You are on page 1of 319

1

เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์
แต่งโดย : ~Aniaris~

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลขิ สิทธิ์ พ.ศ.2537


ห้ ามลอกเลียนแบบหรื อดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึง่ ของหนังสือเล่มนี ้ รวมทังการ

จัดเก็บ ถ่ายทอด แสกน บันทึก ถ่ายภาพ ไม่วา่ ในรูปแบบหรื อวิธีการใด ๆ ใน
กระบวนการอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้ รับอนุญาตเป็ นลายลักษณ์อกั ษร ยกเว้ นเพื่อ
การประชาสัมพันธ์เท่านัน้

Fanpage: https://www.facebook.com/Aniaris.writer
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ลำดับสนมนำงใน

ขั้น ตำแหน่ ง จำนวน อื่นๆ

- ฮองเฮา มีได้ 1 คน มีขนั ทีรับใช้ได้ 12 คน นางกานัลรับใช้ได้ 10 คน

1 ฮวงกุย้ เฟย มีได้ 1 คน มีขนั ทีรับใช้ได้ 12 คน นางกานัลรับใช้ได้ 8 คน

2 กุย้ เฟย มีได้ 2 คน มีขนั ทีรับใช้ได้ 12 คน นางกานัลรับใช้ได้ 8 คน

3 เฟย มีได้ 4 คน มีขนั ทีรับใช้ได้ 10 คน นางกานัลรับใช้ได้ 6 คน

4 ผิน มีได้ 6 คน มีขนั ทีรับใช้ได้ 8 คน นางกานัลรับใช้ได้ 6 คน

5 กุย้ เหริ น มีกี่คนก็ได้ มีขนั ทีรับใช้ได้ 4 คน นางกานัลรับใช้ได้ 4 คน

6 ฉางจ้าย มีกี่คนก็ได้ มีขนั ทีรับใช้ได้ 3 คน นางกานัลรับใช้ได้ 3 คน

7 ต้าอิง้ มีกี่คนก็ได้ มีขนั ทีรับใช้ได้ 1 คน นางกานัลรับใช้ได้ 2 คน

3
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

4
~Aniaris~

บทที่ 26 ข่ ำวลือ

ทันทีที่ฮ่องเต้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าแสงแดดอ่อน ๆ จากภายนอกเริ่ ม


ที่จะสาดส่ องเข้ามาแล้ว แต่ถึงจะเป็ นอย่างนั้นสตรี ในอ้อมกอดเขาก็ยงั คงหลับสนิท
อยู่ เขาจึงค่อย ๆ ลุกออกจากเตียงมาดึงชุดคลุมของตนที่หล่นกองอยูบ่ นพื้นขึ้นมาใส่
แล้วจึงห่มผ้าให้นางไว้ดี ๆ เช่นเดิม แค่จอ้ งมองนางและนึกถึงเรื่ องเมื่อคืนก็ทาให้เขา
อดไม่ได้ที่จะยิม้ น้อย ๆ ขึ้นมา
เขานัง่ จ้องมองนางสักพัก ก่อนจะหันไปมองทางหน้าต่างแล้วสังเกตได้ถึง
แสงแดดที่ ไม่ควรจะมีในยามปกติที่ตื่นขึ้นมานั้น จึ งรี บเดิ นออกจากห้องไปพลาง
เรี ยกขันทีคนสนิทอย่างร้อนรน “กัว๋ กงกง…”
เรี ยกได้เพียงไม่นานเท่านั้น กัว๋ กงกงที่ยนื เตรี ยมพร้อมอยูไ่ ม่ไกล ก็รีบเดิน
เข้ามาหาบุรุษสู งศักดิ์ซ่ ึ งยืนรออยูห่ น้าประตูหอ้ งทันที ทั้งยังถามด้วยสี หน้าที่ดูยนิ ดี
“ฝ่ าบาททรงตื่นแล้วหรื อพะยะค่ะ” ก่อนที่ ฮ่องเต้จะรี บร้อนถามกลับไปโดยมิ ได้
สนใจท่าทางของเขาแม้แต่นอ้ ยว่า “ตอนนี้ยามอะไรแล้ว”

1
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ด้านกัว๋ กงกงเมื่อรู ้แล้วว่านายของตนกังวลถึงสิ่ งใดนั้น พยายามตอบอย่าง


ใจเย็นกลับไป “ทรงพัก ผ่อ นต่อ เถิ ดพะยะค่ะ เลยช่ ว งว่า ราชการยามเช้า มานาน
แล้ว…” แต่เขายังไม่ทนั จะพูดจบ ชายสู งศักดิ์เบื้องหน้าก็ต่อว่ากลับมาอย่างรวดเร็ ว
“ทาไมไม่ปลุกข้า!”
น้ า เสี ย งที่ ดัง และใบหน้า ที่ ดูไ ม่ พ อใจนั้น ท าให้กั๋ว กงกงที่ แ ม้จ ะอยู่ทา
หน้าที่มานานก็ยงั อดตัวสัน่ ขึ้นมาไม่ได้ “ฝะ ฝ่ าบาท…”
เขาเข้าใจดีวา่ สาหรับฮ่องเต้เบื้องหน้านั้น งานราชการสาคัญขนาดไหน แต่
ถ้าพิจารณาดูจากสภาพที่ เมาเละเทะเมื่อวานแล้ว ดูยงั ไงต่อให้ยามเช้านี้ ออกไปว่า
ราชการก็คงไม่ได้เรื่ องอะไรอยูด่ ี สุ ดท้ายจึงเสี่ ยงตัดสิ นใจเอาเอง คิดเช่นนั้นก็ได้แต่
ต้องพูดรับผิดออกไป “กระหม่อมตัดสิ นใจเอง ขอฝ่ าบาทโปรดประทานอภัย”
พอฮ่องเต้เห็นกัว๋ กงกงทาท่าจะคุกเข่าโขกหัวลงอย่างสานึกผิด ก็ตอ้ งถอน
หายใจออกมาเล็กน้อย “ช่างเถิด ๆ ” เพราะในเมื่อเวลาว่าราชการก็ผ่านไปแล้ว ตัว
เขาจะยังทาอะไรได้อีกกัน บางทีการที่เขาได้พกั ผ่อนสักหน่อยก็คงดี
เมื่อคิดได้ดงั นั้นจึงหันมาสั่งกัว๋ กงกงอีกครั้งว่า “ให้คนเตรี ยมอ่างอาบน้ า
ไว้ อุ่นให้มากหน่อยก็ดี”
ได้ยินเช่นนั้นกัว๋ กงกงก็รีบตอบรับออกมา “พะยะค่ะ” และด้วยเข้าใจดีวา่
ฮ่องเต้ตอ้ งสั่งเช่นนี้ ไปเพื่อใครบางคนเป็ นแน่ เพราะปกติเขาไม่ใช่คนสนใจเรื่ อง
รายละเอียดมากมาย จึงต้องลองถามคนเบื้องหน้าออกไปว่า “ฝ่ าบาทจะให้ใครเข้า
ไปดูแลเหยียนเฟยรึ ไม่…”
คาถามนั้นทาให้ฮ่องเต้ชะงักไปเล็กน้อย เพราะยามที่สตรี ในห้องตื่นขึ้นมา
ก็ไม่รู้วา่ จะยังยอมให้เขาใกล้ชิดเช่นเมื่อคืนอีกหรื อเปล่า แต่จะให้คนอื่นเข้ามาเห็น

2
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

สภาพของนางยามนี้ก็คงไม่ดีเหมือนกัน ยิง่ เมื่อนึกถึงร่ างบอบบางที่นอนอ่อนแรงอยู่


บนเตียง ก็ยงิ่ อดไม่ได้ที่จะยิม้ มากกว่าเดิม
ด้านกัว๋ กงกงเมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบเสี ยทีจึงส่งเสี ยงเรี ยกถามอย่างลังเล “ฝ่ า
บาท คือว่าจะให้…”
ได้ยินเท่านั้นสติของฮ่องเต้ก็กลับมา ก่อนจะต้องรี บหันมาสั่งกลบเกลื่อน
ท่าทางเมื่อครู่ ของตนว่า “ไม่จาเป็ น พวกเจ้าออกไปให้หมดก็พอ”
ท่ าทางแบบนั้นทาให้กั๋วกงกงต้องพยักหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม ทั้งยังอด
ไม่ได้ที่จะกลั้นหัวเราะในใจ เพราะเมื่อกี้เขาพึ่งจะเห็นฮ่องเต้ของตนซึ่ งคอยวางท่า
สง่างามเสมอ พยายามกลบเกลื่อนท่าทางเลื่อนลอยยามนึกถึงสตรี เพียงคนเดียว

ฝ่ ายเหยียนหยินซึ่ งเริ่ มจะได้สติจากความเหนื่ อยล้าที่ ได้รับมาทั้งคืนนั้น


กาลังค่อย ๆ ลืมตาขึ้นทีละน้อย
เมื่อเหยียนหยินรู ้สึกถึงสัมผัสเบาบางบนกายตน ประกอบกับกลิ่นหอมที่
ชวนให้ผ่อนคลายและน้ าอุ่น ๆ ที่อยูร่ อบกาย ก็ทาให้นางรู ้สึกสบายตัวอย่างบอกไม่
ถูก จนกระทัง่ นางลืมตามองไปรอบ ๆ ถึงได้รู้วา่ ตนเองกาลังอยูใ่ นอ่างอาบน้ าขนาด
ใหญ่โดยมีใครบางคนกาลังช่วยขัดล้างกายตนเป็ นอย่างดี
“ฝะ ฝ่ าบาท!”
เหยียนหยินพูดขึ้นด้วยความตกใจ ทันทีที่เห็นว่าคนที่ช่วยนางอาบน้ าใน
ยามที่ ไม่ได้สติเมื่อกี้ น้ นั เป็ นใคร ก่อนจะรี บขยับกายถอยห่ างเขาซึ่ งยืนอยู่ดา้ นข้าง
อ่างอาบน้ า อีกทั้งนางยังต้องลดตัวลงจนหน้าแทบจะจมลงไปในน้ าเพราะความเขิน
อายจากเรื่ องเมื่อคืนเล็กน้อย “จะทรงทาอะไรเพคะ”

3
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

แค่เห็นท่าทางของนางที่รีบถอยห่างทั้งยังพยายามซ่อนตัวในอ่างน้ าที่เต็ม
ไปด้วยกลีบดอกไม้มากมายเช่นนั้น ฮ่องเต้ก็ตอ้ งหัวเราะออกมาน้อย ๆ พลางกวักมือ
เรี ยกนางกลับมา “ข้าแค่ช่วยเจ้าล้างตัวเท่านั้น กลับมานี่สิ”
เหยียนหยินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบตอบกลับไป “หม่อมฉันทาเองได้…”
ยามนี้ นางอยูใ่ นสภาพเปลือยเปล่าซ่อนตัวอยูใ่ นอ่างอาบน้ า ในขณะที่อีกฝ่ ายใส่ ชุด
คลุมยืนจ้องมองนางจากเบื้องข้าง แม้เขาจะยังไม่ทนั ได้ทาอะไรแต่แค่นึกถึงเรื่ องเมื่อ
คืนใบหน้าของนางก็อดไม่ได้ที่จะรู ้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา
เมื่อคื นนางพูดสิ่ งใดออกไปกัน เขาเมาอยู่คงจะจาไม่ ได้ ใช่ หรื อไม่ นั่นมั น
น่ าอายเกินไปแล้ วจริ งๆ…
แม้เรื่ องเมื่อคืนจะไม่ใช่ครั้งแรกของนาง เพราะมีประสบการณ์จากตอน
เป็ นองค์หญิงอวี้เหมยแล้ว แต่คาพูดที่ ยงั จาได้แม่นยาของตนเองที่ พอนึ กย้อนดู ก็
ชวนให้รู้สึกอย่างกับประโยคบอกรักกลาย ๆ ออกไปนั้น ทาให้นางรู ้สึกมองหน้า
บุรุษเบื้องข้างไม่ติด
ฝ่ ายฮ่องเต้ที่เท้าแขนอยู่ขา้ งอ่าง พอเห็ นนางมีสีหน้าปรับเปลี่ยนไปมาก็
ต้องถามขึ้นด้วยรอยยิม้ เจ้าเล่ห์เล็กน้อย
“เจ้า…อายข้างั้นรึ ?”
ได้ ยิ น เช่ น นั้ นสตรี เบื้ อ งหน้ า ก็ แ ทบจะรี บหั น มาตอบเขากลับ ทัน ที
“มิ ใช่ …” แต่ได้ยินคาพูดของนางไม่ทันจบประโยคเขาก็ตอ้ งยกยิ้มมากกว่าเดิ ม
พลางพูดอย่างอารมณ์ดีออกไปว่า “ก็ดี งั้นข้าจะได้อาบน้ าไปพร้อม ๆ เจ้าเลย”
ท่าทางอารมณ์ดีขณะค่อย ๆ ปลดชุดคลุมของตนออกของเขา ทั้งยังก้าวเข้า
มาในอ่างพร้ อมกับนางอย่างเชื่ องช้านั้น ทาเอาเอาเหยียนหยินถึ งกับพูดไม่อ อก

4
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ก่อนที่ฮ่องเต้ซ่ ึงพึ่งเข้ามาใกล้นางจะหันมาถามย้ากับนางถึงคาพูดเมื่อคืนว่า “เมื่อคืน


เจ้าบอกเองใช่รึวา่ จะทาหน้าที่พระสนม”
อีกทั้งเขายังไม่รอให้นางตอบกลับ ก็จบั นางเข้าไปหาให้นงั่ หันหลังให้เขา
แล้วจึงค่อย ๆ เริ่ มสางผมที่พนั กันของนางเบา ๆ “เจ้าจะล้างตัวก็ลา้ งไป ข้าจะสระผม
ให้เจ้าเองจะได้เสร็ จเร็ ว ๆ แช่น้ านานไปไม่ดี”
ความรู ้สึกไม่คุน้ ชิ นเช่นนี้ ทาให้เหยียนหยินอดที่จะหันไปมองเขาไม่ได้
ก่อนจะพูดเสนออย่างลังเล “ฝ่ าบาทให้พวกนางกานัลทาเถิด เรี ยกเยว่อิ๋งเข้ามาช่วย
หม่อมฉันก็ได้เพคะ”
แต่คนด้านหลังก็ดูจะไม่ฟังแม้แต่น้อยเมื่ อเขาเอ่ยเสี ยงดุน้อย ๆ ออกมา
“เจ้าคิดจะขัดคาสั่งข้ารึ ไงกัน รู ้รึเปล่าว่านัน่ มีโทษหนักเท่าไหร่ เจ้าอยูน่ ิ่งนิ่งก็พอ ข้า
จะทาเอง”
ได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็ตอ้ งปล่อยให้เขาทาอย่างจนใจ ให้เขาค่อย ๆ
สางล้างผมของนางไปช้า ๆ ขณะที่นางตักน้ ามาเช็ดล้างกายตน ฝ่ ายฮ่องเต้เมื่อยกผม
ของนางขึ้นมาแล้วเห็นรอยช้ าบนคอนาง จากการกระทาของตนเมื่อคืนที่ยงั ไม่เลือน
หายไปและถูกผมปกปิ ดไว้น้ นั ก็อดที่จะถามนางขึ้นมาไม่ได้
“เรื่ องเมื่อคืนนี้ …” เขาได้แต่ถามขึ้นเสี ยงเบาอย่างลังเล “เจ้าเป็ นอะไรรึ
เปล่า”
เหยียนหยินที่ได้ยนิ เช่นนั้นต้องชะงักค้างไป ก่อนจะยิม้ น้อย ๆ ออกมาเมื่อ
เห็ นว่าเขายังกังวลถึงความรู ้สึกของนาง แล้วจึ งถามเสี ยงเรี ยบกลับไปว่า “ควรจะ
ถามว่าพระองค์ทรงเป็ นอันใดมากกว่า เพราะเมื่ อคืนนี้ หม่อมฉันเพียงแค่ทาตาม
หน้าที่ของตนเองเท่านั้น”

5
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาพูดของนางทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งทวนถามกลับด้วยสี หน้าสงสัย “แค่หน้าที่


เท่านั้นเรอะ” พูดจบก็แกล้งดึงนางเข้ามาหาตนเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็คงเล่นได้
สมบทบามกว่าผูอ้ ื่นเสี ยจริ ง ๆ ในเมื่อแววตาของเจ้าดูจริ งใจเสี ยจนดูไม่ออกว่ากาลัง
แสดงอยูแ่ ม้แต่นอ้ ยเลย”
ด้านเหยียนหยินที่ จู่ ๆ ก็ถูกดึ งเข้าไปกอดต้องถึงกับสะดุง้ จนต้องหันมา
ถลึงตาใส่ เขาแล้วจึ งหันกลับไปไม่พูดจาใด ๆ เพราะรู ้ว่าต่อให้พูดอะไรออกไปก็
เอาชนะอี กฝ่ ายไม่ได้ นั่นทาให้ฮ่องเต้ที่เห็ นท่ าทางเช่ นนั้นของนางต้องหัวเราะ
ออกมาอย่างอารมณ์ดี
“ก็ได้ ๆ ข้าไม่พูดเรื่ องนี้แล้ว” ก่อนจะขยับใบหน้าเข้ามากระซิ บข้างหูนาง
เสี ยงเบาว่า “ในเมื่อเจ้าขยันทาตามหน้าที่ วันหลังข้าจะเรี ยกเจ้ามาบ่อย ๆ ดีหรื อไม่”
แค่ได้ยินเสี ยงยัว่ เย้าของเขาเท่านั้นเหยียนหยินก็หน้าแดงเรื่ อ ในใจได้แต่
คิ ด ว่า เขาดู จะได้ใจมากเกิ นไปแล้ว นางจึ ง เริ่ ม พยายามดิ้ นหนี ท้ งั ยังรี บแย้งตอบ
กลับไป “ไม่ดีเพคะ จะให้หม่อมฉันหมดแรงทุกวันหรื ออย่างไรกัน”
พอเหยียนหยินพยายามดิ้นหนี ฮ่องเต้ก็ปล่อยนางแต่โดยดีดว้ ยกลัวว่านาง
จะมีรอยช้ ามากกว่าเดิม ก่อนจะหรี่ ตาลงถามถึงคาพูดของนางด้วยรอยยิม้ มีเลศนัยว่า
“ข้าพูดว่าทุกวันเมื่อไหร่ กนั ”
คาถามจากเขาทาให้เหยียนหยินถึงกับพูดไม่ออก จนสุ ดท้ายก็ตอ้ งทอด
ถอนใจแล้วล้างตัวต่อเงียบ ๆ ต่อไป จนผ่านไปสักพักนางจึงตัดสิ นใจถามออกไปว่า
“เมื่อวานนี้ทรงฝันเรื่ องใดเพคะ”
ด้านฮ่องเต้เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็มีท่าที นิ่งเงี ยบ ก่อนจะยิ้มอ่อนโยนน้อย ๆ
ตอบกลับไปว่า “แค่เรื่ องเก่า ๆ เท่านั้น ถึงเวลาข้าจะเล่าให้เจ้าฟังเอง” พูบจบเขาก็ลุก

6
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ออกไปใส่ ชุดคลุมของตน ขณะหันมายิม้ พูดทิ้งท้ายให้นางซึ่ งยังคงอยูท่ ี่เดิม “ข้าจะ


ให้นางกานัลเข้ามาดูแลเจ้าต่อก็แล้วกัน”
ฝ่ ายเหยียนหยินพอเห็นเขาลุกออกไปแล้วก็ตอ้ งส่ ายหัวไปมาเล็กน้อย กับ
ท่าทางหลีกหนีปัญหาของเขาที่เห็นได้อย่างชัดเจน
ขณะที่ฮ่องเต้ซ่ ึ งพึ่งออกมาแต่งตัวไม่นานนั้น ต้องเจอกับกัว๋ กงกงที่เห็นว่า
เขาอารมณ์ดีข้ ึนเข้ามารายงานเรื่ องเมื่อคืนว่า “ฝ่ าบาท จริ ง ๆ แล้วเมื่อคืนฮุ่ยกุย้ เฟยมา
ขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ”
ได้ยินเช่ นนั้นฮ่องเต้ก็ตอ้ งมี สีหน้าแปลกใจ “ฮุ่ยกุ้ยเฟยงั้นรึ นางมี เรื่ อง
อะไรกัน” ก่อนจะได้ยินกัว๋ กงกงตอบกลับด้วยสี หน้าลาบากใจว่า “ทรงแวะมาไม่
นานหลังจากที่เหยียนเฟยสั่งไม่ให้พวกกระหม่อมเข้าไปได้สักพัก ฮุ่ยกุย้ เฟยรบเร้า
เข้าไปหาพระองค์ไม่นอ้ ย พวกกระหม่อมกันไว้ไม่อยูแ่ ต่พระนางเข้ามาเพียงไม่นาน
ก็กลับไป”
คาตอบที่ ได้ยินทาให้ฮ่องเต้เข้าใจได้ทนั ทีว่าฮุ่ยกุย้ เฟยอาจจะได้ยินเสี ยง
ของพวกตนเมื่อคืน นัน่ ทาให้เขาต้องมีสีหน้าเคร่ งเครี ยดขึ้นมา เพราะความคิดของ
อิสตรี ยากจะคาดเดา เขาย่อมเข้าใจในเรื่ องนี้ดี
“ให้คนคอยจับตาดูนางให้ดี” ทันทีที่สงั่ เสร็ จ กัว๋ กงกงที่พยักหน้ารับก็ตอ้ ง
รายงานขึ้นมาอีกครั้งว่า “แล้วก็เมื่อเช้านี้มีข่าวด่วนส่งมาพะยะค่ะ ได้ใจความว่า…”
สิ้ นคารายงานที่ ได้ยินนั้นสี หน้าของฮ่องเต้ก็บ้ ึงตึงลง ก่อนจะรี บออกไป
ในทันที ทาให้กวั๋ กงกงได้แต่รีบร้อนเดินตามไปอย่างจนใจ
.............................

7
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฝ่ ายเหยียนหยินที่พ่ ึงอาบน้ าเสร็ จ ยามนี้ กาลังให้เยว่อิ๋งช่วยแต่งตัวให้อยู่


แต่เมื่อเหยียนหยินหันไปมองรอบด้านแล้วไม่พบเงาของใครบางคนก็ตอ้ งถามคน
สนิทข้างกายขึ้นว่า “ฝ่ าบาทเล่า”
เยว่อิ๋งเมื่อเห็นพระสนมของตนเริ่ มสนใจฮ่องเต้ข้ ึนมาก็ตอ้ งยิม้ ขึ้นเล็กน้อย
เพราะดูเหมือนความพยายามของฮ่องเต้ที่นางเห็ นจะไม่สูญเปล่าไปหมดเสี ยแล้ว
เมื่อนับจากเรื่ องเมื่อคืนนี้ ที่พระสนมของนางยอมปรนนิบตั ิอีกฝ่ ายด้วยความเต็มใจ
อีกทั้งยามเช้านี้ยงั ไม่มีท่าทีโกรธเคืองหรื อหลีกหนีแม้แต่นอ้ ยเลย
“เหมือนจะมีเรื่ องด่วน จึงออกไปแล้วเพคะ”
ทันทีที่เหยียนหยินได้ยนิ เช่นนั้นก็ตอ้ งบ่นออกมาเสี ยงเบา “ออกไปแล้วงั้น
รึ ทั้ง ๆ ที่ควรจะพักผ่อนแท้ ๆ ”
คาพูดของนางทาให้เยว่อิ๋งที่ ได้ยินต้องถามหยอกล้อออกมา “พระสนม
ทรงเป็ นห่วงฝ่ าบาทอยูห่ รื อเพคะ”
ได้ยินเช่ นนั้นเหยียนหยินก็รีบตอบกลบเกลื่ อนกลับไปว่า “ข้าแค่ทาไป
ตามหน้าที่ เท่านั้น” ก่อนจะได้ยินเยว่อิ๋งถามแกล้งขึ้นมาอีกครั้ง “จริ งหรื อเพคะ ดู
เหมือนทรงจะคิดสิ่ งอื่นอยูม่ ากกว่า”
คาถามแบบนั้นทาให้เหยียนหยินต้องแกล้งทาเป็ นไม่รู้ไม่ช้ ีไม่นอ้ ย ก่อน
จะเริ่ มนึกถึงความผิดปกติของฮ่องเต้เมื่อคืนแล้วลองเปลี่ยนเรื่ องที่ถามออกไป “จริ ง
สิ เจ้ารู ้เรื่ องเกี่ยวกับมารดาของฝ่ าบาทหรื อไม่”
ที่ ถามไปเช่ นนั้นก็เพราะจาได้ว่าเมื่ อคืนเขาละเมอเรี ยกแม่ของตน ด้าน
เยว่อิ๋งพอได้ยินคาถามก็ดูจะทาสี หน้าแปลกใจขึ้นมา “ทรงหมายถึงไทเฮาที่ทรงสิ้น
พระชนต์ไปเมื่อห้าปี ก่อนหรื อเพคะ ถ้าเรื่ องเกี่ ยวกับเมื่อก่อนหม่อมฉันไม่รู้เท่าใด

8
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

นัก” แต่พอเห็นสี หน้าครุ่ นคิดของพระสนมตนแล้วก็ตอ้ งพูดออกไปอีกครั้ง “แต่ถา้


พระสนมอยากรู ้สิ่งใด หม่อมฉันจะไปสื บถามมาให้เพคะ”
เหยียนหยินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยมิ้ น้อย ๆ “ไม่ตอ้ งหรอก เรื่ องนี้ รอให้ฝ่า
บาทเล่าให้ฟังเองน่าจะดีกว่า”
ที่นางไม่คิดจะให้เสี่ ยงสื บออกไปก็เพราะนี่ ดูจะไม่ใช่เรื่ องที่ควรเข้าไปยุง่
เท่าไร อีกอย่างฮ่องเต้ก็บอกนางแล้วว่าถึงเวลาจะเล่าให้ฟังเอง บางทีตอนนี้ นางควร
จะเป็ นเพียงผูร้ ับฟังที่ดี ให้เขาสบายใจยามอยูก่ บั นางก็พอ
ทั้งสองคนคุยกันได้ไม่นาน นางกานัลผูห้ นึ่งก็เข้ามารายงานว่า “พระสนม
ฮุ่ยกุย้ เฟยมาขอเข้าพบเพคะ”
คารายงานที่ ได้ยินทาให้เหยียนหยินต้องมีสีหน้าแปลกใจ เพราะตอนนี้
นางยังไม่ได้กลับตาหนักตนเองเลยด้วยซ้ า แต่ฮุ่ยกุย้ เฟยกลับตั้งใจมาหาถึงที่นี่ แม้
มันจะแปลกแต่เมื่ออีกฝ่ ายมีตาแหน่งสู งกว่า นางก็ตอ้ งพยักหน้าตอบกลับไป “บอก
ให้นางรอสักครู่ ขา้ จะออกไปเดี๋ยวนี้”
เมื่อเหยียนหยินแต่งตัวเสร็ จก็ออกมาต้อนรับ ฮุ่ยกุย้ เฟยที่ นั่งอมยิ้มรออยู่
แล้ว ด้วยน้ าเสี ยงและท่าทางที่ยงั คงความเป็ นมิตรเป็ นอย่างดี
“เหยียนเฟยเป็ นเช่นไรบ้าง” นัน่ คือคาถามแรกที่ฮุ่ยกุย้ เฟยถามขึ้น ก่อนจะ
เปลี่ยนเป็ นสี หน้าโล่งใจขณะยิม้ กล่าวชมออกมา “ดีจริ ง ๆ ที่เมื่อคืนมีเจ้าอยูค่ อยดูแล
ฝ่ าบาท เจ้าคงจะเหนื่อยไม่นอ้ ย”
คาพูดที่เหมือนไม่มีเลศนัยนั้น ชวนให้เหยียนหยินรู ้สึกไม่ปลอดภัยเท่าใด
นัก จึ งยิ้มเรี ยบ ๆ ตอบกลับไป “การดู แลฝ่ าบาทเป็ นหน้าที่ ของพระสนมอยู่แล้ว
หม่อมฉันเหนื่อยได้อย่างกันเพคะ”

9
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยินเช่นนั้นฮุ่ยกุย้ เฟยก็มีสีหน้าเห็นด้วยพลางพูดว่า “เจ้าพูดถูกแล้ว” มุม


ปากของนางยกยิม้ ขึ้นเล็กน้อยเพียงชัว่ ครู่ เท่านั้น เพราะคาตอบที่ได้ยินเมื่อกี้ นับว่า
ฉลาดไม่น้อยที่ เลื อกจะพูดว่าเป็ นหน้าที่ ที่ตอ้ งทาแบบกากวม แต่มิได้บอกว่ามา
เพราะถูกเรี ยกออกไป
ฮุ่ ย กุ้ ย เฟยยกยิ้ ม ได้ ชั่ ว ครู่ ก็ เ ปลี่ ย นเป็ นถอนหายใจออกมา ก่ อ นจะ
เปลี่ยนเป็ นพูดด้วยสี หน้าลาบากใจแทน “ที่ ขา้ มาก็ไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไร เพียงแค่
อยากจะมาขอร้องเจ้าสักเรื่ องเท่านั้น”
เหยียนหยินที่เห็นสี หน้าของอีกฝ่ ายปรับเปลี่ยนอย่างเป็ นธรรมชาติได้โดย
ไม่ติดขัด ก็อดไม่ได้ที่จะนึ กชื่นชมในใจ ก่อนจะพูดตอบด้วยใบหน้าที่ยงั คงรอยยิม้
น้อย ๆ เช่นเดิม “ฮุ่ยกุย้ เฟยมีเรื่ องอะไรก็พดู ออกมาเถิด”
ฝ่ ายฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตาเป็ นประกายไม่นอ้ ย ทั้งยังรี บร้อนพูด
ด้วยท่าทางดีใจ “ตอนนี้คนที่ฝ่าบาทพอจะฟังคงมีแค่เจ้า”
พูดจบก็อธิบายด้วยน้ าเสี ยงลาบากใจออกมาว่า “ข้าอยากให้เจ้าโน้มน้าวฝ่ า
บาทให้ไปเยือนแคว้นเหลียง เพราะยามนี้ ตรงแถบชายแดนระหว่างแคว้นมีข่าวลือ
ไปทัว่ ว่าฝ่ ายเราพอชนะก็หยิ่งผยองไม่คิดสนใจแคว้นเหลียงแม้แต่นอ้ ย แม้แต่เทียบ
เชิญที่องค์จกั รพรรดิ ส่งมาด้วยตนเองก็ยงั ไม่นามาใส่ ใจ ข้าเกรงว่านี่ คงไม่เป็ นผลดี
ต่อแคว้นเราเท่าใด”
ได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็เข้าใจได้ทนั ทีวา่ เมื่อเช้าที่เยว่อิ๋งบอกว่าฮ่องเต้
รี บร้อนออกไปเพราะมีเรื่ องด่วนคือเรื่ องใดกัน ก่อนจะได้ยนิ ฮุ่ยกุย้ เฟยพูดต่อไป “ข้า
คิดว่าหากเหยียนเฟยเป็ นฝ่ ายเอ่ยปาก ฝ่ าบาทย่อมต้องเห็นด้วยเป็ นแน่” ฮุ่ยกุย้ เฟยพูด
ถึงเท่านั้นก็ทาสี หน้าหวังดีพลางพูดออกมาช้า ๆ “แต่ยามนี้ฝ่าบาทเองก็ดูน่าเป็ นห่ วง

10
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เหมื อนจะคิ ดสิ่ งใดอยู่ ข้าว่าถ้ามี ใครตามไปดู แลด้วยก็คงดี ถ้าเป็ นเช่ นนั้นก็ตอ้ ง
รบกวนเหยียนเฟยแล้ว…”
พอเห็ นสายตาลองเชิ งที่ อีกฝ่ ายมองมาหยียนหยินก็ตอ้ งยิ้มปฏิ เสธตอบ
กลับไป “ข้าจะลองคิดดู แต่เรื่ องการตามไปด้วยนั้น ข้าว่าควรจะเป็ นผูอ้ ื่นมากกว่า”
คาตอบของนางทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยทาสี หน้าเสี ยดายทันที “เป็ นเช่นนั้นคงไม่ดี
นัก” ก่อนจะอธิบายออกมาว่า “ข้าต้องคอยดูแลควบคุมวังหลัง ส่วนพระสนมคนอื่น
ที่เหลืออยูก่ ็ลว้ นแล้วแต่มีตาแหน่งที่ต่าเกินกว่าจะพาออกไปงานสาคัญได้ แล้วจะมี
ใครที่ไหนเหมาะไปมากกว่าเจ้าอีกกัน”
พอได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็นิ่งค้างไปเล็กน้อย เพราะนั่นเหมือนการ
บังคับเป็ นนัยว่าหากนางไม่ไปก็แปลว่านางคิดจะใช้โอกาสนี้ ควบคุมวังหลัง แย่ง
อานาจจากอีกฝ่ าย แต่ถา้ ไปก็แปลว่ากาลังข้ามหน้าข้ามตาเหล่าพระสนมที่อยูม่ านาน
แม้จะตาแหน่งไม่สูงไม่ใช่หรื ออย่างไร
ไม่นานนักฮุ่ยกุย้ เฟยก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ข้าเพียงมาพูดเท่านี้ ที่เหลือก็คงต้อง
แล้วแต่เจ้าแล้ว”
พูดจบนางก็บอกลาและลุกขึ้น ทาท่าจะจากไปในทันที “ข้ามีเรื่ องที่ตอ้ ง
ไปดูแลอยูค่ งต้องกลับก่อน เหยียนเฟยลองคิดดูแล้วกัน”
เหยียนหยินที่มองฮุ่ยกุย้ เฟยรี บร้อนจากไปโดยไม่รอให้ตนตอบสิ่ งใดนั้น
ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่ อยใจ ก่ อนที่ เยว่อิ๋งซึ่ งยืนฟั งอยู่ขา้ ง ๆ มาด้วย
ตลอดจะพูดขึ้นมาว่า “พระสนม หม่อมฉันเห็ นว่าการที่ ได้ไปแคว้นเหลี ยงกับฝ่ า
บาทเพียงแค่สองคน อาจจะเป็ นโชคดีของพระองค์ก็ได้นะเพคะ”

11
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เหยียนหยินที่เข้าใจความคิดของอีกฝ่ ายดีตอ้ งตาหนิ ออกไปเล็กน้อย “เจ้า


คิดอะไรอยู่กนั ” ก่อนจะตอบเยว๋ อิ๋งที่มีสีหน้าไม่เข้าใจออกไปว่า “พระสนมในวัง
หลังยุ่งเรื่ องราชกิ จได้ที่ไหน อีกอย่างเจ้าคิดว่าหากข้าทาตามที่นางบอกจริ งจะเกิด
ผลดีจริ ง ๆ หรื ออย่างไร”
พอเหยียนหยินเห็นเยว่อิ๋งมีสีหน้าเข้าใจแล้วก็ตอ้ งยิม้ น้อย ๆ เพราะหากทา
ตามที่ฮุ่ยกุย้ เฟยบอก ผ่านไปไม่นานอาจจะมีข่าวตามมาก็ได้วา่ นางยุง่ เรื่ องราชกิจที่
เกี่ยวกับบ้านเมือง ทั้งยังยัว่ ยวนฮ่องเต้ให้พาตนไปด้วยทั้งที่พ่ ึงจะถูกแต่งตั้งไม่นาน
ความผิดจากสองข้อหานั้นนางจะรับไหวได้อย่างไร แต่การจะทิ้งไว้ไม่สนใจก็ไม่ใช่
เรื่ องดี เพราะดูจากฮ่องเต้แล้วต้องไม่ยอมผ่อนปรนส่ งคนไปแคว้นเหลียงเป็ นแน่
หากเป็ นเช่นนั้นแล้วเกิดสงครามขึ้นมาอีกครั้งก็คงไม่ใช่เรื่ องดีต่อประชาชนเท่าไหร่
เมื่อคิดว่าต้องหาทางพูดโน้มน้าวเขาเสี ยหน่ อยโดยที่ไม่ให้ใครจับผิดได้
เหยียนหยินก็อดไม่ได้ที่จะยิม้ เย็นชาให้ตนเอง
ก่ อนหน้านี้ นางเป็ นเพียงนางกานัลที่ ไม่ตอ้ งคิดสิ่ งใด ก่ อนจะกลายเป็ น
พระสนมเพื่ อ ตามหาความจริ ง เรื่ อ งการตายของผู ้มี พ ระคุ ณ ตน แต่ ย ามนี้ เรื่ อ ง
เหล่านั้นก็คลี่คลายไปบ้างแม้จะมีจุดน่าสงสัยเล็กน้อยเท่านั้น ส่ วนตัวนางกลับต้อง
กลายเป็ นพระสนมจริ ง ๆ เพื่อหาทางเอาตัวรอดในวังหลังแห่งนี้แทน
ชีวติ คนเราช่างไม่แน่นอนเหลือเกิน…

***************************************

12
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 27 คนที่เคยหำยไป

หลังจากฮุ่ยกุ้ยเฟยจากไปเพียงไม่นาน เหยียนหยินก็เข้าครัวเพื่อเตรี ยม
อะไรบางอย่างสาหรับโน้มน้าวใจฮ่องเต้ที่กาลังจะกลับมาที่ตาหนัก แต่ผ่านไปได้
ไม่นาน พอนางออกจากครัวมาได้สกั พักเท่านั้น เสี ยงอารมณ์ดีอนั คุน้ หูของใครบาง
คนก็ดงั ขึ้นมาเสี ยแล้ว
“เจ้ากาลังทาอะไรอยูก่ นั ”
ทันที ที่ได้ยินเสี ยงนั้นเหยียนหยินก็ตอ้ งรี บหันไปมอง “ฝ่ าบาทเหตุใดจึง
เสด็จกลับมาเร็ วเช่นนี้เพคะ”
นางได้แต่ถามเขาด้วยความแปลกใจออกไป เพราะเท่าที่ รู้คือเขามี เรื่ อง
ด่วนที่ ตอ้ งไปจัดการ หรื อก็คือเรื่ องข่าวลือที่ สร้างความเสี ยหายให้ความสัม พันธ์
สองแคว้นอยูไ่ ม่ใช่หรื อ แล้วเหตุใดจึงรี บกลับมาเช่นนี้กนั
ฝ่ ายฮ่องเต้น้ นั เมื่อเห็นนางทาหน้าแปลกใจก็ตอ้ งยกยิม้ ขึ้นมา

13
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

“เจ้าก็รู้ดีวา่ เพราะอะไร” แต่เมื่อเห็นว่าสตรี ตรงหน้ายังไม่เข้าใจแล้วก็ตอ้ ง


แกล้งทาสี หน้าตาหนิเล็กน้อย แล้วจึงเปลี่ยนเป็ นยิม้ ระรื่ นพูดออกไปว่า “ใจข้าอยูท่ ี่นี่
จะให้ขา้ ไปที่ใดได้กนั ”
ทันทีที่เขาพูดคานั้นจบเหยียนหยินก็ดูจะมีสีหน้านิ่ งอึ้งราวกับทาอะไรไม่
ถูก ทาให้เขาหัวเราะชอบใจเสี ยงดัง แล้วจึงค่อยอธิบายเหตุผลจริ ง ๆ ออกไปว่า “อีก
อย่างเจ้าตั้งใจเตรี ยมน้ าแกงพุทราไว้ให้ขา้ ก็แปลว่ารอให้ขา้ มาอยูไ่ ม่ใช่รึไง”
พูดจบก็นงั่ ลงข้างโต๊ะที่นางพึ่งวางน้ าแกงพุทราไว้ แล้วถามออกไปด้วยสี
หน้าสนใจ “เจ้าเอาใจข้าแบบนี้มีเรื่ องอะไรอยากพูดเล่า”
เหยียนหยินเมื่อเห็นว่าเขาดูจะรู ้การเคลื่อนไหวของนางดี ก็ได้แต่ตอ้ งถอน
หายใจอย่างจนใจออกมาไม่นอ้ ย ก่อนจะพยายามทาตามความตั้งใจเดิมไว้แล้วแย้ม
ยิม้ พูดออกไปว่า “ฝ่ าบาททรงเหนื่ อยกับงานราชกิจเพื่อดูแลความสงบสุ ขให้แคว้น
ของเรา จะไม่พกั ผ่อนสักหน่อยได้อย่างไรกันเพคะ”
รอยยิ้มที่ ดูจะพยายามให้เขาผ่อนคลายบวกกับคาพูดที่ ได้ยินนั้น ทาให้
ฮ่องเต้เบ้ปากลงในทันที ก่อนจะยกมือบอกให้คนอื่น ๆ ที่อยูใ่ นห้องนี้ออกไป ด้วยรู ้
แล้วว่านางตั้งใจพูดถึงเรื่ องใด แล้วจึงพูดด้วยน้ าเสี ยงไม่สบอารมณ์เล็กน้อยออกมา
“แม้แต่เจ้าก็ยงั พูดเรื่ องนี้ง้ นั รึ ”
ด้านเหยียนหยินเมื่อเห็นว่าบ่ายเบี่ยงไปก็ไม่มีประโยชน์แล้วนั้น อีกทั้งเขา
ยังไล่พวกนางกานัลและขันทีที่คอยรับใช้ออกไปหมด นางจึงตัดสิ นใจพยายามพูด
โน้มน้าวออกมาตรง ๆ ว่า “หากพระองค์ยงั ไม่ยอมส่ งคนไปเช่นนี้ ข่าวลือเหล่านั้น
อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นมากกว่าเดิมได้”
ฮ่องเต้เมื่อได้ยนิ คาพูดของนางจบ ก็พดู เสี ยงหนักแน่นอย่างดื้อรั้น

14
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

“ข้าไม่คิดจะส่ งคนไป และก็ไม่คิดจะไปด้วยตนเองเช่นกัน” ดวงตาของ


เขาเป็ นประกายและคมกริ บอย่างถือในทิฐิขณะพูดประโยคถัดไป
“ถึงอย่างไรครั้งล่าสุ ดเราก็เป็ นฝ่ ายที่ชนะสงคราม ทั้งยังได้องค์หญิงของ
ฝั่งนั้นมาเป็ นเชลย เจ้าจะกังวลสิ่ งใดกัน”
เหยียนหยินเมื่ อได้ยินคาพูดของเขาก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา ขณะพยายาม
อธิ บายว่า “หม่อมฉันเกรงว่านี่จะนาไปสู่ สงครามอีกครั้งแล้วเกิดความลาบากให้แก่
ผูค้ นได้” แต่เมื่อเห็นเขายังไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนความคิดแล้วนางก็ตอ้ งพูดเสี ยงอ่อนลง
“หม่อมฉันไม่รู้วา่ ฝ่ าบาทไม่พอพระทัยแคว้นเหลียงเรื่ องใด แต่ถึงอย่างไรพระองค์ก็
ยังเป็ นฮ่องเต้และมีผคู ้ นมากมายให้ดูแล”
ฮ่องเต้เมื่ อได้ยินเช่ นนั้นก็นิ่งครุ่ นคิ ดไปเล็กน้อย ก่ อนจะถามบางอย่า ง
ขึ้นมาแทน “ใครเป็ นคนบอกเจ้าเรื่ องนี้”
แต่ยงั ไม่ทนั ที่จะรอให้นางได้ตอบกลับ เขาก็ทายขึ้นมาด้วยแววตาที่หรี่ ลง
จนเหมือนจะคาดคั้นเสี ยแล้ว “ได้ยนิ มาจากฮุ่ยกุย้ เฟยงั้นเรอะ?”
คาถามของเขาทาให้เหยียนหยินได้แต่อมยิม้ น้อย ๆ เพราะหากยอมรับตรง
ๆ ไปก็เหมื อนกับบอกว่าฮุ่ยกุ้ยเฟยนั้นจงใจมาบอกนางไม่ใช่ รึไงกัน แม้มนั จะดู
เหมือนเป็ นเช่นนั้นก็ตาม แต่ถึงนางไม่บอกอีกฝ่ ายก็ดูจะเข้าใจในท่าทางของนางที่
สื่ อออกมาได้ เมื่อสุดท้ายเขาก็เปลี่ยนจากใบหน้าครุ่ นคิดเป็ นถอนหายใจอย่างปล่อย
วางออกมา
“ในเมื่อเจ้ากังวลใจ ข้าจะลองคิดดูก็แล้วกัน”
พูดจบเขาก็หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้นางเล็กน้อย “แต่เจ้าต้องทาตามข้อตกลง
กับข้าเรื่ องหนึ่ง”

15
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ประโยคที่ ได้ยินนั้นทาให้คิ้วสองข้างของเหยียนหยินต้องย่นเข้าหากัน
พลางถามอย่างไม่เข้าใจกลับไปว่า “เรื่ องใดกันเพคะ”
แต่ฮ่องเต้ก็เพียงแค่ยมิ้ น้อย ๆ ตอบนางกลับมาเท่านั้น “ข้าจะบอกเจ้าวัน
หลังเอง”
สุ ดท้ายนางจึงต้องพยักหน้าตอบตกลงไป เพราะหากมันจะทาให้เขายอม
ผ่อนปรนรักษาความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นได้ดีข้ ึนก็คงนับว่าคุม้ ค่าอยูด่ ี
หลังจากนั้นคนทั้งสองคนก็นงั่ พูดคุยกันต่อไม่นาน ก่อนที่เหยียนหยินจะ
เดินทางกลับตาหนักของตนเอง ส่วนเขาก็ตอ้ งนัง่ อ่านฏีกามากมายต่อ จนกระทัง่ เมื่อ
ถึ ง เช้าในวัน ถัด มา เหยีย นหยิน ถึ ง ได้ยิน ข่า วออกมาว่า เขายอมส่ ง ฉี อ๋ อ งกับองค์
หญิงอวี้เหมยไปที่แคว้นเหลียงเพื่อเป็ นตัวแทนตนเองเพื่อตอบรับเทียบเชิญจากองค์
จักรพรรดิกลับไป
ซึ่งนัน่ ก็นบั ว่าเป็ นเรื่ องดีกว่าการที่เขาไม่คิดจะส่งใครไปเลย…
....................

หลังจากการเดิ นทางไม่กี่วนั ฉี อ๋องกับองค์หญิงอวี้เหมยและผูต้ ิดตามก็


มาถึงแคว้นเหลียงตามคาสัง่ ของฮ่องเต้ ดังนั้นพวกเขาในยามนี้จึงอยูใ่ นท้องพระโรง
ของแคว้นเหลียง เบื้องหน้าจักรพรรดิแคว้นเหลียงที่แม้จะดูน่าเกรงขามแต่ก็ยงั คงดู
ผอมแห้งเช่นเดิ ม ในขณะที่ องค์หญิงอวี้เหมยเมื่อเห็ นพ่อของตนก็ตาเป็ นประกาย
ด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชดั
“เสด็จพ่อ…”

16
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

น้ าเสี ยงสดใสที่ ยากจะได้ยินจากองค์หญิงอวี้เหมยที่ มกั หยิ่งทะนงเสมอ


นั้น ทาให้จกั รพรรดิแคว้นเหลียงยกยิม้ ขึ้นมาเล็กน้อย “อวี้เหมยเจ้าเป็ นอย่างไรบ้าง”
คาถามที่แสดงถึงความเป็ นห่วงจากพ่อของตนทาให้องค์หญิงอวี้เหมยรี บ
ตอบกลับไปอย่างยินดี “เสด็จพ่อไม่ตอ้ งกังวล ตอนนี้ ท่านอ๋ องคอยดูแลข้าเป็ นอย่าง
ดี ” ทั้งยังมองมาทางฉี อ๋องด้วยสายตาอ่อนหวานจากใจ ทาให้ฉี อ๋องต้องยิ้มอย่าง
สุภาพตอบกลั ขณะเห็นสายตาของจักรพรรดิแคว้นเหลียงที่กาลังมองมาทางตน
“ดีจริ ง ๆ ที่ได้ฉีอ๋องดูแลนางเป็ นอย่างดี” องค์จกั รพรรดิ พูดเพียงเท่านั้นก็
หันกลับมาพูดกับองค์หญิงอวี้เหมยอีกครั้ง “แม่ของเจ้ารอเจ้าอยู่ ทาไมเจ้าไม่ไปคุย
กับนางสักหน่อย”
ทันที ที่ได้ยินองค์หญิ งอวี้เหมยก็มีทีท่าไม่อยากไปเล็กน้อย “แต่ขา้ …”
ก่อนที่ องค์จกั รพรรดิ จะพูดตัดลูกสาวของตนเองขึ้นมาเสี ยก่อนว่า “พ่อจะคุยกับฉี
อ๋ องเรื่ องสาคัญ เจ้าออกไปก่อนเถอะ”
สุดท้ายองค์หญิงอวี้เหมยก็ตอ้ งจาใจเดินจากไป “ข้าเข้าใจแล้ว” แต่ก็ยงั ไม่
วายหันกลับมามองพ่อของตนกับคนรักที่ยนื คุยอยูด่ ว้ ยกัน

องค์ห ญิ ง อวี้เ หมยเมื่ อ ออกจากท้อ งพระโรงมาแล้ว ก็ รี บ ตรงปรี่ ไ ปยัง


ตาหนักใหญ่อนั แสนจะคุ น้ เคยในทันที เพราะถึ งอย่างไรนางก็มีเรื่ องที่ อยากจะ
ปรึ กษากับแม่แท้ ๆ ของตนเช่ นกัน ทันที ที่องค์หญิ งอวี้เหมยเข้าไปในสวนของ
ตาหนักหลังใหญ่ที่ดูหรู หราโอ่อ่าและเห็ นสตรี ท่วงท่าสู งศักดิ์ผหู ้ นึ่ งแล้ว ก็นางรี บ
เอ่ยเรี ยกเสี ยงดัง “เสด็จแม่ ข้ากลับมาแล้ว”

17
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฝ่ ายฮองเฮาของแคว้นเหลียงเมื่อได้ยินเสี ยงอันคุน้ หู ของลูกสาวตนนั้น ก็


รี บหันกลับมาไม่นอ้ ย “เหมยเอ๋ อ…” ก่อนจะแย้มยิม้ ออกมา พลางรี บถามอย่างเป็ น
ห่วงเป็ นใยว่า “พวกเขาทาอะไรลูกรึ เปล่า”
ทั้งยังรี บร้อนสารวจไปตามเรื อนกายลูกสาวเบื้องหน้า และเอ่ยตาหนิ เสี ยง
เข้ม “อย่าคิดโกหกแม่ พวกคณะฑูตที่ไปเจอลูกคราวนั้นบอกแม่มาหมดแล้ว”
ท่ า ทางที่ ย ากจะได้เ ห็ น ของฮองเฮาแคว้น เหลี ย งที่ ป กติ ม ัก จะได้ชื่ อ ว่า
โหดเหี้ ยมเด็ดขาดเช่นนี้น้ นั ทาให้เหล่าข้ารับใช้รอบด้านต้องพากันรี บก้มหน้าด้วยต
ใจที่สนั่ ระรัว
ไม่นานนักองค์หญิงอวี้เหมยที่เห็นแม่ของตนห่ วงใย ก็รีบฟ้องถึงสิ่ งที่ตน
ต้องเจอมาโดยไม่คิดจะปิ ดบังไว้ทนั ที
“เสด็จแม่ คนที่ทาร้ายลูกมีแค่ฮ่องเต้นนั่ เท่านั้น หลายครั้งที่ลูกตื่นมาแล้ว
ต้องพบกับร่ างกายที่เหนื่ อยล้ากับรอยช้ าบนร่ างของตนที่ถูกเขาย่ายี!” น้ าเสี ยงของ
นางปนไปด้วยความเคียดแค้นและไม่พอใจจนเห็นได้ชดั “ลูกต้องถูกผูค้ นในวังมอง
ด้วยสายตาเหยียดหยาม ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทาอะไรเลยด้วยซ้ าไป”
ได้ยินเช่นนั้นแววตาของฮองเฮาแห่ งแคว้นเหลียงก็เป็ นประกายน่ ากลัว
เพิ่มขึ้น “เจ้าไม่ตอ้ งห่ วงเรื่ องนั้นพ่อของเจ้าต้องหาทางจัดการเขาเป็ นแน่ ” พูดจบก็
นิ่ งค้างไปเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนมาถามเรื่ องอื่นด้วยสี หน้าสงสัยออกไปแทนว่า
“แล้วฉี อ๋องดูแลเจ้าดีหรื อไม่”
สิ้ นคาถามนั้นองค์หญิงอวี้เหมยก็รีบร้อนตอบกลับด้วยน้ าเสี ยงมีความสุข
ไปในทันที “ดี มาก ๆ ” ทั้งยังมี สีหน้าแดงระเรื่ อราวกับเขินอายขึ้นมาขณะพูดว่า
“ท่านอ๋ องมอบความสุขให้ลูกทุกวัน”

18
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาตอบนั้นทาให้ฮองเฮาแคว้นเหลียงชะงักไปไม่นอ้ ย ด้วยไม่นึกว่าลูกสาว
ตนจะกลับกลายเป็ นหลงฉี อ๋องเสี ยหัวปั กหัวปา เนื่องด้วยอีกฝ่ ายแม้จะดูเป็ นบุรุษที่ดี
แต่ ก็ มี ส่ ว นที่ น่ า สงสัย ไม่ น้อ ย สุ ด ท้า ยจึ ง ต้อ งเอ่ ย เตื อ นด้ว ยความหวัง ดี อ อกไป
“อย่าได้ไว้ใจเขาให้มากนัก ถึงอย่างไรเขาก็ยงั เป็ นพี่นอ้ งแท้ ๆ กับฮ่องเต้องค์ปัจจุบนั
และเป็ นลูกชายแท้ ๆ ของสตรี ผนู ้ ้ นั เจ้าลืมไปแล้วรึ ไงกัน”
คาพูดที่ได้ยนิ นั้นทาให้องค์หญิงอวี้เหมยต้องรี บย้อนแย้งแม่ของตน “ท่าน
อ๋ องไม่ได้รู้เรื่ องเหล่านั้น ไม่มีทางที่ เขาจะกลายเป็ นคนเช่นนั้นได้ อีกทั้งเขายังไม่
เคยสนใจแม่แท้ ๆ ของตนมิใช่หรื อ”
เนื่ องจากนางเป็ นคนที่รู้เรื่ องเกี่ยวกับความจริ งที่เกิดเรื่ องวุน่ วายในปี นั้น
และได้เห็นเบื้องลึกเบื้องหลังของสาเหตุที่ทาให้ฮ่องเต้ของอีกฝ่ ายโกรธเกลียดแคว้น
ของตนมากับตา แต่เพราะจาได้วา่ ฉี อ๋องที่เป็ นพี่ชายแท้ ๆ ของฮ่องเต้น้ นั ไม่เคยมา
ที่นี่หรื อรับรู ้เรื่ องราวเหล่านี้ เลย อีกทั้งตอนที่ไปอยูใ่ นวังของเขาก็เห็นว่าเขาเคารพ
แต่ไทเฮาที่ พ่ ึงสิ้ นใจไปไม่กี่ปีซึ่ งเป็ นคนที่ เลี้ ยงดู เขากับฮ่องเต้มามากแค่ไหน จึ ง
ค่อนข้างมัน่ ใจในความคิดของตนที่วา่ เขาไม่รู้เรื่ องใด ๆ นัน่ เอง
ไม่นานนักองค์หญิงอวี้เหมยก็กล่าวยืนยันกับแม่ของตนขึ้นอีกครั้ง “เสด็จ
แม่ท่านอ๋ องเป็ นคนดีจริ ง ๆ ”
ด้านฮองเฮาแคว้นเหลียงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตอ้ งพูดเสี ยงอ่อนลงอย่างจน
ใจ “ถ้าเป็ นเช่นนั้นก็ดี” แม้ดวงตาจะยังดูราวกับครุ่ นคิดสิ่ งใดไว้ จนกระทัง่ ผ่านไป
ไม่ น านก็ ถ ามลู กสาวตนเองขึ้ น อี ก ครั้ งว่า “ว่า แต่ … เหมยเอ๋ อ เจ้า ไม่ มี วี่แ ววว่าจะ
ตั้งครรภ์เลยรึ ”

19
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาถามที่ได้ยินทาให้องค์หญิงอวี้เหมยมีสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมา “อาจจะเพราะ
ก่อนหน้านี้ ขา้ โดนคนของฮ่องเต้กรอกยาไปเป็ นจานวนมาก จึงทาให้มีผลข้างเคียง
อยูบ่ า้ ง” แล้วจึงพูดให้แม่ของตนสบายใจออกไปว่า “แต่ช่วงนี้ ท่านอ๋ องให้คนทายา
บารุ งมาให้ขา้ บ่อย ๆ อีกไม่นานต้องมีข่าวดีแน่นอน”
ได้ยินเช่นนั้นฮองเฮาแคว้นเหลียงก็ยิ้มพึงพอใจ “งั้นก็ดี” ทั้งยังกล่าวชื่ น
ชมฉี อ๋องออกไป “ยังดี ที่ฉีอ๋องให้คนส่ งข่าวคราวจากเจ้ามาติ ดต่อพ่อกับแม่บา้ ง
ไม่เช่นนั้นแม่คงไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าเลย”
ประโยคที่พ่ งึ ได้ยินนั้นทาให้องค์หญิงอวี้เหมยดีใจไม่นอ้ ย ด้วยไม่นึกว่าฉี
อ๋ องจะยอมส่ งจดหมายที่ นางเขียนเก็บไว้มาให้ครอบครัวของนางจริ ง ๆ ทั้ง ๆ ที่
ความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นช่วงนี้ ไม่ดีเท่าใดนัก เมื่อทั้งสองฝ่ ายต่างไม่กล้าตี กัน
เพราะต่างฝ่ ายต่างมีตวั ประกันชั้นดี เพียงแต่คราวก่อนที่แคว้นเหลียงพ่ายแพ้น้ นั เป็ น
เพราะว่าไม่นึกว่าฮ่องเต้จะให้คนตีกลับเต็มกาลัง โดยไม่สนใจว่าแม่แท้ ๆ ของตนยัง
อยูก่ บั ฝั่งนี้เลยเท่านั้นเอง
หลังจากองค์หญิงอวี้เหมยที่คุยกับแม่ของตนไปได้สกั พัก ก็เปลี่ยนเป็ นเข้า
ไปคุยในห้องกันอย่างส่ วนตัวเพื่อที่จะได้ไม่มีใครรบกวนหลังจากไม่ได้พบหน้ากัน
มานานแทน
ยามที่องค์หญิงอวี้เหมยมัน่ ใจแล้วจริ ง ๆ ว่ารอบด้านไม่มีผใู ้ ดแอบฟังอยู่ ก็
พูดตรงประเด็นขึ้นมาว่า “เสด็จแม่ขา้ มีเรื่ องอยากจะบอกท่าน…”
สี หน้าและท่าทางขององค์หญิงอวี้เหมยที่เปลี่ยนไปในพริ บตานั้น ทาให้
ฮองเฮาแคว้นเหลียงเริ่ มจะดูเคร่ งเครี ยด ก่อนจะได้ยินองค์หญิงอวี้เหมยพยายามพูด

20
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เสี ยงเบาออกมาว่า “ตอนอยู่ในวังที่ตา้ หลิงข้ารู ้สึกเหมือนข้าเห็ น…เด็กคนนั้นยังมี


ชีวติ อยู”่
องค์หญิ งอวี้เหมยที่ นึกว่าแม่ของตนจะตกใจนั้น ต้องมี สีหน้าแปลกใจ
ในทันที เมื่ออีกฝ่ ายยังมี ท่าทีสุขุมเช่นเดิม “แม่รู้เรื่ องนั้นแล้ว” คาพูดที่ได้ยินนั้นทา
ให้นางต้องถามกลับไปด้วยสี หน้างงงวย “เสด็จแม่รู้ได้อย่างไร”
ด้านฮองเฮาแคว้นเหลียงพอได้ยินคาถามของลูกสาวตน ก็พูดอย่างคนมี
ประสบการณ์มากกว่าออกมา “เจ้าคิดว่าแม่ของเจ้าเป็ นใครกัน” พูดจบก็อธิ บาย
ต่อไป “ตอนนี้ มีความเป็ นไปได้สูงว่านัน่ คือเด็กคนนั้นจริ ง ๆ นึ กไม่ถึงว่าจะยังไม่
ยอมตายตามแม่ของนางไป”
องค์หญิงอวี้เหมยเมื่อได้ยินเช่นนั้น แม้จะไม่เข้าใจว่าแม่ของตนรู ้เมื่อไหร่
หรื อหาข่าวพวกนี้ มาจากไหน ก็ตอ้ งถามด้วยสี หน้ากังวลใจกลับไปเล็กน้อย “เสด็จ
แม่ ถ ้า เช่ น นั้น เราจะท าอย่า งไรกันดี เ พราะหากเสด็จพ่อ รู ้ เรื่ องนี้ เ ข้า ล่ ะก็ จะต้อง
กลับมาเอา…”
ยังไม่รอให้องค์หญิงอวี้เหมยพูดจบฮองเฮาแคว้นเหลียงก็พูดแทรกขึ้นมา
เสี ยก่อน “ต่อให้พ่อของเจ้ารู ้เรื่ องนี้ แล้วจะช่วยนางยังไงเล่า ตอนนี้ นางเป็ นถึงพระ
สนมตาแหน่งสู งแห่ งต้าหลิง การรอดชีวิตในวังหลังคงไม่ง่ายนักในยามที่ตาแหน่ง
ฮองเฮายังว่างอยูแ่ บบนี้”
พูดถึงตรงนี้ น้ าเสี ยงก็ดูจะเปลี่ยนเป็ นยิม้ เยาะเล็กน้อย “อีกอย่างต่อให้พ่อ
ของเจ้ารู ้ แต่จะรับได้ง้ นั หรื อ”

21
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยินเช่ นนั้นองค์หญิ งอวี้เหมยก็ยิ้มชั่วร้ายอย่างเห็ นด้วยกับแม่ของตน


ขึ้ นมาทันที ก่ อนจะชะงักค้างไปยามที่ ได้ยินคาพูดประโยคถัดไปจากแม่ของตน
ขึ้นมา “แม่วา่ คงจะล่ มจมกันทั้งหมดเสี ยมากกว่า”
รอยยกยิม้ มุมปากที่ยากจะคาดเดานั้นทาเอาองค์หญิงอวี้เหมยรู ้สึกไม่แน่ใจ
ในความหมายที่ถูกซ่อนไว้ จนต้องเรี ยกอีกฝ่ ายเสี ยงเบาออกไป “เสด็จแม่…”
ด้านฮองเฮาแคว้นเหลียงเมื่อได้ยิ นเช่นนั้นก็หันกลับมายิ้มให้ลูกสาวตน
เล็กน้อย “เหมยเอ๋ อ เจ้าต้องรี บมีลูกชายรู ้หรื อไม่” ฮองเฮาแคว้นเหลียงกล่าวด้วย
น้ าเสี ยงอวยพรอย่างหวังดีไม่นอ้ ย จนทาให้องค์หญิงอวี้เหมยดูอารมณ์ดีอย่างเห็นได้
ชัด ด้วยเข้าใจว่าแม่ของตนอยากให้ตนมีชีวติ ที่ดี
ไม่นานนักฮองเฮาแคว้นเหลียงก็พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “ยามนี้ แม่มีแค่เจ้าคน
เดี ยว แต่ถา้ วันหน้าเจ้ามีลูกชายและกลับมาที่ นี่เมื่อไหร่ …” พูดถึงตรงนี้ นางก็เว้น
ช่วงไปราวกับนึ กถึงอะไรบางอย่าง ขณะที่ดวงตาคู่น้ นั ดูจะซ่อนแผนการบางอย่าง
ไว้ในใจตอนที่จะพูดประโยคถัดไปออกมา “แม่จะให้ลูกของเจ้าได้อยูใ่ นตาแหน่งที่
ดีที่สุดแน่นอน”

ด้านฝ่ ายจักรพรรดิแคว้นเหลียงกับฉี อ๋องที่คุยเรื่ อยเปื่ อยด้วยกันไปเรื่ อยนั้น


ก็เริ่ มจะเข้าเรื่ องที่ต่างฝ่ ายต่างอยากพูดถึงขึ้นมาแล้ว เมื่อองค์จกั รพรรดิ พูดขึ้นมาว่า
“หากไม่ได้เจ้าส่งข่าวคราวมาบอก ข้าคงไม่รู้ความเป็ นอยูข่ องลูกสาวตนเองเป็ นแน่”
ฉี อ๋องเมื่อได้ยินช่นนั้นก็ยมิ้ ตอบกลับไปอย่างถ่อมตน “องค์จกั รพรรดิ ถือ
เป็ นพ่อตาของข้า เรื่ องเล็กน้อยเท่านี้อย่าได้เกรงใจ”

22
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาตอบนั้นทาให้จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงหัวเราะขึ้นมา “ดีที่ได้เจ้าดูแลอวี้


เหมยในยามนี้จริ ง ๆ ” ก่อนจะหยุดหันมามองด้วยสายตาที่รู้ทนั เล็กน้อย แล้วพูดเป็ น
นัยออกไป “อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ตอ้ งมีเรื่ องเสื่ อมเสี ยหลุดออกไปมากกว่าเดิม”
เมื่อฉี อ๋องเห็นองค์จกั รพรรดิ ที่ดูจะรู ้ความเป็ นอยู่ลูกสาวตนดี แต่กลับไม่
ถือสาหาความเขาเลยแม้แต่น้อยนั้น ก็พอจะรู ้แล้วว่าคนตรงหน้าไม่ได้เป็ นห่ วงลูก
สาวแท้ ๆ ของตนผูน้ ้ ีสกั เท่าไร
ไม่นานนักจักรพรรดิแคว้นเหลียงก็พดู ถามขึ้นอีกครั้ง “เจ้าจะไม่ไปพบกับ
นางสักหน่อยเรอะ” ทั้งยังมองไปทางฉี อ๋องอย่างลองเชิงเล็กน้อย แต่ฉีอ๋องที่เข้าใจ
ความหมายนั้นดีก็เพียงแค่ถามกลับมาด้วยสี หน้าไม่เข้าใจเท่านั้น “องค์จกั รพรรดิพดู
ถึงใครกัน”
ท่าทางของฉี อ๋องทาให้จกั รพรรดิแคว้นเหลียงต้องยกยิม้ ขึ้น เมื่อเห็นว่าเขา
ดูจะไม่สนใจชี วิตความเป็ นอยูข่ องมารดาแท้ ๆ ของตนเลย จึ งทาเป็ นเปลี่ยนเรื่ อง
เพื่อลองตรวจดู ท่าทางของเขาอี กครั้ งแทน “ช่ างเถิ ด ๆ ว่าแต่ขา้ ผิดหวังจริ ง ๆ ที่
ฮ่องเต้ของพวกเจ้าไม่ได้มาด้วยตนเอง” พูดจบยังเอ่ยด้วยความเสี ยดายตามมาอี ก
เล็กน้อยว่า “ทั้ง ๆ ที่ชอบส่งของมาให้นางเป็ นประจา”
ฉี อ๋องที่ เข้าใจดีว่าอีกฝ่ ายหมายถึงแม่แท้ ๆ ของพวกตนที่ไม่ได้เลี้ยงพวก
ตนทั้งสองคนมา แต่น้องชายของตนก็ยงั คงยึดติดกับแม่แท้ ๆ ผูน้ ้ ี น้ นั ได้แต่ตอบ
กลับไปด้วยรอยยิม้ ลาบากใจที่ดูยากจะคาดเดาน้อย ๆ “ฝ่ าบาทยุง่ อยูจ่ ึงไม่อาจปลีก
ตัวมาได้” ทั้งยังต้องพูดด้วยน้ าเสี ยงแปลกใจว่า “ข้าเองก็พ่ งึ จะรู ้วา่ เขาชอบส่งของมา
ให้นางเช่นกัน”

23
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาพูดนั้นทาให้จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงต้องมีสีหน้าประหลาดใจเช่นกัน


แต่เพียงไม่นานนักก็กลับมาทาเป็ นพูดด้วยสี หน้าเสี ยดายที่ฮ่องเต้ของอีกฝ่ ายไม่ยอม
มาที่นี่ดว้ ยตนเอง พร้อมกับน้ าเสี ยงเรี ยบ ๆ เรื่ อย ๆ เช่นเดิม
“หากเขาไม่มาก็ไม่เป็ นไร ข้าจะไปเยี่ยมเยียนเขาด้วยตนเอง จะได้ดูเสี ย
หน่อยว่าลูกสาวข้ามีความเป็ นอยูเ่ ช่นไร” พูดจบก็หันมามองทางฉี อ๋องเล็กน้อยแล้ว
ยกยิม้ มีเลศนัยขึ้นมา พลางพูดว่า “คงต้องรบกวนเจ้าให้ส่งข่าวคราวไปบอกทางนั้น
ให้ที”
ฉี อ๋องแม้จะเห็นรอยยิม้ ที่มีเลศนัยเช่นนั้น ก็ยงั ต้องคงรอยยิม้ ตอบกลับไป
อย่างเจ้าบ้านที่ดี “ฝ่ าบาทต้องยินดีกบั การเยีย่ มเยียนของท่านเป็ นแน่” ก่อนจะถามถึง
วันเวลาด้วยน้ าเสี ยงราวกับสนอกสนใจ “องค์จกั รพรรดิต้ งั ใจจะไปเมื่อใดกัน”
ได้ยินเช่นนั้นจักรพรรดิ แคว้นเหลียงก็ยกยิ้มขึ้นมา ก่อนจะตอบกลับไป
อย่างชัดถ้อยชัดคาถึงแผนที่วางไว้ หลังจากที่ช่วงนี้ ได้ข่าวคราวความเป็ นอยูข่ องลูก
สาวตน
“ข้ ำจะไปพรุ่งนีเ้ ลย”

***************************************

24
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 28 ต้ อนรับผู้มำเยือน

หลังจากคณะทูตของต้าหลิ งไปเยือนแคว้นเหลี ยงได้ไม่กี่วนั ก็มีสาส์ น


ส่ งกลับมาจากฉี อ๋องว่า จักรพรรดิ แคว้นเหลียงจะมาเยือนแคว้นต้าหลิงด้วยตนเอง
จนต้อ งรี บ เตรี ย มการกัน จนวุ่นวายเสี ย ยกใหญ่ ด้ว ยไม่ นึ ก ว่า อี ก ฝ่ ายจะมาอย่าง
ฉุกละหุกเช่นนี้
แต่คนที่ตอ้ งยุง่ กับการเตรี ยมงานเลี้ยงต้อนรับมากที่สุด ก็มีเพียงฮุ่ยกุย้ เฟย
ที่ มีตาแหน่ งสู งสุ ดในวังหลังในตอนนี้ เท่านั้น ในทางกลับกันสาหรับเหยียนหยิน
ในตอนนี้ แล้ว สิ่ งที่ น่าแปลกใจกว่าก็คือ การที่ ฮุ่ยกุย้ เฟยซึ่ งควรจะยุ่งอยู่กบั การไป
ต้อนรับคณะฑูตที่มาพร้อมกับจักรพรรดิ แคว้นเหลียงนั้น จู่ ๆ ก็มาอยูท่ ี่ตาหนักตน
พร้อมกับสนมส่วนหนึ่งและกาลังยืนอยูต่ ่อหน้าตนด้วยใบหน้ายิม้ แย้มนัน่ เอง
“ฮุ่ยกุย้ เฟยมาหาข้ามีเรื่ องอันใดกัน” เหยียนหยินถามออกไปด้วยสี หน้า
สงสัย ก่ อนที่ ฮุ่ยกุ้ยเฟยจะยิ้มตอบกลับมาว่า “ข้าจะชวนเจ้าไปต้อนรั บ จักรพรรดิ
แคว้นเหลียงพร้อมกับพี่สาวน้องสาวในวังหลังอย่างไรเล่า”

25
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เพราะท่ า ทางของฝ่ ายตรงข้า มดู แ ปลก ๆ ท าให้เ หยีย นหยินเลื อ กที่ จะ


พยายามปฏิเสธฝ่ ายตรงข้ามไปเสี ยนาน แต่สุดท้ายก็ตอ้ งแพ้เสี ยงข้างมากที่ฮุ่ยกุย้ เฟย
พามาด้วย เมื่อพระสนมเหล่านั้นต่างพากันพูดเป็ นนัยออกมาว่า ในเมื่อทุกคนไป
ต้อนรับคณะฑูตแคว้นเหลียงด้วยกันแล้วนางจะไม่ไปได้อย่างไรกัน หรื อก็คือการ
บอกเป็ นนัยว่านางมี อานาจมาจากที่ ใดที่ จะปฎิ เสธฮุ่ยกุ้ยเฟยที่ มีตาแหน่ งสู งกว่า
นัน่ เอง
หลังจากเหยียนหยินได้แต่จนใจเดินไปพร้อมกับฮุ่ยกุย้ เฟยและเหล่าพระ
สนม กลุ่มของพวกนางก็เจอเข้ากับฮ่องเต้ที่กาลังจะไปรอรับจักรพรรดิแคว้นเหลียง
พอดี
“ถวายบังคมเพคะฝ่ าบาท” เหล่าพระสนมต่างพากันย่อกายคานับบุรุษ
เบื้องหน้าลงอย่างพร้อมเพรี ยงกัน ฝ่ ายฮ่องเต้ที่เดิมทีก็ดูจะไม่ได้อารมณ์ดีเท่าไหร่ อยู่
แล้วนั้นพอเห็นสี สันแสบตาจากชุดและการแต่งกายของเหล่าพระสนมเบื้องหน้า ก็
มีน้ าเสี ยงไม่สบอารมณ์เล็กน้อย “พวกเจ้ามาทาอะไรที่นี่ ” ก่อนที่สายตาของเขาจะ
ไปหยุดอยู่ที่เหยียนหยินซึ่ งยืนอยู่เบื้องหลังพระสนมเหล่านี้ อยู่ครู่ หนึ่ ง แล้วคิ้วทั้ง
สองข้างก็พากันย่นเข้าหากันทันที
ฮุ่ยกุย้ เฟยที่ สังเกตเห็ นท่าทางของฮ่องเต้ จึ งรี บเดิ นหน้าขึ้นมาพูดอธิ บาย
ด้วยน้ าเสี ยงอ่อนหวานว่า “หม่อมฉันคิ ดว่าจะพาพวกนางไปต้อนรั บ จักรพรรดิ
แคว้นเหลียงและคณะฑูตด้วยกันเพคะ ถึงอย่างไรนี่ก็เป็ นงานสาคัญ…”
ฮุ่ยกุย้ เฟยพูดยังไม่ทนั จบฮ่องเต้ก็พูดตัดบทนางขึ้นมาเสี ยก่อน “ให้พวก
นางกลับไปซะ คนเยอะไปไม่ดีเท่าไหร่ ”

26
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

การที่ โดนฮ่องเต้พูดอย่างไม่ไว้หน้าเช่นนี้ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยรู ้สึกสะอึกไป


ก่อนจะเห็ นบุรุษเบื้องหน้าหันมายิม้ ให้กบั นางอย่างนุ่ มนวลราวกับจะกลบเกลื่อน
แทน “สาหรับข้าเจ้าอยูค่ นเดียวก็พอแล้ว”
รอยยิม้ และท่วงท่าอบอุ่นอ่อนโยนของเขา ทาให้นางได้แต่ตอบรับออกไป
อย่างไม่รู้ตวั ว่า “เพคะ”
หลังจากนั้นเหยียนหยินและพระสนมคนอื่น ๆ ก็แยกย้ายกลับตาหนักของ
ตนตามคาสั่งของฮ่องเต้ แต่ตอนที่กาลังจะหมุนตัวเดินกลับไปนั้น เหยียนหยินก็อด
ไม่ได้ที่จะต้องหันมามองโอรสสวรรค์ในชุดสูงศักดิ์เล็กน้อย ด้วยรู ้สึกว่าสายตาที่เขา
มองมาที่ นางเมื่อกี้ ราวกับกังวลสิ่ งใด แต่เมื่อเห็นเขากลับไปมีท่วงท่าเฉกเช่นปกติ
ขณะพูดคุยกับฮุ่ยกุย้ เฟยแล้ว ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาพลางคิดว่าตนคงจะคิดมาก
ไปเอง

หลังจากฮ่องเต้เดินออกมาจากส่ วนชั้นในของวังหลวง ยามนี้ เขาจึงกาลัง


ยืนอยูห่ น้าบันไดเก้ามังกร รอต้อนรับขบวนของจักรพรรดิแคว้นเหลียงและคณะฑูต
ที่กาลังข้ามผ่านประตูช้ นั นอกเข้ามา
ขบวนที่เห็นออกไม่ไกลนั้นดูยิ่งใหญ่ท้ งั ยังแข็งแกร่ งราวกับจะโอ้อวด จน
อดไม่ได้ที่จะยิม้ หยันในใจ ด้วยคิดว่าอีกฝ่ ายแม้จะแพ้สงครามแต่ก็ดูไม่คิดจะยอม
อ่อนข้อแม้แต่นอ้ ย ทันทีที่จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงมาหยุดอยูเ่ บื้องหน้า ฮ่องเต้ก็ตอ้ ง
กล่าวต้อนรับออกไปให้ตนยังคงดูเป็ นเจ้าบ้านที่ดี
“เป็ นเกียรติจริ ง ๆ ที่องค์จกั รพรรดิมาเยีย่ มเยียนแคว้นต้าหลิงด้วยตนเอง”

27
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฝ่ ายจักรพรรดิ แคว้นเหลี ยงนั้น พอได้ยินคาพูดต้อนรั บด้วยใบหน้า ยิ้ม


เหมือนไม่ยมิ้ และไร้ซ่ ึงความจริ งใจใด ๆ แล้ว ก็ได้แต่หวั เราะเบา ๆ กล่าวออกไปว่า
“ฝ่ าบาทกล่าวชมมากไป ข้าแค่มาเยีย่ มเยียนเพื่อแสดงความจริ งใจเท่านั้นเอง”
หากมองผ่านสายตาของผูค้ นภายนอก การสนทนาของบุรุษทั้งสองคงจะดู
เป็ นไปได้ดว้ ยดี แต่ในความเป็ นจริ งนั้นมิได้เป็ นเช่นนั้นเลย
ไม่นานนักองค์จกั รพรรดิ ก็สังเกตเห็นฮุ่ยกุย้ เฟยจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง “นี่ คง
จะเป็ นฮุ่ยกุย้ เฟยที่ผคู ้ นร่ าลือกันใช่หรื อไม่” พูดจบเขาก็ยกยิม้ ขึ้นมาพลางกล่าวชื่ น
ชมออกไป “ข้าได้ยิน คนร่ า ลื อ กัน ว่า พระสนมของแคว้น ต้า หลิ ง ล้ว นงดงามดั่ง
เทพธิดา ดูแล้วคงจะเป็ นเรื่ องจริ ง”
ฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มน้อย ๆ พลางกล่าวตอบรับเชิ งขบขัน ว่า
“องค์จักรพรรดิ ก ล่ า วชมเกิ น ไปแล้ว เที ย บกับ พี่ ส าวน้อ งสาวในวัง หลัง ข้า ยัง ดู
ธรรมดาอยูม่ าก”
คาพูดประโยคนั้นทาให้แววตาของจักรพรรดิ แคว้นเหลียงมีประกายไหล
ผ่านวาบ ก่อนจะพูดเชิงล้อเล่นออกมาว่า “ฮุ่ยกุย้ เฟยพูดเช่นนี้ ทาให้ขา้ อยากเห็นพวก
นางซะจริ ง”
สิ่ งที่จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงพึ่งพูดมานั้น ทาให้สายตาของฮ่องเต้คมกริ บ
ขึ้นมาเล็กน้อยขณะเหลือบมองไปทางฮุ่ยกุย้ เฟยที่เหมือนจะเผลอพูดเช่นนั้นออกไป
โดยไม่ได้คิดหรื อมีเจตนาใด ๆ นัน่ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยที่สมั ผัสได้ถึงสายตาคมกริ บเพียง
ชัว่ ครู่ ที่มองมาทางตนนั้น ต้องรี บเปลี่ยนเรื่ องอย่างเป็ นธรรมชาติออกไปแทน “ทาง
เราจัดงานเลี้ ยงต้อนรั บให้องค์จกั รพรรดิ ในคื นพระจันทร์ เต็มดวงในอี กสามวัน
ข้างหน้า หวังว่าองค์จกั รพรรดิจะทรงพึงพอใจ”

28
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

“ข้าย่อมพึงพอใจแน่นอน” จักรพรรดิ แคว้นเหลียงตอบด้วยรอยยิม้ มีเลศ


นัย
ฮ่องเต้ซ่ ึ งเห็นว่าการต้อนรับก็จบลงด้วยดีแล้ว ทั้งยังรู ้สึกว่าไม่ควรให้คน
สองคนที่ อ ยู่ใ กล้เ ขาได้พูด คุ ย กัน ต่ อ ไป จะพู ด ตัด บทขึ้ น มาว่า “องค์จักรพรรดิ
เดินทางมาคงจะเหน็ดเหนื่อยไม่นอ้ ย เรื อนรับรองถูกจัดเตรี ยมไว้แล้วเชิญพวกท่าน
พักได้ตามสบาย”
ยามที่ ขบวนของจักรพรรดิ แคว้นเหลียงและคณะทูตจากไปจนหมดแล้ว
ฮุ่ยกุย้ เฟยก็หนั มาจะพูดกับฮ่องเต้อีกครั้ง “ฝ่ าบาท…” แต่นางยังไม่ทนั พูดสิ่ งใด เขาก็
ยิม้ อ่อนโยนพูดแทรกขึ้นมาเสี ยก่อนว่า “เจ้าทาหน้าที่ได้ดีจริ ง ๆ กลับไปพักผ่อนสัก
หน่อยเถิด”
พูดจบฮ่องเต้ก็หมุนตัวเดินจากไป โดยไม่คิดจะรอฟังคาพูดเพิ่มเติมใด ๆ
จากฮุ่ยกุย้ เฟยอีกเลย นัน่ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยได้แต่กาผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น แม้จะยังคง
รอยยิ้มบาง ๆ ไว้บนใบหน้า แต่ในใจนางก็รู้ดีว่า บุรุษสู งศักดิ์เบื้องหน้าตนที่กาลัง
เดินจากไปนั้น
ต่อให้ฉากหน้ายังดู เหมื อนเดิ มเช่ นไร แต่ในใจเขาย่อมระแวงนางแล้ว
แน่นอน!
.............................

ด้านเหยียนหยินที่กาลังพักผ่อนอยูใ่ นตาหนักของตน พอตกเย็นมาก็ตอ้ งมี


สี หน้าแปลกใจไม่น้อยเมื่ อ กั๋ว กงกงให้ขนั ที น้อยส่ งข่ าวมาบอกที่ ตาหนักนางว่า
ฮ่องเต้จะเสด็จมาในคืนนี้ นั่นทาให้เยว่อิ๋งที่ ยืนอยู่ขา้ งกาย แกล้งถามออกมาอย่าง

29
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ลัง เล “พระสนมคื น นี้ ฝ่ าบาทจะเสด็ จ มานะเพคะ เปลี่ ย นเป็ นใส่ ชุ ด อื่ น เลยดี
หรื อไม่…”
ใบหน้าที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่ากาลังคิดสิ่ งใดของเยว่อิ๋ง ทาให้เหยียน
หยินอดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวตาหนิ ออกไป “เจ้ากาลังคิดสิ่ งใดกัน” เหยียนหยินพูด
จบไปได้ไม่นาน เสี ยงอันคุน้ เคยของฮ่องเต้ก็ดงั แทรกขึ้นมาเสี ยแล้ว
“แล้วเจ้าเล่ากาลังคิดสิ่ งใด”
พอเหยียนหยินและเหล่านางกานัลในตาหนักเห็นฮ่องเต่ที่กาลังเดินเข้ามา
ก็ตอ้ งรี บลุกขึ้นมาทาความเคารพชายเบื้องหน้าทันที แต่อีกฝ่ ายก็รีบเข้ามาห้ามนาง
ไว้เสี ยก่อน “ไม่ตอ้ งมากพิธี”
เห็ นเช่นนั้นเหล่าข้ารับใช้ในตาหนักก็พากันถอยห่ างออกไปอย่างรู ้ งาน
จนเมื่ออยู่กนั เพียงลาพังสองคนแล้ว เหยียนหยินก็รินชาให้ชายเบื้ องหน้า ก่อนจะ
ถามขึ้นด้วยความแปลกใจเล็กน้อยว่า “ทรงกังวลเรื่ องใดอยูเ่ พคะ”
ที่ถามเช่นนั้นก็เพราะนางเห็นท่าทางของเขาแปลก ๆ ตั้งแต่ตอนที่พบกัน
ก่อนหน้า อีกทั้งเขายังมาหานางก่อนเวลาที่เขาให้คนแจ้งไว้เช่นนี้นนั่ เอง
ฝ่ ายฮ่องเต้เมื่อเห็นนางสังเกตได้อย่างง่ายดาย ก็ยิม้ อบอุ่นออกมาไม่นอ้ ย
พลางดึงนางเข้ามานัง่ ตักตนทั้งยังกอดนางอย่างรักใคร่ ไว้ แล้วค่อยบอกให้นางสบาย
ใจออกไป “ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่งานเลี้ยงต้อนรับเจ้าจะไปเข้าร่ วมรึ เปล่า”
ก่อนจะได้ยนิ นางตอบกลับมาว่า “ตามหน้าที่แล้วหม่อมฉันต้องไปเพคะ”
คาตอบนั้นทาให้เขาก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วจึงกล่าวเชิ งหยอกเย้าออกมา
“งั้นเหรอ ข้าไม่อยากให้ใครเห็นเจ้าเลยจริ ง ๆ ”

30
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เหยียนหยินที่ ตกอยู่ในอ้อมกอดของคนเบื้ องหลังรู ้สึกจัก๊ จี้ เล็กน้อย เมื่อ


ใบหน้าของเขาเข้ามาซุ กไซ้กบั นางราวกับจะแกล้งกัน “ฝ่ าบาท…” นางเรี ยกเขา
อย่างบางเบาได้ไม่นาน เขาก็หมุนหน้านางให้หนั ไปหาพลางถามด้วยรอยยิม้ มีสเน่ห์
ว่า “ไหน ๆ ข้าก็มาแล้ว เจ้าทาหน้าที่ของตนเองอีกสักคืนดีหรื อไม่”
เหยียนหยินที่ เห็ นว่าวันนี้ เขามีท่าที แปลก ๆ นั้นได้แต่พยักหน้าตอบรั บ
ด้วยใบหน้าแดงระเรื่ อ เพราะถึงอย่างไรนัน่ ก็เป็ นหน้าที่ที่นางควรจะทาตามอยูแ่ ล้ว
ผ่านไปไม่นานท่ามกลางแสงเที ยนอันเบาบางในค่ าคื นนั้น คนสองคน
กาลังบรรเลงเพลงรักกันอย่างเร่ าร้อน เสี ยงที่เกิดจากการกระแทกกระทั้นกันดังเบา
ๆ อยูภ่ ายในห้องที่มีเพียงคนสองคน ขณะที่เงาของร่ างสองร่ างที่ขยับเขยื้อนอยูน่ ้ นั
ก็สนั่ ไหวไปตามจังหวะโยกคลอนของคนตัวเล็กที่หลุดเสี ยงร้องครางออกมา
เมื่อคนทั้งสองไปถึงฝั่งฝัน ฮ่องเต้ก็ขยับกายถอยออกไป แต่ก็ดูจะยังไม่ได้
อยากหยุดมอบความสุ ขให้ร่างบาง ๆ เบื้องล่างเสี ยเท่าไหร่ เมื่อเขายังคงเข้าไปปลุก
ปั่ นไฟปรารถนาในตัวนางที่ยงั ไม่ทนั จางหายไปให้มากขึ้นกว่าเดิม
สุ ดท้ายค่ าคืนนั้นเหยียนหยินก็ตอ้ งเหนื่ อยล้าไปเสี ยหลายครั้งหลายครา
จนร่ างกายแทบสิ้นไร้เรี่ ยวแรง

ช่วงเวลาเช้ามืดในวันถัดมา ฮ่องเต้ซ่ ึ งพึ่งจะแต่งตัวเสร็ จและเตรี ยมตัวจะ


ออกไปจากตาหนักนั้น ต้องเดินเข้ามาดูสตรี ที่นอนอยูบ่ นเตียง ซึ่งกาลังสะลึมสะลือ
ขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะอมยิ้มพูดออกไปว่า “คืนนี้ ขา้ จะมาใหม่ หวังว่าเจ้าคงจะไม่
เหนื่อยมากจนเกินไป เพราะคืนนี้ขา้ ไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่นอน” พูดจบเขาก็เดิน
จากไปเพื่อเตรี ยมเข้าว่าราชการในยามเช้านัน่ เอง

31
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ทันที ที่เหยียนหยินตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าเบื้ องนอกเริ่ มจะมี แสงแดด


สาดส่ องเข้ามาแล้ว จึ งหันไปถามเยว่อิ๋งที่ กาลังเตรี ยมชุดคลุมให้นางจากเบื้องข้าง
ทันที “ฝ่ าบาทเล่า” ก่อนจะได้รับคาตอบจากเยว่อิ๋งที่มีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยตอบ
กลับมาว่า “ออกไปตั้งแต่ยามอิ๋น(1) แล้วเพคะ”
คาตอบที่ ได้ยินนั้นทาให้คิ้วของเหยียนหยินย่นเข้าหากัน สักพักจึ งถาม
ออกไป “ฝ่ าบาทได้รับสัง่ สิ่ งใดไว้รึเปล่า” ไม่นานนักเยว่อิ๋งก็ตอบกลับมาว่า “ทรง
บอกว่าคืนนี้จะมาอีกเพคะ”
ได้ยินเช่ นนั้นเหยียนหยินก็เข้าใจได้ในทันที ว่าคาพูดที่ ได้ยินตอนสะลึ
มสื อเมื่อเช้านั้น มิได้เป็ นเพียงแค่นางฝันไป ว่าแต่เหตุใดจู่ ๆ เขาจึ งพยายามมาหา
นางบ่อย และคิดจะให้นางปรนนิ บตั ิเขาติด ๆ กันเช่นนี้ กนั นั่นดูไม่เหมือนเขาใน
ยามปกติเลย เมื่อตั้งแต่คืนที่นางอยูก่ บั เขาซึ่งเมามายไม่ได้สติครานั้น เขาก็ดูจะไม่คิด
ฝื นใจนางในเรื่ องพวกนี้เลย
เวลาล่วงเลยไปจนกระทัง่ พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน เหยียนหยินที่นงั่ เล่นอยู่
ในตาหนักจนพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปอีกครั้ง ก็เห็นบุรุษที่แสนจะคุน้ เคยเดินยิม้
เข้ามาในตาหนักของนางเช่นเดิม
“เจ้ารอข้าอยูใ่ ช่หรื อไม่”
เหยียนหยินที่เห็นเขาเข้ามาทั้งยังไล่พวกข้ารับใช้ออกไปอย่างรวดเร็ วเช่น
เคย ต้องถามด้วยความแปลกใจเล็กน้อยออกไป “ฝ่ าบาทเหตุใดจึงมาติด ๆ กันเช่นนี้
เพคะ”
ฝ่ ายฮ่องเต้ที่กาลังเดินเข้ามาหานางนั้นนิ่ งเงียบไปชัว่ ครู่ หนึ่ง ก่อนจะเพียง
แค่ยมิ้ ตอบกลับมา “ข้าจะมาหาสนมคนโปรดของตนเองมันผิดหรื ออย่างไรกัน”

(1) ยามอิ๋น คือประมาณ 3:00 – 4:59 น. 32


เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

พูดจบเขาก็อุม้ นางขึ้นจนนางตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะทาเช่นนี้ จนต้อง


รี บจับเขาไว้ทนั ที แต่เขาก็เพียงแค่กระซิ บพูดบางเบาออกมาว่า “หวังว่าเจ้าจะยังมี
แรงเหลือมากพอ”
สิ้ นเสี ยงนั้นเขาก็วางนางลงบนเตียงทั้งยังขึ้นมาคร่ อมนางไว้ ทาให้เหยียน
หยินต้องรี บร้องห้ามความใจร้อนของเขา “เดี๋ยวก่อน…” แต่นางพูดยังไม่ทนั จบ เขา
ก็เริ่ มลูบไล้ไปตามกายนางจนเสื้ อผ้าของนางเริ่ มจะหลุดลุ่ยออกไปเสี ยแล้ว ยามที่ริม
ฝี ปากของเขาบีบเม้มลงเบา ๆ ตรงใบหูของนางก็ตอ้ งสะดุง้ ขึ้นมาเล็กน้อย “อ๊ะ!“
ไม่ น านนัก ฮ่ องเต้ก็ แกล้งถามนางที่ ดูไ ม่ยินยอมด้ว ยน้ า เสี ย งราวกับจะ
น้อยใจว่า “ตามใจข้าอี กสักคื นไม่ไ ด้รึอ ย่างไรกัน ” ก่ อนจะยิ้มมี สเน่ ห์ขณะถาม
ออกมาว่า “คืนพรุ่ งนี้ขา้ ก็จะมาอีก เจ้าคงจะรับไหวใช่หรื อไม่”
เหยียนหยินที่รู้สึกว่าเขาแปลก ๆ ได้แต่พยายามผลักเขาออกเบา ๆ แต่ก็ดู
เหมื อ นจะไม่ เ ป็ นผลเลย สุ ด ท้า ยก็ ต ้อ งถามเสี ย งสั่น ขณะที่ เ ขาพยายามปลุ ก ปั่ น
อารมณ์ของนางออกไป “ฝ่ าบาท…พระองค์ทรงกาลังคิดสิ่ งใดกัน” แต่เมื่อเห็นเขา
ไม่คิดจะหยุดทั้งยังยัว่ เย้านางมากกว่าเดิมแล้ว ก็ตอ้ งถามถึงความคิดหนึ่ งที่แวบเข้า
มาในหัวออกไปอย่างลังเลใจไม่นอ้ ย “หรื อว่าท่านอยากจะมี…เด็ก”
คาพูดที่ได้ยนิ นั้น ทาให้ฮ่องเต้ยอมยกศีรษะขึ้นมาจากซอกคอขาวของนาง
แล้วหัวเราะขบขันกับความคิดที่คาดไม่ถึงของนางออกมา
แค่เห็นเขาที่หัวเราะไม่หยุดจนตัวงอเหยียนหยินก็อดไม่ได้ที่จะต้องหน้า
แดงมากกว่าเดิม
“เด็ก ๆ งั้นเรอะ เป็ นความคิดที่ดีจริ ง ๆ ”

33
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

พูดจบเขาก็หันมาถามด้วยรอยยิม้ กระหยิ่มยิม้ ย่องว่า “ถ้าเช่นนั้นข้าจะมา


หาเจ้าให้บ่อยอีกสักหน่อย เจ้าจะได้มีเด็ก ๆ มาวิง่ เล่นด้วยดีหรื อไม่”
เหยียนหยินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบแย้งขึ้นมาทันที “ทรงกาลังคิดสิ่ งใดกัน
เพคะ!” ก่อนจะได้ยินเขาเอ่ยอย่างเอาแต่ใจออกมา “ข้าแค่อยากให้เจ้าตามใจข้าเท่า
นั้นเอง”
พูดจบเขาก็กม้ ลงบรรเลงเพลงรักกับนางอีกครั้ง ก่อนที่ ค่ าคืนนั้นจะผ่าน
ไปโดยที่นางเหนื่อยไม่ได้นอ้ ยไปกว่าค่าคืนก่อนหน้าเลย
จนกระทัง่ เหยียนหยินที่สลบไสลเพราะความเหนื่ อยล้าได้ตื่นมาในยาม
เช้าวันถัดมา ก็พบกับใบหน้าอันแสนคุน้ เคยของเยว่อิ๋งเช่นเดิม
“พระสนมตื่นแล้วหรื อเพคะ”
“ฝ่ าบาทเล่ า ” เหยีย นหยิน ถามออกไป ก่ อ นที่ เยว่อิ๋ ง จะตอบกลับมาว่า
“ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วเพคะ”
ทันที ที่ได้ยินเช่ นนั้นคิ้วของเหยียนหยินก็ตอ้ งขมวดมุ่นเข้าหากัน ทั้ง ๆ
ที่นี่ก็ดูจะเป็ นเรื่ องปกติที่มกั จะพบได้ทวั่ ไปในชีวิตของพระสนมเช่นนางในวังหลัง
แต่ไม่รู้ทาไมถึงรู ้สึกว่ามันน่าแปลกเสี ยจริ ง อีกอย่างเขามาหานางบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ควร
จะสนใจจักรพรรดิแคว้นเหลียงกับคณะฑูตมากกว่าเช่นนี้ จะไม่โดนข่าวลือเสี ยหาย
เล่นงานเอาหรื อไง
ไม่นานนักเสี ยงของเยว่อิ๋งก็ดงั พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “พระสนมคือว่าตอนนี้
ด้านนอก มีข่าวลือเกี่ ยวกับฝ่ าบาทไม่ดีเท่าใดนัก พวกเขาบอกว่าทรงไม่สนใจงาน
ราชกิจเพราะทรงเสด็จมาวังหลังทุกคืน แล้วก็คืนนี้…”

34
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ได้ยนิ เพียงเท่านั้นเหยียนหยินก็พอจะทายบางอย่างออก ว่าเขาต้องบอกว่า


จะมาในคืนนี้อีกเป็ นแน่ หากเขาทาเช่นเดิมนางต้องสิ้นไร้เรี่ ยวแรงจริ ง ๆ เป็ นแน่แท้
อีกอย่างพรุ่ งนี้ก็จะเป็ นงานเลี้ยงต้อนรับแล้ว หากเขายังมัวแต่มาที่นี่จะไม่มีข่าวเสื่ อม
เสี ยออกมามากกว่าเดิมหรื ออย่างไร เมื่อพอจะทายได้แล้วว่าอีกฝ่ ายกาลังคิดจะทา
อะไร เหยียนหยินก็ยมิ้ บางเบาหันมาพูดกับเยว่อิ๋งทันที
“เจ้าเตรี ยมอะไรให้ขา้ หน่อยได้หรื อไม่”
เยว่อิ๋งเมื่ อเห็ นว่าจู่ ๆ พระสนมของตนก็มีท่าที เปลี่ ยนไป ตั้งตัวไม่ทัน
เล็กน้อย “อะ เอ๋ …เพคะ” แต่ทนั ที่ รับฟั งคาขอจากพระสนมเบื้องหน้าแล้ว สี หน้า
ของนางก็ตอ้ งดูตกใจมากกว่าเดิม

ผ่านไปไม่ถึงชั่วยามหลังจากเหยียนหยินสั่งเยว่อิ๋งให้ไปเตรี ยมบางสิ่ ง
ให้กบั ตน ตอนนี้ เหยียนหยินจึงกาลังอยู่ในชุดคลุมเพื่อเตรี ยมจะอาบน้ า ขณะมอง
อ่างน้ าที่มีกลีบดอกไม้มากมายเบื้องหน้าอยู่ ส่วนเยว่อิ๋งเมื่อช่วยนางถอดชุดคลุมออก
แล้วก็ตอ้ งถามด้วยน้ าเสี ยงลังเลออกมาไม่นอ้ ย “พระสนมน้ าเย็นขนาดนี้จะดีหรื อเพ
คะ ยิง่ อากาศหนาวเช่นนี้ดว้ ยแล้ว…”
“แค่เย็นนิ ดหน่อยเท่านั้น” เหยียนหยินตอบก่อนจะเข้าไปนัง่ แช่ในอ่างน้ า
นั้นอย่างไม่ลงั เล จริ ง ๆ น้ าก็ไม่ได้เย็นมาก เพียงแค่ไม่ได้อุ่นพอที่จะให้ความอบอุ่น
กับร่ างกายในฤดูหนาวเช่นนี้ เท่านั้นเอง ไม่นานนักเหยียนหยินก็ค่อย ๆ หลับตาลง
เพื่อแช่น้ าอย่างสบายอารมณ์ต่อไป
เยว่อิ๋งเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ตอ้ งถามอย่างไม่เข้าใจขึ้นมา “พระสนมตั้งใจจะทา
สิ่ งใดเพคะ”

35
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ก่อนที่ เหยียนหยินจะตอบกลับไปว่า “ข้ากาลังหาทางป้ องกันตนเองอยู่


แล้วก็ทาให้ใครบางคนไม่เดือดร้อนไปด้วยเท่านั้น”
พูดจบนางก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะสั่งนางกานัลคนสนิทข้าง
กายตน “ข้าอยากผ่อนคลายความเมื่อยล้าในตัวเท่านั้น ให้ขา้ ได้แช่น้ าสบาย ๆ เช่นนี้
อีกสักนิดก็พอ”
ได้ยินเช่นนั้น เยว่อิ๋งก็ได้แต่ยืนเฝ้าอยูเ่ งียบ ๆโดยไม่กล้าเอ่ยสิ่ งใด จนเวลา
ล่วงผ่านไปเกือบครึ่ งชัว่ ยาม จึงต้องถามพระสนมของตนที่ยงั คงหลับตาพริ้ มนอน
แช่น้ าออกไปด้วยความเป็ นห่ วงอีกครั้งนัน่ เอง “พระสนมทรงแช่น้ านานเกิ นไปรึ
เปล่าเพคะ”
เหยียนหยินเมื่อได้ยนิ เช่นนั้นก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะรู ้สึกวิงเวียนจน
ต้องเรี ยกเยว่อิ๋งออกไป “พยุงข้าออกไปที…”
พอเห็นเยว่อิ๋งมีสีหน้ามึนงงเล็กน้อย จึงต้องพูดออกไปว่า “ข้าแค่รู้สึกหน้า
มืดขึ้นมา” ได้ยินเช่นนั้นเยว่อิ๋งก็ตอ้ งพูดเสี ยงดุออกมาแทน “เห็นไหมเพคะ หม่อม
ฉันบอกไปแล้วว่าทรงแช่น้ านานเกินไป”
โดนนางกานัลคนสนิทของตนดุเช่นนี้ ทาให้เหยียนหยินอดหัวเราะน้อย ๆ
ออกมาไม่ได้ ก่อนจะสัง่ อีกฝ่ ายออกไปว่า “เจ้าไปเรี ยกหมอหลวงมาที”
แต่พอเห็ นอีกฝ่ ายหันมามองด้วยสี หน้ามึนงงมากกว่าเดิ มแล้ว ก็พูดเสี ยง
กาชับอย่างจริ งจังกลับไปอีกครั้ง “บอกว่าข้าโดนอากาศเย็นมากเกิ นไปจึงรู ้สึกไม่
ค่อยดี อยากให้ลองมาตรวจดูเข้าใจรึ ไม่”
นั่นทาให้เยว่อิ๋งที่ เดิ มที คิดตามไม่ทนั นั้นพอจะเริ่ มเข้าใจขึ้นมาบ้าง เมื่อ
เห็นพระสนมเบื้องหน้าจงใจสัง่ ให้ตนไปทางานนี้ดว้ ยตนเอง

36
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

พอเห็ นเยว่อิ๋งมีสีหน้าเข้าใจ เหยียนหยินก็ยิ้มขึ้นน้อย ๆ แล้วจึ งสั่งต่อไป


“เจ้าไปตามหมอหลวง แล้วก็ให้คนอื่นเข้ามาช่วยข้าแต่งตัวแล้วกัน”
“เข้าใจแล้วเพคะ” เยว่อิ๋งตอบรับก่อนจะเดินออกจากตาหนัก ทาให้เหยียน
หยินที่อยูใ่ นชุดคลุมผืนบางขณะนัง่ รออยูใ่ นห้องของตนนั้นต้องครุ่ นคิดออกไปว่า
นางแช่ น้ า นานพอที่ จ ะท าให้ แ ผนการของตนส าเร็ จ หรื อ ไม่ หรื อ ควรจะท าให้
มากกว่านี้เพื่อให้ดูสมจริ งมากกว่าเดิมกัน คิดได้ไม่ทนั ไรเหล่านางกานัลก็เข้ามาช่วย
นางแต่งตัวตามคาสัง่ ที่ฝากเยว่อิ๋งบอกไปเสี ยแล้ว
ทันทีที่เยว่อิ๋งกลับมาจากการไปตามหมอหลวงด้วยตนเองนั้น เหยียนหยิน
ก็แต่งตัวเสร็ จไปนานแล้ว ยามนี้นางจึงกาลังนัง่ มองบรรยากาศภายนอกข้างหน้าต่าง
ที่ถูกเปิ ดแง้มไว้เล็กน้อย
เหยีย นหยินหันมามองผูม้ าใหม่ ไ ด้ไ ม่ น าน เสี ย งต าหนิ ข องเยว่อิ๋ งก็ดัง
ขึ้นมาตาม “พระสนมเหตุใดจึงยังมานัง่ เล่นอยูข่ า้ งหน้าต่างเช่นนี้เพคะ”
ท่าทางตาหนิ อย่างเห็นได้ชดั นั้นทาให้เหยียนหยินต้องถอนหายใจน้อย ๆ
ตอบกลับไปว่า “ข้าไม่มีอะไรทา เลยอยากมองบรรยากาศรอบด้านเท่านั้น”
เยว่อิ๋งได้ยินเช่นนั้นก็รีบร้อนหันมาเร่ งหมอหลวงทันที “ท่านหมอหลวง
รี บ ตรวจอาการพระสนมเถิ ด ” ทั้ง ยัง รี บ เดิ น ไปปิ ดหน้า ต่ า งที่ นาอากาศเย็น จาก
ภายนอกเข้ามาลง พร้อมกับบ่นเบา ๆ
ฝ่ ายหมอหลวงเมื่อเห็ นสถานการณ์เบื้องหน้า ก็อดที่ จะวิเคราะห์ออกมา
ไม่ได้วา่ พระสนมเบื้องหน้าก็ดูจะเป็ นคนดื้อรั้นนิด ๆอยูไ่ ม่นอ้ ย จึงไม่น่าแปลกที่จะ
ตากไอเย็นจนหน้ามื ดแล้วไปเรี ยกเขามาเช่ นนี้ จนกระทั่งหมอหลวงตรวจเสร็ จ
เยว่อิ๋งก็รีบถามขึ้นมาอีกครั้ง “ท่านหมอหลวงพระสนมเป็ นเช่นไรบ้าง”

37
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยนิ เช่นนั้นหมอหลวงก็ได้แต่ถอนหายใจ พลางพูดว่า “เหยียนเฟยรับไอ


เย็นมากเกินไป ช่วงนี้ ควรจะพักผ่อนแล้วก็อย่าออกไปโดนอากาศด้านนอกมาก ข้า
จะสั่งยาที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย” พูดจบยังส่ ายหัวไปมาอย่างจนใจ เอ่ย
เตื อนพระสนมเบื้ องหน้าตน “เหยียนเฟยควรจะฟั งคาพูดของนางกานัลให้ม าก
ร่ างกายของเหยียนเฟยค่อนข้างอ่อนแอ ทรงมิควรจะตากอากาศเย็นมากจนเกินไป
เช่นนี้จริ ง ๆ”
คาพูดที่ได้ยนิ ทาให้เหยียนหยินได้แต่ยมิ้ เบาบาง “ขอบคุณท่านหมอหลวง
ครั้งนี้ลาบากท่านแล้ว”
หลังจากนั้นก็ให้คนไปส่ งหมอหลวงกลับไป พอทั้งห้องกลับไปเหลื อ
เพียงนางกับเยว่อิ๋งเช่นเดิมอีกครั้ง เยว่อิ๋งก็ถามอย่างเสี ยงเบาด้วยกลัวใครจะได้ยิน
“พระสนมจะไม่ทาเกินไปหน่อยเหรอเพคะ ถึงกับต้องทรงทาร้ายตนเองเช่นนี้ …”
เหยียนหยินเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ ายรู ้แล้วว่าตนจงใจแกล้ งป่ วย จึงพูดอย่างจนใจ
ออกมาว่า “ไม่อย่างนั้นคนเหล่านั้นจะเชื่อจริ ง ๆ ได้อย่างไรเล่า”
ใช่แล้ว…สาเหตุที่นางจงใจทาให้ตนเองเหมือนป่ วยเช่นนี้ ก็เพื่อหลีกเลี่ยง
ไม่ให้ฮ่องเต้มาหา และหลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอ้ งไปงานเลี้ยงต้อนรับซึ่งน่าจะเป็ นสาเหตุ
ที่เขามาหานางและพยายามทาให้นางหมดแรงเสี ยให้ได้อยูท่ ุกคืนนัน่ เอง แม้จะไม่รู้
ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงไม่อยากให้นางไปงานเลี้ยงนั้นก็ตาม อต่ในเมื่อเขาตั้งใจมาหา
นางติด ๆ กันจนยอมให้ตนเองเกิดข่าวลือเสี ยหายตามมาเช่นนี้ จะให้นางปล่อยให้
เขาทาเช่นนั้นต่อไปได้อย่างไรเล่า สุดท้ายจึงได้ตดั สิ นใจแกล้งป่ วยเสี ยเลย

38
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

หลังจากหมอหลวงจากไปไม่ถึงครึ่ งชัว่ ยาม แขกที่เหยียนหยินคิดไว้แล้ว


ว่าจะต้องมา ก็เดินเข้ามาในตาหนักด้วยสี หน้าเป็ นห่ วงเป็ นใย “เหยียนเฟยเป็ นเช่น
ไรบ้าง” นัน่ คือคาถามแรกจากฮุ่ยกุย้ เฟยที่ดูเร่ งร้อนมาด้วยความจริ งใจยิง่ นัก
“ข้าได้ข่าวว่าเจ้าไม่สบายเท่าใด”
พอเห็นสี หน้าลองเชิงถามของฮุ่ยกุย้ เฟยแล้ว เหยียนหยินที่นงั่ พักอยูท่ ้ งั ยัง
มีผา้ คลุมผืนใหญ่หลายผืนห่มคลุมไว้ ก็ตอบกลับไปด้วยเสี ยงที่บางเบาว่า “เพียงแค่
โดนไอเย็นมากไปเท่านั้น หมอหลวงบอกว่าให้หลีกเลี่ยงการโดนอากาศด้านนอกเพ
คะ…”
ฮุ่ยกุย้ เฟยได้ยินเช่นนั้นก็รีบยิม้ ยินดีออกมา ก่อนจะกล่าวให้กาลังใจ “ยังดี
ที่ไม่ได้หนักหนาเท่าไร เพียงแค่พกั ผ่อนกินยาให้มาก ๆ เจ้าก็คงจะหายดีได้เป็ นแน่”
แต่เหยียนหยินก็ทอดถอนใจออกมาเสี ยก่อนว่า “ต่อให้ยาจะดีแค่ไหนก็คงจะมิได้
หายในเร็ ววันเป็ นแน่เพคะ ถึงอย่างไรนี่ก็ยงั เป็ นหน้าหนาวที่มีหิมะปกคลุมไม่นอ้ ย”
คาพูดของเหยียนหยินนั้น ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยเริ่ มจะเข้าใจเจตนาของนางได้
ในทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของนางจึ งแข็งค้างไป สุ ดท้ายก็ได้แต่พูดอย่างเข้าอก
เข้าใจออกมา “ในเมื่ออาการเจ้าไม่ดีเช่นนี้ ก็พกั ผ่อนอยู่ที่นี่ก็แล้วกันเรื่ องงานเลี้ยง
คืนพรุ่ งนี้ก็ปล่อยไปก่อนเถอะ ข้าจะอธิบายกับฝ่ าบาทให้เอง”
หลังจากนั้นฮุ่ยกุย้ เฟยก็มิได้อยูพ่ ดู คุยต่อ เพียงแค่บอกลากลับไปโดยอ้างว่า
มีงานที่ตอ้ งเตรี ยมอีกมาก เห็นเช่นนั้นเหยียนหยินก็พอจะโล่งใจขึ้นมาบ้าง ไม่นาน
นักเสี ยงของเยว่อิ๋งก็ดงั ขึ้นมาแทน “พระสนมแล้วที่ฝ่าบาทจะมาคืนนี้…”

39
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยินเท่านั้นเหยียนหยินก็ครุ่ นคิดเล็กน้อย ก่ อนจะตอบกลับเสี ยงเรี ยบ


“ส่ งคนไปบอกกัว๋ กงกงว่าข้าไม่สะดวกให้ฝ่าบาทมา เพราะเกรงว่าพระองค์จะติด
หวัดเอาได้”
ถึงแม้ฮุ่ยกุย้ เฟยบอกว่าจะบอกฮ่องเต้ให้ แต่นางก็คิดว่าส่ งคนของตนไป
บอกด้วยจะดีกว่า เผื่อว่าอีกฝ่ ายเปลี่ยนแปลงคาพูดจนความหมายผิดแผกไปจะได้ไม่
เกิดเรื่ องขึ้น
แม้เยว่อิ๋งพอจะเข้าใจในความคิดของพระสนมตนแล้วก็ยงั อดถามออกไป
ไม่ได้วา่ “ทาเช่นนี้ จะไม่เป็ นอะไรจริ ง ๆ หรื อเพคะ” ก่อนที่เหยียนหยินจะยิม้ น้อย
ๆ ให้กบั คาถามที่ได้ยนิ นั้น แล้วตอบอย่างชัดถ้อยชัดคาด้วยเสี ยงอันบางเบา
“เจ้าส่งคนไปบอกเถอะ ฝ่ าบาทจะเข้าใจในสิ่ งที่ขา้ ทาเอง”

***************************************

40
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 29 สิ่งที่คุ้นเคย

ท่ามกลางงานเลี้ยงต้อนรับจักรพรรดิ แคว้นเหลียงและเหล่าคณะฑูต ที่แม้


จะถูกจัดอย่างยิง่ ใหญ่แต่ก็ยงั คงดูเหมาะสมและชวนให้จิตใจรู ้สึกผ่อนคลายนั้น
ภายในงานเลี้ยงที่ดาเนิ นมาได้ชวั่ ครู่ หนึ่งนั้น ฮุ่ยกุย้ เฟยที่เป็ นผูร้ ับผิดชอบ
จัดงานนี้ กาลังยิม้ ทักทายเหล่าแขกเหรื่ อในงาน ก่อนจะได้ยินเสี ยงกระซิ บรายงาน
จากนางกานัลข้างกาย จึงเดินไปหาผูม้ าใหม่ที่กาลังจะเข้างานมา “ฝ่ าบาท เหยียนเฟย
ไม่สบายเล็กน้อยจึงมาไม่ได้เพคะ”
ทันทีที่ฮ่องเต้ได้ยนิ คาพูดประโยคแรกจากสตรี เบื้องหน้า ที่กาลังย่อกายทา
ความเคารพตนตามธรรมเนี ยมอยู่น้ นั เขาก็ตอ้ งมีสีหน้าแปลกใจขึ้นมาทันที “นาง
เป็ นเป็ นเช่นไรบ้าง”

41
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ท่ าทางที่ เพียงแค่แปลกใจของฮ่องเต้ก็ชวนให้ฮุ่ยกุ้ยเฟยต้องรู ้ สึกงุ น งง


เล็กน้อย ด้วยนางคาดการณ์ไว้วา่ เขาน่าจะรู ้ข่าวนี้ ต้ งั แต่เมื่อวานแล้ว เพราะหลังจาก
นางออกจากตาหนักหย่งโซ่ วกงมาไม่นาน เหยียนเฟยก็ส่งคนของตนไปบอกเขา
มิใช่หรื อ นางจึ งได้เลือกที่ จะยังไม่รายงานสิ่ งใดเพื่อรอดูท่าที ของอีกฝ่ ายก่อน ถึง
อย่างนั้นทุกอย่างกลับนิ่งเงียบราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย
แต่สิ่งที่ผิดคาดของนางยิง่ ไปกว่านั้นก็คือ เมื่อวานนี้บุรุษเบื้องหน้ามิได้ไป
หาเหยียนเฟยเลย
นี่ หรื อว่าฮ่องเต้เพียงแค่ลุ่มหลงในเล่ห์กลและการยัว่ ยวนของเหยียนเฟย
เท่านั้น ที่เขาไปหานางทุกคืนก็เพราะเสน่หาแต่กลับมิได้มีความผูกพันจริ ง ๆ หรื อ
อย่างไร หรื อจะเป็ นเพราะเขาเริ่ มเบื่อหน่ายดอกไม้ดอกนี้ แล้วกัน ในเมื่อไม่วา่ จะกี่
ครั้ งที่ มี พ ระสนมเข้า มาใหม่ ผ่า นไปถึ ง จุ ด ๆ หนึ่ ง พวกนางก็ อ าจจะหมดความ
น่าสนใจและถูกหลงลืมเช่นนี้อยูด่ ี…
นัน่ คือความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวของฮุ่ยกุย้ เฟย เพียงแต่ความคิดนั้นก็ดูจะ
ขัดแย้งกับความเป็ นจริ งในหลาย ๆ ครั้งที่ นางสังเกตได้ดว้ ยตนเอง แต่หากตอนนี้
เป็ นช่วงที่ฮ่องเต้เริ่ มจะเบื่อเหยียนเฟยจริ งแล้วล่ะก็ นางก็อาจจะโชคดีมีคู่ต่อสู ้ในวัง
หลังลดลงไปเองก็ได้
ไม่นานนักฮุ่ยกุย้ เฟยก็ตอบคาถามเมื่อกี้ของฮ่องเต้กลับไป “หมอหลวงมา
ตรวจดูแล้ว ตอนนี้ กาลังพักผ่อนอยู่ในตาหนักเพคะ” ก่อนที่ ฮ่องเต้จะเพียงแค่พยัก
หน้าเป็ นเชิงรับรู ้ แล้วหันมายิม้ อบอุ่นพูดกับนางว่า "เช่นนั้นก็ดีแล้ว เข้าไปในงาน
กันเถอะ"

42
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ยามที่ฮุ่ยกุย้ เฟยมองไปทึ่มือของอีกฝ่ ายที่กาลังกอบกุมมือของตนไว้อย่าง


ทะนุถนอมนั้น ก็ตอ้ งยิม้ หวานขึ้นไม่นอ้ ยก่อนจะเอ่ยตอบรับกลับไป "เพคะ" พูดจบ
คนทั้งสองก็เดินกุมมือเข้าไปในงานด้วยกันอย่างสง่างาม
ยามที่ ง านเลี้ ย งต้อ นรั บ ดาเนิ น ไปได้จะสองชั่ว ยามแล้ว นั้น จักรพรรดิ
แคว้นเหลียงที่ดูจะอารมณ์ดีจากการแสดงของเหล่านางรา และการพูดคุยกับคนรอบ
ข้างอย่างถูกอกถูกคอ ก็หนั มาพูดกับฮุ่ยกุย้ เฟยด้วยน้ าเสี ยงชื่นชมว่า “งานเลี้ยงนี้ช่าง
จัดได้ดีจริ ง ๆ ” ก่อนจะหันไปมองทางฉี อ๋องและองค์หญิงอวี้เหมยในฝั่งตรงข้ามซึ่ง
มาร่ วมงานเลี้ ยงครั้ งนี้ เช่ นกัน “การได้เห็ นลูกสาวข้าเองก็ดูมีความสุ ขดี เช่ นนี้ ก็
นับว่าเป็ นเรื่ องดีเช่นกัน”
“องค์ห ญิ ง เป็ นคนส าคัญ แคว้น ของเราจะไม่ ดู แ ลนางเป็ นอย่า งดี ไ ด้
อย่างไร” ฮ่องเต้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ ขณะมองไปทางพี่ชายตนและองค์
หญิงอวี้เหมยที่ดูรักใคร่ กนั ปรองดองกันนั้น จักรพรรดิ แคว้นเหลียงได้ยินเช่นนั้นก็
พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะเปลี่ยนเรื่ องเป็ นเสนอขึ้นว่า “ไหน ๆ ข้าก็มาต้าหลิงทั้งที
แล้ว เหตุใดเราจึงไม่ไปล่าสัตว์ดว้ ยกันเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างแคว้นดูเล่า”
ค าพู ด เสนอที่ ร าวกั บ พึ่ งจะฉุ ก คิ ด ขึ้ นมานั้ นท าให้ ฮ่ อ งเต้แ ปลกใจ
เล็กน้อย “ล่าสัตว์ง้ นั รึ ” แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ ายดูจะไม่มีเล่ห์กลใด ๆ ซ่อนไว้จึงตอบตกลง
ออกไป โดยให้ฝ่ายตนเป็ นผูจ้ ดั เตรี ยมทุกอย่างเอง “ย่อมได้ ข้าจะให้คนจัดเตรี ยม
สถานที่ไว้ทนั ที”
เขาพูดจบเพียงไม่นาน จักรพรรดิ แคว้นเหลียงก็มีสีหน้าราวกับพึ่งนึ กสิ่ ง
ใดได้ข้ ึ น มา “จริ ง สิ หนึ่ ง ในพระสนมของข้า ก าลัง เดิ น ทางมาเพราะอยากความ
งดงามของต้าหลิง หากจะพานางไปล่าสัตว์ดว้ ยคงไม่เป็ นอะไร…” สายตาที่ มอง

43
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ถามอย่างหยัง่ เชิ งของจักรพรรดิ แคว้นเหลียงนั้นทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งยิ้มเย็นในใจไม่


น้อย แม้ว่าในความเป็ นจริ งจะยังคงทาสี หน้าเป็ นมิ ตรตอบอย่างใจกว้างออกไป
ว่า “แคว้นของข้าย่อมยินดีตอ้ นรับคนของท่านแน่นอน”
ได้ยินฮ่องเต้พูดเช่นนั้น จัดพรรดิ แคว้นเหลียงก็ยกยิ้มมีเลศนัยขึ้นมา “มี
หญิงงามคอยเฝ้ามองเคียงข้างเช่นนี้ บุรุษอย่างพวกเราคงไม่อาจทาเป็ นเล่นให้ขาย
หน้าได้แล้ว” ก่อนจะหัวเราะอย่างอารมณ์ดีข้ ึนเสี ยงดัง
คาพูดนั้นทาให้ฮ่องเต้ได้แต่อมยิม้ น้อย ๆ เท่านั้น เพราะนัน่ หมายความว่า
เขาก็ตอ้ งหาหญิงงามไปงานล่าสัตว์ครั้งนี้ดว้ ยใช่หรื อไม่ เพียงแต่ควรจะเอาผูใ้ ดไปดี
เล่า คิ ดได้เท่านั้นก็พูดคุยกับอี กฝ่ ายต่อไปเพื่อให้งานเลี้ ยงต้อนรั บครั้งนี้ จบลงได้
ด้วยดี
.............................

ขณะที่งานเลี้ยงดาเนินไปจนดึกดื่นและพึ่งจะจบลงไปได้ไม่นาน
ด้านเหยียนหยินที่ ยงั คงอยูใ่ นตาหนักของตนก็กาลังนัง่ อิงไออุ่นจากเตาผิง
อยู่ ท่าทางที่พยายามดึงผ้าคลุมผืนหนาให้กระชับเข้ามากับตัวของนาง ทาให้เยว่อิ๋งที่
กาลังเติมถ่านในเตาผิงอยูน่ ้ นั อดพูดขึ้นมาไม่ได้วา่ “พระสนมครั้งนี้ทามากไปจริ ง ๆ
นะเพคะ”
คาพูดเชิงตาหนิ น้ นั ทาให้เหยียนหยินอดไม่ได้ที่จะอมยิม้ น้อย ๆ “แค่เป็ น
หวัดนิดหน่อยเท่านั้น ไม่นานก็คงหายแล้ว”
แต่ พูด จบได้เ พี ย งไม่ น านก็ ต ้อ งไอออกมา ท าให้เ หยีย นหยิน ได้แต่คิด
ขบขันให้ตนเองว่า ดูเหมือนนางจะแกล้งป่ วยจนได้ป่วยเข้าจริ ง ๆ

44
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ยังไม่ทนั ได้พูดอะไรต่อเสี ยงอันคุน้ เคยของฮ่องเต้ก็ดงั ขึ้นมาเสี ยก่อน “เจ้า


ควรจะฟังนางกานัลของตนบ้าง”
พอเห็นเขาจู่ ๆ ก็เข้ามาไม่บอกไม่กล่าวเช่นนี้ อีกแล้ว เหยียนหยินก็ได้แต่
ส่ายหัวไปมาพลางเรี ยกอีกฝ่ ายเสี ยงเบา “ฝ่ าบาท…”
ไม่นานนักฮ่องเต้ก็นั่งลงตรงข้ามนาง ถึ งตอนนี้ เหล่าบ่ าวรับใช้ก็พากัน
ออกไปหมดอย่างรู ้งาน เขาจึ งเอามื อมาอุ่นกับเตาพิงแล้วแกล้งไปชนมื อนางเล่น
บ้าง ทาเอาเหยียนหยินต้องพยายามขยับมือหนีออกด้วยกลัวว่าเขาอาจจะติดหวัดจาก
นางได้
เห็นนางทาท่าเช่นนั้นฮ่องเต้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะชอบใจเบา ๆ “เป็ นเช่น
ไรบ้าง ทาไมจู่ ๆ ถึงเป็ นหวัดได้”
“หม่อมฉันตากอากาศเย็นมากเกินไปเพคะ” เหยียนหยินตอบ คาตอบนั้น
ทาให้ฮ่องเต้ยมิ้ มีเลศนัยเล็กน้อย “จริ งงั้นเรอะ” คาถามจากเขาทาให้คิ้วสองข้างของ
เหยียนหยินต้องย่นเข้าหากัน “หรื อทรงคิ ดว่าหม่อมฉันจะทาให้ตนเองไม่สบาย
ขึ้นมากัน”
คาถามของนางทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งแกล้งกลอกตาไปมา ราวกับกาลังคิดถึง
ความเป็ นไปได้บางอย่างแทน “ก็อาจเป็ นไปได้” แล้วจึงพูดขึ้นต่อด้วยรอยยิม้ มีเลศ
นัยว่า “ในเมื่อนัน่ ก็เป็ นวิธีที่ พระสนมในวังหลังชอบใช้เพื่อขอความเห็นใจจากข้า
อยูบ่ ่อย ๆ ...” ก่อนจะจบลงด้วยการเขยิบใบหน้าเข้าไปหานางเล็กน้อยแล้วพูดอย่าง
อารมณ์ดีออกไป “แต่ต่อให้เจ้าไม่ทาข้าก็ยนิ ดีอยูด่ ูแลเจ้าด้วยความเต็มใจตลอดเวลา”
ได้ยินเขาพูดเช่นนั้นก็ทาให้เหยียนหยินอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงขึ้นมา “ฝ่ า
บาท…” แต่พอนึ กได้วา่ อีกฝ่ ายกาลังเขยิบใบหน้าเข้ามาใกล้คิ้วสองข้างก็ตอ้ งขมวด

45
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เข้าหากัน ก่อนจะเอี้ยวตัวถอยหนี แล้วกล่าวเสี ยงดุเล็กน้อยทันที “อย่าเข้ามาใกล้เพ


คะ เดี๋ยวจะติดหวัดจากหม่อมฉันได้”
ท่ า ทางที่ ย ากจะเห็ น ของนางท าให้ ฮ่ อ งเต้หั ว เราะอย่า งอารมณ์ ดี “ถ้า
เช่ นนั้น ข้าก็จะยอมรั บมันมาด้วยความเต็มใจ เจ้าจะได้ดูแลข้าไม่ดีรึไงกัน” เขา
พูดจาหยอกล้อยังไม่ทนั จบ ก็ทาสี หน้าราวกับพึ่งนึ กอะไรได้เสี ยก่อน “ไม่ได้สิ หาก
เป็ นหวัดพร้อมกันทั้งคู่ใครจะเป็ นฝ่ ายดูแลใครเล่า”
เห็นเขาพูดเองเออเองเช่นนี้ เหยียนหยินก็ตอ้ งส่ายหัวไปมาไม่นอ้ ย “ทรงมี
อารมณ์ขนั ยิง่ นัก”
นางพูดจบเพียงไม่นาน ก็ถูกอีกฝ่ ายอุม้ ไปวางที่เตียงเสี ยแล้ว ทั้งยังจัดการ
จัดแจงท่าทางของนางเสร็ จสรรพ จนกระทัง่ เขาห่มผ้าให้นางเสร็ จ จึงเดินไปขนเตา
ผิงมาวางใกล้ ๆ พลางนัง่ อมยิม้ มองนาง แล้วพูดเพียงแค่วา่ “พักผ่อนเถอะ ข้าจะอยู่
รอเจ้าหลับถึงจะกลับไป”
ได้ยินเช่ นนั้นเหยียนหยินที่ เดิ มที ก็ง่วงงุ น อยู่แ ล้วจึ งหลับตาลงอย่า งว่า
ง่ าย ทาให้ฮ่องเต้ที่นั่งมองนางอยู่ยิ้มบางเบาขึ้ นมา พลางคิ ด อย่างอบอุ่นในใจว่า
อยากจะนัง่ มองนางอยูเ่ ช่นนี้ไปนาน ๆ เสี ยจริ ง เพราะสาเหตุที่นางต้องป่ วยเช่นนี้น้ นั
เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร
แต่เพื่อไม่ให้ความพยายามของนางสูญเปล่าแล้ว ต่อหน้าผูอ้ ื่นเขาก็แค่ตอ้ ง
แกล้งทาเป็ นไม่ได้ห่วงนางมากจนเกินไปเท่านั้นเอง เพราะนัน่ คงเป็ นทางเดียวที่เขา
จะทาให้นางอยูใ่ นวังหลังได้โดยที่มีคนระรานน้อยลง

เช้าวันต่อมาที่ตาหนักหยางซินเตี้ยน

46
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ฝ่ ายฮ่องเต้ที่กาลังนัง่ อ่านฏีกาอยูใ่ นฮ่องทรงอักษรของตนเองนั้น ต้องเงย


หน้าขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสี ยงย่างก้าวบางเบาของสตรี ที่ดูจะคุน้ เคย ในขณะที่
ฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อเห็นว่าฮ่องเต้สงั เกตถึงการมาของตนแล้ว ก็ยมิ้ อย่างอ่อนหวานงดงาม
“ฝ่ าบาท เรื่ องการล่าสัตว์พรุ่ งนี้จะให้ใครเสด็จไปกับพระองค์ดีเพคะ”
คาถามนั้นทาให้ฮ่องเต้นิ่งเงียบไป จริ ง ๆ แล้วเขาคิดว่าจะต้องเอาใครไป
ด้วยทาไมกัน แต่เมื่ อดู เหมื อนสตรี เบื้ องหน้าคงจะไม่อยากให้แคว้นของตนเสี ย
หน้า หรื อ อาจจะเพราะมี แ ผนอะไรอยู่ใ นใจก็ ต าม เขาจึ ง ต้อ งยิ้ม อ่ อ นโยนตอบ
กลับไปว่า “ถ้าจะให้ใครสักคนไปก็ควรจะเป็ นเจ้าอยูแ่ ล้วไม่ใช่รึอย่างไร”
คาตอบนั้นทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยมีท่าทีเอียงอายเล็กน้อย “หม่อมฉันเกรงว่าหาก
ไปด้วยตนเองจะไม่มีใครคอยดูแลวังหลัง ไม่สูใ้ ห้...”
แต่ พู ด ไม่ ทั น จบ ฮ่ อ งเต้ ก็ พู ด แทรกด้ ว ยใบหน้ า เห็ นด้ ว ยขึ้ นมา
เสี ยก่อน “เป็ นเช่นที่เจ้าพูด หากเจ้าไปไม่ได้ก็ให้ผอู ้ ื่นไปแทนแล้วกัน” พูดถึงตรงนี้
เขาก็เห็นดวงตาของฮุย้ กุย้ เฟยทอประกายขึ้นมา แต่ก็เพียงแค่ชวั่ ครู่ เดียว “ในเมื่อคน
ที่ ต าแหน่ ง รองจากเจ้า คื อเหยีย นเฟย นางก็ ค วรจะไป แต่ ใ นเมื่ อ นางยังไม่หายดี
เท่าไหร่ เจ้าก็เลือกใครสักคนมาแทนนางแล้วกัน”
พอได้ฟังคาพูดประโยคสุ ดท้ายแล้วท่าทางของฮุ่ยกุย้ เฟยก็ดูชะงักไปอย่าง
เห็นได้ชดั แต่เพียงไม่นานเท่านั้นสี หน้าของนางก็กลับมาเป็ นปกติอีกครั้ง “หม่อม
ฉันเกรงว่าพี่สาวน้องสาวที่ เหลือจะไม่ใช่ตวั เลื อกที่ ดีนัก พวกนางตาแหน่ งไม่สูง
เท่าใดหากพาไปออกงานสาคัญเช่นนี้เกรงว่าจะทาให้ชื่อเสี ยงของพระองค์เสื่ อมเสี ย
ได้”

47
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยินเช่นนั้นฮ่องเต้ก็อมยิม้ น้อย ๆ “เจ้าเลือกคนที่บุคลิกดี ๆ มาสักคน ข้า


จะหาทางเลื่อนขั้นให้นางเอง” คาตอบนั้นทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยได้แต่ตอ้ งยิม้ ตอบรับอย่าง
จาใจ “เพคะ...”
สุดท้ายการสนทนาของคนทั้งสองก็จบลงเช่นนี้ โดยที่ฮ่ยุ กุย้ เฟยได้แต่เดิน
ยิ้มกลับไปไม่ว่าในใจจะไม่พอใจเพียงใดก็ตาม ในขณะที่ ฮ่องเต้ซ่ ึ งสังเกตเห็ นถึง
ท่าทางของนางเหล่านั้น หันไปสัง่ กัว๋ กงกงออกไปว่า “สัง่ คนให้จบั ตาดูฮุ่ยกุย้ เฟยกับ
คนที่เกี่ยวข้องกับนางทั้งหมดไว้ ถ้านางติดต่อกับใครหรื อมีสถานการณ์ผิดแปลกข้า
ต้องการรู ้ท้ งั หมด”
ได้ยินเพียงเท่านั้นกัว๋ กงกงก็รู้แล้วว่า ฮ่องเต้กาลังคิดว่าฮุ่ยกุย้ เฟยกาลังคิด
วางแผนทาอะไรบางอย่าง และเตรี ยมจะจัดการนางทันทีหากเกิดเรื่ องใดขึ้นก็ตาม

ยามเช้า ของวัน ถัด ไปที่ ต าหนัก หย่ง โซ่ ว กง เหยีย นหยิน ได้แ ต่ นั่ง อ่ า น
หนังสื อพร้ อมกับอิงไออุ่นจากเตาผิงในตาหนักของตนเอง เนื่ องด้วยนางไม่อาจ
ออกไปไหนได้ เพราะใครจะไปนึ กกันว่าตั้งแต่เมื่อวานตอนเช้าพอนางตื่นขึ้ นมา
เหล่ า ข้า รั บใช้ในต าหนัก จู่ ๆ ก็ ดู จ ะเข้มงวดขึ้ นมาเสี ยแล้ว แค่ น างคิ ดจะขยับตัว
ออกไปไหนนิ ดหน่อยยังเป็ นเรื่ องยากเลย ทั้งหมดนี้ ตอ้ งเป็ นเพราะใครบางคนเป็ น
คนออกคาสัง่ กาชับไว้แน่นอน
“พระสนมวันนี้ มีเรื่ องแปลกมาก ๆ เกิดขึ้นล่ะเพคะ” เสี ยงของเยว่อิ๋งที่ดงั
เข้ามาไม่ได้ช้าไปกว่าร่ างของนาง เมื่ อผ่านไปเพียงครู่ เดี ยวเท่านั้น นางกานัลคน
สนิทผูน้ ้ ีก็มาปรากฏกายอยูเ่ บื้องหน้าของเหยียนหยินแล้ว ท่าทางที่ดูราวกับอยากจะ
เล่าบางอย่างเต็มที่น้ นั ทาให้เหยียนหยินต้องถอนหายใจถามออกไป “เรื่ องอันใดกัน”

48
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ใบหน้าที่ เต็มไปด้วยคาถามของเหยียนหยิน ทาให้เยว่อิ๋งรี บเล่าออกมาว่า


“เนี่ยผินได้รับการเลื่อนขั้นเป็ นเนี่ยเฟยเพคะ”
แต่พอเห็ นสี หน้าสงสัยของพระสนมเบื้ องหน้าแล้ว เยว่อิ๋งก็ตอ้ งอธิ บาย
ต่ อ ไป “ที่ น่ า แปลกใจก็ เ พราะ นานแล้ว ที่ ไ ม่ มี ก ารเลื่ อ นขั้น ให้พ วกสนมในวัง
หลัง อีกทั้งเนี่ ยเฟยผูน้ ้ ี แม้จะมาจากตระกูลที่ดีอยูบ่ า้ ง แต่ต้ งั แต่เข้าวังมาฮ่องเต้ก็มิได้
สลักสนใจนางเท่าใด สุดท้ายนางก็ไม่ต่างจากสนมคนอื่น ๆ ที่ถูกลืมเลือน”
พอได้ยินเช่นนี้ เหยียนหยินก็ตอ้ งมีสีหน้าแปลกใจขึ้นมาจริ ง ๆ เพราะนาง
ก็พอจะจาเนี่ ยเฟยผูน้ ้ ี ได้อยู่บา้ ง เนื่ องจากอี กฝ่ ายเป็ นพระสนมที่ ถูกแต่งตั้งเข้ามา
หลังจากที่ ผมู ้ ีพระคุณของนางได้ข้ ึนเป็ นฮองเฮาไม่นาน ตระกูลเนี่ ยเองก็ไม่ถึงกับ
เป็ นขุนนางที่มีอานาจมากนัก อีกทั้งเนี่ ยเฟยผูน้ ้ ี แม้จะงดงามโดดเด่น แต่ดว้ ยนิ สยั ที่
พยายามเรี ยกร้องความสนใจจนเกินไป ทาให้ฮ่องเต้ดูจะไม่ชอบนางเท่าใด แล้วเหตุ
ใดวันนี้จึงกลับมาแต่งตั้งนางกัน คิดเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“แล้วเหตุใดฝ่ าบาทจึงเลื่อนขั้นให้นางกัน”
คาถามนั้นทาให้เยว่อิ๋งมีสีหน้าลังเลเล็กน้อย ก่อนจะยอมเล่าออกไปว่า “ว่า
กันว่า เมื่อวานนี้ ยามที่ฝ่าบาทกาลังเดินผ่านราชอุทยานก็พบกับเนี่ ยเฟยที่ กาลังเล่น
ชิงช้าอยูเ่ พคะ หม่อมฉันได้ยนิ เหล่านางกานัลที่เห็นเหตุการณ์เล่ากันว่า เสี ยงหัวเราะ
สดใสของนางทาให้ฝ่าบาททรงแปลกใจแล้วเข้าไปสนทนากันเสี ยจนถูกอกถูกคอ”
คาตอบที่ได้ยนิ นั้น ทาให้เหยียนหยินหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย ในใจได้
แต่คิดว่า สนทนาเข้ากันได้ดีเพียงเพราะได้ยนิ เสี ยงหัวเราะงั้นเรอะ ช่างเป็ นเรื่ องที่น่า
แปลกดี จ ริ ง ๆ จนกระทั่งเมื่ อ เห็ นใบหน้า ของเยว่อิ๋ง ที่ มองมาอย่า งสงสัยว่านาง
หัวเราะสิ่ งใดแล้ว เหยียนหยินก็ส่ายหัวตอบกลับไป “นับว่านางโชคดีแล้ว”

49
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เหยียนหยินตอบเพียงเท่านั้น เยว่อิ๋งก็รีบพูดต่อทันที “ใคร ๆ ก็พูดเช่นนั้น


เพคะ พวกเขาต่างบอกว่าเนี่ยเฟยช่างโชคดียงิ่ นักที่ทนั ทีที่ถูกแต่งตั้ง ฝ่ าบาทก็พานาง
ไปล่าสัตว์ดว้ ยกันทั้ง ๆ ที่ …” พูดถึงตรงนี้ เยว่อิ๋งก็นิ่งเงี ยบไปเสี ยนาน ก่อนจะพูด
เสี ยงเบาราวกับรู ้วา่ ตนเองพลาดที่พดู เรื่ องนี้ “ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็ นพระสนมที่ได้ไป”
แต่เพียงไม่นานนักสี หน้าที่กงั วลใจของเยว่อิ๋งก็กลับกลายเป็ นยกยิม้ หยอก
ล้ออย่างรวดเร็ ว “พระสนมกาลังอมยิม้ เพราะสิ่ งใดอยูเ่ พคะ หรื อจะเป็ นเพราะดีใจที่
ฝ่ าบาททรงใส่ใจจนถึงขั้นหาคนไปแทนเพคะ…” คาถามลองเชิงด้วยใบหน้าที่จงใจ
แกล้งอย่างเต็มที่น้ นั ทาให้เหยียนหยินต้องพูดคาดโทษนางกานัลคนสนิทเบื้องหน้า
ออกมาว่า “ที่แท้เจ้าก็รู้เรื่ องดี”
สักพักเยว่อิ๋งก็ราวกับจะนึกอะไรได้บางอย่าง “จริ งสิ เพคะ หลังจากฝ่ าบาท
ออกไปจากวังเพื่อไปล่าสัตว์กบั จักรพรรดิ แคว้นเหลียงแล้ว หม่อมฉันได้ยินมาว่า
องค์จกั รพรรดิ ให้คนของตนนาของกานัลมามอบให้แก่เหล่าพระสนมในวังหลัง
ด้วยเพคะ คาดว่าอีกไม่นานก็คงถึงตาหนักของพวกเรา”
สิ่ งที่ได้ยนิ ทาให้เหยียนหยินมีสีหน้าแปลกใจออกมาไม่นอ้ ย
สองนายบ่าวคุยไปได้เพียงเท่านั้น ก็มีอีกหนึ่ งนางกานัลเดินเข้ามาในห้อง
เสี ยก่อนแล้ว “พระสนม นางกานัลขององค์จกั รพรรดิส่งของกานัลจากแคว้นเหลียง
มาให้เพคะ”
นัน่ ทาให้เหยียนหยินครุ่ นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไป “ข้าจะออกไป
รับเดี๋ยวนี้”
ทันที ที่เหยียนหยินออกมาก็พบกับนางกานัลสู งอายุในชุดนางกานัลของ
แคว้นเหลียงที่ ยืนรออยู่สามคน แต่กับคนหน้าสุ ดที่ ถือกล่องไม้ยาวสลักลวดลาย

50
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

งดงามกล่องหนึ่งไว้น้ นั ไม่รู้เพราะอะไรเหยียนหยินถึงรู ้สึกราวกับจะคุน้ ตา แต่จอ้ ง


มองได้ไม่นานท่าใดสายตาของเหยียนหยินก็โดนการเคลื่อนไหวของข้ารับใช้ใน
ตาหนักที่กาลังขนของเข้ามาอยูด่ ึงไปเสี ยก่อน จึงหันกลับมายิม้ พูดให้กบั นางกานัล
เบื้องหน้าว่า “ขอบคุณเจ้ามาก ฝ่ าบาทต้องเห็นถึงความจริ งใจขององค์จกั รพรรดิเป็ น
แน่”
ได้ยนิ เหยียนหยินพูดเช่นนั้น นางกานัลที่อยูห่ น้าสุดก็เปิ ดกล่องในมือออก
พลางกล่าวอย่างนอบน้อม “เหยียนเฟยโปรดทอดพระเนตรสิ่ งของสิ่ งนี้”
ภายในกล่องนั้นคื อถ้วยชาเล็ก ๆ ที่ ถูกวาดไว้ด้วยลวดลายใบไม้ที่ปลิ ว
กระจัดกระจายอย่างดูแปลกตา เนื่ องจากนี่ ดูจะไม่ใช่งานวาดของช่างฝี มือ แต่ถึง
อย่างนั้นลวดลายของมันกลับมี เอกลักษณ์ ราวกับมี ความสุ ขเล็ก ๆ ที่ ถูกใส่ ลงไป
ตอนที่ผวู ้ าดกาลังจรดพูก่ นั วาดลวดลาย
ด้านนางกานัลสู งอายุเมื่อเห็นเหยียนหยินจ้องถ้วยชาเล็ก ๆ ถ้วยนั้นนิ่ งจึง
อธิ บายขึ้นว่า “นี่ เป็ นของที่องค์จกั รพรรดิสั่งให้ส่งให้พระสนมเป็ นการพิเศษเพคะ”
ก่อนจะยิม้ ขึ้นน้อย ๆ ดัง่ ผูม้ ีเจตนาดี “เช่นเดียวกับพระสนมท่านอื่น ๆ เช่นกัน”
คาอธิบายที่ได้ยนิ ดึงสติเหยียนหยินให้คืนกลับมาไม่นอ้ ย ในใจพลันคิดว่า
องค์จกั รพรรดิเลือกของให้พระสนมแต่ละคนให้แตกต่างกันไปเป็ นการพิเศษเช่นนี้
คงเพื่อแสดงถึ งความตั้งใจและมีเจตนาที่ สูง ส่ งเนแน่ จึ งต้องกล่าวชื่ นชมกลับไป
“งั้นรึ องค์จกั รพรรดิ ช่างใส่ ใจในของเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ยิ่งนัก นับว่าเป็ นความ
โชคดีของพวกข้าแล้ว”

51
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

แต่เมื่อเห็นถ้วยชาเล็ก ๆ ที่ชวนให้รู้สึกแปลกประหลาดเบื้องหน้าอีกครั้ง
เหยียนหยินก็อดที่จะพูดอย่างลังเลใจออกไปไม่ได้ “ข้ารู ้สึกว่ามันเป็ นสิ่ งสาคัญ ข้า
คงไม่อาจรับไว้ได้”
เห็ นท่าทีตอบปฏิเสธแบบสุ ภาพของนาง นางกานัลสู งอายุผนู ้ ้ นั ก็มิได้วา่
กล่าวสิ่ งใด แต่ก็มิได้ลดละความตั้งใจเดิ มของตนเช่นกัน “นี่ เคยเป็ นสิ่ งสาคัญต่อ
องค์จกั รพรรดิ จริ ง ๆ เพคะ มันเป็ นของที่ทาให้องค์จกั รพรรดิ ทรงนึ กถึงสตรี ที่ทรง
โปรดปรานที่สุดคนหนึ่ง”
น้ า เสี ย งแหบพร่ า ที่ อ ธิ บายออกมาหยุดนิ่ ง ไปเล็ก น้อ ย ก่ อ นจะยิ้ม ตอบ
อธิ บายต่อไปอย่างอ่อนโยนแตกต่างจากรอยยิ้มที่ดูสุภาพเมื่อกี้ไปโดยสิ้ นเชิ ง “แต่
ตอนนี้ สตรี ผนู ้ ้ นั และองค์หญิงที่ เกิดจากนางซึ่ งองค์จกั รพรรดิ ทรงรักมากก็ทรงจาก
แคว้นไปนานมากแล้วเพคะ อีกอย่างยามนี้ องค์จกั รพรรดิ ทรงมีสิ่งที่สาคัญมากกว่า
แล้ว เพราะฉะนั้นพระสนมโปรดเก็บมันไว้เถิด”
คาพูดที่ ชวนให้รู้สึกแปลกประหลาดเหล่านั้น ทาให้เหยียนหยินเริ่ มที่จะ
ลังเล ยังไม่ทนั ที่นางจะได้กล่าวสิ่ งใด เสี ยงของอีกฝ่ ายก็ดงั ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ งทันที
“บางทีการที่มนั ได้มาอยูก่ บั เหยียนเฟยที่นี่ คงนับว่าเป็ นวาสนาที่ดีของมันเอง” พูด
จบนางกานัลสู งอายุตรงหน้าก็มองไปที่ของซึ่งกาลังถูกขนเข้าตาหนักมา “ส่ วนของ
ที่เหลือเหล่านี้หวังว่าเหยียนเฟยจะยินดีรับไว้เช่นกัน”
นัน่ คือคาพูดสุ ดท้ายที่อีกฝ่ ายทิ้งไว้ ก่อนจะรี บร้อนขอตัวลาจากไปเพื่อไป
ส่ งมอบของที่ เหลือให้กบั ตาหนักอื่น ๆ ต่อไป ทาให้เหยียนหยินมีแต่ตอ้ งรับของ
เหล่านั้นทั้งหมดมา

52
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

พอผ่านไปสักพักในตาหนักก็มีการเปิ ดดู ของที่ ถูกส่ งมาเพื่อตรวจสอบ


และจัดเก็บให้ถูกต้องเสี ยก่อน เพียงแต่พ่ ึงจะเปิ ดไปได้เพียงกล่องเดียวเท่านั้น เสี ยง
ตื่นตกใจของเยว่อิ๋งก็ดงั ขึ้นมาเสี ยแล้ว “พระสนมดูนี่สิเพคะ ในกล่องใบนี้มีแต่ของดี
ๆ ทั้งนั้นเลยเพคะ แต่เหมือนจะมิใช่ของใหม่เสี ยเท่าใดนี่ มนั หมายความว่าอย่างไร
กัน…”
คาพูดที่ ได้ยินนั้นทาให้เหยียนหยินที่ เพียงนัง่ อยู่ห่าง ๆ ต้องเดิ นเข้าไปดู
ด้วยความสงสัยอย่างอดไม่ได้ แต่เมื่อเห็นเสื้ อผ้าของแคว้นเหลียงที่งดงามมากมาย
ภายในกล่องแล้วก็ตอ้ งชะงักไป ยามที่ มือเลื่อนไปเปิ ดกล่องที่เล็กลงมาด้านข้างที่
วางคู่กนั นั้นก็ตอ้ งนิ่ งเงี ยบไปอีกครั้งเมื่อห็นประกายระยิบระยับจากเครื่ องประดับ
มากมาย สิ่ งที่น่าแปลกของของเบื้องหน้านางเหล่านี้ คือการที่ของทุกชิ้นดูจะมีอายุ
มาชัว่ ครู่ หนึ่ งราวกับเคยถูกใช้งานมาแล้วนัน่ เอง แม้นี่อาจจะดูเป็ นเรื่ องน่าปกติกบั
เครื่ องประดับที่งดงามและหาได้ยากจานวนมาก แต่กบั ชุดนั้นมิใช่เช่นนั้นเลย
“พระสนมทรงเป็ นอันใดไปเพคะ” เยว่อิ๋งถามขึ้นด้วยความกังวลใจ เมื่อ
เห็ นพระสนมของตนมีท่าที แปลกไป ไม่นานนักเหยียนหยินที่ มีสีหน้าราวกับไม่
สบายใจเท่าไหร่ ก็พูดขึ้นอีกครั้ง “รี บตรวจเช็คแล้วเอาไปเก็บเถิด” คาสั่งนั้นทาให้
เหล่าข้ารับใช้ได้แต่มีสีหน้างุนงง ต่างพากันคิดว่าพระสนมของตนคงจะหวาดกลัว
ของที่ดูมีอายุเหล่านี้นนั่ เอง
พอเห็นพวกบ่าวรับใช้ต่างพากันมองมา เหยียนหยินก็ตอ้ งทาเสี ยงลาบาก
ใจเล็กน้อยพูดออกไปว่า “ข้าอยากจะพักผ่อน แต่มีของมากมายเช่นนี้ จะพักผ่อนได้
อย่างไร”

53
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาพูดเช่นนั้นจึงจะทาให้เหล่าบ่าวรับใช้เร่ งมือกันจัดเก็บของจริ ง ๆ เสี อ


ที เห็นเช่นนั้นเหยียนหยินก็กลับไปนัง่ ข้างเตาผิงเช่นเดิม ในใจได้แต่กระวนกระวาย
ด้วยคิดว่า
เหตุใดกัน นางจึ งรู ้สึกว่าสิ่ งของที่ ถูกส่ งมาทุกอย่างนั้นช่ างดูคุน้ เคยเสี ย
เหลือเกิน…

***************************************

54
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 30 พรรคพวก

ท่ามกลางพื้นที่สาหรับล่าสัตว์เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี กาลังเต็มไปด้วยคน
ของทั้งสองแคว้นที่พดู คุยเพื่อโอ้อวดสิ่ งที่ตนล่ามาอย่างครึ กครื้ น
ไม่ไกลจากฮ่องเต้เท่าใด จักรพรรดิ แคว้นเหลียงกาลังควบม้าเข้ามาพลาง
กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “คิดไม่ถึงว่าวังหลังของต้าหลิงจะมีสาวงามมากมายเช่นนี้
ฮุ่ยกุย้ เฟยที่เห็นวันก่อนก็วา่ งดงามแล้ว แต่สตรี ที่ฝ่าบาทพามาผูน้ ้ ี ก็ยงั งดงามไปคน
ละแบบไม่ต่างกัน” ขณะที่พูดนั้นสายตาขององค์จกั รพรรดิก็มองไปยังสองสาวงาม
หรื อก็คือหนึ่งในสนมของตนที่ด้ นั ด้นมาจากแคว้นเหลียงและเนี่ยเฟยที่มาพร้อมกับ
ฮ่องเต้ซ่ ึ งกาลังพูดคุยกันถูกคอยิ่งนัก แล้วยกยิม้ เล็กน้อย “เพียงแต่ตระกูลของนางดู
จะไม่คุน้ หูเท่าใด”
ได้ยินเช่นนั้นฮ่องเต้ก็เพียงอมยิ้มบางเบา เพราะความจริ งแล้วเขาพึ่งจะ
แต่งตั้งนางขึ้นมาไม่กี่วนั แล้วชื่ อของนางจะคุน้ หู เฉกเช่นฮุ่ยกุย้ เฟยที่อยู่มานานได้

55
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

อย่างไร “การที่จะเลื่อนขั้นให้พวกนาง ชื่อเสี ยงวงศ์ตระกูลสาคัญด้วยเช่นนั้นหรื อ


ชายใดบ้างเล่าจะไม่ชื่นชอบหญิงงาม”
คาตอบนั้นทาให้จักรพรรดิ แคว้นเหลี ยงนิ่ งไปเล็กน้อยก่ อนจะหัวเราะ
ชอบใจออกมา “นัน่ ย่อมถูกต้องแล้ว” พูดจบองค์จกั รพรรดิ ก็กลับมามีท่าทีน่าเกรง
ขามอีกครั้ง “ข้าให้คนส่ งของขวัญไปให้พวกนางแต่ละคน ถึงจะไม่มีราคามากก็
หวังว่าพวกนางจะพึงพอใจ” ก่อนจะทาท่าราวกับพึ่งนึกอะไรได้บางอย่าง “จริ งสิ ข้า
ยังให้คนส่ งของที่ ถูกคัดเลื อกเป็ นพิเศษให้พ วกนางแต่ ละคนไปด้วย บางที ของ
เหล่านั้นอาจจะช่วยให้พวกนางได้เห็นถึงความทรงจาอันงดงามของเหล่าช่างฝี มือ
ของแคว้นเหลียงที่สลักลงไป”
คาที่ ถูกเน้นย้ าอย่างจงใจ ทาให้แววตาของฮ่องเต้สั่นไหวเล็กน้อย แต่ไม่
นานนักก็กลับไปยิม้ ตอบรับบางเบา “ของที่ได้จากองค์จกั รพรรดิ พวกนางย่อมยินดี
แน่นอน”
ทันทีที่งานล่าสัตว์จบลงและส่ งคนของแคว้นเหลียงกลับที่พกั แล้ว ขบวน
ของฮ่องเต้ก็มุ่งหน้ากลับเข้าวัง ยามที่ ขา้ มผ่านประตูวงั เข้ามาแล้วนั้น เนี่ ยเฟยที่ มี
สิ ทธิ์ได้อยูใ่ กล้ชิดฮ่องเต้ตลอดในงานครั้งนี้ ก็ถามขึ้นมาด้วยท่าทีเอียงอายน้อย ๆ ว่า
“ฝ่ าบาทจะทรงกลับไปพักผ่อนเลยหรื อไม่ หรื อว่าจะให้หม่อมฉันอยูป่ รนนิบตั ิดีเพ
คะ”
ได้ยิน เช่ นนั้น ฮ่ องเต้ก็ ตอ้ งหัน มามองสตรี ขา้ งกายชั่ว ครู่ นางมี ใบหน้า
งดงามแปลกตา เนื่ องจากมีเชื้อสายครึ่ งหนึ่งมาจากแม่ผเู ้ ป็ นชาวมองโกล ผมที่เหลือ
จากการถูกเกล้าไว้ของนางซึ่งถูกถักทอเป็ นเปี ยเล็กอๆอลงมานั้น ดูรับกับใบหน้าที่ดู
สดใสของนางพอดี เพียงแต่ภายใต้ชุดและผ้าคลุมสี เขี ยวเข้มท่ ามกลางหิ มะขาว

56
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

โพลนที่ตกลงมาเช่นนี้ ช่างทาให้ดูไม่เข้ากันเลยจริ ง ๆ อีกทั้งท่าทางเรี ยกร้องอย่าง


ไม่เป็ นธรรมชาติของนางที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงนั้นก็ยิ่งทาให้เขารู ้สึกเอือมระอา แต่
แม้จะคิดเช่นนั้นเขาก็ทาได้เพียงแค่ยมิ้ น้อย ๆ ขึ้นมาเท่านั้นเอง “หากเจ้าอยากจะอยู่
ก็อยูท่ ี่ตาหนักข้าไปแล้วกัน”
ทันทีที่ได้ยนิ เช่นนั้นเนี่ยเฟยก็มีสีหน้าดีใจอย่างเห็นได้ชดั ด้วยนึกว่าตนคง
ได้ข้ ึนมาเป็ นสนมคนโปรดบ้างเป็ นแน่ มิใช่แค่ตวั แทนของใครบางคนอย่างที่ผคู ้ น
ร่ าลือกัน ถ้าเป็ นเช่นนั้นนางก็จะมีทางหนี ทีไล่ให้ตนเองในวังหลังที่มีแต่แผนการ
มากมายแห่งนี้ได้แน่นอน
เนี่ยเฟยดีใจได้เพียงชัว่ ครู่ ประโยคถัดไปจากชายสูงศักดิ์เบื้องหน้า ก็ทาให้
ความหวังในใจนางก็ตอ้ งดับวูบลงทันที
“แล้วข้าจะกลับมา”
ฮ่องเต้พูดเพียงเท่านั้น แล้วจึงหันไปสั่งขันทีคนสนิ ทข้างกาย “ไปตาหนัก
หย่งโซ่วกง” จากนั้นจึงแยกตัวจากไปในทันที ทาเอาเนี่ยเฟยที่ไม่อยากทิ้งความหวัง
ไปเสี ยทั้งหมด หันมามองกัว๋ กงกงอย่างขอความเห็ นใจพร้อมกับที่ นางกานัลข้าง
กายตนก้าวออกมา “กัว๋ กงกง…”
ด้านกัว๋ กงกงที่ดูก็รู้วา่ อีกฝ่ ายอยากให้ช่วยแลกกับการติดสิ นบน ได้แต่กา้ ว
ถอยหลังเป็ นเชิ งปฏิ เสธ “เนี่ ยเฟยโปรดรออยู่ที่นี่” ก่อนจะบอกต่อไปว่า “หากฝ่ า
บาทบอกจะกลับมาย่อมต้องกลับมาแน่ หรื อหากจะทรงกลับตาหนักตนเองก่ อนก็
ให้แจ้งขันทีที่เฝ้าไว้ พวกเขาจะมาแจ้งให้กระหม่อมรับฟังเอง”
พูดจบกัว๋ กงกงก็รีบตามฮ่องเต้ที่มุ่งหน้าไปก่อนแล้ว ทาเอาเนี่ยเฟยรู ้สึกเสี ย
หน้าเป็ นอย่างมาก จนกระทัง่ นางกานัลข้างกายเรี ยกนางอย่างไม่รู้จะทาเช่นไร “พระ

57
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

สนมเพคะ…” เนี่ ย เฟยจึ ง ได้แ ต่ถ อนหายใจหนัก ๆ ออกมาเล็กน้อ ย พลางตอบ


กลับไปว่า “กลับกันเถิด ข้าจะไปหาฮุ่ยกุย้ เฟยแทนแล้วกัน”
ใบหน้าของเยเฟยฉายแววผิดหวัง ทั้งยังดู กลัดกลุม้ ใจอยู่ไม่น้อย แต่ถึง
อย่างนั้นก็ยงั คงพยายามคงรอยยิม้ สดใสไว้ ก่อนจะถามนางกานัลข้างกายขึ้นอีกครั้ง
“คนที่ส่งให้ไปดูก่อนหน้านี้ บอกว่านางว่างอยูร่ ึ เปล่า”
ไม่นานนักก็ได้รับคาตอบกลับมา “ฮุ่ยกุย้ เฟยเพียงแค่ตอ้ นรับองค์หญิงอวี้
เหมยอยูเ่ ท่านั้นเพคะ”
ค าตอบที่ ไ ด้ยิ น ท าให้ เ นี่ ย เฟยถึ ง กับ ชะงัก ไป พลางคิ ด ว่า สตรี ที่ จ งใจ
สนับสนุ น ทั้งยังชี้ แนะตนมากมายผูน้ ้ ี กาลังต้องการสิ่ งใดกัน ก่ อนจะได้แต่หยุด
ความคิดที่อาจทาให้ชีวติ สั้นลงกว่าเดิมได้ แล้วพูดออกมาเสี ยงบางเบา “งั้นรึ งั้นพวก
เรารี บไปพูดคุยกับนางสักหน่อยก็คงดี”
ท่ามกลางหิ มะขาวโพลนที่ ตกลงมานั้น หนึ่ งสตรี กบั ลังเดิ นห่ างออกไป
พร้อมกับความคับข้องใจที่ไม่วา่ ใครก็ไม่อาจรู ้ได้เลย…

อีกด้านหนึ่งที่ตาหนักหย่งโซ่วกง
ทันที ที่ฮ่องเต้มาถึ งและเห็ นหญิ งสาวอันเป็ นที่ รักนั่งเหม่ออยู่ขา้ งเตาผิง
แล้ว ก็อดที่จะถามขึ้นไม่ได้วา่ “เจ้ากาลังนัง่ คิดสิ่ งใดอยู”่
เสี ยงของเขาที่จู่ ๆ ก็ดงั ขึ้นมาทาให้เหยียนหยินรี บลุกขึ้นถวายบังคมแทบ
ไม่ทนั “ฝ่ าบาท…” แต่แค่นางลุกขึ้นมาก็ยงั คงถูกเขาห้ามไว้เช่นเคย ทาให้สุดท้าย
นางได้แต่กลับไปนัง่ อยูอ่ ย่างเก่าแล้วถามเขาด้วยความสงสัยกลับไปแทน “ฝ่ าบาท
มิใช่วา่ พึ่งจะกลับมาจากล่าสัตว์หรื อเพคะ”

58
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาถามนั้นทาให้ฮ่องเต้ที่นั่งอยู่ขา้ งนางถามด้วยรอยยิ้มแปลกใจขณะพูด
หยอกล้อขึ้นมาเล็กน้อย “เจ้ารู ้การเคลื่อนไหวของเราดีแบบนี้ต้ งั แต่เมื่อไหร่ กนั ” แต่
พอเห็นนางสะดุง้ ตกใจกลัว เพราะการรู ้ความเคลื่อนไหวของเขาที่เป็ นฮ่องเต้เช่นนี้
อาจทาให้รับโทษแล้ว ก็ตอ้ งหัวเราะแห้ง ๆ ให้กบั การหยอกล้อที่ดูจะแรงไปของตน
พลางพูดออกไปว่า “ช่างเถิด ๆ ” แล้วจึงเปลี่ยนไปคุยเรื่ องอื่นแทน “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็
ต้องรู ้เช่นกันว่าข้าออกไปกับใคร จะไม่ถามสักหน่อยรึ ยงั ไงกัน”
แววตาสนอกสนใจที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเขา ทาให้เหยียนหยินมี
สี หน้างุนงง “ทรงหมายถึงเนี่ยเฟยที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาอย่างเร่ งด่วนหรื อเพคะ”
คาตอบตรง ๆ จากนาง ทาให้เขาต้องมีน้ าเสี ยงไม่พอใจปนน้อยใจขึ้นมาว่า
“ท่าทางแบบนี้คืออะไรกัน เจ้าจะหึ งสักนิดไม่ได้รึไง”
พอรู ้ถึงความต้องการจริ ง ๆ ของเขาแล้วเหยียนหยินก็ตอ้ งหน้าแดงอย่าง
พูดไม่ถูก “นั่นมัน…” นางยังไม่ทนั คิดว่าจะพูดสิ่ งใดต่อ เขาก็เปลี่ยนเรื่ องอีกครั้ง
เสี ยก่อน “จริ งสิ ขา้ ได้ยนิ ว่าจักรพรรดิแคว้นเหลียงให้คนเอาของมาให้เหล่าพระสนม
ในวังหลัง ของเหล่านั้นเป็ นอย่างไรบ้าง”
พอคาถามนี้ดงั ขึ้น เหยียนหยินก็พอจะเข้าใจแล้วว่าเขามาที่นี่เพราะเหตุใด
“ที่หม่อมฉันได้มาล้วนเป็ นชุดและเครื่ องประดับเก่าแก่เพคะ แม้จะไม่ใช่
ของใหม่แต่ก็คงจะมีค่าน่าดู” เหยียนหยินตอบ ก่อนที่ฮ่องเต้จะถามด้วยสายตายาก
จะคาดเดาออกไป “แล้วนอกจากนั้นยังมีอะไรอีกหรื อไม่”
ท่าทางของฮ่องเต้ที่ดูแปลกประหลาดในวันนี้ น้ นั ทาให้เหยียนหยินพอจะ
ทายได้วา่ คงเป็ นเพราะเรื่ องของที่ถูกส่ งมา ที่เขาดูจะสนอกสนใจเหล่านี้เป็ นแน่ แต่

59
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

แม้จะไม่รู้วา่ เขาสนใจเพราะอะไร นางก็ได้แต่ตอบตามตรงกลับไป “มีเพียงถ้วยชา


อีกถ้วยเท่านั้นเพคะ”
ได้ยินเช่ นนั้นฮ่องเต้ก็พยักหน้าเป็ นเชิ งรับรู ้ เล็กน้อย “เป็ นเช่นนั้นงั้นรึ ”
ก่อนจะยิม้ อธิ บายออกไปว่า “แบบนี้ ทางเราก็ควรจะหาของที่เท่าเทียมเป็ นสิ นน้ าใจ
ส่งกลับคืนไปให้เช่นกัน”
แม้เหยียนหยินจะไม่ค่อยเชื่อในคาอธิ บายนั้น นางก็ได้แต่ยมิ้ ตอบกลับไป
แล้วจึงถามขึ้นอีกครั้ง “ว่าแต่ฝ่าบาทจะเสด็จกลับตาหนักเมื่อไหร่ เพคะ หรื อจะทรง
เสวยสิ่ งใดก่อน” คาถามด้วยความเป็ นห่ วงของนางที่ไม่อยากให้เขาอยูน่ าน เพราะ
กลัวเขาจะติดหวัดนางซึ่ งยังไม่หายดีเอาได้ กลับได้รับกลับมาเป็ นน้ าเสี ยงน้อยอก
น้อยใจที่ตอบกลับมาว่า “ข้าพึ่งมาถึงไม่นาน เจ้าก็จะไล่ขา้ กลับไปแล้วรึ ยงั ไง”
ท่าทางของเขาทาเอาเหยียนหยินต้องรี บร้อนอธิ บายเสี ยยกใหญ่ จนคนทั้ง
สองพูดคุยนอกเรื่ องกันไปเสี ยนาน ฮ่องเต้ก็ถามขึ้นอย่างเป็ นห่ วงอีกครั้ง “อาการ
ของเจ้าดีข้ ึนรึ ยงั ”
คาถามและน้ าเสี ยงที่ ดูห่วงใยของเขา ทาให้แววตาของเหยียนหยินอ่อน
โยนลงไม่นอ้ ย
“เกือบจะหายดีแล้วเพคะ”
ฮ่องเต้ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้ารับรู ้พลางถามขึ้นด้วยรอยยิม้ มีสเน่ห์ แล้ว
ดึงนางเข้ามากอดอย่างรักใคร่ วา่ “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็กลับมาเป็ นเช่นเดิมได้แล้วใช่
หรื อไม่”
ท่าทางของเขาทาเอาเหยียนหยินอดนึกถึงช่วงคืนก่อนหน้านี้ ที่นางถูกเขา
ทาให้แทบจะสิ้ นไร้เรี่ ยวแรง แม้จะมิได้อยากขัดใจเขา แต่เพราะยังกังวลหลาย ๆ

60
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

อย่าง พอเห็นรอยยิม้ กริ่ มที่เขาส่ งมา นางจึงรี บคิดหาทางออกในทันที “ฝ่ าบาท มิใช่
ว่าช่วงนี้ควรจะให้เนี่ยเฟยปรนนิบตั ิหรื อเพคะ”
ในเมื่อเขาพึ่งจะแต่งตั้งเนี่ ยเฟยเพื่อให้ไปงานล่าสัตว์แทนนางขึ้นมา หาก
ไม่ทาให้ดูเหมือนเป็ นคนโปรดเสี ยหน่อยจะถูกสงสัยเอาได้ ทั้งยังอาจจะทาให้แคว้น
เหลียงที่รู้ความจริ งรู ้สึกโดนหยามหน้า แม้จะรู ้เช่นนั้นฮ่องเต้ก็ยงั มีสีหน้าไม่ทุกข์ไม่
ร้อนต่อสิ่ งใด
“ทาไมข้าต้องให้นางทาด้วยกัน อีกอย่างคนของแคว้นเหลียงก็จะกลับไป
พรุ่ งนี้แล้วเจ้าจะใส่ใจไปใย”
ถึงจะได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็ยงั พยายามหาทางออกต่อไป เมื่อใบหน้า
ของเขาเริ่ มซุกไซ้เข้ามาหานางมากขึ้นกว่ามา “แต่ทรงทาแบบนี้ไม่ดีสกั เท่าไหร่ คน
อื่นจะว่าร้ายหม่อมฉันได้…” นางยังพูดไม่ทนั จบ กัว๋ กงกงก็เข้ามารายงานฮ่องเต้
เสี ยก่อน “ฝ่ าบาทเนี่ยเฟยกลับไปแล้วพะยะค่ะ”
กัว๋ กงกงที่ เข้ามาพอดี น้ นั ทาให้เหยียนหยินโดนปล่อยออกจากอ้อมแขน
ของเขา ก่อนที่ จะเห็ นกัว๋ กงกงมีสีหน้าลาบากใจ พลางเขยิบเข้าไปรายงานฮ่องเต้
เสี ยงเบา “แล้วก็…”
เหยียนหยินที่ไม่ได้ยินทั้งสองคนพูดคุยกันต้องนิ่ วหน้าลงเล็กน้อย ได้แต่
คิดว่านัน่ คงจะเป็ นเรื่ องสาคัญเป็ นแน่ เพราะใบหน้าของฮ่องเต้ดูจะเคร่ งเครี ยดขึ้นมา
ชัว่ ครู่ หนึ่ ง จนกระทัง่ เมื่อกัว๋ กงกงถอยออกจากห้องไปแล้ว ฮ่องเต้ก็กลับมามีสีหน้า
ยิ้มแย้มราวกับเมื่อกี้ ไม่มีเรื่ องอันใดเกิ ดขึ้นเลย “ดูท่าวันนี้ คงเหลือเพียงเจ้าที่ จะอยู่
คอยดูแลข้าแล้ว”

61
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาพูดดื้อรั้นของเขาทาให้นางจนปั ญญาที่จะคิดหาทางปฏิเสธออกไป แต่


ยังไม่ทนั อ้าปากพูดสิ่ งใดเขาที่ดูจะรู ้ทนั ก็พูดเสี ยงน่าเกรงขามขึ้นมาทันที “เจ้าคิดว่า
ข้าเป็ นใครกัน จะขัดคาสัง่ ข้างั้นรึ ”
พูดจบก็หวั เราะอย่างอารมณ์ดีกบั ท่าทีตกอกตกใจของนาง ที่แม้จะโดนเขา
แกล้งเช่นนี้ บ่อยแต่ก็ยงั ไม่ชินเสี ยที ไม่นานนักเขาก็ยมิ้ อ่อนโยนพูดขึ้นว่า “พักผ่อน
เถิ ด เจ้า ยัง ไม่ หายดี ขา้ จะทาให้เจ้า เหนื่ อ ยมากกว่า เดิ ม ได้ยงั ไง แต่ คื นนี้ ขา้ จะนั่ง
ทางานอยูท่ ี่นี่แล้วกัน”
เขาพูดทิ้งท้ายเพียงเท่านั้น หลังจากนั้นก็สั่งให้คนขนฏีกามาตาหนักนาง
ทันที ทาให้เหยียนหยินได้แต่ตอ้ งปล่อยเขาทาตามใจอย่างไม่รู้จะทาเช่นไร ก่อนจะ
พึ่งนึ กได้วา่ ก่อนที่เขาจะมาเมื่อกี้นางยังกังวลเรื่ องของที่ถูกส่ งมาเหล่านั้นอยูไ่ ม่ใช่
หรื ออย่างไรแล้วนี่ นางเผลอลืมเลือนความกังวลเหล่านั้นไปหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ กนั
แค่คิดก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา
.............................

ณ ตาหนักจิ่งเหริ นกงของฮุ่ยกุย้ เฟย


ยามนี้ดูจะคึกคักยิง่ นักเมื่อไม่วา่ ใครก็ต่างพากันเอาของมาเอาอกเอาใจนาง
ที่น่าจะได้นงั่ ตาแหน่งฮองเฮาที่ยงั คงว่างอยูเ่ ป็ นคนถัดไป
ภาพผูค้ นที่ทยอยขนของเข้าไปในตาหนักไปมา พร้อมกับคาสรรเสริ ญชื่น
ชมความเมตตาและน่าเคารพของฮุ่ยกุย้ เฟย ทาให้เนี่ ยเฟยที่พ่ ึงเดินมาถึงต้องยิม้ เย็น
ในใจ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเจ้าของตาหนักผูซ้ ่ ึ งกาลังนัง่ พูดคุยกับแขกคนสาคัญอยู่
ภายในตาหนักหลังใหญ่นนั่ เอง

62
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

“ถวายพระพร ฮุ่ยกุย้ เฟยเพคะ” เนี่ ยเฟยพูดพร้อมกับทาความเคารพด้วย


รอยยิ้มสดใส ฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อเห็ นเช่นนั้นก็รีบร้อนเข้ามาพยุงให้นางลุกขึ้นมาอย่าง
ห่วงใยทันที “ลุกขึ้นเถิด ๆ เหตุใดน้องหญิงจึงมาอยูท่ ี่นี่กนั ”
พอได้ยินคาถามจากฮุ่ยกุย้ เฟย เนี่ ยเฟยก็ถอนหายใจตอบกลับว่า “ฝ่ าบาท
ทรงเสด็จไปที่หย่งโซ่วกงแล้ว หม่อมฉันจึงคิดว่าควรจะมาพูดคุยเล่นกับพี่หญิงแทน
เพคะ”
คาตอบนั้นทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยถึงกับชะงักไปชัว่ ครู่ หนึ่ ง “เป็ นเช่นนี้ นี่เอง ฝ่ า
บาทคงจะกังวลกับอาการของเหยียนเฟยจึงรี บไปหานางเช่นนั้น”
ไม่นานนักฮุ่ยกุย้ เฟยก็มองพระสนมที่เคยถูกทอดทิ้งมานานเบื้องหน้า ซึ่ ง
กาลังพยายามทาตัวให้ดูน่าสงสารอยู่ พลางยิม้ เห็นใจน้อย ๆ
“หม่อมฉันรู ้ดีต้ งั แต่แรกแล้วว่าถึงอย่างไรก็คงไม่อาจสู ้กบั เหยียนเฟยได้”
ค าพูด ประโยคนี้ ของเนี่ ย เฟยนั้น ท าให้ฮุ่ ย กุ้ย เฟยต้องมี น้ าเสี ยงปลอบใจออกมา
“ตอนนี้เจ้าตาแหน่งเท่านาง จะดูถูกตนเองเช่นนั้นได้อย่างไรกัน”
ได้ยินเพียงเท่านั้นเนี่ ยเฟยก็รีบเข้ามาขอบคุณด้วยสี หน้าตื้นตันในทันที
“ทั้งหมดนี้ คงต้องขอบคุณพี่หญิงที่ช่วยชี้ แนะ” ระหว่างที่ ละครอันดูน่าประทับใจ
กาลังจะดาเนินไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ดนั้น สตรี ในชุดสี แดงอีกผูห้ นึ่ งซึ่ งนัง่ อยูใ่ นห้อง
ก็ดูจะทนไม่ไหว จนต้องเอ่ยต่อว่าออกมาอย่างไม่พอใจว่า “พวกเจ้าจะหยุดพูดพร่ า
เพรื่ อกันเสี ยบ้างไม่เป็ นหรื อไง บรรยากาศดี ๆ พาลเสี ยไปหมด!”
น้ าเสี ยงและท่าทางที่ยงั คงเอาแต่ใจ บวกกับใบหน้าที่งดงามหาใดเปรี ยบ
ของอีกฝ่ ายซึ่ งเป็ นแขกคนสาคัญของฮุ่ยกุ้ยเฟยในยามนี้ น้ นั ทาให้เนี่ ยเฟยต้องยิ้ม
เฝื่ อนเล็กน้อย “องค์หญิงอวี้เหมยช่างงดงามยิง่ นัก”

63
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ด้านฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อเห็นว่าแขกคนสาคัญของตนดูจะไม่ค่อยพอใจแล้ว ก็รีบ


เปลี่ยนเรื่ องพูดทันที “จริ งสิ ข้ากาลังคุยกับองค์หญิงเรื่ องสาคัญอยูพ่ อดี” แล้วจึงหัน
มามองเนี่ ยเฟยด้วยใบหน้าที่ดูเป็ นมิตรพลางพูดว่า “น้องหญิงก็รู้ดีวา่ ความต้องการ
ของข้าคือสิ่ งใด ส่วนข้าเองก็รู้ดีวา่ น้องหญิงต้องการสิ่ งใดเช่นกัน”
พูดจบแววตาของฮุ่ยกุย้ เฟยก็เป็ นประกาย ก่อนที่รอยยิม้ ซึ่งเคยดูอ่อนหวาน
ของนางจะกลายเป็ นรอยยิม้ ที่ดูมีเลศนัยแทน “ในเมื่อพวกเราสามคนมีความต้องการ
ในทางเดียวกันทาไมไม่ร่วมมือกันสักหน่อยเล่า”
ท่าทางที่ เปลี่ยนไปของคนตรงหน้าทาเอาเนี่ ยเฟยอดไม่ได้ที่จะรู ้สึกเย็น
วาบ “ถ้าเช่นนั้นพี่หญิงพูดออกมาเถิด”
คาตอบของเนี่ยเฟยทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยยิม้ ออกมาอย่างพึงพอใจไม่นอ้ ย พลาง
พูดอย่างคาดหวังด้วยตาเป็ นประกายระยิบระยับ “งานนี้ จะสาเร็ จได้ตอ้ งพึ่งน้อง
หญิ ง เท่ า นั้ น” จากนั้ นจึ ง ยิ้ ม หวานอธิ บ ายต่ อ ไป “ตระกู ล ของน้ อ งหญิ ง มี
ความสัมพันธ์เก่าแก่กบั ขุนนางฝ่ ายอดีตฮองเฮาใช่หรื อไม่ ถ้าเช่นนั้นทาไมไม่ลอง
เสนอเรื่ องการรื้ อฟื้ นคดีการสิ้นพระชนม์ของอดีตฮองเฮาเล่า”
แผนการที่ดูเสี่ ยงจนเกินกว่าจะรับไหว โดยการเข้าไปยุง่ กับขุนนางเก่าแก่
และเรื่ องที่ไม่ควรยุง่ อย่างการตายของฮองเฮาที่ถูกตัดสิ นไปแล้ว ทาเอาเนี่ ยเฟยต้อง
ถามด้วยเสี ยงสั่นเครื อจากความหวาดหวัน่ ใจ “หม่อมฉันจะทาเช่นนั้นไปทาไมกัน
เพคะ”
เรื่ องการสิ้ นพระชนม์ที่ดูน่าสงสัยของฮองเฮาซึ่ งถูกตัดสิ นว่าเป็ นเพราะ
อาการป่ วยที่กาเริ บกระทันหันในยามแรก บวกกับการที่มีคนเรี ยกรวมตัวนางกานัล
ของตาหนักฮองเฮาหลังจากคืนอันน่าเศร้าไม่นานนั้น ต่อให้มีคนรู ้มากมายแต่ใคร

64
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

จะอยากพูดถึงกัน เมื่อมันคงจะเกี่ยวพันถึงเหล่าผูม้ ีอานาจในยามนั้นแน่นอน อีกทั้ง


เรื่ องการสิ้ นพระชนม์ที่ถูกสงสัยมานานนั้น ไม่นานมานี้ ก็พ่ งึ จะกลายเป็ นโทษหนัก
ให้ฉือเฟยรับไปแล้วหรอกหรื อ ว่ากันว่านางสารภาพด้วยตนเอง ทั้งยังเจอหลักฐาน
คาตาหนัก ในเมื่อมีคนรับเคราะห์แล้วใครบ้างจะยังอยากรื้ อฟื้ นขึ้นมาอีกเล่า
ฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อเห็นว่าสตรี เบื้องหน้ามีท่าทีสั่นกลัว ก็ทาท่าปลอบใจแล้วจึง
โน้มน้าวต่อไป “ส่ วนหนึ่ งก็เพื่อที่ตระกูลของเจ้าจะสร้างความสัมพันธ์กบั ตระกูล
อื่ น และลดฐานอานาจที่ สนับสนุ นใครบางคนลง” คาพูดที่ ฟังดู สวยหรู จากการ
แสดงให้เห็นแต่ดา้ นดีน้ นั อดไม่ได้ที่จะทาให้ใจของเนี่ยเฟยสัน่ ไหวเล็กน้อย แม้จะรู ้
ว่าการขึ้นมาเป็ นคนโปรดแทนที่ใครบางคนไม่ใช่เรื่ องง่าย ๆ อย่างที่คิด แต่การจะ
อยูใ่ นตาแหน่งสูงเช่นนี้ตลอดไปก็เป็ นเรื่ องยากที่ควรทาไว้ให้ได้เช่นกัน
เมื่อฮุ่ยกุย้ เฟยเห็นว่านางเริ่ มจะติดกับแล้วก็ยกยิม้ อ่อนหวานขึ้นมาเล็กน้อย
พลางเรี ยกนางกานัลของตนให้เอาจดหมายฉบับหนึ่ งเข้ามาให้ “เจ้าเพียงแค่ตอ้ งใช้
หลักฐานเหล่านี้ ส่งให้พอ่ ของเจ้าเข้าไปพูดคุยกับใต้เท้าฉิ นเท่านั้น”
เนี่ ยเฟยได้แต่รับมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะหันไปมององค์หญิงอวี้เหมยที่
นัง่ เงี ยบอย่างหยิง่ ทะนงด้วยสี หน้าลังเล เพราะหากที่ฮุ่ยกุย้ เฟยบอกว่าทั้งสามคนมี
ความประสงค์ใ นทางเดี ย วกัน จริ ง แล้ว องค์ห ญิ ง ต้อ งการสิ่ ง ใดกัน “แล้ว องค์
หญิง…”
ไม่ตอ้ งรอให้เนี่ ยเฟยพูดจนจบ องค์หญิงอวี้เหมยก็ชิงพูดตัดบทขึ้นมาเอง
เสี ยก่อน “สตรี ผนู ้ ้ นั ตกลงมาเมื่อไหร่ คนของข้าจะจัดการทุกอย่างและเอาตัวนางไป
เอง” แต่เมื่อเห็นใบหน้าสงสัยที่มองมาแล้วก็ตอ้ งพูดขยายความออกไปว่า “ที่แคว้น
ข้ามีคนต้องการนางอยู่ พวกเจ้าไม่จาเป็ นต้องสงสัยสิ่ งใด ๆ ทั้งนั้น”

65
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

สิ้ นคาพูดนั้นฮุ่ยกุย้ เฟยก็รีบพูดโน้วน้าวเนี่ ยเฟยขึ้นอีกครั้งทันที “คนของ


ข้าจะช่วยให้เจ้าทาทุกอย่างได้ราบรื่ นเอง น้องหญิงไม่ตอ้ งเป็ นกังวลไป” แต่เมื่อเห็น
สายตาที่ยงั ลังเลเล็กน้อยแล้ว จึงต้องเปลี่ยนจากคาพูดโน้มน้าวที่ฟังดูรื่นหู เป็ นคาพูด
ที่แฝงไปด้วยความหมายซ่อนเร้นแทนว่า “ถึงอย่างไรพวกเราก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อ
กัน เรื่ องที่ขา้ เคยเห็นผ่าน ๆ มาข้าก็ไม่เคยถือสาหาความน้องหญิงเลย”
ได้ยินเพียงเท่านั้นเนี่ ยเฟยก็มีสีหน้าลนลานอย่างเห็นได้ชดั “ขะ ข้าจะไม่
ทาให้พวกท่ านผิดหวังเป็ นแน่ ” ก่ อนที่ ฮุ่ยกุ้ยเฟยจะยิ้มพึงพอใจพลางพูด ว่า “ถ้า
เช่นนั้นก็นบั ว่าเป็ นเรื่ องดีจริ ง ๆ ”
คนทั้งสามพูดคุยกันถึงแผนการอีกไม่นานก็แยกย้ายกันกลับไป ทาให้ใน
ตาหนักหลังใหญ่เหลือเพียงฮุ่ยกุย้ เฟยผูอ้ ่อนหวานสูงศักดิ์เพียงผูเ้ ดียวอีกครั้ง
ทันที ที่นางนั่งลงและอ่านหนังสื อในมือไปไม่ถึงหนึ่ งชัว่ ยาม นางกานัล
คนสนิทก็เข้ามารายงานอย่างรู ้งานว่า “พระสนม คนของเราบอกว่าเนี่ยเฟยทาตามที่
ทรงรับสัง่ ทุกอย่างเพคะ”
คารายงานที่ได้ยนิ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ดี ให้ พ วกนั้ นเฝ้ า ดู น างต่ อ ไป” ก่ อ นจะนึ ก ถึ ง เนี่ ย เฟยที่ ถู ก ตนเอง
สนับ สนุ น โดยการเสนอชื่ อ ให้ฮ่ อ งเต้เลื่ อ นขั้น ก่ อนการล่ า สัต ว์ สตรี ผูน้ ้ ี แม้จะดู
เหมือนเป็ นคนโปรดปรานคนใหม่แต่ก็เป็ นเพียงตัวแทนของใครบางคนที่ได้แต่ทา
ตามคาสัง่ นางผูเ้ ท่านั้น
แค่คิดก็ตอ้ งยิม้ หยันขึ้นมาเล็กน้อย “แล้วก็หาหลักฐานสาหรับกาจัดนางไว้
ด้วยก็ดี”

66
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาสั่งที่พ่ ึงได้ยิน ทาให้นางกานัลคนสนิ ทมีสีหน้าลังเล “เนี่ ยเฟยย่อมรู ้ตวั


ว่าคนรอบข้างที่พ่ งึ ถูกส่งเข้าไปนั้นเป็ นคนของเราอยูแ่ ล้ว หากนางเอาไปซ่อนตั้งแต่
ก่ อ นหน้า ให้หาไม่เจอเล่ า เพคะ” แต่ ค าถามที่ เต็มไปด้ว ยความสงสัย นั้นก็ได้รับ
คาตอบเรี ยบ ๆ กลับมาเพียงแค่วา่ “หากหาไม่เจอก็แค่ตอ้ งสร้างมันขึ้นมาไม่ใช่รึไง
กัน”
ได้ยินเช่นนั้นนางกานัลคนสนิ ทก็ได้แต่ตอบรับอย่างเข้าใจ แล้วจึงถามถึง
ใครอีกคนต่อแทน “แล้วด้านองค์หญิง…”
แค่ได้ยนิ ชื่อของสตรี อีกคนฮุ่ยกุย้ เฟยก็ตอ้ งย่นหัวคิว้ ลงด้วยใบหน้าครุ่ นคิด
เล็กน้อย “ตอนนี้ฉีอ๋องดูจะพึงใจในตัวนางอยูม่ าก อย่าให้คนของเราทาอะไรมาก แค่
เฝ้าดูห่าง ๆ ก็พอ”
ในสายตาของฮุ่ยกุ้ยเฟย ยังคงเห็ นว่าฉี อ๋องดู แลและเอาใจองค์หญิ งอวี้
เหมยเป็ นอย่างดี ซึ่งอาจเป็ นเพราะองค์หญิงเป็ นคนสาคัญของแคว้นเหลียงหรื อเป็ น
เพราะฉี อ๋องรักนางจากใจจริ งก็ได้ ทาให้ไม่อาจทายได้วา่ แท้จริ งแล้วองค์หญิงต่าง
แคว้นผูน้ ้ ี มีความสาคญเท่าใด แต่แม้องค์หญิงอวี้เหมยจะไม่มีกาลังมากพอที่จะทา
อันใดได้ นางก็ยงั ต้องเอาใจเพราะยามนี้ฮองเฮาแห่งแคว้นเหลียงกาลังเสนอทางช่วย
สนับสนุนตัวนางผ่านทางองค์หญิงอวี้เหมยนัน่ เอง
แม้จะไม่รู้ว่าเหตุใดฮองเฮาแคว้นเหลียงจึงสนับสนุ นตน โดยขอแลกกับ
แค่การได้ตวั ของเหยียนเฟยไป แต่นี่ก็นบั ว่าเป็ นผลดีต่อนาง
หากรวมการสนับสนุนจากแคว้นเหลียง บวกกับอานาจของขุนนางในราช
สานักที่เคยเป็ นคนของฉื อเฟยที่นางได้มารับมาแล้ว ทั้งยังรวมถึงกลุ่มขุนนางเก่าแก่

67
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ที่นางกาลังจะพยายามชักจูงนี้ แค่น้ ีก็เหมือนกับว่านางได้อานาจแทบทั้งหมดมาแล้ว


ไม่ใช่รึไงกัน แม้จะไม่มีความโปรดปรานจากฮ่องเต้ก็ไม่เห็นว่าจะเป็ นเช่นไร
คิดเช่นนั้นใบหน้าที่เคยมีรอยยิม้ อ่อนหวานเสมอก็ดูจะกลับกลายเป็ น
ใบหน้าของสตรี อนั แสนชัว่ ร้ายขึ้นมา ขณะที่ในหัววาดฝันถึงเส้นทางเพื่อก้าวขึ้นสู่
ตาแหน่งฮองเฮาอันแสนสูงศักดิ์ ที่จะต้องไม่มีผใู ้ ดอาจหาญมาขวางทางตน

***************************************

68
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 31 ทิศทำงที่เริ่มเปลีย่ นไป

พึ่งจะล่วงเลยยามเหม่า(1) มาได้ไม่นาน ฮ่องเต้ที่ยงั คงอยูใ่ นตาหนักหย่ง


โซ่วกงเช่นเดิม ทั้งยังต้องตื่นมานัง่ ทรงงานและอ่านข่าวสารที่ถูกส่ งมาจากที่ต่าง ๆ
ด้วยสี หน้าเคร่ งเครี ยดมาแต่เช้า ก็ตอ้ งขมวดคิ้วมุ่นกว่าเดิมไม่นอ้ ย เมื่อได้ยินเสี ยงที่
รี บร้อนของกัว๋ กงกง “ฝะ ฝ่ าบาท เกิดเรื่ องแล้วพะยะค่ะ”
“มี อะไรกัน” เขาถามกั๋วกงกงที่ กาลังเดิ นก้มหน้าเข้ามาอย่างลาบากใจ
ก่ อนจะได้ยินคารายงานออกมาว่า “คื อว่าจู่ ๆ ยามเช้ามื ดเหล่าขุนนางเก่ าแก่ ก็มา
รวมตัวกันหน้าท้องพระโรง ยื่นเรื่ องขอให้พระองค์สอบสวนการสิ้ นพระชนม์ของ
ฮองเฮา ทั้งยังอ้างว่ามีหลักฐานและขอให้พิจารณาโทษใหม่…” พูดถึงตรงนี้ เสี ยง
ของกัว๋ กงกงก็นิ่งเงียบไป ก่อนจะดังขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคาราวกับได้ตดั สิ นใจที่ จะ
พูดเรื่ องที่ยากลาบากออกมาว่า
“ เพื่อให้ ฝ่ำบำทมิทรงเห็นถูกเป็ นผิด ตัดสินคนบริสุทธิ์ให้ ต้องถูกตรำหน้ ำ
อีกพะยะค่ ะ!”

69 (1) ยามเหม่า คือประมาณ 5:00 – 6:59 น.


เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ปัง!
เสี ยงโต๊ะที่ถูกคนซึ่งกาลังโมโหเกรี้ ยวกราดทุบดังกังวาลไปทัว่ หัอง แม้แต่
กองฎีกามากมายบนโต๊ะก็ยงั ต้องหล่นลงอย่างกระจัดกระจายจากแรงสั่นสะเทื อน
นั้น เสี ยงของฮ่องเต่ที่มีใบหน้าถมึงถึงในยามนี้ เองก็พลันกลายเป็ นแข็งกร้าวขึ้นมา
ไม่ต่างจากแววตาที่ พ่ ึงจะดู คมกริ บและดามื อดลงในชั่วพริ บตา “ใครเป็ นคนพูด
เช่นนั้นกัน!”
ท่าทางน่ ากลัวของชายสู งศักดิ์เบื้องหน้า ทาให้เหล่าข้ารับใช้โดยรอบพา
กันรี บก้มหน้าคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรี ยง ด้วยหวังว่าความโมโหโกรธาเหล่านั้นจะ
ไม่มาตกอยูท่ ี่ตน ในขณะที่คนซึ่ งดูจะลาบากใจมากที่สุดในตอนนี้ดูจะไม่พน้ กัว๋ กง
กงที่ตอ้ งตอบคาถามด้วยเสี ยงที่สนั่ เครื อ “คะ คือ…”
แต่ยงั ไม่ทนั ที่ จะพูดจบก็มีเสี ยงดังงัวเงี ยดังออกมาจากห้องนอนด้านใน
เสี ยก่อน “ฝ่ าบาทเกิดอะไรขึ้นเพคะ”
เสี ยงของเหยียนหยินที่ดงั ออกมาจากห้องด้านในนั้น ทาให้ฮ่องเต้ที่ลืมไป
ว่าตนยังคงอยูใ่ นตาหนักของนางแต่เมื่อวาน พึ่งจะรู ้ตวั ว่าตนทาเสี ยงดังไปปลุกนาง
ที่ควรจะพักผ่อนขึ้นมา จึงรี บปรับน้ าเสี ยงให้เป็ นเฉกเช่นปกติ แล้วตอบอย่างอ่อน
โดยนกลับไป “ไม่มีอะไรหรอก เจ้าพักผ่อนต่อเถอะ”
ทันที ที่เขาพูดเช่นจบ สตรี ที่อยู่ในห้องก็ดูจะนิ่ งเงี ยบไปเล็กน้อย ก่อนจะ
ตอบรับเสี ยงเบา “เพคะ…”
“ฝ่ าบาท…” กัว๋ กงกงที่ เห็ นฮ่องเต้ใจเย็นลงบ้างแล้ว เรี ยกนายของตนขึ้น
อีกครั้ง ฮ่องเต้จึงหันมาสั่งคนของตนเสี ยงเบาว่า “กลับตาหนัก” จากนั้นจึงเดินออก

70
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

จากตาหนักไปในทันที แต่ก็ยงั ไม่วายหันมากาชับบ่าวรับใช้ในตาหนักให้คอยดูแล


สตรี ที่ยงั คงสลบไสลอยูภ่ ายในอย่าได้ห่างกาย
เห็นฮ่องเต้ที่แม้จะรี บร้อนเดินจากไป แต่ก็หันมาสั่งนางกานัลในตาหนัก
เช่นนั้น กัว๋ กงกงก็อดทอดถอนใจออกมาไม่ได้ ด้วยลางสังหรณ์ของเขาซึ่ งอยูใ่ นวัง
มานานบอกว่า หากฮ่องเต้ยงั เอาใจเหยียนเฟยมากมายเช่นนี้ อีกไม่นานต้องเกิดเรื่ อง
ใหญ่ข้ ึนในวังหลวงแห่งนี้แน่นอน

หลังจากฮ่องเต้จากไปได้ไม่ถึงครึ่ งชัว่ ยาม เหยียนหยินที่สะดุง้ ตื่นมาเพราะ


เสี ยงดังที่เขาทาในยามเช้าก็ตอ้ งลุกออกมาจากเตียง เมื่อไม่อาจข่มตาให้หลับลงไป
ได้อีกครั้ง แล้วจึ งหันไปถามนางกานัลคนสนิ ทข้างกายตน “เมื่อเช้าเกิ ดเรื่ องอะไร
ขึ้นกัน”
“ดู เหมื อนเหล่าขุนนางเก่ าแก่ จะยื่นเรื่ องขอให้ฮ่องเต้สืบ สวนเรื่ อ งการ
สิ้ นพระชนม์ของฮองเฮาเพคะ ทั้งยังบอกว่าฉื อเฟยที่เคยรับโทษไปนั้นแท้จริ งแล้ว
ไม่มีความผิดถึงขั้นต้องโดนโทษประหารจริ ง” เยว่อิ๋งตอบ ก่อนจะเห็นสี หน้าแปลก
ใจของพระสนมของตนดังที่คาดการไว้
ไม่นานนักเหยียนหยินที่ได้ยนิ เช่นนั้นก็พดู ขึ้นมาอีกครั้ง “พูดแบบนั้นก็ไม่
ถูกทั้งหมดเสี ยทีเดียว” เพราะหากว่ากันตามตรงแล้วล่ะก็ แม้ยาที่ถูกสับเปลี่ยนโดย
ฉื อเฟยจะไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทาให้ฮองเฮาสิ้ นพระชนม์ แต่ถา้ รวมกับความผิดเรื่ อง
อื่น ๆ แล้วก็ไม่แปลกที่นางจะต้องรับโทษหนักอยูด่ ี
ระหว่ า งที่ เ หยี ย นหยิ น ครุ่ นคิ ด อยู่ น้ ั น เยว่ อิ๋ ง ก็ ร ายงานสิ่ งที่ ต นรู ้
ต่อ “นอกจากนั้นยังมีอีกว่า เรื่ องคราวนี้ เหล่าขุนนางเก่าแก่คนสาคัญมากมายถึงกับ

71
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ยอมหักหน้าฝ่ าบาท เป็ นตัวตั้งตัวตียื่นเรื่ องทั้งหมดด้วยตนเอง” สิ่ งที่พ่ ึงจะได้ยนิ นั้น


ทาให้เหยียนหยินต้องถามกลับไปด้วยสี หน้าสงสัยเล็กน้อย “รวมถึงใต้เท้าฉิ นด้วยรึ
เปล่า”
“ตอนนี้ยงั ไม่แสดงท่าทีอนั ใดเพคะ”
ค าตอบจากเยวิ๋ ง ท าให้ เ หยี ย นหยิ น พอจะโล่ ง ใจขึ้ นบ้า ง เพราะนั่ น
หมายความว่าฮ่องเต้ไม่ได้โดนขุนนางทั้งหมดบีบไปเสี ยทีเดียว เนื่ องจากเรื่ องใน
คราวนี้ ดูจะแปลกอยูม่ าก แต่การที่ใต้เท้าฉิ นซึ่ งเป็ นบิดาแท้ ๆ ของฮองเฮายังไม่เข้า
ร่ วมด้วย ทั้ง ๆ ที่เรื่ องเกี่ยวข้องกับการตายของลูกสาวตนเองนั้นก็อาจจะแปลว่า ฝั่ง
กลุ่มคนที่ ยื่นเรื่ องยังไม่อาจดูน่าเชื่ อถือพอที่จะปั กใจให้เข้าร่ วมมือ เพราะอาจเป็ น
เพียงการใช้เรื่ องนี้แก่งแย่งอานาจกันเท่านั้น การที่ใต้เท้าฉิ นจะนิ่งเฉยเพื่อดูท่าทีที่จะ
เกิดขึ้นต่อไปย่อมเป็ นการกระทาที่ถูกต้องแล้ว
สักพักเหยียนหยินก็ถามออกไปอีกครั้ง “แล้วมีเรื่ องอะไรอีกรึ เปล่า”
“ไม่มีแล้วเพคะ”
นัน่ ทาให้เหยียนหยินต้องมีสีหน้าแปลกใจไม่นอ้ ย “ไม่มีเลยงั้นรึ ” เพราะ
ช่วงที่ ราชสานักกาลังมีเรื่ องใหญ่เช่นนี้ วังหลังย่อมไม่มีทางสงบสุ ขเป็ นแน่ แต่นี่
กลับไม่มีเรื่ องใด ๆ เลย คิดเช่นนั้นเหยียนหยินก็คิดอะไรได้บางอย่างพลางยิม้ น้อย ๆ
ขึ้นมา “ถ้าเช่นนั้นออกไปเดินเล่นด้านนอกสักหน่อยเถิด”
คาพูดของนางทาให้เยว่อิ๋งอดที่จะห้ามปรามพระสนมที่อาการป่ วยพึ่งจะดี
ขึ้นของตนไม่ได้ “เวลาแบบนี้ คงไม่เหมาะเท่าใดนักเพคะ” ทาให้เหยียนหยินต้อง
ถอนหายใจออกมา พลางพูดอย่างเรี ยบง่ายออกไปว่า “เจ้าคิดว่าเวลาเช่นนี้ จะมีใคร
มานัง่ อยูเ่ ฉย ๆ บ้างกัน”

72
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

พอได้ยิน เหยีย นหยินพูดจนจบแล้ว เยว่อิ๋ ง ก็ ไ ด้แ ต่ ส่ า ยหัว ไปมาให้กับ


ท่าทางของพระสนมเบื้องหน้าตน ที่รีบร้อนจะแต่งตัวทั้ง ๆ ที่ยงั ไม่ได้ทานอาหาร
เช้าด้วยซ้ าไป พลางคิดว่าพระสนมของตนคงจะอยากช่วยฝ่ าบาทสื บหาว่าใครอยู่
เบื้องหลังเรื่ องนี้แน่นอน
หลังจากที่หยียนหยินแต่งตัวและรับประทานอาหารเช้าเสร็ จ ก็พาคนของ
ตนออกมาเดินเล่นในราชอุทยาน เฝ้ามองดอกไม้ที่ออกดอกไม่มากในฤดูหนาวซึ่ งมี
หิ มะปกคลุม น้อย ๆ แต่เดิ นเล่นกันไปได้สักพักเยว่อิ๋งก็พูดขึ้นอย่างลังเลเมื่อเห็ น
ความผิดปกติ รอบด้าน “พระสนมดูเหมือนพวกเขาจะมองพวกเราแปลก ๆ นะเพ
คะ”
“ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้ เจ้าบอกว่าไม่มีเรื่ องอะไรแล้วมิใช่หรื อ” เหยียนหยินถาม
กลับ ด้วยสี ห น้าปกติ ที่ ม ักจะมี ร อยยิ้ม ประดับ อยู่เ ล็ก น้อ ย แม้น างเองจะรู ้ สึ ก ตัว
เช่นกันว่าทั้งนางกานัลและพระสนมที่เดินผ่านไปมารอบด้าน ต่างมองมาที่ตนด้วย
แววตาแปลก ๆ ตั้งนานแล้ว
ยังไม่ทนั ที่เหยียนหยินจะสั่งให้คนของตนไปสื บเรื่ องราวอันใด เสี ยงอัน
คุน้ หูของสตรี ผหู ้ นึ่งก็ดงั ขึ้นเสี ยก่อน
“ข้าก็นึกว่าใครที่ออกมาเดินเล่นแต่เช้าแบบนี้ ที่แท้ก็แป็ นเจ้านี่เอง”
“องค์หญิงอวี้เหมย…” เหยียนหยินแปลกใจที่ เห็ นอีกฝ่ าย เนื่ องจากองค์
หญิ งอวี้เหมยเบื้ องหน้านางในตอนนี้ ยงั คงดูเหมื อนเดิ มทุกประการ ไม่ว่าจะเป็ น
นิสยั หรื อท่าทางอันใด เพียงแต่นางมาทาอะไรในวังหลวงตั้งแต่เช้าเช่นนี้กนั
ด้านองค์หญิงอวี้เหมยที่ ดูจะทายออกว่าเหยียนหยินสงสัยเรื่ องใดอยูน่ ้ นั
พูดขึ้นด้วยน้ าเสี ยงห้วน ๆ ด้วยสี หน้าไม่พอใจว่า “ข้าเบื่อ ๆ ก็เลยมาหาคนคุยเล่น ว่า

73
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

แต่ขา้ เคยบอกเจ้าแล้วไม่ใช่รึวา่ อย่ามาขวางทางข้าอีก แล้วเหตุใดเจ้าจึงยังกล้าเสนอ


หน้ามาเช่นนี้กนั ”
ท่าทางที่ยงั คงหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี ของตน ทาให้เหยียนหยินได้แต่จนใจ
พลางยิ้มน้อย ๆตอบกลับไป “เส้นทางกว้างเช่ นนี้ ขา้ จะขวางทางองค์หญิ งอยู่ได้
อย่างไร”
ฝ่ ายองค์หญิงอวี้เหมยพอได้ยินคาตอบของนาง ก็ดูจะไม่พอใจยิง่ กว่าเดิม
ราวกับว่าจะบอกว่านางเข้าใจในความหมายที่องค์หญิงอวี้เหมยต้องการสื่ อผิดไป
ยังไม่ทนั ที่คนทั้งสองจะได้พดู คุยสิ่ งใดต่อ เสี ยงที่ฟังดูกระฉับกระเฉงของ
สตรี อีกผูห้ นึ่งก็ดงั ขึ้นแทรกเสี ยก่อน “องค์หญิงที่แท้ก็อยูท่ ี่นี่เอง”
“พระสนมนัน่ คือเนี่ยเฟยเพคะ” เยว่อิ๋งขยับเข้ามากระซิ บบอก ด้วยกลัวว่า
พระสนมของตนจะจาสตรี ผูน้ ้ ี ไม่ได้ ก่ อนที่ เหยียนหยินจะพยักหน้าเป็ นเชิ งรับรู ้
เล็กน้อย ขณะจ้องมองใบหน้าที่มีรอยยิม้ สดใสของเนี่ยเฟย ซึ่งดูจะแตกต่างจากที่เคย
เห็ นมาบ้างในสมัยก่อน ซึ่ งแตกต่าจากยามที่ นางเคยได้ติดตามรับใช้ฮองเฮาอย่าง
สิ้นเชิง
ด้านองค์หญิงอวี้เหมยเมื่อหันไปเห็นเนี่ ยเฟย ก็มีสีหน้าสงสัยออกมา “เจ้า
มาทาอะไรที่นี่”
เมื่อเนี่ ยเฟยมาหยุดยืนอยูต่ รงหน้าคนทั้งคู่แล้ว ก็กล่าวทักทายพอเป็ นพิธี
ก่อนจะหันมาอธิบายให้องค์หญิงอวี้เหมยฟังว่า “ข้าพึ่งไปหาพี่หญิงมา ดูเหมือนนาง
จะรอท่านอยู”่ จากนั้นจึ งหัวเราะขึ้นเล็กน้อยพลางพูดขึ้นด้วยน้ าเสี ยงร่ าเริ ง “องค์
หญิงกับพี่หญิงคุยกันได้ถูกอกถูกคอช่างน่ายินดียงิ่ นัก”

74
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาพูดที่ บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าองค์หญิ งอวี้เหมยกับฮุ่ยกุ้ยเฟยดูจะสนิ ท


สนมกัน ทาให้เหยียนหยินอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ ก่อนที่เนี่ยเฟยจะหันมาพูดกับนาง
แทน “ที่ แท้ก็เหยียนเฟยนี่ เองที่ คุยกับองค์หญิ งอยู่ ให้ขา้ คุ ยเล่นเป็ นเพื่อนแทนดี
หรื อไม่ องค์หญิงอวี้เหมยทรงติดธุระสาคัญคงไม่สะดวกจะคุยกับท่านเท่าใด”
ได้ยินคาพูดที่บอกเจตนาชัดเจนเช่นนั้น เหยียนหยินก็ยมิ้ น้อย ๆ ตอบรับ
“เช่นนั้นก็ตามสบายเถิด” จากนั้นองค์หญิงอวี้เหมยจึงแยกตัวจากไป ส่ วนสตรี ท้ งั
สองที่หลงเหลืออยูก่ ็ยา้ ยไปนัง่ คุยเล่นในศาลาไม่ไกลจากจุดที่พวกตนยืน
เหยียนหยินพึ่งจะนัง่ ลงได้ไม่นาน เนี่ ยเฟยก็เป็ นฝ่ ายรี บเปิ ดปากพูดขึ้นว่า
“ข้าไม่ค่อยได้พบเจอเหยียนเฟยเท่าไหร่ แต่พอเห็นวันนี้ ถึงได้รู้ว่าเหยียนเฟยช่ างมี
เสน่ห์ยิ่งนัก ไม่แปลกที่ฝ่าบาทจะทรงต้องพระทัยถึงเพียงนี้ ” คาพูดยกยออย่างเห็น
ได้ชดั นั้น ทาให้เหยียนหยินต้องรี บปฏิ เสธอย่างสุ ภาพ เพราะหากคาพูดเมื่อกี้ของ
เนี่ยเฟยกระจายไปแล้วล่ะก็ จะเกิดข่าวลือใดตามมาบ้างกัน “เนี่ยเฟยกล่าวชมมากไป
แล้ว ข้าก็เป็ นเพียงสตรี ธรรมดา ๆ ผูห้ นึ่งเท่านั้น”
ด้านเนี่ ยเฟยเมื่อเห็นนางถ่อมตัวเช่นนั้น ก็หัวเราะสดใสออกมา “จะเป็ น
เช่นนั้นได้อย่างไรกัน ๆ ”
ท่าทางของเนี่ยเฟยทาให้เหยียนหยินต้องมองพิจารณาสตรี เบื้องหน้า ด้วย
นางพอจะจาได้วา่ เมื่อก่อนเนี่ ยเฟยก็เป็ นสตรี ที่มีรูปโฉมเป็ นเอกลักษณ์ แต่ออกจะ
ชอบเรี ยกร้องความสนใจอยูม่ าก จนกระทัง่ ถึงจุด ๆ หนึ่ งนางก็ถูกฮ่องเต้เบื่อหน่าย
จนเกือบหลงลืมไปเสี ยหลายปี เหยียนหยินยังจาได้วา่ ฮองเฮาที่เคยไปเยี่ยมเนี่ ยเฟย
ในยามที่นางไม่มีผใู ้ ดสนใจมาครั้งหนึ่ งนั้น ยังเคยบอกว่าสตรี ผนู ้ ้ ี แม้จะนิ สัยคงเดิม
แต่คงไม่คิดจะหาทางกลับมามีตวั ตนในวังหลังอีกแล้ว นัน่ แปลว่าเนี่ยเฟยน่าจะปลง

75
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ตกไปกับตาแหน่ งและความโปรดปรานแล้วมิ ใช่ หรื อ แล้วเหตุใดในยามนี้ ถึงดู


เหมือนจะกลับมายุง่ วุน่ วายกับการแย่งชิงในวังหลังอีกกัน
“จริ งสิ ขา้ ได้ข่าวว่าเหยียนเฟยเคยสนิ ทกับฮองเฮามาก่อน หากนางมาเห็น
เหยียนเฟยในยามนี้ ตอ้ งภูมิใจมากเป็ นแน่” เสี ยงของเนี่ ยเฟยที่ดงั ขึ้น ทาให้เหยียน
หยินได้สติกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะเห็นเนี่ ยเฟยทาสี หน้าเสี ยดาย “น่ าเศร้าที่ฮองเฮา
ทรงจากไปเร็ วยิง่ นัก”
คาพูดที่สื่อความหมายกากวมของเนี่ยเฟย ทาให้รอยยิม้ เบาบางของเหยียน
หยิน แทบจะแข็ง ค้างไป แต่ เ พี ย งไม่น านก็รี บ เปลี่ ยนเป็ นสี หน้าจริ ง จังและตอบ
กลับไปอย่างชัดถ้อยชัดคา “หากผูม้ ีพระคุณของข้ายังคงอยูข่ า้ ก็ไม่รู้วา่ นางจะคิดเช่น
ไร แต่ ข ้า ย่อ มคอยรั บ ใช้น างเฉกเช่ น เมื่ อ ก่ อ นเพื่ อ ตอบแทนบุ ญ คุ ณ เป็ นอย่า งดี
แน่นอน”
ท่าทางเช่นนั้นของเหยียนหยินทาให้เนี่ยเฟยมีสีหน้าลาบากใจไม่นอ้ ย “ดูสิ
ข้า เพี ย งชวนคุ ย เล่น เท่ า นั้น เจ้า กลับจริ งจัง ไปเสี ย ได้” ก่ อ นจะพูดราวกับจะช่ วย
ปลอบใจออกมาว่า “หากเหยียนเฟยคิดเช่นนี้ ก็ดีแล้ว จะได้ไม่ตอ้ งรู ้สึกไม่ดีกบั ข่าว
ลือเหล่านั้น”
คาว่าข่าวลือที่ได้ยินทาให้ใจของเหยียนหยินกระตุกวาบด้วยไม่เคยได้ยนิ
มาก่อน แต่แม้จะไม่รู้วา่ อีกฝ่ ายพูดถึงเรื่ องใด ก็ยงั ต้องยิม้ ตอบกลับไปราวกับเข้าใจ
เรื่ องเหล่านั้นดี “ขอบคุณเนี่ยเฟยที่ห่วงใย”
ด้านเนี่ยเฟยที่ไม่เห็นเหยียนหยินสะทกสะท้านอันใด มีแววตาสัน่ ไหวราว
กับลังเลเล็กน้อย แล้วจึงตัดสิ นใจเปลี่ยนเป็ นถามบางอย่างขึ้นมาแทน “เหยียนเฟยจะ

76
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

นัง่ เล่นอยูท่ ี่นี่หรื อ” คาถามนั้นทาให้เหยียนหยินเพียงแค่ตอบกลับไปว่า “ข้าไม่ค่อย


ได้ออกมาเท่าไหร่ จึงอยากจะนัง่ ชมบรรยากาศโดยรอบนี่สกั พัก”
เมื่อเห็นเหยียนหยินยังดูไม่สะทกสะท้านเช่นเดิม เนี่ ยเฟยก็ตอ้ งวางตัวไม่
ถูกเล็กน้อย ก่อนจะตัดใจพูดถอนตัวออกไปเอง “ถ้าเช่นนั้นข้าต้องขอตัวกลับก่อน
ข้าติดธุระนิดหน่อย” พูดจบก็ได้กลับมาเพียงรอยยิม้ เบาบางของอีกฝ่ ายเท่านั้น “ตาม
สบายเถิด”
จากนั้นเนี่ ยเฟยก็ได้แต่จากไปด้วยสี หน้าที่แม้จะมีรอยยิ้มแต่กลับเต็มไป
ด้วยความร้อนใจ พอเห็นเนี่ ยเฟยลับสายตาแล้วเยว่อิ๋งก็ขยับเข้ามาถามนายของตน
อย่างรู ้งานในทันที “พระสนม จะทรงทาสิ่ งใดต่อเพคะ”
ท่ าทางคล่องแคล่วรวดเร็ วของเยว่อิ๋งทาให้เหยียนหยินอดที่ จะหัวเราะ
ออกมาไม่ได้ “ดูเหมือนเจ้าจะรู ้ใจข้าดียิ่งนัก” ยามที่เห็นสายตาภูมิใจเบา ๆ ของนาง
กานัลคนสนิ ทแล้ว ก็ตอ้ งสั่งเสี ยงเบาออกไปว่า “ให้คนตามดูเนี่ ยเฟยให้ดี แล้วก็ขา้
อยากรู ้วา่ ข่าวลือที่นางพูดถึงนั้นคือสิ่ งใด”
ได้ยิ น เช่ น นั้น เยว่อิ๋ ง ก็ พ ยัก หน้า รั บ ทัน ที พลางคิ ด ว่า รอสั่ง คนของตน
หลังจากพาพระสนมเบื้องหน้ากลับตาหนักก็แล้วกัน แต่เมื่อไม่เห็นพระสนมของ
ตนลุกขึ้นหรื อทาสิ่ งใดต่อไปแล้วก็ตอ้ งถามอย่างลังเลใจขึ้นอีกครั้งหนึ่ ง “แล้วจะ
ทรงกลับเลยหรื อไม่เพคะ”
“ไม่ล่ะข้าจะอยูต่ ่ออีกหน่อย” เหยียนหยินตอบ แต่เมื่อเห็นสายตาสงสัยปน
เป็ นห่วงของอีกฝ่ ายก็ตอ้ งอธิบายออกไปด้วยน้ าเสี ยงนิ่งเรี ยบว่า “หากไม่อยูต่ ่อคงจะ
ดูเหมือนข้าร้อนรนรี บหนีต่อคากล่าวหาพวกนั้นไม่ใช่รึไงกัน”

77
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เยว่อิ๋งเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจได้ในทันที เพราะหากยามนี้ มีข่าวลืออยู่


จริ ง ประกอบกับเมื่อกี้มีผูค้ นที่เดินผ่านไปมาจ้องมองพระสนมของตนยามที่พดู คุย
กับเนี่ยเฟยอยูเ่ ป็ นจานวนมาก หากพระสนมของตนรี บร้อนจากไปเร็ วล่ะก็ อาจจะมี
ข่าวลือว่าทั้งสองคนพูดคุยกันเรื่ องข่าวลือเหล่านั้น ส่วนพระสนมของพวกนางก็อาจ
ถูกสงสัยว่าร้อนใจจนรี บหนีไปได้
แต่แม้จะเข้าใจเช่นนั้นแล้ว เยว่อิ๋งก็ยงั อดไม่ได้ที่จะมองพระสนมของตนที่
เริ่ มมีสีหน้าซี ดเซี ยวจากอากาศหนาวเย็นโดยรอบทั้ง ๆ ที่อาการป่ วยพึ่งจะดี ข้ ึนได้
ไม่ น านด้ว ยความเป็ นห่ ว ง ก่ อ นจะรี บ ไปสั่ ง คนให้ รี บ ออกไปสื บ ข่ า วโดยเร็ ว
เพื่อที่จะได้รีบกลับตาหนักกันเสี ยที
ผ่านไปไม่นานนักเยว่อิ๋งก็กลับเข้ามารายงานให้เหยียนหยินซึ่งกาลังนัง่ จิบ
ชาอยู่ที่เดิ ม เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายฟั งอีกครั้ง “พระสนม ดูเหมือนจะมี
ข่าวลือแพร่ กระจายเมื่อเช้านี้ และเป็ นข่าวลือที่เกี่ยวกับพระสนมเพคะ”
ได้ยนิ เช่นนั้นเหยียนหยินก็พยักหน้าเชิงรับรู ้แล้วหันมาถามกลับทันที “ได้
ความว่ายังไงบ้าง”
คาถามนั้นทาให้เยว่อิ๋งมีสีหน้าลังเลนิ ดหน่ อย ก่อนจะตัดสิ นใจรายงาน
ออกมาว่า “มะ เมื่ อ เช้า นี้ มี ข่ า วลื อ กระจายไปทั่ว วัง หลวงว่า พระสนมไม่ ส านึ ก
บุญคุณฮองเฮาที่เคยเลี้ยงดู ทั้งยังบอกว่า…” พูดถึงตรงนี้น้ าเสี ยงของเยว่อิ๋งก็ดูจะเบา
ลงมากกว่าเดิ ม ยามที่ กาลังจะพูดประโยคสุ ดท้ายออกมา “บอกว่า…พระสนมอาจ
เป็ นคนวางยาพิษในอาหารของฮองเฮาจนสิ้ นพระชนม์ เพราะหวังอาจเอื้ อมใน
ตาแหน่งของผูม้ ีพระคุณต่อตนเอง”
เพล้ง!

78
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เสี ยงถ้วยชาในมือร่ วงหล่นลงทาให้คนรอบด้านต้องรี บหันมามองเหยียน


หยินที่ดูจะนิ่งค้างไปแล้ว อาการปวดหัวฉับพลันจากสิ่ งที่ได้ยินทาให้ตวั ของเหยียน
หยินไหวเอนราวกับจะล้มลงเล็กน้อย
“พระสนมเพคะ!” เยว่อิ๋งเรี ยกอีกฝ่ ายด้วยความตกใจ ก่อนจะรี บเข้ามาพยุง
ไว้ ในใจได้แต่คิดว่าตนไม่น่ารี บรายงานเรื่ องที่อ่อนไหวงเช่นนี้ ด้านเหยียนหยินที่
พอจะปรั บความคิ ดของตนได้น้ ัน แม้จะยังปวดหัวอยู่แต่ก็รีบกลับมานั่งตัว ตรง
เช่นเดิมทันที “ข้าไม่เป็ นไร อย่าพึ่งเสี ยงดังไป ค่อย ๆ พยุงข้ากลับตาหนักก็พอ”
“เพคะ” เยว่อิ๋งรับคา ก่อนจะสัง่ ให้คนที่เหลือเตรี ยมกลับตาหนักทันที แล้ว
ค่อย ๆ พยุงพระสนมของตนให้เดินออกไป แม้ภายนอกทุกอย่างจะดูปกติ แต่จาก
แรงบีบที่มือของพระสนมที่ จบั แขนตนอยูน่ ้ นั ก็พอจะทาให้เยว่อิ๋งรู ้แล้วว่าอีกฝ่ ายคง
คิดมากและกระวนกระวายใจอยูเ่ ป็ นแน่
“เข้าใจแล้ว…”
เสี ยงของเหยียนหยินดังขึ้นมาอีกครั้ง คาพูดพึมพาเบา ๆ ที่ ยากจะได้ยิน
นั้นทาให้เยว่อิ๋งอดถามออกมาไม่ได้วา่ “ทรงเข้าใจสิ่ งใดเพคะ”
แต่เหยียนหยินเพียงหันไปยิม้ น้อย ๆ ให้กบั นาง แล้วเร่ งฝี เท้าตนเองมาก
ขึ้นกว่าเดิม “รี บกลับตาหนักกันเถิด ดูเหมือนอีกไม่นานคงจะเกิดเรื่ องวุน่ วายเข้าจริ ง
ๆ ” พูดถึงตรงนี้ ก็เว้นช่วงไปสักพัก แล้วบอกต่อไปด้วยเสี ยงที่ เบาลงว่า “กลับไป
เมื่อไหร่ เจ้าหาคนที่ไว้ใจได้ลองเดินสารวจรอบตาหนักดู หากมีของไม่คุน้ ตาให้มา
แจ้งข้าทันที”
ได้ยินเพียงเท่านั้นเยว่อิ๋งก็เบิ กตาโตอยู่ครู่ หนึ่ งด้วยความตกใจ ด้วยนาง
เข้าใจแล้วว่าพระสนมของตนกาลังคิดว่ามีคนพยายามจะกาจัดพวกตนอยูน่ นั่ เอง

79
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฝ่ ายเหยียนหยินที่ พยายามเร่ งฝี เท้ากลับตาหนักนั้น ในใจก็ได้แต่พะว้า


พะวงว่า วังหลังมีข่าวลือเช่นนี้พอดีกบั ที่ราชสานักมีเรื่ องใหญ่โตให้ถกเถียง นางเจอ
เรื่ องลาบากยังไม่เท่าไหร่ แต่ผทู ้ ี่ลาบากใจมากกว่าคงจะเป็ นเขาไม่ใช่หรื อไงกัน
ช่วงเวลาล่วงผ่านเพียงหนึ่ งค่ าคืน แต่หลาย ๆ อย่างดูจะถูกเร่ งร้อนให้รีบ
เปลี่ยนไปเหลือเกิน

***************************************

80
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 32 หลอกล่อ

เหยียนหยินกลับมาที่ ตาหนักได้เพียงไม่น าน เสี ยงเรี ยกอันคุ น้ เคยจาก


ภายนอกตาหนักก็ดงั ขึ้น “หยินเอ๋ อ”
เพียงแค่เห็ นสี หน้าที่ แม้จะพยายามทาให้สงบนิ่ งแต่ก็ดูกังวลใจไม่ค่อย
ต่างกันจากเขา นางก็ปกปิ ดความกังวลใจจากภายในไม่ได้เช่นกันในทันที ได้แต่เอ่ย
เรี ยกอีกฝ่ ายเสี ยงเบา “ฝ่ าบาท…”
แต่ยงั ไม่ทนั ได้พูดอะไร เขาก็รีบร้อนเดินเข้ามาหานางเสี ยก่อน พลางพา
นางมานัง่ ลงข้างกัน แล้วไล่คนอื่น ๆ ออกไป ก่อนจะพูดตรง ๆ ออกมาด้วยสี หน้า
จริ งจัง “ข้ารู ้วา่ เจ้าอาจจะยังไม่สบายใจ แต่ตอนนี้ขา้ อยากให้เจ้าเล่าทุกอย่างให้ขา้ ฟัง
ทั้งหมด”
ท่าทางที่ดูเร่ งรี บผิดจากปกติ เพราะเขาไม่เคยเร่ งร้อนหรื อคิดจะถามสิ่ งใด
กับนางตรง ๆ เช่นนี้ ทาให้เหยียนหยินอดที่จะแปลกใจไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้นเพคะ”

81
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฮ่องเต้เพียงถามนางกลับมาว่า “เรื่ องการตายของฮองเฮาเจ้าสงสัยใครอยู”่


พลางอธิบายให้นางที่ยงั คงดูงุนงงกับท่าทีของเขาฟัง “ยามนี้เหล่าขุนนางต่างยืน่ ฎีกา
ให้สอบสวนใหม่ เพราะมีพยานบอกว่าเห็ นเจ้าอยู่กบั ฮองเฮาตลอดทั้งยังคอยดูแล
เรื่ องอาหารการกินจนนางสิ้นใจไป”
แค่ได้ยนิ สิ่ งที่เขาบอกคิ้วทั้งสองข้างของเหยียนหยินก็ตอ้ งขมวดเข้าหากัน
น้ าเสี ยงพลันเบาลงจากความไม่เข้าใจ “เรื่ องนั้นไม่วา่ ผูใ้ ดก็รู้กนั ทั้งนั้น…”
เรื่ อ งที่ น างเป็ นคนสนิ ท ของฮองเฮาและคอยรั บ ใช้ข ้างกายฮองเฮาใน
ตาหนักตลอด เป็ นเรื่ องที่คนส่ วนมากในตาหนักฮองเฮาล้วนรู ้ดีอยูแ่ ล้ว หากใครคิด
จะสื บเรื่ องนี้ ไม่ใช่เรื่ องยาก เพียงแต่การที่เรื่ องธรรมดา ๆ เช่นนี้ ทาให้ชายตรงหน้า
นางดูกงั วลใจได้แปลว่าต้องมีเรื่ องอื่นใดอีกใช่หรื อไม่
“ฝ่ าบาท พยานยังให้การอย่างอื่นอีกใช่หรื อไม่เพคะ”
ทันทีที่นางถามออกไปฮ่องเต้ก็พยักหน้าตอบกลับมา ก่อนจะถอนหายใจ
อย่างจนใจ “มีคนบอกว่าตลอดระยะเวลาที่อยูต่ าหนักฮองเฮา เห็นเจ้าต้มยาที่ถูกสัง่
มาจากภายนอกบ่อย ๆ ด้วยตนเอง”
ได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็พลันรู ้สึกสะอึกขึ้นมา เพราะนางมักจะต้มยาที่
ถูกสั่งจากภายนอกให้ฮองเฮาเป็ นเสมอจริ ง ๆ เพียงแต่เรื่ องนี้นางมิได้บอกใคร หรื อ
ควรจะบอกว่าบอกมิได้มากกว่า
“ยานัน่ มัน…”เหยียนหยินได้แต่นึกว่าจะอธิ บายให้เขาฟังอย่างไร แต่ก็รู้ดี
ว่าถึงนางจะอยากอธิบายออกไปเท่าไร นางจะพูดได้อย่างไรเล่าว่าตลอดระยะเวลาที่
อยูใ่ นวังหลวง ฮองเฮาผูล้ ่วงลับไปแล้วนั้นเป็ นผูท้ ี่มกั จะสัง่ ยาที่ช่วยให้กาเนิดบุตรมา

82
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

จากภายนอกวังด้วยตนเอง การนายาเช่นนี้ จากภายนอกเข้ามาเป็ นเรื่ องที่ไม่ถูกต้อง


ในวังหลวง เพียงแต่สตรี มากมายก็มกั จะแอบทาเช่นนี้กนั
เมื่ อไม่รู้จะอธิ บายอย่างไรแล้วเหยียนหยินก็ได้แต่นิ่งเงี ยบไป ฮ่องเต้ที่
พอจะเข้าใจความลาบากใจของนางดีจึงเป็ นฝ่ ายพูดขึ้นก่อน “ใต้เท้าฉิ นเล่าให้ขา้ ฟัง
หมดแล้ว เจ้าไม่ตอ้ งกังวล”
ได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็ตอ้ งแปลกใจเล็กน้อย เพราะนี่ หมายความว่า
ทันทีที่มีข่าวเรื่ องนี้ ออกมา ใต้เท้าฉิ นก็ยอมเป็ นฝ่ ายมาอธิ บายกับฮ่องเต้ดว้ ยตนเอง
แม้วา่ นัน่ จะเป็ นเหมือนการบอกความผิดที่ลูกสาวแท้ ๆ ของตนได้ทาไปก็ตาม
ไม่นานนักเสี ยงของฮ่องเต้ก็ดงั ถามขึ้นมาอีกครั้ง “อย่าลืมไปว่าก่อนหน้านี้
ราชองครั กษ์ยงั เคยตรวจพบพิษในอาหารของฮองเฮาอี กด้วย ทั้งเรื่ องยายังมี คน
ยอมรับผิดไปแล้ว ที่ขา้ อยากรู ้ในตอนนี้จึงมีแค่เจ้าสงสัยผูใ้ ดอยูเ่ ท่านั้น”
เมื่อพอจะเข้าใจความต้องการของเขาแล้ว เหยียนหยินจึงพยักหน้าลงน้อย
ๆ แล้วเริ่ มเล่าออกไป “เดิ มที หม่อมฉันสงสัยฉื อเฟยว่าเป็ นคนสั่งการทุกอย่าง ฝ่ า
บาทยังทรงไม่รู้ใช่หรื อไม่วา่ เหตุใดนางจึงสัง่ ฆ่าหม่อมฉัน…”
คาถามจากนางทาให้ฮ่องเต้มีสีหน้าครุ่ นคิด ก่อนจะพลางนึ กถึงคาให้การ
ของฉื อเฟยที่ ถูกจับในข้อหาตั้งใจวางยาทาร้ ายสตรี เบื้ องหน้าเขา และเป็ นผูต้ อ้ ง
สงสัยวางยาฮองเฮาแล้วจึงถูกตัดสิ นโทษไปในครานั้น “นางให้การว่าเป็ นเพราะเจ้า
ระแคะระคายเรื่ องยาพิษ”
ได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็ส่ายหัวไปมาน้อย ๆ “แต่หม่อมฉันคิดว่ามิใช่
เช่นนั้นเพคะ” แล้วจึงอธิบายออกไป “คืนนั้นก่อนฮองเฮาจะทรงสิ้นใจจากไปเพราะ
อาการทรุ ดลง หม่อมฉันรี บออกไปตามหมอหลวง…” พูดถึงตรงนี้เหยียนหยินก็นิ่ง

83
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เงียบไปชัว่ ครู่ หนึ่ ง แล้วจึงพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “แต่ระหว่างที่เดินผ่านห้องหนังสื อก็


ได้ยนิ เสี ยงดังออกมาเสี ยก่อน”
สิ่ งที่พ่ ึงได้รู้ทาให้ฮ่องเต้มีสีหน้าเคร่ งเครี ยดขึ้น “มีใครอยูใ่ นนั้นงั้นเรอะ”
แต่คาถามของเขาก็ได้กลับมาเพียงคาตอบอย่างเสี ยดายจากนาง “ไม่รู้เพคะ เพราะ
ฮองเฮาทรงสิ้นใจพอดีหม่อมฉันจึงต้องรี บกลับไปก่อน”
เมื่อพอจะรู ้ตน้ สายปลายเหตุแล้ว ฮ่องเต้ก็ดูจะเริ่ มอารมณ์ดีข้ ึนมานิดหน่อย
“ข้าจะให้คนไปสื บต่อ หากนึ กอะไรออกอี กเจ้าต้องบอกให้ขา้ รู ้ทนั ที ” ใบหน้าที่
ประดับ ไปด้ว ยรอยยิ้ม อบอุ่ น ของเขา ท าให้ เ หยี ย นหยิ น ได้แ ต่ งุ น งงว่า เหตุ ใ ด
สถานการณ์เช่นนี้เขาจึงยังยิม้ ได้กนั
“ฝ่ าบาท ทรงยิ้มทาไมกันเพคะ” สุ ดท้ายเหยียนหยินที่ ยงั คงสงสัยก็ตอ้ ง
หลุดถามออกไป คาถามของนางทาให้ฮ่องเต้หัวเราะชอบใจออกมา ก่อนจะแกล้ง
พูดหยอกล้อนาง ด้วยสายตาที่จงใจทาให้แหลมคมราวกับไม่พอใจน้อย ๆ ว่า “จะ
บอกว่าข้าห้ามยิม้ งั้นรึ ”
ค าพูด ของเขาทาให้เ หยีย นหยิน รี บปฏิ เสธเป็ นพัล วัน “มิ ใ ช่ เ ช่ น นั้นเพ
คะ” เห็นท่าทางของนางเช่นนั้น ฮ่องเต้ก็ยิ่งระบายรอยยิม้ ออกมา จนกระทัง่ ผ่านไป
สักพักจึ งถอนหายใจพูด อย่างผ่อนคลาย “เจ้ายอมเล่าเรื่ องทุกอย่างให้ขา้ ฟังแบบนี้
ทาให้ขา้ อดดีใจขึ้นมาไม่ได้ แล้วข้าจะไม่ยมิ้ ได้อย่างไรกัน”
คาพูดที่ชวนให้ใจหวัน่ ไหวกับภาพเบื้องข้างของเขาที่มีแสงจากภายนอก
ส่ อ งกระทบเล็ก น้อ ย ท าให้เ หยีย นหยินอดที่ จ ะใจเต้น แรงไม่ ไ ด้ ทั้ง ๆ ที่ นี่ มิ ใ ช่
ช่วงเวลาแห่ งความสงบสุ ข แต่นางกลับรู ้สึกสงบสุ ขอยู่ภายในจิตใจ จนสุ ดท้ายจึง
ต้องหันหน้าหนีไปทางอื่นแทน

84
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ความจริ งแล้วนางก็ว่าจะเล่าเรื่ องนี้ ให้เขาฟังตั้งหลายครั้งหลายครา ติดก็


แต่ต้ งั แต่นางขึ้นมาเป็ นพระสนม ก็มีเรื่ องเกิดขึ้นไม่เวีนวัน จึงคิดว่าไม่ใช่เวลาที่ดีที่
จะพูดออกไป
ยามนี้ ภายในนห้องที่คนทั้งสองนัง่ อยูด่ ว้ ยกัน มีแต่ความนิ่ งเงียบไปชัว่ ครู่
ขณะที่ ห นึ่ ง บุ รุ ษ หนึ่ ง สตรี ใ นห้อ งมี ร อยยิ้ม น้อ ย ๆ พลางนั่ง เคี ย งข้า งกัน เท่ านั้น
บรรยากาศเช่นนี้เปรี ยบดัง่ หัวใจกาลังได้พกั ผ่อนท่ามกลางมรสุ มที่ถาโถมเข้ามา แม้
จะยังไม่มีผใู ้ ดพูดสิ่ งใดออกมาก็ตาม
แต่ไม่นานนักก็มีเสี ยงเยว่อิ๋งดังจากด้านนอกเสี ยก่อน “พระสนม คือว่า…”
น้ าเสี ยงที่ ดูลงั เลว่าจะเข้ามารึ ไม่น้ นั ทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งเป็ นฝ่ ายเอ่ยปากออกไป ด้วย
แปลกใจว่านางกานัลคนสนิทของนางมีเรื่ องเร่ งร้อนอันใดกัน “มีอะไรงั้นรึ พวกเจ้า
เข้ามาเถอะ”
ทันทีที่ได้รับคาอนุญาตแล้ว กัว๋ กงกงที่เดิมทีเฝ้าอยูห่ น้าห้องก็เปิ ดประตูให้
ผูท้ ี่รออยูภ่ ายนอกเข้าไปพร้อมกัน
ทันที ที่เยว่อิ๋งเข้ามาด้านใน ก็รีบเดิ นเข้ามาหานายทั้งสองเบื้องหน้า ก่อน
จะคุกเข่าลงหยิบของบางอย่างซึ่ งซ่อนไว้ในเสื้ อออกมาให้คนทั้งสองเบื้องหน้าได้ดู
“ฝ่ าบาท เพราะตอนนี้มีข่าวลือไม่ดีนกั พระสนมจึงให้พวกหม่อมฉันตรวจสอบรอบ
ตาหนักก่อนจะพบของสิ่ งนี้แอบซ่อนไว้เพคะ”
สิ่ งที่เห็นเบื้องหน้าทาให้สีหน้าของฮ่องเต้ดาคล้ าขึ้นมาทันที แม้แต่เหยียน
หยินเองพอเห็นของเบื้องหน้าก็มีใบหน้าซีดขาวลง นัน่ ก็เพราะเบื้องหน้าพวกตนคือ
ตุก๊ ตาฟางสาหรับทาพิธีมนต์ดา!

85
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

สักพักเสี ยงซึ่ งดูเด็ดขาดของฮ่องเต้ก็ดงั ขึ้น “กัว๋ กงกง ตรวจหาที่ มาของ


ของพวกนี้ให้หมด”
สิ้นเสี ยงคาสัง่ กัว๋ กงกงก็มานาของที่อยูบ่ นมือเยว่อิ๋งไป แล้วส่งให้หวั หน้า
ราชองครักษ์เพื่อให้นามันออกไปซ่อนให้ดี จะได้ไม่ม่ผใู ้ ดสังเกตเห็นความผิดปกติ
หรื อทาให้คนร้ายไหวตัวทัน
เมื่อฮ่องเต้เห็นเช่นนั้นแล้วก็มีสีหน้าพึงพอใจเล็กน้อย ก่อนจะหันมาถาม
สตรี เบื้องข้างตนทีเล่นทีจริ งอย่างเป็ นกังวลว่า “ในเมื่อตาหนักเจ้าดูจะไม่ปลอดภัย
เช่นนี้ ช่วงนี้เจ้าไปพักอยูก่ บั ข้าดีรึไม่”
ท่าทางถามลองเชิงจากเขาทาให้เหยียนหยินต้องตอบปฏิเสธกลับไปทันที
“ไม่ได้นะเพคะ” ตอนนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับนางเยอะแยะเช่นนี้ ยิง่ ไปอยูก่ บั เขาจะยิง่ ไม่
เป็ นการแย่กว่าเดิมหรื ออย่างไร
ฝ่ ายฮ่องเต้ที่เข้าใจเรื่ องนั้นดี เช่ นกันได้แต่ถอนหายใจด้วยความเสี ยดาย
ก่อนจะหันกลับมาลูบใบหน้าที่ยงั คงซีดขาวอยูบ่ า้ งของนางอย่างเป็ นห่วงเป็ นใย “ข้า
รู ้แล้ว ๆ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ตอ้ งดูแลตัวเองให้ดีรู้หรื อไม่” แล้วจึงหันไปมองทางเยว่อิ๋ง
พลันพูดต่อไปว่า “ให้แค่นางอยูข่ า้ งเจ้าก็พอ ส่ วนรอบนอกข้าจะหาทางสับเปลี่ยน
องครักษ์มาเฝ้าไว้ เกิดอะไรขึ้นให้เจ้ารี บเรี ยกพวกเขาซะ”
พูดจบไม่นานนัก ฮ่องเต้ก็พูดคุ ยต่ออี กนิ ดหน่ อย จากนั้นจึ งกลับไปยัง
ตาหนักของตน พอสองนายบ่าวยืนมองขบวนของฮ่องเต้จากไปจนลับสายตาแล้ว
เยว่อิ๋งก็หนั มาถามพระสนมของตนว่า “พระสนมจะเกิดอะไรขึ้นจริ ง ๆ หรื อเพคะ”

86
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาถามของเยว่อิ๋งทาให้เหยียนหยินได้แต่อมยิ้มขึ้นมาน้อย ๆให้นางพอ
สบายใจ “ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ถึงอย่างไรอะไรจะเกิดมันก็ตอ้ งเกิด อย่างน้อยๆ
วันนี้ก็พกั ผ่อนกันก่อนเถิด หากเกิดเรื่ องอะไรขึ้นจะได้มีแรงคอยจัดการดีหรื อไม่”
คาพูดติดตลกของเหยียนหยิน ทาให้เยว่อิ๋งหลุดหัวเราะเสี ยงใส ขณะพา
พระสนมของตนกลับเข้าไปพักผ่อนด้านใน แต่ไม่นานนักเหยียนหยินก็ไอออกมา
นิดหน่อย ทาให้เยว่อิ๋งได้แต่มีสีหน้าดุนิด ๆ ขึ้นมา “จริ ง ๆ แล้ววันนี้ พระสนมยังไม่
ควรออกไปไหนเลยเพคะ พึ่งจะเริ่ มอาการดีข้ ึนจากไม่สบายคราวก่อนแท้ ๆ ดูสิโดน
อากาศเย็นจนจะป่ วยซ้ าสองอีกแล้ว”
คาพูดตาหนิจากนางกานัลคนสนิทของตนทาให้เหยียนหยินได้แต่หวั เราะ
ขบขันเสี ยงเบาตอบกลับไป “เจ้าคิดมากไปแล้วจริ ง ๆ ”

อีกด้านหนึ่งที่ตาหนักจิ่งเหริ นกง
ฮุ่ ย กุ้ย เฟยที่ พ่ ึ ง จะพูด คุ ย กับ องค์ห ญิ ง อวี้ เ หมยเสร็ จ นั้น ก าลัง นั่ง รอค า
รายงานจากคนของตนอย่างใจเย็น ทันทีที่เห็นนางกานัลคนสนิ ทของตนเดินเข้ามา
ฮุ่ยกุ้ยเฟยก็รีบลุกขึ้นถามถึ งสถานการณ์ และแรงกดดันจากภายนอกที่ ตนหวังไว้
ทันที “เป็ นยังไงบ้าง”
“ทุกอย่างเป็ นไปตามแผนเพคะ ยามนี้ เหล่าขุนนางในราชสานักเริ่ มกดดัน
ฝ่ าบาทเกี่ ย วกับ เหยีย นเฟยแล้วเพคะ” นางก านัล ผูน้ ้ ัน ตอบ ก่ อ นที่ ฮุ่ ย กุ้ย เฟยจะ
หัว เราะอย่า งอารมณ์ ดี ขณะหมุ นตัว กลับ ไปนั่ง ยัง ที่ ของตนเช่ น เดิ ม “ดี จ ริ ง ๆ ดู
เหมือนอีกไม่นานข้าก็คงจะได้ตาแหน่งนั้นมาครอบครอง”

87
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

พอนัง่ ลงได้ไม่นานนัก ฮุ่ยกุย้ เฟยก็ยมิ้ อย่างภูมิใจในแผนของตน พลางจัด


แต่งใบหน้าและทรงผมของตนด้วยตนเองก่อนจะถามออกไป “ข้าดูเป็ นยังไงบ้าง”
ทันทีที่นางกานัลคนสนิทเงยหน้าขึ้นมองพระสนมสูงศักดิ์ของตนในชุดสี
ฟ้าอ่อน ประดับลวดลายงดงามแตกต่างจากปกติ ประกอบกับสี หน้าที่ดูผอ่ งใสมีน้ า
มีนวลและเปล่งประกายมากกว่าเดิมแล้ว ก็เอ่ยชมว่า “พระสนมช่างดูงดงามผ่องใส
ยิง่ นักเพคะ”
ได้ยินเช่นนั้นฮุ่ยกุย้ เฟยก็ดูจะพึงพอใจไม่น้อย “งั้นรึ ถ้าเช่นนั้นก็ได้เวลา
แล้ว” พูดจบรอยยิ้มชัว่ ร้ายก็ค่อย ๆ ถูกยกยิ้มขึ้นมา ขณะที่ มือข้างหนึ่ งของนางถูก
วางทาบไว้บนหน้าท้องของตน
“สัง่ คนของเราให้กระจายข่าวเรื่ องที่เนี่ยเฟยเป็ นคนปล่อยข่าวลือใส่เหยียน
เฟยออกไป”
แค่ได้ยินนางกานัลคนสนิ ทก็พยักหน้าอย่างรู ้งานและถอยออกไปทันที
สุดท้ายวันทั้งวันหลังจากนั้นก็ผา่ นพ้นไป พร้อม ๆ กับที่ภายในวังหลวงเริ่ มมีข่าวลือ
เล็ก ๆ อีกอันเริ่ มสะท้อนเสี ยงดังขึ้นมา
.............................

ปัง!
เสี ย งฏี ก าที่ ถู ก ปาลงบนพื้ น พร้ อ มกับ กองฏี ก าอี ก มากมายที่ ล ้ม ลง ดัง
สะท้อนไปทัว่ ห้องทรงอักษรในตาหนักหยางซิ นเตี้ยนหลังเวลาว่าราชการยามเช้า
ทาให้กวั๋ กงกงที่พ่ งึ เดินเข้ามาด้วยต้องการจะรายงานอะไรบางอย่างไม่รู้จะทาเช่นไร
ดี เมื่อพบกับสี หน้าโกรธขึงของโอรสสวรรค์เบื้องหน้าตน

88
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เบื้ องหน้าฮ่องเต้ที่มีสีหน้าดาคล้ าบึ้ งตึงในยามนี้ คือฏี กาที่ ขอยื่นเรื่ องให้


สื บสวนเหยียนเฟยและตรวจค้นตาหนักหย่งโซ่วกงมากมายจากพวกขุนนาง โดยยก
เอาข่าวลือที่กล่าวหาว่านางเป็ นคนวางยาฮองเฮาบวกกับพยานที่ขนุ นางเหล่านั้นหา
มาเองมาเป็ นข้ออ้าง หากเป็ นช่วงก่อนหน้านี้เขาคงจะไม่โกรธเกลียดพวกขุนนางที่ดี
แต่เอนเอียงไปหาขั้วอานาจใหญ่ ๆ เหล่านี้ มากมายนัก ถ้ามิใช่เพราะว่าเมื่อวานเขา
พึ่งไปหานางที่เป็ นโจทย์ในการวิพากวิจารณ์ที่ตาหนัก ก่อนจะต้องพบว่ามีคนแอบ
เอาสิ่ งของที่ขอ้ งเกี่ยวกับมนต์ดาไปไว้ที่ตาหนักนาง!
ดูเหมือนต่อให้เฝ้าระวังเรื่ องคนที่จะไปคอยดูแลหรื อรับใช้นางที่ตาหนัก
เท่าไหร่ ก็ยงั ไม่มีประโยชน์อยูด่ ีเมื่ออีกฝ่ ายหาทางเข้าถึงคนของเขาให้ทาเรื่ องพวกนี้
ได้ แค่นึกถึงคารายงานจากกัว๋ กงกงที่ให้ไปสื บหาที่มาของตุ๊กตาฟางก่อนหน้านี้ ก็
ยิง่ ต้องโมโหเมื่อนึกว่า
สุดท้ายเป็ นคนของเขาที่ส่งไปให้เฝ้าดูนางที่กล้าทรยศและหนีหายตัวไป!
“ฝ่ าบาท…” ในที่สุดกัว๋ กงกงก็ตดั สิ นใจเรี ยกขัดขึ้น เมื่อเห็นใบหน้าที่บ้ ึง
ตึ งของฮ่องเต้มองมาที่ ตน จากนั้นจึ งรายงานต่อไปว่า “ตัง่ แต่เมื่ อวานเย็นจนถึ ง
ตอนนี้มีข่าวลือในวังหลังออกมาอีกแล้วพะยะค่ะ”
สิ่ งที่ได้ยนิ ทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งแค่นเสี ยงเล็กน้อย “ดูท่าพวกนางจะว่างกันยิ่ง
นัก” ก่อนจะย่นคิ้วทั้งสองข้างเข้าหากันเล็กน้อย “แล้วฮุ่ยกุย้ เฟยไม่คิดจะทาอะไรเลย
รึ ไง”
“ก่อนหน้านี้ พระสนมทรงบอกว่าตนไม่มีอานาจมากพอที่จะสั่งทุกคนได้
พะยะค่ะ” กัว๋ กงกงตอบอย่างจนใจ เพราะเขาได้ให้คนไปพบกับฮุ่ยกุย้ เฟยมาแล้ว
ครั้งนึง ด้วยรู ้วา่ ฮ่องเต้ที่อารมณ์เสี ยอยูน่ ้ นั คงไม่อยากได้ยนิ เรื่ องราวเหล่านี้

89
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาตอบจากกัว๋ กงกงทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งหัวเราะน้อย ๆ พลางเอ่ยทวนอย่างนึก


ขบขันในใจ
“ไม่มีอานาจมากพองั้นรึ ” แล้วจึงพูดอย่างประชดประชันออกไปว่า “ก่อน
หน้านี้ก็ดูจะคุมได้เป็ นอย่างดี แล้วเหตุใดจู่ๆจึงจะไม่มีอานาจมากพอกัน!”
ท่าทางไม่พอใจอย่างเห็นได้ชดั ของเขาทาให้กวั๋ กงกงได้แต่กม้ หน้าไม่อาจ
กล่าวสิ่ งใดได้อีก ก่อนที่เสี ยงของฮ่องเต้จะดังถามขึ้นอีกครั้งเสี ยก่อน “พวกนางพูด
เรื่ องอะไร”
“เป็ นเรื่ อ งที่ บ อกว่า เนี่ ย เฟยเป็ นคนปล่ อ ยข่ า วลื อ ใส่ เ หยี ย นเฟยพะยะ
ค่ะ” พูดถึงตรงนี้ กวั๋ กงกงก็มีสีหน้าลังเล แล้วจึงรายงานต่อไป “ถ้าเทียบกับที่ส่งคน
ไปตรวจสอบตามที่พระองค์สงั่ ก่อนหน้านี้แล้ว…ดูเหมือนนี่จะเป็ นเรื่ องจริ ง”
ได้ยนิ เช่นนั้นฮ่องเต้ก็พลันพูดขึ้นเสี ยงดัง
“ดีง้ นั ข้าจะลงโทษนาง!”
ฮ่ อ งเต้หัน ไปสั่ง กั๋ว กงกงที่ ย งั มี สี ห น้า งุ น งงเพราะรู ้ สึ ก ถึ ง ความแปลก
ประหลาดในข่าวลือเรื่ องนี้ต่อทันที “ประกาศราชโองการออกไปลดขั้นเนี่ยเฟยกลับ
เป็ นเนี่ ยผิน แล้วก็ห้ามนางออกมาจากตาหนักเป็ นอันขาด” พูดถึงตรงนี้ สายตาของ
ฮ่องเต้ก็คมกริ บ พลางเอ่ยอย่างเยียบเย็นออกไปว่า “อย่าลืมให้องครักษ์เฝ้าไว้ให้ดี
แต่ก็อย่าให้ผิดสังเกตจนเกินไป”
ค าสั่ง สุ ด ท้า ยจากเขาท าให้ กั๋ว กงกงเข้า ใจได้ใ นทัน ที ว่า นายของตนก็
สังเกตเห็ นถึงความผิดปกติน้ ี เหมือนกัน เพราะข่าวลือเกี่ ยวกับเหยียนเฟยพึ่งหลุด
ออกมาไม่ น าน เรื่ อ งที่ ว่า ใครเป็ นคนปล่ อ ยข่ า วเหล่ า นั้น กลับ หลุ ด ตามมาอย่า ง

90
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

รวดเร็ ว ต่อให้บอกว่านี้ เป็ นเพราะคนที่ ได้รับฟั งพากันออกมาพูดเองว่าได้ยินจาก


ใคร ก็ยงั ดูจะผิดสังเกตจนเกินไป
ไม่นานนักกัว๋ กงกงก็ถามชายเบื้ องหน้าขึ้นอีกครั้ง “ฝ่ าบาทเย็นนี้ จะทรง
เสด็จไปตาหนักหย่งโซ่วกงอีกรึ ไม่พะยะค่ะ”
คาถามนั้นได้รับกลับมาเป็ นน้ าเสี ยงตาหนิ อยูไ่ ม่นอ้ ย “ตอนนี้ ขา้ ไปได้ที่
ไหนกัน”
ขุนนางมากมายยื่นฏี กาเกี่ ยวกับนางเช่นนั้น หากเขาไปยิ่งมิเป็ นการราด
น้ ามันลงกองไฟให้คนหาข้อติฉินนิ นทาหรอกหรื อ นั่นคือความเป็ นจริ งที่ ฮ่องเต้
ต้องยอมรับในตอนนี้ ต่อให้เขาอยากพบนางเท่าไหร่ การไปหานางในยามนี้ ก็มีแต่
จะเป็ นการทาร้ายนาง
เขานิ่ งเงียบครุ่ นคิดไปสักพักก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “สั่งองครักษ์หลวงให้ไป
ตรวจค้นตาหนักหย่งโซ่วกง”
คาสั่งที่ รวดเร็ วแบบไม่ทันตั้งตัวนั้น ทาให้กั๋วกงกงถึ งกับตกใจ “แต่ฝ่า
บาท…”
แต่กวั๋ กงกงยังพูดไม่ทนั จบฮ่องเต้ก็ออกคาสัง่ ต่อไปเสี ยก่อน “เสร็ จแล้วก็
เตรี ยมตัวให้ดี ข้าจะไปหาเหยียนเฟย” พูดจบก็หนั มามองกัว๋ กงกงที่ยนื นิ่งด้วยสี หน้า
งุนงงเพราะตามไม่ทนั พลางยิม้ เจ้าเล่ห์ข้ ึนเล็กน้อย
“ข้าจะไปดูการตรวจค้นตาหนักหย่งโซ่ วกงตามที่ พวกขุนนางต้อ งการ
ด้วยตนเอง!”
หลังจากนั้นฮ่องเต้ก็สั่งกัว๋ กงกงเพิ่มบางอย่าง ทันทีที่กวั๋ กงกงเอาคาสั่งไป
ให้หวั หน้าองครักษ์หลวง และเห็นเหล่าองครักษ์หลวงกับขันทีบางส่วนออกไปแล้ว

91
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ขบวนของฮ่องเต้ก็มุ่งหน้าออกจากตาหนักหยางซินเตี้ยนอย่างรวดเร็ ว เพื่อให้ฮ่องเต้
ไปเฝ้าดูการตรวจค้นตาหนักด้วยตนเองตามที่เขาต้องการ

ไม่นานนักภายในตาหนักหย่งโซ่วกงนั้นก็มีความแตกตื่นมากมายเมื่อเห็น
องครักษ์หลวงพากันเข้ามา ส่วนภายในเรื อนหลักของตาหนักหย่งโซ่วกงนั้น มีเพียง
เสี ยงที่ ดูร้อนรนของนางกานัลคนสนิ ทของเจ้าของตาหนักแห่ งนี้ เท่านั้นเอง “พระ
สนมจะปล่อยเช่นนี้จริ ง ๆ หรื อเพคะ”
เสี ยงถามคาถามเดิ ม ๆ ที่ ดงั ไม่หยุดมาได้สักพักของเยว่อิ๋ง ทาให้เหยียน
หยินที่ นั่งเฝ้ ามองการรื้ อค้นตาหนักอยู่ไม่ไกลต้องถอนหายใจอย่างจนใจออกมา
พลางพูดว่า “แล้วข้าทาสิ่ งใดได้เล่า”
การตรวจค้นดาเนิ นมาได้สักพักแล้ว แม้จะดูน่าเป็ นห่ วงในช่วงที่ไม่รู้วา่
ใครเป็ นใครเช่นนี้ แต่เพราะคนเหล่านี้มาตามคาสั่งของฮ่องเต้ แปลว่าเขาต้องคิดทา
สิ่ งใดอยูเ่ ป็ นแน่แล้วนางจะขัดได้อย่างไรกัน
“แต่คนมากมายเช่นนี้ …” เยว่อิ๋งที่เห็นพระสนมของตนเพียงนัง่ อิงไออุ่น
จากเตาผิงแล้วจิบชาอย่างไม่ทุกข์ร้อนแม้แต่นอ้ ยนั้น พูดขึ้นมาด้วยน้ าเสี ยงลังเล
แต่เพียงไม่นานเสี ยงอันทรงอานาจของใครบางคนก็ดงั ขัดขึ้นมา
“พระสนมของเจ้ายังไม่กงั วล แล้วพวกเจ้าจะกังวลใจไปทาไมกัน”
เห็ น ฮ่ อ งเต้ที่ โ ผล่ ม าแบบไม่ ใ ห้ ซุ่ ม ให้เ สี ย งทั้ง ยัง ก้า วอาด ๆ เข้ามาใน
ตาหนักอย่างรวดเร็ ว เหยียนหยินก็ตอ้ งตกใจอยูค่ รู่ หนึ่ งรี บลุกขึ้นมาทาความเคารพ
เขาเพราะท่ามกลางผูค้ นมากมายเช่นนี้ การจะละเว้นขนบธรรมเนียมเฉกเช่นปกติคง
ไม่ใช่เรื่ องที่ดีนกั ก่อนจะเริ่ มเข้าใจถึงสาเหตุที่เขามาเมื่อเห็นสายตาหลังจากบอกให้

92
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

นางลุกขึ้ น แล้วเห็ นเขาเดิ นไปนั่งลงบนที่ ของนางเมื่ อกี้ พลางจ้องมองเหล่าคนที่


กาลังค้นตาหนักออกไป “ฝ่ าบาท…ที่แท้ก็เป็ นเช่นนี้”
เสี ยงพึมพาเบาบางจากนางทาให้ฮ่องเต้ยิ้มพึงพอใจขึ้นมาชัว่ ครู่ หนึ่ ง แต่
ใบหน้าก็ยงั คงความสุ ขุมและเด็ดขาดเอาไว้ เพื่อไม่ให้คนรอบด้านเห็นว่าการเฝ้ าดู
ของเขาในครั้งนี้เป็ นความเอนเอียงแต่อย่างใด ท่าทีที่ดูราวกับจะห่างเหิ นของเขาทา
ให้ผทู ้ ี่พบเห็นอดคิดไม่ได้วา่ หรื อฮ่องเต้จะสงสัยเหยียนเฟยจริ ง ๆ แล้วกัน
“ในเมื่อมีคนบอกว่าเจ้าเป็ นผูต้ อ้ งสงสัย ก็ไม่แปลกที่ ขา้ ต้องสื บสวนเพื่อ
ความเป็ นธรรมแก่ทุกคน”
เสี ยงที่ดงั ขึ้นของฮ่องเต้ทาให้องครักษ์และขันทีภายในตาหนักหยุดนิ่ งหัน
มาสนใจฟั งกันทันที ก่อนที่ เสี ยงคาสั่งจะดังออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคาว่า “ค้นให้
ครบทุกซอกทุกมุม ข้าจะนัง่ ดูอยูต่ รงนี้ เจอสิ่ งใดให้มารายงานข้าทันที!”
สิ้ นคาสั่งนั้นก็มีคาตอบรับดังกลับมาอย่างพร้ อมเพรี ยงกัน จากนั้นการ
ตรวจค้นตาหนักก็ดาเนินต่อไป ภาพของผูค้ นที่ตรวจค้นตาหนักอย่างขยันขันแข็งที่
เห็นเบื้องหน้าทาให้เหยียนหยินอดชมออกมาไม่ได้วา่ “ฝ่ าบาททรงพระปรี ชายิง่ นัก”
ได้ยนิ เช่นนั้นฮ่องเต้ก็แกล้งถามเสี ยงเรี ยบกลับไปเล็กน้อย “แล้วเจ้าไม่กลัว
ว่าเราจะจับผิดอันใดได้ง้ นั รึ ” เหยียนหยินเพียงแค่อมยิม้ น้อย ๆ ตอบกลับไปว่า “หาก
ในตาหนักของหม่อมฉันมีสิ่งผิดปกติ ก็คงไม่รอดพ้นจากสายตาของพระองค์”
สิ้ นคาพูดนั้นการสนทนาของคนทั้งสองก็จบลง ทาให้บริ เวณรอบด้านดู
เงียบงัน แม้บรรยากาศที่มองจากสายตาของคนภายนอกจะชวนให้รู้สึกอึดอัดยิง่ นัก
แต่คนสองคนที่ไม่ได้พูดคุยกันนั้นก็รู้ดีวา่ การแกล้งทาเป็ นห่ างเหิ นในยามนี้ สาคัญ
เพียงใด

93
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

การตรวจค้นผ่านไปไม่ถึงครึ่ งชัว่ ยาม ก็มีเสี ยงร้องรายงานอย่างรี บร้อนดัง


มาจากภายนอกตาหนัก “ฝ่ าบาท! มีข่าวด่วนจากตาหนักจิ่งเหริ นกงพะยะค่ะ”
ทัน ที ที่ ร่ า งของผูเ้ ป็ นต้นเสี ยงโผล่ม าให้เห็ นถึ ง หน้า ต าหนัก แล้ว เหล่ า
องครักษ์ก็พากันเข้าไปกันคนไร้มารยาทผูน้ ้ ีไว้ก่อนในทันที
เพราะจู่ ๆ ก็มีคนทาเสี ยงดังวุน่ วายเช่นนี้ ใบหน้าของฮ่องเต้จึงเริ่ มมีสีหน้า
ไม่พอใจ แต่เพราะช่วงนี้ มกั จะมีการแจ้งข่าวสารวุน่ วายแบบนี้ เข้ามาบ่อย ๆ ทั้งอีก
ฝ่ ายยังบอกว่ามาจากตาหนักฮุ่ยกุย้ เฟย จึ งส่ งสัญญาณให้คนปล่อยผูท้ ี่ ดูจะรี บร้อน
อยากเข้ามารายงานซึ่งกาลังถูกองครักษ์ก้ นั ไม่ให้เข้ามานั้น เข้ามาภายในตาหนักแล้ว
ถามออกไป “เรื่ องอะไร”
ทันทีที่ขนั ทีซ่ ึ งเป็ นผูส้ ่ งสารเห็นชายสู งศักดิ์เบื้ องหน้าแล้วก็รีบคุกเข่าลพ
ลางพูดเสี ยงดังว่า “กระหม่อมนาสารมาจากตาหนักจิงเหริ นกง ขอแสดงความยินดี
กับฝ่ าบาทด้วยพะยะค่ะ”
ค าพู ด ดี ใ จของขั น ที ผู ้น้ ั นท าให้ ผู ้ที่ อ ยู่ โ ดยรอบพากั น เฝ้ า รอฟั ง ด้ว ย
ความรู ้สึกที่ต่างกันออกไป เนื่องจากพอจะทายได้จากท่าทางและสี หน้าของขันทีผนู ้ ้ ี
แล้วว่าน่าจะเป็ นข่าวเกี่ยวกับสิ่ งใด ก่อนที่คารายงานต่อไปของขันทีเบื้องหน้าจะดัง
สะท้อนก้องออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคาว่า
“ยิ น ดี ด้ ว ยพะยะค่ ะ ฝ่ ำบำท หมอหลวงพึ่ง ตรวจพบว่ ำ ฮุ่ ย กุ้ย เฟยทรง
ตั้งครรภ์ ได้ สองเดือนแล้ วพะยะค่ ะ!”

****** ติดตามต่อได้ในเล่ม *******

94
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 33 จุดน่ ำสงสัย

ทันทีที่ฮ่องเต้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าแสงแดดอ่อน ๆ จากภายนอกเริ่ ม


ที่จะสาดส่ องเข้ามาแล้ว แต่ถึงจะเป็ นอย่างนั้นสตรี ในอ้อมกอดเขาก็ยงั คงหลับสนิท
อยู่ เขาจึงค่อย ๆ ลุกออกจากเตียงมาดึงชุดคลุมของตนที่หล่นกองอยูบ่ นพื้นขึ้นมาใส่
แล้วจึงห่มผ้าให้นางไว้ดี ๆ เช่นเดิม แค่จอ้ งมองนางและนึกถึงเรื่ องเมื่อคืนก็ทาให้เขา
อดไม่ได้ที่จะยิม้ น้อย ๆ ขึ้นมา
เขานัง่ จ้องมองนางสักพัก ก่อนจะหันไปมองทางหน้าต่างแล้วสังเกตได้ถึง
แสงแดดที่ ไม่ควรจะมีในยามปกติที่ตื่นขึ้นมานั้น จึ งรี บเดิ นออกจากห้องไปพลาง
เรี ยกขันทีคนสนิทอย่างร้อนรน “กัว๋ กงกง…”
เรี ยกได้เพียงไม่นานเท่านั้น กัว๋ กงกงที่ยนื เตรี ยมพร้อมอยูไ่ ม่ไกล ก็รีบเดิน
เข้ามาหาบุรุษสู งศักดิ์ซ่ ึ งยืนรออยูห่ น้าประตูหอ้ งทันที ทั้งยังถามด้วยสี หน้าที่ดูยนิ ดี
“ฝ่ าบาททรงตื่นแล้วหรื อพะยะค่ะ” ก่อนที่ ฮ่องเต้จะรี บร้อนถามกลับไปโดยมิ ได้
สนใจท่าทางของเขาแม้แต่นอ้ ยว่า “ตอนนี้ยามอะไรแล้ว”

95
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ด้านกัว๋ กงกงเมื่อรู ้แล้วว่านายของตนกังวลถึงสิ่ งใดนั้น พยายามตอบอย่าง


ใจเย็นกลับไป “ทรงพัก ผ่อ นต่อ เถิ ดพะยะค่ะ เลยช่ ว งว่า ราชการยามเช้า มานาน
แล้ว…” แต่เขายังไม่ทนั จะพูดจบ ชายสู งศักดิ์เบื้องหน้าก็ต่อว่ากลับมาอย่างรวดเร็ ว
“ทาไมไม่ปลุกข้า!”
น้ า เสี ย งที่ ดัง และใบหน้า ที่ ดูไ ม่ พ อใจนั้น ท าให้กั๋ว กงกงที่ แ ม้จ ะอยู่ทา
หน้าที่มานานก็ยงั อดตัวสัน่ ขึ้นมาไม่ได้ “ฝะ ฝ่ าบาท…”
เขาเข้าใจดีวา่ สาหรับฮ่องเต้เบื้องหน้านั้น งานราชการสาคัญขนาดไหน แต่
ถ้าพิจารณาดูจากสภาพที่ เมาเละเทะเมื่อวานแล้ว ดูยงั ไงต่อให้ยามเช้านี้ ออกไปว่า
ราชการก็คงไม่ได้เรื่ องอะไรอยูด่ ี สุ ดท้ายจึงเสี่ ยงตัดสิ นใจเอาเอง คิดเช่นนั้นก็ได้แต่
ต้องพูดรับผิดออกไป “กระหม่อมตัดสิ นใจเอง ขอฝ่ าบาทโปรดประทานอภัย”
พอฮ่องเต้เห็นกัว๋ กงกงทาท่าจะคุกเข่าโขกหัวลงอย่างสานึกผิด ก็ตอ้ งถอน
หายใจออกมาเล็กน้อย “ช่างเถิด ๆ ” เพราะในเมื่อเวลาว่าราชการก็ผ่านไปแล้ว ตัว
เขาจะยังทาอะไรได้อีกกัน บางทีการที่เขาได้พกั ผ่อนสักหน่อยก็คงดี
เมื่อคิดได้ดงั นั้นจึงหันมาสั่งกัว๋ กงกงอีกครั้งว่า “ให้คนเตรี ยมอ่างอาบน้ า
ไว้ อุ่นให้มากหน่อยก็ดี”
ได้ยินเช่นนั้นกัว๋ กงกงก็รีบตอบรับออกมา “พะยะค่ะ” และด้วยเข้าใจดีวา่
ฮ่องเต้ตอ้ งสั่งเช่นนี้ ไปเพื่อใครบางคนเป็ นแน่ เพราะปกติเขาไม่ใช่คนสนใจเรื่ อง
รายละเอียดมากมาย จึงต้องลองถามคนเบื้องหน้าออกไปว่า “ฝ่ าบาทจะให้ใครเข้า
ไปดูแลเหยียนเฟยรึ ไม่…”
คาถามนั้นทาให้ฮ่องเต้ชะงักไปเล็กน้อย เพราะยามที่สตรี ในห้องตื่นขึ้นมา
ก็ไม่รู้วา่ จะยังยอมให้เขาใกล้ชิดเช่นเมื่อคืนอีกหรื อเปล่า แต่จะให้คนอื่นเข้ามาเห็น

96
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

สภาพของนางยามนี้ก็คงไม่ดีเหมือนกัน ยิง่ เมื่อนึกถึงร่ างบอบบางที่นอนอ่อนแรงอยู่


บนเตียง ก็ยงิ่ อดไม่ได้ที่จะยิม้ มากกว่าเดิม
ด้านกัว๋ กงกงเมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบเสี ยทีจึงส่งเสี ยงเรี ยกถามอย่างลังเล “ฝ่ า
บาท คือว่าจะให้…”
ได้ยินเท่านั้นสติของฮ่องเต้ก็กลับมา ก่อนจะต้องรี บหันมาสั่งกลบเกลื่อน
ท่าทางเมื่อครู่ ของตนว่า “ไม่จาเป็ น พวกเจ้าออกไปให้หมดก็พอ”
ท่ าทางแบบนั้นทาให้กั๋วกงกงต้องพยักหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม ทั้งยังอด
ไม่ได้ที่จะกลั้นหัวเราะในใจ เพราะเมื่อกี้เขาพึ่งจะเห็นฮ่องเต้ของตนซึ่ งคอยวางท่า
สง่างามเสมอ พยายามกลบเกลื่อนท่าทางเลื่อนลอยยามนึกถึงสตรี เพียงคนเดียว

ฝ่ ายเหยียนหยินซึ่ งเริ่ มจะได้สติจากความเหนื่ อยล้าที่ ได้รับมาทั้งคืนนั้น


กาลังค่อย ๆ ลืมตาขึ้นทีละน้อย
เมื่อเหยียนหยินรู ้สึกถึงสัมผัสเบาบางบนกายตน ประกอบกับกลิ่นหอมที่
ชวนให้ผ่อนคลายและน้ าอุ่น ๆ ที่อยูร่ อบกาย ก็ทาให้นางรู ้สึกสบายตัวอย่างบอกไม่
ถูก จนกระทัง่ นางลืมตามองไปรอบ ๆ ถึงได้รู้วา่ ตนเองกาลังอยูใ่ นอ่างอาบน้ าขนาด
ใหญ่โดยมีใครบางคนกาลังช่วยขัดล้างกายตนเป็ นอย่างดี
“ฝะ ฝ่ าบาท!”
เหยียนหยินพูดขึ้นด้วยความตกใจ ทันทีที่เห็นว่าคนที่ช่วยนางอาบน้ าใน
ยามที่ ไม่ได้สติเมื่อกี้ น้ นั เป็ นใคร ก่อนจะรี บขยับกายถอยห่ างเขาซึ่ งยืนอยู่ดา้ นข้าง
อ่างอาบน้ า อีกทั้งนางยังต้องลดตัวลงจนหน้าแทบจะจมลงไปในน้ าเพราะความเขิน
อายจากเรื่ องเมื่อคืนเล็กน้อย “จะทรงทาอะไรเพคะ”

97
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

แค่เห็นท่าทางของนางที่รีบถอยห่างทั้งยังพยายามซ่อนตัวในอ่างน้ าที่เต็ม
ไปด้วยกลีบดอกไม้มากมายเช่นนั้น ฮ่องเต้ก็ตอ้ งหัวเราะออกมาน้อย ๆ พลางกวักมือ
เรี ยกนางกลับมา “ข้าแค่ช่วยเจ้าล้างตัวเท่านั้น กลับมานี่สิ”
เหยียนหยินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบตอบกลับไป “หม่อมฉันทาเองได้…”
ยามนี้ นางอยูใ่ นสภาพเปลือยเปล่าซ่อนตัวอยูใ่ นอ่างอาบน้ า ในขณะที่อีกฝ่ ายใส่ ชุด
คลุมยืนจ้องมองนางจากเบื้องข้าง แม้เขาจะยังไม่ทนั ได้ทาอะไรแต่แค่นึกถึงเรื่ องเมื่อ
คืนใบหน้าของนางก็อดไม่ได้ที่จะรู ้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา
เมื่อคื นนางพูดสิ่ งใดออกไปกัน เขาเมาอยู่คงจะจาไม่ ได้ ใช่ หรื อไม่ นั่นมั น
น่ าอายเกินไปแล้ วจริ งๆ…
แม้เรื่ องเมื่อคืนจะไม่ใช่ครั้งแรกของนาง เพราะมีประสบการณ์จากตอน
เป็ นองค์หญิงอวี้เหมยแล้ว แต่คาพูดที่ ยงั จาได้แม่นยาของตนเองที่ พอนึ กย้อนดู ก็
ชวนให้รู้สึกอย่างกับประโยคบอกรักกลาย ๆ ออกไปนั้น ทาให้นางรู ้สึกมองหน้า
บุรุษเบื้องข้างไม่ติด
ฝ่ ายฮ่องเต้ที่เท้าแขนอยู่ขา้ งอ่าง พอเห็ นนางมีสีหน้าปรับเปลี่ยนไปมาก็
ต้องถามขึ้นด้วยรอยยิม้ เจ้าเล่ห์เล็กน้อย
“เจ้า…อายข้างั้นรึ ?”
ได้ ยิ น เช่ น นั้ นสตรี เบื้ อ งหน้ า ก็ แ ทบจะรี บหั น มาตอบเขากลับ ทัน ที
“มิ ใช่ …” แต่ได้ยินคาพูดของนางไม่ทันจบประโยคเขาก็ตอ้ งยกยิ้มมากกว่าเดิ ม
พลางพูดอย่างอารมณ์ดีออกไปว่า “ก็ดี งั้นข้าจะได้อาบน้ าไปพร้อม ๆ เจ้าเลย”
ท่าทางอารมณ์ดีขณะค่อย ๆ ปลดชุดคลุมของตนออกของเขา ทั้งยังก้าวเข้า
มาในอ่างพร้ อมกับนางอย่างเชื่ องช้านั้น ทาเอาเอาเหยียนหยินถึ งกับพูดไม่อ อก

98
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ก่อนที่ฮ่องเต้ซ่ ึงพึ่งเข้ามาใกล้นางจะหันมาถามย้ากับนางถึงคาพูดเมื่อคืนว่า “เมื่อคืน


เจ้าบอกเองใช่รึวา่ จะทาหน้าที่พระสนม”
อีกทั้งเขายังไม่รอให้นางตอบกลับ ก็จบั นางเข้าไปหาให้นงั่ หันหลังให้เขา
แล้วจึงค่อย ๆ เริ่ มสางผมที่พนั กันของนางเบา ๆ “เจ้าจะล้างตัวก็ลา้ งไป ข้าจะสระผม
ให้เจ้าเองจะได้เสร็ จเร็ ว ๆ แช่น้ านานไปไม่ดี”
ความรู ้สึกไม่คุน้ ชิ นเช่นนี้ ทาให้เหยียนหยินอดที่จะหันไปมองเขาไม่ได้
ก่อนจะพูดเสนออย่างลังเล “ฝ่ าบาทให้พวกนางกานัลทาเถิด เรี ยกเยว่อิ๋งเข้ามาช่วย
หม่อมฉันก็ได้เพคะ”
แต่คนด้านหลังก็ดูจะไม่ฟังแม้แต่น้อยเมื่ อเขาเอ่ยเสี ยงดุน้อย ๆ ออกมา
“เจ้าคิดจะขัดคาสั่งข้ารึ ไงกัน รู ้รึเปล่าว่านัน่ มีโทษหนักเท่าไหร่ เจ้าอยูน่ ิ่งนิ่งก็พอ ข้า
จะทาเอง”
ได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็ตอ้ งปล่อยให้เขาทาอย่างจนใจ ให้เขาค่อย ๆ
สางล้างผมของนางไปช้า ๆ ขณะที่นางตักน้ ามาเช็ดล้างกายตน ฝ่ ายฮ่องเต้เมื่อยกผม
ของนางขึ้นมาแล้วเห็นรอยช้ าบนคอนาง จากการกระทาของตนเมื่อคืนที่ยงั ไม่เลือน
หายไปและถูกผมปกปิ ดไว้น้ นั ก็อดที่จะถามนางขึ้นมาไม่ได้
“เรื่ องเมื่อคืนนี้ …” เขาได้แต่ถามขึ้นเสี ยงเบาอย่างลังเล “เจ้าเป็ นอะไรรึ
เปล่า”
เหยียนหยินที่ได้ยนิ เช่นนั้นต้องชะงักค้างไป ก่อนจะยิม้ น้อย ๆ ออกมาเมื่อ
เห็ นว่าเขายังกังวลถึงความรู ้สึกของนาง แล้วจึ งถามเสี ยงเรี ยบกลับไปว่า “ควรจะ
ถามว่าพระองค์ทรงเป็ นอันใดมากกว่า เพราะเมื่ อคืนนี้ หม่อมฉันเพียงแค่ทาตาม
หน้าที่ของตนเองเท่านั้น”

99
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาพูดของนางทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งทวนถามกลับด้วยสี หน้าสงสัย “แค่หน้าที่


เท่านั้นเรอะ” พูดจบก็แกล้งดึงนางเข้ามาหาตนเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็คงเล่นได้
สมบทบามกว่าผูอ้ ื่นเสี ยจริ ง ๆ ในเมื่อแววตาของเจ้าดูจริ งใจเสี ยจนดูไม่ออกว่ากาลัง
แสดงอยูแ่ ม้แต่นอ้ ยเลย”
ด้านเหยียนหยินที่ จู่ ๆ ก็ถูกดึ งเข้าไปกอดต้องถึงกับสะดุง้ จนต้องหันมา
ถลึงตาใส่ เขาแล้วจึ งหันกลับไปไม่พูดจาใด ๆ เพราะรู ้ว่าต่อให้พูดอะไรออกไปก็
เอาชนะอี กฝ่ ายไม่ได้ นั่นทาให้ฮ่องเต้ที่เห็ นท่ าทางเช่ นนั้นของนางต้องหัวเราะ
ออกมาอย่างอารมณ์ดี
“ก็ได้ ๆ ข้าไม่พูดเรื่ องนี้แล้ว” ก่อนจะขยับใบหน้าเข้ามากระซิ บข้างหูนาง
เสี ยงเบาว่า “ในเมื่อเจ้าขยันทาตามหน้าที่ วันหลังข้าจะเรี ยกเจ้ามาบ่อย ๆ ดีหรื อไม่”
แค่ได้ยินเสี ยงยัว่ เย้าของเขาเท่านั้นเหยียนหยินก็หน้าแดงเรื่ อ ในใจได้แต่
คิ ด ว่า เขาดู จะได้ใจมากเกิ นไปแล้ว นางจึ ง เริ่ ม พยายามดิ้ นหนี ท้ งั ยังรี บแย้งตอบ
กลับไป “ไม่ดีเพคะ จะให้หม่อมฉันหมดแรงทุกวันหรื ออย่างไรกัน”
พอเหยียนหยินพยายามดิ้นหนี ฮ่องเต้ก็ปล่อยนางแต่โดยดีดว้ ยกลัวว่านาง
จะมีรอยช้ ามากกว่าเดิม ก่อนจะหรี่ ตาลงถามถึงคาพูดของนางด้วยรอยยิม้ มีเลศนัยว่า
“ข้าพูดว่าทุกวันเมื่อไหร่ กนั ”
คาถามจากเขาทาให้เหยียนหยินถึงกับพูดไม่ออก จนสุ ดท้ายก็ตอ้ งทอด
ถอนใจแล้วล้างตัวต่อเงียบ ๆ ต่อไป จนผ่านไปสักพักนางจึงตัดสิ นใจถามออกไปว่า
“เมื่อวานนี้ทรงฝันเรื่ องใดเพคะ”
ด้านฮ่องเต้เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็มีท่าที นิ่งเงี ยบ ก่อนจะยิ้มอ่อนโยนน้อย ๆ
ตอบกลับไปว่า “แค่เรื่ องเก่า ๆ เท่านั้น ถึงเวลาข้าจะเล่าให้เจ้าฟังเอง” พูบจบเขาก็ลุก

100
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ออกไปใส่ ชุดคลุมของตน ขณะหันมายิม้ พูดทิ้งท้ายให้นางซึ่ งยังคงอยูท่ ี่เดิม “ข้าจะ


ให้นางกานัลเข้ามาดูแลเจ้าต่อก็แล้วกัน”
ฝ่ ายเหยียนหยินพอเห็นเขาลุกออกไปแล้วก็ตอ้ งส่ ายหัวไปมาเล็กน้อย กับ
ท่าทางหลีกหนีปัญหาของเขาที่เห็นได้อย่างชัดเจน
ขณะที่ฮ่องเต้ซ่ ึ งพึ่งออกมาแต่งตัวไม่นานนั้น ต้องเจอกับกัว๋ กงกงที่เห็นว่า
เขาอารมณ์ดีข้ ึนเข้ามารายงานเรื่ องเมื่อคืนว่า “ฝ่ าบาท จริ ง ๆ แล้วเมื่อคืนฮุ่ยกุย้ เฟยมา
ขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ”
ได้ยินเช่ นนั้นฮ่องเต้ก็ตอ้ งมี สีหน้าแปลกใจ “ฮุ่ยกุ้ยเฟยงั้นรึ นางมี เรื่ อง
อะไรกัน” ก่อนจะได้ยินกัว๋ กงกงตอบกลับด้วยสี หน้าลาบากใจว่า “ทรงแวะมาไม่
นานหลังจากที่เหยียนเฟยสั่งไม่ให้พวกกระหม่อมเข้าไปได้สักพัก ฮุ่ยกุย้ เฟยรบเร้า
เข้าไปหาพระองค์ไม่นอ้ ย พวกกระหม่อมกันไว้ไม่อยูแ่ ต่พระนางเข้ามาเพียงไม่นาน
ก็กลับไป”
คาตอบที่ ได้ยินทาให้ฮ่องเต้เข้าใจได้ทนั ทีว่าฮุ่ยกุย้ เฟยอาจจะได้ยินเสี ยง
ของพวกตนเมื่อคืน นัน่ ทาให้เขาต้องมีสีหน้าเคร่ งเครี ยดขึ้นมา เพราะความคิดของ
อิสตรี ยากจะคาดเดา เขาย่อมเข้าใจในเรื่ องนี้ดี
“ให้คนคอยจับตาดูนางให้ดี” ทันทีที่สงั่ เสร็ จ กัว๋ กงกงที่พยักหน้ารับก็ตอ้ ง
รายงานขึ้นมาอีกครั้งว่า “แล้วก็เมื่อเช้านี้มีข่าวด่วนส่งมาพะยะค่ะ ได้ใจความว่า…”
สิ้ นคารายงานที่ ได้ยินนั้นสี หน้าของฮ่องเต้ก็บ้ ึงตึงลง ก่อนจะรี บออกไป
ในทันที ทาให้กวั๋ กงกงได้แต่รีบร้อนเดินตามไปอย่างจนใจ
.............................

101
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฝ่ ายเหยียนหยินที่พ่ ึงอาบน้ าเสร็ จ ยามนี้ กาลังให้เยว่อิ๋งช่วยแต่งตัวให้อยู่


แต่เมื่อเหยียนหยินหันไปมองรอบด้านแล้วไม่พบเงาของใครบางคนก็ตอ้ งถามคน
สนิทข้างกายขึ้นว่า “ฝ่ าบาทเล่า”
เยว่อิ๋งเมื่อเห็นพระสนมของตนเริ่ มสนใจฮ่องเต้ข้ ึนมาก็ตอ้ งยิม้ ขึ้นเล็กน้อย
เพราะดูเหมือนความพยายามของฮ่องเต้ที่นางเห็ นจะไม่สูญเปล่าไปหมดเสี ยแล้ว
เมื่อนับจากเรื่ องเมื่อคืนนี้ ที่พระสนมของนางยอมปรนนิบตั ิอีกฝ่ ายด้วยความเต็มใจ
อีกทั้งยามเช้านี้ยงั ไม่มีท่าทีโกรธเคืองหรื อหลีกหนีแม้แต่นอ้ ยเลย
“เหมือนจะมีเรื่ องด่วน จึงออกไปแล้วเพคะ”
ทันทีที่เหยียนหยินได้ยนิ เช่นนั้นก็ตอ้ งบ่นออกมาเสี ยงเบา “ออกไปแล้วงั้น
รึ ทั้ง ๆ ที่ควรจะพักผ่อนแท้ ๆ ”
คาพูดของนางทาให้เยว่อิ๋งที่ ได้ยินต้องถามหยอกล้อออกมา “พระสนม
ทรงเป็ นห่วงฝ่ าบาทอยูห่ รื อเพคะ”
ได้ยินเช่ นนั้นเหยียนหยินก็รีบตอบกลบเกลื่ อนกลับไปว่า “ข้าแค่ทาไป
ตามหน้าที่ เท่านั้น” ก่อนจะได้ยินเยว่อิ๋งถามแกล้งขึ้นมาอีกครั้ง “จริ งหรื อเพคะ ดู
เหมือนทรงจะคิดสิ่ งอื่นอยูม่ ากกว่า”
คาถามแบบนั้นทาให้เหยียนหยินต้องแกล้งทาเป็ นไม่รู้ไม่ช้ ีไม่นอ้ ย ก่อน
จะเริ่ มนึกถึงความผิดปกติของฮ่องเต้เมื่อคืนแล้วลองเปลี่ยนเรื่ องที่ถามออกไป “จริ ง
สิ เจ้ารู ้เรื่ องเกี่ยวกับมารดาของฝ่ าบาทหรื อไม่”
ที่ ถามไปเช่ นนั้นก็เพราะจาได้ว่าเมื่ อคืนเขาละเมอเรี ยกแม่ของตน ด้าน
เยว่อิ๋งพอได้ยินคาถามก็ดูจะทาสี หน้าแปลกใจขึ้นมา “ทรงหมายถึงไทเฮาที่ทรงสิ้น
พระชนต์ไปเมื่อห้าปี ก่อนหรื อเพคะ ถ้าเรื่ องเกี่ ยวกับเมื่อก่อนหม่อมฉันไม่รู้เท่าใด

102
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

นัก” แต่พอเห็นสี หน้าครุ่ นคิดของพระสนมตนแล้วก็ตอ้ งพูดออกไปอีกครั้ง “แต่ถา้


พระสนมอยากรู ้สิ่งใด หม่อมฉันจะไปสื บถามมาให้เพคะ”
เหยียนหยินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยมิ้ น้อย ๆ “ไม่ตอ้ งหรอก เรื่ องนี้ รอให้ฝ่า
บาทเล่าให้ฟังเองน่าจะดีกว่า”
ที่นางไม่คิดจะให้เสี่ ยงสื บออกไปก็เพราะนี่ ดูจะไม่ใช่เรื่ องที่ควรเข้าไปยุง่
เท่าไร อีกอย่างฮ่องเต้ก็บอกนางแล้วว่าถึงเวลาจะเล่าให้ฟังเอง บางทีตอนนี้ นางควร
จะเป็ นเพียงผูร้ ับฟังที่ดี ให้เขาสบายใจยามอยูก่ บั นางก็พอ
ทั้งสองคนคุยกันได้ไม่นาน นางกานัลผูห้ นึ่งก็เข้ามารายงานว่า “พระสนม
ฮุ่ยกุย้ เฟยมาขอเข้าพบเพคะ”
คารายงานที่ ได้ยินทาให้เหยียนหยินต้องมีสีหน้าแปลกใจ เพราะตอนนี้
นางยังไม่ได้กลับตาหนักตนเองเลยด้วยซ้ า แต่ฮุ่ยกุย้ เฟยกลับตั้งใจมาหาถึงที่นี่ แม้
มันจะแปลกแต่เมื่ออีกฝ่ ายมีตาแหน่งสู งกว่า นางก็ตอ้ งพยักหน้าตอบกลับไป “บอก
ให้นางรอสักครู่ ขา้ จะออกไปเดี๋ยวนี้”
เมื่อเหยียนหยินแต่งตัวเสร็ จก็ออกมาต้อนรับ ฮุ่ยกุย้ เฟยที่ นั่งอมยิ้มรออยู่
แล้ว ด้วยน้ าเสี ยงและท่าทางที่ยงั คงความเป็ นมิตรเป็ นอย่างดี
“เหยียนเฟยเป็ นเช่นไรบ้าง” นัน่ คือคาถามแรกที่ฮุ่ยกุย้ เฟยถามขึ้น ก่อนจะ
เปลี่ยนเป็ นสี หน้าโล่งใจขณะยิม้ กล่าวชมออกมา “ดีจริ ง ๆ ที่เมื่อคืนมีเจ้าอยูค่ อยดูแล
ฝ่ าบาท เจ้าคงจะเหนื่อยไม่นอ้ ย”
คาพูดที่เหมือนไม่มีเลศนัยนั้น ชวนให้เหยียนหยินรู ้สึกไม่ปลอดภัยเท่าใด
นัก จึ งยิ้มเรี ยบ ๆ ตอบกลับไป “การดู แลฝ่ าบาทเป็ นหน้าที่ ของพระสนมอยู่แล้ว
หม่อมฉันเหนื่อยได้อย่างกันเพคะ”

103
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยินเช่นนั้นฮุ่ยกุย้ เฟยก็มีสีหน้าเห็นด้วยพลางพูดว่า “เจ้าพูดถูกแล้ว” มุม


ปากของนางยกยิม้ ขึ้นเล็กน้อยเพียงชัว่ ครู่ เท่านั้น เพราะคาตอบที่ได้ยินเมื่อกี้ นับว่า
ฉลาดไม่น้อยที่ เลื อกจะพูดว่าเป็ นหน้าที่ ที่ตอ้ งทาแบบกากวม แต่มิได้บอกว่ามา
เพราะถูกเรี ยกออกไป
ฮุ่ ย กุ้ ย เฟยยกยิ้ ม ได้ ชั่ ว ครู่ ก็ เ ปลี่ ย นเป็ นถอนหายใจออกมา ก่ อ นจะ
เปลี่ยนเป็ นพูดด้วยสี หน้าลาบากใจแทน “ที่ ขา้ มาก็ไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไร เพียงแค่
อยากจะมาขอร้องเจ้าสักเรื่ องเท่านั้น”
เหยียนหยินที่เห็นสี หน้าของอีกฝ่ ายปรับเปลี่ยนอย่างเป็ นธรรมชาติได้โดย
ไม่ติดขัด ก็อดไม่ได้ที่จะนึ กชื่นชมในใจ ก่อนจะพูดตอบด้วยใบหน้าที่ยงั คงรอยยิม้
น้อย ๆ เช่นเดิม “ฮุ่ยกุย้ เฟยมีเรื่ องอะไรก็พดู ออกมาเถิด”
ฝ่ ายฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตาเป็ นประกายไม่นอ้ ย ทั้งยังรี บร้อนพูด
ด้วยท่าทางดีใจ “ตอนนี้คนที่ฝ่าบาทพอจะฟังคงมีแค่เจ้า”
พูดจบก็อธิบายด้วยน้ าเสี ยงลาบากใจออกมาว่า “ข้าอยากให้เจ้าโน้มน้าวฝ่ า
บาทให้ไปเยือนแคว้นเหลียง เพราะยามนี้ ตรงแถบชายแดนระหว่างแคว้นมีข่าวลือ
ไปทัว่ ว่าฝ่ ายเราพอชนะก็หยิ่งผยองไม่คิดสนใจแคว้นเหลียงแม้แต่นอ้ ย แม้แต่เทียบ
เชิญที่องค์จกั รพรรดิ ส่งมาด้วยตนเองก็ยงั ไม่นามาใส่ ใจ ข้าเกรงว่านี่ คงไม่เป็ นผลดี
ต่อแคว้นเราเท่าใด”
ได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็เข้าใจได้ทนั ทีวา่ เมื่อเช้าที่เยว่อิ๋งบอกว่าฮ่องเต้
รี บร้อนออกไปเพราะมีเรื่ องด่วนคือเรื่ องใดกัน ก่อนจะได้ยนิ ฮุ่ยกุย้ เฟยพูดต่อไป “ข้า
คิดว่าหากเหยียนเฟยเป็ นฝ่ ายเอ่ยปาก ฝ่ าบาทย่อมต้องเห็นด้วยเป็ นแน่” ฮุ่ยกุย้ เฟยพูด
ถึงเท่านั้นก็ทาสี หน้าหวังดีพลางพูดออกมาช้า ๆ “แต่ยามนี้ฝ่าบาทเองก็ดูน่าเป็ นห่ วง

104
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เหมื อนจะคิ ดสิ่ งใดอยู่ ข้าว่าถ้ามี ใครตามไปดู แลด้วยก็คงดี ถ้าเป็ นเช่ นนั้นก็ตอ้ ง
รบกวนเหยียนเฟยแล้ว…”
พอเห็ นสายตาลองเชิ งที่ อีกฝ่ ายมองมาหยียนหยินก็ตอ้ งยิ้มปฏิ เสธตอบ
กลับไป “ข้าจะลองคิดดู แต่เรื่ องการตามไปด้วยนั้น ข้าว่าควรจะเป็ นผูอ้ ื่นมากกว่า”
คาตอบของนางทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยทาสี หน้าเสี ยดายทันที “เป็ นเช่นนั้นคงไม่ดี
นัก” ก่อนจะอธิบายออกมาว่า “ข้าต้องคอยดูแลควบคุมวังหลัง ส่วนพระสนมคนอื่น
ที่เหลืออยูก่ ็ลว้ นแล้วแต่มีตาแหน่งที่ต่าเกินกว่าจะพาออกไปงานสาคัญได้ แล้วจะมี
ใครที่ไหนเหมาะไปมากกว่าเจ้าอีกกัน”
พอได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็นิ่งค้างไปเล็กน้อย เพราะนั่นเหมือนการ
บังคับเป็ นนัยว่าหากนางไม่ไปก็แปลว่านางคิดจะใช้โอกาสนี้ ควบคุมวังหลัง แย่ง
อานาจจากอีกฝ่ าย แต่ถา้ ไปก็แปลว่ากาลังข้ามหน้าข้ามตาเหล่าพระสนมที่อยูม่ านาน
แม้จะตาแหน่งไม่สูงไม่ใช่หรื ออย่างไร
ไม่นานนักฮุ่ยกุย้ เฟยก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ข้าเพียงมาพูดเท่านี้ ที่เหลือก็คงต้อง
แล้วแต่เจ้าแล้ว”
พูดจบนางก็บอกลาและลุกขึ้น ทาท่าจะจากไปในทันที “ข้ามีเรื่ องที่ตอ้ ง
ไปดูแลอยูค่ งต้องกลับก่อน เหยียนเฟยลองคิดดูแล้วกัน”
เหยียนหยินที่มองฮุ่ยกุย้ เฟยรี บร้อนจากไปโดยไม่รอให้ตนตอบสิ่ งใดนั้น
ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่ อยใจ ก่ อนที่ เยว่อิ๋งซึ่ งยืนฟั งอยู่ขา้ ง ๆ มาด้วย
ตลอดจะพูดขึ้นมาว่า “พระสนม หม่อมฉันเห็ นว่าการที่ ได้ไปแคว้นเหลี ยงกับฝ่ า
บาทเพียงแค่สองคน อาจจะเป็ นโชคดีของพระองค์ก็ได้นะเพคะ”

105
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เหยียนหยินที่เข้าใจความคิดของอีกฝ่ ายดีตอ้ งตาหนิ ออกไปเล็กน้อย “เจ้า


คิดอะไรอยู่กนั ” ก่อนจะตอบเยว๋ อิ๋งที่มีสีหน้าไม่เข้าใจออกไปว่า “พระสนมในวัง
หลังยุ่งเรื่ องราชกิ จได้ที่ไหน อีกอย่างเจ้าคิดว่าหากข้าทาตามที่นางบอกจริ งจะเกิด
ผลดีจริ ง ๆ หรื ออย่างไร”
พอเหยียนหยินเห็นเยว่อิ๋งมีสีหน้าเข้าใจแล้วก็ตอ้ งยิม้ น้อย ๆ เพราะหากทา
ตามที่ฮุ่ยกุย้ เฟยบอก ผ่านไปไม่นานอาจจะมีข่าวตามมาก็ได้วา่ นางยุง่ เรื่ องราชกิจที่
เกี่ยวกับบ้านเมือง ทั้งยังยัว่ ยวนฮ่องเต้ให้พาตนไปด้วยทั้งที่พ่ ึงจะถูกแต่งตั้งไม่นาน
ความผิดจากสองข้อหานั้นนางจะรับไหวได้อย่างไร แต่การจะทิ้งไว้ไม่สนใจก็ไม่ใช่
เรื่ องดี เพราะดูจากฮ่องเต้แล้วต้องไม่ยอมผ่อนปรนส่ งคนไปแคว้นเหลียงเป็ นแน่
หากเป็ นเช่นนั้นแล้วเกิดสงครามขึ้นมาอีกครั้งก็คงไม่ใช่เรื่ องดีต่อประชาชนเท่าไหร่
เมื่อคิดว่าต้องหาทางพูดโน้มน้าวเขาเสี ยหน่ อยโดยที่ไม่ให้ใครจับผิดได้
เหยียนหยินก็อดไม่ได้ที่จะยิม้ เย็นชาให้ตนเอง
ก่ อนหน้านี้ นางเป็ นเพียงนางกานัลที่ ไม่ตอ้ งคิดสิ่ งใด ก่ อนจะกลายเป็ น
พระสนมเพื่ อ ตามหาความจริ ง เรื่ อ งการตายของผู ้มี พ ระคุ ณ ตน แต่ ย ามนี้ เรื่ อ ง
เหล่านั้นก็คลี่คลายไปบ้างแม้จะมีจุดน่าสงสัยเล็กน้อยเท่านั้น ส่ วนตัวนางกลับต้อง
กลายเป็ นพระสนมจริ ง ๆ เพื่อหาทางเอาตัวรอดในวังหลังแห่งนี้แทน
ชีวติ คนเราช่างไม่แน่นอนเหลือเกิน…

***************************************

106
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 34 หลักฐำน

หลังจากฮุ่ยกุ้ยเฟยจากไปเพียงไม่นาน เหยียนหยินก็เข้าครัวเพื่อเตรี ยม
อะไรบางอย่างสาหรับโน้มน้าวใจฮ่องเต้ที่กาลังจะกลับมาที่ตาหนัก แต่ผ่านไปได้
ไม่นาน พอนางออกจากครัวมาได้สกั พักเท่านั้น เสี ยงอารมณ์ดีอนั คุน้ หูของใครบาง
คนก็ดงั ขึ้นมาเสี ยแล้ว
“เจ้ากาลังทาอะไรอยูก่ นั ”
ทันที ที่ได้ยินเสี ยงนั้นเหยียนหยินก็ตอ้ งรี บหันไปมอง “ฝ่ าบาทเหตุใดจึง
เสด็จกลับมาเร็ วเช่นนี้เพคะ”
นางได้แต่ถามเขาด้วยความแปลกใจออกไป เพราะเท่าที่ รู้คือเขามี เรื่ อง
ด่วนที่ ตอ้ งไปจัดการ หรื อก็คือเรื่ องข่าวลือที่ สร้างความเสี ยหายให้ความสัม พันธ์
สองแคว้นอยูไ่ ม่ใช่หรื อ แล้วเหตุใดจึงรี บกลับมาเช่นนี้กนั
ฝ่ ายฮ่องเต้น้ นั เมื่อเห็นนางทาหน้าแปลกใจก็ตอ้ งยกยิม้ ขึ้นมา

107
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

“เจ้าก็รู้ดีวา่ เพราะอะไร” แต่เมื่อเห็นว่าสตรี ตรงหน้ายังไม่เข้าใจแล้วก็ตอ้ ง


แกล้งทาสี หน้าตาหนิเล็กน้อย แล้วจึงเปลี่ยนเป็ นยิม้ ระรื่ นพูดออกไปว่า “ใจข้าอยูท่ ี่นี่
จะให้ขา้ ไปที่ใดได้กนั ”
ทันทีที่เขาพูดคานั้นจบเหยียนหยินก็ดูจะมีสีหน้านิ่ งอึ้งราวกับทาอะไรไม่
ถูก ทาให้เขาหัวเราะชอบใจเสี ยงดัง แล้วจึงค่อยอธิบายเหตุผลจริ ง ๆ ออกไปว่า “อีก
อย่างเจ้าตั้งใจเตรี ยมน้ าแกงพุทราไว้ให้ขา้ ก็แปลว่ารอให้ขา้ มาอยูไ่ ม่ใช่รึไง”
พูดจบก็นงั่ ลงข้างโต๊ะที่นางพึ่งวางน้ าแกงพุทราไว้ แล้วถามออกไปด้วยสี
หน้าสนใจ “เจ้าเอาใจข้าแบบนี้มีเรื่ องอะไรอยากพูดเล่า”
เหยียนหยินเมื่อเห็นว่าเขาดูจะรู ้การเคลื่อนไหวของนางดี ก็ได้แต่ตอ้ งถอน
หายใจอย่างจนใจออกมาไม่นอ้ ย ก่อนจะพยายามทาตามความตั้งใจเดิมไว้แล้วแย้ม
ยิม้ พูดออกไปว่า “ฝ่ าบาททรงเหนื่ อยกับงานราชกิจเพื่อดูแลความสงบสุ ขให้แคว้น
ของเรา จะไม่พกั ผ่อนสักหน่อยได้อย่างไรกันเพคะ”
รอยยิ้มที่ ดูจะพยายามให้เขาผ่อนคลายบวกกับคาพูดที่ ได้ยินนั้น ทาให้
ฮ่องเต้เบ้ปากลงในทันที ก่อนจะยกมือบอกให้คนอื่น ๆ ที่อยูใ่ นห้องนี้ออกไป ด้วยรู ้
แล้วว่านางตั้งใจพูดถึงเรื่ องใด แล้วจึงพูดด้วยน้ าเสี ยงไม่สบอารมณ์เล็กน้อยออกมา
“แม้แต่เจ้าก็ยงั พูดเรื่ องนี้ง้ นั รึ ”
ด้านเหยียนหยินเมื่อเห็นว่าบ่ายเบี่ยงไปก็ไม่มีประโยชน์แล้วนั้น อีกทั้งเขา
ยังไล่พวกนางกานัลและขันทีที่คอยรับใช้ออกไปหมด นางจึงตัดสิ นใจพยายามพูด
โน้มน้าวออกมาตรง ๆ ว่า “หากพระองค์ยงั ไม่ยอมส่ งคนไปเช่นนี้ ข่าวลือเหล่านั้น
อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นมากกว่าเดิมได้”
ฮ่องเต้เมื่อได้ยนิ คาพูดของนางจบ ก็พดู เสี ยงหนักแน่นอย่างดื้อรั้น

108
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

“ข้าไม่คิดจะส่ งคนไป และก็ไม่คิดจะไปด้วยตนเองเช่นกัน” ดวงตาของ


เขาเป็ นประกายและคมกริ บอย่างถือในทิฐิขณะพูดประโยคถัดไป
“ถึงอย่างไรครั้งล่าสุ ดเราก็เป็ นฝ่ ายที่ชนะสงคราม ทั้งยังได้องค์หญิงของ
ฝั่งนั้นมาเป็ นเชลย เจ้าจะกังวลสิ่ งใดกัน”
เหยียนหยินเมื่ อได้ยินคาพูดของเขาก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา ขณะพยายาม
อธิ บายว่า “หม่อมฉันเกรงว่านี่จะนาไปสู่ สงครามอีกครั้งแล้วเกิดความลาบากให้แก่
ผูค้ นได้” แต่เมื่อเห็นเขายังไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนความคิดแล้วนางก็ตอ้ งพูดเสี ยงอ่อนลง
“หม่อมฉันไม่รู้วา่ ฝ่ าบาทไม่พอพระทัยแคว้นเหลียงเรื่ องใด แต่ถึงอย่างไรพระองค์ก็
ยังเป็ นฮ่องเต้และมีผคู ้ นมากมายให้ดูแล”
ฮ่องเต้เมื่ อได้ยินเช่ นนั้นก็นิ่งครุ่ นคิ ดไปเล็กน้อย ก่ อนจะถามบางอย่า ง
ขึ้นมาแทน “ใครเป็ นคนบอกเจ้าเรื่ องนี้”
แต่ยงั ไม่ทนั ที่จะรอให้นางได้ตอบกลับ เขาก็ทายขึ้นมาด้วยแววตาที่หรี่ ลง
จนเหมือนจะคาดคั้นเสี ยแล้ว “ได้ยนิ มาจากฮุ่ยกุย้ เฟยงั้นเรอะ?”
คาถามของเขาทาให้เหยียนหยินได้แต่อมยิม้ น้อย ๆ เพราะหากยอมรับตรง
ๆ ไปก็เหมื อนกับบอกว่าฮุ่ยกุ้ยเฟยนั้นจงใจมาบอกนางไม่ใช่ รึไงกัน แม้มนั จะดู
เหมือนเป็ นเช่นนั้นก็ตาม แต่ถึงนางไม่บอกอีกฝ่ ายก็ดูจะเข้าใจในท่าทางของนางที่
สื่ อออกมาได้ เมื่อสุดท้ายเขาก็เปลี่ยนจากใบหน้าครุ่ นคิดเป็ นถอนหายใจอย่างปล่อย
วางออกมา
“ในเมื่อเจ้ากังวลใจ ข้าจะลองคิดดูก็แล้วกัน”
พูดจบเขาก็หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้นางเล็กน้อย “แต่เจ้าต้องทาตามข้อตกลง
กับข้าเรื่ องหนึ่ง”

109
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ประโยคที่ ได้ยินนั้นทาให้คิ้วสองข้างของเหยียนหยินต้องย่นเข้าหากัน
พลางถามอย่างไม่เข้าใจกลับไปว่า “เรื่ องใดกันเพคะ”
แต่ฮ่องเต้ก็เพียงแค่ยมิ้ น้อย ๆ ตอบนางกลับมาเท่านั้น “ข้าจะบอกเจ้าวัน
หลังเอง”
สุ ดท้ายนางจึงต้องพยักหน้าตอบตกลงไป เพราะหากมันจะทาให้เขายอม
ผ่อนปรนรักษาความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นได้ดีข้ ึนก็คงนับว่าคุม้ ค่าอยูด่ ี
หลังจากนั้นคนทั้งสองคนก็นงั่ พูดคุยกันต่อไม่นาน ก่อนที่เหยียนหยินจะ
เดินทางกลับตาหนักของตนเอง ส่วนเขาก็ตอ้ งนัง่ อ่านฏีกามากมายต่อ จนกระทัง่ เมื่อ
ถึ ง เช้าในวัน ถัด มา เหยีย นหยิน ถึ ง ได้ยิน ข่า วออกมาว่า เขายอมส่ ง ฉี อ๋ อ งกับองค์
หญิงอวี้เหมยไปที่แคว้นเหลียงเพื่อเป็ นตัวแทนตนเองเพื่อตอบรับเทียบเชิญจากองค์
จักรพรรดิกลับไป
ซึ่งนัน่ ก็นบั ว่าเป็ นเรื่ องดีกว่าการที่เขาไม่คิดจะส่งใครไปเลย…
....................

หลังจากการเดิ นทางไม่กี่วนั ฉี อ๋องกับองค์หญิงอวี้เหมยและผูต้ ิดตามก็


มาถึงแคว้นเหลียงตามคาสัง่ ของฮ่องเต้ ดังนั้นพวกเขาในยามนี้จึงอยูใ่ นท้องพระโรง
ของแคว้นเหลียง เบื้องหน้าจักรพรรดิแคว้นเหลียงที่แม้จะดูน่าเกรงขามแต่ก็ยงั คงดู
ผอมแห้งเช่นเดิ ม ในขณะที่ องค์หญิงอวี้เหมยเมื่อเห็ นพ่อของตนก็ตาเป็ นประกาย
ด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชดั
“เสด็จพ่อ…”

110
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

น้ าเสี ยงสดใสที่ ยากจะได้ยินจากองค์หญิงอวี้เหมยที่ มกั หยิ่งทะนงเสมอ


นั้น ทาให้จกั รพรรดิแคว้นเหลียงยกยิม้ ขึ้นมาเล็กน้อย “อวี้เหมยเจ้าเป็ นอย่างไรบ้าง”
คาถามที่แสดงถึงความเป็ นห่วงจากพ่อของตนทาให้องค์หญิงอวี้เหมยรี บ
ตอบกลับไปอย่างยินดี “เสด็จพ่อไม่ตอ้ งกังวล ตอนนี้ ท่านอ๋ องคอยดูแลข้าเป็ นอย่าง
ดี ” ทั้งยังมองมาทางฉี อ๋องด้วยสายตาอ่อนหวานจากใจ ทาให้ฉี อ๋องต้องยิ้มอย่าง
สุภาพตอบกลั ขณะเห็นสายตาของจักรพรรดิแคว้นเหลียงที่กาลังมองมาทางตน
“ดีจริ ง ๆ ที่ได้ฉีอ๋องดูแลนางเป็ นอย่างดี” องค์จกั รพรรดิ พูดเพียงเท่านั้นก็
หันกลับมาพูดกับองค์หญิงอวี้เหมยอีกครั้ง “แม่ของเจ้ารอเจ้าอยู่ ทาไมเจ้าไม่ไปคุย
กับนางสักหน่อย”
ทันที ที่ได้ยินองค์หญิ งอวี้เหมยก็มีทีท่าไม่อยากไปเล็กน้อย “แต่ขา้ …”
ก่อนที่ องค์จกั รพรรดิ จะพูดตัดลูกสาวของตนเองขึ้นมาเสี ยก่อนว่า “พ่อจะคุยกับฉี
อ๋ องเรื่ องสาคัญ เจ้าออกไปก่อนเถอะ”
สุดท้ายองค์หญิงอวี้เหมยก็ตอ้ งจาใจเดินจากไป “ข้าเข้าใจแล้ว” แต่ก็ยงั ไม่
วายหันกลับมามองพ่อของตนกับคนรักที่ยนื คุยอยูด่ ว้ ยกัน

องค์ห ญิ ง อวี้เ หมยเมื่ อ ออกจากท้อ งพระโรงมาแล้ว ก็ รี บ ตรงปรี่ ไ ปยัง


ตาหนักใหญ่อนั แสนจะคุ น้ เคยในทันที เพราะถึ งอย่างไรนางก็มีเรื่ องที่ อยากจะ
ปรึ กษากับแม่แท้ ๆ ของตนเช่ นกัน ทันที ที่องค์หญิ งอวี้เหมยเข้าไปในสวนของ
ตาหนักหลังใหญ่ที่ดูหรู หราโอ่อ่าและเห็ นสตรี ท่วงท่าสู งศักดิ์ผหู ้ นึ่ งแล้ว ก็นางรี บ
เอ่ยเรี ยกเสี ยงดัง “เสด็จแม่ ข้ากลับมาแล้ว”

111
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฝ่ ายฮองเฮาของแคว้นเหลียงเมื่อได้ยินเสี ยงอันคุน้ หู ของลูกสาวตนนั้น ก็


รี บหันกลับมาไม่นอ้ ย “เหมยเอ๋ อ…” ก่อนจะแย้มยิม้ ออกมา พลางรี บถามอย่างเป็ น
ห่วงเป็ นใยว่า “พวกเขาทาอะไรลูกรึ เปล่า”
ทั้งยังรี บร้อนสารวจไปตามเรื อนกายลูกสาวเบื้องหน้า และเอ่ยตาหนิ เสี ยง
เข้ม “อย่าคิดโกหกแม่ พวกคณะฑูตที่ไปเจอลูกคราวนั้นบอกแม่มาหมดแล้ว”
ท่ า ทางที่ ย ากจะได้เ ห็ น ของฮองเฮาแคว้น เหลี ย งที่ ป กติ ม ัก จะได้ชื่ อ ว่า
โหดเหี้ ยมเด็ดขาดเช่นนี้น้ นั ทาให้เหล่าข้ารับใช้รอบด้านต้องพากันรี บก้มหน้าด้วยต
ใจที่สนั่ ระรัว
ไม่นานนักองค์หญิงอวี้เหมยที่เห็นแม่ของตนห่ วงใย ก็รีบฟ้องถึงสิ่ งที่ตน
ต้องเจอมาโดยไม่คิดจะปิ ดบังไว้ทนั ที
“เสด็จแม่ คนที่ทาร้ายลูกมีแค่ฮ่องเต้นนั่ เท่านั้น หลายครั้งที่ลูกตื่นมาแล้ว
ต้องพบกับร่ างกายที่เหนื่ อยล้ากับรอยช้ าบนร่ างของตนที่ถูกเขาย่ายี!” น้ าเสี ยงของ
นางปนไปด้วยความเคียดแค้นและไม่พอใจจนเห็นได้ชดั “ลูกต้องถูกผูค้ นในวังมอง
ด้วยสายตาเหยียดหยาม ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทาอะไรเลยด้วยซ้ าไป”
ได้ยินเช่นนั้นแววตาของฮองเฮาแห่ งแคว้นเหลียงก็เป็ นประกายน่ ากลัว
เพิ่มขึ้น “เจ้าไม่ตอ้ งห่ วงเรื่ องนั้นพ่อของเจ้าต้องหาทางจัดการเขาเป็ นแน่ ” พูดจบก็
นิ่ งค้างไปเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนมาถามเรื่ องอื่นด้วยสี หน้าสงสัยออกไปแทนว่า
“แล้วฉี อ๋องดูแลเจ้าดีหรื อไม่”
สิ้ นคาถามนั้นองค์หญิงอวี้เหมยก็รีบร้อนตอบกลับด้วยน้ าเสี ยงมีความสุข
ไปในทันที “ดี มาก ๆ ” ทั้งยังมี สีหน้าแดงระเรื่ อราวกับเขินอายขึ้นมาขณะพูดว่า
“ท่านอ๋ องมอบความสุขให้ลูกทุกวัน”

112
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาตอบนั้นทาให้ฮองเฮาแคว้นเหลียงชะงักไปไม่นอ้ ย ด้วยไม่นึกว่าลูกสาว
ตนจะกลับกลายเป็ นหลงฉี อ๋องเสี ยหัวปั กหัวปา เนื่องด้วยอีกฝ่ ายแม้จะดูเป็ นบุรุษที่ดี
แต่ ก็ มี ส่ ว นที่ น่ า สงสัย ไม่ น้อ ย สุ ด ท้า ยจึ ง ต้อ งเอ่ ย เตื อ นด้ว ยความหวัง ดี อ อกไป
“อย่าได้ไว้ใจเขาให้มากนัก ถึงอย่างไรเขาก็ยงั เป็ นพี่นอ้ งแท้ ๆ กับฮ่องเต้องค์ปัจจุบนั
และเป็ นลูกชายแท้ ๆ ของสตรี ผนู ้ ้ นั เจ้าลืมไปแล้วรึ ไงกัน”
คาพูดที่ได้ยนิ นั้นทาให้องค์หญิงอวี้เหมยต้องรี บย้อนแย้งแม่ของตน “ท่าน
อ๋ องไม่ได้รู้เรื่ องเหล่านั้น ไม่มีทางที่ เขาจะกลายเป็ นคนเช่นนั้นได้ อีกทั้งเขายังไม่
เคยสนใจแม่แท้ ๆ ของตนมิใช่หรื อ”
เนื่ องจากนางเป็ นคนที่รู้เรื่ องเกี่ยวกับความจริ งที่เกิดเรื่ องวุน่ วายในปี นั้น
และได้เห็นเบื้องลึกเบื้องหลังของสาเหตุที่ทาให้ฮ่องเต้ของอีกฝ่ ายโกรธเกลียดแคว้น
ของตนมากับตา แต่เพราะจาได้วา่ ฉี อ๋องที่เป็ นพี่ชายแท้ ๆ ของฮ่องเต้น้ นั ไม่เคยมา
ที่นี่หรื อรับรู ้เรื่ องราวเหล่านี้ เลย อีกทั้งตอนที่ไปอยูใ่ นวังของเขาก็เห็นว่าเขาเคารพ
แต่ไทเฮาที่ พ่ ึงสิ้ นใจไปไม่กี่ปีซึ่ งเป็ นคนที่ เลี้ ยงดู เขากับฮ่องเต้มามากแค่ไหน จึ ง
ค่อนข้างมัน่ ใจในความคิดของตนที่วา่ เขาไม่รู้เรื่ องใด ๆ นัน่ เอง
ไม่นานนักองค์หญิงอวี้เหมยก็กล่าวยืนยันกับแม่ของตนขึ้นอีกครั้ง “เสด็จ
แม่ท่านอ๋ องเป็ นคนดีจริ ง ๆ ”
ด้านฮองเฮาแคว้นเหลียงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตอ้ งพูดเสี ยงอ่อนลงอย่างจน
ใจ “ถ้าเป็ นเช่นนั้นก็ดี” แม้ดวงตาจะยังดูราวกับครุ่ นคิดสิ่ งใดไว้ จนกระทัง่ ผ่านไป
ไม่ น านก็ ถ ามลู กสาวตนเองขึ้ น อี ก ครั้ งว่า “ว่า แต่ … เหมยเอ๋ อ เจ้า ไม่ มี วี่แ ววว่าจะ
ตั้งครรภ์เลยรึ ”

113
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาถามที่ได้ยินทาให้องค์หญิงอวี้เหมยมีสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมา “อาจจะเพราะ
ก่อนหน้านี้ ขา้ โดนคนของฮ่องเต้กรอกยาไปเป็ นจานวนมาก จึงทาให้มีผลข้างเคียง
อยูบ่ า้ ง” แล้วจึงพูดให้แม่ของตนสบายใจออกไปว่า “แต่ช่วงนี้ ท่านอ๋ องให้คนทายา
บารุ งมาให้ขา้ บ่อย ๆ อีกไม่นานต้องมีข่าวดีแน่นอน”
ได้ยินเช่นนั้นฮองเฮาแคว้นเหลียงก็ยิ้มพึงพอใจ “งั้นก็ดี” ทั้งยังกล่าวชื่ น
ชมฉี อ๋องออกไป “ยังดี ที่ฉีอ๋องให้คนส่ งข่าวคราวจากเจ้ามาติ ดต่อพ่อกับแม่บา้ ง
ไม่เช่นนั้นแม่คงไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าเลย”
ประโยคที่พ่ งึ ได้ยินนั้นทาให้องค์หญิงอวี้เหมยดีใจไม่นอ้ ย ด้วยไม่นึกว่าฉี
อ๋ องจะยอมส่ งจดหมายที่ นางเขียนเก็บไว้มาให้ครอบครัวของนางจริ ง ๆ ทั้ง ๆ ที่
ความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นช่วงนี้ ไม่ดีเท่าใดนัก เมื่อทั้งสองฝ่ ายต่างไม่กล้าตี กัน
เพราะต่างฝ่ ายต่างมีตวั ประกันชั้นดี เพียงแต่คราวก่อนที่แคว้นเหลียงพ่ายแพ้น้ นั เป็ น
เพราะว่าไม่นึกว่าฮ่องเต้จะให้คนตีกลับเต็มกาลัง โดยไม่สนใจว่าแม่แท้ ๆ ของตนยัง
อยูก่ บั ฝั่งนี้เลยเท่านั้นเอง
หลังจากองค์หญิงอวี้เหมยที่คุยกับแม่ของตนไปได้สกั พัก ก็เปลี่ยนเป็ นเข้า
ไปคุยในห้องกันอย่างส่ วนตัวเพื่อที่จะได้ไม่มีใครรบกวนหลังจากไม่ได้พบหน้ากัน
มานานแทน
ยามที่องค์หญิงอวี้เหมยมัน่ ใจแล้วจริ ง ๆ ว่ารอบด้านไม่มีผใู ้ ดแอบฟังอยู่ ก็
พูดตรงประเด็นขึ้นมาว่า “เสด็จแม่ขา้ มีเรื่ องอยากจะบอกท่าน…”
สี หน้าและท่าทางขององค์หญิงอวี้เหมยที่เปลี่ยนไปในพริ บตานั้น ทาให้
ฮองเฮาแคว้นเหลียงเริ่ มจะดูเคร่ งเครี ยด ก่อนจะได้ยินองค์หญิงอวี้เหมยพยายามพูด

114
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เสี ยงเบาออกมาว่า “ตอนอยู่ในวังที่ตา้ หลิงข้ารู ้สึกเหมือนข้าเห็ น…เด็กคนนั้นยังมี


ชีวติ อยู”่
องค์หญิ งอวี้เหมยที่ นึกว่าแม่ของตนจะตกใจนั้น ต้องมี สีหน้าแปลกใจ
ในทันที เมื่ออีกฝ่ ายยังมี ท่าทีสุขุมเช่นเดิม “แม่รู้เรื่ องนั้นแล้ว” คาพูดที่ได้ยินนั้นทา
ให้นางต้องถามกลับไปด้วยสี หน้างงงวย “เสด็จแม่รู้ได้อย่างไร”
ด้านฮองเฮาแคว้นเหลียงพอได้ยินคาถามของลูกสาวตน ก็พูดอย่างคนมี
ประสบการณ์มากกว่าออกมา “เจ้าคิดว่าแม่ของเจ้าเป็ นใครกัน” พูดจบก็อธิ บาย
ต่อไป “ตอนนี้ มีความเป็ นไปได้สูงว่านัน่ คือเด็กคนนั้นจริ ง ๆ นึ กไม่ถึงว่าจะยังไม่
ยอมตายตามแม่ของนางไป”
องค์หญิงอวี้เหมยเมื่อได้ยินเช่นนั้น แม้จะไม่เข้าใจว่าแม่ของตนรู ้เมื่อไหร่
หรื อหาข่าวพวกนี้ มาจากไหน ก็ตอ้ งถามด้วยสี หน้ากังวลใจกลับไปเล็กน้อย “เสด็จ
แม่ ถ ้า เช่ น นั้น เราจะท าอย่า งไรกันดี เ พราะหากเสด็จพ่อ รู ้ เรื่ องนี้ เ ข้า ล่ ะก็ จะต้อง
กลับมาเอา…”
ยังไม่รอให้องค์หญิงอวี้เหมยพูดจบฮองเฮาแคว้นเหลียงก็พูดแทรกขึ้นมา
เสี ยก่อน “ต่อให้พ่อของเจ้ารู ้เรื่ องนี้ แล้วจะช่วยนางยังไงเล่า ตอนนี้ นางเป็ นถึงพระ
สนมตาแหน่งสู งแห่ งต้าหลิง การรอดชีวิตในวังหลังคงไม่ง่ายนักในยามที่ตาแหน่ง
ฮองเฮายังว่างอยูแ่ บบนี้”
พูดถึงตรงนี้ น้ าเสี ยงก็ดูจะเปลี่ยนเป็ นยิม้ เยาะเล็กน้อย “อีกอย่างต่อให้พ่อ
ของเจ้ารู ้ แต่จะรับได้ง้ นั หรื อ”

115
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยินเช่ นนั้นองค์หญิ งอวี้เหมยก็ยิ้มชั่วร้ายอย่างเห็ นด้วยกับแม่ของตน


ขึ้ นมาทันที ก่ อนจะชะงักค้างไปยามที่ ได้ยินคาพูดประโยคถัดไปจากแม่ของตน
ขึ้นมา “แม่วา่ คงจะล่ มจมกันทั้งหมดเสี ยมากกว่า”
รอยยกยิม้ มุมปากที่ยากจะคาดเดานั้นทาเอาองค์หญิงอวี้เหมยรู ้สึกไม่แน่ใจ
ในความหมายที่ถูกซ่อนไว้ จนต้องเรี ยกอีกฝ่ ายเสี ยงเบาออกไป “เสด็จแม่…”
ด้านฮองเฮาแคว้นเหลียงเมื่อได้ยิ นเช่นนั้นก็หันกลับมายิ้มให้ลูกสาวตน
เล็กน้อย “เหมยเอ๋ อ เจ้าต้องรี บมีลูกชายรู ้หรื อไม่” ฮองเฮาแคว้นเหลียงกล่าวด้วย
น้ าเสี ยงอวยพรอย่างหวังดีไม่นอ้ ย จนทาให้องค์หญิงอวี้เหมยดูอารมณ์ดีอย่างเห็นได้
ชัด ด้วยเข้าใจว่าแม่ของตนอยากให้ตนมีชีวติ ที่ดี
ไม่นานนักฮองเฮาแคว้นเหลียงก็พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “ยามนี้ แม่มีแค่เจ้าคน
เดี ยว แต่ถา้ วันหน้าเจ้ามีลูกชายและกลับมาที่ นี่เมื่อไหร่ …” พูดถึงตรงนี้ นางก็เว้น
ช่วงไปราวกับนึ กถึงอะไรบางอย่าง ขณะที่ดวงตาคู่น้ นั ดูจะซ่อนแผนการบางอย่าง
ไว้ในใจตอนที่จะพูดประโยคถัดไปออกมา “แม่จะให้ลูกของเจ้าได้อยูใ่ นตาแหน่งที่
ดีที่สุดแน่นอน”

ด้านฝ่ ายจักรพรรดิแคว้นเหลียงกับฉี อ๋องที่คุยเรื่ อยเปื่ อยด้วยกันไปเรื่ อยนั้น


ก็เริ่ มจะเข้าเรื่ องที่ต่างฝ่ ายต่างอยากพูดถึงขึ้นมาแล้ว เมื่อองค์จกั รพรรดิ พูดขึ้นมาว่า
“หากไม่ได้เจ้าส่งข่าวคราวมาบอก ข้าคงไม่รู้ความเป็ นอยูข่ องลูกสาวตนเองเป็ นแน่”
ฉี อ๋องเมื่อได้ยินช่นนั้นก็ยมิ้ ตอบกลับไปอย่างถ่อมตน “องค์จกั รพรรดิ ถือ
เป็ นพ่อตาของข้า เรื่ องเล็กน้อยเท่านี้อย่าได้เกรงใจ”

116
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาตอบนั้นทาให้จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงหัวเราะขึ้นมา “ดีที่ได้เจ้าดูแลอวี้


เหมยในยามนี้จริ ง ๆ ” ก่อนจะหยุดหันมามองด้วยสายตาที่รู้ทนั เล็กน้อย แล้วพูดเป็ น
นัยออกไป “อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ตอ้ งมีเรื่ องเสื่ อมเสี ยหลุดออกไปมากกว่าเดิม”
เมื่อฉี อ๋องเห็นองค์จกั รพรรดิ ที่ดูจะรู ้ความเป็ นอยู่ลูกสาวตนดี แต่กลับไม่
ถือสาหาความเขาเลยแม้แต่น้อยนั้น ก็พอจะรู ้แล้วว่าคนตรงหน้าไม่ได้เป็ นห่ วงลูก
สาวแท้ ๆ ของตนผูน้ ้ ีสกั เท่าไร
ไม่นานนักจักรพรรดิแคว้นเหลียงก็พดู ถามขึ้นอีกครั้ง “เจ้าจะไม่ไปพบกับ
นางสักหน่อยเรอะ” ทั้งยังมองไปทางฉี อ๋องอย่างลองเชิงเล็กน้อย แต่ฉีอ๋องที่เข้าใจ
ความหมายนั้นดีก็เพียงแค่ถามกลับมาด้วยสี หน้าไม่เข้าใจเท่านั้น “องค์จกั รพรรดิพดู
ถึงใครกัน”
ท่าทางของฉี อ๋องทาให้จกั รพรรดิแคว้นเหลียงต้องยกยิม้ ขึ้น เมื่อเห็นว่าเขา
ดูจะไม่สนใจชี วิตความเป็ นอยูข่ องมารดาแท้ ๆ ของตนเลย จึ งทาเป็ นเปลี่ยนเรื่ อง
เพื่อลองตรวจดู ท่าทางของเขาอี กครั้ งแทน “ช่ างเถิ ด ๆ ว่าแต่ขา้ ผิดหวังจริ ง ๆ ที่
ฮ่องเต้ของพวกเจ้าไม่ได้มาด้วยตนเอง” พูดจบยังเอ่ยด้วยความเสี ยดายตามมาอี ก
เล็กน้อยว่า “ทั้ง ๆ ที่ชอบส่งของมาให้นางเป็ นประจา”
ฉี อ๋องที่ เข้าใจดีว่าอีกฝ่ ายหมายถึงแม่แท้ ๆ ของพวกตนที่ไม่ได้เลี้ยงพวก
ตนทั้งสองคนมา แต่น้องชายของตนก็ยงั คงยึดติดกับแม่แท้ ๆ ผูน้ ้ ี น้ นั ได้แต่ตอบ
กลับไปด้วยรอยยิม้ ลาบากใจที่ดูยากจะคาดเดาน้อย ๆ “ฝ่ าบาทยุง่ อยูจ่ ึงไม่อาจปลีก
ตัวมาได้” ทั้งยังต้องพูดด้วยน้ าเสี ยงแปลกใจว่า “ข้าเองก็พ่ งึ จะรู ้วา่ เขาชอบส่งของมา
ให้นางเช่นกัน”

117
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาพูดนั้นทาให้จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงต้องมีสีหน้าประหลาดใจเช่นกัน


แต่เพียงไม่นานนักก็กลับมาทาเป็ นพูดด้วยสี หน้าเสี ยดายที่ฮ่องเต้ของอีกฝ่ ายไม่ยอม
มาที่นี่ดว้ ยตนเอง พร้อมกับน้ าเสี ยงเรี ยบ ๆ เรื่ อย ๆ เช่นเดิม
“หากเขาไม่มาก็ไม่เป็ นไร ข้าจะไปเยี่ยมเยียนเขาด้วยตนเอง จะได้ดูเสี ย
หน่อยว่าลูกสาวข้ามีความเป็ นอยูเ่ ช่นไร” พูดจบก็หันมามองทางฉี อ๋องเล็กน้อยแล้ว
ยกยิม้ มีเลศนัยขึ้นมา พลางพูดว่า “คงต้องรบกวนเจ้าให้ส่งข่าวคราวไปบอกทางนั้น
ให้ที”
ฉี อ๋องแม้จะเห็นรอยยิม้ ที่มีเลศนัยเช่นนั้น ก็ยงั ต้องคงรอยยิม้ ตอบกลับไป
อย่างเจ้าบ้านที่ดี “ฝ่ าบาทต้องยินดีกบั การเยีย่ มเยียนของท่านเป็ นแน่” ก่อนจะถามถึง
วันเวลาด้วยน้ าเสี ยงราวกับสนอกสนใจ “องค์จกั รพรรดิต้ งั ใจจะไปเมื่อใดกัน”
ได้ยินเช่นนั้นจักรพรรดิ แคว้นเหลียงก็ยกยิ้มขึ้นมา ก่อนจะตอบกลับไป
อย่างชัดถ้อยชัดคาถึงแผนที่วางไว้ หลังจากที่ช่วงนี้ ได้ข่าวคราวความเป็ นอยูข่ องลูก
สาวตน
“ข้ ำจะไปพรุ่งนีเ้ ลย”

***************************************

118
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 35 สู ญสิ้น

หลังจากคณะทูตของต้าหลิ งไปเยือนแคว้นเหลี ยงได้ไม่กี่วนั ก็มีสาส์ น


ส่ งกลับมาจากฉี อ๋องว่า จักรพรรดิ แคว้นเหลียงจะมาเยือนแคว้นต้าหลิงด้วยตนเอง
จนต้อ งรี บ เตรี ย มการกัน จนวุ่นวายเสี ย ยกใหญ่ ด้ว ยไม่ นึ ก ว่า อี ก ฝ่ ายจะมาอย่าง
ฉุกละหุกเช่นนี้
แต่คนที่ตอ้ งยุง่ กับการเตรี ยมงานเลี้ยงต้อนรับมากที่สุด ก็มีเพียงฮุ่ยกุย้ เฟย
ที่ มีตาแหน่ งสู งสุ ดในวังหลังในตอนนี้ เท่านั้น ในทางกลับกันสาหรับเหยียนหยิน
ในตอนนี้ แล้ว สิ่ งที่ น่าแปลกใจกว่าก็คือ การที่ ฮุ่ยกุย้ เฟยซึ่ งควรจะยุ่งอยู่กบั การไป
ต้อนรับคณะฑูตที่มาพร้อมกับจักรพรรดิ แคว้นเหลียงนั้น จู่ ๆ ก็มาอยูท่ ี่ตาหนักตน
พร้อมกับสนมส่วนหนึ่งและกาลังยืนอยูต่ ่อหน้าตนด้วยใบหน้ายิม้ แย้มนัน่ เอง
“ฮุ่ยกุย้ เฟยมาหาข้ามีเรื่ องอันใดกัน” เหยียนหยินถามออกไปด้วยสี หน้า
สงสัย ก่ อนที่ ฮุ่ยกุ้ยเฟยจะยิ้มตอบกลับมาว่า “ข้าจะชวนเจ้าไปต้อนรั บ จักรพรรดิ
แคว้นเหลียงพร้อมกับพี่สาวน้องสาวในวังหลังอย่างไรเล่า”

119
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เพราะท่ า ทางของฝ่ ายตรงข้า มดู แ ปลก ๆ ท าให้เ หยีย นหยินเลื อ กที่ จะ


พยายามปฏิเสธฝ่ ายตรงข้ามไปเสี ยนาน แต่สุดท้ายก็ตอ้ งแพ้เสี ยงข้างมากที่ฮุ่ยกุย้ เฟย
พามาด้วย เมื่อพระสนมเหล่านั้นต่างพากันพูดเป็ นนัยออกมาว่า ในเมื่อทุกคนไป
ต้อนรับคณะฑูตแคว้นเหลียงด้วยกันแล้วนางจะไม่ไปได้อย่างไรกัน หรื อก็คือการ
บอกเป็ นนัยว่านางมี อานาจมาจากที่ ใดที่ จะปฎิ เสธฮุ่ยกุ้ยเฟยที่ มีตาแหน่ งสู งกว่า
นัน่ เอง
หลังจากเหยียนหยินได้แต่จนใจเดินไปพร้อมกับฮุ่ยกุย้ เฟยและเหล่าพระ
สนม กลุ่มของพวกนางก็เจอเข้ากับฮ่องเต้ที่กาลังจะไปรอรับจักรพรรดิแคว้นเหลียง
พอดี
“ถวายบังคมเพคะฝ่ าบาท” เหล่าพระสนมต่างพากันย่อกายคานับบุรุษ
เบื้องหน้าลงอย่างพร้อมเพรี ยงกัน ฝ่ ายฮ่องเต้ที่เดิมทีก็ดูจะไม่ได้อารมณ์ดีเท่าไหร่ อยู่
แล้วนั้นพอเห็นสี สันแสบตาจากชุดและการแต่งกายของเหล่าพระสนมเบื้องหน้า ก็
มีน้ าเสี ยงไม่สบอารมณ์เล็กน้อย “พวกเจ้ามาทาอะไรที่นี่ ” ก่อนที่สายตาของเขาจะ
ไปหยุดอยู่ที่เหยียนหยินซึ่ งยืนอยู่เบื้องหลังพระสนมเหล่านี้ อยู่ครู่ หนึ่ ง แล้วคิ้วทั้ง
สองข้างก็พากันย่นเข้าหากันทันที
ฮุ่ยกุย้ เฟยที่ สังเกตเห็ นท่าทางของฮ่องเต้ จึ งรี บเดิ นหน้าขึ้นมาพูดอธิ บาย
ด้วยน้ าเสี ยงอ่อนหวานว่า “หม่อมฉันคิ ดว่าจะพาพวกนางไปต้อนรั บ จักรพรรดิ
แคว้นเหลียงและคณะฑูตด้วยกันเพคะ ถึงอย่างไรนี่ก็เป็ นงานสาคัญ…”
ฮุ่ยกุย้ เฟยพูดยังไม่ทนั จบฮ่องเต้ก็พูดตัดบทนางขึ้นมาเสี ยก่อน “ให้พวก
นางกลับไปซะ คนเยอะไปไม่ดีเท่าไหร่ ”

120
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

การที่ โดนฮ่องเต้พูดอย่างไม่ไว้หน้าเช่นนี้ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยรู ้สึกสะอึกไป


ก่อนจะเห็ นบุรุษเบื้องหน้าหันมายิม้ ให้กบั นางอย่างนุ่ มนวลราวกับจะกลบเกลื่อน
แทน “สาหรับข้าเจ้าอยูค่ นเดียวก็พอแล้ว”
รอยยิม้ และท่วงท่าอบอุ่นอ่อนโยนของเขา ทาให้นางได้แต่ตอบรับออกไป
อย่างไม่รู้ตวั ว่า “เพคะ”
หลังจากนั้นเหยียนหยินและพระสนมคนอื่น ๆ ก็แยกย้ายกลับตาหนักของ
ตนตามคาสั่งของฮ่องเต้ แต่ตอนที่กาลังจะหมุนตัวเดินกลับไปนั้น เหยียนหยินก็อด
ไม่ได้ที่จะต้องหันมามองโอรสสวรรค์ในชุดสูงศักดิ์เล็กน้อย ด้วยรู ้สึกว่าสายตาที่เขา
มองมาที่ นางเมื่อกี้ ราวกับกังวลสิ่ งใด แต่เมื่อเห็นเขากลับไปมีท่วงท่าเฉกเช่นปกติ
ขณะพูดคุยกับฮุ่ยกุย้ เฟยแล้ว ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาพลางคิดว่าตนคงจะคิดมาก
ไปเอง

หลังจากฮ่องเต้เดินออกมาจากส่ วนชั้นในของวังหลวง ยามนี้ เขาจึงกาลัง


ยืนอยูห่ น้าบันไดเก้ามังกร รอต้อนรับขบวนของจักรพรรดิแคว้นเหลียงและคณะฑูต
ที่กาลังข้ามผ่านประตูช้ นั นอกเข้ามา
ขบวนที่เห็นออกไม่ไกลนั้นดูยิ่งใหญ่ท้ งั ยังแข็งแกร่ งราวกับจะโอ้อวด จน
อดไม่ได้ที่จะยิม้ หยันในใจ ด้วยคิดว่าอีกฝ่ ายแม้จะแพ้สงครามแต่ก็ดูไม่คิดจะยอม
อ่อนข้อแม้แต่นอ้ ย ทันทีที่จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงมาหยุดอยูเ่ บื้องหน้า ฮ่องเต้ก็ตอ้ ง
กล่าวต้อนรับออกไปให้ตนยังคงดูเป็ นเจ้าบ้านที่ดี
“เป็ นเกียรติจริ ง ๆ ที่องค์จกั รพรรดิมาเยีย่ มเยียนแคว้นต้าหลิงด้วยตนเอง”

121
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฝ่ ายจักรพรรดิ แคว้นเหลี ยงนั้น พอได้ยินคาพูดต้อนรั บด้วยใบหน้า ยิ้ม


เหมือนไม่ยมิ้ และไร้ซ่ ึงความจริ งใจใด ๆ แล้ว ก็ได้แต่หวั เราะเบา ๆ กล่าวออกไปว่า
“ฝ่ าบาทกล่าวชมมากไป ข้าแค่มาเยีย่ มเยียนเพื่อแสดงความจริ งใจเท่านั้นเอง”
หากมองผ่านสายตาของผูค้ นภายนอก การสนทนาของบุรุษทั้งสองคงจะดู
เป็ นไปได้ดว้ ยดี แต่ในความเป็ นจริ งนั้นมิได้เป็ นเช่นนั้นเลย
ไม่นานนักองค์จกั รพรรดิ ก็สังเกตเห็นฮุ่ยกุย้ เฟยจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง “นี่ คง
จะเป็ นฮุ่ยกุย้ เฟยที่ผคู ้ นร่ าลือกันใช่หรื อไม่” พูดจบเขาก็ยกยิม้ ขึ้นมาพลางกล่าวชื่ น
ชมออกไป “ข้าได้ยิน คนร่ า ลื อ กัน ว่า พระสนมของแคว้น ต้า หลิ ง ล้ว นงดงามดั่ง
เทพธิดา ดูแล้วคงจะเป็ นเรื่ องจริ ง”
ฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มน้อย ๆ พลางกล่าวตอบรับเชิ งขบขัน ว่า
“องค์จักรพรรดิ ก ล่ า วชมเกิ น ไปแล้ว เที ย บกับ พี่ ส าวน้อ งสาวในวัง หลัง ข้า ยัง ดู
ธรรมดาอยูม่ าก”
คาพูดประโยคนั้นทาให้แววตาของจักรพรรดิ แคว้นเหลียงมีประกายไหล
ผ่านวาบ ก่อนจะพูดเชิงล้อเล่นออกมาว่า “ฮุ่ยกุย้ เฟยพูดเช่นนี้ ทาให้ขา้ อยากเห็นพวก
นางซะจริ ง”
สิ่ งที่จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงพึ่งพูดมานั้น ทาให้สายตาของฮ่องเต้คมกริ บ
ขึ้นมาเล็กน้อยขณะเหลือบมองไปทางฮุ่ยกุย้ เฟยที่เหมือนจะเผลอพูดเช่นนั้นออกไป
โดยไม่ได้คิดหรื อมีเจตนาใด ๆ นัน่ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยที่สมั ผัสได้ถึงสายตาคมกริ บเพียง
ชัว่ ครู่ ที่มองมาทางตนนั้น ต้องรี บเปลี่ยนเรื่ องอย่างเป็ นธรรมชาติออกไปแทน “ทาง
เราจัดงานเลี้ ยงต้อนรั บให้องค์จกั รพรรดิ ในคื นพระจันทร์ เต็มดวงในอี กสามวัน
ข้างหน้า หวังว่าองค์จกั รพรรดิจะทรงพึงพอใจ”

122
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

“ข้าย่อมพึงพอใจแน่นอน” จักรพรรดิ แคว้นเหลียงตอบด้วยรอยยิม้ มีเลศ


นัย
ฮ่องเต้ซ่ ึ งเห็นว่าการต้อนรับก็จบลงด้วยดีแล้ว ทั้งยังรู ้สึกว่าไม่ควรให้คน
สองคนที่ อ ยู่ใ กล้เ ขาได้พูด คุ ย กัน ต่ อ ไป จะพู ด ตัด บทขึ้ น มาว่า “องค์จักรพรรดิ
เดินทางมาคงจะเหน็ดเหนื่อยไม่นอ้ ย เรื อนรับรองถูกจัดเตรี ยมไว้แล้วเชิญพวกท่าน
พักได้ตามสบาย”
ยามที่ ขบวนของจักรพรรดิ แคว้นเหลียงและคณะทูตจากไปจนหมดแล้ว
ฮุ่ยกุย้ เฟยก็หนั มาจะพูดกับฮ่องเต้อีกครั้ง “ฝ่ าบาท…” แต่นางยังไม่ทนั พูดสิ่ งใด เขาก็
ยิม้ อ่อนโยนพูดแทรกขึ้นมาเสี ยก่อนว่า “เจ้าทาหน้าที่ได้ดีจริ ง ๆ กลับไปพักผ่อนสัก
หน่อยเถิด”
พูดจบฮ่องเต้ก็หมุนตัวเดินจากไป โดยไม่คิดจะรอฟังคาพูดเพิ่มเติมใด ๆ
จากฮุ่ยกุย้ เฟยอีกเลย นัน่ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยได้แต่กาผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น แม้จะยังคง
รอยยิ้มบาง ๆ ไว้บนใบหน้า แต่ในใจนางก็รู้ดีว่า บุรุษสู งศักดิ์เบื้องหน้าตนที่กาลัง
เดินจากไปนั้น
ต่อให้ฉากหน้ายังดู เหมื อนเดิ มเช่ นไร แต่ในใจเขาย่อมระแวงนางแล้ว
แน่นอน!
.............................

ด้านเหยียนหยินที่กาลังพักผ่อนอยูใ่ นตาหนักของตน พอตกเย็นมาก็ตอ้ งมี


สี หน้าแปลกใจไม่น้อยเมื่ อ กั๋ว กงกงให้ขนั ที น้อยส่ งข่ าวมาบอกที่ ตาหนักนางว่า
ฮ่องเต้จะเสด็จมาในคืนนี้ นั่นทาให้เยว่อิ๋งที่ ยืนอยู่ขา้ งกาย แกล้งถามออกมาอย่าง

123
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ลัง เล “พระสนมคื น นี้ ฝ่ าบาทจะเสด็ จ มานะเพคะ เปลี่ ย นเป็ นใส่ ชุ ด อื่ น เลยดี
หรื อไม่…”
ใบหน้าที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่ากาลังคิดสิ่ งใดของเยว่อิ๋ง ทาให้เหยียน
หยินอดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวตาหนิ ออกไป “เจ้ากาลังคิดสิ่ งใดกัน” เหยียนหยินพูด
จบไปได้ไม่นาน เสี ยงอันคุน้ เคยของฮ่องเต้ก็ดงั แทรกขึ้นมาเสี ยแล้ว
“แล้วเจ้าเล่ากาลังคิดสิ่ งใด”
พอเหยียนหยินและเหล่านางกานัลในตาหนักเห็นฮ่องเต่ที่กาลังเดินเข้ามา
ก็ตอ้ งรี บลุกขึ้นมาทาความเคารพชายเบื้องหน้าทันที แต่อีกฝ่ ายก็รีบเข้ามาห้ามนาง
ไว้เสี ยก่อน “ไม่ตอ้ งมากพิธี”
เห็ นเช่นนั้นเหล่าข้ารับใช้ในตาหนักก็พากันถอยห่ างออกไปอย่างรู ้ งาน
จนเมื่ออยู่กนั เพียงลาพังสองคนแล้ว เหยียนหยินก็รินชาให้ชายเบื้ องหน้า ก่อนจะ
ถามขึ้นด้วยความแปลกใจเล็กน้อยว่า “ทรงกังวลเรื่ องใดอยูเ่ พคะ”
ที่ถามเช่นนั้นก็เพราะนางเห็นท่าทางของเขาแปลก ๆ ตั้งแต่ตอนที่พบกัน
ก่อนหน้า อีกทั้งเขายังมาหานางก่อนเวลาที่เขาให้คนแจ้งไว้เช่นนี้นนั่ เอง
ฝ่ ายฮ่องเต้เมื่อเห็นนางสังเกตได้อย่างง่ายดาย ก็ยิม้ อบอุ่นออกมาไม่นอ้ ย
พลางดึงนางเข้ามานัง่ ตักตนทั้งยังกอดนางอย่างรักใคร่ ไว้ แล้วค่อยบอกให้นางสบาย
ใจออกไป “ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่งานเลี้ยงต้อนรับเจ้าจะไปเข้าร่ วมรึ เปล่า”
ก่อนจะได้ยนิ นางตอบกลับมาว่า “ตามหน้าที่แล้วหม่อมฉันต้องไปเพคะ”
คาตอบนั้นทาให้เขาก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วจึงกล่าวเชิ งหยอกเย้าออกมา
“งั้นเหรอ ข้าไม่อยากให้ใครเห็นเจ้าเลยจริ ง ๆ ”

124
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เหยียนหยินที่ ตกอยู่ในอ้อมกอดของคนเบื้ องหลังรู ้สึกจัก๊ จี้ เล็กน้อย เมื่อ


ใบหน้าของเขาเข้ามาซุ กไซ้กบั นางราวกับจะแกล้งกัน “ฝ่ าบาท…” นางเรี ยกเขา
อย่างบางเบาได้ไม่นาน เขาก็หมุนหน้านางให้หนั ไปหาพลางถามด้วยรอยยิม้ มีสเน่ห์
ว่า “ไหน ๆ ข้าก็มาแล้ว เจ้าทาหน้าที่ของตนเองอีกสักคืนดีหรื อไม่”
เหยียนหยินที่ เห็ นว่าวันนี้ เขามีท่าที แปลก ๆ นั้นได้แต่พยักหน้าตอบรั บ
ด้วยใบหน้าแดงระเรื่ อ เพราะถึงอย่างไรนัน่ ก็เป็ นหน้าที่ที่นางควรจะทาตามอยูแ่ ล้ว
ผ่านไปไม่นานท่ามกลางแสงเที ยนอันเบาบางในค่ าคื นนั้น คนสองคน
กาลังบรรเลงเพลงรักกันอย่างเร่ าร้อน เสี ยงที่เกิดจากการกระแทกกระทั้นกันดังเบา
ๆ อยูภ่ ายในห้องที่มีเพียงคนสองคน ขณะที่เงาของร่ างสองร่ างที่ขยับเขยื้อนอยูน่ ้ นั
ก็สนั่ ไหวไปตามจังหวะโยกคลอนของคนตัวเล็กที่หลุดเสี ยงร้องครางออกมา
เมื่อคนทั้งสองไปถึงฝั่งฝัน ฮ่องเต้ก็ขยับกายถอยออกไป แต่ก็ดูจะยังไม่ได้
อยากหยุดมอบความสุ ขให้ร่างบาง ๆ เบื้องล่างเสี ยเท่าไหร่ เมื่อเขายังคงเข้าไปปลุก
ปั่ นไฟปรารถนาในตัวนางที่ยงั ไม่ทนั จางหายไปให้มากขึ้นกว่าเดิม
สุ ดท้ายค่ าคืนนั้นเหยียนหยินก็ตอ้ งเหนื่ อยล้าไปเสี ยหลายครั้งหลายครา
จนร่ างกายแทบสิ้นไร้เรี่ ยวแรง

ช่วงเวลาเช้ามืดในวันถัดมา ฮ่องเต้ซ่ ึ งพึ่งจะแต่งตัวเสร็ จและเตรี ยมตัวจะ


ออกไปจากตาหนักนั้น ต้องเดินเข้ามาดูสตรี ที่นอนอยูบ่ นเตียง ซึ่งกาลังสะลึมสะลือ
ขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะอมยิ้มพูดออกไปว่า “คืนนี้ ขา้ จะมาใหม่ หวังว่าเจ้าคงจะไม่
เหนื่อยมากจนเกินไป เพราะคืนนี้ขา้ ไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่นอน” พูดจบเขาก็เดิน
จากไปเพื่อเตรี ยมเข้าว่าราชการในยามเช้านัน่ เอง

125
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ทันที ที่เหยียนหยินตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าเบื้ องนอกเริ่ มจะมี แสงแดด


สาดส่ องเข้ามาแล้ว จึ งหันไปถามเยว่อิ๋งที่ กาลังเตรี ยมชุดคลุมให้นางจากเบื้องข้าง
ทันที “ฝ่ าบาทเล่า” ก่อนจะได้รับคาตอบจากเยว่อิ๋งที่มีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยตอบ
กลับมาว่า “ออกไปตั้งแต่ยามอิ๋น(1) แล้วเพคะ”
คาตอบที่ ได้ยินนั้นทาให้คิ้วของเหยียนหยินย่นเข้าหากัน สักพักจึ งถาม
ออกไป “ฝ่ าบาทได้รับสัง่ สิ่ งใดไว้รึเปล่า” ไม่นานนักเยว่อิ๋งก็ตอบกลับมาว่า “ทรง
บอกว่าคืนนี้จะมาอีกเพคะ”
ได้ยินเช่ นนั้นเหยียนหยินก็เข้าใจได้ในทันที ว่าคาพูดที่ ได้ยินตอนสะลึ
มสื อเมื่อเช้านั้น มิได้เป็ นเพียงแค่นางฝันไป ว่าแต่เหตุใดจู่ ๆ เขาจึ งพยายามมาหา
นางบ่อย และคิดจะให้นางปรนนิ บตั ิเขาติด ๆ กันเช่นนี้ กนั นั่นดูไม่เหมือนเขาใน
ยามปกติเลย เมื่อตั้งแต่คืนที่นางอยูก่ บั เขาซึ่งเมามายไม่ได้สติครานั้น เขาก็ดูจะไม่คิด
ฝื นใจนางในเรื่ องพวกนี้เลย
เวลาล่วงเลยไปจนกระทัง่ พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน เหยียนหยินที่นงั่ เล่นอยู่
ในตาหนักจนพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปอีกครั้ง ก็เห็นบุรุษที่แสนจะคุน้ เคยเดินยิม้
เข้ามาในตาหนักของนางเช่นเดิม
“เจ้ารอข้าอยูใ่ ช่หรื อไม่”
เหยียนหยินที่เห็นเขาเข้ามาทั้งยังไล่พวกข้ารับใช้ออกไปอย่างรวดเร็ วเช่น
เคย ต้องถามด้วยความแปลกใจเล็กน้อยออกไป “ฝ่ าบาทเหตุใดจึงมาติด ๆ กันเช่นนี้
เพคะ”
ฝ่ ายฮ่องเต้ที่กาลังเดินเข้ามาหานางนั้นนิ่ งเงียบไปชัว่ ครู่ หนึ่ง ก่อนจะเพียง
แค่ยมิ้ ตอบกลับมา “ข้าจะมาหาสนมคนโปรดของตนเองมันผิดหรื ออย่างไรกัน”

(1) ยามอิ๋น คือประมาณ 3:00 – 4:59 น. 126


เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

พูดจบเขาก็อุม้ นางขึ้นจนนางตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะทาเช่นนี้ จนต้อง


รี บจับเขาไว้ทนั ที แต่เขาก็เพียงแค่กระซิ บพูดบางเบาออกมาว่า “หวังว่าเจ้าจะยังมี
แรงเหลือมากพอ”
สิ้ นเสี ยงนั้นเขาก็วางนางลงบนเตียงทั้งยังขึ้นมาคร่ อมนางไว้ ทาให้เหยียน
หยินต้องรี บร้องห้ามความใจร้อนของเขา “เดี๋ยวก่อน…” แต่นางพูดยังไม่ทนั จบ เขา
ก็เริ่ มลูบไล้ไปตามกายนางจนเสื้ อผ้าของนางเริ่ มจะหลุดลุ่ยออกไปเสี ยแล้ว ยามที่ริม
ฝี ปากของเขาบีบเม้มลงเบา ๆ ตรงใบหูของนางก็ตอ้ งสะดุง้ ขึ้นมาเล็กน้อย “อ๊ะ!“
ไม่ น านนัก ฮ่ องเต้ก็ แกล้งถามนางที่ ดูไ ม่ยินยอมด้ว ยน้ า เสี ย งราวกับจะ
น้อยใจว่า “ตามใจข้าอี กสักคื นไม่ไ ด้รึอ ย่างไรกัน ” ก่ อนจะยิ้มมี สเน่ ห์ขณะถาม
ออกมาว่า “คืนพรุ่ งนี้ขา้ ก็จะมาอีก เจ้าคงจะรับไหวใช่หรื อไม่”
เหยียนหยินที่รู้สึกว่าเขาแปลก ๆ ได้แต่พยายามผลักเขาออกเบา ๆ แต่ก็ดู
เหมื อ นจะไม่ เ ป็ นผลเลย สุ ด ท้า ยก็ ต ้อ งถามเสี ย งสั่น ขณะที่ เ ขาพยายามปลุ ก ปั่ น
อารมณ์ของนางออกไป “ฝ่ าบาท…พระองค์ทรงกาลังคิดสิ่ งใดกัน” แต่เมื่อเห็นเขา
ไม่คิดจะหยุดทั้งยังยัว่ เย้านางมากกว่าเดิมแล้ว ก็ตอ้ งถามถึงความคิดหนึ่ งที่แวบเข้า
มาในหัวออกไปอย่างลังเลใจไม่นอ้ ย “หรื อว่าท่านอยากจะมี…เด็ก”
คาพูดที่ได้ยนิ นั้น ทาให้ฮ่องเต้ยอมยกศีรษะขึ้นมาจากซอกคอขาวของนาง
แล้วหัวเราะขบขันกับความคิดที่คาดไม่ถึงของนางออกมา
แค่เห็นเขาที่หัวเราะไม่หยุดจนตัวงอเหยียนหยินก็อดไม่ได้ที่จะต้องหน้า
แดงมากกว่าเดิม
“เด็ก ๆ งั้นเรอะ เป็ นความคิดที่ดีจริ ง ๆ ”

127
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

พูดจบเขาก็หันมาถามด้วยรอยยิม้ กระหยิ่มยิม้ ย่องว่า “ถ้าเช่นนั้นข้าจะมา


หาเจ้าให้บ่อยอีกสักหน่อย เจ้าจะได้มีเด็ก ๆ มาวิง่ เล่นด้วยดีหรื อไม่”
เหยียนหยินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบแย้งขึ้นมาทันที “ทรงกาลังคิดสิ่ งใดกัน
เพคะ!” ก่อนจะได้ยินเขาเอ่ยอย่างเอาแต่ใจออกมา “ข้าแค่อยากให้เจ้าตามใจข้าเท่า
นั้นเอง”
พูดจบเขาก็กม้ ลงบรรเลงเพลงรักกับนางอีกครั้ง ก่อนที่ ค่ าคืนนั้นจะผ่าน
ไปโดยที่นางเหนื่อยไม่ได้นอ้ ยไปกว่าค่าคืนก่อนหน้าเลย
จนกระทัง่ เหยียนหยินที่สลบไสลเพราะความเหนื่ อยล้าได้ตื่นมาในยาม
เช้าวันถัดมา ก็พบกับใบหน้าอันแสนคุน้ เคยของเยว่อิ๋งเช่นเดิม
“พระสนมตื่นแล้วหรื อเพคะ”
“ฝ่ าบาทเล่ า ” เหยีย นหยิน ถามออกไป ก่ อ นที่ เยว่อิ๋ ง จะตอบกลับมาว่า
“ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วเพคะ”
ทันที ที่ได้ยินเช่ นนั้นคิ้วของเหยียนหยินก็ตอ้ งขมวดมุ่นเข้าหากัน ทั้ง ๆ
ที่นี่ก็ดูจะเป็ นเรื่ องปกติที่มกั จะพบได้ทวั่ ไปในชีวิตของพระสนมเช่นนางในวังหลัง
แต่ไม่รู้ทาไมถึงรู ้สึกว่ามันน่าแปลกเสี ยจริ ง อีกอย่างเขามาหานางบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ควร
จะสนใจจักรพรรดิแคว้นเหลียงกับคณะฑูตมากกว่าเช่นนี้ จะไม่โดนข่าวลือเสี ยหาย
เล่นงานเอาหรื อไง
ไม่นานนักเสี ยงของเยว่อิ๋งก็ดงั พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “พระสนมคือว่าตอนนี้
ด้านนอก มีข่าวลือเกี่ ยวกับฝ่ าบาทไม่ดีเท่าใดนัก พวกเขาบอกว่าทรงไม่สนใจงาน
ราชกิจเพราะทรงเสด็จมาวังหลังทุกคืน แล้วก็คืนนี้…”

128
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ได้ยนิ เพียงเท่านั้นเหยียนหยินก็พอจะทายบางอย่างออก ว่าเขาต้องบอกว่า


จะมาในคืนนี้อีกเป็ นแน่ หากเขาทาเช่นเดิมนางต้องสิ้นไร้เรี่ ยวแรงจริ ง ๆ เป็ นแน่แท้
อีกอย่างพรุ่ งนี้ก็จะเป็ นงานเลี้ยงต้อนรับแล้ว หากเขายังมัวแต่มาที่นี่จะไม่มีข่าวเสื่ อม
เสี ยออกมามากกว่าเดิมหรื ออย่างไร เมื่อพอจะทายได้แล้วว่าอีกฝ่ ายกาลังคิดจะทา
อะไร เหยียนหยินก็ยมิ้ บางเบาหันมาพูดกับเยว่อิ๋งทันที
“เจ้าเตรี ยมอะไรให้ขา้ หน่อยได้หรื อไม่”
เยว่อิ๋งเมื่ อเห็ นว่าจู่ ๆ พระสนมของตนก็มีท่าที เปลี่ ยนไป ตั้งตัวไม่ทัน
เล็กน้อย “อะ เอ๋ …เพคะ” แต่ทนั ที่ รับฟั งคาขอจากพระสนมเบื้องหน้าแล้ว สี หน้า
ของนางก็ตอ้ งดูตกใจมากกว่าเดิม

ผ่านไปไม่ถึงชั่วยามหลังจากเหยียนหยินสั่งเยว่อิ๋งให้ไปเตรี ยมบางสิ่ ง
ให้กบั ตน ตอนนี้ เหยียนหยินจึงกาลังอยู่ในชุดคลุมเพื่อเตรี ยมจะอาบน้ า ขณะมอง
อ่างน้ าที่มีกลีบดอกไม้มากมายเบื้องหน้าอยู่ ส่วนเยว่อิ๋งเมื่อช่วยนางถอดชุดคลุมออก
แล้วก็ตอ้ งถามด้วยน้ าเสี ยงลังเลออกมาไม่นอ้ ย “พระสนมน้ าเย็นขนาดนี้จะดีหรื อเพ
คะ ยิง่ อากาศหนาวเช่นนี้ดว้ ยแล้ว…”
“แค่เย็นนิ ดหน่อยเท่านั้น” เหยียนหยินตอบก่อนจะเข้าไปนัง่ แช่ในอ่างน้ า
นั้นอย่างไม่ลงั เล จริ ง ๆ น้ าก็ไม่ได้เย็นมาก เพียงแค่ไม่ได้อุ่นพอที่จะให้ความอบอุ่น
กับร่ างกายในฤดูหนาวเช่นนี้ เท่านั้นเอง ไม่นานนักเหยียนหยินก็ค่อย ๆ หลับตาลง
เพื่อแช่น้ าอย่างสบายอารมณ์ต่อไป
เยว่อิ๋งเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ตอ้ งถามอย่างไม่เข้าใจขึ้นมา “พระสนมตั้งใจจะทา
สิ่ งใดเพคะ”

129
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ก่อนที่ เหยียนหยินจะตอบกลับไปว่า “ข้ากาลังหาทางป้ องกันตนเองอยู่


แล้วก็ทาให้ใครบางคนไม่เดือดร้อนไปด้วยเท่านั้น”
พูดจบนางก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะสั่งนางกานัลคนสนิทข้าง
กายตน “ข้าอยากผ่อนคลายความเมื่อยล้าในตัวเท่านั้น ให้ขา้ ได้แช่น้ าสบาย ๆ เช่นนี้
อีกสักนิดก็พอ”
ได้ยินเช่นนั้น เยว่อิ๋งก็ได้แต่ยืนเฝ้าอยูเ่ งียบ ๆโดยไม่กล้าเอ่ยสิ่ งใด จนเวลา
ล่วงผ่านไปเกือบครึ่ งชัว่ ยาม จึงต้องถามพระสนมของตนที่ยงั คงหลับตาพริ้ มนอน
แช่น้ าออกไปด้วยความเป็ นห่ วงอีกครั้งนัน่ เอง “พระสนมทรงแช่น้ านานเกิ นไปรึ
เปล่าเพคะ”
เหยียนหยินเมื่อได้ยนิ เช่นนั้นก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะรู ้สึกวิงเวียนจน
ต้องเรี ยกเยว่อิ๋งออกไป “พยุงข้าออกไปที…”
พอเห็นเยว่อิ๋งมีสีหน้ามึนงงเล็กน้อย จึงต้องพูดออกไปว่า “ข้าแค่รู้สึกหน้า
มืดขึ้นมา” ได้ยินเช่นนั้นเยว่อิ๋งก็ตอ้ งพูดเสี ยงดุออกมาแทน “เห็นไหมเพคะ หม่อม
ฉันบอกไปแล้วว่าทรงแช่น้ านานเกินไป”
โดนนางกานัลคนสนิทของตนดุเช่นนี้ ทาให้เหยียนหยินอดหัวเราะน้อย ๆ
ออกมาไม่ได้ ก่อนจะสัง่ อีกฝ่ ายออกไปว่า “เจ้าไปเรี ยกหมอหลวงมาที”
แต่พอเห็ นอีกฝ่ ายหันมามองด้วยสี หน้ามึนงงมากกว่าเดิ มแล้ว ก็พูดเสี ยง
กาชับอย่างจริ งจังกลับไปอีกครั้ง “บอกว่าข้าโดนอากาศเย็นมากเกิ นไปจึงรู ้สึกไม่
ค่อยดี อยากให้ลองมาตรวจดูเข้าใจรึ ไม่”
นั่นทาให้เยว่อิ๋งที่ เดิ มที คิดตามไม่ทนั นั้นพอจะเริ่ มเข้าใจขึ้นมาบ้าง เมื่อ
เห็นพระสนมเบื้องหน้าจงใจสัง่ ให้ตนไปทางานนี้ดว้ ยตนเอง

130
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

พอเห็ นเยว่อิ๋งมีสีหน้าเข้าใจ เหยียนหยินก็ยิ้มขึ้นน้อย ๆ แล้วจึ งสั่งต่อไป


“เจ้าไปตามหมอหลวง แล้วก็ให้คนอื่นเข้ามาช่วยข้าแต่งตัวแล้วกัน”
“เข้าใจแล้วเพคะ” เยว่อิ๋งตอบรับก่อนจะเดินออกจากตาหนัก ทาให้เหยียน
หยินที่อยูใ่ นชุดคลุมผืนบางขณะนัง่ รออยูใ่ นห้องของตนนั้นต้องครุ่ นคิดออกไปว่า
นางแช่ น้ า นานพอที่ จ ะท าให้ แ ผนการของตนส าเร็ จ หรื อ ไม่ หรื อ ควรจะท าให้
มากกว่านี้เพื่อให้ดูสมจริ งมากกว่าเดิมกัน คิดได้ไม่ทนั ไรเหล่านางกานัลก็เข้ามาช่วย
นางแต่งตัวตามคาสัง่ ที่ฝากเยว่อิ๋งบอกไปเสี ยแล้ว
ทันทีที่เยว่อิ๋งกลับมาจากการไปตามหมอหลวงด้วยตนเองนั้น เหยียนหยิน
ก็แต่งตัวเสร็ จไปนานแล้ว ยามนี้นางจึงกาลังนัง่ มองบรรยากาศภายนอกข้างหน้าต่าง
ที่ถูกเปิ ดแง้มไว้เล็กน้อย
เหยีย นหยินหันมามองผูม้ าใหม่ ไ ด้ไ ม่ น าน เสี ย งต าหนิ ข องเยว่อิ๋ งก็ดัง
ขึ้นมาตาม “พระสนมเหตุใดจึงยังมานัง่ เล่นอยูข่ า้ งหน้าต่างเช่นนี้เพคะ”
ท่าทางตาหนิ อย่างเห็นได้ชดั นั้นทาให้เหยียนหยินต้องถอนหายใจน้อย ๆ
ตอบกลับไปว่า “ข้าไม่มีอะไรทา เลยอยากมองบรรยากาศรอบด้านเท่านั้น”
เยว่อิ๋งได้ยินเช่นนั้นก็รีบร้อนหันมาเร่ งหมอหลวงทันที “ท่านหมอหลวง
รี บ ตรวจอาการพระสนมเถิ ด ” ทั้ง ยัง รี บ เดิ น ไปปิ ดหน้า ต่ า งที่ นาอากาศเย็น จาก
ภายนอกเข้ามาลง พร้อมกับบ่นเบา ๆ
ฝ่ ายหมอหลวงเมื่อเห็ นสถานการณ์เบื้องหน้า ก็อดที่ จะวิเคราะห์ออกมา
ไม่ได้วา่ พระสนมเบื้องหน้าก็ดูจะเป็ นคนดื้อรั้นนิด ๆอยูไ่ ม่นอ้ ย จึงไม่น่าแปลกที่จะ
ตากไอเย็นจนหน้ามื ดแล้วไปเรี ยกเขามาเช่ นนี้ จนกระทั่งหมอหลวงตรวจเสร็ จ
เยว่อิ๋งก็รีบถามขึ้นมาอีกครั้ง “ท่านหมอหลวงพระสนมเป็ นเช่นไรบ้าง”

131
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยนิ เช่นนั้นหมอหลวงก็ได้แต่ถอนหายใจ พลางพูดว่า “เหยียนเฟยรับไอ


เย็นมากเกินไป ช่วงนี้ ควรจะพักผ่อนแล้วก็อย่าออกไปโดนอากาศด้านนอกมาก ข้า
จะสั่งยาที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย” พูดจบยังส่ ายหัวไปมาอย่างจนใจ เอ่ย
เตื อนพระสนมเบื้ องหน้าตน “เหยียนเฟยควรจะฟั งคาพูดของนางกานัลให้ม าก
ร่ างกายของเหยียนเฟยค่อนข้างอ่อนแอ ทรงมิควรจะตากอากาศเย็นมากจนเกินไป
เช่นนี้จริ ง ๆ”
คาพูดที่ได้ยนิ ทาให้เหยียนหยินได้แต่ยมิ้ เบาบาง “ขอบคุณท่านหมอหลวง
ครั้งนี้ลาบากท่านแล้ว”
หลังจากนั้นก็ให้คนไปส่ งหมอหลวงกลับไป พอทั้งห้องกลับไปเหลื อ
เพียงนางกับเยว่อิ๋งเช่นเดิมอีกครั้ง เยว่อิ๋งก็ถามอย่างเสี ยงเบาด้วยกลัวใครจะได้ยิน
“พระสนมจะไม่ทาเกินไปหน่อยเหรอเพคะ ถึงกับต้องทรงทาร้ายตนเองเช่นนี้ …”
เหยียนหยินเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ ายรู ้แล้วว่าตนจงใจแกล้ งป่ วย จึงพูดอย่างจนใจ
ออกมาว่า “ไม่อย่างนั้นคนเหล่านั้นจะเชื่อจริ ง ๆ ได้อย่างไรเล่า”
ใช่แล้ว…สาเหตุที่นางจงใจทาให้ตนเองเหมือนป่ วยเช่นนี้ ก็เพื่อหลีกเลี่ยง
ไม่ให้ฮ่องเต้มาหา และหลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอ้ งไปงานเลี้ยงต้อนรับซึ่งน่าจะเป็ นสาเหตุ
ที่เขามาหานางและพยายามทาให้นางหมดแรงเสี ยให้ได้อยูท่ ุกคืนนัน่ เอง แม้จะไม่รู้
ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงไม่อยากให้นางไปงานเลี้ยงนั้นก็ตาม อต่ในเมื่อเขาตั้งใจมาหา
นางติด ๆ กันจนยอมให้ตนเองเกิดข่าวลือเสี ยหายตามมาเช่นนี้ จะให้นางปล่อยให้
เขาทาเช่นนั้นต่อไปได้อย่างไรเล่า สุดท้ายจึงได้ตดั สิ นใจแกล้งป่ วยเสี ยเลย

132
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

หลังจากหมอหลวงจากไปไม่ถึงครึ่ งชัว่ ยาม แขกที่เหยียนหยินคิดไว้แล้ว


ว่าจะต้องมา ก็เดินเข้ามาในตาหนักด้วยสี หน้าเป็ นห่ วงเป็ นใย “เหยียนเฟยเป็ นเช่น
ไรบ้าง” นัน่ คือคาถามแรกจากฮุ่ยกุย้ เฟยที่ดูเร่ งร้อนมาด้วยความจริ งใจยิง่ นัก
“ข้าได้ข่าวว่าเจ้าไม่สบายเท่าใด”
พอเห็นสี หน้าลองเชิงถามของฮุ่ยกุย้ เฟยแล้ว เหยียนหยินที่นงั่ พักอยูท่ ้ งั ยัง
มีผา้ คลุมผืนใหญ่หลายผืนห่มคลุมไว้ ก็ตอบกลับไปด้วยเสี ยงที่บางเบาว่า “เพียงแค่
โดนไอเย็นมากไปเท่านั้น หมอหลวงบอกว่าให้หลีกเลี่ยงการโดนอากาศด้านนอกเพ
คะ…”
ฮุ่ยกุย้ เฟยได้ยินเช่นนั้นก็รีบยิม้ ยินดีออกมา ก่อนจะกล่าวให้กาลังใจ “ยังดี
ที่ไม่ได้หนักหนาเท่าไร เพียงแค่พกั ผ่อนกินยาให้มาก ๆ เจ้าก็คงจะหายดีได้เป็ นแน่”
แต่เหยียนหยินก็ทอดถอนใจออกมาเสี ยก่อนว่า “ต่อให้ยาจะดีแค่ไหนก็คงจะมิได้
หายในเร็ ววันเป็ นแน่เพคะ ถึงอย่างไรนี่ก็ยงั เป็ นหน้าหนาวที่มีหิมะปกคลุมไม่นอ้ ย”
คาพูดของเหยียนหยินนั้น ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยเริ่ มจะเข้าใจเจตนาของนางได้
ในทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของนางจึ งแข็งค้างไป สุ ดท้ายก็ได้แต่พูดอย่างเข้าอก
เข้าใจออกมา “ในเมื่ออาการเจ้าไม่ดีเช่นนี้ ก็พกั ผ่อนอยู่ที่นี่ก็แล้วกันเรื่ องงานเลี้ยง
คืนพรุ่ งนี้ก็ปล่อยไปก่อนเถอะ ข้าจะอธิบายกับฝ่ าบาทให้เอง”
หลังจากนั้นฮุ่ยกุย้ เฟยก็มิได้อยูพ่ ดู คุยต่อ เพียงแค่บอกลากลับไปโดยอ้างว่า
มีงานที่ตอ้ งเตรี ยมอีกมาก เห็นเช่นนั้นเหยียนหยินก็พอจะโล่งใจขึ้นมาบ้าง ไม่นาน
นักเสี ยงของเยว่อิ๋งก็ดงั ขึ้นมาแทน “พระสนมแล้วที่ฝ่าบาทจะมาคืนนี้…”

133
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยินเท่านั้นเหยียนหยินก็ครุ่ นคิดเล็กน้อย ก่ อนจะตอบกลับเสี ยงเรี ยบ


“ส่ งคนไปบอกกัว๋ กงกงว่าข้าไม่สะดวกให้ฝ่าบาทมา เพราะเกรงว่าพระองค์จะติด
หวัดเอาได้”
ถึงแม้ฮุ่ยกุย้ เฟยบอกว่าจะบอกฮ่องเต้ให้ แต่นางก็คิดว่าส่ งคนของตนไป
บอกด้วยจะดีกว่า เผื่อว่าอีกฝ่ ายเปลี่ยนแปลงคาพูดจนความหมายผิดแผกไปจะได้ไม่
เกิดเรื่ องขึ้น
แม้เยว่อิ๋งพอจะเข้าใจในความคิดของพระสนมตนแล้วก็ยงั อดถามออกไป
ไม่ได้วา่ “ทาเช่นนี้ จะไม่เป็ นอะไรจริ ง ๆ หรื อเพคะ” ก่อนที่เหยียนหยินจะยิม้ น้อย
ๆ ให้กบั คาถามที่ได้ยนิ นั้น แล้วตอบอย่างชัดถ้อยชัดคาด้วยเสี ยงอันบางเบา
“เจ้าส่งคนไปบอกเถอะ ฝ่ าบาทจะเข้าใจในสิ่ งที่ขา้ ทาเอง”

***************************************

134
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 36 ถลำลึก

ท่ามกลางงานเลี้ยงต้อนรับจักรพรรดิ แคว้นเหลียงและเหล่าคณะฑูต ที่แม้


จะถูกจัดอย่างยิง่ ใหญ่แต่ก็ยงั คงดูเหมาะสมและชวนให้จิตใจรู ้สึกผ่อนคลายนั้น
ภายในงานเลี้ยงที่ดาเนิ นมาได้ชวั่ ครู่ หนึ่งนั้น ฮุ่ยกุย้ เฟยที่เป็ นผูร้ ับผิดชอบ
จัดงานนี้ กาลังยิม้ ทักทายเหล่าแขกเหรื่ อในงาน ก่อนจะได้ยินเสี ยงกระซิ บรายงาน
จากนางกานัลข้างกาย จึงเดินไปหาผูม้ าใหม่ที่กาลังจะเข้างานมา “ฝ่ าบาท เหยียนเฟย
ไม่สบายเล็กน้อยจึงมาไม่ได้เพคะ”
ทันทีที่ฮ่องเต้ได้ยนิ คาพูดประโยคแรกจากสตรี เบื้องหน้า ที่กาลังย่อกายทา
ความเคารพตนตามธรรมเนี ยมอยู่น้ นั เขาก็ตอ้ งมีสีหน้าแปลกใจขึ้นมาทันที “นาง
เป็ นเป็ นเช่นไรบ้าง”

135
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ท่ าทางที่ เพียงแค่แปลกใจของฮ่องเต้ก็ชวนให้ฮุ่ยกุ้ยเฟยต้องรู ้ สึกงุ น งง


เล็กน้อย ด้วยนางคาดการณ์ไว้วา่ เขาน่าจะรู ้ข่าวนี้ ต้ งั แต่เมื่อวานแล้ว เพราะหลังจาก
นางออกจากตาหนักหย่งโซ่ วกงมาไม่นาน เหยียนเฟยก็ส่งคนของตนไปบอกเขา
มิใช่หรื อ นางจึ งได้เลือกที่ จะยังไม่รายงานสิ่ งใดเพื่อรอดูท่าที ของอีกฝ่ ายก่อน ถึง
อย่างนั้นทุกอย่างกลับนิ่งเงียบราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย
แต่สิ่งที่ผิดคาดของนางยิง่ ไปกว่านั้นก็คือ เมื่อวานนี้บุรุษเบื้องหน้ามิได้ไป
หาเหยียนเฟยเลย
นี่ หรื อว่าฮ่องเต้เพียงแค่ลุ่มหลงในเล่ห์กลและการยัว่ ยวนของเหยียนเฟย
เท่านั้น ที่เขาไปหานางทุกคืนก็เพราะเสน่หาแต่กลับมิได้มีความผูกพันจริ ง ๆ หรื อ
อย่างไร หรื อจะเป็ นเพราะเขาเริ่ มเบื่อหน่ายดอกไม้ดอกนี้ แล้วกัน ในเมื่อไม่วา่ จะกี่
ครั้ งที่ มี พ ระสนมเข้า มาใหม่ ผ่า นไปถึ ง จุ ด ๆ หนึ่ ง พวกนางก็ อ าจจะหมดความ
น่าสนใจและถูกหลงลืมเช่นนี้อยูด่ ี…
นัน่ คือความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวของฮุ่ยกุย้ เฟย เพียงแต่ความคิดนั้นก็ดูจะ
ขัดแย้งกับความเป็ นจริ งในหลาย ๆ ครั้งที่ นางสังเกตได้ดว้ ยตนเอง แต่หากตอนนี้
เป็ นช่วงที่ฮ่องเต้เริ่ มจะเบื่อเหยียนเฟยจริ งแล้วล่ะก็ นางก็อาจจะโชคดีมีคู่ต่อสู ้ในวัง
หลังลดลงไปเองก็ได้
ไม่นานนักฮุ่ยกุย้ เฟยก็ตอบคาถามเมื่อกี้ของฮ่องเต้กลับไป “หมอหลวงมา
ตรวจดูแล้ว ตอนนี้ กาลังพักผ่อนอยู่ในตาหนักเพคะ” ก่อนที่ ฮ่องเต้จะเพียงแค่พยัก
หน้าเป็ นเชิงรับรู ้ แล้วหันมายิม้ อบอุ่นพูดกับนางว่า "เช่นนั้นก็ดีแล้ว เข้าไปในงาน
กันเถอะ"

136
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ยามที่ฮุ่ยกุย้ เฟยมองไปทึ่มือของอีกฝ่ ายที่กาลังกอบกุมมือของตนไว้อย่าง


ทะนุถนอมนั้น ก็ตอ้ งยิม้ หวานขึ้นไม่นอ้ ยก่อนจะเอ่ยตอบรับกลับไป "เพคะ" พูดจบ
คนทั้งสองก็เดินกุมมือเข้าไปในงานด้วยกันอย่างสง่างาม
ยามที่ ง านเลี้ ย งต้อ นรั บ ดาเนิ น ไปได้จะสองชั่ว ยามแล้ว นั้น จักรพรรดิ
แคว้นเหลียงที่ดูจะอารมณ์ดีจากการแสดงของเหล่านางรา และการพูดคุยกับคนรอบ
ข้างอย่างถูกอกถูกคอ ก็หนั มาพูดกับฮุ่ยกุย้ เฟยด้วยน้ าเสี ยงชื่นชมว่า “งานเลี้ยงนี้ช่าง
จัดได้ดีจริ ง ๆ ” ก่อนจะหันไปมองทางฉี อ๋องและองค์หญิงอวี้เหมยในฝั่งตรงข้ามซึ่ง
มาร่ วมงานเลี้ ยงครั้ งนี้ เช่ นกัน “การได้เห็ นลูกสาวข้าเองก็ดูมีความสุ ขดี เช่ นนี้ ก็
นับว่าเป็ นเรื่ องดีเช่นกัน”
“องค์ห ญิ ง เป็ นคนส าคัญ แคว้น ของเราจะไม่ ดู แ ลนางเป็ นอย่า งดี ไ ด้
อย่างไร” ฮ่องเต้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ ขณะมองไปทางพี่ชายตนและองค์
หญิงอวี้เหมยที่ดูรักใคร่ กนั ปรองดองกันนั้น จักรพรรดิ แคว้นเหลียงได้ยินเช่นนั้นก็
พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะเปลี่ยนเรื่ องเป็ นเสนอขึ้นว่า “ไหน ๆ ข้าก็มาต้าหลิงทั้งที
แล้ว เหตุใดเราจึงไม่ไปล่าสัตว์ดว้ ยกันเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างแคว้นดูเล่า”
ค าพู ด เสนอที่ ร าวกั บ พึ่ งจะฉุ ก คิ ด ขึ้ นมานั้ นท าให้ ฮ่ อ งเต้แ ปลกใจ
เล็กน้อย “ล่าสัตว์ง้ นั รึ ” แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ ายดูจะไม่มีเล่ห์กลใด ๆ ซ่อนไว้จึงตอบตกลง
ออกไป โดยให้ฝ่ายตนเป็ นผูจ้ ดั เตรี ยมทุกอย่างเอง “ย่อมได้ ข้าจะให้คนจัดเตรี ยม
สถานที่ไว้ทนั ที”
เขาพูดจบเพียงไม่นาน จักรพรรดิ แคว้นเหลียงก็มีสีหน้าราวกับพึ่งนึ กสิ่ ง
ใดได้ข้ ึ น มา “จริ ง สิ หนึ่ ง ในพระสนมของข้า ก าลัง เดิ น ทางมาเพราะอยากความ
งดงามของต้าหลิง หากจะพานางไปล่าสัตว์ดว้ ยคงไม่เป็ นอะไร…” สายตาที่ มอง

137
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ถามอย่างหยัง่ เชิ งของจักรพรรดิ แคว้นเหลียงนั้นทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งยิ้มเย็นในใจไม่


น้อย แม้ว่าในความเป็ นจริ งจะยังคงทาสี หน้าเป็ นมิ ตรตอบอย่างใจกว้างออกไป
ว่า “แคว้นของข้าย่อมยินดีตอ้ นรับคนของท่านแน่นอน”
ได้ยินฮ่องเต้พูดเช่นนั้น จัดพรรดิ แคว้นเหลียงก็ยกยิ้มมีเลศนัยขึ้นมา “มี
หญิงงามคอยเฝ้ามองเคียงข้างเช่นนี้ บุรุษอย่างพวกเราคงไม่อาจทาเป็ นเล่นให้ขาย
หน้าได้แล้ว” ก่อนจะหัวเราะอย่างอารมณ์ดีข้ ึนเสี ยงดัง
คาพูดนั้นทาให้ฮ่องเต้ได้แต่อมยิม้ น้อย ๆ เท่านั้น เพราะนัน่ หมายความว่า
เขาก็ตอ้ งหาหญิงงามไปงานล่าสัตว์ครั้งนี้ดว้ ยใช่หรื อไม่ เพียงแต่ควรจะเอาผูใ้ ดไปดี
เล่า คิ ดได้เท่านั้นก็พูดคุยกับอี กฝ่ ายต่อไปเพื่อให้งานเลี้ ยงต้อนรั บครั้งนี้ จบลงได้
ด้วยดี
.............................

ขณะที่งานเลี้ยงดาเนินไปจนดึกดื่นและพึ่งจะจบลงไปได้ไม่นาน
ด้านเหยียนหยินที่ ยงั คงอยูใ่ นตาหนักของตนก็กาลังนัง่ อิงไออุ่นจากเตาผิง
อยู่ ท่าทางที่พยายามดึงผ้าคลุมผืนหนาให้กระชับเข้ามากับตัวของนาง ทาให้เยว่อิ๋งที่
กาลังเติมถ่านในเตาผิงอยูน่ ้ นั อดพูดขึ้นมาไม่ได้วา่ “พระสนมครั้งนี้ทามากไปจริ ง ๆ
นะเพคะ”
คาพูดเชิงตาหนิ น้ นั ทาให้เหยียนหยินอดไม่ได้ที่จะอมยิม้ น้อย ๆ “แค่เป็ น
หวัดนิดหน่อยเท่านั้น ไม่นานก็คงหายแล้ว”
แต่ พูด จบได้เ พี ย งไม่ น านก็ ต ้อ งไอออกมา ท าให้เ หยีย นหยิน ได้แต่คิด
ขบขันให้ตนเองว่า ดูเหมือนนางจะแกล้งป่ วยจนได้ป่วยเข้าจริ ง ๆ

138
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ยังไม่ทนั ได้พูดอะไรต่อเสี ยงอันคุน้ เคยของฮ่องเต้ก็ดงั ขึ้นมาเสี ยก่อน “เจ้า


ควรจะฟังนางกานัลของตนบ้าง”
พอเห็นเขาจู่ ๆ ก็เข้ามาไม่บอกไม่กล่าวเช่นนี้ อีกแล้ว เหยียนหยินก็ได้แต่
ส่ายหัวไปมาพลางเรี ยกอีกฝ่ ายเสี ยงเบา “ฝ่ าบาท…”
ไม่นานนักฮ่องเต้ก็นั่งลงตรงข้ามนาง ถึ งตอนนี้ เหล่าบ่ าวรับใช้ก็พากัน
ออกไปหมดอย่างรู ้งาน เขาจึ งเอามื อมาอุ่นกับเตาพิงแล้วแกล้งไปชนมื อนางเล่น
บ้าง ทาเอาเหยียนหยินต้องพยายามขยับมือหนีออกด้วยกลัวว่าเขาอาจจะติดหวัดจาก
นางได้
เห็นนางทาท่าเช่นนั้นฮ่องเต้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะชอบใจเบา ๆ “เป็ นเช่น
ไรบ้าง ทาไมจู่ ๆ ถึงเป็ นหวัดได้”
“หม่อมฉันตากอากาศเย็นมากเกินไปเพคะ” เหยียนหยินตอบ คาตอบนั้น
ทาให้ฮ่องเต้ยมิ้ มีเลศนัยเล็กน้อย “จริ งงั้นเรอะ” คาถามจากเขาทาให้คิ้วสองข้างของ
เหยียนหยินต้องย่นเข้าหากัน “หรื อทรงคิ ดว่าหม่อมฉันจะทาให้ตนเองไม่สบาย
ขึ้นมากัน”
คาถามของนางทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งแกล้งกลอกตาไปมา ราวกับกาลังคิดถึง
ความเป็ นไปได้บางอย่างแทน “ก็อาจเป็ นไปได้” แล้วจึงพูดขึ้นต่อด้วยรอยยิม้ มีเลศ
นัยว่า “ในเมื่อนัน่ ก็เป็ นวิธีที่ พระสนมในวังหลังชอบใช้เพื่อขอความเห็นใจจากข้า
อยูบ่ ่อย ๆ ...” ก่อนจะจบลงด้วยการเขยิบใบหน้าเข้าไปหานางเล็กน้อยแล้วพูดอย่าง
อารมณ์ดีออกไป “แต่ต่อให้เจ้าไม่ทาข้าก็ยนิ ดีอยูด่ ูแลเจ้าด้วยความเต็มใจตลอดเวลา”
ได้ยินเขาพูดเช่นนั้นก็ทาให้เหยียนหยินอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงขึ้นมา “ฝ่ า
บาท…” แต่พอนึ กได้วา่ อีกฝ่ ายกาลังเขยิบใบหน้าเข้ามาใกล้คิ้วสองข้างก็ตอ้ งขมวด

139
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เข้าหากัน ก่อนจะเอี้ยวตัวถอยหนี แล้วกล่าวเสี ยงดุเล็กน้อยทันที “อย่าเข้ามาใกล้เพ


คะ เดี๋ยวจะติดหวัดจากหม่อมฉันได้”
ท่ า ทางที่ ย ากจะเห็ น ของนางท าให้ ฮ่ อ งเต้หั ว เราะอย่า งอารมณ์ ดี “ถ้า
เช่ นนั้น ข้าก็จะยอมรั บมันมาด้วยความเต็มใจ เจ้าจะได้ดูแลข้าไม่ดีรึไงกัน” เขา
พูดจาหยอกล้อยังไม่ทนั จบ ก็ทาสี หน้าราวกับพึ่งนึ กอะไรได้เสี ยก่อน “ไม่ได้สิ หาก
เป็ นหวัดพร้อมกันทั้งคู่ใครจะเป็ นฝ่ ายดูแลใครเล่า”
เห็นเขาพูดเองเออเองเช่นนี้ เหยียนหยินก็ตอ้ งส่ายหัวไปมาไม่นอ้ ย “ทรงมี
อารมณ์ขนั ยิง่ นัก”
นางพูดจบเพียงไม่นาน ก็ถูกอีกฝ่ ายอุม้ ไปวางที่เตียงเสี ยแล้ว ทั้งยังจัดการ
จัดแจงท่าทางของนางเสร็ จสรรพ จนกระทัง่ เขาห่มผ้าให้นางเสร็ จ จึงเดินไปขนเตา
ผิงมาวางใกล้ ๆ พลางนัง่ อมยิม้ มองนาง แล้วพูดเพียงแค่วา่ “พักผ่อนเถอะ ข้าจะอยู่
รอเจ้าหลับถึงจะกลับไป”
ได้ยินเช่ นนั้นเหยียนหยินที่ เดิ มที ก็ง่วงงุ น อยู่แ ล้วจึ งหลับตาลงอย่า งว่า
ง่ าย ทาให้ฮ่องเต้ที่นั่งมองนางอยู่ยิ้มบางเบาขึ้ นมา พลางคิ ด อย่างอบอุ่นในใจว่า
อยากจะนัง่ มองนางอยูเ่ ช่นนี้ไปนาน ๆ เสี ยจริ ง เพราะสาเหตุที่นางต้องป่ วยเช่นนี้น้ นั
เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร
แต่เพื่อไม่ให้ความพยายามของนางสูญเปล่าแล้ว ต่อหน้าผูอ้ ื่นเขาก็แค่ตอ้ ง
แกล้งทาเป็ นไม่ได้ห่วงนางมากจนเกินไปเท่านั้นเอง เพราะนัน่ คงเป็ นทางเดียวที่เขา
จะทาให้นางอยูใ่ นวังหลังได้โดยที่มีคนระรานน้อยลง

เช้าวันต่อมาที่ตาหนักหยางซินเตี้ยน

140
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ฝ่ ายฮ่องเต้ที่กาลังนัง่ อ่านฏีกาอยูใ่ นฮ่องทรงอักษรของตนเองนั้น ต้องเงย


หน้าขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสี ยงย่างก้าวบางเบาของสตรี ที่ดูจะคุน้ เคย ในขณะที่
ฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อเห็นว่าฮ่องเต้สงั เกตถึงการมาของตนแล้ว ก็ยมิ้ อย่างอ่อนหวานงดงาม
“ฝ่ าบาท เรื่ องการล่าสัตว์พรุ่ งนี้จะให้ใครเสด็จไปกับพระองค์ดีเพคะ”
คาถามนั้นทาให้ฮ่องเต้นิ่งเงียบไป จริ ง ๆ แล้วเขาคิดว่าจะต้องเอาใครไป
ด้วยทาไมกัน แต่เมื่ อดู เหมื อนสตรี เบื้ องหน้าคงจะไม่อยากให้แคว้นของตนเสี ย
หน้า หรื อ อาจจะเพราะมี แ ผนอะไรอยู่ใ นใจก็ ต าม เขาจึ ง ต้อ งยิ้ม อ่ อ นโยนตอบ
กลับไปว่า “ถ้าจะให้ใครสักคนไปก็ควรจะเป็ นเจ้าอยูแ่ ล้วไม่ใช่รึอย่างไร”
คาตอบนั้นทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยมีท่าทีเอียงอายเล็กน้อย “หม่อมฉันเกรงว่าหาก
ไปด้วยตนเองจะไม่มีใครคอยดูแลวังหลัง ไม่สูใ้ ห้...”
แต่ พู ด ไม่ ทั น จบ ฮ่ อ งเต้ ก็ พู ด แทรกด้ ว ยใบหน้ า เห็ นด้ ว ยขึ้ นมา
เสี ยก่อน “เป็ นเช่นที่เจ้าพูด หากเจ้าไปไม่ได้ก็ให้ผอู ้ ื่นไปแทนแล้วกัน” พูดถึงตรงนี้
เขาก็เห็นดวงตาของฮุย้ กุย้ เฟยทอประกายขึ้นมา แต่ก็เพียงแค่ชวั่ ครู่ เดียว “ในเมื่อคน
ที่ ต าแหน่ ง รองจากเจ้า คื อเหยีย นเฟย นางก็ ค วรจะไป แต่ ใ นเมื่ อ นางยังไม่หายดี
เท่าไหร่ เจ้าก็เลือกใครสักคนมาแทนนางแล้วกัน”
พอได้ฟังคาพูดประโยคสุ ดท้ายแล้วท่าทางของฮุ่ยกุย้ เฟยก็ดูชะงักไปอย่าง
เห็นได้ชดั แต่เพียงไม่นานเท่านั้นสี หน้าของนางก็กลับมาเป็ นปกติอีกครั้ง “หม่อม
ฉันเกรงว่าพี่สาวน้องสาวที่ เหลือจะไม่ใช่ตวั เลื อกที่ ดีนัก พวกนางตาแหน่ งไม่สูง
เท่าใดหากพาไปออกงานสาคัญเช่นนี้เกรงว่าจะทาให้ชื่อเสี ยงของพระองค์เสื่ อมเสี ย
ได้”

141
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยินเช่นนั้นฮ่องเต้ก็อมยิม้ น้อย ๆ “เจ้าเลือกคนที่บุคลิกดี ๆ มาสักคน ข้า


จะหาทางเลื่อนขั้นให้นางเอง” คาตอบนั้นทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยได้แต่ตอ้ งยิม้ ตอบรับอย่าง
จาใจ “เพคะ...”
สุดท้ายการสนทนาของคนทั้งสองก็จบลงเช่นนี้ โดยที่ฮ่ยุ กุย้ เฟยได้แต่เดิน
ยิ้มกลับไปไม่ว่าในใจจะไม่พอใจเพียงใดก็ตาม ในขณะที่ ฮ่องเต้ซ่ ึ งสังเกตเห็ นถึง
ท่าทางของนางเหล่านั้น หันไปสัง่ กัว๋ กงกงออกไปว่า “สัง่ คนให้จบั ตาดูฮุ่ยกุย้ เฟยกับ
คนที่เกี่ยวข้องกับนางทั้งหมดไว้ ถ้านางติดต่อกับใครหรื อมีสถานการณ์ผิดแปลกข้า
ต้องการรู ้ท้ งั หมด”
ได้ยินเพียงเท่านั้นกัว๋ กงกงก็รู้แล้วว่า ฮ่องเต้กาลังคิดว่าฮุ่ยกุย้ เฟยกาลังคิด
วางแผนทาอะไรบางอย่าง และเตรี ยมจะจัดการนางทันทีหากเกิดเรื่ องใดขึ้นก็ตาม

ยามเช้า ของวัน ถัด ไปที่ ต าหนัก หย่ง โซ่ ว กง เหยีย นหยิน ได้แ ต่ นั่ง อ่ า น
หนังสื อพร้ อมกับอิงไออุ่นจากเตาผิงในตาหนักของตนเอง เนื่ องด้วยนางไม่อาจ
ออกไปไหนได้ เพราะใครจะไปนึ กกันว่าตั้งแต่เมื่อวานตอนเช้าพอนางตื่นขึ้ นมา
เหล่ า ข้า รั บใช้ในต าหนัก จู่ ๆ ก็ ดู จ ะเข้มงวดขึ้ นมาเสี ยแล้ว แค่ น างคิ ดจะขยับตัว
ออกไปไหนนิ ดหน่อยยังเป็ นเรื่ องยากเลย ทั้งหมดนี้ ตอ้ งเป็ นเพราะใครบางคนเป็ น
คนออกคาสัง่ กาชับไว้แน่นอน
“พระสนมวันนี้ มีเรื่ องแปลกมาก ๆ เกิดขึ้นล่ะเพคะ” เสี ยงของเยว่อิ๋งที่ดงั
เข้ามาไม่ได้ช้าไปกว่าร่ างของนาง เมื่ อผ่านไปเพียงครู่ เดี ยวเท่านั้น นางกานัลคน
สนิทผูน้ ้ ีก็มาปรากฏกายอยูเ่ บื้องหน้าของเหยียนหยินแล้ว ท่าทางที่ดูราวกับอยากจะ
เล่าบางอย่างเต็มที่น้ นั ทาให้เหยียนหยินต้องถอนหายใจถามออกไป “เรื่ องอันใดกัน”

142
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ใบหน้าที่ เต็มไปด้วยคาถามของเหยียนหยิน ทาให้เยว่อิ๋งรี บเล่าออกมาว่า


“เนี่ยผินได้รับการเลื่อนขั้นเป็ นเนี่ยเฟยเพคะ”
แต่พอเห็ นสี หน้าสงสัยของพระสนมเบื้ องหน้าแล้ว เยว่อิ๋งก็ตอ้ งอธิ บาย
ต่ อ ไป “ที่ น่ า แปลกใจก็ เ พราะ นานแล้ว ที่ ไ ม่ มี ก ารเลื่ อ นขั้น ให้พ วกสนมในวัง
หลัง อีกทั้งเนี่ ยเฟยผูน้ ้ ี แม้จะมาจากตระกูลที่ดีอยูบ่ า้ ง แต่ต้ งั แต่เข้าวังมาฮ่องเต้ก็มิได้
สลักสนใจนางเท่าใด สุดท้ายนางก็ไม่ต่างจากสนมคนอื่น ๆ ที่ถูกลืมเลือน”
พอได้ยินเช่นนี้ เหยียนหยินก็ตอ้ งมีสีหน้าแปลกใจขึ้นมาจริ ง ๆ เพราะนาง
ก็พอจะจาเนี่ ยเฟยผูน้ ้ ี ได้อยู่บา้ ง เนื่ องจากอี กฝ่ ายเป็ นพระสนมที่ ถูกแต่งตั้งเข้ามา
หลังจากที่ ผมู ้ ีพระคุณของนางได้ข้ ึนเป็ นฮองเฮาไม่นาน ตระกูลเนี่ ยเองก็ไม่ถึงกับ
เป็ นขุนนางที่มีอานาจมากนัก อีกทั้งเนี่ ยเฟยผูน้ ้ ี แม้จะงดงามโดดเด่น แต่ดว้ ยนิ สยั ที่
พยายามเรี ยกร้องความสนใจจนเกินไป ทาให้ฮ่องเต้ดูจะไม่ชอบนางเท่าใด แล้วเหตุ
ใดวันนี้จึงกลับมาแต่งตั้งนางกัน คิดเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“แล้วเหตุใดฝ่ าบาทจึงเลื่อนขั้นให้นางกัน”
คาถามนั้นทาให้เยว่อิ๋งมีสีหน้าลังเลเล็กน้อย ก่อนจะยอมเล่าออกไปว่า “ว่า
กันว่า เมื่อวานนี้ ยามที่ฝ่าบาทกาลังเดินผ่านราชอุทยานก็พบกับเนี่ ยเฟยที่ กาลังเล่น
ชิงช้าอยูเ่ พคะ หม่อมฉันได้ยนิ เหล่านางกานัลที่เห็นเหตุการณ์เล่ากันว่า เสี ยงหัวเราะ
สดใสของนางทาให้ฝ่าบาททรงแปลกใจแล้วเข้าไปสนทนากันเสี ยจนถูกอกถูกคอ”
คาตอบที่ได้ยนิ นั้น ทาให้เหยียนหยินหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย ในใจได้
แต่คิดว่า สนทนาเข้ากันได้ดีเพียงเพราะได้ยนิ เสี ยงหัวเราะงั้นเรอะ ช่างเป็ นเรื่ องที่น่า
แปลกดี จ ริ ง ๆ จนกระทั่งเมื่ อ เห็ นใบหน้า ของเยว่อิ๋ง ที่ มองมาอย่า งสงสัยว่านาง
หัวเราะสิ่ งใดแล้ว เหยียนหยินก็ส่ายหัวตอบกลับไป “นับว่านางโชคดีแล้ว”

143
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เหยียนหยินตอบเพียงเท่านั้น เยว่อิ๋งก็รีบพูดต่อทันที “ใคร ๆ ก็พูดเช่นนั้น


เพคะ พวกเขาต่างบอกว่าเนี่ยเฟยช่างโชคดียงิ่ นักที่ทนั ทีที่ถูกแต่งตั้ง ฝ่ าบาทก็พานาง
ไปล่าสัตว์ดว้ ยกันทั้ง ๆ ที่ …” พูดถึงตรงนี้ เยว่อิ๋งก็นิ่งเงี ยบไปเสี ยนาน ก่อนจะพูด
เสี ยงเบาราวกับรู ้วา่ ตนเองพลาดที่พดู เรื่ องนี้ “ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็ นพระสนมที่ได้ไป”
แต่เพียงไม่นานนักสี หน้าที่กงั วลใจของเยว่อิ๋งก็กลับกลายเป็ นยกยิม้ หยอก
ล้ออย่างรวดเร็ ว “พระสนมกาลังอมยิม้ เพราะสิ่ งใดอยูเ่ พคะ หรื อจะเป็ นเพราะดีใจที่
ฝ่ าบาททรงใส่ใจจนถึงขั้นหาคนไปแทนเพคะ…” คาถามลองเชิงด้วยใบหน้าที่จงใจ
แกล้งอย่างเต็มที่น้ นั ทาให้เหยียนหยินต้องพูดคาดโทษนางกานัลคนสนิทเบื้องหน้า
ออกมาว่า “ที่แท้เจ้าก็รู้เรื่ องดี”
สักพักเยว่อิ๋งก็ราวกับจะนึกอะไรได้บางอย่าง “จริ งสิ เพคะ หลังจากฝ่ าบาท
ออกไปจากวังเพื่อไปล่าสัตว์กบั จักรพรรดิ แคว้นเหลียงแล้ว หม่อมฉันได้ยินมาว่า
องค์จกั รพรรดิ ให้คนของตนนาของกานัลมามอบให้แก่เหล่าพระสนมในวังหลัง
ด้วยเพคะ คาดว่าอีกไม่นานก็คงถึงตาหนักของพวกเรา”
สิ่ งที่ได้ยนิ ทาให้เหยียนหยินมีสีหน้าแปลกใจออกมาไม่นอ้ ย
สองนายบ่าวคุยไปได้เพียงเท่านั้น ก็มีอีกหนึ่ งนางกานัลเดินเข้ามาในห้อง
เสี ยก่อนแล้ว “พระสนม นางกานัลขององค์จกั รพรรดิส่งของกานัลจากแคว้นเหลียง
มาให้เพคะ”
นัน่ ทาให้เหยียนหยินครุ่ นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไป “ข้าจะออกไป
รับเดี๋ยวนี้”
ทันที ที่เหยียนหยินออกมาก็พบกับนางกานัลสู งอายุในชุดนางกานัลของ
แคว้นเหลียงที่ ยืนรออยู่สามคน แต่กับคนหน้าสุ ดที่ ถือกล่องไม้ยาวสลักลวดลาย

144
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

งดงามกล่องหนึ่งไว้น้ นั ไม่รู้เพราะอะไรเหยียนหยินถึงรู ้สึกราวกับจะคุน้ ตา แต่จอ้ ง


มองได้ไม่นานท่าใดสายตาของเหยียนหยินก็โดนการเคลื่อนไหวของข้ารับใช้ใน
ตาหนักที่กาลังขนของเข้ามาอยูด่ ึงไปเสี ยก่อน จึงหันกลับมายิม้ พูดให้กบั นางกานัล
เบื้องหน้าว่า “ขอบคุณเจ้ามาก ฝ่ าบาทต้องเห็นถึงความจริ งใจขององค์จกั รพรรดิเป็ น
แน่”
ได้ยนิ เหยียนหยินพูดเช่นนั้น นางกานัลที่อยูห่ น้าสุดก็เปิ ดกล่องในมือออก
พลางกล่าวอย่างนอบน้อม “เหยียนเฟยโปรดทอดพระเนตรสิ่ งของสิ่ งนี้”
ภายในกล่องนั้นคื อถ้วยชาเล็ก ๆ ที่ ถูกวาดไว้ด้วยลวดลายใบไม้ที่ปลิ ว
กระจัดกระจายอย่างดูแปลกตา เนื่ องจากนี่ ดูจะไม่ใช่งานวาดของช่างฝี มือ แต่ถึง
อย่างนั้นลวดลายของมันกลับมี เอกลักษณ์ ราวกับมี ความสุ ขเล็ก ๆ ที่ ถูกใส่ ลงไป
ตอนที่ผวู ้ าดกาลังจรดพูก่ นั วาดลวดลาย
ด้านนางกานัลสู งอายุเมื่อเห็นเหยียนหยินจ้องถ้วยชาเล็ก ๆ ถ้วยนั้นนิ่ งจึง
อธิ บายขึ้นว่า “นี่ เป็ นของที่องค์จกั รพรรดิสั่งให้ส่งให้พระสนมเป็ นการพิเศษเพคะ”
ก่อนจะยิม้ ขึ้นน้อย ๆ ดัง่ ผูม้ ีเจตนาดี “เช่นเดียวกับพระสนมท่านอื่น ๆ เช่นกัน”
คาอธิบายที่ได้ยนิ ดึงสติเหยียนหยินให้คืนกลับมาไม่นอ้ ย ในใจพลันคิดว่า
องค์จกั รพรรดิเลือกของให้พระสนมแต่ละคนให้แตกต่างกันไปเป็ นการพิเศษเช่นนี้
คงเพื่อแสดงถึ งความตั้งใจและมีเจตนาที่ สูง ส่ งเนแน่ จึ งต้องกล่าวชื่ นชมกลับไป
“งั้นรึ องค์จกั รพรรดิ ช่างใส่ ใจในของเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ยิ่งนัก นับว่าเป็ นความ
โชคดีของพวกข้าแล้ว”

145
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

แต่เมื่อเห็นถ้วยชาเล็ก ๆ ที่ชวนให้รู้สึกแปลกประหลาดเบื้องหน้าอีกครั้ง
เหยียนหยินก็อดที่จะพูดอย่างลังเลใจออกไปไม่ได้ “ข้ารู ้สึกว่ามันเป็ นสิ่ งสาคัญ ข้า
คงไม่อาจรับไว้ได้”
เห็ นท่าทีตอบปฏิเสธแบบสุ ภาพของนาง นางกานัลสู งอายุผนู ้ ้ นั ก็มิได้วา่
กล่าวสิ่ งใด แต่ก็มิได้ลดละความตั้งใจเดิ มของตนเช่นกัน “นี่ เคยเป็ นสิ่ งสาคัญต่อ
องค์จกั รพรรดิ จริ ง ๆ เพคะ มันเป็ นของที่ทาให้องค์จกั รพรรดิ ทรงนึ กถึงสตรี ที่ทรง
โปรดปรานที่สุดคนหนึ่ง”
น้ า เสี ย งแหบพร่ า ที่ อ ธิ บายออกมาหยุดนิ่ ง ไปเล็ก น้อ ย ก่ อ นจะยิ้ม ตอบ
อธิ บายต่อไปอย่างอ่อนโยนแตกต่างจากรอยยิ้มที่ดูสุภาพเมื่อกี้ไปโดยสิ้ นเชิ ง “แต่
ตอนนี้ สตรี ผนู ้ ้ นั และองค์หญิงที่ เกิดจากนางซึ่ งองค์จกั รพรรดิ ทรงรักมากก็ทรงจาก
แคว้นไปนานมากแล้วเพคะ อีกอย่างยามนี้ องค์จกั รพรรดิ ทรงมีสิ่งที่สาคัญมากกว่า
แล้ว เพราะฉะนั้นพระสนมโปรดเก็บมันไว้เถิด”
คาพูดที่ ชวนให้รู้สึกแปลกประหลาดเหล่านั้น ทาให้เหยียนหยินเริ่ มที่จะ
ลังเล ยังไม่ทนั ที่นางจะได้กล่าวสิ่ งใด เสี ยงของอีกฝ่ ายก็ดงั ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ งทันที
“บางทีการที่มนั ได้มาอยูก่ บั เหยียนเฟยที่นี่ คงนับว่าเป็ นวาสนาที่ดีของมันเอง” พูด
จบนางกานัลสู งอายุตรงหน้าก็มองไปที่ของซึ่งกาลังถูกขนเข้าตาหนักมา “ส่ วนของ
ที่เหลือเหล่านี้หวังว่าเหยียนเฟยจะยินดีรับไว้เช่นกัน”
นัน่ คือคาพูดสุ ดท้ายที่อีกฝ่ ายทิ้งไว้ ก่อนจะรี บร้อนขอตัวลาจากไปเพื่อไป
ส่ งมอบของที่ เหลือให้กบั ตาหนักอื่น ๆ ต่อไป ทาให้เหยียนหยินมีแต่ตอ้ งรับของ
เหล่านั้นทั้งหมดมา

146
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

พอผ่านไปสักพักในตาหนักก็มีการเปิ ดดู ของที่ ถูกส่ งมาเพื่อตรวจสอบ


และจัดเก็บให้ถูกต้องเสี ยก่อน เพียงแต่พ่ ึงจะเปิ ดไปได้เพียงกล่องเดียวเท่านั้น เสี ยง
ตื่นตกใจของเยว่อิ๋งก็ดงั ขึ้นมาเสี ยแล้ว “พระสนมดูนี่สิเพคะ ในกล่องใบนี้มีแต่ของดี
ๆ ทั้งนั้นเลยเพคะ แต่เหมือนจะมิใช่ของใหม่เสี ยเท่าใดนี่ มนั หมายความว่าอย่างไร
กัน…”
คาพูดที่ ได้ยินนั้นทาให้เหยียนหยินที่ เพียงนัง่ อยู่ห่าง ๆ ต้องเดิ นเข้าไปดู
ด้วยความสงสัยอย่างอดไม่ได้ แต่เมื่อเห็นเสื้ อผ้าของแคว้นเหลียงที่งดงามมากมาย
ภายในกล่องแล้วก็ตอ้ งชะงักไป ยามที่ มือเลื่อนไปเปิ ดกล่องที่เล็กลงมาด้านข้างที่
วางคู่กนั นั้นก็ตอ้ งนิ่ งเงี ยบไปอีกครั้งเมื่อห็นประกายระยิบระยับจากเครื่ องประดับ
มากมาย สิ่ งที่น่าแปลกของของเบื้องหน้านางเหล่านี้ คือการที่ของทุกชิ้นดูจะมีอายุ
มาชัว่ ครู่ หนึ่ งราวกับเคยถูกใช้งานมาแล้วนัน่ เอง แม้นี่อาจจะดูเป็ นเรื่ องน่าปกติกบั
เครื่ องประดับที่งดงามและหาได้ยากจานวนมาก แต่กบั ชุดนั้นมิใช่เช่นนั้นเลย
“พระสนมทรงเป็ นอันใดไปเพคะ” เยว่อิ๋งถามขึ้นด้วยความกังวลใจ เมื่อ
เห็ นพระสนมของตนมีท่าที แปลกไป ไม่นานนักเหยียนหยินที่ มีสีหน้าราวกับไม่
สบายใจเท่าไหร่ ก็พูดขึ้นอีกครั้ง “รี บตรวจเช็คแล้วเอาไปเก็บเถิด” คาสั่งนั้นทาให้
เหล่าข้ารับใช้ได้แต่มีสีหน้างุนงง ต่างพากันคิดว่าพระสนมของตนคงจะหวาดกลัว
ของที่ดูมีอายุเหล่านี้นนั่ เอง
พอเห็นพวกบ่าวรับใช้ต่างพากันมองมา เหยียนหยินก็ตอ้ งทาเสี ยงลาบาก
ใจเล็กน้อยพูดออกไปว่า “ข้าอยากจะพักผ่อน แต่มีของมากมายเช่นนี้ จะพักผ่อนได้
อย่างไร”

147
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาพูดเช่นนั้นจึงจะทาให้เหล่าบ่าวรับใช้เร่ งมือกันจัดเก็บของจริ ง ๆ เสี อ


ที เห็นเช่นนั้นเหยียนหยินก็กลับไปนัง่ ข้างเตาผิงเช่นเดิม ในใจได้แต่กระวนกระวาย
ด้วยคิดว่า
เหตุใดกัน นางจึ งรู ้สึกว่าสิ่ งของที่ ถูกส่ งมาทุกอย่างนั้นช่ างดูคุน้ เคยเสี ย
เหลือเกิน…

***************************************

148
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 37 อำนำจที่เปลีย่ นทำง

ท่ามกลางพื้นที่สาหรับล่าสัตว์เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี กาลังเต็มไปด้วยคน
ของทั้งสองแคว้นที่พดู คุยเพื่อโอ้อวดสิ่ งที่ตนล่ามาอย่างครึ กครื้ น
ไม่ไกลจากฮ่องเต้เท่าใด จักรพรรดิ แคว้นเหลียงกาลังควบม้าเข้ามาพลาง
กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “คิดไม่ถึงว่าวังหลังของต้าหลิงจะมีสาวงามมากมายเช่นนี้
ฮุ่ยกุย้ เฟยที่เห็นวันก่อนก็วา่ งดงามแล้ว แต่สตรี ที่ฝ่าบาทพามาผูน้ ้ ี ก็ยงั งดงามไปคน
ละแบบไม่ต่างกัน” ขณะที่พูดนั้นสายตาขององค์จกั รพรรดิก็มองไปยังสองสาวงาม
หรื อก็คือหนึ่งในสนมของตนที่ด้ นั ด้นมาจากแคว้นเหลียงและเนี่ยเฟยที่มาพร้อมกับ
ฮ่องเต้ซ่ ึ งกาลังพูดคุยกันถูกคอยิ่งนัก แล้วยกยิม้ เล็กน้อย “เพียงแต่ตระกูลของนางดู
จะไม่คุน้ หูเท่าใด”
ได้ยินเช่นนั้นฮ่องเต้ก็เพียงอมยิ้มบางเบา เพราะความจริ งแล้วเขาพึ่งจะ
แต่งตั้งนางขึ้นมาไม่กี่วนั แล้วชื่ อของนางจะคุน้ หู เฉกเช่นฮุ่ยกุย้ เฟยที่อยู่มานานได้

149
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

อย่างไร “การที่จะเลื่อนขั้นให้พวกนาง ชื่อเสี ยงวงศ์ตระกูลสาคัญด้วยเช่นนั้นหรื อ


ชายใดบ้างเล่าจะไม่ชื่นชอบหญิงงาม”
คาตอบนั้นทาให้จักรพรรดิ แคว้นเหลี ยงนิ่ งไปเล็กน้อยก่ อนจะหัวเราะ
ชอบใจออกมา “นัน่ ย่อมถูกต้องแล้ว” พูดจบองค์จกั รพรรดิ ก็กลับมามีท่าทีน่าเกรง
ขามอีกครั้ง “ข้าให้คนส่ งของขวัญไปให้พวกนางแต่ละคน ถึงจะไม่มีราคามากก็
หวังว่าพวกนางจะพึงพอใจ” ก่อนจะทาท่าราวกับพึ่งนึกอะไรได้บางอย่าง “จริ งสิ ข้า
ยังให้คนส่ งของที่ ถูกคัดเลื อกเป็ นพิเศษให้พ วกนางแต่ ละคนไปด้วย บางที ของ
เหล่านั้นอาจจะช่วยให้พวกนางได้เห็นถึงความทรงจาอันงดงามของเหล่าช่างฝี มือ
ของแคว้นเหลียงที่สลักลงไป”
คาที่ ถูกเน้นย้ าอย่างจงใจ ทาให้แววตาของฮ่องเต้สั่นไหวเล็กน้อย แต่ไม่
นานนักก็กลับไปยิม้ ตอบรับบางเบา “ของที่ได้จากองค์จกั รพรรดิ พวกนางย่อมยินดี
แน่นอน”
ทันทีที่งานล่าสัตว์จบลงและส่ งคนของแคว้นเหลียงกลับที่พกั แล้ว ขบวน
ของฮ่องเต้ก็มุ่งหน้ากลับเข้าวัง ยามที่ ขา้ มผ่านประตูวงั เข้ามาแล้วนั้น เนี่ ยเฟยที่ มี
สิ ทธิ์ได้อยูใ่ กล้ชิดฮ่องเต้ตลอดในงานครั้งนี้ ก็ถามขึ้นมาด้วยท่าทีเอียงอายน้อย ๆ ว่า
“ฝ่ าบาทจะทรงกลับไปพักผ่อนเลยหรื อไม่ หรื อว่าจะให้หม่อมฉันอยูป่ รนนิบตั ิดีเพ
คะ”
ได้ยิน เช่ นนั้น ฮ่ องเต้ก็ ตอ้ งหัน มามองสตรี ขา้ งกายชั่ว ครู่ นางมี ใบหน้า
งดงามแปลกตา เนื่ องจากมีเชื้อสายครึ่ งหนึ่งมาจากแม่ผเู ้ ป็ นชาวมองโกล ผมที่เหลือ
จากการถูกเกล้าไว้ของนางซึ่งถูกถักทอเป็ นเปี ยเล็กอๆอลงมานั้น ดูรับกับใบหน้าที่ดู
สดใสของนางพอดี เพียงแต่ภายใต้ชุดและผ้าคลุมสี เขี ยวเข้มท่ ามกลางหิ มะขาว

150
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

โพลนที่ตกลงมาเช่นนี้ ช่างทาให้ดูไม่เข้ากันเลยจริ ง ๆ อีกทั้งท่าทางเรี ยกร้องอย่าง


ไม่เป็ นธรรมชาติของนางที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงนั้นก็ยิ่งทาให้เขารู ้สึกเอือมระอา แต่
แม้จะคิดเช่นนั้นเขาก็ทาได้เพียงแค่ยมิ้ น้อย ๆ ขึ้นมาเท่านั้นเอง “หากเจ้าอยากจะอยู่
ก็อยูท่ ี่ตาหนักข้าไปแล้วกัน”
ทันทีที่ได้ยนิ เช่นนั้นเนี่ยเฟยก็มีสีหน้าดีใจอย่างเห็นได้ชดั ด้วยนึกว่าตนคง
ได้ข้ ึนมาเป็ นสนมคนโปรดบ้างเป็ นแน่ มิใช่แค่ตวั แทนของใครบางคนอย่างที่ผคู ้ น
ร่ าลือกัน ถ้าเป็ นเช่นนั้นนางก็จะมีทางหนี ทีไล่ให้ตนเองในวังหลังที่มีแต่แผนการ
มากมายแห่งนี้ได้แน่นอน
เนี่ยเฟยดีใจได้เพียงชัว่ ครู่ ประโยคถัดไปจากชายสูงศักดิ์เบื้องหน้า ก็ทาให้
ความหวังในใจนางก็ตอ้ งดับวูบลงทันที
“แล้วข้าจะกลับมา”
ฮ่องเต้พูดเพียงเท่านั้น แล้วจึงหันไปสั่งขันทีคนสนิ ทข้างกาย “ไปตาหนัก
หย่งโซ่วกง” จากนั้นจึงแยกตัวจากไปในทันที ทาเอาเนี่ยเฟยที่ไม่อยากทิ้งความหวัง
ไปเสี ยทั้งหมด หันมามองกัว๋ กงกงอย่างขอความเห็ นใจพร้อมกับที่ นางกานัลข้าง
กายตนก้าวออกมา “กัว๋ กงกง…”
ด้านกัว๋ กงกงที่ดูก็รู้วา่ อีกฝ่ ายอยากให้ช่วยแลกกับการติดสิ นบน ได้แต่กา้ ว
ถอยหลังเป็ นเชิ งปฏิ เสธ “เนี่ ยเฟยโปรดรออยู่ที่นี่” ก่อนจะบอกต่อไปว่า “หากฝ่ า
บาทบอกจะกลับมาย่อมต้องกลับมาแน่ หรื อหากจะทรงกลับตาหนักตนเองก่ อนก็
ให้แจ้งขันทีที่เฝ้าไว้ พวกเขาจะมาแจ้งให้กระหม่อมรับฟังเอง”
พูดจบกัว๋ กงกงก็รีบตามฮ่องเต้ที่มุ่งหน้าไปก่อนแล้ว ทาเอาเนี่ยเฟยรู ้สึกเสี ย
หน้าเป็ นอย่างมาก จนกระทัง่ นางกานัลข้างกายเรี ยกนางอย่างไม่รู้จะทาเช่นไร “พระ

151
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

สนมเพคะ…” เนี่ ย เฟยจึ ง ได้แ ต่ถ อนหายใจหนัก ๆ ออกมาเล็กน้อ ย พลางตอบ


กลับไปว่า “กลับกันเถิด ข้าจะไปหาฮุ่ยกุย้ เฟยแทนแล้วกัน”
ใบหน้าของเยเฟยฉายแววผิดหวัง ทั้งยังดู กลัดกลุม้ ใจอยู่ไม่น้อย แต่ถึง
อย่างนั้นก็ยงั คงพยายามคงรอยยิม้ สดใสไว้ ก่อนจะถามนางกานัลข้างกายขึ้นอีกครั้ง
“คนที่ส่งให้ไปดูก่อนหน้านี้ บอกว่านางว่างอยูร่ ึ เปล่า”
ไม่นานนักก็ได้รับคาตอบกลับมา “ฮุ่ยกุย้ เฟยเพียงแค่ตอ้ นรับองค์หญิงอวี้
เหมยอยูเ่ ท่านั้นเพคะ”
ค าตอบที่ ไ ด้ยิ น ท าให้ เ นี่ ย เฟยถึ ง กับ ชะงัก ไป พลางคิ ด ว่า สตรี ที่ จ งใจ
สนับสนุ น ทั้งยังชี้ แนะตนมากมายผูน้ ้ ี กาลังต้องการสิ่ งใดกัน ก่ อนจะได้แต่หยุด
ความคิดที่อาจทาให้ชีวติ สั้นลงกว่าเดิมได้ แล้วพูดออกมาเสี ยงบางเบา “งั้นรึ งั้นพวก
เรารี บไปพูดคุยกับนางสักหน่อยก็คงดี”
ท่ามกลางหิ มะขาวโพลนที่ ตกลงมานั้น หนึ่ งสตรี กบั ลังเดิ นห่ างออกไป
พร้อมกับความคับข้องใจที่ไม่วา่ ใครก็ไม่อาจรู ้ได้เลย…

อีกด้านหนึ่งที่ตาหนักหย่งโซ่วกง
ทันที ที่ฮ่องเต้มาถึ งและเห็ นหญิ งสาวอันเป็ นที่ รักนั่งเหม่ออยู่ขา้ งเตาผิง
แล้ว ก็อดที่จะถามขึ้นไม่ได้วา่ “เจ้ากาลังนัง่ คิดสิ่ งใดอยู”่
เสี ยงของเขาที่จู่ ๆ ก็ดงั ขึ้นมาทาให้เหยียนหยินรี บลุกขึ้นถวายบังคมแทบ
ไม่ทนั “ฝ่ าบาท…” แต่แค่นางลุกขึ้นมาก็ยงั คงถูกเขาห้ามไว้เช่นเคย ทาให้สุดท้าย
นางได้แต่กลับไปนัง่ อยูอ่ ย่างเก่าแล้วถามเขาด้วยความสงสัยกลับไปแทน “ฝ่ าบาท
มิใช่วา่ พึ่งจะกลับมาจากล่าสัตว์หรื อเพคะ”

152
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาถามนั้นทาให้ฮ่องเต้ที่นั่งอยู่ขา้ งนางถามด้วยรอยยิ้มแปลกใจขณะพูด
หยอกล้อขึ้นมาเล็กน้อย “เจ้ารู ้การเคลื่อนไหวของเราดีแบบนี้ต้ งั แต่เมื่อไหร่ กนั ” แต่
พอเห็นนางสะดุง้ ตกใจกลัว เพราะการรู ้ความเคลื่อนไหวของเขาที่เป็ นฮ่องเต้เช่นนี้
อาจทาให้รับโทษแล้ว ก็ตอ้ งหัวเราะแห้ง ๆ ให้กบั การหยอกล้อที่ดูจะแรงไปของตน
พลางพูดออกไปว่า “ช่างเถิด ๆ ” แล้วจึงเปลี่ยนไปคุยเรื่ องอื่นแทน “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็
ต้องรู ้เช่นกันว่าข้าออกไปกับใคร จะไม่ถามสักหน่อยรึ ยงั ไงกัน”
แววตาสนอกสนใจที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเขา ทาให้เหยียนหยินมี
สี หน้างุนงง “ทรงหมายถึงเนี่ยเฟยที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาอย่างเร่ งด่วนหรื อเพคะ”
คาตอบตรง ๆ จากนาง ทาให้เขาต้องมีน้ าเสี ยงไม่พอใจปนน้อยใจขึ้นมาว่า
“ท่าทางแบบนี้คืออะไรกัน เจ้าจะหึ งสักนิดไม่ได้รึไง”
พอรู ้ถึงความต้องการจริ ง ๆ ของเขาแล้วเหยียนหยินก็ตอ้ งหน้าแดงอย่าง
พูดไม่ถูก “นั่นมัน…” นางยังไม่ทนั คิดว่าจะพูดสิ่ งใดต่อ เขาก็เปลี่ยนเรื่ องอีกครั้ง
เสี ยก่อน “จริ งสิ ขา้ ได้ยนิ ว่าจักรพรรดิแคว้นเหลียงให้คนเอาของมาให้เหล่าพระสนม
ในวังหลัง ของเหล่านั้นเป็ นอย่างไรบ้าง”
พอคาถามนี้ดงั ขึ้น เหยียนหยินก็พอจะเข้าใจแล้วว่าเขามาที่นี่เพราะเหตุใด
“ที่หม่อมฉันได้มาล้วนเป็ นชุดและเครื่ องประดับเก่าแก่เพคะ แม้จะไม่ใช่
ของใหม่แต่ก็คงจะมีค่าน่าดู” เหยียนหยินตอบ ก่อนที่ฮ่องเต้จะถามด้วยสายตายาก
จะคาดเดาออกไป “แล้วนอกจากนั้นยังมีอะไรอีกหรื อไม่”
ท่าทางของฮ่องเต้ที่ดูแปลกประหลาดในวันนี้ น้ นั ทาให้เหยียนหยินพอจะ
ทายได้วา่ คงเป็ นเพราะเรื่ องของที่ถูกส่ งมา ที่เขาดูจะสนอกสนใจเหล่านี้เป็ นแน่ แต่

153
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

แม้จะไม่รู้วา่ เขาสนใจเพราะอะไร นางก็ได้แต่ตอบตามตรงกลับไป “มีเพียงถ้วยชา


อีกถ้วยเท่านั้นเพคะ”
ได้ยินเช่ นนั้นฮ่องเต้ก็พยักหน้าเป็ นเชิ งรับรู ้ เล็กน้อย “เป็ นเช่นนั้นงั้นรึ ”
ก่อนจะยิม้ อธิ บายออกไปว่า “แบบนี้ ทางเราก็ควรจะหาของที่เท่าเทียมเป็ นสิ นน้ าใจ
ส่งกลับคืนไปให้เช่นกัน”
แม้เหยียนหยินจะไม่ค่อยเชื่อในคาอธิ บายนั้น นางก็ได้แต่ยมิ้ ตอบกลับไป
แล้วจึงถามขึ้นอีกครั้ง “ว่าแต่ฝ่าบาทจะเสด็จกลับตาหนักเมื่อไหร่ เพคะ หรื อจะทรง
เสวยสิ่ งใดก่อน” คาถามด้วยความเป็ นห่ วงของนางที่ไม่อยากให้เขาอยูน่ าน เพราะ
กลัวเขาจะติดหวัดนางซึ่ งยังไม่หายดีเอาได้ กลับได้รับกลับมาเป็ นน้ าเสี ยงน้อยอก
น้อยใจที่ตอบกลับมาว่า “ข้าพึ่งมาถึงไม่นาน เจ้าก็จะไล่ขา้ กลับไปแล้วรึ ยงั ไง”
ท่าทางของเขาทาเอาเหยียนหยินต้องรี บร้อนอธิ บายเสี ยยกใหญ่ จนคนทั้ง
สองพูดคุยนอกเรื่ องกันไปเสี ยนาน ฮ่องเต้ก็ถามขึ้นอย่างเป็ นห่ วงอีกครั้ง “อาการ
ของเจ้าดีข้ ึนรึ ยงั ”
คาถามและน้ าเสี ยงที่ ดูห่วงใยของเขา ทาให้แววตาของเหยียนหยินอ่อน
โยนลงไม่นอ้ ย
“เกือบจะหายดีแล้วเพคะ”
ฮ่องเต้ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้ารับรู ้พลางถามขึ้นด้วยรอยยิม้ มีสเน่ห์ แล้ว
ดึงนางเข้ามากอดอย่างรักใคร่ วา่ “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็กลับมาเป็ นเช่นเดิมได้แล้วใช่
หรื อไม่”
ท่าทางของเขาทาเอาเหยียนหยินอดนึกถึงช่วงคืนก่อนหน้านี้ ที่นางถูกเขา
ทาให้แทบจะสิ้ นไร้เรี่ ยวแรง แม้จะมิได้อยากขัดใจเขา แต่เพราะยังกังวลหลาย ๆ

154
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

อย่าง พอเห็นรอยยิม้ กริ่ มที่เขาส่ งมา นางจึงรี บคิดหาทางออกในทันที “ฝ่ าบาท มิใช่
ว่าช่วงนี้ควรจะให้เนี่ยเฟยปรนนิบตั ิหรื อเพคะ”
ในเมื่อเขาพึ่งจะแต่งตั้งเนี่ ยเฟยเพื่อให้ไปงานล่าสัตว์แทนนางขึ้นมา หาก
ไม่ทาให้ดูเหมือนเป็ นคนโปรดเสี ยหน่อยจะถูกสงสัยเอาได้ ทั้งยังอาจจะทาให้แคว้น
เหลียงที่รู้ความจริ งรู ้สึกโดนหยามหน้า แม้จะรู ้เช่นนั้นฮ่องเต้ก็ยงั มีสีหน้าไม่ทุกข์ไม่
ร้อนต่อสิ่ งใด
“ทาไมข้าต้องให้นางทาด้วยกัน อีกอย่างคนของแคว้นเหลียงก็จะกลับไป
พรุ่ งนี้แล้วเจ้าจะใส่ใจไปใย”
ถึงจะได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็ยงั พยายามหาทางออกต่อไป เมื่อใบหน้า
ของเขาเริ่ มซุกไซ้เข้ามาหานางมากขึ้นกว่ามา “แต่ทรงทาแบบนี้ไม่ดีสกั เท่าไหร่ คน
อื่นจะว่าร้ายหม่อมฉันได้…” นางยังพูดไม่ทนั จบ กัว๋ กงกงก็เข้ามารายงานฮ่องเต้
เสี ยก่อน “ฝ่ าบาทเนี่ยเฟยกลับไปแล้วพะยะค่ะ”
กัว๋ กงกงที่ เข้ามาพอดี น้ นั ทาให้เหยียนหยินโดนปล่อยออกจากอ้อมแขน
ของเขา ก่อนที่ จะเห็ นกัว๋ กงกงมีสีหน้าลาบากใจ พลางเขยิบเข้าไปรายงานฮ่องเต้
เสี ยงเบา “แล้วก็…”
เหยียนหยินที่ไม่ได้ยินทั้งสองคนพูดคุยกันต้องนิ่ วหน้าลงเล็กน้อย ได้แต่
คิดว่านัน่ คงจะเป็ นเรื่ องสาคัญเป็ นแน่ เพราะใบหน้าของฮ่องเต้ดูจะเคร่ งเครี ยดขึ้นมา
ชัว่ ครู่ หนึ่ ง จนกระทัง่ เมื่อกัว๋ กงกงถอยออกจากห้องไปแล้ว ฮ่องเต้ก็กลับมามีสีหน้า
ยิ้มแย้มราวกับเมื่อกี้ ไม่มีเรื่ องอันใดเกิ ดขึ้นเลย “ดูท่าวันนี้ คงเหลือเพียงเจ้าที่ จะอยู่
คอยดูแลข้าแล้ว”

155
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาพูดดื้อรั้นของเขาทาให้นางจนปั ญญาที่จะคิดหาทางปฏิเสธออกไป แต่


ยังไม่ทนั อ้าปากพูดสิ่ งใดเขาที่ดูจะรู ้ทนั ก็พูดเสี ยงน่าเกรงขามขึ้นมาทันที “เจ้าคิดว่า
ข้าเป็ นใครกัน จะขัดคาสัง่ ข้างั้นรึ ”
พูดจบก็หวั เราะอย่างอารมณ์ดีกบั ท่าทีตกอกตกใจของนาง ที่แม้จะโดนเขา
แกล้งเช่นนี้ บ่อยแต่ก็ยงั ไม่ชินเสี ยที ไม่นานนักเขาก็ยมิ้ อ่อนโยนพูดขึ้นว่า “พักผ่อน
เถิ ด เจ้า ยัง ไม่ หายดี ขา้ จะทาให้เจ้า เหนื่ อ ยมากกว่า เดิ ม ได้ยงั ไง แต่ คื นนี้ ขา้ จะนั่ง
ทางานอยูท่ ี่นี่แล้วกัน”
เขาพูดทิ้งท้ายเพียงเท่านั้น หลังจากนั้นก็สั่งให้คนขนฏีกามาตาหนักนาง
ทันที ทาให้เหยียนหยินได้แต่ตอ้ งปล่อยเขาทาตามใจอย่างไม่รู้จะทาเช่นไร ก่อนจะ
พึ่งนึ กได้วา่ ก่อนที่เขาจะมาเมื่อกี้นางยังกังวลเรื่ องของที่ถูกส่ งมาเหล่านั้นอยูไ่ ม่ใช่
หรื ออย่างไรแล้วนี่ นางเผลอลืมเลือนความกังวลเหล่านั้นไปหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ กนั
แค่คิดก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา
.............................

ณ ตาหนักจิ่งเหริ นกงของฮุ่ยกุย้ เฟย


ยามนี้ดูจะคึกคักยิง่ นักเมื่อไม่วา่ ใครก็ต่างพากันเอาของมาเอาอกเอาใจนาง
ที่น่าจะได้นงั่ ตาแหน่งฮองเฮาที่ยงั คงว่างอยูเ่ ป็ นคนถัดไป
ภาพผูค้ นที่ทยอยขนของเข้าไปในตาหนักไปมา พร้อมกับคาสรรเสริ ญชื่น
ชมความเมตตาและน่าเคารพของฮุ่ยกุย้ เฟย ทาให้เนี่ ยเฟยที่พ่ ึงเดินมาถึงต้องยิม้ เย็น
ในใจ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเจ้าของตาหนักผูซ้ ่ ึ งกาลังนัง่ พูดคุยกับแขกคนสาคัญอยู่
ภายในตาหนักหลังใหญ่นนั่ เอง

156
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

“ถวายพระพร ฮุ่ยกุย้ เฟยเพคะ” เนี่ ยเฟยพูดพร้อมกับทาความเคารพด้วย


รอยยิ้มสดใส ฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อเห็ นเช่นนั้นก็รีบร้อนเข้ามาพยุงให้นางลุกขึ้นมาอย่าง
ห่วงใยทันที “ลุกขึ้นเถิด ๆ เหตุใดน้องหญิงจึงมาอยูท่ ี่นี่กนั ”
พอได้ยินคาถามจากฮุ่ยกุย้ เฟย เนี่ ยเฟยก็ถอนหายใจตอบกลับว่า “ฝ่ าบาท
ทรงเสด็จไปที่หย่งโซ่วกงแล้ว หม่อมฉันจึงคิดว่าควรจะมาพูดคุยเล่นกับพี่หญิงแทน
เพคะ”
คาตอบนั้นทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยถึงกับชะงักไปชัว่ ครู่ หนึ่ ง “เป็ นเช่นนี้ นี่เอง ฝ่ า
บาทคงจะกังวลกับอาการของเหยียนเฟยจึงรี บไปหานางเช่นนั้น”
ไม่นานนักฮุ่ยกุย้ เฟยก็มองพระสนมที่เคยถูกทอดทิ้งมานานเบื้องหน้า ซึ่ ง
กาลังพยายามทาตัวให้ดูน่าสงสารอยู่ พลางยิม้ เห็นใจน้อย ๆ
“หม่อมฉันรู ้ดีต้ งั แต่แรกแล้วว่าถึงอย่างไรก็คงไม่อาจสู ้กบั เหยียนเฟยได้”
ค าพูด ประโยคนี้ ของเนี่ ย เฟยนั้น ท าให้ฮุ่ ย กุ้ย เฟยต้องมี น้ าเสี ยงปลอบใจออกมา
“ตอนนี้เจ้าตาแหน่งเท่านาง จะดูถูกตนเองเช่นนั้นได้อย่างไรกัน”
ได้ยินเพียงเท่านั้นเนี่ ยเฟยก็รีบเข้ามาขอบคุณด้วยสี หน้าตื้นตันในทันที
“ทั้งหมดนี้ คงต้องขอบคุณพี่หญิงที่ช่วยชี้ แนะ” ระหว่างที่ ละครอันดูน่าประทับใจ
กาลังจะดาเนินไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ดนั้น สตรี ในชุดสี แดงอีกผูห้ นึ่ งซึ่ งนัง่ อยูใ่ นห้อง
ก็ดูจะทนไม่ไหว จนต้องเอ่ยต่อว่าออกมาอย่างไม่พอใจว่า “พวกเจ้าจะหยุดพูดพร่ า
เพรื่ อกันเสี ยบ้างไม่เป็ นหรื อไง บรรยากาศดี ๆ พาลเสี ยไปหมด!”
น้ าเสี ยงและท่าทางที่ยงั คงเอาแต่ใจ บวกกับใบหน้าที่งดงามหาใดเปรี ยบ
ของอีกฝ่ ายซึ่ งเป็ นแขกคนสาคัญของฮุ่ยกุ้ยเฟยในยามนี้ น้ นั ทาให้เนี่ ยเฟยต้องยิ้ม
เฝื่ อนเล็กน้อย “องค์หญิงอวี้เหมยช่างงดงามยิง่ นัก”

157
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ด้านฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อเห็นว่าแขกคนสาคัญของตนดูจะไม่ค่อยพอใจแล้ว ก็รีบ


เปลี่ยนเรื่ องพูดทันที “จริ งสิ ข้ากาลังคุยกับองค์หญิงเรื่ องสาคัญอยูพ่ อดี” แล้วจึงหัน
มามองเนี่ ยเฟยด้วยใบหน้าที่ดูเป็ นมิตรพลางพูดว่า “น้องหญิงก็รู้ดีวา่ ความต้องการ
ของข้าคือสิ่ งใด ส่วนข้าเองก็รู้ดีวา่ น้องหญิงต้องการสิ่ งใดเช่นกัน”
พูดจบแววตาของฮุ่ยกุย้ เฟยก็เป็ นประกาย ก่อนที่รอยยิม้ ซึ่งเคยดูอ่อนหวาน
ของนางจะกลายเป็ นรอยยิม้ ที่ดูมีเลศนัยแทน “ในเมื่อพวกเราสามคนมีความต้องการ
ในทางเดียวกันทาไมไม่ร่วมมือกันสักหน่อยเล่า”
ท่าทางที่ เปลี่ยนไปของคนตรงหน้าทาเอาเนี่ ยเฟยอดไม่ได้ที่จะรู ้สึกเย็น
วาบ “ถ้าเช่นนั้นพี่หญิงพูดออกมาเถิด”
คาตอบของเนี่ยเฟยทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยยิม้ ออกมาอย่างพึงพอใจไม่นอ้ ย พลาง
พูดอย่างคาดหวังด้วยตาเป็ นประกายระยิบระยับ “งานนี้ จะสาเร็ จได้ตอ้ งพึ่งน้อง
หญิ ง เท่ า นั้ น” จากนั้ นจึ ง ยิ้ ม หวานอธิ บ ายต่ อ ไป “ตระกู ล ของน้ อ งหญิ ง มี
ความสัมพันธ์เก่าแก่กบั ขุนนางฝ่ ายอดีตฮองเฮาใช่หรื อไม่ ถ้าเช่นนั้นทาไมไม่ลอง
เสนอเรื่ องการรื้ อฟื้ นคดีการสิ้นพระชนม์ของอดีตฮองเฮาเล่า”
แผนการที่ดูเสี่ ยงจนเกินกว่าจะรับไหว โดยการเข้าไปยุง่ กับขุนนางเก่าแก่
และเรื่ องที่ไม่ควรยุง่ อย่างการตายของฮองเฮาที่ถูกตัดสิ นไปแล้ว ทาเอาเนี่ ยเฟยต้อง
ถามด้วยเสี ยงสั่นเครื อจากความหวาดหวัน่ ใจ “หม่อมฉันจะทาเช่นนั้นไปทาไมกัน
เพคะ”
เรื่ องการสิ้ นพระชนม์ที่ดูน่าสงสัยของฮองเฮาซึ่ งถูกตัดสิ นว่าเป็ นเพราะ
อาการป่ วยที่กาเริ บกระทันหันในยามแรก บวกกับการที่มีคนเรี ยกรวมตัวนางกานัล
ของตาหนักฮองเฮาหลังจากคืนอันน่าเศร้าไม่นานนั้น ต่อให้มีคนรู ้มากมายแต่ใคร

158
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

จะอยากพูดถึงกัน เมื่อมันคงจะเกี่ยวพันถึงเหล่าผูม้ ีอานาจในยามนั้นแน่นอน อีกทั้ง


เรื่ องการสิ้ นพระชนม์ที่ถูกสงสัยมานานนั้น ไม่นานมานี้ ก็พ่ งึ จะกลายเป็ นโทษหนัก
ให้ฉือเฟยรับไปแล้วหรอกหรื อ ว่ากันว่านางสารภาพด้วยตนเอง ทั้งยังเจอหลักฐาน
คาตาหนัก ในเมื่อมีคนรับเคราะห์แล้วใครบ้างจะยังอยากรื้ อฟื้ นขึ้นมาอีกเล่า
ฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อเห็นว่าสตรี เบื้องหน้ามีท่าทีสั่นกลัว ก็ทาท่าปลอบใจแล้วจึง
โน้มน้าวต่อไป “ส่ วนหนึ่ งก็เพื่อที่ตระกูลของเจ้าจะสร้างความสัมพันธ์กบั ตระกูล
อื่ น และลดฐานอานาจที่ สนับสนุ นใครบางคนลง” คาพูดที่ ฟังดู สวยหรู จากการ
แสดงให้เห็นแต่ดา้ นดีน้ นั อดไม่ได้ที่จะทาให้ใจของเนี่ยเฟยสัน่ ไหวเล็กน้อย แม้จะรู ้
ว่าการขึ้นมาเป็ นคนโปรดแทนที่ใครบางคนไม่ใช่เรื่ องง่าย ๆ อย่างที่คิด แต่การจะ
อยูใ่ นตาแหน่งสูงเช่นนี้ตลอดไปก็เป็ นเรื่ องยากที่ควรทาไว้ให้ได้เช่นกัน
เมื่อฮุ่ยกุย้ เฟยเห็นว่านางเริ่ มจะติดกับแล้วก็ยกยิม้ อ่อนหวานขึ้นมาเล็กน้อย
พลางเรี ยกนางกานัลของตนให้เอาจดหมายฉบับหนึ่ งเข้ามาให้ “เจ้าเพียงแค่ตอ้ งใช้
หลักฐานเหล่านี้ ส่งให้พอ่ ของเจ้าเข้าไปพูดคุยกับใต้เท้าฉิ นเท่านั้น”
เนี่ ยเฟยได้แต่รับมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะหันไปมององค์หญิงอวี้เหมยที่
นัง่ เงี ยบอย่างหยิง่ ทะนงด้วยสี หน้าลังเล เพราะหากที่ฮุ่ยกุย้ เฟยบอกว่าทั้งสามคนมี
ความประสงค์ใ นทางเดี ย วกัน จริ ง แล้ว องค์ห ญิ ง ต้อ งการสิ่ ง ใดกัน “แล้ว องค์
หญิง…”
ไม่ตอ้ งรอให้เนี่ ยเฟยพูดจนจบ องค์หญิงอวี้เหมยก็ชิงพูดตัดบทขึ้นมาเอง
เสี ยก่อน “สตรี ผนู ้ ้ นั ตกลงมาเมื่อไหร่ คนของข้าจะจัดการทุกอย่างและเอาตัวนางไป
เอง” แต่เมื่อเห็นใบหน้าสงสัยที่มองมาแล้วก็ตอ้ งพูดขยายความออกไปว่า “ที่แคว้น
ข้ามีคนต้องการนางอยู่ พวกเจ้าไม่จาเป็ นต้องสงสัยสิ่ งใด ๆ ทั้งนั้น”

159
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

สิ้ นคาพูดนั้นฮุ่ยกุย้ เฟยก็รีบพูดโน้วน้าวเนี่ ยเฟยขึ้นอีกครั้งทันที “คนของ


ข้าจะช่วยให้เจ้าทาทุกอย่างได้ราบรื่ นเอง น้องหญิงไม่ตอ้ งเป็ นกังวลไป” แต่เมื่อเห็น
สายตาที่ยงั ลังเลเล็กน้อยแล้ว จึงต้องเปลี่ยนจากคาพูดโน้มน้าวที่ฟังดูรื่นหู เป็ นคาพูด
ที่แฝงไปด้วยความหมายซ่อนเร้นแทนว่า “ถึงอย่างไรพวกเราก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อ
กัน เรื่ องที่ขา้ เคยเห็นผ่าน ๆ มาข้าก็ไม่เคยถือสาหาความน้องหญิงเลย”
ได้ยินเพียงเท่านั้นเนี่ ยเฟยก็มีสีหน้าลนลานอย่างเห็นได้ชดั “ขะ ข้าจะไม่
ทาให้พวกท่ านผิดหวังเป็ นแน่ ” ก่ อนที่ ฮุ่ยกุ้ยเฟยจะยิ้มพึงพอใจพลางพูด ว่า “ถ้า
เช่นนั้นก็นบั ว่าเป็ นเรื่ องดีจริ ง ๆ ”
คนทั้งสามพูดคุยกันถึงแผนการอีกไม่นานก็แยกย้ายกันกลับไป ทาให้ใน
ตาหนักหลังใหญ่เหลือเพียงฮุ่ยกุย้ เฟยผูอ้ ่อนหวานสูงศักดิ์เพียงผูเ้ ดียวอีกครั้ง
ทันที ที่นางนั่งลงและอ่านหนังสื อในมือไปไม่ถึงหนึ่ งชัว่ ยาม นางกานัล
คนสนิทก็เข้ามารายงานอย่างรู ้งานว่า “พระสนม คนของเราบอกว่าเนี่ยเฟยทาตามที่
ทรงรับสัง่ ทุกอย่างเพคะ”
คารายงานที่ได้ยนิ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ดี ให้ พ วกนั้ นเฝ้ า ดู น างต่ อ ไป” ก่ อ นจะนึ ก ถึ ง เนี่ ย เฟยที่ ถู ก ตนเอง
สนับ สนุ น โดยการเสนอชื่ อ ให้ฮ่ อ งเต้เลื่ อ นขั้น ก่ อนการล่ า สัต ว์ สตรี ผูน้ ้ ี แม้จะดู
เหมือนเป็ นคนโปรดปรานคนใหม่แต่ก็เป็ นเพียงตัวแทนของใครบางคนที่ได้แต่ทา
ตามคาสัง่ นางผูเ้ ท่านั้น
แค่คิดก็ตอ้ งยิม้ หยันขึ้นมาเล็กน้อย “แล้วก็หาหลักฐานสาหรับกาจัดนางไว้
ด้วยก็ดี”

160
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาสั่งที่พ่ ึงได้ยิน ทาให้นางกานัลคนสนิ ทมีสีหน้าลังเล “เนี่ ยเฟยย่อมรู ้ตวั


ว่าคนรอบข้างที่พ่ งึ ถูกส่งเข้าไปนั้นเป็ นคนของเราอยูแ่ ล้ว หากนางเอาไปซ่อนตั้งแต่
ก่ อ นหน้า ให้หาไม่เจอเล่ า เพคะ” แต่ ค าถามที่ เต็มไปด้ว ยความสงสัย นั้นก็ได้รับ
คาตอบเรี ยบ ๆ กลับมาเพียงแค่วา่ “หากหาไม่เจอก็แค่ตอ้ งสร้างมันขึ้นมาไม่ใช่รึไง
กัน”
ได้ยินเช่นนั้นนางกานัลคนสนิ ทก็ได้แต่ตอบรับอย่างเข้าใจ แล้วจึงถามถึง
ใครอีกคนต่อแทน “แล้วด้านองค์หญิง…”
แค่ได้ยนิ ชื่อของสตรี อีกคนฮุ่ยกุย้ เฟยก็ตอ้ งย่นหัวคิว้ ลงด้วยใบหน้าครุ่ นคิด
เล็กน้อย “ตอนนี้ฉีอ๋องดูจะพึงใจในตัวนางอยูม่ าก อย่าให้คนของเราทาอะไรมาก แค่
เฝ้าดูห่าง ๆ ก็พอ”
ในสายตาของฮุ่ยกุ้ยเฟย ยังคงเห็ นว่าฉี อ๋องดู แลและเอาใจองค์หญิ งอวี้
เหมยเป็ นอย่างดี ซึ่งอาจเป็ นเพราะองค์หญิงเป็ นคนสาคัญของแคว้นเหลียงหรื อเป็ น
เพราะฉี อ๋องรักนางจากใจจริ งก็ได้ ทาให้ไม่อาจทายได้วา่ แท้จริ งแล้วองค์หญิงต่าง
แคว้นผูน้ ้ ี มีความสาคญเท่าใด แต่แม้องค์หญิงอวี้เหมยจะไม่มีกาลังมากพอที่จะทา
อันใดได้ นางก็ยงั ต้องเอาใจเพราะยามนี้ฮองเฮาแห่งแคว้นเหลียงกาลังเสนอทางช่วย
สนับสนุนตัวนางผ่านทางองค์หญิงอวี้เหมยนัน่ เอง
แม้จะไม่รู้ว่าเหตุใดฮองเฮาแคว้นเหลียงจึงสนับสนุ นตน โดยขอแลกกับ
แค่การได้ตวั ของเหยียนเฟยไป แต่นี่ก็นบั ว่าเป็ นผลดีต่อนาง
หากรวมการสนับสนุนจากแคว้นเหลียง บวกกับอานาจของขุนนางในราช
สานักที่เคยเป็ นคนของฉื อเฟยที่นางได้มารับมาแล้ว ทั้งยังรวมถึงกลุ่มขุนนางเก่าแก่

161
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ที่นางกาลังจะพยายามชักจูงนี้ แค่น้ ีก็เหมือนกับว่านางได้อานาจแทบทั้งหมดมาแล้ว


ไม่ใช่รึไงกัน แม้จะไม่มีความโปรดปรานจากฮ่องเต้ก็ไม่เห็นว่าจะเป็ นเช่นไร
คิดเช่นนั้นใบหน้าที่เคยมีรอยยิม้ อ่อนหวานเสมอก็ดูจะกลับกลายเป็ น
ใบหน้าของสตรี อนั แสนชัว่ ร้ายขึ้นมา ขณะที่ในหัววาดฝันถึงเส้นทางเพื่อก้าวขึ้นสู่
ตาแหน่งฮองเฮาอันแสนสูงศักดิ์ ที่จะต้องไม่มีผใู ้ ดอาจหาญมาขวางทางตน

***************************************

162
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 38 ทอดทิง้

พึ่งจะล่วงเลยยามเหม่า(1) มาได้ไม่นาน ฮ่องเต้ที่ยงั คงอยูใ่ นตาหนักหย่ง


โซ่วกงเช่นเดิม ทั้งยังต้องตื่นมานัง่ ทรงงานและอ่านข่าวสารที่ถูกส่ งมาจากที่ต่าง ๆ
ด้วยสี หน้าเคร่ งเครี ยดมาแต่เช้า ก็ตอ้ งขมวดคิ้วมุ่นกว่าเดิมไม่นอ้ ย เมื่อได้ยินเสี ยงที่
รี บร้อนของกัว๋ กงกง “ฝะ ฝ่ าบาท เกิดเรื่ องแล้วพะยะค่ะ”
“มี อะไรกัน” เขาถามกั๋วกงกงที่ กาลังเดิ นก้มหน้าเข้ามาอย่างลาบากใจ
ก่ อนจะได้ยินคารายงานออกมาว่า “คื อว่าจู่ ๆ ยามเช้ามื ดเหล่าขุนนางเก่ าแก่ ก็มา
รวมตัวกันหน้าท้องพระโรง ยื่นเรื่ องขอให้พระองค์สอบสวนการสิ้ นพระชนม์ของ
ฮองเฮา ทั้งยังอ้างว่ามีหลักฐานและขอให้พิจารณาโทษใหม่…” พูดถึงตรงนี้ เสี ยง
ของกัว๋ กงกงก็นิ่งเงียบไป ก่อนจะดังขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคาราวกับได้ตดั สิ นใจที่ จะ
พูดเรื่ องที่ยากลาบากออกมาว่า
“ เพื่อให้ ฝ่ำบำทมิทรงเห็นถูกเป็ นผิด ตัดสินคนบริสุทธิ์ให้ ต้องถูกตรำหน้ ำ
อีกพะยะค่ ะ!”

163 (1) ยามเหม่า คือประมาณ 5:00 – 6:59 น.


เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ปัง!
เสี ยงโต๊ะที่ถูกคนซึ่งกาลังโมโหเกรี้ ยวกราดทุบดังกังวาลไปทัว่ หัอง แม้แต่
กองฎีกามากมายบนโต๊ะก็ยงั ต้องหล่นลงอย่างกระจัดกระจายจากแรงสั่นสะเทื อน
นั้น เสี ยงของฮ่องเต่ที่มีใบหน้าถมึงถึงในยามนี้ เองก็พลันกลายเป็ นแข็งกร้าวขึ้นมา
ไม่ต่างจากแววตาที่ พ่ ึงจะดู คมกริ บและดามื อดลงในชั่วพริ บตา “ใครเป็ นคนพูด
เช่นนั้นกัน!”
ท่าทางน่ ากลัวของชายสู งศักดิ์เบื้องหน้า ทาให้เหล่าข้ารับใช้โดยรอบพา
กันรี บก้มหน้าคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรี ยง ด้วยหวังว่าความโมโหโกรธาเหล่านั้นจะ
ไม่มาตกอยูท่ ี่ตน ในขณะที่คนซึ่ งดูจะลาบากใจมากที่สุดในตอนนี้ดูจะไม่พน้ กัว๋ กง
กงที่ตอ้ งตอบคาถามด้วยเสี ยงที่สนั่ เครื อ “คะ คือ…”
แต่ยงั ไม่ทนั ที่ จะพูดจบก็มีเสี ยงดังงัวเงี ยดังออกมาจากห้องนอนด้านใน
เสี ยก่อน “ฝ่ าบาทเกิดอะไรขึ้นเพคะ”
เสี ยงของเหยียนหยินที่ดงั ออกมาจากห้องด้านในนั้น ทาให้ฮ่องเต้ที่ลืมไป
ว่าตนยังคงอยูใ่ นตาหนักของนางแต่เมื่อวาน พึ่งจะรู ้ตวั ว่าตนทาเสี ยงดังไปปลุกนาง
ที่ควรจะพักผ่อนขึ้นมา จึงรี บปรับน้ าเสี ยงให้เป็ นเฉกเช่นปกติ แล้วตอบอย่างอ่อน
โดยนกลับไป “ไม่มีอะไรหรอก เจ้าพักผ่อนต่อเถอะ”
ทันที ที่เขาพูดเช่นจบ สตรี ที่อยู่ในห้องก็ดูจะนิ่ งเงี ยบไปเล็กน้อย ก่อนจะ
ตอบรับเสี ยงเบา “เพคะ…”
“ฝ่ าบาท…” กัว๋ กงกงที่ เห็ นฮ่องเต้ใจเย็นลงบ้างแล้ว เรี ยกนายของตนขึ้น
อีกครั้ง ฮ่องเต้จึงหันมาสั่งคนของตนเสี ยงเบาว่า “กลับตาหนัก” จากนั้นจึงเดินออก

164
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

จากตาหนักไปในทันที แต่ก็ยงั ไม่วายหันมากาชับบ่าวรับใช้ในตาหนักให้คอยดูแล


สตรี ที่ยงั คงสลบไสลอยูภ่ ายในอย่าได้ห่างกาย
เห็นฮ่องเต้ที่แม้จะรี บร้อนเดินจากไป แต่ก็หันมาสั่งนางกานัลในตาหนัก
เช่นนั้น กัว๋ กงกงก็อดทอดถอนใจออกมาไม่ได้ ด้วยลางสังหรณ์ของเขาซึ่ งอยูใ่ นวัง
มานานบอกว่า หากฮ่องเต้ยงั เอาใจเหยียนเฟยมากมายเช่นนี้ อีกไม่นานต้องเกิดเรื่ อง
ใหญ่ข้ ึนในวังหลวงแห่งนี้แน่นอน

หลังจากฮ่องเต้จากไปได้ไม่ถึงครึ่ งชัว่ ยาม เหยียนหยินที่สะดุง้ ตื่นมาเพราะ


เสี ยงดังที่เขาทาในยามเช้าก็ตอ้ งลุกออกมาจากเตียง เมื่อไม่อาจข่มตาให้หลับลงไป
ได้อีกครั้ง แล้วจึ งหันไปถามนางกานัลคนสนิ ทข้างกายตน “เมื่อเช้าเกิ ดเรื่ องอะไร
ขึ้นกัน”
“ดู เหมื อนเหล่าขุนนางเก่ าแก่ จะยื่นเรื่ องขอให้ฮ่องเต้สืบ สวนเรื่ อ งการ
สิ้ นพระชนม์ของฮองเฮาเพคะ ทั้งยังบอกว่าฉื อเฟยที่เคยรับโทษไปนั้นแท้จริ งแล้ว
ไม่มีความผิดถึงขั้นต้องโดนโทษประหารจริ ง” เยว่อิ๋งตอบ ก่อนจะเห็นสี หน้าแปลก
ใจของพระสนมของตนดังที่คาดการไว้
ไม่นานนักเหยียนหยินที่ได้ยนิ เช่นนั้นก็พดู ขึ้นมาอีกครั้ง “พูดแบบนั้นก็ไม่
ถูกทั้งหมดเสี ยทีเดียว” เพราะหากว่ากันตามตรงแล้วล่ะก็ แม้ยาที่ถูกสับเปลี่ยนโดย
ฉื อเฟยจะไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทาให้ฮองเฮาสิ้ นพระชนม์ แต่ถา้ รวมกับความผิดเรื่ อง
อื่น ๆ แล้วก็ไม่แปลกที่นางจะต้องรับโทษหนักอยูด่ ี
ระหว่ า งที่ เ หยี ย นหยิ น ครุ่ นคิ ด อยู่ น้ ั น เยว่ อิ๋ ง ก็ ร ายงานสิ่ งที่ ต นรู ้
ต่อ “นอกจากนั้นยังมีอีกว่า เรื่ องคราวนี้ เหล่าขุนนางเก่าแก่คนสาคัญมากมายถึงกับ

165
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ยอมหักหน้าฝ่ าบาท เป็ นตัวตั้งตัวตียื่นเรื่ องทั้งหมดด้วยตนเอง” สิ่ งที่พ่ ึงจะได้ยนิ นั้น


ทาให้เหยียนหยินต้องถามกลับไปด้วยสี หน้าสงสัยเล็กน้อย “รวมถึงใต้เท้าฉิ นด้วยรึ
เปล่า”
“ตอนนี้ยงั ไม่แสดงท่าทีอนั ใดเพคะ”
ค าตอบจากเยวิ๋ ง ท าให้ เ หยี ย นหยิ น พอจะโล่ ง ใจขึ้ นบ้า ง เพราะนั่ น
หมายความว่าฮ่องเต้ไม่ได้โดนขุนนางทั้งหมดบีบไปเสี ยทีเดียว เนื่ องจากเรื่ องใน
คราวนี้ ดูจะแปลกอยูม่ าก แต่การที่ใต้เท้าฉิ นซึ่ งเป็ นบิดาแท้ ๆ ของฮองเฮายังไม่เข้า
ร่ วมด้วย ทั้ง ๆ ที่เรื่ องเกี่ยวข้องกับการตายของลูกสาวตนเองนั้นก็อาจจะแปลว่า ฝั่ง
กลุ่มคนที่ ยื่นเรื่ องยังไม่อาจดูน่าเชื่ อถือพอที่จะปั กใจให้เข้าร่ วมมือ เพราะอาจเป็ น
เพียงการใช้เรื่ องนี้แก่งแย่งอานาจกันเท่านั้น การที่ใต้เท้าฉิ นจะนิ่งเฉยเพื่อดูท่าทีที่จะ
เกิดขึ้นต่อไปย่อมเป็ นการกระทาที่ถูกต้องแล้ว
สักพักเหยียนหยินก็ถามออกไปอีกครั้ง “แล้วมีเรื่ องอะไรอีกรึ เปล่า”
“ไม่มีแล้วเพคะ”
นัน่ ทาให้เหยียนหยินต้องมีสีหน้าแปลกใจไม่นอ้ ย “ไม่มีเลยงั้นรึ ” เพราะ
ช่วงที่ ราชสานักกาลังมีเรื่ องใหญ่เช่นนี้ วังหลังย่อมไม่มีทางสงบสุ ขเป็ นแน่ แต่นี่
กลับไม่มีเรื่ องใด ๆ เลย คิดเช่นนั้นเหยียนหยินก็คิดอะไรได้บางอย่างพลางยิม้ น้อย ๆ
ขึ้นมา “ถ้าเช่นนั้นออกไปเดินเล่นด้านนอกสักหน่อยเถิด”
คาพูดของนางทาให้เยว่อิ๋งอดที่จะห้ามปรามพระสนมที่อาการป่ วยพึ่งจะดี
ขึ้นของตนไม่ได้ “เวลาแบบนี้ คงไม่เหมาะเท่าใดนักเพคะ” ทาให้เหยียนหยินต้อง
ถอนหายใจออกมา พลางพูดอย่างเรี ยบง่ายออกไปว่า “เจ้าคิดว่าเวลาเช่นนี้ จะมีใคร
มานัง่ อยูเ่ ฉย ๆ บ้างกัน”

166
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

พอได้ยิน เหยีย นหยินพูดจนจบแล้ว เยว่อิ๋ ง ก็ ไ ด้แ ต่ ส่ า ยหัว ไปมาให้กับ


ท่าทางของพระสนมเบื้องหน้าตน ที่รีบร้อนจะแต่งตัวทั้ง ๆ ที่ยงั ไม่ได้ทานอาหาร
เช้าด้วยซ้ าไป พลางคิดว่าพระสนมของตนคงจะอยากช่วยฝ่ าบาทสื บหาว่าใครอยู่
เบื้องหลังเรื่ องนี้แน่นอน
หลังจากที่หยียนหยินแต่งตัวและรับประทานอาหารเช้าเสร็ จ ก็พาคนของ
ตนออกมาเดินเล่นในราชอุทยาน เฝ้ามองดอกไม้ที่ออกดอกไม่มากในฤดูหนาวซึ่ งมี
หิ มะปกคลุม น้อย ๆ แต่เดิ นเล่นกันไปได้สักพักเยว่อิ๋งก็พูดขึ้นอย่างลังเลเมื่อเห็ น
ความผิดปกติ รอบด้าน “พระสนมดูเหมือนพวกเขาจะมองพวกเราแปลก ๆ นะเพ
คะ”
“ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้ เจ้าบอกว่าไม่มีเรื่ องอะไรแล้วมิใช่หรื อ” เหยียนหยินถาม
กลับ ด้วยสี ห น้าปกติ ที่ ม ักจะมี ร อยยิ้ม ประดับ อยู่เ ล็ก น้อ ย แม้น างเองจะรู ้ สึ ก ตัว
เช่นกันว่าทั้งนางกานัลและพระสนมที่เดินผ่านไปมารอบด้าน ต่างมองมาที่ตนด้วย
แววตาแปลก ๆ ตั้งนานแล้ว
ยังไม่ทนั ที่เหยียนหยินจะสั่งให้คนของตนไปสื บเรื่ องราวอันใด เสี ยงอัน
คุน้ หูของสตรี ผหู ้ นึ่งก็ดงั ขึ้นเสี ยก่อน
“ข้าก็นึกว่าใครที่ออกมาเดินเล่นแต่เช้าแบบนี้ ที่แท้ก็แป็ นเจ้านี่เอง”
“องค์หญิงอวี้เหมย…” เหยียนหยินแปลกใจที่ เห็ นอีกฝ่ าย เนื่ องจากองค์
หญิ งอวี้เหมยเบื้ องหน้านางในตอนนี้ ยงั คงดูเหมื อนเดิ มทุกประการ ไม่ว่าจะเป็ น
นิสยั หรื อท่าทางอันใด เพียงแต่นางมาทาอะไรในวังหลวงตั้งแต่เช้าเช่นนี้กนั
ด้านองค์หญิงอวี้เหมยที่ ดูจะทายออกว่าเหยียนหยินสงสัยเรื่ องใดอยูน่ ้ นั
พูดขึ้นด้วยน้ าเสี ยงห้วน ๆ ด้วยสี หน้าไม่พอใจว่า “ข้าเบื่อ ๆ ก็เลยมาหาคนคุยเล่น ว่า

167
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

แต่ขา้ เคยบอกเจ้าแล้วไม่ใช่รึวา่ อย่ามาขวางทางข้าอีก แล้วเหตุใดเจ้าจึงยังกล้าเสนอ


หน้ามาเช่นนี้กนั ”
ท่าทางที่ยงั คงหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี ของตน ทาให้เหยียนหยินได้แต่จนใจ
พลางยิ้มน้อย ๆตอบกลับไป “เส้นทางกว้างเช่ นนี้ ขา้ จะขวางทางองค์หญิ งอยู่ได้
อย่างไร”
ฝ่ ายองค์หญิงอวี้เหมยพอได้ยินคาตอบของนาง ก็ดูจะไม่พอใจยิง่ กว่าเดิม
ราวกับว่าจะบอกว่านางเข้าใจในความหมายที่องค์หญิงอวี้เหมยต้องการสื่ อผิดไป
ยังไม่ทนั ที่คนทั้งสองจะได้พดู คุยสิ่ งใดต่อ เสี ยงที่ฟังดูกระฉับกระเฉงของ
สตรี อีกผูห้ นึ่งก็ดงั ขึ้นแทรกเสี ยก่อน “องค์หญิงที่แท้ก็อยูท่ ี่นี่เอง”
“พระสนมนัน่ คือเนี่ยเฟยเพคะ” เยว่อิ๋งขยับเข้ามากระซิ บบอก ด้วยกลัวว่า
พระสนมของตนจะจาสตรี ผูน้ ้ ี ไม่ได้ ก่ อนที่ เหยียนหยินจะพยักหน้าเป็ นเชิ งรับรู ้
เล็กน้อย ขณะจ้องมองใบหน้าที่มีรอยยิม้ สดใสของเนี่ยเฟย ซึ่งดูจะแตกต่างจากที่เคย
เห็ นมาบ้างในสมัยก่อน ซึ่ งแตกต่าจากยามที่ นางเคยได้ติดตามรับใช้ฮองเฮาอย่าง
สิ้นเชิง
ด้านองค์หญิงอวี้เหมยเมื่อหันไปเห็นเนี่ ยเฟย ก็มีสีหน้าสงสัยออกมา “เจ้า
มาทาอะไรที่นี่”
เมื่อเนี่ ยเฟยมาหยุดยืนอยูต่ รงหน้าคนทั้งคู่แล้ว ก็กล่าวทักทายพอเป็ นพิธี
ก่อนจะหันมาอธิบายให้องค์หญิงอวี้เหมยฟังว่า “ข้าพึ่งไปหาพี่หญิงมา ดูเหมือนนาง
จะรอท่านอยู”่ จากนั้นจึ งหัวเราะขึ้นเล็กน้อยพลางพูดขึ้นด้วยน้ าเสี ยงร่ าเริ ง “องค์
หญิงกับพี่หญิงคุยกันได้ถูกอกถูกคอช่างน่ายินดียงิ่ นัก”

168
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาพูดที่ บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าองค์หญิ งอวี้เหมยกับฮุ่ยกุ้ยเฟยดูจะสนิ ท


สนมกัน ทาให้เหยียนหยินอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ ก่อนที่เนี่ยเฟยจะหันมาพูดกับนาง
แทน “ที่ แท้ก็เหยียนเฟยนี่ เองที่ คุยกับองค์หญิ งอยู่ ให้ขา้ คุ ยเล่นเป็ นเพื่อนแทนดี
หรื อไม่ องค์หญิงอวี้เหมยทรงติดธุระสาคัญคงไม่สะดวกจะคุยกับท่านเท่าใด”
ได้ยินคาพูดที่บอกเจตนาชัดเจนเช่นนั้น เหยียนหยินก็ยมิ้ น้อย ๆ ตอบรับ
“เช่นนั้นก็ตามสบายเถิด” จากนั้นองค์หญิงอวี้เหมยจึงแยกตัวจากไป ส่ วนสตรี ท้ งั
สองที่หลงเหลืออยูก่ ็ยา้ ยไปนัง่ คุยเล่นในศาลาไม่ไกลจากจุดที่พวกตนยืน
เหยียนหยินพึ่งจะนัง่ ลงได้ไม่นาน เนี่ ยเฟยก็เป็ นฝ่ ายรี บเปิ ดปากพูดขึ้นว่า
“ข้าไม่ค่อยได้พบเจอเหยียนเฟยเท่าไหร่ แต่พอเห็นวันนี้ ถึงได้รู้ว่าเหยียนเฟยช่ างมี
เสน่ห์ยิ่งนัก ไม่แปลกที่ฝ่าบาทจะทรงต้องพระทัยถึงเพียงนี้ ” คาพูดยกยออย่างเห็น
ได้ชดั นั้น ทาให้เหยียนหยินต้องรี บปฏิ เสธอย่างสุ ภาพ เพราะหากคาพูดเมื่อกี้ของ
เนี่ยเฟยกระจายไปแล้วล่ะก็ จะเกิดข่าวลือใดตามมาบ้างกัน “เนี่ยเฟยกล่าวชมมากไป
แล้ว ข้าก็เป็ นเพียงสตรี ธรรมดา ๆ ผูห้ นึ่งเท่านั้น”
ด้านเนี่ ยเฟยเมื่อเห็นนางถ่อมตัวเช่นนั้น ก็หัวเราะสดใสออกมา “จะเป็ น
เช่นนั้นได้อย่างไรกัน ๆ ”
ท่าทางของเนี่ยเฟยทาให้เหยียนหยินต้องมองพิจารณาสตรี เบื้องหน้า ด้วย
นางพอจะจาได้วา่ เมื่อก่อนเนี่ ยเฟยก็เป็ นสตรี ที่มีรูปโฉมเป็ นเอกลักษณ์ แต่ออกจะ
ชอบเรี ยกร้องความสนใจอยูม่ าก จนกระทัง่ ถึงจุด ๆ หนึ่ งนางก็ถูกฮ่องเต้เบื่อหน่าย
จนเกือบหลงลืมไปเสี ยหลายปี เหยียนหยินยังจาได้วา่ ฮองเฮาที่เคยไปเยี่ยมเนี่ ยเฟย
ในยามที่นางไม่มีผใู ้ ดสนใจมาครั้งหนึ่ งนั้น ยังเคยบอกว่าสตรี ผนู ้ ้ ี แม้จะนิ สัยคงเดิม
แต่คงไม่คิดจะหาทางกลับมามีตวั ตนในวังหลังอีกแล้ว นัน่ แปลว่าเนี่ยเฟยน่าจะปลง

169
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ตกไปกับตาแหน่ งและความโปรดปรานแล้วมิ ใช่ หรื อ แล้วเหตุใดในยามนี้ ถึงดู


เหมือนจะกลับมายุง่ วุน่ วายกับการแย่งชิงในวังหลังอีกกัน
“จริ งสิ ขา้ ได้ข่าวว่าเหยียนเฟยเคยสนิ ทกับฮองเฮามาก่อน หากนางมาเห็น
เหยียนเฟยในยามนี้ ตอ้ งภูมิใจมากเป็ นแน่” เสี ยงของเนี่ ยเฟยที่ดงั ขึ้น ทาให้เหยียน
หยินได้สติกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะเห็นเนี่ ยเฟยทาสี หน้าเสี ยดาย “น่ าเศร้าที่ฮองเฮา
ทรงจากไปเร็ วยิง่ นัก”
คาพูดที่สื่อความหมายกากวมของเนี่ยเฟย ทาให้รอยยิม้ เบาบางของเหยียน
หยิน แทบจะแข็ง ค้างไป แต่ เ พี ย งไม่น านก็รี บ เปลี่ ยนเป็ นสี หน้าจริ ง จังและตอบ
กลับไปอย่างชัดถ้อยชัดคา “หากผูม้ ีพระคุณของข้ายังคงอยูข่ า้ ก็ไม่รู้วา่ นางจะคิดเช่น
ไร แต่ ข ้า ย่อ มคอยรั บ ใช้น างเฉกเช่ น เมื่ อ ก่ อ นเพื่ อ ตอบแทนบุ ญ คุ ณ เป็ นอย่า งดี
แน่นอน”
ท่าทางเช่นนั้นของเหยียนหยินทาให้เนี่ยเฟยมีสีหน้าลาบากใจไม่นอ้ ย “ดูสิ
ข้า เพี ย งชวนคุ ย เล่น เท่ า นั้น เจ้า กลับจริ งจัง ไปเสี ย ได้” ก่ อ นจะพูดราวกับจะช่ วย
ปลอบใจออกมาว่า “หากเหยียนเฟยคิดเช่นนี้ ก็ดีแล้ว จะได้ไม่ตอ้ งรู ้สึกไม่ดีกบั ข่าว
ลือเหล่านั้น”
คาว่าข่าวลือที่ได้ยินทาให้ใจของเหยียนหยินกระตุกวาบด้วยไม่เคยได้ยนิ
มาก่อน แต่แม้จะไม่รู้วา่ อีกฝ่ ายพูดถึงเรื่ องใด ก็ยงั ต้องยิม้ ตอบกลับไปราวกับเข้าใจ
เรื่ องเหล่านั้นดี “ขอบคุณเนี่ยเฟยที่ห่วงใย”
ด้านเนี่ยเฟยที่ไม่เห็นเหยียนหยินสะทกสะท้านอันใด มีแววตาสัน่ ไหวราว
กับลังเลเล็กน้อย แล้วจึงตัดสิ นใจเปลี่ยนเป็ นถามบางอย่างขึ้นมาแทน “เหยียนเฟยจะ

170
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

นัง่ เล่นอยูท่ ี่นี่หรื อ” คาถามนั้นทาให้เหยียนหยินเพียงแค่ตอบกลับไปว่า “ข้าไม่ค่อย


ได้ออกมาเท่าไหร่ จึงอยากจะนัง่ ชมบรรยากาศโดยรอบนี่สกั พัก”
เมื่อเห็นเหยียนหยินยังดูไม่สะทกสะท้านเช่นเดิม เนี่ ยเฟยก็ตอ้ งวางตัวไม่
ถูกเล็กน้อย ก่อนจะตัดใจพูดถอนตัวออกไปเอง “ถ้าเช่นนั้นข้าต้องขอตัวกลับก่อน
ข้าติดธุระนิดหน่อย” พูดจบก็ได้กลับมาเพียงรอยยิม้ เบาบางของอีกฝ่ ายเท่านั้น “ตาม
สบายเถิด”
จากนั้นเนี่ ยเฟยก็ได้แต่จากไปด้วยสี หน้าที่แม้จะมีรอยยิ้มแต่กลับเต็มไป
ด้วยความร้อนใจ พอเห็นเนี่ ยเฟยลับสายตาแล้วเยว่อิ๋งก็ขยับเข้ามาถามนายของตน
อย่างรู ้งานในทันที “พระสนม จะทรงทาสิ่ งใดต่อเพคะ”
ท่ าทางคล่องแคล่วรวดเร็ วของเยว่อิ๋งทาให้เหยียนหยินอดที่ จะหัวเราะ
ออกมาไม่ได้ “ดูเหมือนเจ้าจะรู ้ใจข้าดียิ่งนัก” ยามที่เห็นสายตาภูมิใจเบา ๆ ของนาง
กานัลคนสนิ ทแล้ว ก็ตอ้ งสั่งเสี ยงเบาออกไปว่า “ให้คนตามดูเนี่ ยเฟยให้ดี แล้วก็ขา้
อยากรู ้วา่ ข่าวลือที่นางพูดถึงนั้นคือสิ่ งใด”
ได้ยิ น เช่ น นั้น เยว่อิ๋ ง ก็ พ ยัก หน้า รั บ ทัน ที พลางคิ ด ว่า รอสั่ง คนของตน
หลังจากพาพระสนมเบื้องหน้ากลับตาหนักก็แล้วกัน แต่เมื่อไม่เห็นพระสนมของ
ตนลุกขึ้นหรื อทาสิ่ งใดต่อไปแล้วก็ตอ้ งถามอย่างลังเลใจขึ้นอีกครั้งหนึ่ ง “แล้วจะ
ทรงกลับเลยหรื อไม่เพคะ”
“ไม่ล่ะข้าจะอยูต่ ่ออีกหน่อย” เหยียนหยินตอบ แต่เมื่อเห็นสายตาสงสัยปน
เป็ นห่วงของอีกฝ่ ายก็ตอ้ งอธิบายออกไปด้วยน้ าเสี ยงนิ่งเรี ยบว่า “หากไม่อยูต่ ่อคงจะ
ดูเหมือนข้าร้อนรนรี บหนีต่อคากล่าวหาพวกนั้นไม่ใช่รึไงกัน”

171
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เยว่อิ๋งเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจได้ในทันที เพราะหากยามนี้ มีข่าวลืออยู่


จริ ง ประกอบกับเมื่อกี้มีผูค้ นที่เดินผ่านไปมาจ้องมองพระสนมของตนยามที่พดู คุย
กับเนี่ยเฟยอยูเ่ ป็ นจานวนมาก หากพระสนมของตนรี บร้อนจากไปเร็ วล่ะก็ อาจจะมี
ข่าวลือว่าทั้งสองคนพูดคุยกันเรื่ องข่าวลือเหล่านั้น ส่วนพระสนมของพวกนางก็อาจ
ถูกสงสัยว่าร้อนใจจนรี บหนีไปได้
แต่แม้จะเข้าใจเช่นนั้นแล้ว เยว่อิ๋งก็ยงั อดไม่ได้ที่จะมองพระสนมของตนที่
เริ่ มมีสีหน้าซี ดเซี ยวจากอากาศหนาวเย็นโดยรอบทั้ง ๆ ที่อาการป่ วยพึ่งจะดี ข้ ึนได้
ไม่ น านด้ว ยความเป็ นห่ ว ง ก่ อ นจะรี บ ไปสั่ ง คนให้ รี บ ออกไปสื บ ข่ า วโดยเร็ ว
เพื่อที่จะได้รีบกลับตาหนักกันเสี ยที
ผ่านไปไม่นานนักเยว่อิ๋งก็กลับเข้ามารายงานให้เหยียนหยินซึ่งกาลังนัง่ จิบ
ชาอยู่ที่เดิ ม เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายฟั งอีกครั้ง “พระสนม ดูเหมือนจะมี
ข่าวลือแพร่ กระจายเมื่อเช้านี้ และเป็ นข่าวลือที่เกี่ยวกับพระสนมเพคะ”
ได้ยนิ เช่นนั้นเหยียนหยินก็พยักหน้าเชิงรับรู ้แล้วหันมาถามกลับทันที “ได้
ความว่ายังไงบ้าง”
คาถามนั้นทาให้เยว่อิ๋งมีสีหน้าลังเลนิ ดหน่ อย ก่อนจะตัดสิ นใจรายงาน
ออกมาว่า “มะ เมื่ อ เช้า นี้ มี ข่ า วลื อ กระจายไปทั่ว วัง หลวงว่า พระสนมไม่ ส านึ ก
บุญคุณฮองเฮาที่เคยเลี้ยงดู ทั้งยังบอกว่า…” พูดถึงตรงนี้น้ าเสี ยงของเยว่อิ๋งก็ดูจะเบา
ลงมากกว่าเดิ ม ยามที่ กาลังจะพูดประโยคสุ ดท้ายออกมา “บอกว่า…พระสนมอาจ
เป็ นคนวางยาพิษในอาหารของฮองเฮาจนสิ้ นพระชนม์ เพราะหวังอาจเอื้ อมใน
ตาแหน่งของผูม้ ีพระคุณต่อตนเอง”
เพล้ง!

172
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เสี ยงถ้วยชาในมือร่ วงหล่นลงทาให้คนรอบด้านต้องรี บหันมามองเหยียน


หยินที่ดูจะนิ่งค้างไปแล้ว อาการปวดหัวฉับพลันจากสิ่ งที่ได้ยินทาให้ตวั ของเหยียน
หยินไหวเอนราวกับจะล้มลงเล็กน้อย
“พระสนมเพคะ!” เยว่อิ๋งเรี ยกอีกฝ่ ายด้วยความตกใจ ก่อนจะรี บเข้ามาพยุง
ไว้ ในใจได้แต่คิดว่าตนไม่น่ารี บรายงานเรื่ องที่อ่อนไหวงเช่นนี้ ด้านเหยียนหยินที่
พอจะปรั บความคิ ดของตนได้น้ ัน แม้จะยังปวดหัวอยู่แต่ก็รีบกลับมานั่งตัว ตรง
เช่นเดิมทันที “ข้าไม่เป็ นไร อย่าพึ่งเสี ยงดังไป ค่อย ๆ พยุงข้ากลับตาหนักก็พอ”
“เพคะ” เยว่อิ๋งรับคา ก่อนจะสัง่ ให้คนที่เหลือเตรี ยมกลับตาหนักทันที แล้ว
ค่อย ๆ พยุงพระสนมของตนให้เดินออกไป แม้ภายนอกทุกอย่างจะดูปกติ แต่จาก
แรงบีบที่มือของพระสนมที่ จบั แขนตนอยูน่ ้ นั ก็พอจะทาให้เยว่อิ๋งรู ้แล้วว่าอีกฝ่ ายคง
คิดมากและกระวนกระวายใจอยูเ่ ป็ นแน่
“เข้าใจแล้ว…”
เสี ยงของเหยียนหยินดังขึ้นมาอีกครั้ง คาพูดพึมพาเบา ๆ ที่ ยากจะได้ยิน
นั้นทาให้เยว่อิ๋งอดถามออกมาไม่ได้วา่ “ทรงเข้าใจสิ่ งใดเพคะ”
แต่เหยียนหยินเพียงหันไปยิม้ น้อย ๆ ให้กบั นาง แล้วเร่ งฝี เท้าตนเองมาก
ขึ้นกว่าเดิม “รี บกลับตาหนักกันเถิด ดูเหมือนอีกไม่นานคงจะเกิดเรื่ องวุน่ วายเข้าจริ ง
ๆ ” พูดถึงตรงนี้ ก็เว้นช่วงไปสักพัก แล้วบอกต่อไปด้วยเสี ยงที่ เบาลงว่า “กลับไป
เมื่อไหร่ เจ้าหาคนที่ไว้ใจได้ลองเดินสารวจรอบตาหนักดู หากมีของไม่คุน้ ตาให้มา
แจ้งข้าทันที”
ได้ยินเพียงเท่านั้นเยว่อิ๋งก็เบิ กตาโตอยู่ครู่ หนึ่ งด้วยความตกใจ ด้วยนาง
เข้าใจแล้วว่าพระสนมของตนกาลังคิดว่ามีคนพยายามจะกาจัดพวกตนอยูน่ นั่ เอง

173
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฝ่ ายเหยียนหยินที่ พยายามเร่ งฝี เท้ากลับตาหนักนั้น ในใจก็ได้แต่พะว้า


พะวงว่า วังหลังมีข่าวลือเช่นนี้พอดีกบั ที่ราชสานักมีเรื่ องใหญ่โตให้ถกเถียง นางเจอ
เรื่ องลาบากยังไม่เท่าไหร่ แต่ผทู ้ ี่ลาบากใจมากกว่าคงจะเป็ นเขาไม่ใช่หรื อไงกัน
ช่วงเวลาล่วงผ่านเพียงหนึ่ งค่ าคืน แต่หลาย ๆ อย่างดูจะถูกเร่ งร้อนให้รีบ
เปลี่ยนไปเหลือเกิน

***************************************

174
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 39 ควำมลับที่ถูกเปิ ดเผยออกมำ

เหยียนหยินกลับมาที่ ตาหนักได้เพียงไม่น าน เสี ยงเรี ยกอันคุ น้ เคยจาก


ภายนอกตาหนักก็ดงั ขึ้น “หยินเอ๋ อ”
เพียงแค่เห็ นสี หน้าที่ แม้จะพยายามทาให้สงบนิ่ งแต่ก็ดูกังวลใจไม่ค่อย
ต่างกันจากเขา นางก็ปกปิ ดความกังวลใจจากภายในไม่ได้เช่นกันในทันที ได้แต่เอ่ย
เรี ยกอีกฝ่ ายเสี ยงเบา “ฝ่ าบาท…”
แต่ยงั ไม่ทนั ได้พูดอะไร เขาก็รีบร้อนเดินเข้ามาหานางเสี ยก่อน พลางพา
นางมานัง่ ลงข้างกัน แล้วไล่คนอื่น ๆ ออกไป ก่อนจะพูดตรง ๆ ออกมาด้วยสี หน้า
จริ งจัง “ข้ารู ้วา่ เจ้าอาจจะยังไม่สบายใจ แต่ตอนนี้ขา้ อยากให้เจ้าเล่าทุกอย่างให้ขา้ ฟัง
ทั้งหมด”
ท่าทางที่ดูเร่ งรี บผิดจากปกติ เพราะเขาไม่เคยเร่ งร้อนหรื อคิดจะถามสิ่ งใด
กับนางตรง ๆ เช่นนี้ ทาให้เหยียนหยินอดที่จะแปลกใจไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้นเพคะ”

175
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฮ่องเต้เพียงถามนางกลับมาว่า “เรื่ องการตายของฮองเฮาเจ้าสงสัยใครอยู”่


พลางอธิบายให้นางที่ยงั คงดูงุนงงกับท่าทีของเขาฟัง “ยามนี้เหล่าขุนนางต่างยืน่ ฎีกา
ให้สอบสวนใหม่ เพราะมีพยานบอกว่าเห็ นเจ้าอยู่กบั ฮองเฮาตลอดทั้งยังคอยดูแล
เรื่ องอาหารการกินจนนางสิ้นใจไป”
แค่ได้ยนิ สิ่ งที่เขาบอกคิ้วทั้งสองข้างของเหยียนหยินก็ตอ้ งขมวดเข้าหากัน
น้ าเสี ยงพลันเบาลงจากความไม่เข้าใจ “เรื่ องนั้นไม่วา่ ผูใ้ ดก็รู้กนั ทั้งนั้น…”
เรื่ อ งที่ น างเป็ นคนสนิ ท ของฮองเฮาและคอยรั บ ใช้ข ้างกายฮองเฮาใน
ตาหนักตลอด เป็ นเรื่ องที่คนส่ วนมากในตาหนักฮองเฮาล้วนรู ้ดีอยูแ่ ล้ว หากใครคิด
จะสื บเรื่ องนี้ ไม่ใช่เรื่ องยาก เพียงแต่การที่เรื่ องธรรมดา ๆ เช่นนี้ ทาให้ชายตรงหน้า
นางดูกงั วลใจได้แปลว่าต้องมีเรื่ องอื่นใดอีกใช่หรื อไม่
“ฝ่ าบาท พยานยังให้การอย่างอื่นอีกใช่หรื อไม่เพคะ”
ทันทีที่นางถามออกไปฮ่องเต้ก็พยักหน้าตอบกลับมา ก่อนจะถอนหายใจ
อย่างจนใจ “มีคนบอกว่าตลอดระยะเวลาที่อยูต่ าหนักฮองเฮา เห็นเจ้าต้มยาที่ถูกสัง่
มาจากภายนอกบ่อย ๆ ด้วยตนเอง”
ได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็พลันรู ้สึกสะอึกขึ้นมา เพราะนางมักจะต้มยาที่
ถูกสั่งจากภายนอกให้ฮองเฮาเป็ นเสมอจริ ง ๆ เพียงแต่เรื่ องนี้นางมิได้บอกใคร หรื อ
ควรจะบอกว่าบอกมิได้มากกว่า
“ยานัน่ มัน…”เหยียนหยินได้แต่นึกว่าจะอธิ บายให้เขาฟังอย่างไร แต่ก็รู้ดี
ว่าถึงนางจะอยากอธิบายออกไปเท่าไร นางจะพูดได้อย่างไรเล่าว่าตลอดระยะเวลาที่
อยูใ่ นวังหลวง ฮองเฮาผูล้ ่วงลับไปแล้วนั้นเป็ นผูท้ ี่มกั จะสัง่ ยาที่ช่วยให้กาเนิดบุตรมา

176
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

จากภายนอกวังด้วยตนเอง การนายาเช่นนี้ จากภายนอกเข้ามาเป็ นเรื่ องที่ไม่ถูกต้อง


ในวังหลวง เพียงแต่สตรี มากมายก็มกั จะแอบทาเช่นนี้กนั
เมื่ อไม่รู้จะอธิ บายอย่างไรแล้วเหยียนหยินก็ได้แต่นิ่งเงี ยบไป ฮ่องเต้ที่
พอจะเข้าใจความลาบากใจของนางดีจึงเป็ นฝ่ ายพูดขึ้นก่อน “ใต้เท้าฉิ นเล่าให้ขา้ ฟัง
หมดแล้ว เจ้าไม่ตอ้ งกังวล”
ได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็ตอ้ งแปลกใจเล็กน้อย เพราะนี่ หมายความว่า
ทันทีที่มีข่าวเรื่ องนี้ ออกมา ใต้เท้าฉิ นก็ยอมเป็ นฝ่ ายมาอธิ บายกับฮ่องเต้ดว้ ยตนเอง
แม้วา่ นัน่ จะเป็ นเหมือนการบอกความผิดที่ลูกสาวแท้ ๆ ของตนได้ทาไปก็ตาม
ไม่นานนักเสี ยงของฮ่องเต้ก็ดงั ถามขึ้นมาอีกครั้ง “อย่าลืมไปว่าก่อนหน้านี้
ราชองครั กษ์ยงั เคยตรวจพบพิษในอาหารของฮองเฮาอี กด้วย ทั้งเรื่ องยายังมี คน
ยอมรับผิดไปแล้ว ที่ขา้ อยากรู ้ในตอนนี้จึงมีแค่เจ้าสงสัยผูใ้ ดอยูเ่ ท่านั้น”
เมื่อพอจะเข้าใจความต้องการของเขาแล้ว เหยียนหยินจึงพยักหน้าลงน้อย
ๆ แล้วเริ่ มเล่าออกไป “เดิ มที หม่อมฉันสงสัยฉื อเฟยว่าเป็ นคนสั่งการทุกอย่าง ฝ่ า
บาทยังทรงไม่รู้ใช่หรื อไม่วา่ เหตุใดนางจึงสัง่ ฆ่าหม่อมฉัน…”
คาถามจากนางทาให้ฮ่องเต้มีสีหน้าครุ่ นคิด ก่อนจะพลางนึ กถึงคาให้การ
ของฉื อเฟยที่ ถูกจับในข้อหาตั้งใจวางยาทาร้ ายสตรี เบื้ องหน้าเขา และเป็ นผูต้ อ้ ง
สงสัยวางยาฮองเฮาแล้วจึงถูกตัดสิ นโทษไปในครานั้น “นางให้การว่าเป็ นเพราะเจ้า
ระแคะระคายเรื่ องยาพิษ”
ได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็ส่ายหัวไปมาน้อย ๆ “แต่หม่อมฉันคิดว่ามิใช่
เช่นนั้นเพคะ” แล้วจึงอธิบายออกไป “คืนนั้นก่อนฮองเฮาจะทรงสิ้นใจจากไปเพราะ
อาการทรุ ดลง หม่อมฉันรี บออกไปตามหมอหลวง…” พูดถึงตรงนี้เหยียนหยินก็นิ่ง

177
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เงียบไปชัว่ ครู่ หนึ่ ง แล้วจึงพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “แต่ระหว่างที่เดินผ่านห้องหนังสื อก็


ได้ยนิ เสี ยงดังออกมาเสี ยก่อน”
สิ่ งที่พ่ ึงได้รู้ทาให้ฮ่องเต้มีสีหน้าเคร่ งเครี ยดขึ้น “มีใครอยูใ่ นนั้นงั้นเรอะ”
แต่คาถามของเขาก็ได้กลับมาเพียงคาตอบอย่างเสี ยดายจากนาง “ไม่รู้เพคะ เพราะ
ฮองเฮาทรงสิ้นใจพอดีหม่อมฉันจึงต้องรี บกลับไปก่อน”
เมื่อพอจะรู ้ตน้ สายปลายเหตุแล้ว ฮ่องเต้ก็ดูจะเริ่ มอารมณ์ดีข้ ึนมานิดหน่อย
“ข้าจะให้คนไปสื บต่อ หากนึ กอะไรออกอี กเจ้าต้องบอกให้ขา้ รู ้ทนั ที ” ใบหน้าที่
ประดับ ไปด้ว ยรอยยิ้ม อบอุ่ น ของเขา ท าให้ เ หยี ย นหยิ น ได้แ ต่ งุ น งงว่า เหตุ ใ ด
สถานการณ์เช่นนี้เขาจึงยังยิม้ ได้กนั
“ฝ่ าบาท ทรงยิ้มทาไมกันเพคะ” สุ ดท้ายเหยียนหยินที่ ยงั คงสงสัยก็ตอ้ ง
หลุดถามออกไป คาถามของนางทาให้ฮ่องเต้หัวเราะชอบใจออกมา ก่อนจะแกล้ง
พูดหยอกล้อนาง ด้วยสายตาที่จงใจทาให้แหลมคมราวกับไม่พอใจน้อย ๆ ว่า “จะ
บอกว่าข้าห้ามยิม้ งั้นรึ ”
ค าพูด ของเขาทาให้เ หยีย นหยิน รี บปฏิ เสธเป็ นพัล วัน “มิ ใ ช่ เ ช่ น นั้นเพ
คะ” เห็นท่าทางของนางเช่นนั้น ฮ่องเต้ก็ยิ่งระบายรอยยิม้ ออกมา จนกระทัง่ ผ่านไป
สักพักจึ งถอนหายใจพูด อย่างผ่อนคลาย “เจ้ายอมเล่าเรื่ องทุกอย่างให้ขา้ ฟังแบบนี้
ทาให้ขา้ อดดีใจขึ้นมาไม่ได้ แล้วข้าจะไม่ยมิ้ ได้อย่างไรกัน”
คาพูดที่ชวนให้ใจหวัน่ ไหวกับภาพเบื้องข้างของเขาที่มีแสงจากภายนอก
ส่ อ งกระทบเล็ก น้อ ย ท าให้เ หยีย นหยินอดที่ จ ะใจเต้น แรงไม่ ไ ด้ ทั้ง ๆ ที่ นี่ มิ ใ ช่
ช่วงเวลาแห่ งความสงบสุ ข แต่นางกลับรู ้สึกสงบสุ ขอยู่ภายในจิตใจ จนสุ ดท้ายจึง
ต้องหันหน้าหนีไปทางอื่นแทน

178
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ความจริ งแล้วนางก็ว่าจะเล่าเรื่ องนี้ ให้เขาฟังตั้งหลายครั้งหลายครา ติดก็


แต่ต้ งั แต่นางขึ้นมาเป็ นพระสนม ก็มีเรื่ องเกิดขึ้นไม่เวีนวัน จึงคิดว่าไม่ใช่เวลาที่ดีที่
จะพูดออกไป
ยามนี้ ภายในนห้องที่คนทั้งสองนัง่ อยูด่ ว้ ยกัน มีแต่ความนิ่ งเงียบไปชัว่ ครู่
ขณะที่ ห นึ่ ง บุ รุ ษ หนึ่ ง สตรี ใ นห้อ งมี ร อยยิ้ม น้อ ย ๆ พลางนั่ง เคี ย งข้า งกัน เท่ านั้น
บรรยากาศเช่นนี้เปรี ยบดัง่ หัวใจกาลังได้พกั ผ่อนท่ามกลางมรสุ มที่ถาโถมเข้ามา แม้
จะยังไม่มีผใู ้ ดพูดสิ่ งใดออกมาก็ตาม
แต่ไม่นานนักก็มีเสี ยงเยว่อิ๋งดังจากด้านนอกเสี ยก่อน “พระสนม คือว่า…”
น้ าเสี ยงที่ ดูลงั เลว่าจะเข้ามารึ ไม่น้ นั ทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งเป็ นฝ่ ายเอ่ยปากออกไป ด้วย
แปลกใจว่านางกานัลคนสนิทของนางมีเรื่ องเร่ งร้อนอันใดกัน “มีอะไรงั้นรึ พวกเจ้า
เข้ามาเถอะ”
ทันทีที่ได้รับคาอนุญาตแล้ว กัว๋ กงกงที่เดิมทีเฝ้าอยูห่ น้าห้องก็เปิ ดประตูให้
ผูท้ ี่รออยูภ่ ายนอกเข้าไปพร้อมกัน
ทันที ที่เยว่อิ๋งเข้ามาด้านใน ก็รีบเดิ นเข้ามาหานายทั้งสองเบื้องหน้า ก่อน
จะคุกเข่าลงหยิบของบางอย่างซึ่ งซ่อนไว้ในเสื้ อออกมาให้คนทั้งสองเบื้องหน้าได้ดู
“ฝ่ าบาท เพราะตอนนี้มีข่าวลือไม่ดีนกั พระสนมจึงให้พวกหม่อมฉันตรวจสอบรอบ
ตาหนักก่อนจะพบของสิ่ งนี้แอบซ่อนไว้เพคะ”
สิ่ งที่เห็นเบื้องหน้าทาให้สีหน้าของฮ่องเต้ดาคล้ าขึ้นมาทันที แม้แต่เหยียน
หยินเองพอเห็นของเบื้องหน้าก็มีใบหน้าซีดขาวลง นัน่ ก็เพราะเบื้องหน้าพวกตนคือ
ตุก๊ ตาฟางสาหรับทาพิธีมนต์ดา!

179
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

สักพักเสี ยงซึ่ งดูเด็ดขาดของฮ่องเต้ก็ดงั ขึ้น “กัว๋ กงกง ตรวจหาที่ มาของ


ของพวกนี้ให้หมด”
สิ้นเสี ยงคาสัง่ กัว๋ กงกงก็มานาของที่อยูบ่ นมือเยว่อิ๋งไป แล้วส่งให้หวั หน้า
ราชองครักษ์เพื่อให้นามันออกไปซ่อนให้ดี จะได้ไม่ม่ผใู ้ ดสังเกตเห็นความผิดปกติ
หรื อทาให้คนร้ายไหวตัวทัน
เมื่อฮ่องเต้เห็นเช่นนั้นแล้วก็มีสีหน้าพึงพอใจเล็กน้อย ก่อนจะหันมาถาม
สตรี เบื้องข้างตนทีเล่นทีจริ งอย่างเป็ นกังวลว่า “ในเมื่อตาหนักเจ้าดูจะไม่ปลอดภัย
เช่นนี้ ช่วงนี้เจ้าไปพักอยูก่ บั ข้าดีรึไม่”
ท่าทางถามลองเชิงจากเขาทาให้เหยียนหยินต้องตอบปฏิเสธกลับไปทันที
“ไม่ได้นะเพคะ” ตอนนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับนางเยอะแยะเช่นนี้ ยิง่ ไปอยูก่ บั เขาจะยิง่ ไม่
เป็ นการแย่กว่าเดิมหรื ออย่างไร
ฝ่ ายฮ่องเต้ที่เข้าใจเรื่ องนั้นดี เช่ นกันได้แต่ถอนหายใจด้วยความเสี ยดาย
ก่อนจะหันกลับมาลูบใบหน้าที่ยงั คงซีดขาวอยูบ่ า้ งของนางอย่างเป็ นห่วงเป็ นใย “ข้า
รู ้แล้ว ๆ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ตอ้ งดูแลตัวเองให้ดีรู้หรื อไม่” แล้วจึงหันไปมองทางเยว่อิ๋ง
พลันพูดต่อไปว่า “ให้แค่นางอยูข่ า้ งเจ้าก็พอ ส่ วนรอบนอกข้าจะหาทางสับเปลี่ยน
องครักษ์มาเฝ้าไว้ เกิดอะไรขึ้นให้เจ้ารี บเรี ยกพวกเขาซะ”
พูดจบไม่นานนัก ฮ่องเต้ก็พูดคุ ยต่ออี กนิ ดหน่ อย จากนั้นจึ งกลับไปยัง
ตาหนักของตน พอสองนายบ่าวยืนมองขบวนของฮ่องเต้จากไปจนลับสายตาแล้ว
เยว่อิ๋งก็หนั มาถามพระสนมของตนว่า “พระสนมจะเกิดอะไรขึ้นจริ ง ๆ หรื อเพคะ”

180
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาถามของเยว่อิ๋งทาให้เหยียนหยินได้แต่อมยิ้มขึ้นมาน้อย ๆให้นางพอ
สบายใจ “ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ถึงอย่างไรอะไรจะเกิดมันก็ตอ้ งเกิด อย่างน้อยๆ
วันนี้ก็พกั ผ่อนกันก่อนเถิด หากเกิดเรื่ องอะไรขึ้นจะได้มีแรงคอยจัดการดีหรื อไม่”
คาพูดติดตลกของเหยียนหยิน ทาให้เยว่อิ๋งหลุดหัวเราะเสี ยงใส ขณะพา
พระสนมของตนกลับเข้าไปพักผ่อนด้านใน แต่ไม่นานนักเหยียนหยินก็ไอออกมา
นิดหน่อย ทาให้เยว่อิ๋งได้แต่มีสีหน้าดุนิด ๆ ขึ้นมา “จริ ง ๆ แล้ววันนี้ พระสนมยังไม่
ควรออกไปไหนเลยเพคะ พึ่งจะเริ่ มอาการดีข้ ึนจากไม่สบายคราวก่อนแท้ ๆ ดูสิโดน
อากาศเย็นจนจะป่ วยซ้ าสองอีกแล้ว”
คาพูดตาหนิจากนางกานัลคนสนิทของตนทาให้เหยียนหยินได้แต่หวั เราะ
ขบขันเสี ยงเบาตอบกลับไป “เจ้าคิดมากไปแล้วจริ ง ๆ ”

อีกด้านหนึ่งที่ตาหนักจิ่งเหริ นกง
ฮุ่ ย กุ้ย เฟยที่ พ่ ึ ง จะพูด คุ ย กับ องค์ห ญิ ง อวี้ เ หมยเสร็ จ นั้น ก าลัง นั่ง รอค า
รายงานจากคนของตนอย่างใจเย็น ทันทีที่เห็นนางกานัลคนสนิ ทของตนเดินเข้ามา
ฮุ่ยกุ้ยเฟยก็รีบลุกขึ้นถามถึ งสถานการณ์ และแรงกดดันจากภายนอกที่ ตนหวังไว้
ทันที “เป็ นยังไงบ้าง”
“ทุกอย่างเป็ นไปตามแผนเพคะ ยามนี้ เหล่าขุนนางในราชสานักเริ่ มกดดัน
ฝ่ าบาทเกี่ ย วกับ เหยีย นเฟยแล้วเพคะ” นางก านัล ผูน้ ้ ัน ตอบ ก่ อ นที่ ฮุ่ ย กุ้ย เฟยจะ
หัว เราะอย่า งอารมณ์ ดี ขณะหมุ นตัว กลับ ไปนั่ง ยัง ที่ ของตนเช่ น เดิ ม “ดี จ ริ ง ๆ ดู
เหมือนอีกไม่นานข้าก็คงจะได้ตาแหน่งนั้นมาครอบครอง”

181
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

พอนัง่ ลงได้ไม่นานนัก ฮุ่ยกุย้ เฟยก็ยมิ้ อย่างภูมิใจในแผนของตน พลางจัด


แต่งใบหน้าและทรงผมของตนด้วยตนเองก่อนจะถามออกไป “ข้าดูเป็ นยังไงบ้าง”
ทันทีที่นางกานัลคนสนิทเงยหน้าขึ้นมองพระสนมสูงศักดิ์ของตนในชุดสี
ฟ้าอ่อน ประดับลวดลายงดงามแตกต่างจากปกติ ประกอบกับสี หน้าที่ดูผอ่ งใสมีน้ า
มีนวลและเปล่งประกายมากกว่าเดิมแล้ว ก็เอ่ยชมว่า “พระสนมช่างดูงดงามผ่องใส
ยิง่ นักเพคะ”
ได้ยินเช่นนั้นฮุ่ยกุย้ เฟยก็ดูจะพึงพอใจไม่น้อย “งั้นรึ ถ้าเช่นนั้นก็ได้เวลา
แล้ว” พูดจบรอยยิ้มชัว่ ร้ายก็ค่อย ๆ ถูกยกยิ้มขึ้นมา ขณะที่ มือข้างหนึ่ งของนางถูก
วางทาบไว้บนหน้าท้องของตน
“สัง่ คนของเราให้กระจายข่าวเรื่ องที่เนี่ยเฟยเป็ นคนปล่อยข่าวลือใส่เหยียน
เฟยออกไป”
แค่ได้ยินนางกานัลคนสนิ ทก็พยักหน้าอย่างรู ้งานและถอยออกไปทันที
สุดท้ายวันทั้งวันหลังจากนั้นก็ผา่ นพ้นไป พร้อม ๆ กับที่ภายในวังหลวงเริ่ มมีข่าวลือ
เล็ก ๆ อีกอันเริ่ มสะท้อนเสี ยงดังขึ้นมา
.............................

ปัง!
เสี ย งฏี ก าที่ ถู ก ปาลงบนพื้ น พร้ อ มกับ กองฏี ก าอี ก มากมายที่ ล ้ม ลง ดัง
สะท้อนไปทัว่ ห้องทรงอักษรในตาหนักหยางซิ นเตี้ยนหลังเวลาว่าราชการยามเช้า
ทาให้กวั๋ กงกงที่พ่ งึ เดินเข้ามาด้วยต้องการจะรายงานอะไรบางอย่างไม่รู้จะทาเช่นไร
ดี เมื่อพบกับสี หน้าโกรธขึงของโอรสสวรรค์เบื้องหน้าตน

182
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เบื้ องหน้าฮ่องเต้ที่มีสีหน้าดาคล้ าบึ้ งตึงในยามนี้ คือฏี กาที่ ขอยื่นเรื่ องให้


สื บสวนเหยียนเฟยและตรวจค้นตาหนักหย่งโซ่วกงมากมายจากพวกขุนนาง โดยยก
เอาข่าวลือที่กล่าวหาว่านางเป็ นคนวางยาฮองเฮาบวกกับพยานที่ขนุ นางเหล่านั้นหา
มาเองมาเป็ นข้ออ้าง หากเป็ นช่วงก่อนหน้านี้เขาคงจะไม่โกรธเกลียดพวกขุนนางที่ดี
แต่เอนเอียงไปหาขั้วอานาจใหญ่ ๆ เหล่านี้ มากมายนัก ถ้ามิใช่เพราะว่าเมื่อวานเขา
พึ่งไปหานางที่เป็ นโจทย์ในการวิพากวิจารณ์ที่ตาหนัก ก่อนจะต้องพบว่ามีคนแอบ
เอาสิ่ งของที่ขอ้ งเกี่ยวกับมนต์ดาไปไว้ที่ตาหนักนาง!
ดูเหมือนต่อให้เฝ้าระวังเรื่ องคนที่จะไปคอยดูแลหรื อรับใช้นางที่ตาหนัก
เท่าไหร่ ก็ยงั ไม่มีประโยชน์อยูด่ ีเมื่ออีกฝ่ ายหาทางเข้าถึงคนของเขาให้ทาเรื่ องพวกนี้
ได้ แค่นึกถึงคารายงานจากกัว๋ กงกงที่ให้ไปสื บหาที่มาของตุ๊กตาฟางก่อนหน้านี้ ก็
ยิง่ ต้องโมโหเมื่อนึกว่า
สุดท้ายเป็ นคนของเขาที่ส่งไปให้เฝ้าดูนางที่กล้าทรยศและหนีหายตัวไป!
“ฝ่ าบาท…” ในที่สุดกัว๋ กงกงก็ตดั สิ นใจเรี ยกขัดขึ้น เมื่อเห็นใบหน้าที่บ้ ึง
ตึ งของฮ่องเต้มองมาที่ ตน จากนั้นจึ งรายงานต่อไปว่า “ตัง่ แต่เมื่ อวานเย็นจนถึ ง
ตอนนี้มีข่าวลือในวังหลังออกมาอีกแล้วพะยะค่ะ”
สิ่ งที่ได้ยนิ ทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งแค่นเสี ยงเล็กน้อย “ดูท่าพวกนางจะว่างกันยิ่ง
นัก” ก่อนจะย่นคิ้วทั้งสองข้างเข้าหากันเล็กน้อย “แล้วฮุ่ยกุย้ เฟยไม่คิดจะทาอะไรเลย
รึ ไง”
“ก่อนหน้านี้ พระสนมทรงบอกว่าตนไม่มีอานาจมากพอที่จะสั่งทุกคนได้
พะยะค่ะ” กัว๋ กงกงตอบอย่างจนใจ เพราะเขาได้ให้คนไปพบกับฮุ่ยกุย้ เฟยมาแล้ว
ครั้งนึง ด้วยรู ้วา่ ฮ่องเต้ที่อารมณ์เสี ยอยูน่ ้ นั คงไม่อยากได้ยนิ เรื่ องราวเหล่านี้

183
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาตอบจากกัว๋ กงกงทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งหัวเราะน้อย ๆ พลางเอ่ยทวนอย่างนึก


ขบขันในใจ
“ไม่มีอานาจมากพองั้นรึ ” แล้วจึงพูดอย่างประชดประชันออกไปว่า “ก่อน
หน้านี้ก็ดูจะคุมได้เป็ นอย่างดี แล้วเหตุใดจู่ๆจึงจะไม่มีอานาจมากพอกัน!”
ท่าทางไม่พอใจอย่างเห็นได้ชดั ของเขาทาให้กวั๋ กงกงได้แต่กม้ หน้าไม่อาจ
กล่าวสิ่ งใดได้อีก ก่อนที่เสี ยงของฮ่องเต้จะดังถามขึ้นอีกครั้งเสี ยก่อน “พวกนางพูด
เรื่ องอะไร”
“เป็ นเรื่ อ งที่ บ อกว่า เนี่ ย เฟยเป็ นคนปล่ อ ยข่ า วลื อ ใส่ เ หยี ย นเฟยพะยะ
ค่ะ” พูดถึงตรงนี้ กวั๋ กงกงก็มีสีหน้าลังเล แล้วจึงรายงานต่อไป “ถ้าเทียบกับที่ส่งคน
ไปตรวจสอบตามที่พระองค์สงั่ ก่อนหน้านี้แล้ว…ดูเหมือนนี่จะเป็ นเรื่ องจริ ง”
ได้ยนิ เช่นนั้นฮ่องเต้ก็พลันพูดขึ้นเสี ยงดัง
“ดีง้ นั ข้าจะลงโทษนาง!”
ฮ่ อ งเต้หัน ไปสั่ง กั๋ว กงกงที่ ย งั มี สี ห น้า งุ น งงเพราะรู ้ สึ ก ถึ ง ความแปลก
ประหลาดในข่าวลือเรื่ องนี้ต่อทันที “ประกาศราชโองการออกไปลดขั้นเนี่ยเฟยกลับ
เป็ นเนี่ ยผิน แล้วก็ห้ามนางออกมาจากตาหนักเป็ นอันขาด” พูดถึงตรงนี้ สายตาของ
ฮ่องเต้ก็คมกริ บ พลางเอ่ยอย่างเยียบเย็นออกไปว่า “อย่าลืมให้องครักษ์เฝ้าไว้ให้ดี
แต่ก็อย่าให้ผิดสังเกตจนเกินไป”
ค าสั่ง สุ ด ท้า ยจากเขาท าให้ กั๋ว กงกงเข้า ใจได้ใ นทัน ที ว่า นายของตนก็
สังเกตเห็ นถึงความผิดปกติน้ ี เหมือนกัน เพราะข่าวลือเกี่ ยวกับเหยียนเฟยพึ่งหลุด
ออกมาไม่ น าน เรื่ อ งที่ ว่า ใครเป็ นคนปล่ อ ยข่ า วเหล่ า นั้น กลับ หลุ ด ตามมาอย่า ง

184
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

รวดเร็ ว ต่อให้บอกว่านี้ เป็ นเพราะคนที่ ได้รับฟั งพากันออกมาพูดเองว่าได้ยินจาก


ใคร ก็ยงั ดูจะผิดสังเกตจนเกินไป
ไม่นานนักกัว๋ กงกงก็ถามชายเบื้ องหน้าขึ้นอีกครั้ง “ฝ่ าบาทเย็นนี้ จะทรง
เสด็จไปตาหนักหย่งโซ่วกงอีกรึ ไม่พะยะค่ะ”
คาถามนั้นได้รับกลับมาเป็ นน้ าเสี ยงตาหนิ อยูไ่ ม่นอ้ ย “ตอนนี้ ขา้ ไปได้ที่
ไหนกัน”
ขุนนางมากมายยื่นฏี กาเกี่ ยวกับนางเช่นนั้น หากเขาไปยิ่งมิเป็ นการราด
น้ ามันลงกองไฟให้คนหาข้อติฉินนิ นทาหรอกหรื อ นั่นคือความเป็ นจริ งที่ ฮ่องเต้
ต้องยอมรับในตอนนี้ ต่อให้เขาอยากพบนางเท่าไหร่ การไปหานางในยามนี้ ก็มีแต่
จะเป็ นการทาร้ายนาง
เขานิ่ งเงียบครุ่ นคิดไปสักพักก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “สั่งองครักษ์หลวงให้ไป
ตรวจค้นตาหนักหย่งโซ่วกง”
คาสั่งที่ รวดเร็ วแบบไม่ทันตั้งตัวนั้น ทาให้กั๋วกงกงถึ งกับตกใจ “แต่ฝ่า
บาท…”
แต่กวั๋ กงกงยังพูดไม่ทนั จบฮ่องเต้ก็ออกคาสัง่ ต่อไปเสี ยก่อน “เสร็ จแล้วก็
เตรี ยมตัวให้ดี ข้าจะไปหาเหยียนเฟย” พูดจบก็หนั มามองกัว๋ กงกงที่ยนื นิ่งด้วยสี หน้า
งุนงงเพราะตามไม่ทนั พลางยิม้ เจ้าเล่ห์ข้ ึนเล็กน้อย
“ข้าจะไปดูการตรวจค้นตาหนักหย่งโซ่ วกงตามที่ พวกขุนนางต้อ งการ
ด้วยตนเอง!”
หลังจากนั้นฮ่องเต้ก็สั่งกัว๋ กงกงเพิ่มบางอย่าง ทันทีที่กวั๋ กงกงเอาคาสั่งไป
ให้หวั หน้าองครักษ์หลวง และเห็นเหล่าองครักษ์หลวงกับขันทีบางส่วนออกไปแล้ว

185
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ขบวนของฮ่องเต้ก็มุ่งหน้าออกจากตาหนักหยางซินเตี้ยนอย่างรวดเร็ ว เพื่อให้ฮ่องเต้
ไปเฝ้าดูการตรวจค้นตาหนักด้วยตนเองตามที่เขาต้องการ

ไม่นานนักภายในตาหนักหย่งโซ่วกงนั้นก็มีความแตกตื่นมากมายเมื่อเห็น
องครักษ์หลวงพากันเข้ามา ส่วนภายในเรื อนหลักของตาหนักหย่งโซ่วกงนั้น มีเพียง
เสี ยงที่ ดูร้อนรนของนางกานัลคนสนิ ทของเจ้าของตาหนักแห่ งนี้ เท่านั้นเอง “พระ
สนมจะปล่อยเช่นนี้จริ ง ๆ หรื อเพคะ”
เสี ยงถามคาถามเดิ ม ๆ ที่ ดงั ไม่หยุดมาได้สักพักของเยว่อิ๋ง ทาให้เหยียน
หยินที่ นั่งเฝ้ ามองการรื้ อค้นตาหนักอยู่ไม่ไกลต้องถอนหายใจอย่างจนใจออกมา
พลางพูดว่า “แล้วข้าทาสิ่ งใดได้เล่า”
การตรวจค้นดาเนิ นมาได้สักพักแล้ว แม้จะดูน่าเป็ นห่ วงในช่วงที่ไม่รู้วา่
ใครเป็ นใครเช่นนี้ แต่เพราะคนเหล่านี้มาตามคาสั่งของฮ่องเต้ แปลว่าเขาต้องคิดทา
สิ่ งใดอยูเ่ ป็ นแน่แล้วนางจะขัดได้อย่างไรกัน
“แต่คนมากมายเช่นนี้ …” เยว่อิ๋งที่เห็นพระสนมของตนเพียงนัง่ อิงไออุ่น
จากเตาผิงแล้วจิบชาอย่างไม่ทุกข์ร้อนแม้แต่นอ้ ยนั้น พูดขึ้นมาด้วยน้ าเสี ยงลังเล
แต่เพียงไม่นานเสี ยงอันทรงอานาจของใครบางคนก็ดงั ขัดขึ้นมา
“พระสนมของเจ้ายังไม่กงั วล แล้วพวกเจ้าจะกังวลใจไปทาไมกัน”
เห็ น ฮ่ อ งเต้ที่ โ ผล่ ม าแบบไม่ ใ ห้ ซุ่ ม ให้เ สี ย งทั้ง ยัง ก้า วอาด ๆ เข้ามาใน
ตาหนักอย่างรวดเร็ ว เหยียนหยินก็ตอ้ งตกใจอยูค่ รู่ หนึ่ งรี บลุกขึ้นมาทาความเคารพ
เขาเพราะท่ามกลางผูค้ นมากมายเช่นนี้ การจะละเว้นขนบธรรมเนียมเฉกเช่นปกติคง
ไม่ใช่เรื่ องที่ดีนกั ก่อนจะเริ่ มเข้าใจถึงสาเหตุที่เขามาเมื่อเห็นสายตาหลังจากบอกให้

186
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

นางลุกขึ้ น แล้วเห็ นเขาเดิ นไปนั่งลงบนที่ ของนางเมื่ อกี้ พลางจ้องมองเหล่าคนที่


กาลังค้นตาหนักออกไป “ฝ่ าบาท…ที่แท้ก็เป็ นเช่นนี้”
เสี ยงพึมพาเบาบางจากนางทาให้ฮ่องเต้ยิ้มพึงพอใจขึ้นมาชัว่ ครู่ หนึ่ ง แต่
ใบหน้าก็ยงั คงความสุ ขุมและเด็ดขาดเอาไว้ เพื่อไม่ให้คนรอบด้านเห็นว่าการเฝ้ าดู
ของเขาในครั้งนี้เป็ นความเอนเอียงแต่อย่างใด ท่าทีที่ดูราวกับจะห่างเหิ นของเขาทา
ให้ผทู ้ ี่พบเห็นอดคิดไม่ได้วา่ หรื อฮ่องเต้จะสงสัยเหยียนเฟยจริ ง ๆ แล้วกัน
“ในเมื่อมีคนบอกว่าเจ้าเป็ นผูต้ อ้ งสงสัย ก็ไม่แปลกที่ ขา้ ต้องสื บสวนเพื่อ
ความเป็ นธรรมแก่ทุกคน”
เสี ยงที่ดงั ขึ้นของฮ่องเต้ทาให้องครักษ์และขันทีภายในตาหนักหยุดนิ่ งหัน
มาสนใจฟั งกันทันที ก่อนที่ เสี ยงคาสั่งจะดังออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคาว่า “ค้นให้
ครบทุกซอกทุกมุม ข้าจะนัง่ ดูอยูต่ รงนี้ เจอสิ่ งใดให้มารายงานข้าทันที!”
สิ้ นคาสั่งนั้นก็มีคาตอบรับดังกลับมาอย่างพร้ อมเพรี ยงกัน จากนั้นการ
ตรวจค้นตาหนักก็ดาเนินต่อไป ภาพของผูค้ นที่ตรวจค้นตาหนักอย่างขยันขันแข็งที่
เห็นเบื้องหน้าทาให้เหยียนหยินอดชมออกมาไม่ได้วา่ “ฝ่ าบาททรงพระปรี ชายิง่ นัก”
ได้ยนิ เช่นนั้นฮ่องเต้ก็แกล้งถามเสี ยงเรี ยบกลับไปเล็กน้อย “แล้วเจ้าไม่กลัว
ว่าเราจะจับผิดอันใดได้ง้ นั รึ ” เหยียนหยินเพียงแค่อมยิม้ น้อย ๆ ตอบกลับไปว่า “หาก
ในตาหนักของหม่อมฉันมีสิ่งผิดปกติ ก็คงไม่รอดพ้นจากสายตาของพระองค์”
สิ้ นคาพูดนั้นการสนทนาของคนทั้งสองก็จบลง ทาให้บริ เวณรอบด้านดู
เงียบงัน แม้บรรยากาศที่มองจากสายตาของคนภายนอกจะชวนให้รู้สึกอึดอัดยิง่ นัก
แต่คนสองคนที่ไม่ได้พูดคุยกันนั้นก็รู้ดีวา่ การแกล้งทาเป็ นห่ างเหิ นในยามนี้ สาคัญ
เพียงใด

187
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

การตรวจค้นผ่านไปไม่ถึงครึ่ งชัว่ ยาม ก็มีเสี ยงร้องรายงานอย่างรี บร้อนดัง


มาจากภายนอกตาหนัก “ฝ่ าบาท! มีข่าวด่วนจากตาหนักจิ่งเหริ นกงพะยะค่ะ”
ทัน ที ที่ ร่ า งของผูเ้ ป็ นต้นเสี ยงโผล่ม าให้เห็ นถึ ง หน้า ต าหนัก แล้ว เหล่ า
องครักษ์ก็พากันเข้าไปกันคนไร้มารยาทผูน้ ้ ีไว้ก่อนในทันที
เพราะจู่ ๆ ก็มีคนทาเสี ยงดังวุน่ วายเช่นนี้ ใบหน้าของฮ่องเต้จึงเริ่ มมีสีหน้า
ไม่พอใจ แต่เพราะช่วงนี้ มกั จะมีการแจ้งข่าวสารวุน่ วายแบบนี้ เข้ามาบ่อย ๆ ทั้งอีก
ฝ่ ายยังบอกว่ามาจากตาหนักฮุ่ยกุย้ เฟย จึ งส่ งสัญญาณให้คนปล่อยผูท้ ี่ ดูจะรี บร้อน
อยากเข้ามารายงานซึ่งกาลังถูกองครักษ์ก้ นั ไม่ให้เข้ามานั้น เข้ามาภายในตาหนักแล้ว
ถามออกไป “เรื่ องอะไร”
ทันทีที่ขนั ทีซ่ ึ งเป็ นผูส้ ่ งสารเห็นชายสู งศักดิ์เบื้ องหน้าแล้วก็รีบคุกเข่าลพ
ลางพูดเสี ยงดังว่า “กระหม่อมนาสารมาจากตาหนักจิงเหริ นกง ขอแสดงความยินดี
กับฝ่ าบาทด้วยพะยะค่ะ”
ค าพู ด ดี ใ จของขั น ที ผู ้น้ ั นท าให้ ผู ้ที่ อ ยู่ โ ดยรอบพากั น เฝ้ า รอฟั ง ด้ว ย
ความรู ้สึกที่ต่างกันออกไป เนื่องจากพอจะทายได้จากท่าทางและสี หน้าของขันทีผนู ้ ้ ี
แล้วว่าน่าจะเป็ นข่าวเกี่ยวกับสิ่ งใด ก่อนที่คารายงานต่อไปของขันทีเบื้องหน้าจะดัง
สะท้อนก้องออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคาว่า
“ยิ น ดี ด้ ว ยพะยะค่ ะ ฝ่ ำบำท หมอหลวงพึ่ง ตรวจพบว่ ำ ฮุ่ ย กุ้ย เฟยทรง
ตั้งครรภ์ ได้ สองเดือนแล้ วพะยะค่ ะ!”

***************************************

188
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 40 คัดเลือกหญิงงำม

ท่ามกลางพื้นที่สาหรับล่าสัตว์เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี กาลังเต็มไปด้วยคน
ของทั้งสองแคว้นที่พดู คุยเพื่อโอ้อวดสิ่ งที่ตนล่ามาอย่างครึ กครื้ น
ไม่ไกลจากฮ่องเต้เท่าใด จักรพรรดิ แคว้นเหลียงกาลังควบม้าเข้ามาพลาง
กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “คิดไม่ถึงว่าวังหลังของต้าหลิงจะมีสาวงามมากมายเช่นนี้
ฮุ่ยกุย้ เฟยที่เห็นวันก่อนก็วา่ งดงามแล้ว แต่สตรี ที่ฝ่าบาทพามาผูน้ ้ ี ก็ยงั งดงามไปคน
ละแบบไม่ต่างกัน” ขณะที่พูดนั้นสายตาขององค์จกั รพรรดิก็มองไปยังสองสาวงาม
หรื อก็คือหนึ่งในสนมของตนที่ด้ นั ด้นมาจากแคว้นเหลียงและเนี่ยเฟยที่มาพร้อมกับ
ฮ่องเต้ซ่ ึ งกาลังพูดคุยกันถูกคอยิ่งนัก แล้วยกยิม้ เล็กน้อย “เพียงแต่ตระกูลของนางดู
จะไม่คุน้ หูเท่าใด”
ได้ยินเช่นนั้นฮ่องเต้ก็เพียงอมยิ้มบางเบา เพราะความจริ งแล้วเขาพึ่งจะ
แต่งตั้งนางขึ้นมาไม่กี่วนั แล้วชื่ อของนางจะคุน้ หู เฉกเช่นฮุ่ยกุย้ เฟยที่อยู่มานานได้

189
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

อย่างไร “การที่จะเลื่อนขั้นให้พวกนาง ชื่อเสี ยงวงศ์ตระกูลสาคัญด้วยเช่นนั้นหรื อ


ชายใดบ้างเล่าจะไม่ชื่นชอบหญิงงาม”
คาตอบนั้นทาให้จักรพรรดิ แคว้นเหลี ยงนิ่ งไปเล็กน้อยก่ อนจะหัวเราะ
ชอบใจออกมา “นัน่ ย่อมถูกต้องแล้ว” พูดจบองค์จกั รพรรดิ ก็กลับมามีท่าทีน่าเกรง
ขามอีกครั้ง “ข้าให้คนส่ งของขวัญไปให้พวกนางแต่ละคน ถึงจะไม่มีราคามากก็
หวังว่าพวกนางจะพึงพอใจ” ก่อนจะทาท่าราวกับพึ่งนึกอะไรได้บางอย่าง “จริ งสิ ข้า
ยังให้คนส่ งของที่ ถูกคัดเลื อกเป็ นพิเศษให้พ วกนางแต่ ละคนไปด้วย บางที ของ
เหล่านั้นอาจจะช่วยให้พวกนางได้เห็นถึงความทรงจาอันงดงามของเหล่าช่างฝี มือ
ของแคว้นเหลียงที่สลักลงไป”
คาที่ ถูกเน้นย้ าอย่างจงใจ ทาให้แววตาของฮ่องเต้สั่นไหวเล็กน้อย แต่ไม่
นานนักก็กลับไปยิม้ ตอบรับบางเบา “ของที่ได้จากองค์จกั รพรรดิ พวกนางย่อมยินดี
แน่นอน”
ทันทีที่งานล่าสัตว์จบลงและส่ งคนของแคว้นเหลียงกลับที่พกั แล้ว ขบวน
ของฮ่องเต้ก็มุ่งหน้ากลับเข้าวัง ยามที่ ขา้ มผ่านประตูวงั เข้ามาแล้วนั้น เนี่ ยเฟยที่ มี
สิ ทธิ์ได้อยูใ่ กล้ชิดฮ่องเต้ตลอดในงานครั้งนี้ ก็ถามขึ้นมาด้วยท่าทีเอียงอายน้อย ๆ ว่า
“ฝ่ าบาทจะทรงกลับไปพักผ่อนเลยหรื อไม่ หรื อว่าจะให้หม่อมฉันอยูป่ รนนิบตั ิดีเพ
คะ”
ได้ยิน เช่ นนั้น ฮ่ องเต้ก็ ตอ้ งหัน มามองสตรี ขา้ งกายชั่ว ครู่ นางมี ใบหน้า
งดงามแปลกตา เนื่ องจากมีเชื้อสายครึ่ งหนึ่งมาจากแม่ผเู ้ ป็ นชาวมองโกล ผมที่เหลือ
จากการถูกเกล้าไว้ของนางซึ่งถูกถักทอเป็ นเปี ยเล็กอๆอลงมานั้น ดูรับกับใบหน้าที่ดู
สดใสของนางพอดี เพียงแต่ภายใต้ชุดและผ้าคลุมสี เขี ยวเข้มท่ ามกลางหิ มะขาว

190
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

โพลนที่ตกลงมาเช่นนี้ ช่างทาให้ดูไม่เข้ากันเลยจริ ง ๆ อีกทั้งท่าทางเรี ยกร้องอย่าง


ไม่เป็ นธรรมชาติของนางที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงนั้นก็ยิ่งทาให้เขารู ้สึกเอือมระอา แต่
แม้จะคิดเช่นนั้นเขาก็ทาได้เพียงแค่ยมิ้ น้อย ๆ ขึ้นมาเท่านั้นเอง “หากเจ้าอยากจะอยู่
ก็อยูท่ ี่ตาหนักข้าไปแล้วกัน”
ทันทีที่ได้ยนิ เช่นนั้นเนี่ยเฟยก็มีสีหน้าดีใจอย่างเห็นได้ชดั ด้วยนึกว่าตนคง
ได้ข้ ึนมาเป็ นสนมคนโปรดบ้างเป็ นแน่ มิใช่แค่ตวั แทนของใครบางคนอย่างที่ผคู ้ น
ร่ าลือกัน ถ้าเป็ นเช่นนั้นนางก็จะมีทางหนี ทีไล่ให้ตนเองในวังหลังที่มีแต่แผนการ
มากมายแห่งนี้ได้แน่นอน
เนี่ยเฟยดีใจได้เพียงชัว่ ครู่ ประโยคถัดไปจากชายสูงศักดิ์เบื้องหน้า ก็ทาให้
ความหวังในใจนางก็ตอ้ งดับวูบลงทันที
“แล้วข้าจะกลับมา”
ฮ่องเต้พูดเพียงเท่านั้น แล้วจึงหันไปสั่งขันทีคนสนิ ทข้างกาย “ไปตาหนัก
หย่งโซ่วกง” จากนั้นจึงแยกตัวจากไปในทันที ทาเอาเนี่ยเฟยที่ไม่อยากทิ้งความหวัง
ไปเสี ยทั้งหมด หันมามองกัว๋ กงกงอย่างขอความเห็ นใจพร้อมกับที่ นางกานัลข้าง
กายตนก้าวออกมา “กัว๋ กงกง…”
ด้านกัว๋ กงกงที่ดูก็รู้วา่ อีกฝ่ ายอยากให้ช่วยแลกกับการติดสิ นบน ได้แต่กา้ ว
ถอยหลังเป็ นเชิ งปฏิ เสธ “เนี่ ยเฟยโปรดรออยู่ที่นี่” ก่อนจะบอกต่อไปว่า “หากฝ่ า
บาทบอกจะกลับมาย่อมต้องกลับมาแน่ หรื อหากจะทรงกลับตาหนักตนเองก่ อนก็
ให้แจ้งขันทีที่เฝ้าไว้ พวกเขาจะมาแจ้งให้กระหม่อมรับฟังเอง”
พูดจบกัว๋ กงกงก็รีบตามฮ่องเต้ที่มุ่งหน้าไปก่อนแล้ว ทาเอาเนี่ยเฟยรู ้สึกเสี ย
หน้าเป็ นอย่างมาก จนกระทัง่ นางกานัลข้างกายเรี ยกนางอย่างไม่รู้จะทาเช่นไร “พระ

191
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

สนมเพคะ…” เนี่ ย เฟยจึ ง ได้แ ต่ถ อนหายใจหนัก ๆ ออกมาเล็กน้อ ย พลางตอบ


กลับไปว่า “กลับกันเถิด ข้าจะไปหาฮุ่ยกุย้ เฟยแทนแล้วกัน”
ใบหน้าของเยเฟยฉายแววผิดหวัง ทั้งยังดู กลัดกลุม้ ใจอยู่ไม่น้อย แต่ถึง
อย่างนั้นก็ยงั คงพยายามคงรอยยิม้ สดใสไว้ ก่อนจะถามนางกานัลข้างกายขึ้นอีกครั้ง
“คนที่ส่งให้ไปดูก่อนหน้านี้ บอกว่านางว่างอยูร่ ึ เปล่า”
ไม่นานนักก็ได้รับคาตอบกลับมา “ฮุ่ยกุย้ เฟยเพียงแค่ตอ้ นรับองค์หญิงอวี้
เหมยอยูเ่ ท่านั้นเพคะ”
ค าตอบที่ ไ ด้ยิ น ท าให้ เ นี่ ย เฟยถึ ง กับ ชะงัก ไป พลางคิ ด ว่า สตรี ที่ จ งใจ
สนับสนุ น ทั้งยังชี้ แนะตนมากมายผูน้ ้ ี กาลังต้องการสิ่ งใดกัน ก่ อนจะได้แต่หยุด
ความคิดที่อาจทาให้ชีวติ สั้นลงกว่าเดิมได้ แล้วพูดออกมาเสี ยงบางเบา “งั้นรึ งั้นพวก
เรารี บไปพูดคุยกับนางสักหน่อยก็คงดี”
ท่ามกลางหิ มะขาวโพลนที่ ตกลงมานั้น หนึ่ งสตรี กบั ลังเดิ นห่ างออกไป
พร้อมกับความคับข้องใจที่ไม่วา่ ใครก็ไม่อาจรู ้ได้เลย…

อีกด้านหนึ่งที่ตาหนักหย่งโซ่วกง
ทันที ที่ฮ่องเต้มาถึ งและเห็ นหญิ งสาวอันเป็ นที่ รักนั่งเหม่ออยู่ขา้ งเตาผิง
แล้ว ก็อดที่จะถามขึ้นไม่ได้วา่ “เจ้ากาลังนัง่ คิดสิ่ งใดอยู”่
เสี ยงของเขาที่จู่ ๆ ก็ดงั ขึ้นมาทาให้เหยียนหยินรี บลุกขึ้นถวายบังคมแทบ
ไม่ทนั “ฝ่ าบาท…” แต่แค่นางลุกขึ้นมาก็ยงั คงถูกเขาห้ามไว้เช่นเคย ทาให้สุดท้าย
นางได้แต่กลับไปนัง่ อยูอ่ ย่างเก่าแล้วถามเขาด้วยความสงสัยกลับไปแทน “ฝ่ าบาท
มิใช่วา่ พึ่งจะกลับมาจากล่าสัตว์หรื อเพคะ”

192
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาถามนั้นทาให้ฮ่องเต้ที่นั่งอยู่ขา้ งนางถามด้วยรอยยิ้มแปลกใจขณะพูด
หยอกล้อขึ้นมาเล็กน้อย “เจ้ารู ้การเคลื่อนไหวของเราดีแบบนี้ต้ งั แต่เมื่อไหร่ กนั ” แต่
พอเห็นนางสะดุง้ ตกใจกลัว เพราะการรู ้ความเคลื่อนไหวของเขาที่เป็ นฮ่องเต้เช่นนี้
อาจทาให้รับโทษแล้ว ก็ตอ้ งหัวเราะแห้ง ๆ ให้กบั การหยอกล้อที่ดูจะแรงไปของตน
พลางพูดออกไปว่า “ช่างเถิด ๆ ” แล้วจึงเปลี่ยนไปคุยเรื่ องอื่นแทน “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็
ต้องรู ้เช่นกันว่าข้าออกไปกับใคร จะไม่ถามสักหน่อยรึ ยงั ไงกัน”
แววตาสนอกสนใจที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเขา ทาให้เหยียนหยินมี
สี หน้างุนงง “ทรงหมายถึงเนี่ยเฟยที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาอย่างเร่ งด่วนหรื อเพคะ”
คาตอบตรง ๆ จากนาง ทาให้เขาต้องมีน้ าเสี ยงไม่พอใจปนน้อยใจขึ้นมาว่า
“ท่าทางแบบนี้คืออะไรกัน เจ้าจะหึ งสักนิดไม่ได้รึไง”
พอรู ้ถึงความต้องการจริ ง ๆ ของเขาแล้วเหยียนหยินก็ตอ้ งหน้าแดงอย่าง
พูดไม่ถูก “นั่นมัน…” นางยังไม่ทนั คิดว่าจะพูดสิ่ งใดต่อ เขาก็เปลี่ยนเรื่ องอีกครั้ง
เสี ยก่อน “จริ งสิ ขา้ ได้ยนิ ว่าจักรพรรดิแคว้นเหลียงให้คนเอาของมาให้เหล่าพระสนม
ในวังหลัง ของเหล่านั้นเป็ นอย่างไรบ้าง”
พอคาถามนี้ดงั ขึ้น เหยียนหยินก็พอจะเข้าใจแล้วว่าเขามาที่นี่เพราะเหตุใด
“ที่หม่อมฉันได้มาล้วนเป็ นชุดและเครื่ องประดับเก่าแก่เพคะ แม้จะไม่ใช่
ของใหม่แต่ก็คงจะมีค่าน่าดู” เหยียนหยินตอบ ก่อนที่ฮ่องเต้จะถามด้วยสายตายาก
จะคาดเดาออกไป “แล้วนอกจากนั้นยังมีอะไรอีกหรื อไม่”
ท่าทางของฮ่องเต้ที่ดูแปลกประหลาดในวันนี้ น้ นั ทาให้เหยียนหยินพอจะ
ทายได้วา่ คงเป็ นเพราะเรื่ องของที่ถูกส่ งมา ที่เขาดูจะสนอกสนใจเหล่านี้เป็ นแน่ แต่

193
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

แม้จะไม่รู้วา่ เขาสนใจเพราะอะไร นางก็ได้แต่ตอบตามตรงกลับไป “มีเพียงถ้วยชา


อีกถ้วยเท่านั้นเพคะ”
ได้ยินเช่ นนั้นฮ่องเต้ก็พยักหน้าเป็ นเชิ งรับรู ้ เล็กน้อย “เป็ นเช่นนั้นงั้นรึ ”
ก่อนจะยิม้ อธิ บายออกไปว่า “แบบนี้ ทางเราก็ควรจะหาของที่เท่าเทียมเป็ นสิ นน้ าใจ
ส่งกลับคืนไปให้เช่นกัน”
แม้เหยียนหยินจะไม่ค่อยเชื่อในคาอธิ บายนั้น นางก็ได้แต่ยมิ้ ตอบกลับไป
แล้วจึงถามขึ้นอีกครั้ง “ว่าแต่ฝ่าบาทจะเสด็จกลับตาหนักเมื่อไหร่ เพคะ หรื อจะทรง
เสวยสิ่ งใดก่อน” คาถามด้วยความเป็ นห่ วงของนางที่ไม่อยากให้เขาอยูน่ าน เพราะ
กลัวเขาจะติดหวัดนางซึ่ งยังไม่หายดีเอาได้ กลับได้รับกลับมาเป็ นน้ าเสี ยงน้อยอก
น้อยใจที่ตอบกลับมาว่า “ข้าพึ่งมาถึงไม่นาน เจ้าก็จะไล่ขา้ กลับไปแล้วรึ ยงั ไง”
ท่าทางของเขาทาเอาเหยียนหยินต้องรี บร้อนอธิ บายเสี ยยกใหญ่ จนคนทั้ง
สองพูดคุยนอกเรื่ องกันไปเสี ยนาน ฮ่องเต้ก็ถามขึ้นอย่างเป็ นห่ วงอีกครั้ง “อาการ
ของเจ้าดีข้ ึนรึ ยงั ”
คาถามและน้ าเสี ยงที่ ดูห่วงใยของเขา ทาให้แววตาของเหยียนหยินอ่อน
โยนลงไม่นอ้ ย
“เกือบจะหายดีแล้วเพคะ”
ฮ่องเต้ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้ารับรู ้พลางถามขึ้นด้วยรอยยิม้ มีสเน่ห์ แล้ว
ดึงนางเข้ามากอดอย่างรักใคร่ วา่ “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็กลับมาเป็ นเช่นเดิมได้แล้วใช่
หรื อไม่”
ท่าทางของเขาทาเอาเหยียนหยินอดนึกถึงช่วงคืนก่อนหน้านี้ ที่นางถูกเขา
ทาให้แทบจะสิ้ นไร้เรี่ ยวแรง แม้จะมิได้อยากขัดใจเขา แต่เพราะยังกังวลหลาย ๆ

194
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

อย่าง พอเห็นรอยยิม้ กริ่ มที่เขาส่ งมา นางจึงรี บคิดหาทางออกในทันที “ฝ่ าบาท มิใช่
ว่าช่วงนี้ควรจะให้เนี่ยเฟยปรนนิบตั ิหรื อเพคะ”
ในเมื่อเขาพึ่งจะแต่งตั้งเนี่ ยเฟยเพื่อให้ไปงานล่าสัตว์แทนนางขึ้นมา หาก
ไม่ทาให้ดูเหมือนเป็ นคนโปรดเสี ยหน่อยจะถูกสงสัยเอาได้ ทั้งยังอาจจะทาให้แคว้น
เหลียงที่รู้ความจริ งรู ้สึกโดนหยามหน้า แม้จะรู ้เช่นนั้นฮ่องเต้ก็ยงั มีสีหน้าไม่ทุกข์ไม่
ร้อนต่อสิ่ งใด
“ทาไมข้าต้องให้นางทาด้วยกัน อีกอย่างคนของแคว้นเหลียงก็จะกลับไป
พรุ่ งนี้แล้วเจ้าจะใส่ใจไปใย”
ถึงจะได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็ยงั พยายามหาทางออกต่อไป เมื่อใบหน้า
ของเขาเริ่ มซุกไซ้เข้ามาหานางมากขึ้นกว่ามา “แต่ทรงทาแบบนี้ไม่ดีสกั เท่าไหร่ คน
อื่นจะว่าร้ายหม่อมฉันได้…” นางยังพูดไม่ทนั จบ กัว๋ กงกงก็เข้ามารายงานฮ่องเต้
เสี ยก่อน “ฝ่ าบาทเนี่ยเฟยกลับไปแล้วพะยะค่ะ”
กัว๋ กงกงที่ เข้ามาพอดี น้ นั ทาให้เหยียนหยินโดนปล่อยออกจากอ้อมแขน
ของเขา ก่อนที่ จะเห็ นกัว๋ กงกงมีสีหน้าลาบากใจ พลางเขยิบเข้าไปรายงานฮ่องเต้
เสี ยงเบา “แล้วก็…”
เหยียนหยินที่ไม่ได้ยินทั้งสองคนพูดคุยกันต้องนิ่ วหน้าลงเล็กน้อย ได้แต่
คิดว่านัน่ คงจะเป็ นเรื่ องสาคัญเป็ นแน่ เพราะใบหน้าของฮ่องเต้ดูจะเคร่ งเครี ยดขึ้นมา
ชัว่ ครู่ หนึ่ ง จนกระทัง่ เมื่อกัว๋ กงกงถอยออกจากห้องไปแล้ว ฮ่องเต้ก็กลับมามีสีหน้า
ยิ้มแย้มราวกับเมื่อกี้ ไม่มีเรื่ องอันใดเกิ ดขึ้นเลย “ดูท่าวันนี้ คงเหลือเพียงเจ้าที่ จะอยู่
คอยดูแลข้าแล้ว”

195
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาพูดดื้อรั้นของเขาทาให้นางจนปั ญญาที่จะคิดหาทางปฏิเสธออกไป แต่


ยังไม่ทนั อ้าปากพูดสิ่ งใดเขาที่ดูจะรู ้ทนั ก็พูดเสี ยงน่าเกรงขามขึ้นมาทันที “เจ้าคิดว่า
ข้าเป็ นใครกัน จะขัดคาสัง่ ข้างั้นรึ ”
พูดจบก็หวั เราะอย่างอารมณ์ดีกบั ท่าทีตกอกตกใจของนาง ที่แม้จะโดนเขา
แกล้งเช่นนี้ บ่อยแต่ก็ยงั ไม่ชินเสี ยที ไม่นานนักเขาก็ยมิ้ อ่อนโยนพูดขึ้นว่า “พักผ่อน
เถิ ด เจ้า ยัง ไม่ หายดี ขา้ จะทาให้เจ้า เหนื่ อ ยมากกว่า เดิ ม ได้ยงั ไง แต่ คื นนี้ ขา้ จะนั่ง
ทางานอยูท่ ี่นี่แล้วกัน”
เขาพูดทิ้งท้ายเพียงเท่านั้น หลังจากนั้นก็สั่งให้คนขนฏีกามาตาหนักนาง
ทันที ทาให้เหยียนหยินได้แต่ตอ้ งปล่อยเขาทาตามใจอย่างไม่รู้จะทาเช่นไร ก่อนจะ
พึ่งนึ กได้วา่ ก่อนที่เขาจะมาเมื่อกี้นางยังกังวลเรื่ องของที่ถูกส่ งมาเหล่านั้นอยูไ่ ม่ใช่
หรื ออย่างไรแล้วนี่ นางเผลอลืมเลือนความกังวลเหล่านั้นไปหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ กนั
แค่คิดก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา
.............................

ณ ตาหนักจิ่งเหริ นกงของฮุ่ยกุย้ เฟย


ยามนี้ดูจะคึกคักยิง่ นักเมื่อไม่วา่ ใครก็ต่างพากันเอาของมาเอาอกเอาใจนาง
ที่น่าจะได้นงั่ ตาแหน่งฮองเฮาที่ยงั คงว่างอยูเ่ ป็ นคนถัดไป
ภาพผูค้ นที่ทยอยขนของเข้าไปในตาหนักไปมา พร้อมกับคาสรรเสริ ญชื่น
ชมความเมตตาและน่าเคารพของฮุ่ยกุย้ เฟย ทาให้เนี่ ยเฟยที่พ่ ึงเดินมาถึงต้องยิม้ เย็น
ในใจ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเจ้าของตาหนักผูซ้ ่ ึ งกาลังนัง่ พูดคุยกับแขกคนสาคัญอยู่
ภายในตาหนักหลังใหญ่นนั่ เอง

196
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

“ถวายพระพร ฮุ่ยกุย้ เฟยเพคะ” เนี่ ยเฟยพูดพร้อมกับทาความเคารพด้วย


รอยยิ้มสดใส ฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อเห็ นเช่นนั้นก็รีบร้อนเข้ามาพยุงให้นางลุกขึ้นมาอย่าง
ห่วงใยทันที “ลุกขึ้นเถิด ๆ เหตุใดน้องหญิงจึงมาอยูท่ ี่นี่กนั ”
พอได้ยินคาถามจากฮุ่ยกุย้ เฟย เนี่ ยเฟยก็ถอนหายใจตอบกลับว่า “ฝ่ าบาท
ทรงเสด็จไปที่หย่งโซ่วกงแล้ว หม่อมฉันจึงคิดว่าควรจะมาพูดคุยเล่นกับพี่หญิงแทน
เพคะ”
คาตอบนั้นทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยถึงกับชะงักไปชัว่ ครู่ หนึ่ ง “เป็ นเช่นนี้ นี่เอง ฝ่ า
บาทคงจะกังวลกับอาการของเหยียนเฟยจึงรี บไปหานางเช่นนั้น”
ไม่นานนักฮุ่ยกุย้ เฟยก็มองพระสนมที่เคยถูกทอดทิ้งมานานเบื้องหน้า ซึ่ ง
กาลังพยายามทาตัวให้ดูน่าสงสารอยู่ พลางยิม้ เห็นใจน้อย ๆ
“หม่อมฉันรู ้ดีต้ งั แต่แรกแล้วว่าถึงอย่างไรก็คงไม่อาจสู ้กบั เหยียนเฟยได้”
ค าพูด ประโยคนี้ ของเนี่ ย เฟยนั้น ท าให้ฮุ่ ย กุ้ย เฟยต้องมี น้ าเสี ยงปลอบใจออกมา
“ตอนนี้เจ้าตาแหน่งเท่านาง จะดูถูกตนเองเช่นนั้นได้อย่างไรกัน”
ได้ยินเพียงเท่านั้นเนี่ ยเฟยก็รีบเข้ามาขอบคุณด้วยสี หน้าตื้นตันในทันที
“ทั้งหมดนี้ คงต้องขอบคุณพี่หญิงที่ช่วยชี้ แนะ” ระหว่างที่ ละครอันดูน่าประทับใจ
กาลังจะดาเนินไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุ ดนั้น สตรี ในชุดสี แดงอีกผูห้ นึ่ งซึ่ งนัง่ อยูใ่ นห้อง
ก็ดูจะทนไม่ไหว จนต้องเอ่ยต่อว่าออกมาอย่างไม่พอใจว่า “พวกเจ้าจะหยุดพูดพร่ า
เพรื่ อกันเสี ยบ้างไม่เป็ นหรื อไง บรรยากาศดี ๆ พาลเสี ยไปหมด!”
น้ าเสี ยงและท่าทางที่ยงั คงเอาแต่ใจ บวกกับใบหน้าที่งดงามหาใดเปรี ยบ
ของอีกฝ่ ายซึ่ งเป็ นแขกคนสาคัญของฮุ่ยกุ้ยเฟยในยามนี้ น้ นั ทาให้เนี่ ยเฟยต้องยิ้ม
เฝื่ อนเล็กน้อย “องค์หญิงอวี้เหมยช่างงดงามยิง่ นัก”

197
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ด้านฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อเห็นว่าแขกคนสาคัญของตนดูจะไม่ค่อยพอใจแล้ว ก็รีบ


เปลี่ยนเรื่ องพูดทันที “จริ งสิ ข้ากาลังคุยกับองค์หญิงเรื่ องสาคัญอยูพ่ อดี” แล้วจึงหัน
มามองเนี่ ยเฟยด้วยใบหน้าที่ดูเป็ นมิตรพลางพูดว่า “น้องหญิงก็รู้ดีวา่ ความต้องการ
ของข้าคือสิ่ งใด ส่วนข้าเองก็รู้ดีวา่ น้องหญิงต้องการสิ่ งใดเช่นกัน”
พูดจบแววตาของฮุ่ยกุย้ เฟยก็เป็ นประกาย ก่อนที่รอยยิม้ ซึ่งเคยดูอ่อนหวาน
ของนางจะกลายเป็ นรอยยิม้ ที่ดูมีเลศนัยแทน “ในเมื่อพวกเราสามคนมีความต้องการ
ในทางเดียวกันทาไมไม่ร่วมมือกันสักหน่อยเล่า”
ท่าทางที่ เปลี่ยนไปของคนตรงหน้าทาเอาเนี่ ยเฟยอดไม่ได้ที่จะรู ้สึกเย็น
วาบ “ถ้าเช่นนั้นพี่หญิงพูดออกมาเถิด”
คาตอบของเนี่ยเฟยทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยยิม้ ออกมาอย่างพึงพอใจไม่นอ้ ย พลาง
พูดอย่างคาดหวังด้วยตาเป็ นประกายระยิบระยับ “งานนี้ จะสาเร็ จได้ตอ้ งพึ่งน้อง
หญิ ง เท่ า นั้ น” จากนั้ นจึ ง ยิ้ ม หวานอธิ บ ายต่ อ ไป “ตระกู ล ของน้ อ งหญิ ง มี
ความสัมพันธ์เก่าแก่กบั ขุนนางฝ่ ายอดีตฮองเฮาใช่หรื อไม่ ถ้าเช่นนั้นทาไมไม่ลอง
เสนอเรื่ องการรื้ อฟื้ นคดีการสิ้นพระชนม์ของอดีตฮองเฮาเล่า”
แผนการที่ดูเสี่ ยงจนเกินกว่าจะรับไหว โดยการเข้าไปยุง่ กับขุนนางเก่าแก่
และเรื่ องที่ไม่ควรยุง่ อย่างการตายของฮองเฮาที่ถูกตัดสิ นไปแล้ว ทาเอาเนี่ ยเฟยต้อง
ถามด้วยเสี ยงสั่นเครื อจากความหวาดหวัน่ ใจ “หม่อมฉันจะทาเช่นนั้นไปทาไมกัน
เพคะ”
เรื่ องการสิ้ นพระชนม์ที่ดูน่าสงสัยของฮองเฮาซึ่ งถูกตัดสิ นว่าเป็ นเพราะ
อาการป่ วยที่กาเริ บกระทันหันในยามแรก บวกกับการที่มีคนเรี ยกรวมตัวนางกานัล
ของตาหนักฮองเฮาหลังจากคืนอันน่าเศร้าไม่นานนั้น ต่อให้มีคนรู ้มากมายแต่ใคร

198
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

จะอยากพูดถึงกัน เมื่อมันคงจะเกี่ยวพันถึงเหล่าผูม้ ีอานาจในยามนั้นแน่นอน อีกทั้ง


เรื่ องการสิ้ นพระชนม์ที่ถูกสงสัยมานานนั้น ไม่นานมานี้ ก็พ่ งึ จะกลายเป็ นโทษหนัก
ให้ฉือเฟยรับไปแล้วหรอกหรื อ ว่ากันว่านางสารภาพด้วยตนเอง ทั้งยังเจอหลักฐาน
คาตาหนัก ในเมื่อมีคนรับเคราะห์แล้วใครบ้างจะยังอยากรื้ อฟื้ นขึ้นมาอีกเล่า
ฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อเห็นว่าสตรี เบื้องหน้ามีท่าทีสั่นกลัว ก็ทาท่าปลอบใจแล้วจึง
โน้มน้าวต่อไป “ส่ วนหนึ่ งก็เพื่อที่ตระกูลของเจ้าจะสร้างความสัมพันธ์กบั ตระกูล
อื่ น และลดฐานอานาจที่ สนับสนุ นใครบางคนลง” คาพูดที่ ฟังดู สวยหรู จากการ
แสดงให้เห็นแต่ดา้ นดีน้ นั อดไม่ได้ที่จะทาให้ใจของเนี่ยเฟยสัน่ ไหวเล็กน้อย แม้จะรู ้
ว่าการขึ้นมาเป็ นคนโปรดแทนที่ใครบางคนไม่ใช่เรื่ องง่าย ๆ อย่างที่คิด แต่การจะ
อยูใ่ นตาแหน่งสูงเช่นนี้ตลอดไปก็เป็ นเรื่ องยากที่ควรทาไว้ให้ได้เช่นกัน
เมื่อฮุ่ยกุย้ เฟยเห็นว่านางเริ่ มจะติดกับแล้วก็ยกยิม้ อ่อนหวานขึ้นมาเล็กน้อย
พลางเรี ยกนางกานัลของตนให้เอาจดหมายฉบับหนึ่ งเข้ามาให้ “เจ้าเพียงแค่ตอ้ งใช้
หลักฐานเหล่านี้ ส่งให้พอ่ ของเจ้าเข้าไปพูดคุยกับใต้เท้าฉิ นเท่านั้น”
เนี่ ยเฟยได้แต่รับมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะหันไปมององค์หญิงอวี้เหมยที่
นัง่ เงี ยบอย่างหยิง่ ทะนงด้วยสี หน้าลังเล เพราะหากที่ฮุ่ยกุย้ เฟยบอกว่าทั้งสามคนมี
ความประสงค์ใ นทางเดี ย วกัน จริ ง แล้ว องค์ห ญิ ง ต้อ งการสิ่ ง ใดกัน “แล้ว องค์
หญิง…”
ไม่ตอ้ งรอให้เนี่ ยเฟยพูดจนจบ องค์หญิงอวี้เหมยก็ชิงพูดตัดบทขึ้นมาเอง
เสี ยก่อน “สตรี ผนู ้ ้ นั ตกลงมาเมื่อไหร่ คนของข้าจะจัดการทุกอย่างและเอาตัวนางไป
เอง” แต่เมื่อเห็นใบหน้าสงสัยที่มองมาแล้วก็ตอ้ งพูดขยายความออกไปว่า “ที่แคว้น
ข้ามีคนต้องการนางอยู่ พวกเจ้าไม่จาเป็ นต้องสงสัยสิ่ งใด ๆ ทั้งนั้น”

199
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

สิ้ นคาพูดนั้นฮุ่ยกุย้ เฟยก็รีบพูดโน้วน้าวเนี่ ยเฟยขึ้นอีกครั้งทันที “คนของ


ข้าจะช่วยให้เจ้าทาทุกอย่างได้ราบรื่ นเอง น้องหญิงไม่ตอ้ งเป็ นกังวลไป” แต่เมื่อเห็น
สายตาที่ยงั ลังเลเล็กน้อยแล้ว จึงต้องเปลี่ยนจากคาพูดโน้มน้าวที่ฟังดูรื่นหู เป็ นคาพูด
ที่แฝงไปด้วยความหมายซ่อนเร้นแทนว่า “ถึงอย่างไรพวกเราก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อ
กัน เรื่ องที่ขา้ เคยเห็นผ่าน ๆ มาข้าก็ไม่เคยถือสาหาความน้องหญิงเลย”
ได้ยินเพียงเท่านั้นเนี่ ยเฟยก็มีสีหน้าลนลานอย่างเห็นได้ชดั “ขะ ข้าจะไม่
ทาให้พวกท่ านผิดหวังเป็ นแน่ ” ก่ อนที่ ฮุ่ยกุ้ยเฟยจะยิ้มพึงพอใจพลางพูด ว่า “ถ้า
เช่นนั้นก็นบั ว่าเป็ นเรื่ องดีจริ ง ๆ ”
คนทั้งสามพูดคุยกันถึงแผนการอีกไม่นานก็แยกย้ายกันกลับไป ทาให้ใน
ตาหนักหลังใหญ่เหลือเพียงฮุ่ยกุย้ เฟยผูอ้ ่อนหวานสูงศักดิ์เพียงผูเ้ ดียวอีกครั้ง
ทันที ที่นางนั่งลงและอ่านหนังสื อในมือไปไม่ถึงหนึ่ งชัว่ ยาม นางกานัล
คนสนิทก็เข้ามารายงานอย่างรู ้งานว่า “พระสนม คนของเราบอกว่าเนี่ยเฟยทาตามที่
ทรงรับสัง่ ทุกอย่างเพคะ”
คารายงานที่ได้ยนิ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ดี ให้ พ วกนั้ นเฝ้ า ดู น างต่ อ ไป” ก่ อ นจะนึ ก ถึ ง เนี่ ย เฟยที่ ถู ก ตนเอง
สนับ สนุ น โดยการเสนอชื่ อ ให้ฮ่ อ งเต้เลื่ อ นขั้น ก่ อนการล่ า สัต ว์ สตรี ผูน้ ้ ี แม้จะดู
เหมือนเป็ นคนโปรดปรานคนใหม่แต่ก็เป็ นเพียงตัวแทนของใครบางคนที่ได้แต่ทา
ตามคาสัง่ นางผูเ้ ท่านั้น
แค่คิดก็ตอ้ งยิม้ หยันขึ้นมาเล็กน้อย “แล้วก็หาหลักฐานสาหรับกาจัดนางไว้
ด้วยก็ดี”

200
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาสั่งที่พ่ ึงได้ยิน ทาให้นางกานัลคนสนิ ทมีสีหน้าลังเล “เนี่ ยเฟยย่อมรู ้ตวั


ว่าคนรอบข้างที่พ่ งึ ถูกส่งเข้าไปนั้นเป็ นคนของเราอยูแ่ ล้ว หากนางเอาไปซ่อนตั้งแต่
ก่ อ นหน้า ให้หาไม่เจอเล่ า เพคะ” แต่ ค าถามที่ เต็มไปด้ว ยความสงสัย นั้นก็ได้รับ
คาตอบเรี ยบ ๆ กลับมาเพียงแค่วา่ “หากหาไม่เจอก็แค่ตอ้ งสร้างมันขึ้นมาไม่ใช่รึไง
กัน”
ได้ยินเช่นนั้นนางกานัลคนสนิ ทก็ได้แต่ตอบรับอย่างเข้าใจ แล้วจึงถามถึง
ใครอีกคนต่อแทน “แล้วด้านองค์หญิง…”
แค่ได้ยนิ ชื่อของสตรี อีกคนฮุ่ยกุย้ เฟยก็ตอ้ งย่นหัวคิว้ ลงด้วยใบหน้าครุ่ นคิด
เล็กน้อย “ตอนนี้ฉีอ๋องดูจะพึงใจในตัวนางอยูม่ าก อย่าให้คนของเราทาอะไรมาก แค่
เฝ้าดูห่าง ๆ ก็พอ”
ในสายตาของฮุ่ยกุ้ยเฟย ยังคงเห็ นว่าฉี อ๋องดู แลและเอาใจองค์หญิ งอวี้
เหมยเป็ นอย่างดี ซึ่งอาจเป็ นเพราะองค์หญิงเป็ นคนสาคัญของแคว้นเหลียงหรื อเป็ น
เพราะฉี อ๋องรักนางจากใจจริ งก็ได้ ทาให้ไม่อาจทายได้วา่ แท้จริ งแล้วองค์หญิงต่าง
แคว้นผูน้ ้ ี มีความสาคญเท่าใด แต่แม้องค์หญิงอวี้เหมยจะไม่มีกาลังมากพอที่จะทา
อันใดได้ นางก็ยงั ต้องเอาใจเพราะยามนี้ฮองเฮาแห่งแคว้นเหลียงกาลังเสนอทางช่วย
สนับสนุนตัวนางผ่านทางองค์หญิงอวี้เหมยนัน่ เอง
แม้จะไม่รู้ว่าเหตุใดฮองเฮาแคว้นเหลียงจึงสนับสนุ นตน โดยขอแลกกับ
แค่การได้ตวั ของเหยียนเฟยไป แต่นี่ก็นบั ว่าเป็ นผลดีต่อนาง
หากรวมการสนับสนุนจากแคว้นเหลียง บวกกับอานาจของขุนนางในราช
สานักที่เคยเป็ นคนของฉื อเฟยที่นางได้มารับมาแล้ว ทั้งยังรวมถึงกลุ่มขุนนางเก่าแก่

201
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ที่นางกาลังจะพยายามชักจูงนี้ แค่น้ ีก็เหมือนกับว่านางได้อานาจแทบทั้งหมดมาแล้ว


ไม่ใช่รึไงกัน แม้จะไม่มีความโปรดปรานจากฮ่องเต้ก็ไม่เห็นว่าจะเป็ นเช่นไร
คิดเช่นนั้นใบหน้าที่เคยมีรอยยิม้ อ่อนหวานเสมอก็ดูจะกลับกลายเป็ น
ใบหน้าของสตรี อนั แสนชัว่ ร้ายขึ้นมา ขณะที่ในหัววาดฝันถึงเส้นทางเพื่อก้าวขึ้นสู่
ตาแหน่งฮองเฮาอันแสนสูงศักดิ์ ที่จะต้องไม่มีผใู ้ ดอาจหาญมาขวางทางตน

***************************************

202
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 41 กลับบ้ ำน

พึ่งจะล่วงเลยยามเหม่า(1) มาได้ไม่นาน ฮ่องเต้ที่ยงั คงอยูใ่ นตาหนักหย่ง


โซ่วกงเช่นเดิม ทั้งยังต้องตื่นมานัง่ ทรงงานและอ่านข่าวสารที่ถูกส่ งมาจากที่ต่าง ๆ
ด้วยสี หน้าเคร่ งเครี ยดมาแต่เช้า ก็ตอ้ งขมวดคิ้วมุ่นกว่าเดิมไม่นอ้ ย เมื่อได้ยินเสี ยงที่
รี บร้อนของกัว๋ กงกง “ฝะ ฝ่ าบาท เกิดเรื่ องแล้วพะยะค่ะ”
“มี อะไรกัน” เขาถามกั๋วกงกงที่ กาลังเดิ นก้มหน้าเข้ามาอย่างลาบากใจ
ก่ อนจะได้ยินคารายงานออกมาว่า “คื อว่าจู่ ๆ ยามเช้ามื ดเหล่าขุนนางเก่ าแก่ ก็มา
รวมตัวกันหน้าท้องพระโรง ยื่นเรื่ องขอให้พระองค์สอบสวนการสิ้ นพระชนม์ของ
ฮองเฮา ทั้งยังอ้างว่ามีหลักฐานและขอให้พิจารณาโทษใหม่…” พูดถึงตรงนี้ เสี ยง
ของกัว๋ กงกงก็นิ่งเงียบไป ก่อนจะดังขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคาราวกับได้ตดั สิ นใจที่ จะ
พูดเรื่ องที่ยากลาบากออกมาว่า
“ เพื่อให้ ฝ่ำบำทมิทรงเห็นถูกเป็ นผิด ตัดสินคนบริสุทธิ์ให้ ต้องถูกตรำหน้ ำ
อีกพะยะค่ ะ!”

203 (1) ยามเหม่า คือประมาณ 5:00 – 6:59 น.


เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ปัง!
เสี ยงโต๊ะที่ถูกคนซึ่งกาลังโมโหเกรี้ ยวกราดทุบดังกังวาลไปทัว่ หัอง แม้แต่
กองฎีกามากมายบนโต๊ะก็ยงั ต้องหล่นลงอย่างกระจัดกระจายจากแรงสั่นสะเทื อน
นั้น เสี ยงของฮ่องเต่ที่มีใบหน้าถมึงถึงในยามนี้ เองก็พลันกลายเป็ นแข็งกร้าวขึ้นมา
ไม่ต่างจากแววตาที่ พ่ ึงจะดู คมกริ บและดามื อดลงในชั่วพริ บตา “ใครเป็ นคนพูด
เช่นนั้นกัน!”
ท่าทางน่ ากลัวของชายสู งศักดิ์เบื้องหน้า ทาให้เหล่าข้ารับใช้โดยรอบพา
กันรี บก้มหน้าคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรี ยง ด้วยหวังว่าความโมโหโกรธาเหล่านั้นจะ
ไม่มาตกอยูท่ ี่ตน ในขณะที่คนซึ่ งดูจะลาบากใจมากที่สุดในตอนนี้ดูจะไม่พน้ กัว๋ กง
กงที่ตอ้ งตอบคาถามด้วยเสี ยงที่สนั่ เครื อ “คะ คือ…”
แต่ยงั ไม่ทนั ที่ จะพูดจบก็มีเสี ยงดังงัวเงี ยดังออกมาจากห้องนอนด้านใน
เสี ยก่อน “ฝ่ าบาทเกิดอะไรขึ้นเพคะ”
เสี ยงของเหยียนหยินที่ดงั ออกมาจากห้องด้านในนั้น ทาให้ฮ่องเต้ที่ลืมไป
ว่าตนยังคงอยูใ่ นตาหนักของนางแต่เมื่อวาน พึ่งจะรู ้ตวั ว่าตนทาเสี ยงดังไปปลุกนาง
ที่ควรจะพักผ่อนขึ้นมา จึงรี บปรับน้ าเสี ยงให้เป็ นเฉกเช่นปกติ แล้วตอบอย่างอ่อน
โดยนกลับไป “ไม่มีอะไรหรอก เจ้าพักผ่อนต่อเถอะ”
ทันที ที่เขาพูดเช่นจบ สตรี ที่อยู่ในห้องก็ดูจะนิ่ งเงี ยบไปเล็กน้อย ก่อนจะ
ตอบรับเสี ยงเบา “เพคะ…”
“ฝ่ าบาท…” กัว๋ กงกงที่ เห็ นฮ่องเต้ใจเย็นลงบ้างแล้ว เรี ยกนายของตนขึ้น
อีกครั้ง ฮ่องเต้จึงหันมาสั่งคนของตนเสี ยงเบาว่า “กลับตาหนัก” จากนั้นจึงเดินออก

204
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

จากตาหนักไปในทันที แต่ก็ยงั ไม่วายหันมากาชับบ่าวรับใช้ในตาหนักให้คอยดูแล


สตรี ที่ยงั คงสลบไสลอยูภ่ ายในอย่าได้ห่างกาย
เห็นฮ่องเต้ที่แม้จะรี บร้อนเดินจากไป แต่ก็หันมาสั่งนางกานัลในตาหนัก
เช่นนั้น กัว๋ กงกงก็อดทอดถอนใจออกมาไม่ได้ ด้วยลางสังหรณ์ของเขาซึ่ งอยูใ่ นวัง
มานานบอกว่า หากฮ่องเต้ยงั เอาใจเหยียนเฟยมากมายเช่นนี้ อีกไม่นานต้องเกิดเรื่ อง
ใหญ่ข้ ึนในวังหลวงแห่งนี้แน่นอน

หลังจากฮ่องเต้จากไปได้ไม่ถึงครึ่ งชัว่ ยาม เหยียนหยินที่สะดุง้ ตื่นมาเพราะ


เสี ยงดังที่เขาทาในยามเช้าก็ตอ้ งลุกออกมาจากเตียง เมื่อไม่อาจข่มตาให้หลับลงไป
ได้อีกครั้ง แล้วจึ งหันไปถามนางกานัลคนสนิ ทข้างกายตน “เมื่อเช้าเกิ ดเรื่ องอะไร
ขึ้นกัน”
“ดู เหมื อนเหล่าขุนนางเก่ าแก่ จะยื่นเรื่ องขอให้ฮ่องเต้สืบ สวนเรื่ อ งการ
สิ้ นพระชนม์ของฮองเฮาเพคะ ทั้งยังบอกว่าฉื อเฟยที่เคยรับโทษไปนั้นแท้จริ งแล้ว
ไม่มีความผิดถึงขั้นต้องโดนโทษประหารจริ ง” เยว่อิ๋งตอบ ก่อนจะเห็นสี หน้าแปลก
ใจของพระสนมของตนดังที่คาดการไว้
ไม่นานนักเหยียนหยินที่ได้ยนิ เช่นนั้นก็พดู ขึ้นมาอีกครั้ง “พูดแบบนั้นก็ไม่
ถูกทั้งหมดเสี ยทีเดียว” เพราะหากว่ากันตามตรงแล้วล่ะก็ แม้ยาที่ถูกสับเปลี่ยนโดย
ฉื อเฟยจะไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทาให้ฮองเฮาสิ้ นพระชนม์ แต่ถา้ รวมกับความผิดเรื่ อง
อื่น ๆ แล้วก็ไม่แปลกที่นางจะต้องรับโทษหนักอยูด่ ี
ระหว่ า งที่ เ หยี ย นหยิ น ครุ่ นคิ ด อยู่ น้ ั น เยว่ อิ๋ ง ก็ ร ายงานสิ่ งที่ ต นรู ้
ต่อ “นอกจากนั้นยังมีอีกว่า เรื่ องคราวนี้ เหล่าขุนนางเก่าแก่คนสาคัญมากมายถึงกับ

205
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ยอมหักหน้าฝ่ าบาท เป็ นตัวตั้งตัวตียื่นเรื่ องทั้งหมดด้วยตนเอง” สิ่ งที่พ่ ึงจะได้ยนิ นั้น


ทาให้เหยียนหยินต้องถามกลับไปด้วยสี หน้าสงสัยเล็กน้อย “รวมถึงใต้เท้าฉิ นด้วยรึ
เปล่า”
“ตอนนี้ยงั ไม่แสดงท่าทีอนั ใดเพคะ”
ค าตอบจากเยวิ๋ ง ท าให้ เ หยี ย นหยิ น พอจะโล่ ง ใจขึ้ นบ้า ง เพราะนั่ น
หมายความว่าฮ่องเต้ไม่ได้โดนขุนนางทั้งหมดบีบไปเสี ยทีเดียว เนื่ องจากเรื่ องใน
คราวนี้ ดูจะแปลกอยูม่ าก แต่การที่ใต้เท้าฉิ นซึ่ งเป็ นบิดาแท้ ๆ ของฮองเฮายังไม่เข้า
ร่ วมด้วย ทั้ง ๆ ที่เรื่ องเกี่ยวข้องกับการตายของลูกสาวตนเองนั้นก็อาจจะแปลว่า ฝั่ง
กลุ่มคนที่ ยื่นเรื่ องยังไม่อาจดูน่าเชื่ อถือพอที่จะปั กใจให้เข้าร่ วมมือ เพราะอาจเป็ น
เพียงการใช้เรื่ องนี้แก่งแย่งอานาจกันเท่านั้น การที่ใต้เท้าฉิ นจะนิ่งเฉยเพื่อดูท่าทีที่จะ
เกิดขึ้นต่อไปย่อมเป็ นการกระทาที่ถูกต้องแล้ว
สักพักเหยียนหยินก็ถามออกไปอีกครั้ง “แล้วมีเรื่ องอะไรอีกรึ เปล่า”
“ไม่มีแล้วเพคะ”
นัน่ ทาให้เหยียนหยินต้องมีสีหน้าแปลกใจไม่นอ้ ย “ไม่มีเลยงั้นรึ ” เพราะ
ช่วงที่ ราชสานักกาลังมีเรื่ องใหญ่เช่นนี้ วังหลังย่อมไม่มีทางสงบสุ ขเป็ นแน่ แต่นี่
กลับไม่มีเรื่ องใด ๆ เลย คิดเช่นนั้นเหยียนหยินก็คิดอะไรได้บางอย่างพลางยิม้ น้อย ๆ
ขึ้นมา “ถ้าเช่นนั้นออกไปเดินเล่นด้านนอกสักหน่อยเถิด”
คาพูดของนางทาให้เยว่อิ๋งอดที่จะห้ามปรามพระสนมที่อาการป่ วยพึ่งจะดี
ขึ้นของตนไม่ได้ “เวลาแบบนี้ คงไม่เหมาะเท่าใดนักเพคะ” ทาให้เหยียนหยินต้อง
ถอนหายใจออกมา พลางพูดอย่างเรี ยบง่ายออกไปว่า “เจ้าคิดว่าเวลาเช่นนี้ จะมีใคร
มานัง่ อยูเ่ ฉย ๆ บ้างกัน”

206
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

พอได้ยิน เหยีย นหยินพูดจนจบแล้ว เยว่อิ๋ ง ก็ ไ ด้แ ต่ ส่ า ยหัว ไปมาให้กับ


ท่าทางของพระสนมเบื้องหน้าตน ที่รีบร้อนจะแต่งตัวทั้ง ๆ ที่ยงั ไม่ได้ทานอาหาร
เช้าด้วยซ้ าไป พลางคิดว่าพระสนมของตนคงจะอยากช่วยฝ่ าบาทสื บหาว่าใครอยู่
เบื้องหลังเรื่ องนี้แน่นอน
หลังจากที่หยียนหยินแต่งตัวและรับประทานอาหารเช้าเสร็ จ ก็พาคนของ
ตนออกมาเดินเล่นในราชอุทยาน เฝ้ามองดอกไม้ที่ออกดอกไม่มากในฤดูหนาวซึ่ งมี
หิ มะปกคลุม น้อย ๆ แต่เดิ นเล่นกันไปได้สักพักเยว่อิ๋งก็พูดขึ้นอย่างลังเลเมื่อเห็ น
ความผิดปกติ รอบด้าน “พระสนมดูเหมือนพวกเขาจะมองพวกเราแปลก ๆ นะเพ
คะ”
“ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้ เจ้าบอกว่าไม่มีเรื่ องอะไรแล้วมิใช่หรื อ” เหยียนหยินถาม
กลับ ด้วยสี ห น้าปกติ ที่ ม ักจะมี ร อยยิ้ม ประดับ อยู่เ ล็ก น้อ ย แม้น างเองจะรู ้ สึ ก ตัว
เช่นกันว่าทั้งนางกานัลและพระสนมที่เดินผ่านไปมารอบด้าน ต่างมองมาที่ตนด้วย
แววตาแปลก ๆ ตั้งนานแล้ว
ยังไม่ทนั ที่เหยียนหยินจะสั่งให้คนของตนไปสื บเรื่ องราวอันใด เสี ยงอัน
คุน้ หูของสตรี ผหู ้ นึ่งก็ดงั ขึ้นเสี ยก่อน
“ข้าก็นึกว่าใครที่ออกมาเดินเล่นแต่เช้าแบบนี้ ที่แท้ก็แป็ นเจ้านี่เอง”
“องค์หญิงอวี้เหมย…” เหยียนหยินแปลกใจที่ เห็ นอีกฝ่ าย เนื่ องจากองค์
หญิ งอวี้เหมยเบื้ องหน้านางในตอนนี้ ยงั คงดูเหมื อนเดิ มทุกประการ ไม่ว่าจะเป็ น
นิสยั หรื อท่าทางอันใด เพียงแต่นางมาทาอะไรในวังหลวงตั้งแต่เช้าเช่นนี้กนั
ด้านองค์หญิงอวี้เหมยที่ ดูจะทายออกว่าเหยียนหยินสงสัยเรื่ องใดอยูน่ ้ นั
พูดขึ้นด้วยน้ าเสี ยงห้วน ๆ ด้วยสี หน้าไม่พอใจว่า “ข้าเบื่อ ๆ ก็เลยมาหาคนคุยเล่น ว่า

207
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

แต่ขา้ เคยบอกเจ้าแล้วไม่ใช่รึวา่ อย่ามาขวางทางข้าอีก แล้วเหตุใดเจ้าจึงยังกล้าเสนอ


หน้ามาเช่นนี้กนั ”
ท่าทางที่ยงั คงหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี ของตน ทาให้เหยียนหยินได้แต่จนใจ
พลางยิ้มน้อย ๆตอบกลับไป “เส้นทางกว้างเช่ นนี้ ขา้ จะขวางทางองค์หญิ งอยู่ได้
อย่างไร”
ฝ่ ายองค์หญิงอวี้เหมยพอได้ยินคาตอบของนาง ก็ดูจะไม่พอใจยิง่ กว่าเดิม
ราวกับว่าจะบอกว่านางเข้าใจในความหมายที่องค์หญิงอวี้เหมยต้องการสื่ อผิดไป
ยังไม่ทนั ที่คนทั้งสองจะได้พดู คุยสิ่ งใดต่อ เสี ยงที่ฟังดูกระฉับกระเฉงของ
สตรี อีกผูห้ นึ่งก็ดงั ขึ้นแทรกเสี ยก่อน “องค์หญิงที่แท้ก็อยูท่ ี่นี่เอง”
“พระสนมนัน่ คือเนี่ยเฟยเพคะ” เยว่อิ๋งขยับเข้ามากระซิ บบอก ด้วยกลัวว่า
พระสนมของตนจะจาสตรี ผูน้ ้ ี ไม่ได้ ก่ อนที่ เหยียนหยินจะพยักหน้าเป็ นเชิ งรับรู ้
เล็กน้อย ขณะจ้องมองใบหน้าที่มีรอยยิม้ สดใสของเนี่ยเฟย ซึ่งดูจะแตกต่างจากที่เคย
เห็ นมาบ้างในสมัยก่อน ซึ่ งแตกต่าจากยามที่ นางเคยได้ติดตามรับใช้ฮองเฮาอย่าง
สิ้นเชิง
ด้านองค์หญิงอวี้เหมยเมื่อหันไปเห็นเนี่ ยเฟย ก็มีสีหน้าสงสัยออกมา “เจ้า
มาทาอะไรที่นี่”
เมื่อเนี่ ยเฟยมาหยุดยืนอยูต่ รงหน้าคนทั้งคู่แล้ว ก็กล่าวทักทายพอเป็ นพิธี
ก่อนจะหันมาอธิบายให้องค์หญิงอวี้เหมยฟังว่า “ข้าพึ่งไปหาพี่หญิงมา ดูเหมือนนาง
จะรอท่านอยู”่ จากนั้นจึ งหัวเราะขึ้นเล็กน้อยพลางพูดขึ้นด้วยน้ าเสี ยงร่ าเริ ง “องค์
หญิงกับพี่หญิงคุยกันได้ถูกอกถูกคอช่างน่ายินดียงิ่ นัก”

208
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาพูดที่ บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าองค์หญิ งอวี้เหมยกับฮุ่ยกุ้ยเฟยดูจะสนิ ท


สนมกัน ทาให้เหยียนหยินอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ ก่อนที่เนี่ยเฟยจะหันมาพูดกับนาง
แทน “ที่ แท้ก็เหยียนเฟยนี่ เองที่ คุยกับองค์หญิ งอยู่ ให้ขา้ คุ ยเล่นเป็ นเพื่อนแทนดี
หรื อไม่ องค์หญิงอวี้เหมยทรงติดธุระสาคัญคงไม่สะดวกจะคุยกับท่านเท่าใด”
ได้ยินคาพูดที่บอกเจตนาชัดเจนเช่นนั้น เหยียนหยินก็ยมิ้ น้อย ๆ ตอบรับ
“เช่นนั้นก็ตามสบายเถิด” จากนั้นองค์หญิงอวี้เหมยจึงแยกตัวจากไป ส่ วนสตรี ท้ งั
สองที่หลงเหลืออยูก่ ็ยา้ ยไปนัง่ คุยเล่นในศาลาไม่ไกลจากจุดที่พวกตนยืน
เหยียนหยินพึ่งจะนัง่ ลงได้ไม่นาน เนี่ ยเฟยก็เป็ นฝ่ ายรี บเปิ ดปากพูดขึ้นว่า
“ข้าไม่ค่อยได้พบเจอเหยียนเฟยเท่าไหร่ แต่พอเห็นวันนี้ ถึงได้รู้ว่าเหยียนเฟยช่ างมี
เสน่ห์ยิ่งนัก ไม่แปลกที่ฝ่าบาทจะทรงต้องพระทัยถึงเพียงนี้ ” คาพูดยกยออย่างเห็น
ได้ชดั นั้น ทาให้เหยียนหยินต้องรี บปฏิ เสธอย่างสุ ภาพ เพราะหากคาพูดเมื่อกี้ของ
เนี่ยเฟยกระจายไปแล้วล่ะก็ จะเกิดข่าวลือใดตามมาบ้างกัน “เนี่ยเฟยกล่าวชมมากไป
แล้ว ข้าก็เป็ นเพียงสตรี ธรรมดา ๆ ผูห้ นึ่งเท่านั้น”
ด้านเนี่ ยเฟยเมื่อเห็นนางถ่อมตัวเช่นนั้น ก็หัวเราะสดใสออกมา “จะเป็ น
เช่นนั้นได้อย่างไรกัน ๆ ”
ท่าทางของเนี่ยเฟยทาให้เหยียนหยินต้องมองพิจารณาสตรี เบื้องหน้า ด้วย
นางพอจะจาได้วา่ เมื่อก่อนเนี่ ยเฟยก็เป็ นสตรี ที่มีรูปโฉมเป็ นเอกลักษณ์ แต่ออกจะ
ชอบเรี ยกร้องความสนใจอยูม่ าก จนกระทัง่ ถึงจุด ๆ หนึ่ งนางก็ถูกฮ่องเต้เบื่อหน่าย
จนเกือบหลงลืมไปเสี ยหลายปี เหยียนหยินยังจาได้วา่ ฮองเฮาที่เคยไปเยี่ยมเนี่ ยเฟย
ในยามที่นางไม่มีผใู ้ ดสนใจมาครั้งหนึ่ งนั้น ยังเคยบอกว่าสตรี ผนู ้ ้ ี แม้จะนิ สัยคงเดิม
แต่คงไม่คิดจะหาทางกลับมามีตวั ตนในวังหลังอีกแล้ว นัน่ แปลว่าเนี่ยเฟยน่าจะปลง

209
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ตกไปกับตาแหน่ งและความโปรดปรานแล้วมิ ใช่ หรื อ แล้วเหตุใดในยามนี้ ถึงดู


เหมือนจะกลับมายุง่ วุน่ วายกับการแย่งชิงในวังหลังอีกกัน
“จริ งสิ ขา้ ได้ข่าวว่าเหยียนเฟยเคยสนิ ทกับฮองเฮามาก่อน หากนางมาเห็น
เหยียนเฟยในยามนี้ ตอ้ งภูมิใจมากเป็ นแน่” เสี ยงของเนี่ ยเฟยที่ดงั ขึ้น ทาให้เหยียน
หยินได้สติกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะเห็นเนี่ ยเฟยทาสี หน้าเสี ยดาย “น่ าเศร้าที่ฮองเฮา
ทรงจากไปเร็ วยิง่ นัก”
คาพูดที่สื่อความหมายกากวมของเนี่ยเฟย ทาให้รอยยิม้ เบาบางของเหยียน
หยิน แทบจะแข็ง ค้างไป แต่ เ พี ย งไม่น านก็รี บ เปลี่ ยนเป็ นสี หน้าจริ ง จังและตอบ
กลับไปอย่างชัดถ้อยชัดคา “หากผูม้ ีพระคุณของข้ายังคงอยูข่ า้ ก็ไม่รู้วา่ นางจะคิดเช่น
ไร แต่ ข ้า ย่อ มคอยรั บ ใช้น างเฉกเช่ น เมื่ อ ก่ อ นเพื่ อ ตอบแทนบุ ญ คุ ณ เป็ นอย่า งดี
แน่นอน”
ท่าทางเช่นนั้นของเหยียนหยินทาให้เนี่ยเฟยมีสีหน้าลาบากใจไม่นอ้ ย “ดูสิ
ข้า เพี ย งชวนคุ ย เล่น เท่ า นั้น เจ้า กลับจริ งจัง ไปเสี ย ได้” ก่ อ นจะพูดราวกับจะช่ วย
ปลอบใจออกมาว่า “หากเหยียนเฟยคิดเช่นนี้ ก็ดีแล้ว จะได้ไม่ตอ้ งรู ้สึกไม่ดีกบั ข่าว
ลือเหล่านั้น”
คาว่าข่าวลือที่ได้ยินทาให้ใจของเหยียนหยินกระตุกวาบด้วยไม่เคยได้ยนิ
มาก่อน แต่แม้จะไม่รู้วา่ อีกฝ่ ายพูดถึงเรื่ องใด ก็ยงั ต้องยิม้ ตอบกลับไปราวกับเข้าใจ
เรื่ องเหล่านั้นดี “ขอบคุณเนี่ยเฟยที่ห่วงใย”
ด้านเนี่ยเฟยที่ไม่เห็นเหยียนหยินสะทกสะท้านอันใด มีแววตาสัน่ ไหวราว
กับลังเลเล็กน้อย แล้วจึงตัดสิ นใจเปลี่ยนเป็ นถามบางอย่างขึ้นมาแทน “เหยียนเฟยจะ

210
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

นัง่ เล่นอยูท่ ี่นี่หรื อ” คาถามนั้นทาให้เหยียนหยินเพียงแค่ตอบกลับไปว่า “ข้าไม่ค่อย


ได้ออกมาเท่าไหร่ จึงอยากจะนัง่ ชมบรรยากาศโดยรอบนี่สกั พัก”
เมื่อเห็นเหยียนหยินยังดูไม่สะทกสะท้านเช่นเดิม เนี่ ยเฟยก็ตอ้ งวางตัวไม่
ถูกเล็กน้อย ก่อนจะตัดใจพูดถอนตัวออกไปเอง “ถ้าเช่นนั้นข้าต้องขอตัวกลับก่อน
ข้าติดธุระนิดหน่อย” พูดจบก็ได้กลับมาเพียงรอยยิม้ เบาบางของอีกฝ่ ายเท่านั้น “ตาม
สบายเถิด”
จากนั้นเนี่ ยเฟยก็ได้แต่จากไปด้วยสี หน้าที่แม้จะมีรอยยิ้มแต่กลับเต็มไป
ด้วยความร้อนใจ พอเห็นเนี่ ยเฟยลับสายตาแล้วเยว่อิ๋งก็ขยับเข้ามาถามนายของตน
อย่างรู ้งานในทันที “พระสนม จะทรงทาสิ่ งใดต่อเพคะ”
ท่ าทางคล่องแคล่วรวดเร็ วของเยว่อิ๋งทาให้เหยียนหยินอดที่ จะหัวเราะ
ออกมาไม่ได้ “ดูเหมือนเจ้าจะรู ้ใจข้าดียิ่งนัก” ยามที่เห็นสายตาภูมิใจเบา ๆ ของนาง
กานัลคนสนิ ทแล้ว ก็ตอ้ งสั่งเสี ยงเบาออกไปว่า “ให้คนตามดูเนี่ ยเฟยให้ดี แล้วก็ขา้
อยากรู ้วา่ ข่าวลือที่นางพูดถึงนั้นคือสิ่ งใด”
ได้ยิ น เช่ น นั้น เยว่อิ๋ ง ก็ พ ยัก หน้า รั บ ทัน ที พลางคิ ด ว่า รอสั่ง คนของตน
หลังจากพาพระสนมเบื้องหน้ากลับตาหนักก็แล้วกัน แต่เมื่อไม่เห็นพระสนมของ
ตนลุกขึ้นหรื อทาสิ่ งใดต่อไปแล้วก็ตอ้ งถามอย่างลังเลใจขึ้นอีกครั้งหนึ่ ง “แล้วจะ
ทรงกลับเลยหรื อไม่เพคะ”
“ไม่ล่ะข้าจะอยูต่ ่ออีกหน่อย” เหยียนหยินตอบ แต่เมื่อเห็นสายตาสงสัยปน
เป็ นห่วงของอีกฝ่ ายก็ตอ้ งอธิบายออกไปด้วยน้ าเสี ยงนิ่งเรี ยบว่า “หากไม่อยูต่ ่อคงจะ
ดูเหมือนข้าร้อนรนรี บหนีต่อคากล่าวหาพวกนั้นไม่ใช่รึไงกัน”

211
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เยว่อิ๋งเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจได้ในทันที เพราะหากยามนี้ มีข่าวลืออยู่


จริ ง ประกอบกับเมื่อกี้มีผูค้ นที่เดินผ่านไปมาจ้องมองพระสนมของตนยามที่พดู คุย
กับเนี่ยเฟยอยูเ่ ป็ นจานวนมาก หากพระสนมของตนรี บร้อนจากไปเร็ วล่ะก็ อาจจะมี
ข่าวลือว่าทั้งสองคนพูดคุยกันเรื่ องข่าวลือเหล่านั้น ส่วนพระสนมของพวกนางก็อาจ
ถูกสงสัยว่าร้อนใจจนรี บหนีไปได้
แต่แม้จะเข้าใจเช่นนั้นแล้ว เยว่อิ๋งก็ยงั อดไม่ได้ที่จะมองพระสนมของตนที่
เริ่ มมีสีหน้าซี ดเซี ยวจากอากาศหนาวเย็นโดยรอบทั้ง ๆ ที่อาการป่ วยพึ่งจะดี ข้ ึนได้
ไม่ น านด้ว ยความเป็ นห่ ว ง ก่ อ นจะรี บ ไปสั่ ง คนให้ รี บ ออกไปสื บ ข่ า วโดยเร็ ว
เพื่อที่จะได้รีบกลับตาหนักกันเสี ยที
ผ่านไปไม่นานนักเยว่อิ๋งก็กลับเข้ามารายงานให้เหยียนหยินซึ่งกาลังนัง่ จิบ
ชาอยู่ที่เดิ ม เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายฟั งอีกครั้ง “พระสนม ดูเหมือนจะมี
ข่าวลือแพร่ กระจายเมื่อเช้านี้ และเป็ นข่าวลือที่เกี่ยวกับพระสนมเพคะ”
ได้ยนิ เช่นนั้นเหยียนหยินก็พยักหน้าเชิงรับรู ้แล้วหันมาถามกลับทันที “ได้
ความว่ายังไงบ้าง”
คาถามนั้นทาให้เยว่อิ๋งมีสีหน้าลังเลนิ ดหน่ อย ก่อนจะตัดสิ นใจรายงาน
ออกมาว่า “มะ เมื่ อ เช้า นี้ มี ข่ า วลื อ กระจายไปทั่ว วัง หลวงว่า พระสนมไม่ ส านึ ก
บุญคุณฮองเฮาที่เคยเลี้ยงดู ทั้งยังบอกว่า…” พูดถึงตรงนี้น้ าเสี ยงของเยว่อิ๋งก็ดูจะเบา
ลงมากกว่าเดิ ม ยามที่ กาลังจะพูดประโยคสุ ดท้ายออกมา “บอกว่า…พระสนมอาจ
เป็ นคนวางยาพิษในอาหารของฮองเฮาจนสิ้ นพระชนม์ เพราะหวังอาจเอื้ อมใน
ตาแหน่งของผูม้ ีพระคุณต่อตนเอง”
เพล้ง!

212
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เสี ยงถ้วยชาในมือร่ วงหล่นลงทาให้คนรอบด้านต้องรี บหันมามองเหยียน


หยินที่ดูจะนิ่งค้างไปแล้ว อาการปวดหัวฉับพลันจากสิ่ งที่ได้ยินทาให้ตวั ของเหยียน
หยินไหวเอนราวกับจะล้มลงเล็กน้อย
“พระสนมเพคะ!” เยว่อิ๋งเรี ยกอีกฝ่ ายด้วยความตกใจ ก่อนจะรี บเข้ามาพยุง
ไว้ ในใจได้แต่คิดว่าตนไม่น่ารี บรายงานเรื่ องที่อ่อนไหวงเช่นนี้ ด้านเหยียนหยินที่
พอจะปรั บความคิ ดของตนได้น้ ัน แม้จะยังปวดหัวอยู่แต่ก็รีบกลับมานั่งตัว ตรง
เช่นเดิมทันที “ข้าไม่เป็ นไร อย่าพึ่งเสี ยงดังไป ค่อย ๆ พยุงข้ากลับตาหนักก็พอ”
“เพคะ” เยว่อิ๋งรับคา ก่อนจะสัง่ ให้คนที่เหลือเตรี ยมกลับตาหนักทันที แล้ว
ค่อย ๆ พยุงพระสนมของตนให้เดินออกไป แม้ภายนอกทุกอย่างจะดูปกติ แต่จาก
แรงบีบที่มือของพระสนมที่ จบั แขนตนอยูน่ ้ นั ก็พอจะทาให้เยว่อิ๋งรู ้แล้วว่าอีกฝ่ ายคง
คิดมากและกระวนกระวายใจอยูเ่ ป็ นแน่
“เข้าใจแล้ว…”
เสี ยงของเหยียนหยินดังขึ้นมาอีกครั้ง คาพูดพึมพาเบา ๆ ที่ ยากจะได้ยิน
นั้นทาให้เยว่อิ๋งอดถามออกมาไม่ได้วา่ “ทรงเข้าใจสิ่ งใดเพคะ”
แต่เหยียนหยินเพียงหันไปยิม้ น้อย ๆ ให้กบั นาง แล้วเร่ งฝี เท้าตนเองมาก
ขึ้นกว่าเดิม “รี บกลับตาหนักกันเถิด ดูเหมือนอีกไม่นานคงจะเกิดเรื่ องวุน่ วายเข้าจริ ง
ๆ ” พูดถึงตรงนี้ ก็เว้นช่วงไปสักพัก แล้วบอกต่อไปด้วยเสี ยงที่ เบาลงว่า “กลับไป
เมื่อไหร่ เจ้าหาคนที่ไว้ใจได้ลองเดินสารวจรอบตาหนักดู หากมีของไม่คุน้ ตาให้มา
แจ้งข้าทันที”
ได้ยินเพียงเท่านั้นเยว่อิ๋งก็เบิ กตาโตอยู่ครู่ หนึ่ งด้วยความตกใจ ด้วยนาง
เข้าใจแล้วว่าพระสนมของตนกาลังคิดว่ามีคนพยายามจะกาจัดพวกตนอยูน่ นั่ เอง

213
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฝ่ ายเหยียนหยินที่ พยายามเร่ งฝี เท้ากลับตาหนักนั้น ในใจก็ได้แต่พะว้า


พะวงว่า วังหลังมีข่าวลือเช่นนี้พอดีกบั ที่ราชสานักมีเรื่ องใหญ่โตให้ถกเถียง นางเจอ
เรื่ องลาบากยังไม่เท่าไหร่ แต่ผทู ้ ี่ลาบากใจมากกว่าคงจะเป็ นเขาไม่ใช่หรื อไงกัน
ช่วงเวลาล่วงผ่านเพียงหนึ่ งค่ าคืน แต่หลาย ๆ อย่างดูจะถูกเร่ งร้อนให้รีบ
เปลี่ยนไปเหลือเกิน

***************************************

214
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 42 อดีตอันว่ำงเปล่ำ

เหยียนหยินกลับมาที่ ตาหนักได้เพียงไม่น าน เสี ยงเรี ยกอันคุ น้ เคยจาก


ภายนอกตาหนักก็ดงั ขึ้น “หยินเอ๋ อ”
เพียงแค่เห็ นสี หน้าที่ แม้จะพยายามทาให้สงบนิ่ งแต่ก็ดูกังวลใจไม่ค่อย
ต่างกันจากเขา นางก็ปกปิ ดความกังวลใจจากภายในไม่ได้เช่นกันในทันที ได้แต่เอ่ย
เรี ยกอีกฝ่ ายเสี ยงเบา “ฝ่ าบาท…”
แต่ยงั ไม่ทนั ได้พูดอะไร เขาก็รีบร้อนเดินเข้ามาหานางเสี ยก่อน พลางพา
นางมานัง่ ลงข้างกัน แล้วไล่คนอื่น ๆ ออกไป ก่อนจะพูดตรง ๆ ออกมาด้วยสี หน้า
จริ งจัง “ข้ารู ้วา่ เจ้าอาจจะยังไม่สบายใจ แต่ตอนนี้ขา้ อยากให้เจ้าเล่าทุกอย่างให้ขา้ ฟัง
ทั้งหมด”
ท่าทางที่ดูเร่ งรี บผิดจากปกติ เพราะเขาไม่เคยเร่ งร้อนหรื อคิดจะถามสิ่ งใด
กับนางตรง ๆ เช่นนี้ ทาให้เหยียนหยินอดที่จะแปลกใจไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้นเพคะ”

215
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฮ่องเต้เพียงถามนางกลับมาว่า “เรื่ องการตายของฮองเฮาเจ้าสงสัยใครอยู”่


พลางอธิบายให้นางที่ยงั คงดูงุนงงกับท่าทีของเขาฟัง “ยามนี้เหล่าขุนนางต่างยืน่ ฎีกา
ให้สอบสวนใหม่ เพราะมีพยานบอกว่าเห็ นเจ้าอยู่กบั ฮองเฮาตลอดทั้งยังคอยดูแล
เรื่ องอาหารการกินจนนางสิ้นใจไป”
แค่ได้ยนิ สิ่ งที่เขาบอกคิ้วทั้งสองข้างของเหยียนหยินก็ตอ้ งขมวดเข้าหากัน
น้ าเสี ยงพลันเบาลงจากความไม่เข้าใจ “เรื่ องนั้นไม่วา่ ผูใ้ ดก็รู้กนั ทั้งนั้น…”
เรื่ อ งที่ น างเป็ นคนสนิ ท ของฮองเฮาและคอยรั บ ใช้ข ้างกายฮองเฮาใน
ตาหนักตลอด เป็ นเรื่ องที่คนส่ วนมากในตาหนักฮองเฮาล้วนรู ้ดีอยูแ่ ล้ว หากใครคิด
จะสื บเรื่ องนี้ ไม่ใช่เรื่ องยาก เพียงแต่การที่เรื่ องธรรมดา ๆ เช่นนี้ ทาให้ชายตรงหน้า
นางดูกงั วลใจได้แปลว่าต้องมีเรื่ องอื่นใดอีกใช่หรื อไม่
“ฝ่ าบาท พยานยังให้การอย่างอื่นอีกใช่หรื อไม่เพคะ”
ทันทีที่นางถามออกไปฮ่องเต้ก็พยักหน้าตอบกลับมา ก่อนจะถอนหายใจ
อย่างจนใจ “มีคนบอกว่าตลอดระยะเวลาที่อยูต่ าหนักฮองเฮา เห็นเจ้าต้มยาที่ถูกสัง่
มาจากภายนอกบ่อย ๆ ด้วยตนเอง”
ได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็พลันรู ้สึกสะอึกขึ้นมา เพราะนางมักจะต้มยาที่
ถูกสั่งจากภายนอกให้ฮองเฮาเป็ นเสมอจริ ง ๆ เพียงแต่เรื่ องนี้นางมิได้บอกใคร หรื อ
ควรจะบอกว่าบอกมิได้มากกว่า
“ยานัน่ มัน…”เหยียนหยินได้แต่นึกว่าจะอธิ บายให้เขาฟังอย่างไร แต่ก็รู้ดี
ว่าถึงนางจะอยากอธิบายออกไปเท่าไร นางจะพูดได้อย่างไรเล่าว่าตลอดระยะเวลาที่
อยูใ่ นวังหลวง ฮองเฮาผูล้ ่วงลับไปแล้วนั้นเป็ นผูท้ ี่มกั จะสัง่ ยาที่ช่วยให้กาเนิดบุตรมา

216
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

จากภายนอกวังด้วยตนเอง การนายาเช่นนี้ จากภายนอกเข้ามาเป็ นเรื่ องที่ไม่ถูกต้อง


ในวังหลวง เพียงแต่สตรี มากมายก็มกั จะแอบทาเช่นนี้กนั
เมื่ อไม่รู้จะอธิ บายอย่างไรแล้วเหยียนหยินก็ได้แต่นิ่งเงี ยบไป ฮ่องเต้ที่
พอจะเข้าใจความลาบากใจของนางดีจึงเป็ นฝ่ ายพูดขึ้นก่อน “ใต้เท้าฉิ นเล่าให้ขา้ ฟัง
หมดแล้ว เจ้าไม่ตอ้ งกังวล”
ได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็ตอ้ งแปลกใจเล็กน้อย เพราะนี่ หมายความว่า
ทันทีที่มีข่าวเรื่ องนี้ ออกมา ใต้เท้าฉิ นก็ยอมเป็ นฝ่ ายมาอธิ บายกับฮ่องเต้ดว้ ยตนเอง
แม้วา่ นัน่ จะเป็ นเหมือนการบอกความผิดที่ลูกสาวแท้ ๆ ของตนได้ทาไปก็ตาม
ไม่นานนักเสี ยงของฮ่องเต้ก็ดงั ถามขึ้นมาอีกครั้ง “อย่าลืมไปว่าก่อนหน้านี้
ราชองครั กษ์ยงั เคยตรวจพบพิษในอาหารของฮองเฮาอี กด้วย ทั้งเรื่ องยายังมี คน
ยอมรับผิดไปแล้ว ที่ขา้ อยากรู ้ในตอนนี้จึงมีแค่เจ้าสงสัยผูใ้ ดอยูเ่ ท่านั้น”
เมื่อพอจะเข้าใจความต้องการของเขาแล้ว เหยียนหยินจึงพยักหน้าลงน้อย
ๆ แล้วเริ่ มเล่าออกไป “เดิ มที หม่อมฉันสงสัยฉื อเฟยว่าเป็ นคนสั่งการทุกอย่าง ฝ่ า
บาทยังทรงไม่รู้ใช่หรื อไม่วา่ เหตุใดนางจึงสัง่ ฆ่าหม่อมฉัน…”
คาถามจากนางทาให้ฮ่องเต้มีสีหน้าครุ่ นคิด ก่อนจะพลางนึ กถึงคาให้การ
ของฉื อเฟยที่ ถูกจับในข้อหาตั้งใจวางยาทาร้ ายสตรี เบื้ องหน้าเขา และเป็ นผูต้ อ้ ง
สงสัยวางยาฮองเฮาแล้วจึงถูกตัดสิ นโทษไปในครานั้น “นางให้การว่าเป็ นเพราะเจ้า
ระแคะระคายเรื่ องยาพิษ”
ได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็ส่ายหัวไปมาน้อย ๆ “แต่หม่อมฉันคิดว่ามิใช่
เช่นนั้นเพคะ” แล้วจึงอธิบายออกไป “คืนนั้นก่อนฮองเฮาจะทรงสิ้นใจจากไปเพราะ
อาการทรุ ดลง หม่อมฉันรี บออกไปตามหมอหลวง…” พูดถึงตรงนี้เหยียนหยินก็นิ่ง

217
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เงียบไปชัว่ ครู่ หนึ่ ง แล้วจึงพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “แต่ระหว่างที่เดินผ่านห้องหนังสื อก็


ได้ยนิ เสี ยงดังออกมาเสี ยก่อน”
สิ่ งที่พ่ ึงได้รู้ทาให้ฮ่องเต้มีสีหน้าเคร่ งเครี ยดขึ้น “มีใครอยูใ่ นนั้นงั้นเรอะ”
แต่คาถามของเขาก็ได้กลับมาเพียงคาตอบอย่างเสี ยดายจากนาง “ไม่รู้เพคะ เพราะ
ฮองเฮาทรงสิ้นใจพอดีหม่อมฉันจึงต้องรี บกลับไปก่อน”
เมื่อพอจะรู ้ตน้ สายปลายเหตุแล้ว ฮ่องเต้ก็ดูจะเริ่ มอารมณ์ดีข้ ึนมานิดหน่อย
“ข้าจะให้คนไปสื บต่อ หากนึ กอะไรออกอี กเจ้าต้องบอกให้ขา้ รู ้ทนั ที ” ใบหน้าที่
ประดับ ไปด้ว ยรอยยิ้ม อบอุ่ น ของเขา ท าให้ เ หยี ย นหยิ น ได้แ ต่ งุ น งงว่า เหตุ ใ ด
สถานการณ์เช่นนี้เขาจึงยังยิม้ ได้กนั
“ฝ่ าบาท ทรงยิ้มทาไมกันเพคะ” สุ ดท้ายเหยียนหยินที่ ยงั คงสงสัยก็ตอ้ ง
หลุดถามออกไป คาถามของนางทาให้ฮ่องเต้หัวเราะชอบใจออกมา ก่อนจะแกล้ง
พูดหยอกล้อนาง ด้วยสายตาที่จงใจทาให้แหลมคมราวกับไม่พอใจน้อย ๆ ว่า “จะ
บอกว่าข้าห้ามยิม้ งั้นรึ ”
ค าพูด ของเขาทาให้เ หยีย นหยิน รี บปฏิ เสธเป็ นพัล วัน “มิ ใ ช่ เ ช่ น นั้นเพ
คะ” เห็นท่าทางของนางเช่นนั้น ฮ่องเต้ก็ยิ่งระบายรอยยิม้ ออกมา จนกระทัง่ ผ่านไป
สักพักจึ งถอนหายใจพูด อย่างผ่อนคลาย “เจ้ายอมเล่าเรื่ องทุกอย่างให้ขา้ ฟังแบบนี้
ทาให้ขา้ อดดีใจขึ้นมาไม่ได้ แล้วข้าจะไม่ยมิ้ ได้อย่างไรกัน”
คาพูดที่ชวนให้ใจหวัน่ ไหวกับภาพเบื้องข้างของเขาที่มีแสงจากภายนอก
ส่ อ งกระทบเล็ก น้อ ย ท าให้เ หยีย นหยินอดที่ จ ะใจเต้น แรงไม่ ไ ด้ ทั้ง ๆ ที่ นี่ มิ ใ ช่
ช่วงเวลาแห่ งความสงบสุ ข แต่นางกลับรู ้สึกสงบสุ ขอยู่ภายในจิตใจ จนสุ ดท้ายจึง
ต้องหันหน้าหนีไปทางอื่นแทน

218
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ความจริ งแล้วนางก็ว่าจะเล่าเรื่ องนี้ ให้เขาฟังตั้งหลายครั้งหลายครา ติดก็


แต่ต้ งั แต่นางขึ้นมาเป็ นพระสนม ก็มีเรื่ องเกิดขึ้นไม่เวีนวัน จึงคิดว่าไม่ใช่เวลาที่ดีที่
จะพูดออกไป
ยามนี้ ภายในนห้องที่คนทั้งสองนัง่ อยูด่ ว้ ยกัน มีแต่ความนิ่ งเงียบไปชัว่ ครู่
ขณะที่ ห นึ่ ง บุ รุ ษ หนึ่ ง สตรี ใ นห้อ งมี ร อยยิ้ม น้อ ย ๆ พลางนั่ง เคี ย งข้า งกัน เท่ านั้น
บรรยากาศเช่นนี้เปรี ยบดัง่ หัวใจกาลังได้พกั ผ่อนท่ามกลางมรสุ มที่ถาโถมเข้ามา แม้
จะยังไม่มีผใู ้ ดพูดสิ่ งใดออกมาก็ตาม
แต่ไม่นานนักก็มีเสี ยงเยว่อิ๋งดังจากด้านนอกเสี ยก่อน “พระสนม คือว่า…”
น้ าเสี ยงที่ ดูลงั เลว่าจะเข้ามารึ ไม่น้ นั ทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งเป็ นฝ่ ายเอ่ยปากออกไป ด้วย
แปลกใจว่านางกานัลคนสนิทของนางมีเรื่ องเร่ งร้อนอันใดกัน “มีอะไรงั้นรึ พวกเจ้า
เข้ามาเถอะ”
ทันทีที่ได้รับคาอนุญาตแล้ว กัว๋ กงกงที่เดิมทีเฝ้าอยูห่ น้าห้องก็เปิ ดประตูให้
ผูท้ ี่รออยูภ่ ายนอกเข้าไปพร้อมกัน
ทันที ที่เยว่อิ๋งเข้ามาด้านใน ก็รีบเดิ นเข้ามาหานายทั้งสองเบื้องหน้า ก่อน
จะคุกเข่าลงหยิบของบางอย่างซึ่ งซ่อนไว้ในเสื้ อออกมาให้คนทั้งสองเบื้องหน้าได้ดู
“ฝ่ าบาท เพราะตอนนี้มีข่าวลือไม่ดีนกั พระสนมจึงให้พวกหม่อมฉันตรวจสอบรอบ
ตาหนักก่อนจะพบของสิ่ งนี้แอบซ่อนไว้เพคะ”
สิ่ งที่เห็นเบื้องหน้าทาให้สีหน้าของฮ่องเต้ดาคล้ าขึ้นมาทันที แม้แต่เหยียน
หยินเองพอเห็นของเบื้องหน้าก็มีใบหน้าซีดขาวลง นัน่ ก็เพราะเบื้องหน้าพวกตนคือ
ตุก๊ ตาฟางสาหรับทาพิธีมนต์ดา!

219
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

สักพักเสี ยงซึ่ งดูเด็ดขาดของฮ่องเต้ก็ดงั ขึ้น “กัว๋ กงกง ตรวจหาที่ มาของ


ของพวกนี้ให้หมด”
สิ้นเสี ยงคาสัง่ กัว๋ กงกงก็มานาของที่อยูบ่ นมือเยว่อิ๋งไป แล้วส่งให้หวั หน้า
ราชองครักษ์เพื่อให้นามันออกไปซ่อนให้ดี จะได้ไม่ม่ผใู ้ ดสังเกตเห็นความผิดปกติ
หรื อทาให้คนร้ายไหวตัวทัน
เมื่อฮ่องเต้เห็นเช่นนั้นแล้วก็มีสีหน้าพึงพอใจเล็กน้อย ก่อนจะหันมาถาม
สตรี เบื้องข้างตนทีเล่นทีจริ งอย่างเป็ นกังวลว่า “ในเมื่อตาหนักเจ้าดูจะไม่ปลอดภัย
เช่นนี้ ช่วงนี้เจ้าไปพักอยูก่ บั ข้าดีรึไม่”
ท่าทางถามลองเชิงจากเขาทาให้เหยียนหยินต้องตอบปฏิเสธกลับไปทันที
“ไม่ได้นะเพคะ” ตอนนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับนางเยอะแยะเช่นนี้ ยิง่ ไปอยูก่ บั เขาจะยิง่ ไม่
เป็ นการแย่กว่าเดิมหรื ออย่างไร
ฝ่ ายฮ่องเต้ที่เข้าใจเรื่ องนั้นดี เช่ นกันได้แต่ถอนหายใจด้วยความเสี ยดาย
ก่อนจะหันกลับมาลูบใบหน้าที่ยงั คงซีดขาวอยูบ่ า้ งของนางอย่างเป็ นห่วงเป็ นใย “ข้า
รู ้แล้ว ๆ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ตอ้ งดูแลตัวเองให้ดีรู้หรื อไม่” แล้วจึงหันไปมองทางเยว่อิ๋ง
พลันพูดต่อไปว่า “ให้แค่นางอยูข่ า้ งเจ้าก็พอ ส่ วนรอบนอกข้าจะหาทางสับเปลี่ยน
องครักษ์มาเฝ้าไว้ เกิดอะไรขึ้นให้เจ้ารี บเรี ยกพวกเขาซะ”
พูดจบไม่นานนัก ฮ่องเต้ก็พูดคุ ยต่ออี กนิ ดหน่ อย จากนั้นจึ งกลับไปยัง
ตาหนักของตน พอสองนายบ่าวยืนมองขบวนของฮ่องเต้จากไปจนลับสายตาแล้ว
เยว่อิ๋งก็หนั มาถามพระสนมของตนว่า “พระสนมจะเกิดอะไรขึ้นจริ ง ๆ หรื อเพคะ”

220
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาถามของเยว่อิ๋งทาให้เหยียนหยินได้แต่อมยิ้มขึ้นมาน้อย ๆให้นางพอ
สบายใจ “ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ถึงอย่างไรอะไรจะเกิดมันก็ตอ้ งเกิด อย่างน้อยๆ
วันนี้ก็พกั ผ่อนกันก่อนเถิด หากเกิดเรื่ องอะไรขึ้นจะได้มีแรงคอยจัดการดีหรื อไม่”
คาพูดติดตลกของเหยียนหยิน ทาให้เยว่อิ๋งหลุดหัวเราะเสี ยงใส ขณะพา
พระสนมของตนกลับเข้าไปพักผ่อนด้านใน แต่ไม่นานนักเหยียนหยินก็ไอออกมา
นิดหน่อย ทาให้เยว่อิ๋งได้แต่มีสีหน้าดุนิด ๆ ขึ้นมา “จริ ง ๆ แล้ววันนี้ พระสนมยังไม่
ควรออกไปไหนเลยเพคะ พึ่งจะเริ่ มอาการดีข้ ึนจากไม่สบายคราวก่อนแท้ ๆ ดูสิโดน
อากาศเย็นจนจะป่ วยซ้ าสองอีกแล้ว”
คาพูดตาหนิจากนางกานัลคนสนิทของตนทาให้เหยียนหยินได้แต่หวั เราะ
ขบขันเสี ยงเบาตอบกลับไป “เจ้าคิดมากไปแล้วจริ ง ๆ ”

อีกด้านหนึ่งที่ตาหนักจิ่งเหริ นกง
ฮุ่ ย กุ้ย เฟยที่ พ่ ึ ง จะพูด คุ ย กับ องค์ห ญิ ง อวี้ เ หมยเสร็ จ นั้น ก าลัง นั่ง รอค า
รายงานจากคนของตนอย่างใจเย็น ทันทีที่เห็นนางกานัลคนสนิ ทของตนเดินเข้ามา
ฮุ่ยกุ้ยเฟยก็รีบลุกขึ้นถามถึ งสถานการณ์ และแรงกดดันจากภายนอกที่ ตนหวังไว้
ทันที “เป็ นยังไงบ้าง”
“ทุกอย่างเป็ นไปตามแผนเพคะ ยามนี้ เหล่าขุนนางในราชสานักเริ่ มกดดัน
ฝ่ าบาทเกี่ ย วกับ เหยีย นเฟยแล้วเพคะ” นางก านัล ผูน้ ้ ัน ตอบ ก่ อ นที่ ฮุ่ ย กุ้ย เฟยจะ
หัว เราะอย่า งอารมณ์ ดี ขณะหมุ นตัว กลับ ไปนั่ง ยัง ที่ ของตนเช่ น เดิ ม “ดี จ ริ ง ๆ ดู
เหมือนอีกไม่นานข้าก็คงจะได้ตาแหน่งนั้นมาครอบครอง”

221
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

พอนัง่ ลงได้ไม่นานนัก ฮุ่ยกุย้ เฟยก็ยมิ้ อย่างภูมิใจในแผนของตน พลางจัด


แต่งใบหน้าและทรงผมของตนด้วยตนเองก่อนจะถามออกไป “ข้าดูเป็ นยังไงบ้าง”
ทันทีที่นางกานัลคนสนิทเงยหน้าขึ้นมองพระสนมสูงศักดิ์ของตนในชุดสี
ฟ้าอ่อน ประดับลวดลายงดงามแตกต่างจากปกติ ประกอบกับสี หน้าที่ดูผอ่ งใสมีน้ า
มีนวลและเปล่งประกายมากกว่าเดิมแล้ว ก็เอ่ยชมว่า “พระสนมช่างดูงดงามผ่องใส
ยิง่ นักเพคะ”
ได้ยินเช่นนั้นฮุ่ยกุย้ เฟยก็ดูจะพึงพอใจไม่น้อย “งั้นรึ ถ้าเช่นนั้นก็ได้เวลา
แล้ว” พูดจบรอยยิ้มชัว่ ร้ายก็ค่อย ๆ ถูกยกยิ้มขึ้นมา ขณะที่ มือข้างหนึ่ งของนางถูก
วางทาบไว้บนหน้าท้องของตน
“สัง่ คนของเราให้กระจายข่าวเรื่ องที่เนี่ยเฟยเป็ นคนปล่อยข่าวลือใส่เหยียน
เฟยออกไป”
แค่ได้ยินนางกานัลคนสนิ ทก็พยักหน้าอย่างรู ้งานและถอยออกไปทันที
สุดท้ายวันทั้งวันหลังจากนั้นก็ผา่ นพ้นไป พร้อม ๆ กับที่ภายในวังหลวงเริ่ มมีข่าวลือ
เล็ก ๆ อีกอันเริ่ มสะท้อนเสี ยงดังขึ้นมา
.............................

ปัง!
เสี ย งฏี ก าที่ ถู ก ปาลงบนพื้ น พร้ อ มกับ กองฏี ก าอี ก มากมายที่ ล ้ม ลง ดัง
สะท้อนไปทัว่ ห้องทรงอักษรในตาหนักหยางซิ นเตี้ยนหลังเวลาว่าราชการยามเช้า
ทาให้กวั๋ กงกงที่พ่ งึ เดินเข้ามาด้วยต้องการจะรายงานอะไรบางอย่างไม่รู้จะทาเช่นไร
ดี เมื่อพบกับสี หน้าโกรธขึงของโอรสสวรรค์เบื้องหน้าตน

222
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เบื้ องหน้าฮ่องเต้ที่มีสีหน้าดาคล้ าบึ้ งตึงในยามนี้ คือฏี กาที่ ขอยื่นเรื่ องให้


สื บสวนเหยียนเฟยและตรวจค้นตาหนักหย่งโซ่วกงมากมายจากพวกขุนนาง โดยยก
เอาข่าวลือที่กล่าวหาว่านางเป็ นคนวางยาฮองเฮาบวกกับพยานที่ขนุ นางเหล่านั้นหา
มาเองมาเป็ นข้ออ้าง หากเป็ นช่วงก่อนหน้านี้เขาคงจะไม่โกรธเกลียดพวกขุนนางที่ดี
แต่เอนเอียงไปหาขั้วอานาจใหญ่ ๆ เหล่านี้ มากมายนัก ถ้ามิใช่เพราะว่าเมื่อวานเขา
พึ่งไปหานางที่เป็ นโจทย์ในการวิพากวิจารณ์ที่ตาหนัก ก่อนจะต้องพบว่ามีคนแอบ
เอาสิ่ งของที่ขอ้ งเกี่ยวกับมนต์ดาไปไว้ที่ตาหนักนาง!
ดูเหมือนต่อให้เฝ้าระวังเรื่ องคนที่จะไปคอยดูแลหรื อรับใช้นางที่ตาหนัก
เท่าไหร่ ก็ยงั ไม่มีประโยชน์อยูด่ ีเมื่ออีกฝ่ ายหาทางเข้าถึงคนของเขาให้ทาเรื่ องพวกนี้
ได้ แค่นึกถึงคารายงานจากกัว๋ กงกงที่ให้ไปสื บหาที่มาของตุ๊กตาฟางก่อนหน้านี้ ก็
ยิง่ ต้องโมโหเมื่อนึกว่า
สุดท้ายเป็ นคนของเขาที่ส่งไปให้เฝ้าดูนางที่กล้าทรยศและหนีหายตัวไป!
“ฝ่ าบาท…” ในที่สุดกัว๋ กงกงก็ตดั สิ นใจเรี ยกขัดขึ้น เมื่อเห็นใบหน้าที่บ้ ึง
ตึ งของฮ่องเต้มองมาที่ ตน จากนั้นจึ งรายงานต่อไปว่า “ตัง่ แต่เมื่ อวานเย็นจนถึ ง
ตอนนี้มีข่าวลือในวังหลังออกมาอีกแล้วพะยะค่ะ”
สิ่ งที่ได้ยนิ ทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งแค่นเสี ยงเล็กน้อย “ดูท่าพวกนางจะว่างกันยิ่ง
นัก” ก่อนจะย่นคิ้วทั้งสองข้างเข้าหากันเล็กน้อย “แล้วฮุ่ยกุย้ เฟยไม่คิดจะทาอะไรเลย
รึ ไง”
“ก่อนหน้านี้ พระสนมทรงบอกว่าตนไม่มีอานาจมากพอที่จะสั่งทุกคนได้
พะยะค่ะ” กัว๋ กงกงตอบอย่างจนใจ เพราะเขาได้ให้คนไปพบกับฮุ่ยกุย้ เฟยมาแล้ว
ครั้งนึง ด้วยรู ้วา่ ฮ่องเต้ที่อารมณ์เสี ยอยูน่ ้ นั คงไม่อยากได้ยนิ เรื่ องราวเหล่านี้

223
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาตอบจากกัว๋ กงกงทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งหัวเราะน้อย ๆ พลางเอ่ยทวนอย่างนึก


ขบขันในใจ
“ไม่มีอานาจมากพองั้นรึ ” แล้วจึงพูดอย่างประชดประชันออกไปว่า “ก่อน
หน้านี้ก็ดูจะคุมได้เป็ นอย่างดี แล้วเหตุใดจู่ๆจึงจะไม่มีอานาจมากพอกัน!”
ท่าทางไม่พอใจอย่างเห็นได้ชดั ของเขาทาให้กวั๋ กงกงได้แต่กม้ หน้าไม่อาจ
กล่าวสิ่ งใดได้อีก ก่อนที่เสี ยงของฮ่องเต้จะดังถามขึ้นอีกครั้งเสี ยก่อน “พวกนางพูด
เรื่ องอะไร”
“เป็ นเรื่ อ งที่ บ อกว่า เนี่ ย เฟยเป็ นคนปล่ อ ยข่ า วลื อ ใส่ เ หยี ย นเฟยพะยะ
ค่ะ” พูดถึงตรงนี้ กวั๋ กงกงก็มีสีหน้าลังเล แล้วจึงรายงานต่อไป “ถ้าเทียบกับที่ส่งคน
ไปตรวจสอบตามที่พระองค์สงั่ ก่อนหน้านี้แล้ว…ดูเหมือนนี่จะเป็ นเรื่ องจริ ง”
ได้ยนิ เช่นนั้นฮ่องเต้ก็พลันพูดขึ้นเสี ยงดัง
“ดีง้ นั ข้าจะลงโทษนาง!”
ฮ่ อ งเต้หัน ไปสั่ง กั๋ว กงกงที่ ย งั มี สี ห น้า งุ น งงเพราะรู ้ สึ ก ถึ ง ความแปลก
ประหลาดในข่าวลือเรื่ องนี้ต่อทันที “ประกาศราชโองการออกไปลดขั้นเนี่ยเฟยกลับ
เป็ นเนี่ ยผิน แล้วก็ห้ามนางออกมาจากตาหนักเป็ นอันขาด” พูดถึงตรงนี้ สายตาของ
ฮ่องเต้ก็คมกริ บ พลางเอ่ยอย่างเยียบเย็นออกไปว่า “อย่าลืมให้องครักษ์เฝ้าไว้ให้ดี
แต่ก็อย่าให้ผิดสังเกตจนเกินไป”
ค าสั่ง สุ ด ท้า ยจากเขาท าให้ กั๋ว กงกงเข้า ใจได้ใ นทัน ที ว่า นายของตนก็
สังเกตเห็ นถึงความผิดปกติน้ ี เหมือนกัน เพราะข่าวลือเกี่ ยวกับเหยียนเฟยพึ่งหลุด
ออกมาไม่ น าน เรื่ อ งที่ ว่า ใครเป็ นคนปล่ อ ยข่ า วเหล่ า นั้น กลับ หลุ ด ตามมาอย่า ง

224
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

รวดเร็ ว ต่อให้บอกว่านี้ เป็ นเพราะคนที่ ได้รับฟั งพากันออกมาพูดเองว่าได้ยินจาก


ใคร ก็ยงั ดูจะผิดสังเกตจนเกินไป
ไม่นานนักกัว๋ กงกงก็ถามชายเบื้ องหน้าขึ้นอีกครั้ง “ฝ่ าบาทเย็นนี้ จะทรง
เสด็จไปตาหนักหย่งโซ่วกงอีกรึ ไม่พะยะค่ะ”
คาถามนั้นได้รับกลับมาเป็ นน้ าเสี ยงตาหนิ อยูไ่ ม่นอ้ ย “ตอนนี้ ขา้ ไปได้ที่
ไหนกัน”
ขุนนางมากมายยื่นฏี กาเกี่ ยวกับนางเช่นนั้น หากเขาไปยิ่งมิเป็ นการราด
น้ ามันลงกองไฟให้คนหาข้อติฉินนิ นทาหรอกหรื อ นั่นคือความเป็ นจริ งที่ ฮ่องเต้
ต้องยอมรับในตอนนี้ ต่อให้เขาอยากพบนางเท่าไหร่ การไปหานางในยามนี้ ก็มีแต่
จะเป็ นการทาร้ายนาง
เขานิ่ งเงียบครุ่ นคิดไปสักพักก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “สั่งองครักษ์หลวงให้ไป
ตรวจค้นตาหนักหย่งโซ่วกง”
คาสั่งที่ รวดเร็ วแบบไม่ทันตั้งตัวนั้น ทาให้กั๋วกงกงถึ งกับตกใจ “แต่ฝ่า
บาท…”
แต่กวั๋ กงกงยังพูดไม่ทนั จบฮ่องเต้ก็ออกคาสัง่ ต่อไปเสี ยก่อน “เสร็ จแล้วก็
เตรี ยมตัวให้ดี ข้าจะไปหาเหยียนเฟย” พูดจบก็หนั มามองกัว๋ กงกงที่ยนื นิ่งด้วยสี หน้า
งุนงงเพราะตามไม่ทนั พลางยิม้ เจ้าเล่ห์ข้ ึนเล็กน้อย
“ข้าจะไปดูการตรวจค้นตาหนักหย่งโซ่ วกงตามที่ พวกขุนนางต้อ งการ
ด้วยตนเอง!”
หลังจากนั้นฮ่องเต้ก็สั่งกัว๋ กงกงเพิ่มบางอย่าง ทันทีที่กวั๋ กงกงเอาคาสั่งไป
ให้หวั หน้าองครักษ์หลวง และเห็นเหล่าองครักษ์หลวงกับขันทีบางส่วนออกไปแล้ว

225
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ขบวนของฮ่องเต้ก็มุ่งหน้าออกจากตาหนักหยางซินเตี้ยนอย่างรวดเร็ ว เพื่อให้ฮ่องเต้
ไปเฝ้าดูการตรวจค้นตาหนักด้วยตนเองตามที่เขาต้องการ

ไม่นานนักภายในตาหนักหย่งโซ่วกงนั้นก็มีความแตกตื่นมากมายเมื่อเห็น
องครักษ์หลวงพากันเข้ามา ส่วนภายในเรื อนหลักของตาหนักหย่งโซ่วกงนั้น มีเพียง
เสี ยงที่ ดูร้อนรนของนางกานัลคนสนิ ทของเจ้าของตาหนักแห่ งนี้ เท่านั้นเอง “พระ
สนมจะปล่อยเช่นนี้จริ ง ๆ หรื อเพคะ”
เสี ยงถามคาถามเดิ ม ๆ ที่ ดงั ไม่หยุดมาได้สักพักของเยว่อิ๋ง ทาให้เหยียน
หยินที่ นั่งเฝ้ ามองการรื้ อค้นตาหนักอยู่ไม่ไกลต้องถอนหายใจอย่างจนใจออกมา
พลางพูดว่า “แล้วข้าทาสิ่ งใดได้เล่า”
การตรวจค้นดาเนิ นมาได้สักพักแล้ว แม้จะดูน่าเป็ นห่ วงในช่วงที่ไม่รู้วา่
ใครเป็ นใครเช่นนี้ แต่เพราะคนเหล่านี้มาตามคาสั่งของฮ่องเต้ แปลว่าเขาต้องคิดทา
สิ่ งใดอยูเ่ ป็ นแน่แล้วนางจะขัดได้อย่างไรกัน
“แต่คนมากมายเช่นนี้ …” เยว่อิ๋งที่เห็นพระสนมของตนเพียงนัง่ อิงไออุ่น
จากเตาผิงแล้วจิบชาอย่างไม่ทุกข์ร้อนแม้แต่นอ้ ยนั้น พูดขึ้นมาด้วยน้ าเสี ยงลังเล
แต่เพียงไม่นานเสี ยงอันทรงอานาจของใครบางคนก็ดงั ขัดขึ้นมา
“พระสนมของเจ้ายังไม่กงั วล แล้วพวกเจ้าจะกังวลใจไปทาไมกัน”
เห็ น ฮ่ อ งเต้ที่ โ ผล่ ม าแบบไม่ ใ ห้ ซุ่ ม ให้เ สี ย งทั้ง ยัง ก้า วอาด ๆ เข้ามาใน
ตาหนักอย่างรวดเร็ ว เหยียนหยินก็ตอ้ งตกใจอยูค่ รู่ หนึ่ งรี บลุกขึ้นมาทาความเคารพ
เขาเพราะท่ามกลางผูค้ นมากมายเช่นนี้ การจะละเว้นขนบธรรมเนียมเฉกเช่นปกติคง
ไม่ใช่เรื่ องที่ดีนกั ก่อนจะเริ่ มเข้าใจถึงสาเหตุที่เขามาเมื่อเห็นสายตาหลังจากบอกให้

226
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

นางลุกขึ้ น แล้วเห็ นเขาเดิ นไปนั่งลงบนที่ ของนางเมื่ อกี้ พลางจ้องมองเหล่าคนที่


กาลังค้นตาหนักออกไป “ฝ่ าบาท…ที่แท้ก็เป็ นเช่นนี้”
เสี ยงพึมพาเบาบางจากนางทาให้ฮ่องเต้ยิ้มพึงพอใจขึ้นมาชัว่ ครู่ หนึ่ ง แต่
ใบหน้าก็ยงั คงความสุ ขุมและเด็ดขาดเอาไว้ เพื่อไม่ให้คนรอบด้านเห็นว่าการเฝ้ าดู
ของเขาในครั้งนี้เป็ นความเอนเอียงแต่อย่างใด ท่าทีที่ดูราวกับจะห่างเหิ นของเขาทา
ให้ผทู ้ ี่พบเห็นอดคิดไม่ได้วา่ หรื อฮ่องเต้จะสงสัยเหยียนเฟยจริ ง ๆ แล้วกัน
“ในเมื่อมีคนบอกว่าเจ้าเป็ นผูต้ อ้ งสงสัย ก็ไม่แปลกที่ ขา้ ต้องสื บสวนเพื่อ
ความเป็ นธรรมแก่ทุกคน”
เสี ยงที่ดงั ขึ้นของฮ่องเต้ทาให้องครักษ์และขันทีภายในตาหนักหยุดนิ่ งหัน
มาสนใจฟั งกันทันที ก่อนที่ เสี ยงคาสั่งจะดังออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคาว่า “ค้นให้
ครบทุกซอกทุกมุม ข้าจะนัง่ ดูอยูต่ รงนี้ เจอสิ่ งใดให้มารายงานข้าทันที!”
สิ้ นคาสั่งนั้นก็มีคาตอบรับดังกลับมาอย่างพร้ อมเพรี ยงกัน จากนั้นการ
ตรวจค้นตาหนักก็ดาเนินต่อไป ภาพของผูค้ นที่ตรวจค้นตาหนักอย่างขยันขันแข็งที่
เห็นเบื้องหน้าทาให้เหยียนหยินอดชมออกมาไม่ได้วา่ “ฝ่ าบาททรงพระปรี ชายิง่ นัก”
ได้ยนิ เช่นนั้นฮ่องเต้ก็แกล้งถามเสี ยงเรี ยบกลับไปเล็กน้อย “แล้วเจ้าไม่กลัว
ว่าเราจะจับผิดอันใดได้ง้ นั รึ ” เหยียนหยินเพียงแค่อมยิม้ น้อย ๆ ตอบกลับไปว่า “หาก
ในตาหนักของหม่อมฉันมีสิ่งผิดปกติ ก็คงไม่รอดพ้นจากสายตาของพระองค์”
สิ้ นคาพูดนั้นการสนทนาของคนทั้งสองก็จบลง ทาให้บริ เวณรอบด้านดู
เงียบงัน แม้บรรยากาศที่มองจากสายตาของคนภายนอกจะชวนให้รู้สึกอึดอัดยิง่ นัก
แต่คนสองคนที่ไม่ได้พูดคุยกันนั้นก็รู้ดีวา่ การแกล้งทาเป็ นห่ างเหิ นในยามนี้ สาคัญ
เพียงใด

227
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

การตรวจค้นผ่านไปไม่ถึงครึ่ งชัว่ ยาม ก็มีเสี ยงร้องรายงานอย่างรี บร้อนดัง


มาจากภายนอกตาหนัก “ฝ่ าบาท! มีข่าวด่วนจากตาหนักจิ่งเหริ นกงพะยะค่ะ”
ทัน ที ที่ ร่ า งของผูเ้ ป็ นต้นเสี ยงโผล่ม าให้เห็ นถึ ง หน้า ต าหนัก แล้ว เหล่ า
องครักษ์ก็พากันเข้าไปกันคนไร้มารยาทผูน้ ้ ีไว้ก่อนในทันที
เพราะจู่ ๆ ก็มีคนทาเสี ยงดังวุน่ วายเช่นนี้ ใบหน้าของฮ่องเต้จึงเริ่ มมีสีหน้า
ไม่พอใจ แต่เพราะช่วงนี้ มกั จะมีการแจ้งข่าวสารวุน่ วายแบบนี้ เข้ามาบ่อย ๆ ทั้งอีก
ฝ่ ายยังบอกว่ามาจากตาหนักฮุ่ยกุย้ เฟย จึ งส่ งสัญญาณให้คนปล่อยผูท้ ี่ ดูจะรี บร้อน
อยากเข้ามารายงานซึ่งกาลังถูกองครักษ์ก้ นั ไม่ให้เข้ามานั้น เข้ามาภายในตาหนักแล้ว
ถามออกไป “เรื่ องอะไร”
ทันทีที่ขนั ทีซ่ ึ งเป็ นผูส้ ่ งสารเห็นชายสู งศักดิ์เบื้ องหน้าแล้วก็รีบคุกเข่าลพ
ลางพูดเสี ยงดังว่า “กระหม่อมนาสารมาจากตาหนักจิงเหริ นกง ขอแสดงความยินดี
กับฝ่ าบาทด้วยพะยะค่ะ”
ค าพู ด ดี ใ จของขั น ที ผู ้น้ ั นท าให้ ผู ้ที่ อ ยู่ โ ดยรอบพากั น เฝ้ า รอฟั ง ด้ว ย
ความรู ้สึกที่ต่างกันออกไป เนื่องจากพอจะทายได้จากท่าทางและสี หน้าของขันทีผนู ้ ้ ี
แล้วว่าน่าจะเป็ นข่าวเกี่ยวกับสิ่ งใด ก่อนที่คารายงานต่อไปของขันทีเบื้องหน้าจะดัง
สะท้อนก้องออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคาว่า
“ยิ น ดี ด้ ว ยพะยะค่ ะ ฝ่ ำบำท หมอหลวงพึ่ง ตรวจพบว่ ำ ฮุ่ ย กุ้ย เฟยทรง
ตั้งครรภ์ ได้ สองเดือนแล้ วพะยะค่ ะ!”

****** ติดตามต่อได้ในเล่ม *******

228
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 43 สงครำม

ทันทีที่ฮ่องเต้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าแสงแดดอ่อน ๆ จากภายนอกเริ่ ม


ที่จะสาดส่ องเข้ามาแล้ว แต่ถึงจะเป็ นอย่างนั้นสตรี ในอ้อมกอดเขาก็ยงั คงหลับสนิท
อยู่ เขาจึงค่อย ๆ ลุกออกจากเตียงมาดึงชุดคลุมของตนที่หล่นกองอยูบ่ นพื้นขึ้นมาใส่
แล้วจึงห่มผ้าให้นางไว้ดี ๆ เช่นเดิม แค่จอ้ งมองนางและนึกถึงเรื่ องเมื่อคืนก็ทาให้เขา
อดไม่ได้ที่จะยิม้ น้อย ๆ ขึ้นมา
เขานัง่ จ้องมองนางสักพัก ก่อนจะหันไปมองทางหน้าต่างแล้วสังเกตได้ถึง
แสงแดดที่ ไม่ควรจะมีในยามปกติที่ตื่นขึ้นมานั้น จึ งรี บเดิ นออกจากห้องไปพลาง
เรี ยกขันทีคนสนิทอย่างร้อนรน “กัว๋ กงกง…”
เรี ยกได้เพียงไม่นานเท่านั้น กัว๋ กงกงที่ยนื เตรี ยมพร้อมอยูไ่ ม่ไกล ก็รีบเดิน
เข้ามาหาบุรุษสู งศักดิ์ซ่ ึ งยืนรออยูห่ น้าประตูหอ้ งทันที ทั้งยังถามด้วยสี หน้าที่ดูยนิ ดี
“ฝ่ าบาททรงตื่นแล้วหรื อพะยะค่ะ” ก่อนที่ ฮ่องเต้จะรี บร้อนถามกลับไปโดยมิ ได้
สนใจท่าทางของเขาแม้แต่นอ้ ยว่า “ตอนนี้ยามอะไรแล้ว”

229
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ด้านกัว๋ กงกงเมื่อรู ้แล้วว่านายของตนกังวลถึงสิ่ งใดนั้น พยายามตอบอย่าง


ใจเย็นกลับไป “ทรงพัก ผ่อ นต่อ เถิ ดพะยะค่ะ เลยช่ ว งว่า ราชการยามเช้า มานาน
แล้ว…” แต่เขายังไม่ทนั จะพูดจบ ชายสู งศักดิ์เบื้องหน้าก็ต่อว่ากลับมาอย่างรวดเร็ ว
“ทาไมไม่ปลุกข้า!”
น้ า เสี ย งที่ ดัง และใบหน้า ที่ ดูไ ม่ พ อใจนั้น ท าให้กั๋ว กงกงที่ แ ม้จ ะอยู่ทา
หน้าที่มานานก็ยงั อดตัวสัน่ ขึ้นมาไม่ได้ “ฝะ ฝ่ าบาท…”
เขาเข้าใจดีวา่ สาหรับฮ่องเต้เบื้องหน้านั้น งานราชการสาคัญขนาดไหน แต่
ถ้าพิจารณาดูจากสภาพที่ เมาเละเทะเมื่อวานแล้ว ดูยงั ไงต่อให้ยามเช้านี้ ออกไปว่า
ราชการก็คงไม่ได้เรื่ องอะไรอยูด่ ี สุ ดท้ายจึงเสี่ ยงตัดสิ นใจเอาเอง คิดเช่นนั้นก็ได้แต่
ต้องพูดรับผิดออกไป “กระหม่อมตัดสิ นใจเอง ขอฝ่ าบาทโปรดประทานอภัย”
พอฮ่องเต้เห็นกัว๋ กงกงทาท่าจะคุกเข่าโขกหัวลงอย่างสานึกผิด ก็ตอ้ งถอน
หายใจออกมาเล็กน้อย “ช่างเถิด ๆ ” เพราะในเมื่อเวลาว่าราชการก็ผ่านไปแล้ว ตัว
เขาจะยังทาอะไรได้อีกกัน บางทีการที่เขาได้พกั ผ่อนสักหน่อยก็คงดี
เมื่อคิดได้ดงั นั้นจึงหันมาสั่งกัว๋ กงกงอีกครั้งว่า “ให้คนเตรี ยมอ่างอาบน้ า
ไว้ อุ่นให้มากหน่อยก็ดี”
ได้ยินเช่นนั้นกัว๋ กงกงก็รีบตอบรับออกมา “พะยะค่ะ” และด้วยเข้าใจดีวา่
ฮ่องเต้ตอ้ งสั่งเช่นนี้ ไปเพื่อใครบางคนเป็ นแน่ เพราะปกติเขาไม่ใช่คนสนใจเรื่ อง
รายละเอียดมากมาย จึงต้องลองถามคนเบื้องหน้าออกไปว่า “ฝ่ าบาทจะให้ใครเข้า
ไปดูแลเหยียนเฟยรึ ไม่…”
คาถามนั้นทาให้ฮ่องเต้ชะงักไปเล็กน้อย เพราะยามที่สตรี ในห้องตื่นขึ้นมา
ก็ไม่รู้วา่ จะยังยอมให้เขาใกล้ชิดเช่นเมื่อคืนอีกหรื อเปล่า แต่จะให้คนอื่นเข้ามาเห็น

230
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

สภาพของนางยามนี้ก็คงไม่ดีเหมือนกัน ยิง่ เมื่อนึกถึงร่ างบอบบางที่นอนอ่อนแรงอยู่


บนเตียง ก็ยงิ่ อดไม่ได้ที่จะยิม้ มากกว่าเดิม
ด้านกัว๋ กงกงเมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบเสี ยทีจึงส่งเสี ยงเรี ยกถามอย่างลังเล “ฝ่ า
บาท คือว่าจะให้…”
ได้ยินเท่านั้นสติของฮ่องเต้ก็กลับมา ก่อนจะต้องรี บหันมาสั่งกลบเกลื่อน
ท่าทางเมื่อครู่ ของตนว่า “ไม่จาเป็ น พวกเจ้าออกไปให้หมดก็พอ”
ท่ าทางแบบนั้นทาให้กั๋วกงกงต้องพยักหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม ทั้งยังอด
ไม่ได้ที่จะกลั้นหัวเราะในใจ เพราะเมื่อกี้เขาพึ่งจะเห็นฮ่องเต้ของตนซึ่ งคอยวางท่า
สง่างามเสมอ พยายามกลบเกลื่อนท่าทางเลื่อนลอยยามนึกถึงสตรี เพียงคนเดียว

ฝ่ ายเหยียนหยินซึ่ งเริ่ มจะได้สติจากความเหนื่ อยล้าที่ ได้รับมาทั้งคืนนั้น


กาลังค่อย ๆ ลืมตาขึ้นทีละน้อย
เมื่อเหยียนหยินรู ้สึกถึงสัมผัสเบาบางบนกายตน ประกอบกับกลิ่นหอมที่
ชวนให้ผ่อนคลายและน้ าอุ่น ๆ ที่อยูร่ อบกาย ก็ทาให้นางรู ้สึกสบายตัวอย่างบอกไม่
ถูก จนกระทัง่ นางลืมตามองไปรอบ ๆ ถึงได้รู้วา่ ตนเองกาลังอยูใ่ นอ่างอาบน้ าขนาด
ใหญ่โดยมีใครบางคนกาลังช่วยขัดล้างกายตนเป็ นอย่างดี
“ฝะ ฝ่ าบาท!”
เหยียนหยินพูดขึ้นด้วยความตกใจ ทันทีที่เห็นว่าคนที่ช่วยนางอาบน้ าใน
ยามที่ ไม่ได้สติเมื่อกี้ น้ นั เป็ นใคร ก่อนจะรี บขยับกายถอยห่ างเขาซึ่ งยืนอยู่ดา้ นข้าง
อ่างอาบน้ า อีกทั้งนางยังต้องลดตัวลงจนหน้าแทบจะจมลงไปในน้ าเพราะความเขิน
อายจากเรื่ องเมื่อคืนเล็กน้อย “จะทรงทาอะไรเพคะ”

231
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

แค่เห็นท่าทางของนางที่รีบถอยห่างทั้งยังพยายามซ่อนตัวในอ่างน้ าที่เต็ม
ไปด้วยกลีบดอกไม้มากมายเช่นนั้น ฮ่องเต้ก็ตอ้ งหัวเราะออกมาน้อย ๆ พลางกวักมือ
เรี ยกนางกลับมา “ข้าแค่ช่วยเจ้าล้างตัวเท่านั้น กลับมานี่สิ”
เหยียนหยินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบตอบกลับไป “หม่อมฉันทาเองได้…”
ยามนี้ นางอยูใ่ นสภาพเปลือยเปล่าซ่อนตัวอยูใ่ นอ่างอาบน้ า ในขณะที่อีกฝ่ ายใส่ ชุด
คลุมยืนจ้องมองนางจากเบื้องข้าง แม้เขาจะยังไม่ทนั ได้ทาอะไรแต่แค่นึกถึงเรื่ องเมื่อ
คืนใบหน้าของนางก็อดไม่ได้ที่จะรู ้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา
เมื่อคื นนางพูดสิ่ งใดออกไปกัน เขาเมาอยู่คงจะจาไม่ ได้ ใช่ หรื อไม่ นั่นมั น
น่ าอายเกินไปแล้ วจริ งๆ…
แม้เรื่ องเมื่อคืนจะไม่ใช่ครั้งแรกของนาง เพราะมีประสบการณ์จากตอน
เป็ นองค์หญิงอวี้เหมยแล้ว แต่คาพูดที่ ยงั จาได้แม่นยาของตนเองที่ พอนึ กย้อนดู ก็
ชวนให้รู้สึกอย่างกับประโยคบอกรักกลาย ๆ ออกไปนั้น ทาให้นางรู ้สึกมองหน้า
บุรุษเบื้องข้างไม่ติด
ฝ่ ายฮ่องเต้ที่เท้าแขนอยู่ขา้ งอ่าง พอเห็ นนางมีสีหน้าปรับเปลี่ยนไปมาก็
ต้องถามขึ้นด้วยรอยยิม้ เจ้าเล่ห์เล็กน้อย
“เจ้า…อายข้างั้นรึ ?”
ได้ ยิ น เช่ น นั้ นสตรี เบื้ อ งหน้ า ก็ แ ทบจะรี บหั น มาตอบเขากลับ ทัน ที
“มิ ใช่ …” แต่ได้ยินคาพูดของนางไม่ทันจบประโยคเขาก็ตอ้ งยกยิ้มมากกว่าเดิ ม
พลางพูดอย่างอารมณ์ดีออกไปว่า “ก็ดี งั้นข้าจะได้อาบน้ าไปพร้อม ๆ เจ้าเลย”
ท่าทางอารมณ์ดีขณะค่อย ๆ ปลดชุดคลุมของตนออกของเขา ทั้งยังก้าวเข้า
มาในอ่างพร้ อมกับนางอย่างเชื่ องช้านั้น ทาเอาเอาเหยียนหยินถึ งกับพูดไม่อ อก

232
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ก่อนที่ฮ่องเต้ซ่ ึงพึ่งเข้ามาใกล้นางจะหันมาถามย้ากับนางถึงคาพูดเมื่อคืนว่า “เมื่อคืน


เจ้าบอกเองใช่รึวา่ จะทาหน้าที่พระสนม”
อีกทั้งเขายังไม่รอให้นางตอบกลับ ก็จบั นางเข้าไปหาให้นงั่ หันหลังให้เขา
แล้วจึงค่อย ๆ เริ่ มสางผมที่พนั กันของนางเบา ๆ “เจ้าจะล้างตัวก็ลา้ งไป ข้าจะสระผม
ให้เจ้าเองจะได้เสร็ จเร็ ว ๆ แช่น้ านานไปไม่ดี”
ความรู ้สึกไม่คุน้ ชิ นเช่นนี้ ทาให้เหยียนหยินอดที่จะหันไปมองเขาไม่ได้
ก่อนจะพูดเสนออย่างลังเล “ฝ่ าบาทให้พวกนางกานัลทาเถิด เรี ยกเยว่อิ๋งเข้ามาช่วย
หม่อมฉันก็ได้เพคะ”
แต่คนด้านหลังก็ดูจะไม่ฟังแม้แต่น้อยเมื่ อเขาเอ่ยเสี ยงดุน้อย ๆ ออกมา
“เจ้าคิดจะขัดคาสั่งข้ารึ ไงกัน รู ้รึเปล่าว่านัน่ มีโทษหนักเท่าไหร่ เจ้าอยูน่ ิ่งนิ่งก็พอ ข้า
จะทาเอง”
ได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็ตอ้ งปล่อยให้เขาทาอย่างจนใจ ให้เขาค่อย ๆ
สางล้างผมของนางไปช้า ๆ ขณะที่นางตักน้ ามาเช็ดล้างกายตน ฝ่ ายฮ่องเต้เมื่อยกผม
ของนางขึ้นมาแล้วเห็นรอยช้ าบนคอนาง จากการกระทาของตนเมื่อคืนที่ยงั ไม่เลือน
หายไปและถูกผมปกปิ ดไว้น้ นั ก็อดที่จะถามนางขึ้นมาไม่ได้
“เรื่ องเมื่อคืนนี้ …” เขาได้แต่ถามขึ้นเสี ยงเบาอย่างลังเล “เจ้าเป็ นอะไรรึ
เปล่า”
เหยียนหยินที่ได้ยนิ เช่นนั้นต้องชะงักค้างไป ก่อนจะยิม้ น้อย ๆ ออกมาเมื่อ
เห็ นว่าเขายังกังวลถึงความรู ้สึกของนาง แล้วจึ งถามเสี ยงเรี ยบกลับไปว่า “ควรจะ
ถามว่าพระองค์ทรงเป็ นอันใดมากกว่า เพราะเมื่ อคืนนี้ หม่อมฉันเพียงแค่ทาตาม
หน้าที่ของตนเองเท่านั้น”

233
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาพูดของนางทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งทวนถามกลับด้วยสี หน้าสงสัย “แค่หน้าที่


เท่านั้นเรอะ” พูดจบก็แกล้งดึงนางเข้ามาหาตนเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็คงเล่นได้
สมบทบามกว่าผูอ้ ื่นเสี ยจริ ง ๆ ในเมื่อแววตาของเจ้าดูจริ งใจเสี ยจนดูไม่ออกว่ากาลัง
แสดงอยูแ่ ม้แต่นอ้ ยเลย”
ด้านเหยียนหยินที่ จู่ ๆ ก็ถูกดึ งเข้าไปกอดต้องถึงกับสะดุง้ จนต้องหันมา
ถลึงตาใส่ เขาแล้วจึ งหันกลับไปไม่พูดจาใด ๆ เพราะรู ้ว่าต่อให้พูดอะไรออกไปก็
เอาชนะอี กฝ่ ายไม่ได้ นั่นทาให้ฮ่องเต้ที่เห็ นท่ าทางเช่ นนั้นของนางต้องหัวเราะ
ออกมาอย่างอารมณ์ดี
“ก็ได้ ๆ ข้าไม่พูดเรื่ องนี้แล้ว” ก่อนจะขยับใบหน้าเข้ามากระซิ บข้างหูนาง
เสี ยงเบาว่า “ในเมื่อเจ้าขยันทาตามหน้าที่ วันหลังข้าจะเรี ยกเจ้ามาบ่อย ๆ ดีหรื อไม่”
แค่ได้ยินเสี ยงยัว่ เย้าของเขาเท่านั้นเหยียนหยินก็หน้าแดงเรื่ อ ในใจได้แต่
คิ ด ว่า เขาดู จะได้ใจมากเกิ นไปแล้ว นางจึ ง เริ่ ม พยายามดิ้ นหนี ท้ งั ยังรี บแย้งตอบ
กลับไป “ไม่ดีเพคะ จะให้หม่อมฉันหมดแรงทุกวันหรื ออย่างไรกัน”
พอเหยียนหยินพยายามดิ้นหนี ฮ่องเต้ก็ปล่อยนางแต่โดยดีดว้ ยกลัวว่านาง
จะมีรอยช้ ามากกว่าเดิม ก่อนจะหรี่ ตาลงถามถึงคาพูดของนางด้วยรอยยิม้ มีเลศนัยว่า
“ข้าพูดว่าทุกวันเมื่อไหร่ กนั ”
คาถามจากเขาทาให้เหยียนหยินถึงกับพูดไม่ออก จนสุ ดท้ายก็ตอ้ งทอด
ถอนใจแล้วล้างตัวต่อเงียบ ๆ ต่อไป จนผ่านไปสักพักนางจึงตัดสิ นใจถามออกไปว่า
“เมื่อวานนี้ทรงฝันเรื่ องใดเพคะ”
ด้านฮ่องเต้เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็มีท่าที นิ่งเงี ยบ ก่อนจะยิ้มอ่อนโยนน้อย ๆ
ตอบกลับไปว่า “แค่เรื่ องเก่า ๆ เท่านั้น ถึงเวลาข้าจะเล่าให้เจ้าฟังเอง” พูบจบเขาก็ลุก

234
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ออกไปใส่ ชุดคลุมของตน ขณะหันมายิม้ พูดทิ้งท้ายให้นางซึ่ งยังคงอยูท่ ี่เดิม “ข้าจะ


ให้นางกานัลเข้ามาดูแลเจ้าต่อก็แล้วกัน”
ฝ่ ายเหยียนหยินพอเห็นเขาลุกออกไปแล้วก็ตอ้ งส่ ายหัวไปมาเล็กน้อย กับ
ท่าทางหลีกหนีปัญหาของเขาที่เห็นได้อย่างชัดเจน
ขณะที่ฮ่องเต้ซ่ ึ งพึ่งออกมาแต่งตัวไม่นานนั้น ต้องเจอกับกัว๋ กงกงที่เห็นว่า
เขาอารมณ์ดีข้ ึนเข้ามารายงานเรื่ องเมื่อคืนว่า “ฝ่ าบาท จริ ง ๆ แล้วเมื่อคืนฮุ่ยกุย้ เฟยมา
ขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ”
ได้ยินเช่ นนั้นฮ่องเต้ก็ตอ้ งมี สีหน้าแปลกใจ “ฮุ่ยกุ้ยเฟยงั้นรึ นางมี เรื่ อง
อะไรกัน” ก่อนจะได้ยินกัว๋ กงกงตอบกลับด้วยสี หน้าลาบากใจว่า “ทรงแวะมาไม่
นานหลังจากที่เหยียนเฟยสั่งไม่ให้พวกกระหม่อมเข้าไปได้สักพัก ฮุ่ยกุย้ เฟยรบเร้า
เข้าไปหาพระองค์ไม่นอ้ ย พวกกระหม่อมกันไว้ไม่อยูแ่ ต่พระนางเข้ามาเพียงไม่นาน
ก็กลับไป”
คาตอบที่ ได้ยินทาให้ฮ่องเต้เข้าใจได้ทนั ทีว่าฮุ่ยกุย้ เฟยอาจจะได้ยินเสี ยง
ของพวกตนเมื่อคืน นัน่ ทาให้เขาต้องมีสีหน้าเคร่ งเครี ยดขึ้นมา เพราะความคิดของ
อิสตรี ยากจะคาดเดา เขาย่อมเข้าใจในเรื่ องนี้ดี
“ให้คนคอยจับตาดูนางให้ดี” ทันทีที่สงั่ เสร็ จ กัว๋ กงกงที่พยักหน้ารับก็ตอ้ ง
รายงานขึ้นมาอีกครั้งว่า “แล้วก็เมื่อเช้านี้มีข่าวด่วนส่งมาพะยะค่ะ ได้ใจความว่า…”
สิ้ นคารายงานที่ ได้ยินนั้นสี หน้าของฮ่องเต้ก็บ้ ึงตึงลง ก่อนจะรี บออกไป
ในทันที ทาให้กวั๋ กงกงได้แต่รีบร้อนเดินตามไปอย่างจนใจ
.............................

235
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฝ่ ายเหยียนหยินที่พ่ ึงอาบน้ าเสร็ จ ยามนี้ กาลังให้เยว่อิ๋งช่วยแต่งตัวให้อยู่


แต่เมื่อเหยียนหยินหันไปมองรอบด้านแล้วไม่พบเงาของใครบางคนก็ตอ้ งถามคน
สนิทข้างกายขึ้นว่า “ฝ่ าบาทเล่า”
เยว่อิ๋งเมื่อเห็นพระสนมของตนเริ่ มสนใจฮ่องเต้ข้ ึนมาก็ตอ้ งยิม้ ขึ้นเล็กน้อย
เพราะดูเหมือนความพยายามของฮ่องเต้ที่นางเห็ นจะไม่สูญเปล่าไปหมดเสี ยแล้ว
เมื่อนับจากเรื่ องเมื่อคืนนี้ ที่พระสนมของนางยอมปรนนิบตั ิอีกฝ่ ายด้วยความเต็มใจ
อีกทั้งยามเช้านี้ยงั ไม่มีท่าทีโกรธเคืองหรื อหลีกหนีแม้แต่นอ้ ยเลย
“เหมือนจะมีเรื่ องด่วน จึงออกไปแล้วเพคะ”
ทันทีที่เหยียนหยินได้ยนิ เช่นนั้นก็ตอ้ งบ่นออกมาเสี ยงเบา “ออกไปแล้วงั้น
รึ ทั้ง ๆ ที่ควรจะพักผ่อนแท้ ๆ ”
คาพูดของนางทาให้เยว่อิ๋งที่ ได้ยินต้องถามหยอกล้อออกมา “พระสนม
ทรงเป็ นห่วงฝ่ าบาทอยูห่ รื อเพคะ”
ได้ยินเช่ นนั้นเหยียนหยินก็รีบตอบกลบเกลื่ อนกลับไปว่า “ข้าแค่ทาไป
ตามหน้าที่ เท่านั้น” ก่อนจะได้ยินเยว่อิ๋งถามแกล้งขึ้นมาอีกครั้ง “จริ งหรื อเพคะ ดู
เหมือนทรงจะคิดสิ่ งอื่นอยูม่ ากกว่า”
คาถามแบบนั้นทาให้เหยียนหยินต้องแกล้งทาเป็ นไม่รู้ไม่ช้ ีไม่นอ้ ย ก่อน
จะเริ่ มนึกถึงความผิดปกติของฮ่องเต้เมื่อคืนแล้วลองเปลี่ยนเรื่ องที่ถามออกไป “จริ ง
สิ เจ้ารู ้เรื่ องเกี่ยวกับมารดาของฝ่ าบาทหรื อไม่”
ที่ ถามไปเช่ นนั้นก็เพราะจาได้ว่าเมื่ อคืนเขาละเมอเรี ยกแม่ของตน ด้าน
เยว่อิ๋งพอได้ยินคาถามก็ดูจะทาสี หน้าแปลกใจขึ้นมา “ทรงหมายถึงไทเฮาที่ทรงสิ้น
พระชนต์ไปเมื่อห้าปี ก่อนหรื อเพคะ ถ้าเรื่ องเกี่ ยวกับเมื่อก่อนหม่อมฉันไม่รู้เท่าใด

236
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

นัก” แต่พอเห็นสี หน้าครุ่ นคิดของพระสนมตนแล้วก็ตอ้ งพูดออกไปอีกครั้ง “แต่ถา้


พระสนมอยากรู ้สิ่งใด หม่อมฉันจะไปสื บถามมาให้เพคะ”
เหยียนหยินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยมิ้ น้อย ๆ “ไม่ตอ้ งหรอก เรื่ องนี้ รอให้ฝ่า
บาทเล่าให้ฟังเองน่าจะดีกว่า”
ที่นางไม่คิดจะให้เสี่ ยงสื บออกไปก็เพราะนี่ ดูจะไม่ใช่เรื่ องที่ควรเข้าไปยุง่
เท่าไร อีกอย่างฮ่องเต้ก็บอกนางแล้วว่าถึงเวลาจะเล่าให้ฟังเอง บางทีตอนนี้ นางควร
จะเป็ นเพียงผูร้ ับฟังที่ดี ให้เขาสบายใจยามอยูก่ บั นางก็พอ
ทั้งสองคนคุยกันได้ไม่นาน นางกานัลผูห้ นึ่งก็เข้ามารายงานว่า “พระสนม
ฮุ่ยกุย้ เฟยมาขอเข้าพบเพคะ”
คารายงานที่ ได้ยินทาให้เหยียนหยินต้องมีสีหน้าแปลกใจ เพราะตอนนี้
นางยังไม่ได้กลับตาหนักตนเองเลยด้วยซ้ า แต่ฮุ่ยกุย้ เฟยกลับตั้งใจมาหาถึงที่นี่ แม้
มันจะแปลกแต่เมื่ออีกฝ่ ายมีตาแหน่งสู งกว่า นางก็ตอ้ งพยักหน้าตอบกลับไป “บอก
ให้นางรอสักครู่ ขา้ จะออกไปเดี๋ยวนี้”
เมื่อเหยียนหยินแต่งตัวเสร็ จก็ออกมาต้อนรับ ฮุ่ยกุย้ เฟยที่ นั่งอมยิ้มรออยู่
แล้ว ด้วยน้ าเสี ยงและท่าทางที่ยงั คงความเป็ นมิตรเป็ นอย่างดี
“เหยียนเฟยเป็ นเช่นไรบ้าง” นัน่ คือคาถามแรกที่ฮุ่ยกุย้ เฟยถามขึ้น ก่อนจะ
เปลี่ยนเป็ นสี หน้าโล่งใจขณะยิม้ กล่าวชมออกมา “ดีจริ ง ๆ ที่เมื่อคืนมีเจ้าอยูค่ อยดูแล
ฝ่ าบาท เจ้าคงจะเหนื่อยไม่นอ้ ย”
คาพูดที่เหมือนไม่มีเลศนัยนั้น ชวนให้เหยียนหยินรู ้สึกไม่ปลอดภัยเท่าใด
นัก จึ งยิ้มเรี ยบ ๆ ตอบกลับไป “การดู แลฝ่ าบาทเป็ นหน้าที่ ของพระสนมอยู่แล้ว
หม่อมฉันเหนื่อยได้อย่างกันเพคะ”

237
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยินเช่นนั้นฮุ่ยกุย้ เฟยก็มีสีหน้าเห็นด้วยพลางพูดว่า “เจ้าพูดถูกแล้ว” มุม


ปากของนางยกยิม้ ขึ้นเล็กน้อยเพียงชัว่ ครู่ เท่านั้น เพราะคาตอบที่ได้ยินเมื่อกี้ นับว่า
ฉลาดไม่น้อยที่ เลื อกจะพูดว่าเป็ นหน้าที่ ที่ตอ้ งทาแบบกากวม แต่มิได้บอกว่ามา
เพราะถูกเรี ยกออกไป
ฮุ่ ย กุ้ ย เฟยยกยิ้ ม ได้ ชั่ ว ครู่ ก็ เ ปลี่ ย นเป็ นถอนหายใจออกมา ก่ อ นจะ
เปลี่ยนเป็ นพูดด้วยสี หน้าลาบากใจแทน “ที่ ขา้ มาก็ไม่ใช่เรื่ องใหญ่อะไร เพียงแค่
อยากจะมาขอร้องเจ้าสักเรื่ องเท่านั้น”
เหยียนหยินที่เห็นสี หน้าของอีกฝ่ ายปรับเปลี่ยนอย่างเป็ นธรรมชาติได้โดย
ไม่ติดขัด ก็อดไม่ได้ที่จะนึ กชื่นชมในใจ ก่อนจะพูดตอบด้วยใบหน้าที่ยงั คงรอยยิม้
น้อย ๆ เช่นเดิม “ฮุ่ยกุย้ เฟยมีเรื่ องอะไรก็พดู ออกมาเถิด”
ฝ่ ายฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตาเป็ นประกายไม่นอ้ ย ทั้งยังรี บร้อนพูด
ด้วยท่าทางดีใจ “ตอนนี้คนที่ฝ่าบาทพอจะฟังคงมีแค่เจ้า”
พูดจบก็อธิบายด้วยน้ าเสี ยงลาบากใจออกมาว่า “ข้าอยากให้เจ้าโน้มน้าวฝ่ า
บาทให้ไปเยือนแคว้นเหลียง เพราะยามนี้ ตรงแถบชายแดนระหว่างแคว้นมีข่าวลือ
ไปทัว่ ว่าฝ่ ายเราพอชนะก็หยิ่งผยองไม่คิดสนใจแคว้นเหลียงแม้แต่นอ้ ย แม้แต่เทียบ
เชิญที่องค์จกั รพรรดิ ส่งมาด้วยตนเองก็ยงั ไม่นามาใส่ ใจ ข้าเกรงว่านี่ คงไม่เป็ นผลดี
ต่อแคว้นเราเท่าใด”
ได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็เข้าใจได้ทนั ทีวา่ เมื่อเช้าที่เยว่อิ๋งบอกว่าฮ่องเต้
รี บร้อนออกไปเพราะมีเรื่ องด่วนคือเรื่ องใดกัน ก่อนจะได้ยนิ ฮุ่ยกุย้ เฟยพูดต่อไป “ข้า
คิดว่าหากเหยียนเฟยเป็ นฝ่ ายเอ่ยปาก ฝ่ าบาทย่อมต้องเห็นด้วยเป็ นแน่” ฮุ่ยกุย้ เฟยพูด
ถึงเท่านั้นก็ทาสี หน้าหวังดีพลางพูดออกมาช้า ๆ “แต่ยามนี้ฝ่าบาทเองก็ดูน่าเป็ นห่ วง

238
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เหมื อนจะคิ ดสิ่ งใดอยู่ ข้าว่าถ้ามี ใครตามไปดู แลด้วยก็คงดี ถ้าเป็ นเช่ นนั้นก็ตอ้ ง
รบกวนเหยียนเฟยแล้ว…”
พอเห็ นสายตาลองเชิ งที่ อีกฝ่ ายมองมาหยียนหยินก็ตอ้ งยิ้มปฏิ เสธตอบ
กลับไป “ข้าจะลองคิดดู แต่เรื่ องการตามไปด้วยนั้น ข้าว่าควรจะเป็ นผูอ้ ื่นมากกว่า”
คาตอบของนางทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยทาสี หน้าเสี ยดายทันที “เป็ นเช่นนั้นคงไม่ดี
นัก” ก่อนจะอธิบายออกมาว่า “ข้าต้องคอยดูแลควบคุมวังหลัง ส่วนพระสนมคนอื่น
ที่เหลืออยูก่ ็ลว้ นแล้วแต่มีตาแหน่งที่ต่าเกินกว่าจะพาออกไปงานสาคัญได้ แล้วจะมี
ใครที่ไหนเหมาะไปมากกว่าเจ้าอีกกัน”
พอได้ยินเช่นนั้นเหยียนหยินก็นิ่งค้างไปเล็กน้อย เพราะนั่นเหมือนการ
บังคับเป็ นนัยว่าหากนางไม่ไปก็แปลว่านางคิดจะใช้โอกาสนี้ ควบคุมวังหลัง แย่ง
อานาจจากอีกฝ่ าย แต่ถา้ ไปก็แปลว่ากาลังข้ามหน้าข้ามตาเหล่าพระสนมที่อยูม่ านาน
แม้จะตาแหน่งไม่สูงไม่ใช่หรื ออย่างไร
ไม่นานนักฮุ่ยกุย้ เฟยก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ข้าเพียงมาพูดเท่านี้ ที่เหลือก็คงต้อง
แล้วแต่เจ้าแล้ว”
พูดจบนางก็บอกลาและลุกขึ้น ทาท่าจะจากไปในทันที “ข้ามีเรื่ องที่ตอ้ ง
ไปดูแลอยูค่ งต้องกลับก่อน เหยียนเฟยลองคิดดูแล้วกัน”
เหยียนหยินที่มองฮุ่ยกุย้ เฟยรี บร้อนจากไปโดยไม่รอให้ตนตอบสิ่ งใดนั้น
ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่ อยใจ ก่ อนที่ เยว่อิ๋งซึ่ งยืนฟั งอยู่ขา้ ง ๆ มาด้วย
ตลอดจะพูดขึ้นมาว่า “พระสนม หม่อมฉันเห็ นว่าการที่ ได้ไปแคว้นเหลี ยงกับฝ่ า
บาทเพียงแค่สองคน อาจจะเป็ นโชคดีของพระองค์ก็ได้นะเพคะ”

239
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เหยียนหยินที่เข้าใจความคิดของอีกฝ่ ายดีตอ้ งตาหนิ ออกไปเล็กน้อย “เจ้า


คิดอะไรอยู่กนั ” ก่อนจะตอบเยว๋ อิ๋งที่มีสีหน้าไม่เข้าใจออกไปว่า “พระสนมในวัง
หลังยุ่งเรื่ องราชกิ จได้ที่ไหน อีกอย่างเจ้าคิดว่าหากข้าทาตามที่นางบอกจริ งจะเกิด
ผลดีจริ ง ๆ หรื ออย่างไร”
พอเหยียนหยินเห็นเยว่อิ๋งมีสีหน้าเข้าใจแล้วก็ตอ้ งยิม้ น้อย ๆ เพราะหากทา
ตามที่ฮุ่ยกุย้ เฟยบอก ผ่านไปไม่นานอาจจะมีข่าวตามมาก็ได้วา่ นางยุง่ เรื่ องราชกิจที่
เกี่ยวกับบ้านเมือง ทั้งยังยัว่ ยวนฮ่องเต้ให้พาตนไปด้วยทั้งที่พ่ ึงจะถูกแต่งตั้งไม่นาน
ความผิดจากสองข้อหานั้นนางจะรับไหวได้อย่างไร แต่การจะทิ้งไว้ไม่สนใจก็ไม่ใช่
เรื่ องดี เพราะดูจากฮ่องเต้แล้วต้องไม่ยอมผ่อนปรนส่ งคนไปแคว้นเหลียงเป็ นแน่
หากเป็ นเช่นนั้นแล้วเกิดสงครามขึ้นมาอีกครั้งก็คงไม่ใช่เรื่ องดีต่อประชาชนเท่าไหร่
เมื่อคิดว่าต้องหาทางพูดโน้มน้าวเขาเสี ยหน่ อยโดยที่ไม่ให้ใครจับผิดได้
เหยียนหยินก็อดไม่ได้ที่จะยิม้ เย็นชาให้ตนเอง
ก่ อนหน้านี้ นางเป็ นเพียงนางกานัลที่ ไม่ตอ้ งคิดสิ่ งใด ก่ อนจะกลายเป็ น
พระสนมเพื่ อ ตามหาความจริ ง เรื่ อ งการตายของผู ้มี พ ระคุ ณ ตน แต่ ย ามนี้ เรื่ อ ง
เหล่านั้นก็คลี่คลายไปบ้างแม้จะมีจุดน่าสงสัยเล็กน้อยเท่านั้น ส่ วนตัวนางกลับต้อง
กลายเป็ นพระสนมจริ ง ๆ เพื่อหาทางเอาตัวรอดในวังหลังแห่งนี้แทน
ชีวติ คนเราช่างไม่แน่นอนเหลือเกิน…

***************************************

240
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 44 กลับตำลปัตร

หลังจากฮุ่ยกุ้ยเฟยจากไปเพียงไม่นาน เหยียนหยินก็เข้าครัวเพื่อเตรี ยม
อะไรบางอย่างสาหรับโน้มน้าวใจฮ่องเต้ที่กาลังจะกลับมาที่ตาหนัก แต่ผ่านไปได้
ไม่นาน พอนางออกจากครัวมาได้สกั พักเท่านั้น เสี ยงอารมณ์ดีอนั คุน้ หูของใครบาง
คนก็ดงั ขึ้นมาเสี ยแล้ว
“เจ้ากาลังทาอะไรอยูก่ นั ”
ทันที ที่ได้ยินเสี ยงนั้นเหยียนหยินก็ตอ้ งรี บหันไปมอง “ฝ่ าบาทเหตุใดจึง
เสด็จกลับมาเร็ วเช่นนี้เพคะ”
นางได้แต่ถามเขาด้วยความแปลกใจออกไป เพราะเท่าที่ รู้คือเขามี เรื่ อง
ด่วนที่ ตอ้ งไปจัดการ หรื อก็คือเรื่ องข่าวลือที่ สร้างความเสี ยหายให้ความสัม พันธ์
สองแคว้นอยูไ่ ม่ใช่หรื อ แล้วเหตุใดจึงรี บกลับมาเช่นนี้กนั
ฝ่ ายฮ่องเต้น้ นั เมื่อเห็นนางทาหน้าแปลกใจก็ตอ้ งยกยิม้ ขึ้นมา

241
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

“เจ้าก็รู้ดีวา่ เพราะอะไร” แต่เมื่อเห็นว่าสตรี ตรงหน้ายังไม่เข้าใจแล้วก็ตอ้ ง


แกล้งทาสี หน้าตาหนิเล็กน้อย แล้วจึงเปลี่ยนเป็ นยิม้ ระรื่ นพูดออกไปว่า “ใจข้าอยูท่ ี่นี่
จะให้ขา้ ไปที่ใดได้กนั ”
ทันทีที่เขาพูดคานั้นจบเหยียนหยินก็ดูจะมีสีหน้านิ่ งอึ้งราวกับทาอะไรไม่
ถูก ทาให้เขาหัวเราะชอบใจเสี ยงดัง แล้วจึงค่อยอธิบายเหตุผลจริ ง ๆ ออกไปว่า “อีก
อย่างเจ้าตั้งใจเตรี ยมน้ าแกงพุทราไว้ให้ขา้ ก็แปลว่ารอให้ขา้ มาอยูไ่ ม่ใช่รึไง”
พูดจบก็นงั่ ลงข้างโต๊ะที่นางพึ่งวางน้ าแกงพุทราไว้ แล้วถามออกไปด้วยสี
หน้าสนใจ “เจ้าเอาใจข้าแบบนี้มีเรื่ องอะไรอยากพูดเล่า”
เหยียนหยินเมื่อเห็นว่าเขาดูจะรู ้การเคลื่อนไหวของนางดี ก็ได้แต่ตอ้ งถอน
หายใจอย่างจนใจออกมาไม่นอ้ ย ก่อนจะพยายามทาตามความตั้งใจเดิมไว้แล้วแย้ม
ยิม้ พูดออกไปว่า “ฝ่ าบาททรงเหนื่ อยกับงานราชกิจเพื่อดูแลความสงบสุ ขให้แคว้น
ของเรา จะไม่พกั ผ่อนสักหน่อยได้อย่างไรกันเพคะ”
รอยยิ้มที่ ดูจะพยายามให้เขาผ่อนคลายบวกกับคาพูดที่ ได้ยินนั้น ทาให้
ฮ่องเต้เบ้ปากลงในทันที ก่อนจะยกมือบอกให้คนอื่น ๆ ที่อยูใ่ นห้องนี้ออกไป ด้วยรู ้
แล้วว่านางตั้งใจพูดถึงเรื่ องใด แล้วจึงพูดด้วยน้ าเสี ยงไม่สบอารมณ์เล็กน้อยออกมา
“แม้แต่เจ้าก็ยงั พูดเรื่ องนี้ง้ นั รึ ”
ด้านเหยียนหยินเมื่อเห็นว่าบ่ายเบี่ยงไปก็ไม่มีประโยชน์แล้วนั้น อีกทั้งเขา
ยังไล่พวกนางกานัลและขันทีที่คอยรับใช้ออกไปหมด นางจึงตัดสิ นใจพยายามพูด
โน้มน้าวออกมาตรง ๆ ว่า “หากพระองค์ยงั ไม่ยอมส่ งคนไปเช่นนี้ ข่าวลือเหล่านั้น
อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นมากกว่าเดิมได้”
ฮ่องเต้เมื่อได้ยนิ คาพูดของนางจบ ก็พดู เสี ยงหนักแน่นอย่างดื้อรั้น

242
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

“ข้าไม่คิดจะส่ งคนไป และก็ไม่คิดจะไปด้วยตนเองเช่นกัน” ดวงตาของ


เขาเป็ นประกายและคมกริ บอย่างถือในทิฐิขณะพูดประโยคถัดไป
“ถึงอย่างไรครั้งล่าสุ ดเราก็เป็ นฝ่ ายที่ชนะสงคราม ทั้งยังได้องค์หญิงของ
ฝั่งนั้นมาเป็ นเชลย เจ้าจะกังวลสิ่ งใดกัน”
เหยียนหยินเมื่ อได้ยินคาพูดของเขาก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา ขณะพยายาม
อธิ บายว่า “หม่อมฉันเกรงว่านี่จะนาไปสู่ สงครามอีกครั้งแล้วเกิดความลาบากให้แก่
ผูค้ นได้” แต่เมื่อเห็นเขายังไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนความคิดแล้วนางก็ตอ้ งพูดเสี ยงอ่อนลง
“หม่อมฉันไม่รู้วา่ ฝ่ าบาทไม่พอพระทัยแคว้นเหลียงเรื่ องใด แต่ถึงอย่างไรพระองค์ก็
ยังเป็ นฮ่องเต้และมีผคู ้ นมากมายให้ดูแล”
ฮ่องเต้เมื่ อได้ยินเช่ นนั้นก็นิ่งครุ่ นคิ ดไปเล็กน้อย ก่ อนจะถามบางอย่า ง
ขึ้นมาแทน “ใครเป็ นคนบอกเจ้าเรื่ องนี้”
แต่ยงั ไม่ทนั ที่จะรอให้นางได้ตอบกลับ เขาก็ทายขึ้นมาด้วยแววตาที่หรี่ ลง
จนเหมือนจะคาดคั้นเสี ยแล้ว “ได้ยนิ มาจากฮุ่ยกุย้ เฟยงั้นเรอะ?”
คาถามของเขาทาให้เหยียนหยินได้แต่อมยิม้ น้อย ๆ เพราะหากยอมรับตรง
ๆ ไปก็เหมื อนกับบอกว่าฮุ่ยกุ้ยเฟยนั้นจงใจมาบอกนางไม่ใช่ รึไงกัน แม้มนั จะดู
เหมือนเป็ นเช่นนั้นก็ตาม แต่ถึงนางไม่บอกอีกฝ่ ายก็ดูจะเข้าใจในท่าทางของนางที่
สื่ อออกมาได้ เมื่อสุดท้ายเขาก็เปลี่ยนจากใบหน้าครุ่ นคิดเป็ นถอนหายใจอย่างปล่อย
วางออกมา
“ในเมื่อเจ้ากังวลใจ ข้าจะลองคิดดูก็แล้วกัน”
พูดจบเขาก็หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้นางเล็กน้อย “แต่เจ้าต้องทาตามข้อตกลง
กับข้าเรื่ องหนึ่ง”

243
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ประโยคที่ ได้ยินนั้นทาให้คิ้วสองข้างของเหยียนหยินต้องย่นเข้าหากัน
พลางถามอย่างไม่เข้าใจกลับไปว่า “เรื่ องใดกันเพคะ”
แต่ฮ่องเต้ก็เพียงแค่ยมิ้ น้อย ๆ ตอบนางกลับมาเท่านั้น “ข้าจะบอกเจ้าวัน
หลังเอง”
สุ ดท้ายนางจึงต้องพยักหน้าตอบตกลงไป เพราะหากมันจะทาให้เขายอม
ผ่อนปรนรักษาความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นได้ดีข้ ึนก็คงนับว่าคุม้ ค่าอยูด่ ี
หลังจากนั้นคนทั้งสองคนก็นงั่ พูดคุยกันต่อไม่นาน ก่อนที่เหยียนหยินจะ
เดินทางกลับตาหนักของตนเอง ส่วนเขาก็ตอ้ งนัง่ อ่านฏีกามากมายต่อ จนกระทัง่ เมื่อ
ถึ ง เช้าในวัน ถัด มา เหยีย นหยิน ถึ ง ได้ยิน ข่า วออกมาว่า เขายอมส่ ง ฉี อ๋ อ งกับองค์
หญิงอวี้เหมยไปที่แคว้นเหลียงเพื่อเป็ นตัวแทนตนเองเพื่อตอบรับเทียบเชิญจากองค์
จักรพรรดิกลับไป
ซึ่งนัน่ ก็นบั ว่าเป็ นเรื่ องดีกว่าการที่เขาไม่คิดจะส่งใครไปเลย…
....................

หลังจากการเดิ นทางไม่กี่วนั ฉี อ๋องกับองค์หญิงอวี้เหมยและผูต้ ิดตามก็


มาถึงแคว้นเหลียงตามคาสัง่ ของฮ่องเต้ ดังนั้นพวกเขาในยามนี้จึงอยูใ่ นท้องพระโรง
ของแคว้นเหลียง เบื้องหน้าจักรพรรดิแคว้นเหลียงที่แม้จะดูน่าเกรงขามแต่ก็ยงั คงดู
ผอมแห้งเช่นเดิ ม ในขณะที่ องค์หญิงอวี้เหมยเมื่อเห็ นพ่อของตนก็ตาเป็ นประกาย
ด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชดั
“เสด็จพ่อ…”

244
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

น้ าเสี ยงสดใสที่ ยากจะได้ยินจากองค์หญิงอวี้เหมยที่ มกั หยิ่งทะนงเสมอ


นั้น ทาให้จกั รพรรดิแคว้นเหลียงยกยิม้ ขึ้นมาเล็กน้อย “อวี้เหมยเจ้าเป็ นอย่างไรบ้าง”
คาถามที่แสดงถึงความเป็ นห่วงจากพ่อของตนทาให้องค์หญิงอวี้เหมยรี บ
ตอบกลับไปอย่างยินดี “เสด็จพ่อไม่ตอ้ งกังวล ตอนนี้ ท่านอ๋ องคอยดูแลข้าเป็ นอย่าง
ดี ” ทั้งยังมองมาทางฉี อ๋องด้วยสายตาอ่อนหวานจากใจ ทาให้ฉี อ๋องต้องยิ้มอย่าง
สุภาพตอบกลั ขณะเห็นสายตาของจักรพรรดิแคว้นเหลียงที่กาลังมองมาทางตน
“ดีจริ ง ๆ ที่ได้ฉีอ๋องดูแลนางเป็ นอย่างดี” องค์จกั รพรรดิ พูดเพียงเท่านั้นก็
หันกลับมาพูดกับองค์หญิงอวี้เหมยอีกครั้ง “แม่ของเจ้ารอเจ้าอยู่ ทาไมเจ้าไม่ไปคุย
กับนางสักหน่อย”
ทันที ที่ได้ยินองค์หญิ งอวี้เหมยก็มีทีท่าไม่อยากไปเล็กน้อย “แต่ขา้ …”
ก่อนที่ องค์จกั รพรรดิ จะพูดตัดลูกสาวของตนเองขึ้นมาเสี ยก่อนว่า “พ่อจะคุยกับฉี
อ๋ องเรื่ องสาคัญ เจ้าออกไปก่อนเถอะ”
สุดท้ายองค์หญิงอวี้เหมยก็ตอ้ งจาใจเดินจากไป “ข้าเข้าใจแล้ว” แต่ก็ยงั ไม่
วายหันกลับมามองพ่อของตนกับคนรักที่ยนื คุยอยูด่ ว้ ยกัน

องค์ห ญิ ง อวี้เ หมยเมื่ อ ออกจากท้อ งพระโรงมาแล้ว ก็ รี บ ตรงปรี่ ไ ปยัง


ตาหนักใหญ่อนั แสนจะคุ น้ เคยในทันที เพราะถึ งอย่างไรนางก็มีเรื่ องที่ อยากจะ
ปรึ กษากับแม่แท้ ๆ ของตนเช่ นกัน ทันที ที่องค์หญิ งอวี้เหมยเข้าไปในสวนของ
ตาหนักหลังใหญ่ที่ดูหรู หราโอ่อ่าและเห็ นสตรี ท่วงท่าสู งศักดิ์ผหู ้ นึ่ งแล้ว ก็นางรี บ
เอ่ยเรี ยกเสี ยงดัง “เสด็จแม่ ข้ากลับมาแล้ว”

245
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฝ่ ายฮองเฮาของแคว้นเหลียงเมื่อได้ยินเสี ยงอันคุน้ หู ของลูกสาวตนนั้น ก็


รี บหันกลับมาไม่นอ้ ย “เหมยเอ๋ อ…” ก่อนจะแย้มยิม้ ออกมา พลางรี บถามอย่างเป็ น
ห่วงเป็ นใยว่า “พวกเขาทาอะไรลูกรึ เปล่า”
ทั้งยังรี บร้อนสารวจไปตามเรื อนกายลูกสาวเบื้องหน้า และเอ่ยตาหนิ เสี ยง
เข้ม “อย่าคิดโกหกแม่ พวกคณะฑูตที่ไปเจอลูกคราวนั้นบอกแม่มาหมดแล้ว”
ท่ า ทางที่ ย ากจะได้เ ห็ น ของฮองเฮาแคว้น เหลี ย งที่ ป กติ ม ัก จะได้ชื่ อ ว่า
โหดเหี้ ยมเด็ดขาดเช่นนี้น้ นั ทาให้เหล่าข้ารับใช้รอบด้านต้องพากันรี บก้มหน้าด้วยต
ใจที่สนั่ ระรัว
ไม่นานนักองค์หญิงอวี้เหมยที่เห็นแม่ของตนห่ วงใย ก็รีบฟ้องถึงสิ่ งที่ตน
ต้องเจอมาโดยไม่คิดจะปิ ดบังไว้ทนั ที
“เสด็จแม่ คนที่ทาร้ายลูกมีแค่ฮ่องเต้นนั่ เท่านั้น หลายครั้งที่ลูกตื่นมาแล้ว
ต้องพบกับร่ างกายที่เหนื่ อยล้ากับรอยช้ าบนร่ างของตนที่ถูกเขาย่ายี!” น้ าเสี ยงของ
นางปนไปด้วยความเคียดแค้นและไม่พอใจจนเห็นได้ชดั “ลูกต้องถูกผูค้ นในวังมอง
ด้วยสายตาเหยียดหยาม ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทาอะไรเลยด้วยซ้ าไป”
ได้ยินเช่นนั้นแววตาของฮองเฮาแห่ งแคว้นเหลียงก็เป็ นประกายน่ ากลัว
เพิ่มขึ้น “เจ้าไม่ตอ้ งห่ วงเรื่ องนั้นพ่อของเจ้าต้องหาทางจัดการเขาเป็ นแน่ ” พูดจบก็
นิ่ งค้างไปเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนมาถามเรื่ องอื่นด้วยสี หน้าสงสัยออกไปแทนว่า
“แล้วฉี อ๋องดูแลเจ้าดีหรื อไม่”
สิ้ นคาถามนั้นองค์หญิงอวี้เหมยก็รีบร้อนตอบกลับด้วยน้ าเสี ยงมีความสุข
ไปในทันที “ดี มาก ๆ ” ทั้งยังมี สีหน้าแดงระเรื่ อราวกับเขินอายขึ้นมาขณะพูดว่า
“ท่านอ๋ องมอบความสุขให้ลูกทุกวัน”

246
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาตอบนั้นทาให้ฮองเฮาแคว้นเหลียงชะงักไปไม่นอ้ ย ด้วยไม่นึกว่าลูกสาว
ตนจะกลับกลายเป็ นหลงฉี อ๋องเสี ยหัวปั กหัวปา เนื่องด้วยอีกฝ่ ายแม้จะดูเป็ นบุรุษที่ดี
แต่ ก็ มี ส่ ว นที่ น่ า สงสัย ไม่ น้อ ย สุ ด ท้า ยจึ ง ต้อ งเอ่ ย เตื อ นด้ว ยความหวัง ดี อ อกไป
“อย่าได้ไว้ใจเขาให้มากนัก ถึงอย่างไรเขาก็ยงั เป็ นพี่นอ้ งแท้ ๆ กับฮ่องเต้องค์ปัจจุบนั
และเป็ นลูกชายแท้ ๆ ของสตรี ผนู ้ ้ นั เจ้าลืมไปแล้วรึ ไงกัน”
คาพูดที่ได้ยนิ นั้นทาให้องค์หญิงอวี้เหมยต้องรี บย้อนแย้งแม่ของตน “ท่าน
อ๋ องไม่ได้รู้เรื่ องเหล่านั้น ไม่มีทางที่ เขาจะกลายเป็ นคนเช่นนั้นได้ อีกทั้งเขายังไม่
เคยสนใจแม่แท้ ๆ ของตนมิใช่หรื อ”
เนื่ องจากนางเป็ นคนที่รู้เรื่ องเกี่ยวกับความจริ งที่เกิดเรื่ องวุน่ วายในปี นั้น
และได้เห็นเบื้องลึกเบื้องหลังของสาเหตุที่ทาให้ฮ่องเต้ของอีกฝ่ ายโกรธเกลียดแคว้น
ของตนมากับตา แต่เพราะจาได้วา่ ฉี อ๋องที่เป็ นพี่ชายแท้ ๆ ของฮ่องเต้น้ นั ไม่เคยมา
ที่นี่หรื อรับรู ้เรื่ องราวเหล่านี้ เลย อีกทั้งตอนที่ไปอยูใ่ นวังของเขาก็เห็นว่าเขาเคารพ
แต่ไทเฮาที่ พ่ ึงสิ้ นใจไปไม่กี่ปีซึ่ งเป็ นคนที่ เลี้ ยงดู เขากับฮ่องเต้มามากแค่ไหน จึ ง
ค่อนข้างมัน่ ใจในความคิดของตนที่วา่ เขาไม่รู้เรื่ องใด ๆ นัน่ เอง
ไม่นานนักองค์หญิงอวี้เหมยก็กล่าวยืนยันกับแม่ของตนขึ้นอีกครั้ง “เสด็จ
แม่ท่านอ๋ องเป็ นคนดีจริ ง ๆ ”
ด้านฮองเฮาแคว้นเหลียงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตอ้ งพูดเสี ยงอ่อนลงอย่างจน
ใจ “ถ้าเป็ นเช่นนั้นก็ดี” แม้ดวงตาจะยังดูราวกับครุ่ นคิดสิ่ งใดไว้ จนกระทัง่ ผ่านไป
ไม่ น านก็ ถ ามลู กสาวตนเองขึ้ น อี ก ครั้ งว่า “ว่า แต่ … เหมยเอ๋ อ เจ้า ไม่ มี วี่แ ววว่าจะ
ตั้งครรภ์เลยรึ ”

247
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาถามที่ได้ยินทาให้องค์หญิงอวี้เหมยมีสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมา “อาจจะเพราะ
ก่อนหน้านี้ ขา้ โดนคนของฮ่องเต้กรอกยาไปเป็ นจานวนมาก จึงทาให้มีผลข้างเคียง
อยูบ่ า้ ง” แล้วจึงพูดให้แม่ของตนสบายใจออกไปว่า “แต่ช่วงนี้ ท่านอ๋ องให้คนทายา
บารุ งมาให้ขา้ บ่อย ๆ อีกไม่นานต้องมีข่าวดีแน่นอน”
ได้ยินเช่นนั้นฮองเฮาแคว้นเหลียงก็ยิ้มพึงพอใจ “งั้นก็ดี” ทั้งยังกล่าวชื่ น
ชมฉี อ๋องออกไป “ยังดี ที่ฉีอ๋องให้คนส่ งข่าวคราวจากเจ้ามาติ ดต่อพ่อกับแม่บา้ ง
ไม่เช่นนั้นแม่คงไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าเลย”
ประโยคที่พ่ งึ ได้ยินนั้นทาให้องค์หญิงอวี้เหมยดีใจไม่นอ้ ย ด้วยไม่นึกว่าฉี
อ๋ องจะยอมส่ งจดหมายที่ นางเขียนเก็บไว้มาให้ครอบครัวของนางจริ ง ๆ ทั้ง ๆ ที่
ความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นช่วงนี้ ไม่ดีเท่าใดนัก เมื่อทั้งสองฝ่ ายต่างไม่กล้าตี กัน
เพราะต่างฝ่ ายต่างมีตวั ประกันชั้นดี เพียงแต่คราวก่อนที่แคว้นเหลียงพ่ายแพ้น้ นั เป็ น
เพราะว่าไม่นึกว่าฮ่องเต้จะให้คนตีกลับเต็มกาลัง โดยไม่สนใจว่าแม่แท้ ๆ ของตนยัง
อยูก่ บั ฝั่งนี้เลยเท่านั้นเอง
หลังจากองค์หญิงอวี้เหมยที่คุยกับแม่ของตนไปได้สกั พัก ก็เปลี่ยนเป็ นเข้า
ไปคุยในห้องกันอย่างส่ วนตัวเพื่อที่จะได้ไม่มีใครรบกวนหลังจากไม่ได้พบหน้ากัน
มานานแทน
ยามที่องค์หญิงอวี้เหมยมัน่ ใจแล้วจริ ง ๆ ว่ารอบด้านไม่มีผใู ้ ดแอบฟังอยู่ ก็
พูดตรงประเด็นขึ้นมาว่า “เสด็จแม่ขา้ มีเรื่ องอยากจะบอกท่าน…”
สี หน้าและท่าทางขององค์หญิงอวี้เหมยที่เปลี่ยนไปในพริ บตานั้น ทาให้
ฮองเฮาแคว้นเหลียงเริ่ มจะดูเคร่ งเครี ยด ก่อนจะได้ยินองค์หญิงอวี้เหมยพยายามพูด

248
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เสี ยงเบาออกมาว่า “ตอนอยู่ในวังที่ตา้ หลิงข้ารู ้สึกเหมือนข้าเห็ น…เด็กคนนั้นยังมี


ชีวติ อยู”่
องค์หญิ งอวี้เหมยที่ นึกว่าแม่ของตนจะตกใจนั้น ต้องมี สีหน้าแปลกใจ
ในทันที เมื่ออีกฝ่ ายยังมี ท่าทีสุขุมเช่นเดิม “แม่รู้เรื่ องนั้นแล้ว” คาพูดที่ได้ยินนั้นทา
ให้นางต้องถามกลับไปด้วยสี หน้างงงวย “เสด็จแม่รู้ได้อย่างไร”
ด้านฮองเฮาแคว้นเหลียงพอได้ยินคาถามของลูกสาวตน ก็พูดอย่างคนมี
ประสบการณ์มากกว่าออกมา “เจ้าคิดว่าแม่ของเจ้าเป็ นใครกัน” พูดจบก็อธิ บาย
ต่อไป “ตอนนี้ มีความเป็ นไปได้สูงว่านัน่ คือเด็กคนนั้นจริ ง ๆ นึ กไม่ถึงว่าจะยังไม่
ยอมตายตามแม่ของนางไป”
องค์หญิงอวี้เหมยเมื่อได้ยินเช่นนั้น แม้จะไม่เข้าใจว่าแม่ของตนรู ้เมื่อไหร่
หรื อหาข่าวพวกนี้ มาจากไหน ก็ตอ้ งถามด้วยสี หน้ากังวลใจกลับไปเล็กน้อย “เสด็จ
แม่ ถ ้า เช่ น นั้น เราจะท าอย่า งไรกันดี เ พราะหากเสด็จพ่อ รู ้ เรื่ องนี้ เ ข้า ล่ ะก็ จะต้อง
กลับมาเอา…”
ยังไม่รอให้องค์หญิงอวี้เหมยพูดจบฮองเฮาแคว้นเหลียงก็พูดแทรกขึ้นมา
เสี ยก่อน “ต่อให้พ่อของเจ้ารู ้เรื่ องนี้ แล้วจะช่วยนางยังไงเล่า ตอนนี้ นางเป็ นถึงพระ
สนมตาแหน่งสู งแห่ งต้าหลิง การรอดชีวิตในวังหลังคงไม่ง่ายนักในยามที่ตาแหน่ง
ฮองเฮายังว่างอยูแ่ บบนี้”
พูดถึงตรงนี้ น้ าเสี ยงก็ดูจะเปลี่ยนเป็ นยิม้ เยาะเล็กน้อย “อีกอย่างต่อให้พ่อ
ของเจ้ารู ้ แต่จะรับได้ง้ นั หรื อ”

249
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยินเช่ นนั้นองค์หญิ งอวี้เหมยก็ยิ้มชั่วร้ายอย่างเห็ นด้วยกับแม่ของตน


ขึ้ นมาทันที ก่ อนจะชะงักค้างไปยามที่ ได้ยินคาพูดประโยคถัดไปจากแม่ของตน
ขึ้นมา “แม่วา่ คงจะล่ มจมกันทั้งหมดเสี ยมากกว่า”
รอยยกยิม้ มุมปากที่ยากจะคาดเดานั้นทาเอาองค์หญิงอวี้เหมยรู ้สึกไม่แน่ใจ
ในความหมายที่ถูกซ่อนไว้ จนต้องเรี ยกอีกฝ่ ายเสี ยงเบาออกไป “เสด็จแม่…”
ด้านฮองเฮาแคว้นเหลียงเมื่อได้ยิ นเช่นนั้นก็หันกลับมายิ้มให้ลูกสาวตน
เล็กน้อย “เหมยเอ๋ อ เจ้าต้องรี บมีลูกชายรู ้หรื อไม่” ฮองเฮาแคว้นเหลียงกล่าวด้วย
น้ าเสี ยงอวยพรอย่างหวังดีไม่นอ้ ย จนทาให้องค์หญิงอวี้เหมยดูอารมณ์ดีอย่างเห็นได้
ชัด ด้วยเข้าใจว่าแม่ของตนอยากให้ตนมีชีวติ ที่ดี
ไม่นานนักฮองเฮาแคว้นเหลียงก็พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “ยามนี้ แม่มีแค่เจ้าคน
เดี ยว แต่ถา้ วันหน้าเจ้ามีลูกชายและกลับมาที่ นี่เมื่อไหร่ …” พูดถึงตรงนี้ นางก็เว้น
ช่วงไปราวกับนึ กถึงอะไรบางอย่าง ขณะที่ดวงตาคู่น้ นั ดูจะซ่อนแผนการบางอย่าง
ไว้ในใจตอนที่จะพูดประโยคถัดไปออกมา “แม่จะให้ลูกของเจ้าได้อยูใ่ นตาแหน่งที่
ดีที่สุดแน่นอน”

ด้านฝ่ ายจักรพรรดิแคว้นเหลียงกับฉี อ๋องที่คุยเรื่ อยเปื่ อยด้วยกันไปเรื่ อยนั้น


ก็เริ่ มจะเข้าเรื่ องที่ต่างฝ่ ายต่างอยากพูดถึงขึ้นมาแล้ว เมื่อองค์จกั รพรรดิ พูดขึ้นมาว่า
“หากไม่ได้เจ้าส่งข่าวคราวมาบอก ข้าคงไม่รู้ความเป็ นอยูข่ องลูกสาวตนเองเป็ นแน่”
ฉี อ๋องเมื่อได้ยินช่นนั้นก็ยมิ้ ตอบกลับไปอย่างถ่อมตน “องค์จกั รพรรดิ ถือ
เป็ นพ่อตาของข้า เรื่ องเล็กน้อยเท่านี้อย่าได้เกรงใจ”

250
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

คาตอบนั้นทาให้จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงหัวเราะขึ้นมา “ดีที่ได้เจ้าดูแลอวี้


เหมยในยามนี้จริ ง ๆ ” ก่อนจะหยุดหันมามองด้วยสายตาที่รู้ทนั เล็กน้อย แล้วพูดเป็ น
นัยออกไป “อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ตอ้ งมีเรื่ องเสื่ อมเสี ยหลุดออกไปมากกว่าเดิม”
เมื่อฉี อ๋องเห็นองค์จกั รพรรดิ ที่ดูจะรู ้ความเป็ นอยู่ลูกสาวตนดี แต่กลับไม่
ถือสาหาความเขาเลยแม้แต่น้อยนั้น ก็พอจะรู ้แล้วว่าคนตรงหน้าไม่ได้เป็ นห่ วงลูก
สาวแท้ ๆ ของตนผูน้ ้ ีสกั เท่าไร
ไม่นานนักจักรพรรดิแคว้นเหลียงก็พดู ถามขึ้นอีกครั้ง “เจ้าจะไม่ไปพบกับ
นางสักหน่อยเรอะ” ทั้งยังมองไปทางฉี อ๋องอย่างลองเชิงเล็กน้อย แต่ฉีอ๋องที่เข้าใจ
ความหมายนั้นดีก็เพียงแค่ถามกลับมาด้วยสี หน้าไม่เข้าใจเท่านั้น “องค์จกั รพรรดิพดู
ถึงใครกัน”
ท่าทางของฉี อ๋องทาให้จกั รพรรดิแคว้นเหลียงต้องยกยิม้ ขึ้น เมื่อเห็นว่าเขา
ดูจะไม่สนใจชี วิตความเป็ นอยูข่ องมารดาแท้ ๆ ของตนเลย จึ งทาเป็ นเปลี่ยนเรื่ อง
เพื่อลองตรวจดู ท่าทางของเขาอี กครั้ งแทน “ช่ างเถิ ด ๆ ว่าแต่ขา้ ผิดหวังจริ ง ๆ ที่
ฮ่องเต้ของพวกเจ้าไม่ได้มาด้วยตนเอง” พูดจบยังเอ่ยด้วยความเสี ยดายตามมาอี ก
เล็กน้อยว่า “ทั้ง ๆ ที่ชอบส่งของมาให้นางเป็ นประจา”
ฉี อ๋องที่ เข้าใจดีว่าอีกฝ่ ายหมายถึงแม่แท้ ๆ ของพวกตนที่ไม่ได้เลี้ยงพวก
ตนทั้งสองคนมา แต่น้องชายของตนก็ยงั คงยึดติดกับแม่แท้ ๆ ผูน้ ้ ี น้ นั ได้แต่ตอบ
กลับไปด้วยรอยยิม้ ลาบากใจที่ดูยากจะคาดเดาน้อย ๆ “ฝ่ าบาทยุง่ อยูจ่ ึงไม่อาจปลีก
ตัวมาได้” ทั้งยังต้องพูดด้วยน้ าเสี ยงแปลกใจว่า “ข้าเองก็พ่ งึ จะรู ้วา่ เขาชอบส่งของมา
ให้นางเช่นกัน”

251
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาพูดนั้นทาให้จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงต้องมีสีหน้าประหลาดใจเช่นกัน


แต่เพียงไม่นานนักก็กลับมาทาเป็ นพูดด้วยสี หน้าเสี ยดายที่ฮ่องเต้ของอีกฝ่ ายไม่ยอม
มาที่นี่ดว้ ยตนเอง พร้อมกับน้ าเสี ยงเรี ยบ ๆ เรื่ อย ๆ เช่นเดิม
“หากเขาไม่มาก็ไม่เป็ นไร ข้าจะไปเยี่ยมเยียนเขาด้วยตนเอง จะได้ดูเสี ย
หน่อยว่าลูกสาวข้ามีความเป็ นอยูเ่ ช่นไร” พูดจบก็หันมามองทางฉี อ๋องเล็กน้อยแล้ว
ยกยิม้ มีเลศนัยขึ้นมา พลางพูดว่า “คงต้องรบกวนเจ้าให้ส่งข่าวคราวไปบอกทางนั้น
ให้ที”
ฉี อ๋องแม้จะเห็นรอยยิม้ ที่มีเลศนัยเช่นนั้น ก็ยงั ต้องคงรอยยิม้ ตอบกลับไป
อย่างเจ้าบ้านที่ดี “ฝ่ าบาทต้องยินดีกบั การเยีย่ มเยียนของท่านเป็ นแน่” ก่อนจะถามถึง
วันเวลาด้วยน้ าเสี ยงราวกับสนอกสนใจ “องค์จกั รพรรดิต้ งั ใจจะไปเมื่อใดกัน”
ได้ยินเช่นนั้นจักรพรรดิ แคว้นเหลียงก็ยกยิ้มขึ้นมา ก่อนจะตอบกลับไป
อย่างชัดถ้อยชัดคาถึงแผนที่วางไว้ หลังจากที่ช่วงนี้ ได้ข่าวคราวความเป็ นอยูข่ องลูก
สาวตน
“ข้ ำจะไปพรุ่งนีเ้ ลย”

***************************************

252
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 45 ผู้ครองบัลลังก์

หลังจากคณะทูตของต้าหลิ งไปเยือนแคว้นเหลี ยงได้ไม่กี่วนั ก็มีสาส์ น


ส่ งกลับมาจากฉี อ๋องว่า จักรพรรดิ แคว้นเหลียงจะมาเยือนแคว้นต้าหลิงด้วยตนเอง
จนต้อ งรี บ เตรี ย มการกัน จนวุ่นวายเสี ย ยกใหญ่ ด้ว ยไม่ นึ ก ว่า อี ก ฝ่ ายจะมาอย่าง
ฉุกละหุกเช่นนี้
แต่คนที่ตอ้ งยุง่ กับการเตรี ยมงานเลี้ยงต้อนรับมากที่สุด ก็มีเพียงฮุ่ยกุย้ เฟย
ที่ มีตาแหน่ งสู งสุ ดในวังหลังในตอนนี้ เท่านั้น ในทางกลับกันสาหรับเหยียนหยิน
ในตอนนี้ แล้ว สิ่ งที่ น่าแปลกใจกว่าก็คือ การที่ ฮุ่ยกุย้ เฟยซึ่ งควรจะยุ่งอยู่กบั การไป
ต้อนรับคณะฑูตที่มาพร้อมกับจักรพรรดิ แคว้นเหลียงนั้น จู่ ๆ ก็มาอยูท่ ี่ตาหนักตน
พร้อมกับสนมส่วนหนึ่งและกาลังยืนอยูต่ ่อหน้าตนด้วยใบหน้ายิม้ แย้มนัน่ เอง
“ฮุ่ยกุย้ เฟยมาหาข้ามีเรื่ องอันใดกัน” เหยียนหยินถามออกไปด้วยสี หน้า
สงสัย ก่ อนที่ ฮุ่ยกุ้ยเฟยจะยิ้มตอบกลับมาว่า “ข้าจะชวนเจ้าไปต้อนรั บ จักรพรรดิ
แคว้นเหลียงพร้อมกับพี่สาวน้องสาวในวังหลังอย่างไรเล่า”

253
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เพราะท่ า ทางของฝ่ ายตรงข้า มดู แ ปลก ๆ ท าให้เ หยีย นหยินเลื อ กที่ จะ


พยายามปฏิเสธฝ่ ายตรงข้ามไปเสี ยนาน แต่สุดท้ายก็ตอ้ งแพ้เสี ยงข้างมากที่ฮุ่ยกุย้ เฟย
พามาด้วย เมื่อพระสนมเหล่านั้นต่างพากันพูดเป็ นนัยออกมาว่า ในเมื่อทุกคนไป
ต้อนรับคณะฑูตแคว้นเหลียงด้วยกันแล้วนางจะไม่ไปได้อย่างไรกัน หรื อก็คือการ
บอกเป็ นนัยว่านางมี อานาจมาจากที่ ใดที่ จะปฎิ เสธฮุ่ยกุ้ยเฟยที่ มีตาแหน่ งสู งกว่า
นัน่ เอง
หลังจากเหยียนหยินได้แต่จนใจเดินไปพร้อมกับฮุ่ยกุย้ เฟยและเหล่าพระ
สนม กลุ่มของพวกนางก็เจอเข้ากับฮ่องเต้ที่กาลังจะไปรอรับจักรพรรดิแคว้นเหลียง
พอดี
“ถวายบังคมเพคะฝ่ าบาท” เหล่าพระสนมต่างพากันย่อกายคานับบุรุษ
เบื้องหน้าลงอย่างพร้อมเพรี ยงกัน ฝ่ ายฮ่องเต้ที่เดิมทีก็ดูจะไม่ได้อารมณ์ดีเท่าไหร่ อยู่
แล้วนั้นพอเห็นสี สันแสบตาจากชุดและการแต่งกายของเหล่าพระสนมเบื้องหน้า ก็
มีน้ าเสี ยงไม่สบอารมณ์เล็กน้อย “พวกเจ้ามาทาอะไรที่นี่ ” ก่อนที่สายตาของเขาจะ
ไปหยุดอยู่ที่เหยียนหยินซึ่ งยืนอยู่เบื้องหลังพระสนมเหล่านี้ อยู่ครู่ หนึ่ ง แล้วคิ้วทั้ง
สองข้างก็พากันย่นเข้าหากันทันที
ฮุ่ยกุย้ เฟยที่ สังเกตเห็ นท่าทางของฮ่องเต้ จึ งรี บเดิ นหน้าขึ้นมาพูดอธิ บาย
ด้วยน้ าเสี ยงอ่อนหวานว่า “หม่อมฉันคิ ดว่าจะพาพวกนางไปต้อนรั บ จักรพรรดิ
แคว้นเหลียงและคณะฑูตด้วยกันเพคะ ถึงอย่างไรนี่ก็เป็ นงานสาคัญ…”
ฮุ่ยกุย้ เฟยพูดยังไม่ทนั จบฮ่องเต้ก็พูดตัดบทนางขึ้นมาเสี ยก่อน “ให้พวก
นางกลับไปซะ คนเยอะไปไม่ดีเท่าไหร่ ”

254
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

การที่ โดนฮ่องเต้พูดอย่างไม่ไว้หน้าเช่นนี้ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยรู ้สึกสะอึกไป


ก่อนจะเห็ นบุรุษเบื้องหน้าหันมายิม้ ให้กบั นางอย่างนุ่ มนวลราวกับจะกลบเกลื่อน
แทน “สาหรับข้าเจ้าอยูค่ นเดียวก็พอแล้ว”
รอยยิม้ และท่วงท่าอบอุ่นอ่อนโยนของเขา ทาให้นางได้แต่ตอบรับออกไป
อย่างไม่รู้ตวั ว่า “เพคะ”
หลังจากนั้นเหยียนหยินและพระสนมคนอื่น ๆ ก็แยกย้ายกลับตาหนักของ
ตนตามคาสั่งของฮ่องเต้ แต่ตอนที่กาลังจะหมุนตัวเดินกลับไปนั้น เหยียนหยินก็อด
ไม่ได้ที่จะต้องหันมามองโอรสสวรรค์ในชุดสูงศักดิ์เล็กน้อย ด้วยรู ้สึกว่าสายตาที่เขา
มองมาที่ นางเมื่อกี้ ราวกับกังวลสิ่ งใด แต่เมื่อเห็นเขากลับไปมีท่วงท่าเฉกเช่นปกติ
ขณะพูดคุยกับฮุ่ยกุย้ เฟยแล้ว ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาพลางคิดว่าตนคงจะคิดมาก
ไปเอง

หลังจากฮ่องเต้เดินออกมาจากส่ วนชั้นในของวังหลวง ยามนี้ เขาจึงกาลัง


ยืนอยูห่ น้าบันไดเก้ามังกร รอต้อนรับขบวนของจักรพรรดิแคว้นเหลียงและคณะฑูต
ที่กาลังข้ามผ่านประตูช้ นั นอกเข้ามา
ขบวนที่เห็นออกไม่ไกลนั้นดูยิ่งใหญ่ท้ งั ยังแข็งแกร่ งราวกับจะโอ้อวด จน
อดไม่ได้ที่จะยิม้ หยันในใจ ด้วยคิดว่าอีกฝ่ ายแม้จะแพ้สงครามแต่ก็ดูไม่คิดจะยอม
อ่อนข้อแม้แต่นอ้ ย ทันทีที่จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงมาหยุดอยูเ่ บื้องหน้า ฮ่องเต้ก็ตอ้ ง
กล่าวต้อนรับออกไปให้ตนยังคงดูเป็ นเจ้าบ้านที่ดี
“เป็ นเกียรติจริ ง ๆ ที่องค์จกั รพรรดิมาเยีย่ มเยียนแคว้นต้าหลิงด้วยตนเอง”

255
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฝ่ ายจักรพรรดิ แคว้นเหลี ยงนั้น พอได้ยินคาพูดต้อนรั บด้วยใบหน้า ยิ้ม


เหมือนไม่ยมิ้ และไร้ซ่ ึงความจริ งใจใด ๆ แล้ว ก็ได้แต่หวั เราะเบา ๆ กล่าวออกไปว่า
“ฝ่ าบาทกล่าวชมมากไป ข้าแค่มาเยีย่ มเยียนเพื่อแสดงความจริ งใจเท่านั้นเอง”
หากมองผ่านสายตาของผูค้ นภายนอก การสนทนาของบุรุษทั้งสองคงจะดู
เป็ นไปได้ดว้ ยดี แต่ในความเป็ นจริ งนั้นมิได้เป็ นเช่นนั้นเลย
ไม่นานนักองค์จกั รพรรดิ ก็สังเกตเห็นฮุ่ยกุย้ เฟยจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง “นี่ คง
จะเป็ นฮุ่ยกุย้ เฟยที่ผคู ้ นร่ าลือกันใช่หรื อไม่” พูดจบเขาก็ยกยิม้ ขึ้นมาพลางกล่าวชื่ น
ชมออกไป “ข้าได้ยิน คนร่ า ลื อ กัน ว่า พระสนมของแคว้น ต้า หลิ ง ล้ว นงดงามดั่ง
เทพธิดา ดูแล้วคงจะเป็ นเรื่ องจริ ง”
ฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มน้อย ๆ พลางกล่าวตอบรับเชิ งขบขัน ว่า
“องค์จักรพรรดิ ก ล่ า วชมเกิ น ไปแล้ว เที ย บกับ พี่ ส าวน้อ งสาวในวัง หลัง ข้า ยัง ดู
ธรรมดาอยูม่ าก”
คาพูดประโยคนั้นทาให้แววตาของจักรพรรดิ แคว้นเหลียงมีประกายไหล
ผ่านวาบ ก่อนจะพูดเชิงล้อเล่นออกมาว่า “ฮุ่ยกุย้ เฟยพูดเช่นนี้ ทาให้ขา้ อยากเห็นพวก
นางซะจริ ง”
สิ่ งที่จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงพึ่งพูดมานั้น ทาให้สายตาของฮ่องเต้คมกริ บ
ขึ้นมาเล็กน้อยขณะเหลือบมองไปทางฮุ่ยกุย้ เฟยที่เหมือนจะเผลอพูดเช่นนั้นออกไป
โดยไม่ได้คิดหรื อมีเจตนาใด ๆ นัน่ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยที่สมั ผัสได้ถึงสายตาคมกริ บเพียง
ชัว่ ครู่ ที่มองมาทางตนนั้น ต้องรี บเปลี่ยนเรื่ องอย่างเป็ นธรรมชาติออกไปแทน “ทาง
เราจัดงานเลี้ ยงต้อนรั บให้องค์จกั รพรรดิ ในคื นพระจันทร์ เต็มดวงในอี กสามวัน
ข้างหน้า หวังว่าองค์จกั รพรรดิจะทรงพึงพอใจ”

256
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

“ข้าย่อมพึงพอใจแน่นอน” จักรพรรดิ แคว้นเหลียงตอบด้วยรอยยิม้ มีเลศ


นัย
ฮ่องเต้ซ่ ึ งเห็นว่าการต้อนรับก็จบลงด้วยดีแล้ว ทั้งยังรู ้สึกว่าไม่ควรให้คน
สองคนที่ อ ยู่ใ กล้เ ขาได้พูด คุ ย กัน ต่ อ ไป จะพู ด ตัด บทขึ้ น มาว่า “องค์จักรพรรดิ
เดินทางมาคงจะเหน็ดเหนื่อยไม่นอ้ ย เรื อนรับรองถูกจัดเตรี ยมไว้แล้วเชิญพวกท่าน
พักได้ตามสบาย”
ยามที่ ขบวนของจักรพรรดิ แคว้นเหลียงและคณะทูตจากไปจนหมดแล้ว
ฮุ่ยกุย้ เฟยก็หนั มาจะพูดกับฮ่องเต้อีกครั้ง “ฝ่ าบาท…” แต่นางยังไม่ทนั พูดสิ่ งใด เขาก็
ยิม้ อ่อนโยนพูดแทรกขึ้นมาเสี ยก่อนว่า “เจ้าทาหน้าที่ได้ดีจริ ง ๆ กลับไปพักผ่อนสัก
หน่อยเถิด”
พูดจบฮ่องเต้ก็หมุนตัวเดินจากไป โดยไม่คิดจะรอฟังคาพูดเพิ่มเติมใด ๆ
จากฮุ่ยกุย้ เฟยอีกเลย นัน่ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยได้แต่กาผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น แม้จะยังคง
รอยยิ้มบาง ๆ ไว้บนใบหน้า แต่ในใจนางก็รู้ดีว่า บุรุษสู งศักดิ์เบื้องหน้าตนที่กาลัง
เดินจากไปนั้น
ต่อให้ฉากหน้ายังดู เหมื อนเดิ มเช่ นไร แต่ในใจเขาย่อมระแวงนางแล้ว
แน่นอน!
.............................

ด้านเหยียนหยินที่กาลังพักผ่อนอยูใ่ นตาหนักของตน พอตกเย็นมาก็ตอ้ งมี


สี หน้าแปลกใจไม่น้อยเมื่ อ กั๋ว กงกงให้ขนั ที น้อยส่ งข่ าวมาบอกที่ ตาหนักนางว่า
ฮ่องเต้จะเสด็จมาในคืนนี้ นั่นทาให้เยว่อิ๋งที่ ยืนอยู่ขา้ งกาย แกล้งถามออกมาอย่าง

257
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ลัง เล “พระสนมคื น นี้ ฝ่ าบาทจะเสด็ จ มานะเพคะ เปลี่ ย นเป็ นใส่ ชุ ด อื่ น เลยดี
หรื อไม่…”
ใบหน้าที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่ากาลังคิดสิ่ งใดของเยว่อิ๋ง ทาให้เหยียน
หยินอดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวตาหนิ ออกไป “เจ้ากาลังคิดสิ่ งใดกัน” เหยียนหยินพูด
จบไปได้ไม่นาน เสี ยงอันคุน้ เคยของฮ่องเต้ก็ดงั แทรกขึ้นมาเสี ยแล้ว
“แล้วเจ้าเล่ากาลังคิดสิ่ งใด”
พอเหยียนหยินและเหล่านางกานัลในตาหนักเห็นฮ่องเต่ที่กาลังเดินเข้ามา
ก็ตอ้ งรี บลุกขึ้นมาทาความเคารพชายเบื้องหน้าทันที แต่อีกฝ่ ายก็รีบเข้ามาห้ามนาง
ไว้เสี ยก่อน “ไม่ตอ้ งมากพิธี”
เห็ นเช่นนั้นเหล่าข้ารับใช้ในตาหนักก็พากันถอยห่ างออกไปอย่างรู ้ งาน
จนเมื่ออยู่กนั เพียงลาพังสองคนแล้ว เหยียนหยินก็รินชาให้ชายเบื้ องหน้า ก่อนจะ
ถามขึ้นด้วยความแปลกใจเล็กน้อยว่า “ทรงกังวลเรื่ องใดอยูเ่ พคะ”
ที่ถามเช่นนั้นก็เพราะนางเห็นท่าทางของเขาแปลก ๆ ตั้งแต่ตอนที่พบกัน
ก่อนหน้า อีกทั้งเขายังมาหานางก่อนเวลาที่เขาให้คนแจ้งไว้เช่นนี้นนั่ เอง
ฝ่ ายฮ่องเต้เมื่อเห็นนางสังเกตได้อย่างง่ายดาย ก็ยิม้ อบอุ่นออกมาไม่นอ้ ย
พลางดึงนางเข้ามานัง่ ตักตนทั้งยังกอดนางอย่างรักใคร่ ไว้ แล้วค่อยบอกให้นางสบาย
ใจออกไป “ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่งานเลี้ยงต้อนรับเจ้าจะไปเข้าร่ วมรึ เปล่า”
ก่อนจะได้ยนิ นางตอบกลับมาว่า “ตามหน้าที่แล้วหม่อมฉันต้องไปเพคะ”
คาตอบนั้นทาให้เขาก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วจึงกล่าวเชิ งหยอกเย้าออกมา
“งั้นเหรอ ข้าไม่อยากให้ใครเห็นเจ้าเลยจริ ง ๆ ”

258
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เหยียนหยินที่ ตกอยู่ในอ้อมกอดของคนเบื้ องหลังรู ้สึกจัก๊ จี้ เล็กน้อย เมื่อ


ใบหน้าของเขาเข้ามาซุ กไซ้กบั นางราวกับจะแกล้งกัน “ฝ่ าบาท…” นางเรี ยกเขา
อย่างบางเบาได้ไม่นาน เขาก็หมุนหน้านางให้หนั ไปหาพลางถามด้วยรอยยิม้ มีสเน่ห์
ว่า “ไหน ๆ ข้าก็มาแล้ว เจ้าทาหน้าที่ของตนเองอีกสักคืนดีหรื อไม่”
เหยียนหยินที่ เห็ นว่าวันนี้ เขามีท่าที แปลก ๆ นั้นได้แต่พยักหน้าตอบรั บ
ด้วยใบหน้าแดงระเรื่ อ เพราะถึงอย่างไรนัน่ ก็เป็ นหน้าที่ที่นางควรจะทาตามอยูแ่ ล้ว
ผ่านไปไม่นานท่ามกลางแสงเที ยนอันเบาบางในค่ าคื นนั้น คนสองคน
กาลังบรรเลงเพลงรักกันอย่างเร่ าร้อน เสี ยงที่เกิดจากการกระแทกกระทั้นกันดังเบา
ๆ อยูภ่ ายในห้องที่มีเพียงคนสองคน ขณะที่เงาของร่ างสองร่ างที่ขยับเขยื้อนอยูน่ ้ นั
ก็สนั่ ไหวไปตามจังหวะโยกคลอนของคนตัวเล็กที่หลุดเสี ยงร้องครางออกมา
เมื่อคนทั้งสองไปถึงฝั่งฝัน ฮ่องเต้ก็ขยับกายถอยออกไป แต่ก็ดูจะยังไม่ได้
อยากหยุดมอบความสุ ขให้ร่างบาง ๆ เบื้องล่างเสี ยเท่าไหร่ เมื่อเขายังคงเข้าไปปลุก
ปั่ นไฟปรารถนาในตัวนางที่ยงั ไม่ทนั จางหายไปให้มากขึ้นกว่าเดิม
สุ ดท้ายค่ าคืนนั้นเหยียนหยินก็ตอ้ งเหนื่ อยล้าไปเสี ยหลายครั้งหลายครา
จนร่ างกายแทบสิ้นไร้เรี่ ยวแรง

ช่วงเวลาเช้ามืดในวันถัดมา ฮ่องเต้ซ่ ึ งพึ่งจะแต่งตัวเสร็ จและเตรี ยมตัวจะ


ออกไปจากตาหนักนั้น ต้องเดินเข้ามาดูสตรี ที่นอนอยูบ่ นเตียง ซึ่งกาลังสะลึมสะลือ
ขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะอมยิ้มพูดออกไปว่า “คืนนี้ ขา้ จะมาใหม่ หวังว่าเจ้าคงจะไม่
เหนื่อยมากจนเกินไป เพราะคืนนี้ขา้ ไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่นอน” พูดจบเขาก็เดิน
จากไปเพื่อเตรี ยมเข้าว่าราชการในยามเช้านัน่ เอง

259
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ทันที ที่เหยียนหยินตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าเบื้ องนอกเริ่ มจะมี แสงแดด


สาดส่ องเข้ามาแล้ว จึ งหันไปถามเยว่อิ๋งที่ กาลังเตรี ยมชุดคลุมให้นางจากเบื้องข้าง
ทันที “ฝ่ าบาทเล่า” ก่อนจะได้รับคาตอบจากเยว่อิ๋งที่มีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยตอบ
กลับมาว่า “ออกไปตั้งแต่ยามอิ๋น(1) แล้วเพคะ”
คาตอบที่ ได้ยินนั้นทาให้คิ้วของเหยียนหยินย่นเข้าหากัน สักพักจึ งถาม
ออกไป “ฝ่ าบาทได้รับสัง่ สิ่ งใดไว้รึเปล่า” ไม่นานนักเยว่อิ๋งก็ตอบกลับมาว่า “ทรง
บอกว่าคืนนี้จะมาอีกเพคะ”
ได้ยินเช่ นนั้นเหยียนหยินก็เข้าใจได้ในทันที ว่าคาพูดที่ ได้ยินตอนสะลึ
มสื อเมื่อเช้านั้น มิได้เป็ นเพียงแค่นางฝันไป ว่าแต่เหตุใดจู่ ๆ เขาจึ งพยายามมาหา
นางบ่อย และคิดจะให้นางปรนนิ บตั ิเขาติด ๆ กันเช่นนี้ กนั นั่นดูไม่เหมือนเขาใน
ยามปกติเลย เมื่อตั้งแต่คืนที่นางอยูก่ บั เขาซึ่งเมามายไม่ได้สติครานั้น เขาก็ดูจะไม่คิด
ฝื นใจนางในเรื่ องพวกนี้เลย
เวลาล่วงเลยไปจนกระทัง่ พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน เหยียนหยินที่นงั่ เล่นอยู่
ในตาหนักจนพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปอีกครั้ง ก็เห็นบุรุษที่แสนจะคุน้ เคยเดินยิม้
เข้ามาในตาหนักของนางเช่นเดิม
“เจ้ารอข้าอยูใ่ ช่หรื อไม่”
เหยียนหยินที่เห็นเขาเข้ามาทั้งยังไล่พวกข้ารับใช้ออกไปอย่างรวดเร็ วเช่น
เคย ต้องถามด้วยความแปลกใจเล็กน้อยออกไป “ฝ่ าบาทเหตุใดจึงมาติด ๆ กันเช่นนี้
เพคะ”
ฝ่ ายฮ่องเต้ที่กาลังเดินเข้ามาหานางนั้นนิ่ งเงียบไปชัว่ ครู่ หนึ่ง ก่อนจะเพียง
แค่ยมิ้ ตอบกลับมา “ข้าจะมาหาสนมคนโปรดของตนเองมันผิดหรื ออย่างไรกัน”

(1) ยามอิ๋น คือประมาณ 3:00 – 4:59 น. 260


เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

พูดจบเขาก็อุม้ นางขึ้นจนนางตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะทาเช่นนี้ จนต้อง


รี บจับเขาไว้ทนั ที แต่เขาก็เพียงแค่กระซิ บพูดบางเบาออกมาว่า “หวังว่าเจ้าจะยังมี
แรงเหลือมากพอ”
สิ้ นเสี ยงนั้นเขาก็วางนางลงบนเตียงทั้งยังขึ้นมาคร่ อมนางไว้ ทาให้เหยียน
หยินต้องรี บร้องห้ามความใจร้อนของเขา “เดี๋ยวก่อน…” แต่นางพูดยังไม่ทนั จบ เขา
ก็เริ่ มลูบไล้ไปตามกายนางจนเสื้ อผ้าของนางเริ่ มจะหลุดลุ่ยออกไปเสี ยแล้ว ยามที่ริม
ฝี ปากของเขาบีบเม้มลงเบา ๆ ตรงใบหูของนางก็ตอ้ งสะดุง้ ขึ้นมาเล็กน้อย “อ๊ะ!“
ไม่ น านนัก ฮ่ องเต้ก็ แกล้งถามนางที่ ดูไ ม่ยินยอมด้ว ยน้ า เสี ย งราวกับจะ
น้อยใจว่า “ตามใจข้าอี กสักคื นไม่ไ ด้รึอ ย่างไรกัน ” ก่ อนจะยิ้มมี สเน่ ห์ขณะถาม
ออกมาว่า “คืนพรุ่ งนี้ขา้ ก็จะมาอีก เจ้าคงจะรับไหวใช่หรื อไม่”
เหยียนหยินที่รู้สึกว่าเขาแปลก ๆ ได้แต่พยายามผลักเขาออกเบา ๆ แต่ก็ดู
เหมื อ นจะไม่ เ ป็ นผลเลย สุ ด ท้า ยก็ ต ้อ งถามเสี ย งสั่น ขณะที่ เ ขาพยายามปลุ ก ปั่ น
อารมณ์ของนางออกไป “ฝ่ าบาท…พระองค์ทรงกาลังคิดสิ่ งใดกัน” แต่เมื่อเห็นเขา
ไม่คิดจะหยุดทั้งยังยัว่ เย้านางมากกว่าเดิมแล้ว ก็ตอ้ งถามถึงความคิดหนึ่ งที่แวบเข้า
มาในหัวออกไปอย่างลังเลใจไม่นอ้ ย “หรื อว่าท่านอยากจะมี…เด็ก”
คาพูดที่ได้ยนิ นั้น ทาให้ฮ่องเต้ยอมยกศีรษะขึ้นมาจากซอกคอขาวของนาง
แล้วหัวเราะขบขันกับความคิดที่คาดไม่ถึงของนางออกมา
แค่เห็นเขาที่หัวเราะไม่หยุดจนตัวงอเหยียนหยินก็อดไม่ได้ที่จะต้องหน้า
แดงมากกว่าเดิม
“เด็ก ๆ งั้นเรอะ เป็ นความคิดที่ดีจริ ง ๆ ”

261
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

พูดจบเขาก็หันมาถามด้วยรอยยิม้ กระหยิ่มยิม้ ย่องว่า “ถ้าเช่นนั้นข้าจะมา


หาเจ้าให้บ่อยอีกสักหน่อย เจ้าจะได้มีเด็ก ๆ มาวิง่ เล่นด้วยดีหรื อไม่”
เหยียนหยินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบแย้งขึ้นมาทันที “ทรงกาลังคิดสิ่ งใดกัน
เพคะ!” ก่อนจะได้ยินเขาเอ่ยอย่างเอาแต่ใจออกมา “ข้าแค่อยากให้เจ้าตามใจข้าเท่า
นั้นเอง”
พูดจบเขาก็กม้ ลงบรรเลงเพลงรักกับนางอีกครั้ง ก่อนที่ ค่ าคืนนั้นจะผ่าน
ไปโดยที่นางเหนื่อยไม่ได้นอ้ ยไปกว่าค่าคืนก่อนหน้าเลย
จนกระทัง่ เหยียนหยินที่สลบไสลเพราะความเหนื่ อยล้าได้ตื่นมาในยาม
เช้าวันถัดมา ก็พบกับใบหน้าอันแสนคุน้ เคยของเยว่อิ๋งเช่นเดิม
“พระสนมตื่นแล้วหรื อเพคะ”
“ฝ่ าบาทเล่ า ” เหยีย นหยิน ถามออกไป ก่ อ นที่ เยว่อิ๋ ง จะตอบกลับมาว่า
“ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วเพคะ”
ทันที ที่ได้ยินเช่ นนั้นคิ้วของเหยียนหยินก็ตอ้ งขมวดมุ่นเข้าหากัน ทั้ง ๆ
ที่นี่ก็ดูจะเป็ นเรื่ องปกติที่มกั จะพบได้ทวั่ ไปในชีวิตของพระสนมเช่นนางในวังหลัง
แต่ไม่รู้ทาไมถึงรู ้สึกว่ามันน่าแปลกเสี ยจริ ง อีกอย่างเขามาหานางบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ควร
จะสนใจจักรพรรดิแคว้นเหลียงกับคณะฑูตมากกว่าเช่นนี้ จะไม่โดนข่าวลือเสี ยหาย
เล่นงานเอาหรื อไง
ไม่นานนักเสี ยงของเยว่อิ๋งก็ดงั พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “พระสนมคือว่าตอนนี้
ด้านนอก มีข่าวลือเกี่ ยวกับฝ่ าบาทไม่ดีเท่าใดนัก พวกเขาบอกว่าทรงไม่สนใจงาน
ราชกิจเพราะทรงเสด็จมาวังหลังทุกคืน แล้วก็คืนนี้…”

262
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ได้ยนิ เพียงเท่านั้นเหยียนหยินก็พอจะทายบางอย่างออก ว่าเขาต้องบอกว่า


จะมาในคืนนี้อีกเป็ นแน่ หากเขาทาเช่นเดิมนางต้องสิ้นไร้เรี่ ยวแรงจริ ง ๆ เป็ นแน่แท้
อีกอย่างพรุ่ งนี้ก็จะเป็ นงานเลี้ยงต้อนรับแล้ว หากเขายังมัวแต่มาที่นี่จะไม่มีข่าวเสื่ อม
เสี ยออกมามากกว่าเดิมหรื ออย่างไร เมื่อพอจะทายได้แล้วว่าอีกฝ่ ายกาลังคิดจะทา
อะไร เหยียนหยินก็ยมิ้ บางเบาหันมาพูดกับเยว่อิ๋งทันที
“เจ้าเตรี ยมอะไรให้ขา้ หน่อยได้หรื อไม่”
เยว่อิ๋งเมื่ อเห็ นว่าจู่ ๆ พระสนมของตนก็มีท่าที เปลี่ ยนไป ตั้งตัวไม่ทัน
เล็กน้อย “อะ เอ๋ …เพคะ” แต่ทนั ที่ รับฟั งคาขอจากพระสนมเบื้องหน้าแล้ว สี หน้า
ของนางก็ตอ้ งดูตกใจมากกว่าเดิม

ผ่านไปไม่ถึงชั่วยามหลังจากเหยียนหยินสั่งเยว่อิ๋งให้ไปเตรี ยมบางสิ่ ง
ให้กบั ตน ตอนนี้ เหยียนหยินจึงกาลังอยู่ในชุดคลุมเพื่อเตรี ยมจะอาบน้ า ขณะมอง
อ่างน้ าที่มีกลีบดอกไม้มากมายเบื้องหน้าอยู่ ส่วนเยว่อิ๋งเมื่อช่วยนางถอดชุดคลุมออก
แล้วก็ตอ้ งถามด้วยน้ าเสี ยงลังเลออกมาไม่นอ้ ย “พระสนมน้ าเย็นขนาดนี้จะดีหรื อเพ
คะ ยิง่ อากาศหนาวเช่นนี้ดว้ ยแล้ว…”
“แค่เย็นนิ ดหน่อยเท่านั้น” เหยียนหยินตอบก่อนจะเข้าไปนัง่ แช่ในอ่างน้ า
นั้นอย่างไม่ลงั เล จริ ง ๆ น้ าก็ไม่ได้เย็นมาก เพียงแค่ไม่ได้อุ่นพอที่จะให้ความอบอุ่น
กับร่ างกายในฤดูหนาวเช่นนี้ เท่านั้นเอง ไม่นานนักเหยียนหยินก็ค่อย ๆ หลับตาลง
เพื่อแช่น้ าอย่างสบายอารมณ์ต่อไป
เยว่อิ๋งเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ตอ้ งถามอย่างไม่เข้าใจขึ้นมา “พระสนมตั้งใจจะทา
สิ่ งใดเพคะ”

263
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ก่อนที่ เหยียนหยินจะตอบกลับไปว่า “ข้ากาลังหาทางป้ องกันตนเองอยู่


แล้วก็ทาให้ใครบางคนไม่เดือดร้อนไปด้วยเท่านั้น”
พูดจบนางก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะสั่งนางกานัลคนสนิทข้าง
กายตน “ข้าอยากผ่อนคลายความเมื่อยล้าในตัวเท่านั้น ให้ขา้ ได้แช่น้ าสบาย ๆ เช่นนี้
อีกสักนิดก็พอ”
ได้ยินเช่นนั้น เยว่อิ๋งก็ได้แต่ยืนเฝ้าอยูเ่ งียบ ๆโดยไม่กล้าเอ่ยสิ่ งใด จนเวลา
ล่วงผ่านไปเกือบครึ่ งชัว่ ยาม จึงต้องถามพระสนมของตนที่ยงั คงหลับตาพริ้ มนอน
แช่น้ าออกไปด้วยความเป็ นห่ วงอีกครั้งนัน่ เอง “พระสนมทรงแช่น้ านานเกิ นไปรึ
เปล่าเพคะ”
เหยียนหยินเมื่อได้ยนิ เช่นนั้นก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะรู ้สึกวิงเวียนจน
ต้องเรี ยกเยว่อิ๋งออกไป “พยุงข้าออกไปที…”
พอเห็นเยว่อิ๋งมีสีหน้ามึนงงเล็กน้อย จึงต้องพูดออกไปว่า “ข้าแค่รู้สึกหน้า
มืดขึ้นมา” ได้ยินเช่นนั้นเยว่อิ๋งก็ตอ้ งพูดเสี ยงดุออกมาแทน “เห็นไหมเพคะ หม่อม
ฉันบอกไปแล้วว่าทรงแช่น้ านานเกินไป”
โดนนางกานัลคนสนิทของตนดุเช่นนี้ ทาให้เหยียนหยินอดหัวเราะน้อย ๆ
ออกมาไม่ได้ ก่อนจะสัง่ อีกฝ่ ายออกไปว่า “เจ้าไปเรี ยกหมอหลวงมาที”
แต่พอเห็ นอีกฝ่ ายหันมามองด้วยสี หน้ามึนงงมากกว่าเดิ มแล้ว ก็พูดเสี ยง
กาชับอย่างจริ งจังกลับไปอีกครั้ง “บอกว่าข้าโดนอากาศเย็นมากเกิ นไปจึงรู ้สึกไม่
ค่อยดี อยากให้ลองมาตรวจดูเข้าใจรึ ไม่”
นั่นทาให้เยว่อิ๋งที่ เดิ มที คิดตามไม่ทนั นั้นพอจะเริ่ มเข้าใจขึ้นมาบ้าง เมื่อ
เห็นพระสนมเบื้องหน้าจงใจสัง่ ให้ตนไปทางานนี้ดว้ ยตนเอง

264
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

พอเห็ นเยว่อิ๋งมีสีหน้าเข้าใจ เหยียนหยินก็ยิ้มขึ้นน้อย ๆ แล้วจึ งสั่งต่อไป


“เจ้าไปตามหมอหลวง แล้วก็ให้คนอื่นเข้ามาช่วยข้าแต่งตัวแล้วกัน”
“เข้าใจแล้วเพคะ” เยว่อิ๋งตอบรับก่อนจะเดินออกจากตาหนัก ทาให้เหยียน
หยินที่อยูใ่ นชุดคลุมผืนบางขณะนัง่ รออยูใ่ นห้องของตนนั้นต้องครุ่ นคิดออกไปว่า
นางแช่ น้ า นานพอที่ จ ะท าให้ แ ผนการของตนส าเร็ จ หรื อ ไม่ หรื อ ควรจะท าให้
มากกว่านี้เพื่อให้ดูสมจริ งมากกว่าเดิมกัน คิดได้ไม่ทนั ไรเหล่านางกานัลก็เข้ามาช่วย
นางแต่งตัวตามคาสัง่ ที่ฝากเยว่อิ๋งบอกไปเสี ยแล้ว
ทันทีที่เยว่อิ๋งกลับมาจากการไปตามหมอหลวงด้วยตนเองนั้น เหยียนหยิน
ก็แต่งตัวเสร็ จไปนานแล้ว ยามนี้นางจึงกาลังนัง่ มองบรรยากาศภายนอกข้างหน้าต่าง
ที่ถูกเปิ ดแง้มไว้เล็กน้อย
เหยีย นหยินหันมามองผูม้ าใหม่ ไ ด้ไ ม่ น าน เสี ย งต าหนิ ข องเยว่อิ๋ งก็ดัง
ขึ้นมาตาม “พระสนมเหตุใดจึงยังมานัง่ เล่นอยูข่ า้ งหน้าต่างเช่นนี้เพคะ”
ท่าทางตาหนิ อย่างเห็นได้ชดั นั้นทาให้เหยียนหยินต้องถอนหายใจน้อย ๆ
ตอบกลับไปว่า “ข้าไม่มีอะไรทา เลยอยากมองบรรยากาศรอบด้านเท่านั้น”
เยว่อิ๋งได้ยินเช่นนั้นก็รีบร้อนหันมาเร่ งหมอหลวงทันที “ท่านหมอหลวง
รี บ ตรวจอาการพระสนมเถิ ด ” ทั้ง ยัง รี บ เดิ น ไปปิ ดหน้า ต่ า งที่ นาอากาศเย็น จาก
ภายนอกเข้ามาลง พร้อมกับบ่นเบา ๆ
ฝ่ ายหมอหลวงเมื่อเห็ นสถานการณ์เบื้องหน้า ก็อดที่ จะวิเคราะห์ออกมา
ไม่ได้วา่ พระสนมเบื้องหน้าก็ดูจะเป็ นคนดื้อรั้นนิด ๆอยูไ่ ม่นอ้ ย จึงไม่น่าแปลกที่จะ
ตากไอเย็นจนหน้ามื ดแล้วไปเรี ยกเขามาเช่ นนี้ จนกระทั่งหมอหลวงตรวจเสร็ จ
เยว่อิ๋งก็รีบถามขึ้นมาอีกครั้ง “ท่านหมอหลวงพระสนมเป็ นเช่นไรบ้าง”

265
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยนิ เช่นนั้นหมอหลวงก็ได้แต่ถอนหายใจ พลางพูดว่า “เหยียนเฟยรับไอ


เย็นมากเกินไป ช่วงนี้ ควรจะพักผ่อนแล้วก็อย่าออกไปโดนอากาศด้านนอกมาก ข้า
จะสั่งยาที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย” พูดจบยังส่ ายหัวไปมาอย่างจนใจ เอ่ย
เตื อนพระสนมเบื้ องหน้าตน “เหยียนเฟยควรจะฟั งคาพูดของนางกานัลให้ม าก
ร่ างกายของเหยียนเฟยค่อนข้างอ่อนแอ ทรงมิควรจะตากอากาศเย็นมากจนเกินไป
เช่นนี้จริ ง ๆ”
คาพูดที่ได้ยนิ ทาให้เหยียนหยินได้แต่ยมิ้ เบาบาง “ขอบคุณท่านหมอหลวง
ครั้งนี้ลาบากท่านแล้ว”
หลังจากนั้นก็ให้คนไปส่ งหมอหลวงกลับไป พอทั้งห้องกลับไปเหลื อ
เพียงนางกับเยว่อิ๋งเช่นเดิมอีกครั้ง เยว่อิ๋งก็ถามอย่างเสี ยงเบาด้วยกลัวใครจะได้ยิน
“พระสนมจะไม่ทาเกินไปหน่อยเหรอเพคะ ถึงกับต้องทรงทาร้ายตนเองเช่นนี้ …”
เหยียนหยินเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ ายรู ้แล้วว่าตนจงใจแกล้ งป่ วย จึงพูดอย่างจนใจ
ออกมาว่า “ไม่อย่างนั้นคนเหล่านั้นจะเชื่อจริ ง ๆ ได้อย่างไรเล่า”
ใช่แล้ว…สาเหตุที่นางจงใจทาให้ตนเองเหมือนป่ วยเช่นนี้ ก็เพื่อหลีกเลี่ยง
ไม่ให้ฮ่องเต้มาหา และหลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอ้ งไปงานเลี้ยงต้อนรับซึ่งน่าจะเป็ นสาเหตุ
ที่เขามาหานางและพยายามทาให้นางหมดแรงเสี ยให้ได้อยูท่ ุกคืนนัน่ เอง แม้จะไม่รู้
ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงไม่อยากให้นางไปงานเลี้ยงนั้นก็ตาม อต่ในเมื่อเขาตั้งใจมาหา
นางติด ๆ กันจนยอมให้ตนเองเกิดข่าวลือเสี ยหายตามมาเช่นนี้ จะให้นางปล่อยให้
เขาทาเช่นนั้นต่อไปได้อย่างไรเล่า สุดท้ายจึงได้ตดั สิ นใจแกล้งป่ วยเสี ยเลย

266
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

หลังจากหมอหลวงจากไปไม่ถึงครึ่ งชัว่ ยาม แขกที่เหยียนหยินคิดไว้แล้ว


ว่าจะต้องมา ก็เดินเข้ามาในตาหนักด้วยสี หน้าเป็ นห่ วงเป็ นใย “เหยียนเฟยเป็ นเช่น
ไรบ้าง” นัน่ คือคาถามแรกจากฮุ่ยกุย้ เฟยที่ดูเร่ งร้อนมาด้วยความจริ งใจยิง่ นัก
“ข้าได้ข่าวว่าเจ้าไม่สบายเท่าใด”
พอเห็นสี หน้าลองเชิงถามของฮุ่ยกุย้ เฟยแล้ว เหยียนหยินที่นงั่ พักอยูท่ ้ งั ยัง
มีผา้ คลุมผืนใหญ่หลายผืนห่มคลุมไว้ ก็ตอบกลับไปด้วยเสี ยงที่บางเบาว่า “เพียงแค่
โดนไอเย็นมากไปเท่านั้น หมอหลวงบอกว่าให้หลีกเลี่ยงการโดนอากาศด้านนอกเพ
คะ…”
ฮุ่ยกุย้ เฟยได้ยินเช่นนั้นก็รีบยิม้ ยินดีออกมา ก่อนจะกล่าวให้กาลังใจ “ยังดี
ที่ไม่ได้หนักหนาเท่าไร เพียงแค่พกั ผ่อนกินยาให้มาก ๆ เจ้าก็คงจะหายดีได้เป็ นแน่”
แต่เหยียนหยินก็ทอดถอนใจออกมาเสี ยก่อนว่า “ต่อให้ยาจะดีแค่ไหนก็คงจะมิได้
หายในเร็ ววันเป็ นแน่เพคะ ถึงอย่างไรนี่ก็ยงั เป็ นหน้าหนาวที่มีหิมะปกคลุมไม่นอ้ ย”
คาพูดของเหยียนหยินนั้น ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยเริ่ มจะเข้าใจเจตนาของนางได้
ในทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของนางจึ งแข็งค้างไป สุ ดท้ายก็ได้แต่พูดอย่างเข้าอก
เข้าใจออกมา “ในเมื่ออาการเจ้าไม่ดีเช่นนี้ ก็พกั ผ่อนอยู่ที่นี่ก็แล้วกันเรื่ องงานเลี้ยง
คืนพรุ่ งนี้ก็ปล่อยไปก่อนเถอะ ข้าจะอธิบายกับฝ่ าบาทให้เอง”
หลังจากนั้นฮุ่ยกุย้ เฟยก็มิได้อยูพ่ ดู คุยต่อ เพียงแค่บอกลากลับไปโดยอ้างว่า
มีงานที่ตอ้ งเตรี ยมอีกมาก เห็นเช่นนั้นเหยียนหยินก็พอจะโล่งใจขึ้นมาบ้าง ไม่นาน
นักเสี ยงของเยว่อิ๋งก็ดงั ขึ้นมาแทน “พระสนมแล้วที่ฝ่าบาทจะมาคืนนี้…”

267
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยินเท่านั้นเหยียนหยินก็ครุ่ นคิดเล็กน้อย ก่ อนจะตอบกลับเสี ยงเรี ยบ


“ส่ งคนไปบอกกัว๋ กงกงว่าข้าไม่สะดวกให้ฝ่าบาทมา เพราะเกรงว่าพระองค์จะติด
หวัดเอาได้”
ถึงแม้ฮุ่ยกุย้ เฟยบอกว่าจะบอกฮ่องเต้ให้ แต่นางก็คิดว่าส่ งคนของตนไป
บอกด้วยจะดีกว่า เผื่อว่าอีกฝ่ ายเปลี่ยนแปลงคาพูดจนความหมายผิดแผกไปจะได้ไม่
เกิดเรื่ องขึ้น
แม้เยว่อิ๋งพอจะเข้าใจในความคิดของพระสนมตนแล้วก็ยงั อดถามออกไป
ไม่ได้วา่ “ทาเช่นนี้ จะไม่เป็ นอะไรจริ ง ๆ หรื อเพคะ” ก่อนที่เหยียนหยินจะยิม้ น้อย
ๆ ให้กบั คาถามที่ได้ยนิ นั้น แล้วตอบอย่างชัดถ้อยชัดคาด้วยเสี ยงอันบางเบา
“เจ้าส่งคนไปบอกเถอะ ฝ่ าบาทจะเข้าใจในสิ่ งที่ขา้ ทาเอง”

***************************************

268
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

บทที่ 46 จุดเริ่มต้ นบนจุดจบ

ท่ามกลางงานเลี้ยงต้อนรับจักรพรรดิ แคว้นเหลียงและเหล่าคณะฑูต ที่แม้


จะถูกจัดอย่างยิง่ ใหญ่แต่ก็ยงั คงดูเหมาะสมและชวนให้จิตใจรู ้สึกผ่อนคลายนั้น
ภายในงานเลี้ยงที่ดาเนิ นมาได้ชวั่ ครู่ หนึ่งนั้น ฮุ่ยกุย้ เฟยที่เป็ นผูร้ ับผิดชอบ
จัดงานนี้ กาลังยิม้ ทักทายเหล่าแขกเหรื่ อในงาน ก่อนจะได้ยินเสี ยงกระซิ บรายงาน
จากนางกานัลข้างกาย จึงเดินไปหาผูม้ าใหม่ที่กาลังจะเข้างานมา “ฝ่ าบาท เหยียนเฟย
ไม่สบายเล็กน้อยจึงมาไม่ได้เพคะ”
ทันทีที่ฮ่องเต้ได้ยนิ คาพูดประโยคแรกจากสตรี เบื้องหน้า ที่กาลังย่อกายทา
ความเคารพตนตามธรรมเนี ยมอยู่น้ นั เขาก็ตอ้ งมีสีหน้าแปลกใจขึ้นมาทันที “นาง
เป็ นเป็ นเช่นไรบ้าง”

269
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ท่ าทางที่ เพียงแค่แปลกใจของฮ่องเต้ก็ชวนให้ฮุ่ยกุ้ยเฟยต้องรู ้ สึกงุ น งง


เล็กน้อย ด้วยนางคาดการณ์ไว้วา่ เขาน่าจะรู ้ข่าวนี้ ต้ งั แต่เมื่อวานแล้ว เพราะหลังจาก
นางออกจากตาหนักหย่งโซ่ วกงมาไม่นาน เหยียนเฟยก็ส่งคนของตนไปบอกเขา
มิใช่หรื อ นางจึ งได้เลือกที่ จะยังไม่รายงานสิ่ งใดเพื่อรอดูท่าที ของอีกฝ่ ายก่อน ถึง
อย่างนั้นทุกอย่างกลับนิ่งเงียบราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย
แต่สิ่งที่ผิดคาดของนางยิง่ ไปกว่านั้นก็คือ เมื่อวานนี้บุรุษเบื้องหน้ามิได้ไป
หาเหยียนเฟยเลย
นี่ หรื อว่าฮ่องเต้เพียงแค่ลุ่มหลงในเล่ห์กลและการยัว่ ยวนของเหยียนเฟย
เท่านั้น ที่เขาไปหานางทุกคืนก็เพราะเสน่หาแต่กลับมิได้มีความผูกพันจริ ง ๆ หรื อ
อย่างไร หรื อจะเป็ นเพราะเขาเริ่ มเบื่อหน่ายดอกไม้ดอกนี้ แล้วกัน ในเมื่อไม่วา่ จะกี่
ครั้ งที่ มี พ ระสนมเข้า มาใหม่ ผ่า นไปถึ ง จุ ด ๆ หนึ่ ง พวกนางก็ อ าจจะหมดความ
น่าสนใจและถูกหลงลืมเช่นนี้อยูด่ ี…
นัน่ คือความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวของฮุ่ยกุย้ เฟย เพียงแต่ความคิดนั้นก็ดูจะ
ขัดแย้งกับความเป็ นจริ งในหลาย ๆ ครั้งที่ นางสังเกตได้ดว้ ยตนเอง แต่หากตอนนี้
เป็ นช่วงที่ฮ่องเต้เริ่ มจะเบื่อเหยียนเฟยจริ งแล้วล่ะก็ นางก็อาจจะโชคดีมีคู่ต่อสู ้ในวัง
หลังลดลงไปเองก็ได้
ไม่นานนักฮุ่ยกุย้ เฟยก็ตอบคาถามเมื่อกี้ของฮ่องเต้กลับไป “หมอหลวงมา
ตรวจดูแล้ว ตอนนี้ กาลังพักผ่อนอยู่ในตาหนักเพคะ” ก่อนที่ ฮ่องเต้จะเพียงแค่พยัก
หน้าเป็ นเชิงรับรู ้ แล้วหันมายิม้ อบอุ่นพูดกับนางว่า "เช่นนั้นก็ดีแล้ว เข้าไปในงาน
กันเถอะ"

270
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ยามที่ฮุ่ยกุย้ เฟยมองไปทึ่มือของอีกฝ่ ายที่กาลังกอบกุมมือของตนไว้อย่าง


ทะนุถนอมนั้น ก็ตอ้ งยิม้ หวานขึ้นไม่นอ้ ยก่อนจะเอ่ยตอบรับกลับไป "เพคะ" พูดจบ
คนทั้งสองก็เดินกุมมือเข้าไปในงานด้วยกันอย่างสง่างาม
ยามที่ ง านเลี้ ย งต้อ นรั บ ดาเนิ น ไปได้จะสองชั่ว ยามแล้ว นั้น จักรพรรดิ
แคว้นเหลียงที่ดูจะอารมณ์ดีจากการแสดงของเหล่านางรา และการพูดคุยกับคนรอบ
ข้างอย่างถูกอกถูกคอ ก็หนั มาพูดกับฮุ่ยกุย้ เฟยด้วยน้ าเสี ยงชื่นชมว่า “งานเลี้ยงนี้ช่าง
จัดได้ดีจริ ง ๆ ” ก่อนจะหันไปมองทางฉี อ๋องและองค์หญิงอวี้เหมยในฝั่งตรงข้ามซึ่ง
มาร่ วมงานเลี้ ยงครั้ งนี้ เช่ นกัน “การได้เห็ นลูกสาวข้าเองก็ดูมีความสุ ขดี เช่ นนี้ ก็
นับว่าเป็ นเรื่ องดีเช่นกัน”
“องค์ห ญิ ง เป็ นคนส าคัญ แคว้น ของเราจะไม่ ดู แ ลนางเป็ นอย่า งดี ไ ด้
อย่างไร” ฮ่องเต้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ ขณะมองไปทางพี่ชายตนและองค์
หญิงอวี้เหมยที่ดูรักใคร่ กนั ปรองดองกันนั้น จักรพรรดิ แคว้นเหลียงได้ยินเช่นนั้นก็
พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะเปลี่ยนเรื่ องเป็ นเสนอขึ้นว่า “ไหน ๆ ข้าก็มาต้าหลิงทั้งที
แล้ว เหตุใดเราจึงไม่ไปล่าสัตว์ดว้ ยกันเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างแคว้นดูเล่า”
ค าพู ด เสนอที่ ร าวกั บ พึ่ งจะฉุ ก คิ ด ขึ้ นมานั้ นท าให้ ฮ่ อ งเต้แ ปลกใจ
เล็กน้อย “ล่าสัตว์ง้ นั รึ ” แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ ายดูจะไม่มีเล่ห์กลใด ๆ ซ่อนไว้จึงตอบตกลง
ออกไป โดยให้ฝ่ายตนเป็ นผูจ้ ดั เตรี ยมทุกอย่างเอง “ย่อมได้ ข้าจะให้คนจัดเตรี ยม
สถานที่ไว้ทนั ที”
เขาพูดจบเพียงไม่นาน จักรพรรดิ แคว้นเหลียงก็มีสีหน้าราวกับพึ่งนึ กสิ่ ง
ใดได้ข้ ึ น มา “จริ ง สิ หนึ่ ง ในพระสนมของข้า ก าลัง เดิ น ทางมาเพราะอยากความ
งดงามของต้าหลิง หากจะพานางไปล่าสัตว์ดว้ ยคงไม่เป็ นอะไร…” สายตาที่ มอง

271
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ถามอย่างหยัง่ เชิ งของจักรพรรดิ แคว้นเหลียงนั้นทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งยิ้มเย็นในใจไม่


น้อย แม้ว่าในความเป็ นจริ งจะยังคงทาสี หน้าเป็ นมิ ตรตอบอย่างใจกว้างออกไป
ว่า “แคว้นของข้าย่อมยินดีตอ้ นรับคนของท่านแน่นอน”
ได้ยินฮ่องเต้พูดเช่นนั้น จัดพรรดิ แคว้นเหลียงก็ยกยิ้มมีเลศนัยขึ้นมา “มี
หญิงงามคอยเฝ้ามองเคียงข้างเช่นนี้ บุรุษอย่างพวกเราคงไม่อาจทาเป็ นเล่นให้ขาย
หน้าได้แล้ว” ก่อนจะหัวเราะอย่างอารมณ์ดีข้ ึนเสี ยงดัง
คาพูดนั้นทาให้ฮ่องเต้ได้แต่อมยิม้ น้อย ๆ เท่านั้น เพราะนัน่ หมายความว่า
เขาก็ตอ้ งหาหญิงงามไปงานล่าสัตว์ครั้งนี้ดว้ ยใช่หรื อไม่ เพียงแต่ควรจะเอาผูใ้ ดไปดี
เล่า คิ ดได้เท่านั้นก็พูดคุยกับอี กฝ่ ายต่อไปเพื่อให้งานเลี้ ยงต้อนรั บครั้งนี้ จบลงได้
ด้วยดี
.............................

ขณะที่งานเลี้ยงดาเนินไปจนดึกดื่นและพึ่งจะจบลงไปได้ไม่นาน
ด้านเหยียนหยินที่ ยงั คงอยูใ่ นตาหนักของตนก็กาลังนัง่ อิงไออุ่นจากเตาผิง
อยู่ ท่าทางที่พยายามดึงผ้าคลุมผืนหนาให้กระชับเข้ามากับตัวของนาง ทาให้เยว่อิ๋งที่
กาลังเติมถ่านในเตาผิงอยูน่ ้ นั อดพูดขึ้นมาไม่ได้วา่ “พระสนมครั้งนี้ทามากไปจริ ง ๆ
นะเพคะ”
คาพูดเชิงตาหนิ น้ นั ทาให้เหยียนหยินอดไม่ได้ที่จะอมยิม้ น้อย ๆ “แค่เป็ น
หวัดนิดหน่อยเท่านั้น ไม่นานก็คงหายแล้ว”
แต่ พูด จบได้เ พี ย งไม่ น านก็ ต ้อ งไอออกมา ท าให้เ หยีย นหยิน ได้แต่คิด
ขบขันให้ตนเองว่า ดูเหมือนนางจะแกล้งป่ วยจนได้ป่วยเข้าจริ ง ๆ

272
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ยังไม่ทนั ได้พูดอะไรต่อเสี ยงอันคุน้ เคยของฮ่องเต้ก็ดงั ขึ้นมาเสี ยก่อน “เจ้า


ควรจะฟังนางกานัลของตนบ้าง”
พอเห็นเขาจู่ ๆ ก็เข้ามาไม่บอกไม่กล่าวเช่นนี้ อีกแล้ว เหยียนหยินก็ได้แต่
ส่ายหัวไปมาพลางเรี ยกอีกฝ่ ายเสี ยงเบา “ฝ่ าบาท…”
ไม่นานนักฮ่องเต้ก็นั่งลงตรงข้ามนาง ถึ งตอนนี้ เหล่าบ่ าวรับใช้ก็พากัน
ออกไปหมดอย่างรู ้งาน เขาจึ งเอามื อมาอุ่นกับเตาพิงแล้วแกล้งไปชนมื อนางเล่น
บ้าง ทาเอาเหยียนหยินต้องพยายามขยับมือหนีออกด้วยกลัวว่าเขาอาจจะติดหวัดจาก
นางได้
เห็นนางทาท่าเช่นนั้นฮ่องเต้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะชอบใจเบา ๆ “เป็ นเช่น
ไรบ้าง ทาไมจู่ ๆ ถึงเป็ นหวัดได้”
“หม่อมฉันตากอากาศเย็นมากเกินไปเพคะ” เหยียนหยินตอบ คาตอบนั้น
ทาให้ฮ่องเต้ยมิ้ มีเลศนัยเล็กน้อย “จริ งงั้นเรอะ” คาถามจากเขาทาให้คิ้วสองข้างของ
เหยียนหยินต้องย่นเข้าหากัน “หรื อทรงคิ ดว่าหม่อมฉันจะทาให้ตนเองไม่สบาย
ขึ้นมากัน”
คาถามของนางทาให้ฮ่องเต้ตอ้ งแกล้งกลอกตาไปมา ราวกับกาลังคิดถึง
ความเป็ นไปได้บางอย่างแทน “ก็อาจเป็ นไปได้” แล้วจึงพูดขึ้นต่อด้วยรอยยิม้ มีเลศ
นัยว่า “ในเมื่อนัน่ ก็เป็ นวิธีที่ พระสนมในวังหลังชอบใช้เพื่อขอความเห็นใจจากข้า
อยูบ่ ่อย ๆ ...” ก่อนจะจบลงด้วยการเขยิบใบหน้าเข้าไปหานางเล็กน้อยแล้วพูดอย่าง
อารมณ์ดีออกไป “แต่ต่อให้เจ้าไม่ทาข้าก็ยนิ ดีอยูด่ ูแลเจ้าด้วยความเต็มใจตลอดเวลา”
ได้ยินเขาพูดเช่นนั้นก็ทาให้เหยียนหยินอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงขึ้นมา “ฝ่ า
บาท…” แต่พอนึ กได้วา่ อีกฝ่ ายกาลังเขยิบใบหน้าเข้ามาใกล้คิ้วสองข้างก็ตอ้ งขมวด

273
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เข้าหากัน ก่อนจะเอี้ยวตัวถอยหนี แล้วกล่าวเสี ยงดุเล็กน้อยทันที “อย่าเข้ามาใกล้เพ


คะ เดี๋ยวจะติดหวัดจากหม่อมฉันได้”
ท่ า ทางที่ ย ากจะเห็ น ของนางท าให้ ฮ่ อ งเต้หั ว เราะอย่า งอารมณ์ ดี “ถ้า
เช่ นนั้น ข้าก็จะยอมรั บมันมาด้วยความเต็มใจ เจ้าจะได้ดูแลข้าไม่ดีรึไงกัน” เขา
พูดจาหยอกล้อยังไม่ทนั จบ ก็ทาสี หน้าราวกับพึ่งนึ กอะไรได้เสี ยก่อน “ไม่ได้สิ หาก
เป็ นหวัดพร้อมกันทั้งคู่ใครจะเป็ นฝ่ ายดูแลใครเล่า”
เห็นเขาพูดเองเออเองเช่นนี้ เหยียนหยินก็ตอ้ งส่ายหัวไปมาไม่นอ้ ย “ทรงมี
อารมณ์ขนั ยิง่ นัก”
นางพูดจบเพียงไม่นาน ก็ถูกอีกฝ่ ายอุม้ ไปวางที่เตียงเสี ยแล้ว ทั้งยังจัดการ
จัดแจงท่าทางของนางเสร็ จสรรพ จนกระทัง่ เขาห่มผ้าให้นางเสร็ จ จึงเดินไปขนเตา
ผิงมาวางใกล้ ๆ พลางนัง่ อมยิม้ มองนาง แล้วพูดเพียงแค่วา่ “พักผ่อนเถอะ ข้าจะอยู่
รอเจ้าหลับถึงจะกลับไป”
ได้ยินเช่ นนั้นเหยียนหยินที่ เดิ มที ก็ง่วงงุ น อยู่แ ล้วจึ งหลับตาลงอย่า งว่า
ง่ าย ทาให้ฮ่องเต้ที่นั่งมองนางอยู่ยิ้มบางเบาขึ้ นมา พลางคิ ด อย่างอบอุ่นในใจว่า
อยากจะนัง่ มองนางอยูเ่ ช่นนี้ไปนาน ๆ เสี ยจริ ง เพราะสาเหตุที่นางต้องป่ วยเช่นนี้น้ นั
เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร
แต่เพื่อไม่ให้ความพยายามของนางสูญเปล่าแล้ว ต่อหน้าผูอ้ ื่นเขาก็แค่ตอ้ ง
แกล้งทาเป็ นไม่ได้ห่วงนางมากจนเกินไปเท่านั้นเอง เพราะนัน่ คงเป็ นทางเดียวที่เขา
จะทาให้นางอยูใ่ นวังหลังได้โดยที่มีคนระรานน้อยลง

เช้าวันต่อมาที่ตาหนักหยางซินเตี้ยน

274
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ฝ่ ายฮ่องเต้ที่กาลังนัง่ อ่านฏีกาอยูใ่ นฮ่องทรงอักษรของตนเองนั้น ต้องเงย


หน้าขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสี ยงย่างก้าวบางเบาของสตรี ที่ดูจะคุน้ เคย ในขณะที่
ฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อเห็นว่าฮ่องเต้สงั เกตถึงการมาของตนแล้ว ก็ยมิ้ อย่างอ่อนหวานงดงาม
“ฝ่ าบาท เรื่ องการล่าสัตว์พรุ่ งนี้จะให้ใครเสด็จไปกับพระองค์ดีเพคะ”
คาถามนั้นทาให้ฮ่องเต้นิ่งเงียบไป จริ ง ๆ แล้วเขาคิดว่าจะต้องเอาใครไป
ด้วยทาไมกัน แต่เมื่ อดู เหมื อนสตรี เบื้ องหน้าคงจะไม่อยากให้แคว้นของตนเสี ย
หน้า หรื อ อาจจะเพราะมี แ ผนอะไรอยู่ใ นใจก็ ต าม เขาจึ ง ต้อ งยิ้ม อ่ อ นโยนตอบ
กลับไปว่า “ถ้าจะให้ใครสักคนไปก็ควรจะเป็ นเจ้าอยูแ่ ล้วไม่ใช่รึอย่างไร”
คาตอบนั้นทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยมีท่าทีเอียงอายเล็กน้อย “หม่อมฉันเกรงว่าหาก
ไปด้วยตนเองจะไม่มีใครคอยดูแลวังหลัง ไม่สูใ้ ห้...”
แต่ พู ด ไม่ ทั น จบ ฮ่ อ งเต้ ก็ พู ด แทรกด้ ว ยใบหน้ า เห็ นด้ ว ยขึ้ นมา
เสี ยก่อน “เป็ นเช่นที่เจ้าพูด หากเจ้าไปไม่ได้ก็ให้ผอู ้ ื่นไปแทนแล้วกัน” พูดถึงตรงนี้
เขาก็เห็นดวงตาของฮุย้ กุย้ เฟยทอประกายขึ้นมา แต่ก็เพียงแค่ชวั่ ครู่ เดียว “ในเมื่อคน
ที่ ต าแหน่ ง รองจากเจ้า คื อเหยีย นเฟย นางก็ ค วรจะไป แต่ ใ นเมื่ อ นางยังไม่หายดี
เท่าไหร่ เจ้าก็เลือกใครสักคนมาแทนนางแล้วกัน”
พอได้ฟังคาพูดประโยคสุ ดท้ายแล้วท่าทางของฮุ่ยกุย้ เฟยก็ดูชะงักไปอย่าง
เห็นได้ชดั แต่เพียงไม่นานเท่านั้นสี หน้าของนางก็กลับมาเป็ นปกติอีกครั้ง “หม่อม
ฉันเกรงว่าพี่สาวน้องสาวที่ เหลือจะไม่ใช่ตวั เลื อกที่ ดีนัก พวกนางตาแหน่ งไม่สูง
เท่าใดหากพาไปออกงานสาคัญเช่นนี้เกรงว่าจะทาให้ชื่อเสี ยงของพระองค์เสื่ อมเสี ย
ได้”

275
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยินเช่นนั้นฮ่องเต้ก็อมยิม้ น้อย ๆ “เจ้าเลือกคนที่บุคลิกดี ๆ มาสักคน ข้า


จะหาทางเลื่อนขั้นให้นางเอง” คาตอบนั้นทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยได้แต่ตอ้ งยิม้ ตอบรับอย่าง
จาใจ “เพคะ...”
สุดท้ายการสนทนาของคนทั้งสองก็จบลงเช่นนี้ โดยที่ฮ่ยุ กุย้ เฟยได้แต่เดิน
ยิ้มกลับไปไม่ว่าในใจจะไม่พอใจเพียงใดก็ตาม ในขณะที่ ฮ่องเต้ซ่ ึ งสังเกตเห็ นถึง
ท่าทางของนางเหล่านั้น หันไปสัง่ กัว๋ กงกงออกไปว่า “สัง่ คนให้จบั ตาดูฮุ่ยกุย้ เฟยกับ
คนที่เกี่ยวข้องกับนางทั้งหมดไว้ ถ้านางติดต่อกับใครหรื อมีสถานการณ์ผิดแปลกข้า
ต้องการรู ้ท้ งั หมด”
ได้ยินเพียงเท่านั้นกัว๋ กงกงก็รู้แล้วว่า ฮ่องเต้กาลังคิดว่าฮุ่ยกุย้ เฟยกาลังคิด
วางแผนทาอะไรบางอย่าง และเตรี ยมจะจัดการนางทันทีหากเกิดเรื่ องใดขึ้นก็ตาม

ยามเช้า ของวัน ถัด ไปที่ ต าหนัก หย่ง โซ่ ว กง เหยีย นหยิน ได้แ ต่ นั่ง อ่ า น
หนังสื อพร้ อมกับอิงไออุ่นจากเตาผิงในตาหนักของตนเอง เนื่ องด้วยนางไม่อาจ
ออกไปไหนได้ เพราะใครจะไปนึ กกันว่าตั้งแต่เมื่อวานตอนเช้าพอนางตื่นขึ้ นมา
เหล่ า ข้า รั บใช้ในต าหนัก จู่ ๆ ก็ ดู จ ะเข้มงวดขึ้ นมาเสี ยแล้ว แค่ น างคิ ดจะขยับตัว
ออกไปไหนนิ ดหน่อยยังเป็ นเรื่ องยากเลย ทั้งหมดนี้ ตอ้ งเป็ นเพราะใครบางคนเป็ น
คนออกคาสัง่ กาชับไว้แน่นอน
“พระสนมวันนี้ มีเรื่ องแปลกมาก ๆ เกิดขึ้นล่ะเพคะ” เสี ยงของเยว่อิ๋งที่ดงั
เข้ามาไม่ได้ช้าไปกว่าร่ างของนาง เมื่ อผ่านไปเพียงครู่ เดี ยวเท่านั้น นางกานัลคน
สนิทผูน้ ้ ีก็มาปรากฏกายอยูเ่ บื้องหน้าของเหยียนหยินแล้ว ท่าทางที่ดูราวกับอยากจะ
เล่าบางอย่างเต็มที่น้ นั ทาให้เหยียนหยินต้องถอนหายใจถามออกไป “เรื่ องอันใดกัน”

276
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ใบหน้าที่ เต็มไปด้วยคาถามของเหยียนหยิน ทาให้เยว่อิ๋งรี บเล่าออกมาว่า


“เนี่ยผินได้รับการเลื่อนขั้นเป็ นเนี่ยเฟยเพคะ”
แต่พอเห็ นสี หน้าสงสัยของพระสนมเบื้ องหน้าแล้ว เยว่อิ๋งก็ตอ้ งอธิ บาย
ต่ อ ไป “ที่ น่ า แปลกใจก็ เ พราะ นานแล้ว ที่ ไ ม่ มี ก ารเลื่ อ นขั้น ให้พ วกสนมในวัง
หลัง อีกทั้งเนี่ ยเฟยผูน้ ้ ี แม้จะมาจากตระกูลที่ดีอยูบ่ า้ ง แต่ต้ งั แต่เข้าวังมาฮ่องเต้ก็มิได้
สลักสนใจนางเท่าใด สุดท้ายนางก็ไม่ต่างจากสนมคนอื่น ๆ ที่ถูกลืมเลือน”
พอได้ยินเช่นนี้ เหยียนหยินก็ตอ้ งมีสีหน้าแปลกใจขึ้นมาจริ ง ๆ เพราะนาง
ก็พอจะจาเนี่ ยเฟยผูน้ ้ ี ได้อยู่บา้ ง เนื่ องจากอี กฝ่ ายเป็ นพระสนมที่ ถูกแต่งตั้งเข้ามา
หลังจากที่ ผมู ้ ีพระคุณของนางได้ข้ ึนเป็ นฮองเฮาไม่นาน ตระกูลเนี่ ยเองก็ไม่ถึงกับ
เป็ นขุนนางที่มีอานาจมากนัก อีกทั้งเนี่ ยเฟยผูน้ ้ ี แม้จะงดงามโดดเด่น แต่ดว้ ยนิ สยั ที่
พยายามเรี ยกร้องความสนใจจนเกินไป ทาให้ฮ่องเต้ดูจะไม่ชอบนางเท่าใด แล้วเหตุ
ใดวันนี้จึงกลับมาแต่งตั้งนางกัน คิดเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“แล้วเหตุใดฝ่ าบาทจึงเลื่อนขั้นให้นางกัน”
คาถามนั้นทาให้เยว่อิ๋งมีสีหน้าลังเลเล็กน้อย ก่อนจะยอมเล่าออกไปว่า “ว่า
กันว่า เมื่อวานนี้ ยามที่ฝ่าบาทกาลังเดินผ่านราชอุทยานก็พบกับเนี่ ยเฟยที่ กาลังเล่น
ชิงช้าอยูเ่ พคะ หม่อมฉันได้ยนิ เหล่านางกานัลที่เห็นเหตุการณ์เล่ากันว่า เสี ยงหัวเราะ
สดใสของนางทาให้ฝ่าบาททรงแปลกใจแล้วเข้าไปสนทนากันเสี ยจนถูกอกถูกคอ”
คาตอบที่ได้ยนิ นั้น ทาให้เหยียนหยินหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย ในใจได้
แต่คิดว่า สนทนาเข้ากันได้ดีเพียงเพราะได้ยนิ เสี ยงหัวเราะงั้นเรอะ ช่างเป็ นเรื่ องที่น่า
แปลกดี จ ริ ง ๆ จนกระทั่งเมื่ อ เห็ นใบหน้า ของเยว่อิ๋ง ที่ มองมาอย่า งสงสัยว่านาง
หัวเราะสิ่ งใดแล้ว เหยียนหยินก็ส่ายหัวตอบกลับไป “นับว่านางโชคดีแล้ว”

277
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เหยียนหยินตอบเพียงเท่านั้น เยว่อิ๋งก็รีบพูดต่อทันที “ใคร ๆ ก็พูดเช่นนั้น


เพคะ พวกเขาต่างบอกว่าเนี่ยเฟยช่างโชคดียงิ่ นักที่ทนั ทีที่ถูกแต่งตั้ง ฝ่ าบาทก็พานาง
ไปล่าสัตว์ดว้ ยกันทั้ง ๆ ที่ …” พูดถึงตรงนี้ เยว่อิ๋งก็นิ่งเงี ยบไปเสี ยนาน ก่อนจะพูด
เสี ยงเบาราวกับรู ้วา่ ตนเองพลาดที่พดู เรื่ องนี้ “ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็ นพระสนมที่ได้ไป”
แต่เพียงไม่นานนักสี หน้าที่กงั วลใจของเยว่อิ๋งก็กลับกลายเป็ นยกยิม้ หยอก
ล้ออย่างรวดเร็ ว “พระสนมกาลังอมยิม้ เพราะสิ่ งใดอยูเ่ พคะ หรื อจะเป็ นเพราะดีใจที่
ฝ่ าบาททรงใส่ใจจนถึงขั้นหาคนไปแทนเพคะ…” คาถามลองเชิงด้วยใบหน้าที่จงใจ
แกล้งอย่างเต็มที่น้ นั ทาให้เหยียนหยินต้องพูดคาดโทษนางกานัลคนสนิทเบื้องหน้า
ออกมาว่า “ที่แท้เจ้าก็รู้เรื่ องดี”
สักพักเยว่อิ๋งก็ราวกับจะนึกอะไรได้บางอย่าง “จริ งสิ เพคะ หลังจากฝ่ าบาท
ออกไปจากวังเพื่อไปล่าสัตว์กบั จักรพรรดิ แคว้นเหลียงแล้ว หม่อมฉันได้ยินมาว่า
องค์จกั รพรรดิ ให้คนของตนนาของกานัลมามอบให้แก่เหล่าพระสนมในวังหลัง
ด้วยเพคะ คาดว่าอีกไม่นานก็คงถึงตาหนักของพวกเรา”
สิ่ งที่ได้ยนิ ทาให้เหยียนหยินมีสีหน้าแปลกใจออกมาไม่นอ้ ย
สองนายบ่าวคุยไปได้เพียงเท่านั้น ก็มีอีกหนึ่ งนางกานัลเดินเข้ามาในห้อง
เสี ยก่อนแล้ว “พระสนม นางกานัลขององค์จกั รพรรดิส่งของกานัลจากแคว้นเหลียง
มาให้เพคะ”
นัน่ ทาให้เหยียนหยินครุ่ นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไป “ข้าจะออกไป
รับเดี๋ยวนี้”
ทันที ที่เหยียนหยินออกมาก็พบกับนางกานัลสู งอายุในชุดนางกานัลของ
แคว้นเหลียงที่ ยืนรออยู่สามคน แต่กับคนหน้าสุ ดที่ ถือกล่องไม้ยาวสลักลวดลาย

278
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

งดงามกล่องหนึ่งไว้น้ นั ไม่รู้เพราะอะไรเหยียนหยินถึงรู ้สึกราวกับจะคุน้ ตา แต่จอ้ ง


มองได้ไม่นานท่าใดสายตาของเหยียนหยินก็โดนการเคลื่อนไหวของข้ารับใช้ใน
ตาหนักที่กาลังขนของเข้ามาอยูด่ ึงไปเสี ยก่อน จึงหันกลับมายิม้ พูดให้กบั นางกานัล
เบื้องหน้าว่า “ขอบคุณเจ้ามาก ฝ่ าบาทต้องเห็นถึงความจริ งใจขององค์จกั รพรรดิเป็ น
แน่”
ได้ยนิ เหยียนหยินพูดเช่นนั้น นางกานัลที่อยูห่ น้าสุดก็เปิ ดกล่องในมือออก
พลางกล่าวอย่างนอบน้อม “เหยียนเฟยโปรดทอดพระเนตรสิ่ งของสิ่ งนี้”
ภายในกล่องนั้นคื อถ้วยชาเล็ก ๆ ที่ ถูกวาดไว้ด้วยลวดลายใบไม้ที่ปลิ ว
กระจัดกระจายอย่างดูแปลกตา เนื่ องจากนี่ ดูจะไม่ใช่งานวาดของช่างฝี มือ แต่ถึง
อย่างนั้นลวดลายของมันกลับมี เอกลักษณ์ ราวกับมี ความสุ ขเล็ก ๆ ที่ ถูกใส่ ลงไป
ตอนที่ผวู ้ าดกาลังจรดพูก่ นั วาดลวดลาย
ด้านนางกานัลสู งอายุเมื่อเห็นเหยียนหยินจ้องถ้วยชาเล็ก ๆ ถ้วยนั้นนิ่ งจึง
อธิ บายขึ้นว่า “นี่ เป็ นของที่องค์จกั รพรรดิสั่งให้ส่งให้พระสนมเป็ นการพิเศษเพคะ”
ก่อนจะยิม้ ขึ้นน้อย ๆ ดัง่ ผูม้ ีเจตนาดี “เช่นเดียวกับพระสนมท่านอื่น ๆ เช่นกัน”
คาอธิบายที่ได้ยนิ ดึงสติเหยียนหยินให้คืนกลับมาไม่นอ้ ย ในใจพลันคิดว่า
องค์จกั รพรรดิเลือกของให้พระสนมแต่ละคนให้แตกต่างกันไปเป็ นการพิเศษเช่นนี้
คงเพื่อแสดงถึ งความตั้งใจและมีเจตนาที่ สูง ส่ งเนแน่ จึ งต้องกล่าวชื่ นชมกลับไป
“งั้นรึ องค์จกั รพรรดิ ช่างใส่ ใจในของเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ยิ่งนัก นับว่าเป็ นความ
โชคดีของพวกข้าแล้ว”

279
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

แต่เมื่อเห็นถ้วยชาเล็ก ๆ ที่ชวนให้รู้สึกแปลกประหลาดเบื้องหน้าอีกครั้ง
เหยียนหยินก็อดที่จะพูดอย่างลังเลใจออกไปไม่ได้ “ข้ารู ้สึกว่ามันเป็ นสิ่ งสาคัญ ข้า
คงไม่อาจรับไว้ได้”
เห็ นท่าทีตอบปฏิเสธแบบสุ ภาพของนาง นางกานัลสู งอายุผนู ้ ้ นั ก็มิได้วา่
กล่าวสิ่ งใด แต่ก็มิได้ลดละความตั้งใจเดิ มของตนเช่นกัน “นี่ เคยเป็ นสิ่ งสาคัญต่อ
องค์จกั รพรรดิ จริ ง ๆ เพคะ มันเป็ นของที่ทาให้องค์จกั รพรรดิ ทรงนึ กถึงสตรี ที่ทรง
โปรดปรานที่สุดคนหนึ่ง”
น้ า เสี ย งแหบพร่ า ที่ อ ธิ บายออกมาหยุดนิ่ ง ไปเล็ก น้อ ย ก่ อ นจะยิ้ม ตอบ
อธิ บายต่อไปอย่างอ่อนโยนแตกต่างจากรอยยิ้มที่ดูสุภาพเมื่อกี้ไปโดยสิ้ นเชิ ง “แต่
ตอนนี้ สตรี ผนู ้ ้ นั และองค์หญิงที่ เกิดจากนางซึ่ งองค์จกั รพรรดิ ทรงรักมากก็ทรงจาก
แคว้นไปนานมากแล้วเพคะ อีกอย่างยามนี้ องค์จกั รพรรดิ ทรงมีสิ่งที่สาคัญมากกว่า
แล้ว เพราะฉะนั้นพระสนมโปรดเก็บมันไว้เถิด”
คาพูดที่ ชวนให้รู้สึกแปลกประหลาดเหล่านั้น ทาให้เหยียนหยินเริ่ มที่จะ
ลังเล ยังไม่ทนั ที่นางจะได้กล่าวสิ่ งใด เสี ยงของอีกฝ่ ายก็ดงั ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ งทันที
“บางทีการที่มนั ได้มาอยูก่ บั เหยียนเฟยที่นี่ คงนับว่าเป็ นวาสนาที่ดีของมันเอง” พูด
จบนางกานัลสู งอายุตรงหน้าก็มองไปที่ของซึ่งกาลังถูกขนเข้าตาหนักมา “ส่ วนของ
ที่เหลือเหล่านี้หวังว่าเหยียนเฟยจะยินดีรับไว้เช่นกัน”
นัน่ คือคาพูดสุ ดท้ายที่อีกฝ่ ายทิ้งไว้ ก่อนจะรี บร้อนขอตัวลาจากไปเพื่อไป
ส่ งมอบของที่ เหลือให้กบั ตาหนักอื่น ๆ ต่อไป ทาให้เหยียนหยินมีแต่ตอ้ งรับของ
เหล่านั้นทั้งหมดมา

280
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

พอผ่านไปสักพักในตาหนักก็มีการเปิ ดดู ของที่ ถูกส่ งมาเพื่อตรวจสอบ


และจัดเก็บให้ถูกต้องเสี ยก่อน เพียงแต่พ่ ึงจะเปิ ดไปได้เพียงกล่องเดียวเท่านั้น เสี ยง
ตื่นตกใจของเยว่อิ๋งก็ดงั ขึ้นมาเสี ยแล้ว “พระสนมดูนี่สิเพคะ ในกล่องใบนี้มีแต่ของดี
ๆ ทั้งนั้นเลยเพคะ แต่เหมือนจะมิใช่ของใหม่เสี ยเท่าใดนี่ มนั หมายความว่าอย่างไร
กัน…”
คาพูดที่ ได้ยินนั้นทาให้เหยียนหยินที่ เพียงนัง่ อยู่ห่าง ๆ ต้องเดิ นเข้าไปดู
ด้วยความสงสัยอย่างอดไม่ได้ แต่เมื่อเห็นเสื้ อผ้าของแคว้นเหลียงที่งดงามมากมาย
ภายในกล่องแล้วก็ตอ้ งชะงักไป ยามที่ มือเลื่อนไปเปิ ดกล่องที่เล็กลงมาด้านข้างที่
วางคู่กนั นั้นก็ตอ้ งนิ่ งเงี ยบไปอีกครั้งเมื่อห็นประกายระยิบระยับจากเครื่ องประดับ
มากมาย สิ่ งที่น่าแปลกของของเบื้องหน้านางเหล่านี้ คือการที่ของทุกชิ้นดูจะมีอายุ
มาชัว่ ครู่ หนึ่ งราวกับเคยถูกใช้งานมาแล้วนัน่ เอง แม้นี่อาจจะดูเป็ นเรื่ องน่าปกติกบั
เครื่ องประดับที่งดงามและหาได้ยากจานวนมาก แต่กบั ชุดนั้นมิใช่เช่นนั้นเลย
“พระสนมทรงเป็ นอันใดไปเพคะ” เยว่อิ๋งถามขึ้นด้วยความกังวลใจ เมื่อ
เห็ นพระสนมของตนมีท่าที แปลกไป ไม่นานนักเหยียนหยินที่ มีสีหน้าราวกับไม่
สบายใจเท่าไหร่ ก็พูดขึ้นอีกครั้ง “รี บตรวจเช็คแล้วเอาไปเก็บเถิด” คาสั่งนั้นทาให้
เหล่าข้ารับใช้ได้แต่มีสีหน้างุนงง ต่างพากันคิดว่าพระสนมของตนคงจะหวาดกลัว
ของที่ดูมีอายุเหล่านี้นนั่ เอง
พอเห็นพวกบ่าวรับใช้ต่างพากันมองมา เหยียนหยินก็ตอ้ งทาเสี ยงลาบาก
ใจเล็กน้อยพูดออกไปว่า “ข้าอยากจะพักผ่อน แต่มีของมากมายเช่นนี้ จะพักผ่อนได้
อย่างไร”

281
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

คาพูดเช่นนั้นจึงจะทาให้เหล่าบ่าวรับใช้เร่ งมือกันจัดเก็บของจริ ง ๆ เสี อ


ที เห็นเช่นนั้นเหยียนหยินก็กลับไปนัง่ ข้างเตาผิงเช่นเดิม ในใจได้แต่กระวนกระวาย
ด้วยคิดว่า
เหตุใดกัน นางจึ งรู ้สึกว่าสิ่ งของที่ ถูกส่ งมาทุกอย่างนั้นช่ างดูคุน้ เคยเสี ย
เหลือเกิน…

***************************************

282
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ตอนพิเศษ ของขวัญ

หลังจากคณะทูตของต้าหลิ งไปเยือนแคว้นเหลี ยงได้ไม่กี่วนั ก็มีสาส์ น


ส่ งกลับมาจากฉี อ๋องว่า จักรพรรดิ แคว้นเหลียงจะมาเยือนแคว้นต้าหลิงด้วยตนเอง
จนต้อ งรี บ เตรี ย มการกัน จนวุ่นวายเสี ย ยกใหญ่ ด้ว ยไม่ นึ ก ว่า อี ก ฝ่ ายจะมาอย่าง
ฉุกละหุกเช่นนี้
แต่คนที่ตอ้ งยุง่ กับการเตรี ยมงานเลี้ยงต้อนรับมากที่สุด ก็มีเพียงฮุ่ยกุย้ เฟย
ที่ มีตาแหน่ งสู งสุ ดในวังหลังในตอนนี้ เท่านั้น ในทางกลับกันสาหรับเหยียนหยิน
ในตอนนี้ แล้ว สิ่ งที่ น่าแปลกใจกว่าก็คือ การที่ ฮุ่ยกุย้ เฟยซึ่ งควรจะยุ่งอยู่กบั การไป
ต้อนรับคณะฑูตที่มาพร้อมกับจักรพรรดิ แคว้นเหลียงนั้น จู่ ๆ ก็มาอยูท่ ี่ตาหนักตน
พร้อมกับสนมส่วนหนึ่งและกาลังยืนอยูต่ ่อหน้าตนด้วยใบหน้ายิม้ แย้มนัน่ เอง
“ฮุ่ยกุย้ เฟยมาหาข้ามีเรื่ องอันใดกัน” เหยียนหยินถามออกไปด้วยสี หน้า
สงสัย ก่ อนที่ ฮุ่ยกุ้ยเฟยจะยิ้มตอบกลับมาว่า “ข้าจะชวนเจ้าไปต้อนรั บ จักรพรรดิ
แคว้นเหลียงพร้อมกับพี่สาวน้องสาวในวังหลังอย่างไรเล่า”

283
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เพราะท่ า ทางของฝ่ ายตรงข้า มดู แ ปลก ๆ ท าให้เ หยีย นหยินเลื อ กที่ จะ


พยายามปฏิเสธฝ่ ายตรงข้ามไปเสี ยนาน แต่สุดท้ายก็ตอ้ งแพ้เสี ยงข้างมากที่ฮุ่ยกุย้ เฟย
พามาด้วย เมื่อพระสนมเหล่านั้นต่างพากันพูดเป็ นนัยออกมาว่า ในเมื่อทุกคนไป
ต้อนรับคณะฑูตแคว้นเหลียงด้วยกันแล้วนางจะไม่ไปได้อย่างไรกัน หรื อก็คือการ
บอกเป็ นนัยว่านางมี อานาจมาจากที่ ใดที่ จะปฎิ เสธฮุ่ยกุ้ยเฟยที่ มีตาแหน่ งสู งกว่า
นัน่ เอง
หลังจากเหยียนหยินได้แต่จนใจเดินไปพร้อมกับฮุ่ยกุย้ เฟยและเหล่าพระ
สนม กลุ่มของพวกนางก็เจอเข้ากับฮ่องเต้ที่กาลังจะไปรอรับจักรพรรดิแคว้นเหลียง
พอดี
“ถวายบังคมเพคะฝ่ าบาท” เหล่าพระสนมต่างพากันย่อกายคานับบุรุษ
เบื้องหน้าลงอย่างพร้อมเพรี ยงกัน ฝ่ ายฮ่องเต้ที่เดิมทีก็ดูจะไม่ได้อารมณ์ดีเท่าไหร่ อยู่
แล้วนั้นพอเห็นสี สันแสบตาจากชุดและการแต่งกายของเหล่าพระสนมเบื้องหน้า ก็
มีน้ าเสี ยงไม่สบอารมณ์เล็กน้อย “พวกเจ้ามาทาอะไรที่นี่ ” ก่อนที่สายตาของเขาจะ
ไปหยุดอยู่ที่เหยียนหยินซึ่ งยืนอยู่เบื้องหลังพระสนมเหล่านี้ อยู่ครู่ หนึ่ ง แล้วคิ้วทั้ง
สองข้างก็พากันย่นเข้าหากันทันที
ฮุ่ยกุย้ เฟยที่ สังเกตเห็ นท่าทางของฮ่องเต้ จึ งรี บเดิ นหน้าขึ้นมาพูดอธิ บาย
ด้วยน้ าเสี ยงอ่อนหวานว่า “หม่อมฉันคิ ดว่าจะพาพวกนางไปต้อนรั บ จักรพรรดิ
แคว้นเหลียงและคณะฑูตด้วยกันเพคะ ถึงอย่างไรนี่ก็เป็ นงานสาคัญ…”
ฮุ่ยกุย้ เฟยพูดยังไม่ทนั จบฮ่องเต้ก็พูดตัดบทนางขึ้นมาเสี ยก่อน “ให้พวก
นางกลับไปซะ คนเยอะไปไม่ดีเท่าไหร่ ”

284
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

การที่ โดนฮ่องเต้พูดอย่างไม่ไว้หน้าเช่นนี้ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยรู ้สึกสะอึกไป


ก่อนจะเห็ นบุรุษเบื้องหน้าหันมายิม้ ให้กบั นางอย่างนุ่ มนวลราวกับจะกลบเกลื่อน
แทน “สาหรับข้าเจ้าอยูค่ นเดียวก็พอแล้ว”
รอยยิม้ และท่วงท่าอบอุ่นอ่อนโยนของเขา ทาให้นางได้แต่ตอบรับออกไป
อย่างไม่รู้ตวั ว่า “เพคะ”
หลังจากนั้นเหยียนหยินและพระสนมคนอื่น ๆ ก็แยกย้ายกลับตาหนักของ
ตนตามคาสั่งของฮ่องเต้ แต่ตอนที่กาลังจะหมุนตัวเดินกลับไปนั้น เหยียนหยินก็อด
ไม่ได้ที่จะต้องหันมามองโอรสสวรรค์ในชุดสูงศักดิ์เล็กน้อย ด้วยรู ้สึกว่าสายตาที่เขา
มองมาที่ นางเมื่อกี้ ราวกับกังวลสิ่ งใด แต่เมื่อเห็นเขากลับไปมีท่วงท่าเฉกเช่นปกติ
ขณะพูดคุยกับฮุ่ยกุย้ เฟยแล้ว ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาพลางคิดว่าตนคงจะคิดมาก
ไปเอง

หลังจากฮ่องเต้เดินออกมาจากส่ วนชั้นในของวังหลวง ยามนี้ เขาจึงกาลัง


ยืนอยูห่ น้าบันไดเก้ามังกร รอต้อนรับขบวนของจักรพรรดิแคว้นเหลียงและคณะฑูต
ที่กาลังข้ามผ่านประตูช้ นั นอกเข้ามา
ขบวนที่เห็นออกไม่ไกลนั้นดูยิ่งใหญ่ท้ งั ยังแข็งแกร่ งราวกับจะโอ้อวด จน
อดไม่ได้ที่จะยิม้ หยันในใจ ด้วยคิดว่าอีกฝ่ ายแม้จะแพ้สงครามแต่ก็ดูไม่คิดจะยอม
อ่อนข้อแม้แต่นอ้ ย ทันทีที่จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงมาหยุดอยูเ่ บื้องหน้า ฮ่องเต้ก็ตอ้ ง
กล่าวต้อนรับออกไปให้ตนยังคงดูเป็ นเจ้าบ้านที่ดี
“เป็ นเกียรติจริ ง ๆ ที่องค์จกั รพรรดิมาเยีย่ มเยียนแคว้นต้าหลิงด้วยตนเอง”

285
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ฝ่ ายจักรพรรดิ แคว้นเหลี ยงนั้น พอได้ยินคาพูดต้อนรั บด้วยใบหน้า ยิ้ม


เหมือนไม่ยมิ้ และไร้ซ่ ึงความจริ งใจใด ๆ แล้ว ก็ได้แต่หวั เราะเบา ๆ กล่าวออกไปว่า
“ฝ่ าบาทกล่าวชมมากไป ข้าแค่มาเยีย่ มเยียนเพื่อแสดงความจริ งใจเท่านั้นเอง”
หากมองผ่านสายตาของผูค้ นภายนอก การสนทนาของบุรุษทั้งสองคงจะดู
เป็ นไปได้ดว้ ยดี แต่ในความเป็ นจริ งนั้นมิได้เป็ นเช่นนั้นเลย
ไม่นานนักองค์จกั รพรรดิ ก็สังเกตเห็นฮุ่ยกุย้ เฟยจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง “นี่ คง
จะเป็ นฮุ่ยกุย้ เฟยที่ผคู ้ นร่ าลือกันใช่หรื อไม่” พูดจบเขาก็ยกยิม้ ขึ้นมาพลางกล่าวชื่ น
ชมออกไป “ข้าได้ยิน คนร่ า ลื อ กัน ว่า พระสนมของแคว้น ต้า หลิ ง ล้ว นงดงามดั่ง
เทพธิดา ดูแล้วคงจะเป็ นเรื่ องจริ ง”
ฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มน้อย ๆ พลางกล่าวตอบรับเชิ งขบขัน ว่า
“องค์จักรพรรดิ ก ล่ า วชมเกิ น ไปแล้ว เที ย บกับ พี่ ส าวน้อ งสาวในวัง หลัง ข้า ยัง ดู
ธรรมดาอยูม่ าก”
คาพูดประโยคนั้นทาให้แววตาของจักรพรรดิ แคว้นเหลียงมีประกายไหล
ผ่านวาบ ก่อนจะพูดเชิงล้อเล่นออกมาว่า “ฮุ่ยกุย้ เฟยพูดเช่นนี้ ทาให้ขา้ อยากเห็นพวก
นางซะจริ ง”
สิ่ งที่จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงพึ่งพูดมานั้น ทาให้สายตาของฮ่องเต้คมกริ บ
ขึ้นมาเล็กน้อยขณะเหลือบมองไปทางฮุ่ยกุย้ เฟยที่เหมือนจะเผลอพูดเช่นนั้นออกไป
โดยไม่ได้คิดหรื อมีเจตนาใด ๆ นัน่ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยที่สมั ผัสได้ถึงสายตาคมกริ บเพียง
ชัว่ ครู่ ที่มองมาทางตนนั้น ต้องรี บเปลี่ยนเรื่ องอย่างเป็ นธรรมชาติออกไปแทน “ทาง
เราจัดงานเลี้ ยงต้อนรั บให้องค์จกั รพรรดิ ในคื นพระจันทร์ เต็มดวงในอี กสามวัน
ข้างหน้า หวังว่าองค์จกั รพรรดิจะทรงพึงพอใจ”

286
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

“ข้าย่อมพึงพอใจแน่นอน” จักรพรรดิ แคว้นเหลียงตอบด้วยรอยยิม้ มีเลศ


นัย
ฮ่องเต้ซ่ ึ งเห็นว่าการต้อนรับก็จบลงด้วยดีแล้ว ทั้งยังรู ้สึกว่าไม่ควรให้คน
สองคนที่ อ ยู่ใ กล้เ ขาได้พูด คุ ย กัน ต่ อ ไป จะพู ด ตัด บทขึ้ น มาว่า “องค์จักรพรรดิ
เดินทางมาคงจะเหน็ดเหนื่อยไม่นอ้ ย เรื อนรับรองถูกจัดเตรี ยมไว้แล้วเชิญพวกท่าน
พักได้ตามสบาย”
ยามที่ ขบวนของจักรพรรดิ แคว้นเหลียงและคณะทูตจากไปจนหมดแล้ว
ฮุ่ยกุย้ เฟยก็หนั มาจะพูดกับฮ่องเต้อีกครั้ง “ฝ่ าบาท…” แต่นางยังไม่ทนั พูดสิ่ งใด เขาก็
ยิม้ อ่อนโยนพูดแทรกขึ้นมาเสี ยก่อนว่า “เจ้าทาหน้าที่ได้ดีจริ ง ๆ กลับไปพักผ่อนสัก
หน่อยเถิด”
พูดจบฮ่องเต้ก็หมุนตัวเดินจากไป โดยไม่คิดจะรอฟังคาพูดเพิ่มเติมใด ๆ
จากฮุ่ยกุย้ เฟยอีกเลย นัน่ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยได้แต่กาผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น แม้จะยังคง
รอยยิ้มบาง ๆ ไว้บนใบหน้า แต่ในใจนางก็รู้ดีว่า บุรุษสู งศักดิ์เบื้องหน้าตนที่กาลัง
เดินจากไปนั้น
ต่อให้ฉากหน้ายังดู เหมื อนเดิ มเช่ นไร แต่ในใจเขาย่อมระแวงนางแล้ว
แน่นอน!
.............................

ด้านเหยียนหยินที่กาลังพักผ่อนอยูใ่ นตาหนักของตน พอตกเย็นมาก็ตอ้ งมี


สี หน้าแปลกใจไม่น้อยเมื่ อ กั๋ว กงกงให้ขนั ที น้อยส่ งข่ าวมาบอกที่ ตาหนักนางว่า
ฮ่องเต้จะเสด็จมาในคืนนี้ นั่นทาให้เยว่อิ๋งที่ ยืนอยู่ขา้ งกาย แกล้งถามออกมาอย่าง

287
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ลัง เล “พระสนมคื น นี้ ฝ่ าบาทจะเสด็ จ มานะเพคะ เปลี่ ย นเป็ นใส่ ชุ ด อื่ น เลยดี
หรื อไม่…”
ใบหน้าที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่ากาลังคิดสิ่ งใดของเยว่อิ๋ง ทาให้เหยียน
หยินอดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวตาหนิ ออกไป “เจ้ากาลังคิดสิ่ งใดกัน” เหยียนหยินพูด
จบไปได้ไม่นาน เสี ยงอันคุน้ เคยของฮ่องเต้ก็ดงั แทรกขึ้นมาเสี ยแล้ว
“แล้วเจ้าเล่ากาลังคิดสิ่ งใด”
พอเหยียนหยินและเหล่านางกานัลในตาหนักเห็นฮ่องเต่ที่กาลังเดินเข้ามา
ก็ตอ้ งรี บลุกขึ้นมาทาความเคารพชายเบื้องหน้าทันที แต่อีกฝ่ ายก็รีบเข้ามาห้ามนาง
ไว้เสี ยก่อน “ไม่ตอ้ งมากพิธี”
เห็ นเช่นนั้นเหล่าข้ารับใช้ในตาหนักก็พากันถอยห่ างออกไปอย่างรู ้ งาน
จนเมื่ออยู่กนั เพียงลาพังสองคนแล้ว เหยียนหยินก็รินชาให้ชายเบื้ องหน้า ก่อนจะ
ถามขึ้นด้วยความแปลกใจเล็กน้อยว่า “ทรงกังวลเรื่ องใดอยูเ่ พคะ”
ที่ถามเช่นนั้นก็เพราะนางเห็นท่าทางของเขาแปลก ๆ ตั้งแต่ตอนที่พบกัน
ก่อนหน้า อีกทั้งเขายังมาหานางก่อนเวลาที่เขาให้คนแจ้งไว้เช่นนี้นนั่ เอง
ฝ่ ายฮ่องเต้เมื่อเห็นนางสังเกตได้อย่างง่ายดาย ก็ยิม้ อบอุ่นออกมาไม่นอ้ ย
พลางดึงนางเข้ามานัง่ ตักตนทั้งยังกอดนางอย่างรักใคร่ ไว้ แล้วค่อยบอกให้นางสบาย
ใจออกไป “ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่งานเลี้ยงต้อนรับเจ้าจะไปเข้าร่ วมรึ เปล่า”
ก่อนจะได้ยนิ นางตอบกลับมาว่า “ตามหน้าที่แล้วหม่อมฉันต้องไปเพคะ”
คาตอบนั้นทาให้เขาก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วจึงกล่าวเชิ งหยอกเย้าออกมา
“งั้นเหรอ ข้าไม่อยากให้ใครเห็นเจ้าเลยจริ ง ๆ ”

288
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เหยียนหยินที่ ตกอยู่ในอ้อมกอดของคนเบื้ องหลังรู ้สึกจัก๊ จี้ เล็กน้อย เมื่อ


ใบหน้าของเขาเข้ามาซุ กไซ้กบั นางราวกับจะแกล้งกัน “ฝ่ าบาท…” นางเรี ยกเขา
อย่างบางเบาได้ไม่นาน เขาก็หมุนหน้านางให้หนั ไปหาพลางถามด้วยรอยยิม้ มีสเน่ห์
ว่า “ไหน ๆ ข้าก็มาแล้ว เจ้าทาหน้าที่ของตนเองอีกสักคืนดีหรื อไม่”
เหยียนหยินที่ เห็ นว่าวันนี้ เขามีท่าที แปลก ๆ นั้นได้แต่พยักหน้าตอบรั บ
ด้วยใบหน้าแดงระเรื่ อ เพราะถึงอย่างไรนัน่ ก็เป็ นหน้าที่ที่นางควรจะทาตามอยูแ่ ล้ว
ผ่านไปไม่นานท่ามกลางแสงเที ยนอันเบาบางในค่ าคื นนั้น คนสองคน
กาลังบรรเลงเพลงรักกันอย่างเร่ าร้อน เสี ยงที่เกิดจากการกระแทกกระทั้นกันดังเบา
ๆ อยูภ่ ายในห้องที่มีเพียงคนสองคน ขณะที่เงาของร่ างสองร่ างที่ขยับเขยื้อนอยูน่ ้ นั
ก็สนั่ ไหวไปตามจังหวะโยกคลอนของคนตัวเล็กที่หลุดเสี ยงร้องครางออกมา
เมื่อคนทั้งสองไปถึงฝั่งฝัน ฮ่องเต้ก็ขยับกายถอยออกไป แต่ก็ดูจะยังไม่ได้
อยากหยุดมอบความสุ ขให้ร่างบาง ๆ เบื้องล่างเสี ยเท่าไหร่ เมื่อเขายังคงเข้าไปปลุก
ปั่ นไฟปรารถนาในตัวนางที่ยงั ไม่ทนั จางหายไปให้มากขึ้นกว่าเดิม
สุ ดท้ายค่ าคืนนั้นเหยียนหยินก็ตอ้ งเหนื่ อยล้าไปเสี ยหลายครั้งหลายครา
จนร่ างกายแทบสิ้นไร้เรี่ ยวแรง

ช่วงเวลาเช้ามืดในวันถัดมา ฮ่องเต้ซ่ ึ งพึ่งจะแต่งตัวเสร็ จและเตรี ยมตัวจะ


ออกไปจากตาหนักนั้น ต้องเดินเข้ามาดูสตรี ที่นอนอยูบ่ นเตียง ซึ่งกาลังสะลึมสะลือ
ขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะอมยิ้มพูดออกไปว่า “คืนนี้ ขา้ จะมาใหม่ หวังว่าเจ้าคงจะไม่
เหนื่อยมากจนเกินไป เพราะคืนนี้ขา้ ไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่นอน” พูดจบเขาก็เดิน
จากไปเพื่อเตรี ยมเข้าว่าราชการในยามเช้านัน่ เอง

289
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ทันที ที่เหยียนหยินตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าเบื้ องนอกเริ่ มจะมี แสงแดด


สาดส่ องเข้ามาแล้ว จึ งหันไปถามเยว่อิ๋งที่ กาลังเตรี ยมชุดคลุมให้นางจากเบื้องข้าง
ทันที “ฝ่ าบาทเล่า” ก่อนจะได้รับคาตอบจากเยว่อิ๋งที่มีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยตอบ
กลับมาว่า “ออกไปตั้งแต่ยามอิ๋น(1) แล้วเพคะ”
คาตอบที่ ได้ยินนั้นทาให้คิ้วของเหยียนหยินย่นเข้าหากัน สักพักจึ งถาม
ออกไป “ฝ่ าบาทได้รับสัง่ สิ่ งใดไว้รึเปล่า” ไม่นานนักเยว่อิ๋งก็ตอบกลับมาว่า “ทรง
บอกว่าคืนนี้จะมาอีกเพคะ”
ได้ยินเช่ นนั้นเหยียนหยินก็เข้าใจได้ในทันที ว่าคาพูดที่ ได้ยินตอนสะลึ
มสื อเมื่อเช้านั้น มิได้เป็ นเพียงแค่นางฝันไป ว่าแต่เหตุใดจู่ ๆ เขาจึ งพยายามมาหา
นางบ่อย และคิดจะให้นางปรนนิ บตั ิเขาติด ๆ กันเช่นนี้ กนั นั่นดูไม่เหมือนเขาใน
ยามปกติเลย เมื่อตั้งแต่คืนที่นางอยูก่ บั เขาซึ่งเมามายไม่ได้สติครานั้น เขาก็ดูจะไม่คิด
ฝื นใจนางในเรื่ องพวกนี้เลย
เวลาล่วงเลยไปจนกระทัง่ พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน เหยียนหยินที่นงั่ เล่นอยู่
ในตาหนักจนพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปอีกครั้ง ก็เห็นบุรุษที่แสนจะคุน้ เคยเดินยิม้
เข้ามาในตาหนักของนางเช่นเดิม
“เจ้ารอข้าอยูใ่ ช่หรื อไม่”
เหยียนหยินที่เห็นเขาเข้ามาทั้งยังไล่พวกข้ารับใช้ออกไปอย่างรวดเร็ วเช่น
เคย ต้องถามด้วยความแปลกใจเล็กน้อยออกไป “ฝ่ าบาทเหตุใดจึงมาติด ๆ กันเช่นนี้
เพคะ”
ฝ่ ายฮ่องเต้ที่กาลังเดินเข้ามาหานางนั้นนิ่ งเงียบไปชัว่ ครู่ หนึ่ง ก่อนจะเพียง
แค่ยมิ้ ตอบกลับมา “ข้าจะมาหาสนมคนโปรดของตนเองมันผิดหรื ออย่างไรกัน”

(1) ยามอิ๋น คือประมาณ 3:00 – 4:59 น. 290


เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

พูดจบเขาก็อุม้ นางขึ้นจนนางตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะทาเช่นนี้ จนต้อง


รี บจับเขาไว้ทนั ที แต่เขาก็เพียงแค่กระซิ บพูดบางเบาออกมาว่า “หวังว่าเจ้าจะยังมี
แรงเหลือมากพอ”
สิ้ นเสี ยงนั้นเขาก็วางนางลงบนเตียงทั้งยังขึ้นมาคร่ อมนางไว้ ทาให้เหยียน
หยินต้องรี บร้องห้ามความใจร้อนของเขา “เดี๋ยวก่อน…” แต่นางพูดยังไม่ทนั จบ เขา
ก็เริ่ มลูบไล้ไปตามกายนางจนเสื้ อผ้าของนางเริ่ มจะหลุดลุ่ยออกไปเสี ยแล้ว ยามที่ริม
ฝี ปากของเขาบีบเม้มลงเบา ๆ ตรงใบหูของนางก็ตอ้ งสะดุง้ ขึ้นมาเล็กน้อย “อ๊ะ!“
ไม่ น านนัก ฮ่ องเต้ก็ แกล้งถามนางที่ ดูไ ม่ยินยอมด้ว ยน้ า เสี ย งราวกับจะ
น้อยใจว่า “ตามใจข้าอี กสักคื นไม่ไ ด้รึอ ย่างไรกัน ” ก่ อนจะยิ้มมี สเน่ ห์ขณะถาม
ออกมาว่า “คืนพรุ่ งนี้ขา้ ก็จะมาอีก เจ้าคงจะรับไหวใช่หรื อไม่”
เหยียนหยินที่รู้สึกว่าเขาแปลก ๆ ได้แต่พยายามผลักเขาออกเบา ๆ แต่ก็ดู
เหมื อ นจะไม่ เ ป็ นผลเลย สุ ด ท้า ยก็ ต ้อ งถามเสี ย งสั่น ขณะที่ เ ขาพยายามปลุ ก ปั่ น
อารมณ์ของนางออกไป “ฝ่ าบาท…พระองค์ทรงกาลังคิดสิ่ งใดกัน” แต่เมื่อเห็นเขา
ไม่คิดจะหยุดทั้งยังยัว่ เย้านางมากกว่าเดิมแล้ว ก็ตอ้ งถามถึงความคิดหนึ่ งที่แวบเข้า
มาในหัวออกไปอย่างลังเลใจไม่นอ้ ย “หรื อว่าท่านอยากจะมี…เด็ก”
คาพูดที่ได้ยนิ นั้น ทาให้ฮ่องเต้ยอมยกศีรษะขึ้นมาจากซอกคอขาวของนาง
แล้วหัวเราะขบขันกับความคิดที่คาดไม่ถึงของนางออกมา
แค่เห็นเขาที่หัวเราะไม่หยุดจนตัวงอเหยียนหยินก็อดไม่ได้ที่จะต้องหน้า
แดงมากกว่าเดิม
“เด็ก ๆ งั้นเรอะ เป็ นความคิดที่ดีจริ ง ๆ ”

291
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

พูดจบเขาก็หันมาถามด้วยรอยยิม้ กระหยิ่มยิม้ ย่องว่า “ถ้าเช่นนั้นข้าจะมา


หาเจ้าให้บ่อยอีกสักหน่อย เจ้าจะได้มีเด็ก ๆ มาวิง่ เล่นด้วยดีหรื อไม่”
เหยียนหยินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบแย้งขึ้นมาทันที “ทรงกาลังคิดสิ่ งใดกัน
เพคะ!” ก่อนจะได้ยินเขาเอ่ยอย่างเอาแต่ใจออกมา “ข้าแค่อยากให้เจ้าตามใจข้าเท่า
นั้นเอง”
พูดจบเขาก็กม้ ลงบรรเลงเพลงรักกับนางอีกครั้ง ก่อนที่ ค่ าคืนนั้นจะผ่าน
ไปโดยที่นางเหนื่อยไม่ได้นอ้ ยไปกว่าค่าคืนก่อนหน้าเลย
จนกระทัง่ เหยียนหยินที่สลบไสลเพราะความเหนื่ อยล้าได้ตื่นมาในยาม
เช้าวันถัดมา ก็พบกับใบหน้าอันแสนคุน้ เคยของเยว่อิ๋งเช่นเดิม
“พระสนมตื่นแล้วหรื อเพคะ”
“ฝ่ าบาทเล่ า ” เหยีย นหยิน ถามออกไป ก่ อ นที่ เยว่อิ๋ ง จะตอบกลับมาว่า
“ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วเพคะ”
ทันที ที่ได้ยินเช่ นนั้นคิ้วของเหยียนหยินก็ตอ้ งขมวดมุ่นเข้าหากัน ทั้ง ๆ
ที่นี่ก็ดูจะเป็ นเรื่ องปกติที่มกั จะพบได้ทวั่ ไปในชีวิตของพระสนมเช่นนางในวังหลัง
แต่ไม่รู้ทาไมถึงรู ้สึกว่ามันน่าแปลกเสี ยจริ ง อีกอย่างเขามาหานางบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ควร
จะสนใจจักรพรรดิแคว้นเหลียงกับคณะฑูตมากกว่าเช่นนี้ จะไม่โดนข่าวลือเสี ยหาย
เล่นงานเอาหรื อไง
ไม่นานนักเสี ยงของเยว่อิ๋งก็ดงั พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “พระสนมคือว่าตอนนี้
ด้านนอก มีข่าวลือเกี่ ยวกับฝ่ าบาทไม่ดีเท่าใดนัก พวกเขาบอกว่าทรงไม่สนใจงาน
ราชกิจเพราะทรงเสด็จมาวังหลังทุกคืน แล้วก็คืนนี้…”

292
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ได้ยนิ เพียงเท่านั้นเหยียนหยินก็พอจะทายบางอย่างออก ว่าเขาต้องบอกว่า


จะมาในคืนนี้อีกเป็ นแน่ หากเขาทาเช่นเดิมนางต้องสิ้นไร้เรี่ ยวแรงจริ ง ๆ เป็ นแน่แท้
อีกอย่างพรุ่ งนี้ก็จะเป็ นงานเลี้ยงต้อนรับแล้ว หากเขายังมัวแต่มาที่นี่จะไม่มีข่าวเสื่ อม
เสี ยออกมามากกว่าเดิมหรื ออย่างไร เมื่อพอจะทายได้แล้วว่าอีกฝ่ ายกาลังคิดจะทา
อะไร เหยียนหยินก็ยมิ้ บางเบาหันมาพูดกับเยว่อิ๋งทันที
“เจ้าเตรี ยมอะไรให้ขา้ หน่อยได้หรื อไม่”
เยว่อิ๋งเมื่ อเห็ นว่าจู่ ๆ พระสนมของตนก็มีท่าที เปลี่ ยนไป ตั้งตัวไม่ทัน
เล็กน้อย “อะ เอ๋ …เพคะ” แต่ทนั ที่ รับฟั งคาขอจากพระสนมเบื้องหน้าแล้ว สี หน้า
ของนางก็ตอ้ งดูตกใจมากกว่าเดิม

ผ่านไปไม่ถึงชั่วยามหลังจากเหยียนหยินสั่งเยว่อิ๋งให้ไปเตรี ยมบางสิ่ ง
ให้กบั ตน ตอนนี้ เหยียนหยินจึงกาลังอยู่ในชุดคลุมเพื่อเตรี ยมจะอาบน้ า ขณะมอง
อ่างน้ าที่มีกลีบดอกไม้มากมายเบื้องหน้าอยู่ ส่วนเยว่อิ๋งเมื่อช่วยนางถอดชุดคลุมออก
แล้วก็ตอ้ งถามด้วยน้ าเสี ยงลังเลออกมาไม่นอ้ ย “พระสนมน้ าเย็นขนาดนี้จะดีหรื อเพ
คะ ยิง่ อากาศหนาวเช่นนี้ดว้ ยแล้ว…”
“แค่เย็นนิ ดหน่อยเท่านั้น” เหยียนหยินตอบก่อนจะเข้าไปนัง่ แช่ในอ่างน้ า
นั้นอย่างไม่ลงั เล จริ ง ๆ น้ าก็ไม่ได้เย็นมาก เพียงแค่ไม่ได้อุ่นพอที่จะให้ความอบอุ่น
กับร่ างกายในฤดูหนาวเช่นนี้ เท่านั้นเอง ไม่นานนักเหยียนหยินก็ค่อย ๆ หลับตาลง
เพื่อแช่น้ าอย่างสบายอารมณ์ต่อไป
เยว่อิ๋งเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ตอ้ งถามอย่างไม่เข้าใจขึ้นมา “พระสนมตั้งใจจะทา
สิ่ งใดเพคะ”

293
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ก่อนที่ เหยียนหยินจะตอบกลับไปว่า “ข้ากาลังหาทางป้ องกันตนเองอยู่


แล้วก็ทาให้ใครบางคนไม่เดือดร้อนไปด้วยเท่านั้น”
พูดจบนางก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะสั่งนางกานัลคนสนิทข้าง
กายตน “ข้าอยากผ่อนคลายความเมื่อยล้าในตัวเท่านั้น ให้ขา้ ได้แช่น้ าสบาย ๆ เช่นนี้
อีกสักนิดก็พอ”
ได้ยินเช่นนั้น เยว่อิ๋งก็ได้แต่ยืนเฝ้าอยูเ่ งียบ ๆโดยไม่กล้าเอ่ยสิ่ งใด จนเวลา
ล่วงผ่านไปเกือบครึ่ งชัว่ ยาม จึงต้องถามพระสนมของตนที่ยงั คงหลับตาพริ้ มนอน
แช่น้ าออกไปด้วยความเป็ นห่ วงอีกครั้งนัน่ เอง “พระสนมทรงแช่น้ านานเกิ นไปรึ
เปล่าเพคะ”
เหยียนหยินเมื่อได้ยนิ เช่นนั้นก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะรู ้สึกวิงเวียนจน
ต้องเรี ยกเยว่อิ๋งออกไป “พยุงข้าออกไปที…”
พอเห็นเยว่อิ๋งมีสีหน้ามึนงงเล็กน้อย จึงต้องพูดออกไปว่า “ข้าแค่รู้สึกหน้า
มืดขึ้นมา” ได้ยินเช่นนั้นเยว่อิ๋งก็ตอ้ งพูดเสี ยงดุออกมาแทน “เห็นไหมเพคะ หม่อม
ฉันบอกไปแล้วว่าทรงแช่น้ านานเกินไป”
โดนนางกานัลคนสนิทของตนดุเช่นนี้ ทาให้เหยียนหยินอดหัวเราะน้อย ๆ
ออกมาไม่ได้ ก่อนจะสัง่ อีกฝ่ ายออกไปว่า “เจ้าไปเรี ยกหมอหลวงมาที”
แต่พอเห็ นอีกฝ่ ายหันมามองด้วยสี หน้ามึนงงมากกว่าเดิ มแล้ว ก็พูดเสี ยง
กาชับอย่างจริ งจังกลับไปอีกครั้ง “บอกว่าข้าโดนอากาศเย็นมากเกิ นไปจึงรู ้สึกไม่
ค่อยดี อยากให้ลองมาตรวจดูเข้าใจรึ ไม่”
นั่นทาให้เยว่อิ๋งที่ เดิ มที คิดตามไม่ทนั นั้นพอจะเริ่ มเข้าใจขึ้นมาบ้าง เมื่อ
เห็นพระสนมเบื้องหน้าจงใจสัง่ ให้ตนไปทางานนี้ดว้ ยตนเอง

294
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

พอเห็ นเยว่อิ๋งมีสีหน้าเข้าใจ เหยียนหยินก็ยิ้มขึ้นน้อย ๆ แล้วจึ งสั่งต่อไป


“เจ้าไปตามหมอหลวง แล้วก็ให้คนอื่นเข้ามาช่วยข้าแต่งตัวแล้วกัน”
“เข้าใจแล้วเพคะ” เยว่อิ๋งตอบรับก่อนจะเดินออกจากตาหนัก ทาให้เหยียน
หยินที่อยูใ่ นชุดคลุมผืนบางขณะนัง่ รออยูใ่ นห้องของตนนั้นต้องครุ่ นคิดออกไปว่า
นางแช่ น้ า นานพอที่ จ ะท าให้ แ ผนการของตนส าเร็ จ หรื อ ไม่ หรื อ ควรจะท าให้
มากกว่านี้เพื่อให้ดูสมจริ งมากกว่าเดิมกัน คิดได้ไม่ทนั ไรเหล่านางกานัลก็เข้ามาช่วย
นางแต่งตัวตามคาสัง่ ที่ฝากเยว่อิ๋งบอกไปเสี ยแล้ว
ทันทีที่เยว่อิ๋งกลับมาจากการไปตามหมอหลวงด้วยตนเองนั้น เหยียนหยิน
ก็แต่งตัวเสร็ จไปนานแล้ว ยามนี้นางจึงกาลังนัง่ มองบรรยากาศภายนอกข้างหน้าต่าง
ที่ถูกเปิ ดแง้มไว้เล็กน้อย
เหยีย นหยินหันมามองผูม้ าใหม่ ไ ด้ไ ม่ น าน เสี ย งต าหนิ ข องเยว่อิ๋ งก็ดัง
ขึ้นมาตาม “พระสนมเหตุใดจึงยังมานัง่ เล่นอยูข่ า้ งหน้าต่างเช่นนี้เพคะ”
ท่าทางตาหนิ อย่างเห็นได้ชดั นั้นทาให้เหยียนหยินต้องถอนหายใจน้อย ๆ
ตอบกลับไปว่า “ข้าไม่มีอะไรทา เลยอยากมองบรรยากาศรอบด้านเท่านั้น”
เยว่อิ๋งได้ยินเช่นนั้นก็รีบร้อนหันมาเร่ งหมอหลวงทันที “ท่านหมอหลวง
รี บ ตรวจอาการพระสนมเถิ ด ” ทั้ง ยัง รี บ เดิ น ไปปิ ดหน้า ต่ า งที่ นาอากาศเย็น จาก
ภายนอกเข้ามาลง พร้อมกับบ่นเบา ๆ
ฝ่ ายหมอหลวงเมื่อเห็ นสถานการณ์เบื้องหน้า ก็อดที่ จะวิเคราะห์ออกมา
ไม่ได้วา่ พระสนมเบื้องหน้าก็ดูจะเป็ นคนดื้อรั้นนิด ๆอยูไ่ ม่นอ้ ย จึงไม่น่าแปลกที่จะ
ตากไอเย็นจนหน้ามื ดแล้วไปเรี ยกเขามาเช่ นนี้ จนกระทั่งหมอหลวงตรวจเสร็ จ
เยว่อิ๋งก็รีบถามขึ้นมาอีกครั้ง “ท่านหมอหลวงพระสนมเป็ นเช่นไรบ้าง”

295
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยนิ เช่นนั้นหมอหลวงก็ได้แต่ถอนหายใจ พลางพูดว่า “เหยียนเฟยรับไอ


เย็นมากเกินไป ช่วงนี้ ควรจะพักผ่อนแล้วก็อย่าออกไปโดนอากาศด้านนอกมาก ข้า
จะสั่งยาที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย” พูดจบยังส่ ายหัวไปมาอย่างจนใจ เอ่ย
เตื อนพระสนมเบื้ องหน้าตน “เหยียนเฟยควรจะฟั งคาพูดของนางกานัลให้ม าก
ร่ างกายของเหยียนเฟยค่อนข้างอ่อนแอ ทรงมิควรจะตากอากาศเย็นมากจนเกินไป
เช่นนี้จริ ง ๆ”
คาพูดที่ได้ยนิ ทาให้เหยียนหยินได้แต่ยมิ้ เบาบาง “ขอบคุณท่านหมอหลวง
ครั้งนี้ลาบากท่านแล้ว”
หลังจากนั้นก็ให้คนไปส่ งหมอหลวงกลับไป พอทั้งห้องกลับไปเหลื อ
เพียงนางกับเยว่อิ๋งเช่นเดิมอีกครั้ง เยว่อิ๋งก็ถามอย่างเสี ยงเบาด้วยกลัวใครจะได้ยิน
“พระสนมจะไม่ทาเกินไปหน่อยเหรอเพคะ ถึงกับต้องทรงทาร้ายตนเองเช่นนี้ …”
เหยียนหยินเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ ายรู ้แล้วว่าตนจงใจแกล้ งป่ วย จึงพูดอย่างจนใจ
ออกมาว่า “ไม่อย่างนั้นคนเหล่านั้นจะเชื่อจริ ง ๆ ได้อย่างไรเล่า”
ใช่แล้ว…สาเหตุที่นางจงใจทาให้ตนเองเหมือนป่ วยเช่นนี้ ก็เพื่อหลีกเลี่ยง
ไม่ให้ฮ่องเต้มาหา และหลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอ้ งไปงานเลี้ยงต้อนรับซึ่งน่าจะเป็ นสาเหตุ
ที่เขามาหานางและพยายามทาให้นางหมดแรงเสี ยให้ได้อยูท่ ุกคืนนัน่ เอง แม้จะไม่รู้
ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงไม่อยากให้นางไปงานเลี้ยงนั้นก็ตาม อต่ในเมื่อเขาตั้งใจมาหา
นางติด ๆ กันจนยอมให้ตนเองเกิดข่าวลือเสี ยหายตามมาเช่นนี้ จะให้นางปล่อยให้
เขาทาเช่นนั้นต่อไปได้อย่างไรเล่า สุดท้ายจึงได้ตดั สิ นใจแกล้งป่ วยเสี ยเลย

296
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

หลังจากหมอหลวงจากไปไม่ถึงครึ่ งชัว่ ยาม แขกที่เหยียนหยินคิดไว้แล้ว


ว่าจะต้องมา ก็เดินเข้ามาในตาหนักด้วยสี หน้าเป็ นห่ วงเป็ นใย “เหยียนเฟยเป็ นเช่น
ไรบ้าง” นัน่ คือคาถามแรกจากฮุ่ยกุย้ เฟยที่ดูเร่ งร้อนมาด้วยความจริ งใจยิง่ นัก
“ข้าได้ข่าวว่าเจ้าไม่สบายเท่าใด”
พอเห็นสี หน้าลองเชิงถามของฮุ่ยกุย้ เฟยแล้ว เหยียนหยินที่นงั่ พักอยูท่ ้ งั ยัง
มีผา้ คลุมผืนใหญ่หลายผืนห่มคลุมไว้ ก็ตอบกลับไปด้วยเสี ยงที่บางเบาว่า “เพียงแค่
โดนไอเย็นมากไปเท่านั้น หมอหลวงบอกว่าให้หลีกเลี่ยงการโดนอากาศด้านนอกเพ
คะ…”
ฮุ่ยกุย้ เฟยได้ยินเช่นนั้นก็รีบยิม้ ยินดีออกมา ก่อนจะกล่าวให้กาลังใจ “ยังดี
ที่ไม่ได้หนักหนาเท่าไร เพียงแค่พกั ผ่อนกินยาให้มาก ๆ เจ้าก็คงจะหายดีได้เป็ นแน่”
แต่เหยียนหยินก็ทอดถอนใจออกมาเสี ยก่อนว่า “ต่อให้ยาจะดีแค่ไหนก็คงจะมิได้
หายในเร็ ววันเป็ นแน่เพคะ ถึงอย่างไรนี่ก็ยงั เป็ นหน้าหนาวที่มีหิมะปกคลุมไม่นอ้ ย”
คาพูดของเหยียนหยินนั้น ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยเริ่ มจะเข้าใจเจตนาของนางได้
ในทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของนางจึ งแข็งค้างไป สุ ดท้ายก็ได้แต่พูดอย่างเข้าอก
เข้าใจออกมา “ในเมื่ออาการเจ้าไม่ดีเช่นนี้ ก็พกั ผ่อนอยู่ที่นี่ก็แล้วกันเรื่ องงานเลี้ยง
คืนพรุ่ งนี้ก็ปล่อยไปก่อนเถอะ ข้าจะอธิบายกับฝ่ าบาทให้เอง”
หลังจากนั้นฮุ่ยกุย้ เฟยก็มิได้อยูพ่ ดู คุยต่อ เพียงแค่บอกลากลับไปโดยอ้างว่า
มีงานที่ตอ้ งเตรี ยมอีกมาก เห็นเช่นนั้นเหยียนหยินก็พอจะโล่งใจขึ้นมาบ้าง ไม่นาน
นักเสี ยงของเยว่อิ๋งก็ดงั ขึ้นมาแทน “พระสนมแล้วที่ฝ่าบาทจะมาคืนนี้…”

297
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยินเท่านั้นเหยียนหยินก็ครุ่ นคิดเล็กน้อย ก่ อนจะตอบกลับเสี ยงเรี ยบ


“ส่ งคนไปบอกกัว๋ กงกงว่าข้าไม่สะดวกให้ฝ่าบาทมา เพราะเกรงว่าพระองค์จะติด
หวัดเอาได้”
ถึงแม้ฮุ่ยกุย้ เฟยบอกว่าจะบอกฮ่องเต้ให้ แต่นางก็คิดว่าส่ งคนของตนไป
บอกด้วยจะดีกว่า เผื่อว่าอีกฝ่ ายเปลี่ยนแปลงคาพูดจนความหมายผิดแผกไปจะได้ไม่
เกิดเรื่ องขึ้น
แม้เยว่อิ๋งพอจะเข้าใจในความคิดของพระสนมตนแล้วก็ยงั อดถามออกไป
ไม่ได้วา่ “ทาเช่นนี้ จะไม่เป็ นอะไรจริ ง ๆ หรื อเพคะ” ก่อนที่เหยียนหยินจะยิม้ น้อย
ๆ ให้กบั คาถามที่ได้ยนิ นั้น แล้วตอบอย่างชัดถ้อยชัดคาด้วยเสี ยงอันบางเบา
“เจ้าส่งคนไปบอกเถอะ ฝ่ าบาทจะเข้าใจในสิ่ งที่ขา้ ทาเอง”

***************************************

298
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

299
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ตอนพิเศษ ผู้เป็ นที่โปรดปรำนสู งสุ ด

หลังจากคณะทูตของต้าหลิ งไปเยือนแคว้นเหลี ยงได้ไม่กี่วนั ก็มีสาส์ น


ส่ งกลับมาจากฉี อ๋องว่า จักรพรรดิ แคว้นเหลียงจะมาเยือนแคว้นต้าหลิงด้วยตนเอง
จนต้อ งรี บ เตรี ย มการกัน จนวุ่นวายเสี ย ยกใหญ่ ด้ว ยไม่ นึ ก ว่า อี ก ฝ่ ายจะมาอย่าง
ฉุกละหุกเช่นนี้
แต่คนที่ตอ้ งยุง่ กับการเตรี ยมงานเลี้ยงต้อนรับมากที่สุด ก็มีเพียงฮุ่ยกุย้ เฟย
ที่ มีตาแหน่ งสู งสุ ดในวังหลังในตอนนี้ เท่านั้น ในทางกลับกันสาหรับเหยียนหยิน
ในตอนนี้ แล้ว สิ่ งที่ น่าแปลกใจกว่าก็คือ การที่ ฮุ่ยกุย้ เฟยซึ่ งควรจะยุ่งอยู่กบั การไป
ต้อนรับคณะฑูตที่มาพร้อมกับจักรพรรดิ แคว้นเหลียงนั้น จู่ ๆ ก็มาอยูท่ ี่ตาหนักตน
พร้อมกับสนมส่วนหนึ่งและกาลังยืนอยูต่ ่อหน้าตนด้วยใบหน้ายิม้ แย้มนัน่ เอง
“ฮุ่ยกุย้ เฟยมาหาข้ามีเรื่ องอันใดกัน” เหยียนหยินถามออกไปด้วยสี หน้า
สงสัย ก่ อนที่ ฮุ่ยกุ้ยเฟยจะยิ้มตอบกลับมาว่า “ข้าจะชวนเจ้าไปต้อนรั บ จักรพรรดิ
แคว้นเหลียงพร้อมกับพี่สาวน้องสาวในวังหลังอย่างไรเล่า”

300
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

เพราะท่ า ทางของฝ่ ายตรงข้า มดู แ ปลก ๆ ท าให้เ หยีย นหยินเลื อ กที่ จะ


พยายามปฏิเสธฝ่ ายตรงข้ามไปเสี ยนาน แต่สุดท้ายก็ตอ้ งแพ้เสี ยงข้างมากที่ฮุ่ยกุย้ เฟย
พามาด้วย เมื่อพระสนมเหล่านั้นต่างพากันพูดเป็ นนัยออกมาว่า ในเมื่อทุกคนไป
ต้อนรับคณะฑูตแคว้นเหลียงด้วยกันแล้วนางจะไม่ไปได้อย่างไรกัน หรื อก็คือการ
บอกเป็ นนัยว่านางมี อานาจมาจากที่ ใดที่ จะปฎิ เสธฮุ่ยกุ้ยเฟยที่ มีตาแหน่ งสู งกว่า
นัน่ เอง
หลังจากเหยียนหยินได้แต่จนใจเดินไปพร้อมกับฮุ่ยกุย้ เฟยและเหล่าพระ
สนม กลุ่มของพวกนางก็เจอเข้ากับฮ่องเต้ที่กาลังจะไปรอรับจักรพรรดิแคว้นเหลียง
พอดี
“ถวายบังคมเพคะฝ่ าบาท” เหล่าพระสนมต่างพากันย่อกายคานับบุรุษ
เบื้องหน้าลงอย่างพร้อมเพรี ยงกัน ฝ่ ายฮ่องเต้ที่เดิมทีก็ดูจะไม่ได้อารมณ์ดีเท่าไหร่ อยู่
แล้วนั้นพอเห็นสี สันแสบตาจากชุดและการแต่งกายของเหล่าพระสนมเบื้องหน้า ก็
มีน้ าเสี ยงไม่สบอารมณ์เล็กน้อย “พวกเจ้ามาทาอะไรที่นี่ ” ก่อนที่สายตาของเขาจะ
ไปหยุดอยู่ที่เหยียนหยินซึ่ งยืนอยู่เบื้องหลังพระสนมเหล่านี้ อยู่ครู่ หนึ่ ง แล้วคิ้วทั้ง
สองข้างก็พากันย่นเข้าหากันทันที
ฮุ่ยกุย้ เฟยที่ สังเกตเห็ นท่าทางของฮ่องเต้ จึ งรี บเดิ นหน้าขึ้นมาพูดอธิ บาย
ด้วยน้ าเสี ยงอ่อนหวานว่า “หม่อมฉันคิ ดว่าจะพาพวกนางไปต้อนรั บ จักรพรรดิ
แคว้นเหลียงและคณะฑูตด้วยกันเพคะ ถึงอย่างไรนี่ก็เป็ นงานสาคัญ…”
ฮุ่ยกุย้ เฟยพูดยังไม่ทนั จบฮ่องเต้ก็พูดตัดบทนางขึ้นมาเสี ยก่อน “ให้พวก
นางกลับไปซะ คนเยอะไปไม่ดีเท่าไหร่ ”

301
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

การที่ โดนฮ่องเต้พูดอย่างไม่ไว้หน้าเช่นนี้ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยรู ้สึกสะอึกไป


ก่อนจะเห็ นบุรุษเบื้องหน้าหันมายิม้ ให้กบั นางอย่างนุ่ มนวลราวกับจะกลบเกลื่อน
แทน “สาหรับข้าเจ้าอยูค่ นเดียวก็พอแล้ว”
รอยยิม้ และท่วงท่าอบอุ่นอ่อนโยนของเขา ทาให้นางได้แต่ตอบรับออกไป
อย่างไม่รู้ตวั ว่า “เพคะ”
หลังจากนั้นเหยียนหยินและพระสนมคนอื่น ๆ ก็แยกย้ายกลับตาหนักของ
ตนตามคาสั่งของฮ่องเต้ แต่ตอนที่กาลังจะหมุนตัวเดินกลับไปนั้น เหยียนหยินก็อด
ไม่ได้ที่จะต้องหันมามองโอรสสวรรค์ในชุดสูงศักดิ์เล็กน้อย ด้วยรู ้สึกว่าสายตาที่เขา
มองมาที่ นางเมื่อกี้ ราวกับกังวลสิ่ งใด แต่เมื่อเห็นเขากลับไปมีท่วงท่าเฉกเช่นปกติ
ขณะพูดคุยกับฮุ่ยกุย้ เฟยแล้ว ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาพลางคิดว่าตนคงจะคิดมาก
ไปเอง

หลังจากฮ่องเต้เดินออกมาจากส่ วนชั้นในของวังหลวง ยามนี้ เขาจึงกาลัง


ยืนอยูห่ น้าบันไดเก้ามังกร รอต้อนรับขบวนของจักรพรรดิแคว้นเหลียงและคณะฑูต
ที่กาลังข้ามผ่านประตูช้ นั นอกเข้ามา
ขบวนที่เห็นออกไม่ไกลนั้นดูยิ่งใหญ่ท้ งั ยังแข็งแกร่ งราวกับจะโอ้อวด จน
อดไม่ได้ที่จะยิม้ หยันในใจ ด้วยคิดว่าอีกฝ่ ายแม้จะแพ้สงครามแต่ก็ดูไม่คิดจะยอม
อ่อนข้อแม้แต่นอ้ ย ทันทีที่จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงมาหยุดอยูเ่ บื้องหน้า ฮ่องเต้ก็ตอ้ ง
กล่าวต้อนรับออกไปให้ตนยังคงดูเป็ นเจ้าบ้านที่ดี
“เป็ นเกียรติจริ ง ๆ ที่องค์จกั รพรรดิมาเยีย่ มเยียนแคว้นต้าหลิงด้วยตนเอง”

302
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ฝ่ ายจักรพรรดิ แคว้นเหลี ยงนั้น พอได้ยินคาพูดต้อนรั บด้วยใบหน้า ยิ้ม


เหมือนไม่ยมิ้ และไร้ซ่ ึงความจริ งใจใด ๆ แล้ว ก็ได้แต่หวั เราะเบา ๆ กล่าวออกไปว่า
“ฝ่ าบาทกล่าวชมมากไป ข้าแค่มาเยีย่ มเยียนเพื่อแสดงความจริ งใจเท่านั้นเอง”
หากมองผ่านสายตาของผูค้ นภายนอก การสนทนาของบุรุษทั้งสองคงจะดู
เป็ นไปได้ดว้ ยดี แต่ในความเป็ นจริ งนั้นมิได้เป็ นเช่นนั้นเลย
ไม่นานนักองค์จกั รพรรดิ ก็สังเกตเห็นฮุ่ยกุย้ เฟยจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง “นี่ คง
จะเป็ นฮุ่ยกุย้ เฟยที่ผคู ้ นร่ าลือกันใช่หรื อไม่” พูดจบเขาก็ยกยิม้ ขึ้นมาพลางกล่าวชื่ น
ชมออกไป “ข้าได้ยิน คนร่ า ลื อ กัน ว่า พระสนมของแคว้น ต้า หลิ ง ล้ว นงดงามดั่ง
เทพธิดา ดูแล้วคงจะเป็ นเรื่ องจริ ง”
ฮุ่ยกุย้ เฟยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มน้อย ๆ พลางกล่าวตอบรับเชิ งขบขัน ว่า
“องค์จักรพรรดิ ก ล่ า วชมเกิ น ไปแล้ว เที ย บกับ พี่ ส าวน้อ งสาวในวัง หลัง ข้า ยัง ดู
ธรรมดาอยูม่ าก”
คาพูดประโยคนั้นทาให้แววตาของจักรพรรดิ แคว้นเหลียงมีประกายไหล
ผ่านวาบ ก่อนจะพูดเชิงล้อเล่นออกมาว่า “ฮุ่ยกุย้ เฟยพูดเช่นนี้ ทาให้ขา้ อยากเห็นพวก
นางซะจริ ง”
สิ่ งที่จกั รพรรดิ แคว้นเหลียงพึ่งพูดมานั้น ทาให้สายตาของฮ่องเต้คมกริ บ
ขึ้นมาเล็กน้อยขณะเหลือบมองไปทางฮุ่ยกุย้ เฟยที่เหมือนจะเผลอพูดเช่นนั้นออกไป
โดยไม่ได้คิดหรื อมีเจตนาใด ๆ นัน่ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยที่สมั ผัสได้ถึงสายตาคมกริ บเพียง
ชัว่ ครู่ ที่มองมาทางตนนั้น ต้องรี บเปลี่ยนเรื่ องอย่างเป็ นธรรมชาติออกไปแทน “ทาง
เราจัดงานเลี้ ยงต้อนรั บให้องค์จกั รพรรดิ ในคื นพระจันทร์ เต็มดวงในอี กสามวัน
ข้างหน้า หวังว่าองค์จกั รพรรดิจะทรงพึงพอใจ”

303
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

“ข้าย่อมพึงพอใจแน่นอน” จักรพรรดิ แคว้นเหลียงตอบด้วยรอยยิม้ มีเลศ


นัย
ฮ่องเต้ซ่ ึ งเห็นว่าการต้อนรับก็จบลงด้วยดีแล้ว ทั้งยังรู ้สึกว่าไม่ควรให้คน
สองคนที่ อ ยู่ใ กล้เ ขาได้พูด คุ ย กัน ต่ อ ไป จะพู ด ตัด บทขึ้ น มาว่า “องค์จักรพรรดิ
เดินทางมาคงจะเหน็ดเหนื่อยไม่นอ้ ย เรื อนรับรองถูกจัดเตรี ยมไว้แล้วเชิญพวกท่าน
พักได้ตามสบาย”
ยามที่ ขบวนของจักรพรรดิ แคว้นเหลียงและคณะทูตจากไปจนหมดแล้ว
ฮุ่ยกุย้ เฟยก็หนั มาจะพูดกับฮ่องเต้อีกครั้ง “ฝ่ าบาท…” แต่นางยังไม่ทนั พูดสิ่ งใด เขาก็
ยิม้ อ่อนโยนพูดแทรกขึ้นมาเสี ยก่อนว่า “เจ้าทาหน้าที่ได้ดีจริ ง ๆ กลับไปพักผ่อนสัก
หน่อยเถิด”
พูดจบฮ่องเต้ก็หมุนตัวเดินจากไป โดยไม่คิดจะรอฟังคาพูดเพิ่มเติมใด ๆ
จากฮุ่ยกุย้ เฟยอีกเลย นัน่ ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยได้แต่กาผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น แม้จะยังคง
รอยยิม้ บาง ๆ ไว้บนใบหน้า แต่ในใจนางก็รู้ดีว่า บุรุษสู งศักดิ์เบื้องหน้าตนที่กาลัง
เดินจากไปนั้น
ต่อให้ฉากหน้ายังดู เหมื อนเดิ มเช่ นไร แต่ในใจเขาย่อมระแวงนางแล้ว
แน่นอน!
.............................

ด้านเหยียนหยินที่กาลังพักผ่อนอยูใ่ นตาหนักของตน พอตกเย็นมาก็ตอ้ งมี


สี หน้าแปลกใจไม่น้อยเมื่ อ กั๋ว กงกงให้ขนั ที น้อยส่ งข่ าวมาบอกที่ ตาหนักนางว่า
ฮ่องเต้จะเสด็จมาในคืนนี้ นั่นทาให้เยว่อิ๋งที่ ยืนอยู่ขา้ งกาย แกล้งถามออกมาอย่าง

304
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ลัง เล “พระสนมคื น นี้ ฝ่ าบาทจะเสด็ จ มานะเพคะ เปลี่ ย นเป็ นใส่ ชุ ด อื่ น เลยดี
หรื อไม่…”
ใบหน้าที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่ากาลังคิดสิ่ งใดของเยว่อิ๋ง ทาให้เหยียน
หยินอดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวตาหนิ ออกไป “เจ้ากาลังคิดสิ่ งใดกัน” เหยียนหยินพูด
จบไปได้ไม่นาน เสี ยงอันคุน้ เคยของฮ่องเต้ก็ดงั แทรกขึ้นมาเสี ยแล้ว
“แล้วเจ้าเล่ากาลังคิดสิ่ งใด”
พอเหยียนหยินและเหล่านางกานัลในตาหนักเห็นฮ่องเต่ที่กาลังเดินเข้ามา
ก็ตอ้ งรี บลุกขึ้นมาทาความเคารพชายเบื้องหน้าทันที แต่อีกฝ่ ายก็รีบเข้ามาห้ามนาง
ไว้เสี ยก่อน “ไม่ตอ้ งมากพิธี”
เห็ นเช่นนั้นเหล่าข้ารับใช้ในตาหนักก็พากันถอยห่ างออกไปอย่างรู ้ งาน
จนเมื่ออยู่กนั เพียงลาพังสองคนแล้ว เหยียนหยินก็รินชาให้ชายเบื้ องหน้า ก่อนจะ
ถามขึ้นด้วยความแปลกใจเล็กน้อยว่า “ทรงกังวลเรื่ องใดอยูเ่ พคะ”
ที่ถามเช่นนั้นก็เพราะนางเห็นท่าทางของเขาแปลก ๆ ตั้งแต่ตอนที่พบกัน
ก่อนหน้า อีกทั้งเขายังมาหานางก่อนเวลาที่เขาให้คนแจ้งไว้เช่นนี้นนั่ เอง
ฝ่ ายฮ่องเต้เมื่อเห็นนางสังเกตได้อย่างง่ายดาย ก็ยิม้ อบอุ่นออกมาไม่นอ้ ย
พลางดึงนางเข้ามานัง่ ตักตนทั้งยังกอดนางอย่างรักใคร่ ไว้ แล้วค่อยบอกให้นางสบาย
ใจออกไป “ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่งานเลี้ยงต้อนรับเจ้าจะไปเข้าร่ วมรึ เปล่า”
ก่อนจะได้ยนิ นางตอบกลับมาว่า “ตามหน้าที่แล้วหม่อมฉันต้องไปเพคะ”
คาตอบนั้นทาให้เขาก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วจึงกล่าวเชิ งหยอกเย้าออกมา
“งั้นเหรอ ข้าไม่อยากให้ใครเห็นเจ้าเลยจริ ง ๆ ”

305
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

เหยียนหยินที่ ตกอยู่ในอ้อมกอดของคนเบื้ องหลังรู ้สึกจัก๊ จี้ เล็กน้อย เมื่อ


ใบหน้าของเขาเข้ามาซุ กไซ้กบั นางราวกับจะแกล้งกัน “ฝ่ าบาท…” นางเรี ยกเขา
อย่างบางเบาได้ไม่นาน เขาก็หมุนหน้านางให้หนั ไปหาพลางถามด้วยรอยยิม้ มีสเน่ห์
ว่า “ไหน ๆ ข้าก็มาแล้ว เจ้าทาหน้าที่ของตนเองอีกสักคืนดีหรื อไม่”
เหยียนหยินที่ เห็ นว่าวันนี้ เขามีท่าที แปลก ๆ นั้นได้แต่พยักหน้าตอบรั บ
ด้วยใบหน้าแดงระเรื่ อ เพราะถึงอย่างไรนัน่ ก็เป็ นหน้าที่ที่นางควรจะทาตามอยูแ่ ล้ว
ผ่านไปไม่นานท่ามกลางแสงเที ยนอันเบาบางในค่ าคื นนั้น คนสองคน
กาลังบรรเลงเพลงรักกันอย่างเร่ าร้อน เสี ยงที่เกิดจากการกระแทกกระทั้นกันดังเบา
ๆ อยูภ่ ายในห้องที่มีเพียงคนสองคน ขณะที่เงาของร่ างสองร่ างที่ขยับเขยื้อนอยูน่ ้ นั
ก็สนั่ ไหวไปตามจังหวะโยกคลอนของคนตัวเล็กที่หลุดเสี ยงร้องครางออกมา
เมื่อคนทั้งสองไปถึงฝั่งฝัน ฮ่องเต้ก็ขยับกายถอยออกไป แต่ก็ดูจะยังไม่ได้
อยากหยุดมอบความสุ ขให้ร่างบาง ๆ เบื้องล่างเสี ยเท่าไหร่ เมื่อเขายังคงเข้าไปปลุก
ปั่ นไฟปรารถนาในตัวนางที่ยงั ไม่ทนั จางหายไปให้มากขึ้นกว่าเดิม
สุ ดท้ายค่ าคืนนั้นเหยียนหยินก็ตอ้ งเหนื่ อยล้าไปเสี ยหลายครั้งหลายครา
จนร่ างกายแทบสิ้นไร้เรี่ ยวแรง

ช่วงเวลาเช้ามืดในวันถัดมา ฮ่องเต้ซ่ ึ งพึ่งจะแต่งตัวเสร็ จและเตรี ยมตัวจะ


ออกไปจากตาหนักนั้น ต้องเดินเข้ามาดูสตรี ที่นอนอยูบ่ นเตียง ซึ่งกาลังสะลึมสะลือ
ขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะอมยิ้มพูดออกไปว่า “คืนนี้ ขา้ จะมาใหม่ หวังว่าเจ้าคงจะไม่
เหนื่อยมากจนเกินไป เพราะคืนนี้ขา้ ไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่นอน” พูดจบเขาก็เดิน
จากไปเพื่อเตรี ยมเข้าว่าราชการในยามเช้านัน่ เอง

306
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ทันที ที่เหยียนหยินตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าเบื้ องนอกเริ่ มจะมี แสงแดด


สาดส่ องเข้ามาแล้ว จึ งหันไปถามเยว่อิ๋งที่ กาลังเตรี ยมชุดคลุมให้นางจากเบื้องข้าง
ทันที “ฝ่ าบาทเล่า” ก่อนจะได้รับคาตอบจากเยว่อิ๋งที่มีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยตอบ
กลับมาว่า “ออกไปตั้งแต่ยามอิ๋น(1) แล้วเพคะ”
คาตอบที่ ได้ยินนั้นทาให้คิ้วของเหยียนหยินย่นเข้าหากัน สักพักจึ งถาม
ออกไป “ฝ่ าบาทได้รับสัง่ สิ่ งใดไว้รึเปล่า” ไม่นานนักเยว่อิ๋งก็ตอบกลับมาว่า “ทรง
บอกว่าคืนนี้จะมาอีกเพคะ”
ได้ยินเช่ นนั้นเหยียนหยินก็เข้าใจได้ในทันที ว่าคาพูดที่ ได้ยินตอนสะลึ
มสื อเมื่อเช้านั้น มิได้เป็ นเพียงแค่นางฝันไป ว่าแต่เหตุใดจู่ ๆ เขาจึ งพยายามมาหา
นางบ่อย และคิดจะให้นางปรนนิ บตั ิเขาติด ๆ กันเช่นนี้ กนั นั่นดูไม่เหมือนเขาใน
ยามปกติเลย เมื่อตั้งแต่คืนที่นางอยูก่ บั เขาซึ่งเมามายไม่ได้สติครานั้น เขาก็ดูจะไม่คิด
ฝื นใจนางในเรื่ องพวกนี้เลย
เวลาล่วงเลยไปจนกระทัง่ พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน เหยียนหยินที่นงั่ เล่นอยู่
ในตาหนักจนพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปอีกครั้ง ก็เห็นบุรุษที่แสนจะคุน้ เคยเดินยิม้
เข้ามาในตาหนักของนางเช่นเดิม
“เจ้ารอข้าอยูใ่ ช่หรื อไม่”
เหยียนหยินที่เห็นเขาเข้ามาทั้งยังไล่พวกข้ารับใช้ออกไปอย่างรวดเร็ วเช่น
เคย ต้องถามด้วยความแปลกใจเล็กน้อยออกไป “ฝ่ าบาทเหตุใดจึงมาติด ๆ กันเช่นนี้
เพคะ”
ฝ่ ายฮ่องเต้ที่กาลังเดินเข้ามาหานางนั้นนิ่ งเงียบไปชัว่ ครู่ หนึ่ง ก่อนจะเพียง
แค่ยมิ้ ตอบกลับมา “ข้าจะมาหาสนมคนโปรดของตนเองมันผิดหรื ออย่างไรกัน”

307
(1) ยามอิ๋น คือประมาณ 3:00 – 4:59 น.
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

พูดจบเขาก็อุม้ นางขึ้นจนนางตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะทาเช่นนี้ จนต้อง


รี บจับเขาไว้ทนั ที แต่เขาก็เพียงแค่กระซิ บพูดบางเบาออกมาว่า “หวังว่าเจ้าจะยังมี
แรงเหลือมากพอ”
สิ้ นเสี ยงนั้นเขาก็วางนางลงบนเตียงทั้งยังขึ้นมาคร่ อมนางไว้ ทาให้เหยียน
หยินต้องรี บร้องห้ามความใจร้อนของเขา “เดี๋ยวก่อน…” แต่นางพูดยังไม่ทนั จบ เขา
ก็เริ่ มลูบไล้ไปตามกายนางจนเสื้ อผ้าของนางเริ่ มจะหลุดลุ่ยออกไปเสี ยแล้ว ยามที่ริม
ฝี ปากของเขาบีบเม้มลงเบา ๆ ตรงใบหูของนางก็ตอ้ งสะดุง้ ขึ้นมาเล็กน้อย “อ๊ะ!“
ไม่ น านนัก ฮ่ องเต้ก็ แกล้งถามนางที่ ดูไ ม่ยินยอมด้ว ยน้ า เสี ย งราวกับจะ
น้อยใจว่า “ตามใจข้าอี กสักคื นไม่ไ ด้รึอ ย่างไรกัน ” ก่ อนจะยิ้มมี สเน่ ห์ขณะถาม
ออกมาว่า “คืนพรุ่ งนี้ขา้ ก็จะมาอีก เจ้าคงจะรับไหวใช่หรื อไม่”
เหยียนหยินที่รู้สึกว่าเขาแปลก ๆ ได้แต่พยายามผลักเขาออกเบา ๆ แต่ก็ดู
เหมื อ นจะไม่ เ ป็ นผลเลย สุ ด ท้า ยก็ ต ้อ งถามเสี ย งสั่น ขณะที่ เ ขาพยายามปลุ ก ปั่ น
อารมณ์ของนางออกไป “ฝ่ าบาท…พระองค์ทรงกาลังคิดสิ่ งใดกัน” แต่เมื่อเห็นเขา
ไม่คิดจะหยุดทั้งยังยัว่ เย้านางมากกว่าเดิมแล้ว ก็ตอ้ งถามถึงความคิดหนึ่ งที่แวบเข้า
มาในหัวออกไปอย่างลังเลใจไม่นอ้ ย “หรื อว่าท่านอยากจะมี…เด็ก”
คาพูดที่ได้ยนิ นั้น ทาให้ฮ่องเต้ยอมยกศีรษะขึ้นมาจากซอกคอขาวของนาง
แล้วหัวเราะขบขันกับความคิดที่คาดไม่ถึงของนางออกมา
แค่เห็นเขาที่หัวเราะไม่หยุดจนตัวงอเหยียนหยินก็อดไม่ได้ที่จะต้องหน้า
แดงมากกว่าเดิม
“เด็ก ๆ งั้นเรอะ เป็ นความคิดที่ดีจริ ง ๆ ”

308
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

พูดจบเขาก็หันมาถามด้วยรอยยิม้ กระหยิ่มยิม้ ย่องว่า “ถ้าเช่นนั้นข้าจะมา


หาเจ้าให้บ่อยอีกสักหน่อย เจ้าจะได้มีเด็ก ๆ มาวิง่ เล่นด้วยดีหรื อไม่”
เหยียนหยินเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบแย้งขึ้นมาทันที “ทรงกาลังคิดสิ่ งใดกัน
เพคะ!” ก่อนจะได้ยินเขาเอ่ยอย่างเอาแต่ใจออกมา “ข้าแค่อยากให้เจ้าตามใจข้าเท่า
นั้นเอง”
พูดจบเขาก็กม้ ลงบรรเลงเพลงรักกับนางอีกครั้ง ก่อนที่ ค่ าคืนนั้นจะผ่าน
ไปโดยที่นางเหนื่อยไม่ได้นอ้ ยไปกว่าค่าคืนก่อนหน้าเลย
จนกระทัง่ เหยียนหยินที่สลบไสลเพราะความเหนื่ อยล้าได้ตื่นมาในยาม
เช้าวันถัดมา ก็พบกับใบหน้าอันแสนคุน้ เคยของเยว่อิ๋งเช่นเดิม
“พระสนมตื่นแล้วหรื อเพคะ”
“ฝ่ าบาทเล่ า ” เหยีย นหยิน ถามออกไป ก่ อ นที่ เยว่อิ๋ ง จะตอบกลับมาว่า
“ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วเพคะ”
ทันที ที่ได้ยินเช่ นนั้นคิ้วของเหยียนหยินก็ตอ้ งขมวดมุ่นเข้าหากัน ทั้ง ๆ
ที่นี่ก็ดูจะเป็ นเรื่ องปกติที่มกั จะพบได้ทวั่ ไปในชีวิตของพระสนมเช่นนางในวังหลัง
แต่ไม่รู้ทาไมถึงรู ้สึกว่ามันน่าแปลกเสี ยจริ ง อีกอย่างเขามาหานางบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ควร
จะสนใจจักรพรรดิแคว้นเหลียงกับคณะฑูตมากกว่าเช่นนี้ จะไม่โดนข่าวลือเสี ยหาย
เล่นงานเอาหรื อไง
ไม่นานนักเสี ยงของเยว่อิ๋งก็ดงั พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “พระสนมคือว่าตอนนี้
ด้านนอก มีข่าวลือเกี่ ยวกับฝ่ าบาทไม่ดีเท่าใดนัก พวกเขาบอกว่าทรงไม่สนใจงาน
ราชกิจเพราะทรงเสด็จมาวังหลังทุกคืน แล้วก็คืนนี้…”

309
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

ได้ยนิ เพียงเท่านั้นเหยียนหยินก็พอจะทายบางอย่างออก ว่าเขาต้องบอกว่า


จะมาในคืนนี้อีกเป็ นแน่ หากเขาทาเช่นเดิมนางต้องสิ้นไร้เรี่ ยวแรงจริ ง ๆ เป็ นแน่แท้
อีกอย่างพรุ่ งนี้ก็จะเป็ นงานเลี้ยงต้อนรับแล้ว หากเขายังมัวแต่มาที่นี่จะไม่มีข่าวเสื่ อม
เสี ยออกมามากกว่าเดิมหรื ออย่างไร เมื่อพอจะทายได้แล้วว่าอีกฝ่ ายกาลังคิดจะทา
อะไร เหยียนหยินก็ยมิ้ บางเบาหันมาพูดกับเยว่อิ๋งทันที
“เจ้าเตรี ยมอะไรให้ขา้ หน่อยได้หรื อไม่”
เยว่อิ๋งเมื่ อเห็ นว่าจู่ ๆ พระสนมของตนก็มีท่าที เปลี่ ยนไป ตั้งตัวไม่ทัน
เล็กน้อย “อะ เอ๋ …เพคะ” แต่ทนั ที่ รับฟั งคาขอจากพระสนมเบื้องหน้าแล้ว สี หน้า
ของนางก็ตอ้ งดูตกใจมากกว่าเดิม

ผ่านไปไม่ถึงชั่วยามหลังจากเหยียนหยินสั่งเยว่อิ๋งให้ไปเตรี ยมบางสิ่ ง
ให้กบั ตน ตอนนี้ เหยียนหยินจึงกาลังอยู่ในชุดคลุมเพื่อเตรี ยมจะอาบน้ า ขณะมอง
อ่างน้ าที่มีกลีบดอกไม้มากมายเบื้องหน้าอยู่ ส่วนเยว่อิ๋งเมื่อช่วยนางถอดชุดคลุมออก
แล้วก็ตอ้ งถามด้วยน้ าเสี ยงลังเลออกมาไม่นอ้ ย “พระสนมน้ าเย็นขนาดนี้จะดีหรื อเพ
คะ ยิง่ อากาศหนาวเช่นนี้ดว้ ยแล้ว…”
“แค่เย็นนิ ดหน่อยเท่านั้น” เหยียนหยินตอบก่อนจะเข้าไปนัง่ แช่ในอ่างน้ า
นั้นอย่างไม่ลงั เล จริ ง ๆ น้ าก็ไม่ได้เย็นมาก เพียงแค่ไม่ได้อุ่นพอที่จะให้ความอบอุ่น
กับร่ างกายในฤดูหนาวเช่นนี้ เท่านั้นเอง ไม่นานนักเหยียนหยินก็ค่อย ๆ หลับตาลง
เพื่อแช่น้ าอย่างสบายอารมณ์ต่อไป
เยว่อิ๋งเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ตอ้ งถามอย่างไม่เข้าใจขึ้นมา “พระสนมตั้งใจจะทา
สิ่ งใดเพคะ”

310
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ก่อนที่ เหยียนหยินจะตอบกลับไปว่า “ข้ากาลังหาทางป้ องกันตนเองอยู่


แล้วก็ทาให้ใครบางคนไม่เดือดร้อนไปด้วยเท่านั้น”
พูดจบนางก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะสั่งนางกานัลคนสนิทข้าง
กายตน “ข้าอยากผ่อนคลายความเมื่อยล้าในตัวเท่านั้น ให้ขา้ ได้แช่น้ าสบาย ๆ เช่นนี้
อีกสักนิดก็พอ”
ได้ยินเช่นนั้น เยว่อิ๋งก็ได้แต่ยืนเฝ้าอยูเ่ งียบ ๆโดยไม่กล้าเอ่ยสิ่ งใด จนเวลา
ล่วงผ่านไปเกือบครึ่ งชัว่ ยาม จึงต้องถามพระสนมของตนที่ยงั คงหลับตาพริ้ มนอน
แช่น้ าออกไปด้วยความเป็ นห่ วงอีกครั้งนัน่ เอง “พระสนมทรงแช่น้ านานเกิ นไปรึ
เปล่าเพคะ”
เหยียนหยินเมื่อได้ยนิ เช่นนั้นก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะรู ้สึกวิงเวียนจน
ต้องเรี ยกเยว่อิ๋งออกไป “พยุงข้าออกไปที…”
พอเห็นเยว่อิ๋งมีสีหน้ามึนงงเล็กน้อย จึงต้องพูดออกไปว่า “ข้าแค่รู้สึกหน้า
มืดขึ้นมา” ได้ยินเช่นนั้นเยว่อิ๋งก็ตอ้ งพูดเสี ยงดุออกมาแทน “เห็นไหมเพคะ หม่อม
ฉันบอกไปแล้วว่าทรงแช่น้ านานเกินไป”
โดนนางกานัลคนสนิทของตนดุเช่นนี้ ทาให้เหยียนหยินอดหัวเราะน้อย ๆ
ออกมาไม่ได้ ก่อนจะสัง่ อีกฝ่ ายออกไปว่า “เจ้าไปเรี ยกหมอหลวงมาที”
แต่พอเห็ นอีกฝ่ ายหันมามองด้วยสี หน้ามึนงงมากกว่าเดิ มแล้ว ก็พูดเสี ยง
กาชับอย่างจริ งจังกลับไปอีกครั้ง “บอกว่าข้าโดนอากาศเย็นมากเกิ นไปจึงรู ้สึกไม่
ค่อยดี อยากให้ลองมาตรวจดูเข้าใจรึ ไม่”
นั่นทาให้เยว่อิ๋งที่ เดิ มที คิดตามไม่ทนั นั้นพอจะเริ่ มเข้าใจขึ้นมาบ้าง เมื่อ
เห็นพระสนมเบื้องหน้าจงใจสัง่ ให้ตนไปทางานนี้ดว้ ยตนเอง

311
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

พอเห็ นเยว่อิ๋งมีสีหน้าเข้าใจ เหยียนหยินก็ยิ้มขึ้นน้อย ๆ แล้วจึ งสั่งต่อไป


“เจ้าไปตามหมอหลวง แล้วก็ให้คนอื่นเข้ามาช่วยข้าแต่งตัวแล้วกัน”
“เข้าใจแล้วเพคะ” เยว่อิ๋งตอบรับก่อนจะเดินออกจากตาหนัก ทาให้เหยียน
หยินที่อยูใ่ นชุดคลุมผืนบางขณะนัง่ รออยูใ่ นห้องของตนนั้นต้องครุ่ นคิดออกไปว่า
นางแช่ น้ า นานพอที่ จ ะท าให้ แ ผนการของตนส าเร็ จ หรื อ ไม่ หรื อ ควรจะท าให้
มากกว่านี้เพื่อให้ดูสมจริ งมากกว่าเดิมกัน คิดได้ไม่ทนั ไรเหล่านางกานัลก็เข้ามาช่วย
นางแต่งตัวตามคาสัง่ ที่ฝากเยว่อิ๋งบอกไปเสี ยแล้ว
ทันทีที่เยว่อิ๋งกลับมาจากการไปตามหมอหลวงด้วยตนเองนั้น เหยียนหยิน
ก็แต่งตัวเสร็ จไปนานแล้ว ยามนี้นางจึงกาลังนัง่ มองบรรยากาศภายนอกข้างหน้าต่าง
ที่ถูกเปิ ดแง้มไว้เล็กน้อย
เหยีย นหยินหันมามองผูม้ าใหม่ ไ ด้ไ ม่ น าน เสี ย งต าหนิ ข องเยว่อิ๋ งก็ดัง
ขึ้นมาตาม “พระสนมเหตุใดจึงยังมานัง่ เล่นอยูข่ า้ งหน้าต่างเช่นนี้เพคะ”
ท่าทางตาหนิ อย่างเห็นได้ชดั นั้นทาให้เหยียนหยินต้องถอนหายใจน้อย ๆ
ตอบกลับไปว่า “ข้าไม่มีอะไรทา เลยอยากมองบรรยากาศรอบด้านเท่านั้น”
เยว่อิ๋งได้ยินเช่นนั้นก็รีบร้อนหันมาเร่ งหมอหลวงทันที “ท่านหมอหลวง
รี บ ตรวจอาการพระสนมเถิ ด ” ทั้ง ยัง รี บ เดิ น ไปปิ ดหน้า ต่ า งที่ นาอากาศเย็น จาก
ภายนอกเข้ามาลง พร้อมกับบ่นเบา ๆ
ฝ่ ายหมอหลวงเมื่อเห็ นสถานการณ์เบื้องหน้า ก็อดที่ จะวิเคราะห์ออกมา
ไม่ได้วา่ พระสนมเบื้องหน้าก็ดูจะเป็ นคนดื้อรั้นนิด ๆอยูไ่ ม่นอ้ ย จึงไม่น่าแปลกที่จะ
ตากไอเย็นจนหน้ามื ดแล้วไปเรี ยกเขามาเช่ นนี้ จนกระทั่งหมอหลวงตรวจเสร็ จ
เยว่อิ๋งก็รีบถามขึ้นมาอีกครั้ง “ท่านหมอหลวงพระสนมเป็ นเช่นไรบ้าง”

312
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ได้ยนิ เช่นนั้นหมอหลวงก็ได้แต่ถอนหายใจ พลางพูดว่า “เหยียนเฟยรับไอ


เย็นมากเกินไป ช่วงนี้ ควรจะพักผ่อนแล้วก็อย่าออกไปโดนอากาศด้านนอกมาก ข้า
จะสั่งยาที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย” พูดจบยังส่ ายหัวไปมาอย่างจนใจ เอ่ย
เตื อนพระสนมเบื้ องหน้าตน “เหยียนเฟยควรจะฟั งคาพูดของนางกานัลให้ม าก
ร่ างกายของเหยียนเฟยค่อนข้างอ่อนแอ ทรงมิควรจะตากอากาศเย็นมากจนเกินไป
เช่นนี้จริ ง ๆ”
คาพูดที่ได้ยนิ ทาให้เหยียนหยินได้แต่ยมิ้ เบาบาง “ขอบคุณท่านหมอหลวง
ครั้งนี้ลาบากท่านแล้ว”
หลังจากนั้นก็ให้คนไปส่ งหมอหลวงกลับไป พอทั้งห้องกลับไปเหลื อ
เพียงนางกับเยว่อิ๋งเช่นเดิมอีกครั้ง เยว่อิ๋งก็ถามอย่างเสี ยงเบาด้วยกลัวใครจะได้ยิน
“พระสนมจะไม่ทาเกินไปหน่อยเหรอเพคะ ถึงกับต้องทรงทาร้ายตนเองเช่นนี้ …”
เหยียนหยินเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ ายรู ้แล้วว่าตนจงใจแกล้ งป่ วย จึงพูดอย่างจนใจ
ออกมาว่า “ไม่อย่างนั้นคนเหล่านั้นจะเชื่อจริ ง ๆ ได้อย่างไรเล่า”
ใช่แล้ว…สาเหตุที่นางจงใจทาให้ตนเองเหมือนป่ วยเช่นนี้ ก็เพื่อหลีกเลี่ยง
ไม่ให้ฮ่องเต้มาหา และหลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอ้ งไปงานเลี้ยงต้อนรับซึ่งน่าจะเป็ นสาเหตุ
ที่เขามาหานางและพยายามทาให้นางหมดแรงเสี ยให้ได้อยูท่ ุกคืนนัน่ เอง แม้จะไม่รู้
ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงไม่อยากให้นางไปงานเลี้ยงนั้นก็ตาม อต่ในเมื่อเขาตั้งใจมาหา
นางติด ๆ กันจนยอมให้ตนเองเกิดข่าวลือเสี ยหายตามมาเช่นนี้ จะให้นางปล่อยให้
เขาทาเช่นนั้นต่อไปได้อย่างไรเล่า สุดท้ายจึงได้ตดั สิ นใจแกล้งป่ วยเสี ยเลย

313
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้ าสเน่ห์

หลังจากหมอหลวงจากไปไม่ถึงครึ่ งชัว่ ยาม แขกที่เหยียนหยินคิดไว้แล้ว


ว่าจะต้องมา ก็เดินเข้ามาในตาหนักด้วยสี หน้าเป็ นห่ วงเป็ นใย “เหยียนเฟยเป็ นเช่น
ไรบ้าง” นัน่ คือคาถามแรกจากฮุ่ยกุย้ เฟยที่ดูเร่ งร้อนมาด้วยความจริ งใจยิง่ นัก
“ข้าได้ข่าวว่าเจ้าไม่สบายเท่าใด”
พอเห็นสี หน้าลองเชิงถามของฮุ่ยกุย้ เฟยแล้ว เหยียนหยินที่นงั่ พักอยูท่ ้ งั ยัง
มีผา้ คลุมผืนใหญ่หลายผืนห่มคลุมไว้ ก็ตอบกลับไปด้วยเสี ยงที่บางเบาว่า “เพียงแค่
โดนไอเย็นมากไปเท่านั้น หมอหลวงบอกว่าให้หลีกเลี่ยงการโดนอากาศด้านนอกเพ
คะ…”
ฮุ่ยกุย้ เฟยได้ยินเช่นนั้นก็รีบยิม้ ยินดีออกมา ก่อนจะกล่าวให้กาลังใจ “ยังดี
ที่ไม่ได้หนักหนาเท่าไร เพียงแค่พกั ผ่อนกินยาให้มาก ๆ เจ้าก็คงจะหายดีได้เป็ นแน่”
แต่เหยียนหยินก็ทอดถอนใจออกมาเสี ยก่อนว่า “ต่อให้ยาจะดีแค่ไหนก็คงจะมิได้
หายในเร็ ววันเป็ นแน่เพคะ ถึงอย่างไรนี่ก็ยงั เป็ นหน้าหนาวที่มีหิมะปกคลุมไม่นอ้ ย”
คาพูดของเหยียนหยินนั้น ทาให้ฮุ่ยกุย้ เฟยเริ่ มจะเข้าใจเจตนาของนางได้
ในทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของนางจึ งแข็งค้างไป สุ ดท้ายก็ได้แต่พูดอย่างเข้าอก
เข้าใจออกมา “ในเมื่ออาการเจ้าไม่ดีเช่นนี้ ก็พกั ผ่อนอยู่ที่นี่ก็แล้วกันเรื่ องงานเลี้ยง
คืนพรุ่ งนี้ก็ปล่อยไปก่อนเถอะ ข้าจะอธิบายกับฝ่ าบาทให้เอง”
หลังจากนั้นฮุ่ยกุย้ เฟยก็มิได้อยูพ่ ดู คุยต่อ เพียงแค่บอกลากลับไปโดยอ้างว่า
มีงานที่ตอ้ งเตรี ยมอีกมาก เห็นเช่นนั้นเหยียนหยินก็พอจะโล่งใจขึ้นมาบ้าง ไม่นาน
นักเสี ยงของเยว่อิ๋งก็ดงั ขึ้นมาแทน “พระสนมแล้วที่ฝ่าบาทจะมาคืนนี้…”

314
เล่ห์ลวงรักจักรพรรดิเจ้าสเน่ห์

ได้ยินเท่านั้นเหยียนหยินก็ครุ่ นคิดเล็กน้อย ก่ อนจะตอบกลับเสี ยงเรี ยบ


“ส่ งคนไปบอกกัว๋ กงกงว่าข้าไม่สะดวกให้ฝ่าบาทมา เพราะเกรงว่าพระองค์จะติด
หวัดเอาได้”
ถึงแม้ฮุ่ยกุย้ เฟยบอกว่าจะบอกฮ่องเต้ให้ แต่นางก็คิดว่าส่ งคนของตนไป
บอกด้วยจะดีกว่า เผื่อว่าอีกฝ่ ายเปลี่ยนแปลงคาพูดจนความหมายผิดแผกไปจะได้ไม่
เกิดเรื่ องขึ้น
แม้เยว่อิ๋งพอจะเข้าใจในความคิดของพระสนมตนแล้วก็ยงั อดถามออกไป
ไม่ได้วา่ “ทาเช่นนี้ จะไม่เป็ นอะไรจริ ง ๆ หรื อเพคะ” ก่อนที่เหยียนหยินจะยิม้ น้อย
ๆ ให้กบั คาถามที่ได้ยนิ นั้น แล้วตอบอย่างชัดถ้อยชัดคาด้วยเสี ยงอันบางเบา
“เจ้าส่งคนไปบอกเถอะ ฝ่ าบาทจะเข้าใจในสิ่ งที่ขา้ ทาเอง”

***************************************

315

You might also like