Professional Documents
Culture Documents
ประโยคหลังๆมู่หรงเสวียเน้นนําเสี ยงเป็ นพิเศษ เย่อีเฉิ นสี หน้าเย็นชา แววตาเข้มขึน เรื องบ้านรองบ้านเอก เป็ น
เรื องไม่ยากสําหรับเขาทีจะเติมเต็ม แต่สาเหตุทีเขาต้องให้ม่หู รงเสวียแต่งเข้าเป็ นพระชายารองก็เพือ......
ความรักระหว่างฉิ นยวีเยียนกับเย่อเฉิ
ี นลึกซึ งเกินบรรยาย มีหรื อทีจิงอ๋ องจะมิบอกกล่าวถึงเรื องการหมันหมาย
ระหว่างนางกับเขา แถมยังมีการออกหน้าปกป้ องซึ งกันและกันอีก ชัดเจนว่านางต้องรู ้เรื องการหมันหมาย
ระหว่างข้ากับเย่อีเฉิ นแน่
เมือฮ่องเต้เสด็จออกจากท้องพระโรงจนลับสายตา มู่หรงเสวียก็ค่อยๆลุกขึนเดินออกจากท้องพระโรงท่ามกลาง
สายตาของเหล่าชนชันสู ง ไม่แม้แต่มองหน้าของเย่อีเฉิ นเลยสักนิ ด
มู่หรงเสวียทีไม่รู้ความคิดในใจของเย่อเฉิ
ี น หลังออกจากพระราชวังก็เดินตามการนําทางของนางกํานัลไปทีรถ
ม้ากลับจวนเจินกัวโฮว
“กรรจ์” สุ นัขขนดําเหมือนฟั งเข้าใจเสี ยงเชียร์ ของเขา กัดไปทีคอของสุ นัขขนเทา ดับลมหายใจของสุ นขั ขนสี เทา
ทันที
ซวงสี ยิมอย่างลําบากใจ “คุณชาย ท่านซื อสุ นขั ประลองสี ตัว ตัวละห้าร้อยตําลึง ไหนจะเสี ยพนันไปอีกครังละ
หนึ งพันตําลึง......”
หญิงงาม? หญิงงามทีไหนกัน?
ได้ทงหญิ
ั งงาม ได้ทงรางวั
ั ลจากจิงอ๋ อง นีเป็ นการยิงปื นนัดเดียวได้นกสองตัวชัดๆ
มู่หรงเสวียยกยิมเย็น ยกเท้าเตะสวนไปยังสวีเทียนอัน
สวีเทียนอันไม่ทนั ได้ตงตั
ั วจึงโดนเตะเข้าทีท้องอย่างจัง กระเด็นล้มลงไปกับพืน เจ็บถึงขนาดทีคิวขมวดเป็ นปม
ในขณะเดียวกันปากก็อา้ ค้างด้วยความเจ็บปวดจนเห็นแนวฟั น เขาจ้องมองมู่หรงเสวียอย่างเกลียดชัง
กับแค่แผนยัวยุสกปรกเล็กน้อยเช่นนี นางเองก็ขีเกียจจะสนใจ
มู่หรงเย่อบั จนคําพูด นีน่ ะหรื อทีเรี ยกว่าดี? แถมยังกล้าส่ งมันลงสนามประลอง ไม่ตอ้ งลงสู ้หรอกแค่ความกดดัน
จากสุ นขั ประลองตัวอืนก็สามารถทําให้มนั ตายได้แล้ว ช่างอ่อนแออะไรเยียงนี พวกหางแถวแบบนี สนาม
ประลองคงไปจับมันมาเพือเพิมจํานวนของสุ นขั ประลองให้ดูมากขึนเท่านัน คนสายตาดีคงไม่มีทางเลือกมันแน่
สวีเทียนอันพิงขอบสนาม ดูขนุ พลเหลืองของตนเดินอย่างองอาจเข้าสู่ สนามประลอง ประจัญหน้ากับสุ นขั
ประลองของฝังตรงข้ามพร้อมแสดงท่าทางเหนื อกว่า ด้วยรู ปร่ างทีใหญ่โตของมันแทบจะบังสุ นขั ประลองทีมู่
หรงเสวียเลือกจนมิด ท่าทางคล้ายกับผูใ้ หญ่กาํ ลังจะสังสอนเด็กทีอวดดี
‘แก๊งๆ’ ทันทีทีเสี ยงระฆังเริ มการต่อสู ้ดงั ขึน ท่าทีของ ‘ขุนพลเหลือง’ กลับกลายเป็ นโหดร้ายดุดนั ปราดเปรี ยว
ขึนมาพริ บตา มันแหงนหน้าหอนก่อนจะพุ่งไปทางสุ นัขประลองของมู่หรงเสวียด้วยความดุร้าย
เขามองไปทางสวีเทียนอันทีกําลังทุกข์อย่างมีความสุ ข เห็นเขามองไปยังสนามประลองทีเต็มไปด้วยเลือดด้วยสี
หน้าตระหนกตกใจ สุ นขั ประลองทีซื อมาตายหมด ทังยังแพ้ให้กบั มู่หรงเสวีย แถมยังต้องโดนตัดนิ ว......ข้าไม่มี
ทางยอม ข้าต้องไม่กลายเป็ นคนพิการเช่นนันแน่ !
“สวีเทียนอัน เจ้าคนน่ารังเกียจ!”
ใช่สิ เสื อผ้าของร้านอีเซี ยงเก๋ อ หรื อร้านผ้าชือดังอืนๆ ไม่ว่าเขาไปเองหรื อให้นอ้ งเล็กไป ก็ซือของได้ไม่ต่างกัน
มู่หรงเสวียมิกล่าววาจา สายตาเย็นชามองไปด้านหน้า
คนงานก้มหน้ามิกล่าววาจา เหล่สายตาขอความช่วยเหลือไปทางด้านข้าง
“ข้านึ กว่าเย่อเฉิ
ี นจะเป็ นวีรบุรุษผูส้ ู งส่ ง ถึงพวกข้ากับเขาจะไม่ได้เป็ นทองแผ่นเดียวกันก็ยงั สามารถเป็ นมิตรทีดี
ต่อกันได้ แต่คาดไม่ถึงว่า เขากลับรังแกคนทีอ่อนแอกว่า ไม่รักษาสัญญา ทังยังใช้อาํ นาจบีบบังคับให้นอ้ งข้าแต่ง
เข้าเป็ นบ้านรอง ช่างไร้ยางอายจนข้าพูดไม่ออก”
“จวนเจินกัวโหวของข้าถึงแม้ว่าจะไม่สูงส่ งเท่าวังอ๋ อง แต่ก็จะมิอาจยอมให้ผใู ้ ดมาเหยียดหยาม พ่อบ้านหวัง เชิญ
ี นเสี ยเถอะ ตระกูลมู่หรงไม่ได้เสี ยดายในตัวเขา ถึงแม้ว่าเขาจะยอมให้นอ้ งสาวข้าเป็ นพระ
เจ้ากลับไปบอกเย่อเฉิ
ชายาเอกก็ตามที พวกข้าก็จะไม่เสี ยดาย พวกข้าขอถอนการหมันหมายครังนี ”
“อืม” มู่หรงเสวียพยักหน้าพอใจ
นางเพิงพูดไม่กีประโยค คนให้ทา้ ยก็มาเสี ยแล้ว บ่าวไพร่ จวนนี ช่างส่ งข่าวได้รวดเร็ วเสี ยจริ ง สาวใช้ทียืนอยูใ่ น
เรื อนฝังตะวันตกพวกนี ล้วนเป็ นคนของฮูหยินเฒ่า มีเพียงสาวใช้สองหน้าแซ่ ชิวเพียงคนเดียวทีเป็ นคนของนาง
ไม่แปลกใจว่าทําไมหญิงเฒ่าถึงมาได้รวดเร็ วถึงเพียงนี
“เจ้าค่ะ”สาวใช้สองนางก้าวออกมาด้านหน้านําผ้ายัดเข้าไปในปากของสาวใช้ชิวแล้วกระชากนางออกไปด้าน
นอกอย่างรวดเร็ วจนไม่มีใครตังตัวได้ทนั
“พวกท่านขโมยสิ นเดิมของแม่ขา้ ข้าถึงต้องฟ้ องศาล เรื องเสื อมเสี ยอับอายนัน มิใช่ขา้ ทีต้องกังวล แต่เป็ นพวก
ท่านต่างหากทีต้องกังวล อย่าลืมสิ ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรานันช่างเปราะบางเพียงใด” มู่หรงเสวียพูด
อย่างเนิบนาบ สี หน้าคล้ายยิมคล้ายมิยมิ
“หึ !” ซ่ งชิงเหยียนเดินกระแทกเท้าออกไปด้านนอก
“อาสองของเจ้าเขา......”
“ท่านอาสองอยูไ่ กลตังจิงโจว ไปกลับต้องใช้เวลาเป็ นเดือน การถอนหมันเป็ นเรื องเร่ งด่วน รอหารื อกับอาสอง
คงมิทนั การณ์ ตอนนี ท่านพีของข้ามีศกั ดิฐานะเป็ นเจินกัวโหว ข้ายึดตามคํากล่าวทีว่าพีชายมีอาํ นาจสิ ทธิขาด
เหมือนพ่อ ซึ งท่านพีก็เห็นด้วยในการทีข้าจะถอนหมันกับเย่อเฉิ
ี น ท่านย่ามิตอ้ งเป็ นกังวลในเรื องนีหรอกเจ้าค่ะ”
มู่หรงเสวียมองนางยิมๆ ดวงตาสื อความหมายลึกซึ ง
มู่หรงเย่ดวงตาเป็ นประกาย ตังชือให้สุนขั เรื องนีเขาเก่งทีสุ ดแล้ว “มันต่อสู ้เก่งขนาดนัน เรี ยกมันว่าขุนพลแห่ ง
ชัยชนะ เจ้าว่าดีหรื อไม่?”
มู่หรงเสวียสี หน้าเข้มขึน “มันเป็ นของข้าแล้ว อย่าหวังให้มนั ไปสนามประลองอีก เป็ นอันขาด เจ้าเลิกตังชือ
เกียวกับการต่อสู ้ได้แล้ว คิดชือทีธรรมดากว่านีหน่อย”
“งันเป็ นเป่ าเปาดีรึไม่?” มู่หรงเย่แนะนําเสี ยงเบา มองสี หน้ามู่หรงเสวียทีขรึ มลง “ถ้างันเป้ ยเป้ ยละ?”
“เป้ ยเป้ ย? พอฟังเข้าหู ดี งันเรี ยกมันว่าเป้ ยเป้ ยแล้วกัน” ความสามารถตังชือของมู่หรงเย่กเ็ ป็ นเช่นนี มู่หรงเสวียคิด
ชืออืนไม่ออก งันก็เรี ยกมันว่าเป้ ยเป้ ยแล้วกัน
มู่หรงเสวียนี นางวางแผนทีจะดูแลห้องเก็บของด้วยตนเองรึ ?
“มิตอ้ งกังวล” เสี ยงเย็นชาดังขึน ชายหนุ่ มผูห้ นึงเดินออกมาจากป่ า เขาใส่ ชุดเจ้าบ่าวสี แดง ร่ างกายองอาจเข้มแข็ง
ดวงหน้าเย็นชาดังนําแข็ง แววตาคมดูลึกลํา นันเขา จิงอ๋ องเย่อีเฉิ น
*ยามซวี : ช่วงเวลาประมาณหนึงทุ่มถึงสามทุ่ม
ตอนที 12 จิงอ๋ องฉุดเจ้ าสาว
มู่หรงเสวียย่นคิว ถึงว่าอยูๆ่ ก็มีศตั รู โดยทีทหารยามของจวนไม่รู้สึกตัวแม้แต่นอ้ ย ทีแท้กเ็ ป็ นคนของเย่อีเฉินนีเอง
สายตาดูถูกและนําเสี ยงเฉยชาดังกับไม่เห็นมู่หรงเย่อยู่ในสายตา
ก้าวขาเล็กน้อยจนขยับมาประชิดตัวของมู่หรงเย่ “หลีกไป!”
“เหลวไหล!” เสี ยงของเย่อีเฉิ นเคร่ งขรึ มจนน่ ากลัว มองมาทีนาง “มู่หรงเสวีย เอาเรื องของตัวเองให้รอดก่อนเถอะ
อย่ามาท้าทายข้าด้วยการยุแหย่ให้ขา้ กับยวีเยียนผิดใจกัน!”
เย่อีเฉิ นมองยังมือทีว่างเปล่าของตัวเอง สี หน้าไม่เข้าใจนัก หลังจากทีเขาเป็ นวรยุธ ไม่ว่าผูน้ ันจะเป็ นหรื อตาย ถ้า
หากเขาอยากจะได้ตวั แล้วย่อมไม่มีทางพลาดไปจากเงือมมือของเขาได้ แต่ม่หู รงเสวียกลับรอดมือเขาไปได้ นี มัน
เกิดอะไรขึน?
มู่หรงเสวียยิมเยาะแล้วตอบว่า “ถ้าข้าบอกว่าไม่ละเพคะ?”
มู่หรงเย่ทีไม่ทนั ได้ตงตั
ั วโดนฝ่ ามือฟาดลงไปนอนกับพืน แต่กย็ งั มีสติพอทีจะรี บคว้ามือไปฉุ ดขาของเย่อีเฉิ นไว้
แน่น
เมือเห็นมู่หรงเสวียยิงวิงยิงไกลออกไป แต่ขาของเย่อเฉิ
ี นเหมือนติดอยูใ่ นหิ น ไม่สามารถจะขยับไปไหนได้
ดวงตาจึงเปลียนเป็ นเย็นชา เตะเข้าไปทีมู่หรงเย่อย่างไม่คิดจะออมแรง “หลบไป!”
ตอนที 14 แรกพบคุณชายโอวหยาง
ได้ยนิ เพียงเสี ยง “ปั ง ปั ง ปั ง!” ดังขึน ก่อนทีก้อนหิ นจะแตกกระจุยจนฝุ่ นควันฟุ้ งไปทัว มู่หรงเสวียสําลักไอไม่
หยุด เร่ งถอยไปด้านหลัง ออกจากรัศมีฝนุ่ ควันนัน
ี นพุ่งตัวหลบออกไปประมาณสามสี เมตร
ลมสายหนึงพัดผ่าน พัดพาเอาฝุ่ นควันจางหายไป เย่อเฉิ
ชายหนุ่ มสวมชุดจีนโบราณสี ขาวราวกับหิ มะ เนื อผ้าเรี ยบจนไร้ทีติ กําลังใช้แขนเสื อสี ขาวปั ดเศษฝุ่ นบนโต๊ะหิ น
ผมดําถูกหมวกหยกขาวรวบสู งขึนแล้วปล่อยยาวลงด้านหลัง
ได้ยนิ เพียงเสี ยง “ปั ง ปั ง ปั ง!” ดังขึน ก่อนทีก้อนหิ นจะแตกกระจุยจนฝุ่ นควันฟุ้ งไปทัว มู่หรงเสวียสําลักไอไม่
หยุด เร่ งถอยไปด้านหลัง ออกจากรัศมีฝนุ่ ควันนัน
ี นพุ่งตัวหลบออกไปประมาณสามสี เมตร
ลมสายหนึงพัดผ่าน พัดพาเอาฝุ่ นควันจางหายไป เย่อเฉิ
ชายหนุ่ มสวมชุดจีนโบราณสี ขาวราวกับหิ มะ เนื อผ้าเรี ยบจนไร้ทีติ กําลังใช้แขนเสื อสี ขาวปั ดเศษฝุ่ นบนโต๊ะหิ น
ผมดําถูกหมวกหยกขาวรวบสู งขึนแล้วปล่อยยาวลงด้านหลัง
เดินหมาก? เดินหมากอะไร?
คุณชายโอวหยางถึงกับกล้าโจมตีเขา มันจะมากเกินไปแล้ว!
หางตาเห็นชายเสื อสี ขาว เป็ นคุณชายโอวหยางทีกําลังเดินเข้ามา ชุดสี ขาวราวหิ มะพลิวไหวดังผีเสื อ เสริ มเน้น
ความสู งส่ งและสง่างามจนสู งลํา
“น้องเล็ก” นําเสี ยงตะโกนเรี ยกอย่างยินดี มู่หรงเสวียปิ ดแขนเสื อลง มองไปยังทางทีเป็ นต้นเสี ยง ปรากฏร่ าง
ของมู่หรงเย่ทีกําลังวิงเข้ามาอย่างเร่ งรี บ กวาดสายตาตรวจดูร่างกายของนาง สายตาเต็มไปด้วยความห่ วงใย “เจ้า
เป็ นอย่างไรบ้าง?”
“ข้าไม่เป็ นไร” มู่หรงเสวียพูดตอบด้วยรอยยิมบาง ๆ
“ความเป็ นตายของเย่อเฉิ
ี นข้าไม่สนใจ ข้าเพียงเห็นว่าเหวนันลึกมาก ทังยังมีกระแสนําทีรุ นแรง ดูแล้วน่ าจะมี
โอกาสรอดยาก ก็แค่บอกพวกเจ้าไว้เท่านัน ให้พวกเจ้าได้มีเวลาเตรี ยมใจ พอตอนเจอศพจะได้มิโศกเศร้าเสี ยใจ
ไป” มู่หรงเสวียพูดขึนด้วยนําเสี ยงเฉยชา
“ไม่ส่งนะ” มู่หรงเสวียตอบกลับอย่างเฉยชา
“ท่านอ๋ อง!” เสี ยงร้องเรี ยกด้วยความยินดีดงั ขึน เย่อีเฉิ นมองไปเห็นสวีเทียนโย่วเร่ งรี บวิงเข้ามา กวาดตามองไป
ทัวร่ างกายของเขา แววตาปรากฏความยินดีอย่างปกปิ ดไม่มิด “ท่านไม่เป็ นอะไรใช่ไหม?”
เย่อีเฉิ นหรี ตาพูดด้วยนําเสี ยงเย็นชา “ทําไม? เจ้าไม่ได้จบั ตัวนางขึนเกียวสี ชมพู ส่ งเข้าวังจิงอ๋ องรึ ?”
มู่หรงเสวีย ดี ดีมาก!
ทันใดนันรอบกายของเย่อเฉิ
ี นเต็มไปด้วยไอสังหาร แววตาส่ องประกายเยือกเย็นคมกริ บจนทําให้สวีเทียนโย่วไม่
สงสัยเลยว่าถ้ามู่หรงเสวียยังอยูท่ ีนีนางจะต้องถูกเย่อีเฉิ นฉี กกระชากเป็ นชินๆอย่างแน่นอน “ท่านอ๋ องมิตอ้ งเป็ น
กังวล พวกขุนนางและชาวบ้านในเมืองหลวงไม่มีทางกล้าลบหลู่วิพากษ์วิจารณ์วงั จิงอ๋ อง!”
เสี ยงตําหนิ ดงั เข้าหู สี หน้าของมู่หรงเย่กลายเป็ นแดงกํา รี บโบกมือไปมาพลางรี บเร่ งอธิ บาย “มิใช่......มิใช่......ใน
สิ นเดิมของท่านแม่มีเงินตําลึงอยู่ ข้าต้องการแค่เพียงเงินตําลึง มิได้ตอ้ งการแตะต้องสิ งของด้านใน”
แซ่ ตูช้ ะงัก จากเงินกลายเป็ นสิ นเดิมไม่ทนั ไรกลับกลายเป็ นร้านค้าทีอยูใ่ นสิ นเดิม การเปลียนเรื องของมู่หรงเสวีย
ช่างรวดเร็ วยิงนัก
“ตอนนี ไม่ใช่ตน้ เดือน และก็มิใช่ปลายเดือน ตัวสมุดบัญชีลว้ นอยูท่ ีผูด้ ูแลร้าน ข้ามีเสี ยทีไหน” หญิงเฒ่าแซ่ ตูพ้ ดู
อย่างราบเรี ยบเป็ นปกติยกยิมเยาะเย้ย แต่ไหนแต่ไรมานางก็ไม่ชอบหลานสาวนอกไส้ผนู ้ ีอยูแ่ ล้ว ทุกครังทีเห็น
นางตกทีนังลําบาก ตัวนางเองก็จะมีความสุ ขมากเป็ นพิเศษ
มู่หรงเสวียค่อยๆแหวกม่านเดินออกมา “ทุกท่านรอนานแล้ว!”
เหล่าเสมียนเงยหน้าขึนเห็นหญิงสาววัยรุ่ นผูห้ นึงเดินออกมา ดวงหน้าสว่างสดใส เรื อนผมสี ดาํ รู ปลักษณ์สวยลํา
จนผูค้ นตกตะลึงและตราตรึ งใจ นางยิมน้อยๆดวงตาลําลึกซ่ อนไว้ดว้ ยความแข็งกร้าว ทําให้ผคู ้ นทีพบเจอล้วนพา
กันหยุดหายใจ
เหล่าเสมียนล้วนเกิดอาการเบือหน่าย มือเท้าค้างคล้ายหลับคล้ายมิหลับ
“ค้าขายทํากิจการ อนุ ญาตให้ลกู ค้าค้างเงินได้แต่กต็ อ้ งมีความพอควร สามเดือน ห้าเดือนยังพอว่า หนึงปี สองปี ยัง
พอรับได้ แต่พวกเจ้าดูบญั ชีในมือของพวกเจ้า ระยะเวลาสิ บปี จนถึงตอนนี ยังไม่ยอมคืน ลูกค้าชันแย่ทีไม่ยอมจ่าย
แม้แต่สตางค์เดียวเช่นนี มิใช่อยากให้ร้านค้าปิ ดกิจการหรอกรึ ”
“เจ้า......”
ระยะเวลาสิ บปี มานี นางเอาของจากร้านพวกนี มาได้เกินครึ งแล้ว อีกไม่กีปี ร้านรวงพวกนี ก็จะตกเป็ นของพวก
นาง แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกมู่หรงเสวียค้นพบเบาะแสเสี ยก่อน
ร้านค้าของท่านป้ าใหญ่ (แซ่ เฉิ น) ก็ดีเช่นนี นางชอบอะไรหยิบอะไร เพียงแค่จดลงสมุดบัญชีกพ็ อ มิจาํ เป็ นต้อง
จ่ายเงิน
“คุณหนูใหญ่!” เหล่าทหารยามทําความเคารพนางอย่างนอบน้อม
ซ่งชิงเหยียนส่ งเสี ยงตอบรับผ่านๆ เยืองย่างเข้าประตูใหญ่ เตรี ยมทีจะก้าวไปข้างหน้า ด้านหลังกลับมีเสี ยงของ
ชายผูห้ นึ งดังขึน “ข้าน้อยเป็ นเสมียนของตึกมุกหยก ได้รับคําสังจากผูด้ ูแลร้านมาเก็บเงินทีค้างไว้จากจวนอู่อนั
โหว รบกวนพีชายช่วยแจ้งคนในจวนให้หน่ อย”
“ก็จริ ง ตึกมุกหยกก็ชือเสี ยงไม่เลว เสมียนก็เป็ นคนซื อสัตย์จริ งใจ ไม่มีทางปลอมของพวกนีมาใส่ ร้ายผูค้ น......”
“นิสัยคนของจวนอู่อนั โหวช่างแย่เกินไปแล้ว......”
“ใครว่าไม่ใช่เล่า......”
“แค่จดลงบัญชีไม่ตอ้ งจ่ายเงิน เสื อผ้า เครื องประดับ ของโบราณ ถ้าเป็ นข้าข้าก็เต็มใจจะซื อเยอะๆเช่นกัน......”
“ข้ารู ้!” ดวงตาของมู่หรงโหรวปรากฏแววตาคมกริ บ “แต่ถา้ เรื องทีจวนอู่อนั โหวค้างเงินสิ บปี แพร่ กระจาย
ออกไป และถ้าวันนีพวกเรายังไม่เอาเงินออกมาคืน ก็คงจะถูกประณามว่าเป็ นพวกหนี หนีและถูกชาวเมืองหลวง
หัวเราะเยาะถากถาง ยิงไปกว่านันคงถูกพวกชนชันสู งดูถูกเหยียดหยาม ไม่ว่าจะไปทีใดล้วนถูกผูค้ น
วิพากษ์วิจารณ์จนไม่มีหน้าไปมองใคร อย่างนี จะมีหน้าอยูใ่ นเมืองหลวงอีกหรื อ?”
“แลกเปลียนกับอะไร?” มู่หรงเย่ยมตาหยี
ิ กล่าวถาม ถ้าเงือนไขไม่ยากลําบากอะไรเขายอมตกลงทังสิ น
“ว้าย......”
“ว้าย......”
เสี ยงวิงอย่างเร่ งรี บดังขึน เป็ นทหารยามจวนโหวทีรุ ดมาถึง ชายชุดดําไม่อยากให้ยดื เยือ จึงใช้มือโจมตีไปที
หน้าอกของมู่หรงเย่ หวังทีจะทําให้เขาบาดเจ็บสาหัสและอาศัยจังหวะทีเขาบาดเจ็บนันหลบหนี ไป
“เร็ วเข้า คนร้ายอยูท่ ีนัน อย่าให้มนั หนี ไปได้!” ทหารยามวิงเข้ามาด้านในล้อมเรื อนเอาไว้ มู่หรงเสวียและมู่หรงเย่
ล้อมหน้าล้อมหลังกักชายชุดดําเอาไว้ตรงกลาง เขาได้รับบาดเจ็บเข้าแล้ว ยากทีจะหนี ไปได้
ชายชุดดําแววตาเยือกเย็น ใช้ฝ่ามือตีไปทีกล่องไม้ ได้ยนิ เสี ยง ‘ปั ง’ ดังขึน เพียงพริ บตาเดียว กล่องไม้หรู หราก็
แตกกระจาย ขวดยาและตัวยาด้านในแตกกระจายออกเป็ นผุยผงตกลงสู่ พนื ปนเข้ากับสี เขียวเหลืองบนพืนจน
แยกแทบไม่ออก......
สาวใช้อนเซี
ั ยงเร่ งก้าวมาด้านหน้าเพือพยุงแขนของนางไว้อย่างระมัดระวัง “คุณหนู ให้ขา้ น้อยพาท่านไป
พักผ่อนเถอะนะเจ้าคะ”
วังจิงอ๋ อง
เย่อีเฉิ นเน้นเสี ยงทีประโยคสุ ดท้ายเป็ นพิเศษ มู่หรงเย่พอได้ยนิ เช่นนัน สี หน้าก็ดาํ คลําขึนทันที ดวงตาเต็มไปด้วย
ไฟแค้นจนแทบจะสามารถพ่นไฟออกมาได้
“แต่ว่า......”
“นําร้อนช่วยขับพิษได้หรื อ ?” มู่หรงเย่เบิกตากว้างด้วยความแปลกใจ
คุณชายโอวหยางเลิกคิว พูดด้วยนําเสี ยงเรี ยบเฉย “เมือครู่ ขา้ เผลอหลับไป พอได้ยนิ เสี ยงนําไหว ถึงค่อยตืน
ขึนมา”
“ท่าน !” มู่หรงเสวียโกรธจนถึงทีสุ ด นางกับมู่หรงเย่ส่งเสี ยงพูดคุยกันทีริ มบ่อนําพุมาตังนาน เขาไม่ตืน แต่เพียง
เสี ยงแหวกนําทีบางเบากลับทําให้เขาตืนเสี ยได้ หลอกใครทีไหนก็ไม่มีทางเชือ เขาต้องตืนอยูแ่ ต่แรกและมอง
นางก้าวลงบ่อนําพุร้อนแน่ คงตังใจจะยัวให้นางโมโห
แววตาของคุณชายโอวหยางดูลาลึ
ํ กวูบไหวไปมา เขาค่อยๆก้มหน้าลงสัมผัสกับปากสี ชมพูระเรื อของนางอย่าง
แผ่วเบา......
ความรู ้สึกอบอุ่นทีบริ เวณริ มฝี ปากแล่นขึนมา มู่หรงเสวียรู ้สึกเหมือนได้ยนิ เสี ยง ‘ตึง’ ดังขึนในใจ ความคิดในหัว
กลายเป็ นสี ขาวโพลน ผ่านไปชัวครู่ ถึงจะหลุดจากภวังค์ มองไปทีดวงหน้าหล่อเหลาทีใกล้ชิดเข้ามา แววตาของ
นางกลายเป็ นเย็นเยียบ ผลักเขาออกไปสุ ดแรง กล่าวอย่างโกรธขึงว่า “คุณชายโอวหยาง ท่านทําอะไร ?”
“บัวอัคคี” คุณชายโอวยางพูดขึนอย่างราบเรี ยบ
สวินเฟิ งทีเฝ้ าอยูใ่ นเรื อนรี บเร่ งเท้าเดินเข้ามา นําเสี ยงเคารพนอบน้อม “คุณชาย”
นางพกหยกก้อนนีติดตัวอยูต่ ลอดเวลา !
สายตาของคุณชายโอวหยางมีแววชังใจอยูช่ วครู
ั ่ จากนันเขาจึงค่อย ๆ ถอดรองเท้าออกแล้วเลิกผ้าห่ มขึนสอดตัว
เข้าไปนอนข้าง ๆ ร่ างของมู่หรงเสวีย ยืนมือออกไปเพือรังเอาร่ างของนางเข้ามาในอ้อมกอด ฝ่ ามือขาวราวหยก
วางไว้ทีแผ่นหลังของนาง ค่อย ๆ ส่ งพลังปราณเข้าไป
มู่หรงเสวียเบ้ปาก นางรู ้ว่าทีนี คือห้องของเขา แต่ไม่ใช่ว่านางกําลังนังอยูบ่ นเตียงของเขารึ ไง ? นางเป็ นผูห้ ญิง เขา
ไม่รู้ว่าควรทีจะหลบฉากออกไปเปลียนทีอืนหรื อ ?
ชายหนุ่ มยิม ๆ เชิดใบหน้าขึน แนะนําตัวอย่างองอาจว่า “ข้าน้อยตูเ้ ฉิ งเจียง น้องเสวียเอ๋ อร์ คงพอได้ยนิ ชือของข้า
มาบ้าง !”
“เสวียเอ๋ อร์ ” มองไปตามเสี ยงเรี ยกทุม้ นุ่ ม คุณชายโอวหยางค่อย ๆ เดินเข้ามาทีโถงใหญ่ ชุดสี ขาวราวหิ มะพลิว
ไหวเหมือนผีเสื อ ด้านบนปั กด้วยลวดลายดอกไม้สีดาํ เสริ มความองอาจและสง่างาม
เขาอยูใ่ นชุดสี ขาวหิ มะ ดูองอาจสง่างาม คิวงามสี ดาํ ได้รูป แววตาสี ดาํ เงาให้ความรู ้สึกลึกลับน่ าค้นหา รู ปงาม
หล่อเหลาจนทําให้ผคู ้ นมิอาจละสายตาได้
ไม่ผดิ แน่ ทําไมคุณหนูแห่ งจวนเจินกัวโหวจะยอมเป็ นอนุ ให้ผอู ้ ืน อีเฉิ นเป็ นท่านอ๋ องเทพสงคราม ทัวทังชิงเห
ยียนจะหาชายหนุ่ มทีดีเท่าเขาไม่มีอีกแล้ว มู่หรงเสวียทีเคยมีว่าทีสามีทีดีเช่นนี แน่ นอนว่าต้องไม่มีทางหันไปมอง
พวกคนธรรมดาทัวไปแน่ ดังนัน นางถึงเลือกทีจะเกาะติดคุณชายโอวหยางทีดีพอ ๆ กับเย่อีเฉิ น นางช่างเป็ น
หญิงสาวทีฉลาดเสี ยจริ ง
แต่ว่า นางกับอีเฉิ นมีผลประโยชน์คาบเกียวกันอยู่ อีเฉิ นไม่มีทางยอมปล่อยนางให้แต่งกับคุณชายโอวหยาง
รวมถึงวังเซี ยวเหยาอ๋ องก็ยงไม่
ิ มีทางยอมรับหญิงสาวทีผ่านการถอนหมันมาเป็ นภรรยาเอกของคุณชายโอวหยาง
แน่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามนางก็ตอ้ งกลายเป็ นอนุ ของอีเฉิ นวันยังคํา
อีเฉิ นมิได้อยูท่ ีโรงเตียมเยว่หยาง แต่นางทีเป็ นว่าทีพระชายาเอกแห่ งวังจิงอ๋ องอยูท่ ีนี แล้ว นางคงต้องสังสอนมู่
หรงเสวียแทนอีเฉิ นเสี ยบ้าง ให้นางได้รู้วา่ ฐานะของตนเองนันควรต้องกระทําตัวเช่นไร !
โรงเตียมเยว่หยางเป็ นร้านอาหารก็จริ ง แต่ก็ยงั เป็ นสถานทีแห่ งปราชญ์ บัณฑิตทีเป็ นคุณหนูผมู ้ ากความรู ้ในเมือง
หลวงมักจะมารวมตัวกันทีนี บ่อยครัง เจ้าดีดพิณ ข้าเป่ าขลุ่ย เจ้าเขียนกลอน ข้าแต่งกวี การประลองและการ
แข่งขันมักเกิดขึนทีนี เป็ นประจํา ดังนัน เหล่าผูม้ ากความสามารถเหล่านันมักจะมาทีโรงเตียมเยว่หยางเพือทีจะ
เสาะหาผูค้ นทีจะมาประลองแข่งขันความสามารถของพวกเขา
$(function () {
if ($.cookie("reader_size")) {
size.val($.cookie("reader_size"));
if ($.cookie("reader_font")) {
font.val($.cookie("reader_font"));
size.change(update);
font.change(update);
update();
});
ชนะข้าหรื อ? ช่างอวดดียงนั
ิ ก
นีมัน......เสี ยงสังหาร !
“......”
“เขาอยูข่ า้ งกายท่านมานานเท่าไรแล้ว......?”
“......”
คุณชายโอวหยางย่นคิว หันกายมองไปทางสวินเฟิ ง
นางถึงบ้านแล้วจริ ง ๆ
นางยังจะกล่าวถึงสวินเฟิ งอีกหรื อ ?
เขาคือ......คุณชายโอวหยาง !
มู่หรงเสวียยิมน้อย ๆ “เชิญคุณชายตามสบายเจ้าค่ะ”
“มิใช่ มิใช่ !” ซ่ งชิงเหยียนส่ ายหน้ากระวนกระวาย ร้องเสี ยงดังอย่างร้อนรน “ตอนนี ชิงเหยียนรู ้สึกปกติดี ชิงเห
ยียนแค่ไม่ระวังจนลงตกบันไดเอง ไม่เกียวกับผูใ้ ดเลย”
ชายวัยกลางคนนันนางรู ้จกั เขาคือตูอ้ ี เป็ นหลานชายของหญิงเฒ่าแซ่ ตูพ้ ่อของตูเ้ ฉิ งเจียง ตอนนี ดํารงตําแหน่ งเป็ น
ขุนนางกรมพิธีการไท่ฉางซื อ ขุนนางระดับสี ขันหนึง
“มู่หรงเสวีย เจ้ามิตอ้ งมาโยกโย้ เจ้าทําร้ายตูเ้ ฉิ งเจียงจนบาดเจ็บสาหัส เกิดเรื องเช่นนีจริ งรึ ไม่ ?”หญิงเฒ่าแซ่ ตู้
กล่าวถามขึนเสี ยงดัง
มู่หรงเสวียเลิกคิวเล็กน้อย มาถึงก็เริ มไต่สวนกันเลยหรื อ ? พูดจาทักทายเป็ นพิธีสักนิดก็ไม่มี ดูเหมือนว่าจะพา
กันรอนางจนทนแทบไม่ไหวแล้ว เช่นนันนางก็คงต้องให้ความร่ วมมือเสี ยหน่อย “เป็ นเขาทีมาล่วงเกินข้าก่อน
ข้าถึงลงมือสังสอนเขา......”
ตูอ้ ีสี หน้าเขียวคลํา นางกําลังหลอกด่าเขาว่าจิตใจคับแคบ “มู่หรงเสวีย ! ข้ามีศกั ดิเป็ นอาของเจ้า เป็ นญาติผใู ้ หญ่
ของเจ้า ใครอบรมสังสอนให้เจ้าพูดจากับผูใ้ หญ่เช่นนี ? ไม่รู้จกั มารยาทเคารพผูห้ ลักผูใ้ หญ่” นางมาถึงก็ต่อว่ากด
เขาเอาไว้ ทังยังมาเยาะเย้ยเขา ช่างน่าโมโหยิงนัก ทีคนโบราณกล่าวไว้ว่าเลียงลูกสาวนันยากพอ ๆ กับเลียงบ่าว
ไพร่ เห็นท่าจะจริ งยิงนัก
“อาอี เจ้าเป็ นอะไรไป ? เด็ก ๆ เด็ก ๆ......” แซ่ ตูร้ ้องเรี ยกด้วยความตกใจ เหล่าสาวใช้เร่ งมาล้อมรอบพวกเขาไว้
คนเช็ดเลือดก็เช็ดเลือดไป คนพยุงก็พยุงไป โดยรอบเกิดเป็ นความวุน่ วายขึนมา
มู่หรงเสวียเพียงมองดูอยูร่ อบนอก มองไปทางดวงหน้าซี ดขาวของตูอ้ ี เลิกคิวบางเบา แค่คาํ พูดเพียงไม่กีคํา กลับ
ทําให้เขากระอักเลือดได้ ช่างไม่ได้ความเสี ยจริ ง ไม่เข้าใจเลยจริ ง ๆ ว่าคนเช่นนี กลายเป็ นไท่ฉางซื อขุนระดับสี
ขันหนึ งได้อย่างไรกัน
“ถ้าข้าไม่ตดั ขาดกับท่าน เช่นนันท่านจะให้ขา้ ไปเป็ นอะไรดีล่ะ ? พระชายารอง ? อีเหนี ยง(อนุ ภรรยา)? อนุ ชนตํ
ั า
ทีไร้ยศ ? หรื อซื อเชียนางบําเรออุ่นเตียงของท่านหรื อ ?” มู่หรงเสวียเลิกคิวมองไปทีเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความ
เยาะเย้ย “ระดับข้าคุณหนู แห่ งจวนเจินกัวโหว ไม่มีทางลดเกียรติทิงฐานะชายาเอกไปเป็ นอนุหรอกเจ้าค่ะ !”
ในใจของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง ทีถูกน้องสาวปฏิเสธความหวังดีอย่างไร้เยือใย......
กูเ้ ห่ ายวีแววตาเคร่ งขรึ ม ค่อย ๆ เปิ ดปากเอ่ยวาจา “อันทีจริ งแล้ว ทีข้ามาจวนโหววันนี นอกจากการเชือเชิญที
จริ งใจของคุณชายแล้ว ส่ วนหนึงก็เป็ นความตังใจของข้าเอง ตัวข้านันชืนชมในตัวคุณหนู ม่หู รง จึงอยากมาทีจวน
โหวเพือพบหน้าคุณหนูสักครัง”
นางก้าวถอยหลังจนขาเกิดพันกันสะดุดล้มลงไปกับพืน
ทัง ๆ ตอนทีเขากับเย่อเฉิ
ี น ‘เดินหมาก’ กัน นางไม่เห็นจะมากางแขนปกป้ องเขาเช่นนี เลย !
“......”
“สองหมืนตําลึง......”
“สามหมืนตําลึง......”
“สี หมืนตําลึง......”
“หนึ งหมืนตําลึง......”
“หนึ งหมืนห้าพันตําลึง......”
“สองหมืนตําลึง......”
นางถึงกับรอไม่ไหวทีจะให้คุณชายโอวหยางตอบตกลงขายต้นตีหยางให้แก่นาง
คุณชายโอวหยางให้ตนจ่ายเงินแสนตําลึงเพือต้นตีหยางเพียงต้นเดียว แต่กลับมอบแหล่งของดงต้นตีหยางให้
หญิงสาวผูน้ ันเสี ยเปล่า ๆ โดยทีนางมิตอ้ งลงมือลงแรงอะไรเลย เพียงเพือให้นางบรรเทาความเจ็บปวดจากอาการ
พิษกําเริ บเท่านัน คนมาทีหลังกลับดียงกว่
ิ า และดูเหมือนเขาจะใส่ ใจนางมาก......
“มิใช่ มิใช่ขอรับ” ซวงสี เร่ งส่ ายหน้า “เป็ นจวนอู่อนั โหวทีส่ งเทียบเชิญมาเชิญฮูหยินเฒ่า คุณชายกับคุณหนูไป
งานเลียงทีอู่อนั โหวขอรับ”
แววตาของมู่หรงเสวียวูบไหว “งานเลียงอะไร ?”
ในมือของนางเหลือบัวอัคคีเพียงแค่สองเม็ด รอทีจะเอาต้นตีหยางมาทํายาแก้พิษจนแทบไม่ไหวแล้ว
มองไปทีดวงตาใสทีแฝงแววเร่ งรี บของนางแล้ว คุณชายโอวหยางก็มีแววตายินดีเล็กน้อย พูดขึนด้วยนําเสี ยง
ราบเรี ยบ “ต้นตีหยางเป็ นตัวยาธาตุหยาง มักจะพบได้บนยอดเขาสู ง และส่ วนใหญ่ยอดเขาทีจะพบพวกมันได้นัน
มักจะปี นขึนไปค่อนข้างยาก......”
จวนอู่อนั โหว
คนทีนิ สัยเลวร้ายเช่นนี เป็ นถึงฮูหยินแห่ งจวนอู่อนั โหว เป็ นสะใภ้ใหญ่ของนาง หน้าตาของจวนอู่อนั โหวถูกพวก
นางแม่ลูกทําลายจนย่อยยับไปเสี ยสิ น
ถ้ามู่หรงโหรวไม่ใช่ลกู สาวแท้ ๆ ของแซ่ ตู ้ รวมถึงนางเองก็มีความสัมพันธ์อนั ดีกบั แซ่ ตอู ้ ยู่ ป่ านนี นางคงให้ลูก
ชายหย่ากับมู่หรงโหรวไปเสี ยแล้ว ไหนเลยจะยอมให้นางได้อยูท่ ีจวนอู่อนั โหวเป็ นฮูหยินใหญ่อย่างสุ ขสบาย
เช่นนี
มู่หรงเสวียใช้เหตุผลทีร่ างกายไม่คอ่ ยสบายเป็ นข้ออ้าง เพือทีจะได้อยูจ่ ดั เตรี ยมสิ งของทีเรื อนหิ มะโปรย
เรื องทีนางร่ างกายอ่อนแอเป็ นโรค ผูค้ นต่างก็รับรู ้ดี นางจึงสามารถใช้เป็ นข้ออ้างไม่ไปร่ วมงานเลียงทีจวนอู่อนั
โหวได้ แต่ว่ามู่หรงเย่ทีมีตาํ แหน่งเป็ นเจินกัวโหวคนปั จจุบนั อีกทังยังเป็ นหลานชายบ้านฝังพ่อของมู่หรงโหรว
จึงไม่สามารถทีจะปฏิเสธได้ และยังไม่มีทางหลีกเลียงแผนการร้ายของมู่หรงโหรวได้ ดูท่านางคงต้องไปจัดการ
เองเสี ยแล้ว
“หนึ งแสนตําลึงขอรับ”
ซวงสี เร่ งรี บส่ ายหน้า “หลังจากทีข้าน้อยมาทีจวนอู่อนั โหว ก็ยงั ไม่ได้กินอะไรเลยขอรับ เพียงแต่ดืมชาไป
เล็กน้อยเท่านัน......”
ซ่งชิงเหยียนใช้แรงกดถ้วยลูกเต๋ าเอาไว้กบั โต๊ะ เมือเปิ ดฝาออก ก็ร้องตะโกนขึนเสี ยงดัง “ห้า ห้า หก......สู ง......มู่
หรงเย่ เจ้าแพ้แล้ว......”
“ไม่ ไม่ ไม่เคยได้ยนิ เลยสักนิ ด !” คุณชายร่ างผอมรี บส่ ายหน้า โบกไม้โบกมือปฏิเสธเสี ยยกใหญ่
เมือมองไปทีแววตาพอใจของนาง มู่หรงเสวียก็ยมเย็
ิ นทีมุมปาก นี คงเป็ นจุดประสงค์ทีแท้จริ งของมู่หรงโหรว
สิ นะ ป้ ายสี ทาํ ให้ม่หู รงเย่ดูเป็ นคนมือเติบ จอมเสเพล ไร้ความสามารถจนเกินเยียวยา เพียงเท่านีผูอ้ ืนก็จะค่อย ๆ
เลิกให้ความสนใจเรื องทีนางยักยอกทรัพย์สินมาตลอดระยะเวลาสิ บปี
“กล่าวชมเกินไปแล้ว !” ซ่ งชิงเหยียนเชิดหน้าภูมิใจ
“ไม่ผดิ ” ซ่ งชิงเหยียนยังคงพยักหน้าอย่างภูมิใจ
“ใช่” ซ่ งชิงเหยียนพยักหน้าอีกครัง
ฝูงชนล้วนได้ยนิ แต่ไม่มีใครใคร่ ทีจะสนใจ เด็ก ๆ ทะเลาะกันล้วนเป็ นเรื องปกติ ต่อยตีกนั ล้วนเป็ นการฝึ กฝน
ร่ างกาย โดยเฉพาะคนขีแพ้เช่นซ่ งชิงเหยียน อายุยงั น้อยเช่นนีกลับวางแผนคดโกงผูค้ น สมควรแล้วทีจะได้รับ
การสังสอน จะได้จดจําไปนาน ๆ......
ฝูงชนทีนิงฟังกลับส่ งเสี ยงอืออึงขึนมา นางใส่ เสื อผ้าของคนอืน ใส่ เครื องประดับของคนอืน แล้วยังจะจงใจนําพา
ให้ลูกของคนอืนเสี ยคนอีกหรื อ จิตใจของมู่หรงโหรวช่างดํามืดและอํามหิ ตยิงนัก ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของ
พวกเขาจะห่ างกันหนึงชัน แต่พวกเขาก็ยงั ใช้แซ่ ม่หู รงร่ วมกัน เป็ นการประหัตประหารญาติพีน้องกันเองโดยแท้
มู่หรงเย่หยุดมือทีทุบตีลงทันที เมือได้ยนิ คําวิพากษ์วิจารณ์ทีหลังไหลเข้ามาไม่หยุด เขาล้มลงไปนังกับพืน แวว
ตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง ตกอยูใ่ นภวังค์......
มู่หรงโหรวช่างร้ายกาจยิงนัก
มู่หรงโหรวเป็ นถึงฮูหยินแห่ งอู่อนั โหว แต่ตวั นางนันไม่มีฐานะอะไร เป็ นแค่สะใภ้สองธรรมดา ๆ คนหนึง ถ้า
เป็ นแต่ก่อน นางคงไม่มีทางกล้าทีจะพูดจาเช่นนี ใส่ มู่หรงโหรวแน่ แต่มู่หรงโหรวกลับทําตัวหน้าไม่อาย เมือใช้
ชิงเหยียนเป็ นเครื องมือใส่ ร้ายคนไม่สาํ เร็ จ เลยคิดจะโยนความผิดทังหมดให้กบั เขา แล้วกันตัวเองออกจากเรื อง
ทังหมด บนโลกนี จะมีอะไรทีง่ายดายเช่นนันกัน ?
“เจ้า !” หญิงเฒ่าแซ่ ตูพ้ ดู ไม่ออก โหรวเอ๋ อวางแผนร้ายต่าง ๆ นา ๆ ต่อมู่หรงเย่ เป็ นนางทีผิดแน่นอน แต่นางเป็ น
อู่อนั โหวฮูหยิน ถ้าเกิดต้องเข้าคุกไป ชือเสี ยงทังหมดคงถูกทําลายสิ นจนไม่มีเหลือ “ข้าเป็ นย่าของพวกเจ้า มีสิทธิ
จัดการดูแลเรื องของพวกเจ้าทังหมด ดังนันข้าก็มีอาํ นาจขอยกเลิกการฟ้ องร้องในครังนี ......”
หญิงเฒ่าแซ่ ตูห้ ลุดจากภวังค์เป็ นคนแรก เงยหน้ามองไปทีซ่ งเหล่าฮูหยิน ถามขึนด้วยเสี ยงเย็นชา“โหรวเอ๋ อร์ แต่ง
เข้าตระกูลซ่ งมาตังสิ บปี ล้วนลงแรงลงกายดูแลทําหน้าทีของตนไปไม่มากก็น้อย เจ้าใช้เหตุผลอะไรให้เทียนเวิน
หย่าขาดกับนาง !”
“ก็การกระทําทีชัวร้ายของนางอย่างไรเล่า ทีไม่บริ สุทธิ” ซ่งเหล่าฮูหยินนําเสี ยงเด็ดขาด แววตาเต็มไปด้วยความ
เย็นชา “มีฐานะเป็ นสะใภ้ใหญ่แห่ งตระกูลซ่ ง จะต้องเป็ นคนทีอ่อนโยนมีเมตตา มีหลักคุณธรรมและปราดเปรื อง
รักใคร่ ในพีน้องลูกหลาน แต่ดูนางสิ นางทําอะไรเอาไว้บา้ ง นําพาให้ลูกหลานตระกูลซ่ งเสี ยคน ทังยังคิดร้ายต่อ
หลานทีบ้านเดิมของตนเอง พอเรื องราวเกิดแดงขึนมากลับโยนความผิดให้ชิงเหยียน สะใภ้จิตใจดําอํามหิ ตและ
ไร้ยางอายเช่นนี พวกเราตระกูลซ่ งรับไว้ไม่ไหว และก็ไม่กล้ารับไว้ กลัวจะทําให้ตระกูลไม่สงบมีแต่เรื องราว
วุ่นวาย”
ซ่งเหล่าฮูหยินก้มหน้ามองมู่หรงโหรว พบว่ามู่หรงโหรวกําลังมองมาทีนางด้วยแววตาทีเปล่งประกายดํามืด จน
นางต้องหรี ตาลง นี มู่หรงโหรวกําลังคิดจะทําอะไร ?
......
ตอนที 52 ชายหญิงห้ ามใกล้ ชิด
“ท่านพี ท่านเป็ นอะไรหรื อ ?” มู่หรงเสวียเดินไปด้านหน้า มองไปยังมู่หรงเย่อย่างไม่เข้าใจ
ผูเ้ ฒ่าซูดาํ รงตําแหน่ งเป็ นราชครู เขากับซูหนานเซี ยงรู ้จกั กันตังแต่ยงั เล็ก ความสัมพันธ์ทีมีต่อกันก็ถือว่าไม่เลว
นัก แต่เขากลับเคยชินทีจะเรี ยกนางตรง ๆ ว่าซูหนานเซี ยง จนติดปากมาจนถึงตอนนี
“แผนนี......ก็ไม่เลวนัก” เย่เทียนฉี กล่าวชมด้วยนําเสี ยงราบเรี ยบ แววตาเคร่ งขรึ ม บริ จาคเงิน บริ จาคสิ งของ
แน่นอนว่าจะต้องถูกผูค้ นบางส่ วนต่อต้าน......
“องค์ชายสี ทรงกล่าวชมเกินไปแล้วเพคะ” ซูหนานเซี ยงยิมสดใสอย่างถ่อมตัว เงยหน้ามองเย่เทียนฉี เห็นเขา
หลับตาลงไม่รู้วา่ กําลังคิดอะไรอยู่ เหมือนไม่ได้มีความยินดีนกั ทีได้ความคิดดี ๆ จากนาง
มู่หรงเสวียได้แต่ตอบกลับแบบขอไปที “ถือว่ายังพอรับได้”
เจียนเอ๋ อร์ อยูท่ ีจิงโจวมาเป็ นสิ บปี ไม่เคยถูกเรี ยกตัวกลับเมืองหลวงเลยสักครังเดียว พีใหญ่บอกว่า เพราะเมือ
เปรี ยบเทียบผลงานของเขากับขุนนางคนอืน ผลงานของเขากลับไม่โดดเด่นเท่าไรนัก ถ้าเจียนเอ๋ อร์ ถวายแผนการ
แก้ปัญหานําท่วมนี ได้ ก็นบั ว่าเป็ นผลงานใหญ่ เรื องทีจะถูกเรี ยกตัวกลับเมืองหลวงก็คงเป็ นเรื องทีไม่นานเกินรอ
......
แววตาของหญิงเฒ่าแซ่ ตดู ้ ุดนั เตรี ยมทีจะเปิ ดปากสังสอน สายตามองเห็นเงาร่ างสายหนึ ง พริ บตาเดียวนางก็
หยุดชะงัก “จิงอ๋ อง”
ถ้าไม่มีอะไรแล้ว จะมาทีจวนเจินกัวโหวทําไมกัน ?
ผ้าคลุมดูนุ่มลืน ด้านบนปั กด้วยด้ายสี ทองเป็ นรู ปทะเลเมฆ เสริ มให้ความสู งส่ งและเย็นชาของเย่อีเฉิ นเปล่ง
ประกายมากยิงขึน สายตาทีเขาใช้มองฉิ นยวีเยียนเต็มไปด้วยความอ่อนโยนทีไม่ธรรมดา “ลําบากเจ้าแล้ว”
ในใจของนางเกลียดมู่หรงเสวียเข้ากระดูกดํา นางมองไปทางเย่อเฉิ
ี นด้วยท่าทางน่ าสงสาร เพียงพริ บตาดวงตา
งามก็เอ่อคลอไปด้วยนําตา “อีเฉิ น” นางกล่าวด้วยนําเสี ยงสะอืน ราวกับว่าเพิงถูกรังแกและไม่ได้รับความ
ยุติธรรม
เย่เทียนฉี ยมน้
ิ อย ๆ “ตอนข้าออกจากวังหลวงเจอเข้ากับเฉิ งเซี ยง (ยศอัครมหาเสนาบดี) กับเฉิ งกัวกง (ยศศักดินา
ขันสูงสุ ด) พวกท่านฝากให้มาถามคุณหนูมู่หรงว่าจะจัดงานเลียงทีจวนเจินกัวโหวหรื อไม่ ?”
“มิเป็ นไร คนของจวนเฉิ งเซี ยงกับจวนเฉิ งกัวกงล้วนไม่รีบ เจ้าว่างเมือไรก็เมือนัน ไม่จดั งานเลียงก็มิเป็ นไร แค่
เวลาทีจวนเฉิ งเซี ยงกับจวนเฉิ งกัวกงส่ งเทียบเชิญมา เจ้าไปเข้าร่ วมงานของพวกเขาก็พอ......” เสี ยงแนะนําอัน
อ่อนโยนของเย่เทียนฉี ลอยเข้าหู เปลือกตาของหญิงเฒ่าแซ่ ตูส้ ันไหว หัวใจเต้นแรงขึนหลายเท่า ในใจพลันเกิด
ลางสังหรณ์ไม่ดีขึน......
ตอนที 56 อันตรายทีหุบเขาหวีซาน
จวนเฉิ งเซียง จวนเฉิ งกัวกงและจวนเจินกัวโหวล้วนใกล้ชิดกัน แต่หลังจากทีมู่หรงเยว่ตายไป เจียนเอ๋ อร์ ก็ถูกย้าย
ทีจวนก็ไม่เหลือคนทีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเขา ความสัมพันธ์ระหว่างจวนโหวกับพวกเขาจึงค่อย ๆ ห่ าง
เหิ นมากขึน เทศกาลปี ใหม่ก็แค่ส่งของขวัญให้กนั และกันแสดงถึงความเป็ นมิตรเท่านัน
......
ไม่ ไม่ ไม่ มันจะเป็ นเช่นนี ไม่ได้ ! มู่หรงเยว่กต็ ายไปแล้ว ตําแหน่งเจินกัวโหวสมควรจะเป็ นของเจียนเอ๋ อร์ มู่
หรงเย่ก็แค่คุณชายจอมเสเพลไร้ความสามารถผูห้ นึง อีกทังยังถูกพวกนางแม่ลูกชักนําให้เสี ยคน มีเหตุผลอะไรที
จะให้เข้ามาเป็ นเจินกัวโหว
“น้องเล็ก พวกเราเตรี ยมตัวเรี ยบร้อยแล้ว” มู่หรงเย่กา้ วออกมา ทีหลังแบกกระเป๋ าสี ดาํ ไว้ดว้ ย ตามมาด้วยซวงสี
เฝิ งเถา ทุกคนล้วนแบกกระเป๋ าเช่นเดียวกัน ด้านในเต็มไปด้วยข้าวของและอาหารทีมู่หรงเสวียเตรี ยมเอาไว้
“ขึนเขากันเถอะ” มู่หรงเสวียกล่าวเสี ยงตํา ค่อย ๆ พากันเดินขึนเขาหวีซาน
“มิตอ้ งกลัว ข้าอยูท่ ีนี แล้ว” เสี ยงทุม้ ดังขึนทีข้างหู พลังปราณแข็งแกร่ งนับไม่ถว้ นพุ่งออกจากปลายนิวอย่าง
รวดเร็ ว พุ่งไปล้อมรอบงูยกั ษ์ไว้ทุกทิศทาง ได้ยนิ เพียงเสี ยง ‘ปั ง ปั ง ปั ง’ เพียงไม่กีครังดังขึน งูเขียวยักษ์ทีตัวใหญ่
ยาวเพียงพริ บตาเดียวก็ระเบิดออกกลายเป็ นผุยผง ค่อย ๆ ปลิวสลายหายไปในอากาศ......
“ตกลง” มู่หรงเสวียพยักหน้า เร่ งเดินไปด้านหน้า ตอนนี ก็จะเลยยามอู่แล้ว นางคงจะต้องรี บเร่ งขึนเขา ถ้าหากยัง
ยืดเยือออกไป ฟ้ าคงมืดแน่
“ข้ารู ้” มู่หรงเสวียพยักหน้า ตลอดทางทีผ่านมา เสี ยงนกร้องเริ มเบาบางลง จนถึงตอนนี ก็ไม่ได้ยนิ เสี ยงนกร้อง
แล้ว เสี ยงทีได้ยนิ ในหูอยูต่ อนนี มีเพียงเสี ยงฝี เท้าของพวกเขาไม่กีคนเท่านัน รอบด้านเงียบสงบจนผิดปกติ
เหมือนกับว่าอันตรายทีหนักหนากําลังจะเกิดขึน......
“ฟุบ ฟุบ” เสี ยงเสี ยดสี กบั สายลมอย่างเร็ วแรงสองสายดังขึน แววตาของมู่หรงเสวียเยือกเย็น เตรี ยมพร้อมทีจะ
โจมตี แต่กลับเห็นสวินเฟิ งกับองครักษ์เงานามว่าอู๋เหิ นกระโดดพุ่งออกมาเสี ยก่อน เขาใช้ดาบฟันออกไปตัดเอา
เถาวัลย์สีเขียวทีพุ่งเข้ามาจนขาด
หุ บเขาหวีซานลูกนี ช่างอันตรายยิงนัก !
แววตาของมู่หรงเสวียเปล่งประกาย ยืนแขนออกไปทีกลีบของดอกไม้......
คุณชายโอวหยางมองแอ่งนําสี ดาํ บนพืน สี หน้าเปลียนเป็ นเคร่ งขรึ มขึน “ถึงจะเป็ นเช่นนันก็ไม่ควรจะใช้ตวั เอง
เป็ นเหยือล่อ ถ้าเกิดเป็ นอะไรขึนมาจะทําอย่างไร ? พวกเรายังสามารถหาวิธีอืนมาจัดการกับมันได้”
เย่อีเฉิ นรู ้สึกหงุดหงิดขึนในใจ มองไปยังมู่หรงเสวียอย่างผูท้ ีอยูเ่ หนื อกว่า พูดด้วยนําเสี ยงเย็นชา “มู่หรงเสวีย การ
หมันหมายระหว่างเจ้ากับข้ายังไม่ได้แก้ไขหรื อเปลียนแปลงใดใด เจ้าเป็ นว่าทีภรรยาของข้า เหตุใดถึงกล้าทําตัว
ใกล้ชิดกับคุณชายโอวหยางอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี เจ้าไม่รู้หรื อว่าชายหญิงมิควรใกล้ชิดกัน......”
ดวงตาคมกริ บของคุณชายโอวหยางมองไปทางเย่อเฉิ
ี นด้วยความเยือกเย็น......
ตอนที 59 ต่ อว่า
เพียงสะบัดฝ่ ามือวูบหนึง พลังปราณแกร่ งกล้าสายหนึ งก็พุ่งออกไปทะลุเกราะลมปราณของเย่อีเฉิ นเฉื อนเข้าที
แขนของเขา จนเกิดเป็ นแผลเป็ นรอยยาวตังแต่หลังมือไปจนถึงบริ เวณข้อศอก เลือดสี แดงสดย้อมซึ มไปบน
เสื อผ้า......
“เย่อีเฉิ น เจ้าไม่มีสิทธิ มาต่อว่าเสวียเอ๋ อร์ เช่นนี !” เสี ยงทุม้ คมกริ บแฝงไว้ดว้ ยจิตสังหาร กระตุน้ ความโกรธของเย่
อีเฉิ น แววตาของเขาเย็นยะเยือกจนถึงขีดสุ ด “ถ้าข้าไม่เหมาะสมแล้วใครกันทีเหมาะสม ? พวกเราเป็ นว่าทีสามี
ภรรยาอย่างถูกต้องตามประเพณี คนในเมืองหลวงล้วนทราบโดยทัวกัน”
“ต่อหน้าผูค้ นมากมาย กลับลดขันนางให้เป็ นอนุ ทําให้นางเสื อมเสี ยเกียรติ โดนผูค้ นดูถูกเหยียดหยาม ใช้กาํ ลัง
บีบบังคับนางให้เป็ นอนุ อีกนิ ดเดียวก็จะทําให้นางตกหน้าผาแล้ว อีกทังยังทําลายบัวอัคคีทีสามารถช่วยชีวิตนาง
ได้ จนพิษของนางกําเริ บจนเกือบตาย ตอนทีดอกไม้ปีศาจโจมตี เจ้าไม่สนใจแม้แต่จะปกป้ องนางไม่พอ กลับ
กอดผูห้ ญิงอืนไว้แนบอก นี หรื อคือการเป็ นว่าทีสามีของเจ้า ?” คุณชายโอวหยางมองไปทีเย่อีเฉิ นด้วยสายตาดูถูก
“เสวียเอ๋ อร์ มีขา้ เรื องของนางต่อจากนี ไปคงไม่ตอ้ งรบกวนจิงอ๋ องให้เป็ นกังวลอีก จิงอ๋ องเจ้าก็แค่เตรี ยมจัดการ
เรื องถอนหมันไว้กพ็ อ” คุณชายโอวหยางเพียงทิงคําพูดทีแสนเย็นชาไว้ พลางหมุนกายมองไปทีมู่หรงเสวียกล่าว
ขึนด้วยนําเสี ยงอ่อนโยน “นีก็ใกล้คาแล้
ํ ว พวกเราไปหาทีพักกันเถอะ”
“ตกลง” มู่หรงเสวียพยักหน้า ค่อย ๆ ออกเดินไปด้านหน้า พระอาทิตย์กใ็ กล้จะลับขอบฟ้ าแล้ว อีกไม่นานฟ้ าคง
มืด พวกเขาเดินทางมาได้สามชัวยาม ทังยังเจอการปะทะทีรุ นแรงไปสองครัง ใช้พลังกายกันไปก็ไม่นอ้ ย
แน่นอนว่าสมควรต้องหาพืนทีทีปลอดภัยพักผ่อนเสี ยหน่ อย
มู่หรงเสวียเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “ทําไมนําถึงยังร้อนอยูล่ ่ะ ?”
เมือสายตามองเห็นเย่อเฉิ
ี นกับฉิ นยวีเยียนทีนังบนหิ นห่ างออกไปไม่ไกลนัก นางก็ขมวดคิว พวกเขาก็นบั ว่าฉลาด
พอทีรู ้ว่าหุ บเขาหวีซานนันอันตรายมาก จําต้องหาพืนทีว่างทีมีตน้ ไม้พืชพรรณไม่มากนักเพือความปลอดภัย
เหมาะสําหรับทีจะพักผ่อน และพืนทีริ มลําธารสายนี ก็เหมาะแก่การพักผ่อนยิงนัก
“มิจาํ เป็ น” มู่หรงเสวียส่ ายหน้า ปรายตามองฉิ นยวีเยียน กล่าวขึนช้า ๆ “ถึงแม้วา่ พวกเราจะเป็ นศัตรู กบั พวกเขา
แต่กย็ งั พอจะอยูร่ ่ วมโลกกันได้ จะพักผ่อนอยูท่ ีริ มนําใกล้ ๆ กันก็ไม่เป็ นไรหรอก เพราะบ่อนําเล็ก ๆ เช่นนี ไม่มี
ทางจะเอามาเปรี ยบเทียบกับแม่นาสายใหญ่
ํ ได้ ทําเป็ นเพียงไม่เห็นก็พอ”
กลินหอมของผลไม้เมือครู่ พอกระทบเข้ากับจมูก ทําให้ม่หู รงเสวียรู ้สึกคอแห้ง ค่อย ๆ เดินไปทีกระเป๋ าสี ดาํ ของ
ตน เปิ ดกระเป๋ าออกแล้วหยิบเอาแก้วนําลายครามออกมาหลายใบ เป็ นตัวแก้วทีสังทําพิเศษ รู ปร่ างบางยาว ฝา
ํ ซึ มออกมา นางเปิ ดฝาแก้วออก เห็นของเหลวสี ขาวปรากฏอยูด่ า้ นใน
ของแก้วปิ ดแน่นเข้ากับตัวแก้ว ไม่มีนาที
พวกเขาเคยได้ยนิ แต่พวกนมวัว นมแพะ รู ้วา่ นมวัวเป็ นสิ งทีได้จากวัว นมแพะเป็ นสิ งทีได้จากแพะ โยเกิร์ต......
หรื อว่าบนโลกนี ยังมีสัตว์ทีเรี ยกว่าโยเกิร์ตอยู่ ?
ไม่ ไม่ ไม่ เป็ นไปไม่ได้ ! นางเป็ นองค์หญิงม่อเป่ ยทีสู งส่ ง เป็ นลูกสาวทีฮ่องเต้ม่อเป่ ยโปรดปรานทีสุ ด เมือเทียบ
กับมู่หรงเสวียแล้ว คุณหนูทีกําพร้าพ่อแม่เช่นนัน นางดีกว่าตังหนึงแสนแปดหมืนลี นางจะแพ้ให้กบั มู่หรงเสวีย
ได้อย่างไร นางไม่มีทางยอมแพ้ให้กบั มู่หรงเสวียเด็ดขาด !
นางก็แค่เด็ดใบไม้มวั ๆ ทําให้ปลาย่างอร่ อยขึน ก็แค่ทาํ นมให้กลายเป็ นโยเกิร์ต เรื องทีมู่หรงเสวียทําได้ นางก็ทาํ
ได้ !
ค้างคาวดูดเลือด ดูดเลือดไม่ผิดไปจากชือเลย !
“เพีย ! เพีย ! เพีย !” เสี ยงฝ่ ามือตบเข้าทีหน้าของฉิ นยวีเยียนดังห่าฝน ตบจนหันซ้าย หันขวา หันซ้าย หันขวา แล้ว
ก็ตบซ้ายขวาอีกครังจนใบหน้าของนางปูดบวมเจ็บแสบ จนใกล้จะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอีกต่อไป
นําเสี ยงเย็นชาของมู่หรงเสวียทียิงพูดก็ยงเพิ
ิ มความเย็นชาดังเข้าหู ของนาง ฉิ นยวีเยียนได้ยนิ เสี ยงดัง ‘ปั ง’ ในหัว
ของนางพลันขาวโพลน นางคิดว่านางแอบทําอย่างแนบเนี ยนแล้วเสี ยอีก นางไม่คดิ ว่ามู่หรงเสวียจะรู ้ทนั
แผนการของนางทังหมด......
“ตุบ !” หลังของฉิ นยวีเยียนร่ วงถึงพืน ความเจ็บปวดล้วนแทรกซึ มไปทัวทังร่ างกาย เสี ยงกรี ดร้องของนางหยุด
ลง ดวงหน้าซี ดขาวไร้เลือด ปากอ้ากว้างหอบหายใจ คล้ายกับปลาทีใกล้ตายตัวหนึ ง
แต่นางกลับไม่ตาย ดวงของนางช่างดียงนั
ิ ก!
ช่วงทีมาอยูช่ ิงเหยียน นางมัวแต่ยงุ่ วุน่ วายอยูก่ บั การต่อกรกับหญิงเฒ่าแซ่ ตู ้ เลยไม่ได้ฝึกฝนเสี ยเท่าไหร่ นกั แต่
ตอนนี คนชุดนําตาลกลับมอบโอกาสให้นางได้ฝึกฝนฝี มือ จะไม่ให้นางยินดีได้อย่างไร !
ใครใช้ให้เจ้าหาปั ญหามาให้ขา้ !
ใครใช้ให้เจ้าคิดร้ายต่อข้า !
มู่หรงเสวียไม่สนใจ มองไปทางนางอย่างผูท้ ีอยูเ่ หนื อกว่า กล่าวขึนเสี ยงสู งว่า “หนังแกะแผ่นนี เป็ นของข้าแล้ว
และเพือเป็ นสิ นนําใจ ข้าจะให้เจ้าตายอย่างสบาย ๆ แล้วกัน ไหนลองพูดมาสิ ว่าเจ้าอยากตายอย่างไร !”
จะฆ่านางงันหรื อ ! ช่างไม่เจียมตน !
มู่หรงเสวียไม่สนใจ นางเพียงยกยิมอย่างเย็นชา ฉิ นยวีเยียนน่ ะหรื อจิตใจดีงาม ? นีเป็ นเรื องน่ าขันทีสุ ดเท่าทีนาง
เคยได้ยนิ มา !
นางออกเท้าเพียงบางเบาก็ไปปรากฏตัวทีต้นไม้ใหญ่ทนั ที ยกศพชายชุดนําตาลขึนมาโยนไปทางด้านหน้าของเย่
อีเฉิ น “นีเป็ นองครักษ์เงาของฉินยวีเยียน เมือหนึงชัวยามก่อน นางสังการให้พวกมันมาสับข้าเป็ นชิน ๆ......แม้แต่
วิธีการตายของข้า นางก็คิดแทนให้เสร็ จสรรพ ทังยังสังการให้องครักษ์เงาปลดปล่อยข้าให้ขึนสวรรค์อย่างเปล่า
ๆ องค์หญิงฉิ นของท่านจิตใจช่างดีงามยิงนัก......”
......
คุณชายโอวหยางเตรี ยมทีจะสังสอนเขางันหรื อ ?
คราก่อนทีริ มหน้าผาเป็ นเขาทีดูเบาศัตรู ประมาทเลินเล่อ ทําให้ถูกคุณชายโอวหยางโจมตีจนตกเหวไป ครานี เขา
จะรับมือด้วยความรอบคอบ คุณชายโอวหยางอย่าได้หวังว่าจะชนะเขาเลย !
ยิงนานเข้าอาการป่ วยของยวีเยียนก็ยงหนั
ิ กลง เขาไม่สามารถจะเสี ยเวลาอีกต่อไปได้ ตอนนี จึงต้องปล่อยคุณชาย
โอวหยางไปก่อน ยังมีโอกาสให้จดั การกับเขาอีกมาก
“หากคุณชายไม่รังเกียจ ก็นงรถม้
ั าของจวนโหวกลับเมืองหลวงกับข้าเถอะ สําหรับสวินเฟิ งกับอู๋เหิ นให้พวกเขา
นังกับคนขับรถม้าและพวกทหารทีรถบรรทุกของก็แล้วกัน”
มู่หรงเสวียพยักหน้า นางไม่ได้พกั ผ่อนมาสองวันสองคืน ง่วงจะตายอยูแ่ ล้ว “คุณชาย ชุดชา ใบชา นําสะอาด พิณ
หมาก ตํารา ขลุ่ย ล้วนอยูใ่ นช่องเก็บของ ท่านเชิญตามสบายเถอะ ข้าพักผ่อนก่อนแล้ว !”
ทําไมถึงไม่ดูแลตัวเองเช่นนี !
“มีนกั ฆ่า ! ปกป้ องคุณหนูใหญ่ ! ปกป้ องคุณชาย !” ไม่รู้ว่าเป็ นเสี ยงตะโกนของใคร สวินเฟิ ง อู๋เหิ น ทหารของ
จวนเจินกัวโหวทังหมดต่างพุ่งเข้ามา ล้อมรอบคุณชายโอวหยางและมู่หรงเสวียเอาไว้ ตวัดดาบปัดป้ องลูกธนู
ได้ยนิ เพียงเสี ยง ‘เคร้ง เคร้ง เคร้ง’ ดังขึน ห่ าธนูพวกนันถูกปั ดป้ องตกลงกับพืน แต่ก็มีทหารบางคนทีถูกธนู ยัง
ไม่รู้ว่าจะเป็ นหรื อตาย !
ดวงตาของคนชุดดํามีนาตาไหลริ
ํ นออกมา ไม่รู้ว่ากําลังคิดสิ งใด
“ทางทีดีเจ้าพูดความจริ งออกมาดีกว่า อย่าได้พดู ชือคนสังการออกมามัว ๆ ทีเกลียดข้าเข้ากระดูก จนอยากจะเอา
ชีวิตของข้ามีเพียงไม่กีคนเท่านัน ข้าสามารถคาดเดาได้ เพียงแต่ตอ้ งการฟังคําจากปากของเจ้าเพือให้แน่ ใจก็
เท่านัน ถ้าหากเจ้ากล้าโกหก ข้าจะให้เจ้าได้รู้จกั คําว่าตายทังเป็ น !”
ขนมดอกเหมย ขนมลีฮวา เป็ ดต้ม ไก่ตม้ ข้าวต้มแดง ข้าวต้มธัญพืชต่าง ๆ นา ๆ ล้วนวางอยูเ่ ต็มโต๊ะ กลิมหอม
อบอวลไปทัวบริ เวณ ทําให้ผคู ้ นนําลายศอ
หญิงเฒ่าแซ่ ตูซ้ ดข้าวต้มแดงทีหอมฉุ ย กล่าวเป็ นนัย ๆ ว่า “แม่นมกัว ‘ทีนัน’ มีขา่ วอะไรไหม ?”
แซ่ ตูห้ ยุดชะงักไปครู่ หนึง เลิกคิวบางเบา “นานขนาดนี แล้วยังไม่มีข่าว หรื อว่าจะเกิดเรื องไม่คาดคิดขึน......”
นําเสี ยงส่ อแววดูถูกเย็นชาลอยเข้าหู แซ่ ตเู ้ งยหน้าขึน แววตาเต็มไปด้วยไฟโกรธ มือกําปิ นปั กผมยาวแน่นพุ่งไป
ทีมู่หรงเสวีย “มู่หรงเสวีย ข้าจะฆ่าเจ้า !”
ฆ่านางงันหรื อ ? ไม่เจียมตน !
แซ่ ตูม้ ีลูกชายลูกสาว ทังยังมีบา้ นฝังพ่อ คงไม่สามารถปล่อยให้นางตายได้ มิเช่นนัน คงจะกลายเป็ นปั ญหา
ใหญ่โต ขังนางไว้ในเรื อนหยก ให้นางใช้ชีวิตไปตามเวรตามกรรม ไม่ว่าจะเป็ นหรื อตาย ก็ตอ้ งดูทีการกระทํา
ของตัวนางเองแล้ว......
มองไปทีประตูเรื อนหยกทีปิ ดสนิท อู๋เหิ นยกมุมปาก หญิงเฒ่าแซ่ ตอู ้ ายุมากแล้ว ทังยังได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาด
นัน จําต้องรี บหาหมอมารักษา ถึงจะหายเป็ นปกติ
“อืม” มู่หรงเสวียพยักหน้า
นอกจากนีแล้วข้างกายของพวกนางก็ไม่มีคนทีมีความเกียวข้องกับค่ายทหารเลย มู่หรงเย่อยากจะไปค่ายทหาร
นับว่าค่อนข้างยาก......
เพียงพริ บตาแผ่นป้ ายเท่าฝ่ ามือก็หย่อนลงมาอยูต่ รงหน้ามู่หรงเสวีย เสี ยงทุม้ ของคุณชายโอวหยางดังขึนข้างหู
“นําสิ งนี ไปหาแม่ทพั จางทีค่ายทหารด้านนอกเมืองหลวงทีไกลออกไปสามสิ บลี เขาจะเป็ นคนจัดการให้ม่หู รงเย่
เข้าไปอยูใ่ นค่ายทหารเอง”
มองไปทีดวงหน้าบูดบึงของนาง แววตาของคุณชายโอวหยางก็เจือปนไปด้วยร้อยยิมทียากจะพบเจอ
มู่หรงเสวียชะงักค้าง “คุณชายท่านได้รับบาดเจ็บหรื อ ?”
คุณชายโอวหยางคล้ายไม่รู้สึกอะไร ยังคงหลับตาคล้ายกับกําลังหลับสนิท
ถลึงตามองคุณชายโอวหยาง กลับเห็นขนตาของเขาสันไหวเล็กน้อยและมุมปากทียกขึนเบา ๆ
มู่หรงเสวียชะงัก นางหรี ตาลง เมือเข้าไปมองใกล้ ๆ ก็เห็นคุณชายโอวหยางหลับสนิทตาพริ ม ราวกับว่าการ
กระทําทังหมดเมือครู่ เป็ นความเข้าใจผิดของนางเอง !
คุณชายโอวหยางนอนหลับตาสนิท ไม่มีการตอบรับใด ๆ
คุณชายโอวหยางมิได้ตอบกลับ ปิ ดตานอนหลับสนิท
......
“อีเฉิน ท่านเป็ นอะไรหรื อ ?” ดวงตาของฉิ นยวีเยียนฉายแววไม่เข้าใจ แต่ไหนแต่ไรมาอีเฉิ นก็คอยเป็ นห่ วงเป็ นใย
นาง ปกป้ องทะนุถนอมนาง แต่ว่าสายตาทีเขามองนางตอนนี ช่างเย็นชาจนราวกับกําลังมองคนแปลกหน้า
อย่างไรอย่างนัน......
“เพราะว่าข้าผลักนางลงจากหน้าผา...แต่ขา้ ไม่ได้ตงใจ
ั ไม่ได้ตงใจจริ
ั ง ๆ นะ......” แววตาของฉินยวีเยียนสันไหว
นําตาเม็ดโตไหลริ นออกมาจากดวงตาคู่สวย ไหลอาบไปตามใบหน้างาม ท่าทางน่าสงสาร ทําให้ใจของคนทีรู ้สึก
รักใคร่ อดทีจะสงสารไม่ได้
“นีเป็ นความลับ ไว้ขา้ จะบอกเจ้าในคราวหลัง” เย่อีเฉิ นพูดเสี ยงราบเรี ยบ แววตาเปล่งประกาย “ใช่แล้ว แผนที
ครึ งแผ่นนันเจ้าเอาไปไว้ไหนแล้ว”
ได้ยนิ ดังนัน มู่หรงเสวียก็คอ้ นตาใส่ เขาเสี ยทีหนึง “ข้าหิ วแล้ว ท่านอยูร่ ับสํารับเสี ยก่อนเถอะ พอกินเสร็ จแล้ว
ค่อยพักผ่อนให้เต็มอิม” นางตอบกลับอย่างไม่พอใจ ใช้แรงแกะเอามือของเขาทีเกาะอยูท่ ีเอวของนางออก แล้ว
แหวกม่านคุมเตียง พอดีกบั เห็นอันเซี ยงทียกสํารับเข้ามา เมืออันเซี ยงเห็นมู่หรงเสวียทีอยูด่ า้ นหน้าเตียงกับ
คุณชายโอวหยาง นางชะงักไปครู่ หนึง พลางหยุดเท้าลง
ใครกันทีเขียนจดหมายให้กบั นาง ?
เซี ยเฉิ งเซี ยงยิมน้อย ๆ เด็กสาวไม่ตอ้ งการพูดจาอ้อมค้อม เช่นนันเขาก็จะพูดธุระของเขาตรง ๆ “เจ้ารู ้หรื อไม่ว่า
ทําไมอาสองของเจ้าถึงถูกย้ายไปประจําการทีจิงโจว”
ตอนที 75 ศัตรู ทไม่
ี อยากพบหน้ า
“เพราะว่ามีคนวางแผนใส่ เขา” มู่หรงเสวียยิมบางเบา ตอนทีมู่หรงเยว่ตายไป มู่หรงเย่เพิงจะอายุสีขวบ อายุยงั
น้อยแถมยังอ่อนแอนัก ยากทีจะปกป้ องตัวเองจากแผนการร้าย มู่หรงเจียนทีมีจิตใจทะเยอทะยานโหดเหี ยม ล้วน
สามารถสังหารมู่หรงเย่ได้ทุกเวลาโดยทีไม่มีใครรู ้ เพือให้ตวั เองได้เป็ นโหว
ถ้าไม่มีเซี ยเฉิ งเซี ยงกับเฉิ งกัวกงคอยดูแล จวนเจินกัวโหวก็คงตกเป็ นของแม่ลกู แซ่ ตูไ้ ปเสี ยตังนานแล้ว แล้วนาง
เองก็ไม่รู้วา่ จะมีชีวิตอยูถ่ ึงตอนนีหรื อไม่ แต่แน่ นอนว่ามู่หรงเย่อาจจะต้องตกตายไปตังแต่ตอนเด็ก
เซี ยเฉิ งเซี ยงส่ ายหน้า แววตาลึกลํา “คําสังย้ายเป็ นกรมขุนนางทีออกคําสัง ตัวข้าเองก็คดั ค้านแล้ว แต่คนของกรม
ขุนนางก็อา้ งว่า ‘ระยะเวลาการทํางานของมู่หรงเจียนล้วนครบถ้วนสมบูรณ์ สมควรถูกเรี ยกตัวกลับเมืองหลวงได้
แล้ว’ ไม่ยอมคายความจริ งออกมา......”
ชายหนุ่ มโมโหเกรี ยวกราด ชีนิ วไปทีมู่หรงเสวีย กล่าวขึนเสี ยงดัง “นางขวางทางข้า อีกทังยังตีขา้ จนตกจากม้า
หญิงเถือนชันตําผูไ้ ร้เหตุผลเช่นนี รี บจับตัวนาง โบยนางเสี ย !”
มู่หรงเสวียยิมน้อย ๆ “ท่านพีของข้าเขา......”
“น้องเล็กข้ากลับมาแล้ว !” เสี ยงเรี ยกอย่างยินดีดงั ขัดขึน ตามด้วยร่ างของมู่หรงเย่ทีวิงมาอย่างเร่ งรี บ ดวงตาสี ดาํ
เปล่งประกายสดใส
มู่หรงเสวียยกยิมเย็น มองไปทีสายตาของมู่หรงจีทีเพียงมองนางก็รู้ว่ามู่หรงเจียนสองสามีภรรยาคงปลูกฝังอะไร
เอาไว้มินอ้ ย พวกนางสองพีน้องกับครอบครัวของพวกเขามีความแค้นต่อกัน มู่หรงเจียนต้องการให้ม่หู รงจีกับมู่
หรงเย่ใกล้ชิดกัน แน่ นอนว่าคงมีประสงค์ร้ายอะไรอยูเ่ ป็ นแน่
“มิเป็ นไร พรุ่ งนีเช้าข้าจะไปส่ งเย่เอ๋ อร์ ทีค่ายทหารด้วยตนเอง หลังจากนันค่อยพาจีเอ๋ อร์ไปพบกับแม่ทพั จาง” มู่
หรงเจียนยิมตาหยี แววตาดูไม่ออกถึงความหยิงยโส
แววตาเย็นชาของมู่หรงเสวียค่อย ๆ หรี ลง ดูแล้วเขาคงตังใจจะให้มู่หรงจีกับมู่หรงเย่เข้าค่ายทหารพร้อมกัน เขา
เพิงจะกลับมาถึงเมืองหลวง ก็เร่ งรี บเอาลูกแท้ ๆ ของตัวเองกับมู่หรงเย่มดั ไว้ดว้ ยกันเช่นนี ไม่รู้ว่ามีแผนร้ายอะไร
อยู่ ?
“ฮูหยินเฒ่าบาดเจ็บสาหัสจนสลบไปขอรับ......” บ่าวรับใช้รีบตอบกลับอย่างร้อนรน
“จริ งหรื อ ? แต่ทีผูค้ นรู ้กนั ลูกชายของต้าหลีซื อเส่ าชิงร่ างกายอ่อนแอจนตายไปตอนห้าขวบ เจ้าตอนอายุสิบสี กับ
เขาตอนอายุหา้ ขวบกลับคล้ายคลึงกัน ช่างน่าประหลาดใจยิงนัก......” มู่หรงเสวียปรายตามองเขาอย่างเฉยเมย
หางตาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยดูถูก
“ท่านแม่ ท่านฟื นแล้ว !” นําเสี ยงเรี ยกทีคุน้ เคยดังเข้าหู แซ่ ตชู ้ ะงักไป เมือค่อย ๆ หันไปมอง ก็พบเข้ากับดวงหน้า
หล่อเหลาของมู่หรงเจียนทีอยู่ใกล้ ๆ เพียงพริ บตาเดียวดวงตาของนางก็ไหลริ นไปด้วยหยาดนําตาแห่ งความปิ ติ
ยินดี “เจียนเอ๋ อร์ เจ้ากลับมาแล้ว !”
ด้านนอกประตูจวนเต็มไปด้วยม้าเร็ วห้าตัว มู่หรงเจียน มู่หรงจี มู่หรงเย่ เก๋ อฮุย ไฉจิง จํานวนห้าคน แต่ละคนจูง
ม้าหนึงตัว
มู่หรงเสวีย !
อะไรนะ ? หน้าผา !
เขานอนนิ งอยูท่ ีริ มหน้าผา ร่ างกายครึ งหนึ งยืนออกไป แส้ยาวยังรัดอยูท่ ีคอของเขา รัดแน่ นจนเขาแทบจะหายใจ
ไม่ออก ใบหน้าหล่อเหลากลายเป็ นสี ม่วงเข้ม กล้ามเนื อบนใบหน้าเกร็ งไปหมด ดวงตาเต็มไปด้วยเลือดทีค่อย ๆ
ปูดบวมออกมา
มือทังสองข้างของเขาคว้าจับไปทีแส้ จ้องเขม็งไปทีมู่หรงเสวียทีอยูอ่ ีกด้านหนึงของปลายแส้ เปิ ดปากขึนอย่าง
ยากลําบาก “ปล่อยมือ......รี บปล่อยมือ !”
“น้องเล็ก !”
“คุณหนูใหญ่ !”
ระหว่างทีมู่หรงเย่กบั เก๋ อฮุยร้องเรี ยกอยูน่ นั มู่หรงเสวียก็พุ่งตกลงไปจากหน้าผา สายลมพัดผ่านใบหน้า ช่าง
หนาวเหน็บและเจ็บปวดยิงนัก
มู่หรงเสวียนิงเงียบ “......”
“ใช่แล้ว คนดีลว้ นอายุสัน คนชัวช้ามักจะอายุยนื ยาวเป็ นพันปี คนเช่นท่านอาสอง ไม่มีทางตายง่าย ๆ แน่ นอน !”
มู่หรงเสวียยิมน้อย ๆ ราวกับมวลบุปผาทีกําลังผลิบาน
เหล่าทหารยืนปากน้อย ๆ คําพูดประโยคนีเหมือนกับ.....มีบางส่ วนทีไม่ค่อยถูกต้อง......
แผ่นหลังของมู่หรงเสวียแนบชิดติดไปกับแผ่นอกอุ่นของเขา ไม่ว่าจะหันไปทางไหนล้วนสามารถมองเห็นเขา
อย่างไม่สามารถหลีกเลียงได้ แววตาวูบไหวไม่เป็ นธรรมชาติ ค่อย ๆ เว้นระยะห่ างเล็กน้อย “ข้าขีม้าเป็ น ท่านไม่
ต้องไปส่ งหรอก”
ถ้าหากยอมทีจะรับเอาองครักษ์เงาของคุณชายโอวหยางมา ก็เท่ากับนางจะติดค้างนําใจของเขาไว้อย่างใหญ่หลวง
นัก นางไม่รู้นางจะตอบแทนเขาอย่างไรได้หมด “ข้าขอคิดดูก่อนก็แล้วกัน !”
แม่ทพั จางเป็ นชายหนุ่ มอายุประมาณสามสิ บกว่า ๆ ใบหน้าดุดนั แววตาเย็นชา มีหนวดสี ดาํ เหนื อริ มฝี ปาก เขา
กําลังฝึ กเหล่าทหารไพร่ พลอยู่ แต่เมือเห็นคุณชายโอวหยาง แววตาของเขาเกิดวูบไหวขึนด้วยความประหลาดใจ
ผละจากพวกทหาร แล้วก้าวยาว ๆ เข้ามาต้อนรับ “คุณชาย !”
“ข้าไม่ทนั ระวัง จึงหกล้ม” มู่หรงเจียนพูดขึนอย่างไม่ใส่ ใจนัก ปรายตามองมู่หรงเย่ “เย่เอ๋ อร์ ค่อนข้างเกเร มาเข้า
ค่ายทหารเช่นนี ต้องรบกวนแม่ทพั จางแล้ว !”
“ครื ด ครื ด ครื ด !” เป้ าธนูสิบอันในสนามฝึ กเริ มเคลือนไหวไปมา มู่หรงจียืนอยูด่ า้ นซ้ายของสนามฝึ ก มือกําธนู
ยาวคันหนึง ดึงสายธนูดว้ ยท่าทางหยิงผยอง ได้ยนิ เสี ยง ‘ฉึ ก’ ดังขึนเสี ยงหนึ ง ลูกศรพุ่งออกไปทางเป้ าธนู ปั กเข้า
ไปในวงกลมสี แดงอย่างเร็ วแรง......
สนามฝึ กทีใหญ่โตพลันเงียบสงัดทันที !
ในหัวของบรรดาเหล่าทหารต่างก็ปรากฏภาพมู่หรงเจียนทียิงศรสามดอกต่อกันออกไปอย่างไร้ความปรานี อดที
จะตัวสันเล็กน้อยไม่ได้ สายตาทีมองมู่หรงจีต่างก็เต็มไปด้วยความคิดทีหลากหลาย การทีเอาลูกธนู ยงิ คนของ
ตนเอง ถ้าหากเลียงได้กค็ วรเลียง พวกเขามาเป็ นทหารก็เพือปกป้ องแคว้น ปกป้ องครอบครัว ฆ่าฟั นศัตรู แต่ไม่ใช่
ต้องมาตายด้วยนํามือของพวกเดียวกัน เช่นนันจิตใจจะชัวร้ายเกินไปแล้ว !
มู่หรงเจียนถลึงตามองมู่หรงเสวียด้วยความเกลียดชัง แววตาเต็มไปด้วยไฟโกรธทีสามารถพ่นออกมาเป็ นไฟได้
ถูกนางว่าร้ายถึงเพียงนี ฝี มือการยิงศรสามดอกต่อเนื องกันของจีเอ๋ อร์ คงกลายเป็ นเรื องตลก ผูค้ นก็จะดูถูกฝี มือ
การยิงธนูของจีเอ๋ อร์ ถึงแม้ว่าจะได้เข้าค่ายทหารก็จะถูกผูค้ นหัวเราะเยาะ โดดเดียว จิตใจของมู่หรงเสวียช่าง
โหดเหี ยมยิงนัก......
“ใต้เท้ามู่หรงเกรงใจไปแล้ว !” แพทย์ทหารยิมกล่าวอย่างไม่ถือตัว
เมือปรายไปมองมู่หรงเจียน ก็เห็นแววตาของเขาวูบไหวไปด้วยความโมโหและไม่พอใจทียากจะพบเจอ
สายตามองไปทีมู่หรงเสวียและคุณชายโอวหยางทีเดินเคียงคู่กนั ไป ทันใดนันมู่หรงเจียนก็นึกได้ว่าค่ายทหารมี
กฎห้ามให้สตรี เข้ามา แต่ม่หู รงเสวียกลับเดินเข้ามาอย่างเปิ ดเผย ไม่ได้ถูกขัดขวางแต่อย่างใด นันเป็ นเพราะว่า
นางมากับคุณชายโอวหยางอย่างนันหรื อ ?
เหตุการณ์ทงหมดเกิ
ั ดขึนเพียงพริ บตาเดียว รวดเร็ วจนนางตอบสนองไม่ทนั ช่วงเวลาทีนางกําลังตกอยูใ่ นภวังค์
ม้าเร็ วก็กลายเป็ นเพียงจุดสี ดาํ เล็ก ๆ ทีอยูไ่ กลออกไป
กลินหอมของไม้ไผ่บางเบากระทบจมูก มู่หรงเสวียหลุดจากภวังค์ปิดม่านลงมองไปทิศทางทีกลินหอมทีโชยมา
นางเห็นคุณชายโอวหยางกําลังดืมเหล้าเทเหล้าอยูข่ า้ งโต๊ะตัวเล็ก ดวงหน้าแสนงดงามหล่อเหลาภายใต้แสงแดดที
สาดส่ องทะลุหน้าต่างของรถม้าเข้ามา ทําให้รอบกายของเขาปรากฏเป็ นรัศมีแสงทีเปล่งประกายอย่างบางเบา วิบ
วับไปมา เป็ นความงดงามทีแสนจะเหนื อคําบรรยาย
มู่หรงเสวียยกเอาถุงนําขึนมาเขย่า ด้านในยังคงมีนาอยู
ํ ค่ รึ งหนึ ง ไม่เพียงพอทีจะใช้ตม้ ชาได้ แต่ว่าถ้าแค่ใช้ดบั
กระหายก็ไม่น่าเป็ นปั ญหา
มู่หรงเสวียเงียบงัน “......”
ไม่มีคนทีชอบทีสุ ด ! เช่นนันก็หมายความว่านางมิได้ชอบเขา !
“รู ้จกั แน่ นอน ท่านเป็ นบุตรชายผูส้ ื บทอดของเซี ยวเหยาอ๋ องอย่างไร” มือนุ่ มนิ มของมู่หรงเสวียเลือนผ่านหน้าอก
ของเขา ลูบไล้เข้าทีคอของเขาแล้วเคลือนไปคว้าหู ของเขาไว้ พูดขึนอย่างมีลบั ลมคมใน
คุณชายโอวหยางตอบรับเพียงเบา ๆ ก้าวเดินต่อไปดังสายลม
ด้านหน้าของชายชุดนําตาลปรากฏภาพใบหน้าหยิงทะนงของมู่หรงเสวียตอนอยูท่ ีสนามประลองสัตว์ มองไป
ทางคุณชายโอวหยางด้วยความสนใจ “เจ้าจริ งจังต่อนาง......อย่างนันหรื อ ?”
คุณชายโอวหยางปรายตามองชายผูน้ นคราหนึ
ั ง “ข้าคล้ายกับพวกบ่าวไพร่ หน้าซื อใจคดอย่างนันหรื อ ?”
ชายชุดนําตาลทีเตรี ยมพร้อมรับมือไว้ตงแต่
ั แรกยืนมือออกไปรับแก้วกระเบืองนันเอาไว้ได้ทนั แต่คาดไม่ถึงว่า
บนแก้วกระเบืองจะแฝงไว้ดว้ ยพลังปราณกล้าแกร่ งสายหนึงซึ งกระแทกเข้ากับตัวเขา เสี ยงดัง ‘ครื ด ครื ด ครื ด’
จนต้องถอยออกไปสามก้าวสี ก้าว แขนของเขาชาไปพักหนึ งจนใกล้จะไร้ความรู ้สึก
“ฮูหยินสองได้สงให้
ั ไปเชิญแล้วเจ้าค่ะ......” สาวใช้กล่าวด้วยนําเสี ยงนอบน้อม
“พวกเจ้าช่วยกันพยุงข้าเร็ ว ข้าจะไปดูเจียนเอ๋ อร์ กบั จีเอ๋ อร์ !” หญิงเฒ่าแซ่ ตูส้ ังการเสี ยงเย็น แววตาของนางเต็มไป
ด้วยความดุดนั ลูกชายและหลานชายของนางต่างได้รับบาดเจ็บ นางจําต้องไปดูดว้ ยตัวเอง
“มิตอ้ งเกรงใจ” ฉิ นยวีเยียนมองไปทางซ่ งชิงเหยียนด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย นางกล่าวขึนเสี ยงเข้มว่า “ตอนนี ข้าพบ
เรื องลําบากอยูป่ ระการหนึ ง อยากจะขอให้คุณหนูซ่งช่วยเหลือ ไม่ทราบว่าคุณหนูซ่งคิดเห็นเช่นไร ?”
“เรื องอะไรหรื อเพคะ ? เชิญองค์หญิงฉิ นพูดกล่าวมาได้ไม่ตอ้ งเกรงใจ” ซ่ งชิงเหยียนพูดเน้นทีละคํา แววตา
ปรากฏความจริ งใจ เพียงแค่ได้สังสอนมู่หรงเสวียให้หลาบจํา ไม่วา่ อะไรนางล้วนเต็มใจทํา
“เจ้าตืนแล้ว” เสี ยงทุม้ นุ่ มของชายหนุ่ มลอยเข้าหู มู่หรงเสวียชะงักไปทันที เมือนางมองตามเสี ยงไป ก็เห็น
คุณชายโอวหยางเดินออกมาจากด้านหลังฉากกัน เสื อสี ขาวพลิวไหวดังผีเสื อ ปกเสื อกับชายแขนเสื อปั กด้วย
ดอกไม้สีดาํ ลายวิจิตร หล่อเหลาหาใครเปรี ยบ ร่ างสู งส่ งสง่างาม ด้านหลังมีไอร้อนแผ่โชยออกมา แสดงว่าเมือครู่
เขาเพิงจะอาบนําเสร็ จ
มู่หรงเสวียกวาดตามองไปรอบ ๆ ด้านอย่างละเอียด ก็พบว่าทีนีเป็ นวังเซี ยวเหยาอ๋ อง เรื อนของคุณชายโอวหยาง
นางเคยพักทีนี หนึงคืน เพียงแต่ว่า “ทําไมข้าถึงอยูท่ ีนี ได้ ?”
มู่หรงเสวียกระพริ บตาปริ บ ๆ พลันนึ กถึง ‘นําครึ งถุง’ ทีนางได้ดืมลงไป ดวงหน้างามก็ค่อย ๆ ดุดนั คนอืนเขา
ล้วนใช้ถุงนําเพือใส่ นาํ แต่คุณชายโอวหยางกลับใช้ถุงนําใส่ เหล้า ช่างยอดเยียมจริ ง ๆ ! “ตอนนีเวลาเท่าไหร่ แล้ว
?”
มู่หรงเสวียเลิกคิวเบา ๆ ตอนทีนางเมานันเป็ นยามอู่ (สิ บเอ็ดโมงถึงบ่ายโมง) แต่ตอนนีเป็ นยามเฉิ นเสี ยแล้ว นาง
เมาไปตังสิ บกว่าชัวยาม ผลของการดืมเหล้าหลิงหลงจุย้ นันช่างหนักหนายิงนัก !
ตอนทีนางกําลังเมาอยูน่ นเกิ
ั ดเรื องราวขึนมากมายอย่างนันหรื อ ?
ซ่งชิงเหยียนชะงัก “ความหมายของท่านลุงคือ ?”
“เจ้าค่ะ !” สาวใช้สองคนเดินเข้ามา คนหนึ งอยูข่ า้ งซ้าย อีกคนอยูข่ า้ งขวา จับตัวซ่ งชิงเหยียนไว้ แล้วลากนาง
ออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ ว
“......” มู่หรงเสวียเงียบไป
“......”
ห้องหนังสื อวังจิงอ๋ อง
“ไม่ผดิ !” คุณชายโอวหยางพยักหน้า
“ท่านหมายความว่าอย่างไร ?” มู่หรงเสวียมองไปทางเขาอย่างไม่เข้าใจนัก
“เพราะยังมีองครักษ์เงาตามมาอีกคนหนึง” คุณชายโอวหยางตอบกลับอย่างไม่ใส่
มู่หรงเสวียยังไม่ทนั ทีจะได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก็ได้ยนิ เสี ยง “พรึ บ !” ดังขึนเสี ยงหนึ ง ตาข่ายยักษ์ผนื หนึ งพุ่ง
เข้ามา แผ่กว้างพุ่งมาทางนางกับคุณชายโอวหยาง
องครักษ์เงารับคําสัง ดาบยาวในมือล้วนยืนออกไปพุ่งแทงเข้าทีมู่หรงเสวียกับคุณชายโอวหยางอย่างไม่ปรานี
เหล่าองครักษ์เงาถูกจัดการไปหมดแล้วทีนีนางก็สามารถแก้แค้นได้อย่างสบายอกสบายใจแล้ว !
หลังจากทีคุณชายโอวหยางกับมู่หรงเสวียตกลงไปในกับดักแล้ว คุณชายโอวหยางก็ยนมื
ื อไปกุมเอวบางของมู่
หรงเสวียไว้ แล้วดึงนางเข้ามากอดไว้แนบอกแน่ น
นางกดหิ นทียืนออกมาก้อนหนึง พลันได้ยนิ เสี ยง ‘ตึง’ ดังขึนเสี ยงหนึ ง ผนังหิ นด้านหน้าก็คอ่ ย ๆ ขยับ ด้านหน้า
ปรากฏลําแสงเจิดจ้าจนทําให้แทบลืมตาไม่ขึนพุ่งออกมาสายหนึง
ฉิ นยวีเยียนนอนอยูท่ ีริ มของขอบสระนํา เสื อผ้ายับยูย่ ี ผมเผ้ายุง่ เหยิง ท่าทางอ่อนแอไร้เรี ยวแรง ทัวทังแขนล้วน
เต็มไปด้วยเลือดเนื อเปรอะเปื อนจนดูไม่ได้ นางเจ็บปวดจนแทบจะไร้ความรู ้สึก สายตาพร่ ามัวนันเห็นองครักษ์
เงาของวังเซี ยวเหยาอ๋ องกําลังขนย้ายหี บสมบัติออกไปทีละใบสองใบ เพียงพริ บตาท้องพระโรงทีโอ่อ่าใหญ่โตก็
กลับกลายเป็ นว่างเปล่า แสงระยิบระยับในคราแรกทีพบเจอค่อย ๆ เลือนรางหายไป
นีมันเสี ยงอะไรกัน ? เย่อีเฉิ นหรี ตาลงมองไปตามเสี ยงก็เห็นมุมด้านหนึ งมีเส้นยาว ๆ สี ดาํ สายหนึง กําลังเปล่ง
ประกายเปลวไฟ......
นันมัน......ชนวนจุดระเบิด !
“ระเบิดทีพวกองครักษ์เงานํามาข้าล้วนทิงเอาไว้ทงหมด
ั !” มู่หรงเสวียแย้มยิมและกล่าวขึนอย่างบางเบา
“ปั ง !” อยู่ ๆ ปากถําก็ถูกกระแทกออกมาจนเป็ นรู ขนาดใหญ่ เงาร่ างสี ดาํ สายหนึ งพุ่งลอยออกมาจากถําด้านใน
ล้มกลิงลงด้านหน้าของมู่หรงเสวียกับคุณชายโอวหยาง !
เขามีรูปร่ างสู งแค่มองก็ดูรู้ว่าเป็ นผูช้ าย เสื อผ้าด้านบนถูกฝุ่ นควันเปรอะเปื อนจนกลายเป็ นสี ดาํ ล้วนมองดูสภาพ
เดิมไม่ออก ใบหน้าก้มลงกับพืนก็เลยมองไม่เห็นสภาพหน้าตาของเขา !
คุณชายโอวหยางปรายตามองไปทางเย่อเฉิ
ี น เขามิได้กล่าววาจาใด แต่แววตาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยดูถูกอย่าง
ไม่ปิดบัง เรื องทีเห็นได้ชดั เจนถึงเพียงนี ยังจะต้องมาถามอะไรให้มากความอีก ช่างโง่เง่ายิงนัก !
มู่หรงเสวียมองไปทางเย่อเฉิ
ี น แววตาของนางคล้ายยิมคล้ายมิยมิ พวกนางกับเย่อีเฉิ นมาทีนี ก็เพือสมบัติ เย่อีเฉิ น
หาสมบัติไม่เจอแน่นอนอยูแ่ ล้วว่าพวกนางก็ตอ้ งได้ไป ยังต้องถามให้มากความอีกทําไม ?
“ทําไมพวกเจ้าถึงไร้บาดแผล ?” เย่อีเฉิ นถามออกมาด้วยความสงสัยอย่างถึงทีสุ ด ทีซ่ อนสมบัติส่วนมากจะเต็ม
ไปด้วยกลไก กับดัก สมบัติยงมากเท่
ิ าไร กลไกกับกับดักก็ยงมากเท่
ิ านัน
“เรื องนี ก็ตอ้ งขอบคุณองค์หญิงฉิ นแล้ว !” คุณชายโอวหยางปรายตามองฉิ นวีเยียนทีดวงตาปิ ดสนิ ทเป็ นตายไม่
แน่ ชดั พลางเลิกคิวเยาะเย้ย “ถ้านางไม่ได้ใช้อุบายทําให้ขา้ กับมู่หรงเสวียตกลงไปในกับดัก พวกเราก็คงไม่มี
ทางเข้าไปในท้องพระโรงได้อย่างสะดวกสะบายและนําเอาสมบัติออกมาได้อย่างราบรื นเช่นนี ”
พอออกมาจากภูเขาก็เห็นแม่นาสายเล็
ํ ก ๆ ตามทีเขาพูดไว้ นําในแม่นาใสสะอาดมาก
ํ ริ มแม่นาเต็
ํ มไปด้วย
ต้นหญ้าสู งใหญ่ประมาณครึ งตัวคนได้ พัดโชยไปด้วยอากาศสดชืน
มู่หรงเสวียก้าวเท้าไปทีริ มตลิงของแม่นาอย่
ํ างรวดเร็ ว จุ่มมือลงไปล้างมือและแขนในนํา กลินเหม็นนันเบาบาง
ลงไปเล็กน้อย แต่กย็ งั มีกลินเหม็นโชยเข้าจมูกอยูด่ ี นางขมวดคิวพลางแกะสายรัดเอวและกระดุมเสื อออก ถอด
เอาชุดออกมาแช่ลา้ งลงไปในนํา......
นางใส่ เสื อกับกางเกงส่ วนในสี ขาว แถมยังใส่ เอียมไว้ ผิวหนังแม้แต่นอ้ ยก็มิได้เปิ ดเผยออกมาให้เห็น ในยุค
ปัจจุบนั ก็เท่ากับว่าใส่ เสื อเชิตกางเกงขายาว คนอืนจะเห็นก็มิเป็ นไร
นใหญ่ มู่หรงเสวียก็ไม่
“ข้าจะหลอกท่านไปทําไมกัน......ข้า......ข้าไม่ซักชุดต่อแล้ว !” เมือยิงอธิบายก็ยงไปกั
ิ
อยากจะอธิบายต่ออีก นางคว้าเอาเสื อขึนจากนําอย่างโมโห เตรี ยมทีจะเดินจากไปแต่หางตากลับเห็นผิวนําเจือ
ปนไปด้วยสี แดงบางเบา
มู่หรงเสวียนิงงัน “......”
คนคนนีนอนอยูใ่ นกอหญ้า ถูกต้นหญ้าสี เขียวบดบัง นางจึงมองไม่เห็น แล้วจะมาโทษนางได้อย่างไรกันเล่า ?
“อะไร ?” คุณชายโอวหยางมองไปทีนางอย่างไม่เข้าใจ
มู่หรงเสวียยกยิมสดใสพลางกล่าวขึนพร้อมกับจับไหล่ทงสองข้
ั างของชายหนุ่ม ลากเขาออกจากกอหญ้าวางร่ าง
ของเขาให้นอนราบไปกับพืนสะอาด แหวกเสื อผ้าตรงไหล่และขาของเขาออก ทําความสะอาดบาดแผล ใส่ ยา
พันแผล ท่าทางไหลลืนดังกระแสนําทีไหลริ น ทําให้ผทู ้ ีพบเห็นต่างทึงตืนตะลึงไม่ได้ !
ตาของชายหนุ่ มกําลังปิ ดสนิ ทแต่ขนตากลับสันไหวน้อย ๆ อยูค่ รู่ หนึง ทว่าเพียงพริ บตาก็กลับไปนิงสนิ ทดังเดิม !
“ไม่ใช่เสี ยหน่ อย !” มู่หรงเสวียส่ ายหน้าเบา ๆ “ข้าเพียงรู ้สึกว่า ทีนี มันห่ างไกลและรกร้างนัก เขาอาจจะพบกับ
สัตว์ป่าได้ทุกเมือ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกทังยังสลบไม่ตืนเช่นนี ถ้าหากโชคร้ายพบเข้ากับสัตว์ร้าย ก็มีแต่ตาย
ทางเดียวเท่านัน พวกเราช่วยเหลือเขาแล้วก็ควรจะช่วยเหลือให้ถึงทีสุ ด พาเขากลับเมืองหลวงไปด้วยกันเถอะ รอ
จนเขาฟื นค่อยให้เขาจากไปก็ยงั ไม่สาย......”
นางมีธุระบังจึงเอิญผ่านทางมาแถวนี เมือเห็นคุณชายโอวหยางในใจก็เต็มไปด้วยความตืนเต้นดีใจจึงเดินเข้ามา
หา แต่คาดไม่ถึงว่ามู่หรงเสวียก็อยูท่ ีนีด้วย อีกทังยังต่อปากต่อคํากับคุณชายโอวหยางอย่างไร้ยางอาย ช่างน่ า
โมโหยิงนัก นันเป็ นความใกล้ชิดทีแม้แต่นางก็ยงั มิเคยได้รับจากเขา......
“แค่ก แค่ก แค่ก !” ชายหนุ่ มทีนอนอยูบ่ นพืนไอออกมาเบา ๆ เพียงเล็กน้อย เขาเปิ ดตาขึนอย่างช้า ๆ ดวงตาสี ดาํ
ลึกลําดังดวงดาวบนท้องฟ้ า
“เอ่อ......” ซูหนานเซี ยงอําอึงไปครู่ หนึง กล่าวเสี ยงเบา “บ้านของผูน้ อ้ ยอยูท่ ีจวนราชครู ในเมืองหลวง รบกวน
คุณชายตงฟางแล้ว !”
“คุณหนูเกรงใจไปแล้ว เชิญคุณหนู !” ตงฟางหลีทาํ ท่าเชือเชิญ ชัดเจนว่าเป็ นท่าทางธรรมดาสามัญแต่กลับดู
องอาจเสี ยจนผูท้ ีได้พบเห็นต่างตาพร่ ามัว
“คุณชาย ต้องการให้ขา้ น้อยสื บเรื องนี หรื อไม่ขอรับ ?” ฮัวถงไต่ถามเสี ยงตํา แววตาเย็นชา
“มิตอ้ ง เรื องเท็จไม่มีทางเป็ นจริ งได้ เรื องจริ งก็ไม่สามารถกลายเป็ นเท็จได้ ตอนนี ก็อย่าได้ไปสนใจให้มากนัก”
ตงฟางหลีกล่าวขึนเสี ยงเบา ท่าทางดูลึกลับ
ใช้ตาํ รับลับทําให้ตงครรภ์
ั ลูกชาย นับว่าไม่ใช่เรื องทีมีเกียรติอะไร นางเพียงต้องการทีจะซื อตํารับลับกลับไป
ิ อยเท่าไหร่ กย็ งดี
อย่างเงียบ ๆ พบคนได้ยงน้ ิ แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กหน้าร้านทีอยูต่ รงหน้ากลับเป็ นคนทีไม่มีอาํ นาจ
ในการตัดสิ นใจ......
ในใจของมู่หรงโหรวรู ้สึกหงุดหงิดขึนมาเล็กน้อย กล่าวขึนอย่างเสี ยอารมณ์ “ถ้าเช่นนันนายท่านของพวกเจ้า
ตอนนีอยูท่ ีใด ?”
“เดือนทีแล้ว มิใช่ว่าคนดูแลม้าหลวงและราชรถของฮ่องเต้แต่งงานกับหญิงสาวทีมีใบหน้างดงามดังมวลบุบผา
นางหนึงเป็ นเถียนฝาง (ภรรยาหลวงทีแต่งหลังจากภรรยาหลวงคนเดิมสิ นไป) หรอกหรื อ ?” อายุของตัวเขากับ
เขานันก็ห่างกันไม่มาก หากเขาสามารถแต่งหญิงสาวทีสวยสดงดงามเป็ นจีซื อได้ ตัวเขาเองแน่ นอนว่าก็ตอ้ งทํา
ได้ !
เขาไม่แยแสเศษแก้วพวกนันแม้แต่น้อย ถลึงตามองไปทีมู่หรงโหรวอย่างเกลียดชังแววตาลุกโชนไปด้วยไฟโกรธ
เขาเห็นเสื อผ้าของนางไม่ธรรมดา ดูมีสง่าราศี เหมือนเป็ นฮูหยินของจวนขุนนาง ถึงได้ยอมพูดคุยเรื องการค้าขาย
กับนาง คาดไม่ถึงว่า นางไม่ว่าจะเปิ ดปากหรื อปิ ดปากก็ลว้ นแต่ดูถูกเยาะเย้ยเขา นิ สัยใจคอแย่เช่นนีถึงได้ไม่
สามารถให้กาํ เนิดบุตรชายได้ เขาขอสาปแช่งให้นางไร้ลกู หลานสื บสกุล !
เมือเดินออกไปจากหุ ยชุนถัง แม่นมหลีก็หนั กลับไปมองป้ ายร้านทีแขวนไว้ดา้ นบน พลางกล่าวเสี ยงตําว่า “ฮูหยิ
นพวกเราจะจากไปเช่นนี จริ ง ๆ หรื อ ?” ตํารับลับการมีลูกชายแน่ นอนว่าไม่ได้พบเจอกันง่าย ๆ
มู่หรงโหรวหรี ตาลง “ในชิงเหยียนมีหมอทีฝี มือสู งส่ งมากมาย สวีเหวินมีตาํ ราลับได้ โรงหมออืนก็มีได้ พวกเราก็
ไม่ตอ้ งเร่ งรี บให้มากนัก ค่อย ๆ ดูไปเถอะ !”
มู่หรงโหรวลงจากรถม้าแล้วเดินขึนบันไดไปโดยมีแม่นมหลีคอยจับจูง พอก้าวเข้าไปด้านในก็เห็นเด็กสาวนาง
หนึ งวิงพุ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ ว ใบหน้ากระทบเข้ากับร่ างกายของนาง ใบหน้าเรี ยวเล็กทีงดงาม ร่ างกายทีดูดี
ได้รูป เป็ นลูกสาวทีนางคิดถึงทุกวันทุกคืน ซ่ งชิงเหยียน !
สวีเหวินก้มหัวลงนิงเงียบไม่พดู จาไปช่วงหนึ ง !
“นีเอ่อ......” สวีเหวินเร่ งตรึ กตรองครุ่ นคิด เขาค่อย ๆ กัดฟั นตอบอย่างเสี ยมิได้ “ตกลง ข้ายอมรับข้อเสนอของ
เจ้า”
“สวีเตียนซื อเป็ นคนหลักแหลมนัก ตังแต่บดั นีเป็ นต้นไป มู่หรงเสวียก็ตกเป็ นของท่านแล้ว เชิญท่านค่อย ๆ เชย
ชมนางได้ตามสบาย !” มู่หรงโหรวยกยิมบิดเบียวทีมุมปาก หมุนกายเดินออกไปด้านนอกอย่างช้า ๆ
นางกับมู่หรงเสวียเป็ นศัตรู คู่แค้นต่อกัน แต่ไหนแต่ไรก็อยากจะจัดการสังสอนมู่หรงเสวียให้หนัก ๆ อยูแ่ ล้ว แต่
ว่ามู่หรงเสวียได้หมันหมายกับเย่อีเฉิ น อีกทังยังมีความสัมพันธ์ทีสนิ ทชิดเชือกับคุณชายโอวหยาง ถ้าเกิดนางอาจ
หาญยกมู่หรงเสวียให้เป็ นจีซื อของสวีเหวินอย่างโจ่งแจ้งเปิ ดเผย ไม่วา่ จะเป็ นคุณชายโอวหยางหรื อว่าเย่อีเฉิ น
แน่นอนว่าเขาทังสองจะต้องจัดการนางจนตกอยูใ่ นสภาพตายทังเป็ นแน่
สวีเหวินทีได้หญิงงามไปก็จะทําตามสัญญาทีตกลงกันไว้ นําเอาตํารับลับทีช่วยในการตังครรภ์ลูกชายมามอบให้
นาง ถ้าเป็ นไปตามนี นอกจากนางจะสามารถกําจัดศัตรู คู่แค้นได้แล้ว ยังสามารถทีจะมีทายาทสื บสกุลได้อีกด้วย
ถือเป็ นการยิงปื นนัดเดียวได้นกทังสองตัว !
“เช่นนันคําพูดทีข้าพูดกับสวีเหวิน......”
นางเงยหน้ามองไปทางมู่หรงเสวียอย่างหวาดกลัว !
มู่หรงโหรวถลึงตามองมู่หรงเสวียอย่างเกลียดชังคล้ายอยากจะพูดว่า “เจ้าเอาอะไรให้สวีเหวินกิน ?”
ร่ างกายบอบบางถูกกดเอาไว้จนเจ็บปวดกลินปากเหม็นเน่าพุ่งเข้ากระทบใบหน้า เหม็นจนมู่หรงโหรวอยากจะ
เป็ นลม คิดอยากจะผลักเขาออก ด่าทอต่อว่าแรง ๆ ตีเขาให้สลบ
“เสวียเอ๋ อร์ ......เสวียเอ๋ อร์ ......เจ้าเป็ นอะไรไป......” แซ่ โจวใช้ผา้ เช็ดหน้าปิ ดปากปิ ดจมูก ร้องห่ มร้องไห้วงเข้
ิ ามา
ด้านหลังตามมาด้วยเหล่าบรรดาสาวใช้บ่าวไพร่ ทีพากันยกโขยงพากันวิงกรู เข้ามาในเรื อนหิ มะโปรย
“เกิดอะไรขึน ?”
“ไม่รู้เหมือนกัน......”
“เสวียเอ๋ อร์ ......” แซ่ โจวแกล้งทําท่าทําทางร้องเรี ยกเสี ยงเบา แล้วทันใดนันก็รีบเตะไปทีประตูเรื อนให้เปิ ดออก
ทันที ชัวขณะนันควันกํายานทีคละคลุง้ เข้มข้นต่างพุ่งเข้ากระทบใบหน้าจนนางต้องขมวดคิวเข้าหากันแน่ น
สวีเหวินทีถูกฤทธิของยาปลุกกําหนัดก็ไร้ความสามารถในการตอบโต้ เขาถูกมู่หรงโหรวตบตีอย่างไม่ยงมื
ั อ เล็บ
ยาวคมกริ บข่วนเข้าไปทีหน้าอกของเขาจนเกิดเป็ นรอยแผลลึก ความเจ็บปวดทีปะทุขึนมาทําให้เขาได้สติ
ในทันที
เมือ ‘เรื อนหิ มะโปรย’ สามคํานีพอกระทบเข้าหู ก็เสี ยดแทงเข้าสู่ หวั ใจของนาง ทันใดนันมู่หรงโหรวได้สติขึนมา
ทันที แล้วเรี ยกร้องขึนเสี ยงดัง “มู่หรงเสวีย......เป็ นมู่หรงเสวีย......”
“อู่อนั โหวฮูหยินมีธุระอะไรกับข้าหรื อ ?” สิ นเสี ยงก็ตามมาด้วยนําเสี ยงทีเย็นชาสายหนึง มู่หรงเสวียแหวกผ่าน
ฝูงชน เดินเยืองย่างเข้ามาด้านในอย่างช้า ๆ ชุดสี เขียวอ่อนพลิวไหวไปตามสายลม สวยงามเลิศลําหาใดเปรี ยบ
มุมปากยกยิมอย่างงดงามคล้ายกับกําลังเยาะเย้ยดูถูก ดูแล้วช่างขัดตามู่หรงโหรวยิงนัก !
ฆ่านางอย่างนันหรื อ ? ช่างไม่เจียมตน !
“ถ้าเจ้ามิได้ร้อนตัว ก็ให้ขา้ ตรวจค้นเรื อนหิ มะโปรยของเจ้าเสี ยสิ ...” แซ่ โจวต่อคําพูดของนาง จ้องมองไปทีมู่หรง
เสวียตาไม่กระพริ บ ไม่ยอมปล่อยให้ความผิดปกติบนหน้าของนางหลุดพ้นไปได้
“ตามสบาย พวกท่านอยากจะค้นอย่างไรก็เชิญตามสบายเถอะ !” มู่หรงเสวียตอบตกลงอย่างใจกว้าง ไม่ได้มีท่าที
ปฏิเสธเลยแม้แต่นอ้ ย
แววตาของซ่ งเทียนเหวินเต็มไปความดูถูกเหยียดหยามไม่ขยับเคลือนไหวใด ๆ
ซ่งเทียนเหวินมองไปทีใบหน้าของนางทีไหลอาบไปด้วยนําตา พลันในหัวปรากฏภาพของทังสองคนทีเคยรัก
ใคร่ ปรองดอง เขาถอนหายใจออกมาหนัก ๆ คราหนึง ขยําหนังสื อหย่าทีเขียนไปได้ครึ งหนึ งทิงไป “ข้าให้เวลา
เจ้าได้มากทีสุ ดหนึ งเดือน เจ้าก็จดั การสะสางเรื องราวให้เรี ยบร้อยเสี ย”
มู่หรงโหรวถลึงตามองมู่หรงเสวียด้วยความเกลียดชังแววตาลุกโชนไปด้วยไฟแค้นทีแทบจะสามารถพ่นออกมา
เป็ นไฟได้ “มู่หรงเสวียเจ้าทําให้ขา้ ต้องตกตําถึงเพียงนี ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่ !”
สี หน้าของแซ่ โจวเคร่ งขรึ มลง แล้วตวาดขึนเสี ยงดัง “มู่หรงเสวีย เจ้าพูดอะไรออกมา ? พวกข้าล้วนเป็ นผูห้ ลัก
ผูใ้ หญ่กว่าเจ้า......”
“มู่หรงเสวีย......”
เรื อนรับรองจวนราชครู
เมือหมอหลวงจางได้ตรวจสอบบาดแผลของตงฟางหลีแล้วก็พยักหน้าติดต่อกันหลายครา “บาดแผลล้วนได้รับ
การจัดการดูแลทันเวลา ตัวยาทีใช้กเ็ ป็ นของชันสู ง ดูแล้วไม่มีปัญหาใด ๆ อีก เปลียนยาเช้าเย็นครังละรอบ
พักผ่อนสักครึ งเดือน ถ้าทําตามนี ก็จะหายดีเป็ นปกติ”
“ไม่มีวิธีอืนเลยหรื อ ?” ฮัวถงกล่าวขอร้อง
หมอหลวงจางถอนหายใจออกมาหนัก ๆ “ความรู้ความสามารถของข้านันตําต้อยยิงนัก คิดไม่ออกถึงวิธีการ
รักษาองค์ชายเจ็ดจริ ง ๆ เช่นนันเอาอย่างนีแล้วกัน ข้าจะกลับไปทีสํานักหมอหลวงเพือสอบถามหมอหลวงท่าน
อืน ๆ ดูว่าคิดวิธีการรักษาองค์ชายเจ็ดออกหรื อไม่”
“องครักษ์ฮวเกรงใจไปแล้
ั ว ข้าผูเ้ ฒ่าขอลา” หมอหลวงจางพูดขึนเพียงเบา ๆ แบกกระเป๋ ายาขึนหลัง แล้วเดินออก
จากเรื อนรับรองไป
“คุณชาย......”
“ข้าสบายดี ขอบคุณคุณชายโอวหยางทีเป็ นห่ วง” นําเสี ยงของตงฟางหลีเรี ยบเฉย ดูกร็ ู้ว่าเป็ นการพูดตามมารยาท
เท่านัน !
คุณชายโอวหยางคงจะชอบพอกับหญิงสาวผูน้ นมากนั
ั ก......
ซูหนานเซี ยงรู ้สึกพอใจเป็ นอย่างมาก แต่บนใบหน้าของนางกลับทําสี หน้าลําบากใจ “มีเอ๋ อร์ มิตอ้ งกล่าวต่อไป
แล้ว......”
ทันใดนันคิวดกดําของคุณชายโอวหยางก็ขมวดเข้าหากัน มิกล่าววาจาใด
สวินเฟิ งตามหลังไปติด ๆ !
ลอบโจมตีนางเช่นนี ไม่เจียมตนนัก !
ทันใดนันความชุลมุนวุ่นวายในตรอกด้านหลังก็เงียบสงบลง คนชุดดําต่างละเลิกความต้องการทีจะฆ่าฟันไป
ก่อนแล้วพากันไปรวมตัวกันทีด้านข้างของชายหนุ่ ม กล่าวขึนอย่างนอบน้อม “คุณชาย !”
ชายชุดม่วงมองไปทีมู่หรงเสวียด้วยแววตาทีเต็มไปด้วยความห่ วงใย “เจ้าไม่เป็ นอะไรนะ ?”
ตงฟางหลียมขึ
ิ นด้วยความรู ้สึกเสี ยใจ “ขออภัย ความจริ งแล้วข้า......”
“ชีเซวีย” แววตาของตงฟางหลีลาลึ
ํ ก พลางกล่าวเน้นทีละคํา “หมอหลวงบอกว่าไม่มียารักษา ทุกครังทีพิษกําเริ บ
จะไอออกมาเป็ นเลือดไม่หยุด เป็ นเช่นนี ไปเรื อย ๆ จนกว่าจะตาย !”
มู่หรงเสวียพยักหน้าเบา ๆ นางเคยได้ยนิ ชือพิษ ‘ชีเซวีย’ ชนิดนี ถือเป็ นพิษทีโหดเหี ยมและอํามหิ ตมาก แน่ นอน
ว่าไม่มียารักษา......
“แค่ก แค่ก แค่ก !” ทันใดนันตงฟางหลีกเ็ อามือปิ ดปากไว้แล้วไอขึนอย่างรุ นแรง เลือดสี ดาํ ไหลหยดออกจากร่ อง
นิวทีละสายสองสาย หยดลงไปบนชุดสี ม่วงเข้มจนไหลซึ มกลายเป็ นรอยเลือดคล้ายดอกเหมยสี ดาํ ......
สารหนูกถ็ ือเป็ นพิษร้าย ในขณะทีมันต่อกรกับพิษ ‘ชีเซวีย’ ก็ยงั ทําการกัดกร่ อนตงฟางหลีไปพร้อม ๆ กัน ถึงแม้
ว่าวรยุทธ์ของตงฟางหลีจะสู งส่ ง พลังภายในกล้าแกร่ งเพียงใด ก็ยงั ไม่มีความสามารถพอทีจะหยุดยังการกัด
กร่ อนของพิษร้ายทังสองได้ ฉะนันหัวใจจะหยุดเต้นหรื อถูกทําลายก็เป็ นเรื องของเวลาทีจะช้าหรื อจะเร็ วเพียงใด
เท่านัน......
“เช่นนันตอนนี ควรทําเช่นไรขอรับ ?” ฮัวถงมองมู่หรงเสวียอย่างขอความช่วยเหลือ คุณชายถูกพิษของสารหนูตี
กลับอย่างรุ นแรงนัก แต่ว่าเขาไม่เข้าใจศาสตร์ แพทย์ ไม่ทราบว่าต้องทําอย่างไรถึงจะสามารถช่วยคุณชายของเขา
เอาไว้ได้ !
“ท่านทําอะไรน่ ะ ?” ฮัวถงมองไปทีนางอย่างไม่เข้าใจ
หนึ งเวลาทีใช้ในการต้มชาผ่านไป ( ประมาณ 10 – 20 นาที ) ครึ งเค่อ ( 7 นาทีครึ ง) ผ่านไป หนึงเค่อ ( 15 นาที )
ผ่านไป......ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแล้ว พลันได้ยนิ เสี ยง ‘ซ่า’ เสี ยงหนึงดังขึน มู่หรงเสวียโผล่ขึนมาจากนํา ค่อย
ๆ ขึนมาบนฝัง แหวกผ้าสี ขาวเปื อนเลือดในมือออก ชัวขณะนัน ปลิงนําทีกําลังดินไปดินมาก็ปรากฏขึนต่อสายตา
ของผูค้ น
“แน่นอนว่าเอามาใช้แก้พิษ !” มู่หรงเสวียยกยิมขึนอย่างงดงาม
“ใช้ปลิงนําแก้พิษอย่างนันหรื อ ?” ฮัวถงเบิกตากว้างขึนอย่างแปลกใจ
การใช้ปลิงนําดูดพิษออกนันต้องดูว่าติดพิษมามากน้อยเพียงไร แล้วค่อยวางปลิงนําลงตามจุดชีพจรที
เฉพาะเจาะจง ไม่สามารถวางอย่างส่ ง ๆ ได้ ไม่เช่นนันจะถูกพิษสะท้อนกลับ ข้างกายของตงฟางหลีไม่มีคนที
เข้าใจในศาสตร์ทางด้านการแพทย์ ถึงนางจะอธิบายเกียวกับการรักษาด้วยปลิงนําอย่างไร พวกเขาก็คงไม่เข้าใจ
มีเพียงทางเดียวคือนางคงต้องเดินทางไปรักษาตงฟางหลีดว้ ยตัวเอง !
ไปพักทีจวนของนางอย่างนันหรื อ ?
มู่หรงเสวียไม่ได้ใส่ ใจนัก อากาศยิงร้อนขึนทุกที ตัวนางก็นบั ได้วา่ เป็ นผูฝ้ ึ กวรยุทธ์อยูค่ รึ งหนึง ไม่ตอ้ งพูดถึงใส่
ชุดเปี ยก ๆ อยูเ่ พียงครู่ หนึ งหรอก ถึงใส่ แล้วยืนอยูค่ รึ งวัน นางก็ไม่มีทางถูกลมหนาวพัดจนเป็ นหวัดได้ !
“คุณชายโอวหยาง ผูน้ ้อยเป็ นคนไข้ คุณหนูท่านนี เป็ นหมอ ผูป้ ่ วยไปพักรักษาตัวทีบ้านของท่านหมอ อยูอ่ าศัย
และพักฟื น ไม่มีตรงไหนทีไม่เหมาะสม !” สามารถพักอาศัยอยูใ่ นชายคาเดียวกันกับคนในดวงใจของคุณชาย
โอวหยาง แน่ นอนว่าจะต้องเป็ นเรื องทีน่ารื นรมย์ยงิ
ึ างระมัดระวังแล้วตามมู่หรงเสวียกับคุณชายโอวหยาง
“พ่ะย่ะค่ะ!” อัวถงรับคําสัง ค่อย ๆ พยุงตงฟางหลีขนอย่
ออกไป
ชายผูน้ นไม่
ั ร้อนรนกระวนกระวาย แววตาคมกริ บกวาดตามองไปทีชายชุดดําทีละคน ถามขึนอย่างเย็นชา “ใคร
ส่ งพวกเจ้ามา ?”
ช่างดียงนั
ิ ก!
“คําพูดเหล่านีเป็ นเย่อเฉิ
ี นทีบีบบังคับให้เจ้าพูดใช่หรื อไม่ ?” อดีตจิงอ๋ องกัดฟันพูดกล่าวเสี ยงตํา
ดูท่าอดีตจิงอ๋ องคงอยากให้นางกับเย่อเฉิ
ี นครองคู่ดว้ ยกันมาก แต่น่าเสี ยดายทีเจ้าบ่าวไม่ได้รัก ฝ่ ายเจ้าสาวก็ไม่มี
ใจ ชาติภพนี คงไม่มีทางอยูด่ ว้ ยกันได้......
มู่หรงเสวียเลิกคิวมองเย่อีเฉิ น สี หน้าของนางคล้ายยิมคล้ายไม่ยมจนสี
ิ หน้าของเย่อีเฉิ นมืดครึ ม “เจ้าคิดว่าข้าจะ
ปฏิบตั ิตนกับเจ้าเช่นนันหรื อ ?”
เสี ยงฝี เท้าบางเบาดังขึนด้านหลัง ตามเขามาอย่างไม่เร่ งรี บนัก คุณชายโอวหยางทําเป็ นไม่สนใจ เพียงแต่กา้ วยาว
ๆ ไปด้านหน้าต่อไป หลังจากทีเลียวไปมาได้หลายครา ก็กา้ วเดินเข้าไปในวังเซี ยวเหยาอ๋ องอย่างช้า ๆ
ตงฟางหลียกยิมมุมปากขึนอย่างลําลึกพอเตรี ยมจะหมุนกายจากไป
“ทีนี คือวังเซี ยวเหยาอ๋ อง มิใช่วงั หลวงแห่ งแคว้นซี เหลียง เจ้าไม่ได้มีสิทธิทีจะเลือกได้ ทีข้าให้พกั ทีเรื อนรับรอง
ทิศตงหนานนี ก็ถือว่าให้เกียรติเจ้ามากพอแล้ว อยากอยูก่ อ็ ยู่ ไม่อยากอยูก่ เ็ ชิญ !” คุณชายโอวหยางปรายตามองเขา
ครู่ หนึงแล้วก็หมุนกายจากไป เดินต่อไปด้านหน้าโดยทีไม่หันกลับมามองอีก
ทันใดนัน บนทางเดินหิ นก็ปรากฏเงาร่ างสู งโปร่ งของคนผูห้ นึง เขาอยูใ่ นชุดสี นาเงิ
ํ นเข้ม ใบหน้าหล่อเหลา เป็ น
บุตรชายของจวนสังซูสวีเทียนโย่ว
รอจนนางจะหาจังหวะและโอกาสทีเหมาะสมเจอค่อยไปแลกเปลียนหนังสื อหมันและของหมันแทนตัวชินนัน
คืนให้กบั เย่อีเฉิ น เท่านีนางก็นบั ว่าสามารถตัดขาดจากเย่อีเฉิ นได้อย่างสิ นเชิง กลายเป็ นคนทีไร้พนั ธะ ชาติภพนี ก็
จะได้ไม่ตอ้ งยุง่ เกียวอะไรกับเขาอีก......
“ฟ้ าว ฟ้ าว ฟ้ าว !” เสี ยงแหวกอากาศทีรุ นแรงดังขึน
มู่หรงเสวียเดินออกไปด้านหน้าด้วยอารมณ์โมโหนังลงไปทีเก้าอีด้านข้างของคุณชายโอวหยาง ยืนมือออกไปดึง
ทีแก้มของเขา แล้วหยิกแรง ๆ พริ บตาใบหล่อเหลาก็ขึนรอยแดงเพราะถูกหยิก
ความรู ้สึกเจ็บ ๆ คัน ๆ แล่นขึนมา แววตาของคุณชายโอวหยางวูบไหวไปด้วยความเหนือยใจน้อย ๆ เขายืนมือ
ออกไปจับมือของนางข้างทีกําลังทําร้ายเขา พลางกล่าวเสี ยงตํา “เย่อีเฉิ นไม่มีทางรับของหมันทีเจ้าส่ งคืนไป
ถึงแม้วา่ ข้าจะไล่พวกองครักษ์เงาออกไป พวกเขาก็คงคิดหาวิธีอืนนําเอาของหมันหมายส่ งกลับมา”
“เจ้ารู ้ตงแต่
ั แรกว่าผลจะเป็ นเช่นนี ? แล้วเหตุใดเจ้าไม่ยอมเตือนข้าสักคํา ?”
เรื อนหยก
แซ่ ตูป้ รายตามองนาง แล้วสบถขึนเบา ๆ “เจ้าเป็ นอู่อนั โหวฮูหยิน ชิงเหยียนก็เป็ นถึงคุณหนูผสู ้ ู งส่ งแห่ งจวนอู่อนั
โหว อยากจะหมันหมายกับตระกูลดี ๆ นันไม่ยาก แต่รอจนเจ้าเข้าวัดไป ฐานะของชิงเหยียนก็จะต้องตกลง พอ
ถึงตอนนัน ตระกูลทีหมันหมายเอาไว้รู้เรื องเข้าแล้วต้องการถอนหมัน เช่นนันจะทําอย่างไร ?”
มู่หรงโหรวชะงักไป ผูค้ นในเมืองหลวงทียึดมันในการหมันหมายนันมีมากมาย แต่ว่าผูค้ นทียืดมันในลาภยศก็มี
ไม่น้อยเช่นกัน ใครจะไปสามารถรับประกันได้ว่าตระกูลทีหมันหมายไว้นนจะเป็
ั นตระกูลทีมีคุณธรรมสู งส่ ง ?
ฐานะของเย่อีเฉิ นสู งส่ ง ความสามารถไม่ธรรมดา อีกทังยังมีอาํ นาจอยูใ่ นมือ แต่งเป็ นชายารองให้เขาเปรี ยบเทียบ
กับการแต่งเป็ นชายาเอกให้ตระกูลอืนแล้วดีกว่าเป็ นไหน ๆ
แซ่ ตูช้ ะงักไป “เพราะอะไร ?” ตําแหน่งชายารองแห่ งจิงอ๋ องนัน ผูค้ นมากมายต่างก็อยากจะเป็ นแต่ก็ใช่ว่าจะ
สามารถเป็ นได้ง่าย ๆ
แซ่ ตูค้ ่อย ๆ หรี ตาลง แล้วกล่าวเน้นขึนทีละคํา “อดีตจิงอ๋ องเป็ นคนทีหัวแข็งมากผูห้ นึ ง อยากทําให้เขาเปลียนตัว
ว่าทีภรรยานันไม่ง่ายดายนัก พวกเราจะต้องคิดอ่านให้รอบคอบ ห้ามมีขอ้ ผิดพลาดแม้แต่น้อย !”
“นีคือหลานสาวนอกสกุลของผูน้ อ้ ย ชิงเหยียน !”
ตอนที 122 ล่ อลวง
มู่หรงเจียนกล่าวแนะนําพรางยิมตาหยี เขาสอดส่ องดูท่าทีทุกความเคลือนไหวของอดีตจิงอ๋ องอย่างไม่ให้หลุด
สายตาไปได้
เหล่าบรรดาทหาร สาวใช้ บ่าวไพร่ ทีอยูใ่ กล้ ๆ ต่างตกใจ พากันกรู เข้ามาอย่างเร่ งรี บ มู่หรงเจียนกับอดีตจิงอ๋ องที
กําลังลําลึกอดีตก็กา้ วยาว ๆ เข้ามาเช่นกัน