Professional Documents
Culture Documents
เล่ห์รักชายา ตอนที่ 1 - 412
เล่ห์รักชายา ตอนที่ 1 - 412
ประโยคหลังๆมู่หรงเสวียเน้นนําเสี ยงเป็ นพิเศษ เย่อีเฉิ นสี หน้าเย็นชา แววตาเข้มขึน เรื องบ้านรองบ้านเอก เป็ น
เรื องไม่ยากสําหรับเขาทีจะเติมเต็ม แต่สาเหตุทีเขาต้องให้ม่หู รงเสวียแต่งเข้าเป็ นพระชายารองก็เพือ......
ความรักระหว่างฉิ นยวีเยียนกับเย่อเฉิ
ี นลึกซึ งเกินบรรยาย มีหรื อทีจิงอ๋ องจะมิบอกกล่าวถึงเรื องการหมันหมาย
ระหว่างนางกับเขา แถมยังมีการออกหน้าปกป้ องซึ งกันและกันอีก ชัดเจนว่านางต้องรู ้เรื องการหมันหมาย
ระหว่างข้ากับเย่อีเฉิ นแน่
เมือฮ่องเต้เสด็จออกจากท้องพระโรงจนลับสายตา มู่หรงเสวียก็ค่อยๆลุกขึนเดินออกจากท้องพระโรงท่ามกลาง
สายตาของเหล่าชนชันสู ง ไม่แม้แต่มองหน้าของเย่อีเฉิ นเลยสักนิ ด
มู่หรงเสวียทีไม่รู้ความคิดในใจของเย่อเฉิ
ี น หลังออกจากพระราชวังก็เดินตามการนําทางของนางกํานัลไปทีรถ
ม้ากลับจวนเจินกัวโฮว
“กรรจ์” สุ นัขขนดําเหมือนฟั งเข้าใจเสี ยงเชียร์ ของเขา กัดไปทีคอของสุ นัขขนเทา ดับลมหายใจของสุ นขั ขนสี เทา
ทันที
ซวงสี ยิมอย่างลําบากใจ “คุณชาย ท่านซื อสุ นขั ประลองสี ตัว ตัวละห้าร้อยตําลึง ไหนจะเสี ยพนันไปอีกครังละ
หนึ งพันตําลึง......”
หญิงงาม? หญิงงามทีไหนกัน?
ได้ทงหญิ
ั งงาม ได้ทงรางวั
ั ลจากจิงอ๋ อง นีเป็ นการยิงปื นนัดเดียวได้นกสองตัวชัดๆ
มู่หรงเสวียยกยิมเย็น ยกเท้าเตะสวนไปยังสวีเทียนอัน
สวีเทียนอันไม่ทนั ได้ตงตั
ั วจึงโดนเตะเข้าทีท้องอย่างจัง กระเด็นล้มลงไปกับพืน เจ็บถึงขนาดทีคิวขมวดเป็ นปม
ในขณะเดียวกันปากก็อา้ ค้างด้วยความเจ็บปวดจนเห็นแนวฟั น เขาจ้องมองมู่หรงเสวียอย่างเกลียดชัง
กับแค่แผนยัวยุสกปรกเล็กน้อยเช่นนี นางเองก็ขีเกียจจะสนใจ
มู่หรงเย่อบั จนคําพูด นีน่ ะหรื อทีเรี ยกว่าดี? แถมยังกล้าส่ งมันลงสนามประลอง ไม่ตอ้ งลงสู ้หรอกแค่ความกดดัน
จากสุ นขั ประลองตัวอืนก็สามารถทําให้มนั ตายได้แล้ว ช่างอ่อนแออะไรเยียงนี พวกหางแถวแบบนี สนาม
ประลองคงไปจับมันมาเพือเพิมจํานวนของสุ นขั ประลองให้ดูมากขึนเท่านัน คนสายตาดีคงไม่มีทางเลือกมันแน่
สวีเทียนอันพิงขอบสนาม ดูขนุ พลเหลืองของตนเดินอย่างองอาจเข้าสู่ สนามประลอง ประจัญหน้ากับสุ นขั
ประลองของฝังตรงข้ามพร้อมแสดงท่าทางเหนื อกว่า ด้วยรู ปร่ างทีใหญ่โตของมันแทบจะบังสุ นขั ประลองทีมู่
หรงเสวียเลือกจนมิด ท่าทางคล้ายกับผูใ้ หญ่กาํ ลังจะสังสอนเด็กทีอวดดี
‘แก๊งๆ’ ทันทีทีเสี ยงระฆังเริ มการต่อสู ้ดงั ขึน ท่าทีของ ‘ขุนพลเหลือง’ กลับกลายเป็ นโหดร้ายดุดนั ปราดเปรี ยว
ขึนมาพริ บตา มันแหงนหน้าหอนก่อนจะพุ่งไปทางสุ นัขประลองของมู่หรงเสวียด้วยความดุร้าย
เขามองไปทางสวีเทียนอันทีกําลังทุกข์อย่างมีความสุ ข เห็นเขามองไปยังสนามประลองทีเต็มไปด้วยเลือดด้วยสี
หน้าตระหนกตกใจ สุ นขั ประลองทีซื อมาตายหมด ทังยังแพ้ให้กบั มู่หรงเสวีย แถมยังต้องโดนตัดนิ ว......ข้าไม่มี
ทางยอม ข้าต้องไม่กลายเป็ นคนพิการเช่นนันแน่ !
“สวีเทียนอัน เจ้าคนน่ารังเกียจ!”
ใช่สิ เสื อผ้าของร้านอีเซี ยงเก๋ อ หรื อร้านผ้าชือดังอืนๆ ไม่ว่าเขาไปเองหรื อให้นอ้ งเล็กไป ก็ซือของได้ไม่ต่างกัน
มู่หรงเสวียมิกล่าววาจา สายตาเย็นชามองไปด้านหน้า
คนงานก้มหน้ามิกล่าววาจา เหล่สายตาขอความช่วยเหลือไปทางด้านข้าง
“ข้านึ กว่าเย่อเฉิ
ี นจะเป็ นวีรบุรุษผูส้ ู งส่ ง ถึงพวกข้ากับเขาจะไม่ได้เป็ นทองแผ่นเดียวกันก็ยงั สามารถเป็ นมิตรทีดี
ต่อกันได้ แต่คาดไม่ถึงว่า เขากลับรังแกคนทีอ่อนแอกว่า ไม่รักษาสัญญา ทังยังใช้อาํ นาจบีบบังคับให้นอ้ งข้าแต่ง
เข้าเป็ นบ้านรอง ช่างไร้ยางอายจนข้าพูดไม่ออก”
“จวนเจินกัวโหวของข้าถึงแม้ว่าจะไม่สูงส่ งเท่าวังอ๋ อง แต่ก็จะมิอาจยอมให้ผใู ้ ดมาเหยียดหยาม พ่อบ้านหวัง เชิญ
ี นเสี ยเถอะ ตระกูลมู่หรงไม่ได้เสี ยดายในตัวเขา ถึงแม้ว่าเขาจะยอมให้นอ้ งสาวข้าเป็ นพระ
เจ้ากลับไปบอกเย่อเฉิ
ชายาเอกก็ตามที พวกข้าก็จะไม่เสี ยดาย พวกข้าขอถอนการหมันหมายครังนี ”
“อืม” มู่หรงเสวียพยักหน้าพอใจ
นางเพิงพูดไม่กีประโยค คนให้ทา้ ยก็มาเสี ยแล้ว บ่าวไพร่ จวนนี ช่างส่ งข่าวได้รวดเร็ วเสี ยจริ ง สาวใช้ทียืนอยูใ่ น
เรื อนฝังตะวันตกพวกนี ล้วนเป็ นคนของฮูหยินเฒ่า มีเพียงสาวใช้สองหน้าแซ่ ชิวเพียงคนเดียวทีเป็ นคนของนาง
ไม่แปลกใจว่าทําไมหญิงเฒ่าถึงมาได้รวดเร็ วถึงเพียงนี
“เจ้าค่ะ”สาวใช้สองนางก้าวออกมาด้านหน้านําผ้ายัดเข้าไปในปากของสาวใช้ชิวแล้วกระชากนางออกไปด้าน
นอกอย่างรวดเร็ วจนไม่มีใครตังตัวได้ทนั
“พวกท่านขโมยสิ นเดิมของแม่ขา้ ข้าถึงต้องฟ้ องศาล เรื องเสื อมเสี ยอับอายนัน มิใช่ขา้ ทีต้องกังวล แต่เป็ นพวก
ท่านต่างหากทีต้องกังวล อย่าลืมสิ ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรานันช่างเปราะบางเพียงใด” มู่หรงเสวียพูด
อย่างเนิบนาบ สี หน้าคล้ายยิมคล้ายมิยมิ
“หึ !” ซ่ งชิงเหยียนเดินกระแทกเท้าออกไปด้านนอก
“อาสองของเจ้าเขา......”
“ท่านอาสองอยูไ่ กลตังจิงโจว ไปกลับต้องใช้เวลาเป็ นเดือน การถอนหมันเป็ นเรื องเร่ งด่วน รอหารื อกับอาสอง
คงมิทนั การณ์ ตอนนี ท่านพีของข้ามีศกั ดิฐานะเป็ นเจินกัวโหว ข้ายึดตามคํากล่าวทีว่าพีชายมีอาํ นาจสิ ทธิขาด
เหมือนพ่อ ซึ งท่านพีก็เห็นด้วยในการทีข้าจะถอนหมันกับเย่อเฉิ
ี น ท่านย่ามิตอ้ งเป็ นกังวลในเรื องนีหรอกเจ้าค่ะ”
มู่หรงเสวียมองนางยิมๆ ดวงตาสื อความหมายลึกซึ ง
มู่หรงเย่ดวงตาเป็ นประกาย ตังชือให้สุนขั เรื องนีเขาเก่งทีสุ ดแล้ว “มันต่อสู ้เก่งขนาดนัน เรี ยกมันว่าขุนพลแห่ ง
ชัยชนะ เจ้าว่าดีหรื อไม่?”
มู่หรงเสวียสี หน้าเข้มขึน “มันเป็ นของข้าแล้ว อย่าหวังให้มนั ไปสนามประลองอีก เป็ นอันขาด เจ้าเลิกตังชือ
เกียวกับการต่อสู ้ได้แล้ว คิดชือทีธรรมดากว่านีหน่อย”
“งันเป็ นเป่ าเปาดีรึไม่?” มู่หรงเย่แนะนําเสี ยงเบา มองสี หน้ามู่หรงเสวียทีขรึ มลง “ถ้างันเป้ ยเป้ ยละ?”
“เป้ ยเป้ ย? พอฟังเข้าหู ดี งันเรี ยกมันว่าเป้ ยเป้ ยแล้วกัน” ความสามารถตังชือของมู่หรงเย่กเ็ ป็ นเช่นนี มู่หรงเสวียคิด
ชืออืนไม่ออก งันก็เรี ยกมันว่าเป้ ยเป้ ยแล้วกัน
มู่หรงเสวียนี นางวางแผนทีจะดูแลห้องเก็บของด้วยตนเองรึ ?
“มิตอ้ งกังวล” เสี ยงเย็นชาดังขึน ชายหนุ่ มผูห้ นึงเดินออกมาจากป่ า เขาใส่ ชุดเจ้าบ่าวสี แดง ร่ างกายองอาจเข้มแข็ง
ดวงหน้าเย็นชาดังนําแข็ง แววตาคมดูลึกลํา นันเขา จิงอ๋ องเย่อีเฉิ น
*ยามซวี : ช่วงเวลาประมาณหนึงทุ่มถึงสามทุ่ม
ตอนที 12 จิงอ๋ องฉุดเจ้ าสาว
มู่หรงเสวียย่นคิว ถึงว่าอยูๆ่ ก็มีศตั รู โดยทีทหารยามของจวนไม่รู้สึกตัวแม้แต่นอ้ ย ทีแท้กเ็ ป็ นคนของเย่อีเฉินนีเอง
สายตาดูถูกและนําเสี ยงเฉยชาดังกับไม่เห็นมู่หรงเย่อยู่ในสายตา
ก้าวขาเล็กน้อยจนขยับมาประชิดตัวของมู่หรงเย่ “หลีกไป!”
“เหลวไหล!” เสี ยงของเย่อีเฉิ นเคร่ งขรึ มจนน่ ากลัว มองมาทีนาง “มู่หรงเสวีย เอาเรื องของตัวเองให้รอดก่อนเถอะ
อย่ามาท้าทายข้าด้วยการยุแหย่ให้ขา้ กับยวีเยียนผิดใจกัน!”
เย่อีเฉิ นมองยังมือทีว่างเปล่าของตัวเอง สี หน้าไม่เข้าใจนัก หลังจากทีเขาเป็ นวรยุธ ไม่ว่าผูน้ ันจะเป็ นหรื อตาย ถ้า
หากเขาอยากจะได้ตวั แล้วย่อมไม่มีทางพลาดไปจากเงือมมือของเขาได้ แต่ม่หู รงเสวียกลับรอดมือเขาไปได้ นี มัน
เกิดอะไรขึน?
มู่หรงเสวียยิมเยาะแล้วตอบว่า “ถ้าข้าบอกว่าไม่ละเพคะ?”
มู่หรงเย่ทีไม่ทนั ได้ตงตั
ั วโดนฝ่ ามือฟาดลงไปนอนกับพืน แต่กย็ งั มีสติพอทีจะรี บคว้ามือไปฉุ ดขาของเย่อีเฉิ นไว้
แน่น
เมือเห็นมู่หรงเสวียยิงวิงยิงไกลออกไป แต่ขาของเย่อเฉิ
ี นเหมือนติดอยูใ่ นหิ น ไม่สามารถจะขยับไปไหนได้
ดวงตาจึงเปลียนเป็ นเย็นชา เตะเข้าไปทีมู่หรงเย่อย่างไม่คิดจะออมแรง “หลบไป!”
ตอนที 14 แรกพบคุณชายโอวหยาง
ได้ยนิ เพียงเสี ยง “ปั ง ปั ง ปั ง!” ดังขึน ก่อนทีก้อนหิ นจะแตกกระจุยจนฝุ่ นควันฟุ้ งไปทัว มู่หรงเสวียสําลักไอไม่
หยุด เร่ งถอยไปด้านหลัง ออกจากรัศมีฝนุ่ ควันนัน
ี นพุ่งตัวหลบออกไปประมาณสามสี เมตร
ลมสายหนึงพัดผ่าน พัดพาเอาฝุ่ นควันจางหายไป เย่อเฉิ
ชายหนุ่ มสวมชุดจีนโบราณสี ขาวราวกับหิ มะ เนื อผ้าเรี ยบจนไร้ทีติ กําลังใช้แขนเสื อสี ขาวปั ดเศษฝุ่ นบนโต๊ะหิ น
ผมดําถูกหมวกหยกขาวรวบสู งขึนแล้วปล่อยยาวลงด้านหลัง
ได้ยนิ เพียงเสี ยง “ปั ง ปั ง ปั ง!” ดังขึน ก่อนทีก้อนหิ นจะแตกกระจุยจนฝุ่ นควันฟุ้ งไปทัว มู่หรงเสวียสําลักไอไม่
หยุด เร่ งถอยไปด้านหลัง ออกจากรัศมีฝนุ่ ควันนัน
ี นพุ่งตัวหลบออกไปประมาณสามสี เมตร
ลมสายหนึงพัดผ่าน พัดพาเอาฝุ่ นควันจางหายไป เย่อเฉิ
ชายหนุ่ มสวมชุดจีนโบราณสี ขาวราวกับหิ มะ เนื อผ้าเรี ยบจนไร้ทีติ กําลังใช้แขนเสื อสี ขาวปั ดเศษฝุ่ นบนโต๊ะหิ น
ผมดําถูกหมวกหยกขาวรวบสู งขึนแล้วปล่อยยาวลงด้านหลัง
เดินหมาก? เดินหมากอะไร?
คุณชายโอวหยางถึงกับกล้าโจมตีเขา มันจะมากเกินไปแล้ว!
หางตาเห็นชายเสื อสี ขาว เป็ นคุณชายโอวหยางทีกําลังเดินเข้ามา ชุดสี ขาวราวหิ มะพลิวไหวดังผีเสื อ เสริ มเน้น
ความสู งส่ งและสง่างามจนสู งลํา
“น้องเล็ก” นําเสี ยงตะโกนเรี ยกอย่างยินดี มู่หรงเสวียปิ ดแขนเสื อลง มองไปยังทางทีเป็ นต้นเสี ยง ปรากฏร่ าง
ของมู่หรงเย่ทีกําลังวิงเข้ามาอย่างเร่ งรี บ กวาดสายตาตรวจดูร่างกายของนาง สายตาเต็มไปด้วยความห่ วงใย “เจ้า
เป็ นอย่างไรบ้าง?”
“ข้าไม่เป็ นไร” มู่หรงเสวียพูดตอบด้วยรอยยิมบาง ๆ
“ความเป็ นตายของเย่อเฉิ
ี นข้าไม่สนใจ ข้าเพียงเห็นว่าเหวนันลึกมาก ทังยังมีกระแสนําทีรุ นแรง ดูแล้วน่ าจะมี
โอกาสรอดยาก ก็แค่บอกพวกเจ้าไว้เท่านัน ให้พวกเจ้าได้มีเวลาเตรี ยมใจ พอตอนเจอศพจะได้มิโศกเศร้าเสี ยใจ
ไป” มู่หรงเสวียพูดขึนด้วยนําเสี ยงเฉยชา
“ไม่ส่งนะ” มู่หรงเสวียตอบกลับอย่างเฉยชา
“ท่านอ๋ อง!” เสี ยงร้องเรี ยกด้วยความยินดีดงั ขึน เย่อีเฉิ นมองไปเห็นสวีเทียนโย่วเร่ งรี บวิงเข้ามา กวาดตามองไป
ทัวร่ างกายของเขา แววตาปรากฏความยินดีอย่างปกปิ ดไม่มิด “ท่านไม่เป็ นอะไรใช่ไหม?”
เย่อีเฉิ นหรี ตาพูดด้วยนําเสี ยงเย็นชา “ทําไม? เจ้าไม่ได้จบั ตัวนางขึนเกียวสี ชมพู ส่ งเข้าวังจิงอ๋ องรึ ?”
มู่หรงเสวีย ดี ดีมาก!
ทันใดนันรอบกายของเย่อเฉิ
ี นเต็มไปด้วยไอสังหาร แววตาส่ องประกายเยือกเย็นคมกริ บจนทําให้สวีเทียนโย่วไม่
สงสัยเลยว่าถ้ามู่หรงเสวียยังอยูท่ ีนีนางจะต้องถูกเย่อีเฉิ นฉี กกระชากเป็ นชินๆอย่างแน่นอน “ท่านอ๋ องมิตอ้ งเป็ น
กังวล พวกขุนนางและชาวบ้านในเมืองหลวงไม่มีทางกล้าลบหลู่วิพากษ์วิจารณ์วงั จิงอ๋ อง!”
เสี ยงตําหนิ ดงั เข้าหู สี หน้าของมู่หรงเย่กลายเป็ นแดงกํา รี บโบกมือไปมาพลางรี บเร่ งอธิ บาย “มิใช่......มิใช่......ใน
สิ นเดิมของท่านแม่มีเงินตําลึงอยู่ ข้าต้องการแค่เพียงเงินตําลึง มิได้ตอ้ งการแตะต้องสิ งของด้านใน”
แซ่ ตูช้ ะงัก จากเงินกลายเป็ นสิ นเดิมไม่ทนั ไรกลับกลายเป็ นร้านค้าทีอยูใ่ นสิ นเดิม การเปลียนเรื องของมู่หรงเสวีย
ช่างรวดเร็ วยิงนัก
“ตอนนี ไม่ใช่ตน้ เดือน และก็มิใช่ปลายเดือน ตัวสมุดบัญชีลว้ นอยูท่ ีผูด้ ูแลร้าน ข้ามีเสี ยทีไหน” หญิงเฒ่าแซ่ ตูพ้ ดู
อย่างราบเรี ยบเป็ นปกติยกยิมเยาะเย้ย แต่ไหนแต่ไรมานางก็ไม่ชอบหลานสาวนอกไส้ผนู ้ ีอยูแ่ ล้ว ทุกครังทีเห็น
นางตกทีนังลําบาก ตัวนางเองก็จะมีความสุ ขมากเป็ นพิเศษ
มู่หรงเสวียค่อยๆแหวกม่านเดินออกมา “ทุกท่านรอนานแล้ว!”
เหล่าเสมียนเงยหน้าขึนเห็นหญิงสาววัยรุ่ นผูห้ นึงเดินออกมา ดวงหน้าสว่างสดใส เรื อนผมสี ดาํ รู ปลักษณ์สวยลํา
จนผูค้ นตกตะลึงและตราตรึ งใจ นางยิมน้อยๆดวงตาลําลึกซ่ อนไว้ดว้ ยความแข็งกร้าว ทําให้ผคู ้ นทีพบเจอล้วนพา
กันหยุดหายใจ
เหล่าเสมียนล้วนเกิดอาการเบือหน่าย มือเท้าค้างคล้ายหลับคล้ายมิหลับ
“ค้าขายทํากิจการ อนุ ญาตให้ลกู ค้าค้างเงินได้แต่กต็ อ้ งมีความพอควร สามเดือน ห้าเดือนยังพอว่า หนึงปี สองปี ยัง
พอรับได้ แต่พวกเจ้าดูบญั ชีในมือของพวกเจ้า ระยะเวลาสิ บปี จนถึงตอนนี ยังไม่ยอมคืน ลูกค้าชันแย่ทีไม่ยอมจ่าย
แม้แต่สตางค์เดียวเช่นนี มิใช่อยากให้ร้านค้าปิ ดกิจการหรอกรึ ”
“เจ้า......”
ระยะเวลาสิ บปี มานี นางเอาของจากร้านพวกนี มาได้เกินครึ งแล้ว อีกไม่กีปี ร้านรวงพวกนี ก็จะตกเป็ นของพวก
นาง แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกมู่หรงเสวียค้นพบเบาะแสเสี ยก่อน
ร้านค้าของท่านป้ าใหญ่ (แซ่ เฉิ น) ก็ดีเช่นนี นางชอบอะไรหยิบอะไร เพียงแค่จดลงสมุดบัญชีกพ็ อ มิจาํ เป็ นต้อง
จ่ายเงิน
“คุณหนูใหญ่!” เหล่าทหารยามทําความเคารพนางอย่างนอบน้อม
ซ่งชิงเหยียนส่ งเสี ยงตอบรับผ่านๆ เยืองย่างเข้าประตูใหญ่ เตรี ยมทีจะก้าวไปข้างหน้า ด้านหลังกลับมีเสี ยงของ
ชายผูห้ นึ งดังขึน “ข้าน้อยเป็ นเสมียนของตึกมุกหยก ได้รับคําสังจากผูด้ ูแลร้านมาเก็บเงินทีค้างไว้จากจวนอู่อนั
โหว รบกวนพีชายช่วยแจ้งคนในจวนให้หน่ อย”
“ก็จริ ง ตึกมุกหยกก็ชือเสี ยงไม่เลว เสมียนก็เป็ นคนซื อสัตย์จริ งใจ ไม่มีทางปลอมของพวกนีมาใส่ ร้ายผูค้ น......”
“นิสัยคนของจวนอู่อนั โหวช่างแย่เกินไปแล้ว......”
“ใครว่าไม่ใช่เล่า......”
“แค่จดลงบัญชีไม่ตอ้ งจ่ายเงิน เสื อผ้า เครื องประดับ ของโบราณ ถ้าเป็ นข้าข้าก็เต็มใจจะซื อเยอะๆเช่นกัน......”
“ข้ารู ้!” ดวงตาของมู่หรงโหรวปรากฏแววตาคมกริ บ “แต่ถา้ เรื องทีจวนอู่อนั โหวค้างเงินสิ บปี แพร่ กระจาย
ออกไป และถ้าวันนีพวกเรายังไม่เอาเงินออกมาคืน ก็คงจะถูกประณามว่าเป็ นพวกหนี หนีและถูกชาวเมืองหลวง
หัวเราะเยาะถากถาง ยิงไปกว่านันคงถูกพวกชนชันสู งดูถูกเหยียดหยาม ไม่ว่าจะไปทีใดล้วนถูกผูค้ น
วิพากษ์วิจารณ์จนไม่มีหน้าไปมองใคร อย่างนี จะมีหน้าอยูใ่ นเมืองหลวงอีกหรื อ?”
“แลกเปลียนกับอะไร?” มู่หรงเย่ยมตาหยี
ิ กล่าวถาม ถ้าเงือนไขไม่ยากลําบากอะไรเขายอมตกลงทังสิ น
“ว้าย......”
“ว้าย......”
เสี ยงวิงอย่างเร่ งรี บดังขึน เป็ นทหารยามจวนโหวทีรุ ดมาถึง ชายชุดดําไม่อยากให้ยดื เยือ จึงใช้มือโจมตีไปที
หน้าอกของมู่หรงเย่ หวังทีจะทําให้เขาบาดเจ็บสาหัสและอาศัยจังหวะทีเขาบาดเจ็บนันหลบหนี ไป
“เร็ วเข้า คนร้ายอยูท่ ีนัน อย่าให้มนั หนี ไปได้!” ทหารยามวิงเข้ามาด้านในล้อมเรื อนเอาไว้ มู่หรงเสวียและมู่หรงเย่
ล้อมหน้าล้อมหลังกักชายชุดดําเอาไว้ตรงกลาง เขาได้รับบาดเจ็บเข้าแล้ว ยากทีจะหนี ไปได้
ชายชุดดําแววตาเยือกเย็น ใช้ฝ่ามือตีไปทีกล่องไม้ ได้ยนิ เสี ยง ‘ปั ง’ ดังขึน เพียงพริ บตาเดียว กล่องไม้หรู หราก็
แตกกระจาย ขวดยาและตัวยาด้านในแตกกระจายออกเป็ นผุยผงตกลงสู่ พนื ปนเข้ากับสี เขียวเหลืองบนพืนจน
แยกแทบไม่ออก......
สาวใช้อนเซี
ั ยงเร่ งก้าวมาด้านหน้าเพือพยุงแขนของนางไว้อย่างระมัดระวัง “คุณหนู ให้ขา้ น้อยพาท่านไป
พักผ่อนเถอะนะเจ้าคะ”
วังจิงอ๋ อง
เย่อีเฉิ นเน้นเสี ยงทีประโยคสุ ดท้ายเป็ นพิเศษ มู่หรงเย่พอได้ยนิ เช่นนัน สี หน้าก็ดาํ คลําขึนทันที ดวงตาเต็มไปด้วย
ไฟแค้นจนแทบจะสามารถพ่นไฟออกมาได้
“แต่ว่า......”
“นําร้อนช่วยขับพิษได้หรื อ ?” มู่หรงเย่เบิกตากว้างด้วยความแปลกใจ
คุณชายโอวหยางเลิกคิว พูดด้วยนําเสี ยงเรี ยบเฉย “เมือครู่ ขา้ เผลอหลับไป พอได้ยนิ เสี ยงนําไหว ถึงค่อยตืน
ขึนมา”
“ท่าน !” มู่หรงเสวียโกรธจนถึงทีสุ ด นางกับมู่หรงเย่ส่งเสี ยงพูดคุยกันทีริ มบ่อนําพุมาตังนาน เขาไม่ตืน แต่เพียง
เสี ยงแหวกนําทีบางเบากลับทําให้เขาตืนเสี ยได้ หลอกใครทีไหนก็ไม่มีทางเชือ เขาต้องตืนอยูแ่ ต่แรกและมอง
นางก้าวลงบ่อนําพุร้อนแน่ คงตังใจจะยัวให้นางโมโห
แววตาของคุณชายโอวหยางดูลาลึ
ํ กวูบไหวไปมา เขาค่อยๆก้มหน้าลงสัมผัสกับปากสี ชมพูระเรื อของนางอย่าง
แผ่วเบา......
ความรู ้สึกอบอุ่นทีบริ เวณริ มฝี ปากแล่นขึนมา มู่หรงเสวียรู ้สึกเหมือนได้ยนิ เสี ยง ‘ตึง’ ดังขึนในใจ ความคิดในหัว
กลายเป็ นสี ขาวโพลน ผ่านไปชัวครู่ ถึงจะหลุดจากภวังค์ มองไปทีดวงหน้าหล่อเหลาทีใกล้ชิดเข้ามา แววตาของ
นางกลายเป็ นเย็นเยียบ ผลักเขาออกไปสุ ดแรง กล่าวอย่างโกรธขึงว่า “คุณชายโอวหยาง ท่านทําอะไร ?”
“บัวอัคคี” คุณชายโอวยางพูดขึนอย่างราบเรี ยบ
สวินเฟิ งทีเฝ้ าอยูใ่ นเรื อนรี บเร่ งเท้าเดินเข้ามา นําเสี ยงเคารพนอบน้อม “คุณชาย”
นางพกหยกก้อนนีติดตัวอยูต่ ลอดเวลา !
สายตาของคุณชายโอวหยางมีแววชังใจอยูช่ วครู
ั ่ จากนันเขาจึงค่อย ๆ ถอดรองเท้าออกแล้วเลิกผ้าห่ มขึนสอดตัว
เข้าไปนอนข้าง ๆ ร่ างของมู่หรงเสวีย ยืนมือออกไปเพือรังเอาร่ างของนางเข้ามาในอ้อมกอด ฝ่ ามือขาวราวหยก
วางไว้ทีแผ่นหลังของนาง ค่อย ๆ ส่ งพลังปราณเข้าไป
มู่หรงเสวียเบ้ปาก นางรู ้ว่าทีนี คือห้องของเขา แต่ไม่ใช่ว่านางกําลังนังอยูบ่ นเตียงของเขารึ ไง ? นางเป็ นผูห้ ญิง เขา
ไม่รู้ว่าควรทีจะหลบฉากออกไปเปลียนทีอืนหรื อ ?
ชายหนุ่ มยิม ๆ เชิดใบหน้าขึน แนะนําตัวอย่างองอาจว่า “ข้าน้อยตูเ้ ฉิ งเจียง น้องเสวียเอ๋ อร์ คงพอได้ยนิ ชือของข้า
มาบ้าง !”
“เสวียเอ๋ อร์ ” มองไปตามเสี ยงเรี ยกทุม้ นุ่ ม คุณชายโอวหยางค่อย ๆ เดินเข้ามาทีโถงใหญ่ ชุดสี ขาวราวหิ มะพลิว
ไหวเหมือนผีเสื อ ด้านบนปั กด้วยลวดลายดอกไม้สีดาํ เสริ มความองอาจและสง่างาม
เขาอยูใ่ นชุดสี ขาวหิ มะ ดูองอาจสง่างาม คิวงามสี ดาํ ได้รูป แววตาสี ดาํ เงาให้ความรู ้สึกลึกลับน่ าค้นหา รู ปงาม
หล่อเหลาจนทําให้ผคู ้ นมิอาจละสายตาได้
ไม่ผดิ แน่ ทําไมคุณหนูแห่ งจวนเจินกัวโหวจะยอมเป็ นอนุ ให้ผอู ้ ืน อีเฉิ นเป็ นท่านอ๋ องเทพสงคราม ทัวทังชิงเห
ยียนจะหาชายหนุ่ มทีดีเท่าเขาไม่มีอีกแล้ว มู่หรงเสวียทีเคยมีว่าทีสามีทีดีเช่นนี แน่ นอนว่าต้องไม่มีทางหันไปมอง
พวกคนธรรมดาทัวไปแน่ ดังนัน นางถึงเลือกทีจะเกาะติดคุณชายโอวหยางทีดีพอ ๆ กับเย่อีเฉิ น นางช่างเป็ น
หญิงสาวทีฉลาดเสี ยจริ ง
แต่ว่า นางกับอีเฉิ นมีผลประโยชน์คาบเกียวกันอยู่ อีเฉิ นไม่มีทางยอมปล่อยนางให้แต่งกับคุณชายโอวหยาง
รวมถึงวังเซี ยวเหยาอ๋ องก็ยงไม่
ิ มีทางยอมรับหญิงสาวทีผ่านการถอนหมันมาเป็ นภรรยาเอกของคุณชายโอวหยาง
แน่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามนางก็ตอ้ งกลายเป็ นอนุ ของอีเฉิ นวันยังคํา
อีเฉิ นมิได้อยูท่ ีโรงเตียมเยว่หยาง แต่นางทีเป็ นว่าทีพระชายาเอกแห่ งวังจิงอ๋ องอยูท่ ีนี แล้ว นางคงต้องสังสอนมู่
หรงเสวียแทนอีเฉิ นเสี ยบ้าง ให้นางได้รู้วา่ ฐานะของตนเองนันควรต้องกระทําตัวเช่นไร !
โรงเตียมเยว่หยางเป็ นร้านอาหารก็จริ ง แต่ก็ยงั เป็ นสถานทีแห่ งปราชญ์ บัณฑิตทีเป็ นคุณหนูผมู ้ ากความรู ้ในเมือง
หลวงมักจะมารวมตัวกันทีนี บ่อยครัง เจ้าดีดพิณ ข้าเป่ าขลุ่ย เจ้าเขียนกลอน ข้าแต่งกวี การประลองและการ
แข่งขันมักเกิดขึนทีนี เป็ นประจํา ดังนัน เหล่าผูม้ ากความสามารถเหล่านันมักจะมาทีโรงเตียมเยว่หยางเพือทีจะ
เสาะหาผูค้ นทีจะมาประลองแข่งขันความสามารถของพวกเขา
$(function () {
if ($.cookie("reader_size")) {
size.val($.cookie("reader_size"));
if ($.cookie("reader_font")) {
font.val($.cookie("reader_font"));
size.change(update);
font.change(update);
update();
});
ชนะข้าหรื อ? ช่างอวดดียงนั
ิ ก
นีมัน......เสี ยงสังหาร !
“......”
“เขาอยูข่ า้ งกายท่านมานานเท่าไรแล้ว......?”
“......”
คุณชายโอวหยางย่นคิว หันกายมองไปทางสวินเฟิ ง
นางถึงบ้านแล้วจริ ง ๆ
นางยังจะกล่าวถึงสวินเฟิ งอีกหรื อ ?
เขาคือ......คุณชายโอวหยาง !
มู่หรงเสวียยิมน้อย ๆ “เชิญคุณชายตามสบายเจ้าค่ะ”
“มิใช่ มิใช่ !” ซ่ งชิงเหยียนส่ ายหน้ากระวนกระวาย ร้องเสี ยงดังอย่างร้อนรน “ตอนนี ชิงเหยียนรู ้สึกปกติดี ชิงเห
ยียนแค่ไม่ระวังจนลงตกบันไดเอง ไม่เกียวกับผูใ้ ดเลย”
ชายวัยกลางคนนันนางรู ้จกั เขาคือตูอ้ ี เป็ นหลานชายของหญิงเฒ่าแซ่ ตูพ้ ่อของตูเ้ ฉิ งเจียง ตอนนี ดํารงตําแหน่ งเป็ น
ขุนนางกรมพิธีการไท่ฉางซื อ ขุนนางระดับสี ขันหนึง
“มู่หรงเสวีย เจ้ามิตอ้ งมาโยกโย้ เจ้าทําร้ายตูเ้ ฉิ งเจียงจนบาดเจ็บสาหัส เกิดเรื องเช่นนีจริ งรึ ไม่ ?”หญิงเฒ่าแซ่ ตู้
กล่าวถามขึนเสี ยงดัง
มู่หรงเสวียเลิกคิวเล็กน้อย มาถึงก็เริ มไต่สวนกันเลยหรื อ ? พูดจาทักทายเป็ นพิธีสักนิดก็ไม่มี ดูเหมือนว่าจะพา
กันรอนางจนทนแทบไม่ไหวแล้ว เช่นนันนางก็คงต้องให้ความร่ วมมือเสี ยหน่อย “เป็ นเขาทีมาล่วงเกินข้าก่อน
ข้าถึงลงมือสังสอนเขา......”
ตูอ้ ีสี หน้าเขียวคลํา นางกําลังหลอกด่าเขาว่าจิตใจคับแคบ “มู่หรงเสวีย ! ข้ามีศกั ดิเป็ นอาของเจ้า เป็ นญาติผใู ้ หญ่
ของเจ้า ใครอบรมสังสอนให้เจ้าพูดจากับผูใ้ หญ่เช่นนี ? ไม่รู้จกั มารยาทเคารพผูห้ ลักผูใ้ หญ่” นางมาถึงก็ต่อว่ากด
เขาเอาไว้ ทังยังมาเยาะเย้ยเขา ช่างน่าโมโหยิงนัก ทีคนโบราณกล่าวไว้ว่าเลียงลูกสาวนันยากพอ ๆ กับเลียงบ่าว
ไพร่ เห็นท่าจะจริ งยิงนัก
“อาอี เจ้าเป็ นอะไรไป ? เด็ก ๆ เด็ก ๆ......” แซ่ ตูร้ ้องเรี ยกด้วยความตกใจ เหล่าสาวใช้เร่ งมาล้อมรอบพวกเขาไว้
คนเช็ดเลือดก็เช็ดเลือดไป คนพยุงก็พยุงไป โดยรอบเกิดเป็ นความวุน่ วายขึนมา
มู่หรงเสวียเพียงมองดูอยูร่ อบนอก มองไปทางดวงหน้าซี ดขาวของตูอ้ ี เลิกคิวบางเบา แค่คาํ พูดเพียงไม่กีคํา กลับ
ทําให้เขากระอักเลือดได้ ช่างไม่ได้ความเสี ยจริ ง ไม่เข้าใจเลยจริ ง ๆ ว่าคนเช่นนี กลายเป็ นไท่ฉางซื อขุนระดับสี
ขันหนึ งได้อย่างไรกัน
“ถ้าข้าไม่ตดั ขาดกับท่าน เช่นนันท่านจะให้ขา้ ไปเป็ นอะไรดีล่ะ ? พระชายารอง ? อีเหนี ยง(อนุ ภรรยา)? อนุ ชนตํ
ั า
ทีไร้ยศ ? หรื อซื อเชียนางบําเรออุ่นเตียงของท่านหรื อ ?” มู่หรงเสวียเลิกคิวมองไปทีเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความ
เยาะเย้ย “ระดับข้าคุณหนู แห่ งจวนเจินกัวโหว ไม่มีทางลดเกียรติทิงฐานะชายาเอกไปเป็ นอนุหรอกเจ้าค่ะ !”
ในใจของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง ทีถูกน้องสาวปฏิเสธความหวังดีอย่างไร้เยือใย......
กูเ้ ห่ ายวีแววตาเคร่ งขรึ ม ค่อย ๆ เปิ ดปากเอ่ยวาจา “อันทีจริ งแล้ว ทีข้ามาจวนโหววันนี นอกจากการเชือเชิญที
จริ งใจของคุณชายแล้ว ส่ วนหนึงก็เป็ นความตังใจของข้าเอง ตัวข้านันชืนชมในตัวคุณหนู ม่หู รง จึงอยากมาทีจวน
โหวเพือพบหน้าคุณหนูสักครัง”
นางก้าวถอยหลังจนขาเกิดพันกันสะดุดล้มลงไปกับพืน
ทัง ๆ ตอนทีเขากับเย่อเฉิ
ี น ‘เดินหมาก’ กัน นางไม่เห็นจะมากางแขนปกป้ องเขาเช่นนี เลย !
“......”
“สองหมืนตําลึง......”
“สามหมืนตําลึง......”
“สี หมืนตําลึง......”
“หนึ งหมืนตําลึง......”
“หนึ งหมืนห้าพันตําลึง......”
“สองหมืนตําลึง......”
นางถึงกับรอไม่ไหวทีจะให้คุณชายโอวหยางตอบตกลงขายต้นตีหยางให้แก่นาง
คุณชายโอวหยางให้ตนจ่ายเงินแสนตําลึงเพือต้นตีหยางเพียงต้นเดียว แต่กลับมอบแหล่งของดงต้นตีหยางให้
หญิงสาวผูน้ ันเสี ยเปล่า ๆ โดยทีนางมิตอ้ งลงมือลงแรงอะไรเลย เพียงเพือให้นางบรรเทาความเจ็บปวดจากอาการ
พิษกําเริ บเท่านัน คนมาทีหลังกลับดียงกว่
ิ า และดูเหมือนเขาจะใส่ ใจนางมาก......
“มิใช่ มิใช่ขอรับ” ซวงสี เร่ งส่ ายหน้า “เป็ นจวนอู่อนั โหวทีส่ งเทียบเชิญมาเชิญฮูหยินเฒ่า คุณชายกับคุณหนูไป
งานเลียงทีอู่อนั โหวขอรับ”
แววตาของมู่หรงเสวียวูบไหว “งานเลียงอะไร ?”
ในมือของนางเหลือบัวอัคคีเพียงแค่สองเม็ด รอทีจะเอาต้นตีหยางมาทํายาแก้พิษจนแทบไม่ไหวแล้ว
มองไปทีดวงตาใสทีแฝงแววเร่ งรี บของนางแล้ว คุณชายโอวหยางก็มีแววตายินดีเล็กน้อย พูดขึนด้วยนําเสี ยง
ราบเรี ยบ “ต้นตีหยางเป็ นตัวยาธาตุหยาง มักจะพบได้บนยอดเขาสู ง และส่ วนใหญ่ยอดเขาทีจะพบพวกมันได้นัน
มักจะปี นขึนไปค่อนข้างยาก......”
จวนอู่อนั โหว
คนทีนิ สัยเลวร้ายเช่นนี เป็ นถึงฮูหยินแห่ งจวนอู่อนั โหว เป็ นสะใภ้ใหญ่ของนาง หน้าตาของจวนอู่อนั โหวถูกพวก
นางแม่ลูกทําลายจนย่อยยับไปเสี ยสิ น
ถ้ามู่หรงโหรวไม่ใช่ลกู สาวแท้ ๆ ของแซ่ ตู ้ รวมถึงนางเองก็มีความสัมพันธ์อนั ดีกบั แซ่ ตอู ้ ยู่ ป่ านนี นางคงให้ลูก
ชายหย่ากับมู่หรงโหรวไปเสี ยแล้ว ไหนเลยจะยอมให้นางได้อยูท่ ีจวนอู่อนั โหวเป็ นฮูหยินใหญ่อย่างสุ ขสบาย
เช่นนี
มู่หรงเสวียใช้เหตุผลทีร่ างกายไม่คอ่ ยสบายเป็ นข้ออ้าง เพือทีจะได้อยูจ่ ดั เตรี ยมสิ งของทีเรื อนหิ มะโปรย
เรื องทีนางร่ างกายอ่อนแอเป็ นโรค ผูค้ นต่างก็รับรู ้ดี นางจึงสามารถใช้เป็ นข้ออ้างไม่ไปร่ วมงานเลียงทีจวนอู่อนั
โหวได้ แต่ว่ามู่หรงเย่ทีมีตาํ แหน่งเป็ นเจินกัวโหวคนปั จจุบนั อีกทังยังเป็ นหลานชายบ้านฝังพ่อของมู่หรงโหรว
จึงไม่สามารถทีจะปฏิเสธได้ และยังไม่มีทางหลีกเลียงแผนการร้ายของมู่หรงโหรวได้ ดูท่านางคงต้องไปจัดการ
เองเสี ยแล้ว
“หนึ งแสนตําลึงขอรับ”
ซวงสี เร่ งรี บส่ ายหน้า “หลังจากทีข้าน้อยมาทีจวนอู่อนั โหว ก็ยงั ไม่ได้กินอะไรเลยขอรับ เพียงแต่ดืมชาไป
เล็กน้อยเท่านัน......”
ซ่งชิงเหยียนใช้แรงกดถ้วยลูกเต๋ าเอาไว้กบั โต๊ะ เมือเปิ ดฝาออก ก็ร้องตะโกนขึนเสี ยงดัง “ห้า ห้า หก......สู ง......มู่
หรงเย่ เจ้าแพ้แล้ว......”
“ไม่ ไม่ ไม่เคยได้ยนิ เลยสักนิ ด !” คุณชายร่ างผอมรี บส่ ายหน้า โบกไม้โบกมือปฏิเสธเสี ยยกใหญ่
เมือมองไปทีแววตาพอใจของนาง มู่หรงเสวียก็ยมเย็
ิ นทีมุมปาก นี คงเป็ นจุดประสงค์ทีแท้จริ งของมู่หรงโหรว
สิ นะ ป้ ายสี ทาํ ให้ม่หู รงเย่ดูเป็ นคนมือเติบ จอมเสเพล ไร้ความสามารถจนเกินเยียวยา เพียงเท่านีผูอ้ ืนก็จะค่อย ๆ
เลิกให้ความสนใจเรื องทีนางยักยอกทรัพย์สินมาตลอดระยะเวลาสิ บปี
“กล่าวชมเกินไปแล้ว !” ซ่ งชิงเหยียนเชิดหน้าภูมิใจ
“ไม่ผดิ ” ซ่ งชิงเหยียนยังคงพยักหน้าอย่างภูมิใจ
“ใช่” ซ่ งชิงเหยียนพยักหน้าอีกครัง
ฝูงชนล้วนได้ยนิ แต่ไม่มีใครใคร่ ทีจะสนใจ เด็ก ๆ ทะเลาะกันล้วนเป็ นเรื องปกติ ต่อยตีกนั ล้วนเป็ นการฝึ กฝน
ร่ างกาย โดยเฉพาะคนขีแพ้เช่นซ่ งชิงเหยียน อายุยงั น้อยเช่นนีกลับวางแผนคดโกงผูค้ น สมควรแล้วทีจะได้รับ
การสังสอน จะได้จดจําไปนาน ๆ......
ฝูงชนทีนิงฟังกลับส่ งเสี ยงอืออึงขึนมา นางใส่ เสื อผ้าของคนอืน ใส่ เครื องประดับของคนอืน แล้วยังจะจงใจนําพา
ให้ลูกของคนอืนเสี ยคนอีกหรื อ จิตใจของมู่หรงโหรวช่างดํามืดและอํามหิ ตยิงนัก ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของ
พวกเขาจะห่ างกันหนึงชัน แต่พวกเขาก็ยงั ใช้แซ่ ม่หู รงร่ วมกัน เป็ นการประหัตประหารญาติพีน้องกันเองโดยแท้
มู่หรงเย่หยุดมือทีทุบตีลงทันที เมือได้ยนิ คําวิพากษ์วิจารณ์ทีหลังไหลเข้ามาไม่หยุด เขาล้มลงไปนังกับพืน แวว
ตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง ตกอยูใ่ นภวังค์......
มู่หรงโหรวช่างร้ายกาจยิงนัก
มู่หรงโหรวเป็ นถึงฮูหยินแห่ งอู่อนั โหว แต่ตวั นางนันไม่มีฐานะอะไร เป็ นแค่สะใภ้สองธรรมดา ๆ คนหนึง ถ้า
เป็ นแต่ก่อน นางคงไม่มีทางกล้าทีจะพูดจาเช่นนี ใส่ มู่หรงโหรวแน่ แต่มู่หรงโหรวกลับทําตัวหน้าไม่อาย เมือใช้
ชิงเหยียนเป็ นเครื องมือใส่ ร้ายคนไม่สาํ เร็ จ เลยคิดจะโยนความผิดทังหมดให้กบั เขา แล้วกันตัวเองออกจากเรื อง
ทังหมด บนโลกนี จะมีอะไรทีง่ายดายเช่นนันกัน ?
“เจ้า !” หญิงเฒ่าแซ่ ตูพ้ ดู ไม่ออก โหรวเอ๋ อวางแผนร้ายต่าง ๆ นา ๆ ต่อมู่หรงเย่ เป็ นนางทีผิดแน่นอน แต่นางเป็ น
อู่อนั โหวฮูหยิน ถ้าเกิดต้องเข้าคุกไป ชือเสี ยงทังหมดคงถูกทําลายสิ นจนไม่มีเหลือ “ข้าเป็ นย่าของพวกเจ้า มีสิทธิ
จัดการดูแลเรื องของพวกเจ้าทังหมด ดังนันข้าก็มีอาํ นาจขอยกเลิกการฟ้ องร้องในครังนี ......”
หญิงเฒ่าแซ่ ตูห้ ลุดจากภวังค์เป็ นคนแรก เงยหน้ามองไปทีซ่ งเหล่าฮูหยิน ถามขึนด้วยเสี ยงเย็นชา“โหรวเอ๋ อร์ แต่ง
เข้าตระกูลซ่ งมาตังสิ บปี ล้วนลงแรงลงกายดูแลทําหน้าทีของตนไปไม่มากก็น้อย เจ้าใช้เหตุผลอะไรให้เทียนเวิน
หย่าขาดกับนาง !”
“ก็การกระทําทีชัวร้ายของนางอย่างไรเล่า ทีไม่บริ สุทธิ” ซ่งเหล่าฮูหยินนําเสี ยงเด็ดขาด แววตาเต็มไปด้วยความ
เย็นชา “มีฐานะเป็ นสะใภ้ใหญ่แห่ งตระกูลซ่ ง จะต้องเป็ นคนทีอ่อนโยนมีเมตตา มีหลักคุณธรรมและปราดเปรื อง
รักใคร่ ในพีน้องลูกหลาน แต่ดูนางสิ นางทําอะไรเอาไว้บา้ ง นําพาให้ลูกหลานตระกูลซ่ งเสี ยคน ทังยังคิดร้ายต่อ
หลานทีบ้านเดิมของตนเอง พอเรื องราวเกิดแดงขึนมากลับโยนความผิดให้ชิงเหยียน สะใภ้จิตใจดําอํามหิ ตและ
ไร้ยางอายเช่นนี พวกเราตระกูลซ่ งรับไว้ไม่ไหว และก็ไม่กล้ารับไว้ กลัวจะทําให้ตระกูลไม่สงบมีแต่เรื องราว
วุ่นวาย”
ซ่งเหล่าฮูหยินก้มหน้ามองมู่หรงโหรว พบว่ามู่หรงโหรวกําลังมองมาทีนางด้วยแววตาทีเปล่งประกายดํามืด จน
นางต้องหรี ตาลง นี มู่หรงโหรวกําลังคิดจะทําอะไร ?
......
ตอนที 52 ชายหญิงห้ ามใกล้ ชิด
“ท่านพี ท่านเป็ นอะไรหรื อ ?” มู่หรงเสวียเดินไปด้านหน้า มองไปยังมู่หรงเย่อย่างไม่เข้าใจ
ผูเ้ ฒ่าซูดาํ รงตําแหน่ งเป็ นราชครู เขากับซูหนานเซี ยงรู ้จกั กันตังแต่ยงั เล็ก ความสัมพันธ์ทีมีต่อกันก็ถือว่าไม่เลว
นัก แต่เขากลับเคยชินทีจะเรี ยกนางตรง ๆ ว่าซูหนานเซี ยง จนติดปากมาจนถึงตอนนี
“แผนนี......ก็ไม่เลวนัก” เย่เทียนฉี กล่าวชมด้วยนําเสี ยงราบเรี ยบ แววตาเคร่ งขรึ ม บริ จาคเงิน บริ จาคสิ งของ
แน่นอนว่าจะต้องถูกผูค้ นบางส่ วนต่อต้าน......
“องค์ชายสี ทรงกล่าวชมเกินไปแล้วเพคะ” ซูหนานเซี ยงยิมสดใสอย่างถ่อมตัว เงยหน้ามองเย่เทียนฉี เห็นเขา
หลับตาลงไม่รู้วา่ กําลังคิดอะไรอยู่ เหมือนไม่ได้มีความยินดีนกั ทีได้ความคิดดี ๆ จากนาง
มู่หรงเสวียได้แต่ตอบกลับแบบขอไปที “ถือว่ายังพอรับได้”
เจียนเอ๋ อร์ อยูท่ ีจิงโจวมาเป็ นสิ บปี ไม่เคยถูกเรี ยกตัวกลับเมืองหลวงเลยสักครังเดียว พีใหญ่บอกว่า เพราะเมือ
เปรี ยบเทียบผลงานของเขากับขุนนางคนอืน ผลงานของเขากลับไม่โดดเด่นเท่าไรนัก ถ้าเจียนเอ๋ อร์ ถวายแผนการ
แก้ปัญหานําท่วมนี ได้ ก็นบั ว่าเป็ นผลงานใหญ่ เรื องทีจะถูกเรี ยกตัวกลับเมืองหลวงก็คงเป็ นเรื องทีไม่นานเกินรอ
......
แววตาของหญิงเฒ่าแซ่ ตดู ้ ุดนั เตรี ยมทีจะเปิ ดปากสังสอน สายตามองเห็นเงาร่ างสายหนึ ง พริ บตาเดียวนางก็
หยุดชะงัก “จิงอ๋ อง”
ถ้าไม่มีอะไรแล้ว จะมาทีจวนเจินกัวโหวทําไมกัน ?
ผ้าคลุมดูนุ่มลืน ด้านบนปั กด้วยด้ายสี ทองเป็ นรู ปทะเลเมฆ เสริ มให้ความสู งส่ งและเย็นชาของเย่อีเฉิ นเปล่ง
ประกายมากยิงขึน สายตาทีเขาใช้มองฉิ นยวีเยียนเต็มไปด้วยความอ่อนโยนทีไม่ธรรมดา “ลําบากเจ้าแล้ว”
ในใจของนางเกลียดมู่หรงเสวียเข้ากระดูกดํา นางมองไปทางเย่อเฉิ
ี นด้วยท่าทางน่ าสงสาร เพียงพริ บตาดวงตา
งามก็เอ่อคลอไปด้วยนําตา “อีเฉิ น” นางกล่าวด้วยนําเสี ยงสะอืน ราวกับว่าเพิงถูกรังแกและไม่ได้รับความ
ยุติธรรม
เย่เทียนฉี ยมน้
ิ อย ๆ “ตอนข้าออกจากวังหลวงเจอเข้ากับเฉิ งเซี ยง (ยศอัครมหาเสนาบดี) กับเฉิ งกัวกง (ยศศักดินา
ขันสูงสุ ด) พวกท่านฝากให้มาถามคุณหนูมู่หรงว่าจะจัดงานเลียงทีจวนเจินกัวโหวหรื อไม่ ?”
“มิเป็ นไร คนของจวนเฉิ งเซี ยงกับจวนเฉิ งกัวกงล้วนไม่รีบ เจ้าว่างเมือไรก็เมือนัน ไม่จดั งานเลียงก็มิเป็ นไร แค่
เวลาทีจวนเฉิ งเซี ยงกับจวนเฉิ งกัวกงส่ งเทียบเชิญมา เจ้าไปเข้าร่ วมงานของพวกเขาก็พอ......” เสี ยงแนะนําอัน
อ่อนโยนของเย่เทียนฉี ลอยเข้าหู เปลือกตาของหญิงเฒ่าแซ่ ตูส้ ันไหว หัวใจเต้นแรงขึนหลายเท่า ในใจพลันเกิด
ลางสังหรณ์ไม่ดีขึน......
ตอนที 56 อันตรายทีหุบเขาหวีซาน
จวนเฉิ งเซียง จวนเฉิ งกัวกงและจวนเจินกัวโหวล้วนใกล้ชิดกัน แต่หลังจากทีมู่หรงเยว่ตายไป เจียนเอ๋ อร์ ก็ถูกย้าย
ทีจวนก็ไม่เหลือคนทีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเขา ความสัมพันธ์ระหว่างจวนโหวกับพวกเขาจึงค่อย ๆ ห่ าง
เหิ นมากขึน เทศกาลปี ใหม่ก็แค่ส่งของขวัญให้กนั และกันแสดงถึงความเป็ นมิตรเท่านัน
......
ไม่ ไม่ ไม่ มันจะเป็ นเช่นนี ไม่ได้ ! มู่หรงเยว่กต็ ายไปแล้ว ตําแหน่งเจินกัวโหวสมควรจะเป็ นของเจียนเอ๋ อร์ มู่
หรงเย่ก็แค่คุณชายจอมเสเพลไร้ความสามารถผูห้ นึง อีกทังยังถูกพวกนางแม่ลูกชักนําให้เสี ยคน มีเหตุผลอะไรที
จะให้เข้ามาเป็ นเจินกัวโหว
“น้องเล็ก พวกเราเตรี ยมตัวเรี ยบร้อยแล้ว” มู่หรงเย่กา้ วออกมา ทีหลังแบกกระเป๋ าสี ดาํ ไว้ดว้ ย ตามมาด้วยซวงสี
เฝิ งเถา ทุกคนล้วนแบกกระเป๋ าเช่นเดียวกัน ด้านในเต็มไปด้วยข้าวของและอาหารทีมู่หรงเสวียเตรี ยมเอาไว้
“ขึนเขากันเถอะ” มู่หรงเสวียกล่าวเสี ยงตํา ค่อย ๆ พากันเดินขึนเขาหวีซาน
“มิตอ้ งกลัว ข้าอยูท่ ีนี แล้ว” เสี ยงทุม้ ดังขึนทีข้างหู พลังปราณแข็งแกร่ งนับไม่ถว้ นพุ่งออกจากปลายนิวอย่าง
รวดเร็ ว พุ่งไปล้อมรอบงูยกั ษ์ไว้ทุกทิศทาง ได้ยนิ เพียงเสี ยง ‘ปั ง ปั ง ปั ง’ เพียงไม่กีครังดังขึน งูเขียวยักษ์ทีตัวใหญ่
ยาวเพียงพริ บตาเดียวก็ระเบิดออกกลายเป็ นผุยผง ค่อย ๆ ปลิวสลายหายไปในอากาศ......
“ตกลง” มู่หรงเสวียพยักหน้า เร่ งเดินไปด้านหน้า ตอนนี ก็จะเลยยามอู่แล้ว นางคงจะต้องรี บเร่ งขึนเขา ถ้าหากยัง
ยืดเยือออกไป ฟ้ าคงมืดแน่
“ข้ารู ้” มู่หรงเสวียพยักหน้า ตลอดทางทีผ่านมา เสี ยงนกร้องเริ มเบาบางลง จนถึงตอนนี ก็ไม่ได้ยนิ เสี ยงนกร้อง
แล้ว เสี ยงทีได้ยนิ ในหูอยูต่ อนนี มีเพียงเสี ยงฝี เท้าของพวกเขาไม่กีคนเท่านัน รอบด้านเงียบสงบจนผิดปกติ
เหมือนกับว่าอันตรายทีหนักหนากําลังจะเกิดขึน......
“ฟุบ ฟุบ” เสี ยงเสี ยดสี กบั สายลมอย่างเร็ วแรงสองสายดังขึน แววตาของมู่หรงเสวียเยือกเย็น เตรี ยมพร้อมทีจะ
โจมตี แต่กลับเห็นสวินเฟิ งกับองครักษ์เงานามว่าอู๋เหิ นกระโดดพุ่งออกมาเสี ยก่อน เขาใช้ดาบฟันออกไปตัดเอา
เถาวัลย์สีเขียวทีพุ่งเข้ามาจนขาด
หุ บเขาหวีซานลูกนี ช่างอันตรายยิงนัก !
แววตาของมู่หรงเสวียเปล่งประกาย ยืนแขนออกไปทีกลีบของดอกไม้......
คุณชายโอวหยางมองแอ่งนําสี ดาํ บนพืน สี หน้าเปลียนเป็ นเคร่ งขรึ มขึน “ถึงจะเป็ นเช่นนันก็ไม่ควรจะใช้ตวั เอง
เป็ นเหยือล่อ ถ้าเกิดเป็ นอะไรขึนมาจะทําอย่างไร ? พวกเรายังสามารถหาวิธีอืนมาจัดการกับมันได้”
เย่อีเฉิ นรู ้สึกหงุดหงิดขึนในใจ มองไปยังมู่หรงเสวียอย่างผูท้ ีอยูเ่ หนื อกว่า พูดด้วยนําเสี ยงเย็นชา “มู่หรงเสวีย การ
หมันหมายระหว่างเจ้ากับข้ายังไม่ได้แก้ไขหรื อเปลียนแปลงใดใด เจ้าเป็ นว่าทีภรรยาของข้า เหตุใดถึงกล้าทําตัว
ใกล้ชิดกับคุณชายโอวหยางอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี เจ้าไม่รู้หรื อว่าชายหญิงมิควรใกล้ชิดกัน......”
ดวงตาคมกริ บของคุณชายโอวหยางมองไปทางเย่อเฉิ
ี นด้วยความเยือกเย็น......
ตอนที 59 ต่ อว่า
เพียงสะบัดฝ่ ามือวูบหนึง พลังปราณแกร่ งกล้าสายหนึ งก็พุ่งออกไปทะลุเกราะลมปราณของเย่อีเฉิ นเฉื อนเข้าที
แขนของเขา จนเกิดเป็ นแผลเป็ นรอยยาวตังแต่หลังมือไปจนถึงบริ เวณข้อศอก เลือดสี แดงสดย้อมซึ มไปบน
เสื อผ้า......
“เย่อีเฉิ น เจ้าไม่มีสิทธิ มาต่อว่าเสวียเอ๋ อร์ เช่นนี !” เสี ยงทุม้ คมกริ บแฝงไว้ดว้ ยจิตสังหาร กระตุน้ ความโกรธของเย่
อีเฉิ น แววตาของเขาเย็นยะเยือกจนถึงขีดสุ ด “ถ้าข้าไม่เหมาะสมแล้วใครกันทีเหมาะสม ? พวกเราเป็ นว่าทีสามี
ภรรยาอย่างถูกต้องตามประเพณี คนในเมืองหลวงล้วนทราบโดยทัวกัน”
“ต่อหน้าผูค้ นมากมาย กลับลดขันนางให้เป็ นอนุ ทําให้นางเสื อมเสี ยเกียรติ โดนผูค้ นดูถูกเหยียดหยาม ใช้กาํ ลัง
บีบบังคับนางให้เป็ นอนุ อีกนิ ดเดียวก็จะทําให้นางตกหน้าผาแล้ว อีกทังยังทําลายบัวอัคคีทีสามารถช่วยชีวิตนาง
ได้ จนพิษของนางกําเริ บจนเกือบตาย ตอนทีดอกไม้ปีศาจโจมตี เจ้าไม่สนใจแม้แต่จะปกป้ องนางไม่พอ กลับ
กอดผูห้ ญิงอืนไว้แนบอก นี หรื อคือการเป็ นว่าทีสามีของเจ้า ?” คุณชายโอวหยางมองไปทีเย่อีเฉิ นด้วยสายตาดูถูก
“เสวียเอ๋ อร์ มีขา้ เรื องของนางต่อจากนี ไปคงไม่ตอ้ งรบกวนจิงอ๋ องให้เป็ นกังวลอีก จิงอ๋ องเจ้าก็แค่เตรี ยมจัดการ
เรื องถอนหมันไว้กพ็ อ” คุณชายโอวหยางเพียงทิงคําพูดทีแสนเย็นชาไว้ พลางหมุนกายมองไปทีมู่หรงเสวียกล่าว
ขึนด้วยนําเสี ยงอ่อนโยน “นีก็ใกล้คาแล้
ํ ว พวกเราไปหาทีพักกันเถอะ”
“ตกลง” มู่หรงเสวียพยักหน้า ค่อย ๆ ออกเดินไปด้านหน้า พระอาทิตย์กใ็ กล้จะลับขอบฟ้ าแล้ว อีกไม่นานฟ้ าคง
มืด พวกเขาเดินทางมาได้สามชัวยาม ทังยังเจอการปะทะทีรุ นแรงไปสองครัง ใช้พลังกายกันไปก็ไม่นอ้ ย
แน่นอนว่าสมควรต้องหาพืนทีทีปลอดภัยพักผ่อนเสี ยหน่ อย
มู่หรงเสวียเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “ทําไมนําถึงยังร้อนอยูล่ ่ะ ?”
เมือสายตามองเห็นเย่อเฉิ
ี นกับฉิ นยวีเยียนทีนังบนหิ นห่ างออกไปไม่ไกลนัก นางก็ขมวดคิว พวกเขาก็นบั ว่าฉลาด
พอทีรู ้ว่าหุ บเขาหวีซานนันอันตรายมาก จําต้องหาพืนทีว่างทีมีตน้ ไม้พืชพรรณไม่มากนักเพือความปลอดภัย
เหมาะสําหรับทีจะพักผ่อน และพืนทีริ มลําธารสายนี ก็เหมาะแก่การพักผ่อนยิงนัก
“มิจาํ เป็ น” มู่หรงเสวียส่ ายหน้า ปรายตามองฉิ นยวีเยียน กล่าวขึนช้า ๆ “ถึงแม้วา่ พวกเราจะเป็ นศัตรู กบั พวกเขา
แต่กย็ งั พอจะอยูร่ ่ วมโลกกันได้ จะพักผ่อนอยูท่ ีริ มนําใกล้ ๆ กันก็ไม่เป็ นไรหรอก เพราะบ่อนําเล็ก ๆ เช่นนี ไม่มี
ทางจะเอามาเปรี ยบเทียบกับแม่นาสายใหญ่
ํ ได้ ทําเป็ นเพียงไม่เห็นก็พอ”
กลินหอมของผลไม้เมือครู่ พอกระทบเข้ากับจมูก ทําให้ม่หู รงเสวียรู ้สึกคอแห้ง ค่อย ๆ เดินไปทีกระเป๋ าสี ดาํ ของ
ตน เปิ ดกระเป๋ าออกแล้วหยิบเอาแก้วนําลายครามออกมาหลายใบ เป็ นตัวแก้วทีสังทําพิเศษ รู ปร่ างบางยาว ฝา
ํ ซึ มออกมา นางเปิ ดฝาแก้วออก เห็นของเหลวสี ขาวปรากฏอยูด่ า้ นใน
ของแก้วปิ ดแน่นเข้ากับตัวแก้ว ไม่มีนาที
พวกเขาเคยได้ยนิ แต่พวกนมวัว นมแพะ รู ้วา่ นมวัวเป็ นสิ งทีได้จากวัว นมแพะเป็ นสิ งทีได้จากแพะ โยเกิร์ต......
หรื อว่าบนโลกนี ยังมีสัตว์ทีเรี ยกว่าโยเกิร์ตอยู่ ?
ไม่ ไม่ ไม่ เป็ นไปไม่ได้ ! นางเป็ นองค์หญิงม่อเป่ ยทีสู งส่ ง เป็ นลูกสาวทีฮ่องเต้ม่อเป่ ยโปรดปรานทีสุ ด เมือเทียบ
กับมู่หรงเสวียแล้ว คุณหนูทีกําพร้าพ่อแม่เช่นนัน นางดีกว่าตังหนึงแสนแปดหมืนลี นางจะแพ้ให้กบั มู่หรงเสวีย
ได้อย่างไร นางไม่มีทางยอมแพ้ให้กบั มู่หรงเสวียเด็ดขาด !
นางก็แค่เด็ดใบไม้มวั ๆ ทําให้ปลาย่างอร่ อยขึน ก็แค่ทาํ นมให้กลายเป็ นโยเกิร์ต เรื องทีมู่หรงเสวียทําได้ นางก็ทาํ
ได้ !
ค้างคาวดูดเลือด ดูดเลือดไม่ผิดไปจากชือเลย !
“เพีย ! เพีย ! เพีย !” เสี ยงฝ่ ามือตบเข้าทีหน้าของฉิ นยวีเยียนดังห่าฝน ตบจนหันซ้าย หันขวา หันซ้าย หันขวา แล้ว
ก็ตบซ้ายขวาอีกครังจนใบหน้าของนางปูดบวมเจ็บแสบ จนใกล้จะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอีกต่อไป
นําเสี ยงเย็นชาของมู่หรงเสวียทียิงพูดก็ยงเพิ
ิ มความเย็นชาดังเข้าหู ของนาง ฉิ นยวีเยียนได้ยนิ เสี ยงดัง ‘ปั ง’ ในหัว
ของนางพลันขาวโพลน นางคิดว่านางแอบทําอย่างแนบเนี ยนแล้วเสี ยอีก นางไม่คดิ ว่ามู่หรงเสวียจะรู ้ทนั
แผนการของนางทังหมด......
“ตุบ !” หลังของฉิ นยวีเยียนร่ วงถึงพืน ความเจ็บปวดล้วนแทรกซึ มไปทัวทังร่ างกาย เสี ยงกรี ดร้องของนางหยุด
ลง ดวงหน้าซี ดขาวไร้เลือด ปากอ้ากว้างหอบหายใจ คล้ายกับปลาทีใกล้ตายตัวหนึ ง
แต่นางกลับไม่ตาย ดวงของนางช่างดียงนั
ิ ก!
ช่วงทีมาอยูช่ ิงเหยียน นางมัวแต่ยงุ่ วุน่ วายอยูก่ บั การต่อกรกับหญิงเฒ่าแซ่ ตู ้ เลยไม่ได้ฝึกฝนเสี ยเท่าไหร่ นกั แต่
ตอนนี คนชุดนําตาลกลับมอบโอกาสให้นางได้ฝึกฝนฝี มือ จะไม่ให้นางยินดีได้อย่างไร !
ใครใช้ให้เจ้าหาปั ญหามาให้ขา้ !
ใครใช้ให้เจ้าคิดร้ายต่อข้า !
มู่หรงเสวียไม่สนใจ มองไปทางนางอย่างผูท้ ีอยูเ่ หนื อกว่า กล่าวขึนเสี ยงสู งว่า “หนังแกะแผ่นนี เป็ นของข้าแล้ว
และเพือเป็ นสิ นนําใจ ข้าจะให้เจ้าตายอย่างสบาย ๆ แล้วกัน ไหนลองพูดมาสิ ว่าเจ้าอยากตายอย่างไร !”
จะฆ่านางงันหรื อ ! ช่างไม่เจียมตน !
มู่หรงเสวียไม่สนใจ นางเพียงยกยิมอย่างเย็นชา ฉิ นยวีเยียนน่ ะหรื อจิตใจดีงาม ? นีเป็ นเรื องน่ าขันทีสุ ดเท่าทีนาง
เคยได้ยนิ มา !
นางออกเท้าเพียงบางเบาก็ไปปรากฏตัวทีต้นไม้ใหญ่ทนั ที ยกศพชายชุดนําตาลขึนมาโยนไปทางด้านหน้าของเย่
อีเฉิ น “นีเป็ นองครักษ์เงาของฉินยวีเยียน เมือหนึงชัวยามก่อน นางสังการให้พวกมันมาสับข้าเป็ นชิน ๆ......แม้แต่
วิธีการตายของข้า นางก็คิดแทนให้เสร็ จสรรพ ทังยังสังการให้องครักษ์เงาปลดปล่อยข้าให้ขึนสวรรค์อย่างเปล่า
ๆ องค์หญิงฉิ นของท่านจิตใจช่างดีงามยิงนัก......”
......
คุณชายโอวหยางเตรี ยมทีจะสังสอนเขางันหรื อ ?
คราก่อนทีริ มหน้าผาเป็ นเขาทีดูเบาศัตรู ประมาทเลินเล่อ ทําให้ถูกคุณชายโอวหยางโจมตีจนตกเหวไป ครานี เขา
จะรับมือด้วยความรอบคอบ คุณชายโอวหยางอย่าได้หวังว่าจะชนะเขาเลย !
ยิงนานเข้าอาการป่ วยของยวีเยียนก็ยงหนั
ิ กลง เขาไม่สามารถจะเสี ยเวลาอีกต่อไปได้ ตอนนี จึงต้องปล่อยคุณชาย
โอวหยางไปก่อน ยังมีโอกาสให้จดั การกับเขาอีกมาก
“หากคุณชายไม่รังเกียจ ก็นงรถม้
ั าของจวนโหวกลับเมืองหลวงกับข้าเถอะ สําหรับสวินเฟิ งกับอู๋เหิ นให้พวกเขา
นังกับคนขับรถม้าและพวกทหารทีรถบรรทุกของก็แล้วกัน”
มู่หรงเสวียพยักหน้า นางไม่ได้พกั ผ่อนมาสองวันสองคืน ง่วงจะตายอยูแ่ ล้ว “คุณชาย ชุดชา ใบชา นําสะอาด พิณ
หมาก ตํารา ขลุ่ย ล้วนอยูใ่ นช่องเก็บของ ท่านเชิญตามสบายเถอะ ข้าพักผ่อนก่อนแล้ว !”
ทําไมถึงไม่ดูแลตัวเองเช่นนี !
“มีนกั ฆ่า ! ปกป้ องคุณหนูใหญ่ ! ปกป้ องคุณชาย !” ไม่รู้ว่าเป็ นเสี ยงตะโกนของใคร สวินเฟิ ง อู๋เหิ น ทหารของ
จวนเจินกัวโหวทังหมดต่างพุ่งเข้ามา ล้อมรอบคุณชายโอวหยางและมู่หรงเสวียเอาไว้ ตวัดดาบปัดป้ องลูกธนู
ได้ยนิ เพียงเสี ยง ‘เคร้ง เคร้ง เคร้ง’ ดังขึน ห่ าธนูพวกนันถูกปั ดป้ องตกลงกับพืน แต่ก็มีทหารบางคนทีถูกธนู ยัง
ไม่รู้ว่าจะเป็ นหรื อตาย !
ดวงตาของคนชุดดํามีนาตาไหลริ
ํ นออกมา ไม่รู้ว่ากําลังคิดสิ งใด
“ทางทีดีเจ้าพูดความจริ งออกมาดีกว่า อย่าได้พดู ชือคนสังการออกมามัว ๆ ทีเกลียดข้าเข้ากระดูก จนอยากจะเอา
ชีวิตของข้ามีเพียงไม่กีคนเท่านัน ข้าสามารถคาดเดาได้ เพียงแต่ตอ้ งการฟังคําจากปากของเจ้าเพือให้แน่ ใจก็
เท่านัน ถ้าหากเจ้ากล้าโกหก ข้าจะให้เจ้าได้รู้จกั คําว่าตายทังเป็ น !”
ขนมดอกเหมย ขนมลีฮวา เป็ ดต้ม ไก่ตม้ ข้าวต้มแดง ข้าวต้มธัญพืชต่าง ๆ นา ๆ ล้วนวางอยูเ่ ต็มโต๊ะ กลิมหอม
อบอวลไปทัวบริ เวณ ทําให้ผคู ้ นนําลายศอ
หญิงเฒ่าแซ่ ตูซ้ ดข้าวต้มแดงทีหอมฉุ ย กล่าวเป็ นนัย ๆ ว่า “แม่นมกัว ‘ทีนัน’ มีขา่ วอะไรไหม ?”
แซ่ ตูห้ ยุดชะงักไปครู่ หนึง เลิกคิวบางเบา “นานขนาดนี แล้วยังไม่มีข่าว หรื อว่าจะเกิดเรื องไม่คาดคิดขึน......”
นําเสี ยงส่ อแววดูถูกเย็นชาลอยเข้าหู แซ่ ตเู ้ งยหน้าขึน แววตาเต็มไปด้วยไฟโกรธ มือกําปิ นปั กผมยาวแน่นพุ่งไป
ทีมู่หรงเสวีย “มู่หรงเสวีย ข้าจะฆ่าเจ้า !”
ฆ่านางงันหรื อ ? ไม่เจียมตน !
แซ่ ตูม้ ีลูกชายลูกสาว ทังยังมีบา้ นฝังพ่อ คงไม่สามารถปล่อยให้นางตายได้ มิเช่นนัน คงจะกลายเป็ นปั ญหา
ใหญ่โต ขังนางไว้ในเรื อนหยก ให้นางใช้ชีวิตไปตามเวรตามกรรม ไม่ว่าจะเป็ นหรื อตาย ก็ตอ้ งดูทีการกระทํา
ของตัวนางเองแล้ว......
มองไปทีประตูเรื อนหยกทีปิ ดสนิท อู๋เหิ นยกมุมปาก หญิงเฒ่าแซ่ ตอู ้ ายุมากแล้ว ทังยังได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาด
นัน จําต้องรี บหาหมอมารักษา ถึงจะหายเป็ นปกติ
“อืม” มู่หรงเสวียพยักหน้า
นอกจากนีแล้วข้างกายของพวกนางก็ไม่มีคนทีมีความเกียวข้องกับค่ายทหารเลย มู่หรงเย่อยากจะไปค่ายทหาร
นับว่าค่อนข้างยาก......
เพียงพริ บตาแผ่นป้ ายเท่าฝ่ ามือก็หย่อนลงมาอยูต่ รงหน้ามู่หรงเสวีย เสี ยงทุม้ ของคุณชายโอวหยางดังขึนข้างหู
“นําสิ งนี ไปหาแม่ทพั จางทีค่ายทหารด้านนอกเมืองหลวงทีไกลออกไปสามสิ บลี เขาจะเป็ นคนจัดการให้ม่หู รงเย่
เข้าไปอยูใ่ นค่ายทหารเอง”
มองไปทีดวงหน้าบูดบึงของนาง แววตาของคุณชายโอวหยางก็เจือปนไปด้วยร้อยยิมทียากจะพบเจอ
มู่หรงเสวียชะงักค้าง “คุณชายท่านได้รับบาดเจ็บหรื อ ?”
คุณชายโอวหยางคล้ายไม่รู้สึกอะไร ยังคงหลับตาคล้ายกับกําลังหลับสนิท
ถลึงตามองคุณชายโอวหยาง กลับเห็นขนตาของเขาสันไหวเล็กน้อยและมุมปากทียกขึนเบา ๆ
มู่หรงเสวียชะงัก นางหรี ตาลง เมือเข้าไปมองใกล้ ๆ ก็เห็นคุณชายโอวหยางหลับสนิทตาพริ ม ราวกับว่าการ
กระทําทังหมดเมือครู่ เป็ นความเข้าใจผิดของนางเอง !
คุณชายโอวหยางนอนหลับตาสนิท ไม่มีการตอบรับใด ๆ
คุณชายโอวหยางมิได้ตอบกลับ ปิ ดตานอนหลับสนิท
......
“อีเฉิน ท่านเป็ นอะไรหรื อ ?” ดวงตาของฉิ นยวีเยียนฉายแววไม่เข้าใจ แต่ไหนแต่ไรมาอีเฉิ นก็คอยเป็ นห่ วงเป็ นใย
นาง ปกป้ องทะนุถนอมนาง แต่ว่าสายตาทีเขามองนางตอนนี ช่างเย็นชาจนราวกับกําลังมองคนแปลกหน้า
อย่างไรอย่างนัน......
“เพราะว่าข้าผลักนางลงจากหน้าผา...แต่ขา้ ไม่ได้ตงใจ
ั ไม่ได้ตงใจจริ
ั ง ๆ นะ......” แววตาของฉินยวีเยียนสันไหว
นําตาเม็ดโตไหลริ นออกมาจากดวงตาคู่สวย ไหลอาบไปตามใบหน้างาม ท่าทางน่าสงสาร ทําให้ใจของคนทีรู ้สึก
รักใคร่ อดทีจะสงสารไม่ได้
“นีเป็ นความลับ ไว้ขา้ จะบอกเจ้าในคราวหลัง” เย่อีเฉิ นพูดเสี ยงราบเรี ยบ แววตาเปล่งประกาย “ใช่แล้ว แผนที
ครึ งแผ่นนันเจ้าเอาไปไว้ไหนแล้ว”
ได้ยนิ ดังนัน มู่หรงเสวียก็คอ้ นตาใส่ เขาเสี ยทีหนึง “ข้าหิ วแล้ว ท่านอยูร่ ับสํารับเสี ยก่อนเถอะ พอกินเสร็ จแล้ว
ค่อยพักผ่อนให้เต็มอิม” นางตอบกลับอย่างไม่พอใจ ใช้แรงแกะเอามือของเขาทีเกาะอยูท่ ีเอวของนางออก แล้ว
แหวกม่านคุมเตียง พอดีกบั เห็นอันเซี ยงทียกสํารับเข้ามา เมืออันเซี ยงเห็นมู่หรงเสวียทีอยูด่ า้ นหน้าเตียงกับ
คุณชายโอวหยาง นางชะงักไปครู่ หนึง พลางหยุดเท้าลง
ใครกันทีเขียนจดหมายให้กบั นาง ?
เซี ยเฉิ งเซี ยงยิมน้อย ๆ เด็กสาวไม่ตอ้ งการพูดจาอ้อมค้อม เช่นนันเขาก็จะพูดธุระของเขาตรง ๆ “เจ้ารู ้หรื อไม่ว่า
ทําไมอาสองของเจ้าถึงถูกย้ายไปประจําการทีจิงโจว”
ตอนที 75 ศัตรู ทไม่
ี อยากพบหน้ า
“เพราะว่ามีคนวางแผนใส่ เขา” มู่หรงเสวียยิมบางเบา ตอนทีมู่หรงเยว่ตายไป มู่หรงเย่เพิงจะอายุสีขวบ อายุยงั
น้อยแถมยังอ่อนแอนัก ยากทีจะปกป้ องตัวเองจากแผนการร้าย มู่หรงเจียนทีมีจิตใจทะเยอทะยานโหดเหี ยม ล้วน
สามารถสังหารมู่หรงเย่ได้ทุกเวลาโดยทีไม่มีใครรู ้ เพือให้ตวั เองได้เป็ นโหว
ถ้าไม่มีเซี ยเฉิ งเซี ยงกับเฉิ งกัวกงคอยดูแล จวนเจินกัวโหวก็คงตกเป็ นของแม่ลกู แซ่ ตูไ้ ปเสี ยตังนานแล้ว แล้วนาง
เองก็ไม่รู้วา่ จะมีชีวิตอยูถ่ ึงตอนนีหรื อไม่ แต่แน่ นอนว่ามู่หรงเย่อาจจะต้องตกตายไปตังแต่ตอนเด็ก
เซี ยเฉิ งเซี ยงส่ ายหน้า แววตาลึกลํา “คําสังย้ายเป็ นกรมขุนนางทีออกคําสัง ตัวข้าเองก็คดั ค้านแล้ว แต่คนของกรม
ขุนนางก็อา้ งว่า ‘ระยะเวลาการทํางานของมู่หรงเจียนล้วนครบถ้วนสมบูรณ์ สมควรถูกเรี ยกตัวกลับเมืองหลวงได้
แล้ว’ ไม่ยอมคายความจริ งออกมา......”
ชายหนุ่ มโมโหเกรี ยวกราด ชีนิ วไปทีมู่หรงเสวีย กล่าวขึนเสี ยงดัง “นางขวางทางข้า อีกทังยังตีขา้ จนตกจากม้า
หญิงเถือนชันตําผูไ้ ร้เหตุผลเช่นนี รี บจับตัวนาง โบยนางเสี ย !”
มู่หรงเสวียยิมน้อย ๆ “ท่านพีของข้าเขา......”
“น้องเล็กข้ากลับมาแล้ว !” เสี ยงเรี ยกอย่างยินดีดงั ขัดขึน ตามด้วยร่ างของมู่หรงเย่ทีวิงมาอย่างเร่ งรี บ ดวงตาสี ดาํ
เปล่งประกายสดใส
มู่หรงเสวียยกยิมเย็น มองไปทีสายตาของมู่หรงจีทีเพียงมองนางก็รู้ว่ามู่หรงเจียนสองสามีภรรยาคงปลูกฝังอะไร
เอาไว้มินอ้ ย พวกนางสองพีน้องกับครอบครัวของพวกเขามีความแค้นต่อกัน มู่หรงเจียนต้องการให้ม่หู รงจีกับมู่
หรงเย่ใกล้ชิดกัน แน่ นอนว่าคงมีประสงค์ร้ายอะไรอยูเ่ ป็ นแน่
“มิเป็ นไร พรุ่ งนีเช้าข้าจะไปส่ งเย่เอ๋ อร์ ทีค่ายทหารด้วยตนเอง หลังจากนันค่อยพาจีเอ๋ อร์ไปพบกับแม่ทพั จาง” มู่
หรงเจียนยิมตาหยี แววตาดูไม่ออกถึงความหยิงยโส
แววตาเย็นชาของมู่หรงเสวียค่อย ๆ หรี ลง ดูแล้วเขาคงตังใจจะให้มู่หรงจีกับมู่หรงเย่เข้าค่ายทหารพร้อมกัน เขา
เพิงจะกลับมาถึงเมืองหลวง ก็เร่ งรี บเอาลูกแท้ ๆ ของตัวเองกับมู่หรงเย่มดั ไว้ดว้ ยกันเช่นนี ไม่รู้ว่ามีแผนร้ายอะไร
อยู่ ?
“ฮูหยินเฒ่าบาดเจ็บสาหัสจนสลบไปขอรับ......” บ่าวรับใช้รีบตอบกลับอย่างร้อนรน
“จริ งหรื อ ? แต่ทีผูค้ นรู ้กนั ลูกชายของต้าหลีซื อเส่ าชิงร่ างกายอ่อนแอจนตายไปตอนห้าขวบ เจ้าตอนอายุสิบสี กับ
เขาตอนอายุหา้ ขวบกลับคล้ายคลึงกัน ช่างน่าประหลาดใจยิงนัก......” มู่หรงเสวียปรายตามองเขาอย่างเฉยเมย
หางตาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยดูถูก
“ท่านแม่ ท่านฟื นแล้ว !” นําเสี ยงเรี ยกทีคุน้ เคยดังเข้าหู แซ่ ตชู ้ ะงักไป เมือค่อย ๆ หันไปมอง ก็พบเข้ากับดวงหน้า
หล่อเหลาของมู่หรงเจียนทีอยู่ใกล้ ๆ เพียงพริ บตาเดียวดวงตาของนางก็ไหลริ นไปด้วยหยาดนําตาแห่ งความปิ ติ
ยินดี “เจียนเอ๋ อร์ เจ้ากลับมาแล้ว !”
ด้านนอกประตูจวนเต็มไปด้วยม้าเร็ วห้าตัว มู่หรงเจียน มู่หรงจี มู่หรงเย่ เก๋ อฮุย ไฉจิง จํานวนห้าคน แต่ละคนจูง
ม้าหนึงตัว
มู่หรงเสวีย !
อะไรนะ ? หน้าผา !
เขานอนนิ งอยูท่ ีริ มหน้าผา ร่ างกายครึ งหนึ งยืนออกไป แส้ยาวยังรัดอยูท่ ีคอของเขา รัดแน่ นจนเขาแทบจะหายใจ
ไม่ออก ใบหน้าหล่อเหลากลายเป็ นสี ม่วงเข้ม กล้ามเนื อบนใบหน้าเกร็ งไปหมด ดวงตาเต็มไปด้วยเลือดทีค่อย ๆ
ปูดบวมออกมา
มือทังสองข้างของเขาคว้าจับไปทีแส้ จ้องเขม็งไปทีมู่หรงเสวียทีอยูอ่ ีกด้านหนึงของปลายแส้ เปิ ดปากขึนอย่าง
ยากลําบาก “ปล่อยมือ......รี บปล่อยมือ !”
“น้องเล็ก !”
“คุณหนูใหญ่ !”
ระหว่างทีมู่หรงเย่กบั เก๋ อฮุยร้องเรี ยกอยูน่ นั มู่หรงเสวียก็พุ่งตกลงไปจากหน้าผา สายลมพัดผ่านใบหน้า ช่าง
หนาวเหน็บและเจ็บปวดยิงนัก
มู่หรงเสวียนิงเงียบ “......”
“ใช่แล้ว คนดีลว้ นอายุสัน คนชัวช้ามักจะอายุยนื ยาวเป็ นพันปี คนเช่นท่านอาสอง ไม่มีทางตายง่าย ๆ แน่ นอน !”
มู่หรงเสวียยิมน้อย ๆ ราวกับมวลบุปผาทีกําลังผลิบาน
เหล่าทหารยืนปากน้อย ๆ คําพูดประโยคนีเหมือนกับ.....มีบางส่ วนทีไม่ค่อยถูกต้อง......
แผ่นหลังของมู่หรงเสวียแนบชิดติดไปกับแผ่นอกอุ่นของเขา ไม่ว่าจะหันไปทางไหนล้วนสามารถมองเห็นเขา
อย่างไม่สามารถหลีกเลียงได้ แววตาวูบไหวไม่เป็ นธรรมชาติ ค่อย ๆ เว้นระยะห่ างเล็กน้อย “ข้าขีม้าเป็ น ท่านไม่
ต้องไปส่ งหรอก”
ถ้าหากยอมทีจะรับเอาองครักษ์เงาของคุณชายโอวหยางมา ก็เท่ากับนางจะติดค้างนําใจของเขาไว้อย่างใหญ่หลวง
นัก นางไม่รู้นางจะตอบแทนเขาอย่างไรได้หมด “ข้าขอคิดดูก่อนก็แล้วกัน !”
แม่ทพั จางเป็ นชายหนุ่ มอายุประมาณสามสิ บกว่า ๆ ใบหน้าดุดนั แววตาเย็นชา มีหนวดสี ดาํ เหนื อริ มฝี ปาก เขา
กําลังฝึ กเหล่าทหารไพร่ พลอยู่ แต่เมือเห็นคุณชายโอวหยาง แววตาของเขาเกิดวูบไหวขึนด้วยความประหลาดใจ
ผละจากพวกทหาร แล้วก้าวยาว ๆ เข้ามาต้อนรับ “คุณชาย !”
“ข้าไม่ทนั ระวัง จึงหกล้ม” มู่หรงเจียนพูดขึนอย่างไม่ใส่ ใจนัก ปรายตามองมู่หรงเย่ “เย่เอ๋ อร์ ค่อนข้างเกเร มาเข้า
ค่ายทหารเช่นนี ต้องรบกวนแม่ทพั จางแล้ว !”
“ครื ด ครื ด ครื ด !” เป้ าธนูสิบอันในสนามฝึ กเริ มเคลือนไหวไปมา มู่หรงจียืนอยูด่ า้ นซ้ายของสนามฝึ ก มือกําธนู
ยาวคันหนึง ดึงสายธนูดว้ ยท่าทางหยิงผยอง ได้ยนิ เสี ยง ‘ฉึ ก’ ดังขึนเสี ยงหนึ ง ลูกศรพุ่งออกไปทางเป้ าธนู ปั กเข้า
ไปในวงกลมสี แดงอย่างเร็ วแรง......
สนามฝึ กทีใหญ่โตพลันเงียบสงัดทันที !
ในหัวของบรรดาเหล่าทหารต่างก็ปรากฏภาพมู่หรงเจียนทียิงศรสามดอกต่อกันออกไปอย่างไร้ความปรานี อดที
จะตัวสันเล็กน้อยไม่ได้ สายตาทีมองมู่หรงจีต่างก็เต็มไปด้วยความคิดทีหลากหลาย การทีเอาลูกธนู ยงิ คนของ
ตนเอง ถ้าหากเลียงได้กค็ วรเลียง พวกเขามาเป็ นทหารก็เพือปกป้ องแคว้น ปกป้ องครอบครัว ฆ่าฟั นศัตรู แต่ไม่ใช่
ต้องมาตายด้วยนํามือของพวกเดียวกัน เช่นนันจิตใจจะชัวร้ายเกินไปแล้ว !
มู่หรงเจียนถลึงตามองมู่หรงเสวียด้วยความเกลียดชัง แววตาเต็มไปด้วยไฟโกรธทีสามารถพ่นออกมาเป็ นไฟได้
ถูกนางว่าร้ายถึงเพียงนี ฝี มือการยิงศรสามดอกต่อเนื องกันของจีเอ๋ อร์ คงกลายเป็ นเรื องตลก ผูค้ นก็จะดูถูกฝี มือ
การยิงธนูของจีเอ๋ อร์ ถึงแม้ว่าจะได้เข้าค่ายทหารก็จะถูกผูค้ นหัวเราะเยาะ โดดเดียว จิตใจของมู่หรงเสวียช่าง
โหดเหี ยมยิงนัก......
“ใต้เท้ามู่หรงเกรงใจไปแล้ว !” แพทย์ทหารยิมกล่าวอย่างไม่ถือตัว
เมือปรายไปมองมู่หรงเจียน ก็เห็นแววตาของเขาวูบไหวไปด้วยความโมโหและไม่พอใจทียากจะพบเจอ
สายตามองไปทีมู่หรงเสวียและคุณชายโอวหยางทีเดินเคียงคู่กนั ไป ทันใดนันมู่หรงเจียนก็นึกได้ว่าค่ายทหารมี
กฎห้ามให้สตรี เข้ามา แต่ม่หู รงเสวียกลับเดินเข้ามาอย่างเปิ ดเผย ไม่ได้ถูกขัดขวางแต่อย่างใด นันเป็ นเพราะว่า
นางมากับคุณชายโอวหยางอย่างนันหรื อ ?
เหตุการณ์ทงหมดเกิ
ั ดขึนเพียงพริ บตาเดียว รวดเร็ วจนนางตอบสนองไม่ทนั ช่วงเวลาทีนางกําลังตกอยูใ่ นภวังค์
ม้าเร็ วก็กลายเป็ นเพียงจุดสี ดาํ เล็ก ๆ ทีอยูไ่ กลออกไป
กลินหอมของไม้ไผ่บางเบากระทบจมูก มู่หรงเสวียหลุดจากภวังค์ปิดม่านลงมองไปทิศทางทีกลินหอมทีโชยมา
นางเห็นคุณชายโอวหยางกําลังดืมเหล้าเทเหล้าอยูข่ า้ งโต๊ะตัวเล็ก ดวงหน้าแสนงดงามหล่อเหลาภายใต้แสงแดดที
สาดส่ องทะลุหน้าต่างของรถม้าเข้ามา ทําให้รอบกายของเขาปรากฏเป็ นรัศมีแสงทีเปล่งประกายอย่างบางเบา วิบ
วับไปมา เป็ นความงดงามทีแสนจะเหนื อคําบรรยาย
มู่หรงเสวียยกเอาถุงนําขึนมาเขย่า ด้านในยังคงมีนาอยู
ํ ค่ รึ งหนึ ง ไม่เพียงพอทีจะใช้ตม้ ชาได้ แต่ว่าถ้าแค่ใช้ดบั
กระหายก็ไม่น่าเป็ นปั ญหา
มู่หรงเสวียเงียบงัน “......”
ไม่มีคนทีชอบทีสุ ด ! เช่นนันก็หมายความว่านางมิได้ชอบเขา !
“รู ้จกั แน่ นอน ท่านเป็ นบุตรชายผูส้ ื บทอดของเซี ยวเหยาอ๋ องอย่างไร” มือนุ่ มนิ มของมู่หรงเสวียเลือนผ่านหน้าอก
ของเขา ลูบไล้เข้าทีคอของเขาแล้วเคลือนไปคว้าหู ของเขาไว้ พูดขึนอย่างมีลบั ลมคมใน
คุณชายโอวหยางตอบรับเพียงเบา ๆ ก้าวเดินต่อไปดังสายลม
ด้านหน้าของชายชุดนําตาลปรากฏภาพใบหน้าหยิงทะนงของมู่หรงเสวียตอนอยูท่ ีสนามประลองสัตว์ มองไป
ทางคุณชายโอวหยางด้วยความสนใจ “เจ้าจริ งจังต่อนาง......อย่างนันหรื อ ?”
คุณชายโอวหยางปรายตามองชายผูน้ นคราหนึ
ั ง “ข้าคล้ายกับพวกบ่าวไพร่ หน้าซื อใจคดอย่างนันหรื อ ?”
ชายชุดนําตาลทีเตรี ยมพร้อมรับมือไว้ตงแต่
ั แรกยืนมือออกไปรับแก้วกระเบืองนันเอาไว้ได้ทนั แต่คาดไม่ถึงว่า
บนแก้วกระเบืองจะแฝงไว้ดว้ ยพลังปราณกล้าแกร่ งสายหนึงซึ งกระแทกเข้ากับตัวเขา เสี ยงดัง ‘ครื ด ครื ด ครื ด’
จนต้องถอยออกไปสามก้าวสี ก้าว แขนของเขาชาไปพักหนึ งจนใกล้จะไร้ความรู ้สึก
“ฮูหยินสองได้สงให้
ั ไปเชิญแล้วเจ้าค่ะ......” สาวใช้กล่าวด้วยนําเสี ยงนอบน้อม
“พวกเจ้าช่วยกันพยุงข้าเร็ ว ข้าจะไปดูเจียนเอ๋ อร์ กบั จีเอ๋ อร์ !” หญิงเฒ่าแซ่ ตูส้ ังการเสี ยงเย็น แววตาของนางเต็มไป
ด้วยความดุดนั ลูกชายและหลานชายของนางต่างได้รับบาดเจ็บ นางจําต้องไปดูดว้ ยตัวเอง
“มิตอ้ งเกรงใจ” ฉิ นยวีเยียนมองไปทางซ่ งชิงเหยียนด้วยสี หน้าเรี ยบเฉย นางกล่าวขึนเสี ยงเข้มว่า “ตอนนี ข้าพบ
เรื องลําบากอยูป่ ระการหนึ ง อยากจะขอให้คุณหนูซ่งช่วยเหลือ ไม่ทราบว่าคุณหนูซ่งคิดเห็นเช่นไร ?”
“เรื องอะไรหรื อเพคะ ? เชิญองค์หญิงฉิ นพูดกล่าวมาได้ไม่ตอ้ งเกรงใจ” ซ่ งชิงเหยียนพูดเน้นทีละคํา แววตา
ปรากฏความจริ งใจ เพียงแค่ได้สังสอนมู่หรงเสวียให้หลาบจํา ไม่วา่ อะไรนางล้วนเต็มใจทํา
“เจ้าตืนแล้ว” เสี ยงทุม้ นุ่ มของชายหนุ่ มลอยเข้าหู มู่หรงเสวียชะงักไปทันที เมือนางมองตามเสี ยงไป ก็เห็น
คุณชายโอวหยางเดินออกมาจากด้านหลังฉากกัน เสื อสี ขาวพลิวไหวดังผีเสื อ ปกเสื อกับชายแขนเสื อปั กด้วย
ดอกไม้สีดาํ ลายวิจิตร หล่อเหลาหาใครเปรี ยบ ร่ างสู งส่ งสง่างาม ด้านหลังมีไอร้อนแผ่โชยออกมา แสดงว่าเมือครู่
เขาเพิงจะอาบนําเสร็ จ
มู่หรงเสวียกวาดตามองไปรอบ ๆ ด้านอย่างละเอียด ก็พบว่าทีนีเป็ นวังเซี ยวเหยาอ๋ อง เรื อนของคุณชายโอวหยาง
นางเคยพักทีนี หนึงคืน เพียงแต่ว่า “ทําไมข้าถึงอยูท่ ีนี ได้ ?”
มู่หรงเสวียกระพริ บตาปริ บ ๆ พลันนึ กถึง ‘นําครึ งถุง’ ทีนางได้ดืมลงไป ดวงหน้างามก็ค่อย ๆ ดุดนั คนอืนเขา
ล้วนใช้ถุงนําเพือใส่ นาํ แต่คุณชายโอวหยางกลับใช้ถุงนําใส่ เหล้า ช่างยอดเยียมจริ ง ๆ ! “ตอนนีเวลาเท่าไหร่ แล้ว
?”
มู่หรงเสวียเลิกคิวเบา ๆ ตอนทีนางเมานันเป็ นยามอู่ (สิ บเอ็ดโมงถึงบ่ายโมง) แต่ตอนนีเป็ นยามเฉิ นเสี ยแล้ว นาง
เมาไปตังสิ บกว่าชัวยาม ผลของการดืมเหล้าหลิงหลงจุย้ นันช่างหนักหนายิงนัก !
ตอนทีนางกําลังเมาอยูน่ นเกิ
ั ดเรื องราวขึนมากมายอย่างนันหรื อ ?
ซ่งชิงเหยียนชะงัก “ความหมายของท่านลุงคือ ?”
“เจ้าค่ะ !” สาวใช้สองคนเดินเข้ามา คนหนึ งอยูข่ า้ งซ้าย อีกคนอยูข่ า้ งขวา จับตัวซ่ งชิงเหยียนไว้ แล้วลากนาง
ออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ ว
“......” มู่หรงเสวียเงียบไป
“......”
ห้องหนังสื อวังจิงอ๋ อง
“ไม่ผดิ !” คุณชายโอวหยางพยักหน้า
“ท่านหมายความว่าอย่างไร ?” มู่หรงเสวียมองไปทางเขาอย่างไม่เข้าใจนัก
“เพราะยังมีองครักษ์เงาตามมาอีกคนหนึง” คุณชายโอวหยางตอบกลับอย่างไม่ใส่
มู่หรงเสวียยังไม่ทนั ทีจะได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก็ได้ยนิ เสี ยง “พรึ บ !” ดังขึนเสี ยงหนึ ง ตาข่ายยักษ์ผนื หนึ งพุ่ง
เข้ามา แผ่กว้างพุ่งมาทางนางกับคุณชายโอวหยาง
องครักษ์เงารับคําสัง ดาบยาวในมือล้วนยืนออกไปพุ่งแทงเข้าทีมู่หรงเสวียกับคุณชายโอวหยางอย่างไม่ปรานี
เหล่าองครักษ์เงาถูกจัดการไปหมดแล้วทีนีนางก็สามารถแก้แค้นได้อย่างสบายอกสบายใจแล้ว !
หลังจากทีคุณชายโอวหยางกับมู่หรงเสวียตกลงไปในกับดักแล้ว คุณชายโอวหยางก็ยนมื
ื อไปกุมเอวบางของมู่
หรงเสวียไว้ แล้วดึงนางเข้ามากอดไว้แนบอกแน่ น
นางกดหิ นทียืนออกมาก้อนหนึง พลันได้ยนิ เสี ยง ‘ตึง’ ดังขึนเสี ยงหนึ ง ผนังหิ นด้านหน้าก็คอ่ ย ๆ ขยับ ด้านหน้า
ปรากฏลําแสงเจิดจ้าจนทําให้แทบลืมตาไม่ขึนพุ่งออกมาสายหนึง
ฉิ นยวีเยียนนอนอยูท่ ีริ มของขอบสระนํา เสื อผ้ายับยูย่ ี ผมเผ้ายุง่ เหยิง ท่าทางอ่อนแอไร้เรี ยวแรง ทัวทังแขนล้วน
เต็มไปด้วยเลือดเนื อเปรอะเปื อนจนดูไม่ได้ นางเจ็บปวดจนแทบจะไร้ความรู ้สึก สายตาพร่ ามัวนันเห็นองครักษ์
เงาของวังเซี ยวเหยาอ๋ องกําลังขนย้ายหี บสมบัติออกไปทีละใบสองใบ เพียงพริ บตาท้องพระโรงทีโอ่อ่าใหญ่โตก็
กลับกลายเป็ นว่างเปล่า แสงระยิบระยับในคราแรกทีพบเจอค่อย ๆ เลือนรางหายไป
นีมันเสี ยงอะไรกัน ? เย่อีเฉิ นหรี ตาลงมองไปตามเสี ยงก็เห็นมุมด้านหนึ งมีเส้นยาว ๆ สี ดาํ สายหนึง กําลังเปล่ง
ประกายเปลวไฟ......
นันมัน......ชนวนจุดระเบิด !
“ระเบิดทีพวกองครักษ์เงานํามาข้าล้วนทิงเอาไว้ทงหมด
ั !” มู่หรงเสวียแย้มยิมและกล่าวขึนอย่างบางเบา
“ปั ง !” อยู่ ๆ ปากถําก็ถูกกระแทกออกมาจนเป็ นรู ขนาดใหญ่ เงาร่ างสี ดาํ สายหนึ งพุ่งลอยออกมาจากถําด้านใน
ล้มกลิงลงด้านหน้าของมู่หรงเสวียกับคุณชายโอวหยาง !
เขามีรูปร่ างสู งแค่มองก็ดูรู้ว่าเป็ นผูช้ าย เสื อผ้าด้านบนถูกฝุ่ นควันเปรอะเปื อนจนกลายเป็ นสี ดาํ ล้วนมองดูสภาพ
เดิมไม่ออก ใบหน้าก้มลงกับพืนก็เลยมองไม่เห็นสภาพหน้าตาของเขา !
คุณชายโอวหยางปรายตามองไปทางเย่อเฉิ
ี น เขามิได้กล่าววาจาใด แต่แววตาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยดูถูกอย่าง
ไม่ปิดบัง เรื องทีเห็นได้ชดั เจนถึงเพียงนี ยังจะต้องมาถามอะไรให้มากความอีก ช่างโง่เง่ายิงนัก !
มู่หรงเสวียมองไปทางเย่อเฉิ
ี น แววตาของนางคล้ายยิมคล้ายมิยมิ พวกนางกับเย่อีเฉิ นมาทีนี ก็เพือสมบัติ เย่อีเฉิ น
หาสมบัติไม่เจอแน่นอนอยูแ่ ล้วว่าพวกนางก็ตอ้ งได้ไป ยังต้องถามให้มากความอีกทําไม ?
“ทําไมพวกเจ้าถึงไร้บาดแผล ?” เย่อีเฉิ นถามออกมาด้วยความสงสัยอย่างถึงทีสุ ด ทีซ่ อนสมบัติส่วนมากจะเต็ม
ไปด้วยกลไก กับดัก สมบัติยงมากเท่
ิ าไร กลไกกับกับดักก็ยงมากเท่
ิ านัน
“เรื องนี ก็ตอ้ งขอบคุณองค์หญิงฉิ นแล้ว !” คุณชายโอวหยางปรายตามองฉิ นวีเยียนทีดวงตาปิ ดสนิ ทเป็ นตายไม่
แน่ ชดั พลางเลิกคิวเยาะเย้ย “ถ้านางไม่ได้ใช้อุบายทําให้ขา้ กับมู่หรงเสวียตกลงไปในกับดัก พวกเราก็คงไม่มี
ทางเข้าไปในท้องพระโรงได้อย่างสะดวกสะบายและนําเอาสมบัติออกมาได้อย่างราบรื นเช่นนี ”
พอออกมาจากภูเขาก็เห็นแม่นาสายเล็
ํ ก ๆ ตามทีเขาพูดไว้ นําในแม่นาใสสะอาดมาก
ํ ริ มแม่นาเต็
ํ มไปด้วย
ต้นหญ้าสู งใหญ่ประมาณครึ งตัวคนได้ พัดโชยไปด้วยอากาศสดชืน
มู่หรงเสวียก้าวเท้าไปทีริ มตลิงของแม่นาอย่
ํ างรวดเร็ ว จุ่มมือลงไปล้างมือและแขนในนํา กลินเหม็นนันเบาบาง
ลงไปเล็กน้อย แต่กย็ งั มีกลินเหม็นโชยเข้าจมูกอยูด่ ี นางขมวดคิวพลางแกะสายรัดเอวและกระดุมเสื อออก ถอด
เอาชุดออกมาแช่ลา้ งลงไปในนํา......
นางใส่ เสื อกับกางเกงส่ วนในสี ขาว แถมยังใส่ เอียมไว้ ผิวหนังแม้แต่นอ้ ยก็มิได้เปิ ดเผยออกมาให้เห็น ในยุค
ปัจจุบนั ก็เท่ากับว่าใส่ เสื อเชิตกางเกงขายาว คนอืนจะเห็นก็มิเป็ นไร
นใหญ่ มู่หรงเสวียก็ไม่
“ข้าจะหลอกท่านไปทําไมกัน......ข้า......ข้าไม่ซักชุดต่อแล้ว !” เมือยิงอธิบายก็ยงไปกั
ิ
อยากจะอธิบายต่ออีก นางคว้าเอาเสื อขึนจากนําอย่างโมโห เตรี ยมทีจะเดินจากไปแต่หางตากลับเห็นผิวนําเจือ
ปนไปด้วยสี แดงบางเบา
มู่หรงเสวียนิงงัน “......”
คนคนนีนอนอยูใ่ นกอหญ้า ถูกต้นหญ้าสี เขียวบดบัง นางจึงมองไม่เห็น แล้วจะมาโทษนางได้อย่างไรกันเล่า ?
“อะไร ?” คุณชายโอวหยางมองไปทีนางอย่างไม่เข้าใจ
มู่หรงเสวียยกยิมสดใสพลางกล่าวขึนพร้อมกับจับไหล่ทงสองข้
ั างของชายหนุ่ม ลากเขาออกจากกอหญ้าวางร่ าง
ของเขาให้นอนราบไปกับพืนสะอาด แหวกเสื อผ้าตรงไหล่และขาของเขาออก ทําความสะอาดบาดแผล ใส่ ยา
พันแผล ท่าทางไหลลืนดังกระแสนําทีไหลริ น ทําให้ผทู ้ ีพบเห็นต่างทึงตืนตะลึงไม่ได้ !
ตาของชายหนุ่ มกําลังปิ ดสนิ ทแต่ขนตากลับสันไหวน้อย ๆ อยูค่ รู่ หนึง ทว่าเพียงพริ บตาก็กลับไปนิงสนิ ทดังเดิม !
“ไม่ใช่เสี ยหน่ อย !” มู่หรงเสวียส่ ายหน้าเบา ๆ “ข้าเพียงรู ้สึกว่า ทีนี มันห่ างไกลและรกร้างนัก เขาอาจจะพบกับ
สัตว์ป่าได้ทุกเมือ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกทังยังสลบไม่ตืนเช่นนี ถ้าหากโชคร้ายพบเข้ากับสัตว์ร้าย ก็มีแต่ตาย
ทางเดียวเท่านัน พวกเราช่วยเหลือเขาแล้วก็ควรจะช่วยเหลือให้ถึงทีสุ ด พาเขากลับเมืองหลวงไปด้วยกันเถอะ รอ
จนเขาฟื นค่อยให้เขาจากไปก็ยงั ไม่สาย......”
นางมีธุระบังจึงเอิญผ่านทางมาแถวนี เมือเห็นคุณชายโอวหยางในใจก็เต็มไปด้วยความตืนเต้นดีใจจึงเดินเข้ามา
หา แต่คาดไม่ถึงว่ามู่หรงเสวียก็อยูท่ ีนีด้วย อีกทังยังต่อปากต่อคํากับคุณชายโอวหยางอย่างไร้ยางอาย ช่างน่ า
โมโหยิงนัก นันเป็ นความใกล้ชิดทีแม้แต่นางก็ยงั มิเคยได้รับจากเขา......
“แค่ก แค่ก แค่ก !” ชายหนุ่ มทีนอนอยูบ่ นพืนไอออกมาเบา ๆ เพียงเล็กน้อย เขาเปิ ดตาขึนอย่างช้า ๆ ดวงตาสี ดาํ
ลึกลําดังดวงดาวบนท้องฟ้ า
“เอ่อ......” ซูหนานเซี ยงอําอึงไปครู่ หนึง กล่าวเสี ยงเบา “บ้านของผูน้ อ้ ยอยูท่ ีจวนราชครู ในเมืองหลวง รบกวน
คุณชายตงฟางแล้ว !”
“คุณหนูเกรงใจไปแล้ว เชิญคุณหนู !” ตงฟางหลีทาํ ท่าเชือเชิญ ชัดเจนว่าเป็ นท่าทางธรรมดาสามัญแต่กลับดู
องอาจเสี ยจนผูท้ ีได้พบเห็นต่างตาพร่ ามัว
“คุณชาย ต้องการให้ขา้ น้อยสื บเรื องนี หรื อไม่ขอรับ ?” ฮัวถงไต่ถามเสี ยงตํา แววตาเย็นชา
“มิตอ้ ง เรื องเท็จไม่มีทางเป็ นจริ งได้ เรื องจริ งก็ไม่สามารถกลายเป็ นเท็จได้ ตอนนี ก็อย่าได้ไปสนใจให้มากนัก”
ตงฟางหลีกล่าวขึนเสี ยงเบา ท่าทางดูลึกลับ
ใช้ตาํ รับลับทําให้ตงครรภ์
ั ลูกชาย นับว่าไม่ใช่เรื องทีมีเกียรติอะไร นางเพียงต้องการทีจะซื อตํารับลับกลับไป
ิ อยเท่าไหร่ กย็ งดี
อย่างเงียบ ๆ พบคนได้ยงน้ ิ แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กหน้าร้านทีอยูต่ รงหน้ากลับเป็ นคนทีไม่มีอาํ นาจ
ในการตัดสิ นใจ......
ในใจของมู่หรงโหรวรู ้สึกหงุดหงิดขึนมาเล็กน้อย กล่าวขึนอย่างเสี ยอารมณ์ “ถ้าเช่นนันนายท่านของพวกเจ้า
ตอนนีอยูท่ ีใด ?”
“เดือนทีแล้ว มิใช่ว่าคนดูแลม้าหลวงและราชรถของฮ่องเต้แต่งงานกับหญิงสาวทีมีใบหน้างดงามดังมวลบุบผา
นางหนึงเป็ นเถียนฝาง (ภรรยาหลวงทีแต่งหลังจากภรรยาหลวงคนเดิมสิ นไป) หรอกหรื อ ?” อายุของตัวเขากับ
เขานันก็ห่างกันไม่มาก หากเขาสามารถแต่งหญิงสาวทีสวยสดงดงามเป็ นจีซื อได้ ตัวเขาเองแน่ นอนว่าก็ตอ้ งทํา
ได้ !
เขาไม่แยแสเศษแก้วพวกนันแม้แต่น้อย ถลึงตามองไปทีมู่หรงโหรวอย่างเกลียดชังแววตาลุกโชนไปด้วยไฟโกรธ
เขาเห็นเสื อผ้าของนางไม่ธรรมดา ดูมีสง่าราศี เหมือนเป็ นฮูหยินของจวนขุนนาง ถึงได้ยอมพูดคุยเรื องการค้าขาย
กับนาง คาดไม่ถึงว่า นางไม่ว่าจะเปิ ดปากหรื อปิ ดปากก็ลว้ นแต่ดูถูกเยาะเย้ยเขา นิ สัยใจคอแย่เช่นนีถึงได้ไม่
สามารถให้กาํ เนิดบุตรชายได้ เขาขอสาปแช่งให้นางไร้ลกู หลานสื บสกุล !
เมือเดินออกไปจากหุ ยชุนถัง แม่นมหลีก็หนั กลับไปมองป้ ายร้านทีแขวนไว้ดา้ นบน พลางกล่าวเสี ยงตําว่า “ฮูหยิ
นพวกเราจะจากไปเช่นนี จริ ง ๆ หรื อ ?” ตํารับลับการมีลูกชายแน่ นอนว่าไม่ได้พบเจอกันง่าย ๆ
มู่หรงโหรวหรี ตาลง “ในชิงเหยียนมีหมอทีฝี มือสู งส่ งมากมาย สวีเหวินมีตาํ ราลับได้ โรงหมออืนก็มีได้ พวกเราก็
ไม่ตอ้ งเร่ งรี บให้มากนัก ค่อย ๆ ดูไปเถอะ !”
มู่หรงโหรวลงจากรถม้าแล้วเดินขึนบันไดไปโดยมีแม่นมหลีคอยจับจูง พอก้าวเข้าไปด้านในก็เห็นเด็กสาวนาง
หนึ งวิงพุ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ ว ใบหน้ากระทบเข้ากับร่ างกายของนาง ใบหน้าเรี ยวเล็กทีงดงาม ร่ างกายทีดูดี
ได้รูป เป็ นลูกสาวทีนางคิดถึงทุกวันทุกคืน ซ่ งชิงเหยียน !
สวีเหวินก้มหัวลงนิงเงียบไม่พดู จาไปช่วงหนึ ง !
“นีเอ่อ......” สวีเหวินเร่ งตรึ กตรองครุ่ นคิด เขาค่อย ๆ กัดฟั นตอบอย่างเสี ยมิได้ “ตกลง ข้ายอมรับข้อเสนอของ
เจ้า”
“สวีเตียนซื อเป็ นคนหลักแหลมนัก ตังแต่บดั นีเป็ นต้นไป มู่หรงเสวียก็ตกเป็ นของท่านแล้ว เชิญท่านค่อย ๆ เชย
ชมนางได้ตามสบาย !” มู่หรงโหรวยกยิมบิดเบียวทีมุมปาก หมุนกายเดินออกไปด้านนอกอย่างช้า ๆ
นางกับมู่หรงเสวียเป็ นศัตรู คู่แค้นต่อกัน แต่ไหนแต่ไรก็อยากจะจัดการสังสอนมู่หรงเสวียให้หนัก ๆ อยูแ่ ล้ว แต่
ว่ามู่หรงเสวียได้หมันหมายกับเย่อีเฉิ น อีกทังยังมีความสัมพันธ์ทีสนิ ทชิดเชือกับคุณชายโอวหยาง ถ้าเกิดนางอาจ
หาญยกมู่หรงเสวียให้เป็ นจีซื อของสวีเหวินอย่างโจ่งแจ้งเปิ ดเผย ไม่วา่ จะเป็ นคุณชายโอวหยางหรื อว่าเย่อีเฉิ น
แน่นอนว่าเขาทังสองจะต้องจัดการนางจนตกอยูใ่ นสภาพตายทังเป็ นแน่
สวีเหวินทีได้หญิงงามไปก็จะทําตามสัญญาทีตกลงกันไว้ นําเอาตํารับลับทีช่วยในการตังครรภ์ลูกชายมามอบให้
นาง ถ้าเป็ นไปตามนี นอกจากนางจะสามารถกําจัดศัตรู คู่แค้นได้แล้ว ยังสามารถทีจะมีทายาทสื บสกุลได้อีกด้วย
ถือเป็ นการยิงปื นนัดเดียวได้นกทังสองตัว !
“เช่นนันคําพูดทีข้าพูดกับสวีเหวิน......”
นางเงยหน้ามองไปทางมู่หรงเสวียอย่างหวาดกลัว !
มู่หรงโหรวถลึงตามองมู่หรงเสวียอย่างเกลียดชังคล้ายอยากจะพูดว่า “เจ้าเอาอะไรให้สวีเหวินกิน ?”
ร่ างกายบอบบางถูกกดเอาไว้จนเจ็บปวดกลินปากเหม็นเน่าพุ่งเข้ากระทบใบหน้า เหม็นจนมู่หรงโหรวอยากจะ
เป็ นลม คิดอยากจะผลักเขาออก ด่าทอต่อว่าแรง ๆ ตีเขาให้สลบ
“เสวียเอ๋ อร์ ......เสวียเอ๋ อร์ ......เจ้าเป็ นอะไรไป......” แซ่ โจวใช้ผา้ เช็ดหน้าปิ ดปากปิ ดจมูก ร้องห่ มร้องไห้วงเข้
ิ ามา
ด้านหลังตามมาด้วยเหล่าบรรดาสาวใช้บ่าวไพร่ ทีพากันยกโขยงพากันวิงกรู เข้ามาในเรื อนหิ มะโปรย
“เกิดอะไรขึน ?”
“ไม่รู้เหมือนกัน......”
“เสวียเอ๋ อร์ ......” แซ่ โจวแกล้งทําท่าทําทางร้องเรี ยกเสี ยงเบา แล้วทันใดนันก็รีบเตะไปทีประตูเรื อนให้เปิ ดออก
ทันที ชัวขณะนันควันกํายานทีคละคลุง้ เข้มข้นต่างพุ่งเข้ากระทบใบหน้าจนนางต้องขมวดคิวเข้าหากันแน่ น
สวีเหวินทีถูกฤทธิของยาปลุกกําหนัดก็ไร้ความสามารถในการตอบโต้ เขาถูกมู่หรงโหรวตบตีอย่างไม่ยงมื
ั อ เล็บ
ยาวคมกริ บข่วนเข้าไปทีหน้าอกของเขาจนเกิดเป็ นรอยแผลลึก ความเจ็บปวดทีปะทุขึนมาทําให้เขาได้สติ
ในทันที
เมือ ‘เรื อนหิ มะโปรย’ สามคํานีพอกระทบเข้าหู ก็เสี ยดแทงเข้าสู่ หวั ใจของนาง ทันใดนันมู่หรงโหรวได้สติขึนมา
ทันที แล้วเรี ยกร้องขึนเสี ยงดัง “มู่หรงเสวีย......เป็ นมู่หรงเสวีย......”
“อู่อนั โหวฮูหยินมีธุระอะไรกับข้าหรื อ ?” สิ นเสี ยงก็ตามมาด้วยนําเสี ยงทีเย็นชาสายหนึง มู่หรงเสวียแหวกผ่าน
ฝูงชน เดินเยืองย่างเข้ามาด้านในอย่างช้า ๆ ชุดสี เขียวอ่อนพลิวไหวไปตามสายลม สวยงามเลิศลําหาใดเปรี ยบ
มุมปากยกยิมอย่างงดงามคล้ายกับกําลังเยาะเย้ยดูถูก ดูแล้วช่างขัดตามู่หรงโหรวยิงนัก !
ฆ่านางอย่างนันหรื อ ? ช่างไม่เจียมตน !
“ถ้าเจ้ามิได้ร้อนตัว ก็ให้ขา้ ตรวจค้นเรื อนหิ มะโปรยของเจ้าเสี ยสิ ...” แซ่ โจวต่อคําพูดของนาง จ้องมองไปทีมู่หรง
เสวียตาไม่กระพริ บ ไม่ยอมปล่อยให้ความผิดปกติบนหน้าของนางหลุดพ้นไปได้
“ตามสบาย พวกท่านอยากจะค้นอย่างไรก็เชิญตามสบายเถอะ !” มู่หรงเสวียตอบตกลงอย่างใจกว้าง ไม่ได้มีท่าที
ปฏิเสธเลยแม้แต่นอ้ ย
แววตาของซ่ งเทียนเหวินเต็มไปความดูถูกเหยียดหยามไม่ขยับเคลือนไหวใด ๆ
ซ่งเทียนเหวินมองไปทีใบหน้าของนางทีไหลอาบไปด้วยนําตา พลันในหัวปรากฏภาพของทังสองคนทีเคยรัก
ใคร่ ปรองดอง เขาถอนหายใจออกมาหนัก ๆ คราหนึง ขยําหนังสื อหย่าทีเขียนไปได้ครึ งหนึ งทิงไป “ข้าให้เวลา
เจ้าได้มากทีสุ ดหนึ งเดือน เจ้าก็จดั การสะสางเรื องราวให้เรี ยบร้อยเสี ย”
มู่หรงโหรวถลึงตามองมู่หรงเสวียด้วยความเกลียดชังแววตาลุกโชนไปด้วยไฟแค้นทีแทบจะสามารถพ่นออกมา
เป็ นไฟได้ “มู่หรงเสวียเจ้าทําให้ขา้ ต้องตกตําถึงเพียงนี ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่ !”
สี หน้าของแซ่ โจวเคร่ งขรึ มลง แล้วตวาดขึนเสี ยงดัง “มู่หรงเสวีย เจ้าพูดอะไรออกมา ? พวกข้าล้วนเป็ นผูห้ ลัก
ผูใ้ หญ่กว่าเจ้า......”
“มู่หรงเสวีย......”
เรื อนรับรองจวนราชครู
เมือหมอหลวงจางได้ตรวจสอบบาดแผลของตงฟางหลีแล้วก็พยักหน้าติดต่อกันหลายครา “บาดแผลล้วนได้รับ
การจัดการดูแลทันเวลา ตัวยาทีใช้กเ็ ป็ นของชันสู ง ดูแล้วไม่มีปัญหาใด ๆ อีก เปลียนยาเช้าเย็นครังละรอบ
พักผ่อนสักครึ งเดือน ถ้าทําตามนี ก็จะหายดีเป็ นปกติ”
“ไม่มีวิธีอืนเลยหรื อ ?” ฮัวถงกล่าวขอร้อง
หมอหลวงจางถอนหายใจออกมาหนัก ๆ “ความรู้ความสามารถของข้านันตําต้อยยิงนัก คิดไม่ออกถึงวิธีการ
รักษาองค์ชายเจ็ดจริ ง ๆ เช่นนันเอาอย่างนีแล้วกัน ข้าจะกลับไปทีสํานักหมอหลวงเพือสอบถามหมอหลวงท่าน
อืน ๆ ดูว่าคิดวิธีการรักษาองค์ชายเจ็ดออกหรื อไม่”
“องครักษ์ฮวเกรงใจไปแล้
ั ว ข้าผูเ้ ฒ่าขอลา” หมอหลวงจางพูดขึนเพียงเบา ๆ แบกกระเป๋ ายาขึนหลัง แล้วเดินออก
จากเรื อนรับรองไป
“คุณชาย......”
“ข้าสบายดี ขอบคุณคุณชายโอวหยางทีเป็ นห่ วง” นําเสี ยงของตงฟางหลีเรี ยบเฉย ดูกร็ ู้ว่าเป็ นการพูดตามมารยาท
เท่านัน !
คุณชายโอวหยางคงจะชอบพอกับหญิงสาวผูน้ นมากนั
ั ก......
ซูหนานเซี ยงรู ้สึกพอใจเป็ นอย่างมาก แต่บนใบหน้าของนางกลับทําสี หน้าลําบากใจ “มีเอ๋ อร์ มิตอ้ งกล่าวต่อไป
แล้ว......”
ทันใดนันคิวดกดําของคุณชายโอวหยางก็ขมวดเข้าหากัน มิกล่าววาจาใด
สวินเฟิ งตามหลังไปติด ๆ !
ลอบโจมตีนางเช่นนี ไม่เจียมตนนัก !
ทันใดนันความชุลมุนวุ่นวายในตรอกด้านหลังก็เงียบสงบลง คนชุดดําต่างละเลิกความต้องการทีจะฆ่าฟันไป
ก่อนแล้วพากันไปรวมตัวกันทีด้านข้างของชายหนุ่ ม กล่าวขึนอย่างนอบน้อม “คุณชาย !”
ชายชุดม่วงมองไปทีมู่หรงเสวียด้วยแววตาทีเต็มไปด้วยความห่ วงใย “เจ้าไม่เป็ นอะไรนะ ?”
ตงฟางหลียมขึ
ิ นด้วยความรู ้สึกเสี ยใจ “ขออภัย ความจริ งแล้วข้า......”
“ชีเซวีย” แววตาของตงฟางหลีลาลึ
ํ ก พลางกล่าวเน้นทีละคํา “หมอหลวงบอกว่าไม่มียารักษา ทุกครังทีพิษกําเริ บ
จะไอออกมาเป็ นเลือดไม่หยุด เป็ นเช่นนี ไปเรื อย ๆ จนกว่าจะตาย !”
มู่หรงเสวียพยักหน้าเบา ๆ นางเคยได้ยนิ ชือพิษ ‘ชีเซวีย’ ชนิดนี ถือเป็ นพิษทีโหดเหี ยมและอํามหิ ตมาก แน่ นอน
ว่าไม่มียารักษา......
“แค่ก แค่ก แค่ก !” ทันใดนันตงฟางหลีกเ็ อามือปิ ดปากไว้แล้วไอขึนอย่างรุ นแรง เลือดสี ดาํ ไหลหยดออกจากร่ อง
นิวทีละสายสองสาย หยดลงไปบนชุดสี ม่วงเข้มจนไหลซึ มกลายเป็ นรอยเลือดคล้ายดอกเหมยสี ดาํ ......
สารหนูกถ็ ือเป็ นพิษร้าย ในขณะทีมันต่อกรกับพิษ ‘ชีเซวีย’ ก็ยงั ทําการกัดกร่ อนตงฟางหลีไปพร้อม ๆ กัน ถึงแม้
ว่าวรยุทธ์ของตงฟางหลีจะสู งส่ ง พลังภายในกล้าแกร่ งเพียงใด ก็ยงั ไม่มีความสามารถพอทีจะหยุดยังการกัด
กร่ อนของพิษร้ายทังสองได้ ฉะนันหัวใจจะหยุดเต้นหรื อถูกทําลายก็เป็ นเรื องของเวลาทีจะช้าหรื อจะเร็ วเพียงใด
เท่านัน......
“เช่นนันตอนนี ควรทําเช่นไรขอรับ ?” ฮัวถงมองมู่หรงเสวียอย่างขอความช่วยเหลือ คุณชายถูกพิษของสารหนูตี
กลับอย่างรุ นแรงนัก แต่ว่าเขาไม่เข้าใจศาสตร์ แพทย์ ไม่ทราบว่าต้องทําอย่างไรถึงจะสามารถช่วยคุณชายของเขา
เอาไว้ได้ !
“ท่านทําอะไรน่ ะ ?” ฮัวถงมองไปทีนางอย่างไม่เข้าใจ
หนึ งเวลาทีใช้ในการต้มชาผ่านไป ( ประมาณ 10 – 20 นาที ) ครึ งเค่อ ( 7 นาทีครึ ง) ผ่านไป หนึงเค่อ ( 15 นาที )
ผ่านไป......ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแล้ว พลันได้ยนิ เสี ยง ‘ซ่า’ เสี ยงหนึงดังขึน มู่หรงเสวียโผล่ขึนมาจากนํา ค่อย
ๆ ขึนมาบนฝัง แหวกผ้าสี ขาวเปื อนเลือดในมือออก ชัวขณะนัน ปลิงนําทีกําลังดินไปดินมาก็ปรากฏขึนต่อสายตา
ของผูค้ น
“แน่นอนว่าเอามาใช้แก้พิษ !” มู่หรงเสวียยกยิมขึนอย่างงดงาม
“ใช้ปลิงนําแก้พิษอย่างนันหรื อ ?” ฮัวถงเบิกตากว้างขึนอย่างแปลกใจ
การใช้ปลิงนําดูดพิษออกนันต้องดูว่าติดพิษมามากน้อยเพียงไร แล้วค่อยวางปลิงนําลงตามจุดชีพจรที
เฉพาะเจาะจง ไม่สามารถวางอย่างส่ ง ๆ ได้ ไม่เช่นนันจะถูกพิษสะท้อนกลับ ข้างกายของตงฟางหลีไม่มีคนที
เข้าใจในศาสตร์ทางด้านการแพทย์ ถึงนางจะอธิบายเกียวกับการรักษาด้วยปลิงนําอย่างไร พวกเขาก็คงไม่เข้าใจ
มีเพียงทางเดียวคือนางคงต้องเดินทางไปรักษาตงฟางหลีดว้ ยตัวเอง !
ไปพักทีจวนของนางอย่างนันหรื อ ?
มู่หรงเสวียไม่ได้ใส่ ใจนัก อากาศยิงร้อนขึนทุกที ตัวนางก็นบั ได้วา่ เป็ นผูฝ้ ึ กวรยุทธ์อยูค่ รึ งหนึง ไม่ตอ้ งพูดถึงใส่
ชุดเปี ยก ๆ อยูเ่ พียงครู่ หนึ งหรอก ถึงใส่ แล้วยืนอยูค่ รึ งวัน นางก็ไม่มีทางถูกลมหนาวพัดจนเป็ นหวัดได้ !
“คุณชายโอวหยาง ผูน้ ้อยเป็ นคนไข้ คุณหนูท่านนี เป็ นหมอ ผูป้ ่ วยไปพักรักษาตัวทีบ้านของท่านหมอ อยูอ่ าศัย
และพักฟื น ไม่มีตรงไหนทีไม่เหมาะสม !” สามารถพักอาศัยอยูใ่ นชายคาเดียวกันกับคนในดวงใจของคุณชาย
โอวหยาง แน่ นอนว่าจะต้องเป็ นเรื องทีน่ารื นรมย์ยงิ
ึ างระมัดระวังแล้วตามมู่หรงเสวียกับคุณชายโอวหยาง
“พ่ะย่ะค่ะ!” อัวถงรับคําสัง ค่อย ๆ พยุงตงฟางหลีขนอย่
ออกไป
ชายผูน้ นไม่
ั ร้อนรนกระวนกระวาย แววตาคมกริ บกวาดตามองไปทีชายชุดดําทีละคน ถามขึนอย่างเย็นชา “ใคร
ส่ งพวกเจ้ามา ?”
ช่างดียงนั
ิ ก!
“คําพูดเหล่านีเป็ นเย่อเฉิ
ี นทีบีบบังคับให้เจ้าพูดใช่หรื อไม่ ?” อดีตจิงอ๋ องกัดฟันพูดกล่าวเสี ยงตํา
ดูท่าอดีตจิงอ๋ องคงอยากให้นางกับเย่อเฉิ
ี นครองคู่ดว้ ยกันมาก แต่น่าเสี ยดายทีเจ้าบ่าวไม่ได้รัก ฝ่ ายเจ้าสาวก็ไม่มี
ใจ ชาติภพนี คงไม่มีทางอยูด่ ว้ ยกันได้......
มู่หรงเสวียเลิกคิวมองเย่อีเฉิ น สี หน้าของนางคล้ายยิมคล้ายไม่ยมจนสี
ิ หน้าของเย่อีเฉิ นมืดครึ ม “เจ้าคิดว่าข้าจะ
ปฏิบตั ิตนกับเจ้าเช่นนันหรื อ ?”
เสี ยงฝี เท้าบางเบาดังขึนด้านหลัง ตามเขามาอย่างไม่เร่ งรี บนัก คุณชายโอวหยางทําเป็ นไม่สนใจ เพียงแต่กา้ วยาว
ๆ ไปด้านหน้าต่อไป หลังจากทีเลียวไปมาได้หลายครา ก็กา้ วเดินเข้าไปในวังเซี ยวเหยาอ๋ องอย่างช้า ๆ
ตงฟางหลียกยิมมุมปากขึนอย่างลําลึกพอเตรี ยมจะหมุนกายจากไป
“ทีนี คือวังเซี ยวเหยาอ๋ อง มิใช่วงั หลวงแห่ งแคว้นซี เหลียง เจ้าไม่ได้มีสิทธิทีจะเลือกได้ ทีข้าให้พกั ทีเรื อนรับรอง
ทิศตงหนานนี ก็ถือว่าให้เกียรติเจ้ามากพอแล้ว อยากอยูก่ อ็ ยู่ ไม่อยากอยูก่ เ็ ชิญ !” คุณชายโอวหยางปรายตามองเขา
ครู่ หนึงแล้วก็หมุนกายจากไป เดินต่อไปด้านหน้าโดยทีไม่หันกลับมามองอีก
ทันใดนัน บนทางเดินหิ นก็ปรากฏเงาร่ างสู งโปร่ งของคนผูห้ นึง เขาอยูใ่ นชุดสี นาเงิ
ํ นเข้ม ใบหน้าหล่อเหลา เป็ น
บุตรชายของจวนสังซูสวีเทียนโย่ว
รอจนนางจะหาจังหวะและโอกาสทีเหมาะสมเจอค่อยไปแลกเปลียนหนังสื อหมันและของหมันแทนตัวชินนัน
คืนให้กบั เย่อีเฉิ น เท่านีนางก็นบั ว่าสามารถตัดขาดจากเย่อีเฉิ นได้อย่างสิ นเชิง กลายเป็ นคนทีไร้พนั ธะ ชาติภพนี ก็
จะได้ไม่ตอ้ งยุง่ เกียวอะไรกับเขาอีก......
“ฟ้ าว ฟ้ าว ฟ้ าว !” เสี ยงแหวกอากาศทีรุ นแรงดังขึน
มู่หรงเสวียเดินออกไปด้านหน้าด้วยอารมณ์โมโหนังลงไปทีเก้าอีด้านข้างของคุณชายโอวหยาง ยืนมือออกไปดึง
ทีแก้มของเขา แล้วหยิกแรง ๆ พริ บตาใบหล่อเหลาก็ขึนรอยแดงเพราะถูกหยิก
ความรู ้สึกเจ็บ ๆ คัน ๆ แล่นขึนมา แววตาของคุณชายโอวหยางวูบไหวไปด้วยความเหนือยใจน้อย ๆ เขายืนมือ
ออกไปจับมือของนางข้างทีกําลังทําร้ายเขา พลางกล่าวเสี ยงตํา “เย่อีเฉิ นไม่มีทางรับของหมันทีเจ้าส่ งคืนไป
ถึงแม้วา่ ข้าจะไล่พวกองครักษ์เงาออกไป พวกเขาก็คงคิดหาวิธีอืนนําเอาของหมันหมายส่ งกลับมา”
“เจ้ารู ้ตงแต่
ั แรกว่าผลจะเป็ นเช่นนี ? แล้วเหตุใดเจ้าไม่ยอมเตือนข้าสักคํา ?”
เรื อนหยก
แซ่ ตูป้ รายตามองนาง แล้วสบถขึนเบา ๆ “เจ้าเป็ นอู่อนั โหวฮูหยิน ชิงเหยียนก็เป็ นถึงคุณหนูผสู ้ ู งส่ งแห่ งจวนอู่อนั
โหว อยากจะหมันหมายกับตระกูลดี ๆ นันไม่ยาก แต่รอจนเจ้าเข้าวัดไป ฐานะของชิงเหยียนก็จะต้องตกลง พอ
ถึงตอนนัน ตระกูลทีหมันหมายเอาไว้รู้เรื องเข้าแล้วต้องการถอนหมัน เช่นนันจะทําอย่างไร ?”
มู่หรงโหรวชะงักไป ผูค้ นในเมืองหลวงทียึดมันในการหมันหมายนันมีมากมาย แต่ว่าผูค้ นทียืดมันในลาภยศก็มี
ไม่น้อยเช่นกัน ใครจะไปสามารถรับประกันได้ว่าตระกูลทีหมันหมายไว้นนจะเป็
ั นตระกูลทีมีคุณธรรมสู งส่ ง ?
ฐานะของเย่อีเฉิ นสู งส่ ง ความสามารถไม่ธรรมดา อีกทังยังมีอาํ นาจอยูใ่ นมือ แต่งเป็ นชายารองให้เขาเปรี ยบเทียบ
กับการแต่งเป็ นชายาเอกให้ตระกูลอืนแล้วดีกว่าเป็ นไหน ๆ
แซ่ ตูช้ ะงักไป “เพราะอะไร ?” ตําแหน่งชายารองแห่ งจิงอ๋ องนัน ผูค้ นมากมายต่างก็อยากจะเป็ นแต่ก็ใช่ว่าจะ
สามารถเป็ นได้ง่าย ๆ
แซ่ ตูค้ ่อย ๆ หรี ตาลง แล้วกล่าวเน้นขึนทีละคํา “อดีตจิงอ๋ องเป็ นคนทีหัวแข็งมากผูห้ นึ ง อยากทําให้เขาเปลียนตัว
ว่าทีภรรยานันไม่ง่ายดายนัก พวกเราจะต้องคิดอ่านให้รอบคอบ ห้ามมีขอ้ ผิดพลาดแม้แต่น้อย !”
“นีคือหลานสาวนอกสกุลของผูน้ อ้ ย ชิงเหยียน !”
ตอนที 122 ล่ อลวง
มู่หรงเจียนกล่าวแนะนําพรางยิมตาหยี เขาสอดส่ องดูท่าทีทุกความเคลือนไหวของอดีตจิงอ๋ องอย่างไม่ให้หลุด
สายตาไปได้
เหล่าบรรดาทหาร สาวใช้ บ่าวไพร่ ทีอยูใ่ กล้ ๆ ต่างตกใจ พากันกรู เข้ามาอย่างเร่ งรี บ มู่หรงเจียนกับอดีตจิงอ๋ องที
กําลังลําลึกอดีตก็กา้ วยาว ๆ เข้ามาเช่นกัน
ในใจของเขานึกเกลียดชังนางอย่างมาก แต่บนใบหน้าของมู่หรงเจียนกลับปรากฏท่าทางแปลกประหลาดใจ
ขึนมา “นีเอ่อ......ผูน้ อ้ ยไม่รู้จริ ง ๆ นะขอรับ......”
“สองคนเมือครู่ นนที
ั จากไป คนหนึงเป็ นอาสองของมู่หรงเสวีย อีกคนเป็ นน้องสาวลูกพีลูกน้องของมู่หรงเสวีย
ใช่หรื อไม่เล่า อีเฉินไม่ตอ้ งการถอนหมัน นางก็เลยส่ งพวกเขาสองคนมาวังจิงอ๋ องวางยาปลุกกําหนัดใส่ อีเฉิ น บีบ
คันให้อีเฉิ นทําเรื องผิดพลาด หากไม่เรี ยกน่ ารังเกียจแล้วจะเรี ยกอะไรไปได้ ?” หญิงงามพูดขึนอย่างรู้สึกเกลียด
ชัง แววตาของนางวูบไหวไปด้วยความเย็นยะเยือกทีคมกริ บ
หญิงงามเพียงแต่ยมน้
ิ อย ๆ กล่าวขึนอย่างภาคภูมิ “ข้าเชือในสายตาของอีเฉิ น หญิงสาวทีเขาชอบ แน่ นอนว่าต้อง
ดีทีสุ ด เขาคิดว่าฉิ นยวีเยียนเหมาะกับตําแหน่งชายาเอก ฉิ นยวีเยียนแน่นอนว่าต้องสามารถเป็ นได้......”
“ทําไมถึงเป็ นเช่นนี ได้ ?” ฉิ นยวีเยียนขมวดคิวแน่ นเข้าหากัน อดีตจิงอ๋ องเป็ นพ่อแท้ ๆ ของอีเฉิ น แม้อีเฉิ นจะ
ชอบนางเพียงใด แต่ก็คงไม่มีทางกล้าปฏิเสธความต้องการของพ่อตัวเองได้อย่างแน่ นอน นางทีอยากแต่งให้อี
เฉิ นนัน ก็ดูเหมือนหนทางจะยิงยากขึนไปอีก !
ทังหมดทังมวลล้วนเป็ นเพราะมู่หรงเสวีย ถ้าหากไร้ซึงมู่หรงเสวีย อดีตจิงอ๋ องคงไม่ได้เป็ นดังเช่นตอนนี ทีแม้แต่
หน้าของนางก็ยงั ไม่อยากพบ ทังยังรู้สึกรังเกียจนาง......
“เช่นนันก็ดียงนั
ิ ก !” ฉิ นยวีเยียนยกมุมปากขึน แววตาเจือปนไปด้วยรอยยิมแปลก ๆ กล่าวเสี ยงกดตําขึนอย่าง
ลึกลับ “อิงอิง เจ้าช่วยข้าทําเรื องหนึงสิ !”
ตอนที 125 ขันวิกฤต
เสี ยงกระซิ บกดตําทีชัดเจนลอยเข้าหู ทันใดนันดวงตาของอิงอิงก็เบิกกว้างขึน แววตาของนางฉายตกอกตกใจ
“องค์หญิง......นี มัน......คงไม่ดีนกั เพคะ......”
อิงอิงมีแววตาลําบากใจ “แต่ว่า......”
ขนมโก๋ กลินกุหลาบ แผ่นแป้ งทอดอ่อนนุ่ มสี ทองร้อนกรุ่ น ขนมเปี ยะโรยงาขาว ขนมแป้ งทอดฟั กทองเหลือง
อร่ าม......ข้าวต้มแดง ข้าวต้มธัญพืช ข้าวต้มฟั กทอง ข้าวต้มดํา......อาหารต่าง ๆ นา ๆ ถูกวางเรี ยงรายเต็มโต๊ะ
อาหาร กลินหอมอบอวล ชวนให้ผคู ้ นนําลายสอ
โรคประจําตัวกําเริ บ !
สี หน้าของพระชายาเอกตืนตระหนก ปี นันจิงอ๋ องได้รับบาดเจ็บสาหัสนัก ทุกครังทีอาการกําเริ บ ล้วนทรมานจน
สลบไม่ได้สติไปพักใหญ่กว่าจะฟื น......
ี นสามารถเพิมความมงคลให้ท่านพี อาการบาดเจ็บของท่านพีก็จะดีขึนอย่างรวดเร็ ว
ถ้าหากการแต่งงานของเย่อเฉิ
......
“ให้ฮวถงฝั
ั ง !” คุณชายโอวหยางออกความคิดเห็นออกมาอย่างไม่เกรงใจ
“ข้าน้อยไม่เข้าใจศาสตร์ การแพทย์” ฮัวถงมองมาทีเขา แล้วว่าด้วยนําเสี ยงเข้ม
“แต่ว่า......”
สี หน้าของเย่อีเฉิ นมืดครึ มจนน่ ากลัว เขากล่าวขึนเสี ยงดัง “มู่หรงเสวีย ท่านพ่อของข้าก็ถือเป็ นผูห้ ลักผูใ้ หญ่ของ
เจ้า เขามองดูเจ้าเติบโตมาตังแต่ยงั เล็ก เมือเห็นเขากําลังจะตายเหตุใดเจ้าถึงไม่ช่วย ?”
“ข้าเห็นคนกําลังจะตายแต่ไม่ช่วยอย่างนันหรื อ ?” มู่หรงเสวียทีถูกคําพูดของเขาต่อว่าก็อดไม่ได้ทีจะเค้นรอยยิม
ออกมาอย่างมีอารมณ์ “เย่อีเฉิ น อดีตจิงอ๋ องเป็ นพ่อของเจ้า เพียงแค่เจ้าแต่งภรรยาไม่ว่าจะแต่งกับใคร ก็ลว้ นถือ
เป็ นการชงสี ฉะนันถ้าอดีตจิงอ๋ องมีท่าทีทีอาการจะดีขึน ก็ตอ้ งดีขึนแน่นอน !” แน่นอนว่าถ้าหากเขาจะไม่หายดี
ไม่ว่าเย่อีเฉิ นจะไปแต่งเอาเทพเซี ยนทีไหนกลับวังอดีตจิงอ๋ องก็อย่าได้หวังว่าจะมีชีวิตอยูต่ ่อไป
“ไม่ว่าเรื องใด ๆ ก็ยอ่ มต้องมีขอ้ ผิดพลาด เจ้าอย่าได้พดู จาอย่างมันใจนัก” นําเสี ยงเย็นชาของเย่อีเฉิ นแฝงไว้ดว้ ย
ความหมายทีแปลก ๆ เหมือนกําลังคิดสิ งใดอยู่
ดวงตาดําของคุณชายโอวหยางหรี ลง มองไปทางมู่หรงเสวียอย่างไม่ละสายตา !
แววตาของคุณชายโอวหยางวูบไหว “เพราะอะไร ?”
ท่านพ่อถูกพิษจริ ง ๆ !
“โฮ่ง โฮ่ง !” เป้ ยเป้ ยดมกลินของเลือดสี ดาํ ดวงตากลอกไปมาเล็กน้อยแล้วค่อยหมุนกายกลับไป เสี ยง ‘ฟ้ าว’ ดัง
ขึนเสี ยงหนึงแล้วพุ่งออกไปด้านนอก !
บรรดาทหารยาม บ่าวไพร่ และสาวใช้กพ็ ากันออกจากห้องตามเป้ ยเป้ ยไป ทีนี คือวังจิงอ๋ อง คนผูน้ นกลั
ั บกล้าทํา
ร้ายอดีตจิงอ๋ องทีเป็ นหนึงในเจ้านายของวังอ๋ องอย่างอุกอาจเช่นนี ช่างบังอาจและรนหาทีตายยิงนัก ไม่รู้ว่ามัน
เป็ นใครกันแน่ ?
เพียงแค่ทาํ ลายแม่กญ
ุ แจสี ทองด้านบนเบา ๆ เย่อีเฉิ นก็สามารถเปิ ดกล่องนันออก ด้านในมีขวดกระเบืองจํานวน
สามขวดวางเรี ยงราย สี เขียวอ่อนขวดหนึ ง สี ขาวสองขวด
มู่หรงเสวียเร่ งเดินเข้ามาด้านหน้า หยิบขวดสี เขียวอ่อนมาเปิ ดออก แล้วจึงสู ดดมเบา ๆ “ขวดนี ก็คือพิษชนิ ดนัน !”
“ฉินยวีเยียนเจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกไหม ?”
แววตาของฉิ นยวีเยียนเย็นยะเยือก นางชีนิวไปทีเป้ ยเป้ ยทีอยูใ่ ต้ตน้ ลีฮวา กล่าวขึนเสี ยงเย็นว่า “มู่หรงเสวียสุ นัขตัว
นีเป็ นเจ้าทีพามา หลังจากทีมันออกจากเรื อนหลักก็วิงตรงมาทีเรื อนบัวหอมของข้า ออกนอกเส้นทางสักนิดก็ไม่
มีแม้แต่นอ้ ย มองดูแล้วก็เหมือนกับว่ามันตามกลินของยาพิษมาทีนี แต่วา่ ใครจะรู ้เล่าว่ามันไม่ได้ถูกเจ้าสังให้มนั
วิงมาทีนี......”
แต่ไม่คาดว่าจะมีเสี ยง “เพล้ง !” ดังขึนเสี ยงหนึ ง ปิ นปั กผมสี ทองทีปักอยูบ่ นผมของฉิ นยวีเยียนร่ วงตกลงบนพืน
ผงสี ขาว ๆ จํานวนหนึงต่างกระจายออกมา......
มู่หรงเสวียมองไปทีเย่อเฉิ
ี น คนทีฉลาดหลักแหลมเท่านันทีจะสามารถคาดเดาถึงความจริ งออกแล้วคาดเดาได้
ว่าอิงอิงเป็ นเพียงแค่แพะรับบาป อาการเจ็บป่ วยของอดีตจิงอ๋ อง เย่อีเฉิ นมีอาํ นาจในการจัดการเรื องนีอย่างเต็มที
จะลงโทษผูใ้ ดล้วนขึนอยูก่ บั การตัดสิ นใจของเขา
ตอนนันทีหมอหลวงซุนวินิจฉัยว่าหัวใจของท่านพ่อได้รับการกระทบกระเทือนอย่างสาหัส ไร้หนทางรักษา
เหลือเวลาเพียงไม่มาก เขาจึงคิดว่ามู่หรงเสวียทีเป็ นเหมือนดังนกน้อยในกรงทอง คงไม่มีทางทีจะช่วยเหลือท่าน
พ่อได้ ถึงได้ยอมรับปากตกลงเดิมพันกับนาง อีกทังยังคาดไม่ถึงว่าท่านพ่อจะถูกวางยาพิษ ยิงไปกว่านันความรู ้
ทางการแพทย์ของมู่หรงเสวียนันก็สูงลําไม่ธรรมดา จนในทีสุ ดก็สามารถถอนพิษออกไปได้ส่วนหนึง แล้วทําให้
เท่านพ่อฟื นคืนสติกลับขึนมาได้......
มู่หรงเสวียเดินออกไปด้านหน้าหยิบกระดาษแผ่นนันขึนมา อ่านเนือหาด้านบนอย่างละเอียดรอบคอบแล้วจึง
พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ขอบพระทัยจิงอ๋ อง จากวันนี เป็ นต้นไป การหมันหมายของพวกเราก็ถูกยกเลิกแล้ว
อย่างเป็ นทางการ ไม่ว่าจะแต่งให้ใครในภายภาคหน้าล้วนไม่มีอนั ใดเกียวข้องกันอีก !”
เมือหยิบเอาแผ่นกระดาษขึนมาได้ไม่นานก็ประกาศยกเลิกการหมันหมาย นางคงอดรนทนไม่ไหวทีจะตัดคาด
ความสัมพันธ์กบั เขามากสิ นะ !
“แต่ก่อนหน้านี นางเกียว !” สี หน้าของอดีตจิงอ๋ องดุดนั “ถ้าอีเฉิ นยังมีความเป็ นห่ วงเป็ นใยนางอยูบ่ า้ ง วันทีนาง
ถอนหมันไปแล้วจะไม่มีบวั อัคคีใช้ได้อย่างไร ?”
“เขาทีทําความผิดนันไม่สมควรทีจะถูกต่อว่าหรอกหรื อ ? ถ้าไม่ให้เขาจดจําเอาไว้ให้ขึนใจเขาก็จะทําความผิด
เดิมซําสองอีก !” อดีตจิงอ๋ องกล่าวขึนอย่างดุดนั ถอนหายใจหนัก ๆ ในใจ การหมันหมายทีดีงามเช่นนี กลับถูก
เขาทําลายจนย่อยยับไม่มีชินดี !
จริ ง ๆ แล้วเขาแล้วไม่เห็นด้วยทีจะให้ม่หู รงเสวียถอนหมันกับอีเฉิ น แต่อีเฉิ นกลับทําการเดิมพันกับมู่หรงเสวีย
ไปแล้ว ทังยังเดิมพันให้คุณชายโอวหยางกับตงฟางหลีได้ยนิ อีก ถ้าเขายังยึดมันไม่ยอมยกเลิกการหมันหมาย อี
เฉิ นก็จะได้ชือว่าเป็ นคนทีไม่น่าเชือถือ ชือเสี ยงของเขาและวังจิงอ๋ องก็จะถูกทําลายลงอย่างย่อยยับ......
มีเพียงพระชายาเอกทีเบิกตากว้างขึนด้วยความตกตะลึง “ทําไมเจ้าถึงทําเช่นนี ?”
เมือมองไปทีร่ างของนางทีกําลังโอนเอนไปมาคุกเข่าอย่างไม่มนคง
ั พระชายาเอกก็ถอนหายใจออกมาหนัก ๆ
“เจ้ากําลังบาดเจ็บ ไม่เหมาะทีจะคุกเข่านาน ๆ ลุกขึนเสี ยก่อนเถอะ !”
“เช่นนันเจ้าก็คดิ ไตร่ ตรองให้ดีและเร็ ว ๆ ด้วย ถ้าช้าไปแล้วเสวียเอ๋ อร์ ก็คงถูกผูอ้ ืนแย่งชิงไป บนแผ่นดินนี ไม่ใช่
ว่าชายหนุ่ มทุกคนจะไร้สายตาในการดูคนเหมือนเจ้า” อดีตจิงอ๋ องโยนคําพูดทิงไว้แล้วหมุนกายเดินออกไป
ด้านหน้าไม่หันหลังกลับมามองอีก
“ต้มเสร็ จแล้วเจ้าค่ะ ต้มเสร็ จแล้วเจ้าค่ะ !” หงซิ วตอบรับเสี ยงสู งตักเอายานําร้อน ๆ ขึนมาถ้วยหนึ ง แล้วพุ่งเข้าไป
ด้านในด้วยความเร่ งรี บ
แววตาของมู่หรงเสวียลุกโชนไปด้วยไฟโกรธ นางยกมือทังสองข้างขึนทุบตีไปทีคุณชายโอวหยางอย่างแรง
ท่าทางคล้ายกับแมวป่ าตัวน้อย
“ไม่ตอ้ งกังวลไป ขอเพียงเป็ นพิษก็ตอ้ งมีวิธีแก้” คุณชายโอวหยางกล่าวเสี ยงตํา แววตาสี ดาํ ขลับลึกลําดัง
มหาสมุทร
“มันก็ไม่ได้เป็ นเช่นนันเสมอไป” มู่หรงเสวียพูดขึนอย่างเศร้าสร้อย ในใจไม่ได้มีความคาดหวังอะไรเลย ในยุค
ปัจจุบนั พวกหมอทีมีความรู ้ความสามารถทางการแพทย์สืบทอดกันมาตังห้าพันปี ยังไม่สามารถแก้พิษเยือกแข็ง
ได้ หมอของแคว้นชิงเหยียนจะไปคิดหาวิธีการออกได้อย่างไร......
แต่ว่าคุณชายโอวหยางทีใช้พลังปราณออกไปเป็ นจํานวนมากนันต้องการการพักผ่อนมากทีสุ ด
คุณชายโอวหยางตอบรับเพียงเบา ๆ เปลือกตาลู่ลงหยิบเอาแก้วนมโยเกิร์ตทีด้านข้างขึนมา
แววตาของเย่อีเฉิ นหนาวเหน็บ มือแกร่ งกําแน่นเข้าหากัน ได้ยนิ เสี ยง ‘เพล้ง!’ ดังขึนเสี ยงหนึ ง ขวดกระเบืองสี
ขาวในมือแตกละเอียด เศษกระเบืองกับเศษของบัวอัคคีผสมปนเปเข้าด้วยกันแล้วปลิวสลายหายไปตามสายลม
เขาไม่แม้แต่จะชายตามองพวกเขาอีก หันหลังกลับแล้วพุ่งทะยานออกไปด้านหน้า
“ถึงแม้วา่ จะไม่ได้ตงใจ
ั แต่เจ้าก็ได้วางอุบายต่ออีเฉิ นไปแล้ว !” ฉิ นยวีเยียนมองไปทีนางด้วยความเกลียดชัง
นําเสี ยงของนางหนาวเหน็บเย็นยะเยือก ทําไมไม่ลองส่ องกระจกชะโงกดูเงาหัวของตัวเองบ้างว่าเป็ นตัวอะไร ถึง
ได้กลับกล้ามาทําให้อีเฉิ นของนางต้องแปดเปื อน ช่างรนหาทีตายยิงนัก !
“จริ งเพคะ จริ งเพคะ จริ งแท้แน่นอนเพคะ !” ซ่ งชิงเหยียนพยักหน้าติดกันสี ยหลายครัง เร่ งกล่าวขึนอย่างร้อนรน
“ท่านยายของข้าดูแลควบคุมจวนเจินกัวโหวมาตังหลายปี หูตาทอดยาวไปทัวทังจวนโหว ทุกความเคลือนไหว
ของมู่หรงเสวีย ล้วนอยูใ่ นการเฝ้ าดูของพวกเรา ความลับนี พวกเราได้มนั มาด้วยความบังเอิญ......”
“ข้าเอาห้าแก้ว......”
“ข้าเอาสิ บแก้ว......”
“ท้องข้าก็ปวด......”
“ท้องของข้า......ไอ้หยา ไอ้หยา......ช่างปวดยิงนัก......”
ทันใดนันคนผูน้ นก็
ั เงยหน้ามองไปทีฉิ นยวีเยียน นําเสี ยงเย็นยะเยือก “องค์หญิงฉิ นในนมโยเกิร์ตของท่านทีแท้
ใส่ อะไรลงไปกันแน่ ?”
“ข้าก็คืน......”
“ข้าก็คืน ข้าก็คืน......”
เหล่าฝูงชนพากันกรู เข้าไปล้อมรอบด้านหน้าของร้านโยเกิร์ตยืนแก้วนมโยเกิร์ตขึนแล้วตะโกนขอคืนเงิน
“อย่าเพิงใจร้อน ทุกคนใจเย็น ๆ ก่อน......” เมือเห็นด้านหน้ามีแขนยืดยาวออกโบกไปมา สี หน้าของผูด้ ูแลร้านก็
กลายเป็ นสี เขียวคลํา เมือครู่ ยงั พากันดีใจอยูเ่ ลยตอนนี กลับกลายเป็ นเกรี ยวกราดโวยวายเสี ยแล้ว เขาอดทีจะถอน
หายใจในใจไม่ได้
ั ใ่ นชุดสี นาตาลทองด้
เงาร่ างองอาจสายหนึ งร่ อนลงมาจากบนฟ้ า ลอยลงไปทีด้านหน้าของผูค้ น คนผูน้ นอยู ํ านบน
ปักไว้ดว้ ยลวดลายก้อนเมฆทีวิจิตรงดงาม แววตาเต็มไปด้วยความแข็งกระด้างและหยิงยโส
“ละครอะไรหรื อ ?” คุณชายโอวหยางเลิกคิวมองไปทีนาง
ซ่งชิงเหยียนคิดขึนด้วยความสะใจ อยู่ ๆ ก็ได้ยนิ เสี ยง ‘ปั ง’ ดังขึนเสี ยงหนึ ง ประตูทีปิ ดสนิ ทอยูถ่ ูกคนเปิ ดออก
อย่างแรง เงาร่ างสายหนึงก้าวยาวๆเข้ามาด้านใน......
ตอนที 141 ทุบตีซ่งชิงเหยียน
องครักษ์ผนู ้ นลงมื
ั อแต่ละครังล้วนโหดเหี ยมไม่มีการยังมือ ไหนเลยจะเป็ นการสังสอนเล็ก ๆ น้อย ๆ ชัดเจนว่า
ต้องการเอาชีวิตของชิงเหยียน
หนังตาของมู่หรงเสวียกระตุกแรง ๆ นางพยักหน้าตอบเขาอย่างไร้เดียงสา
ทันใดนันใบหน้าหล่อเหลาของคุณชายโอวหยางก็กลายเป็ นมืดครึ ม “เช่นนันเจ้าก็ครองตนเป็ นโสดชัวชีวติ เถอะ
!” เขากล่าวเน้นทีละคํา นําเสี ยงทุม้ แฝงไว้ดว้ ยเสี ยงของการกัดฟัน เพียงขยับเท้าเบา ๆ ร่ างโปร่ งคล้ายเมฆก้อน
หนึ งก็ลอยขึนไปบนฟ้ าแล้วลอยออกไปจากจวนเจินกัวโหวไม่หันกลับมามองอีก
มู่หรงเสวียพูดกระซิ บกระซาบขึนด้วยเสี ยงไม่ดงั ไม่เบานัก แต่กพ็ อทีจะให้ผคู ้ นทีอยูใ่ กล้ ๆ ได้ยนิ อยูด่ ี สายตา
ของผูค้ นพากันมองมา กวาดตามองมาด้วยความคิดต่าง ๆ นา ๆ มองดูจนสี หน้าของซ่ งชิงเหยียนกลายเป็ นมืด
ครึ ม แล้วพูดโพล่งขึนว่า “แก้แค้นอะไรกัน พีชายของเจ้าเกเรขนาดนัน ตังแต่เช้ายันคําไม่ยอมใฝ่ หาความรู ้อะไร
งานการในราชสํานักล้วนไม่เคยได้เข้าร่ วม แต่ท่านลุงสองของข้าเป็ นขุนนางทีลงทุนลงแรงเพือแคว้นไปมากมาย
มอบทีนังของพีชายเจ้าให้เขานันเป็ นเรื องทีไม่สมควรหรอกหรื อ”
มู่หรงเสวียชะงักไปครู่ หนึงทันใดนันก็นึกขึนได้ มู่หรงเจียนสองสามีภรรยาจากเมืองหลวงไปสิ บปี ดูท่าคงไม่มีที
นังเหลือไว้ให้พวกเขาแล้ว พวกเขาทีอยากมาดูการแข่งขันเรื อมังกรก็จะต้องตัดชือของคนออกไปสองคน เขา
ไม่ได้ไประรานกับขุนนางทีมีตาํ แหน่ งตํากว่าเขาแต่ว่ามาแย่งทีนังนางกับมู่หรงเย่สองคนแทน !
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ใต้เท้ามู่หรงเจียนนันสุ ขมุ องอาจ ทังยังมีผลงานมากมาย แต่ว่าพีชายของข้า อายุยงั น้อย หัวก็ไม่ดี
ถูกคนอืนชีนําให้ไปตีไก่เล่นพนัน อีกเพียงแค่นิดเดียวก็เกือบจะได้เข้าหอโคมเขียวแล้ว จอมเสเพลทีบุ๋นไม่ได้บู๊ก็
ไม่ดี ไหนเลยจะสามารถไปเทียบเท่ากับใต้เท้ามู่หรงเจียนได้ ทีนังสองทีนันก็สมควรทีจะเป็ นของใต้เท้ามู่หรง
เจียนแล้ว......” มู่หรงเสวียพูดขึนอย่างไม่นาํ พา แต่แววตาเต็มไปด้วยความดูถูกเยาะเย้ยทีไม่ง่ายทีจะค้นพบ
“ชิงเหยียน เจ้าพูดไร้สาระอะไรกัน ทีนังของเย่เอ๋ อร์ กบั เสวียเอ๋ อร์ ลว้ นจัดเตรี ยมเอาไว้อย่างดี จะไปมอบให้ลุง
สองของเจ้าได้อย่างไรกัน !” ตูอ้ ีก้าวอาด ๆ เข้ามาใบหน้าองอาจเคร่ งขรึ มจนน่ ากลัว !
ทีพวกเขาแย่งทีนังของพวกมู่หรงเสวียสองพีน้องเพราะว่าอยากให้มู่หรงเจียนเข้ามาแทนทีมู่หรงเย่อย่างเงียบ ๆ
เย้ยหยันมู่หรงเสวียเล็กน้อยแล้วไล่นางออกไปก็ได้แล้ว แต่ซ่งชิงเหยียนกลับป่ าวประกาศเรื องราวออกไปให้ผคู ้ น
ได้รับรู้ ขุนนางบุ๋นบู๊ทีนีก็คงเดาออกได้อย่างรวดเร็ วแล้วว่าพวกเขาร่ วมมือกันรังแกมู่หรงเย่ม่หู รงเสวียสองพีน้อง
กําพร้าทีไร้พ่อแม่คู่นี ช่างโง่งมจนถึงทีสุ ด !
มู่หลิวเฟิ งเป็ นคุณชายเฉิ งกัวกง เป็ นผูส้ ื บทอดตําแหน่งเฉิ งกัวกงคนต่อไป ไปมาไร้ร่องรอย ในยามปกตินนแม้
ั
พวกเขาอยากจะพบก็ลว้ นไม่สามารถ แต่ม่หู รงเสวียไปใกล้ชิดกับเขามากขนาดนีเมือไรกัน
มู่หรงเสวียมองไปทีเขาด้วยความไม่เข้าใจ “เจ้าจะพาข้าไปทีใด”
แววตาขอความช่วยเหลือของนางพุ่งมองไปทีราชครู ซู “ท่านปู่ !”
“มู่หรงเสวีย !” ได้ยนิ เสี ยงเรี ยกคุน้ เคยเสี ยงหนึ งดังขึนจากด้านบน นางเพียงชะงักไปครู่ หนึง แล้วเงยหน้าขึน
มองเห็นใบหน้าเจ้าเล่ห์ของคนผูห้ นึง ทันใดนันใบหน้าเรี ยวงามของนางก็มืดครึ มลง “มู่หลิวเฟิ ง เจ้ามายืนลับ ๆ
ล่อ ๆ อยูท่ ีนี ทําไมกัน”
‘ตึง’ เสี ยงระฆังเริ มการแข่งขันดังขึน เสี ยงนันดังกังวานไปทัวโดยรอบบริ เวณ เรื อมังกรสิ บกว่าลําทีลอยลําเรี ยง
รายอยูบ่ นทะเลสาบ ต่างพุ่งออกตัวไปอย่างรวดเร็ วดังศรแสงดอกแล้วดอกเล่า
แววตาของมู่หรงเสวียเปล่งประกายออกมาด้วยความเย็นยะเยือก ยกมือขึนรับการโจมตีจากหยวนฟางเฟยโดยไม่
หลีกหนี ได้ยนิ เสี ยง “ปัง !” ดังขึนเสี ยงหนึ ง ทันใดนันพลังปราณทีกล้าแกร่ งก็ทาํ ให้ม่หู รงเสวียกระเด็นลอยกลับ
ออกไป
มู่หรงเสวียไม่มีแม้แต่อาการกระวนกระวาย เพียงแต่ผ่อนร่ างกายตามแรงของพลังปราณสายนันถอยออกไป
หลายก้าวอย่างรวดเร็ ว ค่อย ๆ ลอยกลับขึนไปบนเรื อ แววตาสี ดาํ ขลับวูบไหวไปด้วยรอยยิมน้อย ๆ “คุณหนู
หยวนขอบคุณมากทีส่ ง !”
ทหารวีหลินต่างพุ่งเข้ามาล้อมรอบด้านข้างขององค์ฮ่องเต้และฮองเฮา ชักดาบออกมาจากเอวแล้วฆ่าฟันพวกงูนาํ
อย่างรวดเร็ ว ช่วงเวลานันสายเลือดต่างสาดกระเซ็นไปทัว หัวของงูและตัวของงูทีขาดออกจากกันพุ่งกระเด็นเข้า
ไปในฝูงชน เสี ยงกรี ดร้องด้วยความหวาดกลัวดังลันขึนระงมไปทัว “อ้า อ้า อ้า......ช่วยด้วย...ช่วยข้าด้วย....”
มู่หรงเสวียขมวดคิวขึนเตรี ยมทีจะถีบนางออกไป ได้ยนิ เสี ยง ‘ฟ้ าว !’ ดังขึนเสี ยงหนึ ง เงาร่ างสี เขียวอ่อนสายหนึง
พุ่งเข้ามารัดแน่นเข้าไปทีแขนของหยวนฟางเฟยแล้วกระชากนางลงไปในทะเลสาบเทียนสุ่ ย เสี ยง ‘ตูม้ ’ ดังขึน
สายนําสาดกระเซ็นไปทัวบริ เวณ......
‘ซี ซี ซี !’ งูนาตั
ํ วแล้วตัวเล่าต่างว่ายนําเข้าไปหาหยวนฟางเฟยแล้วพากันรัดแขน เอว ขา หน้าอก และคอของนาง
เอาไว้แน่ น หยวนฟางเฟยใช้แรงกระชากดึงพวกมันออกแต่กไ็ ม่สามารถต่อกรกับความรวดเร็ วในการรัดของ
พวกมันได้
หยวนฟางเฟยขมวดคิวเข้าหากันแน่น “งูนาพวกนี
ํ น คล้ายกับมีมาให้ฆ่าไม่มีวนั หมด ถ้า
ยิงรวมตัวกันก็ยงมากขึ
ิ
หากพวกเรายังฆ่าพวกมันต่อไปเช่นนี ไม่รู้วา่ จะต้องฆ่าไปจนถึงเมือไร พวกเราจะต้องคิดอ่านหาวิธีอืนจัดการมัน
......”
งูนามากมายรั
ํ ดร่ างของซ่ งชิงเหยียนเอาไว้แน่น นางกรี ดร้องดินรนไปมาอย่างไร ก็ยงั ไม่สามารถทีจะสะบัดพวก
มันให้หลุดออกไปได้
“ใช่ ใช่ ใช่......เป็ นพวกข้าเองทีไม่ตอ้ งการขึนไป ไม่เกียวอันใดกับเจ้า......” แซ่ โจวรับคําขึนอย่างเร่ งรี บ สี หน้า
เต็มไปด้วยความยินดี มู่หรงเสวียไม่บีบคันให้พวกนางขึนเรื อแล้ว ช่างดียงนั
ิ ก!
ํ ดกายเอาไว้แน่น แววตาของมู่
“ชิงเหยียน !” เมือมองไปทีซ่ งชิงเหยียนทีได้รับบาดเจ็บสาหัสและกําลังถูกงูนารั
หรงโหรวก็เต็มไปด้วยความเป็ นห่ วงและกังวลใจ นางดึงปิ นปั กผมบนหัวลงมาแล้วใช้แรงโยนไปทางซ่ งชิงเห
ยียน “ชิงเหยียนรับปิ นปั กผมไว้ ใช้ปินปั กผมแทงไปทีคอของพวกมัน......”
งูนามั
ํ น......กําลังจะมากัดนาง !
งูนายิ
ํ งเข้ามาใกล้นางมากขึนทุกที สายตาของนางเห็นพวกมันกําลังจะตามมาทันแล้ว แววตาคมของแซ่โจวก็หรี
เล็กลง ทันใดนันก็หันหลังกลับถีบไปทีมู่หรงโหรวเข้าเท้าหนึง ถีบนางไปที ฝูงงูอย่างไร้เยือใย......
มู่หรงโหรวตืนตกใจยืนมือสวนกลับไปคว้าทีข้อเท้าของแซ่ โจวเอาไว้แล้วถลึงตามองไปทีนางอย่างดุร้าย “ผู ้
แซ่ โจว เจ้าจะทําอะไร ?”
มู่หรงโหรวขมวดคิวเข้าหากันแน่น “เพือทีข้าจะช่วยชิงเหยียนถึงได้......”
“เจ้าเป็ นแม่แท้ ๆ ของชิงเหยียน เจ้าช่วยนางก็เป็ นเรื องทีสมควรแล้ว แต่ขา้ เป็ นเพียงป้ าสะใภ้สองของชิงเหยียน
ไม่มีความเกียวข้องทางสายเลือดใด ๆ กับนาง ข้ามีสามีและลูกชายของข้าทีต้องกลับไปดูแล ไม่สามารถตายไป
พร้อมกับพวกเจ้าแม่ลูกอย่างไร้ค่าเช่นนี ได้......” แซ่ โจวตัดบทคําพูดของนางขึนอย่างหมดความอดทน นําเสี ยง
เต็มไปด้วยความหนาวเหน็บเย็นยะเยือก
มู่หรงเสวียแววตาหรี เล็กลงยืนมือออกไปง้างปากบนล่างของมันเอาไว้แล้วใช้แรงดันมันค้างเอาไว้
งูนาแลบลิ
ํ นยาวออกมาแล้วใช้แรงพุ่งตัวเข้าไปโจมตีใส่ ใบหน้าของมู่หรงเสวียด้วยความเกรี ยวกราด มู่หรงเสวีย
รี บหลีกหัวหลบด้วยความรวดเร็ ว ปากของมันเฉี ยดเสยใบหน้าของนางไปตกกระแทกลงบนพืนอย่างแรง เจ็บจน
ร่ างกายของมันดินพล่านไปมาอย่างบิดเบียว
มู่หรงเสวียคว้าจับเข้าไปทีปากบนร่ างของมันอีกครัง แววตาของนางหรี เล็กลง เพียงพริ บตาก็พลิกกายนังลงไปที
หลังของมันแล้วดึงปิ นปั กผมลงมาแทงเข้าไปทีคอของมันอย่างแรง งูนารู
ํ ้สึกเจ็บปวดทรมานจนร่ างกายอันยาว
เหยียดของมันบิดเบียวไปมา สะบัดเอาร่ างของมู่หรงเสวียกระเด็นออกจากหลังของมันไปอย่างแรง......
นีมัน......นํามัน !
มู่หรงเสวียยกยิมเย็นหยิบคว้าเอานํามันทังหมดบนเรื อออกมาเทลงไปบนผิวนําในทะเลสาบจนหมดไม่มีเหลือ
คราบนํามันไหลกระเพือมออกไปตามลมและกระแสนํา ไหลกระจายออกไปโดยรอบ ตาเห็นคราบนําแผ่ขยาย
ออกไปได้ไม่นอ้ ยแล้ว มู่หรงเสวียมองไปทีด้านบนแท่นศาลาแล้วตะโกนขึนเสี ยงดัง “ข้าจะจุดไฟหลีกออกไปให้
หมด !”
นางค่อย ๆ แอบมองไปทีคุณชายโอวหยางก็เห็นเขาขมวดคิวขึนคล้ายกับไม่เข้าใจความต้องการของฮ่องเต้ทีทรง
ทําเช่นนี
มากมาย ช่วยขุนนางบุ๋นบู๊และครอบครัวเอาไว้ก็ไม่
เปลือกตาค่อย ๆ หรี ลง ไฟทีนางจุดแน่ นอนว่าฆ่างูนาไปได้
ํ
น้อย
อีกทังงูนานั
ํ นในเทศกาลไหว้บ๊ะจ่างของปี ก่อน ๆ ช่วงทีจัดงานการแข่งขันเรื อมังกรอย่างมากก็พบเจอบ้างแค่
ประปรายเพียงหนึงถึงสองตัว แต่ปีนี กลับทะลักออกมาทีเดียวเป็ นหมืนเป็ นพันตัว นี มันจะเป็ นเรื องทีน่ า
เหลือเชือจนเกินไปแล้ว
โดยเฉพาะพวกงูนาตั
ํ วใหญ่ยกั ษ์พวกนัน อย่างน้อยทีสุ ดพวกมันก็ตอ้ งมีอายุสิบขวบปี แล้ว หลายปี มานี ไม่เคย
ปรากฏตัวแล้วทําไมถึงโผล่ตวั ออกมากันในวันนี ได้ ทังยังรัดและกัดผูค้ นอย่างบ้าคลัง......
ใบหน้าของเขาคล้ายยิมคล้ายไม่ยมจ้
ิ องมองมาทีแท่นศาลาแล้วค่อย ๆ ปล่อยม่านลงอย่างช้า ๆ ช่วงเวลาทีม่านปั ด
มุกกําลังตกลงนัน เขาปรายตามองมาทีมู่หรงเสวียอยูค่ รู่ หนึง แววตาสี ดาํ ขลับของเขาวูบไหวไปด้วยความ
โหดเหี ยมและอันตรายทีมู่หรงเสวียเห็นแล้วต้องหรี ตาลง ฉิ นเฮ่าเหยียนมีพิรุธ !
“ข้าไม่เป็ นไร” มู่หรงเสวียส่ ายหน้า มองไปทางเขาตาไม่กะพริ บ “เจ้าล่ะ ?” เมือครู่ งูตวั นันเป็ นงูทีมีพิษร้ายแรง
คุณชายโอวหยางทีคว้าจับมันไว้ไม่รู้วา่ ได้รับบาดเจ็บบ้างหรื อไม่
มู่หรงเสวียเช็ดเลือดพิษทีมุมปากของตนเองแล้วถลึงตามองไปทีเขา “งูนาตั
ํ วนันมีพิษร้ายแรง ถ้าหากไม่ดูดพิษ
ออกมา เจ้าก็จะไม่รอด !” พิษร้ายถึงแม้ว่าจะดูดออกไปไม่นอ้ ยแล้ว แต่ว่าพิษทีหลงเหลืออยูใ่ นตัวของเขาก็ไม่
อาจจะดูเบาได้เลย......
“วางใจได้ ข้าไม่มีทางตายแน่ นอน !” นําเสี ยงทุม้ นุ่มของคุณชายโอวหยางไพเราะดังเสี ยงพิณ ดวงตาสี ดาํ ขลับ
ของเขาวูบไหวไปด้วยความหยิงทะนง เขานันเป็ นถึงคุณชายเซี ยวเหยาอ๋ อง ไม่มีทางตายเพราะว่างูพิษตัวเล็ก ๆ
แน่นอน......
“ม่อเป่ ยมีตวั ยาลับชนิดหนึง มีชือเรี ยกว่าเฟิ งหมอตาน (ยาบ้าคลัง) ไม่ว่าจะเป็ นสัตว์ชนิ ดอะไรเพียงแค่ได้กินยา
ชนิ ดนีเข้าไป ก็จะมีอาการบ้าคลัง พวกบรรดาชนชันสู งของม่อเป่ ยชอบใช้มนั กับเสื อดาว งูและสัตว์ป่าชนิ ดต่าง
ๆ นา ๆ เพือให้พวกมันต่อสู ้กนั เพือความบันเทิง”
ซ่งเทียนเหวินร้อนใจยิงนักบังเอิญมองเห็นมู่หรงเสวียเข้าด้วยความไม่ตงใจ
ั ทันใดนันแววตาก็เปล่งประกายวูบ
ไหว “เสวียเอ๋ อร์ ข้าขอร้องเจ้าช่วยชิงเหยียนด้วยเถอะ......”
ซ่งเทียนเหวินหนังตากระตุก “เจ้าหมายความว่าอย่างไร ?”
“อืม !” มู่หรงโหรวพยักหน้าออกแรงดันมือไปทีพืนคิดอยากทีจะลุกขึนนัง
แววตาของมู่หรงเสวียวูบไหวดึงเอาเข็มเงินบนหลังมือของคุณชายโอวหยางออกมาแล้วลากเขาวิงออกไป
ด้านหน้าอย่างรวดเร็ ว “ไป ไป ไปเร็ วเข้า พวกเราไปดูชมเรื องราววุ่นวายกันเถอะ !”
ใบหน้าเรี ยวของมู่หรงโหรวกลายเป็ นสี ซีดขาว ใช่แล้ว ไม่ว่าจะพูดเหตุผลอะไร นางก็ได้เสื อมเสี ยเกียรติทาํ เรื อง
ขายหน้าต่อเทียนเหวินไปแล้ว แต่ว่านางไม่อยากจากสามีและลูกสาวทีนางรักไป......
ทันใดนันมู่หรงโหรวก็หลุดออกจากภวังค์ เบิกตากว้างมองไปทีสามคนครอบครัวทีเหมือนกําลังหลุดเข้าไปใน
โลกส่ วนตัวไม่สนใจคนรอบข้างแม้แต่น้อย แววตาเต็มไปความตืนตกใจและไม่อยากจะเชือ “เทียน...เทียนเหวิน
...นีมันเรื องอะไรกัน”
ทําไมอยู่ ๆ เขาถึงได้มีลูกชายตัวโตขนาดนีโผล่ออกมาได้
นําเสี ยงสอบถามเสี ยงสันดังเข้าหู ทันใดนันซ่ งเทียนเหวินก็หลุดจากภวังค์ หันหน้ามองไปทีมู่หรงโหรวทีมี
ร่ างกายแข็งทือเหมือนดังก้อนหิ น แววตาของเขาวูบไหวไม่เป็ นธรรมชาติเล็กน้อย กล่าวเสี ยงตํา “เรื องก็มาถึงขัน
นีแล้ว ข้าก็จะไม่ปิดบังเจ้าอีกต่อไป ก็อย่างทีเจ้าเห็น จิงเอ๋ อร์ เป็ นบ้านน้อยของข้า เสี ยวป๋ อเป็ นลูกของพวกเราทัง
สอง......”
ฮะ ๆ เขาถึงกับอดรนทนทีจะหย่ากับนางไม่ไหวแล้วไปแต่งกับหญิงอืนมากถึงขนาดนี !
แววตาของจิงเอ๋ อร์ วบู ไหว นางยิมขึนรับคําพูดของเขา “ใช้แล้วเจ้าค่ะพีสาว พีสาวโปรดวางใจได้ จิงเอ๋ อร์ จะดูแล
ชิงเหยียนให้เหมือนกับลูกของตัวเอง ดูแลและรักใคร่ นางอย่างดี......”
“อืม !” จิงเอ๋ อร์ พยักหน้าน้อย ๆ ใบหน้าเรี ยวเล็กขึนสี แดงกํา แววตาวูบไหวด้วยความได้ใจ หลายปี มานีนางล้วน
คาดหวังมาโดยตลอดว่าโหวเหย่จะพานางเข้าจวนอู่อนั โหวไปเป็ นอีเหนี ยง คาดไม่ถึงว่าฝันนันจะกลายเป็ นจริ ง
แล้ว ทังยังให้นางไปเป็ นจีซืออีก ช่างเป็ นเรื องน่ายินดีเกินจากทีความวาดหวังไปมากนัก......
“ตกลง” คุณชายโอวหยางพยักหน้าหยิบเอาตะเกียบไม้ไผ่ขนมาคี
ึ บกับข้าว แต่ไม่คาดว่าเพิงจะคีบขึนมาได้เพียง
ครู่ เดียวก็ตกกลับลงไปทีเดิมเสี ยแล้ว
“พิษงูเมือครู่ นนช่
ั างร้ายกาจนัก มือซ้ายของข้ารู ้สึกอ่อนแรงจนไม่สามารถใช้แรงได้......”
นีมู่หรงโหรวกําลังคิดจะไปทีใดกัน
แต่จิงเอ๋ อร์ ทีได้เห็นนัน ร่ างกายของนางสันไหว อุม้ เสี ยวป๋ อไปแอบทีด้านหลังของซ่ งเทียนเหวิน ท่าทาง
หวาดกลัวของนาง ทําให้ผคู้ นทีได้เห็นต้องใจอ่อนยวบยาบ !
“การตัดสิ นใจของโหวเหย่นนปราดเปรื
ั องนัก เพียงแต่ชิงเหยียนยังเล็กนักคงไม่สามารถจัดการดูแลสิ นเดิมได้
โหรวเอ๋ อร์ จึงอยากนําเอาใบรายการสิ นเดิมรวมถึงสัญญาของร้านรวงทังหมดกลับเอาไปด้วย จะได้จดั การดูแล
ด้วยตนเองไปพลาง ๆ รอจนชิงเหยียนแต่งให้ผคู ้ นค่อยนําร้านรวงทีนางควรได้รับมอบกลับไปให้นาง ไม่ทราบ
ว่าโหวเหย่คิดเห็นเช่นไร ?” มู่หรงโหรวพูดเน้นทีละคําแววตาวูบไหวด้วยความหนักแน่นจริ งจัง
“เสี ยวป๋ อ เสี ยวป๋ อ......” จิงเอ๋ อร์ ร้องเรี ยกขึนเสี ยงแหลมแววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจและหมดหวัง
ฆ่านางอย่างนันหรื อ ช่างไม่เจียมตนยิงนัก !
เสี ยวป๋ อนอนอยูบ่ นหน้าอกของนาง ดวงตาของเขาปิ ดสนิ ท บริ เวณศีรษะเต็มไปด้วยเลือดสี แดงสด นอนหายใจ
รวยริ น ลมหายใจค่อย ๆ แผ่วเบาลงทีนอ้ ย ทีละน้อย......
ร่ างกายสูงใหญ่กลิงไปกลิงมาบนพืนแข็งจนกระแทกเข้ากับโต๊ะไม้แดงจนของว่าง นําชาและเหล้าเลิศรสทีอยูบ่ น
โต๊ะกลิงตกลงกับพืน ถ้วยชากับจอกเหล้าทีลําค้าตกกระทบพืนจนแตกกระจาย นําชากับเหล้าผสมปนเปเข้า
ด้วยกันไหลเจิงนองไปทัวพืน......
เมือมองไปทีศาลาแปดเหลียมทีกําลังลุกโชนไปด้วยเปลวไฟทีโหมกระหนําและอบอวลไปด้วยควันไฟที
หนาแน่ น รวมถึงมนุษย์ไฟสามคนทีดินรนคลุกคลานอยูใ่ นกองไฟไปมา ทันใดนันซ่ งเหล่าฮูหยินก็เบิกตากว้าง
ขึน กรี ดร้องเสี ยงดังขึนอย่างตกใจ “เทียนเหวิน...เสี ยวป๋ อ......”
มู่หรงโหรวยิม ยิมขึนอย่างเย็นเสี ยงเรี ยกเสี ยวป๋ อนัน ฟังดูเสี ยใกล้ชิดสนิทสนม แม่สะใภ้ทีแท้กร็ ู ้อยูแ่ ต่แรกแล้ว
ว่าซ่ งเทียนเหวินแอบเลียงบ้านน้อยเอาไว้ อีกทังยังมีลูกนอกสมรส แต่นางไม่เพียงไม่บอกตัวนางกลับยังไปมี
ความสัมพันธ์ทีสนิทชิดเชือกับลูกนอกสมรสผูน้ ี ลับหลังนางอีก นางกับซ่ งเทียนเหวินล้วนเป็ นพวกเดียวกันรวม
หัวกันปิ ดบังเรื องราวต่อนางเอาไว้ตงเก้
ั าปี เต็ม ๆ......
แววตาของมู่หรงโหรววูบไหวไปด้วยความเย็นยะเยือก นางเดินออกไปด้านหน้าขวางทางของบรรดาสาวใช้
เอาไว้ “ไม่ว่าใครก็หา้ มเข้าใกล้ตวั ศาลา......”
“ไม่ใช่ !” มู่หรงโหรวโกหกหน้าตาย
“หุ บปาก เทียนเหวินเป็ นอู่อนั โหว เป็ นเจ้านายของจวน บรรดาสาวใช้ลว้ นเป็ นคนรับใช้ของเขา ไม่ตอ้ งพูดแค่ว่า
ถูกไฟลวกจนได้รับบาดเจ็บเพราะเขา ถ้าสังให้ตายเพือเขาก็ลว้ นแต่สมควรทังนัน เจ้ารี บหลีกไป อย่าได้ขวางทาง
!” ซ่ งเหล่าฮูหยินตวาดขึนเสี ยงดัง ถลึงตามองไปทีบรรดาเหล่าสาวใช้ “รี บไปช่วยเขาสิ !”
“เรี ยนฮูหยินเฒ่า จิงเอ๋ อร์ กบั คุณชายน้อยสิ นใจแล้ว แต่โหวเหย่ยงั มีทางรอดเจ้าค่ะ......” เสี ยงพูดตอบกดตําของ
สาวใช้ดงั เข้าหู ซ่ งเหล่าฮูหยินรู ้สึกเหมือนมีบางสิ งระเบิดในหัว ความรู ้สึกนึ กคิดกลายเป็ นว่างเปล่า หลานชาย
ของนาง หลานชายอายุแปดขวบทีน่ารักของนาง ต้องมาตายลงเช่นนี นะหรื อ......
เมือครู่ นนนางก็
ั นึกถึงเรื องนี ได้แต่แรกแล้วถึงได้กล้าลงมือกับซ่ งเทียนเหวินภายใต้สายตาของผูค้ นมากมาย ลูก
ชายทีเป็ นตายไม่ชดั เจนผูห้ นึ ง กับหลานชายทีกําลังดินอยูใ่ นท้องถ้าให้เปรี ยบเทียบกันขึนมา แน่นอนว่า
หลานชายจะต้องสําคัญกว่า ขอเพียงเด็กยังอยูใ่ นท้องของนาง ซ่ งเหล่าฮูหยินไม่มีทางคิดเอาชีวิตของนางแน่ นอน
ตอนที 160 ทุบตีม่ ูหรงโหรว (2)
ซ่งเทียนเหวินพยักหน้าถีรัว “ไม่...ไม่ผิด......”
นางมองไปทีท้องฟ้ าแล้วหัวเราะขึนเสี ยงดัง แต่งเข้าจวนอู่อนั โหวมาสิ บห้าปี นางเป็ นวัวเป็ นม้ามาสิ บห้าปี ถ้า
หากไม่มีนาง จวนอู่อนั โหวไม่มีทางรุ่ งโรจน์ได้ถึงเพียงนี ถ้าหากไม่มีนางจวนอู่อนั โหวไม่มีทางมังคังได้ถึงขนาด
นี !
มองไปทีตัวเรื อนทีดูหรู หราทังยังอยูใ่ นทีมิดชิด แล้วค่อย ๆ มองไปทีศพของเสี ยวป๋ อทีอยูไ่ ม่ไกลกันนัก ทันใด
นันสี หน้าของมู่หรงเจียนก็มืดครึ มเสี ยจนดูน่ากลัว ซ่ งเทียนเหวินมีบา้ นน้อยลับหลังโหรวเอ๋ อร์ อีกทังบ้านน้อย
ยังให้กาํ เนิดลูกชาย ช่างเลวร้ายทีสุ ด !
บรรดาสาวใช้เมือรับทราบถึงความต้องการของนาง ต่างพากันพุ่งตรงไปทีมู่หรงเจียนอย่างดุดนั
จะขัดขวางเขา ช่างไม่เจียมตนยิงนัก !
เมือมองไปทีสายตาเปล่งประกายแวววาวของนาง แววตาของคุณชายโอวหยางก็เจือปนไปด้วยรอยยิมเล็กน้อย
เขาลุกขึนเดินไปทีด้านหน้าของนางจับมือเรี ยวของนางเอาไว้แล้วเดินออกไปด้านหน้า “มู่หรงโหรวกับซ่ งเทียน
เหวินล้วนได้รับบาดเจ็บ เร็ ว ๆ นี คงยังไม่สามารถลงมือต่อกันและกันได้ เจ้าก็อย่าได้เอาความสนใจไปไว้ทีตัว
พวกเขาให้มากนัก......”
มู่หรงเสวียพยักหน้าอย่างพอใจแล้วหันมองไปทีคุณชายโอวหยาง แววตาของนางวูบไหวด้วยความหมันเขียว
แล้วยืนถังหู ลู่ไปทีปากของเขา “รสชาติอร่ อยนัก เจ้าลองชิมดูสิ !”
ตอนที 162 คุณชายได้ รับบาดเจ็บ
ผลซันจาสี แดงสดทีถูกเคลือบด้วยนําตาล ดูแวววาว ช่างล่อตาผูค้ นนัก คุณชายโอวหยางทีมองมาได้แต่ส่ายหัว
น้อย ๆ “ข้าไม่ชอบกินถังหู ลู่ !”
ฆ่านางอย่างนันเหรอ ช่างไม่เจียมตน !
คุณชายโอวหยางพยักหน้าตอบรับ “ตกลง !”
“ดีขนหน่
ึ อยแล้ว” คุณชายโอวหยางกล่าวขึนด้วยนําเสี ยงราบเรี ยบ
ดวงตาสี ดาํ ขลับดังอัญมณี ของคุณชายโอวหยางหรี เล็กลง “เป็ นฉิ นเฮ่าเหยียนส่ งมาใช่หรื อไม่”
“ฟ้ าว !” สายลมแหลมคมทีรุ นแรงสายหนึ งพัดผ่านประตูหอ้ งทีเปิ ดออกกว้าง เพียงพริ บตาก็กลายเป็ นปิ ดสนิท
เสี ยง ‘ปั ง’ ดังขึนเสี ยงหนึ งขวางกันมู่หรงเย่เอาไว้ดา้ นนอก เสี ยงร้องขึนอย่างเจ็บปวดดังขึนมาจากด้านนอก “ไอ้
หยา จมูกของข้า......เกือบถูกกระแทกจนหักแล้ว......”
มู่หรงเสวียเงียบงัน “......”
แววตาของคุณชายโอวหยางวูบไหวเล็กน้อย มู่หรงเยว่นนถนั
ั ดวิชาดาบกับการวางแผนการรบมากทีสุ ด ไม่ผดิ
เลยทีเป็ นพ่อลูกกัน “เช่นนันก็หมายความว่าวิชาดาบของเจ้านันก็ไมธรรมดาสิ นะ”
มู่หรงเย่ยนื อยูด่ า้ นในฝุ่ นควัน เก็บดาบเข้าฝักอย่างคล่องแคล่วดูชาํ นิ ชาํ นาญ ดวงตาสี ดาํ ขลับของเขาวูบไหวเปล่ง
ประกายไปด้วยความหนักแน่นและมุ่งมันอย่างทีไม่เคยเป็ นมาก่อน !
ในเรื อนเวินโหรว มู่หรงโหรวนอนห่ มผ้าหลับสนิทอยูบ่ นเตียง ดวงตาของนางปิ ดสนิท ใบหน้าเรี ยวซี ดขาวไร้
รอยสี เลือด กระถางธูปตรงมุมห้องโชยไปด้วยกลินหอมสดชืนจาง ๆ ตลบอบอวลไปทัวทังห้อง แต่ว่าก็ยงั คงมี
กลินจาง ๆ ของคาวเลือดทีคล้ายมีคลายไม่มี
“ข้าก็พอจะรู ้ว่ามันต้องเป็ นเช่นนี !” แซ่ ตูก้ ล่าวเสี ยงตํา ฟาดมือลงไปบนโต๊ะ โหรวเอ๋ อร์ จุดไฟเผาบ้านน้อยกับลูก
นอกสมรสจนตายไม่พอ ยังเผาซ่ งเทียนเหวินไปด้วย จวนอู่อนั โหวไม่มีทางยอมปล่อยเรื องนี ไปง่าย ๆอย่าง
แน่นอน “รู ้หรื อไม่ว่าอาการบาดเจ็บของซ่ งเทียนเหวินเป็ นเช่นไรบ้าง”
“เจ้าพูดจามีเหตุผล” แซ่ ตูพ้ ยักหน้าเห็นด้วย หลังจากทีจีเอ๋ อร์ ฝึกฝนรําเรี ยนจนประสบความสําเร็ จและมีอาํ นาจอยู่
ในมือแล้ว แน่ นอนว่าจะสามารถกดข่มซ่ งเทียนเหวินได้ อีกทังยังสามารถแย่งชิงตําแหน่งเจินกัวโหวมาได้อย่าง
ง่าย ๆ ถือว่าเป็ นการยิงปื นนัดเดียวได้นกสองตัว แต่วา่ “ปี นี ไม่ใช่ปีทีรับสมัครทหารใหม่ ตามค่ายทหารล้วนไม่
รับทหารใหม่ เจ้าจะทําให้จีเอ๋ อร์เข้าค่ายทหารได้อย่างไรกัน”
“ถึงคุณชายตระกูลอืนจะไม่ยอมแต่งหยวนฟางเฟย เช่นนันทําไมท่านพีไม่ให้นางแต่งเข้าจวนเจินกัวโหวเล่า !”
แซ่ โจวกล่าวยิมตาหยีเสนอความคิดเห็น แววตาวูบไหวเปล่งประกาย
แววตาของมู่หรงเจียนวูบไหว “ความหมายของเจ้าคือ......”
แต่ดูท่าทางของน้องหญิงแล้วเหมือนกับว่าไม่ได้มีความคิดความรู้สึกเช่นนันเลย แต่เหตุใดนางถึงยอมให้คุณชาย
โอวหยางนอนอยูใ่ นห้องของนางได้เล่า......
มู่หรงเย่เงยหน้ามองไปเห็นมู่หรงจีเดินเข้ามาด้วยท่าทางหยิงยโส หางตาเต็มไปด้วยความถือดี !
คนโง่งมไม่ว่าจะฝึ กอย่างไรก็ไม่มีทางจะฉลาดขึนมาได้ !
แววตาของมู่หรงจีวูบไหวไปด้วยความอํามหิ ตยืนมือออกไปผลักมู่หรงเย่......
ตอนที 169 ทําชัวได้ ชัว (1)
ิ ก !” มู่หรงเสวียพยักหน้าด้วยรอยยิมสดใส หยวนฟางเฟยกับนางไม่มีความแค้นอะไรต่อกัน
“ยินดี ยินดียงนั
แน่นอนว่าตัวนางจะต้องต้อนรับนางอย่างดี
เมือมองไปทีเงาร่ างของเขาทีค่อย ๆ ไกลออกไป แววตาของแซ่ โจวก็วบู ไหว แล้วกล่าวขึนเสี ยงสู ง “แม่ทพั หยวน
เดินทางตอนกลางคืนไม่ค่อยปลอดภัยนัก ท่านรอพาบุตรสาวกลับไปพร้อมกันเถิด” พาหยวนฟางเฟยจากไป
ด้วยกันก็จะได้ไม่สามารถรังแกจีเอ๋ อร์ ของนางได้อีก
พอถึงตอนนัน ถ้าพวกเขามาร้องห่ มร้องไห้พดู จาใส่ ไฟ จีเอ๋ อร์ มิใช่กลายเป็ นคนไร้ยางอายทีทําให้ผอู ้ ืนเสื อมเสี ย
เกียรติแล้วไม่ยอมรับผิดชอบไปหรอกหรื อ ชือเสี ยงเหม็นโฉ่ ดงั กระฉ่ อนไปทัวเมืองหลวงไหนเลยจะมีคุณหนู
จากตระกูลอืนยอมแต่งกับเขาอีก
ความหนาวเหน็บเย็นยะเยือกปรากฏขึนในแววตาของมู่หรงเสวีย “ใครน่ ะ ?”
ตอนที 172 ฉินยวีเยียนวางแผนร้ าย
“หมายความว่าอย่างไร ?” เย่อเฉิ
ี นมองไปทีนางอย่างไม่เข้าใจ
แววตาของมู่หรงเสวียวูบไหวไปด้วยความหนาวเหน็บเย็นยะเยือก ร่ างของนางกําลังจะตกลงบนพืนอย่างช้า ๆ
แต่ไม่คาดว่าช่วงทีกําลังจะตกถึงพืนนัน ใต้เท้าของนางกลับว่างเปล่า เพียงพริ บตาร่ างบอบบางก็ร่วงตกลงไปใน
กับดัก ในกับดักด้านล่างสุ ดนันเต็มไปด้วยเหล็กแหลมทีทังคมทังยาว......
ควันพิษยิงรวมตัวกันยิงเยอะ ยิงรวมตัวยิงหนาแน่น ควันสี ขาวค่อย ๆ กลายเป็ นสี เทาแล้วค่อย ๆกลายเป็ นสี ดาํ
ฉิ นยวีเยียนทีได้เห็นดังนันต้องขมวดคิวแน่ น อยูด่ ี ๆ เหตุใดมู่หรงเสวียจะต้องรวบรวมเอาควันพิษมากมายขนาด
นีควบรวมเข้าด้วยกันด้วย จริ ง ๆ แล้วนางทําไปเพืออะไรกันแน่
นักฆ่าโลหิ ตทมิฬทีว่าก็คือการเอาคนทีตายไปแล้วฝังเอาไว้ในดินแล้วใช้มนต์คาถากํากับลงไปบนตัวพวกเขา ขอ
แค่ผทู ้ ีเป็ นคนใช้มนต์เรี ยกอัญเชิญขึนมาพวกมันก็จะปรากฏออกมาจากพืนดินทันที ไม่ว่าพบเห็นใครก็จะลงมือ
เข่นฆ่าสังหารไม่มีเว้น
แววตาของมู่หรงเสวียวูบไหวแล้วขัยบเท้าเบา ๆ เบียงกายหลบดาบยาวของนักฆ่าชุดดําทีกําลังพุ่งเข้ามาได้อย่าง
พอดิบพอดีแล้วสวนฝ่ ามือกลับไปฝ่ ามือหนึงออกแรงตีไปทีร่ างของนักฆ่าชุดดําอย่างแรง พริ บตาดาบยาวในมือ
ของนักฆ่าชุดดําก็พ่งุ ตรงแทงเข้าไปทางฉิ นยวีเยียนทันที......
ื อออกไปคว้าดาบยาวทีตกอยูบ่ นพืนแล้วแทงมันเข้าไปทีหัวใจของมู่หรงเสวียจากทาง
เพียงพริ บตา นางก็ยนมื
ด้านหลัง......
เหมือนฉิ นยวีเยียนได้ยนิ เสี ยงระเบิดในหัว เพียงพริ บตาสมองก็พลันขาวโพลนไปเสี ยหมด เป็ นเช่นนี ไปได้
อย่างไรกัน มันจะเป็ นเช่นนี ไปได้อย่างไร ! อีเฉิ นเป็ นของนาง เหตุใดถึงไปชอบพอมู่หรงเสวียได้ !
ในใจของมู่หรงเสวียยกยิมเย็นขึน คํามันสัญญาของเย่อเฉิ
ี นนางนันไม่ตอ้ งการและก็ไม่อยากทีจะได้มนั ด้วย
ตอนนีนางคิดเพียงแต่ว่าทําเช่นไรถึงจะสามารถพรากเอาชีวิตของฉิ นยวีเยียนไปได้เพียงเท่านัน......
วิธีการจัดการของนางช่างคล้ายคลึงกับการจัดการเรื องราวของเขายิงนัก !
คุณชายโอวหยางโอบมู่หรงเสวียแล้วเลียวเข้าถนนอีกสายหนึงจนทิงห่ างเย่อเฉิ
ี นออกไปไกล !
“เจ้า......ชัดเจนว่าเจ้าไม่ได้สนใจหลักการเหตุผลอะไรทังนัน !” มู่หรงเสวียถลึงตามองคุณชายโอวหยางด้วยความ
โมโห ชัดเจนว่านางกําลังปฏิเสธไม่ให้เย่อเฉิ
ี นเข้าใกล้ แต่ในสายตาของคุณชายโอวหยางนันกลับกลายเป็ นว่าเขา
เห็นว่านางกับเย่อีเฉิ นกําลังพลอดรักกันอย่างดูดดืม ไม่ว่านางจะอธิบายเช่นไรเขาก็ลว้ นไม่ยอมทีจะรับฟัง “ข้า
นันขีเกียจจะอธิบายให้เจ้าฟั งแล้ว......”
“ใครโวยวาย แขนก็เป็ นของข้า จะใส่ ยาหรื อไม่ ข้าล้วนเป็ นคนทีตัดสิ นใจ” มู่หรงเสวียพูดขึนอย่างดุดนั พยายาม
ใช้แรงทีจะดึงมือกลับ
ํ ่นทีมีความร้อนกําลัง
แขนแกร่ งแขนหนึงยืนเข้ามาโอบไหล่ของนางไว้ พยุงร่ างของนางขึนมา พร้อมกับมีนาอุ
พอดียนมาจ่
ื อทีปากของนาง ฉิ นยวีเยียนจิบมันเข้าไปอย่างช้า ๆ
ความร้อนจากนําอุ่นค่อย ๆ แผ่ซ่านไปสู่ หัวใจ ความรู ้สึกนึ กคิดทีพร่ ามัวของฉิ นยวีเยียนค่อย ๆ ฟื นคืนขึนมา นาง
ค่อย ๆ ลืมตาขึน กลินอายทีมีเฉพาะผูช้ ายกระทบเข้ากับจมูก นางค่อย ๆ เงยหน้ามองไปพอดีเห็นเข้ากับใบหน้า
หล่อเหลาหาใดเปรี ยบของเย่อเฉิ
ี น
เขาดูแลนางมาตลอดทังคืน !
“ดีขนมากแล้
ึ ว” ฉินยวีเยียนกล่าวขึนอย่างเบิกบานใจ บาดแผลบนใบหน้าและศีรษะก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรอีก
ต่อไปแล้ว
“เจ้าเป็ นถึงองค์หญิงม่อเป่ ยทีมีฐานะสู งส่ งแล้วจะให้ขา้ ลดฐานะของเจ้าเป็ นอนุ ได้อย่างไร” เย่อีเฉิ นกล่าวขึนเสี ยง
ดังตัดบทคําพูดของนาง แววตาของเขาเต็มไปด้วยประกายแห่ งความมืดมิด
เช่นนันฉิ นยวีเยียนรี บกล่าวขึนอย่างรวดเร็ ว “ข้าไม่สนใจ ขอเพียงข้าได้อยูข่ า้ งกายเจ้าเท่านัน อะไรข้าก็ลว้ นไม่
สนใจ !”
แซ่ โจวมองไปทีหยวนฟางเฟย แล้วสบถขึนอย่างไม่พอใจ “จีเอ๋ อร์ ชอบกินของหวาน ข้าทีเป็ นแม่กเ็ ลยเตรี ยมให้
เขาเสี ยเยอะหน่ อย มีตรงไหนทีไม่ถกู ต้องกัน”
หยวนฟางเฟยยืนขึนอย่างพึงพอใจแล้วกล่าวขึนยิมตาหยี “ขอบพระคุณท่านแม่”
“ข้าไม่นงรถม้
ั า......” เย่อีเฉิ นมองไปทีรถม้านําเสี ยงเคร่ งขรึ ม
“จิงอ๋ องไม่ตอ้ งอธิบายแล้ว ท่านอ๋ องกับองค์หญิงฉิ นรักใคร่ ชอบพอกัน นางนังบนรถม้าของท่านก็เป็ นเรื องที
สมควรแล้ว” มู่หรงเสวียตัดบทคําพูดของเขาเสี ยงเย็น ดวงตาเย็นชาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ก็รู้อยูว่ ่านางกับ
ฉิ นยวีเยียนเป็ นศัตรู คู่แค้นต่อกัน แล้วยังจะให้พวกนางสองคนไปนังบนรถม้าคันเดียวกันอีก เขาคิดว่าพวกนางยัง
ประมือกันรุ นแรงดุเดือดไม่พออีกหรื อ
“แม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้” คุณชายโอวหยางปฏิเสธข้อเสนอของนางอย่างไร้เยือใย
ใบหน้าเรี ยวงามของมู่หรงเสวียค่อย ๆ มืดครึ มลง “ไม่วางก้อนนําแข็งเอาไว้เช่นนี เจ้าไม่รู้สึกร้อนอย่างนันรึ ”
ส่ วนนางนันถูกไอร้อนจนจะทนไม่ไหวอยูแ่ ล้ว
คุณชายโอวหยางปรายตามองเม็ดเหงือทีผุดออกมาจากหน้าผากของนางแล้วกล่าวขึนอย่างเรี ยบ ๆ “ตามสบาย !”
แขนยาวของคุณชายโอวหยางยืนออกมาโอบเข้าทีเอวของนางแล้วดึงเอาตัวนางเข้ามาไว้ทีข้างกาย ฝ่ ามือหยก
ประทับลงไปทีแผ่นหลังของนาง พลังปราณอันหนาแน่นกลายเป็ นไออุ่นสายแล้วสายเล่า เพียงชัวพริ บตาก็
แผ่ซ่านไปทัวทังร่ างของนาง
นางยืนมือไปผลักโต๊ะไม้แดงออกไปด้านข้าง แล้วเอนกายพิงลงไปทีข้างกายของคุณชายโอวหยาง
เขาโอบไหล่ของนางเพือทีจะพลิกตัวนางให้นอนหันไปทางด้านขวาแล้วกอดนางเข้ามาในอก แหวนหยกสี นม
แพะล่วงออกมาจากในเสื อของนางตกลงบนชุดส่ วนนอกของคุณชายโอวหยาง
ในรถม้านันยังคงเงียบเชียบไม่มีเสี ยงตอบรับแต่อย่างใด
“เส่ าเฉิ น (ชือคุณชายโอวหยาง)” เสี ยงเรี ยกกดตําดังขึน ชายผูห้ นึงเดินอาด ๆ เข้ามา ใบหน้าของเขาหล่อเหลา
ดวงตาเปล่งประกายคมกริ บ นีคืออดีตจิงอ๋ อง
“อดีตจิงอ๋ อง” คุณชายโอวหยางเรี ยกขึนเสี ยงเบาด้วยท่าทางเรี ยบเฉย
ดวงตาคมกริ บของอดีตจิงอ๋ องค่อย ๆ หรี เล็กลง ทุก ๆ ปี วังเซี ยวเหยาอ๋ องกับวังจิงอ๋ องจะตามเสด็จมาทีพระราชวัง
ฤดูร้อนด้วย ในเขตพระราชฐานมีทีสร้างเอาไว้อยูอ่ ย่างชัดเจน เรื อนสวนกล้วยไม้เป็ นทีพักของวังจิงอ๋ อง ส่ วน
เรื อนสวนไผ่กเ็ ป็ นทีพักของวังเซี ยวเหยาอ๋ อง
มู่หรงเสวียเบิกตากว้างขึนมองไปทางเขาอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจนัก “เจ้าจะทําอะไรน่ ะ”
“ข้าลืมบอกเจ้าไปว่ายังมีเวลาเหลืออยูอ่ ีกสองเค่อ เจ้าไม่จาํ เป็ นทีจะต้องเร่ งรี บนัก” นําเสี ยงทุม้ ดังขึน เป็ นคุณชาย
โอวหยางทีเดินเข้ามาอยูด่ า้ นหน้าของฉากกัน เขามองมาทีนางด้วยท่าทางเรี ยบเฉย ดวงตาสี ดาํ ขลับดังอัญมณี ดู
กระจ่างชัดแหลมคมผิดปกติ แต่กไ็ ม่ได้มีความคิดเกินเลยแฝงอยูแ่ ต่อย่างใด
เมือมองไปทีมู่หรงเสวียทีเปลียนโฉมใหม่ มุมปากของคุณชายโอวหยางก็ยกยิมอย่างยากทีจะได้พบขึนสายหนึ ง
เขาวางถ้วยชาลงแล้วลุกยืนขึน “เวลาก็ไม่นอ้ ยแล้วพวกเราไปเข้าร่ วมงานเลียงกันเถอะ”
“ตกลง” มู่หรงเสวียตอบรับขึนอย่างอารมณ์ไม่ดี แล้วหมุนกายก้าวอาด ๆ ออกไปด้านนอก......
ตังแต่เช้าลานกว้างทีกว้างใหญ่นนก็
ั ถูกปั ดกวาดทําความสะอาดจนเรี ยบร้อย อีกทังยังจัดสร้างอัฒจันทร์ ทีสู งตํา
ไม่เท่ากัน อัฒจันทร์ ทีสู งทีสุ ดนันมีเก้าอีทองคําทีดูโดดเด่นน่ ายําเกรงจัดวางไว้อยู่ เป็ นเก้าอีทีใช้สาํ หรับฮ่องเต้
และฮองเฮาโดยเฉพาะ
อัฒจันทร์ ทงสองข้
ั างทีตําลงมาหน่อยเป็ นทีนังของบรรดาพระสนม องค์ชาย ท่านอ๋ องและบรรดาคุณชาย
ทังหลาย
เก้าอีทีทําจากไม้ซวนจือมู่นนถู
ั กแกะสลักอย่างประณี ตงดงามนัก ทําให้ผคู ้ นต้องหยุดมองค้างอยูเ่ สี ยครู่ หนึง
ด้านหน้าของเก้าอีมีโต๊ะยาวตัวหนึ งวางตังไว้อยู่ ด้านบนมีของหวานและผมไม้หลากหลายชนิ ดทีดูสดใหม่น่ากิน
วางเรี ยงรายไว้ ด้านในกาเหล้าสี เงินมีกลินหอมทีทําให้ผคู ้ นรู ้สึกเมามายโชยออกมา ต่างอดไม่ได้ทีจะนําลายสอ
เมือมู่หรงเสวียหันหน้ามองไปก็เห็นเย่อเฉิ
ี นกับคุณชายโอวหยางกําลังเดินตามกันเข้ามา ใบหน้าหล่อเหลาหาใด
เปรี ยบ ฐานะสูงส่ งเกินอาจเอือม ทําเอาเหล่าบรรดาคุณหนูทีได้เห็นนันพากันใจเต้นตาลาย หัวใจคล้ายกับกวาง
น้อยทีกําลังวิงพล่านไปมา พากันจับกลุ่มกันพูดคุยกันอย่างตืนเต้น......
มู่หรงเสวียเองก็นงลงตามผู
ั ค้ น สายตาของนางมองไปทีฮ่องเต้ทีประทับอยูบ่ นอัฒจันทร์ ปี นีฮ่องเต้มีพระ
ชนมพรรษาใกล้จะ 40 พรรษาแล้ว แต่ว่าพระวรกายของพระองค์ยงั คงสู งใหญ่องอาจเช่นเดิม สี พระพักตร์ กย็ งั คง
ปกติดี ใบหน้าหล่อเหลาสง่างาม บริ เวณระหว่างพระขนงยังคงแฝงไว้ดว้ ยความรู ้สึกทีเข้มงวดดุดนั ดูน่ายําเกรง
“เชิญ !” ฮ่องเต้ทรงผายมือเชือเชิญอย่างใจกว้าง
มู่หรงเสวียยกยิมเย็น มารดาของนางมีความรู ้เรื องพิณหมากพู่กนั ภาพวาด แล้วนางก็จาํ เป็ นจะต้องรู ้ดว้ ยหรื อ
อย่างไร นี มันตรรกะผุพงั อะไรกัน แซ่ เฉิ นจากโลกนี ไปตังแต่เจ้าของร่ างเดิมอายุเพียงสี ขวบ ต่อให้ทกั ษะทางพิณ
หมากพู่กนั ภาพวาดนันจะลําเลิศกว่านีเพียงใด แต่กไ็ ม่มีทางถ่ายทอดให้เจ้าของร่ างเดิมได้นี !
ซูหนานเซี ยงรู ้ชดั ว่านางไม่ได้เรี ยนรู ้อะไรมาจากแซ่ เฉิ นเลยแม้แต่น้อย แต่กย็ งั จะให้ตวั นางไปร่ วมร่ ายบรรเลง
เพลงพิณเป่ าขลุ่ยกับนางด้วย เห็นได้ชดั ว่าต้องการเห็นนางขายหน้า......
สายตาเยียบเย็น นิวเรี ยวงามทังสิ บของนางเร่ งดีดพิณเร็ วรัว ทํานองผันแปรฉับพลัน เสี ยงพิณแหลมสู งชวนให้คน
ฟังจิตใจฮึกเหิ ม สี หน้าตืนเต้นจนเลือดในกายพลุ่งพล่าน......
เสี ยงดนตรี ทีนางเป่ านันแม้จะไพเราะ แต่อย่างไรเสี ย เสี ยงเพลงนันก็ดงั มาจากใบไม้เน่า ๆ ใบหนึ งเท่านัน ก็
เหมือนกับอาชาสวรรค์ทีวิงวนไปมาบนฟ้ าอยูเ่ ช่นนัน วุ่นวายไร้ระเบียบ ไม่มีรูปแบบตายตัว แต่นางกลับยังกล้า
เอามาแสดงให้ขายหน้าถึงทีนี น่ าหัวเราะเสี ยจริ ง เมือเทียบกับเสี ยงพิณของตนแล้วยังห่ างไกลอีกหนึงแสนแปด
พันลี ยกนี ดูท่าว่ามู่หรงเสวียจะต้องพ่ายแพ้แน่นอน......
นีมันเรื องอะไรกัน ?
ซูหนานเซี ยงขมวดคิวแน่น ในขณะทีนางกําลังจะเอ่ยถามขึนนันก็ได้ยนิ เพียงเสี ยง “พึบพับ ๆ” ดังขึนเรื อย ๆ อีก
ครัง นกตัวเล็ก ๆ สี สวยสดตัวแล้วตัวเล่าต่างบินเข้ามาในลานกว้าง แล้วบินไปทางมู่หรงเสวีย......
“ไม่ได้ยนิ ......”
มู่หรงเสวียยิมน้อย ๆ “ฮองเฮาทรงกล่าวชมเกินไปแล้วเพคะ !”
ในหัวของมู่หรงเสวียพลันปรากฏภาพของเหล่านักฆ่าทีน่ากลัวสยดสยองทีปรากฏตัวขึนในจวนร้างวันนัน แวว
ตาอันปราดเปรื องค่อย ๆ หรี เล็กลง คนของหนานเจียงนันลึกลับ อีกทังยังชอบทําของแปลก ๆ ขึนมา หนอน
ตะขาบเอย พิษเอย ล้วนเป็ นสิ งทีพวกเขาชืนชอบทีสุ ด
ชายผูน้ นไม่
ั สนใจต่อการจ้องมองของผูค้ น เขาเดินตรงไปทีด้านหน้าของอัฒจันทร์ ค่อย ๆ โค้งกายลง “ชางฉง
ถวายบังคมฝ่ าบาท !” นําเสี ยงอันไพเราะสง่างามแฝงด้วยความแหบแห้งน้อย ๆ ดังขึน ทําให้ผคู ้ นทีได้ยนิ ต่างพา
กันเคลิบเคลิม
หยวนฟางเฟยทีได้ฟังก็เบิกตากว้างมองไปทางเขาตาไม่กะพริ บ “ทีแท้เขาก็คือชางฉง !”
มู่หรงเสวียเพียงแค่ยมออกมาน้
ิ อย ๆ เห็นว่ารอบกายของชางฉงเต็มไปกลินอายของความมืดมิดอันหนาแน่น
ขนาดนี แค่ดูกร็ ู ้วา่ เขาเป็ นคนทีมีพรสรรค์เกียวกับเรื องราวในเงามืด ความโหดเหี ยมและป่ าเถือนล้วนเป็ นนิสัย
ของคนเช่นพวกเขา ไม่มีทางทีอารมณ์และนิ สัยจะดีได้ !
ชางฉงสนใจในตัวมู่หรงเสวีย เช่นนันนางก็จะบอกถึงฐานะและสถานะทังหมดของมู่หรงเสวียให้ชางฉงได้รู้ คน
เจ้าเล่ห์ร้ายกาจเช่นชางฉงจะต้องใช้วิธีชวร้
ั ายมาช่วยนางกําจัดศัตรู หวั ใจคนนีให้พน้ ทางแน่นอน......
ชางฉงมองไปทีมู่หรงเสวีย ยิมของเขามีความเจ้าเล่ห์มากกว่าเดิม “ทีแท้กเ็ ป็ นคุณหนูจวนเจินกัวโหวนี เอง
เช่นนันพรุ่ งนีข้าจะไปทีเมืองหลวงของชิงเหยียน เข้าคารวะผูอ้ าวุโสด้วยตัวเอง ขอให้พวกเขาอนุ ญาตให้ขา้ รับเจ้า
เป็ นอนุ......”
เมือมองไปทีคิวทีขมวดแน่นเข้าหากันของเขา แววตาของขุนนางบุ๋นบู๊รวมไปถึงบรรดาครอบครัวต่างวูบไหวไป
ด้วยความดูถกู เหยียดหยาม เขาทีถูกตีจนได้รับบาดเจ็บจนแทบจะกระอักเลือดขนาดนี ก็ถือเป็ นเรื องทีสมควร
แล้ว ! ดูสิว่าต่อไปนี เขายังจะกล้าทําตัวอวดดีอยูอ่ ีกหรื อไม่ !
ดวงตาสี นาตาลของชางฉงกลายเป็
ํ นสี แดงกํา ในดวงตาปรากฏความอํามหิ ตขึนจาง ๆ พวกเจ้ากลับกล้าหัวเราะ
เยาะเขาเช่นนี ช่างรนหาทีตายนัก !
มู่หรงเสวียไม่มีกะจิตกะใจทีจะไปสนใจกลินเหล้ามากนัก นางยังคงจ้องมองไปยังทิศทางทีชางฉงหายลับไป
ดวงตาอันแหลมคมพลันหรี เล็กลง ในใจรู ้สึกถึงลางสังหรณ์ทีไม่ดี......
แววตาของบรรดาคนประหลาดวูบไหวเปล่งประกาย พวกเขาพากันควบคุมงูไม้ให้บินพุ่งทะยานลงไปด้านล่าง
ดาบในมือเปล่งประกายอย่างเยียบเย็น ฟาดฟันไปทีเหล่าบรรดาขุนนางและเหล่าครอบครัว จนเกิดเป็ นสายเลือด
ทีสาดกระเซ็น......
แววตาของบรรดาคุณหนูและเหล่าฮูหยินทีไม่เป็ นวรยุทธ์นนต่
ั างเต็มไปด้วยความตืนตระหนก พากันวิงพล่าน
วุ่นวายไปมารอบทิศทาง กรี ดร้องหวาดกลัวด้วยท่าทางทีน่ าสงสารจับใจ “ช่วยด้วย...ช่วยข้าด้วย......”
เหล่าทหารองค์รักษ์ทีดูแลความสงบเรี ยบร้อยต่างพากันเร่ งรี บกรู เข้ามา ชักดาบออกต่อกรกับฝูงคนประหลาด
พวกนัน ทัวทังลานกว้างพริ บตากลายเป็ นชุลมุนวุ่นวาย......
เมือครู่ นนเขายั
ั งบ่มเพาะศัตรู คแู่ ค้นเอาไว้อีกหลายคน แน่ นอนว่าจะต้องทําให้พวกเขาตกตายไปอย่างอเนจอนาถ
ทีสุ ด แม้แต่คนเดียวก็ไม่ให้เหลือ !
การโจมตีรูปแบบกองโจรทําให้เหล่าบรรดาทหารองครักษ์ทีมีกระบวนดาบทีดีและมีวรยุทธ์สูงส่ งได้แต่มองดู
พวกเขาเพราะไม่สามารถทีจะทําอะไรได้ ทําได้เพียงแค่รอคอยให้พวกเขาเข้าไปสังหาร ศพสูงใหญ่ร่างแล้วร่ าง
เล่าล้มลงกระแทกกับพืนเสี ยงดังไม่หยุดหย่อน เลือดสี แดงสดไหลทะลักออกมาจากบาดแผลไหลเจิงนองไปทัว
พืน......
างพากันพุ่งไปยัง
พวกคนประหลาดเมือเห็นว่าวิธีนีได้ผล ต่างก็ทาํ ตามกันไปเรื อย ๆ กรงเล็บของงูไม้ทงสองข้
ั
เหล่าหญิงสาวทีอ่อนแออย่างไม่ปรานี
จับนางอย่างนันหรื อ ไม่ประมาณตน !
สมนําหน้า !
“บึม บึม บึม !” ของสิ งนันพอตกลงถึงพืนก็ระเบิดออกในทันใด เศษฝุ่ นผงฟุ้ งกระจาย ควันโขมงคละคลุง้ ไปทัว
บริ เวณ พืนดินถูกระเบิดจนเกิดเป็ นหลุมขนาดใหญ่ กลินดินระเบิดทีเข้มข้นคละคลุง้ ลอยโชยไปในอากาศอย่าง
รวดเร็ ว !
เมือได้ฟังนําเสี ยงทีไม่มนใจของทั
ั งสองคนแล้ว ทีหว่างคิวของคุณชายโอวหยางก็ไม่ปรากฏร่ องรอยแห่ งความ
หนักใจเลยแม้แต่นอ้ ย เขาเหลือบตามองงูไม้ครู่ หนึงแล้วหันหน้ามองไปทางมู่หรงเสวีย “เจ้าอยากได้กีตัว”
งูไม้เมือขาดคนควบคุมก็ค่อย ๆ ลอยตกลงไปด้านล่าง......
เมือกล่าวจบหยวนฟางเฟยก็ยนมื
ื อคว้าจับไปทีงูไม้ ไม่คาดว่า หางงูนนจะหนั
ั กเกินไป จนนางไม่สามารถทีจะคว้า
จับมันเอาไว้อย่างมันคงได้ ได้ยนิ แต่เสี ยง “ปั ง” ดังขึนเสี ยงหนึ ง หางงูตกลงไปบนพืนเศษไม้แตกกระจาย
ออกเป็ นชิน ๆ......
งูไม้เมือไร้คนบังคับก็ค่อยควําตกลงไปทีพืนด้านล่าง......
เสี ยงดินระเบิดห่ อแล้วห่ อเล่าระเบิดดัง “บึม บึม บึม” อยูท่ ีด้านนอกกําแพงหิ น เศษหิ นแตกกระจาย เศษดินฝุ่ น
ลอยฟุ้ ง ทังสองไม่สนใจเหตุการณ์ทีเกิดขึนด้านนอก หยิบจับเอางูไม้มาแยกส่ วนจนสุ มกันเป็ นกองเป็ นพัลวัน
ทันใดนันดินระเบิดห่ อหนึ งก็หล่นลงบนกําแพงหิ น เสี ยงระเบิดดัง “ปั ง” ขึนมาเสี ยงหนึ ง กําแพงหิ นทีแข็งแกร่ ง
ถูกระเบิดเป็ นเศษซากจํานวนนับไม่ถว้ น กระจายออกไปทัวทังสี ทิศ ภายในกําแพงหิ นทีกําลังยุง่ วุ่นวายกลับ
กลายเป็ นเงียบสงบลงในพริ บตา .......
หยวนฟางเฟยเบิกตากว้าง “นีมัน.....งูแปดหาง !”
“บึม !” เสี ยงห่ อดินระเบิดระเบิดขึนไม่ไกล เศษหิ นแตกออกเป็ นเสี ยง ๆ ฝุ่ นฟุ้ งตลบไปทัว
แววตาเยือกเย็นของมู่หรงเสวียหรี ลงเล็กน้อย “ฟางเฟย รี บขึนมา เราจะรี บไปจัดการเจ้าชางฉงทีโหดเหี ยม
อํามหิตนันกัน”
เมือยิงบินรัศมีการบินของมู่หรงเสวียก็ยงกว้
ิ างมากขึน พวกบรรดาคนประหลาดชุดดําและงูไม้ทีพุ่งเข้ามาหาพวก
ิ อยลง นางยืนอยูบ่ นหลังงูไม้ยกั ษ์ กวาดตามองไปทีพวกบรรดางูไม้ตวั แล้วตัวเล่าทีลอยอยูบ่ นฟ้ า เริ ม
เขาก็ยงน้
ค่อย ๆ มองเห็นสุ ดขอบของพวกมันแล้ว เช่นนันมุมปากก็ยกยิมอย่างยากทีจะได้พบขึน......
มู่หรงเสวียคิดจะฆ่าเขา มันไม่ได้ง่ายดายขนาดนันแน่ !
ั อัน แล้วท่อนไม้ก็
“ได้เลย !” หยวนฟางเฟยพยักหน้า หยิบเอาดินระเบิดห่ อแล้วห่ อเล่าแยกใส่ ไปในรางไม้ทงสี
ค่อย ๆ ปิ ดลง ทันใดนันหางของงูก็กลับเป็ นราบเรี ยบปกติดงั เดิม
วิชากระบีทีเชียวชาญ ศาสตร์ ดา้ นการแก้พิษ รวมถึงศาสตร์ ดา้ นกลไก ในทุก ๆ ครังทีเขาพบกับนาง ต่างก็จะได้
พบเจอกับความสามารถอันสู งส่ งลําลึกของนาง นางเป็ นหญิงฉลาดทีน้อยนักจะได้พบในแผ่นดิน ไม่ว่าเรื อง
อะไรก็ตามเมือได้เรี ยนเพียงแวบเดียวก็สามารถทําได้ นางยังมีความสามารถอะไรทีเขาไม่รู้อยูอ่ ีกบ้าง.......
ได้ยนิ เสี ยง “ฟ้ าว ฟ้ าว” ดังขึนอย่างต่อเนื องครู่ หนึง ห่ อดินระเบิดพริ บตาพุ่งออกจากท้องงูไปห่ อแล้วห่ อเล่า
กระแทกเข้ากับก้อนทรงรี สีขาวทีพุ่งเข้ามาโจมตีอย่างรุ นแรง ระเบิดลานกลไปทัวทังสี ทิศแปดทาง ทําให้ลานกล
ทีลอยอยูบ่ นท้องฟ้ าระเบิดเป็ นเศษซากกระจายไปทัว แล้วค่อย ๆ พากันร่ วงหล่นลงไปสู่ พืนด้านล่าง.......
“แน่นอนว่าไม่“ มู่หรงเสวียส่ ายหัว พูดช้า ๆ ขึนทีละคํา ๆ ว่า “ขอแค่ทาํ ลายจุดทีปล่อยลูกธนู ได้ ทําให้มนั ไม่อาจ
ยิงลูกศรออกมาได้อีก พวกเราก็สามารถเข้าไปจับคนได้แล้ว......”
ฆ่าเขางันหรื อ ช่างไม่เจียมตน !
“นียังต้องบอกอีกหรื อ ถ้าหากเจ้ามีกลไกทีใช้ในการโจมตีป่านนีก็คงโจมตีจนพวกเราตายหมดแล้ว
ไหนเลยจะยังพูดพรําอยูบ่ นงูไม้ผุพงั ตัวนันกระตุน้ ให้พวกเราพุ่งเข้าไปโจมตีอยูเ่ ช่นนี !” มู่หลิวเฟิ ง
ปรายตามองเขาตาหนึง ในดวงตาเรี ยวงามดังลูกท้อเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
“คงอยากจะให้พวกเราตกตายไปพร้อมกัน !” หัวหน้ากองทหารอวีหลินจวินกล่าวขึนมาลอย ๆ
อะไรนะ ! ตกตายไปพร้อมกัน ?
ชางฉงโกรธแค้นจนต้องกัดฟันแน่น หางตาเห็นว่าหัวหน้ากองทหารอวีหลินจวินเดินไปทีขอบลาน
กลฟันตาข่ายยักษ์จนขาด แล้วปล่อยหยวนฟางเฟยและองครักษ์เงาทังสามออกมา มู่หรงเสวีย
คุณชายโอวหยาง เย่อีเฉิน เย่เทียนฉี ทงสี
ั คนค่อย ๆ พากันเดินรวมตัวเข้ามา แววตาวูบไหวไปด้วย
ความหนาวเหน็บเย็นยะเยือก
“เจ้าถลึงตามองอะไรกัน” หยวนฟางเฟยก้าวอาด ๆ เข้ามา ยกหมัดขึนต่อยเข้าไปทีหน้าอกของชางฉง
แรง ๆ จนเขาล้มลงไปกับพืน เสี ยงอักดังขึนมาเสี ยงหนึง เขากระอักเลือดสี แดงสดออกมาคําหนึง......
ขอแค่สามารถลงไปถึงพืนได้ก็พอแล้ว จะให้นงงู
ั ไม้ตวั ไหนก็ไม่เป็ นไร
คนอืน ๆ เองก็มีความคิดเช่นเดียวกัน ไม่มีเสี ยงคัดค้านใด ๆ ออกมา
จะมีใครเข้ามาช่วยนางบ้างไหม
นีนางกําลังจะตกลงไปกระแทกพืนจนตายเช่นนีน่ะหรื อ
ฉิ นยวีเยียนสบถขึนอย่างเหยียดหยาม “แล้วมันต่างกันตรงไหน”
ชางฉงนําพากองกําลังลอบบุกโจมตีถึงพระราชวังฤดูร้อนจนลานกว้างถูกทําลายเป็ นหลุมบ่อเละเทะ
ทําร้ายขุนนางบุ๋นและเหล่าบรรดาหญิงสาวชันสูงจนได้รับบาดเจ็บล้มตายเป็ นจํานวนมาก ทังยัง
เกือบทําให้ฮ่องเต้ได้รับบาดเจ็บ พระองค์ไม่มีจิตใจทีจะไปพักผ่อนแล้ว !
มีเพียงการรวบรวมกองทัพบุกประชิดแคว้นหนานเจียงแล้วทําลายเมืองหลวงของหนานเจียงให้ราบ
คาบเท่านัน ถึงจะสามารถระบายความแค้นในใจเขาได้ !
ั ใ้ หญ่ก็เดินตามฮ่องเต้ออกไปด้านนอก พวกเขานัน
ฮองเฮา เหล่าพระสนม รวมถึงขุนนางบุ๋นบู๊ชนผู
ตามขบวนเสด็จองค์เหนือหัวมาทีพระราชวังฤดูร้อน เมือฝ่ าบาทมีพระประสงค์ทีจะกลับเมืองหลวง
แน่นอนว่าพวกเขาก็จะต้องตามกลับไปพร้อมกันด้วย
ข้อเสนอของฉิ นยวีเยียนนันล้วนแล้วแต่ไม่ได้คิดหวังดีอะไร
มู่หรงเสวียสบถขึนในใจอย่างเหยียดหยาม จ้องมองนางด้วยสายตาเย็น “ขอบคุณองค์หญิงฉิ นที
ห่วงใย พีชายของข้าเป็ นนายทหารในกองทัพ แน่นอนว่าเขาจะต้องรับผิดชอบต่อหน้าทีอย่างสุ ด
ความสามารถ เขาจะไปเจียงหนานหรื อไม่ก็ตอ้ งดูทีความต้องการของแม่ทพั จางแล้ว ข้าไม่สามารถ
ไปตัดสิ นใจอะไรได้ และข้าก็ไม่อยากไปแทรกแซงเรื องของเขามากนัก !”
มู่หรงเสวียคร้านทีจะไปสนใจนางอีก นางเงยหน้ามองไปยังด้านหน้า
“พวกเรากลับเมืองหลวงเถอะ”
“พรึ บ พรึ บ พรึ บ !” เสี ยงสายลมเสี ยดสี กนั ดังขึนเบา ๆ คนร้ายชุดดําสิ บกว่าคนปรากฏกายขึนมาจาก
อากาศธาตุ ปลายกระบีพุ่งแทงเข้าไปทีมู่หรงเสวีย คุณชายโอวหยางและเย่อีเฉิน
เมือสายตาเห็นคุณชายโอวหยางกับมู่หรงเสวียเดินเคียงข้างกันออกไปนอกลานกว้าง หยวนฟางเฟ
ยก็กระชากปกเสื อด้านหลังของมู่หรงจีไว้ เหมือนกับกําลังลากจูงสิ งของสิ งหนึงก็ไม่ปาน ลากเขา
ออกไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ ว “เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว พวกเราก็กลับเมืองหลวงกันเถอะ !”
คนทีนางรู้จกั ล้วนพากันกลับเมืองหลวงไปแล้ว นางอยูท่ ีนีต่อไปก็คงไร้ความหมาย กลับไปพร้อม
กันกับพวกเขาจะดีกว่า !
“อีเฉิ น ดวงตาของข้า...มองไม่เห็นอะไรอีกแล้ว......ในเวลานีไม่มีใครยอมทีจะแต่งงานกับข้าอีก
แน่นอน ถ้าแม้แต่เจ้ายังไม่ดูแลข้า ข้าก็คงจะต้องใช้ชีวติ อยูอ่ ย่างโดดเดียวเดียวดาย อยูเ่ พียงลําพังไป
ทังชีวิตเป็ นแน่แท้แล้ว......” ฉินยวีเยียนสะอืนเอ่ยออกมาเบาๆ หยาดนําตาดังไข่มุกไหลริ นออกมา
ผ่านผ้าพันแผลสี ขาว ไหลอาบลงมาตามแก้มของนาง
แววตาของเย่อีเฉินวูบไหว “วิธีการอะไร”
“เหตุใดจึงต้องการดวงตาของคนเช่นนี”
“คงไม่มีเรื องอะไรหรอก” แซ่ โจวส่ ายหัว คนทีได้รับบาดเจ็บ องค์ชายสี ก็ลว้ นส่ งคนไปปลอบขวัญ
หมดแล้ว ไม่ได้มีคนมาแจ้งข่าวทีจวนเจินกัวโหว เห็นได้ชดั ว่าจีเอ๋ อร์นนไม่
ั เป็ นอันตราย.....
นีนาง......ตกเข้ามาในหลุมพลางของเย่อเฉิ
ี นแล้ว !
แววตาอันแหลมคมเย็นชาของมู่หรงเสวียกวาดมองไปทีทหารแต่ละคน สุ ดท้ายสายตาก็ตกไปทีร่ าง
ของเย่อีเฉิ นทียืนอยูไ่ ม่ไกล แววตาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม “นีคือสถานทีทีจิงอ๋ องต้องการ
‘เชิญ’ ข้ามาหรื อ ช่างเป็ นสถานทีทีน่ากลัวนัก ข้าทีไม่เชือคําหวานของจิงอ๋ องแล้วยอมตามมาทีนี
อย่างง่าย ๆ นับว่าเป็ นการกระทําทีถูกต้องแล้ว......”
ดวงตาเหยียบเย็นของมู่หรงเสวียคล้ายดังศรแสงพุ่งตรงไปทีเย่อีเฉิ น “เจ้าลงทุนลงแรงล่อข้ามาทีนี ก็
เพือทีจะควักดวงตาข้าไปให้ฉินยวีเยียนเช่นนันน่ะหรื อ”
“เสวียเอ๋ อร์......”
“พวกเจ้าต้องการจะควักดวงตาของข้าไปมอบให้นาง แล้วองค์รัชทายาทฉินคิดว่าข้าสมควรจะทํา
เช่นไรดีเล่า” มู่หรงเสวียเลิกคิวขึนมองไปทีเขา แววตาของนางเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
แววตาของมู่หรงเสวียวูบไหว “ง่ายมาก......”
แววตาของมู่หรงเสวียวูบไหวอย่างเย็นยะเยือก นางยืนมือจับเข้าไปทีข้อมือขององครักษ์เงาแล้วชัก
นําให้มีดในมือของเขาพุ่งตวัดฟันไปทีดวงตาของฉิ นยวีเยียน ได้ยนิ เสี ยง ‘ฉัวะ’ ดังขึนสี ยงหนึ ง
ผ้าพันแผลสี ขาวทีอยูต่ รงดวงของฉิ นยวีเยียนฉี กขาด เลือดสี แดงสดสาดกระจายไปออกมาในอากาศ
......
เช่นนันดวงตาของนางก็เปล่งประกายขึนทันที แล้วแอบเข้าไปทีด้านหลังภูเขาจําลองอย่างรวดเร็ ว
อาศัยการบดบังของภูเขาจําลองกระโดดลงไปในสระนํา......
แย่แล้ว พวกเขาตามมาทันแล้ว !
“ข้าจะต้องจับนักโทษผูน้ นให้
ั ได้” ฉินเฮ่าเหยียนกล่าวขึนเสี ยงตํา แววตาคมกริ บ “คุณชายโอวหยาง
เตรี ยมทีจะส่ งมอบคนออกมา หรื อว่าจะให้ขา้ บุกเข้าวังเซี ยวเหยาอ๋ องจับนักโทษด้วยตัวเอง......”
รนหาทีตายนัก !
“รู้แล้วน่า !” มู่หลงเสวียมองเขาอย่างเกียงงอนและเดินเข้าไปทีหลังม่านกัน
ตอนทีคุณชายโอวหยางเข้าไปหลังฉากกัน ก็เห็นว่านางเอาศีรษะเอนพาดไปบนขอบบ่อนําร้อน
กําลังหลับไหลอย่างไม่รู้สึกตัว เส้นผมดําสนิทแผ่สยายดังม่านนําตกกระจัดกระจายอยูด่ า้ นหลัง
ใบหน้าเรี ยวเล็กอันงดงามถูกไอร้อนอบจนแดงระเรื อ ขนตาพริ มสวยงอนยาวราวกับผีเสื อจนทอด
ยาวเป็ นเงาลงไปทีขอบตา ท่าทางหลับสนิทดูสุขสบายของนางนันทําให้ผคู้ นไม่อาจหักใจทีจะ
ล่วงเกินได้
ตอนที 215 อบอุ่นละมุนละไม
กลีบดอกไม้สีแดงแผ่กระจายคลุมรูปร่ างอรชรแน่งน้อยของนาง ไหล่กลมกลึงทีโผล่ขึนมาเหนือนํา
ผิวคอละเอียดราวกับกระเบือง ความเปล่งปลังทีมีเฉพาะวัยเด็กสาว
“เจ้าแช่นามาแล้
ํ วเป็ นชัวยาม ไม่มีความเคลือนไหวใดๆ ข้ากลัวเจ้าจะเป็ นอะไรไป ก็เลยเข้ามาดู”
คุณชายโอวหยางกวาดตามองนางผ่านๆ เพียงครู่ หนึง นัยน์ตามีแววเย้ยหยันอยูน่ อ้ ยๆ ขนาดในอ่าง
อาบนํานางยังหลับลงได้.......
เขารู้มานานแล้วว่านางนันไม่ชอบการดืมยา เขาจึงได้สงให้
ั คนเคียวปรุ งยาทีใช้เป็ นประจําให้เป็ นยา
เม็ด แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้ใช้วนั นี
เย่อีเฉิ นทีได้เห็นก็มีสีหน้าเคร่ งเครี ยด พูดเสี ยงเคร่ งขรึ มว่า “คุณชายโอวหยาง เรื องของข้า ไม่ใช่
กงการทีเจ้าต้องมาถาม”
อะไรนะ ? จับนางไม่ได้ !
“นีมัน...บาดแผลลุกลามแล้ว !” หมอเบิกตากว้างอย่างตืนตระหนก
อู๋เหิ นถอยออกไปอย่างรู้ความ
เมือมองออกไปไกลๆ ก็เห็นด้านนอกของจวนเจินกัวโหวมีกลุ่มคนจํานวนมากกําลังยืนมุงดูอะไรอยู่
เช่นนันนางก็ขมวดคิวขึนอย่างไม่เข้าใจนัก นีมันเกิดอะไรขึนหรื อ
มู่หรงเสวียไม่สนไหวแม้
ั แต่นอ้ ย นางเพียงกล่าวขึนอย่างช้าๆ “เป็ นเช่นนีเอง...เช่นนันข้าจะให้คนไป
แจ้งแม่ของเจ้า ให้นางมาออกหน้ารังตัวเจ้าไว้......”
เช่นนันตัวนางก็ไม่มีทางให้มู่หรงเสวียได้สมใจหวัง !
“เช่นนันเจ้าก็ควรทีจะมอบเทียบขอเข้าพบทีหน้าประตูจวนโหว หลังจากทีได้รับอนุญาตแล้วก็คอ่ ย
เข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย แต่ไม่ใช่เหมือนดังเช่นตอนนีทีแอบกระโดดเข้ามา คล้ายกับพวกขโมยย่องเบา
......”
เช่นนันมู่หรงเสวียก็ปรายมองไปทีคุณชายโอวหยาง “เจ้าพาองครักษ์เงามาด้วยหรื อ”
“มีสวินเฟิ งตามมาด้วย” คุณชายโอวหยางกล่าวขึนอย่างเรี ยบๆ ใช้นิวมือทําสัญลักษณ์ขึนในอากาศ
เพียงพริ บตาสวินเฟิ งก็ปรากฏขึนทีด้านข้างกายเขา
“องครักษ์เงากองนีเดิมทีสร้างขึนเพือเอาไว้ใช้ในการทําสงคราม มีความสามารถทีไม่ธรรมดานัก
เมือเทียบกับองครักษ์เงาโดยทัวไปแล้ว พวกเขาร้ายกาจมากกว่าหนึงถึงสองขัน พ่อของเจ้านันมี
ฐานะเป็ นผูบ้ ญั ชาการของพวกเขาและยังเป็ นผูบ้ ญั ชาการเพียงหนึงเดียวของพวกเขา......”
เสนาบดีเซี ยกล่าวขึนเสี ยงตํา มองไปทางมู่หรงเสวีย แววตาวูบไหวด้วยความจริ งจังทีน้อยนักจะมีให้
เห็น
กลุ่มองครักษ์ทีร้ายกาจขนาดนันถ้าหากแยกย้ายกันกลับบ้านเกิดเมืองนอนของแต่ละคนไปก็นบั ว่า
เป็ นเรื องดี จะกลัวก็แต่วา่ พวกเขาจะตกไปอยูใ่ นมือของคนทีมีจิตใจโหดเหี ยม แล้วบีบบังคับให้พวก
เขาไปทําเรื องชัวๆ ด้วยความสามารถทีไม่ธรรมดาของพวกเขา แน่นอนว่าจะกลายเป็ นภัยพิบตั ิของ
แผ่นดิน......
“ไม่ได้เป็ นเช่นนัน” เก๋ อฮุยส่ ายหน้า “ฮูหยินเป็ นผูม้ อบดาบกับแผ่นหยกให้กบั เสี ยวโหวเหย่ (ขุนนาง
ชันโหวทีอายุยงั น้อย ในทีนีหมายถึงมู่หรงเย่) ตอนออกเดินทัพเมือช่วงเช้า เสี ยวโหวเหย่ก็ได้พกพวก
มันไปทีสนามรบด้วยขอรับ......”
“มีขา้ รู้ เฉิ งกัวกงรู้ ท่านตาของเจ้าก็รู้ ส่ วนเรื องจะมีคนอืนรู้อีกหรื อไม่นนั ข้าก็ไม่กระจ่าง......” เซี ย
เสนาบดีเซี ยพูดเบาๆ
ชายผูน้ นถู
ั กบีบจนได้แต่รับมือ ไม่มีจงั หวะทีจะหาช่องทางสวนกลับได้ จําต้องถอยร่ นออกไปเรื อยๆ
ทําได้แต่เพียงคอยรับกระบวนท่าด้วยความเกรี ยวกราด เขาคํารามขึนมาเสี ยงหนึง พริ บตาก็ดึงดาบที
กําลังใช้ประมือกลับไป แล้วพุ่งแทงไปทีชายชุดดําอีกครัง
ฆ่าเขาหรื อ ไม่เจียมตน !
ดวงตาของคนชุดดําฉายแววสงสัยยืนมือออกไปจะคว้าจับทีเขา แต่ไม่คาดว่าจะมีคนชุดดําอีกสอง
คนปรากฏขึนมาจากอากาศธาตุ ดาบทีอยูใ่ นมือเปล่งแสงวูบไหว ใช้มนั พุ่งแทงมาทีพวกเขาอย่าง
โหดเหี ยม......
นางไม่เคยพบของชินนันมาก่อน ไม่รู้วา่ มันมีรูปร่ างเป็ นอย่างไร จะเป็ นเหลียม จะเป็ นทรงกลม หรื อ
เป็ นแผ่นบางๆ ไม่รู้วา่ มันเป็ นไม้ เป็ นเหล็ก เป็ นกระเบืองหรื อว่าเป็ นหยก ยิงไม่รู้อีกว่ามันไปตกอยู่
ณ ทีใด อยากจะหามันให้เจอก็เหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร......
เมือมองไปทีใบหน้าทีงํางอลงของนาง แววตาของคุณชายโอวหยางก็เจือปนไปด้วยรอยยิมน้อยๆ
แล้วกล่าวขึนเรี ยบๆ “ถ้าของชินนันลําบากนักทีจะหา เหตุใดเจ้าไม่ลองหาพวกองครักษ์เงาพวกนันดู
เล่า ขอเพียงแค่หาพวกเขาพบ ก็จะรู้วา่ ของชินนันมีรูปลักษณ์เป็ นอย่างไรไม่ใช่หรื อ”
เมือเวลาผ่านไปอากาศในปอดของมู่หรงเสวียก็ยงน้
ิ อยลง ในหัวรู้สึกพร่ ามัว หายใจติดขัดไม่ทนั อยู่
หลายครัง ลมหายใจอันแผ่วเบากลายเป็ นหอบถีรัว......
“มือของท่านอาผูน้ นมี
ั หนังหนาๆ หยาบๆ เต็มไปหมด หว่างคิวก็แผ่รังสี ไอสังหารของผูท้ ีเคยรุ กไล่
บนสนามรบ แต่วา่ ไอสังหารนันเบาบางลงไปมากแล้ว เห็นได้ชดั ว่า เขาออกจากค่ายทหารมานาน
หลายปี บวกกับโรคลมชักของเขา คงทําให้ไม่สามารถใช้วิชาได้โดยง่าย เขาก็คงเหมือนกับแม่ทพั ลู่
แม่ทพั ชีทีได้รับบาดเจ็บหนักจากสนามรบ เป็ นทหารทีถอดเกราะคืนสู่ทอ้ งนา......” มู่หรงเสวียพูด
ขึนเบาๆ
“คุณชายโอวหยาง !” มู่หรงเสวียหมุนกายหันไปถลึงตามองคุณชายโอวหยาง
แววตาของคุณชายโอวหยางวูบไหว มุมปากยกยิมขึนด้วยรอยยิมทียากนักจะได้พบเห็น......
“พูดแล้วทําตามทีพูดด้วย !” มู่หรงเสวียจ้องเขม็งไปทีเขา
“แน่นอน ข้าเคยหลอกเจ้าเมือไหร่ กนั ” คุณชายโอวหยางยกยิมขึนจางๆ จับกุมไปทีมือเรี ยวของนาง
แล้วลากนางเดินไปทางวังเซียวเหยาอ๋ องช้าๆ ลูกกระต่ายตัวนันวิงหนีหายไปจนไร้ร่องรอยแล้ว พวก
องครักษ์เงาถึงแม้วา่ จะหากระต่ายน่ารักมาได้ตวั หนึง แต่ก็ไม่มีทางทีจะเป็ นกระต่ายตัวนัน
“เช่นนันข้าจะต้องไปพักทีใด” มู่หรงเสวียขมวดคิวมองไปทีเขา
แสงอาทิตย์สีทองผาดผ่านหน้าต่างสาดส่องเข้ามากระทบลงบนพืนทีสะอาดสะอ้าน จนเกิดแสง
เปล่งประกายออกมาระยิบระยับ
มู่หรงเสวียถอนหายใจออกมาอย่างอับจนหมดคําพูดจะกล่าว แกะแขนของคุณชายโอวหยางทีกักขัง
เอวของนางเอาไว้ออกเบาๆ แล้วพลิกกายอย่างระมัดระวังหันหลังให้กบั คุณชายโอวหยาง สักพักก็
ค่อยๆ ปิ ดตาลง
“ห้องหนังสื อของพ่อข้า !”
“เจ้าบอกว่าพวกองครักษ์เงาเหล่านันภักดีต่อท่านพ่อของข้ามากไม่ใช่หรื อ ตอนทีพวกเขาซ่อนกาย
ในเงามืดเพือช่วยคุม้ กันท่านพ่อข้า เขาก็ตอ้ งคอยรักษาของชินนันเช่นกัน พอพ่อข้ามาตายในสนาม
รบอย่างกะทันหัน พวกเขาทีเข้าช่วยเหลือไม่ทนั แล้วก็ไม่อยากให้ของชินนันไปตกอยูใ่ นมือของ
ใคร ก็เลยลอบเก็บของชินนันเอาไว้ ส่ งคืนกลับมาทีห้องหนังสื อของท่านพ่อข้า......” มู่หรงเสวียพูด
อย่างเป็ นการเป็ นงาน
“เกิดอะไรขึนกับเจ้ากัน”
“องครักษ์เงา ?” มู่หรงโหรวยําต่อคําพูดของนาง
“เจ้าค่ะ !” สาวใช้นางหนึงรับคําสังแล้วออกไป
มู่หรงโหรวเงยหน้ามองไปทีแม่นมหลี “มู่หรงเสวียออกไปนานแค่ไหนแล้ว”
องครักษ์ทงสองคนลงมื
ั ออย่างรวดเร็ วท่ามกลางกลุ่มของคนชุดดําอย่างไม่มีใครสามารถต้านทานได้
จนรอบบริ เวณเต็มไปด้วยรอยเลือด......
ซวยแล้ว ถูกพบเข้าให้แล้ว !
แต่ไหนแต่ไรมามู่หรงโหรวก็จิตใจโหดเหี ยม ส่ งคนชุดดํามากมายขนาดนันมาขวางทางนาง
แน่นอนว่าต้องการทีจะแย่งชิงสิ งของแล้วค่อยสังหารนางเพือปิ ดปาก แน่นอนว่านางคงไม่ตอ้ ง
เกรงใจมู่หรงโหรวอีกแล้ว
ให้นางก้มหัวขอโทษมู่หรงโหรว ฝันกลางวันอะไรของพวกเขากัน !
มู่หรงโหรวถลึงตามองไปทีมู่หรงเสวียอย่างเกลียดชัง แววตาลุกโชนไปด้วยไฟโกรธจนจะสามารถ
พ่นออกมาเป็ นไฟได้ “มู่หรงเสวียเจ้าอย่าได้ดูถูกข้า......”
สายตาเห็นว่าทังสองกําลังจะเดินไปถึงทีด้านหน้าของพวกเขาแล้ว กําลังจะดึงผ้าโพกหัวของพวกเขา
ลงมา ทันใดนันแววตาของมู่หรงเจียนก็วบู ไหว ร้องกล่าวขึนอย่างเร่ งรี บ “พวกเจ้ายังจะโวยวายอะไร
กันอีก อาหลานเข้าใจผิดกันเกือบจะฆ่ากันตาย ยังขายหน้าผูค้ นไม่พออีกใช่ไหม”
“เช่นนันความหมายของท่านอาสองก็คือ......” มู่หรงเสวียเลิกคิวมองไปทีเขา
เขาสวมเสื อดํา กางเกงสี ดาํ รวมถึงโผกผ้าสี ดาํ ทําให้มู่หรงเสวียทีได้เห็นต้องหรี ตาลง “เขาเป็ น......
องครักษ์เงา......”
วังจิงอ๋ อง
“ใครกล้าแตะต้องน้องชายของข้า !” หยวนฟางเฟยตะคอกพร้อมเดินพุ่งออกมาขวางกันตรงหน้า
ของหยวนเซี ยวเว่ยเอาไว้ สถานทีทีน่ากลัวเช่นคุกของกรมอาญา ขอเพียงได้ยา่ งกรายเข้าไปก็คงโดน
ถลกหนังทิงเป็ นแน่ น้องชายเป็ นผูบ้ ริ สุทธิ นางไม่มีทางให้เขาไปตกระกําลําบากอย่างแน่นอน
เสี ยงกังวานใสของสตรี ดงั แว่วเข้ามา หลิวชิงเฟิ ง แม่ทพั หยวน หยวนฟางเฟย ต่างหันไปมอง สายตา
ก็เห็นเพียงมู่หรงเสวียทีเดินแหวกกลุ่มคนเข้ามาอย่างช้าๆ ชุดยาวสี ขาวราวหิมะของนางสะบัดพลิว
ไหวตามสายลมราวกับปี กผีเสื อ ดูช่างงดงามราวเทพธิ ดา
มู่หรงเสวียยิมออกมาบางๆ “ข้าไม่ได้ตงใจมารบกวนการสอบสวนคดี
ั ของใต้เท้า ข้าเพียงอยากถาม
คําถามเล็กน้อย”
มู่หรงเสวียทีมองดูนนก็
ั เบ้ปากออกมาน้อยๆ นางก็ไม่ได้อยากจะเข้ามาวุน่ วายด้วยเท่าไรนัก แต่ใคร
ใช้ให้เกิดเรื องกับเสบียงทีจะขนไปหนานเจียงกันเล่า กองทัพใหญ่กาํ ลังจะออกไปสู้รบ เสบียง
จะต้องออกเดินทางไปก่อน มู่หรงเย่กาํ ลังสู้รบอยูท่ ีหนานเจียง สิ งทีเขาต้องการมากทีสุ ดก็คือเสบียง
อาหาร ถ้าหากนางไม่หาตัวผูร้ ้ายเผาเสบียงออกมาแล้วล่ะก็ ไม่รู้วา่ เสบียงอาหารทีถูกส่ งออกไปจะ
ถูกเผาอีกกีรอบ มู่หรงเย่ไม่มีขา้ วกิน อดไม่กีมือก็ไม่เป็ นไร แต่ถา้ รบแพ้ แล้วเสี ยชีวิตขึนมาเล่า นีสิ
เรื องใหญ่......
“ก่อนทีเสบียงอาหารจะถูกบรรจุนนก็
ั ได้มีคนใส่ เกล็ดไฟเข้าไปแล้ว ท่านรองเจ้ากรมอาญาหลิวเรี ยก
คนดูแลเรื องเสบียงอาหารมาสอบถามเถอะ ไม่แน่อาจจะเจอตัวผูร้ ้ายก็เป็ นได้......” มู่หรงเสวียเอ่ย
ออกมา แววตาเหยียบเย็นดังนําแข็ง
ชายผูน้ นหั
ั นมองไปทีแขนของตัวเอง ก็เห็นว่ากลางฝ่ ามือของเขาปรากฏเป็ นรอยแดงๆ ทีไม่
เหมือนกับผูอ้ ืนจริ งๆ มันมีสีทีดูคลําๆ เหมือนกับเลือดทีควบแน่นเข้าด้วยกัน......
ลอบโจมตีนางหรื อ ? ไม่เจียมตน !
ชายผูน้ นกั
ั ดฟั นอย่างอดกลันพยายามทีจะลุกขึน ตอนนันได้ยนิ เสี ยง ‘ฟุบ ฟุบ ฟุบ’ ดังขึน ทันใดนัน
ทหารสิ บกว่านายก็มาปรากฏตัวทีด้านหน้าของเขา ดาบยาวในมือฟาดวางลงมาทีคอของเขาอย่างไม่
ปรานี ใบดาบอันคมกริ บแนบชิดไปกับคอของเขา กักขังเขาเอาไว้จนยากจะหลบหนี......
“ยังนับว่าไม่ได้ถูกทําลายลงไปทังหมด !” มู่หรงเสวียเดินออกมาด้านหน้ามองไปทีซากศพนันอย่าง
เรี ยบเฉย “เกล็ดไฟนันมีแหล่งกําเนิดอยูท่ ีหุบเขาหยินซานของหนานเจียง อีกทังหุบเขาหยินซานนัน
ถูกควบคุมดูแลโดยราชวงศ์ของหนานเจียงโดยตรง ชายผูน้ ี ทีสามารถหาเกล็ดไฟจํานวนมากได้
เช่นนี ก็เพียงพอทีจะบ่งบอกได้แล้วว่า เขากับหนานเจียงมีความสัมพันธ์กนั ......”
ไส้ศึกของหนานเจียงถึงกับเล็ดลอดเข้ามาถึงคลังเสบียงของชิงเหยียนได้ และยังแอบใส่เกล็ดไฟเข้า
ไปในเสบียงทหารของชิงเหยียนอีก การเผาเสบียงนันยังนับว่าเป็ นเรื องเล็ก แต่ถา้ หากเขาใส่ ยาพิษลง
ไปล่ะก็ กองทัพสามแสนคนนันก็คงจะถูกพิษของเขาจนตกตายไปทังกองทัพ......
“ใช่แล้วขอรับใต้เท้า...เขาเพิงจะเข้ามาได้ไม่กีเดือน......พวกเราไม่ค่อยได้พดู คุยสนิทสนมกับเขามาก
เท่าไรนัก......”
“ธุระนันสําคัญ เจ้าก็คอ่ ยๆ จัดการไปเถอะ ถ้าหากเป็ นเรื องเร่ งด่วน ก็ไม่จาํ เป็ นต้องไปส่งข้าด้วย
ตัวเองก็ได้.....” มู่หรงเสวียพูดขึนด้วยรอยยิมตาหยี ท่าทางเข้าอกเข้าใจ
“ข้าบอกว่าจะไปส่ งเจ้าเมือใดกัน” ทันใดนันคุณชายโอหยางก็หนั มองไปทีมู่หรงเสวีย ดวงตาสี ดาํ
ขลับของเขาเปล่งประกายมืดมิด อยูๆ่ ก็เพิมเสี ยงสูงทีแฝงไว้ดว้ ยอารมณ์โมโห ทําเอาร่ างของมู่หรง
เสวียกระตุกสันไหวด้วยความตกใจ ถลึงตามองกลับไปทีเขาอย่างอารมณ์ไม่ดี “เวลาข้าเหลือน้อยนัก
จะต้องรี บกลับไปจัดเตรี ยมของทีจวน เช่นนันก็คงไม่ไปกับท่านต่อแล้ว เชิญคุณชายจิบชาไปเถอะ
เจ้าค่ะ !”
นางทีมีท่าทางโง่งมเช่นนี เขาก็ไม่ควรจะไปวาดหวังให้นางเข้าใจความรู้สึกนึกคิดอะไรของเขาอีก
แล้ว......
แสงแวววาวสายหนึงปรากฏเข้าสู่สายตา คุณชายโอวหยางก้มหน้ามองไปเห็นตรงมุมโค้งมุมหนึงมี
ไข่มุกหนานจูเม็ดใหญ่เม็ดหนึงวางแน่หนึงอยูบ่ นพืน
ทีนีมันทีไหนกัน ?
ชายหนุ่มผูน้ นค่
ั อยๆ ยืนมือออกมา เผยให้เห็นกล่องอาหารเล็กๆ ทีดูประณี ต ในกล่องอาหารนันมีนาํ
ถุงหนึง และขนมอีกจานหนึ ง ขนมยังร้อนกรุ่ นจนไอร้อนโชยออกมา น่ารับประทานจนนําลายไหล
........
สายตาเห็นเข้ากับแววตาอันกระจ่างใสคู่หนึง เจ้าของดวงตาคู่นนกํ
ั าลังจ้องมองมาทีนางตาไม่
กะพริ บ ในแววตาอันบริ สุทธินันวูบไหวไปด้วยอาการเหม่อลอยและสับสนน้อยๆ
มู่หรงเสวียมองไปทีเขาอย่างสงสัยแล้วเอ่ยขึน “เจ้ามองอะไรหรื อ”
มู่หรงเสวียเงียบงัน “......”
“ทําไมเล่า” มู่หรงเสวียส่งสายตาไม่เข้าใจ
่ เมือง ทางแยกไปสู่ ภเู ขา ทางแยกไปสู่แม่นาํ แล้วยัง
“ทางสายนีมีทางแยกหลายทาง มีทงทางแยกไปสู
ั
มีทางแยกไปสู่ หน้าผา......” ชายหนุมเอ่ยออกมาเบาๆ
“เมืองทีใกล้ทีสุ ดห่างจากทีนีเท่าใด”
“คงประมาณร้อยลีได้......” ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆ
“ไกลขนาดนันเชียว ?” มู่หรงเสวียขมวดคิว
“แคว้นชิงเหยียนกับแคว้นหนานเจียงกําลังทําสงครามกัน ชาวบ้านใกล้เคียงต่างย้ายหนีกนั ไป
หมดแล้ว ทีนีคือหุบเขาเมิงซาน อยูใ่ นเขตปกครองของหมิงโจว แต่ระยะห่างจากเมืองหมิงโจวอย่าง
น้อยทีสุ ดก็ประมาณเกือบร้อยลี......” ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆ
มู่หรงเสวียพยักหน้าอย่างเข้าใจ กองทัพใหญ่ของชิงเหยียนเพิงจะเคลือนทัพมาถึงชายแดนได้เพียง
แค่ระยะเวลาสันๆ แต่ก็สามารถบุกตีเข้ามาถึงเมืองหมิงโจวของแคว้นหนานเจียงได้ ดูจากรู ปการณ์
แล้ว ความสามารถในการรบของแม่ทพั จางช่างไม่เลวเลยทีเดียว......
‘ฟุบ ฟุบ ฟุบ’ เสี ยงแหวกของสายลมเบาๆ ดังขึน ตัดบทคําพูดของชายหนุ่มเสี ยสิ น คนชุดดําสิ บกว่า
คน พรางหน้าด้วยสี ดาํ สวมหมวกสี ดาํ ปรากฏออกมาจากอากาศธาตุ ดาบยาวในมือวาดออก พุ่งแทง
ไปทีมู่หรงเสวียอย่างโหดเหี ยม......
เมือมองไปทีใบหน้างดงามหยาดเยิมของนาง แววตาของคุณชายโอวหยางก็ฉาบด้วยรอยยิมจางๆ
แขนทังสองข้างดึงนางเข้ามาในอ้อมกอดแน่น ร่ างบอบบางอ้อนแอ้น ให้ความสัมผัสทีนุ่มนิ ม อีกทัง
ยังมีกลินหอมจางๆ ของบัวอัคคีทีโชยเข้าจมูก หัวใจทีเต้นแรงของคุณชายโอวหยางค่อยๆ ผ่อนเบา
ลง ติดตามควานหามากว่าพันลี ในทีสุ ดเขาก็หานางเจอแล้ว “เจ้าไม่เป็ นไรก็ดีแล้ว”
วรยุทธ์ของชายชุดดําผูน้ นสู
ั งลํา อีกทังยังโหดเหี ยมอํามหิ ต นางทีสลบไปตังหลายวันเรี ยวแรงย่อม
ถดถอย หากอาศัยกําลังของนางเพียงคนเดียว ถึงแม้วา่ จะสามารถต่อกรกับชายชุดดําพวกนันได้ แต่ก็
ต้องจ่ายค่าตอบแทนอันแสนแพงกลับไปเช่นกัน ไม่มีทางจะเหมือนกับตอนนีทีปลอดภัยไร้การ
บาดเจ็บใดๆ
กงเชียนอวีไม่ได้สนใจคํากล่าวของคุณชายโอวหยาง เขายังคงจ้องมองไปทีมู่หรงเสวียตาไม่กะพริ บ
ในแววตาสะท้อนเงาร่ างเว้านูนทีชัดเจนของนาง ตังใจทีจะประทับเงาร่ างของนางเข้าไปในหัว......
แววตาทีเหม่อลอยและสนใจของเขา ทําเอาคุณชายโอวหยางทีได้เห็นต้องขมวดคิวแน่นเข้าหากัน
“เวลาก็ไม่นอ้ ยแล้ว พวกเราไปกันเถอะ” พูดขึนเสี ยงเรี ยบ เขาจับไปทีข้อมือเรี ยวของมู่หรงเสวียลาก
นางเดินอาดๆ ออกไปด้านหน้า
มู่หรงเสวียพยักหน้า “เช่นนันก็ได้”
“แล้วเช่นนันควรทําอย่างไรเล่า......”
“ป่ ากับดักน่ากลัวมากหรื อ”
ฉากทีนางรบกับพวกงูไม้และพวกคนประหลาดทีพระราชวังฤดูร้อน พวกเขาล้วนจดจําติดตามา
จนถึงทุกวันนี เพียงแต่ป่ากับดักพวกนันดูเหมือนว่าจะอันตรายกว่างูไม้พวกนันมากนัก ไม่รู้วา่ นาง
จะสามารถแก้ทางมันได้หรื อไม่......
ร้ายกาจถึงเพียงนีเชียวหรื อ !
แววตาของฝูงชนหรี เล็กลง พวกเขาคิดว่าหมอกตรงหน้าเป็ นเพียงหมอกธรรมดาๆ ทีมีความ
หนาแน่นเป็ นพิเศษมาโดยตลอดเท่านัน คาดไม่ถึงว่ามันจะเป็ นหมอกพิษ ! ถึงว่าพวกทหารถึงได้
เพียงเข้าไป แต่ไม่สามารถรอดออกมาได้......
เมือมองไปทีสายตาหวาดกลัวของผูค้ น มู่หรงเสวียก็ยมขึ
ิ นบางๆ หันกายแล้วยืนมือเรี ยวขาวเข้าไป
ในแขนเสื อของคุณชายโอวหยาง หยิบเอาถุงยาสี ขาวออกมาห่อหนึง เปิ ดถุงออก แล้วหยิบเอายา
ลูกกลอนสี ดาํ ใส่ เข้าไปในปากเม็ดหนึง นางกล่าวขึนอย่างช้าๆ “ในป่ ากับดักมีอนั ตรายอันใหญ่หลวง
นัก พวกท่านก็ไม่ตอ้ งตามเข้าไปแล้ว ข้าเข้าไปเองก็เพียงพอแล้ว !”
ตอนที 239 กับดักอันแปลกประหลาด
บรรยากาศเงียบสงัดวังเวง ทีตอบกลับมานอกจากความเงียบแล้วก็มีแต่ความเงียบ !
มันเกิดอะไรขึนกันแน่ ?
“จะเล่นอย่างไร” เหล่าทหารแคว้นหนานเจียงตาลุกวาวจ้องมองไปทีเขา
คิดจะยิงพวกนางให้ตาย มันก็ไม่ง่ายนักหรอก !
ชายหนุ่มผูน้ นชิ
ั นชากับท่าทางไม่แยแสต่อสิ งใดของเขาแล้ว หันกายมองไปทีกลุ่มคนทีกําลังปะทะ
กันอยู่ กล่าวขึนเสี ยงเย็น “ฆ่าพวกมันให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว......”
“หยุดมือ หยุดมือให้หมด !”
มู่หรงเย่ยมเก้
ิ อเขินออกมาเล็กน้อย “ขาถูกฟันไปหลายดาบ ตอนนียังไม่สามารถเดินได้สะดวก ไม่มี
อะไรน่าเป็ นห่วง......”
“ตกลง” คุณชายโอวหยางพยักหน้าดึงมู่หรงเสวียเดินเข้าไปในดงไม้
“มู่หรงเสวีย มู่หรงเสวีย......” เสี ยงเรี ยกอันคุน้ เคยเสี ยงหนึ งดังเข้าหู เมือมู่หรงเสวียมองตามเสี ยงไปก็
เห็นกงเชียนอวีในชุดสี ดาํ ค่อยๆ ร่ อนลงบนพืนอย่างเงียบๆ ก้าวยาวๆ เดินมาทางนาง มุมปากของเขา
ยกขึนด้วยรอยยิมอันสง่างาม
กงเชียนอวีพยักหน้า “ไม่ผิด”
กงเชียนอวีขมวดคิวหันกลับไปมองทีมู่หรงเสวีย ดวงตาอันกระจ่างใสเต็มไปความน้อยเนือตําใจ
“ข้าเหาะมาตังนานกว่าจะถึงทีนี รู้สึกล้าอยูบ่ า้ ง เจ้าจะไม่เชิญข้านังพักดืมชาสักหน่อยหรื อ”
เขานําพวกทหารมากักล้อมกงเชียนอวีเอาไว้เช่นนีก็ไม่ได้คิดจะพูดคุยอะไรกับเขาให้มากมายอยูแ่ ล้ว
เขาจะไม่สนใจตนก็ไม่เป็ นไร “ใครทีจับตัวกงเชียนอวีได้ ข้าจะปูนบําเหน็จรางวัลให้อย่างงาม !”
ยังจะมาอีกหรื อ ! เขายังจําได้หรื อไม่วา่ เขาเป็ นผูบ้ ญั ชาการรบของหนานเจียง เป็ นศัตรู ตวั ฉกาจของ
พวกทหารชิงเหยียน เขามาค่ายทัพชิงเหยียนครังหนึง ก็ตอ้ งประมือกับทหารชิงเหยียนครังหนึง ป่ วน
ทีนีจนคนสับสน พวกม้าพลิกตลบ...
เมือมองไปทีใบหน้าขัดเคืองใจของนาง คุณชายโอวหยางก็ยมบางๆ
ิ พูดขึนลอยๆ ว่า “สวินเฟิ ง
นอกจากจะมาส่งจดหมายแล้ว ยังมาส่ งข่าวอีกเรื องหนึง เจ้าอยากฟังหรื อไม่”
ั ดกับผนังรถเอาไว้
“ถ้าอย่างนันพวกเราก็ปพู รมหลายๆ ผืนในรถม้า ด้านข้างรถม้าทังสองข้างก็ปกู นติ
หนาๆ แบบนีก็แทบจะไม่รู้สึกถึงแรงสะเทือนแล้ว.......” มู่หรงเสวียพูดช้าๆ ทีละคําอย่างออก
ความเห็น
“ไหล่ขา้ ใส่ ยาแล้ว ตอนนีคงไม่เป็ นอะไรแล้ว” มู่หรงเสวียจ้องมองเขา พูดขึนช้าๆ ชัดๆ เสี ยงใส
กระจ่างลอดออกมาตามไรฟัน
วิชาการพรางตัวของพวกองครักษ์เงานันลึกลับนัก ขอเพียงแค่พวกเขาได้พรางตัวหลบซ่อนในเงามืด
ไปแล้ว คนอืนก็จะไม่สามารถสัมผัสได้วา่ เขาอยูท่ ีไหน ฉะนันชัดเจนว่าตอนนีพวกเขาได้คลาดกับ
ว แต่วา่ อย่างน้อยก็สามารถยืนยันได้วา่ ชายผูน้ ีจะต้องเป็ นองครักษ์เงาทีมู่
ชายวัยกลางคนผูน้ นไปแล้
ั
หรงเยว่บ่มเพาะขึนมาไม่ผิดตัวแน่......
มู่หรงเสวียพอมีธุระทีไรก็จะขอความช่วยเหลือแต่คุณชายโอวหยางมาโดยตลอด จะมาหาเขาสักครัง
ก็ไม่มี......
“ทําอะไร” คุณชายโอวหยางมองไปทีนางอย่างไม่เข้าใจ
บไหว ไม้เท้าในมือยกฟาดไปทีข้อเท้ามู่หรงเสวียอย่างไม่ปรานี
ชายผูน้ นแววตาวู
ั
หญิงสาวผูน้ นตบเข้
ั าไปทีบ่าของชายผูน้ นเบาๆ
ั แล้วกล่าวขึนอย่างปลอบโยน “วางใจเถอะ ข้าจะไม่
ทําให้เจ้าผิดหวังแน่นอน......”
ท่วงท่าอันชอบธรรมและโอบอ้อมอารี นนั มู่หรงเสวียทีได้เห็นต้องขมวดคิวแน่นเข้าหากัน แล้ว
กล่าวขึนเสี ยงเย็น “คุณหนูท่านนี โปรดเชิญดูสภาพของเขาให้ละเอียดว่าเป็ นสภาพของคนทีสามารถ
มีเงินหนึงร้อยตําลึงได้หรื อไม่”
มู่หรงเสวียนิงงัน “......”
มู่หรงเสวีย “......”
“ขอทานผูน้ นขโมยเงิ
ั นของข้า อีกทังยังลงมือกับข้า ทีเขาได้รับบาดเจ็บก็เป็ นเพราะว่าเขาแส่ หาเรื อง
เอง เลยได้รับผลกรรมตอบสนอง แล้วยังจะให้ขา้ ไปมอบเงินปลอบขวัญให้เขาอีกหรื อ อย่าได้คิด
หวังเลย” มู่หรงเสวียกล่าวขึนเสี ยงเย็นก้าวเดินยาวๆ เลยผ่านหญิงสาวนางนันไป
นางใจดําไม่ยอมมอบให้ เช่นนันตนเองก็คงต้องลงมือเอาเงินตําลึงเองแล้ว
สายตาเห็นว่าหมัดของหญิงสาวกําลังจะพุ่งเข้ามาอีกครัง แววตาของมู่หรงเสวียวูบไหวอย่างหมด
ความอดทน ยกเท้าขึนเบาๆ ถีบเข้าไปทีร่ างของหญิงสาวนางนัน จนนางกระเด็นออกไปไกลสอง
สามเมตร แล้วมองไปทีนางสายตาเย็นแล้วกล่าวขึน “อย่าได้มวั แต่สนใจจะต่อยตีกบั ข้าเลย เจ้าควรที
จะหันไปสนใจดูเพือนขอทานของเจ้าหน่อย......”
ตอนที 247 ทุบตีหญิงสมองกลับ
หญิงสาวซวนเซไปหลายรอบถึงจะกลับมายืนได้มนคงได้
ั อีกครัง แขน หน้าอก ล้วนเจ็บแสบไปเสี ย
หมด นางถลึงตาจ้องมู่หรงเสวียอย่างเคียดแค้น
ถุงเงินของนางหายไปเพราะขอทานนันกับคุณหนูแห่งตระกูลขุนนางผูน้ ี ตอนนีขอทานนันไม่อยู่
แล้ว แน่นอนว่านางต้องให้คุณหนูตระกูลใหญ่ผนู้ ีชดใช้สักพันเท่า
มู่หรงเสวียถลึงตาจ้องมองหญิงสาว ก่อนจะเดินผ่านก้าวเดินออกไปด้านหน้า
มู่หรงเสวียเงยหน้ามองไปยังคุณชายโอวหยาง ก็เห็นเขาพยักหน้าให้
แววตาของชางอิงฉายแววน้อยเนือตําใจพลางตีหน้าเศร้า “ตอนทีข้าไปเยือนวังหลวงของแคว้น
หนานเจียง ในตอนนันข้าก็ยนื อยูข่ า้ งๆ ท่านพีเชียนเจ๋ อ คุณชายมองไม่เห็นข้าอย่างนันหรื อ”
ดวงตามองเห็นชางอิงทีกําลังจะพูดอะไรต่อ ต้วนอู๋ลวจึ
ั งรี บเอ่ยปากตัดบทขึน “ทําไมคุณชายถึงมาที
เมืองหมิงโจวได้” อิงอิงเป็ นคนทีพอให้พดู แล้วก็จะพูดไม่หยุด ถ้าหากให้นางพูดต่อ นางคงไม่มีวนั
พูดจบเรื องเป็ นแน่
ต้วนอู๋ลวไม่
ั ได้ใส่ ใจ ยิมแล้วเอ่ยขึน “ในเมืองหมิงโจวก็มีแค่ร้านขายของฟุ่ มเฟื อยกับถนนหนทางที
สะดวกเท่านัน ไม่ค่อยมีทิวทัศน์งดงามอะไรให้น่าดูมากนัก ก็คงมีเพียงทะเลสาบหมิงหู ชายฝังของ
ทีนันมีดอกไม้และต้นไม้มากมายหลากหลายสี สันปลูกไว้ กับในทะเลสาบทีมีดอกบัวสี เขียวอัน
กว้างไกลสุ ดลูกหูลกู ตาปลูกไว้เต็มไปหมด สามารถไปนังเรื อชมวิว มองชมทิวทัศน์อนั งามลําได้
คุณชายอยากไปชมหรื อไม่”
ต้วนอู๋ลวพยั
ั กหน้าเบาๆ “เป็ นโอกาสอันยากยิงทีคุณชายจะนําเพือนมาเยียมชมเมืองหมิงโจว เช่นนัน
ไม่สู้ให้ขา้ เป็ นผูน้ าํ เทียวให้ คุณชายเห็นเป็ นอย่างไร”
มู่หรงเสวียกะพริ บตาเงยหน้ามองไปทีต้วนอู๋ลวแล้
ั วเอ่ยขึน “ต้วนไท่โส่ วไม่ชอบสงครามอย่างนัน
หรื อ”
“ผูป้ กครองปราดเปรื องทรงคุณธรรม ราษฎรณ์อยูอ่ ย่างเป็ นสุ ขร่ มเย็นไม่ใช่วา่ ดีอยูแ่ ล้วหรื อ เหตุใด
ต้องใช้กาํ ลังทหารทําสงคราม สู้รบกันจนตายไปข้างหนึงด้วยเล่า” ต้วนอู๋ลวเอ่
ั ยเบาๆ ในนําเสี ยงอัน
อ่อนโยนแฝงไว้ดว้ ยความรู้สึกนึ กคิดทีผูค้ นไม่อาจคาดเดาได้
เมือมองไปทีประกายตาอันวาววับของนาง ในดวงตาของต้วนอู๋ลวก็
ั เจือปนไปด้วยรอยยิมจางๆ
กล่าวขึนเสี ยงเบา “เรื อเล็กผูกไว้ทีหลังเรื อนูน้ แหนะ......”
ชางอิงสบถออกมาอย่างไม่พอใจ “ก็แค่กลุ่มคนใช้ชนตํ
ั า ไหนเลยจะมีคุณสมบัติมานังเรื อลําเดียวกัน
กับข้าได้ ข้าเห็นว่าเจ้ายังสามารถพอไปวัดไปวาได้ ถึงได้มานังเรื อลําเดียวกับเจ้า......”
จับนางงันหรื อ ไม่เจียมตน !
เรื อด้านหลังยิงเข้ามาก็ยงใกล้
ิ ขึนทุกที ชางอิงทีหมดทางหนี ได้แต่ร้องเรี ยกขึนอย่างกระวนกระวาย
“ช่วยด้วย......ช่วยด้วย......”
“หยุดเดียวนี......ห้ามหนี นะ......”
เป็ นใครทีทําตัวได้น่ารังเกียจหยาบคายเช่นนีกัน !
เพียงพริ บตาใบหน้าเรี ยวงามของมู่หรงเสวียก็มืดครึ มลง หันหน้ามองไปอย่างดุดนั สายตาพอดีเห็น
เข้ากับชางอิงทียืนอยูบ่ นเรื อเล็ก กําลังก้มหน้ามองมาทีนาง แววตาเต็มไปด้วยความตกใจ “มู่หรง
เสวีย ทําไมเป็ นเจ้า......”
ชางอิงเงียบงัน “........”
มู่หรงเสวียยกยิมเย็นทีมุมปาก ไม้พายฟาดลงทีมือเหล่านักเลงเหล่านัน
สวะไร้ประโยชน์ทงฝู
ั งแท้ๆ !
พวกนักเลงขมวดคิว รี บพากันหลบอย่างรวดเร็ว
มู่หรงเสวียรี บหยิบไม้พายขึนมาอีกอัน รี บพายเรื อออกไปอย่างรวดเร็ว เรื อเล็กแล่นฉิ วราวกับลูกศร
จากไปอย่างรวดเร็ ว มู่หรงเสวียร้องบอกขึนอย่างไม่ใส่ใจอีกว่า “ชางอิง ไม่ตอ้ งร้อนใจ ข้าจะรี บไป
ตามคน แล้วจะรี บกลับมาช่วยเจ้า.....”
มุมปากของต้วนอู๋ลวกระตุ
ั กเบาๆ มู่หรงเสวียช่าง......ช่างแตกต่างจากคนอืนๆ ยิงนัก เขาเก็บความ
กังวลใจเมือครู่ กลับไป......
“พีชาย ช่วยข้าด้วย...ช่วยข้าด้วย......” เสี ยงร้องห่มร้องไห้เสี ยงดังลอยมากระทบเข้ากับหู เมือต้
วนอู๋ลวมองไปตามเสี
ั ยง ก็เห็นเรื อใหญ่ลาํ หนึงแล่นออกมาจากดงดอกบัว บนเรื อมีชายอัปลักษณ์
รู ปร่ างสูงใหญ่คนหนึงยืนอยู่ ในมือคว้าจับหญิงสาวนางหนึงไว้ นางสวมชุดกระโปรงสี แดง ใบหน้า
มีรอยฝ่ ามือแดงปื นใหญ่ ผมเผ้ายุง่ เหยิง ดวงตาฉายแววน้อยเนือตําใจ เป็ นใครไปไม่ได้นอกจาก
คุณหนูสายตรงจากจวนเฉิงเซี ยงแห่งหนานเจียงชางอิง
“อิงอิง !” แววตาของต้วนอู๋ลวเหยี
ั ยบเย็นมองไปทีชายอัปลักษณ์ “ปล่อยนางเดียวนี !”
ต้วนอู๋ลวถอนหายใจออกมาอย่
ั างเสี ยไม่ได้ ลูบหลังของนางเบาๆ ค่อยๆ เอ่ยปลอบใจนาง “ดีแล้ว ดี
แล้ว ไม่มีอะไรแล้ว......เจ้าจะไปเก็บดอกบัวไม่ใช่หรื อ เหตุใดถึงได้ไปยุง่ เกียวกับพวกเขาได้”
ต้วนอู๋ลวจ้
ั องมองไปทีชางอิง แววตาของเขาฉายแววมืดมน “อิงอิง ก่อนทีเจ้าจะทําตัวผดุงความเป็ น
ธรรม ไม่ได้ถามถึงต้นสายปลายเหตุของเรื องราวก่อนเลยอย่างนันหรื อ”
ต้วนอู๋ลวไม่
ั ได้ถือสาท่าทางเย็นชาของนาง เขายิมขึนเล็กน้อย “ฟ้ าก็เริ มจะมืดแล้ว คุณชายโอวหยาง
คุณหนูม่หู รง ไม่สู้พกั ทีจวนไท่โส่ วสักคืน”
สี หน้าของคุณชายโอวหยางปรากฏแววลึกลับซับซ้อนดําทะมึนขึนมาทันใด แววตาดังลูกศรพุ่งตรง
จ้องมองไปทีกงเชียนอวีอย่างเหยียบเย็น ดวงตาดําคมกริ บเย็นเฉี ยบดังนําแข็ง ทําให้อุณหภูมิรอบ
บริ เวณลดลง......
มู่หรงเสวียแหงนมองฟ้ า ไร้วาจาคําพูดทีจะกล่าว จิตใจของกงเชียนอวีเหมือนกับเด็กบริ สุทธิ ชอบ
เอาชนะ เขากับคุณชายโอวหยางมีปัญหาผิดใจกัน คุณชายโอวหยางพูดอะไร เขาก็จะพูดตาม โดย
ไม่ได้สนใจฟังความหมายในคําพูดของคุณชายโอวหยางเลย
“ใช่แล้ว” มู่หรงเสวียพยักหน้า
เช่นนันดวงตาของกงเชียนอวีก็สว่างเป็ นประกายขึน “ห้องถัดไปจากห้องของข้า บรรยากาศดีมาก
แล้วก็เงียบสงบดีดว้ ย เจ้าสามารถไปพักทีนันได้......”
ั ส่อ
เมือมองไปทีหน้าตายิมแย้มดีใจ และแววตาเป็ นประกายของกงเชียนอวี แววตาของต้วนอู๋ลวก็
แววตืนตระหนกตกตะลึง ชายทีกําลังพูดอยูต่ อนนี ใช่องค์รัชทายาทแห่งแคว้นหนานเจียงทีสู งส่ ง
สง่างามและไม่เคยเห็นใครอยูใ่ นสายตาทีเขาเคยรู้จกั ตัวจริ งใช่หรื อไม่......
หนังตาของต้วนอู๋ลวกระตุ
ั กเบาๆ รี บเอ่ยขึนว่า “เวลาไม่คอยท่า สํารับอาหารเย็นได้ถูกจัดเตรี ยมไว้
แล้ว เชิญทุกท่านร่ วมรับประทาน”
“ดียงนั
ิ ก !”กงเชียนอวีพยักหน้ารัวๆ รี บเร่ งก้าวเดินไปด้านหน้า ดวงตาเปล่งประกายสดใสเปล่งปลัง
อุณหภูมิในห้องอาหารค่อยๆ ลดลง......
“ถึงผักสี เขียวจะดี แต่กต็ อ้ งมีเนื อคู่ดว้ ย ถ้าจะกินแต่ผกั ล้วนๆ ก็คงจะส่ งผลไม่ดีต่อร่ างกาย !” คุณชาย
โอวหยางกล่าวขึน แล้วก็เขียผักทีกงเชียนอวีคีบมาทิงอีกครัง เปลียนเป็ นเนือเป็ ดปาเป่ ายาใส่ ให้นาง
กงเชียนอวีขมวดคิว คีบไก่เมามายให้มู่หรงเสวียอีก......
คุณชายโอวหยางใช้ตะเกียบเขียทิงอีก......
ต้วนอู๋ลวมองไปด้
ั านข้างโต๊ะทีว่างเปล่าแล้วมองไปทีการแสดงออกอันแตกต่างของทังสามคน สี
หน้าของเขาค่อยๆ เคร่ งขรึ มลง แววตาวูบไหวไปด้วยประกายอันลําลึก......