่ ยวฮุ่ยของข้าฉลาดและมีไหวพริ บดีจริ ง ๆ ที่ป้องกันไม่ให้ตวั ตน
ที่แท้จริ งของลูกเราถูกเปิ ดเผยออกมาได้ ข้าล่ะสงสารองค์จกั รพรรดิ
จริ ง ๆ โง่ถึงขนาดเข้าใจผิดว่าลูกเราเป็ นลูกตัวเองกับผูห้ ญิงคนนั้น
แล้วก็ทุ่มเทความรักให้ซะมากมาย ถ้าเขารู ้วา่ ลูกฟ่ านเป็ น
เลือดเนื้อเชื้อไขของท่านกับข้า ข้าอยากรู ้นกั ว่าเขาจะรู ้สึกยังไง”
“คิดอะไรบ้า ๆ แบบนั้น ถ้าเขารู ้เรื่ องนี้ข้ ึนมา เราสามคนจะมีโอกาส
รอดงั้นรึ ? นี่ขา้ ไม่มีทางเลือกอื่นถึงได้เรี ยกท่านมาที่นี่ ตอนนี้กถ็ อน
พิษในตัวเล่ยฟ่ านได้แล้ว ท่านก็ควรไปจากที่นี่โดยเร็ วก่อนที่เจ้าโง่
นัน่ จะพบว่าท่านเข้ามาในวัง เดี๋ยวจะเดือดร้อนโดยไม่จาํ เป็ น”
“เสี่ ยวฮุ่ยจะให้ขา้ ไปแบบนี้ได้จริ ง ๆ เหรอ? ข้าไม่มีโอกาสใกล้ชิดเจ้า
มานานแล้วนะ จักรพรรดิแก่นนั่ มีสาวงามตั้งมากมายในวังหลัง ข้า
คิดว่าเสี่ ยวฮุ่ยคงรู ้สึกเหงามากแน่ ๆ ที่ตอ้ งอยูค่ นเดียวในห้องมา
ตลอด”
“ท่านนี่เซี้ยวจริ ง!”
ไม่นานเสี ยงลมหายใจหนัก ๆ ก็ดงั ออกมาจากในห้อง เสี ยงร้อง
ครวญครางทําให้คนที่ได้ยนิ พากันหน้าแดงกํ่าไปถึงหู
เล่ยเฉินฟังเงียบ ๆ รอยยิม้ เย็นบนใบหน้าของเขากว้างขึ้นอีก เขา
เหลือบมองใบหน้าของจักรพรรดิที่ได้ยนิ ทุกอย่างอย่างชัดเจน
เหมือนที่เขาได้ยนิ
หน้าของจักรพรรดิเขียวจนม่วง เขากําหมัดแน่นจนเส้นเลือดเขียว ๆ
ปูดขึ้นมาจนเกือบระเบิด บ่งบอกเลยว่าตอนนี้เขากําลังโกรธจัดมาก
ขนาดไหน!
เมื่อคิดว่าผูท้ ี่เลือกมานัง่ ในตําแหน่งจักรพรรดินี คนที่เขาปฏิบตั ิอย่าง
ให้เกียรติมาตลอดหลายปี ได้ทาํ การคบชูก้ บั ขุนนางระดับสู งของราช
สํานัก และพวกเขาก็ยงั มีลูกด้วยกันอีก!
แถมเขายังรับเอาไอ้ลูกชูน้ นั่ มาเป็ นลูกตัวเอง รักใคร่ เลี้ยงดูอยูน่ าน
หลายปี !
เล่ยเฉิ นพยายามระงับเสี ยงหัวเราะเอาไว้อย่างยากลําบาก
เสด็จพ่อ วันนี้ท่านอารมณ์ดีนกั ใช่ไหม? ตอนนี้ยงั ดีใจที่นอ้ งสี่ หาย
เจ็บแล้วอยูร่ ึ เปล่า?
ทันใดนั้น จักรพรรดิกเ็ ตะประตูเปิ ดออกอย่างโกรธจัดจนมัน
กระแทกเสี ยงดัง!
ประตูที่ปิดสนิทเปิ ดออกกว้าง!
ภายในห้องนอน คนสองคนกําลังเปลือยกายกอดกันแน่น จู่ ๆ ก็ถูก
เปิ ดเผยต่อหน้าทุกคนพร้อมแสงอาทิตย์ที่สาดส่ องลงบนร่ างของ
พวกเขา!
เมื่อประตูหอ้ งเปิ ดออก จักรพรรดินีกส็ ่ งเสี ยงกรี ดร้องออกมาอย่าง
ตื่นตระหนก เมื่อนางได้สติและเห็นชัดเจนว่าใครบุกรุ กเข้ามา นางก็
ตัวแข็งเป็ นหิ นทันที รู ้สึกเหมือนว่าเลือดทั้งหมดในร่ างพลันแข็ง
ตัวอย่างกะทันหัน!
“แพศยา! นังผูห้ ญิงสําส่ อนหน้าไม่อาย!” จักรพรรดิโกรธจนตัวสัน่
เขาชี้นิ้วไปที่จกั รพรรดินีกบั อัครมหาเสนาบดีที่กาํ ลังกอดกันอยู่
ตอนที่ 929 ยืมมือตบ-ครั้งที่ 1 (5)
เมื่อเห็นภาพคนทั้งสองนัวเนียกัน ในอกเขาก็แทบจะระเบิด เขา
โกรธจัดจนพูดไม่ออก
“ฝ่ าบาทเพคะ……ฝ่ าบาท……”
จักรพรรดินีกบั อัครมหาเสนาบดีพลันได้สติกลับมา คลื่นความกลัวที่
ไม่อาจอธิบายได้ท่วมท้นหัวใจ พวกเขาแยกออกจากกันทันที ไม่
สนใจเสื้ อผ้าที่หลุดรุ่ ยไม่เรี ยบร้อยเลยสักนิด ทั้งสองทรุ ดตัวลงคุกเข่า
ตรงหน้าจักรพรรดิ ตัวสัน่ ระริ กด้วยความหวาดกลัว
“ฝ่ าบาท……ฝ่ าบาทเพคะ……หม่อมฉัน……หม่อมฉันไม่รู้
เรื่ อง……” ใบหน้าของจักรพรรดินีที่เมื่อครู่ แดงกํ่าด้วยความพอใจ
บัดนี้กลับซีดขาวดูหวาดกลัวยิง่ นัก
ส่ วนอัครมหาเสนาบดีที่คุกเข่าอยูข่ า้ ง ๆ ก็กม้ หัวติดกับพื้น ตัวสัน่
ระริ กด้วยความกลัวและไม่กล้าขยับเขยื้อนเลยแม้แต่นอ้ ย
พวกเขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าจักรพรรดิจะโผล่มาอย่างกะทันหันแบบนี้
แถมยังบังเอิญเข้ามาเห็นภาพพวกเขาสองคนกําลังลักลอบเล่นชูก้ นั
อยูพ่ อดี
“ชัว่ ช้าสารเลว! พวกเจ้าสองคนมันไร้ศีลธรรม! ข้าจะฆ่าเจ้าทั้งคู่! ฆ่า
เจ้า!” จักรพรรดิโกรธจนหน้าเขียวหน้าเหลือง ดวงตาแดงกํ่า
“ฝ่ าบาท ไว้ชีวติ ด้วย! ไว้ชีวติ กระหม่อมด้วยฝ่ าบาท!” อัครมหา
เสนาบดีร้องเสี ยงดังพร้อมกับสัน่ ไปทั้งตัว
จักรพรรดินีร้องไห้สะอึกสะอื้น นางแน่ใจว่าได้สงั่ ให้นางกํานัลที่
นางไว้ใจที่สุดคอยยืนเฝ้าอยูข่ า้ งนอกห้องแล้ว และสัง่ ให้แจ้งนาง
ทันทีหากมีเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนที่จกั รพรรดิมาถึง นางไม่ได้ยนิ เสี ยง
ของนางกํานัลพวกนั้นเลยสักนิด!
สิ่ งที่จกั รพรรดินีไม่รู้กค็ ือ นางกํานัลพวกนั้นได้ถูกทําให้สลบและถูก
มัดไว้ที่สวนด้านหลังแล้ว พวกนางไม่สามารถเตือนจักรพรรดินีให้
รู ้ตวั ก่อนได้วา่ จักรพรรดิมาถึงแล้ว
เล่ยเฉินมองจักรพรรดิโกรธจนแทบกระอักเลือด เขารู ้วา่ โชว์น้ ีเพิ่ง
เริ่ มเท่านั้น จักรพรรดินีกบั อัครมหาเสนาบดีจบสิ้ นแล้วคราวนี้ ถูก
จับได้คาหนังคาเขาด้วยตัวจักรพรรดิเองแบบนี้ ไม่มีทางที่ท้ งั สองคน
จะรอดได้เลย
“เสด็จพ่อ! เสด็จพ่อสงบใจลงหน่อยพะย่ะค่ะ!” เล่ยเฉินแสร้งทําเป็ น
ห่วงใย พยายามให้จกั รพรรดิคลายความโกรธลง
แต่จกั รพรรดิกลับสะบัดเขาออกอย่างเดือดดาล!
เล่ยเฉินทรุ ดตัวลงคุกเข่าตรงหน้าจักรพรรดิพร้อมกับอ้อนวอนอย่าง
น่าสงสารว่า “เสด็จพ่อ แม้วา่ เสด็จแม่จะกระทําความผิด แต่นอ้ งสี่
เพิ่งจะ……”
เสี ยงเพี๊ยะดังขึ้นอีกครั้ง!
จักรพรรดิตบเข้าที่หน้าของเล่ยเฉินอย่างจังด้วยความโกรธจนไม่อาจ
ระงับได้
“อย่าพูดถึงเจ้าเด็กบัดซบนัน่ ต่อหน้าข้า!”
เล่ยฟ่ านที่พิษถูกขจัดออกจากร่ างกายแล้วเริ่ มฟื้ นขึ้นมา เขาสะดุง้ ตื่น
เพราะเสี ยงสบถด่าดังลัน่ ของจักรพรรดิ เล่ยฟ่ านลุกขึ้นมาอย่างมึนงง
และสับสน เมื่อเขาเห็นจักรพรรดินีและอัครมหาเสนาบดีกาํ ลังคุกเข่า
อยูท่ ี่พ้นื ก็เข้าใจทันทีวา่ เกิดอะไรขึ้น!
“สะ……เสด็จพ่อ……” เล่ยฟ่ านตัวสัน่ ราวกับใบไม้ไหว เขาหันไป
มองจักรพรรดิที่กาํ ลังเดือดดาล พร้อมกับรู ้สึกเวียนหัวขึ้นมาอย่าง
กะทันหัน
“ไอ้ลูกชู!้ ใครอนุญาตให้เจ้าเรี ยกข้าว่าพ่อ!?” จักรพรรดิรู้สึกชํ้าใจ
และเกลียดชังยิง่ นักเมื่อมองดูเล่ยฟ่ านและย้อนคิดไปถึงความรัก
ความสนใจที่เขาทุ่มเทให้ลูกชายคนนี้มาตลอดหลายปี แต่กลายเป็ น
ว่าเจ้าเด็กนี่เป็ นลูกของคนอื่น ทําให้ตอนนี้เขารู ้สึกขยะแขยงมาก!
เล่ยฟ่ านตกใจมาก เขาทรุ ดลงจนเข่ากระแทกพื้น ในใจเต็มไปด้วย
ความกลัว เขาไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นสภาพเปลือยเปล่าของ
จักรพรรดินีกบั อัครมหาเสนาบดีที่กาํ ลังคุกเข่าอยูบ่ นพื้น รวมกับสี
หน้าโกรธเกรี้ ยวเดือดดาลขององค์จกั รพรรดิ เขาก็เดาได้วา่
จักรพรรดินีกบั อัครมหาเสนาบดีตอ้ งกําลังลักลอบเล่นชูก้ นั ตอนที่
เขาหมดสติอยูแ่ น่ และจักรพรรดิกม็ าพบเข้าพอดี!
ตอนนั้นเอง เล่ยฟ่ านรู ้สึกเหมือนตกลงไปในบ่อนํ้าแข็ง เขา
หวาดกลัวสุ ดขีดจนเกร็ งไปทั้งตัวเมื่อคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“เสด็จพ่อ! เกิดอะไรขึ้นพะย่ะค่ะ? เสด็จพ่อไม่ตอ้ งการลูกแล้วหรื อ?”
เล่ยฟ่ านเงยหน้าขึ้นพูดพลางสะอึกสะอื้น
“ลูกชูอ้ ย่างเจ้าอย่ามาเรี ยกข้าว่าพ่อ!” จักรพรรดิตะคอก “เจ้ามันก็แค่
ลูกชูท้ ี่เกิดจากจักรพรรดินีกบั ไอ้ชายชูน้ นั่ ”
เล่ยฟ่ านสะดุง้ แต่เขาฝื นทําใจให้สงบลงพร้อมกับทําสี หน้าน่าสงสาร
และพูดว่า “เสด็จพ่อ ข้าจะไม่ใช่ลูกของเสด็จพ่อได้ยงั ไง? เสด็จพ่อ
จําใบหน้านี้ไม่ได้เหรอ? เสด็จพ่อ! ท่านลืมหน้าของท่านแม่แล้วจริ ง ๆ
หรื อพะย่ะค่ะ!?”
ตอนที่ 930 ยืมมือตบ-ครั้งที่ 1 (6)
เล่ยฟ่ านสะดุง้ แต่เขาฝื นทําใจให้สงบลงพร้อมกับทําสี หน้าน่าสงสาร
และพูดว่า “เสด็จพ่อ ข้าจะไม่ใช่ลูกของเสด็จพ่อได้ยงั ไง? เสด็จพ่อ
จําใบหน้านี้ไม่ได้เหรอ? เสด็จพ่อ! ท่านลืมหน้าของท่านแม่แล้วจริ ง ๆ
หรื อพะย่ะค่ะ!?”
[เขายังมีหนทางให้ดิ้นรนครั้งสุ ดท้ายอยู!่ ]
[เขายังมีโอกาสพลิกเรื่ องนี้ได้!]
[หน้าของเขาอาจจะช่วยชีวติ เขาได้!]
เมื่อจักรพรรดิเห็นใบหน้าที่ดูเหมือนผูห้ ญิงที่เขารักมากที่สุดของเล่ย
ฟ่ าน เขาก็ลงั เลอยูค่ รู่ หนึ่ง เป็ นความจริ งที่หน้าของเล่ยฟ่ านเหมือน
ผูห้ ญิงที่เขารักมาก และดูไม่เหมือนหน้าของจักรพรรดินีและอัคร
มหาเสนาบดีเลยแม้แต่นอ้ ย
จักรพรรดินีรู้วา่ ตัวเองไม่มีทางรอดแล้ว แต่คาํ พูดของเล่ยฟ่ านทําให้
นางมีหวังขึ้นมาเล็กน้อย นางไม่สามารถช่วยให้ตวั เองรอดได้แล้ว
แต่ลูกชายของนางอาจจะยังมีโอกาสรอดไปได้!
“ฝ่ าบาท! ฝ่ าบาทเพคะ! หม่อมฉันโง่เขลาทําเรื่ องน่ารังเกียจก็จริ ง แต่
ลูกฟ่ าน……ลูกฟ่ านเป็ นลูกของฝ่ าบาทกับสนมเฉินจริ ง ๆ นะเพคะ!
ไม่วา่ ฝ่ าบาทจะเกลียดชังหม่อมฉันมากแค่ไหนก็ตาม แต่ฝ่าบาทจํา
หน้าของพระสนมเฉิ นไม่ได้แล้วหรื อเพคะ? ลูกฟ่ านดูเหมือนหม่อม
ฉันตรงไหนกัน?” จักรพรรดินีพดู พลางร้องไห้ครํ่าครวญ
จักรพรรดิขมวดคิ้วจนแทบเป็ นปม เขาจ้องหน้าเล่ยฟ่ านเขม็ง
“แล้วที่เจ้าพูดกับอัครมหาเสนาบดีเมื่อกี้ล่ะ ข้าได้ยนิ ชัดเจนเลยนะ”
จักรพรรดิมองจักรพรรดินีอย่างเย็นชา
จักรพรรดินีชะงักไป แต่นางก็ไม่ยอมแพ้ นางรี บทําการคารวะพร้อม
กับเอาหัวโขกพื้นอย่างแรงและพูดว่า “เป็ นความละโมบของหม่อม
ฉันเองเพคะ! หม่อมฉันอยากให้ท่านอัครมหาเสนาบดีช่วยลูกฟ่ าน
ให้ข้ ึนครองบัลลังก์เลยพยายามตบตาเขา ลูกฟ่ านไม่ใช่ลูกของเขา
หรื อหม่อมฉันหรอกเพคะ เขาเป็ นลูกของฝ่ าบาทที่พระสนมเฉินให้
กําเนิดมา! ถ้าฝ่ าบาทไม่เชื่อ ก็ดูหน้าของเล่ยฟ่ านให้ดี ๆ ซิเพคะ!”
นางรู ้วา่ นางกับอัครมหาเสนาบดีจะต้องตายอย่างแน่นอน แต่ถา้
สามารถเกลี้ยกล่อมจักรพรรดิให้เชื่อได้วา่ คําพูดพวกนั้นเป็ นแค่การ
หลอกอัครมหาเสนาบดี เล่ยฟ่ านก็อาจจะมีโอกาสรอด
อย่างที่คาด จักรพรรดิมีสีหน้าลังเล เขามองหน้าที่ดูเหมือนผูห้ ญิงที่
เขารักมากที่สุด แล้วก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเล่ยฟ่ านไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของ
เขาด้วย ยังไงซะเขาก็รักเด็กคนนี้มานานหลายปี !
“เสด็จพ่อ! เสด็จพ่อ! ลูกเป็ นลูกของเสด็จพ่อจริ ง ๆ ดูหน้าลูกซิ!”
จักรพรรดิสูดลมหายใจเข้าลึก “ในเมื่อเจ้าไม่ใช่ลูกของอัครมหา
เสนาบดี งั้นบอกข้าซิวา่ อัครมหาเสนาบดีช่วยชีวติ เจ้าได้ยงั ไง?”
เล่ยฟ่ านอับจนคําพูด พิษสายโลหิ ตกลายเป็ นจุดบกพร่ องอันใหญ่ใน
แผนของเขา
จักรพรรดินีเห็นเรื่ องแย่ลง จึงรี บพูดขึ้นว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดี
ไม่ได้ให้เลือดลูกฟ่ านเลยเพคะ หม่อมฉันใช้วธิ ีอื่นถอนพิษจากร่ าง
ของลูกฟ่ าน หม่อมฉันให้อคั รมหาเสนาบดีมาที่นี่เพราะอยากจะใช้
โอกาสนี้ทาํ ให้เขาเชื่อว่าลูกฟ่ านเป็ นลูกของเขาจริ ง ๆ เพื่อเกลี้ย
กล่อมให้เขาช่วยลูกฟ่ านมากกว่านี้”
จักรพรรดิขมวดคิ้วมากขึ้น เขามองหน้าที่เต็มไปด้วยนํ้าตาของเล่ย
ฟ่ าน ความเกลียดชังในใจเขาค่อย ๆ ลดลง!
“ทหาร! เอาสองคนนี้ไปขัง! ข้าจะค่อย ๆ สอบสวนพวกมันเอง!”
ทหารที่อยูด่ า้ นนอกเข้ามาจับจักรพรรดินีกบั อัครมหาเสนาบดีทนั ที
ตามคําสัง่ ขององค์จกั รพรรดิ แต่พวกเขาไม่ได้พาเล่ยฟ่ านไปด้วย
เห็นได้ชดั ว่าเขาเชื่อตามคําพูดของจักรพรรดินี
เล่ยเฉินเฝ้าสังเกตทุกสิ่ งที่เกิดขึ้นและลอบสํารวจสี หน้าของเล่ยฟ่ าน
ที่แสดงความโล่งอกออกมา จากนั้นเล่ยเฉิ นก็หวั เราะอย่างเย็นชาอยู่
ในใจ
อย่างที่คิดไว้ จักรพรรดิไม่ได้อยากจะผละจากใบหน้านั้นของเล่ย
ฟ่ าน เล่ยฟ่ านรอดจากหายนะไปได้เพราะใบหน้านั้นล้วน ๆ แต่ทว่า
นัน่ ไม่ใช่แผนทั้งหมดของจวินอู๋เสี ย มันยังมีมากกว่านี้อีก เล่ยเฉิ น
บอกตัวเองให้อดทนรอเวลาที่โฉมหน้าของเล่ยฟ่ านถูกกระชากออก
เขาอยากเห็นเหลือเกินว่าเล่ยฟ่ านจะยังผ่อนคลายแบบนี้ได้อีกรึ เปล่า!
ตอนที่ 931 ยืมมือตบ-ครั้งที่ 2 (1)
จักรพรรดิเดินออกไปอย่างฉุนเฉียว เขาไม่พดู อะไรมากนอกจากสัง่
ให้คนเช็ดตัวให้เล่ยฟ่ าน และสัง่ ให้เล่ยฟ่ านกับเล่ยเฉินไปที่ทอ้ งพระ
โรงที่เขาจะทําการสอบสวน
เล่ยฟ่ านเพิ่งเสี ยเลือดไปมาก รวมกับความตกใจที่ได้รับ ทําให้ขาของ
เขาไม่มีแรง จําเป็ นต้องใช้พวกขันทีช่วยจึงลุกขึ้นยืนได้
เย่ฉาเฝ้าสังเกตการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องนอนของจักรพรรดินี
จากที่ซ่อน จากนั้นก็รีบไปหาจวินอู๋เสี ย เล่าทุกอย่างที่เขาเห็นให้นาง
ฟัง
“จักรพรรดิแค่สงั่ ให้จบั กุมจักรพรรดินีกบั อัครมหาเสนาบดีเอาไว้
ไม่ได้สงั่ ให้ทาํ อะไรเล่ยฟ่ าน” เย่ฉาพูดขณะที่คุกเข่าตรงหน้าจวินอู๋
เสี ย
“อย่างที่คิดไว้” จวินอู๋เสี ยไม่ได้แสดงความแปลกใจแม้แต่นอ้ ย นาง
นัง่ ลูบขนเจ้าแมวดําอย่างใจเย็นอยูบ่ นเก้าอี้
“คุณหนูคิดว่าจะเป็ นแบบนี้อยูแ่ ล้วหรื อขอรับ?” เย่ฉากลับเป็ นฝ่ าย
ประหลาดใจแทน
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “ทําไมจะไม่รู้ล่ะ? ยังไงซะเล่ยฟ่ านก็เป็ นลูกชายคน
โปรดที่เขารักใคร่ เอ็นดูมานานหลายปี ตราบใดที่ยงั มีความเป็ นไป
ได้เหลืออยูแ่ ม้จะน้อยนิด จักรพรรดิกไ็ ม่อยากเห็นเล่ยฟ่ านเป็ นลูก
ของจักรพรรดินีกบั อัครมหาเสนาบดีจริ ง ๆ หรอก จักรพรรดินีเป็ น
ผูห้ ญิงฉลาด นางรู ้วา่ นางไม่รอดแน่คราวนี้ ดังนั้นนางจึงฝาก
ความหวังทั้งหมดเอาไว้ที่ใบหน้าที่เล่ยฟ่ านสวมอยู่ หวังว่าจักรพรรดิ
จะใจอ่อนลงเมื่อเห็นใบหน้านั้น”
“คุณหนูจะให้ขา้ เผยโฉมหน้าของเล่ยฟ่ านไหมขอรับ?” เย่ฉาถาม
จวินอู๋เสี ยสัน่ หัว นางมองออกนอกหน้าต่างและพูดช้า ๆ ว่า “เจ้ารู ้จกั
องค์ชายสามแห่งแคว้นหยานไหม?”
เย่ฉาสะดุง้ กับคําถามนั้น
องค์ชายสามแห่งแคว้นหยานฉลาดมากตอนเด็ก ๆ แต่เพราะ
ตําแหน่งในวังของแม่ของเขาสัน่ คลอน องค์ชายสามจึงไม่ใช่คน
โปรด แต่เนื่องจากความฉลาดที่เขาแสดงออกมาตอนเด็ก ๆ เขาจึง
ได้รับความโปรดปรานจากจักรพรรดิอยูช่ ่วงหนึ่ง น่าสงสารที่ตอน
เขา 7 ขวบ แม่ของเขาก็เสี ยชีวติ อย่างกะทันหัน และองค์ชายสามตัว
น้อยก็สูญเสี ยการปกป้องจากแม่ ช่วงเวลาในวังของเขาหลังจากนั้น
จึงยากลําบากและยากที่เขาจะก้าวหน้าไปได้ ทําให้เขาค่อย ๆ สู ญเสี ย
กําลังใจไปเรื่ อย ๆ ในที่สุดก็กลายเป็ นองค์ชายที่อ่อนแอและขี้ขลาด
ตาขาวที่ไม่กา้ วออกจากห้องเลย
“รู ้จกั ขอรับ”
จวินอู๋เสี ยลูบขนอันเรี ยบลื่นของเจ้าแมวดําอย่างเบามือ
“ปี ที่แม่ขององค์ชายสามตายเป็ นปี เดียวกับที่เล่ยฟ่ านเกิด ตอนที่แม่
ขององค์ชายสามตาย เล่ยฟ่ านตัวจริ งเพิ่งถูกส่ งไปที่ตาํ หนักของ
จักรพรรดินี และหลังจากนั้นไม่นาน แม่ของเล่ยฟ่ านตัวจริ งก็ตาย
ขณะที่เล่ยฟ่ านตัวจริ งก็ถูกเปลี่ยนตัวกับลูกของจักรพรรดินีกบั อัคร
มหาเสนาบดี เจ้ายังมองไม่เห็นความเชื่อมโยงของเรื่ องทั้งหมดนี้
เหรอ?”
เย่ฉาฉุกคิดขึ้นมาได้ทนั ทีจากสิ่ งที่จวินอู๋เสี ยบอกใบ้ “อย่าบอกนะ
ขอรับว่าแม่ขององค์ชายสามไปเจอเข้าว่าจักรพรรดินีทาํ อะไร นางจึง
ถูกจักรพรรดินีฆ่าปิ ดปาก”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าน้อย ๆ “เฟยหยานไปสื บเรื่ องขององค์ชายสาม
แล้ว ถึงเขาจะขี้ขลาดตาขาวต่อหน้าผูค้ น แต่เขาเป็ นคนที่ฉลาดจริ ง ๆ
ข้าคิดว่าเขาเองก็ตอ้ งเห็นอะไรด้วยเช่นกัน หรื อไม่กค็ น้ พบเรื่ อง
สําคัญบางอย่าง จักรพรรดินีมีอาํ นาจปกครองวังหลัง เขาจึงไม่
สามารถทําอะไรได้ ตอนนี้จกั รพรรดินีหมดอํานาจแล้ว เขาย่อมไม่
พลาดโอกาสหายากแบบนี้มาแก้แค้นให้แม่ของเขาแน่”
หลังจากพูดเช่นนั้น จวินอู๋เสี ยก็วางเจ้าแมวดําลงบนโต๊ะและยกถ้วย
ชาขึ้นจิบ
“ก่อนเล่ยเฉินมาที่นี่ เขาแอบไปพบองค์ชายสามมาแล้ว ตอนนี้องค์
ชายสามน่าจะเข้ามาในวังหลวงแล้ว”
[การกําจัดศัตรู และส่ งพวกมันลงนรกไม่จาํ เป็ นต้องให้นางลงมือเอง
ทุกอย่างเสมอไป]
[บางครั้งถ้าเดินหมากดี ๆ มันก็ได้ผลออกมาอย่างที่ตอ้ งการได้
เหมือนกัน]
“เอาเถอะ โชว์ดี ๆ แบบนี้จะพลาดได้ยงั ไงกันล่ะ? เย่ฉา” อยู่ ๆ จวินอู๋
เสี ยก็ลุกขึ้น
“ขอรับ คุณหนู”
“ไปกับข้า ดูเรื่ องสนุก ๆ กัน ข้ามีของขวัญชิ้นใหญ่ที่อยากให้กบั องค์
จักรพรรดิแห่งแคว้นหยาน” จวินอู๋เสี ยหรี่ ตาขณะที่พดู
ตอนที่ 932 ยืมมือตบ-ครั้งที่ 2 (2)
[เมื่อศัตรู สิ้นหวังอย่างที่สุด เมื่อศัตรู พา่ ยแพ้หมดรู ป ก็ให้พวกมันได้
รู ้วา่ พวกมันพ่ายแพ้ให้แก่ใคร การดื่มดํ่ากับสี หน้าสิ้ นหวังอย่างที่สุด
ของพวกมันเป็ นความสําราญใจมากทีเดียว]
จวินอู๋เสี ยเปลี่ยนเอาเสื้ อผ้าของฉูหลิงเย่ออกและใส่ เครื่ องแบบของ
สํานักศึกษาวายุประจิม นางเช็ดเอาใบหน้าปลอมออกและปลอม
ใบหน้าเป็ นจวินเสี ย
เย่ฉาพาจวินอู๋เสี ยออกไปจากห้อง
โชว์กาํ ลังถึงตอนจบแล้ว นางย่อมอยากลิ้มรสผลไม้ที่นางลงแรงไป!
จักรพรรดิกาํ ลังนัง่ อยูใ่ นท้องพระโรง เขามองจักรพรรดินีกบั อัคร
มหาเสนาบดีที่ถูกทหารพาตัวมาและกําลังคุกเข่าอยูท่ ี่พ้นื
สองคนนี้ คนหนึ่งเป็ นคนที่นอนร่ วมเตียงกับเขามานานหลายปี ส่ วน
อีกคนเป็ นขุนนางที่เขาไว้ใจมากที่สุด แต่สองคนนี้กลับทรยศเขาอยู่
หลายปี และจากที่เขาได้ยนิ และได้เห็นด้วยตาตัวเองเมื่อครู่ นี่ไม่ใช่
ครั้งแรกที่พวกเขาลักลอบเล่นชูก้ นั !
พอเขาคิดย้อนกลับไปว่าจักรพรรดินีที่อ่อนโยนและว่าง่ายอยูเ่ สมอ
ลักลอบมีชูก้ บั ชายอื่นจริ ง ๆ จักรพรรดิกร็ ู ้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันที!
“กราบทูลฝ่ าบาท! กระหม่อมค้นทัว่ ตําหนักขององค์จกั รพรรดินีตาม
รับสัง่ ของฝ่ าบาทแล้วพะย่ะค่ะ พบว่าพวกขันทีกบั นางกํานัลทุกคน
ในตําหนักถูกทําให้หมดสติและมัดเอาไว้ที่สวนด้านหลังพะย่ะค่ะ”
หยวนเปี ยวเดินเข้ามาในท้องพระโรงและคุกเข่าลงกราบทูล เขา
กําลังค้นหาร่ องรอยของจวินเสี ยแต่ถูกจักรพรรดิเรี ยกตัวกลับมาด่วน
และค้นพบว่ามีผรู ้ ้ายบุกเข้ามาในวังหลวง!
เมื่อจักรพรรดินีได้ยนิ เช่นนั้น ในใจของนางก็หนาวเหน็บ นี่
หมายความว่ามีคนจัดฉากเรื่ องทั้งหมดนี้ข้ ึน คน ๆ นั้นรู ้วา่ นาง
ลักลอบเป็ นชูก้ บั อัครมหาเสนาบดีและสามารถคาดคะเนได้วา่
จักรพรรดิจะมาที่หอ้ งของนาง จึงจัดฉากเรื่ องทั้งหมดนี้ข้ ึนมาได้
อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
[คนผูน้ ้ ีเป็ นใคร? เขารู ้ความลับที่ถูกเก็บเอาไว้อย่างดีได้ยงั ไง?]
จักรพรรดินีนึกขึ้นได้วา่ เล่ยฟ่ านบอกนางว่านักฆ่าชุดดําคนนั้น
อาจจะรู ้ความจริ งเรื่ องชาติกาํ เนิดของเขา นางคิดว่าเล่ยฟ่ านแค่
ระแวงมากไป แต่จากที่เป็ นอยูต่ อนนี้ ทุกอย่างน่าจะเป็ นแผนของ
คน ๆ นั้น ผลักพวกเขาลงสู่ เหวลึกไร้กน้ นี้อย่างช้า ๆ !
สิ่ งที่ทาํ ให้จกั รพรรดินีหวาดกลัวมากขึ้นก็คือขนาดนางตกอยูใ่ น
สภาพที่น่าสมเพชเช่นนี้แล้ว นางก็ยงั ไม่รู้วา่ ใครเป็ นคนทําเรื่ องพวก
นี้!
“ขังพวกมันไว้แล้วส่ งคนไปสอบสวนให้ละเอียด!” จักรพรรดิสงั่
“พะย่ะค่ะ!” หยวนเปี ยวตอบ
ในตอนนั้นเอง เล่ยฟ่ านเดินช้า ๆ เข้าไปในท้องพระโรงด้วยการ
ช่วยเหลือของพวกขันที เล่ยเฉิ นเดินอยูข่ า้ ง ๆ เป็ นเพื่อน
เล่ยฟ่ านยังไม่หาย หน้าของเขาซีดขาวราวกระดาษ เมื่อเห็น
จักรพรรดินีกบั อัครมหาเสนาบดีคุกเข่าอยูท่ ี่พ้นื สายตาของเขาก็มี
แววตกใจกลัว แต่ไม่กล้าแสดงอาการตกใจออกมาให้เห็น
“น้องสี่ ระวังนะ” เล่ยเฉินเห็นเล่ยฟ่ านโอนเอนเล็กน้อย เขาแกล้งทํา
เป็ นเตือนด้วยความห่วงใย
เล่ยฟ่ านมองเล่ยเฉินเป็ นหอกข้างแคร่ มานาน แต่ตอนนี้เขาถูก
จักรพรรดิสงสัย จึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องพึ่งพาความช่วยเหลือ
ของเล่ยเฉิน เขายิม้ อย่างอ่อนแรงและพูดว่า “เสด็จพี่ ท่านต้องช่วยข้า
นะ”
เล่ยเฉินพยักหน้าและตอบว่า “น้องสี่ วางใจเถอะ เจ้าเป็ นน้องข้า ข้า
ไม่ปล่อยให้ใครมาข่มเหงเจ้าได้หรอก”
เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น เล่ยฟ่ านก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
จักรพรรดิเห็นเล่ยฟ่ านกับเล่ยเฉินเข้ามาในท้องพระโรง ความโกรธ
ยังคุกรุ่ นอยูใ่ นใจเขา เขาพิจารณาใบหน้าของเล่ยฟ่ านอย่างละเอียด
ซํ้าแล้วซํ้าเล่าราวกับพยายามจะให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ตดั สิ นใจ
ผิดพลาด
“เรื่ องที่เกิดขึ้นวันนี้ พวกเจ้าสองคนมีอะไรจะพูดไหม?” จักรพรรดิ
เบนสายตากลับไปข้างหน้า เขาจ้องจักรพรรดินีกบั อัครมหาเสนาบดี
ที่คุกเข่าอยูต่ รงหน้าเขาอย่างโกรธแค้น
“หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ!”
“กระหม่อมผิดไปแล้วพะย่ะค่ะ!”
จักรพรรดินีกบั อัครมหาเสนาบดีกม้ หัวลงเอาหน้าผากแตะพื้น
ยอมรับความผิดทันที พวกเขาถูกจักรพรรดิจบั ได้วา่ ลักลอบคบชู ้ จะ
ปฏิเสธแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ พวกเขาทั้งสองคิดเหมือนกันและรู ้
ว่าตัวเองนั้นไม่มีทางรอดแล้ว อย่างน้อยพวกเขาก็อยากปกป้องเล่ย
ฟ่ าน!
จักรพรรดิส่งเสี ยงหึ ออกมาอย่างเย้ยหยัน เขากําลังจะออกพระราช
โองการให้ประหารชีวติ จักรพรรดินีกบั อัครมหาเสนาบดี แต่ทนั ใด
นั้นก็ได้ยนิ เสี ยงขันทีประกาศการมาของคนผูห้ นึ่ง!
ตอนที่ 933 ยืมมือตบ-ครั้งที่ 2 (3)
“กราบทูลฝ่ าบาท! องค์ชายสามขอเข้าเฝ้าที่ทอ้ งพระโรงพะย่ะค่ะ!
ตรัสว่ามีเรื่ องสําคัญจะกราบทูลฝ่ าบาท!”
จักรพรรดิขมวดคิว้ แล้วพูดว่า “เวลาแบบนี้เนี่ยนะ มาทําไม? ให้เขา
เข้ามา”
ไม่นานองค์ชายสาม เล่ยสื อ ก็เดินเข้ามาในท้องพระโรง เล่ยสื ออายุ
มากกว่าเล่ยฟ่ าน 7 ปี แต่เนื่องจากเขามักจะเอาแต่อยูใ่ นตําหนักและ
ไม่เคยก้าวออกมาข้างนอกเลย จึงตัวไม่สูงไปกว่าเล่ยฟ่ านมากนัก ผิว
ของเขาเรี ยบเนียนกว่าคนส่ วนใหญ่และดูซีดเซียว
หน้าตาของเล่ยสื อไม่ได้แย่มากมายอะไรนัก แต่เมื่อเทียบกับเล่ยเฉิน
และเล่ยฟ่ าน เขาก็ดูดอ้ ยกว่า รวมกับนิสยั ขี้ขลาดของเขาทําให้เขา
เป็ นองค์ชายที่ถูกมองข้ามได้ง่ายที่สุดในหมู่องค์ชายทั้งสี่ ของ
แคว้นหยาน
แม้แต่จกั รพรรดิเองก็ไม่รู้สึกว่าเขารู ้จกั ลูกชายคนนี้ดีเลยสักนิด
แต่เล่ยสื อในวันนี้แตกต่างจากเมื่อก่อน แววตาขี้ขลาดตามปกติของ
เขาหายไป แต่กลับเป็ นความมุ่งมัน่ เด็ดเดี่ยวเข้ามาแทน
เมื่อเขาเดินเข้ามาในท้องพระโรง เขาก็คุกเข่าลงตรงหน้าจักรพรรดิ
ทันที
“คารวะเสด็จพ่อ! ขอให้ทรงพระเจริ ญหมื่นปี !”
“ลุกขึ้น เจ้ามาที่นี่ทาํ ไม?” จักรพรรดิถามพร้อมกับนวดขมับ
เล่ยสื อลุกขึ้นยืนและหันไปมองจักรพรรดินีที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้น แวว
ตาส่ องประกายเกลียดชังอย่างรุ นแรง
“กราบทูลเสด็จพ่อ! ลูกมาที่นี่วนั นี้กเ็ พื่อเรี ยกร้องให้คนผิดต้องชดใช้
พะย่ะค่ะ!”
“ชดใช้? ให้ใคร?” จักรพรรดิถาม
“ให้ท่านแม่ของลูกพะย่ะค่ะ! ให้นอ้ งชายคนเล็กของลูกที่ถูกฆ่าอย่าง
โหดเหี้ ยมทันทีที่เกิดมาด้วย!” เล่ยสื อพูดเสี ยงดังพร้อมกับเงยหน้า
ขึ้น
“อะไรนะ?” จักรพรรดิแปลกใจ
เล่ยสื อพูดต่อทันทีวา่ “ปี นั้น พระสนมเฉินได้ให้กาํ เนิดองค์ชายสี่ เล่ย
ฟ่ าน แต่นางก็เสี ยชีวติ จากการคลอดบุตร ไม่กี่วนั ต่อมาจักรพรรดินี
ได้รับน้องสี่ ไปเลี้ยง ตอนนั้นตําหนักของท่านแม่อยูใ่ กล้กบั ของ
จักรพรรดินี ท่านแม่จึงไปหาจักรพรรดินีบ่อย ๆ เพื่อรับการแนะนํา”
“หยุดนะ! เล่ยสื อ! เจ้าคิดจะทําอะไร!? เจ้าพยายามจะพูดอะไรกัน
แน่!? ฝ่ าบาท! ฝ่ าบาทเพคะ! อย่าไปฟังคําโกหกของเล่ยสื อนะเพคะ!
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ตอ้ งเป็ นเล่ยสื อที่คอยบงการอยูแ่ น่! เขาเป็ นคน
จับตัวข้ารับใช้ท้ งั หมดในตําหนักของหม่อมฉัน! เขามีเจตนาไม่ดี
แน่ ๆ เพคะ!” เมื่อได้ยนิ คําพูดของเล่ยสื อ จักรพรรดินีกส็ งั หรณ์ร้าย
ขึ้นมาทันที นางรู ้สึกว่าจะต้องหยุดเล่ยสื อไม่ให้พดู ต่อให้ได้ ไม่ง้ นั
นางมีปัญหาหนักกว่าเดิมแน่!
จักรพรรดิไม่สนใจเสี ยงร้องไห้โวยวายของจักรพรรดินี เขาหันไป
ทางหยวนเปี ยวแล้วพูดว่า “อุดปากนังแพศยานี่ซะ! ข้าไม่อยากได้ยนิ
เสี ยงมันอีก!”
หยวนเปี ยวก้าวออกมาทันที และใช้ผา้ เช็ดหน้าอุดปากของจักรพรรดินี!
จักรพรรดินีได้แต่ส่งเสี ยงอืออาอยูใ่ นลําคอ นางจ้องเล่ยสื อเขม็ง ดู
เหมือนนางไม่ปรารถนาอะไรมากไปกว่าฉีกเขาออกเป็ นพัน ๆ ชิ้น!
เล่ยสื อหัวเราะเสี ยงเย็นชาและพูดว่า “จักรพรรดินีประเมิน
ความสามารถของกระหม่อมสู งไปแล้ว ถ้ากระหม่อมสามารถลาก
ท่านลงมาได้แบบนี้จริ ง ๆ กระหม่อมคงไม่รอจนถึงวันนี้ค่อยบอก
ทุกสิ่ งทุกอย่างให้เสด็จพ่อทราบหรอก”
“เล่ยสื อ! เล่าต่อ!” จักรพรรดิมีความรู ้สึกว่าสิ่ งที่เล่ยสื อกําลังจะพูด
ต่อไปนี้เป็ นเรื่ องสําคัญมาก
เล่ยสื อพูดต่อว่า “วันนั้นท่านแม่ได้ยนิ ว่าองค์ชายสี่ จะถูกพามาที่
ตําหนักของจักรพรรดินี ท่านแม่จึงพาลูกไปดูนอ้ งพะย่ะค่ะ แต่ตอน
นั้นลูกดื้อดึงและซุกซนนัก จึงวิง่ ออกไปทันทีที่เรามาถึงตําหนักของ
จักรพรรดินี ไม่เคยคิดสักนิดว่านัน่ จะเป็ นการแยกจากกันตลอด
กาล!”
“ตอนนั้นลูกยังเล็กมาก ขณะที่กาํ ลังซ่อนอยูใ่ นสวนหลังตําหนัก
จักรพรรดินี ลูกก็เห็นภาพที่ลูกจะไม่มีวนั ลืมไปชัว่ ชีวติ !” เล่ยสื อหัน
ไปมองจักรพรรดินีอย่างโกรธแค้นเมื่อเล่ามาถึงตรงนี้ ดูเหมือนเขา
อยากจะฉีกจักรพรรดินีออกเป็ นชิ้น ๆ
ตอนที่ 934 ยืมมือตบ-ครั้งที่ 2 (4)
เล่ยสื อตอนนั้นยังเด็กมาก เขาซ่อนตัวอยูห่ ลังก้อนหิ นที่คล้ายกับภูเขา
ขนาดย่อมในสวน ทันใดนั้นก็เห็นแม่ของตัวเองถูกมัดและถูกพวก
ขันทีหลายคนจับตัวไว้ในสวนด้านหลังโดยมีจกั รพรรดินีกบั นาง
กํานัลของนางยืนรออยูข่ า้ งหลัง
ในอ้อมแขนของนางกํานัลที่ยนื รออยูน่ ้ นั คือเด็กทารกที่เปื้ อนเลือด
เต็มตัว
เด็กทารกคนนั้นคือองค์ชายสี่ เล่ยฟ่ าน ที่เพิ่งถูกพามาที่ตาํ หนัก
จักรพรรดินี เล่ยสื อกลัวมากเมื่อเห็นแม่ของเขาถูกมัด เขาอยากจะวิง่
เข้าไปแต่กร็ ู ้วา่ ตัวเองเป็ นเพียงองค์ชายน้อยตัวเล็กจ้อย ถึงจะวิง่
ออกไปเผชิญหน้ากับคนพวกนั้น เขาก็ไม่สามารถทําอะไรได้ จึงได้
ทนซ่อนตัวอยูด่ ว้ ยความกลัวจับใจ
แล้วแม่ของเขาก็ถูกขันทีคนหนึ่งใช้เชือกรัดคอจนตายต่อหน้าต่อตา
เขา สุ ดท้ายร่ างไร้ชีวติ ของแม่กถ็ ูกผูกกับก้อนหิ นพร้อมด้วยองค์ชาย
สี่ และถูกโยนลงไปในสระบัวในสวนด้านหลัง
“ลูกรู ้วา่ ลูกไม่มีความสามารถแก้แค้นให้ท่านแม่ได้ แต่ลูกก็ไม่
อยากจะเก็บความลับนี้ให้ถูกฝังไปตลอดกาล จึงได้แต่อดทนรอ รอ
ให้ถึงวันที่สวรรค์มีตา ให้ขา้ ได้แก้แค้นให้ท่านแม่กบั น้องสี่ ! แล้ว
วันนี้กม็ าถึง! ในที่สุดวันที่ลูกรอคอยก็มาถึง!” ความเศร้าโศกที่เล่ย
สื อทนเก็บไว้มาเนิ่นนานแสดงออกทางสี หน้าของเขา เขามี
สติปัญญามากกว่าใครหลาย ๆ คน แต่เขาไม่มีทางเลือกนอกจาก
กลายเป็ นองค์ชายผูข้ ้ ีขลาดตาขาวเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้จกั รพรรดินีเกิด
ความระแวงในตัวเขาขึ้นมา
จากองค์ชายที่ฉลาดที่สุดกลายเป็ นองค์ชายที่ห่วยที่สุด เล่ยสื ออดทน
ต่อความกลัวและความทรมานโดยไม่พดู ให้ใครฟังเลย เขาแค่รอ
และในที่สุดวันที่เขารอคอยก็มาถึง!
“อ๊า!!” จักรพรรดินีเบิกตากว้างพลางดิ้นรนจะลุกขึ้น แต่หยวนเปี ยว
กดตัวนางเอาไว้
เล่ยฟ่ านมองพี่สามที่เขาดูถูกดูแคลนมาตลอดอย่างไม่อยากจะเชื่อใน
สิ่ งที่ได้ยนิ
“โกหก! ท่านโกหก!” เล่ยฟ่ านตื่นตระหนก เขาคุกเข่าลงตรงหน้า
จักรพรรดิทนั ที และพูดพลางสะอึกสะอื้นว่า “เสด็จพ่อ! เสด็จพ่อ
พะย่ะค่ะ! พี่สามใส่ ร้ายลูก! ถ้าสิ่ งที่พี่สามพูดเป็ นความจริ ง แล้วลูก
จะมีชีวติ อยูจ่ นถึงวันนี้ได้ยงั ไง? พี่สามเห็นเสด็จแม่หมดอํานาจเลย
ฉวยโอกาสนี้ใส่ ร้ายข้า!”
จักรพรรดิขมวดคิ้ว คําพูดของเล่ยสื อทําให้เขาตกใจมากจริ ง ๆ
ในปี ที่แม่ของเล่ยสื อตาย ร่ างของนางถูกพบในบ่อปลาตื้น ๆ ของ
อุทยาน แต่พวกเขาพบช้าไปมาก ร่ างของแม่ของเล่ยสื อแช่อยูใ่ นนํ้า
มาเป็ นเวลานานจนขึ้นอืดหมดแล้ว การระบุศพจึงเป็ นไปไม่ได้ พวก
เขาทําได้แค่สนั นิษฐานเอาจากเสื้ อผ้าและสิ่ งของที่ติดตัวศพเท่านั้น
เล่ยสื อมองเล่ยฟ่ านที่สะอึกสะอื้นด้วยสายตาเย็นเยียบ
“เจ้าลูกชู!้ ยังจะหลอกลวงเสด็จพ่ออีกรึ ?”
เล่ยฟ่ านพูดขึ้นทันที “นัน่ เป็ นเรื่ องใส่ ร้ายล้วน ๆ เลย!”
เล่ยสื อลุกขึ้นยืนทันที เขามองตรงไปที่จกั รพรรดิและพูดว่า “เสด็จ
พ่อ! ลูกรู ้วา่ เสด็จพ่อลังเลเรื่ องอะไรอยู่ ลูกรู ้วธิ ีพิสูจน์วา่ สิ่ งที่ลูกพูด
เป็ นความจริ งอย่างแน่นอน!” พูดจบเล่ยสื อก็แอบหยิบขวดกระเบื้อง
ที่ซ่อนอยูใ่ นแขนเสื้ อพร้อมกับแอบเหลือบมองไปทางเล่ยเฉิ น
เล่ยเฉินเป็ นคนให้ขวดนั้นกับเขา เขาไม่รู้วา่ มันคืออะไร แต่เล่ยเฉิ น
บอกเขาว่าถ้ามีขวดนี้ พวกเขาก็แน่ใจได้เลยว่าเล่ยฟ่ านจะพังพินาศ
อย่างแน่นอน!
เล่ยสื อเห็นแม่ของตัวเองถูกฆ่าตายอย่างโหดร้ายต่อหน้าต่อตา และ
ต้องเก็บความลับอันเจ็บปวดนี้ไว้กบั ตัวเองมานานหลายปี เขาจะ
ยอมละทิ้งโอกาสแก้แค้นที่ถูกยืน่ มาให้ตรงหน้าเพียงหนึ่งเดียวนี้ไป
ได้ยงั ไง?
ต่อให้ไม่รู้วา่ ในขวดนี้มีอะไร เขาก็เต็มใจจะเดิมพันทุกสิ่ งทุกอย่าง
กับโอกาสเพียงหนึ่งเดียวนี้!
ทันใดนั้นเล่ยสื อก็พงุ่ เข้าใส่ เล่ยฟ่ านที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้น เล่ยฟ่ านร้อง
ออกมาอย่างหวาดกลัวและยืน่ แขนออกมาเพื่อจะผลักเล่ยสื อให้ออก
ห่าง แต่เล่ยสื อไม่สนใจแขนที่โบกไปมานั้น เขาเปิ ดขวดกระเบื้อง
ออกและกระโจนเข้าใส่ เล่ยฟ่ าน เทของเหลวในขวดลงบนใบหน้า
ของเล่ยฟ่ านจนหมด!
ตอนที่ 935 ยืมมือตบ-ครั้งที่ 2 (5)
“ข้าไม่ยอมให้ลูกชูอ้ ย่างเจ้านําความเสื่ อมเสี ยมาให้วงั หลวงอีกต่อไป
แล้ว!” เล่ยสื อพูดพร้อมกับมองเล่ยฟ่ านด้วยสายตาดุร้าย
ทันทีที่ของเหลวถูกสาดเข้าหน้าของเล่ยฟ่ าน โครงสร้างกระดูกและ
เนื้อบนใบหน้าของเล่ยฟ่ านก็เริ่ มเคลื่อนที่!
จักรพรรดิลุกขึ้นจากบัลลังก์ทนั ทีอย่างตกใจ เขามองเล่ยฟ่ านที่บิดตัว
ดิ้นด้วยความเจ็บปวดและกรี ดร้องโหยหวนอยูบ่ นพื้นด้วยความ
ประหลาดใจ สายตาเหลือเชื่อของเขาจับจ้องอยูท่ ี่ใบหน้าของเล่ย
ฟ่ านโดยไม่ยอมละไปไหนเลย
เขาเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเล่ยฟ่ านบิดเบี้ยวและเปลี่ยนไปแบบ
พลิกฝ่ ามือ!
ใบหน้านั้นค่อย ๆ เปลี่ยนเป็ นใบหน้าที่จกั รพรรดิรู้สึกคุน้ และไม่คุน้
ในเวลาเดียวกัน!
ใบหน้านั้นคล้ายกับจักรพรรดินีมากและยังมีส่วนคล้ายกับอัครมหา
เสนาบดีอยูด่ ว้ ย
จักรพรรดิทรุ ดตัวลงบนบัลลังก์อย่างสับสนและตกตะลึง เขามองเล่ย
ฟ่ านที่หน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้ นเชิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ ในใจสับสน
ปั่นป่ วนไปหมด
ใบหน้าที่เปลี่ยนกลับเป็ นใบหน้าของตัวเองทําให้เล่ยฟ่ านนอนดิ้น
ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดไม่หยุด ขณะที่เล่ยสื อก็ยนื ยิม้ อย่าง
ไม่รู้สึกรู ้สาอยูข่ า้ ง ๆ ชื่นชมภาพที่เล่ยฟ่ านนอนกองอยูแ่ ทบเท้าอย่าง
สําราญใจ!
“เสด็จพ่อ! ไอ้ลูกชูน้ ี่มนั ใช้วธิ ีพิเศษเปลี่ยนหน้าตัวเอง และพอสาด
นํ้ายานี้ใส่ หน้าก็จะล้างผลมันออก! ที่ลูกทําเรื่ องข้ามหน้าเสด็จพ่อใน
วันนี้ เสด็จพ่อโปรดลงโทษลูกด้วย! แต่ลูกขอให้เสด็จพ่อมองดู
ใบหน้านั้นให้ดี ๆ เป็ นไปไม่ได้ที่มนั จะเป็ นน้องสี่ ของข้า มันดูไม่
เหมือนลูกของเสด็จพ่อเลยสักนิด! มันเป็ นเด็กที่เกิดจากการลักลอบ
เป็ นชูก้ นั ของจักรพรรดินีกบั อัครมหาเสนาบดีชดั ๆ !” เล่ยสื อคุกเข่า
ลงกับพื้น กล่าววิงวอนจักรพรรดิเสี ยงดัง
จักรพรรดิเริ่ มตัวสัน่ ด้วยความโกรธ แสงแห่งความหวังสุ ดท้ายในใจ
เขาดับสิ้ นแล้ว
ใบหน้าจริ ง ๆ ของเล่ยฟ่ านถูกพิสูจน์ออกมาแล้ว ไม่ตอ้ งมีคาํ อธิบาย
หรื อหลักฐานอะไรเพิม่ เติมอีก!
“ดี……ดีมาก……อา จักรพรรดินี จักรพรรดินีของข้า ข้าดีกบั เจ้าทุก
อย่างแท้ ๆ ! ขนาดในเวลาแบบนี้เจ้าก็ยงั โกหกข้าไม่เลิก! เจ้าคิดว่าข้า
เป็ นไอ้โง่ที่ถูกหลอกง่าย ๆ งั้นซิ” ยิง่ จักรพรรดิต้ งั ความหวังในตัวเล่ย
ฟ่ านไว้สูงมาก ความเกลียดชังในหัวใจของเขาตอนนี้จึงยิง่ มากเป็ น
สิ บเป็ นร้อยเท่า!
ลูกชายที่เขารักมากที่สุดไม่ใช่ลูกของเขาและไม่ใช่ลูกของผูห้ ญิงที่
เขารักมากที่สุดด้วย!
เขาเฝ้ารักใคร่ ตามใจมานานหลายปี กระทัง่ คิดจะผลักดันให้เล่ยฟ่ าน
ขึ้นสู่ ตาํ แหน่งองค์ชายรัชทายาทเพื่อสื บทอดทุกสิ่ งทุกอย่างที่แคว้น
หยานครอบครอง
แต่สุดท้าย เขาทําอะไรลงไป?
เขาเกือบจะยกแคว้นทั้งแคว้นและทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลให้
ลูกชู!้
“ทหาร! จับนังแพศยา ไอ้ลูกชู ้ กับขุนนางระยํานี่ไปขัง! ข้าไม่อยาก
ให้พวกมันตายง่าย ๆ ! ข้าอยากให้พวกมันถูกสับเป็ นพัน ๆ ชิ้นจน
ตาย!” จักรพรรดิขบกรามแน่น หน้าซีดเล็กน้อย เห็นได้ชดั เลยว่า
ตอนนี้เขารู ้สึกโกรธและเกลียดชังรุ นแรงมากขนาดไหน
เนื่องจากความเจ็บปวดอย่างรุ นแรง เล่ยฟ่ านจึงนอนตัวงอเหมือนลูก
บอล ร่ างกายชักกระตุก เขาอยากอ้อนวอนให้จกั รพรรดิไว้ชีวติ เขา
แต่กไ็ ม่มีแม้แต่เรี่ ยวแรงจะพูด
หยวนเปี ยวเรี ยกทหารเข้ามาทันที และเตรี ยมจะลากตัวจักรพรรดินี
กับคนอื่น ๆ ไปขังไว้ในคุก
แต่ตอนนั้นเอง จักรพรรดินีดูเหมือนจะเสี ยสติไปแล้ว นางสะบัด
หลุดการจับกุมของหยวนเปี ยวไปได้ จากนั้นก็ดึงเอาผ้าที่ปิดปากนาง
ออก และส่ งเสี ยงหัวเราะอย่างบ้าคลัง่ ออกมาพร้อมกับพูดว่า “ฮ่า ๆ
ๆ ! ฮ่า ๆ ๆ ! ฝ่ าบาท ฝ่ าบาท ตรัสว่าหม่อมฉันเป็ นหญิงแพศยาหรื อ
เพคะ? หม่อมฉันเป็ นแบบนี้กเ็ พราะฝ่ าบาทนัน่ แหละ! หม่อมฉันเป็ น
ถึงจักรพรรดินี แต่ฝ่าบาทเคยให้เกียรติจกั รพรรดินีคนนี้อย่างที่ควร
จะได้รึเปล่า? ฝ่ าบาทโปรดปรานสนมเฉิน รักใคร่ ทะนุถนอมนางราว
สมบัติล้ าํ ค่า เวลาที่ขา้ กับสนมเฉินมีเรื่ องขัดแย้งกัน ฝ่ าบาทก็ไม่
สนใจจะค้นหาความจริ ง เอาแต่ตาํ หนิขา้ ด่าว่าข้าต่อหน้าทุกคนในวัง
หลวง!”
ตอนที่ 936 ยืมมือตบ-ครั้งที่ 2 (6)
“ฝ่ าบาทลําเอียงปกป้องแต่นงั แพศยานัน่ ! แล้วหม่อมฉันจะปล่อยให้
มันทําตามใจได้ยงั ไง!? ฝ่ าบาท! ที่สนมเฉินตาย องค์ชายสี่ ตาย
ทั้งหมดเป็ นเพราะฝ่ าบาทนัน่ แหละ! ถ้าฝ่ าบาทไม่ลาํ เอียงรักแต่สนม
เฉินคนเดียว ไม่เหยียบยํา่ ศักดิ์ศรี ของจักรพรรดินีอย่างหม่อมฉัน
แล้วหม่อมฉันจะเป็ นแบบนี้หรื อเพคะ?”
“นังผูห้ ญิงสําส่ อน! ยังจะกล้าพูดจาเหลวไหลอยูอ่ ีกเรอะ!”
จักรพรรดิลุกขึ้นชี้นิ้วอันสัน่ เทาไปที่จกั รพรรดินีอย่างโกรธจัดพร้อม
กับตวาดสุ ดเสี ยง
จักรพรรดินีที่ดูเหมือนจะเสี ยสติไปแล้วหัวเราะขึ้นทันทีอย่างบ้า
คลัง่ !
“พูดจาเหลวไหล? ฝ่ าบาท! เรื่ องมาถึงขนาดนี้แล้ว หม่อมฉันก็ไม่
จําเป็ นต้องปกปิ ดอะไรแล้ว! ฝ่ าบาทรู ้ไหมว่าทําไมไม่มีสนมคนไหน
ในวังหลังตั้งครรภ์เลยในช่วง 10 ปี ที่ผา่ นมานี้? ทําไมองค์ชายรอง
แต่งงานมาตั้งหลายปี ก็ยงั ไม่มีข่าวดีมาให้? หม่อมฉันจะบอกฝ่ าบาท
เองเพคะ! ไม่ใช่แค่ฝ่าบาทคนเดียวหรอก แต่ลูกชายของฝ่ าบาททุก
คนเลย! ทุกคนไม่สามารถมีลูกได้แล้ว! หม่อมฉันเป็ นคนวางยาพิษ
ทุกคนเอง! นอกจากลูกชายของหม่อมฉัน จะไม่มีใครสามารถสื บ
ทอดบัลลังก์แคว้นหยานได้!” จักรพรรดินีหวั เราะอย่างบ้าคลัง่ พร้อม
กับบอกความร้ายกาจทั้งหมดของนางที่ปิดบังไว้มาตลอด
จักรพรรดิทาํ ตาโตจ้องมองจักรพรรดินีอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“เจ้า! นังผูห้ ญิงสารเลว! จนถึงตอนนี้ยงั คิดจะปกป้องลูกตัวเองอยู่
อีก! แต่ถึงเล่ยเฉินจะเกิดจากเจ้าแล้วยังไงล่ะ? ในตัวเขาก็มีเลือดของ
ข้าอยูด่ ว้ ย! วันนี้เล่ยเฉินได้เห็นกับตาตัวเองแล้วว่าเจ้าชัว่ ร้ายเลว
ทรามขนาดไหน ข้าเชื่อว่าเขาจะต้องอับอายอย่างที่สุดที่มีแม่อย่าง
เจ้า!” จักรพรรดิไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกและหันไปมองเล่ย
เฉิน คําพูดของจักรพรรดินีทาํ ให้เขากลัวมาก ดูจากจิตใจที่ร้ายกาจ
ของนาง มีความเป็ นไปได้สูงที่นางจะทําเช่นที่กล่าวอ้างจริ ง ๆ ไม่ง้ นั
ทําไมสนมทุกคนในวังหลังถึงไม่มีใครตั้งครรภ์และให้กาํ เนิดองค์
ชายหรื อองค์หญิงเลยสักคน?
และถ้าจักรพรรดินีทาํ แบบนั้นจริ ง ๆ คนที่นางจะละเว้นก็มีเพียงลูก
ของนางเอง เล่ยเฉิน เพียงคนเดียวเท่านั้น
เล่ยเฉินก้มหน้าไม่พดู อะไรออกมาสักคํา
แต่จกั รพรรดินียงั คงหัวเราะไม่หยุด “เล่ยเฉินเหรอ? ฮ่า ๆ ๆ ! ลูกชาย
คนโตของหม่อมฉันตายไปนานแล้วเพคะ! เล่ยเฉินเป็ นแค่เด็กที่เกิด
จากการลักลอบมีความสัมพันธ์กนั ของนางกํานัลของหม่อมฉันกับ
ทหารคนหนึ่ง! ฮ่า ๆ ๆ ! ฝ่ าบาท ฝ่ าบาท! ท่านกับลูกทุกคนของท่าน
จะไม่มีลูก สิ้ นสุ ดสายเลือดกันในรุ่ นนี้นี่แหละ!”
จักรพรรดิอา้ ปากค้าง สายตาของเขาเลื่อนจากเล่ยเฉินไปที่
จักรพรรดินีอย่างช้า ๆ
“โกหก! เจ้าโกหก!”
จักรพรรดินีตอบว่า “ถึงขนาดนี้แล้วหม่อมฉันยังจําเป็ นต้องโกหกอยู่
อีกหรื อเพคะ? ถ้าเล่ยเฉินเป็ นลูกของหม่อมฉันจริ ง ๆ หม่อมฉันจะ
ยืนเฉย ๆ ปล่อยให้ฝ่าบาทผลักเขาลงเหวอย่างช้า ๆ เพื่อบังคับให้เขา
สละตําแหน่งองค์รัชทายาทหรื อเพคะ?”
จักรพรรดิไหล่ตกทันที ทุกอย่างตรงหน้าเขาตอนนี้คือหายนะชัด ๆ
ทั้งองค์รัชทายาทคนปั จจุบนั และองค์ชายที่เขาอยากแต่งตั้งให้เป็ น
องค์รัชทายาท ทั้งคู่ไม่ใช่ลูกที่สืบสายเลือดจากเขาสักคน!
และลูกชายเพียงสองคนที่เขามีกถ็ ูกจักรพรรดินีวางยาจนไม่สามารถ
มีลูกได้อีก พวกเขาจะไม่สามารถมีลูกหลานไว้สืบสกุลไปตลอดชัว่
ชีวติ !
“นังงูพิษ! ข้าจะฆ่าเจ้า! ข้าจะฆ่าเจ้า!” จักรพรรดิลุกขึ้นตะโกน
อยากจะกลืนนางลงไปทั้งเป็ น ๆ
จักรพรรดินียงั คงหัวเราะไม่หยุด เสี ยงหัวเราะของนางฟังดูโศกเศร้า
“โยนพวกมันเข้าคุกให้หมด! เอาลูกชูส้ องคนนี้ไปขังด้วย! ข้า
อยากจะฉีกพวกมันเป็ นชิ้น ๆ !” หน้าอกของจักรพรรดิกระเพื่อมขึ้น
ลงอย่างหนักจนต้องอ้าปากสู ดอากาศเข้าไป
เล่ยสื อได้แก้แค้นให้แม่ของเขาแล้ว แต่เขาไม่คิดว่าเรื่ องจะออกมา
เป็ นเช่นนี้ ทุกสิ่ งที่เขาทําลงไปเล่ยเฉินเป็ นคนจัดการ เขาคิดว่าเล่ย
เฉินเห็นแก่คุณธรรมเหนือสายสัมพันธ์ของครอบครัว แต่เขาไม่คิด
ว่าเล่ยเฉินเองจะถูกลากลงมาในวังวนหายนะนี้ดว้ ย
ความจริ งแล้ว ถ้าตัวตนของเล่ยฟ่ านไม่ถูกเปิ ดเผย จักรพรรดินีกค็ ง
ไม่ดิ้นรนลากทุกคนให้ล่มจมไปกับนาง เพื่อปกป้องเล่ยฟ่ านนางจะ
ไม่เปิ ดเผยความลับเรื่ องชาติกาํ เนิดของเล่ยเฉินออกมาแน่
ตอนที่ 937 ตบหน้ าครั้ง 10 (1)
แต่ขวดยาที่เล่ยเฉิ นให้เล่ยสื อได้ทาํ ลายความหวังสุ ดท้ายของ
จักรพรรดินีลงจนหมดสิ้ น
เล่ยสื อไม่เข้าใจเลยว่าทําไมเล่ยเฉิ นจึงทําเช่นนี้
เล่ยเฉินเงยหน้าขึ้นด้วยสี หน้าสิ้ นหวัง เขามองพวกทหารที่กรู กนั เข้า
ในท้องพระโรงและล้อมเขากับเล่ยฟ่ านเอาไว้อย่างรวดเร็ ว
เขาหัวเราะในใจอย่างขมขื่น
จักรพรรดิได้ยนิ ความลับเรื่ องชาติกาํ เนิดของเล่ยฟ่ านจากจักรพรรดินี
เองอย่างชัดเจนเต็มสองหู แต่เขาก็ยงั เลือกจะเชื่อเล่ยฟ่ านแค่เพราะ
ใบหน้าปลอมนั้น แต่พอจักรพรรดินีเปิ ดเผยเรื่ องชาติกาํ เนิดของเขา
บ้าง จักรพรรดิกลับไม่สงสัยอะไรเลยสักนิด และไม่ลงั เลหรื อระแวง
อะไรแม้แต่นอ้ ย กลับตัดสิ นเขาว่าผิดในทันที
ไม่ถามไม่สงสัย ไม่พยายามพิสูจน์อะไรเลย เชื่อไปหมดทุกอย่าง!
ก็อย่างที่คาดไว้ ในใจของจักรพรรดิเขาไม่มีความสําคัญอะไรเลย
เศษเสี้ ยวความปรารถนาเล็ก ๆ ในหัวใจที่หวังว่าจะมีความผูกพัน
ระหว่างพ่อลูกอยูบ่ า้ งพังทลายลงอย่างสิ้ นเชิง
ทหารเข้ามายืนข้าง ๆ เล่ยเฉิ นแล้วและกําลังจะจับตัวเขา
แต่ทนั ใดนั้นเอง เสี ยงใสเจือเย็นชาก็ดงั ขึ้นในท้องพระโรง
“ฝ่ าบาทช่างสัง่ ลงโทษได้เด็ดขาดและโหดเหี้ ยมจริ ง ๆ”
“ใครน่ะ?” จักรพรรดิที่เหน็ดเหนื่อยทั้งกายใจหันไปมองตามเสี ยง
นั้นทันที และเขาก็ได้เห็นคนที่หายตัวไปนาน จวินเสี ย กําลังยืนอยูท่ ี่
มุมท้องพระโรง ไม่มีใครสังเกตเห็นตอนที่เขาเข้ามาในท้องพระโรง
เลยสักคน!
ทันทีที่เห็นจวินเสี ย จักรพรรดิกอ็ า้ ปากค้าง สายตาเต็มไปด้วยความ
ตื่นตระหนก
“จวินเสี ย! เจ้าเข้ามาที่นี่ได้ยงั ไง!?” จักรพรรดิจอ้ งมองจวินเสี ยพลาง
ร้องถามเสี ยงสู ง
จวินอู๋เสี ยเดินช้า ๆ ไปที่กลางท้องพระโรงแล้วกวาดสายตามอง
ความวุน่ วายในนั้น จากนั้นนางก็พดู ช้า ๆ ดูเหมือนไม่รีบร้อนว่า
“กระหม่อมได้ยนิ ว่าฝ่ าบาทตามหาตัวกระหม่อมอยู่ กระหม่อมก็เลย
มาเข้าเฝ้าฝ่ าบาทพะย่ะค่ะ”
“หยวนเปี ยว! หยวนเปี ยว! จับมัน!” จักรพรรดิลุกพรวดขึ้นร้อง
ตะโกน จวินเสี ยคือหนามยอกอกของเขา! เขาจะรู ้สึกมัน่ คงปลอดภัย
ขึ้นก็ตอนที่จวินเสี ยถูกกําจัดและเอาแหวนจักรพรรดิหยานมาจากเขา
แล้วเท่านั้น
หยวนเปี ยวพุง่ เข้าใส่ จวินเสี ยทันที!
แต่ก่อนที่หยวนเปี ยวจะเข้าใกล้จวินเสี ยได้ ร่ างสี ขาวร่ างหนึ่งก็
ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าจวินเสี ย จากนั้นก็ฟาดฝ่ ามือเข้าใส่ หยวนเปี ยว
ที่พงุ่ เข้ามาส่ งเขาลอยขึ้นไปในอากาศ!
หยวนเปี ยวตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรงและกระอักเลือดออกมา!
จักรพรรดิจอ้ งมองอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่ งที่เห็น เขาเห็นผูเ้ ยาว์
หน้าตาหล่อเหลาสวมชุดสี ขาวทั้งตัวยืนอยูต่ รงหน้าจวินเสี ย แก้มทั้ง
สองข้างของผูเ้ ยาว์คนนั้นเป็ นสี ชมพูเรื่ อ ๆ
“อยูว่ า่ ง ๆ ไม่มีอะไรทํามาตั้งนาน ในที่สุดก็ได้เวลาออกมายืดเส้นยืด
สายสักที” บัวเมากวักมือเรี ยกหยวนเปี ยว เขาเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิง่
ยโสพลางมองหยวนเปี ยวที่กาํ ลังกระอักเลือด
“กระจอกอย่างเจ้า คิดว่าจะแตะต้องนายข้าได้ง้ นั รึ ?”
แม้วา่ หยวนเปี ยวจะไม่ใช่ยอดฝี มือที่แข็งแกร่ งที่สุดในแคว้นหยาน
แต่กจ็ ดั ได้วา่ แข็งแกร่ งมาก ไม่มีใครคิดว่าผูบ้ ญั ชาการกองกําลัง
ทหารราชองครักษ์หลวงจะถูกผูเ้ ยาว์หน้าตาหล่อเหลารู ปร่ างเพรี ยว
บางดูอ่อนแอทําให้ลม้ ได้ดว้ ยการลงมือแค่ครั้งเดียว และถึงขั้น
กระอักเลือดออกมาจากการโจมตีครั้งเดียวนั้น! นัน่ มันน่าเหลือเชื่อ
มากเกินไปแล้ว!
จักรพรรดิไม่รู้จะทํายังไงต่อไปดี ตอนนั้นเองเขาก็เห็นเล่ยเฉิ นเดิน
ไปยืนข้างจวินเสี ย
“เล่ยเฉิน!”
เล่ยเฉินยืนข้างจวินเสี ยเงียบ ๆ
จวินอู๋เสี ยเลิกคิว้ มองจักรพรรดิก่อนจะเบนสายตาไปมองอัครมหา
เสนาบดีที่ยงั คุกเข่าอยูบ่ นพื้น เล่ยฟ่ านที่นอนตัวงอด้วยความเจ็บปวด
อยู่ และจักรพรรดินีที่มีสีหน้ามุ่งร้าย จากนั้นนางก็พดู ขึ้นว่า “ฝ่ าบาท
พอใจกับการแสดงที่กระหม่อมจัดเตรี ยมไว้ให้วนั นี้รึเปล่าพะย่ะ
ค่ะ?”
“เจ้าพูดอะไร……” จักรพรรดิรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที ลาง
สังหรณ์รุนแรงทําให้เขาปวดหัวขึ้นมาทันที
ตอนที่ 938 ตบหน้ าครั้ง 10 (2)
สายตาเย็นชาของจวินอุ๋เสี ยตวัดมองไปที่ใบหน้าของจักรพรรดิ นาง
ถามเบา ๆ ว่า “ฝ่ าบาทคิดว่ายังไงล่ะพะย่ะค่ะ?”
จักรพรรดิตวั แข็งทื่อ เขามองไปที่ความวุน่ วายโกลาหลในท้องพระ
โรง จักรพรรดินีกบั ขุนนางที่เขาไว้ใจมากที่สุดทรยศเขา ลูกชายสอง
คนของเขาก็ไม่ใช่สายเลือดของเขา……
ทันใดนั้นดวงตาของจักรพรรดิกเ็ บิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ เขาหัน
ไปมองจวินอู๋เสี ยช้า ๆ แล้วก็ผดุ ลุกขึ้นจากบัลลังก์ทนั ที!
“เป็ นเจ้า! เจ้าจัดการทุกอย่าง! ใช่ไหม!?”
จวินอู๋เสี ยไม่ปฏิเสธ นางพยักหน้ารับอย่างไม่สะทกสะท้าน
จักรพรรดิรู้สึกเย็นวาบไปทัว่ ร่ าง
“เจ้าคนใจชัว่ ! เจ้ามันร้ายกาจที่สุด!!”
แต่จวินอู๋เสี ยก็ไม่รู้สึกรู ้สาอะไร นางพูดว่า “ฝ่ าบาทอย่าเข้าใจผิดซิ
ทุกอย่างเป็ นความจริ งนะ ที่กระหม่อมทําก็แค่ขดุ เอาความจริ งที่ซ่อน
อยูอ่ อกมาให้ฝ่าบาทได้รู้ กระหม่อมช่วยเปิ ดเผยแผนร้ายทั้งหมดใน
วังหลังของฝ่ าบาทให้แบบนี้ ฝ่ าบาทไม่คิดจะขอบคุณกระหม่อม
หน่อยเหรอ?”
ความโกรธของจักรพรรดิข้ ึนมาจุกอยูท่ ี่กลางอก เขาไม่ตอบคําถาม
นั้นขณะที่มือเริ่ มสัน่ และยืนแข็งค้างอยูก่ บั ที่
[ขอบคุณมันเรอะ?]
[มันยังมีหน้ามาหวังให้ขา้ ขอบคุณมันอีกเรอะ?]
ความจริ งที่น่าเกลียดน่าขยะแขยงนี้ได้ทาํ ลายชีวติ ที่มนั่ คงของเขาจน
หมดสิ้ นแล้ว ภรรยาเขา ลูกของเขา ข้ารับใช้ที่เขาไว้ใจที่สุด ทุกคน
ทรยศเขาในวันเดียว แล้วเขาก็พบว่าเขากับลูกชายสองคนของเขา
ไม่ใช่พอ่ ลูกกันอีกต่อไป ความจริ งที่ถูกเปิ ดเผยออกมาทุกเรื่ องทํา
ร้ายจิตใจเขามาก เรื่ องแต่ละเรื่ องก็เกินจะรับได้สาํ หรับคน ๆ หนึ่งอยู่
แล้ว แล้วจวินเสี ยก็เปิ ดเผยทุก ๆ เรื่ องในวันเดียว!
ไม่มีการเตือน ไม่มีเวลาให้เตรี ยมใจใด ๆ เลย มันสาดความจริ งใส่
หน้าเขาทันที!
“ทหาร! ฆ่ามัน! ฆ่ามันเดี๋ยวนี้!” ตอนนี้คนที่จกั รพรรดิอยากฆ่ามาก
ที่สุดไม่ใช่จกั รพรรดินี ไม่ใช่อคั รมหาเสนาบดี และไม่ใช่เล่ยฟ่ าน
ด้วย แต่เป็ นจวินเสี ย!
ทหารในท้องพระโรงได้สติกลับมาเมื่อได้ยนิ เสี ยงตวาดของ
จักรพรรดิ ทุกคนพุง่ เข้าใส่ จวินเสี ยที่ยนื อยูข่ า้ งหลังบัวเมาทันที
จวินอู๋เสี ยมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสงบและใจเย็น แล้วจู่ ๆ นางก็ดึง
เอาลูกบอลสี ขาวออกมาและโยนมันเข้าใส่ พวกทหาร!
ทันใดนั้นเจ้าลูกบอลสี ขาวก็ส่องแสงจ้าออกมา แสงนั้นขยายใหญ่
ขึ้นเรื่ อย ๆ จนถึงจุดที่เรี ยกว่าอภิมหาใหญ่!
แล้วแสงจ้าแสบตานั้นก็ค่อย ๆ จางหายไป
สัตว์อสู รสี ขาวล้วนขนาดใหญ่ยกั ษ์ปรากฏตัวขึ้นในท้องพระโรง!
มันสู งจนน่าตกใจ ร่ างของมันทะลุหลังคาท้องพระโรงเลยทีเดียว!
เศษหิ นเศษปูนร่ วงหล่นลงมาจากด้านบน ตกลงใส่ พวกทหารที่อยู่
รอบ ๆ ร่ างขนาดมหึ มาของมันกลายเป็ นกําแพงกั้นที่ไม่อาจจะผ่าน
ไปได้ระหว่างพวกทหารกับจวินเสี ย!
พวกทหารพากันสะดุง้ ตกใจเมื่อเห็นสัตว์อสู รขนาดใหญ่ตรงหน้า
มือที่จบั ดาบเอาไว้เริ่ มสัน่ กันเป็ นแถว
พวกเขาไม่เคยเห็นสัตว์อสู รขนาดใหญ่ยกั ษ์แบบนี้มาก่อน!
ท่านแบะแบะกลับสู่ ร่างเดิมของมัน มันขยับตัวเล็กน้อย และในชัว่
พริ บตา หางอันรวดเร็ วว่องไวของมันก็สะบัดฟาดเอาทหารทุกคน
ออกไปจากท้องพระโรง!
เสี ยงร้องโหยหวนดังขึ้น! ท่านแบะแบะรี บออกจากท้องพระโรงแล้ว
ไปยืนเฝ้าอยูด่ า้ นนอกประตู กันไม่ให้พวกทหารเข้าไปในท้องพระ
โรงได้แม้แต่กา้ วเดียว!
จักรพรรดิอา้ ปากค้างมองสัตว์อสู รขนาดยักษ์ตวั นั้นอย่างไม่เชื่อ
สายตา ทหารร้อยกว่าคนถูกโยนออกจากท้องพระโรงในชัว่ พริ บตา
ในท้องพระโรงตอนนี้นอกจากหยวนเปี ยวที่โดนบัวเมาซัดจน
บาดเจ็บและยังนอนกองอยูพ่ ้นื ก็ไม่มีทหารคนอื่นอยูข่ า้ งในเลยสัก
คน
“จวินเสี ย! เจ้าคิดจะทําอะไร? อย่าบอกนะว่าเจ้าจะฆ่าข้า จักรพรรดิ
แห่งแคว้นหยานผูน้ ้ ี?” เมื่อเห็นคนที่เขาคิดจะพึ่งพาให้ช่วยปกป้อง
หายไปหมดแล้ว ใบหน้าของจักรพรรดิกซ็ ี ดขาวทันที!
ตอนที่ 939 ตบหน้ าครั้ง 10 (3)
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “ทําไมฝ่ าบาทถึงได้ดูหวาดกลัวมากขนาดนั้น? ถ้า
กระหม่อมจําไม่ผดิ ดูเหมือนฝ่ าบาทเป็ นคนวางแผนเล่นงาน
กระหม่อมมาตลอดเลยนะ”
จวินอู๋เสี ยเดินไปที่กลางท้องพระโรงช้า ๆ นางมองจักรพรรดินีกบั
อัครมหาเสนาบดีที่สภาพดูน่าสมเพช
อัครมหาเสนาบดีเงยหน้าขึ้นมองผูเ้ ยาว์ตรงหน้าอย่างหวาดกลัว เขา
เคยเห็นจวินเสี ยจากภาพวาดเท่านั้น ไม่เคยเจอตัวจริ งมาก่อน และ
เมื่อได้เห็นตัวจริ งในวันนี้ เมื่อได้สบตากับดวงตาที่ใสกระจ่างเย็นชา
คู่น้ นั เขาก็เข้าใจแล้วว่าทําไมกลุ่มนักฆ่าที่เขาส่ งไปจัดการจวินเสี ย
ถึงได้หายตัวกันไปหมดอย่างไร้ร่องรอย
นี่คือผูเ้ ยาว์ที่สามารถเล่นงานจักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งแคว้น
หยานได้เหมือนเป็ นลูกไก่ในกํามือ กะอีแค่กาํ จัดคนพวกนี้กค็ งง่าย
เหมือนปอกกล้วย
จักรพรรดินีมองจวินเสี ยเขม็ง “เป็ นเจ้า……ทั้งหมดเป็ นเพราะเจ้า!
เจ้าทําแบบนี้ทาํ ไม!? เจ้าทําเรื่ องทั้งหมดนี้ไปทําไม!?”
คําพูดของจวินอู๋เสี ยที่พดู กับจักรพรรดิเมื่อครู่ ทาํ ให้จกั รพรรดินีรู้วา่
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็ นผลงานของจวินเสี ยเพียงผูเ้ ดียว กระทัง่
ข้ารับใช้ในตําหนักของนางทุกคนที่ถูกจับตัวไปก็ตอ้ งเป็ นคําสัง่ ของ
เขา!
จักรพรรดินีไม่เคยนึกฝันว่านางที่มีอาํ นาจสู งสุ ดในวังหลังมาตลอด
หลายปี จะถูกผูเ้ ยาว์ที่อายุนอ้ ยอย่างจวินเสี ยเพียงคนเดียวจัดการเอา
ได้ นี่ถา้ จวินเสี ยไม่ออกมายอมรับว่าเขาเป็ นคนทําเรื่ องทั้งหมด นาง
ก็คงยังมืดแปดด้านไม่รู้วา่ ใครคือคนที่อยูเ่ บื้องหลังเรื่ องทั้งหมดทํา
ให้นางต้องตกอยูใ่ นสภาพน่าสังเวชเช่นนี้!
จักรพรรดินีพงุ่ เข้าใส่ จวินเสี ย หวังจะบีบคอเขาให้ตายคามือโทษ
ฐานที่ทาํ ลายแผนการของนางที่ดาํ เนินมาอย่างราบรื่ นตลอดหลายปี
ที่ผา่ นมา
แต่ก่อนที่จกั รพรรดินีจะได้แตะต้องแม้แต่ชายเสื้ อของจวินเสี ย บัว
เมาก็ปรากฏตัวตรงหน้านาง เขาเตะเข้าที่ทอ้ งของนางอย่างแรงจน
ลอยไปไกลก่อนจะตกลงมากระแทกพื้นอย่างจังพร้อมทั้งกระอัก
เลือดออกมา สภาพเดียวกับหยวนเปี ยวเป๊ ะ!
“ทําไมกระหม่อมถึงทําแบบนั้นน่ะเหรอ? ไม่ทรงคิดบ้างล่ะว่าที่
กระหม่อมทําทั้งหมดนี้กเ็ พราะจักรพรรดินีเป็ นคนบังคับให้
กระหม่อมทําเอง” จวินอู๋เสี ยรู ้สึกว่ามันน่าขํามาก นางไม่เข้าใจจริ ง ๆ
ว่าจักรพรรดินียงั มีหน้ามาถามถึงเหตุจูงใจของนางได้ยงั ไง
จักรพรรดินีรู้สึกเหมือนทัว่ ทั้งร่ างกําลังจะฉีกขาด ความเจ็บปวด
รุ นแรงแล่นไปทัว่ ทั้งตัว สายตาจับจ้องอยูท่ ี่จวินเสี ย คําพูดของจวิน
เสี ยราวกับสายฟ้าที่ฟาดเข้าใส่ หวั ของนาง!
ก่อนหน้านี้ เนื่องจากจวินเสี ย ‘บังเอิญ’ ไปเห็นโฉมหน้าที่แท้จริ ง
ของเล่ยฟ่ าน จักรพรรดินีจึงสัง่ ให้อคั รมหาเสนาบดีปิดปากเด็กนี่ซะ!
เพราะนางพยายามฆ่าจวินเสี ยก่อน จวินเสี ยจึงมาแก้แค้นเอา!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น จักรพรรดินีกน็ อนตัวแข็งอยูบ่ นพื้น สายตาที่จอ้ ง
มองจวินเสี ยเปลี่ยนจากความเกลียดชังเป็ นความกลัว
นางไม่เคยคิดสักครั้งว่านางจะพ่ายแพ้ให้กบั เด็กคนหนึ่งจนถึงขั้น
สู ญเสี ยทุกอย่างโดยไม่มีโอกาสจะฟื้ นคืนมาได้อีก!
เล่ยฟ่ านยังคงนอนบิดตัวด้วยความเจ็บปวดอยูบ่ นพื้น กระบวนการ
ในการกลับสู่ ใบหน้าเดิมนั้นเจ็บปวดทรมานมาก เขาไม่สามารถพูด
ได้ดว้ ยซํ้า ได้แต่นอนกองอยูพ่ ้นื เหงื่อออกจมชุ่มโชกไปหมด แต่
ดวงตาของเขายังคงจ้องมองอยูท่ ี่จวินเสี ยตลอดเวลา ความกลัวของ
เขาเพิ่มมากขึ้นเรื่ อย ๆ
เขาไม่คิดเลยว่าผูเ้ ยาว์ที่เขาอยากจะดึงมาเป็ นพวกในตอนแรก และ
จากนั้นก็อยากจะฆ่าให้ตาย จะกลายเป็ นคนที่ทาํ ลายอนาคตอัน
สดใสของเขา!
เขาแค่ตอ้ งรออีกสองปี เท่านั้นจักรพรรดิกจ็ ะเอาเล่ยเฉิ นลงจาก
ตําแหน่งรัชทายาท และเขาจะกลายเป็ นรัชทายาทคนใหม่ของ
แคว้นหยาน ได้สืบทอดดินแดนที่กว้างใหญ่ที่สุด เจริ ญรุ่ งเรื องที่สุด
และยิง่ ใหญ่ที่สุด แต่การปรากฏตัวของจวินเสี ยได้ทาํ ให้ทุกอย่างพัง
พินาศไปหมด เขาเองก็ถูกลากลงจากสวรรค์ให้ตกลงสู่ ขมุ นรก!
ถ้าทําได้เล่ยฟ่ านก็ไม่อยากให้จวินเสี ยปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาเลย!
แต่ทว่า มันก็เป็ นได้แค่ความหวังเท่านั้น!
ตอนที่ 940 ตบหน้ าครั้ง 10 (4)
จวินอู๋เสี ยเมินจักรพรรดินีกบั คนอื่น ๆ และหันไปมองจักรพรรดิที่
หน้าซีดขาว
จักรพรรดิลุกลี้ลุกลนขึ้นมาทันทีเมื่อสายตาคู่น้ นั หันไปทางเขา เขา
ตกใจจนเกือบตกจากบัลลังก์ แต่กพ็ ยายามจะวางมาดยืดหลังตรง
ทั้ง ๆ ที่แทบจะตั้งสติเอาไว้ไม่ได้ เขามองสํารวจทัว่ ท้องพระโรง
ก่อนจะหยุดมองที่เล่ยสื อ แล้วดวงตาของเขาก็มีประกายความหวัง
ขึ้นมาทันที!
“เสี่ ยวสื อ! ลูกรักของพ่อ! จวินเสี ยกําลังวางแผนฆ่าพ่อ! ช่วยพ่อด้วย!
เจ้าต้องช่วยพ่อจากมันนะ!” จักรพรรดิออ้ นวอนเสี ยงดังเมื่อเห็นเล่ย
สื อที่ยนื นิ่งค้างอยูด่ า้ นหนึ่ง
เล่ยสื อตกตะลึงกับเรื่ องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในท้องพระโรง เขาหันไป
มองทางเข้าท้องพระโรงและเห็นสัตว์อสู รขนาดยักษ์ขวางทางออก
อยู่ จากนั้นเขาก็หนั ไปมองจักรพรรดิที่กลัวจนไม่เหลือมาด
จักรพรรดิที่สูงส่ ง และถึงเขาจะรู ้สึกกลัวแต่เท้าของเขาก็ขยับจะเดิน
ไปทางจักรพรรดิโดยไม่รู้ตวั
แต่พอเขาขยับเท้าก้าวแรก เล่ยเฉินก็เอื้อมมือมาจับไหล่เขาไว้
“เสด็จพี่?” เล่ยสื อพูดขึ้นพลางมองเล่ยเฉิ น
เขาสามารถแก้แค้นพวกชัว่ ได้ในวันนี้กเ็ พราะเล่ยเฉิน และจากที่จวิน
เสี ยพูดเมื่อครู่ เขาก็เข้าใจแล้วว่าคนบงการที่แท้จริ งที่อยูเ่ บื้องหลัง
แผนการทั้งหมดที่ช่วยลากจักรพรรดินีลงจากอํานาจก็คือจวินเสี ย!
จากมุมมองของเขาที่เขาสามารถแก้แค้นให้กบั การตายของแม่ได้น้ นั
ทําให้เล่ยสื อไม่รู้สึกเกลียดจวินเสี ยเลยแม้แต่นอ้ ย แต่กลับเต็มไปด้วย
ความสํานึกขอบคุณผูเ้ ยาว์คนนี้แทน
“หลังจากที่แกล้งโง่มาหลายปี เจ้าเลยกลายเป็ นคนโง่ไปจริ ง ๆ รึ ไง?”
เล่ยเฉินจ้องมองเล่ยสื อแน่วแน่โดยไม่ยอมละสายตา
เล่ยสื อสะดุง้
“ตอนที่ท่านแม่ของเจ้าตาย จักรพรรดิได้สงั่ ให้ใครสื บสวนหาความ
จริ งรึ เปล่า? หลังจากแม่ของเจ้าถูกฆ่า ตัวเจ้าถูกข่มเหงรังแกอยูห่ ลาย
ครั้ง เขาเคยคิดว่าเจ้าเป็ นลูกบ้างไหม? เคยปกป้องเจ้าบ้างรึ เปล่า?
ตอนที่เจ้าย้ายออกจากวังหลวง เขาเคยแสดงความห่วงใยเจ้าบ้างรึ
เปล่า?” ทุกถ้อยคําที่ออกจากปากของเล่ยเฉินแทงใจเล่ยสื ออย่างจัง
ทุก ๆ คําที่พดู ออกมาทําให้เล่ยสื อรู ้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาด!
ตอนที่แม่ของเขาตาย จักรพรรดิยงั โศกเศร้าเสี ยใจจากการที่สนมเฉิ น
ผูเ้ ป็ นที่รักของเขาเสี ยชีวติ จากการคลอดบุตรและไม่ได้ห่วงหรื อใส่
ใจใครอื่นเลย แค่การตายของสนมคนหนึ่งกระทัง่ งานศพก็ถูกจัด
อย่างเร่ งรี บขอไปที ไม่ตอ้ งพูดถึงเรื่ องสัง่ ให้สืบสวนหาความจริ งเลย
หลังจากนั้นจักรพรรดิกด็ ูเหมือนจะลืมไปว่าเล่ยสื อยังอยู่ และไม่เคย
เรี ยกเขาเข้าเฝ้าตามลําพังเลยสักครั้ง ถ้าไม่ใช่วา่ เขาแซ่เล่ย เล่ยสื อก็คง
สงสัยว่าเขายังเป็ นคนของราชวงศ์อยูร่ ึ เปล่า
คําพูดของเล่ยเฉินทําให้เล่ยสื อตาสว่าง เขาถอยเท้ากลับมาและถอย
ไปอยูข่ า้ งหลัง
เนื่องจากการไม่ทาํ อะไรเลยของจักรพรรดิและการเอาแต่สนใจ
จักรพรรดินีกบั เล่ยฟ่ าน ทําให้เขาต้องคอยหลบซ่อนอย่างขี้ขลาดด้วย
ความกลัวมาหลายปี เพื่อรอคอยวันที่เขาจะได้แก้แค้นให้กบั แม่ของ
เขา
ถ้าเพียงแต่จกั รพรรดิจะหันมาสนใจบ้างสักนิด การฆาตกรรมอย่าง
เลือดเย็นนี้กค็ งถูกเปิ ดเผยไปแล้ว
แสงแห่งความหวังที่เพิ่งผุดขึ้นในใจของจักรพรรดิพลันดับลงเพราะ
เล่ยเฉิน เขาเห็นเล่ยสื อถอยไปยืนข้างหลังเล่ยเฉินพลางก้มหน้าไม่
ยอมมองเขา
ทันใดนั้นจักรพรรดิกต็ ะโกนขึ้นว่า “ไอ้พวกชัว่ ช้าสารเลว! พวกเจ้า
กล้าทํากับจักรพรรดิอย่างนี้เรอะ! ข้าคือจักรพรรดิของแคว้นหยาน
นะ! ถ้าเจ้าฆ่าจักรพรรดิผนู ้ ้ ี พวกเจ้าก็อย่าหวังจะรอดชีวติ ออกไปจาก
วังหลวงเลย!”
จักรพรรดิกลัวมาก และเขาไม่มีทางเลือกนอกจากทําใจกล้าขู่ออกไป
แต่จวินอู๋เสี ยกลับส่ ายหน้าน้อย ๆ พลางมองจักรพรรดิที่ตื่นตระหนก
“ดูเหมือนฝ่ าบาทจะลืมไปแล้วว่าทําไมถึงอยากฆ่ากระหม่อมให้
ตาย”
จักรพรรดิตกตะลึง ทันใดนั้นเขาก็เห็นจวินเสี ยยกมือขึ้นช้า ๆ เพื่อให้
เขาเห็นแหวนจักรพรรดิหยานที่สวมอยูบ่ นนิ้วได้ชดั ๆ ถนัดตา!
ตอนที่ 941 ตบหน้ าครั้ง 10 (5)
ดวงตาของจักรพรรดิเบิกกว้าง
“อะไร…เจ้าทําอะไร!?” จักรพรรดิตะโกนออกมาอย่างตื่นตระหนก
จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งแล้วถามว่า “อะไรงั้นหรื อ? ฝ่ าบาทจํา
แหวนวงนี้ไม่ได้หรอกหรื อ?”
“แหวนอะไร! ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น!” จักรพรรดิรู้สึกกลัวมาก เขายํ้า
กับตัวเองว่าให้ใจเย็น ๆ เอาไว้
[ไม่มีทางที่จวินเสี ยจะรู ้ความลับของแหวนจักรพรรดิหยานนี้ได้
หรอก!]
[เป็ นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!]
“จักรพรรดิองค์แรกของสายตระกูลท่านได้ออกพระราชโองการไว้
ว่า เมื่อไรก็ตามที่ผคู ้ รอบครองแหวนจักรพรรดิหยานปรากฏตัวขึ้น
ในแคว้นหยาน ไม่วา่ ลูกหลานรุ่ นไหนก็ตามที่ครองบัลลังก์อยูใ่ น
ตอนนั้น จะต้องสละราชบัลลังก์ในทันที และมอบบัลลังก์ให้แก่ผู ้
ครองแหวนจักรพรรดิหยาน ฝ่ าบาทจําไม่ได้หรื อ?” คําพูดของจวินอู๋
เสี ยได้ทาํ ลายเศษเสี้ ยวความหวังสุ ดท้ายของจักรพรรดิจนหมดสิ้ น
เขาทรุ ดตัวลงนัง่ บนบัลลังก์อย่างพ่ายแพ้หมดรู ป ใบหน้าปราศจากสี
เลือด
“เจ้ารู ้ได้ยงั ไง…มหาอํามาตย์ง้ นั หรื อ? มหาอํามาตย์เป็ นคนบอกเจ้า
ใช่ไหม!?” จักรพรรดิจอ้ งมองจวินเสี ยด้วยดวงตาแดงกํ่า
แต่ตอนนั้นเองเล่ยเฉินก็พดู ขึ้นว่า “ลูกเป็ นคนบอกเอง”
จักรพรรดิหนั ไปมองเล่ยเฉิน ใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“เป็ นเจ้า…”
เล่ยเฉินมองสบตาจักรพรรดิที่จอ้ งเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อตรง ๆ
อย่างไม่เกรงกลัว
แล้วจักรพรรดิกร็ ้องตะโกนขึ้นว่า “ในโลกนี้มีคนที่จาํ แหวน
จักรพรรดิหยานได้แค่ไม่กี่คน! จวินเสี ย! เจ้าอย่าคิดว่าจะเอาแคว้น
ของข้าไปครองได้ดว้ ยแหวนแค่วงเดียว! แคว้นหยานเป็ นของข้า!
เป็ นของจักรพรรดิ! ข้าคือจักรพรรดิแห่งแคว้นหยาน! ต่อให้เจ้ามี
แหวนแล้วยังไง!? ถ้าเจ้าฆ่าข้า คนทั้งแคว้นหยานก็จะตามฆ่าเจ้าทุก
วิถีทาง! ไม่มีใครรู ้เรื่ องแหวนจักรพรรดิหยานหรอก! เจ้าจะไม่มีวนั
ได้ครองบัลลังก์แคว้นหยาน! ไม่มีวนั ! เจ้าไม่มีวนั ทําได้!”
จวินอู๋เสี ยพ่นลมออกทางจมูกอย่างดูถูกแล้วพูดว่า “นี่คิดว่าข้าสนใจ
มันรึ ไง?”
จักรพรรดิตะลึงไปอีกครั้ง
“ถ้าไม่ใช่เพราะท่านรนหาที่มาข่มเหงข้าก่อน ไอ้เก้าอี้ผุ ๆ ของท่าน
ตัวนี้ขา้ ไม่เห็นสนใจเลยสักนิด แต่ท่านมาเล่นงานข้าเอง เพื่อตอบ
แทนของขวัญที่ท่านให้ขา้ มา ข้าก็ยอ่ มอยากช่วยเหลือให้ท่าน
ตระหนักถึงความผิดที่ท่านได้ใส่ ร้ายข้าเอาไว้” ดวงตาของจวินอู๋เสี ย
พลันส่ องประกายเย็นยะเยือกขึ้นทันที
[บัลลังก์ของจักรพรรดิแห่งแคว้นหยานแล้วยังไง? ในสายตาของ
นาง มันเทียบกับหญ้าในสวนของวังหลินไม่ได้ดว้ ยซํ้า]
[แต่ในเมื่อจักรพรรดิพยายามจะฆ่านาง นางจะยอมให้เขาสม
ปรารถนาได้อย่างไร?]
“เป็ นไปไม่ได้…เจ้าจะไม่เป็ นจักรพรรดิแห่งแคว้นหยาน…เป็ นไป
ไม่ได้…เป็ นไปไม่ได้…” จักรพรรดิช็อคจนได้แต่ทวนคําพูดตัวเอง
ซํ้า ๆ ไปมา
ทหารถูกท่านแบะแบะขวางเอาไว้ดา้ นนอกท้องพระโรงและไม่
สามารถเข้ามาช่วยเขาได้ ลูกชายเพียงคนเดียวของเขาที่อยูใ่ นท้อง
พระโรงก็ไม่อยากจะช่วยเขาเพราะเขาได้เมินเฉยและไม่สนใจใยดี
ลูกเลยตลอดเวลาหลายปี ที่ผา่ นมา
ตอนนี้ผคู ้ รองแคว้นที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดในโลกกําลังรู ้สึกหวาดกลัวและ
หมดสิ้ นหนทางอย่างที่ไม่เคยเป็ นมาก่อน
“อย่าลืมว่าพระราชโองการอันนั้นยังอยูใ่ นมือของพระพันปี หลวง”
จวินอู๋เสี ยยังอุตส่ าห์มีน้ าํ ใจช่วยเตือนความจําให้จกั รพรรดิดว้ ย
พระพันปี หลวงจะทําตามความต้องการของจักรพรรดิองค์แรกของ
สายตระกูลอยูเ่ สมอ และต่อให้จกั รพรรดิเป็ นลูกหลานของนางเอง
นางก็จะไม่เปลี่ยนใจ
“แต่วางใจเถอะ ข้าจะไม่เป็ นจักรพรรดิแห่งแคว้นหยานหรอก”
จวินอู๋เสี ยพูดขึ้น
ดวงตาของจักรพรรดิส่องประกายความหวังขึ้นมาทันที!
แต่ดวงตาของจวินอู๋เสี ยยังคงเย็นเยียบเช่นเดิม
“หลังจากที่ท่านสละราชบัลลังก์แล้ว บัลลังก์จะตกเป็ นของข้า ข้าจะ
ออกพระราชโองการแต่งตั้งเล่ยเฉินเป็ นจักรพรรดิแห่งแคว้นหยาน
คนต่อไปทันที!”
ดวงตาของจักรพรรดิเบิกกว้างขึ้นอีกครั้ง แล้วเขาก็เหลือบเห็นเล่ย
เฉินทําตาแบบเดียวกันกับเขาเป๊ ะ
จวินอู๋เสี ยไม่สนใจบัลลังก์จริ ง ๆ และถึงขั้นจะมอบบัลลังก์ให้เจ้าเด็ก
ที่มีชาติกาํ เนิดตํ่าต้อยซึ่ งเป็ นสายเลือดของนางกํานัลกับทหารชั้นตํ่า!
จักรพรรดิรู้สึกอยากจะบ้าตายซะให้ได้!
ตอนที่ 942 พระพันปี หลวง (1)
ถ้าจวินเสี ยจะทําเช่นนั้นจริ ง ๆ งั้นที่จกั รพรรดิทาํ มาทั้งหมดนั้นทําไป
เพื่ออะไรกัน
ถึงจวินเสี ยจะรู ้ความลับของแหวนจักรพรรดิหยานแล้ว เขาก็ยงั ไม่
สนใจบัลลังก์ของแคว้นหยานเลยสักนิด จักรพรรดิหนั ไปมองจวิน
เสี ยอย่างหวาดกลัวและอดที่จะคิดไม่ได้วา่ [ถ้าเขาไม่คิดกําจัดจวิน
เสี ยตั้งแต่แรก ถ้าเขาทํากับจวินเสี ยดี ๆ อย่างที่เขาทํากับผูเ้ ยาว์คนอื่น ๆ
ก็หมายความว่าเรื่ องพวกนี้จะไม่เกิดขึ้นงั้นซิ นะ?]
จักรพรรดินงั่ ตัวสัน่ อยูบ่ นบัลลังก์ จู่ ๆ เขาก็รู้สึกหนาวเยือกขึ้นมา
ความหนาวเย็นแล่นไปทัว่ ร่ างกายทําให้แหวนที่นิ้วของเขาพลันเย็น
เฉี ยบขึ้นมา
“ข้าเป็ นหลานของพระพันปี หลวง…เสด็จย่าจะไม่…เสด็จย่าจะไม่
ช่วยเจ้าหรอก…” จนถึงนาทีสุดท้าย จักรพรรดิกย็ งั ดิ้นรนไม่เลิก
“โอ้? งั้นเหรอ?” จวินอู๋เสี ยยิม้ มุมปาก
ทันใดนั้น คนสามคนก็ปรากฏตัวขึ้นที่ดา้ นหลังท้องพระโรง
มหาอํามาตย์ที่อยูก่ บั ฉูหลิงเย่ตวั จริ งและผูห้ ญิงชราที่มีผมสี ขาวทั้ง
หัวพากันเดินเข้ามาในท้องพระโรงช้า ๆ
“พระพันปี หลวง!” เล่ยสื อที่ยนื มึนงงอยูใ่ นท้องพระโรงอ้าปากค้าง
ด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นพระพันปี หลวง
จักรพรรดิร้องตะโกนออกมาทันที “เสด็จย่า! ช่วยหลานด้วย! โจรชัว่
พวกนี้จะเอาชีวติ หลาน!”
พระพันปี หลวงแห่งแคว้นหยานอายุเกือบร้อยปี แล้ว เวลาที่ผา่ นมา
นานได้ทิ้งริ้ วรอยไว้ที่ใบหน้าของนาง แต่ท่าทางการเดินการยืนของ
นางยังคงสงบเยือกเย็น
ตั้งแต่จกั รพรรดิองค์แรกของสายตระกูลนี้สิ้นพระชนม์ไป พระพันปี
หลวงได้ช่วยให้จกั รพรรดิองค์ที่แล้วขึ้นครองราชย์ หลังจาก
จักรพรรดิองค์ที่แล้วมอบบัลลังก์ให้หลานของนาง นางก็เก็บตัวอยู่
เงียบ ๆ ในวังหลวง ไม่เคยเข้ามายุง่ เกี่ยวกับเรื่ องใด ๆ ไม่วา่ จะเล็ก
หรื อใหญ่ จะเรื่ องในราชสํานักหรื อเรื่ องในวังหลัง จนขุนนางหลาย
คนเกือบจะลืมไปแล้วว่าพระพันปี หลวงยังอยู่
มีเพียงจักรพรรดิคนเดียวที่รู้วา่ คนที่มียอดฝี มือที่แข็งแกร่ งมากที่สุด
ในแคว้นหยานก็คือพระพันปี หลวง!
แม้วา่ นางจะไม่เคยถามไถ่เรื่ องของราชสํานัก แต่กไ็ ม่มีเรื่ องใดที่นาง
ไม่รู้
“เสด็จย่า! เสด็จย่าช่วยหลานด้วย!” จักรพรรดิแทบจะตะเกียกตะกาย
เข้าไปเกาะแทบเท้าของพระพันปี หลวง ไม่เหลือทีท่าของผูค้ รอง
แคว้นเลยสักนิด แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
พระพันปี หลวงยืนอย่างสง่าอยูใ่ นท้องพระโรง ดวงตาสงบนิ่งและ
ลึกลํ้ามีแววฉลาดเฉลียวของผูท้ ี่เห็นโลกมามาก นางก้มหน้ามอง
จักรพรรดิที่ร้องไห้เหมือนเด็ก ๆ อยูแ่ ทบเท้านางแล้วก็ถอนใจ
ออกมาเฮือกใหญ่
“ฝ่ าบาทยังจําพระราชโองการของจักรพรรดิองค์แรกได้ไหมเพคะ?
สมาชิกของราชสกุลเล่ยยึดมัน่ ในคําพูดเสมอ ฝ่ าบาทยังจําตอนที่
จักรพรรดิองค์แรกขึ้นครองบัลลังก์ได้ไหม? ตอนที่พอ่ ของฝ่ าบาท
มอบบัลลังก์ให้ฝ่าบาท เขาก็ย้าํ เตือนฝ่ าบาทอยูห่ ลายครั้ง แล้วทําไม
ตอนนี้ฝ่าบาทถึงยังยึดติดกับอํานาจขนาดนี้ล่ะเพคะ?”
พระพันปี หลวงมองจักรพรรดิดว้ ยแววตาที่ไม่รู้จะช่วยเหลือเขา
อย่างไร
“เสด็จย่า…” จักรพรรดิเงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ ไม่อยากจะเชื่อว่า
พระพันปี หลวงจะพูดเช่นนี้ออกมา
ความหวังสุ ดท้ายถูกทําลายลงอีกครั้ง จากคําพูดของพระพันปี หลวง
ได้ยอมรับแล้วว่าจวินเสี ยมีสิทธิ์ที่จะเป็ นจักรพรรดิแห่งแคว้นหยาน
ด้วยพระราชโองการที่จกั รพรรดิองค์แรกร่ างขึ้นมาซึ่งอยูใ่ นมือของ
พระพันปี หลวง ทําให้แค่คาํ พูดพวกนั้นเพียงพอแล้วที่จะบังคับให้
จักรพรรดิตอ้ งสละราชบัลลังก์!
พระพันปี หลวงหันไปมองจวินเสี ย นี่เป็ นครั้งแรกที่นางพบกับผูเ้ ยาว์
ที่ครอบครองแหวนจักรพรรดิหยาน ตอนแรกที่นางได้ยนิ เหวินหยู
บอกนางว่าผูค้ รอบครองแหวนจักรพรรดิหยานได้ปรากฏตัวแล้ว
นางรู ้สึกประหลาดใจและยินดีมาก นางไม่คิดเลยว่าหลานชายของ
นางจะขัดขืนราชโองการของจักรพรรดิองค์แรก และพยายามฆ่าผู ้
ครอบครองแหวนจักรพรรดิหยาน
ตอนที่ 943 พระพันปี หลวง (2)
พระพันปี หลวงมองผูเ้ ยาว์ตวั เล็กตรงหน้านางแล้วมองไปที่แหวน
จักรพรรดิหยานบนมือของจวินเสี ย
“เจ้าเกี่ยวข้องยังไงกับเล่ยเฉี ยน?” พระพันปี หลวงถามอย่างนุ่มนวล
จวินอู๋เสี ยส่ ายหน้า
พระพันปี หลวงจึงถามว่า “แหวนนี้เป็ นของพีช่ ายของจักรพรรดิองค์
แรกของสายเรา จักรพรรดิแห่งแคว้นหยานในยุคของเขา เล่ยเฉี ยน”
“ในเมื่อเจ้าครอบครองแหวนวงนี้ เจ้าก็ตอ้ งเกี่ยวข้องกับเขาทางใด
ทางหนึ่ง แต่ยงั ไงก็ช่างเถอะ พระราชโองการของจักรพรรดิองค์แรก
อยูน่ ี่ เมื่อเจ้าเป็ นผูค้ รอบครองแหวนจักรพรรดิหยาน เช่นนั้นตั้งแต่
วันนี้เป็ นต้นไป เจ้าก็คือจักรพรรดิของแคว้นหยาน”
จวินอู๋เสี ยกําลังจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่พระพันปี หลวงก็พดู ต่อว่า “ข้ารู ้วา่ จักรพรรดิได้กระทําความผิด
เอาไว้ และก็มีเหตุผลที่เจ้าจะเกลียดชังเขา ข้าจะไม่ออ้ นวอนขออะไร
อย่างอื่นจากเจ้านอกจากขอให้เจ้าไว้ชีวติ เขาด้วย วางใจเถอะ ตั้งแต่น้ ี
เป็ นต้นไป ข้าจะพาเขากลับไปที่ตาํ หนักของข้า และจะอบรมสัง่
สอนเขาอย่างเข้มงวด จะไม่ให้เขาสร้างความเดือดร้อนให้เจ้าอีก”
พระพันปี หลวงปฏิบตั ิตามพระราชโองการของจักรพรรดิองค์แรก
แต่นางไม่สามารถทนดูหลานชายของนางจบชีวติ ลงเช่นนี้ได้ นาง
กับเหวินหยูและฉูหลิงเย่อยูใ่ นห้องลับด้านหลังท้องพระโรงอยูน่ าน
คําพูดทุกคําที่พดู กันเมื่อครู่ นางได้ยนิ ทั้งหมดอย่างชัดเจน
“ได้พะย่ะค่ะ” จวินอู๋เสี ยพยักหน้า ฆ่าคนน่ะมันง่ายเกินไป แล้วนางก็
ไม่ได้คิดจะเอาชีวติ ของจักรพรรดิอยูแ่ ล้วด้วย แททนที่จะมีดเชือดคอ
เขา จะดีกว่าที่เขาจะติดอยูใ่ นวังหลวงและต้องทนดูบลั ลังก์
จักรพรรดิที่เขาหวงนักหนาตกเป็ นของคนที่เขาไม่ชอบมากที่สุด เล่ย
เฉิน เขาจะต้องทนทรมานจากความอิจฉาริ ษยาซึ่ งสําหรับเขาแล้วมัน
จะเจ็บปวดยิง่ กว่าเป็ นร้อยเท่า!
“แต่กระหม่อมต้องการให้เขามอบของสิ่ งหนึ่งให้กระหม่อมก่อน”
จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับหรี่ ตา
“อะไรงั้นหรื อ?” พระพันปี หลวงถาม
“ชิ้นส่ วนแผนที่หนังมนุษย์” จวินอู๋เสี ยตอบ
จักรพรรดิที่ทอ้ แท้สิ้นหวังพลันตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยนิ
คําพูดของจวินอู๋เสี ย ดวงตาของเขาแสดงความประหลาดใจและ
เหลือเชื่อ
กระทัง่ เหวินหยูที่ยนื อยูด่ า้ นข้างก็มีแววตาแปลก ๆ ขึ้นมาแวบนึง
“แผนที่หนังมนุษย์เหรอ?” เห็นได้ชดั ว่าพระพันปี หลวงไม่รู้เรื่ องนี้
นางก้มลงถามจักรพรรดิ “เจ้ามีรึเปล่า? ถ้ามีกใ็ ห้เขาไปซะ”
จักรพรรดิสนั่ หัวแรง ๆ สี หน้าหวาดกลัวของเขายิง่ รุ นแรงมากกว่า
เมื่อครู่
“เสด็จย่า…หลาน…ให้แผนที่น้ นั กับใครไม่ได้! ไม่ง้ นั หลานตายแน่!
คนพวกนั้นต้องฆ่าหลานแน่ ๆ !”
“คนพวกนั้น?” พระพันปี หลวงยังไม่เข้าใจ
จักรพรรดิพดู เสี ยงสะอึกสะอื้นว่า “เสด็จย่ายังจําได้ไหมพะย่ะค่ะว่า
พี่ชายของจักรพรรดิองค์แรกหายตัวไปได้ยงั ไง?”
พระพันปี หลวงตอบว่า “จู่ ๆ ท่านพี่เล่ยเฉี ยนก็อยากพาคนไปยัง
สถานที่แห่งหนึ่งนอกแคว้นหยาน แต่ไม่มีใครพูดถึงว่าเขาไปที่ไหน
มันเกี่ยวอะไรกับเรื่ องนี้หรื อ?”
จักรพรรดิพดู ว่า “เป็ นเพราะแผนที่อนั นั้นพะย่ะค่ะ! นัน่ แหละสาเหตุ
ที่เล่ยเฉียนหายไป! หลานเจอแผนที่อนั นั้นตอนที่กาํ ลังจัดแยกของที่
เสด็จทิ้งเอาไว้ แต่หลังจากที่หลานเจอแผนที่น้ นั ไม่นาน ก็มีคน
ลึกลับหลายคนปรากฏตัวขึ้น พวกเขาแข็งแกร่ งมาก ทุกคนมีพลัง
วิญญาณขั้นสี ม่วง พวกเขาบอกหลานว่าพวกเขาได้ให้แผนที่น้ นั
กับเล่ยเฉี ยนเมื่อหลายปี ก่อนแต่แผนที่มนั ไม่สมบูรณ์ พวกเขาอยาก
ให้เล่ยเฉี ยนใช้ความยิง่ ใหญ่ของแคว้นหยานช่วยพวกเขาทําให้แผน
ที่ฉบับนี้สมบูรณ์ และเพราะเล่ยเฉียนไปค้นหาสถานที่ที่ระบุในแผน
ที่เขาก็เลยหายตัวไป…”
จักรพรรดิยงิ่ พูดก็ยงิ่ หวาดกลัว ในโลกนี้สิ่งที่ทาํ ให้ผคู ้ รองแคว้นที่
ยิง่ ใหญ่ที่สุดหวาดกลัวได้มีอยูไ่ ม่กี่อย่าง แต่พลังที่น่าตกใจของคน
พวกนั้นทําให้จกั รพรรดิกลัวจนไม่กล้าขัดขืนพวกเขา!
ตอนที่ 944 พระพันปี หลวง (3)
คําพูดของจักรพรรดิทาํ ให้พระพันปี หลวงประหลาดใจ อย่างน้อย
นางก็ไม่เคยรู ้เรื่ องนี้
แต่เมื่อจวินอู๋เสี ยได้ยนิ นางก็เข้าใจทันทีวา่ คนพวกนั้นที่มาหา
จักรพรรดิตอ้ งเป็ นคนจากวิหารใดวิหารหนึ่งในสิ บสองวิหารอย่าง
แน่นอน!
“เสด็จย่า! พวกเขาบอกหลานว่าถ้าหลานไม่ทาํ ตามคําสัง่ ของพวกเขา
ที่ให้คน้ หาสิ่ งที่อยูบ่ นแผนที่ต่อ พวกเขาจะฆ่าหลาน! หลานไม่กล้า
มอบแผนที่หนังมนุษย์น้ ีให้ใครจริ ง ๆ พวกเขาเอาหลานตายแน่!”
จักรพรรดิตวั สัน่ เป็ นลูกนก สี หน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
พระพันปี หลวงเลิกคิ้วขึ้น นางหันไปมองจวินเสี ย
แต่จวินเสี ยบอกนางว่า “ข้าไม่มีแผนที่นนั่ ไม่ได้”
พระพันปี หลวงได้แต่ถอนใจ นางบอกจักรพรรดิวา่ “วางใจเถอะ
หลังจากที่เจ้ามอบแผนที่นนั่ แล้ว ข้าจะพาเจ้าไปจากที่นี่ ไปเก็บตัวอยู่
กันเงียบ ๆ พวกนั้นหาเจ้าไม่เจอแน่นอน”
จักรพรรดิกลัวมาก เขามองพระพันปี หลวงและลังเลอยูน่ านก่อนจะ
พยักหน้าช้า ๆ จากนั้นเขาก็คลานไปที่บลั ลังก์และเอื้อมมือไปใต้ฐาน
บัลลังก์ดึงเอากล่องกํามะหยีอ่ อกมาจากช่องลับ มือของจักรพรรดิที่
ถือกล่องกํามะหยีส่ นั่ ระริ กขณะที่เดินเข้ามาหาจวินเสี ยจากนั้นก็ส่ง
กล่องให้ดว้ ยความกลัว
ในตอนนั้นจักรพรรดิรู้แล้วว่าเขาพ่ายแพ้อย่างสิ้ นเชิง เขากับลูกชาย
ไม่สามารถมีทายาทสื บสกุลได้อีกต่อไป จวินเสี ยเองก็แข็งแกร่ งมาก
นอกจากนั้นพระพันปี หลวงก็ได้ตดั สิ นใจแล้ว ไม่วา่ จะพยายามดิ้น
รนต่อไปอีกเท่าไรก็มีแต่จะเจ็บมากขึ้นเท่านั้น
เขาไม่ใช่คนโง่ เขารู ้วา่ ตัวเองเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ไม่ได้แล้ว
แล้วทําไมเขาถึงจะไม่เลือกหนทางที่จะสามารถรักษาชีวติ ตัวเอง
เอาไว้ได้กนั ล่ะ
จวินอู๋เสี ยรับกล่องกํามะหยีม่ าเปิ ดออกดู มีชิ้นส่ วนแผนที่หนังมนุษย์
อยูภ่ ายในกล่องนั้น
“วันนี้เจ้าต้องประกาศสละราชสมบัติแล้วเรื่ องระหว่างเราก็เป็ นอัน
จบกันไป” จวินอู๋เสี ยเก็บกล่องอย่างระมัดระวัง นางไม่อยากจะ
เสี ยเวลากับจักรพรรดิอีกต่อไป จุดประสงค์ที่นางมาแคว้นหยานก็
บรรลุแล้ว คนที่หาเรื่ องนางก็โดนลงโทษแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่อยาก
เสี ยเวลาอยูท่ ี่นี่อีก
จักรพรรดิถอยไปยืนข้าง ๆ พระพันปี หลวงอย่างนอบน้อม คนเพียง
คนเดียวที่สามารถปกป้องเขาได้คือพระพันปี หลวงเท่านั้น แม้วา่ คน
แปลกหน้าลึกลับพวกนั้นจะแข็งแกร่ งเกินคน แต่องครักษ์ที่คอย
ปกป้องพระพันปี หลวงอยูล่ บั ๆ ก็ไม่ใช่คนที่จะมาดูถูกได้เหมือนกัน
“หลังจากที่เขาประกาศสละราชสมบัติ ข้าจะเปิ ดพระราชโองการ
ของจักรพรรดิองค์แรกให้ประชาชนรับรู ้ จากวันนี้เป็ นต้นไปเจ้าคือ
จักรพรรดิแห่งแคว้นหยาน” พระพันปี หลวงพูด ในที่สุดนางก็ทาํ
ตามความปรารถนาที่อยูใ่ นใจของนางมานานหลายปี ได้สาํ เร็ จ
จวินอู๋เสี ยยกมือขึ้นทันทีและพูดว่า “ไม่ตอ้ ง ท่านแค่มอบบัลลังก์ให้
เล่ยเฉินก็พอแล้ว”
เล่ยเฉินตกตะลึง
พระพันปี หลวงทําท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรต่อ แต่จวินอู๋เสี ยไม่
อยากอยูท่ ี่นนั่ ต่อแล้ว นางเรี ยกเจ้าบัวเมาแล้วเดินออกไปนอกท้อง
พระโรง ปี นขึ้นหลังท่านแบะแบะ แล้วออกจากที่นนั่ ท่ามกลางเสี ยง
ตะโกนอย่างตกใจของพวกทหาร
ท้องพระโรงเงียบกริ บ
ดวงตาของพระพันปี หลวงเบิกกว้าง นางมองตามหลังจวินเสี ยที่จาก
ไปอย่างไม่สนใจใยดี ตอนที่นางซ่อนอยูใ่ นห้องลับเมื่อครู่ นางได้
ยินจวินเสี ยพูดแบบเดียวกันนี้ แต่นางคิดว่าจวินเสี ยแค่ปั่นหัว
จักรพรรดิให้ร้อนใจเท่านั้น ไม่คิดว่าจวินเสี ยจะไม่สนใจบัลลังก์แห่ง
แคว้นหยานจริ ง ๆ
“พระพันปี หลวง!” เล่ยเฉินพูดพร้อมกับคุกเข่าลงตรงหน้าพระพันปี
หลวง
“กระหม่อมไม่ใช่จกั รพรรดิของแคว้นหยาน! แล้วก็ไม่อยากเป็ น
จักรพรรดิดว้ ยพะย่ะค่ะ กระหม่อมจะเกลี้ยกล่อมจวินเสี ยทุกทาง
เท่าที่ทาํ ได้เพื่อให้เขามารับตําแหน่งพะย่ะค่ะ”
พระพันปี หลวงมองเล่ยเฉินอย่างประหลาดใจเล็กน้อย แต่เล่ยเฉิ นก็
ลุกขึ้นไล่ตามจวินเสี ยไปทันทีที่พดู จบ
จักรพรรดิที่อยากได้บลั ลังก์นกั หนาเมื่อเห็นจวินเสี ยกับเล่ยเฉินที่ไม่
สนใจบัลลังก์เลยสักนิด เขาก็รู้สึกขมขื่นในใจจนไม่อาจบรรยาย
ออกมาเป็ นคําพูดได้
ตอนที่ 945 แผนทีส่ ่ วนที่ 5 (1)
“ทหาร จับสามคนนี้ไปขังรอการลงโทษ” พระพันปี หลวงเหนื่อย
แล้ว นางชําเลืองมองจักรพรรดินี อัครมหาเสนาบดี และเล่ยฟ่ านที่
อยูใ่ นท้องพระโรง แม้วา่ นางจะทําตามพระราชโองการของ
จักรพรรดิองค์แรกโดยการให้จกั รพรรดิสละราชสมบัติ แต่นางก็ไม่
อาจอภัยให้คนเนรคุณที่ทรยศความเมตตาของจักรพรรดิท้ งั สามคน
นี้ได้
พระพันปี หลวงพาเล่ยสื อกับจักรพรรดิกลับไปด้วยกันและ
เตรี ยมการสําหรับการสละราชสมบัติของจักรพรรดิ
ในท้องพระโรง ฉูหลิงเย่ยนื เหม่ออยูก่ บั ที่ นางจ้องมองประตูที่เปิ ด
กว้างออกสู่ ขา้ งนอกโดยไม่ละสายตาจากทิศทางที่จวินเสี ยจากไป
เลย
“แม่นางฉู?” เหวินหยูพดู ขึ้นพร้อมกับมองใบหน้ามึนงงของฉูหลิงเย่
ฉูหลิงเย่ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ ว เมื่อวานเล่ยเฉินพานางไปที่จวน
ของมหาอํามาตย์และขอร้องให้มหาอํามาตย์แอบพานางเข้ามาในวัง
หลวง และเชิญพระพันปี หลวงมาที่ทอ้ งพระโรง แม้วา่ เล่ยเฉินจะ
เป็ นคนพูดทั้งหมด แต่เขาก็พดู ตามที่จวินเสี ยบอกมา
“ท่านมหาอํามาตย์ ตอนนี้ท่านลุงเซียงกับคนอื่น ๆ อยูท่ ี่ไหนคะ?”
ดวงตาของฉูหลิงเย่เป็ นประกายขึ้นมาพร้อมกับถามอย่างร้อนใจ
มหาอํามาตย์ยมิ้ และพานางไปที่ ๆ เซียงป้ากับคนอื่น ๆ พักอยู่
ระบอบการปกครองของแคว้นหยานได้เปลี่ยนไปโดยสิ้ นเชิงในวัน
นั้นเอง
เมื่อเซียงป้ากับคนอื่น ๆ เห็นฉูหลิงเย่ตวั จริ ง พวกเขาก็ยมิ้ กว้างกัน
ทันที และรี บบอกลามหาอํามาตย์ก่อนจะออกจากวังหลวงไป
เมื่อพวกเขากลับไปที่โรงเตี๊ยม ฉูหลิงเย่รู้สึกกระสับกระส่ ายเล็กน้อย
นางจึงเชิญเซียงป้ากับคนที่เหลือมาที่หอ้ งของนาง
“ท่านอาเซียง ที่ทอ้ งพระโรงวันนี้ขา้ เห็นเรื่ องเหลือเชื่อเข้าด้วยล่ะ”
“อะไรหรื อขอรับ? จวินเสี ยก่อเรื่ องเข้าอีกแล้วเหรอ? ข้าบอกแล้วว่า
เราไม่ควรตกลงทําตามคําขอร้องของเด็กนัน่ อย่าไปคิดว่าเด็กนัน่
เป็ นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ เลย สมองของเขาสามารถก่อเรื่ องได้เยอะแยะ
เลยล่ะ” เซียงป้าพูดพลางนึกถึงสิ่ งที่เขาเจอมาตอนที่เข้าไปในวังวัน
นั้น แล้วตัดสิ นใจว่าพวกเขาควรจะอยูใ่ ห้ห่างจากจวินเสี ยเข้าไว้
เขาเองก็เห็นอยูว่ า่ ฉูหลิงเย่ไม่ได้ไม่ชอบจวินเสี ย และเพราะอย่างนั้น
เขาจึงต้องพูดเรื่ องที่เกิดขึ้นระหว่างจวินเสี ยกับเล่ยฟ่ านที่อุทยาน
ฉูหลิงเย่ฟังอย่างปลาบปลื้ม ที่ทอ้ งพระโรงในวันนี้นางเข้าใจ
ภาพรวมทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว และนางรู ้แน่ชดั ว่าแผนการอัน
สมบูรณ์แบบนี้เป็ นการวางแผนของผูเ้ ยาว์คนนั้น
นางค่อนข้างแน่ใจว่าตอนที่เล่ยเฉินเชิญพวกเขาไปที่วงั ขององค์รัช
ทายาทตอนแรกนั้น ผูเ้ ยาว์คนนั้นก็ได้วางแผนทุกอย่างเอาไว้แล้ว
“ท่านอาเซียง! ท่านว่าความฉลาดเหนือคนธรรมดาของจวินเสี ยจะ
สามารถช่วยท่านพ่อได้ไหม…” ตาของฉูหลิงเย่เป็ นประกายด้วย
ความหวัง
เมื่อเซี ยงป้าได้ยนิ คําพูดพวกนั้นจากนาง เขาก็เข้าใจทันทีวา่ นาง
หมายความว่าอะไร สี หน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที นํ้าเสี ยงก็เข้มงวด
จริ งจัง
“คุณหนู ปัญหาของท่านเจ้าเมืองไม่ใช่เรื่ องที่เด็กจะมายุง่ ได้ ถึงจวิน
เสี ยจะฉลาดเป็ นกรด แต่คนอย่างนั้นอันตรายมากหากยังไม่แน่ใจว่า
เขาเป็ นมิตรหรื อศัตรู ”
ฉูหลิงเย่เถียงว่า “แต่…เขาไม่น่าจะเป็ นศัตรู ของพวกเราไม่ใช่เหรอ?”
เซียงป้าขมวดคิว้ แล้วพูดว่า “เขาร่ วมมือกับเราครั้งนี้กเ็ พราะเป้าหมาย
เราตรงกัน เราอยากได้รับการชดใช้ในความอยุติธรรมที่แคว้นหยาน
ทํากับเรา และเขาก็อยากบรรลุเป้าหมายของตัวเอง มันมีผลประโยชน์
กันทั้งสองฝ่ าย เรายังแน่ใจในความสัมพันธ์ของเรากับเขาไม่ได้
หรอก”
“แต่…ถ้ามีบางอย่างที่ทาํ ให้เป้าหมายของเขาตรงกับเราล่ะ?” ฉูหลิง
เย่ถามพลางคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่จวินเสี ยถามหากล่องกํามะหยี่
จากจักรพรรดิ
“ท่านอาเซียง จักรพรรดิของแคว้นหยานมีแผนที่ที่เหมือนกับที่เรามี
อยูด่ ว้ ย และจวินเสี ยต้องการพวกมัน ถ้าข้าบอกเขาว่าเมืองพันอสู รก็
มีแผนที่น้ นั เหมือนกัน ก็หมายความว่าเขาจะ…” ฉูหลิงเย่ถามอย่าง
ร้อนรน
เซียงป้าทําตาโตทันที
ตอนที่ 946 แผนทีส่ ่ วนที่ 5 (2)
หลังจากจวินอู๋เสี ยออกจากวังหลวง ท่านแบะแบะก็เปลี่ยนร่ าง
กลับมาตัวเล็กเหมือนเดิม หลังจากนั้นไม่นานเล่ยเฉิ นก็ตามมา
ก่อนที่เล่ยเฉินจะพูดอะไร จวินอู๋เสี ยก็พดู ขึ้นว่า “ให้พวกทหารที่ลอ้ ม
ตําหนักเซียนกลับไปให้หมดด้วย”
เล่ยเฉินอึ้งไปครู่ หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้วา่ จักรพรรดิสงั่ ให้ทหารคอย
เฝ้าดูตาํ หนักเซียนที่มีเชียวชูกบั คนอื่น ๆ อยูข่ า้ งใน สําหรับ
ประชาชนในแคว้นหยาน โลกได้เปลี่ยนไปในเวลาแค่ไม่กี่วนั ไม่กี่
ชัว่ โมงต่อมาก็มีประกาศว่าจักรพรรดิได้สละราชสมบัติแล้ว
“ได้ซิ เออ น้องจวิน เรื่ องบัลลังก์น่ะ เจ้าไปคิดให้ดี ๆ อีกทีไหม?”
เล่ยเฉินตกลงทําตามความต้องการของจวินเสี ยทันที แต่เขาก็ไม่ลืม
เกลี้ยกล่อมให้จวินเสี ยไปคิดทบทวนดูใหม่
แต่จวินอู๋เสี ยไม่แม้แต่จะมองเขา นางแค่เดินจากไปตามทางของนาง
ไม่นานพวกทหารที่ลอ้ มตําหนักเซียนอยูก่ ล็ ่าถอยออกไป เชียวชูกบั
คนอื่น ๆ ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรมากมายนักในช่วงไม่กี่วนั มานี้ แค่อยู่
ว่าง ๆ ไม่มีอะไรทําในโรงเตี๊ยมเท่านั้น
เมื่อพวกเขาเห็นจวินอู๋เสี ยกลับมา เชียวชูกก็ ระโจนมาตรงหน้านาง
ทันที
“เป็ นไงบ้าง? สําเร็ จไหม?”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า นางส่ งกล่องกํามะหยีท่ ี่มีแผนที่หนังมนุษย์อยูใ่ ห้
ฮัว่ เหยาที่ยนื อยูด่ า้ นข้าง
เมื่อรวมแผนที่น้ ีดว้ ย พวกเขาก็มีแผนที่ท้ งั หมด 4 ส่ วน เป้าหมาย
แผนที่ 8 ส่ วน พวกเขาทําสําเร็ จไปครึ่ งหนึ่งแล้ว!
พอได้จวินอู๋เสี ยมาเป็ นพวก พวกเขาก็รวบรวมแผนที่กนั ได้เร็ วมาก
ทุกคนเชื่อว่าอีกไม่นานพวกเขาจะสามารถหาแผนที่อีก 4 ส่ วนพบ
และสามารถเปิ ดทางเข้าสุ สานที่ถูกปิ ดผนึกเอาไว้เป็ นเวลานานได้!
“พอน้องเสี ยมาทําภารกิจ เรื่ องก็เสร็ จได้อย่างรวดเร็ วราบรื่ นเลย
เนอะ! แล้วนี่เจ้าวางแผนว่าจะทําอะไรต่อล่ะ?” เชียวชูถามพร้อมกับ
ยิม้ กว้าง จุดประสงค์ที่พวกเขามาที่แคว้นหยานก็บรรลุแล้ว พวกเขา
จะเริ่ มต้นเดินทางครั้งใหม่จากที่นี่ เฟยหยานยังไม่พบร่ องรอยของ
ที่ต้ งั แผนที่ส่วนอื่น ๆ พวกเขาจึงยังไม่มีจุดหมายปลายทางต่อไปที่
ชัดเจน
“กลับไปที่สาํ นักศึกษาวายุประจิมกันก่อน” จวินอู๋เสี ยพูด
ทุกคนยิม้ และพยักหน้า จากนั้นก็ไปเก็บข้าวของกันทันที พวกเขาไม่
อยากอยูท่ ี่นี่ต่อแล้ว
ไม่มีใครถามนางเรื่ องแหวนจักรพรรดิหยาน ทุกคนรู ้ดีวา่ จวินอู๋เสี ย
ไม่สนใจราชบัลลังก์เลยสักนิด
เชียวชูกบั คนอื่น ๆ พากันเก็บข้าวของเตรี ยมพร้อมที่จะกลับสํานัก
วายุประจิม
ตอนนั้นเองจู่ ๆ รถม้าของเมืองพันอสูรก็มาจอดตรงหน้าประตู
ตําหนักเซียน
เซียงป้ากับฉูหลิงเย่กา้ วลงจากรถม้า เมื่อเห็นเชียวชูกบั คนอื่น ๆ
กําลังขนของขึ้นรถม้ากัน ฉูหลิงเย่กม็ ีสีหน้าร้อนใจขึ้นมาทันที
“พวกท่านจะไปที่ไหนกัน?” ฉูหลิงเย่รีบเดินเข้ามาถามเชียวชู
“พวกเรากําลังจะกลับสํานักกันน่ะ” เชียวชูพดู พร้อมหัวเราะ
“จวินเสี ย…จวินเสี ยอยูไ่ หม?” ฉูหลิงเย่ชะงักไป จากนั้นก็รีบถามขึ้น
ทันที
“ยังเก็บของอยูข่ า้ งใน” เชียวชูไม่ได้คิดอะไรมาก เขาชี้ข้ ึนไปที่บนั ได
อย่างง่าย ๆ
แต่พอเขาพูดจบ ฉูหลิงเย่กบั เซียงป้าก็พงุ่ เข้าไปข้างในทันที สี หน้า
ร้อนรนของพวกเขาทําให้เชียวชูสบั สนเล็กน้อย
จวินอู๋เสี ยยังคงเก็บของอยู่ นางไม่มีขา้ วของมามากนัก ดังนั้นจึง
จัดเก็บได้อย่างรวดเร็ วและใส่ พวกมันเข้าไปในถุงมิติ พอนางเดิน
ออกจากประตูกเ็ ห็นฉูหลิงเย่กาํ ลังยืนหอบอยูห่ น้าประตูหอ้ งของนาง
ส่ วนที่อยูด่ า้ นหลังฉูหลิงเย่กค็ ือร่ างอันสู งใหญ่ของเซียงป้า
“มีอะไรกันเหรอ?” จวินอู๋เสี ยมองฉูหลิงเย่ที่ใบหน้าเป็ นสี แดงระเรื่ อ
เล็กน้อยจากความเหนื่อย นางสามารถล้มล้างอํานาจของจักรพรรดิ
แห่งแคว้นหยานได้อย่างราบรื่ นในครั้งนี้ส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจาก
ความช่วยเหลือของฉูหลิงเย่ และในเมื่อจวินอู๋เสี ยไม่ได้มีความ
บาดหมางอะไรกับฉูหลิงเย่ นางจึงไม่แสดงความเย็นชาจนเกินไป
นัก
“ท่านกําลังจะไปแล้วเหรอ?” ฉูหลิงเย่ถามขึ้นในที่สุด
“อืม” จวินอู๋เสี ยพยักหน้าเล็กน้อย
ตอนที่ 947 แผนทีส่ ่ วนที่ 5 (3)
“เรื่ องนั้นช่วยชะลอไว้ก่อนได้ไหม!? ข้ามีเรื่ องต้องคุยกับท่าน!” สี
หน้าของฉูหลิงเย่เต็มไปด้วยความร้อนใจ
จวินอู๋เสี ยก้าวเท้ากลับเข้าไปแล้วพูดกับทั้งสองคนว่า “เข้ามาคุยกัน
ข้างในซิ”
นางอาจจะมีนิสยั เย็นชา แต่กบั คนที่เคยช่วยเหลือนาง นางก็จะไม่
ประหยัดคําพูด เมื่อเห็นฉูหลิงเย่มีท่าทางร้อนรนมากเช่นนี้ แสดงว่า
นางต้องมีเรื่ องสําคัญจะพูด และถ้ามันไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง นางก็
ไม่รังเกียจที่จะช่วยเหลือ
ฉูหลิงเย่กบั เซียงป้ารี บเข้าไปในห้อง และทั้งสามคนก็นงั่ ลงที่โต๊ะ
บนตักของจวินอู๋เสี ยเจ้าแมวดํายกอุง้ เท้าขึ้นมาชี้ไปที่กานํ้าชาบนโต๊ะ
แล้วมันก็หนั หน้าไปมองจวินอู๋เสี ย
“เหมียว”
[จะไม่เทนํ้าชาให้พวกเขาสักหน่อยเหรอ? อย่างน้อยพวกเขาก็เคย
ช่วยเจ้านายมาก่อนนะ]
เจ้าแมวดําต้องหดหู่ใจอยูเ่ สมอกับความรู ้เรื่ องมารยาทพื้นฐานในการ
ต้อนรับแขกของเจ้านายของมัน
จวินอู๋เสี ยงงไปชัว่ ขณะก่อนจะยกกานํ้าชาขึ้นมาอย่างเก้ ๆ กัง ๆ แล้ว
เทนํ้าชาลงในถ้วยให้ฉูหลิงเย่ เซียงป้า และตัวนางเอง
ฉูหลิงเย่พยักหน้าขอบคุณแต่กไ็ ม่ได้ยกขึ้นดื่ม นางรอต่อไปไม่ไหว
แล้วจึงพูดขึ้นว่า “ข้าอยากขอให้ท่านเดินทางกลับไปที่เมืองพันอสู ร
กับเรา ได้รึเปล่า?”
จวินอู๋เสี ยเพิ่งจะยกถ้วยนํ้าชาขึ้นเพื่อจะจิบ พอนางได้ยนิ คําพูดของฉู
หลิงเย่ นางก็ชะงักไป สายตาของนางเต็มไปความงุนงงสงสัย นาง
ไม่เข้าใจว่าทําไมฉูหลิงเย่ถึงเชิญนางไปที่เมืองพันอสู รอย่าง
กะทันหัน
ที่นางได้มีปฏิสมั พันธ์กบั ฉูหลิงเย่อยูบ่ า้ งก็เพราะแผนของจักรพรรดิ
แห่งแคว้นหยานล้วน ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่ องนั้น พวกเขาคงไม่ได้
พูดคุยกันเลย แม้วา่ จวินอู๋เสี ยจะไม่ได้รู้สึกเกลียดชังหรื อเป็ นปรปั กษ์
กับฉูหลิงเย่ แต่นางก็นึกเหตุผลที่ฉูหลิงเย่เชิญนางไม่ออก
“ทําไม?”
ฉูหลิงเย่กดั ริ มฝี ปาก นางหันไปมองเซียงป้าอย่างอ้อนวอน
เซียงป้าสู ดลมหายใจเข้าลึก เขามองจวินเสี ยแล้วพูดว่า “คุณหนูของ
ข้าเล่าเรื่ องที่เกิดขึ้นในวังหลวงวันนี้ให้ขา้ ฟังหมดแล้ว ข้าต้อง
ยอมรับว่าตัวข้าได้ประเมินคุณชายจวินตํ่าไปมาก และไม่คิดว่า
คุณชายจวินจะมีความสามารถมากขนาดนี้” ทุกสิ่ งทุกอย่างที่ฉูหลิง
เย่เล่าให้เขาฟัง เซียงป้าไม่อาจจินตนาการได้วา่ แค่เดินทางเข้าวัง
หลวงเพียงรอบเดียว จวินเสี ยจะบังคับให้จกั รพรรดิแห่งแคว้นหยาน
สละราชสมบัติได้ในเวลาไม่กี่ชวั่ โมงเท่านั้น!
และจักรพรรดินี อัครมหาเสนาบดี กับองค์ชายสี่ ที่เป็ นที่โปรดปราน
มากที่สุดก็พินาศไปด้วยพร้อม ๆ กัน!
แคว้นหยานเป็ นแคว้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็ นที่หวาดกลัวของ
ผูค้ นมากมาย! มันเป็ นสถานที่ที่คนมากมายได้แต่เงยหน้ามอง และ
ราชวงศ์ของแคว้นหยานก็มีอาํ นาจเหลือล้นยิง่ กว่าแคว้นอื่น ๆ
ทั้งหมด คนที่สามารถสร้างปัญหาให้แคว้นหยานได้มีนอ้ ยซะยิง่ กว่า
น้อย แต่จวินเสี ยใช้แค่สมองของนางคิดแผนการล้มล้างแคว้นที่
ยิง่ ใหญ่ที่สุดนี้ได้ ความเฉลียวฉลาดเช่นนี้ควรค่าแก่การคารวะจริ ง ๆ !
แม้แต่คนอย่างเซียงป้าที่ไม่ได้ฉลาดนักก็ยงั ชื่นชมแผนการของจวิน
เสี ย
“งั้นหรื อ?” จวินอู๋เสี ยไม่รีบร้อนให้คาํ ตอบ นางรู ้วา่ เซี ยงป้ายังมีเรื่ อง
จะพูดอีก
เซียงป้าหยุดครู่ หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า “ความฉลาดเฉลียวของ
คุณชายจวินช่างหาตัวจับได้ยาก ข้ากับคุณหนูมาที่นี่กเ็ พื่อ…ขอให้
คุณชายจวินช่วยเหลือเมืองพันอสู ร!”
“ช่วยอะไร?” จวินอู๋เสี ยถามพร้อมกับเลิกคิ้ว นางไม่รู้เรื่ องของเมือง
พันอสู รมากนัก แต่จากความหวาดหวัน่ ที่จกั รพรรดิแห่งแคว้นหยาน
แสดงออกมาต่อเมืองพันอสูร นางก็บอกได้วา่ เมืองพันอสู รต้องมี
อํานาจอยูม่ ากทีเดียว
แล้วในฐานะหัวหน้าตึกแห่งเมืองพันอสู ร ทําไมเซี ยงป้าถึงมาที่นี่กบั
คุณหนูแห่งเมืองพันอสู รเพือ่ ขอความช่วยเหลือจากผูเ้ ยาว์ที่ยงั เด็ก
ขนาดนี้?
“เราอยากขอให้ท่านช่วยแก้ไขภาวะวิกฤตที่เมืองพันอสู รกําลังเผชิญ
อยู!่ ” เซียงป้าพูดด้วยนํ้าเสี ยงจริ งจัง
จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้วและตอบช้า ๆ ว่า “ขออภัย แต่ขา้ ไม่สนใจ”
ถ้าเป็ นแค่เรื่ องง่าย ๆ เพียงกระดิกนิ้ว นางก็ไม่รังเกียจที่จะช่วยเหลือ
แต่จากนํ้าเสี ยงของเซียงป้า จวินอู๋เสี ยเดาได้วา่ ความช่วยเหลือที่พวก
เขาร้องขอไม่ใช่เรื่ องเล็ก ๆ แน่!
ตอนที่ 948 แผนทีส่ ่ วนที่ 5 (4)
เซี ยงป้าไม่แปลกใจแม้แต่นอ้ ยที่จวินเสี ยปฏิเสธ เขารู ้วา่ ความสัมพันธ์
ระหว่างพวกเขากับจวินเสี ยไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกัน พวกเขาแค่
ร่ วมมือกันครั้งเดียวเท่านั้น แต่คนเพียงคนเดียวที่พวกเขาต้องการให้
ช่วยก็คือผูเ้ ยาว์คนนี้เท่านั้น!
“จวินเสี ย อย่าเพิ่งปฏิเสธพวกเราเร็ วนัก ฟังพวกเราก่อน ข้าเห็นแผน
ที่ที่ท่านเอามาจากจักรพรรดิวนั นี้แล้ว แผนที่นนั่ สําคัญกับท่านมาก
ใช่ไหม?” ฉูหลิงเย่ยงั เด็กและไร้ประสบการณ์ อารมณ์ของนางไม่
มัน่ คงเท่าเซียงป้า เมื่อนางได้ยนิ จวินเสี ยปฏิเสธ นางก็เริ่ มตื่น
ตระหนกทันที
เมื่อได้ยนิ ฉูหลิงเย่พดู ถึงแผนที่ จวินอู๋เสี ยก็เลิกคิ้วขึ้น
แผนที่หนังมนุษย์ที่ระบุที่ต้ งั ของสุ สานจักรพรรดิแห่งความมืดนั้นมี
ทั้งหมด 8 ส่ วนเท่านั้น ใน 8 ส่ วนนี้ 7 ส่ วนอยูใ่ นมือของสิ บสอง
วิหาร และเรื่ องที่สิบสองวิหารแอบค้นหาสุ สานของจักรพรรดิแห่ง
ความมืดก็ทาํ กันอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ มาตลอด คนอื่น ๆ ไม่รู้วา่ แผน
ที่พวกนั้นเอาไว้ทาํ อะไร และนางก็ไม่ได้เฝ้าระวังคนอื่นที่อยูใ่ นท้อง
พระโรงตอนนั้นเลย
แต่ฉูหลิงเย่ดูเหมือนจะสังเกตเห็นถึงความแตกต่างของแผนที่น้ นั ได้
“ใช่” จวินอู๋เสี ยตอบอย่างเย็นชา สายตาสงบนิ่งไม่มีอารมณ์อื่นใดเจือ
ปน มีเพียงความเย็นเยียบจาง ๆ ในดวงตาคู่น้ นั ตอนที่มองเซี ยงป้า
กับฉูหลิงเย่
เซี ยงป้าจับได้อย่างรวดเร็ วว่าจวินเสี ยระวังตัวขึ้นมาแล้วและกลัวว่า
จวินเสี ยจะเข้าใจพวกเขาผิด จึงรี บพูดขึ้นว่า “คุณชายจวินอย่าเข้าใจ
ผิด คุณหนูของข้าไม่ได้หมายความอย่างอื่นเลย แค่ที่พวกเราเชิญ
ท่านไปที่เมืองพันอสู รนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับแผนที่ที่คุณหนูพดู
ถึง”
จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“ความจริ งแล้ว แผนที่แบบนั้น ที่เมืองพันอสู รของเราก็มีอยูช่ ิ้นหนึ่ง
เหมือนกัน” เซียงป้าพูด
ความสงบนิ่งในดวงตาของจวินอู๋เสี ยสัน่ คลอนขึ้นมาทันที นางถาม
ว่า “เมืองพันอสู รก็มีหรื อ?”
เซียงป้าพยักหน้า
“ตอนนี้แผนที่น้ นั อยูก่ บั ท่านเจ้าเมืองของเรา และเพราะแผนที่ฉบับ
นั้นแหละที่ทาํ ให้เมืองพันอสูรไม่สามารถดูแลปกป้องคุม้ ครอง
ตัวเองได้” เซียงป้าพูดพร้อมกับยิม้ อย่างขมขื่น
“คุณชายจวินต้องรู ้ก่อนว่าเหตุผลที่เมืองพันอสู รสามารถมีสถานะ
อย่างทุกวันนี้ได้น้ นั เป็ นเพราะพวกเราครอบครองขลุ่ยกระดูกกล่อม
อสู ร แต่นอกจากนั้นแล้วก็เป็ นเพราะเมืองพันอสู รเคยมีผใู ้ ช้พลัง
วิญญาณขั้นสี ม่วงถึงสองคน และสองคนนั้นหลังจากที่ทะลวงเข้าสู่
ขั้นสี ม่วงได้ไม่นานก็ออกจากเมืองของเราไป แต่เมื่อประมาณ 10 ปี
ที่แล้ว หนึ่งในสองคนนั้นได้กลับมาที่เมืองพันอสู รและนําแผนที่
หนังมนุษย์เหมือนของท่านกลับมาด้วย ผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วง
คนนั้นได้สงั่ ให้ท่านเจ้าเมืองใช้อาํ นาจของเมืองพันอสู รช่วยนาง
ค้นหาความลับของแผนที่น้ นั …ตอนแรกท่านเจ้าเมืองก็ทาํ ตามคําสัง่
ของนางเนื่องจากนางเป็ นผูอ้ าวุโสที่เป็ นที่เคารพนับถือของเมืองพัน
อสู ร แต่ในภารกิจสํารวจทุกครั้งเมืองพันอสู รจะสู ญเสี ยผูค้ นไปมาก
พูดได้วา่ คนที่ส่งออกไปทุกคนไม่มีใครรอดชีวติ กลับมาได้เลย”
เมื่อเซียงป้าพูดถึงตอนสุ ดท้าย เขาก็กดั ฟันแน่น ดวงตาทอแววเกลียด
ชัง
“ท่านเจ้าเมืองเห็นว่าพี่นอ้ งในเมืองของเราต้องสู ญเสี ยอย่างหนัก เขา
ก็เลยไม่อยากทําต่อ แต่ผอู ้ าวุโสคนนั้นไม่ยอมให้เลิกและยืนกรานว่า
ท่านเจ้าเมืองต้องทําต่อไป แม้วา่ ท่านเจ้าเมืองของเราจะมีพลัง
วิญญาณขั้นสู ง แต่เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู ข้ องผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วง
อยูด่ ี ยิง่ กว่านั้นคน ๆ นั้นก็พาคนลึกลับคนอื่น ๆ ที่มีพลังวิญญาณ
เหมือนนางกลับมากับนางด้วยหลายคน ทําให้ท่านเจ้าเมืองไม่มี
ทางเลือกนอกจากยอมทําตามความต้องการของพวกเขา หลายปี มานี้
ทุกครั้งที่ท่านเจ้าเมืองส่ งคนออกไป เขาก็รู้สึกเจ็บปวดใจมาก พวก
เราจําไม่ได้แล้วว่าเราเสี ยพี่นอ้ งของเราไปมากเท่าไรกับเรื่ องนี้”
“เมื่อได้เห็นคุณชายจวินฉลาดเฉลียวขนาดนี้ และยังสนใจในแผนที่
หนังมนุษย์นนั่ มาก เซียงป้าผูน้ ้ ีขอวิงวอนให้คุณชายจวินช่วยเหลือ
พวกเราแก้ไขภาวะวิกฤตของเมืองพันอสู รด้วย หลังจากเสร็ จเรื่ องนี้
แล้ว เมืองพันอสู รจะมอบแผนที่ให้กบั คุณชายอย่างแน่นอน!” พอ
พูดจบเซียงป้าก็ลุกขึ้นทําการโค้งคารวะ 90 องศาตามพิธีการอย่าง
จริ งจังตรงหน้าจวินเสี ย
ตอนที่ 949 แผนทีส่ ่ วนที่ 5 (5)
“เมื่อได้เห็นคุณชายจวินฉลาดเฉลียวขนาดนี้ และยังสนใจในแผนที่
หนังมนุษย์นนั่ มาก เซียงป้าผูน้ ้ ีขอวิงวอนให้คุณชายจวินช่วยเหลือ
พวกเราแก้ไขภาวะวิกฤตของเมืองพันอสู รด้วย หลังจากเสร็ จเรื่ องนี้
แล้ว เมืองพันอสู รจะมอบแผนที่ให้กบั คุณชายอย่างแน่นอน!” พอ
พูดจบเซียงป้าก็ลุกขึ้นทําการโค้งคารวะ 90 องศาตามพิธีการอย่าง
จริ งจังตรงหน้าจวินเสี ย
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตา คําพูดของเซียงป้าทําให้นางประหลาดใจ เนื่องจาก
นางไม่คิดว่าเมืองพันอสู รจะครอบครองชิ้นส่วนแผนที่หนังมนุษย์
นัน่ ด้วย!
“ท่านพูดจริ งหรื อ?” จวินอู๋เสี ยถาม
“เป็ นความจริ งขอรับ! ถ้าสิ่ งที่ขา้ พูดไม่เป็ นความจริ งล่ะก็ ขอให้ขา้
โดนฟ้าผ่าตาย!” เซียงป้าสาบานต่อสวรรค์อย่างเด็ดเดี่ยว ถ้าไม่ใช่
เพราะฉูหลิงเย่ได้เห็นความสามารถของจวินเสี ยกับตาตัวเอง และ
เชื่ออย่างแรงกล้าว่าเขาคือคนที่จะสามารถพลิกสถานการณ์ที่เมือง
พันอสู รกําลังเผชิญอยูใ่ นตอนนี้ได้ เซี ยงป้าก็ไม่กล้าเปิ ดเผยความลับ
ของเมืองพันอสู รหรอก
หลายปี ที่ผา่ นมา คนอื่น ๆ จะเห็นแต่ความรุ่ งโรจน์ของเมืองพันอสู ร
มีเพียงแกนนําของเมืองพันอสู รเท่านั้นที่รู้วา่ พวกเขาเกือบจบสิ้ นและ
หมดสภาพกันแล้ว
ทุกครั้งที่เขาเห็นท่านเจ้าเมืองต้องกลุม้ ใจและทุกข์ทรมานในตอน
กลางคืน เซียงป้าก็รู้สึกเหมือนถูกมีดเฉื อนหัวใจ เขาหวังว่าเขาจะ
สามารถช่วยแบ่งเบาภาระของท่านเจ้าเมืองได้
และตอนนี้ ตราบใดที่มีความหวังแม้จะเพียงเศษเสี้ ยว พวกเขาก็ตอ้ ง
ลองพยายามดู!
จวินอู๋เสี ยก้มหน้าลงครุ่ นคิดตามคําพูดของเซี ยงป้า
ข่าวคราวเรื่ องแผนที่หนังมนุษย์น้ นั หายากมาก ชิ้นส่ วนแผนที่ 4
ส่ วนก่อนหน้านี้ เฟยหยานต้องเสี ยทั้งเลือดและนํ้าตากว่าจะหาได้วา่
แผนที่ 2 ส่ วนอยูท่ ี่ไหน ส่ วนอีก 2 ส่ วน อันหนึ่งฟ่ านจัว๋ เอามาให้โดย
ไม่ได้คาดคิด อีกอันก็เป็ นความบังเอิญ พูดได้วา่ ชิ้นส่ วนแผนที่ทุก
ชิ้นหายากมาก และตอนนี้เซี ยงป้าก็เข้ามาหาพวกเขาเองและบอก
ข่าวเรื่ องแผนที่ส่วนที่ 5
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในคราวนี้น้ นั แตกต่างไปอย่างสิ้ นเชิง
พวกคนที่ได้รับมอบแผนที่ก่อนหน้านี้น้ นั จะปกป้องแผนที่เป็ นอย่าง
ดี แต่จากคําพูดของเซียงป้า ทําให้จวินอู๋เสี ยสันนิษฐานได้ไม่ยากว่า
แผนที่หนังมนุษย์ส่วนที่ 5 ไม่ได้ทาํ ให้คนของเมืองพันอสู รรู ้สึกยินดี
เลย แต่มนั นําความหวาดกลัวและความตายมาสู่ พวกเขา
ถ้าพวกเขามีทางเลือก ท่านเจ้าเมืองแห่งเมืองพันอสู รจะไม่อยากให้
แผนที่ที่ทาํ ให้เสี ยเลือดเนื้อมากขนาดนี้อยูใ่ นเมืองต่อไปอย่าง
แน่นอน แต่ผใู ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วงที่มาจากเมืองพันอสู รเป็ น
เหมือนโซ่ตรวนที่หนักอึ้งซึ่งล่ามเจ้าเมืองของเมืองพันอสู รเอาไว้
อย่างแน่นหนา บังคับให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทําตามคําสัง่
แต่มีบางอย่างที่จวินอู๋เสี ยรู ้สึกผิดปกติ นางเงยหน้าขึ้นมองเซี ยงป้า
แล้วถามว่า “ข้าเชื่อว่าท่านเจ้าเมืองของท่านไม่ได้ทาํ ตามคําสัง่ คนผู ้
นั้นเพียงเพราะหวาดกลัวอํานาจของผูใ้ ช้พลังขั้นสี ม่วงเท่านั้นหรอก
ใช่ไหม?”
แม้วา่ ผูใ้ ช้พลังขั้นสี ม่วงจะแข็งแกร่ งมาก แต่เมืองพันอสู รก็มีขลุ่ย
กระดูกกล่อมอสู รที่สามารถควบคุมสัตว์อสู รได้ และถ้าพวกเขาสู ้
ตายด้วยทุกอย่างที่มีกนั จริ ง ๆ การใช้ขลุ่ยกระดูกกล่อมอสู รจะทําให้
ศัตรู ตอ้ งสู ญเสี ยอย่างหนักแน่นอน แต่ผา่ นมาหลายปี เมืองพันอสู รก็
ไม่มีมีท่าขัดขืนที่ชดั เจน ถ้าคนของพวกเขาไม่ใช่คนขี้ขลาด งั้นก็
แสดงว่าคนผูน้ ้ นั ต้องมีอย่างอื่นที่ข่มขู่พวกเขาไว้ได้
เซียงป้าชะงักไปทันทีและมีท่าทางอึดอัดไม่สบายใจ ฉูหลิงเย่กดั ริ ม
ฝี ปากพลางมองสี หน้ายุง่ เหยิงของเซียงป้า นางเรี ยกความกล้าออก
มาแล้วพูดกับจวินเสี ยว่า “เป็ นเพราะท่านยายกุมชีวติ ของคนมากมาย
เอาไว้ในมือน่ะ”
จวินอู๋เสี ยเลิกคิว้
“นางจับท่านแม่ของข้าและญาติกบั ครอบครัวของคนอื่น ๆ ในเมือง
พันอสู รเอาไว้หลายคน ถ้าเราไม่ทาํ ตามที่นางสัง่ นางจะฆ่าคนพวก
นั้น” แววตาของฉูหลิงเย่สลดลง ไม่ใช่วา่ ท่านพ่อของนางไม่คิดจะ
ต่อต้านขัดขืน แต่ท่านแม่ของนางกับท่านลุงท่านน้าหลายคนอยูใ่ น
มือของท่านยาย ท่านพ่อกับคนในเมืองพันอสูรจึงไม่มีทางเลือก
นอกจากยอมจํานนต่อนาง ถึงจะไม่อยากทําแค่ไหน พวกเขาก็ตอ้ ง
ทํา
ตอนที่ 950 แผนทีส่ ่ วนที่ 5 (6)
“นางจับตัวคนไปไว้ที่ไหน?” จวินอู๋เสี ยถาม
ฉูหลิงเย่ส่ายหน้า “เป็ นเพราะเราไม่รู้วา่ นางซ่อนตัวประกันเอาไว้ที่
ไหน ท่านพ่อถึงไม่สามารถช่วยคนพวกนั้นได้ ท่านยายแอบลักพา
ตัวคนพวกนั้นไปตอนที่ท่านพ่อแสดงออกว่าไม่อยากทําตามคําสัง่
ของนางต่อไปแล้ว และจนถึงวันนี้กไ็ ม่มีใครรู ้วา่ นางขังคนของเรา
เอาไว้ที่ไหน”
“งั้นรู ้ได้ยงั ไงว่าคนพวกนั้นยังมีชีวติ อยู?่ ” จวินอู๋เสี ยถาม
“ท่านยายจะปล่อยคนกลุ่มหนึ่งกลับมาหาครอบครัวที่เมืองพันอสู ร
ทุก ๆ เดือนเพื่อแสดงว่าพวกเขายังคงปลอดภัยดี ทุก ๆ เดือนนางจะ
ปล่อยคนมาคนละกลุ่มกัน และตอนสิ้ นเดือนพวกเขาจะถูกพาตัว
กลับไปอีกครั้ง ถ้ามีใครกล้าหลบหนีนางจะฆ่าคนที่ยงั ถูกขังอยูเ่ ป็ น
การลงโทษ” เมื่อไรก็ตามที่ฉูหลิงเย่นึกถึงความโหดร้ายของท่านยาย
นางจะรู ้สึกเย็นเยียบไปทั้งสันหลัง ท่านพ่อไม่อยากให้นางถูกลาก
เข้ามาในเรื่ องนี้ดว้ ยจึงส่ งนางไปที่สาํ นักศึกษาธงศึกเมื่อนานมาแล้ว
แม้วา่ นางแทบไม่ได้กลับไปที่เมืองพันอสู ร แต่เวลาที่นางกลับไป
นางจะเห็นสิ่ งที่เกิดขึ้นมากมายที่ทาํ ให้เธอรู ้สึกเย็นยะเยือกในหัวใจ
“ในฐานะที่เป็ นลูกของท่านพ่อ แต่ไม่สามารถแบ่งเบาภาระของท่าน
พ่อได้ ทําได้แค่มองดูท่านพ่อยอมจํานนต่อคนอื่น ข้ามันไร้
ประโยชน์สิ้นดี ข้าพยายามอย่างหนักที่จะเพิ่มพลังวิญญาณของ
ตัวเอง คิดว่าจะพาตัวท่านแม่กบั คนอื่น ๆ กลับมา…แต่…ข้าก็ยงั
อ่อนแอเกินไปอยูด่ ี” ฉูหลิงเย่พดู เสี ยงเครื อ
แม้วา่ นางจะได้ตาํ แหน่งอันดับหนึ่งของสํานักศึกษาธงศึกในการ
ประลองของพวกเขาเอง แต่นางก็ยงั ไม่เก่งพอ นํ้าถ้วยเล็ก ๆ ถ้วย
เดียวเมื่ออยูต่ ่อหน้าไฟกองใหญ่กไ็ ม่มีประโยชน์อะไรเลย!
จวินอู๋เสี ยมองฉูหลิงเย่ที่ปิดหน้าร้องไห้เบา ๆ โดยไม่พดู อะไร จาก
เสี ยงสะอึกสะอื้นของฉูหลิงเย่ นางสามารถรู ้สึกได้ถึงการตําหนิ
ตัวเองและการไม่ยอมจํานน
ความรู ้สึกในตอนที่คนที่สาํ คัญที่สุดโดนคนอื่นทําร้าย แต่เนื่องจาก
ตัวเองอ่อนแอเกินไปจึงไม่สามารถทําอะไรได้ ได้แต่มองดูเหตุร้าย
เกิดขึ้นมาโดยไม่สามารถตอบโต้อะไรได้น้ นั …
จวินอู๋เสี ยเข้าใจดีทีเดียว
ช่วงแรก ๆ ที่วงั หลินนางก็รู้สึกเช่นนี้
ความแตกต่างเดียวก็คือนางโชคดีกว่าที่คู่ต่อสู ท้ ี่นางเผชิญมาคือคน
ของอาณาจักรล่าง ขณะที่ฉูหลิงเย่ตอ้ งเผชิญหน้ากับคนจากสิ บสอง
วิหารของอาณาจักรกลาง!
ความต่างระหว่างอาณาจักรกลางและอาณาจักรล่างนั้นเยอะมาก
และมันมากเกินกว่าที่ฉูหลิงเย่จะสามารถพลิกสถานการณ์ได้
จวินอู๋เสี ยเชื่อว่าท่านยายที่ฉูหลิงเย่พดู ถึงต้องถูกสิ บสองวิหาร
ชักชวนให้ไปที่อาณาจักรกลางหลังจากที่นางทะลวงเข้าสู่ ข้ นั สี ม่วง
ได้ และต่อมาสิ บสองวิหารก็มอบแผนที่หนังมนุษย์ให้กบั นาง
แต่จะต้องใจดําแค่ไหนกันถึงสามารถทําร้ายคนจากครอบครัวตัวเอง
ได้?
จวินอู๋เสี ยขมวดคิว้ เมื่อคิดไปถึงคุกในชาติก่อนที่เจ้าปี ศาจนัน่ ก็ดูจะมี
ความสุ ขกับวิธีแบบนั้นเช่นกัน
“ข้าช่วยเจ้าได้” จวินอู๋เสี ยพูดขึ้น
และทันทีที่จวินเสี ยเอ่ยปาก ฉูหลิงเย่กเ็ งยหน้าขึ้นอย่างดีใจ สี หน้า
เต็มไปด้วยความหวัง นํ้าตาไหลอาบแก้ม แต่ดวงตาเป็ นประกาย
“จริ งเหรอ? ท่านจะช่วยข้าจริ ง ๆ เหรอ?” ฉูหลิงเย่จบั มือของจวิน
เสี ยอย่างตื่นเต้น นางตื่นเต้นมากซะจนมือสัน่
นางคิดหาทางอื่นไม่ออกแล้ว และเมื่อได้เห็นสติปัญญาและความ
ฉลาดเฉลียวของจวินอู๋เสี ยนางก็มีความหวังขึ้นมา
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าน้อย ๆ ถึงฉูหลิงเย่จะไม่ขอร้อง พอเฟยหยานพบ
ว่าเมืองพันอสู รมีชิ้นส่ วนของแผนที่อยู่ พวกเขาก็ตอ้ งเดินทางไปที่
นัน่ อยูด่ ี และด้วยความช่วยเหลือของฉูหลิงเย่กบั เซียงป้า พวกเขาก็
น่าจะเอาแผนที่ส่วนที่ 5 มาได้ง่ายมากขึ้น
“ขอบคุณ! ขอบคุณ!” ฉูหลิงเย่ตื่นเต้นมากจนเริ่ มร้องไห้อีกครั้ง เซี ยง
ป้าตบไหล่นางเบา ๆ เพื่อปลอบใจพร้อมกับมองจวินเสี ยอย่าง
ขอบคุณ
ตอนที่ 951 แผนทีส่ ่ วนที่ 5 (7)
หลังจากแน่ใจแล้วว่าแผนที่ส่วนที่ 5 อยูท่ ี่ไหน จวินอู๋เสี ยก็เดิน
ออกไปข้างนอก ทิ้งฉูหลิงเย่กบั เซียงป้าไว้ที่หอ้ งเพื่อสงบสติอารมณ์
ชัว่ คราว
ในโรงเตี๊ยม เชียวชู, ฮัว่ เหยา กับคนอื่น ๆ ยังคงยุง่ อยูก่ บั การขนของ
ขึ้นรถม้า
ฟ่ านจินกําลังขอบคุณเถ้าแก่โรงเตี๊ยมสําหรับการดูแลในช่วงที่พวก
เขาพักอยูท่ ี่นี่ ด้านนอกโรงเตี๊ยม รถม้าของสํานักศึกษาวายุประจิม
พร้อมที่จะออกเดินทางแล้ว รอแค่ผโู ้ ดยสารขึ้นรถเท่านั้น
เชียวชูเห็นจวินอู๋เสี ยเดินลงบันไดมาก็ยมิ้ ออกมาทันทีพร้อมกับพุง่
เข้าไปหา
“เราเก็บของหมดแล้ว! พร้อมออกเดินทางทุกเมื่อ เออใช่ ฉูหลิงเย่
ต้องการอะไรจากเจ้าเหรอ? เมื่อกี้ขา้ เห็นนางรี บวิง่ เข้าไปพร้อมกับพี่
หมียกั ษ์นนั่ ดูท่าทางร้อนใจมากอยูน่ ะ” เชียวชูยนื่ แขนออกมาทํา
ท่าทางล้อเลียนขนาดตัวของเซียงป้า ร่ างที่ใหญ่โตสู งตระหง่านของ
เซียงป้าเท่ากับเชียวชูสองคนเลยทีเดียว
จวินอู๋เสี ยพูดว่า “เราไม่กลับไปที่วายุประจิมแล้ว”
เชียวชูที่กาํ ลังยิม้ อย่างรื่ นเริ งยิม้ ค้างทันทีที่ได้ยนิ คําพูดของจวินอู๋เสี ย
“อะไรนะ? ไม่กลับไปแล้ว? ทําไมล่ะ? อย่าบอกนะว่า…เจ้าอยากอยู่
ที่นี่เป็ นจักรพรรดิแห่งแคว้นหยานจริ ง ๆ ?” ขณะที่พดู เขาก็รู้สึกว่า
มันไม่น่าเป็ นไปได้เลย
จวินอู๋เสี ยกรอกตา
“เราจะไปที่เมืองพันอสู ร”
“เมืองพันอสู ร? เชียวชูเกาหัว “เป็ นเพราะฉูหลิงเย่มาตามหาเจ้า
เหรอ? นางพูดอะไรถึงทําให้เจ้าเปลี่ยนใจกะทันหันได้?”
[ดูเหมือนเขาจะจําได้วา่ น้องเสี ยกับฉูหลิงเย่ไม่ได้สนิทกันเลยนี่นา]
“แผนที่หนังมนุษย์” จวินอู๋เสี ยพูดห้วน ๆ
เชียวชูตวั แข็งค้างทันที เขาทําตาโตจ้องจวินอู๋เสี ย
“อะ…อะไร…เจ้าว่าอะไรนะ?”
“เมืองพันอสู รมีอยูส่ ่ วนหนึ่ง” จวินอู๋เสี ยพูดต่อ
เชียวชูอา้ ปากค้างทันที เขามองจวินอู๋เสี ยด้วยสี หน้าตกตะลึง
เฟยหยานยังไม่ได้รวบรวมข้อมูลที่ต้ งั ของแผนที่ส่วนที่ 5 เลย และ
เขาก็คิดว่าพวกเขาจะต้องใช้เวลาอีกสัก 2-3 เดือนก่อนจะได้ข่าว
อะไรบ้าง แต่สุดท้ายก็…
พวกเขาเพิง่ ได้แผนที่ส่วนที่ 4 มา แผนที่ส่วนที่ 5 ก็มาเคาะถึงหน้า
ประตูบา้ นพวกเขาเลยเหรอ?
เรื่ องน่ายินดีมาเร็ วเกินไปไหมเนี่ย!
เชียวชูรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“จริ งเหรอ? ฉูหลิงเย่พดู แบบนั้นเหรอ?” เชียวชูถามพลางมองจวินอู๋
เสี ยอย่างตื่นเต้น
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า
เชียวชูพดู ขึ้นทันที “ข้าจะไปบอกพี่ฮวั่ กับคนอื่น ๆ ให้หยุดเก็บของ!
เราจะไปเมืองพันอสู ร! ไปกันเดี๋ยวนี้เลย! ตอนนี้เลย! ตอนไหนก็ได้
ที่เจ้าต้องการ!” พูดจบเชียวชูกพ็ งุ่ ออกไปแจ้งข่าวพรรคพวกคนอื่น ๆ
ทันทีวา่ มีการเปลี่ยนแปลงแผนการเดินทาง เขาบอกทุกคนอย่างที่
จวินอู๋เสี ยบอกเขา
ข่าวนั้นทําให้ฮวั่ เหยากับคนอื่น ๆ ประหลาดใจมาก พวกเขาโยนข้าว
ของในมือทิ้งทันทีและรี บลากจวินอู๋เสี ยเข้าไปในห้องของฟ่ านจัว๋
ทั้ง 6 คนพากันเบียดเข้าไปในห้องแล้วปิ ดประตู จากนั้นก็ระดมยิง
คําถามกันเพื่อให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
จวินอู๋เสี ยสรุ ปคําพูดที่ฉูหลิงเย่กบั เซียงป้าบอกนางเมื่อครู่ ให้ฮวั่ เหยา
กับคนอื่น ๆ ฟัง และบอกพวกเขาถึงสถานการณ์ปัจจุบนั ในเมืองพัน
อสู รทั้งหมด
เมื่อได้ยนิ ข่าวเรื่ องแผนที่ส่วนที่ 5 พวกเขาก็ตื่นเต้นกันมาก แต่
หลังจากนั้นไม่นานความตื่นเต้นก็หายไปและกลับสู่ ความสงบ
เหมือนเดิม
“เจ้ากําลังบอกว่าไม่ใช่แค่แผนที่ที่อยูใ่ นเมืองพันอสู ร แต่ยงั มีคนจาก
สิ บสองวิหารอยูด่ ว้ ยงั้นหรื อ?” ฮัว่ เหยาถามพร้อมกับขมวดคิ้ว ความ
ทรงจําในการเผชิญหน้ากับคนจากสิ บสองวิหารของเขาไม่น่าพอใจ
นัก
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า
ท่านยายที่ฉูหลิงเย่พดู ถึงดูเหมือนนางจะอยูใ่ นเมืองพันอสู รแบบ
ถาวรเพื่อคอยควบคุมการค้นหาสุ สานจักรพรรดิแห่งความมืด ถ้า
พวกเขาไปที่เมืองพันอสู รทั้ง ๆ แบบนั้น พวกเขาจะได้สูก้ บั ศัตรู เร็ ว
มากแน่ ๆ !
ตอนที่ 952 แผนทีส่ ่ วนที่ 5 (8)
“ศัตรู มีจาํ นวนกี่คน?” ฮัว่ เหยาถามอย่างรอบคอบ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่
พวกเขายังคงยืนกรานจะเดินทางไปยังสถานที่ที่รู้วา่ มีคนของสิ บ
สองวิหารอยู่
“ฉูหลิงเย่กไ็ ม่แน่ใจในเรื่ องนั้น นอกจากท่านยายนัน่ ก็มีอีกประมาณ
3 คนที่อยูใ่ นเมืองพันอสู ร จะมีคนอื่นอีกไหมก็ไม่แน่ใจ” จวินอู๋เสี ย
พูด
“ที่รู้แน่ ๆ คือมี 4 คนแล้ว” เฟยหยานพูดพร้อมกับลูบคาง พยายาม
ประเมินอันตรายที่พวกเขาจะเดินเข้าไปหาในภารกิจครั้งนี้วา่ มากแค่
ไหน
“ไม่แย่อย่างที่เราคิดหรอก ครั้งนี้คนจากสิ บสองวิหารไม่ใช่แค่ศตั รู
ของเราฝ่ ายเดียว พวกนั้นยังเป็ นศัตรู ของคนในเมืองพันอสู รด้วย
ตราบใดที่พวกเราทําให้แน่ใจได้วา่ คนที่ถูกลักพาตัวไปจะปลอดภัย
ทุกคนในเมืองพันอสู รจะยินดีช่วยเหลือพวกเราแน่” จวินอู๋เสี ยพูด
พร้อมกับหรี่ ตา ความเกลียดชังที่คนของเมืองพันอสู รมีต่อสิ บสอง
วิหารอาจจะไม่นอ้ ยไปกว่าพวกเขาเลย แต่เพราะครอบครัวของพวก
เขาอยูใ่ นกํามือของศัตรู พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทําตาม
คําสัง่ ของพวกนั้น
แต่ถา้ ครอบครัวของพวกเขาเป็ นอิสระแล้วล่ะก็ ทําไมพวกเขาจะต้อง
ยอมเชื่อฟังต่อด้วยล่ะ?
“ดูเหมือนคราวนี้เราก็ยงั ต้องพึ่งสมองของเจ้าเหมือนเดิมซิ นะ” พอ
เชียวชูได้ยนิ จวินอู๋เสี ยพูดอย่างนั้น เขาก็นึกถึงเรื่ องที่เกิดขึ้นใน
แคว้นหยานนี้ได้ทนั ที ถึงพวกเขาจะรู ้วา่ พลังของพวกเขาทุกคนยัง
เทียบกับคนจากสิ บสองวิหารไม่ได้ แต่พวกเขามีจวินอู๋เสี ยที่ท้ งั
เก่งกาจและฉลาดเฉลียวเป็ นพวกเดียวกับพวกเขา!
“งั้นก็ลองดู ใช้คนจากสิ บสองวิหารพวกนี้เป็ นการทดสอบของพวก
เราแล้วกัน ยังไงพวกเราก็ตอ้ งเผชิญหน้ากับพวกนั้นอยูด่ ีไม่ชา้ ก็เร็ ว”
ฟ่ านจัว๋ พูดยิม้ ๆ ก่อนหน้านี้ที่สาํ นักศึกษาวายุประจิม พวกเขาก็ได้
ลองดูแล้วว่ามันเป็ นยังไง และพวกเขาก็ไม่กลัวที่จะลองอีกครั้ง!
“ฮะ ๆ แต่มีอย่างหนึ่งที่ขา้ อยากจะถามน้องเสี ยน่ะ” อยู่ ๆ เชียวชูกพ็ ดู
ขึ้นพร้อมกับยิม้ อย่างชัว่ ร้ายหน้าไม่อาย
จวินอู๋เสี ยมองเขาแล้วพูดว่า “พูดมา”
“เอ่อ…ท่านพี่อ๋ ูเหยา…เขาจะกลับมาเมื่อไรเหรอ?” เชียวชูถามพลาง
กระพริ บตาปิ๊ ง ๆ ๆ แบบใสซื่ อไร้เดียงสา ความจริ งแล้วเชียวชูชื่นชม
เขามากจนถึงขั้นบูชา ถ้าจวินอู๋เหยาเข้าร่ วมกับพวกเขาได้ ก็ไม่ตอ้ ง
กังวลเรื่ องคนจากสิ บสองวิหารพวกนั้นอีก ต่อให้พวกนั้นมีคน
มากกว่านี้สองเท่า ก็ไม่สามารถเป็ นภัยคุกคามพวกเขาได้เลย
บางครั้งพวกเขาก็อยากรู ้จริ ง ๆ ว่าจวินอู๋เหยามาจากที่ไหน เขาถึงได้
แข็งแกร่ งมากขนาดที่คนจากสิ บสองวิหารต้องตกอยูส่ ถานการณ์ที่
ไม่มีทางรอดเมื่อเผชิญหน้ากับเขา
จวินอู๋เสี ยชะงักค้าง นางไม่เคยคิดว่าเชียวชูจะพูดถึงจวินอู๋เหยาขึ้นมา
กะทันหันแบบนี้
ครั้งล่าสุ ดนี้จวินอู๋เหยาไปค่อนข้างนาน นางคิดว่าเขาจะกลับมาใน
ไม่กี่วนั แต่พอเวลาผ่านไปนางก็เริ่ มรู ้วา่ เขาต้องหายตัวไปอีกแล้ว
“ตนเป็ นที่พ่ งึ แห่งตนเถอะ” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับก้มหน้าลง ไม่รู้
ทําไมพอเชียวชูพดู ถึงจวินอู๋เหยา ความรู ้สึกที่อธิบายไม่ถูกก็ผดุ
ขึ้นมาทําให้รู้สึกไม่สบายใจ
“แค่ก ข้าแค่พดู น่ะ อย่าใส่ ใจเลย ข้ารู ้อยูแ่ ล้วน่า พวกเราต้องแก้แค้น
ด้วยตัวเองซิ แบบนั้นถึงจะน่าพอใจ” เชียวชูพดู ขึ้น ไม่ใช่วา่ เขา
อยากจะอาศัยมือคนอื่นหรอก แต่เป็ นเพราะจวินอู๋เหยาเป็ นคนที่เขา
ชื่นชมมากต่างหาก
เมื่อรู ้สึกว่าอารมณ์ของจวินอู๋เสี ยไม่ค่อยดี ฮัว่ เหยากับคนอื่น ๆ ก็ไม่
พูดอะไรอีก พวกเขาแยกย้ายกันไปเตรี ยมตัวเพื่อจุดหมายต่อไปของ
พวกเขา เมืองพันอสู ร!
จวินอู๋เสี ยยังคงอยูใ่ นห้องของฟ่ านจัว๋ ขณะที่ฮวั่ เหยาไปปรึ กษากับฉู
หลิงเย่และเซียงป้า
ฟ่ านจินมีความสุ ขที่เห็นพวกเขากําลังจะกลับไปที่สาํ นักศึกษาวายุ
ประจิม แต่ฟ่านจัว๋ ก็มาบอกเขาอย่างกะทันหันว่าพวกเขากลับไปกับ
เขาไม่ได้แล้ว ฟ่ านจินเพียงแค่ยมิ้ และไม่ได้พดู อะไรมาก แค่บอกให้
ฟ่ านจัว๋ ดูแลตัวเองให้ดี
ตอนที่ 953 กรรมสนอง
ฟ่ านจินมีความสุ ขที่เห็นพวกเขากําลังจะกลับไปที่สาํ นักศึกษาวายุ
ประจิม แต่ฟ่านจัว๋ ก็มาบอกเขาอย่างกะทันหันว่าพวกเขากลับไปกับ
เขาไม่ได้แล้ว ฟ่ านจินเพียงแค่ยมิ้ และไม่ได้พดู อะไรมาก แค่บอกให้
ฟ่ านจัว๋ ดูแลตัวเองให้ดี
หลังจากฉูหลิงเย่กบั เซียงป้าได้รับคําตอบที่แน่นอนแล้ว พวกเขาก็
กลับไปที่โรงเตี๊ยมเพื่อเตรี ยมตัว
เมื่อฟ่ านจินจะออกเดินทางกลับไปที่สาํ นักศึกษาวายุประจิมเพียง
ลําพัง เขาได้กล่าวลาจวินอู๋เสี ยกับคนอื่น ๆ และขึ้นรถม้า ฟ่ านจิน
มองใบหน้าของทุกคน ซ่อนความขมขื่นไว้ภายใต้รอยยิม้ ลึก ๆ ใน
ใจเขารู ้วา่ เขาแตกต่างจากเพื่อน ๆ ทุกคน
เขาสงบสติอารมณ์และตั้งสติ เขาตัดสิ นใจจะทําให้สาํ นักศึกษาวายุ
ประจิมกลับคืนสู่ ความรุ่ งโรจน์และดียงิ่ ขึ้นกว่าเดิมตอนที่ฟ่านจัว๋
กลับมาเพื่อไม่ให้อบั อายน้องชายของเขา!
รถม้าสองคันจากสํานักศึกษาวายุประจิมยังอยู่ ตอนพวกเขามาที่นี่มี
รถม้ามาสามคัน และตอนนี้มีเพียงคันเดียวที่จากไป
เล่ยเฉินพยายามตื้อให้จวินเสี ยคุยกับเขาที่ตาํ หนักเซี ยน แต่กถ็ ูก
ปฏิเสธและเมินใส่ ครั้งแล้วครั้งเล่า ทําให้เล่ยเฉินผิดหวังจนเกือบจะ
เอาเล็บตะกายข้างฝา!
บ่ายวันนั้น จักรพรรดิประกาศสละราชสมบัติ ข่าวนั้นกระจายไปทัว่
เมืองหลวง ทุกคนพากันพูดคุยเรื่ องนี้แต่ไม่มีใครรู ้วา่ เกิดอะไรขึ้น
พวกเขาไม่รู้กระทัง่ ว่าใครจะเป็ นผูส้ ื บทอดบัลลังก์จกั รพรรดิ
บางคนเดาว่าองค์รัชทายาทเล่ยเฉินจะขึ้นครองราชย์ แต่คนอีกกลุ่ม
เดากันว่ามีความเป็ นไปได้มากกว่าที่จะเป็ นองค์ชายสี่ เล่ยฟ่ าน
ขณะที่ผคู ้ นยังคงตกใจกับการประกาศสละราชบัลลังก์อย่าง
กะทันหันของจักรพรรดิ ก็มีอีกข่าวที่ทาํ ให้ท้ งั เมืองต้องสัน่ สะเทือน!
จักรพรรดินีแห่งแคว้นหยานลักลอบเป็ นชูก้ บั อัครมหาเสนาบดี และ
ฆาตกรรมองค์ชายสี่ ตวั จริ ง สับเปลี่ยนตัวกับลูกของพวกเขา! และ
จักรพรรดิกถ็ ูกปิ ดหูปิดตามามากกว่า 10 ปี !
องค์ชายสี่ ที่เป็ นที่รักใคร่ โปรดปรานมากที่สุด แท้จริ งแล้วคือลูกชูง้ ้ นั
หรื อ?
ข่าวนั้นทําให้ผคู ้ นตกตะลึงมากยิง่ ขึ้น!
ทั้งสามคนถูกประหารในเย็นวันเดียวกันนั้น และก่อนจะโดน
ประหาร พวกเขาถูกแห่ประจานไปตามถนน!
เมื่อประชาชนเห็นโฉมหน้าที่แท้จริ งของเล่ยฟ่ านซึ่งเหมือนกับ
จักรพรรดินีกบั อัครมหาเสนาบดีมาก พวกเขาเชื่อทันทีวา่ เป็ นความ
จริ ง!
พวกเขาถูกแห่ผา่ นถนนไปท่ามกลางเสี ยงโห่และด่าว่า ทหารคุม้ กัน
รถแห่ที่มีจกั รพรรดินี อัครมหาเสนาบดี และเล่ยฟ่ านอยู่ ผูค้ นที่เรี ยง
รายอยูข่ า้ งถนนเกรี้ ยวกราดกันมาก พวกเขาเริ่ มขว้างปาสิ่ งของที่อยู่
ในมือเข้าใส่ อาชญากรที่ชวั่ ช้าน่ารังเกียจ!
จักรพรรดินีที่เคยปกครองวังหลังตอนนี้ดูซูบผอมและหมดสภาพ
นางอยูใ่ นชุดสี ขาวของนักโทษซึ่งไม่นานก็เปรอะเปื้ อนสิ่ งของต่าง ๆ
ที่ผคู ้ นขว้างเข้าใส่ พวกเขา
อัครมหาเสนาบดีที่เคยยืนอยูเ่ หนือทุกคนยกเว้นคนเพียงคนเดียว
ตอนนี้ถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนบนรถนักโทษ ดวงตาปิ ดสนิทอย่างสิ้ น
หวัง
องค์ชายสี่ เล่ยฟ่ าน ที่เคยเป็ นที่รักและโปรดปรานมากที่สุดยืนเหม่อ
มองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย หน้าผากของเขาเลือดออกจากก้อน
หิ นที่ถูกขว้างใส่ เลือดสี แดงสดไหลลงมาตามขมับจนถึงแก้ม แต่เขา
ก็ไม่มีปฏิกิริยาแม้แต่นอ้ ย ดูเหมือนจะไม่มีสติอย่างสมบูรณ์แล้ว
สายตาของเขาเหม่อมองอย่างว่างเปล่า
ขณะที่เคลื่อนผ่านตําหนักเซียน จู่ ๆ เล่ยฟ่ านที่ซึมกระทือไร้ชีวติ ชีวา
ก็เงยหน้าขึ้น เขาเห็นใบหน้าของปี ศาจที่เป็ นฝันร้ายของเขาอยูท่ ี่
หน้าต่างชั้นสองของโรงเตี๊ยมตําหนักเซียน สี หน้าเหม่อลอยของเขา
พลันบิดเบี้ยวแสดงออกถึงความกลัวสุ ดขีด!
ทุกสิ่ งที่เขาเคยมีถูกทําลายด้วยฝี มือของเจ้าปี ศาจนัน่ ! ถ้าเขาไม่ได้เจอ
กับเจ้าปี ศาจคนนี้…ถ้าพวกเขาไม่ได้พบกัน เรื่ องพวกนี้กจ็ ะไม่
เกิดขึ้น!
จวินอู๋เสี ยนัง่ อยูข่ า้ งหน้าต่างบนชั้นสองของตําหนักเซี ยน นางมองดู
ฝูงชนเบื้องล่างผ่านไป ขณะที่เล่ยฟ่ านมองมาที่นาง นางก็แค่มองเขา
นิ่ง ๆ ราวกับว่าเรื่ องทั้งหมดนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนางแม้แต่นอ้ ย
ความดีและความเลว เวรกรรมจะตามสนองเอง
ถ้าสวรรค์ยงั ไม่จดั การให้กรรมสนอง นางก็ไม่รังเกียจที่จะยืน่ มือ
ช่วยเหลือ!
ตอนที่ 954 จักรพรรดิหนี
จวินอู๋เสี ยนัง่ อยูข่ า้ งหน้าต่างบนชั้นสองของตําหนักเซียน นางมองดู
ฝูงชนเบื้องล่างผ่านไป ขณะที่เล่ยฟ่ านมองมาที่นาง นางก็แค่มองเขา
นิ่ง ๆ ราวกับว่าเรื่ องทั้งหมดนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนางแม้แต่นอ้ ย
ความดีและความเลว เวรกรรมจะตามสนองเอง
ถ้าสวรรค์ยงั ไม่จดั การให้กรรมสนอง นางก็ไม่รังเกียจที่จะยืน่ มือ
ช่วยเหลือ!
เล่ยฟ่ านตายแล้ว หัวของทั้งสามคนถูกตัดและห้อยประจานเอาไว้ที่
หน้าประตูเมือง พระพันปี หลวงสัง่ ให้โยนศพของอาชญากรทั้งสาม
ไว้ในสุ สานแห่งหนึ่ง ไม่มีใครมารับศพหรื อเก็บศพของพวกเขา
กลับไปเลย ส่ วนหัวของพวกเขาจะถูกห้อยเอาไว้ที่ประตูเมืองเป็ น
เวลา 10 ปี ให้ตากแดดตากลมโดนสภาพอากาศทําร้ายเพื่อให้สวรรค์
ได้ลงโทษ
ถึงแม้พระพันปี หลวงจะไม่ได้ยงุ่ เกี่ยวกับกิจการบ้านเมือง แต่นาง
เกลียดชังผูร้ ้ายทั้งสามคนไปจนถึงกระดูก
ตกกลางคืน ผูค้ นในเมืองหลวงพากันนอนไม่หลับ วันนั้นมีหลายสิ่ ง
เกิดขึ้นมากเหลือเกิน และทุกเรื่ องก็ทาํ ให้ช็อคมากขึ้น ๆ พวกเขาไม่รู้
ว่าใครจะปกครองแคว้นหยาน และพวกเขาก็ทาํ อะไรไม่ได้นอกจาก
รอคอยอย่างเงียบ ๆ และอดทน
เช้าตรู่ วนั รุ่ งขึ้น พระพันปี หลวงก็สงั่ ให้คนนําพระราชโองการเรื่ อง
การขึ้นครองราชย์กบั ชุดคลุมมังกรทองไปที่ตาํ หนักเซี ยน และ
ประกาศพระราชโองการของจักรพรรดิองค์แรกให้ประชาชนรับรู ้
เพื่อบอกประชาชนทุกคนของแคว้นหยานว่าการสละราชสมบัติของ
จักรพรรดิเป็ นไปตามพระประสงค์ของจักรพรรดิองค์แรกของสาย
ราชวงศ์ปัจจุบนั
พวกเขาแค่คืนบัลลังก์ของแคว้นหยานให้กบั เจ้าของเดิมเท่านั้น
เมื่อทหารที่ติดตามเล่ยเฉินผูอ้ ญั เชิญตราหยก ชุดคลุมมังกรทอง และ
พระราชโองการได้มาถึงตําหนักเซียน ที่นนั่ ก็เต็มไปด้วยผูค้ นกลุ่ม
ใหญ่ที่มาจากในเมือง
เมื่ออ่านพระราชโองการของจักรพรรดิองค์แรกแล้ว พวกเขาจึงได้รู้
ว่าตําแหน่งจักรพรรดิแห่งแคว้นหยานจะเป็ นของผูค้ รอบครอง
แหวนจักรพรรดิหยาน และทุกคนต่างพากันตกตะลึงเมื่อได้รู้วา่ ใคร
คือผูค้ รอบครองแหวนจักรพรรดิหยาน
คน ๆ นั้นเป็ นคนเดียวกับคนที่เข้าแข่งขันศึกประลองวิญญาณ ผูท้ ี่ชื่อ
ของเขาสัน่ สะเทือนเมืองหลวงครั้งแล้วครั้งเล่า จวินเสี ย!
เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น ผูค้ นก็พากันอยากรู ้อยากเห็น ทุกคนรี บวิง่ มาที่นี่
เพื่อมามุงดูเหตุการณ์
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เล่ยเฉินอ่านพระราชโองการให้จวินเสี ยขึ้น
ครองราชย์ดว้ ยตัวเองแล้ว ก็ไม่มีใครออกมาจากด้านในโรงเตี๊ยม
ตําหนักเซียนเลย
เล่ยเฉินเริ่ มกระสับกระส่ าย เขากลัวว่าจวินเสี ยจะไม่ยอมเป็ น
จักรพรรดิ เขาได้ความคิดนี้เมื่อคืนพร้อมกับพระพันปี หลวงที่จะยัด
ตําแหน่งนั้นให้จวินเสี ยแบบรวดเร็ วโดยไม่ให้ต้ งั ตัวเหมือนไล่ตอ้ น
เป็ ดขึ้นเกาะบนคอนในขณะที่จวินเสี ยยังอยูใ่ นเมืองหลวง การที่เขา
ประกาศพระราชโองการต่อหน้าสาธารณะชนจะทําให้จวินเสี ยต้อง
รับตําแหน่งไม่วา่ เขาจะอยากหรื อไม่กต็ าม
แต่หลังจากรออยูน่ าน เล่ยเฉินก็ยงั ไม่เห็นจวินเสี ยออกมา
หลังจากที่เขาอ่านพระราชโองการเป็ นครั้งที่สาม เถ้าแก่โรงเตี๊ยมก็
วิง่ ออกมาแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเล่ยเฉิ นพร้อมกับพูดว่า “ฝ่ าบาท!
จักรพรรดิองค์ใหม่…จักรพรรดิองค์ใหม่ไปจากที่นี่พร้อมกับพระ
สหายนานแล้วพะย่ะค่ะ!”
เล่ยเฉินอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้างจนดูเหมือนจะหลุดออกมาจาก
เบ้าได้ทุกเมื่อ เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่ งที่ได้ยนิ
[จวินเสี ย…หนีไปง่าย ๆ แบบนี้เลย?!!]
“ฝ่ าบาท! ฝ่ าบาท เป็ นอะไรไปพะย่ะค่ะ!? ทหาร! ฝ่ าบาทเป็ นลม!”
………..
ขณะที่เมืองหลวงโกลาหลวุน่ วายกันยกใหญ่ จวินอู๋เสี ยกับเพื่อนของ
นางก็นงั่ อยูใ่ นรถม้าแล้ว พวกเขาตามฉูหลิงเย่กบั คนอื่น ๆ ในการ
เดินทางไปที่เมืองพันอสู ร
จวินอู๋เสี ยนัง่ อยูใ่ นรถม้า นางมองไม่เห็นเมืองหลวงที่แนวเส้นขอบ
ฟ้าอีกแล้ว
ไม่รู้วา่ ตัวเองถูกต้อนเหมือนเป็ ดบนคอนจนกลายเป็ นจักรพรรดิคน
ใหม่ของแคว้นหยานไปแล้ว และไม่รู้ดว้ ยว่าในวันข้างหน้านางจะ
นํากองทัพใหญ่ของแคว้นหยานเหยียบย่างไปทัว่ แผ่นดิน จุดไฟ
สงครามแห่งความกลัวไปทัว่ ทุกแห่งหน!
ตอนที่ 955 เมืองพันอสู ร (1)
เมืองพันอสู รมีพ้นื ที่ขนาดใหญ่มาก มีกาํ แพงสู งล้อมรอบทั้งเมือง ที่ ๆ
เมืองพันอสู รตั้งอยูถ่ ูกล้อมด้วยภูเขาสี เขียวและผืนนํ้าใสกระจ่างราว
คริ สตัล เมื่อมองครั้งแรกเมืองนี้ดูเหมือนสรวงสวรรค์ที่ถูกซ่อน
เอาไว้ และที่อยูใ่ นป่ าทึบเขียวขจีกค็ ือสัตว์อสู รจํานวนนับไม่ถว้ นที่
อาศัยอยูใ่ กล้เมืองพันอสู รมาเนิ่นนาน และสามารถสัมผัสได้ถึงขลุ่ย
กระดูกกล่อมอสู รที่อยูใ่ นเมืองพันอสู ร สัตว์อสูรที่นี่จึงแทบจะไม่
โจมตีมนุษย์เลย
นอกจากตัวเมืองพันอสู รแล้ว ยังมีหมู่บา้ นรอบ ๆ อยูอ่ ีกหลาย
หมู่บา้ น หมู่บา้ นพวกนั้นมักจะเป็ นสถานที่พกั ของแขกที่มาเยือน
เมืองพันอสู ร เนื่องจากคนนอกที่อยากเข้าเมืองพันอสู รจะต้องได้รับ
อนุญาตจากเจ้าเมืองหรื อหัวหน้าตึกเท่านั้น
เมืองพันอสู รแบ่งออกเป็ น 5 เขต เขตกลางดูแลโดยเจ้าเมืองเอง
ขณะที่อีก 4 เขตถูกแบ่งเป็ น 4 ทิศ เหนือ, ใต้, ตะวันออก และ
ตะวันตก จะเข้าแต่ละเขตได้โดยผ่านประตูใหญ่เท่านั้นซึ่งอยูใ่ น
อํานาจบริ หารของหัวหน้าตึก
เซียงป้ามาจากตึกเพลิงพิโรธซึ่ งตั้งอยูท่ างตะวันออกของเมืองพัน
อสู ร ดังนั้นเซียงป้ากับคนอื่น ๆ จึงกลับเข้าเมืองจากทางประตู
ตะวันออก
จวินอู๋เสี ยมองออกนอกหน้าต่างรถม้าและเห็นวิวภายในเมืองพัน
อสู ร ที่ดา้ นบนของประตูเมืองพันอสู รมีรูปแกะสลักของสัตว์อสู รที่
ดูราวกับมีชีวติ อยูด่ ว้ ย
และสิ่ งที่เห็นได้ทวั่ ไปภายในเมืองพันอสู รก็คือสัตว์อสู ร
สัตว์อสู รที่อื่น ๆ ในโลกนี้ดุร้ายและไม่อาจทําให้เชื่องได้ แต่ในเมือง
พันอสู รนั้นเป็ นข้อยกเว้น
ขลุ่ยกระดูกกล่อมอสู รที่ตกทอดกันมาหลายรุ่ นของเจ้าเมืองพันอสู ร
ได้เปิ ดเส้นทางระหว่างมนุษย์และสัตว์อสู ร และขลุ่ยนี้มีอนั เดียวใน
โลก ด้วยอิทธิพลจากขลุ่ยกระดูกกล่อมอสู รนี้เอง ประชาชนในเมือง
นี้ทุกคนจึงคุน้ เคยกับสัตว์อสู รมาตั้งแต่เล็ก ก่อนที่แหวนประจําตัวจะ
ตื่นขึ้น พวกเขาได้ลองเลี้ยงสัตว์อสู รเด็กกันแล้วด้วยการเอาพวกมัน
ไว้ใกล้ตวั ตั้งแต่เด็ก ทําให้สตั ว์อสู รพวกนั้นค่อย ๆ คุน้ เคยและ
กลายเป็ นส่ วนหนึ่งในสภาพแวดล้อมของมนุษย์
ตามถนนหนทางของเมืองพันอสู รจะเห็นสัตว์อสู รเชื่อง ๆ เดินตาม
ผูค้ นไปทัว่ ทุกแห่ง
ขนาดของสัตว์อสูรพวกนั้นไม่จดั ว่าใหญ่โตอะไร และดูแล้วส่ วน
ใหญ่กเ็ ป็ นสัตว์อสูรระดับตํ่า
“พวกท่านทําให้สตั ว์อสู รเชื่องได้ดว้ ยเหรอ?” จวินอู๋เสี ยถามพลาง
มองผูค้ นที่พาสัตว์อสู รขนาดต่าง ๆ เดินไปตามถนน คนอื่น ๆ ในรถ
ม้าดูจะชินกับภาพแบบนี้ พวกเขาไม่เห็นว่ามีอะไรแปลกเลยสักนิด
เซียงป้ายิม้ และพยักหน้า เขาพูดด้วยนํ้าเสี ยงภูมิใจว่า “เมืองพันอสู ร
ของเรามีชื่อเสี ยงด้านสัตว์อสู ร ถึงแม้จะมีขลุ่ยกระดูกกล่อมอสู รอยู่
แค่อนั เดียว พวกเราก็พยายามทําให้สตั ว์อสู รเชื่อง แต่เมื่อไม่มีขลุ่ย
กระดูกกล่อมอสู ร ก็เลยทําให้เชื่องได้แค่พวกสัตว์อสู รระดับตํ่า”
จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้ว ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงเมืองพันอสู ร นางได้แยก
ทางกับเชียวชูและคนอื่น ๆ ฟ่ านจัว๋ กับคนอื่น ๆ แยกไปที่หมู่บา้ น
ต่าง ๆ ด้านนอกประตูเมืองทั้งสี่ เพื่อให้ง่ายต่อการรวบรวมข้อมูล
ข่าวสารที่สามารถช่วยในภารกิจได้
วิธีเดียวที่จะทําตามความต้องการของฉูหลิงเย่ได้กค็ ือช่วยเหลือคนที่
ถูกลักพาตัวไป การหาตําแหน่งของคนที่ถูกกักขังพวกนั้นให้เจอจึง
เป็ นสิ่ งที่จวินอู๋เสี ยจําเป็ นต้องทําเป็ นอย่างแรก นอกจากนั้นถ้าเซี ยง
ป้าพาคนแปลกหน้าเข้าไปในเมืองพันอสู รหลายคนในคราวเดียว คน
ก็จะสงสัยอย่างแน่นอน แต่ถา้ เป็ นจวินเสี ยเพียงคนเดียว มันก็จะง่าย
ขึ้นมากไม่วา่ จะซ่อนตัวเขาหรื ออธิบายถึงตัวตนของเขา
ก่อนที่พวกเขาแยกทางกัน ฟ่ านจัว๋ เข้ามาหานางเป็ นการส่ วนตัวเพือ่
คุยกับนางเรื่ องกําไลสะกดอสู รของเมืองพันอสูร
กําไลสะกดอสู รเป็ นสิ่ งที่ได้มาจากเลือด หยาดเหงื่อ และนํ้าตาของ
เจ้าเมืองพันอสู รในอดีตหลายต่อหลายรุ่ น ซึ่งเป็ นสิ่ งที่จาํ ลองมาจาก
ขลุ่ยกระดูกกล่อมอสู ร เป็ นสิ่ งที่สร้างมาเพื่อสะกดพวกสัตว์อสู ร
ตอนที่ 956 เมืองพันอสู ร (2)
ขลุ่ยกระดูกกล่อมอสู รของเมืองพันอสู รสามารถควบคุมสัตว์อสู รได้
เป็ นพัน ๆ ตัว ทําให้สตั ว์อสู รนับไม่ถว้ นยอมสยบและทําตามที่
ต้องการ แต่กาํ ไลสะกดอสู รไม่ได้แข็งแกร่ งถึงขนาดนั้น มันสามารถ
ใช้กบั สัตว์อสู รได้แค่หนึ่งตัวเท่านั้น และด้วยระดับของกําไลสะกด
อสู ร สัตวอสู รที่สามารถควบคุมได้จึงระดับต่างกันไปด้วย
ในฐานะที่ฟ่านจัว๋ เป็ นช่างหลอมแหวน เขาจึงสนใจกําไลสะกดอสู ร
นี้มาก ดังนั้นก่อนที่จะแยกจากกัน เขาจึงมาหาจวินอู๋เสี ยเพื่อขอให้
นางช่วยดูวา่ จะสามารถหามาสักอันได้หรื อไม่เมื่อไปถึงเมืองพัน
อสู รแล้ว
กําไลสะกดอสู รเป็ นความลับที่เมืองพันอสู รเก็บรักษาไว้ ถึงแม้ฉู
หลิงเย่จะมาขอความช่วยเหลือพวกเขาในเรื่ องนี้ มันก็ยงั ไม่ดีนกั ที่
พวกเขาจะถามฉูหลิงเย่เรื่ องกําไลสะกดอสู รไปตรง ๆ อย่างนั้น มัน
ไม่ต่างจากการฉวยเอามรดกตกทอดของตระกูลคนอื่น
จวินอู๋เสี ยยังจําคําขอของฟ่ านจัว๋ ได้ แต่ตอนที่เซี ยงป้าพูดเรื่ องขลุ่ย
ขึ้นมา สี หน้าของนางก็ยงั ไม่เปลี่ยน
รถม้าเคลื่อนที่ไปในเมืองพันอสู รช้า ๆ ความงดงามรุ่ งเรื องภายใน
เมืองค่อย ๆ ผ่านหน้าจวินอู๋เสี ยไป
หลังจากนั้นพักใหญ่ รถม้าก็ไปหยุดอยูห่ น้าอาคารหลังหนึ่ง เซี ยงป้า
ก้าวลงจากรถม้าทันที
ผูเ้ ยาว์คนหนึ่งขี่มา้ มาปรากฏตัวขึ้นข้างหน้าเซี ยงป้าและรถม้าของ
พวกเขา
เซียงป้าเงยหน้าขึ้นมองผูเ้ ยาว์ที่นงั่ อยูบ่ นหลังม้าแล้วขมวดคิ้ว
ผูเ้ ยาว์คนนั้นมีหน้าตาที่ดูดีมีเสน่ห์และดูเหมือนจะมีอายุประมาณ
18-19 ปี ตั้งแต่ที่เขาปรากฏตัวขึ้นมา สายตาของเขาก็ไม่ละไปจากรถ
ม้าเลย เขามองข้ามเซียงป้าที่กา้ วออกมาจากรถม้าเป็ นคนแรกอย่าง
สิ้ นเชิง
และเมื่อผูเ้ ยาว์คนนั้นเห็นฉูหลิงเย่กา้ วลงมาจากรถม้า ดวงตาของเขา
ก็เป็ นประกายขึ้นมาทันที เขาเหวีย่ งตัวเองลงจากหลังม้า ใบหน้าเต็ม
ไปด้วยรอยยิม้ ขณะที่กา้ วเข้าไปหาฉูหลิงเย่
อย่างไรก็ตาม ฉูหลิงเย่ไม่ได้สงั เกตเห็นผูเ้ ยาว์ที่เข้ามาเลย สายตาของ
นางจับจ้องอยูท่ ี่จวินเสี ยที่กา้ วออกจากรถม้าอย่างช้า ๆ
“เป็ นการเดินทางที่ลาํ บากอยูน่ ะ ท่านคงลําบากไม่นอ้ ย” ฉูหลิงเย่พดู
พลางมองจวินเสี ยยิม้ ๆ เนื่องจากนางเดิมพันข้างจวินเสี ยจนหมด
นางจึงเอาแต่สนใจจวินเสี ยโดยไม่รู้ตวั
“ไม่เท่าไรหรอก” จวินอู๋เสี ยตอบนิ่ง ๆ
ผูเ้ ยาว์ที่ยมิ้ กว้างเต็มหน้าเพิง่ มาถึงด้านข้างรถม้า เขาเห็นฉูหลิงเย่ยมิ้
หวานให้จวินเสี ยที่เพิ่งก้าวออกจากรถม้า ใบหน้านั้นไม่คุน้ เอาซะเลย
แต่ดูเหมือนฉูหลิงเย่จะสนิทสนมกับเด็กนัน่ เป็ นพิเศษ รอยยิม้ บน
ใบหน้าของผูเ้ ยาว์คนนั้นหายไปทันที สายตาแสดงออกถึงความไม่
พอใจ
“หลิงเย่!” ผูเ้ ยาว์คนนั้นส่ งเสี ยงเรี ยก
เมื่อฉูหลิงเย่ได้ยนิ เสี ยงก็หนั ไปทันทีและพบผูเ้ ยาว์คนนั้นกําลังยิม้
ฝื น ๆ ให้นาง
“หลินเฟิ ง? มาที่นี่ทาํ ไมน่ะ?” ฉูหลิงเย่ถามอย่างประหลาดใจ นาง
มองหลินเฟิ งที่ยนื ยิม้ ฝื น ๆ อยูต่ รงหน้านาง
หลินเฟิ งเป็ นลูกชายของหัวหน้าตึกนํ้าค้างเหมันต์ หลินชิว เขาอายุ
เท่ากับฉูหลิงเย่
หลินเฟิ งพูดพลางหัวเราะว่า “ข้าได้ยนิ จากท่านพ่อว่าท่านกลับมา
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าท่านได้รับบาดเจ็บหนักที่แคว้นหยาน ข้าก็เลย
เป็ นห่วงมาก แต่ท่านเจ้าเมืองไม่ยอมให้ขา้ ตามไปด้วย พอข้าได้ข่าว
ว่าท่านกลับมาวันนี้ ข้าก็รีบมาที่นี่เลย หลิงเย่ เกิดอะไรขึ้นที่แคว้น
หยานงั้นเหรอ? ที่ได้รับบาดเจ็บจากการแข่งขันในศึกประลอง
วิญญาณเป็ นยังไงบ้าง? รู ้สึกดีข้ ึนแล้วใช่ไหม?” ขณะที่พดู หลิงเฟิ งก็
ก้าวเข้ามาด้วยสี หน้าห่วงใย ตั้งใจจะตรวจสอบอาการของฉูหลิงเย่
ฉูหลิงเย่ถอยหลังไปก้าวหนึ่งโดยไม่รู้ตวั นางยิม้ อย่างอึดอัดแล้วพูด
ว่า “ข้าดีข้ ึนมากแล้ว ต้องขอบคุณจวินเสี ยที่ทาํ ให้ขา้ พ้นอันตรายและ
กลับมาที่นี่ได้อย่างปลอดภัย” พอพูดจบนางก็หนั ไปทางจวินเสี ยที่
ยืนอยูข่ า้ ง ๆ และยิม้ ให้เขา
ตอนที่ 957 เมืองพันอสู ร (3)
ตอนที่จวินเสี ยตามเซียงป้ากับคนอื่น ๆ กลับมา พวกเขาก็ได้คิดไว้
แล้วว่าจะอธิบายตัวตนของเขาตอนเข้าเมืองพันอสู รยังไงดี
เรื่ องที่ฉูหลิงเย่ได้รับบาดเจ็บที่แคว้นหยานรู ้ไปทัว่ เมืองพันอสู รแล้ว
ดังนั้นจึงสมมติให้จวินเสี ยรับความดีความชอบในการรักษาฉูหลิงเย่
ได้สาํ เร็ จและทําให้ฉูหลิงเย่กบั คนอื่น ๆ สํานึกในบุญคุณและได้
เชิญจวินเสี ยมาเป็ นแขกที่เมืองพันอสู ร
“เขาเนี่ยนะ?” หลินเฟิ งมองจวินเสี ยที่ยนื อยูข่ า้ ง ๆ ฉูหลิงเย่แล้วขมวด
คิว้ เขามองจวินเสี ยตั้งแต่หวั จรดเท้าอย่างเหยียดหยาม
“หลิงเย่ ที่ท่านพูดเป็ นความจริ งเหรอ? เจ้าเด็กนี่รักษาอาการบาดเจ็บ
ของเจ้าได้จริ ง ๆ น่ะเหรอ?” หลิงเฟิ งมองจวินเสี ยอย่างไม่ยอมรับ
นํ้าเสี ยงไม่เป็ นมิตร
เขาไม่เห็นว่าเด็กน้อยอายุเท่านี้จะมีความสามารถเช่นนั้นได้
“เป็ นความจริ งซิ ท่านลุงเฟิ งเองก็รู้เรื่ องนี้ดว้ ย” ฉูหลิงเย่โกหกไม่เก่ง
สายตาของนางจึงมีแววอึดอัดใจเล็กน้อย นางมองเฟิ งเย่หยางอย่าง
อ้อนวอน
ขณะที่ฉูหลิงเย่กระสับกระส่ าย จวินอู๋เสี ยกลับไม่รู้สึกอึดอัดเลย
แม้แต่นอ้ ย สําหรับนางไม่วา่ จะเป็ น ‘จวินเสี ย’ หรื อ จวินอู๋เสี ย ทั้งคู่ก็
เป็ นคน ๆ เดียวกัน
เฟิ งเย่หยางสังเกตเห็นความยุง่ ยากใจของฉูหลิงเย่ เขาถอนใจอยูใ่ น
ใจ “เรื่ องมันเป็ นแบบนั้นแหละ”
ถึงเฟิ งเย่หยางจะรับรองให้ แต่หลินเฟิ งก็ยงั รู ้สึกขัดหูขดั ตาเมื่อมอง
จวินเสี ย โดยเฉพาะอย่างยิง่ เมื่อเขาเห็นรอยยิม้ ที่ฉูหลิงเย่ยมิ้ ให้เด็กคน
นี้ มันทิ่มแทงใจเขานัก
ฉูหลิงเย่ไม่ได้กลับมาที่เมืองพันอสู รบ่อยเท่าไรนักในช่วงหลายปี มา
นี้ นางใช้เวลาส่ วนใหญ่อยูท่ ี่สาํ นักศึกษาธงศึก จํานวนครั้งที่นาง
กลับมาที่นี่สามารถนับได้ดว้ ยมือข้างเดียว ถึงแม้วา่ ฉูหลิงเย่จะเป็ น
เด็กสาว แต่กเ็ ป็ นที่รู้กนั ไปทัว่ ว่านางคือว่าที่เจ้าเมืองแห่งเมืองพัน
อสู รคนต่อไป ใครก็ตามที่ได้แต่งงานกับนางก็เท่ากับได้เมืองพัน
อสู รทั้งเมืองไว้ในกํามือ
นอกจากนั้น ฉูหลิงเย่หน้าตาดีมาก หลินเฟิ งสนใจในตัวฉูหลิงเย่มา
นานแล้ว แต่เขาไม่สามารถทําอะไรได้มากนักเนื่องจากฉูหลิงเย่แทบ
จะไม่ได้กลับมาเลย ทันทีที่เขาได้ยนิ ว่าฉูหลิงเย่จะกลับมากับเซี ยงป้า
และคนอื่น ๆ ในครั้งนี้ หลินเฟิ งจึงจัดแจงแต่งตัวเป็ นพิเศษก่อนจะ
รี บขี่มา้ มาที่นี่
เขาคิดว่าการที่ฉูหลิงเย่ได้รับบาดเจ็บที่แคว้นหยานจะเป็ นโอกาสดีที่
เขาจะได้เอาหน้าบ้าง แต่เขาไม่คิดว่าตอนที่เขามาถึงที่นี่เขาจะได้เห็น
ฉูหลิงเย่ยมิ้ หวานให้กบั คนแปลกหน้า นํ้าเสี ยงของนางที่มีต่อหมอ
นัน่ ก็ฟังดูปกป้องอีกด้วย!
แล้วหลินเฟิ งจะไม่เห็นจวินเสี ยเป็ นหนามยอกอกได้อย่างไร?
“สามารถรักษาหลิงเย่ได้ช่างเป็ นโชคดีของเขาจริ ง ๆ หลิงเย่ ข้ารู ้วา่
ท่านเพิ่งหายดี ข้าก็เลยนํายาบํารุ งมาให้ท่านเป็ นพิเศษ เก็บมันไว้
เถอะ และถ้าไม่พอก็บอกข้าได้ ยาพวกนี้ได้มาจากตอนที่ท่านพ่อไป
ช่วยตระกูลชิงอวิน๋ เมื่อหลายปี มาแล้ว ตอนนี้ไม่มีตระกูลชิงอวิน๋ แล้ว
ยาพวกนี้จึงกลายเป็ นของหายากมาก ๆ ข้าเชื่อว่าพวกมันจะมี
ประโยชน์ต่อท่านแน่” ขณะที่พดู หลินเฟิ งก็เอายาออกมาจากชุดคลุม
หนึ่งขวดและยัดใส่ มือของฉูหลิงเย่อย่างรวดเร็ ว
ฉูหลิงเย่อยากปฏิเสธเขา แต่กไ็ ม่สามารถทนการตื้อของหลินเฟิ งได้
นางจึงทําได้แค่ถือเอาไว้ในมืออย่างไม่สบายใจ
หลินเฟิ งเลิกคิ้วขึ้นอย่างผูช้ นะขณะที่มองไปยังจวินเสี ย หลังจาก
ตระกูลชิงอวิน๋ หายไป ยาที่เหลืออยูจ่ ากตระกูลชิงอวิน๋ จึงเพิม่ ราคา
ขึ้นหลายเท่า ตอนนี้ยาพวกนี้กลายเป็ นสมบัติที่เกือบประเมินค่า
ไม่ได้ไปแล้ว เนื่องจากพวกมันไม่มีอีกแล้วต่อให้มีเงินสักแค่ไหนก็
ตาม
หลินเฟิ งไม่เชื่อว่าเด็กที่ยงั ไม่สิ้นกลิ่นนํ้านมแบบนี้จะสามารถรักษา
อาการบาดเจ็บของฉูหลิงเย่ได้
“ข้าหายสนิทดีแล้ว ยาพวกนี้ ข้าไม่คิดว่าจะต้องใช้มนั นะ” ฉูหลิงเย่
พูดขึ้น
ตอนที่ 958 เมืองพันอสู ร (4)
หลินเฟิ งตอบว่า “ถึงตอนนี้จะไม่ได้ใช้ แต่กค็ วรเก็บเอาไว้นะ สภาพ
ร่ างกายของท่านยังอ่อนแอ ยาจากตระกูลชิงอวิน๋ ก็หายาก เก็บเอาไว้
เผือ่ จะได้ใช้”
จวินอู๋เสี ยชําเลืองมองหลินเฟิ ง นางเห็นว่าหลินเฟิ งดูพยายามจะอวด
เบ่งต่อหน้านาง และนัน่ ทําให้นางงงเล็กน้อย นี่เป็ นครั้งแรกที่นางได้
พบกับหลินเฟิ ง ทําไมนางถึงจับความรู ้สึกเป็ นศัตรู จากเขาได้ชดั เจน
ขนาดนี้?
ไม่รู้วา่ ทําไมนางถึงได้ถูกมองเป็ นศัตรู ในการตามตื้อฉูหลิงเย่ของ
หลินเฟิ ง จวินอู๋เสี ยยังคงงุนงง นางได้แต่ฟังหลินเฟิ งร่ ายยาวต่อไปว่า
ยาจากตระกูลชิงอวิน๋ ลํ้าค่าและหายากแค่ไหน
ถ้าหลินเฟิ งรู ้วา่ คนที่ทาํ ให้ตระกูลชิงอวิน๋ ทั้งหมดหายไปจากโลกนี้
คือจวินเสี ยที่เขาดูถูกอยูใ่ นตอนนี้ น่าสงสัยจริ ง ๆ ว่าหลินเฟิ งจะคิด
ยังไงกับเรื่ องนั้น
เซียงป้าก็สามารถจับการดูถูกเหยียดหยามได้จากคําพูดของหลินเฟิ ง
และเขาก็ไม่ได้ชอบหลินเฟิ งมาตั้งแต่แรกอยูแ่ ล้ว จึงพูดขึ้นทันทีวา่
“หลินเฟิ ง คุณหนูของเราเพิ่งกลับมา ข้าต้องส่ งคุณหนูกลับไปหา
ท่านเจ้าเมืองก่อน ถ้าไม่มีเรื่ องสําคัญก็อย่ารั้งพวกเราไว้ที่นี่อีกเลย”
หลินเฟิ งตวัดสายตาไปมองเซียงป้าแล้วเผยรอยยิม้ เย็นชา ตามลําดับ
อาวุโสแล้ว เซียงป้าอยูใ่ นระดับเดียวกับท่านพ่อของเขา หลินชิว เขา
ควรจะเรี ยกเซียงป้าว่าท่านลุง แต่ในแววตาที่มองเซียงป้าไม่มีความ
เคารพนับถืออยูเ่ ลยแม้แต่นอ้ ย
“ก็ได้ งั้นหลิงเย่ ท่านควรได้พกั ผ่อน ข้าจะไม่รบกวนท่านอีก
หลังจากที่ท่านพักผ่อนในวันนี้แล้ว ข้าจะไปหาท่านพรุ่ งนี้” พูดจบ
หลินเฟิ งก็กระโจนขึ้นม้าและขี่ออกไปโดยไม่มองเซียงป้าเลยสักนิด
เซียงป้าขมวดคิ้วมองหลินเฟิ งที่กาํ ลังจากไปด้วยสายตาไม่พอใจมาก
“นับวันเขายิง่ หยาบคายขึ้นเรื่ อย ๆ เลยนะ” ชิงหยูพดู ด้วยนํ้าเสี ยงขุ่น
เคือง
“ตอนนี้หลินชิวย้ายข้างไปสวามิภกั ดิ์คนผูน้ ้ นั แล้ว พวกเขาย่อมไม่
เห็นหัวหัวหน้าตึกอย่างข้าอยูแ่ ล้ว ลูกชายเขาก็ตอ้ งรับความคิดและ
มุมมองของพ่อเขามานัน่ แหละ” เซียงป้าพูดพร้อมกับถอนใจ
จากนั้นก็มองจวินเสี ยอย่างขออภัย ถึงแม้เมื่อครู่ หลินเฟิ งจะไม่ได้พดู
กับจวินเสี ยเลยสักคํา แต่จากบทสนทนาของเขากับฉูหลิงเย่ เขา
แสดงความเป็ นศัตรู และดูถูกจวินเสี ยออกมาอย่างรุ นแรง ทําให้เซี ยง
ป้ารู ้สึกอับอายมาก
“คุณชายจวิน ท่านคงรู ้สึกอึดอัด ข้าต้องขออภัยเป็ นอย่างยิง่ ”
จวินอู๋เสี ยไม่รู้สึกรู ้สาอะไรอยูแ่ ล้ว จึงส่ ายหน้า “เขาเป็ นใคร?”
เซียงป้าพูดว่า “เขาเป็ นลูกชายของหลินชิวหัวหน้าตึกนํ้าค้างเหมันต์
ในเมืองพันอสู รนั้นนอกจากท่านเจ้าเมืองแล้วก็มีอีกสี่ ตึก หลินชิว
เป็ นหนึ่งในนั้น หลินชิวเป็ นคนเจ้าเล่ห์ หลังจากที่ผใู ้ ช้พลังวิญญาณ
ขั้นสี ม่วงกลับมาที่นี่ได้ไม่นาน เขาก็แอบไปเข้าร่ วมกับคนผูน้ ้ นั อย่าง
ลับ ๆ ตลอดหลายปี ที่ผา่ นมานี้ เขาไม่ค่อยเคารพเชื่อฟังท่านเจ้าเมือง
และเอาแต่ทาํ งานตามคําสัง่ ของคนผูน้ ้ นั ช่วงหลายปี นี้ท่านเจ้าเมือง
ส่ งคนออกไปสํารวจน้อยลงเรื่ อย ๆ แต่หลินชิวกลับจัดการส่ งคน
ออกไปบ่อย ๆ เพื่อเอาใจคนผูน้ ้ นั ทําให้พี่นอ้ งของเราตายไปมาก
ยิง่ ขึ้น” เซียงป้าดูเจ็บปวดขณะที่พดู หัวหน้าตึกทั้งสี่ เคยสนิทสนมกัน
เหมือนพีน่ อ้ ง และทั้ง ๆ ที่สถานการณ์ในเมืองพันอสู รตอนนี้เป็ น
เช่นนี้ พวกเขายังคงยืนอยูข่ า้ งท่านเจ้าเมือง
ยกเวินหลินชิวที่ทรยศความไว้ใจของพวกเขาทุกคน
“เมืองพันอสู รตอนนี้ดูผวิ เผินเหมือนท่านเจ้าเมืองเป็ นผูน้ าํ แต่ความ
จริ งแล้วทุกอย่างตกอยูภ่ ายใต้การควบคุมของคนผูน้ ้ นั หลินชิวได้รับ
ความไว้ใจจากคนผูน้ ้ นั ตําแหน่งในเมืองพันอสู รของเขาจึงอยู่
เหนือกว่าหัวหน้าตึกอีกสามคนจนถึงขั้นท้าทายท่านเจ้าเมืองแล้ว
เฮ้อ…” เซียงป้าถอนใจ ภายนอกเขาโกรธแต่ในใจรู ้สึกหดหู่ มองไม่
เห็นทางออกของปัญหาเลย
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าเล็กน้อย มิน่าล่ะหลินเฟิ งถึงไม่มองเซียงป้าเลยสัก
ครั้ง นอกจากฉูหลิงเย่แล้ว เขายังเมินเฟิ งเย่หยางกับชิงหยูอีกด้วย
ตอนที่ 959 เมืองพันอสู ร (5)
“ลืมมันซะเถอะ อย่าพูดถึงเรื่ องนี้เลย คุณหนูเพิ่งกลับมาถึง ข้าต้อง
ไปรายงานท่านเจ้าเมือง ชิงหยูจดั การดูแลให้คุณชายจวินไปพักที่ตึก
เพลิงพิโรธ คุณชายจวิน ข้าขอตัวก่อน” การคุยกับหลินเฟิ งที่ไม่มี
ความเกรงอกเกรงใจกันในตอนที่กลับมาทําให้เซียงป้ารู ้สึกไม่พอใจ
โชคดีที่จวินเสี ยไม่รู้สึกโกรธเคือง ทําให้เขาโล่งอกเล็กน้อย
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า
เฟิ งเย่หยางกลับไปบ้านของเขา เซียงป้าพาฉูหลิงเย่ไปจวนท่านเจ้า
เมือง ส่ วนจวินอู๋เสี ยตามชิงหยูเข้าไปที่ตึกเพลิงพิโรธ
ชิงหยูคือรองหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธ แม้วา่ เขาจะเทียบกับคนที่อายุ
30-40 ปี ไม่ได้ แต่เขาก็จดั การเรื่ องราวต่าง ๆ อย่างมีสติและใจเย็น
เป็ นคนที่ยกย่องเซี ยงป้าและคอยทําให้เขาใจเย็นลง
ไม่นานคนของเพลิงพิโรธก็รู้วา่ มีแขกมาที่ตึกของพวกเขา พวกเขา
ต้อนรับจวินเสี ยอย่างอบอุ่นและเป็ นมิตร
“คุณชายจวินพักห้องนี้ได้ขอรับ ข้าจะให้คนเอาอาหารมาให้
ระหว่างนั้นคุณชายจะได้พกั ผ่อน ถ้าต้องการอะไรก็บอกพี่นอ้ งของ
เราคนไหนก็ได้ในตึกนะขอรับ” ชิงหยูพดู พร้อมกับยิม้ เขาชื่นชม
และเคารพจวินเสี ยมากเนื่องจากความฉลาดเฉลียวของจวินเสี ย
“ขอบคุณ” จวินอู๋เสี ยพยักหน้า
ชิงหยูจากไปอย่างรวดเร็ ว
จวินอู๋เสี ยนัง่ ลงในห้อง เจ้าแมวดํากระโจนขึ้นไปบนโต๊ะตรงหน้า
นาง ส่ วนท่านแบะแบะเอาตัวถูขอ้ เท้าของจวินอู๋เสี ย
“เหมียว”
[เจ้าหนูที่ชื่อหลินเฟิ งนัน่ ดูเหมือนจะเกลียดท่านมากเลยนะ]
เจ้าแมวดํามองจวินอู๋เสี ยพร้อมกับเลียอุง้ เท้าอย่างเกียจคร้าน แม้แต่
มันก็ยงั สังเกตเห็นว่าหลินเฟิ งตั้งตัวเป็ นศัตรู กบั นาง
“ไม่ตอ้ งไปสนใจเขาหรอก” จวินอู๋เสี ยไม่เห็นหลินเฟิ งอยูใ่ นสายตา
ด้วยซํ้า ถ้าหลินเฟิ งไม่มาหาเรื่ องนาง นางก็ไม่สนใจเขาหรอก
“เหมียว?”
[ท่านคิดจะทําอะไรต่อ?]
“รอ” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับหรี่ ตา
ทางเดียวที่จะแก้ไขวิกฤตของเมืองพันอสู รได้คือหาคนที่ถูกจับตัวไป
หลังจากที่ช่วยคนพวกนั้นได้แล้ว คนจากสิ บสองวิหารก็จะไม่มีตวั
ประกันเอาไว้ใช้ขม่ ขู่เมืองพันอสู รอีกต่อไป
“ฮัว่ เหยากับคนอื่น ๆ แยกย้ายกันไปหลายแห่งนอกเมืองพันอสู ร
จากที่ฉูหลิงเย่พดู ตอนสิ้ นเดือนคนที่ถูกขังอีกกลุ่มหนึ่งจะถูกพามาที่
เมืองพันอสู ร แล้วพวกเขาจะพาคนที่ปล่อยออกมาของเดือนนี้
กลับไป พอพวกนั้นเห็นคนที่ถูกขังถูกพาตัวเข้ามา เฟยหยานกับคน
อื่น ๆ จะรู ้วา่ พวกเขามาจากทางไหน และพอพวกเขาจากไป พวกนั้น
ก็จะสามารถตามไปได้”
ก่อนที่ศตั รู จะเคลื่อนไหว จวินอู๋เสี ยไม่คิดแหวกหญ้าให้งูตื่น นางจะ
ทําแค่รวบรวมข้อมูลเบาะแสจากในเมืองพันอสู ร
อย่างน้อยมีอยูห่ นึ่งอย่างที่นางต้องทําให้แน่ใจ นัน่ คือมีคนจากสิ บ
สองวิหารอยูท่ ี่เมืองพันอสู รกี่คน และเพื่อนของนางกับเมืองพันอสู ร
จะสามารถเอาชนะพวกเขาได้หรื อไม่
“เหมียว”
เจ้าแมวดําแกว่งหางและไม่พดู อะไรอีก
จากที่มนั เห็น จวินอู๋เสี ยกําลังเล่นเกมอันตราย ถ้าพวกเขาชนะก็ได้
รางวัลใหญ่ แต่ถา้ แพ้ข้ ึนมาล่ะก็ พวกเขาจะเจอกับอันตรายร้ายแรง
มาก ๆ
เซียงป้าพาฉูหลิงเย่ไปที่จวนของเจ้าเมือง
ฉูเหวินห่าว เจ้าเมืองคนปัจจุบนั ของเมืองพันอสู ร พ่อของฉูหลิงเย่ มี
อายุประมาณ 50 ปี ใบหน้าของเขาสดใสร่ าเริ งเป็ นมิตร ดวงตามี
ชีวติ ชีวาและมองทะลุผคู ้ น ถ้าไม่ใช่ผมสี ขาวที่ขมับทั้งสองข้างแล้วดู
จากหน้าตาของเขาอย่างเดียว คนจะต้องคิดว่าอย่างมากเขาก็อายุ 30
เท่านั้น
ฉูหลิงเย่เพิ่งก้าวเข้าไปในจวนเจ้าเมือง ฉูเหวินห่าวก็เดินออกมาทันที
“ท่านพ่อ!” เมื่อฉูหลิงเย่เห็นพ่อของนาง ความตึงเครี ยดในใจก็คลาย
ลงทันที
“ลูกพ่อกลับมาแล้ว พ่อดีใจที่เจ้ากลับมา” ฉูเหวินห่าวพูด ใบหน้า
สดใสร่ าเริ งของเขาเผยรอยยิม้ ที่ทาํ ให้สบายใจออกมา
ตอนที่ 960 เมืองพันอสู ร (6)
ฉูเหวินห่าวยกทั้งชีวติ ของเขาให้เมืองพันอสู ร เขากับภรรยามีฉูหลิง
เย่ตอนอายุ 30 กว่า ๆ ถึงแม้ฉูหลิงเย่จะเป็ นผูห้ ญิง แต่ฉูเหวินห่าวก็
ทุ่มเทความสนใจและความรักทั้งหมดให้นาง ถึงแม้เมืองพันอสู ร
กําลังเผชิญหน้ากับภัยพิบตั ิ เขาก็ยงั ทําทุกอย่างที่ทาํ ได้เพื่อปกป้องลูก
สาวของเขาคนนี้
“ท่านเจ้าเมือง” เซียงป้าพูดพร้อมกับคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
ฉูเหวินห่าวยิม้ พยักหน้าแล้วพูดว่า “ครั้งนี้ขา้ รบกวนหัวหน้าเซียง
มากทีเดียว”
“ท่านเจ้าเมืองเกรงใจเกินไปแล้วขอรับ สามารถพาคุณหนูกลับมาได้
อย่างปลอดภัยเช่นนี้ ข้าดีใจยิง่ นัก” เซียงป้ากล่าว
“นัง่ ลงซิลูก” ฉูเหวินห่าวดึงฉูหลิงเย่ไปนัง่ และมองลูกสาวขึ้น ๆ ลง ๆ
อย่างกังวลใจ เมื่อเขาเห็นแก้มสี ชมพูบนใบหน้าของฉูหลิงเย่และดู
ไม่เหมือนข่าวที่เขาได้ยนิ มาจากแคว้นหยานว่านางบาดเจ็บสาหัส
ในใจของเขาก็รู้สึกยินดีและโล่งอก แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะเกิดคําถาม
ขึ้นในใจ
“หลิงเย่ อาการบาดเจ็บของลูกหายสนิทดีแล้วเหรอ?”
ฉูหลิงเย่มองเซียงป้าก่อนจะเล่าเรื่ องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแคว้นหยาน
ให้ท่านพ่อของนางฟัง
เมื่อฉูเหวินห่าวฟังเรื่ องทุกอย่างจบลง เขาก็มีสีหน้าแปลก ๆ เขาไม่
คิดว่าอาการบาดเจ็บที่น่าจะสาหัสของฉูหลิงเย่คือคําสัง่ ของจักรพรรดิ
แห่งแคว้นหยาน! ตอนที่เขาได้ยนิ ว่าลูกสาวของเขาได้รับความทรมาน
เช่นนั้นเพราะความปรารถนาที่เห็นแก่ตวั ของจักรพรรดิแคว้นหยาน
ฉูเหวินห่าวก็โกรธจัด โชคดีที่ฉูหลิงเย่เล่าให้เขาฟังถึงการเปลี่ยน
ผูน้ าํ ของแคว้นหยาน ความโกรธของฉูเหวินห่าวจึงกลายเป็ นความ
ตกใจจนอ้าปากค้างแทน
“ทั้งหมดนี้เป็ นความจริ งหรื อ?” ฉูเหวินห่าวจ้องมองตาโตอย่างไม่
อยากจะเชื่อ จากคําพูดของฉูหลิงเย่ เขาได้รู้วา่ ผูค้ รองแคว้นหยานถูก
เปลี่ยนแล้ว จักรพรรดิถูกบังคับให้สละราชบัลลังก์ ส่ วนจักรพรรดินี
อัครมหาเสนาบดี และองค์ชายสี่ กถ็ ูกตัดหัวแขวนประจานอยูเ่ หนือ
ประตูเมือง!
แคว้นหยานเป็ นแคว้นที่ใหญ่ที่สุด หลายปี มานี้พวกเขาไม่พบใครที่
จะเทียบเคียงพวกเขาได้เลย แล้วใครจะไปคิดว่าคนที่จดั การพวกเขา
ได้จะไม่ใช่แคว้นหรื อตระกูลที่มีอาํ นาจอื่น แต่เป็ นเพียงผูเ้ ยาว์ที่ไม่มี
ใครรู ้จกั คนหนึ่งเท่านั้น!
“ทุกคําที่ขา้ พูดเป็ นความจริ ง ข้าเห็นเหตุการณ์ท้ งั หมดกับตาตัวเอง
เลย” ฉูหลิงเย่ยนื ยันอีกครั้งพร้อมกับพยักหน้า
“มีคนที่ฉลาดขนาดนั้นอยูบ่ นโลกด้วยเหรอเนี่ย? น่าตกใจจริ ง ๆ
สติปัญญาแบบนั้นกับพลังวิญญาณที่ไม่ธรรมดา ทั้งหมดนี้มนั น่า
เหลือเชื่อเกินไป” ในฐานะเจ้าเมืองของเมืองพันอสู ร ฉูเหวินห่าวได้
เห็นโลกมามาก เขาเคยเห็นเหตุการณ์แปลก ๆ และคนที่ไม่ธรรมดา
ในโลกนี้มามากมาย แต่เขาก็ไม่เคยเจอผูเ้ ยาว์ที่ยอดเยีย่ มทั้งสติปัญญา
และความแข็งแกร่ ง
อายุแค่ 14-15 ปี ก็สามารถเล่นงานแคว้นที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดในโลก
เหมือนลูกไก่ในกํามือได้แล้ว? แถมพลังวิญญาณของเขาก็ถึงขั้นสี
เขียวแล้วด้วย? นัน่ มันไม่ใช่มนุษย์แล้ว! มีแต่ปีศาจที่ทาํ แบบนี้ได้!
“คุณชายจวินฉลาดและเฉียบแหลมมาก แถมยังมีพลังที่ไม่ธรรมดา
เขาเป็ นผูม้ ีพรสวรรค์ที่สุดที่ขา้ เคยเจอมาทั้งชีวติ ” เซียงป้ายกย่องจวิน
เสี ยอย่างมากมายเมื่อพูดถึงเขา มีพรสวรรค์ถึงขนาดนั้นแต่ไม่หยิง่
หรื อขี้หงุดหงิด ไม่หุนหันพลันแล่นเหมือนผูเ้ ยาว์มากมายที่มีอายุ
เท่านั้น เป็ นคนที่หายากมาก ๆ อย่างแท้จริ ง
“ได้ยนิ ทั้งสองคนยกย่องชมเชยเขาขนาดนี้ ข้าชักอยากจะพบ
คุณชายจวินคนนี้ซะแล้วล่ะ” ฉูเหวินห่าวพูดพร้อมหัวเราะ
ฉูหลิงเย่ดีใจ นางพูดขึ้นทันที “งั้นลูกก็ใจตรงกับท่านพ่อ ตอนนี้
คุณชายจวินมาเป็ นแขกของเราที่เมืองพันอสู รแล้ว เขาพักอยูท่ ี่ตึก
เพลิงพิโรธของท่านอาเซียง”
“โอ้ งั้นเหรอ? งั้นเซี ยงป้า เจ้าต้องดูแลแขกของเราให้ดี ๆ นะ” ฉูเห
วินห่าวพูดพร้อมกับหัวเราะ
ฉูหลิงเย่กบั เซียงป้าสบตากัน พวกเขาเห็นว่าฉูเหวินห่าวชื่นชมจวิน
เสี ย หลังจากคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ฉูหลิงเย่กเ็ อียงตัวเข้าไปกระซิบที่ขา้ งหู
ของฉูเหวินห่าว
ตอนที่ 961 เมืองพันอสู ร (7)
ฉูหลิงเย่กบั เซียงป้าสบตากัน พวกเขาเห็นว่าฉูเหวินห่าวชื่นชมจวิน
เสี ย หลังจากคิดอยูค่ รู่ หนึ่ง ฉูหลิงเย่กเ็ อียงตัวเข้าไปกระซิ บที่ขา้ งหู
ของฉูเหวินห่าว
รอยยิม้ ใจดีบนใบหน้าของฉูเหวินห่าวแข็งค้างไปทันที ยิง่ ฉูหลิง
เย่อธิบายต่อไป แววตาตกใจของเขาก็ยงิ่ รุ นแรงมากขึ้น
“หลิงเย่! ครั้งนี้เจ้ากล้าเกินไปแล้ว!” ฉูเหวินห่าวไม่อยากจะเชื่อสิ่ งที่
เพิ่งได้ยนิ ฉูหลิงเย่เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเมืองพันอสู รให้จวินเสี ย
ฟังและยังเชิญเขามาที่เมืองพันอสู รเพื่อช่วยพวกเขาอีกด้วย!
แม้วา่ ฉูเหวินห่าวจะชื่นชมความเฉลียวฉลาดของจวินอู๋เสี ยมาก แต่
จากที่เขาได้ฟังมา จวินเสี ยเป็ นเพียงผูเ้ ยาว์ตวั เล็ก ๆ ที่ยงั เด็กอยูม่ าก
เมืองพันอสู รเผชิญกับวิกฤตนี้มาหลายปี แล้ว พวกเขาได้แอบคิดหา
วิธีแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองหลายวิธี แต่ท้ งั หมดก็ไม่มีประโยชน์ แล้ว
ตอนนี้ฉูหลิงเย่กลับตั้งความหวังทั้งหมดเอาไว้ที่ผเู ้ ยาว์ที่เด็กขนาด
นั้น ซึ่งในสายตาของฉูเหวินห่าวมันเป็ นความเสี่ ยงที่มากเกินกว่า
พวกเขาจะรับได้
ฉูหลิงเย่กดั ริ มฝี ปากและพูดว่า “ท่านพ่อ ถ้ามีทางออกอื่นให้เรา ลูกก็
คงไม่เลือกเสี่ ยงขนาดนี้เช่นกัน แต่วา่ ……”
“เด็กโง่! ถ้าท่านยายเจ้ารู ้เข้า เจ้ารู ้ไหมว่ามันจะกลายเป็ นเรื่ องใหญ่แค่
ไหน? แผนที่นนั่ ควรจะมีแต่ขา้ กับหัวหน้าตึกทั้งสี่ เท่านั้นที่รู้เรื่ องนี้
นางไม่รู้วา่ เจ้ารู ้เรื่ องนี้ดว้ ย ถ้านางรู ้วา่ เจ้าพูดเรื่ องนี้ให้คนนอกฟัง
นางไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้แน่” ยิง่ คิดฉูเหวินห่าวก็ยงิ่ ปวดหัวมากขึ้น ลูก
สาวของเขาเป็ นคนมีเหตุผลและเชื่อฟังมาตลอดตั้งแต่เด็ก การที่นาง
ตัดสิ นใจทําเรื่ องเสี่ ยงขนาดนี้ทาํ ให้เขาตกใจมากจริ ง ๆ
“ถ้าข้ากล้าทําแบบนี้ ข้าก็ไม่กลัวว่านางจะรู ้เข้าหรอก ท่านพ่อ! ท่าน
อยากให้พวกเราเป็ นแบบนี้ต่อไปจริ ง ๆ เหรอ? พวกเราต้องมองดู
ท่านแม่กบั คนอื่น ๆ ทนทุกข์ทรมานอยูท่ ี่ไหนก็ไม่รู้ เราไม่ได้เจอ
ท่านแม่มานานแล้วนะ……ข้าคิดถึงท่านแม่เหลือเกิน” ฉูหลิงเย่กม้
หัวลง เสี ยงของนางติดขัดขึ้นมา
แม้วา่ คนผูน้ ้ นั จะปล่อยคนกลุ่มหนึ่งกลับมาที่นี่ทุกเดือน แต่นางแทบ
จะไม่ปล่อยแม่ของฉูหลิงเย่กลับมา ห้าปี ที่ผา่ นมาพวกเขาไม่ได้เจอ
แม่ของฉูหลิงเย่เลยสักครั้ง ดูเหมือนว่าคนผูน้ ้ นั จะจงใจทําแบบนั้น
นางแค่ยอมให้คนที่กลับมาบอกข่าวว่าภรรยาของท่านเจ้าเมืองยังคง
ปลอดภัยดี แต่ไม่เคยปล่อยนางกลับมาหาสามีและลูกเลยสักวันเดียว
ในใจของฉูหลิงเย่ยงั คงมีภาพความทรงจําของแม่ตอนที่นางยังเด็ก
กว่านี้มาก แม้วา่ พวกเขาจะไม่ได้พบกันมานานแล้วก็ตาม แต่เลือดก็
ยังข้นกว่านํ้า นางจะไม่คิดถึงแม่ของนางได้อย่างไร?
คําพูดของฉูหลิงเย่ทาํ ให้ฉูเหวินห่าวรู ้สึกเจ็บปวด ภรรยาและลูกสาว
คือคนที่เขารักมากที่สุดในชีวติ แต่ตอนนี้ภรรยาของเขาถูกจับเป็ นตัว
ประกัน และเขาก็ไม่กล้าหวังว่าพวกเขาจะได้กลับมาอยูด่ ว้ ยกันอีก
แค่ได้มาเจอกันสักแปปก็เป็ นความหวังที่มากเกินไปแล้ว
การแยกจากกันของสามีภรรยานี้เป็ นเหมือนเข็มที่ฝังแน่นอยูใ่ นใจ
ของฉูเหวินห่าว!
“เจ้าได้คิดบ้างไหมว่าถ้าท่านยายของเจ้ารู ้เรื่ องนี้เข้า ผลที่ตามมาจะ
น่ากลัวแค่ไหน? นอกจากนางจะไม่ไว้ชีวติ เจ้ากับจวินเสี ยแล้ว นาง
จะไม่ปล่อยคนที่นางจับเอาไว้ง่าย ๆ ด้วยเหมือนกัน! ถ้านางโกรธจน
ทําร้ายคนพวกนั้น ข้าจะตอบพี่นอ้ งของเราในเมืองนี้ได้ยงั ไง?” ฉูเหวิน
ห่าวพูดด้วยนํ้าเสี ยงเจ็บปวดพร้อมกับหลับตาแน่น ไม่ใช่วา่ เขาไม่
เคยคิดจะเดิมพันทุกอย่างที่มีเพื่อตอบโต้ แต่เขาต้องคิดด้วยว่าคนที่
ถูกจับไปไม่ใช่แค่ภรรยาของเขาคนเดียว
ครั้งหนึ่งคนในเมืองพันอสูรเคยคิดที่จะสู ก้ ลับและพวกเขาได้ทาํ มัน
จริ ง ๆ แต่วนั ต่อมาคนที่ต่อต้านพวกนั้นได้พบศพของภรรยาและลูก ๆ
ของพวกเขากระจัดกระจายอยูห่ น้าประตูเมืองพันอสู ร ภาพนอง
เลือดในวันนั้นยังคงอยูใ่ นใจของทุกคนจนถึงวันนี้
เพื่อให้แน่ใจว่าคนในครอบครัวจะปลอดภัย พวกเขาจึงไม่มี
ทางเลือกนอกจากยอมทําตามคําสัง่ ของคนผูน้ ้ นั พวกเขาไม่ได้
อ่อนแอหรื อขี้ขลาด แต่พวกเขาต้องยอมจํานนเพื่อความปลอดภัย
ของครอบครัว
ตอนที่ 962 เมืองพันอสู ร (8)
ฉูหลิงเย่เงียบกริ บ นางจะไม่รู้ถึงความกังวลในใจของฉูเหวินห่าวได้
อย่างไร?
เซี ยงป้ามองใบหน้าเศร้าสร้อยของฉูหลิงเย่แล้วรู ้สึกเจ็บปวด เขาพูด
กับฉูเหวินห่าวว่า “ท่านเจ้าเมือง คุณชายจวินเคยพูดกับพวกเรามา
ก่อนว่า เขาจะไม่ทาํ อะไรบุ่มบ่ามเด็ดขาดถ้ายังไม่มนั่ ใจเต็มที่วา่ จะ
สําเร็ จ คุณชายจวินเป็ นคนที่ระมัดระวังและละเอียดรอบคอบมาก ข้า
ขอให้ท่านเจ้าเมืองเชื่อในตัวคุณชายจวินสักครั้ง ถ้ามีอะไรไม่ดี
เกิดขึ้น ข้าจะรับผิดชอบเอง ถ้าคนผูน้ ้ นั ถามเรื่ องนี้ ข้าจะพูดว่า
ทั้งหมดเป็ นการกระทําของข้าคนเดียว ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณหนู
หรื อเมืองพันอสู รเลยแม้แต่นอ้ ย”
ฉูเหวินห่าวมองเซียงป้าอย่างประหลาดใจ เขาเห็นความเด็ดเดี่ยว
มุ่งมัน่ ในแววตาของเซียงป้าอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
พวกเขาควรเดิมพันครั้งใหญ่ไหม? หรื ออยูอ่ ย่างทนทุกข์แบบนี้
ต่อไป?
ฉูเหวินห่าวขัดแย้งในใจอย่างรุ นแรง
“เอาล่ะ เรื่ องนี้เจ้าต้องระมัดระวังอย่างที่สุดนะ ถ้าคุณชายจวินต้อง
การความช่วยเหลืออะไรล่ะก็บอกข้าได้ ข้าจะพยายามทําทุกอย่างที่
อยูใ่ นอํานาจของข้าเพื่อช่วยเขา” ในที่สุดฉูเหวินห่าวก็ตดั สิ นใจคว้า
โอกาสนี้เอาไว้ ลูกสาวของเขาเองกับลูกน้องที่เขาไว้ใจแสดงความ
มุ่งมัน่ เด็ดเดี่ยวออกมาขนาดนี้แล้ว เขาจะทําให้เสี ยชื่อเมืองพันอสู ร
ได้อย่างไร?
เมื่อได้รับการยินยอมจากฉูเหวินห่าว ฉูหลิงเย่กบั เซี ยงป้าก็มีสีหน้า
ยินดีข้ ึนมาทันที
……………………
ในตึกเพลิงพิโรธ ชิงหยูทาํ งานของตัวเองจนเสร็ จ เขาเดินไปเคาะ
ประตูหอ้ งของจวินเสี ย
จวินอู๋เสี ยเปิ ดประตู เมื่อนางเห็นชิงหยูยนื อยูน่ อกห้อง นางก็มองเขา
อย่างสงสัย
“คุณชายจวินเพิ่งมาถึงเมืองพันอสู ร ท่านสนใจจะไปเที่ยวชมเมือง
พันอสู รรึ เปล่าขอรับ?” ชิงหยูถามจวินเสี ยยิม้ ๆ
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า ถึงแม้นางจะได้ยนิ เรื่ องของเมืองพันอสู รมามาก
แล้วจากเซียงป้าและฉูหลิงเย่ แต่มีบางอย่างที่จาํ เป็ นต้องเห็นด้วยตา
ของตัวเองก่อนที่พวกเขาจะแน่ใจได้
จวินอู๋เสี ยเดินออกจากตึกเพลิงพิโรธพร้อมกับชิงหยู พวกเขาเดินไป
ตามถนนใหญ่ในเมืองพันอสู ร
ชิงหยูอยากรู ้เรื่ องของสัตว์อสู รที่ดูเหมือนแกะตัวน้อยที่จวินเสี ยอุม้
อยู่ ตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่ มออกเดินทางมาจนถึงตอนนี้ จวินเสี ยแทบไม่
ปล่อยเจ้าตัวน้อยนี้ลงเลย นอกจากแกะน้อยนี้แล้วบนไหล่ของจวิน
เสี ยก็ยงั มีแมวสี ดาํ ตัวเล็กเท่าฝ่ ามือนอนอยูด่ ว้ ย
คนของเมืองพันอสูรคุน้ เคยกับพวกสัตว์อสู ร พวกเขารักสัตว์อสู ร
มาก หลังจากเฝ้าสังเกตอยูน่ าน ชิงหยูกย็ งั ไม่แน่ใจว่าท่านแบะแบะ
เป็ นสัตว์อสู รชนิดใด ที่เขารู ้กค็ ือมันเชื่อฟังจวินเสี ยมากและดูเหมือน
จะเข้าใจความคิดของจวินเสี ยด้วย ขณะเดียวกันมันก็ดูเชื่องมาก
“คุณชายจวินมีสตั ว์อสู รที่พเิ ศษมาก ข้าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มา
ก่อนเลย” ชิงหยูพดู ขณะมองเจ้าตัวน้อยที่นอนตาปรื ออยูใ่ นอ้อมแขน
ของจวินเสี ย ดูสบายซะเหลือเกิน สัตว์อสู รนั้นมีขนาดตัวไม่ใหญ่ ดู
เหมือนไม่ใช่สตั ว์อสู รระดับสู ง ยกเว้นดวงตาของมันที่ดูมีสติปัญญา
และมีจิตสํานึก
ระดับของสัตว์อสูรเกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่ งและสติปัญญาของ
มัน ยิง่ ระดับสู งก็ยงิ่ มีสติปัญญาสู ง พวกมันจะสามารถตอบสนองต่อ
สิ่ งต่าง ๆ ได้ดีกว่า มีสติสมั ปชัญญะและการรับรู ้มากกว่า คนของ
เมืองพันอสู รมีนิสยั ชอบเลี้ยงสัตว์อสูรมาตั้งแต่เล็กแต่นอ้ ย ถึงจะเป็ น
สัตว์อสู รระดับตํ่า แต่ถา้ ไม่มีกาํ ไลสะกดอสู ร พวกเขาก็ตอ้ งใช้เวลา
หลายปี ถึงจะสามารถฝึ กมันได้
นอกจากในเมืองพันอสู รแล้ว ไม่เคยได้ยนิ เลยว่ามีใครสามารถฝึ ก
สัตว์อสู รได้ ดังนั้นชิงหยูจึงอยากรู ้เรื่ องของท่านแบะแบะที่อยูใ่ น
อ้อมแขนของจวินเสี ยมาก
ท่านแบะแบะเหลือบมองชิงหยู ดูเหมือนมันรู ้สึกว่าคําพูดของเขา
เป็ นการดูถูกมัน
[ข้าคือท่านแบะแบะผูส้ ู งส่ งนะ!]
[เป็ นหนึ่งเดียวในโลก! เจ้ามนุษย์โง่นี่ มันก็ตอ้ งแหงอยูแ่ ล้วซิที่จะไม่
เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน! ฮึ!]
ถูกแกะน้อยมองอย่างดูหมิ่นเหยียดหยามเช่นนั้น ชิงหยูกร็ ู ้สึก
ประทับใจเป็ นอย่างมาก……
ตอนที่ 963 ลานประลองสั ตว์ อสู ร (1)
จวินอู๋เสี ยมองท่านแบะแบะในอ้อมแขนของนาง สัตว์อสู รและร่ าง
วิญญาณมีความแตกต่างเฉพาะของมันเอง เจ้าแมวดําทําให้คนรู ้สึก
ว่ามันเหมือนกับภูติประจําตัว ขณะที่ท่านแบะแบะนั้นถึงจะซ่อน
ตัวตนที่ทรงอํานาจของสัตว์อสู รผูพ้ ิทกั ษ์เอาไว้แล้ว แต่คนก็ยงั เห็น
ได้ชดั ว่ามันคือสัตว์อสู ร
“เก็บได้จากข้างทางน่ะ” จวินอู๋เสี ยอธิบายหน้าตาเฉย
ก็มนั เป็ นความจริ งนี่
ชิงหยูยงั งงอยู่ เขาพูดต่อว่า “งั้นเจ้าตัวเล็กนี้ตอ้ งมีชะตาต้องกันกับ
คุณชายจวินเป็ นแน่ ดูจากขนาดตัวของมัน มันก็น่าจะเป็ นสัตว์อสู ร
ระดับตํ่า แต่สตั ว์อสู รระดับตํ่าก็ยงั ไม่เป็ นมิตรกับมนุษย์อยูด่ ี มัน
แทบจะไม่เข้าหามนุษย์ก่อนเลย หรื อเจ้าตัวเล็กนี้ยงั เด็กมากก็เลยยัง
ไม่ได้เรี ยนรู ้การระวังตัว?”
ชิงหยูไม่ได้ดูถูกท่านแบะแบะเลย แต่เป็ นเพราะสัตว์อสู รที่โตเต็มที่
ส่ วนใหญ่จะระวังตัวมากและระแวงมนุษย์ มีเพียงสัตว์อสู รที่ยงั เล็ก
มากเท่านั้นที่จะยอมให้ตวั เองถูกพาไปไหนต่อไหนได้โดยไม่
ต่อต้านเลยสักนิด
“แบะ!”
[เจ้าต่างหากที่ยงั ไม่โต! ท่านแบะแบะโตเต็มที่แล้ว! เจ้ามนุษย์โง่!]
“ไม่แน่ใจ” จวินอู๋เสี ยตอบแบบไม่สนใจ ท่านแบะแบะคือไพ่ตาย
ของนาง มันต้องถึงที่สุดแล้วจริ ง ๆ เท่านั้น นางถึงจะยอมให้คนอื่นรู ้
พลังที่แท้จริ งของท่านแบะแบะ
ชิงหยูใช้เวลากับจวินเสี ยช่วงหนึ่งตอนเดินทางมาที่เมืองพันอสู ร เขา
จึงรู ้วา่ จวินเสี ยมีนิสยั เช่นนี้เอง ดังนั้นเขาจึงไม่โกรธกับคําตอบห้วน ๆ
เย็นชาของจวินเสี ย
เมืองพันอสู รเป็ นสถานที่ที่คึกคักจอแจ แม้วา่ จะเทียบกับเมืองหลวง
ของแคว้นหยานไม่ได้ แต่มนั ก็ยงั มีผคู ้ นพลุกพล่านและเสี ยงดัง
อึกทึก
แต่นอกจากถนนจะเต็มไปด้วยผูค้ นแล้ว สัตว์อสู รใหญ่เล็กก็พบเห็น
ได้ทุกแห่งหน ถ้าไม่ถูกคนอุม้ อยูก่ เ็ ดินอยูก่ บั คนโดยมีสายจูง ภาพ
พวกนี้ทาํ ให้จวินอู๋เสี ยที่อุม้ ท่านแบะแบะอยูจ่ ึงดูเป็ นปกติมากสําหรับ
ที่นี่
ในเมืองพันอสู ร สิ่ งที่เห็นได้ทวั่ ไปก็คือร้านขายลูกสัตว์อสู รตัวเล็ก ๆ
สัตว์อสู รที่โตแล้วทําให้เชื่องได้ยากมาก ถ้าอยากเลี้ยงสัตว์อสู ร พวก
เขาก็ตอ้ งออกไปเลือกลูกสัตว์อสู รที่เพิง่ เกิดพวกนี้ ทั้งสองข้างถนนมี
ลูกสัตว์อสู รมากมายถูกขังอยูใ่ นกรง พวกมันมองผูค้ นที่ผา่ นไปมา
ด้วยดวงตาใสซื่ อไร้เดียงสา ก่อนที่จิตสํานึกและการรับรู ้ของพวกมัน
จะเติบโตขึ้น พวกมันก็ถูกจับมาใส่ กรงแล้ว และถูกเอามาแสดงเป็ น
สิ นค้ารอคอยให้คนมาซื้อไป
จวินอู๋เสี ยมองลูกสัตว์อสู รที่ถูกขังอยูใ่ นกรงพวกนั้นแล้วขมวดคิ้ว
ชาติก่อนนางเคยเห็นภาพแบบนี้มาแล้ว เพื่อทดลองการรวมร่ างสัตว์
คน ๆ นั้นจับสัตว์ป่ากลับมาหลายชนิด พอตกกลางคืนและทุกสิ่ ง
เงียบสงัด เสี ยงร้องโหยหวนของสัตว์ป่าจะดังขึ้นเสมอ ในช่วงนั้นทั้ง
บ้านจะมีแต่กลิ่นคาวเลือดรุ นแรงไปตลอดทั้งวัน
สิ่ งเดียวที่ทาํ ให้สบายใจก็คือในเมืองพันอสู รนั้นห้ามทารุ ณสัตว์อสู ร
เด็ดขาด ถ้าพบการทําผิด ผูก้ ระทําผิดจะถูกลงโทษอย่างรุ นแรง
แต่ถึงจะเป็ นอย่างนั้น จวินอู๋เสี ยก็ยงั ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตวั อยูด่ ี
บางคนพาลูก ๆ มาเลือกสัตว์อสู รพวกนี้ พวกเขารุ นแรงกับลูกสัตว์
อสู รมาก ลูกสัตว์ที่ไร้เดียงสาพวกนี้หวาดกลัวมาก ทั้งถนนได้ยนิ
เสี ยงครางเบา ๆ ไปทัว่ เสี ยงของพวกมันเต็มไปด้วยความกลัวและ
หมดหนทาง
“ลูกสัตว์อสู รทั้งหมดนี้ถูกจับมาจากป่ ารอบเมืองพันอสู ร บางตัวก็
เกิดจากสัตว์อสู รที่คนเลี้ยงไว้ในเมือง ราคาของลูกสัตว์อสู รที่เกิดใน
เมืองจะสู งกว่าเมื่อเทียบกับพวกที่ถูกจับมาจากในป่ า เพราะพวกมัน
มักจะอ่อนโยนและฝึ กได้ง่ายกว่า แถมยังมีจาํ นวนน้อยด้วย” ชิงหยู
สังเกตเห็นจวินเสี ยมองไปที่กรงพวกนั้นโดยไม่ละสายตาและคิดว่า
ผูเ้ ยาว์คนนี้สนใจพวกมัน
ตอนที่ 964 ลานประลองสั ตว์ อสู ร (2)
“คุณชายจวินชอบสัตว์อสู รเหมือนกันหรื อขอรับ?” ชิงหยูถาม
จวินอู๋เสี ยไม่ตอบ นางแพ้สิ่งมีชีวติ ขนฟูตวั น้อย แต่นางเกลียดที่เห็น
พวกมันถูกขังอยูใ่ นกรงดูหวาดกลัวมาก
นัน่ ไม่ใช่สิ่งที่สตั ว์พวกนี้ควรจะเป็ น
ถึงแม้จวินอู๋เสี ยจะรักพวกมัน แต่นางไม่เคยบังคับ จากมุมมองของ
นางไม่วา่ จะมนุษย์หรื อสัตว์ ต่างก็มีชีวติ เหมือนกัน ทุกชีวติ เท่าเทียม
กัน การที่มนุษย์ใช้กาํ ลังบังคับให้สตั ว์ยอมจํานนเป็ นสิ่ งที่นางเกลียด
มาก
ไม่วา่ จะเป็ นเจ้าแมวดําหรื อท่านแบะแบะ พวกมันอยูข่ า้ งกายจวินอู๋
เสี ยด้วยความตั้งใจของตัวเอง และจวินอู๋เสี ยไม่เคยต้องการบังคับฝื น
ใจพวกมันเลย
ถ้าเป็ นการฝื นใจพวกสัตว์อสู ร ไม่วา่ จะทําดีอย่างไร มันก็คือการ
บังคับอยูด่ ี!
“ถ้าคุณชายจวินสนใจ ข้ารู ้จกั ที่เหมาะ ๆ ที่จะพาท่านไปดูขอรับ”
ชิงหยูไม่ได้รู้เอาซะเลยว่าจวินอู๋เสี ยคิดอะไรอยู่ เขาพูดสิ่ งที่คิดว่าจะ
ทําให้จวินเสี ยพอใจ
“ในเมืองพันอสู รมีลานประลองสัตว์อสู รอยูข่ อรับ ที่นนั่ จะจัด
ประลองระหว่างสัตว์อสู รทุกวัน ถ้าท่านทําผลงานได้ดีกส็ ามารถได้
รางวัลเป็ นกําไลสะกดอสู รที่มีอยูใ่ นเมืองพันอสู รเท่านั้นขอรับ” ชิงห
ยูพดู พร้อมกับยิม้ อย่างร่ าเริ ง
เมื่อจวินอู๋เสี ยได้ยนิ คําว่ากําไลสะกดอสู ร ดวงตาของนางก็เป็ น
ประกายทันที
“ที่ไหน?”
เมื่อเห็นว่าจวินอู๋เสี ยแสดงความสนใจ ชิงหยูกร็ ู ้สึกโล่งอก เขาพูดว่า
“คุณชายจวินโปรดตามข้ามาขอรับ”
แล้วชิงหยูกพ็ ดู คุยและอธิบายให้จวินเสี ยฟังระหว่างทางว่าลาน
ประลองสัตว์อสู รนั้นเป็ นยังไง
เมืองพันอสู รมีประชากรอยูม่ ากและแทบทุกคนก็ชอบเลี้ยงสัตว์อสู ร
เป้าหมายสู งสุ ดของคนที่นี่กค็ ือสามารถฝึ กสัตว์อสู รที่ระดับสู งขึ้น
ไปได้ แม้วา่ เมืองพันอสู รจะมีกาํ ไลสะกดอสู ร แต่ยงั ไงซะของแบบ
นั้นก็เป็ นของหายากในเมืองนี้เช่นกัน คนทัว่ ไปไม่สามารถมีได้
นอกจากนั้นแค่การใช้กาํ ไลสะกดอสู รอย่างเดียวเพื่อทําให้สตั ว์อสู ร
เชื่องนั้นมันเป็ นไปไม่ได้ เนื่องจากกําไลสะกดอสู รไม่เหมือนกับ
ขลุ่ยกระดูกกล่อมอสู ร มันไม่ได้มีพลังแบบเดียวกัน
ในการที่จะทําให้สตั ว์อสู รเชื่องได้สาํ เร็ จนั้น นอกจากกําไลสะกด
อสู รแล้ว ยังต้องใช้อย่างอื่นด้วย
และสิ่ งนั้นก็คือ วิชาควบคุมอสู ร!
วิชาควบคุมอสู รเป็ นสมบัติล้ าํ ค่าที่เมืองพันอสู รเก็บรักษาไว้
นอกจากคนของจวนท่านเจ้าเมืองแล้ว ก็มีเพียงหัวหน้าตึกทั้งสี่ ที่รู้
วิชาควบคุมอสู ร การที่จะเรี ยนวิชาควบคุมอสู รได้จะต้องเป็ นคนของ
ตึกใดตึกหนึ่งก่อน และสาบานจะจงรักภักดีต่อพวกเขา ถึงจะมี
คุณสมบัติเรี ยนวิชานั้นได้
ด้วยวิชาควบคุมอสูรบวกกับพลังของกําไลสะกดอสู ร พวกเขาก็จะ
สามารถทําให้สตั ว์อสู รเชื่องได้ในเวลาสั้น ๆ และมันก็ยงั ขึ้นกับ
ระดับของกําไลสะกดอสู รด้วยที่จะกําหนดระดับของสัตว์อสู รที่คน
ผูน้ ้ นั จะสามารถทําให้เชื่องได้
อย่างเช่นเซียงป้ากับหลินชิวที่มีตาํ แหน่งเป็ นถึงหัวหน้าตึก พวกเขาก็
จะมีกาํ ไลสะกดอสู รที่สามารถทําให้สตั ว์อสู รระดับสู งเชื่องได้ กําไล
ประเภทนั้นทั้งเมืองมีแค่ 10 อัน นอกจากหัวหน้าตึกแล้วก็ไม่มี
สมาชิกตึกคนไหนที่มีคุณสมบัติครอบครองกําไลแบบเดียวกับพวก
เขา
และถ้ามีสมาชิกตึกคนไหนทําผลงานได้อย่างเยีย่ มยอด พวกเขาก็จะ
ได้รางวัลเป็ นกําไลสะกดอสู ร แต่กาํ ไลพวกนั้นมักจะเป็ นกําไลที่ทาํ
ให้สตั ว์อสู รระดับตํ่าเชื่องได้เท่านั้น เมื่อมีกาํ ไลสะกดอสู รรวมกับ
วิชาควบคุมอสู ร พวกเขาจะสามารถย่นระยะเวลาในการทําให้สตั ว์
อสู รเชื่องได้มากเลยทีเดียว ดังนั้นกําไลสะกดอสู รจึงเป็ นของที่ล่อใจ
และดึงดูดทุกคนในเมืองพันอสู รได้เป็ นอย่างมาก
นอกจากเข้าร่ วมเป็ นสมาชิกของตึกต่าง ๆ แล้ว ที่เดียวที่คนจะ
สามารถได้รับกําไลสะกดอสู รก็คือลานประลองสัตว์อสู รในเมือง
พันอสู รนัน่ เอง!
ที่นนั่ ไม่วา่ ใครก็สามารถเอาสัตว์อสู รที่เลี้ยงไว้มาประลองได้ และถ้า
พวกเขาชนะติดต่อกัน 10 ครั้ง ก็จะมีคุณสมบัติทา้ ประลองกับ 10
อันดับแรกของลานประลองสัตว์อสู รได้
ตอนที่ 965 ลานประลองสั ตว์ อสู ร (3)
ถ้าเอาชนะ 10 อันดับแรกได้สาํ เร็ จและคงตําแหน่งอันดับ 1 โดยไม่
แพ้ผทู ้ า้ ชิงคนไหนเลยเป็ นเวลา 10 วัน ผูเ้ ข้าแข่งขันคนนั้นก็จะได้
รางวัลจากลานประลองสัตว์อสู รเป็ นกําไลสะกดอสู รที่สามารถทํา
ให้สตั ว์อสู รระดับตํ่าเชื่องได้
เมื่อได้รับกําไลสะกดอสู ร พวกเขาจะสามารถเลือกเข้าร่ วมเป็ น
สมาชิกของตึกใดตึกหนึ่งได้
ตึกทั้งสี่ ของเมืองพันอสู รมีเกณฑ์ในการเลือกสมาชิกที่เข้มงวดมาก
ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสนั้น ฉูเหวินห่าวต้องการค้นหาผูม้ ีพรสวรรค์
สู งในเมืองพันอสู ร และไม่ตอ้ งการให้ผมู ้ ีพรสวรรค์คนใดถูก
มองข้ามไป ดังนั้นเขาจึงก่อตั้งลานประลองสัตว์อสู รขึ้นในเมือง
กฎดูเผิน ๆ เหมือนจะง่าย แต่เมื่อมีผคู ้ นมากมายมาท้าชิงซํ้า ๆ การทํา
ให้ตวั เองอยูท่ ี่อนั ดับ 1 เป็ นเวลา 10 วันติดต่อกันในความเป็ นจริ ง
แล้วยากเย็นยิง่ นัก
ชิงหยูอธิบายกฎพวกนี้ให้จวินเสี ยฟังขณะที่พาผูเ้ ยาว์คนนี้ไปยังลาน
ประลอง
ลานประลองสัตว์อสู รอยูก่ ลางเมืองพันอสู ร มันมีพ้นื ที่กว้างขวาง
มาก ทหารที่ยนื เฝ้าอยูต่ รงทางเข้าจะตรวจสอบทุกคนที่เข้าไปอย่าง
ละเอียด
ในลานประลองสัตว์อสู รจะมีแต่การประลองระหว่างสัตว์อสู ร
เท่านั้น ห้ามใช้กลโกงใด ๆ โดยเด็ดขาด ถ้าใครกล้าใช้วธิ ีผดิ ๆ เพื่อ
เอาชนะ ผูก้ ระทําความผิดที่ถูกจับได้ทุกคนจะถูกลงโทษอย่าง
รุ นแรง ในกรณี ที่ร้ายแรงมาก คนพวกนั้นจะถูกเนรเทศออกจากเมือง
พันอสู ร
ในฐานะที่ชิงหยูเป็ นรองหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธ ทหารจึงจําเขาได้
อย่างรวดเร็ วและพากันทําความเคารพเขา
แต่พวกเขาก็ยงั ทําตามกฎของลานประลองอย่างเข้มงวด กระทัง่ จวิน
เสี ยที่ชิงหยูเป็ นคนพามาก็ถูกตรวจสอบอย่างละเอียด หลังจาก
ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพวกเขาถึงได้ปล่อยให้เข้าไป
ลานประลองสัตว์อสู รนั้นเวทีประลองจะเปิ ดโล่งไม่มีหลังคา มีเพียง
ผูเ้ ข้าชมที่นงั่ อยูร่ อบ ๆ เวทีประลองเท่านั้นที่มีหลังคาอยูเ่ หนือหัว
“สัตว์อสู รบางตัวที่คนเลี้ยงเป็ นประเภทบินได้ ถ้ามีหลังคามันก็จะ
จํากัดความสามารถของสัตว์อสู รพวกนั้น เพื่อให้ยตุ ิธรรมกับทุกคน
เวทีประลองจึงไม่มีหลังคา” ชิงหยูอธิบายให้จวินเสี ยฟังพลางชี้ข้ ึน
ไปที่ทอ้ งฟ้าเหนือเวทีประลอง
จวินอู๋เสี ยสังเกตสถานการณ์ในลานประลองสัตว์อสู รอย่างเงียบ ๆ
ทั้งลานประลองนั้นพูดได้วา่ เต็มความจุของมันเลยทีเดียว คนเมือง
พันอสู รชื่นชอบการฝึ กสัตว์อสู ร พวกเขาต่างอยากเอาผลงานจาก
ความพยายามของตัวเองมาอวดต่อสายตาของทุกคนเพื่อพิสูจน์วา่
พวกเขามีพรสวรรค์ในการฝึ กสัตว์อสู ร พื้นที่อื่น ๆ ในเมืองพันอสู ร
ห้ามเอาสัตว์อสู รมาต่อสู ก้ นั เอง ทําให้ลานประลองสัตว์อสู ร
กลายเป็ นสถานที่ยอดนิยมในเมืองพันอสู ร
ผูค้ นมากมายอุม้ สัตว์อสู รที่ตวั ไม่ใหญ่นกั นัง่ รออยูด่ า้ นข้าง คนอื่นที่
มีสตั ว์อสูรตัวใหญ่เกินไปและสัตว์อสู รพวกนั้นจะไม่ได้รับอนุญาต
ให้รออยูด่ า้ นข้างเหมือนพวกเขา แต่ตอ้ งไปรอที่หอ้ งใต้ดินด้านล่าง
ลานประลองสัตว์อสู ร พวกเขาต้องรออยู่ ที่นนั่ ชัว่ คราวจนถึงรอบ
ประลองของพวกเขาถึงจะออกมาได้
ชิงหยูกบั จวินอู๋เสี ยหามุมที่ไม่เป็ นเป้าสายตาแล้วนัง่ ลง บนเวที
ประลองมีสตั ว์อสูรระดับตํ่าสองตัวกําลังสู ก้ นั อย่างดุเดือด มี
บาดแผลสองสามแห่งบนตัวพวกมัน และถึงแม้ลานประลองจะห้าม
ใช้กลโกงทุกชนิดทําร้ายสัตว์อสู ร แต่พวกเขาก็ไม่ได้กาํ หนดว่าสัตว์
อสู รจะสู ก้ นั ไปจนถึงขั้นไหน ดังนั้นในการประลองจํานวนนับไม่
ถ้วนจึงมีสตั ว์อสู รที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรื อกระทัง่ ตายปรากฏให้
เห็นอยูเ่ ป็ นประจํา
ผูค้ นมองดูสตั ว์อสูรระดับตํ่าสองตัวที่มีบาดแผลเต็มตัวแต่ยงั สู ก้ นั
ด้วยทุกสิ่ งที่พวกมันมี กลิ่นคาวเลือดที่กระจายไปในอากาศรวมกับ
ภาพเลือดสาดตรงหน้าทําให้ผชู ้ มรอบ ๆ ถูกกระตุน้ ขึ้นมา พวกเขา
ตะโกนเชียร์เสี ยงดังอย่างตื่นเต้น ดวงตาเป็ นประกายรื่ นเริ งจ้องมอง
การต่อสู อ้ นั โหดร้ายบนเวทีโดยไม่ละสายตา
ตอนที่ 966 ความโหดร้ ายในการประลอง (1)
คนที่นี่ชอบดูการต่อสู แ้ บบนี้ พวกเขาคิดว่ามันน่าตื่นเต้นมาก
จวินอู๋เสี ยมองสัตว์อสู รระดับตํ่าสองตัวบนเวทีเงียบ ๆ สัตว์อสู ร
ระดับตํ่ามีจิตสํานึกตํ่า พวกมันแทบจะไม่มีความสามารถในการคิด
หรื อตัดสิ นใจ พวกมันแค่ตอบสนองไปตามสถานการณ์ตาม
สัญชาตญาณพื้นฐานของพวกมัน สัตว์อสู รพวกนั้นไม่รู้เลยสักนิดว่า
การต่อสู แ้ ละฆ่ากันของพวกมันเป็ นแค่การเอาชนะเพื่อความ
รุ่ งโรจน์ของเจ้าของของมันเท่านั้น และเป็ นแค่การแสดงให้ผชู ้ มที่
อยูร่ อบ ๆ ดูอย่างสนุกสนาน
สําหรับสัตว์อสู รบนเวทีประลองนั้น พวกมันทุกตัวแค่ทาํ ตามความ
ต้องการของคนที่เลี้ยงมัน ถึงพวกมันจะไม่ได้เป็ นศัตรู กนั แต่พวก
มันก็ไม่ทางเลือกนอกจากกางเขี้ยวเล็บออกมาฉี กกระชากคู่ต่อสู ้
เป็ นความบันเทิงที่โหดเหี้ ยมไร้ปราณี และชัว่ ร้ายอย่างที่สุด
จวินอู๋เสี ยยังคงขมวดคิ้ว นางเกลียดที่นี่จากก้นบึ้งของหัวใจเลย
ทีเดียว
ในที่สุดสัตว์อสู รตัวหนึ่งก็พา่ ยแพ้ มันบาดสาหัสจนลุกขึ้นไม่ไหว
ฝั่งผูช้ นะได้รับเสี ยงเชียร์จากฝูงชน เจ้าของของตัวที่ชนะกระโจน
ขึ้นมาบนเวทีและอุม้ สัตว์อสู รที่เต็มไปด้วยเลือดไว้ในอ้อมแขน
ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดีปรี ดา
แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สงั เกตเลยสักนิดว่าสัตว์อสู รของเขาที่
เอาชนะมาได้น้ นั เต็มไปด้วยเลือดทั้งตัว ที่สนั หลังของมันมีบาดแผล
ลึกจนถึงกระดูก
สี หน้าของเจ้าของมีแต่ความยินดี ไม่มีร่องรอยของความเสี ยใจหรื อ
เจ็บปวดเลยสักนิด
“ที่นี่พวกมันก็เป็ นแค่เครื่ องมือ” จู่ ๆ จวินอู๋เสี ยก็พดู ขึ้นอย่างเย็นชา
ชิงหยูมองจวินอู๋เสี ยอย่างงุนงง เขาไม่รู้วา่ ทําไมจู่ ๆ ผูเ้ ยาว์คนนี้ถึงพูด
ออกมาแบบนั้น
แต่จวินอู๋เสี ยก็ไม่ได้พดู อะไรออกมาอีก
เป็ นที่พดู กันไปทัว่ ว่าคนของเมืองพันอสู รนั้นรักสัตว์อสู ร แต่จากที่
นางเห็นมันไม่ใช่แบบนั้นเลย ที่นางเห็นก็คือพวกเขาแค่ใช้สตั ว์อสู ร
เป็ นเครื่ องมือให้ได้รับชัยชนะ ไม่ได้เป็ นคู่หู พวกเขาฝึ กสัตว์อสู ร
เพื่ออวดความสามารถ เพื่อให้ได้โอกาสที่จะมีอนาคตที่สดใส ไม่ได้
รักสัตว์อสู รเลยสักนิด
ที่ไม่มีเหตุการณ์ทรมานสัตว์อสู รเกิดขึ้นก็แค่เพราะคําสัง่ ของเจ้า
เมืองเท่านั้น
จวินอู๋เสี ยไม่เชื่อว่าในเวลาส่ วนตัวที่ไม่มีสายตาของคนอื่นอยูด่ ว้ ย
คนพวกนี้จะปฏิบตั ิกบั สัตว์อสู รของพวกเขาด้วยความรักใคร่ เอาใจใส่
ถ้าพวกเขาทํา แล้วทําไมถึงได้เอาพวกมันมาประลองในการต่อสู ท้ ี่
โหดร้ายแบบนี้ ปล่อยให้พวกมันทําร้ายตัวเองอย่างไม่ใส่ ใจแบบนี้?
ที่นี่คือตัวอย่างของความเห็นแก่ตวั และการเสแสร้งหลอกลวงของ
พวกมนุษย์ ท่ามกลางเสี ยงเชียร์อนั ดังก้องไปทัว่ ลานประลอง มี
เพียงจวินอู๋เสี ยคนเดียวที่มองดูสตั ว์อสู รที่เหน็ดเหนื่อยหมดแรงทั้ง
สองตัว ทั้งตัวเต็มไปด้วยบาดแผล ในใจของนางรู ้สึกคับข้องใจเป็ น
อย่างมาก
สัตว์อสู รที่ควรจะอยูอ่ ย่างอิสระตามธรรมชาติ แต่ดว้ ยความเห็นแก่
ตัวของพวกมนุษย์ พวกมันจึงถูกลักพาตัวมาตั้งแต่ยงั แบเบาะ ถูกคน
เลี้ยงอยูห่ ลายปี จนสู ญเสี ยธรรมชาติของพวกมันและกลายเป็ น
เครื่ องมือสร้างความรุ่ งโรจน์ให้พวกมนุษย์
มันน่าเศร้ามากจริ ง ๆ
ถ้าไม่ใช่วา่ ที่นี่มีกาํ ไลสะกดอสู รอยูล่ ่ะก็ จวินอู๋เสี ยคงไม่อยูใ่ น
สถานที่ที่เลวทรามตํ่าช้าน่าขยะแขยงเช่นนี้ต่อสักนาทีเดียว!
เจ้าแมวดํารับรู ้ถึงความไม่พอใจของจวินอู๋เสี ยได้ มันยกอุง้ เท้าขึ้นลูบ
บ่าของจวินอู๋เสี ยอย่างอ่อนโยน
จวินอู๋เสี ยหันหน้าไปมองเจ้าแมวน้อยและมันก็ร้องเหมียวออกมาเบา ๆ
จวินอู๋เสี ยยกมือขึ้นตบหัวเจ้าแมวน้อยเบา ๆ เพื่อให้คลายกังวล นาง
ไม่ชอบสิ่ งที่เห็น แต่นางก็ไม่ปล่อยให้มนั ส่ งผลกระทบต่อตัวนาง
หรอก นางไม่ใช่เด็กเก็บตัวปิ ดตัวเองอีกต่อไปแล้ว นางเรี ยนรู ้ที่จะ
เข้มแข็งและปกป้องตัวเองกับคนที่นางห่วงใยด้วยวิธีของนาง
สัตว์อสู รที่ชนะไม่สามารถสู ใ้ นรอบต่อไปได้เนื่องจากบาดแผลของ
มันสาหัสมาก ไม่นานสัตว์อสู รอีกสองตัวก็ถูกนําขึ้นมาบนเวทีเพื่อสู ้
ในรอบต่อไป และเมื่อจวินอู๋เสี ยเห็นตัวหนึ่งในนั้น สายตาเย็นชา
ของนางก็เปลี่ยนเป็ นโกรธจัดทันที!
ตอนที่ 967 ความโหดร้ ายในการประลอง (2)
สัตว์อสู รสองตัวถูกนําขึ้นเวทีประลอง ตัวหนึ่งนั้นเหมือนกับเสื อดุ
ร้ายตัวใหญ่ ร่ างของมันเป็ นสี เทาและดํา ดูกาํ ยําแข็งแรงและทรงพลัง
เขี้ยวทั้งสองงอกยาวออกมาจนถึงคาง เทียบกับเสื อทัว่ ไปแล้ว สัตว์
อสู รตัวนี้มีขนาดใหญ่กว่าเท่าตัว
และที่เผชิญหน้ากับเสื อขนาดใหญ่ตวั นี้คือสัตว์อสู รที่ไม่มีใครคาดว่า
จะได้เห็นมันที่นี่
สัตว์อสู รอีกตัวคือลูกบอลขนฟูนุ่มนิ่มมีขนาดตัวเท่าฝ่ ามือ มองแล้ว
มันดูเหมือนกับกระต่ายตัวเล็ก ๆ หูของมันยาวมาก ปลายหูกลมมน
ไม่เหมือนกระต่ายทัว่ ไปที่มีปลายหูแหลม
สัตว์อสู รที่เหมือนกระต่ายนั้นตัวเล็กมาก มันยืนอยูข่ า้ งหน้าเจ้าเสื อ
ร้าย ดูไร้พิษภัยโดยสิ้ นเชิง ตัวของมันไม่ได้ใหญ่ไปกว่าอุง้ เท้าข้าง
หนึ่งของเสื อตัวนั้นเลย เมื่อมันถูกวางลงบนเวทีประลอง เจ้ากระต่าย
หูใหญ่กย็ นื นิ่งอยูก่ บั ที่ หูยาว ๆ ตกลงข้างลําตัว ดวงตาโตสี ดาํ เต็มไป
ด้วยความกลัว และเห็นได้ชดั ว่ามันตัวสัน่
ทําไมถึงได้เอาสัตว์อสู รตัวเล็ก ๆ แบบนั้นมาแข่งที่ลานประลองสัตว์
อสู ร?
เมื่อจวินอู๋เสี ยเห็นเจ้ากระต่ายหูใหญ่ แววตาของนางก็เปลี่ยนเป็ นเย็น
เยียบทันที นางเคยเห็นกระต่ายหูใหญ่พวกนี้มาก่อนที่ป่าประลอง
วิญญาณ พวกมันขี้กลัวมาก แม้แต่ในหมู่สตั ว์อสู รระดับตํ่า เจ้าพวกนี้
ก็อยูล่ ่างสุ ดของห่วงโซ่อาหาร พวกมันไม่มีความก้าวร้าวเลยสักนิด
แค่เสี ยงดังนิดหน่อยพวกมันก็กลัวแล้ว มันเป็ นสัตว์กินพืช ไม่
จําเป็ นต้องออกล่าหาอาหาร
พูดได้เลยว่ากระต่ายหูใหญ่เป็ นสัตว์อสู รที่ไร้ประโยชน์ที่สุด สัตว์
อสู รแบบนี้ไม่สามารถต่อสู ไ้ ด้ เนื่องจากพวกมันไม่สามารถทําร้าย
ใครได้เลย
เจ้ากระต่ายหูใหญ่ที่กาํ ลังสับสนทําได้เพียงขดตัวอยูบ่ นเวทีประลอง
ด้วยความกลัว ตัวมันสัน่ อย่างน่าสงสาร อุง้ เท้าหน้าสองข้างกอดหู
ยาว ๆ ของมันไว้แน่น มันปิ ดตาตัวเองโดยไม่กล้ามองเจ้าเสื อร้ายเลย
สักครั้ง
“อะไรเนี่ย? มีคนเอาสัตว์อสู รไร้ประโยชน์แบบนั้นมาลงแข่งจริ ง ๆ
ดิ?”
“ข้าเฝ้ารอการประลองเจ๋ ง ๆ มาตั้งครึ่ งค่อนวัน แล้วมาเจอการ
ประลองที่รู้ผลอยูแ่ ล้วเนี่ยนะ”
คนหลายคนในลานประลองเริ่ มส่ งเสี ยงโห่ พวกเขาไม่ได้สนใจว่าจะ
เกิดอะไรขึ้นกับกระต่ายหูใหญ่ตวั นั้น ที่พวกเขาสนใจก็คือการ
ประลองครั้งนี้มนั จะน่าเบื่อสุ ด ๆ
“สัตว์อสู รแบบนี้กเ็ ข้าร่ วมการประลองได้ดว้ ยเหรอ?” จวินอู๋เสี ยถาม
พร้อมกับขมวดคิว้ มองชิงหยูที่อยูข่ า้ ง ๆ
ชิงหยูพดู ตะกุกตะกัก “นี่……นี่เป็ นครั้งแรกที่ขา้ เห็นกระต่ายหูใหญ่
ในลานประลองสัตว์อสู ร กฎของลานประลองแค่หา้ มสัตว์อสู รที่ยงั
ไม่โตเต็มที่ลงแข่งขัน แต่ไม่ได้บอกว่าสัตว์อสู รที่โตเต็มที่แล้วอย่าง
กระต่ายหูใหญ่ลงแข่งไม่ได้……”
จุดประสงค์ของลานประลองสัตว์อสู รคือให้คนได้แสดง
ความสามารถในการฝึ กสัตว์อสู ร ไม่ได้ส่งเสริ มการฆ่า ดังนั้นจึงไม่
อนุญาตให้เอาสัตว์อสู รที่ยงั ไม่โตเต็มวัยมาที่ลานประลองสัตว์อสู ร
ทหารทุกคนที่นี่รู้กฎนี้ดี เห็นได้ชดั ว่ากระต่ายหูใหญ่ที่อยูบ่ นเวทีคือ
สัตว์อสู รที่โตเต็มวัยแล้ว
แต่……
สัตว์อสู รที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู เ้ ลยสักนิดแบบนี้ ใครจะ
อยากเอามันมาสู ใ้ นลานประลองกัน?
จะไม่เป็ นการส่ งมันไปตายหรื อไง?
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตา สายตาของนางมองไปที่ผเู ้ ยาว์ที่อุม้ กระต่ายหูใหญ่
ขึ้นมาบนเวที ผูเ้ ยาว์คนนั้นดูเหมือนจะอายุ 14-15 ปี เท่านั้น หลังจาก
วางกระต่ายหูใหญ่ลงบนเวที เขาก็ออกจากเวทีประลองไปทันที สี
หน้าไม่มีวแี่ ววของความกังวลเลยสักนิด แต่กลับมีความโล่งใจอยู่
แทน
เมืองพันอสู รมีกฎอยูก่ ฎหนึ่งว่า คนที่ยงั ไม่บรรลุนิติภาวะจะได้รับ
อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์อสู รครั้งละหนึ่งตัวเท่านั้น ถึงจะเป็ นกระต่ายหู
ใหญ่ที่ผคู ้ นดูถูกเหยียดหยาม แต่กฎของเมืองพันอสู รก็หา้ มทอดทิ้ง
หรื อฆ่าสัตว์อสู รที่ตนเลี้ยงอย่างเด็ดขาด ดังนั้นผูเ้ ยาว์คนนั้นจึงเกิด
ความคิดชัว่ ร้ายที่จะเอาเจ้ากระต่ายหูใหญ่ไร้พษิ สงตัวนี้ไปที่ลาน
ประลองสัตว์อสู รและปล่อยให้มนั ถูกฆ่าตายที่นนั่ !
ตอนที่ 968 ความโหดร้ ายในการประลอง (3)
สายตาของจวินอู๋เสี ยเย็นยะเยือกราวกับนํ้าแข็ง นางสังเกตเห็นว่า
ตอนที่กระต่ายหูใหญ่ถูกทิ้งไว้บนเวทีประลองอย่างไร้หวั ใจ มันมอง
ตามหลังผูเ้ ยาว์ที่เดินออกไป เห็นได้ชดั ว่าเจ้าตัวจ้อยนัน่ คิดว่าผูเ้ ยาว์
คนนั้นเป็ นเจ้าของของมัน มันไม่เข้าใจว่าทําไมเจ้าของมันถึงได้วาง
มันลงตรงหน้าสัตว์อสู รที่ดุร้ายน่ากลัวแบบนี้
มันกลัวและรู ้สึกหมดสิ้ นหนทาง มันไม่รู้วา่ จะต้องทํายังไง จึงได้แต่
กอดหูยาว ๆ ของตัวเองเอาไว้และพยายามซ่อนตัวจากสัตว์อสู รที่น่า
กลัวตรงหน้า
แต่บนเวทีประลองเรี ยบ ๆ เปิ ดโล่งแบบนั้น เจ้าตัวจ้อยนี่จะไปซ่อน
ตรงไหน เจ้าเสื อร้ายเห็นมันแล้วอย่างชัดเจนและดูเหมือนจะรู ้ดว้ ยว่า
ภารกิจของมันคืออะไร ก่อนที่การประลองจะเริ่ ม มันก็แยกเขี้ยวขู่
เสี ยงตํ่าใส่ กระต่ายหูใหญ่ตวั นั้น
“ชิงหยู” จวินอู๋เสี ยเรี ยกขึ้นทันที
“ขอรับ?” ชิงหยูตอบ
“ลานประลองสัตว์อสู รยอมให้หยุดการประลองกลางคันไหม?”
จวินอู๋เสี ยถามชิงหยูพร้อมกับมองเขา
ชิงหยูตกใจแล้วก็เข้าใจทันทีวา่ จวินเสี ยหมายถึงอะไร เขามองไปที่
กระต่ายหูใหญ่บนเวทีประลองแล้วส่ ายหน้าอย่างสงสาร “นอกจาก
ฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ่งไม่สามารถต่อสู ไ้ ด้ ก็ตอ้ งให้เจ้าของยอมแพ้เอง ไม่
งั้นก็หยุดการประลองไม่ได้ขอรับ”
เขาเอาก็เห็นว่าเจ้ากระต่ายหูใหญ่ตวั นั้นน่าสงสารเช่นกัน แต่กฎของ
ลานประลองสัตว์อสู รว่าไว้แบบนั้น พวกเขาทําอะไรไม่ได้
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตา แล้วจู่ ๆ นางพูดขึ้นว่า “ท่านช่วยไปลงทะเบียนให้ขา้
หน่อย ข้าอยากเข้าร่ วมการประลองรอบต่อไป”
นางไม่อาจทนดูการแสดงอันโหดร้ายไร้มนุษยธรรมแบบนี้ต่อไปได้
อีกแล้ว
ชิงหยูมองจวินเสี ยตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ “คุณชายจวินว่าอะไร
นะขอรับ? ท่านอยากเข้าร่ วมการประลองงั้นหรื อ?” ขณะที่พดู
สายตาของชิงหยูกม็ องไปที่ท่านแบะแบะที่นอนอยูใ่ นอ้อมแขน
ของจวินเสี ยโดยไม่ได้ต้ งั ใจ จากที่เขาเห็น เจ้าสัตว์อสู รคล้ายแกะตัว
นี้กไ็ ม่แตกต่างจากกระต่ายหูใหญ่ที่อยูบ่ นเวทีตอนนี้มากนัก ทั้งสอง
ตัวมีความสามารถในการโจมตีเป็ นศูนย์ เป็ นสัตว์อสู รที่ไม่มี
ประโยชน์ในการต่อสู เ้ ลย เอาแกะตัวนี้ข้ ึนไปบนเวทีประลอง ผลที่
ออกมาก็มีแต่ตายเท่านั้น
“ใช่” จวินอู๋เสี ยตอบ
ชิงหยูรีบพูดขึ้นทันทีวา่ “คุณชายจวินอย่าทําอะไรบุ่มบ่ามซิขอรับ!
อะไรก็เกิดขึ้นได้บนเวทีประลอง เราคาดการณ์ผลของมันไม่ได้
หรอกขอรับ เมื่อสัตว์อสู รสองฝ่ ายสู ก้ นั มันย่อมหลีกเลี่ยงการ
บาดเจ็บล้มตายไม่ได้ ข้าเห็นท่านรักและให้ความสําคัญสัตว์อสู ร
ของท่านมาก จะดีกว่าที่ท่านจะไม่เข้าร่ วมการประลองนะขอรับ”
ชิงหยูไม่คิดฝันเลยว่าจวินเสี ยจะมีความคิดเช่นนั้นขึ้นมาหลังจากดู
การประลองของสัตว์อสู รสองตัวไปไม่ถึงครึ่ งรอบ
ถ้าเป็ นสัตว์อสู รตัวอื่น เขาอาจจะยอมให้ แต่นี่ไม่วา่ จะมองยังไง เขา
ก็ไม่เห็นว่าท่านแบะแบะที่ซุกอยูใ่ นอ้อมกอดของจวินเสี ยอย่างน่ารัก
น่าชังจะมีพลังโจมตีดว้ ย ถ้าเอาสัตว์อสู รแบบนั้นขึ้นไปบนเวที
ประลอง ผลจะออกมาดีได้ยงั ไง?
“ข้าอยากเข้าประลอง” จวินอู๋เสี ยพูด ดวงตาใสกระจ่างเย็นชาของ
นางมองตรงไปที่ชิงหยู
คําพูดที่จะห้ามปรามจวินเสี ยติดอยูใ่ นลําคอของชิงหยูและถูกกลืน
กลับลงไปอย่างรวดเร็ ว สายตาของจวินเสี ยบ่งบอกว่าเขาไม่ได้
ล้อเล่น
“งั้น……ได้ขอรับ ข้าจะไปคุยกับเจ้าหน้าที่ของลานประลอง” ชิงหยู
พูดพร้อมกับถอนใจอย่างจนปัญญา จวินเสี ยไม่ได้มาที่เมืองพันอสู ร
ด้วยเหตุผลทัว่ ๆ ไป เขาถูกเซียงป้ายํ้าเตือนอยูห่ ลายรอบว่าให้ดูแล
จวินเสี ยให้ดี แต่……เขาดูแลผูเ้ ยาว์คนนี้ได้ไม่ถึงครึ่ งวันก็รู้สึกว่า
ตัวเองกําลังจะทําให้เซียงป้าผิดหวัง
วันแรกที่จวินเสี ยอยูท่ ี่เมืองพันอสู รก็จะส่ งสัตว์อสู รของตัวเองไป
ตายซะแล้ว
แต่เมื่อไม่สามารถคัดค้านจวินเสี ยได้ ชิงหยูกล็ ุกขึ้นและเดินไป
ลงทะเบียนให้จวินเสี ย
แล้วจวินอู๋เสี ยก็หนั กลับไปมองกระต่ายหูใหญ่บนเวทีประลอง
ตอนนั้นเองเสี ยงระฆังเริ่ มการประลองก็ดงั ขึ้น เจ้าเสื อร้ายกระโจน
เข้าใส่ กระต่ายหูใหญ่ที่ตวั สัน่ ระริ กอยูท่ นั ที!
ตอนที่ 969 กระต่ ายหูใหญ่ (1)
กระต่ายหูใหญ่ไม่สามารถตอบโต้ได้เลยแม้แต่นอ้ ย มันโดนเจ้าเสื อ
ตะปบครั้งเดียวลอยกระเด็นออกไป กรงเล็บอันแหลมคมของเจ้าเสื อ
ร้ายทิ้งรอยแผลลึกจนถึงกระดูกลงบนตัวของเจ้ากระต่ายถึงสี่ รอย
เจ้ากระต่ายหูใหญ่ที่ตวั สัน่ ระริ กตกลงมาและกลิ้งไปจนถึงขอบเวที
ประลอง ทิ้งรอยเลือดสี แดงสดยาวเป็ นทาง
มันส่ งเสี ยงครางออกมาอย่างน่าสงสาร ความเจ็บปวดแล่นไปทัว่ ร่ าง
ทําให้มนั ตัวสัน่ อย่างรุ นแรง สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของ
มันมองไปที่ผเู ้ ยาว์ที่ยนื อยูน่ อกลานประลอง มันมองเขาอย่างวิงวอน
ด้วยดวงตากลมโตที่มีน้ าํ ตาคลอ เสี ยงเรี ยกอย่างอ่อนแรงที่ออกจาก
ปากของมันดูเหมือนกําลังอ้อนวอนให้เจ้าของช่วย
ผูเ้ ยาว์คนนั้นมองมันอย่างรังเกียจ สายตาที่มองเจ้ากระต่ายหูใหญ่ที่
ไร้พิษสงตัวนั้นไม่มีความสงสารหรื อเจ็บปวดใจเจือปนอยูเ่ ลย มันมี
แต่ความรังเกียจเดียดฉันท์ เขาหันหลังให้กระต่ายหูใหญ่ตวั นั้นและ
คุยกับเพื่อนของเขาที่อยูข่ า้ ง ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ใส่ ใจเลย
สักนิดว่าสัตว์อสู รของตัวเองกําลังทรมานอยูบ่ นเวทีประลอง ชีวติ
ของมันกําลังแขวนอยูบ่ นเส้นด้าย
เจ้ากระต่ายหูใหญ่สิ้นหวังอย่างที่สุด มันไม่เข้าใจว่าทําไมเจ้าของมัน
ถึงไม่ยอมช่วยมัน มันส่ งเสี ยงร้องออกมาอย่างน่าสงสารครั้งแล้วครั้ง
เล่า แต่เจ้าของมันก็ไม่หนั มามองเลยสักครั้ง
เจ้าเสื อร้ายเป็ นเหมือนผูช้ นะที่แข็งแกร่ งเกินไป มันก้าวเท้าช้า ๆ มา
ยืนอยูข่ า้ งหลังกระต่ายหูใหญ่ ตัวอันใหญ่โตของมันทําให้เกิดเงา
ทะมึนปกคลุมตัวกระต่ายหูใหญ่จนมิด
“กรร!” เสื อร้ายตัวนั้นอ้าปากกว้าง เขี้ยวของมันฝังลึกเข้าไปในตัว
ของกระต่ายหูใหญ่ที่ถูกคาบอยูใ่ นปาก มันสะบัดหัวอย่างแรงแล้ว
เหวีย่ งเจ้ากระต่ายลอยไปไกล!
เลือดสี แดงสาดกระจายไปทัว่ ขณะที่ร่างเล็ก ๆ ลอยอยูเ่ หนือขอบ
เวทีประลองแล้วตกลงมากระแทกที่ดา้ นล่างเสี ยงดังตุบ ทั้งตัวของ
มันเต็มไปด้วยเลือด และมันหยุดสัน่ แล้ว ถึงจะยังเห็นได้วา่ หน้าอก
ของมันขยับขึ้นลงอยูอ่ ย่างอ่อนแรง แต่ทอ้ งของมัน หลัง และหูถูก
คมเขี้ยวของเจ้าเสื อร้ายฉีกกระชากไปแล้ว เลือดไหลออกมานองอยู่
บนพื้นไม่หยุด บาดแผลของมันเปิ ดกว้างจนเห็นกระดูกและเครื่ อง
ในของเจ้ากระต่ายได้อย่างชัดเจน
ผูเ้ ยาว์คนนั้นชําเลืองมองร่ างเล็ก ๆ นั้นอย่างเย็นชาและเฉยเมย เมื่อ
พิธีกรประกาศว่าเจ้าเสื อร้ายเป็ นฝ่ ายชนะ ริ มฝี ปากของเขาก็เผย
รอยยิม้ เหยียดหยัน เขาถุยนํ้าลายใส่ เจ้ากระต่ายหูใหญ่ที่กาํ ลังอ่อน
แรงลงทุกทีอย่างดูถูกก่อนจะหันหลังจากไปพร้อมกับเพื่อนของเขา
แต่พอเขาหันกลับไป ทันใดนั้นเขาก็พบผูเ้ ยาว์คนหนึ่งยืนอยูข่ า้ งหน้า
เขา จ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นเยียบซึ่ งทําให้เขาประหลาดใจและ
ตกใจมาก
“เจ้ายังต้องการเขาอยูไ่ หม?” จวินอู๋เสี ยถามเสี ยงเย็น นางมองไปที่
กระต่ายหูใหญ่ที่เกือบจะหยุดหายใจอยูแ่ ล้ว
ผูเ้ ยาว์คนนั้นเดาะลิ้นมองเด็กชายตรงหน้าเขาด้วยสายตาแปลก ๆ
แล้วพูดว่า “ต้องการบ้าอะไร? มันตายแล้ว”
นํ้าเสี ยงไม่แยแสไม่สนใจนั้นดูเหมือนกําลังพูดถึงขยะชิ้นหนึ่งที่ถูก
โยนทิ้ง
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตา เมื่อสัตว์อสูรตายหรื อบาดเจ็บหนักจนเกินรักษา
เจ้าของจะได้รับอนุญาตให้ยอมแพ้ได้ อาการบาดเจ็บของกระต่ายหู
ใหญ่น้ นั ทุกคนก็เห็นอยูว่ า่ ไม่ต่างกับตายไปแล้ว ไม่มีใครเชื่อว่าเจ้า
ตัวจ้อยที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้จะยังสามารถช่วยได้อยู่
แม้แต่ตอนที่ผเู ้ ยาว์คนนั้นพูดออกมาอย่างไร้หวั ใจก็ไม่มีใครว่ากล่าว
ตักเตือนแม้แต่นอ้ ย
จวินอู๋เสี ยไม่เสี ยเวลากับผูเ้ ยาว์คนนั้นอีกต่อไป แต่นางเดินไปที่เจ้า
กระต่ายหูใหญ่แทนและอุม้ ร่ างเล็ก ๆ นั้นขึ้นมาจากแอ่งเลือดอย่าง
ระมัดระวัง
ผูเ้ ยาว์คนนั้นมองการกระทําของจวินเสี ยอย่างงุนงง เขาไม่เข้าใจว่า
ทําไมผูเ้ ยาว์ประหลาดคนนั้นถึงได้แสดงความสนใจกระต่ายหูใหญ่
ที่ใกล้ตายมากขนาดนั้น และอุม้ มันขึ้นมาโดยไม่รังเกียจเลือดที่เปื้ อน
เต็มไปหมดเลยแม้แต่นอ้ ย
ผูเ้ ยาว์คนนั้นคิดเอาเองว่าจวินเสี ยถ้าไม่บา้ ก็โง่
เขามองจวินเสี ยอีกครั้งแล้วหันหลังเดินออกไปจากลานประลอง
สัตว์อสู รพร้อมกับเพื่อนของเขา
ตอนที่ 970 กระต่ ายหูใหญ่ (2)
ชิงหยูวงิ่ กลับเข้ามา เขาไม่เห็นจวินเสี ยตรงจุดที่เขาทิ้งเด็กชายเอาไว้
เมื่อครู่ และตอนนี้เขาก็เห็นจวินเสี ยกําลังเดินตรงมาที่เขาพร้อมกับ
อุม้ กระต่ายหูใหญ่ที่กาํ ลังจะตายมาด้วย ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้น
อย่างตกใจ
“นี่เป็ นตัวเดียวกับตัวเมื่อกี้หรื อขอรับ?” เมื่อเห็นกระต่ายหูใหญ่ที่มี
เลือดเต็มตัวไปหมด ชิงหยูกถ็ ามจวินเสี ยอย่างประหลาดใจ
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า
“บาดเจ็บสาหัสแบบนั้น ท่านคิดว่ามันจะรอดหรื อขอรับ?” ชิงหยู
ถามอย่างสงสัยพร้อมกับขมวดคิว้ เมื่อเห็นสภาพของเจ้ากระต่ายหู
ใหญ่ตวั นั้น
สัตว์อสู รที่ไม่มีพลังโจมตีเลยสักนิดแบบนี้ตามปกติแล้วไม่เคยมาให้
เห็นในลานประลองสัตว์อสู รเลย
จวินอู๋เสี ยไม่พดู อะไร แค่อุม้ เจ้ากระต่ายหูใหญ่กลับไปยังที่นงั่ ของ
นางแล้วนัง่ ลง เมื่อผูค้ นรอบ ๆ เห็นการกระทําของจวินเสี ย พวกเขา
ก็พากันมองมาอย่างอยากรู ้อยากเห็น ไม่มีใครเข้าใจว่าทําไมจวินเสี ย
จึงทําเช่นนี้
จวินอู๋เสี ยวางกระต่ายหูใหญ่ลงบนตัก ดวงตาของมันปิ ดสนิท มันไม่
มีเรี่ ยวแรงเหลืออยูอ่ ีกแล้ว การทอดทิ้งของเจ้าของและอาการ
บาดเจ็บสาหัสของมันทําให้มนั หมดกําลังใจ มันแค่นอนรอความ
ตายอยูเ่ งียบ ๆ
จวินอู๋เสี ยดึงเอาเข็มเงินออกมาโดยไม่พดู อะไร จากนั้นก็เอาด้าย
ออกมาจากถุงมิติของนางหนึ่งม้วน นางร้อยด้ายเข้าที่เข็มแต่ไม่ได้ใช้
มันทันที นางหยิบเอาขวดยาออกมาและเทของเหลวสี เขียวใส
เหมือนหยกลงบนบาดแผลของเจ้ากระต่ายหูใหญ่
พอของเหลวสี เขียวถูกเทออกมา กลิ่นหอมจาง ๆ ก็กระจายไปใน
อากาศ กลิ่นของมันสดชื่นมาก ทุกคนที่นงั่ อยูร่ อบ ๆ จวินเสี ยถูก
ดึงดูดด้วยกลิ่นหอมนั้นทันที ต่างพากันหันหน้าไปทางกลิ่นนั้นโดย
ไม่ได้ต้ งั ใจ พวกเขามองการกระทําของจวินเสี ยด้วยความไม่เข้าใจ
แม้วา่ พวกเขาจะไม่รู้วา่ ของเหลวสี เขียวนั้นคืออะไร แต่จากกลิ่นของ
มัน พวกเขาก็เดาได้วา่ มันต้องเป็ นยาทาแผลชนิดหนึ่ง
แต่……
การใช้ยาทาแผลกับสัตว์อสูรระดับตํ่าอย่างนั้นมันช่างเสี ยของจริ ง ๆ
ไม่มีใครเห็นด้วยกับการกระทําของจวินอู๋เสี ย ทุกคนรู ้สึกว่าผูเ้ ยาว์
คนนี้ตอ้ งบ้าไปแล้วแน่ ๆ
นํ้ายาเย็น ๆ ไหลลงไปในบาดแผลของเจ้ากระต่ายหูใหญ่ ทําให้มนั
บรรเทาความเจ็บปวดลงเล็กน้อย
เจ้ากระต่ายหูใหญ่ที่กาํ ลังรอคอยความตายอยู่ ๆ ก็รู้สึกว่าความ
เจ็บปวดในร่ างได้หายไป มันลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรงและเห็นใบหน้า
จริ งจังของจวินเสี ย ไม่รู้วา่ ทําไมแต่คนผูน้ ้ ีทาํ ให้มนั รู ้สึกปลอดภัย
มากยิง่ กว่าเจ้าของของมันซะอีก ดูเหมือนเจ้ากระต่ายหูใหญ่จะรู ้สึก
ได้วา่ จวินอู๋เสี ยอยากช่วยมัน มันพยายามอย่างหนักก่อนจะแลบลิ้น
เล็ก ๆ ที่เปื้ อนเลือดออกมาเลียหลังมือของจวินอู๋เสี ยอย่างอ่อนโยน
จวินอู๋เสี ยมองกระต่ายหูใหญ่ที่กาํ ลังมองมาที่นางอย่างอ่อนแรง นาง
พูดขึ้นว่า “ไม่ตอ้ งกลัว ข้าจะรักษาเจ้าเอง”
ไม่รู้วา่ กระต่ายหูใหญ่ตวั นั้นเข้าใจคําพูดของจวินอู๋เสี ยหรื อไม่ หรื อ
มันหมดแรงแล้ว ดวงตาของมันจึงปิ ดลงอีกครั้ง
นํ้ายาที่จวินอู๋เสี ยใช้เมื่อครู่ คือยาระงับปวดชนิดหนึ่ง มันจะทําให้เจ้า
กระต่ายหูใหญ่ไม่ตอ้ งทนทรมานกับความเจ็บปวดอีก ขณะเดียวกัน
มันก็ทาํ ให้เลือดหยุดไหลด้วย
หลังจากนางแน่ใจว่าประสาทรับรู ้ความเจ็บปวดของเจ้ากระต่ายชา
ไปแล้ว จวินอู๋เสี ยก็เช็ดเข็มเงินด้วยแอลกอฮอล์อย่างละเอียดและเริ่ ม
ลงมือเย็บแผลของเจ้ากระต่ายหูใหญ่
นางทํางานเงียบ ๆ โดยไม่สนใจเสี ยงเชียร์และเสี ยงโห่ร้องที่ดงั ลัน่
ลานประลอง นางปิ ดกั้นตัวเองจากโลกและจมอยูใ่ นโลกของตัวเอง
ชิงหยูอยากเกลี้ยกล่อมให้จวินเสี ยล้มเลิกซะ เนื่องจากบาดแผลบน
ตัวเจ้ากระต่ายหูใหญ่สาหัสมากจนไม่น่ามีใครสามารถรักษาได้ แต่
เมื่อเขาเห็นสี หน้าจริ งจังที่แทบจะไม่ค่อยเห็นบนใบหน้าเย็นชาเฉย
เมยของจวินเสี ย ชิงหยูกเ็ ลือกที่จะปิ ดปากเงียบ
ตอนที่ 971 กระต่ ายหูใหญ่ (3)
บาดแผลของกระต่ายหูใหญ่ค่อย ๆ ถูกเย็บติดกันทีละนิดด้วยด้ายใส ๆ
บาง ๆ ของจวินอู๋เสี ย หลังจากเย็บแผลเสร็ จ จวินอู๋เสี ยก็เก็บเข็มเงิน
ของนางอย่างระมัดระวังและเอาขวดยาออกมาอีกสองสามขวด บาง
ขวดนางก็พน่ ลงบนบาดแผลที่เย็บแล้ว บางขวดนางก็งา้ งปากเจ้า
กระต่ายแล้วยัดมันเข้าไป การกระทําของนางเป็ นไปอย่างต่อเนื่อง
เป็ นระบบโดยไม่มีความลังเลเลยแม้แต่นอ้ ย
ชิงหยูมองดูจากด้านข้างด้วยความทึ่ง แม้วา่ เขาจะไม่รู้เรื่ องการรักษา
เลย แต่เขาก็บอกได้วา่ การรักษาของจวินอู๋เสี ยที่ทาํ ให้เจ้ากระต่ายหู
ใหญ่เป็ นไปด้วยดีอย่างสวยงาม เขามองจวินเสี ยอย่างเคารพนับถือ
เพิ่มขึ้น
ผูเ้ ยาว์ที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียวเกินใคร มีพลังวิญญาณเหนือคนอื่น
ที่รุ่นราวคราวเดียวกัน และยังมีความสามารถทางด้านการแพทย์สูง
มาก เด็กคนนี้เป็ นมนุษย์จริ ง ๆ หรื อ? หรื อที่จริ งแล้วเขาคือปี ศาจ
แปลงร่ างมา?
จวินอู๋เสี ยมองกระต่ายหูใหญ่ที่หลับสนิทอยูใ่ นอ้อมแขนของนาง
แม้วา่ มันจะยังอ่อนแอมาก แต่นางรู ้วา่ นางช่วยชีวติ มันเอาไว้ได้แล้ว
ท่านแบะแบะที่ยนื อยูด่ า้ นข้างเดินเข้ามาตรงข้างหัวของกระต่ายหู
ใหญ่แล้วยืน่ จมูกมาดมก่อนจะถอยหลังกลับไปก้าวหนึ่ง
“แบะ!!” ท่านแบะแบะชี้ขาหน้าไปที่กระต่ายหูใหญ่ตวั นั้นแล้วส่ ง
เสี ยงร้องแปลก ๆ ใส่ จวินอู๋เสี ย
จวินอู๋เสี ยตบหัวกลม ๆ ของท่านแบะแบะเบา ๆ แต่นางไม่เข้าใจว่า
ท่านแบะแบะกําลังพยายามพูดอะไร
แต่เจ้าแมวดําตัวน้อยทําหน้าประหลาดใจก่อนจะรับหน้าที่แปลให้
ฟัง
“เหมียว…”
[เจ้าแกะโง่นี่พดู ว่าท่านควรจะทิ้งเจ้ากระต่ายไปซะ เพราะเจ้ากระต่าย
จะแย่งอาหารมันกิน]
จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้วมองท่านแบะแบะที่ดูไม่พอใจมาก นางไม่คิดว่าท่าน
แบะแบะจะ ‘พูด’ อะไรแบบนี้ออกมา
[สัตว์อสูรระดับผูพ้ ิทกั ษ์ที่แข็งแกร่ งอย่างมันต้องกังวลว่ากระต่ายหู
ใหญ่ข้ ีขลาดจะขโมยอาหารมันด้วยเหรอ? แปลกดี]
แต่จวินอู๋เสี ยไม่สามารถตกลงกับมันตอนนี้ได้ หลังจากแน่ใจว่า
อาการบาดเจ็บของเจ้ากระต่ายคงที่แล้ว นางก็หนั ไปมองชิงหยู
“ลงทะเบียนแล้วรึ ยงั ?”
ชิงหยูตอบว่า “แฮ่ม ข้าลงทะเบียนให้เรี ยบร้อยแล้วขอรับ แต่ไม่ใช่
รอบต่อไป เราต้องรออีก 2 รอบขอรับ มันมีสตั ว์อสู รอื่นต่อคิวอยู่ เรา
ต้องรอจนพวกนั้นแข่งเสร็ จ” ชิงหยูคิดว่าหลังจากที่จวินเสี ยเห็น
สภาพที่น่าสงสารของเจ้ากระต่ายหูใหญ่ตวั นั้น ผูเ้ ยาว์คนนี้จะล้มเลิก
ความคิดที่จะส่ งท่านแบะแบะขึ้นไปบนเวทีประลองให้ถูกฆ่าซะอีก
เขาไม่คิดว่าจวินเสี ยจะยังคงยืนกรานคําเดิม
“ได้” จวินอู๋เสี ยพยักหน้า แล้วละสายตากลับไปมองบนเวทีประลอง
เจ้าเสื อร้ายที่ฉีกเนื้อเจ้ากระต่ายหูใหญ่จนบาดเจ็บสาหัสยังคงใช้
ขนาดตัวที่ใหญ่โตและนิสยั อันดุร้ายเอาชนะคู่ต่อสู บ้ นเวทีมาได้อย่าง
รวดเร็ วโดยไม่เปลืองแรงอะไรมากมาย
แต่โชคดีที่สตั ว์อสูรตัวนั้นไม่ได้อ่อนแอไร้พิษสงเหมือนกระต่ายหู
ใหญ่ ถึงมันจะได้รับบาดเจ็บแต่กไ็ ม่ได้สาหัสอะไรนัก
เจ้าของของเสื อร้ายตัวนั้นเดินยืดอกไปรอบ ๆ ท่ามกลางฝูงชนอย่าง
ภูมิใจ สัตว์อสู รของเขาแข็งแกร่ งกว่าคู่ต่อสู ห้ ลายตัว เขาพอใจกับ
ความสําเร็ จจากผลงานอันน่าประทับใจของสัตว์อสู รของเขา เขามีสี
หน้ายิม้ เยาะและท่าทีหยิง่ ยโสจนเหลือทน
การประลองอีกสองรอบต่อมา เจ้าเสื อร้ายก็ยงั เอาชนะคู่ต่อสู ม้ าได้
อย่างง่ายดาย
“ตาเราแล้ว” จวินอู๋เสี ยเอาเสื้ อคลุมของนางห่อเจ้ากระต่ายหูใหญ่ที่ยงั
หมดสติอยูเ่ อาไว้ แล้ววางมันลงบนอ้อมแขนของชิงหยูพลางพูดว่า
“ดูแลมันให้ดี”
นํ้าเสี ยงเย็นชาของจวินอู๋เสี ยมีความอบอุ่นที่หาได้ยากยิง่ เจือปนอยู่
ชิงหยูไม่มีทางเลือก เขาไม่รู้ดว้ ยซํ้าว่าเจ้ากระต่ายนัน่ รอดจริ ง ๆ หรื อ
เปล่า และจวินเสี ยก็เดินอุม้ ท่านแบะแบะตรงไปที่เวทีประลองแล้ว
หลังจากชนะติดต่อกัน เจ้าเสื อร้ายที่ยนื จังก้าอยูบ่ นเวทีประลองก็ยงั มี
พละกําลังอยูเ่ ต็มเปี่ ยม การต่อสู ท้ ี่ผา่ นมาไม่ได้สร้างความเสี ยหาย
อะไรให้มนั เลย มันยังแข็งแกร่ งและสง่างามเหมือนก่อนที่จะขึ้นสู ้
รอบแรก เจ้าของมันยืนยิม้ กว้างอยูข่ า้ งเวที เขาเอาเนื้อดิบโชก
เลือดออกมาชิ้นหนึ่งและโยนให้มนั
เป็ นที่รู้กนั ว่าเพื่อดึงเอาสัญชาตญาณสัตว์ป่าของสัตว์อสูรออกมา คน
บางคนจะใช้กลิ่นและรสชาติของเลือดมากระตุน้ พวกมัน
ตอนที่ 972 ความโกรธของท่ านแบะแบะ (1)
กลิ่นคาวเลือดกระจายไปทัว่ ลานประลองสัตว์อสู ร กลิ่นนั้นไม่
เพียงแต่กระตุน้ สัญชาตญาณสัตว์ป่าของพวกสัตว์อสู รเท่านั้น มันยัง
ทําให้ผชู ้ มรอบ ๆ ตื่นเต้นขึ้นมาด้วย
ภายใต้บรรยากาศเอะอะอึกทึก จวินอู๋เสี ยอุม้ ท่านแบะแบะเดินตรง
ไปที่เวทีประลองอย่างช้า ๆ และเมื่อพวกเขาเห็นคู่ต่อสู ร้ อบต่อไป
ของเจ้าเสื อร้าย ทั้งลานประลองก็เงียบกริ บในทันที
ทุกคนมองผูเ้ ยาว์ที่อุม้ แกะขนปุยตัวเล็ก ๆ อย่างตกใจและประหลาด
ใจ พวกเขาตกใจไปแล้วครั้งหนึ่งที่เจ้ากระต่ายหูใหญ่มาปรากฏตัว
ที่นี่ พวกเขาไม่คิดว่าไม่กี่รอบถัดมาจะได้เห็นผูเ้ ยาว์อีกคนนําเอาสัตว์
อสู รที่ไร้พิษภัยอีกตัวขึ้นมาบนเวทีประลอง
หลังจากเงียบกันไปชัว่ ครู่ เสี ยงหัวเราะดังลัน่ ก็ระเบิดขึ้นทันทีจน
หลังคาลานประลองสัตว์อสูรเกือบถล่ม
“ไอ้ตวั จิ๋วไร้พิษภัยอีกตัวแล้วเหรอ? ลานประลองสัตว์อสู รจับคู่
ประลองให้ดีกว่านี้ไม่ได้หรื อไง?”
“เด็กนัน่ จะส่ งอาหารให้สตั ว์อสู รของคู่ต่อสู ก้ ินฟรี ๆ รึ ไงเนี่ย? ข้าว่า
เจ้าของเสื อตัวนั้นไม่ตอ้ งให้อาหารสัตว์อสู รของเขาแล้วล่ะ ให้มนั
เขมือบเจ้าแกะนัน่ เป็ นอาหารได้เลย”
“เด็กสมัยนี้ทาํ ตามใจกันมากขึ้นทุกที เล่นเอาสัตว์อสู รชนิดไหนก็ได้
ที่ตวั เองมีมาขึ้นเวทีจริ ง ๆ แบบนี้”
ผูค้ นไม่พอใจที่เห็นท่านแบะแบะปรากฏตัวขึ้นในการแข่งขันรอบ
ต่อไป พวกเขาเพิ่งเห็นกระต่ายหูใหญ่ถูกขยํ้าในไม่กี่วนิ าที และรู ้สึก
ว่ามันเป็ นการประลองที่น่าเบื่อมาก พวกเขาไม่คิดว่าจะได้เห็นการ
ประลองที่น่าเบื่อแบบนั้นสองครั้งในวันเดียว
แม้วา่ ท่านแบะแบะจะตัวใหญ่กว่ากระต่ายหูใหญ่เล็กน้อย แต่มนั ก็ยงั
ตัวแค่หวั ของเจ้าเสื อร้ายอยูด่ ี ขนาดตัวต่างกันมากมาย
ไม่นานก็มีคนจําได้วา่ จวินเสี ยคือคนเดียวกับผูเ้ ยาว์ที่อุม้ ‘ซาก’ ของ
กระต่ายหูใหญ่ออกไป พวกเขาคิดว่าผูเ้ ยาว์คนนั้นมีจิตใจที่อ่อนโยน
จริ ง ๆ ดังนั้นจึงไม่คิดว่าจะได้เห็นเขาส่ งสัตว์อสู รตัวเล็ก ๆ ที่อ่อนแอ
ของตัวเองขึ้นไปตายบนเวทีประลอง
เจ้าของของเสื อร้ายตัวนั้นสังเกตเห็นจวินเสี ยด้วยเหมือนกัน และเมื่อ
เขามองดูท่านแบะแบะที่ถูกอุม้ อยูใ่ นอ้อมแขนของจวินเสี ยดี ๆ แล้ว
เขาก็หวั เราะออกมาเสี ยงดังทันที
“นี่นอ้ งชาย เจ้าล้อข้าเล่นหรื อไง? เจ้าอยากให้สตั ว์อสู รตัวเล็กจิ๋วแค่
นั้นมาสู ก้ บั เสื อของข้าบนเวทีประลองจริ ง ๆ หรื อ?” ชายคนนั้นมอง
เจ้าแกะโง่ตวั กลมอย่างดูถูกสุ ด ๆ สัตว์อสู รของเขากําลังคึกหลังจาก
ชนะมาติดต่อกัน เป็ นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการสะสมชัยชนะให้มาก
ที่สุดเท่าที่จะเป็ นไปได้ แต่การเอาชนะสัตว์อสู รที่ไร้ประโยชน์แบบ
นั้นไม่ได้ทาํ ให้เจ้าเสื อร้ายของเขาแสดงความโหดออกมาได้อย่าง
เต็มที่ มันเป็ นการเสี ยเวลาไปเปล่า ๆ
“น้องชาย ข้าว่าเจ้าเอาสัตว์อสู รของเจ้ากลับบ้านไปเถอะ เสื อของข้า
เพิ่งชนะการประลองมาหลายรอบ ตอนนี้มนั น่าจะหิ วมาก เนื้อที่ขา้
เอามาก็ไม่พอทําให้มนั อิ่มหรอก ถ้าไอ้ตวั เล็กของเจ้าเจอกับเสื อของข้า
ตอนนี้ มันจะถูกกินเอานะ คําเดียวหมดไม่เหลือแม้แต่กระดูกเลยด้วย”
คําพูดของชายคนนั้นเรี ยกเสี ยงหัวเราะจากฝูงชนทัว่ ลานประลอง ทุก
คนคิดว่าการปรากฏของจวินอู๋เสี ยเป็ นเรื่ องตลก ก็ใครมันจะบ้าส่ ง
สัตว์อสู รของตัวเองไปตายทั้ง ๆ ที่รู้อยูว่ า่ ไม่มีโอกาสชนะเลยสักนิด
จวินอู๋เสี ยมองชายที่พดู ไม่หยุดตรงหน้าอย่างเย็นชา แล้ววางท่าน
แบะแบะลงบนเวทีประลอง
ท่านแบะแบะหันไปมองจวินอู๋เสี ยด้วยสี หน้าสับสน
“แบะ?”
[เอาท่านแบะแบะมาทําอะไรที่นี่? ท่านแบะแบะไม่อยากอยูท่ ี่นี่ ท่าน
แบะแบะอยากให้กอด!]
มันไม่ชอบใจ มันเพิ่งจะ ‘ยึด’ ที่ของมันในอ้อมแขนของจวินอู๋เสี ย
คืนจากเจ้ากระต่ายหูใหญ่ได้ แล้วตอนนี้ตอ้ งออกห่างจากกอดอีก
แล้ว ท่านแบะแบะกระทืบเท้าน้อย ๆ ของมันอย่างไม่พอใจ
เมื่อเห็นการต่อต้านของท่านแบะแบะ เจ้าของเสื อก็หวั เราะเสี ยงดัง
แล้วพูดว่า “น้องชาย สัตว์อสู รของเจ้าดูจะกลัวจนขี้ข้ ึนสมองไปแล้ว
นะ เจ้าจะไม่เอามันกลับไปจริ ง ๆ หรื อ? ถึงเจ้าอ้วนกลมขนปุยนี้จะ
ไม่มีพลังโจมตีอะไรเลย แต่มนั ก็เป็ นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักดีออก”
ตอนที่ 973 ความโกรธของท่ านแบะแบะ (2)
จวินอู๋เสี ยไม่สนใจการเย้ยหยันดูถูกของชายคนนั้น นางมองท่าน
แบะแบะที่ออกฤทธิ์เป็ นเด็กเอาแต่ใจแล้วพูดว่า
“ชนะแล้วได้กินใบบัว”
ใบบัวที่จวินอู๋เสี ยพูดถึงก็คือใบบัวสุดอร่ อยหวานลํ้าจากบัวหิ มะของ
บัวน้อย ตอนนี้บวั น้อยน่าจะเก็บใบบัวได้กองหนึ่งแล้ว และท่าน
แบะแบะชอบรสชาติของบัวหิ มะอย่างที่สุด มันไม่ได้รับอนุญาตให้
กัดบัวน้อยก็จริ ง แต่ใบบัวของบัวน้อยก็อร่ อยมาก
เนื่องจากบัวน้อยมักจะกลัวจนร้องไห้ออกมาทันทีที่เห็นท่านแบะ
แบะ จึงไม่เคยตั้งสติได้เลยว่าจะป้อนมันด้วยใบบัวแทน ถ้าบัวน้อย
ไม่ซุกอยูใ่ นอ้อมแขนของจวินอู๋เสี ยเพื่อหาการปกป้องก็จะหายตัวเข้า
ไปในแหวนโดยทันที ตอนนี้ในหัวของท่านแบะแบะคิดแต่เรื่ องจะ
กินใบบัวหวานฉํ่าเพื่อให้หายอยาก
อย่างที่คาด เมื่อได้ยนิ คําว่า ‘กินใบบัว’ สายตาไม่พอใจของท่านแบะ
แบะก็หายไป ประกายตายินดีและคาดหวังปรากฏขึ้นทันที!
“แบะ! แบะ!”
[สัญญาแล้วนะ ห้ามโกงแบะด้วย!]
แม้วา่ นางจะไม่เข้าใจว่าท่านแบะแบะพูดอะไร แต่ดูจากท่าทีที่
เปลี่ยนไปของเจ้าแกะ จวินอู๋เสี ยก็รู้วา่ มันตกลง นางจึงพยักหน้าตอบ
เมื่อได้รับคํายืนยันจากคนให้อาหารของมัน ท่านแบะแบะก็หนั
กลับไปทันที มันชูหางขึ้นพลางวิง่ เหยาะ ๆ ไปกลางเวทีอย่างมี
ความสุ ข
[จะได้กินใบบัวแล้ว ~ท่านแบะแบะสุ ขใจจริ งเอย ~]
เจ้าของเสื อไม่เข้าใจว่าเด็กชายกับสัตว์อสู รของเขาตกลงแลกเปลี่ยน
อะไรกัน เขาป้อนเนื้อดิบโชกเลือดอีกชิ้นให้เจ้าเสื อร้ายแล้วพูดว่า
“ไปจัดการมัน”
เจ้าเสื อร้ายไม่เข้าใจว่าเจ้าของมันพูดอะไร แต่มนั ก็แลบลิ้นออกมา
เลียเลือดที่เปื้ อนอยูร่ อบ ๆ ปากอย่างคาดหวัง มันหันกลับไปช้า ๆ
เพื่อเตรี ยมพร้อมสําหรับการประลองรอบต่อไป
บนเวทีประลอง เจ้าลูกบอลขนปุยอ้วนกลมยืนอยูด่ า้ นหนึ่ง และฝั่ง
ตรงข้ามที่กาํ ลังเผชิญหน้ากับมันคือเจ้าเสื อร้ายที่มีคราบเลือดของคู่
ต่อสู ท้ ี่พา่ ยแพ้มนั รอบก่อน ๆ เปื้ อนอยูเ่ ต็ม ดูจากขนาดและความ
ก้าวร้าวก็เห็นได้ชดั ว่าใครเหนือกว่าในรอบนี้
เจ้าของเสื อร้ายมองจวินเสี ยที่ยนื อยูข่ า้ งเวทีพร้อมกับเดาะลิ้นอย่าง
เหยียดหยาม เขาไม่เคยเจอเด็กที่ด้ือรั้นจะส่ งสัตว์อสู รของตัวเองไป
ตายแบบนี้เลย
“พอสัตว์อสู รของเจ้าถูกกินเข้าไปก็อย่าร้องแล้วกัน” ชายคนนั้นพูด
หยาม
จวินอู๋เสี ยชําเลืองมองเขาอย่างเย็นชา แต่ไม่ได้มีปฏิกิริยาอื่นใด
ผูค้ นในลานประลองสัตว์อสู รไม่สนใจการประลองรอบนี้มากนัก
พวกเขาตัดสิ นผลเอาไว้ในใจแล้ว จึงรอคอยการประลองรอบต่อไป
มากกว่า
เจ้าหน้าที่ลานประลองมองความแตกต่างของพลังทั้งสองฝ่ ายที่ห่าง
ชั้นกันมากก็เริ่ มกระสับกระส่ ายขึ้นมา
ท่านแบะแบะตัวน้อยนั้นลงทะเบียนโดยชิงหยู รองหัวหน้าตึกเพลิง
พิโรธ ไม่มีใครเคยเห็นสัตว์อสู รตัวนั้นมาก่อน พวกเขาคิดว่าเมื่อรอง
หัวหน้าตึกเพลิงพิโรธเป็ นคนแนะนํามา มันก็ตอ้ งเป็ นสัตว์อสู รที่น่า
ประทับใจมากแน่
เมื่อพวกเขาได้เห็นสัตว์อสู รตัวเป็ น ๆ ความคาดหวังและความมัน่ ใจ
ทั้งหมดก็พงั ครื น
พวกเขาเห็นภาพในใจอย่างชัดเจนเลยทีเดียวว่าพอการประลอง
เริ่ มต้นขึ้น เจ้าแกะน้อยนัน่ คงจะได้กลายเป็ นอาหารของเจ้าเสื อร้าย
อย่างรวดเร็ ว พวกเขาหวังว่าถึงตอนนั้นชิงหยูจะไม่หงุดหงิดมากนัก
ระฆังเริ่ มการประลองดังขึ้น!
เจ้าเสื อร้ายเดินวนรอบคู่ต่อสู อ้ ย่างช้า ๆ หางของมันชี้ข้ ึนไปด้านหลัง
ราวกับท่อนเหล็ก หลังจากสู ม้ าหลายรอบและได้กินเนื้อสดโชก
เลือดเข้าไป สัญชาตญาณสัตว์ป่าในตัวมันก็ถูกกระตุน้ ในสู งขึ้นมาก
การออกแรงก่อนหน้านี้ทาํ ให้มนั หิ วจัด และเนื้อเล็ก ๆ บาง ๆ สอง
ชิ้นนั้นก็ช่วยให้หายหิ วไม่ได้เลย กลับยิง่ ทําให้สญ
ั ชาตญาณนักล่า
ของมันพุง่ ขึ้นถึงขีดสุ ด!
ตอนที่ 974 ความโกรธของท่ านแบะแบะ (3)
ฝี เท้าหนัก ๆ ของเจ้าเสื อร้ายยํา่ ลงบนเวทีประลอง สายตาของมันจ้อง
เขม็งอยูท่ ี่เหยือ่ น่าอร่ อยตรงหน้า แล้วมันก็กา้ วเข้าไปใกล้ท่านแบะ
แบะอีกหนึ่งก้าว
ชิงหยูนงั่ มองอยูจ่ ากที่สูง ก้นเขาแทบจะไม่ติดเก้าอี้ขณะที่เจ้าเสื อร้าย
ใกล้เข้ามา เขากังวลมากว่าเจ้าเสื อร้ายจะกลืนท่านแบะแบะลงไป
ทั้งตัวและเขาจะไม่สามารถตอบคําถามจวินเสี ยได้ แม้วา่ นี่จะเป็ น
ความต้องการของจวินเสี ยเองก็ตาม แต่เขามีหน้าที่คอยติดตามเป็ นพี่
เลี้ยงของจวินเสี ย ชิงหยูไม่กล้าคิดว่าเขาจะอธิบายให้เซียงป้าฟัง
อย่างไรว่าเขาปล่อยให้สตั ว์อสู รของจวินเสี ย ‘ถูกสังหาร’ ในวันแรก
ที่ผเู ้ ยาว์คนนี้อยูใ่ นเมืองพันอสู รได้อย่างไร เซียงป้าจะไม่ฉีกเขา
ออกเป็ นชิ้น ๆ เลยหรื อ?
แม้วา่ เขาจะไม่ใช่คนรับผิดชอบโดยตรง…แต่ชิงหยูกแ็ น่ใจว่าชะตา
กรรมของเขาจะไม่ดีข้ ึนเพราะเรื่ องนั้นแน่
ชิงหยูกาํ ลังครุ่ นคิดอย่างจริ งจังว่าเขาควรจะเข้าไปช่วยท่านแบะแบะ
ระหว่างการประลองหรื อไม่ ถึงแม้จะเป็ นการฝ่ าฝื นกฎของลาน
ประลองสัตว์อสู ร แต่เทียบกับเซียงป้าที่โกรธจัดจนคลัง่ แล้ว เขา
เลือกโดนท่านเจ้าเมืองด่าเอาแรง ๆ ดีกว่า
ขณะที่ชิงหยูกาํ ลังต่อสู ก้ บั ความรู ้สึกที่ขดั แย้งกันอยูใ่ นใจ เจ้าเสื อร้าย
ก็เข้ามายืนตรงหน้าท่านแบะแบะแล้ว
เจ้าเสื อร้ายมองท่านแบะแบะที่ตวั เท่าหัวของมันแล้วเลียปาก ความ
หิ วและกลิ่นเลือดจาง ๆ ที่เหลืออยูป่ ลุกความกระหายเลือด กระตุน้
ให้มนั ขยํ้าเหยือ่ ที่อยูต่ รงหน้า!
“กรร!” มันอ้าปากกว้างและส่ งเสี ยงคํารามออกมาดังลัน่ !
เสี ยงคํารามนั้นดังมากจนทําให้ผชู ้ มที่นงั่ อยูใ่ กล้กบั เวทีประลองรู ้สึก
ปวดแก้วหู
เจ้าของเสื อที่ยนื อยูด่ า้ นข้างแสยะยิม้ กว้างออกมา
ท่านแบะแบะยืนเหม่อมองไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด มันมอง ‘เจ้า
เหมียว’ ที่ทาํ นํ้าลายกระเด็นไปทัว่ ตรงหน้าแล้วคิดว่ากลิ่นปาก ‘เจ้า
เหมียว’ นี่โคตรเหม็น แตกต่างจากกลิ่นสะอาด ๆ ของเจ้าแมวดําตัว
น้อยโดยสิ้ นเชิง
ท่านแบะแบะกําลังคิดว่ามันจะตบ ‘เจ้าเหมียว’ นี่ให้ตายยังไงดีก็
พลันนึกถึงสิ่ งที่จวินอู๋เสี ยสัญญาไว้กบั มันขึ้นมาได้
คนให้อาหารของมันบอกว่ามันต้องชนะถึงจะได้กินใบบัว แต่มนั
ต้องทํายังไงจึงจะถือว่าชนะล่ะ?
ในหัวของท่านแบะแบะมีแค่วธิ ีเดียวในการจัดการกับสัตว์อสู รตัว
อื่น และนัน่ ก็คือการกินพวกมัน ดังนั้นเมื่อมันถูกบอกว่าให้
‘เอาชนะ’ มันจึงไม่เข้าใจว่าสิ่ งนั้นหมายความว่ายังไง
ท่านแบะแบะยืนเอียงคอเค้นสมองคิดพลางจ้องมองเจ้าเสื อร้าย
[กินมันเข้าไปฟังดูไม่เหมือนชนะรึ เปล่านะ?]
[ท่านแบะแบะไม่รู้วา่ ต้องทํายังไงนี่!]
หลังจากผูช้ มเห็นเจ้าเสื อร้ายคํารามเสี ยงดัง ก็พากันคิดว่าเจ้าแกะอ้วน
กลมคงหวาดกลัวจนแข็งทื่ออยูก่ บั ที่ พวกเขาคิดว่าการประลองกําลัง
จะจบลงแบบนองเลือด
ในที่สุดท่านแบะแบะก็นึกออก มันอาจจะไม่เข้าใจว่าชนะ
หมายความว่าอะไร แต่สิ่งที่ ‘เจ้าเหมียว’ ทําตอนนี้น่าจะเป็ นวิธีที่
ถูกต้อง ใช่ไหม?
ดังนั้นท่านแบะแบะจึงเลียนแบบเจ้าเสื อร้ายด้วยการอ้าปากและใช้
พละกําลังทั้งหมดของมัน…
“แบะ!”
เสี ยงร้องแบะครั้งเดียวดังไปไม่ถึงที่นงั่ ของผูช้ มด้วยซํ้า ขณะที่ทุกคน
ระเบิดเสี ยงหัวเราะออกมา สถานการณ์แปลก ๆ ก็เกิดขึ้นต่อหน้าต่อ
ตาพวกเขา!
ทันทีที่เสี ยงร้องเบา ๆ ของท่านแบะแบะดังขึ้น สัตว์อสู รเสื อที่สง่า
งามก็ทาํ ท่าเหมือนโดนสายฟ้าฟาดทันที ตัวของมันแข็งทื่อไม่ขยับ
เขยื้อน ดวงตามุ่งร้ายเบิกโพลง และขณะที่ทุกคนคาดว่ามันจะตะปบ
เข้าใส่ ร่างกลม ๆ ของท่านแบะแบะ เจ้าเสื อร้ายก็หนั หลังกลับแล้ว
ตะเกียกตะกายวิง่ หนีกลับไปตามทางเดิมที่มนั มา…วิง่ หนีแบบหาง
จุกตูดเลยทีเดียว…
ตอนที่ 975 ความโกรธของท่ านแบะแบะ (4)
เจ้าเสื อร้ายวิง่ หนีสุดชีวติ ใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างหวาดกลัว ท่าทางกลัว
สุ ดขีดของมันไม่เหลือวีแ่ ววความแข็งแกร่ งอย่างผูท้ ี่เหนือกว่าแบบ
ก่อนหน้านี้เลย!
ทุกคนต่างตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
ไม่มีใครคิดว่าเรื่ องแบบนี้จะเกิดขึ้น!
เจ้าของเสื อยิง่ แปลกใจกว่าใคร ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ปากอ้าค้าง
มองดูสตั ว์อสู รของเขากระโจนลงจากเวทีประลองด้วยความกลัว
กลิ้งเหมือนลูกบอลตกลงมาที่พ้นื !
นี่มนั เรื่ องอะไรกันเนี่ย?
ทั้งลานประลองเงียบกริ บ
ทุกสิ่ งที่คนที่นนั่ คาดว่าจะได้เห็นไม่เกิดขึ้นเลย เรื่ องราวมันกลับ
ตาลปัตรไปหมด
สัตว์อสู รที่น่าจะเหนือกว่าคู่ต่อสู แ้ ละน่าจะแสดงความแข็งแกร่ ง
ออกมาจนเลือดนองเวทีกลับตัวสัน่ งันงกอยูใ่ นอ้อมกอดของเจ้าของ
นํ้าหนักของมันเกือบจะทับเขาแบนแล้ว
ขณะที่เจ้าแกะอ้วนที่น่าจะกลายเป็ นอาหารของเสื อร้ายกลับยืนอย่าง
ปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนอยูบ่ นเวทีประลอง ดูยงั ไงก็เหมือนแกะโง่ไม่
รู ้เรื่ องรู ้ราวอะไร
ผูค้ นต่างจ้องมองอย่างไม่เชื่อสายตา ยากที่พวกเขาจะยอมรับได้วา่
เรื่ องที่เกิดขึ้นเป็ นความจริ ง
ไม่มีใครรู ้วา่ จะตอบสนองยังไงดีกบั ผลที่ออกมาแบบนี้…
มีใครบอกได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ชิงหยูที่ลุน้ ตัวโก่งก็นิ่งตะลึงไปเหมือนกัน ท่านแบะแบะไม่เพียงรอด
จากการถูกเสื อกินเท่านั้น แต่มนั ยังทําให้เสื อตัวนั้นหวาดกลัวอย่าง
หนักด้วยการร้อง ‘แบะ’ เบา ๆ แค่ครั้งเดียว…
สิ่ งที่เกิดขึ้นทําให้ผคู ้ นที่นนั่ สับสนอย่างที่สุด
ท่านแบะแบะยืนอยูบ่ นเวทีและมองเจ้าเสื อร้ายขดตัวเป็ นลูกบอลสัน่
ระริ กอยูบ่ นตัวเจ้าของ นํ้าลายฟูมปาก ดวงตาแทบจะเห็นแต่ตาขาว
ซึ่งบอกได้เลยว่าสัตว์อสู รตัวนี้กาํ ลังกลัวมากขนาดไหน มันกลัวจน
เกือบจะเป็ นลมแล้ว!
ด้วยขนาดตัวอันใหญ่โตของเจ้าเสื อร้ายทําให้กระดูกซี่โครงของ
เจ้าของเกือบจะหักจากนํ้าหนักตัวของมันอยูแ่ ล้ว
“แบะ?” ท่านแบะแบะเดินมายืนที่ขา้ งเวที หางกลม ๆ ปุกปุยของมัน
แกว่งไปมาอย่างมีความสุ ข มันเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสี ยอย่าง
ตื่นเต้น
[ท่านแบะแบะชนะ ‘ปะยอง’ แล้วใช่เปล่า? แบะจะได้กินใบบัวจริ ง ๆ
ใช่ไหม?]
เมื่อเห็นท่านแบะแบะทําหน้าบ้องแบ๊วเหมือนจะขอคําชมและรางวัล
สายตาเย็นชาของจวินอู๋เสี ยก็หายไปและมีประกายยินดีจาง ๆ มา
แทน
คนอื่นไม่รู้วา่ เจ้าแกะน้อยอ้วนกลมเหมือนลูกบอลตรงหน้าแท้จริ ง
แล้วคือสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ มันคิดว่าร่ างแกะน้อยของมันจะทํา
ให้มนั อําพรางตัวตนที่ทรงอํานาจของสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ได้
นอกจากนั้นจวินอู๋เสี ยก็มกั จะสัง่ ให้มนั ซ่อนตัวเอาไว้ดีที่สุด ดังนั้น
ท่านแบะแบะจึงสามารถปกปิ ดตัวตนที่แท้จริ งในฐานะสัตว์อสู รผู ้
พิทกั ษ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อมันอยูใ่ นร่ างของแกะน้อยตัวนี้
แต่ตอนที่ท่านแบะแบะส่ งเสี ยงร้องเมื่อครู่ มันเรี ยกอํานาจของสัตว์
อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ออกมาด้วย เสี ยงร้องเบา ๆ นั้นอาจจะฟังดูไม่
แตกต่างสําหรับมนุษย์ แต่สาํ หรับสัตว์อสู รที่มีสญ
ั ชาตญาณสัตว์อนั
แหลมคม พวกสามารถรู ้สึกได้วา่ เสี ยงร้องนั้นมาจากสัตว์ที่อยูบ่ น
จุดสู งสุ ดของสัตว์อสู ร เป็ นคําเตือนจากราชา สัตว์อสู รระดับผู ้
พิทกั ษ์!
ไม่ตอ้ งพูดถึงว่าเจ้าเสื อร้ายตัวนั้นเป็ นแค่สตั ว์อสู รระดับตํ่า ต่อให้
เป็ นสัตว์อสู รระดับสู ง เสี ยง ‘คําราม’ ของท่านแบะแบะก็ทาํ ให้พวก
มันกลัวหัวหดได้เหมือนกัน พวกมันไม่สามารถต้านทานท่านแบะ
แบะได้เลย ไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะมองสบตาท่านแบะแบะด้วยซํ้า
แค่ไม่ช็อคตายคาที่กพ็ ดู ได้วา่ จิตใจของเจ้าเสื อร้ายตัวนี้เข้มแข็งมาก
แล้ว!
แต่เรื่ องทั้งหมดของท่านแบะแบะนั้นมีเพียงจวินอู๋เสี ยคนเดียวที่รู้
คนอื่นในลานประลองไม่มีใครรู ้สกั คน ในสายตาของทุกคนที่นนั่
มันจึงเป็ นภาพที่แปลกและเหลือเชื่อมาก!
ตอนที่ 976 ความโกรธของท่ านแบะแบะ (5)
เมื่อคิดว่าสัตว์อสู รที่แข็งแกร่ งและดุร้ายอย่างเจ้าเสื อจะกลัวจน
นํ้าลายฟูมปากจากเสี ยงร้อง ‘แบะ’ เบา ๆ ของแกะที่ตวั เท่ากับหัว
ของมันเท่านั้น มันก็…
ไม่เคยได้ยนิ มาก่อนเลยว่ามีเหตุการณ์แปลกประหลาดแบบนี้ดว้ ย!
ในความเงียบอย่างกะทันหันนั้น จวินอู๋เสี ยหันไปมองเจ้าหน้าที่ลาน
ประลองที่อยูอ่ ีกด้านของเวที ชายคนนั้นอ้าปากค้างอย่างตกใจ เขา
มองไปที่เจ้าเสื อร้ายที่น้ าํ ลายฟูมปากสลบไปบนตัวของเจ้าของ เห็น
ได้ชดั ว่าเขายังคงตะลึงอยู่
“ประกาศผลได้แล้ว” จวินอู๋เสี ยพูดอย่างเย็นชา
คําเตือนของจวินอู๋เสี ยทําให้ชายคนนั้นได้สติกลับมา และตามกฎ
ของลานประลองสัตว์อสู ร เมื่อสัตว์อสู รออกจากเวทีประลอง มันจะ
ถูกปรับแพ้ และเนื่องจากตอนนี้ตวั ทั้งตัวของเจ้าเสื อร้ายอยูน่ อกเวที
ประลอง ผลการประลองจึงเห็นได้อย่างชัดเจน
“เอ่อ…ผูช้ นะในรอบนี้คือ…สัตว์อสู รของจวินเสี ย…” ชายคนนั้นพูด
ตะกุกตะกักอย่างลังเล สี หน้าของเขาค่อนข้างสับสน
ผลแบบนี้มนั เหนือความคาดหมายของทุกคนจริ ง ๆ
ถึงมันจะเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขา แต่ทุกคนก็ยงั รู ้สึกว่ามันเกิน
จริ งไปมาก
คําประกาศนั้นทําให้ท้ งั ลานประลานส่ งเสี ยงฮือฮาขึ้นทันที ทุกคน
พูดคุยเรื่ องผลการแข่งอย่างตื่นเต้น แม้วา่ จะไม่มีสกั คนที่อธิบายได้
ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ท่ามกลางเสี ยงอึกทึกครึ กโครม พิธีกรมองไปที่จวินอู๋เสี ยและลังเล
อยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะถามว่า “คุณชายจวินจะให้สตั ว์อสู รของท่านแข่ง
รอบต่อไปรึ เปล่าขอรับ?”
ตามกฎของลานประลองสัตว์อสู ร เจ้าของสัตว์อสู รที่เข้าแข่งในลาน
ประลองจะสามารถเลือกจํานวนครั้งที่จะให้สตั ว์อสู รลงแข่งขันได้
ถ้าสัตว์อสู รได้รับบาดเจ็บ เจ้าของสามารถเลือกให้หยุดแข่งก่อนและ
มาแข่งต่อทีหลังได้ หรื อจะแข่งรอบต่อไปทันทีเลยก็ได้ และเพื่อให้
ได้รับโอกาสในการท้าชิง 10 อันดับแรกของลานประลองสัตว์อสู ร
พวกเขาต้องเอาชนะการประลองให้ได้ 10 ครั้งติดต่อกัน
แต่พิธีกรไม่คิดว่าจวินเสี ยจะให้เจ้าแกะน้อยตัวจิ๋วนี้ลงแข่งต่อจริ ง ๆ
ผลการแข่งของรอบนี้ผดิ ความคาดหมายโดยสิ้ นเชิง แต่ไม่มีใครคิด
หรอกว่าชัยชนะนั้นมาจากความแข็งแกร่ งของท่านแบะแบะ จาก
มุมมองของทุกคน ท่านแบะแบะเพียงแค่ร้องเบา ๆ เท่านั้น แล้วจู่ ๆ
เจ้าเสื อก็หนีไปแบบไม่มีเหตุผลเหมือนถูกผีเข้า คนส่ วนมากเชื่อว่า
ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นในตัวของเจ้าเสื อ
อาจจะเป็ นไปได้ที่ปัญหาจะมาจากอาหารที่เจ้าของให้มนั กินเมื่อครู่
นี้ทาํ ให้ผลออกมาเป็ นแบบนี้
ท่านแบะแบะชนะได้ในครั้งนี้ท้ งั หมดเป็ นเพราะโชคล้วน ๆ
แต่ทว่า จวินอู๋เสี ยกลับตอบว่า “แข่งต่อเลย”
ชายคนนั้นชะงักไปและถามซํ้าอีกครั้ง เมื่อได้รับคําตอบเดิมเขาก็
รู ้สึกตกใจมากและจัดการเรี ยกคู่ต่อสู ใ้ นรอบต่อไปของท่านแบะแบะ
ขึ้นมา
เมื่อผูช้ มได้ยนิ ว่าท่านแบะแบะจะแข่งต่อ ลานประลองสัตว์อสู รก็
ฮือฮาขึ้นอีกครั้ง พวกเขาไม่สามารถเข้าใจถึงชัยชนะในรอบที่แล้ว
ของท่านแบะแบะได้เลยแม้แต่นอ้ ย และทุกคนต่างก็คิดว่ามันก็
เหมือนแมวตาบอดที่เดินไปสะดุดซากหนูตายนัน่ แหละ มีปัญหา
บางอย่างเกิดขึ้นกับร่ างกายของเจ้าเสื อร้าย เหมือนกับว่ามันป่ วยเป็ น
อะไรสักอย่างทําให้ผลการแข่งขันออกมาเป็ นแบบนี้
เมื่อมีความคิดเช่นนี้อยูใ่ นใจ ไม่นานพวกเขาก็ได้ขอ้ สรุ ป ‘ที่มี
เหตุผล’ มาอธิบายให้ตวั เอง
พวกเขาเชื่อว่าโชคดีเช่นนั้นจะไม่อยูก่ บั คน ๆ หนึ่งไปตลอด
พวกเขาคิดว่าที่จวินเสี ยอยากให้สตั ว์อสู รของเขาแข่งต่อก็เพราะเขา
ยังงมอยูก่ บั ความโชคดีที่ชนะรอบแรกมาได้!
เมื่อทําใจให้สงบลงได้แล้ว ผูช้ มก็กลับลงไปนัง่ ที่ของตัวเอง ทุกคน
เตรี ยมตัวดูวา่ รอบต่อไปจะเป็ นอย่างไร พวกเขาเชื่ออย่างมากว่า
เหตุการณ์แปลก ๆ จะไม่เกิดขึ้นเป็ นครั้งที่สอง!
แต่…
ตอนที่ 977 ความโกรธของท่ านแบะแบะ (6)
แต่…
หลังจากนั้นไม่นาน คนที่มนั่ ใจในตัวเองพวกนั้นก็ได้รู้ถึง
ความหมายของคําว่า…การโดนตบหน้า ไปแบบเต็ม ๆ !
ท่านแบะแบะยืนอยูบ่ นเวทีประลองและชนะการแข่งขันรวดเดียว 10
ครั้ง!
สุ ดท้ายแล้ว…
ไม่วา่ สัตว์อสู รอีกฝ่ ายจะมีรูปร่ างอย่างไร ไม่วา่ จะแข็งแกร่ งหรื อสง่า
งามแค่ไหน เมื่อพวกมันก้าวขึ้นเวทีประลอง พอเสี ยงระฆังดังขึ้น
แล้วท่านแบะแบะที่ดูโง่ไร้เดียงสานัน่ ส่ งเสี ยงร้องออกมาเบา ๆ แค่
ครั้งเดียว สัตว์อสู รทุกตัวก็หนั หลังกลับวิง่ หนีหางจุกตูดไปทันที…
บางตัวถึงขั้นนํ้าลายฟูมปากสลบคาเวที ลูกตาเหลือแต่ตาขาว…
เหมือนกับเจ้าเสื อร้ายในตอนแรก!
สถานการณ์เช่นนั้นทําให้ทุกคนที่พยายามหาข้ออ้างให้กบั เหตุการณ์
แปลก ๆ เพื่ออธิบายข้อสันนิษฐานในตอนแรกของพวกเขาก็หุบปาก
ฉับกันทันที
หากเรื่ องนั้นเกิดขึ้นกับสัตว์อสู รแค่ตวั เดียว พวกเขาก็คิดได้วา่ มัน
เป็ นอุบตั ิเหตุ สองตัวก็ยงั เป็ นเรื่ องบังเอิญได้ แต่เมื่อเป็ นตัวที่สาม…
ตัวที่สี่…ตัวที่หา้ …
ผูช้ มก็เข้าใจแล้วว่านี่ไม่ใช่อุบตั ิเหตุ และไม่ใช่แค่เรื่ องบังเอิญด้วย
แต่…มันเป็ นเพราะเจ้าแกะที่ดูใสซื่อไร้เดียงสานัน่ !
พวกเขาเห็นกับตาว่าสัตว์อสู รตัวใหญ่หลายตัวหวาดกลัวจนฉี่ราด…
ภาพที่น่าสมเพชพวกนั้น…ทําให้หวั ใจของทุกคนแทบหยุดเต้น!
ชนะรวด 10 รอบอย่างรวดเร็ ว ไม่มีการเสี ยเลือดสักหยด ไม่มีการฉี ก
กระชาก ไม่มีการต่อสู ด้ ิ้นรน ตั้งแต่เริ่ มจนจบ มันเป็ นไปอย่าง
รวดเร็ วแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อท่านแบะแบะส่ งเสี ยง สัตว์อสู รทุกตัวก็ลม้ ลงอ้อนวอนขอความ
เมตตา!
คนที่มาประลองที่ลานประลองสัตว์อสู รโดยปกติแล้วเป็ นคนที่ไม่มี
กําไลสะกดอสู รอยูใ่ นครอบครอง พวกเขามาที่นี่พยายามเอาชนะก็
เพื่อจะได้กาํ ไลสะกดอสู รจากลานประลองสัตว์อสู รเป็ นรางวัล สัตว์
อสู รของพวกเขาทุกตัวจึงเป็ นสัตว์อสู รระดับตํ่า ไม่มีแม้แต่
ระดับกลางเลยสักตัว!
และคนที่มีกาํ ไลสะกดอสู รจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่ วมการ
ประลองที่ลานประลองสัตว์อสู ร
เมื่ออยูท่ ่ามกลางสัตว์อสู รระดับตํ่า ท่านแบะแบะที่เป็ นสัตว์อสู ร
ระดับผูพ้ ิทกั ษ์ซ่ ึงปิ ดบังร่ างที่แท้จริ งเอาไว้จึงเป็ นเหมือนนกกระเรี ยน
ที่ยนื อยูก่ ลางฝูงลูกเจี๊ยบ!
ตลอดการประลองทั้ง 10 รอบท่านแบะแบะไม่ได้ยกเท้าขึ้นจากพื้น
เลยแม้แต่กา้ วเดียว ทั้งหมดที่มนั ทําก็แค่อา้ ปาก 10 ครั้ง ส่ งเสี ยงร้อง
ออกมา 10 ครั้ง แล้วก็เอาชนะคู่ต่อสู ท้ ้ งั หมดไปได้ในเวลาไม่กี่วนิ าที
ชนะการประลองทุกรอบไปได้อย่างง่ายดาย…
ผูช้ มที่เคยเห็นแต่การสังหารอันโหดร้ายและน่าตื่นเต้นระหว่างสัตว์
อสู รก็พลันรู ้สึกสับสนเป็ นอย่างมาก
พวกเขาไม่สามารถหาคําใดมาแสดงความรู ้สึกของพวกเขาตอนนี้ได้
สิ่ งเดียวที่พวกเขาอยากจะพูดก็คือ…
[เจ้าแกะโง่นนั่ มันเป็ นตัวอะไรกันแน่!?]
[มีสตั ว์อสู รระดับตํ่าที่แค่ส่งเสี ยงร้องก็ทาํ ให้สตั ว์อสู รอื่น ๆ กลัวจน
ฉี่ราดด้วยหรื อ?]
[เป็ นไปได้ยงั ไง!?]
พิธีกรเองก็ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก หลังจากการประลองรอบ
สุ ดท้ายจบลง จวินอู๋เสี ยก็อุม้ ท่านแบะแบะที่ ‘ทุ่มเท’ ต่อสู อ้ ย่างหนัก
ลงจากเวที ส่ วนพิธีกรก็ยงั ไม่ได้สติ
จวินอู๋เสี ยอุม้ ท่านแบะแบะเดินไปยืนข้าง ๆ ชิงหยูท่ามกลางสายตา
ของทุกคน ชิงหยูดูท่าทางไม่สบายใจอย่างมาก
เมื่อครู่ เขาเพิ่งจะคิดว่าเขาจะต้องไปช่วยชีวติ เจ้าแกะระหว่างการ
ประลองรึ เปล่า และผลที่ออกมา…เจ้าแกะไม่ให้โอกาสเขาได้ช่วย
เลยสักครั้ง มันจบ ‘การต่อสู ’้ ในชัว่ พริ บตาทําให้เขาเป็ นห่วงเก้อ
“ข้าชนะ 10 รอบแล้ว ท้าชิงกับ 10 อันดับแรกได้เลยรึ เปล่า?” จวินอู๋
เสี ยถามชิงหยูขณะให้รางวัลท่านแบะแบะด้วยการลูบขนนุ่ม ๆ ของ
มัน เทียบกับการต่อสู แ้ บบเลือดสาดก่อนหน้านี้ นางคิดว่าวิธีเอาชนะ
คู่ต่อสู ข้ องท่านแบะแบะนั้นน่าชื่นชมกว่ามาก
อย่างน้อยมันก็ไม่มีกลิ่นคาวเลือดน่ารังเกียจนัน่
ตอนที่ 978 ความโกรธของท่ านแบะแบะ (7)
“อะไรนะ?” ชิงหยูที่ได้สติกลับมาเจอคําถามของจวินอู๋เสี ยเข้าไปก็
ตกตะลึงอีกครั้งทันที
เขาคิดว่าจวินอู๋เสี ยแค่อยากเล่นประลองสัตว์อสู รเฉย ๆ แต่แล้ว…เขา
กลับตั้งใจทําตามกฎของลานประลองสัตว์อสู รอย่างเต็มที่และจะไป
ท้าชิง 10 อันดับแรกด้วย?!
“คุณชายจวินอยากท้าชิงกับ 10 อันดับแรกหรื อขอรับ?” ชิงหยูไม่
แน่ใจว่าเขาฟังผิดรึ เปล่าจึงถามขึ้นอีกครั้ง
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “พูดให้ถูก ข้าอยากท้าชิงกับอันดับที่ 1”
ต้องได้อนั ดับ 1 ของลานประลองสัตว์อสู รและไม่พา่ ยแพ้เลยเป็ น
เวลา 10 วันติดต่อกันเท่านั้นถึงจะได้รางวัลเป็ นกําไลสะกดอสู ร
เหตุผลเดียวที่จวินอู๋เสี ยเข้าร่ วมการประลองที่ลานประลองสัตว์อสู ร
ก็เพราะนางอยากได้กาํ ไลสะกดอสู รมาตั้งแต่แรกแล้ว
“……..” ชิงหยูอา้ ปากกว้างจนสามารถยัดไข่เข้าไปได้ท้ งั ลูก!
“นัน่ …นัน่ …” ชิงหยูดูสบั สนมาก
“ข้าไปท้าชิงได้ที่ไหน?” จวินอู๋เสี ยถามแบบไม่ออ้ มค้อม
ชิงหยูพบว่าตัวเองเจอเข้ากับความดื้อรั้นของจวินเสี ยเป็ นครั้งแรก
และรู ้วา่ ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมคุณชายจวินได้ดว้ ย เขาไม่มีทางเลือก
นอกจากนําจวินเสี ยไปที่หอ้ งโถงด้านหลังลานประลอง เมื่อ
เจ้าหน้าที่ลานประลองได้ยนิ ว่าจวินเสี ยตั้งใจจะท้าชิงกับอันดับหนึ่ง
คนปัจจุบนั เขาก็จอ้ งจนตาแทบถลนออกมานอกเบ้า สายตาตกตะลึง
ของเขามองไปที่ท่านแบะแบะและจ้องอยูน่ านก่อนจะยํ้าถามชิงหยู
อีกหลายครั้งให้แน่ใจว่าหูเขาได้ยนิ ไม่ผดิ ก่อนจะยอมเชื่อว่าจวินเสี ย
ไม่ได้ลอ้ เล่น
“ถ้า…คุณชายคิดจะท้าชิงจริ ง ๆ ทางลานประลองสัตว์อสู รจะแจ้งกับ
เจ้าของสัตว์อสู รที่เป็ นอันดับหนึ่งคืนนี้ก่อน คุณชายจวินพาสัตว์อสู ร
ของท่านมาที่นี่ตอนบ่ายวันพรุ่ งนี้เพือ่ ทําการประลองได้ขอรับ”
เจ้าหน้าที่แจ้งกับพวกเขา เขาได้ยนิ เรื่ องแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นหน้าเวที
แล้วและรู ้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อที่แกะไร้เดียงสาในอ้อมแขนของ
จวินเสี ยจะทําให้สตั ว์อสู รมากมายหวาดกลัวจนยอมแพ้ได้ดว้ ยเสี ยง
ร้องของมัน
“ได้” จวินเสี ยตกลงและไม่ถามอะไรอีก เขาหันหลังจากไปทันที
พร้อมกับท่านแบะแบะและเจ้าแมวดํา
ชิงหยูที่อุม้ กระต่ายหูใหญ่อยูต่ ลอดเวลาก็รีบตามหลังไปด้วยสี หน้า
กังวลใจอย่างมาก
“คุณชายจวินขอรับ ท่านแน่ใจหรื อว่าอยากทําแบบนี้? จากที่ขา้ รู ้มา
ถึงคนที่เป็ นอันดับหนึ่งตอนนี้จะเป็ นแค่ผเู ้ ยาว์ แต่พอ่ ของเขาก็เป็ น
รองหัวหน้าตึกนํ้าค้างเหมันต์ เขาอาจจะยังไม่มีกาํ ไลสะกดอสู ร แต่
เขาก็ได้เรี ยนวิชาควบคุมสัตว์อสู รแล้วนะขอรับ สัตว์อสู รที่เขามีจดั
ได้วา่ เป็ นขั้นสู งสุ ดในหมู่สตั ว์อสู รระดับตํ่า มันอาจจะต้านทานสัตว์
อสู รระดับกลางบางตัวได้ดว้ ยซํ้านะขอรับ” ชิงหยูพดู อย่างกังวล คน
ที่สามารถรั้งตําแหน่งอันดับหนึ่งของลานประลองสัตว์อสู รได้หลาย
วันนั้นมีนอ้ ยมาก ใครที่สามารถรั้งตําแหน่งได้นานเกิน 5 วันถือว่า
เก่งและน่ากลัวมาก
คนที่เป็ นอันดับหนึ่งตอนนี้อยูใ่ นตําแหน่งนี้มาได้ 8 วันแล้ว และถ้า
เขาเอาชนะจวินเสี ยได้ในวันพรุ่ งนี้ เขาจะได้รางวัลเป็ นกําไลสะกด
อสู รทันที
ชิงหยูไม่ได้อยูใ่ นเมืองพันอสู รมาช่วงหนึ่ง เขาจึงไม่แน่ใจว่า
สถานการณ์ที่ลานประลองสัตว์อสู รตอนนี้เป็ นอย่างไรบ้าง แต่
เนื่องจากจวินเสี ยแสดงความสนใจในลานประลองสัตว์อสู รมาก
ขนาดนี้ เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากไปตรวจสอบเรื่ องนี้มาเพิ่มเติม
อีกเล็กน้อย
“เข้าใจแล้ว” จวินอู๋เสี ยตอบอย่างรวดเร็ ว ถ้าไม่ใช่สตั ว์อสู รระดับผู ้
พิทกั ษ์แล้วล่ะก็ จะเป็ นสัตว์อสู รชนิดใดมาอยูต่ ่อหน้าท่านแบะแบะก็
เละเป็ นโจ๊กอย่างไม่ตอ้ งสงสัยเลย
ไม่จาํ เป็ นต้องรวบรวมข้อมูลข่าวสารอะไรทั้งนั้น
จวินอู๋เสี ยไม่ได้อยากรู ้วา่ คนที่เป็ นอันดับหนึ่งมีสตั ว์อสู รชนิดใดอยู่
นางอุม้ ท่านแบะแบะไว้ในอ้อมแขนแล้วทําตามสัญญาที่ให้ไว้ก่อน
หน้านี้ นางให้บวั น้อยแอบเอาใบบัวมาไว้ในแขนเสื้ อนางแล้ว ชิงหยู
ไม่ได้รู้เลยว่ากําลังเกิดอะไรขึ้น นางฉีกใบบัวเป็ นชิ้นเล็กแล้วป้อน
มันใส่ ปากท่านแบะแบะทีละน้อย ทําให้ท่านแบะแบะมีความสุ ขมาก
จนส่ งเสี ยงร้องออกมาอย่างดีใจ!
ตอนที่ 979 ต่ ายน้ อยน่ าร้ ากกกก (1)
เมื่อพวกเขากลับมาที่ตึกเพลิงพิโรธ เซียงป้าก็กลับมาแล้ว เขาเดินยิม้
เข้ามาต้อนรับจวินเสี ย เมื่อเห็นสี หน้าของเขา ทั้งสองคนก็บอกได้
เลยว่าเขากําลังอารมณ์ดีมาก
“นี่คือ?” ก่อนที่เซียงป้าจะทันได้ถามวันแรกในเมืองพันอสู รของ
จวินเสี ยเป็ นอย่างไรบ้าง เขาก็เห็นกระต่ายหูใหญ่ที่เต็มไปด้วยเลือด
ทั้งตัวในอ้อมแขนของชิงหยู
ทําไมไปเดินเที่ยววันแรกพวกเขาถึงกลับมาพร้อมกระต่ายใกล้ตาย
ได้ล่ะเนี่ย?
ชิงหยูตอบพร้อมกับหัวเราะอย่างขมขื่นว่า “คุณชายจวินเก็บมาจาก
ลานประลองสัตว์อสู รขอรับ”
“วันนี้พวกเจ้าไปลานประลองสัตว์อสู รมาเหรอ?” เซี ยงป้ามักจะ
สนใจสิ่ งที่เกิดขึ้นในลานประลองสัตว์อสู รมาก
“ไม่ได้แค่ไปอย่างเดียวหรอกขอรับ คุณชายจวินลงทะเบียนเข้าร่ วม
ประลองด้วย” ชิงหยูตอบ
“ท่านลงทะเบียนด้วยเหรอ?” เซียงป้าหันไปมองจวินเสี ยอย่าง
ประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าทําไมจู่ ๆ จวินเสี ยถึงได้สนใจลานประลอง
สัตว์อสู รขึ้นมา สายตาของเขามองไปที่ท่านแบะแบะที่อยูใ่ นอ้อม
แขนของจวินเสี ยอย่างไม่ได้ต้ งั ใจ
“อย่าบอกข้านะว่าท่านคิดจะเอาสัตว์อสู รน้อยตัวนี้ลงแข่งน่ะ? นัน่
มันเกินไปแล้ว! ชิงหยู ไปลานประลองสัตว์อสู รเดี๋ยวนี้แล้วยกเลิก
ซะก่อนที่คุณชายจวินจะขึ้นประลอง สัตว์อสู รตัวแค่น้ ีจะเข้าร่ วมการ
ประลองที่ดุเดือดรุ นแรงแบบนั้นได้ยงั ไง?” เซียงป้าอยากให้จวินเสี ย
ยกเลิกความคิดเหลวไหลนั้นทันที
สี หน้าของชิงหยูยงิ่ ท้อแท้เข้าไปอีก เขามองเซียงป้าอย่างจนปัญญา
แล้วพูดว่า “หัวหน้า คุณชายจวินแข่งเสร็ จไปแล้วล่ะขอรับ”
“แข่งเสร็ จแล้ว?” เซี ยงป้ามองจวินเสี ยขึ้น ๆ ลง ๆ แล้วมองท่านแบะ
แบะที่เขาอุม้ อยูอ่ ย่างละเอียดถี่ถว้ น แต่เขาก็ไม่เห็นบาดแผลหรื อ
ร่ องรอยการบาดเจ็บบนตัวท่านแบะแบะเลย
“เสร็ จแล้วขอรับ…ทั้ง 10 รอบเลย” ชิงหยูพดู ต่อให้จบประโยคและ
ไม่ลืมที่จะเสริ มว่า “ชนะหมดเลยด้วย”
“อะไรนะ?” เซียงป้าทําตาโต ลานประลองสัตว์อสู รเป็ นสถานที่ที่
เขาไปบ่อย ๆ แม้วา่ เขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงแข่งเนื่องจากเป็ น
หัวหน้าตึกเพลิงพิโรธ แต่กห็ า้ มเขาให้มาดูการประลองไม่ได้ การ
ประลองในลานประลองสัตว์อสู รนั้นเขาได้เห็นด้วยตาตัวเองมา
หลายครั้งแล้ว การต่อสู ท้ ี่โหดร้ายพวกนั้นพูดได้อย่างเดียวเลยว่าเป็ น
การแข่งที่นองเลือดสุ ด ๆ
สัตว์อสู รตัวเล็ก ๆ อย่างกระต่ายหูใหญ่และท่านแบะแบะที่ไม่มี
‘พลังการต่อสู ’้ เลย ถ้าขึ้นประลองก็ตายสถานเดียว
แล้วนี่ชิงหยูกาํ ลังบอกเขาว่าจวินเสี ยไม่เพียงแค่เข้าแข่ง แต่ยงั ชนะ
การประลอง 10 ครั้งรวดเลยด้วยงั้นเหรอ?
ในฐานะหัวหน้าตึกของเมืองพันอสู ร เขาจึงรู ้เรื่ องสัตว์อสู รมากกว่า
คนส่ วนใหญ่ ในการเดินทางมาที่นี่แม้วา่ เขาจะพยายามดูวา่ ท่านแบะ
แบะเป็ นสัตว์อสู รชนิดใด แต่การที่มนั เอาแต่ขดตัวอยูใ่ นอ้อมแขน
ของจวินเสี ยตลอดการเดินทาง ไม่กินก็นอนอยูต่ ลอด ไม่วา่ จะดูยงั ไง
สัตว์อสู รนัน่ ก็เป็ นแค่สตั ว์เลี้ยง เป็ นไปไม่ได้ที่มนั จะมีพลังในการ
ต่อสู ้
ถ้าสัตว์อสู รเช่นนั้นสามารถเอาชนะการประลองสัตว์อสู รได้ 10 ครั้ง
รวด นัน่ ก็เป็ นปาฏิหาริ ยแ์ ล้ว
และปาฏิหาริ ยน์ นั่ ก็อยูต่ รงหน้าเซียงป้าแล้วตอนนี้!
จวินอู๋เสี ยมองสายตาตกตะลึงของเซียงป้าอย่างเฉยเมย และถามเขา
ว่า “ท่านได้พบกับท่านเจ้าเมืองแล้วใช่ไหม?”
เซียงป้าได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ ว และตระหนักได้วา่ นี่ไม่ใช่เวลาจะ
คุยเรื่ องนี้ สี หน้าตกตะลึงสับสนของเขาก็หายไปและเปลี่ยนเป็ นสี
หน้ายินดีที่เขาแสดงออกมาเมื่อครู่
“พบแล้ว ท่านเจ้าเมืองตกลง เขาบอกว่าถ้าท่านต้องการอะไรก็บอก
ได้เลย”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าและพูดว่า “ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก”
นางไม่แปลกใจที่ฉูเหวินห่าวถูกเกลี้ยกล่อมจนได้ ยังไงซะเมืองพัน
อสู รก็กาํ ลังอยูใ่ นภาวะวิกฤต คนที่ทนไม่ได้กบั ทุกสิ่ งที่เกิดขึ้นย่อม
ไม่ทิ้งโอกาสที่ได้มา
“ข้าจะกลับห้อง ช่วยให้คนเอานํ้าร้อนมาให้ดว้ ย” จวินอู๋เสี ยพูด
“ได้สิ” เซียงป้ารับคําพร้อมกับหัวเราะ
เมื่อจวินอู๋เสี ยเดินออกไป นางไม่ลืมบอกให้ชิงหยูเอากระต่ายหูใหญ่
ไปที่หอ้ งของนางด้วย
ตอนที่ 980 ต่ ายน้ อยน่ าร้ ากกกก (2)
อาการบาดเจ็บของกระต่ายหูใหญ่คงที่แล้ว และอาการสาหัสเดียวที่
มีตอนนี้กค็ ือการเสี ยเลือดมาก จวินอู๋เสี ยเอากระต่ายหูใหญ่กลับไปที่
ห้องของนางและใช้ผา้ เช็ดหน้าชุบนํ้าอุ่นเช็ดเลือดออกจากขนของ
มันอย่างช้า ๆ
แม้วา่ นางจะรังเกียจกลิ่นคาวเลือด แต่ตอนนี้นางไม่รู้สึกขยะแขยง
เลยแม้แต่นอ้ ย นางจัดการกับบาดแผลมากมายบนตัวของกระต่ายหู
ใหญ่อย่างเงียบ ๆ และอดทน
งานแบบนี้เป็ นสิ่ งที่นางเคยทํามาหลายครั้งแล้ว ก่อนที่นางจะเข้า
องค์กรนางอยูท่ ี่คลินิคสัตวแพทย์ ที่นนั่ นางได้ดึงชีวติ สัตว์เล็ก ๆ
กลับมาจากขอบเหวแห่งความตายมากมายนับไม่ถว้ น
เนื่องจากนางรังเกียจมนุษย์ จวินอู๋เสี ยจึงสบายใจกว่าเมื่ออยูก่ บั สัตว์
ตัวเล็ก ๆ พวกนั้น แม้วา่ นางต้องทนกับกลิ่นคาวเลือดทั้งวัน แต่นางก็
ไม่แสดงความหงุดหงิดใส่ พวกมันเลยสักนิด
“ท่านคิดจะเก็บมันไว้เหรอ?” หลังจากเจ้าแมวดําแน่ใจว่าไม่มีมนุษย์
คนอื่นอยูแ่ ถวนั้นแล้ว มันก็ถามขึ้นด้วยภาษามนุษย์ มันกระโจนขึ้น
ไปบนโต๊ะและเดินวนรอบกระต่ายหูใหญ่ที่นอนหายใจรวยริ นอยู่
บนโต๊ะ กระต่ายหูใหญ่น้ นั น่ารักกว่ากระต่ายธรรมดาทัว่ ไป แต่
เนื่องจากมีบาดแผลมากมายทัว่ ตัวของมัน ตอนนี้มนั จึงดูน่ากลัว
มากกว่าน่ารัก
“ไม่รู้ซิ” จวินอู๋เสี ยส่ ายหน้า นางพาเจ้ากระต่ายหูใหญ่กลับมา แต่นาง
ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น นางแค่คิดว่าถ้านางปล่อยให้มนั ตายที่
นัน่ มันจะทําให้นางรู ้สึกไม่สบายใจมาก
“กระต่ายตัวนี้อ่อนแอเปราะบางเกินไป ถ้ามันอยูก่ บั ท่าน ก็จะเป็ น
อันตรายสําหรับตัวมัน ถ้าท่านไม่คิดจะเก็บมันเอาไว้ ก็น่าจะเอามัน
ให้ฉูหลิงเย่นะ เด็กผูห้ ญิงน่าจะชอบ” เจ้าแมวดําแนะนําอย่างรวดเร็ ว
เกินไปนิด เนื่องจากพอคิดถึงเรื่ องนี้…ก็ดูเหมือนมันจะแยกนายหญิง
ของมันออกจากคํานิยามของ ‘เด็กผูห้ ญิง’ โดยไม่รู้ตวั
จวินอู๋เสี ยส่ งเสี ยง ‘อืม’ ออกมา ในที่สุดนางก็เช็ดเลือดออกจากตัว
ของกระต่ายหูใหญ่เสร็ จ ที่ลานประลองสัตว์อสู รนางมีเวลาและ
ทรัพยากรจํากัด จึงทําได้แค่จดั การรักษาขั้นเบื้องต้นไปก่อน ตอนนี้
นางกลับห้องแล้วจึงเริ่ มการรักษาในส่ วนที่จาํ เป็ นที่สุด
หลังจากชําระล้างฆ่าเชื้อโรคที่บาดแผลแล้ว นางก็ให้เจ้ากระต่ายกิน
ยาเพิม่ เลือด แม้วา่ อาการบาดเจ็บของมันจะสาหัส แต่โชคดีที่อวัยวะ
ภายในของมันยังไม่เสี ยหาย ไม่ง้ นั มันจะลําบากกว่านี้มาก
จวินอู๋เสี ยทําการรักษาอยูพ่ กั ใหญ่จนเสร็ จ นางวางกระต่ายหูใหญ่ลง
บนเตียงอย่างเบามือก่อนจะเดินไปล้างกลิ่นคาวเลือดออกจากตัว
ท่านแบะแบะที่ได้กินใบบัวเข้าไปรู ้สึกพอใจมากและเดินเล่นไปรอบ ๆ
ห้องอย่างสบายอารมณ์ เมื่อมันเห็นกระต่ายหูใหญ่ที่จวินอู๋เสี ยอุม้ มา
วางไว้ที่เตียง มันก็ไม่พอใจขึ้นมาทันทีเพราะรู ้สึกว่าที่ของมันถูกบุกรุ ก
“ตึก ตึก ตึก”
สี่ เท้าของมันวิง่ ไปที่ขา้ งเตียงอย่างรวดเร็ วแล้วกระโดดขึ้นเตียงไป
ทันที
เจ้าแมวดําทิ้งตัวลงบนโต๊ะและมองการทําตัวแบบ ‘เด็ก ๆ ’ ของท่าน
แบะแบะอย่างขี้เกียจพลางแกว่งหางไปมาช้า ๆ
“แบะ!” ท่านแบะแบะยืนบนเตียงและมองกระต่ายหูใหญ่พลางส่ ง
เสี ยงร้องออกมาอย่างโกรธเคืองเพื่อไล่เจ้ากระต่ายให้ออกไป
[นี่เป็ นอาณาเขตของท่านแบะแบะนะ! เจ้ากระต่ายเกเร ออกไป!]
เจ้ากระต่ายหูใหญ่ที่สลบอยูไ่ ม่ได้ยนิ เสี ยงของท่านแบะแบะ มันนอน
นิ่งไม่ขยับเขยื้อนอยูต่ รงนั้นอย่างสงบ
ท่านแบะแบะยิง่ โกรธหนักขึ้น มันยกเท้าขึ้นตั้งใจจะผลักกระต่ายหู
ใหญ่ออกจากอาณาเขตของมัน
เจ้าแมวดําที่เฝ้าดูการกระทําของท่านแบะแบะอยูเ่ ห็นเข้าก็กระโดด
ขึ้นไปบนเตียงทันที
จวินอู๋เสี ยลงแรงไปมากเพื่อช่วยเจ้ากระต่ายให้รอดชีวติ ถ้าเจ้าแกะโง่
นี่ฆ่ามัน จวินอู๋เสี ยได้ระเบิดแน่!
แต่เจ้าแมวดํายังช้าไปก้าวหนึ่ง เท้าเล็ก ๆ ของท่านแบะแบะแตะไปที่
ตัวของกระต่ายหูใหญ่แล้ว และท่านแบะแบะก็ไม่ได้ใช้แรงอะไร
มากมายเพราะมันแค่ตอ้ งการให้เจ้ากระต่ายลงไปจากเตียงของมัน
เท่านั้น…
ตอนที่ 981 ต่ ายน้ อยน่ าร้ ากกกก (3)
มันเห็นร่ างนุ่มนิ่มของเจ้ากระต่ายหูใหญ่ถูกท่านแบะแบะดันลงไป
จากเตียง
เจ้าแมวดํารี บกระโจนเข้าไปเพื่อจะรับมัน!
แต่ขณะที่เจ้าแมวดําเกือบจะถึงตัวกระต่ายหูใหญ่ เจ้ากระต่ายที่หมด
สติกล็ ืมตาขึ้นทันที!
ดวงตาคู่น้ นั ทําให้เจ้าแมวดําตกตะลึง
เดิมทีดวงตาของเจ้ากระต่ายเป็ นสี ดาํ สนิท แต่ที่สะท้อนอยูใ่ นดวงตา
ของเจ้าแมวดําตอนนี้เป็ นดวงตาสี แดงกํ่าเหมือนเลือด!
ดวงตาสี แดงเลือดไม่เหมือนตาของกระต่ายธรรมดาทัว่ ไปที่มีแค่สี
แดงจาง ๆ สี แดงนี้ดูเหมือนสี ของเลือดไม่มีผดิ !
“ปู้ ~” เสี ยงเล็ก ๆ ดังลอดออกจากปากของเจ้ากระต่ายหูใหญ่ ร่ างนุ่ม
นิ่มของมันตีลงั กากลางอากาศลงมายืนตรงหน้าท่านแบะแบะ!
ดวงตาสี เลือดคู่น้ นั หรี่ ลงเล็กน้อย ขนสี ขาวเหมือนหิ มะบนตัวของ
มันเริ่ มเปลี่ยนเป็ นสี แดงเลือดด้วยความเร็ วที่มองเห็นได้ดว้ ยตาเปล่า
“แบะ!!”
[ตกใจเกือบตายแน่ะ! เจ้ากระต่ายเกเรโกรธแล้ว!]
ท่านแบะแบะก้าวถอยหลังพร้อมกับมองเจ้ากระต่ายหูใหญ่ที่
เปลี่ยนเป็ นสี แดงเลือดทั้งตัว
“ปู้!” กระต่ายหูใหญ่จอ้ งท่านแบะแบะพร้อมกับตั้งท่าเหมือนจะ
โจมตี
เจ้าแมวดําตะลึงไป มันไม่เข้าใจสิ่ งที่เห็นตรงหน้า กระต่ายที่ถูกกัด
จนเกือบตายเปลี่ยนสี ได้ดว้ ยเหรอ!? แถมยังแสดงความก้าวร้าวใส่
สัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ดว้ ย! นี่มนั เกิดเรื่ องบ้าอะไรขึ้นกันเนี่ย?
เมื่อท่านแบะแบะรู ้สึกถึงความเป็ นศัตรู อย่างรุ นแรงที่ถูกปล่อย
ออกมาจากเจ้ากระต่ายหูใหญ่ ตัวของมันก็เริ่ มเปล่งแสงออกมาจาง ๆ
เตรี ยมพร้อมที่จะกลับร่ างเดิมได้ทุกเมื่อ
ขณะที่การต่อสู ร้ ะหว่างแกะที่ไม่ธรรมดาตัวหนึ่งกับกระต่ายแปลก ๆ
อีกตัวหนึ่งกําลังจะเริ่ มขึ้น จวินอู๋เสี ยที่อาบนํ้าเสร็ จแล้วก็เข้ามาใน
ห้องพร้อมผมที่ยงั เปี ยกอยู่ ดวงตาใสกระจ่างของนางจ้องเขม็งไปที่
เจ้าโง่ท้ งั สองตัวที่กาํ ลังมองกันด้วยสายตาเป็ นศัตรู บนเตียงของนาง
เมื่อนางเห็นขนสี แดงเลือดของกระต่ายหูใหญ่ ดวงตาคู่น้ นั ก็มีแวว
ประหลาดใจ
“พวกเจ้าทําอะไรกัน?” จวินอู๋เสี ยถามอย่างเย็นชา
เมื่อได้ยนิ เสี ยงของเจ้านาย ท่านแบะแบะก็สะกดพลังที่ห่อหุม้
รอบตัวมันลงทันทีและรี บวิง่ สุ ดชีวติ เข้าไปหาจวินอู๋เสี ย
“แบะ แบะ แบะ แบะ!!!” มันส่ งเสี ยงร้องออกมาอย่างร้อนรน จวินอู๋
เสี ยหันไปมองเจ้าแมวดําที่ยงั นัง่ อึ้งอยู่ รอให้มนั แปลให้นางฟัง
เจ้าแมวดําตกตะลึงอยูอ่ ีกครู่ หนึ่งก่อนจะได้สติกลับมา
“เจ้าแกะโง่บอกว่า เจ้ากระต่ายนี่แย่งของมัน บอกว่ามันเป็ นกระต่าย
เลว ให้ท่านโยนมันทิ้งไป”
ท่านแบะแบะที่ฟังเจ้าแมวดําแปลพยักหน้ารัว ๆ
[เจ้ากระต่ายน่ารังเกียจ!]
[มันไม่ได้แย่งแค่อาหาร มันจะแย่งคนให้อาหารของมันด้วย!]
จวินอู๋เสี ยมองกระต่ายหูใหญ่ที่ขนกลายเป็ นสี แดงเลือดทั้งตัวอย่าง
งุนงง
ดวงตาสี แดงเลือดของเจ้ากระต่ายหูใหญ่มองไปที่จวินอู๋เสี ย แววตา
เป็ นศัตรู หายไปเปลี่ยนเป็ นอ่อนโยนขึ้นมาทันที
“ปู้…” กระต่ายหูใหญ่กระโดดด้วยขาหลังมายืนตรงขอบเตียง มันยืด
ตัวขึ้นเล็กน้อย อุง้ เท้าหน้าเล็ก ๆ กอดหูใหญ่ ๆ ของมันเอาไว้ดว้ ย
ความอายพร้อมกับแอบมองจวินอู๋เสี ย
“มันพูดว่าอะไร?” จวินอู๋เสี ยถามเจ้าแมวดําพร้อมกับขมวดคิ้ว
เจ้าแมวดําตอบด้วยนํ้าเสี ยงจํายอม “มันเรี ยกท่านว่าเจ้านาย”
“…” จวินอู๋เสี ยพูดไม่ออก
ปฏิกิริยาของท่านแบะแบะยิง่ งุ่นง่านมากขึ้น
“แบะ!!”
[เจ้าเรี ยกใครว่าเจ้านาย!? นี่คือคนให้อาหารของท่านแบะแบะนะ!
เจ้ากระต่ายเกเร! ออกไปนะ!]
“ปู้” เจ้ากระต่ายสี แดงเลือดตัวสัน่ มันซ่อนใบหน้าเล็ก ๆ ของมันไว้
ด้านหลังหู เหมือนเด็กสาวขี้อาย มันเงยหน้าขึ้นน้อย ๆ และก้มหลบ
ทันทีอย่างเหนียมอายพร้อมกับแอบดูจวินอู๋เสี ย
“…” จวินอู๋เสี ยไม่สามารถหาคําใดมาอธิบายความรู ้สึกของนาง
ตอนนี้ได้
สัตว์อสู รระดับตํ่าสามารถมีอารมณ์ซบั ซ้อนแบบนี้ได้ดว้ ยเหรอ?
ตอนที่ 982 กระต่ ายโลหิต (1)
สัตว์อสู รอย่างกระต่ายหูใหญ่หาไม่ยากและพบเห็นได้ทวั่ ไป
แต่จวินอู๋เสี ยไม่เคยเจอหรื อได้ยนิ ว่ากระต่ายหูใหญ่มีจิตสํานึกใน
ระดับสู ง และ…
ยิง่ เปลี่ยนสี ได้ยงิ่ ไม่เคยได้ยนิ !
“เจ้าเป็ นกระต่ายหูใหญ่จริ ง ๆ หรื อ?” จวินอู๋เสี ยถามพร้อมกับมอง
เจ้ากระต่ายขี้อาย เมื่อกี้นางเห็นกับตาตัวเองว่ากระต่ายตัวนี้กาํ ลังจะสู ้
กับท่านแบะแบะซึ่งในตอนนั้นท่านแบะแบะได้ปลดปล่อยตัวตน
ของสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ท่ียงิ่ ใหญ่ออกมาแล้วด้วย ถ้าเป็ นสัตว์
อสู รระดับตํ่าตัวอื่น พวกมันจะตกอยูใ่ นสภาพเดียวกับสัตว์อสูรที่
ลานประลองพวกนั้นทันที นัน่ คือหวาดกลัวหนักมากจนสลบเหมือด
แต่กระต่ายหูใหญ่ตวั นี้ไม่ใช่แค่ไม่กลัวเลยสักนิด แต่มนั ยังตั้งท่าจะสู ้
กับท่านแบะแบะโดยไม่ยอมถอยอีกด้วย ถ้าจวินอู๋เสี ยยังคิดว่ามัน
เป็ นแค่กระต่ายหูใหญ่ธรรมดา นางก็คงโง่สุด ๆ
“ปู้?” ดวงตาสี แดงเลือดของเจ้ากระต่ายดูงุนงงมาก
“มันถามว่ากระต่ายหูใหญ่คืออะไร?” เจ้าแมวดําแปลให้จวินอู๋เสี ยฟัง
อย่างไม่มีทางเลือก ตอนนี้เจ้าแมวดําแน่ใจแล้วว่าไอ้ตวั เล็กที่ดู
เหมือนกระต่ายหูใหญ่น้ นั ไม่ใช่กระต่ายหูใหญ่อย่างแน่นอน!
“เจ้าคืออะไร?” จวินอู๋เสี ยหรี่ ตา
“ปู้…ปู้…” กระต่ายหูใหญ่ส่ายหัวอย่างกระมิดกระเมี้ยน แล้วฝังหน้า
ลงกับหูใหญ่ ๆ ของมัน
ปากของเจ้าแมวดําเริ่ มกระตุก
“มันไม่รู้”
“…….” จวินอู๋เสี ยพูดไม่ออก เจ้ากระต่ายที่ดูเหมือนกระต่ายหูใหญ่
เป๊ ะตัวนี้ความจริ งแล้วคืออะไรกันแน่? แม้แต่ตวั มันเองก็ยงั ไม่รู้ เมื่อ
ความคิดเช่นนั้นผุดขึ้นมา นางก็มองไปที่ท่านแบะแบะที่กาํ ลังเอาตัว
ถูขานางไม่หยุด จากปฏิกิริยาของท่านแบะแบะ ดูเหมือนมันจะรู ้ตวั
จริ งของเจ้ากระต่ายหูใหญ่ตวั นี้
“มันเป็ นสัตว์อสู รอะไร?” จวินอู๋เสี ยถามท่านแบะแบะ
ท่านแบะแบะกระพริ บตาและมองไปที่กระต่ายหูใหญ่ก่อนจะหัน
กลับไปมองจวินอู๋เสี ย
“แบะ แบะ แบะ แบะ แบะ…”
ทันใดนั้นมันส่ งเสี ยงร้องรัวมาเป็ นชุดอย่างเจ็บปวดรวดร้าว เจ้าแมว
ดําฟังคําพูดยืดยาวนัน่ แล้วก็ตระหนักขึ้นมาได้ถึงความรุ นแรงของ
สถานการณ์ที่ข้ ึนอยูก่ บั การแปลที่ถูกต้องของมันในครั้งนี้!
เมื่อท่านแบะแบะจบการรัว ‘แบะแบะ’ อย่างยืดยาวของมัน เจ้าแมว
ดําก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ครั้งหนึ่ง
“ให้ขา้ เรี ยบเรี ยงแปบนึงนะ…” ข้อมูลมันมากเกินไป ไม่สามารถพูด
ทุกอย่างจบได้ในทีเดียว
จวินอู๋เสี ยรออยูพ่ กั หนึ่ง เจ้าแมวดําก็เริ่ มพูด
“เจ้าแกะโง่บอกว่าเจ้ากระต่ายตัวนี้เรี ยกว่ากระต่ายโลหิ ต ถึงมันจะดู
เหมือนกระต่ายหูใหญ่มาก แต่เนื้อแท้พวกมันต่างกันอย่างสิ้ นเชิง
ตอนเล็ก ๆ กระต่ายโลหิ ตจะเหมือนกับกระต่ายหูใหญ่มาก หลังจาก
ผ่านประสบการณ์หลัง่ เลือดครั้งแรกแล้วเท่านั้นความสามารถแต่
กําเนิดของมันถึงจะตื่นขึ้น กระต่ายโลหิ ตเป็ นสัตว์อสู รระดับผู ้
พิทกั ษ์ เจ้าแกะโง่เคยเจอตัวหนึ่ง มันก็เลยจํากลิ่นของกระต่ายโลหิ ต
ได้ กระต่ายโลหิ ตตัวนี้น่าจะยังเล็กมาก ความสามารถแต่กาํ เนิดของ
มันก็ยงั ไม่ตื่น มันก็เลยถูกเข้าใจผิดว่าเป็ นกระต่ายหูใหญ่และถูกเอา
มาเลี้ยงเป็ นสัตว์เลี้ยง แต่การต่อสู น้ องเลือดที่ลานประลองทําให้พลัง
ของมันตื่นขึ้นอย่างกะทันหัน…” เจ้าแมวดําพูดวกไปวนมาโดยไม่
สามารถเข้าประเด็นได้เนื่องจากในหัวมันเบลอไปหมด มันอดคิดกับ
ตัวเองไม่ได้ สัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ที่ยงั ไม่โตเต็มวัยถูกสัตว์อสู ร
ระดับตํ่ากัดจนเกือบตาย มันเห็นบาดแผลที่กระต่ายโลหิ ตได้มาครั้ง
นั้นแล้วก็คิดว่า ถ้าจวินอู๋เสี ยไม่ช่วยชีวติ มัน ต่อให้พลังมันตื่นขึ้นมาก็
ไม่มีประโยชน์อะไร
ในฐานะสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ กระบวนการตื่นของกระต่ายโลหิ ต
นั้นแปลกมากจริ ง ๆ
ความจริ งแล้ว ลูกกระต่ายโลหิ ตมักจะมีกระต่ายโลหิ ตที่โตเต็มวัย
คอยดูแลอยู่ ก่อนที่ความสามารถแต่กาํ เนิดของมันจะตื่นขึ้น พ่อแม่
ของมันจะคอยปกป้องลูกของพวกมันให้ปลอดภัย เหตุการณ์แบบนี้
แทบจะไม่เกิดขึ้นเลย แต่ไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้นกับกระต่ายโลหิ ตตัวนี้
ทําให้มนั ถูกมนุษย์จบั มาและเลี้ยงมันในฐานะกระต่ายหูใหญ่
ตอนที่ 983 กระต่ ายโลหิต (2)
ลูกกระต่ายโลหิ ตก่อนที่พลังมันจะตื่นขึ้นนั้นแทบไม่แตกต่างกับ
กระต่ายหูใหญ่เลยยกเว้นว่ามันมีพลังชีวติ ที่แข็งแกร่ งกว่า แต่ในด้าน
พลังต่อสู น้ ้ นั เหมือนกัน มันถึงได้ถูกสัตว์อสู รระดับตํ่าเล่นงานเอาซะ
ยับเยินแบบนี้
หลังจากจวินอู๋เสี ยช่วยชีวติ มัน เลือดที่ไหลออกมาทําให้ความสามารถ
แต่กาํ เนิดของมันตื่นขึ้น เผยให้เห็นลักษณะที่กระต่ายโลหิ ตควรจะเป็ น
จวินอู๋เสี ยมองเจ้ากระต่ายโลหิ ตขี้อายอย่างอึ้ง ๆ เมื่อดูที่ขนสี แดง
เลือดของมันแล้ว สี หน้าของนางก็เปลี่ยนไป เป็ นเพราะสัญชาตญาณ
สัตวแพทย์เก่าของนางทําให้นางทนดูกระต่ายน้อยขนปุยตายอย่าง
น่าสงสารต่อหน้าต่อตาไม่ได้ นางไม่เคยคิดเลยว่ากระต่ายที่นาง
ไม่ได้ต้ งั ใจเอากลับมาจะมีเบื้องหลังใหญ่โตขนาดนี้
ถ้าเจ้าของเดิมของกระต่ายโลหิ ตตัวนี้รู้วา่ กระต่ายหูใหญ่ที่เขา
พยายามทุกวิธีเพื่อฆ่ามัน ความจริ งแล้วเป็ นสัตว์อสู รระดับผู ้
พิทกั ษ์…เขาได้เสี ยใจจนกระอักเลือดแน่
“ปู้ ~” กระต่ายโลหิ ตเหลือบตาขึ้นแอบดูจวินอู๋เสี ย
หลังจากพลังของมันตื่นขึ้นมา จิตสํานึกรับรู ้ของมันก็ถูกปลุกขึ้น
ด้วย มันจําสิ่ งที่เกิดขึ้นในอดีตได้ท้ งั หมดและรู ้วา่ มันถูกเจ้าของเดิม
ทอดทิ้ง และจวินอู๋เสี ยได้ช่วยชีวติ มันเอาไว้
มันจําได้อย่างชัดเจนว่าจวินอู๋เสี ยอุม้ มันไว้และรักษาบาดแผลมัน
อย่างระมัดระวัง ความอบอุ่นที่มนั รู ้สึกได้จากอ้อมแขนนั้นทําให้
สัตว์อสู รที่จิตสํานึกเพิ่งตื่นขึ้นตัวนี้ไว้วางใจจวินอู๋เสี ยเพิ่มขึ้นมาก
อย่างรวดเร็ ว
เหมือนลูกนกที่เพิ่งฟักออกมาจากไข่
เมื่อเห็นสายตาคาดหวังที่เจ้ากระต่ายโลหิ ตมองมาที่นางอย่างน่า
สงสาร จวินอู๋เสี ยก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา
ถ้ามันเป็ นแค่กระต่ายหูใหญ่ธรรมดา นางจะดูแลมันจนกว่าจะหายดี
แล้วส่ งมันให้ฉูหลิงเย่เลี้ยงไว้
แต่มนั ไม่ได้ง่ายอย่างนั้นสําหรับสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์
ถึงมันจะยังเด็กมาก แต่พลังและสติปัญญาของสัตว์อสู รผูพ้ ิทกั ษ์ได้
เริ่ มตื่นขึ้นแล้ว ถ้ามันไม่เต็มใจ ต่อให้นางยืนกรานจะส่ งมันให้ฉูหลิง
เย่ เจ้ากระต่ายตัวนี้กจ็ ะไม่อยูท่ ี่นนั่ นานแน่นอน และมันอาจจะทําให้
คนบาดเจ็บจากความโกรธของมันได้
และเมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังนัน่ จวินอู๋เสี ยก็เห็น
ภาพเดียวกันกับในป่ าประลองวิญญาณตอนที่ท่านแบะแบะแอบย่อง
ตามนางมาตลอดเวลา
สายตาแบบนั้น นางอดคิดไม่ได้จริ ง ๆ ว่ามันเหมือนกันมาก
เห็นได้ชดั ว่ากระต่ายโลหิ ตตัวนี้ได้ตดั สิ นใจแล้วว่าจะเกาะติดนาง!
ท่านแบะแบะจับได้วา่ เจ้ากระต่ายโลหิ ตตั้งใจจะทําอะไร มันถึงได้
คัดค้านจวินอู๋เสี ยอย่างมากไม่ให้ช่วยกระต่ายโลหิ ตตัวนี้ มันกลัวว่า
ถ้ากระต่ายโลหิ ตตัวนี้ตื่นขึ้น มันจะต้องแย่งคนให้อาหารของมันกับ
เจ้ากระต่าย!
“แบะ แบะ แบะ!!”
[ท่านแบะแบะไม่ยอมให้กระต่ายอย่างเจ้าอยูท่ ี่นี่หรอก! คนให้อาหาร
เป็ นของท่านแบะแบะ! เจ้ากระต่ายเลว! ออกไปจากที่นี่ซะ!]
ท่านแบะแบะยืนอยูข่ า้ งหน้าจวินอู๋เสี ยและประกาศสิ ทธิความเป็ น
เจ้าของต่อหน้ากระต่ายโลหิ ต
“ปู้!” เจ้ากระต่ายโลหิ ตที่โดนท่านแบะแบะท้าทายก็โผล่หวั ออกมา
จากหูของมัน ดวงตาสี แดงเลือดคู่น้ นั หรี่ ลง รู ม่านตาเปลี่ยนเป็ น
เส้นตรง
“ถ้าพวกเจ้ากล้าสู ก้ นั ก็ออกไปซะทั้งคู่เลย” ทันทีที่สตั ว์อสู รน่ารักทั้ง
สองตัวตั้งท่าจะสู ก้ นั เสี ยงเย็นชาของจวินอู๋เสี ยก็ดงั ขึ้น
ท่านแบะแบะครางออกมาอย่างน่าสงสาร ส่ วนกระต่ายโลหิ ตก็เอา
อุง้ เท้ากอดหูไว้พร้อมกับตัวสัน่
“ปู้”
[ต่ายน้อยเป็ นเด็กดี เจ้านายอย่าทิ้งต่ายน้อย]
เจ้าแมวดําแปลออกมาแบบคําต่อคํา จวินอู๋เสี ยไม่อยากพูดอะไรอีก
จากที่เคยเห็นความหัวรั้นของท่านแบะแบะมาก่อน นางรู ้วา่ ถ้านาง
พยายามไล่เจ้ากระต่ายโลหิ ตออกไป โอกาสสําเร็ จก็แทบเป็ นศูนย์!
ตอนที่ 984 กระต่ ายโลหิต (3)
กระต่ายโลหิ ตเกาะติดจวินอู๋เสี ยซะแล้ว หลังจากรู ้สึกว่าอันตราย
หายไปแล้ว สี แดงเลือดบนขนของมันก็จางลงและกลับสู่ ร่างของ
กระต่ายหูใหญ่ ดูเหมือนมันจะรู ้วา่ จวินอู๋เสี ยอ่อนโยนกับมันในร่ าง
ของกระต่ายหูใหญ่ที่อ่อนแอมากกว่า พอเจ้ากระต่ายโลหิ ตเปลี่ยน
ร่ างกลับแล้วมันก็ทิ้งตัวลงบนเตียง แล้วมองไปที่จวินอู๋เสี ยอย่างน่า
สงสารพลางส่ งเสี ยงครางเบา ๆ เสี ยงนั้นเบามากจนคนฟังรู ้สึกปวดใจ
จวินอู๋เสี ยไม่อยากใส่ ใจมัน แต่เมื่อเห็นเจ้ากระต่ายน้อยที่ดูอ่อนแอ
ทั้งตัวเต็มไปด้วยบาดแผล ใจของนางก็อ่อนลง นางเดินไปที่เตียง
เพื่ออุม้ มันขึ้นมาแล้วตรวจสอบบาดแผลอย่างละเอียด เมื่อแน่ใจว่า
มันไม่เป็ นไรนางก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ปู้” ดูเหมือนมันจะสัมผัสได้วา่ จวินอู๋เสี ยใจอ่อนลงแล้ว เจ้ากระต่าย
โลหิ ตซุกตัวมุดเข้าไปในอ้อมแขนของจวินอู๋เสี ยมากขึ้น ท่าทางของ
มันทั้งขี้อายและเจ้ามารยา
“แบะ!”
[ไอ้กระต่ายเจ้าเล่ห์!]
ท่านแบะแบะยิง่ เกลียดมันมากขึ้น มันกัดฟันด้วยความโกรธ
มันอยากคัดค้านจวินอู๋เสี ยแต่พอถูกมองด้วยสายตาเย็นชามันก็เดิน
หลบออกไปอย่างเศร้าสร้อย มันรู ้สึกหดหู่มากจนเอาเขาของมันชน
กับขาเก้าอี้ซ้ าํ ๆ
[คนให้อาหารมีรักใหม่แล้ว! คนให้อาหารไม่รักท่านแบะแบะแล้ว!
ท่านแบะแบะเสี ยใจ!]
จวินอู๋เสี ยมองท่านแบะแบะแผลงฤทธิ์อย่างจนปัญญา นางถอนใจ
และเดินเข้าไปอุม้ มันขึ้นมา ให้เจ้ากระต่ายขี้อายอยูท่ างซ้าย และท่าน
แบะแบะจอมเอาแต่ใจอยูท่ างขวา ตอนนี้จวินอู๋เสี ยเป็ นคนเดียวที่
รู ้สึกอับจนหนทาง
เทียบกับท่านแบะแบะแล้ว เจ้าแมวดําตัวน้อยใจเย็นกว่ามาก
มันรู ้อยูแ่ ล้วว่านายหญิงของมันไม่มีภูมิตา้ นทานสิ่ งมีชีวติ ขนปุย
น่ารัก ๆ มันเดาได้ทนั ทีวา่ จะเกิดเรื่ องแบบนี้ข้ ึนเมื่อรู ้วา่ เจ้ากระต่าย
โลหิ ตคือสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์
ถ้ามันเป็ นกระต่ายหูใหญ่ธรรมดาทัว่ ไป จวินอู๋เสี ยก็อาจจะกังวล
เรื่ องที่ตอ้ งใจสลายเมื่อมันตายและตัดสิ นใจไม่เอามันไว้ แต่เมื่อมัน
เป็ นสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ที่แข็งแกร่ งสามารถปกป้องตัวเองได้…
แถมยังเป็ นกระต่ายที่ข้ ีอายและเจ้ามารยาเจ้าเล่ห์ดว้ ย จวินอู๋เสี ยไม่มี
โอกาสต้านทานมันได้เลย
เจ้าแมวดําแกว่งหางไปมาอย่างใจเย็น ทันใดนั้นมันก็คิดขึ้นได้วา่ งาน
แปลของมันเพิ่มขึ้นด้วยนี่นา
ในอนาคตอันใกล้น้ ี มันคงกลายเป็ นผูเ้ ชี่ยวชาญในการแปลคําพูด
สัตว์อสู รได้อย่างแน่นอน!
เจ้ากระต่ายนั้นยังเป็ นเพียงลูกสัตว์อสู รที่ยงั ไม่โตเต็มวัย และมันเพิ่ง
เจอกับประสบการณ์เฉียดตายมา ดังนั้นมันจึงอ่อนแอมาก จวินอู๋เสี ย
อุม้ มันไว้แปบเดียวมันก็หลับสนิทราวกับว่ามันไว้ใจเจ้าของคนใหม่
ของมันอย่างเต็มที่จึงไม่ระวังตัวอะไรเลย
จวินอู๋เสี ยไม่มีทางเลือกนอกจากพาสัตว์อสู รทั้งสองตัวกับเจ้าแมวดํา
ไปนอนที่เตียง นางค่อย ๆ ผล็อยหลับไป รอคอยการท้าชิงกับอันดับ
ที่หนึ่งของลานประลองสัตว์อสู รที่จะเริ่ มขึ้นในวันพรุ่ งนี้
…………….
ในตึกนํ้าค้างเหมันต์ ชางกวนเมี่ยวกําลังดันลูกแกะเข้าไปในกรง
เหล็กขนาดใหญ่ พ่อของเขาเป็ นรองหัวหน้าตึกนํ้าค้างเหมันต์ เขายัง
เด็กจึงยังไม่ถูกจัดเข้าเป็ นสมาชิกของนํ้าค้างเหมันต์อย่างเป็ นทางการ
ทันใดนั้นคนรับใช้ในบ้านก็นาํ ข่าวมาบอกเขา
หลังจากชางกวนเมี่ยวรู ้ข่าว เขาก็เลิกคิว้ ขึ้นข้างหนึ่ง
“มีคนกล้าท้าชิงกับลิงดําหกแขนของข้าจริ ง ๆ หรื อ?” ชางกวน
เมี่ยวประหลาดใจมาก ถึงสัตว์อสู รของเขาจะเป็ นสัตว์อสู รระดับตํ่า
แต่มนั ก็แข็งแกร่ งมากพอที่จะเทียบได้กบั สัตว์อสู รระดับกลาง
หลังจากชนะ 10 รอบติดต่อกัน เขาก็ทา้ ชิงกับอันดับหนึ่งของลาน
ประลองทันทีและยึดตําแหน่งที่หนึ่งมาได้ต้ งั แต่ตอนนั้น แม้วา่ จะมี
คนมาท้าชิงกับเขาอยูบ่ า้ ง แต่สตั ว์อสู รทุกตัวที่ข้ ึนมาบนเวทีก็
กลายเป็ นอาหารของลิงดําหกแขนของเขา และในช่วงสองสามวันมา
นี้กไ็ ม่มีใครกล้าท้าชิงกับเขาอีกแล้ว
“แล้วเจ้าคนตาบอดคราวนี้มนั เป็ นใครล่ะ?” หลินเฟิ งเดินออกมาจาก
ในบ้าน เขาบังเอิญมาคุยชางกวนเมี่ยวและได้ยนิ เรื่ องการท้าชิงนี้เข้า
ตอนที่ 985 ผู้ท้าชิง (1)
ชางกวนเมี่ยวอายุนอ้ ยกว่าหลินเฟิ งแค่ 1 ปี และจากความสัมพันธ์
ระหว่างพ่อของพวกเขาทําให้ท้ งั สองคนรู ้จกั กันมาตั้งแต่เล็ก
ลิงดําหกแขนที่ชางกวนเมี่ยวเป็ นเจ้าของก็คือของขวัญจากหลินชิว
พ่อของหลินเฟิ ง ที่ให้มาในวันเกิดครบรอบ 10 ปี ของชางกวน
เมี่ยวตอนที่สตั ว์อสู รตัวนี้ยงั แบเบาะ ชางกวนเมี่ยวเลี้ยงดูมนั มาอย่าง
ระมัดระวังจนตอนนี้มนั แข็งแกร่ งจนไม่มีใครเทียบ พอมันโตเต็มวัย
ชางกวนเมี่ยวก็พามันไปที่ลานประลองสัตว์อสู รทันทีเพื่ออวดความ
แข็งแกร่ งของมัน
“รายงานคุณชายหลิน เป็ นผูเ้ ยาว์ที่รองหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธ ชิงหยู
พาไปขอรับ ดูเหมือนเด็กคนนั้นจะชื่อจวินเสี ย ไม่ใช่คนของเมือง
พันอสู รขอรับ” คนรับใช้รายงานไปตามตรง
พอได้ยนิ ชื่อของจวินเสี ย ตาของหลินเฟิ งก็ลุกวาบด้วยความโกรธ
ทันที
“เป็ นมันนี่เอง”
“ทําไมเหรอ? พี่หลินรู ้จกั คน ๆ นี้ดว้ ยเหรอ?” ชางกวนเมี่ยวถามเมื่อ
สังเกตเห็นปฏิกิริยาของหลินเฟิ ง
หลินเฟิ งหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “รู ้จกั ซิ จะไม่รู้ได้ยงั ไง? จําที่
ข้าเล่าให้ฟังได้ไหม? ตอนที่ฉูหลิงเย่กลับมาพวกเขาพาผูเ้ ยาว์คนหนึ่ง
กลับมาด้วย เจ้าหมอนัน่ ชื่อจวินเสี ย!”
ชางกวนเมี่ยวประหลาดใจ เขารู ้ดีวา่ หลินเฟิ งคิดยังไงกับฉูหลิงเย่ แต่
หลินชิว พ่อของหลินเฟิ งได้ยา้ ยไปสวามิภกั ดิ์กบั ท่านยาย ความสัมพันธ์
ของเขากับเจ้าเมืองพันอสู ร ฉูเหวินห่าว จึงแย่ลงโดยไม่ได้ต้ งั ใจ ซึ่ ง
ทําให้ฉูหลิงเย่ทาํ ตัวห่างจากหลินเฟิ งไปด้วย
“คนเดียวกันเหรอ? งั้นก็ดีซิ” ชางกวนเมี่ยวหัวเราะอย่างดูถูก เขาตบ
บ่าหลินเฟิ งแล้วพูดว่า “ในเมื่อเจ้าเด็กนี่ไม่ใช่คนของเมืองพันอสู ร
เราก็ไม่ตอ้ งมีมารยาทอะไรกับมัน มันกล้ามาท้าทายลิงดําหกแขน
ของข้า รอให้ถึงพรุ่ งนี้ก่อนเถอะ ข้าจะทําให้มนั รู ้ซ้ ึ งเอง ข้าว่าในนี้ขา้
จะไม่ให้อาหารเจ้าลิงดําดีกว่า พรุ่ งนี้มนั จะได้กินสัตว์อสู รของเจ้า
เด็กนัน่ จะได้แก้แค้นมันให้เจ้าด้วย”
หลินเฟิ งพยักหน้า เขาไม่ชอบจวินเสี ยเลยสักนิด โดยเฉพาะอย่างยิง่
หลังจากที่เขาเห็นว่าฉูหลิงเย่อ่อนโยนแค่ไหนตอนที่นางพูดกับจวิน
เสี ย ภาพนั้นทิ่มแทงใจเขา
“ข้าเคยได้ยนิ มาว่าที่ลานประลองสัตว์อสู รบางครั้งสัตว์อสู รก็ทาํ ร้ายคน
ด้วย เป็ นความจริ งรึ เปล่า?” สี หน้าของหลินเฟิ งดูชวั่ ร้ายขึ้นมาทันควัน
ชางกวนเมี่ยวเข้าใจความหมายของเขาทันที เขารี บตอบว่า “ตอนที่
การประลองรุ นแรงเกินไปและสัตว์อสู รตื่นเต้นมากเกินไปจากกลิ่น
คาวเลือด บางตัวมันก็จะสู ญเสี ยการควบคุมได้ ถ้าเกิดคลัง่ ขึ้นมาพวก
มันก็จะวิง่ ออกจากเวทีไปทําร้ายคนได้ นัน่ เป็ นสถานการณ์ที่อาจจะ
เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน”
หลินเฟิ งยิม้ ร้ายพลางมองไปที่ลิงดําหกแขนที่ถูกขังอยูใ่ นกรง
ลิงดําหกแขนมีขนาดตัวที่ใหญ่มาก ใหญ่กว่าชายที่โตเต็มที่ถึงสอง
เท่า มันแขนที่แข็งแรงกํายําหกข้างซึ่ งสามารถฉีกกระชากเสื อได้เลย
“ดีมาก ในเมื่อคนมันไม่รู้จกั ที่ต่าํ ที่สูง งั้นก็ให้มนั รู ้ถึงอํานาจของ
เมืองพันอสู รซะ มันคิดว่าใครก็จะมาอวดเก่งที่ลานประลองสัตว์อสู ร
ของเมืองพันอสู รได้ง้ นั รึ ไง” หลินเฟิ งพ่นลมออกมาดูถูก
ชางกวนเมี่ยวพูดพร้อมหัวเราะ “เจ้ารอฟังข่าวดีพรุ่ งนี้ได้เลย ข้า
รับรองว่าข้าจะให้เจ้าลิงดําของข้าดูแลเจ้าจวินเสี ยนัน่ ให้ดีเชียวล่ะ
เราจะได้เห็นหมอนัน่ กลัวจนขี้ข้ ึนสมอง แล้วข่าวก็จะไปถึงฉูหลิงเย่
ข้าสงสัยจริ ง ๆ ว่านางจะเห็นคนขี้ขลาดหลงตัวเองอย่างมันมีอะไรดี
อยูอ่ ีก”
คําพูดของชางกวนเมี่ยวเรี ยกเสี ยงหัวเราะดังลัน่ จากหลินเฟิ ง
“งั้นข้าต้องพึ่งเจ้าแล้วล่ะ”
“วางใจเถอะ ข้าจัดการให้เอง”
หลินเฟิ งพยักหน้า ดวงตาทอประกายชัว่ ร้าย
สําหรับฉูหลิงเย่ เขาแน่ใจว่าเขาจะได้แต่งงานกับนางแน่ ไม่วา่ ใครจะ
มาเป็ นคู่แข่งกับเขา เขาจะไม่ยอมทนแน่
หลังจากผูเ้ ยาว์ท้ งั สองคนวางแผนกันว่าจะแสดงโชว์พรุ่ งนี้ยงั ไง
พวกเขาก็ไม่ห่วงลิงดําหกแขนอีก แต่เดินกอดคอกันออกไปกินข้าว
เย็น ตลอดอาหารมื้อนั้นพวกเขาช่วยกันคิดว่าพรุ่ งนี้จะทําให้จวินเสี ย
อับอายอย่างไรดี!
ตอนที่ 986 ผู้ท้าชิง (2)
เช้าตรู่ วนั รุ่ งขึ้น จวินอู๋เสี ยพาท่านแบะแบะไปที่ลานประลองสัตว์
อสู รกับนาง
เจ้ากระต่ายโลหิ ตอยากตามไปด้วยแต่ร่างกายของมันยังไม่หายดี
แม้วา่ มันจะร้องครางอย่างน่าสงสารและพยายามทําท่าทางให้น่ารัก
ที่สุดเท่าที่ทาํ ได้ แต่จวินอู๋เสี ยก็ไม่ใจอ่อน มันจึงไม่มีทางเลือก
นอกจากยืนมองตามหลังจวินอู๋เสี ยอยูข่ า้ งหน้าต่างพร้อมกับโบกอุง้
เท้าเล็ก ๆ ของมันอย่างเศร้าสร้อย
ชิงหยูรออยูข่ า้ งนอกประตูตึกเพลิงพิโรธพักใหญ่แล้ว เมื่อเขาเห็น
จวินเสี ยเดินมาก็ถอนหายใจอย่างจนปั ญญา
“ท่านจะไปจริ ง ๆ หรื อขอรับ?”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า
เมื่อไม่มีทางเลือก ชิงหยูกถ็ อนหายใจอีกครั้งและพาจวินเสี ยไปที่
ลานประลองสัตว์อสู รอย่างจํายอม
เมื่อวานนี้ท่านแบะแบะสร้างความเร้าใจเอาไว้ที่ลานประลองสัตว์
อสู ร และนัน่ ดึงดูดความสนใจของคนจํานวนมาก เมื่อทุกคนได้ยนิ
ว่าสัตว์อสู รระดับตํ่าตัวเล็ก ๆ หาญกล้าท้าชิงกับลิงดําหกแขนที่เป็ น
อันดับหนึ่งของลานประลอง คนมากมายก็มารวมตัวกันที่ลาน
ประลองสัตว์อสู ร
ลิงดําหกแขนไม่เคยแพ้ในการประลองที่ผา่ นมา และไม่มีสตั ว์อสู ร
ตัวใดทําร้ายมันได้เลยสักตัว พูดได้วา่ ในหมู่สตั ว์อสู รระดับตํ่า
ทั้งหมดลิงดําหกแขนจัดได้วา่ เป็ นสัตว์อสู รที่ดุร้ายและแข็งแกร่ ง
ที่สุด ทุกคนที่เคยเห็นความดุร้ายของลิงดําหกแขนมาก่อนอยากจะ
เห็นความโหดของลิงดําหกแขนอีกครั้ง
แม้วา่ จะเป็ นเวลาเช้าตรู่ แต่ลานประลองสัตว์อสู รก็เต็มไปด้วยผูค้ น
มากมายแล้ว นอกจากพวกเขาจะสนใจลิงดําหกแขนแล้ว พวกเขาก็
ยังสงสัยเรื่ องของท่านแบะแบะของจวินเสี ยมาก
เมื่อวานทุกคนได้เห็นการต่อสู ข้ องท่านแบะแบะแล้ว และจนบัดนี้
พวกเขาก็ยงั ไม่สามารถเข้าใจได้วา่ แกะที่ดูนุ่มนิ่มบอบบางตัวนั้น
แข็งแกร่ งมากขนาดไหนถึงได้ทาํ ให้สตั ว์อสู รมากมายกลัวจนหนีไป
ได้แค่ส่งเสี ยงร้องออกมาครั้งเดียว
ชางกวนเมี่ยวไปถึงลานประลองสัตว์อสู รตั้งแต่เช้า เขายืนอยู่
ด้านล่างเวทีประลองกับกลุ่มเพื่อนที่ลอ้ มรอบตัวเขา ส่ วนเจ้าลิงดํา
หกแขนตัวใหญ่เกินไปจึงไม่ได้รับอนุญาตให้พาเข้ามาก่อนการ
ประลองจะเริ่ มต้นขึ้น
“เขามาแล้ว! คนนั้นไง! นัน่ แหละจวินเสี ย!” ผูเ้ ยาว์ที่อยูข่ า้ ง ๆ ชางก
วนเมี่ยวเห็นจวินเสี ยที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับชิงหยู เขาจึงตะโกน
บอกชางกวนเมี่ยวทันที
ชางกวนเมี่ยวหรี่ ตามองไปที่ผเู ้ ยาว์ที่ทา้ ชิงเขา เพียงมองครั้งเดียวเขา
ก็ยมิ้ ออกมาอย่างดูถูกทันที
เขาเห็นผูเ้ ยาว์ที่ดูอ่อนแอบอบบางคนหนึ่งอุม้ แกะขนปุยที่ดูเหมือน
ไม่มีความสามารถในการโจมตีเลยสักนิดเข้ามาในลานประลอง ชาง
กวนเมี่ยวมองคู่ต่อสู ข้ องเขาแบบประเมินโดยไม่ปิดบังเลยแม้แต่
น้อย สายตาของเขามองจวินอู๋เสี ยตั้งแต่หวั จรดเท้า เห็นได้ชดั เลยว่า
เขากําลังดูถูกเหยียดหยามคู่ต่อสู ข้ องเขา
“สัตว์อสู รของเขาคือตัวที่เขาอุม้ อยูน่ นั่ รึ เปล่า?” ชางกวนเมี่ยวถามขึ้น
พร้อมกับมองท่านแบะแบะในอ้อมแขนของจวินเสี ย
“ตัวนั้นแหละ”
“ฮะ! เจ้าตัวนั้นชนะการประลอง 10 รอบติดต่อกันได้ดว้ ยเหรอ!?
หมายความว่าเมื่อวานนี้มีแต่พวกหมากับแมวมาประลองรึ ไง?” ชา
งกวนเมี่ยวพบว่ามันน่าขํามากที่สตั ว์อสู รแบบนั้นสามารถชนะการ
ประลอง 10 รอบติดต่อกันได้ เรื่ องนี้รู้ถึงไหนอายถึงนัน่
“สัตว์อสู รตัวนั้นแปลกมากเลยนะ ข้าได้ยนิ จากคนที่มาประลองเมื่อ
วานว่าสัตว์อสู รนัน่ ไม่ได้ทาํ อะไรเลยนอกจากร้องใส่ คู่ต่อสู ห้ นึ่งครั้ง
แล้วพวกสัตว์อสู รก็พากันกลัวหัวหดทุกตัวจนไม่สามารถต่อสู ไ้ ด้”
“หื อ? หมายความว่ายังไง? ร้องครั้งเดียวก็ทาํ ให้สตั ว์อสูรกลัวเนี่ย
นะ? ข้าไม่เห็นรู ้เลยว่ามีสตั ว์อสู รแบบนั้นอยูใ่ นโลกด้วย” ชางกวน
เมี่ยวรู ้สึกว่าข่าวลือพวกนั้นไม่น่าเชื่อถือ ถ้าได้ชยั ชนะมาง่ายแบบนั้น
งั้นลานประลองสัตว์อสู รก็ควรถูกปิ ดซะ! ใครจะสนว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อวานนี้ ชางกวนเมี่ยวไม่ยอมเชื่อสิ่ งที่ทุกคนพูด
ตอนที่ 987 ผู้ท้าชิง (3)
ตอนที่ชางกวนเมี่ยวประเมินจวินเสี ย ชิงหยูกส็ งั เกตเห็นสายตาไม่
เป็ นมิตรของเขาเช่นกัน
“นัน่ คือคู่ต่อสู ข้ องท่านวันนี้ ชางกวนเมี่ยว พ่อของเขา ชางกวน
เหยียน คือรองหัวหน้าตึกนํ้าค้างเหมันต์ เจ้าเด็กนัน่ สนิทสนมกับ
หลินเฟิ งมาก ตอนที่ท่านมาถึงเมืองนี้เมื่อวาน ท่านได้พบกับหลิน
เฟิ งแล้วจําได้ไหมขอรับ? หลินเฟิ งนิสยั ไม่ดีนกั และดูจากท่าทีของ
ชางกวนเมี่ยว หลินเฟิ งต้องพูดบางอย่างกับเขาแน่ถึงทําให้ชางกวน
เมี่ยวรู ้สึกเกลียดท่าน” ชิงหยูเตือนจวินเสี ยอย่างระมัดระวัง พูดตาม
ตรงเขาไม่อยากให้จวินเสี ยลงประลองเลยจริ ง ๆ
แต่จวินเสี ยกลับสัน่ หัว
“ไม่ตอ้ งสนใจเขาหรอก”
ถ้าเป็ นศัตรู งั้นก็ไม่มีอะไรให้ใส่ ใจ ก็แค่จดั การพวกเขาซะก็พอแล้ว
เมื่อเห็นว่าจวินเสี ยไม่สนใจ ชิงหยูกไ็ ม่พดู อะไรอีกและยืนอยู่
ด้านข้างแบบเงียบ ๆ
เกิดเสี ยงซุบซิบขึ้นทัว่ ทั้งลานประลอง ทุกคนรอให้การประลอง
เริ่ มต้นขึ้น
ไม่นานการประลองก็กาํ ลังจะเริ่ ม ตามกฎแล้วจวินเสี ยกับชางกวน
เมี่ยวต้องนําสัตว์อสู รของพวกเขาขึ้นไปบนเวที
จวินอู๋เสี ยอุม้ ท่านแบะแบะและวางมันลงบนเวทีประลอง เทียบกับ
ปฏิกิริยามึนงงและสับสนเมื่อวานนี้ วันนี้พดู ได้เลยว่าท่านแบะแบะ
ให้ความร่ วมมือดีมาก
ตอนนี้มนั เข้าใจว่าตราบใดที่มนั ยืนอยูใ่ นนี้และส่ งเสี ยงร้องใส่ สตั ว์
อสู รตัวอื่นสักสองสามครั้ง มันจะได้กินใบบัวเป็ นรางวัล ดังนั้นวันนี้
ท่านแบะแบะจึงเป็ นฝ่ ายเริ่ มก่อน พอมันถูกวางลงบนเวที มันก็กา้ ว
เท้าออกเดินไปที่กลางเวที ดูกระตือรื อร้นและตื่นเต้นมาก
ท่านแบะแบะพาร่ างอ้วนกลมของมันเดินโยกไปมาอย่างน่ารัก แต่
ความน่ารักเช่นนั้นเมื่ออยูบ่ นเวทีประลองของลานประลองสัตว์อสู ร
ก็ไม่ได้เป็ นที่ชื่นชมของผูค้ นที่นนั่ มันแค่ทาํ ให้พวกเขารู ้สึกว่าสัตว์
อสู รตัวนั้นดูไม่เก่งเอาซะเลย แล้วมันชนะรวด 10 รอบติดต่อกันได้
ยังไง?
ด้วยความสงสัยผูค้ นจึงพากันมาดูการประลองของท่านแบะแบะกับ
ลิงดําหกแขนในวันนี้ หวังว่าจะสามารถเห็นกลอุบายเบื้องหลังมัน
ได้ เพราะไม่วา่ พวกเขาจะคิดเท่าไรก็ไม่อาจเข้าใจได้วา่ แกะโง่แบบ
นั้นจะมีความสามารถอะไรได้อย่างไร
ชางกวนเมี่ยวมองท่านแบะแบะที่ยนื อยูบ่ นเวทีแล้วก็ยมิ้ มุมปากอย่าง
เหยียดหยาม เขาพยักหน้าให้พรรคพวกของเขา แล้วพวกเขาก็เดินไป
ตรวจสอบลิงดําหกแขนทันที
ลิงดําหกแขนถูกขังอยูใ่ นกรงเหล็กขนาดใหญ่ พวกเขาดึงมันมาที่เวที
ด้วยรถลาก พอมันเข้ามาที่นนั่ กลิ่นคาวเลือดในลานประลองก็
กระตุน้ มันให้ตื่นเต้นขึ้นมาทันที เมื่อวานชางกวนเมียวไม่ได้ให้
อาหารมัน มันจึงมาประลองด้วยความหิ ว สัญชาตญาณสัตว์ป่าของ
มันพุง่ ขึ้นเพราะกลิ่นคาวเลือดและความหิ ว
“กรร! กรร!”
ลิงดําหกแขนในกรงเหล็กตื่นเต้นกระวนกระวาย มันเขย่ากรงและ
ร้องคํารามเสี ยงดัง ตัวมันใหญ่เหมือนภูเขาลูกย่อม ๆ ทุกครั้งที่มนั
กระแทกกรงก็ดูเหมือนทั้งลานประลองแทบจะสัน่ สะเทือน
“กรร!!” ลิงดําหกแขนเห็นเจ้าลูกบอลตัวน้อยบนเวทีประลอง ร่ างสี
ขาวเหมือนหิ มะนัน่ ดูเหมือนลูกแกะที่มนั กินอยูท่ ุกวัน ทันทีที่มนั
เห็นท่านแบะแบะ ทุกอณูในร่ างของมันก็ดูเหมือนจะกรี ดร้องเพื่อให้
มันกินคู่ต่อสู ไ้ ม่วา่ มันจะเป็ นใครก็ตาม!
เสี ยงคํารามดังลัน่ ไปทัว่ ลานประลองจนทุกคนที่นนั่ เริ่ มปวดแก้วหู
ผูช้ มมองเจ้าลิงดําหกแขนที่กาํ ลังเกรี้ ยวกราดอย่างตื่นเต้น อารมณ์
ของพวกเขาถูกปลุกเร้าขึ้นถึงขีดสุ ดจากความเกรี้ ยวกราดของเจ้าลิง
ดําหกแขน!
การได้เห็นสัตว์อสูรที่แกร่ งที่สุดในหมู่สตั ว์อสูรระดับตํ่าอย่างลิงดํา
หกแขนทําให้ตื่นเต้นจนแทบคลัง่ จริ ง ๆ !
ตอนที่ 988 ผู้ท้าชิง (4)
เมื่อลิงดําหกแขนถูกปล่อยออกจากกรง มันก็พงุ่ ออกมาทันที ร่ างอัน
สู งตระหง่านของมันยืนอยูบ่ นเวทีประลอง ดูยงิ่ ใหญ่ทรงพลัง แขน
ทั้งหกของมันใหญ่เท่าต้นขาคน มันทุบอกตัวเองเพื่อระบายความ
เกรี้ ยวกราดภายใน!
“กรร! กรร!”
เสี ยงเจ้าลิงดําหกแขนทุบอกตัวเองนั้นได้ยนิ อย่างชัดเจน มันอ้าปาก
แยกเขี้ยววิง่ ไปรอบ ๆ เวทีประลองพร้อมกับคํารามเสี ยงดัง อวด
ความน่าเกรงขามของตัวเอง
ทั้งลานประลองสัตว์อสู รพากันเงียบ เสี ยงคํารามของลิงดําหกแขน
ทําให้ทุกคนลืมตัวและตื่นเต้นมาก
ท่านแบะแบะยืนนิ่งอยูก่ บั ที่ ดูรังเกียจเจ้าลิงดําหกแขนที่คาํ รามก่อน
การประลองจะเริ่ มขึ้นมาก
ท่านแบะแบะคิดว่ามันจะไม่ทาํ โง่ ๆ แบบเจ้าลิงนัน่ คํารามก่อนเริ่ ม
การประลองไม่ทาํ ให้มนั ได้กินอะไร ทําอะไรโง่ ๆ
ท่านแบะแบะยืนนิ่งอย่างสงบอยูก่ บั ที่โดยไม่ขยับเลยแม้แต่นอ้ ย
เสี ยงคํารามของลิงดําหกแขนไม่ได้ส่งผลอะไรกับมัน พวกผูช้ มรอบ
ด้านตื่นเต้นมากขึ้นเรื่ อย ๆ จากการคํารามไม่หยุดของเจ้าลิงดํา ไม่มี
ใครสนใจท่านแบะแบะเลยสักนิด
ชางกวนเมี่ยวมองสภาพที่ยอดเยีย่ มของเจ้าลิงดําหกแขนอย่างพอใจ
ช่วงสองสามวันที่ผา่ นมาไม่มีใครกล้าท้าชิงกับมันเลย ลิงดําหกแขน
จึงไม่มีโอกาสปรากฏตัวทําให้ชางกวนเมี่ยวหมดโอกาสอวดความ
ยิง่ ใหญ่ของสัตว์อสู รของเขา ตอนนี้มีคนมารนหาที่ตายถึงหน้าประตู
แล้วทําไมเขาจะต้องยั้งมือด้วย?
ชางกวนเมี่ยวเบนสายตาไปมองจวินเสี ยด้วยแววตาชัว่ ร้าย เขาไม่
เห็นว่าเจ้าเด็กน้อยนัน่ จะดีกว่าหลินเฟิ งตรงไหน
หลินเฟิ งเป็ นลูกชายของหัวหน้าตึกนํ้าค้างเหมันต์ ตําแหน่งและ
สถานะของเขาในเมืองพันอสู รเป็ นสิ่ งที่คนมากมายในเมืองพันอสู ร
ไม่อาจเทียบเคียงได้ เจ้าจวินเสี ยคนนี้ไม่ได้เป็ นคนของเมืองพันอสู ร
ด้วยซํ้า และดูจากการแต่งตัวของมันก็ไม่ได้มาจากครอบครัวที่มี
ชื่อเสี ยงอะไร เด็กน้อยที่ดูธรรมดาเช่นนั้นคิดจะมาจีบฉูหลิงเย่แข่ง
กับหลินเฟิ ง ช่างน่าหัวเราะ
ในที่สุดเสี ยงระฆังเริ่ มการประลองก็ดงั ขึ้น!
แขนอันกํายําทั้งหกของลิงดําหกแขนวางตั้งกับพื้น ตัวของมันเอียง
มาข้างหน้าเล็กน้อยพร้อมกับมองไปที่แกะน้อยไร้พิษภัยที่รอคอยให้
มันสังหารด้วยแววตามุ่งร้าย
ทัว่ ทั้งลานประลองพากันส่ งเชียร์ดงั ลัน่ พวกเขาตื่นเต้นที่มีโอกาสได้
เห็นการสังหารโหดที่กาํ ลังจะเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา!
แต่วา่ ท่านแบะแบะยังคงยืนนิ่งอยูก่ บั ที่เหมือนที่มนั ทํามาตลอดทั้ง
10 รอบ เท้าของมันไม่ยกขึ้นจากพื้นเลยสักนิด
ทันใดนั้นเจ้าลิงดําก็พงุ่ ตรงเข้าใส่ ท่านแบะแบะ! แขนทั้งหกของมัน
ทิ้งรอยลึกเอาไว้บนพื้นเวทีประลองขณะที่มนั พุง่ เข้ามาด้วย
พละกําลังทั้งหมดที่มี!
ทุกคนคิดว่าในที่สุดตํานานของท่านแบะแบะก็จะจบลงตรงนี้โดยไม่
มีขอ้ สงสัยใด ๆ เลย
และแล้วท่านแบะแบะก็อา้ ปาก…
“แบะ”
เจ้าลิงดําหกแขนที่กาํ ลังพุง่ ตรงเข้ามาด้วยความเกรี้ ยวกราดเต็มที่ได้
ยินเสี ยงร้องที่ไร้พษิ ภัยจากท่านแบะแบะเพียงครั้งเดียว ทันใดนั้นมัน
ก็เหมือนถูกสายฟ้าฟาดเข้าใส่ ร่ างที่พงุ่ ตรงเข้ามากระตุกทันที แขน
ทั้งหกข้างขุดลงไปในพื้นอย่างแรงตามทางที่มนั มา!
“แครก แครก แครก!”
เสี ยงนิ้วของเจ้าลิงดําหกแขนที่เจาะลึกลงไปบนพื้นเวทีประลองดัง
ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มนั พยายามตะเกียกตะกายหยุดตัวเองจาก
การพุง่ เข้าไปแบบเต็มแรงของมัน!
ฝ่ ามือของมันถึงกับเนื้อฉีกจากแรงเสี ยดทานที่ลากไปตามพื้น!
ร่ างใหญ่โตของมันครู ดไปกับพื้นจนหยุดได้ในที่สุด มันหยุดห่าง
จากท่านแบะแบะประมาณครึ่ งเมตร!
“อ๊าวววว!! อ๊าวววว!!” เจ้าลิงดําหกแขนร้องโหยหวนออกมาเป็ นชุด
อย่างน่าสงสาร
ตอนที่ 989 ผู้ท้าชิง (5)
จากเสี ยงร้องโหยหวนนั้นดูเหมือนลิงดําหกแขนจะสติแตก มันหัน
กลับและตะเกียกตะกายหนีไปโดยไม่เหลียวกลับมามองเลยสักครั้ง
มันหนีเร็ วยิง่ กว่าตอนที่พงุ่ เข้ามาเมื่อกี้ซะอีก!
ชางกวนเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขารี บวิง่ เข้าไปที่ขา้ งเวทีและ
ตะโกนใส่ ลิงดําหกแขนด้วยความโกรธว่า “เจ้าทําอะไรน่ะ!?
กลับไปเดี๋ยวนี้! เจ้า…”
แต่ทว่า ก่อนที่ชางกวนเมี่ยวจะทันได้พดู ให้จบประโยค เขาก็เห็นลิง
ดําหกแขนกระโจนลงจากเวทีเข้าใส่ เขาด้วยความกลัวจนคุมไม่ได้!
ชางกวนเมี่ยวใจหายวาบ! เขาหลบไม่ทนั เจ้าลิงดําตกลงทับบนตัว
เขา!
ลิงดําหกแขนนั้นมีร่างกายที่หนักที่สุดในหมู่สตั ว์อสู รระดับตํ่า และ
เนื่องจากชางกวนเมี่ยวเลี้ยงมันมาอย่างดี ความแข็งแกร่ งและพลัง
ของมันจึงขึ้นไปอยูใ่ นระดับที่น่าสะพรึ งกลัว เมื่อถูกลิงดําหกแขน
ของตัวเองพุง่ เข้าใส่ ชางกวนเมี่ยวก็พบว่าโลกตรงหน้ามืดไป และ
ในวินาทีที่เขากระแทกพื้น เขาก็ได้ยนิ เสี ยงกระดูกหักอย่างชัดเจน!
“อ๊ากกกกก!!!”
เจ้าลิงดําหกแขนที่หวาดกลัวอย่างหนักนอนตัวสัน่ อยูบ่ นร่ างของชา
งกวนเมี่ยว ใบหน้าของเขาซีดเผือด!
เขาโดนลิงดําหกแขนพุง่ เข้าใส่ จนกระดูกซี่โครงหักหลายท่อน ความ
เจ็บปวดทําให้เหงื่อออกจนชุ่ม เขาถูกตรึ งอยูก่ บั พื้น ไม่กล้าขยับ
เขยื้อนเลยแม้แต่นอ้ ย
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันทําให้ผชู ้ มทุกคนในลานประลองพากันเงียบ
กริ บ พวกเขามองตาโตด้วยความตกใจ ภาพที่เหมือนเมื่อวานฉายซํ้า
อีกครั้งต่อหน้าพวกเขา!
ลิงดําหกแขนที่สูงใหญ่และดุร้ายน่ากลัวตกอยูใ่ นสภาพที่สตั ว์อสู ร
ตัวอื่น ๆ เมื่อวานนี้เป็ นทุกตัว นัน่ คือวิง่ หนีดว้ ยความหวาดกลัวจน
สิ้ นสติจากเสี ยงร้องเพียงครั้งเดียวของท่านแบะแบะ
นัน่ ทําให้ทุกคนที่อดั แน่นกันอยูใ่ นลานประลองตกใจมาก
ลิงดําหกแขนเป็ นสัตว์อสู รที่แข็งแกร่ งที่สุดในหมู่สตั ว์อสู รระดับตํ่า
แล้วจู่ ๆ มันกลายเป็ นตัวไร้ประโยชน์แบบนี้ได้ยงั ไง?
ทุกคนสามารถเห็นได้วา่ เมื่อกี้ลิงดําหกแขนแข็งแรงมากและเต็มไป
ด้วยพละกําลัง แต่ตอนนี้มนั เกาะอยูก่ บั ชางกวนเมี่ยวที่นอนอยูบ่ น
พื้นแน่น ไม่รู้สึกตัวเลยว่าชางกวนเมี่ยวกําลังร้องครวญครางอยูด่ ว้ ย
ความเจ็บปวด มันดูหวาดกลัวจนไม่มีสติและไม่ยอมขยับออกจาก
ตรงนั้นเลย
ชิงหยูอา้ ปากค้าง ตอนนั้นเองที่เขาตระหนักได้วา่ เขาน่าหัวเราะมาก
แค่ไหนที่เป็ นห่วงจวินเสี ย
ไม่สงสัยเลยว่าทําไมจวินเสี ยถึงได้ไม่กงั วลเรื่ องคู่ต่อสู เ้ ลยสักนิด เขา
ต้องคิดไว้อยูแ่ ล้วว่าผลจะออกมาเป็ นแบบนี้!
จวินเสี ยเดินอย่างใจเย็นไปที่ขา้ งเวที ท่านแบะแบะเดินเข้ามาหานาง
อย่างมีความสุ ข หางเล็ก ๆ ด้านหลังกระดิกดุ๊กดิ๊กอย่างตื่นเต้น สี
หน้าเหมือนกําลังขอคําชม
จวินอู๋เสี ยเหลือบตามองผูต้ ดั สิ นที่กาํ ลังตะลึงงันอยู่
“ประกาศผลได้แล้ว”
ชายคนนั้นได้สติจากคําเตือนของจวินอู๋เสี ย สายตาที่เขามองท่าน
แบะแบะเต็มไปด้วยความกลัว
ชัยชนะเมื่อวานเขายังหาข้ออ้างมาอธิบายให้ตวั เองได้ แต่วนั นี้
กระทัง่ ลิงดําหกแขนที่เหนือกว่าสัตว์อสู รระดับตํ่าทุกตัวก็ยงั ถูกเจ้า
แกะน้อยทําให้หวาดกลัวจนเสี ยสติ เขาไม่เข้าใจจริ ง ๆ ว่าเจ้าแกะนัน่
เป็ นสัตว์อสู รชนิดใด
“ผูช้ นะการแข่งรอบนี้คือ…จวินเสี ย…” ชายคนนั้นประกาศเสี ยงดัง
ไม่มีเสี ยงอะไรให้ได้ยนิ ในลานประลองเลย ยังไม่มีใครได้สติจาก
ความตกใจ
จวินอู๋เสี ยพาท่านแบะแบะมาที่นี่และลบล้างความเชื่อและหลักการ
ทั้งหมดที่ผคู ้ นมีต่อสัตว์อสู ร
จวินอู๋เสี ยอุม้ ท่านแบะแบะลงจากเวที หลังจากชนะลิงดําหกแขน
แล้ว ท่านแบะแบะก็ข้ ึนครองตําแหน่งอันดับหนึ่งของลานประลอง
สัตว์อสู ร!
เมื่อบรรลุเป้าหมายที่มาที่นี่แล้ว จวินอู๋เสี ยก็ไม่อยากอยูท่ ี่นนั่ ต่ออีก
นางอุม้ ท่านแบะแบะและออกจากลานประลองสัตว์อสูรไปทันที
ตอนที่ 990 ก่อนผืนนํา้ สงบ (1)
สุ ดท้ายชางกวนเมี่ยวก็ถูกพรรคพวกหามกลับไป เขาวางแผนกับ
หลินเฟิ งว่าจะสร้างอุบตั ิเหตุให้จวินเสี ยเจ็บตัวอย่างไรดี…แต่มนั ดัน
ย้อนกลับมาที่เขา คนที่ถูกลิงดําหกแขนทําให้บาดเจ็บไม่ใช่จวินเสี ย
แต่เป็ นตัวเขาเอง!
หลังจากชางกวนเมี่ยวถูกหามกลับไปที่บา้ น หลินเฟิ งก็ได้ข่าวอย่าง
รวดเร็ ว เขาอยูท่ ี่บา้ นรอฟังข่าวดีวา่ ชางกวนเมี่ยว ‘ดูแล’ จวินเสี ย
อย่างไร แต่เขาไม่คิดว่าจะได้ข่าวชางกวนเมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส
แทน
ตอนที่คนรับใช้มาแจ้งข่าวเขา หลินเฟิ งก็ตะลึงงันไป เขาไม่เคยคิด
ฝันว่าเรื่ องจะออกมาเป็ นแบบนี้ เขารี บไปที่บา้ นของชางกวนเมี่ยว
ทันทีและเมื่อเขาเห็นชางกวนเมี่ยวที่นอนนิ่งหน้าซีดขาวอยูบ่ นเตียง
ในใจเขาก็สบั สนปั่นป่ วน
“ทําไมกลายเป็ นแบบนี้ได้ล่ะ? เกิดอะไรขึ้น?” หลินเฟิ งตะโกน
ออกมาด้วยความตกใจ จวินเสี ยควรเป็ นคนที่ได้รับบาดเจ็บไม่ใช่
เหรอ? แล้วคนต้องนอนอยูบ่ นเตียงกลายเป็ นชางกวนเมี่ยวได้ยงั ไง?
อาการบาดเจ็บของชางกวนเมี่ยวสาหัสมาก ลิงดําหกแขนพุง่ เข้าใส่
เขาด้วยพละกําลังทั้งหมดของมัน เขาไม่ทนั ระวังตัวและโดน
กระแทกเข้าไปเต็มแรง กระดูกซี่โครงหัก 5 ท่อน และกระดูกที่หกั ก็
ทําให้อวัยวะภายในเสี ยหายหนัก หมอ 2 คนมาถึงบ้านเพื่อรักษาชา
งกวนเมี่ยวแล้ว และคนรับใช้จากบ้านเขาก็ไปเชิญเฟิ งเย่หยางให้มา
ที่นี่แล้ว
จากอาการของเขา ถ้าพวกเขาไม่เชิญเฟิ งเย่หยางมาช่วยรักษา ชาง
กวนเมี่ยวคงต้องเสี ยชีวติ จริ ง ๆ แน่
ผูเ้ ยาว์ทุกคนที่ไปลานประลองสัตว์อสู รกับชางกวนเมี่ยวตัวสัน่ ด้วย
ความกลัวจากเสี ยงตะโกนของหลินเฟิ ง
“เรา…เราก็ไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้น…ตอนแรกทุกอย่างก็ไปได้ดี เจ้าลิง
ดําหกแขนกําลังจะฉีกเนื้อสัตว์อสู รตัวนั้นเป็ นชิ้น ๆ แต่จู่ ๆ สัตว์อสู ร
ตัวนั้นก็ส่งเสี ยงร้องออกมาครั้งหนึ่ง แล้วเจ้าลิงดําก็บา้ ไปเลย! มัน
หันกลับแล้วพุง่ เข้าใส่ คุณชายกวน” ผูเ้ ยาว์คนหนึ่งอธิบาย
ไม่มีใครคิดว่าเรื่ องจะกลายเป็ นแบบนี้
ถ้าชางกวนเมี่ยวไม่ได้คิดจะทําร้ายใคร เขาจะไม่ทาํ ให้เจ้าลิงดําหก
แขนหิ วตลอดทั้งคืนก่อนการประลอง ตอนนั้นลิงดําหกแขนถูก
กระตุน้ และเกรี้ ยวกราดมาก มันจึงใช้ความเร็ วสู งสุ ด ด้วยความเร็ ว
ขนาดนั้น ไม่ตอ้ งพูดถึงผูเ้ ยาว์แบบชางกวนเมี่ยวเลย ต่อให้เป็ น
ผูใ้ หญ่ตวั โต ๆ ถ้าถูกกระแทกเข้าไปแบบนั้นผลที่ออกมาก็ไม่ดีไป
กว่านี้
“สัตว์อสู รตัวไหน? ของจวินเสี ยเหรอ?” หลินเฟิ งหรี่ ตา
ผูเ้ ยาว์ตรงหน้าเขาพยักหน้าทันที
“เป็ นไปไม่ได้!” หลินเฟิ งตะโกนใส่ พวกเขาทันที “ลิงดําหกแขน
เหนือกว่าสัตว์อสู รระดับตํ่าทุกตัว แล้วจะสัตว์อสู รระดับตํ่าจะ
เอาชนะมันได้ยงั ไง? แถมยังแค่ส่งเสี ยงร้องครั้งเดียวเนี่ยนะ!?
เป็ นไปไม่ได้เด็ดขาด!”
“แต่…เรื่ องมันเป็ นแบบนั้นจริ ง ๆ …”
หลินเฟิ งพูดว่า “เรื่ องนี้มนั ทะแม่ง ๆ ! มันต้องมีอะไรสักอย่างแน่!
เป็ นไปไม่ได้ที่สตั ว์อสู รของจวินเสี ยจะชนะด้วยพลังของมันเอง มัน
ต้องใช้วธิ ีการชัว่ ช้าอะไรสักอย่าง!” หลินเฟิ งไม่เชื่อว่าลิงดําหกแขน
จะถูกจัดการได้ง่ายดายขนาดนั้น
“ใช่แล้วขอรับ! ต้องเป็ นแบบนั้นแน่! พวกเราก็คิดอยูว่ า่ มันแปลก ๆ
สัตว์อสู รนัน่ ตัวเล็กจะตาย แถมมันก็ไม่ได้ทาํ อะไรเลยด้วย ต้องเป็ น
กลอุบายอะไรสักอย่างแน่” พวกผูเ้ ยาว์พยักหน้ากันรัว ๆ พวกเขา
รู ้สึกว่าชัยชนะของท่านแบะแบะนั้นแปลกมากจริ ง ๆ
หลินเฟิ งขบกรามแน่น
[เจ้าจวินเสี ยนัน่ …ตอนแรกก็มาจีบผูห้ ญิงของเขา ตอนนี้ยงั จะใช้
วิธีการสกปรกทําร้ายชางกวนเมี่ยวที่เป็ นเหมือนพี่นอ้ งของเขาอย่าง
สาหัสอีก! เขาไม่มีวนั ปล่อยเรื่ องนี้ไปแน่!]
“ไปหาท่านพ่อของข้ากัน! ไปบอกเขาว่ามีคนใช้วธิ ีสกปรกในลาน
ประลองสัตว์อสู ร ให้เขาส่ งคนไปตรวจสอบสัตว์อสู รของจวินเสี ย!”
ตอนที่ 991 ก่อนผืนนํา้ สงบ (2)
ตอนที่จวินอู๋เสี ยกลับไปที่ตึกเพลิงพิโรธ เซี ยงป้าเพิ่งออกไปทํางาน
ตามหน้าที่ของเขา ในฐานะหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธเขาไม่สามารถทํา
ตัวตามสบายเหมือนคนอื่น ๆ ได้ ตอนนั้นมีเพียงชิงหยูคนเดียวที่
สามารถพาจวินอู๋เสี ยไปเดินเที่ยวรอบเมืองพันอสู รได้ แต่ชิงหยูพบ
อย่างรวดเร็ วว่านอกจากลานประลองสัตว์อสู รแล้ว ดูเหมือนจวินเสี ย
จะไม่สนใจสถานที่อื่น ๆ เลยสักนิด
พอกลับไปถึง จวินเสี ยก็กลับไปที่หอ้ งของนางทันที และชิงหยูกไ็ ม่
กล้าไปรบกวน
“รองหัวหน้า คุณชายจวินเป็ นใครกันแน่ขอรับ?” พี่นอ้ งหลายคนใน
ตึกเพลิงพิโรธถามขึ้น พวกเขาอยากรู ้เรื่ องของจวินเสี ยที่อยูท่ ี่นี่มา
สองวันแล้ว
พวกเขาเห็นว่าเขามักจะไปกับชิงหยู ต้องรู ้วา่ ถึงแม้ชิงหยูจะเป็ นรอง
หัวหน้าตึก แต่เขาก็มีงานยุง่ มาก แต่ตอนนี้เขาแค่ไปไหนมาไหนกับ
ผูเ้ ยาว์คนหนึ่ง แล้วทิ้งงานอื่นทั้งหมดไปก่อนซึ่ งทําให้คนอื่น ๆ
สังเกตเห็นโดยไม่ได้ต้ งั ใจ
ผูเ้ ยาว์คนนั้นก็ดูธรรมดามาก นอกจากนิสยั ที่ออกจะเย็นชาเล็กน้อย
พวกเขาก็ไม่คิดว่าจวินเสี ยจะมีอะไรพิเศษที่ทาํ ให้ชิงหยูตอ้ งคอยใส่
ใจมากขนาดนั้น
ชิงหยูจึงบอกพวกเขาว่า “คุณชายจวินเป็ นผูช้ ่วยชีวติ คุณหนู พวกเจ้า
ทุกคนต้องสุ ภาพกับเขาให้มากนะ ไม่อย่างนั้นพอหัวหน้ากลับมา
เขาถลกหนังพวกเจ้าทั้งเป็ นแน่”
พอสมาชิกตึกได้ยนิ เช่นนั้น พวกเขาก็ประหลาดใจมาก ทุกคนเข้าใจ
ทันทีวา่ เกิดอะไรขึ้น
เรื่ องที่ฉูหลิงเย่ได้รับบาดเจ็บที่แคว้นหยานไม่ใช่ความลับสําหรับคน
ของเมืองพันอสู ร และเมื่อชิงหยูอธิบายให้พวกเขาฟัง พวกเขาก็
เข้าใจในทันที
“ในเมื่อเขาเป็ นผูช้ ่วยชีวติ คุณหนู พวกเราจะปฏิบตั ิกบั เขาให้ดีเลย
ขอรับ รองหัวหน้าวางใจเรื่ องนั้นได้เลย”
ชิงหยูยมิ้ ให้พวกเขาอย่างพอใจ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ชิงหยูจะทันได้นงั่ ลง เสี ยงเอะอะโวยวายก็ดงั
ขึ้นด้านนอกตึกเพลิงพิโรธ และไม่นานคนของตึกเพลิงพิโรธก็วงิ่ เข้า
มาข้างในอย่างเร่ งรี บ
“รองหัวหน้า! ข่าวร้ายขอรับ! รองหัวหน้าตึกนํ้าค้างเหมันต์ ชางกวน
เหยียนบุกมาที่นี่พร้อมคนกลุ่มใหญ่ขอรับ!”
“เขามาที่นี่ทาํ ไม?” ชิงหยูขมวดคิว้ ทันที หลังจากหลินชิว หัวหน้าตึก
นํ้าค้างเหมันต์หนั ไปสวามิภกั ดิ์ศตั รู ความสัมพันธ์ระหว่างตึกเพลิง
พิโรธกับตึกนํ้าค้างเหมันต์กต็ ึงเครี ยดขึ้นมาก และเนื่องจากหัวหน้า
ตึกทั้งสองมีนิสยั แตกต่างกันแบบคนละขั้ว สมาชิกที่ติดตามหัวหน้า
ก็ยอ่ มไม่ต่างจากหัวหน้า คนทั้งสองตึกจึงไม่ลงรอยกัน
แล้วตอนนี้จู่ ๆ รองหัวหน้าตึกนํ้าค้างเหมันต์กบ็ ุกมาถึงที่นี่ ชิงหยูไม่
คิดว่ามันจะเป็ นเรื่ องดี
“พวกเขาบอกว่าพวกเขามาตามหาคุณชายจวินขอรับ” สมาชิกคน
หนึ่งพูดขึ้น
ชิงหยูรู้สึกแปลกใจ “หาคุณชายจวินทําไม?”
ชิงหยูพดู ไม่ทนั ขาดคําก็มีเสี ยงโต้เถียงกันดังขึ้นข้างในตึก ชางกวน
เหยียนที่อายุเลย 40 ปี ไปแล้วบุกเข้ามาพร้อมคนจากตึกนํ้าค้าง
เหมันต์กลุ่มหนึ่ง พวกเขาพากันมายืนตรงหน้าชิงหยู
สี หน้าของชิงหยูเคร่ งเครี ยดขึ้นทันที
“ชางกวนเหยียน! นี่มนั หมายความว่ายังไง!? ถึงเจ้าจะเป็ นรอง
หัวหน้าตึกนํ้าค้างเหมันต์ ก็อย่าลืมซิวา่ ที่นี่คือตึกเพลิงพิโรธ! ไม่ใช่ที่
ที่เจ้านึกจะมาจะไปได้ตามใจชอบ!”
ชางกวนเหยียนมองชิงหยูอย่างเหยียดหยาม มีคาํ ว่าดูถูกเขียนอยูเ่ ต็ม
หน้าของเขา
“ชิงหยู ดีแล้วที่เจ้าอยูท่ ี่นี่ เหตุผลที่ขา้ มาที่นี่วนั นี้กเ็ กี่ยวข้องกับเจ้า
ด้วย เจ้าเด็กต่างเมืองที่เจ้าพามาอยูท่ ี่ไหนแล้วล่ะ? รี บเอาตัวมันมาให้
เราเดี๋ยวนี้!”
“คุณชายจวินเป็ นแขกของตึกเพลิงพิโรธ เราจะไม่ส่งตัวเขาไปแค่
เพราะเจ้าบอกให้ส่งหรอก! ชางกวนเหยียน เจ้าไม่ดูแคลนตึกเพลิง
พิโรธของเราเกินไปหรอกหรื อ!?” สี หน้าของชิงหยูถมึงทึง การที่
ชางกวนเหยียนบุกเข้ามาพร้อมคนกลุ่มใหญ่น้ นั ไม่ใช่เรื่ องเล็ก ๆ เลย
และเมื่อเขาเอ่ยเจาะจงถึงจวินเสี ยว่าเป็ นคนที่เขามาตามหา ชิงหยูจะ
ปล่อยให้เขาทําตามใจได้อย่างไร?
“เฮอะ ตึกเพลิงพิโรธเป็ นสถานที่แบบไหนพวกเจ้าทุกคนก็รู้ดีอยูแ่ ก่
ใจ! หัวหน้าของพวกเจ้าพาเจ้าเด็กไม่รู้หวั นอนปลายเท้าเข้ามาก่อ
เรื่ องที่นี่ เจ้าเด็กนัน่ ไปที่ลานประลองสัตว์อสู รแล้วทําผิดกฎเพื่อให้
ตัวเองได้อนั ดับที่หนึ่ง! ในฐานะที่เป็ นหนึ่งในตึกทั้งสี่ ของเมืองพัน
อสู ร ถ้าตึกเพลิงพิโรธคิดจะแก้ตวั แทนมัน ทางตึกนํ้าค้างเหมันต์ของ
เราก็จะไม่ปล่อยเจ้าเด็กสารเลวให้สร้างความเสี ยหายต่อไปแน่!” ชาง
กวนเหยียนพูดอย่างเหยียดหยาม
ตอนที่ 992 ก่อนผืนนํา้ สงบ (3)
“เจ้าพูดเรื่ องเหลวไหลอะไร!?” ชิงหยูถามพลางหรี่ ตา
“จะเป็ นอย่างนั้นหรื อไม่ ไม่ได้ตดั สิ นจากคําพูดของเจ้า” เสี ยงเย็นชา
ดังขึ้น
ชิงหยูหนั หลังกลับไปด้วยความประหลาดใจ และเห็นจวินเสี ยเดิน
เข้ามาหาพวกเขา
“คุณชายจวิน ทําไมท่าน……”
“อ้อ! เจ้านี่เองจวินเสี ย!” พอชางกวนเหยียนรู ้วา่ นัน่ คือจวินเสี ย เขาก็
โกรธจนแทบระเบิด ถ้าไม่ใช่เพราะสัตว์อสู รแปลก ๆ ของผูเ้ ยาว์คน
นี้ ลูกชายของเขาจะถูกลิงดําหกแขนทําร้ายจนบาดเจ็บได้อย่างไร!?
“ใช่” จวินอู๋เสี ยตอบแบบเฉยเมย
“ส่ งสัตว์อสู รของเจ้ามาเดี๋ยวนี้! ชางกวนเหยียนตะคอก
จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
“ส่ งไปเพื่อ?”
“เจ้าใช้วธิ ีการสกปรกโกงการประลองในลานประลองสัตว์อสู ร!
ตามกฎแล้วเราจะต้องยึดสัตว์อสู รของเจ้า!” ชางกวนเหยียนพูด
จวินอู๋เสี ยกวาดสายตามองอย่างเย็นชาและถามว่า “มีขอ้ พิสูจน์
อะไร?”
ชางกวนเหยียนตอบว่า “สัตว์อสู รของเจ้าไม่ได้มีพลังโจมตีเลยสัก
นิด แต่มนั ทําให้สตั ว์อสู รตัวอื่นหนีไปได้เพียงแค่เสี ยงร้องเท่านั้น
โลกนี้ไม่มีสตั ว์อสูรแบบนั้นสักหน่อย เจ้าต้องใช้วธิ ีพิเศษอะไรสัก
อย่างทําให้มนั เป็ นแบบนี้! ลานประลองสัตว์อสู รมีกฎอยู่ และเรา
หวังว่าเจ้าจะปฏิบตั ิตามกฎ อย่าบังคับให้พวกเราต้องลงมือ”
ถ้าทําได้ชางกวนเหยียนก็อยากจะจัดการกับจวินเสี ยด้วยตัวเอง แต่
ตอนนี้เขาอยูท่ ี่ตึกเพลิงพิโรธ ถ้าพวกเขาบังคับเอาตัวจวินเสี ยไป ทาง
ตึกเพลิงพิโรธไม่ยอมแน่ แต่ถา้ เขาแค่ให้เอาตัวสัตว์อสูรไป กฎของ
ลานประลองสัตว์อสู รจะหนุนหลังเขา และเขาจะมีเหตุผลอยูข่ า้ งเขา
ตึกเพลิงพิโรธก็จะไม่กล้าคัดค้านอย่างรุ นแรง
จวินอู๋เสี ยพูดขึ้นด้วยนํ้าเสี ยงเย็นชาว่า “ถ้าข้าจําไม่ผดิ ลานประลอง
สัตว์อสู รจะตรวจสอบสัตว์อสู รทุกตัวที่เข้าร่ วมการประลองอยูห่ ลาย
ครั้ง และตอนที่ขา้ ไปที่ลานประลองสัตว์อสู รทั้งสองครั้ง สัตว์อสู ร
ของข้าก็ผา่ นการตรวจสอบพวกนั้นแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรคนของ
ลานประลองสัตว์อสู รจะจับไม่ได้ง้ นั หรื อ?”
ดูเหมือนชางกวนเหยียนจะเตรี ยมตัวมาสําหรับคําถามนั้นแล้ว เขาจึง
ตอบทันทีวา่ “คนของลานประลองสัตว์อสู รคงไม่ทาํ ผิดพลาดแบบ
นั้นหรอก แต่เพราะชิงหยูเป็ นคนพาเจ้าเข้าไป แล้วชิงหยูกเ็ ป็ นถึง
รองหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธ คนของลานประลองสัตว์อสู รย่อมจําได้
ว่าเขาเป็ นใคร และคนที่เขาพาเข้าไปย่อมไม่ถูกตรวจสอบอย่าง
เข้มงวดไปด้วย”
จวินอู๋เสี ยหัวเราะอยูใ่ นใจ ชิงหยูพานางเข้าไปในลานประลองสัตว์
อสู รก็จริ ง แต่คนของลานประลองสัตว์อสู รไม่ได้หละหลวมในการ
ตรวจสอบที่ควรทําเลยแม้แต่นอ้ ย เห็นได้ชดั ว่าชางกวนเหยียนผูน้ ้ ี
กําลังใช้นนั่ เป็ นข้ออ้างในการกําจัดท่านแบะแบะ
แต่……
คิดว่านางง่ายนักหรื อไง?
“ไม่วา่ จะใช้วธิ ีอะไร ตึกนํ้าค้างเหมันต์กไ็ ม่มีคุณสมบัติมาตรวจสอบ
ตั้งแต่วนั นี้เป็ นต้นไปใครจะมาท้าชิงสัตว์อสู รของข้าก็ได้ ถ้ามีอะไร
ที่ท่านยังกังวลอยู่ ท่านก็ขอให้คนของลานประลองสัตว์อสู ร
ตรวจสอบสัตว์อสูรของข้าอย่างละเอียดที่สุดในรอบต่อไปก็ได้ จะ
ได้เห็นว่ามีอะไรผิดปกติจริ ง ๆ หรื อไม่ จะให้ขา้ ส่ งสัตว์อสู รของข้า
ให้ท่านแค่เพราะสิ่ งที่ท่านพูดน่ะมันน่าขําไปหน่อยนะ ตึกนํ้าค้าง
เหมันต์ไม่มีสิทธิ์ทาํ เช่นนั้น” แม้วา่ จวินอู๋เสี ยจะมาที่เมืองพันอสู รได้
ไม่นาน แต่นางก็เข้าใจการทํางานภายในเมืองพันอสู รได้อย่าง
กระจ่างชัดเจน
ลานประลองสัตว์อสู รขึ้นตรงกับเจ้าเมืองพันอสู ร ฉูเหวินห่าว แม้แต่
หัวหน้าตึกทั้งสี่ กไ็ ม่มีอาํ นาจที่จะเข้าไปก้าวก่ายงานของลาน
ประลองสัตว์อสู ร
“เจ้า!” ชางกวนเหยียนไม่คิดว่าคนนอกจะรู ้กฎภายในเมืองพันอสู รดี
พอเขากําลังจะพูด ก็มีเสี ยงตวาดดังก้องสะเทือนทั้งตึก
“ตึกนํ้าค้างเหมันต์กล้าเมินกฎมากขึ้นทุกที! บังอาจบุกเข้ามาในตึก
เพลิงพิโรธของข้าพร้อมคนเป็ นกลุ่มแบบนี้! พวกเจ้าคิดว่าหัวหน้า
ตึกเพลิงพิโรธตายไปแล้วรึ ไง!?” เซียงป้าทําหน้าถมึงทึงน่ากลัว
ขณะที่พงุ่ เข้ามาราวกับพายุจากด้านนอก
เขากําลังทํางานยุง่ อยูใ่ นเมืองตอนที่ได้ข่าวจากพี่นอ้ งในตึกที่บอกเขา
ว่ามีคนของตึกนํ้าค้างเหมันต์บุกเข้ามาก่อเรื่ อง
ตอนที่ 993 ก่อนผืนนํา้ สงบ (4)
เซี ยงป้าโยนงานทิ้งทันทีและรี บเดินทางกลับมาที่นี่ ทันทีที่กา้ วเข้ามา
ในตึกเขาก็เห็นท่าทางหยิง่ ยโสของชางกวนเหยียน ความโกรธปะทุ
ขึ้นในใจเขาทันที
หลินชิวหันไปสวามิภกั ดิ์กบั คนผูน้ ้ นั ทําให้ทุกคนในตึกนํ้าค้าง
เหมันต์เริ่ มมองคนอื่นตํ่ากว่าพวกเขา และเริ่ มมองไม่เห็นหัวคนจาก
ตึกอื่นอีกสามตึก
ชางกวนเหยียนไม่คิดว่าจู่ ๆ เซียงป้าจะกลับมา เมื่อเขาเห็นร่ างสู ง
ใหญ่เดินเข้ามา เขาก็อดรู ้สึกกระวนกระวายไม่ได้
เซี ยงป้าขึ้นชื่อเรื่ องอารมณ์รุนแรง เมื่อเขาถูกยัว่ ยุ เขาก็ไม่ร้ ังตัวเอง
เลยสักนิด
“หัวหน้าตึกเซียง” ชางกวนเหยียนมองเซี ยงป้าอย่างลําบากใจ
เซี ยงป้าส่ งเสี ยงหึ ออกมาอย่างดูถูกและพูดว่า “ครั้งนี้ตึกนํ้าค้าง
เหมันต์ยน่ื มือออกมายาวเกินไปแล้ว ลานประลองสัตว์อสู รย่อมมีกฎ
ของตัวเอง ถ้าเจ้ารู ้สึกว่าสัตว์อสู รของคุณชายจวินมีปัญหา เจ้าก็หา
คนมาท้าชิงเขาได้ แล้วขอให้คนของลานประลองสัตว์อสู ร
ตรวจสอบพวกเขาอย่างละเอียดตอนนั้นซิ แค่น้ นั ก็ไขข้อข้องใจของ
เจ้าได้แล้วไม่ใช่รึ? แต่เจ้ากลับตัดสิ นใจมาที่ตึกของข้าแล้วก่อเรื่ อง
วุน่ วายขึ้นเพื่อให้ใครดู? ข้า เซียงป้า ยังมีชีวติ อยู!่ ตราบใดที่ขา้ ยังอยู่
ตึกเพลิงพิโรธจะไม่ยอมให้ใครมาทํานิสยั ชัว่ ช้าที่นี่!”
ดวงตาของเซียงป้าส่ องประกายเกรี้ ยวกราด ชางกวนเหยียนเย็นวาบ
ไปทั้งร่ าง
“ทําไมพวกเจ้ายังยืนอยูอ่ ีก? รี บไสหัวไปซะ! หรื อรอให้ขา้ สัง่ ให้พี่
น้องในตึกเพลิงพิโรธของข้าเชิญพวกเจ้าออกไป?” เซียงป้าไล่ตะเพิด
เสี ยงดัง
ขนาดคนยโสโอหังอย่างชางกวนเหยียนยังไม่กล้าหาเรื่ องเซี ยงป้า
ตรง ๆ ต่อหน้าผูค้ นมากมาย ถึงจะโดนด่าจนนํ้าลายเต็มหน้าแต่ชาง
กวนเหยียนก็ไม่สามารถทําอะไรได้นอกจากล่าถอยกลับไปจากตึก
เพลิงพิโรธด้วยสี หน้าหมองหม่น
เมื่อชางกวนเหยียนจากไป เซียงป้าก็ให้ทุกคนแยกย้ายกลับไปทํางาน
ของตัวเอง ส่ วนเขาพาชิงหยูกบั จวินเสี ยไปที่สนามหลังตึก เมื่อแน่ใจ
ว่าไม่มีคนอื่นอยูแ่ ถวนั้น เซียงป้าจึงถามด้วยความงุนงงว่า “เกิดอะไร
ขึ้น? ข้าได้ยนิ ว่าคนของตึกนํ้าค้างเหมันต์มาก่อความวุน่ วายที่นี่ แล้ว
ชางกวนเหยียนมาจ้องเล่นงานคุณชายจวินได้ยงั ไงกัน?”
เซียงป้าได้ยนิ เรื่ องราวเพียงเล็กน้อยเท่านั้นขณะที่รีบกลับมาที่นี่ เขา
ไม่รู้วา่ จริ ง ๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น
ชิงหยูเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้เซี ยงป้าฟังทันที
ในที่สุดเซียงป้าก็เข้าใจ
“มิน่าเจ้าสารเลวชางกวนเหยียนถึงได้กล้าขนาดนี้ ต้องเป็ นเพราะเจ้า
ลูกชายไม่เอาถ่านของมันถูกสัตว์อสู รของจวินเสี ยทําให้ตกอยูใ่ น
สภาพนี้ มันถึงได้แล่นมาถึงที่นี่? ฮ่า ๆ ๆ ! ข่าวดีจริ ง ๆ ! ในเมื่อ
ควบคุมสัตว์อสู รของตัวเองไม่ได้กส็ มควรแล้ว ที่เจอโชคร้ายแบบนี้
ก็เป็ นความผิดของมันทั้งหมด”
“ที่จริ งเหตุการณ์น้ ีคุณชายจวินไม่ได้ทาํ อะไรเลยนะขอรับ ลิงดําหก
แขนของเขาคลัง่ ขึ้นมาแล้วพุง่ ลงจากเวทีประลองไปกระแทกกับชาง
กวนเมี่ยว เห็นได้ชดั เลยว่าชางกวนเหยียนพยายามจะใช้ตาํ แหน่ง
ของเขาในทางที่ผดิ ” ชิงหยูพดู พร้อมขมวดคิ้ว ที่ลานประลองสัตว์
อสู รมีอุบตั ิเหตุเกิดขึ้นบ้างเป็ นบางครั้ง แต่พวกเขาไม่เคยเห็นเป็ น
เรื่ องใหญ่
ตั้งแต่แรกที่ท่านแบะแบะเข้ามาที่ลานประลองสัตว์อสูร ก็ไม่ได้ถูก
ละเว้นการตรวจสอบที่จาํ เป็ นต้องทําเลย นัน่ เป็ นสิ่ งที่ชิงหยูแน่ใจ
มาก
แม้วา่ เขาจะสงสัยมากว่าท่านแบะแบะทําให้ลิงดําหกแขนกลัวจนหนี
เตลิดเปิ ดเปิ งแบบนั้นได้ยงั ไง แต่เขาก็เชื่อว่าท่านแบะแบะทํามันด้วย
พลังของมันเอง ไม่ใช่พลังจากที่อื่น
“มันไม่ใช่เรื่ องใหญ่ ข้าไม่คิดว่ามันจะทําให้หลินชิวเสี ยหายอะไร
มากมายจนกล้าทําเรื่ องนี้ให้เป็ นเรื่ องใหญ่ แต่ชางกวนเหยียนอาจจะ
ไม่ปล่อยเรื่ องนี้ไปง่าย ๆ ข้าว่าเขาจะส่ งคนมาท้าชิงสัตว์อสู รของ
คุณชายจวินอีกมาก” เซี ยงป้าพูด เขาหันไปทางจวินเสี ยและพูดต่อว่า
“ยอดเยีย่ มมากจริ ง ๆ ขอรับ! ข้าไม่คิดว่าสัตว์อสู รที่ดูอ่อนแอน่ารัก
ของท่านจะเก่งกาจขนาดทําให้ลิงดําหกแขนกลัวจนหนีไปได้ ข้าเคย
สังเกตเห็นว่ามันเชื่อฟังท่านมาก อย่าบอกข้านะว่าคุณชายจวินก็รู้วธิ ี
ฝึ กสัตว์อสู รด้วย?”
จวินอู๋เสี ยตอบหน้าตาเฉยว่า “โชคชะตาพาเรามาอยูด่ ว้ ยกันน่ะ”
ฝึ กเหรอ? นางไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอก
ท่านแบะแบะเองต่างหากที่มาเกาะติดนางแจ แล้วตอนนี้กย็ งั มี
กระต่ายโลหิ ตเพิ่มมาอีกตัวด้วย!
ตอนที่ 994 ก่อนผืนนํา้ สงบ (5)
“ระวังตัวให้ดีนะขอรับ ถ้าท่านรู ้สึกว่ามันมากไปก็บอกทางลาน
ประลองสัตว์อสู รแล้วถอนตัวจากการแข่งขันซะ” เซี ยงป้าไม่ได้ใส่
ใจเรื่ องลานประลองสัตว์อสู รนัก เขาไม่เข้าใจว่าทําไมจู่ ๆ จวินเสี ย
ถึงได้สนใจลานประลองสัตว์อสู รมากขนาดนั้น
โชคดีที่ถึงแม้เมืองพันอสู รจะถูกคนผูน้ ้ นั ควบคุมอยู่ แต่นางไม่ได้มา
ยุง่ กับเรื่ องไร้สาระแบบนั้น และยังคงเป็ นฉูเหวินห่าวที่เป็ นคน
ตัดสิ นใจในเรื่ องแบบนี้ ดังนั้นตึกนํ้าค้างเหมันต์จึงไม่กล้าทําให้เป็ น
เรื่ องใหญ่โต
“ข้ารู ้” จวินอู๋เสี ยตอบ นางไม่กงั วลว่าคนของลานประลองสัตว์อสู ร
จะตรวจอะไรได้จากท่านแบะแบะ นางรู ้วา่ ตราบใดที่ท่านแบะแบะ
ตั้งใจจะทํา มันก็สามารถซ่อนพลังของมันได้อย่างมิดชิด และไม่วา่
พวกเขาจะพยายามตรวจสอบมากขนาดไหนก็ตาม มันจะยังแสดงตัว
เป็ นแค่สตั ว์อสู รระดับตํ่า
จวินอู๋เสี ยไม่อยากให้ตวั ตนของท่านแบะแบะในฐานะสัตว์อสู ร
ระดับผูพ้ ิทกั ษ์ถูกเปิ ดเผยออกมา และก็ไม่อยากยอมแพ้เรื่ องกําไล
สะกดอสู รเช่นกัน นางจะรอดูวา่ ตึกนํ้าค้างเหมันต์จะทําอย่างไรกับ
เรื่ องนี้
“ถ้าท่านรู ้กด็ ีแล้ว” เซียงป้ามัน่ ใจในสติปัญญาของจวินอู๋เสี ยมาก
และด้วยคํารับรองของจวินเสี ย เขาจึงไม่กงั วลในเรื่ องนี้มากนัก
ตึกเพลิงพิโรธสงบลงแล้ว แต่ที่ตึกนํ้าค้างเหมันต์กลับลุกเป็ นไฟ
“อะไรนะ? ชางกวนเหยียนจับสัตว์อสู รของจวินเสี ยมาไม่ได้ง้ นั
เหรอ?” หลินเฟิ งมองคนรับใช้ที่คุกเข่าอยูต่ รงหน้า เขาส่ งคนไป
รายงานท่านพ่อแล้ว ขอให้พอ่ สอบสวนเรื่ องสัตว์อสู รของจวินเสี ย
และพ่อของเขาก็ส่งชางกวนเหยียนไป ถึงยังไงคนที่ได้รับบาดเจ็บก็
คือชางกวนเมี่ยว ชางกวนเหยียนย่อมไม่ยอมอ่อนข้อให้แน่แถมยัง
โกรธจัดในสิ่ งที่เกิดขึ้นกับลูกชายของเขาอีกด้วย
ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะทําอะไรสัตว์อสู รของจวินเสี ยไม่ได้ แถมยัง
ถูกเซียงป้าด่ากลับมาอีก
“หัวหน้าตึกเพลิงพิโรธบอกว่าถ้าจะทําการตรวจสอบ ทางลาน
ประลองสัตว์อสู รต้องเป็ นคนทํา และจะเป็ นเช่นนั้นก็เมื่อมีคนท้าชิง
พวกเขา คุณชายขอรับ ลานประลองสัตว์อสู รอยูใ่ ต้อาํ นาจของท่าน
เจ้าเมือง ต่อให้เป็ นตึกนํ้าค้างเหมันต์กเ็ ข้าไปก้าวก่ายไม่ได้” คนรับ
ใช้พดู เบา ๆ
หลินเฟิ งขบกรามแน่น ขนาดชางกวนเมี่ยวยังล้มหมอนนอนเสื่ อทั้ง ๆ
ที่จวินเสี ยเพิ่งมาที่เมืองพันอสู รได้แค่สองวัน และเขาก็ได้ตาํ แหน่ง
อันดับหนึ่งของลานประลองสัตว์อสู รแล้ว ถ้าข่าวนี้ไปถึงหูของฉู
หลิงเย่ล่ะก็หายนะแน่
หลินเฟิ งเค้นสมองคิดหาวิธี แล้วทันใดนั้นเขาก็คิดออก!
“ช่วงนี้การฝึ กมังกรมายาเป็ นยังไงบ้าง?” หลินเฟิ งถามขึ้น
คนรับใช้สะดุง้ ก่อนจะพูดว่า “การฝึ กเกือบสมบูรณ์แล้วขอรับ”
“ดี” หลินเฟิ งพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชา “เจ้าเด็กต่างเมืองคิด
จริ ง ๆ หรื อว่าสัตว์อสู รตัวเล็ก ๆ ของมันจะเข้ามาประกาศตัวว่า
เหนือกว่าใครในเมืองพันอสู รได้? ข้าอยากจะเห็นนักเชียวว่าสัตว์
อสู รระดับตํ่าของมันจะสามารถยืนหยัดต่อหน้ามังกรมายาได้รึ
เปล่า!”
เมื่อคนรับใช้ได้ยนิ เช่นนั้นเขาก็กม้ หัวลงคํานับกับพื้นวิงวอนว่า
“คุณชายขอรับ! อย่าคิดทําเช่นนั้นนะขอรับ! มังกรมายาเป็ นของขวัญ
ที่นายท่านเตรี ยมมอบให้แก่ท่านยาย ถ้านายท่านรู ้วา่ คุณชายเอามังกร
มายาออกไปล่ะก็ ข้าเกรงว่า……”
“หุบปาก!” หลินเฟิ งพูดด้วยความโกรธ “ข้าแค่ขอยืมมังกรมายาไป
สักวันสองวันเท่านั้น จะมีอะไรเกิดขึ้นได้กนั ? อย่าบอกข้านะว่าเจ้า
คิดว่าสัตว์อสู รระดับตํ่าตัวเล็ก ๆ จะสามารถทําร้ายมังกรมายาได้? ข้า
แค่จะหาของว่างให้มงั กรมายากินเล่นเท่านั้นเอง หลังจากที่มนั กิน
สัตว์อสู รของจวินเสี ยไปแล้ว ข้าก็จะนํามังกรมากลับคืนมาอย่าง
ปลอดภัย ท่านพ่อก็ยงั สามารถเอามันให้ท่านยายเป็ นของขวัญได้อยู”่
คนรับใช้คนนั้นยังคงตัวสัน่ อยูท่ ี่พ้นื ไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คาํ
เดียว
หลินเฟิ งชื่นชมในความฉลาดเฉลียวของตัวเอง มังกรมายาฝึ กยาก
มาก ท่านพ่อของเขาจัดการฝึ กมันหลังจากที่พบชายชราคนหนึ่งที่
อาศัยอยูอ่ ย่างสันโดษหลายปี ให้ค่อย ๆ ฝึ กมัน และมังกรมายาไม่ได้
จดจําเจ้าของจากตัวบุคคล แต่จดจําจากสิ่ งของ!
ตอนที่ 995 มังกรมายา (1)
เนื่องจากมันจะเป็ นของขวัญให้ท่านผูน้ ้ นั ดังนั้นมันจะต้องไม่เห็น
คนอื่นเป็ นเจ้าของ พวกเขาจึงต้องใช้สิ่งของแทน
“หาคนที่หน้าไม่คุน้ มาแล้วให้เขาพามังกรมายาไปเข้าร่ วมการ
ประลองที่ลานประลองสัตว์อสู ร วันนี้จะต้องชนะติดต่อกันให้ได้ 10
รอบแล้วไปท้าชิงจวินเสี ยกับสัตว์อสู รของมัน พรุ่ งนี้ขา้ ไม่อยากได้
ยินว่าสัตว์อสู รของเจ้าเด็กนัน่ ยังมีชีวติ อยู”่ เขาไม่อาจลงมือกับจวิน
เสี ยตรง ๆ ได้ ดังนั้นเขาจึงฆ่าสัตว์อสู รของมันก่อน!
สายตาของหลินเฟิ งทอประกายเย็นชามุ่งร้าย
……………..
พายุลูกใหม่สนั่ สะเทือนลานประลองสัตว์อสู ร สัตว์อสู รที่ไม่มีใคร
เคยเห็นมาก่อนได้จดั การคู่ต่อสู ้ 10 รายลงได้อย่างรวดเร็ วในวันเดียว
หลังจากนั้นไม่นานจวินเสี ยก็ได้รับคําท้าชิงที่ส่งมาให้นาง
เมื่อคนของลานประลองสัตว์อสู รส่ งคําท้าชิงมาให้นาง จวินอู๋เสี ยก็
ไม่ได้แปลกใจแม้แต่นอ้ ย นางรับคําท้าอย่างสงบ
แต่ชิงหยูกลับรู ้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น หลังจากสอบถามคน
ของลานประลองสัตว์อสู ร เขาก็ยงิ่ รู ้สึกแย่จึงรี บไปหาจวินเสี ย
“คุณชายจวินขอรับ! การประลองในวันพรุ่ งนี้ท่านต้องไม่ไปนะ
ขอรับ” ชิงหยูพดู ด้วยนํ้าเสี ยงเคร่ งขรึ มจริ งจัง
“ทําไม?” จวินเสี ยถามพร้อมกับมองชิงหยู
ชิงหยูกดั ริ มฝี ปากอย่างกังวลแล้วพูดว่า “ข้าถามคนของลานประลอง
สัตว์อสู รเกี่ยวกับสัตว์อสู รของคู่ต่อสู ท้ ่านแล้วเมื่อกี้ พวกเขาบอกข้า
ว่าผูเ้ ยาว์คนหนึ่งที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อนเป็ นคนพามันมา สัตว์
อสู รตัวนั้นรู ปร่ างเหมือนงูแต่มีเขาคู่นึงอยูบ่ นหัว มีเกล็ดสี เขียวปก
คลุมทัว่ ทั้งตัว ถ้าข้าเดาไม่ผดิ สัตว์อสู รตัวนั้นไม่ใช่สตั ว์อสู รระดับตํ่า
ธรรมดาทัว่ ไป มีความเป็ นไปได้สูงที่มนั จะเป็ นมังกรมายาสัตว์อสู ร
ที่หวั หน้าตึกนํ้าค้างเหมันต์ หลินชิว จับมาจากป่ าข้างนอก”
“มังกรมายา?” จวินอู๋เสี ยถามพร้อมกับเลิกคิ้ว นางไม่เคยได้ยนิ ชื่อ
สัตว์อสู รชนิดนี้มาก่อน
ชิงหยูพดู ต่อว่า “มังกรมายาเป็ นสัตว์อสู รระดับสู งขอรับ อีกแค่กา้ ว
เดียวก็จะกลายเป็ นสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์แล้ว เราเคยได้ยนิ แต่ข่าว
ลือของมัน ตามข่าวลือบอกว่ามังกรมายามีพลังในการรักษาสู งมาก
มันสามารถลอกคราบได้สามครั้ง หลังจากลอกคราบครั้งที่สามมัน
จะกลายเป็ นสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ คนผูน้ ้ นั เคยเอ่ยถึงมังกรมายากับ
ท่านเจ้าเมืองครั้งหนึ่ง และขอให้ท่านเจ้าเมืองค้นหามัน แต่ท่านเจ้า
เมืองไม่ตกลง หลินชิวจึงระดมคนจํานวนมากและใช้เวลาถึง 10 ปี
กว่าจะพบมังกรมายาตัวนี้ ว่ากันว่าเพื่อที่จะจับมังกรมายา คนของ
หลินชิวตายไปเกือบร้อยคน รวมถึงสัตว์อสู รระดับสู ง 3 ตัวที่พวก
เขาฝึ กไว้ดว้ ย”
ข่าวเรื่ องการจับมังกรมายาถูกเก็บไว้เป็ นความลับในเมืองพันอสู ร มี
ไม่กี่คนที่รู้เรื่ องนี้ ชิงหยูเป็ นหนึ่งในไม่กี่คนที่โชคดีพอได้เห็นมังกร
มายา ครั้งแรกที่เขาเห็นมังกรมายามันเพิ่งถูกจับกลับมา แม้วา่ จะ
สู ญเสี ยไปเกือบร้อยชีวติ แต่มงั กรมายาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บหนักอะไร
เลย ตอนที่มนั ถูกขังอยูใ่ นกรงมันดุร้ายมาก กรงธรรมดาเอามันไม่อยู่
หลินชิวจึงต้องใช้เหล็กแห่งความมืดมาหลอมเป็ นกรงไว้ขงั มัน
“มังกรมายาเป็ นสัตว์อสู รที่กระหายเลือด มันชอบกินสัตว์ท้ งั เป็ น ตัว
มันมีความสามารถในการรักษาตัวเองที่แข็งแกร่ งมาก ตราบใดที่
บาดแผลไม่ถึงตาย มันก็สามารถรักษาตัวให้หายได้อย่างรวดเร็ ว ข้ารู ้
ว่าสัตว์อสู รของท่านก็มีความสามารถที่พิเศษมากเช่นกัน แต่มงั กร
มายาตัวนั้นลอกคราบมาสองครั้งแล้ว อีกแค่ครั้งเดียวมันก็จะ
กลายเป็ นสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์เต็มตัว เป็ นสัตว์อสู รที่ไม่มีสตั ว์
อสู รตัวใดสามารถต้านทานได้” ชิงหยูพดู ด้วยความเป็ นห่วงจวิน
เสี ยอย่างมาก เขาเห็นว่าจวินเสี ยรักใคร่ ทะนุถนอมท่านแบะแบะมาก
และการท้าชิงครั้งนี้กพ็ งุ่ เป้าไปที่จวินเสี ยโดยตรงเลย!
ตอนที่ 996 มังกรมายา (2)
มังกรมายาอยูท่ ี่หลินชิวมาตลอด และหลังจากฝึ กมันสําเร็ จ มันจะถูก
มอบเป็ นของขวัญให้แก่คนผูน้ ้ นั แต่ตอนนี้มงั กรมายามาปรากฏตัวที่
ลานประลองสัตว์อสู ร นัน่ เป็ นเรื่ องที่คิดไม่ถึงจริ ง ๆ
คนที่มีอาํ นาจในการเอามังกรมายาออกมา นอกจากตัวหลินชิวเอง
แล้ว อีกคนที่ทาํ ได้กม็ ีเพียงลูกชายของเขา หลินเฟิ ง!
หลินเฟิ งเกลียดจวินเสี ยมาตั้งแต่ตอนที่จวินเสี ยเข้ามาที่เมืองพันอสู ร
แล้วตอนนี้ชางกวนเมี่ยว เพื่อนที่สนิทที่สุดของหลินเฟิ ง คนที่เป็ น
เหมือนพีน่ อ้ งของเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะจวินเสี ย หลินเฟิ ง
จึงยิง่ อยากแก้แค้นจวินเสี ยมากเข้าไปอีก ด้วยเหตุน้ นั เขาจึงกล้าเอา
มังกรมายาที่ล้ าํ ค่าออกมาต่อสู ้
ลานประลองสัตว์อสู รดูแค่วา่ ผูเ้ ข้าแข่งขันมีกาํ ไลสะกดอสู รอยูใ่ น
ครอบครองหรื อไม่เท่านั้น ไม่ได้จาํ กัดระดับของสัตว์อสู รที่เข้า
แข่งขัน
และเนื่องจากเรื่ องของมังกรมายาถูกเก็บเป็ นความลับอย่างดี คนของ
ลานประลองสัตว์อสู รจึงไม่รู้เรื่ องของมัน
ชิงหยูรู้เรื่ องของมันทั้งหมดแต่เขาก็ไม่ได้เปิ ดเผยข้อมูลของมันให้
สาธารณะชนรู ้ เนื่องจากนัน่ เป็ นสิ่ งที่ต้ งั ใจจะมอบให้เป็ นของขวัญ
แก่คนผูน้ ้ นั ถ้าถูกรู ้เรื่ องเข้า คนผูน้ ้ นั อาจจะลงมือทําอะไรลงไปก็ได้
“ยังงั้นหรื อ?” จวินอู๋เสี ยตอบอย่างไม่ใส่ ใจ
ชิงหยูเห็นว่าจวินเสี ยไม่ตกใจเลยสักนิด จึงทําให้เขาเป็ นฝ่ ายร้อนใจ
มากขึ้นแทน “มังกรมายาอยูก่ บั หลินชิวมาปี กว่า มันอาจจะลอก
คราบมาเกินหนึ่งครั้งแล้วจากที่ขา้ ได้ยนิ มาครั้งล่าสุ ด คุณชายจวิน
ไม่มีจาํ เป็ นเลยที่จะเข้าประลองต่อนะขอรับ”
จวินอู๋เสี ยไม่ตอบ ไม่วา่ ชิงหยูจะคิดอะไร จวินอู๋เสี ยย่อมสามารถคิด
ได้เช่นกัน
การปรากฏตัวของมังกรมายาเป็ นการแก้แค้นของเจ้าเด็กนัน่ อย่างไม่
ต้องสงสัยเลย แต่……
เขาเลือกสู ผ้ ดิ คนแล้ว!
จวินอู๋เสี ยไม่ตอบชิงหยู และชิงหยูกค็ ิดว่าในที่สุดจวินเสี ยก็ตระหนัก
ถึงความร้ายแรงของเรื่ องนี้ซะที และตอนนี้กก็ าํ ลังพิจารณาใหม่อีก
ครั้ง เขาจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างโล่งอก
จวินอู๋เสี ยกลับไปที่หอ้ งของนาง และมองกระต่ายโลหิ ตที่กาํ ลังต่อสู ้
ชุลมุนกับท่านแบะแบะอยูบ่ นเตียง นางขมวดคิว้ ทันที
“แบะ!”
[ออกไปนะเจ้ากระต่ายเจ้าเล่ห์! นี่เป็ นอาณาเขตของท่านแบะแบะ!]
“ปู้!”
[เหลวไหล! นี่เป็ นรังของเจ้านายต่างหาก!]
เจ้าสัตว์โง่สองตัวไม่ได้ใช้พลังของสัตว์อสู รผูพ้ ิทกั ษ์และใช้แค่ร่าง
เล็ก ๆ ของพวกมันตอนนี้สูก้ นั ท่านแบะแบะกัดหูเจ้ากระต่ายโลหิ ต
ส่ วนเจ้ากระต่ายโลหิ ตก็แทะหางท่านแบะแบะ……
“แฮ่ม” จวินอู๋เสี ยกระแอมเบา ๆ พอเจ้าโง่สองตัวนัน่ เห็นจวินอู๋เสี ย
พวกมันก็ปล่อยอีกฝ่ ายทันที แล้วรี บถอยไปที่สุดขอบเตียงฝั่งตรง
ข้ามอย่างรวดเร็ ว เหมือนเด็กน้อยสองคนทําผิดแล้วถูกจับได้ พวก
มันก้มหัวสํานึกผิดไม่กล้ามองสบตาจวินอู๋เสี ย
ทั้งสองตัวรู ้ดีวา่ จวินอู๋เสี ยห้ามพวกมันต่อสู ก้ นั อย่างเด็ดขาด
“รู ้จกั มังกรมายาไหม?” จวินอู๋เสี ยหันไปถามท่านแบะแบะ
ท่านแบะแบะเงยหน้าขึ้น สี หน้าว่างเปล่า เห็นได้ชดั ว่ามันไม่รู้อะไร
เลย
กระต่ายโลหิ ตยิง่ ไม่เคยได้ยนิ เกี่ยวกับมัน มันจึงยืนตาแป๋ วมองจวินอู๋
เสี ย พยายามให้ตวั เองดูน่ารักมากที่สุดเท่าที่จะทําได้
จวินอู๋เสี ยครุ่ นคิดถึงสิ่ งที่ชิงหยูบอกนาง ต่อให้มงั กรมายาลอกคราบ
มาแล้วสามครั้ง มันก็เพิ่งจะได้เป็ นสัตว์อสู รผูพ้ ทิ กั ษ์ไม่นาน คงจะไม่
เป็ นปัญหากับท่านแบะแบะมากนัก
แต่เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน จวินอู๋เสี ยจึงถามท่านแบะแบะว่ามันมี
โอกาสชนะสัตว์อสู รที่เพิ่งได้เป็ นสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์มาหมาด ๆ
แค่ไหน
ท่านแบะแบะคิดว่าจวินอู๋เสี ยกําลังพูดถึงกระต่ายโลหิ ต มันจึงยืดอก
โม้อย่างภูมิใจทันทีวา่
“แบะ!”
[ท่านแบะแบะจัดการพวกมันมาแล้วทีเดียว 10 ตัว!]
ด้วยคําตอบของท่านแบะแบะ จวินอู๋เสี ยจึงปัดความกังวลทิ้งไป
เช้าตรู่ วนั รุ่ งขึ้น ชิงหยูคิดว่าจวินเสี ยจะไม่ไปตอบรับคําท้าชิง แต่เขา
ก็พบว่าจวินเสี ยพาท่านแบะแบะออกไปจากตึกก่อนเขามาแค่ครู่ เดียว
เท่านั้น พี่นอ้ งในตึกเพลิงพิโรธทุกคนที่เห็นได้บอกเขาว่าผูเ้ ยาว์คน
นั้นเดินออกไปทางลานประลองสัตว์อสู ร!
ตอนที่ 997 มังกรมายา (3)
ลานประลองสัตว์อสู รของเมืองพันอสู รไม่เคยคึกคักวุน่ วายเท่าช่วง
ไม่กี่วนั มานี้เลย สัตว์อสู รที่ดูเหมือนไร้ประโยชน์ตวั หนึ่งเอาชนะ
สัตว์อสู รตัวอื่น ๆ ทั้งหมดและขึ้นครองอันดับหนึ่ง ทําคนจํานวน
มากต้องอ้าปากค้าง และหลังจากนั้นก็มีสตั ว์อสู รอีกตัวโผล่มากวาด
ชัยชนะที่ลานประลองสัตว์อสู รอีกครั้ง
และสัตว์อสู รสองตัวที่ผคู ้ นจํานวนมากต่างพูดคุยถกเถียงเรื่ องของ
มันก็จะมาประลองกันในวันนี้ มันเป็ นสุ ดยอดการต่อสู ท้ ี่ทุกคน
คาดหวังอย่างสู ง
ทุกคนต่างตั้งตารอการประลองครั้งนี้ ลานประลองสัตว์อสู รจึง
แออัดไปด้วยผูค้ นจํานวนมาก เนื่องจากคนที่ได้ข่าวต่างก็รีบพากัน
มาที่นี่
หลินเฟิ งสวมผ้าคลุมยาวปิ ดบังตัวตน เขามาที่ลานประลองสัตว์อสู ร
เป็ นการส่ วนตัวเพราะอยากเห็นปฏิกิริยาของจวินเสี ยตอนที่เห็นสัตว์
อสู รของตัวเองถูกกิน เขาหันไปมองผูเ้ ยาว์ที่พามังกรมายามา
ลงทะเบียน คน ๆ นั้นเป็ นลูกไม่มีพอ่ ของหญิงรับใช้ในบ้านของเขา
และแทบไม่เป็ นที่รู้จกั ในเมืองพันอสู ร ดังนั้นจึงไม่มีใครรู ้ตวั จริ ง
ของเขา ที่คอของผูเ้ ยาว์คนนั้นมีสร้อยเงินอยูเ่ ส้นหนึ่ง เป็ นสิ่ งที่มงั กร
มายาจดจําได้ ใครก็ตามที่สวมสร้อยเงินนี้จะสามารถควบคุมมังกร
มายาและสัง่ ให้มนั ทําตามความต้องการได้!
ครั้งนี้หลินเฟิ งวางเดิมพันด้วยทุกสิ่ งที่เขามี ทั้งมังกรมายาและสร้อย
เงินถูกหลินเฟิ งแอบนําออกมาลับหลังหลินชิวเพื่อให้เขาเอาชนะ
จวินเสี ยทั้งเพื่อตัวเขาเองและเพื่อชางกวนเมี่ยว
เขาไม่กงั วลเลยสักนิดว่ามังกรมายาจะโดนทําร้ายที่นี่ ตั้งแต่ตอนที่
มังกรมายาถูกจับและพาตัวมาจนถึงตอนนี้ มันลอกคราบไปแล้วสอง
ครั้ง และเมื่อไม่กี่เดือนก่อนมันก็ลอกคราบครั้งที่สามเสร็ จแล้ว แม้วา่
จะยังดูเหมือนสัตว์อสู รระดับสู ง แต่พลังของสัตว์อสู รผูพ้ ิทกั ษ์กถ็ ูก
ปลุกขึ้นแล้วและกําลังค่อย ๆ วิวฒั นาการ
พ่อของเขาคิดว่าจะรอจนมังกรมายาวิวฒั นาการจนกลายเป็ นสัตว์
อสู รผูพ้ ิทกั ษ์เต็มตัวก่อนถึงค่อยส่ งมอบให้ท่านผูน้ ้ นั
เมื่อผูเ้ ยาว์คนนั้นเห็นหลินเฟิ ง เขาก็พยักหน้าให้โดยที่ไม่มีใคร
สังเกตเห็น
ผูช้ มต่างแออัดยัดเยียดอยูใ่ นลานประลองสัตว์อสู ร อีกคนที่พวกเขา
กําลังรอดูได้นาํ สัตว์อสู รของเขาเดินเข้ามาในลานประลองแล้ว
จวินอู๋เสี ยอุม้ ท่านแบะแบะเดินผ่านประตูลานประลองสัตว์อสู รเข้า
มาโดยมีสายตาของทุกคนมองตาม จวินอู๋เสี ยเดินต่อไปอย่างช้า ๆ
ท่ามกลางสายตาจํานวนมากที่จบั จ้องอยูเ่ หมือนไม่รู้ไม่ช้ ีไม่ได้รับ
ผลกระทบใด ๆ จากเสี ยงเอะอะวุน่ วายและความอึกทึกครึ กโครม
รอบตัวเลย
เมื่อหลินเฟิ งเห็นจวินเสี ยปรากฏตัวขึ้น เลือดในกายของเขาก็เดือด
พล่าน เขาทนรอที่จะเห็นสัตว์อสู รในอ้อมกอดของจวินเสี ยถูกมังกร
มายากลืนลงไปทั้งตัวไม่ไหวแล้ว!
ก่อนการแข่งขันเริ่ มต้น จวินอู๋เสี ยก็วางท่านแบะแบะลงบนเวที
ประลองและพูดเสี ยงเบาว่า “ถ้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ก็แปลงร่ างได้
นะ”
ท่านแบะแบะกระพริ บตาปริ บ ๆ มองจวินอู๋เสี ย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่
มันยืนอยูบ่ นเวทีน้ ี และทั้งหมดที่มนั ได้เจอก็คือสัตว์อสู รกระจอก
งอกง่อยที่ไม่พอจะแหย่ข้ ีฟันมันได้ดว้ ยซํ้า แล้วทําไมคนให้อาหาร
ของมันถึงบอกว่ามันจะแปลงร่ างก็ได้กนั ล่ะ?
[ไม่เห็นมีความจําเป็ นต้องทําแบบนั้นเลย].
[ยังไงก็เถอะ ที่มนั ต้องทําก็แค่ส่งเสี ยงร้องออกมาสักสองสามครั้ง
แล้วคู่ต่อสู ก้ จ็ ะกลัวจนหนีไปเอง แล้วมันก็จะได้กินใบบัวแสนอร่ อย
นัน่ !]
ท่านแบะแบะไม่สนใจคําพูดของจวินอู๋เสี ยเลย มันกระหายอยาก
กลับไปกินอาหารของมันแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยงั ยืนอยูบ่ นเวทีแต่มนั ก็แทบ
จะมองเห็นกองใบบัววางอยูต่ รงหน้าแล้ว ท่าทีของมันดูตื่นเต้นมาก
หางเล็ก ๆ กระดิกดุ๊กดิ๊กอย่างมีความสุ ข
หลินเฟิ งลอบสังเกตสัตว์อสู รตัวเล็กที่ดูไม่น่าประทับใจบนเวทีแล้ว
เหยียดยิม้ เย้ยหยัน เขาสงสัยอยูว่ า่ จวินเสี ยมีสตั ว์อสู รชนิดใดอยู่ และ
เมื่อเขาเห็นว่ามันเป็ นแค่ไอ้ตวั จิ๋วเช่นนั้น เขาก็ไม่เข้าใจว่าสัตว์อสู ร
แบบนั้นสามารถครองอันดับหนึ่งของลานประลองสัตว์อสู รได้
อย่างไร
ชางกวนเมี่ยวไม่สามารถกําจัดท่านแบะแบะได้ แต่หลินเฟิ งไม่สงสัย
เลยว่าสัตว์อสู รตัวเล็กจิ๋วตัวนี้ไม่ได้ชนะมาด้วยพลังของมันเอง!
ตอนที่ 998 มังกรมายา (4)
ชางกวนเมี่ยวไม่สามารถกําจัดท่านแบะแบะได้ แต่หลินเฟิ งไม่สงสัย
เลยว่าสัตว์อสู รตัวเล็กจิ๋วตัวนี้ไม่ได้ชนะมาด้วยพลังของมันเอง!
วิธีการนอกรี ตพวกนั้นอาจจะใช้ได้ผลกับสัตว์อสู รระดับตํ่า แต่กบั
มังกรมายาที่เป็ นสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์……มันก็แค่หนทางไปสู่
ความตายเท่านั้น!
รอยยิม้ ชัว่ ร้ายปรากฏขึ้นที่ริมฝี ปากของหลินเฟิ งขณะที่รอคอย
ช่วงเวลานั้นให้มาถึง
ไม่นานการประลองก็กาํ ลังจะเริ่ มขึ้น มังกรมายาถูกนําออกมาในกรง
เหล็ก เทียบกับลิงดําหกแขนแล้ว มังกรมายานั้นตัวใหญ่กว่ามากมาย
มหาศาลนัก!
เวทีประลองในลานประลองสัตว์อสู รนั้นกว้างใหญ่มาก แต่เมื่อ
มังกรมายาเลื้อยขึ้นมาขดตัวบนเวที ตัวมันก็แทบจะเต็มพื้นที่ลาน
ประลองเลยทีเดียว! เหลือแค่พ้นื ที่เล็ก ๆ ตรงขอบเวทีที่ท่านแบะ
แบะยืนอยูเ่ ท่านั้น!
เมื่อเทียบขนาดของท่านแบะแบะกับลิงดําหกแขน ตัวของท่านแบะ
แบะก็ใหญ่เท่ากับหัวของลิงดําหกแขนเท่านั้น และเมื่อเทียบกับ
มังกรมายาที่อยูต่ รงหน้ามันตอนนี้ ท่านแบะแบะก็ตวั เท่ากับดวงตา
ข้างหนึ่งของมันเท่านั้น!
ทั้งร่ างของมันปกคลุมด้วยเกล็ดหนาสี เขียว มังกรมายาขดตัวขึ้นมาดู
ใหญ่โตเกือบเท่าภูเขาลูกเล็ก ๆ !
บนหัวของมันมีเขาแหลมอยูส่ องข้าง
ั ญาณของผูเ้ ยาว์ที่อยู่
ทันใดนั้นมันก็ชูคอขึ้นและจากท่าทางให้สญ
ด้านล่างลานประลอง มันก็หนั หัวไปทางท่านแบะแบะที่อยูร่ ิ มเวที
ด้วยขนาดที่แตกต่างกันแบบสุ ดขั้วของสัตว์อสู รทั้งสองตัว จึงไม่
จําเป็ นต้องจินตนาการว่าการต่อสู ค้ รั้งนี้จะออกมาเป็ นแบบไหน!
มังกรมายาพ่นลมออกมาทางจมูก ไอความร้อนกระจายไปในอากาศ
ขณะที่มนั ขยับตัว เกล็ดของมันก็จะถูกนั จนเกิดเสี ยงคล้ายกับปลาย
ดาบกระทบกัน
มันเป็ นการประลองที่ทุกคนไม่หวัน่ เกรงผลที่จะออกมา ไม่มีสกั คน
ที่จะเชื่อว่าท่านแบะแบะจะยัง ‘โชคดี’ แบบเหลือเชื่อสามารถ
เอาชนะได้อีกเมื่อเผชิญหน้ากับมังกรมายาเช่นนี้
ดูจากความแข็งแกร่ งที่มงั กรมายาแสดงออกมาแล้ว ทุกคนก็รู้ทนั ที
ว่ามันไม่ใช่แค่สตั ว์อสู รระดับตํ่า แต่เป็ นสัตว์อสู รขนาดใหญ่ที่อย่าง
น้อยก็อยูใ่ นจุดสู งสุ ดของสัตว์อสู รระดับสู ง!
นี่เป็ นครั้งแรกที่สตั ว์อสู รระดับสู งปรากฏตัวขึ้นในลานประลองสัตว์
อสู ร
คนของเมืองพันอสูรรู ้จกั สัตว์อสู รของพวกเขาดี จากความแข็งแกร่ ง
ที่พวกเขารู ้สึกได้พวกเขาก็เข้าใจว่าสัตว์อสู รระดับสู งไม่ได้แตกต่าง
จากสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ที่เป็ นตํานานมากนัก ต่อหน้าสัตว์อสู รที่
แข็งแกร่ งเช่นนั้น ต่อให้พวกเขาค้นหาทัว่ ทั้งเมืองพันอสู ร ก็ไม่
สามารถหาคู่ต่อสู ท้ ี่เหมาะสมกับมันได้!
พวกผูช้ มอ้าปากค้างและส่ งเสี ยงอุทานออกมาอย่างประหลาดใจและ
ตกตะลึง นี่ไม่ใช่การแข่งขันอีกต่อไปแล้ว แต่กลายเป็ นการโชว์เดี่ยว
ของมังกรมายา ไม่มีใครกังวลว่าการประลองจะออกมาเป็ นยังไงอีก
ต่อไปแล้ว ในใจของพวกเขาสัตว์อสูรแกะน้อยขนปุยที่ยนื อยูบ่ นเวที
ก็ไม่ต่างกับตายไปแล้ว!
ต่อหน้าสัตว์อสู รระดับสู งที่อยูใ่ นจุดสู งสุ ด สัตว์อสู รตัวอื่น ๆ ที่ต่าํ
กว่าระดับผูพ้ ิทกั ษ์กท็ าํ ได้เลือกว่าจะตายหรื อจะยอมจํานน!
หลินเฟิ งสังเกตปฏิกิริยาของทุกคนในลานประลองสัตว์อสู ร สายตา
ทอประกายยินดี นี่แหละปฏิกิริยาที่เขาอยากเห็น
[เมืองพันอสู รไม่ตอ้ งการให้คนนอกเข้ามาอวดเก่งที่นี่หรอก!]
[เขาจะทําให้จวินเสี ยรู ้วา่ สัตว์อสู รตัวเล็ก ๆ ของมันไร้ค่าแค่ไหน!]
[ไม่วา่ จวินเสี ยจะฉลาดยังไง เขาก็ตอ้ งทนดูสตั ว์อสู รของตัวเองถูก
มังกรมายากลืนลงท้องด้วยตาของตัวเอง!]
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตามองมังกรมายาบนเวทีประลอง มันเหมือนกับที่ชิงหยู
บรรยายไว้เป๊ ะ ตัวของมันเหมือนงู ความกว้างเกือบเท่าเอวคน
ตอนนี้มนั ขดตัวอยู่ ถ้ามันยืดตัวออกเต็มที่ ขนาดตัวของมันคงใหญ่
จนน่าตกใจ!
ตอนที่ 999 ใครกินใครกันแน่ (1)
พอจวินอู๋เสี ยเห็นมังกรมายา นางก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างอธิบายไม่
ถูกโดยไม่รู้วา่ ทําไม แรงกระตุน้ ของสัญชาตญาณที่รุนแรงกําลังจะ
ยึดครองสติของนาง!
มันเป็ นความรู ้สึกที่จวินอู๋เสี ยไม่เคยเจอมาก่อน แรงกระตุน้ ที่รุนแรง
ทําให้นางขมวดคิ้วพร้อมกับพยายามฝื นสะกดความรู ้สึกนั้นลง สี
หน้าของนางจึงดูไม่ค่อยดีนกั
ตอนนั้นเองหลินเฟิ งก็บงั เอิญหันมามองจวินเสี ยพอดี และสังเกต
เห็นความเปลี่ยนแปลงของสี หน้านางได้อย่างรวดเร็ ว
เมื่อเห็นว่าใบหน้าของจวินเสี ยซีดขาว คิว้ ขมวดแน่น หลินเฟิ งก็รู้สึก
ยินดี เขาอยากเห็นภาพจวินเสี ยร้องไห้สะอึกสะอื้นและครํ่าครวญ
อย่างหมดสิ้ นหนทางเร็ ว ๆ !
บนเวทีประลอง มังกรมายามองไปที่ท่านแบะแบะด้วยแววตา
อํามหิ ต
ท่านแบะแบะแปลกใจอยูช่ วั่ ครู่ ตอนที่เห็นมังกรมายาครั้งแรก มัน
จ้องมองสัตว์อสู รตัวมหึ มาตรงหน้ามัน
เสี ยงระฆังเริ่ มการประลองดังขึ้น!
มังกรมายาอ้าปากกว้างทันทีตามคําสัง่ ของผูเ้ ยาว์คนนั้น ร่ างครึ่ งบน
ของมันพุง่ ตรงเข้าใส่ ท่านแบะแบะราวกับลูกธนู!
การเคลื่อนไหวของมันรวดเร็ วราวสายฟ้าเรี ยกเสี ยงฮือฮาอย่างตกใจ
จากผูช้ ม!
“เร็ วมาก!”
เสี ยงกรี ดร้องและเสี ยงตะโกนดังขึ้น ขณะที่ทุกคนกําลังคิดว่าเจ้าแกะ
จะถูกฆ่า ร่ างเล็ก ๆ สี ขาวก็กระโดดขึ้นสู งจากเวทีประลองอย่าง
ฉับพลัน!
การเคลื่อนไหวของมันราวกับสายฟ้าสี ขาว ไม่ได้ชา้ ไปกว่ามังกร
มายาเลยแม้แต่นอ้ ย!
ทุกคนมองร่ างเล็ก ๆ ของท่านแบะแบะที่ลอยอยูก่ ลางอากาศด้วย
ความตกใจ นี่เป็ นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นสัตว์อสู รแกะตัวนี้ขยับออก
จากที่ในการต่อสู บ้ นเวทีประลอง ความเร็ วของมันทําให้ทุกคนตก
ตะลึงอยูพ่ กั ใหญ่
ขณะที่ท่านแบะแบะกระโดดขึ้นไปบนอากาศ สายตาของมันก็ยงั จับ
จ้องอยูท่ ี่มงั กรมายาบนเวทีประลอง ในดวงตาใสกระจ่างกลมโตคู่
นั้นปรากฏแววกระหายอย่างรุ นแรงขึ้นมา!
มังกรมายาโจมตีพลาดในครั้งแรก มันหมุนหัวกลับมาแล้วพุง่ เข้าใส่
ท่านแบะแบะที่ยงั ลอยอยูก่ ลางอากาศพร้อมกับอ้าปากกว้างเพื่อ
เตรี ยมงับเหยือ่ การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ วของร่ างที่ใหญ่โตนั้นทํา
ให้เกิดสายลมแรงทั้งสี่ ดา้ นของเวทีประลอง!
คนที่อยูใ่ กล้เวทีประลองที่สุดถูกกระแสลมแรงพัดจนล้มลงกับพื้น!
ทุกสายตาเฝ้ามองอย่างตั้งใจขณะที่มงั กรมายากําลังจะเขมือบท่าน
แบะแบะที่กาํ ลังตกลงมา ทันใดนั้นเจ้าลูกบอลสี ขาวขนปุยก็ยงั อยู่
กลางอากาศก็ส่องแสงสว่างจ้าจนแสบตาออกมา!
แสงนั้นสว่างจ้าเหมือนดวงอาทิตย์ มันขยายตัวในเวลาอันรวดเร็ ว!
“แบะ!!”
เสี ยงร้องที่คุน้ เคยดังขึ้นจากในแสงแสบตานั้น ผูช้ มต่างหรี่ ตาและเอา
มือป้องตาพลางพยายามมองอย่างเต็มที่วา่ เกิดอะไรขึ้นบนเวทีประลอง
เมื่อแสงจ้านั้นจางหายไป พวกเขาก็ได้ยนิ เสี ยงกระแทกดังลัน่ ขึ้น
ทันที! ร่ างขนาดมหึ มาพลันปรากฏขึ้นในลานประลองสัตว์อสู ร!
มันคือสัตว์อสู รขนาดยักษ์ที่มีแสงจาง ๆ ออกมาจากทัว่ ร่ าง หางยาว
ทั้งเก้าของมันโบกสะบัดไปมาอยูด่ า้ นหลัง!
มังกรมายาที่หยิง่ จองหองและทรงอํานาจอยูเ่ มื่อครู่ ตอนนี้ถูกตรึ งอยู่
กับพื้นเวทีประลองภายใต้เท้าของสัตว์อสู รขนาดยักษ์ตวั นั้น!
เวทีประลองทําจากเหล็กจึงแข็งแกร่ งและทนทานมาก แต่แค่สตั ว์
อสู รยักษ์ตวั นั้นกระทืบเท้าลงครั้งเดียว เวทีประลองทั้งเวทีกแ็ ตก
ละเอียดในชัว่ พริ บตา!
มังกรมายากรี ดร้องเสี ยงแหลมจนแสบแก้วหู ทันทีที่พบว่าตัวเองถูก
กรงเล็บของสัตว์อสู รยักษ์ตวั นั้นตรึ งเอาไว้ มันก็ดิ้นรนอย่างบ้าคลัง่
เสี ยงร้องของมันเต็มไปด้วยความกลัวและสิ้ นหวัง!
สัตว์อสู รยักษ์หรี่ ตามองมังกรมายาที่กาํ ลังดิ้นรนอยูใ่ ต้เท้าของมัน
แล้วมันก็แลบลิ้นสี แดงเลือดออกมาเลียปาก
ทัว่ ทั้งลานประลองเงียบกริ บ ไม่มีเสี ยงเล็ดรอดออกมาเลยสักเสี ยง
เดียว ไม่มีใครรู ้วา่ สัตว์อสู รยักษ์ตวั นั้นโผล่มาจากที่ไหน……
ตอนที่ 1000 ใครกินใครกันแน่ (2)
พอสัตว์อสู รยักษ์ปรากฏตัวขึ้น ลานประลองที่กว้างขวางใหญ่โตก็
เล็กแคบขึ้นมา คนที่อยูใ่ กล้เวทีประลองที่สุดก็ถูกเหยียบตายคาที่
ทันทีตอนที่สตั ว์อสู รยักษ์ลงมาที่พ้นื !
กลิ่นคาวเลือดลอยไปทัว่ ลานประลองสัตว์อสูร ดวงตาทุกคู่เบิกกว้าง
พลางจ้องมองไปที่สตั ว์อสู รเก้าหางอย่างไม่อยากจะเชื่อ!
“สัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์……นัน่ คือสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์!”
ท่ามกลางความเงียบ เสี ยงกรี ดร้องเสี ยงหนึ่งก็ดงั ขึ้นทําให้ฝงู ชนพา
กันอ้าปากค้าง!
ไม่มีใครคิดว่าสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ที่มีอยูแ่ ค่ในตํานานจะปรากฏ
ตัวขึ้นที่ลานประลองสัตว์อสู รในเมืองพันอสู ร!
จวินอู๋เสี ยมองท่านแบะแบะที่เปิ ดเผยตัวจริ งของมันอย่างใจเย็น
รอยยิม้ บาง ๆ ปรากฏขึ้นที่ริมฝี ปากของนาง
หลินเฟิ งที่ซ่อนตัวอยูท่ ่ามกลางฝูงชนและเตรี ยมสนุกสนานกับโชว์
อันยอดเยีย่ มที่กาํ ลังจะเกิดขึ้นก็ตกตะลึงกับทุกสิ่ งที่เห็นอยูต่ รงหน้า
ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างตกใจ เขามองมังกรมายาที่ถูกตรึ งอยูใ่ ต้
เท้าของสัตว์อสู รผูพ้ ิทกั ษ์อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
เสี ยงร้องครวญครางของมังกรมายาดังมาถึงหูของเขา เสี ยงนั้นฟังดู
น่าสงสารมากและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว!
“ไม่นะ!” หลินเฟิ งสังหรณ์ร้ายขึ้นมาทันที เขาโยนความระมัดระวัง
ตัวทั้งหมดทิ้งไป แล้วตะเกียกตะกายแหวกผูค้ นตรงไปยังมังกรมายา
แต่แล้วทันใดนั้นเอง ท่านแบะแบะก็อา้ ปากกว้างแล้วจัดการเขมือบ
สัตว์อสู รที่บิดตัวดิ้นรนอยูใ่ ต้เท้าของมันลงท้องไป!
มังกรมายาที่ตวั ใหญ่เกือบเท่าภูเขาลูกย่อม ๆ ถูกกลืนลงไปทั้งตัวโดย
ไม่เคี้ยวเลยด้วยซํ้า!
หลินเฟิ งที่แหวกผูค้ นออกมาได้ทนั เห็นแค่ปลายหางของมังกรมายา
หายเข้าไปในปากของท่านแบะแบะและอาการของท่านแบะแบะ
ขณะกําลังกลืนลงท้อง หลินเฟิ งรู ้สึกเหมือนเลือดถูกสู บออกไปจาก
ร่ างกายจนหมด เขาทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ ยวแรง
[มันเป็ นแบบนี้ได้ยงั ไง?]
[มันกลายเป็ นแบบนี้ไปได้ยงั ไง?]
[มังกรมายาเป็ นฝ่ ายถูกกินได้ยงั ไง?]
ในใจของหลินเฟิ งปฏิเสธไม่ยอมเชื่อสิ่ งที่เห็นว่าเป็ นความจริ ง!
มังกรมายาเป็ นของขวัญที่ท่านพ่อจัดเตรี ยมอย่างระมัดระวังเพื่อจะ
มอบให้แก่ท่านผูน้ ้ นั !
แต่ตอนนี้เขาได้แอบเอามังกรมายาออกมา ทําให้มงั กรมายาถูกสัตว์
อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์กินเข้าไปโดยไม่เหลือแม้แต่เกล็ดสักชิ้น……
ความหวาดกลัวเข้าเกาะกุมหัวใจของหลินเฟิ ง ฟันของเขาเริ่ ม
กระทบกัน และร่ างกายของเขาก็พลันเย็นเยียบขึ้นมา
ในตอนที่มงั กรมายาถูกท่านแบะแบะกลืนลงท้องไปจนหมด แรง
กระตุน้ อย่างรุ นแรงที่จวินอู๋เสี ยรู ้สึกก็หายไปทันทีโดยไม่เหลือ
ร่ องรอย นางขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างงุนงง ขณะที่สงั เกตได้ถึง
ความรู ้สึกที่เปลี่ยนไปของตัวเอง
ทั้งลานประลองตกอยูใ่ นความโกลาหลวุน่ วาย การปรากฏตัวของ
สัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ทาํ ให้หลายคนกลัวจนเสี ยสติ พวกเขาพากัน
ร้องโหยหวนแล้วพยายามถอยหนีอย่างหวาดกลัว ความรู ้สึกที่มีต่อ
สัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์กค็ ือความกลัวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น!
ท่านแบะแบะเลียปากอย่างพอใจ ความรู ้สึกเหนียวเหนอะหนะที่ใต้
เท้าของมันทําให้มนั รู ้สึกไม่สบายตัว จึงเปลี่ยนร่ างกลายเป็ นลูกบอล
แสงในทันทีและร่ างอันใหญ่โตนั้นก็ค่อย ๆ หดกลับมาเป็ นลูกบอล
เล็ก ๆ ขนปุยทีละนิด
เมื่อแสงจางหายไป เจ้าแกะน้อยน่ารักก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางเศษ
ซากเวทีประลอง
“แบะ?” ท่านแบะแบะมองความวุน่ วายรอบ ๆ ตัว มองเวทีประลอง
ที่เหลือแต่ซาก และกองเลือดและเนื้อทางด้านหนึ่งที่มนั ทําไว้ตอนที่
‘บังเอิญ’ เหยียบพวกเขา แล้วก็ส่งเสี ยงร้องออกมาหนึ่งครั้งอย่าง
งุนงง
และด้วยเสี ยงร้องหนึ่งครั้งนั้นเอง ความโกลาหลวุน่ วายในลาน
ประลองสัตว์อสู รก็หยุดนิ่งและตกอยูใ่ นเงียบอีกครั้ง!
ทุกสายตาต่างจ้องมองไปยังท่านแบะแบะที่ยนื อยูก่ ลางเศษซากพวก
นั้นอย่างเหลือเชื่อ พวกเขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าผูท้ ี่สร้างฝันร้ายอันน่า
สะพรึ งกลัวให้พวกเขาจะเป็ น ‘สัตว์อสู รระดับตํ่า’ ที่พวกเขาดูถูก
เหยียดหยามมาตลอด!
ตอนที่ 1001 ใครกินใครกันแน่ (3)
สิ่ งที่ทุกคนพบว่ายากที่จะเชื่อก็คือสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ตวั นั้นคือ
ร่ างแปลงของเจ้าตัวเล็กที่อยูต่ รงหน้าพวกเขาตอนนี้!
ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจ สัตว์อสู รที่ดูอ่อนแอเปราะบางที่ไม่น่าจะ
ต้านทานการโจมตีได้แม้แต่ครั้งเดียวความจริ งแล้วไม่ใช่สตั ว์อสู ร
ระดับตํ่าอย่างที่พวกเขาคิด แต่เป็ นสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ที่ซ่อน
พลังและระดับที่แท้จริ งของมันเอาไว้!!
ใครจะไปคิดว่าสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ที่เคยได้ยนิ แค่ในตํานานจะ
ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนในรู ปร่ างแบบนั้น?
ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าทําไมสัตว์อสู รระดับตํ่าทุกตัวที่ได้ยนิ เสี ยง
ร้องของท่านแบะแบะแค่ครั้งเดียวถึงได้หวาดกลัวจนตัวสัน่ ในทันที
ต่อหน้าพลังที่ยงิ่ ใหญ่ของสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ สัตว์อสู รระดับตํ่า
พวกนั้นจะไปทําอะไรได้? ต่อให้เป็ นลิงดําหกแขนที่แข็งแกร่ งที่สุด
ก็ไม่สามารถทําอะไรได้เมื่ออยูต่ ่อหน้าพลังที่ยงิ่ ใหญ่เช่นนั้น!
สัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ที่ยนื อยูบ่ นสุ ดของห่วงโซ่อาหารสามารถ
จัดการสัตว์อสู รที่ระดับตํ่ากว่าระดับผูพ้ ิทกั ษ์ได้ภายในชัว่ พริ บตา!
และนัน่ ก็รวมถึงมังกรมายาที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ ระดับผูพ้ ิทกั ษ์!
หลินเฟิ งยังคงนิ่งอึ้งขณะที่มองท่านแบะแบะเดินออกจากซากเวที
กีบเท้าของมันเหยียบย่างลงบนก้อนหิ น สายตาของเขายังคง
เหลือเชื่อขีดสุ ด เขาจะไปคิดได้อย่างไรว่าสัตว์อสู รของจวินเสี ย
แท้จริ งแล้วคือสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์?
ทัว่ ทั้งเมืองพันอสู รไม่มีใครสามารถฝึ กสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ได้
โดยไม่มีตวั ช่วยใด ๆ เลย และต่อให้มีกาํ ไลสะกดอสู รก็ไม่มี
ความสามารถที่จะทําเช่นนั้นได้ ทัว่ ทั้งเมืองพันอสู ร สิ่ งที่สามารถทํา
ให้สตั ว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ยอมจํานนได้มีอย่างเดียวก็คือขลุ่ยกระดูก
กล่อมอสู ร!
ในฐานะสัตว์อสู รที่ทรงอํานาจเหนือสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ พลังและ
สติปัญญาของสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์จึงทําให้พวกมันไม่ยอมจํานน
ต่อใครทั้งนั้น นานแสนนานมาแล้วในการต่อสู ท้ ี่สบั สนวุน่ วายครั้ง
หนึ่ง เจ้าเมืองของเมืองพันอสู รได้เคยสัง่ การสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์
ตัวหนึ่งแต่นนั่ ต้องใช้ขลุ่ยกระดูกกล่อมอสู รช่วย และการใช้ขลุ่ย
กระดูกกล่อมอสู รเพื่อบิดเบือนสติสมั ปชัญญะของสัตว์อสู รระดับผู ้
พิทกั ษ์เป็ นการกระทําที่เป็ นอันตรายต่อตัวมันเป็ นอย่างมาก หากเกิด
ความผิดพลาดหรื อประมาทเลินเล่อแม้เพียงเล็กน้อยก็จะทําให้สตั ว์
อสู รตัวนั้นหันกลับไปเล่นงานผูใ้ ช้ซะเอง!
หลินเฟิ งไม่เคยได้ยนิ เลยว่ามีใครสามารถทําให้สตั ว์อสูรระดับผู ้
พิทกั ษ์ยอมจํานนต่อเขาได้ดว้ ยความสามารถของตัวเอง…
ครั้งนี้หลินเฟิ งโชคร้ายเป็ นสองเท่าจริ ง ๆ เขาไม่เพียงแต่ไม่ได้เห็น
จวินเสี ยร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าสมเพชเท่านั้น แต่เขายังทําให้
มังกรมายาที่ล้ าํ ค่าที่สุดของท่านพ่อถูกฆ่าด้วย หลินเฟิ งรู ้สึกตื่น
ตระหนกขึ้นมาทันที
เขามองท่านแบะแบะเดินเข้าไปหาจวินเสี ยอย่างหวาดกลัว รู ้สึก
เหมือนว่าทุก ๆ ย่างก้าวของมันได้เหยียบลงบนหัวใจของเขา
เจาะลึกลงไปที่กลางใจ!
“โกง! เจ้ามันขี้โกง!” ทันใดนั้นหลินเฟิ งก็ลุกขึ้นชี้นิ้วไปที่จวินเสี ย
พร้อมกับตะโกนเสี ยงดัง “ลานประลองสัตว์อสู รอนุญาตให้สตั ว์
อสู รระดับตํ่าเข้ามาประลองเท่านั้น! เจ้าคนขี้โกง! เจ้าเอาสัตว์อสู ร
ระดับผูพ้ ิทกั ษ์มาทําท่าเป็ นสัตว์อสู รระดับตํ่าเพื่อเข้าประลองที่นี่!
นัน่ เป็ นการฝ่ าฝื นกฎของลานประลองสัตว์อสูรชัด ๆ ! เจ้าต้องทํา
ตามกฎ! เจ้าต้องส่ งมอบสัตว์อสู รของเจ้ามา!”
ใบหน้าของหลินเฟิ งขาวซีดขณะตะโกนออกมาเสี ยงดังด้วยท่าทางที่
แสร้งทําเป็ นกล้าหาญ
เสี ยงตะโกนอย่างสิ้ นหวังของหลินเฟิ งทําให้ผชู ้ มที่เงียบอยูท่ ้ งั ลาน
ประลองรู ้สึกแปลก ๆ
จวินอู๋เสี ยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองหลินเฟิ งที่ตื่นเต้นจนทําผ้าคลุม
หล่นเปิ ดเผยตัวตนที่แท้จริ งของเขาต่อหน้าทุกคน
[ยังไงมันก็ตอ้ งเป็ นแบบนี้อยูแ่ ล้ว]
“ทหาร! เขาฝ่ าฝื นกฎ! นัน่ มันขี้โกงชัด ๆ ! ยึดสัตว์อสู รจากเขาเลย!”
หลินเฟิ งกระโดดอย่างบ้าคลัง่ การสู ญเสี ยมังกรมายาไม่ใช่สิ่งที่เขา
สามารถแบกรับได้ และเมื่อพ่อของเขารู ้เรื่ องนี้เข้า ต่อให้ละเว้นชีวติ
เขาแต่เขาก็ตอ้ งถูกถลกหนังทั้งเป็ นแน่!
ยิง่ กว่านั้นมังกรมายาก็เป็ นสิ่ งที่ต้ งั ใจมอบให้แก่ท่านผูน้ ้ นั ถ้าท่านผู ้
นั้นรู ้วา่ เขาทําให้มงั กรมายาถูกฆ่าตายเพราะความโกรธแค่ชวั่ วูบล่ะ
ก็…
หลินเฟิ งไม่กล้าคิดต่อเลย!
ตอนที่ 1002 ใครกินใครกันแน่ (4)
มังกรมายาตายไปแล้ว หลินเฟิ งจึงรู ้สึกตื่นตระหนกมากและพยายาม
คิดหาทางออกให้ตวั เองในสถานการณ์น้ นั ด้วยความร้อนใจเขาจึง
ตัดสิ นใจจะยึดเอาสัตว์อสู รของจวินเสี ยไปจากเขา!
แม้วา่ มังกรมายาจะมีค่ามาก แต่สตั ว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์กน็ ่าจะพอ
ชดเชยได้!
หลินเฟิ งร้องโวยวายไม่หยุด แต่ไม่มีใครในลานประลองสัตว์อสู ร
กล้าเห็นด้วยกับหลินเฟิ ง ถึงแม้พวกเขาจะจําได้วา่ หลินเฟิ งเป็ นใคร
แต่พวกเขาก็ยงั ไม่เสี ยสติที่จะตระหนักถึงความจริ งได้วา่ จวินเสี ยยัง
มีสตั ว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ที่โตเต็มวัยอยูใ่ นมือ!
ตอนที่สตั ว์อสู รตัวนั้นกลับคืนสู่ ร่างเดิมเมื่อครู่ มันก็ได้เหยียบคนตาย
ไปกลุ่มหนึ่งแล้ว พวกเขายังไม่พร้อมให้เรื่ องนั้นเกิดขึ้นกับตัวเอง
จวินอู๋เสี ยมองหลินเฟิ งร้องโวยวายเสี ยงดังอย่างเย็นชา แม้วา่ หลิน
เฟิ งจะตะโกนจนเสี ยงแหบแห้ง ก็ไม่มีใครสักคนในลานประลอง
สัตว์อสู รกล้าตอบเสี ยงร้องอย่างน่าสมเพชของเขา
“โวยวายเสร็ จหรื อยัง?” จวินอู๋เสี ยถามอย่างเมินเฉย
ใบหน้าซีดขาวของหลินเฟิ งเปลี่ยนเป็ นสี แดงขณะที่มองไปยังจวิน
เสี ยพร้อมกับหอบอย่างแรง ดูเหมือนเขาอยากจะให้สายตาของเขา
แทงทะลุร่างของผูเ้ ยาว์คนนั้นได้จริ ง ๆ
“ไม่คิดว่าคุณชายของตึกนํ้าค้างเหมันต์จะทําตัวเป็ นเด็กแบบนี้ ต้อง
ให้คนนอกอย่างข้าบอกกฎของลานประลองสัตว์อสู รให้ฟังไหม
ล่ะ?” จวินอู๋เสี ยพูดด้วยนํ้าเสี ยงเย็นชา
หลินเฟิ งตกใจ เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ตัว ทุกคนที่เขามองพา
กันก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ ว ไม่มีใครกล้ามองสบตาเขาเลย
กฎของลานประลองสัตว์อสู รกําหนดขึ้นเพื่อใช้กบั เจ้าของที่เป็ น
มนุษย์มากกว่าสัตว์อสู ร ตราบใดที่ผเู ้ ข้าแข่งขันไม่มีกาํ ไลสะกดอสู ร
อยูใ่ นครอบครอง ไม่วา่ สัตว์อสู รจะอยูใ่ นระดับใด คนของลาน
ประลองสัตว์อสู รจะไม่เข้าไปยุง่ กับเรื่ องนั้น ต่อให้สตั ว์อสู รของจวิน
เสี ยเป็ นสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ที่โตเต็มวัย เขาก็ไม่ได้ทาํ ผิดกฎของ
ลานประลองสัตว์อสู รข้อใดเลย
“ถ้าเจ้าพูดว่าข้าทําผิดกฎ เช่นนั้นการที่เจ้าแอบนํามังกรมายามาที่นี่
จะบอกว่าคืออะไรล่ะ? เจ้าอยากให้ขา้ เตือนไหมว่ามังกรมายาเป็ น
สัตว์อสู รระดับไหน?” จวินอู๋เสี ยเย้ยหยันพร้อมมองหลินเฟิ งอย่างดู
ถูก นางไม่สนใจจะทะเลาะกับเด็กที่ถูกตามใจจนเสี ยคนหรอก แต่
ในเมื่อเขาเสนอหน้าเข้ามาให้นางตบเอง แล้วนางจะปฏิเสธ ‘ข้อเสนอ
ที่ใจกว้าง’ ของเขาอย่างหยาบคายได้อย่างไร?
หลินเฟิ งพูดไม่ออก เขาเซถอยหลังไปสองสามก้าว ไม่คิดว่าจวินเสี ย
จะรู ้เรื่ องของมังกรมายาด้วย
“แทนที่จะมัวมาเถียงกับข้าอยูท่ ี่นี่ คุณชายแห่งตึกนํ้าค้างเหมันต์ควร
จะเอาเวลาไปคิดว่าจะตอบพ่อของท่านอย่างไรดีมากกว่า” จวินอู๋เสี ย
ก้มลงอุม้ ท่านแบะแบะขึ้นมา การที่ท่านแบะแบะกินมังกรมายาเข้า
ไปนั้นเหนือความคาดหมายของนาง แต่ยงั ไงก็เถอะเรื่ องมันก็เกิดขึ้น
ไปแล้ว ต่อให้ท่านแบะแบะขย้อนมันกลับออกมา มังกรมายาก็ไม่
กลับฟื้ นคืนชีวติ ได้หรอก
นอกจากนั้น…
นางก็ไม่คิดที่จะคืนซากของมังกรมายากลับไปให้หลินเฟิ งด้วย
“เจ้า…เจ้าแพ้แล้ว…ยังไงเจ้าก็แพ้อยูด่ ี!” หลินเฟิ งไม่สามารถหาข้อ
โต้แย้งที่มีเหตุผลอื่นได้แต่กไ็ ม่อยากปล่อยจวินเสี ยไปแบบนั้น
ไม่เช่นนั้นก็หมายความว่าเขาไม่เหลืออะไรแล้วน่ะซิ ? และนัน่ ก็
เท่ากับว่าเขาเสี ยทุกอย่างที่ได้วางเดิมพันเอาไว้ดว้ ย
จวินอู๋เสี ยเหลือบตาขึ้นมองหลินเฟิ ง
“สัตว์อสู รของเจ้าก้าวเท้าออกนอกเวทีประลอง! เท้าของมันออก
นอกเขตแล้ว แปลว่ามันแพ้แล้ว! มังกรมายาเป็ นฝ่ ายชนะ!” หลินเฟิ ง
กรี ดร้องอย่างบ้าคลัง่
“เหรอ? ไม่เป็ นไร ข้ามาท้าชิงใหม่พรุ่ งนี้กไ็ ด้” จวินอู๋เสี ยตอบกลับ
ง่าย ๆ
มันก็แค่อีกสองวันเท่านั้นเอง นางรอได้
ยังไงซะนางก็ไม่คิดที่จะไปจากเมืองพันอสู รอีกพักใหญ่เลย
ท่าทางนิ่งสงบของจวินอู๋เสี ยยิง่ ทําให้ทุกคนที่นนั่ เห็นความตื่นตระหนก
ของหลินเฟิ งได้อย่างชัดเจน
ไม่วา่ หลินเฟิ งจะออกอาการเกรี้ ยวกราดไร้เหตุผลยังไงหรื อจะ
ก่อกวนด้วยความสิ้ นหวังมากขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่ส่งผลกระทบ
กับจวินเสี ยเลยแม้แต่นอ้ ยตั้งแต่ตน้ จนจบ
ปฏิกิริยาไม่ใส่ ใจนั้นเป็ นเหมือนการตบหน้าหลินเฟิ งแบบอ้อม ๆ
แม้วา่ มันจะไม่เจ็บแต่ความรู ้สึกอัปยศนั้นก็เป็ นของจริ ง!
ใช่แล้ว มีสตั ว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์อยูก่ บั ตัวจะต้องกังวลเรื่ องเริ่ มต้น
ใหม่ที่ลานประลองสัตว์อสู รไปทําไม?
สัตว์อสู รที่นางมีอยูก่ เ็ ป็ นข้อพิสูจน์ที่เพียงพอแล้วว่านางจะไม่พา่ ย
แพ้อย่างแน่นอน!
ตอนที่ 1003 หินวิญญาณของมังกรมายา (1)
จวินอู๋เสี ยอุม้ ท่านแบะแบะออกจากลานประลองสัตว์อสู รภายใต้
สายตาจํานวนมากของผูช้ มทัว่ ทั้งลานประลองที่จบั จ้องมาที่นาง
คนในลานประลองสัตว์อสูรยังคงไม่ได้สติแม้จวินอู๋เสี ยจะออกไป
แล้ว ทุกอย่างที่พวกเขาเห็นในวันนี้ได้ทาํ ลายมุมมองของพวกเขาไป
จนสิ้ น ทุกสิ่ งที่พวกเขาเชื่อ ทุกสิ่ งที่พวกเขาคิดว่ารู ้เกี่ยวกับสัตว์อสู ร
ระดับผูพ้ ิทกั ษ์ได้เปลี่ยนไปหมด!
ในโลกใบนี้ยงั มีคนที่รู้วธิ ีฝึกสัตว์อสู รมากกว่าคนของเมืองพันอสูร
อยูจ่ ริ ง ๆ หรื อนี่?
คน ๆ นั้นสามารถทําให้สตั ว์อสู รทําตามคําสัง่ ของเขาโดยไม่ตอ้ งใช้
ตัวช่วยใด ๆ เลย น่ากลัวอะไรขนาดนี้
หลินเฟิ งนัง่ อยูบ่ นพื้น ดูไม่สบายใจเป็ นอย่างมาก ความหวาดกลัวได้
เกาะกุมจิตใจของเขา
จวินอู๋เสี ยเดินออกไปจากลานประลองสัตว์อสูรได้แค่แปบเดียว นาง
ก็เห็นชิงหยูวงิ่ มาอย่างรี บร้อน
เมื่อชิงหยูเห็นจวินเสี ย เขาก็วงิ่ มาหาทันที
“เราไม่ได้ตกลงกันแล้วหรื อขอรับ? ว่าวันนี้ท่านจะไม่มาที่นี่น่ะ?
ท่าน…ท่านไม่เป็ นไรใช่ไหมขอรับ?” ชิงหยูตรวจสอบจวินเสี ยอย่าง
ละเอียดตั้งแต่หวั จรดเท้า เมื่อเขาเห็นว่าไม่มีร่องรอยบาดเจ็บที่ตวั
จวินเสี ย และท่านแบะแบะที่เขาอุม้ อยูก่ ม็ ีแค่รอยเลือดเปื้ อนที่กีบเท้า
แต่นอกนั้นก็ดูสบายดี ชิงหยูจึงถอนใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก
“ท่านไม่เป็ นไรก็ดีแล้วขอรับ ท่านแบะแบะก็ดูเหมือนจะไม่เป็ นไร
เหมือนกัน แค่บาดเจ็บเล็กน้อยที่เท้าสองสามวันก็หาย” ชิงหยูคิดว่า
เลือดที่เท้าของท่านแบะแบะเป็ นของมันเอง ไม่ได้รู้เลยว่าเลือดนัน่
มาจากพวกผูช้ มที่บงั เอิญถูกเหยียบตายตอนที่เท้าของมันเหยียบลง
มา
จวินอู๋เสี ยขี้เกียจอธิบายและดึงเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเลือดที่เปื้ อน
เท้าของท่านแบะแบะอย่างอดทน
หลังจากที่กินมังกรมายาเข้าไป ท่านแบะแบะก็รู้สึกพอใจมากเป็ น
พิเศษจนไม่กวนจวินอู๋เสี ยเพื่อขอใบบัว มันซุกตัวอยูใ่ นอ้อมแขน
ของจวินอู๋เสี ยอย่างมีความสุ ขพร้อมกับหลับตาลงและเพลิดเพลินกับ
อ้อมกอดของคนให้อาหารของมัน
“กลับกันเถอะขอรับ” ชิงหยูเห็นว่าจวินเสี ยไม่อยากพูดมากและกลัว
ว่าผูเ้ ยาว์คนนี้จะเสี ยใจ
“อย่าคิดมากไปเลยขอรับ ถึงยังไงมังกรมายาก็ไม่ใช่สตั ว์อสู ร
ธรรมดาทัว่ ไป เป็ นเรื่ องธรรมดาที่ท่านจะแพ้น่ะขอรับ” ชิงหยูพดู
พยายามปลอบใจจวินเสี ยอย่างเต็มที่
จวินอู๋เสี ยจึงบอกเขาว่า “ข้าจะกลับมาที่นี่พรุ่ งนี้”
“หื อ?” ชิงหยูนิ่งอึ้ง ทําไมเด็กคนนี้ถึงได้ด้ือรั้นขนาดนี้?
ชิงหยูที่สบั สนมึนงงพาจวินเสี ยกลับไปที่ตึกเพลิงพิโรธ และจวินเสี ย
ก็พาท่านแบะแบะกลับไปที่หอ้ งของนางในทันที และเอานํ้ามาเพื่อ
จะล้างเลือดออกจากเท้าของท่านแบะแบะ
แต่พอนางวางท่านแบะแบะลงบนเตียงและเดินไปเทนํ้าร้อน เจ้า
กระต่ายโลหิ ตที่ถูกทิ้งเอาไว้ให้เจ้าแมวดําคอยควบคุมดูแลก็กระโดด
ขึ้นไปบนเตียง มันมองท่านแบะแบะที่นอนอยูบ่ นเตียงอย่างสบาย
และดูพออกพอใจมาก แล้วกระต่ายเจ้าเล่ห์กร็ ู ้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาทันที
มันแอบมองจวินอู๋เสี ยและเห็นว่านางหันไปเทนํ้า มันกรอกตาแล้ว
กระโดดสู งขึ้นไปในอากาศทันที จากนั้นก็พงุ่ ลงมาบนพุงกลม ๆ
ของท่านแบะแบะ!
“แบะ!!!!!!”
เสี ยงร้องแสบแก้วหูดงั ลัน่ ขึ้น
จวินอู๋เสี ยขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยนิ นางหันกลับไปและเห็นท่านแบะ
แบะกับกระต่ายโลหิ ตกําลังสู ก้ นั ชุลมุนอีกรอบ เมื่อพวกมัน
สังเกตเห็นว่าจวินอู๋เสี ยกําลังจ้องเขม็งไปที่พวกมัน พวกมันก็แยก
จากกันทันที แล้วท่านแบะแบะก็ยนื่ เท้าข้างหนึ่งของมันออกมา
พยายามจะลอบเตะของสิ่ งหนึ่งให้ออกไปจากเตียงทําให้มนั ตกลง
กระทบพื้น
“กระต่ายเจ้าเล่ห์ทาํ ให้เจ้าแกะโง่อว้ กไอ้นนั่ ออกมา” เจ้าแมวดําที่เป็ น
พยานรู ้เห็นเหตุการณ์ท้ งั หมดฟ้องเจ้าสองตัวนั้นโดยไม่รู้สึกผิดสักนิด
เมื่อท่านแบะแบะได้ยนิ เช่นนั้น มันก็หนั หลังเอาหัวซุกใต้ผา้ ห่มทันที
โผล่มาแต่หางเล็ก ๆ ที่กาํ ลังสัน่ ด้วยความกลัว
“……..” จวินอู๋เสี ยจึงได้แต่อ้ ึงไม่รู้จะพูดอะไรดี
ตอนที่ 1004 หินวิญญาณของมังกรมายา (2)
ทุกครั้งที่บวั เมาปรากฏตัว เขามักจะไล่ตามเจ้าแมวดําอย่างไร้ความ
ปรานี และทุกครั้งที่บวั น้อยโผล่มา เขาก็จะถูกท่านแบะแบะไล่ตาม
และกระโดดหนีไปทัว่ และตอนนี้เรื่ องก็ยงุ่ เหยิงขึ้นไปอีกขั้นเมื่อ
กระต่ายโลหิ ตกับท่านแบะแบะสู ก้ นั ตลอดในทุก ๆ โอกาสที่มี…
จวินอู๋เสี ยรู ้สึกปวดหัวมาก [เจ้าโง่สองตัวนั้นจะหยุดพักบ้างสักครั้ง
ไม่ได้หรื อไง?]
ชิ้นส่ วนที่ท่านแบะแบะ ‘อ้วก’ ออกมาถูกมัน ‘แอบ’ ใช้เท้าเตะหล่น
ลงกระทบพื้นเสี ยงดัง
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตาเมื่อเห็นว่า ‘อ้วก’ นั้นคือหิ นวิญญาณที่ใหญ่เท่าไข่
นกพิราบ!
มันเป็ นหิ นวิญญาณสี เขียวหยกและเต็มไปด้วยนํ้าลายของท่านแบะ
แบะ มันเรี ยบลื่นแวววาวสะท้อนแสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามาทาง
หน้าต่าง
จวินอู๋เสี ยก้มลงหยิบหิ นวิญญาณที่เปี ยกและเหนียวโดยใช้ผา้ เช็ดหน้า
ห่อมันขึ้นมาดูใกล้ ๆ
ภายในหิ นวิญญาณสี เขียวหยกนั้นไม่เห็นรอยตําหนิใด ๆ เลยสักนิด
“นี่คือหิ นวิญญาณของมังกรมายาหรื อ?” จวินอู๋เสี ยหรี่ ตามองหิ น
ก้อนนั้น ในเมื่อมันออกมาจากปากของท่านแบะแบะ มันก็ตอ้ งมา
จากมังกรมายาที่ท่านแบะแบะกินเข้าไป และเนื่องจากไม่สามารถ
ย่อยหิ นวิญญาณได้และด้วยแรงกระแทกจากการกระโดดสู งของ
กระต่ายโลหิ ต หิ นวิญญาณที่ยอ่ ยสลายไม่ได้น้ ีจึงถูกขย้อนออกมา
จากปากของท่านแบะแบะ!
มังกรมายาจัดว่าเป็ นสัตว์อสู รที่แข็งแกร่ งที่สุดในหมู่สตั ว์อสู ร
ระดับสู ง ยิง่ กว่านั้นมังกรมายาตัวนี้กล็ อกคราบครบสามครั้งแล้ว
ดังนั้นมันจึงกลายเป็ นสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ไปแล้ว แต่เนื่องจาก
พลังของสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ของมันยังไม่ววิ ฒั นาการเต็มที่ มัน
จึงสู พ้ ลังที่โตเต็มที่ของท่านแบะแบะไม่ได้
และหิ นวิญญาณของมังกรมายาในมือของนางก็คือหิ นวิญญาณ
ระดับผูพ้ ิทกั ษ์
นี่คือครั้งแรกที่จวินอู๋เสี ยได้เห็นหิ นวิญญาณระดับผูพ้ ิทกั ษ์ แม้วา่
ขนาดมันจะไม่ได้ใหญ่โต แต่นางก็รู้สึกถึงพลังที่แผ่ออกมาจากหิ น
ก้อนนี้ได้อย่างชัดเจน
แหวนประจําตัวของจวินอู๋เสี ยยังไม่ได้หลอม และถ้านางจะหลอม
แหวนล่ะก็ การฝังหิ นวิญญาณระดับผูพ้ ิทกั ษ์กอ้ นนี้กเ็ ป็ นสิ่ งที่
ละเอียดซับซ้อนและมีค่ามากที่สุดที่นางจะทําได้!
เมื่อคิดเช่นนั้น จวินอู๋เสี ยจึงเช็ดหิ นวิญญาณของมังกรมายาอย่าง
ระมัดระวัง แล้ววางลงบนมือเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด
อย่างไรก็ตาม พอนางวางหินวิญญาณก้อนนั้นลงบนมือของตัวเอง
แรงกระตุน้ อันรุ นแรงที่นางรู ้สึกตอนอยูท่ ี่ลานประลองสัตว์อสู รก็พงุ่
ขึ้นมาอีกครั้ง!
ความปรารถนาอันรุ นแรงนั้นเพิ่มมากขึ้นในจิตใจของนาง!
[เกิดอะไรขึ้นกันแน่?]
จวินอู๋เสี ยสะบัดหัวแรง ๆ พยายามระงับความอยากในใจ ความรู ้สึก
นี้เป็ นสิ่ งที่นางไม่คุน้ เคย นางไม่เคยเสี ยการควบคุมความรู ้สึกของ
ตัวเองมาก่อน
เจ้าแมวดําจับการกระทําแปลก ๆ ของจวินอู๋เสี ยได้ มันรี บกระโจน
ไปอยูข่ า้ ง ๆ จวินอู๋เสี ยเพื่อดูวา่ มีอะไรผิดปกติกบั นาง
แต่ทนั ทีที่เจ้าแมวดํากระโจนเข้าไป มือที่จวินอู๋เสี ยใช้ถือหิ นวิญญาณ
ก็มีแสงสี ทองส่ องสว่างออกมา!
แสงนั้นไม่ได้สว่างจ้า จวินอู๋เสี ยรู ้สึกได้ถึงพลังแปลก ๆ ที่สะกดแรง
กระตุน้ ความปรารถนาอันรุ นแรงที่อธิบายไม่ถูกในใจของนาง!
รยางค์สีทองเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนมีจิตสํานึกของตัวเองเริ่ มพันรอบหิ น
วิญญาณก้อนนั้นช้า ๆ ทีละนิด ค่อย ๆ ดันมันให้เคลื่อนไปที่กลางฝ่ า
มือของจวินอู๋เสี ย!
ทันใดนั้นความเจ็บปวดแปลก ๆ ที่อธิบายไม่ได้เมื่อสิ่ งของถูกดัน
ผ่านเนื้อเข้าไปก็ทาํ ให้จวินอู๋เสี ยเหงื่อออกทันที นางอยากขว้างหิ น
วิญญาณออกไปจากมือแต่รยางค์สีทองก็จบั หิ นนั้นไว้แน่นและ
ค่อย ๆ ดันมันเข้าไปในเนื้อตรงฝ่ ามือของนาง!
ตอนที่ 1005 หินวิญญาณของมังกรมายา (3)
ฝ่ ามือของจวินอู๋เสี ยถูกรยางค์สีทองฉี กออกแผลยาวและมีเลือดไหล
ซึมออกมา จากนั้นรยางค์สีทองก็ลากเอาหิ นวิญญาณเข้าไปในฝ่ ามือ
ของจวินอู๋เสี ย มันเปื้ อนสี แดงเนื่องจากถูกห่อหุม้ อยูใ่ นเนื้อ
“เวรเอ๊ย! เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!?” เจ้าแมวดํารู ้สึกตื่นเต้นสับสน มันเห็นสี
หน้าของจวินอู๋เสี ยแย่ลงทุกที จึงกระโจนขึ้นและตั้งใจจะฉีกรยางค์สี
ทองออกจากมือของจวินอู๋เสี ย แต่พอมันแตะรยางค์พวกนั้นเบา ๆ
มันก็เห็นจวินอู๋เสี ยงอตัวด้วยความเจ็บปวดจนเกินจะทน
เมื่อเห็นเช่นนั้น เจ้าแมวดําก็ไม่กล้าทําอะไรบุ่มบ่าม มันได้แต่ยนื มึน
งงสับสนด้วยความตื่นตระหนก
พอจวินอู๋เสี ยคิดว่ารยางค์สีทองกําลังจะลากหิ นวิญญาณเข้าไปในฝ่ า
มือของนางจนหมด แสงจากรยางค์สีทองก็พลันสว่างจ้าขึ้น!
ความรู ้สึกเย็นสบายแพร่ กระจายไปทัว่ ร่ างของจวินอู๋เสี ยอย่าง
รวดเร็ ว!
ความรู ้สึกที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ ร่างกายก็ค่อย ๆ หายไป…
รยางค์สีทองที่พนั รอบหิ นวิญญาณก็หายไปรอบ ๆ บาดแผล แล้ว
แสงสี ทองก็ซึมลงไปในเลือดและกระดูกของจวินอู๋เสี ย…
บาดแผลยังคงเห็นเป็ นรอยขีดสี แดงอย่างชัดเจน และเลือดก็ยงั ไหล
ซึมออกมาจากฝ่ ามือของนางก่อนจะหยดลงบนพื้น จวินอู๋เสี ยมองที่
มือของตัวเองด้วยสี หน้างุนงง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันแปลกประหลาด
เกินไป และเรื่ องแปลก ๆ นั้นก็เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาจวินอู๋เสี ย
บาดแผลที่ฝ่ามือของนางเริ่ มปิ ดอย่างช้า ๆ เลือดไม่ไหลออกมาแล้ว
นางรู ้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเนื้อกําลังงอกขึ้นมาใหม่และกําลังรักษา
ตัวเอง ความรู ้สึกประหลาดมหัศจรรย์กระจายไปทัว่ มือของนาง
ความเร็ วในการรักษานั้นไม่ได้เร็ วมาก แต่มนั ก็ยงั เร็ วกว่าที่คนจะทํา
ได้
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ฉลาดขนาดจวินอู๋เสี ยก็ยงั ไม่รู้วา่ เกิดอะไร
ขึ้นกับร่ างกายของนาง รยางค์สีทองพวกนั้นคืออะไร? ทําไมจู่ ๆ ถึง
ปรากฏขึ้นที่มือของนางได้และทําไมมันถึงอยากลากหิ นวิญญาณ
ของมังกรมายาเข้าไปในร่ างกายของนาง?
ถึงจวินอู๋เสี ยจะเคยเจอกับเรื่ องเหลือเชื่อมามากมาย แต่นางก็ยงั ไม่มี
คําอธิบายสําหรับสิ่ งที่เกิดขึ้นที่นี่
เจ้าแมวดําเห็นว่าจวินอู๋เสี ยยืนมึนงงอยู่ มันก็กระโดดขึ้นไปบนไหล่
ของนางทันทีเพื่อดูบาดแผลของจวินอู๋เสี ยอย่างละเอียด
“เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?” เจ้าแมวดําถามด้วยนํ้าเสี ยงร้อนใจ
จวินอู๋เสี ยส่ ายหัวและพยายามวิเคราะห์สถานการณ์ท้ งั หมดอย่างถี่
ถ้วน ขณะที่นางกําลังจะนัง่ ลง พลังอันแข็งแกร่ งสายหนึ่งก็ดึง
จิตสํานึกของนางให้เข้าไปในความมืด!
จวินอู๋เสี ยยืนอยูท่ ่ามกลางความมืดที่เงียบสนิท รู ้สึกเคว้งคว้างว่าง
เปล่าราวกับไม่มีสิ่งใดอยูร่ อบตัวนางเลย กระทัง่ ร่ างกายของนางเอง
ก็รู้สึกเหมือนไม่มีตวั ตน
ไม่ใช่วา่ จวินอู๋เสี ยไม่คุน้ กับสถานที่แห่งนี้ ครั้งแรกที่นางดูดกลืนภูติ
ประจําตัว นางก็เคยมาที่นี่แล้ว แทนที่จะพูดว่านางอยูท่ ี่อื่น น่าจะพูด
ว่านางอยูใ่ นตัวของนางเองจะถูกกว่า
“เด็กน้อย!” จุ่ ๆ เสี ยงทุม้ ลึกก็ดงั ขึ้นจากในความมืด
จวินอู๋เสี ยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองไปยังแหล่งที่มาของเสี ยง
ในความมืดมีแสงไฟส่ องประกายจาง ๆ สองดวงปรากฏขึ้น และ
แสงไฟนั้นก็กาํ ลังตรงเข้ามาหานาง!
แต่เมื่อแสงไฟสองดวงนั้นออกมาจากความมืด ก็พบว่าพวกมันไม่ใช่
แสงไฟแต่เป็ นดวงตาอันแหลมคมสองดวงแทน!
หัวอันใหญ่โตโผล่ออกมาจากในความมืด และแสงไฟจาง ๆ ก็ส่อง
สว่างประมาณครึ่ งเมตรรอบตัวจวินอู๋เสี ยซึ่งในขณะเดียวกันก็ส่อง
หัวที่อยูใ่ กล้ ๆ นั้นด้วย! หัวนั้นลักษณะเหมือนงูที่ปกคลุมด้วยเกล็ดสี
ดําทั้งหมด ร่ างกายส่ วนที่เหลือของมันยังคงซ่อนอยูใ่ นความมืด
ตอนที่ 1006 งูทะยานฟ้ า (1)
สัตว์อสู รที่ปรากฏตัวขึ้นมาก็ไม่ได้แปลกหน้าสําหรับจวินอู๋เสี ย
เช่นกัน ครั้งแรกที่นางมาที่โลกอันมืดมิดนี้กเ็ ป็ นเพราะเจ้าสัตว์อสู ร
ตัวเดียวกันนี้แหละ!
งูทะยานฟ้า!
ภูติประจําตัวที่จวินอู๋เหยามอบให้นาง!
จวินอู๋เสี ยมองงูทะยานฟ้าตัวใหญ่น้ นั อย่างนิ่งสงบ นางคิดว่าตอนที่
นางทะลวงขั้นพลังวิญญาณครั้งแรก งูทะยานฟ้าได้ถูกดูดซับเข้าสู่
วิญญาณของนางและหายไปแล้ว ไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าวิญญาณของ
สัตว์อสู รตัวนี้จะยังไม่สลายหายไป!
“เจ้าไม่คิดว่าเราจะได้พบกันอีกล่ะซิ ใช่ไหม?” สายตาอันคมกริ บ
ของงูทะยานฟ้ามองไปที่จวินอู๋เสี ย กระทัง่ ในร่ างวิญญาณก็ดูเหมือน
จะรู ้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ จากจมูกของมัน
“เจ้ายังไม่หายไปอีกหรื อ?” จวินอู๋เสี ยถามพร้อมกับเลิกคิ้ว
“แน่นอน ข้าไม่ได้หายไป เจ้าเป็ นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ จะเอาอะไรมา
กําจัดงูทะยานฟ้าอย่างข้าได้! ถ้าไม่ใช่เพราะชายคนนั้นที่ช่วยเจ้าอยู่
ข้างนอก เจ้าคิดจริ ง ๆ หรื อว่าเจ้าจะสามารถดูดซับข้าได้? น่า
หัวเราะ!” งูทะยานฟ้าพ่นลมหายใจออกมาอย่างดูถูก
“ไม่วา่ ข้าจะสามารถกําจัดเจ้าได้หรื อไม่ แต่เจ้าก็ถูกข้าดูดซับอยูด่ ี
อยากจะโดนอีกรอบหรื อไง? ถ้าสัมผัสของข้าไม่ผดิ วิญญาณของเจ้า
ดูเหมือนจะอ่อนแอลงกว่าเมื่อก่อนไม่ใช่เหรอ?” จวินอู๋เสี ยถาม
พร้อมกับหรี่ ตา ก่อนหน้านี้งูทะยานฟ้าดุร้ายและหยิง่ ยโสจนไม่อยาก
พูดกับนางเลยสักคํา แต่วนั นี้มนั กลับไม่ได้โจมตีนางในทันทีที่เจอ
นัน่ ทําให้จวินอู๋เสี ยเริ่ มเดาว่างูทะยานฟ้าไม่ได้มีพลังอย่างที่เคยมีอีก
ต่อไปแล้ว ไม่ง้ นั ทําไมมันต้องมาคุยกับศัตรู ของมันอย่างสันติแบบนี้
ด้วยเล่า?
ดวงตาของงูทะยานฟ้าเปล่งแสงวาบแล้วมันก็พงุ่ หัวเข้าใส่ จวินอู๋เสี ย
ทันที พอมันเข้าใกล้จวินอู๋เสี ยมันก็อา้ ปากส่ งเสี ยงคํารามออกมา
เขี้ยวอันแหลมคมของมันอยูต่ รงหัวของจวินอู๋เสี ยพอดี!
จวินอู๋เสี ยยืนนิ่งอยูก่ บั ที่ไม่ขยับเขยื้อน ไม่มีร่องรอยความกลัวอยูบ่ น
ใบหน้าอันงดงามสมบูรณ์แบบของนางเลย
งูทะยานฟ้ายกตัวของมันขึ้นช้า ๆ เพื่อเว้นระยะห่างระหว่างตัวมัน
เองกับจวินอู๋เสี ย
“เด็กน้อย พลังของเจ้าอาจจะไม่เท่าไรแต่ความกล้าของเจ้ามันคนละ
เรื่ องกันเลย ข้า งูทะยานฟ้า ได้รวมร่ างกับเจ้านับว่าไม่น่าอายแล้ว” งู
ทะยานฟ้ากล่าวอย่างเย็นชา
“เจ้าหมายถึงถูกดูดซับน่ะรึ ” จวินอู๋เสี ยเตือน
โทสะลุกวาบขึ้นในดวงตาของงูทะยานฟ้า แต่มนั ก็ถูกสะกดลงไป
อย่างรวดเร็ ว
“ใช่ ดูดซับ แต่ในกระบวนการนั้นได้เกิดอุบตั ิเหตุเล็ก ๆ ขึ้น เจ้า
ไม่ได้ตระหนักเลยหรื อว่าการที่เจ้ายังเห็นข้าอยูต่ อนนี้มนั ขัดกับ
เหตุผลทั้งหมด?” งูทะยานฟ้าถามพลางหรี่ ตาขณะที่ถอยกลับไปใน
ความมืด มีเพียงดวงตาอันคมกริ บคู่น้ นั ที่ยงั สองประกายแวววาวสอง
ดวงอยูใ่ นความมืด ดูเหมือนสัตว์ประหลาดที่ซ่อนตัวอยูใ่ นฝันร้ายทํา
ให้ผคู ้ นเย็นยะเยือกไปทั้งสันหลัง
เมื่องูทะยานฟ้าไม่ได้คาํ ตอบจากจวินอู๋เสี ย มันก็พดู ต่อไปว่า “ตาม
กระบวนการดูดซับนั้น หลังจากที่วญ
ิ ญาณของข้าถูกเจ้าสะกดลงแล้ว
มันก็ควรจะถูกดูดซับเข้าไปในวิญญาณของเจ้าทีละนิดอย่างช้า ๆ
จนกระทัง่ วิญญาณของข้าสลายไปจนหมดสิ้ น แต่ตอนนี้วญ
ิ ญาณ
ของข้ายังไม่ลดลงเลย ตรงกันข้ามกลับฟื้ นตัวอย่างต่อเนื่อง ข้าต้อง
ขอบคุณคนที่ให้สมบัติล้ าํ ค่านั้นแก่เจ้าจริ ง ๆ ”
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตา
การที่งูทะยานฟ้ายังไม่หายไปสร้างความประหลาดใจให้นางมาก
ตอนที่นางได้งูทะยานฟ้ามา จวินอู๋เหยาบอกว่าหลังจากที่วญ
ิ ญาณ
ของงูทะยานฟ้าถูกดูดซับไปแล้ว จิตวิญญาณของมันจะสลายไป
และขณะที่พลังวิญญาณของนางเพิ่มขึ้นเรื่ อย ๆ งูทะยานฟ้าก็ไม่ใช่
ภูติประจําตัวเพียงตัวเดียวที่นางดูดซับ หลังจากที่ถูกนางดูดซับไป
แล้ว ภูติประจําตัวตัวอื่น ๆ ได้หายไปโดยไม่เหลือร่ องรอยใดเอาไว้
เลย
ตอนที่ 1007 งูทะยานฟ้ า (2)
งูทะยานฟ้าเป็ นภูติประจําตัวตัวแรกที่นางดูดซับ จิตวิญญาณของมัน
จึงน่าจะหายไปแล้ว
“เจ้ากําลังจะพูดอะไรกันแน่?” จวินอู๋เสี ยพูดกับงูทะยานฟ้าและแสดง
ท่าทางสงบนิ่งอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่ในใจของนางกําลังพยายามหาเบาะแส
ที่ซ่อนอยูใ่ นคําพูดของงูทะยานฟ้าเพื่อหาเหตุผลในเหตุการณ์ที่ไม่
คาดคิดนี้
งูทะยานฟ้าพูดว่าเหตุผลที่วญ
ิ ญาณของมันไม่หายไปเป็ นเพราะ
สมบัติล้ าํ ค่าที่จวินอู๋เหยามอบให้นาง…
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตาขณะที่พยายามคิดอย่างหนักเพื่อหาว่าอะไรคือสมบัติ
ลํ้าค่าที่มนั พูดถึง
ทันใดนั้น!
นางก็คิดถึงสิ่ งหนึ่ง!
ตอนที่นางสละวิญญาณของตัวเองอย่างไม่ลงั เลเพื่อฆ่าคนจากสิ บ
สองวิหารที่หุบเขาเมฆา และสุ ดท้ายนางก็ถูกลากออกไปจากที่นนั่
แม้วา่ นางจะยังมีชีวติ อยู่ แต่วญ
ิ ญาณของนางก็ได้รับความเสี ยหาย
อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตอนนั้นจวินอู๋เหยาได้ให้เมล็ดสี ทอง
เม็ดเล็ก ๆ แก่นาง และมันก็ถูกดูดซับเข้าเป็ นส่ วนหนึ่งของร่ างกาย
นาง
จวินอู๋เหยาพูดว่า…
เมล็ดนี้สามารถซ่อมแซมวิญญาณที่เสี ยหายของนางได้!
ในที่สุดจวินอู๋เสี ยก็เข้าใจ เมล็ดสี ทองต้องเป็ นสิ่ งที่ช่วยรักษา
วิญญาณที่เสี ยหาย และเมื่องูทะยานฟ้าเป็ นภูติประจําตัวที่นางดูดซับ
ไปเป็ นตัวแรก มันจึงเป็ นรากฐานที่สาํ คัญที่สุด จากที่นางรู ้มาจาก
จวินอู๋เหยา งูทะยานฟ้านั้นแข็งแกร่ งมาก!
หลังจากที่งูทะยานฟ้าถูกสะกดและถูกดูดซับเข้าสู่ ร่างกายของนาง
วิญญาณของมันก็ค่อย ๆ กลายเป็ นส่ วนหนึ่งของร่ างกายนางอย่าง
ช้า ๆ เหมือนภูติประจําตัวตัวอื่น ๆ แต่เนื่องจากงูทะยานฟ้าเป็ นภูติ
ประจําตัวที่แข็งแกร่ งมาก ช่วงเวลาที่ใช้จึงแตกต่างจากภูติประจําตัว
อื่น ๆ !
ตอนที่จวินอู๋เหยาฝังเมล็ดนั้นเข้าสู่ ร่างกายของนาง งูทะยานฟ้าคงยัง
ไม่ถูกดูดซับไปทั้งหมด และพอเมล็ดสี ทองนั้นรักษานาง มันก็ได้
รักษาวิญญาณของงูทะยานฟ้าไปด้วย!
นัน่ ไม่น่าจะเป็ นข่าวดีสาํ หรับนางเลย
แม้วา่ งูทะยานฟ้าจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่แสดงออก แต่จวินอู๋
เสี ยก็ยงั จับได้ถึงความเกลียดชังอย่างรุ นแรงที่ฝังลึกอยูใ่ นสายตาของ
งูทะยานฟ้า
การที่มนั ถูกนางขังและดูดกลืนนั้นทําให้ตอนนี้เจ้างูทะยานฟ้าไม่
ปรารถนาอะไรมากไปกว่าการได้ฆ่านาง ที่ตอนนี้มนั ระงับความ
โกรธและเกลียดชังเอาไว้กเ็ พราะมันไม่มีทางเลือกอื่น
“เด็กน้อย ถึงเราจะเคยสู ก้ นั แต่ตอนนี้วญ
ิ ญาณของข้าก็หลอมรวมกับ
เจ้าแล้ว ไม่วา่ ตอนนี้ขา้ จะเกลียดเจ้ามากแค่ไหน แต่ขา้ ก็ไม่สามารถ
โจมตีเจ้าได้ ยังไงซะเจ้าก็ยงั เป็ นวิญญาณหลักของร่ างนี้ ถ้าข้าฆ่าเจ้า
ตอนนี้ ร่ างของเจ้าก็จะเริ่ มแตกสลาย และวิญญาณของข้าก็จะไม่
สามารถกลับไปยังที่ ๆ ข้าจากมาได้” งูทะยานฟ้ากัดฟันพูดพร้อมกับ
มองตรงไปที่จวินอู๋เสี ย อย่างที่จวินอู๋เสี ยเดาเอาไว้ งูทะยานฟ้ายังคง
เกลียดนางมาก
แต่มนั ไม่อาจทําอะไรบุ่มบ่ามได้
จวินอู๋เสี ยมองงูทะยานฟ้า นางไม่สงสัยในคําพูดของมันเลย
แนวคิดการรวมวิญญาณเป็ นสิ่ งที่นางคุน้ เคยดีอยูแ่ ล้ว เนื่องจากเจ้า
แมวดําก็เป็ นวิญญาณที่ถูกรวมเข้ากับนางเช่นกัน ไม่วา่ จะเป็ นเจ้า
แมวดําหรื องูทะยานฟ้า เมื่อพวกมันถูกรวมเข้ากับวิญญาณของจวินอู๋
เสี ยแล้ว หากจวินอู๋เสี ยตายวิญญาณทั้งสองก็ไม่รอดเช่นกัน และด้วย
เหตุผลเดียวกันนี้ ตราบใดที่นางยังมีชีวติ อยู่ วิญญาณทั้งสองก็จะยัง
อยูก่ บั นางต่อไป!
“เจ้าทําให้ขา้ มาที่นี่ทาํ ไม?” จวินอู๋เสี ยถามพร้อมกับมองไปที่งู
ทะยานฟ้า งูทะยานฟ้าเกลียดนาง แต่ไม่มีทางเลือกนอกจากยอม
จํานนต่อนาง มันเป็ นสถานการณ์ที่ซบั ซ้อนและละเอียดอ่อนมาก
“ข้ามีเรื่ องต้องคุยกับเจ้า” งูทะยานฟ้าตอบ
“งั้นหรื อ?”
“จิตวิญญาณของข้ายังอ่อนแอมาก แค่เมล็ดนัน่ อย่างเดียวไม่พอที่จะ
ทําให้ขา้ ฟื้ นตัวได้เต็มที่ ข้าจะต้องใช้อย่างอื่นด้วย ถ้าเจ้าช่วยข้าหา
มันได้ ข้าจะยอมอยูใ่ ต้การควบคุมของเจ้า เจ้าก็น่าจะรู ้ดี หลังจากที่
วิญญาณของเรารวมกันแล้ว ข้าก็ไม่สามารถทําร้ายเจ้าได้อีกต่อไป”
งูทะยานฟ้าพูดเสี ยงเบา
ตอนที่ 1008 งูทะยานฟ้ า (3)
“มังกรมายา!! เมื่อครู่ ขา้ สัมผัสถึงมังกรมายาได้! ข้าต้องการพลังของ
มังกรมายา!” ดวงตาของงูทะยานฟ้าลุกวาว
สายตาของจวินอู๋เสี ยเปลี่ยนเป็ นเย็นเยียบในทันที ในที่สุดนางก็
เข้าใจว่าทําไมจู่ ๆ ถึงได้มีแรงกระตุน้ อันทรงพลังที่เกือบอยูเ่ หนือ
การควบคุมของนางในตอนที่นางเห็นมังกรมายา ความรู ้สึกนั้นไม่
ได้มาจากตัวนางแต่มาจากจิตสํานึกของงูทะยานฟ้า!
งูทะยานฟ้าอยากได้มงั กรมายา และเมื่อมันสัมผัสถึงมังกรมายาได้
ความปรารถนาอันรุ นแรงของมันก็ส่งผลกระทบต่ออารมณ์
ความรู ้สึกของจวินอู๋เสี ย
นี่เป็ นหนึ่งในข้อเสี ยใหญ่ของการรวมวิญญาณ!
“มังกรมายาตัวนั้นตายไปแล้ว” จวินอู๋เสี ยไม่ชอบเรื่ องที่สิ่งอื่นมี
อิทธิพลต่ออารมณ์ความรู ้สึกของนางนอกเหนือไปจากตัวนางเอง งู
ทะยานฟ้าทรงพลังมากแต่มนั แตกต่างจากเจ้าแมวดํา งูทะยานฟ้า
เกลียดนางอย่างรุ นแรงและมันยังไม่พบวิธีหลุดออกมาได้ แต่ถา้ มี
โอกาสขึ้นมาในอนาคต งูทะยานฟ้าย่อมไม่ลงั เลที่จะกลับคําพูดของ
มันอย่างแน่นอน!
จวินอู๋เสี ยพบว่านางไม่ชอบการมีตวั ที่ไม่สามารถวางใจได้อยูใ่ นร่ าง
ของนาง
“ตายแล้ว? เป็ นไปไม่ได้! ข้าเพิ่งสัมผัสตัวตนของมันได้เมื่อครู่ น้ ีเอง
นะ!” งูทะยานฟ้าร้องอุทาน
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตา ดูเหมือนว่างูทะยานฟ้าแค่รับรู ้ถึงสิ่ งที่อยูน่ อกร่ าง
ของนางเท่านั้น แต่มองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น นัน่ ทําให้รับมือกับ
สถานการณ์ได้ง่ายขึ้นมาก
ไม่วา่ งูทะยานฟ้าต้องการอะไรจากมังกรมายา แต่จวินอู๋เสี ยจะไม่มี
วันยอมให้มนั ทําได้ตามใจแน่ แม้วา่ การได้รับความช่วยเหลือจากงู
ทะยานฟ้าจะเป็ นทางเลือกที่ไม่เลวนัก แต่จวินอู๋เสี ยจะไม่ยอมให้ภูติ
ประจําตัวที่มีความเกลียดชังต่อนางรุ นแรงถึงขนาดนั้นแข็งแกร่ งขึ้น
อย่างแน่นอน
อย่างน้อยก่อนที่นางจะสามารถทําความกระจ่างกับสถานการณ์ของ
งูทะยานฟ้าตอนนี้ได้ นางจะไม่ยอมให้เรื่ องนั้นเกิดขึ้นแน่
แต่คาํ พูดของงูทะยานฟ้าก็ช่วยคลายข้อสงสัยของนางไปได้หลาย
อย่างเลยทีเดียว
แรงกระตุน้ ที่อธิบายไม่ได้ก่อนหน้านี้ตอนนี้กอ็ ธิบายได้แล้ว และ
รยางค์สีทองที่ปรากฏขึ้นบนฝ่ ามือของนางก็มาจากเมล็ดสี ทองนัน่ งู
ทะยานฟ้าอยากได้หินวิญญาณของมังกรมายามาก และความปรารถนา
นั้นก็ไม่อยูใ่ นการควบคุมของจวินอู๋เสี ย ขณะที่ความปรารถนาขึ้นถึง
จุดสู งสุ ด เมล็ดสี ทองก็ปรากฏขึ้นและหลอมรวมหิ นวิญญาณของ
มังกรมายาเข้าไปในร่ างกายของนาง
เทียบกับงูทะยานฟ้าแล้ว จวินอู๋เสี ยเชื่อในเมล็ดสี ทองนัน่ มากกว่าว่า
ไม่ได้อยากทําร้ายนาง
ไม่วา่ เมล็ดสี ทองนัน่ จะอยากทําเช่นนั้นไปทําไม จวินอู๋เสี ยก็ค่อนข้าง
แน่ใจว่ามันพยายามช่วยนางอยู่
“มันถูกสัตว์อสู รของข้ากินเข้าไป ตอนนี้มนั ก็เลยตายแล้ว” จวินอู๋
เสี ยพูดอย่างเฉยเมย นางพยายามหลอกงูทะยานฟ้า
ดูเหมือนงูทะยานฟ้าไม่อยากจะยอมแพ้ไปแบบนั้น มันพยายาม
ค้นหาตัวตนของมังกรมายาอีกครั้ง แต่กไ็ ม่สามารถตรวจจับร่ องรอย
ของมันได้เลย เมื่อครู่ มนั ตื่นตระหนกก็เพราะจู่ ๆ มังกรมายาก็
ิ ญาณนี้ก่อนที่
หายไป ทําให้มนั ต้องลากจวินอู๋เสี ยเข้ามาที่มิติวญ
วิญญาณของมันจะกลับสู่ สภาพเดิมอย่างสมบูรณ์ ทําให้ความจริ งถูก
เปิ ดเผยออกมาว่าจิตวิญญาณของมันยังคงอยูภ่ ายในร่ างกายของจวิน
อู๋เสี ย
“ทําไมถึงกลายเป็ นแบบนี้ไปได้…” นํ้าเสี ยงของงูทะยานฟ้าเต็มไป
ด้วยความเสี ยใจอย่างมาก
แต่จวินอู๋เสี ยยังคงนิ่งสงบเหมือนเดิม
งูทะยานฟ้านิ่งเงียบไปนานก่อนจะเข้ามาใกล้จวินอู๋เสี ยอีกครั้ง มัน
เบิกตาโตจ้องมองใบหน้าของจวินอู๋เสี ย
“เจ้าช่วยข้าหามังกรมายา แล้วข้าจะยอมทําตามคําสัง่ ของเจ้า ถ้าข้า
แข็งแกร่ งขึ้น เจ้าก็จะได้รับพลังที่ไม่มีผใู ้ ดสามารถเทียบเคียงได้
เช่นกัน นี่เป็ นข้อตกลงที่ท้ งั เจ้าและข้าได้ประโยชน์ท้ งั คู่”
“ตกลง” จวินอู๋เสี ยตกลงทันที
งูทะยานฟ้ามองจวินอู๋เสี ยอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะถอยกลับไปเพิ่ม
ระยะห่างระหว่างทั้งสอง
“ข้าจะรอ” ดวงตาของงูทะยานฟ้าห่างออกไปจากจวินอู๋เสี ยมากขึ้น
เรื่ อย ๆ จนในที่สุดก็หายไปในความมืด
ตอนที่ 1009 ความคิดถึงก็คืออาการป่ วยแบบหนึ่ง (1)
จวินอู๋เสี ยมองลงข้างล่างและหัวเราะอย่างเย็นชาอยูใ่ นใจ
ทั้งนางและงูทะยานฟ้าต่างก็ไม่ไว้ใจกัน
เมื่อจวินอู๋เสี ยรู ้สึกตัว เจ้าแมวดําตัวน้อยกําลังยืนร้อนใจอยูข่ า้ ง ๆ
นาง แม้แต่ท่านแบะแบะกับกระต่ายโลหิ ตก็มาล้อมรอบตัวนางด้วย
ดวงตาของสัตว์อสูรที่น่ารักทั้งสามเต็มไปด้วยความห่วงใยและวิตก
กังวล เมื่อพวกมันเห็นจวินอู๋เสี ยขยับตัว ดวงตาของเจ้าตัวเล็กทั้งสาม
ก็เต็มไปด้วยความยินดีทนั ที
“เกิดอะไรขึ้นกับท่าน? ทําไมจู่ ๆ ถึงได้เป็ นลมไปล่ะ?” เจ้าแมวดํา
ถามพลางเอาอุง้ เท้ามาแปะที่มือของจวินอู๋เสี ย จู่ ๆ จวินอู๋เสี ยก็เป็ น
ลมสลบไปทําให้มนั ตกใจแทบตาย
“ข้าไม่เป็ นไร” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับส่ ายหน้า นางยกมือที่มี
บาดแผลขึ้นมาและพบว่าบาดแผลพวกนั้นเกือบหายดีแล้วทําให้นาง
ประหลาดเล็กน้อยกับความเร็ วในการรักษา
นางนึกขึ้นได้วา่ ชิงหยูเคยบอกนางว่าการรักษาตัวอย่างรวดเร็ วเป็ น
ความสามารถพิเศษของมังกรมายา และเมื่อเมล็ดสี ทองนัน่ หลอม
รวมหิ นวิญญาณของมังกรมายาเข้าไปในร่ างกายของนาง ก็ดูเหมือน
นางจะได้รับความสามารถพิเศษนั้นมาซึ่ งมันก็ได้กระตุน้ ความอยาก
รู ้อยากเห็นของจวินอู๋เสี ย
นางเคยใช้มือจับหินวิญญาณมามากมาย แต่เมล็ดสี ทองก็ไม่ได้มี
ปฏิกิริยาแบบนี้กบั หิ นวิญญาณพวกนั้นเลย ทําไมมันถึงเลือกดูดซับ
หิ นวิญญาณของมังกรมายาซึ่ งเป็ นอันเดียวกับที่งูทะยานฟ้ากําลัง
อยากได้มาก?
จวินอู๋เสี ยลุกขึ้นและเอาหิ นวิญญาณที่นางมีในถุงมิติออกมาทดสอบ
ด้วยการวางหิ นทั้งหมดลงบนมือทีละก้อน แต่กไ็ ม่มีปฏิกิริยาใด ๆ
เลย ไม่เหมือนสิ่ งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ไม่วา่ นางจะใช้หินวิญญาณก้อน
ไหน เมล็ดสี ทองก็ไม่ตอบสนองเลยแม้แต่นอ้ ย
“มังกรมายา” จวินอู๋เสี ยพึมพําชื่อนั้นโดยไม่รู้ตวั นางไม่คุน้ เคยกับ
สัตว์อสู รตัวนั้น ทุกสิ่ งที่นางรู ้กม็ าจากที่ชิงหยูเคยบอกนางเท่านั้น
แต่จากสถานการณ์ปัจจุบนั เห็นได้ชดั ว่ามังกรมายามีบางสิ่ งที่
มากกว่าที่ตาเห็นอย่างแน่นอน งูทะยานฟ้าจึงไม่ลงั เลที่จะเปิ ดเผย
ตัวเองที่ซ่อนอยูเ่ พือ่ ที่จะได้มนั มา กระทัง่ เมล็ดสี ทองลึกลับนัน่ ก็ยงั มี
ปฏิกิริยากับมัน… ยิง่ กว่านั้นคนจากสิ บสองวิหารที่ควบคุมเมืองพัน
อสู รอยูก่ ส็ งั่ ให้คน้ หามังกรมายาด้วย ความผิดปกติของทั้งสามนี้ดู
เหมือนกําลังบอกอะไรบางอย่างแก่จวินอู๋เสี ย
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยงั เป็ นปริ ศนาสําหรับจวินอู๋เสี ยอยูด่ ี
ตอนนั้นเองจวินอู๋เสี ยก็คิดถึงจวินอู๋เหยาขึ้นมา
ถ้าเขาอยูท่ ี่นี่ เขาอาจจะช่วยนางคลายข้อสงสัยทั้งหมดนี้ได้
ดูเหมือนจวินอู๋เสี ยจะรู ้สึกว่าไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จวินอู๋เหยาไม่รู้
ปัญหาใด ๆ ก็ตามเมื่ออยูต่ ่อหน้าเขาก็ดูเหมือนจะถูกแก้ไขได้อย่าง
ง่ายดาย
ตัวจวินอู๋เหยาเองก็ลึกลับ เขาเป็ นใครกันแน่ และทําไมถึงได้ถูกขัง
อยูใ่ นถํ้าแห่งนั้น?
เมื่อก่อนจวินอู๋เสี ยก็ไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่ องนี้เนื่องจากนาง
ไม่ได้สนใจ แต่นางไม่รู้วา่ ทําไมจู่ ๆ ถึงได้สนใจอยากจะรู ้เรื่ องของ
จวินอู๋เหยาให้มากขึ้น อดีตของเขา และทุก ๆ เรื่ องเกี่ยวกับตัวเขา…
จวินอู๋เสี ยไม่เคยรู ้สึกแบบนี้มาก่อน เมื่อไรก็ตามที่นางคิดเรื่ องจวินอู๋
เหยา ก็ดูเหมือนนางจะสู ญเสี ยการควบคุมอารมณ์ความรู ้สึกและการ
กระทําของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยงั คงคิดถึงเขา
แม้วา่ มันจะทําให้นางรู ้สึกอับจนหนทาง แต่นางก็ไม่ได้เกลียด
ความรู ้สึกนั้น
มันก็แค่…
ดูเหมือนนางกําลังคิดถึงเขา
จวินอู๋เสี ยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองออกไปยังเส้นขอบฟ้านอก
หน้าต่าง [ไม่รู้วา่ …ตอนนี้เขาอยูท่ ี่ไหน และเขากําลังทําอะไรอยู?่ ]
[เขาเป็ นเหมือนสายลม รู ้วา่ อยูท่ ี่นนั่ แต่มองไม่เห็นจับไม่ได้ ยามโผล่
มาก็ไร้เสี ยง และจากไปโดยไร้ร่องรอย]
“พี่ใหญ่อ๋ เู หยา…” จวินอู๋เสี ยพึมพําพร้อมกับถอนใจเบา ๆ อย่างไรก็
ตามเมื่อนางรู ้ตวั ว่าพูดอะไรออกมา ความรู ้สึกแปลก ๆ ก็เกิดขึ้นใน
ใจของนาง นางตัดสิ นใจว่าจะไม่คิดถึงมันอีกและทําแผลของตัวเอง
ต่อ
ตอนที่ 1010 ความคิดถึงก็คืออาการป่ วยแบบหนึ่ง (2)
เย่ฉาที่ยนื เฝ้าอยูด่ า้ นนอกได้ยนิ เสี ยงถอนใจเบา ๆ ก็ปล่อยงูดาํ จิ๋ว
ออกไปโดยแทบจะไม่รู้ตวั
เขาแอบเอามือลูบหน้าตัวเองอยูน่ อกหน้าต่างแบบไร้เสี ยง
“นายท่านจิว กลับมาเร็ ว ๆ เถอะขอรับ”
………..
ในวัดเก่าแก่โบราณแห่งหนึ่งที่รอบล้อมด้วยผืนนํ้าใสกระจ่าง เลือด
สี แดงสดได้เปื้ อนสถานที่อนั เงียบสงบแห่งนี้
ภายในวัดเก่าแก่มีศพกระจายเกลื่อนกลาดอยูท่ วั่ พื้นวัด เลือดสี แดง
ปกคลุมทัว่ พื้นและกลิ่นอายแห่งความตายแผ่กระจายไปทัว่ ทุกมุม
ของสถานที่อนั เงียบสงบแห่งนี้
ท่ามกลางทะเลเลือดนั้นมีร่างสู งเพรี ยวคนหนึ่งยืนอยู่ ใต้เท้าของชาย
คนนั้นมีศพคนตายกองสู งเป็ นภูเขา มันดูเหมือนภูเขาไฟที่กาํ ลังพ่น
ลาวาเนื่องจากเลือดที่ไหลลงมาตามแขนขาของศพพวกนั้น ลงมา
รวมเป็ นสายธารเลือดที่ดา้ นล่าง
“นายท่านจิว!” เย่เหม่ยวิง่ ออกมาจากห้องในวัดเก่าแห่งนั้นพร้อมถือ
กล่องกํามะหยีเ่ อาไว้ในมือแน่น
“พบแล้วหรื อ?” ที่ยนื อยูบ่ นภูเขาซากศพนั้นก็คือจวินอู๋เหยาที่หายไป
นาน! ใบหน้าอันหล่อเหลาสมบูรณ์แบบและร้ายกาจนั้นมีรอยยิม้
กระหายเลือดประดับอยู่ ดวงตาสี ม่วงคู่น้ นั ทอประกายตื่นเต้น
สนุกสนานหลังการสังหารนองเลือด จวินอู๋เหยาเตะเท้าเบา ๆ ครั้ง
เดียวก็ร่อนลงจากกองซากศพอย่างสง่างาม
“ขอรับนายท่าน!” เย่เหม่ยพยักหน้า
รอยยิม้ บาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจวินอู๋เหยา เขามองไปรอบ ๆ
วัดเก่าแก่อนั เงียบสงบนั้นด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยาม
“กระทัง่ วัดเก่าแก่อายุเป็ นพันปี ก็ตกอยูใ่ นมือของคนพวกนั้น ทําให้
พื้นที่ศกั ดิ์สิทธิ์ตอ้ งแปดเปื้ อนจริ ง ๆ” จวินอู๋เหยายกมือขึ้นเล็กน้อย
ศพนับไม่ถว้ นที่กระจายอยูเ่ ต็มวัดก็ถูกปกคลุมด้วยหมอกเลือดทันที
หมอกเลือดกระจายตัวออกและศพทั้งหมดที่ตกลงบนพื้นก็เริ่ มสัน่
แบบแปลก ๆ เลือดทั้งหมดในศพพวกนั้นและที่นองอยูบ่ นพื้นทุก ๆ
หยดก็ถูกหมอกเลือดดูดเข้าไปรวมกันอย่างรวดเร็ ว!
ไม่นานหมอกเลือดสี จาง ๆ ก็รวมเข้ากับเลือดสี แดงกลายเป็ นหมอก
สี เข้มจัดดูคล้ายกับทะเลเลือดที่ลอยอยูก่ ลางอากาศ!
เลือดทั้งหมดหายไปจากพื้นโดยไม่เหลือร่ องรอยอะไรไว้เลยในชัว่
พริ บตาเดียว ศพจํานวนนับไม่ถว้ นถูกดูดเลือดจนแห้งและนอนนิ่ง
ไม่ขยับเต็มพื้นวัด
จากนั้นจวินอู๋เหยาก็กาํ มือพร้อมกับยกขึ้นเล็กน้อย!
หมอกเลือดสี แดงหดตัวรวมกันเป็ นลูกบอลทันที! มันหดลง
จนกระทัง่ กลายเป็ นหยดสี แดงที่มีขนาดเท่าหัวแม่มือและลอยเข้าสู่
มือของจวินอู๋เหยาอย่างช้า ๆ
จวินอู๋เหยาโยนหยดเลือดเล็ก ๆ นัน่ เล่นพร้อมกับหรี่ ตา เขาเชิดคาง
ขึ้นเล็กน้อยและมองไปที่ศพแห้งที่กองอยูบ่ นพื้น เขาสะบัดแขนเสื้ อ
เบา ๆ สายลมก็พดั กวาดไปทัว่ วัดเก่าแก่แห่งนี้ ทุกตารางนิ้วที่สายลม
นั้นพัดผ่าน ศพแห้งที่อยูบ่ นพื้นก็กลายเป็ นฝุ่ นผงหายไปกับสายลม
ในทันที
“ชิ ถ้าน้องเสี ยรู ้เข้า นางต้องรังเกียจแน่” จวินอู๋เหยาเล่นกลิ้งหยด
เลือดนัน่ ระหว่างนิ้วของเขาอยูอ่ ีกครู่ หนึ่งก่อนจะยิม้ มุมปาก แล้ว
ทันใดนั้นเขาก็โยนหยดเลือดเข้าปากและกลืนมันลงไป!
หลังจากจวินอู๋เหยากลืนหยดเลือดซึ่งจริ ง ๆ แล้วคือเลือดของคนนับ
ไม่ถว้ นที่นนั่ มารวมตัวกัน ดวงตาสี ม่วงของเขาก็ทอประกายแปลก
ประหลาด
“เถ้าสู่ เถ้า ธุลีสู่ธุลี” แล้วจวินอู๋เหยาก็ลอยขึ้นไปในอากาศ เขายกมือ
ขึ้นเล็กน้อย วัดอายุพนั ปี ก็ถล่มลงทันที!
เย่เหม่ยยืนอยูด่ า้ นนอกซากของวัดเก่าแก่น้ นั และเก็บกล่องกํามะหยี่
ให้ปลอดภัย ทันใดนั้นเขาก็เห็นงูดาํ ที่คุน้ เคยตัวหนึ่งเลื้อยออกมาจาก
ป่ าด้านข้าง เขาก้มลงหยิบงูดาํ ตัวนั้นขึ้นมาวางบนมือแล้วเอานิ้วกด
ท้องมันเบา ๆ งูดาํ ตัวนั้นคายบอลขี้ผ้ งึ ออกมาจากปากทันที!
เย่เหม่ยบีบบอลขี้ผ้ งึ ให้แตกออกแล้วดึงเอาจดหมายเล็ก ๆ ข้างใน
ออกมา เขาไม่กล้าเหลือบมองมันเลยสักนิดและพูดกับจวินอู๋เหยาที่
ยังลอยอยูก่ ลางอากาศว่า “นายท่านจิวขอรับ เย่ฉาส่ งข่าวมา”
จวินอู๋เหยาลอยลงมาตรงหน้าเย่เหม่ยทันที และรี บเอาจดหมายจาก
ในมือของเย่เหม่ยไปโดยไม่พดู อะไร
ข่าวจากเย่ฉาก็มีแต่เรื่ องของนางเท่านั้น
ตอนที่ 1011 ความคิดถึงก็คืออาการป่ วยแบบหนึ่ง (3)
จวินอู๋เหยาอ่านทุก ๆ คําในจดหมายนั้นอย่างละเอียด แล้วรอยยิม้ ก็
ปรากฏขึ้นที่ริมฝี ปากของเขา รอยยิม้ นี้แตกต่างจากรอยยิม้ ร้ายกาจ
ราวปี ศาจร้ายก่อนหน้านี้โดยสิ้ นเชิง แต่มนั เป็ นรอยยิม้ ที่อ่อนโยน
มาก ทําให้ใบหน้าที่สมบูรณ์แบบนั้นดูงดงามน่าหลงใหลมากขึ้น
“คุณหนูมีเรื่ องอะไรหรื อขอรับ?” เย่เหม่ยถามเมื่อเห็นรอยยิม้ บน
ใบหน้าของนายท่านจิวของเขาและเดาได้ทนั ทีวา่ ข้อความในนั้น
เกี่ยวกับอะไร ในโลกนี้คนเพียงผูเ้ ดียวที่ทาํ ให้นายท่านจิวของเขายิม้
แบบ ‘ธรรมดา’ ได้กม็ ีแต่คุณหนูเท่านั้น
“ดูเหมือนเด็กน้อยจะคิดถึงข้า” จวินอู๋เหยาพูดพร้อมกับยิม้ นํ้าเสี ยง
ของเขาดูจะปลื้มใจมาก
“คราวนี้นายท่านจิวจากมานานที่สุดเลยนี่ขอรับ เป็ นธรรมดาที่
คุณหนูจะคิดถึงนายท่าน พวกเราหาที่ต้ งั หนึ่งในของพวกนั้นได้แล้ว
งั้นเรากลับไปก่อนแล้วมอบมันให้คุณหนูดีไหมขอรับ?” เย่เหม่ยถาม
พร้อมกับมองจวินอู๋เหยา
จวินอู๋เหยาใช้นิ้วลูบจดหมายนั้นเบา ๆ แล้วมันก็กลายเป็ นฝุ่ น
กระจายไปในสายลม
“อย่าเพิ่งบอกนางเรื่ องของพวกนี้ แต่…ก็ได้เวลาที่พวกเราจะกลับไป
ดูทางนั้นซักหน่อย เด็กน้อยก็ไม่อยูน่ ิ่งเลยจริ ง ๆ แค่ช่วงเวลาสั้น ๆ
นางก็วงิ่ ไปทัว่ เมืองพันอสู รแล้ว”
“นายท่านจิวขอรับ! มีคนจากสิ บสองวิหารอยูท่ ี่เมืองพันอสู รด้วย
ไม่ใช่หรื อขอรับ? ถ้าท่านไปที่นนั่ ตอนนี้…” เย่เหม่ยอดกังวลไม่ได้
เขาไม่กลัวสิ บสองวิหาร แต่มนั ยังไม่ใช่เวลาที่นายท่านของเขาจะ
เปิ ดเผยตัวต่อหน้าพวกสิ บสองวิหาร ถ้าข่าวเรื่ องนายท่านจิวยังมีชีวติ
อยูร่ ั่วไหลออกไป เขากลัวว่า…
“ไม่เป็ นไร” จวินอู๋เหยาโบกมืออย่างไม่ใส่ ใจ
“ถ้าข้าฆ่าพวกมันทั้งหมด ก็ไม่มีใครหน้าไหนพูดอะไรได้แล้ว”
จวินอู๋เหยาพูดพร้อมกับยิม้ อย่างร้ายกาจ
ในโลกนี้มีเพียงคนตายเท่านั้นที่ไม่พดู
……………..
ที่ตึกนํ้าค้างเหมันต์ หลินเฟิ งเดินวนรอบห้องของตัวเองไม่หยุด สี
หน้าของเขาทั้งวิตกกังวลและหวาดกลัว
“นายน้อย…” คนรับใช้ทกั พร้อมกับเดินเข้ามา
หลินเฟิ งรี บพุง่ เข้าไปหาทันทีและถามอย่างร้อนใจว่า “เจ้าพบท่าน
พ่อรึ ยงั ?”
คนรับใช้ส่ายหัว
“ตอนนี้ท่านหัวหน้าตึกกําลังยุง่ ขอรับ ข้าไปพบท่านแต่ท่านก็ไม่อยูท่ ี่
นัน่ ”
“บัดซบ!” หลินเฟิ งทุบโต๊ะดังปั ง มังกรมายาตายไปแล้ว เขาจะตอบ
คําถามท่านพ่ออย่างไรดี?
ต่อให้ท่านพ่อให้อภัยเขาเพราะเขาเป็ นลูกจึงปรานีให้ แต่มงั กรมายา
เป็ นสิ่ งที่ต้ งั ใจจะมอบเป็ นของขวัญให้แก่ท่านผูน้ ้ นั ตอนนี้มงั กร
มายาตายแล้ว เขาจะเผชิญหน้ากับเรื่ องนี้อย่างไรดี?
“ออกไปเฝ้าที่ประตู! พอท่านพ่อกลับมาให้มารายงานข้าทันที!”
หลินเฟิ งพูดอย่างกระสับกระส่ าย
คนรับใช้ออกจากห้องไปทันที
หลินเฟิ งทิ้งตัวลงบนเก้าอี้พร้อมเอามือทึ้งหัวตัวเอง
ถึงเขาจะเป็ นลูกชายของหัวหน้าตึกนํ้าค้างเหมันต์ ถ้าท่านผูน้ ้ นั รู ้วา่
เขาคือคนที่ทาํ ให้มงั กรมายาที่นางต้องการถูกฆ่าตาย ถึงเป็ นท่านพ่อ
ก็คงไม่สามารถปกป้องเขาได้
เมื่อคิดถึงว่าท่านผูน้ ้ นั โหดเหี้ ยมร้ายกาจมากขนาดไหน หลินเฟิ งก็
รู ้สึกเย็นวาบไปทั้งสันหลังทันที ในใจรู ้สึกเสี ยใจอย่างที่สุด
ถ้าเขารู ้วา่ สัตว์อสู รของจวินเสี ยเป็ นสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ เขาคง
เลือกเจ็บใจอยูเ่ งียบ ๆ มากกว่าจะส่ งมังกรมายาออกไป
ขณะที่หลินเฟิ งกําลังรอคอยอย่างกระวนกระวายอยูข่ า้ งใน หัวหน้า
ตึกนํ้าค้างเหมันต์ หลินชิว ก็กลับมาจากข้างนอกในที่สุด พอเขาก้าว
เข้ามาคนรับใช้กไ็ ปรายงานหลินเฟิ งและหลินเฟิ งก็รีบวิง่ ออกมา
ทันที
หลินชิวเพิง่ ก้าวเข้ามาในสนามด้านหลัง เขาก็เห็นลูกชายของเขาก้าว
ยาว ๆ ตรงเข้ามาหาเขาและคุกเข่าลงตรงหน้าเขาอย่างแรงในทันที
“ลูกพ่อ? อะไรกันเนี่ย?” หลินชิวถามพร้อมกับมองลูกชายอย่างงุนงง
สี หน้าของหลินเฟิ งเศร้าสลด เขาพูดด้วยนํ้าเสี ยงตื่นตระหนกมาก
“ท่านพ่อได้โปรดช่วยลูกด้วย!”
ตอนที่ 1012 แผนลวง
หลินชิวตกใจกับการกระทําของหลินเฟิ ง เขาถามทันทีวา่ “เกิดอะไร
ขึ้น? ลุกขึ้นมาเล่าให้ขา้ ฟังก่อน”
หลินเฟิ งยังคงคุกเข่าอย่างดื้อดึงและพูดว่า “ท่านพ่อ มังกรมายา…
มังกรมายา…ตายแล้ว…”
“อะไรนะ!?” ดวงตาของหลินชิวเบิกกว้าง และมองไปที่หลินเฟิ ง
อย่างไม่อยากจะเชื่อ
“หมายความว่ายังไงมังกรมายาตายแล้ว? เกิดอะไรขึ้น?”
หลินเฟิ งเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้หลินชิวฟัง ใบหน้าของหลินชิว
เปลี่ยนจากสี ขาวเป็ นเขียว
“เจ้าคนไม่ได้เรื่ อง!”
หลินชิวตบหน้าหลินเฟิ งอย่างแรง ทิ้งรอยนิ้วมือห้านิ้วเอาไว้บน
ใบหน้าของหลินเฟิ ง
หลินเฟิ งไม่กล้าร้องออกมา เขาทําได้แค่เอามือกุมหน้าไว้ขณะที่ยงั
คุกเข่าอยูท่ ี่เดิม
“ใครให้เจ้าบังอาจถึงขนาดนั้น? กล้าดียงั ไงเอามังกรมายาไปที่ลาน
ประลองสัตว์อสู ร? ไม่รู้รึไงว่าใครคือคนที่ตอ้ งการมังกรมายา? เจ้า
เสี ยสติไปแล้วหรื อไง? รู ้ไหมว่าเพื่อมังกรมายาตัวนั้นข้าต้องลงทุน
ลงแรงไปมากแค่ไหนต้องเสี ยคนไปเท่าไร? แล้วเจ้ายังกล้าทําให้เสี ย
มังกรมายาไปเพราะความโกรธโง่ ๆ แค่ชวั่ วูบเนี่ยนะ!? ข้าบอกท่าน
ผูน้ ้ นั เรื่ องมังกรมายาไปหมดแล้ว แล้วข้าก็สญ
ั ญาไปแล้วว่าจะส่ ง
มังกรมายาให้ตอนวันเกิดของท่านผูน้ ้ นั ในอีกครึ่ งเดือน แล้วเจ้า แค่
เรื่ องดูถูกเหยียดหยามแค่น้ ี เจ้าต้องมาก่อเรื่ องเอาตอนนี้ดว้ ยเรอะ!
เจ้าแค่กาํ ลังตบหน้าพ่อของเจ้าเองไม่ใช่รึไง!?” หลินชิวตวาด คราวนี้
เขาโกรธสุ ดขีดจริ ง ๆ
ถ้าเป็ นของอย่างอื่น ถึงจะเสี ยหายไปก็คงไม่เป็ นไร เขาสามารถหา
อีกอันมาแทนได้
แต่มงั กรมายาทําให้เขาใช้เวลาไปเกือบสิ บปี และต้องลําบากมากมาย
กว่าจะหามันพบ และเพื่อจับตัวมันกลับมาที่นี่ เขาต้องเสี ยคนเก่ง ๆ
ไปหลายคนและพวกลูกน้องธรรมดาอีกนับไม่ถว้ น ตอนแรกเขาคิด
ว่าจะสามารถใช้มงั กรมายาทําให้ท่านผูน้ ้ นั โปรดปรานเขาได้ แต่
สุ ดท้ายพอเขารายงานท่านผูน้ ้ นั เรื่ องมังกรมายา เขาก็กลับบ้านมา
พบว่ามังกรมายาตายแล้ว!
แล้วเขาจะแก้ไขสถานการณ์น้ ีได้ยงั ไง?
ความโกรธของหลินชิวทําให้หลินเฟิ งรู ้สึกไม่สบายใจมาก เขาเป็ น
ลูกชายคนเดียวของหลินชิว หลินชิวจึงแทบจะไม่ดุด่าว่ากล่าวเขาเลย
เมื่อก่อนเวลาเขาก่อเรื่ องเลวร้าย หลินชิวก็มกั จะช่วยเขาแก้ปัญหา
พวกนั้นแบบเงียบ ๆ แต่คราวนี้สถานการณ์มนั แตกต่างจากเมื่อก่อน
อย่างสิ้ นเชิง
“ท่านพ่อ! ท่านพ่อ! ท่านต้องช่วยข้านะ” หลนเฟิ งอ้อนวอนครํ่า
ครวญอยูแ่ ทบเท้าของหลินชิวพร้อมกับกอดขาพ่อของเขาเอาไว้ดว้ ย
ความกลัว
“ข้าไม่กล้าทําอีกแล้ว ไม่ทาํ อีกเด็ดขาด ท่านพ่อช่วยข้าด้วยนะ”
หลินชิวมองลูกไม่เอาไหนของเขาแล้วอยากจะตีเด็กโง่นี่ให้ตายจริ ง ๆ
แต่เขาก็ไม่อาจลงมือรุ นแรงแบบนั้นกับลูกได้ ทําได้แค่ถอนหายใจ
ออกมาเฮือกใหญ่อย่างจํายอม
“เฮ้อ! นี่ขา้ ทําผิดตรงไหนกัน?”
“เจ้าบอกว่ามังกรมายาถูกสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ฆ่าตายใช่ไหม?
แล้วสัตว์อสู รตัวนั้นก็เป็ นของผูเ้ ยาว์ที่เซียงป้าพาเข้ามาในเมืองพัน
อสู รด้วย?” เรื่ องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาไม่อาจปล่อยให้ลูกชายแบกรับ
ความผิดนี้ได้ ดังนั้นเขาต้องคิดแผนอื่นขึ้นมา
หลินเฟิ งพยักหน้า
“เจ้าแน่ใจไหมว่าสัตว์อสู รของผูเ้ ยาว์คนนั้นเป็ นสัตว์อสู รระดับผู ้
พิทกั ษ์?” หลินชิวถาม
หลินเฟิ งรี บตอบว่า “แน่ใจซิ ท่านพ่อ! ข้าไม่ใช่คนเดียวที่เห็นนะ! ทุก
คนที่ลานประลองสัตว์อสู รวันนี้กเ็ ห็นเหมือนกัน! สัตว์อสู รตัวนั้น
เป็ นสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์แน่ ๆ ไม่อย่างนั้น…ไม่อย่างนั้น ทําไม
มังกรมายาถึงแพ้มนั ล่ะ? ลูกไม่รู้ระดับของสัตว์อสู รตัวนั้นมาก่อน
เลย คิดว่ามันเป็ นแค่สตั ว์อสู รระดับตํ่า คิดว่า…คิดว่าพลังของมังกร
มายาจะกําจัดคู่ต่อสู ไ้ ด้แบบไม่มีปัญหาอะไร ข้าไม่คิดว่าจวินเสี ยจะ
ชัว่ ช้าขนาดจงใจปกปิ ดระดับสัตว์อสู รของตัวเอง ข้าก็เลยตก
หลุมพรางของมัน” หลินเฟิ งร้องโวยวายและโยนความผิดทั้งหมด
ให้จวินเสี ย
ตอนที่ 1013 หอเมฆาสวรรค์ (1)
หลินชิวหรี่ ตา การตายของมังกรมายาไม่ใช่เรื่ องที่จะปกปิ ดได้ง่าย ๆ
สิ่ งเดียวที่เขาทําได้ตอนนี้กค็ ือคิดหาทางทําให้ความโกรธของท่านผู ้
นั้นลดลง เขาจะได้เอาลูกชายออกจากสถานการณ์ยงุ่ ยากครั้งใหญ่น้ ี
ได้
“เจ้ารู ้ร่างเดิมของสัตว์อสู รตัวนั้นไหม?”
หลินเฟิ งส่ ายหน้า
“ข้ารู ้แค่วา่ สัตว์อสูรตัวนั้นมีรูปร่ างเป็ นหมาป่ าสี ขาวที่มีหางเก้าหาง
มัน…มันเป็ นแค่แกะตัวเล็ก ๆ ตอนที่มนั ปกปิ ดตัวจริ งของมันและดู
ไม่น่าแข็งแกร่ งอะไรเลย”
หลินชิวคิดหนักอยูพ่ กั หนึ่งแล้วดึงหลินเฟิ งให้ลุกขึ้นจากพื้น “บอก
ข้ามา เจ้าเด็กจวินเสี ยนัน่ รู ้วา่ เจ้าเป็ นคนที่เอามังกรมายาไปตั้งแต่แรก
เลยใช่ไหม?”
หลินเฟิ งรี บพยักหน้า
“งั้นเจ้าก็จาํ สิ่ งที่ขา้ กําลังจะบอกไว้ให้ดี เรื่ องคราวนี้จวินเสี ยเป็ นคน
วางแผนเล่นงานเจ้ามาตั้งแต่ตน้ เขาให้สตั ว์อสูรของตัวเองโจมตีสตั ว์
อสู รของชางกวนเมี่ยวทําให้ชางกวนเมี่ยวได้รับบาดเจ็บ ส่ วนเจ้าก็
แค่ลงมือทําไปแบบหุนหันพลันแล่นเพราะต้องการแก้แค้นให้พี่นอ้ ง
ของเจ้า จึงตกหลุมพรางของจวินเสี ยทําให้มงั กรมายาถูกฆ่าตาย
เข้าใจไหม?” หลินชิวสัง่ พลางหรี่ ตามองหลินเฟิ ง
หลินเฟิ งนิ่งอึ้ง
หลินชิวตะโกนเสี ยงดังอย่างหงุดหงิด “เจ้าได้ยนิ ชัดไหม!”
หลินเฟิ งตัวสัน่ และรี บพยักหน้ารัว ๆ
“ข้าได้ยนิ ! ข้าได้ยนิ !”
“ดีมาก เอาล่ะ ยังไงซะเรื่ องนี้กเ็ กี่ยวพันกับเจ้า ตอนที่ท่านผูน้ ้ นั
ลงโทษก็ทนหน่อยแล้วกัน ข้าจะพยายามอ้อนวอนขอความเมตตาให้
เจ้าอย่างเต็มที่ แต่เจ้าต้องยืนกรานว่าเรื่ องนี้เป็ นการกระทําของจวิน
เสี ย จวินเสี ยเป็ นแขกของตึกเพลิงพิโรธ พวกตึกเพลิงพิโรธก็มกั จะ
คอยขัดท่านผูน้ ้ นั อยูแ่ ล้ว มีอยูไ่ ม่กี่คนหรอกที่รู้เรื่ องของมังกรมายา
คนบางคนในตึกเพลิงพิโรธก็รู้เรื่ องนี้ดว้ ย พวกมันบอกข้อมูลนี้ให้จ
วินเสี ย ทําให้เขาวางอุบายกระตุน้ ให้เจ้าลงมือ จําทั้งหมดนี้เอาไว้ให้
ดี ๆ ล่ะ! ถ้าท่านผูน้ ้ นั ส่ งคนมาซักถามเจ้า ก็ตอบให้ถูกอย่างที่ขา้ บอก
ไป อย่าให้ผดิ พลาดแม้แต่คาํ เดียว!” หลินชิวพูดอย่างน่ากลัว
“ท่านพ่อคิดจะโยนความผิดทั้งหมดให้จวินเสี ยหรื อ?” หลินเฟิ งยังคง
แปลกใจ
“แล้วเจ้าคิดว่าไงล่ะ!? ถ้าไม่โยนความผิดให้เขา ถึงเป็ นข้าก็ไม่
สามารถช่วยเจ้าจากท่านผูน้ ้ นั ได้หรอก! เจ้าสวดมนต์ภาวนาไว้ให้ดี
เถอะว่าขอให้สตั ว์อสู รผูพ้ ิทกั ษ์ของจวินเสี ยเพียงพอที่จะทําให้ท่านผู ้
นั้นพอใจ ถ้าสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ตวั นั้นสามารถระงับความโกรธ
ของท่านผูน้ ้ นั ได้ เจ้าก็ปลอดภัย” หลินชิวพูดอย่างเย็นชา
หลินเฟิ งหดคออย่างเกรงกลัวและไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
“เจ้าคนไม่ได้เรื่ อง! กลับเข้าห้องไปทบทวนความผิดของตัวเอง
เดี๋ยวนี้!” หลินชิวตวาดเสี ยงดัง ยิง่ มองหลินเฟิ งเขาก็ยงิ่ โกรธมากขึ้น
หลินเฟิ งรี บเช็ดนํ้ามูกนํ้าตาแล้วเดินคอตกกลับเข้าห้องไปแบบเงียบ ๆ
แต่แววตาหวาดกลัวค่อย ๆ หายไปอย่างช้า ๆ ถ้าหลินชิวสัง่ ให้เขาอยู่
แต่ในห้อง ก็แสดงว่าหลินชิวมัน่ ใจในระดับหนึ่ง ด้วยเหตุน้ นั หลิน
เฟิ งจึงรู ้วา่ เขารอดพ้นจากหายนะในครั้งนี้แล้ว
หลินชิวมองด้านหลังของลูกชายและอดรู ้สึกหดหู่สิ้นหวังไม่ได้ เขา
น่าจะทําให้ตาํ แหน่งของเขากับท่านผูน้ ้ นั มัน่ คงแข็งแรงขึ้นได้ดว้ ย
มังกรมายา แต่ตอนนี้มนั พังพินาศหมดแล้วเพราะเจ้าลูกชายไม่เอา
ไหน แล้วเขายังต้องมาคิดหาทางชดเชยมันอีก
“ทหาร!” หลินชิวเรี ยก
“ท่านหัวหน้ามีอะไรจะสัง่ เราหรื อขอรับ?”
“ไปที่คลังแล้วเอาสมบัติที่ขา้ นํากลับมาเมื่อวานมาให้ขา้ แล้วไปที่หอ
เมฆาสวรรค์กบั ข้าด้วย” หลินชิวสัง่ ทหารแล้วถอนใจเฮือกใหญ่
“ขอรับท่านหัวหน้า!”
หลินชิวเตรี ยมสมบัติไว้มากมายและขึ้นรถม้าเดินทางไปที่หอเมฆา
สวรรค์ในเมืองพันอสู ร
หอเมฆาสวรรค์ในเมืองพันอสู รแต่เดิมเป็ นสถานที่ที่พวกเขาใช้
กราบไหว้บูชาเทพ แต่หลังจากที่ท่านผูน้ ้ นั กลับมาก็สงั่ ให้ร้ื อแท่น
บูชาและป้ายจารึ กวิญญาณทั้งหมดออก แล้วเปลี่ยนให้เป็ นที่พกั ของ
ท่านผูน้ ้ นั และพื้นที่ท้ งั หมดที่หอเมฆาสวรรค์ต้ งั อยู่ อาคารทั้งหมดที่
สู งกว่า 2 ชั้นจะถูกทุบทิ้งเนื่องจากท่านผูน้ ้ นั รู ้สึกว่าอาคารพวกนั้นบัง
ทิวทัศน์นอกหน้าต่างของนาง
ตอนที่ 1014 หอเมฆาสวรรค์ (2)
หลินชิวรอให้เรี ยกตัวอยูด่ า้ นนอกหอเมฆาสวรรค์ ขณะที่ลูกน้อง
และคนรับใช้ของเขาถือสมบัติอยูข่ า้ ง ๆ เขา
ครู่ ต่อมาชายหน้าตาหล่อเหลาผิวพรรณดีกอ็ อกมาจากหอเมฆา
สวรรค์ เสื้ อผ้าของเขาบางเบา ท่าทางของเขาก็ดูหยิบหย่ง เมื่อเขา
เห็นหลินชิว เขาก็เริ่ มพูดอย่างไม่ใส่ ใจว่า “ท่านยายกําลังยุง่ เกินกว่า
จะให้เจ้าเข้าพบวันนี้ ถ้าไม่มีธุระสําคัญก็ไปได้แล้ว”
หลินชิวหรี่ ตา ในหอเมฆาสวรรค์น้ นั นอกจากคนที่แข็งแกร่ งมาก
ไม่กี่คนที่ท่านผูน้ ้ นั พามากับนางแล้ว นางยังเลี้ยงหนุ่มหล่อเอาไว้
กลุ่มหนึ่งด้วย ชายหนุ่มพวกนั้นถูกเก็บเอาไว้ที่นนั่ เพื่อคอยรับใช้
ท่านผูน้ ้ นั ทุกวัน ท่านผูน้ ้ นั เป็ นผูห้ ญิงเพียงคนเดียวในหอเมฆา
สวรรค์ นอกนั้นเป็ นผูช้ ายทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่คนเดียว
ตามกฎของหอเมฆาสวรรค์ ผูห้ ญิงคนอื่นจะเข้าไปข้างในไม่ได้ แม้
แต่ฉูหลิงเย่กท็ าํ ได้แค่รออยูข่ า้ งนอกหอเมฆาสวรรค์
หนุ่มหล่อพวกนั้นส่ วนใหญ่ถูกเลือกมาจากในเมือง พวกเขาไม่ได้
เก่งกาจหรื อมีพลังวิญญาณมากมายอะไร แต่ทุกคนต่างมีรูปร่ าง
หน้าตาที่ดี ท่านผูน้ ้ นั ชอบชายที่หล่อเหลาเช่นนี้
และนัน่ ก็ทาํ ให้คนที่มีอาํ นาจอย่างหัวหน้าตึกนํ้าค้างเหมันต์กย็ งั ไม่
กล้าทําอะไรบุ่มบ่ามกับ ‘คนโปรด’ พวกนี้
หลินชิวกลํ้ากลืนความโกรธของเขาลงไปแล้วพูดด้วยรอยยิม้ ว่า “ข้า
ต้องขอให้คุณชายหยุนช่วยส่ งข้อความให้ขา้ อีกครั้งนะ บอกว่าที่ขา้
มาที่นี่วนั นี้เกี่ยวข้องกับเรื่ องของมังกรมายา ข้าเชื่อว่าท่านยายสนใจ
เรื่ องนี้แน่นอน” ขณะที่พดู หลินชิวก็ดึงเอากล่องกํามะหยีส่ ี่ เหลี่ยม
ยาวออกมาวางลงบนมือของคุณชายหยุน
คุณชายหยุนเลิกคิว้ และเปิ ดกล่องออกดู เขาเห็นหยูอ้ ี (คทาจีน)
ประดับทองแวววาวอยูข่ า้ งใน สี หน้าหงุดหงิดของเขาหายไปทันที
และถูกแทนที่ดว้ ยรอยยิม้ พอใจอย่างรวดเร็ ว
“ในเมื่อหัวหน้าตึกหลินมีเรื่ องสําคัญ ข้าก็จะพยายามช่วยท่านอย่าง
เต็มที่แม้วา่ จะยากเย็นก็ตาม” พอพูดจบคุณชายหยุนก็เก็บกล่องเข้า
ไปในแขนเสื้ อและเดินบิดก้นเข้าไปข้างในหอเมฆาสวรรค์
ทันทีที่ชายคนนั้นหันหลังเดินจากไป ดวงตาของหลินชิวก็ทอ
ประกายมุ่งร้ายทันที
“ท่านหัวหน้า ทําไมต้องสุ ภาพกับคนแบบนั้นด้วยขอรับ?” คนรับใช้
ข้าง ๆ หลินชิวถามขึ้นด้วยความไม่พอใจในท่าทางหยิง่ ยโสของ
คุณชายหยุน
หลินชิวยิม้ เยาะและพูดด้วยนํ้าเสี ยงดูถูก “เจ้าคิดจริ ง ๆ หรื อว่าข้าทํา
กับคนพวกนี้ดว้ ยความเคารพ? ถ้าพวกมันไม่ใช่คนโปรดของท่านผู ้
นั้น ขยะไร้ประโยชน์แบบนี้ไม่มีค่าพอจะเช็ดรองเท้าข้าด้วยซํ้า!”
หลังจากนั้นสักพัก คุณชายหยุนก็ออกมาและบอกกับหลินชิวว่าท่าน
ยายให้เขาเข้าพบได้แล้ว
หลินชิวยิม้ ประจบประแจงขอบคุณคุณชายหยุนซํ้าแล้วซํ้าเล่าก่อน
จะนําคนของเขาเข้าไปในหอเมฆาสวรรค์
หอเมฆาสวรรค์สูง 7 ชั้น ท่านผูน้ ้ นั พักอาศัยอยูท่ ี่ช้ นั บนสุ ด
หลินชิวเดินตามหลังคุณชายหยุนไปตลอดทางพร้อมกับถามถึง
อารมณ์ของท่านผูน้ ้ นั ในวันนี้ คุณชายหยุนที่ยอมรับของขวัญย่อม
บอกทุกสิ่ งที่เขารู ้ออกมา และเมื่อพวกเขาไปถึงชั้นบนสุ ด หลินชิวก็
หุบปากเงียบทันที
ที่ช้ นั บนสุ ดของหอเมฆาสวรรค์ ทั้งชั้นปูดว้ ยพรมขนจิ้งจอกหิ มะสี
ขาว ทุกตารางนิ้วในห้องเต็มไปด้วยสิ่ งของหรู หราฟุ่ มเฟื อย
เครื่ องประดับทั้งหยกและทองกระจัดกระจายอยูท่ วั่ ทุกแห่ง ชาย
หนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในเสื้ อผ้าบางเบาหลายคนนัง่ อยูท่ างด้านหนึ่ง
บางคนเล่นพิณ บางคนดีดผีผา และบางคนก็เป่ าขลุ่ยหยก
ชายหน้าตาดีอีกกลุ่มกําลังเอนพิงด้านข้างเก้าอี้ยาวหรู หราประณี ตตัว
หนึ่งพร้อมกับยกจานผลไม้และสุ ราขึ้นส่ งให้ ใบหน้าฉาบด้วย
รอยยิม้ ประจบสอพลอ
ผูห้ ญิงในชุดสี แดงนอนพิงเอกเขนกอยูบ่ นเก้าอี้ยาวโดยมีชายหนุ่ม
มากมายคอยรับใช้ นางมีใบหน้างดงาม หางตาชี้ข้ ึนเล็กน้อย ดู
เหมือนอายุแค่ 20 กว่าเท่านั้น ผมสี ดาํ ยาวสยายอยูท่ ี่ดา้ นหลังโดยมี
ชายคนหนึ่งกําลังคุกเข่าหวีผมอย่างพิถีพิถนั อยูบ่ นพื้น
หลินชิวชําเลืองมองสาวงามคนนั้นครั้งหนึ่งแล้วยิม้ อย่างระวัง
ใครจะไปคิดว่าสาวงามคนนี้แท้จริ งแล้วคือคนแก่อายุเกินร้อย?
ตอนที่ 1015 หอเมฆาสวรรค์ (3)
“ข้าน้อยหลินชิวคารวะท่านยาย” หลินชิวคุกเข่าสองข้างและก้ม
ศีรษะลงคํานับ
สาวงามคนนั้นเหลือบตาขึ้นเล็กน้อย ดวงตายัว่ ยวนของนางกวาด
มองหลินชิวแล้วพูดอย่างไม่ใส่ ใจว่า “เสี่ ยวหยุนบอกข้าว่าเจ้ามีเรื่ อง
สําคัญต้องพบข้างั้นหรื อ? และมันก็เกี่ยวข้องกับมังกรมายาด้วย ข้า
จําได้วา่ เจ้าเพิง่ บอกข้าเมื่อไม่กี่วนั ก่อนว่าเจ้าจะมอบมังกรมายาให้
เป็ นของขวัญวันเกิดข้า ที่เจ้ามาวันนี้คงไม่ได้หมายความว่ามีปัญหา
อะไรใช่ไหม?”
นางพูดเสี ยงเบา นํ้าเสี ยงมีเสน่ห์น่าหลงใหล แต่กเ็ สี ยดแทงเหมือน
เข็มที่ทิ่มเข้าใส่ หลินชิว
เหงื่อไหลลงมาตามหลังของหลินชิวขระที่เขายังคงคุกเข่าอยู่
ตรงหน้านาง ใบหน้าของเขาซี ดเผือดราวกับผี
“ข้าน้อยผิดไปแล้ว! ข้าน้อยเลี้ยงลูกไม่ดีทาํ ให้โง่จนตกหลุมพราง
แผนการของคนที่คิดร้าย ทําให้ตอ้ งสู ญเสี ยมังกรมายาไป ท่านยาย
โปรดลงโทษข้าเถอะ!”
สาวงามคนนั้นหรี่ ตามองหลินชิวที่คุกเข่าอยูบ่ นพื้น จากนั้นนางก็ส่ง
เสี ยงหัวเราะที่กงั วานใสเหมือนระฆังเงิน
“หลินชิว ที่เจ้ามาที่นี่วนั นี้เพือ่ จะบอกข้าว่าลูกชายของเจ้าทําให้ขา้
สู ญเสี ยมังกรมายาไปงั้นหรื อ?”
หลินชิวเริ่ มตัวสัน่ ขณะที่ยงั คุกเข่าอยูบ่ นพื้น แม้วา่ หูเขาจะได้ยนิ เสี ยง
หัวเราะ แต่เสี ยงนั้นกลับทําให้เขาเหงื่อออกทัว่ ร่ าง!
“เป็ นความละเลยของข้าน้อยเอง ลูกชายของข้าถึงได้…”
เพล้ง!
ถ้วยสุ ราหยกขาวกระแทกเข้าที่ขมับของหลินชิวจนแตกละเอียดเกิด
บาดแผลขึ้นที่ศีรษะทันที เลือดไหลลงมาจากบาดแผลหยดลงบน
พรมขนจิ้งจอกสี ขาว ดูเหมือนดอกไม้สีเลือดกําลังบานอยูบ่ นหิ มะสี
ขาว
หลินชิวไม่กล้าขยับออกจากที่ เขาบังคับตัวเองให้คุกเข่าต่อไปพร้อม
กับรี บพูดขึ้นว่า “เป็ นความโง่เขลาของลูกข้าเองที่ตกหลุมพรางของ
คนพวกนั้นทําให้ตอ้ งเสี ยมังกรมายาไป ข้าน้อยตรวจสอบเรื่ องนี้
มาแล้ว อีกฝ่ ายได้ปลอมสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ให้เป็ นสัตว์อสู ร
ระดับตํ่าจริ ง ๆ ซึ่งเป็ นสาเหตุหลักของปั ญหานี้ ถึงเขาจะตก
หลุมพรางของคนอื่น แต่เรื่ องนี้กไ็ ม่อาจพูดได้วา่ ไม่เกี่ยวข้องกับลูก
ชายไม่เอาไหนของข้าน้อย ท่านยายโปรดลงโทษข้าน้อยแทนเจ้าลูก
โง่ของข้าด้วยเถอะ”
สาวงามหรี่ ตาและลุกขึ้นนัง่ “สัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ง้ นั หรื อ?”
หลินชิวรู ้สึกยินดีข้ ึนมาทันทีเมื่อรู ้วา่ เขาเลือกถูกวิธีแล้ว เขารี บตอบ
ว่า “ขอรับ มันเป็ นสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์อย่างแน่นอน คนของตึก
เพลิงพิโรธพาคน ๆ นั้นเข้ามาในเมือง ชื่อของเขาคือจวินเสี ย เขาไม่
เคยอยูใ่ นเมืองพันอสู รมาก่อนขอรับ”
“จวินเสี ยงั้นหรื อ? น่าสนใจ มีคนกล้าแตะต้องของที่ขา้ ต้องการด้วย
หรื อเนี่ย” ใบหน้าของสาวงามคนนั้นปรากฏสี หน้ามุ่งร้ายขึ้นมา นาง
ปรบมือที่เรี ยบเนียนเหมือนหยกขาวคู่น้ นั เบา ๆ
ชายร่ างสู งใหญ่คนหนึ่งขึ้นมาจากด้านล่างทันที
เมื่อหลินชิวเห็นชายคนนั้น เขาก็เริ่ มระวังตัวมากขึ้น ชายคนนั้นเป็ น
หนึ่งในคนที่แข็งแกร่ งที่ท่านยายพามาพร้อมกับนาง
“ไปตรวจสอบประวัติของคนที่ชื่อจวินเสี ยมา” นางพูดด้วยนํ้าเสี ยง
ไม่พอใจ
ชายคนนั้นประหลาดใจ เขาลังเลครู่ หนึ่งหลังจากได้รับคําสัง่ ท่าทาง
เหมือนนึกอะไรได้ ทันใดนั้นเขาก็หนั ไปถามหลินชิวว่า “คนที่ชื่อ
จวินเสี ยนัน่ อายุเท่าไร เป็ นผูช้ ายหรื อผูห้ ญิง?”
หลินชิวรี บตอบว่า “ดูเหมือนเขาจะอายุ 14-15 ปี ตัวเล็ก เป็ นแค่
เด็กผูช้ ายที่ยงั ไม่โตเต็มที่”
ชายคนนั้นเลิกคิว้ ขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วพูดว่า “ข้าน้อย
เคยได้ยนิ ชื่อจวินเสี ยมาก่อนขอรับ”
“หื ม?” สาวงามมองชายคนนั้นอย่างสงสัย
“เมื่อไม่กี่วนั ก่อน สายของเราจากแคว้นหยานส่ งรายงานมาว่าเกิด
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กบั ราชวงศ์ที่ปกครองแคว้นหยาน ผูค้ รอง
แคว้นถูกเปลี่ยนมือ กลายเป็ นของคนที่ชื่อจวินเสี ย! ผูเ้ ยาว์คนนั้นอายุ
ประมาณ 14-15 ปี และเซี ยงป้าก็เพิง่ กลับมาจากแคว้นหยาน ถ้าข้า
เดาไม่ผดิ จวินเสี ยที่หลินชิวพูดถึงน่าจะเป็ นจักรพรรดิองค์ใหม่ของ
แคว้นหยานขอรับ” ชายคนนั้นพูดช้า ๆ
หลินชิวตกตะลึงทันที!
ตอนที่ 1016 หอเมฆาสวรรค์ (4)
หลินชิวไม่เคยคิดเลยว่าจวินอู๋เสี ยจะมีภูมิหลังยิง่ ใหญ่แบบนั้น ใน
เมืองพันอสู รแม้วา่ เขาจะเป็ นหัวหน้าตึกที่เป็ นที่เคารพนับถืออย่าง
มาก แต่มนั ก็ไม่ได้อยูใ่ นระดับที่สามารถต่อต้านจักรพรรดิแห่งแคว้น
ที่ใหญ่ที่สุดได้ หลินชิวพบว่าตัวเองมีเหงื่อออกชุ่มโชกขึ้นมาทันที
เขาด่าลูกชายที่ก่อเรื่ องสร้างปัญหาให้ตลอดอยูใ่ นใจเป็ นล้าน ๆ ครั้ง
ในโลกนี้มีคนมากมายให้หาเรื่ อง ดันไปเลือกหาเรื่ องจักรพรรดิแห่ง
แคว้นหยาน แผนเบี่ยงเบนความโกรธของท่านยายไปที่จวินเสี ยครั้ง
นี้ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้ซะแล้ว
“ผูเ้ ยาว์อายุแค่ 14-15 ปี สามารถเป็ นจักรพรรดิแคว้นหยานได้จริ ง ๆ
หรื อ? นัน่ เป็ นแค่เรื่ องตลกจากแคว้นหยานรึ เปล่า?” สาวงามคนนั้น
ถามอย่างสงสัย
ข้าน้อยได้ยนิ ว่าจวินเสี ยมีแหวนที่เรี ยกว่าแหวนจักรพรรดิหยานอยู่
ขอรับ เดิมทีมนั เป็ นของอดีตจักรพรรดิของแคว้นหยานองค์หนึ่ง
จักรพรรดิองค์น้ นั หายตัวไปนานมาก บัลลังก์จึงตกเป็ นของน้องชาย
เขาชัว่ คราว ตอนที่ข้ ึนครองราชย์ น้องชายเขาได้ออกพระราชโองการ
มาว่า เมื่อคนที่ครอบครองแหวนจักรพรรดิหยานปรากฏตัวขึ้น
ทายาทของเขาทุกคนจะต้องสละราชสมบัติและยกบัลลังก์ให้แก่คน
ผูน้ ้ นั ” ชายคนนั้นกล่าว
“เรื่ องเป็ นแบบนี้เอง” สาวงามคนนั้นพยักหน้าน้อย ๆ “แล้ว
จักรพรรดินอ้ ยที่เพิ่งครองราชย์มาทําอะไรที่เมืองพันอสู รของข้า
แทนที่จะอยูท่ ี่แคว้นหยานของตัวเอง?”
“เรื่ องนั้น…ข้าน้อยก็ไม่ทราบขอรับ”
สาวงามคนนั้นโบกมือไล่เขาออกไป นางหันไปมองหลินชิวที่คุกเข่า
อยูท่ ี่พ้นื สายตานางดูเหมือนกําลังครุ่ นคิดบางอย่างขณะที่หลินชิวก็
รู ้สึกกระวนกระวาย
“ลืมไปซะ ก็แค่สตั ว์อสู ร ในเมื่อจักรพรรดินอ้ ยแห่งแคว้นหยานชอบ
มัน ก็ให้มนั เป็ นของขวัญต้อนรับจากข้าก็แล้วกัน”
หลินชิวได้ยนิ ท่านยายพูดเช่นนั้นก็ถอนใจอย่างโล่งอกอยูเ่ งียบ ๆ
“อีกไม่นานก็จะถึงงานเลี้ยงวันเกิดของข้า เนื่องด้วยโอกาสที่
จักรพรรดินอ้ ยแห่งแคว้นหยานมาอยูท่ ี่เมืองพันอสู รเช่นนี้ ให้คนไป
เชิญจักรพรรดินอ้ ยมาร่ วมงานเลี้ยงกับเราด้วย”
“ขอรับ!” หลินชิวรี บพูด
“ส่ วนเรื่ องที่เกิดขึ้นคราวนี้ขา้ จะไม่เอาเรื่ อง ถึงยังไงเจ้าก็พยายาม
อย่างเต็มที่มาตลอดหลายปี ครั้งนี้จะไว้ชีวติ ลูกชายเจ้าไปก่อน แล้ว
มันก็ใกล้จะได้เวลาส่ งคนกลุ่มต่อไปไปที่ผาสุ ดสวรรค์ดว้ ย เจ้าก็
น่าจะรู ้วา่ ต้องทํายังไง” สาวงามคนนั้นพูดพร้อมกับเหลือบมองหลิน
ชิว แม้วา่ จะเป็ นการเหลือบมองแค่ชวั่ แวบเดียว แต่กเ็ พียงพอที่จะทํา
ให้รู้สึกหายใจไม่ออก
หลินชิวตอบว่า “ข้าน้อยรู ้ขอรับ ข้าน้อยจะจัดการให้เรี ยบร้อยแน่
ขอรับ แต่….แต่เวลาที่ขา้ น้อยขอให้ท่านเจ้าเมืองจัดคนเข้าคณะ
เดินทาง ดูเหมือนท่านเจ้าเมืองจะไม่พอใจมากนะขอรับ” ขณะที่พดู
หลินชิวก็แอบเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อสังเกตปฏิกิริยาของสาวงาม
คนนั้น
สาวงามคนนั้นพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชา “ความไม่พอใจ
ของเขาก็ไม่ใช่เรื่ องใหม่สาํ หรับเจ้านี่ ทําไมจะต้องสนใจด้วยว่าเขา
จะรู ้สึกยังไง?”
“ขอรับ…ขอรับ ทุกอย่างจะเป็ นไปตามที่ท่านยายต้องการ ข้าน้อยจะ
ทําให้เต็มที่เพื่อให้สาํ เร็ จขอรับ” หลินชิวพูด
สาวงามพยักหน้าอย่างพอใจ
“ไปได้แล้ว!”
“ขอรับ” หลินชิวถอยออกมา แล้วให้คนของเขาวางของขวัญทั้งหมด
ลงก่อนจะออกไปจากหอเมฆาสวรรค์
“พวกเจ้าทุกคนก็ออกไปด้วย” สาวงามโบกมือไล่ชายหนุ่มหน้าตาดี
ทั้งหมดในห้องให้ออกไป
เมื่อเหลือนางอยูค่ นเดียวที่ช้ นั บนสุ ด ชายร่ างสู งใหญ่ที่ออกไปเมื่อครู่
ก็กลับมาพร้อมกับชายอีกสองคน
“ที่พดู เมื่อครู่ ท้ งั หมด พวกเจ้าได้ยนิ กันแล้วใช่ไหม?” ฉูซินรุ่ ยถาม
พร้อมกับลุกขึ้นนัง่ ตัวตรงบนเก้าอี้ยาว นางมองไปที่คนทั้งสามที่มา
ที่เมืองพันอสู รพร้อมกับนาง
“พวกเราได้ยนิ ชัดเลยล่ะ เรื่ องที่เจ้าปล่อยหลินชิวไปง่าย ๆ คราวนี้ไม่
เหมือนนิสยั ของเจ้าเลย ข้าคิดว่าเจ้าจะอยากฉี กลูกชายของเขา
ออกเป็ นล้าน ๆ ชิ้นถึงจะพอใจซะอีก” ชายคนที่ทาํ ท่าเคารพฉูซินรุ่ ย
อย่างมากอยูเ่ มื่อครู่ พดู ขึ้นพร้อมกับหัวเราะ นํ้าเสี ยงของเขาไม่มี
วีแ่ ววเคารพแบบเดียวกับเมื่อครู่ อยูเ่ ลย
ตอนที่ 1017 หอเมฆาสวรรค์ (5)
ฉูซินรุ่ ยหัวเราะอย่างเย็นชาเป็ นคําตอบ หลังจากพลังวิญญาณของ
นางขึ้นสู่ ระดับสี ม่วง นางก็ออกจากที่นนั่ ตามคําเชิญของวิหารจิต
หวนคืนของสิ บสองวิหาร นางกลับมาที่เมืองพันอสู รก็เพราะนางมี
เป้าหมายที่ตอ้ งทําให้สาํ เร็ จที่นี่เท่านั้น
“ลูกชายหลินชิวเป็ นแค่ขยะไร้ประโยชน์ แต่หลินชิวยังมีประโยชน์
อยู่ ถ้าข้าฆ่าลูกชายมัน ข้าไม่คิดว่ามันจะยังยอมทํางานให้เราอยู่
หรอก ยังไงซะพวกมันก็ตอ้ งตายอยูด่ ี แต่สาํ หรับหลินชิวยังต้องรอ
จนมันทํางานที่ขา้ มอบหมายให้เสร็ จก่อนที่มนั จะตาย”
“ตามที่เจ้าพูดมา เจ้าตั้งใจจะจัดการกับหลินชิวหลังจากที่มนั ช่วยเรา
หาที่ต้ งั ของสุ สานจักรพรรดิแห่งความมืดงั้นหรื อ?” ชายคนหนึ่งถาม
ขึ้นพร้อมกับเลิกคิว้ ขึ้นเล็กน้อย
ฉูซินรุ่ ยหรี่ ตา ดวงตาของนางทอแววโหดเหี้ ยม
“แม้วา่ มังกรมายาจะไม่ได้สาํ คัญมากเท่ากับสุ สานของจักรพรรดิแห่ง
ความมืด แต่มนั ก็ยงั สําคัญมากอยูด่ ี เจ้าขยะนัน่ เอาความโกรธชัว่ วูบ
มาทําให้ขา้ เสี ยมังกรมายาไป แล้วข้าจะปล่อยมันไปง่าย ๆ ได้ยงั ไงกัน?”
“แต่หลินชิวภักดีกบั เจ้ามากนะ กระทัง่ มังกรมายาที่หายากหาเย็น
แบบนั้น หลินชิวยังจัดการหามันมาให้เจ้าได้ แต่กน็ ่าเสี ยดายนะ ถ้า
ไม่เกิดอุบตั ิเหตุครั้งนี้ข้ ึน ถ้าเจ้าพามังกรมายากลับไปที่วหิ ารได้ ซิ น
รุ่ ย เจ้าจะได้ความดีความชอบมากแน่ ๆ” ชายคนนั้นพูดพร้อมกับยิม้
ฉูซินรุ่ ยชําเลืองมองเขา ดูเหมือนจะไม่รู้สึกรู ้สากับคําเหน็บแนมของ
ชายคนนั้นแม้แต่นอ้ ย
“ถ้าพวกเจ้ามีเวลามากขนาดมาบอกเรื่ องทั้งหมดนี้กบั ข้าได้ เจ้าก็ควร
จะมองเรื่ องนี้ในอีกมุมแทนนะ มังกรมายาตายไปแล้วก็จริ ง แต่พวก
เราก็ได้ของดีกลับมาไม่ใช่หรื อ?”
“ของดี? เจ้าหมายถึงสัตว์อสูรระดับผูพ้ ิทกั ษ์น่ะรึ ?”
ฉูซินรุ่ ยส่ ายหัว “แม้วา่ สัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์จะหายาก แต่มนั ก็ไม่
ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายที่นี่ได้หรอก ตรงกันข้ามกับจักรพรรดินอ้ ย
แห่งแคว้นหยานที่จะมีประโยชน์กบั เรามากกว่า แคว้นหยานเป็ น
แคว้นที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรล่าง ไม่วา่ จะจํานวนประชากรหรื อ
ความแข็งแกร่ งในการต่อสู ้ ก็ไม่มีแคว้นใดในอาณาจักรล่างเทียบกับ
พวกเขาได้ ถ้าเราทําให้จกั รพรรดินอ้ ยยอมจํานนต่อเราได้ เราก็จะ
สามารถระดมกองทัพที่เขามีอยูใ่ นมือไปสํารวจผาสุ ดสวรรค์ได้ และ
ผลที่ได้ยอ่ มเหนือกว่าที่เมืองพันอสู รเพียงเมืองเดียวจะทําได้”
“มิน่าเจ้าถึงพูดว่าให้ลืมเรื่ องนี้ไปซะ งั้นเจ้าก็คิดแบบนี้อยูแ่ ล้วซิ นะ
ข้านึกว่านิสยั เจ้าเกิดเปลี่ยนไปซะอีกถึงได้ตดั สิ นใจไม่เอาเรื่ องหลิน
ชิว แล้วยังไม่ตามเอาเรื่ องจวินเสี ยด้วย ดูเหมือนตอนที่เจ้าสัง่ ให้ส่ง
คําเชิญไปให้จกั รพรรดินอ้ ย เจ้าคิดจะดึงเอาจักรพรรดินอ้ ยเป็ นพวก
อยูแ่ ล้วใช่ไหม?” ชายคนนั้นรู ้ดีวา่ ความอาฆาตพยาบาทของฉูซินรุ่ ย
สามารถทําอะไรได้บา้ ง เขาเข้าใจทันทีวา่ ฉูซินรุ่ ยวางแผนอะไรไว้
ฉูซินรุ่ ยยิม้ น้อย ๆ แล้วพูดว่า “ในอาณาจักรล่างมีของที่สามารถทํา
ให้ขา้ สนใจได้ไม่มากนักหรอก ถ้าพวกมันสามารถเอาไปใช้
ประโยชน์ได้แล้วทําไมจะไม่ใช้ล่ะ? ถ้าหน้าตาจักรพรรดินอ้ ยถูกใจ
ข้า ข้าก็จะทําดีกบั เขาเหมือนกัน” ขณะที่พดู ฉูซินรุ่ ยก็แลบลิ้นเลียริ ม
ฝี ปากสี แดงของนางเล็กน้อย
“ถ้าทุกอย่างเป็ นไปตามที่เจ้าวางแผนเอาไว้กค็ งดี”
“จะเกิดอะไรขึ้นก็ข้ ึนอยูก่ บั ว่าจักรพรรดินอ้ ยจะรู ้รึเปล่าว่าอะไรดี
สําหรับเขา อีกไม่กี่วนั หลินชิวก็จะจัดคนไปที่ผาสุ ดสวรรค์และดูวา่
พวกเจ้าสามคนใครจะเป็ นคนไปกับพวกเขา ต่อให้คนของเมืองพัน
อสู รจะไม่มีใครรอดชีวติ กลับมาได้ แต่เราก็ไม่น่าจะเสี ยแรงไปเปล่า ๆ
อย่างน้อยก็น่าจะได้ขอ้ มูลเกี่ยวกับสถานการณ์ขา้ งล่างนัน่ มาบ้าง”
ฉูซินรุ่ ยพูดกับชายพวกนั้น
“ได้”
หลังจากนั้นฉูซินรุ่ ยก็โบกมือและพูดว่า “พวกเจ้าทุกคนไปได้แล้ว”
ชายทั้งสามคนสบตากันและเห็นแววตาล้อเลียนเยาะเย้ยจากอีกฝ่ าย
แต่พวกเขาเลือกที่จะไม่พดู ทั้งสามคนแสร้งทําเป็ นเชื่อฟังและเดิน
ลงจากชั้นบนสุ ดของหอเมฆาสวรรค์
ไม่นานกลุ่มชายหนุ่มหน้าตาดีที่ถูกไล่ออกไปเมื่อครู่ กข็ ้ ึนบันไดมา
และรี บเข้ามารุ มล้อมประจบประแจงฉูซินรุ่ ยอีกครั้ง
ฉูซินรุ่ ยปล่อยตัวเองไปกับการปรนเปรอนั้นและหลับตาลงอย่าง
เพลิดเพลิน
ตอนที่ 1018 ชนะโดยไม่ ต้องสู้
เนื่องจากท่านแบะแบะได้เหยียบเวทีประลองของลานประลองสัตว์
อสู รจนพังพินาศตอนที่มนั เผยร่ างจริ งของมัน มันจึงเป็ นฝ่ ายที่ออก
นอกเวทีประลองก่อน ดังนั้นท่านแบะแบะจึงไม่ได้อยูใ่ นตําแหน่ง
อันดับหนึ่งของลานประลองสัตว์อสู รอีกต่อไป แต่เนื่องจากมังกร
มายาที่ ‘ชนะ’ ท่านแบะแบะได้ถูกกินไปแล้ว อันดับสองของลาน
ประลองสัตว์อสู รจึงได้เลื่อนขึ้นมาเป็ นอันดับหนึ่งแทน
ตอนบ่ายวันนั้นจวินอู๋เสี ยพาท่านแบะแบะไปที่ลานประลองสัตว์
อสู รอีกครั้ง และแจ้งว่าพวกเขาต้องการลงทะเบียนเพื่อเข้าร่ วมการ
ประลอง
แต่ทว่า…
เจ้าหน้าที่ของลานประลองแทบจะคุกเข่าลงอ้อนวอนตรงหน้าจวิน
เสี ย
ตามปกติพวกเขามีแต่สตั ว์อสู รระดับตํ่าที่ถูกนําเข้าแข่งขันในลาน
ประลองสัตว์อสู ร ไม่ตอ้ งพูดถึงสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์เลย แม้แต่
สัตว์อสู รระดับกลางก็ยากที่จะได้เห็นในการประลอง
ท่านแบะแบะเป็ นถึงสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ที่ทรงพลังอย่างมาก การ
เข้าร่ วมการประลองของพวกเขาจะมีความหมายอะไร? สัตว์อสู ร
ที่มาอยูต่ รงหน้าท่านแบะแบะนั้นไม่จาํ เป็ นต้องให้ท่านแบะแบะร้อง
ออกมาเป็ นครั้งที่สองเลยด้วยซํ้า แค่ร้องครั้งแรกก็ทาํ ให้พวกมัน
หวาดกลัวจนควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว
นอกจากเรื่ องที่สตั ว์อสู รจะไม่กล้ายืนอยูต่ ่อหน้าท่านแบะแบะแล้ว
แม้แต่เจ้าของพวกมันที่กระตือรื อร้นจะอวดความสามารถในการฝึ ก
สัตว์อสู รก็พากันเอาสัตว์อสู รของพวกเขาไปซ่อนจากท่านแบะแบะ
ไม่มีใครอยากจะเห็นสัตว์อสู รของพวกเขาถูกท่านแบะแบะเล่นบน
เวทีหรอก
ถ้าปล่อยให้เป็ นเช่นนั้นต่อไป ลานประลองสัตว์อสู รจะอยูไ่ ด้
อย่างไร?
เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เจ้าหน้าที่ของลานประลองก็ประกาศว่าท่าน
แบะแบะผ่านการประลองแล้วและรี บยัดกําไลสะกดอสู รใส่ มือของจ
วินเสี ย จากนั้นก็พาผูเ้ ยาว์และสัตว์อสู รออกนอกลานประลองอย่าง
เร่ งรี บราวกับเขาเป็ นเทพแห่งหายนะ
การมีสตั ว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ที่ลานประลองสัตว์อสู ร…ไม่ใช่แค่ปีนี้
หรอก ต่อให้รอไปจนถึงปี หน้าก็ไม่มีใครกล้ามาประลองที่นี่แน่
มันคงไม่เหมือนที่คนจีนพูดกันหรอก ถึงรู ้วา่ มีเสื ออยูบ่ นภูเขา แต่ก็
ยังเลือกเดินขึ้นไปบนภูเขาอยูด่ ี
เมื่อได้รับกําไลสะกดอสู รที่อยากได้มาแบบง่าย ๆ โดยไม่คาดคิด
จวินอู๋เสี ยก็รู้สึกประหลาดใจมาก แต่เมื่อนางเห็นสี หน้าที่เกือบจะ
ร้องไห้ของเจ้าหน้าที่ นางก็รับกําไลมาแล้วอุม้ ท่านแบะแบะออกไป
จากที่นนั่ ทันที จึงไม่ทนั ได้เห็นพวกเจ้าหน้าที่ของลานประลองสัตว์
อสู รพากันเช็ดนํ้าตาหลังจากที่นางจากไปแล้ว
เมื่อได้กาํ ไลสะกดอสู รมาแล้ว จวินอู๋เสี ยก็กลับไปที่ตึกเพลิงพิโรธ
เพื่อศึกษามัน
ตอนนี้ฟ่านจัว๋ ยังคงอยูข่ า้ งนอกเมืองพันอสู ร และนางก็ไม่รู้ตาํ แหน่ง
แน่นอนของเขา ต้องหลังจากที่พวกเขาเข้ามาในเมืองและติดต่อนาง
มาก่อนเท่านั้นนางถึงจะสามารถมอบกําไลสะกดอสู รให้แก่ฟ่านจัว๋
ได้
กําไลสะกดอสู รในเมืองพันอสู รถูกจัดแยกเป็ นระดับต่าง ๆ อันที่
จวินอู๋เสี ยมีอยูใ่ นมือเป็ นอันที่คุณภาพตํ่าที่สุด สามารถใช้ฝึกสัตว์
อสู รระดับตํ่า 1 ตัวเท่านั้น สําหรับคนอย่างจวินเสี ยที่มีสตั ว์อสู ร
ระดับผูพ้ ิทกั ษ์อยูแ่ ล้ว 2 ตัว ของชิ้นนี้กไ็ ม่ได้มีประโยชน์กบั นางเลย
หลังจากดูมนั อย่างละเอียดถี่ถว้ นอยูส่ องสามรอบนางก็เก็บมัน
จากนั้นจวินอู๋เสี ยก็เอาอ่างบัวออกมาจากถุงมิติและดูดซับพลัง
วิญญาณจากมันอย่างช้า ๆ นางขึ้นสู่ จุดสู งสุ ดของขั้นพลังสี เขียวมา
นานแล้ว และนางสามารถทะลวงเข้าสู่ ข้ นั พลังวิญญาณสี ฟ้าเมื่อไรก็
ได้ที่นางต้องการ แต่จวินอู๋เสี ยยังไม่อยากทําตอนนี้เนื่องจากตอนที่
นางทะลวงขั้นพลังนางจะไม่รู้สึกตัวไปชัว่ ขณะ อยูใ่ นเมืองพันอสู ร
แบบนี้จวินอู๋เสี ยไม่กล้าปล่อยให้ตวั เองหมดสติไป แม้วา่ นางจะมี
พวกท่านแบะแบะอยูข่ า้ งกาย แต่นางก็ไม่ได้มนั่ ใจในความฉลาด
ของท่านแบะแบะกับกระต่ายโลหิ ตมากนัก มีเพียงเจ้าแมวดําเท่านั้น
ที่นบั ได้วา่ ฉลาดมีไหวพริ บ แต่นางก็ไม่แน่ใจว่ามันจะสามารถรับมือ
กับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้หรื อเปล่า
ถึงยังไงในเมืองพันอสู รนี้กม็ ีคนจากสิ บสองวิหารอยู่ จึงเป็ นไปไม่ได้
ที่จวินอู๋เสี ยจะทะลวงขั้นพลังวิญญาณเพียงลําพังในสถานการณ์เช่นนี้
ขณะที่นางดูดซับพลังวิญญาณอยูเ่ งียบ ๆ ในใจของจวินอู๋เสี ยก็
ใคร่ ครวญสถานการณ์ในเมืองพันอสู รไปด้วย
ตอนที่ 1019 หัวใจของหญิงสาว (1)
สองสามวันต่อมาชีวติ ในเมืองพันอสู รของจวินอู๋เสี ยบอกได้อย่าง
เดียวว่าจืดชืดไม่มีอะไรน่าสนใจ นางแทบไม่ออกจากห้องเลย
กระทัง่ ชิงหยูกไ็ ม่เจอจวินเสี ยในตึกเพลิงพิโรธเลย
ทุกครั้งที่เขาเสนอว่าจะพาจวินเสี ยออกไปเดินเที่ยวเมืองพันอสู ร เขา
ก็ถูกจวินเสี ยปฏิเสธอย่างรวดเร็ ว
แต่นนั่ ก็ทาํ ให้ชิงหยูมีเวลาว่างไปจัดการงานในหน้าที่ของเขาที่
สะสมเอาไว้ก่อนหน้านี้
ฉูหลิงเย่มาที่ตึกเพลิงพิโรธในวันที่หา้ หลังจากจวินเสี ยมาที่เมืองพัน
อสู ร นางเคาะประตูหอ้ งของจวินเสี ยขณะที่ยนื ไม่สบายใจอยูห่ น้า
ห้อง
“คุณชายจวิน ท่านอยูใ่ นนั้นรึ เปล่า?”
ประตูหอ้ งเปิ ดออกช้า ๆ และจวินเสี ยก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าฉูหลิง
เย่ แค่มองแวบแรกก็เกือบทําให้ฉูหลิงเย่หวั เราะออกมาเสี ยงดัง
จวินอู๋เสี ยหลังจากปลอมตัวเป็ นเด็กผูช้ ายก็ยงั จัดได้วา่ น่ามอง แต่
ใบหน้าละเอียดอ่อนนั้นมักจะมีแววเย็นชาอยูเ่ ล็กน้อยซึ่งทําให้รู้สึก
ว่าเข้าถึงได้ยาก แต่ตอนนี้…
จวินเสี ยกําลังอุม้ ท่านแบะแบะขนปุยตัวกลมอยูใ่ นอ้อมแขน ขณะที่
บนไหล่ซา้ ยและขวาก็มีเจ้าแมวดําตัวน้อยกับกระต่ายหูใหญ่สีขาว
ราวหิ มะเกาะอยู่ เจ้าตัวเล็กน่ารักทั้งสามได้เพิ่มความตลกขบขันแก่
ท่าทางเย็นชาของจวินเสี ยมากทีเดียว
ฉูหลิงเย่พยายามกลั้นไม่ให้หวั เราะเสี ยงดังอย่างยากลําบาก
“เข้ามาซิ ” จวินอู๋เสี ยพูดเรี ยบ ๆ
ฉูหลิงเย่เดินตามหลังผูเ้ ยาว์เข้าไปอย่างว่าง่าย และทันทีที่เข้าไปนางก็
ได้กลิ่นสมุนไพรจาง ๆ กลิ่นนั้นหอมมาก แต่พอมองไปทัว่ ห้อง นาง
ก็ไม่เห็นร่ องรอยของสมุนไพรใด ๆ เลย
“มีอะไรงั้นหรื อ?” จวินอู๋เสี ยถามพร้อมกับวางท่านแบะแบะลงบน
โต๊ะก่อนจะเอากระต่ายโลหิ ตกับเจ้าแมวดําวางบนโต๊ะด้วย โชคดีที่
สัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์สามารถปรับเปลี่ยนนํ้าหนักตอนที่แปลงร่ าง
ได้ ไม่อย่างนั้นแขนขาบาง ๆ ของนางคงไม่สามารถอุม้ เจ้าสามตัวนี้
ไปไหนมาไหนได้
“เอ่อ อีกไม่นานจะสิ้ นเดือนแล้ว ท่านพ่อให้ขา้ มาถามว่าท่านมีแผน
อะไรบ้าง” ฉูหลิงเย่พดู พร้อมกับมองไปที่จวินอู๋เสี ย รอยยิม้ บน
ใบหน้าของนางเมื่อครู่ จางหายไป สี หน้าของนางตอนนี้เคร่ งเครี ยด
จริ งจัง
ทุก ๆ สิ้ นเดือนฉูซินรุ่ ยจะพาคนที่นางปล่อยตอนต้นเดือนกลับไป
นอกเมือง และปล่อยนักโทษอีกกลุ่มมาตอนขึ้นเดือนใหม่เท่านั้น ถ้า
พวกเขาอยากค้นหาว่าฉูซินรุ่ ยขังคนทั้งหมดเอาไว้ที่ไหน ก็มีแค่
ช่วงเวลานี้เท่านั้นที่จะทําได้
“ไม่มี” จวินอู๋เสี ยตอบอย่างใจเย็น
ฉูหลิงเย่ตกใจเล็กน้อย จวินเสี ยอยูใ่ นเมืองพันอสู รมาหลายวันแล้ว
และนางก็ไม่เห็นเขาลงมือทําอะไรเลย ไม่ใช่วา่ นางไม่เชื่อใน
ความสามารถของจวินเสี ย แต่เนื่องจากนางไม่รู้วา่ ผูเ้ ยาว์คนนี้
วางแผนอะไรไว้บา้ ง นางจึงอดรู ้สึกไม่สบายใจไม่ได้
“ท่านจะไม่ไปพบกับคนที่กลับมาจากที่นนั่ เลยหรื อ? แล้วพยายาม
ถามว่าพวกเขาถูกขังอยูท่ ี่ไหน?” ฉูหลิงเย่ถามอย่างกังวล
จวินอู๋เสี ยส่ ายหน้า “ทั้งเมืองพันอสู รตกอยูภ่ ายใต้การควบคุมของ
คน ๆ นั้น ใครที่เข้าหาคนพวกนั้นคน ๆ นั้นก็ตอ้ งรู ้ นอกจากนั้น…
ถ้านางกล้าปล่อยคนพวกนั้นออกมา ก็หมายความว่าคนพวกนั้นทุก
คนไม่รู้วา่ ตัวเองถูกขังที่ไหน ไปถามพวกเขาก็เสี ยเวลาเปล่า แถมยัง
ทําให้ศตั รู รู้ตวั อีก”
วิธีแก้ปัญหาวิกฤตที่เมืองพันอสู รกําลังเผชิญอยูจ่ ะต้องมาจากข้าง
นอกไม่ใช่ขา้ งใน
ฉูหลิงเย่พดู ว่า “คุณชายจวินเดาได้ถูกต้อง ครอบครัวของทุกคนที่ถูก
ปล่อยตัวมาเคยถามและพยายามระบุสถานที่ที่พวกเขาถูกขังเอาไว้
แล้ว แต่ไม่มีใครบอกอะไรได้เลย หลังจากที่พวกเขาถูกส่ งออกไป
นอกเมืองพันอสู ร ทุกคนก็ถูกทําให้หมดสติอย่างรวดเร็ วและเมื่อ
พวกเขาฟื้ นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองถูกขังเอาไว้แล้ว”
ตอนที่ 1020 หัวใจของหญิงสาว (2)
“ก็น่าจะเป็ นเช่นนั้น” จวินอู๋เสี ยไม่แปลกใจแม้แต่นอ้ ย
ท่านยายสามารถจับคนของเมืองพันอสู รเป็ นตัวประกันมาได้หลายปี
ย่อมเป็ นคนที่มีความสามารถสู งมาก นางย่อมเตรี ยมการเรื่ องนี้มา
เป็ นอย่างดี
ฉูหลิงเย่ยกั ไหล่ นางไม่ได้เจอแม่ของนางมานานแล้วและนางก็
คิดถึงแม่อย่างที่สุด เวลาที่นางเห็นครอบครัวของคนอื่นกลับมาแต่
ไม่เห็นแม่ของตัวเอง นางก็รู้สึกผิดหวังอยูห่ ลายครั้งและกระวน
กระวายมากขึ้นเรื่ อย ๆ ตามเวลาที่ผา่ นไป
เมื่อเห็นฉูหลิงเย่ดูเศร้าและหดหู่ เจ้าแมวดําก็ใช้หางเขี่ยจวินอู๋เสี ย
จวินอู๋เสี ยหันไปมองเจ้าแมวดําและเห็นเจ้าแมวดําพยายามส่ งสายตา
ให้นาง
“เหมียว”
[นายหญิงยังไม่รู้อีกหรื อว่าคุณหนูฉูมาหาท่านก็เพราะอยากได้ความ
มัน่ ใจ?]
จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้วขึ้น นางไม่ค่อยบอกแผนการของนางกับใครจน
กลายเป็ นนิสยั ไปแล้ว ฉูหลิงเย่ไม่รู้แผนของนางเลยแม้แต่นิดเดียว
และต้องผิดหวังมาหลายครั้งแล้ว ฉูหลิงเย่จึงอยากได้ความหวังแม้
เพียงเศษเสี้ ยวก็ยงั ดี
จวินอู๋เสี ยจึงพูดขึ้นว่า “เจ้าโง่เชียวกับคนอื่น ๆ อยูน่ อกเมืองแล้ว พอ
คนพวกนั้นถูกพาออกไปนอกเมือง พวกเขาก็จะตามคนพวกนั้นไป
แล้วจะได้พบที่ ๆ ทุกคนถูกขังเอาไว้”
อย่างที่คาด เมื่อได้ยนิ คําอธิบายของจวินอู๋เสี ย ฉูหลิงเย่กเ็ งยหน้าขึ้น
ทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจระคนยินดี
จวินอู๋เสี ยมองดวงตากลมโตของฉูหลิงเย่ที่เป็ นประกายด้วยความ
ยินดีและความหวังแล้วก็เข้าใจว่าทําไมเจ้าแมวดําถึงได้พดู เช่นนั้น
แค่นางพูดไม่กี่ประโยคก็สามารถช่วยให้ฉูหลิงเย่มีความหวังและ
ความมัน่ ใจขึ้นมาได้ มันก็ง่าย ๆ แค่น้ นั
จวินอู๋เสี ยที่ดูเหมือนจะได้เรี ยนรู ้อะไรบางอย่างก็ยกมือขึ้นและ
เลียนแบบสิ่ งที่จวินอู๋เหยาเคยทํา มือเล็ก ๆ ของนางตบที่หวั ของฉู
หลิงเย่เบา ๆ
“วางใจเถอะ ข้าสัญญาอะไรไว้ขา้ ก็ยอ่ มทําให้สาํ เร็ จตามนั้น” เพื่อให้
ได้แผนที่มา นางย่อมไม่ยอมให้ตวั เองทําพลาดเช่นกัน
ฉูหลิงเย่ตะลึงไปพร้อมกับมองไปที่จวินเสี ย ดวงตาเย็นชาคู่น้ นั ดู
เหมือนจะลดความเย็นชาลงและเจือความอบอุ่นเล็กน้อยแทน แม้วา่
จะยังเย็นชาอยู่ แต่กไ็ ม่เสี ยดแทงอีกต่อไปแล้ว
ถึงแม้ฉูหลิงเย่กบั จวินเสี ยจะรู ้จกั กันมาพักใหญ่แล้ว แต่ดวงตาของ
จวินเสี ยก็ทาํ ให้นางไม่กล้าเข้าใกล้ผเู ้ ยาว์คนนี้มากนัก กระทัง่ การมา
ถามข่าวคราวจากเขาในวันนี้นางก็ยงั ต้องใช้ความกล้าหาญมาก
ทีเดียว ถึงแม้จวินเสี ยจะอายุนอ้ ยกว่านางเล็กน้อย แต่นางไม่เคยกล้า
มองจวินเสี ยเป็ นแค่ผเู ้ ยาว์ธรรมดาเลย ในสายตาของนางจวินเสี ยอยู่
เหนือธรรมเนียมอาวุโสไปแล้ว
ในใจนางจวินเสี ยมีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ ง เย็นชา ฉลาดเฉลียว และ
มองการณ์ไกล
แต่ตอนนี้จวินเสี ยกําลังปลอบใจนาง เขายกมือขึ้นตบหัวนางเบา ๆ
จู่ ๆ ฉูหลิงเย่กพ็ บว่าหัวใจของนางเต้นผิดจังหวะ
ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางร้อนฉ่าขึ้นมา ดวงตาเบิกกว้างมองผูเ้ ยาว์ที่
ไม่ได้จดั ว่าเป็ นคนที่หล่อเหลามากมายอะไร แต่ไม่รู้วา่ ทําไมตอนนี้
นางถึงได้รู้สึกว่าจวินเสี ยดูน่าหลงใหลมากกว่าชายคนที่หล่อมากจน
น่าเหลือเชื่อที่ดึงดูดสายตาของทุกคนที่โรงประมูลภูติอคั คี
ฉูหลิงเย่รู้สึกราวกับว่ามีกวางหลายตัวกระโดดอยูใ่ นหัวใจของนาง
กระทัง่ ลมหายใจของนางก็ผดิ ปกติข้ ึนมา
จวินอู๋เสี ยมองใบหน้าแดงระเรื่ อของฉูหลิงเย่แล้วก็หรี่ ตา
สัญชาตญาณในฐานะหมอของนางทําให้คิดว่าฉูหลิงเย่รู้สึกไม่สบาย
แม้วา่ ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็ นเพียงแค่คนที่ร่วมมือกันเท่านั้น
แต่จวินอู๋เสี ยก็มกั จะอ่อนโยนกับผูห้ ญิงมากกว่าอยูแ่ ล้ว นางเงยหน้า
ขึ้นมองและวางมือลงบนหน้าผากของฉูหลิงเย่ทนั ที
ตอนที่ 1021 หัวใจของหญิงสาว (3)
เมื่อฉูหลิงเย่รู้สึกว่ามือที่เย็นเล็กน้อยของจวินเสี ยวางลงบนหน้าผาก
ของนาง ใบหน้าของฉูหลิงเย่กย็ งิ่ แดงกํ่ามากขึ้น!
“เจ้า…” จวินอู๋เสี ยรู ้สึกว่าหน้าผากของฉูหลิงเย่อุ่นมาก นางกําลังจะ
จับชีพจรของฉูหลิงเย่แต่ฉูหลิงเย่กลับลุกพรวดขึ้นทันที
ฉูหลิงเย่หน้าแดงกํ่าจนดูเหมือนกับจะระเบิด นางยืนประหม่า มือทั้ง
สองบิดไปมาอย่างทําอะไรไม่ถูกอยูข่ า้ งหน้า
“ข้า…ข้า…ข้าสบายดี” ฉูหลิงเย่พดู ตะกุกตะกัก ตอนที่จวินเสี ยเข้ามา
ใกล้นางเมื่อกี้ นางรู ้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรงจนจะหลุดออกมาอยูแ่ ล้ว
จวินอู๋เสี ยมองการกระทําแปลก ๆ ของฉูหลิงเย่อย่างงุนงง ไม่เข้าใจ
ว่าทําไมฉูหลิงเย่ถึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้
“เอ่อ…เรื่ องนั้น…ข้า…ข้าจะกลับไปก่อน…ถ้า…ถ้ามีอะไรข้าจะมา
หาท่าน….ไม่…ไม่ ไม่ ท่านให้ท่านอาเซียงไปบอกท่านพ่อข้าได้…”
ฉูหลิงเย่ลิ้นพันกันมัว่ ไปหมด ยิง่ พูดก็ยงิ่ ตื่นเต้น นางจึงตัดสิ นใจหัน
กลับและวิง่ ออกไปนอกห้องอย่างตื่นตระหนกแทน
ชิงหยูกาํ ลังเดินเข้าไปหาจวินเสี ยก็เจอกับฉูหลิงเย่ที่วงิ่ เข้ามาชนเขา
เขาไม่ทนั จะได้ขอโทษ ฉูหลิงเย่กก็ ม้ หัวขอโทษเร็ ว ๆ สองสามครั้ง
แล้วก็วงิ่ ออกไปเหมือนกําลังหนีอะไรบางอย่าง
“เกิดอะไรขึ้นกับ…คุณหนูหรื อขอรับ?” ชิงหยูถามพลางมองตามหลัง
ฉูหลิงเย่ที่กาํ ลังวิง่ ออกไป เขาหันไปมองจวินเสี ยด้วยสี หน้างุนงง
จวินอู๋เสี ยยักไหล่ นางก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉูหลิงเย่
เมื่อครู่ นางก็สบายดี แต่จู่ ๆ ใบหน้าของนางก็กลายเป็ นสี แดงแล้วก็
รี บวิง่ ออกไปจากห้องหลังจากพูดอีกแค่สองสามคํา
ชิงหยูเกาหัว แต่ไม่นานเขาก็ไม่กงั วลเรื่ องนั้นอีก เขาวางสารเชิญที่
ถือมาลงบนโต๊ะตรงหน้าจวินเสี ย
จวินอู๋เสี ยเลิกคิ้วขึ้นพลางมองชิงหยูแล้วหยิบเอาสารเชิญขึ้นมา
ดูก่อนจะวางกลับลงไปบนโต๊ะ
“คนของตึกนํ้าค้างเหมันต์นาํ มาให้ขอรับ” ชิงหยูพดู พร้อมกับขมวด
คิว้ ตอนที่สารเชิญถูกส่ งมาที่นี่ คนที่นาํ มาเจาะจงว่าต้องให้แก่จวิน
เสี ย ชิงหยูจึงงงมาก
“ทําไมท่านถึงถูกเชิญไปที่งานเลี้ยงวันเกิดของคน ๆ นั้นล่ะขอรับ?”
ชิงหยูคิดอยูน่ านแต่กย็ งั คิดไม่ออก จวินเสี ยมาที่เมืองพันอสู รได้นาน
เท่าไรกัน? ปกติงานเลี้ยงวันเกิดของฉูซินรุ่ ยก็จะมีแต่พวกหัวหน้าตึก
กับตัวแทนจากตระกูลต่าง ๆ แล้วก็คนของจวนท่านเจ้าเมือง นอกนั้น
ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าร่ วม
แต่จวินเสี ยไม่ได้เป็ นคนของเมืองพันอสู รด้วยซํ้า แล้วทําไมฉูหลิงเย่
ถึงได้ส่งสารเชิญมาให้จวินเสี ยล่ะ?
จวินอู๋เสี ยตอบอย่างใจเย็นว่า “เพราะมังกรมายาตายแล้วน่ะซิ ”
“อะไรนะ?” ชิงหยูอ้ ึงไปครู่ หนึ่ง
“จําตอนที่ขา้ ไปลานประลองสัตว์อสู รคนเดียวเพื่อพาท่านแบะแบะ
ไปประลองกับมังกรมายาได้รึเปล่า?” จวินอู๋เสี ยถาม
ชิงหยูพยักหน้าทันที แน่นอนว่าเขาจําได้ เขายังโล่งอกที่จวินเสี ย
สามารถนําท่านแบะแบะกลับมาแบบครบถ้วนทุกชิ้นส่ วนได้ เขา
กลัวว่าจวินเสี ยอาจจะยังเจ็บใจอยูก่ เ็ ลยไม่กล้าพูดเรื่ องนี้กบั จวินเสี ย
“วันนั้นท่านแบะแบะกินมังกรมายาเข้าไปน่ะ” จวินอู๋เสี ยพูดด้วย
ใบหน้านิ่งสงบ
ชิงหยูอา้ ปากค้าง
“อะ…อะไร…ท่านว่าอะไรนะขอรับ? ท่านแบะแบะกิน…มะ…
มังกรมายาเข้าไปหรื อขอรับ?” ชิงหยูไม่อยากจะเชื่อหูตวั เอง เขาเห็น
กับตาว่ามังกรมายาตัวใหญ่แค่ไหน แล้วท่านแบะแบะตัวเล็กแค่น้ ี ถ้า
มันจะกินมังกรมายาพวกเขาก็คงต้องสับและบดมังกรมายาให้เป็ น
ล้าน ๆ ชิ้น และท่านแบะแบะคงต้องใช้เวลากินเนื้อบดนั้นทั้งเดือน!
แต่จวินเสี ยเพิ่งจะพูดว่า…
ท่านแบะแบะกินมังกรมายาไปแล้วงั้นหรื อ?
ตอนที่ 1022 งานเลีย้ งอันตราย (1)
[ท่านแบะแบะกินมังกรมายาไปแล้วงั้นหรื อ?]
[เป็ นไปได้ยงั ไง?]
ชิงหยูจอ้ งมองเจ้าลูกบอลกลมกลิ้งขนปุยที่คือท่านแบะแบะเขม็ง แต่
เขาก็ไม่พบอะไรที่ไม่ธรรมดาเลย
“แบะ?” ท่านแบะแบะได้ยนิ จวินอู๋เสี ยพูดชื่อมันและคิดว่าคนให้
อาหารของมันกําลังชมเชยมัน มันจึงกระดิกหางและเดินส่ ายก้นเข้า
มาหาจวินเสี ยและเอาตัวถูที่น่องของนาง
ตอนนั้นมันดูเหมือนลูกสมุนที่ข้ ีประจบสอพลอไม่มีผดิ !
มุมมองที่ชิงหยูมีต่อโลกใบนี้พลันแตกเป็ นเสี่ ยง ๆ …
[แกะที่ดูโง่งี่เง่าตัวนั้น…สามารถกินมังกรมายาได้จริ ง ๆ หรื อ?]
[จวินอู๋เสี ยไม่ได้ลอ้ เขาเล่นใช่ไหม?]
“แต่ท่าน…ท่านเคยบอกว่า…ท่านแพ้ไม่ใช่หรื อ?” [แล้วมันกลายเป็ น
ท่านแบะแบะกินมังกรมายาไปได้ยงั ไง?]
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “เท้าของท่านแบะแบะก้าวออกนอกเวทีประลอง
ก่อน”
ชิงหยูแทบจะกระอักเลือดเมื่อได้ยนิ เช่นนั้น
ในที่สุดเขาก็เข้าใจ ที่จวินเสี ยพูดว่าแพ้การประลองนั้น เขาไม่ได้
หมายถึงท่านแบะแบะพ่ายแพ้ให้แก่มงั กรมายา แต่เป็ นเพราะเท้าของ
ท่านแบะแบะออกนอกเวทีประลองพวกเขาถึงได้แพ้ และผลของ
การพ่ายแพ้น้ นั ก็คือท่านแบะแบะ…กินมังกรมายาเข้าไป!
ตอนนั้นเองชิงหยูกค็ ิดว่าตัวเองช่างซื่อบื้อซะจริ ง ๆ เขาคิดว่าท่าน
แบะแบะแพ้มงั กรมายาและคิดเอาเองว่าเรื่ องจบไปแล้ว ไม่คิดเลยว่า
จะมีเรื่ องน่ากลัวเกิดขึ้นหลังจากนั้น!
“ท่านไปไม่ได้นะขอรับ! ท่านต้องไม่ไปงานเลี้ยงวันเกิดเด็ดขาด!
คน ๆ นั้นเป็ นคนสัง่ ให้หลินชิวช่วยนางหามังกรมายา หลินชิวใช้
เวลาเกือบ 10 ปี กว่าจะหาพบ ท่านคงเห็นแล้วว่ามังกรมายาหายากแค่
ไหน ถ้าท่านไปที่นนั่ คน ๆ นั้นจะต้องทําอะไรกับท่านแน่! วิธีการ
ของคน ๆ นั้นโหดเหี้ ยมและชัว่ ร้ายมาก นางไม่เคยสนใจผลที่ตามมา
การที่จู่ ๆ นางก็ส่งสารเชิญมาให้ท่าน มันก็ชดั อยูแ่ ล้วว่านางมีเจตนา
ร้าย ถ้านางทําอะไรท่านขึ้นมาจริ ง ๆ ข้าเกรงว่าต่อให้ท่านเจ้าเมืองก็
ไม่สามารถช่วยท่านได้นะขอรับ” ชิงหยูพดู อย่างตื่นตระหนก
ชิงหยูไม่ได้กงั วลเลยว่าจวินเสี ยจะดึงดูดความสนใจของคน ๆ นั้น
แต่มงั กรมายาก็ทาํ ให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป พวกเขารู ้วา่ หลินชิวตั้งใจจะ
มอบมังกรมายาให้เป็ นของขวัญแก่ฉูซินรุ่ ย แต่มนั ดันถูกสัตว์อสู ร
ของจวินเสี ยกินเข้าไป นัน่ ต้องทําให้ฉูซินรุ่ ยโกรธมากแน่!
“ข้าจะไปหาท่านเจ้าเมืองเดี๋ยวนี้! ข้าจะขอให้ท่านเจ้าเมืองพาท่าน
ออกจากเมือง!” ชิงหยูทนรอต่อไปไม่ไหว เขาเคยเห็นความโหดเหี้ยม
ของคน ๆ นั้นกับตาตัวเองมาก่อน ใครก็ตามที่ทาํ ให้นางโกรธจะต้อง
ชดใช้ดว้ ยชีวติ อย่างไม่ตอ้ งสงสัยเลย แม้แต่ฉูหลิงเย่กไ็ ม่กล้าแสดง
ความไม่เคารพต่อนาง
จวินอู๋เสี ยมองชิงหยูที่ตื่นเต้นกระวนกระวายแล้วก็พดู นิ่ง ๆ ว่า “ไม่
จําเป็ น”
ชิงหยูจึงเถียงว่า “คุณชายจวิน! นี่ไม่ใช่เรื่ องล้อเล่นนะขอรับ! คน ๆ
นั้นอยากได้มงั กรมายาแล้วท่านก็ฆ่ามัน นางไม่มีวนั ปล่อยท่านไป
แน่! ข้ารู ้วา่ ท่านมีพลังวิญญาณที่สูงมาก แต่คน ๆ นั้นได้รับพลัง
วิญญาณขั้นสี ม่วงมาหลายสิ บปี แล้ว! พลังของนางตอนนี้จะต้องหยัง่
ไม่ถึงแล้วแน่ ไม่มีทางที่ท่านจะเป็ นคู่มือของนางได้เลย”
จวินอู๋เสี ยจึงถามขึ้นว่า “ท่านคิดจริ ง ๆ หรื อว่านางส่ งสารเชิญนี้มาให้
ข้าเพราะอยากฆ่าข้า?”
“แล้วจะเป็ นอะไรได้ล่ะขอรับ?” ชิงหยูพดู
จวินอู๋เสี ยมองชิงหยูแล้วพูดด้วยนํ้าเสี ยงอดทนว่า “ถ้านางอยากฆ่าข้า
นางก็ทาํ ได้ทนั ทีต้ งั แต่ที่ขา้ กลับมาจากลานประลองสัตว์อสู รแล้ว”
ชิงหยูพดู ไม่ออกขึ้นมาทันที
“การเสี ยมังกรมายาไปไม่ใช่สิ่งที่หลินเฟิ งจะสามารถแบกความ
รับผิดชอบเอาไว้ได้ เขาจะต้องอ้อนวอนพ่อของเขาให้ช่วยเขาตั้งแต่
แรกแล้ว แล้วหลินชิวก็คงไม่กล้าเก็บงําเรื่ องนี้เอาไว้และต้องรายงาน
ให้คน ๆ นั้นรู ้ทนั ที ถ้าคน ๆ นั้นอยากฆ่าข้าจริ ง ๆ นางก็คงลงมือไป
แล้ว ทําไมจะต้องรอจนถึงตอนนี้ดว้ ย?” จวินอู๋เสี ยเลิกคิว้ ขึ้นและชี้
ไปที่สารเชิญแล้วพูดว่า “ท่านคิดว่าด้วยสถานะและตําแหน่งในเมือง
พันอสู รของนาง แค่จะฆ่าข้าเนี่ย นางจําเป็ นต้องวางกับดักให้ยงุ่ ยาก
ซับซ้อนด้วยหรื อ?”
ตอนที่ 1023 งานเลีย้ งอันตราย (2)
คําพูดของจวินอู๋เสี ยเหมือนนํ้าเย็นที่สาดเข้าใส่ ชิงหยูที่กาํ ลังร้อนรน
ให้สงบลง
“งั้นทําไมนางถึงส่ งสารเชิญนี้มาให้ท่านล่ะขอรับ?” จวินอู๋เสี ยพูดถูก
ด้วยพลังและสถานะในเมืองพันอสูรของฉูซินรุ่ ย ถ้านางอยากฆ่า
จวินเสี ยจริ ง ๆ นางก็ไม่จาํ เป็ นต้องทําอะไรอ้อมค้อมเลย ยิง่ กว่านั้น
เหตุการณ์กผ็ า่ นมาสักพักได้แล้วก่อนที่สารเชิญนี้จะถูกส่ งมา
“นางอาจรู ้สึกว่าสามารถใช้ประโยชน์จากข้าได้ล่ะมั้ง” จวินอู๋เสี ยพูด
เรี ยบ ๆ นางไม่คิดเลยว่าฉูซินรุ่ ยจะส่ งสารเชิญมาให้นาง และยังไม่รู้
เหตุผลในการเชิญครั้งนี้อีกด้วย
“เช่นนั้น คุณชายจวินจะไปงานเลี้ยงรึ เปล่าขอรับ?” ชิงหยูยงั รู ้สึก
กังวลอยู่
“เดาซิ” จวินอู๋เสี ยโยนคําถามกลับไป และชิงหยูกไ็ ม่พดู อะไรอีก
ถ้าจวินอู๋เสี ยไม่ออกจากเมืองพันอสู ร นางก็ตอ้ งเข้าร่ วมงานเลี้ยงวัน
เกิดของฉูซินรุ่ ย แต่นางก็ไม่ได้วติ กกังวลมากนักต่อให้ตอ้ งเข้าร่ วม
จริ ง ๆ การที่ฉูซินรุ่ ยไม่ได้พยายามฆ่านางในทันทีแสดงว่าฉูซินรุ่ ยก็
จะไม่ทาํ อะไรนางในระหว่างงานเลี้ยงวันเกิดด้วย และนางอาจจะ
ค้นพบเหตุผลที่วา่ ทําไมนางถึงถูกเชิญให้เข้าร่ วมงานเลี้ยง
หลังจากคิดเรื่ องทั้งหมดแล้ว ชิงหยูกย็ งั รู ้สึกว่ามันอันตรายเกินไปอยู่
ดี เขาจึงวิง่ ไปหาเซียงป้าเพื่อปรึ กษาเรื่ องนี้
ในห้องจึงเหลือแค่จวินอู๋เสี ยอยูค่ นเดียว นางนัง่ สี หน้าเรี ยบเฉยอยูท่ ี่
โต๊ะพลางเทชาให้ตวั เอง
“คุณหนู” เย่ฉาปรากฏตัวขึ้นในห้อง
“ในช่วงสองวันมานี้มีคนมาเฝ้าดูที่ตึกเพลิงพิโรธอีกรึ เปล่า?” จวินอู๋
เสี ยถาม ในคืนที่ท่านแบะแบะกินมังกรมายาเข้าไป เย่ฉาจับได้วา่ มี
คนแทรกซึมเข้ามาในตึกเพลิงพิโรธตอนกลางดึกและแอบอยูน่ อก
ประตูหอ้ งของนางเพื่อเฝ้าดูนาง
เย่ฉาสัมผัสพลังวิญญาณของชายคนนั้นได้วา่ อย่างน้อยก็เป็ นพลัง
วิญญาณขั้นสี ม่วงหรื อสู งกว่า
ตั้งแต่ตอนนั้นจวินอู๋เสี ยก็รู้วา่ นางได้ทาํ ให้คนในหอเมฆาสวรรค์ไหว
ตัวขึ้นมาแล้ว คน ๆ นั้นส่ งคนมาเฝ้าสังเกตนางติดต่อกันหลายวัน แต่
พวกเขาไม่เคยเปิ ดเผยตัวเอง ดังนั้นจวินอู๋เสี ยจึงรู ้วา่ ฉูซินรุ่ ยจะลงมือ
ในไม่ชา้
“สองวันมานี้พวกเขาไม่ได้มาเลยขอรับ” เย่ฉาพูด
“ที่ขา้ บอกให้เจ้าทํา ทําเสร็ จเรี ยบร้อยแล้วรึ ยงั ?” จวินอู๋เสี ยถามพร้อม
กับเหลือบตาขึ้นมอง
“เรี ยบร้อยแล้วขอรับ คุณหนูวางใจได้เลย”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าอย่างพอใจ
“คนที่มาที่นี่ในช่วงหลายวันที่ผา่ นมา เจ้าประเมินพลังของเขาได้
ไหม?”
“ข้าประเมินคร่ าว ๆ แล้วขอรับ” เย่ฉาตอบ
“เทียบกับเจ้าแล้วเป็ นยังไง?” จวินอู๋เสี ยถาม
เย่ฉาเงียบไปครู่ หนึ่งแล้วพูดว่า “ข้าน้อยสามารถเอาชนะเขาได้
ขอรับ”
นัน่ หมายความว่าพลังของศัตรู ดอ้ ยกว่าเย่ฉา และความแตกต่างนั้นก็
ไม่ใช่นอ้ ย ๆ
แม้วา่ เย่ฉาจะไม่มีพลังวิญญาณ แต่พลังในการต่อสู ข้ องเขาสู งกว่า
พลังวิญญาณขั้นสี ม่วงทัว่ ไป เมื่อจวินอู๋เสี ยได้ยนิ คําพูดของเย่ฉา นาง
ก็รู้สึกโล่งอกขึ้นเล็กน้อย
“คุณหนูขอรับ” จู่ ๆ เย่ฉาก็พดู ขึ้น
จวินอู๋เสี ยรับรู ้อย่างเฉยเมยและยกถ้วยชาขึ้นจะดื่ม
“เย่เหม่ยส่ งข่าวมาว่าเขาจะกลับมาพร้อมกับนายท่านอู๋เหยาในอีก
สองสามวันนี้ขอรับ” เย่ฉารายงานเสี ยงตํ่า
ถ้วยชาในมือจวินอู๋เสี ยสัน่ จนชาเกือบหก สี หน้าของนางยังคงเฉยเมย
แต่นิ้วของนางขยับเล็กน้อย นัน่ เป็ นอาการอย่างเดียวที่ทรยศความรู ้สึก
ของนาง
“ยังงั้นหรื อ” นางตอบอย่างไร้ความรู ้สึกเหมือนว่าไม่ได้สนใจเลยสักนิด
“ขอรับ นายท่านอู๋เหยาสัง่ ให้เย่เหม่ยส่ งข้อความมาบอกให้คุณหนู
ดูแลตัวเองให้ดี ๆ รอนายท่านกลับมาขอรับ” เย่ฉารายงานข้อความ
ที่เย่เหม่ยส่ งมาแบบคําต่อคํา
จวินอู๋เสี ยลดสายตาลงมองเงาสะท้อนของตัวเองในถ้วยชา
“เข้าใจแล้ว”
ตอนที่ 1024 งานเลีย้ งอันตราย (3)
พอเซียงป้ารู ้วา่ ฉูซินรุ่ ยส่ งสารเชิญมาให้จวินเสี ยเพื่อเชิญจวินเสี ยไป
ร่ วมงานเลี้ยงวันเกิดของนาง เขาก็เกรี้ ยวกราดขึ้นมาทันที เขารี บพุง่
ตรงมาที่หอ้ งของจวินเสี ยและผลักประตูหอ้ งเปิ ดออกพร้อมกับ
โวยวายว่า “ท่านไปงานเลี้ยงของฉูซินรุ่ ยไม่ได้นะ!”
ดูเหมือนจวินอู๋เสี ยกําลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ สายตาของนางเคร่ ง
ขรึ มจริ งจัง เสี ยงตะโกนดังลัน่ ของเซี ยงป้าทําให้นางได้สติกลับมา
และหันไปมองเซียงป้าที่กาํ ลังหอบแฮ่ก ๆ
“ทําไม?”
“ฉูซินรุ่ ยเป็ นคนแบบไหนข้ารู ้ดีที่สุด ที่นางเชิญท่านโดยไม่มีเหตุผล
แบบนี้ยอ่ มไม่ใช่เรื่ องดีต่อท่านแน่” การกระทําของฉูซินรุ่ ยเมื่อก่อน
ยังคงสดใหม่อยูใ่ นใจของเซียงป้า เขาจําตอนที่ฉูซินรุ่ ยกลับมาที่เมือง
พันอสู รครั้งแรกได้ ตอนนั้นเขายังไม่ได้เป็ นหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธ
เขาเพิ่งจะอายุ 20 ปี กว่า ๆ เท่านั้นและเป็ นแค่รองหัวหน้าตึกเพลิง
พิโรธ เขามีนิสยั ใจร้อนบุ่มบ่ามขณะที่หวั หน้าตึกเพลิงพิโรธเป็ นคน
ใจเย็น หนักแน่น และเด็ดขาดแน่วแน่ หัวหน้าตึกเป็ นคนที่เซี ยงป้า
เคารพมากที่สุด
แต่หลังจากที่ฉูซินรุ่ ยมาที่นี่ นางก็ขอให้ฉูเหวินห่าวช่วยนางตรวจสอบ
ผาสุ ดสวรรค์ ตอนแรกก็ไม่มีใครรู ้วา่ ด้านล่างของผาสุ ดสวรรค์เป็ น
ยังไง ท่านเจ้าเมืองแห่งเมืองพันอสู รกับหัวหน้าตึกทั้งสี่ เห็นว่านาง
เป็ นผูอ้ าวุโสที่เป็ นที่เคารพนับถือของเมืองพันอสู ร เป็ นผูป้ กป้อง
พวกเขาตั้งแต่อดีต ถึงยังไงฉูซินรุ่ ยก็สร้างความยิง่ ใหญ่ให้แก่เมือง
พันอสู รก่อนที่นางจะจากไป พวกเขาไว้ใจฉูซินรุ่ ย เชื่อว่าผูอ้ าวุโสที่
พวกเขาเคารพจะไม่ทาํ อะไรที่เป็ นการทําร้ายเมืองพันอสู ร
ดังนั้นในตอนแรกไม่วา่ จะเป็ นท่านเจ้าเมืองหรื อหัวหน้าตึกทั้งสี่ ทุก
คนต่างก็เต็มใจช่วยฉูซินรุ่ ยให้บรรลุเป้าหมายของนาง
แต่หลังจากที่เมืองพันอสู รส่งคนกลุ่มแรกลงไปที่ดา้ นล่างของผาสุ ด
สวรรค์ ผลที่ออกมาคือไม่มีผรู ้ อดชีวติ กลับมาเลยสักคน นัน่ เป็ นกลุ่ม
ที่มีคนเกือบหนึ่งพันคนที่เป็ นการรวมตัวกันของยอดฝี มือจากทั้งตึก
ของเมืองพันอสู ร คนพวกนั้นลงไปที่ดา้ นล่างของผาสุ ดสวรรค์ดว้ ย
ความเชื่อใจและเคารพผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วงอันแข็งแกร่ ง แต่
พวกเขาก็ไม่รอดชีวติ กลับมาจากผานั้นเลยสักคน
การตายของคนทั้งกลุ่มทําให้คนทั้งเมืองพันอสู รตกใจมาก เนื่องจาก
ทุกคนในกลุ่มนั้นเป็ นคนที่ยอดเยีย่ มที่สุดของเมืองพันอสู ร ท่านเจ้า
เมืองเสี ยใจมาก หัวหน้าตึกทั้งสี่ กพ็ ากันซึ มเศร้าหดหู่ แต่ฉูซินรุ่ ยก็ยงั
ไม่ยอมล้มเลิก นางเกลี้ยกล่อมโน้มน้าวให้พยายามอีกครั้ง บอกว่า
ทุกอย่างเป็ นแค่อุบตั ิเหตุ คนที่ลงไปด้านล่างผาสุ ดสวรรค์อาจจะยังมี
ชีวติ อยูแ่ ละรอคอยให้คนไปช่วยพวกเขาอยูก่ ไ็ ด้
เพราะอย่างนั้นเมืองพันอสู รจึงส่ งคนไปอีกกลุ่ม และจํานวนคนที่
ส่ งไปก็มากขึ้นเป็ นสองเท่า
แต่ทว่า คนทั้งหมดนั้นก็เหมือนก้อนหิ นที่จมลงไปในมหาสมุทร ติด
อยูท่ ี่ดา้ นล่างของผาสุ ดสวรรค์ไปตลอดกาล
ตั้งแต่ตอนนั้นคนของเมืองพันอสู รก็ตระหนักว่าผาสุ ดสวรรค์เป็ น
สถานที่ที่อนั ตรายที่สุดในโลก และท่านเจ้าเมืองก็ไม่อยากส่ งคนไป
ที่ผาสุ ดสวรรค์อีกจึงได้ปฏิเสธคําขอของฉูซินรุ่ ยอย่างหนักแน่น
ตอนนั้นเองฉูซินรุ่ ยก็ฉีกหน้ากากของตัวเองออกและเผยนิสยั แท้จริ ง
ที่โหดเหี้ ยมชัว่ ร้ายออกมา
คืนนั้นนางพาคนของนางมาจับตัวหัวหน้าตึกทั้งสี่ และพาพวกเขาไป
ที่ประตูจวนของท่านเจ้าเมือง และฆ่าหัวหน้าตึกทั้งสี่ ที่ต่อต้านการ
ส่ งคนไปที่ผาสุ ดสวรรค์ต่อหน้าทุกคน!
ทั้งเมืองพันอสู รพากันคลัง่ และขณะที่พวกเขากําลังจะแก้แค้น ฉูซิน
รุ่ ยก็บอกพวกเขาว่าคนในครอบครัวของพวกเขาถูกจับไปแล้ว และ
ชีวติ ของคนพวกนั้นก็อยูใ่ นมือของนาง ถ้าทุกคนไม่ยอมทําตาม
ความต้องการของนาง คนในครอบครัวของพวกเขาก็จะกลายเป็ น
ร่ างไร้ชีวติ ด้วยมีดของนาง
คืนนั้นไม่รู้วา่ มีคนเสี ยชีวติ ไปมากเท่าไร ทุกคนที่ต่อต้าน คนบริ สุทธิ์
ที่ถูกจับตัวไป และทุกคนที่ถูกฉูซินรุ่ ยกับลูกน้องของนางฆ่าตายที่
ประตูจวนของท่านเจ้าเมือง เลือดของคนทั้งหมดทําให้กอ้ นหิ นข้าง
นอกจวนท่านเจ้าเมืองเปลี่ยนเป็ นสี แดง…
ฉูซินรุ่ ยใช้วธิ ีที่โหดเหี้ ยมที่สุดและชัว่ ร้ายที่สุดทําให้ท้ งั เมืองพันอสู ร
ตกอยูภ่ ายใต้การควบคุมของนาง!
ตอนที่ 1025 งานเลีย้ งอันตราย (4)
เซียงป้าเล่าทุกอย่างที่ฉูซินรุ่ ยทําเอาไว้ในอดีตให้จวินเสี ยฟังทั้งหมด
และหวังว่าจวินเสี ยจะล้มเลิกความตั้งใจที่จะเข้าร่ วมงานเลี้ยงวันเกิด
พวกเขาพาจวินเสี ยมาที่นี่ และเขาคือความหวังสุ ดท้ายที่จะช่วยเมือง
พันอสู ร ตอนนี้เมืองพันอสูรไม่สามารถสู ญเสี ยคนไปมากกว่านี้ได้
แล้ว ถ้าแม้แต่จวินเสี ยก็ยงั ถูกฉูซินรุ่ ยฆ่าตาย เซี ยงป้าไม่กล้าคิดเลยว่า
จะมีใครสามารถช่วยพวกเขาได้อีก
“จวินเสี ย! ท่านไปไม่ได้นะ!” เซียงป้าตะโกนลัน่ พร้อมกับจ้องมองเขา
จวินอู๋เสี ยพูดขึ้นว่า “ถ้าข้าไม่ไป ท่านจะส่ งข้าออกนอกเมืองงั้น
หรื อ?”
เซียงป้ายืนงงค้างอยูก่ บั ที่
“สารเชิญมาถึงข้าแล้ว ถ้าข้าไม่ไปก็จะเป็ นการดูหมิ่นนาง นางคงไม่
ยอมแน่ ทางเลือกเดียวที่เหลืออยูก่ ค็ ือออกไปจากเมืองพันอสู รเพื่อ
หลบหนี แต่ถา้ ข้าออกไปจากเมือง แล้วที่ขา้ มาถึงที่นี่จะมีความหมาย
อะไรล่ะ?” จวินอู๋เสี ยพูดขึ้นพลางมองไปที่เซี ยงป้า นางเข้าใจความ
ห่วงใยของเขา แต่ธนูที่เหนี่ยวสายไปแล้วก็ตอ้ งยิงออกไปเท่านั้น
เซียงป้าทรุ ดลงนัง่ บนเก้าอี้อย่างหมดแรง สี หน้าสับสน
“ใช่แล้ว นางจะไม่ละเว้นคนที่ต่อต้านนาง เพื่อให้ท่านปลอดภัยเรา
จําเป็ นต้องส่ งท่านออกไปให้ห่างจากเมืองพันอสู ร แบบนั้น…ท่านก็
จะไม่สามารถทําตามแผนการของท่านต่อได้…”
“นางไม่ทาํ อะไรข้าหรอก อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในวันงาน” จวินอู๋เสี ยพูด
หน้าตาเฉย นัน่ เป็ นสิ่ งหนึ่งที่นางมัน่ ใจพอสมควร
“ท่านจะไปจริ ง ๆ หรื อ?” เซียงป้าพูด เขายังคงรู ้สึกกังวลอยูม่ าก
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า
“ในวันงานชิงหยูกบั ข้าจะตามติดข้างกายท่าน ถ้าเกิดเรื่ องไม่คาดคิด
ขึ้น เราจะทําทุกอย่างที่ทาํ ได้เพื่อพาท่านออกไป ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น
ตอนนั้นจริ ง ๆ ท่านต้องไปจากเมืองพันอสู รทันทีและอย่ากลับมาอีก
เด็ดขาด” เซียงป้าพูดพร้อมกับจ้องมองจวินเสี ยอย่างไม่ละสายตา
พวกเขาขอให้จวินเสี ยมา ไม่ได้ขอให้นางมาตายที่นี่ ถ้าสวรรค์จะละ
ทิ้งเมืองพันอสู รจริ ง ๆ พวกเขาก็ตอ้ งจัดการมันด้วยตัวเอง
“อืม” จวินอู๋เสี ยไม่เชื่อว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในวันงาน นางตอบตกลง
เพื่อคลายความกังวลของเซียงป้าเท่านั้น
เซียงป้าถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ ใบหน้าของเขายังคงดูกงั วลอยูม่ าก
จวินอู๋เสี ยเทนํ้าให้เขาและแอบใส่ ผงยาที่ทาํ ให้สงบลงไปเล็กน้อย
หลังจากเซียงป้าดื่มมันลงไป เขาก็ใจเย็นลงเล็กน้อย
“ท่านต้องตื่นตัวให้มากนะขอรับ ข้ารู ้วา่ ท่านฉลาดมาก ต่อให้ขา้ เค้น
สมองยังไงก็เทียบกับท่านไม่ได้แม้แต่นอ้ ย” เซี ยงป้าเตือนพร้อมกับ
มองไปที่จวินเสี ย ถ้าเขาไม่ได้พบกับจวินเสี ย เขาคงพบว่ามันยากที่
จะเชื่อว่าผูเ้ ยาว์ตวั เล็ก ๆ อย่างจวินเสี ยจะมีความสุ ขมุ รอบคอบและ
ละเอียดถี่ถว้ นมากขนาดนี้
“ได้” จวินอู๋เสี ยรับปาก
ดูเหมือนเซียงป้าจะกลายร่ างเป็ นชายแก่ข้ ีบ่นไปแล้ว เขาเตือนจวิน
เสี ยซํ้าแล้วซํ้าอีกอยูน่ านและยํ้าถึงนิสยั ใจคอของฉูซินรุ่ ยไม่หยุด
หลังจากเขาดื่มนํ้าจนหมดแล้วเขาถึงได้ยอมปล่อยจวินเสี ยและออก
จากห้องไป ดูท่าทางแล้วเขาต้องไปตามหาชิงหยูเพื่อบ่นต่ออีกยาว
แน่
เรื่ องที่ฉูซินรุ่ ยเชิญจวินเสี ยไปงานเลี้ยงไม่ได้ทาํ ให้จวินอู๋เสี ยกังวล
มากนัก แต่ทาํ ให้หวั หน้าตึกเพลิงพิโรธกับรองหัวหน้าว้าวุน่ ใจมาก
แน่ ๆ
“ดูเหมือนวันนี้นายหญิงจะอารมณ์ดีนะ” เจ้าแมวดําพูดขึ้นพร้อมกับ
มองจวินอู๋เสี ย จวินอู๋เสี ยแสดงท่าทางแบบ ‘มนุษย์’ ที่หายากอยู่
หลายครั้ง ซึ่งทําให้เจ้าแมวดําอยากจะยืนขึ้นปรบมือให้การพัฒนา
ครั้งใหญ่ของนายหญิงของมันเลยทีเดียว
“จริ งหรื อ?” จวินอู๋เสี ยไม่รู้สึกว่ามีอะไรแตกต่างไป
พูดถึงอารมณ์ของนาง จวินอู๋เสี ยก็เหลือบตาขึ้นมองออกไปนอก
หน้าต่าง ด้วยเหตุผลบางประการขณะที่นางมองไปยังต้นไม้สีเขียว
ข้างนอก นางก็รู้สึกว่าร่ างที่คุน้ เคยจะปรากฏตัวขึ้น ใบหน้าของเขามี
รอยยิม้ สบาย ๆ ขณะที่เดินช้า ๆ เข้ามาหานาง
[บางที…]
[พวกเขาจะได้พบกันอีกครั้งเร็ ว ๆ นี้]
ตอนที่ 1026 งานวันเกิด (1)
วันเวลาผ่านไป วันเกิดของฉูซินรุ่ ยมาถึงอย่างรวดเร็ ว คนที่ถูก
ส่ งกลับออกไปนอกเมืองจะบอกลาครอบครัวของพวกเขาในวันถัด
มาหลังจากงานเลี้ยงวันเกิด พวกเขาต้องพลัดพรากจากบ้านและถูก
จับไปขังเป็ นนักโทษตามเดิม
เย็นวันนั้น หลังจากเซียงป้ากับชิงหยูทาํ งานในหน้าที่เสร็ จ พวกเขาก็
ไปที่หอ้ งของจวินเสี ยทันที วันนี้พวกเขาจะไปที่หอเมฆาสวรรค์
ด้วยกันเพื่อร่ วมแสดงความยินดีในวันเกิดของคน ๆ นั้น
แม้วา่ มันจะเป็ นการแสดงความยินดี แต่สีหน้าของเซียงป้าก็ไม่ได้มี
ความเต็มใจเลยแม้แต่นอ้ ย ของขวัญแสดงความยินดีจากเขาชิงหยูก็
เป็ นคนเตรี ยมให้ จวินอู๋เสี ยเก็บข้าวของของนางแล้วเอายาขวดหนึ่ง
จากถุงมิติมาถือไว้ในมือ
เมื่อเซียงป้าเห็นขวดในมือของจวินเสี ย เขาก็ถามอย่างสงสัยว่า “นัน่
อะไรน่ะ?”
“ของขวัญ” จวินอู๋เสี ยตอบ
เซี ยงป้าทําตาโต
“ท่านเตรี ยมของขวัญให้ยยั แม่มดแก่นนั่ ด้วยเรอะ?”
จวินอู๋เสี ยชําเลืองมองไปที่กล่องกํามะหยีส่ องกล่องที่ชิงหยูถืออยู่
ใบหน้าของเซียงป้ากลายเป็ นสี แดง เขากระแอมออกมาเก้อ ๆ
“นัน่ ชิงหยูเป็ นคนเตรี ยม ข้าจะไม่ให้อะไรกับยัยแม่มดแก่นนั่ หรอก
ตําลึงเดียวก็ไม่ให้”
ชิงหยูมองเซียงป้าพร้อมกับหัวเราะอย่างขมขื่น เขาไม่ยอมเตรี ยม
อะไรเลย แต่นนั่ ก็หมายความว่าชิงหยูตอ้ งเป็ นคนเตรี ยมให้เขาไม่ใช่
หรื อ?
“คุณชายจวินอย่าใส่ ใจเลยขอรับ หัวหน้าตึกของเราก็เป็ นเช่นนี้
แหละ ให้เขาเข้าร่ วมงานเลี้ยงก็ไม่ต่างกับการผลักเขาให้ข้ ึนไปบน
ลานประหาร งานวันเกิดของคน ๆ นั้นทุกปี ข้าต้องเตรี ยมของขวัญ
สองชิ้นเสมอ คุณชายจวินไม่ใช่คนของเมืองพันอสู รเรา ถึงท่านจะ
ไม่นาํ ของขวัญไปก็คงไม่เป็ นไรหรอกขอรับ”
“ต้องเอาไปซิ” แค่ยาขวดเดียวจวินอู๋เสี ยไม่ได้ใส่ ใจอะไรเลย เวลา
ว่างที่เมืองพันอสู รถ้านางไม่ได้ฟังข่าวจากเย่ฉาเพื่อทําความเข้าใจ
สถานการณ์รอบตัว นางก็จะปรุ งยา ยาแค่ขวดเดียวจึงไม่ได้ยากเย็น
อะไรสําหรับนาง
เมื่อเห็นจวินเสี ยยืนกราน ชิงหยูกไ็ ม่พดู อะไรอีก แต่เซี ยงป้ายังคงทํา
หน้าบูดบึ้งอยู่ เหมือนที่ชิงหยูพดู ไม่มีผดิ เหมือนเขาถูกส่ งไปลาน
ประหารเลย
ทั้งสามคนออกจากตึกเพลิงพิโรธและเดินทางไปที่หอเมฆาสวรรค์
แม้มนั จะเป็ นตอนเย็นแล้ว แต่ภายในเมืองพันอสู รสว่างไสวไปด้วย
โคมไฟ บ้านทุกหลังจะแขวนโคมไฟเอาไว้ขา้ งนอก แสงสี แดง
เหมือนเลือดเรี ยงไปตามถนนทัว่ ทั้งเมือง
“ในวันเกิดทุกปี ของนาง บ้านทุกหลังทัว่ เมืองพันอสู รจะแขวนโคม
แดงเพื่อทําให้เห็นเหมือนกับว่าคนทั้งเมืองกําลังฉลองให้กบั วันนี้”
ชิงหยูอธิบายให้จวินเสี ยฟังขณะที่พวกเขาเดินไปตามถนนที่เต็มไป
ด้วยโคมไฟสี แดง
“เผด็จการโดยแท้ ถ้านางตายไปซะได้ ทุกคนในเมืองพันอสู รคงจะ
แขวนโคมแดงทัว่ ทุกแห่งอย่างเต็มใจเพื่อฉลองเลยล่ะ” เซียงป้าบ่น
อย่างรังเกียจ
ชิงหยูมองหัวหน้าตึกของเขาแล้วพูดเสี ยงตํ่าว่า “ไม่วา่ หัวหน้าเซี ยง
จะไม่พอใจมากขนาดไหน ถ้าท่านบ่นในตึกเรามันก็ไม่เป็ นไรหรอก
แต่ถา้ คนข้างนอกมาได้ยนิ เข้า มันจะไม่ดีเอานะขอรับ”
ปากของเซียงป้ากระตุก ถึงแม้เขาจะไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่พดู อะไร
ออกมาอีก
จวินอู๋เสี ยมองโคมแดงทั้งหมดแล้วก็ตาลาย นางไม่ได้เอาท่านแบะ
แบะกับกระต่ายโลหิ ตมาด้วยแต่จบั มันขังแยกห้องเอาไว้ที่สนาม
เนื่องจากเจ้าแมวดํามากับนางด้วย นางจึงทําเช่นนั้นเพื่อป้องกันเจ้า
โง่สองตัวไม่ให้พงั ตึกทั้งหลังตอนที่นางไม่อยู่
คนทั้งสามเดินไปอย่างไม่รีบร้อน แต่พวกเขาก็ยงั ถึงหอเมฆาสวรรค์
เร็ วมากอยูด่ ี
หอเมฆาสวรรค์ที่สูงถึง 7 ชั้นถูกตกแต่งประดับประดาด้วยธงและ
โคมไฟเต็มไปหมด แต่ประตูใหญ่ยงั คงปิ ดสนิท ด้านนอกประตูมีคน
กลุ่มหนึ่งที่มาแสดงความยินดีในวันเกิดกําลังยืนรออยูด่ ว้ ยกัน
ตอนที่ 1027 งานวันเกิด (2)
ท่ามกลางคนพวกนั้นมีหวั หน้าตึกกับรองหัวหน้าจากอีกสองตึกที่
จวินอู๋เสี ยไม่เคยเจอมาก่อน พวกเขาเห็นเซี ยงป้าเดินเข้ามาก็พยักหน้า
ให้เขาเป็ นการทักทาย
หลินชิวกับหลินเฟิ งก็อยูท่ ี่นนั่ ด้วย นอกจากพ่อลูกคู่น้ นั แล้ว ชางกวน
เหยียนก็ตามมาด้วยเช่นกัน แต่สีหน้าของทั้งสามคนดูไม่เป็ นมิตรเลย
แม้แต่นอ้ ย ตั้งแต่จวินเสี ยปรากฏตัวขึ้นที่นนั่ สายตาของหลินเฟิ งก็จอ้ ง
มองมาอย่างมุ่งร้ายโดยไม่ยอมละสายตาไปจากจวินเสี ยเลยสักครั้ง
จวินอู๋เสี ยไม่สนใจสายตา ‘เฝ้าระวัง’ ของหลินเฟิ งเลยสักนิด หรื อจะ
พูดว่า…จวินเสี ยไม่ได้ใส่ ใจเลยด้วยซํ้าว่าหลินเฟิ งอยูท่ ี่นนั่ ด้วย
“เรายังต้องรออีกครู่ หนึ่งนะขอรับ ทําอะไรไม่ได้เลยนอกจากรอ
อย่างเดียว” ชิงหยูพดู ขึ้นพร้อมกับมองประตูหอเมฆาสวรรค์ที่ปิด
สนิทเหมือนว่าเขาชินกับสถานการณ์เช่นนี้อยูแ่ ล้ว
เซี ยงป้ากระซิบกับจวินเสี ยว่า “ยัยแม่มดแก่นนั่ ทําแบบนี้ทุกครั้ง
แหละ ทุกคนต้องมาถึงกันก่อนแล้วรอข้างนอกประตูน้ ีพกั นึง พวก
เขาถึงจะเปิ ดประตูให้เราเข้าไปได้”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าเล็กน้อย
ขณะที่ทุกคนกําลังรอ ฉูเหวินห่าวกับฉูหลิงเย่กเ็ ดินเข้ามาตรงหน้าทุก
คน และทุกคนก็คุกเข่าลงทันที “ท่านเจ้าเมือง! คุณหนู!”
“ทุกคนลุกขึ้นเถอะ วันนี้พวกท่านมากันเร็ วทําเอาข้ามาถึงเป็ นคน
สุ ดท้ายเลย” ฉูเหวินห่าวยิม้ อย่างอ่อนโยน ใบหน้าของเขาคล้ายกับฉู
หลิงเย่แต่ดูหนักแน่นเด็ดเดี่ยวกว่า ฉูเหวินห่าวอายุแค่ 40 ปี เท่านั้นแต่
ผมด้านข้างทั้งสองของเขามีสีขาวแซมแล้ว แม้วา่ รอยยิม้ ของเขาจะ
อ่อนโยน แต่มนั ยังคงมีริ้วรอยความกังวลอยูท่ ี่หางตา
ฉูหลิงเย่ยนื อยูข่ า้ งหลังพ่อของนาง นางพยักหน้าทักทายท่านอา
ทั้งหลายที่นนั่ ก่อนจะมองไปเห็นจวินเสี ยที่ยนื อยูข่ า้ ง ๆ เซียงป้า เมื่อ
นางเห็นเขา ใบหน้าขาว ๆ ของนางก็ข้ ึนสี ชมพูจาง ๆ ทันที นางรู ้สึก
ตื่นเต้นปั่ นป่ วนไปหมดจึงรี บก้มหน้าลง มือดึงแขนเสื้ อตัวเองโดยไม่
รู ้ตวั
เมื่อฉูหลิงเย่มาถึง สายตาของหลินเฟิ งก็ยา้ ยจากจวินเสี ยไปที่นาง
ทันที ตั้งแต่ฉูหลิงเย่กลับมาที่เมืองพันอสู ร เขาก็ได้เจอนางแค่ครั้ง
เดียวตอนที่นางเพิ่งผ่านประตูเมืองเข้ามา และเนื่องจากเหตุการณ์ที่
เกิดขึ้นกับมังกรมายา เขาจึงถูกกักบริ เวณอยูท่ ี่บา้ นเพื่อทบทวนการ
กระทําของตัวเอง เพิง่ จะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านก็วนั นี้ หลิน
เฟิ งไม่มีโอกาสได้พบฉูหลิงเย่มานาน จึงคาดหวังจะได้คุยกับนางใน
วันนี้ แต่สถานการณ์กลับกลายเป็ นแบบนี้ไปซะแล้ว
หลังจากฉูหลิงเย่มาถึงที่นี่ นางก็ไม่มองเขาเลยสักแวบเดียว แม้แต่
หางตาก็ไม่แล สายตาของนางจับจ้องอยูท่ ี่จวินเสี ยตลอดเวลา แถมยัง
มีแววตาเขินอายอันไร้เดียงสาของเด็กสาวด้วย
เมื่อหลินเฟิ งเห็นสายตาเขินอายนัน่ เขาก็รู้สึกเหมือนหัวใจถูกเฉื อน
ด้วยใบมีดคม ๆ
ถ้าบอกว่าตอนแรกหลินเฟิ งระแวงว่าฉูหลิงเย่จะคิดอะไรกับจวินเสี ย
เขาก็แค่เดามัว่ ๆ ไปเท่านั้น แต่หลังจากเห็นสายตาที่ฉูหลิงเย่มอง
จวินเสี ยในวันนี้ เขาก็เกือบจะแน่ใจแล้วว่าฉูหลิงเย่ชอบจวินเสี ย!
นัน่ เป็ นสถานการณ์ที่หลินเฟิ งสุ ดจะทนได้จริ ง ๆ
เขามองจวินเสี ยด้วยความรู ้สึกอยากจะถลกหนังจวินเสี ยทั้งเป็ นและ
หักกระดูกเขาเป็ นท่อน ๆ เขาไม่เข้าใจจริ ง ๆ ว่าฉูหลิงเย่เห็นอะไรใน
ตัวเจ้าเด็กหน้าตาธรรมดาผอมกระหร่ องแบบนั้น
จวินเสี ยด้อยกว่าเขาทุกอย่างชัด ๆ แต่ทาํ ไมฉูหลิงเย่ถึงไม่สนใจเขา
เลยแล้วไปชอบหมอนัน่ แทน?
หลินเฟิ งไม่อยากยอมรับมัน ความอิจฉาเผาไหม้อยูใ่ นอกจนร้อนรุ่ ม
เขากําหมัดแน่นพร้อมกับขบกราม ในใจทั้งฟันทั้งเฉือนจวินเสี ยเป็ น
พัน ๆ ครั้ง
ฉูเหวินห่าวสนทนากับพวกหัวหน้าตึกอย่างสุ ภาพอีกสองสาม
ประโยคแล้วเดินเข้ามายืนตรงหน้าเซียงป้า เขาแสร้งทําเป็ นกวาด
สายตาผ่านเซียงป้าไปที่จวินเสี ยอย่างไม่ได้ต้ งั ใจ เหมือนกับว่าเขา
เพิ่งเห็นผูเ้ ยาว์คนนี้แล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าคงเป็ นน้องชายแซ่จวินใช่
ไหม?”
ตอนที่ 1028 งานวันเกิด (3)
จวินอู๋เสี ยเงยหน้าขึ้นมองฉูเหวินห่าว สี หน้าของฉูเหวินห่าวสงบนิ่ง
เขาให้ความรู ้สึกของผูอ้ าวุโสที่ใจดีเป็ นกันเอง ดูเหมือนเขากําลังถาม
ไถ่ผเู ้ ยาว์คนหนึ่งอย่างสุ ภาพโดยไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง
“ผูน้ อ้ ยจวินเสี ย คารวะท่านเจ้าเมืองแห่งเมืองพันอสู ร” จวินอู๋เสี ย
ทักทาย
ฉูเหวินห่าวพูดด้วยรอยยิม้ ว่า “ไม่ตอ้ งเป็ นทางการขนาดนั้นหรอก
ข้าได้ยนิ จากหลิงเย่วา่ เจ้าดูแลนางอย่างดีที่แคว้นหยานและยัง
ช่วยชีวติ ลูกสาวข้าเอาไว้ดว้ ย ช่วงนี้ขา้ ยุง่ มากจริ ง ๆ ข้าอยากจะไป
ขอบคุณเจ้าอยูต่ ลอดแต่กห็ าโอกาสไม่ได้สกั ที ได้แต่ให้สุภาพบุรุษ
จากตึกเพลิงพิโรธสองคนนี้รับรองเจ้าในฐานะแขกพิเศษของเรา ข้า
หวังว่าคุณชายจวินจะไม่ข่นุ เคือง”
“ท่านเจ้าเมืองเกรงใจเกินไปแล้ว” จวินเสี ยกับฉูเหวินห่าวถามตอบ
กันอย่างลื่นไหล บทสนทนาของพวกเขาไม่มีอะไรแปลกเลยสักนิด
ไม่มีใครสงสัยว่าจวินเสี ยกับฉูเหวินห่าวได้ตกลงร่ วมมือกันผ่านฉู
หลิงเย่แล้ว
“แต่ยงั ไงก็ตอ้ งขอบคุณกันให้เรี ยบร้อยล่ะนะ” ฉูเหวินห่าวพูดพร้อม
กับหัวเราะ เขาดึงตัวฉูหลิงเย่ที่แอบอยูด่ า้ นหลังเขามายืนตรงหน้า
จวินเสี ยแล้วพูดว่า “หลิงเย่ เจ้าจะขอบคุณคุณชายจวินให้ถูกต้องอยู่
ไม่ใช่หรื อ?”
หัวใจของฉูหลิงเย่เต้นโครมครามเสี ยงดังทันทีที่เห็นจวินเสี ยตั้งแต่
เมื่อครู่ แล้ว นางจึงไม่กล้ามองเขาอีก แล้วจู่ ๆ ท่านพ่อก็ลากนาง
ออกมายืนซะใกล้จวินเสี ยขนาดนี้ มันใกล้มากจนนางแทบจะได้
กลิ่นหอมจาง ๆ ของสมุนไพรจากตัวของจวินเสี ย
กลิ่นนั้นไม่ใช่กลิ่นหอมหวานของดอกไม้ แต่เป็ นกลิ่นที่ตอนแรกจะ
ออกขม ๆ แต่ไม่นานจะทําให้รู้สึกสงบ
แต่เป็ นความสงบที่ฉูหลิงเย่ไม่สามารถประสบพบเจอได้
ฉูหลิงเย่ที่เข้ามาใกล้จวินเสี ยอย่างกะทันหันก็เงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตวั
เมื่อนางพบว่าตัวเองกําลังมองตาใสกระจ่างเย็นชาของจวินอู๋เสี ยอยู่
ใบหน้าของนางก็แดงระเรื่ อทันที นิ้วของนางเกาะเกี่ยวกันแน่นก่อน
จะบิดผ้าเช็ดหน้าในมืออย่างประหม่า
ดวงตาของนางเบิกกว้างสะท้อนแสงจากโคมเป็ นประกายแวววาว
“คุณ…คุณ…” ฉูหลิงเย่มองใบหน้าละเอียดอ่อนที่อยูใ่ กล้ ๆ แล้ว
รู ้สึกว่าใบหน้านั้นมีเสน่ห์น่าหลงใหลมากกว่าชายที่หน้าตาดีที่สุดใน
โลกเป็ นร้อยเท่า นางรู ้สึกราวกับถูกแมวขโมยลิ้นไปแล้วจึงพูดอะไร
ไม่ออกเลย
จวินอู๋เสี ยเอียงคอมองฉูหลิงเย่ที่หน้าแดงและดูตื่นเต้นมากด้วย
ความรู ้สึกงุนงงอยูใ่ นใจ ตั้งแต่ตอนที่ฉูหลิงเย่ออกจากห้องของนาง
ไปวันนั้น นางก็คิดอยูว่ า่ ฉูหลิงเย่มีท่าทางแปลก ๆ และตอนนี้นางก็
ได้เจอกับฉูหลิงเย่อีกครั้ง ‘อาการ’ ของฉูหลิงเย่ดูเหมือนจะแย่ลงไป
กว่าเดิมอีก
ฉูหลิงเย่ถูกจวินเสี ยจ้องแบบนั้นก็ตื่นเต้นจนเกือบร้องไห้ นางรี บก้ม
หน้าลงแล้วหลับตา จากนั้นก็โค้งคารวะจนถึงเอวอย่างรวดเร็ วเพือ่
แสดงความขอบคุณต่อจวินเสี ย
“ขอบ…”
ปั่ก!
ฉูหลิงเย่โค้งลงไปแบบตื่นเต้นจัดทั้ง ๆ ที่หลับตาปี๋ จึงทําให้หวั ของ
นางโขกเข้าที่ไหล่ของจวินเสี ยเสี ยงดังปั่ก
ฉูหลิงเย่รู้สึกมึนจนเห็นดาววิง้ ๆ อยูต่ รงหน้า ตรงข้ามกับจวินเสี ยที่
ยังสบายดีไม่เป็ นอะไรเลย
ระดับขั้นพลังวิญญาณของฉูหลิงเย่เมื่อมากระแทกกับจวินอู๋เสี ยที่
เกือบจะทะลวงเข้าสู่ ข้นั สี ฟ้าแล้วนั้น มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับจวิน
เสี ยเลย แต่ตวั ฉูหลิงเย่เองนัน่ แหละที่เจ็บมาก
จวินอู๋เสี ยเห็นฉูหลิงเย่กมุ หน้าผากแล้วเกือบจะหงายหลังล้ม ก็ยนื่ มือ
ออกไปจับเอวฉูหลิงเย่ไว้แล้วดึงนางให้กลับมายืนตามเดิม
ฉูเหวินห่าวที่คิดจะจับตัวลูกสาวที่หงายหลังลงมาก็ชะงักอึ้งไปทันที
เขามองจวินเสี ย ‘กอด’ ฉูหลิงเย่อย่างมึน ๆ ใบหน้าแข็งค้าง
หลินเฟิ งที่แอบมองฉูหลิงเย่กบั จวินเสี ยอยูห่ ่าง ๆ เห็นภาพนั้นเข้าก็
กําหมัดแน่นจนกระดูกลัน่ อยากจะกระโจนเข้าไปตัดแขนจวินเสี ยที่
โอบรอบตัวของฉูหลิงเย่ทิ้งซะเดี๋ยวนั้น!
ตอนที่ 1029 งานวันเกิด (4)
ฉูหลิงเย่รู้สึกตื่นเต้นสับสนจนคิดอะไรไม่ออก ครู่ หนึ่งกว่านางจะได้
สติกลับมา เมื่อนางลืมตาขึ้นมอง นางก็แทบจะเป็ นลมด้วยความ
ตกใจ
[ขะ…ข้า…ข้าอยูใ่ น…อ้อมกอดของ…จวินเสี ย!]
ทันใดนั้นหัวสมองของฉูหลิงเย่กว็ า่ งเปล่า นางประหม่าตื่นเต้นมาก
ขณะที่พยายามดิ้นรน ‘หนี’ ออกจากอ้อมกอดของจวินเสี ย ใบหน้า
ของนางแดงกํ่า สี หน้าเหมือนคนกําลังจะร้องไห้ นางอับอายมากจน
เกือบจะสะอื้นออกมาจริ ง ๆ
“……” จวินอู๋เสี ยมองฉูหลิงเย่ดว้ ยความงุนงงอย่างมาก ปฏิกิริยา
เช่นนี้นางไม่เคยเจอมาก่อนเลย
นางก็แค่ยนื่ มือออกไปตามสัญชาตญาณ และเพราะว่านางกับฉูหลิง
เย่เป็ นผูห้ ญิงทั้งคู่ นางจึงคิดว่ามันไม่มีอะไร
แต่จวินอู๋เสี ยลืมไปแล้วว่าตอนนี้นางปลอมตัวเป็ นเด็กผูช้ ายอยู่ การ
กระทําของนางเมื่อครู่ อย่าว่าแต่ฉูหลิงเย่เลย ฉูเหวินห่าว, เซียงป้า
และชิงหยูกม็ ีสีหน้าแปลก ๆ เช่นกัน
โดยเฉพาะเซียงป้าที่มองจวินอู๋เสี ยอย่างมีเลศนัย
“อะแฮ่ม ขอบคุณคุณชายจวิน” ฉูเหวินห่าวพูดพลางชําเลืองมองฉู
หลิงเย่ที่วงิ่ ไปแอบอยูด่ า้ นหลังเขาอย่างรวดเร็ ว แม้วา่ เขาเพิ่งได้พบ
กับจวินเสี ย แต่เขาก็ชื่นชมท่าทางที่หนักแน่นมัน่ คงและสงบนิ่ง
ของจวินเสี ยมาก เมื่อเขาเห็นอาการเขินอายของลูกสาวตัวเองที่แสดง
ออกมา ในฐานะของคนที่เคยมีประสบการณ์มาแล้ว ฉูเหวินห่าวจะ
ไม่รู้ได้อย่างไรว่าฉูหลิงเย่แอบคิดอะไรอยู?่
แต่…
นิสยั เย็นชาเฉยเมยของจวินเสี ยทําให้บอกได้ยากว่าเขารู ้สึกอย่าง
เดียวกับฉูหลิงเย่หรื อไม่
แต่ถา้ พวกเขารู ้สึกเหมือนกันจริ ง ๆ ฉูเหวินห่าวก็ยนิ ดี เขาได้ยนิ ทั้ง
เซียงป้ากับฉูหลิงเย่ชื่นชมจวินเสี ยซะมากมาย และหลังจากได้พบกับ
ผูเ้ ยาว์คนนี้ตวั เป็ น ๆ ฉูเหวินห่าวก็พอใจกับสิ่ งที่เขาเห็นมาก
นอกจากตัวเล็กแล้ว ก็ไม่มีอย่างอื่นในตัวเด็กชายที่พวกเขาจะไม่
ชอบ
แต่ผเู ้ ยาว์อย่างเขายังไม่โตเต็มที่ และเด็กผูช้ ายก็ยงั ต้องคอยดูกนั อีก
รอบไม่ชา้ ก็เร็ ว
จวินอู๋เสี ยไม่เคยคิดฝันเลยว่าการลงมือช่วยง่าย ๆ เมื่อครู่ จะก่อปั ญหา
ใหญ่แบบนั้น ทําให้ฉูเหวินห่าวเริ่ มมองนางในฐานะ ‘ว่าที่ลูกเขย’
ขึ้นมา ถ้านางรู ้ความคิดของฉูเหวินห่าว จวินอู๋เสี ยก็คงพูดอะไรไม่
ออก
ฉูหลิงเย่รู้สึกอับอายมากจนไม่สามารถมองจวินเสี ยได้ นางยืนหอบ
หายใจเล็กน้อยอยูด่ า้ นหลังฉูเหวินห่าว ดวงตาใสกระจ่างของนางมี
นํ้าตาคลอ
[นางทําอะไรลงไป?]
[ทําไมนางต้องทําเรื่ องน่าอายต่อหน้าจวินเสี ยด้วย?]
[คุณชายจวินคงดูแคลนนางแน่แล้ว!]
ใจของคุณหนูแห่งเมืองพันอสู รแทบจะแหลกสลาย
หลินเฟิ งแอบสังเกตปฏิกิริยาของฉูหลิงเย่อยู่ เขารู ้สึกเกลียดจวินเสี ย
จนเข้ากระดูกดํา ดวงตาของเขาแดงกํ่าด้วยโทสะที่สะกดข่มเอาไว้
ด้วยพลังใจอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้ตวั เองพุง่ เข้าโจมตีเขา
ตอนนั้นเอง ประตูหอเมฆาสวรรค์กเ็ ปิ ดออกช้า ๆ ชายหนุ่มหน้าตาดี
ในชุดสี แดงยืนหน้าเชิดอยูด่ า้ นใน เขากวาดสายตามองกลุ่มคนที่รอ
คอยอยูด่ า้ นนอก
“ท่านยายสัง่ ให้พวกเจ้าทุกคนเข้าไปได้แล้ว” พูดจบเขาก็หนั หลังเดิน
เข้าไปข้างในหอเมฆาสวรรค์โดยไม่พดู อะไรอีก ราวกับไม่รู้ถึง
สถานะของทุกคนที่ยนื อยูด่ า้ นนอก
คนทั้งกลุ่มก็มีท่าทางเหมือนเคยชินกับความยโสโอหังของชายหนุ่ม
คนโปรดคนนั้นแล้ว ถึงได้ไม่มีใครพูดอะไรเลย
ฉูเหวินห่าวสะกิดฉูหลิงเย่ แล้วนางก็หน้าแดงขึ้นมา นางก้าวไป
ข้างหน้าหนึ่งก้าว ก้มหัวลงพร้อมกับเดินตรงไปที่หน้าประตูหอเมฆา
สวรรค์ชา้ ๆ แล้วคุกเข่าลง “หลิงเย่คารวะท่านยายทวด ขอให้ท่าน
ยายทวดมีความสุ ขมาก ๆ เหมือนทะเลตะวันออก อายุยนื ยาวเหมือน
ภูเขาทางใต้”
ไม่มีวแี่ ววของใครอยูด่ า้ นหลังประตูน้ นั สักคน และไม่มีเสี ยงตอบ
กลับมาเลยด้วย
ตอนที่ 1030 งานวันเกิด (5)
ไม่มีวแี่ ววของใครอยูด่ า้ นหลังประตูน้ นั สักคน และไม่มีเสี ยงตอบ
กลับมาเลยด้วย
หลังจากฉูหลิงเย่ทาํ การคารวะเสร็ จ นางก็คุกเข่าอยูต่ รงนั้นอีกครู่
หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นและพูดกับพ่อของนางว่า “ท่านพ่อ ข้ากลับบ้าน
ก่อนนะ”
ฉูเหวินห่าวพยักหน้า
ฉูหลิงเย่แอบชําเลืองมองจวินเสี ยอีกครั้งก่อนจะไปจากที่นนั่
จวินอู๋เสี ยเลิกคิว้ ขึ้นเล็กน้อย ชิงหยูที่อยูข่ า้ ง ๆ นางจึงพูดขึ้นเบา ๆ ว่า
“หอเมฆาสวรรค์ไม่อนุญาตให้ผหู ้ ญิงเข้ามาใกล้ขอรับ เพราะฉูหลิง
เย่เกลียดผูห้ ญิง ดังนั้นถึงเป็ นคุณหนูกไ็ ม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป วัน
เกิดของนางทุกปี คุณหนูตอ้ งคุกเข่าอยูข่ า้ งหน้าหอเมฆาสวรรค์และ
กล่าวคําอวยพรแบบนี้ขอรับ”
การที่ผเู ้ ยาว์แสดงความเคารพและกล่าวคําอวยพรแก่ผอู ้ าวุโสไม่ใช่
สิ่ งที่แปลกอะไร
แต่อย่างที่ฉูหลิงเย่ทาํ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอยูต่ รงหน้านางก็ยงั คุกเข่าที่
ประตู นัน่ เป็ นสิ่ งที่ไม่เคยได้ยนิ มาก่อน
จวินอู๋เสี ยยิม้ เยาะอยูใ่ นใจแต่ไม่ได้แสดงออกมาทางสี หน้า
“ทุกท่าน เชิญ” ฉูเหวินห่าวหันไปพูดกับทุกคน แล้วพวกเขาก็พากัน
เข้าไปในหอเมฆาสวรรค์
ข้างในหอเมฆาสวรรค์น้ นั ความหรู หราฟุ้งเฟ้อแผ่กระจายไปทัว่ ทุก
มุม หลังจากฉูซินรุ่ ยเผยนิสยั ที่แท้จริ งของนาง นางก็ทาํ ทุกอย่าง
ตามใจนางอย่างเต็มที่ นางสัง่ ให้ฉูเหวินห่าวย้ายสมบัติท้ งั หมดใน
เมืองพันอสู รมาที่หอเมฆาสวรรค์ กระทัง่ สมุดบัญชีของเมืองพัน
อสู รก็ตอ้ งให้นางตรวจสอบอย่างละเอียดทุกเดือน ของมีค่าทุกชิ้นที่
คนในเมืองได้มาต้องแจ้งนางให้ตรวจสอบด้วย และถ้ามันเหมาะกับ
นาง มันก็จะถูกยึดไปโดยที่ไม่ได้ค่าชดเชยอะไรเลยแม้แต่ตาํ ลึงเดียว
นางยึดทรัพย์เอาตามใจชอบโดยไร้เหตุผลไม่สนใจความรู ้สึกของคน
อื่น ชาวเมืองของเมืองพันอสู รพากันบ่นและครํ่าครวญ แต่ต่อหน้าฉู
หลินเย่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจะกลืนคําบ่นกลับเข้าไป
ตั้งแต่จวินอู๋เสี ยมาเกิดใหม่ นี่เป็ นคนที่ชวั่ ร้ายที่สุดที่นางเคยพบ ข่ม
เหงรังแกผูค้ นอย่างโจ่งแจ้งโดยไม่สนใจจะปกปิ ดการกระทําของ
ตัวเองเลยแม้แต่นอ้ ย
ที่ฉูซินรุ่ ยเย่อหยิง่ จองหองได้โดยไม่ถูกลงโทษใด ๆ นั้นก็เพราะนาง
ได้รับพลังวิญญาณขั้นสี ม่วงเมื่อหลายปี ก่อนและได้ไปที่อาณาจักร
กลาง ในสายตาของฉูซินรุ่ ย คนในอาณาจักรล่างนั้นไม่มีค่าพอที่จะ
เรี ยกว่ามนุษย์อีกต่อไป
ทุกคนที่มาจากสิ บสองวิหารแห่งอาณาจักรกลางที่นางเคยเจอก็ทาํ
ให้จวินอู๋เสี ยรู ้สึกแบบเดียวกันนี้ ในสายตาของคนจากอาณาจักร
กลาง ชีวติ ของคนในอาณาจักรล่างก็ไร้ค่าเหมือนแมลง พวกเขาจะ
ฆ่าจะทุบตียงั ไงก็ได้ตามต้องการ ไม่เคยเห็นคนที่นี่เป็ นมนุษย์เลย
แม้แต่นอ้ ย
จวินอู๋เสี ยก้มหน้าลง ละสายตาออกจากการตกแต่งภายในของหอ
เมฆาสวรรค์
เจ้าแมวดําซุกอยูใ่ นอ้อมแขนของจวินอู๋เสี ย ปลายจมูกของมันสัน่
เล็กน้อย ดวงตาส่ องประกายแปลกประหลาด
เมื่อทุกคนขึ้นไปถึงชั้นบนสุ ดของหอเมฆาสวรรค์ พวกเขาก็เห็นห้อง
ที่ประดับประดาด้วยผ้าไหมโปร่ งบางสี แดงเลือด พรมขนจิ้งจอกสี
ขาวที่ปูพ้นื มีกลีบกุหลาบกระจายไปทัว่ กลิ่นหอมชวนหลงใหลฟุ้ง
กระจายอยูใ่ นอากาศโดยรอบ ชายหนุ่มหน้าตาดีกลุ่มหนึ่งในชุดบาง
เบานัง่ เล่นดนตรี อยูข่ า้ งหนึ่ง ขณะที่อีกกลุ่มนัง่ คุกเข่าอยูร่ อบ ๆ เก้าอี้
ยาว เสื้ อผ้าบนตัวพวกเขาไม่ได้ปกปิ ดร่ างกายให้เรี ยบร้อยมิดชิด
ฉูซินรุ่ ยในชุดสี แดงนัง่ อยูบ่ นเก้าอี้ยาว มองเห็นขายาว ๆ ของนางอยู่
ใต้ชุดราง ๆ ชายหนุ่มที่ดูอรชรอ้อนแอ้นคนหนึ่งจับเท้าข้างหนึ่งของ
นางและจูบมันอย่างอ่อนโยน
ฉูซินรุ่ ยวางศีรษะไว้บนมือข้างหนึ่งขณะที่เอนหลังพิงเก้าอี้ เมื่อนาง
เห็นกลุ่มคนเดินเข้ามา นางก็ไม่ได้ลุกขึ้น ขาของนางยกขึ้นเล็กน้อย
เผยให้เห็นผิวด้านในมากขึ้นโดยไม่มีความอายเลยสักนิด
แต่ทุกคนในกลุ่มต่างไม่กล้าเหลือบมองไปที่นางเลย พวกเขาคุกเข่า
ลงเพื่อทําการคารวะ
มีเพียงจวินอู๋เสี ยคนเดียวที่ยงั ยืนตัวตรงอยูท่ ่ามกลางคนพวกนั้น
ตอนที่ 1031 งานวันเกิด (6)
“คารวะท่านยาย” คนทั้งกลุ่มประสานเสี ยงคารวะ แต่จวินอู๋เสี ยก็ยงั
ยืนนิ่งอยูก่ บั ที่ และฉูซินรุ่ ยก็มองมาที่เขา
สายตาที่ดูร้ายกาจคู่น้ นั กวาดมองร่ างของจวินเสี ยที่ยนื เด่นอยูข่ า้ งหน้า
นางหรี่ ตาเล็กน้อย ริ มฝี ปากขยับโค้งขึ้นเป็ นรอยยิม้ บาง ๆ
ฉูซินรุ่ ยส่ งคนไปตรวจสอบประวัติของจวินเสี ยและได้เห็นภาพวาด
ของเขาแล้ว นางคิดว่าร่ างในภาพวาดเป็ นภาพที่ดูมีเสน่ห์ที่สุดแล้ว
นางจึงค่อนข้างผิดหวัง แต่เมื่อนางได้เห็นจวินเสี ยตัวเป็ น ๆ ก็รู้สึก
ประหลาดใจและพอใจขึ้นมา
แม้วา่ ใบหน้าที่ยงั ไม่โตเต็มวัยจะไม่ได้โดดเด่นสะดุดตา แต่ดวงตาคู่
นั้นมันติดตาตรึ งใจยิง่ นัก!
เหมือนนํ้าที่กลายเป็ นนํ้าแข็งในทะเลสาบฤดูหนาว เย็นเยียบและลึก
ลํ้า
ฉูซินรุ่ ยเห็นชายหนุ่มหน้าตาดีที่อยูร่ อบ ๆ ตัวจนชิน นางจึงหลง
เสน่ห์ดวงตาของจวินเสี ยในทันที
ฉูซินรุ่ ยไม่สนใจคนอื่น ๆ ที่กาํ ลังคุกเข่าอยูท่ ี่พ้นื นางเอาแต่จอ้ ง
มองจวินเสี ยที่ยนื ตัวตรงอยูข่ า้ งหน้าแล้วพูดว่า “คุณชายท่านนี้คงเป็ น
คนที่ชื่อจวินเสี ยซินะ”
จวินอู๋เสี ยมองฉูซินรุ่ ย นางดูสง่างาม ผิวของนางเรี ยบเนียนเต่งตึง ไม่
ว่าจะมองยังไงนางก็ไม่เห็นริ้ วรอยบ่งบอกอายุเลยสักนิด มองแล้ว
อย่างมากนางก็อายุ 20 ปี เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เศษเสี้ ยวของอายุ
จริ งของนางเลย
จวินอู๋เสี ยรู ้วา่ เมื่อเข้าสู่ ข้นั พลังวิญญาณสี ม่วง หน้าตาของคน ๆ นั้น
จะเยาว์วยั ลงเล็กน้อย แต่ความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนั้นไม่พอที่จะทํา
ให้หญิงชราหน้าตาเหี่ ยวย่นกลายเป็ นหญิงสาวอายุ 20 ปี ได้หรอก
ตอนที่ฉูซินรุ่ ยได้รับพลังวิญญาณสี ม่วง ผมของนางกลายเป็ นสี ขาว
หมดแล้ว นางเป็ นหญิงชราอายุเกือบร้อยปี แต่พอนางกลับมาที่เมือง
พันอสู ร นางก็กลายสภาพเป็ นสาวน้อยอายุ 20 ปี ที่ดูสง่างาม หน้าตา
ของนางไม่แตกต่างไปจากตอนที่นางยังเป็ นสาว ๆ อยูเ่ ลย แต่ความ
เปลี่ยนแปลงอย่างมากนั้นเป็ นเรื่ องที่แปลกมาก
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตาลงเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นด้วยนํ้าเสี ยงเรี ยบนิ่งว่า
“ผูน้ อ้ ยจวินเสี ย ขอให้แม่นางฉูมีสุขภาพแข็งแรง”
จะให้จวินอู๋เสี ยเรี ยกฉูซินรุ่ ยว่าท่านยาย คงต้องฆ่านางซะก่อนล่ะ
การที่จวินเสี ยเรี ยกว่าแม่นางฉูเกือบทําให้ฉูเหวินห่าวกับคนอื่น ๆ ที่
คุกเข่าอยูท่ ี่พ้นื หัวใจวายตาย ทั้งเมืองพันอสู รไม่มีใครกล้าเรี ยกฉูซิน
รุ่ ยแบบนั้นเลย!
หลินเฟิ งแอบหัวเราะอยูใ่ นใจ เขารอดูฉูซินรุ่ ยแสดงความโกรธจาก
การที่จวินเสี ยไม่เคารพนางออกมา
แต่หลังจากที่ฉูซินรุ่ ยชะงักไปแวบนึงอย่างประหลาดใจ นางก็หวั เราะ
เสี ยงดังออกมาทันที เสี ยงนั้นไม่มีความโกรธเคืองเจือปนอยูเ่ ลย
แม้แต่นอ้ ย ตรงกันข้ามกลับมีความปลื้มใจแทน
“คุณชายจวินช่างรู ้จกั ใช้คาํ พูดได้ดีจริ ง ๆ อายุของข้าขนาดนี้จะถูก
เรี ยกว่าแม่นางได้อย่างไร? ข้าไม่ได้ยนิ คําว่าแม่นางมาร้อยกว่าปี
แล้ว” ฉูซินรุ่ ยยิม้ ดูเหมือนนางจะอารมณ์ดีทีเดียว
ในโลกนี้ไม่มีผหู ้ ญิงคนไหนชอบที่ถูกเรี ยกให้แก่กว่าที่ตวั เองเป็ น
หรอก แม้แต่ฉูซินรุ่ ยที่เป็ นหญิงชราอายุเกินร้อยแล้วแต่ได้เปลี่ยน
หน้าตาให้เป็ นแบบนี้ และลบริ้ วรอยที่บ่งบอกอายุออกจากร่ างไป
ทั้งหมด ก็เป็ นคนที่ให้ความสนใจเรื่ องหน้าตาและอายุของตัวเอง
เป็ นอย่างมาก
การที่จวินอู๋เสี ยเรี ยกนางว่าแม่นางจึงทําให้ฉูซินรุ่ ยพอใจมากแทนที่
จะโกรธ
แม้วา่ จวินอู๋เสี ยจะไม่รู้อะไรมากนักเรื่ องปฏิสมั พันธ์ของผูค้ น แต่นาง
ก็เคยได้ยนิ ว่าผูห้ ญิงมักจะชื่นชอบอะไรแบบนี้เสมอ
“ข้าได้ยนิ เหวินห่าวชมเชยท่านว่าเป็ นผูเ้ ยาว์ที่มีพรสวรรค์ และท่าน
ได้ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของหลิงเย่ ในฐานะผูอ้ าวุโสของพวกเขา
ข้าอยากจะขอบคุณท่าน ถ้าคุณชายจวินไม่รังเกียจก็มานัง่ ข้าง ๆ ข้า
เถอะ” ฉูซินรุ่ ยยกมือขึ้นชี้ไปที่โต๊ะเตี้ย ๆ ที่อยูใ่ กล้นางมากที่สุด
ตอนที่ 1032 งานวันเกิด (7)
จวินอู๋เสี ยไม่ปฏิเสธ นางเดินไปนัง่ ที่โต๊ะเตี้ย ๆ ข้างฉูซินรุ่ ย พวกคน
โปรดที่รับใช้ฉูซินรุ่ ยพากันมองจวินเสี ยด้วยสายตาดูหมิ่นเหยียดหยาม
ฉูซินรุ่ ยเห็นจวินเสี ยมานัง่ ที่โต๊ะแล้ว นางก็เบนความสนใจไปที่กลุ่ม
คนที่กาํ ลังคุกเข่าอยูท่ ี่พ้นื
“ทุกคนลุกขึ้นได้” นางพูดอย่างเกียจคร้าน
ฉูเหวินห่าวกับคนที่เหลือพากันลุกขึ้นและไปหาที่นงั่ ของตัวเอง
หลินเฟิ งมองไปที่จวินเสี ย เขาคิดว่าฉูซินรุ่ ยจะโกรธในความทะลึ่ง
อวดดีของจวินเสี ย ไม่คิดว่าจวินเสี ยจะได้รับการปฏิบตั ิอย่างเป็ น
กันเองแบบนี้ แถมยังได้นงั่ ข้าง ๆ ฉูซินรุ่ ยด้วย
ก็รู้กนั อยูว่ า่ ที่นงั่ ตรงนั้นฉูเหวินห่าวไม่เคยได้นง่ั แต่ท่านพ่อของเขา
หลินชิว จะได้นงั่ เสมอ การปฏิบตั ิเช่นนั้นก็เท่ากับบอกว่าจวินเสี ย
กําลังมาแย่งตําแหน่งของท่านพ่อของเขา
ไม่วา่ จะคิดยังไงหลินเฟิ งก็ยงั คงไม่เข้าใจว่าทําไมฉูซินรุ่ ยถึงยกโทษ
ให้ง่าย ๆ แบบนี้ ท่านพ่อบอกเขาว่าจะมาพบฉูซินรุ่ ยเพือ่ โยนความผิด
ทั้งหมดในเรื่ องที่เกิดขึ้นกับมังกรมายาไปที่จวินเสี ย แต่พอหลินชิวก
ลับมาที่บา้ น ก็กกั บริ เวณเขาต่อแล้วบอกให้เขาทบทวนการกระทํา
ของตัวเอง และไม่ยอมพูดถึงเรื่ องนี้อีกเลย หลินเฟิ งคิดเอาเองว่า
ฉูซินรุ่ ยคงจัดการจวินเสี ยไปแล้วตอนนั้น แต่พอเขาเห็นจวินเสี ย
ปรากฏตัวขึ้นที่งานเลี้ยงวันนี้ เขาก็รู้วา่ เขาคิดผิด
การที่ฉูซินรุ่ ยไม่เอาเรื่ องเขา เขายังคิดเอาได้วา่ เป็ นเพราะท่านพ่อเป็ น
คนโปรดของฉูซินรุ่ ยทําให้ฉูซินรุ่ ยยอมผ่อนผันละเว้นให้ แต่จวินเสี ย
เป็ นใคร? มันมีอะไรที่ฉูซินรุ่ ยจะต้องปล่อยไอ้คนที่ไม่มีความสําคัญ
อะไรไปง่าย ๆ ด้วย? แถมยังต้อนรับขับสู จ้ วินเสี ยอย่างเป็ นกันเองใน
วันนี้อีก?
หลินเฟิ งไม่อยากยอมรับว่าจวินเสี ยได้ขโมยความสนใจไปหมดแล้ว
เขาลุกขึ้นทันทีแล้วยกแก้วสุ ราขึ้นและพูดกับฉูซินรุ่ ยว่า “หลินเฟิ ง
คารวะท่านยาย ขอให้ท่านยายสุ ขภาพแข็งแรง อายุยนื ยาว มีโชคลาภ
สมความปรารถนาในทุก ๆ ปี ขอรับ”
ฉูซินรุ่ ยมัวแต่สนใจจวินเสี ย จู่ ๆ หลินเฟิ งก็ลุกขึ้นดื่มอวยพรอย่าง
กะทันหัน ทําให้นางได้สติกลับมา
หลินเฟิ งมีใบหน้าที่โดดเด่นสะดุดตา และฉูซินรุ่ ยก็แพ้คนหล่ออยู่
แล้ว ทําให้นางอะลุม้ อล่วยให้หลินเฟิ งมากขึ้นเล็กน้อย
“เสี่ ยวเฟิ งสู งขึ้นนะปี นี้ แล้วก็ยงิ่ หล่อมากขึ้นเรื่ อย ๆ ด้วย แถมยัง
ปากหวานเหมือนทานํ้าผึ้งซะอีก” ฉูซินรุ่ ยพูดด้วยรอยยิม้
หลินเฟิ งแอบยินดีอยูใ่ นใจ เขายกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียว
ฉูซินรุ่ ยก็ดื่มเช่นกัน แต่พอวางแก้วลงสายตาของนางก็หนั กลับมอง
ที่จวินเสี ย
“ข้าได้ยนิ ว่าคุณชายจวินมีสตั ว์อสู รอยูต่ วั นึง และยังเป็ นสัตว์อสู ร
ระดับผูพ้ ิทกั ษ์ที่ยากจะได้พบในรอบร้อยปี นัน่ น่าประทับใจมาก
จริ ง ๆ ทําไมคุณชายจวินถึงไม่พามันมาที่นี่ดว้ ยล่ะ?”
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “เจ้านัน่ มันเกเรเกินไป”
ฉูซินรุ่ ยหัวเราะ “มันก็คงเกเรเกินไปหน่อยจริ ง ๆ ข้าได้ยนิ มาว่า
คุณชายจวินนําสัตว์อสู รตัวนั้นไปที่ลานประลองสัตว์อสู รและสร้าง
ความวุน่ วายมากทีเดียว แต่สตั ว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์เป็ นสัตว์อสู รที่
ยิง่ ใหญ่สง่างามและหยิง่ ทระนง เป็ นไปไม่ได้ที่จะควบคุมมัน การที่
คุณชายจวินสามารถฝึ กมันได้กเ็ ป็ นความสามารถที่ไม่ธรรมดาอยู่
แล้ว สัตว์อสู รที่ต่าํ กว่าระดับผูพ้ ิทกั ษ์กเ็ ลยไร้ประโยชน์ไปหมด น่า
เสี ยดายมังกรมายาของข้า ข้าจะใช้มนั ทําอย่างอื่นและไม่ได้คิดว่ามัน
จะถูกนําไปที่ลานประลองสัตว์อสู รจนถูกสัตว์อสู รของท่านกินเข้า
ไปทั้งตัวโดยไม่เหลือแม้แต่กระดูกสักชิ้นแบบนี้”
ฉูซินรุ่ ยมองจวินเสี ยอย่างเสี ยใจ แม้วา่ อายุจริ งของนางจะเกินร้อยไป
แล้ว แต่หน้าตาของนางก็ยงั งดงามและอ่อนเยาว์ กิริยาท่าทางของนาง
ก็เย้ายวนมาก และมีมาดผูด้ ีมากกว่าหญิงสาวที่อ่อนวัยกว่าเล็กน้อย
สายตาของนางเป็ นสายตาที่สามารถทําให้ผชู ้ ายตกหลุมได้อย่าง
ง่ายดาย
แต่จวินอู๋เสี ยกลับพูดแค่วา่ “ข้าเพิง่ มาที่นี่ ไม่รู้วา่ มังกรมายาเป็ นของ
แม่นางฉู ข้าเห็นว่ามันถูกผูเ้ ยาว์คนหนึ่งที่ทา้ ชิงข้าพามาเท่านั้นแล้ว
ข้าก็แค่ยอมรับคําท้า”
หลินเฟิ งไม่คิดว่าฉูซินรุ่ ยจะนําเรื่ องมังกรมายาขึ้นมาพูดตอนนี้ พอ
เขาได้ยนิ จวินเสี ยตอบแบบนั้นเขาก็ใจหายวาบทันที
ตอนที่ 1033 งานวันเกิด (8)
ก่อนหน้านี้หลินชิวให้หลินเฟิ งร่ วมมือกับเขา ตอนที่หลินชิวมา
รายงานเรื่ องที่เกิดขึ้นกับฉูซินรุ่ ย เขาได้โยนความผิดทั้งหมดให้กบั
จวินเสี ย พวกเขาคิดว่าฉูซินรุ่ ยจะไม่สืบสาวเรื่ องราวอะไรไป
มากกว่านั้นและพวกเขาจะได้ลอยนวลไปได้ แต่จู่ ๆ ฉูซินรุ่ ยก็เอา
เรื่ องนี้ข้ ึนมาพูด แล้วจวินเสี ยก็ดนั ตอบแบบนั้น…
หลินเฟิ งรู ้สึกวิตกกังวลขึ้นมาทันที ถ้าฉูซินรุ่ ยเริ่ มสงสัยขึ้นมาว่าพ่อ
ของเขาพูดความจริ งรึ เปล่า และพบว่าจริ ง ๆ แล้วเขาเป็ นคนจัดการ
เอามังกรมายาออกไปเพื่อสร้างปัญหาให้จวินเสี ย เขาคงไม่รู้จะตอบ
คําถามเรื่ องนี้ได้อย่างไร
เมื่อฉูซินรุ่ ยได้ยนิ ที่จวินเสี ยพูด นางก็หรี่ ตาแล้วตวัดสายตาไปที่หลิน
เฟิ งที่กม้ หัวตัวเกร็ งไปทั้งร่ าง นางไม่พดู อะไรกับเขาแต่หนั กลับไป
มองจวินเสี ยแล้วพูดยิม้ ๆ ว่า “แม้วา่ มังกรมายาจะมีค่ากับข้ามาก แต่
ในเมื่อมันตายไปแล้วก็ช่วยไม่ได้ คุณชายจวินไม่ตอ้ งรู ้สึกผิดไป
หรอก แต่ขา้ สงสัยว่าหลังจากที่สตั ว์อสู รของท่านกินมังกรมายาไป
แล้ว มันได้มีอาการแปลก ๆ บ้างหรื อเปล่า? มังกรมายาไม่ใช่สตั ว์
อสู รธรรมดา คนทัว่ ไปไม่รู้ถึงความสามารถพิเศษของมัน”
สี หน้าของจวินอู๋เสี ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย คําพูดของฉูซินรุ่ ยไม่ได้รู้สึก
ว่านางพยายามกล่าวโทษนาง แต่กลับแสดงถึงเจตนาดีแทน เป็ น
สัญญาณว่าฉูซินรุ่ ยไม่ได้จะเอาเรื่ องอะไร และจากคําพูดที่ฉูซินรุ่ ย
สนทนากับนางเมื่อครู่ จวินอู๋เสี ยก็รู้วา่ ฉูซินรุ่ ยกําลังคิดจะบอกนาง
เรื่ องความสามารถพิเศษของมังกรมายา!
จวินอู๋เสี ยไม่รู้เรื่ องมังกรมายามากนัก แต่นางก็สามารถคาดคะเนได้
ว่ามังกรมายาไม่ใช่สตั ว์อสู รธรรมดาทัว่ ไป
ไม่อย่างนั้นทําไมมันถึงสามารถทําให้คนจากสิ บสองวิหารที่ยงิ่ ใหญ่
ตามหามันได้ และยังกระตุน้ งูทะยานฟ้ากับเมล็ดสี ทองในตัวนางให้
พลุ่งพล่านได้ขนาดนั้น?
งูทะยานฟ้าอยากได้มงั กรมายา และมันก็ร้อนใจมากซะด้วย
จวินอู๋เสี ยรู ้สึกว่างูทะยานฟ้าไม่ได้เปิ ดเผยความจริ งทั้งหมด และใน
เมื่อฉูซินรุ่ ยดูจะเต็มใจไขความกระจ่างให้นาง แล้วทําไมนางต้อง
ปฏิเสธด้วย?
“ตอนนี้สตั ว์อสู รของข้าไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไร แต่ถา้ แม่นางฉู
ยินดีจะแนะนําข้าสักเล็กน้อย ผูน้ อ้ ยจวินเสี ยจะตั้งใจฟังอย่างที่สุด”
เมื่อสัมผัสได้วา่ ฉูซินรุ่ ยกําลังแสดงเจตนาดีต่อนาง แม้วา่ จวินอู๋เสี ยจะ
ไม่รู้เหตุผลเบื้องหลัง แต่อย่างน้อยนางก็รู้วา่ …
ถ้ามีคนกระตือรื อร้นที่จะช่วยเหลือ เหตุใดนางจึงไม่ควรรับไว้เล่า?
ฉูซินรุ่ ยเห็นว่าจวินเสี ยติดเบ็ดแล้ว นางก็พดู ต่อด้วยรอยยิม้ ว่า “มังกร
มายาจะลอกคราบทั้งหมด 3 ครั้งในชีวติ ของมัน ในตอนแรกมังกร
มายาเป็ นเพียงแค่สตั ว์อสู รระดับสู ง แต่หลังจากที่มนั ลอกคราบซํ้า ๆ
มันจะเลื่อนขึ้นเป็ นสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ ทั้งโลกนี้ความสามารถ
เช่นนี้กม็ ีแต่สตั ว์อสู รชนิดนี้นี่แหละ คุณชายจวินรู ้ไหมว่ามังกรมายา
ได้ความสามารถพิเศษนี้มาจากไหน?”
จวินอู๋เสี ยส่ ายหน้า
ฉูซินรุ่ ยพูดว่า “ตามตํานานว่าไว้วา่ มังกรมายาเป็ นสัตว์อสู รที่เกิดจาก
ร่ างภูติท้ งั ในสวรรค์และโลกมนุษย์ มันเกิดมาพร้อมความแข็งแกร่ ง
ของพลังวิญญาณที่เกินกว่ากายเนื้อของมัน ทุกครั้งที่มนั ลอกคราบ
ร่ างกายของมันจะผ่านการกระตุน้ อย่างรุ นแรง จิตวิญญาณของมังกร
มายานั้นแตกต่างจากสัตว์อสู รอื่น ๆ ลือกันว่าในวิญญาณของมังกร
มายามีพลังลึกลับซ่อนอยู่ พลังที่จะทําให้มนุษย์เปิ ดทางเข้าสู่ โลก
แห่งภูติได้…”
“โลกแห่งภูติ?” จวินอู๋เสี ยประหลาดใจเล็กน้อย คํานั้นไม่ได้แปลก
ประหลาดสําหรับนางเนื่องจากบัวน้อยเคยพูดถึงมันมาแล้วสองสาม
ครั้ง แต่บวั น้อยไม่ได้พดู ถึงเรื่ องนี้อย่างชัดเจน และจวินอู๋เสี ยก็ทาํ ได้
แค่เดา โลกแห่งภูติน่าจะเป็ นดินแดนที่พวกภูติประจําตัวอาศัยอยู่
ก่อนจะถูกปลุกขึ้นมา
จวินอู๋เสี ยไม่คิดว่านางจะได้ยนิ คําว่า โลกแห่งภูติ ออกจากปากของฉู
ซิ นรุ่ ย!
“โลกแห่งภูติ คือสถานที่ที่ไม่มีใครเคยไปมาก่อน มีเพียงภูติเท่านั้นที่
เข้าไปที่นนั่ ได้” ฉูซินรุ่ ยยิม้ บาง ๆ ปลายนิ้วสัมผัสเหนือหน้าอกของ
นางเบา ๆ ท่าทีของนางดูยวั่ ยวนเป็ นอย่างมาก!
ตอนที่ 1034 งานวันเกิด (9)
“มีคนเคยพูดว่า ถ้าสามารถกินวิญญาณของมังกรมายาได้ คน ๆ นั้น
จะสามารถผ่านทางเข้าไปได้และจะได้ครอบครองภูติประจําตัว
เพิ่มขึ้น” ฉูซินรุ่ ยพูดพร้อมกับหรี่ ตาลงเล็กน้อย มังกรมายามีอยูแ่ ต่ใน
อาณาจักรล่าง และตัวนางเองก็เพิ่งรู ้เรื่ องของมันตอนที่ได้ยนิ ผู ้
อาวุโสในวิหารจิตหวนคืนพูดถึงซึ่งทําให้นางสัง่ หลินชิวให้คน้ หา
มังกรมายาในอาณาจักรล่างนี่
ภูติประจําตัวที่แข็งแกร่ งไม่วา่ เมื่อไรและที่ไหนก็เป็ นสิ่ งที่ล่อใจคน
อย่างยากจะต้านทานได้เสมอ
ประมุขของวิหารจิตหวนคืนเคยพยายามค้นหามังกรมายาที่อาณาจักร
ล่างแต่กไ็ ม่สามารถหามันพบ ฉูซินรุ่ ยจึงตั้งใจจะเอามังกรมายาที่
หลินชิวพบไปเป็ นของขวัญให้ประมุขเพื่อที่นางจะได้รางวัลที่ใหญ่
กว่า
ไม่คิดเลยว่ามังกรมายาจะถูกสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์กินเข้าไป!
โชคดีที่มงั กรมายาเป็ นสิ่ งที่ฉูซินรุ่ ยอยากทํารองลงมาในตอนที่พอจะ
ทําได้ ภารกิจหลักและสําคัญที่สุดที่นางต้องทําให้สาํ เร็ จก็คือหาที่ต้ งั
ของสุ สานจักรพรรดิแห่งความมืด ถ้านางไม่รู้วา่ จวินเสี ยเป็ นจักรพรรดิ
แห่งแคว้นหยาน นางคงฉีกเขาเป็ นชิ้น ๆ ในทันทีต้ งั แต่แรกแล้ว!
จวินอู๋เสี ยแอบตกใจอยูใ่ นใจ แต่สีหน้านางยังคงสงบนิ่ง
[กินวิญญาณของมังกรมายาจะทําให้เข้าสู่ โลกแห่งภูติได้ง้ นั หรื อ?
และจะทําให้ได้ภูติประจําตัวเพิม่ ขึ้นด้วย?]
ข้อมูลนั้นทําให้จวินอู๋เสี ยตกใจมาก นางเข้าใจทันทีวา่ ทําไมงูทะยาน
ฟ้าถึงอยากได้มงั กรมายามากขนาดนั้น งูทะยานฟ้าต้องรู ้ความลับ
ของมังกรมายา มันจึงต้องการมังกรมายา ไม่ใช่เพื่อรักษาวิญญาณ
ของมัน แต่เพื่อหาทางออกจากร่ างของจวินอู๋เสี ย!
ถ้านางไม่ได้ยนิ คําพูดของฉูซินรุ่ ยในวันนี้ จวินอู๋เสี ยก็คงไม่สามารถ
รู ้ถึงเจตนาของงูทะยานฟ้าได้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่างชัดหมดแล้ว!
[เป็ นสัตว์อสู รที่เจ้าเล่ห์ซะจริ ง]
จวินอู๋เสี ยหัวเราะอย่างเย็นชาอยูใ่ นใจ
“แต่น่าเสี ยดายที่มงั กรมายาถูกสัตว์อสู รของท่านกินไปแล้ว ถ้าท่าน
เป็ นคนกินมันเอง ท่านก็อาจจะได้รับภูติประจําตัวอีกตัวในอนาคตก็
ได้!” ฉูซินรุ่ ยพูดยิม้ ๆ แม้วา่ ปากนางจะพูดเช่นนั้น แต่ในใจนาง
ไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย
จะกินวิญญาณของสัตว์อสู รไม่ใช่เรื่ องง่าย ๆ จักรพรรดินอ้ ยเป็ นแค่
คนจากอาณาจักรล่าง ต่อให้เขาได้มงั กรมายามาและรู ้ความลับของ
มัน เขาก็ไม่สามารถกินวิญญาณของมังกรมายาได้อย่างแน่นอน
“แม่นางฉูลอ้ ข้าเล่นแล้ว คนจะกินวิญญาณของสัตว์อสู รได้อย่างไร?”
จวินอู๋เสี ยตอบนิ่ง ๆ แต่ในใจนางกลับปั่ นป่ วนเล็กน้อย
[คนทัว่ ไปอาจจะไม่สามารถกินวิญญาณได้]
[แต่สาํ หรับนาง…]
[มันเป็ นเรื่ องที่แตกต่างกันอย่างสิ้ นเชิง!]
[ทุกครั้งที่นางทะลวงขั้นพลังวิญญาณ นางก็ทะลวงขั้นด้วยการกิน
ภูติประจําตัวไม่ใช่หรื อ?]
[ภูติประจําตัวก็เป็ นอย่างเดียวกับร่ างวิญญาณนัน่ แหละ!]
ในใจของจวินอู๋เสี ยยังมีขอ้ สงสัยอยูบ่ างประการ และนางก็ยงั ไม่กล้า
ฟันธงลงไป ถึงยังไงสิ่ งที่รวมเข้ากับร่ างของนางก็คือหิ นวิญญาณ
ของมังกรมายา ไม่ใช่ร่างวิญญาณของมัน สัตว์อสู รนั้นแตกต่างจาก
ภูติประจําตัว และวิญญาณก็คือร่ างชัว่ คราวที่ไม่มีรูปร่ างแน่นอน
เป็ นสิ่ งที่ยากจะจับต้องและเก็บรวบรวมมาได้ยกเว้นแต่จะใช้วธิ ี
พิเศษ
แม้แต่จวินอู๋เสี ยเองก็ไม่รู้ หลังจากดูดกลืนหิ นวิญญาณของมังกร
มายาไป มันจะส่ งผลกับนางแบบเดียวกันหรื อไม่
หลินเฟิ งนัง่ ก้มหน้าอยูต่ รงที่นงั่ ของเขาตลอดเวลา แต่ในใจนั้นโทสะ
กําลังเผาไหม้อยูข่ า้ งใน เขานัง่ ฟังบทสนทนาอย่างสนุกสนาน
ระหว่างจวินเสี ยกับฉูซินรุ่ ย เสี ยงของจวินเสี ยเสี ยดหูเขาจนแทบทน
นัง่ อยูท่ ี่นนั่ ต่อไปไม่ได้
[ทําไม?]
[ทําไมทุกคนถึงคิดว่าจวินเสี ยดีมากมายนักหนา?]
[มันก็แค่เด็กไม่มีหวั นอนปลายเท้า! ทําไมทุกคนถึงคิดว่ามันสู งส่ ง
นัก?]
[ฉูหลิงเย่กค็ นหนึ่ง ตอนนี้ฉูซินรุ่ ยก็ยงั ทําเหมือนกันอีก!]
หลินเฟิ งขบกรามแน่นจนรู ้สึกเจ็บ แต่เขาไม่กล้าก่อความวุน่ วาย
ระหว่างงานวันเกิดของฉูซินรุ่ ย และไม่อาจทําอะไรได้นอกจากข่ม
กลั้นความโกรธและอิจฉาที่สุมอยูใ่ นอก
[เขายอมรับไม่ได้ที่เด็กต่างเมืองจะเข้ามาขโมยความสําคัญของเขา
ไปหมด เขาทนเห็นจวินเสี ยสนิทสนมกับฉูซินรุ่ ยขนาดนั้นต่อหน้า
ต่อตาเขาไม่ได้!]
ตอนที่ 1035 งานวันเกิด (10)
ฉูซินรุ่ ยกับจวินเสี ยดูสนิทสนมเป็ นกันเองจนทําให้คนอื่น ๆ ในงาน
เลี้ยงรู ้สึกงุนงงสับสน
“โชคชะตาให้เรามาพบกัน ในเมื่อคุณชายจวินมาที่เมืองพันอสู รใน
ฐานะแขก เช่นนั้นท่านก็เป็ นแขกของคนทั้งเมืองพันอสูร” ฉูซินรุ่ ย
พูดพร้อมกับยิม้ ก่อนที่สายตาของนางจะเบนไปมองหลินเฟิ งที่ทาํ
หน้าหดหู่อยู่ “เสี่ ยวเฟิ ง ความเข้าใจผิดที่เจ้ามีต่อคุณชายจวินก่อน
หน้านี้กแ็ ก้ไขซะวันนี้ดีกว่านะ เจ้าน่าจะใช้โอกาสในงานวันเกิดของ
ข้าดื่มให้กบั คุณชายจวินดีไหมล่ะ?”
พอพูดจบฉูซินรุ่ ยก็ให้คนนําถ้วยสุ ราชั้นดีสองถ้วยมาวางตรงหน้า
หลินเฟิ ง
หลินเฟิ งมีสีหน้าตกตะลึงทันที!
[ฉูซินรุ่ ยอยากให้เขาขอโทษจวินเสี ยด้วยการดื่มสุ รางั้นหรื อ?]
หลินเฟิ งไม่อยากจะเชื่อหูตวั เองเลย เขาจะทําเป็ นมองข้ามที่ฉูซินรุ่ ย
ไม่ได้เอาเรื่ องจวินเสี ยหรื อที่นางสนิทสนมกับจวินเสี ยในวันนี้ไปก็
ได้ แต่…นี่นางอยากให้เขาขอโทษจวินเสี ยซึ่งเป็ นคนที่เขาเกลียด
มากจนอยากฉีกให้เป็ นชิ้น ๆ งั้นหรื อ? มันจะเป็ นไปได้ยงั ไง?
หลินเฟิ งเกลียดจวินเสี ยมาก แล้วตอนนี้จะคาดหวังให้เขาดื่มขอโทษ
ต่อหน้าทุกคนที่นี่ หลินเฟิ งจะทนความอัปยศอดสู เช่นนั้นได้ยงั ไง?
ฉูซินรุ่ ยเห็นหลินเฟิ งมีสีหน้าขุ่นเคืองและกําหมัดแน่น นางก็เริ่ มมีสี
หน้าไม่พอใจขึ้นมา หลินชิวสังเกตเห็นสี หน้าไม่พอใจของฉูซินรุ่ ยก็
สะดุง้ ทันที เขารี บดึงแขนเสื้ อของลูกชายเป็ นการบอกให้เขาทําตามที่
ฉูซินรุ่ ยสัง่
หลินเฟิ งกัดฟันแน่น เขาจ้องถ้วยสุ ราสองถ้วยตรงหน้าอย่างมุ่งร้าย
สายตาแสดงความไม่เต็มใจอย่างรุ นแรง
แต่วนิ าทีต่อมาความไม่พอใจทั้งหมดก็หายไปจากใบหน้าของหลิน
เฟิ งอย่างกะทันหัน และดูเหมือนเขาจะลืมอคติที่เขามีต่อจวินเสี ย
ทั้งหมดไปแล้ว จู่ ๆ เขาก็ยมิ้ แล้วลุกขึ้นพร้อมกับถือถ้วยสุ ราทั้งสอง
และก้าวยาว ๆ ตรงไปหาจวินเสี ย
ความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของหลินเฟิ งทําให้ทุกคน
ประหลาดใจ ฉูซินรุ่ ยก็ดูเหมือนจะพอใจมาก
ทุกคนมองหลินเฟิ งถือถ้วยสุ ราสองถ้วยเอาไว้ในมือ รอยยิม้ แปลก ๆ
ปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเขา ในตอนที่เขาหันไป ปลายนิ้วของเขาก็
ปาดรอบขอบถ้วยสุ ราใบหนึ่งเบา ๆ โดยที่ไม่มีใครทันสังเกต
“คุณชายจวิน ทั้งหมดที่ขา้ ทําลงไปก็เพราะความเป็ นเด็กและความ
หุนหันพลันแล่น ถ้าข้าทําอะไรล่วงเกินท่านไป ขอคุณชายจวินอย่า
ใส่ ใจมันเลย” หลินเฟิ งพูดด้วยรอยยิม้ เสแสร้งสุ ด ๆ เขาส่ งถ้วยสุ รา
ใบหนึ่งให้จวินเสี ย
จวินอู๋เสี ยเลิกคิว้ มองหลินเฟิ งที่มีท่าทีเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน
สายตาเย็นชาของนางจับจ้องไปยังถ้วยสุ ราที่หลินเฟิ งส่ งมาให้
ขณะที่ทุกคนกําลังคิดว่าจวินเสี ยยังคงไม่เต็มใจจะยกโทษให้หลิน
เฟิ ง จวินเสี ยก็ลุกขึ้นยืนและรับถ้วยสุ ราไปจากมือเขา
“ในเมื่อมันเป็ นแค่ความเข้าใจผิด งั้นก็ไม่เป็ นไร” พูดจบจวินอู๋เสี ยก็
ยกถ้วยขึ้นแล้วดื่มหมดรวดเดียว
หลินเฟิ งเฝ้ามองจวินเสี ยกระดกเหล้าเข้าปาก แววตาของเขาทอ
ประกายมุ่งร้ายอย่างไม่ปิดบังก่อนที่เขาจะดื่มสุ ราในมือของตัวเอง
“เรื่ องที่เกิดขึ้นข้าเองก็มีส่วนผิดเช่นกัน ในเมื่อนายน้อยหลินใจกว้าง
เช่นนี้ ข้าก็คงไม่อาจสงวนท่าทีอยูไ่ ด้” หลินเฟิ งตั้งใจจะกลับไปยังที่
นัง่ ของเขาแต่จวินเสี ยก็กวักมือเรี ยกคนรับใช้ที่ถือเหยือกสุ ราอยู่
ด้านข้าง
คนรับใช้นาํ เหยือกสุ ราเข้ามาและจวินอู๋เสี ยก็หยิบขึ้นมาเทสุ ราลงใน
ถ้วยของตัวเองก่อนจะเทลงในถ้วยของหลินเฟิ ง
หลินเฟิ งขมวดคิ้วมองจวินเสี ย [เจ้าเด็กนี่รู้แล้วรึ ?]
แต่คิดอีกทีกเ็ ป็ นไปไม่ได้ที่จวินเสี ยจะสงสัยอะไร เขาจึงสลัดความ
สงสัยออกไปจากหัว
“ดื่มให้หมด แล้วอดีตก็คืออดีต” จวินอู๋เสี ยยกมือขึ้นและเป็ นฝ่ ายเท
สุ ราลงคอไปก่อน
ตอนที่ 1036 ร่ วมมือ
หลินเฟิ งหัวเราะอยูใ่ นใจ แต่ใบหน้าของเขายังคงยิม้ ขณะที่ดื่มสุ ราลงไป
ฉูซินรุ่ ยมองจวินเสี ยและเห็นว่าจวินเสี ยเต็มใจรับคําขอโทษ นางก็
พอใจมาก
แม้วา่ หน้าตาของจวินเสี ยจะเทียบกับหนุ่ม ๆ ที่คอยรับใช้นางในหอ
เมฆาสวรรค์ไม่ได้ แต่แค่ดวงตาคู่น้ นั กับแคว้นหยานที่อยูเ่ บื้องหลัง
เขาก็ทาํ ให้ฉูซินรุ่ ยชอบเขาได้แล้ว
“เอาล่ะ มาดื่มกันเถอะ” ฉูซินรุ่ ยพูดด้วยความพอใจ
หลินเฟิ งถอยกลับไปนัง่ ที่ตวั เองอย่างเงียบ ๆ พร้อมรอยยิม้ น่าสงสัย
เขามองจวินเสี ยด้วยสายตากระวนกระวายเจือความคาดหวัง
ตลอดทั้งงานคนอื่น ๆ กลายเป็ นฉากหลังในงานไปแล้วเมื่อฉูซินรุ่ ย
เอาแต่พดู คุยกับจวินเสี ยคนเดียวเท่านั้น
ต่อให้จวินอู๋เสี ยกลายเป็ นคนโง่ข้ ึนมาจริ ง ๆ นางก็ยงั มองเห็นได้วา่ ฉู
ซิ นรุ่ ยกําลังพยายามเอาชนะใจนาง แต่นางคิดไม่ออกว่าทําไมฉูซิน
รุ่ ยถึงอยากได้นางเป็ นพวกขึ้นมา
เมื่องานเลี้ยงดําเนินไปได้ถึงครึ่ งทาง ฉูซินรุ่ ยก็เห็นว่าได้เวลาแล้ว
นางจึงพูดขึ้นว่า “คุณชายจวินเพิง่ ขึ้นครองตําแหน่งแล้วก็มาที่เมือง
พันอสู รของเราในทันทีแบบนี้ ดูเหมือนว่าท่านจะสนใจในเมืองพัน
อสู รไม่นอ้ ย เมืองพันอสู รอาจจะไม่ยงิ่ ใหญ่เท่าแคว้นอื่น ๆ แต่เราก็
สามารถอยูไ่ ด้ดว้ ยตัวเองในดินแดนนี้ คุณชายจวินอาจจะมีตาํ แหน่ง
และสถานะที่ยงิ่ ใหญ่มากพออยูแ่ ล้ว แต่วยั เยาว์น่ะผ่านไปเร็ วมาก
และไม่มีใครมีชีวติ อยูต่ ลอดกาลหรอกนะ ถ้าข้าจะบอกท่านว่าเรา
สามารถมีร่างอมตะและมีชีวติ นิรันดร์ได้ คุณชายจวินจะว่ายังไง?”
จวินอู๋เสี ยหรี่ ตาลงเล็กน้อย นางรู ้สึกว่าคําพูดของฉูซินรุ่ ยค่อนข้าง
แปลก นางแสดงท่าเหมือนไม่สะทกสะท้านอะไรขณะที่พดู ว่า “ใน
โลกนี้ทุกอย่างย่อมถูกกําหนดเอาไว้แล้ว”
ฉูซินรุ่ ยหัวเราะแล้วตอบว่า “ตราบใดที่เราแข็งแกร่ งมากพอ ก็ไม่
ต้องกังวลว่าจะเปลี่ยนแปลงชะตาที่สวรรค์กาํ หนดมาไม่ได้หรอก
คุณชายจวินเรี ยกข้าว่าแม่นางฉู ท่านรู ้อายุที่แท้จริ งของข้ารึ เปล่า?”
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “ใบหน้าอ่อนเยาว์เช่นนี้คงประมาณ 20 ปี ได้”
ฉูซินรุ่ ยหัวเราะเบา ๆ นางมองไปทางฉูเหวินห่าว “คุณชายจวินช่าง
ปากหวาน ท่านรู ้ไหมว่ากระทัง่ เจ้าเมืองแห่งเมืองพันอสูรก็ยงั ต้อง
เรี ยกข้าว่าท่านยายตอนที่เขามาพบข้า? อายุที่ท่านเดาไว้ขา้ เกรงว่าต่อ
ให้ท่านเอาเลขตัวแรกของอายุจริ ง ๆ ข้าออกไป มันก็ยงั มากกว่าที่
ท่านเดาเอาไว้เป็ นสิ บปี หรื อมากกว่าด้วยซํ้า”
“จริ งหรื อ?” จวินอู๋เสี ยแสร้งทําเป็ นตกใจ
ฉูซินรุ่ ยพยักหน้า “ข้าอายุเกินร้อยแล้วแต่กย็ งั สามารถคงใบหน้าใน
วัยยีส่ ิ บปี เอาไว้ได้ คุณชายจวินไม่รู้สึกสนใจบ้างหรื อ?”
จวินอู๋เสี ยตอบว่า “ถ้าสามารถเป็ นอย่างแม่นางฉูได้ ใครบ้างจะไม่
สนใจ”
พลังวิญญาณสี ม่วงสามารถยืดอายุขยั ได้ แต่ไม่ถึงขั้นเปลี่ยนแปลง
ใบหน้าจนเหมือนที่ฉูซินรุ่ ยเป็ นได้ นางลอบสังเกตฉูซินรุ่ ยอยูเ่ มื่อครู่
และเห็นว่าใบหน้าของฉูซินรุ่ ยเป็ นของจริ ง ไม่ได้ใช้วธิ ีใด ๆ
ปรับเปลี่ยนมันเลย
ดวงตาของฉูซินรุ่ ยเป็ นประกายด้วยความยินดี นางพูดช้า ๆ ว่า “ดู
เหมือนว่าเราจะเข้ากันได้ดีนะ ข้าอยากรู ้วา่ คุณชายจวินอยากร่ วมมือ
กับข้าหรื อไม่ เราสามารถร่ วมมือกันทํางานใหญ่ได้ และหลังจากทํา
สําเร็ จ ข้าจะสามารถให้ทุกอย่างที่คุณชายจวินต้องการได้”
เมื่อได้ยนิ ฉูซินรุ่ ยพูดเช่นนั้น ทุกคนในงานเลี้ยงก็พากันเงียบกริ บ
ด้วยความตกใจ
ทุกคนต่างเข้าใจความหมายที่อยูใ่ นคําพูดของฉูซินรุ่ ยดี มันบอก
อย่างชัดเจนเลยว่านางต้องการร่ วมมือกับจวินเสี ยและยังเสนอพลัง
วิญญาณขั้นสี ม่วงให้เขาเป็ นการแลกเปลี่ยนอีกด้วย!
ตั้งแต่โบราณกาลมา พลังวิญญาณสี ม่วงเป็ นสิ่ งที่ดึงดูดทุกคนได้
แทบไม่มีใครสามารถต้านทานสิ่ งที่ยวั่ ใจขนาดนี้ได้เลย!
ฉูเหวินห่าวที่นงั่ อยูอ่ ีกด้านหนึ่งใจหล่นไปอยูท่ ี่ตาตุ่ม จากที่ฉูหลิงเย่
เล่าให้เขาฟัง เหตุผลที่จวินเสี ยยอมมาช่วยพวกเขาก็เพราะแผนที่ที่อยู่
กับฉูซินรุ่ ย และตอนนี้ฉูซินรุ่ ยก็เสนอที่จะร่ วมมือกับจวินเสี ยซึ่งจะต้อง
เป็ นการตามหาที่ต้ งั ที่ระบุอยูบ่ นแผนที่ที่จวินเสี ยต้องการ แถมยังจะ
ให้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วงเป็ นการแลกเปลี่ยนอีกด้วย ไม่วา่ จะมอง
จากมุมไหน จวินเสี ยก็จะมีแต่ได้หากเลือกร่ วมมือกับฉูซินรุ่ ยแทน!
ฉูเหวินห่าวรู ้สึกกังวลมาก แต่เขาไม่สามารถแสดงท่าทางหรื อ
ความรู ้สึกอะไรออกไปได้
ตอนที่ 1037 ทําตัวเอง (1)
ฉูเหวินห่าวรู ้สึกกังวลเป็ นอย่างมาก ส่ วนหลินเฟิ งเมื่อได้ยนิ คําพูด
พวกนั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ
[นี่ฉูซินรุ่ ยจะให้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วงเป็ นการแลกเปลี่ยนกับความ
ช่วยเหลือของจวินเสี ยเลยหรื อ?]
[ทําไมล่ะ?]
[ถึงจวินเสี ยจะมีสตั ว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ แต่กย็ งั ไม่มีเหตุผลที่ฉูซินรุ่ ย
จะให้ค่าเจ้าเด็กนัน่ สู งขึ้นขนาดนั้นเลยนี่!]
หลินเฟิ งรู ้สึกว่ามันไม่ยตุ ิธรรมเอาซะเลย พ่อของเขาพยายามอย่าง
หนักที่จะทําให้ฉูซินรุ่ ยพอใจ แต่เขาก็ไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมา
เลย แต่จวินเสี ยที่เป็ นสาเหตุให้ฉูซินรุ่ ยเสี ยมังกรมายาไปและไม่ได้มี
ประโยชน์อะไรต่อฉูซินรุ่ ยเลย แล้วทําไมจวินเสี ยถึงได้สิ่งดี ๆ
ทั้งหมดนี้ไปด้วย?
จู่ ๆ หลินเฟิ งก็รู้สึกเลือดร้อนขึ้นมา ความอยุติธรรมที่เขาทนเก็บอยู่
ในใจเดือดพล่านรุ นแรงขึ้นเหมือนไฟที่ถูกพัดให้โหมกระหนํ่า
ความโกรธและความอิจฉาทั้งหมดที่เขาพยายามเก็บกดไว้กร็ ะเบิด
ออก
ก่อนที่จวินเสี ยจะทันได้ตอบ หลินเฟิ งก็ลุกพรวดขึ้น ใบหน้าของเขา
แดงกํ่าจนดูเหมือนกําลังเมา
“ท่านยาย! จวินเสี ยเป็ นแค่เด็กที่มาจากนอกเมือง เขามีคุณสมบัติ
อะไรมาร่ วมมือกับเมืองพันอสู รของเรา? แค่มีสตั ว์อสู รระดับผู ้
พิทกั ษ์ตวั เดียวแล้วยังไงล่ะขอรับ? ถ้าท่านยายต้องการ ข้าจะฆ่าเขา
เมื่อไรก็ได้แล้วเอาสัตว์อสู รผูพ้ ิทกั ษ์มาให้ท่าน!” หลินเฟิ งระเบิด
โทสะออกมาอย่างกะทันหัน!
คําพูดของหลินเฟิ งทําให้ท้ งั งานเลี้ยงเงียบกริ บในทันที พวกหนุ่ม ๆ
คนโปรดที่กาํ ลังเล่นดนตรี อยูม่ องมาที่หลินเฟิ งที่พดู จาเหลวไหลต่อ
หน้าฉูซินรุ่ ยอย่างสะพรึ งกลัว
หลินชิวเห็นสถานการณ์เลวร้ายขึ้นมาและรอยยิม้ ได้หายไปจาก
ใบหน้าของฉูซินรุ่ ย เขาก็รีบยืน่ มือออกมาเพื่อห้ามหลินเฟิ งแต่หลิน
เฟิ งก็ปัดมือพ่อของเขาออกไป!
จวินอู๋เสี ยเอนหลังไปเล็กน้อยพลางเล่นถ้วยสุ ราในมือ ดวงตาทอ
ประกายเย็นเยียบขณะมองหลินเฟิ ง ‘ระเบิด’
ดูเหมือนหลินเฟิ งจะโกรธจนคุมตัวเองไม่ได้ เขาชี้นิ้วไปที่จวินเสี ย
แล้วพูดกับฉูซินรุ่ ยว่า “ท่านยาย เจ้าหมอนี่มนั มีอะไรดี? มันก็แค่มี
สัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ตวั เดียวเท่านั้น ถ้าท่านยายอยากได้สตั ว์อสู ร
ตัวนั้น ข้าช่วยเอามันมาให้ท่านได้! พอจวินเสี ยตาย ทุกอย่างก็จะไม่
เป็ นปัญหาอีกต่อไป นอกจากเรื่ องที่มนั มีสตั ว์อสู รนัน่ แล้ว มันมี
อย่างอื่นที่น่าพอใจด้วยหรื อขอรับ?”
“หุบปากเดี๋ยวนี้!” เมื่อเห็นสี หน้าโกรธเคืองของฉูซินรุ่ ย หลินชิวก็ใจ
สัน่ ขึ้นมาด้วยความกลัว เขาลุกพรวดขึ้นและตบหน้าลูกชายตัวเอง
จนล้มลงกับพื้น
“ท่านยายได้โปรดยกโทษให้เขาด้วย! ลูกไม่เอาไหนของข้าเมามาก
เกินไปจนพูดจาเหลวไหลโดยไม่ได้ต้ งั ใจ ท่านยายโปรดอย่าใส่ ใจ
เลยขอรับ เขาเป็ นแค่เด็ก ยกโทษให้เขาด้วยเถอะขอรับ” หลินเฟิ งรี บ
อ้อนวอนขอความเมตตาด้วยความหวาดกลัว
สี หน้าโกรธเคืองของฉูซินรุ่ ยไม่ดีข้ ึนเลยแม้แต่นอ้ ย
ชิงหยูที่มองดูเหตุการณ์อยูด่ า้ นข้างตกใจจนพูดไม่ออก แม้วา่ หลิน
เฟิ งจะมีนิสยั ยโสโอหังและเย่อหยิง่ อวดดี แต่อย่างน้อยเขารู ้เสมอว่า
ควรจะต้องปฏิบตั ิตวั เมื่ออยูต่ ่อหน้าฉูซินรุ่ ยอย่างไร แล้ววันนี้มนั เกิด
อะไรขึ้นจู่ ๆ เขาก็กลายเป็ นม้าพยศไปแบบนั้น ความยับยั้งชัง่ ใจกับ
ท่าทางภายนอกที่ดูใจเย็นหายไปหมด กลับมารนหาที่ตายแบบนั้น!
ชิงหยูมองไปที่จวินเสี ยโดยไม่ได้ต้ งั ใจ เมื่อเขาเห็นจวินเสี ยส่ งสายตา
เป็ นสัญญาณมาให้ ชิงหยูกส็ ะดุง้ และผลักข้อสงสัยในใจออกไป
ทันทีแล้วรี บพูดว่า “ท่านหัวหน้าหลินพูดได้น่าสนใจ คืนนี้ขา้ ไม่เห็น
นายน้อยหลินดื่มเกินสองถ้วยเลย เขาคออ่อนขนาดนั้นเลยหรื อ?
แล้วที่วา่ ยังเป็ นเด็กนัน่ อีก…ท่านหัวหน้าหลินต้องล้อเล่นแน่ หลิน
เฟิ งจะเข้าพิธีบรรลุนิติภาวะเร็ ว ๆ นี้แล้ว ถ้าอายุขนาดนี้ยงั นับว่าเด็ก
คุณชายจวินไม่กลายเป็ นเด็กทารกหรื อขอรับ?”
ตอนที่ 1038 ทําตัวเอง (2)
ตึกเพลิงพิโรธกับตึกนํ้าค้างเหมันต์เป็ นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด และ
ชิงหยูกไ็ ด้รับสัญญาณจากจวินเสี ยที่ให้ช่วยราดนํ้ามันลงบนกองเพลิง
พอหลินชิวเจอชิงหยูโต้มาแบบนั้น เขาก็แทบจะกระอักเลือดตาย
ด้วยความโกรธ
ตรงกันข้ามกับหลินเฟิ งที่ยงั ไม่ย้งั ตัวเองเอาไว้เลยสักนิดทั้ง ๆ ที่พอ่
ของเขาทําเป็ นเกรี้ ยวกราดแล้ว เขาพยายามลุกขึ้นมาจากที่ลม้ อยู่
ใบหน้าแดงกํ่าดูเจ็บปวดเสี ยใจมาก
“ท่านพ่อ! ข้าไม่ได้เมา! ทุกอย่างที่ขา้ พูดไม่ใช่ความจริ งหรื อยังไง?
จวินเสี ยมันเป็ นใคร? มีคุณสมบัติอะไรมาร่ วมมือกับท่านยาย? ท่าน
พ่อก้มหัวรับใช้ท่านยายมาตั้งนาน ทําตามคําสัง่ ท่านยายทุกอย่าง
แล้วท่านได้อะไรบ้าง? แล้วนี่ท่านยายยังจะให้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วง
ที่ทุกคนไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึงให้เจ้าเด็กสารเลวนัน่ อีก! ได้ยงั ไงอ่ะ?
ทั้งหมดนั้นควรจะเป็ นของท่านพ่อมากกว่าซิ !”
คําพูดของหลินเฟิ งทําให้หลินชิวใจหายวูบ ตอนที่หลินเฟิ งด่าแค่
จวินเสี ยเมื่อครู่ กแ็ ย่พอแล้ว ตอนนี้ยงั ด่ารวมไปถึงฉูซินรุ่ ยอีก!
[เขาจะแก้ไขเรื่ องนี้ได้ยงั ไง?]
หลินชิวคุกเข่าลงตรงหน้าฉูซินรุ่ ยทันที ตัวของเขาสัน่ ราวใบไม้ตอ้ ง
ลม
“ท่านยายก็รู้วา่ ข้าน้อยไม่เคยคิดเช่นนั้นเลย ลูกชายของข้าพูดไปก็
เพราะเมา ท่านอย่าใส่ ใจเลยขอรับ แค่ได้รับใช้ท่านยายก็เป็ นโชคดี
ที่สุดของข้าแล้ว ข้าไม่กล้าคิดอะไรนอกเหนือไปจากการรับใช้ท่าน
โดยไม่มีเงื่อนไขหรอกขอรับ”
สี หน้าของฉูซินรุ่ ยน่ากลัวมาก คนทั้งงานพากันเงียบ ไม่มีใครกล้า
พูดอะไรออกมาเลยสักคํา
“ท่านพ่อ! นี่ท่านพ่อกําลังบอกว่าที่ขา้ พูดมันไม่จริ งงั้นหรื อ? หลายปี
มานี้ท่านทําเพื่อท่านยายไปมากแค่ไหนกัน? แต่ถึงท่านยายจะไม่
ตอบแทนท่านก็ไม่เป็ นไร แต่นี่นางให้ความสนิทสนมกับเจ้าเด็กต่าง
เมืองถึงขนาดนี้ แล้วท่านล่ะ? นางเอาท่านไปไว้ที่ไหนกัน?” หลิน
เฟิ งยังไม่ยอมเลิก
ตอนนี้หลินชิวอยากจะหาอะไรมาอุดปากเจ้าลูกชายตัวดีใจจะขาด
แล้ว
“เจ้าลูกอกตัญญู! ยังไม่หุบปากอีก! เจ้าจะทําตัวไร้มารยาทต่อหน้า
ท่านยายไม่ได้! คิดว่าตัวเองเป็ นใครถึงกล้าพูดกับท่านยายแบบนั้น?
รี บคุกเข่าขอโทษท่านยายเดี๋ยวนี้!”
“ข้าไม่ได้ทาํ อะไรผิด! ทําไมข้าต้องหุบปากด้วย!? ทุกอย่างที่ขา้ พูด
เป็ นความจริ งไม่ใช่หรื อ? การเดินทางไปผาสุ ดสวรรค์ท้ งั หมดนัน่
ไม่ใช่ท่านพ่อหรื อที่เป็ นคนดําเนินการ? ท่านเจ้าเมืองไม่ยอมทําอะไร
เป็ นท่านคนเดียวที่รวบรวมผูค้ นมา! คนมากมายเท่าไรแล้วที่ตายไป
ที่ดา้ นล่างของผาสุ ดสวรรค์? ท่านพ่อถูกทุกคนในเมืองพันอสู รด่าทอ
สาปส่ งหนักแค่ไหน? ความพยายามทั้งหมดของท่านมันยังไม่พอ
หรื อยังไง?” ในใจของหลินเฟิ งเต็มไปด้วยความโกรธที่ไม่อาจระงับ
ลงได้ ความรู ้สึกแย่ ๆ ทั้งหมดไหลบ่าราวนํ้าป่ าทะลัก ไม่อาจจะ
หยุดยั้งได้
หลินชิวหวาดกลัวอย่างที่สุด เขายังคงคุกเข่าอยูท่ ี่เดิม ไม่กล้าแม้แต่
จะเงยหน้าขึ้นมองสี หน้าของฉูซินรุ่ ยในตอนนั้น
ราวกับมีเมฆดําทะมึนก่อตัวขึ้น ฉูซินรุ่ ยหันไปมองหลินเฟิ งด้วย
สายตาน่ากลัวแล้วพูดว่า “หลินเฟิ งกําลังบอกข้าว่าข้าเป็ นสาเหตุให้
หลินชิวต้องถูกด่างั้นหรื อ?”
หลินชิวตัวสัน่ หนักขึ้นกว่าเดิม
แต่ดูเหมือนหลินเฟิ งจะไม่ได้สงั เกตอะไรเลย เขาตอบว่า “ท่านพ่อ
แค่ทาํ งานให้ท่านยาย พวกเราไม่ควรต้องถูกด่าว่าเช่นนั้น แต่เจ้าเด็ก
นัน่ เป็ นใคร? ทําไมท่านยายถึงทําดีกบั มันนัก?”
ปัง!
ฉูซินรุ่ ยฟาดฝ่ ามือกระแทกโต๊ะตรงหน้าและลุกขึ้นจากเก้าอี้ยาวทันที
“หลินเฟิ ง! เจ้ากล้ามากขึ้นทุกทีแล้วนะ!”
ฉูซินรุ่ ยโกรธจัด นางยังไม่ลงโทษเขาที่ทาํ ให้มงั กรมายาตายเลย
ตอนนี้ยงั จะกล้าวิจารณ์วธิ ีการของนางต่อหน้าผูค้ นมากมายเช่นนี้
อีก! แล้วแบบนี้นางจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
“ระงับอารมณ์ลงก่อนเถอะขอรับท่านยาย! อย่าเพิง่ โกรธ! ลูกข้ามัน
เมา เขาเมาก็เลยพูดจาเหลวไหล คําพูดตอนเมาเชื่อถือไม่ได้หรอก
ขอรับ” หลินชิวตกใจมาก เขารํ่าได้วงิ วอนขอให้ไว้ชีวติ หลินเฟิ ง
อย่างกระวนกระวาย
ตอนที่ 1039 ทําตัวเอง (3)
“พูดเพราะเมางั้นรึ ?” ฉูซินรุ่ ยเยาะ “ว่ากันว่าคนจะพูดความจริ งตอน
เมา คําพูดพวกนั้นต้องถูกเก็บเอาไว้ในใจเขามานานแล้ว”
“ข้าไม่กล้า…” หลินชิวคุกเข่าตัวสัน่ ระริ ก ครั้งนี้ฉูซินรุ่ ยโกรธมาก
จริ ง ๆ
“หลินชิว เจ้าไม่ได้คิดเหมือนกันหรอกหรื อ?” ฉูซินรุ่ ยพูดพร้อมกับ
ยิม้ เครี ยด
หลินชิวโขกศีรษะกับพื้นทันที “ข้าน้อยไม่กล้า! ทําไมข้าน้อยถึงจะ
คิดเช่นนั้น? ข้าน้อยจงรักภักดีต่อท่านยาย ไม่เคยกล้าคิดแบบนั้นเลย
สักครั้งขอรับ”
“ฮืม” ฉูซินรุ่ ยไม่เชื่อที่หลินชิวพูดเลยสักคํา
“ไม่กล้างั้นหรื อ? มีอะไรที่เจ้าไม่กล้าทําด้วยหรื อ?”
หลินชิวสะดุง้ อย่างแรง เขาโขกศีรษะกับพื้นต่อไปพลางยํ้าถึงความ
จงรักภักดีของเขา แต่มนั ก็ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด
ส่ วนหลินเฟิ งนั้นเกิดตกใจในโทสะของฉูซินรุ่ ยขึ้นมากะทันหัน เขา
มองอย่างมึนงงอยูก่ บั ที่เดิม สี แดงจางหายไปจากใบหน้าของเขาแล้ว
เปลี่ยนเป็ นสี ขาวซีดแทน
[เขาพูดอะไรออกไป?]
หลินเฟิ งไม่อยากจะเชื่อว่าเขาเพิ่งพูดอะไรกับฉูซินรุ่ ย เขาเคยคิดอย่าง
นั้นก็จริ งแต่กท็ าํ ได้แค่บ่นอยูใ่ นใจกับตัวเอง ไม่เคยกล้าพูดออกมา
เลยสักคํา แต่จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนมีไฟสุ มอยูใ่ นอกทําให้เขาระเบิด
ทุกอย่างที่อยูใ่ นใจออกมา หลังจากฉูซินรุ่ ยโกรธจัดขึ้นมานัน่ แหละ
ไฟในอกเขาถึงได้หายไป
หลินเฟิ งทรุ ดตัวลงคุกเข่ากับพื้นเสี ยงดัง ตัวของเขาสัน่ ระริ กราวต้น
หลิวโดนลม
“ท่านยาย…ท่านยายขอรับ…ข้าไม่ได้หมายความอย่างที่พดู ข้าไม่ได้
ตั้งใจ…” หลินเฟิ งหน้าซีดตัวสัน่
“ไม่ได้หมายความอย่างที่พดู งั้นหรื อ? แล้วหมายความว่าอะไรล่ะ?”
ฉูซินรุ่ ยเยาะหยัน “ทั้งเจ้าและพ่อของเจ้าทํางานให้ขา้ เนี่ย คงหนัก
หนามากเลยซินะ!”
“ไม่ขอรับ! ไม่ใช่อย่างนั้นเลยขอรับ!” หลินเฟิ งรี บส่ ายหน้า สี หน้า
ของฉูซินรุ่ ยทําให้เขาเหงื่อแตก ไม่คิดเลยว่าเขาจะพูดความคับข้องใจ
ของตัวเองออกมาดัง ๆ
“ไม่ใช่ง้ นั หรื อ? เฮอะ” ฉูซินรุ่ ยก้าวเข้ามายืนตรงหน้าหลินเฟิ งช้า ๆ
หลินเฟิ งไม่กล้าเงยหน้าขึ้นด้วยซํ้า เขาทําได้แค่นงั่ ก้มหน้าตัวสัน่ มอง
เท้าของฉูซินรุ่ ย
ทันใดนั้นฉูซินรุ่ ยก็ยกเท้าขึ้นเตะหลินเฟิ งลอยละลิ่วไปในอากาศ!
ลูกเตะจากผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วงไม่ใช่สิ่งที่หลินเฟิ งสามารถรับ
ได้ ทันทีที่เขาถูกเตะกระเด็นไปกระแทกพื้น หลินเฟิ งก็กระอัก
เลือดออกมา เลือดสี แดงของเขาตัดกับสี ขาวบริ สุทธิ์ของพรมขน
จิ้งจอกบนพื้น
“เจ้าเป็ นอะไรกับข้า? บังอาจพูดกับข้าด้วยท่าทีเช่นนั้นงั้นหรื อ? พ่อ
เจ้าเป็ นหัวหน้าตึกแห่งเมืองพันอสู รแล้วยังไง? เขาก็แค่สุนขั รับใช้ที่
ข้าเก็บเอาไว้ใช้งาน เมื่อข้าอยากให้เขามีชีวติ อยู่ เขาก็อยู่ ถ้าข้าอยาก
ให้เขาตาย เขาก็ตอ้ งตาย ต่อหน้าข้า เจ้าไม่มีสถานะจะมาพูดด้วยซํ้า!”
ฉูซินรุ่ ยพูดพร้อมกับจ้องมองหลินเฟิ งที่นอนกระอักเลือดไม่หยุดอยู่
บนพื้น ไม่มีแววสงสารอยูใ่ นสายตานางเลยสักนิด
ก่อนหน้านี้เพื่อเห็นแก่หลินชิว นางจึงยอมผ่อมปรนไม่เอาเรื่ องหลิน
เฟิ งที่ทาํ ให้มงั กรมายาตาย แต่หลินเฟิ งกลับมาถอนหงอกนางดูหมิ่น
นางในงานวันเกิดของนาง แล้วนางจะยอมทนอยูไ่ ด้ยงั ไง?
“ท่านยาย ท่านยายโปรดเมตตา…หลินเฟิ ง…หลินเฟิ งไม่ได้ต้ งั ใจ”
เมื่อหลินชิวเห็นสภาพน่าสงสารของบุตรชายก็ปวดใจมากจนแทบ
จะขาดใจ แต่เขาไม่กล้าไปช่วยลูกต่อหน้าฉูซินรุ่ ย
“ไม่ได้ต้ งั ใจ? หลินชิว ข้าให้โอกาสเจ้าแล้วให้คอยดูลูกเจ้าดี ๆ แต่เจ้า
จัดการกันยังไง? จวินเสี ยเป็ นแขกพิเศษที่ขา้ เชิญมา แล้วลูกเจ้าบังอาจ
มาพูดจาหมิ่นประมาทแขกของข้าแบบนี้ คิดว่าแค่ตาํ แหน่งนายน้อย
กระจอก ๆ จะเทียบกับจวินเสี ยที่เป็ นถึงจักรพรรดิแห่งแคว้นหยาน
ได้รึไง?” ฉูซินรุ่ ยพูดพร้อมกับยิม้ อย่างดูถูก
ตอนที่ 1040 ทําตัวเอง (4)
[จักรพรรดิแห่งแคว้นหยาน!?]
หลินเฟิ งที่นอนอยูบ่ นพื้นมองจวินเสี ยอย่างเหลือเชื่อ
จวินอู๋เสี ยนัง่ นิ่งอยูก่ บั ที่โดยไม่ได้แสดงสี หน้าแปลกใจอะไรออกมา
เลย แต่สายตาของเซี ยงป้ากับชิงหยูที่มาจากแคว้นหยานพร้อมกับ
จวินเสี ยนั้นเต็มไปด้วยความตกใจสุ ดขีด!
[จวินเสี ยคือจักรพรรรดิแห่งแคว้นหยาน!? เป็ นไปได้ยงั ไง? ตอนที่
พวกเขากลับมาพร้อมกับจวินเสี ย พวกเขาไม่ได้ยนิ ข่าวลือแบบนั้น
เลยสักนิดนี่นา!]
ภายนอกจวินอู๋เสี ยดูสงบนิ่ง แต่ในใจนั้นงุนงงเป็ นอย่างมาก นางรู ้
ดีกว่าใครว่านางไม่ได้ยอมรับคําขอร้องของเล่ยเฉิน และไม่ได้รับ
ตําแหน่งจักรพรรดิแห่งแคว้นหยานมาอย่างแน่นอน แต่จากท่าที
ของฉูซินรุ่ ยดูเหมือนว่ามันเป็ นเรื่ องที่ยนื ยันแล้วว่าจริ ง
ถ้านัน่ เป็ นความจริ ง งั้นก็รู้เหตุผลที่ฉูซินรุ่ ยพยายามดึงนางเป็ นพวก
แล้ว
จวินอู๋เสี ยไม่รู้วา่ นางกลายเป็ นจักรพรรดิแห่งแคว้นหยานได้อย่างไร
แต่ตาํ แหน่งนั้นก็ดึงดูดความสนใจจากฉูซินรุ่ ยได้อย่างมากมาย เรื่ อง
ของมังกรมายาก็คงเป็ นเพราะฉูซินรุ่ ยรู ้เรื่ องนี้เข้าถึงได้ยกโทษให้
และแสดงเจตนาดีต่อนางอยูห่ ลายครั้งในวันนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อเอานาง
เป็ นพวก แต่เป้าหมายคือแคว้นหยานที่อยูเ่ บื้องหลังนางต่างหาก
จวินอู๋เสี ยรู ้สึกว่าเรื่ องทั้งหมดนี้มนั น่าหัวเราะมาก แต่เมื่อเรื่ องเป็ น
แบบนี้มนั ก็เป็ นสิ่ งที่ดีที่ฉูซินรุ่ ยเข้าใจผิด และจวินอู๋เสี ยก็ไม่คิดจะ
อธิบายให้นางรู ้
หลินเฟิ งเจ็บปวดไปทัว่ ทั้งตัว แต่เมื่อเขาได้ยนิ คําพูดพวกนั้น ความ
เจ็บปวดทั้งหมดก็ถูกลืมเลือนไป เขามองไปที่พอ่ ของเขาอย่างมึนงง
แล้วก็เข้าใจทุกอย่างขึ้นมาทันที
ทําไมฉูซินรุ่ ยจึงไม่เอาเรื่ องที่ตอ้ งสู ญเสี ยมังกรมายาไป และทําไม
หลินชิวจึงไม่พดู ถึงจวินเสี ยอีกหลังกลับมาจากหอเมฆาสวรรค์ หลิน
เฟิ งคิดได้วา่ พ่อของเขาต้องรู ้ถึงตัวจริ งของจวินเสี ยเข้าและไม่กล้าหา
เรื่ องเขาอีก แต่เนื่องจากหลินเฟิ งถูกกักบริ เวณมาตลอด หลินชิวจึง
ไม่มีโอกาสบอกให้เขารู ้ถึงตัวจริ งของจวินเสี ย
เหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกันเป็ นลูกโซ่ทาํ ให้เรื่ องทุกอย่างมาถึงจุดนี้
ใครจะไปคิดว่าจักรพรรดิแห่งแคว้นที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดจะเป็ นผูเ้ ยาว์ที่อยู่
ตรงหน้าเขา?
แม้แต่ฉูเหวินห่าวก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาไม่เคยได้ยนิ เรื่ อง
แบบนี้จากฉูหลิงเย่เลย
“ไม่วา่ จะเทียบยังไงก็สูไ้ ม่ได้ขอรับ ลูกชายข้าโง่เขลา ข้าน้อยจะพา
เขากลับไปอบรมสัง่ สอนให้เข้มงวดที่สุด จะไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้
ั ญา ในใจของเขา
เกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอนขอรับ” หลินชิวให้สญ
ตอนนี้ไม่อาจกังวลเรื่ องของตัวเองกับจวินเสี ยได้ ได้แต่วงิ วอนขอ
ความเมตตาให้ฉูซินรุ่ ยไว้ชีวติ หลินเฟิ ง
แต่ทว่า…
ฉูซินรุ่ ยไม่ใช่คนใจดีอย่างนั้น
“เอากลับไปสัง่ สอนงั้นรึ ? นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขา้ ได้ยนิ คําพูดแบบนี้
การที่หลินเฟิ งกล้าก่อความวุน่ วายในวันนี้ ทําให้แขกพิเศษของข้า
ต้องตกใจ ถ้าเจ้าคิดว่าจะลบเรื่ องนี้ได้ง่าย ๆ ล่ะก็ ข้าเกรงว่ามันจะไม่
ได้ผลสําหรับข้านะ” ฉูซินรุ่ ยพูดพร้อมกับหรี่ ตา นางตบมือแล้วชาย
คนหนึ่งก็ข้ ึนบันไดมาทันที
เมื่อหลินชิวเห็นชายคนนั้น ใบหน้าเขาก็เป็ นสี ขาวด้วยความหวาดกลัว
ทันที ชายคนนั้นมาที่เมืองพันอสู รพร้อมกับฉูซินรุ่ ย เขาเองก็มีพลัง
วิญญาณขั้นสี ม่วงเช่นกัน ในเมืองพันอสู รชายคนนี้เป็ นคนที่คอย
จัดการคนที่ ‘ไม่เชื่อฟัง’ ฉูซินรุ่ ย
เมื่อเห็นชายคนนี้ปรากฏตัวขึ้น หลินชิวก็แทบเป็ นบ้า
“ท่านยายโปรดละเว้นหลินเฟิ งสักครั้งเถอะขอรับ! เขาจะไม่มีวนั ทํา
อย่างนั้นอีกเด็ดขาด!” หลินชิวรี บโขกศีรษะกับพื้นอย่างแรง ขนาดมี
หนังจิ้งจอกปูพ้นื อยู่ เขาก็ยงั เอาหัวโขกจนเกิดบาดแผลเลือดออก
แต่ฉูซินรุ่ ยเมินหลินชิวโดยสิ้ นเชิง
“ลากเจ้าเด็กเหลือขอออกไปจากที่นี่แล้วสอนบทเรี ยนเขาซะ ในเมื่อ
หลินชิวไม่สามารถสัง่ สอนลูกชายตัวเองได้ งั้นข้าก็จะเป็ นคนสอน
ให้เอง”
ก่อนที่หลินเฟิ งจะทันได้สติ เขาก็ถูกชายคนนั้นลากตัวไปด้วยมือ
เพียงข้างเดียว!
ตอนที่ 1041 ทําตัวเอง (5)
“ท่านยาย!” ทันทีที่เห็นหลินเฟิ งถูกเอาตัวไป หลินชิวก็ตกใจมาก
“เจ้ามีความเห็นหรื อ?” ฉูซินรุ่ ยยิม้ อย่างเย็นชาให้หลินชิว
หลินชิวตัวแข็งทื่อ อ้าปากค้าง ตัวสัน่ ระริ กจนได้ยนิ เสี ยงฟันของเขา
กระทบกันเบา ๆ เขาทรุ ดตัวลงก้มศีรษะคํานับกับพื้น ไม่กล้าพูด
อะไรออกมาอีก
“ท่านยายเมตตาด้วย! ข้าผิดไปแล้ว! ข้าผิดไปแล้ว!” หลินเฟิ งถูกลาก
เอาตัวไปเช่นนั้นก็ไม่มีกะจิตกะใจห่ วงเรื่ องความเจ็บปวดของตัวเอง
อีก เขาได้ยนิ ว่าฉูซินรุ่ ยต้องให้สงั่ สอนเขาและรู ้วา่ คราวนี้เขาเดือดร้อน
หนักแน่ เขาไม่อาจทําอะไรได้นอกจากวิงวอนขอความเมตตาเสี ยงดัง
“ท่านพ่อ! ช่วยด้วย…ช่วยข้าด้วย…” นํ้าเสี ยงของหลินเฟิ งหวาดกลัว
อย่างมาก
[เขาทําพลาดไปแล้ว เขารู ้แล้วว่าเขาผิดพลาดมาตลอด เขาไม่คิดเลย
ว่าจวินเสี ยคือจักรพรรรดิแห่งแคว้นหยาน ถ้าเขารู ้เขาจะเข้าใจเจตนา
ของฉูซินรุ่ ยที่พยายามจะเอาชนะใจจวินเสี ยทันที และจะไม่กล้า
หยาบคายไม่มีมารยาทกับจวินเสี ยขนาดนี้แน่]
แต่หลินเฟิ งไม่รู้วา่ ทําไมเมื่อครู่ เขาถึงไม่สามารถยั้งตัวเองเอาไว้ได้
เลย ทําให้เขาพูดจาหาเรื่ องใส่ ตวั แบบนั้น
น่าเสี ยดายที่ฉูซินรุ่ ยไม่สนใจ และหลินชิวก็ไม่กล้าสนใจ
หลินเฟิ งถูกชายคนนั้นลากลงบันไดไป และเมื่อร่ างของเขาหายลับ
ตาไป เสี ยงกรี ดร้องของเขายังคงก้องสะท้อนอยูใ่ นงานเลี้ยง
ฉูซินรุ่ ยเอนหลังพิงเก้าอี้ยาวช้า ๆ และมองไปที่หลินชิวที่กาํ ลังคุกเข่า
อยูบ่ นพื้นแล้วพูดว่า “ข้าจะสัง่ สอนเขาที่นี่สกั สองสามวันแล้วจะส่ ง
เขากลับไปให้ เจ้าลุกขึ้นได้แล้ว”
หลินชิวเงียบไปครู่ หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ขอบคุณท่านยายที่ใส่ ใจขอรับ”
เขาลุกขึ้นและเดินกลับเข้าที่ไปเงียบ ๆ หลังจากนั้นก็ไม่พดู อะไร
ออกมาอีก
บนพรมยังมีรอยเลือดของหลินเฟิ งอยูผ่ สมกับกลิ่นคาวเลือดที่
กระจายอยูใ่ นห้อง
แล้วเสี ยงพิณก็ดงั ขึ้นราวกับไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเลย
รอยยิม้ กลับคืนสู่ ใบหน้าของฉูซินรุ่ ย นางหันไปทางจวินเสี ยที่อยูข่ า้ ง ๆ
“คุณชายจวินอย่าใส่ ใจเลย ให้ขา้ ดื่มให้ท่านดีกว่า”
จวินอู๋เสี ยยกถ้วยสุ ราขึ้น ยอมรับการดื่มอวยพรจากฉูซินรุ่ ย
“อย่าให้คนโง่เขลามาทําเราเสี ยอารมณ์เลย ที่ขา้ พูดกับคุณชายจวิน
เมื่อครู่ ข้าอยากให้คุณชายจวินไปคิดให้ดี ๆ ถ้าท่านยอมร่ วมมือ ไม่
ว่าท่านหรื อข้า หรื อแคว้นหยาน ต่างก็ได้ประโยชน์ดว้ ยกันทั้งนั้น ถึง
ยังไงในโลกนี้กไ็ ม่มีผคู ้ รองแคว้นคนไหนมีพลังวิญญาณขั้นสี ม่วง
เลย” ฉูซินรุ่ ยพูดต่อไปราวกับลืมเหตุการณ์ของหลินเฟิ งไปหมดแล้ว
รอยยิม้ ของนางราวกับดอกไม้บาน
จวินอู๋เสี ยไม่รู้วา่ ฉูซินรุ่ ยไปรู ้มาจากที่ไหนว่านางคือจักรพรรดิแห่ง
แคว้นหยาน แต่นางก็ไม่อธิบายอะไรให้ฟัง ในเมื่อฉูซินรุ่ ยขอให้นาง
คิด นางก็จะคิดอย่าง ‘ช้า ๆ ’
“ข้าจะไตร่ ตรองอย่างรอบคอบเลยทีเดียว”
ฉูซินรุ่ ยยิม้ นางไม่เชื่อว่าในโลกนี้จะมีคนที่ไม่อยากได้พลังวิญญาณ
ขั้นสี ม่วงอันยิง่ ใหญ่อยูด่ ว้ ย
ถึงเป็ นจักรพรรดิผคู ้ รองแคว้น ก็ยงั ต้องกังวลเรื่ องอายุขยั และความ
ตาย
ฉูซินรุ่ ยยกถ้วยสุ ราขึ้น ขณะที่กาํ ลังจะดื่มนางก็เห็นผิวหนังที่ขอ้ มือ
ของตัวเอง สี หน้านางบิดเบี้ยวทันที
เพล้ง!
ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ
ฉูซินรุ่ ยเขวี้ยงถ้วยสุ ราในมือลงกับพื้นด้วยความไม่พอใจ
“งานเลี้ยงวันนี้เลิกแล้ว ทุกคนกลับไปเดี๋ยวนี้!” ใบหน้าของฉูซินรุ่ ย
มืดทะมึน นางจับข้อมือตัวเองเอาไว้ แล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไป
ด้านหลังห้องโถงใหญ่
งานวันเกิดจบลงอย่างกะทันหัน บรรดาแขกต่างประหลาดใจใน
เหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปแบบกะทันหัน แต่เนื่องจากฉูซินรุ่ ยออกคําสัง่
ไล่แล้วจึงไม่มีใครกล้าอยูต่ ่อ ทุกคนพากันเดินออกไปอย่างเชื่อฟัง
ยกเว้นหลินเฟิ งที่ไม่อาจจะกลับบ้านในคืนนั้นได้
ตอนที่ 1042 ไม่ จาํ เป็ น (1)
หลังออกจากหอเมฆาสวรรค์ ฉูเหวินห่าวก็ยนื นิ่งอยูก่ บั ที่และจ้อง
มองจวินเสี ยอยูพ่ กั นึง ดูเหมือนเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่
สุ ดท้ายก็จากไปโดยไม่พดู อะไร
หลินชิวกลับไปอย่างสิ้ นหวัง ขณะที่หวั หน้าตึกคนอื่น ๆ กับรอง
หัวหน้ากล่าวอําลากันก่อนจะจากไป
จวินอู๋เสี ยออกจากที่นนั่ พร้อมเซี ยงป้ากับชิงหยู และเมื่อมาได้ครึ่ ง
ทางมันก็เป็ นเวลาดึกมากแล้ว ถนนหนทางว่างเปล่า มีเพียงโคมไฟสี
แดงที่ยงั ส่ องสว่างอยู่
“คุณชายจวิน อยู่ ๆ ท่านกลายเป็ นจักรพรรดิแห่งแคว้นหยานได้
ยังไง?” เซียงป้าพยายามเงียบอยูน่ าน แต่กส็ ุ ดท้ายก็ทนไม่ไหว เขา
ถามจวินเสี ยเสี ยงเบา
เขายังจําได้ดีวา่ จวินเสี ยเป็ นเพียงศิษย์ของสํานักศึกษาวายุประจิม
เท่านั้น และถึงแม้เขาจะเล่นงานจักรพรรดิแห่งแคว้นหยานจนหมด
ท่า แต่เขาก็ไม่ได้ฉวยโอกาสยึดบัลลังก์ จากที่ฉูหลิงเย่พดู จวินเสี ย
ไม่ได้โยนตําแหน่งผูค้ รองแคว้นให้องค์รัชทายาทเล่ยเฉิ นไปแล้ว
หรอกหรื อ?
“ข้าไม่รู้” จวินอู๋เสี ยตอบตามตรง
เซียงป้ามีสีหน้าแปลกใจทันที
“ข้ารู ้เท่าที่พวกท่านสองคนรู ้นนั่ แหละ” จวินอู๋เสี ยพูดอย่างใจเย็น
นางมาที่เมืองพันอสู รพร้อมกับเซียงป้าและคนอื่น ๆ หลังจากที่พวก
เขาจากมาแล้ว เล่ยเฉินทําอะไรบ้างนางก็ไม่รู้เลย
แต่ดูจากท่าทางของฉูซินรุ่ ย นางคงตรวจสอบข้อมูลมาแล้ว เรื่ องที่
นางเป็ นจักรพรรดิตอ้ งเป็ นการสมรู ้ร่วมคิดกันแน่
ถ้าไม่มีปัญหาเรื่ องแหล่งข่าวของฉูซินรุ่ ย งั้นก็หมายความได้อย่าง
เดียวว่าแคว้นหยานได้ทาํ บางอย่างหลังจากที่นางออกจากแคว้นแล้ว
ตอนแรกเล่ยเฉินยืนกรานให้จวินเสี ยขึ้นครองบัลลังก์ แต่จวินอู๋เสี ยก็
คอยหลบหลีกและหันเหความสนใจของเล่ยเฉินออกจากเรื่ องนี้
ตลอด จากนั้นนางก็รีบออกจากแคว้นโดยไม่บอกใคร และมาที่เมือง
พันอสู รพร้อมกับเซียงป้าและคนอื่น ๆ นางคิดว่านางจะสามารถลืม
เรื่ องแคว้นหยานไปได้จนหมดสิ้ น แต่จากสถานการณ์ตอนนี้ ดู
เหมือนว่ามันจะไม่เป็ นอย่างที่นางคิดเอาไว้ซะแล้ว
อยูด่ ี ๆ ก็กลายเป็ นจักรพรรดิแห่งแคว้นหยานโดยไม่มีเหตุผลสมควร
แบบนี้ จวินอู๋เสี ยรู ้สึกว่ามันไม่น่าสนุกเลยสักนิด
เซียงป้ากับชิงหยูสบตากัน พวกเขารู ้วา่ จวินเสี ยไม่ใช่คนที่ชอบโกหก
จึงเชื่อสิ่ งที่เขาพูด
“จากท่าทีของฉูซินรุ่ ย นางตั้งใจจะดึงท่านไปเป็ นพวกจริ ง ๆ ถ้าไม่มี
เรื่ องที่ไม่คาดคิด นางคงเล็งแคว้นหยานเอาไว้เพื่อให้ช่วยนางสํารวจ
ดินแดนในแผนที่นนั่ ” เซียงป้าให้เหตุผล
“แต่จากที่นางพูด ดูเหมือนนางตั้งใจจะใช้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วงเป็ น
การแลกเปลี่ยน แต่…พลังวิญญาณขั้นสี ม่วงสามารถมอบให้กนั ได้
ด้วยหรื อ?” นัน่ เป็ นจุดหนึ่งที่เซียงป้าไม่เข้าใจ ถ้าฉูซินรุ่ ยมีความสามารถ
มอบพลังวิญญาณขั้นสี ม่วงให้คนอื่น ๆ ได้ นัน่ จะไม่เป็ นการฝื น
อํานาจสวรรค์หรื ออย่างไร?
จวินอู๋เสี ยไม่ตอบ เซียงป้ากับชิงหยูเป็ นคนในอาณาจักรล่าง พวกเขา
ย่อมไม่รู้วา่ มีวธิ ีการที่สามารถทําให้คนเพิ่มพลังวิญญาณได้อยูใ่ น
อาณาจักรกลาง แต่นางสังเกตได้วา่ วิธีที่ฉูซินรุ่ ยใช้ดึงนางเป็ นพวก
เป็ นวิธีเดียวกับที่เจ้าของแหวนคนเก่าเจอ
พวกเขาทั้งคู่ถูกล่อด้วยอํานาจความยิง่ ใหญ่ของพลังขั้นสี ม่วง
แม้วา่ จวินอู๋เสี ยจะไม่เคยพบกับคนผูน้ ้ นั แต่นางก็เรี ยกเขาว่าอาจารย์
การที่ศิษย์อาจารย์ตกอยูใ่ นสถานการณ์เดียวกัน ถูกล่อหลอกแบบ
เดียวกัน ดูเหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก
“คุณชายจวิน ท่านคงไม่…คิดที่จะร่ วมมือกับฉูซินรุ่ ยใช่ไหม?” เซียง
ป้าถามพลางมองจวินเสี ยอย่างกังวล ไม่ใช่วา่ เขาไม่เชื่อในนิสยั ของ
จวินเสี ย แต่เป็ นเพราะสิ่ งที่ฉูซินรุ่ ยใช้ล่อมันยัว่ ใจมากจริ ง ๆ
สิ่ งที่จวินเสี ยอยากได้ ฉูซินรุ่ ยสามารถจัดการให้ได้ และยังช่วยให้เขา
ได้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วงได้อีก แต่เมืองพันอสู รนั้นนอกจากแผนที่
ชิ้นส่ วนเดียวแล้วก็ไม่มีอะไรจะให้จวินเสี ย เซี ยงป้าจึงอดกังวลไม่ได้
“ไม่จาํ เป็ นนี่” จวินอู๋เสี ยตอบ
ตอนที่ 1043 ไม่ จาํ เป็ น (2)
คําพูดไม่กี่คาํ ของจวินเสี ยทําให้เซี ยงป้ากับชิงหยูสบายใจขึ้น
แม้วา่ จวินเสี ยจะพูดแค่สี่คาํ มันก็ทาํ ให้พวกเขารู ้สึกมัน่ ใจขึ้นมาก
ทีเดียว
“อะแฮ่ม ว่าแต่วา่ ท่านว่าวันนี้หลินเฟิ งมีอะไรผิดปกติไปรึ เปล่า? ทุก
อย่างกําลังดีอยูแ่ ท้ ๆ เขาก็เกิดรนหาที่ตายขึ้นมาต่อหน้ายัยแม่มดแก่
ฉูซินรุ่ ยนัน่ ปกติเขาอาจจะหยิง่ จองหองมากอยูน่ ะ แต่ต่อหน้าฉูซินรุ่ ย
เขาก็ทาํ ตามมารยาทอยูต่ ลอด แล้ววันนี้กินยาผิดมาหรื อไง ถึงได้ดู
เสี ยสติไปแบบนั้น” เซียงป้าที่รู้สึกโล่งอกแล้วก็เปลี่ยนเรื่ องทันที
หลินเฟิ งเป็ นคนแรกในเมืองพันอสู รที่กล้าตบหน้าฉูซินรุ่ ยระหว่าง
งานเลี้ยงวันเกิดของนาง และเนื่องจากเซียงป้าไม่ชอบหลินเฟิ งเอา
มาก ๆ เมื่อได้เห็นฉูซินรุ่ ยถูกทําให้โกรธถึงขนาดนั้น เขาก็รู้สึกพอใจ
มากทีเดียว
“เขากินยาผิดจริ ง ๆ นัน่ แหละ” จวินอู๋เสี ยพูดหน้าตาเฉย มุมปาก
ยกขึ้นจนเกือบจะเป็ นรอยยิม้ เยาะ
ไม่มีใครรู ้วา่ ตอนที่หลินเฟิ งยกสุ ราให้นาง เขาได้วางยาในสุ ราด้วย
ตอนที่ถว้ ยสุ ราถูกนํามามันก็มียาพิษอยูใ่ นนั้นแล้ว คนอื่นอาจจะจับ
ไม่ได้ แต่จวินอู๋เสี ยดมครั้งเดียวก็รู้แล้วว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล
กลิ่นจาง ๆ นั้นถูกกลิ่นแอลกอฮอล์กลบจึงเข้าใจผิดได้ง่ายว่ามันคือ
กลิ่นสุ รา แต่มนั ก็ไม่รอดพ้นสัมผัสอันเฉียบไวของจวินอู๋เสี ย
น่าเสี ยดายที่ในโลกนี้ยงั ไม่มียาพิษที่สามารถจัดการกับนางได้
ในเมื่อหลินเฟิ งกล้าเล่นเกมกับนาง นางก็ตอ้ งตอบแทนหน่อยซิ
ของขวัญที่ให้มาก็ตอ้ งตอบแทนกลับไป มันเป็ น ‘มารยาท’ ที่ควรทํา
ตอนที่จวินอู๋เสี ยเทสุ ราให้หลินเฟิ ง นางก็เอาเข็มเงินออกมาซ่อนไว้
ระหว่างนิ้ว ตอนที่เทสุ ราก็เทไปบนปลายเข็ม เข็มเงินของนางเล็ก
และบาง นางเผยมันออกมาแค่เล็กน้อยจึงไม่มีใครมองเห็นเลย
ชิงหยูมองไปที่จวินอู๋เสี ย คําพูดของนางทําให้เขารู ้สึกว่าที่เขาเดา
เอาไว้ในใจมันชัดเจนขึ้น จึงอดถามไม่ได้วา่ “คุณชายจวิน…วางยา
หลินเฟิ งหรื อขอรับ?”
เซียงป้าเบิกตากว้าง เห็นได้ชดั ว่าเขาไม่คิดเลยสักนิดว่าจวินเสี ยจะ
วางยาหลินเฟิ งได้
“อืม” จวินอู๋เสี ยพยักหน้าโดยไม่ปิดบัง
เซียงป้ามีสีหน้าตกตะลึงขณะที่สีหน้าของชิงหยูแสดงออกว่าได้เดา
เรื่ องนี้เอาไว้อยูแ่ ล้ว
“ข้าก็คิดอยูว่ า่ ทําไมจู่ ๆ หลินเฟิ งกลายเป็ นคนโง่ข้ ึนมา ตอนแรกข้าก็
แค่สงสัย จนกระทัง่ เห็นสัญญาณที่ท่านส่ งมา ข้าถึงได้เข้าใจทันทีวา่
ทั้งหมดนั้นเป็ นฝี มือของท่าน” ชิงหยูพดู
ถ้าไม่ใช่สายตาที่จวินเสี ยมองมา เขาก็คงไม่พดู อย่างนั้นออกไป
“ท่านวางยาเขาอะไรเขางั้นหรื อ?” ชิงหยูถามอย่างอยากรู ้
“ก็แค่ของเล่นไร้สาระน่ะ มันไม่ฆ่าเขาหรอกแต่จะทําให้การควบคุม
ตัวเองของเขาอ่อนลง” จวินอู๋เสี ยพูดเสี ยงเย็นชา นัน่ นับเป็ นยาพิษ
ไม่ได้หรอก แต่มนั จะมีผลต่ออารมณ์และความรู ้สึกของคน ขุดเอา
ความรู ้สึกแง่ลบออกมาและทําให้เขาปลดปล่อยสิ่ งที่เก็บเอาไว้ในใจ
ออกมาทั้งหมด นัน่ เป็ นยาที่นางพัฒนาขึ้นตามคําขอขององค์กรเพื่อ
ใช้กบั สมาชิกขององค์กรที่เก็บกดตัวเองมานานเกินไปให้พวกเขาได้
ระบายความรู ้สึกออกมา ยานัน่ มีฤทธิ์อยูไ่ ด้ไม่นาน หลังจากที่พวก
เขาระบายออกมา สิ่ งที่ตอ้ งทําก็คือกระตุน้ แรง ๆ แล้วฤทธิ์ยาก็จะ
หายไป เป้าหมายก็จะได้สติกลับมา
ในด้านการสร้างความเสี ยหาย ยานี้จดั ว่าเป็ นยาที่เบาที่สุดที่นางมี
แต่…
ในสถานการณ์ที่พเิ ศษและในเวลาที่พิเศษ มันก็สามารถสร้าง
ผลกระทบที่น่าทึ่งได้
ด้วยนิสยั ใจแคบและอาฆาตพยาบาทของฉูซินรุ่ ย นางจะยอมให้เด็ก
ไร้ค่าอย่างหลินเฟิ งมาดูหมิ่นนางในงานวันเกิดของนางได้อย่างไร?
ตอนที่ 1044 ไม่ จาํ เป็ น (3)
จวินอู๋เสี ยไม่จาํ เป็ นต้องจัดการกับหลินเฟิ งด้วยมือของตัวเองเลยด้วย
ซํ้า นางแค่เอายากระตุน้ เข้าไปในร่ างกายของหลินเฟิ งสักเล็กน้อย
แล้วที่เหลือฉูซินรุ่ ยจะช่วยนางเอง
บางครั้งการจัดการฝ่ ายตรงข้ามก็ไม่จาํ เป็ นต้องทําให้มือตัวเองแปด
เปื้ อนหรอก
เซียงป้ากับชิงหยูมองจวินเสี ยแล้วพากันตัวสัน่ โดยไม่ได้ต้ งั ใจ
คราวนี้หลินเฟิ งจบเห่แน่แล้ว ตกอยูใ่ นกํามือของฉูซินรุ่ ยแบบนี้ต่อ
ให้รอดชีวติ มาได้ อย่างน้อย ๆ ก็พิการแน่นอน จวินเสี ยยืมมือฆ่าได้
อย่างรวดเร็ ว เร็ วมากซะจนหลินเฟิ งก็ยงั ไม่รู้วา่ จวินเสี ยคือผูอ้ ยู่
เบื้องหลังเรื่ องทั้งหมด
เห็นจวินเสี ยตัวเล็ก ๆ ผอม ๆ หน้าตาธรรมดาแบบนี้ แต่สมองอัน
เฉลียวฉลาดนั้น…
ฟู่ ~
ทั้งสองคนแอบบอกตัวเองว่าพวกเขาจะไม่มีวนั มีเรื่ องกับคนผูน้ ้ ี
เด็ดขาด ไม่ง้ นั ตอนที่ตายพวกเขาคงไม่รู้ดว้ ยซํ้าว่าอะไรฆ่าพวกเขา
พอทั้งสามกลับไปถึงตึกเพลิงพิโรธ พวกเขาก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน
จวินอู๋เสี ยนัง่ ลงในห้องของตัวเองแล้วดีดนิ้วเรี ยกเย่ฉาซึ่ งก็ปรากฏตัว
ขึ้นทันที
“คุณหนู”
“พบอะไรบ้างไหม?” จวินอู๋เสี ยถามพลางมองเย่ฉา
เย่ฉาตอบว่า “ในหอเมฆาสวรรค์มีคนที่มีพลังวิญญาณขั้นสี ม่วงและ
เหนือกว่าอยู่ 4 คน คนที่แข็งแกร่ งที่สุดไม่ใช่ฉูซินรุ่ ยหรอกขอรับ
พลังของฉูซินรุ่ ยไม่ได้สูงที่สุดใน 4 คนนั้น”
“งั้นหรื อ?” จวินอู๋เสี ยเลิกคิว้ เซียงป้าบอกว่าพวกยอดฝี มือที่อยูร่ อบตัว
ฉูซินรุ่ ยเป็ นลูกน้องของนางทั้งหมด แต่ถา้ นางเป็ นอย่างที่เย่ฉาบอก
งั้นเรื่ องก็ไม่ได้เรี ยบง่ายอย่างที่ดูเหมือนว่าจะเป็ น กฎทัว่ ไปของพวก
สิ บสองวิหารคือผูแ้ ข็งแกร่ งที่สุดคือผูอ้ ยูร่ อด เว้นแต่วา่ จะเป็ นคนที่
เกิดมาในตระกูลสู ง ไม่ง้ นั พลังที่พวกเขามีจะเป็ นเสี ยงที่ดงั ที่สุด
ฉูซินรุ่ ยไม่ใช่คนที่แข็งแกร่ งที่สุดในคนพวกนั้น และนางเป็ นคนที่
เกิดในอาณาจักรล่าง ตามเหตุผลนี้แล้วนางไม่น่าจะมีตาํ แหน่งสูง
กว่าอีกสามคน
“ดูเหมือนว่าฉูซินรุ่ ยจะเป็ นแค่คนออกหน้าซินะ” จวินอู๋เสี ยลูบคาง
คิด
“มีอีกเรื่ องขอรับ ข้าน้อยพบว่ามันค่อนข้างน่าสงสัย” เย่ฉาพูด
“อะไร?”
“ข้าน้อยรู ้สึกถึงพลังแปลก ๆ ในหอเมฆาสวรรค์ คลื่นพลังนั้นทําให้
ข้าน้อยนึกถึงวิหารจิตหวนคืนที่เป็ นวิหารหนึ่งในสิ บสองวิหาร
วิหารจิตหวนคืนเป็ นเลิศด้านการใช้วญ
ิ ญาณให้เป็ นประโยชน์ ถ้า
ความรู ้สึกของข้าน้อยถูกต้อง ในหอเมฆาสวรรค์น่าจะมีการใช้
เครื่ องมือวิญญาณจากวิหารจิตหวนคืนอยูน่ ะขอรับ” เย่ฉาพูด
“แล้วเจ้ารู ้ไหมว่ามันคืออะไร?”
“ไม่ขอรับ ข้าไม่มีเวลาพอ คนของวิหารจิตหวนคืนอีกสามคนอยูท่ ี่
ชั้นนั้น ข้าน้อยไม่สามารถตรวจสอบไปมากกว่านี้ได้โดยไม่ทาํ ให้
พวกเขาไหวตัว”
จวินอู๋เสี ยพยักหน้า อย่างน้อยนางก็รู้วา่ คู่ต่อสู ข้ องพวกเขาเป็ นคน
ของวิหารจิตหวนคืน
…………
ที่หอเมฆาสวรรค์ พวกหนุ่ม ๆ คนโปรดถูกไล่ออกไปจนหมดและ
ถูกส่ งไปอยูท่ ี่ช้ นั สอง ทางขึ้นบันไดก็ถูกเฝ้าเอาไว้
ฉูซินรุ่ ยนัง่ มองเงาสะท้อนอันงดงามของตัวเองอยูท่ ี่หน้าโต๊ะแต่งตัว
บนชั้น 7 ใบหน้าอันงดงามน่าหลงใหลสะท้อนอยูใ่ นกระจกทองแดง
แต่สีหน้าไม่ได้มีความชื่นชมหรื อพอใจเลยแม้แต่นอ้ ย
ฉูซินรุ่ ยขมวดคิ้ว สายตาจ้องเขม็งไปที่กระจกพลางกวาดสายตาไปที่
เงาสะท้อนของดวงตา คิ้ว ปาก และจมูก ก่อนจะก้มลงมองที่ขอ้ มือ
ของตัวเอง
มีรอยย่นอยูท่ ี่ขอ้ มือของนางขนาดเท่าฝ่ ามือ เมื่อเทียบกับผิวหนังตรง
อื่นที่เรี ยบเนียน มันได้เสี ยความเต่งตึงและกลายเป็ นสี เหลืองเข้มที่
เต็มไปด้วยรอยย่นพร้อมกับมีจุดสี น้ าํ ตาลจาง ๆ กระจายอยูท่ วั่
ผิวหนังส่ วนนั้น
ดวงตาของฉูซินรุ่ ยเต็มไปด้วยความกลัวและตื่นตระหนก นางเอาแต่
ยืน่ มือออกไปด้วยความอยากจะถูเอาผิวเหี่ ยวย่นนั้นออกแต่กไ็ ม่มี
ประโยชน์ ฉูซินรุ่ ยว้าวุน่ ใจจนคุม้ คลัง่ ก็กวาดเอาทุกอย่างที่อยูบ่ น
โต๊ะแต่งตัวหล่นลงบนพื้น!
เสี ยงของตกดังลัน่ อยูใ่ นหอเมฆาสวรรค์กลางดึกคืนนั้น
ตอนที่ 1045 เชิญ (1)
วันที่สองหลังงานวันเกิดของฉูซินรุ่ ย คนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยูข่ า้ ง
นอกหอเมฆาสวรรค์ต้ งั แต่เช้าตรู่ ทุกคนเป็ นผูห้ ญิง หน้าตาของพวก
นางแตกต่างกันไปทุกระดับ สวมใส่ เสื้ อผ้าแตกต่างกัน แต่สีหน้า
ของทุกคนดูเศร้าโศกเสี ยใจเหมือนกัน
ทุกคนยืนอยูข่ า้ งนอกหอเมฆาสวรรค์ สายตาของพวกนางมองคนใน
ครอบครัวที่มาส่ งพวกนางอย่างรักใคร่ ไม่รู้วา่ เมื่อไรพวกนางจะได้
เจอกับครอบครัวอีก
มีคนออกมาจากหอเมฆาสวรรค์ และมีรถม้า 10 คันมาจอดที่ดา้ น
นอก คนจากหอเมฆาสวรรค์เร่ งให้กลุ่มผูห้ ญิงขึ้นไปบนรถม้า ตัด
ขาดความปรารถนาสุ ดท้ายออกจากใจของพวกเขา
เมื่อล้อรถเคลื่อนที่ คนอื่น ๆ ที่รวมกลุ่มกันอยูร่ อบ ๆ หอเมฆา
สวรรค์กไ็ ม่สามารถทําอะไรได้นอกจากเฝ้าดูภรรยาและลูกของพวก
เขาค่อย ๆ ห่างออกไป และไม่วา่ พวกเขาจะเกลียดสิ่ งที่ตอ้ งทนฝื นใจ
อยูม่ ากแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถทําอะไรได้เลย
รถม้า 10 คันวิง่ ผ่านประตูเมืองพันอสู รออกไป พวกมันเคลื่อนที่ตรง
ไปที่ป่าบนภูเขาอย่างช้า ๆ ผ่านแนวป่ าและหมู่บา้ นเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง
ของเมืองพันอสู ร
“ดูนนั่ ! มาแล้ว” ผูเ้ ยาว์ในชุดชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อม
กับตบบ่าเพื่อนเบา ๆ
ผูเ้ ยาว์ที่กาํ ลังกินอยูห่ นั หน้าไปมองผ่านหน้าต่างโรงเตี๊ยมและเห็น
ขบวนรถม้า
“เถ้าแก่ ไม่ตอ้ งทอน!” ผูเ้ ยาว์คนนั้นรี บเช็ดปากด้วยหลังมือ และโยน
ก้อนเงินลงไปบนโต๊ะก่อนที่ท้ งั สองจะลุกขึ้นวิง่ ออกไปข้างนอก
“ตรงเวลาดีจริ ง” เชียวชูพดู พร้อมกับมองไปที่ขบวนรถม้าพลางหรี่
ตาเล็กน้อย พวกเขารออยูท่ ี่หมู่บา้ นนอกเมืองพันอสู รนี้อยูน่ าน
ทีเดียว ในที่สุดเป้าหมายของพวกเขาก็ปรากฏขึ้น
“แจ้งพี่ฮวั่ กับคนอื่น ๆ ว่าพวกเขาไม่ตอ้ งเฝ้าประตูอื่นแล้ว” เชียวชู
หันหน้าไปพูดกับหลงลัว่
พวกเขา 5 คนแยกกันเฝ้าประตูท้ งั สี่ ของเมืองพันอสู รจากหมู่บา้ นข้าง
นอก และเชียวชูกร็ ออยูท่ ี่หมู่บา้ นนี้กบั หลงลัว่
หลงลัว่ ปล่อยผีเสื้ อนรกของนางไปเงียบ ๆ ผีเสื้ อนรกหลายตัว
กระพือปี กใต้แสงอาทิตย์ก่อนจะบินออกไปคนละทิศละทาง ขณะที่
เชียวชูกบั หลงลัว่ ก็ตามขบวนรถม้าไปและหายไปในป่ าอย่างรวดเร็ ว
“คนพวกนั้นออกไปแล้ว” วันนี้เซียงป้าตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่ เขาไม่ได้รีบ
ไปทํางานของตึกเพลิงพิโรธ แต่กลับมาที่หอ้ งของจวินเสี ยแทน
เวลานี้ของทุกเดือน ภาพการจากกันที่น่าเศร้านี้จะเกิดขึ้นที่เมืองพัน
อสู ร ครอบครัวที่ถูกแยกจากกันมานานและกลับมาอยูด่ ว้ ยกันแค่
เดือนเดียวสั้น ๆ จะถูกบังคับให้แยกจากกันอีกครั้ง
“คุณชายจวิน ท่านมัน่ ใจว่าจะสามารถหาที่ต้ งั ของสถานที่ที่ขงั คน
ของเราไว้ได้จริ ง ๆ หรื อ?” เซียงป้าถามจวินเสี ย หลังมาถึงเมืองพัน
อสู ร จวินเสี ยไม่ได้ลงมือทําอะไรมากนัก ถึงเขาจะรู ้วา่ เพื่อน ๆ ของ
จวินเสี ยแยกย้ายกันไปก่อนจะเข้าเมืองเพื่อการเตรี ยมตัว แต่เซียงป้าก็
อดกังวลถึงเรื่ องทั้งหมดในตอนนี้ไม่ได้
ถ้าครั้งนี้พวกเขาทําไม่สาํ เร็ จ พวกเขาก็ตอ้ งรอไปอีกหนึ่งเดือน ใน
เวลาอีกหนึ่งเดือนนั้นไม่รู้วา่ จะมีปัญหาเข้ามาอีกมากแค่ไหน
ในเมื่อฉูซินรุ่ ยตั้งใจจะดึงเอาจวินเสี ยเป็ นพวก ก็คาดได้วา่ นางจะลง
มือเร็ ว ๆ นี้แน่
“อืม” จวินอู๋เสี ยพยักหน้านิ่ง ๆ อย่างที่ทาํ อยูเ่ สมอ
ตรงกันข้ามกับเซียงป้าที่ร้อนใจจะแย่อยูแ่ ล้ว เขาเดินรอบห้องไม่หยุด
ซึ่งนัน่ ก็เกือบทําให้จวินอู๋เสี ยเวียนหัว
“กังวลหรื อ?”
เซียงป้าชะงักทันที “นี่…ข้าอดกังวลไม่ได้น่ะ…ควรแก้ปัญหาให้ได้
เร็ ว ๆ จะดีกว่าก่อนที่จะมีปัญหามาเพิ่มอีก”
“ไม่ตอ้ งกังวลหรอก” จวินอู๋เสี ยพูด “ไม่วา่ จะสําเร็ จหรื อไม่ ก็ไม่ใช่
สิ่ งที่ท่านหรื อข้าจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ในตอนนี้ เจ้าโง่เชียวกับคน
อื่น ๆ อยูข่ า้ งนอกแล้ว เราต้องปล่อยให้พวกเขาเป็ นคนจัดการ แล้ว
ในเมื่อเราทําอะไรไม่ได้ ทําไมเราจะต้องทําให้ตวั เองมาคอยตื่นเต้น
กังวลอยูด่ ว้ ยล่ะ?”
คิดมากไปก็ไม่ใช่เรื่ องดี การคิดถึงทางเลือกอื่นที่อยูใ่ นอํานาจที่เรา
จัดการได้น้ นั ไม่ผดิ แต่ถา้ มันอยูใ่ นมือคนอื่น ต่อให้กงั วลมากเท่าไร
ก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากจะทําให้จิตใจตัวเองวุน่ วายสับสนซะเปล่า ๆ
ตอนที่ 1046 เชิญ (2)
ขณะที่พดู จวินอู๋เสี ยก็เทชาให้เซียงป้าและเซี ยงป้าก็ดื่มรวดเดียวหมด
น่าแปลก ความร้อนรนกระวนกระวายดูเหมือนจะบรรเทาลงด้วย
กลิ่นชา เซียงป้าใจเย็นลงบ้างแล้ว เขานัง่ ลงที่เก้าอี้ ดูเหมือนความรู ้สึก
ที่พลุ่งพล่านของเขาจะสงบลงเล็กน้อย
แต่ก่อนที่เซียงป้าจะสามารถใจเย็นลงได้อย่างเต็มที่ ชิงหยูกว็ งิ่ เข้ามา
อย่างตื่นเต้นกังวล
“คนจากหอเมฆาสวรรค์มาที่นี่ขอรับ” ชิงหยูพดู พร้อมกับขมวดคิ้ว
เซียงป้าเด้งตัวขึ้นจากเก้าอี้ “คนของหอเมฆาสวรรค์มาที่นี่ทาํ ไม?”
ชิงหยูมองไปที่จวินเสี ย
“ฉูซินรุ่ ยเชิญคุณชายจวินไปที่หอเมฆาสวรรค์ขอรับ”
เซียงป้าทําหน้าเครี ยดทันที เขาเป็ นห่วงอยูว่ า่ ฉูซินรุ่ ยจะลงมือดึงตัว
จวินเสี ยเป็ นพวกเร็ ว ๆ นี้และตอนนี้กเ็ ริ่ มลงมือแล้ว พวกเขาเพิ่งเจอ
กันเมื่อคืนแท้ ๆ ฉูซินรุ่ ยก็ส่งคนมาที่นี่ต้ งั แต่เช้าเพื่อเชิญจวินเสี ยไปที่
นัน่
จวินอู๋เสี ยยืนขึ้นและพูดว่า “ข้าจะไป”
“ท่านไปไม่ได้นะ!” เซียงป้าไม่พอใจขึ้นมาทันที ความหวาดกลัว
ฉูซินรุ่ ยที่อยูใ่ นใจเขาทําให้เซียงป้าไม่กล้าให้จวินเสี ยไปใกล้ชิดสนิท
สนมกับฉูซินรุ่ ย
จวินอู๋เสี ยตวัดสายตาไปมองเซี ยงป้าและพูดว่า “ท่านอยากให้ขา้ ไปที่
นัน่ เองหรื ออยากเห็นข้าถูกคนของหอเมฆาสวรรค์ลากตัวไปล่ะ?”
ชิงหยูพดู เสริ มขึ้นว่า “ครั้งนี้คนสนิทคนหนึ่งของฉูซินรุ่ ยมาด้วยนะ
ขอรับ”
เซียงป้าอึ้งไปทันที
คนสนิทของฉูซินรุ่ ยทุกคนมีพลังวิญญาณขั้นสี ม่วง และถ้าจวินเสี ย
ปฏิเสธคําเชิญ อีกฝ่ ายก็อาจจะใช้กาํ ลังบังคับเอาก็ได้
สิ่ งที่น่าสิ้ นหวังจริ ง ๆ ก็คือพวกเขาไม่สามารถเอาชนะเขาได้!
“ท่านต้องระวังให้มากนะ ฉูซินรุ่ ยไม่ใช่คนดีจริ ง ๆ ” เซียงป้าพูด
พร้อมกับมองจวินเสี ยอย่างเคร่ งเครี ยด
จวินอู๋เสี ยพยักหน้าและลุกขึ้นเดินออกไป
ชายร่ างสู งคนหนึ่งยืนอยูท่ ี่ประตูใหญ่ของตึกเพลิงพิโรธ นัน่ เป็ นคน
ที่จวินอู๋เสี ยเห็นที่งานวันเกิดเมื่อคืน เขาเป็ นคนที่ลากหลินเฟิ ง
ออกไปจากงานเลี้ยง จากการสํารวจของเย่ฉา พลังของชายคนนี้
แข็งแกร่ งที่สุดในคนทั้งสี่ รวมทั้งฉูซินรุ่ ยด้วย
“คุณชายจวิน” ชายคนนั้นยิม้ เมื่อเห็นจวินเสี ย แต่ในสายตาแหลมคม
คู่น้ นั ซ่อนแววดูถูกอยูจ่ าง ๆ
จวินอู๋เสี ยทําเป็ นไม่เห็นแววตาดูถูกที่ชายคนนั้นพยายามซ่อนไว้และ
พยักหน้าให้เขา
“เราคงต้องรบกวนคุณชายจวินให้เดินทางไปที่หอเมฆาสวรรค์ แม่
นางฉูบอกว่านางไม่มีโอกาสคุยกับคุณชายจวินดี ๆ เลย ก็เลยสัง่ ให้
เรามาเชิญท่านไปพบ” ชายคนนั้นพูดไปยิม้ ไป นํ้าเสี ยงก็ฟังดูอ่อน
น้อม แต่แววตาไม่มีความจริ งใจเลยสักนิด
“รบกวนท่านแล้ว” จวินอู๋เสี ยพูด
“คุณชายจวินเกรงใจเกินไปแล้ว ข้าชื่อเฉิ นจื้อ จะเป็ นคนพาคุณชาย
จวินไปที่นนั่ เอง” เฉิ นจื้อพูดด้วยรอยยิม้ สายตามองร่ างเล็ก ๆ ของ
จวินเสี ยอย่างประเมิน
[เจ้าเด็กกระจอกนี่คือจักรพรรดิแห่งแคว้นที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดใน
อาณาจักรล่างงั้นรึ ?]
จวินอู๋เสี ยจ้องมองไปที่เฉินจื้อ
เฉินจื้อถอนสายตาดูถูกออกแล้วยิม้ “มีอะไรงั้นหรื อ คุณชายจวิน?”
“ท่านแซ่เฉินงั้นหรื อ?” จวินอู๋เสี ยถามพร้อมกับขมวดคิว้
เฉินจื้อยิม้ และพยักหน้า
จวินอู๋เสี ยไม่พดู อะไรอีกและตามเฉินจื้อไปที่หอเมฆาสวรรค์
ประตูของหอเมฆาสวรรค์เปิ ดให้จวินอู๋เสี ยเข้าไปโดยไม่มีอุปสรรค
อะไรเลยแม้แต่นอ้ ย และจวินอู๋เสี ยก็ตรงขึ้นไปที่ช้ นั บนสุ ด
ที่ช้ นั บนมีกลิ่นหวาน ๆ อยูเ่ ข้มข้นและแรงกว่าเมื่อคืน ชายหนุ่มใน
ชุดบาง ๆ นัง่ และคุกเข่าอยูบ่ นพรมนุ่ม ๆ แสนหรู หราขณะที่ฉูซินรุ่ ย
นอนอยูบ่ นเก้าอี้ยาวอย่างที่เคย นางหรี่ ตาครึ่ งหนึ่งมองจวินเสี ย
ขณะที่เขาเดินเข้ามาช้า ๆ ท่าทางของนางดูยวั่ ยวนอย่างมาก ขายาว
เรี ยบเนียนคู่น้ นั โผล่วบั ๆ แวม ๆ อยูใ่ ต้ชุดของนาง
“คุณชายจวินมาแล้ว พวกเจ้าทุกคนออกไปได้” ฉูซินรุ่ ยพูดพลาง
โบกมือไล่พวกหนุ่ม ๆ รอบตัวนางออกไป
ตอนที่ 1047 เชิญ (3)
พวกหนุ่ม ๆ ออกไปจากห้องตามคําสัง่ ที่หอ้ งโถงชั้นบนสุ ดเหลือ
เพียงจวินอู๋เสี ย, ฉูซินรุ่ ย กับเฉินจื้อเพียงสามคนเท่านั้น จวินอู๋เสี ยนัง่
ลงบนเก้าอี้ ส่ วนเฉินจื้อก็ยนื อยูด่ า้ นหนึ่ง
“เมื่อคืนข้าเมามากเลยต้องไปพักเร็ วหน่อย ก็เลยไม่ได้คุยกับคุณชาย
จวินให้รู้เรื่ อง ช่างน่าอายจริ ง ๆ ” ฉูซินรุ่ ยพูดพลางมองจวินเสี ยอย่าง
เสี ยใจ ท่าทางของนางยัว่ ยวนมาก “เมื่อคืนข้าตั้งใจที่จะคุยกับ
คุณชายจวินให้มากกว่านี้ แต่หลินเฟิ งทําบรรยากาศเสี ยไปหมด
หลินเฟิ งเป็ นคนของเมืองพันอสู รเรา เขาล่วงเกินคุณชายจวินอย่าง
รุ นแรงเช่นนั้น ข้าหวังว่าคุณชายจวินจะไม่ถือสาหาความ”
พูดจบฉูซินรุ่ ยก็พยักหน้าให้เฉินจื้อ และเฉินจื้อก็ลงบันไดไปทันที
ครู่ หนึ่งเขาก็กลับมาพร้อมกับลากผูเ้ ยาว์ที่สวมเสื้ อผ้ามอซอเข้ามา
ด้วย
แขนขาของผูเ้ ยาว์คนนั้นถูกหักบิดอยูใ่ นมุมแปลก ๆ ตอนที่เขาถูก
เฉินจื้อลากตัวมา เลือดจากร่ างของเขาก็เปื้ อนพรมขนจิ้งจอกขาวเป็ น
ทางยาว มีห่วงเหล็กถูกล็อคอยูร่ อบคอของผูเ้ ยาว์คนนั้น โซ่หนา 2
นิ้วติดอยูก่ บั ห่วงเหล็กโดยที่ปลายอีกด้านอยูใ่ นมือของเฉิ นจื้อ ขาทั้ง
สองข้างหักและไม่สามารถเดินได้ มือทั้งสองก็ถูกบิดไว้ที่ดา้ นหลัง
ผูเ้ ยาว์คนนั้นทําได้แค่นอนให้เฉินจื้อลากตัวไปกับพื้นโดยที่ช่วย
ตัวเองไม่ได้
“หลินเฟิ งอายุเกือบ 18 แล้ว เขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ถ้าเขาทํา
ความผิดเขาก็ตอ้ งรับผิดชอบการกระทําของตัวเอง ไม่ทราบว่า
คุณชายจวินพอใจที่ขา้ ลงโทษเขาเช่นนี้หรื อไม่?” ฉูซินรุ่ ยพูดพร้อม
เอาเท้าลงมาที่พ้นื และเดินไปตรงหน้าผูเ้ ยาว์คนนั้นก่อนจะใช้เท้ายก
คางของเขาขึ้น
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นจวินอู๋เสี ยจึงเห็นหน้าของผูเ้ ยาว์คนนั้นได้อย่าง
ชัดเจน
ผูเ้ ยาว์คนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็ นคนที่ทาํ ให้ฉูซินรุ่ ยโกรธเมื่อคืน
หลินเฟิ ง!
แต่ตอนนี้หลินเฟิ งดูแตกต่างจากเมื่อวานโดยสิ้ นเชิง!
ใบหน้าที่จดั ได้วา่ หล่อเหลาเอาการตอนนี้เปื้ อนเลือดเต็มไปหมด
ดวงตาทั้งสองข้างถูกเย็บปิ ดเอาไว้ ริ มฝี ปากแห้งผากจนแตก มีเลือด
แห้งติดอยูท่ ี่มุมปาก ปากของเขาอ้าออกจนเห็นว่าฟันถูกกระแทกจน
หัก เหลือแค่รากฟันแตก ๆ ติดอยูท่ ี่เหงือก และลิ้นของเขาก็ถูกดึง
ออกไปหมด!
ถ้าไม่ใช่วา่ ใบหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนไป ใครจะไปคิดว่าคนที่ครึ่ ง
เป็ นครึ่ งตายคนนี้คือนายน้อยของตึกนํ้าค้างเหมันต์
จวินอู๋เสี ยมองสภาพของหลินเฟิ งอย่างเฉยเมย แค่คืนเดียวเท่านั้น ฉู
ซินรุ่ ยก็ทรมานหลินเฟิ งจนอยูใ่ นสภาพนั้น ในที่สุดจวินอู๋เสี ยก็เข้าใจ
แล้วว่าทําไมหลินชิวถึงสิ้ นหวังขนาดนั้นตอนที่เห็นเฉิ นจื้อปรากฏ
ตัวขึ้น
ตอนนั้นหลินชิวต้องรู ้แล้วว่าหากหลินเฟิ งตกอยูใ่ นมือของเฉิ นจื้อผล
ที่ออกมาจะเป็ นอย่างไร
แขนขาทั้งสี่ ถูกหัก ตามองไม่เห็น ปากพูดไม่ได้ หลินเฟิ งนอนกอง
อยูบ่ นพื้นอย่างสิ้ นไร้เรี่ ยวแรง เสี ยงครางด้วยความเจ็บปวดออกจาก
ลําคออันแห้งผากของเขาเบา ๆ
ฉูซินรุ่ ยแอบสังเกตปฏิกิริยาของจวินเสี ย และพบว่าปฏิกิริยาของจวิน
เสี ยนิ่งกว่าที่นางคิดเอาไว้มาก หลังจากเห็นสภาพของหลินเฟิ ง จวิน
เสี ยไม่ได้แสดงความตกใจหรื อหวาดกลัวออกมาเลย ดวงตาคู่น้ นั
ยังคงเย็นชาและเฉยเมยอย่างที่เคยเป็ น
“แม่นางฉูเชิญข้ามาที่นี่เพื่อให้ขา้ ดูสิ่งนี้เท่านั้นหรื อ?” จวินอู๋เสี ยหัน
หน้าไปพูดอย่างเย็นชา ไม่มีความสงสารเห็นใจหลินเฟิ งหรื อความ
หวาดกลัวในวิธีการอันโหดเหี้ ยมชัว่ ร้ายของฉูซินรุ่ ยเลยสักนิด
ฉูซินรุ่ ยเอามือปิ ดปากหัวเราะเบา ๆ “ไม่ใช่แน่นอน นัน่ เป็ นแค่การ
แสดงความจริ งใจของข้าให้คุณชายจวินเห็นเท่านั้น”
ตอนที่ 1048 กินเด็ก (1)
จวินอู๋เสี ยเลิกคิว้ ขึ้นข้างหนึ่ง
“ความจริ งใจ?”
ฉูซินรุ่ ยพูดว่า “คุณชายจวินลืมสิ่ งที่ขา้ พูดเมื่อวานไปแล้วหรื อ? แม้วา่
จักรพรรดิจะมีอาํ นาจมากที่สุดในแคว้น แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถ
หลบหนีความเสื่ อมถอยตามกาลเวลาได้ ถ้าคุณชายจวินเต็มใจช่วย
สนับสนุนให้ขา้ บรรลุเป้าหมายแล้วล่ะก็ ท่านจะสามารถทิ้งความ
กังวลที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดของจักรพรรดิไปได้ ที่ขา้ เอาตัวหลินเฟิ งมาให้
ท่านดูกเ็ พราะข้าอยากให้คุณชายจวินรู ้วา่ ข้าอยากร่ วมมือกับท่าน
อย่างจริ งใจจริ ง ๆ ถ้าท่านตกลง ท่านกับข้าก็จะเป็ นพวกเดียวกัน ใคร
ที่ดูหมิ่นท่านก็คือศัตรู ของข้า ต่อให้เป็ นคนของข้าเองข้าก็จะไม่ละ
เว้น” ฉูซินรุ่ ยพูดพร้อมกับเอนตัวเข้ามาหาจวินเสี ย
ร่ างกายที่มีสดั ส่ วนโค้งเว้าของนางอยูใ่ นชุดที่บางมาก ๆ นางอิงแอบ
ร่ างกับจวินเสี ย แววตาของนางดูยวั่ ยวนมาก
จวินอู๋เสี ยไม่มีท่าทีอะไรนอกจากมองฉูซินรุ่ ยที่อิงแอบร่ างนางอย่าง
เย็นชา
“คุณชายจวิน ท่านคิดเรื่ องนี้ต้ งั แต่เมื่อวานแล้วใช่ไหม? ท่านตกลง
ร่ วมมือกับข้ารึ เปล่า?” ฉูซินรุ่ ยพูดพลางมองไปที่จวินเสี ย
จวินอู๋เสี ยขมวดคิว้ เล็กน้อย มีกลิ่นหอมแปลก ๆ มาจากร่ างของฉูซิน
รุ่ ย จวินอู๋เสี ยขยับตัวออกห่างจากฉูซินรุ่ ยเล็กน้อย
“ข้าสงสัยว่าแม่นางฉูคาดหวังความช่วยเหลือแบบไหนจากข้า?”
ฉูซินรุ่ ยสังเกตเห็นจวินเสี ยหลีกเลี่ยงนางก็รู้สึกไม่พอใจ แต่คาํ ถาม
ของจวินเสี ยก็ดึงความสนใจของนางมาได้อย่างรวดเร็ ว
“ข้ามีแผนที่อยูฉ่ บับหนึ่ง บนแผนที่น้ นั ระบุที่ต้ งั ของขุมทรัพย์ที่มีค่า
มหาศาล แต่แผนที่น้ นั ไม่สมบูรณ์ ข้าจึงมีแค่สถานที่คร่ าว ๆ ของ
ขุมทรัพย์น้ นั เท่านั้น ไม่สามารถระบุตาํ แหน่งที่แน่นอนได้ ถ้า
คุณชายจวินใช้อาํ นาจของแคว้นหยานช่วยข้าค้นหาที่ต้ งั ขุมทรัพย์น้ นั
ถึงงานจะยังไม่สาํ เร็ จแต่ขา้ ก็จะสอนคุณชายจวินถึงวิธีที่จะกลายเป็ น
ผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วงให้ และหลังจากหาสมบัติเจอแล้ว ข้าก็จะ
แบ่งสมบัติให้คุณชายจวินด้วย”
จวินอู๋เสี ยมองฉูซินรุ่ ยที่ปากหวานรื่ นหูแต่แอบซ่อนมีดไว้ขา้ งหลัง
แล้วก็หวั เราะอยูใ่ นใจอย่างเย็นชา สมบัติรึ? นัน่ ต้องอุบายตื้น ๆ ที่คน
ของสิ บสองวิหารใช้หลอกคนในอาณาจักรล่างแน่ ขุมทรัพย์ที่พวก
เขาพูดถึงก็คือสุ สานจักรพรรดิแห่งความมืด แล้วพวกเขามาพูดว่าจะ
แบ่งผลประโยชน์กนั เนี่ยนะ ตลกสิ้ นดี
เพื่อให้ได้สมบัติในสุ สานจักรพรรดิแห่งความมืดมา พวกสิ บสอง
วิหารถึงกับไม่ยอมร่ วมมือกับวิหารอื่น ๆ พวกเขามีแผนที่ที่เกือบ
สมบูรณ์อยูแ่ ล้ว แต่ดว้ ยความละโมบอยากได้สมบัติท้ งั หมด จึงยอม
ใช้เวลาให้มากขึ้นและลงแรงมากขึ้น แต่ไม่ยอมร่ วมมือกัน
ถ้าพวกเขาหาที่ต้ งั ของสมบัติได้จริ ง ๆ สิ่ งที่แรกที่พวกเขาจะทําก็คือ
ปิ ดปากทุกคนซะ ไม่มีทางที่พวกเขาจะทําตามคําพูดด้วยการแบ่ง
สมบัติให้ใครแน่นอน
คําพูดของฉูซินรุ่ ยจึงน่าหัวเราะสําหรับจวินอู๋เสี ยมาก นางไม่เข้าใจ
จริ ง ๆ ว่าคนที่แข็งแกร่ งมากมายทัว่ แผ่นดินถูกกลลวงเด็ก ๆ ของสิ บ
สองวิหารหลอกเอาได้ยงั ไง ถึงได้ขายชีวติ ให้พวกสิ บสองวิหารไป
แบบโง่เขลาเช่นนั้น
พวกเขาคิดว่าอยูด่ ี ๆ ก็มีโอกาสได้ความรํ่ารวยที่เกินจินตนาการและ
ความแข็งแกร่ งที่ไม่มีใครเทียบได้ ไม่รู้เลยว่าสุ ดท้ายแล้วพวกเขาก็
จะสู ญเสี ยกระทัง่ ชีวติ ของตัวเอง
จวินอู๋เสี ยไม่รู้จะหาคําไหนมาบรรยายความฉลาดของคนพวกนั้นดี
“ถ้าเป็ นเรื่ องแบบนี้ ทําไมแม่นางฉูถึงต้องการข้าล่ะ? ความแข็งแกร่ ง
ของเมืองพันอสู รก็น่าจะเพียงพอที่จะจัดการได้แล้วไม่ใช่หรื อ?”
จวินอู๋เสี ยตอบโดยไม่ยอมยืนยันตกลงอะไรทั้งนั้น
ฉูซินรุ่ ยย่อมไม่ดูถูกคนของตัวเองอยูแ่ ล้ว นางพูดว่า “เมืองพันอสู ร
อาจจะเพียงพอทําภารกิจได้สาํ เร็ จ แต่พอข้าเห็นภาพวาดของคุณชาย
จวินเท่านั้น แม้วา่ คุณชายจวินจะยังเด็ก แต่รัศมีความยิง่ ใหญ่ใน
ฐานะผูค้ รองแคว้นของท่านช่างพิเศษจนประทับใจข้าเหลือเกิน”
ตอนที่ 1049 กินเด็ก (2)
เจ้าแมวดําตัวน้อยที่จวินอู๋เสี ยอุม้ ไว้ในอ้อมแขนได้ยนิ คําพูดของฉู
ซินรุ่ ยก็แทบจะระเบิดออกมาด้วยความโกรธ
[นรกบ้าอะไรเนี่ย!]
[ยัยแม่มดแก่นี่คิดจะยัว่ ยวนนายหญิงของมัน!]
[เสื่ อมสุ ด ๆ !]
[ยัยแก่นี่เป็ นพวกกินเด็กชัด ๆ !]
ถ้าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่พวกเขาจะตอบโต้ล่ะก็ เจ้าแมวดํา
คงกระโจนเข้าข่วนหน้าฉูซินรุ่ ยให้เป็ นกระดานหมากรุ กแล้ว
ฉูซินรุ่ ยใช้คาํ พูดได้โจ่งแจ้งตรงไปตรงมามาก ต่อให้จวินอู๋เสี ยหัวทึบ
กับเรื่ องพวกนี้แค่ไหน นางก็ยงั จับความนัยของฉูซินรุ่ ยได้
ทั้งชาติก่อนและชาติน้ ีของนาง นี่เป็ นครั้งแรกที่มีคนมาสารภาพว่า
ชอบนาง แถมคนนั้นยังเป็ นหญิงชราซะอีก ไม่ได้ทาํ ให้จวินอู๋เสี ย
รู ้สึกยินดีที่มีคนมา ‘สารภาพรัก’ เลย
“คุณชายจวิน ทําไมท่านไม่พดู อะไรเลยล่ะ? อย่าบอกข้านะว่าคุณชาย
จวินคิดว่าข้าดีไม่พอ?” ฉูซินรุ่ ยถามพลางมองจวินเสี ยหงอย ๆ สี หน้า
นางดูเจ็บปวด แต่ในใจนางนั้น นางมัน่ ใจในตัวเองมาก รู ปร่ างหน้าตา
ของนางจัดว่าเป็ นหนี่งในคนที่งดงามชวนหลงใหลที่สุดในเมืองพัน
อสู ร และจวินเสี ยก็เป็ นเพียงเด็กน้อยที่ยงั ไม่บรรลุนิติภาวะและไม่มี
ประสบการณ์ แม้วา่ เขาได้ข้ ึนครองบัลลังก์เป็ นผูค้ รองแคว้น แต่เขาก็
ยังอ่อนประสบการณ์ และด้วยเล่ห์เหลี่ยมของนาง ชายใดจะรอด
เงื้อมมือนางไปได้?
ตอนแรกจวินอู๋เสี ยคิดจะยืดเวลาอยูฉ่ ูซินรุ่ ยให้นานขึ้น แต่ไม่รู้เพราะ
อะไร จู่ ๆ นางก็รู้สึกว่าไม่อยากจะแสร้งทําเป็ นมีมารยาทกับฉูซินรุ่ ย
ต่อแล้ว
นางลุกขึ้นยืนทันทีและมองฉูซินรุ่ ยที่ดูปวกเปี ยกเหงาหงอยแล้วพูด
ว่า “ข้าจะพิจารณาข้อเสนอของแม่นางฉูอย่างจริ งจัง ตอนนี้ขา้ มีธุระ
ต้องทํา ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวกลับก่อน” พูดจบจวินอู๋เสี ยก็ไม่
รอให้ฉูซินรุ่ ยตอบและทําท่าจะจากไป
แต่แล้วเฉินจื้อก็เข้ามาขวางทางนางไว้ทนั ที รอยยิม้ เสแสร้งแบบเดิม
ยังคงประดับอยูบ่ นใบหน้าของเขา
ฉูซินรุ่ ยประหลาดใจอยูค่ รู่ หนึ่ง นางไม่คิดว่านางพยายามยัว่ ยวน
อย่างเปิ ดเผยและเชื้อเชิญถึงขนาดนี้ จวินเสี ยยังไม่มีปฏิกิริยากับนาง
เลยแม้แต่นอ้ ย แถมยัง…เขายังแสดงท่าว่าทนรอที่จะหลบเลี่ยงนาง
ไปมากกว่านี้ไม่ไหวแล้ว
ฉูซินรุ่ ยที่มนั่ ใจในเสน่ห์ของตัวเองอย่างเต็มที่อยูเ่ สมอต้องใช้เวลา
สักพักกว่าจะได้สติวา่ เกิดอะไรขึ้น นางเงยหน้าขึ้นมองจวินเสี ยที่ถูก
เฉินจื้อขวางทางอยู่ สายตาของนางทอแววโกรธเคือง
ไม่เคยมีชายคนไหนเมินความงามของนางเลยสักคน!
ฉูซินรุ่ ยเดินช้า ๆ ที่ยนื อยูข่ า้ ง ๆ จวินเสี ย แขนทั้งสองของนางยกขึ้น
วางบนบ่าของจวินเสี ย
“จวินที่รัก ท่านจะจากไปแบบนี้น่ะหรื อ? ไม่อยากคุยกับข้ามาก
ขนาดนั้นเชียว?” ฉูซินรุ่ ยพูดพลางมองจวินเสี ยอย่างเสี ยใจ ดูเหมือน
นางจะเอาร่ างของนางมาแนบกับหลังของจวินเสี ยทั้งตัว
นางมีรูปร่ างสู งกว่าจวินเสี ย และเมื่อนางกอดจวินเสี ยจากด้านหลัง
จวินอู๋เสี ยก็สามารถรู ้สึกถึงส่ วนโค้งส่ วนเว้าของนางได้อย่างชัดเจน
จวินอู๋เสี ยรู ้สึกเย็นวาบไปทัว่ ร่ าง นางพยายามฝื นตัวเองให้สงบลง
“ข้ามีธุระต้องไปทํา” จวินอู๋เสี ยพูดอย่างเย็นชา
ฉูซินรุ่ ยกระพริ บตาและเอนมาบนไหล่ของจวินเสี ย จากนั้นนางก็จุ๊บ
ไปที่แก้มของจวินเสี ยโดยไม่ให้ต้ งั ตัวเหมือนกับฟ้าผ่าที่ไม่อาจปิ ดหู
ได้ทนั
จวินอู๋เสี ยตัวแข็งทื่ออยูก่ บั ที่
ฉูซินรุ่ ยมองสี หน้าอึ้ง ๆ ของจวินอู๋เสี ยแล้วก็ยมิ้ อยูใ่ นใจ อย่างที่คาด
เด็กน้อยนี่ยงั ไร้เดียงสามาก ๆ
“เอาล่ะ ในเมื่อที่รักของข้ามีธุระต้องไปทํา งั้นข้าก็จะไม่ร้ ังท่านไว้อีก
ท่านควรคิดเรื่ องที่เราคุยกันให้เร็ ว ๆ อย่าทําให้ขา้ กระวนกระวาย
เกินไปนัก” ทันทีที่พดู จบฉูซินรุ่ ยก็ปล่อยมือและพยักหน้าส่ ง
สัญญาณให้เฉิ นจื้อ
เมื่อหลุดรอดจากเงื้อมมือของฉูซินรุ่ ยมาได้ จวินอู๋เสี ยก็กระพริ บตา
ช้า ๆ แววตาของนางดูมึนงงเล็กน้อย หลังจากที่เฉิ นจื้อถอยออกไป
จวินอู๋เสี ยก็อุม้ เจ้าแมวดําไว้แล้วทําหน้านิ่งไร้ความรู ้สึกพร้อมกับเดิน
ลงบันไดไป
เจ้าแมวดําขดตัวอยูใ่ นอ้อมแขนของจวินอู๋เสี ย มันเงยหน้าขึ้นมอง
นายหญิงของมัน สี หน้าของนางดูประหลาดมาก
[จบกัน จบสิ้ นกันแล้ว!]
นายหญิงที่บริ สุทธิ์ผดุ ผ่องไร้มลทินของมันถูกยัยแม่มดแก่เอาเปรี ยบ
ซะแล้ว!
ตอนที่ 1050 กินเด็ก (3)
เมื่อจวินอู๋เสี ยเดินออกจากหอเมฆาสวรรค์ ใบหน้าของนางก็ไม่
ปรากฏความรู ้สึกใด ๆ สติของนางดูเหมือนจะถูกแช่แข็งไปแล้ว
ดวงตาของนางมองตรงไปข้างหน้าอย่างเดียวเท่านั้น
เจ้าดําน้อยรู ้สึกตื่นตระหนกเล็ก ๆ มันยกอุง้ เท้าขึ้นมาตะปบที่มือ
ของจวินอู๋เสี ย
“เหมียว”
[นายหญิง เป็ นอะไรไป? อย่าทําให้ขา้ กลัวแบบนี้ซิ!]
จวินอู๋เสี ยไม่ตอบ นางเร่ งฝี เท้าขึ้นและเดินตรงไปที่ตึกเพลิงพิโรธ
อย่างรวดเร็ ว
ในตึกเพลิงพิโรธ เซียงป้ากับชิงหยูกาํ ลังรอให้จวินเสี ยกลับมา และ
หลังจากรออยูน่ าน ในที่สุดพวกเขาก็เห็นจวินเสี ยเดินทําหน้านิ่งเข้า
มา ทั้งสองคนตั้งท่าจะถามจวินเสี ยว่าฉูซินรุ่ ยพูดอะไรกับเขาบ้าง
แต่ยงั ไม่ทนั ได้เอ่ยปาก จวินเสี ยก็เดินผ่านพวกเขาไปเหมือนสายลม
หอบหนึ่งและหายลับไปจากสายตา
ชายทั้งสองยืนงงอยูท่ ี่ประตูใหญ่ของตึกเพลิงพิโรธ รู ้สึกแปลกใจ
และตกใจอย่างมาก
“เกิดอะไรขึ้นกับจวินเสี ย? ดูท่าทางแปลก ๆ ” เซี ยงป้าพูด เขายังคง
ยืนงงอยูท่ ี่ประตู เมื่อเห็นจวินเสี ยทําท่าทางแบบนี้ เซียงป้าก็คิดว่า
ต้องมีเรื่ องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ เขาอยากตามไปถามจวินเสี ยแต่ชิงหยูก็
ห้ามเขาไว้
“อะไร?” เซียงป้าถาม
ชิงหยูถอนใจแล้วพูดว่า “ข้าคิดว่าคุณชายจวินคงไม่อยากให้ใครไป
รบกวนเขาตอนนี้หรอกขอรับ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริ ง เราน่าจะรอ
จนถึง…ตอนบ่ายแล้วค่อยไปดูกนั ขอรับ”
ปกติจวินเสี ยจะมีสีหน้าเย็นชาอยูเ่ สมอ แต่วนั นี้ชิงหยูสงั เกตเห็นว่าสี
หน้าของจวินเสี ยผิดปกติไป เป็ นความเย็นชาผสมความตื่นตกใจ
สัญชาตญาณบอกเขาว่าไม่ควรไปถามอะไรจวินเสี ยในตอนนี้
เซียงป้าใคร่ ครวญอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะตัดสิ นใจเชื่อชิงหยูพร้อมกับด่า
ฉูซินรุ่ ยในใจอีกล้านรอบ
จวินอู๋เสี ยเดินกลับเข้าไปในห้องของนางอย่างรวดเร็ วและปิ ดประตู
เสี ยงดัง ท่านแบะแบะกับกระต่ายโลหิ ตเดินส่ ายหางเข้ามาทําท่า
น่ารักเพื่อขอให้กอด แต่ท้ งั คู่กถ็ ูกจวินอู๋เสี ยเมิน นางวางเจ้าแมวดําลง
แล้วเข้าไปในห้องนํ้าเพื่อตักนํ้าจากถังไม้เทลงในอ่างไม้
จวินอู๋เสี ยทานํ้ายาบางอย่างลงบนใบหน้าและเปลี่ยนกลับเป็ นหน้าตา
เดิมของนาง จากนั้นก็ตกั นํ้าเย็น ๆ สาดลงที่หน้าของตัวเองทันที ฤดู
ใบไม้ผลิยงั ไม่ผา่ นไป อากาศจึงยังเย็นอยู่ นํ้าก็เย็นจนเหมือนนํ้าแข็ง
แต่ดูเหมือนจวินอู๋เสี ยจะไม่ได้สงั เกตเลย เอาแต่ตกั นํ้ามาล้างหน้าที่
ขาวเนียนของตัวเอง
ผิวขาวราวหิ มะนั้นเปลี่ยนเป็ นสี แดงอย่างรวดเร็ วจากการถูกนํ้าที่เย็น
จนเหมือนนํ้าแข็งกัดเอา แต่ดูเหมือนจวินอู๋เสี ยยังไม่อยากหยุด
“แบะ…” ท่านแบะแบะมองการกระทําที่ผดิ ปกติของคนให้อาหาร
ของมันแล้วถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างหวาดกลัว สัญชาตญาณสัตว์
อันแหลมคมของมันทําให้มนั รู ้สึกว่าบรรยากาศของจวินอู๋เสี ย
ผิดปกติไป
กระทัง่ เจ้ากระต่ายโลหิ ตก็ไม่กล้าทําเสี ยงดัง มันยืนกอดหูใหญ่ ๆ
ของตัวเองพร้อมกับเงยหน้ามองจวินอู๋เสี ย
เจ้าแมวดํากัดฟันแล้วกระโจนขึ้นไปบนชั้นวางของข้าง ๆ จวินอู๋เสี ย
“ท่านจะล้างหน้าแบบนี้ต่อไปไม่ได้นะ” เจ้าแมวดําร้องออกมาอย่าง
ร้อนใจ นํ้าเย็นจัดขนาดนี้ ถ้าจวินอู๋เสี ยยังคงล้างหน้าแบบนี้ต่อไป
หน้าของนางได้ถูกความเย็นกัดเอาแน่
จวินอู๋เสี ยมองอ่างไม้ตรงหน้าอย่างไม่รู้ตวั มือของนางยังไม่หยุดล้าง
หน้าเลยสักนิด
ความรู ้สึกเดียวของนางในตอนนี้กค็ ือ ขยะแขยง
นางขยะแขยงมากจนอยากจะลอกผิวทั้งหน้าออกมาล้างจนกว่าจะ
สะอาดหมดจด
คําอ้อนวอนไม่หยุดของเจ้าแมวดําไม่มีประโยชน์เลย มันทําอะไร
ไม่ได้นอกจากร้องครางออกมาอย่างกระวนกระวาย
มันรู ้นิสยั ของจวินอู๋เสี ยดีกว่าใคร นางเกลียดการมีปฏิสมั พันธ์ทาง
กายกับคนอื่นมากที่สุด ไม่ตอ้ งพูดถึงการถูกยัยแม่มดแก่น่ารังเกียจ
นัน่ จูบเอาเลย! จวินอู๋เสี ยที่แทบจะเรี ยกได้วา่ หมกมุ่นเรื่ องความ
สะอาดต้องแทบเป็ นบ้าตายเอาแน่ ๆ !
“น้องเสี ย เจ้าสัญญากับข้าแล้วไม่ใช่หรื อว่าจะดูแลตัวเองให้ดี ๆ
น่ะ?”
ตอนที่ 1051 เจ้ าไม่ เย็นเหรอ? แต่ ข้าเย็น (1)
จู่ ๆ ก็มีเสี ยงห้าวดังขึ้นในห้อง จวินอู๋เสี ยที่ยนื อยูใ่ นห้องนํ้าหยุดชะงัก
ทันที นางยืนนิ่งอยูก่ บั ที่ สายตายังจ้องมองไปที่มือที่กลายเป็ นสี แดง
ซึ่ งยังจุ่มอยูใ่ นนํ้าเย็นเจี๊ยบนั้น
มือที่ดูสวยงามสะอาดสะอ้านยืน่ มาตรงหน้าจวินอู๋เสี ย ข้อมือเรี ยวแต่
แข็งแรง มือใหญ่ที่อบอุ่นนั้นยืน่ ลงไปในนํ้าและดึงเอามือเล็ก ๆ ของ
จวินอู๋เสี ยที่เย็นจัดออกจากนํ้า
มือคู่น้ นั เย็นมากจนแทบไม่รู้สึกอะไรแล้ว มันถูกมือใหญ่จบั เอาไว้
แน่น ความอบอุ่นซึมซาบขับไล่ความเย็นออกไปอย่างช้า ๆ
“มันเย็นมากเลยนะ เจ้าไม่รู้สึกเย็นเลยหรื อ?” ชายผูม้ ีใบหน้างดงาม
สมบูรณ์แบบมองใบหน้าเล็ก ๆ ที่กม้ ลงเล็กน้อยนั้นอย่างเคร่ งขรึ ม
ใบหน้าขาวเนียนแดงไปทั้งหน้า
“ไม่เป็ นไร” จวินอู๋เสี ยพูดเสี ยงเบาและยังก้มหน้าอยู่
“แต่ขา้ เย็น”
จวินอู๋เสี ยไม่ตอบ
วินาทีต่อมานางก็ถูกดึงเข้าไปอยูใ่ นอ้อมกอดอันอบอุ่น มือเย็นทั้งคู่
วางลงบนหน้าอกอุ่นนั้น มือใหญ่ของเขาจับมือเล็ก ๆ คู่น้ นั แล้วดึง
เอาไปไว้ใต้ชุด
ความอบอุ่นที่รู้สึกอยูท่ ี่ปลายนิ้วทําให้จวินอู๋เสี ยได้สติกลับมาทันที
นางเงยหน้าขึ้นและใบหน้าของจวินอู๋เหยาก็สะท้อนอยูใ่ นดวงตาใส
กระจ่างของนาง
จวินอู๋เสี ยอยากจะเอามือออกจากหน้าอกของจวินอู๋เหยาตาม
สัญชาตญาณ แต่เรี่ ยวแรงอันน้อยนิดของนางไม่มีประโยชน์เมื่ออยู่
ต่อหน้าเขา จวินอู๋เสี ยไม่สามารถทําอะไรได้นอกจากปล่อยให้มือ
ของนางแนบอยูบ่ นหน้าอกของเขา
ความอบอุ่นและความเย็นเยียบผสานเข้าด้วยกัน ความร้อนและ
ความเย็นถูกส่ งผ่านระหว่างคนทั้งคู่ดว้ ยอ้อมกอดนั้นทําให้อุณหภูมิ
กลับเป็ นปกติ
“เย็น” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับขมวดคิว้ และอยากจะดึงมือออก มือ
ของนางเย็นมากแค่ไหนนางย่อมรู ้ดี
จวินอู๋เหยาก้มหน้าลงมองใบหน้าเล็ก ๆ สี แดงนั้นพร้อมรอยยิม้ กว้าง
มืออีกข้างของเขาจับใบหน้านั้นอย่างอ่อนโยนและพบว่ามันเย็นเฉี ยบ
ใบหน้าของนางยังคงเปี ยกอยูเ่ ล็กน้อย นํ้าเย็นเจี๊ยบนั้นได้ทาํ ให้ความ
อุ่นที่ใบหน้าของนางหายไป
“เจ้าเพิ่งรู ้วา่ มันเย็นเนี่ยนะ ทําไมเมื่อกี้ขา้ ไม่เห็นเจ้าหลบมันเลย?”
จวินอู๋เหยาถามจวินอู๋เสี ยพร้อมกับเลิกคิว้
จวินอู๋เสี ยชะงักนิ่ง นางก้มหน้าลงไม่ยอมพูดอะไร
จวินอู๋เหยาเห็นว่าจวินอู๋เสี ยมีท่าทางผิดปกติ เขาจากไปพักเดียว พอ
กลับมาก็เจอน้องเสี ยของเขาทําท่าทางแปลก ๆ ซะแล้ว
เมื่อก่อนพอพวกเขาเจอกัน ใบหน้าเล็ก ๆ นี้จะแดงระเรื่ อเล็กน้อย แต่
ไม่ใช่เพราะความเย็นยะเยือกแบบนี้ แต่เป็ นเพราะความอบอุ่น
ต่างหาก แต่คราวนี้ไม่เพียงแต่ผวิ หนังของนางที่เย็น แววตาของนาง
ก็ดูหงุดหงิดขุ่นมัว ดวงตาของนางทําให้เขานึกถึงตอนแรกที่เจอกับ
นางที่มีพษิ สงเหมือนกับเม่นตัวน้อย แต่เมื่อเวลาผ่านไป สายตาที่
นางมองเขาก็ไม่เย็นชาและเหิ นห่างอีกแล้ว แล้วทําไมวันนี้มนั ถึงดู
ต่างไปล่ะ?
จวินอู๋เหยากอดจวินอู๋เสี ยเอาไว้และใช้ความอบอุ่นจากร่ างกายของ
เขาขับไล่ความหนาวเย็นออกไปจากตัวนาง จากนั้นเขาก็หนั หน้าไป
เล็กน้อย สายตาของเขาตวัดมองไปที่เจ้าแมวดํา
เจ้าแมวดําตัวสัน่ ทันที มันเห็นว่าแววตาของจวินอู๋เหยาทั้งอ่อนโยน
และอ่อนหวานกับนายหญิงของมัน แต่ทาํ ไมพอมองมาที่มนั สายตา
คู่น้ นั ถึงได้น่าสะพรึ งกลัวราวกับจ้าวแห่งปี ศาจแบบนั้นล่ะ?
เจ้าแมวดําเข้าใจทันทีวา่ สายตาของจวินอู๋เหยาหมายความว่าอย่างไร
เขาจะไม่บงั คับจวินเสี ยให้บอกเขา แต่ไม่ได้หมายความว่าตัวมันจะ
ไม่โดน!
เจ้าแมวดําตัวน้อยไม่มีทางเลือก จึงพูดทุกอย่างที่มนั รู ้ออกมา
“เอ่อ…เมื่อกี้…ยัยแม่มดแก่จูบนายหญิงไปทีนึง”
ตอนที่ 1052 เจ้ าไม่ เย็นเหรอ? แต่ ข้าเย็น (2)
ดวงตาของจวินอู๋เหยาลุกวาบด้วยความโกรธอย่างรุ นแรงทันที!
ถึงเจ้าแมวดําจะรู ้วา่ ความโกรธนั้นไม่ได้พงุ่ ตรงไปที่มนั แต่กย็ งั ทํา
ให้มนั ต้องกลั้นหายใจทันทีที่จวินอู๋เหยามองมา มันคิดว่ามันจะต้อง
ตายแน่แล้ว!
จวินอู๋เหยาหรี่ ตาอย่างน่ากลัว เขายกมือขึ้นเชยคางของจวินอู๋เสี ย
แล้วทันใดนั้นสายตาอํามหิ ตน่าสะพรึ งกลัวของเขาก็หายไปไม่เหลือ
ร่ องรอย มีเพียงรอยยิม้ จาง ๆ อยูบ่ นใบหน้าของเขาเท่านั้น
“ก็แค่ยยั แม่มดแก่ ถึงยังไงน้องเสี ยก็เป็ นผูห้ ญิง จูบของผูห้ ญิงทําให้
เจ้าว้าวุน่ ใจได้ขนาดนี้เชียวหรื อ?” จวินอู๋เหยาล้ออย่างอ่อนโยน
จวินอู๋เสี ยส่ ายหน้า
“ก็ขยะแขยงนี่”
จวินอู๋เสี ยไม่รู้วา่ ทําไมนางถึงรู ้สึกต่อต้านอย่างรุ นแรงขนาดนี้ จูบ
ไม่ใช่เรื่ องแปลกสําหรับนางอีกแล้ว เนื่องจากทุกครั้งที่จวินอู๋เหยา
กับนางพบกัน เขาจะจูบที่หน้าผากนางเสมอ นางไม่รู้สึกอึดอัดหรื อ
กระอักกระอ่วนกับจูบของจวินอู๋เหยาเลยสักนิด แต่กลับรู ้สึกว่ามัน
เป็ นธรรมชาติอย่างที่มนั ควรจะเป็ น แต่พอริ มฝี ปากของฉูซินรุ่ ยแตะ
ลงที่ใบหน้าของนาง นางก็รู้สึกขยะแขยงจนแทบจะอาเจียนออกมา
ตรงนั้น
ความรู ้สึกนั้นรุ นแรงมากจนอยากฉีกหน้าของตัวเองออกมาเลย
จวินอู๋เหยาถามพร้อมกับหัวเราะ “จูบตรงไหนล่ะ?”
จวินอู๋เสี ยชี้ไปที่แก้มของนาง
โดยไม่รอให้นางเอามือออก จวินอู๋เหยาก็กม้ หน้าลงไปตรงที่นางชี้
อยูแ่ ละจูบอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน ริ มฝี ปากนุ่มและอบอุ่นสัมผัส
ที่แก้มและปลายนิ้วของนาง
“ยังขยะแขยงอยูไ่ หม?” จวินอู๋เหยาถามแล้วส่ งยิม้ กว้างสดใสให้
จวินอู๋เสี ย
จวินอู๋เสี ยนิ่งอึ้งไปชัว่ ครู่ ขณะมองรอยยิม้ อันคุน้ เคยและปลอบโยน
ของจวินอู๋เหยา ความรู ้สึกขยะแขยงหายไปทันที กลับรู ้สึกตัวอ่อน
ปวกเปี ยกแทน
นางส่ ายหน้าโดยไม่พดู อะไร
จวินอู๋เหยาจับใบหน้าเล็ก ๆ ของนางแล้วยิม้ ล้อเลียนพร้อมกับถามว่า
“ไม่รังเกียจจูบของข้าใช่ไหม?”
จวินอู๋เสี ยคิดอยูค่ รู่ หนึ่งแล้วพยักหน้าอย่างจริ งจัง
จวินอู๋เหยาระเบิดเสี ยงหัวเราะอย่างปลื้มอกปลื้มใจออกมาทันที
พร้อมกับกอดจวินอู๋เสี ยไว้แน่น
“ถ้าไม่ขยะแขยง งั้นข้าจะจูบอีกให้เจ้าลืมจูบก่อนหน้านี้ไปเลย”
แล้วจวินอู๋เหยาก็ฉวยโอกาสจูบจวินอู๋เสี ยเบา ๆ ไปอีกสองสามครั้ง
จวินอู๋เสี ยยังคงหน้าแดง แต่มนั ไม่เย็นอีกแล้ว ตอนนี้มนั กลับอุ่น
เล็กน้อยแทน
ความรู ้สึกจาง ๆ ในใจนางเมื่อก่อนนี้รุนแรงขึ้น นางไม่คิดว่าจะทน
ความหนาวเย็นไม่ได้ แต่ไม่รู้ทาํ ไมจู่ ๆ นางก็รู้สึกปรารถนาอ้อมกอด
อันอบอุ่นของจวินอู๋เหยาและไม่อยากออกจากอ้อมกอดนี้เลย
เป็ นไปได้ไหมว่า…ความเย็นจากนํ้าที่เย็นยะเยือกนัน่ เพิ่งจะมาถึง
นาง?
จวินอู๋เสี ยพยายามคิดหาเหตุผลอย่างหนัก
“ข้าเห็นข้อความที่เย่ฉาส่ งมาให้” จู่ ๆ จวินอู๋เหยาก็พดู ขึ้น
จวินอู๋เสี ยมองจวินอู๋เหยาอย่างสับสน นางรู ้วา่ บางครั้งเย่ฉาก็ส่งข่าว
ให้จวินอู๋เหยารู ้ถึงสถานการณ์ปัจจุบนั ของพวกเขาด้วยงูดาํ แต่…นาง
แทบจะไม่ได้ข่าวจากจวินอู๋เหยาเลย
นางไม่รู้วา่ ในแต่ละวันจวินอู๋เหยาทําอะไรบ้าง เมื่อก่อนนางก็ไม่
สนใจหรอก แต่ตอนนี้…นางรู ้สึกอยากรู ้ข้ ึนมาบ้างแล้ว
“เขาบอกว่าเจ้าคิดถึงข้า?” เสี ยงของจวินอู๋เหยาแหบเล็กน้อย ดวงตาสี
ดําสนิทมองตรงไปที่จวินอู๋เสี ยโดยไม่ยอมละสายตา เขามองลึกเข้า
ไปในดวงตาของนางและเห็นเงาสะท้อนของตัวเองอยูใ่ นนั้น
ไม่มีคนอื่นอยูใ่ นดวงตาของนาง มีเพียงแต่เขาคนเดียวเท่านั้น
จวินอู๋เสี ยอ้าปากแต่กพ็ ดู ไม่ออก นางทําได้แค่พยักหน้ายอมรับอย่าง
เงียบ ๆ
ดวงตาสี ดาํ สนิทของจวินอู๋เหยาเป็ นประกายขึ้นมาทันที ในดวงตาสี
ดําคู่น้ นั มีประกายสี ม่วงปรากฏขึ้น
“ท่าน…ไปอยูไ่ หนมา?” จวินอู๋เสี ยถามขึ้น นางมองจวินอู๋เหยาด้วย
สายตาจริ งจัง
ตอนที่ 1053 เจ้ าไม่ เย็นเหรอ? แต่ ข้าเย็น (3)
จวินอู๋เหยามีสีหน้าแปลก ๆ แวบนึง จวินอู๋เสี ยไม่เคยถามอะไรเขา
เลยสักครั้ง เขาเป็ นใคร เขามักจะไปที่ไหนในแต่ละวัน นางไม่เคย
ถามเขาเลย แต่วนั นี้นางถามแล้ว
จวินอู๋เสี ยยังคงมองเขาอย่างจริ งจัง
จวินอู๋เหยาไม่ได้ไม่พอใจในคําถามของนาง แต่เขากลับยิม้ มากขึ้น
แทน
“ข้าต้องไปทําธุระบางอย่าง และตอนนี้กจ็ ดั การเรี ยบร้อยแล้ว” นี่เป็ น
ครั้งแรกที่จวินอู๋เสี ยถามเรื่ องของเขา เขาจะเข้าใจว่าเด็กน้อยเริ่ มสนใจ
เรื่ องที่เกี่ยวกับเขาแล้วได้ไหม?
“ยังต้องไปอีกไหม?” จวินอู๋เสี ยอดถามไม่ได้
“ไม่ใช่เร็ ว ๆ นี้หรอก” จวินอู๋เหยาตอบพลางมองจวินอู๋เสี ย ดวงตาสี
ดําสนิทเปลี่ยนเป็ นสี ม่วง ดวงตาสี ม่วงนั้นสะท้อนภาพของจวินอู๋เสี ย
ราวกับอยากฝังภาพนั้นให้เข้าไปในจิตวิญญาณของเขาตลอดกาล
หลังจากนั้นจวินอู๋เสี ยก็ไม่พดู อะไรอีก
จวินอู๋เหยาอุม้ นางขึ้นและเดินไปนัง่ ที่เก้าอี้ จากนั้นก็วางนางลงบน
ตักของเขา มือข้างหนึ่งจับใบหน้าเล็ก ๆ ของนาง สายตามองสํารวจ
ทุกส่ วนอย่างละเอียด
“ไม่อยากให้ขา้ ไปหรื อ?” เสี ยงของจวินอู๋เหยาข่มกลั้นเล็กน้อย
จวินอู๋เสี ยมองเขาอย่างลังเลอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนจะพยักหน้าน้อย ๆ หนึ่ง
ครั้ง
“งั้นข้าก็จะไม่ไป” จวินอู๋เหยาพูดขึ้นทันที
จวินอู๋เสี ยทําตาโตมองใบหน้าที่มีรอยยิม้ กว้างของจวินอู๋เหยา
“ท่านมีธุระที่ตอ้ งไปจัดการนี่” นางแค่คิดเท่านั้น ไม่ได้คาดว่าเขาจะ
อยูจ่ ริ ง ๆ จวินอู๋เหยามีความลับซ่อนอยูม่ ากมาย สัญชาตญาณของ
นางบอกว่าเรื่ องที่เขาทําอยูเ่ กินกว่าที่นางจะเข้าไปยุง่ เกี่ยวด้วยได้
การฝื นให้เขาอยูก่ บั นางจะเป็ นการเห็นแก่ตวั เกินไป และจวินอู๋เสี ยก็
ไม่อยากทําอย่างนั้น
“ในใจข้าไม่มีอะไรสําคัญไปกว่าเจ้าหรอก” จวินอู๋เหยาพูดพลางกุม
มือของจวินอู๋เสี ยและส่ งยิม้ กว้างให้นาง
หัวใจของจวินอู๋เสี ยเต้นผิดจังหวะทันที
นางอยากบอกจวินอู๋เหยามากเลยว่าเขาไม่จาํ เป็ นต้องทําอย่างนั้น มัน
ก็แค่ความรู ้สึกของนางในวันนี้มนั แปลก ๆ เท่านั้น เขาไม่ตอ้ งจริ งจัง
กับคําพูดของนางก็ได้ แต่เมื่อนางมองเข้าไปในดวงตายิม้ ๆ คู่น้ นั
คําพูดพวกนั้นก็ดูเหมือนจะติดอยูใ่ นลําคอของนางทําให้นางไม่
สามารถพูดออกมาได้ไม่วา่ จะพยายามแค่ไหนก็ตาม
“ไม่ตอ้ งกังวลไป ข้าไม่จาํ เป็ นต้องทําเรื่ องพวกนั้นด้วยตัวเองหรอก”
ราวกับรู ้ถึงความลําบากใจของจวินอู๋เสี ย จวินอู๋เหยาจึงอดหัวเราะ
ออกมาไม่ได้ เขาเข้ามาใกล้นางมากขึ้นและเอาหน้าผากของเขามา
แนบกับหน้าผากของนางพร้อมกับพูดเบา ๆ ว่า “เว้นแต่วา่ น้องเสี ย
ไม่อยากให้ขา้ อยูด่ ว้ ย”
“ไม่…” จวินอู๋เสี ยรู ้สึกว่าการพูดของนางเสื่ อมถอยลงไปอีกครั้ง
หลังจากเกิดใหม่นางได้เจอสิ่ งต่าง ๆ มากมาย ได้มีครอบครัวและ
เพื่อน ตัวนางค่อย ๆ เปลี่ยนไป ความสามารถในการแสดงความรู ้สึก
ของนางพัฒนาขึ้นอย่างช้า ๆ แต่ตอนนี้ราวกับว่านางย้อนกลับไปสู่
อดีตที่ไม่รู้วา่ จะพูดหรื อแสดงความรู ้สึกออกมาอย่างไร
จวินอู๋เหยาแค่หวั เราะและกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขน เขาพูดด้วย
เสี ยงอ่อนโยนและปลอบประโลมว่า “ดีจงั ที่ไม่ใช่ เจ้าไม่ตอ้ งกังวล
เรื่ องอื่น ๆ หรอก ข้ารู ้วา่ จะจัดการธุระของข้าอย่างไร แต่…น้องเสี ย
ไม่เห็นว่าข้าเป็ นพี่ชายเจ้าแล้วเหรอ?” ได้กอดร่ างเล็ก ๆ เอาไว้แบบนี้
ทําให้จวินอู๋เหยาอดนึกถึงตอนที่พวกเขาเพิง่ พบกันไม่ได้ ตอนนั้น
อย่าได้คิดจะกอดนางเอาไว้แบบนี้เลย กระทัง่ จะเข้าใกล้สกั หน่อย
เด็กน้อยนี่กจ็ ะเอาเข็มเงินออกมาแล้วตั้งท่าเหมือนจะฆ่าเขาให้ตาย
ซะเดี๋ยวนั้น
ใบหน้าของจวินอู๋เสี ยร้อนขึ้นเล็กน้อยขณะที่นางนึกถึงความทรงจํา
เดียวกับจวินอู๋เหยา โชคดีที่จวินอู๋เหยามองไม่เห็น
ตอนที่ 1054 เจ้ าไม่ เย็นเหรอ? แต่ ข้าเย็น (4)
เมื่อเห็นจ้าวปี ศาจทําให้นายหญิงของมันสงบลงได้สาํ เร็ จ เจ้าแมวดํา
ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ถึงมันจะกลัวจ้าวปี ศาจมากแต่กต็ อ้ งพูดว่า…
ความสามารถในการปลอบนายหญิงของเขานี่ได้ผลชะงัดดีจริ ง ๆ
เมื่อความคิดนั้นผุดขึ้นมา เจ้าแมวดําก็อดปาดนํ้าตาไม่ได้ จู่ ๆ มันก็
รู ้สึกว่านายหญิงของมันกําลังจะถูกขโมยไป ในใจรู ้สึกเจ็บปวดขึ้นมา
“ข้าต้องเปลี่ยนเสื้ อผ้า” จวินอู๋เสี ยพูด เมื่อครู่ น้ าํ เย็นเฉี ยบสาดไปทัว่
ตัวนาง และในอากาศเช่นนั้นการใส่ เสื้ อผ้าเปี ยก ๆ แบบนี้มนั ไม่
สบายตัวเอาเลยจริ ง ๆ
“ไปซิ” จวินอู๋เหยาปล่อยจวินอู๋เสี ยแล้วออกจากห้องไปทันทีพร้อม
กับปิ ดประตูตามหลัง
จวินอู๋เหยามองประตูที่ปิดสนิท นางไม่รู้วา่ ทําไมแต่นางรู ้สึกว่าความ
ตึงเครี ยดในช่วงที่ผา่ นมาบรรเทาลง แล้วนางก็จดั การเปลี่ยนเสื้ อผ้า
ชุดใหม่
ทันทีที่จวินอู๋เหยาก้าวออกมาจากห้อง รอยยิม้ ของเขาก็หายไปทันที
เหมือนควันที่กระจายไปตามสายลม ดวงตาสี ม่วงคู่น้ นั ทอประกาย
อํามหิ ต
เย่ฉากับเย่เหม่ยปรากฏตัวขึ้นทันทีและคุกเข่าลงตรงหน้าจวินอู๋เหยา
“นายท่านจิว”
จวินอู๋เหยาหรี่ ตา เขายกมือขึ้นข้างหนึ่ง แล้วเย่ฉาที่อยูห่ ่างออกไปก็
พบว่าตัวเองถูกยกลอยขึ้นไปกลางอากาศ!
หมอกสี ดาํ พันอยูร่ อบคอเย่ฉาเหมือนกับมีมือบีบคอเขาอยู่
“ตอนนั้นเจ้าอยูท่ ี่นนั่ ด้วยใช่ไหม?” เสี ยงของจวินอู๋เหยาตอนนี้เย็นชา
กว่าตอนที่อยูใ่ นห้องอย่างน้อย 10 เท่า
“ขอรับ…” เย่ฉาหายใจไม่ออกขึ้นทุกที ใบหน้าของเขาซีดขาว
ปราศจากสี เลือด
“แล้วเจ้าไม่ทาํ อะไรเลยงั้นรึ ?” จวินอู๋เหยาหรี่ ตาอย่างน่ากลัว รังสี
อํามหิ ตในดวงตาโหดเหี้ ยมขึ้นไปอีก!
ใบหน้าของเย่ฉาขาวซีด แต่เขาไม่กล้าต่อต้านเลยแม้แต่นอ้ ย
“คุณหนูสงั่ เอาไว้…ถ้านางไม่เอ่ยปาก…ห้ามข้าลงมืออะไรทั้งนั้น…”
นิ้วมือข้างที่ยกอยูข่ องจวินอู๋เหยาบีบเข้ามาทันที เสี ยงกระดูกแตกดัง
จากคอของเย่ฉาเบา ๆ เย่เหม่ยที่คุกเข่าอยูด่ า้ นข้างเหงื่อออกจนชุ่ม
เขาคุกเข่านิ่งอยูก่ บั พื้น
ขณะที่คอของเย่ฉากําลังจะหักนั้นเอง จวินอู๋เหยาก็ดึงมือกลับไป เมื่อ
ไม่มีอะไรจับไว้ เย่ฉาก็ร่วงตกลงมากองที่พ้นื ทันที เขาไม่ส่งเสี ยง
ร้องออกมาเลยสักนิด
“ถ้ามีครั้งต่อไป เจ้าตายแน่” จวินอู๋เหยาพูด
เย่ฉาไม่อาจมัวสนใจความเจ็บปวดที่คอของเขาได้ เขารี บคุกเข่าทันที
ที่คอของเขามีรอยรัดอยูเ่ ห็นได้อย่างชัดเจน “ครั้งนี้ขา้ น้อยทําหน้าที่
ล้มเหลว ถ้าเกิดขึ้นอีกครั้ง ข้าน้อยจะขอชดใช้ความผิดนี้ดว้ ยชีวติ !”
ครั้งนี้มนั เกินความคาดหมายของเย่ฉาจริ ง ๆ
ปกติจวินอู๋เสี ยจะใจเย็นและแก้ปัญหาได้อย่างดีมาตลอด ตอนที่ฉูซิน
รุ่ ยเข้าไปใกล้จวินอู๋เสี ย จวินอู๋เสี ยไม่ได้มีปฏิกิริยามากนัก เย่ฉาจึง
แอบสังเกตสถานการณ์ต่อ พอฉูซินรุ่ ยจูบจวินอู๋เสี ย เย่ฉาก็คิดที่จะลง
มือ แต่เขาเห็นท่าทางเฉย ๆ ของจวินอู๋เสี ยและยังจําคําสัง่ ของจวินอู๋
เสี ยได้ เขาจึงตัดสิ นใจซ่อนตัวต่อไป
แต่เมื่อเย่ฉาตามจวินอู๋เสี ยกลับมาที่นี่และได้เห็นการกระทําของ
จวินอู๋เสี ยที่เกือบเหมือนการทรมานตัวเอง เย่ฉาก็รู้วา่ ไม่ใช่เพราะ
จวินอู๋เสี ยไม่ใส่ ใจ แต่เป็ นเพราะนางไม่รู้วา่ จะแสดงความรู ้สึกใน
ตอนนั้นออกมายังไง และนางทําได้แค่ระบายความรังเกียจอย่างที่สุด
ในใจนางออกมาด้วยวิธีทื่อ ๆ ตรง ๆ แบบนั้น
เย่ฉารู ้สึกสํานึกผิดและเสี ยใจเป็ นอย่างมาก เขาเกลียดตัวเองที่ไม่เอา
ใจใส่ จนจับความผิดปกติของนางไม่ได้
จวินอู๋เหยาร้องหึ ออกมา “ถ้าไม่ใช่วา่ เจ้าเคยช่วยชีวติ น้องเสี ยเอาไว้
ครั้งหนึ่ง และนางรู ้สึกติดหนี้เจ้าอยูล่ ่ะก็ เจ้าได้ตายไปแล้วจาก
เหตุการณ์ครั้งนี้”
เย่ฉาไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก เขาคุกเข่าอยูต่ รงนั้น ในใจสับสน
วุน่ วายไปหมด ความทรงจําในตัวตนเก่าของเขาค่อนข้างคลุมเครื อ
เขาจําไม่ได้ดว้ ยซํ้าว่าเคยช่วยชีวติ จวินอู๋เสี ยเอาไว้
ตอนที่ 1055 ขอโทษ ข้ าอารมณ์ ไม่ ดี (1)
เศษเสี้ ยวความทรงจําพวกนั้นถูกบีบอัดอยูใ่ นสมองของเขา ถ้าไม่มี
คําใบ้เขาก็ไม่สามารถนึกอะไรออกได้ ความทรงจําพวกนั้นดูเหมือน
เป็ นของเขาแต่กไ็ ม่ใช่ของเขาซะทีเดียว ความรู ้สึกนั้นทําให้เขารู ้สึก
เหมือนจะเป็ นบ้าและทําให้เย่ฉาไม่สามารถกลับมาเป็ นตัวเขาเองได้
ในทันที
ดูเหมือนจะมีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นที่หุบเขาเมฆา ทุกสิ่ งที่เขาเห็น
มีแต่เลือด
มีเสี ยงฝี เท้าดังขึ้นในบ้านพัก เย่ฉากับเย่เหม่ยรี บหายตัวไปทันที
เซียงป้ายังรู ้สึกกังวลอยูแ่ ละไม่สามารถทนกระวนกระวายไป
มากกว่านี้ได้แล้ว เขาลากตัวชิงหยูมาหาจวินเสี ยพร้อมกับเขา ถึงเขา
จะลังเลที่จะมารบกวนจวินเสี ย แต่เขาก็รู้สึกว่าอย่างน้อยเขาก็น่าจะ
มาดูวา่ เกิดอะไรขึ้น
เซียงป้าเพิ่งก้าวเท้าเข้ามาในบ้านพัก เขาก็เห็นชายที่หล่อมาก ๆ คน
หนึ่งยืนอยูห่ น้าประตูหอ้ งของจวินเสี ย!
เซียงป้ามีสีหน้าระแวดระวังขึ้นมาทันที เขาถามขึ้นว่า “เจ้าเป็ นใคร?
เข้ามาในเขตตึกเพลิงพิโรธของข้าทําไม?”
หน้าตาของชายคนนั้นหล่อเหลาอย่างหาที่เปรี ยบไม่ได้ แต่เซียงป้า
ไม่เคยเห็นใบหน้านั้นมาก่อน ตึกเพลิงพิโรธถูกเฝ้าระวังอย่าง
เข้มงวด แล้วชายคนนี้เข้ามาที่นี่ได้ยงั ไง?
จวินอู๋เหยาหันไปช้า ๆ เขามองชิงหยูกบั เซี ยงป้าที่กระวนกระวาย
มากแล้วก็ยมิ้ และพูดว่า “ผูน้ อ้ ยคือผูช้ ่วยส่ วนตัวของคุณชายจวิน”
“…” เซียงป้าทําตาโตจ้องมอง ดูเหมือนเขาจะไม่เชื่อคําพูดนั้น
บรรยากาศรอบตัวของจวินอู๋เหยาไม่เหมือนผูช้ ่วยเลย ขนาดเขา
สะกดพลังของตัวเองเอาไว้แล้ว แต่เขาก็ยงั ทําให้คนรู ้สึกถึงอํานาจ
ของเขาได้อย่างชัดเจน
ผูช้ ่วยส่ วนตัวแบบนี้ใครจะกล้าจ้างกัน?
“โกหก! จวินเสี ยไม่ได้พาผูช้ ่วยมาด้วยสักคน! เจ้าเป็ นใครกันแน่?
แล้วแอบเข้ามาในตึกเพลิงพิโรธของข้าได้ยงั ไง?” ไม่มีทางที่เซี ยงป้า
จะเห็นชายที่ไม่ธรรมดาที่ให้ความรู ้สึกไม่ธรรมดาคนนี้เป็ นผูช้ ่วย
ของใครได้ นอกจากนั้นไม่มีใครในตึกรู ้ถึงการมาของเขาเลย แค่
เรื่ องนี้อย่างเดียวก็ทาํ ให้เขาน่าสงสัยมากแล้ว
จวินอู๋เหยามองเซียงป้า ดวงตาของเขาหรี่ ลงเล็กน้อยพร้อมรอยยิม้
[ลําบากจริ ง] จวินอู๋เหยาคิดในใจ จากข้อมูลที่เย่ฉาให้มา จวินอู๋เหยา
พอจะเดาตัวตนของชายสองคนนี้ได้ ถ้าพวกเขาเป็ นคนอื่น เขาก็คง
ฆ่าซะให้จบไป แต่ดูเหมือนน้องเสี ยกําลังร่ วมมือกับสองคนนี้ ถ้าเขา
ฆ่าพวกนี้กอ็ าจจะตอบคําถามจวินอู๋เสี ยลําบาก
เมื่อเซี ยงป้าไม่ได้คาํ ตอบจากจวินอู๋เหยา เขาก็พงุ่ ตัวเข้ามาทันที ตั้งใจ
ว่าจะจับตัวชายคนนั้นอย่างเต็มที่
จวินอู๋เหยามองเซียงป้าที่พงุ่ ตรงเข้ามายิม้ ๆ เขายกมือขึ้นจับหมัดที่
เซียงป้าเหวีย่ งใส่ เขาได้
“ไม่โจมตีขา้ จะดีกว่านะ ตอนนี้ขา้ อารมณ์ไม่ดี” จวินอู๋เหยาพูดพลาง
มองเซียงป้า สิ่ งเดียวที่เขาอยากทําในตอนนี้กค็ ือฆ่าคน นี่เพื่อจวิน
เสี ยคนเดียวเท่านั้น ถ้าเป็ นคนอื่นเขาคงไม่คิดจะระงับความรู ้สึกของ
ตัวเองเอาไว้
เซียงป้ามองจวินอู๋เหยาอย่างตกใจ เขาชกออกไปเต็มแรง ไม่ได้ออม
แรงเอาไว้เลยสักนิด แต่ชายหน้าหล่อคนนี้กลับจับหมัดนั้นเอาไว้ได้
อย่างง่ายดาย เขาสัมผัสไม่ได้วา่ ชายคนนี้ใช้พลังวิญญาณออกมาเลย
สักนิด
“ตราบใดที่เจ้าไม่ตาย ข้าว่าก็คงไม่เป็ นไรล่ะนะ” จวินอู๋เหยายังคงยิม้
แต่คาํ พูดพวกนั้นเขาไม่ได้พดู กับเซียงป้า แต่พดู กับตัวเองต่างหาก
เซียงป้ากําลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเสี ยงกระดูกแตกก็ดงั
ขึ้น มือของเขาที่ถูกจวินอู๋เหยาจับเอาไว้ถูกหักอย่างง่ายดายราวกับ
เป็ นแค่ตะเกียบไม้อนั เดียว!
ความเจ็บปวดรุ นแรงทําให้เซียงป้าเหงื่อแตกทันที!
เมื่อชิงหยูเห็นเช่นนั้นเขาก็รู้สึกตกใจมาก เขาอยากจะพุง่ เข้าไปช่วย
เซียงป้า แต่สายตาอํามหิ ตของจวินอู๋เหยาก็ตวัดมองมาที่เขา ทําให้
เขายืนตัวแข็งอยูก่ บั ที่
“ถ้าเจ้าไม่อยากให้เขาตายก็อยูเ่ ฉย ๆ ซะ”
ตอนที่ 1056 ขอโทษ ข้ าอารมณ์ ไม่ ดี (2)
ชิงหยูไม่กล้าทําอะไรบุ่มบ่ามเนื่องจากชายตรงหน้าเขารับการโจมตี
แบบเต็มแรงของเซียงป้าได้อย่างไม่ยากเย็น พลังของตัวเขานั้นด้อย
กว่าเซียงป้า ถ้าเขาทะเล่อทะล่าพุง่ เข้าไป นอกจากจะช่วยเซียงป้า
ไม่ได้แล้ว ตัวเขาเองก็จะเป็ นอันตรายด้วย
“ท่านเป็ นใครกันแน่? มาที่ตึกเพลิงพิโรธทําไม? ท่านต้องการอะไร
จากพวกเรา?” ชิงหยูถาม เสื้ อผ้าของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ แม้วา่ ชาย
ตรงหน้าเขาจะไม่ได้ใช้พลังวิญญาณออกมาเลยแม้แต่นอ้ ย แต่ความ
แข็งแกร่ งที่สมั ผัสได้น้ นั ทําให้ชิงหยูแทบหายใจไม่ออก สิ่ งที่ทาํ ให้
เขากลัวยิง่ ขึ้นก็คือแววตาอํามหิ ตจากดวงตาเย็นยะเยือกคู่น้ นั !
ชิงหยูไม่เคยรู ้สึกถึงรังสี อาํ มหิ ตที่รุนแรงขนาดนี้มาก่อน มันรู ้สึกราว
กับว่าพอถูกดวงตาคู่น้ นั มอง ความตายก็เข้าครอบคลุมทันที เรี่ ยวแรง
ที่มีกห็ ายไปหมด
เมืองพันอสู รไม่ได้ขาดแคลนยอดฝี มือที่แข็งแกร่ ง โดยเฉพาะ
หลังจากที่ฉูซินรุ่ ยกลับมา คนที่มากับนางทุกคนมีพลังวิญญาณขั้นสี
ม่วง แต่เมื่อชิงหยูเผชิญหน้ากับคนเหล่านั้น เขาไม่เคยรู ้สึกถูกคุกคาม
รุ นแรงอย่างที่รู้สึกในตอนนี้เลย เหมือนเขาไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป แต่
เป็ นแค่แมลงตัวเล็ก ๆ ที่คลานอยูบ่ นพื้นรอให้ถูกบดขยี้
“ข้าบอกไปแล้ว ข้าคือผูช้ ่วยส่ วนตัวของคุณชายจวิน” จวินอู๋เหยาพูด
พลางยักไหล่เล็กน้อย
แต่ไม่มีใครเชื่อคําพูดของเขาเลย
ผูช้ ่วยที่แข็งแกร่ งขนาดนี้เนี่ยนะ เป็ นไปไม่ได้!
หลังจากหักมือของเซียงป้า สี หน้าของจวินอู๋เหยาก็ไม่ได้เปลี่ยนไป
เลยสักนิด เขายังดูเหมือนตอนแรกที่เซียงป้ากับชิงหยูเข้ามาพบ
รอยยิม้ ร้ายกาจยังประดับบนใบหน้า กระทัง่ เส้นโค้งที่มุมปากก็
ไม่ได้ลดลงเลย
ชิงหยูไม่กล้าทําอะไรบุ่มบ่าม แม้แต่เซียงป้าก็ยงั ถูกชายคนนี้จดั การ
ได้อย่างรวดเร็ ว เขาคิดไม่ออกว่าจะมีใครในตึกเพลิงพิโรธสามารถ
เป็ นคู่ต่อสู ข้ องชายคนนี้ได้
ประตูหอ้ งด้านหลังจวินอู๋เหยาเปิ ดออกช้า ๆ
เมื่อประตูเปิ ดออก จวินอู๋เสี ยก็เห็นจวินอู๋เหยากําลังจับหมัดของเซียง
ป้าเอาไว้ และข้อมือของเซียงป้าก็งอในมุมแปลก ๆ กระดูกสี ขาว
แทงทะลุเนื้อออกมา
“คุณชายจวิน!” ชิงหยูเรี ยกทันทีที่เห็นจวินเสี ย
จวินอู๋เสี ยมองเซียงป้าที่หน้าซีดเผือดแล้วหันไปมองจวินอู๋เหยา
จวินอู๋เหยาปล่อยมือที่จบั เซี ยงป้าไว้แทบจะทันที เซียงป้าเซถอยหลัง
ไปสองสามก้าว ชิงหยูรีบก้าวเข้ามารับตัวเขาไว้
“คุณชายจวิน! ชายคนนี้…” ชิงหยูเริ่ มต้นพูด
จวินอู๋เหยาหันไปมองจวินอู๋เสี ยแล้วพูดด้วยรอยยิม้ กว้าง “เอ่อ…ข้า
แค่ลอ้ เขาเล่นน่ะ”
จวินอู๋เสี ยมองกระดูกที่หกั ตรงข้อมือของเซียงป้า
[ล้อเล่นด้วยการหักกระดูกคนเนี่ยนะ?]
“คุณชายจวิน ท่านรู ้จกั เขาเหรอ?” ชิงหยูไม่ใช่คนโง่ ตอนที่จวินเสี ย
เห็นชายลึกลับคนนี้ สี หน้าของจวินเสี ยไม่ได้มีความตกใจหรื องุนงง
เลยสักนิด นัน่ บอกเขาว่าคนทั้งสองรู ้จกั กัน
“พาเขาเข้ามา” จวินอู๋เสี ยพูดพลางมองจวินอู๋เหยาด้วยสายตาเย็นชา
ความรู ้สึกตื่นเต้นในตอนแรกของนางหายไปหมดแล้ว
รอยยิม้ กว้างบนใบหน้าของจวินอู๋เหยาค่อย ๆ หายไปอย่างช้า ๆ “ได้
ตามที่ท่านสัง่ ” พูดจบเขาก็เอื้อมมือออกไปจะช่วยพยุงเซี ยงป้า
เซียงป้าจะกล้าให้ชายคนนี้แตะตัวเขางั้นหรื อ? ความรู ้สึกกลัวในใจ
ทําให้เซียงป้าถอยหลังไปโดยไม่ได้ต้ งั ใจ กระทัง่ ชิงหยูกม็ องจวินอู๋
เหยาอย่างระวัง
“ไม่ใช่ท่าน” จวินอู๋เสี ยพูดพลางมองไปที่จวินอู๋เหยา
จวินอู๋เหยายักไหล่แล้วถอยไปยืนด้านข้าง
ชิงหยูช่วยพยุงเซียงป้าที่หวาดกลัวมากเข้าไปในห้องของจวินเสี ย
จวินอู๋เสี ยตวัดสายตามองไปที่จวินอู๋เหยาอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวเดิน
เข้าไปเช่นกัน
ตอนที่ 1057 ขอโทษ ข้ าอารมณ์ ไม่ ดี (3)
จวินอู๋เหยายืนอยูน่ อกประตูพลางก้มมองพื้นตรงหน้าประตู และเมื่อ
เห็นหยดเลือดที่กระจายบนพื้น เขาก็หรี่ ตา
หลังจากประตูหอ้ งปิ ดลง เย่ฉากับเย่เหม่ยก็ปรากฏตัวขึ้นทันที
“นายท่านจิว”
“ทําความสะอาดที่นี่ซะ” จวินอู๋เหยาพูดเรี ยบ ๆ จากนั้นก็ผลักประตู
และเดินเข้าไปข้างใน
เย่ฉาและเย่เหม่ยสบตากัน ต่างเห็นสี หน้าเจ็บปวดของอีกฝ่ าย
บรรยากาศเพิ่งจะปรองดองสามัคคีกนั ตอนที่นายท่านจิวกับคุณหนู
เจอกันอีกครั้ง แต่เจ้าโง่สองคนนี้กโ็ ผล่พรวดเข้ามาตอนที่นายท่าน
จิวกําลังอยากฆ่าคน สุ ดท้ายนอกจากสองคนนี้จะทําให้ตวั เองเกือบ
ถูกฆ่าตายแล้ว พวกเขายังทําให้ท่าทีของคุณหนูกลับมาเย็นชากับ
นายท่านจิวอีกครั้ง
เย่ฉากับเย่เหม่ยอดไว้อาลัยให้เซียงป้ากับชิงหยูอยูใ่ นใจไม่ได้ ที่นาย
ท่านจิวไม่ฆ่าสองคนนี้ไปซะต้องเป็ นเพราะคํานึงถึงคุณหนูเป็ นแน่
แต่นนั่ ก็ทาํ ให้คุณหนูมองนายท่านด้วยสายตาเย็นชา เจ้าสองคนนี้คง
ได้ตายเร็ ว ๆ นี้แน่
ไว้อาลัยให้เซียงป้ากับชิงหยูที่กาํ ลังจะถึงฆาตเสร็ จ เย่เหม่ยกับเย่ฉาก็
เริ่ มทําความสะอาดรอยเลือดที่หน้าประตูเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีกลิ่น
เลือดเหลือทิ้งเอาไว้!
ในห้อง เซียงป้าหน้าซีดไปแล้วจากความเจ็บปวด เขาไม่ได้บาดเจ็บ
รุ นแรงขนาดนี้มานาน ขณะที่เขานัง่ ลง จวินเสี ยก็หนั ไปเตรี ยมของ
เขาสังเกตเห็นว่าจวินอู๋เหยาที่เพิง่ เข้ามายืนกอดอกมองมาที่เขากับ
ชิงหยูแบบนิ่ง ๆ ไม่สะทกสะท้าน เขายังคงยิม้ อยู่ ดูเหมือนไม่ได้
เกลียดชังอะไรพวกเขามากนัก แต่ทาํ ไมไม่รู้เซียงป้าถึงได้รู้สึกว่า
ความตายกําลังเข้ามาใกล้เขา!
เนื่องจากความกลัวตามสัญชาตญาณทําให้เซียงป้าเขยิบเก้าอี้ถอย
หลังไปแบบไม่ได้ต้ งั ใจ
จวินอู๋เสี ยเอายาออกมาจากถุงมิติและเดินกลับมาที่พวกเขา
จวินเสี ยก้มหน้าลงมาและเริ่ มทําการรักษาอาการบาดเจ็บของเซี ยงป้า
ชิงหยูนงั่ ลงอย่างกระวนกระวาย แต่กต็ อ้ งประหลาดใจเมื่อเห็นจวิน
เสี ยดูจะรักษาแผลได้เก่งมาก เหมือนตอนที่เขารักษาให้ ‘กระต่ายหู
ใหญ่’ การรักษาของจวินเสี ยพูดได้อย่างเดียวว่า รวดเร็ ว, มี
ประสิ ทธิภาพ, และแน่นอน!
“คุณชายจวิน เขาเป็ นใครหรื อขอรับ?” ชิงหยูอดถามออกมาไม่ได้
จวินอู๋เหยาก้าวเข้ามายืนในห้อง ทําให้ชิงหยูรู้สึกราวกับว่าอากาศใน
ห้องเบาบางลงในทันที
จวินเสี ยหยุดชะงักเล็กน้อย นางเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เหยาที่ยนื อยู่
ด้านข้าง แล้วเอ่ยเสี ยงเย็นชาว่า “ผูช้ ่วย”
ชิงหยูทาํ ตาโต ส่ วนเซี ยงป้าก็ลืมความเจ็บปวดที่ขอ้ มือและร้อง
ออกมาอย่างตกใจ “จริ งเหรอ!?”
[ชายน่ากลัวคนนั้นเป็ นผูช้ ่วยส่ วนตัวของจวินเสี ยจริ ง ๆ หรื อนี่?]
[ไม่ได้ลอ้ เล่นใช่ไหม?]
เซียงป้ารู ้สึกว่ามุมมองที่มีต่อโลกของเขาถูกท้าทายอย่างแรง!
เขาพ่ายแพ้จวินอู๋เหยาอย่างสิ้ นเชิงโดยที่ไม่สามารถตอบโต้ได้เลย
แม้แต่นอ้ ย เซียงป้าได้ลิ้มรสความแข็งแกร่ งของจวินอู๋เหยาไปอย่าง
เต็มที่ เขามีความรู ้สึกว่าพลังของจวินอู๋เหยานั้นแข็งแกร่ งกว่าฉูซินรุ่ ย
มาก! ฉูซินรุ่ ยก็เป็ นผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วงแล้วนะ งั้นพลังของ
จวินอู๋เหยาก็…
เซียงป้าไม่อาจจินตนาการได้เลย
[แล้วคนที่แข็งแกร่ งจนไม่น่าเชื่อนั้นคือผูช้ ่วยของจวินเสี ยเนี่ยนะ?]
แม้วา่ จวินเสี ยเองก็เก่งกาจจนเหมือนปี ศาจ แต่เซียงป้าก็ยงั รู ้สึกว่า
คําตอบนั้นมันก็ยากที่จะเชื่อได้ลงจริ ง ๆ
“หนวกหู” จวินอู๋เสี ยขมวดคิว้ นางรักษาบาดแผลของเซี ยงป้าอย่าง
รวดเร็ วก่อนจะลุกขึ้นไปเช็ดเลือดที่เปื้ อนมือออก
พอจวินเสี ยหันหลังไป เซียงป้าก็เห็นว่าสายตาของจวินอู๋เหยาน่ากลัว
มากขึ้นทันที เขาหดคอพร้อมกับรู ้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา
เซียงป้าไม่อาจสลัดความรู ้สึกที่วา่ ถ้าจวินเสี ยออกไปจากห้องชายคน
นั้นจะฆ่าเขาในทันทีออกไปได้เลย
ตอนที่ 1058 ขอโทษ ข้ าอารมณ์ ไม่ ดี (4)
นี่เป็ นครั้งแรกที่เซียงป้าผูไ้ ม่เคยกลัวอะไรและบ้าระหํ่าอยูเ่ สมอรู ้ถึง
ความหมายของคําว่า ‘อ่อนแอ’ เพียงแค่จวินอู๋เหยามองมาครั้งเดียว
เขาก็สิ้นท่าแล้ว
ชิงหยูเองก็นงั่ อย่างสงบเสงี่ยมเรี ยบร้อย เขาไม่กล้าแม้แต่จะมองไป
ทางนั้นด้วยกลัวว่าถ้ามองไปที่ชายคนนั้น เขาอาจจะถูกควักตา
ออกมาก็ได้
เมื่อจวินอู๋เสี ยกลับมา บรรยากาศอึดอัดจนหายใจไม่ออกก็หายไป
อย่างไร้ร่องรอย มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ วจนทําให้คนทั้งสองรู ้สึกว่า
พวกเขาแค่จินตนาการไปเอง
“คุณชายจวิน เขาเป็ น…ผูช้ ่วยของท่านจริ ง ๆ หรื อ?” เซียงป้าถาม
พลางหดคอ
“อืม” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับมองจวินอู๋เหยาที่ยนื อยูด่ า้ นข้าง แล้ว
จวินอู๋เหยาก็ส่งยิม้ เจิดจ้าชวนให้ตาพร่ ามาให้นางทันที แต่นางก็หนั
หน้าหนีทนั ทีเหมือนกัน!
“…” จวินอู๋เหยาเงียบกริ บพูดอะไรไม่ออก
่ ]
[เด็กน้อย…ท่าทางจะโกรธอยู…
หลังจากใช้เวลาอยูน่ านในที่สุดเขาก็เข้ากับจวินอู๋เสี ยได้ และอาจจะมี
โอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ดว้ ย แต่…ตอนนี้มนั พัง
พินาศหมดแล้ว จวินอู๋เหยาบดขยี้กระดูกของเซี ยงป้ากับชิงหยูจน
เป็ นผงอยูใ่ นใจ ถ้าเจ้าสองคนนี้ไม่โผล่เข้ามาในตอนที่เขาอารมณ์ไม่
ดีอยูล่ ่ะก็ เด็กน้อยก็คงไม่โกรธเขา
ถ้าเซียงป้ากับชิงหยูรู้วา่ จวินอู๋เหยาคิดอะไรอยู่ พวกเขาคงจะคุกเข่า
ลงอ้อนวอนขอชีวติ ทันที
ทั้งสองคนกําลังหวังให้ตวั เองไม่เคยพบกับจวินอู๋เหยาที่น่ากลัวฉิ บ
หายคนนี้เลยจริ ง ๆ !
มือของเขาหักและยังถูกมองว่าเป็ นตัวทําลายความสุ ขในการกลับมา
พบกันอีก พวกเขาจะไปร้องไห้กบั ใครได้?
“อีกสองอาทิตย์ อย่าขยับมือข้างนี้ให้มากนักล่ะ” จวินอู๋เสี ยสัง่
เซียงป้าพยักหน้าอย่างมึนงง ดูเหมือนเขายังไม่ได้สติจากการถูกบอก
ว่าปี ศาจคนนั้นเป็ นแค่ผชู ้ ่วย
ชิงหยูแอบคารวะจวินเสี ยอยูใ่ นใจ เขาคิดอยูแ่ ล้วว่าจวินเสี ยนั้น
เก่งกาจราวกับปี ศาจ ตอนนี้ยงิ่ พิสูจน์ชดั ขึ้นไปอีก การเอาคนที่
แข็งแกร่ งขนาดนั้นมาคอยรับใช้ในฐานะผูช้ ่วยอย่างเต็มใจได้เป็ น
การแสดงถึงความสามารถที่ไม่มีใครจะลอกเลียนแบบได้เลย!
“งั้นก็กลับไปได้แล้ว” จวินอู๋เสี ยไล่เอาดื้อ ๆ
เซียงป้าประคองมือที่บาดเจ็บของตัวเอง แล้วถามขึ้นด้วยนํ้าเสี ยง
ลังเล “มีเรื่ อง…มีอะไรเกิดขึ้นกับท่านที่หอเมฆาสวรรค์รึเปล่า? ฉูซิน
รุ่ ย…”
เซียงป้ายังพูดไม่จบ บรรยากาศในห้องก็แปลกไปทันที สายตาของ
จวินเสี ยเปลี่ยนเป็ นเย็นชาสุ ดขีด และรังสี อาํ มหิ ตอันรุ นแรงก็ลุกโชน
ขึ้นที่ดา้ นหลังของเซียงป้า
เซียงป้าแทบจะร้องไห้ออกมาตรงนั้น เขารู ้ตวั ทันทีวา่ ได้ถามคําถาม
ที่ไม่ควรถามออกไปแล้ว
“โอ๊ย เจ็บมือ! ข้าต้องกลับไปพักฟื้ นแล้ว! รองโว้ย! เร็ วเข้า! มาพยุง
หน่อย!” เซียงป้าเด้งตัวขึ้นทันทีพร้อมกับประคองมือเอาไว้ เขาหนี
ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ วพร้อมกับชิงหยูที่รีบตามไปติด ๆ
หัวหน้าตึกกับรองหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธพากันหนีไปอย่างตื่นกลัว
ภายใต้สายตาเย็นชาของจวินเสี ยและรังสี อาํ มหิ ตของจวินอู๋เหยาจน
ไม่ทนั ได้ปิดประตูตามหลังด้วยซํ้า!
“ท่านทําร้ายพวกเขาทําไม?” จวินอู๋เสี ยถามพร้อมกับจ้องมองจวินอู๋
เหยา นางไม่เชื่อว่าจวินอู๋เหยาจะไม่รู้วา่ เซี ยงป้ากับชิงหยูเป็ นใคร ใน
เมื่อเย่ฉาอยูท่ ี่นี่ จวินอู๋เหยาก็คงรู ้จกั ทุกคนรอบตัวนางหมดแล้ว
จวินอู๋เหยามองใบหน้าเคร่ งขรึ มของจวินอู๋เสี ย เขากระแอมออกมา
เล็กน้อยแล้วพูดว่า “ขอโทษ ข้าอารมณ์ไม่ดีน่ะ ก็เลยทําเกินไป
หน่อย”
เย่ฉากับเย่เหม่ยที่กาํ ลังทําความสะอาดรอยเลือดอยูน่ อกประตูแทบ
จะสําลักนํ้าลายตัวเอง
[เกินไปเหรอ?]
ทั้งสองคนคิดว่าจวินอู๋เหยายั้งตัวเองไว้อย่างเต็มที่แล้ว! อารมณ์ของ
นายท่านในตอนนั้น การไม่ฆ่าเซียงป้ากับชิงหยูทิ้งซะตรงนั้นก็เป็ น
ความเมตตาอย่างที่สุดแล้ว! ถ้านายท่านของพวกเขาทํา ‘เกินไป’
จริ ง ๆ ล่ะก็ สองคนนั้นคงกลายเป็ นขี้เถ้าไปแล้ว!
ตอนที่ 1059 ขอโทษ ข้ าอารมณ์ ไม่ ดี (5)
ได้เห็นนายท่านจิวหักห้ามใจตัวเองกับตาแบบนี้ ทําเอาคนทั้งสอง
ซาบซึ้งจนแทบหลัง่ นํ้าตากันเลยทีเดียว
พวกเขาไม่เคยเห็นนายท่านห้ามตัวเองจากความอยากฆ่าคนได้เลย!
ใครก็ตามที่เขาอยากให้ตายก็ตอ้ งตายทันที ไม่เคยมีแค่มือหักแบบนี้
หรอก นัน่ เป็ นการยั้งตัวเองไว้ได้อย่างที่สุดแล้ว!
อย่างไรก็ตาม…
การควบคุมตัวเองของจวินอู๋เหยาเวลาอยูต่ ่อหน้าจวินอู๋เสี ยเนี่ยเกินคํา
บรรยายจริ ง ๆ !
จวินอู๋เสี ยเอียงคอมองจวินอู๋เหยาด้วยสายตาสงสัย
จวินอู๋เหยาไม่อยากให้จวินอู๋เสี ยเห็นรังสี อาํ มหิ ตที่รุนแรงในตัวเขา
จึงเดินเข้ามาตรงหน้าจวินอู๋เสี ยพร้อมกับยิม้ กว้าง เขายืน่ มือข้างหนึ่ง
ออกมาและพูดว่า “ถ้าน้องเสี ยตําหนิขา้ เรื่ องนั้น งั้นข้าจะหักมือนี้เป็ น
การชดใช้ให้เจ้าแล้วกัน”
พูดจบจวินอู๋เหยาก็ต้ งั ท่าจะหักมือของตัวเอง!
จวินอู๋เสี ยคว้ามือจวินอู๋เหยาเอาไว้เพือ่ ไม่ให้เขาทําอะไรน่ากลัวแบบ
นั้น
จวินอู๋เหยายิม้
“ไม่อยากให้ขา้ หักมันหรื อ งั้นก็หมายความว่าน้องเสี ยจะไม่ตาํ หนิขา้
แล้วใช่ไหม?”
“…” จวินอู๋เสี ยรู ้สึกเหมือนนางถูกพาวนไปมาให้ตกอยูใ่ นสถานการณ์
เช่นนี้ แต่นางก็ไม่อยากคิดอะไรไปมากกว่านี้จึงพูดว่า “เซียงป้ากับ
คนของเขายังมีประโยชน์ต่อข้า อย่าทําร้ายพวกเขาอีก โดยเฉพาะ
อย่างยิง่ ตอนที่อยูใ่ กล้หอ้ งของข้า”
การบาดเจ็บเล็ก ๆ นั้นไม่มีเป็ นเรื่ องใหญ่ต่อสายตาของนางหรอก
แต่มนั รบกวนนางเพราะกลิ่นเลือดจาง ๆ นั้นไม่ได้หายไปในเวลา
อันสั้น
จวินอู๋เหยาตวัดสายตาไปมองเย่ฉากับเย่เหม่ยที่กาํ ลังถูพ้นื อย่างแข็ง
ขัน เย่เหม่ยหายวับไปแทบจะทันทีที่สายตานั้นมองมาที่เขา แล้วนาที
ต่อมาเขาก็พงุ่ เข้ามาในห้องของจวินอู๋เสี ยพร้อมหอบเอาช่อดอกบ๊วย
ที่บานเต็มที่แล้วมาด้วย
“คุณหนูขอรับ กลิ่นดอกบ๊วยจะช่วยกลบกลิ่นเลือดได้ ขอให้คุณหนู
อดทนอีกสักครู่ นะขอรับ เราจะเช็ดเลือดพวกนั้นให้สะอาดเลย” เย่
เหม่ยพูดอย่างระมัดระวัง พอเห็นจวินอู๋เหยาถอนสายตากลับไปแล้ว
เขาก็ถอยออกจากห้องไปถูพ้นื กับเย่ฉาต่อ
กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกบ๊วยกระจายไปในอากาศช่วยกลบกลิ่น
เลือดไปได้เล็กน้อย จวินอู๋เสี ยมองช่อดอกบ๊วยที่วางอยูบ่ นโต๊ะแล้ว
เอื้อมมือไปหยิบเอากิ่งเล็ก ๆ มากิ่งหนึ่งแล้ววางมันลงที่มือของจวินอู๋
เหยา
จวินอู๋เหยายิม้ ออกมาทันที
“กลิ่นจากตัวท่านมันแย่มากเลย” จวินอู๋เสี ยพูดอย่างจริ งจัง
เมื่อรู ้วา่ เหตุผลที่แท้จริ งที่เด็กน้อย ‘ให้ดอกไม้’ กับเขาไม่ใช่เพราะรัก
แต่เป็ นเพราะรังเกียจ แววตาปลาบปลื้มของจวินอู๋เหยาก็ถูกแทนที่
ด้วยความซึมเศร้าทันที
“ข้าจะไปอาบนํ้าเปลี่ยนเสื้ อผ้าเดี๋ยวนี้” จวินอู๋เหยารี บพูดพร้อมกับยิม้
แล้วกํากิ่งดอกบ๊วยเอาไว้ในมือก่อนจะออกจากห้องของจวินอู๋เสี ยไป
ดอกไม้น้ นั เห็นชัด ๆ เลยว่าถูกยัดใส่ มือเขาด้วยความรังเกียจ แต่
จวินอู๋เหยาก็ยงั คงกํามันเอาไว้ในมือแน่น
จวินอู๋เสี ยมองตามหลังจวินอู๋เหยาแล้วยิม้ บาง ๆ ออกมาอย่างไม่รู้ตวั
บ้านที่จวินอู๋เสี ยพักอยูเ่ ป็ นบ้านที่ตึกเพลิงพิโรธเตรี ยมไว้ให้แขก
ตอนนี้นอกจากจวินอู๋เสี ยก็ไม่มีใครพักอยูท่ ี่นนั่ เลย
ในที่สุดชิงหยูกช็ ่วยพาเซี ยงป้ากลับมาถึงห้องของเขา แต่ก่อนที่เขา
จะทันได้นงั่ ลง ฝันร้ายที่สุดของเขาก็มาปรากฏตัวตรงหน้าเขาอีก
ครั้ง
ตุบ!
เซียงป้าล้มหงายหลังลงบนพื้น!
“ทะ…ท่าน…ต้องการอะไร?” เซี ยงป้าหน้าซีดขาวราวกระดาษขณะ
มองไปที่จวินอู๋เหยา
“ข้าจะพักอยูบ่ า้ นเดียวกับคุณชายจวินตั้งแต่วนั นี้ไป” จวินอู๋เหยาพูด
พร้อมกับมองเซียงป้า
เซียงป้ากลืนนํ้าลายเสี ยงดังก่อนจะพูดว่า “ข้าจะให้คนเตรี ยมที่พกั ให้
เดี๋ยวนี้!”
จวินอู๋เหยาพยักหน้าอย่างพอใจและพูดต่อว่า “ให้พวกเขาเตรี ยม
นํ้าอุ่นให้อาบด้วย”
“ได้ขอรับ! จัดให้! เดี๋ยวนี้เลย!” เซียงป้าตอบกลับแทบจะอัตโนมัติ
จวินอู๋เหยาหมุนตัวเดินจากไป ทิ้งเซียงป้าที่หวาดกลัวจนแทบบ้าและ
ชิงหยูที่ยนื นิ่งอึ้งอยูต่ รงนั้นพักใหญ่…
ตอนที่ 1060 ความดื้อดึงของจวินอู๋เสีย (1)
เซียงป้าไม่เคยเห็น ‘ผูช้ ่วยส่ วนตัว’ ที่มีรัศมีแห่งอํานาจมากขนาดนี้
มาก่อนในชีวติ ใครจะไปทําให้คนที่แข็งแกร่ งขนาดนั้นมาเป็ นผูช้ ่วย
ได้ แม้แต่ฉูเหวินห่าวเจ้าเมืองแห่งเมืองพันอสู รก็เทียบไม่ได้สกั เศษ
เสี้ ยว กระทัง่ ฉูซินรุ่ ยก็ทาํ ให้เซียงป้ารู ้สึกอ่อนแอขนาดนี้เมื่ออยูต่ ่อ
หน้านางไม่ได้
พอจวินอู๋เหยาเอ่ยปากก็ดูเหมือนจิตใต้สาํ นึกของเซียงป้าจะอยาก
คุกเข่ารับคําสัง่ เขาในทันที สถานการณ์แบบนี้ทาํ ให้เซียงป้าอยากจะ
ร้องไห้
เขาจะเอาศักดิ์ศรี ของหัวหน้าตึกไปไว้ที่ไหนดี!?
แต่เซียงป้าก็ทาํ อะไรไม่ได้นอกจากเช็ดนํ้าตาแห่งความอัปยศแล้วรี บ
สัง่ ให้คนไปทําความสะอาดห้องให้จวินอู๋เหยาโดยไม่กล้าชักช้าเลย
แม้แต่นิดเดียว
การปฏิบตั ิแบบนี้กบั ผูช้ ่วยนี่มนั หมายความว่ายังไงกัน? นี่มนั เป็ น
การปฏิบตั ิต่อบรรพบุรุษชัด ๆ !
ในที่สุดเย่ฉากับเย่เหม่ยก็ทาํ ความสะอาดรอยเลือดออกจากหน้าห้อง
ของจวินอู๋เสี ยได้หมด หิ นตรงนั้นถูกขัดซะเงาวับจนเรี ยบลื่นแวววาว
ทั้งสองคนถึงยอมหยุด
จวินอู๋เหยาอาบนํ้าเปลี่ยนเสื้ อผ้าเสร็ จก็เอาตัวเองที่หอมสดชื่นแล้วมา
ที่หอ้ งของจวินอู๋เสี ยอีกครั้ง
“เอาล่ะ ข้ายังเหม็นอยูไ่ หม?” เขาถามพร้อมกับยิม้ กว้างให้จวินอู๋เสี ย
จวินอู๋เสี ยส่ ายหน้า
จวินอู๋เหยานัง่ ลงข้าง ๆ จวินอู๋เสี ยและไวพอที่จะจับความรู ้สึกของ
เด็กน้อยได้ ดูเหมือนนางจะเย็นชากับเขาน้อยลงแล้ว
“เรื่ องของเมืองพันอสู ร น้องเสี ยคิดจะจัดการกับมันยังไง?” จวินอู๋
เหยาถาม หันกลับมาสนใจปัญหาหลักที่มีอยูต่ อนนี้ เป้าหมายที่
จวินอู๋เสี ยมาที่เมืองพันอสู รเย่ฉาได้บอกเขาแล้ว แต่กระทัง่ เย่ฉาก็ยงั
ไม่เข้าใจความคิดของจวินอู๋เสี ยได้อย่างกระจ่างชัด
ก่อนที่จะบรรลุเป้าหมาย ไม่มีใครสักคนรู ้วา่ จวินอู๋เสี ยได้วางแผน
อะไรไว้
“เจ้าโง่เชียวกับคนอื่น ๆ กําลังหาที่ ๆ ชาวบ้านถูกขังอยู่ พอพวกเขา
ส่ งข่าวกลับมา เราก็จะลงมือได้” การแก้ไขวิกฤตที่เมืองพันอสู ร
เผชิญอยูน่ ้ นั ทางแก้ไม่ได้อยูใ่ นเมือง แต่เป็ นนอกเมือง
“เจ้าอยากให้ขา้ ช่วยไหม?” จวินอู๋เหยาถามพร้อมกับเอามือเท้าคาง
แล้วมองจวินอู๋เสี ยยิม้ ๆ
“ไม่” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับมองจวินอู๋เหยา ตลอดเวลาที่ผา่ นมาเขา
มักจะหายตัวไปบ่อย ๆ แต่ทุกครั้งที่นางต้องการ เขาก็จะปรากฏตัว
ขึ้นเสมอและช่วยแก้ปัญหาที่นางกําลังเผชิญอยู่ นางต้องยอมรับว่า
จวินอู๋เหยาแข็งแกร่ งมากจริ ง ๆ ปัญหาทุกอย่างที่จวินอู๋เสี ยเจอเมื่ออยู่
ต่อหน้าเขาก็ดูเหมือนจะง่ายดายไปหมด
แต่นางไม่อยากพึ่งพาพลังของจวินอู๋เหยาไปตลอด ถ้านางต้องให้เขา
ช่วยไปซะทุกอย่าง แล้วนางจะมีชีวติ อยูไ่ ปทําไมล่ะ?
นางไม่อยากเป็ นนกน้อยที่อยูใ่ ต้ปีกของคนอื่น นางอยากจัดการศัตรู
ของนางด้วยมือของตัวเอง อยากมีความสามารถปกป้องตัวเองได้
ไม่ใช่คนที่เป็ นภาระต้องคอยพึ่งพาคนอื่นอยูต่ ลอด
นี่เป็ นความดื้อดึงของจวินอู๋เสี ยและเป็ นศักดิ์ศรี ของนาง
“งั้นหรื อ? ในเมืองพันอสู รมีคนของวิหารจิตหวนคืนอยูห่ ลายคนนะ
ถึงพวกนั้นจะไม่ใช่ยอดฝี มือที่เก่งที่สุดในวิหาร แต่พลังของพวกนั้น
ก็ยงั เหนือกว่าที่เจ้าในตอนนี้จะรับมือได้ เจ้าอาจจะมีวธิ ีเพิ่มพลัง
วิญญาณชัว่ คราว แต่คนพวกนั้นเป็ นผูใ้ ช้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วงของ
จริ ง เจ้าน่าจะรู ้ดีวา่ มีช่องว่างใหญ่ขนาดไหนระหว่างผูใ้ ช้พลัง
วิญญาณขั้นสี ม่วงของจริ งกับขั้นสี ม่วงชัว่ คราว” จวินอู๋เหยาพูด
พร้อมกับหรี่ ตามองจวินอู๋เสี ย เขาชี้ให้เห็นความด้อยกว่าศัตรู ของ
นางออกมาอย่างไม่ถนอมนํ้าใจเลย
“ข้าไม่เคยคิดจะไปสู ก้ บั พวกนั้น” จวินอู๋เสี ยพูด “ถ้าแข็งแกร่ งไม่พอ
ก็ตอ้ งใช้กลอุบาย ถ้าข้าไม่สามารถจัดการคนของวิหารจิตหวนคืน
พวกนี้ได้ งั้นข้ายังจะกล้าพูดอีกหรื อว่าข้าจะจัดการพวกสิ บสอง
วิหารน่ะ?”
ถ้านางเลือกรับความช่วยเหลือของจวินอู๋เหยาในการต่อสู ก้ บั ศัตรู
พวกนี้ งั้นที่นางสัญญาเอาไว้ก่อนหน้านี้กก็ ลายเป็ นเรื่ องตลกหมด
เลยน่ะซิ
ตอนที่ 1061 ความดื้อดึงของจวินอู๋เสีย (2)
ถ้านางเลือกรับความช่วยเหลือของจวินอู๋เหยาในการต่อสู ก้ บั ศัตรู
พวกนี้ งั้นที่นางสัญญาเอาไว้ก่อนหน้านี้กก็ ลายเป็ นเรื่ องตลกหมด
เลยน่ะซิ
“แล้วถ้ากลอุบายยังไม่พอล่ะ?” จวินอู๋เหยาจ้องจวินอู๋เสี ยเขม็ง
“ก็ใช้ทุกอย่างที่ขา้ มี ทุกอย่างที่ขา้ สามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้ ถ้า
นัน่ ยังไม่พออีก ข้าก็จะถอยออกมาก่อน และรอคอยเวลาพร้อมกับทํา
ให้ตวั เองแข็งแกร่ งขึ้น พอได้เวลาข้าก็จะบดขยี้ศตั รู ให้ราบ!” ดวงตา
ของจวินอู๋เสี ยทอประกายมุ่งมัน่ เด็ดเดี่ยว
การเดินทางที่นางต้องทําเพื่อจะได้กลับบ้านนั้นนางต้องทําด้วย
ตัวเอง เพื่อที่นางจะแข็งแกร่ งพอเผชิญหน้ากับศัตรู ท้ งั หมด เมื่อพลัง
ของนางแข็งแกร่ งขึ้นเท่านั้นนางถึงจะสามารถยับยั้งพวกที่จะมาเอา
ภูติประจําตัวของนางไป นัน่ เป็ นเพียงหนทางเดียวที่นางสามารถทํา
ได้ดว้ ยมือของนางเองเพื่อปกป้องครอบครัวที่รักยิง่ ของนางจาก
อันตรายทั้งปวง
ก็เหมือนในชาติก่อนของนางตอนที่หนีออกจากนรก นางก็พ่ งึ แต่
ตัวเองเท่านั้น หนทางเดียวในการอยูร่ อดของนางสร้างได้ดว้ ยมือ
ของนางเท่านั้น นางชินกับการต่อสู ต้ ามลําพังแล้ว และเคยชินกับ
การเผชิญหน้าความท้าทายต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ถึงแม้คู่ต่อสู จ้ ะ
แข็งแกร่ งกว่านาง 100 เท่า นางก็ตอ้ งเดิมพันและต่อสู ด้ ว้ ยทุกสิ่ งที่
นางมี!
“ถอยออกมาก่อน…รอคอยเวลาเพื่อทําให้ตวั เองแข็งแกร่ งขึ้น…”
จวินอู๋เหยาพึมพําคําพูดของจวินอู๋เสี ย แล้วเขาก็หวั เราะเสี ยงดัง “ไม่
ว่าเจ้าอยากจะทําอะไรก็ตาม อย่าถอยกลับ ถ้าเจ้าไม่ตอ้ งการให้ขา้
ช่วย ข้าก็จะไม่ทาํ อะไรทั้งนั้น”
เขาเชื่อในความแข็งแกร่ งและสติปัญญาของเด็กน้อยของเขา ทุกเรื่ อง
ที่ผา่ นมา ยังไม่มีใครรอดไปจากแผนการของนางได้เลย
ไม่วา่ ยังไงเขาก็อยูข่ า้ งนางอยูแ่ ล้ว ถ้ามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นจริ ง ๆ ตอน
นั้นก็ยงั ไม่สายที่เขาจะลงมือ
พูดตามจริ งแล้ว จวินอู๋เหยาก็ไม่คิดที่จะเข้าไปแก้ปัญหาทุกอย่างให้
จวินอู๋เสี ยหรอก เขารู ้ถึงความดื้อของจวินอู๋เสี ยและรู ้วา่ เด็กน้อยของ
เขาพยายามอย่างหนักที่จะแข็งแกร่ งขึ้น ความมุ่งมัน่ พยายามนั้น
ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทําแทนได้
มุมปากของจวินอู๋เหยายกขึ้นเป็ นรอยยิม้ แววตาของเขาก็อ่อนโยน
อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เขาอาจจะไม่สามารถอยูข่ า้ งกายนางได้ตลอดไป แต่ถา้ เขายังอยู่ คอย
ดูนางค่อย ๆ เดินไปตามเส้นทางที่นาํ ไปสู่ ความแข็งแกร่ ง จนกระทัง่
นางได้พลังที่ปกป้องตัวเองได้ เขาก็คงจะสบายใจขึ้นได้
มีบางอย่างที่จวินอู๋เหยาจะไม่มีวนั พูดกับจวินอู๋เสี ย เขาจะทําทุกอย่าง
ที่ทาํ ได้เพื่อปกป้องคุม้ ครองนาง ขอแค่นางไม่ได้รับอันตรายร้ายแรง
จนถึงแก่ชีวติ เขาจะเฝ้าดูนางเดินไปจนถึงจุดสู งสุ ด
ถอยออกมาก่อน รอคอยเวลาเพื่อทําให้ตวั เองแข็งแกร่ งขึ้น สิ่ งที่
จวินอู๋เสี ยพูดคือสิ่ งที่เขากําลังทําอยูต่ อนนี้
จวินอู๋เสี ยเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เหยา พวกเขาใช้เวลาด้วยกันไม่นาน
แต่นางก็ค่อย ๆ รู ้สึกถึงความปลอดภัยจากเขา ราวกับว่าตราบใดที่
เขาอยูด่ ว้ ย นางจะสามารถทําได้ทุกอย่างที่นางอยากทําโดยไม่ตอ้ ง
กังวลอะไรเลย
“ถ้าเจ้าโง่เชียวกับคนอื่น ๆ ไม่ได้ไปเจอเรื่ องไม่คาดคิดเข้าล่ะก็ พวก
เขาก็น่าจะกลับมาในอีกไม่กี่วนั นี้ เพราะข้าคิดว่าที่ ๆ ฉูซินรุ่ ยซ่อน
คนพวกนั้นไว้ไม่น่าจะอยูไ่ กลจากที่นี่มากนัก” จวินอู๋เสี ยพูด ก่อนที่
เชียวชูกบั คนอื่น ๆ จะส่ งข่าวกลับมา นางยังมีเวลาเตรี ยมตัว
แต่วา่ เรื่ องของฉูซินรุ่ ยอาจจะไม่สามารถรอนานไปมากกว่านี้ได้
จวินอู๋เสี ยขมวดคิ้ว ฉูซินรุ่ ยทํานางขยะแขยงมากจริ ง ๆ คราวนี้ ตอน
แรกนางตั้งใจจะถ่วงเวลากับฉูซินรุ่ ยไปสักพัก แต่ตอนนี้นางไม่อยาก
ทําอย่างนั้นแล้ว!
กระทัง่ มองยังขยะแขยงเลย
จวินอู๋เหยาเห็นจวินอู๋เสี ยขมวดคิ้วอีกครั้งก็ดูเหมือนจะเดาความคิด
นางได้ เขายืน่ มือออกมาเกลี่ยที่หว่างคิว้ นางแล้วพูดด้วยเสี ยง
อ่อนโยนว่า “ถ้าขยะแขยงก็อย่าไปคิดถึงมันอีก”
เรื่ องอื่น ๆ เขาอาจจะไม่อยากยุง่ แต่ชีวติ ของฉูซินรุ่ ยเนี่ย เขาต้องเป็ น
คนฆ่าด้วยมือของเขาเอง!
ตอนที่ 1062 ความดื้อดึงของจวินอู๋เสีย (3)
คําพูดของจวินอู๋เหยาทําให้จวินอู๋เสี ยไม่คิดถึงสิ่ งที่ฉูซินรุ่ ยทําอีก
แล้วอยู่ ๆ นางก็นึกอะไรขึ้นมาได้
“เมล็ดที่ท่านให้ขา้ มามันคืออะไรเหรอ?” จวินอู๋เสี ยนึกถึงเรื่ องของงู
ทะยานฟ้ากับมังกรมายาขึ้นมาได้ นางจึงถามจวินอู๋เหยาทันที
“มีอะไรผิดปกติง้ นั หรื อ?” จวินอู๋เหยาถามกลับ
จวินอู๋เสี ยส่ ายหน้า “ไม่มีอะไรผิดปกติหรอก ก็แค่มีเรื่ องไม่คาดคิด
เกิดขึ้น”
จวินอู๋เหยาเลิกคิว้ ขึ้นข้างหนึ่ง เมล็ดนัน่ มีผลดีต่อวิญญาณมาก ไม่เคย
ส่ งผลร้ายใด ๆ เลย เขาถึงได้กล้าให้จวินอู๋เสี ยใช้มนั แต่จวินอู๋เสี ย
กลับบอกว่ามีเรื่ องไม่คาดคิดเกิดขึ้น นัน่ ทําให้เขาสนใจมาก
“เกิดอะไรขึ้น?”
“งูทะยานฟ้าไม่ได้หายไป” จวินอู๋เสี ยพูด
“ข้าคิดว่ามันถูกดูดกลืนไปหมดแล้ว แต่วนั ก่อนโน้นข้าเจอกับมังกร
มายาในเมืองพันอสู ร แล้วงูทะยานฟ้าก็มีปฏิกิริยากับมังกรมายา
รุ นแรงมาก ความรู ้สึกของมันส่ งผลกับความรู ้สึกของข้าด้วย มังกร
มายานัน่ ถูกท่านแบะแบะกินเข้าไปแต่มนั อ้วกหิ นวิญญาณออกมา
แล้วงูทะยานฟ้าก็มีปฏิกิริยากับหิ นวิญญาณของมังกรมายารุ นแรง
มาก ตอนที่ขา้ เอาหิ นวิญญาณนัน่ วางบนมือ ก็มีรยางค์สีทองปรากฏ
ขึ้นที่มือของข้า มันพันรอบหิ นวิญญาณนัน่ แล้วดึงหิ นเข้าไปใน
ร่ างกายข้า หลังจากนั้นงูทะยานฟ้าก็ดึงข้าเข้าไปในจิตวิญญาณของ
ข้า ข้าก็เลยได้รู้วา่ มันยังไม่หายไป มันบอกข้าว่าพลังของเมล็ดนัน่
ช่วยรักษาวิญญาณของมัน และมันอยากให้ขา้ ช่วยมันหามังกรมายา
เพื่อที่มนั จะได้ฟ้ื นตัวอย่างสมบูรณ์” จวินอู๋เสี ยเล่าทุกอย่างให้จวินอู๋
เหยาฟังโดยไม่ได้ปกปิ ดสิ่ งใดไว้เลย
หลังจากฟังนางเล่าจบ จวินอู๋เหยาก็หรี่ ตา “เมล็ดนัน่ มาจากต้นไม้
แห่งวิญญาณ ทุกวิญญาณในโลกนี้มาจากต้นไม้แห่งวิญญาณ ถึง
เมล็ดที่ขา้ ให้เจ้าจะยังไม่งอกและเทียบกับต้นไม้แห่งวิญญาณไม่ได้
แต่มนั ก็ส่งผลดีมาก ๆ ต่อวิญญาณที่เสี ยหาย เหตุผลที่ขา้ ใส่ มนั เข้าไป
ในร่ างของเจ้าก็เพื่อให้มนั ช่วยรักษาวิญญาณของเจ้า งูทะยานฟ้าเจ้า
เล่ห์นกั ที่ใช้โอกาสนี้รักษาวิญญาณของมันไปด้วย”
จวินอู๋เหยาหัวเราะอย่างเย็นชา เขารู ้ดีวา่ งูทะยานฟ้าคิดอะไรอยู่
“งูทะยานฟ้าแค่พยายามจะหลอกเจ้าให้ช่วยมันหามังกรมายาที่จะทํา
ให้มนั หนีกลับไปที่โลกวิญญาณได้ มังกรมายานั้นสามารถเปิ ดประตู
สู่ โลกแห่งวิญญาณได้ แต่…” จู่ ๆ รอยยิม้ ร้ายกาจก็ปรากฏขึ้นบน
ใบหน้าของจวินอู๋เหยา
“จิตสํานึกที่รุนแรงของงูทะยานฟ้าทําให้เมล็ดของต้นไม้แห่ง
วิญญาณมีปฏิกิริยา เมล็ดของต้นไม้แห่งวิญญาณรวมเป็ นหนึ่ง
เดียวกับวิญญาณของเจ้าแล้ว มันย่อมทําเพื่อผลประโยชน์ของเจ้า มัน
จะหยุดทุกอย่างที่เป็ นอันตรายต่อวิญญาณของเจ้า ในขณะเดียวกัน…
ก็จะทําเมื่อมีอะไรที่เป็ นผลดีต่อตัวเจ้า” จวินอู๋เสี ยพูดพร้อมกับเชย
คางของจวินอู๋เสี ย แววตาเต็มไปด้วยรอยยิม้
“น้องเสี ย เจ้าคว้าสมบัติของจริ งมาได้โดยไม่รู้ตวั เลยนะ”
จวินอู๋เสี ยกระพริ บตาปริ บ ๆ นางไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร
“มังกรมายาสามารถเปิ ดประตูสู่โลกวิญญาณได้ แต่หินวิญญาณของ
มันกลับถูกเจ้าดูดกลืนไปแล้ว หมายความว่า…เจ้าจะได้ภูติประจําตัว
ตนที่สองด้วย” จวินอู๋เหยาพูดพร้อมกับยิม้ กว้าง
จวินอู๋เสี ยแปลกใจ
“ภูติประจําตัวตนที่สอง?”
จวินอู๋เหยาพยักหน้า “วิหารจิตหวนคืนหนึ่งในสิ บสองวิหารคือวิหาร
เพียงแห่งเดียวที่ทดลองใช้วญ
ิ ญาณเป็ นสื่ อกลางเพื่อยกฐานะของ
ิ ญาณอยูห่ ลายวิธี มีกระทัง่ วิธีหนึ่งที่ถึงจะ
ตัวเอง พวกเขามีวธิ ีใช้วญ
ยากเอาเรื่ องแต่พวกเขาก็สามารถดูดกลืนวิญญาณได้ แต่กไ็ ม่มีอะไร
เทียบได้กบั ของเจ้าหรอก เด็กน้อยที่ร่างถูกติดตั้งวิธีที่สมบูรณ์แบบ
ที่สุดในการดูดกลืนวิญญาณ”
ตอนที่ 1063 ใช้ ประโยชน์ จากมันให้ คุ้มค่ า (1)
“แต่ขา้ ลองกับหิ นวิญญาณอื่น ๆ แล้ว มันไม่เกิดปฏิกิริยาแบบดียว
กันเลย” จวินอู๋เสี ยค่อนข้างสับสนกับเรื่ องทั้งหมด ถ้าบอกว่านาง
สามารถดูดกลืนวิญญาณผ่านหิ นวิญญาณได้จริ ง แล้วทําไมหิ น
วิญญาณอื่น ๆ ถึงไม่ได้ผลเลย?
จวินอู๋เหยาหัวเราะแล้วพูดว่า “ถึงหิ นวิญญาณจะมีพลังวิญญาณ แต่
พวกมันก็ไม่ใช่ร่างวิญญาณที่แท้จริ ง เจ้าไม่สามารถดูดกลืนหิ น
วิญญาณตรง ๆ ได้ มีเพียงเมล็ดจากต้นไม้แห่งวิญญาณเท่านั้นที่
สามารถดึงพลังวิญญาณออกจากหิ นวิญญาณให้เจ้าดูดกลืนได้ แต่
ตอนนี้เมล็ดของต้นไม้แห่งวิญญาณยังเล็กมาก ความสามารถของมัน
เลยมีจาํ กัด ถ้าไม่ใช่เพราะความรู ้สึกที่รุนแรงของงูทะยานฟ้าไป
กระตุน้ ความสามารถของเมล็ดนัน่ มันก็คงไม่ใช้พลังของมันกับหิ น
วิญญาณก้อนไหนทั้งนั้น นอกจากนั้นสัตว์อสู รตัวอื่นก็ไม่มีพลัง
พิเศษแบบนี้ ต้นไม้แห่งวิญญาณจะมีปฏิกิริยากับวิญญาณที่พิเศษ
เท่านั้น”
ถ้าจวินอู๋เสี ยอยากดูดกลืนวิญญาณของสัตว์อสู รผ่านหิ นวิญญาณ
นางต้องให้เมล็ดของต้นไม้แห่งวิญญาณแปลงมันก่อน แต่เมล็ดของ
ต้นไม้แห่งวิญญาณจะมีปฏิกิริยากับหิ นวิญญาณของสัตว์อสู รบาง
ชนิดเท่านั้น
จวินอู๋เสี ยคิดอยูค่ รู่ หนึ่งก็เข้าใจขั้นต้นถึงความหมายที่ซ่อนอยูไ่ ด้
“ภูติประจําตัวตนที่สอง มันจะเป็ นอะไร?” จวินอู๋เสี ยก้มลงมองที่นิ้ว
ของนาง ถึงนางจะไม่สามารถเห็นแหวนประจําตัวของนางได้ แต่
นางก็รู้วา่ มันอยูท่ ี่นิ้วของนาง
“พวกภูติมีจิตสํานึกของมัน ภูติประจําตัวทุกตนจะเลือกเจ้านายของ
ตัวเอง น้องเสี ยเก่งกาจขนาดนี้ ภูติประจําตัวตนที่สองของเจ้าจะต้อง
ไม่เลวแน่” จวินอู๋เหยาพูดพลางลูบหัวจวินอู๋เสี ย
จวินอู๋เสี ยเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เหยา
“ภูติประจําตัวของท่านเป็ นยังไง?”
นางไม่เคยเห็นจวินอู๋เหยาใช้ภูติประจําตัวเลย อาจจะเป็ นเพราะเขา
แข็งแกร่ งมากอยูแ่ ล้วจึงสามารถจัดการทุกสิ่ งได้ดว้ ยตัวเองโดยไม่
จําเป็ นต้องให้ภูติประจําตัวของเขาจัดการ
รอยยิม้ ของจวินอู๋เหยาสดใสขึ้นเล็กน้อย เขามองจวินอู๋เสี ยนิ่ง ดู
เหมือนเขากําลังคิดอะไรอยู่
“ข้าไม่มีภูติประจําตัว” เขาพูดช้า ๆ
จวินอู๋เสี ยตกใจเล็กน้อย ในโลกนี้กม็ ีคนบางคนที่ภูติประจําตัวไม่ตื่น
ขึ้นมา แต่…คนที่ไม่มีภูติประจําตัวนั้นพลังวิญญาณของพวกเขาจะ
พัฒนาช้ามาก และการที่พวกเขาจะกลายเป็ นคนที่แข็งแกร่ งอย่าง
จวินอู๋เหยาก็เป็ นไปไม่ได้เลย
แต่จวินอู๋เหยาเพิ่งบอกว่าเขาไม่มีภูติประจําตัว…
สายตาที่จวินอู๋เหยามองจวินอู๋เสี ยเปลี่ยนเป็ นอยากรู ้ เขาถามยิม้ ๆ ว่า
“พอรู ้วา่ ข้าไม่มีภูติประจําตัว น้องเสี ยจะดูถูกข้ารึ เปล่า?”
จวินอู๋เสี ยส่ ายหน้าทันที
“ต่อให้ไม่มีภูติประจําตัว น้องเสี ยก็ตอ้ งเชื่อว่าข้าจะสามารถปกป้อง
เจ้าได้นะ” แววตาของจวินอู๋เหยาเต็มไปด้วยรอยยิม้ เขาพูดด้วยความ
มัน่ ใจอย่างที่สุด!
จวินอู๋เสี ยก้มหน้าและไม่ตอบอะไร จวินอู๋เหยาเห็นจวินอู๋เสี ยเป็ น
แบบนั้น ความรู ้สึกที่อธิบายไม่ถูกก็ผดุ ขึ้นมา เขายืน่ มือออกมากอด
จวินอู๋เสี ยเอาไว้
“งูทะยานฟ้าอยากหนีกไ็ ม่ใช่เรื่ องที่ไม่มีเหตุผล ทุก ๆ วันที่มนั ยังอยู่
ในร่ างเจ้า เจ้าจะดูดกลืนพลังของมันต่อไปเรื่ อย ๆ ต่อให้เมล็ดของ
ต้นไม้แห่งวิญญาณจะรักษามัน แต่มนั ก็ยงั ถูกดูดพลังอยูด่ ี ตราบใดที่
เจ้าทําให้มนั อยูใ่ นร่ างของเจ้า มันก็จะช่วยเจ้าได้อย่างมากมาย
มหาศาล กระทัง่ ถึงจุดที่…การทะลวงขั้นพลังวิญญาณในอนาคต
ของเจ้าไม่จาํ เป็ นต้องไปดูดกลืนภูติประจําตัวอื่นเลย แค่ดูดพลังจาก
มันตัวเดียวก็พอแล้ว” ดวงตาของจวินอู๋เหยาลุกโชนเป็ นประกายชัว่
ร้าย เป็ นแค่สตั ว์อสู รคิดจะหลอกต้มเด็กน้อยของเขางั้นหรื อ? งั้นนาง
ก็ควรทําทุกอย่างที่ทาํ ได้เพื่อใช้ประโยชน์จากมันให้คุม้ ค่าที่สุด
“ทําได้เหรอ?” จวินอู๋เสี ยเงยหน้าขึ้น ถ้านัน่ เป็ นความจริ ง มันก็จะ
สะดวกขึ้นมากเลย
ตอนที่ 1064 ใช้ ประโยชน์ จากมันให้ คุ้มค่ า (2)
“ได้อยูแ่ ล้วซิ เจ้าแค่ทาํ ให้พลังวิญญาณเพิ่มขึ้นถึงจุดสู งสุ ด แล้วก็ใช้
วิธีเดียวกับที่เคยใช้อีกครั้ง” จวินอู๋เหยาพูดพร้อมกับยิม้ อย่าง
อ่อนโยน แต่คาํ พูดของเขากลับร้ายกาจ
งูทะยานฟ้าไม่คิดแน่ ๆ ว่าการเปิ ดเผยตัวเองออกมาด้วยความร้อนใจ
ในตอนนั้นจะเป็ นการทําให้จา้ วแห่งปี ศาจโกรธขึ้นมา
“ข้าทะลวงขั้นตอนนี้ได้” จวินอู๋เสี ยพูดอย่างจริ งจัง นางอยูท่ ี่จุดสู งสุ ด
ของขั้นสี เขียวมานานแล้ว และยังไม่ได้เข้าสู่ ข้นั ต่อไปเพราะยังไม่
พบเวลาที่เหมาะสมจะทําการเลื่อนขั้น แต่ตอนนี้จวินอู๋เหยาอยูข่ า้ ง ๆ
นาง ทําให้นางรู ้สึกสงบและปลอดภัยเหมือนตอนที่นางอยูท่ ี่วงั หลิน
“ได้ซิ ข้าจะคอยปกป้องเจ้าเอง” จวินอู๋เหยาพูดพลางบีบจมูกของ
จวินอู๋เสี ย แม้วา่ หน้าตาของนางตอนนี้จะแตกต่างไป แต่ดวงตาคู่น้ นั
ที่จอ้ งทะลุเข้าไปในจิตใจของคนยังดูเหมือนเดิม ถูกจ้องมองแค่ครั้ง
เดียวก็ลืมไม่ลงไปทั้งชีวติ
พวกเขาลงมือกันทันที จวินอู๋เสี ยขึ้นไปนัง่ ขัดสมาธิบนเตียงโดยไม่
ลังเลเลยสักนิด ส่ วนจวินอู๋เหยานัง่ เฝ้าเงียบ ๆ อยูท่ างด้านหนึ่ง
จวินอู๋เสี ยนําจิตของนางเข้าไปในวิญญาณของนาง ภายในความมืด
อันกว้างใหญ่น้ นั นางเห็นดวงตางูคู่เดิมส่ องสว่างเหมือนเปลวไฟ
“ยัยหนูมางั้นเหรอ? เจ้าหามังกรมายาพบแล้วรึ ?” ร่ างอันมหึ มาของงู
ทะยานฟ้าโผล่ออกมาจากความมืด ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความ
โลภและกระวนกระวาย
จวินอู๋เสี ยมองงูทะยานฟ้าโดยไม่พดู อะไร นางแค่ทาํ อย่างที่นางเคย
ทําตอนที่ดูดกลืนวิญญาณของงูทะยานฟ้าครั้งแรก
งูทะยานฟ้ารู ้สึกได้ในทันที ความรู ้สึกที่มนั เคยรู ้สึกมาก่อนเข้าครอบ
คลุมวิญญาณมันอีกครั้ง! มันเพิ่งฟื้ นพลังวิญญาณมาได้บางส่ วนด้วย
ความยากลําบาก แล้วตอนนี้มนั กําลังถูกดูดออกไปทีละนิด ๆ !
“ยัยหนู! เจ้ากําลังทําอะไร!?”
พลังวิญญาณของมันไหลออกไปอย่างต่อเนื่องทําให้งูทะยานฟ้า
ตกใจมาก มันอยากหนีไปจากจวินอู๋เสี ยด้วยความกลัวแต่กต็ ิดอยูใ่ น
วิญญาณของนาง ไม่มีที่ไหนที่มนั จะหนีไปได้เลย!
ความมืดรอบตัวกําลังหายไป เรี่ ยวแรงของมันกําลังลดลงด้วย
ความเร็ วที่น่าตกใจ
จวินอู๋เสี ยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและมองไปยังงูทะยานฟ้าที่กาํ ลังตื่น
ตระหนก
“ขอโทษ แต่ก่อนที่เจ้าจะใช้ขา้ ข้าต้องใช้เจ้าก่อน”
งูทะยานฟ้าใจหายวาบ มันรู ้สึกคับแค้นใจมาก มันคิดว่าจวินอู๋เสี ยจะ
ใช้ภูติตวั อื่นเพิม่ พลังของนางต่อ ไม่คิดว่าจวินอู๋เสี ยจะหันกลับมา
สนใจมันอีก เทียบกับภูติตวั อื่น ๆ แล้ว งูทะยานฟ้าแข็งแกร่ งกว่า
อย่างไม่ตอ้ งสงสัย แม้กระทัง่ ตอนนี้ที่วญ
ิ ญาณของมันไม่สมบูรณ์
พลังของมันก็ยงั เหนือกว่าภูติตวั อื่น ๆ ที่จวินอู๋เสี ยดูดกลืนเข้าไป
หลังจากดูดกลืนมัน!
ความอยากของงูทะยานฟ้าทําให้ตวั มันต้องตกอยูใ่ นสถานการณ์
ลําบากอย่างช่วยไม่ได้ มันถูกจวินอู๋เสี ยดูดกลืนไปแล้ว ตอนนี้
วิญญาณของมันไม่ได้อยูภ่ ายใต้การควบคุมของมัน พูดได้วา่ ที่นี่
จวินอู๋เสี ยสามารถทําอะไรก็ได้ตามใจนาง
“ไม่! ไม่! มันกลายเป็ นแบบนี้ได้ยงั ไง! กลายเป็ นแบบนี้ได้ยงั ไง!” งู
ทะยานฟ้าบิดตัว พยายามสลัดความรู ้สึกออกไป แต่กเ็ ปล่าประโยชน์
มันอยากหลอกจวินอู๋เสี ยเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของมัน แต่มนั ไม่คิด
ว่ามันจะหลอกเด็กสาวคนนี้ไม่ได้ ทําให้มนั สู ญเสี ยทุกอย่างกระทัง่
ตัวของมันเอง
จวินอู๋เหยากอดอกพิงเตียงอยูใ่ นห้อง ดวงตาเขาจับจ้องที่จวินอู๋เสี ย
ซึ่งอยูใ่ นโลกวิญญาณของนาง เขามองไปที่ปากอันหอมหวานสี แดง
ของจวินอู๋เสี ยโดยไม่รู้ตวั แล้วแววตาของเขาก็มีรอยยิม้ แวบผ่าน เขา
ก้มลงเข้าหาใบหน้าของจวินอู๋เสี ยช้า ๆ
ในขณะที่นางไม่รู้สึกอะไร เขาก็จูบเบา ๆ ที่ริมฝี ปากนั้น
จากนั้นก็หยุดแค่ชิมเบา ๆ โดยไม่ได้ลิ้มรสอย่างเต็มที่
ตอนที่ 1065 ใช้ ประโยชน์ จากมันให้ คุ้มค่ า (3)
พอจวินอู๋เสี ยได้สติกลับมา พลังวิญญาณในร่ างของนางก็เข้าสู่ ข้ นั
ใหม่ และครั้งนี้เวลาที่นางใช้ทะลวงขั้นลดลงมากเมื่อเทียบกับใน
อดีต
เมื่อนางลืมตาขึ้น ใบหน้าอันหล่อเหลาของจวินอู๋เหยาก็ปรากฏอยูใ่ น
ดวงตาของนาง จวินอู๋เสี ยมองขึ้นไปเล็กน้อย ท้องฟ้าด้านนอกมืด
สนิทแล้ว และในห้องจุดเทียนเอาไว้ แสงเทียนส่ องใบหน้าของ
จวินอู๋เหยาให้เห็นโครงหน้าที่สมบูรณ์แบบของเขา
จวินอู๋เสี ยมึนงงอยูค่ รู่ หนึ่ง
“ยินดีดว้ ย! น้องเสี ย ตอนนี้เจ้าเข้าใกล้พลังวิญญาณขั้นสี ม่วงที่
แท้จริ งเข้าไปอีกขั้นแล้ว” เสี ยงทุม้ ดังขึ้นข้างหูของจวินอู๋เสี ย จวินอู๋
เหยายืน่ มือมาเกลี่ยปอยผมที่ตกลงมาที่ใบหน้าด้านข้างของจวินอู๋เสี ย
ไม่รู้วา่ ทําไมจวินอู๋เสี ยจึงรู ้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างที่อธิบายไม่ได้ นาง
ถอยไปโดยไม่รู้ตวั
นิ้วของจวินอู๋เหยาเกี่ยวปอยผมของจวินอู๋เสี ย ความเย็นที่ผา่ นปลาย
นิ้วของเขาดึงเอาความรู ้สึกลึก ๆ ในใจของเขาออกมา
“เจ้ารู ้สึกผิดปกติตรงไหนไหม?” แสงเทียนสะท้อนอยูใ่ นดวงตา
ของจวินอู๋เหยา
“มันง่ายขึ้นกว่าเดิม” การทะลวงขั้นในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะใช้เวลา
น้อยลงกว่าเดิมมาก แต่การดูดซับก็ยงั ง่ายผิดปกติดว้ ย
จวินอู๋เหยาพูดยิม้ ๆ”ก็ตอ้ งอย่างนั้นแหละ ครั้งแรกที่เจ้าดูดกลืน
วิญญาณก็คือวิญญาณของงูทะยานฟ้านี่ และต่อให้งูทะยานฟ้าฟื้ นตัว
ขึ้นมา แต่การดูดกลืนวิญญาณเดิมอีกครั้งมันย่อมง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
งูทะยานฟ้าจะไม่สามารถต่อต้านเจ้าได้ ตราบใดที่เจ้าต้องการมันก็
ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมให้เจ้าดูดกลืนพลัง”
มุมปากของจวินอู๋เหยาโค้งขึ้นเป็ นรอยยิม้ ร้าย ได้เป็ นพลังให้จวินอู๋
เสี ยนับเป็ นเกียรติของงูทะยานฟ้าเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะมันยังมีประโยชน์ เขาคงลากวิญญาณของมันออกมา
จากร่ างของจวินอู๋เสี ยทันทีที่รู้วา่ มันตั้งใจจะหลอกใช้นาง และบดขยี้
วิญญาณของมันให้แหลกไม่ให้เหลือเลย
เป็ นแค่สตั ว์อสู ร บังอาจหลอกใช้จวินอู๋เสี ยงั้นรึ ? มันไม่เคยเห็นความ
ตายซะแล้ว
“งั้นข้าสามารถใช้งูทะยานฟ้าในการทะลวงขั้นพลังวิญญาณตั้งแต่น้ ี
ไปได้ง้ นั หรื อ?” จวินอู๋เสี ยถามพลางมองจวินอู๋เหยา การทะลวงขั้น
กลายเป็ นเรื่ องง่ายมาก ๆ และนางก็ไม่ตอ้ งกังวลเรื่ องการหาภูติมาทํา
การทะลวงขั้นพลังวิญญาณอีกต่อไป
“ขึ้นอยูก่ บั ว่างูทะยานฟ้าสามารถฟื้ นตัวจากการรักษาของเมล็ดของ
ต้นไม้แห่งวิญญาณได้มากแค่ไหน ถ้าการรักษาแรงพอและความเร็ ว
ในการฟื้ นตัวของงูทะยานฟ้าสามารถตามทันพลังวิญญาณที่สะสม
ไว้ของเจ้าได้ มันก็ใช้งานได้ แต่ถา้ ความเร็ วในการฟื้ นตัวของมันช้า
เกินไป ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะต้องพึ่งแต่มนั ดูดภูติตวั เดิมต่อไป
อาจจะง่ายกว่าก็จริ ง แต่มนั ก็ไม่ใช่ทางเลือกเดียวที่มี” จวินอู๋เหยาพูด
ช้า ๆ ไม่ละสายตาไปจากเส้นผมที่ใบหน้าของจวินอู๋เสี ย
ผมสี ดาํ ยาวสลวยจนถึงสะโพก แม้วา่ ร่ างเล็ก ๆ ตรงหน้าเขาจะใส่ ชุด
ของผูช้ ายและหน้าตานางก็เปลี่ยนไป แต่จวินอู๋เหยาก็รู้ดีวา่ สิ่ งเส้น

ผมนั้นปกคลุมอยู…
จวินอู๋เหยากลืนนํ้าลายและรี บเบนสายตาออกไป เห็นใบหน้าของ
จวินอู๋เสี ยใต้แสงเทียนเช่นนั้น แม้วา่ ใบหน้านั้นจะเปลี่ยนไป แต่
ดวงตาคู่น้ นั ไม่เคยเปลี่ยน
“เจ้าเพิ่งทะลวงขั้นสําเร็ จ คงจะเหนื่อย ข้าจะให้คนเตรี ยมอาหารเย็น
แล้วให้เอามาที่นี่” จวินอู๋เหยาพูดแล้วอุม้ จวินอู๋เสี ยลงจากเตียง
เขาพูดยังไม่ทนั จะขาดคํา เย่ฉากับเย่เหม่ยก็ผลักประตูเปิ ดออกพร้อม
ด้วยอาหารร้อน ๆ ควันฉุยเต็มมือ
ทั้งสองคนมีสาํ นึกมากพอที่จะไม่มอง พวกเขาแค่วางอาหารลงเงียบ ๆ
และรี บพากันออกไปอย่างรวดเร็ วราวสายฟ้า
ตอนที่ 1066 ล้อเล่ นน่ า (1)
จวินอู๋เสี ยหิ วมาก การทะลวงขั้นพลังวิญญาณทําให้นางหมดแรง
และเมื่อนางเห็นอาหารมากมายอยูเ่ ต็มโต๊ะ นางก็หยิบตะเกียบขึ้น
ทันที จวินอู๋เหยาเห็นนางกินอย่างเอร็ ดอร่ อยก็หยิบตะเกียบขึ้นยิม้ ๆ
และกินเข้าไปคํานึง รสชาติอาหารในปากทําให้จา้ วปี ศาจถุยมัน
ออกมาทันที
“……” จวินอู๋เสี ยกําลังชิมโจ๊กของนาง พอเห็นจวินอู๋เหยาคายกุง้ ที่
เพิ่งกินเข้าไปออกมา นางก็กระพริ บตาปริ บ ๆ
“เย่ฉา” จวินอู๋เหยาหยิบผ้าเช็ดปากจากโต๊ะขึ้นมาแตะที่มุมปากอย่าง
สง่างามแล้วพูดขึ้น
เย่ฉาปรากฏตัวขึ้นในห้องทันทีและคุกเข่าลงตรงหน้าจวินอู๋เหยา
“ขอรับนายท่าน”
“เอาอาหารทั้งหมดนี้ออกไป แล้วเจ้ากับเย่เหม่ยไปทําอาหารจาน
ใหม่มา” จวินอู๋เหยาสัง่
“ขอรับ!” เย่ฉาก้มหัวและนําเอาอาหารทั้งโต๊ะออกไปทันที กระทัง่
ชามข้าวตรงหน้าจวินอู๋เสี ยก็เอาออกไปด้วย เหลือแค่โจ๊กหนึ่งช้อนที่
นางยังถืออยูเ่ ท่านั้น
นางเพิ่งกินไปได้แค่สองคําเท่านั้น ทําไมจวินอู๋เหยาถึงสัง่ ให้เอา
อาหารทั้งหมดออกไปล่ะ?
จวินอู๋เสี ยกําลังหิ วมาก สายตาที่มองจวินอู๋เหยาจึงมีแววตําหนิอยูจ่ าง ๆ
จวินอู๋เหยาลูบหัวนางแล้วพูดว่า “ข้าจะให้อาหารห่วย ๆ แบบนั้นมา
แปดเปื้ อนปากของเจ้าได้ยงั ไง?”
เขาให้เซี ยงป้าสัง่ ให้คนเตรี ยมอาหารทั้งหมดนั้น แล้วมันก็ออกมา
ไม่ได้เรื่ อง
จวินอู๋เสี ยอึ้งไปครู่ ก่อนจะเข้าใจว่าจวินอู๋เหยาหมายความว่าอะไร
เจ้าแมวดํายกเท้ามันขึ้นมาปิ ดตาอย่างเงียบ ๆ แม้วา่ อาหารที่เซี ยงป้า
จัดเตรี ยมให้จะเทียบไม่ได้กบั อาหารชั้นเลิศจากร้านอาหารใหญ่ ๆ
แต่มนั ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่พอมันเข้าปากจวินอู๋เหยา มันก็
กลายเป็ นของที่กลืนไม่ลงไปซะงั้น…
ถึงขนาดที่วา่ ถ้าเขาให้จวินอู๋เสี ยกินมันเข้าไป เขาก็รู้สึกว่ามันจะแปด
เปื้ อนลิ้นของจวินอู๋เสี ย!
เจ้าแมวดํารู ้สึกว่ามันไม่สามารถทนดูการกระทําบ้า ๆ ของจ้าวปี ศาจ
ไปมากกว่านี้ได้แล้ว!
ประสาทรับรสของเขาถูกเย่ฉากับเย่เหม่ยตามใจจนเคยตัวไปแล้ว!
ความสามารถในการทําอาหารของสองคนนั้นยอดเยีย่ มมาก แต่…
ไม่เอาน่า! นัน่ ไม่ได้หมายความว่าจะสุ่ มผูช้ ่วยคนไหนในโลกนี้ออก
มาแล้วจะเป็ นเทพแห่งการทําอาหารซะเมื่อไร!
จวินอู๋เสี ยยังคงอึ้งอยู่ จวินอู๋เหยายืน่ มือมาหยิบช้อนจากมือของนาง
แล้วโยนออกไปนอกหน้าต่าง…
“รออีกเดี๋ยวนะ เดี๋ยวก็ได้กินแล้ว” จวินอู๋เหยาพูดพร้อมกับยิม้
จวินอู๋เสี ยพูดไม่ออก นางมองโจ๊กคําสุ ดท้ายของนางถูกโยนออกไป
พร้อมกับช้อน ตอนนี้ทอ้ งนางร้องแล้ว ดูเหมือนมันกําลังคัดค้าน
‘การเผด็จการ’ ของจวินอู๋เหยา
“ข้าไม่คิดว่ามันรสชาติแย่อะไรนะ” จวินอู๋เสี ยพูดพลางมองจวินอู๋
เหยา รสชาติที่ยอดเยีย่ มไม่ใช่สิ่งที่นางตามหา ตราบใดที่อาหารทํา
ให้ร่างกายนางทําหน้าที่ได้และมีแคลลอรี่ ที่เพียงพอ เรื่ องอื่น ๆ ก็
ไม่ได้แตกต่างสําหรับนางมากนัก
“ทําไมต้องทรมานตัวเองด้วย?” จวินอู๋เหยาถามยิม้ ๆ
“……” นางไม่ได้คิดว่านางทรมานสักหน่อย!
เย่ฉากับเย่เหม่ยโยนอาหารทั้งโต๊ะเข้าไปในห้องครัวของตึกเพลิง
พิโรธ พอคนงานในครัวเห็นชายร่ างใหญ่สองคนโผล่เข้ามาในครัว
พวกเขาก็มีสีหน้าตกใจ และก่อนที่พวกเขาจะทันได้ทาํ อะไร พวก
เขาทุกคนก็ถูกเย่ฉากับเย่เหม่ยโยนออกไปนอกห้องครัว
พวกคนงานพากันไปฟ้องเซียงป้าทั้งนํ้าตากันทันที
มือของเซียงป้ายังปวดอยู่ เมื่อเขาได้ยนิ ว่าชายร่ างใหญ่สองคนยึด
ครัวในตึกเพลิงพิโรธไป ปากเขาก็เริ่ มกระตุก
“ท่านหัวหน้า! ท่านจะไม่ไปยุง่ จริ ง ๆ หรื อ?” ชิงหยูถามพลางมองสี
หน้าเครี ยดจัดของเซียงป้า
เซี ยงป้ายกมือที่ยงั ใส่ เฝื อกอยูข่ ้ ึนมาโบกตรงหน้าชิงหยู
“ข้าต้องทําอะไรกับมันให้ได้ก่อน!”
ตอนที่ 1067 ล้ อเล่ น (2)
เย่ฉากับเย่เหม่ยส่ งอาหารเข้าไปในห้องของจวินอู๋เสี ยอย่างรวดเร็ ว
เทียบกับฝี มือทําอาหารของสองคนนี้แล้ว อาหารจากครัวตึกเพลิง
พิโรธที่ถูกนําเข้ามาก่อนหน้านี้กพ็ ดู ได้แค่วา่ ไม่ได้เรื่ องเลย
ในที่สุดก็กินได้ซะที จวินอู๋เสี ยไม่พดู อะไรออกมาเลยสักคํา
จวินอู๋เหยามองใบหน้าด้านข้างของจวินอู๋เสี ยขณะที่นางกําลัง
เพลิดเพลินกับอาหาร แล้วเขาก็หยิบตะเกียบขึ้นมาทั้ง ๆ ที่อิ่มแล้ว
ก่อนที่พวกเขาจะกินเสร็ จ เสี ยงเคาะประตูหอ้ งของจวินอู๋เสี ยก็ดงั ขึ้น
จวินอู๋เหยาลุกขึ้นไปเปิ ดประตู
เมื่อชิงหยูที่ยนื อยูข่ า้ งนอกเห็นหน้าอันหล่อเหลาของจวินอู๋เหยาที่
ฉาบรอยยิม้ เอาไว้ เขาก็ตวั สัน่ ขึ้นมาทันทีโดยไม่ได้ต้ งั ใจ
“มีอะไร?” จวินอู๋เหยายิม้ อยูก่ จ็ ริ ง แต่สายตาของเขาดูเหมือนกําลัง
บอกชิงหยูวา่ [มีอะไรก็พดู มา ถ้าไม่มีกไ็ สหัวไป]
ชิงหยูกลืนนํ้าลายเสี ยงดังแล้วพูดว่า “คนจากหอเมฆาสวรรค์มาที่นี่
ขอรับ บอกว่าพวกเขาอยากเชิญจวินเสี ยไปที่นนั่ เพื่อทานอาหารเย็น”
ชิงหยูพดู ยังไม่ทนั ขาดเสี ยง ตาของจวินอู๋เหยาก็ทอแววอํามหิ ตอย่าง
รุ นแรง!
รังสี อาํ มหิ ตทําให้ชิงหยูกลั้นหายใจหน้าซีดเผือดทันที
จวินอู๋เสี ยได้ยนิ คําพูดของชิงหยูอย่างชัดเจน คําว่า ‘หอเมฆาสวรรค์’
ทําให้นางหมดความอยากอาหารในทันที
“ข้าไม่ไป” จวินอู๋เสี ยพูดอย่างเย็นชา ตอนนี้นางไม่รู้สึกอยากเจอฉู
ซินรุ่ ยเลยสักนิด
“ได้ยนิ ไหม?” จวินอู๋เหยาพูดพร้อมกับเลิกคิว้ มองชิงหยู ชิงหยูพยัก
หน้าทันที เขาวิง่ หนีไปโดยไม่กล้าคัดค้านเลยสักนิด
จวินอู๋เหยาปิ ดประตูและหันไปมองจวินอู๋เสี ยที่หมดความอยาก
อาหารไปแล้ว
“เจ้าโง่เชียวกับคนอื่น ๆ ยังไม่ส่งข่าวกลับมา น่าจะหมายความว่า
พวกเขาตามรอยไปแล้ว อีกไม่นานพวกเขาคงจะพบที่ ๆ คนพวกนั้น
ถูกขังอยู่ ตอนนี้ขา้ ไม่จาํ เป็ นต้องติดต่อกับฉูซินรุ่ ยแล้ว” จวินอู๋เสี ย
พูดแบบไร้ความรู ้สึก เหมือนนางกําลังอธิบายให้จวินอู๋เหยาฟังว่า
ทําไมจู่ ๆ นางถึงปฏิเสธคําเชิญของฉูซินรุ่ ย
“ไม่อยากไปก็ไม่ตอ้ งไป ดูซิ เรื่ องนี้ทาํ เจ้าไม่อยากกินข้าวแล้ว เจ้า
น่าจะมองหน้าข้า จะได้กินข้าวได้ง่ายขึ้น” จวินอู๋เหยาพูดยิม้ ๆ แวว
ตาอํามหิ ตเมื่อครู่ เหมือนเป็ นแค่ภาพลวงตา
จวินอู๋เสี ยมองไปที่จวินอู๋เหยาแล้วก้มหน้าลงกินต่อ
ที่นอกตึกเพลิงพิโรธ เฉินจื้อกําลังยืนยิม้ รอที่จะพาจวินเสี ยไปที่หอ
เมฆาสวรรค์ แต่หลังจากรออยูพ่ กั หนี่ง เขาก็เห็นชิงหยูออกมาจากตึก
เพลิงพิโรธแค่คนเดียว
“ขออภัยขอรับ คุณชายจวินเพิ่งกินอาหารเย็น ข้าเกรงว่าวันนี้เขาคง
ไปกินข้าวกับท่านยายไม่ได้” ชิงหยูพดู อย่างเสี ยใจขณะมองไปที่
เฉิ นจื้อ
รอยยิม้ บนใบหน้าของเฉินจื้อเปลี่ยนเป็ นไม่พอใจในทันที เขามอง
เข้าไปในตึกเพลิงพิโรธแล้วก็เหยียดยิม้ “ในเมื่อเป็ นแบบนั้นข้าก็คง
ต้องกลับ”
“แล้วพบกันใหม่ขอรับ” ชิงหยูพดู อย่างสุ ภาพ
เฉินจื้อหันหลังเดินจากไป ชิงหยูถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่
ขณะเดียวกันก็รู้สึกกังวล สี หน้าของเฉินจื้อตอนที่กลับไปดูไม่ดีเลย
ถ้าแม้แต่เฉินจื้อยังมีปฏิกิริยาแบบนั้น แล้วถ้าเรื่ องที่จวินเสี ยปฏิเสธ
ไปถึงหูของฉูซินรุ่ ยมันจะเกิดอะไรขึ้น
ในหอเมฆาสวรรค์ เฉิ นจื้อบอกเรื่ องจวินเสี ยไม่มาให้ฉูซินรุ่ ยฟัง นาง
กําลังนัง่ ให้พวกหนุ่ม ๆ คนโปรดหวีผมนางอยูท่ ี่โต๊ะแต่งตัว สี หน้า
ของฉูซินรุ่ ยก็เปลี่ยนเป็ นขุ่นมัวในทันที
“เขาไม่มางั้นหรื อ?”
“ใช่” เฉินจื้อตอบ
ฉูซินรุ่ ยร้องหึ ออกมาอย่างดูถูก บรรยากาศรอบตัวนางเปลี่ยนเป็ น
อันตรายขึ้นอย่างมาก หนุ่มคนโปรดที่ยนื อยูข่ า้ งหลังนางมือสัน่ และ
พลาดทําผมของนางขาดไปหนึ่งเส้น
ฉูซินรุ่ ยลุกพรวดขึ้นทันทีและเตะชายคนนั้นล้มลงกับพื้น
“เจ้าสวะไร้ประโยชน์!”
ตอนที่ 1068 ผู้หญิงร้ ายกาจ (1)
หนุ่มคนโปรดคนนั้นกุมท้องหน้าซีด แต่เขาไม่กล้าส่ งเสี ยงร้อง
ออกมา และรี บคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตา
“ท่านยาย ข้าผิดไปแล้ว ท่านยายไว้ชีวติ ข้าด้วย”
ฉูซินรุ่ ยจ้องชายคนนั้นด้วยสี หน้าน่ากลัว ผ้าไหมที่พนั รอบข้อมือ
นางตกลงบนพื้นช้า ๆ ผิวเรี ยบเนียนที่แขนนางมีผวิ ส่ วนหนึ่งที่มีรอย
ย่นเหมือนผิวของคนแก่ ตอนแรกก็มีอยูแ่ ค่รอบ ๆ ข้อมือนาง แต่
ตอนนี้มนั ลามสู งขึ้นไปตามแขนของนางแล้ว ถ้าใครมาเห็นแค่แขน
ส่ วนนั้นของนาง คน ๆ นั้นคงคิดว่านัน่ เป็ นแขนของหญิงชราที่แก่
มากแล้ว
“เอาตัวมันออกไป” ฉูซินรุ่ ยพูดอย่างเย็นชา
ชายคนนั้นอ้อนวอนไม่หยุด แต่เขาก็ถูกคนคุม้ กันของหอเมฆา
สวรรค์ลากตัวออกไป
ฉูซินรุ่ ยเอาแขนลงแต่สีหน้าของนางยังดูกงั วล
เฉินจื้อมองไปที่ผวิ ส่ วนที่มีรอยย่นบนแขนของฉูซินรุ่ ยแล้วเลิกคิว้
ขึ้นเล็กน้อย
“ดูเหมือนเจ้าจะแก่เร็ วขึ้นทุกทีแล้วนะ”
ฉูซินรุ่ ยสะดุง้ นางก้มมองแขนที่โผล่ออกมาให้เฉิ นจื้อเห็น สี หน้า
แข็งทื่อ แล้วนางก็ดึงแขนเสื้ อมาคลุมแขนเอาไว้ทนั ที
“บัดซบ เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ข้าใช้สิ่งนั้นไปเมื่อไม่กี่วนั ก่อน แล้ว
ทําไมมันถึงยังเป็ นแบบนี้อยูอ่ ีก?” ฉูซินรุ่ ยพูดพร้อมกับขมวดคิว้ สี
หน้านางดูโมโหมาก ปกติหลังจากใช้สิ่งนั้นแล้ว นางจะได้ความ
เยาว์วยั กลับคืนมา แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ ครั้งนี้มนั ถึงไม่ได้ผล
“ไอ้นี่มนั เริ่ มตั้งแต่วนั งานเลี้ยงวันเกิด วันนั้นฉูหลิงเย่เข้ามาในหอ
เมฆาสวรรค์รึเปล่า?” ฉูซินรุ่ ยถาม
เฉินจื้อส่ ายหน้า “สิ่ งนั้นไม่สามารถเข้าใกล้ผหู ้ ญิงคนอื่นได้นอกจาก
เจ้า แล้วเราจะให้ฉูหลิงเย่เข้ามาข้างในได้ยงั ไง? นางแค่ทาํ เหมือนเดิม
อย่างที่เคยทําเมื่อปี ก่อน ๆ คารวะอยูน่ อกประตูแล้วกลับไป”
“คราวหน้าอย่าให้นางคารวะที่หอเมฆาสวรรค์” ฉูซินรุ่ ยพูดแล้วหยุด
นิดนึงก่อนจะพูดต่อว่า “ถ้านางอยากจะอวยพร ก็ให้ทาํ ที่อีกฝากของ
ถนนโน่น”
“แล้วก็เอาเจ้าคนที่ไม่รู้ที่ต่าํ ที่สูงนัน่ ไปสังเวยซะ บางทีที่สงั เวยไป
เมื่อเร็ ว ๆ นี้อาจจะน้อยเกินไป พลังของสิ่ งนั้นเลยลดลง” นํ้าเสี ยง
ของฉูซินรุ่ ยฟังดูสบั สนเล็กน้อย ตอนนี้แค่แขนที่ดูแก่ แต่ถา้ ยังเป็ น
แบบนี้ต่อไปเรื่ อย ๆ นางไม่รู้วา่ มันจะแพร่ กระจายไปทัว่ ร่ างของนาง
ไหม ถ้าผิวนางเหี่ ยวย่นทั้งหมด นางคงรับไม่ได้
“ข้าสังเวยไปมากกว่าจะได้ความงดงามเยาว์วยั นี้มา ข้าจะไม่ยอมให้
ใครมาทําลายมันเด็ดขาด”
“ถ้าเจ้าอยากสังเวย ข้าเกรงว่าแค่คนเดียวคงไม่พอ” เฉินจื้อรู ้วา่ ฉูซิน
รุ่ ยพูดถึงอะไร
ฉูซินรุ่ ยพูดว่า “งั้นก็ไปเอามาเพิ่มอีกสักสองสามคนจากพวกนั้นก็ได้
เจ้าตัดสิ นใจเองได้เลย”
พวกนั้นที่ฉูซินรุ่ ยพูดถึงคือพวกหนุ่ม ๆ คนโปรดที่อยูใ่ นหอเมฆา
สวรรค์ ทุกเดือนฉูซินรุ่ ยจะเลือกชายหนุ่มหน้าตาดีของเมืองพันอสู ร
หลายคนให้เข้ามารับใช้นางที่หอเมฆาสวรรค์ แต่จาํ นวนพวกหนุ่ม ๆ
ในหอก็ไม่ได้มากเกินไป พวกหนุ่ม ๆ ทั้งหมดที่ถูกรับเข้ามาในหอ
เมฆาสวรรค์ ไม่มีสกั คนที่ได้ออกไปจากที่นี่
ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากฉูซินรุ่ ย ก็ไม่มีใครเข้าไปในหอเมฆาสวรรค์
ได้ และก็ไม่มีใครเข้ามาติดต่อกับพวกหนุ่ม ๆ ของหอเมฆาสวรรค์
ได้ ดังนั้นคนข้างนอกจึงไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้นกับคนที่ถูกรับเข้าหอ
เมฆาสวรรค์
“ได้ ข้าจะจัดการให้เดี๋ยวนี้” เฉิ นจื้อพูด ดวงตาทอแววโหดเหี้ ยม
“อีกเรื่ อง เจ้าคิดจะทํายังไงเรื่ องจวินเสี ย? จากที่ขา้ เห็น ดูเหมือนเขา
จะไม่อยากรับข้อเสนอของเจ้านะ” เฉิ นจื้อพูดพร้อมกับมองฉูซินรุ่ ย
ยิม้ ๆ
ตอนที่ 1069 ผู้หญิงร้ ายกาจ (2)
ฉูซินรุ่ ยเชิญจวินเสี ยให้มาหอเมฆาสวรรค์หลายครั้ง จวินเสี ยตอบ
รับคําเชิญแค่สองสามครั้งแรก แต่สาํ หรับข้อเสนอให้ร่วมมือกัน
ของฉูซินรุ่ ยนั้น จวินเสี ยไม่แสดงอาการอะไรที่เป็ นไปในทางบวก
เลย ตรงกันข้ามกลับถ่วงเวลาครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วคราวนี้จวินเสี ยก็
ปฏิเสธที่จะมาหอเมฆาสวรรค์ออกมาตรง ๆ เลย ท่าทีเช่นนี้บอกให้ฉู
ซิ นรุ่ ยรู ้วา่ จวินเสี ยไม่ได้อยากร่ วมมือกับนาง
“ดูเหมือนว่าความสวยของเจ้าจะไม่สามารถทําให้จกั รพรรดินอ้ ย
หวัน่ ไหวได้นะ ถึงขั้นปฏิเสธคําเชิญด้วยเหตุผลไร้สาระแบบนั้น ถ้า
ข้าเดาไม่ผดิ เกรงว่าเขาจะไม่มาพบเจ้าที่นี่อีกแล้ว” เฉิ นจื้อพูด
ฉูซินรุ่ ยขบฟันแน่น ไม่ใช่วา่ นางไม่เห็นการตอบสนองแบบขอไปที
ของจวินเสี ย แต่นางไม่คิดว่าหลังจากที่นางใช้เสน่ห์ที่มีท้ งั หมดแล้ว
ยังจะมีชายคนไหนนิ่งอยูไ่ ด้ ไม่ใช่แค่ไม่หลงมนต์เสน่ห์ของนาง แต่
ยังเมินใส่ นางด้วย!
สําหรับฉูซินรุ่ ยที่คอยใส่ ใจและมัน่ ใจในความงามของตัวเองอย่าง
เต็มเปี่ ยมนั้น สิ่ งนี้นบั เป็ นความอัปยศอดสู อย่างที่สุด
“ในเมื่อเขาไม่รับสุ ราที่ยนื่ ให้อย่างสุ ภาพ งั้นก็ให้สุราลงโทษกับเขา
แล้วกัน” ฉูซินรุ่ ยพูดด้วยเสี ยงแดกดัน
เฉินจื้อมองสี หน้าไม่พอใจของฉูซินรุ่ ยแล้วเตือนนางว่า “คนของ
อาณาจักรล่างอ่อนแอและไร้พลัง การทําให้จวินเสี ยยอมจํานนไม่ใช่
งานยากอะไรเลย แต่มีเรื่ องหนึ่งที่เจ้าต้องคิดให้ดี เขาคือจักรพรรดิ
แห่งแคว้นหยาน ถ้าเจ้าทําร้ายเขา แล้วจะตอบคําถามคนของแคว้น
หยานยังไง อํานาจของแคว้นหยานสําคัญต่อพวกเรามาก ถ้าเราเกลี้ย
กล่อมให้แคว้นหยานยกกองทัพไปที่ผาสุ ดสวรรค์ได้ การสํารวจผา
สุ ดสวรรค์กจ็ ะเร็ วกว่าที่เมืองพันอสู รทําได้เยอะเลย”
แค่ผเู ้ ยาว์ตวั เล็ก ๆ เฉินจื้อไม่สนใจหรอก สิ่ งที่เขาสนใจก็คืออํานาจ
ของแคว้นหยานที่หนุนหลังจวินเสี ยอยูต่ ่างหาก!
ประเทศที่ใหญ่ที่สุดของอาณาจักรล่าง ทหารของพวกเขาคงมีมาก
จนประเมินไม่ได้เลย
“ข้าไม่เชื่อว่าจะมีใครในโลกนี้ไม่อยากได้ชีวติ อมตะและความ
เยาว์วยั ชัว่ นิรันดร์! เขาปฏิเสธอย่างเด็ดขาดขนาดนั้น แถมยังดู
เหมือนไม่สนใจพลังวิญญาณขั้นสี ม่วงด้วย อย่าบอกนะว่า…มีวหิ าร
อื่นมาคุยกับเขาแล้ว” ฉูซินรุ่ ยตกใจเมื่อคิดเรื่ องขึ้นมาได้ มีวหิ ารเจ็ด
แห่งในจํานวนสิ บสองวิหารที่มีชิ้นส่ วนแผนที่สุสานจักรพรรดิแห่ง
ความมืดอยูใ่ นครอบครอง นอกจากวิหารจิตหวนคืนแล้ว วิหารอื่น ๆ
ที่มีแผนที่ตอ้ งทําอะไรบางอย่างอยูเ่ หมือนกันแน่
แคว้นหยานอาจจะไม่มีค่าพอให้พดู ถึงในอาณาจักรกลาง แต่ใน
ฐานะแกะบูชายัญ พวกเขาก็เป็ นตัวเลือกที่ดีที่สุดในอาณาจักรล่าง
เฉินจื้อก็กงั วลในเรื่ องเดียวกับฉูซินรุ่ ย แต่เขาก็รีบส่ ายหัว
“ถ้าบอกว่าวิหารอื่นอยากใช้แคว้นหยาน ข้าก็ไม่แปลกใจเลยสักนิด
แต่จวินเสี ยไม่ได้เป็ นคนของราชวงศ์ในแคว้นหยาน จู่ ๆ เขาก็ข้ ึนมา
ครองบัลลังก์แคว้นหยาน แล้ววิหารอื่นก็ไม่ได้ประจําการอยูท่ ี่
อาณาจักรล่างตลอดเวลาอย่างที่เราทํา จวินเสี ยขึ้นครองบัลลังก์ได้ไม่
นาน จักรพรรดิคนก่อนถูกบังคับให้สละราชบัลลังก์ ต่อให้คนของ
วิหารอื่นติดต่อกับจักรพรรดิแห่งหยาน มันก็ไม่ใช่จกั รพรรดินอ้ ยที่
เพิ่งขึ้นครองราชย์คนนี้แต่เป็ นจักรพรรดิคนก่อน คนของสิ บสอง
วิหารยังไม่ทนั ยืน่ ข้อเสนอให้เขาหรอก” เฉินจื้อหยุดนิดนึงแล้วพูด
ต่อว่า
“สิ่ งที่เราต้องทําตอนนี้กค็ ือดึงจวินเสี ยมาเป็ นพวกเดียวกับเราและให้
แคว้นหยานทํางานให้เราก่อนที่วหิ ารอื่นจะมาติดต่อกับเขา ตราบใด
ที่เขายังอยูใ่ นเมืองพันอสู ร เราก็จะมีโอกาสมากกว่าวิหารอื่น ๆ”
ดูจากเวลาแล้ว จวินเสี ยน่าจะเดินทางมาที่เมืองพันอสู รแทบจะทันที
หลังจากขึ้นครองบัลลังก์เลย เฉินจื้อแน่ใจว่าต่อให้วหิ ารอื่นรู ้ข่าว
พวกเขาก็ไม่มีเวลามากพอที่จะพูดคุยเรื่ องการร่ วมมือกับจักรพรรดิ
น้อยที่เพิ่งครองราชย์อย่างแน่นอน!
ตอนที่ 1070 ผู้หญิงร้ ายกาจ (3)
“แต่ตอนนี้เขาไม่อยากร่ วมมือกับพวกเรา” ฉูซินรุ่ ยพูดพลางกัดเล็บ
“จวินเสี ยไม่ใช่ฉูเหวินห่าว อํานาจของแคว้นหยานก็แข็งแกร่ งมาก
ในอาณาจักรล่าง ข้าได้ยนิ ว่าพระพันปี หลวงของแคว้นหยานมีมือ
สังหารลับอยูก่ ลุ่มหนึ่ง ดูเหมือนพลังของพวกนั้นจะไม่ห่างไปจาก
พลังขั้นสี ม่วงมากนัก ตอนที่จวินเสี ยขึ้นครองบัลลังก์ พระพันปี
หลวงก็ให้การสนับสนุนมากเลยทีเดียว ถ้าเราพยายามควบคุม
แคว้นหยานด้วยวิธีเดียวกับที่ใช้ควบคุมเมืองพันอสู ร เราต้อง
ล้มเหลวแน่ จวินเสี ยมาจากสํานักศึกษาวายุประจิม ข้าเลยส่ งคนไปดู
ข้อมูลของเขา แต่กไ็ ม่พบอะไรเกี่ยวกับชาติกาํ เนิดของเขาเลย เราเลย
ไม่สามารถใช้คนในครอบครัวเขามาเป็ นตัวประกันได้ และต่อให้เรา
ควบคุมจวินเสี ยได้สาํ เร็ จ ก็ยงั ไม่รู้เลยว่าแคว้นหยานจะยอมจํานนต่อ
เราไหม เพราะยังมีพระพันปี หลวงคุมอยูอ่ ีก ถ้ายัยแก่นนั่ ตัดสิ นใจ
ทิ้งจวินเสี ยแล้วดันจักรพรรดิคนอื่นขึ้นครองบัลลังก์ พวกเราก็จะ
ไม่ได้อะไรเลย”
ฉูซินรุ่ ยรู ้สึกคับข้องใจมากเนื่องจากนางพบว่ายากที่จะรับมือการ
ปฏิเสธของจวินเสี ย
พอไม่มีอะไรมาใช้ข่มขู่เขา พวกเขาก็ไม่สามารถแน่ใจได้วา่ จะใช้
จวินเสี ยบังคับให้แคว้นหยานยอมจํานนต่อพวกเขาได้หรื อไม่ การ
ยึดแคว้นที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรล่างไม่ใช่เรื่ องง่าย ๆ แต่
ขณะเดียวกันมันก็เป็ นเนื้อชิ้นใหญ่ที่พวกเขาไม่อยากจะปล่อยไป
เฉินจื้อครุ่ นคิดอย่างหนัก จะบังคับให้จวินเสี ยยอมจํานนต่อพวกเขา
ได้ยงั ไงเป็ นคําถามที่สาํ คัญที่สุดที่พวกเขาจะต้องตอบให้ได้
ทันใดนั้นฉูซินรุ่ ยก็ดูเหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ นางพูดขึ้นว่า “จวิน
เสี ยอาจจะไม่ได้ไม่มีจุดอ่อนให้พวกเราเอามาใช้จริ ง ๆ ก็ได้”
“หื อ? เจ้าคิดแผนออกหรื อ?” เฉินจื้อถามพร้อมกับเลิกคิว้ ขึ้นข้างหนึ่ง
ฉูซินรุ่ ยยิม้ อย่างชัว่ ร้าย นางมองเฉินจื้ออย่างยัว่ ยวนแล้วพูดว่า “หลิน
ชิวเคยบอกว่ามังกรมายาของข้าถูกสัตว์อสู รของจวินเสี ยกินไม่ใช่
หรื อ?”
“มันต้องเป็ นสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์แน่ถึงสามารถกินมังกรมายาได้
อย่าบอกนะว่าเจ้าจะเล็งไปที่สตั ว์อสูรของเขา?” เฉิ นจื้อถาม
ฉูซินรุ่ ยหัวเราะเสี ยงดัง “แล้วทําไมถึงไม่ล่ะ? ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถ
ครอบครองสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์และฝึ กมันจนได้ถึงขนาดนี้ เขา
เดินทางจากแคว้นหยานมาตั้งไกลแต่ยงั พาสัตว์อสู รมาด้วย ระหว่าง
เขากับสัตว์อสู รตัวนั้นต้องผูกพันกันมากแน่ ๆ มันเป็ นไปไม่ได้ที่จะ
ทําให้สตั ว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ยอมจํานนโดยไม่ได้เสี ยอะไรที่คุม้ ค่า
เท่าเทียมกัน ต่อให้จวินเสี ยมีนิสยั เย็นชาเฉยเมยมากขนาดไหน แต่ขา้
เชื่อว่าสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์ตวั นั้นมีค่ากับเขามาก ในเมื่อไม่
สามารถหาตัวคนในครอบครัวของเขาได้ สัตว์อสู รผูพ้ ทิ กั ษ์ตวั นั้นก็
อาจจะช่วยเราได้”
เฉินจื้อตกใจเล็กน้อย เขามองรอยยิม้ เจ้าเล่ห์ของฉูซินรุ่ ยแล้วก็ตอ้ ง
พูดว่า ถึงแม้ฉูซินรุ่ ยจะเป็ นผูห้ ญิง แต่เรื่ องการวางแผนเอาเปรี ยบหา
ผลประโยชน์ดว้ ยวิธีการโหดเหี้ ยมชัว่ ร้ายแบบนี้น้ นั พวกเขาสามคน
ไม่มีใครเทียบกับนางได้เลยสักคน สําหรับคนที่ข้ ึนมาจากอาณาจักร
ล่างและยังสามารถอยูใ่ นวิหารจิตหวนคืนจนประสบความสําเร็ จ
อย่างที่เป็ นอยูท่ ุกวันนี้ได้น้ นั ต้องพูดเลยว่าวิธีการของฉูซินรุ่ ยนั้น
เหนือกว่าคนธรรมดาทัว่ ไปจริ ง ๆ
“ถึงยังไงมันก็เป็ นสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์นะ ต่อให้เจ้ากับข้าร่ วมมือ
กันจัดการก็ยงั ยากจะทําได้เลย” เฉินจื้อพูด
ฉูซินรุ่ ยมองเฉินจื้อพร้อมกับเลิกคิ้วสู ง
“เจ้าลืมไปแล้วหรื อว่าที่ ๆ เราอยูค่ ือที่ไหน?”
เฉินจื้อชะงักไปครู่ หนึ่งแล้วก็ยมิ้ ออกมาอย่างเข้าใจ
“ขลุ่ยกระดูกกล่อมอสู รอยูใ่ นมือของฉูเหวินห่าว สิ่ งนั้นนอกจากเจ้า
เมืองของเมืองพันอสู รแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถใช้มนั ได้ ถึงแม้จะถือ
ได้วา่ ฉูเหวินห่าวยังเชื่อฟังเราอยู่ แต่ความแค้นที่เขามีต่อเจ้าก็ไม่ควร
มองข้าม ข้าเกรงว่าเขาอาจจะไม่ยอมเสี่ ยงอันตรายจากการพยายาม
ควบคุมสัตว์อสู รระดับผูพ้ ิทกั ษ์”
ฉูเหวินห่าวพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชาว่า “เขาจะยอมทําทุก
อย่างเพื่อลูกสาวของเขาแน่”
“เจ้านี่มนั โหดเหี้ ยมมาก ๆ มากจริ ง ๆ” เฉิ นจื้อหัวเราะ ใช้กระทัง่ คน
สายเลือดเดียวกับตัวเองได้ ฉูซินรุ่ ยช่างเป็ นคนที่ชวั่ ร้ายอย่างแท้จริ ง!

You might also like