You are on page 1of 1372

เฉินเหวินเค่อ คือองค์ชายใหญ่แห่งแผ่นดินเสวียน

เฉิน
อายุสิบแปด จับดาบกรีฑาทัพ ปราบปรามความ
วุ่นวายนอกด่าน
อายุยสิี บ ฟาดฟั นสิบห้ ากองโจร ย้ อมแม่นําลัวเป็ น
สีชาดจนได้ รับสมญานามว่า 'แม่ทัพเลือด'

ป่ าเถือน ไร้ เมตตา อํามหิตผิดมนุษย์ คือคํากล่าว


ขวัญทีได้ ยินจนชินหู
แล้ วเหตุใดครังนีเขาทีทําคุณงามความดีพิทักษ์ชาย
แดนตะวันออกตลอดสิบปี เต็ม ถึงได้ รับรางวัลพระ
ราชทานเป็ นการเตะก้ นให้ ไปอยู่ร่วมจวนกับ เฉิน
อังหวาง ทีผู้คนรําลือกันว่างามเลิศลําดุจเทพธิดา
ฉางเอ๋อ

1
ต้ องไปเรียกเด็กอายุน้อยกว่าตังสิบปี ว่าอาจารย์
มารดามันเถอะ!
ต้ องจําใจส่งตัวเองถวายพานแต่งเป็ นหวางเฟยให้
มันอีก มารดามันเถอะ!
อะไรนะ?! เขาต้ องอยู่ล่าง มารดามันเถอะ!!

"เฉินลู่ปิน แล้ วเจ้ ากับข้ าจะได้ เห็นดีกัน"

ตอนที ๑ รางวัลพระราชทาน

2
ม้าขนโลหิตห้อตะบึงผ่านผูใ้ ด ผูน้ นเป็
ั นร่างไร้วิญญาณ
บุรุษกํายําในชุดเกราะถูกย้อมไปด้วยสีแดงชาดของ
โลหิตเหวียงทวนในมือบังเกิดเสียงศาสตราแกร่งกล้าตัด
ผ่านอากาศ

กลินดินปื นกํามะถัน และควันไฟช่างหอมหวานจนบาด


จมูก

“วะ...ไว้ชีวิตด้วยนายท่าน ไว้ชีวิตด้วย!”

‘แม่ทพั เลือด’ เพียงปรายตายิมเยาะ สิงสุดท้ายทีผู้


บุกรุกนอกด่านเห็นคือภาพคมทวนร่ายรําดุดนั ท้องฟ้า
กว้างทีย้อมไปด้วยสีแดงของฟื นไฟ และสีหน้าอํามหิต

3
ของแม่ทพั พิทกั ษ์ชายแดนไร้พา่ ยทางทิศตะวันออก ‘เฉิน
เหวินเค่อ’ แม่ทพั เลือดผูไ้ ร้ปรานี

“องค์ชาย ท่านไม่คิดจะจับเป็ นเพือเค้นความสักหน่อย


หรือ”

เฉินเหวินเค่อแค่นเสียง “หึ!” ชายหนุ่มพิจารณาศีรษะใน


มือชัวครู ่ ก่อนจะโยนไปให้กนุ ซือคนสนิทอย่างไม่ไยดี

“ส่งม้าเร็วไปหาเสด็จพ่อ รายงานว่าข้าปราบผูบ้ กุ รุกจาก


เก๋อหลันได้หมดแล้ว” นิวชีไปทีศีรษะทีพึงถูกตัด “ส่งมัน
ไปด้วย”

4
ทหารผูร้ บั หน้าทีส่งรายงานรับม้วนกระดาษมาใส่ไว้ใต้
อกเสือ เหลือบมองไปทางท่านแม่ทพั ก็เห็นเชลยถูกต้อน
เข้ามาคุกเข่าอยูเ่ บืองหน้า

เผ่าเก๋อหลันเป็ นพวกเร่รอ่ น เชียวชาญศึกบนหลังม้า


เก่งกาจด้านยุทธศาสตร์ทางทะเลทรายและทุง่ หญ้า
พวกมันบุกรุกสร้างความเสียหายให้ชายแดนตะวันออก
ของแผ่นดินเสวียนเฉินมานานหลายปี

เดิมทีการกระทบกระทังทางฝังชายแดนเปรียบเสมือน
การรบประจําฤดูกาล แต่ละฝ่ ายต่างลองหยังเชิง และใช่
ว่าเผ่านอกด่านทุกเผ่าจะหัวรุนแรง มิยอมอยูอ่ ย่างสงบ
สุข

5
อย่างไรก็ตามในทีสุดวันนีผูน้ าํ ของชนเผ่าเก๋อหลันถูก
สะบันศีรษะด้วยสภาพน่าสังเวช

หญิงงามชนเผ่าเร่รอ่ นงดงามต่างจากชาวแผ่นดินใหญ่
พวกนางขีม้ายิงธนูเป็ น ผิวพรรณไม่ขาวใสนวลเนียนดุจ
นํานม แต่ก็คมเข้มดูเร่าร้อนอยูไ่ ม่เบา ส่วนชายงามของ
พวกเร่รอ่ นก็ออกจะหายากสักหน่อย

จะมีอะไรหอมหวานไปกว่าฉลองชัยชนะด้วยการดืมสุรา
เคล้าบุรุษและนารี

เฉินเหวินเค่อกระโดดลงจากหลังม้า ใช้ปลายทวนเชย

6
คางเด็กหนุ่มผูห้ นึงขึนมา เป็ นบุตรชายหัวแก้วหัวแหวน
ของผูน้ าํ เผ่านันเอง

“คนนีของข้า ทีเหลือจะเอาไปทําอะไรก็เชิญ”

ทหารชายแดนเป็ นพวกป่ าเถือน ยิงมีเจ้านายอํามหิต ไม่


สมกับเป็ นเชือพระวงศ์ก็ยงโหดเหี
ิ ยมเกินกว่ากองทัพทุก
ทัพในแผ่นดิน

เด็กหนุ่มถ่มนําลายพูดเสียงกร้าว “ถุด! อย่ามาแตะข้าไอ้


คนสถุน”

เด็กหนุ่มชนเผ่านอกด่านผูน้ ีไม่อยากมีชีวิตอยูห่ รือไร....


7
พืนทีทีเคยเอ็ดตะโรด้วยเสียงคมดาบ สรรพสิงรอบกาย
พลันเงียบกริบราวกับสุสานร้าง

เฉินเหวินเค่อปาดนําลายสกปรกตรงข้างแก้มออกช้าๆ
แต่เพราะเลือดทียังไม่แห้งทําให้ซีกหน้าดุดนั ดูน่าหวาด
ผวาราวกับปี ศาจทีตะกายขึนมาจากนรก

แม่ทพั เลือดกระชากเด็กหนุ่มผูน้ นเข้


ั ามาหา เขาลูบไล้
บนข้างแก้มเปื อนเขม่าควันแผ่วเบา

“น่าเสียดาย”

ฉับ!
8
ฝนโลหิตพร่างพรมลงมาจากนําพุทีไหลบ่าจากลําคอไร้
ศีรษะ เฉินเหวินเค่อโยนศีรษะไปยังม้าเร็วทียังหยุดยืน
มองสถานการณ์อยู่

“เอามันไปอีกหัว บอกเสด็จพ่อว่าข้ายกให้”

ทหารหนุ่มรับบัญชา ควบม้าไปด้วยอารามรีบร้อน กลัว


ว่าถ้าตนไม่เร็วพอ ท่านแม่ทพั อาจจะขว้างทวนยาวใน
มือมาเป็ นของขวัญอีกชิน

9
.

จักรพรรดิพบั รายงานจากทางกองทัพชายแดนตะวัน
ออก ฟั งเหล่าขุนนางในท้องพระโรงทุม่ เถียงกันถึง
‘วีรกรรม’ ขององค์ชายใหญ่ครังล่าสุด

“ฝ่ าบาท จะปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้วนะพ่ะย่ะค่ะ พวกชน


เผ่านอกด่านรุกรานเราได้ทกุ ปี สินเปลืองงบหลวงไปตัง
เท่าไร มีหรือจะไม่มีคนอยูเ่ บืองหลัง แต่นีองค์ชายใหญ่
10
กลับไม่เคยสอบสวนอะไรเป็ นเรืองเป็ นราว สังหารทิงเสีย
หมด หลายปี มานีจับไม่ได้แม้กระทังเงา คราวนีพวกเก๋
อหลันก็ไม่คิดจะสืบหาเบืองลึกเบืองหลัง สูญเปล่า สูญ
เปล่าจริงๆ”

ขุนนางผูห้ นึงพูดหน้าดําหน้าแดง พวกตนอดทนมามาก


องค์ชายใหญ่เป็ นโอรสองค์โปรดมีมารดาเป็ นสนมขัน
เฟย ฐานะสกุลเดิมไม่ธรรมดา ทําให้พระองค์ทงหยิ
ั ง
ทะนง ฝี ปากใบมีดโกนไม่เคยไว้หน้าผูใ้ ด แถมนิสยั ยังป่ า
เถือนสินดี!

อายุสามสิบเคยแต่งหวางเฟย[1]ไปแล้วสามครัง หย่า
ขาดไปสองกระทืบจนปางตายอีกหนึง

11
ขุนนางในราชสํานักต่างเคียดแค้นแทบกระอักเลือด
ขนาดเจ้าตัวประจําอยูช่ ายแดนตลอดแต่ก็ยงั มิวายหา
เรืองมาให้พวกตนปวดศีรษะ

“ชือเสียงขององค์ชายใหญ่ขจรไกลไปถึงต่างแดน นิสยั
ของพระองค์ทาํ ให้ผคู้ นในแผ่นดินเสวียนเฉินพลอยโดน
เหมารวมว่าเป็ นพวกป่ าเถือนไร้อารยะ ฝ่ าบาทจะทรง
ละเลยเหมือนครังก่อน ๆ ไม่ได้แล้วนะพ่ะย่ะค่ะ”

จักรพรรดิถอนหายใจ สายพระเนตรปรากฏร่องรอย
ความเหนือยหน่าย

12
ตลอดเวลาเขาหลับตาข้างลืมตาข้างเรืองพระโอรสคนโต
คนนีมาโดยตลอด ด้วยเพราะเป็ นโอรสคนแรกทังยังเกิด
จากสนมยศสูง สกุลเดิมมีหน้ามีตาในราชสํานัก ชือเสียง
แม่ทพั เลือดต่างเป็ นทีกล่าวขวัญ เป็ นกองทัพไร้พา่ ย

เสียอยูท่ ีเฉินเหวินเค่อจงใจไม่สืบสาวเรืองราวเบืองลึก
เบืองหลังของพวกนอกด่านเลยสักครัง มันใจว่าตนเอง
จะไม่มีวนั เพลียงพลําหรือว่ามีเหตุผลใดซุกซ่อนอยูเ่ บือง
หลังกันแน่ เพียงแต่ในสายตาของเหล่าขุนนางชะรอย
จะคิดว่าเป็ นวิถีของคนป่ าเถือนเสียมากกว่า ซึงผลของ
การกระทํานันไม่ใช่เรืองทีน่ายกย่องสักเท่าใดนัก

เห็นทีครานีจะทําเมินเฉยแบบครังก่อนๆ มิได้เสียแล้ว

13
“ฝ่ าบาท...”

จักรพรรดิโบกพระหัตถ์ ใบหน้าฉายแววครุน่ คิด “ส่งม้า


เร็วกลับไป เรียกองค์ชายใหญ่มาพบเรา”

14
.

กลินหอมของดอกไม้และอากาศบริสทุ ธิไม่ใช่สงที
ิ เขาคุน้
ชิน เฉินเหวินเค่อไม่ได้กลับมาเหยียบเมืองหลวงมานาน
ต้นท้อข้างกําแพงวังทางประตูใต้จากทีสูงแค่เอวบัดนี
ออกดอกผลไปกีรอบแล้วก็มิรู ้

พระบิดาไม่เคยเรียกเขากลับวังหลวงหากไม่มีเรืองด่วน
จริงๆ หรือไม่ก็จะพระราชทานรางวัลใหญ่ให้

ข่าวคราวทีเขาทราบมา บ้านเมืองสงบสุข ชายแดนยัง


15
เฝ้าระวังท่าที เขาคิดว่าทีโดนเรียกตัวคงเป็ นเหตุผลในข้อ
หลังเสียมากกว่า

จะว่าไปของรางวัลพระราชทานคราวก่อนๆ ก็มีแต่สมรส
พระราชทานทังนัน เหล่าอดีตหวางเฟยของเขานิสยั น่า
รําคาญ สองคนแรกจึงหย่าขาดไป ส่วนคนล่าสุดเจ้ากี
เจ้าการมากเกิน พยายามขัดขวางไม่ให้เขากลับไป
ประจําชายแดน เขาเลยใช้สน้ เท้าสังสอนไปสักยก ใคร
มันจะไปคิดว่าคุณชายตระกูลนักรบผูห้ นึงจะทนไม่ไหว

เฉินเหวินเค่อเดินทางมาทังชุดเกราะเปื อนคราบเลือดทัง
ตัว รับสังของจักรพรรดิจะมัวมาอิดออดรักความสะอาด
ล้วนทําให้ลา่ ช้าเสียเวลา เขาเป็ นโอรสทีดีก็ควรรีบมา
โดยเร็วจริงหรือไม่
16
“ถวายพระพรเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ”

ภายในห้องทรงพระอักษร จักรพรรดิยกมือกุมขมับยาม
ทอดสายตามองพระโอรส กลินเลือดทีติดกายช่างชวน
ให้ปวดเศียรเวียนเกล้า

“ลูกเค่อ”

เฉินเหวินเค่อยืนรออยูน่ านกว่าพระบิดาจะตัดสินใจตรัส
ถึงเหตุผลทีเรียกเขากลับมา

“เรืองชายแดนตอนนีปล่อยให้รองแม่ทพั ดูแลแทนไป
17
ก่อน ส่วนเจ้า...เราจะส่งเจ้าไปอยูท่ ีจวนเฉินอันหวาง[2]
ทีฉางซี”

เฉินเหวินเค่อยังจับต้นชนปลายไม่ถกู กลับมาคราวนีมิ
ใช่จะมอบรางวัลใหญ่ให้เขาหรอกหรือ ทําไมถึงส่งเขาไป
ฉางซี?

แล้วไอ้เฉินอันหวางนีมันใคร...ชือคุน้ หูนกั แต่นกึ ไม่ออก

“เราไม่สามารถปล่อยวางเรืองภาพลักษณ์ของเจ้าได้อีก
แล้ว เฉินอันหวางมีชือเสียงด้านจริยธรรมคุณธรรมสูงส่ง
เป็ นยอดนักปราชญ์ ทังยังเชียวชาญศิลปะทังสี[3] เรา
หวังว่าเขาจะช่วยขัดเกลาเจ้าได้”

18
“ช้าก่อนเสด็จพ่อ!”

จักรพรรดิโบกมือปฏิเสธ เรียกให้ขนั ทีขา้ งพระวรกายก้าว


เท้าขึนมาประกาศราชโองการอันเป็ นการบังคับ ไม่ให้
องค์ชายใหญ่ปฏิเสธได้แม้เพียงครึงคํา

“องค์ชายใหญ่แห่งแผ่นดินเสวียนเฉินมีนิสยั ป่ าเถือน
โหดร้าย ไร้เมตตาคุณธรรม ไม่เหมาะสมกับการเป็ นเชือ
พระวงศ์ เราขอถอดยศ ‘หวาง’ พร้อมราชทินนาม ‘เว่ย’
และขอสังให้องค์ชายใหญ่ฝากฝังตัวเป็ นศิษย์ของเฉิน
อันหวางเจ้าเมืองฉางซี ให้อบรมสังสอนองค์ชายใหญ่ให้
เป็ นผูม้ ีคณ
ุ ธรรม ขัดเกลาให้มีภาพลักษณ์ทีเหมาะสม
จนกว่าเฉินอันหวางจะยอมรับองค์ชายใหญ่เป็ นศิษย์
19
องค์ชายใหญ่จงึ สามารถกลับมาดํารงยศหวาง และกลับ
ไปเป็ นแม่ทพั ประจําชายแดนตะวันออกได้ดงั เดิม”

“เสด็จพ่อทํากับลูกอย่างนีไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”

“องค์ชายใหญ่โปรดรับราชโองการพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีผู้
ประกาศราชโองการเอ่ยเตือน

เฉินเหวินเค่อโกรธจนตัวสัน แต่ไม่วา่ จะส่งสายตาคาด


คันอย่างไรพระบิดาก็ไม่ตรัสสิงใดเพิมอีก เขาเป็ นพระ
โอรสคนโต จับดาบฟาดฟั นกบฎเพือแผ่นดิน ปกป้อง
ชายแดนจากผูร้ ุกรานมาร่วมสิบปี นีคือสิงทีเขาได้รบั
หลังจากการรีบเร่งเดินทางมาทีวังหลวงหรือ

20
นอกจากอาจารย์ผสู้ อนวิชาดาบ ระบําทวนและสามสิบ
หกกลยุทธซุนจือ[4]ให้เขาแล้ว เฉินเหวินเค่อมิยินยอม
กราบไหว้ผใู้ ดเป็ นอาจารย์อีก

เฉินอันหวางมีคณ
ุ ธรรมสูงส่ง ถุย! คอยดูเถิดเขาจะทําให้
ไอ้ลกู เต่านันคลานเข่ามาขอเขาเป็ นลูกศิษย์ให้ดู

“ลูกน้อมรับราชโองการ ขอฝ่ าบาททรงพระเจริญหมืนปี


หมืน ๆ ปี ”

เฉินเหวินเค่อผุดกายลุกขึน กล่าวขอตัวเสียงกระด้าง
ก่อนจะเดินออกไปพร้อมประตูหอ้ งทรงพระอักษรทีหัก

21
เป็ นสองท่อน

ปล.เรืองนีไม่ได้อิงจีนสมัยได้ทงสิ
ั น แหล่งข้อมูลส่วน
ใหญ่จะปะปนหลายแห่งหลายสมัยและหลายราชวงศ์

22
ข้อมูลเพิมเติม

[1]หวางเฟย (王妃) ตําแหน่งพระชายาเอกในหวา


ง ซึงตําแหน่งนีผูเ้ ป็ นหวางสามารถแต่งตังได้คนเดียว
ส่วนพระชายาเอกในซือหวาง จะมีตาํ แหน่งเป็ นซือหวา
งเฟย (嗣王妃)

[2] หวาง (王) หรือรูจ้ กั กันในชือตําแหน่ง "อ๋อง" ขัน 1


ชันเอก ผูท้ ีจะได้รบั ตําแหน่งอ๋องโดยมากเป็ นพระโอรส
พระเชษฐา หรือพระอนุชาในองค์จกั รพรรดิ โดยพระ
โอรสผูส้ ืบทอดในอ๋องจะมีตาํ แหน่งเป็ น ซือหวาง หรือซือ
อ๋อง (嗣王) ขัน 1 ชันรอง และสามารถสืบทอดผ่าน

23
ลูกหลานได้เรือยๆ ในสมัยราชวงศ์ถงั องค์ชายผูไ้ ด้รบั
ตําแหน่งอ๋องบางพระองค์ อาจมีอาํ นาจในการปกครอง
บริหารพืนทีหรือเมืองทีได้รบั มอบหมาย หรืออํานาจทาง
การทหาร แต่ก็มีจาํ นวนน้อย (ต่างจากสมัยราชวงศ์ชิงที
เป็ นตําแหน่งบอกบรรดาศักดิเท่านัน)

[3] ศิลปะทังสี : ศิลปะนันทนาการคลาสสิคทัง 4 ของจีน


นันก็คือ "ฉิน ฉี ซู ฮว่า" มาจาก

1.ฉิน มาจากคําว่า "กู่ฉิน" คือ พิณโบราณมี 7 สาย

2.ฉี มาจากคําว่า "เหวยฉี" ก็คือ "หมากล้อม

24
3.ซู มาจากคําว่า "ซูฝ่า" การเขียนอักษร หรือ การคัด
อักษรจีน

4.ฮว่า คือ ศิละปะการวาดภาพแบบจีน

[4]สามสิบหกกลยุทธซุนจือ / พิชยั สงครามซุนจือ เป็ น


ตํารายุทธศาสตร์การทหารหรือตําราพิชยั สงครามของ
จีน ซึงเขียนขึนเมือราวหกร้อยปี ก่อนคริสตกาลโดยซุน
จือ นักยุทธศาสตร์คนสําคัญในยุคจ้านกว๋อของจีน

25
ตอนที ๒ ศัตรูคอู่ าฆาต

แผ่นดินเสวียนเฉินมีเมืองท่าใหญ่อยูส่ ามเมือง และหนึง


ในเมืองท่าทีมีชือเสียงโด่งดังไกลไปถึงอีกฝากของโพ้น
ทะเลก็คือเมืองท่าฉางซี มีผปู้ กครองเป็ นเชือพระวงศ์มา
26
แล้วสามรุน่ เฉินอันหวางคนปั จจุบนั นับเป็ นรุน่ ทีสี

ความสามารถด้านการปกครองไม่มีผใู้ ดกังขา การ


จัดการทางเศรษฐกิจรุง่ เรือง ประชาชนเป็ นสุข แต่อีกสิง
หนึงทีผูค้ นยกย่องก็คือรูปลักษณ์งดงามนุ่มนวลชวน
ละมุนตาดุจเทพธิดาฉางเอ๋อ ทําให้เฉินอันหวางในวัย
ยีสิบ ตําแหน่งหวางเฟยยังว่างเว้นมีบรุ ุษและสตรีมาก
มายต่างจับจ้องตาเป็ นมัน

ขณะเดียวกันตัวเฉินอันหวางเองก็ถกู หมายปองอยูไ่ ม่
น้อย

แผ่นดินเสวียนเฉินบุรุษเป็ นใหญ่ ยึดติดชนชัน ทว่าการ

27
แต่งงานระหว่างบุรุษด้วยกันหรือการมีนายบําเรอซุกอยู่
ใต้เตียงมิใช่เรืองประหลาด เพียงแต่ธรรมเนียมการแต่ง
งานของบุรุษกับบุรุษจะเกิดขึนกับชนชันสูงมากกว่าชน
ชันล่าง เพราะการตังครรภ์ของบุรุษเพศเป็ นเรืองยาก
และต้องการการดูแลทีละเอียดอ่อน

ชายหนุ่มรูปงามอ่อนวัยอย่างไรก็เป็ นทีต้องตาเป็ นเรือง


ปกติ เฉินเหวินเค่อเอง หากได้เจอเฉินอันหวางผูน้ นใน

สถานการณ์ปกติก็คงจะร่วมชืนชมไปด้วยอีกคน

เสียแต่วา่ ....

เขาองค์ชายใหญ่แห่งแผ่นดินเสวียนเฉิน เป็ นชายชาตรีขี

28
ม้าฆ่าศัตรูตาไม่กะพริบ ชือเสียงชัวช้า ลูกเล็กเด็กแดง
เพียงได้ยินคําว่า ‘แม่ทพั เลือด’ ต่างร้องไห้จา้ วิงไปซุกใต้
กระโปรงมารดากันจ้าละหวัน

ปี นีอายุสามสิบพอดีแต่ตอ้ งไปกราบไหว้ชายหนุ่มหน้า
ละอ่อนเป็ นอาจารย์ บัดซบ! ไอ้ลกู เต่านันอ่อนกว่าเขาตัง
สิบปี แค่ขอ้ นีก็ขายขีหน้าจะแย่แล้ว

หลังจากนังนึกอยูน่ าน เขาก็รูแ้ ล้วว่าทําไมไอ้ชือเฉินอัน


หวางเหตุใดจึงคุน้ หูนกั ในทําเนียบพระญาติเชือพระวงศ์
สายรอง ถ้าถามว่าจวนหวางใดโดดเด่นมีชือเสียงและ
เกียรติยศทัดเทียมสายหลัก ชือแรกทังในสมุดทําเนียบ
และชือทีเด้งเข้ามาในหัวย่อมเป็ น ‘จวนเฉินอัน’ ผู้
ปกครองเมืองท่าฉางซี
29
อีกฝ่ ายเป็ นญาติเขา เป็ นเชือพระวงศ์สายรอง แม้จะ
ดํารงยศหวางเช่นเดียวกัน แต่บรรดาศักดิไม่เทียบเท่า

ตัวเขาเฉินเหวินเค่อมีบิดาเป็ นถึงจักรพรรดิฝไู ฉผูย้ งใหญ่



แห่งแผ่นดินเสวียนเฉิน มีมารดาเป็ นสนมขันเฟย แม้
จักรพรรดิไม่ถงึ กับทรงโปรด แต่ก็ทรงถนอม เกิดมาเป็ น
‘องค์ชาย’ ได้รบั วาสนายิงใหญ่โดยไม่ตอ้ งพยายาม

ส่วนเฉินอันหวางมีชือจริงว่า ‘เฉินลูป่ ิ น’ แม้แซ่เฉิน แต่ก็


เป็ นแค่องค์ชายแห่งจวนหวาง ผูค้ นเรียกขานอย่างมากก็
แค่ ‘ท่านชาย’ แต่ไม่มีวนั เป็ น ‘องค์ชาย’

30
เขานันสูงศักดิกว่าแต่ตอ้ งไปก้มหัวให้ แค่คิดก็กระอัก
เลือดออกมากองหนึงแล้ว!

เพล้ง!

ถ้วยชาบนโต๊ะไม้เนือดีตา่ งถูกกวาดตกไปยกแผง แต่


เพียงกระเบืองเคลือบไม่กีชินแตกไม่อาจดับอารมณ์
โมโหร้ายของเขาได้ ดังนันไม่กีอึดใจโต๊ะไม้เบืองหน้าก็
ถูกฝ่ ามือกร้านทุบลงไปจนพังทลายลงไปกองกับพืน

ข้ารับใช้ประจําจวนเว่ยหวางได้แต่ยืนแข็งทําอะไรไม่ถกู
ปกติองค์ชายใหญ่ประจําอยูช่ ายแดนตลอด จวน
เว่ยหวางจึงเงียบเหงาราวกับจวนร้างเลยทีเดียว

31
การกลับมาเมืองหลวงครังนีองค์ชายกลับมาเพียงลําพัง
การศึกชายแดนกับเผ่าเก๋อหลันพึงเสร็จสิน ไม่มีพวก
นอกด่านคนไหนกล้าก่อเรืองในช่วงนี แต่การเฝ้าระวังก็
ไม่อาจนิงนอนใจ ทังทหารคนสนิทและกุนซือคูใ่ จต่างก็
ต้องประจําการอยูท่ ีชายแดนตะวันออก

ณ เวลานีไม่มีใครทีสามารถดับอารมณ์รา้ ยของนาย
เหนือหัวได้ แถมจิตสังหารทีแผ่ออกมาจนขนหัวลุก ทํา
ให้เหล่าข้ารับใช้ทกุ คนพร้อมใจเปลียนตัวเองเป็ นต้นไม้
ฝังรากลงพืน ไม่ยินยอมเป็ นหน่วยกล้าตาย เข้าไปทูลว่า
ถึงเวลาต้องเดินทางไปฉางซีกบั องค์ชายเลยสักคน

32
“เอ๊ะ!”

เฉินเหวินเค่อหงุดหงิดได้ที เห็นอะไรก็ขดั หูขดั ตาไปหมด


ขนาดแค่ได้ยินเสียงอุทานแผ่วเบาจากข้ารับใช้ในจวน
อารมณ์เดือดปุดๆ ก็จวนเจียนจะพุง่ ทะลุเพดานอีกหน
แต่ทงหมดก็
ั ถกู ดับลงได้ในพริบตาราวกับปาฏิหาริย ์

สายตาของเหล่าข้าหลวงทีมีตอ่ ร่างเล็กจ้อยของเด็กชาย
ตัวน้อยปลืมปริมและซาบซึง ราวกับเห็นเทียนจวินเสด็จ
ลงมาจากสวรรค์

“เสด็จพี~”

33
เฉินเหวินเค่ออุม้ เด็กน้อยทีพุง่ เข้ามากอดขึนนังบนแขน
แกร่ง รอยยิมอ่อนโยนอันหาได้ยากยิงจากแม่ทพั เลือด
ทําเอาคนได้พบเห็นถึงกับอ้าปากค้าง ดวงตาพร่าเลือน
ไปชัวครู ่

“ลิงน้อยวันนีโดดเรียนมาหาพีใหญ่อีกแล้วหรือ”

เฉินคุนยูป่ ากยามโดนพีชายหยอกล้อว่าเป็ นลิง “คุนคุ


นไม่ใช่ลงิ น้า~ อ๊ะ! เสด็จพีวางคุนคุนลงเลย คุนคุนกําลัง
โกรธเสด็จพีอยู”่

แก้มยุย้ เวลาแง่งอนกลมเป็ นซาลาเปาน่ารักน่าหยิกเสีย


จริง เฉินเหวินเค่อหัวเราะเสียงดัง ดึงแก้มย้วยเสียจนชํา

34
จึงค่อยถามไถ่วา่ น้องชายแสนซนโกรธตนเรืองอะไร

“เสด็จพีกลับมาจากชายแดนตะวันออกไม่ยอมมาหาคุ
นคุน แถมเสด็จพีโดนเสด็จพ่อลงโทษไปฉางซีก็ไม่ยอม
มาบอกคุนคุนอีก”

“พีใหญ่ผิดไปแล้ว”

เฉินคุนเชิดหน้าไม่ยอมสบตา เฉินเหวินเค่อส่ายหน้า
เหนือยใจ มองไปรอบตัวเห็นสภาพห้องเละเทะก็กลัว
น้องชายทีเอาแต่แง่งอนจะสังเกตเห็น จึงอุม้ เฉินคุนออก
มาเดินเล่นทางสวนด้านนอก

35
“คุนคุนต้องให้พีใหญ่ทาํ อย่างไรจึงจะหายงอนหรือ”

“ไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อกับคุนคุนนะ เดียวคุนคุนจะทูลบอก
ให้เสด็จพ่อยกโทษให้”

เฉินเหวินเค่อยิมพลางส่ายหน้าช้า ๆ “เสด็จพ่อหาได้ลง
โทษพีใหญ่ปากเปล่า คุนคุนน่าจะทราบว่าราชโองการ
จากจักรพรรดิมิอาจปฏิเสธได้”

เฉินคุนหน้าสลด แม้ใจไม่ยินยอม แต่คาํ พูดของเสด็จพี


เป็ นจริงทุกประการ

“พีใหญ่จะกลับมาทีเทียนเฉินไหม”
36
“กลับสิ เพราะฉะนันคุนคุนต้องตังใจเรียน อย่าวิงหนี
ท่านราชครูอีกเข้าใจไหม”

“อือ! ไม่หนีหรอก จักรพรรดิทีดีตอ้ งฉลาด คุนคุนอยาก


เป็ นจักรพรรดิทีดีก็ตอ้ งตังใจเรียน”

เฉินเหวินเค่อลูบศีรษะทุย “ดี”

ความไร้เดียงสาเช่นนีไม่รูว้ า่ จะคงอยูไ่ ด้อีกนานหรือไม่


ตัวเขาเองก็ลืมไปแล้วว่าความคิดทีใสซือบริสทุ ธิของตัว
เองนันเป็ นเช่นไร

37
เฉินคุนแม้เป็ นองค์ชายทีอายุนอ้ ยทีสุด ทว่ากลับมีสทิ ธิ
เป็ นองค์รชั ทายาทมากยิงกว่าผูใ้ ด หลังจากอดีตหวงโฮ่ว
สินพระชนม์ พระบิดาไม่เคยแต่งตังสนมชายาคนใดขึน
มารับตําแหน่งนี มีเพียงกุย้ เฟยเหนียงเหนียงพระมารดา
ของเฉินคุนเท่านันทีมีอาํ นาจมากทีสุดในวังหลัง

แผ่นดินเสวียนเฉินยังพูดได้ไม่เต็มปากว่าสงบสุข ตราบ
ใดทีชายแดนยังอยูใ่ นสภาวะวุน่ วาย ต่างฝ่ ายต่างไม่
ยอมกัน ฝังหนึงถอนกําลังทหารไม่ได้ อีกฝังก็คอยสร้าง
ความปั นป่ วน

แต่ไม่เป็ นไรเขายังมีเวลาอีกมาก กว่าเฉินคุนจะพร้อมขึน


ครองราชย์ก็ตอ้ งใช้เวลาอย่างตําสิบปี ถึงตอนนันน้อง
ชายของเขาก็ไม่ตอ้ งเสียงชีวิตออกรบฟาดฟั นกับใคร
38
หน้าไหนอีกแล้ว

“แม้ไม่อาจรักษาความไร้เดียงสา ก็ขอเพียงไม่ลืมเลือน
ว่าตนเคยไร้เดียงสา”

เฉินเหวินเค่อหัวเราะเสียงแผ่วยามเห็นใบหน้างุนงงของ
น้องชายตัวน้อย

“เมือเจ้าโตขึนก็จะเข้าใจ”

39
.

เมืองท่าฉางซีเป็ นเมืองแหลมทองติดทะเล ทําให้สายลม


ทีพัดผ่านเจือกลินของเกลือสมุทร สําหรับเฉินเหวินเค่อ

40
แล้วออกจะไม่คนุ้ จมูกอยูบ่ า้ ง

สิบปี ทีผ่านมา เขาได้กลินวนอยูไ่ ม่กีกลิน เลือด ควันไฟ


ซากศพ ไม่น่าพิสมัยทว่ากลับคุน้ เคยเสียยิงกว่าอากาศ
บริสทุ ธิ

การมาของเขามาอย่างไม่เป็ นทางการ ไม่มีขบวนเสด็จ


ยิงใหญ่ จะจัดขบวนมาทําไม จัดให้ชาวบ้านมามุงดู
ความอัปยศของเขาหรือ ไม่มีทาง!

ชายหนุ่มรูปร่างกํายําหน้าตาหล่อเหลาขีม้าเข้าเมือง
มากพอให้ผคู้ นเหลียวมองคอแทบหัก แม้จะมิใช่บรุ ุษ
หน้าหยก ผิวพรรณไม่ขาวเนียนดูกร้านแดด แต่ไม่อาจ

41
ปกปิ ดราศีของสายเลือดชนชันสูงและความองอาจของ
เขาได้

เฉินเหวินเค่อพึงมาฉางซีครังแรกไม่รูท้ าง หลังจากสอบ
ถามเอากับชาวบ้านในละแวกตลาด ไม่นานก็ควบม้ามา
ถึงจวนเฉินอัน

ยามผูค้ มุ้ กันหน้าประตูเดินเข้ามาสอบถาม เฉินเหวินเค่อ


หยิบราชโองการหน้าตึง เรืองทีเขาถูกเสด็จพ่อลงโทษให้
มาอยูร่ ว่ มจวนกับเฉินอันหวางรูก้ นั ไปทัว คิดว่าแม้แต่เจ้า
ตัวเองก็คงได้รบั ราชโองการด้วยเช่นกัน

แม่ทพั เลือดแผ่รงั สีอาํ มหิตออกมาตลอดทาง ข้ารับใช้ที

42
เดินนําอยูด่ า้ นหน้าเสียวสันหลังวาบ ร้อนๆ หนาวๆ จน
นําตาไหลพราก

เขาถูกนํามาลอยแพทิงไว้ทีโถงรับแขก มีนางกํานัลมือ
สันยกชามารินไว้ให้

รอมาตังแต่ยามอู(่ 11.00-12.59 น.) บัดนีเข้าสูย่ าม


เซิน(15.00-16.59 น.) ถูกปล่อยให้นงรอมาตั
ั งสองชัว
ยาม แต่ไม่รูว้ า่ เจ้าของจวนไปมุดหัวอยูท่ ีไหน

ไอ้ลกู เต่าบัดซบบังอาจมาหยามข้า!

เฉินเหวินเค่อโมโหจนเลือดขึนตา แต่เพราะทีนีไม่ใช่ชาย
43
แดน หาใช่บา้ นป่ าเมืองเถือน ไม่มีทหารหนังหนาเอาไว้
รองมือรองเท้าจึงได้แต่กาํ หมัดแน่น ถึงเขาจะซึมซับนิสยั
ก้าวร้าวมาไม่นอ้ ยแต่ก็สติดีอยู่ การอาละวาดในจวนของ
คนอืนดูจะไร้อารยะเกินไป

ราชโองการไม่ได้บอกวันเวลาหรือกําหนดการว่าต้องทํา
สําเร็จเมือใด ถ้าวันนีเจ้าของจวนขีหดตดหายหวาดกลัว
ไม่ออกมาพบเขา เช่นนันค่อยกลับมาใหม่ จะ ‘สังสอน’
คนไม่วา่ ช้าหรือเร็วก็ตอ้ งได้ ‘สังสอน’ อยูด่ ี

ขณะกําลังลุกขึนไอ้ตวั บัดซบทีปล่อยเขารอจนรากงอกก็
โผล่หวั มาพอดี

44
“หึ!” เฉินเหวินเค่อสะบัดชายเสือ ยกชาขึนจิบด้วยท่า
ทางเย่อหยิง รอจนคูก่ รณีนงลงฝั
ั งตรงข้าม เอ่ยทักทาย
ปราศรัยตามมารยาท

“ต้องขออภัยเว่ยหวาง....ไม่สิ องค์ชายใหญ่ดว้ ยทีเสีย


มารยาท”

มัน-จง-ใจ!

ตัวเขามีตาํ แหน่งมากมายให้ใช้เรียกจนน่าปวดหัว
หากอยูท่ ีเมืองหลวง แต่ยามอยูช่ ายแดนใครๆ ก็เรียก
ท่านแม่ทพั อยูต่ อ่ หน้าจักรพรรดิและเหล่าขุนนางเขาก็
เป็ นองค์ชายใหญ่และเว่ยหวาง ถ้าต้องสนทนาพาทีกบั

45
ขุนนางมีบรรดาศักดิ หรือเหล่าพระญาติตา่ งก็เรียกขาน
กันทียศขันทังนัน

แต่ในเวลานีมีไอ้โง่ทีไหนไม่รูบ้ า้ งว่าเขาโดนจักรพรรดิลง
โทษถอดยศ ‘หวาง’ ออกชัวคราว เรียกขานกันเช่นนันมิ
ใช่หยามหน้าแล้วจะเรียกว่าอะไร

เฉินเหวินเค่อใช้สายตาหยามเหยียดกวาดมองอีกฝ่ าย
จนทัว ยอมรับด้วยความจริงใจ เฉินลูป่ ิ นรูปงามจริงตาม
คําลําลือ แม้ไม่งามล่มเมืองมัวเมาผูค้ น รับรูไ้ ด้วา่ ยังเป็ น
บุรุษผูห้ นึง ทว่าด้วยรูปลักษณ์และบรรยากาศอ่อนโยน
นุ่มนวล ทําให้ความงามของอีกฝ่ ายดูเหมือนแสงจันทร์
ละมุนตา จ้องแล้วเพลิดเพลินไม่รูเ้ บือ มิน่าเล่าชาวบ้าน
ถึงได้เรียกว่า ‘ฉางเอ๋อหวาง’ รูปงามดังเทพธิดาจันทรา
46
เช่นนีไง

แต่งามไม่งามนันก็อีกเรืองหนึง วันนีเขามาเพือจบเรือง
จะได้รบี กลับไปหาเฉินคุนแล้วกลับไปประจําชายแดน
เหมือนเดิม

“ข้าไม่ใช่พวกขุนนางทีจะต้องจีบปากจีบคอพูดจาวกไป
วนมา เห็นแก่ทีเจ้าถือเป็ นลูกพีลูกน้องร่วมใช่แซ่เดียวกัน
ข้าจะยอมลดตัวเรียกเจ้าว่าอาจารย์สกั หนึงคํา หลังจาก
นันก็ตา่ งคนต่างไป ดีหรือไม่”

“แต่ราชโองการของจักรพรรดิ...”

47
เฉินเหวินเค่อหรีตาคมกริบ “แค่เจ้ายอมรับข้าเรืองก็จบ
โดยง่ายแล้วอย่ามากเรือง ข้าใช่วา่ จะเป็ นคนใจเย็น ชือ
เสียงของข้าเฉินอันหวางใช่วา่ จะไม่เคยได้ยิน”

“ในเมือเป็ นพีน้องแซ่เดียวกันเหตุใดจึงเรียกกันห่างเหิน
ท่านเรียกข้าว่าลูป่ ิ นเถอะ”

“อย่าเปลียนเรืองตกลงเจ้าจะยอมรับดีๆ ไหม”

แม่ทพั เลือดกล่าวประโยคร้องขอ แต่ดอู ย่างไรก็ไม่


เหมือน

เฉินเหวินเค่อตะคอกถามตามประสาคนใจร้อน อีกฝ่ าย
48
ยังคงลอยชายใจเย็นประหนึงไม่เห็นว่าเขาจวนจะแปลง
ร่างอยูร่ อมร่อ เฉินลูป่ ิ นโบกพัดจีบในมือเบาๆ ไม่ทกุ ข์ไม่
ร้อน และไม่ตอบคําถาม

มือกร้านคว้าพัดในมืออีกฝ่ ายเอามาถือไว้ หมุนดูลวด


ลายและโคลงกลอนเข้าใจยากรอบหนึง สบตาทียังเรียบ
เฉยกับใบหน้างามทีประดับรอยยิมจางนันแล้ว....หงุด
หงิด น่าหงุดหงิดจริงๆ

เฉินลูป่ ิ นนังมองอีกฝ่ ายหักพัดของตนคามือ ยกชาขึนจิบ


ไม่สะทกสะท้าน แม้ซากพัดจะปลิวแฉลบผ่านบริเวณ
ข้างแก้ม สร้างรอยกรีดเล็กๆ บนแก้มซ้าย สีแดงของ
เลือดตัดกับผิวขาวช่างเป็ นภาพน่าดูชม

49
เฉินเหวินเค่อไม่ได้มีความอดทนสูงนักหากมิได้อยูใ่ น
สนามรบ เขามีเรืองต้องสะสางมากมาย ทังเรืองในทีลับ
และเรืองในทีแจ้ง แต่นี...

ดังนันเมืออีกฝ่ ายเอาแต่นิงเฉยเขาก็ไม่เสียเวลาเสวนา
ด้วย

เขาสะบัดชายเสือลุกออกมาโดยไม่กล่าวลา ทว่าเมือเดิน
จนถึงประตูเฉินลูป่ ิ นกลับคว้าไหล่ของเขาเอาไว้

“ราชโองการจากจักรพรรดิทา่ นต้องพํานักอยูท่ ีนี เกรงว่า


คงปล่อยให้ทา่ นออกไปไม่ได้”

50
เฉินเหวินเค่อเหลือบตาไปมองใบหน้างามในระยะ
ประชิด ฝี เท้าเบากริบรวดเร็วว่องไว วิชาตัวเบาไม่อาจดู
แคลน ดูทา่ ลูกพีลูกน้องอายุนอ้ ยผูน้ ีจะมิใช่นกั ปราชญ์ที
วันๆ เอาแต่ขลุกอยูก่ บั ตําราเสียทีเดียว

แต่แล้วอย่างไร แค่วิชาตัวเบามีหรือจะหยุดเขาได้

เฉินเหวินเค่อฟาดสันมือใส่คนด้านหลัง แต่อีกฝ่ ายก็เอน


หลังหลบไปได้ในท่วงท่าทีผิดธรรมชาติ นีมัน...วิชา
บิดกระดูก

ฟาดฝ่ ามือใส่กนั อยูน่ าน แต่ก็ไม่มีใครเพลียงพลํา ตัวเฉิน

51
เหวินเค่อเชียวชาญเพลงทวนมากกว่าใช้มือเปล่า ท่วง
ท่าสังหารดุดนั ทําให้เมือต้องต่อกรกับคนทีมีวิชาตัวเบา
ลําเลิศ ทังกระดูกยังอ่อนยืดได้หดได้วอ่ งไวดุจสายลม
ถึงจะไม่เจ็บตัว แต่ก็ทาํ อะไรอีกฝ่ ายไม่ได้เลย

เฉินลูป่ ิ นประสานมือจิมไปยังจุดต่างๆ ตามร่างกาย ทว่า


แม่ทพั เลือดผูน้ ีฝี มือไม่ธรรมดาสมกับคําลําลือ ไม่วา่ จะ
อาศัยความเร็วเท่าใดก็สกัดไว้ได้หมด กระทังเขาอ้อมไป
ด้านหลัง เฉินเหวินเค่อทีต่อกรกับเขาอย่างสบายๆ มา
โดยตลอดกลับพลิกกายหลบอย่างผิดวิสยั

เฉินลูป่ ิ นจึงลองเข้าไปทางด้านหลังอีกสักรอบผลทีได้ก็
ไม่ตา่ งจากเดิม นิวปั ดป่ ายลากผ่านหลายจุดอยูน่ านจน
กระทังจุดหนึงบริเวณเหนือก้นกบ เฉินลูป่ ิ นเห็นอีกฝ่ าย
52
ร่างกายกระตุกเล็กน้อย แม้จะกลบเกลือนได้รวดเร็วแต่
คนสายตาดีแบบเขาย่อมสังเกตเห็น

เฉินเหวินเค่อลอบหลังเหงือเย็น เมือสักครูเ่ กือบโดนจุด


อ่อนสําคัญเข้าให้ เรืองนีแม้แต่กนุ ซือหรือคนสนิทของ
เขาก็ยงั ไม่รู ้ ถ้าจะให้มาแดงเพราะคนอย่างเฉินลูป่ ิ นเขา
คงแค้นจนกระอักเลือดเป็ นแน่

ใบหน้างามยังเจือรอยยิมบางดูไม่ออกว่าความจริงแล้ว
อีกฝ่ ายจับสังเกตอะไรได้หรือไม่ เพือเป็ นการระวังตัวเขา
จึงตังสมาธิมากขึน ไม่ประมาทอีกฝ่ ายอย่างทีเคย
ปรามาสว่ามีดีแค่วิชาตัวเบาอีก

53
เฉินเหวินเค่อคาดเดาการเคลือนไหวเพือป้องกันการสกัด
จุด นิวมือพุง่ เข้ามาเตรียมกดบริเวณสีขา้ ง ทว่าวินาทีที
เขาปั ดแขนป้องกันตัว เฉินลูป่ ิ นก็พลิกตัวอ้อมไปด้าน
หลังเขาสําเร็จด้วยการบิดกระดูก

บัดซบ!

กระดูกสันหลังเสียววาบ นิวชีและนิวกลางทีประสานกัน
กดลงไปตรงจุดชีพจรเหนือก้นกบ เฉินเหวินเค่อเข่าทรุด
ลงไปกองกับพืนภายใต้ออ้ มแขนทีรัดอยูต่ รงอก

“อึก...”

54
“ทีแท้แม่ทพั ไร้พา่ ยอย่างท่านก็มีจดุ อ่อนกับเขาเหมือน
กัน” ความใกล้ชิดทําให้ลมหายใจลอยกระทบอยูข่ า้ งใบ
หู นําเสียงนิงเรียบแต่มนั ช่างดูเหมือนอีกฝ่ ายกําลังเยาะ
เย้ย

จุดหมิงเหมินสําหรับเฉินเหวินเค่อคือเรืองร้ายแรงทีสุด
แม้ตอนนีเฉินลูป่ ิ นจะไม่ได้กดไปเต็มแรง แต่แค่นีก็เข่า
ทรุดแล้ว ถ้าคิดจะกดจริงๆ เกรงว่าร่างกายของเขา แม้
แต่นิวยังกระดิกไม่ได้

แม่ทพั เลือดโมโหตัวสัน ถองศอกไปด้านหลัง แต่เพราะ


โดนกดจุดอ่อนอยูจ่ งึ ทําให้แรงพยัคฆ์กลับกลายเป็ นแรง
แมวอย่างน่าขัน

55
“ท่านนีดือด้านกว่าทีคิดจริงๆ” เฉินลูป่ ิ นเพิมนําหนักมือ
ลงไป แม่ทพั ผูน้ ่าหวันเกรงในอ้อมแขนก็สนฤทธิ

เคยได้ยินมาว่าแม่ทพั เลือดออกรบฟาดฟั นศัตรูไม่เสียแม้


แต่หยาดเหงือ แล้วคนทีกําลังหอบหายใจเหงือไหลโซม
กายอยูน่ ีคือผูใ้ ดเล่า

“จะ...เจ้า!!”

เฉินเหวินเค่อตวาดลัน คราวนีอีกฝ่ ายไม่ออมแรงแล้ว


สกัดจุดหมิงเหมินเป็ นอัมพาตโดยสมบูรณ์จริงๆ

56
เห็นใบหน้างามประดับรอยยิมน่ามองแบบนี แต่เฉินลู่
ปิ นคือไอ้ลกู เต่าบัดซบ!

ขนาดกดจุดจนเขาเป็ นอัมพาตไปแล้วก็ยงั ไม่เอานิวออก


ไป ไล้วนอยูร่ อบๆ ทําเอาต้องกัดฟั นทนไม่ให้มีเสียงใด
เล็ดลอดหลุดตัวสัน

“ข้าจะให้ทา่ นสงบสติอารมณ์เสียหน่อย”

“ถ้าข้าขยับร่างกายได้ เจ้าไม่ตายดีแน่!”

เฉินลูป่ ิ นหัวเราะ “ข้าก็กดจุดท่านอีกสักรอบไงจะไปยาก


อะไร จริงอยูท่ ีข้าสูแ้ รงท่านไม่ได้ แต่เรืองวิชาตัวเบาของ
57
ข้าก็วอ่ งไวเหนือใต้หล้าจริงๆ เกรงว่าแม้แต่ทา่ นแม่ทพั ก็
คงจับข้าไม่อยู”่

เฉินเหวินเค่อได้แต่กดั ฟั นเจ็บใจ ถลึงตาใส่แผ่นหลัง


อย่างเคืองแค้น และยิงโมโหเมืออีกฝ่ ายบอกกับเหล่าข้า
รับใช้วา่ “อย่าให้ใครมารบกวน องค์ชายใหญ่ตอ้ งการ
ความสงบ”

ต้องการความสงบกับผีส!ิ

เฉินเหวินเค่อคือใคร เขาคือผูใ้ ด องค์ชายใหญ่แห่ง


ราชวงศ์เฉิน แม่ทพั เลือดไร้พา่ ย ต้องมาปราชัยให้กบั
หวางรูปงามอายุนอ้ ย น่าเจ็บใจนัก!

58
ประมาทเพียงครูเ่ ดียว เพียงเพราะทีนีจวนหวาง มิใช่
สนามรบ

เฉินลูป่ ิ นหันกลับมามองคนทีนังคุกเข่าอยูก่ บั พืน ใบหน้า


ของอีกฝ่ ายแดงกําไม่รูว้ า่ เพราะเขินอายหรือเพราะกําลัง
โกรธจนแทบกระอักเลือดกันแน่

“เฉินลูป่ ิ นแล้วเจ้ากับข้าจะได้เห็นดีกนั !”

59
ตอนที ๓ พยัคฆ์กลัวนํา

การศึกกับเผ่าเก๋อหลันไม่นบั ว่าใหญ่ ขณะเดียวกันก็หา


ใช่ศกึ เล็ก ชาวเสวียนกับนอกด่านมีปมความขัดแย้งมา
นมนาน นับตังแต่ฝังตะวันออกเคยมีผืนดินติดกับเอ๋อร์
60
กุ่น มีสยุ่ หยูข่านเป็ นผูป้ กครอง ภายหลังจักรพรรดิหยาง
หลง...จักรพรรดิพระองค์แรกแห่งแผ่นดินเสวียนเฉินรวบ
รวมแผ่นดินเป็ นปึ กแผ่น กรําชัยศึกเหนือเหล่าชนเผ่าทุง่
หญ้า เอ๋อร์ก่นุ ทีเคยยิงใหญ่แตกกระจายไปคนละทาง

หน้าด่านตะวันออกจําต้องมีกองทัพคอยพิทกั ษ์รกั ษา
อย่างแข็งขัน ต่อให้เผ่านอกด่านหาใช่กา้ วร้าวไปทุกเผ่า
ก็มิใช่เหตุผลทีควรประมาทเลินเล่อ

บัดนีกองทัพพิทกั ษ์ชายแดนตะวันออกจะขาดผูน้ าํ แต่ก็


มีกนุ ซือคนสนิทกับรองแม่ทพั ช่วยดูแล แม้รองแม่ทพั คน
ปั จจุบนั ยังไม่ถกู ยอมรับเทียบเท่าคนก่อน แต่ทงคู
ั ต่ า่ ง
เป็ นพีน้องร่วมสายเลือด ล้วนมาจากจวนแม่ทพั ใหญ่เช่น
เดียวกัน
61
จิงเสวียพลิกอ่านรายงานความเสียหาย พร้อมกับตรวจดู
การขอเบิกอาวุธยุทโธปกรณ์เพิมเติม ชายหนุ่มอีกคน
วางพัดอวีซ่าน[1]ไว้ขา้ งตัว ก้มหน้าขีดเขียนจดหมายรัก
ด้วยถ้อยคําหวานหยดย้อยเสียจนหากพลังเผลอวางทิง
ไว้ พริบตาเดียวฝูงมดคงมาลักขโมยไปเป็ นแน่

เพียงแต่จิงเสวีย ต่างรูก้ ลซ่อนความนัยผ่านจดหมายอัน


หาสาระไม่ได้

รองแม่ทพั วางรายงานในมือลง ก่อนจะเดินไปช่วยอีกคน


ฝนหมึก ซือหม่าเพียงปรายสายตามอง ทว่าไม่ได้พดู
อะไร

62
“เจ้าคิดว่าการทีท่านแม่ทพั ถูกลงโทษไปฉางซีพวกนันจะ
มีการเคลือนไหวอะไรไหม”

กุนซือหนุ่มจรดพูก่ นั เขียนอักษรต่อไปสักพัก จากนันจึง


ค่อยยกปลายพูก่ นั ขึนมาหยุดการสนทนา “ข้าคิดว่าเรือง
นีมีเบืองลึกเบืองหลังแน่ๆ บางทีจกั รพรรดิอาจทรงรูใ้ น
เรืองทีพวกเราไม่รู ้ ถึงสถานการณ์ในตอนนีจะเหนือ
ความคาดหมาย แต่เจ้าก็รูว้ า่ ท่านแม่ทพั เป็ นคนเช่นไร
บางทีตอนนีท่านอาจกําลังวางแผนบางอย่างอยูใ่ นใจ
จนกว่าท่านแม่ทพั จะสังการ อย่าพูดถึงเรืองนีอีกจะดี
กว่า”

การลงโทษท่านแม่ทพั ในครังนีดูสมเหตุสมผลทว่ามีช่อง
63
โหว่ องค์ชายใหญ่กา้ วร้าวป่ าเถือนเป็ นชือเสียงทีไม่ได้พงึ
เกิดขึน คราวนีเหมือนจักรพรรดิโดนกดดันจึงจําเป็ นต้อง
ทํา แต่วา่ จะทรงเมินเฉยเหมือนอย่างทุกทีก็ใช่วา่ จะทํา
ไม่ได้ ราวกับว่าจักรพรรดิตอ้ งการกันท่านแม่ทพั ออก
จากเรืองราวบางอย่าง

“เรียกตัวสายสืบของพวกเรากลับมาให้หมด ดูทา่
หมากกระดานนีคงต้องหยุดพักสักครู”่

64
.

รีบเร่งเดินทางมาฉางซีไม่มีอะไรตกถึงท้องตังแต่เช้า มา
ถึงทีจวนเฉินอันตังแต่ยามอู(่ 11.00-12.59 น.) แต่ก็โดน
ปล่อยให้นงรอตั
ั งสองชัวยาม แถมหลังจากนันโดนสกัด
จุดเป็ นอัมพาตชัวคราวจนเวลาล่วงเลยมาถึงยาม
อิว(17.00-18.59 น.)
65
เฉินลูป่ ิ นกลับมาเห็น ‘แขก’ นังหน้านิวคิวขมวดก็หลุดยิม
ออกมาวูบหนึง ใครว่าดับไฟต้องใช้นาเย็
ํ นเข้าลูบ จะดับ
ไฟของท่านแม่ทพั เกรงว่าแม่แต่นาเย็
ํ นยังระเหย

“ท่านใจเย็นลงหรือยัง”

นัยน์ตาคูค่ มตวัดสวนขึนมาทันใด

เฉินเหวินเค่อมีอาการฮึดฮัดอยูบ่ า้ ง แต่เพราะ
สถานการณ์บงั คับจึงทําใจให้เย็นลง เฉินลูป่ ิ นจึงเดินมา
คลายจุดให้ ไม่ได้ปล่อยให้เฉินเหวินเค่อหายจากอาการ
อัมพาตชัวคราวเอง

66
แม่ทพั เลือดผูน้ ่าหวันเกรงยืดตัวตรง ปั ดมือทีคอย
ประคองออกโดยไม่ออมแรง นังคุกเข่าแค่นีหาได้มีผล
อะไรกับเขาอยูแ่ ล้ว อย่างไรก็จบั ดาบเหวียงทวนกรําศึก
อยูต่ ลอด เขาไม่ได้ออ่ นแอปานนัน

เฉินลูป่ ิ นพึงสะสางงานประจําวันเสร็จยังไม่ได้ตงสํ
ั ารับ
เย็น จึงชวนลูกพีลูกน้องผูอ้ าวุโสกว่าร่วมโต๊ะทานข้าว
ด้วยกัน เฉินเหวินเค่อโดนหยามเกียรติขนาดนี ปกติคง
ทานทนไม่ไหว เสียแต่วา่ พึงโดนคนงามปราบพยศ ทัง
ราชโองการยังค้างคาอยูใ่ นอกเสือ

ชายหนุ่มรูปงามหนึงหล่อเหลามาดนักรบอีกหนึงหนึง
อ่อนโยนสูงศักดิ ควรเป็ นภาพทีชวนให้เคลิบเคลิม ทว่า
67
รังสีกดดันทีแขกผูม้ าเยือนแผ่ออกมาตลอดเวลาช่างชวน
ให้ขาสัน หายใจติดขัด ขนาดพวกตนยืนรอรับใช้อยูไ่ กล
ขนาดนียังแทบยืนไม่ไหว แล้วหวางเย่[2]...ท่านทนเข้า
ไปได้อย่างไร

มืออาหารเริมต้นขึนอย่างเงียบๆ เฉินลูป่ ิ นพิจารณา


มารยาทของคนฝังตรงข้ามก็ไม่ได้ดนู ่าเกลียดอะไร แม้
ไม่ได้มีทว่ งท่าสง่างามชวนมอง แต่ก็ถกู หลักปฏิบตั ิไม่
ขาดไม่เกิน

ถึงดูเป็ นพวกป่ าเถือนแต่ศกั ดิฐานะทีแท้จริงก็เป็ นเชือ


พระวงศ์สายหลัก

68
“เนือผัดนํามันงา...ถ้าท่านชอบก็ทานเพิมขึนอีกสัก
หน่อยสิ”

มือทีกําลังพุย้ ข้าวชะงักเล็กน้อย เล็กน้อยเสียจนเกือบจะ


ไม่สงั เกตเห็น กับข้าวร่วมโต๊ะมีนบั สิบอย่าง แต่เฉินเหวิ
นเค่อกินอย่างละนิดอย่างละหน่อย ไม่ได้คีบจานใด
มากกว่ากันเป็ นพิเศษ

“ข้าไม่ได้ชอบ” เฉินเหวินเค่อปฏิเสธเด็ดขาด

“ถึงทีนีจะเป็ นจวนหวางแต่ก็ไม่ใช่วงั หลวง ถ้าท่านไม่


อยากให้ผใู้ ดทราบข้าจะไล่คนอืนออกไป”

69
เฉินลูป่ ิ นทราบถึงธรรมเนียมการทานอาหารของเหล่า
เชือพระวงศ์สายหลักทีโตมาในวังดี การมีอาหารโปรด
นับว่าเป็ นจุดอ่อน เสียงต่อการถูกวางยาพิษ ยิงองค์
รัชทายาทและจักรพรรดิยงต้
ิ องระวังเรืองนีมากเป็ น
พิเศษ

เฉินเหวินเค่อคีบจานผักกับปลาสามรสเข้าปากไม่กีคําก็
วางตะเกียบลง แม้เจ้าของจวนจะโบกมือไล่ขา้ รับใช้ทงั
หมดให้ออกไป จนทัวทังห้องโถงหลักของเรือยรับแขก
เหลือกันเพียงลําพัง

เนือชินหนึงถูกคีบมาให้ เฉินเหวินเค่อปรายสายตามอง
ภายนอกนิงเฉยแต่ภายในกําลังสับสน...รูไ้ ด้อย่างไรว่า
เขาชอบกินเนือ เฉลียแต่ละจานพอดีแล้วไม่น่าจะสังเกต
70
เห็น

เฉินลูป่ ิ นส่ายหน้าอ่อนใจ “พอข้าอายุสามสิบจะดือแบบ


ท่านหรือเปล่า”

“บางทีเจ้าอาจอยูไ่ ม่ถงึ สามสิบก็ได้ถา้ ยังไม่เลิกกวน


ประสาทข้า”

เฉินลูป่ ิ นหัวเราะน้อยๆ คนงามแย้มยิมมีอานุภาพไม่


ธรรมดา “น่าเสียดาย มีไต้ซือเคยทํานายว่าข้าจะอายุยืน
ร้อยปี คงทําให้ทา่ นผิดหวังแล้ว”

เฉินเหวินเค่อกรอกตาไม่อยากต่อปากต่อคํา ทังๆ ทีตัว


71
เองอายุมากกว่าเกือบหนึงรอบ แต่ดา้ นวาจาดูจะพ่าย
แพ้เต็มประตู แต่ไหนแต่ไรเฉินเหวินเค่อก็ไม่ถนัดด้าน
การพูดคุยเข้าสังคมของชนชันสูงอยูแ่ ล้ว พอเจอขุนนาง
ลินสองแฉกก็ตอกหน้าหงายไปเสียหลายคน เขามันคน
ตรงไปตรงมา ไม่ชอบใครก็ไม่เห็นต้องไว้หน้า

เนืออีกชินถูกคีบมาวางไว้ให้ ตัวคนคีบกลับก้มหน้าก้ม
ตาพุย้ ข้าวต่อ ร่างกายไม่ได้มีกล้ามเนือให้ใช้งานอะไร
เอากะเพราะทีไหนยัดเข้าไปกัน ข้างในมีหลุมดําอยูเ่ ร
อะ!

ตะเกียบทีถูกวางไปแล้วถูกหยิบขึนมาอีกครัง ส่วนเนือ
สองชินนันก็ถกู ส่งเข้าปากไปเงียบๆ

72
ขณะเดียวกันในจานของเฉินลูป่ ิ นก็มีเนือปลาขาวเพิมขึน
มาโดยทีเขาไม่ได้คีบ หวางเจ้าของจวนแย้มยิมบางๆ
เขาจะบอกอีกฝ่ ายดีไหมว่าเขาไม่ชอบกินปลา

73
.

ล่วงเข้าสูใ่ บไม้ผลิหมูม่ วลบุปผาออกดอกส่งกลินหอมฟุง้


ตอนอยูช่ ายแดนไม่วา่ ฤดูกาลใดก็ไม่มีความต่าง พืนที
ทําสงครามส่วนมากเป็ นทุง่ หญ้า โดนคนเหยียบยําเสีย
จนไม่มีอะไรจะขึน หรือถึงจะมีอะไรเขียวๆให้เจริญหู
เจริญตาไม่นานก็ถกู เผาวอดไปอยูด่ ี

เฉินเหวินเค่อหยุดยืนชืนชมธรรมชาติชวครู
ั ่ รสนิยมของ
เฉินลูป่ ิ นไม่เบาเลยจริงๆ ถึงตัวเจ้าของจะน่าหมันไส้แต่
การจัดสวนก็ดงู ดงามไม่แพ้อทุ ยานหลวง

74
ข้ารับใช้คนหนึงเดินนําทางเข้ามายังห้องพัก ไม่ใช่วา่ เขา
อยากจะอยูใ่ นจวนเฉินอัน แต่จะให้เล่าก็หงุดหงิด เรือง
ต่อสูเ้ ฉินเหวินเค่อมันใจว่าไม่เป็ นสองรองใคร แต่วิชาตัว
เบาเฉินลูป่ ิ นมีฝีมือมากกว่า ดัชนีพิฆาตสกัดจุดของอีก
ฝ่ ายก็รา้ ยกาจไม่แพ้กนั ยิงโดนล่วงรูจ้ ดุ อ่อน แค่กา้ วเท้า
ออกนอกประตูหอ้ งโถงยังทําไม่ได้ดว้ ยซํา นับว่าเป็ นหนึง
ในความอัปยศครังยิงใหญ่ในชีวิตของเฉินเหวินเค่อจริงๆ

ภายในห้องกว้างขวางเกินกว่าจะเป็ นห้องพักของแขก
หรือผูร้ ว่ มชายคาชัวคราว เฉินเหวินเค่อขมวดคิวสงสัย
แต่ไม่นานนักก็ได้รบั การแถลงไขข้อข้องใจ

เมือเฉินลูป่ ิ นเดินเข้ามานังบนเก้าอีตัวยาว รินชายกขึน


จิบด้วยท่วงท่าสง่างาม ทิงให้เฉินเหวินเค่อยืนค้างอยูท่ ี
75
เดิม

อย่าบอกนะว่า....

“นี...ห้องเจ้า?”

“ใช่ นีห้องข้า”

เฉินลูป่ ิ นพลิวกายมายืนขวางไม่ให้เขาออกจากห้องนอน
อีกฝ่ ายใช้ปลายด้ามพัดจีบทีถือติดมือเป็ นประจําดัน
แผ่นอกของเฉินเหวินเค่อเอาไว้

76
“ข้างนอกฟ้ามืดแล้วท่านจะไปไหนหรือ “

“ให้นอนร่วมห้องกับเจ้าข้าไปนอนบนต้นไม้ดีกว่า!”

“ท่านรังเกียจข้าขนาดนันเชียว”

“ก็เออสิ!” เฉินเหวินเค่อถลึงตากระแทกเสียง

ทุกสิงทุกอย่างตกลงสูค่ วามเงียบ ต่างฝ่ ายต่างไม่พดู


อะไรเพียงจ้องตากันนิงงัน เฉินลูป่ ิ นยังมีรอยยิมประดับ
อยูบ่ นหน้า แต่ไม่รูท้ าํ ไมบรรยากาศรอบกายถึงได้ดู
หนาวขึนมาอย่างน่าประหลาด

77
หวางรูปงามกระซิบบางอย่างกับบ่าวรับใช้ ไม่นานอ่าง
นําร้อนและฉากกันก็ถกู จัดเตรียมไว้พร้อมสรรพ

“ท่านเดินทางมาเหนือยอาบนําสักหน่อยเถอะ ข้าไม่
อยากนอนร่วมเตียงกับคนมีกลินตัว”

“งันก็เชิญเจ้าตามสบาย ข้าจะหาต้นไม้ดีๆ สักต้นนอน!”

เฉินลูป่ ิ นไม่ยอมหลบโดยง่าย นอกจากจะไม่หลบแล้วยัง


คว้าแขนเฉินเหวินเค่อไปถูจนหนังแทบหลุด คนรักความ
สะอาดเห็นก้อนคราบเหงือไคลหลุดติดมาเต็มมือก็หน้า
มืด ดวงตาเรียวสวยฉายประกายวาววับจนเฉินเหวินเค่อ
รูส้ กึ สังหรณ์ใจไม่ดี

78
ร่างสูงใหญ่สะบัดตัวพุง่ หนีไปตรงหน้าต่างแต่ก็ถกู คว้า
เอวเอาไว้ได้ทนั

“ข้าเคยได้ยินว่าพวกแมวมันกลัวนํา ท่านเล่ากลัวนําหรือ
ไม่”

ไอ้ลกู เต่านีหาว่าพยัคฆ์อย่างเขาเป็ นแมวเรอะ!

“ฮึม” เฉินเหวินเค่อพ่นลมฉุนเฉียว

เฉินลูป่ ิ นมือไวมาก พริบตาเดียวลอกคราบเขาจนเหลือ


แค่เสือคลุมชันในตัวบาง จะให้หนีออกไปในสภาพนีก็
79
กลัวบรรพบุรุษจะขายขีหน้าจนต้องลุกขึนมาจากหลุม
ตัวเขามีชือเสียงชัวช้ามากแค่ไหนไม่เคยหวาดหวัน แต่
ถ้าจะเพิมชือว่าเป็ นองค์ชายวิปลาส เฉินเหวินเค่อยังไม่
หน้าด้านถึงขันนัน

“ข้าอาบก็ได้ เจ้าจะไสหัวไปไหนก็ไป!” เฉินเหวินเค่อ


ตวาดลัน

เฉินลูป่ ิ นไม่พดู ไม่หวั เราะ คงรอยยิมน้อยๆ ขณะย่างเท้า


เข้ามาหา แล้วนีเขาจะเดินถอยหลังทําซากอะไร!

ตูม!

80
“แค่ก...แค่ก”

ถอยไปถอยมาไม่ทนั ระวัง กว่าจะรูต้ วั ว่าข้างหลังเป็ นอ่าง


อาบนําก็หงายหลังตกลงไปทังตัว เสือชันในสุดแต่เดิมก็
บางอยูแ่ ล้วพอโดนนําก็บางจนแนบไปกับผิวเนือ เห็นไป
ถึงไหนต่อไหน

เฉินเหวินเค่อคิดจะปี นออกมา แต่ก็ถกู กดไหล่ให้นงลงไป



มือนุ่มต่างจากฝ่ ามือกร้านของเขาลิบลับดึงเสือชันในจน
มันไหลลงมากองทีข้อพับแขน

แม่ทพั เลือดทีใครๆ ต่างหวาดกลัวบัดนีตัวสันงก บัดซบ!


เขาโดนกดจุดหมิงเหมินอีกแล้ว!!

81
“มาอาบนํากันเถอะเหมียว~”

“เฉิน-ลู-่ ปิ น!”

ชายหนุ่มได้แต่คาํ รามลัน นังตัวแข็งปล่อยให้อีกฝ่ ายใช้


ผ้าขัดไปทัวทังตัว

จริงอยูถ่ า้ เปรียบเทียบกัน เฉินลูป่ ิ นแรงไม่เยอะเท่า แต่วา่


อย่างไรอีกฝ่ ายก็เป็ นบุรุษ ดังนันทังแขน ทังอก ทังหลัง
พอโดนตะบีตะบันถูก็แดงเถือกไปหมด

และทีสําคัญ...
82
“นีเจ้าจะล้วงไปข้างล่างทําบ้าอะไร!”

83
.

คืนนีเดือนมืดดวงจันทร์หลบเร้น ภายในห้องหับห้องหนึง
ในจวนเฉินอันยังมีแสงไฟ ชายหนุ่มวัยยีสิบพลิกหนังสือ
ในมือไปเรือยๆ จดจ้องตัวอักษรสักพักก็หนั กลับไปพิศดู
คนทีนอนหลับอยูบ่ นเตียง

หลังจากบังคับเปลืองผ้าอาบนํา คนอย่างเฉินเหวินเค่อ
โกรธจนลมออกหู เพือกันไม่ให้ทา่ นแม่ทพั อาละวาดจน
จวนพัง เขาจึงสกัดจุดให้อีกฝ่ ายหลับไปแต่โดยดี

นึกถึงดวงตาทีจ้องเขม็งก่อนจะล้มลงมาในอ้อมอก ดูทา่

84
คงต้องหาวิธีรบั มือกับคนแก่อารมณ์ฉนุ เฉียวในตอนเช้า
เสียแล้ว

ราชโองการสีทองทีถูกซ่อนอยูห่ ลังภาพแขวนถูกคลีออก
มา แสงสว่างจากเทียนไขอาบไล้ไปทัวแผ่นกระดาษ สิง
ทีปรากฏออกมาให้เห็นคือ ‘ความว่างเปล่า’

จักรพรรดิทรงกําลังวางแผนอะไรอยู.่ ...

คิดในสิงทีไม่มีขอ้ มูลก็รงั แต่จะปวดหัว เฉินลูป่ ิ นจึงนํา


ราชโองการไปซ่อนให้มิดชิด ก่อนจะเดินไปนังอยูบ่ ริเวณ
หัวเตียง เกลียปอยผมทีปรกหน้าของคนทีกําลังหลับใหล
ออก ดวงตาทีราบเรียบอยูเ่ ป็ นนิจก็ฉายแววลึกลํา

85
บางอย่าง

“ท่านยังปากร้ายไม่เปลียนเลยจริงๆ...เหวินเกอ”

86
ถึงท่านแม่ทพั จะเกรียวกราดแต่ก็น่ารักนะคะ 5555

จะขยันปั นอีกสักตอนสองตอนก่อนจะกลับหอ เพราะ


หลังจากนีจะติดงานไฟนอล+สอบแล้วค่ะแงง

ข้อมูลเพิมเติม

[1] พัดอวีซาน 羽扇 [yǔshàn] พัดทีขงเบ้งใช้ในหนัง


สามก๊ก คนใช้จะเป็ นผูท้ รงภูมิปัญญา เป็ นเสนาธิการ
นักวางแผน ฯลฯ

[2] หวางเย่ : เป็ นคําสรรพนามทีใช้เรียกเจ้านายผูด้ าํ รง


ยศหวาง/ชินหวาง
87
88
ตอนที ๔ ลับฝี ปาก

เหล่าข้ารับใช้ในจวนผูด้ ีลว้ นต้องลืมตาตืนตังแต่ยาม


อิน(3.00-4.59 น.)กับอีกครึงชัวยาม ตระเตรียมทุกอย่าง
ให้พร้อม รอจนพระอาทิตย์โผล่พน้ ขอบฟ้าจึงถึงเวลา
ปลุกเจ้านาย

ดรุณีนอ้ ยนางหนึงยกอ่างล้างหน้า สหายเคียงข้างถือผ้า


อบดอกไม้

ประตูหอ้ งหับถูกเปิ ดอย่างเบามือเพือไม่ให้รบกวนผูส้ งู


ศักดิ ไม่คาดคิดเลยว่าทันทีทีประตูเปิ ดกว้าง แจกันลาย
ครามใบหนึงลอยผ่านเหนือศีรษะไปหนึงชุ่น(1 นิว) ตาม

89
มาด้วยเสียงคํารามดุดนั น่าหวาดผวา และเสียงสารพัด
ถ้วยชาป้านกาแตกกระจาย

บ่าวรับใช้ทงสองหั
ั นมามองหน้ากันขวับ พิจารณาจาก
สงครามทีเกิดขึนในห้องจึงตัดสินใจสอดอ่างล่างหน้า
และวางผ้าอบดอกไม้ไว้ใกล้ๆ กัน หลังจากนันก็ถก
กระโปรงโกยอ้าววิงไปรายงานกับหัวหน้าพ่อบ้านในทัน
ใด

เฉินเหวินเค่อหอบหายใจด้วยอารมณ์ฉนุ เฉียวโดยไม่มี
ความเหนือยผสม

ตัวเขาองค์ชายใหญ่แห่งแผ่นดินเสวียนเฉินไม่เคยนอน

90
ร่วมเตียงกับใครหน้าไหน ไม่เว้นแม้แต่นางโลมนาย
บําเรอทีหลังเสร็จกิจต่างถูกไล่ออกไปนอกห้อง แล้วเฉิน
ลูป่ ิ นไอ้ตวั บัดซบเอาความกล้าจากทีไหนมาทําแบบนี

เฉินลูป่ ิ นปิ ดปากหาว ขยับจัดเสือผ้าให้เข้าทีแล้วเอ่ย


อย่างไม่ยีระว่า “พวกเราเป็ นลูกพีลูกน้องแซ่เดียวกัน
นอนร่วมเตียงไยต้องโมโหขนาดนัน หรือท่านอยากให้ขา้
รับผิดชอบทีล่วงเกิน ความจริงแล้วถ้าจะให้รบั ผิดชอบ
เรืองร่วมเตียง ข้าว่าข้าควรรับผิดชอบตอนอาบนํา....”

“หุบปาก!”

ท่านแม่ทพั อารมณ์เสียแต่เช้า กว่าผูส้ งู ศักดิทังสองจะตบ

91
ตีกนั เสร็จสภาพห้องก็เละเทะไม่มีชินดี ขนาดบานประตู
ยังหลุดออกมาทังแผง

พ่อบ้านเหมาถึงกับลอบปาดเหงือ พลางคิดในใจว่า นี
ขนาดองค์ชายใหญ่เป็ นผูม้ าอาศัยชัวคราวตามราช
โองการของจักรพรรดิจวนยังแทบแตกทุกวัน ไม่อยากจะ
คิดเลยว่าถ้าท่านชายแต่งองค์ชายใหญ่เข้าจวน จวนมิ
พังครืนลงมาเลยหรือ

พ่อบ้านเหมาเลียงดูทา่ นชายลูป่ ิ นมาตังแต่เล็กจนเติบ


ใหญ่ ทังเรืองราวแต่หนหลัง ทังสายตาทีคนอืนไม่ทนั
สังเกตเห็นล้วนล่วงรูห้ มดสิน คิดจะปราบพยัคฆ์รา้ ย ไม่รู ้
ว่าต้องใช้ฝีมือมากขนาดไหน

92
มองไปทีอีกด้านหนึงของซากหินอ่อน ภายในศาลากลาง
นําปรากฏร่างของบุรุษผูส้ งู ศักดิต่างทุม่ เถียงกันเป็ นรอบ
ทีเท่าไหร่ของวันแล้วก็ทราบได้

เจ้านายทังสองอย่าตีกนั ต่อนะขอรับ ศาลากลางนําถ้า


พังแล้วมันซ่อมยาก....

“ท่านพ่อบ้านเหมาองค์ชายใหญ่ถีบเสาศาลากลางนํา
พังไปแล้วขอรับ!”

พ่อบ้านเหมา “...”

93
.

ณ ตําหนักหลังงามในวังหลัง บุรุษผูม้ ีกลินอายเยือกเย็น


สูงศักดิวางกรรไกรทีกําลังเล็มสนอรหันต์วางลงบนมือ
ของขันทีทีรอรับ นางกํานัลข้างกายยืนถืออ่างล้างมือ
พร้อมกับผ้าเช็ดทีถูกเตรียมพร้อม

บ่ายคล้อยวันนีอากาศสดใสแสงแดดบางเบากําลังเย็น
สบาย ฮุ่ยเฟยทิงกายลงบนเก้าอีเอนหลังทีถูกยกมาตังไว้
94
กลางสวนเล็กข้างตําหนัก

"เหนียงเหนียงใต้เท้าหร่วน..."

ฮุ่ยเฟยปรายตามองแผ่นกระดาษพับออกมาจากแขน
เสือ รับมาถือไว้ครูห่ นึงแล้วก็สง่ กลับไปโดยไม่คิดจะเปิ ด
อ่าน

"ข้ารูว้ า่ ต้องทําอย่างไร เผาทิงเสีย"

ผลส้มเกลียงเกลากลิงไปกลิงมาบนฝ่ ามือขาว นางกํานัล


รับใช้ขา้ งกายอาสาจะแกะเปลือกให้ แต่เจ้าของตําหนัก
ใหญ่โตก็โบกมือปฏิเสธ แล้วไล่เหล่าข้าหลวงทังหมดให้
95
ถอยฉากออกไปอย่างคนต้องการความสงบเงียบ

ปี นนใบไม้
ั เปลียนสี เขาแต่งเข้าตําหนักบูรพาใน
ฐานะเช่อเฟย[1] ด้วยแรงสนับสนุนจากสกุลหร่วนจึง
ช่วยให้ฝ่าบาทเดินไปสุดเส้นทางโดยมีจดุ หมายคือยอด
บัลลังก์

“ลงโทษไปยังฉางซี...” เล็บแหลมจิกลงไปในผิวส้ม
ปล่อยให้นาหวานไหลย้
ํ อมมือข้างนันจนเปรอะเปื อน

อยากจะรูน้ กั ว่าหากมิมีองค์ชายหกของกุย้ เฟยผูน้ นั สุด


ท้ายแล้วใครจะเป็ นฝ่ ายได้ครองบัลลังก์...

96
.

“องค์ชายท่านลืมจุดประสงค์ทีมาอยูท่ ีนีแล้วหรือ”

“ไม่ได้ลืม”

“ถ้าเช่นนันท่านก็ช่วยตังใจเป็ นลูกศิษย์ทีดีของข้าสัก
หน่อย เริมจากอะไรง่ายๆ ลองเรียกข้าว่าท่านอาจารย์ดู

97
หน่อยดีไหม” เฉินลูป่ ิ นเสนอแนะแนวทางอย่างสันติวิธี

“ฝันไปเถอะ!” เฉินเหวินเค่อถลึงตา “ทําไมข้าต้องมา


ฝากฝังตัวเป็ นศิษย์ของเจ้าด้วย เรืองอย่างคัมภีรห์ ก
ศาสตร์[2] วิชาหมิงจิง และจินซือ[3] ข้าก็เคยเรียนมา
หมดแล้ว ศิลปะทังสีข้าก็ทาํ ได้หมด”

เฉินลูป่ ิ นเลิกคิวเป็ นเชิงถามว่า ‘ท่านมันใจ?’

“เจ้าคิดว่าข้าโกหกเจ้าหรือไง”

“ข้าไม่คิดว่าท่านโกหก...” บุรุษรูปงามเคาะพัดจีบลง
กลางฝ่ ามือเป็ นจังหวะเนิบๆ “เพียงแต่ดว้ ยนิสยั ของท่าน
98
ข้าคิดว่าท่านน่าจะทําเป็ นทุกอย่างแต่ไม่ได้เรืองสักอย่าง
มากกว่า”

เฉินเหวินเค่อสําลักอากาศ บัดซบเอ้ย! อยากเถียงกลับ


ใจจะขาดแต่มนั ดันเป็ นเรืองจริงนีสิ

“เรืองพวกศิลปะทังสีข้าไม่ได้จริงจังอะไร แต่ทีข้าเป็ นห่วง


ทีสุดคงเป็ นเรืองนิสยั ใจร้อนของท่านมากกว่า”

เคยได้ยินว่าแม่ทพั เลือดเป็ นคนอารมณ์รา้ ย ทว่ายาม


ต่อสูแ้ ม้ดดุ นั แต่ไม่ประมาท แผนการรัดกุม สุขมุ
รอบคอบ เพียงแต่พอไม่ได้รบนิสยั ก้าวร้าวทําให้ภาพ
ลักษณ์ของแม่ทพั ผูน้ ่ายกย่องถึงขันดิงลงเหวทะลุลงไป

99
นรก เรียกได้วา่ ต่อให้ชบุ ตัวยังไงก็กลบรัศมีมารไม่มิด

ตามทีจักรพรรดิทรงประกาศผ่านราชโองการ ป่ าเถือน
โหดร้าย ไร้เมตตาคุณธรรม เฉินเหวินเค่อไม่ใช่ไม้ออ่ น
อายุแตะเลขสามไม้แก่จนไม่รูจ้ ะแก่ยงั ไงแล้ว จะเอา
อะไรไปดัด

เฉินเหวินเค่อมีความหยิงยะโสในสายเลือด แน่นอนว่ามิ
ยอมศิโรราบต่อผูใ้ ดโดยง่าย เว้นเสียรูโ้ ดนรูปลักษณ์ของ
เฉินลูป่ ิ นหลอกตา คงพอให้สงบลงชัวครังชัวคราวเท่านัน
พลาดพลังไปหนแล้ว ใครเล่าจะประมาทซําสอง

พระประสงค์ของจักรพรรดิทีแท้จริงเป็ นเช่นไรล้วนไม่

100
สลักสําคัญ...ราชโองการประกาศออกมาจนรูก้ นั ทัวทัง
แผ่นดิน เฉินลูป่ ิ นก็ตอ้ งดัดนิสยั ตรงส่วนนีให้ได้ อย่างไร
เสียเรืองนีเขาไม่ได้ขาดทุนอะไร

เหวินเกอ....สิบปี ก่อนท่านเคยสัญญาอะไรไว้กบั ข้า ลืม


เลือนไปแล้วใช่หรือไม่ ในเมือท่านกล้าลืมก็เตรียมตัว
เตรียมใจให้ดีก็แล้วกัน!

“ขันแรก เรียกข้าว่าอาจารย์ให้ได้ก่อน” เฉินลูป่ ิ นแนบนิว


ลงบนริมฝี ปากทีเตรียมจะพ่นไฟด้วยรอยยิมหวาน “โดย
ทีท่านไม่ตะคอกหรือพังอะไรสักอย่างในจวนของข้า”

เฉินเหวินเค่อสะบัดหน้าหนี ไอ้ลกู เต่านี! ถึงเขาจะเรียก

101
ไปใช่วา่ จะจบเรือง ต่างคนต่างแยกย้ายเสียหน่อย เรือง
อะไรต้องไปเรียกคนทีอายุนอ้ ยกว่าตังสิบปี วา่ ‘ท่าน
อาจารย์’ ด้วย

เฉินเหวินเค่อเหยียดยิมเยาะ “บังคับข้าสิถา้ เจ้ามี


ปั ญญา”

คราก่อนเพราะโดนใบหน้าวัยละอ่อนเช่นนีตบตา หนนี
เขาไม่ยอมให้เป็ นเช่นนันแน่!

“ท่านจะไม่ยอมเรียกดีๆ ใช่หรือไม่”

“ไม่ มี ทาง” เฉินเหวินเค่อพูดเน้นหนักทุกถ้อยคําเป็ นการ


102
ยืนยัน

พ่อบ้านเหมาและเหล่าข้ารับใช้แอบเฝ้าดูสถานการณ์
ด้วยความรูส้ กึ ร้อนๆ หนาวๆ กลัวว่านอกจากศาลากลาง
นํา ศาลาแปดเหลียมท่ามกลางสวนเหมยของทีนีจะ
พินาศไปอีกแห่งหนึง

แค่เห็นองค์ชายใหญ่กบั ท่านชายเริมขยับกายพวกตนก็
หลับตาปี รอฟั งเสียงอะไรสักอย่างพังทลาย ทว่าเงียหูรอ
อยูน่ านก็ไม่ได้ยินอะไร กระทังลองเปิ ดตาขึนดู

สวรรค์! หัวใจจะวาย

103
บัดนีองค์ชายใหญ่ถกู ดันจนแผ่นหลังแนบไปกับเสา
ศาลา วงหน้าหล่อเหลาถูกประคองไว้เพือให้บรุ ุษรูปงาม
แนบริมฝี ปากลงไปได้อย่างถนัดถนี

เฉินเหวินเค่อเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าตัวเองจะโดนจู่โจม
ด้วยวิธีแบบนี เขาขืนตัว แต่แค่ขยับเล็กน้อยก็โดนคน
ล่วงรูจ้ ดุ อ่อนตวัดแขนรัดเอวไว้เสียแน่น แถมปลายนิว
ว่องไวก็ไม่พลาดทีจะกดจุดชีพจรของเขาเอาไว้ ทําให้
เรียวลินทีพัวพันเฉินลูป่ ิ นขึนเป็ นผูน้ าํ โดยสมบูรณ์

“อือ!”

เขาเคยจูบแต่ไม่เคยตกเป็ นรองแบบนีมาก่อน

104
เฉินเหวินเค่อโกยอากาศเข้าปอดทันทีทีได้รบั อิสระ แต่
พึงได้หายใจแค่เฮือกเดียวก็โดนประกบจูบซําอีกรอบ

“อุ๊บ!...ดะ..เดียว”

เฉินลูป่ ิ นชักจะหยุดตัวเองไว้ไม่อยู่ รสชาติจากคนตรง


หน้ายิงชิมยิงติดลิน ยิงดูดดึงยิงเลิศรส

อุณหภูมิรา่ งกายเริมสูงขึนเรือยๆ ขณะทีกลีบปากเริมชา


ชําจนได้รสเลือด เฉินเหวินเค่อไม่ได้โดนสกัดจุดจนถึงขัน
เป็ นอัมพาต เพียงแค่ไร้เรียวแรง แต่แค่นีเขาก็ตอ่ ต้านอีก
ฝ่ ายไม่ได้แล้ว สองมือทีพยายามผลักอกพลันต้อง

105
เปลียนเป็ นกําอาภรณ์สีฟา้ อ่อนของเฉินลูป่ ิ นแน่น

ผิวเนือภายใต้รม่ ผ้าสันกระตุกเหมือนถูกไฟฟ้าสถิตยาม
สองกายบดเบียดแนบชิด

เฉินเหวินเค่อโดนจูบกระชากวิญญาณจนแทบจะทรงตัว
ไม่อยู่ ลมหายใจอุน่ รดอยูต่ รงต้นคอลามเลียไปทีใบหู

“ทีนีท่านจะเรียกข้าว่าอาจารย์ได้หรือยัง”

กะอีแค่จมุ พิตไม่ได้ทาํ ให้เขาลดทิฐิลงโดยง่าย


โดนกระทําชําเราทางริมฝี ปากจนจําต้องเป็ นฝ่ ายยอมลง
ให้ ช่างเสียศักดิศรียงนั
ิ ก ตีให้ตายเฉินเหวินเค่อไม่มีทาง
106
ยอมพูด

เฉินลูป่ ิ นเลียริมฝี ปาก “ถ้าเช่นนันข้าคงต้องใช้กาํ ลังเพิม


ขึนอีกสักนิด”

ไม่รูว้ า่ เวลาผ่านไปนานเท่าใด ทว่าสุดท้ายผลแพ้ชนะก็มี


เพียงพ่อบ้านเหมาทีได้รบั รู ้ ส่วนคนอืนเป็ นลมตังแต่เห็น
จุมพิตแรกแล้ว

107
.

วงหน้าหล่อเหลาจมูกโด่งสันกรามเป็ นสัน คิวเข้มดุจไต้


รับกับดวงตาเหยียวคูค่ มสีขีเถ้า ชายหนุ่มในวัยแตะเลข
สามทีสะท้อนอยูบ่ นกระจกทองเหลืองไม่มีจดุ ไหนด้อย
ค่า ยกเว้นริมฝี ปากทีบวมชําอย่างเห็นได้ชดั

เฉินเหวินเค่อหน้าร้อนวูบ นิวทีแตะริมฝี ปากสันน้อยๆ


ส่วนตัวต้นเหตุน่ะหรือ...นังทํางานอยูใ่ นห้องหนังสือนู่น!

เสียงตีปีกพึบพับดังอยูข่ า้ งหน้าต่าง เหยียวขนทองตัว


หนึงเกาะอยูบ่ นกิงไม้ใหญ่

108
“มีอะไรหรือเปล่า”

เฉินเหวินเค่อหันไปถลึงตาใส่คนทีมาไม่ให้ซมุ่ ให้เสียง
แต่เมือเห็นหน้าเฉินลูป่ ิ น ความทรงจําในศาลาท่ามกลาง
สวนเหมยก็ผดุ ขึนจนต้องเบนสายตาหลบ ไม่ยอมสบกับ
นัยน์ตาเรียวสวยสีขีเถ้าแบบเดียวกัน

หันกลับไปมองทีทีเคยมีเหยียวเกาะอยู่ พืนทีตรงนันกลับ
ว่างเปล่า มีเพียงสายลมยามคําคืนพัดผ่านไร้ซงเงาของ

สิงมีชีวิต

“ไม่มีอะไร”

109
ลับปาก ลับฝี ปาก

ก. เตรียมตัวพูดหรือโต้เถียงเต็มที เช่น ลับปากไว้คอย


ท่า. (ไชยเชฐ) พูดจาโต้ตอบคารมบ่อย ๆ จนคล่องแคล่ว.

110
ก.(โดยคนเขียน) สังสอนคนดือด้วยริมฝี ปากจนกว่าจะ
สํานึก

ข้อมูลเพิมเติม

[1] เช่อเฟย : ชายารอง

[2] วิชาหกศาสตร์ เป็ นคัมภีรท์ ีขงจือเรียบเรียงขึนในช่วง


บันปลายชีวิต คนทีรําเรียนหนังสือล้วนยกย่องคัมภีรน์ ีว่า
เป็ นคัมภีรอ์ มตะจากรุน่ สูร่ ุน่ หนังสือทีคนโบราณทีเรียน
หนังสือใช้เรียนนันก็คือคัมภีรเ์ หล่านี

111
[3] วิชาหมิงจิง/จินซือ นับตังแต่มีการกําหนดระบบสอบ
คัดเลือกข้าราชการเคอจวีขึนในสมัยราชวงศ์สุ
ย (ค.ศ.581-618) การสอบดังกล่าวเน้นการสอบ “คัมภีร ์
ศาสตร์”ส่วนรายวิชาหลักทีมักกําหนดขึนในการสอบ
เคอจวีสมัยราชวงศ์ถงั และซ่ง (ค.ศ.618-1279) คือ “วิชา
หมิงจิง” และ “วิชาจินซือ”

**“หมิงจิง” โดยหลักแล้วเป็ นการสํารวจความเข้าใจต่อ


หนังสือคัมภีรอ์ มตะต่างๆ ส่วน “จินซือ” จะให้ความ
สําคัญเรืองโคลงกลอนมากกว่า

112
ตอนที ๕ วลีประกาศิต

หลายวันนับจากทีเห็นเหยียวเฉินเหวินเค่อก็ไม่ได้รบั
สัญญาณใดเพิมอีก นันทําให้เขาโล่งใจไปเปราะหนึง

113
อย่างน้อยก็ยงั ไม่มีการเคลือนไหวทีน่าเป็ นห่วง

ความกังวลทีแบกรับค่อยๆ ถูกปลดเปลือง ทําให้เรืองน่า


รําคาญเรืองหนึงทีอุตส่าห์ลืมไปแล้วตีตืนขึนมาอีกครัง
หลังจากถูกปั ดทิงไปเสียนาน

เขาควรรีบสะสางเรืองนีแล้วกลับไปประจําอยูช่ ายแดน
เตรียมตัวรับมือกับปั ญหาทีกําลังจะเกิดขึน

เสียแต่วา่ เรืองของศักดิศรีเป็ นสิงทีกลืนไม่เข้าคายไม่


ออก อีกอย่างเฉินลูป่ ิ นเห็นหน้ายิมเช่นนัน แต่ถา้ จ้องดีๆ
จะรูว้ า่ ดวงตาไม่ได้ยมตาม
ิ คิดจะดูอารมณ์ของอีกฝ่ าย
มองเพียงสีหน้าอย่างเดียวไม่ได้

114
มาว่าเขาป่ าเถือนไร้เมตตาคุณธรรม ตัวเฉินลูป่ ิ นเองเนือ
ในใช่วา่ จะงดงามตามทีชาวบ้านยกยอ ทีเห็นว่างามมี
เพียงหนังหน้าเท่านัน ไอ้ลกู เต่ากวนบาทา ใช้ตาตุม่ มอง
ก็รูแ้ ล้วว่าไม่ใช่ตวั ดี

นับตังแต่เท้าก้าวเข้ามายังจวนเฉินอัน นอกจากโดนหา
เรืองทะเลาะในช่วงแรกกับหลังจากเหตุการณ์นน...เอา

เป็ นว่าหลังจากวันนันตัวเขาเจอหน้าเฉินลูป่ ิ นเพียงตอน
ร่วมโต๊ะมือเย็น และมือกลางวันเป็ นบางครัง

ส่วนตอนกลางคืนเฉินเหวินเค่ออันเชิญตัวเองไปสถิตอยู่
ในห้องหนังสืออีกห้องทีเฉินลูป่ ิ นไม่ได้ใช้ทาํ งาน ในเมือ
คนไร้ยางอายบางคนไม่ยอมจัดแจงทีอยูใ่ ห้ผรู้ ว่ มอาศัย
115
เฉินเหวินเค่อก็ไม่มีเหตุผลจําเป็ นใดต้องนอนร่วมเตียง
กับเฉินลูป่ ิ น เหม็นขีหน้ามันนัก

ยามอยูช่ ายแดนเฉินเหวินเค่อไม่คอ่ ยมีเวลาว่างมาก แต่


ตอนนีกลับว่างจนไม่รูจ้ ะว่างอย่างไร ตลอดสิบปี ถ้าไม่
รบก็ตอ้ งซ้อมรบ ทุกวันล้วนต้องเฝ้าระวังภัย งานเบือง
หน้าเบืองหลังหยุดพักมิได้แม้แต่วนั เดียว

การได้พกั ผ่อนเป็ นสิงทีดี ทว่าความเคยชินของการใช้


กล้ามเนือย่างหนักทุกวันทําให้เวลานังบืออยูเ่ ฉยๆ แล้ว
ครันเนือครันตัว

จวนเฉินอันเป็ นพวกบัณฑิตขนานแท้ อาวุธสักชินทีหาได้

116
ก็มีดาบกลวงๆ ฝังอัญมณีระยิบระยับเห็นแล้วอยากแคะ
เอาไปเป็ นทุนสํารองให้กองทัพ

แต่จะว่าไปก็แปลก วิทยายุทธของเฉินลูป่ ิ นไม่ดอ้ ย กล่าว


ว่าพอมีฝีมือตามประสาบุรุษเพศกับผูป้ กครองเมืองออก
จะมากเกินไปเสียหน่อย ให้เรียกว่ายอดยุทธอีกฝ่ ายยัง
แสดงออกมาไม่ถงึ ขันนัน หรือแท้จริงแล้วเฉินลูป่ ิ นจะ
เป็ นพวกเสือหมอบมังกรซ่อน?

ใจหนึงชังหน้าเจ้าของจวน แต่อยูร่ ว่ มชายคา ข้าวปลาก็


กินของเขา เฉินเหวินเค่อนับถือนําใสใจจริง ใครดีมาดี
ตอบ ใครไม่ชอบซัดเปรียงก่อนค่อยว่ากันอีกที แต่ไม่
ชอบก็สว่ นไม่ชอบ เรืองของบุญคุณใช่วา่ จะไม่มี

117
อีกอย่างหนึงตามมารยาทของผูม้ าขออาศัยระยะยาว
แม้จะเป็ นการโดนบังคับมา แต่ก็ควรจะทําคุณประโยชน์
อะไรบ้าง

พ่อบ้านเหมามีทา่ ทีลาํ บากใจ จะให้แขกสูงศักดิมาทํา


งานชันตําใช้แรงงานก็ใช่ที ลอบปาดเหงือทีไหลท่วม
กระหม่อม พ่อบ้านเหมาก็เดินนําองค์ชายใหญ่ไปทีห้อง
ห้องหนังสือ

สมุดบัญชีรายรับรายจ่ายของจวนเฉินอัน ทังทียังทําไม่
เสร็จเรียบร้อยดี และบัญชียอ้ นหลังถูกวางกองไว้บนโต๊ะ

118
“หวางเย่สงไว้
ั วา่ หากองค์ชายใหญ่อยากหาอะไรทําแก้
เบือให้ช่วยตรวจดูบญ
ั ชีของจวนเฉินอันพ่ะย่ะค่ะ”

พ่อบ้านเหมาประสานมือทูลบอก สีหน้าเผยความลังเล
เล็กน้อย กลืนนําลายลงคออึกใหญ่ ก่อนจะค่อย ๆ ทูล
ถ้อยคําทีท่านชายเจ้าของจวนบอกเอาไว้ประโยคสุด
ท้ายเสียงค่อย

“หรือจะเปลียนมาเริมบทเรียนระหว่างศิษย์กบั
อาจารย์....‘อาจารย์พร้อมสอนศิษย์ผนู้ ่ารักเสมอ’ องค์
ชายใหญ่หะ...หากมีอะไรให้บะ...บ่าวรับใช้เรียกได้เสมอ
พ่ะย่ะค่ะ บ่าวขอทูลลา”

119
สีหน้าของเฉินเหวินเค่อเริมดําคลํา พ่อบ้านเหมาร้องไห้
นําตาตกใน หลับหูหลับตาทูลบอกรวดเร็วจนลินพัน คุก
เข่าโขกศีรษะลงพืนสามครังรวด แล้วกล่าวขอตัวเดินจํา
อ้าวออกมาแทบไม่ทนั

ไอ้ลกู หมา ไอ้ลกู เต่า ไอ้ตวั บัดซบเฉินลูป่ ิ น!

เฉินเหวินเค่อหยิบเอาจานฝนหมึกเตรียมเขวียงระบาย
แค้น ฉับพลันความทรงจําทีไม่อยากจําก็ผดุ วาบเข้ามา
ในหัว

‘อือ...พอแล้ว ปากข้าชําหมดแล้ว!’

120
แม่ทพั หนุ่มหายใจฟึ ดฟั ด ยอมวางของในมือโดยดี จาน
ฝนหมึกจึงยังไม่ถงึ ฆาต

เขารูส้ กึ ว่าเรืองนีไม่ถกู ต้อง บางสิงติดอยูใ่ นใจแต่นกึ

121
อย่างไรก็นกึ ไม่ออก

สองวันก่อนพึงสินเดือนสอง สมุดบัญชีประจําเดือนจึงยัง
ไม่เสร็จดี ประจวบเหมาะกับทีเฉินเหวินเค่อเสนอหน้ารับ
มาจัดการ หลังจากรือฟื นศาสตร์ดา้ นการคํานวณทีกลบ
ฝังเอาไว้ในซอกหลืบ ในทีสุดเขาก็พิชิตงานด้านการ
ตรวจบัญชีลงได้สาํ เร็จ

ปกติงานจุกจิกแบบนีซือหม่าทีเป็ นกุนซือคนสนิทของเขา
จะเป็ นคนจัดการ ตัวเฉินเหวินเค่อมีหน้าทีตรวจดูความ
ถูกต้องในตอนท้ายพอเป็ นพิธีเท่านัน

พอมือไม่ขยับสมองก็วกกลับมาคิดเรืองค้างคาในใจ...

122
นังตรวจบัญชีของจวน ตรวจดูความเรียบร้อยภายใน
บ้านนีมันให้ความรูส้ กึ ตะหงิดๆ

ฉับพลันดวงตาสีขีเถ้าเบิกกว้างขึนเล็กน้อย ในหัวสว่าง
วาบ

ครังหนึงเฉินเหวินเค่อเคยเอือมระอาอดีตรองแม่ทพั ของ
ตน ด้วยความรําคาญลูกน้องทีตกลงสูห่ ว้ งรักของคูย่ วน
ยาง

ฟั งรองแม่ทพั พรําเพ้อว่าศรีภรรยาดีอย่างงูน้ ดีอย่างงี


นอกจากจะเชียวชาญด้านงานครัวแล้ว เรืองการจัดการ
ภายในจวนก็ไม่เป็ นสองรองใคร ตอนแรกก็กงั วลว่าคุณ

123
หนูสกุลใหญ่ทีไม่เคยแตะต้องเรืองการบริหารงานในจวน
มาก่อนอาจจะลําบาก แต่ผลลัพธ์กลับผิดคาด

คิดได้ถงึ ตรงนีเฉินเหวินเค่อก็มีรสขมในปาก ฉิบหาย! นี


เขาไม่ใช่เสร่อมาทําหน้าทีหวางเฟยของจวนเฉินอันอยูเ่ ร
อะ!

บริหารงานบ้าน ตรวจการบัญชี ปรนนิบตั ิสามี และทํา


หน้าทีลูกสะใภ้ทีดี สีหน้าทีหลักของเอกภรรยา เฉินเหวิ
นเค่อล่อไปแล้วครึงหนึง เหลือแค่วิงแจ้นไปตามดูแลเฉิน
อันหวางไท่เฟย[2]ทีกําลังปฏิบตั ิธรรมอยู่ ณ อาราม
หลวงเช่นเดียวกับพระอัยยิกา[3] สุดท้ายเปลืองผ้านอน
รอสามีมาทําการบ้าน เขาก็กลายเป็ นสะใภ้แต่งเข้าจวน
เฉินอันเต็มตัวแล้ว
124
คิดถึงข้อสุดท้าย พูก่ นั จือหาว[4]หักคามือ เฉินลูป่ ิ นทัน
มาเห็นฉากนีพอดี สลับมองคนทีหน้าเริมเขียวกับกอง
บัญชีและสารพันปั ญหาการจัดการภายในจวน รูไ้ ด้โดย
ทันทีวา่ ท่านแม่ทพั ทีกําลังโมโหมีสาเหตุมาจากอะไร

“ดูเหมือนท่านจะทําหน้าทีนีได้ดีเลยทีเดียว”

ไฟทีกําลังปะทุหากอยากกลันแกล้งสักหน่อยก็แค่โยน
ฟื นลงไป แน่นอนว่าเฉินลูป่ ิ นมีความสุขทีเห็นใครบางคน
กําลังอกแตกตาย

พยัคฆ์ดรุ า้ ย แต่เนือแท้ไม่ตา่ งอะไรกับแมว เฉินลูป่ ิ น

125
เหยียดยิมให้กบั ความคิดนีของตนอยูใ่ นใจ

เฉินเหวินเค่ออารมณ์พงุ่ สูงทะลุหลังคา แต่เขารูว้ า่ ถ้าตัว


เองโมโหจนทําของทียิงกว่าพูก่ นั ในมือพังเรืองนีจะมีจดุ
จบเช่นไร

ผลลัพธ์เช่นนีจะโทษใครได้ หากเขาไม่พลาดให้อีกฝ่ าย
ล่วงรูจ้ ดุ อ่อนมีหรือต้องตกตําถึงเพียงนี

เฉินเหวินเค่อพรังพรูลม่ หายใจหงุดหงิด เห็นหน้ายิมของ


คนบางคนก็ราํ คาญลูกตา จึงจัดกองเอกสารบนโต๊ะทีทํา
เสร็จให้เรียบร้อย แล้วจึงกระแทกส้นเท้าออกจากห้อง

126
แต่วา่ เวลาอยูก่ บั ไอ้ลกู เต่าบัดซบนีเพียงลําพังไม่เคยมี
อะไรง่าย

เฉินลูป่ ิ นยืนขวางทางออกไม่คิดจะหลบเลียง

“ท่านไม่ทาํ ต่ออีกสักหน่อยเล่า ฝึ กเอาไว้ไม่เสียหายพอ


ถึงเวลาจริงๆ จะได้ไม่ลาํ บาก”

เฉินเหวินเค่อถลึงตา “ข้าไม่คิดจะแต่งเป็ นภรรยาให้ใคร


จะฝึ กเอาไว้ทาํ อะไร”

“ลิขิตสวรรค์ สรรพสิงยากคาดเดา ชีวิตไม่มีอะไรแน่


นอน”
127
“ทําไม? เจ้าคิดว่าข้าจะแต่งเป็ นหวางเฟยให้เจ้า”

อีกฝ่ ายไม่ตอบ แย้มยิมงามตามปกติ เฉินลูป่ ิ นมีรอยยิม


ประดับหนังหน้าตลอดถึงดวงตาจะสงบนิง ทว่าครานี
นัยน์ตาสีขีเถ้าคูส่ วยกลับพราวระยับเป็ นประกายทีเขา
ไม่เคยเห็นมาก่อน

เฉินเหวินเค่อเสียวสันหลังวาบ จิตสังหารทุกรูปแบบที
เคยพบเจอต่างแพ้พา่ ยให้กลับแววตานีของเฉินลูป่ ิ นทัง
สิน

ไม่รูด้ ว้ ยซําว่าตัวเองเผลอก้าวถอยหลังตอนไหน...

128
เฉินเหวินเค่อถูกคว้าข้อมือเอาไว้ ด้านหลังของมือขวามี
จุดนําหมึกกระจายเป็ นดวงๆ หลังจากบีบพูก่ นั หักคามือ

“เจ้าจะทําอะไร”

เฉินลูป่ ิ นไม่ตอบ ดึงนิวของเขาเข้าปาก ฟั นเขียวกัดลงมา


ทีปลายนิวชี เฉินเหวินเค่อกระชากมือออก แต่วา่ ก็ถกู จับ
เอาไว้แน่น

เฉินลูป่ ิ นเห็นแขนบาง ความจริงมีกล้ามเนือไม่นอ้ ย ถึง


อีกฝายจะไม่ใช่พวกใช้แรงเยอะ แต่ก็รูว้ า่ ควรจะออกแรง
เท่าไหน แตะตรงจุดไหนต้องจับอย่างไรจึงจะเกิด

129
ประโยชน์สงู สุด

ลดการขยับร่างกายทีไม่จาํ เป็ น และดึงประสิทธิภาพ


ของกล้ามเนือมาใช้ นีหาใช่เรืองแปลกสําหรับเฉินเหวิ
นเค่อ วิธีนีเขาเองก็เป็ นคนสอนทหารใต้บงั คับบัญชา
บางส่วนทีแรงน้อยกว่าคนอืน รวมถึงพวกพลเกาทัณฑ์ที
ต้องฝึ กไว้เผือโดนประชิดตัว

กว่าจะแงะออกมาได้เขาก็โดนกัดไปแล้วสามนิว

เฉินลูป่ ิ นหัวเราะเบาๆ ไม่ยีหระต่อสิงทีตัวเองพึงทําไป

“อย่าพังข้าวของ ข้าเคยบอกท่านแล้ว”
130
“ถ้าไม่อยากให้ขา้ พังก็ทาํ ตามราชโองการของจักรพรรดิ
ให้เสร็จเสียสิ”

เฉินลูป่ ิ นเลิกคิว “ฝ่ ายทีต้องทํามันท่านมิใช่หรือ”

เฉินเหวินเค่ออยากจะอ้าปากเถียงต่อ แต่วา่ คิดคําพูดไม่


ออกจึงได้แต่กดั ปากฉับ เมินหน้าหนีเดินกลับไปนังทีโต๊ะ
ตามเดิม

.
131
.

เวลาบ่ายคล้อยเสียวถงเป็ นผูจ้ บั ได้ไม้สนจากการหาผู


ั ้
กล้ามาเปลียนกานําชาให้องค์ชายใหญ่ ยืนทําใจหน้า
ห้องหนังสืออยูน่ านกว่าจะเข้าไปได้

สําหรับผูร้ ูห้ นังสือกลินอายหนังสือเก่าเป็ นกลินจรรโลงใจ


แต่สาํ หรับบ่าวผูไ้ ม่ประสานับว่าเป็ นกลินเหม็นหืนกลิน
หนึงเท่านัน

หวางเย่ยกนิวจรดริมฝี ปาก โบกมือน้อยๆ ให้เขาเข้าไป


หา กานําชาเย็นชืดก่อนหน้าถูกนํามาเปลียนกับอันใหม่

132
องค์ชายใหญ่ทีมักจะหน้าตึงแผ่รงั สีไม่น่าเข้าใกล้ เมือจม
จ่อมอยูก่ บั สมุดบัญชีดวงตาคมกริบแน่วแน่ แผ่นหลังตัง
ตรง การขยับพูก่ นั ในมือทําได้องอาจน่าเกรงขาม เสน่ห ์
ของชายชาตรีอดั แน่นอยูเ่ ต็มเปี ยม

ยามเคียงคูก่ บั เจ้านายรูปงามของพวกตนแล้ว แม่สอยั


ื ง
ต้องออกปากว่ากิงทองใบหยก

เฉินเหวินเค่อรับนําชาทีอีกฝ่ ายรินให้มาจิบ ถึงยามปกติ


จะไม่ชอบขีหน้า แต่ในเมือได้รบั นําใจ แม้เล็กน้อยแต่เขา
ก็ไม่งกคําขอบคุณ

133
เสียวถงยืนเก้งก้างมือไม้เกะกะ อยูต่ รงนีเหมือนเป็ นก้าง
ชินโตคอยขัดบรรยากาศ ในเมือผูส้ งู ศักดิทังสองมิได้
มอบคําสังใดให้ เสียวถงจึงค่อยๆ ย่องหลบฉากมา
เงียบๆ

แต่เสียวถงเป็ นบ่าวอายุนอ้ ย ความอยากรูอ้ ยากเห็นมีอยู่


เต็มเปี ยม จึงแอบมองบุคคลทังสองไม่ได้รบี ร้อนจากไป
ในทันที

ท่านชายรูปงามเอ่ยถ้อยคําบางอย่าง เสียวถงอยูไ่ กลจึง


ได้ยินไม่ชดั นัก องค์ชายใหญ่ตวั สันหน้าเริมปรากฏริว
แดง

134
คราวนีหวางเย่พดู ดังขึนหน่อย “เป็ นหวางเฟยของข้าไม่
ดีตรงไหน อีกอย่างร่างกายของท่านข้าก็เห็นหมดแล้วทุก
ซอกทุกมุม”

เท่านันแหละองค์ชายใหญ่คว้าจานฝนหมึกโบกผัวะไปที
บ้องกะโหลกของหวางเย่

เสียวถงตาเหลือก ตกใจจนหงายหลัง นึกในใจว่า 'ไอ้


หยา เจ้านายตีกนั อีกแล้ว'

ขณะจะวิงไปตามพ่อบ้านเหมา เสียงตึงตังทีดังจากใน
ห้องก็เรียกความสนใจจากเสียวถงเสียก่อน

135
องค์ชายใหญ่ถกู กดลงบนโต๊ะ สมุดบัญชีกบั กระดาษ
ปลิวว่อน นําหมึกหกกระจาย

เสียวถงพลันใจไม่ดี มุมนีเห็นเพียงเจ้านายทังสองใบ
หน้าใกล้ชิดกันมาก แล้วเหตุใดองค์ชายใหญ่จงึ ส่งเสียง
พิกลเช่นนัน

“อะ..นีเจ้า! อืม”

บ่าวน้อยลังเลว่าจะเข้าไปเสียงตายห้ามทัพ หรือจะรีบไป
หาคนช่วยดี จนกระทังเสียงพิกลทีว่าเริมเจือไปด้วยเสียง
อืน เสียวถงก็วงออกไปพลางตะโกนหาพ่
ิ อบ้านเหมาลัน
จวน

136
โดยประโยคสุดท้ายทีได้ยินจากห้องหนังสือคือ “อย่าพัง
ข้าวของ ข้าเคยบอกท่านแล้ว”

137
ท่านแม่ทพั อย่าโมโห ยิงท่านโมโหท่านยิงเสียตัวเร็วขึน
แค่ก--- ตรวจพบคนเนียน 1 ea.

ข้อมูลเพิมเติม

[1] หวางเย่ : เป็ นคําสรรพนามทีใช้เรียกเจ้านายผูด้ าํ รง


ยศหวาง/ชินหวาง

[2] หวางกัวไท่เฟย (王國太妃) เรียกลําลองว่า


หวางไท่เฟย (王太妃) พระชายา พระสนม หรือนาง
ในทีเป็ นพระมารดาของพระโอรสในองค์จกั รพรรดิทีได้
ดํารงตําแหน่งหวาง(อ๋อง) ในรัชสมัยถัดมาจะมีตาํ แหน่ง
เป็ นหวางกัวไท่เฟย รวมถึงเป็ นตําแหน่งพระมารดาของผู้

138
ดํารงยศหวางทีไม่ใช่พระโอรสของจักรพรรดิโดยตรงด้วย
เช่นกัน

[3] พระอัยยิกา : (ราชา) น. ย่า ยาย

[4] พูก่ นั จือหาว ทํามาจากขนอ่อนบนสันหลังและส่วน


หางของกระต่าย หายากและราคาแพงมาก

139
ตอนที ๖ ปิ นก้านเหมย

รูเ้ ขารูเ้ รารบร้อยครังชนะร้อยครัง ไม่มีผใู้ ดในใต้หล้าทีไร้


ซึงจุดอ่อน

เมือเพลียงพลําครังแล้วครังเล่า เฉินเหวินเค่อจึงต้อง
พิจารณาศัตรูตวั ฉกาจเสียใหม่ เดิมทีเห็นเป็ นหนุ่มน้อย
140
หน้าละอ่อน คิดว่าแค่ใช้ชือเสียงแม่ทพั เลือดของตนก็
เพียงพอแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมาพลาดท่าเสียเอง

นึกแล้วเจ็บใจนัก ไม่วา่ เขาจะทําอะไรก็ดเู หมือนจะผิดไป


หมดทุกอย่าง แบบนันมันหาเรืองกันชัดๆ แถมวิธีการลง
โทษ…ทําไมจึงต้องเป็ นจุมพิตด้วยเล่า!

เฉินเหวินเค่อชังอีกฝ่ ายนัก เกรงว่าชาตินีแม้แต่จะให้


เรียกขานว่าสหาย ก็ยงั เอ่ยได้ไม่ถงึ ครึงคํา เรืองพีน้องรัก
ใคร่ไม่ตอ้ งมาพูดถึง

ลองกระชากคอบ่าวรับใช้มาสอบถามนิสยั ของเฉินลูป่ ิ น
สิงใดทีชอบและไม่ชอบ แต่ก็ไม่ได้ขอ้ มูลทีมีประโยชน์นกั

141
เขาแค่รูว้ า่ เฉินลูป่ ิ นไม่ได้มีของทีชมชอบหรือรังเกียจเป็ น
พิเศษ แต่ถา้ สะสมมากหน่อยก็เป็ นหนังสือทีได้เป็ นของ
ขวัญจากสํานักศึกษา พอเขาถามว่าเฉินลูป่ ิ นเคยเข้า
ศึกษาทีสํานักศึกษาชือดังทีไหนกลับไม่มีผใู้ ดให้คาํ ตอบ

พิกลนัก…เขาไม่เชือว่าคนอย่างเฉินลูป่ ิ นจะไม่มีใคร
ทราบว่าไปศึกษาเล่าเรียนทีไหน เสียดายทีตลอดสิบปี ที
ผ่านมา เขาใช้ชีวิตอยูช่ ายแดนตะวันออกตลอด ข่าว
คราวทีได้ยินมาบางทีอาจจะตกหล่นไปบ้างก็ได้

ในศิลปะทังสีเฉินลูป่ ิ นเชียวชาญเท่ากันหมด หึ! เฉินเหวิ


นเค่อทีฟั งข้ารับใช้พดู ถึงตรงนีก็แค่นเสียงหมันไส้ แต่อีก
ฝ่ ายดูเหมือนจะชอบบรรเลงกู่ฉินกับวาดภาพมากกว่า
อย่างอืนนิดหน่อย
142
ท่าทางคุณชาย นิสยั คุณชาย หน้าตาคุณชาย งาน
อดิเรกก็คณ
ุ ชาย ตีลงั กามองดูยงั ไงก็คณ
ุ ชาย แล้วไปฝึ ก
วิชายากๆ อย่างดัชนีพิฆาตสกัดจุดกับวิชาบิดกระดูก
มากจากไหน ดูทา่ คงต้องเริมสืบจากสถานศึกษาลึกลับ
ทีอีกฝ่ ายรําเรียนมาเสียแล้ว

ส่วนเรืองอาหารการกินก็ไม่เรืองมาก แต่ทีไม่คอ่ ยชอบ


คือปลา อยูใ่ นระดับทีให้กินก็กินได้ แต่ถา้ เลียงได้ก็จะไม่
กิน

ไหนว่ากินปลาแล้วจะฉลาด แล้วคนสมองแบบนันแต่ไม่
ชอบปลา กินเห็ดหลินจือบนยอดเขาคุนหลุนเข้าไปหรือ

143
ไง

“เห็ดหลินจือคุนหลุนเป็ นแค่เรืองเล่าของยุทธภพนะพ่ะ
ย่ะค่ะองค์ชาย”

“เจ้าหนูสมองเม็ดถัวเขียวข้าประชด หรือเจ้าไม่มีปลา
กิน” เฉินเหวินเค่อถลึงตาใส่บา่ วน้อย

วันนันน่าจะตักปลาให้เยอะๆ เอาให้สาํ ลักตายไปเลย!

เสียวถงคอตก บ่าวน้อยโอดครวญอยูใ่ นใจ ...ทําไมผูท้ ี


โดนกระชากคอจึงต้องเป็ นข้าด้วยขอรับ

144
“แล้วมีอะไรอีกไหม”

เสียวถงกระพริบตา อาจเป็ นจริงอย่างองค์ชายใหญ่


กล่าว เขาคงขาดสารอาหารจากปลาจริงๆ พ่อบ้านเหมา
รับคําสังสําคัญมาจากท่านชายลูป่ ิ นมอบบทให้บา่ วรับ
ใช้ทอ่ งจําเกียวกับท่านชายโดยละเอียด เพือเอาไว้บอก
องค์ชายใหญ่หากพระองค์ถาม เขาก็จาํ ได้บา้ งไม่ได้บา้ ง
จะอย่างไรเขาก็บา่ วก้นครัว เรืองหยุมหยิมไม่สนั ทัดเป็ น
ปกติ

แต่ไอ้หยา! เหตุใดคนทีซวยจึงเป็ นเขาตลอดเลย องค์


ชายท่านหิวมาผิดคนแล้วขอรับ

145
“หวางเย่ชอบฤดูหนาวมากทีสุดพ่ะย่ะค่ะ เพราะ เอ่อ
เพราะ…อ้อ เพราะทรงโปรดดอกเหมยแดงมาก หวางเย่
ทรงมีสหายสนิทไม่มาก แต่ทีบ่าวเคยเห็นตัวเป็ นๆ มีอยู่
คนพ่ะย่ะค่ะ แต่ตอนนันบ่าวแปดขวบ จํารายละเอียดไม่
ค่อยได้ จําได้แค่วา่ เป็ นคนสวยมากๆ งามกว่าหวางเย่อีก
พ่ะย่ะค่ะ อ๊ะ! หวางเย่ทรงเรียกคนคนนันว่า ‘ศิษย์พี’
ด้วย คิดว่าคงเป็ นคนเดียวกับทีส่งหนังสือมาให้หวางเย่
เป็ นประจํา”

เสียวถงส่ายหัวในทันใด เมือเห็นแขกผูส้ งู ศักดิกําลังจะ


อ้าปากถามต่อ

“บ่าวจําได้แค่นีจริงๆ หากองค์ชายอยากทราบมากกว่านี
ต้องถามท่านหัวหน้าพ่อบ้านแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
146
“ศิษย์พีคนทีเจ้าว่า มาทีจวนบ่อยไหม”

“ตังแต่ตอนทีบ่าวเห็นเมือราวเจ็ดหรือแปดปี ก่อนก็ไม่เคย
มาอีกเลยพ่ะย่ะค่ะ คือ….”

เฉินเหวินเค่อเห็นบ่าวน้อยมีทา่ ทีอกึ อัก ปากขมุบขมิบ


จะพูดก็ไม่พดู รําคาญลูกตานัก

“เจ้าหนูสมองถัวดํามีลมก็รบี ผายจะมัวพิรพิี ไรไปทําไม


หรือต้องให้ขา้ ดึงลินเจ้าออกมาก่อนหือ?”

ก่อนหน้านียังเรียกว่าถัวเขียวอยูเ่ ลย ตอนนีมาเปลียน
147
เป็ นถัวดํา องค์ชายท่านก็ตอ้ งการปลาเหมือนกันนัน
แหละ!

“พะ..พูดแล้วขอรับ เอ้ย พ่ะย่ะค่ะ!” เสียวถงลนลาน แค่


เห็นองค์ชายใหญ่ขยับมือความกล้าทีแอบนินทาเจ้านาย
ในใจ หดจนเล็กเสียยิงกว่าเมล็ดงาเสียอีก

“เรืองนีหากบ่าวเล่าไปองค์ชายจะไม่บอกใครว่ามาจาก
บ่าวนะพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่สญ
ั ญา” เฉินเหวินเค่อตอบเร็วอย่างไม่ยีหระ

เสียวถงนําตานองหน้า ขมขืนนักแต่ปากเมือถูกง้างออก
148
มาแล้ว เกรงว่าหากมือทีจับอยูไ่ ม่ปล่อยออกไปเอง ก็มี
แต่ตอ้ งกลันใจตายเท่านัน

“คือบ่าวไปได้ยินพวกข้ารับใช้คนอืนพูดกันว่า เจ็ดปี ก่อน


ศิษย์พีผูน้ นกลั
ั บมาหาหวางเย่เพือบอกลา เห็นว่าหลัง
จากนีคงไม่อาจมาหาหวางเย่ได้แล้วเพราะกําลังตังครรภ์
พวกบ่าวซุบซิบกันว่าจริงๆ แล้วศิษย์พีผูน้ นเป็
ั นรักแรก
ของหวางเย่พะ่ ย่ะค่ะ”

เขาว่ายอดยุทธยังมีจดุ อ่อนเป็ นคนงาม ท่านชายอย่าง


เฉินลูป่ ิ นมีหรือจะหนีพน้ เรืองสายลมจันทรา[1] แต่ดทู า่
บ่าวสมองถัวคนนีคงจะไม่ทราบอยูด่ ีวา่ เป็ นผูใ้ ด เค้นไปก็
เท่านัน เฉินเหวินเค่อจึงโบกมือไล่ให้อีกฝ่ ายไปทํางานต่อ

149
ชิชะ! เจ็ดแปดปี ก่อนเฉินลูป่ ิ นอายุเท่าไร พึงสิบสองสิบ
สามมิใช่หรือ ริอาจมีรกั แรก เป็ นไอ้ลกู เต่าหน้าเหม็นไม่
พอ ยังเป็ นลูกเต่าแก่แดดอีกด้วย

บ่ายคล้อยแล้วอากาศวันนีไม่เลวทีเดียว เฉินลูป่ ิ นออก


มาเดินยืดเส้นยืดสายหลังจากจัดการกองงานสูงท่วมหัว
150
ได้เกือบหมด ไม่กีวันก่อนพวกโฝหลางจี[2]พึงนําเรือเข้า
มาเทียบท่าก่อปั ญหา ทําให้เขาหัวหมุนกับการยุติขอ้
พิพาทไม่ให้ลกุ ลามใหญ่โตไปกระทบกับพวกพ่อค้าต่าง
ชาติกลุม่ อืน

ยังดีทีวิธีปราบพยัคฆ์ของดูจะใช้ได้ผลดีไม่นอ้ ย คนดือใน
จวนถึงได้สงบเสงียมลง แต่วา่ ก็น่าเสียดาย ท่านชายรูป
งามแลบลินเลียริมฝี ปากหวนนึกถึงรสชาติ และสัมผัส
จากร่างกายของแม่ทพั เลือดผูไ้ ร้พา่ ย...รูแ้ บบนีน่าจะ
หลอกจับให้มากกว่านี

พอคิดถึงแล้วก็อยากเจอหน้าสักหน่อย...

151
“องค์ชายใหญ่อยูท่ ีไหน”

ยุง่ มาตังหลายวันจะแกล้งอีกฝ่ ายอย่างไรดี เหวินเกอข


องเขาจึงจะหลุดโมโหออกมาให้ ‘ลงโทษ’

รอยยิมอ่อนหวานยังนุ่มนวลไม่ตา่ งจากปกติ เพียงแต่


แววตาทีนิงสงบกลับทอประกายระยับ

152
.

แผนทีจําลองผืนใหญ่ทาํ จากหนังชันดีฟอกจนขาว แม้


ตอนนีมันจะเหลืองไปบ้างตามกาลเวลา แต่รายละเอียด
ส่วนใหญ่ก็ยงั ครบถ้วนชัดเจน เฉินเหวินเค่อใช้เม็ดหมาก
กําหนดจุดกองกําลังฝังตนเอง และศัตรูจากชนกลุม่ น้อย
นอกด่าน

สิบปี ทีผ่านมาชนเผ่านักรบทังหลายต่างปราชัยใต้การนํา
ทัพของเขาทังนัน ไม่วา่ จะพวกเมียน ถูจือ เปยไห่ อูน่า
แม้แต่เก๋อหลันทีแข็งแกร่งกว่าทุกเผ่า ในศึกตัดสินสุด
ท้ายก็แตกพ่ายภายในเวลาหนึงเดือน คิดถึงตรงนีมุม
ปากของเฉินเหวินเค่อแค่นยิมเยาะ

153
ชายแดนตะวันออกของแผ่นดินเสวียนเฉินติดกับแดนทุง่
หญ้า ชนกลุม่ น้อยเทียบกับชายแดนอืนแล้วมีมากกว่า
อย่างเห็นได้ชดั ทุกเผ่าล้วนแยกมาจากเผ่าใหญ่เอ๋อร์ก่นุ
เคยยิงใหญ่เช่นไร แต่อดีตย่อมเป็ นอดีต หากคิดจะตีชาย
แดนให้แตกพ่ายไยจึงมุง่ มันทีจะเข้าปะทะกับทัพตะวัน
ออกถึงเพียงนัน ข้ามภูเขาแล้วบุกเข้าทางตะวันออก
เฉียงใต้มิดีกว่าหรือ พืนทีตรงนันเป็ นอาณาเขตซ้อนทัพ
ของเขากับแม่ทพั ใต้มานาน การปกครองดูแลหละหลวม
กว่าจุดอืน

หากไม่มีสงที
ิ ต้องการเบืองหลังปราการกองทัพพิทกั ษ์
ชายแดนตะวันออก ก็คงเหลือเหตุผลไม่กีข้อ

154
เฉินเหวินเค่อหยิบเม็ดหมากสีแดงจากเกมกระดานฤดู
ร้อน วางไว้หลังชนกลุม่ น้อยทีพ่ายแพ้ สีแดงเพลิงทีตัด
กับหมากล้อมธรรมดาสีขาวและดํา ทําให้เม็ดหมากนัน
โดดเด่นทีสุดยามทอดสายตามองไปทีแผนทีของแผ่นดิน

ไม่วา่ จะซ่องสุมกองกําลังมามากมายเพียงใดตัวเขาแม่
ทัพเลือดไร้พา่ ยก็พร้อมจะบดขยีผูร้ ุกรานเสมอ เพือรอวัน
ทีเม็ดหมากทีซ่อนตัวอยูใ่ ต้กระดานมาโดยตลอดอดรน
ทนไม่ไหว จนต้องยืนเท้าของตัวเองเข้ามาร่วมด้วย

ไม่รูป้ ่ านนีทางชายแดนตะวันออกจะเป็ นอย่างไรบ้าง…

ต้องหาทางส่งข่าวคราวไปให้ได้ ทีสําคัญคือต้องพิสจู น์

155
ด้วยว่าข้อความจากกุนซือคนสนิท ไม่มีมาจริงๆ หรือถูก
ทําให้หายไปก่อนจะมาถึงมือเขากันแน่

เพราะหากเป็ นอย่างหลัง ราชโองการของเสด็จพ่อ...

จมอยูใ่ นห้วงภวังค์มากเกินไปหน่อยเฉินเหวินเค่อจึง
เผลอปั ดโถใส่เม็ดหมากหล่นกระจายเต็มพืน บ่าวรับใช้ที
อยูน่ อกห้องเปิ ดประตูเข้ามา เมือเห็นว่าเกิดอะไรขึนก็
ตรงดิงเข้าไปจัดการความวุน่ วายให้เรียบร้อย

ความมือไม้วอ่ งไวเก่งกาจเป็ นกันทังนายทังบ่าว พริบตา


เดียวเม็ดหมากทังหมดก็ถกู เก็บอย่างเรียบร้อยราว
อุบตั ิเหตุเมือสักครูไ่ ม่เคยเกิดขึน แต่ถงึ กระนันก็มีบาง

156
ส่วนหลุดรอดไป

เม็ดหมากเม็ดหนึงกระเด็นไปอยูต่ รงข้างซอกตูบ้ ริเวณ


มุมโต๊ะ ตอนนีเฉินเหวินเค่อไม่ได้อยูใ่ นห้องหนังสือรอง
ของจวน แต่ถือวิสาสะแอบมาใช้ทีห้องหลักทีเฉินลูป่ ิ นใช้
นังทํางานเป็ นประจํา พักหลังอีกฝ่ ายไม่คอ่ ยว่าง เห็นว่า
มีปัญหากับพ่อค้าต่างชาติ หลายวันมานีต้องออกนอก
จวนไปจัดการ

หืม?

พอเข้ามาดูใกล้ๆ ภาพวาดแขวนผนังรูปต้นเหมยแดง
นี…เฉินเหวินเค่อดึงภาพแขวนออกอย่างไม่คอ่ ยจะเบา

157
มือนัก ทีแท้ขา้ งหลังก็เป็ นช่องเก็บของทีซ่อนไว้นีเอง
หากภาพแขวนไม่ได้เอียงอยูเ่ ล็กน้อยจนผิดสังเกต เขา
อาจไม่รูก้ ็ได้วา่ มีบางอย่างถูกซุกซ่อนเอาไว้

พวกข้ารับใช้ทีเข้ามาทําความสะอาดคงเผลอไปชนเข้า
ตามนิสยั คุณชายทุกกระเบียดนิวของเฉินลูป่ ิ น ไอ้ลกู เต่า
นันไม่มีวนั ทนมองความเบียวทีสามารถมองเห็นได้ดว้ ย
ตาเปล่านีแน่

มาดูกนั หน่อยเถิด คนอย่างเฉินลูป่ ิ นเก็บซ่อนสิงใดไว้


บางทีจดุ อ่อนทีเขาถามหาอาจจะได้รบั คําตอบก็เป็ นได้

กล่องไม้แดงฉลุลายนกยูงรําแพนหางเด่นสะดุดตาทีสุด

158
เฉินเหวินเค่อไม่อาจละสายตาจากล่องใบนีได้อย่างน่า
ประหลาด เมือเปิ ดออกสิงทีอยูภ่ ายในก็คือปิ นก้านเหม
ยอันหนึง

ก้านเล็กสีนาตาลเข้
ํ ม เหมยแดงงดงามในคืนจันทร์เต็ม
ดวง ภายในอุทยานหลวงทีเงียบเหงายังคงได้ยลยินเสียง
ดนตรีรนเริ
ื ง

คลับคล้ายว่าจะได้ยินเสียงใสกระจ่างเรียกขาน…

‘เหวินเกอ’

ร่างกํายําของแม่ทพั ผูน้ ่าเกรงขามเอนไหว ไม่ตงมั


ั นแข็ง
159
แกร่งดังเช่นภูผาสูง ในศีรษะปวดร้าวราวกับมีใครกําลัง
บีบเค้น

ใครกัน? เสียงนันทําไมถึงได้….

ความรูส้ กึ มากมายทีประเดประดังเข้ามาแยกไม่ออกเลย
ว่ามีอะไรบ้าง ภาพเบืองหน้าเริมพร่าเลือน กล่องไม้งด
งามตระการตาตกลงกระแทกพืน แต่ปินก้านเหมยในมือ
ยังถูกกําไว้แน่น

เฉินเหวินเค่อร่างกายเบาหวิว รูส้ กึ ถึงอ้อมแขนทีกําลัง


โอบประคองเขาไว้อย่างถนอม

160
“ลูล่ ”ู่ เสียงพร่าเอ่ยเรียกขานนามหนึงทีตัวเขาเองก็จาํ ไม่
ได้วา่ คือผูใ้ ด

เฉินลูป่ ิ นเบิกตากว้าง หัวใจกระตุกวูบ เป็ นครังแรกทีอีก


ฝ่ ายเรียกขานตนว่าเช่นนี อย่างน้อยก็ในรอบสิบปี เมือ
เห็นว่าในมือของเฉินเหวินเค่อกําสิงใดไว้ ก้อนเนือในอก
ซ้ายกระหนําเต้นแรงเสียยิงกว่าห่าฝนในยามเกิดพายุ

‘อาลู่ เสียวลู่ ลูเ่ อ๋อร์ อืม…เอาเป็ นลูล่ กู่ ็แล้วกัน’

‘เหตุใดจึงฟั งดูเหมือนสุนขั เล่า เรียกข้าว่าเสียวลูก่ ็ได้นี’

‘'ชิชะ! ไอ้เด็กเรืองมาก ถ้าเรียกเสียวลูม่ นั ก็เหมือนคนอืน


161
สิ แล้วแบบนันจะพิเศษได้อย่างไร’

‘แล้วลูล่ มู่ นั พิเศษตรงไหน’

‘ถ้ามีแค่ขา้ คนเดียวทีเรียกเจ้า เพียงเท่านีพิเศษขึนมา


หรือยัง?’

“อึก...” เฉินเหวินเค่อยกมือกุมขมับ ปิ นก้านเหมยร่วง


หลุดจากมือ เหมือนภาพบางอย่างไหลผ่านหัวไปอย่าง
รวดเร็ว พอพยายามจะนึกถึงก็เห็นเพียงม่านหมอกสีเทา
เท่านัน

“เหวิ—ท่านไหวหรือไม่”
162
เขาส่ายหน้าเป็ นเชิงบอกว่าไม่เป็ นอะไร แม้ตอนนีจะยัง
รูส้ กึ หน่วงๆ แต่ก็ดีกว่าตอนแรกมากแล้ว

“แล้วเจ้าจะกอดข้าอีกนานแค่ไหน ปล่อย!”

เฉินเหวินเค่อฟาดฝ่ ามือใส่วงแขนทียังโอบกอดไม่ยอม
คลาย แต่พอตีไปหนึงทีแทนทีอีกฝ่ ายจะยอมปล่อยกลับ
รัดแน่นขึนไปอีก ครันเงือมือจะฟาดอีกสักทีมือข้างนันก็
ถูกจับเอาไว้แน่น

“ท่านตอบแทนผูม้ ีพระคุณเช่นนีหรือ”

163
เฉินลูป่ ิ นยิมหวาน แอบเหล่สายตาไปยังมือทีกําลังกอบ
กุม สัมผัสชีพจรในกายดูปกติดี แล้วทําไมอีกฝ่ ายถึงได้
ทรุดลงตอนเห็นปิ นนีกัน…

“...ขอบคุณ”

“แค่นีเองหรือ เศร้าใจยิงนัก”

เฉินเหวินเค่อตาขวาง จะทําหน้าตาเจ็บปวดไปทําไม คิด


ว่าเขาดูไม่ออกเรอะ ตอแหล ปลินปล้อน กะล่อนสินดี!

“ปิ นนี…”

164
เห็นเฉินลูป่ ิ นหยิบปิ นเก็บใส่กล่องอย่างทะนุถนอมก็อด
ไม่ได้ทีจะถามด้วยใบหน้าทีฝื นให้ทนทานขึน แอบยุง่ กับ
ของของคนอืนทีซ่อนเอาไว้มิดชิดแถมเก็บรักษาอย่างดี
ทังยังมีหลักฐานให้เห็นคาตา ต่อให้ไร้ยางอายสักแค่ไหน
ก็มีแอบระคายกันบ้าง

ทีสําคัญปิ นก้านเหมยอันนีมีความหมาย ในแผ่นดิน


เสวียนเฉินมีธรรมเนียมหนึง หากชายใดมอบกิงดอกไม้
ขนาดเท่าปิ นปั กผมให้ ไม่วา่ จะเป็ นดอกไม้ชนิดใดนัน
หมายถึงสิงของแทนความต้องใจ หากผูร้ บั ไม่คิดจะสาน
สัมพันธ์ก็ปล่อยให้ดอกไม้เหียวเฉา แต่หากตกลงก็จง
ถนอมกิงดอกไม้ไว้ ช่างทําปิ นต่างรูว้ ิธีทีจะทําให้ดอกไม้
ไม่โรยรา เปลียนจากกิงไม้ธรรมดาเป็ นปิ นสัญญารัก

165
“ได้ยินพวกบ่าวบอกว่าท่านถามเกียวกับตัวข้า” เฉินลู่
ปิ นเฉไฉเปลียนเรือง

“ก็แค่อยากรูน้ ิดหน่อย”

“ไม่ใช่วา่ ท่านกําลังหาจุดอ่อนของข้าหรอกหรือ”

เฉินเหวินเค่อแค่นเสียง “หึ!” รูด้ ีอยูก่ บั ใจ จะถามไปทําไม


ให้มากความ

“มิมีผใู้ ดสมบูรณ์แบบ ในใต้หล้านีทุกคนล้วนมีจดุ อ่อน”

หวางรูปงามคลียิมกว้างมากกว่าปกติ “ถูกต้อง ทุกคน


166
ล้วนมีจดุ อ่อน ซึงดูเหมือนท่านจะหาจุดอ่อนของข้าเจอ
แล้ว”

เฉินเหวินเค่อมองไปทีกล่องไม้ทีใช้เก็บปิ น จ้องทะลุไปยัง
ของทีถูกเก็บรักษาอยูภ่ ายใน

“เขาคนนันของเจ้าคือผูใ้ ดกัน” ผูพ้ ดู เหยียดยิม “เผือข้า


จะได้ใช้เขาสังสอนเจ้าเสียบ้าง”

เฉินลูป่ ิ นหยิบปอยผมของคนตรงหน้าขึนมา ใช้ดวงตาสี


ขีเถ้าจ้องมองแผ่นหลังแกร่งกล้าของแม่ทพั พิทกั ษ์ชาย
แดน

167
จุดอ่อนเพียงหนึงเดียวในชีวิตของเฉินลูป่ ิ น คือชายผูร้ าํ
สุราใต้แสงจันทร์ทา่ มกลางสวนเหมย ณ อุทยานหลวง
เมือสิบปี ก่อน

“เขาอยูใ่ กล้ขา้ มาก เพียงแต่ทงๆ


ั ทีใกล้ชิดกัน แต่กลับ
รูส้ กึ เหมือนห่างไกลนับพันลี”

ความเศร้าสร้อยไร้ทีมาลอยผ่านวูบหนึง แต่เพียงพริบตา
ก็เลือนหายไปราวกับมิใช่ความจริง

เฉินเหวินเค่ออยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ศกั ดิศรีดนั


ค้างเติงอยูใ่ นคอ มือทีพยายามดึงออกจึงเปลียนมากอบ
กุมฝ่ ามือขาวเนียนต่างจากสัมผัสหยาบกร้านจากมือ

168
ของเขา

คนปากร้ายซํายังปากแข็งหัวดือจนน่าจับมาตีกน้ พูด
ปลอบใจสักหน่อยยังทําไม่เป็ น ความดุดนั ตรงไปตรงมา
อย่างทุกทีดทู า่ จะแผ่มาไม่ถงึ ด้านอ่อนโยนเลย

เฉินลูป่ ิ นส่ายหน้า ปั ดเส้นผมดกดํายาวเลยกลางหลัง


ออกไปให้พน้ ๆ ก่อนจะแนบริมฝี ปากลงบนหลังคอ ขบ
กัดทิงร่องรอยเอาไว้ เฉินเหวินเค่อสะดุง้ เฮือก หันมาถลึง
ตาใส่คนทํา

“ไอ้เวรนี!”

169
“แอบดูของของคนอืนเสียมารยาทนะท่านพี”

เฉินเหวินเค่อขนลุกชันกับคําเรียกขาน และนําเสียงอ่อน
เสียงหวานปานนําผึงเดือนห้า เห็นปลายนิวชีและนิว
กลางประสานเข้าหากันด้วยท่วงท่าของวิชาดัชนีพิฆาตที
คุน้ ชินก็หน้าเริมซีด ผิดกับเฉินลูป่ ิ นทีเลียริมฝี ปาก สอด
ส่องสายตาพิจารณาพืนทีว่างทีคิดจะทิง ‘รอย’ เอาไว้

นัยน์ตาว่างเปล่าคูห่ นึงเพ่งมองมาจากซอกประตูทีปิ ดไม่


สนิท เด็กหนุ่มวัยสิบห้ายกมือทีเตรียมจะเคาะขอ
อนุญาตเจ้านายในห้องหนังสือค้างเอาไว้กลางอากาศ

เหตุใดจึงเป็ นข้าทีต้องมาเห็นฉากแบบนีทุกทีเลยขอรับ...

170
เสียวถงร้องไห้นาตาไหล

ขอมอบตําแหน่งมือวางอันดับหนึงด้านการกินเต้าหูใ้ ห้
ท่านชายลูป่ ิ นเจ้าค่ะ XD

***吃豆腐- ชือโต้วฝุ แปลว่า กินเต้าหู้ คนจีนนํามา


ใช้ในความหมายใหม่ หมายถึง แต๊ะอัง ลวนลามขําๆ หา
เศษหาเลยแบบเบาๆ(?)

171
ถ้าจะเนียนเบอร์นีจับท่านแม่ทพั กลืนลงท้องไปเลยเถอะ
เหอๆ

ปล.เสียวถงเอ้ยเจ้าได้รบั โอกาสได้เห็นฉาก vip เหตุใดจึง


ต้องร้องไห้

ข้อมูลเพิมเติม

[1] สายลมจันทรา 风月 ย่อมาจาก บุปผาสายลม


หิมะจันทรา风花雪月หมายถึง เรืองรักๆ ใคร่ๆ หรือ
เรืองราวความรัก

172
[2] โฝหลางจี 佛郎机 เป็ นคําทีคนในสมัยหมิงใช้
เรียกชาวโปรตุเกส และใช้เรียกปื นใหญ่ทีรับเข้ามาจาก
โปรตุเกส ซึงคนจีนปั จจุบนั เรียกว่า ผูถาวหยา 葡萄
牙 ทับศัพท์จาก Portugal เมือค้นคว้าดูจงึ พบว่า
“โฝหลางจี” จริงๆแล้วคือคําเดียวกับ “ฝรัง” ทีคนไทยเรา
ใช้เรียกชาวตะวันตกนันเอง

173
ตอนที ๗ ปกปิ ด

วันทีสีเดือนสองเริมต้นฤดูใบไม้ผลิตามยีสิบสีฤดูลกั ษณ์
เจียชี[1] กลางดึกคืนนันแสงไฟในห้องหนังสือหลักของ
จวนเฉินอันถูกจุดขึนมาอย่างเงียบงัน และในคืนนันเป็ น
คืนเดียวกันกับทีองค์ชายใหญ่แห่งแผ่นดินเสวียนเฉิน
แม่ทพั พิทกั ษ์ชายแดนตะวันออกกรีธาทัพเข้าปะทะกับ
ชนเผ่านอกด่านเก๋อหลัน

174
ครึงชายผูห้ นึงมาเยือนในรูปลักษณ์ธรรมดาสามัญ ไม่
แตกต่างกับประชาชนในวัยชราภาพ เสียแต่วา่ คนผูน้ ีแม้
เฉินลูป่ ิ นจะพบเห็นไม่กีครังก็จดจําได้แม่นยํา

“เกากงกง[2]” เฉินลูป่ ิ นก้มศีรษะให้เล็กน้อย

อีกฝ่ ายโบกมือไปมา “กงกงอะไรกัน ข้าแค่คนแก่คนหนึง


ทีมาเยียมเยียนลูกหลานเท่านัน หลานชายคนนีไม่พบ
กันนานลืมกันแล้วหรือ”

“ทีแท้ก็ทา่ นลุงเกานีเอง ผูน้ อ้ ยขอคารวะท่าน” เฉินลูป่ ิ น


เข้าใจความนัยทีแฝงมาโดยทันที การต่อบทสนทนาจึง

175
ลืนไหลไม่มีสะดุด

แขกผูม้ าเยือนยามรัตติกาลเผยรอยยิมอารีประดุจกําลัง
มองดูลกู หลานในไส้ เพียงแต่แววตาฝ้าฟางตามวัยนัน
กลับเป็ นแววตาของผูผ้ า่ นโลกมามาก โดยเฉพาะความ
เป็ นความตาย และความโหดร้ายของใจมนุษย์

“ลุงเกาของเจ้าขอไม่ออ้ มค้อม เจ้านายของข้ามีลกู ชาย


หัวดือทังนิสยั ยังโมโหร้ายอยูค่ นหนึง ไม่รูจ้ ะแก้อย่างไร
ข้าจึงนึกถึงเจ้าขึนมา หากจะถามถึงชือเสียงความดีงาม
หนึงในสิบย่อมมีชือของเจ้าอยู”่

ขันทีแซ่เกามีไม่นอ้ ยในวังหลัง แต่หากระบุผมู้ ีความ

176
สําคัญเห็นทีจะเหลือเพียงหนึง เจ้านายทีเกากงกง
พาดพิงถึงจะเป็ นใครไปได้ นอกเสียจากโอรสสวรรค์ผู้
ปกครองแผ่นดิน

“ท่านลุงเกายกย่องเกินไป” เฉินลูป่ ิ นพูด “แล้วลูกชายหัว


ดือทีท่านลุงว่าคือผูใ้ ดเล่า”

ลุงเกาจุ่มนิวลงไปในถ้วยชา ลากอักษรมงคลเป็ นชือๆ


หนึงทีทําเอาหัวใจของผูเ้ ฝ้ามองกระตุกวูบ

เฉินลูป่ ิ นจ้องมองชายชราเขม็ง “ข้าต้องทําอะไรบ้าง แล้ว


ให้เริมเมือใด”

177
ลุงเกาหัวเราะน้อยๆ “คนหนุ่มช่างใจร้อน ประกาศิต
มังกรมีหรือไพร่ฟา้ จะมิรู”้

ราชสาส์นสีทองอร่ามถูกยืนมาให้

“ความลับซ่อนอยูใ่ นทีมืด เมือไร้แสงไฟความจริงมิอาจ


แถลง”

เฉินลูป่ ิ นรับมาอย่างไม่ลงั เล

“เช่นนันท่านลุงเกาของเจ้าคงต้องขอตัว”

ราชสาส์นสีทองนีคือราชโองการอย่างมิตอ้ งสงสัย เพียง


178
แต่เมือกางออก ข้างในกลับว่างเปล่า เป็ นเพียงกระดาษ
โล่งๆ

เฉินลูป่ ิ นเคาะนิวลงบนโต๊ะไม้ ใบหน้าปรากฏแววครุน่ คิด


ในหัวระลึกถึงถ้อยคําทีเกากงกงบอกใบ้ หางตาเหลือบ
ไปเห็นเชิงเทียนทีข้ารับใช้คนหนึงจุดเอาไว้ยามเขาเชือ
เชิญแขกผูม้ าเยือนให้เข้ามานังสนทนา

เฉินลูป่ ิ นหยิบเทียนไขเล่มหนึงออกจากเชิงเทียน แล้วนํา


ไปจ่อใกล้ๆ กับแผ่นกระดาษ ฉับพลันความว่างเปล่าที
ชวนฉงนก็เริมปรากฏเงาของตัวอักษรเลือนราง

“ความลับซ่อนอยูใ่ นทีมืด เมือไร้แสงไฟความจริงมิอาจ

179
แถลง”

ทีแท้เป็ นเช่นนีเอง....

ข้อความภายในคือคําสังรวบรัด และไม่ได้เผยข้อมูล
อะไรออกมามากนัก เฉินลูป่ ิ นไล่อา่ นทุกตัวอักษร ก่อน
จะถอนหายใจออกมายาวเหยียดเมืออ่านจบ...ดูทา่ เขา
คงถูกดึงเข้าไปพัวพันกับเรืองใหญ่เข้าเสียแล้ว

เพียงเพราะชือของคนเพียงคนเดียว คนทีเขาเฝ้ารอตาม
คําสัญญา สิบปี มาแล้ว...

เฉินลูป่ ิ นเดินไปหยิบกล่องๆ หนึงทีเขาเก็บซ่อนเอาไว้


180
อย่างมิดชิด และเฝ้าถนอมเอาไว้เป็ นอย่างดี เมือเปิ ด
ออกกิงดอกเหมยขนาดเท่าปิ นปั กผมก็ปรากฏสูส่ ายตา
เขาลูบไปตามกลีบดอกแผ่วเบาด้วยดวงใจคะนึงหา

“กิงดอกเหมยนีข้ามอบให้เจ้า หากเจ้าเข้าใจความหมาย
ของมันก็จงเก็บมันไว้ หากไม่ก็จงละทิงมันไปเสีย”

ตัวเฉินลูป่ ิ นในวัยเยาว์แน่นอนว่าหาได้ลว่ งรูถ้ งึ ความนัย


เพียงแต่ความฉลาดเฉลียวทีฉายแววมาตังแต่ตอนนัน
ทําให้คาดเดาได้วา่ กิงดอกเหมยกิงนีคือคําสัญญารูป
แบบหนึง

เด็กน้อยในวันวานตะโกนถามชายหนุ่มทีกําลังเดินจาก

181
ไป

“แล้วถ้าท่านลืมมันเล่า?”

ชายผูน้ นแตะปลายคางครุ
ั น่ คิด ไม่นานนักก็ตอบกลับมา

“ถ้าเช่นนันคงต้องวานให้นายท่านตัวน้อยลงโทษเตือน
ความจํากันสักหน่อย”

เมือพบกันอีกคราใจเขาปิ ติยินดีมากเพียงใดมีแต่ฟา้ เท่า


นันทีรับรู ้ ตอนนันท่านเป็ นคนมอบสัญญาไยบัดนีเป็ น
ท่านทีบิดพลิว

182
ดวงตาของเฉินลูป่ ิ นเป็ นประกายวาวโรจน์ สิบปี ทีผ่านมา
เขายินยอมพร้อมใจเป็ นภรรยา แต่ในเมือท่านเป็ นฝ่ าย
ลืมเลือน เช่นนันก็ให้ทา่ นเป็ นฝ่ ายแต่งมาเป็ นภรรยาของ
เขาแทนก็แล้วกัน!

เปลือกตากระพริบถีอยูช่ วครู
ั ่ บุรุษรูปงามยกศีรษะขึนมา
จากกองเอกสาร ท้องสันโครกครากประท้วงเจ้าของร่าง
ว่าต้องการบางสิงมาเติมเต็ม

เฉินลูป่ ิ นยกนิวนวดหว่างคิวเบาๆ ดูทา่ ว่าจะเผลอหลับ


ไปวูบหนึง

เอกสารบนโต๊ะยุง่ เหยิงไร้ระเบียบยิง เห็นแล้วไม่สบาย

183
ตา หลังจากแยกกองว่าอันไหนทําเสร็จแล้วอันไหนรอ
พิจารณา เฉินลูป่ ิ นจึงหันมาลูบไล้กระดาษชินเล็กๆ ที
ถูกวางซุกซ่อนไว้ใต้กองงานของตัวเอง ดูเหมือนว่าพัก
หลังจะส่งเข้ามาถีขึน ครุน่ คิดว่าจะทําอย่างไรกับมันดีอยู่
ชัวครู ่ แล้วจึงนําแผ่นกระดาษในมือจ่อกับเปลวเทียน

มองไฟสีสม้ แสบตากําลังกลืนกินกระดาษ เปลียนสีขาว


เหลืองให้กลายเป็ นสีดาํ ของขีเถ้า

ย้อนกลับไปมองบนโต๊ะอีกที กระดาษแผ่นเล็กอีกชินก็
ถูกม้วนวางเอาไว้ตงแต่
ั เมือใดก็ไม่ทราบ

เฉินลูป่ ิ นเลิกคิว ฝี เท้าเบากริบยิงนัก เห็นทีคาํ พูดทีว่าวิชา

184
ตัวเบาของเขาเหนือลํากว่าผูใ้ ดในใต้หล้าจะอวดดีเกินไป

“นียามใดแล้ว”

“เลยยามอู(่ 11.00-12.59 น.) มาหนึงชัวยามแล้วพ่ะย่ะ


ค่ะ หวางเย่จะให้ตงสํ
ั ารับกลางวันเลยหรือไม่” บ่าวทียืน
รอรับใช้อยูไ่ ม่ไกลตอบคําถาม

เห็นสายตาทีเหลือบมองมาทีหัวไหล่ เฉินลูป่ ิ นจึงพึงรูส้ กึ


ตัวว่ามีผา้ คลุมผืนหนึงคลุมอยูบ่ นตัว

พวกข้ารับใช้คงไม่มีใครกล้าทําแบบนี พ่อบ้านเหมามี
สายตาสงสัยไม่แพ้เขา นึกถึงบุคคลทีเป็ นไปได้อีกคนก็
185
ส่ายหน้า คนสุดท้ายทีน่าเป็ นไปได้ยงเข้
ิ าขันเป็ นไปไม่ได้

“องค์ชายใหญ่ตงสํ
ั ารับไปหรือยัง”

“ยังเลยพ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนันก็เตรียมให้เรียบร้อย เดียวข้าไปตามองค์ชาย
ใหญ่เอง”

เฉินลูป่ ิ นลูบผ้าคลุมในมือ พลันสายตาสะดุดกับ


กลีบดอกไม้สีหวานทีหล่นอยูภ่ ายในห้องหนังสือ ข้ารับ
ใช้ทงจวนต่
ั างรูด้ ีวา่ ห้องนีต้องสะอาดอยูเ่ สมอ ดังนันคน
ของจวนเฉินอันจะไม่มีทางละเลยหน้าที และข้อปฏิบตั ิ
186
อันสมควรแน่นอน

หากจํามิผิดเหมือนยามเช้าจะเห็นบุรุษผูห้ นึง ควงไม้


พลองออกกําลังอยูภ่ ายในสวนทีรายล้อมไปด้วยบุปผาที
กําลังบานสะพรัง

187
.

เพราะช่วงเช้าฝนตก เมฆมากอากาศครึมนัก เทียงวัน


แล้วแต่ยงั มองไม่เห็นดวงอาทิตย์

ชายหนุ่มคนหนึงนังอยูบ่ นกิงไม้ เส้นผมดํายาวถูกรวบ


ขึนเป็ นหางม้าขับเน้นใบหน้าหล่อเหลา และสันกรามคม
ให้เด่นชัด เฉินเหวินเค่อกวาดสายตามองท้องฟ้าสีเทาๆ
จนทัว แต่นอกจากเมฆหนาครึมฟ้าครึมฝนกับอากาศ
หม่นหมองชวนให้อดึ อัดก็ไม่พบสิงใดผิดปกติ

เงียบเกินไป....

188
โดนลงโทษมายังฉางซี เป็ นไปไม่ได้ทีจะไม่มีผใู้ ดเคลือน
ไหว ทังกุนซือกับรองแม่ทพั ของเขาต้องรูเ้ รืองแน่ แล้ว
เหตุใดจึงยังไม่มีข่าวคราวส่งมาเลย

อยูใ่ นจวนเฉินอันเสมือนถูกตัดขาดจากภายนอก

ถ้านีเป็ นการจงใจแล้วเฉินลูป่ ิ นจะได้ประโยชน์อะไรจาก


เรืองนี?

เฉินอันหวางเป็ นผูป้ กครองฉางซี แทบไม่ได้มีสว่ นเกียว


ข้องอะไรกับราชสํานัก เรียกได้วา่ เป็ นขุนนางวงนอก

เขาอยากได้รบั การยืนยันบางอย่าง ในวังหลังอาจเริมมี


189
การเคลือนไหว โดยเฉพาะเจ้านายฝ่ ายใน หวังว่าจะไม่
ใช่....เช่นเดียวกับทางราชสํานัก หากเป็ นสกุลหร่วนขึน
มา สิงทีไม่อยากให้เกิด...ก็จะเป็ นจริง

พระบิดาหาได้ขนครองราชย์
ึ ตามฉากหน้าทีสงบสุข หวง
โฮ่วในสมัยทียังเป็ นไท่จือเฟย[3] แม้พระนางเป็ นพระ
นัดดา[4] ของพระอัยยิกา แต่อาํ นาจในภายหลังกลับ
ถูกลดทอนลง ทําให้จกั รพรรดิหรือก็คือหวงไท่จือ[5]เมือ
ตอนนันตัดสินใจแต่งบุตรชายคนรองของจวงจงโหว[6]
ขุนนางฝ่ ายบุน๋ ขันหนึงสกุลหร่วนขึนเป็ นเช่อเฟย

เสาคําตอใหญ่ทีทําให้องค์ชายพระองค์อืนพ่ายแพ้ และ
นําพระบิดาขึนสูย่ อดบัลลังก์ก็คือสกุลหร่วน

190
แต่ผลลัพธ์นนคื
ั อการทําให้สกุลขุนนางหนึงมีอาํ นาจมาก
จนเกินไป ทีผ่านมาสมดุลไม่เอนเอียงเป็ นเพราะไม่มี
สนมชายายศสูงคนอืนมอบพระโอรสให้องค์จกั รพรรดิได้
หวงโฮ่วหลังประสูติองค์หญิงใหญ่ก็เสด็จสวรรคต ทําให้
สกุลหร่วนแม้มีอาํ นาจมากแต่ก็นิงเฉยเป็ นพยัคฆ์หลับ
มาโดยตลอด

จนกระทังสิบสามปี ก่อนเกิดเหตุการณ์ ‘การก่อกบฎเจียง


ไค’ ทําให้จกั รพรรดิทรงชําระล้างราชสํานักครังใหญ่
สกุลขุนนางเก่าทีเหลือรอดมาได้มีนอ้ ยนัก

เพือรักษาสมดุลอํานาจ และรวบรวมขวัญกําลังใจจาก

191
ปวงประชา

บุตรชายสายหลักของสกุลจ้าว ตระกูลบัณฑิตผูม้ ีชือ


เสียงรวมถึงเป็ นผูก้ ่อตังสถานศึกษาหลวงอันเป็ นทีนับ
หน้าถือตาของเหล่าปุถชุ นจึงเข้าวังมา เมือพระสนมสกุล
จ้าวตังครรภ์มงั กร และประสูติพระโอรสองค์ทีหกให้แก่
จักรพรรดิ พระสนมสกุลจ้าวจึงได้เลือนขันเป็ นกุย้ เฟย
กลายเป็ นผูป้ กครองทีมีอาํ นาจเหนือผูใ้ ดในวังหลังอย่าง
แท้จริง

พยัคฆ์หลับอย่างสกุลหร่วนก็เริมนังไม่ติดที

สมดุลทีเอนเอียงมักจะทําให้เกิดปั ญหา การลงดาบใส่

192
ตระกูลขุนนางใหญ่ทีมีอาํ นาจมากเกินไปใช่วา่ จะไม่มีให้
พบเห็น ไม่วา่ จะรัชสมัยนีหรือรัชสมัยก่อนๆ

เฉินเหวินเค่อกัดริมฝี ปาก หรือว่าจุดประสงค์ทีแท้จริง


ของราชโองการ....

“เลยช่วงเทียงวันมาแล้วได้ยินว่าท่านยังไม่ได้ตงสํ
ั ารับ”
เสียงนุ่มนวลเอ่ยเรียกจากทางด้านล่าง

เฉินเหวินเค่อปรับลมหายใจและสีหน้า แล้วจึงค่อย
กระโดดลงมาจากกิงไม้ พอสมาธิไม่ได้จดจ่อกระเพาะก็
ส่งเสียงประท้วง เฉินเหวินเค่อถึงกับนิวหน้า ทําไมถึงร้อง
ดังขนาดนี แค่กินข้าวช้าไปนิด ร่างกายถึงกับทรยศเลย

193
หรือ ยิงต่อหน้าเฉินลูป่ ิ นอีก…น่าขายหน้านัก

“อืม..ดูเหมือนว่าท่านก็หิวไม่นอ้ ยไปกว่าข้าเลย”

ชายรูปงามเอียงอายแก้มแดงระเรือ เฉินเหวินเค่อเลิกคิว
พลันกระจ่างแจ้งเรืองเสียงท้องร้องทีคํารามลันอย่างน่า
อับอาย

ปกติเขาเหม็นหน้ายิมของอีกฝ่ ายอย่างกับอะไรดี เห็นกี


ทีก็อยากเอาบาทาลูบหน้า พอเจอใบหน้าเขินอายเช่นนี
ก็ไม่รูว้ า่ ควรจะรูส้ กึ อย่างไร ไม่ตอ้ งพูดถึงการแสดงออก
เฉินเหวินเค่อเผยอปากน้อยๆ อยากจะพูดเยาะเย้ยแต่
หัวใจดันคันยุบยิบ

194
บุรุษทังสองต่างมีทา่ ทีกระอักกระอ่วนต่อกันอย่างทีบ่าว
รับใช้คนอืนไม่เคยเห็นมาก่อน

“จะยืนบืออยูท่ าํ ไมเล่า” เฉินเหวินเค่อเบนหน้าหลบ ใน


ขณะทีท่านชายรูปงามกางพัดจีบขึนปิ ดใบหน้าครึงล่าง
เอาไว้

แผ่นหลังตังตรงจําอ้าวเดินนําออกไป ทําให้พลาดโอกาส
เห็นนกสีดาํ ตัวหนึงทีกําลังบินอยูบ่ นท้องฟ้าสีเทา

“สรุปเจ้าหิวหรือไม่หิวกันแน่”

195
เฉินลูป่ ิ นยิมหวานตอบ “หิวสิหิว หิวจนกินท่านได้ทงตั
ั ว
แล้ว” ซุกซ่อนเข็มเล่มทีเหลือเก็บเข้าใต้เเขนเสือ

เห็นอีกฝ่ ายชะงักไปก่อนจะทําตาขวาง อ่านปากขมุบ


ขมิบได้วา่ ….ปกติแล้วมันต้องกินวัวไม่ใช่เรอะ

นกน้อยทีเห็นอยูห่ ลัดๆ บัดนีหายไปไหนแล้วไม่อาจ


ทราบได้...

196
.

ไม่มีอีกแล้ว…

นกส่งสารทีส่งไปหาท่านแม่ทพั แม้กลับมาครบทุกตัว ข้อ


ความส่งไปถึง แต่ทว่าไม่มีการตอบกลับมาเลย ทังๆ ที
หากเป็ นเรืองเกียวพันกับองค์ชายน้อย ท่านแม่ทพั มีหรือ
จะนิงนอนใจ

“จิงเสวีย”

เจ้าของชือหันไปตามเสียงเรียก กุนซือหน้าหยกประจํา
กองทัพก้าวเข้ามาใกล้ เมือเห็นนกน้อยขนดําทีกําลังอ้า
197
ปากรับอาหารจากเขาก็หรีตาตีบเล็กนันลง ไฝใต้ดวงตา
ขับให้ใบหน้าของอีกฝ่ ายดูชวร้
ั ายอย่างกับพวกขันทีชวที

คอยเป่ าหูให้จกั รพรรดิลมุ่ หลงอยูบ่ นเส้นทางทรราช

มีเจ้านายหน้าตาชัวร้ายมีหรือลูกน้องจะหน้าใสดุจ
บัณฑิตอ่อนโลก ว่าก็วา่ เถอะ รองแม่ทพั อย่างจิงเสวีย
เองก็มีรอยแผลเป็ นอยูส่ องแห่งบนใบหน้า หนึงทีมุมปาก
ขวา อีกหนึงทีคิวซ้าย

“ไม่มีสารจากท่านแม่ทพั อีกแล้วหรือ”

“อืม…” จิงเสวียพยักหน้า “ให้สายของเราลอบเข้าไปใน


จวนเฉินอันเลยดีไหม”

198
ซือหม่าส่ายหน้ากล่าวปฏิเสธเสียงเรียบ แต่เจือความ
จริงจังไม่นอ้ ย “ไม่ดีกว่า สถานการณ์ไม่คอ่ ยดีเท่าไร ถึง
สกุลหร่วนทังฝ่ ายหน้า และหลังจะไม่ได้ขยับตัวอะไร
มาก แต่ขา้ เชือว่าคงไม่รอดพ้นพระเนตรพระกรรณของ
จักรพรรดิไปได้ เรืองนีใช่วา่ คาดเดาไม่ได้ก็ไม่ถกู แต่ไม่
กล้าคาดเดาเสียมากกว่า อยูท่ ีนีพวกเรายังขยับตัว
ลําบาก ข่าวสารเองไม่รูโ้ ดนบิดเบือนไปมากเท่าใด
บุม่ บ่ามเข้าไปข้องเกียวมีแต่จะพันเส้นด้ายให้ยงุ่ เหยิง
มากขึนเท่านัน”

รองแม่ทพั พิทกั ษ์ชายแดนตะวันออกถอนใจยาวเหยียด


ยืนมือไปหานกส่งสารขนดําอีกตัวทีบินเข้ามาใกล้

199
“หืม?”

จิงเสวียครางเสียงแปลกใจในลําคอ ดึงกระดาษม้วน
แผ่นเล็กทีผูกติดอยูท่ ีขาแล้วส่งไปให้ซือหม่า

“เป็ นอย่างไรบ้าง”

“,,,ลายมือท่านแม่ทพั แต่วา่ มีบางสิงผิดปกติ”

“ของปลอมหรือ”

ซือหม่าส่ายหน้า “ลายมือท่านแม่ทพั ข้ารูด้ ีทีสุด”

200
“แล้วมันผิดปกติอย่างไร อย่ากักได้หรือไม่ มีกกสองสาม

สีอยูน่ นแหละ”
ั จิงเสวียขึนเสียงอย่างหงุดหงิด

กุนซือหน้าหยกกรอกตาใส่รองแม่ทพั “ทีผิดปกติเพราะ
มันปกติเกินไปอย่างไรเล่า”

“เฉินอันหวางสามารถขนาดลอกเลียนลายมือของท่าน
แม่ทพั ได้เชียวหรือ” จิงเสวียเสนอความคิด แต่พอพูด
ออกไปก็รูส้ กึ ว่าเป็ นเรืองไร้สาระ

“ลายมือท่านแม่ทพั เป็ นเอกลักษณ์จะตาย หากไม่สนิท


ชิดเชือมีหรือจะปลอมได้เหมือนจนเจ้าดูไม่ออก”

201
“ความจริงแล้วมันก็ใช่วา่ จะเป็ นไปไม่ได้…”

สิบปี ก่อนแม้ทา่ นแม่ทพั จะจําไม่ได้ แต่เขายังจําเด็กน้อย


ผูน้ นได้
ั งานสังสรรค์ตอ้ นรับราชทูตจากหลูเ่ หรินยาวนาน
ถึงสิบสองวันสิบสองคืน องค์ชายสูงศักดิกับเด็กน้อยรูป
งามผูไ้ ม่ประสา ภายในสวนเหมย ณ อุทยานหลวงที
เงียบเหงา ความผูกพันทีเกิดขึนเขาเห็นหมดทุกอย่าง

แม้ในตอนสุดท้ายท่านแม่ทพั จะ…ซือหม่าหลับตาลง
สะกดความทรงจํา และความรูส้ กึ ทีแล่นริวขึนมา

สัญญาทีตัดสินใจสะบัน สวรรค์กลันแกล้งหรือบุพเพ

202
บันดาล หากลิขิตชะตาขีดเขียนเรืองราวเช่นนีขึนมา หวัง
ว่าวาสนาทีเคยละทิงจะสามารถสานต่อ

“ถ้าท่านแม่ทพั ส่งข้อความมาได้ครังหนึงย่อมมีหนทางที
จะส่งมาอีก ถ้าข้าได้เห็นอีกสักครังก็จะรูไ้ ด้แน่ชดั แต่ถา้
เป็ นของปลอมขึนมา นีนับว่าเป็ นแผนถ่วงเวลาทีประสบ
ความสําเร็จจริงๆ”

จิงเสวียถอนหายใจยาวอีกสักรอบ เหลือบมองข้อความ
ในกระดาษชัดๆ ความรูส้ กึ ทีโดนตีกรอบจะขยับไปทาง
ไหนก็ถกู กันไว้ทกุ ทาง….ไม่สบอารมณ์ยงิ

'อยูเ่ งียบๆ ห้ามเคลือนไหว'

203
ครังก่อนลืมบอกว่าเราจะติดงาน+สอบไฟนอล หายยาว
เลยเจ้าค่ะ ออกจากถํา 21 ตุลานู่นนน เราไม่อยากอัพ
ตอนแจ้งเท่าไหร่ เลยรีบปั นตอนนีมาให้อา่ นแล้วแจ้งท้าย
ตอนดีกว่า
204
ข้อมูลเพิมเติม

[1] ฤดูลกั ษณ์เจียชี ปฏิทินระบบนีของจีนนันจะแบ่ง 1 ปี


เป็ น 24 ฤดูกาล (เจียชี) แต่ละฤดูกาลก็มีระยะเวลาราว
15-16 วัน มีชือฤดูกาลทัง 24 ฤดูตามวงรอบ
เกษตรกรรม

[2] กงกง เป็ นคําทีใช้เรียกขันทีชนผู


ั ใ้ หญ่ทีมีตาํ แหน่งสูง
เป็ นผูร้ บั ใช้สว่ นตัวของฮ่องเต้และราชสํานักฝ่ ายใน ซึง
ส่วนใหญ่จะเป็ นขันทีประจําตัวตังแต่สมัยฮ่องเต้ยงั เป็ น

205
เด็ก ทําให้ได้รบั ความไว้วางใจจากฮ่องเต้จงึ ถือเป็ นกลุม่
คนทีมีอิทธิพลระดับหนึงในราชสํานัก

[3] ไท่จือเฟย หรือ หวงไท่จือเฟย (皇太子妃)


ตําแหน่งองค์หญิงพระชายา พระชายาเอกในองค์
รัชทายาท ซึงสามารถแต่งตังได้เพียงคนเดียว หากองค์
รัชทายาทซึงเป็ นพระสวามีได้ขนครองราชย์
ึ มักจะได้รบั
การแต่งตังเป็ นฮองเฮา

[4] พระนัดดา : หลานของชนชันเจ้านาย แต่ถา้ เป็ นของ


พระราชา(กษัตริย)์ จะใช้พระราชนัดดา

[5] หวงไท่จือ (皇太子) ตําแหน่งองค์ชายรัชทายาท

206
เป็ นผูส้ ืบทอดราชบัลลังก์จกั รพรรดิคนต่อไป โดยมากมัก
จะเป็ นพระโอรสในองค์จกั รพรรดิกบั ฮองเฮา เนืองจาก
เหมาะสมสูงศักดิมากทีสุด

[6] โหว เชือพระวงศ์และขุนนางมีบรรดาศักดิเหมือนกัน


ได้ โดยแบ่งเป็ น 6 ชัน ได้แก่ หวาง, กง, โหว, ป๋ อ, จือ,
หนาน ซึงเชือพระวงศ์ชายมักจะได้รบั บรรดาศักดิสองชัน
แรก

207
ตอนที ๘ ว่าทีพีเขย

“เสด็จพี~”

บ่าวรับใช้ทียืนเก็บมือคอยรับใช้เจ้านายทังสองในจวน

208
เฉินอันต่างหมุนคอแทบเคล็ดเพือมองหาเจ้าของเสียง
แม้แต่เฉินลูป่ ิ นทีกําลังรินนําชาให้เฉินเหวินเค่อ หรือตัว
เฉินเหวินเค่อเองต่างชะงักค้างไปโดยพร้อมเพรียง

“เฉินคุน?”

เด็กชายตัวน้อยพุง่ เข้าใส่เอวขององค์ชายใหญ่อย่างไม่
กลัวเกรง ปกติแขกสูงศักดิผูน้ ีทําหน้าบึงตึงอยูต่ ลอด
เวลา ลําพังแค่เฉียดกรายเข้าไปใกล้ยงั ไม่ใคร่จะกล้า
นอกจากพ่อบ้านเหมากับเสียวถงก็มีแค่หวางเย่เท่านันที
สามารถวนเวียนอยูร่ อบตัวองค์ชายใหญ่ได้

เรืองของนายเป็ นบ่าวไม่ควรสอดรู ้ แต่เห็นชายเสือองค์

209
ชายใหญ่ขยับอุม้ ร่างนุ่มนิมน้อยขึนไปนังบนตัก ต่อม
ความอยากรูอ้ ยากเห็นก็ดนเร่
ิ า พวกบ่าวขยับตัวดุกดิก
สายตาพยายามเหลือบมองบนทังๆ ทีก้มหน้าตํา

“เจ้ามาทีนีได้อย่างไร”

“คุนคุนนังรถม้ามา”

เฉินคุนตอบคําถามอย่างใสซือ ผูเ้ ป็ นพีชายได้ฟังก็หลุด


หัวเราะเสียงแผ่ว

องค์ชายใหญ่หวั เราะ?!

210
แม่ทพั เลือดผูน้ นกํ
ั าลังยิม?!

คนทีได้ยินต่างยกนิวแคะหูตวั เองเผือจะหูฟาด ทังยัง


ผลัดกันขยีตาเผือว่าจะสมองเบลอ

ขนาดหวางเย่ยงั นิงอึง ริมฝี ปากทีแย้มยิมตกลงมาหลาย


องศา

มองภาพอีกฝ่ ายนัยน์ตาอ่อนลงไม่แข็งกร้าวอย่างทุกที
ถ้วยชาในมือก็ถกู กําแน่น…แน่นเสียจนเหมือนได้ยิน
เสียงกระเบืองเคลือบชันดีแตกร้าว

เฉินเหวินเค่อเห็นคนหน้ายิมไม่ยมแล้
ิ ว เป็ นอะไรของมัน
211
“องค์ชายหกเดินทางมาไกลคงจะเหนือยไม่นอ้ ย พวก
เจ้ามัวชักช้าอยูไ่ ย รีบไปจัดเตรียมนําชากับขนมมาให้
องค์ชายหกเร็ว” ประโยคแรกเฉินลูป่ ิ นเอ่ยกับผูม้ าเยือน
ตัวน้อย ส่วนประโยคต่อมาหันไปสังข้ารับใช้ทียืนมุงอยู่
รอบๆ

เฉินเหวินเค่อกับเฉินลูป่ ิ นมีความชอบหลายอย่างคล้าย
กัน หนึงในนันก็คือประเภทของนําชาทีดืม เขาชมชอบ
ชาดํามากทีสุด แต่มนั อาจจะเข้มเกินไปสําหรับเด็กอายุ
เจ็ดขวบ

เฉินคุนกะพริบตาพึงนึกขึนได้วา่ เสียมารยาทกับเจ้าของ
จวนทีมีศกั ดิเป็ นพระญาติของตน รีบกุลีกจุ อลงมาจาก
212
ตักพีชาย ก่อนจะค้อมตัวน้อยๆ ทักทายพีชายรูปงามตรง
หน้า

“เสียมารยาทต่อเฉินอันหวางแล้ว”

ทว่ายามสบกับดวงตาว่างเปล่าของเจ้าของจวน ขนทัว
สรรพางค์พลันลุกพรึบ แม้เวลาพีชายรูปงามแย้มยิมจะ
ชวนเคลิมฝันเพียงใด แต่เฉินคุนกลับรูส้ กึ เหมือนตอน
โดนงดของหวานเวลาเขาดือกับท่านแม่อย่างไรอย่างนัน

องค์ชายน้อยปี นกลับไปนังบนตักของเฉินเหวินเค่อ แต่


พอปี นขึนมารูส้ กึ ว่ารังสีบางอย่างจากนัยน์ตาสีขีเถ้า...
สัญลักษณ์ของเชือพระวงศ์แห่งแผ่นดินเสวียนเฉินดูจะ

213
รุนแรงมากขึนกว่าเดิม

เฉินคุนหดคอไม่กล้ามอง แต่พอซุกเข้าไปหาเสด็จพีเหตุ
ใดพีชายรูปงามท่านจึงตาเขียวปั ดเช่นนันเล่า!

ปกตินอ้ งชายต่างมารดาไม่ติดเฉินเหวินเค่อขนาดนี
อย่างน้อยก็ไม่หอ้ ยเกาะเป็ นลูกลิง เหล่ตามองคนทีน่าจะ
เป็ นตัวต้นเหตุ อีกฝ่ ายยกถ้วยชาขึนจิบไม่รูไ้ ม่ชี

เฉินอันหวางประพฤติตวั เป็ นเจ้าผูป้ กครองทีดี ชักชวน


องค์ชายน้อยไปเทียวเปิ ดหูเปิ ดตา แต่องค์ชายน้อยส่าย
หน้า เล่าว่าจักรพรรดิมีรบั สังให้มาหาเพียงชัวครู ่ ไม่
อยากให้รบกวนเสด็จพีทียังอยูใ่ นระหว่างต้องโทษ

214
จักรพรรดิฝไู ฉทรงโปรดโอรสทุกพระองค์ เพียงแต่ให้
ความสําคัญมากน้อยไม่เท่ากัน แน่นอนว่าเฉินคุนย่อม
ถูกคาดหวังมากกว่าใคร แต่จกั รพรรดิหาใช่บิดาเฉกเช่น
สามัญชน ทังยังเป็ นบิดาทีไม่อาจตามใจบุตร อย่างน้อย
ก็ไม่มากจนเกินพอดี ยิงในช่วงวัยของเฉินคุน เข้มงวดไป
ก็ไม่ดี ตามใจมากไปก็ไม่ได้

การทีน้องชายคนเล็กของเขาโผล่มาแบบไม่มีปีไม่มีขลุย่
ย่อมเป็ นการตามใจเกินระดับปกติทีเสด็จพ่อจะทรง
อนุญาต

“เจ้าอ้อนเสด็จพ่ออย่างไรถึงอนุญาตให้ลงิ น้อยมาหาพี

215
ใหญ่หือ?”

เฉินเหวินเค่อบีบจมูกเล็กอย่างหมันเขียว แน่นอนว่าคน
ถูกเรียกเป็ นสัตว์หน้าขนน่าเกลียดทีไม่ชอบ พลันพอง
แก้มกล่าวเสียงแง่งอน

“คุนคุนเปล่าอ้อนน้า~ คุนคุนแค่โชคดีตา่ งหาก”

“โชคดีอย่างไร เล่าให้พีใหญ่ฟังได้หรือไม่”

องค์ชายน้อยพยักหน้า “เมือวานหลังจากเรียนกับท่าน
ราชครูเสร็จช่วงยามเซิน (15.00-16.59 น.) ท่านแม่นงั
ดืมนําชาเดินหมากอยูก่ บั ฮุ่ยเฟย พอท่านแม่ลองช่วยขอ
216
ร้อง เสด็จพ่อบอกว่าคุนคุนโชคดีเพราะหากฮุ่ยเฟยมิอยู่
ด้วยอาจไม่อนุญาตก็ได้”

เฉินเหวินเค่อยิมพลางลูบหัวกล่าวว่า “เป็ นเช่นนีนีเอง”

แค่เห็นท่านแม่เสด็จพ่อก็ทรงใจอ่อนแล้ว?

ล้อกันเล่นหรือไร….

มองดูเฉินคุนนังอยูบ่ นตักดวงตาก็ดาํ มืดมากขึนเท่านัน

สําหรับเสด็จพ่อแล้วมีแต่โอรสทรงโปรด พระสนมทรง

217
ถนอม ขุนนางทรงชอบ แต่ไม่เคยเป็ น ‘ทรงรัก’

สกุลหร่วนไม่โง่ ถึงจะมีเหยือชินโตล่อหมาป่ า ลูกแกะ


น้อยยัวพยัคฆ์ก็ไม่เดินตกหลุมพรางโดยง่าย

เฉินเหวินเค่อลอบถอนหายใจทังโล่งอกและวิตกในครา
เดียวกัน โล่งอกทีอย่างน้อยระหว่างทางกลับวังก็คงมิมี
เรืองใดให้กงั วล วิตกในเรืองที ‘ศึกชิงบัลลังก์’ ของสาย
เลือดโอรสสวรรค์ สกุลหร่วนทีลอยตัวเหนือเมฆมาโดย
ตลอด สุดท้ายก็ถกู ดึงลงมาเกลือกกลัวกับโคลนตมจน
ได้

หรือแท้จริงแล้วสกุลหร่วน คือผูท้ ีจมอยูใ่ ต้ความโสมม

218
โดยมีเปลือกอันสูงส่งห่อหุม้ เอาไว้ตงแต่
ั แรกกันแน่

มีองค์ชายน้อยร่าเริงสดใสเข้ามาวิงเล่น จวนอึมครึมก็ดู
สว่างไสวขึนทันตา เสียดายทีว่าไม่นานเทียนจวินองค์

219
น้อยก็ตอ้ งเสด็จกลับสรวงสวรรค์

“ดูแลตัวเองด้วย อย่าซนจนเป็ นไข้เล่า แล้วก็กินขนมให้


มันน้อยๆ หน่อย ถ้าอ้วนขึนพีใหญ่จะอุม้ ไม่ไหวแล้วนะ”
เฉินเหวินเค่อคุกเข่าลงไปจับบ่าเล็กของน้องชายแน่น
กล่าวด้วยนําเสียงจริงจัง “ลิงน้อยจะกลายร่างเป็ นหมู
น้อยอยูแ่ ล้ว!”

เฉินคุนมุย่ หน้า แก้มกลมถูกดึงจนชํา ไม่ได้อว้ นเสีย


หน่อย!

ท่านราชครูเคยบอกว่าลูกหลานจะได้รบั สืบทอดหน้าตา
และพรสวรรค์มาจากบรรพบุรุษ ส่วนมากแล้วหากครอบ

220
ครัวเป็ นทหารลูกหลานก็จะเป็ นทหาร หากมีพีชายเป็ น
ขุนนาง ร้อยทังร้อยน้องชายก็ตอ้ งเข้าสอบเคอจวี[1]

เพราะฉะนันเฉินคุนจึงมีความเชือมันอย่างแรงกล้า ถึง
เขาจะกินขนมแทนข้าวก็ตอ้ งแข็งแรงกํายํากล้ามใหญ่
อย่างเสด็จพีแน่นอน!

“ถ้าคุนคุนอ้วนเป็ นหมู เสด็จพีจะไม่รกั คุนคุนแล้วหรือ”

“รักสิรกั จะไม่รกั ได้อย่างไร”

คุนคุนอย่างงัน….คุนคุนอย่างงี

221
เฉินลูป่ ิ นหุบยิมหน้าตึงอย่างกับมีใครมาดึงแล้วจับขึงไว้
พัดจีบในมือถูกกําจนแน่น หากมันไม่ใช่พดั ทีศิษย์พีเป็ น
คนให้เขาคงทํามันหักคามือไปแล้ว

ระหว่างคุนคุนกับลูล่ ู่ ฟั งอย่างไรวิธีการเรียกขานเช่นนี
อย่างไรก็ตอ้ งมาจากคนๆ เดียวกัน

‘ถ้ามีแค่ขา้ คนเดียวทีเรียกเจ้า เพียงเท่านีพิเศษขึนมา


หรือยัง?’

ไหนท่านบอกว่าข้าพิเศษอย่างไรเล่า…เหวินเกอ

มือขาวเนียนสันระริกอยากจะซัดเข็มทีซ่อนอยูใ่ ต้แขน
222
เสือใส่หน้ากลมๆ ของเด็กคนหนึงใจจะขาด ถ้าไม่ติดว่า
เด็กนันเป็ นลูกของ….เหอะ!

หากมีใครได้ยินสิงทีเฉินลูป่ ิ นคิดในใจคงตกใจหงายหลัง
ตังแต่เล็กจนโตท่านชายลูป่ ิ นเป็ นเด็กน้อยนุ่มนวลทังคํา
พูดและการกระทํา อีกทังเป็ นบุตรชายหัวแก้วหัวแหวน
เพียงคนเดียวทีอดีตเฉินอันหวางกับหวางไท่เฟยประคบ
ประหงมเป็ นอย่างดี

แขกจะกลับ เจ้าบ้านอย่างเขาก็ตอ้ งกล่าวลําลา พร้อม


อวยพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ

องค์ชายน้อยพอเห็นว่าใครกําลังเดินเข้ามาก็วิงไปหลบ

223
หลังเฉินเหวินเค่อ ขนาดจะโผล่หน้าออกมายังไม่กล้า

“นีเจ้า!”

ตังแต่จาํ ความได้ ทังแม่นมนางกํานัลหรือขันทีในตําหนัก


ของพระมารดาต่างบอกว่า องค์ชายใหญ่ผเู้ ป็ นพระ
เชษฐาคือบุคคลอันตราย ทังยังน่ากลัวอย่าได้เข้าใกล้
แต่เฉินคุนไม่เคยเชือ เสด็จพีของเขา อืม...แม้จะดูดไุ ป
นิด เสียงเข้มไปหน่อย ตัวก็แลสูงใหญ่ยามแต่งพระองค์
ด้วยชุดเกราะสีดาํ ตัดแดงละม้ายคล้ายเฮยอูฉ่ าง[2] ขาด
แค่ขา้ งกายไร้คนแต่งอาภรณ์ขาวก็จะกลายเป็ นสองพี
น้องยมทูตขาวดําแห่งแดนนําพุเหลือง[3]

224
เลยเถิดนิด แต่เอาเป็ นว่าถึงภายนอกจะดูน่ากลัว เฉินคุ
นก็ไม่เคยได้ยินเสด็จพีของเขาตวาดใส่มาก่อน อย่าง
น้อยก็ในระยะประชิดขนาดนี

ลูกพีลูกน้องรูปงามผูน้ นยามเคี
ั ยงคูก่ บั เสด็จพี ดูดีเข้าคู่
กันไม่หยอก เสียแต่หากมือขาวข้างนันหาได้โอบเอว
เสด็จพีของเขา ดึงรังจนสองกายแนบชิด เฉินคุนคงรูส้ กึ
ยินดีมากกว่านี!

คลับคล้ายความหวาดกลัวต่อเฉินอันหวางมลายหายไป
จนหมดสิน องค์ชายน้อยจึงได้เดินมาผลักไสบุรุษไร้
ยางอายผูน้ ีให้ปล่อยมือจากเสด็จพีของเขา

225
เพียงแต่แรงของเด็กน้อยตัวกลมมีหรือจะสูช้ ายหนุ่ม
สมบูรณ์แข็งแรงดี คอเสือถูกดึงขึนอย่างง่ายได้ เฉินคุ
นโดนหิวลอยอยูก่ ลางอากาศ ทําได้พียงกวัดแกว่งมือ
เท้าเล็กป้อมไปมาอย่างเสียกิรยิ าทีเชือพระวงศ์พงึ สงวน

ดวงตากลมโตของเฉินคุนส่งผ่านไปยังพีชายทีรัก
อย่างออดอ้อน แต่วา่ เฉินเหวินเค่อก็ยงั คงนิงค้าง แม้ดวง
ตาจะเย็นเยียบน่าหวาดหวัน ทว่าร่างกายยืนแข็งไม่ขยับ
เขยือน องค์ชายน้อยทันเห็นนิวชีและนิวกลางของพีชาย
รูปงามกดไปยังจุดใดสักจุดเหนือบันเอวทางด้านหลัง
ของเสด็จพี

ขณะสมองน้อยๆ กําลังประมวลผล เสียงกระซิบราบ


เรียบดูผิวเผินมิมีสงใดผิ
ิ ดปกติ แต่ก็รบั รูไ้ ด้โดย
226
สัญชาตญาณว่าไม่ควรละเลยเอ่ยขึนทีข้างหู

“องค์ชายเวลาไม่เช้าแล้ว พีเขยแนะนําว่าให้รบี กลับจะดี


กว่า”

เฉินคุนอ้าปากค้าง ขณะทีเฉินเหวินเค่อกรีดร้อง อยาก


จะกระซวกไส้คนหน้ายิมบางคนใจแทบขาด

บัดซบ! เขาก็เป็ นผูฝ้ ึ กยุทธคนหนึง ไหนเลยจะไม่ได้ยิน


ถ้อยคําผายลมพวกนัน

เฉินลูป่ ิ นเห็นใบหน้าเหรอหราขององค์ชายน้อยกับสาย
ตาอยากจะฆ่าคนของท่านแม่ทพั ก็หวั เราะไม่สะทก
227
สะท้าน หลังจากคลายจุดพลิวกายหลบส้นเท้าพิฆาต
เขาก็ยืนโบกพัดในมือชืนชมอากาศบริสทุ ธิ อ้าปากที
โคลงกลอนไพเราะบทหนึงก็พน่ ออกมายาวเหยียด ผิด
กับท่าทีจาบจ้วงทีกระทําต่อเฉินเหวินเค่อต่อหน้าข้ารับ
ใช้มากมาย ประหนึงเป็ นเทพเซียนผูห้ ลุดพ้นเรืองคาว
โลกีย ์

ตอแหล!

หันไปเห็นใบหน้าคล้ายโลกถล่มของน้องชายก็ปวด
ศีรษะจีด แต่ไอ้เขาก็นาท่
ํ วมปากไม่รูจ้ ะอธิบายอย่างไรดี
จึงได้แต่ดงึ น้องชายมากอดไว้แน่น กล่าวอําลารวดเร็ว
ฉับไว

228
“รักษาตัวเดินทางปลอดภัย อีกไม่นานพีใหญ่จะกลับไป
หาทีเทียนเฉิน”

องค์ชายน้อยถูกขันทีพีเลียงอุม้ ขึนรถม้าในสภาพร่าง
กายกับจิตวิญญาณยังไม่ผสานกัน

ระหว่างทางกลับเฉินคุนมีเรืองหนึงค้างคาอยูใ่ นใจ จึงดึง


ชายเสือของขันทีพีเลียงเพือไต่ถาม

“ลิวกงกง รูห้ รือไม่วา่ รอยแดงๆ ทีหลังคอของเสด็จพีคือ


รอยอันใด”

229
ขันทีแซ่ลวมี
ิ สีหน้ากระอักกระอ่วน หลังจากปาดเหงือที
ไหลท่วมหน้าผากประหนึงนําป่ าไหลหลาก ก็ทลู ไปว่า
“เมือถึงวัยทีเหมาะสมพระองค์ก็จะทรงทราบได้ดว้ ยตัว
พระองค์เองพ่ะย่ะค่ะ”

เฉินคุนในวัยเยาว์มีหรือจะรูค้ วาม กว่าจะทราบเรืองก็


ผ่านไปนานหลายปี พอนึกขึนได้คิดแค้นได้เพียง
ประเดียวเดียว ในเมือข้าวสารเปลียนเป็ นข้าวสุกไปแล้ว
ตังกีกระสอบ ตัวเขาจะเอาอะไรไปสืบสาวคิดบัญชียอ้ น
หลัง

ในบันทึกมากมายของราชวงศ์ผปู้ กครองแผ่นดินเสวียน
เฉิน ราชอาลักษณ์ประจํารัชสมัยของจักรพรรดิเจิงซือได้
ลงบันทึกเรืองราวลับๆ ทีน่าสนใจเรืองหนึงเอาไว้ เมือ
230
จักรพรรดิเจิงซือ เฉินคุนตรัสหยอกเย้ากับราชทูตแห่งหลู่
เหรินผูห้ นึงซึงทรงพอพระทัยเป็ นการส่วนพระองค์วา่

“ในชีวิตของเรามีคนทีหวาดกลัวจนขลาดเขลา ชิงชัง
ยามพบหน้า และนับถือทีสุดเพียงหนึงเดียว มิใช่เพราะ
เขาเก่งกาจปราดเปรืองมากด้วยวิทยายุทธ แต่เพราะเขา
เป็ นเพียงคนเดียวทีปราบพยัคฆ์รา้ ยแห่งเสวียนเฉินลงได้
เรารักเฉินอันหวางเฟยผูเ้ ป็ นเชษฐาพระองค์โตของเรา
มาก เพียงแต่ความดุรา้ ยของเสด็จพีของเรา แม้แต่เรา
เองก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะสามารถทําให้สงบ เว้นเพียง
เฉินอันหวางผูป้ กครองเมืองท่าฉางซีเท่านันทีสามารถ
กําราบพยัคฆ์รา้ ยได้โดยใช้เพียงแค่สองนิว”

ราชทูตทีได้ฟังคล้ายจะไม่เชือ แต่จกั รพรรดิในยามนันก็


231
เพียงแย้มสรวลเสียงดังกังวานแล้วไม่ยอมตรัสอันใดอีก

ปลายเดือนสียามวสันตวิษุวตั [4] กลางวันกลางคืนล้วน


หมุนผ่านล่วงเลยไปเท่ากัน สูดดมสุคนธรสจากใบชา ฟั ง
เสียงกระเบืองชันดีกระทบกันแผ่วเบาจิตใจก็เป็ นสุข
232
ชีวิตหนึงปรารถนามากมายสุดท้ายแล้วสิงทีผูค้ นขวน
ขวายกลับเป็ นเพียงสิงง่ายๆ อย่างความสงบ

“วันนีอากาศดีจริง” นัยน์ตาดําขลับเหลือบมองยอดชา
อ่อนทีลอยคว้างอยู่ “ลมสงบครานีจะก่อเกิดพายุรูปแบบ
ไหนกัน”

“ท่านแม่!”

“องค์ชายช้าหน่อยเพคะ บ่าววิงตามมิทนั ”

“อาคุน...แม่นมของเจ้าอายุไม่นอ้ ยแล้ว อย่ารังแกกันนัก


เลย”
233
“ท่านแม่ๆ”

ผูเ้ ป็ นมารดาส่ายหัว คําเตือนเมือสักครูล่ อยทะลุผา่ นหู


ไปแล้วหรือไร หรือว่านําเสียงทีใช้ยงั ดุดนั มิพอ เขาเองก็
ทําท่าทีขงึ ขังมิเก่งเสียด้วย

“กุย้ เฟยเหนียงเหนียง”

ชายหนุ่มโบกมือให้บา่ วทีคุกเข่าลงทําความเคารพเต็ม
พิธีการลุกขึน เห็นเม็ดเหงือผุดพลายเต็มใบหน้าตาม
สังขารก็เห็นใจไม่นอ้ ย

234
“เจ้าออกไปก่อน”

“เพคะ”

จ้าวกุย้ เฟยอุม้ ลูกชายตัวเริมไม่นอ้ ยขึนมานังบนตัก หลัง


จากรับรูถ้ งึ นําหนักทีแลจะเพิมขึนทุกวัน เขาก็เริมมีความ
คิดทีจะลดจานของหวานของลูกชายตัวแสบลงสักหน่อย
หากยังตามใจอยูเ่ กรงว่าคราวหลังเขาคงเห็นเฉินคุนกลิง
เข้ามาหาแทนการวิงแบบปกติเป็ นแน่

“ไปพบเสด็จพีของเจ้าเป็ นอย่างไรบ้าง”

พูดถึงองค์ชายใหญ่หน้ากลมของลูกชายก็ยิมเผล่ แต่จ่ๆู
235
เฉินคุนก็ยหู่ น้าย่นจมูก เป็ นกิรยิ าทีพบเห็นได้ไม่บอ่ ยนัก

“เฉินอันหวางเป็ นลูกพีลูกน้องของลูกจริงหรือ”

ผูเ้ ป็ นมารดาเลิกคิวฉงน “เจ้ามิใช่ชมชอบคนงาม ยกย่อง


มวลผกาหยกลําค่าหรอกหรือ เสียวลูเ่ กอก็นบั ว่าเป็ นชาย
งามไม่แพ้ผใู้ ดในใต้หล้าเช่นกัน”

“เสียวลูเ่ กอ?” เฉินคุนทวนคํา ไม่ปิดบังแววตาสงสัย

จ้าวกุย้ เฟยหัวเราะน้อยๆ บีบจมูกรันอย่างหมันเขียว


“เสียวลูเ่ กอก็คือเสียวลูเ่ กออย่างไรเล่า”

236
เฉินคุนยูป่ าก “ท่านแม่ลกู ไม่เข้าใจ”

จะว่าไปก็หลายปี แล้ว....เด็กน้อยตัวกระเปี ยกทีวางท่า


เป็ นผูใ้ หญ่เกินตัว ป่ านฉะนีคงโตพอทีจะแต่งภรรยาสัก
คนได้แล้วกระมัง หรือว่าผ่านมานานขนาดนี เจ้ายังคง
เฝ้ารอเจ้าของปิ นก้านเหมยผูน้ นอยู
ั ก่ นั

“เช่นนันก็ไม่เข้าใจต่อไปก็แล้วกันลูกรัก”

“ท่านแม่ใจร้าย!”

จ้าวกุย้ เฟยสุม่ หยิบขนมสักอย่างในจานทีนํามาทานคู่


กับนําชายัดเข้าปากช่างจ้อ...เรืองงดของหวานไว้คราว
237
หน้าก็แล้วกัน

เฉินคุนคือเด็กน้อยทีเจริญเติบโต และมีชีวิตอยูไ่ ด้ดว้ ย


แป้งกับนําตาลเป็ นหลัก พอขนมเข้าปากก็ลืมเรืองขุ่น
ข้องหมองใจจนสิน แต่ยงั ดีทีเรืองสําคัญไม่ได้ถกู ลบ
เลือนออกไปด้วย

“รักษาตัวเดินทางปลอดภัย อีกไม่นานพีใหญ่จะกลับไป
หาทีเทียนเฉิน”

ขณะถูกพีชายดึงเข้าไปกอดเฉินคุนรูส้ กึ ถึงอะไร
บางอย่างถูกสอดเข้ามาในอกเสือ

238
จ้าวกุย้ เฟยรับม้วนกระดาษแผ่นเล็กเท่านิวก้อยมาจาก
บุตรชาย ครันพอเอ่ยถามก็ได้รบั คําตอบสันๆ ว่า ‘เสด็จ
พี’ ด้วยสภาพอดีตขนมกุย้ ฮัวทีเกือบพุง่ ออกมาจากปาก

ครันกวาดตามองข้อความภายในรอยยิมลึกลับก็ถกู วาด
ขึน เพิมพูนเสน่หใ์ ห้ใบหน้าสง่างามของสนมชายารุน่
หลังทียังเยาว์อย่างล้นเหลือ

จักรพรรดิทรงไม่รบั สนมหญิงชายเข้าตําหนักในตังแต่
พระชนมพรรษาครบห้าสิบชันษา ตัวเขาจ้าวหลาน
ปั จจุบนั อายุสามสิบ เทียบกับสนมชายาทีอยูม่ านานก็
นับว่ายังเยาว์ได้อยู่

239
“ใครอยูข่ า้ งนอกเข้ามาพาองค์ชายไปพักผ่อนเสีย”

จ้าวกุย้ เฟยผุดกายลุกขึน จัดชายเสือเล็กน้อยพิศมองไป


ทางทิศหนึงของตําหนักในก็เอ่ยเสียงเรียบ

“จัดขบวนไปตําหนักอันชวี ได้ยินว่าฮุ่ยเฟยร่างกายไม่
ค่อยแข็งแรงนัก ไม่ไปเยียมเยียนสักหน่อยถือว่าไร้
มารยาทแล้ว”

240
สอบ...ยังไม่เสร็จค่ะ 5555 แต่ทีม.จัดวันสอบเป็ นสอง
ช่วง ห่างกันประมาณ 1 อาทิตย์ เอาตรงๆ ก็อยูใ่ น
สภาวะเมาหนังสือเรียนนันแหละค่ะ ตอนแรกว่าจะดอง
เอาไว้ก่อน แต่อยากอัพอ่ะ!

จ้าวกุย้ เฟยมีบทแล้ว//ปรบมือ หลายคนน่าจะเดาออก


แล้วว่ากุย้ เฟยมีความสัมพันธ์ยงั ไงกับลูล่ เู่ นอะะ
241
ข้อมูลเพิมเติม

[1] การสอบเคอจวี 科舉 หรือการสอบจอหงวน คือ


การสอบขุนนางในสมัยโบราณ แบ่งเป็ นฝ่ ายบุน๋ และฝ่ าย
บู๊ โดยสอบเลือนทีละระดับขัน เริมจากระดับอําเภอ หรือ
จังหวัด เรียกว่าการสอบถงซือ ผูส้ อบผ่านได้เป็ นซิวไฉ่ มี
สิทธิเข้าร่วมสอบเซียงซือ

ในระดับมณฑล หากสอบผ่านจะได้เป็ นจวีเหริน ซึงต้อง


เข้ามาสอบระดับฮุ่ยซือทีเมืองหลวงเพือขึนเป็ นจินซือได้
บรรจุเข้ารับราชการ

242
เมือผ่านการสอบทังสามระดับจะได้เข้าสอบหน้าพระที
นัง คือการสอบเตียนซือ เพือคัดเป็ นบัณฑิตเอกขันหนึงมี
สามคน เรียกตามลําดับคะแนน จ้วงหงวน (จอหงวน)
ปั งเหยียน และทันฮวา

[2] เฮย-ไป๋ อูฉ่ าง (黑白无常) หรือ ยมทูตขาวดํา

เทพไป๋ อูฉ่ าง (白无常) จะสวมชุดและหมวกทรง


กรวยสูงสีขาวถือป้ายทีอักษรเขียนว่า 你可来了
แปลว่า "ในทีสุดเจ้าก็มาจนได้" แลบลินสีแดงยาวถึงหน้า
อก มีหน้าทีรับดวงวิญญาณทีเป็ นคนดีมีศีลธรรม ไปรับ
การพิจารณาจากศาลในนรก แล้วไปเสวยกรรมดีทีเคย
ทํา ถ้าใครทําดีก็จะได้ขา้ มสะพานทองคําไปยังดินแดน
สุขาวดี หรือสะพานเงินสูส่ วรรค์แดนใต้ ตามบุญทีได้ทาํ
243
ไว้

เทพเฮยอูฉ่ าง (黑无常) สวมชุดและหมวกทรงกรวย


สูงสีดาํ มีอกั ษรเขียนว่า 正在捉你 แปลว่า "มาจับ
เจ้านันแหละ" มือถือโซ่และแลบลินสีแดงยาวถึงหน้าอก
หน้าตาดุดนั คอยใช้โซ่มดั จับดวงวิญญาณบาป (สมัย
เป็ นคนมีจิตใจชัวช้า) ทีสินอายุขยั ลากไปรับกรรมในนรก

[3] แดนนําพุเหลือง : โลกหลังความตาย

[4] วสันตวิษุวตั คือช่วงเวลาทีกลางวันและ


กลางคืนนานเท่ากันตาม 24 ฤดูลกั ษณ์ของจีน โดยอยู่
ในลําดับที 4 ‘ชุนเฟิ น’ ตําแหน่งอาทิตย์ในจักรราศีตะวัน

244
ตกคือยกเข้าราศีเมษ วันทีโดยประมาณคือวันที 21
มี.ค. – 4 เม.ย.

245
ตอนที ๙ เพียงหนึงปรารถนา

รัชศกซิงจงทียีสิบเจ็ด ณ จวนโหวของสกุลหร่วน

ฝนพรําฟ้าเทาราวสะท้อนภาพในจิตใจ หร่วนจูอีในวัย
สิบหกลอบกํามือแน่นยามหวนนึกถึงบทสนทนาของ
บิดากับมารดาเมือเช้า

“สุขภาพข้ายําแย่ลงทุกปี หลงเอ๋อร์ก็ยงั ไต่เต้าไม่ถงึ ใน


ระดับทีข้าคาดหวัง ฝ่ าบาทเองถึงแม้จะมอบตําแหน่งไท่
จือให้กบั องค์ชายรองไปแล้ว แต่ในพระทัยทีแท้จริงฝ่ า
บาทคงปรารถนาจะมอบบัลลังก์ให้กบั องค์ชายสีทีเกิด

246
จากกุย้ เฟยมากกว่า เพียงแต่องค์ชายสีพระชันษาน้อย
นัก ถึงพระองค์ประวิงเวลาออกไปอาจไม่ทนั การ...ข้า
แอบติดสินบนสํานักแพทย์หลวง สุขภาพของฝ่ าบาท
ทรุดหนัก อีกไม่นานคงถึงช่วงผลัดแผ่นดิน หากไม่ทาํ
อะไรสักอย่างข้าก็ตอ้ งลงจากตําแหน่งอัครเสนาบดีใน
เร็วๆ นีแน่”

“ท่านพีเหตุใดจึงบอกเรืองนีกับข้า...” โหวฟูเหรินผูเ้ ป็ น
เอกภรรยามีสีหน้าลําบากใจ

ตามปกติเรืองทางการเมืองสตรีไม่สมควรรับฟั ง แม้นาง
จะเป็ นฟูเหริน เป็ นภรรยาทีแต่งเข้าสกุลหร่วน ร่วมกราบ
ไหว้ฟา้ ดินถูกต้องตามขนบแตกต่างจากอนุเรือนหลังจน
ไม่อาจเอามาเทียบ หากเป็ นชายก็ยงั มีสทิ ธิรับรูอ้ ยูบ่ า้ ง
247
แต่วา่ อย่างไรนางก็เป็ นสตรี

“สกุลไป๋ ของไท่โฮ่วไม่เรืองอํานาจเท่าเก่าก่อนอีกแล้ว”

ไท่จือเฟยเป็ นพระนัดดาของไทโฮ่ว สกุลไป๋ ไม่อาจสนับ


สนุนไท่จือขึนสูย่ อดบัลลังก์ โหวฟูเหรินเบิกตากว้าง แม้
นางจะเป็ นสตรีแต่ก็เป็ นสตรีหวั ไว

“เรืองนีเกียวกับอีเอ๋อร์ใช่หรือไม่”

ถึงแม้นาเสี
ํ ยงของมารดาจะเบาหวิว ทังยังมีความไม่มนั
ใจแฝงมาไม่นอ้ ย แต่หร่วนจูอีทีแอบฟั งอยูก่ ็รูไ้ ด้โดย
สัญชาตญาณ รูว้ า่ สิงทีท่านแม่คิดมิผิด...มิผิดจริงๆ
248
คําตอบของบิดาคือเครืองยืนยัน ตอกยําความจริงลงไป
จารลึกเสียจนในอกจุกแน่นจนไม่อาจสรรหาถ้อยคําใด
มาบรรยาย

“อีเอ๋อร์เป็ นบุตรชายคนรองทีเกิดจากเจ้า สกุลหร่วนมี


หลงเอ๋อร์รบั ช่วงต่อแล้ว อย่างไรความสามารถของเขา
แม้ไม่แย่แต่ก็เทียบกับพีชายไม่ได้ จริงอยู.่ ..ด้วยศักดิ
ฐานะของเขาไม่สมควรเป็ นแค่เช่อเฟย แต่วา่ ด้วยอํานาจ
ของข้าในตอนนี การแต่งอีเอ๋อร์เข้าตําหนัก
บูรพาสถานการณ์จะพลิกกลับด้านทันที”

“แต่อีเอ๋อร์เตรียมตัวสอบเคอจวีมาตังแต่ยงั เล็ก....”

249
“ต่อให้เขาได้เป็ นจ้วงหงวนแล้วอย่างไร การเติบโตใน
ฐานะขุนนางหาใช่จะทําได้ในชัวข้ามคืน”

“แล้วบุตรชายของฮัวอีเหนียง[1]เล่าเจ้าคะ เขาอายุไล่
เลียกับอีเอ๋อร์ อีกทังสกุลฮัวก็ใช่วา่ จะเป็ นไพร่สามัญตํา
ศักดิเสียทีเดียว”

“สกุลฮัวแม้จะเป็ นสกุลขุนนาง แต่เขาก็เป็ นแค่อนุคน


หนึง”

“แต่ทา่ นพี....”

250
หร่วนจูอีไม่อาจอยูท่ นฟั งต่อไปได้ นําเสียงของมารดา
ปริมจะร้องไห้ กลับกันของบิดายังคงเรียบเฉยไม่ผนั แปร

“การแต่งงานของอีเอ๋อร์จะทําให้ไท่จือติดหนีบุญคุณ
สกุลหร่วนครังใหญ่ ไม่วา่ อย่างไรเรืองนีข้าเลียงไม่ได้”

ไม่วา่ มองไปทางใดในห้องของเขาก็ลว้ นเต็มไปด้วยตํารา


มากมาย ทังจากบิดา พีชายและมารดา

ในปี นนหร่
ั วนจูหลงสอบเค่อจวีได้อนั ดับหนึง เป็ นจ้วงหง
วนในรอบหลายปี ทีจักรพรรดิทรงตรัสชมในความ
สามารถ พีชายของเขาเก่งกาจ หร่วนจูอีอยากเป็ นเช่น
นัน เป็ นคนทีบิดาลูบศีรษะชืนชม เป็ นคนทีมารดาเข้า

251
ครัวจัดสํารับอาหารฉลองด้วยตัวเอง

หร่วนจูอีรทราบดีวา่ พีชายคือคนทีไม่อาจก้าวข้าม แต่


เขาก็ไม่เคยละทิงความพยายาม ไม่เคยเลยแม้สกั ครัง

นับถอยหลังอีกสามวันจะเป็ นการสอบเตียนซือ เขา


ฝ่ าฟั นมาจนถึงจุดนีแล้ว อีกแค่เอือมมือ....แค่เอือมมือ
เขาก็จะได้ไปสอบหน้าพระทีนัง หร่วนจูอีมันใจว่าความ
มุง่ มันตลอดหลายปี ทีผ่านมา จะสามารถทําให้ตวั
เองกลายเป็ นจ้วงหงวนทีอายุนอ้ ยทีสุดในประวัติศาสตร์
ของการสอบเคอจวี

“คุณชายรอง...”

252
“ออกไป... ออกไปให้หมด!”

หนังสือแต่ละเล่มทีเฝ้าถนอม ตํารามากมายทีเพียร
ศึกษาถูกปั ดตกลงพืน ด้ายทีเย็บกระดาษเข้าด้วยกัน
ขาดผึง จนแผ่นกระดาษสีขาวปลิวกระจายเต็มพืนห้อง

จะมีประโยชน์อนั ใด....

หร่วนจูอีเฝ้ามองนําหมึกดําซึมลึกลงบนแผ่นกระดาษ
จนกระทังสีดาํ กลืนกินสีขาวจนหมดสิน เมือนันนําตา
หยดหนึงก็ลว่ งหล่นจากปลายหางตา

253
“เหนียงเหนียง”

“เหนียงเหนียงเพคะ”

เปลือกตาของผูส้ งู ศักดิกระพริบถี ฮุ่ยเฟยทรงตืนจาก


บรรทมยามกลางวัน นางกํานัลผูเ้ ข้ามาปลุกมือสันน้อยๆ
ฮุ่ยเฟยมิชอบให้ผใู้ ดมารบกวนยามพักผ่อนทีสุด แต่วา่
แขกผูม้ าเยือนครานี นางไม่สามารถเอ่ยปากเชิญให้กลับ
ไปแต่โดยดีจริงๆ

ในหมูส่ นมชายาแห่งตําหนักใน นอกจากจ้าวกุย้ เฟยผู้


นันแล้วยังมีใครสูงศักดิไปกว่าเขาอีก

254
นางกํานัลปรีเข้าไปประคองเจ้านายของตําหนักอันซวี
ฮุ่ยเฟยยกมือขึนนวดศีรษะ อากาศวันนีไม่คอ่ ยดีเท่าไร
เขาปวดหัวตังแต่เช้า พอได้พกั ก็มีตวั น่ารําคาญโผล่มา
เสียได้

ภายในโถงรับแขกของตําหนักอันซวี บุรุษผูห้ นึงนังตัว


ตรง รูปลักษณ์งดงาม เป็ นบุรุษเพศทีมีใบหน้า และ
บรรยากาศดึงดูดให้ผคู้ นลุม่ หลง

ฮุ่ยเฟยเป็ นคนเงียบขรึม กิรยิ ามารยาทถูกต้องตามหลัก


ปฏิบตั ิทกุ กระเบียดนิว หากไม่นบั หวงโฮ่วทีสวรรคตไป
แล้ว ในหมูส่ นมของไท่จือมีเพียงหร่วนจูอีทีเกิดในสกุล
ชนชันสูง แต่ถงึ อย่างนันพระสนมผูน้ ีก็หาใช่คนช่าง
จํานรรจ์
255
วังหลังในตอนนีสงบลงไปมาก จักรพรรดิก็ทรงมาก
ชันษาขึนทุกวัน ตัวองค์ชายผูส้ ืบบัลลังก์กาํ หนดเอาไว้แน่
ชัด เหล่าสนมหลังตําหนักต่างเก็บตัวเงียบ ส่วนหนึงคือ
ปลดปลง อีกส่วนคืออายุมากเกินกว่าจะลงสนาม
เดิมพันอะไร

จ้าวกุย้ เฟยกวาดสายตาไปรอบๆ ปกติเขาไม่เคยถูกเชือ


เชิญเข้ามา ทุกทีเป็ นเขาเชือเชิญอีกฝ่ ายออกไปจิบนําชา
ต่อด้วยเล่นหมากล้อม สนมชายในวังว่าหายากแล้ว แต่
หาคนทีเล่นหมากล้อมสูสีกบั เขานันยากกว่า

ตําหนักของฮุ่ยเฟยอบอวลด้วยกลินตําราเป็ นส่วนใหญ่
มองหาของมีคา่ แทบไม่เจอ แต่ถงึ กระนันความเรียบง่าย
256
หาได้ดอ้ ยค่า

การมีของพระราชทานตังประดับไว้เป็ นรางวัลชีวิตอย่าง
หนึง หลังจากตบตีกบั เหล่า ‘พีน้องรักใคร่’ เพือแย่งชิง
ความโปรดปรานจากจักรพรรดิ

จะบอกว่าฮุ่ยเฟยถูกหมางเมินนันเป็ นไปไม่ได้

“เจ้ามีธุระอะไร”

นึกถึงโจโฉ โจโฉก็มา[2]

เจ้าของตําหนักไม่พดู พรําทําเพลง ไม่กล่าวทักทาย


257
ปราศรัย นีเป็ นอีกสิงทีจ้าวหลานชอบจากตัวของฮุ่ยเฟย
ไม่จีบปากจีบคอพูดอ้อมโลก

“ข้าได้ยินว่าท่านไม่คอ่ ยสบายเลยนําสมุนไพรบํารุงมา
ให้”

“ลําบากกุย้ เฟยแล้ว คราวหลังให้นางกํานัลในตําหนักนํา


มาส่งแทนเถิด ข้าต้องการความสงบ”

“พวกเราก็คนุ้ เคยกันดี ไยท่านจึงห่างเหินกับข้าเพียงนัน”

นัยน์ตาคมกริบตวัดมองมาอย่างเย็นชา ใบหน้าทีมีรวิ
รอยตามวัยนิงสนิท แม้ไม่เอ่ยปากไล่ แต่บรรยากาศกด
258
ดันหากคนทีนังยิมอยูต่ รงหน้าเป็ นคนอืน คงได้วิงชาย
เสือปลิวไปแล้ว

นอกจากจักรพรรดิ จะเหลืออีกกีคนทีสามารถ

“จูตา้ เกอ”

ถ้วยชาทีถืออยูช่ ะงักค้างกลางอากาศ

“ข้าเรียกท่านว่าจูตา้ เกอดีหรือไม่ ส่วนท่านก็เรียกข้าว่า


เสียวหลาน จ้าวกุย้ เฟยเอย....ฮุ่ยเฟยเอย ฟั งดูหา่ งเหิน
นัก”

259
“ไม่” หร่วนจูอีปฏิเสธทันทีอย่างไม่คิดจะไตร่ตรอง

ให้คนอายุเท่ากับบุตรชายเรียกขานเช่นนันไม่รูว้ า่ ควรจะ
รูส้ กึ อย่างไรดี

“จูตา้ เกอ อาการท่านเป็ นอย่างไรบ้าง หากไม่ไหวก็เรียก


แพทย์หลวงเสีย ถ้าทรุดลงไปจักรพรรดิจะทรงเป็ นกังวล
ได้”

“เจ้าจะเรียกให้ได้เลยใช่ไหม”

รอยยิมร่าคือคําตอบ หร่วนจูอีลอบถอนหายใจหงุด
หงิด...ตัวน่ารําคาญ
260
“บอกมาตรงๆ เจ้ามีธุระอะไร”

จ้าวหลานยังขยันส่งยิมหวาน “ข้าเหงาเลยมาหาท่าน”

หร่วนจูอีเกลียดรอยยิมเช่นนีจริงๆ เจ้าของตําหนัก
กระแทกถ้วยชาลงไม่เบา เหล่าข้าหลวงทียืนอยูใ่ กล้ๆ
ต่างสะดุง้ เป็ นทิวแถว ยามฮุ่ยเฟยปรายตามองมาก็
หนาวยะเยือก ขันทีผหู้ นึงติดตามรับใช้ฮ่ยุ เฟยมาตังแต่
สมัยยังหนุ่ม เห็นนายเหนือหัวโบกมือไล่ก็ไม่รรี อทํา
ตามพระประสงค์ทนั ที เพียงไม่นานห้องโถงกว้างก็ดู
วังเวงขึนทันตา

261
“มีอะไร”

คราวนีคําถามห้วนสันกว่าเดิมนัก จ้าวหลานเองไม่อยาก
แหย่ให้คนอาวุโสกว่าอารมณ์เสียมากขึน เขาจึงหยิบ
ม้วนกระดาษแผ่นเล็กเท่านิวก้อยออกมาจากแขนเสือ
ก่อนจะส่งไปให้คนตรงหน้า

“จากคนทีท่านรูจ้ กั ดี”

ถึงจะพยายามเก็บอารมณ์แต่จา้ วหลานก็เห็นปลายนิว
อีกฝ่ ายสันเล็กน้อย หร่วนจูอีรับมาถือเอาไว้ มองมันนิงๆ
ครูห่ นึง จากนันจึงเก็บม้วนกระดาษใส่ในแขนเสือโดยไม่
คิดจะเปิ ดอ่าน

262
หมับ!

หร่วนจูอีมองมือของอีกฝ่ ายทีคว้าข้อมือของเขาเอาไว้
อย่างเย็นชาแล้วปั ดออก ทิงรอยฝ่ ามือเป็ นปื นแดงเอาไว้
บนผิวขาวเป็ นทีระลึก

จ้าวหลานอึงไปเล็กน้อยจากปฏิกิรยิ าทีเขาได้รบั รอยยิม


บนใบหน้าเลือนหายไป แต่ก็ไม่ได้มีรอ่ งรอยของอารมณ์
กรุน่ โกรธ

“ข้าเป็ นคนไร้จดุ หมายในชีวิต ตอนเข้าวังมาก็ไม่ได้มี


ความปรารถนายิงใหญ่อะไร เดิมทีตวั ข้าก็คือ ‘ความ

263
เหมาะสม’ ทีจักรพรรดิทรงวางตําแหน่งเอาไว้ ข้าต่าง
จากท่าน และท่านก็ตา่ งจากคนพวกนัน จูตา้ เกอตอนนี
ท่านกําลังสูเ้ พือใคร”

“กล่าววาจาไร้สาระอันใดอยู”่

“ท่านทําเพือตัวเองกับสกุลหร่วนจริงๆ งันหรือ” จ้าว


หลานสบสายตาแข็งกร้าวของคนตรงหน้า “ตอนนีท่าน
ยังหยุดมันได้” โอกาสเพียงริบหรีแต่ถงึ กระนันเขาก็ไม่
หยุดพูด “สิบสามปี ก่อนตอนจักรพรรดิเสด็จประพาสยัง
เจียงไค ท่านสูญเสียสิงใดไปข้าทราบดี ท่านแค่กาํ ลัง
กลัวทีจะรักษาคนทีเหลืออยูเ่ อาไว้ไม่ได้”

264
“ข้าจะพักผ่อน คงไม่อาจส่งได้...ขอตัว”

จ้าวหลานยังพูดต่อ แม้โดนเมินเฉย “ข้าคือความเหมาะ


สม เฉินคุนเองก็เป็ นเฉกเช่นข้า ท่านแต่งเป็ นภรรยาให้
จักรพรรดิมาสามสิบสองปี ภายในใจของฝ่ าบาทมีหรือ
ท่านจะคาดเดาไม่ได้ จูตา้ เกอท่านกําลังปล่อยให้ความ
กลัวบดบังความจริง”

ปลายเท้าของเจ้าของตําหนักหยุดชะงัก แผ่นหลังกว้าง
นันไม่ยอมหันกลับมา จึงไม่อาจเห็นได้วา่ ตอนนีหร่วนจูอี
กําลังทําสีหน้าเช่นไรอยู่

“นีเป็ นโอกาสสุดท้ายแล้ว”

265
ได้ยินเช่นนันริมฝี ปากก็ขยับยิมด้วยดวงตาว่างเปล่า

“ขอบคุณ แต่ขา้ ไม่ตอ้ งการ”

คล้อยหลังขบวนเสด็จของจ้าวกุย้ เฟย พระสนมปิ ดประตู

266
ลงกลอนขังตัวเองเอาไว้ในห้องบรรทม เหล่าขันทีนาง
กํานัลต่างมองหน้ากันด้วยความลําบากใจ มีเพียงปูก้ ง
กงทีส่ายหน้าช้าๆ ไล่ให้คนอืนออกไปให้หา่ งจากห้อง
บรรทมมากทีสุด

เขาได้ยินสิงทีเจ้านายทังสองโต้เถียงกัน สิบสามปี ก่อนที


เจียงไค นับเป็ นบาดแผลทีไม่มีวนั รักษาหายของฮุ่ยเฟย
จริงๆ

“สิบสามปี ก่อนตอนจักรพรรดิทรงเสด็จประพาสไปยัง
เจียงไค ท่านสูญเสียสิงใดไปข้าทราบดี ท่านแค่กาํ ลัง
กลัวทีจะรักษาคนทีเหลืออยูเ่ อาไว้ไม่ได้”

267
หยกศิลาจันทราหักครึงเสียวถูกกําแน่นจนมือขึนข้อขาว
ความเย็นจากเนือหยกทีแนบอยูบ่ นหน้าผากราวกับแล่น
ตรงไปยังหัวใจ

ข้าเกลียดสกุลหร่วน

เกลียดบิดาทีเห็นแก่ตวั

เกลียดมารดาทีอ่อนแอจนไม่อาจปกป้องบุตรของตน

เกลียดพีชายทีแปรเปลียนไปเพียงเพราะอํานาจ

เหนือสิงอืนใดข้าเกลียดสวรรค์ ชิงชังชะตาฟ้า เหตุใด


268
ผลักไสให้ขา้ ต้องอยูใ่ นวังวนโสมมเช่นนีแล้ว สุดท้ายก็ยงั
พรากเด็กคนนันไป....

ใจคนแปรผันเปลียนได้ง่ายดาย เพียงพริบตาความอ่อน
โยนก็สามารถทําร้ายผูค้ นได้ดว้ ยความเลือดเย็น หร่วนจู
อีไม่เชือ...ว่าองค์ชายหกผูไ้ ร้เดียงสาในยามนี จะไม่
เปลียนไปเมือได้สมั ผัสอํานาจของโอรสสวรรค์ผคู้ รอบ
ครองทังใต้หล้า

ตัวตนของพีน้องทีแข็งแกร่งมักจะเป็ นหอกข้างแคร่ทิม
แทงใจของจักรพรรดิมาทุกยุคสมัย

สกุลหร่วนจะได้อาํ นาจใดไปไม่เกียวกับเขา ผูใ้ ดจะยิง

269
ใหญ่ก็ไม่เกียวกับเขา ขอเพียงสามารถปกป้องสมบัติชิน
สุดท้ายของเขาเอาไว้ได้...ก็พอแล้ว

ปลายนิวไล้ไปตามม้วนกระดาษในมือ แก้วตาทีสะท้อน
แสงเทียนทอประกายลึกซึงครูห่ นึง ก่อนทีเปลวเพลิงจะ
ลุกไหม้ กลืนกินจนไม่หลงเหลือสิงใดไว้

270
.

ภายในกระโจมของรองแม่ทพั ณ หน้าด่านชายแดนกอง
ทัพตะวันออก

“เจ้าจะไปคืนนีใช่หรือไม่”

“อืม...”

จิงเสวียมีสีหน้าไม่คอ่ ยน่ามองนัก “จะไม่ให้ขา้ ไปด้วย


จริงหรือ”

271
“อย่าลืมว่าตอนนีเจ้ารักษาการณ์แทนท่านแม่ทพั อยู”่

ซือหม่าเข้าใจว่าอีกฝ่ ายกังวล วันนีนกส่งสารจากจือเฉิง


หลัวบินมาพร้อมข้อความทีค่อนข้างกะทันหัน

สํานักศึกษาหลวงจือเฉิงหลัวเป็ นของสกุลจ้าว ตรา


ประทับทีประทับอยูบ่ นแผ่นกระดาษเป็ นของอดีตคุณ
ชายสกุลจ้าว ซึงปั จจุบนั ก็คือพระสนมทีมีอาํ นาจมากที
สุดในวังหลัง

ซือหม่าคาดเดามิผิดเรืองการปลอมลายมือของท่านแม่
ทัพ เพียงแค่คิดไม่ถงึ ว่าจ้าวกุย้ เฟยจะมาข้องเกียวกับ
เรืองนีด้วย

272
“เจ้าคิดว่านีเป็ นแผนลวงไหม” จิงเสวียคาดเดาเหตุผลไว้
ไม่นอ้ ย อย่างไรตอนนีจ้าวกุย้ เฟยก็ทรงมีทกุ อย่างอยูใ่ น
อุง้ มือแล้ว ทังอํานาจและยศถาบรรดาศักดิ

“คนสกุลจ้าวล้วนคาดเดาไม่ได้ สามรุน่ ก่อนสกุลจ้าวยัง


เคยเป็ นสายหลักของพรรคมารแห่งยุทธภพ ไม่กีรุน่ ต่อ
มากลับเปิ ดสํานักศึกษาหลวง คาดเดาเหตุผลของจ้าว
กุย้ เฟย เผลอๆ ความจริงอาจเพียงแค่กลัวขาดคูม่ ือเล่น
หมากล้อมอย่างฮุ่ยเฟยไปเท่านัน”

จิงเสวียพูดไม่ออก เหตุผลฟั งดูน่าขัน แต่ก็ไม่รูส้ กึ ว่าเป็ น


เรืองโกหก จากสายข่าวในวังหลังทีรายงานมา จ้าวกุย้

273
เฟยโปรดปรานการเล่นหมากล้อมกับฮุ่ยเฟยมากจริงๆ

“อย่างไรก็ตามไม่ใช่วา่ พวกเราได้ประโยชน์หรอกหรือ ถ้า


ไม่ได้คนจากจือเฉิงหลัวเกรงว่าคงโดนปั นหัวอีกนาน
กว่าจะได้ลงมือทําอะไรเรืองทุกอย่างคงถึงจุดสินสุด
แล้ว”

“ระวังตัวด้วย ทางนีข้าจัดการเอง”

แม้ยงั กังวลแต่จิงเสวียก็ทาํ อะไรไม่ได้ เรืองใช้แรงเป็ นสิง


ทีซือหม่าไม่ถนัดทีสุด หากเกิดอันตรายระหว่างทางกอง
ทัพตะวันออกทีสูญเสียกุนซือปี ศาจคงถึงคราววิกฤตแล้ว

274
ซือหม่าพยักหน้า ตบบ่าของสหายผูอ้ ยูเ่ คียงบ่าเคียงไหล่
ร่วมกับท่านแม่ทพั

“ลําบากเจ้าแล้ว”

กุนซือหนุ่มตวัดผ้าคลุมบดบังทังใบหน้าและร่างกาย
ก่อนจะเดินออกจากกระโจมไป

275
.

ขณะเดียวกันทีจวนเฉินอันในฉางซี บ่าวน้อยผูห้ นึงหาว


ปากกว้างจนใบหน้ายับยูน่ ่าเกลียด ลากร่างอ่อนเปลีย
ของตัวเองไปยังห้องนํา

เสียวถงเกาพุงแกรกๆ ก่อนนอนไม่น่าดืมนําเยอะเกินไป
เลย....หือ?

ดึกดืนป่ านนีเหตุใดจึงยังมีแสงไฟจากในห้องหนังสืออีก
มิใช่วา่ หลายวันมานีหวางเย่หอบงานสําคัญไปทําทีเรือน
276
หลักหรอกหรือ

ได้ยินเสียงกุกกักเหมือนมีคนกําลังค้นหาอะไรบางอย่าง
แต่พอเปิ ดประตูเข้าไปกลับเหลือเพียงเชิงเทียนทีถูกจุด
ทิงไว้

มิใช่หรอกกระมัง....เขาคงไม่ซวยปานนัน เสียวถงหน้า
ซีดเผือดคิดว่าตนโดนดีเข้าให้แล้ว

ขณะกําลังจะสับเท้าไปตามพ่อบ้านเหมา สายตาก็
เหลือบไปเห็นหยกงามสีขาวเกลียงเกลาทอแสงเรืองรอง
ดุจแสงจันทร์กระจ่างยามอยูใ่ นทีมืด

277
หยกงามนันตกอยูใ่ ต้โต๊ะเบืองล่าง ครันพอหยิบขึนมา
พลิกหยกห้อยเอวประดับพูเ่ ห็นเพียงอักษรเขียนว่า ‘เหวิ
น’ หลังศีรษะก็ปวดแปล๊บ

เสียวถงหน้าทิมพืนแนบอยูก่ บั พืนห้อง ข้างๆ กันเป็ นชาย


ชุดดําทีไม่ทนั ได้สงั เกตเห็นในตอนแรกนอนสลบเหมือด
เสียวถงพยายามประคองสติ แต่สดุ ท้ายแล้วสายตาพร่า
เลือนก็เห็นเพียงราชโองการสีทองอร่ามในมือของใคร
บางคน

278
สอบเสร็จแล้วววว // จุดพลุฉลอง

นีเรารังแกเสียวถงเกินไปหรือเปล่านะ ._.?

ข้อมูลเพิมเติม

[1] อีเหนียง : เป็ นสรรพนามใช้เรียกอนุภรรยา

[2] นึกถึงโจโฉ โจโฉก็มา เป็ นประโยคเชิงล้อ+ดัดแปลง

279
จากสํานวน “ซัวเฉาเชา เฉาเชาจิวเต้า” (说曹操,
曹操就到) หรือก็คือ “พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา” มี
ความหมายว่า เมือเราพูดถึงใครอยู่ คน ๆ นันก็บงั เอิญ
ปรากฏตัวหรือเดินมาพอดี

280
ตอนที ๑๐ หัวใจนันเป็ นความจริงทีไม่อาจโกหก

ดอกบัวกลีบชมพูบาง ปลาหลีฮือ[1]เปี ยมอุดมการณ์


กระโจนขึนสูผ่ ิวนํา นําพาความรุง่ โรจน์มีกินมีใช้ เชิดชู
ความซือสัตย์บริสทุ ธิ

ดอกบัวเปรียบดังความงามทีบอบบางน่าถนอม จรุงกลิน
หอมบริสทุ ธิและสูงส่ง หร่วนจูอีเป็ นบุรุษมิได้ใส่ใจเรือง
ของบุปผา เพียงแต่เด็กน้อยผูห้ นึงทีกําลังแย้มยิมท้าแสง
อาทิตย์เจิดจ้า ข้างสระบัวระหว่างทางกลับตําหนักได้ดงึ
ดูดความสนใจของเขาเอาไว้ทงหมด

281
“องค์ชายหก”

“ท่านลุง!” เฉินคุนเอ่ยเสียงสดใส เมือเห็นว่าแขกผูม้ า


เยียมชมความงามของดอกบัวคือผูใ้ ด

“ท่านลุง?” หร่วนจูอีทวนคําเรียกขานตนอย่างฉงน
สนเท่ห ์

“ฮุ่ยเฟยเป็ นมารดาของเสด็จพี เพียงแต่อายุมากกว่า


ท่านแม่จงึ เป็ นท่านลุงของข้าอย่างไรเล่า”

“ช่างคิดนัก…”
282
ได้ยินเช่นนันมุมปากของหร่วนจูอีกระตุก สกุลจ้าวตัวน่า
รําคาญแห่งตําหนักยานซี ช่างสังสอนบุตรได้ดีจริงเชียว

“ดอกบัวบานช่วงเดือนหก เวลานีทีสระบัวมิมีสงใดที
ิ น่า
สนใจ เหตุใดองค์ชายหกจึงมาเสียเวลาอยูท่ ีนี”

“ท่านแม่บอกว่าความสงบนันก็เป็ นความงามรูปแบบ
หนึง เช่นเดียวกับคุณธรรมทีมิอาจเป็ นสิงอัปลักษณ์ ข้า
ยังมีความสงสัยกับเรืองความงดงามหลายๆ อย่าง จึง
ลองมาชมดูดอกบัวทียังไม่แย้มบานทีนี เผือความสงสัย
ในจิตใจจะสามารถรูแ้ จ้ง”

283
เฉินคุนตอบฉะฉาน เมือเงยหน้าขึนมองพระสนมท่านนี
กลับพบกับใบหน้าเฉยชาเช่นเดียวกับประกายในดวงตา

เพือต้องการความสงบเงียบทีแท้จริง เฉินคุนได้ทิงนาง
กํานัลและขันทีพีเลียงของตัวเองออกมาซุกซนอยูข่ า้ ง
นอก

หร่วนจูอีมองสลับองค์ชายน้อยกับสระบัวด้านหลัง

องค์ชายหกทีอยูเ่ พียงลําพัง โอกาสนํางามเช่นนีจะหาได้


จากไหนอีก

.
284
.

พระจันทร์ตรงหัวแล้วแต่เฉินลูป่ ิ นยังมือหนึงหมุนพูก่ นั
อีกมือถือเอกสารการค้า สายตาเพ่งมองไม่ให้เนือหา
สําคัญตกหล่นไปแม้เพียงบรรทัดเดียว

เฉินลูป่ ิ นถอนหายใจแผ่ว ด้วยใบหน้าทีเพลียจากการอด


หลับอดนอนมาหลายวัน

“มันก็หนึงเดือนมาแล้วใช่หรือไม่...”
285
คําถามเอ่ยขึนมาลอยๆ ไร้ทีมาทีไป ในห้องหับมีชาย
หนุ่มเจ้าของจวนนังทํางานอยูล่ าํ พัง

เฉินลูป่ ิ นยิมน้อยๆ วางพูก่ นั ในมือ เท้าศอกลงกับโต๊ะ


แหงนหน้าไปมองบนขือ แสงจากเปลวเทียนหาได้สว่าง
มากมายขนาดนัน คนปกติยามเงยหน้าไปบนคานบ้าน
ของตน เห็นเงาดําทะมึนนังอยูน่ ิงเงียบไม่ไหวติงคงเป็ น
ลมล้มพับไปแล้ว เสียแต่วา่ เฉินลูป่ ิ นรูอ้ ยูแ่ ล้วว่าผีเรือน
ตนนีแท้จริงคือผูใ้ ด

“ท่านจะลงมาดีๆ หรือจะให้ขา้ ลากท่านลงมา”

286
เฉินลูป่ ิ นได้ยินคนด้านบนพ่นลมหายใจฟึ ดฟั ดคล้ายไม่
สบอารมณ์ยงิ บางสิงถูกโยนลงมากระแทกบนโต๊ะจนนํา
หมึกหกกระจายเต็มเอกสารทีเขาพึงทําเสร็จไป

ช่างเลือกตกได้ตรงจุดดีเหลือเกิน เฉินลูป่ ิ นคิวกระตุก

ชายเสือสีเข้มอย่างทีอีกฝ่ ายชอบสวมใส่พลิวไสว ยาม


ร่างแกร่งขององค์ชายใหญ่แห่งแผ่นดินเสวียนเฉิน
กระโดดลงมาจากด้านบน เมือมาอยูอ่ าศัยร่วมชายคา
กับเฉินลูป่ ิ น ในแต่ละวันเฉินเหวินเค่อไม่ได้สวมอาภรณ์
หรูหราอะไร เน้นแค่เคลือนไหวสะดวกกับสีเข้มตามวัย
เท่านัน

287
สําหรับเฉินเหวินเค่อ สีสนั สดใสนันได้รว่ งโรยจากเขาไป
นานแล้ว

แต่บดั นีชายผูย้ ืนหลังตรงอยูเ่ บืองหน้าเฉินลูป่ ิ นกลับอยู่


ในอาภรณ์ปักดิน และลวดลายหรูหราอย่างวิจิตร ความ
ละเมียดละไมของลายพยัคฆ์นนน่
ั าเกรงขามสมกับ
ฐานันดรศักดิ เช่นเดียวกับกวาน[1]บนศีรษะบ่งบอกถึงผู้
มีโลหิตมังกรไหลเวียนอยูใ่ นร่าง

เฉินลูป่ ิ นหยิบราชโองการขึนมาพิจารณา กระดาษว่าง


เปล่าปรากฏรอยไหม้เล็กๆ ตรงมุมกระดาษ องค์ชาย
ใหญ่ผมู้ ีนิสยั ไม่น่าคบหาและอารมณ์รอ้ น แต่ตาํ แหน่ง
แม่ทพั เลือดผูพ้ ิทกั ษ์ชายแดนตะวันออกหาได้มาเปล่าๆ

288
“ค้นข้าวของส่วนตัวของผูอ้ ืนมันเสียมารยาทนะ”

“คนทีมายุง่ กับข้อความจากนกส่งสารของคนอืนก็ไร้
มารยาทเหมือนกันนันแหละ”

“โดนจับได้เสียแล้ว” เฉินลูป่ ิ นผุดกายลุกขึน พัดจีบในมือ


เคาะเป็ นจังหวะเบาๆ ลงบนโต๊ะ “เช่นนันข้าควรทําอย่าง
ไรต่อไปดี”

เฉินเหวินเค่อขยับกายเข้าไปใกล้ หยิบราชโองการอีก
ฉบับของตัวเอง เหวียงทิงลงพืนอย่างไม่ไยดี

289
“เดิมทีเพราะราชโองการของเสด็จพ่อข้าจึงจําใจต้องมา
อยูท่ ีนี ป่ าเถือน ไร้เมตตาคุณธรรม….” เฉินเหวินเค่อ
แค่นเสียง “ข้ามานังตรองดู เรืองนีมีแต่ช่องโหว่เต็มไป
หมด ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ากวนประสาท และข้าทีเอาแต่
คล้อยตาม” เฉินเหวินเค่อพรูลมหายใจยาวเหยียด “ช่าง
เถอะ เรืองราชโองการจะจริงหรือลวงหากต้องโทษทัณฑ์
ข้าจะไม่ทาํ ให้เจ้าเดือดร้อน ถึงจะเป็ นแค่ช่วงเวลาหนึง
อีกทังข้ากับเจ้าก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ตอ่ กันในทางทีดี
สักเท่าไหร่ แต่เมือได้มาพบกันย่อมเป็ นลิขิตฟ้า”

เฉินเหวินเค่อจดจ้องไปทีดวงตาของคนตรงหน้า ไม่รู ้
ทําไมเมือจําต้องเอ่ยถ้อยคําสุดท้าย เขากลับไม่กล้ามอง
ไปทีใบหน้าชายงามของเฉินลูป่ ิ นตรงๆ

290
ร้อยพันเรืองราวหมืนสรรพสิง ตัวเขาไม่เคยเกรงกลัวสิง
ใด ความเถรตรงฝี ปากคมกริบดุจใบมีดโกนเป็ น
คุณสมบัติทีพวกขุนนางห่มหนังจิงจอกยกย่องเขามิใช่
หรือ

“แต่วา่ โชคชะตาเช่นนีไม่เกิดขึนจะดีกว่า”

ถ้าหากว่าไม่ตอ้ งพบกันตังแต่แรกก็ไม่ตอ้ งมีผใู้ ดต้องเจ็บ


ปวด หากไม่เคยรูจ้ กั กันก็ไม่ตอ้ งทําให้อีกฝ่ ายเดือดร้อน

“ลืมเลือนว่าเคยได้พบพาน เจ้าและข้านับว่าสินสุดกัน
ตรงนี”

291
รอยยิมบนใบหน้าของเฉินลูป่ ิ นค่อยๆ เลือนหาย ฝ่ ามือ
เนียนกําเข้าหากันแน่นจนขึนข้อขาว

“ท่านลืมเลือนทุกอย่างได้ง่ายดายปานนัน?”

“อืม…”

“ถ้าเช่นนันเหตุใดจึงไม่หนีไป ท่านทราบดีวา่ ...”

“เจ้ารูจ้ ดุ อ่อนของข้า” เฉินเหวินเค่อเอ่ยแทรก “เงาของ


จักรพรรดิ...คือหน่วยลับทีก่อตังเพือพิทกั ษ์บลั ลังก์ โดย
เงานันมีทงหน่
ั วยทีข้ารูจ้ กั และไม่รู ้ เสด็จพ่อส่งเงาจํานวน
หนึงมาให้เจ้า แต่ระหว่างคอยช่วยกีดกันข้าให้ออกห่าง
292
จากเรืองราวในราชสํานักกับปกป้องจักรพรรดิ ข้าคงไม่
ต้องบอกว่าอันไหนสําคัญกว่ากัน”

“คืนนีข้าทํางานหนัก อาจเผลอหลับฝันเรืองราว
ประหลาด ข้าว่าท่านกลับไปนอนจะดีกว่า”

“อวดดีเหลือเกินนะ”

นัยน์ตาสีขีเถ้าปะทะกันกลางอากาศ ราวกับมีกระแส
บางอย่างฟาดฟั น ทังเฉินลูป่ ิ นและเฉินเหวินเค่อต่างหยุด
บทสนทนาเอาไว้ เมือการพูดคุยไม่ได้ผล กําปั นกลับ
กลายเป็ นคําตัดสินทีเถรตรงทีสุด

293
ช่างไม่งดงามเอาเสียเลย

เหมือนดังวันแรก ณ จวนเฉินอัน

บุรุษทังสองต่างพุง่ เข้าฟาดฟั น ความดุดนั ของแม่ทพั


เลือดเพียงหนึงฝ่ ามือทีปลดปล่อยลมปราณ ห้องทังห้อง
ราวกับถูกพายุพดั ถล่ม ส่วนความพลิวไหวของหวางรูป
งามแห่งฉางซียอดเยียมไม่เสือมคลาย ด้วยท่วงท่า
ประหนึงเทพเซียนเคลือนกาย เหยียบย่างลงบนเมฆ
มงคล

เฉินเหวินเค่อคว้าข้อมือของเฉินลูป่ ิ นเอาไว้ได้ แต่เพียง


พริบตาอีกฝ่ ายก็บิดมันออก แล้วสวนกลับด้วยการปา

294
พัดในมือ พัดจีบแฝงลมปราณเฉียดปลายจมูกเฉินเหวิ
นเค่อทีเอนกายหลบไปไม่ถงึ หนึงข้อนิว ก่อนจะไปปั กคา
อยูบ่ นกําแพงราวกับเป็ นกระบีชันหนึง

บุรุษทังสองต่างหยุดลองหยังเชิงกัน แม้แต่คนนิสยั หุน


หันใจร้อนอย่างเฉินเหวินเค่อ เมือถึงคราวต้องเอาจริง
บุคลิกของแม่ทพั ผูเ้ จนจัด กรีธาทัพไร้พา่ ยเข้าฟาดฟั นอริ
ศัตรูถกู ดึงออกมาใช้ เฉินลูป่ ิ นทีมักหน้ายิมอยูต่ ลอดเวลา
ยังมีสีหน้าครําเคร่ง กลินอายอันตรายแตกต่างจาก
บรรยากาศนุ่มนวลผิดจากปกติถกู แผ่ออกมา ราวกับสูด
ดมกลินหอมหวนของผกางาม แต่บปุ ผาดอกนันกลับ
แฝงไว้ดว้ ยพิษร้าย

“เจ้าเป็ นคนมีพรสวรรค์ ถ้าคิดจะฝึ กวรยุทธไม่ยากเกิน


295
กําลัง เผลอๆ ไม่จาํ เป็ นต้องล่วงรูจ้ ดุ อ่อนของข้า ข้าอาจ
เพลียงพลําก็เป็ นได้” เฉินเหวินเค่อเดินไปดึงพัดจีบทีอีก
ฝ่ ายถือติดตัวเอาไว้เสมอออกจากกําแพง ลมปราณสาย
หนึงตีกลับ ความรุนแรงนันขนาดเป็ นเขายังรูส้ กึ มือชา
เมือสังเกตดีๆ จึงพบว่าพัดเล่มนีแม้จะคล้ายกับทีเคย
เห็นแต่ก็มีความต่าง ตัวอักษรเล็กๆ ทีปลายด้ามสลัก
นามหนึงไว้

เฉินลูป่ ิ นยืนมือรับพัดของตนทีอีกฝ่ ายโยนมาให้

“เจ้าเกิดมาพร้อมเส้นลมปราณพิเศษใช่หรือไม่” เฉินเหวิ
นเค่อลูบปลายนิวทียังไร้ความรูส้ กึ “กล่าวว่าหากผูม้ ีเส้น
ลมปราณพิเศษไม่เป็ นใหญ่เหนือใครในยุทธภพ ผูน้ นก็

เป็ นแค่คนป่ วยด้วยโรคทีหายาก และไม่อาจฝึ กวรยุทธได้
296
ทังชีวิต”

เฉินลูป่ ิ นหัวเราะเสียงแผ่ว “นอกจากท่านแล้วก็มีแค่คนๆ


นันทีมองออกว่าข้ามีเส้นลมปราณพิเศษ เดิมทีขา้ ถอด
ใจไปแล้ว ไม่วา่ จะทําอย่างไรข้าก็ไม่อาจฝึ กวรยุทธได้
หากคนผูน้ นมิ
ั ได้พบความจริงข้อนีเข้า ข้าก็คงเป็ นแค่
ท่านชายอ่อนแอจนน่าสมเพชคนหนึง”

“เป็ นเจ้าของปิ นก้านเหมยผูน้ น?”


“ใช่...เป็ นเขา”

แก้วตาคูง่ ามยามเอ่ยถึงคนผูห้ นึงในความทรงจําทอ


297
ประกายลึกซึง ด้วยห้วงอารมณ์ทีทําเอาผูเ้ ฝ้ามองหน้า
ร้อนฉ่า

“ดูทา่ เขาจะสําคัญกับเจ้ามาก”

เฉินลูป่ ิ นพยักหน้ารับ “สําคัญมากจริงๆ” ชายหนุ่มลูบไล้


ชือทีสลักอยูต่ รงปลายด้ามพัด ก่อนจะเอ่ยว่า “ในชีวิตข้า
เขาเป็ นทังรักแรกและจะต้องเป็ นรักสุดท้าย ข้าทําได้
ทุกอย่างเพือให้ได้มาซึงเขา”

ดวงตาคมกริบจดจ้องไปทีเฉินเหวินเค่อบ่งบอกถึงความ
ปรารถนาอันแรงกล้า แม่ทพั เลือดรูส้ กึ ถึงมือทีมองไม่เห็น
นับไม่ถว้ นกําลังจับตรึงเขาเอาไว้ ร่างกายทุกสัดส่วน

298
กําลังถูกลูบไล้จากเพียงหนึงสายตา

พริบตาเดียวทีสมาธิหลุดลอย แผ่นหลังของเฉินเหวินเค่อ
ก็นาบอยูบ่ นพืนห้อง ข้อมือทังสองข้างถูกรวบไว้เหนือ
ศีรษะ เฉินลูป่ ิ นหยิบเอามีดสันด้ามหนึงออกมาปั กตรึง
ชายเสือของเขาเอาไว้ ความปราดเปรียวของอีกฝ่ ายไม่
ยินยอมเปิ ดช่องว่างเลยแม้แต่นอ้ ย สองนิวทีประสานกัน
สกัดจุดการไหลเหวียนลมปราณ ไม่ใช่เพียงแค่จดุ อ่อน
สําคัญ

ร่างของแม่ทพั ผูก้ ล้าแกร่งสะท้านยามถูกมือเปลือยเปล่า


ล้วงเข้าไปในสาบเสือ ฟอนเฟ้นไปทัวแผ่นอก จวบจน
เสียงหนึงเกือบหลุดลอดออกมาจากริมฝี ปาก ยามฝ่ ามือ
ทีแนบกับผิวกายบริเวณสีขา้ งถูกไล้ลงมาจนถึงบันเอว
299
“เจ้าเป็ นคนมีฝีมือ....” เสียงกระท่อนกระแท่นเอ่ยออกมา
อย่างยากลําบาก “แต่วา่ ยังขาดประสบการณ์” ใบหน้า
เฉินเหวินเค่อชืนไปด้วยเหงืออย่างผิดวิสยั เฉินลูป่ ิ น
สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ แต่ก็สายเกินไป....เฉินเหวิ
นเค่อทีไม่สมควรขยับตัวได้พลิกกลับมาคร่อมอยูด่ า้ นบน

รอบด้านปรากฏกลุม่ คนในชุดทีคุน้ ตา เหล่าเงาของ


จักรพรรดิทงสี
ั คนทีแฝงกายหลบเร้นอยูภ่ ายในห้องต่าง
นอนหมดสภาพอยูแ่ ทบเท้าคนเหล่านัน

“จือเฉิงหลัว...”

300
“พวกเขาไม่ใช่เงาทีดีทีสุด เทียบกับอดีตพรรคมารทีเคย
ยิงใหญ่เหนือใครในยุทธภพอย่างสกุลจ้าว ข้าคงไม่
ต้องบอกว่าผูใ้ ดจะชนะ” เฉินเหวินเค่อนําเสียงอ่อนแรง
ลงเรือยๆ แม้แต่สีหน้าก็ดซู ีดเซียวจนน่าตกใจ

คนจากสกุลจ้าวเฉินลูป่ ิ นรูจ้ กั ดีทีสุด เขากัดฟั นอย่างนึก


เจ็บใจ ไพล่นกึ ถึงคนทีอยูเ่ บืองหลังในอกก็ตือไปด้วย
อารมณ์กรุน่ โกรธ

ศิษย์พีบัดซบ! ข้าและท่านมิใช่กราบไหว้อาจารย์คน
เดียวกันหรอกหรือ

มองคนด้านบนหอบหายใจหนักด้วยสีหน้าทรมาน เฉินลู่

301
ปิ นจวนเจียนจะคลัง เขาจ้องมองอีกฝ่ ายด้วยดวงตาแดง
กํา ทังโมโหและน้อยเนือตําใจ

เหตุใดจึงต้องดินรนกลับไป ในเมือท่านย่อมรูอ้ ยูแ่ ก่ใจว่า


จุดหมายปลายทางคือโทษประหาร จักรพรรดิทรงลง
ดาบแล้ว องค์ชายใหญ่ถกู ลงโทษอยูท่ ีฉางซีตลอดย่อม
พ้นข้อกล่าวหาทีสกุลหร่วนอยูเ่ บืองหลัง

“มารดาข้าแซ่หร่วนเจ้าคงไม่ลืม” คําตอบนันราวกับอ่าน
ใจเฉินลูป่ ิ นออก

“ท่านทราบหรือไม่วา่ ว่านเซียงโหรวเป็ นยาอะไร”

302
“เจ้าเห็นข้าเป็ นเด็กทีเอาอะไรเข้าปากโดยไม่รูส้ รรพคุณ
หรือ” เฉินเหวินเค่อแค่นหัวเราะ “วิชาสกัดจุดของเจ้ามัน
น่ารําคาญ ข้าก็ตอ้ งหาวิธีตอบโต้บา้ งสิ”

ยาลูกกลอนว่านเซียงโหรวสร้างขึนจากวิชามารสายหนึง
เสริมกําลังภายในให้แกร่งกล้า ร่างกายแปรเป็ นปราการ
ทองคําวิชาฝังเข็มสกัดจุดลําเลิศเพียงใดก็ไร้ผล เพียงแต่
ผลสะท้อนนันมีสทิ ธิทําให้ผใู้ ช้เส้นลมปราณตีบตันตลอด
ชีวิต

โลหิตหยดหนึงไหลจากโพรงจมูกหยดลงไปทีใบหน้า
เกลียงเกลาเยาว์วยั ของเฉินลูป่ ิ น

303
“ข้ามียาแก้ ท่านปล่อยข้า! ข้าจะไปเอามาให้---อุก”

ยาลูกกลอนเม็ดหนึงถูกยัดเข้ามาในปาก เฉินเหวินเค่อ
ยึดปลายคางของคนใต้รา่ งไว้แน่น ใช้แรงทังหมดทีมีกด
ไม่ให้เฉินลูป่ ิ นขัดขืน จนกระทังเม็ดยานันถูกกลืนลงคอ
ไป

เฉินลูป่ ิ นยืนมือคว้าชายเสือของคนด้านบนไว้ดว้ ยสติที


พร่าเลือน แต่สดุ ท้ายก็คว้าได้เพียงความว่างเปล่า

.
304
.

กลางดึกสงัดภายนอกจวนเฉินอันยังไม่พบความผิดปกติ
ยามคุม้ กันจวนหวางทังสองอดไม่ได้ทีจะหาวให้กบั คืน
สงบสุขอีกหนึงคืนทีกําลังล่วงผ่านไป

แอ๊ด...

ประตูจวนทีปิ ดสนิทถูกแง้มเปิ ดจากด้านใน ยามคุม้ กัน


ทังสองตืนเต็มตายามเห็นใบหน้าของบุรุษผูห้ นึงชัดเจน
เมือมองผ่านไหล่เข้าไปข้างในก็พบว่าบ่าวรับใช้ และ
สหายร่วมอาชีพต่างนอนสลบไสลไม่ได้สติ ยังไม่ทนั ได้

305
ไตร่ตรองว่าควรทําสิงใด หลังศีรษะก็ถกู ของแข็งฟาดเข้า
อย่างจัง

เฉินเหวินเค่อมองคนลงมืออุกอาจนิงๆ “ทีชายแดนเรียบ
ร้อยดีใช่ไหม”

ชายทีอยูใ่ นชุดปิ ดมิดชิดทังตัวดึงผ้าคลุมหน้าออก เป็ น


ซือหม่ากุนซือปี ศาจแห่งกองทัพตะวันออกประสานมือ
ทูลว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี

หลังจากรีบเร่งเดินทางมาจากชายแดน ข้อความจาก
จ้าวกุย้ เฟยบ่งบอกว่าท่านแม่ทพั ต้องการให้เขาคอย
ประสานงานกับสกุลจ้าว ช่วยเหลือเฉินเหวินเค่อออก

306
จากจวนเฉินอัน ปั จจุบนั จือเฉิงหลัวเป็ นสํานักศึกษา
หลวงก็จริง แต่เบืองหลังยังซุกซ่อนยอดฝี มือตังแต่ครัง
สกุลจ้าวยังเกียวพันกับยุทธภพ เพียงแต่ใช้แค่อาํ นาจ
อดีตคุณชายสายหลักไม่เพียงพอ หากต้องการหยิบยืม
กําลัง จ้าวกุย้ เฟยทําได้แค่เป็ นตราประทับรับรอง ส่วน
การเจรจาต่อรองเป็ นธุรกิจทีซือหม่าต้องจัดการเอาเอง

“จากฉางซีไปทีเทียนเฉินแม้ไม่ไกลมาก แต่ในเวลานี
สมควรรีบจะดีกว่า คุณชายจ้าวได้ควบคุมฝังประตูเหนือ
เอาไว้แล้ว หากท่านจะเข้าวังก็ขอให้เข้าทางประตูนน”

คนจากจือเฉิงหลัวมีความหยิงทะนงในตัวสูง ไม่ยอมแม้
จะเอ่ยเรียกอดีตคุณชายสกุลจ้าวอย่างจ้าวหลานว่าจ้าว
กุย้ เฟยตามยศถา กระทังการทูลบอกเชือพระวงศ์อย่าง
องค์ชายใหญ่แห่งเสวียนเฉินยังเมินเฉยต่อราชาศัพท์

307
อย่างทีควรใช้ “นีคือยาแก้วา่ นเซียงโหรว การใช้ยาแก้เร็ว
เกินไปอาจทําให้ใช้วรยุทธได้เพียงครึงเดียวชัวคราว หาก
โชคร้ายก็ตลอดชีวิต”

ซือหม่าเบิกตากว้างอยากจะเอ่ยคัดค้าน ทว่าท่านแม่ทพั
ก็คว้าเอายาลูกกลอนเข้าปากโดยมิลงั เล เขาจึงต้อง
เงียบปากแล้วกระโดดขึนหลังม้าตามนายเหนือหัว

เฉินเหวินเค่อไอโขลกก่อนออกเดินทาง โลหิตกองใหญ่
เจิงนองอยูบ่ นฝ่ ามือ แต่เขาไม่มีเวลามาสนใจ หลังจาก
ควบอาชาออกมาจากฉางซี ไม่รูเ้ พราะเหตุใดจึงกระตุก
บังเหียนหันกลับไปมองทางทิศทีตังของจวนเฉินอัน

308
หวนนึกถึงนามหนึงทีสลักอยูบ่ นปลายด้ามพัด....เหวิ
นเค่อ

“ข้าเคยรูจ้ กั เขาใช่ไหม”

‘เขา’ ทีว่าหมายถึงผูใ้ ดคงมิตอ้ งบอก

“นีเป็ นคําสัง”

ต้องเอ่ยยําเสียงเข้มกุนซือคนสนิทจึงยอมอ้าปาก กุนซือ
ผูน้ ีเฉินเหวินเค่อช่วยออกมาจากค่ายโจร เด็กน้อยทีเกิด
และเติบโตจากมารดาทีเป็ นโสเภณี สตรีน่าสงสารทีถูก
ฉุดคร่า เขาเห็นแววบางอย่างจากนัยน์ตาชิงชังต่อชะตา
309
ชีวิตของเด็กชายตัวผอมกะหร่องขาดสารอาหาร ท่าม
กลางเสียงคัดค้านมากมาย เฉินเหวินเค่อได้นาํ เด็กน้อย
ผูน้ นกลั
ั บจวน และชุบเลียงขึนมาพร้อมมอบนามให้วา่
‘ซือหม่า’

ความจงรักภักดีของอีกฝ่ ายไร้ขอ้ กังขา มันใจได้วา่ ซือ


หม่ายึดเอาคําพูดเขาเป็ นหนึงยิงกว่าชีวิต ถ้าจะมีอะไร
ทําให้ลงั เล ก็มีแต่คาํ สังทีตัวเขาจําไม่ได้เหนียวรังเอาไว้

“ท่านแม่ทพั เคยพบเฉินอันหวางมาก่อนพะย่ะค่ะ”

“แปลกดี ข้ากลับจําไม่ได้เลยว่ารูจ้ กั ”

310
ซือหม่าเม้มปากแน่น แม้จะใช้เวลานาน แต่สดุ ท้ายเขาก็
คิดว่าสมควรพูดออกไป ถึงมันจะเป็ นการขัดคําสังทีเคย
ได้รบั ในอดีตก็ตาม

“ถึงจะจําไม่ได้ เพียงแต่หวั ใจนันเป็ นความจริงทีไม่อาจ


โกหก ซือหม่าขอล่วงเกินแล้ว ท่านแม่ทพั หากท่านยืนยัน
ว่ามิเคยพบพาน ได้โปรดบอกคนโง่เขลาผูน้ ีด้วยว่า
นําตาทีกําลังหลังรินนันมีความหมายว่าเช่นไร”

ดังในอดีตทีแผ่นหลังตังตรงหวนกลับไปมองยังเทียนเฉิน
ในหมูร่ าษฎรน้อมส่งเสด็จองค์ชายใหญ่ทีกําลังเคลือน
ทัพไปยังชายแดน หลังจากได้รบั ราชโองการแต่งตังให้
เป็ นแม่ทพั ตะวันออก เด็กน้อยผูห้ นึงยืนกําปิ นก้านเหม
ยแน่นกลับติดตรึงจนไม่อาจละสายตา ไม่รูเ้ พราะเหตุใด
311
ยามสายลมโอบไล้ผา่ นใบหน้า หยดนําตาจึงพรังพรูออก
มาประสานไปกับหัวใจทีปวดหนึบอย่างน่าประหลาด

แม้ทา่ นแม่ทพั จะไม่เอือนเอ่ยคําใด แต่ซือหม่าก็ทราบดี


ว่าบุรุษทีนังตัวตรงอยูบ่ นหลังม้ายังคอยให้เขาพูดต่อ

“ท่านแม่ทพั เคยฟั งบทกวีเรืองกู่จินเหลียงผูเ้ ฝ้าคอยรัก


หรือไม่ หญิงสาวแซ่ก่มู ีวาสนารักผูกพันลึกซึงกับแม่ทพั
หนุ่ม เพียงแต่โชคร้ายไม่นานหลังจากได้รว่ มกราบไหว้
ฟ้าดิน ผูเ้ ป็ นสามีถกู ส่งไปประจํายังชายแดน กู่จินเหลียง
เฝ้ารอสามีนานถึงสิบห้าปี อย่างโดดเดียวจึงจะได้ครอง
รัก แต่วา่ สุดท้ายแล้วเพราะสามีทาํ ผลงานยิงใหญ่กอบกู้
บ้านเมือง เป็ นทีรักของเหล่าปวงประชามากเกินไป
จักรพรรดิทรงหวาดระแวงว่าจะถูกโค่นล้มบัลลังก์จงึ ได้
312
มอบข้อหากบฎ ประหารตระกูลแม่ทพั เจ็ดชัวโคตร แม้
ตัวกู่จินเหลียงจะหาใช่คนสกุลเดียวกับแม่ทพั ผูน้ นั แต่
เพราะเป็ นภรรยาทีแต่งเข้าจึงต้องถูกประหารตกตาย
ตามสามีไปอย่างเลียงไม่ได้” หลังจากเล่าจบซือหม่าก็ตงั
คําถามต่อ “ท่านแม่ทพั คิดว่า หากแม่ทพั ผูน้ นมิ
ั ได้ไป
ประจํายังชายแดน ไม่ได้ทาํ คุณงามความดีจนมีความ
ชอบสะเทือนนาย ชะตากรรมของกู่จินเหลียงกับแม่ทพั
หนุ่มผูเ้ ป็ นสามีจะแปรเปลียนหรือไม่”

ความเงียบทีโรยอยูร่ อบกายขับเน้นให้เสียงจิงหรีดเรไร
ในพงไพรดังก้องกังวาน สุดท้ายแล้วซือหม่าก็ไม่ได้รบั คํา
ตอบ ได้แต่เฝ้ามองแผ่นหลังของท่านแม่ทพั ควบม้านํา
ออกไป

313
.

“ฮุ่ยเฟยไม่โปรดดอกบัวหรือ”

หร่วนจูอีชะงักค้าง จ้องตอบดวงตาใสกระจ่างเสียยิงกว่า
สายชลของสระบัวด้านหลัง

314
“เหตุใดองค์ชายหกจึงคิดเช่นนัน”

“เป็ นเพราะสายตาของท่าน” เฉินคุนตอบ

เหมือนกับดวงตาทีมารดาเคยใช้มองฮุ่ยเฟย ท่านแม่
เพียงบอกแค่วา่ ไม่ชอบ ตอนแรกเฉินคุนเคยคิดว่ามารดา
จะเกลียดเหนียงเหนียงผูน้ ี ภายหลังเมือลองแอบถามแม่
นม นางตอบว่าสายตาเช่นนันหาใช่ความโกรธเกลียด
เป็ นสายตาตัดพ้อของความโศกเศร้าอย่างหนึง ความ
รูส้ กึ ยากสัมผัสอันบางเบา

เฉินคุนจึงทราบว่า ‘ไม่ชอบ’ ของท่านแม่หาใช่ทีตัวบุคคล

315
เพียงแต่สมองของเด็กก็สดุ จะรู ้ ความหมายทีแท้จริงนัน
คืออะไรกันแน่

“ลูกชายของข้าชอบบัวหลวงกลีบชมพูนีมาก ไม่วา่ ยาม


หุบหรือจเบ่งบาน ทุกครังทีมองทําให้ขา้ นึกถึงเขา”

“เหนียงเหนียงหมายถึงต้าเกอ?”

พระสนมไม่ตอบ เพียงแค่นยิมขมขืนออกมา ครูเ่ ดียวก็


เลือนหายไปจากใบหน้า จนคล้ายเฉินคุนตาฝาดไปเอง

“ฮุ่ยเฟยเหนียงเหนียง”

316
เสียงร้องเรียกดังมาจากทางด้านหลัง เกากงกงยืนอยู่
หน้าขบวน ข้างหลังเต็มไปด้วยขันทีใช้แรงงานทีมีกาํ ลัง
มาก ไกลๆ ก็ลอ้ มรอบด้วยองครักษ์

“ฝ่ าบาทมีรบั สัง ขอเหนียงเหนียงเสด็จกลับตําหนักอันชวี


ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“ความงามของดอกบัวทียังไม่เบ่งบานคือความอดทน
เฝ้ารอวันทีแย้มบาน…หวังว่าวาจาเลือนลอยของข้าจะ
ช่วยองค์ชายได้”

หร่วนจูอีปรายสายตามองทีสระบัวและเด็กน้อยผูไ้ ม่
ประสา ราวกับมิใช่คนทีเติบโตมาในวังทิงท้าย

317
“ดวงแข็งก็นบั เป็ นคุณสมบัติของจักรพรรดิเช่นกัน”

เฉินคุนคํานับส่งเสด็จ ไม่นานหลังจากนันแม่นมกับเหล่า
พีเลียงก็วงตั
ิ วปลิวเข้ามา

318
อยาก skip ไปเขียนตอนหวานๆ จังค่ะ 5555

ข้อมูลเพิมเติม

[1] ชือปลาเมืองจีน เคยเรียกว่าปลาไน หรือปลา


ตะเพียน เป็ นปลามีถินกําเนิดในแม่นาแยงซี

[2] กวาน 冠 คือสิงทีชนชันสูงชาวจีนในสมัยโบราณใช้


สวมครอบบนศีรษะ เพือเป็ นเครืองบอกระดับประดับ
พระยศพระเกียรติ “กวาน" เปรียบได้กบั รัดเกล้าทีจะสวม
ครอบรัดมวยผม นอกจากนียังถือเป็ นสัญลักษณ์บอก
319
สถานะ เพราะจํากัดเฉพาะชนชันสูงมียศถาบรรดาศักดิ
เท่านัน ลําดับชันต่างกัน รูปแบบของ "กวาน" ก็ตา่ งกัน
ไป และจะใช้ใส่ออกงานได้แต่เฉพาะในพิธีการสําคัญ
เท่านัน

320
ตอนที ๑๑ สมรสพระราชทาน ๑

ภายนอกพระตําหนักของจักรพรรดิแว่วเสียงคมดาบและ
การต่อสูฟ้ าดฟั น ทว่าเหล่าราชองครักษ์หลวงและเหล่า
ข้ารับใช้ภายในกลับยืนนิงสงบ ในเมือจักรพรรดิทรงมีรบั
สังให้นิงเฉย พวกตนจึงไม่สามารถเป็ นเดือดเป็ นร้อน
แทน

พายุหลงฤดูก่อกําเนิดสายฝนกระหนําผสานไปกับเสียง
ท้องฟ้าคํารามพิโรธอย่างบ้างคลัง จังหวะเดียวกับทีอัสนี
แผดเสียงกัมปนาท ประตูโถงหลักของพระตําหนักก็พงั
ทลาย เศษไม้ปลิวกระเด็นกระดอนไปทัว

1
“คืนนีช่างวุน่ วายเสียจริง ว่าไหมลูกเค่อ”

หยาดพิรุณจากน่านฟ้าทําให้รา่ งของบุรุษผูห้ นึงมองไม่


แจ่มชัดนัก จนกระทังชายผูน้ นโยนกระบี
ั ในมือทิงแล้ว
ก้าวเข้ามาคุกเข่าอยูเ่ บืองหน้า

“ลูกรบกวนเสด็จพ่อแล้ว ขอเสด็จพ่อโปรดประทานอภัย”

“ทีฉางซีมีอะไรทําให้เจ้าไม่ชอบใจจนต้องดินรนกลับมา
งันหรือ”

เฉินเหวินเค่อนิงเงียบ สายตาจับจ้องไปยังราชโองการที
รอประทับตรา ดูเหมือนว่าเขาจะมาทันเวลา
2
จักรพรรดิโบกพระหัตถ์ก่อนจะมีรบั สังให้ทกุ คนออกไป
ให้หมด เว้นเพียงเกากงกงขันทีคนสนิททีจักรพรรดิไว้วาง
พระทัยมากทีสุดยังรังอยู่

“ตําแหน่งจักรพรรดิผปู้ กครองเสวียนเฉิน เจ้าเคยอยาก


ได้มนั ไหม”

“ลูกไม่เคยอยากเป็ นจักรพรรดิ” เฉินเหวินเค่อตอบอย่าง


หนักแน่น

“แล้วในสายตาของผูอ้ ืนคิดเช่นเจ้าหรือไม่”

3
สินคําจากพระบิดาบ่าทังสองของเฉินเหวินเค่อหนักอึง
ราวกับมีหินถ่วง

เฉินเหวินเค่อรูด้ ี ตังแต่เกิดมาเขาถูกผูค้ นห้อมล้อมและ


คาดหวัง ก่อนจ้าวกุย้ เฟยเข้าวังเขาคือตัวเลือกทีเหมาะ
สมมากทีสุด เพียงแต่เส้นทางจักรพรรดิมิใช่หนทางทีเฉิน
เหวินเค่ออยากจะเดิน อย่างน้อยท่านแม่ก็ไม่เคยบังคับ
อะไรเขา ไม่ได้คาดหวังว่าบุตรชายต้องเก่งกาจกว่าพี
น้องทุกคนเพือบัลลังก์

จนกระทังเฉินคุนเกิดมาเขาก็ไม่ได้มีความรูส้ กึ ริษยา ไม่


ได้นอ้ ยใจทีเสด็จพ่อทรงคาดหวังให้นอ้ งชายคนนีเป็ นผู้
สืบราชสันติวงศ์

4
เดิมทีทีจับดาบต่อสูก้ ็เพราะไม่อยากสูญเสียอีก ไม่อยาก
ให้เพียงเกิดมาเป็ นเชือพระวงศ์ก็ตอ้ งเข่นฆ่าพีน้องกันเอง
เพืออํานาจ

ฟั งแล้วอาจจะน่าขัน หนทางแห่งจักรพรรดิไม่อาจมีรกั
เมือเป็ นจักรพรรดิมิอาจมอบหัวใจให้คนเพียงผูเ้ ดียว แต่
ใจของจักรพรรดิมีไว้เพือปกครองคนทังใต้หล้า เฉินเหวิ
นเค่อไม่ปรารถนาเช่นนัน เขายังอยากมีใครสักคน
คอยอยูเ่ คียงข้าง ร่วมเรียงเคียงหมอนไปจนวันสุดท้าย
ของชีวิต

มีคนทีสามรถรักโดยไม่ตอ้ งเผือใจเอาไว้

5
แต่ในสายตาของคนอืนคงไม่ได้มองเช่นนัน เฉินเหวิ
นเค่อคือพระราชโอรสพระองค์แรกของเสด็จพ่อ มีพระ
มารดาชาติกาํ เนิดสูงส่งดํารงยศพระสนมขันเฟย อีกทัง
ยังติดตามปรนนิบตั ิมาตังแต่เสด็จพ่อยังเป็ นไท่จือ ส่วน
เฉินคุนคือพระราชโอรสทีเกิดจากพระสนมยศกุย้ เฟยที
เสด็จพ่อรับตัวเข้าวังมาในกรณีพิเศษ

บัลลังก์มงั กรมีเพียงหนึงเดียวทีจะได้ครอบครอง

เจ็ดปี ทีผ่านมาสกุลหร่วนกําลังคิดจะทําสิงใดเขาทราบดี
มาบัดนีจักรพรรดิแสดงออกแน่ชดั แล้วว่าจะมอบบัลลังก์
ให้ผใู้ ด การซ่องสุมกําลังทหารคือการก่อกบฏ และการ
วางแผนลอบสังหารเชือพระวงศ์มีโทษหนักหนา เพียง
6
สองข้อนีก็มากพอจะลบชือสกุลหร่วนทังหมดให้
หายออกจากแผ่นดินแล้ว

“สกุลหร่วนรับใช้ราชสํานักมาหลายรุน่ ต่างสร้างคุณงาม
ความดีมามากมาย เสด็จพ่อจะทรง....”

“แผ่นดินนีคนแซ่เฉินคือผูค้ รอบครองหาใช่แซ่หร่วน”
จักรพรรดิตรัสแทรก “สกุลหร่วนลําเส้นเกินไป ตลอดมา
เราให้โอกาสพวกเขาซําแล้วซําเล่า แต่พวกเขาก็ไม่เคย
พอ”

ในสายตาคนภายนอก เมือถามถึงผูไ้ ด้ประโยชน์หากเฉิน


คุนตายย่อมเป็ นเขา

7
เพราะเหตุนีจึงส่งเฉินเหวินเค่อไปฉางซี ภายใต้การ
ปกครองของเฉินอันหวางทีเอาตัวออกห่างการเมืองใน
ราชสํานักมาตังแต่รุน่ แรก กันเขาให้หา่ งจากคมดาบทีจะ
ลากร่วงหล่นสูโ่ ทษทัณฑ์ทงหมดนั
ั นด้วย

เฉินเหวินเค่อรักเฉินคุนดุจดังน้องชายร่วมมารดาเดียว
กัน เขามอบความรักในฐานะพีชาย มอบความอบอุน่ ให้
เด็กคนนันโตขึนมาบนเส้นทางทีสงบสุขมากทีสุดเท่าที
จะทําได้ แม้เมือเฉินคุนโตขึนความไร้เดียงสาดังวันวาน
จะหายไป ด้วยภาระหน้าทีของจักรพรรดิทีเหตุผลและ
ความเหมาะสมจําต้องมาก่อนความรูส้ กึ

ทว่า....ในเมือเส้นทางแห่งจักรพรรดิบีบบังคับให้ไร้รกั
8
เช่นนันแล้วอย่างน้อยหากเคยได้รบั ความรัก ก็ดีกว่าไม่
เคยรูจ้ กั รักมิใช่หรือ

แม้ไม่อาจรักษาความไร้เดียงสา ก็ขอเพียงไม่ลืมเลือนว่า
ตนเคยไร้เดียงสา

“เสด็จพ่อยังจําวันทีสิบเดือนสีเมือสิบสามปี ก่อนทีเจียง
ไคได้หรือไม่....”

ในตอนนันมิมีผใู้ ดลืมเลือน ความทรงจําราวสลักลึกลง


ไปในวิญญาณ

หมืนเกาทัณฑ์ เสียงคมดาบฟาดฟั น และกลินคาวโลหิต


9
ยังติดตรึงอยูท่ ีปลายจมูกเหมือนพึงเกิดขึนเมือวันวาน

เกากงกงยืนเก็บมือเงียบเชียบก็นกึ ย้อนไปในเหตุการณ์
นันเช่นกัน ฉีหวางผูเ้ ป็ นอนุชาต่างมารดา[1] และเหล่า
ขุนนางเก่าแก่ในราชสํานักทีไม่สนับสนุนให้จกั รพรรดิขนึ
ครองราชย์ นําเหล่ากบฎบุกโจมตีขบวนเสด็จประพาส
ณ เจียงไค

หลังจากสามารถปกป้องจักรพรรดิมายังทีปลอดภัย เกา
กงกงมุง่ หน้าไปพร้อมราชองครักษ์อีกส่วนตามรับสัง
เพือช่วยเหลือฮุ่ยเฟย และสนมชายาท่านอืนทีเดินทาง
มาในครังนีด้วย

10
ทว่าความช่วยเหลือนันก็ยงั สายเกินไป เกาฉียงั จดจํา
เสียงรําไห้ และภาพฮุ่ยเฟยทีประคองกอดร่างไร้
วิญญาณขององค์ชายสาม ‘เฉินคังเล่อ’ ในมือของพระ
สนมกําหยกศิลาจันทรา....หยกประจําพระองค์ของเชือ
พระวงศ์ทีหักเหลือเพียงครึงเสียวเอาไว้แน่น

เฉินเหวินเค่อได้รบั บาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์นนั เขา


ยังจําความรูส้ กึ เมือแรกลืมตาแล้วถามหาน้องชายร่วม
อุทรได้ดี

“ท่านแม่เล่อเล่อเล่า เล่อเล่อปลอดภัยดีใช่หรือไม่”

แม้รูอ้ ยูเ่ ต็มอกว่าน้องชายทีคลานตามกันมาได้เอาตัวรับ

11
คมดาบแทนเขา...ใช้ชีวิต แลกชีวิต

หากในตอนนันเขาแข็งแกร่งมากพอ น้องชายของเขาคง
ไม่ตอ้ งเสียสละตัวเอง หากเพียงเขาตังใจฝึ กฝนวรยุทธ
ให้แข็งแกร่งกว่านี...

เฉินเหวินเค่อสูดลมหายใจลึก ดึงห้วงความคิดกลับมา
ยังปั จจุบนั

“สุราพิษ แพรขาวสามฉือ และกริชเงิน[2] เสด็จพ่อจะ


พระราชทานสิงใดให้ทา่ นแม่หรือพะย่ะค่ะ”

จะพระราชทานโทษทัณฑ์ใดให้แก่ความรูส้ กึ หวาดกลัว
12
ต่อการสูญเสียทีท่านแม่ตอ้ งแบกรับเอาไว้ คนเฉลียว
ฉลาดเช่นท่านแม่มีหรือจะรูว้ า่ สิงใดควรไม่ควร สิงใดควร
กระทําหรือไม่กระทํา การทีท่านแม่ยืนมือเข้ามาข้อง
เกียวมิใช่มีเขาเป็ นต้นเหตุหรอกหรือ

หากไม่มีเขา....ไม่มีเฉินเหวินเค่อ ไม่มีองค์ชายใหญ่แห่ง
แผ่นดินเสวียนเฉิน ผูม้ ีสทิ ธิสืบราชบัลลังก์ เรืองราว
ทุกอย่างนีจะแปรเปลียนไปใช่หรือไม่....

“ตอนทีลูกสามารารถกําราบสิบห้ากองโจรแห่งแม่นาลั
ํ ว
ก่อนจะได้รบั พระราชทานตําแหน่งแม่ทพั ตะวันออก ลูก
ติดค้างรางวัลเป็ นคําขอหนึงเอาไว้ เสด็จพ่อจําได้หรือ
ไม่” เฉินเหวินเค่อถามต่อโดยไม่รอคําตอบจากคําถาม
ก่อนหน้า
13
“เราประทานให้เจ้าได้ทกุ อย่าง ยกเว้นเรืองสกุลหร่วน
และมารดาเจ้า”

“ถ้าเช่นนัน....” เฉินเหวินเค่อกัดริมฝี ปาก ภายในใจปั น


ป่ วนเมือต้องนึกถึงใครคนหนึง เขาไม่อยากดึงอีกฝ่ ายมา
ข้องเกียวกับเรืองนี แต่เมือนึกถึงทางออก กลับมีเพียงผู้
เดียวทีจะสามารถช่วยได้ มีเพียงผูเ้ ดียวทีนึกถึง “ได้โปรด
มอบสมรสพระราชทาน มอบลูกให้แก่เฉินอันหวางด้วย
พะย่ะค่ะ!”

เกากงกงสูดลมหายใจลึก ลอบมองจักรพรรดิทีทรงนิงงัน
เสียงแค่นหัวเราะเจือด้วยอารมณ์คกุ รุน่ ดังมาจากโอรส
สวรรค์ผยู้ งใหญ่
ิ เสมอฟ้า จักรพรรดิฝไู ฉตบโต๊ะเบืองหน้า
14
เสียงสนัน ก่อนจะยกพระดรรชนีชีหน้าองค์ชายใหญ่

“ดี....ดีมาก ธรรมเนียมของเสวียนเฉินเมือคนในครอบ
ครัวเสียชีวิตจะต้องห่มแพรขาวไว้อาลัยหนึงปี เพียงเท่า
นีเราก็ตดั สินโทษประหารสกุลหร่วนกับมารดาเจ้าใน
ตอนนีไม่ได้ เฉินเหวินเค่อช่างกล้านัก!”

ทังการทีองค์ชายใหญ่แต่งเป็ นหวางเฟยให้แก่เฉินอัน
หวาง นันย่อมหมายถึงการเสียสิทธิในราชบัลลังก์อย่าง
สมบูรณ์ นับเป็ นการยิงเกาทัณฑ์ดอกเดียว ได้เหยียว
สองตัว![3]

จักรพรรดิหยิบราชโองการทียังไม่ได้ประทับตราขึน ก่อน

15
จะปาทิงลงบนพืนด้วยโทสะ แล้วสังให้เกากงกงนําราช
โองการสังประหารเจ็ดชัวโคตรสกุลหร่วนเอาไปเผา
ทําลายทิงเสีย

“เราจะไม่ตดั สินโทษประหารแก่สกุลหร่วน แต่จะถอด


บรรดาศักดิโหวให้เป็ นไพร่สามัญ ยึดทรัพย์สนิ และปลด
คนสกุลหร่วนในราชสํานักทังหมด นับจากนีสามรุน่ สกุล
หร่วนไม่มีสทิ ธิรับราชการกับราชสํานัก เช่นเดียวกับการ
รับตําแหน่งทางการทหาร” จากนันจึงทรงหยิบราช
โองการอีกฉบับขึนมา “ส่วนมารดาเจ้า เราจะสังขัง
ตําหนักเย็นภายใต้การดูแลของกุย้ เฟยแทนการพระราช
ทานสุราพิษ”

ไม่วา่ จะพิโรธมากเพียงใดจักรพรรดิมิเคยทําลายข้าว
16
ของระบายโทสะหรือตัดสินผูใ้ ดโดยใช้อารมณ์ พระองค์
เป็ นผูม้ ีเหตุผลมากกว่าอดีตจักรพรรดิเสียอีก แต่วา่ ยาม
นีถ้วยชาบรรณาการจากหลูเ่ หรินถูกขว้างเฉียดแก้มซ้าย
ขององค์ชายใหญ่ เสียงถ้วยชาทีแตกกระจาย ผสานไป
กับนําเสียงเจือโทสะของจักรพรรดิ

“นับจากนีไปจงอย่ากลับมาเหยียบทีเทียนเฉินอีกเป็ น
ครังทีสอง! อย่าให้เราเห็นหน้าเจ้าอีก!!”

เฉินเหวินเค่อโขกศีรษะลงกับพืนเย็นเยียบสามครัง หนัก
แน่นด้วยการตัดสินใจอันแน่วแน่ “ลูกน้อมรับบัญชา ขอ
ฝ่ าบาททรงพระเจริญหมืนปี หมืนๆ ปี ”

17
อดทนไว้คะ่ ใกล้จะพ้นตอนหนักๆ แล้วค่ะ ฮึบบบ

ทําไมถึงขอสมรสพระราชทานแล้วประหารสกุลหร่วนไม่
ได้ บางคนอาจจะไม่เก็ทเราเคยตอบเมนท์นงึ ไปแล้ว ขอ

18
อนุญาตก็อปวางด้วยความขีเกียจ 555

ตามธรรมเนียมของเสวียนเฉินเวลาคนในครอบครัวตาย
ต้องห่มแพรขาวไว้อาลัยหนึงปี จะไม่สามารถจัดงาน
มงคลได้ อย่างเช่น งานแต่ง

กษัตริยต์ รัสแล้วไม่คืนคํา จักรพรรดิบอกเองว่าขอได้


ทุกอย่างยกเว้นเรืองสกุลหร่วนกับฮุ่ยเฟย เหวินเค่อเลย
ใช้ผลพลอยได้จากการขอสมรสพระราชทานในการช่วย
แบบอ้อมๆ แทน ความจริงหลังจากแต่งแล้วค่อย
ประหารก็ได้ แต่เหวินเค่อทีแต่งเป็ นหวางเฟยก็หมดสิทธิ
ในราชบัลลก์ไปแล้ว ไม่มีเหตุผลกับแรงจูงใจให้ก่อกบ
ฎต่อ

19
รวมถึงจักรพรรดิจะบอกว่าให้โอกาสหลายครัง จน
เหมือนหมดความอดทน แต่ความจริงทีว่าสกุลหร่วนทํา
ให้จกั รพรรดิได้ขนครองบั
ึ ลลังก์นนไม่
ั มีวนั เปลียน

ข้อมูลเพิมเติม

[1] อนุชา : น้องชาย

[2] สุราพิษ แพรขาวสามฉือและกริชเงิน : การมอบโทษ


ประหารจากจักรพรรดิ สิงเหล่านีถือว่าเป็ นการตายอย่าง
20
ทรงเกียรติ ดูดีกว่าหัวขาดหรือถูกหันเนือถลกหนัง ใน
กระบวนของสามอย่าง เหล้าพิษถือว่าดีสดุ ส่วนกริชถือ
ว่าแย่สดุ

***แพรขาวสามฉือ (白绫三尺:bai ling san


chi) เป็ นแพรขาวยาว 3 ฉือ (หน่วยวัดของจีน มีขนาด
ประมาณ 1 ใน 3 เมตรปั จจุบนั ) หรือจะยาวกว่านันก็ได้

[3] ยิงเกาทัณฑ์ดอกเดียว ได้เหยียวสองตัว มีความ


หมายเดียวกับสํานวนไทยทีว่า ‘ยิงปื นนัดเดียวได้นกสอง
ตัว’

***ก. ทําอย่างเดียวได้ผล 2 อย่าง ลงทุนครังเดียวได้ผล

21
กําไร 2 ทาง

22
ตอนที ๑๒ สมรสพระราชทาน ๒

อาทิตย์อสั ดงทอแสงยามเช้าอยูต่ รงปลายขอบฟ้า


หลังคาสีเหลืองทองของวังหลวงเปล่งประกายระยิบ
ระยับดูมีชีวิตชีวา ต่างกับบุรุษในอาภรณ์สีนาเงิ
ํ น
เข้มอย่างสินเชิง

ทุกย่างก้าวทีกําลังออกห่างจากหมูต่ าํ หนักมากมายมุง่ สู่


ประตูเหนือ ล้วนหนักอึงจนแทบยกเท้าไม่ขนึ จนถึงตอน
นีมือภายใต้แขนเสือยาวก็ยงั สันน้อยๆ

ไม่เป็ นไร....ท่านแม่พน้ โทษประหารแล้ว เพียงแต่เรืองที

23
หนักใจคือไม่รูจ้ ะพบหน้าคนทีฉางซีคนนันอย่างไรดี

เวลานียังเช้าเกินกว่าทีเด็กจะตืน กว่าเฉินคุนจะรูเ้ รือง


จากจ้าวกุย้ เฟย เขาคงไม่อยูท่ ีเทียนเฉินแล้ว ดูจากความ
พิโรธของพระบิดา เกรงว่าต่อจากนีคงยากทีจะมีโอกาส
ได้เจอลิงน้อยตัวแสบ ต่อจากนีไปขึนอยูก่ บั ฟ้าเบืองบน

เฉินเหวินเค่ออยากเร่งฝี เท้าอีกสักหน่อย แต่รา่ งกายของ


เขาไม่ให้ความร่วมมือ ระยะทางโล่งๆ แบบนี โคจรลม
ปราณใช้กาํ ลังภายในสะกิดปลายเท้าตามปกติก็ถงึ จุด
หมายแล้ว

“ท่านแม่ทพั ....”

24
เฉินเหวินเค่อส่ายหน้าหยุดคําถามทีกุนซือคนสนิทกําลัง
จะถาม “กลับไปทีจวน แล้วข้าจะเล่าให้ฟัง” ก่อนจะปี น
ขึนหลังม้า เขาหันไปพูดกับซือหม่าต่อว่า “แล้วก็...อีกไม่
นานข้าคงไม่ได้เป็ นแม่ทพั ของเจ้าแล้ว”

“หมายความว่าอย่างไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”

แม่ทพั เลือดสบตากับผูอ้ ยูใ่ ต้บงั คับบัญชา ขณะกําลังอ้า


ปากกล่าวบางอย่าง เสียงฝี เท้าหนักหน่วงอย่างคนรีบเร่ง
มาเต็มกําลังดังขึนมาขัดจังหวะเสียก่อน เมือหันกลับไป
ก็พบกับบุรุษในชุดแขนยาวสีเข้มไม่ตา่ งจากอาภรณ์ที
เขาสวมใส่กาํ ลังมุง่ หน้ามาทางนี โดยมีขนั ทีจากตําหนัก

25
จักรพรรดิสาวเท้าตามมาเป็ นพรวน

ข้อมือกับข้อเท้าทีโผล่ออกมายามออกแรงวิง ทําให้เห็น
ว่ามีหว่ งหยกสลักสีเหลือบเปลือกแมลงทับคล้องเอาไว้
อยู่ ปกติแล้วหยกสลักนีจะมีสีขาวเนือเสมอกัน มี
คุณสมบัติในการกักเก็บลมปราณ ยามถูกสวมใส่โดยผูม้ ี
วรยุทธ ห่วงหยกอันนีจึงจะเปลียนสี คาดว่าท่านแม่คง
กําลังถูกคุมตัวไปตําหนักเย็น

ฮุ่ยเฟยคือผูเ้ ยือกเย็นแห่งวังหลัง ภาพลักษณ์ของท่านแม่


ตังแต่เล็กจนโตก็เป็ นคนนิงเงียบไม่คอ่ ยแสดงอารมณ์ จะ
ว่าเป็ นครังแรกก็ได้ทีเขาเห็นมารดาทีรักษากิรยิ า
มารยาทสูงส่งมาโดยตลอด วิงสุดแรงอย่างไม่หว่ งภาพ
ลักษณ์ในสายตาผูอ้ ืน
26
“ฮุ่ยเฟยเหนียงเหนียงอย่าทรงทําให้พวกบ่าวหนักใจเลย
พ่ะย่ะค่ะ” ขันทีสบั เท้าตามมาติดๆ ทรุดลงไปปาดเหงือ
บนพืน

“ไสหัวไป เดียวข้าเดินเข้าตําหนักเย็นเอง” หร่วนจูอีเอ่ย


เสียงเข้ม

เฉินเหวินเค่อยิมแห้ง รูส้ กึ เห็นใจเหล่าขันทีทีทําหน้าปริม


จะร้องไห้ แต่สดุ ท้ายก็ทนสายตาเย็นๆ ของฮุ่ยเฟยไม่ไหว
ต้องล่าถอยกลับไปด้วยความรูส้ กึ ระอักกระอ่วน ด้วย
เพราะไม่รูจ้ ะตอบเกากงกงอย่างไรดี ว่าฮุ่ยเฟยกระโดด
ถีบราชองครักษ์ทีคุมตัวสลบเหมือด แล้ววิงหนีมาพบ

27
องค์ชายใหญ่ทีหน้าประตูวงั

จนแล้วจนรอดก็ยงั ไม่มีคาํ พูดใดออกมาจากปากของผู้


สูงศักดิทังสอง เฉินเหวินเค่อเห็นใบหน้ามารดานิงเฉย
แต่สายตาและท่าทางเหมือนอยากพูดอะไรบางอย่าง

“นีเป็ นการตัดสินใจของลูก ท่านแม่โปรดอย่าคิดมาก


เดิมทีตน้ เรืองทังหมดก็มาจากท่านลุงกับท่านตา ความ
จริงแล้วท่านแม่เพียงแค่มีสว่ นรูเ้ ห็นกับอํานวยความ
สะดวกในวังหลังเท่านัน”

“ตามธรรมเนียมของแผ่นดินเสวียนเฉิน บุรุษผูส้ งู ศักดิจะ


ไม่ลดตัวไปแต่งกับชายผูม้ ียศศักดิ และชาติกาํ เนิดทีตํา

28
กว่า เจ้ารับมันได้แน่หรือ”

เฉินเหวินเค่อแย้มยิม จงใจมองไม่เห็นหยกศิลาจันทรา
ครึงเสียวทีมารดากําเอาไว้ในมือ

“ลูกไม่เป็ นอะไร” เฉินเหวินเค่อคุกเข่าลงทําความเคารพ


มารดาผูใ้ ห้กาํ เนิดเป็ นการบอกลา “เล่อเล่อจากพวกเรา
ไปสิบสามปี แล้ว ท่านแม่ได้โปรดปล่อยวาง” บุตรชาย
เห็นนัยน์ตาคูค่ มของมารดาทีเหมือนกันราวถอดแบบสัน
ไหว “ลูกจะปลอดภัย เรืองราวทุกอย่างจบลงแล้ว ราช
สํานักตอนนีมีไท่จือทีเหมาะสมเพียงหนึงเดียว ขอให้
ท่านแม่อย่ากังวลอีกเลย”

29
เฉินเหวินเค่อเห็นมารดากําลังยืนมือมาลูบศีรษะ แต่ก็ดงึ
มือกลับไป ใบหน้าเฉยชาดูออ่ นลง และเผยแววผ่อน
คลาย

“ดูแลตัวเองด้วย”

“ท่านแม่โปรดรักษาสุขภาพ”

30
.

ตําแหน่งเฉินอันหวางผูป้ กครองเมืองท่าฉางซีเป็ นเชือ


พระวงศ์สายรองทีพิเศษ เดิมทีสืบทอดมาจากเฉินอันชิน
หวาง ผูเ้ ป็ นอนุชาร่วมมารดาของจักรพรรดิในรัชสมัยนัน
ความโปรดปรานทีชินหวางผูน้ ีได้รบั มากถึงขันจักรพรรดิ
พระราชทานประกาศิตทองคํา ป้ายอาญาสิทธิซึง
สามารถละเว้นโทษตาย และปฏิเสธราชโองการได้สามค
รัง

ในบันทึกประวัติศาสตร์ ประกาศิตทองคําได้ถกู ใช้ไป


สองครัง โดยครังทีหนึงคือร้องขอให้ละเว้นโทษประหาร
เพือพิสจู น์ตนเองว่าโดนคนไม่ประสงค์ดีสาดสีใส่รา้ ย แต่
การทีรอดจากโทษทัณฑ์ครังนันก็แลกกับการถูกลด
31
บรรดาศักดิลงจาก ‘ชินหวาง’ เป็ น ‘หวาง’ และครังทีสอง
เพือหลีกเลียงสมรสพระราชทาน

ถ้าหากเฉินลูป่ ิ นปฏิเสธราชโองการครังนี สิงทีทํามา


ทุกอย่างเท่ากับสูญเปล่า

เฉินเหวินเค่อลอบถอนหายใจยาว กลินเกลือสมุทรที
ลอยมาตามลมบ่งบอกว่าใกล้ถงึ จุดหมาย เมือพ้นแนว
ป่ าก็พบกับท้องทะเลสีครามกว้างสุดลูกหูลกู ตา

“ข้าจะไปคนเดียว”

เหล่าผูต้ ิดตามรวมทังซือหม่าอยากจะเอ่ยแย้ง แต่วา่ เฉิน


32
เหวินเค่อก็ไม่รอฟั งคําทัดทาน

เมือมาถึงจวนเฉินอันทุกสิงทุกอย่างราวย้อนคืนกลับไป
วันแรกทีมาเยือน ไม่วา่ จะทหารคุม้ กันหรือบ่าวรับใช้ที
เชิญเขาเข้าไปอย่างสุภาพ หรือแม้แต่ตวั เฉินลูป่ ิ นเอง

“ร่างกายเจ้า...”

“ถ้าท่านหมายถึงยาสลายกําลังทียัดเข้าปากข้าเมือตอน
นัน จนทําให้ขา้ ขยับร่างกายไม่ได้หนึงวันเต็มๆ องค์ชาย
โปรดอย่ากังวล ข้าไม่เป็ นอะไร”

บางคราความเหินห่างก็น่ากลัวกว่าอารมณ์โกรธา หาก
33
เฉินลูป่ ิ นมีทา่ ทีไม่พอใจ หรืออยากจะตีเขาสักทีคงจะดี
กว่านี

ราชโองการในอกเสือลวกผิวราวกับเป็ นของร้อน เฉินเหวิ


นเค่อช่างใจอยูน่ าน แต่สดุ ท้ายก็หยิบมันออกมา

มองมือขาวของอีกฝ่ ายคลีอ่านราชโองการ เวลาเพียงชัว


อึดใจทีไหลผ่านนานดังนิรนั กาลอันไร้สนสุ
ิ ด แม้แต่
หายใจยังไม่กล้า

แผ่นหลังตังตรง ใบหน้าเคร่งขรึม แต่ใครจะรูว้ า่ ฝ่ ามือทัง


สองข้างของเฉินเหวินเค่อชืนไปด้วยเหงือ ขนาดดวงตาสี
เดียวกันตรงหน้ายังไม่กล้าจะมองตรงๆ

34
“ท่านจะแต่งเป็ นหวางเฟยให้ขา้ ?”

เฉินลูป่ ิ นมองคนทีไม่ยอมสบตากับเขาแล้วหัวเราะออก
มาเสียงใส ก่อนจะใช้วิชาตัวเบากระโดดไปทีด้านหลัง
ของเฉินเหวินเค่อ ความว่องไวนันกว่าแม่ทพั เลือดจะรูต้ วั
ก็หงายหลังลงไปบนโต๊ะนําชากลางห้องโถงแล้ว

เฉินเหวินเค่อร่างกายยังไม่ฟืนคืนมาโดยสมบูรณ์ หรือ
เพราะความรูส้ กึ อืนทีแทรกลึกอยูใ่ นก้นบึงของจิตใจ ไม่รู ้
ว่าเหตุผลข้อไหนยามใบหน้าชายงามของอีกฝ่ ายโน้มลง
มาจนปลายจมูกชนกันเขาถึงได้นิงงัน ไม่ได้ตอบโต้อะไร

35
“แหม~ แต่ราชโองการครังก่อนท่านยังไม่ทนั ได้เรียกข้า
ว่า ‘อาจารย์’ ก็ตอ้ งเปลียนมาเรียก ‘สามี’ เสียแล้ว”

นําเสียงยียวนกระซิบอยูข่ า้ งหูทาํ เอาคนฟั งคิวเริมกระตุก


ปลายคางถูกยึดเอาไว้ให้สบกับดวงตาสีขีเถ้าเป็ น
ประกายระยับ ทีเห็นกีทีก็ชวนคันไม้คนั มือ

เมฆหมอกจากความรูส้ กึ ผิดทีไม่ได้เกิดขึนบ่อยนักราว
ถูกลมพายุพดั ปลิวหายไปในพริบตา...พายุนนชื
ั อว่าไอ้
ลูกเต่าเฉินลูป่ ิ นเสียด้วย

หลังคอเสือของคนทีทาบทับอยูด่ า้ นบนถูกกระชาก เฉิน


ลูป่ ิ นเห็นใบหน้าคมเริมบึงตึงก็ฉีกยิมกว้างยิงขึนไปอีก

36
“หุบปากจะแต่งไม่แต่ง”

เฉินลูป่ ิ นมีสีหน้าคิดหนัก “ข้ายังหนุ่มยังแน่น แต่ก็ตอ้ ง


แต่งหวางเฟยแก่ๆ อย่างท่านเข้าจวน มิคิดว่ามันไม่
ยุติธรรมไปหน่อยหรือ”

“หึ!” เฉินเหวินเค่อแค่นเสียงในลําคอ “ไม่แต่งก็ตอ้ งแต่ง”


ตวัดขารัดรอบเอวของคนด้านบนไม่ให้ขยับหนีไปไหน
ก่อนจะล้วงเอามีดพกออกจากแขนเสือจ่อไปทีลําคอ
ระหง “อย่างมากข้าก็เป็ นแค่ภรรยาเจ้าในนามเท่านัน
เจ้าจะแต่งอนุหรือเช่อเฟยเพิมก็เรืองของเจ้า แต่เจ้าห้าม
ปฏิเสธสมรสพระราชทานในครังนี!”

37
เฉินลูป่ ิ นหน้าแดงเถือก หูไม่ได้ฟังคําพูดเมือครูส่ กั เสียว
เดียว “นีท่านรูห้ รือไม่วา่ กําลังทําอะไรอยู!่ ” หวางรูปงาม
พยายามดินรนขัดขืนออกจากแรงกอดรัด

ยิงมองสายตางุนงงของอีกฝ่ ายแล้วก็ปวดเศียร บทจะใส


ซือก็ไร้เดียงสาเสียเหลือเกิน เพราะเฉินเหวินเค่อไม่ยอม
ปล่อย ตอนนีทังสองถึงได้แนบชิดกันจนไม่เหลือช่องว่าง

“ออกไปให้หมด!”

เฉินลูป่ ิ นตวาดไล่บา่ วไพร่ทียืนก้มหน้าซ่อนใบหน้าแดง


ซ่าน จนกระทังทังห้องเหลือกันอยูเ่ พียงลําพัง คนใต้รา่ ง

38
ถึงพึงระลึกได้วา่ ตอนนีตัวเองอยูใ่ นสภาพล่อแหลมขนาด
ไหน

แต่วา่ จะมาดินรนตอนนีก็สายไปเสียแล้ว

สองกายทีแนบชิดกันนันเมือมีบางอย่าง ‘ตืน’ ขึนมาก็


สัมผัสได้ง่ายดาย เฉินเหวินเค่ออ้าปากค้าง พูดแต่ละคํา
ฟั งไม่เป็ นภาษา

“นะ...นีเจ้า...จะ...เจ้า เจ้า!”

“ไหนๆ ข้าจะแต่งกับท่านแล้ว” เฉินลูป่ ิ นโน้มกายลงไป


กระซิบข้างใบหู ลมร้อนจากลมหายใจตามอารมณ์ทีพุง่
39
ทะยานทําเอาคนได้ยินถึงกับสันสะท้าน “ขอข้าชิมสักนิด
หน่อยก็แล้วกัน”

เฉินเหวินเค่อตัวสันมิใช่เพราะเขินอาย แต่โกรธจนเลือด
ตาแทบกระเด็น!

อยากจะเอาบาทาลูบหน้างาม ช่างไร้ยางอายเหลือทน
แต่เพียงประโยคเดียวจากเฉินลูป่ ิ นว่าจะยกเลิกราช
โองการ เฉินเหวินเค่อทําได้แค่จิกปลายเล็บลงบนแผ่น
หลังระบายโทสะ ทังยังต้องเม้มปากอดกลันไม่ให้เสียง
น่าอายหลุดลอดออกไปสุดชีวิต

40
.

บ่าวรับใช้ทียืนมุงอยูด่ า้ นนอกต่างพยายามเงียหูฟัง แต่ก็


ไม่ได้ยินเสียงอะไร เสียวถงทีดูจะพยายามกว่าคนอืนยัง
ไม่ยอมถอดใจ เพราะเขารูด้ ีวา่ ข้างในนันหากไม่มีอะไร
เกิดขึนมันเป็ นไปไม่ได้ สาบานให้มีสามีเลยเอ้า!

โดยทันตังตัว จู่ๆ ประตูทีปิ ดสนิทก็เปิ ดผัวะออกมา ไม่


สิ...เรียกว่ากระเด็นหลุดออกมาจะเหมาะกว่า เหล่าผูค้ น
ทียืนมุงพลันสลายไปในพริบตา เว้นเพียงพ่อบ้านเหมา

41
กับเสียวถงนอนนับดาวอยูบ่ นพืนเพราะหลบไม่พน้ จึงได้
ทันเห็นองค์ชายใหญ่แผ่รงั สีอาํ มหิตผิดกับบรรยากาศ
หดหูร่ อบตัวทีแบกเข้าจวนมา

หลังจากนันเฉินอันหวางผูเ้ ป็ นเจ้านายก็เดินจัดผ้าคาด
เอว พิงกรอบประตูมองส่งใครบางคนทีรีบร้อนเดินหนีไป

ก็แค่ ‘ชิม’ นิดเดียวยังไม่ทนั ได้ ‘กิน’ เสียหน่อย

ราชโองการมอบสมรสพระราชทานถูกกางออกมาอ่าน
อีกรอบ เฉินลูป่ ิ นไม่ใช่พอ่ พระ สิงทีอีกฝ่ ายทํากับเขาไว้มี
หรือจะไม่โกรธเคือง

42
แสยะรอยยิมชัวร้ายดังคลอไปกับเสียงหัวเราะในลําคอ
เพียงแต่บญ
ั ชียอ้ นหลังทังหมดค่อยคิดรวบยอดตอนคืน
เข้าหอก็ไม่สาย

เฉินเหวินเค่อพลันรูส้ กึ เสียวสันหลังวูบอย่างไม่มีสาเหตุ

วันทียีสิบสี เดือนสี รัชศกฝูไฉทีสามสิบสอง จักรพรรดิมี


ราชโองการมอบสมรสพระราชทาน ระหว่างองค์ชาย
ใหญ่...เฉินเหวินเค่อ กับเฉินอันหวางผูป้ กครองเมืองท่า
ฉางซี...เฉินลูป่ ิ น ให้องค์ชายใหญ่แต่งเข้าจวนเฉินอันใน
ฐานะเฉินอันหวางเฟย นับจากวันนีอีกสามเดือนจึงเป็ น
ฤกษ์มงคล

43
ผูค้ นทีได้ยินไม่วา่ จะขุนนางหรือไพร่ฟา้ สามัญต่างนิงอึง
ใครกําลังกินข้าวอยูพ่ ลันทําตะเกียบหล่น นําชาในปาก
พุง่ ออกมาเป็ นนําพุอย่างไม่เชือหู ผูใ้ ดปลดทุกข์อยูใ่ น
ห้องนําต่างรีบร้อนออกมาทังทีกางเกงยังไม่น่งุ

เหล่าทหารประจําค่ายชายแดนตะวันออกหัวเราะลันมิมี
ผูใ้ ดเชือ กระทังกุนซือปี ศาจกลับมายืนยันด้วยตัวเอง

ผูใ้ ดเล่าจะคาดคิด แม่ทพั ผูแ้ สนอํามหิตดุจปี ศาจที


ตะกายขึนมาจากนรกผูน้ นจะมี
ั วนั ตกเป็ นรองผูอ้ ืน

44
45
ตอนที ๑๓ สุราลืมรัก

หลังจากประกาศสมรสพระราชทานอันน่าตกใจ หนึงวัน
ให้หลังเรืองของฮุ่ยเฟยถูกส่งเข้าตําหนักเย็นก็ขจรไปทัว
ถึงขนาดมีกวีพเนจรนําไปแต่งกลอนบรรยายความรักอัน
ชอกชําของพระสนมผูถ้ กู ทอดทิงกันอย่างสนุกปาก

เพียงแต่ไม่นานฮุ่ยเฟยทีผูค้ นคิดว่าถูกหมางเมิน กลับได้


รับการปรนนิบตั ิดแู ลเหมือนปกติ จ้าวกุย้ เฟยลงทุนลง
แรงจัดการความเรียบร้อยของตําหนักเย็นด้วยตัวเอง ทัง

46
ยังทรงพิโรธเป็ นอย่างมาก เมือสํานักราชวัง และห้อง
เครืองต่างลิดรอนสิงทีฮุ่ยเฟยสมควรจะได้

จักรพรรดิทีทรงทราบเรืองก็ไม่ได้นิงนอนใจอย่างทีคาด
คิด หัวหน้าพ่อครัวหลวง และข้าหลวงชันสูงทีรับผิดชอบ
ดูแลตําหนักในต่างถูกปลดออกจากตําแหน่งสายฟ้า
แลบ ผูใ้ ดแสดงกิรยิ าล่วงเกินต่างโดนโบยประหารจน
หมดสิน

หรือจะเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าก่อน แต่ไม่นาน
สกุลหร่วนก็ถกู ถอดบรรดาศักดิ ยึดทรัพย์สนิ ทังยังไม่
อาจก้าวหน้าในราชสํานักได้ถงึ สามรุน่

47
ทําเอาเหล่าข้าหลวงในวัง และเหล่าขุนนางซุบซิบโต้แย้ง
ถึงหัวข้อนีอย่างไม่รูจ้ กั จบสิน

“องค์ชายใหญ่กาํ ลังแต่งเข้าจวนเฉินอัน อย่างไรไท่จือก็


ต้องเป็ นองค์ชายหกสินะ”

“ไม่ใช่เรืองนันมันแน่ชดั มาตังแต่ตน้ แล้วหรือ”

ขุนนางชันผูน้ อ้ ยยกแผ่นฮูว้ า่ ราชการ[1]ทีทําจากไม้ไผ่ชี


หน้าสหายทังสอง พลางยืดคอกล่าวอย่างคนทีชาญ
ฉลาดกว่า “สกุลหร่วนสนับสนุนให้จกั รพรรดิขนครอง

ราชย์ ทังฮุ่ยเฟยยังเป็ นมารดาผูใ้ ห้กาํ เนิดองค์ชายใหญ่
แต่จกั รพรรดิทรงมีทา่ ทีจะมอบตําแหน่งไท่จือให้แก่องค์

48
ชายหก หากเจ้าเป็ นสกุลหร่วนจะนิงเฉยหรือ เดิมทีเหล่า
ขุนนางเองก็แบ่งฝักแบ่งฝ่ ายกันเงียบๆ แม้องค์ชายใหญ่
จะไม่น่าเจรจาด้วย แต่กบั สกุลหร่วนนันไม่เหมือนกัน...
พูดไปก็เปลืองนําลายเปล่า สกุลหร่วนตอนนีเป็ นเพียง
ไพร่สามัญชน จวนจะซุกหัวนอนยังไม่มี"

ขุนนางผูท้ าํ ท่าอวดฉลาดลอบมองซ้ายขวา โบกมือให้


สหายทังสองขยับเข้ามาใกล้ “แต่ความเอาใจใส่ของ
จักรพรรดิตอ่ ฮุ่ยเฟยนับเป็ นฟ้าผ่าทังทีไร้เมฆ[2]โดยแท้
ไม่แน่วา่ แท้จริงแล้วจักรพรรดิทรงแสร้งทําอยากมอบ
บัลลังก์ให้องค์ชายหก แต่จริงๆ แล้วจะมอบให้องค์ชาย
ใหญ่ สมรสพระราชทานนันก็แค่ตวั ล่อหลอกๆ ฝ่ าบาท
คงไม่อยากให้สกุลหร่วนมีอาํ นาจมากเกินไปจึงได้วาง
อุบายนีขึน! ลองคิดดู....จนถึงตอนนีฝ่ าบาทก็ยงั มิได้

49
เรียกตราแม่ทพั ตะวันออกขององค์ชายใหญ่กลับคืนมา
เลย”

“เจ้าละเมอฝันอยูเ่ รอะ! บางทีฝ่าบาทอาจจะทรงรักฮุ่ย


เฟยจริงๆ ก็ได้ อย่างไรฮุ่ยเฟยก็ปรนนิบตั ิฝ่าบาทมา
ตังแต่สมัย”

“เจ้าสิละเมอ! หนทางจักรพรรดิลว้ นไร้รกั เรืองแค่นีเจ้าก็


ไม่รูห้ รือ”

“พอๆ พวกเจ้าเถียงกันไปก็ไม่มีประโยชน์ ใต้เท้าไป๋ ท่าน


คิดเห็นว่าเช่นไร” ฟั งสหายทุม่ เถียงกันไร้สาระน่าปวดหัว
ถามเอาจากขุนนางมากอาวุโสและประสบการณ์เอาจะ

50
ดีกว่า อย่างไรสกุลไป๋ ก็เป็ นคนสกุลเดียวกับไท่โฮ่ว

ใต้เท้าไป๋ ทีโดนลากเข้าวงสนทนามีสายตาเย็นชา นํา


เสียงไม่สบอารมณ์นกั “ปากเจ้าช่างสูงส่งเทียมฟ้า กล้า
มาวิจารณ์เบืองสูง ยังอยากมีศีรษะประดับอยูบ่ นบ่าก็
ระวังวาจาตนเอาไว้”

ขุนนางระดับล่างยังหนุ่มแน่น เลือดในกายยังร้อน สมอง


กับปากขาดความยังคิด เรืองนีนับเป็ นการดินรนโง่เง่า
ของสกุลหร่วนเท่านัน ต่อให้ฮ่ยุ เฟยมีพระราชธิดาให้
จักรพรรดิ หรือรับเลียงองค์ชายจากมารดาทีเกิดจาก
สนมยศตํา ฝ่ าบาทก็ไม่ปล่อยสกุลหร่วนทีชักจะเหิมเกริม
ขึนทุกทีเอาไว้อยูแ่ ล้ว

51
แต่เยือใยทียังหลงเหลือเอาไว้ เป็ นเพราะผูกพันหรือลึก
ซึงมากกว่านันก็ไม่ทราบแล้ว ใจทีแท้จริงของจักรพรรดิ
จะมีผใู้ ดคาดเดาได้

ใต้เท้าไป๋ เงยหน้าขึนมองฟ้า จักรพรรดิเทียงธรรม วังหลัง


สงบเสงียม ราชสํานักสมดุล บ้านเมืองจึงร่มเย็น เพียง
แต่วา่ ใต้หล้านีเกรงว่ามีเรืองราวง่ายดายเช่นนันด้วยหรือ

52
.

สามเดือนต่อมานับเป็ นงานมงคลทีผูค้ นล้วนจับตามอง

ตามธรรมเนียมปฏิบตั ิฝ่ายเจ้าบ่าวต้องมารับตัวเจ้าสาว
ไปทําพิธีกราบไหว้ฟา้ ดินทีบ้านของฝ่ ายเจ้าบ่าว แต่
ระยะทางระหว่างเทียนเฉินไปฉางซี หากยังคิดยึดตาม
ธรรมเนียมปฏิบตั ิ เกรงว่าจะเป็ นการแต่งงานทีทรหดเกิน
ไป

เฉินลูป่ ิ นในชุดแดงดูโดดเด่นกว่าปกติ ใบหน้าชายงาม


53
ทําเอาเหล่าชาวบ้านทีมามุงดู ต่างยังความคิดสัปดนใน
คืนเข้าหอด้วยจินตนาการแสนบรรเจิดมิได้เลย

ฝ่ ายเฉินเหวินเค่อถูกลากไปขัดผิวสารพัด กว่าจะเตรียม
ตัวเสร็จรูส้ กึ เหนือยยิงกว่าตอนจับดาบขีม้า ผ้าคลุมหน้า
เห็นเผินๆ ดูเบาหวิว แต่พอไปรวมกับเครืองประดับอืนๆ
บนหัวหนักอึงเหมือนมีเหล็กก้อนวางทับไว้ ทัศนวิสยั ก็
แย่ จะเดินแต่ละคราต้องมีคนจับมือประคอง

ความหงุดหงิดนันแผ่ซา่ นออกมาด้านนอก ถึงจะมีผา้


คลุมหน้า แต่แม่ทพั เลือดก็ยงั เป็ นตัวตนทีชวนสยองขวัญ
อยูด่ ี

54
“วันนีฟ้าใส อย่าปล่อยให้จิตใจขุ่นมัว”

เจ้าบ่าวรูปงามกล่าวเสียงนุ่มนวล เฉินเหวินเค่อเมินมือที
ส่งมาหมายจะประคองเขาขึนเกียวเจ้าสาว

“นีเจ้า!”

เสียงตวาดดังขึนอย่างกะทันหันจึงกลายเป็ นจุดสนใจ
จากปกติก็ถกู จับจ้องมากพออยูแ่ ล้ว บัดนีทุกสายตาต่าง
หยุดมองบ่าวสาวทียือยุด ฝ่ ายเจ้าสาวไม่ยอมขึนเกียว
ส่วนฝ่ ายเจ้าบ่าวก็คว้ามือพยายามดึงไม่ให้อีกฝ่ ายหนี

“ชายหนุ่มขึนเกียว ถือเป็ นครังแรก[3] โอกาสเช่นนีมี


55
เพียงครังเดียวในชีวิต หากท่านยังดือดึง เกรงว่าจะไม่ทนั
ฤกษ์มงคล”

ขันทีผเู้ ป็ นตัวแทนของจักรพรรดิพยักหน้าสนับสนุนสุด
ชีวิต ยกผ้าซับเหงือ สายตาทีมองไปยังเฉินอันหวางมี
แววนับถือขึนอย่างท่วมท้น

“แค่ไปให้ทนั ก็พอใช่ไหม!”

เฉินเหวินเค่อมีอารมณ์ไม่ใคร่จะพอใจนัก แต่ทว่าไม่รู ้
ทําไมยามถูกฝ่ ามือนุ่มทีกอบกุมลูบหลังมือให้ใจเย็น เขา
ก็สงบลงอย่างน่าประหลาด เฉินเหวินเค่อรีบดึงมือของ
ตัวเองกลับทันทีหลังจากก้าวขึนเกียว รูส้ กึ ขอบคุณผ้า

56
คลุมหน้าไร้ประโยชน์เป็ นอย่างยิงทีบดบังใบหน้าร้อน
ผ่าวจากใครบางคนทียังจับจ้องไม่วางตา

เวลามงคลไม่คอยท่า เมือถึงทีถึงเวลาพิธีการก็เริมขึน
สองบุรุษในชุดแดง บุพเพวาสนาต่างร้อยเรียง ถักทอ
สายสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น ผูค้ นต่างเป็ นพยาน สวรรค์รู ้
เห็น เทพเซียนร่วมยินดี

หนึง....คํานับฟ้าดิน

สอง...คํานับพ่อแม่

สาม...คํานับกันและกัน
57
ยามเงยหน้าปิ นก้านเหมยทีปั กอยูก่ ลางมวยผมของอีก
ฝ่ าย ทําเอาเฉินลูป่ ิ นแย้มยิมกว้างทีสุดในชีวิต โดยฝ่ าย
เจ้าสาวทีถูกบดบังด้วยผ้าคลุมสีแดงไม่มีโอกาสได้ยล

ทีจวนเว่ยหวางของเฉินเหวินเค่อถูกใช้เป็ นเรือนหอ ไม่


สบอารมณ์นกั แต่ก็ตอ้ งกัดฟั นยอม

ข้างนอกยังได้ยินเสียงครืนเครง ผิดกับความเงียบสงบใน
ห้องหอ อาหารมงคลมากมายกลับไม่สามารถแตะต้อง
ได้ กระเพาะแอบส่งเสียงประท้วง แต่ตามประเพณีจาํ
ต้องรอสามี

58
สามี...คอยดูเถอะว่าใครกันแน่ทีจะได้เป็ น!

สบโอกาสเมือได้อยูเ่ พียงคนเดียว เฉินเหวินเค่อแอบเปิ ด


ผ้าคลุมหน้า ล้วงเข้าไปในอกเสือหยิบเอาห่อกระดาษ
หนึงออกมา เทผงสีขาวลงไปในเหล้ามงคล

ไร้สี ไร้กลิน ไร้รส เฉินเหวินเค่อส่งเสียงหัวเราะในลําคอ


ตําแหน่งสามีมนั ก็แค่ในนามเท่านันแหละ!

59
.

ตามปกติเจ้าบ่าวต้องยกทุกจอกสุราเมือมีผคู้ นมายินดี
ต่อให้คอทองแดงหรือพันจอกมิเมามาย คืนเข้าหอต่าง
เดินขาเป๋ กันทังนัน แต่ไม่รูท้ าํ ไมเฉินลูป่ ิ นถึงมีแต่คาํ อวย
พร แต่ไม่มีคนมารําสุรา ทังยังได้รบั สายตาเห็นอกเห็นใจ
แถมมาให้อีกต่างหาก

ในสายตาผูอ้ ืนชายรูปงามวัยยีสิบ พึงเป็ นชายหนุ่มอายุ


น้อยขาดประสบการณ์ ผิดกับชายฉกรรจ์อย่างแม่ทพั
เลือด บัณฑิตรูปงามกับนักรบทีจับดาบลงสูส่ นามรบ
ตังแต่อายุสบิ แปดอย่างเฉินเหวินเค่อ คนไหนน่าเป็ นห่วง
กว่ากัน ไม่ตอ้ งบอกก็รู ้

60
เสียอยูอ่ ย่างทีเฉินลูป่ ิ นหาใช่กระต่ายเนืออ่อนเคียวง่าย
ดังตาเห็น มีไม่กีคนทีทราบว่าเขาเป็ นศิษย์นอ้ งร่วม
อาจารย์เดียวกับจ้าวกุย้ เฟย มีเจ้าบ้านสกุลจ้าวสอนสัง
วิชาความรู ้ แถมวิชายุทธยังกราบไหว้ปรมาจารย์มาร
แห่งยอดเขาฉิงซานเป็ นอาจารย์

รอยยิมร้ายกาจทีซุกซ่อนเบืองหลังจอกเหล้า ซือหม่าได้
กลินตุๆ มาจากเฉินอันหวาง สัญชาตญาณบ่งบอกว่า
ชายหนุ่มรูปงามราวหยกสลักผูน้ ีไม่ธรรมดา

ทอดสายตาไปยังห้องหอ สายลมจันทราช่างเป็ นใจ


บุพเพวาสนาเมือผูกพันแล้ว จะตัดอย่างไรก็ตดั ไม่ขาด

61
สินะ....

‘ยุทธภพยิงใหญ่ มีสงของแปลกพิ
ิ สดารเต็มไปหมด’

ท่านแม่ทพั บอกหลังจากเชือเชิญให้ผใู้ ต้บงั คับบัญชา


อย่างซือหม่านังลงรําสุราอย่างไม่ถือตน ประหนึงเป็ น
มิตรสหายทีสนิทกันมาตังแต่เยาว์วยั

‘ได้ยินมาว่ามีสรุ าชนิดหนึงสามารถทําให้ลืมเรืองทีไม่
อยากจําได้’

ซือหม่าในตอนนันตกใจเป็ นอย่างมาก แววตาแข็งกร้าว


ของท่านแม่ทพั อ่อนยวบลง ทังยังมีประกายบางอย่างที
62
อ่านไม่ออก ทว่ากลับทําให้ผมู้ องจุกแน่นอยูใ่ นอก

‘จะทรงตัดใจจากเด็กคนนันหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ท่านแม่ทพั หมุนจอกเหล้า มองสีอาํ พันหมุนวน ราวกําลัง


มองหาทางออกจากชีวิตทีแสนวุน่ วาย

‘บางทีขา้ ไม่ควรจะให้ความหวังใครตังแต่แรก ถ้ารูว้ า่


เสด็จพ่อจะส่งข้าไปชายแดน ข้าคงไม่มอบปิ นดอกไม้ให้
เขา’

รสจากเมรัยไม่หวานหอมเหมือนอย่างทุกที

63
‘สิบสองวันทีได้พบพาน ความสุขราวกับห้วงฝัน ทําเอา
ข้าหลงลืมไปว่า ชีวิตของข้าแตกต่างจากเขา ข้าไม่
อาจมอบความสุขสงบให้กบั เขาได้ ในอนาคตข้าเองยัง
ไม่รูเ้ ลยว่าจะยังรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้หรือไม่ หนทางของ
เชือพระวงศ์ก็เป็ นเช่นนี สูงส่งแต่เหน็บหนาว ถึงอนาคต
จะไม่อาจคาดเดา แต่มนั คงจะดีกว่าถ้าไม่ลากเขามายุง่
เกียวตังแต่แรก บุปผาทีผลิบานเมือไม่เด็ดมันออกจาก
ต้นก็ยงั สามารถเบ่งบานได้อีกยาวนาน สูต้ ดั ใจเสียแต่
เนินๆ คงจะดีกว่า อย่างไรเขาก็อายุยงั น้อย แค่ไม่กีปี ก็
อาจจะหลงลืมข้าไปหมดสินแล้วก็ได้’

‘ความสุขในชีวิตเมือพบเจอได้ยาก เหตุใดเมือได้รบั
โอกาสจึงไม่ไขว่คว้าเอาไว้สกั หน่อยเล่าพ่ะย่ะค่ะ’

64
ท่านแม่ทพั หัวเราะ ‘เจ้าเคยได้ยินบทกวีเรืองกู่จินเหลียง
ผูเ้ ฝ้าคอยรักหรือไม่’

บทกวีอมตะทีนักเล่าเรืองราวประจําโรงนําชากับเหลา
สุรามักหยิบยกขึนมาเล่าเสมอ

‘สตรีอาภัพต้องอยูร่ อคอยสามีอย่างโดดเดียว สุดท้ายยัง


ต้องมาตกตายเพราะสามีอีก’

ซือหม่าในตอนนันไม่รูเ้ อาขวัญกล้าทีไหนมา จึงได้กล่าว


ออกไปอย่างไร้การไตร่ตรองให้ถีถ้วน ด้วยถ้อยคําทีมา
จากหัวใจมากกว่าสมอง

65
‘ท่านแม่ทพั แค่กาํ ลังกลัวทีจะรัก’

ท่านแม่ทพั นิงเงียบไปนาน ซือหม่าก็ใจตุม้ ๆ ต่อมๆ กลัว


ว่ากล่าววาจาอวดดีไม่รูจ้ ะโดนลงโทษอย่างไร แต่สดุ
ท้ายท่านแม่ทพั ก็ไม่ได้เอาถ้อยคําของเขามาใส่ใจ

‘ตัวข้ามีสทิ ธิทีจะรักผูใ้ ดตังแต่แรกด้วยงันหรือ เมือไม่มี


สิทธิตังแต่แรกไยจึงสามารถมีรกั ’

ถ้าหากหัวใจไม่รูส้ กึ แล้วเหตุใดนําเสียงของท่านจึงได้
เศร้าสร้อยเช่นนัน...

บุญคุณของท่านแม่ทพั ยิงใหญ่กว่าพสุธา สูงส่งเฉกเช่น


66
ฟ้า ลําค่าเทียบเคียงมหาสมุทร ถึงซือหม่าปรารถนาให้
ท่านแม่ทพั ได้พบพานความสุข แต่ก็ไม่อาจขัดคําสังได้

ทําได้เพียงมองจอกสุราจรดริมฝี ปาก มองท่านแม่ทพั ลืม


ตาตืนมาโดยละทิงบุพเพวาสนาของตนเองเอาไว้เบือง
หลัง

เมือไม่พบพาน ไม่รูจ้ กั ย่อมไม่รูส้ กึ

“ได้พบกุนซือผูเ้ ลืองชือนับเป็ นเกียรติของข้าแล้ว” นํา


เสียงนุ่มนวลปลุกซือหม่าออกจากภวังค์

“เป็ นเกียรติของข้าเช่นกัน”
67
“ขอโทษด้วยทีไม่อาจอยูส่ นทนาต่อได้” เฉินอันหวางยิม
เอียงอายเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวว่า “คืนเข้าหอไม่ควร
ปล่อยให้รอเนินนาน”

“เฉินอันหวาง!”

ไม่รูอ้ ะไรมาดลใจให้ซือหม่าเอ่ยปากรังหวางเย่รูปงามผูน้ ี

เช่นเดียวกับทีไม่รูว้ า่ เหตุใดจึงได้เอ่ยปากเล่าถึงหนึงราตรี
หนึงบุรุษ และหนึงสุราลืมรักออกไป

.
68
.

เฉินลูป่ ิ นยืนอยูห่ น้าห้อง ยืนมือไปแตะทีประตู ยามเปิ ด


ออกก็พบภรรยานังรออยูท่ ีปลายเตียง

ด้ายแดงทีตัดไม่ขาดก็คือไม่ขาด เมือมีบพุ เพได้พบพาน


ไยจะไม่เกิดวาสนา หากอยากจะหลีกหนีนกั ก็หนีไป
เพราะไม่วา่ อย่างไรเขาก็จะไล่ตามคืนมาอยูด่ ี
69
เรืองบางเรืองถึงจะยังเด็กแต่ก็จาํ ได้ไม่ลืมนะเออ โดย
เฉพาะคนยึดติดอย่างลูล่ ู่ เรียกได้วา่ ต่อให้ตายเป็ นผี เหวิ
นเกอก็หนีไม่รอดอยูด่ ี (ฮา)

อนุญาตให้กดขํารอล่วงหน้า 55555

70
ข้อมูลเพิมเติม

[1] ฮู้ (笏) เรียกเต็มเป็ นทางการคือ “เฉาฮู”้ (朝


笏)แปลว่าแผ่นฮูว้ า่ ราชการ ลักษณะเป็ นวัตถุแบน
ยาวทําจากหยก งาช้าง หรือไม้ไผ่แล้วแต่ฐานะของขุน
นางทีถือ ระดับตําก็ถือแผ่นไม้ไผ่ ระดับสูงก็ถือของมีคา่
ขึนไป หน้าทีการใช้งาน คือใช้เป็ นสมุดจดรายงาน เวลา
เข้าเฝ้าจะต้องกราบทูลเรืองราวต่างๆ ขุนนางเหล่านีจะ
ต้องมีแผ่นฮูบ้ อกตําแหน่งถือติดมือเข้าเฝ้าด้วย นอกจาก
จะเพือบอกยศในเวลาเดียวกันยังใช้เป็ นสมุดจดเวลา
กราบทูลเรืองต่างๆ

71
[2] ฟ้าผ่าทังทีไร้เมฆ : (สํานวน) สิงทีทําให้เกิดความ
ประหลาดใจ เพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึนมาก่อน

[3] ชายหนุ่มขึนเกียว ถือเป็ นครังแรก ดัดแปลงมาจาก


สํานวน “หญิงสาวขึนเกียว ถือเป็ นครังแรก” (大姑
娘上轿-----头一回)สําหรับเกียวเจ้าสาวจะ
เป็ นเกียวทีให้เจ้าสาวนังเท่านัน กรณีของหญิงม่ายทีแต่ง
งานใหม่จะนังรถธรรมดา เรียกได้วา่ ชีวิตหนึงนังได้เพียง
ครังเดียว แม้วา่ การได้นงเกี
ั ยวจะเป็ นเรืองทีสร้างเกียรติ
แก่วงศ์ตระกูลมาก แต่ก็เป็ นการสินเปลืองเงินจํานวน
มากเช่นกัน เพราะชาวชนบททีมีรายได้ไม่มากพอ จะจัด
พิธีแต่งแบบเรียบง่ายและละเว้นพิธีกรรมนี จึงกล่าวได้
ว่า การได้นงเกี
ั ยวเจ้าสาว ถือเป็ นเรืองทีน่าภาคภูมิยงิ
สําหรับหญิงจีนในอดีต

72
ตอนที ๑๔ คืนเข้าหอมีคา่ ดุจทองพันชัง

ตอนอายุสบิ ขวบเฉินลูป่ ิ นยังไม่รูเ้ ลยว่าความรูส้ กึ รุนแรง


ทีเต้นเร่าอยูใ่ นอกนันคืออะไร จนกระทังถึงช่วงวัยหนึง
เขาฝันว่าได้ถกู กกกอดจากชายผูม้ อบปิ นให้เขา แต่ปี
73
แล้วปี เล่าทีผันผ่าน แม้ความรักไม่จืดจางแต่ความแค้นก็
เพิมพูนขึนมาด้วย

มิรูว้ า่ เป็ นผลจากการมีอาจารย์เป็ นมารไร้คณ


ุ ธรรมหรือ
ไม่ จากทีฝันว่าถูกร่วมเคียงหมอนอย่างถนอม เฉินลู่
ปิ นกลับพลิกผัน ฝันว่าตัวเองเป็ นฝ่ ายกดอีกฝ่ ายลงบน
เตียง ยํายีให้สาสมกับสิบปี ทียาวนาน

แล้วครังนีเล่า จะเป็ นความฝันหรือเปล่า....

ยามผ้าคลุมหน้าถูกเปิ ดออก ดวงตาคูค่ มหรีลงเพือปรับ


แสงหลังจากอยูภ่ ายใต้ผา้ คลุมหน้ามาทังวัน คิวขมวด
เข้าหากันน้อยๆ รอยแต้มเหมยแดงกลางหน้าผากรับกับ

74
ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยกลินอายของนักรบ เฉินลู่
ปิ นก็พงทราบว่
ึ าอีกฝ่ ายเข้ากับสีแดงได้อย่างไม่น่าเชือ

ทังสองมองหน้ากัน ฉับพลันความเห่อร้อนก็ลกุ ลามไป


ทัว อยูร่ ว่ มจวนกันมาตังหนึงเดือน เจอหน้ากันทุกวัน แต่
ไม่รูท้ าํ ไมครังนีจึงผิดแผกแปลกไปจากปกติ

เฉินลูป่ ิ นกระแอมไอ แก้มขึนสีระเรืออย่างเห็นได้ชดั ใน


ห้องหอมองไปทางไหนก็เป็ นสีแดง ขนาดเนือเทียนทีจุด
ให้แสงสว่างก็ยงั เป็ นเฉดสีเดียวกัน

“มาดืมเหล้ามงคลกันก่อนเถอะ เอ่อ....” นําเสียงมีความ


ลังเลเล็กน้อย “เหวินเกอ?”

75
เฉินเหวินเค่อเห็นความสับสนของอีกฝ่ ายก็พยักหน้า
ตกลงไปแบบไม่คิดอะไร อีกฝ่ ายจะเรียกเขาอย่างไร เขา
ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ถึง....เวลาได้ยินคําว่า ‘เหวินเก
อ’ แล้วจะชวนจักจีหัวใจพิกลก็เถอะ

“รีบทําให้เสร็จดีกว่า...ล...ลู.่ ..ปิ น”

ท้ายเสียงเบาหวิวทังยังตะกุกตะกักไม่เป็ นคํา แต่เฉินลู่


ปิ นก็ฟังออกว่าอีกฝ่ ายยอมเรียกชือเขา จากปกติทีเอาแต่
พ่นวาจาไม่น่าฟั ง

คืนเข้าหอ สองสามีภรรยาคล้องแขนดืมเหล้ามงคลตาม

76
ประเพณี

เจ้าบ่าวคนงามไม่คอ่ ยมีกลินเหล้าติดมาเท่าไร เฉินเหวิ


นเค่อเคยแต่งหวางเฟยมาตังสามครัง แม้เขาจะไม่ได้เมา
มายเพราะไม่มีใครกล้าเข้าหา แต่ปกติเจ้าบ่าวในคืนส่ง
ตัวเข้าหอล้วนเดินไม่ตรงทาง....ผิดคาดเล็กน้อย

เฉินลูป่ ิ นมีเหงือผุดพลาย แก้มแดงเรือ ดวงตาสีขีเถ้าปรือ


ปรอยยัวยวนมองมาทางเฉินเหวินเค่อ

“เหวินเกอรูห้ รือไม่วา่ เหล้ามงคลทีใช้ในคืนเข้าหอของ


การแต่งงานระหว่างบุรุษกับสตรีตา่ งจากเหล้ามงคล
ระหว่างบุรุษกับบุรุษ”

77
เจ้าบ่าวรูปงามถอดเสือตัวนอกโยนทิงไป ขณะสาวเท้า
เข้าหาเจ้าสาวของตน

“ในจอกเหล้าของฝ่ ายเจ้าสาวทีเป็ นบุรุษ จะผสมตัวยา


พิเศษทีจะช่วยให้ผอ่ นคลาย แล้วก็...” คนตรงหน้าโน้ม
เข้าหา เฉินเหวินเค่อคิดว่าอีกฝ่ ายจะจุมพิต แต่รมิ ฝี ปาก
กลับแฉลบเฉียดปลายแก้มซ้ายตรงไปทีใบหู ลมหายใจ
อุน่ กระซิบเสียงพร่า “เป็ นตัวกระตุน้ อารมณ์”

เฉินเหวินเค่อกระชากแขนของอีกฝ่ าย เห็นคนตรงหน้า
ตัวแดงไปหมดก็เผยแววยิมเยาะ ถึงแม้วา่ ร่างกายของ
เขาจะเริมรูส้ กึ ร้อนขึนมาบ้างแล้วก็ตาม

78
“แล้วอย่างไร? ดูเหมือนฝ่ ายทีแย่จะเป็ นเจ้าไม่ใช่หรือไง”

เฉินลูป่ ิ นหัวเราะขบขัน ไม่ได้รูส้ กึ หวาดกลัว “เหวินเก


อท่านเล่นแรงไม่นอ้ ย ถ้าเกิดข้าไม่ได้มีอาจารย์บดั ซบที
ชอบเอายาพิสดารกรอกปากลูกศิษย์ทกุ เช้าเย็น ข้าอาจ
จะแย่จริงๆ ก็ได้”

เฉินเหวินเค่อยังไม่ทนั ได้ประมวลคําพูดของอีกฝ่ ายเสร็จ


ดี ก็โดนผลักหงายหลังล้มลงไปบนเตียงแล้ว

รอยยิมนุ่มนวลยังประดับอยูบ่ นใบหน้า รอยยิมทีคุน้ เคย


นันไม่วา่ อย่างไรมันช่าง….น่าหมันไส้จริงๆ!

79
เพียงแต่ครังนีรอยยิมนันดูเคลือบไว้ดว้ ยรัศมีอนั ชัวร้าย
ราวกับนักล่าทีกําลังมองเหยืออันหยิงทะนงกําลังถูก
กลืนกินโดยคิดว่าตนเองเป็ นผูช้ นะ

“ข้าเห็นว่าท่านเคยแต่งหวางเฟยไปแล้วสามครัง คงจะ
คุน้ เคยเรืองเหล้ามงคลดีเลยไม่ได้บอก แต่คราวนีท่าน
ต้องเป็ นฝ่ ายแต่งมาเป็ นหวางเฟยเสียเอง ข้าเป็ นห่วงยิง
นัก....” ปลายนิวเรียวของอีกฝ่ ายแตะลงข้างแก้ม เฉินเห
วินเค่อสะดุง้ ผิวสัมผัสร้อนวาบประดุจโดนนําร้อนลวก
“ข้าจึงแอบเพิมยาลงไปนิดหน่อย เหวินเกอคงไม่วา่
อะไร”

ในอดีตการแต่งงานของเฉินเหวินเค่อล้วนถูกจัดการตาม
80
ใจชอบ เบืองหลังสมรสพระราชทานถูกคนมากมาย
แทรกแซง จะสกุลหร่วนก็ดี คนทีสนับสนุนสกุลหร่วนก็ดี
แม้กระทังหวางเฟยคนสุดท้ายยังมาจากฝักฝ่ ายทีชิงชัง
เขา

เหล้ามงคล รูเ้ สียทีไหน

“ไอ้!....” คําสบถมากมายถูกหยุดด้วยหนึงปลายนิว แต่


แค่นีหรือจะหยุดได้ เฉินเหวินเค่อปั ดมือของเฉินลูป่ ิ นอ
อก โถมกายไปด้านหน้า เพียงแต่เมือลุกขึนแรงกายพลัน
เหือดหายไปอย่างน่าพิศวง กลายเป็ นว่าเขาเป็ นฝ่ าย
ถลาเข้าไปหาอ้อมอกของคนทีเหลือแค่ชดุ คลุมตัวบาง

81
สงสัยเหลือเกินว่ามันใส่ยาเพิมลงไปเท่าไร

เฉินลูป่ ิ นฉกริมฝี ปากลงมาสายฟ้าแลบราวกับงูกาํ ลังล่า


เหยือ มือทังสองไม่ปล่อยว่าง ขยําไปทีสะโพกหนันเนือ
บีบเค้นจนพยัคฆ์รา้ ยครางฮือสินฤทธิคาอ้อมอก

“อือ!..เจ้า...ไม่ได้ตาย---อืม”

ถ้อยคําทุกอย่างถูกริมฝี ปากทีจูบซําลงมากลืนกินจน
หมดสิน เฉินเหวินเค่อตะกุยแผ่นอกของคนตรงหน้า ด้วย
การดินรนจากพยัคฆ์ทีถูกลดขันเป็ นเพียงแมวแก่ดือดึง
ตัวหนึง

82
สุดท้ายแผ่นหลังก็กลับไปแตะอยูบ่ นเตียงอีกครัง

เฉินเหวินเค่อกัดฟั น มองอีกฝ่ ายค่อยๆ เปลืองอาภรณ์


ของเขาทีละชิน โดยเขาได้เพียงแต่เฝ้ามองด้วยร่างกายที
ไม่ยอมเชือฟั งคําสัง

มือร้อนไม่ตา่ งจากกายเขาแฉลบผ่านตรงแผ่นอกและ
หน้าท้อง

จนกระทังอีกฝ่ ายแตะลงบนผ้าคาดเอวซึงเป็ นปราการ


ด่านสุดท้าย เฉินเหวินเค่อถึงมีแรงขัดขืนได้ แม้สดุ ท้าย
จะถูกริมฝี ปากนุ่มหยุน่ บดเบียดลงมา ถูกปลายลินแทรก
ผ่านแนวฝันทีร้อยเรียงกวาดชิมไปทัวทังโพรงปาก สูบ

83
เอาแรงฮึดเฮือกสุดท้ายไปจนหมดสิน

เฉินลูป่ ิ นปาดหลักฐานสีใสจากจูบอันร้อนแรง ลูบใบ


หน้าแดงซ่าน และนัยน์ตาแข็งกร้าวทีคลอไปด้วยหยาด
นําตาแห่งอารมณ์

“ความจริงยาของท่านก็สง่ ผลกระทบกับข้านิดหน่อย ”
เฉินเหวินเค่อถูกคว้ามือกดลงไปบนอวัยวะทีทังเขาและ
คนตรงหน้าต่างก็มีเหมือนกัน “คงต้องลําบากเหวินเก
อแล้ว”

วาจาน่าตี ฟั งแล้วโมโหจนแทบกระอักเลือด อยากขยํา


ให้แหลกคามือจนใช้การไม่ได้ แต่กลับไม่มีแรงพอจะทํา

84
เช่นนัน

หลังเท้าของเขาร้อนวาบ เฉินลูป่ ิ นกดริมฝี ปากหนักๆ ลง


ไป เฉินเหวินเค่อมองอย่างไม่อยากจะเชือเท่าใดนัก ต่อ
มาสัมผัสร้อนผ่าวก็ขยับไล่ขนมาตรงบริ
ึ เวณข้อเท้า จน
กระทังถึงต้นขาด้านใน

“อึก...”

เฉินเหวินเค่องับริมฝี ปาก ไม่กล้ามองอีกฝ่ ายทียกข้อพับ


ขาของเขาขึน ซุกหน้าลงไปตรงตําแหน่งทีชวนหัวใจวาย
เขาไม่อยากจะนับว่ามีกีรอยทีถูกขบเม้ม และยิงสะท้าน
เฮือกเมือลมหายใจร้อนพัดผ่านส่วนอ่อนไหวทีตอบ

85
สนองเป็ นไปตามกลไกธรรมชาติ

เฉินเหวินเค่อขบกรามแน่น เมือส่วนอ่อนไหวนันถูกริม
ฝี ปากแตะผ่านอย่างหยอกเอิน เฉินลูป่ ิ นไล้มือไปตาม
สะโพกและหน้าท้องแกร่ง ยามคนใต้รา่ งเกร็ง กล้ามเนือ
อันสวยงามก็ออกมาให้ยลโฉม หยาดเหงือผุดพลาย
สะท้อนกับแสงเทียนในห้องเป็ นประกายระยิบระยับ

ริมฝี ปากร้อนแนบลงมาอีกครัง ปลายลินโลมเลียบริเวณ


สะดือ จูบซับไปตามกล้ามหน้าท้องทีขึนเป็ นลูก ดูดีจน
น่าอิจฉา ร่างกายเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็ น
คิดไม่ถงึ เลยว่าภายใต้อาภรณ์ทีสวมใส่ ต้องแบกรับ
จารึกของความบากบันตลอดสิบปี ในฐานะแม่ทพั ผู้
พิทกั ษ์ชายแดนตะวันออกมากถึงขนาดนี
86
หนึงรอยแผลเป็ นทีหน้าท้อง สองคือรอยยาวทีพาดผ่าน
หัวไหล่ชวา สามคือรอยผิวหนังถูกเผาไหม้ทิงร่องรอยไม่
น่ามองไว้กลางแผ่นอก และรอยแผลอีกนับไม่ถว้ น

เฉินลูป่ ิ นแตะลงบนรอยแผลเหล่านันแผ่วเบาราวกลัวเขา
จะเจ็บ จุมพิตปลอบประโลมคนทีซุกซ่อนความปวดร้าว
นีไว้เพียงลําพัง

เสียงหัวใจเต้นแรงประหนึงเสียงกลองชัยในสนามรบ
เฉินเหวินเค่อโบ้ยเอาว่าเป็ นเพราะฤทธิยา จึงได้ไม่เป็ น
ตัวเองขนาดนี

87
“เจ้าทําอย่างนีทําไม” ความสันพร่าซ่อนอยูใ่ นนําเสียง
แข็งกร้าว....ทําไมถึงต้องอ่อนโยน

“เพราะข้ารักท่าน”

เฉินลูป่ ิ นไม่ยอมให้อีกฝ่ ายหลบหน้า สองมือประคองใบ


หน้าของคนทีอยูใ่ นความทรงจําของเขา...คนทีเฝ้ารอ

“รักมาตลอดสิบปี ”

“แต่ขา้ จําไม่ได้แล้ว”

เฉินเหวินเค่อรูว้ า่ ในอดีตเขากับเฉินลูป่ ิ นมีความสัมพันธ์


88
ไม่ธรรมดา เพียงแต่วา่ อดีตย่อมเป็ นอดีต ในเมือจดจําไม่
ได้ก็ไม่สมควรจะยึดติด โดยเฉพาะอย่างยิงเขาจะไม่นาํ
เอาความรูส้ กึ ผิดต่อเฉินลูป่ ิ นมาเป็ นทีตัง เพือตอบรับ
ความรูส้ กึ ซือตรงของอีกฝ่ าย

ถ้าหากไม่มนใจก็
ั ไม่ควรรับ เขาไม่อยากจะทําลายมัน
โดยไม่ได้ตงใจอี
ั กเป็ นครังทีสอง

“ข้าขอโทษ แต่ขา้ จําไม่ได้”

“ถ้าท่านจําไม่ได้วา่ เคยรูส้ กึ อย่างไรกับข้า เช่นนันข้าจะ


ทําให้ทา่ นจําได้เอง ต่อให้ทา่ นจะหนีหรือเลือกจะลืมอีก
สักกีครา ข้าจะไล่ตามท่าน ทําให้ทา่ นหลงรักข้าซําแล้ว

89
ซําเล่า จนแม้กระทังวิญญาณก็ไม่อาจลืมเลือน”

แววตานันไม่มีความล้อเล่นหรือฉ้อฉลเลยสักนิด มีแต่
ความมุง่ มันจริงจัง และถ้อยคําหนักแน่นทีตอกลึกลงไป
ในใจของผูฟ้ ั ง

จุมพิตสลักรักลงตรงกลางหัวใจทีกระหนําเต้นรัวอย่าง
บ้าคลัง เฉินเหวินเค่อจิกผ้าปูทีนอนจนแทบขาดคามือ
ยามปลายนิวแทรกลึกเข้ามายังภายใน ร่างกายบิดเร่า
ไม่อาจสะกดกลันเสียงน่าละอายด้วยแรงอารมณ์ทีพุง่ สูง
ทะลุเพดาน ผสานไปกับฤทธิยา ความรูส้ กึ พิศวงทีไม่
อาจนิยามได้กาํ ลังทําเขาสูญเสียตัวตนไปอย่างช้าๆ

90
สองกายาแนบชิดหลอมรวมเป็ นหนึงเดียว ขณะเดียวกัน
นิวเรียวทังสองก็ยงั ไม่หยุดทําหน้าที ปูทางให้อีกฝ่ าย
พร้อมมากทีสุด

เฉินเหวินเค่อกัดปากจนห้อเลือด ทัศนียภาพพร่าเลือน
ด้วยความปรารถนาและความต้องการ ฟั งคนหน้ายิม
กระซิบข้อความน่ากระทืบก็ได้แต่ปล่อยผ่าน หงุดหงิด
แทบตาย แต่ทาํ อะไรมิได้เลย

“เรามาต่อกันจากชิมครังทีแล้วกันดีกว่า”

ส่วนร้อนผ่าวค่อยๆ ชําแรกลึกเข้ามาภายใน เฉินเหวินเค่


อออกรบมีแผลเต็มตัว โดนดาบฟั นเลือดอาบไม่เคยอ้า

91
ปากร้องครวญ แต่นีโดนดาบทือๆ เล่มหนึงแทง กลับ
กายเป็ นว่าร่างกายสันเทิมเจ็บจนสะท้าน

“อึก...”

ลมหายใจร้อนหอบหนัก เฉินลูป่ ิ นแม้อารมณ์จะทะยาน


สูง แต่ก็ไม่หกั หาญร่วมเตียง

เฉินเหวินเค่อเองก็เป็ นบุรุษเช่นเดียวกัน ไยจะไม่รูว้ า่ อีก


ฝ่ ายกําลังอดทนมากขนาดไหน ชายชาตรีลว้ นเป็ นสัตว์
ป่ า ทว่าเฉินลูป่ ิ นกลับถนอมเขาราวกลีบบุปผา ไม่ยอม
ดึงดันแทรกกายเข้ามา แต่คอ่ ยๆ เป็ นค่อยๆ ไป

92
“อย่ามาอ่อนโยนกับข้านะ! บัดซบ!!” เฉินเหวินเค่อตวาด
กร้าว

อย่ามาอ่อนโยน....เพราะข้าไม่รูค้ วรจะจัดการกับความ
รูส้ กึ นีอย่างไรดี

“ลูป่ ิ น...จะทําก็รบี ทํา...อ๊า!”

เดิมทีเส้นความอดทนของเฉินลูป่ ิ นก็ไม่ได้หนาอะไร พอ
โดนยัวเย้าก็ขาดผึงในทันที ได้ยินคนใต้รา่ งหวีดเสียงสูง
ใบหน้าคมเข้มบิดเบียวด้วยความเจ็บปวด หยดเลือด
หยดลงบนผ้าขาวพิสจู น์พรหมจรรย์ ก็ได้แต่กดจูบหนักๆ
ปลอบโยนอีกฝ่ าย

93
เจ็บแต่เจ็บไม่นาน ครูเ่ ดียวเหล้ามงคลก็เริมออกฤทธิ

เฉินลูป่ ิ นพยายามอย่างยิงยวดทีจะอ่อนโยนให้มากทีสุด
แต่เหวินเกอเหตุใดไม่ให้ความร่วมมือบ้างเลย!

“ลู.่ ..ลู.่ ..อือ!”

แค่เพียงสดับฟั งอีกฝ่ ายครวญเพรียกหาแต่เขา ทังยังบิด


กายเร่งเร้าให้กระแทกกระทันหนักหน่วงกว่าเดิม ท่าน
ชายรูปงามผูม้ ีบรรยากาศนุ่มนวลแผ่อยูร่ อบตัวราวตาย
จากไปจากโลกหล้า แปรเปลียนไปเป็ นสัตว์รา้ ยทีกลืน
กินเหยืออย่างไร้ซงความปราณี

94
ปลายเดือนเจ็ดแม้เข้าสารทฤดู[1]แล้ว แต่ก็พงพ้
ึ นช่วง
ร้อนทีสุดมาไม่นาน ทว่าความร้อนนันยังไม่อาจหาญสู้
เพลิงปรารถนาในห้องหอได้เลย

สองกายทีกอดก่ายท่วมไปด้วยเหงือ เฉินลูป่ ิ นมีหวา


งเฟยเป็ นนักรบ พออยูบ่ นเตียงทุกสิงทุกอย่างก็กลาย
เป็ นสนามรบตามไปด้วย เขาไม่ได้รูส้ กึ ถูกเคียวกรํามา
นาน นับตังแต่กราบลาอาจารย์ลงจากยอดเขาฉิงซาน

“ลูป่ ิ น...ลูล่ ”ู่

เพราะไม่อยากหลุดเสียงครางให้อายจึงได้เอาแต่เพรียก

95
หา แถมความซือตรงของปากกับร่างกายยังสวนกระแส
กันได้อย่างน่าตี หลังจากปลดปล่อยหยาดหยดเข้าไปใน
ร่างของอีกฝ่ าย ฤทธิของเหล้ามงคลก็เริมเจือจางลง

แมวแก่ผดู้ ือดึงของเฉินลูป่ ิ น ถึงได้เริมกลับไปเป็ นพยัคฆ์


ร้าย

“เฉินลูป่ ิ นไอ้ลกู เต่าบัดซบ! ออกไปจากตัวข้าเดียวนี...


อึก...จะ..เจ้าตังสามรอบแล้วยังไม่พออีกเรอะ!”

พูดแล้วก็กระดากปาก อย่าให้มีโอกาสเชียว ข้าจะทําให้


เจ้ามาอยูข่ า้ งล่างให้ได้เลย!

96
“เหวินเกอถ้าอยากให้ขา้ หยุด ท่านก็ตอ้ งเลิกขยับเอวที
ซือตรงของท่านเสียก่อน”

เฉินเหวินเค่อหน้าร้อนวาบ ยกกําปั นทุบตีอีกฝ่ ายจนแขน


ขาวๆ เริมมีรอยชํา แต่วา่ ยิงออกแรงตี เฉินลูป่ ิ นก็ขยับ
เอวแรงมากขึนเท่านัน ท้ายทีสุดเขาก็พา่ ยแพ้ให้กบั ความ
ต้องการของตัวเองอย่างหมดรูป

“...เจ้าช้าลงหน่อย...ข้าจะ อึก...อือ!”

เฉินเหวินเค่อกอดอีกฝ่ ายไว้แน่น กัดลงบนไหล่ขาวเนียน


จนเรียกเลือดเมือถึงจุดสูงสุด เช่นเดียวกับเฉินลู่
ปิ นทีอารมณ์กระสันปี นป่ ายไปจนถึงยอดเขา

97
ริมฝี ปากบดเบียดดูดดึงอย่างร้อนแรง ขณะทีเอวของเฉิน
เหวินเค่อถูกจับกระแทกกระทัน ตามมาด้วยสายธารอุน่
ร้อนทีปลดปล่อยเข้ามาภายใน....ร้อนราวกับกําลังถูก
หลอมละลาย

สนามรบเมือเสร็จศึกก็คือจบสิน แต่วา่ สนามรักนันเกรง


ว่ากว่าจะถึงจุดนัน เฉินเหวินเค่อคงต้องถูกเคียวกรําอีก
นาน ในเมือความเป็ นชายของเฉินลูป่ ิ นดูจะไม่สงบลง
เลยแม้แต่นอ้ ย

กระทังใกล้รุง่ สาง ดวงอาทิตย์จวนเจียนโผล่พน้ ขอบฟ้า


ภายในห้องหอจึงพึงเงียบสงบ เฉินลูป่ ิ นเกลียปอยผมชืน
เหงือให้คนทีหลับไปแล้ว ด้วยดวงตาทีเริมจะปรือปรอย
98
หลังจากใช้แรงไปเยอะเกิน

ขณะกําลังจมลงสูห่ ว้ งนิทรา เขาก็นกึ ถึงเรืองหนึงขึน


มา...

“องค์ชายใหญ่แห่งแผ่นดินเสวียนเฉินมีนิสยั ป่ าเถือน
โหดร้าย ไร้เมตตาคุณธรรม ไม่เหมาะสมกับการเป็ นเชือ
พระวงศ์ เราขอถอดยศ ‘หวาง’ พร้อมราชทินนาม ‘เว่ย’
และขอสังให้องค์ชายใหญ่ฝากฝังตัวเป็ นศิษย์ของเฉิน
อันหวางเจ้าเมืองฉางซี ให้อบรมสังสอนองค์ชายใหญ่ให้
เป็ นผูม้ ีคณ
ุ ธรรม ขัดเกลาให้มีภาพลักษณ์ทีเหมาะสม
จนกว่าเฉินอันหวางจะยอมรับองค์ชายใหญ่เป็ นศิษย์
องค์ชายใหญ่จงึ สามารถกลับมาดํารงยศหวาง และกลับ
ไปเป็ นแม่ทพั ประจําชายแดนตะวันออกได้ดงั เดิม”
99
“เสด็จพ่อทํากับลูกอย่างนีไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”

“องค์ชายใหญ่โปรดรับราชโองการพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีผู้
ประกาศราชโองการเอ่ยเตือน

“ลูกน้อมรับราชโองการ ขอฝ่ าบาททรงพระเจริญหมืนปี


หมืน ๆ ปี ”

มองแผ่นหลังแข็งกร้าวนันก้าวออกจากห้องทรงพระ
อักษรด้วยอารมณ์ฉนุ เฉียว เฉินลูป่ ิ นทียืนหลบมุมปะปน
ไปกับเหล่าเงาของจักรพรรดิก็เดินออกมา

100
“เจ้าจัดการเขาได้ใช่ไหม”

สายตาของจักรพรรดิมีแววความไม่เชือมันในตัวเขา
หลายส่วน

“ฝ่ าบาท...มีคาํ กล่าวทีว่า 'มองคนอย่ามองเพียงแค่ภาย


นอก' ”

“เอาเถอะ จ้าวกุย้ เฟยเองก็เป็ นคนยืนยันในฝี มือของเจ้า”

เฉินลูป่ ิ นแย้มยิม “ไม่ตอ้ งกังวลฝ่ าบาท นับตังแต่ทา่ นส่ง


เกากงกงมาหากระหม่อมทีฉางซี ฝ่ าบาทกับกระหม่อมก็
ถือว่าลงเรือลําเดียวกันแล้ว”
101
ภายใต้ราชโองการทีว่างเปล่า เขาพบอีกความลับทีซุก
ซ่อนเอาไว้ นอกจากข้อความทีจะปรากฏเฉพาะต้อง
ความร้อนจากแสงเทียน เฉินลูป่ ิ นพบว่าราชโองการนันมี
กระดาษลับซ้อนทับอยูด่ า้ นหลัง เป็ นข้อความเรียกตัว
เข้าเฝ้าเป็ นการเร่งด่วน

ข้อเสนอหนึงถูกหยิบยืนมาให้ เมือจักรพรรดิผยู้ งใหญ่


ิ หา
ได้ไร้รกั ส่วนท่านชายผูเ้ ฝ้าคอยคนรักมาเนินนานเป็ นผู้
เหมาะสมเพียงคนเดียวทีจะช่วยได้

คนทีจักรพรรดิปรารถนาจะช่วยเหลือคือฮุ่ยเฟย ส่วนคน
ทีเฉินลูป่ ิ นต้องการจะครอบครองคือเฉินเหวินเค่อ

102
“ฝ่ าบาททรงมันใจแค่ไหนว่าแผนการนีจะได้ผล”

“เห็นเหวินเค่อใจร้อนเช่นนันแต่เขาก็ไม่ไร้สมอง แม้เขา
จะเป็ นลูกทีเกิดจากคนทีเรารัก แต่เราจะไม่มอบ
ตําแหน่งสําคัญให้กบั คนทีไร้ความสามารถ” จักรพรรดิฝู
ไฉแห่งเสวียนเฉินมีรศั มีของผูน้ าํ ปวงประชาอย่างเปี ยม
ล้น “เจ้าแค่ถ่วงเวลา เราจะหาทางบีบสกุลหร่วนให้ดนไม่

หลุดเอง ขอเพียงไม่ให้เหวินเค่อโผล่มายุง่ เกียว จนมีมือ
ทีสามหยิบเอาไปใช้ประโยชน์ได้ก็พอ ตอนเขาอายุยีสิบ
ก่อนทีจะได้มาพบเจ้า เขาเคยทําคุณงามความดีหนึงไว้
เราติดค้างคําขอเขาเรืองหนึง นีเป็ นหนทางเดียวทีเขาจะ
ต้องใช้”

103
“ใต้หล้านีไม่มีเรืองใดหลบลีจากพระเนตรพระกรรณของ
ฝ่ าบาทได้จริงๆ”

“เพือช่วยมารดา ในเมือร้องขอตามตรงไม่ได้ สมรสพระ


ราชทานจะเป็ นหนทางทีดีทีสุด และด้วยเรืองของเวลา นี
ก็จะเป็ นวิธีเดียวทีเขาจะคิดได้เช่นกัน อีกทังคนเพียงคน
เดียวทีใกล้ชิดกับเขา และสามารถพึงพาได้ก็มีแค่เจ้า”
จักรพรรดิประสานมือลงบนโต๊ะ จ้องมองท่านชายรูป
งามทีดูออ่ นแอ “และถึงเขาจะไม่ได้รอ้ งขอสมรสพระราช
ทาน แต่ตามข้อตกลง...เราจะเป็ นฝ่ ายพระราชทานให้
เอง”

เฉินลูป่ ิ นขีเกียจเฝ้ารออีกต่อไปแล้ว ไม่รูว้ า่ ต้องรออีก


นานแค่ไหนเขากับเหวินเกอถึงจะได้สานต่อบุพเพ
104
วาสนา เผลอๆ อาจจะต้องรอถึงชาติภพหน้า

ในเมือโชคชะตามันชักช้านัก เขานีแหละจะไขว่คว้าสิงที
ต้องการมาด้วยตัวเอง

ไม่วา่ จะกีภพ...กีชาติ ข้าจะเป็ นเพียงผูเ้ ดียวทีได้ครอบ


ครองท่าน

105
.

จ้าวหลานเท้าแขนลงบนโต๊ะหินอ่อน มองหมากกระดาน
ของตัวเองทีพ่ายแพ้ลง หลังจากต่อสูก้ นั มานานอย่างสูสี
ตัวเขาไม่เคยแพ้ใครมาก่อนนอกจากจักรพรรดิและท่าน
อาจารย์ แต่ดเู หมือนว่าต้องนับรวมคนตรงหน้าเข้าไป
ด้วย

หร่วนจูอีแม้จะทําเป็ นนิงเฉย แต่ก็ซกุ ซ่อนประกายตาชืน


ชมตัวเองไม่มิด

“จูตา้ เกอรูห้ รือไม่วา่ ใต้หล้านีผูท้ ีเล่นละครเก่งทีสุดก็คือ


องค์จกั รพรรดิ”

106
เมือมองข้ามไหล่ของฮุ่ยเฟยผูถ้ กู คุมขังในตําหนักเย็น
จ้าวหลานก็เห็นชายฉลองพระองค์สีดาํ สนิทปั กดินทอง
ลายมังกรห้าเล็บ อาภรณ์ทีโอรสสวรรค์เท่านันทีจะสวม
ใส่ได้

หร่วนจูอีขมวดคิว “เจ้านีชอบพูดจาไร้สาระจริงๆ ”

จ้าวหลานหัวเราะร่วน หยิบใบไม้ทีร่วงหล่นมาเกาะไหล่
ของอีกฝ่ ายออก แววตาซุกซนผิดกับอายุมีความสุขทีได้
หาเรืองหรรษาให้แก่ตนเอง

แต่จะบอกว่าจักรพรรดิคือผูท้ ีเล่นละครเก่งทีสุดก็ไม่ถกู

107
นัก ต้องนับรวมศิษย์นอ้ งเล็กจอมเจ้าคิดเจ้าแค้นของเขา
ไปด้วยอีกหนึงถึงจะถูกต้อง

แต่งตอนนีนานมากกกก นังบืออยูห่ น้าคอมสองวันติด


คือเราไม่อยากตัดฉากออกเท่าไหร่ หวังว่านีจะไม่เรทไป
มัง เราใช้คาํ เลียงสุดๆ แล้ว

108
นีเป็ นแนว nc ทีเราชอบน่ะค่ะ แต่แต่งยากมาก ฮือออ
ผิดกับเรืองลํานําคนละด้านเลยค่ะ 555 พูดแล้วก็เขิน
ทุกวันนีย้อนไปอ่าน nc ของอีกเรืองนีถึงกับกรีดร้อง ฉัน
ทําอะไรลงป๊ ายยย

ข้อมูลเพิมเติม

[1] สารทฤดู : ฤดูใบไม้รว่ ง

109
ตอนที ๑๕ ความจริงนันอาจมิได้เป็ นอย่างทีเห็น

ถ้าหากท้องไม่สง่ เสียงร้องโหยหวน เกรงว่าเฉินเหวินเค่อ

110
คงไม่อยากจะลงจากเตียง ความปวดร้าวตรงช่วงเอวทํา
เอานิวหน้า หลังจากปิ ดปากหาวอย่างงัวเงีย ตามด้วย
ยืดแขนไล่ความเมือยขบ จึงพึงระลึกได้วา่ ทังเนือทังตัว
ไม่มีเสือผ้าหลงเหลืออยูเ่ ลยสักชิน

กวาดสายตาไปมองรอบๆ ห้องก็พบอาภรณ์กระจัด
กระจายอยูเ่ ต็มไปหมด ทังยังอยูไ่ กลเกินเอือมถึงอีกต่าง
หาก เฉินเหวินเค่อตวัดสายตามองค้อนคนทียังนอนหลับ
สบาย แต่ก็ตอ้ งรีบเบนหน้าหนี

ใครให้เฉินลูป่ ิ นรูปงามเกินไปเล่า!

โยนผ้าห่มปิ ดผิวขาวผ่อง ทําเมินไม่มองรอยฟั นบนหัว

111
ไหล่มนกับรอยเล็บทีครูดอยูเ่ ต็มแผ่นหลังเปลือยเปล่า
จากนันจึงลุกขึนคิดจะเดินไปหยิบเสือผ้า ทว่าก็โดนคว้า
เอวเอาไว้ก่อน

แก้มนุ่มนิมถูไถอยูข่ า้ งเอวกล่าวด้วยเสียงของคนยังไม่
ตืนดี แน่ส.ิ ..ขนาดตายังลืมไม่ขนเลย

“เหวินเกอท่านไม่เหนือยบ้างหรือ จะรีบตืนไปทําไม”

เฉินเหวินเค่อใช้มือยันเข้าให้ “สมนําหน้า!”

“ใครใช้ให้ทา่ นใส่ยาปลุกลงไปเล่า เรืองนีนับว่าท่านก็มี


ความผิดด้วยกึงหนึง”
112
ได้ยินก็กรอกตา ไม่ตอ่ บทสนทนาทียําถึงความผิดพลาด
ขณะเดียวกันก็พยายามแงะมือปลาหมึกทีเลือยมาพัน
รอบเอวไม่ยอมปล่อย สุดท้ายเมือทําอย่างไรก็ดงึ ไม่ออก
เฉินเหวินเค่อจึงต้องจําใจมุดกลับไปใต้ผา้ ห่มตามเดิม

คนบ่นว่าเหนือยลืมตาแทบไม่ขนไม่
ึ รูว้ า่ หายไปไหน เฉิน
เหวินเค่อไม่อยากเห็นหน้าเฉินลูป่ ิ นถึงได้นอนหันหลังให้
อีกฝ่ ายขยับกายดึงรังเขาไปกอดเสียแนบแน่น แน่นเสีย
จนไปสัมผัสโดนส่วนทีไม่อยากสัมผัส

บุรุษทุกคนต่าง ‘ลุก’ กันทุกเช้า เฉินลูป่ ิ นยังหนุ่มแน่น


ตรงส่วนนันมีหรือจะเสือมสมรรถภาพ

113
“อย่าแม้แต่จะคิด”

เฉินเหวินเค่อเอ่ยเสียงเย็น หยุดฝ่ ามือทีฟ้อนเฟ้นไปตาม


ร่างกาย จูบหนักๆ กดลงไปบนลาดไหล่ เขาจึงถองซอก
ไปด้านหลัง แต่ก็ถกู คนมือไวจับเอาไว้ได้ทนั

“ท่านรูห้ รือว่าข้าคิดสิงใด ในเมือใจตรงกันไยจะต้องมาก


ความ อย่างไรเสียพิธีการหลังจากนีต่างถูกยกเลิกหมด
สิน”

ไม่วา่ จะเป็ นพิธียกนําชาให้แก่เฉินอันหวางไท่เฟยทีปลีก


ตัวละทางโลก คอยติดตามรับใช้ไท่โฮ่วทีอารามหลวง

114
หรือประเพณีการกลับไปเยียมเยียนบ้านฝ่ ายเจ้าสาว
ล้วนไม่อาจทําได้ ในเมือพระบิดาไม่อยากพบหน้า รังอยู่
ทีเทียนเฉินนานๆ จะทําให้ข่นุ ข้องหมองใจเสียเปล่า

แต่ทงหมดทั
ั งมวลนีไม่ได้หมายความว่าเฉินลูป่ ิ นจะมา
ทําตัวจาบจ้วง ไม่รูจ้ กั จบสินเช่นนีได้!

ใช้กาํ ลังไม่ได้ผลก็ตอ้ งวกกลับมาใช้วิธีดงปั


ั ญญาชน
เจรจาพาทีกนั ด้วยวาจา

“ข้าหิว อยากอาบนําด้วย” เฉินเหวินเค่อพูดเสียงห้วน ไม่


ค่อยสบอารมณ์นกั

115
“ตามใจท่าน” เฉินลูป่ ิ นตอบเคล้าเสียงหัวเราะ

บ่าวรับใช้ทีตระเตรียมอ่างนําร้อนต่างก้มหน้าปิ ดหูเงียบ
กิรยิ ามารยาทล้วนเพียบพร้อม รูว้ า่ ควรจะวางตาไว้ตรง

116
ไหน ผิดกับบ่าวจอมสอดรูส้ อดเห็นทีจวนเฉินอันลิบลับ

เสียดายขันทีผหู้ นึงตาไวไปนิด เผลอไปเห็นรอยหยด


เลือดบนผ้าขาวก็ลอบเห็นใจเฉินอันหวางอยูใ่ นใจ องค์
ชายใหญ่ช่างเป็ นบุรุษผูไ้ ม่รกั หยกถนอมบุปผาเสียจริง
ว่าแล้วก็ลอบส่ายหน้า หากเฉินเหวินเค่ออ่านใจคนได้คง
โกรธจนแทบกระอักเลือด

หลังจากโบกมือไล่ตอ้ งการความเป็ นส่วนตัว เฉินเหวิ


นเค่อก็ดงึ ผ้าห่มมาคลุมกาย เดินไปหยิบเสือตัวนอกมา
ใส่ เมินใครบางคนทีนอนเปลือยกายยัวยวนอยูบ่ นเตียง

“เหวินเกอ ถ้าท่านหิวก็ตอ้ งอาบพร้อมกันแล้ว”

117
เฉินเหวินเค่อพ่นลมหายใจหงุดหงิด สุดท้ายก็ตอ้ งวก
กลับเอาผ้าห่มปาใส่หน้าเฉินลูป่ ิ นทีทอดกายเกียจคร้าน

“อย่าอิดออดรีบลุกขึนมา”

นอกจากขาดความกระตือรือร้น อีกฝ่ ายยังยืนแขน ช้อน


สายตาออดอ้อนราวกับอยากให้อมุ้ ช่างหน้าด้านหน้า
ทนเหลือเกิน!

เฉินเหวินเค่อหน้าเริมตึง แต่คนงามไม่วา่ จะทําอะไรก็น่า


มองไปหมด สุดท้ายต้องจําใจ...จําใจนันแหละ! ช้อนตัว
อีกฝ่ ายขึนแนบอก

118
ก้าวแต่ละก้าวบางอย่างทีรูก้ นั ดีไหลย้อยลงมาตามง่าม
ขา เฉินลูป่ ิ นมองคนพยายามสะกดกลันความเขินอาย
แต่ไม่อาจซ่อนใบหูทีแดงขึนมาอย่างเห็นได้ชดั ซําเมือ
ชะโงกหน้ามองไปทีพืน ก็พบหลักฐานทีฝากฝังเอาไว้ใน
กายหยดไล่มาตามทาง

นําร้อนอุณหภูมิพอเหมาะ แม้จะแสบรอยเล็บบนหลัง

บาดแผลภายนอกเล็กน้อย อารมณ์ความรูส้ กึ ล้วน


สําคัญกว่า

เฉินลูป่ ิ นนําผ้าขาวชุบนําร้อนขัดหลัง บีบไหล่นวดตัวให้

119
คนตรงหน้าได้ผอ่ นคลาย เฉินเหวินเค่อมีสีหน้าพึงพอใจ
สบายตัวจนเผลอไผลเอนกายไปผิงอกคนด้านหลัง

ตอนอยูช่ ายแดน ความสุขสบายแบบนีหาไม่เจอสัมผัส


แทบไม่ได้ ภาระทีแบกอยูบ่ นบ่า ผูใ้ ดเล่าจะเข้าใจ

เวลาล่วงผ่านไปพอสมควรแล้ว

เฉินเหวินเค่อจึงตัดสินใจผุดกายลุกขึน แต่ก็ถกู ดึงรังเอา


ไว้

“ถ้าปล่อยทิงเอาไว้ขา้ งในเดียวจะปวดท้องเอา อยูน่ ิงๆ“

120
ตอนแรกเขายังไม่คอ่ ยเข้าใจนัก กระทังถูกนิวสอดแทรก
คว้านเข้ามาในกาย ฝ่ ามือก็ไปไวกว่าสมอง ทําไปโดย
สัญชาตญาณ แต่ก็โดนหยุดได้อยูด่ ี ซําร้ายยังเปิ ดโอกาส
ให้อีกฝายฉุดกระชากเข้าไปใกล้กนั ยิงกว่าเดิม

สองบุรุษเปลือยกายแนบชิดกันในอ่างนํา จะบอกว่าไม่
เกิดอันใดขึนนับว่าโกหกสวรรค์

ริมฝี ปากกดลงไปบนยอดอกลากไล้ไปจนถึงปลายคางที
เชิดขึน เฉินเหวินเค่ออยากจะขัดขืนนัก แต่ปลายนิวที
ขยับอยูอ่ ย่างชํานาญ ล่วงรูท้ กุ จุดสําคัญผ่านการเรียนรู ้
อย่างหนักในหนึงคําคืน เฉินลูป่ ิ นทราบทุกจุดทีจะทําให้
หวางเฟยของตัวเองสันสะท้านดี

121
คูร่ กั ชูช้ ืนร่วมอาบนําดุจดังยวนยาง[1] บ่าวไพร่ตา่ งปิ ดหู
แสร้งมิได้ยินเสียงใดเล็ดลอดออกมา

เฉินอันหวางช่างน่าสงสารนัก โดนรังแกมิได้หยุดพักเช่น
นี น่าเห็นใจ...น่าเห็นใจ

122
อาหารเลิศรสมากมายละลานตา แต่เฉินลูป่ ิ นกลับคีบ
น้อยนัก ด้วยสีหน้าเปี ยมสุขราวกับอิมทิพย์ ชวนให้อยาก
จะเอาเล็บตะกุยหน้าให้เสียโฉม

ปลายยามอู่ (11.00 – 12.59 น.) ไม่เรียกว่ามือเช้า แต่


นับเป็ นมือแรกทีตกถึงท้อง ก่อนหน้านีได้ ‘กิน’ มานิด
หน่อย ก็อิมอกอิมใจเสียจนไม่คอ่ ยเจริญอาหาร ผิดกลับ
หวางเฟยทีตังหน้าตังตากวาดทุกอย่างเข้าปาก ด้วยท่วง
ท่าสูงส่งโดยทีความเร็วไม่ตกลงเลยแม้แต่นอ้ ย

เวลาไม่คอยท่า...หลังจากรีบเร่งจบมืออาหาร บ่าวสาว
หมาดๆ ก็ตอ้ งเดินทางกลับไปยังฉางซี คนของจวน
เว่ยหวางรูห้ น้าทีไม่เปลียน ถึงตอนนีเฉินเหวินเค่อจะ
123
กลายเป็ นเฉินอันหวางเฟยแล้ว แต่บริวารทุกคนก็จดั
เตรียมรถม้าพร้อมเสร็จสรรพ นอบน้อมส่งเสด็จอย่าง
แข็งขัน

ถึงเหตุผลจริงๆ จะทําไปเพราะหวังถนอมเฉินอันหวา
งแทนเจ้านายของตนทีไม่ยอมอ่อนโยนกับสามีในนาม
ของตัวเองเลยแม้แต่นอ้ ย

นังรถม้ามีแต่จะชักช้า ทังยังต้องหยุดพักบ่อยกว่า อย่าง


ไรก็ไม่ได้มีทรัพย์สนิ มีคา่ มากมายทีจะขนไปทีฉางซี เฉิน
เหวินเค่อจึงตัดสินใจจูงอาชาคูใ่ จล่วงหน้าไปก่อน ส่วน
ข้าวของก็หนีบเสือผ้าส่วนใหญ่ติดมือไป ทีเหลือค่อยให้
ขนตามมาทีหลัง

124
“เจ้าจะขีม้าไปกับข้า หรือจะนังรถม้าตามไปทีหลัง” เฉิน
เหวินเค่อหันไปถามอย่างคนพึงนึกขึนได้

เฉินลูป่ ิ นมีสีหน้าลําบากใจ “ข้าขีม้าไม่เก่งเท่าท่าน แต่ก็


ไม่อยากโดนทิงให้ตามไปทีหลัง ขอข้าไปกับท่านได้หรือ
ไม่”

เฉินเหวินเค่อไม่คอ่ ยอยากจะเชือคนปลินปล้อนหน้ายิม
สักเท่าใดนัก แต่คิดดูอีกทีก็สมเหตุสมผล ตลอดหนึง
เดือนทีอยูร่ ว่ มจวน เฉินลูป่ ิ นใช้เวลาส่วนมากจัดการงาน
เอกสาร นังจดจ่ออยูแ่ บบนัน นานๆ ทีถงึ จะลุกขึนมายืด
เส้นยืดสาย จะว่าไม่คอ่ ยแปลกใจก็ได้ ความจริงน่า

125
ตกใจทียังขีม้าเป็ นมากกว่า

ฝ่ ามือหยาบกร้านส่งมือดึงเฉินลูป่ ิ นขึนมานังอยูด่ า้ นหน้า


จัดการมัดผมยาวๆ ทีอาจก่อปั ญหาให้เรียบร้อย ขณะ
เอือมมือไปแตะเส้นผมของตัวเอง เฉินเหวินเค่อจึงพึงนึก
ขึนมาได้วา่ ตอนนีเขานับเป็ นบุรุษทีแต่งงานแล้ว....ใน
ฐานะภรรยาแต่งเข้า

กวานทีบ่งบอกฐานะสูงศักดิจึงแปรเปลียนไปเป็ นปิ นคู่


ปั กอยูก่ ลางมวยผม โชคดีทีถึงจะอยูใ่ นฐานะหวางเฟย
แต่การทีเขาเป็ นผูช้ ายการประโคมปิ นลงบนศีรษะเพือให้
สมฐานะสามารถละเว้นได้ เพียงแค่ยามออกงานสําคัญ
ต้องเพิมสร้อยรัดหน้าผาก หรือไม่ก็ตอ้ งแต้มจินเตียน[2]
เป็ นสัญลักษณ์มงคล ซึงส่วนมากมักจะวาดเป็ นลวด
126
ลายบุปผาเช่นเดียวกับสตรี

บุรุษนังเบียดกันบนหลังม้านับว่าอึดอัดพอดู แต่แค่นีใช่
ว่าจะทนไม่ได้

เฉินลูป่ ิ นโบกพัดจีบในมือเบาๆ พลางเอนกายซบแผ่นอก


แข็ง ความจริงแล้วเขาใช่วา่ จะไร้ฝีมือจนควบอาชาตาม
ไม่ทนั เพียงแต่หากต้องทิงช่วงเวลาได้ใกล้ชิดภรรยา
ยอมทนเป็ นบุรุษอ่อนแอเสียหน่อยก็ไม่เห็นเป็ นไร

คนเราแข็งแกร่งแค่บางสถานการณ์ก็พอแล้ว

.
127
.

“เหนียงเหนียง...องค์ชายใหญ่ทรงเดินทางออกจาก
เทียนเฉินแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“อืม...เจ้าไปทําอย่างอืนเถอะ”

128
ขันทีชราผูต้ ิดตามรับใช้มีแววตาไม่ยินยอม แต่เมือฮุ่ย
เฟยปรายสายตาเย็นมา ก็จาํ ต้องประสานมือทูลลา ทิง
ให้แผ่นหลังโดดเดียวนังอยูก่ ลางสวนเงียบเหงาเพียง
ลําพัง

“ฝ่ าบาทจะทรงยืนอยูต่ รงนันไปจนถึงเมือไหร่หรือพ่ะย่ะ


ค่ะ”

สินคํากล่าวบุรุษทีดูชราไปมากนับจากครังสุดท้ายทีได้
พบ ก็กา้ วออกมายืนอยูเ่ บืองหน้า

จักรพรรดิทอดพระเนตรมองฮุ่ยเฟยของเขาทียังคงนังจิบ
ชานิงเฉย ไม่ได้เชือเชิญให้นงลง
ั หรือคํานับนบนอบรับ

129
เสด็จ

ไม่วา่ จะผ่านมากีปี ....หร่วนจูอีผูน้ ีก็เป็ นเพียงผูเ้ ดียวที


สามารถกระทํากิรยิ าเช่นนีกับเขาได้จริงๆ

“จูเอ๋อร์....” เห็นอีกฝ่ ายชะงักมือทีกําลังรินนําชาให้ แม้


เพียงครูเ่ ดียวก็ไม่อาจหลบสายตาทีจับจ้องอยูต่ ลอดได้
“เจ้ายังโกรธข้าเหมือนเมือตอนนันหรือเปล่า”

ตอนทีเจ้าไม่ยินยอมแต่งเข้าตําหนักบูรพาเพือเป็ นเช่อ
เฟย ตอนทีถูกทําลายความฝันเพือให้บิดาและพีชายได้
มาซึงอํานาจ ตอนทีต้องถูกล่ามตรวนเอาไว้ในกรงทอง
ดังปั กษางามทีโดนเด็ดปี ก และตอนทีเขาไม่สามารถปก

130
ป้องลูกชายอีกคนของเราได้

“ฝ่ าบาท...” ช่างใจชัวครู ่ ก่อนจะเปลียนคําเรียกขาน “...


หยางเหยียน”

แค่นามหนึง ทว่าหัวใจกลับกระตุกวูบ ดังภูผายิงใหญ่ที


พังทลายได้เพียงหนึงสายลมพัดผ่าน ระหว่างหร่วนจูอี
กับเฉินหยางเหยียนมีกาํ แพงของ ‘จักรพรรดิ’ และ ‘พระ
สนม’ กันกลางมาสามสิบปี นบั ตังแต่ขนครองราชย์

“ข้าเกลียดสกุลหร่วน”

“ข้ารู”้
131
“ข้าเกลียดวังหลัง”

“ข้ารู”้

“แต่ขา้ ไม่เคยเกลียดตัวเองทีเกิดมาเป็ นหร่วนจูอี...”

ปรารถนาชีวิตเรียบง่ายท่ามกลางขุนเขา ใช่วา่ หร่วนจูอี


จะไม่เคยคิด เพียงแต่หากไม่มีซงลาภยศและบรรดาศั
ึ กดิ
มิรูว้ า่ หนึงชีวิตจะได้มีโอกาสพบกับไท่จือผูส้ งู ศักดิหรือไม่

“ข้ามิใช่หญิงงามวังหลังทีจะมานังตรอมใจเพราะท่านไม่
ยอมไปหา หยางเหยียนท่านรูจ้ กั ข้า และข้าก็รูจ้ กั ท่าน
132
สิงใดทีท่านทําข้าล้วนเข้าใจ” หร่วนจูอีทอดสายตามอง
ไปไกล ไร้ซงความโดดเดี
ึ ยวในแววตา “ข้าเตรียมใจมา
เนินนานแล้ว”

หนทางของจักรพรรดิ เส้นทางของพระสนม หร่วนจูอี


มองเห็นปลายทางมาตังแต่เหยียบเข้าตําหนักบูรพา
เพียงแต่สงเดี
ิ ยวทีไม่คาดคิด คือหัวใจจะถูกช่วงชิงไป
ด้วย

“เฉินอันหวางผูน้ นคื
ั อคนทีฝ่ าบาทไว้ใจใช่หรือไม่”

แค่เพียงได้รบั การพยักหน้าเป็ นคําตอบ....ก็พอใจแล้ว

133
เดิมทีหร่วนจูอีไม่สนว่าตัวเองจะเป็ นหรือตาย ขอเพียงเห
วินเค่อสามารถมีชีวิตต่อไป ถึงสกุลหร่วนจะลากเขาไป
ตายด้วย เขาก็จะยินดีกา้ วตามไป

เพียงแต่คาดไม่ถงึ ....ว่าคําพูดทีเป็ นไปไม่ได้ในอดีตนัน


สัญญาปากเปล่าทีแสนเลือนราง จนแม้แต่เขาเองยังลืม
เลือน ใครบางคนยังยึดถือ ใครบางคนยังทําตาม ไม่
บิดพลิว

‘หากท่านโปรดข้ามากเกินไปสกุลหร่วนก็ยงได้
ิ อาํ นาจ
หากไม่โปรดสกุลหร่วนก็กระด้างกระเดือง อะไรๆ ล้วน
หมุนรอบสกุลหร่วน สมดุลราชสํานักเอนเอียง อย่างไร
เสียสักวันท่านก็ตอ้ งลงมือจัดระเบียบ ความตายมา
กองอยูต่ รงหน้า จะตายเร็วตายช้าล้วนตายเหมือนกัน มิ
134
สูท้ า่ นประหารข้าไปตังแต่เนินๆ อืม...โทษฐานลอบวาง
ยาไท่จือเฟยดีหรือไม่’

‘คนตายอยากกลับมาอยูก่ บั คนเป็ น ทว่าคนเป็ นกลับ


ปรารถนาทีจะตาย ไม่ละอายต่อฟ้าดินบ้างหรือเจ้า’ เฉิน
หยางเหยียนส่ายหน้า อ่อนใจกับเช่อเฟยของเขายิงนัก
‘ช่างเถิด ต่อให้เจ้าเอาดาบมาฟั นข้า หรือจะทําสิงใด ข้า
จะปกป้องเจ้าเอง’

‘สัญญาจากจักรพรรดิลว้ นยึดถือไม่ได้’

‘แต่ขา้ ยังไม่ได้เป็ นจักรพรรดิ....ตราบใดทีดอกหลี[3]ยัง


บาน ข้าไม่มีวนั ลืมสัญญา’

135
อากาศเย็นขึน อีกไม่นานใบเฟิ ง[4]ก็จะเปลียนสี ถ้วยชา
ร้อนสะท้อนมายังผิวกาย ดวงตายังมองเห็นสีสนั ของโลก
หล้า หร่วนจูอีในตอนนียังมีลมหายใจ

หลีหมายถึงพรากจาก...ผูค้ นล้วนไม่อยากเฉียดกลาย
เข้าใกล้ไม้งามทีมีความหมายอัปมงคล โดยเฉพาะ
ตําหนักเย็น....ต่างรายล้อมด้วยต้นหลี แม้แต่ตรงโต๊ะหิน
อ่อนทีเขากําลังนัง...ก็อยูใ่ ต้ตน้ หลี

หร่วนจูอีสบตากับคนตรงหน้า รอยยิมทีหาได้ยากยิง
กําลังแย้มพราย “ดอกหลีบานแล้ว...”

136
เมือเงยหน้าขึนไปมองยังกิงก้าน สีขาวของดอกหลีดอก
เล็กๆ กําลังผลิบานอย่างเชืองช้า อาจจะใช้เวลานานสัก
หน่อยจนกว่าจะงามสะพรัง

แต่วา่ ....

“...อืม บานแล้ว”

137
ไม่ๆ พวกเจ้ากําลังเข้าใจผิด 555

คูท่ า่ นพ่อกับท่านแม่ เรามีแพลนเขียนตอนพิเศษอยูน่ ะ


คะ :)

ข้อมูลเพิมเติม

[1] ยวนยาง 鸳鸯 Yuānyāng คือ นกเป็ ดนําแมนดา

138
ริน เนืองจากเป็ นสัตว์รกั เดียวใจเดียว ถ้าคูข่ องตนตาย
จากไป นกเป็ ดนําจะตรอมใจตายตาม ไม่ยอมมีครู่ กั
ใหม่ ... คนจีนจึงใช้ยวนยางเป็ นสัญลักษณ์แทนรักแท้

[2] จินเตียน ( 金钿) หรือ ฮวาเตียน (花钿) เป็ น


การวาดลวดลายดอกไม้ลงบนหน้าผากของสาวๆ ใน
สมัยราชวงศ์ถงั

[3]ดอกหลี : ดอกสาลี

[4]ใบเฟิ ง/ต้นเฟิ ง : ต้นเมเปิ ล

139
ตอนที ๑๖ หน้าทีของหวางเฟย

ผูค้ นล้วนชมชอบเรืองซุบซิบ โดยเฉพาะเรืองของผูอ้ ืนไม่

140
ว่าจะชนชันใด ฉะนันการทีเฉินเหวินเค่อควบม้าผ่านปวง
ประชาทีจับจ้องมาทีพวกเขาตาเป็ นมัน ปฏิกิรยิ าแรกคือ
เลิกคิวแปลกใจเล็กน้อย นอกนันทุกอย่างบนใบหน้าก็
ราบเรียบเฉยชา มีแค่เฉินลูป่ ิ นทียกพัดปิ ดหน้าเอียงอาย

เฉินอันหวางคือผูป้ กครองฉางซี มีกิตติศพั ท์ดา้ นชายงาม


ติดอันดับ หากให้ลองยกตัวอย่างย่อมมีชืออยู่ แต่ก็นอ้ ย
คนนักทีเคยได้พบหน้า

มาวันนีคําลําลือต่างๆ ล้วนไม่โป้ปด ต้นตอของฉายาฉาง


เอ๋อหวาง ผูเ้ คยเห็นหน้าค่าตาของหวางเย่ผปู้ กครองฉาง
ซีตา่ งตบเข่าฉาด ยืดอกอวดกับคนด้านข้าง...เห็นไหมข้า
บอกแล้ว!

141
ความน่าเกรงขามของแม่ทพั เลือดมิผิดจากทีได้ยินเช่น
กัน ถึงขนาดปั กปิ นบ่งบอกฐานะหวางเฟย แต่ยามองค์
ชายใหญ่จบั มือประคองเฉินอันหวางลงจากหลังม้า ภาพ
วีรบุรุษกับภรรยาผูง้ ดงามช่างเหมาะสมราวคูฟ่ า้
ประทาน

นอกจากเทพเซียนบนสวรรค์ มีเพียงพวกเขาเท่านันที
ล่วงรูว้ า่ ในห้องหอเกิดอะไรขึนบ้าง เฉินลูป่ ิ นได้แต่
หัวเราะอยูใ่ นใจ เรืองแบบนีพูดความจริงไปก็ไม่มีใคร
เชือ ปล่อยให้เวลาเป็ นเครืองพิสจู น์ดีกว่า ว่าสุดท้ายแล้ว
ใครจะเป็ นฝ่ ายให้กาํ เนิดทายาท

142
.

หนึงเดือนเป็ นแค่ผรู้ ว่ มอาศัย แต่นบั จากนีไปคือตลอด


ชีวิต ในจวนเฉินอันมีอยูท่ ีหนึงทีเฉินเหวินเค่อไม่เคยเข้า
ไป ถ้าพูดให้ถกู ก็คือเข้าไปไม่ได้มากกว่า

143
สวนดอกไม้หลังบ้านเปรียบดังวังหลังของเหล่าขุนนาง

เมือก่อนจวนเฉินอันไม่มีนายหญิง แม้แต่เช่อเฟยก็ไม่มี
คนคอยดูแลทุกอย่างจึงมีแค่ขนั ทีแซ่วา่ น ร่วมกับพ่อบ้าน
เหมาทีปกครองฝังหน้าของจวน

พอเฉินเหวินเค่อแต่งเข้ามาในฐานะหวางเฟย หน้าทีน่า
รําคาญถึงได้ปลิวมาวางไว้แนบตักโดยไม่ได้รอ้ งขอ

เขาเองก็เคยมีอนุเช่นกัน แต่ก็ได้มาจากการโดนยัดเยียด

วิธีแก้ปัญหาเรียบง่าย แค่เปิ ดประตูจวนต้อนรับ แล้วหนี


กลับชายแดน
144
ตามธรรมเนียมของแผ่นดินเสวียนเฉิน หากบุรุษทีแต่ง
งานในฐานะภรรยามีอนุ อนุเหล่านันก็จะได้รบั อนุญาต
ให้กลับบ้านเดิม หรือจะเลือกติดตามมาบ้านสามีใน
ฐานะคนรับใช้สว่ นตัวด้วยก็ได้ ซึงอนุของเขาส่วนใหญ่
พอทราบข่าวก็ดีใจจนนําตาไหลพราก แน่นอนว่าไม่มี
ใครติดตามมาสักคนเดียว

ว่านกงกงแจกแจงรายชืออนุของเฉินลูป่ ิ นทียาวเป็ นหาง


ว่าว เมืองท่าฉางซีโดดเด่นด้านการค้าขาย โดยเฉพาะ
กับคนต่างเชือชาติ จึงไม่แปลกหากอยากเชือมความ
สัมพันธ์มกั จะยัดบุตรหรือบุตรีเข้าจวนมาสักคนสองคน

“หวางเฟยมิตอ้ งเป็ นกังวล ปกติหวางเย่ไม่เคยเข้ามาที


145
หลังจวน”

เฉินเหวินเค่อกรอกตา ทําไมจะต้องเป็ นกังวล

เรือนหลักของสวนหลังบ้านเป็ นทีพํานักของหวางเฟย
ทุกเช้าเหล่าอนุภรรยาต้องมายกนําชาทําความเคารพผู้
เป็ นใหญ่ทีสุดในเรือนหลัง แค่คิดก็รูส้ กึ ยุง่ ยากน่ารําคาญ
แถมวันนีเข้าจวนมาวันแรก แน่นอนว่าอีกไม่นานจะต้อง
มีอนุวิงแจ้นมาเสนอหน้าทําความเคารพ

“ปกติพวกอนุก็สงบเสงียมดี มีแค่บางคนทีค่อนข้างจะ
เรืองมากเรืองข้าวของเครืองใช้กบั อาหารการกิน จึงรับ
มือยากสักหน่อย”

146
ว่านกงกงระมัดระวังในวาจาของตนมาก ทังยังลอบ
สังเกตปฏิกิรยิ าหวางเฟยอยูต่ ลอด พบว่านอกจากสี
หน้าทีแสดงออกถึงความรําคาญเข้าขันวิกฤต ก็ไม่ได้มี
อาการไม่พอใจอะไร

หลังจากอัญเชิญหวางเฟยเข้าสูเ่ รือนหลังได้ ว่านกงกงก็


ประสานมือทูลลา ทิงเฉินเหวินเค่อไว้กบั เหล่าขันทีหน้า
ละอ่อนซึงคุน้ หน้าคุน้ ตากันดี

พวกขันทีทีเขาทิงไว้ให้ดแู ลหลังจวนของเขา มาตอนนี


กลับกลายเป็ นว่าต้องมาตามดูแลเขาแทน

147
การมีนายหญิงของจวนเป็ นบุรุษ คนติดตามรับใช้ใกล้
ชิดส่วนใหญ่จะเป็ นขันที มีนางกํานัลแค่ไม่กีคน รวมถึง
ขันทีทกุ คนจะต้องดืมยาเพือไม่ให้ตนเองตังครรภ์ได้

“หวางเย่...เอ่อ...หวางเฟย”

ขันทีนอ้ ยคนหนึงเป็ นหน่วยกล้าตายเดินเข้ามา ถึงจะ


เอ่ยเรียกผิดไปบ้าง แต่เห็นว่าเจ้านายของตนไม่ได้มีทีทา่
จะกลายร่างถล่มจวนก็คอ่ ยๆ ผ่อนคลายความกังวลลง
แม้ในใจจะนึกสาปแช่งว่านกงกง ขันทีอาวุโสทีทิงหน้าที
โกยแนบหายหัวไปแล้วก็ตาม

“หวางเฟย” พึงจะโดนด่ากราดยังโคตรบรรพบุรุษ

148
ว่านกงกงก็โผล่หน้าเข้ามา “เหล่าอนุภรรยาทังหลายมี
ประสงค์ขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”

มุมปากของเฉินเหวินเค่อกระตุก ตัวน่ารําคาญ...มีแค่
เฉินลูป่ ิ นคนเดียวไม่เพียงพอหรือ

“ให้เข้ามา”

149
.

บุรุษหน้าหยกผูม้ ีกลินอายสูงส่งดุจดังบัณฑิตผูช้ าญ
ฉลาดเป็ นทีนิยมชมชอบกันในหมูส่ ตรี รวมทังในหมูบ่ รุ ุษ
ด้วยกันเอง แรกพบของเหล่าอนุกบั เฉินอันหวาง เพียง
สบตาก็สามารถก่อกําเนิดรักแรกพบ พอได้ยินว่าเรือน
หลักของหลังจวนมีผคู้ รอบครอง ไฟริษยาในอกก็พงุ่
พล่านจนลุกไหม้ โอกาสจะปี นป่ ายขึนเตียงของหวางเย่
ยกระดับสถานะของตนปลิวหายไปในพริบตา

เหล่าอนุทงหลายมาดมั
ั นว่าจะขอยลโฉมหวางเฟยเสีย
หน่อย ว่าหนังหน้าจะดีไปกว่าพวกตนหรือไม่ อารมณ์
อิจฉาพุง่ ขึนตาจนลืมเลือนไปว่าสถานะทีแท้จริงของหวา
งเฟย คือแม่ทพั เลือดทีเชือดคนตาไม่กระพริบ
150
ความหยิงผยองยามได้พบกับบุรุษผูม้ ีกลินอายโลหิต
ล้อมรอบกาย อนุใจกล้าทังหลายต่างคอหดกันถ้วนหน้า

ยามดวงตาคูค่ มสีขีเถ้าสีเดียวกับดวงตาของหวางเย่
กวาดมองมา หัวใจพลันเต้นกระหนําอย่างน่าประหลาด
คละเคล้าความหวาดกลัวอย่างขลาดเขลากับอีกห้วง
อารมณ์พิศวงหนึงทีซุกซ่อนอย่างแยบยล

หวางเฟยมิใช่ชายงาม ตรงกันข้ามพระองค์เป็ นบุรุษยอด


นักรบ ใบหน้าสง่างามหล่อเหลา แม้ผิวกายจะไม่ขาว
ผ่องผุดผาดตามคุณลักษณะของบุรุษหน้าหยก แต่ความ
กร้านแดดนันก็ชวนเร่าร้อนวูบวาบ

151
ชายหนุ่มผูอ้ อ่ นโยนอาจจะมีคนชมชอบมากกว่า ทว่า
ลึกๆ แล้วมนุษย์ลว้ นมีสญ
ั ชาตญาณความดิบเถือนซุก
ซ่อนอยู่ รูปลักษณ์ของหวางเฟยนันช่างชวนให้
จินตนาการถึงกิจกรรมพลิกผ้าห่มอันร้อนแรง และคําคืน
ทีชวนวาบหวานจนสะท้านไปทังกาย

เฉินเหวินเค่อแปลกใจกับการเปลียนท่าทีของเหล่าอนุ
ภรรยา ตอนแรกยังเชิดหน้าจนกลัวคอเคล็ด มาบัดนีต่าง
คนต่างยกมือทัดผม ดันอกทําความเคารพด้วยท่วงท่า
อ่อนหวานชดช้อย

“คาราวะหวางเฟยเพคะ/พ่ะย่ะค่ะ”

152
“ลุกขึนเถอะ”

สินประโยคเหล่าอนุก็ถลามาบีบนวดตัว ยกนําชาล้อม
รอบกายกันถ้วนหน้า เฉินเหวินเค่อสมองมึนงง ปกติเคย
เจอแต่คนพุง่ เข้าหาหมายจะปลิดชีพ ไม่ก็หลบหน้าหลบ
ตากลัวจนหัวหด ไม่เคยเจอเหตุการณ์โดนห้อมล้อมเอา
อกเอาใจแบบนีมาก่อน

“หวางเฟยโปรดสิงใดเป็ นพิเศษหรือไม่ หม่อมฉันทําครัว


ฝี มือดีทีสุด หากหวางเฟยต้องการเสวยสิงใด โปรดเรียก
ใช้หม่อมฉันได้เลยเพคะ!”

153
“ไม่...คือ...”

“หวางเฟยทรงปวดเมือยตรงไหนหรือไม่ กระหม่อมมี
ความรูเ้ รืองการนวดติดตัวมาบ้าง ขอเพียงหวางเฟยต้อง
การ กระหม่อมพร้อมรับใช้พะ่ ย่ะค่ะ!”

กรีฑาทัพปราบศึกในสนามรบมาสิบปี ความรูส้ กึ อยาก


จะวิงหนีไปให้ไกลๆ พึงจะได้รูจ้ กั ก็วนั นี

เฉินเหวินเค่อยืดตัวตรงกระแอมไอขึงขัง เอ่ยแทรกความ
วุน่ วาย ถือโอกาสพุดความตังใจของตัวเองออกไปอย่าง
ตรงไปตรงมา

154
“เรืองการมาเข้าเฝ้าช่วงเช้าไม่ตอ้ ง---“

“กระหม่อม/หม่อมฉันจะมาให้ตรงเวลา จะมิทาํ ให้หวา


งเฟยต้องผิดหวัง!”

เฉินเหวินเค่อพลันรูส้ กึ หน้ามืด ปากเตรียมปฏิเสธให้รู ้


แล้วรูร้ อด แต่พอสบกับดวงตาใสกระจ่างของเหล่าอนุคน
งามทังหลายก็ทนหักหาญนําใจไม่ลง สุดท้ายก็ได้แต่
โบกมือไล่ขออยูค่ นเดียวเพราะต้องการความสงบ

บ่าวไพร่ปิดปากเงียบ แต่สายตาสอดส่ายกระพริบตาส่ง
สัญญาณกันยิกๆ จากขันทีผแู้ สนสงบเสงียมแห่งจวน
เว่ยหวาง ยามมาอยูใ่ ต้อาณัติของจวนเฉินอันต่างติดเชือ

155
ความสอดรูส้ อดเห็นเข้าไปเต็มๆ

ข้ารับใช้ภายในจวนต่างลงพนันกันว่า สุดท้ายแล้วหวา
งเฟยจะทรงโปรดใครมากกว่ากัน ระหว่างหวางเย่และ
เหล่าอนุผทู้ า้ ชิง

เฉินลูป่ ิ นทีทราบเรืองถึงกับหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้

นีเขากําลังโดนอนุของตัวเองสวมหมวกเขียว[1]ให้อยู่
หรือ...

156
.

“นีอะไร?” เฉินเหวินเค่อดันถ้วยนําแกงออกไป ด้วยสาย


ตาไม่ไว้ใจอย่างยิง

“ก็นาแกงบํ
ํ ารุงกําลังอย่างไรเล่า ข้าคิดว่าท่านน่าจะ
เพลีย”

เฉินลูป่ ิ นตอบนิงๆ ขณะสายตายังจดจ่อกับม้วนกระดาษ


และเอกสารมากมายในมือ

157
แล้วทําไมถึงต้องขนมาทําทีเรือนข้าด้วย?

เฉินลูป่ ิ นหัวเราะสองเสียง “ข้าไม่วางยาท่านหรอก คงมี


แต่ทา่ นเท่านันแหละทีคิดอกุศลเช่นนัน”

เฉินเหวินเค่อแค่นเสียงเหอะ กลินหอมหวนลอยกระทบ
จมูก ลอบกลืนนําลายหลายครัง สุดท้ายก็ตดั สินใจหยิบ
ช้อนขึนมา รสชาติกลมกล่อมชวนให้ผอ่ นคลาย อุณหภูมิ
ก็พอเหมาะ ยามนําแกงไหลผ่านคอก็อนุ่ วาบไปทัวทัง
ท้อง

เฉินลูป่ ิ นเห็นอีกฝ่ ายมีสีหน้าอ่อนลงก็ลอบยิม เมือเช้าเขา


เชิญท่านหมอผูห้ นึงมาทีจวน เพือสอบถามเรืองทายาท

158
แม้ตอนแรกจะได้ขอ้ แนะนําว่าเขายังหนุ่มแน่น ไม่ตอ้ ง
รีบร้อน...แต่พออธิบายอย่างละเอียดก็ได้สายตากํากึง
ระหว่างไม่เชือกับประหลาดใจ ราวได้พบเรืองมหัศจรรย์

บุรุษยิงอายุมากยิงมีลกู ยาก นอกจากพึงฟ้าดินเบืองบน


และเอาความขยันเข้าสู้ ก็ตอ้ งใช้ตวั ช่วยอย่างสมุนไพร
บํารุง เคียวรวมกับนําแกงอะไรก็ได้ดืมทุกวันก่อนนอน
แต่ถา้ อยากให้ได้ผลเร็วก็ตอ้ งเพิมเช้ากลางวันเย็นก่อน
มืออาหารด้วย

จรดปลายพูก่ นั ลงบนแผ่นสุดท้ายก็ยืดกายไล่ความ
เหนือยล้า เฉินลูป่ ิ นยิมอย่างสุขใจเมือเห็นใครบางคน
เอนกายงีบหลับอยูบ่ นตังยาว ไม่ยอมไปนอนทีเตียงดีๆ

159
คนงามแนบริมฝี ปากไปตรงหว่างคิว ปลดปิ นปล่อยเรือน
ผมสีนาหมึ
ํ กเข้มสยายเต็มแผ่นหลัง....ผูเ้ ดียวทีสามารถ
เห็นภรรยาปล่อยผมได้มีเพียงแค่สามี

เฉินลูป่ ิ นอยากอุม้ อีกฝ่ ายไปทีเตียง ติดอยูท่ ีว่า...

“เหวินเกอท่านตืนก่อน ข้าอุม้ ท่านไม่ไหว”

เฉินเหวินเค่อโดนเขย่าปลุกก็อา้ ปากหาว เพราะหลับลึก


ไปแล้วเลยค่อนข้างงัวเงีย ขนาดโดนปลดอาภรณ์ก็ยงั อยู่
นิงๆ ให้ความร่วมมือแต่โดยดี

160
ในนําแกงบํารุงไม่ได้ใส่ยาปลุกก็จริง แต่แค่สมุนไพรทีมี
ฤทธิคล้ายยานอนหลับแบบอ่อนๆ มันก็อีกเรืองหนึง

ในมุมมองของเฉินเหวินเค่อทุกสิงทุกอย่างลอยฟุง้ ราว
กับกําลังกระโดดอยูบ่ นเมฆ โดยเฉพาะแผ่นหลังทีสัมผัส
กับความนุ่มนิม สิงเดียวทีดึงสติเขาเอาไว้คือความรูส้ กึ
ร้อนวูบวาบ และสัมผัสเปี ยกชืนจากอะไรสักอย่างทีคุน้
เคยแต่กลับนึกไม่ออก

เฉินลูป่ ิ นตีตราความเป็ นเจ้าของ เน้นยําตรงจุดทีเห็นได้


ง่ายเป็ นพิเศษ

“อือ...ลูป่ ิ น เจ้ากําลัง...ทํา...อะไร” นําเสียงขาดๆ หายๆ

161
ทังยังอ่อนแรงจวนเจียนจะหลับ

เฉินลูป่ ิ นคว้ามือของอีกฝ่ าย แนบริมฝี ปากลงไปตรงหลัง


มือ

“เหวินเกอท่านอยากได้ลกู ชายหรือลูกสาวดี”

“เจ้านี...พูดจาไร้สาระ...”

“ไม่ไร้สาระเสียหน่อย” ท่านชายรูปงามกล่าวเคล้าเสียง
หัวเราะ

คืนนันเฉินเหวินเค่อฝันประหลาด แม้ภาพจะเลือนราง
162
แต่ก็ยงั จําสายตาร้อนแรงของเฉินลูป่ ิ นได้ชดั เจน จําอ้อม
แขนทีกอดก่ายชุ่มไปด้วยเหงือ จําเสียงครวญครางที
กระซิบอยูท่ ีข้างหู เหนือสิงอืนใดคือความรูส้ กึ ดียากจะ
ยอมรับเอ่อล้นเข้ามาภายใน

จนกระทังรุง่ สางเขาจึงพบว่า...ความฝันบัดซบเมือคืน
มันคือเรืองจริง!

แม่ทพั ผูแ้ ข็งแกร่งตัวสันเทิมด้วยความโกรธ ดึงผ้าห่มมา


ปิ ดกาย สายตาเชือดเฉือนอยากฆ่าคนจดจ้องไปยังตัว
ต้นเหตุทียืนกางแขนให้เหล่าข้ารับใช้ช่วยแต่งตัว

“เหวินเกอท่านนอนต่อเถอะ เรืองเข้าเฝ้าตอนเช้าข้าสัง

163
ให้ยกเลิกไปแล้ว” ตรวจสอบว่าอาภรณ์บนร่างเรียบร้อย
ดี เฉินลูป่ ิ นก็กา้ วเท้าไปหาเฉินเหวินเค่อทีแทบจะ
กระโดดมาเตะก้านคออยูร่ อมร่อ

“เจ้านีมัน!” เฉินเหวินเค่อฮึดฮัด อยากจับคออีกฝ่ ายมา


เขย่าแทบตาย ถ้าไม่ติดว่าทุกครังทีขยับ บางอย่างจะ
ไหลย้อนกลับออกมานอกร่างกายจนไม่กล้าขยับตัว
มาก...เฉินลูป่ ิ นข้าไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้แน่!

ยิงตกอยูท่ า่ มกลางสายตาทีทําเป็ นมองไม่เห็นของเหล่า


บ่าวไพร่ อารมณ์โมโหก็พงุ่ ปรีด เฉินเหวินเค่อถูกดึงไป
จุมพิตอย่างรักใคร่ แต่เขาก็สะบัดหน้าหนี โดนเล่นเล่ห ์
ใส่เช่นนี ผูใ้ ดจะสงบอารมณ์ได้

164
เฉินลูป่ ิ นแย้มยิมบางแล้วเอ่ยว่า “กลางวันนีข้าจะมากิน
ข้าวด้วย” จากนันก็หยิบปลายผมของเฉินเหวินเค่อขึน
มา จรดริมฝี ปากลงไปอย่างอาลัย

ขันทีรบั ใช้เห็นหวางเย่ก่อนเดินออกจากห้องหันมามอง
ส่งทิงท้าย ขณะทีหวางเฟยยกมือปิ ดปากไม่ได้หนั มา
ตวาดหรือคว้าแจกันขว้างใส่

ในห้องทีความเงียบเข้าโรยตัว บุรุษผูห้ นึงพยายามหัก


ห้ามเสียงหัวใจของตนเอง ด้วยใบหน้าทีเห่อร้อนอย่าง
สุดความสามารถ

165
.

แสงเทียนถูกจุด ณ ตําหนักทีถูกทิงร้าง หยากไย่และฝุ่ น


จับตัวหนาเป็ นนิว กลุม่ คนทีปิ ดหน้าปิ ดตาต่างนังล้อมวง
สนทนากันอย่างเงียบเชียบ

“แผนการดําเนินถึงขันไหนแล้ว”

“สําเร็จเกินครึง...ขอเพียงเคลือนกําลังพลไปตามจุดซุม่
166
โจมตีทีวางเอาไว้ได้หมด ก็ดาํ เนินการขันสุดท้ายได้
ทันที”

“เป้าหมายเดินทางไปถึงฉางซีแล้ว จัดการเลยดีไหม”

“อย่าแม้แต่จะคิด” หนึงในบุคคลลึกลับเอ่ยทัดทานเสียง
เครียด “คนผูน้ นหาใช่
ั คนทีจะไปแหย่ดว้ ยได้ง่ายๆ ถ้า
หากลงมือไม่สาํ เร็จจะเสียงต่อแผนการของเรา อีกอย่าง
ท่านผูน้ นบอกแล้
ั วว่าจะจัดการด้วยตัวเอง อยากคอขาด
หรือไง!”

“ก็อยูเ่ ฉยๆ มันเบือนี! ให้แฝงตัวเข้ามา วันๆ โดนพวก


กิงก่าอวดดีชคู อจิกหัวใช้ น่ารําคาญจะตาย”

167
“อดทนหน่อย ตอนนีเรามีหน้าทีแค่แฝงตัวกับสืบข่าว รอ
ให้ถงึ วันนันก่อน แล้วเจ้าจะทําอะไรตามใจก็เชิญ”

“หึ! ก็ได้”

เมือการประชุมเสร็จสิน แสงเทียนก็ถกู เป่ าดับ ตําหนักที


ทิงร้างไร้ซงเงาของคนกลุ
ึ ม่ ใหญ่ แม้แต่รอยเท้าก็ไม่หลง
เหลือเอาไว้

นางกํานัลคนหนึงหมอบตัวสันเทาอยูห่ ลังพุม่ ไม้ หลัง


จากรวบรวมความกล้าผลักประตูเข้าตําหนักหลิวเฟิ ง
ของอดีตเหวยกุย้ เฟย พระสนมสกุลลวีในอดีตองค์

168
จักรพรรดิ พระมารดาของฉินหวาง และเป็ นมารดาเลียง
ของฉีหวาง เหวยกุย้ เฟยถูกตัดสินประหารไปพร้อมกับ
สกุลลวี เช่นเดียวกับฉินหวางทีถูกมารดาลากลงนรกไป
พร้อมกับตนเอง ในฐานะผูม้ ีสว่ นรูเ้ ห็นในการวางแผน
เล่นเล่หใ์ ส่ไคล้วา่ ไท่จือหรือก็คือจักรพรรดิฝไู ฉในตอนนี
กําลังวางแผนยึดอํานาจ หลังจากนันหลายปี ฉีหวางที
ประชวรเก็บตัวมาโดยตลอด ก็ก่อกบฏลงมือหมายจะ
ปลงพระชนม์จกั รพรรดิขณะเสด็จประพาสไปยังเจียงไค

ตําหนักหลิวเฟิ งถูกทิงร้างอย่างไม่คิดจะบูรณะ แต่เมือ


สักครูน่ างไม่ได้ตาฝาด นางเห็นแสงเทียนเล็ดลอดออก
มาจากในตําหนักจริงๆ นางกํานัลมันใจหนักแน่น อีกใจ
แม้กลัวแต่ความสอดรูน้ นมี
ั มากกว่า หากคืนนีนางมิได้
ลักลอบออกไปพบกับคนรักทีเป็ นองครักษ์ก็คงมิได้คน้

169
พบเรืองลึกลับเช่นนี

แต่เมือเดินเข้าออกแทบทุกตารางนิว ตําหนักร้างก็ยงั
เป็ นตําหนักร้าง มีแต่ฝนุ่ หนาและหยากไย่เกาะเต็มไป
หมด ไม่มีทงรอยเท้
ั าหรือร่องรอยคนลักลอบเข้ามา
นําตาเทียนก็ไม่มี...ระ...หรือจะโดนดีเข้าให้แล้ว!

เคยได้ยินว่าเมือคราวเหวยกุย้ เฟยถูกประหาร ก่อนจะได้


รับราชโองการปลดจากตําแหน่งและพระราชทานสุรา
พิษ พระนางชิงลงมือจบชีวิตตนเองด้วยการกรีดข้อมือ
วิญญาณเต็มไปด้วยความคับแค้น เท่านันไม่พอ เหวย
กุย้ เฟยไม่ปรารถนาทีจะตายอย่างโดดเดียว ถึงกับลงมือ
ปลิดชีวิตฉินหวาง...องค์ชายสีทีพึงพ้นเจ็ดชันษาตาย
ตามตัวเองไปด้วย
170
รุง่ เช้าเรืองราวลึกลับเรืองนีก็กระจายไปทัววังหลวง จ้าว
กุย้ เฟยทีได้ยินข่าวหัวเราะขบขันโบกมือกล่าวเพียงว่า
เรืองไร้สาระ แต่ก็กาํ ชับสังห้ามว่าอย่าให้เรืองนีถึงหูฮ่ยุ
เฟยเป็ นอันขาด

โดยเฉพาะนามหนึงทีห้ามเอ่ยคือฉีหวาง ถ้ายังไม่อยาก
ถูกโบยจงปิ ดปากให้แน่น

171
เด็กสมัยนีมันร้ายนะคะหัวหน้า! เหวินเกอต่อจากนีท่าน
ก็จะเหนือยหน่อย

ข้อมูลเพิมเติม

[1] สวมหมวกเขียว สือความหมายถึง การถูกสวมเขา

172
ภรรยามีชู้

173
ตอนที ๑๗ ผูเ้ ดียวทีเข้าใจ

มีหลายครังทีเฉินเหวินเค่อต้องหลับไปทังชุดเกราะหนักๆ
และมีหลายครังทีเขามีไข้สงู จากอาการบาดเจ็บ แต่ก็
ต้องยืนหลังตรง เป็ นเสาหลักอันกล้าแข็งให้แก่เหล่า
ทหารใต้บญ
ั ชา

สีฤดูกาลทีผันเปลียน แทบไม่มีผลอะไรกับเขา หากไม่มี


หิมะสีขาวโพลนตกลงจากน่านฟ้า เขาก็อาจจะหลงลืม
ไปแล้วว่าดอกไม้ผลิบานยามใบไม้ผลิ ดวงตะวันแผด
แสงแรงกล้ายามฤดูรอ้ น และใบไม้ผลัดใบโรยรายามฤดู
ใบไม้รว่ ง

174
ทุกเช้าจะมีซือหม่ามาคอยปลุก ไม่วา่ จะทํางาน คิดแผน
การรบจนดึกดืนหรืออาจพึงได้งีบหลับเพียงชัวยาม

ภายนอกกระโจมสีขาว กลินทุง่ หญ้าคละเคล้าไปกับ


กลินดิน กลินสาปเหงือของชายชาตรี แม้แต่กลินเลือดที
ยังติดตรึงอยูต่ รงปลายจมูก เฉินเหวินเค่อหยิบทวนอุน่
ร่างกายยามเช้าด้วยท่วงท่าเรียบง่าย แล้วค่อยไปปะทะ
ฝี มือกับเหล่าทหาร สังสอนเพิมพูนประสบการณ์

เขาจําไม่ได้แล้วว่าได้นอนหลับจนเต็มอิมครังสุดท้ายคือ
เมือใด....

175
กลินหอมเย็นจากเครืองหอมไม่ได้แรงจนฉุนจมูก ไม่แน่
ใจว่ามันมีสว่ นประกอบมาจากอะไร แต่ก็ชวนให้ผอ่ น
คลายปนเปไปกับความไม่คนุ้ ชิน ผ้าม่านโปร่งสีขาวปั ก
ลวดลายหรูหรา ฟูกและหมอนนุ่มผิดกับสัมผัสหยาบ
กระด้างตลอดสิบปี เมือแหวกผ้าม่านออกห้องกว้างและ
เครืองเรือนหรูหราแปลกตา พืนทีขัดจนเงาวับ แจกันกับ
ชุดนําชาลายครามสูงค่า

สัมผัสเย็นสะท้านผิวกาย เมือก้มมองก็มีเพียงผ้าห่มเท่า
นันทีปกปิ ดเรือนร่างเปลือยเปล่า ใครบางคนเดินเข้ามา
ใกล้เฉินเหวินเค่อทียังตืนไม่เต็มตา ไม่ใช่ซือหม่ากุนซือ
คนสนิทของเขา แต่เป็ นชายหนุ่มรูปงามทียังดูเยาว์วยั

ใช้เวลาพักใหญ่จงึ ตังสติได้ ทีทีเขาอยูห่ าใช่ชายแดนที


176
เต็มไปด้วยคนเถือน แต่เป็ นจวนหลังงามอันแสนสงบสุข

ผูค้ นอาจจะคิดว่าอยูใ่ นจวนใหญ่โตมีชีวิตสุขสบาย ขอ


เพียงเกิดมาเป็ นชนชันสูงก็ไม่ตอ้ งพยายามอะไรเลย

สวนบ้านคนอืนมักจะงามกว่าบ้านของตนเอง เมือเกิด
เป็ นชนชันผูน้ าํ ล้วนมีหน้าทีต้องแบกรับ เช่นเดียวกับที
สามัญชนต่างต้องดินรนเพือจะมีชีวิต

เฉินลูป่ ิ นทํางานหนักมากในแต่ละวัน แต่ทกุ เช้าก็ยงั


เจียดเวลามาดูแลยามเฉินเหวินเค่อลืมตาตืน ไม่วา่ จะ
เป็ นการดูแลเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นจุมพิตแผ่วเบากลาง
หน้าผากหรือทีปลายเส้นผม

177
เป็ นคนหวีผมและปั กปิ นให้อย่างอ่อนโยน นีเป็ นสิงทีเกิด
ขึนทุกวันไม่เคยขาด และหากมีเวลาเฉินลูป่ ิ นจะไม่อิด
ออดทีจะรอร่วมโต๊ะในมือเช้า

เฉินเหวินเค่อมองว่านีคือการตามใจในระดับไม่ยงคิ
ั ด
เขาคิดว่ามันโง่เง่ามาก แต่ก็ปฏิเสธความเอาใจใส่นนไม่

ได้เลยแม้แต่นอ้ ย

ให้ยกตัวอย่างความทุม่ เททีเฉินลูป่ ิ นมีตอ่ เขา เฉินเหวิ


นเค่อแค่เพียงเปรยว่าร่างกายอยูเ่ ฉยๆ ไม่คนุ้ ชิน ถ้ามี
ลานเอาไว้ฝึกซ้อมเพลงดาบระบําทวนและฝึ กยิงธนูสกั
หน่อยก็คงจะดี

178
ไม่กีวันต่อมา...พืนทีของจวนทีไม่คอ่ ยได้ใช้ประโยชน์ก็
ถูกถม มีคนงานก่อสร้างวิงเต้นอย่างเร่งร้อน พริบตา
เดียวคําเปรยลอยๆ ของเขาก็ถกู เนรมิตให้เป็ นจริง

เงาสะท้อนในกระจกทองเหลืองคือชายวัยสามสิบทีแผ่
กลินอายน่ายําเกรง เส้นผมยาวสยายมีบรุ ุษรูปงามอีก
คนคอยสางให้อย่างเบามือ

เฉินลูป่ ิ นแอบหาวเล็กหน่อย ใบหน้าก็ดหู มองๆ หลายคืน


มานีอีกฝ่ ายว่ายอยูท่ า่ มกลางเอกสารกองพะเนิน อยาก
จะสงสารอยูห่ รอก ถ้าไม่ติดว่างานยุง่ ขนาดนันยังเจียด
เวลามาทําเรืองลามกได้อยู่ เขาคงมอบความรูส้ กึ เห็นอก

179
เห็นใจให้สกั เสียวหนึง

“สมนําหน้า”

“ใจร้าย!”

เฉินลูป่ ิ นครางเสียงกระเง้ากระงอด แต่ใบหน้ายังคง


เปื อนไปด้วยรอยยิมอยูเ่ สมอ กระทังปิ นอันสุดท้ายถูกปั ก
ลงบนผม เฉินเหวินเค่อก็ผดุ กายลุกขึน เดินออกจากห้อง
ไป

เพราะทิศทางทีอีกฝ่ ายกําลังมุง่ หน้าไปคือห้องหนังสือที


เฉินลูป่ ิ นนังทํางานประจํา จึงเอ่ยถามออกไปด้วยความ
180
สงสัยว่า “เหวินเกอท่านกําลังจะไปไหน”

“ข้าสมเพชเลยจะไปช่วยเจ้าทํางาน”

เฉินลูป่ ิ นส่ายหน้าอ่อนใจ “ข้ารูท้ า่ นเป็ นห่วงข้า”

“ไร้สาระ...”

บ่ายคล้อยแล้ว พ่อบ้านเหมายกกานําชามาเปลียนให้
แต่เมือทอดสายตาเข้าไปในห้อง ก็พบหวางเย่ศรีษะจม
ลงไปบนกองเอกสารแล้ว คาดว่าน่าจะเผลอหลับไป
ขนาดพูก่ นั ยังกําอยูใ่ นมือ

181
ทุกทีพอ่ บ้านเหมาจะเป็ นคนเดินเข้าไปปลุก หรือหากวัน
ใดหวางเย่ดเู พลียมาก ก็จะนําผ้าคลุมไหล่มาคลุมให้
แล้วปล่อยให้เจ้านายได้พกั สายตาสักเล็กน้อย

แต่ยามนีปล่อยให้เป็ นหน้าทีของคนทีอยูข่ า้ งๆ หวางเย่


แทนก็แล้วกัน

เฉินเหวินเค่อดึงพูก่ นั ออกอย่างเบามือ แตะเบาๆ ทีข้าง


แก้ม ก่อนจะเอ่ยเรียกเสียงค่อย “ลูป่ ิ น”

เจ้าของชือมีปฏิกิรยิ าตอบกลับแค่พลิกหน้าหนี ก่อนจะ


งีบหลับต่อไปอย่างมุง่ มัน เฉินลูป่ ิ นตอนหลับก็เป็ นแค่
ชายหนุ่มอายุยงั น้อย อีกฝ่ ายแค่ยีสิบเท่านัน มีเวลาเลือก

182
คูช่ ีวิตอีกนาน หรือจะแต่งอนุเพิมขึนอีกสักสิบคนก็ยงั
ไหว

บางทีก็มีความคิดไร้สาระบางอย่าง...ว่าตัวเองเป็ นคน
ถ่วงเฉินลูป่ ิ นเอาไว้หรือเปล่า

เฉินเหวินเค่อส่ายหน้าแรง พยายามลืมสิงทีตัวเองคิด
เมือสักครู ่ ก่อนจะช่วยจัดท่าให้อีกฝ่ ายนอนให้สบายกว่า
นี

หมับ!

จู่ๆ เอวก็ถกู รัดเสียแน่น เฉินลูป่ ิ นซุกหน้าลงบนหน้าท้อง


183
แกร่งทีเต็มไปด้วยกล้ามเนือ ไม่ได้น่มุ นิมเหมือนกับสตรี
ย้อนกลับไปก็แทบไม่ตา่ งจากเมือสิบปี ก่อน เว้นแต่ความ
รูส้ กึ ทีท่วมท้นอยูใ่ นอกยังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลียน
และอาจจะเพิมมากขึนกว่าเดิมทีละเล็กทีละน้อย

“ขออยูแ่ บบนีสักครูน่ ะ”

เฉินเหวินเค่อมือไม้เกะกะไม่รูจ้ ะเอาไปวางตรงไหน ตัก


ของเขาถูกยึดเป็ นทีนอนไปแล้ว เฉินลูป่ ิ นเอาแต่ใจอย่าง
น่าหมันไส้ แต่ไม่มีสกั ครังทีเขาไม่ยอม....ก็ช่วยไม่ได้

ดวงตาสุกใสไร้ซงความง่
ึ วงงุนลอบมองเจ้าของตักชัวครู ่
อากาศช่วงสารทฤดูหนาวเย็นไม่นอ้ ย จากทีกะจะแกล้ง

184
หลับแค่พกั เดียว รูต้ วั อีกทีก็เผลอหลับไปจริงๆ

การกระทําเล็กน้อยบางครามีอานุภาพยิงใหญ่กว่าที
คาดคิด เช่นเดียวกับความเรียบง่ายก่อกําเนิดความสุขที
ยิงใหญ่

สัจธรรมทีไร้ความยุติธรรมของใต้หล้า คือทุกข์ยาวนาน
แต่สขุ แสนสัน พวกเขาก็ได้แต่หวังว่าช่วงเวลาอัน
แสนอบอุน่ เช่นนี จะยาวนานขึนอีกสักหน่อย

.
185
.

ล่วงเข้าเดือนสิบเอ็ดอากาศเย็นพอทีจะเกิดนําค้างแข็ง
จันทร์ดวงเด่นท่ามกลางท้องฟ้า ชาวสมุทรสามารถอ่าน
แผนทีดวงดาวข้ามท้องทะเลอันไกลโพ้น ในสายตาของ
เขาไม่วา่ จะมองอย่างไรก็เหมือนๆ กันหมด

รําสุราชมจันทร์เป็ นอารมณ์ของกวี เฉินเหวินเค่อห่างไกล


จากคําว่าบัณฑิตไปไกลโข ด้วยสีหน้าครุน่ คิดอย่างหนัก
หน่วง ดูเหมือนกําลังวางแผนกระทืบผูโ้ ชคร้ายสักคน

186
มากกว่ามีเรืองทีกําลังคิดไม่ตก

“เหวินเกอ...ข้าไม่วา่ อะไรถ้าท่านอยากจะดูดาว
ตอนกลางคืน แต่ช่วยเลือกสถานทีหน่อยก็ดี”

เฉินลูป่ ิ นถอนหายใจ ตอนนีพวกเขาอยูบ่ นหลังคาจวน


ลมหนาวบาดผิวของเหมันต์ฤดูเริมมาเยือนยังแผ่นดิน
เสวียนเฉินแล้ว แต่เฉินเหวินเค่อยังนังเฉยอยูไ่ ด้ โดยทีทัง
ตัวสวมใส่อาภรณ์เพียงแค่ไม่กีชัน

“สุราเกาเหลียง....” เฉินลูป่ ิ นตัดสินใจนังข้างคนทียังมีสี


หน้าครุน่ คิด “เล่นของแรงเชียวหรือ”

187
สีใสกระจ่าง รสชาติติดตรึงปลายลิน สุราเกาเหลียงมี
กลินหอมหวานของข้าวฟ่ าง ไร้สีสนั มองเผินๆ เหมือนนํา
เปล่า แต่อิทธิฤทธิไม่ได้ดใู สดังตาเห็น

แค่เพียงหนึงจอกก็สามารถทําให้คนทีไม่ชืนชอบสุราขาว
ฤทธิแรงเบ้หน้าด้วยความแสบคอ ร่างกายร้อนวูบวาบ
ราวกับโดนแผดเผาจากภายใน มิน่าถึงได้นงท้
ั าลมหนาว
ได้อย่างไม่สะทกสะท้าน

เฉินเหวินเค่อเหลือบสายตามามองคนข้างตัวหลายครา
หลายครังเขาอยากจะพูดบางอย่าง แต่ก็เลือกจะปิ ดปาก
เงียบ เป็ นเช่นนีซําไปซํามาอยูน่ าน คนสัมผัสเฉียบคม
อย่างเฉินลูป่ ิ นมีหรือจะไม่รู ้

188
“บางอย่างเก็บเอาไว้ในใจก็อดึ อัดเปล่าๆ ไม่ส.ู้ ..พูดกัน
อย่างตรงไปตรงมามิดีกว่าหรือ”

เฉินเหวินเค่อหมุนจอกเหล้าในมือ สายตายังทอดมองไป
ไกล เนินนานเลยทีเดียวกว่าจะสามารถเปิ ดปากพูด

เฉินลูป่ ิ นเฝ้ารออย่างใจเย็น...ใจเย็นดังทีเฝ้ารอร่วมกราบ
ไหว้ฟา้ ดินกับคนทีตัวเองรักมาตลอดสิบปี

“ขอบคุณ...” ด้วยนําเสียงทีแผ่วเบาจนแทบจะกลืนหาย
ไปกับเสียงลม

189
เฉินลูป่ ิ นหัวเราะพรืด...เหวินเกอก็ยงั เป็ นเหวินเกออยูว่ นั
ยังคํา แต่วา่ ความตรงไปตรงมามีแค่เขาเป็ นฝ่ ายแสดงก็
พอแล้ว เพราะอย่างไรคนอย่างเฉินเหวินเค่อ....แม้จะรู ้
ไม่ได้ดว้ ยปาก แต่อา่ นออกจากการกระทํา...อ่านง่าย
มากเสียด้วย

“เหนือยมากไหม”

“ตังแต่แต่งงาน...” เฉินเหวินเค่อกระแอมไอเพือกลบ
เกลือนสิงทีหลุดปากพูดออกไปเมือครู ่ “...ออกจะสบาย
เกินไปมากกว่า วันๆ ได้แต่กินกับนอน ถ้าไม่ได้ตรวจ
บัญชีจดั การเรืองในจวน ชีวิตก็ไม่มีอะไรทําแล้ว น่าเบือ
มาก”

190
เฉินลูป่ ิ นส่ายหน้า ถามต่อว่า “ข้าหมายถึงสิบปี ทีผ่านมา
เหนือยไหม”

บทสนทนาส่วนใหญ่เฉินเหวินเค่อจะเป็ นคนหงุดหงิดใส่
แต่เมือต้องหันหน้าพูดกันอย่างตรงไปตรงมา เฉินเหวิ
นเค่อกลับเป็ นฝ่ ายเงียบขรึม การพูดความจริงทีซุกซ่อน
ลึกลงไปในใจ มันไม่ง่ายเลยสําหรับเขา

เฉินลูป่ ิ นเอนกายนังเคียงไหล่กนั เพราะอากาศหนาวทํา


ให้มือของทังคูเ่ ย็นเหมือนนําแข็ง แต่เมือปลายนิว
ประสานเข้าหากัน ความอบอุน่ ก็คอ่ ยๆ ละลายความ
เหน็บหนาวนันอย่างช้าๆ

191
“ไม่เป็ นไรแล้ว...ตอนนีท่านมีความสุขกับตัวเอง ไม่ตอ้ ง
คิดถึงคนอืนก่อน ไม่ตอ้ งเสียสละเพือใครอีก”

เป็ นเรืองยากทีจะต้านทานกับคนทีดีกบั ตัวเอง โดย


เฉพาะการเอาใจใส่เล็กๆ น้อยๆ แต่กลับมีคณ
ุ ค่าต่อ
หัวใจอย่างไม่น่าเชือ

ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ สะท้อนถ้อยคํามากมาย
โดยไม่ตอ้ งเอ่ยปากพูด เฉินเหวินเค่อไม่กล้าสบดวงตา
นัน

แม้จะเพียงชัวแวบหนึง แต่เฉินลูป่ ิ นก็เห็นความสันไหว

192
ในดวงตาของอีกฝ่ ายได้อย่างชัดเจน

“แล้วเจ้าล่ะ...”

“สําหรับข้าแค่ได้ดแู ลคนทีตัวเองรักก็พอแล้ว”

แม้คาคื
ํ นจะมืดมิด ทว่ายังมีจนั ทร์กระจ่างทอแสงให้
ความสว่าง ถึงไม่ชดั เจนดังยามทิวากาล แต่ก็สามารถ
มองเห็นบุรุษผูห้ นึงโถมกายเข้าหาบุรุษอีกคนทีอยูเ่ คียง
ข้าง โอบกอดอีกฝ่ ายเอาไว้ในอ้อมแขนโดยทีริมฝี ปาก
ประสานหลอมรวมเป็ นหนึงเดียว

เฉินลูป่ ิ นเบิกตากว้าง เหวินเกอ....จูบเขาก่อน?


193
กับคนปากแข็งอย่างเฉินเหวินเค่อ บางทีภาษากายอาจ
เป็ นการแสดงคําตอบทีดีทีสุดก็ได้

จุมพิตของเฉินเหวินเค่อมีแต่รสสุรา เช่นเดียวกับเฉินลู่
ปิ นทีเปิ ดปากรับการล่วงลํา ต่างฝ่ ายต่างสัมผัสได้ถงึ
ความหอมหวานทีแผดเผาปลายลิน

เมือทังสองผละออกจากกัน เฉินลูป่ ิ นแลบลินเลียริม


ฝี ปากของอีกฝ่ ายอย่างหยอกเย้า ก่อนจะกระโดดไปนัง
อยูบ่ นตักของเฉินเหวินเค่อ คล้องแขนกับลําคอ
แล้วกล่าวด้วยนําเสียงแหบพร่าทีแฝงอารมณ์ปรารถนา
อย่างลึกลําเอาไว้

194
"เหวินเกอ..."

เฉินลูป่ ิ นสอดมือเข้าไปในรอยแยกตรงอกเสือ ลูบไล้


แผ่นอกแน่นตึง ใช้ปลายเล็บสะกิดติงเนือส่วนเกินทีเริม
แข็งสูก้ บั ปลายนิว

“ข้างบนออกจะหนาวเกินไปสักหน่อย ไม่ส.ู้ ..เราไปหาที


อุน่ ๆ กันดีกว่า””

เฉินเหวินเค่อแค่นเสียงหึ! ดึงปลายนิวทีสาละวนอยูร่ อบ
ฐานอกของเขาอย่างซุกซน กัดลงไปอย่างหมันไส้ ด้วย
สายตาร้อนแรงพาเอาเลือดลมในอกของเฉินลูป่ ิ นสูบฉีด

195
อย่างบ้าคลัง

โอบอุม้ คนงามก้าวย่างเข้าห้อง คําคืนอันแสนยาวนาน


ทุกสิงทุกอย่างพึงจะเริมต้น โดยไม่รูว้ า่ นานเท่าใดจึงจะ
สินสุด

196
ตอนที ๑๘ คําตอบของการกระทําสําคัญกว่าคําพูด

มีคนกล่าวไว้วา่ เมรัยทําให้คนกลายเป็ นบ้าขาดสติยงคิ


ั ด
เฉินเหวินเค่อมันใจว่าตัวเองคอทองแดงระดับหนึง แต่
เขาไม่รูจ้ ะเอาอะไรอย่างอืนมาอ้างปิ ดบังความเขินอาย
ยามเป็ นฝ่ ายโยนอาภรณ์ทิงด้วยตัวเอง หาใช่เฉินลูป่ ิ น
เป็ นคนลอกคราบเหมือนอย่างทุกที

197
เฉินลูป่ ิ นจูบซับทีปลายนิวแล้วถามว่า “เหวินเกอ...
ท่านอยากได้ลกู ชายหรือลูกสาวดี”

“…เรืองแบบนันใครจะไปกําหนดได้”

เฉินเหวินเค่อเหลือแค่เสือคลุมชันในเพียงตัวเดียว ซึงไม่
ได้ตา่ งอะไรกับอีกฝายเท่าใดนัก

ปิ นบนผมถูกปลดออกอย่างเบามือ ปล่อยเรือนผมยาว
ทิงตัวลงมาคลอเคลียไหล่ เฉินเหวินเค่อเหวียงเฉินลูป่ ิ น
ลงบนเตียง เสน่หช์ ายงามกําซาบไปทุกอณูอากาศ
สภาพล่อแหลมมีเพียงเสือชันในสีขาวปิ ดเหมือนไม่ปิด
อวดปลีน่องขาวและขาเรียวสวยทีมีกล้ามเนือพองาม

198
เฉินลูป่ ิ นไม่ได้เป็ นคนผอมแห้งบอบบางอย่างทีเห็น ด้วย
เสือผ้าเป็ นตัวหลอกตา แต่ความจริงซ่อนรูปอยูไ่ ม่นอ้ ย
เพียงแต่โดนผิวพรรณนวลเนียนปิ ดบังเสียมิด

“ข้าเป็ นคนอ่อนแอแรงน้อย เกรงว่าจะทนรับไม่ไหว หวัง


ว่าเหวินเกอคงไม่ใจร้ายหักหาญนําใจกับสามีผเู้ ปราะ
บางอย่างข้า...”

เฉินเหวินเค่อดีดหน้าผากมนอย่างไม่ออมแรง ผิวขาว
นวลเกิดรอยแดงแทบจะทันที เฉินลูป่ ิ นนําตาเล็ด ขณะ
กําลังจะเอ่ยปากโอดครวญเขาก็รูส้ กึ ถึงนําหนักตัวไม่เบา
คร่อมทับอยูต่ รงบันเอว

199
“เจ้าคือสามีผบู้ อบบาง ถ้าข้าเอาจริงขึนมา สะโพกเจ้า
หลุดออกมาแน่”

คนอย่างแม่ทพั เลือดหากทําไม่ได้จริงย่อมไม่พดู ออกมา


พล่อยๆ นับว่าสวรรค์เข้าข้างและเฉินลูป่ ิ นเกิดมาพร้อม
ชะตามงคล ภายนอกเฉินเหวินเค่ออาจดูป่าเถือน แต่
ลึกๆ แล้วชอบรักถนอมคนงาม ถึงเจ้าตัวจะไม่ได้
ตระหนักถึงจุดอ่อนอีกจุดหนึงของตัวเอง แต่เฉินเหวิ
นเค่อมักจะแพ้ให้กบั ลูกอ้อนของเฉินลูป่ ิ นเสมอ

บางอย่างแข็งๆ ดุนดันอยูต่ รงบันท้าย เฉินเหวินเค่อหรี


ตาเอือมมือไปลูบสิงนันเบาๆ “เจ้านีมัน...ให้ตายสิ!”

200
อับจนในคําพูด

“ข้ายังหนุ่มยังแน่น มันเป็ นเรืองปกติมิใช่หรือ”

เฉินเหวินเค่อแค่นเสียงเหอะ! “ข้าอยากจะรูจ้ ริงเชียว ว่า


ในหัวเจ้าคิดเรืองลามกอะไรอยู”่

พวกเขาเริมต้นด้วยจุมพิต หลังจากนันเฉินลูป่ ิ นเหมือน


โดนเอาคืนทีชอบฝากรอยรักทิงเอาไว้ ถึงขนาดทีผ่านไป
สามวันรอยก็จางลงไปแค่นิดเดียว

เฉินเหวินเค่อขบกัดไปทัวทังลําคอ ไล่ลงมาเรือยจนถึง
แผ่นอก เฉินลูป่ ิ นเห็นนัยน์ตาสีขีเถ้าของอีกฝ่ ายพราว
201
ระยับอย่างทีเห็นได้ไม่บอ่ ยนัก

“อ๊า! ...อือ” เฉินลูป่ ิ นหลุดเสียงร้องอย่างไม่ทนั ตังตัว เมือ


จู่ๆ อีกฝ่ ายก็งบั ปลายยอดอกอย่างแรง

เฉินเหวินเค่อหยุดชมผลงานของตัวเองอย่างพอใจ ใน
ขณะทีเฉินลูป่ ิ นทังเจ็บและรูส้ กึ ดีไปพร้อมกัน เมือถูกดูด
ดึงไปทัวจนแทบหาทีว่างบนแผ่นอกของตัวเองไม่เจอ

เสียงหอบหายใจของคนทังสองเด่นชัดมากเมือรอบด้าน
เงียบสงบ โดยเฉพาะเฉินลูป่ ิ นทีแทบจะสะกดกลัน
อารมณ์ปะทุไว้ไม่ไหว ยามถูกปลายลินลากไล้ลงมาเป็ น
เส้นตรงผ่านหน้าท้องทีเกร็งแน่น

202
ลมหายใจอุน่ ลอยกระทบกับส่วนอ่อนไหวทีดันจนผ้าขาว
ของชันในเป็ นรูปสามเหลียม เฉินเหวินเค่อกระตุ
กปราการด่านสุดท้ายออก ฉับพลันความเป็ นชายของ
เฉินลูป่ ิ นก็เด้งออกมาจนเกือบจะฟาดหน้า

เฉินเหวินเค่อแนบแก้มสัมผัสกับความร้อนรุม่ มองคนที
ใกล้จะสติแตกอยูร่ อมร่อก็หวั เราะสะใจ

เฉินลูป่ ิ นแทบจะคลัง แล้วก็คลังไปจริงๆ ในวินาทีทีอีก


ฝ่ ายดูดกลืนส่วนอ่อนไหวทีสุดของร่างกาย ปลายลิน
หยอกเย้า สัมผัสชืนแฉะจากโพรงปากพร้อมกับฟั นคมที
ครูดกับผิวสัมผัสเบาๆ เร้าอารมณ์อย่างไม่น่าเชือ ความ
แข็งขึงชําแรกลึกไปในลําคอ ผูโ้ ดนกลืนกินมีหรือจะต้าน
203
ทานไหว

“ดะ...เดียวเหวินเกอหยุดก่อน! ...ข้าจะ...อึก บัดซบท่าน


เอาออกไปก่อน!!”

นอกจากจะทําหูทวนลมไม่ฟังแล้ว เฉินเหวินเค่อยังจับ
เอวอีกฝ่ ายไว้แน่น ไม่ให้ศีรษะโดนผลักออกไป ท้ายทีสุด
เฉินลูป่ ิ นก็ทนไม่ไหว ระเบิดความปรารถนาของตัว
เองออกมา

“แค่ก...แค่ก...” เฉินเหวินเค่อไม่ได้เก่งกาจขนาดนัน เขา


เองก็กลันลมหายใจไม่ดี จนทําให้ตวั เองสําลัก

204
“ข้าบอกให้เอาออกไงเล่า! ...อุ๊บ”

เฉินเหวินเค่อกระชากคนทีกําลังโวยวายมาปิ ดปากโดย
ไม่ทนั ตังตัว เมือถอนริมฝี ปากออกมา ชายหนุ่มก็ลบู คาง
แล้วกล่าวว่า “รสชาติพิลกึ ชะมัด”

เฉินลูป่ ิ นรูส้ กึ เอะใจ หลังจากจับบ่าคนตรงหน้าไว้แน่น ก็


ถามออกไป แม้จะพอรูต้ น้ ตออยูบ่ า้ งแล้ว “นีท่านเมาใช่
ไหม”

“ข้าไม่ได้เมาสักหน่อย” เฉินเหวินเค่อปฏิเสธเสียงแข็ง

“ท่านเมาแน่ๆ”
205
“ก็บอกว่าไม่ได้เมาไง!”

“ทําไมจะไม่เมา เมือสิบปี ก่อนตอนท่านเมาก็นิสยั เปลียน


เป็ นแบบนี!”

เฉินเหวินเค่อเป็ นคนทีเมาแล้วไม่ออกอาการ กว่าจะรูว้ า่


อีกฝ่ ายเมาก็ก่ไู ม่กลับแล้ว ยิงเป็ นประเภททีเมาแล้วไม่รู ้
ตัว แถมนิสยั เปลียนอีก…เหวินเกอตอนเมาชอบมีความ
กล้าทําอะไรแปลกๆ สิบปี ก่อนมีคนปกติทีไหนเอาเด็กสิบ
ขวบไปโยนเข้าหอโคมเขียวกันบ้าง!

“ข้า-ไม่-ได้-เมา!”

206
เฉินเหวินเค่อเน้นยําแสดงจุดยืนอย่างหัวแข็ง

“ไม่เมาก็ไม่เมา....” เฉินลูป่ ิ นยอมแพ้กบั การต่อล้อต่อ


เถียง แต่หลังจากถอนหายใจยาว ก็ตอ้ งเบิกตาโตจน
แทบถลน ลุกพรวดขึนไปจับแขนอีกคนร้องห้ามเสียงหลง
“เหวินเกอเดียว...เดียวก่อน!”

ทว่าน่าเสียดายทีสายเกินไป เฉินลูป่ ิ นห้ามอีกฝ่ ายทีกด


กายลงมาไม่ทนั

“อือ!” ใบหน้าของเฉินเหวินเค่อบิดเบียวจากความเจ็บที
แล่นริวจนนําตาเอ่อคลอ เฉินลูป่ ิ นเองก็โดนผลกระทบ

207
จากการกระทําทีไม่คาดคิดเล่นงานจนพูดไม่ออก

ความอ่อนนุ่มทีบีบรัดรูส้ กึ ดีมากเกินไป หากไม่ติดว่าอีก


ฝ่ ายจะปรับตัวไม่ทนั เฉินลูป่ ิ นคงไม่อดทนถึงขนาดนี แต่
ดูเหมือนว่าคนหัวดือจะไม่ได้สาํ นึกเลยแม้แต่นอ้ ย

เฉินเหวินเค่อขยับสะโพกตามความรูส้ กึ อย่างซือตรง ถึง


จะยังเจ็บอยูบ่ า้ งแต่ก็สอดแทรกมาด้วยความรูส้ กึ ซาบ
ซ่าน ตรงส่วนนันของเฉินลูป่ ิ นทะยานเข้าไปลึกมากกว่า
ทุกที

พอเห็นคนบนร่างเป็ นคนนําจังหวะด้วยตัวเอง ภาพ


ยัวยวนทีแทบจะไม่มีโอกาสได้เห็น ทําเอาสติของเฉินลู่

208
ปิ นเตลิดไปไกล คนงามจับเอวให้ความร่วมมือในการเร่ง
เร้า แม่ทพั เลือดผูเ้ กรียงไกรนอกจากควบอาชาเก่งกาจ
ในสนามรบ กับสงครามบนเตียงก็ไม่ยงหย่
ิ อนไปกว่ากัน

“ลูล่ .ู่ .ข้า..อืม!” เฉินเหวินเค่อถูกโน้มคอลงไปรับจุมพิต


หนักหน่วง ปลายลินถูกดูดดึงพัวพันจนยากจะแยก โดย
ทีการต่อสูข่ องส่วนล่าง รุนแรงเสียจนได้ยินเสียงการ
เคลือนไหวอันหยาบโลน

ไม่นานนักทังสองก็มาถึงจุดสูงสุด พร้อมกับเฉินเหวิ
นเค่อทีทิงกายลงมาอย่างแรง

“อะ..อ๊า!”

209
พอได้ออกกําลังกาย สามัญสํานึกทีเลือนหายดูเหมือน
จะเริมลอยกลับมาเข้าร่าง เฉินเหวินเค่อนิงค้างไป นึก
ย้อนถึงสิงทีตัวเองพึงทําก็หน้าร้อนจนแทบระเบิด

สุราเกาเหลียง....ชาตินีนับว่าเราสินสุดวาสนาต่อกัน
แล้ว!

เฉินเหวินเค่อไม่กล้าทีจะหันไปสูห้ น้า แม้จะถูกสวมกอด


จากด้านหลัง คางมนวางเกยอยูบ่ นหัวไหล่ เฉินลูป่ ิ น
คลอเคลียอยูต่ รงซอกคอ มือซุกซนบีบเค้นอยูต่ รงสะโพก

จากท่าทางทีแสดงออก ดูเหมือนเหงือทีโซมกายจะขับ

210
เอาฤทธิสุราออกมาจนเริมสร่าง เฉินลูป่ ิ นหัวเราะในลํา
คออย่างมีเลศนัย ก่อนจะกล่าวยัวเย้าข้างใบหูแดงกํา

“เมือครูห่ วางเฟยร้อนแรงไม่นอ้ ย ทําข้าสุขสมจนนึกว่า


อยูบ่ นสวรรค์เสียอีก”

เฉินเหวินเค่อไม่เคยรูส้ กึ อยากแทรกแผ่นดินหนีมากถึง
ขนาดนีมาก่อน เครืองหน้าคมซุกลงกับหมอนนุ่ม แสร้ง
ลืมไปว่าการร่วมรักเมือสักครูไ่ ด้กระทําสิงใดลงไปบ้าง

ประสบการณ์บนเตียงเฉินเหวินเค่อไม่ไร้เดียงสา เพียง
แต่วา่ ทุกครังเขาแค่ระบายความต้องการตามประสา
บุรุษเพศเพือไม่ให้รบกวนและว้าวุน่ ใจยามต้องออกรบ

211
ไม่เคยมีผใู้ ดลูบคมเขาแล้วยังมีลมหายใจอยู่ เรือง
ศักดิศรีนนฆ่
ั าได้แต่หยามไม่ได้ การต้องตกอยูใ่ ต้รา่ งใคร
สักคนมันคือความอัปยศ แต่เมือถูกเฉินลูป่ ิ นโอบกอด
เขากลับไม่นกึ รังเกียจเลยแม้แต่นอ้ ย ไม่วา่ จะอย่างไรทุก
สัมผัสมีเฉินลูป่ ิ นเท่านันทีแตกต่าง

เฉินลูป่ ิ นนอนเกยอยูบ่ นแผ่นหลัง ผิวกายของคนทังสอง


แนบชิดกันจนไร้ซงช่
ึ องว่าง เส้นเกศาสีดาํ ยาวปนเปกัน
จนแยกไม่ออกว่าของใครเป็ นของใคร บุรุษรูปงามปั ด
เส้นผมของคนใต้รา่ งออกไปด้านข้าง ก่อนจะเริมจูบซับ
ไปตามลาดไหล่กว้าง กล้ามเนือด้านหลังแสดงถึงความ
แข็งแรงได้เป็ นอย่างดี

212
ปลายนิวลูบไล้วนบริเวณจนจุดเหนือก้นกบ จุดอ่อนที
สามารถสยบพยัคฆ์รา้ ยได้เพียงสองนิว เฉินเหวินเค่อม
องไม่เห็นว่าคนด้านหลังทําสิงใด แต่สมั ผัสร้อนที
คลอเคลียอยูต่ รงจุดหมิงเหมิน ก็มากพอทีจะทําให้สนั
สะท้านอย่างไม่อาจควบคุมได้

ยามริมฝี ปากกดลงไป เฉินเหวินเค่อสะดุง้ จนหลังแอ่น


แม่ทพั ผูเ้ กรียงไกรหอบหายใจหนักทุกคราทีอีกฝ่ ายจูบไล่
ขึนมาตามกระดูกสันหลัง

แผ่นหลังทีเกร็งแน่นขับเน้นให้กระดูกสะบักหลังนูน
เด่นออกมาราวปี กของเหยียวทีกําลังโบยบิน เฉินลูป่ ิ น
ขบกัดตรงจุดนีซําๆ ก่อนจะกระซิบขออนุญาตด้วยนํา
เสียงออดอ้อน
213
“ข้าขอเข้าไปได้ไหม”

“ก็บอกแล้วว่าอย่ามาอ่อนโยนกับข้าไงเล่า...” เฉินเหวิ
นเค่อเอ่ยเสียงอูอ้ ีจากใบหน้าทียังซุกอยูก่ บั หมอน

แม่ทพั เลือดเม้มปากแน่นสะกดกลันยามบางสิงแทรก
เข้ามาในกาย ทุกสัมผัสไม่เร่งเร้า ดําเนินไปอย่างเชืองช้า
ไม่วือหวา ทว่าหนักหน่วงด้วยอารมณ์ความรูส้ กึ

“เหวินเกอ...”

“อือ...มีอะ..ไร” เฉินเหวินเค่อตอบ กระแสความหงุดหงิด


214
เจือในนําเสียง การพูดคุยขณะทีโดนกระแทกกระทัน นี
หาเรืองกันใช่หรือไม่!

“ข้ารักท่านนะ”

“เงียบน่า...อึก”

เฉินลูป่ ิ นกลัวหัวเราะพลางเอ่ยซําอีกรอบ “ข้ารักท่าน


จริงๆ นะ”

“อ๊า...บัดซบ! หุบปากไปเลย!!”

คําหวานยังเอ่ยพรําซําแล้วซําเล่าไปจนสุดปลายทาง
215
เฉินเหวินเค่อถูกพลิกกายทังๆ ทียังเชือมต่ออยูก่ บั เฉินลู่
ปิ น เขาฟาดฝ่ ามือตีไปทีต้นแขนขาวทีหนึง แต่คนอย่าง
เฉินลูป่ ิ นก็ฉีกยิมโง่เง่าไม่สะทกสะท้าน ทังยังดึงมือข้างที
พึงประทุษร้ายไปแนบกับข้างแก้มอย่างมีความสุขอีก
ต่างหาก

เห็นแก่ตวั ไปหรือเปล่าทีรับความรักมามากมายโดยฝ่ าย
เดียว....

ในตอนทีร่วมกราบไหว้ฟา้ ดิน สองสามีภรรยาผูกผมร่วม


กัน เฉินเหวินเค่อหยิบปอยผมข้างหนึงของเฉินลูป่ ิ นขึน
มา จรดริมฝี ปากลงไปอย่างอ้อยอิง ผูอ้ ืนอาจจะยินดี
มากกว่าหากได้ยินถ้อยคําจากปาก แต่สาํ หรับเฉินลูป่ ิ น
ทุกอย่างไม่สาํ คัญเท่าการกระทํา
216
รอยยิมงีเง่าเห็นกีคราก็น่าหมันไส้

“ข้ารักท่าน”

“รูแ้ ล้วน่า....”

217
.

สายนําไม่เคยไหลย้อนกลับ ดังเวลาทีหมุนเวียนไป รูต้ วั


อีกทีก็ใกล้จะถึงวันสินปี เข้าไปทุกที

พ่อบ้านเหมาดูแลจดหมายและเทียบเชิญต่างๆ ทีส่งมา
ทีจวนเฉินอัน ทังหวางเย่และหวางเฟยต่างเป็ นเชือพระ
วงศ์ทีไม่ประสงค์ออกงานสังคม ชอบเก็บตัวอยูเ่ งียบๆ
มากกว่า

ดังนันไม่วา่ จะงานเลียงนําชา ชมบุปผาหรืองานรืนเริง


มงคลใด พ่อบ้านเหมาจะเป็ นฝ่ ายคัดกรองและตอบกลับ

218
แต่อนั ไหนทีต้องไตร่ตรองอย่างละเอียดถีถ้วนจึงค่อยนํา
ไปให้หวางเย่กบั หวางเฟยเป็ นผูต้ ดั สินใจ เพียงแต่หนึงใน
จดหมายเทียบเชิญทังหมดนัน มีอยูฉ่ บับหนึงทีมิอาจ
เมินเฉยได้

เทียบเชิญจากจักรพรรดิ...ใต้หล้านีจะมีผใู้ ดสามารถ
ปฏิเสธ

เมือเวลาผ่านไปเรืองของสกุลหร่วนก็เป็ นเพียงส่วนหนึง
ในหน้าประวัติศาสตร์ ไม่วา่ จักรพรรดิจะทรงถนอมหรือ
ไม่ถนอมฮุ่ยเฟย ก็มิมีผใู้ ดได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์
ขุนนางทังหลายรูห้ น้าทีล้วนปิ ดปากเงียบ อะไรควรพูด
ไม่ควรพูดต่างทราบกันดี เช่นเดียวกับเทียบเชิญทีส่งไป
ยังองค์ชายใหญ่ผถู้ กู หมางเมินล้วนหาใช่เรืองทีควร
219
ประหลาดใจ

เฉินเหวินเค่อนิงงันอยูเ่ นินนาน แต่เมือมือถูกกอบกุมจาก


คนทีอยูเ่ คียงข้าง สุดท้ายเขาก็เผยรอยยิมยินดี

220
ตอนที ๑๙ สามีภรรยาสถานะตรงตัว

นับตังแต่คงั เล่อจากไป….หร่วนจูอีก็ปฏิเสธการร่วมงาน
สังสรรค์มาโดยตลอด ปกติทีเป็ นพระสนมผูเ้ งียบขรึมก็
ยิงรักสันโดษมากขึนไปอีก

ทีไกลสุดสายตาก่อนจะถึงพระตําหนักจงเหอ ฉลอง
พระองค์สีทองอร่ามของจักรพรรดิตงตระหง่
ั านดุจดังขุน
เขากว้าง คล้ายหยุดรอเมือเห็นว่าสนมชายาคนใดนังอยู่
221
บนเกียว

หร่วนจูอีจัดชายอาภรณ์สีเปลือกส้มให้เข้าที ความสดใส
ช่วยให้ดเู ยาว์วยั ขึน จักรพรรดิเมือทอดพระเนตร ปรากฏ
ร่องรอยของความประหลาดใจ

อาภรณ์สดใสเช่นนี ตังแต่เถลิงราชสมบัติขนเป็
ึ น
จักรพรรดิก็มิได้เห็นอีกฝ่ ายสวมใส่อีกเลย โดยเฉพาะ
หลังจากบุตรอีกคนจากไป หร่วนจูอีก็เลือกสวมใส่แต่
อาภรณ์สีเข้ม

“นานแล้วใช่หรือไม่ทีเรากับเจ้ามิได้เดินเข้างานเลียง
สังสรรค์พร้อมกัน”

222
พระหัตถ์ของจักรพรรดิ…นับตังแต่ขนครองราชย์
ึ ผทู้ ี
สามารถวางลงไปในฝ่ าพระหัตถ์นนได้
ั มีเพียงฮุ่ยเฟยแต่
เพียงผูเ้ ดียวเสมอมา ตังแต่ครังเจ้านายทังสองยังเป็ นไท่
จือและเช่อเฟย

“นานมากแล้วจริงๆ ทําให้กระหม่อมอดไม่ได้ทีจะคิดถึง
หวงโฮ่ว” เขากล่าว อารมณ์อาลัยอาวรณ์ “หากพระนาง
ยังอยู…
่ ขอประทานอภัยฝ่ าบาท กระหม่อมกล่าววาจา
เลอะเทอะ”

“เราเองก็คิดถึงนางเช่นกัน แต่ถงึ หวงโฮ่วยังมีชีวิตอยู่


เกรงว่าสุดท้ายผูท้ ีต้องเข้าร่วมงานก็ยงั เป็ นเจ้าอยูด่ ี”

223
หร่วนจูอีพยักหน้าเห็นด้วยพลางหัวเราะน้อยๆ “เป็ นเช่น
นันจริงๆ”

ตังแต่สมัยทีไป๋ หลันฮวาเป็ นไท่จือเฟย นางเกลียดงาน


เลียงยิงกว่าอะไรดี กีคราก็ตอ้ งแกล้งนอนซมโยนหน้าที
ใส่หวั เขาอยูต่ ลอด ขนาดกลายเป็ นหวงโฮ่ว...มารดาแห่ง
แผ่นดิน ก็ยงั ไม่ละทิงนิสยั เกียจคร้าน

ในหมูส่ นมชายาแห่งตําหนักบูรพา เขาสนิทกับนางมาก


ทีสุด ด้วยนิสยั ทังรักอิสระมากจนเกินไปและขีเกียจทีจะ
คิดแค้นใคร ทังหร่วนจูอีและเฉินหยางเหยียนต่างคิดว่า
นางไม่เหมาะกับการถูกกักขังเลยแม้แต่นอ้ ย ยามนาง

224
จากไป แม้เสียใจแต่เขาก็รูว้ า่ นางมีความสุขทีได้หลุดพ้น

ตอนนีเหลือเพียงเขากับหยางเหยียนทียังถูกผูกติดกับ
วังวนชีวิตของจักรพรรดิ พระสนมและราชสํานัก แต่เมือ
มิได้อยูอ่ ย่างโดดเดียวเพียงลําพัง ทุกสิงทุกอย่างก็มิได้
ยําแย่ถงึ เพียงนัน

เกากงกงเดินนํา ประกาศถึงการมาของจักรพรรดิและฮุ่ย
เฟยทีอยูเ่ คียงข้าง มหาขันทีผรู้ ูพ้ ระทัยโอรสสวรรค์มอง
ส่งพระปฤษฎางค์ยงใหญ่
ิ ความโดดเดียวอย่างทีเคยถูก
ชะล้างไปหมดสินด้วยคนเคียงกายจักรพรรดิ หลายปี
ล่วงเลย….ทีว่างเว้นข้างกาย บัดนีเจ้าของเพียงหนึง
เดียวได้กลับมาเติมเต็มความว่างเปล่านันแล้ว

225
.

อีกหนึงปี ใกล้จะล่วงผ่าน พืชพรรณเหียวเฉาเฝ้ารอวันผลิ


บาน เช่นเดียวกับเหล่านกกาขับร้องประสานเสียงสดใส
ประชาชนเตรียมตัว นับวันรอใบไม้ผลิเพือเริมต้นเพาะ
ปลูกใหม่อีกครัง

วังหลวงมีงานเลียงต้อนรับเทศกาลชุนเจีย[1]ของ
226
ราชวงศ์ งานเริมตอนคํา แต่เหล่าขุนนางรีบเร่งเดินทาง
จักรพรรดิฝไู ฉทรงเป็ นผูร้ กั ษาเวลายิง ไม่เคยมาสายหรือ
ล่วงมาก่อน พวกตนรับใช้จกั รพรรดิมาเนินนาน งาน
เลียงช่วงคําในวังใช่วา่ เกิดขึนครังแรก ดังนันขุนนางทัง
หนุ่มแน่นอนาคตไกลและผูอ้ าวุโสน่ายกย่องต่างรูว้ า่
สมควรจะมาถึงพระตําหนักจงเหอเวลาใด

ภายในตําหนักแบ่งแยกซ้ายขวาชัดเจน ตรงกลางเป็ น
ลานเวทีกว้างเอาไว้ใช้แสดงรําอวยพรบรรเลงดนตรี

ฝังซ้ายสําหรับสนมชายาและเหล่าเครือญาติของ
ราชวงศ์ ฝังขวาสําหรับขุนนาง ฉะนันเฉินเหวินเค่อกับ
เฉินลูป่ ิ นทีเดินเข้างานมาจึงต้องเดินไปทางฝังซ้าย

227
บุรุษสองคนทีเดินเข้ามา คนแรกคือชายผูม้ ีรศั มีของ
ความน่าหวาดหวัน แม้บนผมจะปั กปิ นแสดงสถานะ
บุรุษทีแต่งงานแล้วในฐานะภรรยา บนหน้าผากแต้มจิ
นเตียนดอกเหมยแดง ทว่ากลับยิงเพิมพูนความสง่างาม
ยามสายตาคมปลาบกวาดมองมา เหล่าคุณหนูคณ
ุ ชาย
ทีติดตามบิดาทีเป็ นขุนนางยศสูงมาร่วมงาน ต่างเอียง
อายไปกับสายตาทีชวนให้กายร้อนผ่าว

ผิดกับบุรุษอีกคนทีอยูเ่ คียงข้าง ด้วยรูปลักษณ์บณ


ั ฑิตที
อบอวลไปด้วยกลินอายอ่อนโยนนุ่มนวลรับกับใบหน้า
เรียวสวยดังหยกสลัก แม้ไม่ได้งามล่มบ้านล่มเมือง ไม่
ยัวเย้าคล้ายสตรี แต่ก็มีเสน่หค์ วรค่าแก่การทะนุถนอม
รอยยิมบางเบาเพียงเผลอสบตาก็ชวนให้ใจเต้นแรง

228
ทุกสายตาต่างจับจ้องมาทีพวกเขา เฉินเหวินเค่อนันชา
ชินเสียแล้ว แต่กบั เฉินลูป่ ิ นออกจะไม่คนุ้ เคยอยูบ่ า้ ง

ในเทศกาลและงานเลียงสําคัญ ทีจวนเฉินอันได้รบั เทียบ


เชิญอยูต่ ลอด เพียงแต่เฉินลูป่ ิ นพึงสืบทอดบรรดาศักดิ
ต่อจากบิดาทีสินบุญลงเมือสองปี ก่อน ช่วงปี แรกลาก
ยาวไปจนถึงปี ทีสองเขาวุน่ วายกับการกลับมาใช้ชีวิต
แบบปกติสามัญ หลังตะลุยติดตามอาจารย์กบั บรรดา
ศิษย์พีอยูใ่ นยุทธภพ เทียบเชิญต่างๆ จึงถูกปั ดตกไป
จักรพรรดิเองก็เข้าใจ ครังนีจึงพึงได้เข้าร่วม

ทีนังของพวกเขาใกล้กบั องค์จกั รพรรดิ องค์ชายที


แต่งออกไปแล้วแต่กลับถูกจัดทีนังเช่นนี ราวกับองค์ชาย
229
ใหญ่ยงั มีบรรดาศักดิเป็ นเว่ยหวาง ผิดกับความห่างเหิน
ทีจักรพรรดิทรงมีตอ่ องค์ชายใหญ่เมือครึงปี ก่อน ดังข้อ
พิพาททังหลายไม่เคยเกิดขึน

เดิมทีการทีองค์ชายใหญ่ลดตัวแต่งออกนอกราชวงศ์กบั
เชือพระวงศ์สายรองเป็ นทีน่าดูหมินยิง แต่พอได้ยลโฉม
เฉินอันหวางก็รูส้ กึ ช่างคุม้ ค่าเหลือเกิน

ส่วนเหล่าขุนนางหนุ่มอนาคตไกลทียังมิได้แต่งงาน พา
กันส่งสายตาร้อนแรงทิมแทงหลังเฉินเหวินเค่อ แต่คนทีรู ้
ความจริงว่าเนือแท้อนั สวยงามของเฉินลูป่ ิ นเป็ นอย่างไร
สายตาเหล่านันล้วนไม่ระคายผิว

230
เหลือเวลาอีกไม่มากก่อนจักรพรรดิจะเสด็จมา เหล่านาง
กํานัลทียืนอยูด่ า้ นหลังยกนําชากับอาหารเบาๆ มาให้กิน
รองท้อง เฉินลูป่ ิ นเอ่ยปากบอกให้พวกนางถอยไปยืน
ด้านหลัง แย่งหน้าทีปรนนิบตั ิมาทําเสียเอง

เฉินเหวินเค่อคุน้ เคยกับการเอาใจใส่เช่นนีดี แต่กบั คนอืน


เห็นภาพคูร่ กั ชูช้ ืนช่างชวนบาดตา โดยเฉพาะเหล่า
ราชบุตรเขยกับสะใภ้ราชวงศ์ มองแล้วใจมันรุมๆ

ชัวขณะทียืนมือไปรับจอกชา ปลายนิวบังเอิญไปแตะ
โดนกับมือของอีกฝ่ าย เฉินเหวินเค่อขมวดคิวยุง่ รีบคว้า
มือขาวเย็นเป็ นนําแข็งมากุมเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยถามด้วย
นําเสียงติดจะดุ

231
“เตาพก[2]เจ้าอยูไ่ หน”

ช่วงสินปี ยงั มีหิมะตก แม้ในตําหนักจงเหอจะเต็มไปด้วย


เตาไฟ อุน่ กว่าข้างนอก แต่ก็ยงั หนาวเย็นอยูด่ ี

เห็นรอยยิมกริมของอีกฝ่ าย พลันนึกขึนได้วา่ เผลอไผล


ทําสิงใดลงไป ทว่าจะดึงมือคืนเฉินลูป่ ิ นก็ไม่ยอมปล่อย
เสียแล้ว

“ข้าลืมไว้บนรถม้า”

“เจ้านีมัน…” เฉินเหวินเค่ออยากจะบ่นต่ออีกสักหลาย
232
ประโยค พออ้าปากก็ไม่รูจ้ ะสรรหาคําใดไปด่า ถึงจะมีที
ท่าไม่ชอบใจ แต่ก็รอจนกว่ามือเย็นนันจะอุน่ พอ จึงค่อย
ตีให้อีกฝ่ ายปล่อยมือเสียที

หลังจากนันไม่นานท่านข้าหลวงใหญ่ก็ประกาศการมา
ถึงของจักรพรรดิ และเจ้านายชันสูงอีกพระองค์ที
ประกาศตามมา แม้ทาํ ให้แปลกใจ แต่ไม่ถงึ ขัน
ประหลาดใจ

“จักรพรรดิเสด็จ!”

“ฮุ่ยเฟยเหนียงเหนียงเสด็จ!”

233
มองภาพยิงใหญ่ ได้ยินเสียงถวายพระพรดังกึกก้อง ถึง
ขนาดมิใช่ผยู้ ืนอยูย่ งั จุดสูงสุดยังสะท้าน ทําให้เข้าใจว่า
เหตุใดบัลลังก์ทีย้อมไปด้วยเลือดนัน ถึงเป็ นสิงทีผูค้ น
ล้วนปรารถนาจะครอบครอง

ครูห่ นึงได้สบกับดวงตาของมารดา หมอกมัวทีตก


ตะกอนอยูใ่ นใจนันได้จางหายลงไปแล้ว เพียงเท่านีเขาก็
โล่งใจ เช่นเดียวกับหร่วนจูอีทีเป็ นสุขยามบุตรชายได้รบั
การเอาใจใส่จากคนทีอยูเ่ คียงข้าง

เมือจักรพรรดิตรัสเริมงาน เสียงคีตะบรรเลงขาน นางรํา


เอวอ่อนหมุนตัวร่ายรําอวยพร อาหารจากห้องเครืองใน
วังรสดีไม่เปลียน นานทีปีหนถึงได้ลมรส
ิ เพราะฉะนัน
เฉินเหวินเค่อจึงกินได้มากกว่าปกติ
234
“ดูทา่ นเจริญอาหาร….แต่งานรืนเริงไม่ควรขาดสุรา”

เฉินลูป่ ิ นชูขวดกระเบืองสีขาว เชิญชวนให้รว่ มดืมฉลอง


แต่ครังล่าสุดทีนําเหล้าเข้าปากอย่างไม่ยงคิ
ั ด ทําเอา
ความอยากลดลงไปมากกว่าครึง

“สุราม่วงหมักจากองุ่นฤทธิไม่แรงเท่าสุราขาว ท่านจะ
กลัวไปไย” อีกฝ่ ายยังไม่ละความพยายามในการตะล่อม
หากจํามิผิดเฉินลูป่ ิ นค่อนข้างชอบสุราม่วงเป็ นพิเศษ

แอบเหล่มองในจอกเหล้าของสะใภ้หลวงกับสนมชายา
บางคนทีเข้าร่วมงาน ต่างล้วนชมชอบสุราทีหมักบ่มจาก

235
ผลไม้มากกว่าพวกสุราขาว

นิสยั เช่นนี ยากยอมรับว่าบทบาทบนเตียง เฉินลูป่ ิ นขึน


เป็ นผูน้ าํ ส่วนเฉินเหวินเค่อมีแต่เพลียงพลําอยูร่ าไป

ฉวยจังหวะทีอีกฝ่ ายยังอ้าปากจ้อไม่หยุด แอบฉกปลา


เนือขาวต้มซีอิวเข้าปาก เฉินลูป่ ิ นไม่คอ่ ยชอบปลา หลัง
จากจัดการส่วนของตัวเองเสียเกลียง ขโมยกินสักหน่อย
คงไม่เป็ นไร

กว่าจะรูต้ วั ปลาต้มซีอิวอ้วนพีก็หายวับไปในพริบตา ทิง


ไว้เพียงจานเปล่ากับผักเครืองเคียงประดับจาน

236
เฉินลูป่ ิ นขมวดคิวงามดังใบหลิว มองคนทําหน้าไม่รูไ้ ม่ชี
น่าตีนกั ! คอยดูเถิดกลับจวนเมือไรจะลงโทษแมวตะกละ
ให้หลาบจํา

“นีท่านไปหิวมาจากไหนเนีย ข้ายังไม่ได้กินสักคําเลย
นะ!”

“ก็เจ้าไม่ยอมกินเอง แล้วอีกอย่าง มิใช่วา่ เจ้ามิชอบปลา


หรอกหรือ”

“ก็ไม่ใช่วา่ ไม่ชอบขนาดนัน…” นึกย้อนกลับไป ตังแต่


เกิดจนจําความได้ ฉางซีเป็ นเมืองท่าติดทะเล อาหารขึน
ชือล้วนมีวตั ถุดิบจากทะเล แล้วจะไม่ให้เบือได้อย่างไร

237
เล่า “ท่านลองกินปลาเป็ นมือหลักมาทังชีวิตดูสิ เป็ นใคร
ก็ตอ้ งเบือทังนันแหละ”

เฉินเหวินเค่อเตรียมจะอ้าปากพูด แต่ก็ถกู ขัดจังหวะเสีย


ก่อน จานอาหารถูกยกออกไปแทนทีด้วยผลไม้ตามฤดู
กาล เฉินลูป่ ิ นป้อนได้สองสามคํา ก็โบกมือปฏิเสธ รส
ชาติหวานหอมบาดคอเกินไป อยากได้อะไรทีรสเปรียว
มากกว่านีสักหน่อย

ช่วงสินปี งานเลียงขึนปี ใหม่ของราชวงศ์ จักรพรรดิทรง


บรรจงเขียนลายพระหัตถ์ลงบนแผ่นกระดาษคําว่า ‘ฝู’
อันหมายถึงเจริญ และ ‘โช่ว’ ทีแปลว่าอายุยืน พระราช
ทานแก่ขนุ นางทีทําผลงานดี ส่วนเหล่าข้าราชบริพารก็ได้
รับพระราชทานกระดาษด้วยอักษรมงคลเช่นกัน เพียง
238
แต่มิได้มาจากฝี พระหัตถ์ของของจักรพรรดิเท่านัน

นอกจากนียังทรงอวยยศและเลือนขันให้แก่ขนุ นาง เหล่า


สนมชายาก็เช่นกัน เพียงแต่หลายปี ทีผ่านมาเหล่าสนม
ในวังหลังต่างได้รบั การอวยยศจนถึงระดับทีไม่สามารถ
ก้าวหน้าไปมากกว่านี ทําให้ไม่ได้ยินราชโองการเลือน
ตําแหน่งเจ้านายแห่งวังหลังกันมานานพอดู

ดังนันยามได้ยินราชโองการเลือนตําแหน่งให้แก่ฮ่ยุ เฟย
สกุลหร่วน เป็ นสิงทีมิมีผใู้ ดคาดคิดมาก่อน

“ฮุ่ยกุย้ เฟยปรนนิบตั ิเรามาเนินนาน หากเราไม่เลือนขัน


ให้นบั ว่าเราเป็ นจักรพรรดิทีไร้คณ
ุ ธรรม วันนีเรามีความ

239
สุข ทีได้ทาํ ตามใจตนเองบ้างเสียที”

จักรพรรดิตรัสเช่นนันจะมีตวั โง่งมทีไหนกล้าคัดค้าน ยิง


ความนัยทีแฝงมาพาดเกียวกับสกุลหร่วนทีตกตําจนมี
ชีวิตอยูม่ ิสตู้ าย เหล่าขุนนางทังหลายล้วนปิ ดปากเงียบ
เมือครังสกุลหร่วนยังเรืองอํานาจ จักรพรรดิจะตรัสสิงใด
ล้วนต้องกล่าวถึงสกุลหร่วน จะตัดสินใจเรืองใดก็ยอ่ ม
ต้องปรึกษาให้สกุลหร่วนร่วมตัดสินใจด้วย

ยามนีไม่มีแล้ว….อะไรๆ ล้วนแปรเปลียน วันวานย่อม


เป็ นวันวาน ต่างผันผ่านไปไม่ไหลย้อนกลับ

“ลูกเค่อ…สบายดีหรือไม่”

240
เฉินเหวินเค่อลุกขึนประสานมือทูลตอบ “ลูกสบายดีพะ่
ย่ะค่ะ”

พระบิดาในความทรงจําของเฉินเหวินเค่อเป็ นจักรพรรดิ
ทีทรงพระปรีชาสามารถ แม้จะมิได้แสดงออกอย่าง
ชัดเจนแต่ก็ทรงดีตอ่ เขา แต่ถงึ กระนันตอนยังเล็กมีความ
รูส้ กึ หนึงทีเขาไม่รูย้ ามมองลึกเข้าไปในดวงตาของเสด็จ
พ่อเพืออ่านความรูส้ กึ นัน เมือเจริญวัยขึนถึงได้รูว้ า่ มัน
คือความอัดอันตันใจ

ซึงบัดนีเขามองไม่เห็นมันแล้ว….

241
“กลับมาเทียนเฉินทังทีก็อยูต่ อ่ อีกสักหน่อย รอหลัง
เทศกาลหยวนเซียว[3]แล้วค่อยกลับไปฉางซี” จักรพรรดิ
ทอดพระเนตรไปยังบุรุษทีนังอยูเ่ คียงข้าง “หากมีเวลาก็
เข้าวังมาเยียมมารดาเจ้าบ้าง”

สุรเสียงนิงเรียบนันช่างแตกต่างกับตอนเขาทูลขอเรือง
สมรสพระราชทาน ราวเรืองเมือคืนนันมิเคยเกิดขึน
คล้ายว่าทุกอย่างก็แค่ความฝันตืนหนึง หากย้อนกลับไป
สักสิบปี สมัยเขาพึงแตกเนือหนุ่มเลือดร้อนคงไม่หาย
เคืองโดยง่าย แต่เบืองหน้ากับเบืองหลังอาจไม่เหมือนดัง
ตาเห็น เฉินเหวินเค่อเติบโตมากับมารดาทีไม่ถนัดแสดง
ความรักความห่วงใยต่อครอบครัว กับเสด็จพ่อก็รูส้ กึ ว่า
มิตา่ งกันเท่าใดนัก

242
เชือพระวงศ์ในคําจํากัดความของเหล่าขุนนางคือความ
ซับซ้อน ยิงกับจักรพรรดินนเป็
ั นตัวตนทียากจะเข้าใจ
ดังนันเหตุการณ์นีก็แค่ละครฉากหนึง กางหูฟังได้ชวครู
ั ่
ไม่นานก็ละความสนใจ

จ้าวกุย้ เฟยทีนังเงียบมานานเป่ าถ้วยชาในมือ ก่อนจะ


เอ่ยขึนมาเรียบๆ แต่ชวนให้ผฟู้ ั งถึงกับสําลัก “องค์ชาย
ใหญ่อายุไม่นอ้ ยแล้ว ไม่ทราบว่าเมือไรจึงจะได้ฟังข่าวดี”
แล้วหันไปขอความเห็นจากฮุ่ยกุย้ เฟย “ฮุ่ยกุย้ เฟยว่าจะ
เป็ นชายหรือหญิง”

“คําตอบจากฟ้าดินมีหรือข้าจะล่วงรู ้ แต่ไม่วา่ จะเป็ นชาย


หรือหญิงก็ลว้ นเป็ นเรืองน่ายินดี”

243
สายตาของฮุ่ยกุย้ เฟยจ้องเขม็งไปทีเฉินลูป่ ิ น ชายงาม
ซ่อนคมมองแวบเดียวก็รูว้ า่ ไม่ธรรมดา

จักรพรรดิแม้มิได้ตรัสสิงใด แต่อา่ นจากพระพักตร์คล้าย


จะเห็นด้วยกับสิงทีฮุ่ยกุย้ เฟยกล่าว

เฉินเหวินเค่อได้ยินก็มีสีหน้าไม่น่าดูเท่าไร ยิงเหลือบสาย
ตาไปเห็นแววตาพราวระยับของเฉินลูป่ ิ น ความดุดนั ก็
เพิมขึนอีกสองเท่าตัว

ในขณะทีเหล่าขุนนางล้วนลอบแค่นยิมเย็น มีชาย
งามอยูข่ า้ งกาย พยัคฆ์รา้ ยมีหรือจะไม่กลืนลูกแกะลง

244
ท้อง จากท่าทีขององค์ชายใหญ่ตอ่ เฉินอันหวางผูน้ ี
ถนอมอย่างดีผิดกับหวางเฟยทีเคยแต่งเข้าจวนเว่ยหวา
งราวฟ้ากับเหว ถ้อยคําของจ้าวกุย้ เฟยฟั งคราแรกรูส้ กึ ว่า
มีบางอย่างไม่ถกู ต้อง แต่จะให้นงคิ
ั วขมวดกับเรืองมงคล
เดียวจะโดนเขม่นโดยไม่รูต้ วั จึงต้องพักเอาไว้ก่อน พอ
คิดจะไตร่ตรองดูอีกทีก็ลืมไปเสียสิน

งานเลียงย่อมมีวนั เลิกรา…เฉินเหวินเค่อมองส่งเสด็จ
จักรพรรดิและเหล่าสนมชายา ยามละสายตากลับ
ปลายหางตาพลันสะดุดอยูท่ ีขันทีอาวุโสผูห้ นึง จําได้วา่
ขันทีผนู้ ีมีนามว่า ‘ปูจ้ ือ’ เป็ นคนสนิทของมารดา ติดตาม
รับใช้มาตังแต่ทา่ นแม่แรกเริมเข้าวัง ตอนยังเด็กก็ได้ขนั ที
ผูน้ ีช่วยเลียงดู

245
แต่ไม่รูเ้ พราะเหตุใดในสายตาของเขา ปูจ้ ือผูน้ ีคล้ายกับ
เป็ นคนแปลกหน้า เมือเพ่งมองอีกทีความรูส้ กึ นันก็มลาย
หายไป กลับไปเป็ นขันทีผนู้ อบน้อมตามเดิม

หรือจะคิดมากไปเอง

246
.

กลับมาจากงานเลียงใช่วา่ จะสามารถซุกตัวเข้าผ้าห่ม
หลบลีจากอากาศหนาวเย็น

หลังลงกลอนประตู ล้างหน้าปลดปิ น เฉินเหวินเค่อก็โดน


สวมกอดลากไปทีเตียงแทบจะทันที

เขาเอามือยันใบหน้าชายงามของเฉินลูป่ ิ นเอาไว้ ไม่ให้


ปากยืนของอีกฝ่ ายฉวยโอกาสจุมพิต

“บางคราข้าก็สงสัยยิงนัก ว่าเจ้าไปเอาเรียวแรงในการทํา
เรืองบัดซบนีมาจากไหนเยอะแยะ!”
247
เฉินลูป่ ิ นหัวเราะ “เรืองบัดซบทีไหน สามีภรรยาร่วมเตียง
นับว่าเป็ นเรืองปกติ วันนีหวางเฟยริอาจทําตัวเป็ นแมว
ขโมยปลา จะไม่ให้ขา้ ลงโทษได้อย่างไร อีกทังเราสอง
ต่างแบกรับความคาดหวังของฝ่ าบาทกับฮุ่ยกุย้ เฟยเอา
ไว้ ตัวข้าผูเ้ ป็ นราชบุตรเขยก็ตอ้ งรีบเร่งสร้างผลงาน”

เฉินเหวินเค่อมีสีหน้าอยากจะฆ่าคน แต่ยามถูกออดอ้อน
ขอถอดอาภรณ์ก็ให้ความร่วมมือเป็ นอย่างดี มาถึงขันนี
แล้ว เคยห้ามได้เสียทีไหน

ปลดม่านบดบังสายตา สองร่างทีเกียวกระหวัด ความ


หนาวเย็นนันยังมิอาจย่างกลาย

248
249
ข้อมูลเพิมเติม

[1] ชุนเจีย หรือทีไทย เราเรียกว่าวันตรุษจีน ตรงกับวัน


ขึนหนึงคําเดือนอ้าย เดิมทีเรียกว่าวันกว้อเหนียน(过
年)หรือวันขึนปี ใหม่ของจีน เป็ นเวลาเริมแรกของวัน
วันเริมแรกของปี และวันแรกของเดือนแรกของปี จึงถือ
เป็ นวัน 3 ปฐมฤกษ์(三元节)

[2] เตาพก / เตาอุน่ มือหรือโส่วหลู (手炉) มีตงแต่



ขนาดเล็กเท่าผลส้ม - ประมาณแตง มีทงแบบหู
ั หิวหรือ
เป็ นทรงธรรมดามีฝาปิ ด สามารถพกติดตัว บางคนก็ใช้
ซุกใส่แขนเสือเรียกว่าเตาแขนเสือหรือ ซิวหลู (袖炉)

250
[3] เทศกาลประดับโคมไฟ / เทศกาลหยวนเซียว(元
宵节)ตรงกับวันขึน 15 คําเดือนอ้าย เป็ นคืนเดือน
เพ็ญครังแรกของปี นอกจากบางครอบครัวทียังมี
ประเพณีกินขนม “ทังหยวน” ติดโคมไฟหน้าบ้านในวันนี
แล้ว ก็ไม่มีพิธีกรรมทีครึกครืนอะไรนัก

251
ตอนที ๒๐ ชีพจรมงคล

ช่วงขึนปี ใหม่ เมืองหลวงและเมืองสําคัญตามมณฑล


ต่างมีการเฉลิมฉลองติดต่อกัน จนถึงเทศกาลหยวนเซียว
งานรืนเริงจึงจะเลิกรา

ถึงจะเป็ นตอนกลางวัน แต่ในเมืองก็คลาคลําไปด้วยผู้


คน ไม่รูว้ า่ หากพระอาทิตย์ตกดินจะครึกครืนมากขึน
252
ขนาดไหน

หิมะหยุดตกแล้ว แต่ลมหนาวยังคงพัดผ่าน ท่ามกลางฝูง


ชนทีเดินกระทบไหล่กนั บุรุษสองสามีภรรยาคูห่ นึงกลับ
ดึงดูดสายตามากกว่าปุถชุ นทัวไป ดูจากอาภรณ์ทีสวม
ใส่ก็รูว้ า่ ฐานะไม่ธรรมดา

น่าเสียดาย พบเจอบุรุษรูปงามทว่าแต่งงานกันแล้ว แต่


ทังคูก่ ็ดเู หมาะสมกันดี จึงไม่อาจเอาใจไปริษยา

“หินหยกเขียวอันนีก็สวย แต่หินปะการังแดงก็ดี…” เสียง


นุ่มนวลเต็มไปด้วยความลังเล ยกปิ นเงินสองอันสลับไป
มา คิวโก่งดังใบหลิวขมวดมุน่ ตัดสินใจไม่ถกู

253
เฉินเหวินเค่อฉวยเอาปิ นประดับหินปะการังแดงมาถือไว้
“ถ้ามันเลือกยากนักก็เอาไปทังสองอันนันแหละ”

“ถึงข้าซือไปสองอันท่านก็เอาไปโยนทิงก้นกล่องสองอัน
อยูด่ ี”

เพราะเหตุนีเฉินลูป่ ิ นจึงต้องเป็ นผูร้ วบผมปั กปิ น แทน


หวางเฟยผูไ้ ม่ใส่ใจเรืองละเอียดอ่อนอย่างไรเล่า

แม่ทพั เลือดเลิกคิว ใช้สายตาส่งความนัยไปว่า 'ก็รูอ้ ยู่


แล้วนี เช่นนันไม่ตอ้ งซือก็แล้วกัน'

254
ชายรูปงามนําปิ นไปทาบกับเรือนผม ใช้สายตาออดอ้อน
ไม่ให้อีกฝ่ ายหันหน้าหนี เห็นคนชักสีหน้าหงุดหงิด แต่ก็
ยอมอยูน่ ิงเป็ นหุน่ ให้ลองจับนู่นทาบนี กระทังเฉินลูป่ ิ น
หาปิ นทีถูกใจได้พวกเขาถึงได้เดินกันต่อ

มองมือทีกอบกุมอยูก่ บั แผ่นหลังของคนด้านหน้า แสง


แดดจ้าส่องกระทบกับเส้นผมสีดาํ เงางาม คล้ายความ
สนใจทังหมดถูกพรากไป

“เหวินเกอ?”

จนได้ยลยินเสียงใสกระจ่างถึงพึงได้สติ

255
“ข้ามิใช่สตรี”

บีบมือขาวแน่นโดยไม่รูต้ วั

“ข้าเย็บปั กไม่เป็ น ปั กถุงหอมให้เจ้าไม่ได้ ปั กรองเท้า


เย็บอาภรณ์ เข้าครัวตุน๋ นําแกงง่ายๆ ให้เจ้าก็ยงั ทําไม่ได้
ค่อนชีวิตของข้าคลุกอยูบ่ นดิน อยูก่ บั สนามรบมากกว่า
บ้านของตัวเอง ข้าจับดาบมากกว่าจับพูก่ นั เสียอีก
ข้า…” เฉินเหวินเค่อเม้มปาก ไม่รูท้ าํ ไมถึงได้พดู เรืองนี
ออกมา “...ช่างเถอะ”

“ท่านมิใช่หวางเฟยผูง้ ดงาม มิใช่ภรรยาทีมีคณ


ุ สมบัติ
ครบครัน” เฉินลูป่ ิ นตอบด้วยนําเสียงเรียบ ดูไม่ออกว่า

256
คิดอะไรอยู่ “แต่เรืองแบบนันข้าทําแทนเองก็ได้ สําหรับ
ข้าแค่เป็ นท่านก็พอแล้ว”

อากาศหนาวแลเห็นเฉดสีแดงได้เด่นชัดกว่าปกติ เขาว่า
คนยิมยากเวลายิมจะน่ามองมากทีสุด โดยเฉพาะคนที
มักเอาแต่หลบหน้า ทังยังทําหน้าตึงอยากจะกินหัวคน
ตลอดเวลา

“เดียวเหวินเกอก็ตอ้ งลําบากอีกเก้าเดือน ไม่จาํ เป็ นต้อง


ลําบากเรืองอืนหรอก”

เฉินเหวินเค่อหุบยิมฉับพลัน สะบัดมือสับเท้าหนีตวั
บัดซบหน้ายิมทีรีบวิงตามมาด้านหลัง

257
ไร้ยางอายทีสุด!

แต่เมือนึกถึงถ้อยคําทีเฉินลูป่ ิ นพูด ก็หา้ มมุมปากทียก


ยิมไม่ได้จริงๆ

258
.

ยิงมากคนก็ยิงมากความเป็ นสัจธรรมทีมาคูก่ นั เดิมทีคิด


ว่าวันนีจะหอมหวานราบลืนดังโปรยด้วยกลีบกุหลาบ
เพียงแต่ลืมคิดไปว่า เฉินเหวินเค่อเป็ นแม่ทพั ทีค่อนข้าง
จะรักความยุติธรรมเล็กน้อย ทังยังไม่อาจทนมองคน
อ่อนแอถูกรังแกโดยไร้คณ
ุ ธรรม

เฉินลูป่ ิ นมองท้องฟ้าชืนชมความงาม ดอกเหมยร่วงโรย


หมูต่ านใกล้จะผลิบาน ทําเมินไม่เห็นว่าเฉินเหวินเค่อหัก
แขนอันธพาลทีอาจหาญลวนลามดรุณีนอ้ ยไร้เดียงสา

กล้ารังแกสตรีตอ่ หน้าผูค้ น ยังสามารถเรียกตัวเองว่าเป็ น

259
บุรุษได้อีกหรือ!

“เหวินเกอ…ทีเหลือปล่อยให้เป็ นหน้าทีหน่วยปราบ
ปรามเถอะ นีคนที…” ตังแต่คนทีสิบเป็ นต้นมา เฉินลูป่ ิ น
ก็เลิกนับแล้วว่าเฉินเหวินเค่อกระทืบใครปางตายไปแล้ว
กีคน

“เจ้าก็ระวังตัวหน่อย” นําเสียงดุเอ่ยบอกกับคุณหนูนอ้ ย
ทีกําลังทําหน้าเคลิบเคลิม

นีนางไม่ได้สงั เกตเห็นปิ นบนผมนันหรือ...

แถมยังมีหน้าหันมาถามเฉินลูป่ ิ นว่าพีชายท่านนีมีนาม
260
ว่าอะไร สงสัยเวลาออกมาข้างนอก เขาคงต้องเปลียนคํา
เรียกขานเสียใหม่

“ฟูเหรินของข้าชือเสียงเรียงนามอะไรนันไม่สาํ คัญ แค่


เจ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว คราวหลังก็อย่าพลัดหลงกับสาวใช้
อีกเล่า”

“ฟะ…ฟูเหริน…หรือเจ้าคะ” คุณหนูนอ้ ยปากอ้าหุบอ้า


หุบ ตะลึงงันไปเสียแล้ว เฉินลูป่ ิ นไม่อยากเสียเวลา อีก
ทังนีก็ใกล้เทียงวัน สมควรหาอะไรมาเติมกระเพาะ

เฉินเหวินเค่อมองเข้าไปในฝูงชนทีมุงดูอยูร่ อบๆ หรีสาย


ตามองจุดหนึง ก่อนจะเมินหน้าหนี ไม่สนใจ

261
.

โรงนําชาเยวียซิวมีชือเสียงอย่างมาก เฉินลูป่ ิ นเคยได้ยิน


มานานแต่พงได้
ึ มีโอกาสได้มา

เสียวเอ้อทันทีทีเห็นลูกค้าผูม้ าเยือนทังสองก็มีสีหน้า
ลําบากใจ โรงนําชาชือดังเดิมทีก็แทบไม่มีทีให้นงั พอถึง
ช่วงงานเทศกาลไม่ตอ้ งพูดถึง
262
“น่าเสียดาย…ชาดอกไม้ของทีนีขึนชือมากเสียด้วย”

คนงามเวลาทําหน้าเศร้าชวนให้อยากปลอบประโลม ถ้า
ไม่ติดว่าข้างกายมีคนหน้าดุ ยืนคิวขมวดอยูค่ งมีหลาย
คนพุง่ เข้ามาซับนําตาให้แล้ว

เฉินเหวินเค่อเห็นสายตาโลมเลียพวกนันแล้วหงุดหงิด
จ้องทําไม! มารดาเจ้าไม่สวยหรือ!!

ปกติเฉินเหวินเค่อไม่ได้ชอบใช้อภิสทิ ธิชนสักเท่าไร แต่


ไหนๆ ก็ตอ้ งกลับฉางซี จะมาเสียเทียวก็กระไรอยู่ เขา
หยิบพูห่ ยกยืนออกไป เสียวเอ้อจากก้มศีรษะอย่าง

263
นอบน้อม พอเห็นหยกศิลาจันทราก็แทบจะก้มลงไป
หมอบกราบ

“ไปแจ้งเถ้าแก่ เปิ ดห้องชันสี ด่วน!”

เป็ นทีรูก้ นั ว่าโรงนําชาเยวียซิวมีดว้ ยกันสีระดับ ชันแรก


นันสําหรับแขกทัวไป หากมีเงินสักหน่อยก็เข้ามาได้ ส่วน
แขกชันสองนันต้องจ่ายเงินเพิมเพือความเป็ นส่วนตัว
อันนีมีเงินก็ยงั เข้าได้ ส่วนชันสามออกจะพิเศษเล็กน้อย
คือต้องจองก่อนล่วงหน้า ปกติมกั จะมีคนหลายประเภท
มานังประชุมกัน เสียวเอ้อหลายคนไม่อยากสอดรูม้ าก
จนคอกระเด็น จึงพยายามหลีกเลียงแขกกลุม่ นีมากทีสุด
ส่วนชันสีนานทีปีหนถึงจะพบเจอ เพราะเป็ นระดับที
สงวนให้เพียงเชือพระวงศ์เท่านัน ยิงระดับทีครอบครอง
264
หยกศิลาจันทรา จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด

“เจ้านายท่านใดเป็ นผูม้ าเยือน” เถ้าแก่โรงนําชาเป็ นชาย


วัยกลางคนรูปร่างผอมคนหนึง รีบวิงออกมาจากห้องทํา
งานทันทีทีทราบเรือง

เสียวเอ้อทีเป็ นคนรับแขก แม้มิเคยพบหน้าองค์ชายทุก


พระองค์ แต่บรรยากาศกดดันและปิ นทีปั กอยูบ่ นผม เชือ
พระวงศ์สายหลักเห็นทีจะมีแค่ผเู้ ดียว

“องค์ชายใหญ่ เอ่อ…ข้าน้อยหมายถึง เฉินอันหวางกับ


เฉินอันหวางเฟยขอรับ”

265
เถ้าแก่ได้ยินก็หน้ามืด ตวาดใส่เหล่าเสียวเอ้อทีวิงวุน่
ทว่ายังรวดเร็วไม่พอในสายตาของตนเอง “ชักช้าอยูไ่ ย
ถ้ายังไม่อยากแขนหักก็เร่งมือเข้า!”

ข่าวลือมักไปไว ยิงเป็ นข่าวลือของเชือพระวงศ์ก็พากัน


กางหูให้กว้าง ได้ยินว่าองค์ชายใหญ่มาเดินเทียวชมงาน
เทศกาลช่วงเฉลิมฉลอง ทรงหักแขนคนทีทําอารมณ์ข่นุ
มัว โดนหามขึนเปลไปตังหลายคน

ปี ใหม่ทงที
ั เหตุใดจึงซวยตังแต่ตน้ ปี เถ้าแก่โรงนําชา
นําตาไหลพราก สงสัยต้องเอาเงินไปบริจาค เพิมบุญ
กุศลให้ตนเองบ้างแล้ว

266
ในใต้หล้านี มีหวางเฟยทีไหนป่ าเถือนเช่นนันบ้าง!

เมืองหลวงสมกับเป็ นเมืองหลวง มองไปทางไหนก็เจริญ


หูเจริญตา ทางนําใสแจ๋วเห็นหมูม่ จั ฉาแหวกว่าย ชล
ประทานในเมืองถูกขุดลอกด้วยแรงงานคน เกิดเป็ นแม่
267
นําและคูคลองจําลองมากมายหลายสาย

ทิวทัศน์งดงาม ข้างแม่นาเยวี
ํ ย ชมดอกท้อบาน โรงนําชา
เยวียซิวครอบครองสามสิงนีก็เพียงพอทีจะมีชือเสียง
แล้ว

แต่วา่ ยิงสูงยิงหนาวจริงแท้…อากาศยังเย็นอยูจ่ ะเอาตา


ทีไหนไปชมดอกท้อ

เสียวเอ้อคนใหม่ยกนําชามาบริการ เฉินเหวินเค่อไม่ได้
สนใจเรืองโรงนําชาชือดังตังแต่แรก จึงปล่อยให้เฉินลูป่ ิ น
จัดการแทน

268
หวางคนงามจับมือภรรยา สบตาหวานด้วยท่าทางเอียง
อาย เฉินเหวินเค่อเหลือบสายตามองนิวลากไปมาบน
หลังมือ ยกนําชาขึนจิบ แสร้งทําเป็ นดืมดํากับ
บรรยากาศ

‘มีคนตามเรามา’

เฉินเหวินเค่อพยักหน้ารับน้อยๆ ก่อนจะเขียนข้อความ
ต่อไปว่า

‘จะทําอย่างไร ล่อหรือฆ่า’

เฉินลูป่ ิ นเหยียดยิมงามเคลือบยาพิษ
269
‘ล่อ’

“เหมยโรยรา แต่กลับยังมีขนมดอกเหมยให้ลมรส
ิ สมกับ
เป็ นโรงนําชาเยวียซิวจริงๆ”

“อย่าตามใจปากมากเกิน วันๆ เจ้าแทบไม่ขยับตัว เดียว


ก็ลงพุง”

“ก็ออกกําลังอยูท่ กุ คืนมิใช่หรือ เหวินเกอเห็นว่าไม่เพียง


พอ จะขอเพิมรอบเช้า”

เฉินเหวินเค่อถลึงตา เลิกต่อปากต่อคํา หันไปคว้าแขน


270
ของเสียวเอ้อทีเตรียมตัวผละไป เขาบิดแขนเล็กลีบราว
กิงไม้แห้ง มีดสันบางเฉียบดุจแผ่นกระดาษพลันร่วงหล่น
กระทบกับกานําชา

เสียวเอ้อตวัดขาเตะ แต่เอียงคอหลบได้ทนั เฉินลูป่ ิ นลุก


ขึนซัดเข็มบินในทันที ทว่าก็ถกู ปั ดป้องได้ทงหมด

ประตูไม้และฉากกันถูกถีบกระเด็น เศษไม้ปลิวว่อน
เถ้าแก่รา้ นรีบวิงขึนมาดูเสียงวุน่ วาย เห็นชายในชุดดํา
กับเสียวเอ้อทีเขาจําไม่ได้วา่ เป็ นลูกจ้างในโรงนําชา ชัก
มีดพุง่ เข้าใส่เจ้านายสูงศักดิทังสอง

ฉิบหายแล้ว!

271
“เรียกกองปราบ เรียกกองปราบ! มีคนร้ายอยูด่ า้ นบน!!”

เถ้าแก่แห่งโรงนําชาเยวียซิวร้องลัน ผมหงอกเพิมอีกสิบ
เส้น

ปะทะกันตรงนีพืนทีไม่อาํ นวย หันมาสบตา ก็รูไ้ ด้เลยว่า


มีความคิดตรงกัน

ชายรูปงามในชุดขาวถีบตัวใช้วิชาตัวเบาร่อนกลางเวหา
เหยียบอากาศกระโดดลงไปในแม่นาเยวี
ํ ย ก่อนทีชายรูป
ร่างกํายําอีกคนจะฟาดสันมือแสกหน้าเหล่ามือสังหาร
แล้วกระโดดตามไปติดๆ

272
เฉินเหวินเค่อรีดเร้นลมปราณ แต่จ่ๆู เขาก็รูส้ กึ โลกมืด
กะทันหัน ทังกระแสกําลังภายในยังวิงวุน่ ยากจะควบคุม

“เหวินเกอ!”

ได้ยินเสียงใครสักคนตะโกนก้องด้วยความตระหนก เฉิน
ลูป่ ิ นหมุนตัวไปพยุงแขนคนทีจู่ๆ ก็รว่ งลงมาโดยไม่ยอม
ใช้วิชาตัวเบา

ชายสองคนกระโดดลงมาจากทีสูงไปบนเรือสําปั นจ้าง
นําสาดกระเซ็น เรือโคลงจนคนนังเวียนหัว ม่านผ้าโปร่ง
ปลิวไสว คุณหนูวยั แรกแย้มตกตะลึง ไม่คิดมาก่อนว่า

273
การล่องเรือชมเมืองจะมีคนแปลกหน้าตกลงมาจากฟ้า
นางเสียหลักจนเซเกือบจะหงายหลัง แต่ก็ถกู โอบเอว
ช่วยไว้ได้ทนั

เจ้าของอ้อมแขนขมวดคิว สีหน้าดุดนั คุณหนูนอ้ ยตังแต่


เกิดมาก็พงเคยพบเจอบุ
ึ รุษทีหล่อเหลามากขนาดนี

“คุณหนูนีภรรยาข้า” เฉินลูป่ ิ นพูดเสียงแข็ง ใช้แขนโอบ


ไหล่กว้างแสดงความเป็ นเจ้าของ

ผูถ้ กู แนะนําว่าเป็ นภรรยาหันไปตบหัวทิม อ่านสายตา


เกรียวกราดได้วา่ 'นีมันใช่เวลาไหม!'

274
หมุนคอหันกลับไปมองยังด้านบนทีกระโดดลงมา ก็พบ
ว่ามือสังหารเหล่านันยืนจ้องอยูน่ ิงๆ ไม่ได้ไล่ตาม คล้าย
ว่าไม่ได้ตงใจจะมาทํ
ั าร้ายตังแต่แรก

หลังจากนันหน่วยปราบปรามของกองปราบประจําเขต
275
ในเมืองหลวงก็รบี เร่งมา เรืองในครังนีถูกนําไปรายงาน
ต่อองค์จกั รพรรดิเป็ นการเร่งด่วน แต่เพือไม่ให้การเริม
ต้นปี ใหม่ดว้ ยเรืองไม่เป็ นมงคล ทังจักรพรรดิและเฉินเหวิ
นเค่อ ต่างลงความเห็นว่าให้ปิดข่าว แล้วตามสืบต่อไป
เงียบๆ จะดีกว่า

เหล่าข้ารับใช้นอ้ มส่งเจ้านายทีออกนอกจวนด้วยอารมณ์
ยินดี แต่ไม่รูเ้ พราะเหตุใดขากลับเจ้านายทังสองถึงมีสี
หน้าเคร่งเครียด จนได้แต่สง่ สายตากันไปกันมา ไม่กล้า
เข้าไปเสียมารยาทถาม

“มือสังหารพวกนันแปลกพิกลนัก เจ้าคิดว่า…” เสียงของ


เฉินเหวินเค่อกลืนหายทันทีทีเห็นร่างในอาภรณ์ขาวโงน
เงนยืนไม่อยู่
276
วินาทีทีเห็นอีกฝ่ ายล้มลง ราวเวลาหมุนช้า สรรพเสียง
รอบกายชะงักงัน ในหูอืออึง ฟั งสิงใดก็ไม่กระจ่าง

“ลูป่ ิ น!”

เฉินเหวินเค่อแผดเสียงลัน หัวใจในอกราว
ถูกกระชากออกมานอกร่างกาย ใบหน้าชายงามทีมักจะ
เปื อนรอยยิมน่าหมันไส้ บัดนีซีดขาวไร้สีเลือด คิวใบหลิว
ขมวดกันเป็ นปมแน่น เขาช้อนตัวอีกฝ่ ายขึนมา ตะโกน
สังด้วยนําเสียงร้อนรน

“ไปตามแพทย์หลวง!”

277
จวนเว่ยหวางไม่เคยส่งข้ารับใช้วิงร้อนรนเพือตามหา
แพทย์หลวงมาก่อน ดังนันทางสํานักราชวังจึงไม่นิงนอน
ใจ กัวเจ๋อเป็ นแพทย์หนุ่มอนาคตไกล วิชาความรูก้ ว้าง
ขวาง เร่งเดินทางทันทีทีทราบเรือง

เมือเข้าไปในห้อง สิงแรกทีเห็นคือองค์ชายใหญ่นงบี
ั บมือ
ของเฉินอันหวางทีนอนขมวดคิวด้วยสีหน้าทรมาน
ความเป็ นกังวลนันผิดกับคําลําลือทีได้ยินมา ต่อให้ฟัน
หัวคนขาดกระเด็น แม่ทพั ผูเ้ ลือดเย็นคิวยังไม่กระตุก

“กระหม่อมแพทย์หลวงกัว…” กัวเจ๋อยังเอ่ยไม่ทนั จบ
ประโยคก็โดนกระชากตัวปลิว เท่านันเขาก็ไม่พดู มากให้

278
เปลืองนําลาย รีบตรงไปจับชีพจรทันที

“เฉินอันหวางมีอาการอะไรเป็ นพิเศษหรือไม่พะ่ ย่ะค่ะ”


แพทย์หลวงไต่ถาม หลังจากลองจับชีพจรก็พบเพียง
อาการอ่อนเพลีย

“เขาบอกว่าถุงหอมอันนีเหม็นแล้วก็อาเจียนออกมา
พวกชาดอกไม้กบั ขนมทีมีกลินของดอกไม้เป็ นส่วน
ประกอบก็เหมือนกัน”

เฉินเหวินเค่อยืนถุงหอมทีห้อยเอวของเขาอยูท่ กุ วัน ถุง


หอมอันนีเฉินลูป่ ิ นเป็ นคนทําให้ เรืองส่วนผสมเขาไม่แน่
ใจนัก รูเ้ พียงมีดอกเหมยกับสมุนไพรกลินหอมเย็นทีชวน

279
ให้ผอ่ นคลายเท่านัน

แพทย์หลวงกัวลูบคางมองสลับของในมือกับคนบนเตียง
ก่อนจะเงยหน้าขึนมาสบตากับเฉินเหวินเค่อ เหมือนจะ
นึกอะไรออก แต่ยงั ไม่แน่ใจนัก

“กระหม่อมขอจับชีพจรหวางเฟยได้หรือไม่”

เฉินเหวินเค่อเลิกคิว นึกสงสัยแต่เขาไม่เห็นว่าเป็ นเรือง


ใหญ่ จึงยืนแขนให้ตรวจแต่โดยดี

กัวเจ๋อลูบๆ คลําๆ รูส้ าเหตุตงแต่


ั ทีแรก แต่วา่ ทําใจเชือได้
ยาก มองสลับสองสามีภรรยาเชือพระวงศ์คนู่ ีแล้ว พลัน
280
ตระหนักได้วา่ ใดๆ ในโลกหล้าล้วนเกิดขึนได้ทงนั
ั น
สรรพสิงล้วนไม่จีรงั สถานะบนเตียงก็เช่นกัน

แพทย์หลวงกัวลุกขึนประสานมือทูลบอก ด้วยนําเสียง
แสดงความยินดี “ขอแสดงความยินดีตอ่ เฉินอันหวา
งและหวางเฟยด้วยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมพบชีพจรมงคล
พระองค์ตงครรภ์
ั ได้หนึงเดือนกว่าแล้ว”

สินคําเฉินลูป่ ิ นทีนอนซมก็ลกุ พรวด จับไหล่แพทย์หลวงผู้


นีแน่น แต่เพราะลุกเร็วเกินจนหน้ามืดไปอีกรอบ ลําบาก
เฉินเหวินเค่อต้องประคองนอนลงกับเตียง

“ส่วนเรืองอาการของเฉินอันหวางมิมีอะไรน่าเป็ นห่วง

281
เพียงแค่อาการพิศวงทีเรียกว่าแพ้ทอ้ งแทนภรรยาเท่านัน
อาการนีหาต้นสายปลายเหตุไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็ นอันตราย
ใดๆ แค่ตอ้ งดูแลตัวเองให้เหมือนกับภรรยาทีตังครรภ์
ช่วงเดือนทีสีอาการก็จะทุเลาลงหรือบางคนก็หายได้เร็ว
ตังแต่เดือนสามพ่ะย่ะค่ะ”

เฉินลูป่ ิ นได้ยินก็หน้าซีดราวโลกถล่ม แผ่นดินทรุด เกิด


วันมหาวิปโยค มือเรียวยกมือกุมปากแน่น รูส้ กึ อยากจะ
อาเจียนอีกสักรอบ

ในขณะทีเฉินเหวินเค่อลูบหลังคนงาม ตบเข่าฉาด
หัวเราะลันด้วยความสาแก่ใจเป็ นอย่างยิง

282
ตอนที ๒๑ หยวนเซียวทีย้อมไปด้วยเลือด

จันทร์เต็มดวงครังแรกของปี ใหม่คือวันขึนสิบห้าคําของ
เดือนแรก เมืองทังเมืองสว่างไสวดุจยามกลางวันจาก
โคมไฟทีแขวนประดับไว้

ปุถชุ นยังเฉลิมฉลองในวังมีหรือจะขาดเรืองครืนเครง แม้


งานนีจะไม่ยงใหญ่
ิ มากเท่างานเลียงฉลองวันสินปี
จักรพรรดิมิได้เป็ นองค์ประธาน แต่วา่ งานเลียงฉลอง
เทศกาลหยวนเซียวก็มีพระสนมยศสูงเป็ นแม่งานมาโดย
ตลอด

หนุ่มสาวเยาว์วยั พบพานใต้แสงไฟ ชืนชมโคมงาม ร้อง

1
เพลงต่อกลอน ร่วมโต๊ะลิมรสทังหยวน อีกแง่หนึงของ
งานเลียงมีจดุ ประสงค์ในการหาคูค่ รอง

หลายปี ทีผ่านมาหนิงเฟยเป็ นคนจัดการมาโดยตลอด


แทนหวงโฮ่วทีประชวรหนัก และแทนฮุ่ยกุย้ เฟยทีในตอน
นันยังดํารงยศขันเฟยบอกปั ด ปี นีก็เช่นกัน เฉินเหวินเค่อ
รูน้ ิสยั ของมารดาตนเองดี ท่านแม่แต่เดิมก็มิใช่ไม่สนั ทัด
แต่แค่รูส้ กึ รําคาญใจทีต้องทํามากกว่า ส่วนจ้าวกุย้ เฟย
คงเห็นว่าไม่ใช่เรืองน่าสนุกก็เลยใช้อาํ นาจในทางทีผิด
โยนงานไปให้พน้ ตัว

ไม่ใส่ใจว่าสนมชายายศตํากว่าจะเป็ นแม่งานข้ามศีรษะ
ตน เกรงว่าตอนนีหนิงเฟยคงกําลังเคาะปลาไม้สวดมนต์
ทังนําตาอยูเ่ ป็ นแน่
2
เทียบเชิญส่งมาตังแต่สองวันก่อน แต่เฉินเหวินเค่อพึง
ทราบเรืองเมือเช้า พอไล่บีถามหาเหตุผลทีปกปิ ด เฉินลู่
ปิ นก็สารภาพว่าทําเพราะเป็ นห่วง

การทีโดนลอบสังหารทีโรงนําชาเยวียซิวแต่เดิมก็ไม่เห็น
ว่าเป็ นเรืองใหญ่ แต่หลังจากรูว้ า่ เขาตังครรภ์ สิงใดทีจะ
มากระทบตัวเฉินเหวินเค่อกับลูก ล้วนเป็ นภัยพิบตั ิใน
สายตาของเฉินลูป่ ิ นทังสิน

ท่านแม่ทราบแล้วว่าเขาโดนมือสังหารลอบโจมตี แต่ยงั
ไม่ทราบว่าตนเองกําลังจะมีหลาน เขาเองก็อยากส่งคน
ไปบอกข่าวดี แต่คิดในอีกแง่ บางทีบอกด้วยปากตัวเอง
คงจะดีกว่า จึงรอเทียบเชิญอยูห่ ลายวัน ส่วนแพทย์
3
หลวงกัวนันถูกดึงตัวให้มาอยูใ่ นจวน

กัวเจ๋อแม้จะยังหนุ่มแต่ก็หตู าไว มีสมองอยูบ่ า้ ง เรืองคาว


โลหิตส่งกลินคลุง้ ของเชือพระวงศ์รูแ้ สร้งมิรู ้ กับคน
ลักษณะเช่นองค์ชายใหญ่ เปี ยมเมตตาและใส่ใจต่อข้า
รองบาททีซือสัตย์ไม่คิดคด ในเมือพระประสงค์ให้ปิดบัง
กัวเจ๋อย่อมปิ ดปากสนิท

เงินทองมากมายล้วนไม่สาํ คัญเท่าชีวิต รับใช้เจ้านายถูก


คนไหนเลยจะไม่มีอนาคต

เฉินเหวินเค่อกล่อมคนแพ้ทอ้ งแทนทีไม่เจียมตัวอยูน่ าน
การไม่โผล่หน้าไปจะเป็ นทีสงสัย เขาเป็ นแม่ทพั แข็งแรง

4
ไม่เคยเจ็บป่ วย รวมถึงจุดประสงค์ของเหล่ามือสังหารที
ลอบโจมตีทีโรงนําชาเยวียซิวก็ยงั คาดเดาอะไรไม่ได้
เรืองนีอย่างไรก็ไม่ควรเก็บตัวเงียบอยูใ่ นจวน

จนได้แพทย์หลวงกัวช่วยพูดอีกเสียง เฉินลูป่ ิ นถึงได้ยอม

“เฉินอันหวางอย่าทรงเป็ นกังวล ปกติครรภ์ของบุรุษจะ


แข็งแรงกว่าและไม่บอบบางเท่าสตรี ถึงจะดูแลยุง่
ยากกว่าเล็กน้อย แต่วา่ โอกาสแท้งนันตํากว่านัก ยิงหวา
งเฟยเป็ นผูม้ ีวรยุทธก็ยิงเป็ นกังวลน้อยลงไปอีก แม้ช่วง
ตังครรภ์จะไม่อาจควบคุมการไหลเวียนของลมปราณ
แต่วา่ กําลังภายในจะเป็ นตัวช่วยในการปกป้องทารกใน
ครรภ์”

5
ใบหน้าซีดเซียวปรากฏแววไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่จะทํา
อะไรได้ ไม่วา่ จะยามนอน ตืนนอน หรือเพียงนังบืออยู่
เฉยๆ เฉินลูป่ ิ นก็แทบจะอาเจียนทุกๆ ครึงชัวยาม สภาพ
น่าสมเพชนัก เวลานีอารมณ์ขนๆ
ึ ลงๆ เอาอกเอาใจยาก
ทุกวันได้แต่นอนซดนําขิงบรรเทาอาการแพ้ทอ้ ง สลับกับ
ยัดผลไม้รสเปรียวเข้าปากบางไม่หยุด

ทางฝังเฉินเหวินเค่อมีอาการอยากกินอะไรเปรียวๆ บ้าง
เล็กน้อย แต่ไม่ได้รูส้ กึ คลืนไส้ไม่มีแรงอะไร ผิดกับเฉินลู่
ปิ น...

นันพูดไม่ทนั ขาดคํา

6
หลังแต่งองค์ทรงเครืองพร้อมเข้าวัง แพทย์หลวงกัวต้ม
ยาสมุนไพรช่วยบรรเทาอาการ เฉินลูป่ ิ นจึงมีสีหน้าดีขนึ
จากนันแนะนําให้พกถัวอบหรือไม่ก็ธญ
ั พืชใส่ถงุ เล็กๆ
ติดมือไปด้วย หากรูส้ กึ ไม่อยากรับประทานอาหารหนักก็
ให้กินถัวอบพวกนีแทน อย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยให้ทอ้ ง
ว่าง

ส่วนฝ่ ายคนมีเด็กจริงๆ ง่วนอยูก่ บั นังศึกษาอาหารต้อง


ห้าม สิงใดไม่ควรเอาเข้าปาก ไม่ควรสูดดมเข้าใกล้ หรือ
แตะต้องโดยเด็ดขาด ล้วนท่องจําโดยกระจ่าง แววตาที
มองไปยังเฉินลูป่ ิ นจึงเจือความขอบคุณอยูห่ ลายส่วน
หากให้เขามานังจําทังๆ ทีแพ้ทอ้ ง เกรงว่าคงหงุดหงิดจน
ไม่เป็ นอันทําอะไรแน่ๆ

7
ระหว่างทางไปวังหลวง แม้มีมา่ นปิ ด แต่แสงวูบวาบก็ยงั
ทอดผ่าน เฉินลูป่ ิ นดึงมือคนข้างกายมาบีบแน่น เอนกาย
ไปซบไหล่ นําเสียงทังออดอ้อนและน้อยใจอยูใ่ นที

“เหวินเกอไม่ไปไม่ได้หรือ…ข้ารูส้ กึ ไม่ดีเลย”

“ก็แค่อารมณ์คนท้อง” เฉินเหวินเค่อตอบปฏิเสธ

“แต่ก็ไม่อยากให้ไปนีนา…”

หยดนําใสกลิงลงบนแก้มขาวซีด นําตาของชายงามชวน
ให้รูส้ กึ สงสาร มองอย่างไรก็งามจริงๆ คนท้องยกนิว
8
เกลีย ไม่รูท้ าํ ไมยิงเช็ดก็ยิงไหล สุดท้ายเฉินเหวินเค่อก็
ต้องถอนใจ ยอมให้ชายเสือเปรอะทังนําตาและนํามูก
ให้คนอารมณ์ออ่ นไหวปลดปล่อยความไม่สบายใจออก
มา

อีกไม่ไกลจะถึงวังแล้ว ลงจากรถม้าในสภาพเช่นนีดูไม่
ได้เป็ นอย่างยิง เฉินเหวินเค่อดึงมืออีกฝ่ ายมาวางไว้บน
หน้าท้อง ลูบคลําเจอแต่กล้ามเนือแข็ง หากไม่ได้แพทย์
หลวงกัวยืนยัน ไม่รูว้ า่ ต้องกีเดือนถึงจะดูออก

“ร้องไห้น่าเกลียดนัก อายลูกเสียบ้าง”

เฉินลูป่ ิ นถูกดุก็มยุ่ หน้า ทําท่าจะร้องไห้อีกรอบ แต่ก็

9
พยายามอดกลันสูดจมูกตอบกลับด้วยนําเสียงอูอ้ ี

“จูบปลอบข้าก่อน”

เฉินเหวินเค่อกรอกตา ให้ทาํ เรืองเช่นนันก่อนน่าอายนัก


จนนําตาเริมเอ่อคลอรอบดวงตาคูส่ วย จูบก็ได้! เขาจึง
จําใจไล่จบู ตังแต่เปลือกตา แล้วลงท้ายทีริมฝี ปาก ด้วย
สัมผัสอ่อนโยนหาได้ลว่ งลําเข้าไป

คนแพ้ทอ้ งแทนเผยความพอใจจนหน้าบาน ส่วนอีกคนก็


เริมปวดหัวกับอารมณ์ขนๆ
ึ ลงๆ ชวนรับมือยาก

เฉินลูป่ ิ นหัวเราะน้อยๆ มือยังลูบวนอยูบ่ นหน้าท้องแกร่ง


10
จนอดคิดไม่ได้วา่ ลูกจะอึดอัดไหมหนอ ท้องมารดาเจ้า
ถึกทนปานนี

“ท่านรูไ้ หม ถึงข้าจะกังวล แต่ขา้ ก็ดีใจทีเรากําลังจะมีลกู


ด้วยกัน”

“อืม...ข้ารู”้

เขาเองก็ดีใจ...เฉินเหวินเค่อกระตุกยิมบาง ก่อนริม
ฝี ปากจะเริมควําเมือเห็นว่าอีกฝ่ ายซาบซึงจนนําตาจวน
เจียนจะไหลอีกรอบ

หากเป็ นผูอ้ ืนเขาคงได้ตบหน้าหันไปแล้ว เดิมทีก็ไม่ชอบ


11
คนเจ้านําตา ต่อให้เป็ นคนงามน่ามองเพียงใด แต่เจอบ่อ
นําตาแตกไหลพรากบ่อยๆ ก็ราํ คาญเอาได้เหมือนกัน
แต่กบั เฉินลูป่ ิ นแล้วในใจกลับเกิดข้อยกเว้น ไม่วา่ อย่าง
ไรก็มีเพียงอีกฝ่ ายทีแตกต่าง

“เจ้านี…” ถึงนําเสียงจะหน่ายใจ แต่ก็คิดไตร่ตรองในคํา


พูดมากกว่าเดิม “ถ้าเจ้าไม่หยุดร้องข้าจะไม่ ระ…รักเจ้า
แล้วนะ”

บัดซบ! เหตุไฉนคําพูดง่ายๆ จากปากเฉินลูป่ ิ น พอเอา


มาพูดเองถึงได้น่าอายเช่นนี แต่เมือพิจารณาในส่วนของ
ผลลัพธ์….ได้ผลชะงัดนัก

12
.

งานจัดในอุทยานหลวงของเขตพระราชฐานชันนอก แม้
จะไม่ได้ยงใหญ่
ิ งดงามเท่าฝ่ ายใน แต่ก็เจริญหูเจริญตา

13
มองแล้วชวนสงบใจ

เพราะความเจ้านําตาทําให้พวกเขามาถึงสาย หนิงเฟย
ยังยิมรับ ผูใ้ ดจะกล้ากล่าววาจาตําหนิ

ตอนงานเลียงสินปี ล้วนเจอแต่หน้าเหียวๆ ของขุนนาง


หนังจิงจอก บรรดาพระญาติก็คนุ้ หน้ากันดี แต่วนั นีได้
เห็นหนุ่มสาวมากหน้าหลายตา ล้วนเป็ นวัยเยาว์ทีผ่าน
ไปแล้ว ทังเขาและเฉินลูป่ ิ นต่างลอยตัวเหนือผูค้ น นอก
จากนังชิมทังหยวนเรือยเปื อย ก็มีเกมต่อโคลงเท่านันที
น่าสนใจ

ถ้าจะให้ถกู ต้อง มีเพียงเฉินลูป่ ิ นทีสนใจ แต่ไหนแต่ไรเฉิน

14
เหวินเค่อก็เอาใจออกห่างพวกกวีนิพนธ์ อารมณ์ศิลป์ มิ
เทียบกับยามได้ขีม้าออกกําลัง กลินอายบริสทุ ธิของ
ธรรมชาติจรรโลงใจได้กว่ากันเยอะ

โชคดีทีเหมือนอาการแพ้ทอ้ งจะไม่เรืองมากเอาตอนนี
ส่วนประกอบหลักของทังหยวนเองก็เป็ นก้อนแป้ง รส
ชาติไม่เค็มไปหรือหวานจัด นับว่าหนิงเฟยบริหารจัดการ
ได้ดี

จักรพรรดิไม่เคยเสด็จมาทุกปี จนแม่งานประจําเลิกจะ
เสียใจ เรียกได้วา่ อายุมากเกินกว่าจะมารูส้ กึ กับเรือง
หยุมหยิมเล็กน้อยพวกนี

15
งานน่าเบือเสียจนต้องอ้าปากหาว เฉินลูป่ ิ นเริมรูส้ กึ ว่า
ควรจะตามใจเฉินลูป่ ิ นตังแต่ทีแรก

หนุ่มสาวนังฉอเลาะบิดตัวเป็ นเกลียว มุมลับนันมีสอง


บุรุษจุมพิตกันจาบจ้วง รักเร่าร้อนตามวัย แต่ผิดธรรม
นองคลองธรรมไปเสียหน่อย เฉินเหวินเค่อไม่ได้หาข้อ
อ้างแก้เบือ ถึงจะไม่ใช้พลังยุทธแต่ผลองุ่นเปลือกหนาก็
เข้าเป้า

ทังสองหันมองผูล้ งมืออย่างหัวเสีย แต่เพียงสบตากร้าวก็


เดินหนีไปทันที

ถอนหายใจทิงเป็ นรอบทีสิบ มองเฉินลูป่ ิ นสนุกสนานกับ

16
การต่อบทกลอนกับเหล่าบัณฑิตหน้าตาซือๆ ท่าทาง
สนุกสนานจนอดไม่ได้ทีจะเบ้ปาก หงุดหงิดนัก ผูใ้ ดรําไห้
ว่าไม่อยากมา ไอ้ลกู เต่าบัดซบ! หากหายแพ้ทอ้ งจะไล่เอ
อกไปนอนนอกห้องเสียให้เข็ดหลาบ

ทนนังอยูเ่ ฉยๆ ไม่ได้ หนิงเฟยเองก็ทนรับแรงกดดันใน


การชวนต่อบทสนทนาไม่ไหวเช่นกัน พอเฉินเหวินเค่อ
ลุกออกไปเดินเล่นแก้เบือ พระสนมผูว้ างมือหันเข้าทาง
ธรรมก็ลบู ประคําในมือขอบคุณสวรรค์เสียยกใหญ่

ในอุทยานมีโคมไฟแขวนประดับประดาเต็มต้นไม้ ยิง
เดินลึกก็ยิงพบเจอคนหนุ่มสาวน้อย

17
“นีเจ้าน่ะ!” เสียงตะโกนโหวกเหวกโพล่งขึนมาทําลาย
ความเงียบสงบ หันไปตามทิศทีได้ยินก็พบชายหนุ่มทีดู
อ่อนวัยกว่าเขาสักสามสีปี โบกมือเรียกอยูไ่ ม่ไกล

ในศาลากลางบึงบัวหลวง ตอนกลางคืนผืนนําเห็นเพียง
สีดาํ ลึกลับ แลสระบัวนันไร้กน้ บึง หากพลัดตกไปอาจจม
หายไปไม่มีผใู้ ดพบ ยังดีทีมีโคมไฟในเทศกาลหยวน
เซียวช่วย นอกจากสวยงามแล้วยังไม่ไร้ประโยชน์ ก่อ
กําเนิดแสงสว่าง นับว่าไม่เสียชาติเกิด

ผูค้ นในศาลาล้วนเป็ นบุรุษวัยใกล้เคียงกัน อายุนอ้ ยสุด


น่าจะสักยีสิบสอง ทังสามคนรูปร่างหน้าตาไม่เข้าใกล้คาํ
ว่าชายงาม แต่กลับมีปินปั กอยูบ่ นผม เฉินเหวินเค่อเห็น
แล้วหัวใจพองโต สบกับดวงตาทังสามคู่ ต่างมองทะลุ
18
ลินไก่ไหลไปยันไส้ตงิ

เขาว่าคนประเภทเดียวกันย่อมดึงดูดเข้าหากัน คน
ประเภทเดียวกันย่อมเข้าใจหัวอกซึงกันและกัน

ทังสามคนไม่คนุ้ หน้า ตอนเข้างานมาก็ไม่เห็นแล้ว แต่


เดาจากการทีเอ่ยทักทายอย่างไม่รกั ษากิรยิ าต่อเขา คง
เป็ นฟูเหรินของขุนนางหนุ่นอายุนอ้ ย ยศขันไม่สงู นัก

ทังสามคนผลัดกันแนะนําตัว

คนแรกถือเป็ นคนอาวุโสน้อยทีสุดมีนามว่าฮัวเหิง สามี


เป็ นขุนนางอาลักษณ์เล็กๆ บิดาของหนิงเฟยคือเสนาบดี
19
กรมพระคลัง คาดว่าสามีของฮัวเหิงผูน้ ีคงจะติดตามเจ้า
นายเข้าวังมาด้วย คงเป็ นคนโปรดไม่นอ้ ย

คนทีสองอายุยีสิบสามมากกว่าฮัวเหิงแค่ปีเดียว มีนาม
ว่าหานซ่ง พึงแต่งงานกับผูช้ ่วยใต้เท้าแห่งศาลยุติธรรม
ต้ากง หนึงในสามศาลยุติธรรมประจําเมืองหลวง ฟั ง
จากนําเสียงดูเหมือนจะไม่ลงรอยกับสามีเท่าไร ปกติการ
แต่งงานของบุรุษกับบุรุษมักจะเป็ นการเกียวดองเพือผล
ประโยชน์อยูแ่ ล้ว ส่วนเรืองทีขัดแย้งทีสุดก็ไม่พน้
ตําแหน่งบนเตียง ของเช่นนีไม่เข้าใครออกใคร ต่างชิง
ไหวชิงพริบกันทังนัน

คนสุดท้ายนับเป็ นคนหน้ายิมอีกคนในชีวิตของเฉินเหวิ
นเค่อ ไม่รูท้ าํ ไมตังแต่พบเจอกับเฉินลูป่ ิ น เขาก็ได้พบคน
20
หน้ายิมบ่อยครังขึน เพียงแต่กบั มีเตียนผูน้ ี เป็ นรอยยิม
สดใสจริงใจ ต่างจากรอยยิมละมุนละไมของเฉินลูป่ ิ น

ในทังสามคนมีเตียนอายุใกล้กบั เฉินเหวินเค่อมากทีสุด
ท่าทีทีปฏิบตั ิตอ่ กันเลยค่อนข้างเป็ นกันเอง ผิดกับอีก
สองคนทียังรักษาท่าทีของตัวเองเอาไว้

จนกระทังเขาเอ่ยขานนามออกไป สีเลือดบนใบหน้าสด
ใสของมีเตียนก็ซีดลงทันตาเห็น

“ช่างเถอะ ข้าไม่ได้ใส่ใจอะไร”

“ขอบพระทัยในพระเมตตาพ่ะย่ะค่ะ”
21
ชาร้อนถูกรินมาให้ เฉินเหวินเค่อรักษาสีหน้านิงเฉย แต่
ในใจขมวดคิวยุง่ ยากไปหลายตลบ แต่เมือพบว่าเป็ นชา
ขิงร้อน...จําได้วา่ แพทย์หลวงกัวเคยบอกไว้คนมีครรภ์มิ
ควรดืมชา แต่ก็มีชาบางประเภททีดืมได้แต่นอ้ ย กับชา
อีกประเภททีดืมแล้วมีผลดีช่วยเรืองอาการแพ้ทอ้ งคลืน
ไส้ได้ ชาขิงเองก็เป็ นหนึงในนัน

“น้องฮัวกําลังตังครรภ์ทาํ ให้มิอาจดืมชาอืนได้ ต้องขอ


ประทานอภัยต่อหวางเฟยด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

เฉินเหวินเค่อพยักหน้ารับ เข้าอกเข้าใจ เข้าใจโดยถ่อง


แท้เลยด้วย

22
มีเตียนหรีตา แม้พวกตนจะพึงได้พบเจอ เว้นแค่ฮวั เหิง
กับหานซ่งทีดูจะรูจ้ กั กันมาก่อนกลับรูส้ กึ ว่ามีบางสิง
เหมือนกันอย่างน่าประหลาด

“คูส่ ามีภรรยาทีเป็ นชายทังคูล่ ว้ นคาดเดาสถานะได้ยาก


เพราะส่วนมากจะแต่งกันด้วยผลประโยชน์และการเกียว
ดองทางการเมืองทังนัน แต่มองพีชายน้องชายทุกท่าน
แล้ว รูส้ กึ ว่าสถานะค่อนข้างจะตรงตัว”

ทุกคนได้ยินต่างพากันสําลัก เท่านันมีเตียนก็หวั เราะร่า


เล่าเรืองตนเองอย่างไม่มีเขินอาย คล้ายอัดอันมานาน

23
“ข้าเองก็ถกู คลุมถุงชนให้แต่งงาน เดิมทีบา้ นข้าเป็ น
ตระกูลวาณิช ค้าหยกอยูท่ ีเฉิงตู ตอนแรกทีต้องมาแต่ง
กับสามีทีเป็ นขุนนางก็ไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่วา่ สามีขา้
เป็ นขุนนางเล็กๆ พูดน้อยขีอาย เป็ นบัณฑิตหน้าตาซือๆ
ตอนเข้าหอข้าหักหาญนําใจเห็นแก่ตวั ไม่ลง ก็เลยปล่อย
เลยตามเลย” จากนันรอยยิมสดใสก็เบ้ลงเล็กน้อย “ข้า
เองก็ไม่ได้ปิดบังสถานะของตัวเอง แต่ไม่รูท้ าํ ไมบอกไป
ไม่มีคนเชือ”

มีเตียนมีรูปลักษณ์จอมยุทธเจ้าสําราญ ถ้าบอกว่าอยู่
ล่างใครจะไปเชือ แต่อย่าไปว่าคนอืนเลยล้วนเข้าตัวทัง
นัน

ฮัวเหิงหัวเราะแผ่ว สีหน้าเข้าอกเข้าใจ “ข้าเองก็เช่นกัน


24
ถ้าเกิดว่ามิได้ตงครรภ์
ั ผคู้ นก็คงเข้าใจผิดอยูเ่ ช่นนัน” จาก
นันหันหน้าไปทางหานซ่งก่อนจะกล่าวหยอกเย้าว่า “คง
มีแต่หานเกอกระมัง ทีไม่ยอมรับหัวใจของตัวเอง”

“เสียวเหิง!”

หัวข้อสนทนากลายเป็ นการระบายความอัดอัน กระทังมี


เตียนผุดลุกขึน ตะปบไปตามตัวอย่างกระวนกระวาย

“หยกห้อยเอวข้าหาย!” นําเสียงร้อนรน แสดงว่าคงเป็ น


ของสําคัญไม่นอ้ ย

“เจ้าจําได้ไหมว่าเห็นครังสุดท้ายทีไหน”
25
มีเตียนขมวดคิวครุน่ คิด แล้วก็สา่ ยหน้าช้าๆ

“ให้พวกข้าหลวงช่วยกันหาก็ได้” แต่เห็นสีหน้าไม่สบาย
ใจ เฉินเหวินเค่อจึงกล่าวต่อ “ระหว่างนีเราช่วยกันมอง
หากันเองไปก่อน จะได้เจอกันเร็วๆ “

ทุกคนเห็นด้วยจึงแยกกันหา เขาไม่คิดว่าเรืองนีจะเปลือง
กําลังอะไรจึงเดินไปพร้อมกับมีเตียน ได้ยินว่าเป็ นหยก
เนือขาว คงมองเห็นได้ไม่ยากนัก

26
.

“เขาเข้าครัวไม่เก่ง แต่ก็ยงั ดันทุรงั อยูต่ ลอด จนตังครรภ์


นันแหละถึงได้ยอมรามือ”

“ผิดกับอาซ่งของข้าลิบลับ รายนันเขาจ้องจะแย่งชิง
สถานะผูน้ าํ กับข้าตลอด กว่าจะปราบลงได้เปลืองแรงไม่
27
น้อยเลย”

“เป็ นธรรมดาของบุรุษทีไม่อยากตกเป็ นเบียล่างใคร ของ


ข้าโชคดีทีเขาเป็ นคนใจอ่อนกับคนงาม ข้าแค่ใช้ลกู อ้อน
นิดหน่อยเขาก็ไม่ขดั ขืนแล้ว”

บทสนทนาช่างยากแท้หยังถึง ผูค้ นทีเดินผ่านกลุม่ ชาย


หนุ่มรูปงามหน้าตาเกลียงเกลาล้วนมีสีหน้าสะพรึง ได้
แต่ตีตวั ออกห่าง ไม่กล้าเฉียดกรายเข้าใกล้ และไม่กล้าที
จะเข้าใจด้วย

“ภรรยาข้าเองก็ชอบบอกว่าข้าน่ารักเกินไปเหมือนกัน”

28
เฉินลูป่ ิ นเหลือบมองขุนนางหนุ่มข้างตัว นับว่าไม่ผิดหน้า
ตาจิมลิมขีอาย เป็ นใครจะไปกล้าหักหาญนําใจ นําเสียง
ทีเอ่ยออกมาสัมผัสได้ถงึ ความหวานชืน เพียงแต่ไม่รู ้
ทําไมกลับรูส้ กึ ไม่สบายใจ

เหมือนรูว้ า่ โดนจ้องอยู่ ฉู่ซวู า่ นจึงเผยรอยยิมบางเบา


ด้วยดวงตาทีเศร้าสร้อย อีกฝ่ ายเม้มปากแน่น คล้ายคนที
ตัดสินใจแน่วแน่ สบตากับเขาก่อนจะกล่าวว่า

“เฉินอันหวางคงจะรักหวางเฟยของท่านมาก”

เฉินลูป่ ิ นเริมมีลางสังหรณ์ แต่อารมณ์คนท้องมักขีกังวล


จึงพยายามสงบใจ “อืม ข้ารักเขามาก”

29
“เช่นนันขอพระองค์คืนความยุติธรรมให้กระหม่อมด้วย”
ใบหน้าใสกระจ่างบิดเบียวไปด้วยความคับแค้น “หวา
งเฟยของพระองค์กาํ ลังจะมีอนั ตรา—แค่ก!” ฉู่ซู
ว่านกระอักเลือดออกมากองใหญ่ ด้านหลังคอมีเข็มเงิน
ปั กอยู่ ผิวเนือรอบๆ เริมกลายเป็ นสีมว่ งคลํา เฉินลูป่ ิ นก
วาดสายตาไปรอบๆ ก็เห็นชายแขนเสือของขันทีผหู้ นึง
หลบหายไปจากระยะสายตา

เฉินลูป่ ิ นคิดจะไล่ตาม แต่มือบอบบางของฉู่ซวู า่ นก็กาํ


แขนเขาเอาไว้แน่น

“เขาไม่…ไม่…ใช่….ภร-รยาข้า หวา..งเฟย อันตะ..รา-ย”

30
ทังดวงตา รูจมูกโ ดยเฉพาะในโพรงปากทีพยายามจะ
เอ่ยพูดบางอย่างล้วนเต็มไปด้วยโลหิตกําลังหลังริน

“เขา…ไม่ตาย…ยังไม่ ตา..ย”

“เจ้าหมายถึงใคร!”

เฉินลูป่ ิ นเผลอตัวตวาดด้วยความร้อนใจ แต่น่าเสียดายที


อีกฝ่ ายสินใจไปเสียก่อนทีจะพูดถ้อยคําสุดท้ายออกมา

พอมีคนตายต่อหน้าต่อตา ความวุน่ วายดังพายุฝนฉับ


พลัน ซัดกระหนําเข้ามาไม่หยุดหย่อน หนิงเฟยผูเ้ ป็ นแม่
31
งานมือไม้สนจวนเจี
ั ยนจะเป็ นลม ถ้าหากเฉินลูป่ ิ นไม่โผล่
หน้าไปเขย่าคออย่างไม่สนมารยาท

“หวางเฟยของข้าอยูท่ ีไหน!”

32
คล้ายได้ยินเสียงกรีดร้องดังซุกซ่อนมาตามสายลม ทว่า
พอจะเงียหูฟังก็ได้ยินเพียงเสียงหวีดหวิว

พระจันทร์ดวงเด่นลอยตัวบนน่านฟ้า แผ่นหลังกล้าแกร่ง
ของแม่ทพั เลือดผูพ้ ิทกั ษ์แผ่นดินอยูเ่ บืองหน้า ปิ นทีปั ก
อยูบ่ นมวยผมถูกดึงออก ยามเงือมือขึนสูง คมมีด
สะท้อนแสงจันทร์เปล่งประกายสีเงิน จากนันจึงจ้วงแทง
ลงไป

33
ตอนที ๒๒ หวางเฟยของข้า ผูใ้ ดอาจหาญมาแตะต้อง

34
เลือดสีแดงไหลลงจากปลายใบมีด หยดลงกระทบทาง
เดินหินเขียว รอยบาดลึกสลักอยูท่ ีลําคอ หากหลบช้าไป
อีกนิด คงต้องทิงชีวิตไว้ทีนีแล้ว

รอยยิมสดใสยังเป็ นมีเตียนทีนังสนทนากับเขาอย่างถูก
ปากถูกคอเมือครู ่ ลินเรียวโลมเลียไปทีใบมีด ลิมรสกลิน
เลือดทีหวานหอม ชวนให้อารมณ์พงุ่ พล่าน

“ก็คิดอยูแ่ ล้วว่าระดับแม่ทพั เลือดคงจะไม่ง่าย”

“มีเตียน…”

“มีเตียน…อ้อ หมายถึงข้างันหรือ”
35
มีเตียนลูบไล้ไปตามใบหน้า ก่อนจะแสยะยิม โยนบุคลิก
ร่าเริงอัธยาศัยดีทิงไปอย่างง่ายดายราวพลิกกระดาษ

ไร้ซงกลิ
ึ นอายของจิตมุง่ ร้าย ปกติการจะลงมือกับใคร
ต่อให้เก็บงําสักแค่ไหนอย่างไรก็ตอ้ งเล็ดลอดออกมา

“ยุทธภพไม่ยงุ่ เกียวกับราชสํานัก ดังนําบ่อไม่ยงุ่ กับนํา


คลอง”

“จริงอยูท่ ีราชสํานักเดินทางหยางกวาน[1] ยุทธภพเดิน


สะพานไม้เดียว แต่เรืองเช่นนันผูใ้ ดสนกัน”

36
ถึงอย่างไรแม่ทพั เลือดก็เป็ นเป้าหมายทีต้องจัดการ แค่
จัดการเร็วกว่า ‘ท่านผูน้ น’
ั ผลลัพธ์สดุ ท้ายก็คือต้อง
ตายอยูด่ ี

เฉินเหวินเค่อหน้าเคร่งขรึม ภายในใจรูส้ กึ ยุง่ ยาก หาก


เป็ นมือสังหารทัวไปย่อมไม่คณามือ พวกนันล้วนเป็ นเด็ก
กําพร้าทีถูกเลียงไว้ให้ทาํ งานสกปรก ฝี มือไม่เทียบเท่า
เขา แต่กบั พวกสํานักรับจ้างในยุทธภพต่างกันออกไป
พวกนันเล่หเ์ หลียมแพรวพราว วิชาแต่ละสํานักก็ไม่
เหมือนกัน แถมยังแฝงตัวเก็บกลินอายได้เป็ นหนึงเดียว
กับเงา

ยิงเวลานีเขาควบคุมลมปราณไม่ได้ แถมยัง…แม่ทพั
เลือดเผลอยกมือมากันทีหน้าท้องของตัวเองตาม
37
สัญชาตญาณของมารดาทีกําลังปกป้องบุตร

เฉินเหวินเค่อไม่ได้ตกอยูใ่ นสถานการณ์คบั ขันมานาน


แล้ว โลหิตในกายเย็นเยียบ ตอนนีฝี มือเขาตกเป็ นรอง
ต้องระวังตัวให้มาก อย่างไรวังหลวงก็เป็ นบ้านของเขา
นัยน์ตาสีขีเถ้ากวาดมองไปตามจุดต่างๆ เท่าทีเขาจําได้
ต้องมีองครักษ์ประจําอยู…
่ ไม่มี?

“กําลังมองหาพวกขยะพวกนันอยูห่ รือ”

เสียงกระซิบแหบพร่าดังก้องอยูห่ ลังใบหู เฉินเหวินเค่อ


พลิกกายหลบทันที แต่ก็ชา้ กว่าใบมีดทีเฉือนลงมา มือ
สังหารไม่รอช้าพุง่ ตัวเข้าไปซํา ทุกคราทีสามารถเรียก

38
เลือดจากท่านแม่ทพั ผูเ้ กรียงไกร เสียงหัวเราะสะใจก็ดงั
ขึน และมากขึนเรือยๆ

ก้อนหินก้อนหนึงอยูผ่ ิดทีผิดทาง ด้วยความไม่ระวังจึง


เผลอสะดุดล้ม แต่เฉินเหวินเค่อก็ใช้โอกาสนีกวาดขา
เป็ นวงกลม เตะตัดขาสกัดการเคลือนไหว จากนันดีดตัว
ขึนจับแขนทังสองข้างของอีกฝ่ ายไขว้กนั ในขณะทีฝ่ า
เท้ากดยําลงไปบนแผ่นหลัง ออกแรงโดยไม่ปราณี เมิน
เฉยต่อเสียงกระดูกไหล่ทีคงไม่ได้แค่หลุดออกมา

เพียงแต่เฉินเหวินเค่อหลงลืมไปว่า มือสังหารในโลกแห่ง
ยุทธภพนันล้วนลบเลือนความเป็ นมนุษย์ของตนไปจน
สิน ไร้ซงความรู
ึ ส้ กึ ผิดชอบชัวดี ไร้ซงความรู
ึ ส้ กึ เจ็บปวด
เป็ นเครืองจักรสังหารทีบดขยีทุกอย่าง และทําได้ทกุ วิธี
39
ทางให้เป้าหมายของตนสําเร็จ

เฉินเหวินเค่อยกแขนกันมีเตียนทีบิดตัวยกเท้าถีบเข้าไป
ทีท้องได้ทนั แต่แขนทังสองข้างเมือต้องรับการโจมตีหนัก
หน่วงก็ชาจนแทบไร้ความรูส้ กึ

ไหล่กบั แขนทังสองข้างทีห้อยต่องแต่งดูน่าสยดสยอง
เป็ นอย่างยิง แต่ถงึ กระนันก็ยงั ไม่มีเสียงร้องของความ
เจ็บปวดเล็ดลอดออกมา แม่แต่เสียงครางในลําคอก็ยงั
ไม่มี

ปั ญญาชนจะไม่ซาผู
ํ ท้ ีล้ม แต่ในเมืออีกฝ่ ายเป็ น
เดรัจฉาน เขาก็ไม่รรี อทีจะสะกิดปลายเท้าพุง่ ตัวเข้าใส่

40
ต่อให้ไม่ใช้ลมปราณ แต่มนุษย์สามารถฆ่ากันได้ดว้ ยมือ
เปล่าหากรูว้ ิธี

เฉินเหวินเค่อคว้าคออีกฝ่ ายเอาไว้ ออกแรงบิดง่ายดายก็


ปลิดชีพมือสังหารผูน้ ีได้แล้ว

“หวางเฟยอาจจะไม่ทราบ แต่เรืองทีมีเตียนเล่ามา มีเตีย


นหาได้โกหก”

รอยยิมสดใสถูกดึงกลับมาใช้อีกครัง ดวงตาใสซือเต็มไป
ด้วยความสุข เช่นเดียวกับตอนทีกล่าวถึงสามีของตนเอง

“อย่ามาโกหก!”
41
“วิชาหน้ากากหนังมนุษย์ หวางเฟยเคยได้ยินมาบ้างหรือ
ไม่” มีเตียนพูดอย่างไม่ทกุ ข์รอ้ น คล้ายตอนนีกําลังนังจิบ
ชาสนทนา “การใส่หน้ากากหนังมนุษย์จะต้องรูท้ กุ
บุคลิกนิสยั ความชอบ รวมทังเรืองของเจ้าของ ‘หน้า’ ที
มีเตียนเล่าไปไม่ได้โกหกเลยแม้แต่คาํ เดียว….เพียงแค่ยงั
เล่าไม่หมด”

เฉินเหวินเค่อสะกดแววตาวูบไหว เดิมทีคิดว่ามีเตียนนัน
เป็ นตัวตนทีไม่มีจริงมาตังแต่แรก แต่พอได้ยินคําว่าวิชา
หน้ากากหนังมนุษย์โทสะในใจก็ลกุ ไหม้

เขาเคยได้ยิน…

42
วิชาบัดซบ ไม่รูส้ ตั ว์นรกชัวช้าตัวไหนคิดค้นขึนมา

หน้ากากหนังมนุษย์จะต้องลอกใบหน้าออกมาในขณะที
ยังมีลมหายใจอยู่

“เดรัจฉาน!”

ใบหน้าใสซือนันระเบิดเสียงหัวเราะ ด้วยดวงตาและ
อารมณ์ทีไม่แปรเปลียนไปเลยแม้แต่นอ้ ย

“ฮะ…ใช่แล้ว ข้ามันตําต้อยมิสงู ส่งดังสายเลือดขัตติย


วงศ์เฉกเช่นท่านนี....พระองค์รูห้ รือไม่ เวลาเฝ้ามองพวก
43
มันรักกันหวานชืนมันน่าสะอิดสะเอียดขนาดไหน ยิง
พวกมันกําลังจะมีครอบครัวสุขสันต์ พร้อมหน้าพ่อแม่ลกู
เห็นแล้วจะอ้วก! ดีทีมีเตียนผูน้ ีหน้าตาไม่เลว ข้ายังไม่มี
หน้าแบบนีในของสะสมส่วนตัว” มีเตียนเบิกตากว้าง
คล้ายเด็กน้อยอยากจะอวดเรืองน่าสนใจให้ญาติผใู้ หญ่
ได้ฟัง “แล้วก็ๆ พระองค์รูห้ รือไม่วา่ ตอนข้าเอาใบหน้านี
ไปยํายีสามีของมัน แม่งโคตรน่าสมเพชเลย!”

เสียงหัวเราะด้วยความปิ ติไม่อาจบดบังใบหน้าบิดเบียว
ดังเดรัจฉาน...หมดสินแล้วในความเป็ นมนุษย์

เฉินเหวินเค่อไม่น่าลังเล ไม่ควรลังเลเลยแม้แต่นอ้ ย
คล้ายพอได้ทราบความจริงถึงชะตากรรมของมีเตีย
น พริบตาเดียวความโกรธจึงพยศขึนมาเหนือเหตุผล แค่
44
ชัวพริบตา มือสังหารดันไหล่กลับเข้าที ด้วยท่วงท่าผิด
ธรรมชาติ แต่ไม่มีเวลาไปคิดทบทวนว่าทําได้อย่างไร

ฉึก!

ด้ามปิ นใบมีดอันแหลมคมเสือกแทงเข้ามาทีหน้าท้อง
โชคยังดีทียกมือป้องกันได้ทนั ลูกปลอดภัย แต่ก็ตอ้ ง
แลกมากับฝ่ ามือทีโดนแทงทะลุ เลือดไหลโชกทําเอาตา
พร่า เฉินเหวินเค่อสะกดกลันความเจ็บ ดึงมืออกมารวด
เดียว

“ทีแท้หวางเฟยก็กาํ ลังมีครอบครัวสุขสันต์เหมือนกันนี
เอง”

45
มือสังหารสังเกตมาสักพักใหญ่ แม่ทพั เลือดผูน้ ีเหตุใดถึง
ได้ปกป้องท้องของตัวเองนัก พอนึกขึนได้วา่ ในกลุม่ คน
ร่วมสนทนาสมัครสมานกลมเกลียว มีบรุ ุษผูห้ นึงกําลัง
ตังครรภ์ แสงสว่างก็วาบเข้ามาในห้วงความคิด

“ใบหน้าของพระองค์ไม่เลวเลย หลังจากส่งเด็กในท้อง
ไปเกิดใหม่ ข้าจะเอ็นดูสามีทา่ นเป็ นอย่างดีเลยทีเดียว!”

ถ้อยคําสถุนตําทรามเช่นนันผูใ้ ดจะไปยินยอมให้เกิด!

เมือมีเป้าหมายชัดเจน ทุกการโจมตีลว้ นพุง่ เป้าไปทีบุตร


ในครรภ์ เฉินเหวินเค่อเอียวตัวหลบ พยายามปั ดป้องทุก

46
คมมีด แม้จะต้องเอาเนือหนังเข้าแลก ก็อย่าหวังว่าจะได้
แตะต้อง

ในเมือไม่อาจหลีกหนี สุดท้ายก็ตอ้ งตังรับอย่างน่าโมโห


เท่านัน เฉินเหวินเค่อกัดฟั น ต่อให้ลม้ หงายหลังลงกับพืน
หรือต่อให้อีกฝ่ ายจะกระทืบเท้าลงมา เขาก็จะปกป้อง
เอาไว้ให้ได้!

มีเตียนใช้สายตาหยามเหยียดก้มมองตํา ขณะเงือมือขึน
สูง เข็มบินเล่มหนึงก็ปักลงไปในข้อมือ

เขาเป็ นมือสังหารทีไม่มีใครในสํานักเทียบชัน ความว่อง


ไวดุจสายลมคือมิตรสหาย มาวันนีพึงได้ประสบ

47
เหตุการณ์โลกพลิกอย่างมิทนั ตังตัว หัวสมองมึนงง ร่าง
กายชาจนไม่อาจกระดิกนิว นอกจากลูกตาทีกรอกไปมา
กับปากทียังพูดได้ เพียงเท่านีก็กระจ่าง วิชาสกัดจุดลํา
เลิศยิง

เฉินเหวินเค่อเคราะห์กรรมพ้นตัวก็ถอนหายใจยาว
เหยียด นอนแผ่อย่างไม่คิดจะลุก หลับตาลงหนีแสงไฟ
ก่อนจะลืมขึนมากล่าวกับคนทีกําลังโอบประคอง ทังยัง
แตะไปทีฝ่ ามืออย่างถนอม

“ชักช้า”

“ก็บอกแต่แรกแล้วว่าไม่ให้มา”

48
ใบหน้ารูส้ กึ ได้ถงึ หยดนําทีตกกระทบคล้ายสายฝนพรํา

“ขีแยจริงๆ”

เฉินลูป่ ิ นเห็นโลหิตมากมายความโกรธก็พงุ่ ขึนตา


อุทยานหลวงของฝ่ ายนอกหาได้กว้างขวาง ทีลําบาก
เพราะต้องปลดค่ายกลซับซ้อน

เดิมทีแม้นกึ ห่วง แต่เหวินเกอเป็ นถึงแม่ทพั ผูเ้ ก่งกาจ แต่


ถ้าต้องต่อกรกับมือสังหารจากยุทธภพในขณะตังครรภ์
นันก็อีกเรือง

49
ราชองครักษ์หลวงจับตัวมือสังหารไพล่หลัง กดหัวมันลง
กับพืน บุรุษสองคนทีพึงเข้ามามองไปทีใบหน้าของมือ
สังหารสลับกับร่างขององค์ชายใหญ่ก็ตกตะลึงงันจน
แทบยืนไม่อยู่

มีเตียนรูช้ ะตาตนเองแน่แท้ หันไปมองดวงตาชิงชังของ


ขันทีชราผูห้ นึงก็หลุดเสียงแค่นหัวเราะเย้ยหยัน

“ไอ้พวกโง่!”

มือสังหารเมือพลาดพลังล้วนพร้อมทีจะตาย เฉินลูป่ ิ น
ทราบดี แต่ใจเขาไม่ยินยอมให้มนั ลาโลกไปอย่างง่าย
ดายเพียงนัน

50
จําได้วา่ อาจารย์เคยสังสอน พวกมือสังหารใจกล้าที
สามารถทิงชีวิตของตัวเองทุกช่วงลมหายใจ ดังนันตาม
ร่างกายจะซุกซ่อนพิษร้ายเอาไว้ โดยเฉพาะในฟั น

เฉินลูป่ ิ นขีเกียจหาว่าเป็ นซีไหน จึงรีดเร้นลมปราณใช้


หลังมือตบไปทีสันกรามอย่างแรง ทังยังเพิมความโกรธ
ลงไปอีกหลายส่วน ใบหน้าบิดเบียวผิดรูป เท่านีฟั นทัง
แผงก็รว่ งกราวลงมาจากปาก

ถอนฟั นนับเป็ นหนึงในทัณฑ์ทรมาน นีเล่นหมดปากใน


หนึงฝ่ ามือ แต่ยงั ไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมา ถ้าหาก
เส้นประสาทไม่ตายด้านก็น่านับถือนัก

51
มองภาพรวมเฉินเหวินเค่อเหมือนอาการสาหัส แต่ความ
จริงก็แค่รอยกรีดผ่านๆ ล้วนไม่อาจทําให้ถงึ ฆาต ทีสาหัส
สุดก็มีแค่แผลลึกทีฝ่ ามือ

ออกรบมาตังสิบปี แผลแค่นีไกลหัวใจนัก เสียดายแค่รา่ ง


กายอาจมีรอยแผลเป็ นเพิมอีกแล้ว

เฉินเหวินเค่อถูกผูค้ นกล่าวขานว่าเป็ นแม่ทพั โหดเหียม


อํามหิต แต่เขาก็พิทกั ษ์แผ่นดินด้วยใจคุณธรรม ถึง
กระนันเขายังเป็ นมนุษย์เดินดินหาใช่ผหู้ ลุดพ้น ผูใ้ ดมอบ
ดาบมา เขาก็พร้อมจะแทงสวนกลับไป

52
ดังนันยามสบตากับมีเตียน เขาจึงผ่อนหายใจแล้วค่อยๆ
ปิ ดเปลือกตาลง คล้ายร่างกายไม่อาจแบกรับไหว

คนมีครรภ์ไม่สมควรออกแรงมาก เมือครูป่ ะทะกันไปก็


หลายยก

มีคาํ กล่าวทีว่าสามีภรรยาก็เสมือนคนคนเดียวกัน เช่น


นันหนีแค้นนีก็ยกให้เฉินลูป่ ิ นจัดการ

เฉินลูป่ ิ นเป็ นผูม้ ีความแค้นลึกลํา ยึดมันในคําสอน ท่าน


อาจารย์เคยกล่าว เมือมือสังหารนันใจกล้าทีจะตาย แต่
ในเมือไม่สามารถตาย สภาพนันจะอเนจอนาถยิงกว่า
หนอนแมลง

53
คนสําคัญเพียงผูเ้ ดียวทีไม่สามารถแตะต้องคือคนรักที
เขาเฝ้ารอมาเนินนาน ยามมองเห็นอีกฝ่ ายปิ ดเปลือกตา
ลงราวกับจะจากเขาไป ความโกรธแค้นในใจก็เพิมพูน
ขึนอย่างแสนสาหัส

เกรงว่าต่อให้พญายมโลกมายืนขวางอยูเ่ บืองหน้า เฉินลู่


ปิ นก็กล้ายกมือขึนตบ

54
.

ใกล้จะรุง่ สาง ในคุกหลวงขันทีผหู้ นึงจ้องมองสภาพดูไม่


ได้ของนักโทษ ถูกโซ่ลา่ มแขนทังซ้ายขวา ใบหน้าเละยิง
กว่าผีรา้ ย แต่ผใู้ ช้วิชาหน้ากากหนังมนุษย์ลว้ นมีหนัง
หน้าเช่นนี

การปลอมแปลงทีแนบเนียนทีสุด พวกตนจะต้องละทิง
หน้าเดิม เพือสามารถเป็ นใครก็ได้

ในสํานักรับจ้างแห่งยุทธภพ ตําหนักเงาของเขามีชือ
55
เสียงมากทีสุด และโหดเหียมมากทีสุดเช่นกัน ทุกคน
ล้วนละทิงนามเดิม ไม่มีใบหน้า

ในตอนนีเขาเองก็เป็ นขันทีคนสนิทข้างกายฮุ่ยกุย้ เฟย


นามว่า ‘ปูจ้ ือ’

เมือไร้ซงตั
ึ วตน พวกเราล้วนเรียกขานด้วยหมายเลข สิบ
สามผูน้ ีนับเป็ นมือหนึง ฝี มือเหนือชันกว่าผูใ้ ด มีหลาย
คนชังอีกฝ่ ายยิง ด้วยความอวดดียโสโอหัง ชอบทําตาม
ใจตัวเอง

เช่นทีไปชิงใบหน้าจากคนทีไม่ใช่เป้าหมาย สิบสามมี
นิสยั เสียคือชอบทรมานผูค้ น ทังยังชอบหลุดปากบอก

56
เล่าความลับมากมาย เพราะเห็นว่าท่าทางของคนทีกุม
ข้อมูลสําคัญ แต่คายออกไปไม่ได้ มันชวนให้เปรมปรีดา

วันนีพออีกฝ่ ายเปลียนใบหน้ามาร่วมงาน ปูจ้ ือรูแ้ น่แล้ว


ว่าต้องเกิดเรือง ความสะเพร่าของสิบสามเกือบทําเอา
ของเล่นทีโดนทรมานหลุดปากบอกนามของ ‘ท่านผูน้ น’

ออกไป หากเขาไม่สงั หารได้ทนั ท่วงที แผนการทังหมด
ย่อมพังพินาศสิน

อวดดีถงึ ขนาดไปด่าผูอ้ ืนว่าไอ้โง่ ตนเองนันแหละทีเป็ น


ไอ้โง่ยิงกว่า

“สิบสามเอ๋ยสิบสาม ในทีสุดความอหังการ์ของเจ้าก็มา

57
ถึงจุดตกตําเสียที”

ปูจ้ ือเห็นอีกฝ่ ายอ้าปาก ส่งเสียงอืออา ดูทา่ จะโดนสอบ


สวนจนหมดประโยชน์แล้ว ดีทีถึงอีกฝ่ ายจะเป็ นตัว
โสโครก ก็ยงั มีใจซือสัตย์ตอ่ สํานัก แต่ถงึ ขันตัดลินก็ยงั
เก็บเอาไว้ นับว่าเฉินอันหวางผูน้ นซุ
ั กซ่อนความโหดร้าย
ไว้ใต้รอยยิมละมุนละไมเหนือโลกียโ์ ดยแท้

“ความผิดนีของเจ้า ในเมือความตายยังไม่สาสมก็
แบกรับเอาไว้เสียเถิด โชคยังดีทีแผนการเกือบทังหมด
ของนายจ้างสําเร็จลุลว่ งไปแล้ว” พูดถึงตรงนีปูจ้ ือก็ถ่ม
นําลาย นําเสียงไม่ปิดบังความเกลียดชัง “องค์ชายใหญ่
ห้ามแตะต้องลืมไปแล้วหรือ จนกว่าจะถึงเวลาผูเ้ ดียวที
ลงมือได้มีแค่ทา่ นผูน้ นั และเพราะความโง่เง่าของเจ้า ข้า
58
ถึงได้พลาดโอกาสลอบวางยาฮุ่ยกุย้ เฟย สิบเจ็ดที
ลําบากกว่าจะแฝงกายเป็ นนางกํานัลพีเลียงขององค์
ชายหกก็ตอ้ งล้มเลิก!”

ปูจ้ ือพยายามระงับอารมณ์แล้วค่อยพูดต่อ “คนสกุลจ้าว


เข้ามาข้องเกียวแน่แล้ว คนของเราต้องล่าถอยเพือหลีก
เลียงคนจากจือเฉิงหลัว ทังหมดเป็ นเพราะเจ้า!”

ขันทีชราล้วงเข้าไปในอกเสือหยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึง
ออกมา กลินโลหิตอบอวลเคล้ากลินหอมบาดลึก นัก
โทษในลูกกรงเบิกตากว้าง เริมดินพล่านราวไส้เดือนที
โดนนําร้อนลวก แต่โซ่ทีล่ามสุนขั จนตรอก ต่อให้มนั ดุจน
กัดคนตาย แต่ตรวนทีตีเอาไว้ก็เห็นเพียงการดินรนอย่าง
น่าสมเพชเท่านัน
59
“เดิมทีเจ้าเก่งกาจเพราะเส้นประสาทไม่รบั รูค้ วามเจ็บ
ปวด ข้าจึงเสียสละซือรุย่ เซียงนีให้เจ้า”

มือสังหารล้วนมีเลือดต้านพิษแต่กบั ซือรุย่ เซียงนันพิเศษ


กว่า เพราะมันเป็ นยาทีกํากึงระหว่างยาเพิมกําลังกับยา
รักษาทีมีโทษ

ปูจ้ ือแสยะยิม เห็นคนไม่ชอบใจต้องรับความทรมานมี


หรือจะไม่สาแก่ใจ เส้นประสาททีด้านชานันซือรุย่ เซียง
จะรักษาให้ ทังยังเพิมพูนประสิทธิภาพประสาทสัมผัสทัง
หมดในกาย

60
ลาก่อนสหายรัก หวังว่าเจ้าจะตายอย่างช้าๆ

รุง่ ขึนหลังการไล่สอบสวนและตรวจสอบวังหลวงทุก
ตารางนิว ทีคูนาทางทิ
ํ ศเหนือของวัง พบร่างขันทีชราผู้
หนึงถูกฆ่าตายอย่างทารุณ โดยศพนันถูกดึงใบหน้าออก
ไป เมือตรวจสอบดูโดยละเอียดจึงพบว่าเป็ นขันทีขา้ ง
กายของฮุ่ยกุย้ เฟย

ต่อมาไม่ใช่แค่ขนั ทีนามปูจ้ ือทีถูกพบเป็ นร่างไร้วิญญาณ


แต่เมือสํารวจตามคูนารอบวั
ํ งอย่างละเอียดก็พบร่างของ
ข้าหลวงตําหนักในมากมายถูกจับถ่วงนําเอาไว้ โดยมี
สภาพศพแบบเดียวกัน

61
หลังจากนันเมือไล่ขานนามก็พบว่า มีขนั ทีและนาง
กํานัลหลายคนทีหายตัวไปอย่างไร้รอ่ งรอย

ข้อมูลเพิมเติม

[1] 阳关道 เดินทางหยางกวาน แปลว่า ชือของถนน


ซึงจะผ่านตุนหวงมุง่ ไปยังดินแดนตะวันตก เดิมหมายถึง
ถนนหนทางทีเดินทางสะดวก

*** ราชสํานักเดินทางหยางกวาน ยุทธภพเดินสะพานไม้


เดียว เอามาจากสํานวน “แกเดินทางหยางกวานของแก
ฉันเดินสะพานไม้เดียวของฉัน” (หนีโจว่หนีเตอะ
หยางกวานเต้า หว่อโจว่หว่อเตอะตูม๋ เู่ ฉียว) 你走你

62
的阳关道,我走我的独木桥

สํานวนทีมีความหมายเหมือนกันคือ 井水不犯河
水 (จิงสุย่ ปู๋ ฟ่ านเหอสุย่ ) “นําบ่อไม่ยงุ่ กับนําคลอง” มี
ความหมายว่า ต่างคนต่างทําเรืองของตน ไม่ยงุ่ หรือขัด
ขวางกัน ทางใครทางมัน

63
ตอนที ๒๓ ฉู่มีอิง

วังหลวงวุน่ วายมาทังคืน แม้จะเริมวันใหม่ความวุน่ วายก็


ยังคงอยู่ เว้นเพียงตําหนักอันชวีของฮุ่ยกุย้ เฟยทีไม่
อนุญาตให้มีเสียงดัง รบกวนองค์ชายใหญ่ทีทรงบาดเจ็บ
64
ในเหตุการณ์ครังนี

ผูค้ นได้แต่แอบกระซิบกระซาบว่าเหตุใดแม่ทพั เลือดผู้


เกรียงไกรจึงได้พลาดท่าเสียที เจ้านายทังหลายปิ ดปาก
เงียบโดยเฉพาะหนิงเฟย ขุนนางอาวุโสปิ ดตาข้างคล้าย
ไม่สนใจ แต่ก็ยงั กางหูฟัง เบืองล่างวิงเต้น เพียงแต่จะทํา
การใดล้วนเงียบเชียบ

จักรพรรดิตรัสแล้วว่าเรืองนีห้ามแพร่งพราย ผูใ้ ดจะกล้า


โหวกเหวก

เฉินเหวินเค่อแค่รา่ งกายอ่อนเพลียจากการเสียเลือดมาก
ไม่คิดว่าลืมตาตืนอีกทีจะพบผูค้ นยืนอยูเ่ ต็มห้อง

65
แพทย์หลวงกัวรีบเข้ามาตรวจดูอาการ เรืองการตังครรภ์
องค์ชายใหญ่มีพระประสงค์ให้ปกปิ ด แต่เมือเจ้านายทุก
พระองค์ทีอยูใ่ นห้องนีล้วนไม่ใช่คนทีไม่สมควร และไม่
อาจจะพูดปดมดเท็จ สีหน้าจึงเผยแววลําบากใจ

“ไม่เป็ นไรเจ้าพูดไปเถอะ”

กัวเจ๋อคลายสีหน้าลงเมือได้รบั อนุญาต แล้วประสานมือ


ทูลต่อองค์จกั รพรรดิ จ้าวกุย้ เฟย ฮุ่ยกุย้ เฟยและเฉินอัน
หวาง

“อาการของหวางเฟยไม่มีอะไรน่าเป็ นห่วงพ่ะย่ะค่ะ แค่

66
ต้องทานอาหารบํารุงเลือดให้มากและพักผ่อนให้เพียง
พอก็ไม่มีปัญหา ส่วน....ส่วนบุตรในครรภ์โชคดีทีหวา
งเฟยมีพืนฐานร่างกายแข็งแรงวรยุทธ์ลาเลิ
ํ ศ จึง
ปลอดภัยดีพะ่ ย่ะค่ะ”

พอได้ยินว่าเฉินเหวินเค่อมีครรภ์แม้แต่พระบิดายังไม่
สามารถรักษาสีหน้านิงเรียบ ส่วนมารดานันรีบก้าวเข้า
มาบีบมือเขาอย่างลืมตัว

“นานแค่ไหนแล้ว”

“ขอประทานอภัยเสด็จพ่อ ท่านแม่ ลูกมิได้มีใจปิ ดบัง


เพียงแต่ครรภ์นีพึงทราบหลังจากถูกมือสังหารลอบทํา

67
ร้ายทีโรงนําชาเยวียซิว ลูกไม่ไว้ใจทีจะฝากคนอืนมาทูล
เรืองมงคล จึงคิดจะเข้าวังมาบอกด้วยตัวเอง ไม่คิด
ว่า…”

เฉินเหวินเค่อไม่ตอ้ งพูดต่อทุกคนก็เข้าใจ

หร่วนจูอีพ่นลมหายใจโล่งอก ก่อนจะตวัดดวงตาคูค่ มไป


มองคนสกุลจ้าวตัวดีอย่างเคืองๆ เช่นเดียวกับเฉินลูป่ ิ นที
ฝากฝังความอาฆาตอย่างชัดเจน

คนถูกมอบสายตาราวอยากฆ่าคนก็ได้แต่ฉีกยิมแหย
จากนันจึงหันไปขอโทษขอโพยเฉินเหวินเค่อทีมีสายตา
งุนงงอย่างเห็นได้ชดั

68
“ต้องขอโทษเจ้าด้วย คนทีโจมตีเจ้าทีโรงนําชาเยวียซิว
เป็ นคนของจือเฉิงหลัวเอง”

จือเฉิงหลัว? สกุลจ้าว?

ระหว่างทีเฉินเหวินเค่อหลับดูเหมือนทุกคนจะทราบเรือง
นีกันแล้ว จ้าวหลานเองก็ไม่ได้ลาํ บากอะไรจึงเปิ ด
ปากบอกเล่าความจริงให้ฟังอีกรอบ

“เจ้าน่าจะพอรูว้ า่ สามรุน่ ก่อนสกุลจ้าวเคยเป็ นพรรคมาร


ทียิงใหญ่แห่งยุทธภพ ถึงตอนนีจะรามือย้ายฝังมาอยู่
ทางราชสํานัก แต่วา่ ขุมกําลังเก่าแก่จากพรรคมารจือเฉิง

69
หลัวก็ยงั อยูภ่ ายใต้การปกครองของสกุลจ้าวอยู่ นีก็ไม่
เชิงเป็ นความลับ แต่ก็ไม่ใช่เรืองทีจะเปิ ดปากเล่าง่ายๆ
เช่นกัน แต่ในเมือถ้าพูดแล้วมารดาเจ้าจะกลับมาเล่น
หมากล้อมกับข้า ข้าก็ไม่ปิดบัง”

จ้าวหลานหัวเราะยามเห็นสายตาเชือดเฉือนจากหร่วนจู
อี

“บรรพบุรุษสกุลจ้าวทําผิดกฎสววรค์ละเมิดลิขิตฟ้าทําให้
ถูกลงทัณฑ์ ตังแต่นนมาสกุ
ั ลจ้าวสายหลักล้วนไร้ซงึ
ความปรารถนา ต้องแบกรับหน้าทีเสียสละตนเองเพือใต้
หล้า หัวใจไม่อาจมีรกั ด้ายแดงถูกตัดขาด พวกเราสกุล
จ้าวคือผูร้ กั ษาสมดุล สามรุน่ ก่อนยุทธภพปั นป่ วนธรรมะ
อธรรมไม่อาจแยกแยะ ต่อมาเมือราชสํานักวุน่ วาย
70
บัลลังก์ยอ้ มไปด้วยเลือด ขุนนางมีใจคิดคด สกุลจ้าวจึง
ย้ายฝัง”

นําเสียงทีบอกกล่าวคล้ายกําลังเล่านิทานปรัมปรา แต่
กลับให้ความรูส้ กึ ว่าไม่ใช่เรืองโกหก

“จือเฉิงหลัวได้กลินความผิดปกติบางอย่าง สํานักรับจ้าง
จากยุทธภพรับงานทียุง่ เกียวกับราชสํานัก ถือเป็ นการ
ลําเส้น แต่ฝ่ายนันระวังตัวมาก สืบไม่เจอสักทีวา่ เป็ น
พวกไหน จุดประสงค์คาดเดาไม่ได้ ทังการกระทําก็
แปลกประหลาด คล้ายกําลังเก็บตัวเงียบเพือรอ
สัญญาณบางอย่าง สกุลจ้าวสืบอย่างไรก็ไปต่อไม่ได้ สุด
ท้ายจึงต้องใช้กลยุทธ์ตีหญ้าให้งตู ืน หากศัตรูสงบพึงควร
สร้างสถานการณ์ให้เคลือนไหว เพือหาช่องโหว่เข้าไป
71
แทรกแซง ฝังนันขยับตัวเล็กน้อยเพียงปลายยอดหญ้า
เคลือนหลังจากเจ้าเดินทางมาทีเมืองหลวงเพือเข้าร่วม
งานเลียงสินปี ข้าจึงลองโยนหมากถามทาง เดิมพันกับ
การโจมตีครังนีดู”

“แล้วงูจาํ ศีลพวกนันเลือยออกมาจากรังหรือไม่”

จ้าวหลานยิม มารดาเป็ นพยัคฆ์ยอ่ มคลอดลูกเป็ น


พยัคฆ์

“น่าเสียดายทีทําให้ชคู อขึนมาครูเ่ ดียว แต่วา่ โชคดีใน


ความโชคร้ายของเจ้า มือสังหารคนหนึงทําผิดแผนลอบ
ทําร้ายเจ้าไม่สาํ เร็จ คนจากจือเฉิงหลัวจึงตามร่องรอยไป

72
ได้ ตอนนีข้ารูแ้ ล้วว่าเป็ นคนจากสํานักไหน ในเมือกล้า
ลําเส้นเข้ามา ก็ตอ้ งเตรียมใจไว้แล้วทีจะหายไป”

แม้จะยิมหวานด้วยใบหน้างดงาม แต่นยั น์ตาฉําวาวดัง


ตากวางก็ไม่มีคาํ ว่าปราณี

เรืองราวต่อจากนีไม่เกียวกับราชสํานัก ถึงจะไม่รูว้ า่ สกุล


จ้าวใช้วิธีการใดกําจัดฝ่ ายนัน เฉินเหวินเค่อล้วนไม่เกียว
ข้อง

จ้าวหลานหยิบแผ่นหนังสัตว์ทีเปรอะเปื อนด้วยโลหิตขึน
มา

73
“เสียดายทีคนเบืองหลังจริงๆ เคียวไม่ง่าย”

เฉินเหวินเค่อยืนมือไปรับแผ่นหนัง แต่จา้ วหลานพลันนึก


ขึนได้วา่ อย่าให้คนตังครรภ์แตะต้องของสกปรกเช่นนีจะ
ดีกว่า จึงกางออกให้ดพู ร้อมอธิบายไปด้วยแทน

“สิงนีเหยียวข่าวของสกุลจ้าวส่งมา ดูจากสภาพคนส่งคง
ไม่อาจรักษาชีวิตไว้ได้แล้ว ถ้าหากได้ฟังเรืองจากปากคง
จะได้ขอ้ มูลมากกว่านี แต่ได้ยอ่ มดีกว่าไม่ได้อะไรเลย”

แผ่นหนังสัตว์นนมี
ั อยูส่ องแผ่น แผ่นแรกสภาพดูดีกว่า
ทังยังเขียนด้วยลายมือคนละแบบกับแผ่นทีสอง เพราะ
ฉะนันทังสองแผ่นย่อมถูกเขียนขึนมาจากคนละคนกัน

74
จ้าวหลานให้ดแู ผ่นแรกทีดูง่ายกว่าก่อน “อันนีคนของข้า
ชิงมาจากพวกสํานักรับจ้างตําหนักเงา”

เนือความกระชับสันได้ใจความ ถึงข้อความบางส่วนจะ
เลือนหายไป แต่ก็พอแกะเนือหาส่วนใหญ่ได้

[ ถอนกําลังออก…ล้มเหลว…ฮุ่ยกุย้ เฟย…ลงมือ…สกุล
จ้าว…องค์ชายหก…ไม่สาํ เร็จ ]

แผ่นทีสองถูกรอยเลือดแห้งกรังกลืนกินจนเกือบหมด
เหลือแค่ขอ้ ความส่วนสุดท้าย

75
[น…ยังไม่ตาย ]

“น?” เฉินเหวินเค่อพึมพํา ก่อนจะถอนหายใจออกมา


“ตัวอักษรหลักถูกลบหายหมด เหลือแค่เส้นประกอบเส้น
เดียว แค่จะเดาชือหรือแซ่จากตัวอักษรยังทําไม่ได้”

“ตลกร้ายดีใช่หรือไม่” จ้าวหลานใช้เล็บขูดไปทีรอยเลือด
“เลอะตรงส่วนไหนไม่เลอะ ดันมาปิ ดส่วนสําคัญเสียได้
แต่ตอนนีคิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ ศัตรูอยูใ่ นทีลับเราอยูใ่ น
ทีแจ้ง แม้ยากทีจะระวัง แต่ก็ทาํ อะไรอย่างอืนไม่ได้แล้ว”

แผ่นดินเสวียนเฉินยิงใหญ่เกรียงไกร ใช่วา่ จะไม่มีผใู้ ด


อยากจะโค่นล้ม แคว้นข้างเคียงถึงจะมีทา่ ทีหวันเกรงก็

76
ใช่วา่ จะไม่มีใจคิดคด แต่ศกึ นอกมิสศู้ กึ ภายใน ทีสกุล
จ้าวต้องย้ายฝังมาเพือรักษาสมดุลทางราชสํานักก็
บ่งบอกแล้วว่าฐานบัลลังก์สนคลอนมากขนาดไหน

เบืองหน้าจักรพรรดิอาจจะทรงเด็ดขาดมากด้วยอํานาจ
แต่ไม่รูว้ า่ เบืองหลัง พวกสกุลเก่าแอบซ่อนมีดกีเล่มไว้ใต้
แขนเสือ

ทังสกุลไป๋ ทีถูกกดดันจนสินอํานาจ และสกุลหร่วนทีล้ม


ลงล้วนเป็ นการเตือน ซึงไม่รูว้ า่ เพียงพอทีจะหยุดความ
ทะเยอทะยานเหล่านันได้หรือไม่

77
.

ผลสรุปของเรืองราวคือเขากับเฉินลูป่ ิ นต้องปั กหลักอยูท่ ี


เมืองหลวง ตอนแรกท่านแม่อยากให้เขาอยูใ่ นวัง เพียง
แต่เมือคิดถึงข้าหลวงตําหนักในทีถูกสับเปลียนตัว ขนาด
ขันทีคนสนิทของตัวเองกลายเป็ นคนอืนก็ยงั ไม่เอะใจ

ในวังคนมาก...มากจนเกินไป เฉินเหวินเค่อจึงเสนอว่าให้
78
เขาอยูท่ ีจวนเว่ยหวางตามเดิม ส่วนเรืองข้ารับใช้จะตรวจ
สอบอีกรอบหนึง ชีวิตของบุตรในครรภ์ ตัวเขาย่อมไม่เอา
มาล้อเล่น

แม้ขอ้ ความทีชิงมาจะบ่งบอกว่าล่าถอย แต่นอกจากเขา


แล้ว ท่านแม่กบั เฉินคุนเองก็เป็ นเป้าหมายด้วย กับน้อง
ชายคนเล็กคนนีเขาไม่กงั วลเท่าไร มีจา้ วกุย้ เฟยกับคน
จากจือเฉิงหลัวอารักขา กับท่านแม่…เขาเชือว่าเสด็จพ่อ
คงไม่นิงนอนใจเหมือนกับการแสดงออกทีนิงสงบ ทัง
จ้าวกุย้ เฟยกับท่านแม่ก็มีความสัมพันธ์ตอ่ กันไม่เลว

เลิกกังวลเรืองคนอืนแล้วหันมาใส่ใจตัวเองจะดีกว่า

79
หลังจากทีเขาได้รบั บาดเจ็บเฉินลูป่ ิ นตามติดเสียยิงกว่า
วิญญาณอาฆาต ทังเฝ้าระวังดุจแม่จงอางหวงไข่ นอก
จากแพทย์หลวงกัวก็ไม่ยินยอมให้ผใู้ ดเข้ามาแตะ

พูดถึงแพทย์หลวงกัว หากอีกฝ่ ายร่างกายมิได้มีตาํ หนิที


ระบุตวั ตนชัดเจนอย่างปานแดงสามจุดบนร่างกาย ที
กลางหลัง แผ่นอกซ้าย และจุดลับทีแพทย์หลวงกัวยอม
บอกพวกเขาแค่สองคนก็คือใต้ฝ่าเท้าขวา เกรงว่าเฉินลู่
ปิ นก็คงจะเอาดาบพาดคอทุกครังทีต้องจับชีพจร ถ้า
ตุกติกเมือไรก็เชือดคอหอยได้ในทันที

อยากจะชมว่าขึงขังน่าชืนชมอยูห่ รอก ถ้าไม่ติดว่าต้องวิง


ไปอาเจียน

80
ร่างกายเฉินเหวินเค่อค่อนข้างฟื นฟูเร็ว เรืองอาการบาด
เจ็บไม่น่าเป็ นห่วง มีแค่แผลทีถูกแทงตรงฝ่ ามือเท่านันที
ทําให้ใช้ชีวิตลําบาก โดยเฉพาะตอนกินข้าวกับอาบนํา

เฉินลูป่ ิ นเวลาเห็นเขาเปลือยสมองยิงคิดแต่เรืองอกุศล
ยังดีทีอีกฝ่ ายยังมีจิตสํานึกด้านดีๆ หลงเหลืออยูบ่ า้ ง มิ
เช่นนันถึงแพทย์หลวงกัวจะบอกว่าช่วงพักฟื นไม่ควรใช้
กําลัง เขาก็จะเตะไอ้ลกู เต่าบัดซบนีให้กระเด็น

“หวางเฟยมีคนมาขอเข้าพบ จะให้บา่ วทําอย่างไรดีพะ่


ย่ะค่ะ”

81
“แจ้งนามมาหรือเปล่าว่าเป็ นใคร”

พระอาทิตย์ตรงหัวบอกเวลายามเทียงวันพอดี เฉินเหวิ
นเค่อเอนกายพักผ่อน คาดเดาในใจผูใ้ ดอยากจะมาพบ

“แจ้งขอรับ เป็ นฟูเหรินชายสองคน นามว่าฮัวเหิงกับหาน


ซ่ง”

ขันทีผแู้ จ้งข่าวใจตุม้ ๆ ต่อมๆ เมือเห็นหวางเฟยนิงเงียบ


ไปอยูน่ าน

หันไปมองเฉินลูป่ ิ นทีอาการแพ้ทอ้ งกําเริบหนัก ป่ านนี


เวียนหัวยังไม่ลืมตาตืนก็ถอนหายใจยาว
82
“พาพวกเขาไปทีโถงหลัก เดียวข้าออกไป”

“พ่ะย่ะค่ะ”

83
นําชาทียกมาส่งกลินหอมจาง ควันร้อนลอยฟุง้ แต่แขก
ทังสองไม่มีแก่ใจจะยกขึนจิบ

ภาพองค์ชายใหญ่ทีเต็มไปด้วยเลือดกับสหายทีพึงได้พบ
หน้า

หานซ่งมีความคิดอ่านซับซ้อนรูไ้ ด้เลยว่าเรืองนีเบืองลึก
เบืองหลังไม่ธรรมดา เจ็บใจตรงทีสามีของตนเอาแต่ปิด
ปากเงียบ เขาไม่พดู จาด้วยอยูห่ ลายวันก็ยงั ไม่ใจอ่อน

ส่วนฮัวเหิงนันเป็ นห่วงเฉินเหวินเค่อจากใจจริง แต่เพราะ


อาการบาดเจ็บของอีกฝ่ ายจึงได้รงรออยู
ั ห่ ลายวันถึงพึง

84
ได้มาเยียมเยียน

เมือเฉินเหวินเค่อปรากฎตัวทังสองก็ผดุ ลุกขึน เตรียมทํา


ความเคารพ แต่เขาก็โบกมือเพราะจําได้วา่ ฮัวเหิงกําลัง
ตังครรภ์

“หวางเฟยทรงสบายดี…”

นําใจของฮัวเหิง เฉินเหวินเค่อย่อมซึงใจ มิตรสหายทีถูก


ชะตาไม่ได้พบพานได้โดยง่าย เพียงแต่เขาไม่อยากเป็ น
ต้นเหตุทาํ ให้คนบริสทุ ธิต้องเจ็บตัว

“บางสิงแม้รูแ้ จ้งแต่ไม่อาจพูดได้” เฉินเหวินเค่อหันหน้า


85
ไปหาหานซ่ง อ่านแววตานันออก และรูว้ า่ อีกฝ่ ายอยาก
จะถามอะไร “อย่าถลําลึกลงไปในสิงทีไม่เกียวกับตัวเจ้า
จงระลึกเอาไว้วา่ หากแตะต้องไปแล้ว ผูท้ ีเดือดร้อนอาจ
จะไม่ใช่เจ้าแต่เพียงผูเ้ ดียว”

จากนันเขาจึงย้ายสายตาไปทีฮัวเหิง “นําใจของเจ้าข้ารับ
รู ้ แต่ไม่อาจรับ” นัยน์ตาสีขีเถ้าสัญลักษณ์ของเชือพระ
วงศ์ทอประกายแข็งกร้าว นําเสียงทีเอ่ยออกมาเย็นชาอยู่
หลายส่วน “จะดีกว่าถ้าพวกเจ้าไม่มาข้องเกียว”

ฮัวเหิงฟั งถ้อยคําเด็ดขาดก็หลับตาลง มือลูบเบาๆ บน


หน้าท้อง นําเสียงสุภาพอ่อนโยนเช่นเดียวกับดวงตา

86
“อันวาสนานันหาได้เกิดกับความรักเพียงอย่างเดียว ทัง
ครอบครัวและกัลยาณมิตรก็ลว้ นต้องมีวาสนาจึงจะได้
พบพาน กระหม่อมจะรอวาสนานันพ่ะย่ะค่ะ ผูน้ อ้ ยแซ่
ฮัวขอถวายพระพร หวางเฟยโปรดรักษาสุขภาพ”

หานซ่งพยุงคนข้างตัวขึน หลังเอ่ยขอลา เขาก็หนั ไป


กล่าวกับสหายผูส้ งู ศักดิว่า “ฟ้าหลังฝนย่อมสดใส เมฆ
หมอกหนามิอาจปกคลุมได้ตลอดกาล กระหม่อมเองก็
จะเฝ้ารอเช่นกัน”

เฉินเหวินเค่อมองส่งแผ่นหลังทังสองทีจากไปอยูน่ าน
เอือมมือไปแตะถ้วยชาทีไม่มีความร้อนเหลืออยูแ่ ล้วก็หนั
ไปดุขา้ รับใช้วา่

87
“ยกชามาให้คนตังครรภ์ใช้ได้ทีไหนกัน”

“ขอประทานอภัยด้วยเพคะ!”

นางกํานัลผูย้ กนําชาคุกเข่าลง ครันพอแอบยกหัวขึนมา


แม้นาเสี
ํ ยงของหวางเฟยเมือสักครูจ่ ะไม่พอใจ แต่ใบ
หน้ากลับปรากฏรอยยิมบางเบา

88
.

คล้อยหลังแขกผูม้ าเยือนทังสองพึงกลับไปไม่นาน ก็เห็น


ข้ารับใช้คนเดิมวิงหอบมาอีกหน

ปกติธรณีประตูจวนเว่ยหวางเงียบเหงาไม่คอ่ ยมีผใู้ ด
เหยียบยํา แต่พอมีคนแรกได้เหยียบ ดันมีคนทีสองสามสี
ตามมาเสียอย่างนัน

“วันนีช่างครึกครืนจริงๆ มีคนมาหาข้าอีกหรือไง”

ขันผูแ้ จ้งข่าวเผยรอยยิมโง่งม “หวางเฟยมีดวงตากระ


89
จ่างแจ้ง เป็ นเช่นนันจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”

นอกจากฮัวเหิงกับหานซ่งแล้ว เฉินเหวินเค่อก็คิดไม่
ออกว่าตัวเองมีปฏิสมั พันธ์ทีดีกบั ใครอีก ตังแต่เล็กจนโต
เขาก่อกําแพงสูงไม่ยอมก้มหัวให้ใคร ไม่ยอมไว้ใจผูใ้ ด

นอกจากท่านแม่กบั คังเล่อ พวกขุนนางทังหลายเขา


แสดงออกอย่างชัดเจนมาตลอดว่าไม่ชอบขีหน้า ปั ดลิน
สอพลอจอมประจบนันให้ออกห่างจากตัวมาโดยตลอด

จนกระทังเห็นเฉินลูป่ ิ นจูงมือเด็กหญิงตัวน้อย อายุราว


สามสีขวบเข้ามา

90
“เหวินเกอ ท่านแอบไปนอกใจข้าเมือไรกัน”

แค่เห็นโครงหน้ากับดวงตาสดใสในใจก็ปรากฏคําตอบ
เว้นเพียงจมูกกับริมฝี ปากจิมลิมคงจะเป็ นส่วนทีได้จาก
บิดา

เฉินลูป่ ิ นเองก็รูส้ กึ คุน้ ๆ กับเด็กน้อยทีพึงพบพานเช่นกัน


ยิงเห็นอาการนิงค้างไม่ตอบสนองกับคําพูดหยอกเอิน
เฉินลูป่ ิ นก็ยงมั
ิ นใจว่าเด็กน้อยทีคนจากจือเฉิงหลัวพามา
ต้องมีสว่ นเกียวข้องกับมือสังหารทีเขาปล่อยให้ตายรัง
อยูใ่ นคุกหลวง หรือไม่ก็อาจเกียวข้องกับสองสามีภรรยา
สกุลฉู่ผโู้ ชคร้าย

91
เพือรับคําขอโทษจากจ้าวกุย้ เฟย เฉินเหวินเค่อจึงขอยืม
คนของสกุลจ้าว ให้ช่วยหาข้อมูลของสกุลฉู่และบ้านเดิม
ของมีเตียน

สกุลฉู่เป็ นแค่ขนุ นางเล็กๆ ไม่ได้มีจิตทะเยอทะยาน เป็ น


ลักษณะขุนนางทีเฉินเหวินเค่อชืนชม แต่น่าเสียดายทีไม่
มีผใู้ ดรอดชีวิตเลยสักคน ขนาดแค่บา่ วซักผ้าไร้บทบาท
ก็ยงั ต้องทิงชีวิตเอาไว้

ส่วนสกุลมีทีเฉิงตู หลังจากเจ้าบ้านมีถึงแก่กรรมไป
กิจการค้าหยกก็ตกตําลงเรือยๆ สาเหตุหนึงของการทีมี
เตียนถูกคลุมถุงชนมาแต่งงานกับฉู่ซวู า่ น ก็เพราะการ
แต่งบุตรชายออกกับแต่งสะใภ้เข้า สกุลมีมีกาํ ลังทําได้
แค่อย่างแรก
92
“สกุลฉู่มีฉ่ซู วู า่ นเป็ นผูส้ ืบทอดตําแหน่งเจ้าบ้านเพียงคน
เดียว ในขณะทีฉู่ซวู า่ นแม้ยงั มิมีบตุ รชายสืบทอดสาย
เลือด แต่ก็มีบตุ รีอยูห่ นึงคน”

คนจากจือเฉิงหลัวรายงานเสียงนิงเรียบ เก็บงําอารมณ์
ความรูส้ กึ ได้เก่งกาจเช่นเคย

ฝังสกุลมีประสบชะตากรรมซํารอยสกุลฉู่ แต่นบั ว่า


สวรรค์ยงั เมตตา เด็กน้อยทีอยูร่ ะหว่างการเดินทางไป
เยียมบ้านเดิมฝังมารดาจึงรอดจากการสังหารหมูอ่ ย่าง
หวุดหวิด

93
วิชาหน้ากากหนังมนุษย์พบเจอไม่บอ่ ย แต่วา่ หากถูกช่วง
ชิงใบหน้าไปแล้ว ผูเ้ กียวข้องล้วนถูกลากตกตายตามไป
ด้วยเช่นกัน

แม้มีเตียนทีเขาพบจะเป็ นตัวปลอมทีสวมใส่หน้ากากทัง
ทีใบหน้าและจิตใจ หากพูดแบบตัดเรืองอารมณ์ความ
รูส้ กึ ทิงไป สกุลมีกับสกุลฉู่ก็แค่โชคร้ายทีต้องประสบกับ
ชะตากรรมเช่นนี แต่สาํ หรับเฉินเหวินเค่อเขารูส้ กึ ว่าตัว
เองสมควรมีสว่ นรับผิดชอบ

“เจ้ามีนามว่าอะไร”

“ฉู่มีอิงเจ้าค่ะ”

94
ฉู่มีอิงยังเป็ นเพียงเด็กน้อยไม่ประสา ถูกพาตัวมาอย่าง
ไม่รูเ้ รืองรูร้ าว ภายในตําหนักหรูหราใหญ่โต ตัวนางเล็ก
นิดเดียวเทียบเท่ามดงานตัวจ้อย

หันไปมองทางใดก็พบแต่คนไม่คนุ้ หน้า ศีรษะเล็ก


พยายามชะเง้อคอมองหามารดากับบิดา แต่ก็ไม่เห็นแม้
แต่ชายเสือ

เฉินเหวินเค่อผุดกายลุกขึน ก้าวเข้าไปใกล้ เงายิงใหญ่


ทาบทับ บรรยากาศทีแผ่ออกมารอบกายทําให้เด็กหญิง
ตัวน้อยซุกกายเข้าหาพีชายรูปงามทีดูอบอุน่ มากกว่า

95
“ข้าพาบิดามารดากลับมาพบเจ้าไม่ได้”

คํากล่าวตรงไปตรงมาผูฟ้ ั งถึงกับเหงือตก เฉินลูป่ ิ นเผยสี


หน้าอ่อนใจ แต่เมือเห็นสายตาอย่างคนทีตัดสินใจดีแล้ว
ในเมือเป็ นสิงทีหวางเฟยต้องการ สามีเช่นเขาย่อมตาม
ใจ

ฉู่มีอิงตอนนันอายุนอ้ ยเกินไป จดจําสิงใดไม่คอ่ ยได้แล้ว


เพียงแต่ทอ่ นแขนกํายําของบุรุษผูห้ นึง เคียงข้างด้วยชาย
หนุ่มรูปงาม เหล่าข้ารับใช้ทิงตัวลงคุกเข่าโคกศีรษะ
คํานับ ล้วนเป็ นภาพยิงใหญ่อย่างทีนางไม่เคยประสบ
พบเจอมาก่อน โดยเฉพาะนําเสียงเด็ดขาดนัน แม้จะน่า
กลัว แต่ลกึ ๆ แล้วด้วยจิตใจอันขาวบริสทุ ธิ นางก็รูไ้ ด้ถงึ
ความอบอุน่ ทีซุกซ่อนอยู่
96
“นับแต่วนั นีไป…ข้าคือมารดาของเจ้า”

ในฐานะมนุษย์ธรรมดา แม้มากบรรดาศักดิสูงส่งด้วย
เกียรติยศ ทว่าเฉินเหวินเค่อสามารถทําได้ดีทีสุดเพียง
เท่านี

ท่านหญิงแห่งจวนเฉินอัน พระราชนัดดาแห่งองค์
จักรพรรดิ ผูใ้ ดก็กล่าวว่านางส้มหล่นทับกองใหญ่ แต่ใน
เมือทังท่านแม่กบั ท่านพ่อต่างดีตอ่ นาง วาจาไม่น่าฟั งนัน
นางไม่คิดจะนํามาใส่ใจ เพียงแต่หากผูใ้ ดไม่รูค้ วาม ฉู่มี
อิงผูน้ ีก็พร้อมจะตบให้กระเด็น!

97
ตอนที ๒๔ โซ่ตรวนเส้นสุดท้าย

98
คล้อยเข้าเดือนทีสามหลังจากตังครรภ์ แพทย์หลวงกัว
เป็ นผูจ้ บั ชีพจร รับผิดชอบต่อหน่อเนือเชือพระวงศ์
พระองค์นีอย่างเต็มภาคภูมิ

เรืองจับชีพจรนันไม่เป็ นปั ญหา แต่ไหนแต่ไรกัวเจ๋อก็เป็ น


บุรุษเจ้าสําอาง ไม่นิยมชมชอบในการดืมสุรา แม้แต่จอก
เหล้าทียกพอเป็ นพิธีก็ไม่แตะต้อง ตังมันศึกษาวิชา
แพทย์

พวกหมอส่วนมากยามแก่ชรามักจะมีอาการมือสันจาก
พิษสุราเรือรัง ยิงเขาเป็ นแพทย์แห่งราชสํานัก ยังอยาก
แก่ตวั ไปอย่างสุขสบาย หากวินิจฉัยผิดพลาด รักษาล่า
ช้าไม่ทนั กาล มีหรือศีรษะจะตังมันไว้บนบ่า ความเสียง
ใดเลียงได้ก็เลียง
99
รับใช้ขตั ติยวงศ์นบั เอาคอพาดเขียงไปแล้ว จะชักคอกลับ
ก็คงไม่ทนั

พืนฐานร่างกายมารดาแข็งแรงไม่มีปัญหา ชีพจรไม่พบ
สิงใดผิดปกติ แต่ทีน่าลําบากใจคือการตรวจดูลกั ษณะ
ของท้องยามตังครรภ์

กัวเจ๋อลูบๆ ไปก็พบแต่กล้ามเนือหกก้อน แพทย์หลวง


หนุ่มกัดฟั นแน่น ข่มความอิจฉา แล้วทูลว่า

“ชีพจรปกติดี แต่กระหม่อมขอประทานอภัยทีไม่
อาจบอกได้วา่ ลักษณะอายุครรภ์สามเดือนของพระองค์

100
เป็ นลักษณะทีดีหรือไม่”

เฉินเหวินเค่อกระตุกมุมปาก “เอาเถอะ ข้าก็พอเข้าใจ”

ร่างกายเขามีแต่เขาเองทีรูว้ า่ มีสงใดเปลี
ิ ยน ฝ่ ามือกร้าน
ลูบเบาๆ ไปทีหน้าท้อง ถึงท้องจะยังราบเรียบไม่มีสว่ นใด
ยืน แต่ก็รูว้ า่ กล้ามเนือลดลงไปมาก สงสัยต้องรอให้เข้า
เดือนทีห้าถึงจะเริมเห็นชัด

ตามปกติหากลูกดินได้เร็ว บุตรในครรภ์มีสทิ ธิทีจะเป็ น


ลูกชายสูง แต่เฉินเหวินเค่อคงใช้ความเชือนีมาวัดอะไร
ไม่ได้

101
ถ้ามารดาผูต้ งครรภ์
ั เอวอ่อนสะโพกบางก็จะสัมผัสได้ถงึ
การเคลือนไหวในท้องได้เร็วกว่า กับคนมีกล้ามหนา
อย่างเขาก็ได้แต่ภาวนาให้เป็ นท่านชาย มิเช่นนันหาก
คลอดทายาทสืบสกุลให้จวนเฉินอันไม่ได้ เขาย่อมเป็ น
สะใภ้อกตัญ ู

ในขณะทีฝังเฉินลูป่ ิ นอาการคลืนไส้เวียนหัวเริมลดน้อย
ลงไปมาก แต่น่าเสียดายทีบุตรในครรภ์ไม่ยอมอ่อนข้อ
ให้เลยแม้แต่นอ้ ย นับวันเฉินลูป่ ิ นยิงมีความอยากอาหาร
ในทางพิสดารมากขึนเรือยๆ

ด้วยนิสยั กินง่ายอยูง่ ่าย อะไรๆ เฉินเหวินเค่อล้วนไม่ปริ


ปากบ่น สามารถกินเป็ นเพือนเฉินลูป่ ิ นได้ทงนั
ั น มีแค่
ฝ่ ายคนอยากทีอยากแค่ปากแต่ไม่ไปไม่ถงึ ใจ ด้วยแวว
102
ตาทีชวนให้รูส้ กึ สงสารปนเวทนา

ตัวเขาก็จนใจจะช่วย...

เฉินเหวินเค่อเองแม้ยามนีจะยังไม่ลาํ บาก แต่เขาก็


ตระหนักถึงเรืองการคลอดบุตรเป็ นอย่างมาก ได้ยินแม่
นมเล่าว่า ท่านแม่ทีเยือกเย็นอยูต่ ลอดเวลา เมือเขากับ
เล่อเล่อถึงยามประสูติกาล ยังถึงกับร้องครวญอย่าง
ทรมาน

ถ้าให้มีอีกคนแล้วล่ะก็ เขายอมถูกเรียกว่าสะใภ้
อกตัญ เู สียยังจะดีกว่า

103
“ท่านแม่เจ้าคะ”

ลูกสาวตัวน้อยโผล่ศีรษะออกมา ใช้ดวงตาใสกระจ่าง
จ้องเฉินเหวินเค่อทีจัดอาภรณ์ให้เข้าทีโดยไม่ยอมก้าว
เข้ามาในห้อง เพียงเกาะขอบประตูอยูเ่ ช่นนัน

ท่านแม่….ฟั งคํานีแล้วแปลกพิกลนัก แต่กว่าอิงเอ๋อร์จะ


ยอมเรียกเขาว่าท่านแม่ก็ใช้เวลาพอดู นึกแล้วก็นบั ว่ายัง
ดีทีมารดาบังเกิดเกล้าของฉู่มีอิงเป็ นบุรุษรูปลักษณ์จอม
ยุทธเจ้าสําราญ มีบิดาบอบบางน่ารัก

ยามเฉินลูป่ ิ นกระตือรือร้นสังสอนให้เรียกตนว่าท่านพ่อ
ขานเรียกเขาว่าท่านแม่ลว้ นไม่กระดากปาก ผิดกับพวก

104
บ่าวรับใช้ทีอารมณ์ความรูส้ กึ แสดงออกราวแปะ
กระดาษเขียนประจานอยูก่ ลางหน้าผาก

อดีตหนูนอ้ ยสกุลฉู่โชคดีทีอายุยงั น้อย นอกจากวันแรกที


ร้องไห้โศกเศร้าหาครอบครัว ไม่นานก็เริมปรับตัวกลับมา
สดใสร่าเริง...ความสะอาดบริสทุ ธิเช่นนีเป็ นลักษณะของ
เด็กน้อยทียังไม่ประสา

ฐานะในปั จจุบนั ของนางหาใช่บตุ รีขนุ นางชันล่างอีกต่อ


ไป แต่เป็ นถึงท่านหญิงแห่งจวนเฉินอัน มารยาทการ
แสดงออกล้วนต้องสังสอนตังแต่เนินๆ ทังหน้าหลังต้อง
ถูกห้อมล้อมด้วยข้ารับใช้เฉกเช่นฐานันดรศักดิอันสูงส่ง

105
ทุกสิงทุกอย่างคือสิงแปลกใหม่อนั ไม่คนุ้ เคยของฉู่มีอิง
และนางต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักพัก

“อิงเอ๋อร์เข้ามาสิ”

เฉินเหวินเค่อกวักมือ ตบลงทีว่างข้างตัว ท่านหญิงตัว


น้อยรีบวิงเข้าหาจนชายกระโปรงปลิว เห็นแล้วก็สา่ ย
หน้า กุลสตรีทีไหนวิงฝุ่ นตลบเช่นนีบ้าง

ดวงตาสดใสนันจดจ้องทีหน้าท้องของเฉินเหวินเค่อไม่
วางตา ฉู่มีอิงได้ยินมาว่าท่านแม่กาํ ลังจะมีนอ้ ง ทีจวน
หวางกว้างใหญ่เกินไป นางเหงายิง ถ้ามีนอ้ งนางจะได้มี
เพือนเล่น

106
มือเล็กนุ่มนิมตบแปะไปทีท้องอันแข็งแกร่ง ยิงลูบคลํา
คิวอนงค์ก็ขมวดกันยุง่ ตัวเล็กเท่านีริอาจทําหน้านิวคิว
ขมวด เฉินเหวินเค่อใช้ปลายนิวคลายปม แต่ถงึ กระนันฉู่
มีอิงก็ยงั เผยแววตาสงสัยใคร่รู ้ นางยูร่ มิ ฝี ปากแล้วเอ่ย
ถาม

ฉู่มีอิงมองมือของตนเอง เด็กน้อยวัยสามขวบพูดยังไม่
ค่อยชัดนัก แต่ฉ่มู ีอิงก็เป็ นเจ้าหนูนอ้ ยช่างพาที ถึงจะพูด
ได้ทีละประโยคเป็ นประโยคสันๆ นางก็ยงั ถามต่อด้วย
ความตังใจ “น้องมีตงหกคน...ท่
ั านแม่ไม่อดึ อัดหรือเจ้า
คะ”

กัวเจ๋อได้ประสบกับความไร้เดียงสาดุจผ้าขาวก็สาํ ลักลม
107
ท่านหญิงน้อยทีท่านจับไปไม่ใช่นอ้ งของท่าน แต่เป็ น
กล้ามหน้าท้องของมารดาท่านต่างหาก

แม้กระทังเฉินเหวินเค่อยังหลุดขํา ลูบเส้นผมเรียบลืน
แล้วจึงกล่าวด้วยนําเสียงทีอ่อนลงจากปกติโดยไม่รูต้ วั

“น้องเจ้ามีคนเดียว”

“เป็ นชายหรือหญิงเจ้าคะ”

ฉู่มีอิงเห็นมารดาส่ายหน้า

108
“อิงเอ๋อร์อยากมีนอ้ งสาว”

เฉินเหวินเค่อนิงงันไป “น้องชายก็ไม่เลว อิงเอ๋อร์จะได้


เป็ นพีสาวอย่างไรเล่า”

ท่านหญิงน้อยเริมขมวดคิวอีกรอบ ลังเลว่าอยากมีนอ้ ง
สาวหรือน้องชายดี

หวางเฟยช่างหลอกเด็ก ไม่วา่ จะคลอดเป็ นชายหรือหญิง


ท่านหญิงมีอิงก็ได้เป็ นพีสาวทังคูน่ นแหละพ่
ั ะย่ะค่ะ…กัว
เจ๋อลอบคิดในใจ

“อิงเอ๋อร์จาํ คํามารดาได้ใช่หรือไม่ เจ้าเป็ นพีสาวก็ตอ้ ง


109
ปกป้องน้อง ใครทีกล้ามารังแก…”

“ก็ตบมันให้กระเด็นไปเลยเจ้าค่ะ!”

เหล่าข้ารับใช้ทีได้ยินพลันลอบหลังเหงือเย็น แผ่นดิน
เสวียนเฉินมีหวางเฟยป่ าเถือนอยูห่ นึงแล้ว ในอนาคตจะ
เพิมท่านหญิงดุรา้ ยอีกอย่างนันหรือ

เห็นทีเรืองการสังสอนบุตร คงไม่อาจปล่อยให้เป็ นหน้าที


ของมารดา หวางเย่ผแู้ สนอ่อนโยนของบ่าวอยูท่ ีใด ได้
โปรดใช้ความอ่อนโยนของท่านทําให้ทา่ นหญิงเติบโตมา
อย่างงดงามด้วยเถิด!

110
.

ในจวนเว่ยหวางมีสระบัวสัตตบงกชอยู่ กลางสระนันมี
ศาลาเปิ ดโล่งสีทิศตังตระหง่านเหนือผิวนํา เสาทังสีด้าน
ประดับด้วยม่านผ้าโปร่งสีเหลืองนวลสบายตา

วันทีสิบเอ็ดเดือนสามใบไม้ผลิอบอวลลมพัดรวยริน
เจือกลินสดชืนจากบุปผชาติ

111
บุรุษรูปงามลูบปลายด้ามไม้ของพัดจีบ หวนนึกถึงอดีต

ตังแต่เฉินลูป่ ิ นเกิดมาก็รูส้ ถานะของตนเป็ นอย่างดี โดย


เฉพาะเรืองทีบรรดาศักดิ ‘หวาง’ พร้อมราชทินนาม ‘เฉิน
อัน’ ทีต้องสืบต่อต้องเอาใจออกห่างเรืองราวทางราช
สํานัก โดยเฉพาะเรืองศึกชิงบัลลังก์ จวนเฉินอันลอยตัว
เหนือเมฆมาโดยตลอด

ดํารงตนเป็ นหวางกินเมือง ปกครองเมืองท่าสําคัญ ชัก


นําเงินทองเข้ามา และพัดพาชือเสียงของแผ่นดินให้ขจร
ไกล

สิบปี ก่อนตอนมารดาพบว่าเขาได้รบั ปิ นจากผูใ้ ด ยืน

112
กรานกีดกันเส้นทางความรัก แม้บิดาทีสินไปแล้วจะไม่
เอ่ยคําใด แต่แววตาก็ไม่ยินยอมเช่นกัน

ท่านชายน้อยผูเ้ ป็ นทายาทเพียงคนเดียว กตัญ รู ูค้ ณ



เชือฟั งบิดามารดา แต่มีแค่เรืองเดียวทีเฉินลูป่ ิ นร้องขอ
อย่างเอาแต่ใจทังนําตา

ปิ นก้านเหมยนีเขาแอบขอให้พอ่ บ้านเหมาเป็ นคนช่วย


ด้วยใจมิยินยอมทีจะปล่อยให้มนั เหียวเฉา

เพือเป็ นการหลีกเลียงการถูกจับหมันหมาย ท่านชาย


น้อยลอบออกจากจวน เข้าร่วมการคัดเลือก สมัครเป็ น
บัณฑิตฝึ กหัดทีสํานักศึกษาหลวงของสกุลจ้าว

113
ไม่รูว้ า่ ประกายใดทีท่านเจ้าสํานักเห็นในตัวเขา เฉินลูป่ ิ น
ทีใช้ชือปลอมเข้าศึกษา จึงได้เป็ นศิษย์นอกสกุลเพียงคน
เดียวทีได้กราบไหว้ทา่ นเจ้าสํานักเป็ นอาจารย์

ภายหลังเมือทราบว่าเฉินลูป่ ิ นมีเส้นลมปราณพิเศษ ก็
มอบหมายคําสังให้ติดตามศิษย์พีอย่างจ้าวหลาน เดิน
ทางขึนสูย่ อดเขาฉิงซาน

ไม่อาจทราบได้วา่ ทําไมยอดยุทธและเหล่าปรมาจารย์จงึ
ชอบตังสํานักกันไว้บนยอดเขา ภายหลังจึงได้ไขข้อข้อง
ใจ การฝึ กฝนกําลังภายใน หากอยากรุดหน้า นอกจาก
ต้องพยายามฝึ กฝนด้วยตนเอง ล้วนมีตวั ช่วยเป็ นปราณ

114
ธรรมชาติ

ปรมาจารย์อีซิวไม่รบั ศิษย์นอกสกุลจ้าว เฉินลูป่ ิ นนับเป็ น


ข้อยกเว้นอีกเช่นเคย ตอนเขากราบไหว้ทา่ นอาจารย์ เฉิน
ลูป่ ิ นอายุได้สบิ สีปี

กระทังอายุสบิ แปด เวลาสีปี ทีโดนเคียวกรํา ท่านชายผูไ้ ร้


เดียงสาคล้ายจะแปรเปลียนไปมาก

ทําไมเฉินลูป่ ิ นจะไม่เข้าใจว่าโลกของเขากับเหวินเก
อต่างกันเกินไป เพราะฉะนันยามจักรพรรดิยืนขอเสนอ
มา เฉินลูป่ ิ นก็ไม่รรี อทีจะคว้าเอาไว้

115
ในฐานะบิดา จักรพรรดิทรงอยากให้โอรสคนโตตัดขาด
จากเส้นทางราชบัลลังก์ ได้ปลดปล่อยความทุกข์ตรม
และภาระทีต้องแบกรับ สามารถเลือกใช้ชีวิตของตนเอง
ตามปรารถนาโดยไม่ตอ้ งเสียสละสิงใดให้ใคร

แต่ในฐานะองค์เหนือหัวผูเ้ ป็ นจ้าแผ่นดิน เฉินเหวินเค่อ


ไม่ใช่ตวั เลือกในการเป็ นไท่จือทีเหมาะสม

เฉินลูป่ ิ นเกิดมาไม่ตาต้
ํ อย ในฐานะสามีทีเพียบพร้อมตัว
เขาสามารถเป็ นได้

เฉินลูป่ ิ นไม่มีขวอํ
ั านาจใดในราชสํานัก ตัดขาดจากเส้น
ทางราชบัลลังก์โดยเส้นเชิง ในฐานะราชบุตรเขยทีเป็ น

116
ไปตามความต้องการขององค์จกั รพรรดิ ตัวเขาสามารถ
เป็ นได้

เฉินลูป่ ิ นมีรกั มันยึดติดอย่างแรงกล้า และด้วยความรัก


นันเขาไม่มีวนั ทําให้เหวินเกอเสียใจ จะดูแลและดีตอ่
หวางเฟยของเขาให้มากทีสุด มากเสียยิงกว่าชีวิตของ
ตนเอง

แผ่นหลังกว้างองอาจเฉกเช่นชายชาตินกั รบ เท้าทังสอง
ข้างจุ่มลงไปในสระบัว ข้างๆ เป็ นร่างเล็กจิวของบุตรีตวั
น้อย เสียงหัวเราะสดใสของฉู่มีอิง แต่งแต้มสีสนั ให้จวน
กว้างใหญ่ไม่เงียบเหงาเหมือนอย่างเคย

117
ฝี เท้าเบากริบของเฉินลูป่ ิ นเงียบเชียบไร้เสียง กว่าสองแม่
ลูกจะสัมผัสได้ถงึ ตัวตนของเขา ก็เป็ นตอนทีเส้นผม
ยาวสีนาหมึ
ํ กเข้มถูกปั ดออกไปด้านข้าง เผยให้เห็นหลัง
คอและสีผิวสองสีทีตัดกันอย่างชัดเจน

ริมฝี ปากบางกดไปทีหลังคอ จูบยําๆ จนอีกฝ่ ายรําคาญ


ใจจนต้องสะบัดหน้าหันมามองตาขวาง เฉินลูป่ ิ นรอ
จังหวะ ทันทีทีเฉินเหวินเค่อหันหน้ามา จมูกโด่งเป็ นสันก็
ขโมยหอมแก้มไปเต็มฟอด

“ท่านพ่อหอมด้วย~”

ลูกสาวตัวน้อยดึงแขนเสือออดอ้อน ระดับการตามใจ

118
ของเฉินลูป่ ิ นนันไร้ขีดจํากัด เพียงแค่นีมีหรือจะไม่ยอม
ทําตาม ฟั ดแก้มนุ่มแถมให้อีกหลายที

“เหวินเกอปิ นท่านหายไปไหน”

เมือเช้าเฉินลูป่ ิ นจําได้วา่ ตัวเองรวบผมปั กปิ นให้เฉินเหวิ


นเค่อตามปกติ ยามนังกินมือกลางวันก่อนจะเชิญแพทย์
หลวงกัวมาจับชีพจรตรวจสุขภาพ ปิ นกระจกคูบ่ นมวย
ผมนันก็ยงั อยูด่ ี เหตุใดบ่ายคล้อยมาเจออีกฝ่ ายนังเล่นที
ศาลากลางสระบัว เฉินเหวินเค่อถึงได้ปล่อยผมยาว
สยายต่อหน้าบ่าวรับใช้

ผูม้ ีสทิ ธิเห็นภรรยาปล่อยผมมีเพียงสามี ธรรมเนียม

119
ปฏิบตั ิขอ้ นีทําเอาคิวใบหลิวขมวดมุน่ ความไม่พอใจ
ฉาบไล้อยูบ่ นใบหน้า

เฉินเหวินเค่อใช้สายตาแทนคําตอบ เหล่มองไปทีสระบัว
หลายวันก่อนพวกบ่าวพึงทําความสะอาดสระ สายชลใส
แจ๋วมองเห็นหมูม่ จั ฉาขาวแต้มลายสีแสดแหวกว่ายผ่าน
กอบัว ก้นสระเห็นประกายแสงตกกระทบสีรุง้ ของปิ น
กระจกทิมแทงเข้ามาในดวงตา

ครันเฉินลูป่ ิ นเอ่ยปากถามหาถึงสาเหตุ ก็ได้เห็นบุตรีตวั


น้อยวัยกําลังซุกซนค่อยๆ ย่องไปหลบหลังมารดา ใช้
แผ่นหลังอันแข็งแกร่งเฉกเช่นภูผากว้างเป็ นเกราะกําบัง

120
“ทีแท้เป็ นฝี มืออิงเอ๋อร์ ลูกลิงตัวน้อยบิดาจะลงโทษเจ้า!”

อาภรณ์สีขาวอย่างทีเฉินลูป่ ิ นชอบสวมใส่สะบัดพรึบ
หากปรมาจารย์มารอีซิวได้มาเห็นลูกศิษย์ตวั ดีนาํ วิชาตัว
เบาลําเลิศมาใช้กลันแกล้งเด็กหญิงวัยสามขวบตัว
กระจ้อย เฉินลูป่ ิ นคงถูกสันมือโขกจนกบาลแยก

ฉู่มีอิงตัวสันงันงกกลัวบิดาจะลงโทษ เกือบจะร้องไห้จา้
ยามแก้มทังสองข้างถูกฟั ดเสียจนชํา ดีทีท่านแม่ดงึ
นางออกจากมือเพชฌฆาต ฝ่ ามือใหญ่ปิดหน้านางเสีย
มิด ฉู่มีอิงได้ยินเสียงดังผัวะ ตามมาด้วยเสียงร้องโอด
โอย

121
กลับมามองอีกที ซีกแก้มขวาของท่านพ่อก็มีรอยแดง
เป็ นรูปมือเสียแล้ว

เฉินลูป่ ิ นยิมอย่างโง่งม เจ็บแค่นีนับว่าไม่เสียหาย ตัวเขา


ชอบตามใจภรรยาอย่างถึงทีสุด แต่ถงึ กระนันโดนตบตี
บ่อยๆ ชักจะปล่อยไปไม่ได้ เขาจึงจัดการสําเร็จโทษโดย
การดึงใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ ายมาหอมแก้มให้ชาํ
ตายกันไปข้างหนึง

ลูกสาวตัวน้อยไม่ยอมน้อยหน้าบิดา พยายามยืดตัว
เขย่งปลายเท้า ครองแก้มของมารดาอีกฝังหนึง

อิงเอ๋อร์ไม่ยอมแพ้ทา่ นพ่อหรอกนะเจ้าคะ!

122
ด้านการกินเต้าหูเ้ ฉินลูป่ ิ นเชียวชาญตังแต่ก่อนแต่งงาน
ตัวเขามีหรือจะปราชัยให้แก่มือสมัครเล่นตัวกระจิดริด

เฉินเหวินเค่อลูบแก้มทีถูกทารุณจนชําด้วยใบหน้าบึงตึง
ฝังขวามีชายหนุ่มรูปงามกอดแขนช้อนตาหวานเชือม ฝัง
ซ้ายมีดวงหน้าจิมลิมจ้องมองด้วยดวงตาใสแจ๋ว

บัดซบ! เช่นนีผูใ้ ดจะไปโกรธลง

ลมเย็นโบกโชยพัดมา อากาศดีเสียจนอยากเอน
กายหลับตาพักสักงีบ

123
ลูกสาวตัวน้อยหลับปุ๋ ยคาตักนุ่มของผูเ้ ป็ นบิดาไปแล้ว ฉู่
มีอิงไม่ยอมมานอนหนุนตักเฉินเหวินเค่อ ด้วยเหตุผลที
ว่าตักของเขาแข็งเกินไป ทําเอาคิวเข้มขมวดด้วยความ
ไม่ชอบใจผสมความน้อยใจอยูล่ กึ ๆ

ความสงบสุขเรียบง่ายเช่นนี ไม่รูจ้ ะคงอยูอ่ ีกนานหรือ


ไม่…

เฉินเหวินเค่อล้วงมือเข้าไปในอกเสือ ลูบไปบนเนือเย็น
ของตราประจําตําแหน่งแม่ทพั ตะวันออก

สิบปี แล้วกับหน้าทีทีแบกรับ ดวงตาสีขีเถ้าเหลือบไปมอง


คนข้างตัวทีกําลังลูบหลังกล่อมบุตรีทีตกลงสูห่ ว้ งนิทรา

124
ตาประสานตา บุรุษทังสองถูกดึงดูดเข้าหากัน เมือรูต้ วั
อีกทีปลายจมูกก็สมั ผัสกันบางเบา สองลมหายใจสอด
ประสานราวท่วงทํานองของดนตรีทีถูกลิขิตมาให้เข้าคู่

เฉินเหวินเค่อหลับตาลงเอียงหน้ารับสัมผัส จูบผะแผ่ว
ประทับทีริมฝี ปากแต่สะท้านลงไปกลางใจ ปลายลินที
พัวพันดําเนินไปอย่างเนิบช้านุ่มนวลอ่อนหวาน เต็มไป
ด้วยรสชาติหวานลําติดตรึง

“ถ้าท่านไม่ตงครรภ์
ั อยูล่ ะก็…”

มองอีกฝ่ ายทีตังใจข่มใจอดกลัน เฉินเหวินเค่อฝังจมูกลง

125
บนแก้มหอมกรุน่ คล้ายจะขอบคุณและให้รางวัล จากนัน
จึงเอ่ยกระซิบเบาๆ

ถ้อยคําเช่นนี…ให้เด็กได้ยินคงไม่ดี

“แพทย์หลวงกัวบอกว่าข้าแข็งแรงดี แค่ไม่รุนแรงมาก
เกินไป แล้วก็ไม่คิดจะทําอะไรพิสดาร” เขากดเสียงให้
เบาลงยิงกว่าเดิม “จะทําก็ไม่เป็ นไร”

เฉินเหวินเค่อบิดปลายจมูกยืนอย่างหมันไส้เมือเห็นดวง
ตาพราวระยับของอีกฝ่ าย ล้วงเข้าไปในอกเสือ แตะตรา
แม่ทพั ของตนอีกครัง ก่อนจะแย้มยิมออกมาบางเบา

126
ยามพบเจอเจ้าข้าต้องละทิง…เว่ยหวาง

ยามแต่งกับเจ้าข้าต้องละทิง…องค์ชายผูม้ ีสทิ ธิสืบทอด


บัลลังก์

ยามเข้าหอกับเจ้าข้าต้องละทิง…ศักดิศรีความเป็ นบุรุษ
ของตนเอง

เจ้าตัดโซ่ตรวนทุกอย่างทีพูดมัดข้าไว้ และยินดีทาํ ทุกวิถี


ทางเพือให้ขา้ มีความสุข เช่นนันข้าจะขอละทิงโซ่ตรวน
เส้นสุดท้าย….

วันทีสิบสองเดือนสาม รัชศกฝูไฉทีสามสิบสาม เฉินอัน


127
หวางเฟย พระโอรสพระองค์โตในองค์จกั รพรรดิฝไู ฉ ได้
ส่งคืนตราแม่ทพั ตะวันออก ก้าวลงจากตําแหน่ง ละทิง
สมญานามแม่ทพั เลือด

จักรพรรดิทรงนิงคิดอยูน่ าน ชือเสียงของแม่ทพั เลือดปก


ปั กษ์คมุ้ ครองชายแดน ไม่รูว้ า่ หากรับตราคืนจะส่งผล
เสียใดขึนมาบ้าง ขนาดเฉินเหวินเค่อส่งตราคืนมายังไม่
ทันพ้นวัน หูตาว่องไวของขุนนางทีรักพากันส่งฎีกาคัด
ค้านออกมาแล้ว

ทังเบืองหลังของการลอบสังหารก็เงียบหายไปเฉยๆ
เพียงแต่นานิ
ํ งทีไหลสงบมากเท่าใด กระแสนําข้างใต้ก็
ยิงไหลเชียวมากเท่านัน

128
เกากงกงก้มหน้ายืนอยูเ่ บืองหลัง เห็นพระดรรชนีของ
องค์เหนือหัวเคาะเบาๆ ไปบนฎีการ้องเรียนทีเริมกองสูง
ขึนเรือยๆ ก่อนจะตรัสออกมาด้วยสุรเสียงอันเต็มเปี ยม
ไปด้วยอํานาจ

“ตําแหน่งแม่ทพั ตะวันออก…ว่างเว้น”

129
ตอนที ๒๕ กาลเวลาทีล่วงผ่าน ล้วนไม่เคยไหลย้อนกลับ

เฉินเหวินเค่อกับเฉินคังเล่ออายุหา่ งกันแค่สามปี นับว่า


ไม่ไกลกันมากนัก ทําให้องค์ชายทังสอง เติบโตมาด้วย
ความสัมพันธ์ฉนั มิตรสหายมากกว่าพีน้อง

130
สมัยยังเด็ก ฮุ่ยเฟยสกุลหร่วนผูเ้ ป็ นมารดา คือตัวตนทีน่า
กลัวสําหรับเขา ท่านแม่ไม่ใช่คนเจ้าสําเนียง ไม่ช่าง
จํานรรจ์ ท่านแม่ไม่เคยกดดันให้เขาโตมาเพือเป็ นองค์
ชายทีเหมาะสม แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยออกปากชม
เชยเช่นกัน

หลายครังทีท่านราชครูเอ่ยปากว่าเขาเป็ นอัจฉริยะ เฉิน


เหวินเค่อนําเรืองไปโอ้อวดกับมารดา องค์ชายใหญ่มกั
จับจ้องไปทีมือทังสองนัน และคาดหวังอยูล่ กึ ๆ ว่า
มารดาจะลูบศีรษะ แต่ก็แค่หวังมากเกินไป

ความเหินห่างนี หากไม่ได้คงั เล่อผูเ้ ป็ นน้องชายร่วมอุทร


ปรับเปลียนมุมมอง เกรงว่าความสัมพันธ์ของเขากับ
มารดาก็คงจะเป็ นไปในแนวทางทีไม่คอ่ ยดีนกั ดัง
131
จักรพรรดิและองค์ชายหลายพระองค์ทีทังมารดาบังเกิด
เกล้าและมารดาเลียง ให้ความสําคัญกับการกอด
ตําแหน่งหลังผลัดเปลียนแผ่นดินให้มนคง
ั มากกว่าการ
ใส่ใจลูกของตัวเอง

น้องชายของเขามีความคิดอ่านทีเข้าใจยาก ทังยังสนใจ
ด้านศาสตร์แห่งศิลป์ มากกว่าการจะดํารงตนเป็ นองค์
ชายทีเหมะสม

ในขณะทีกาพย์โคลงกลอนคือเรืองน่าเบือหน่ายสําหรับ
เฉินเหวินเค่อ แต่เฉินคังเล่อกลับมีความสุขกับการนังอยู่
นิงๆ อ่านหนังสือ มีนาชาอุ
ํ น่ เคียงคูข่ นมหวาน

132
ผูค้ นเอาใจออกห่างองค์ชายทีไม่ฉายแวว บ่าวรับใช้ซบุ
ซิบนินทา หากองค์ชายสามมิได้เกิดจากสนมยศสูง คงมิ
ได้อยูส่ ขุ สบายเฉกเช่นทุกวันนี เฉินคังเล่อหาใช่จะไม่ได้
ยิน แค่ไม่สนใจมากกว่า

“ท่านพีคิดว่าการทีท่านแม่คาดหวังให้ทา่ นตังใจเรียนใน
ฐานะไท่จือทีเหมาะสมกับไม่คาดหวัง อันไหนจึงจะดี
กว่ากัน”

เฉินคังเล่อเห็นพีชายไม่ตอบก็พดู ต่อ “ระหว่างต้นไม้ใหญ่


กับดอกหญ้าล้วนไม่อาจเอามาเปรียบเทียบ ผูค้ นคาด
หวังในร่มเงาร่มเย็น และเหยียบยําดอกไม้ทีด้อยค่า
เพียงแต่เมือพิจารณาดูอีกทีจงึ พบว่าตนกลับทําลาย
สมุนไพรสรรพคุณเลิศลํา และแท้จริงแล้วต้นไม้ใหญ่นนั
133
เมือถึงคราวออกดอกกลับส่งกลินชวนเวียนเศียร อันเป็ น
บ่อเกิดในการบ่อนทําลายร่างกาย”

คิวเข้มขมวดมุน่ นําเสียงทีเอ่ยออกมาแฝงความเหนือย
หน่าย “เล่อเล่อน้องพี เจ้าช่วยกล่าววาจาทีปุถชุ นคน
ธรรมดาทัวไปสามารถแตกฉานได้หรือไม่”

“ท่านพี เราสองล้วนเป็ นหน่อเนือเชือกษัตริย ์ เหนือศีรษะ


ไปสามจังคือพระบิดาผูท้ รงพระปรีชา มารดาบังเกิด
เกล้าผูเ้ ป็ นสนมขันเฟย และพระอัยยิกาผูป้ กครอง
ตําหนักฉางหงในฐานะพระพันปี หลวง(ไท่โฮ่ว) จะกล่าว
วาจาเฉกเช่นปุถชุ นคนเดินดิน เกรงว่าจะเป็ นการดูหมิน
ดูแคลน”

134
"วาจาน่าเกลียด"

แต่ไหนแต่ไรเฉินเหวินเค่อเกลียดลักษณะการพูดเช่นนี
ทังได้พบเห็นจากสนมชายาของพระบิดา ขุนนางหน้า
หนาลินสองแฉก และเหล่าข้าหลวงหน้าซือตาใส แต่มิรู ้
ว่าในท้องลําไส้เลียวลดขดกันกีตลบ ฟั งกีทีก็แสลงหู มิรู ้
เพราะเหตุใดน้องชายทีคลานตามกันมาจึงชอบจีบปาก
ฉอเลาะกับเขาด้วยสําเนียงน่ารังเกียจนีนัก

“ฟั งเพือเข้าใจ แต่มิเอามาใส่ใจ” เฉินคังเล่อกล่าวต่อ มือ


เด็ดหญ้าเขียวชอุม่ ด้วยแววตาลึกลําเกินวัย “อดีตหงสา
สินอํานาจพานเอาสีขาว[1]ต้องหมองมัว แท้จริงแล้วผู้

135
ใดคือผูป้ กครองทีแท้จริง”

แม้ตอนนันเฉินเหวินเค่อจะยังเด็ก แต่ก็ใช่วา่ ดวงตาและ


หัวใจไม่กระจ่างแจ้ง สกุลฝังมารดาอํานาจมากล้น ขุน
นางและราษฎรต่างลักลอบซุบซิบ หากเขาได้ขนครอง

ราชย์ตอ่ แผ่นดินเสวียนเฉินคงไม่อาจกล่าวว่าผูป้ กครอง
คือแซ่เฉิน

“ตังแต่ราเรี
ํ ยนกับราชครูมา นีนับเป็ นครังแรกทีท่านพี
โดดเรียนออกมาวิงเล่นกับข้าใช่หรือไม่”

เฉินเหวินเค่อถอนหายใจกล่าวว่า “ทําเรืองไม่เหมาะสม
ยิง”

136
น้องชายเจ้าสํานวนได้ฟังก็ปิดปากหัวเราะเสียงแผ่ว
“ก่อนกลับตําหนักมิสลู้ องแวะไปพบท่านแม่ดู กระทําดัง
ทุกทีทีผ่านมา บางทีทา่ นพีอาจจพบความแตกต่าง”

137
เหล่าองค์ชายเมือเจริญชันษาต่างถูกนําเลียงดูทีวังหน้า
จักรพรรดิในหลายๆ รัชสมัยกับมารดาบังเกิดเกล้าหรือ
มารดาเลียง ต่างมีทา่ ทีเหินห่างต่อกันก็มีสว่ นจากการ
เลียงดูเช่นนี ความผูกพันของแม่ลกู กลับมิสคู้ วาม
สัมพันธ์ของขันทีและแม่นมทีคอยเลียงดู

เฉินเหวินเค่อทําความเคารพต่อมารดา ถูกต้องสง่างาม
เพียบพร้อมทุกกระเบียดนิว ฮุ่ยเฟยมิใช่พระสนมผูจ้ กุ จิก
มีอยูส่ องสามเรืองทีจะทําให้พระองค์พดู มากขึนหน่อย
หนึงในนันก็คือเรืองของกิรยิ ามารยาททีพึงกระทําให้
สุภาพ เรียบร้อยและเหมาะสม

องค์ชายใหญ่ในวัยสิบสามชันษายืนนิงงันอยูน่ าน ทําให้
138
ทัวทังห้องมีเพียงเสียงพลิกกระดาษจากหนังสือเล่มหนา

“ท่านแม่…”

นัยน์ตาคูค่ มทีเหมือนกับเขาราวถอดแบบต่างเพียงสีสนั
ตวัดขึนมอง นิวทีกําลังพลิกกระดาษชะงักค้าง

“วันนีลูกโดดเรียน”

สีหน้าของหร่วนจูอีไม่แปรเปลียน ขนาดองศาของคิวเข้ม
ยังไม่ขยับ คล้ายว่าทราบเรืองนีดีอยูแ่ ล้ว

139
“ยอมรับอย่างตรงไปตรงมา นับว่าซือสัตย์มีคณ
ุ ธรรม”

เฉินเหวินเค่อขยับกายเข้าหา ทันทีทีมารดากวักมือเรียก

เศษดินตามตัวถูกปั ดออกไปโดยไม่นกึ รังเกียจว่ามือ


ขาวสะอาดนันจะเปรอะเปื อน หร่วนจูอีเผยรอยยิมบางที
มุมปากโดยไม่รูต้ วั แล้วกล่าวว่า “คลุกดินคลุกฝุ่ นเช่นนี
ถ้าบอกว่าตังใจเรียนข้าจะลงโทษเจ้า” หยิบส่วนของใบ
หญ้าเขียวชอุม่ ชินสุดท้ายทีปั กคาอยูต่ ามไรผม “นานๆ ที
ก็ไม่เป็ นไร อย่าหมกมุน่ อยูก่ บั ตํารามากนัก”

ทุกทีเฉินเหวินเค่อไม่เคยกล้ามองหน้ามารดา แต่ยามนี
ได้อยูห่ า่ งกันแค่เพียงระยะหนึงฝ่ ามือกัน ความเฉยชา

140
นันเมือได้พิจารณาใกล้ๆ กลับพบว่ามีความอบอุน่ ซุก
ซ่อนอยู่

เฉินเหวินเค่อจําไม่ได้แล้วว่าตัวเองทําสีหน้าเช่นไร รู ้
เพียงนับแต่วนั นันเขาคล้ายจะเข้าใจท่าทีเหินห่างและ
เย็นชาของท่านแม่

จริงอยูท่ ีมารดาไม่ทรงโปรดทรงโอ๋เขา แต่หน้าทีนันมีเฉิน


คังเล่อทีอาสาทําเอง น้องชายคนนีนอกจะขีเกียจแล้ว ยัง
เป็ นตัวเกาะแกะ โตจนต้องมาอยูต่ าํ หนักในวังหน้าก็ยงั มิ
วายหอบหมอนมาขอนอนกับเขา

ไปๆ มาๆ ข้าวของเครืองใช้สว่ นตัวของน้องชายก็มากอง

141
รวมกับของของเขาจนแทบล้นตําหนัก

ถึงจะขาดบ้างเกินบ้าง แต่ก็เป็ นช่วงเวลาทีดี

น่าเสียดาย...

ครังหนึงเฉินเหวินเค่อเริมศึกษาวิทยายุทธและกลศึกใน
การรบ พระบิดาตรัสถามเขาว่า

“เจ้าอยากจะเป็ นจักรพรรดิไหม”

เฉินเหวินเค่อไม่ได้ใช้เวลาไตร่ตรองนานนัก ทอดมอง
แสงอาทิตย์ทีลาลับเบืองหลังพระปฤษฎางค์ยงใหญ่
ิ ของ
142
ผูเ้ ป็ นองค์เหนือหัวแห่งแผ่นดิน และผูม้ ีศกั ดิเป็ นบิดา
บังเกิดเกล้าครูห่ นึงแล้วจึงตอบ

“ลูกไม่ปรารถนาความโดดเดียว”

ได้ยินสุรเสียงทรงพระสรวลเสียงหนึงจากพระบิดา ตาม
มาด้วยนําเสียงนิงสงบทีเจือความพอใจบางเบา

“เราจะจําเอาไว้”

143
.

เฉินคังเล่อชักมือกลับทันทีทีพีชายร่วมมารดาเดียวกัน
สะดุง้ ตัวโยน พิศมองรอยแผลฟกชําตรงข้างแก้ม และ
ร่องรอยทรหดมากมายทีซุกซ่อนใต้รม่ ผ้า โดยเฉพาะ
บริเวณแขนทังสองข้างทีอีกฝ่ ายพยายามดึงรังชายแขน
เสือปิ ดบัง

“ใต้เท้าจิงไม่เบามือเลย” นําเสียงทีใช้คอ่ นข้างไม่พอใจ


แต่ขอ้ เท็จจริงทีว่าพีชายของเขาเป็ นคนกระโจนเข้าไป
เอง ศิษย์โดนอาจารย์ลงมือสังสอนนันก็เป็ นเรืองสมควร

144
ทังวิชาฝี มือจับดาบถือทวนมีหรือจะไม่โดนบาด

เฉินเหวินเค่อปั ดมือทีกดลงมาอีกรอบ พลางถลึงตาใส่


อย่างดุดนั “ช่างข้าเถอะ!” จากนันกล่าวต่อว่า “เกิดเป็ น
บุรุษทังที เจ้าเองก็สมควรจะฝึ กฝี มือเดินลมปราณเสีย
บ้าง”

เฉินคังเล่อกลับหัวเราะร่วน รินนําชาให้พีชาย แล้วค่อย


รินให้ตวั เอง เรือนร่างสูงโปร่งเอนกายลงไปอย่างเกียจ
คร้าน ด้วยท่วงท่าทีเห็นจนชินตา

นับวันสองพีน้องเริมจะต่างกันไปทุกที ไม่ละม้ายคล้าย
ดังวันวานเมือครังเยาว์วยั ในขณะทีเฉินเหวินเค่อถูก

145
ราชครูผปู้ ระสิทธิประสาทวิชาความรูส้ งสอนจนท่
ั องจํา
ได้ขนใจ
ึ บทกวีจากตําราปราชญ์เมธีตา่ งถูกเทินไว้เหนือ
ศีรษะ ไม่อาจกระทําตัวหยาบช้าดูถกู วิชาการ แต่ก็ไม่ได้
สนใจทีจะชืนชมมากนัก

ตรงกันข้าม เขาหลงใหลไปกับอิสระและสายลมยามนัง
ตัวตรงบนหลังอาชา วิชาการต่อสูแ้ ละกลยุทธ์ทางทหาร
กลับดึงดูดความสนใจมากกว่า

ให้นงทํ
ั างานกับโต๊ะ เจอหน้าคนสอพลอทุกวีทุกวัน มิสู้
จับดาบปกป้องแผ่นดิน ก็ถือว่าทําเพือชาติบา้ นเมือง
เหมือนกัน

146
ใต้เท้าจิงดํารงตําแหน่งแม่ทพั ใหญ่ แปดกองธงโบก
สะบัดอยูภ่ ายใต้ความน่าครันคร้าม ทังยังมีใจซือตรงทัง
กายวาจา มองแล้วน่าเลือมใส ไม่เคยใช้สาํ นวนภาษาน่า
รําคาญ ดุดนั ตรงไปตรงมา

ใต้เท้าหลายท่านหลังได้ความว่าเขากราบไหว้ทา่ นแม่
ทัพใหญ่เป็ นอาจารย์ มีทงทั
ั ดทานอ้อมค้อมวกวน และมี
ทังทีเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาอย่างหมดความอดทน

แต่ลว้ นแล้วกรอกเข้าหูซา้ ยะทะลุผา่ นหูขวาไปอย่างรวด


เร็ว ไม่ติดตรึงในความทรงจําแม้เพียงครึงคํา

เหลือบสายตาไปมองน้องชายตัวดี มากวิชาการฉลาด

147
เป็ นกรด วัยวุฒิรุดหน้าเกินวัย ถ้าถามว่าใครสมควรจะ
เป็ นจักรพรรดิในรัชสมัยต่อไป เขาเห็นว่าเล่อเล่อเหมาะ
สมทีสุด

“แค่กๆ…” เฉินคังเล่อปิ ดปากไอโขลก “ใช่วา่ ข้าไม่


อยาก..แค่ก…เพียงแต่ชีวิตนี…ไร้วาสนา” พยายามอ้า
ปากพูดต่อ แม้ใจไม่ยอมแพ้ แต่สขุ ภาพไม่อาจฝื น เอ่ย
แต่ละคําต้องไอเสียจนตัวสัน เฉินเหวนเค่อเห็นแล้วปวด
ใจ จึงรินนําชาให้อีกหลายอึก

ครันสองมือจับประคองน้องชาย ท่อนแขนบอบบางแตก
ต่างจากเขาโดยสินเชิง คล้ายไผ่ผอมวัดเทียบกับลําต้น
สนใหญ่ ยิงมองก็ยงทอดถอนใจ

148
ตอนยังเด็กพวกเขาทังสองคล้ายกันมาก พอโตขึนมี
เพียงเฉินเหวินเค่อทีร่างกายแข็งแรง แต่เฉินคังเล่อกลับ
ถดถอยลง

ใต้เท้าจิงเคยมาหาเขาทีตําหนักครังหนึง ได้พบกับเฉิน
คังเล่อ เอ่ยปากว่าน้องชายเขาคนนีสะกิดใจบางอย่าง
อยากขอลองตรวจดูสมั ผัสชีพจร

“ไม่เลว เพียงแต่น่าเสียดาย” ใต้เท้าจิงกล่าวด้วยนําเสียง


เสียดายตรงตามปากพูด ยําอยูห่ ลายหน เห็นว่าเฉินคัง
เล่อแววตามันคง ดูมิใช่คนจิตใจบอบบางราวปุยนุ่น จึง
บอกตามตรงไม่ออ้ มค้อม “เส้นลมปราณพิเศษใต้หล้านี
มีไม่กีคนทีจะได้รบั วาสนา เพียงแต่ชะตายิงใหญ่ลว้ น
149
ต้องมีสงแลกเปลี
ิ ยน จะยืนอยูเ่ หนือทังใต้หล้าต่างต้อง
ยําผ่านหลากหนามแหลมร้อยคมดาบ หากก้าวข้ามได้
เจ้ายิงใหญ่ หากมิได้อายุสน”

คนมีเส้นลมปราณพิเศษถ้าดวงมิซวยเข้าขันบัดซบ ล้วน
แค่รา่ งกายอ่อนแอป่ วยง่าย ไม่อาจฝึ กฝนวรยุทธเดินลม
ปราณ แต่หากฟ้าชังชะตาสัน ล้วนลาโลกไปตังแต่เยาว์
วัย

เฉินเหวินเค่อขมวดคิวเอ่ยเสียงแข็ง “ไยกล่าวว่าไร้
วาสนา ใต้เท้าจิงเคยบอกเพียงว่าน่าเสียดาย หาใช่เจ้ามิ
มีโอกาส”

150
“ชะตาฟ้าแปลกพิสดาร ตัวข้าขีเกียจตัวเป็ นขน ใส่ใจ
เพียงตํารา จะมากวิชาการหรือนิทานเหนือจินตนาการ
ไม่เกียงงอน ใครจะเป็ นยอดยุทธก็เป็ นไป ข้าขอเป็ นตัว
ข้าเช่นนี แค่หน้าร้อนไม่ตากลมมาก หน้าหนาวห่มผ้าให้
หนาขึนอีกหน่อย ใช้ชีวิตเรือยเปื อยมีพีชายเลียงดู เท่านี
ก็สขุ โขแล้ว” เฉินคังเล่อตอบกลับ

ลมหนาวเริมพัดเข้ามา เฉินเหวินเค่อตวัดเสือคลุมตัว
นอกคลุมร่างเฉินคังเล่ออีกชัน

เฉินคังเล่อมองเสือคลุมคลุกฝุ่ นแล้วรูส้ กึ คันจมูกยุบยิบ


แต่เห็นพีชายหน้าตาครําเครียด ไม่กล้าหักหาญนําใจ
ใครจะไปรูว้ า่ ลึกๆ พยัคฆ์รา้ ยไร้คนปราบพยศ กลับอ่อน
ไหวกับเรืองครอบครัวได้อย่างไม่น่าเชือ
151
หมูต่ าํ หนักทีเรียงซ้อน ทิศทางภายในวนเวียนและเต็มไป
ด้วยวังวน

ระหว่างเดินทางกลับตําหนัก เห็นพีชายนิงเงียบไม่พดู จา
ทีแท้ก็ยงั ขบคิดกับสิงทีเฉินคังเล่อได้กล่าวไป

“ในอนาคตเจ้าไม่คิดจะแต่งงานมีเหย้ามีเรือนกับเขาบ้าง
หรือ…”

เฉินคังเล่อครุน่ คิด ควานหาคําตอบทีไม่ออ้ มค้อมอย่างที


พีชายมิชอบฟั งแล้วจึงตอบไป “สุขภาพข้าไม่ใคร่ดี เกรง
ว่าชาตินีคงมิได้แต่งภรรยา แต่ตวั เองต่างหากทีต้องแต่ง

152
ไปเป็ นภรรยาคนอืนเขา แต่วา่ หากไม่คลอดลูกชายสัก
คนก็อกตัญ ู ตอนคลอดไม่รูจ้ ะมีชีวิตรอดหรือไม่ อยู่
แบบนีต่อไป ถึงผมขาวโพลนไม่มีคนเคียงกาย แต่ยงั มีพี
น้องก็ไม่เลวร้าย ถึงไม่มีลกู แต่ก็ยงั มีหลาน ท่านพีคิดเห็น
เช่นไร”

เฉินเหวินเค่อแค่นเสียงหึแล้วจึงกล่าวว่า “โชคดีทีเจ้า
เลียงง่าย ใช้นาชา
ํ ขนมสักจาน หนังสือหนึงกองก็เพียง
พอแล้ว”

เฉินคังเล่อประสานมือนอบน้อมเอ่ยซําๆ ว่า “ประเสริฐ


ยิง” มือหนึงลูบคางเลียนแบบนักพรตผูท้ รงภูมิ พร้อม
กล่าวต่อไป “เพือตอบแทนบุญคุณอันล้นพ้น ข้าขอ
ทํานายให้ทา่ นสักเรือง ดูจากโหงวเฮ้งตรงคิวตาหูจมูก
153
ปาก นายท่านผูป้ ระเสริฐ ท่านมีสามีแน่ๆ ลูกชายหนึง
หญิงหนึงครอบครัวสุขสันต์ กําลังดี กําลังดี”

คนฟั งได้ยินก็โบกเข้าให้เสียหนึงที ลืมตัวว่าอีกฝ่ ายคือ


น้องชายผูบ้ อบบาง เฉินคังเล่อเจ็บตัวแง่งอน เฉินเหวิ
นเค่อตามโอ๋ตามง้ออยูน่ าน น้องชายจึงยอมพูดด้วย

154
ในรัชสมัยของจักรพรรดิฝไู ฉทรงใส่ใจความเป็ นอยูข่ อง
ราษฎรเป็ นอย่างมาก การเสด็จประพาสประจําปี ในช่วง
เดือนสีมีกาํ หนดการแน่นอน กําหนดวันมันเหมาะเป็ น
วันทีสิบถึงจุดหมาย

ถึงจะบอกว่าเสด็จประพาสเพือพักผ่อน แต่ไม่เคยมีสกั ปี
ทีจักรพรรดิจะทรงหยุดพระเนตรพระกรรณ เพือเสาะหา
ความทุกข์ยาก และปั ญหานานัปการทีถูกซุกซ่อนเอาไว้

ทีราชสํานักใต้เท้าจิงรักษาการณ์ในฝังบู๊ และรังอยูเ่ พือ


ปกปั กษ์พิทกั ษ์ศนู ย์กลางแห่งแผ่นดิน ใต้เท้าจิงในทีแรก
ไม่ใคร่จะยินยอมเท่าใดนัก หลังจากองค์เหนือหัวตรัสว่า
ไม่ให้เขาตามเสด็จไปด้วย ใต้เท้าจิงจึงได้แต่กาํ ชับให้รอง
แม่ทพั ของตนเองจริงจังเรืองการคุม้ กันขบวนเสด็จเป็ น
155
อย่างมาก

ส่วนในฝ่ ายบุน๋ คือใต้เท้าหร่วน ตอนทีประกาศราช


โองการ แม้จะทรงนิงเฉย แต่ขนุ นางอาวุโสหลายท่านก็ดู
ออกว่าฝ่ าบาทไม่ใคร่จะพอพระทัยเท่าใดนัก

แน่นอนว่าขบวนเสด็จไปยังเจียงไคและเมืองใกล้เคียงใน
แถบของมณฑลเป่ ยเซียง เฉินเหวินเค่อย่อมติดตามไป
พร้อมกับมารดาและสนมชายาบางท่าน

“ข้าจะไปด้วย!”

เด็กหนุ่มอายุเพียงสิบสี ยังไม่ถงึ วัยเข้าพิธีสวมกวาน


156
โพล่งออกมาเสียงดัง ดูผิดแปลกไปจากน้องชายผูแ้ สนขี
เกียจและเอือยเฉือย เฉินคังเล่อฉลาดเกินวัย ทําให้เฉิน
เหวินเค่อหลงลืมไปว่า แท้จริงแล้วน้องชายของเขาพึง
อายุได้เท่าไรเอง

“เมือวานเจ้าพึงจับไข้ ถึงเดือนสีจะไม่มีลมเย็นแล้ว แต่


มณฑลเป่ ยเซียงต้องขึนเหนือ เจ้าร่วมขบวนไปด้วย
หากร่างกายปรับตัวไม่ทนั ป่ วยไข้อีกจะแย่เอา อยูท่ ีนี
แหละ”

เฉินคังเล่อส่ายหน้า “ปี นีกําหนดการเดินทางเลือนขึนมา


กว่าท่านพีจะกลับก็เลยวันเกิดของท่านไปแล้ว”

157
“เสด็จพ่อตรัสแล้ว หลังกลับวังหลวงงานวันเกิดของพีจะ
จัดขึนทันที แค่จดั ช้ามิได้หมายถึงไม่จดั ”

เพียงเท่านีใต้เท้าเสนาบดีแห่งกรมพิธีการก็วงวุ
ิ น่ จนหัวฟู
เป็ นรังนก เข้าประชุมราชการช่วงเช้าขอบตาลึกโหล อด
หลับอดนอน เดิมทีเฉินเหวินเค่อก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับวัน
เกิดของตัวเองมากนัก ทุกปี คนทีกระตือรือร้นมากกว่าก็
คือน้องชายหาใช่เขา

เฉินคังเล่อยังไม่ยอมแพ้ “ข้าจะไม่ซนจนทําตัวเองป่ วย
อีก ขอข้าไปด้วย ให้นงเฉยๆ
ั อยูใ่ นรถม้าก็ได้” ดวงตาสุก
ใสช้อนมองอย่างออดอ้อน เห็นพีชายหน้าเริมงอ เฉินคัง
เล่อก็เผยยิมร่า

158
“ตามใจ…”

ถ้าหากตอนนันข้าใจแข็งมากขึนสักหน่อย…

ความหลังดังหมอกควัน ความฝันเก่ายากคืนกลับ นําตก


ไม่เคยไหลย้อน เฉกเช่นกระแสกาลทีไม่เคยถอยหลัง

ภายในห้องหับมืดมิดมีเพียงเสียงของลมหายใจของสอง
บุรุษ เฉินเหวินเค่อกระพริบตา อดีตทีเนินนานก็เพียงแค่
ความฝันของหนึงคําคืน

หลังถอนหายใจยาวก็ข่มตาลงอีกครัง….
159
[1] สีขาวในทีนีเป็ นการอุปมาถึงสกุลไป๋ ซึงเป็ นสกุลของ
ไท่โฮ่วในอดีตจักรพรรดิของรัชสมัยก่อน รวมถึงเป็ นสกุล
ของหวงโฮ่วในรัชสมัยของจักรพรรดิองค์ปัจจุบนั

160
ตอนที ๒๖ กาลเวลาทีล่วงผ่าน ล้วนไม่เคยไหลย้อนกลับ

161
วันทีสิบเดือนสีอากาศปลอดโปร่งแจ่มใส ลมพัดกําลัง
เย็นสบาย สูดลมหายใจลึกอวลด้วยกลินไอดิน ยาม
อู(่ 11.00-12.59 น.)กับอีกหนึงชัวยาม เฉินเหวินเค่อยืน
อยูใ่ ต้ตน้ สนสูงตระหง่าน ตังตรงอย่างโดดเดียว ถูกห้อม
ล้อมด้วยผืนนาเขียวขจี

ทีไกลจนสุดสายตาพระบิดายืนเคียงคูก่ บั มารดา เยียม


เยียนวิถีชีวิตของราษฎร ถกประเด็นในการพัฒนาเชิง
เกษตรกรรม เจียงไคเป็ นเมืองหนึงในมณฑลเป่ ยเซียง
ทว่ามิได้อยูเ่ หนือสุด สภาพอากาศยังอุน่ พอ ยังสามารถ
เป็ นแหล่งผลิตเบญจธัญญาหาร[1] ถึงจะไม่สาํ คัญเท่าอู่
นาข้าวทีเหอหมูต่ ู้ แต่ก็เป็ นเมืองหนึงทีอุดมสมบูรณ์ดี

เสียงขลุย่ ใสกระจ่างนุ่มนวล ดังคลอไปกับเสียงลมทีสี


162
กับยอดไม้ ท่วงทํานองเนิบช้าเอือยเฉือย เรียบง่ายไม่
หวือหวา แต่ก็ทาํ ให้สงบใจ

ผูบ้ รรเลงรูส้ กึ ได้ถงึ สายตาทีจับจ้อง นิวเรียวลดขลุย่ ฉวี


ตี[2] ก่อนจะเผยรอยยิมบาง เฉินคังเล่อหมุนขลุย่ ยาวสี
นําตาลมันวาวจนเห็นนัยน์ตาสีขีเถ้าสะท้อนจากเลาขลุย่

เฉินคังเล่อโยนของในมือให้เฉินเหวินเค่ออย่างไม่ทนั ตัง
ตัว เคราะห์ดีทีรับได้ทนั มิฉะนันขลุย่ ทีน่าสงสารคงจมลง
ไปในกองโคลน

“ขลุย่ ยาวฉวีตีทําจากไผ่มว่ ง ข้าสังทําเพือท่านโดย


เฉพาะ ไม่ถกู ใจหรือ”

163
“เล่อเล่อ เจ้าเห็นพีชายของเจ้าเป็ นบุรุษผูเ้ ป็ นเอกด้าน
ศิลป์ ขนาดนันเชียว แค่บรรเลงกู่ฉินข้ายังทําไม่คอ่ ยจะได้
เช่นนันแล้วจะเอาเวลาไหนไปหัดเป่ าขลุย่ ” เฉินเหวินเค่อ
ตอบอย่างไม่ยินดียินร้ายสักเท่าใด

สัมผัสขรุขระบนเนือขลุย่ เรียบลืน ก้มมองได้ความว่าเป็ น


ปรัชญายาวเหยียดด้วยลายมือแสดงคุณลักษณ์ของผูม้ ี
ปั ญญา แถมอารมณ์ออ่ นไหวมากเสียด้วย

คราวหนึงหลับตาฝันเป็ นผีเสือ ขยับปี กบางบินโบยบินไป


เวลานันมิรูเ้ ลยว่าตนคือผีเสือ ครันตืนมาระลึกว่าตนคือผู้
ใด ก็อาจเป็ นได้วา่ ผีเสือตัวนันกําลังฝันเช่นกัน[3]

164
“ของขวัญทีให้ไปแล้วย่อมถือว่าให้แล้ว เอาไว้ขา้ จะสอน
ท่านทีหลังก็แล้วกัน” เฉินคังเล่อก้มหัวปลก แบมือขอ
ขลุย่ แล้วค่อยเริมรังสรรค์บทเพลงจรรโลงใจอีกครา

กระทังเสียงเกาทัณฑ์แหวกอากาศ หมืนศรพวยพุง่ มา
จากน่านฟ้า ได้ยินเสียงตระหนกของน้องชายหวีดน้อง
ขณะทีแผ่นหลังชาด้านไร้ความรูส้ กึ

“ท่านพี!”

เฉินเหวินเค่อกดหัวน้องชายให้หมอบลงตํา เสียงฝี เท้า


สับสนวุน่ วายต่างมุง่ หน้าไปทิศหนึง ดึงแขนน้องชายให้

165
วิงหลบเข้าไปในป่ า มีคนในชุดผ้าเนือหยาบโพกหน้า
ด้วยผ้าขาดวิน ทว่าอาวุธในมือกลับเปล่งแสงรัศมีสีเงิน
บาดตายามต้องแสงอาทิตย์ทีเล็ดลอดผ่านแมกไม้ สับ
ฝี เท้าไล่ตามมา

จํานวนคนมีแค่สามคน นับว่ากากเดนสมควรตายพวกนี
ชะตาขาดโดยแท้ องค์ชายใหญ่กระชับดาบในมือแน่น
ยามคมดาบปะทะกัน ย่อมมีผเู้ หลือรอดและผูท้ ีสูญเสีย

เฉินเหวินเค่อทรุดกายลง ปั กดาบลงไปในเนือดิน ลม
หายใจหอบหนัก เมือยกมือสันระริกขึนมาเห็นแต่สีแดง
และกลินคาวโลหิตติดตรึงอยูใ่ นโพรงจมูก

166
สังหารคนคราแรกรูส้ กึ เช่นไร จนบัดนีก็ยงั จดจําได้….

หากมันไม่ตาย เขาก็ตอ้ งตาย และยิงเห็นสายตาหยาบ


โลนทีจดจ้องร่างงามบอบบางดังพานอัน[4] ทีอยูด่ า้ น
หลัง เฉินเหวินเค่อจําต้องฮึดสู้ ไม่ยินยอมให้ผใู้ ดมายํายี
ศักดิศรีของน้องชายเขาแน่!

“ท่านพี…ฮึก” เฉินคังเล่อเรียกชือเสียงสะอืน ยิงเห็น


โลหิตมากมายไหลหลากมาจากบาดแผลทียังมีตน้ ตอ
ปั กคาอยูบ่ นแผ่นหลัง องค์ชายอายุแค่สบิ สีชันษาแทบ
จะทนมองไม่ไหว

ถึงกระนันพีชายผูเ้ ข้มแข็งก็ไม่ยอมให้มีภยันตรายใดมา

167
ย่างกรายเฉินคังเล่อได้แม้เพียงปลายเล็บ

เฉินเหวินเค่อกัดฟั น ข่มความเจ็บปวด กุมมือสันเทาของ


น้องชายแน่น

“เล่อเล่อดึงมันออก”

เฉินคังเล่อส่ายหน้า “ท่านพี ท่านจะบ้าหรือ! ปลายลูก


ธนูเป็ นเงียงแหลม ฝื นดึงออกมามิเป็ นผลดี เนือจะฉีก…
ไม่ ข้าไม่ดงึ !”

เฉินเหวินเค่อเห็นน้องชายไม่กล้าทํา จึงคิดจะดึงออกเอง
ลูกธนูทีปั กคาอยูท่ งยาวทั
ั งเกะกะ หากต้องปะทะกับคน
168
ทีมีฝีมือสูงกว่ากลุม่ เมือครู ่ เขากลัวว่าจะปกป้องน้องไม่
ได้

“อย่าดึง! อย่าดึง! ข้าจะหักออกให้” เฉินคังเล่อพุง่ คว้า


มือพีชายหมับ นําตาไหลอาบแก้ม นึกโทษตนเองในใจ
เฉินคังเล่อเจ้าตัวขีเกียจ หากสนใจฝึ กวรยุทธอย่างทีท่าน
พีเคยแนะนําไว้ คงทําตัวให้มีประโยชน์บา้ ง

เวลานีมีเฉินเหวินเค่อกับเฉินคังเล่อแยกเป็ นเอกเทศกับ
ขบวนเสด็จ และเหล่าพลทหารผูอ้ ารักขากันแค่สองคน มี
ข้อดีทีเห็นได้ชดั อยูห่ นึงประกา รคือเป้าหมายหลักย่อม
เป็ นองค์จกั รพรรดิ ความวุน่ วายทังหมดจะถูกสุมกองอยู่
ทีจุดเดียว ขณะทีปลาซิวปลาสร้อยทังหลายไล่ตามเก็บ
พวกทีวิงหนีเอาตัวรอด
169
แต่ขอ้ เสียนันออกจะสาหัสกว่า อย่างไรก็มีกนั แค่สองคน
คนหนึงบาดเจ็บ คนหนึงร่างกายมิสดู้ ี ควรไปรวมกับกอง
กําลังอารักขาไว้ดีกว่า

ทว่าคนคํานวณมีหรือจะสูล้ ขิ ิตฟ้า…

เฉินเหวินเค่อใช้สายตากร้าวสบกับดวงตาสีขีเถ้าเช่น
เดียวกับเขา ขณะเดียวกันก็ผลักดันน้องชายให้เดินถอย
หลัง

แค่เพียงพริบตาเดียวทีพยายามมองหาธงสีเหลืองลาย
มังกรทีโบกสะบัด เขาก็ตกลงสูก่ ลางวงล้อม เบืองหน้า

170
คือบุรุษผูห้ นึง สูงโปร่งปลิวลม แต่มีกลินอายไม่น่าไว้ใจ

เทียบกับสายตาเชิดรันของเขาแล้ว ปลายหางตาตกของ
อีกฝ่ าย ให้ความรูส้ กึ โศกศัลย์แฝงไว้ดว้ ยความชิงชัง
อย่างลึกลํา

“หมืนศรจากน่านฟ้ายังมิอาจต้องโดนจักรพรรดิผยู้ งิ
ใหญ่ เสด็จพีของเรา [5]ช่างบุญญาธิการมากล้น สูงส่ง
ดังทีเป็ นโอรสสวรรค์เสียจริง”

วจนะไหลลืนน่าฟั งกลับเต็มไปด้วยความรังเกียจ
เดียดฉันท์

171
“เสด็จอา...”

ชายผูน้ นแค่
ั นหัวเราะเยาะเย้ยเสียงหนึง มิรูว้ า่ กําลังเยาะ
เย้ยตนเองหรือเยาะเย้ยผูใ้ ด

“หลานชายผูน้ ีคงลืมเลือนเราไปแล้วกระมัง ลืมไปว่าเรา


เองก็แซ่เฉินเช่นกัน”

เฉินเหวินเค่อไล่เรียงรายชือพระอนุชาทังหมดของพระ
บิดา จักรพรรดิฝไู ฉเป็ นพระโอรสองค์ทีสองของอดีต
จักรพรรดิ กําเนิดจากสตรีสงู ศักดิเคียงคูบ่ ลั ลังก์ การแข่ง
ขันแย่งชิงในสมัยนันพรากชีวิตองค์ชายผูม้ ีสทิ ธิสืบราช
สมบัติไปทังสินสามพระองค์ ทีเหลืออยูน่ นเฉิ
ั นเหวินเค่อ

172
เคยพบหน้าค่าตามาบ้าง เพียงแต่คนตรงหน้าพึงได้
ประสบพบเจอกันเป็ นครังแรก

“ฉีหวาง?”

ได้ยินมาว่าวังหลังเมือตอนนันจักรพรรดิโปรดปรานเหวย
กุย้ เฟยมาก มากเสียจนไม่เคยไยดีพระโอรสและพระ
ธิดาทีเกิดจากสนมชายาคนอืน แม้กระทังองค์ชายตาม
กฎมณเฑียรบาล จักรพรรดิก็ไม่สนพระทัย

ครันเมือมีองค์ชายสาม มารดาบังเกิดเกล้าเสียเลือดมาก
ตอนคลอด ภายหลังจึงได้มาอยูใ่ นความดูแลของสนม
ขันเฟยผูห้ นึง แต่ไม่นานเหนียงเหนียงท่านนันก็ลม้ ป่ วย

173
เหวยกุย้ เฟยบังเกิดความสงสารเด็กน้อยทีเสียมารดาไป
ถึงสองหน จึงทูลขอองค์ชายสามมาเลียงดู

จักรพรรดิรกั ใคร่โปรดปราน องค์ชายสามได้ดีเพราะ


มารดา อวยยศให้เป็ นฉีหวางตังแต่อายุยงั ไม่พน้ เจ็ด
ชันษา

จนกระทังเว่ยกุย้ เฟยอุม้ ครรภ์มงั กร มีโอรสจากเลือดเนือ


เชือไขของตนเอง เรืองราวหลังจากนีหลายคนคงคาดเดา
ต่อได้…

เพียงแต่ผลลัพธ์สดุ ท้ายนัน สกุลลวีไม่ได้ในสิงทีไขว่คว้า


เหวยกุย้ เฟย สตรีโสภาเหนือตําหนักใน ก็ไม่มีคา่ ใดให้น่า

174
จดจํา

เฉินเหวินเค่อคํานับทักทาย “ทราบมาว่าเสด็จอาประชวร
หนัก เก็บตัวไม่พบผูใ้ ด ไม่คิดว่าจะได้พบเจอ” ฉีหวางไม่
คล้ายคนเจ็บไข้นอนซมติดเตียง ท่อนแขนมีนามี
ํ นวล มี
แรงถือกระบี ตรงไหนบ่งบอกว่าอ่อนแอ

ฉีหวางเตรียมจะอ้าปากพูด แต่ก็มีเงาสายหนึงโฉบผ่าน
มานังชันเข่ารายงาน

“ลมบูรพาไม่เป็ นใจ คาดว่าองค์จกั รพรรดิคาดเดาแผน


การได้ ทีจงใจเลือนกําหนดการมาเจียงไคก็เพือล่อเสือ
ให้ออกจากถํา เวลานีข่าวเร็วจากในวังส่งมา แท้จริงแล้ว

175
แม่ทพั ใหญ่จิงไม่ได้อยูใ่ นวัง แต่ซมุ่ กําลังรอไล่ตอ้ นพวก
เราอยู่ จะทําอย่างไรดีพะ่ ย่ะค่ะ”

สีหน้าแม้ไม่แปรเปลียน แต่แสงไฟในดวงตาพลันลุกโชน

“กระทําการใดย่อมไม่ทาํ โดยเสียเปล่า ไม่ได้ทองก็ตอ้ ง


ได้เงิน” กระบียาวถูกดึงออกจากฝัก อ่านเจตนากระบี
ล่วงรูค้ วามคิดผูถ้ ือครอง เห็นหลานชายทีรักตังท่าระวัง
ตัวก็เผยยิมเย็น

มีแต่คนเล่าว่าฮุ่ยเฟยเป็ นผูม้ ีบญ


ุ มาก มอบพระโอรสให้
แก่เสด็จพีของเขาถึงสองพระองค์ จักรพรรดิชงั หน้าสกุล
หร่วน การแสดงออกต่อพระสนมผูน้ ีไม่รกั ชอบโปรด

176
ปรานเหนือใคร แต่ก็ไม่เคยปล่อยปะละเลย แต่ไหนแต่ไร
มาเสด็จพีเก็บอารมณ์เก่ง ผูอ้ ืนจึงไม่ทนั สังเกตเห็น ถึง
สายตาทีซุกซ่อนห้วงอารมณ์หนึง

หรือสวรรค์กาํ ลังชีทาง ความตายอาจจะเรียบง่ายเกินไป


มีชีวิตอยูม่ ิสตู้ ายเท่านันจึงสาสม

“ดูเหมือนหลายชายของเราบุญญาธิการไม่เทียบเคียง
พระบิดา” ฉีหวางเอ่ยกลัวหัวเราะ

เฉินเหวินเค่อได้ยินเสียงฝี เท้าจากทางด้านข้าง เห็นเข็ม


บินเล่มหนึงพุง่ ตรงไปทีน้องชาย เแม้เร็วพอทีจะดึงเฉิน
คังเล่อหลบพ้นปากเหว แต่ไม่เร็วพอทีพาตัวเองหลบ

177
เลียงไปด้วย เขากระอักเลือดออกมากองหนึง สีดาํ คลํา
บ่งบอกว่ามีพิษ ร่างกายด้านชาไร้ความรูส้ กึ

“เล่นสกปรก! ท่านมีศกั ดิศรีหลงเหลืออยูบ่ า้ งหรือไม่!”


เฉินคังเล่อประคองพีชายกล่าวด้วยดวงตาแดงกํา “...
แล้วท่านจะต้องเสียใจ”

“ให้เสด็จอาของเจ้าสอนอะไรสักอย่าง ศักดิศรีกินไม่ได้
และไม่เคยทําให้ชนะ…ผูช้ นะได้เขียนประวัติศาสตร์
อย่างไรเล่าหลานรัก”

เฉินเหวินเค่อเห็นเงากระบีฟาดลงมา คิดจะหลบเลียง
แต่ไม่ทนั การณ์ ร่างกายชโลมด้วยโลหิตอุน่ แต่กลับไม่

178
เจ็บปวด…แม้แต่เพียงนิด

ขลุย่ เลาหนึงกลิงมาหยุดอยูท่ ีปลายเท้า ท่วงทํานองใส


กระจ่างยังบรรเลงเล่าขานอยูข่ า้ งหู

“ของขวัญทีให้ไปแล้วย่อมถือว่าให้แล้ว เอาไว้ขา้ จะสอน


ท่านทีหลังก็แล้วกัน”

พร้อมร่างหนึงทีล้มลง ด้วยแววตาทีไร้ประกาย ผิวกาย


ยังร้อนผ่าว แต่ดวงตาสดใสกลับไร้ประกายไม่เหมือน
เคย

เฉินเหวินเค่อในวัยสิบเจ็ดประคองร่างของน้องชายเอา
179
ไว้ ชัวลมหายใจสุดท้าย มือบอบบางพยายามเอือมมา
หา ก่อนปลายนิวจะสัมผัสใบหน้า มือนันตกลงข้าง
กาย...ไม่ขยับอีกเลย

“เฉิน-เฟิ ง-หลุน”

เฉินเหวินเค่อคํารามลัน พุง่ ตัวเข้าใส่โดยไม่สนว่าร่าง


กายตัวเองจะเป็ นเช่นไร ราวกับสัตว์รา้ ยทีเต็มไปด้วย
บาดแผล แต่ในดวงตาเต็มเปี ยมด้วยไฟแค้น

ฉีหวางกดมุมปาก “ไม่ได้ยินคนเรียกเราด้วยนามนันนาน
แล้ว” จากนันกระบีก็ฟาดฟั นลงมา ทิงรอยยาวพาดผ่าน
หัวไหล่ขวา แต่ทีเจ็บปวดยิงกว่า กลับเป็ นบาดแผลทีอยู่

180
ในหัวใจ

เฉินเหวินเค่อสะดุง้ เฮือก ลมหายใจหอบหนัก หัวไหล่ขวา


รูส้ กึ เจ็บแปล๊บ ชายหนุ่มนิวหน้าจากอาการปวด หวนนึก
ถึงความฝันทีทําให้สะดุง้ ตืน

ในความมืดเมือผ่านไปสักพัก ดวงตาก็เริมมองเห็นได้
181
กระจ่าง เฉินเหวินเค่อหลุบตาตํา เห็นท้องนูนออกมา
น้อยๆ ของตนก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงหนึง

“เหวินเกอ…” เฉินลูป่ ิ นขยีตางัวเงีย ตอนนอนหลับสัมผัส


ได้วา่ เตียงสันจากการขยับพลิกตัวไปมา กระสับกระส่าย
คล้ายคนฝันร้าย จึงเอ่ยถามอย่างนึกห่วง “ฝันร้ายหรือ”

“เปล่า แค่เป็ นตะคริว” เฉินเหวินเค่อตอบปฏิเสธ

จบคําคนท่าทางง่วงงุนก็ดีดตัวผึง หนังตาหนักหน่วงสลัด
ความอ่อนเปลีย เฉินลูป่ ิ นแตะไปทีน่องจุดทีมักเป็ น
ตะคริวประจํา แต่มือถูกดึงอ้อมไปวางไว้บนหัวไหล่ขวา

182
“ตรงนี”

เฉินลูป่ ิ นขมักเขม้นตังใจบีบนวดลงนําหนักกําลังดี โชค


ช่วยทีไม่ได้เป็ นตรงน่อง ไม่รูท้ าํ ไมเวลาเป็ นตะคริวตรง
จุดนันจึงเจ็บปวดกว่าจุดอืน

นวดไปสักพักอาการปวดก็ทเุ ลาลง เฉินเหวินเค่อสูดกลิน


กายหอมอ่อนๆ ทําให้รูส้ กึ สงบใจ จึงเผลอขยับตัวเข้าไป
ใกล้ อีกฝ่ ายโอบเอวเขา ลูบไล้ไปบนหน้าท้องเบามือ

“ท่านแน่ใจนะว่าไม่ได้ฝันร้าย” เฉินลูป่ ิ นถามทวนดูอีก


ครัง

183
“ก็ทงดี
ั และร้าย” แล้วกล่าวต่อว่า “พรุง่ นีเจ้าว่างไหม”

“ข้าโยนงานทุกอย่างไว้ให้ญาติผนู้ อ้ งคนหนึงจัดการแล้ว
แต่ตอ่ ให้ขา้ งานยุง่ แค่ไหน สําหรับท่านแล้วข้าว่างเสมอ
พรุง่ นีเป็ นวันสําคัญอะไรหรือ”

“พรุง่ นีวันทีสิบเดือนสี” เฉินเหวินเค่อตอบ

184
.

จักพรรดิทกุ รัชสมัยขึนครองราชย์พร้อมก่อสร้างตําหนัก
ในสุสานราชวงศ์ ราชวงศ์ยงใหญ่
ิ ทงยามเป็
ั นและยาม
ตาย มีชีวิตอยูใ่ นตําหนักใหญ่โต ตอนลงหลุมก็ยงั ต้อง
นอนหลับในตําหนักใหญ่เช่นเดียวกัน

เดินทางมาถึงสุสานราชวงศ์ยามบ่าย วันนีอากาศปรอด
โปร่งกําลังเย็นสบาย เมือก้าวเข้าไปยังภายในก็พบทาง
เดินแห่งจิตวิญญาณ ทางเดินปูหินสะอาดสะอ้านถูกขัด
อย่างดีไม่ทิงคราบตะไคร่เขียวลืนเอาไว้ รายทางสองฝัง
มีรูปปั นเทพนักษัตรทําจากหินอ่อนตังประดับไว้ยาว
ตลอดทาง ด้านหลังรูปปั นเป็ นต้นบ๊วยทีหมดช่วงเบ่ง
บาน เพียงแต่ปีนีหนาวเร็วและหนาวนาน จึงยังพบเห็น
185
เฉดสีชมพูเข้มแซมอยูบ่ นต้น คละเคล้าไปกับกลินหอม
หวานบางเบา

ในท้องเฉินเหวินเค่อมีเด็กอยู่ ระยะทางสองลี[6]ทําให้ใช้
เวลาถึงหนึงเค่อ[7]จึงก้าวพ้นทางเดินยาว

ข้ามซุม้ ประตูใหญ่ทาํ จากหินอ่อน สลักลวดลายประณีต


งดงาม ก็พบกับทางเดินแยกมากมาย เดินผ่านมาหลาย
ซุม้ ประตูใหญ่ ภายในซุม้ ประตูนนเป็
ั นตําหนักเก่าแก่
โครงสร้างอาคารยังเป็ นรูปแบบสมัยเก่า เมือเดินลึกขึน
สถาปั ตยกรรมก็เริมพัฒนาขึนตามยุคสมัย

สิบสามตําหนักสุสานเท่ากับสิบสามรุน่ ราชวงศ์เฉินมี

186
บรรพกษัตริยท์ ียิงใหญ่ปกครองแผ่นดินมาแล้วทังสินสิบ
สามรัชสมัย

เหนือซุม้ ประตูใหญ่มีปา้ ยบอกชือตําหนักว่า ‘ฉางหลิง


เอิน’ ก่อนจะมาถึงต้องผ่านตําหนักสุสานของจักรพรรดิ
รัชกาลก่อน

เฉินเหวินเค่อหยุดยืนมองอยูเ่ นินนาน

แม่ทพั ใหญ่จิงติดตามไล่ลา่ กบฏอย่างไม่ยอมลดละ เล่า


ว่าฉีหวางเมือจนตรอกไร้หนทางหนี ทรงตัดสินใจ
กระโดดหน้าผา เบืองล่างเป็ นกระแสนําเชียวไม่สามารถ
เสาะหาร่าง แต่มองดูแล้วไม่มีคนเป็ นโดดลงมาแล้วยังมี

187
ลมหายใจ

จักรพรรดิเห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าก่อน หรืออาจจะทรง
สังเวชต่อพระอนุชาผูถ้ กู ทอดทิง ในฐานะกบฎ ฉีหวางยัง
มีโอกาสได้ฝังร่วมในสุสานราชวงศ์ เพราะฉะนันพิธีฝัง
พระศพของฉีหวาง...ฉินเฟิ งหลุนจึงฝังเป็ นโลงเปล่า

ไม่รูเ้ หตุใดจึงนึกถึงเรืองนีขึนมา...

เฉินลูป่ ิ นใส่ใจเรืองของเฉินเหวินเค่อมาก แม้เรืองราวใน


อดีตจะไม่รูล้ ะเอียดเท่าเจ้าตัว แต่เขาก็ทราบดีวา่ เกิด
เรืองใดขึนบ้าง มือหนึงแตะแผ่นหลัง อีกมือจูงอีกฝ่ าย
ก้าวเดินต่อ ประคับประคองระมัดระวังให้ทกุ ฝี กา้ ว

188
“ไปเถอะ อย่ามองอีกเลย”

ก้าวผ่านซุม้ ประตูใหญ่ ภายในแยกเป็ นสามทาง ทาง


เดินซ้ายตรงไปสูส่ สุ านนางในของรัชสมัยจักรพรรดิฝไู ฉ
ตรงกลางตําหนักใหญ่สดุ รอฝังพระบรมศพขององค์
จักรพรรดิ เคียงคูก่ บั หวงโฮ่วคูบ่ ลั ลังก์ ส่วนทางขวาเป็ น
189
ตําหนักฝังพระศพของพระโอรสและพระธิดา

สิบสีปี แล้ว…

เฉินเหวินเค่อจ้องมองป้ายวิญญาณและป้ายหินสลัก
นาม อ่านถ้อยคํายกย่องสรรเสริญยาวจนสุดแผ่นศิลาก็
แค่นหัวเราะ ช่างหลวงช่างเก่งกาจ คังเล่อน้องเขาอายุ
แค่สบิ สีไหนเลยจะมีวีรกรรมใดให้กล่าวขานถึงมากมาย
เพียงนัน

“ยังเสียใจอยูไ่ หม”

ใบหน้าคมหันไปสบตาคนถาม ยังใส่ใจมากจนน่า
190
รําคาญเสียจริง

ทอดสายตามองป้ายศิลาสลักชือ ‘เป่ ยหวาง...เฉินคัง


เล่อ’ ก่อนจะตอบว่า “ไม่เท่าเก่าก่อน มันผ่านมาเนินนาน
แล้ว” เฉินเหวินเค่อยกมือขึนแตะลงบนกลางอก “ถ้าพูด
ให้ถกู คือคิดถึงมากกว่า”

เวลาคือเครืองมือเยียวยาทีแท้จริง มองย้อนกลับไป
ความโศกศัลย์ทงหมดนั
ั น คาดไม่ถงึ เลยว่าจะผ่านพ้น
มาได้

อดีตคือสิงทีผ่านมาแล้ว ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ เสียไปก็


คือเสียไป แต่ถา้ หัวใจยังจดจําได้ ก็จะไม่มีวนั หายไป

191
เฉินลูป่ ิ นดึงมือเฉินเหวินเค่อไปจุมพิตแผ่วเบา ใช้สายตา
แน่วแน่จริงจังเอ่ยอย่างสุภาพนุ่มนวลต่อหน้าป้ายศิลา
“ข้ามีนามว่าเฉินลูป่ ิ น มีศกั ดิเป็ นพระญาติ และมีอีก
ฐานะหนึงเป็ นพีเขย ข้าขอสัญญาว่าชัวชีวิตนีจะใส่ใจ
ดูแล และรักเหวินเกอเพียงผูเ้ ดียวจนตราบสินลมหายใจ”

ผัวะ!

เฉินลูป่ ิ นโดนโบกจนหน้าทิม ตังครรภ์สเดื


ี อนแล้วแต่หวา
งเฟยแรงดีไม่มีตกจริงๆ

คําหวานเช่นนันฟั งแล้วแสลงหูนกั ไม่อายวิญญาณเทพา

192
อารักษ์บา้ งหรือ เฉินเหวินเค่อเชิดคอสูง ทําเมินไม่มอง
ใครบางคน

ยกมือพัดใบหน้า เหตุใดอากาศถึงร้อนขนาดนี!

ทีสวนด้านนอก

193
ลมกําลังพัดเอือยๆ น่าเอนกายพักสายตาเป็ นทีสุด เฉิน
เหวินเค่อดึงเฉินลูป่ ิ นนังลงกับพืนหญ้า ไม่ใส่ใจใน
อาภรณ์หรูหราวิจิตรของตัวเอง ล้วงขลุย่ เลาหนึงออกมา
จากอกเสือ แล้วจึงเริมเป่ าทํานองเพลง

ฟั งดูเรียบง่ายไม่มีสงใดพิ
ิ เศษ แต่ชวนให้จิตใจสงบเงียบ

เฉินลูป่ ิ นเป็ นผูฟ้ ั งทีดี เมือจบเพลงก็ปรบมือเยินยอออก


หน้าออกตา

เอาเถิด…นิสยั เช่นนีใช่วา่ จะเลวร้ายเสียทีไหน และ


เพราะเป็ นเช่นนีเฉินเหวินเค่อจึงเผลอไผลหลุดรอยยิม

194
โดยมิได้เกิดจากจิตใต้สาํ นึกของตัวเอง ครังแล้วครังเล่า

อดีตแม่ทพั ลดขลุย่ ในมือมองสลับกับใบหน้ารูปงามเยาว์


วัยของเฉินลูป่ ิ น พลันนึกถึงเรืองหนึงขึนมาได้

“หึ…ฮ่าๆ” หลุดขําออกมาครังเดียว จากนันก็ไม่อาจ


สะกดกลัน การหัวเราะเสมือนโรคติดต่อ ถึงจะยังมึนงง
แต่ก็อดไม่ได้ทีจะหัวเราะตาม

เฉินเหวินเค่อแตะไปทีหน้าท้องแล้วกล่าวว่า “ถ้าเป็ นลูก


ชายคงจะน่าขันกว่านี”

เฉินลูป่ ิ นเลิกคิว “เหวินเกอคงไม่บอกว่าทํานายอนาคต


195
ได้หรอกนะ”

ขลุย่ ถูกยกจรดริมฝี ปากอีกครา ก่อนทีสรรพสิงรอบกาย


จะถูกท่วงทํานองกลืนหาย เฉินเหวินเค่อก็เอ่ยออกมา
เรียบๆ

“ไม่ใช่ขา้ หรอก…”

196
ข้อมูลเพิมเติม

[1] เบญจธัญญาหาร ได้แก่ ข้าวเจ้า ข้าวฟ่ างเหนียว


ข้าวฟ่ าง ข้าวสาลี และถัว

[2] ขลุย่ จีนแบบ 曲笛 ฉวีตี เป็ นทีนิยมในภาคใต้ของ


จีน เป็ นขลุย่ ทีมีขนาดค่อนข้างยาว ปั จจุบนั ขลุย่ แบบฉวี
ตีไม่ได้นิยมแต่เพียงภาคใต้เท่านัน แต่กลายเป็ นทีนิยม
ไปทัวโลก เพราะสามารถใช้เล่นร่วมกับเพลงสมัยใหม่
ๆ ได้ดี

[3] ปรัชญาของจวงจือ 莊子 (เป็ นจอมปราชญ์จีน ถูก

197
จัดในสํานักคิดปรัชญาของลัทธิเต๋า 道家) เรือง “จวง
จือฝันว่าเป็ นผีเสือ”

*** “ครังหนึง จวงจือฝันว่าเป็ นผีเสือโบยบินไปมาอย่าง


สบายใจ ไม่มีความวิตกกังวลใดๆ ผีเสือตัวนีไม่รูถ้ งึ ความ
มีตวั ตนอยูข่ องจวงจือ มันรูแ้ ต่วา่ มันคือผีเสือ แต่ทนั ใด
นันจวงจือก็ตืนขึนมา พบว่าจวงจือมีตวั ตนอยูจ่ ริง จึงไม่
แน่ใจว่า จวงจือฝันเป็ นผีเสือ หรือผีเสือฝันเป็ นจวงจือกัน
แน่ ไม่วา่ จะเป็ นจวงจือหรือผีเสือก็มีตวั ตนของมันทีแตก
ต่างกัน” จึงกล่าวได้วา่ ทุกสรรพสิงย่อมแปรเปลียนไป
ตามสภาวะ

[4] พานอัน 潘安 คือหนึงในสีหนุ่มรูปงามแห่งประวัติ


ศาสตร์จีน เกิดในสมัยราชวงศ์จินตะวันตก เจ้าของวลี
198
貌似潘安 “ หน้าตาเหมือนพานอัน/รูปงามดังพาน
อัน”

[5] “เรา” ในบริบทนีเป็ นคนละตัวกับทีจักรพรรดิใช้แทน


ตัวเองนะคะ จักรพรรดิจะใช้คาํ ว่า “เจิน” 朕 เป็ นคํา
แทนตัวเอง ซึงใช้ได้เฉพาะจักรพรรดิ แต่ในบริบทของ
ฉีหวางจะเป็ นคําว่า “เปิ นหวาง” 本王 ซึงเป็ นคําแทน
ตัวเองเมือพูดกับขุนนางหรือผูท้ ีมีศกั ดิตํากว่า

[6] ลี 里 เป็ นหน่วยวัดของจีนมีความยาวเท่ากับ 500


เมตร

[7] เค่อ 刻 เทียบเท่ากับ 15 นาทีโดยประมาณตาม

199
เวลาสากล ในหนึงวันมีทงหมด
ั 100 เค่อ ในแต่ละชัว
ยามมีทงหมด
ั 8 เค่อ (หนึงวันมี 12 ชัวยาม)

200
ตอนที ๒๗ พระราชนัดดาพระองค์แรก

ฟ้ายังไม่สาง ไก่ยงั ไม่ขนั ไร้ซงเสี


ึ ยงตีฆอ้ งจากขันทีผู้
ประกาศยามเวลา กัวเจ๋อเร่งฝี เท้าเข้าสูเ่ ขตพระตําหนัก
ขององค์จกั รพรรดิ เมือเอ่ยปากถึงจวนเว่ยหวาง การขอ
เข้าเฝ้าจึงใช้เวลาไม่นานนัก เกากงกงผูเ้ ป็ นข้าหลวงใหญ่
เป็ นคนเดินนํากัวเจ๋อเข้าเฝ้าด้วยตนเอง

ฝ่ าบาททรงฉลองพระองค์สีดาํ สวมเหมียนกวาน[1]
เตรียมพร้อมออกว่าราชการตรงตามเวลา

201
กัวเจ๋อคุกเข่าก้มศีรษะลงจรดพืน “กระหม่อมกัวเจ๋อจาก
สํานักแพทย์หลวงถวายบังคมฝ่ าบาท”

“ลุกขึนเถอะ” จักรพรรดิปรายสายพระเนตรมองไปยัง
แพทย์หลวงหนุ่มทียืนอย่างเรียบร้อย แต่สีหน้าและแวว
ตาค่อนข้างจะร้อนรน พระขนงจึงพลันขมวดมุน่ “เราจํา
ได้วา่ เจ้าเป็ นคนดูแลเฉินอันหวางเฟย หรือว่าเกิดเรือง
อะไรขึน”

กัวเจ๋อไม่รอช้ารีบกราบทูล “หวางเฟยมีอาการเจ็บครรภ์
เพียงแต่ยงั ไม่ถงึ เวลาคลอด กระหม่อมเรียกเชิญหมอ
ตําแยจากในวังไปทีจวนเว่ยหวางแล้ว ก่อนออกมาหวา
งเย่สงว่
ั าให้นาํ เรืองนีทูลต่อฝ่ าบาทพ่ะย่ะค่ะ”

202
“ถึงกําหนดแล้วหรือ”

“ความจริงล่าช้ากว่ากําหนดพ่ะย่ะค่ะ...”

“’งันหรือ…เราจําผิดเอง”

กัวเจ๋อก้มหน้าคางชิดอก “ฝ่ าบาททรงมีราชกิจมาก


มาย…”

“เจ้ารีบกลับไปทีจวนเว่ยหวางเถอะ” จักรพรรดิฝไู ฉตัด


บทก่อนกัวเจ๋อจะกล่าวจบ จึงต้องกลืนถ้อยคําปั น
แต่งอย่างหมดจดลงท้อง
203
คล้อยหลังแพทย์หลวงผูม้ าเข้าเฝ้ารีบเร่งจากไปดังพายุ
เช่นเดียวกับขามา…คนหนุ่มกําลังวังชาดี เกากงกงมอง
ส่งครูห่ นึง แล้วจึงกลับไปปรนนิบตั ิรบั ใช้องค์จกั รพรรดิ
ตามเดิม

“เจ้าคงได้ยินเรืองทีจวนเว่ยหวางแล้ว นําเรืองนีไปบอก
แก่ตาํ หนักอันชวี”

เกากงกงประสานมือเตรียมทําตามรับสัง แต่องค์
จักรพรรดิก็ยกมือขึนมาขัดเสียก่อน “ไม่ตอ้ งเดียวเราไป
บอกเขาเองจะดีกว่า”

204
เกาฉีรบั ใช้องค์จกั รพรรดิมาเนินนาน องค์ชายองค์หญิง
ในรัชสมัยนีมีนอ้ ยนัก ก่อนขึนครองราชย์ดเุ ดือดมาก
เท่าใด วังหลังก็ดเุ ดือดมากพอกัน ทีมีก็นอ้ ยนัก ทีเจริญ
ชันษามาได้ก็นอ้ ยยิงกว่า องค์ชายรองอายุยงั ไม่ครบ
ชันษาก็สนไปตั
ิ งแต่ยงั เล็ก ช่วงอายุขององค์ชายสามกับ
องค์ชายสีค่อนข้างห่างกัน ทําให้พงแต่
ึ งชายาเอกเข้า
จวนได้ไม่นานจึงยังไม่มีข่าวดี องค์ชายห้าก็ยงั มิได้มี
ฤกษ์มงคลสมรส ส่วนองค์หญิงทังหลายแต่งออกไปต่าง
แคว้นต่างแผ่นดินกันเสียหมด ไม่คิดเลยว่าพระราช
นัดดาพระองค์แรกจะมาจากองค์ชายใหญ่เสียได้

ตอนนันผูค้ นทัวทังแผ่นดินต่างคาดการณ์ลว่ งหน้า


จักรพรรดิองค์ถดั ไปคือองค์ชายใหญ่แน่แล้ว แต่ชะตาฟ้า
ยากคํานวณ อนาคตไหนเลยจะสามารถลิขิต

205
เพียงแต่คิดถึงความอ่อนโยนนุ่มนวลของเฉินอันหวา
งแล้ว เรืองนีนับว่าเป็ นข่าวทีสะเทือนขวัญปวงประชาใน
อนาคตจริงๆ

ตังแต่เฉินลูป่ ิ นหายจากอาการแพ้ทอ้ ง ชีวิตสุขสบายกิน


นอนอย่างอูฟ่ เป็ ู่ นเช่นไร เฉินเหวินเค่อล้วนประจักษ์แจ้ง
206
ทุกสิงทีเขาจับต้องต่างคัดกรองอย่างพิถีพิถนั ทังอาหาร
การกินแม้แต่นาที
ํ ดืม อาภรณ์สวมใส่มีการวัดตัว
สามครังต่อเดือนเพือให้ชดุ ไม่รดั แน่นเกินไปจนไม่สบาย
ตัว ไม่หลวมเกินไปจนขยับลําบาก

บ่าวในจวนบอกว่าฤดูรอ้ นของเมืองหลวงปี นีอากาศไม่


หนักหนามากเท่าปี ก่อน นับว่าเป็ นโชคดีเรืองหนึง คนมี
ครรภ์หงุดหงิดง่าย อากาศร้อนก็พาลอารมณ์ไม่ดีทงวั
ั น
แต่เฉินลูป่ ิ นก็อดทนดูแลเฉินเหวินเค่อจนผ่านพ้นมาได้
นับว่ามีเรืองติดค้างอีกฝ่ ายอีกหนึงประการ

“เจ็บมากหรือไม่”

207
“ถ้าข้าบอกว่าเจ็บมาก เจ้าเบ่งแทนข้าได้ไหมเล่า!”

ตอนนีในท้องเหมือนมีกอ้ นเหล็กทีเต็มไปด้วยหนาม
แหลมคมกําลังกลิงหลุนๆ ไปมาอยูข่ า้ งใน แค่สดู ลม
หายใจแผ่วเบา ความเจ็บปวดก็วงพล่
ิ านไปทัว

เฉินลูป่ ิ นโดนตวาดอย่างรุนแรงแต่สีหน้าไม่กระดิก หนึง


ในความทรมานอย่างสาหัสของมนุษย์ก็คือการคลอด
บุตร ตัวเขาเป็ นคนทํา แต่เฉินเหวินเค่อต้องแบกรับภาระ
นี ใจเขาไม่มีสกั เสียวทีจะขุ่นเคือง

เฉินเหวินเค่อลูบมือนุ่มหวังให้สมั ผัสอ่อนโยนพาใจสงบ
ถึงทางกายจะไม่ได้มีผลอะไร แต่ทางใจก็นบั ว่าช่วยเยียว

208
ยา

ทุกคราทีเปิ ดปากลมหายใจหนักหน่วงผสานไปกับนํา
เสียงทีพยายามไม่ให้สนั “ถ้าเกิดเป็ นผูห้ ญิง ข้า…ข้าไม่
เอาแล้วนะ…”

เฉินลูป่ ิ นใช้ผา้ ซับเหงือทีผุดพลายเต็มใบหน้า “ไม่


เป็ นไร...ไม่เป็ นไร แพทย์หลวงเคยบอกแล้วว่าครรภ์นีมี
โอกาสเป็ นเด็กผูช้ ายสูง อย่ากังวลเลย" เอ่ยปลอบขวัญ
หลายคํา แม้ปากพูดไปเช่นนัน แต่บิดามารดามีเขาเป็ น
ลูกคนเดียว ถ้าหากเด็กคนนีไม่ใช่ทา่ นชาย สําหรับร่าง
กายของเฉินเหวินเค่อคงไม่มีโอกาสแล้ว

209
แต่ไหนแต่ไรผูช้ ายตังครรภ์ก็ไม่ง่าย ขนาดอายุนอ้ ยให้
เต็มทีไม่มีทางเกินสองคน เรืองอายุเป็ นอุปสรรคข้อใหญ่
จริงๆ

จะให้เขามีทายาทกับอนุของตัวเอง…พูดกันตามตรงไม่
ใช่เรืองแปลกอะไร แต่สาํ หรับเฉินลูป่ ิ น ไม่วา่ อย่างไรผูท้ ี
ร่วมเรียงเคียงหมอนจนผมขาวโพลน เลือดเนือเชือไขใน
รุน่ หลังก็ปรารถนาจะมีกบั เฉินเหวินเค่อแต่เพียงผูเ้ ดียว

“เหวินเกอ…ข้าต้องออกไปด้านนอกแล้ว เดียวหมอ
ตําแยกับแพทย์หลวงกัวจะเข้ามาดูแลท่านต่อ”

ห้องคลอด…เฉินลูป่ ิ นหลังหายจากอาการแพ้ทอ้ งก็สงให้


210
จัดการทันที กวาดสายตาไปรอบห้องหนึงครัง ก่อนมา
หยุดอยูท่ ีใบหน้าอดทนสะกดกลันต่อความเจ็บปวด คิว
เข้มขมวดพันกันยากจะแก้ปมออก ทังยังได้ยินเสียงขบ
ฟั นกรอดจึงอดไม่ได้ทีจะเอ่ยปากเตือน

“เหวินเกอ หมอตําแยผูน้ ีข้าไม่หว่ งนัก แพทย์หลวงกัวเอง


ก็คนุ้ เคยกันดี แต่นางกํานัลผูช้ ่วยทีตามมาช่วยเหลือนัน
ไม่เคยพบหน้า ความสัมพันธ์หา่ งไกล อย่างไรก็ใจเย็นๆ
อย่าทําพวกนางขวัญเสียมากเกินไปนัก…”

เฉินเหวินเค่อบิดผ้าซับเหงือของตนเมือครู ่ ยินเสียงเนือ
ผ้าเริมขาดออกจากกันก็ตอบว่า “ได้!”

211
“…” เฉินลูป่ ิ น

สตรีวยั ชราผูห้ นึงเดินทางมาถึงจวนกว้างขวาง ด้านหลัง


มีนางกํานัลมากประสบการณ์มาเป็ นลูกมือ ท่าทีของผู้
คนทีปฏิบตั ิตอ่ นางค่อนข้างเกรงอกเกรงใจ เห็นดังนันก็
อดกดมุมปากยกยิมไม่ได้

212
หนึงในข้อดีของการทํางานในวัง สถานทีดุรา้ ยกลืนกินผู้
คน อาชีพหมอตําแยของนางนับเป็ นหนึงในชนชันล่าง
เก้าสาย[2] ถูกดูถกู ดูแคลน ทว่าก็เป็ นอาชีพทีขาดไม่ได้
และยังเป็ นอาชีพทีผูค้ นต้องการมาทุกยุคทุกสมัย

เมือเข้าวังชีวิตของมารดาและบุตรล้วนตกอยูใ่ นกํามือ
ของนาง จะสูงส่งมาจากไหน ขนาดหวงโฮ่วยังต้องมี
หมอตําแย เพียงแต่ชีวิตของข้ารับใช้ลว้ นเดิมพันกับฝี มือ
และโชคชะตา ถ้าพลาดก็แค่ตาย นางผ่านโลกมามาก
สายตาฝ้าฟางทว่ากลับยิงมองอะไรได้แจ่มชัด

บุรุษผูห้ นึงยืนวนไปวนมาอย่างกระวนกระวายใจ เบือง


หลังได้ยินเสียงกระซิบกระซาบ…ผูท้ ีตังครรภ์มิใช่เฉินอัน
หวาง?
213
ใต้หล้านีจะตัดสินอะไรจากรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้
สาวน้อยทังหลายเจ้ายังต้องเรียนรูอ้ ีกมาก

“หม่อมฉันอาลัวถวายพระพรเฉินอันหวางเพคะ”

เฉินลูป่ ิ นรีบโบกมือไม่ใส่ใจต่อพิธีการ “ลุกขึนเถิด”

“ขอบพระทัยเพคะ”

อาลัวหรีสายตาพิจารณา 'รักลึกซึง' สามคํานีนับว่า


วาสนาดีกว่ามารดามากนัก ประหวัดนึกถึงเหนียงเหนียง
ผูห้ นึงแห่งวังหลัง ย้อนไปยามนัน นางจําได้วา่ พึงทํา
214
คลอดให้องค์ชายทังสองพระองค์ พริบตาเดียว…ดูทา่
นางคงจะแก่แล้วจริงๆ

“เมือตอนฮุ่ยกุย้ เฟยเหนียงเหนียงถึงเวลาประสูติกาล
เจ็บท้องอยูน่ านกว่าจะได้คลอด ทังยามคลอดบุตรต้อง
แบกรับความทรมานสาหัสสากรรจ์ เพราะฉะนันไม่วา่ จะ
เกิดอะไรขึน ขอหวางเย่โปรดรักษาความสงบเยือกเย็น
เอาไว้ ตังมันเฉกเช่นภูเขาไท่ซาน[3] หมอตําแยผูท้ าํ
คลอดให้แก่ฮ่ยุ กุย้ เฟยเหนียงเหนียงก็คือหม่อมฉัน ขอ
หวางเย่โปรดเชือมัน”

เฉินลูป่ ิ นพยักหน้าพยามสงบใจ แม้มือไม้จะเย็นเฉียบ


และชืนไปด้วยเหงือ คล้อยหลังหมอตําแยทีเดินเข้าห้อง
หวางรูปงามโบกมือรังนางกํานัลอีกสามคนเอาไว้
215
“พวกเจ้าขวัญอ่อนหรือไม่”

นางกํานัลทังหลายลอบสบตากัน ไม่คอ่ ยเข้าใจเท่าใด


นัก แต่ปากก็เอ่ยตอบไป

“ไม่เพคะ”

“เช่นนันก็ดี”

216
.

“หวางเฟยดืมนําแกงโสมอีกสักหน่อยเพคะ สูดลม
หายใจเข้าลึกๆ เพคะ”

เฉินเหวินเค่อทําตามทุกขันตอน เหงือโทรมกายอย่างกับ
พึงอาบนําเสร็จ เขาเม้มปากแน่น แต่จนแล้วจนรอดก็อด
กลันไม่ไหว

ทําไมถึงเจ็บขนาดนี!

217
ปึ ง!

อดีตแม่ทพั เลือดทุบกําปั นลงกับเตียง นางกํานัลทีถือ


ช้อนคอยป้อนนําแกงสะดุง้ เฮือก เกือบทําช้อนปลิว มือที
ถือสันระริกจนอาลัวต้องดุเสียงเข้มไปที จึงจะรวบรวม
สติกลับมาได้

เฉินเหวินเค่ออ้าปากร้องครวญคราง รูส้ กึ ถึงแรงถีบสุด


ชีวิตและแรงบีบรัด คล้ายเด็กในท้องอยากออกมาพบ
โลกกว้างเต็มแก่

“บัดซบ! เอาดาบมาให้ขา้ ตอนข้าไปรบยังไม่เจ็บเท่านี


เลย…โอ๊ย!!”

218
“หวางเฟยใจเย็นๆ เพคะ อย่าใช้เสียงมากเดียวไม่มีแรง
นะเพคะ มา…ดืมนําแกงอีกสักคํานะเพคะ”

เฉินเหวินเค่อถลึงตาปั ดถ้วยนําแกงหกควํา “ดืมบ้าบอ


อะไรอีก! รีบๆ เอาเด็กคนนีออกมาทีเถอะ อ๊า!!”

เป็ นบุรุษไหนเลยจะเสียนําตาได้โดยง่าย มาบัดนีดวงตา


สีขีเถ้าคลอไปด้วยหยาดนําใส

“ถ้ารูว้ า่ เจ็บขนาดนีข้าจะเจือนไอ้นนของมั
ั นทิง ไอ้ลกู เต่า
บัดซบ! เอาดาบมาให้ขา้ !!”

219
เสียงตวาดดุดนั ทําเอาคนทังนอกและในห้องขวัญปลิว ที
ยังนิงเฉยมีเพียงผูค้ นทีประสบพบเจอจนหัวใจกล้าแกร่ง
คล้ายจะชาชินกับเรืองเช่นนีแล้ว

เบืองหน้าเริมมืดมิด หูฟังสิงใดก็ไม่ชดั แจ้ง

“หวางเฟยอดทนไว้ ออกแรงอีกนิดเพคะ!”

เฉินเหวินเค่อสูดลมหายใจลึก ในใจนึกถึงแต่ชือๆ หนึง


วนเวียนซําไปมา ทังอยากเชือดให้ตาย ทังอยากกุมมือที
คอยบีบให้กาํ ลังใจและปลอบประโลม

นึกถึงกลินกายหอมอ่อนสบายจมูก เหตุใดจึงถวิลหาถึง
220
นําเสียงนุ่มนวลทีเรียกขานเขาว่า ‘เหวินเกอ’ ใจแทบขาด

“ลู…
่ ปิ น”

เฉินเหวินเค่อออกแรงเฮือกสุดท้าย เฉกเช่นยามทุม่ กําลัง


ฟาดฟั นข้าศึกหมดหน้ากระดาน

ท่ามกลางสติทีเริมดับวูบ แว่วเสียงร้องไห้จา้ สนันหวัน


ไหว ปะปนไปกับนําเสียงแสดงความยินดีของใครต่อใคร
ในห้อง เป็ นผูใ้ ดบ้าง...เขาไม่เหลือเรียวแรงทีจะลืมตาขึน
มาแยกแยะแล้ว

“ยินดีดว้ ยเพคะหวางเฟย เป็ นท่านชายแข็งแรงสมบูรณ์


221
ดีเพคะ!”

บ่าวรับใช้ตา่ งส่งเสียงแห่งความสุขกันดังลัน บ้างทรุดลง


ไปนังกับพืนอย่างโล่งใจ บ้างกระโดดกอดสหายข้างตัว

“คลอดแล้ว!”

หมอตําแยอุม้ ห่อผ้าออกมาอย่างระมัดระวัง เฉินลูป่ ิ น


เห็นแล้วก็ดวงตาแดงเรือ รีบรับมาอุม้ ไว้ นําหนักของบุตร
ในอ้อมแขนเบาหวิวจนน่าใจหาย ทว่านําหนักของความ
ตืนตันในใจกลับมากกว่าหลายเท่า

“เขาเป็ นอย่างไรบ้าง”
222
“ตอนคลอดหวางเฟยใช้แรงไปมาก ร่างกายอ่อนเพลีย
หลับไปแล้วเพคะ”

เฉินลูป่ ิ นไม่รอช้า สาวเท้ายาวเข้าไปข้างในห้องคลอด


อาลัวส่งสายตาให้นางกํานัลผูช้ ่วยตามเข้าไปดูแลรับใช้
แต่เห็นวงหน้าซีดเซียวและหน้าตาอ่อนเพลีย นางจึง
เปลียนใจหันไปพึงแพทย์หลวงกัวให้เข้าไปแทน

หญิงชราส่งเสียงหัวเราะหนักสองเสียงแล้วเอ่ยว่า “เป็ น
ประสบการณ์ทีดีใช่หรือไม่ใช่”

“ตังแต่พวกบ่าวติดตามลัวเหล่าไท่ช่วยทําคลอดให้คนใน

223
วัง หรือจะจวนขุนนางทังหลาย ก็พงพบเจอห้
ึ องคลอดที
ดุเดือดเยียงสนามรบเช่นนีเป็ นครังแรกนีแหละเจ้าค่ะ…”
นางกํานัลทังหมดตอบเป็ นเสียงเดียวกันโดยมิได้นดั
หมาย

สมกับทีหวางเฟยทรงเป็ นอดีตแม่ทพั เลือดผูไ้ ร้พา่ ย

คํากล่าวนี…ไม่ปฏิเสธ ไม่ปฎิเสธ

224
.

ภายในตําหนักไท่เหอ องค์จกั รพรรดิยงั ไม่เลิกประชุมขุน


นาง วันนีมีราชกิจเร่งด่วน แต่ไม่วา่ อย่างไรก็หาทางลงไม่
ได้ จึงกินเวลาล่วงเลยมาจากเวลาปกติพอสมควร

เกากงกงค้อมกายลงกระซิบเสียงเบาทีข้างพระกรรณ
จักรพรรดิฝไู ฉทีนังฟั งขุนนางหลายฝ่ ายทุม่ เถียงกันด้วย
ใบหน้าเรียบเฉยก็ยกพระขนงขึน จากนันวรองค์สงู สง่าก็
ผุดลุกขึนในทันที

สรรพสิงพลันเงียบสงัด จักรพรรดิตรัสว่า “ประทาน


รางวัล ทุกคนล้วนได้รบั รางวัล!”

225
สินคําใต้เท้าไป๋ เป็ นคนแรกทีทูลถาม ท่ามกลางความงุน
งงทีขยายตัวเป็ นวงกว้าง กลืนกินทัวทังพระตําหนัก

“มีเรืองมงคลใดหรือพ่ะย่ะค่ะฝ่ าบาท”

ใต้เท้าไป๋ ติดตามรับใช้องค์จกั รพรรดิมาเนินนาน จึงดู


ออกว่าพระองค์ทรงเกษมสําราญเป็ นอย่างยิง

“เฉินอันหวางเฟยมีหลานคนแรกให้เราแล้ว”

เฉินอันหวางเฟย?

226
องค์ชายใหญ่?

มีหลาน...พระราชนัดดาพระองค์แรกของฝ่ าบาท!?

ขุนนางทังหลายอ้าปากค้าง คิดตริตรองไม่ทนั ริมฝี ปาก


คันยุบยิบ ครันจะทูลถาม องค์จกั รพรรดิก็สะบัดชาย
ฉลองพระองค์รบี เร่งออกไปเสียแล้ว จึงได้แต่หนั ไปพูด
คุยกันเองแทน

“เมือครูฝ่ ่ าบาทตรัสว่าเฉินอันหวางเฟยใช่หรือไม่ มิใช่


เฉินอันหวางหรอกหรือ”

227
ใต้เท้าขุนนางหลายท่านไม่เชือโดยง่าย คล้อยหลังฝ่ า
บาทพาฮุ่ยกุย้ เฟยเสด็จไปรับขวัญพระราชนัดพระองค์
แรกของราชวงศ์ พวกตนก็ไม่รอช้าหยิบสิงของติดมือไป
ร่วมแสดงความยินดีถงึ จวน ครันได้เห็นว่าเฉินอันหวางอ
อกมารับแขกหน้าตาชืนบาน ไม่เหมือนคนพึงคลอดบุตร
ทังยังไร้เงาของอดีตแม่ทพั เลือดผูช้ วนอกสันขวัญแขวน

คําตอบแน่ชดั ยากปฏิเสธความจริง

ขากลับใต้เท้าทังหลายภายในใจปรากฏภาพพระ
พุทธองค์ คล้ายจะเข้าใจสัจธรรม และความไม่จีรงั ของ
สรรพสิงขึนมาอย่างใหญ่หลวง

228
ข้อมูลเพิมเติม

[1] เหมียนกวาน (冕冠) พระมาลาห้อยลูกปั ด ปกติ


จะใส่รว่ มกับฉลองพระองค์พิธีการสีดาํ ของจักรพรรดิที
เรียกว่า เหมียนฝู (冕服) สายม่านลูกปั ดมีหน้าที
สําคัญอยูส่ องประการ

หนึงเพืออําพราง คือ เตือนให้ฮ่องเต้ทรงระลึกองค์อยู่


เสมอว่า ต้องมองรวมดูความส่วนใหญ่ขอ้ บกพร่องเล็กๆ
น้อยๆ ก็ให้ทรงเปิ ดพระทัยกว้างยอมรับ และสองเพือให้
รําคาญ คือให้ทรงระลึกองค์อยูเ่ สมอว่า ต้องสํารวมท่า
ทางรักษามาดให้นิงสง่า และหนักแน่นอย่างกษัตริย ์
หากหลุกหลิกยุกยิกไปมาเกินงาม สายลูกปั ดมากมายก็
จะพลอยสะบัดไหวกระทบไปมาเป็ นทีน่ารําคาญ ทังยังดู
229
ไม่งามด้วย

[2] ชนชันล่างเก้าสาย ใช้เรียกคนชันล่าง โดยแบ่งจาก


ลักษณะงานของสมัยก่อน ได้แก่ โจรขโมย หมอผีคนทรง
นางคณิกา ลูกกะโล่คนรับใช้ คนจ้างหาบ ยามขานเวลา
นักดนตรีนกั แสดง แม่สอหมอตํ
ื าแย และเจ้าหน้าทีศาล

[3] ภูเขาไท่ซาน ได้รบั การกล่าวขานว่าเป็ นภูเขาทียิง


ใหญ่ทีสุดในบรรดาห้าเขาทียิงใหญ่ของภาคกลางของ
จีน ใช้เปรียบถึงคนหรือสิงทีสูงส่ง หนักแน่นมันคง

ห้าเขาใหญ่(五岳) นันประกอบไปด้วย ไท่ซาน泰山


หัวซาน华山 ซงซาน嵩山 เหิงซาน恒山 เหิงซาน

230
衡山

ตอนที ๒๘ อยูร่ ว่ มกัน

231
ครังหนึงเคยได้ยินคําพูดทีว่า ‘ยามใดมีลกู จะรักลูก
มากกว่ารักสามี’ เฉินเหวินเค่อไม่คอ่ ยเชือถือคํากล่าวนี
เท่าใดนัก ในวังมีมากมายทีมีลกู เพือความอยูร่ อด และ
ความรักของผูค้ นเบืองหลังกําแพงสูงตระหง่านอันเหน็บ
หนาว ถูกปิ ดกันแตกต่างจากโลกภายนอกโดยสินเชิง

มาวันนีคล้ายจะเข้าใจมากขึน ในเมือตอนคลอดต้อง
แบกรับความเจ็บปวดขนาดนัน ผ่านความยากลําบาก
ของเก้าเดือนทีต้องอุม้ ท้อง มีหรือจะไม่รกั เลือดเนือของ
ตนเอง แต่ไม่วา่ ความรักต่อสามีจะมากขึนหรือลดลงก็
ตามแต่ ชีวิตคูเ่ มือเวลาล่วงเลยผันผ่าน สิงหนึงทีไม่มีวนั
ลดลงก็คือความผูกพันทีถักทอร่วมกันมา

232
ช่วงก่อนสติจะดับวูบ เฉินเหวินเค่อทัวร่างเหงือโซมกาย
ทังยังเจ็บท้องเป็ นอย่างมาก แต่เมือลืมตาอีกทีกลับพบ
ว่าตัวเองสะอาดสะอ้าน อาภรณ์ถกู เปลียนให้เรียบร้อย
ภายในใจไม่จาํ เป็ นต้องตังคําถาม เพราะตัวเขารูค้ าํ
ตอบดีทีสุด

ประตูหอ้ งงับปิ ดสนิทเช่นเดียวกับหน้าต่าง บนตัวมีผา้


ห่มคลุมอยูส่ องผืน คลับคล้ายคลับคลาแพทย์หลวงกัว
เคยบอกหลังคลอดร่างกายห้ามต้องลม ไม่เช่นนันแก่ตวั
ไปจะปวดกระดูก

หยาดเหงือเริมชุ่มแผ่นหลัง เฉินเหวินเค่อปาดเหงือบน
หน้าผาก ร่างกายรูส้ กึ ร้อนๆ

233
ประตูหอ้ งเปิ ดออก ฝี เท้ารีบรีปรีเข้ามาหา คนมาใหม่วาง
อ่างนําลงกับโต๊ะกลมใกล้เตียง ก่อนจะพุง่ เข้ามาดันตัว
เฉินเหวินเค่อทีพยายามลุกขึนนังให้กลับไปนอนพัก

คนเริมมีเหงือโซมกายอีกหน เห็นผ้าห่มเลือนกลับไปอยู่
ตําแหน่งเดิมก็ขมวดคิว อดไม่ได้ทีจะพูดอย่างหงุดหงิด

“นีเจ้าจะอบข้าหรือไง”

“เหวินเกอท่านอดทนสักหน่อย ช่วงหลังคลอดร่างกายจะ
มีไข้แล้วก็เหงือออกง่าย” เฉินลูป่ ิ นใช้นาเสี
ํ ยงนุ่มนวลเข้า
ลูบ หลังมือแนบไปบนหน้าผากเห็นว่าไม่มีความร้อน

234
แล้วก็โล่งใจ “ท่านปวดหัวบ้างไหม ข้าจะได้บอกแพทย์
หลวงกัวให้เตรียมยา”

“แค่เล็กน้อย” เฉินเหวินเค่อตอบ

เอียงหน้ารับความเย็นจากมือของอีกฝ่ าย ถึงมือของเฉิน
ลูป่ ิ นจะไม่ได้เย็นมาก แต่กบั คนทีร่างกายร้อนวูบวาบไป
ทัวทังตัว ก็เปรียบดังหยดนําหนึงหยดกลางทุง่ หญ้าอัน
ร้อนระอุ

นานๆ ทีหวางเฟยของเขาจะออดอ้อนประหนึงแมว
น้อย…ทีตัวไม่คอ่ ยจะน้อยสักเท่าไร แต่เพียงเท่านีเฉินลู่
ปิ นก็ยมจนหน้
ิ าบาน คนหนุ่มอายุนอ้ ยความยับยังช่างใจ

235
มีไม่มาก ยิงเป็ นนานทีปีหนมีหรือจะได้คืบไม่เอาศอก

“ลูป่ ิ น…มือของเจ้าเคยอยูส่ ขุ กับเขาหรือไม่” เฉินเหวิ


นเค่อกดเสียงตํา ปั ดมือทีเริมเลือยออก

เฉินลูป่ ิ นหัวเราะสุขใจ ทิงกายลงโอบกอดร่างกายทีอุดม


สมบูรณ์ดี ไม่ได้มีกล้ามเนือแข็งเหมือนแต่ก่อน ทังยังลง
พุงอยูน่ อ้ ยๆ อย่างรักใคร่

เนือตัวเหนียวเหนอะหนะไม่พอ ยังมีคนอาสาเพิมความ
ร้อน เฉินเหวินเค่อฟั นในปากบดกันกรอดๆ ตีมือทีขยํา
หน้าท้องของเขาไม่ออมแรง แต่ก็หยุดคนมือไวได้
ประเดียวเดียว

236
“ข้าจะกลับมาออกกําลังได้เมือใด”

“อย่าห่วงเลย ผ่านไปสักพักเดียวหน้าท้องท่านก็ยบุ เอง


แค่อาจไม่ได้ดดู ีเหมือนเก่า”

เฉินเหวินเค่อจําต้องพยักหน้ารับแกนๆ อย่างไม่คอ่ ย
ชอบใจนัก

นึกถึงพวกใต้เท้าขุนนางทังหลายทีแต่งภรรยาเอกตังแต่
ยังหนุ่ม แต่พอพวกนางคลอดลูกก็แก่ตวั อย่างรวดเร็ว ข้อ
นีแม้แต่บรุ ุษก็ไม่เป็ นทียกเว้น

237
จวนทีฉางซี เฉินลูป่ ิ นพิสจู น์ตนอย่างทีเคยลันวาจาว่าจะ
ไม่เหยียบย่างเข้าสวนดอกไม้หลังบ้าน

แต่วา่ อนุพวกนันยังสวยสดงดงาม ต่างจากเขาโดยสิน


เชิง…

จ้องไปทีใบหน้าอ่อนวัยทีมีกลินอายของความสง่างาม
ดังบุรุษเพศผูห้ นึง เฉินเหวินเค่อไม่เคยใส่ใจว่าตนจะงด
งามหรือไม่ รูปลักษณ์และร่างกายกํายําแข็งแรงเป็ นหนึง
ในความภูมิใจของเขา อีกทังอายุอานามของเฉินเหวิ
นเค่อ เทียบกับคนทีเด็กกว่าอย่างเฉินลูป่ ิ นก็หา่ งกันมาก
จึงไม่อยากให้ดอ้ ยค่านัก

238
สามีจะแก่กว่าล้วนไม่ผิดแปลกอะไร แต่มีอย่างทีไหน
ภรรยาอายุมากกว่า

“ปี นีท่านสามสิบเอ็ดแล้วใช่หรือไม่”

“อืม…” เฉินเหวินเค่อครางตอบรับ

“ผมก็ยงั ดกดําเงางาม” เฉินลูป่ ิ นยิม มองออกทะลุปโุ ปร่ง


ทุกความกังวลใจ “สังขารไม่เทียงสักวันย่อมต้องโรยรา
ข้าอาจอายุยงั น้อย แต่สดุ ท้ายก็ตอ้ งเหียวย่น ชีวิตหนึง
ช่วงเวลาหนุ่มสาวแม้มีคา่ แต่สงสํ
ิ าคัญทีสุดก็คือยามบัน
ปลายชีวิต ข้างกายจะมีคนร่วมแก่เฒ่าผมขาวโพลนไป
ด้วยกันหรือไม่”

239
นิวเรียวเกียวปอยผมจรดริมฝี ปากอ้อยอิง จดจําได้แม่น
ยําว่าเคยร่วมผูกผมกราบไหว้ฟา้ ดินกับผูใ้ ด “ท่านแค่แก่
ก่อนข้า ผมขาวก่อนข้าก็เท่านัน”

คนฟั งพยายามกดมุมปากไม่ให้เผยรอยยิม มือดึงเสือที


ชุ่มโชกไปด้วยเหงือลง ก่อนจะกล่าวอ้อมแอ้มไม่คอ่ ยเต็ม
เสียงนัก

“เจ้าช่วยข้าเช็ดตัวเปลียนอาภรณ์ได้ไหม”

เฉินลูป่ ิ นเคลือนกายเอ่ยกระซิบข้างหูแผ่วเบา “ได้ส”ิ

240
“ข้า..ข้าให้แค่จบู นะ” เฉินเหวินเค่อดึงชายเสือรังอีกฝ่ าย
เอาไว้แล้วตอบกลับเสียงค่อย

แม้โฉมจะไม่ทนั ได้พิศดู แต่เฉดริวของความเขินอายใช่


ว่าจะปรากฏแต่บนใบหน้า สามีเห็นผิวตรงหลังหูหลังคอ
ของภรรยาแดงเถือกทะลุผิวพรรณกร้านแดดกร้านลม ก็
หลุดหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี

.
241
หลายวันทีเฉินเหวินเค่อพักฟื นอยู่ มีใต้เท้าหลายท่าน
เดินทางมาเยียมเยียน หลังจากพระบิดากับมารดารีบ
เสด็จมาหา เสียดายแค่ตอนนันเขายังไม่ตืน คนรับหน้า
จึงเป็ นราชบุตรเขยของราชวงศ์อย่างเฉินลูป่ ิ น ได้ความ
มาคร่าวๆ คือให้เขาพักผ่อนให้มาก แล้วค่อยหาเวลาว่าง
เข้าวัง

กระทังเฉินเหวินเค่อสามารถออกมาเตร่ขา้ งนอกได้บา้ ง
ประตูจวนก็ถกู ยําจนสึกหรอ

ของกํานัลมากมายถูกโยนเข้าห้องเก็บของจนล้น ลง
บัญชีจวนทุกชิน ไม่คิดจะแตะต้อง ยกเว้นแต่ของจากฮัว
เหิงกับหานซ่งเท่านัน แน่นอนว่ามีจดหมายแสดงถ้อยคํา
242
ตกใจเป็ นอย่างมากแนบมาด้วย เฉินเหวินเค่อคิดอยู่
นานว่าจะตอบสหายทังสองอย่างไรดี ท้ายทีสุดก็เขียน
กลับไปสันๆ ว่า ‘ดอกไม้ยงงามยิ
ิ งมากหนามแหลม สามี
ของข้าคือตัวบัดซบ พวกเจ้าน่าจะเข้าใจ’

เมือตอนเฉินเหวินเค่อเป็ นแม่ทพั ตะวันออกผูกมิตรน้อย


สร้างศัตรูมาก ล้วนแล้วมากคนแค้นหลากคนชัง เดิมที
ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถมีลกู สร้างครอบครัว พอคิดได้
ก็ไม่ทนั เสียแล้ว

“ไปอุม้ ท่านชายมาให้ขา้ ”

เด็กทีเกิดในชนชันสูงศักดิ เติบโตมากับการถูกห้อมล้อม

243
ด้วยเหล่าข้ารับใช้รุมล้อม เท่าทีจําความได้ตวั เขาก็เป็ น
เช่นนีเช่นกัน

ตามกฎของบรรพชนว่าไว้ อย่างไรบุตรย่อมสําคัญกว่า
บุตรี ในภายถาคหน้าเด็กคนนีต้องสืบทอดจวน ถึง
อนาคตเขาและลูป่ ิ นจะต้องเป็ นบิดาและมารดาทีเข้ม
งวด เพียงแต่ความรักการเอาใจใส่เขาสามารถมอบให้ได้
อย่างตรงไปตรงมา แตกต่างจากเหล่าผูค้ นเบืองหลัง
กําแพงวังอันยิงใหญ่

“หวางเฟยเพคะ”

เฉินเหวินเค่อรับทารกน้อยมาอุม้ อย่างเบามือ เด็กหญิง

244
ตัวเท่าหัวเข่าคนหนึงยืนยิมเผล่เด่นเป็ นสง่า หลังแม่นม
ถอยฉากออกไป

“มีเอ๋อคํานับท่านแม่เจ้าค่ะ”

ฉู่มีอิงก้าวเท้ายาวเข้ามาหาน้องชายและมารดา เมือได้
รับสายตาดุจงึ ลดความเร็วลงให้สง่างามสมกับทีเป็ น
ท่านหญิงหนิงลี[1] ท่านหญิงน้อยแห่งจวนเฉินอันตาม
บรรดาศักดิทีได้รบั พระราชทานจากราชโองการของ
จักรพรรดิ

กระทังท่านหญิงน้อยเริมปี นขึนไปนังกับมารดา เพราะ


รีบร้อนอยากพบหน้าน้องชาย ความดีงามทังหมดทัง

245
มวลต่างพังครืนลงมาอย่างไม่เป็ นท่า

เฉินเหวินเค่อพลันเริมตระหนักว่าตัวเองสอนลูกผิดตรง
ไหนหรือเปล่า

ทอดสายตามองดูเด็กน้อยทียังหลับตาพริมในอ้อมแขน
เฉินเหวินเค่อก็นกึ ย้อนไปถึงวันทีได้เห็นหน้าลูกคราแรก

โลหิตและชีวิตมากมายต่างถูกคร่าด้วยมือคูน่ ี เฉินเหวิ
นเค่อเกรงวิญญาณอาฆาตแค้นจะคิดร้ายกับเด็กทีจิต
วิญญาณยังคงอ่อนแอ

ความกังวลแปลกประหลาดในหลายเรืองเกิดขึนจนเริม
246
เป็ นสิงทีชวนให้หวั เสีย

แต่กระนันในเรืองนี เฉินเหวินเค่อก็พบว่าความเข้าใจใน
ตัวท่านแม่ผเู้ ป็ นพระสนมแห่งวังหลัง บางสิงทีติดค้างอยู่
ในใจได้รบั การแถลงไข

ด้วยฐานะพระสนมตําแหน่งเฟยผูป้ กครองตําหนักใหญ่
จะกล่าวว่ามารดาหน้าซือมือใสสะอาดล้วนโกหกสวรรค์

เพราะเหตุนีท่านแม่จงึ หลีกเลียงทีจะแตะต้องตัวเขา…

“น้องชือ..” ฉู่มีอิงเตรียมอ้าปากถามเสียงเจือยแจ้วตาม
ประสา ตระหนักได้ทนั ท่วงที ยามเห็นน้องชายแก้มยุย้
247
หลับตาพริม จึงลดระดับเสียงลงจนแทบกลายเป็ นเสียง
ลมมากกว่าเสียงกระซิบ “น้องชืออะไรหรือเจ้าคะ”

เฉินเหวินเค่อเตรียมจะตอบ แต่ก็ถกู คนมาใหม่ชิงตัด


หน้าไปเสียก่อน

“น้องเจ้ายังเล็กนัก มิเหมาะทีจะตังชือ”

ทันทีทีจักรพรรดิเสด็จมาพร้อมฮุ่ยกุย้ เฟย เฉินลูป่ ิ นทําใจ


ไว้แล้วว่าตัวเองอาจไม่มีสทิ ธิตังชือลูกชายเพียงคนเดียว
สําหรับราชวงศ์ ลูกชายคนโตกับหลานชายคนแรกย่อม
ได้รบั ความโปรดปรานมากเป็ นพิเศษ

248
ดังนันเกากงกงทีมาเยือนตังแต่เช้าตรู ่ พร้อมพระ
ประสงค์ขององค์เหนือหัว จึงทําให้คอ่ นข้างประหลาดใจ

เฉินลูป่ ิ นรับถาดไม้แดงมาถือเอาไว้เอง แล้วจึงยืนให้เฉิน


เหวินเค่อพิจารณา ส่วนลูกสาวตัวน้อยมุย่ หน้าทันที
เพราะไม่เข้าใจว่าบนแผ่นป้ายห้าเหลียมทีทําจากไม้
เคลือบเงา แกะสลักอักษรยึกยือลงไป แต่ละตัวนันอ่าน
ว่าอะไรบ้าง

“นีคือ…”

“ฝ่ าบาทมีพระประสงค์ให้ขา้ กับเจ้าตังชือลูกเอง”

249
เฉินเหวินเค่อเลิกคิว ไม่คอ่ ยเชือเท่าใดนัก “พระราช
นัดดาพระองค์แรกของราชวงศ์ ถึงเสด็จพ่อจะมีพระ
ประสงค์เช่นนันจริง แต่ทางสํานักราชวังกับเหล่าขุนนาง
อาจทัดทานก็ได้”

“ฝ่ าบาทจึงได้สง่ อักษรมงคลมาเป็ นชือพยางค์แรกอย่าง


ไรเล่า เพียงเท่านีคงพออุดปากของพวกขุนนางพวกนัน
ได้แล้ว”

แต่กว่าจะได้ทาํ พิธีตงชื
ั อจริงก็จนกว่าจะถึงพิธีครบ
เดือน[2] ตอนนีแค่เลือกเอาไว้ก่อนเท่านัน

เฉินลูป่ ิ นจรดริมฝี ปากลงบนหน้าผากลูกชายทีนอนหลับ

250
ไม่รูเ้ รืองรูร้ าว “แล้วเราจะตังชือเล่นเขาว่าอะไรดี”

“ซานจา[3]ดีหรือไม่เจ้าคะ” ฉู่มีอิงเสนอ

“คงมิใช่เหตุผลว่าชอบถังหูล[ู่ 4]มาก จึงอยากเรียกน้อง


ว่าซานจา” เฉินลูป่ ิ นขัดคออย่างรูท้ นั

ท่านหญิงตัวน้อยพองแก้มแง่งอนใส่บิดา

เฉินเหวินเค่อใช้นิวแตะไปทีข้างแก้มสีชมพูผดุ ผาด ผิว


กายใสกระจ่างขาวผ่อง สัมผัสนุ่มหยุน่ ทําให้เขานึกถึง
อาหารทีทําจากแป้งชนิดหนึง “...เปาจือ[5]”

251
ฟั งดูธรรมดาสามัญ แต่รูส้ กึ ว่าชือนีเหมาะสมมาก บาง
ครามิตอ้ งยิงใหญ่ทะเยอทะยาน แค่สงบสุขเรียบง่ายก็
เพียงพอ

เฉินลูป่ ิ นไม่ทดั ทาน ความคิดตรงกับเฉินเหวินเค่อ


ราวสามารถอ่านใจ ส่วนฉู่มีอิงก็พยักหน้ารับ กล่าวด้วย
ดวงตาเป็ นประกายว่าเปาจือก็อร่อยเหมือนกัน

ข้ารับใช้ในจวนเห็นเจ้านายโบกมือไล่ก็ยอ่ กายทําความ
เคารพ แล้วค่อยๆ ถอยออกไปอย่างเงียบเชียบ หวางเย่
อุม้ ท่านหญิงน้อยขึนมานังตัก ลักหอมแก้มเต็มฟอด บน
ใบหน้าของทุกคนประดับด้วยรอยยิม

252
นางกํานัลคนสุดท้ายปิ ดประตูเบามือ ทันได้ยินเสียง
ทารกหัวเราะออกมาเสียงหนึงพอดี

เปาจือเป็ นเด็กเลียงง่าย นอกจากตอนหิวกับถ่ายท้อง


แทบจะไม่สง่ เสียงร้อง ตอนกลางคืนจึงไม่มีเหตุการณ์วิง
วุน่ ปลอบประโลมทารกน้อยจนขอบตาคลํา

253
ตังแต่พิธีลา้ งสามวัน[6]เฉินเหวินเค่อก็ไม่เคยให้นานม

ลูกอีก หน้าทีนีมีแม่นมรับช่วงต่อไปดูแล แต่เดิมสตรีชน
ชันสูงและสตรีชาววังไม่นิยมให้นมบุตรจากเต้า ด้วย
เกรงว่าทรวงอกทังสองข้างจะไม่เข้ารูปหรืออาจบิดเบียว
ไม่เท่ากัน

เฉินเหวินเค่อไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก อย่างไรเขาก็เป็ น
บุรุษ เพียงแต่เฉินลูป่ ิ นเห็นว่ามีแม่นมเป็ นผูบ้ ริบาล
ความละเอียดอ่อนในบางเรืองให้สตรีทีมีประสบการณ์
สูงเป็ นฝ่ ายรับผิดชอบ ดีกว่าให้บรุ ุษสองคนทีพึงมีทอ้ ง
แรกและท้องเดียวรับมือ

ปลดปิ นกระจก หมุนเครืองประดับราคาสูงลิบ ฟั งเสียง


ระย้าใสกระจ่างกระทบกันครูห่ นึงก่อนจะส่งไปให้บา่ วรับ
254
ใช้ทีเปิ ดกล่องเครืองประดับรอรับ หินสีและอัญมณีรวม
กับแสงสีเงินสีทองของด้ามปิ นกระแทกเข้าตา

ของฟุ่ มเฟื อยเกรงว่าครึงหนึงน่าจะมากองรวมอยูบ่ นหัว


เขานีแหละ

หวีไม้สบั ถูกฉกออกจากมือ หันไปมองก็เห็นเฉินลูป่ ิ น


ถอดเสือคลุมปล่อยผมยาวสยาย เตรียมพร้อมจะเข้า
นอน

บ่าวรับใช้ยอ่ กาย ทยอยเดินออกจากห้อง

ไม่ใช่ครังแรกทีเฉินเหวินเค่อโดนแย่งหน้าทีในชีวิต
255
ประจําวัน จนอดคิดไม่ได้วา่ ในอนาคตเขาจะกลายเป็ น
ง่อยหรือไม่

“ข้าไม่อยากให้เปาจือโตมาเหมือนเจ้า” เฉินเหวินเค่อเอ่ย
ทันทีทีคนทังสองล้มตัวลงบนเตียง

ดวงตาสีขีเถ้าแบบเดียวกับเขาเบิกกว้างขึนเล็กน้อย ถาม
กลับอย่างฉงนสงสัย “เหตุใดจึงมิอยากให้เหมือนข้า”

เฉินเหวินเค่อขมวดคิวหน้าตาเคร่งเครียด “เจ้า…” เขา


ช่างใจเมือรูส้ กึ ว่ามันค่อนข้างจะน่าอายทีจะตอบ

“คงมิได้จะบอกว่าข้ารูปงามเกินไป”
256
เฉินเหวินเค่อจนคําพูดไปครูห่ นึงกว่าจะหาเสียงของตัว
เองเจอ “หน้าตาดีมากเกินไปล้วนนําพาแต่เรืองวุน่ วาย
เข้าหาตัว”

“ข้ารูปงาม ท่านก็รูปงาม เหวินเกอ…เปาจือของเราโตไป


หน้าตาไม่เป็ นรองใครแน่นอน มิสหู้ าหนทางให้เขาแข็ง
แกร่งจนผูอ้ ืนมิอาจรังแก ดีกว่ามานังเป็ นกังวลทีหลัง”

“ก็จริงของเจ้า…”

เฉินลูป่ ิ นกล่าวต่อ “เขาพึงอายุเท่าไรเองเชียว พักนีท่านมี


เรืองกังวลมากไปหรือไม่ ให้ขา้ ช่วยบรรเทาให้ทา่ นเถอะ”

257
เฉินเหวินเค่อกําลังจะอ้าปากถาม พลันสัมผัสร้อนรุม่ ก็
ล้วงเข้ามาในอกเสือ เทียนบนโต๊ะกลมใกล้เตียงยังไม่ทนั
ดับ เห็นชัดว่ามือขาวนาบอยูบ่ นแผ่นอก อีกมือก็เกียว
เสือของเขาลงมาอย่างรวดเร็ว

“นีเจ้า!”

เฉินลูป่ ิ นส่งเสียงชู่ ห้ามปรามมิให้อีกคนส่งเสียงดัง


โวยวาย

“ลูกหลับแล้วท่านคงมิอยากปลุก”

258
ห้องข้างเคียงได้ยินเสียงขลุกขลัก ตามมาด้วยเสียงฝี เท้า
ประตูหอ้ งถูกเคาะสามครัง นางกํานัลคนหนึงเอ่ยถามอยู่
หน้าประตู

“หวางเย่…หวางเฟย มีอะไรให้บา่ วรับใช้หรือไม่เพคะ”

“ไม่มีอะไร เจ้าไปดูแลท่านชายเถิด”

นางกํานัลได้ยินเสียงนุ่มนวลตอบกลับมา ก็เดินกลับไป
โดยไม่ละทิงสีหน้างุนงง

เฉินลูป่ ิ นเลิกคิวขึนข้างหนึง เป็ นเชิงบอกว่าเห็นหรือไม่

259
คิวเข้มดุจไต้ขมวดมุน่ นําเสียงยังเจือโทสะ ทว่าเบากว่า
ตอนแรกมากจนเทียบไม่ติด

“เจ้าคิดจะทําอะไร”

“ข้าจะช่วยท่านผ่อนคลายความกังวลอย่างไรเล่า”

เฉินเหวินเค่อถลึงตา มองตัวไร้ยางอายแล้วเส้นเลือดข้าง
ขมับก็ปวดตุบ

“วิธีบดั ซบอันใดของเจ้า!”

เฉินลูป่ ิ นหัวเราะขบขันในลําคอ พลิกตัวขึนมาคร่อมด้าน


260
บน ใช้นิวเรียวยาวขยีไปตรงหว่างคิวทีชนเข้าหากันแน่น

เฉินเหวินเค่อปั ดมือทีปั ดป่ ายอยูต่ ามร่างกาย ใช้สายตา


จริงจังแทนการออกเสียงพูด

ใบหน้าเยาว์วยั โน้มลงมาจนปลายจมูกชิดกัน แลเห็นขน


ตายาวปรกลงทีข้างแก้ม นําเสียงอ่อนนุ่มเจือด้วยความ
เศร้าโศก รูท้ งรู
ั ว้ า่ เสแสร้ง แต่หวั ใจก็มิอาจหักห้ามอาการ
สันไหวอย่างรุนแรง

“เหวินเกอ ท่านไม่รกั ข้าหรือ”

“ข้าไม่เคยบอกเจ้าเช่นนันเสียหน่อย….”
261
เห็นหยาดนําใสคลอหน่วยอยูบ่ นแก้วตาคูง่ ามก็ทนมอง
ไม่ได้ เปิ ดโอกาสให้บรุ ุษทีคร่อมอยูด่ า้ นบนลอบยิมกริม
เลือนหน้าลงไปยังแผ่นอกตึงแน่น มุง่ สูจ่ ดุ หมายเพียง
หนึงเดียว ปลายลินไล้วนรอบฐานอกก่อนจะส่งยอดถัน
เข้าไปในริมฝี ปาก

เฉินเหวินเค่อรูส้ กึ ถึงของเหลวสายหนึงกําลังไหลหลัง
ออกจากร่างกาย เขายกมือหมายจะดันศีรษะออก แต่
ยอดอกซ้ายก็ถกู ดูดดึงแรงขึนกว่าเก่า จนต้องคว้าไหล่
ของคนบนร่างมากําแน่น ขณะทีริมฝี ปากสะกดกลัน
เสียงคํารามในลําคอ

“เจ้าละอายแก่ใจตนเองบ้างหรือไม่” เฉินเหวินเค่อกัดฟั น
262
เอ่ยถามคนหน้าด้านทีแย่งนมลูกกินหน้าตาเฉยอย่าง
เคืองๆ

“เปาจือมีแม่นมอยูแ่ ล้ว” ใช้นิวขยีไปทียอดปทุมมาอีก


ข้างทีไม่ได้ลมรส
ิ ทําเอาคนอ้าปากพ่นไฟต้องหุบฉับ
“เช่นนันทีมีอยูก่ ็น่าเสียดายแย่ ข้าจึงเสียสละตน
เองอย่างไรเล่า”

เฉินเหวินเค่อคว้ามือทีเลือยลงไปข้างล่าง “หยุดเดียวนี
นะ อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”

“ถ้าท่านรังเกียจข้าก็ผลักไสข้าเสีย ข้าจะไม่แตะต้อง
หรือมาให้ทา่ นเห็นหน้าอีก”

263
เฉินเหวินเค่อเมินเฉยต่อถ้อยคํานัน ไม่เชือว่าคนอย่าง
เฉินลูป่ ิ นมีหรือจะทําได้ แต่จ่ๆู ความคิดสายหนึงก็แล่น
ปราดเข้ามาในหัว สีหน้าท่าทางยามเอ่ยประโยคเมือครู ่
ดูจริงจังมากทีเดียว แล้วถ้าหากอีกฝ่ ายพูดจริงขึนมา
เล่า….

“เจ้านีมัน…เจ้าเล่หน์ กั นะ”

เฉินลูป่ ิ นยกยิมงาม “หากเจ้าเล่หไ์ ม่พอคงไม่อาจเป็ น


สามีของท่าน”

สัมพันธ์ทางกายทีเว้นช่วงมาเนินนาน เฉินลูป่ ิ นทีเคย

264
อ่อนโยนเสมอมายังพ่ายแพ้ให้กบั ความอัดอันทีค้างสุม
เอาไว้

หยาดโลหิตในอกกลันเป็ นนํานม เดิมทีก็เพือลูกน้อยผู้


เป็ นเลือดเนือ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าข้างกายจะมีเด็กไม่
รูจ้ กั โตอยูอ่ ีกคน

ข้างห้องมีบา่ วรับใช้มากมายเฝ้าระวังและดูแลทายาท
เพียงคนเดียว ทําให้เฉินเหวินเค่อต้องพยายามอย่าง
มาก ทีจะกลันเสียงครวญครางไม่ให้เล็ดลอดออกไป

รุง่ ขึนบ่าวรับใช้ทีเข้ามาปลุกเจ้านายทังสองมีสีหน้างุนงง
อย่างเห็นได้ชดั เมือเห็นว่าบนซีกแก้มขวาของหวางเย่มี

265
รอยแดงรูปฝ่ ามือเด่นเป็ นสง่า ในขณะทีหวางเฟยตวัด
สายตาน่าหวาดหวันมองราวอยากจะกินเลือดกินเนือ
ก่อนจะผล็อยหลับไปอย่างคนทีใช้แรงมากจนอ่อนเพลีย

เฉินลูป่ ิ นอาศัยช่วงอารมณ์ออ่ นไหวหลังคลอดหลอกล่อ


หวางเฟยของตนเสียหลายรอบ พอเฉินเหวินเค่อ
ตระหนักได้ขนมา
ึ ทังจวนจึงได้เห็นภาพสามีรูปงามวิง
หนีภรรยาทีไล่กระทืบอย่างเอาเป็ นเอาตาย

266
ข้อมูลเพิมเติม

[1] เสียนจู่ (縣主) ตําแหน่งเชือพระวงศ์หญิงหรือท่าน


หญิง ขัน 2 ชันรอง ผูท้ ีจะได้รบั ตําแหน่งนี จะต้องเป็ น
พระธิดาในอ๋องเท่านัน สําหรับพระธิดาในจวินอ๋อง ไม่มี
การแต่งตัง

[2] พิธีครบเดือน พิธีครบเดือน หม่านเย่ว(


์ 满月)
หรือทีชาวจีนโบราณเรียกว่าหมีเย่ว(
์ 弥月)ถือ
เป็ นพิธีกรรมทีสําคัญทีสุดในบรรดาพิธีกรรมเกียวกับการ
เกิด มีมาตังแต่สมัยราชวงศ์ถงั ประกอบไปด้วยการโกน

267
ผมไฟ การจัดเลียงในหมูญ
่ าติสนิทมิตรสหาย และการ
ตังชือให้เด็ก การตังชือนันมีทงชื
ั อจริงและชือเล่น ในส่วน
ของชือเล่นหรือทีเรียกกันว่า ชือนํานม(乳名)
สําหรับชือจริงหรือ ต้าหมิง (大名) เป็ นชือทีใช้ตอน
เรียนหนังสือหรือตอนโต จะตังโดยผูใ้ หญ่ในตระกูลหรือ
ผูม้ ีอาํ นาจวาสนา โดยให้ความสําคัญในเรืองของความ
หมาย ทังนี จะแตกต่างกันไปตามความปรารถนา การ
รอคอย ความชอบของผูใ้ หญ่ในแต่ละครอบครัว

[3] ซานจา ซานจาเป็ นผลไม้ประเภทเบอร์รชนิ


ี ดหนึง มี
ชือภาษาอังกฤษว่า Hawthorn Berry เป็ นผลไม้ทีได้จาก
ต้น Crataegus monogyna หรือ C.laevigata สาย
พันธุใ์ นจีนนันคือ Crataegus pinnatifida (Chinese
Hawthorn) มักจะนิยมนํามาแปรรูปเป็ นผลิตภัณฑ์ตา่ งๆ

268
ไม่วา่ จะเป็ นแยมผลไม้ เจลลี นําผลไม้ และเครืองดืม
แอลกอฮอล์ชนิดต่างๆ เป็ นต้น

[4] ถังหูลู่ ในภาษาจีนนัน หมายถึง นําเต้าเคลือบ


นําตาล เพราะว่าแต่เดิมเขาใช้ผลไม้ชือว่านําซานจา แค่
สองลูกมาเสียบไม้ โดยเสียบให้ลกู เล็กอยูข่ า้ งบน ลูก
ใหญ่อยูข่ า้ งล่าง ทําให้มีถงั หูลมู่ ีรูปร่างลักษณะคล้ายกับ
นําเต้า จึงเรียกขนมหวานชนิดนีว่า ถังหูลู่

[5] เปาจือ : ซาลาเปา

[6] เมือทารกครบสามวัน จะมีพิธีลา้ งวันทีสาม หรือ สี


ซันเจา(洗三朝)ในวันนีจะเป็ นการอาบนําให้

269
เด็กเป็ นครังแรกนับแต่คลอด จึงต้องพิถีพิถนั ตังแต่การ
เลือกภาชนะ นํา รวมถึงผูป้ ระกอบพิธี ในสมัยราชวงศ์ชิง
เชือพระวงศ์จะใช้อา่ งซึงทําจากโลหะ 5 สี ส่วนสามัญชน
ใช้อา่ งทองแดง นําทีใช้อาบมีชือเรียกว่า ฉางโซ่
วทัง(长寿汤)มีความหมายว่า นําอายุมนขวั
ั ญ
ยืน

270
ตอนที ๒๙ ชีวิตคูต่ อ้ งมีความเชือใจ

ช่วงปลายเดือนสิบเริมเกิดนําค้างแข็ง ซือหม่าเดินมายัง
ทีพักของรองแม่ทพั ประจําค่ายชายแดนตะวันออก พบ
จิงเสวียยืนมองท้องฟ้ามืดสนิทราวเทพเซียนสาดนําหมึก
คืนเดือนดับไร้แสงจันทร์ หมูด่ าวจึงสว่างไสว

ซือหม่าเห็นเพียงใบหน้าด้านข้าง แต่เพราะรูจ้ กั กันมา


นานจึงดูออกว่าอีกฝ่ ายมีเรืองกังวลใจ

271
“มีจดหมายมาถึงเจ้า

“จากพ่อข้า?” จิงเสวียเลิกคิว พยักหน้าพ่นลมหายใจ


เหนือยอ่อน “เผาทิงไปเถอะ ก็เหมือนเดิมนันแหละ”

ซือหม่าเก็บจดหมายเข้าอกเสือ ก้าวเท้าไปยืนใกล้ๆ คบ
เพลิง ตอนเขาเกิดมารดาร่างกายบอบชํา พอฤดูหนาวที
ไรก็ทนความเย็นไม่คอ่ ยจะได้

จิงเสวียดึงเสือคลุมระฆังสีเปลือกไม้ไร้ลวดลาย ตวัด
คลุมให้ซือหม่า มือซีดสันน้อยๆ ยามลูบแถบขนสัตว์รา่ ง
กายก็รูส้ กึ ค่อยยังชัว

272
“ขอบคุณ”

“เจ้านีนะ รูว้ า่ ทนอากาศหนาวๆ ไม่ได้ยงั ไม่ยอมสวมเสือ


คลุมกันลมมาอีก” จิงเสวียเอ่ยดุ

“หิมะยังไม่ตกเสียหน่อย!” ซือหม่าเถียงกลับทันควัน

“เจ้าคิดว่าตอนนีเดือนสีอยูห่ รือ ยามอยูก่ บั ท่านแม่ทพั


เจ้านอบน้อมเชือฟั ง ไยกับข้าถึงลําเอียงนักนะ”

“ท่านแม่ทพั ลงจากตําแหน่ง แต่กองทัพตะวันออกไม่


สมควรขาด และไม่อาจไร้ซงผู
ึ น้ าํ ” ซือหม่าเปิ ดประเด็น
เห็นสีหน้าอีกฝ่ ายเปลียนก็ทราบว่าจิงเสวียคงได้ยินคํา
273
โกหกพกลมพวกนันแล้ว “คนส่วนมากไม่คอ่ ยนับถือเจ้า
ทังยังพูดอีกว่าหากบิดาเจ้าหาใช่แม่ทพั ใหญ่จิง และพี
ชายเจ้าทีเคยเป็ นรองแม่ทพั ตะวันออกมาก่อน คือสหาย
ร่วมเรียนของท่านแม่ทพั คิดว่าเจ้าจะสามารถก้าวมาถึง
จุดนีได้งนหรื
ั อ”

“กุนซือผูป้ ราดเปรือง ริมฝี ปากสวยๆ ของเจ้าช่างคมดุจ


ใบมีดโกน” จิงเสวียแค่นยิมประชดประชัน แต่นาํ
เสียงกลับยอมรับอยูใ่ นที “ตอนข้าดึงดันจะเข้ากองทัพ
เช่นเดียวกับพีข้า ท่านพ่อกีดกันเรืองนีมาก แต่ทา่ นแม่
ทัพก็ยอมรับข้าเข้ามา เหมือนกับตอนทีท่านรับอุปการะ
เจ้า ท่ามกลางเสียงคัดค้าน ทังยังทําให้ทา่ นแม่ทพั ผิดใจ
กับท่านพ่อ เรืองนีข้าละอายนัก”

274
เพราะฉะนันหลายปี มานีจิงเสวียพยายามอย่างมาก เพือ
จะพิสจู น์ตนเองว่าคูค่ วร

“ผูค้ นมักไม่ชอบเห็นผูอ้ ืนได้ดี โดยเฉพาะคนทีเกิดมา


พร้อมเช่นเจ้า ล้วนได้ทกุ อย่างมาง่ายดาย”

“แล้วเจ้าเล่า อิจฉาข้าบ้างไหม” จิงเสวียถาม

ซือหม่าเหยียดยิมแล้วตอบว่า “ข้ามันตําต้อย ไยจะไม่


เคยอิจฉา พูดก็พดู เถอะ บางทีเส้นทางนีอาจไม่เหมาะ
กับเจ้า วันหนึงชะตาฟ้าลิขิต ดลบันดาลให้เจ้าพบรักกับ
ใครสักคน เจ้าอาจจะพบเส้นทางอืน เส้นทางทีจะมีคน
ร่วมเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ไปจนสุดปลายทาง”

275
“พ่อข้าส่งจดหมายเร่งเร้าเรืองแต่งงานตลอด คงหวังว่า
หากข้าพบคนดีๆ เหมือนอย่างพีสะใภ้ ข้าจะได้เลิกดือดึง
อยูท่ ีนีแล้วกลับไปเมืองหลวง แต่ขา้ ไม่เคยคิดเรืองแต่ง
งานมาก่อน แล้วเจ้าล่ะ”

“แม่ขา้ ถูกฉุดมาเป็ นโสเภณี บิดาข้าคือเป็ นโจรกักขฬะ


ตัวข้าเกิดมาเป็ นลูกครอก เกือบจะเดินตามรอยมารดา
คอยอ้าขาให้ผคู้ นยํายี ฟั งเช่นนีเจ้าคิดว่าข้ายังสามารถ
คิดเรืองแบบนันได้อีกงันหรือ”

ซือหม่าถูกยีหวั จนฟู ครันส่งสายตาไม่พอใจ จิงเสวียก็ยิง


หัวเราะเสียงดัง

276
“ถ้าเกิดเจ้าไม่มีใคร หากอีกสองสามปี ขา้ ไร้ความ
สามารถ สร้างผลงานไม่ได้ ข้าจะยอมกลับเมืองหลวง
บอกท่านพ่อว่าจะแต่งกับเจ้า”

ซือหม่าคว้าเสือคลุมปาคืนเจ้าของ ก่อนจะกล่าวว่า “จิง


เสวีย จะดีชวเจ้
ั าก็เกิดมาในสกุลขุนนางใหญ่ เจ้าเป็ น
ใครข้าเป็ นใครใจเจ้ารูด้ ีทีสุด…” ยังเอ่ยไม่ทนั จบประโยค
ดวงตาเหลือบไปเห็นแสงสีสม้ เด่นสง่า ท่ามกลางผืนฟ้า
มืดมิด

สูดลมหายใจลึกได้กลินควันไฟลอยมาตามลม เท่านัน
บรรยากาศสบายๆ ก็ปลิวหายไปในพริบตา

277
“เลยค่ายพิทกั ษ์ชายแดนตะวันออกไปคือเมืองผีซวิ ทุก
จุดทีเกิดไฟไหม้เป็ นจุดทีเป็ นหมูบ่ า้ นและพืนทีทาง
เกษตรทังนัน เป็ นไปไม่ได้ทีจะเกิดเพลิงไหม้พร้อมกัน
เยอะขนาดนี” ซือหม่าเดินตามจิงเสวียเข้ากระโจม รออีก
ฝ่ ายอยูใ่ นชุดเกราะพร้อมรบแล้วค่อยพูดต่อ “คนชัวช้า
สามานย์ ในทีสุดก็โผล่หางออกมาเสียที”

ทุง่ หญ้านอกด่านพริบตาเดียวเงาคนดํามืดเคลือนกาย
เงียบเชียบ กว่าจะรูต้ วั ก็โดนประชิด ผืนดินเริมสัน
สะเทือน หูได้ยินเสียงฝี เท้าของอาชา

จิงเสวียรักษาอารมณ์เยือกเย็น แบ่งกองกําลังส่วนหนึง
เข้าช่วยเหลือประชาชน จากนันจึงกระโดดขึนหลังม้า นํา
278
ทัพเข้าต่อต้านการบุกโจมตีสายฟ้าแลบทันที

เมือชายแดนไร้ซงปี
ึ ศาจทีน่าหวาดหวัน อย่างไรวันนีก็
ต้องมาถึง…

ชาวนอกด่านกับชาวเสวียนบาดหมางกันมาเนินนาน
ต่างกระด้างกระเดือง ในหนึงปี ตอ้ งมีสกั ครังทีจะลอง
ปะทะหยังเชิงกัน นอกจากนันชาวทุง่ หญ้าหากไม่แล้ง
แค้นขาดแคลนอาหาร จนต้องเข้ามาปล้นชิงชาวบ้านใน
แถบชายแดนก็ไม่มีเหตุผลจําเป็ นอืน หลายปี มานีชนเผ่า
นักรบไม่เพียงแค่หาเรืองระบายโทสะในใจ แต่เป็ นการ
รบราฆ่าฟั นอย่างจริงจัง เดิมทีพวกนันแม้คิดแค้น แต่
ท่านแม่ทพั เก่งกาจ หากมิมีคนยุแยงมีหรือจะกล้าเอาคอ
ขึนพาดเขียง
279
ท่านแม่ทพั เชือใจจิงเสวียกับซือหม่า เช่นเดียวกับทีพวก
เขาเชือว่าท่านแม่ทพั จะสามารถลากคอคนบงการเบือง
หลังทีซ่อนหางมานานหลายปี

ดูสวิ า่ หนอนบ่อนไส้ทีกล้าขายชาติเพือผลประโยชน์ของ
ตนเอง จะมีชีวิตได้อีกกีลมหายใจ

“เดียวก่อน!” ซือหม่าควบม้าตัดหน้า “พาข้าไปด้วย”

“เจ้าอยากตายหรือ!”

ร่างกายของซือหม่าชัดเจนมาตังแต่แรกว่าไม่อาจฝึ กวิชา
280
ฝี มือ จิงเสวียรูด้ ีวา่ สหายผูน้ ีเป็ นคนประมาณตน ไม่ทาํ
สิงใดทีเกินกําลังเด็ดขาด

ซือหม่าอ่านสีหน้าทีเต็มไปด้วยคําถามนันออกก็กล่าว
อย่างเร่งรีบ “พวกหน้าด่านเกรงอิทธิพลท่านแม่ทพั
มากกว่าเจ้า ทหารในกองทัพเคารพเจ้าน้อยกว่าเคารพ
ข้า”

ถึงซือหม่ากับจิงเสวียจะอายุเท่ากัน แต่ซือหม่าติดตาม
ท่านแม่ทพั มาตังแต่แรก มีฐานะเป็ นกุนซือคูก่ ายมาก่อน
องค์ชายใหญ่จะได้รบั ราชโองการแต่งตังเป็ นแม่ทพั
ตะวันออก จริงอยูแ่ ม้ฐานะแรกกําเนิดตําต้อย แต่ซือหม่า
ก้าวผ่านการพิสจู น์ฝีมือตนว่าไม่ดอ้ ยค่า ต่างจากจิงเส
วียทียังไม่ถกู ยอมรับมากนัก
281
“เจ้าเปลียนชุดเกราะใช้ทวนแทนดาบ ส่วนข้าจะแต่ง
กายเลียนแบบเจ้า คืนนีคืนเดือนมืดมองไม่ชดั นัก ต่อให้
พวกนอกด่านจะล่วงรูแ้ ล้วว่าท่านแม่ทพั อยูท่ ีเทียนเฉิน
แต่ความหวาดกลัวทีหยังรากลึก สมญานามแม่ทพั เลือด
พวกเราต่างรูแ้ จ้ง”

จิงเสวียกัดฟั นยอมรับอย่างเลียงไม่ได้ ซือหม่าพูดถูก


ตอนนีสถานการณ์ไม่สดู้ ี วุน่ วายโกลาหล ทังยังมีสทิ ธิ
โดนศัตรูประชิดสองทาง สิงใดสามารถเพิมโอกาสชนะก็
ต้องทุม่ เททังหน้าตัก พิทกั ษ์มาตุภมู ิอนั ทรงเกียรติเอาไว้
ให้ได้

282
สบกับดวงตามุง่ มันก็คว้ามือของอีกฝ่ ายมาบีบไว้แน่น

“เจ้าห้ามตายเด็ดขาด!”

ครบกําหนดพิธีครบเดือน เฉินอันหวางและหวางเฟยกระ
ทําการตามราชประเพณี ท่านชายน้อยผูเ้ ป็ นพระราช
นัดดาพระองค์แรกแห่งราชวงศ์เฉิน ได้รบั นามพระราช
283
ทานตัวแรกจากองค์จกั รพรรดิ ‘ฉาง’ อันมาจาก ‘ฉางโช่ว’
อวยพรให้อายุมนขวั
ั ญยืน เมือนํามารวมกับตัวอักษรอีก
ตัวจากบิดามารดาบังเกิดเกล้า จึงได้รบั พระนามเต็มว่า
‘เฉินฉางเล่อ’

เนืองด้วยบุตรชายอายุยงั น้อย ทังยังมีหลายเรืองทีค้าง


คา เฉินเหวินเค่อเองก็มีเรืองทีต้องสะสาง พิจารณาดู
กําหนดการกลับจวนเฉินอันทีฉางซี ยืดยาวออกไปอีก
หนึงปี

ช่วงกลางวันแม่นมของฉางเล่อรายงาน ท่านชายน้อย
ปกติเลียงง่ายไม่งอแง วันนีกลับอารมณ์หงุดหงิด ผาย
ลมบ่อยครัง ทังยังร้องไห้หนัก เมือเรียกแพทย์หลวงมา
ตรวจดูจงึ พบว่าท่านชายน้อยมีอาการท้องอืด
284
ระหว่างปล่อยให้เฉินลูป่ ิ นวุน่ วาย เฉินเหวินเค่อก็เดินลัด
เลาะไปในจวน จนกระทังพบสระบัวสัตตบงกช ทีศาลา
เปิ ดสีด้านกลางสระ แผ่นหลังกว้างใหญ่เป็ นแบบอย่าง
ความกล้าแกร่งให้แก่เขา

ชายผูน้ นหั
ั นหน้ามา ร่องรอยความชรามิอาจปิ ดรัศมีอนั
น่ายําเกรง มือหนึงลูบเครายาว จ้องมองมาทีเฉินเหวิ
นเค่อ “กระหม่อมขอคาราวะเฉินอันหวางเฟย”

“ท่านอาจารย์…”

ตังแต่คราวเฉินเหวินเค่อตกปากรับคําสหายในวัยเยาว์ที

285
ร่วมเรียนหนังสือมาด้วยกันอย่างจิงสุย่ ให้มาเป็ นรองแม่
ทัพตะวันออก แม่ทพั ใหญ่จิงผูเ้ ป็ นอาจารย์ก็มีทา่ ทีเหิน
ห่างต่อเขา และเมือถึงคราวของจิงเสวีย เฉินเหวินเค่อก็
ได้รบั คํากล่าวสันๆ สามคําจากอาจารย์วา่ ‘สินสัมพันธ์’

มาเยือนคราวนีจิงปูไ้ ม่ออ้ มค้อม “ถึงเวลาแล้ว”

เฉินเหวินเค่อได้ยินก็สดู ลมหายใจลึก สิบปี ทีผ่านมาหลัง


จากประจํายังชายแดน แม่ทพั ตะวันออกคนก่อนทีขอ
เกษี ยณตัวจากโรคชรามีแค่คาํ แนะนําถึงเขาสันๆ

ถัดจากชายแดนตะวันออกเป็ นทุง่ หญ้า มีชนเผ่านอก


ด่านหลายสิบชนเผ่า ทังชนเผ่านักรบทีคุน้ เคยกับหลังม้า

286
ตังแต่หา้ ขวบ หรือจะเป็ นเพียงชนเผ่าเร่รอ่ นเลียงสัตว์
ย้ายถินฐานไปเรือยๆ

หน้าทีของแม่ทพั พิทกั ษ์ชายแดนคือหน้าด่านกันชน คอย


รับมือกับความไม่สงบเป็ นระยะ เดิมทีไม่หนักหนา

ปี หนึงมีเพียงฤดูหนาวทีพวกชนเผ่าจะแอบลักลอบเข้า
มาปล้นสะดมหมูบ่ า้ นตามชายแดนเพือสะสมเสบียง
นอกจากนันแต่ละวันก็เงียบสงบดี อาจจะพบเจอพ่อค้า
เถือนทีคอยรับซือของโจรหรือลอบขนส่งสินค้าส่งตลาด
มืด แต่อิทธิพลของคนกลุม่ นีเกือหนุนด้านเศรษฐกิจของ
แผ่นดินในทางหนึง ราชสํานักจึงหลับตาข้าง ทําเมินมอง
ไม่เห็น ถ้าไม่ก่อเรืองวุน่ วายก็ไม่จาํ เป็ นต้องไปข้องเกียว

287
แต่ไม่รูท้ าํ ไมทันทีทีเฉินเหวินเค่อเหยียบย่างเข้ากองทัพ
พิทกั ษ์ชายแดนตะวันออก พวกชนเผ่าทีมักจะก่อความ
วุน่ วายพากันแข็งข้อบุกโจมตีเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน ทัง
อาวุธในมือหาใช่ของไร้คณ
ุ ภาพหรือทําจากกระดูกสัตว์

แผ่นดินเสวียนเฉินผืนดินอุดมสมบูรณ์มีพืนทีติดชาย
ทะเล การค้าขายภายในภายนอกล้วนเจริญรุง่ เรือง ด้าน
อาวุธของกองทัพได้ลงนามสัญญาพันธมิตรกับทางหลู่
เหริน แลกกับผลิตภัณฑ์ทางเกษตรทีสําคัญทีสุดอย่าง
ข้าวเจ้าและข้าวสาลี หากหลูเ่ หรินคิดจะแข็งข้อก็สมุ่
เสียงเกินไป

ช่วงนันสกุลหร่วนยังรุง่ เรืองกุมอํานาจราชสํานัก มี
288
ฝักฝ่ ายขุนนางใหญ่สนับสนุนมากมาย เฉินเหวินเค่อไม่มี
ทางถูกปองร้ายจากคนทีหวังจะให้เขาขึนครองราชย์ตอ่
เพียงแต่เรืองของอํานาจไม่เข้าใครออกใคร ราชวงศ์เฉิน
มีทงสายหลั
ั กสายรอง มีทงสกุ
ั ลขุนนางทีต้องโทษทัณฑ์
จากรัชกาลก่อน กลุม่ อํานาจมากมายวุน่ วาย

เฉินเหวินเค่อบากบันตลอดสิบปี สร้างชือเสียงคาวเลือด
เบืองหน้าโหดเหียมอํามหิต เบืองหลังตามสืบข่าว

เพียงแต่ทีคาดไม่ถงึ คือตัวตนของเขา กลับทําให้การสืบ


หาต้นตอยากลําบากกว่าเดิม

“ตอนหวางเฟยได้รบั สมรสพระราชทาน หวางเฟยกล่า

289
วว่าไม่อาจมีสงใดกระทบแผนการ
ิ เมือไร้ซงแม่
ึ ทพั เลือด
กลยุทธ์ถอยเพือรุก รังรอเหยือมาติดกับ คราวนีสิงที
เดิมพันสัมฤทธิผลแล้ว”

เฉินเหวินเค่อถอนหายใจยาว “หากเห็นแก่ในอดีตข้าเคย
ได้กราบไหว้ทา่ นเป็ นอาจารย์ โปรดอย่ากล่าววาจาห่าง
เหินเช่นนันเลย”

จิงปูย้ กยิมน้อยๆ มองทะลุผา่ นความเย็นชาทีฉาบไล้ มี


หรือจะหลอกตาผูเ้ ป็ นอาจารย์ได้

“เหวินเค่อ เจ้าเป็ นคนบอกอาจารย์เองว่าสมรสพระราช


ทานของเจ้าเป็ นแค่ผลประโยชน์ เหมือนเช่นคูส่ ามี

290
ภรรยาทีเป็ นบุรุษต่างร่วมกราบไหว้ฟา้ ดินกันในนาม เช่น
นันตอบอาจารย์ได้ไหมว่า การแต่งงานเพียงในนามทํา
อย่างไรเจ้าจึงคลอดลูกชายราวปาฏิหาริยอ์ อกมาได้หนึง
คน”

“ข้า…” เฉินเหวินเค่ออึกอัก รูส้ กึ ราวมีกอ้ น


บางอย่างกระจุกอยูใ่ นคอ ครันจะให้ยืนยันคําเดิม ยาม
นึกถึงใบหน้าเปื อนรอยยิมเป็ นสุขของใครบางคน เขาพูด
ออกมาไม่ได้จริงๆ

“คนคํานวณมีหรือจะสูล้ ขิ ิตฟ้า คํากล่าวนีใช้ได้ทกุ ยุคทุก


สมัย เจ้าคงไม่คาดคิดว่าตัวเองจะมีใจให้กบั สามีของเจ้า
ใช่หรือไม่”

291
เห็นลูกศิษย์อบั จนในคําพูด จิงปูห้ วั เราะสาสมใจ ใต้หล้า
นีจะมีสกั กีคนทีสามารถไล่ตอ้ นองค์ชายใหญ่

“เอาเถิดเจ้าไม่พดู อาจารย์ก็ดอู อกว่าเจ้ารักเขา” จิงปูเ้ ห็น


ลูกศิษย์เริมคิวขมวด ลมหนาวพัดผ่าน จมูกจึงแดงระเรือ
“ฝ่ าบาทเรียกประชุมขุนนางด่วน เวลาไม่เช้าสมควรรีบ
เดินทาง มาดูกนั เถิดว่าผูใ้ ดจะเผยพิรุธออกมา”

เฉินเหวินเค่อรีบเร่งเปลียนเป็ นชุดตัวยาวให้เหมาะแก่
การเข้าวัง ขณะกําลังเดินออกจากจวน บุรุษในอาภรณ์สี
ม่วงอ่อนก็รบี เร่งมาถามด้วยใบหน้าสงสัย

292
“เหวินเกอท่านจะไปไหน ทําไมจึงไม่บอกข้าเล่า”

“ข้าจะเข้าวัง”

เฉินลูป่ ิ นถามต่อ นําเสียงมีความร้อนรน “เข้าวัง? เกิด


เรืองอะไรขึน”

เฉินเหวินเค่ออ้าปากเตรียมตอบ แต่เห็นสีหน้าเป็ นห่วง


เป็ นใยนัน ข้ออ้างมากมายกลับไม่กล้าทีจะเอ่ย

“เฉินอันหวาง…” แม่ทพั ใหญ่ลงจากรถม้า ส่งสายตา


ตําหนิติเตียนให้เฉินเหวินเค่อ แล้วจึงพูดว่า “ฝ่ าบาททรง
พระประชวร ข้าผ่านมาพอดีจงึ คิดจะรับหวางเฟยเข้าวัง
293
จะได้ไม่เสียเวลา”

“ฝ่ าบาททรงพระประชวร เหตุใดข้าจึงไม่ทราบข่าว”

“ข้าได้ยินจากหวางเฟยแล้วว่าท่านชายน้อยไม่คอ่ ย
สบาย เฉินอันหวางอาจทรงวุน่ วายกับการดูแลจึงไม่ทนั
ได้ทราบ”

เฉินลูป่ ิ นพยักหน้า “เช่นนันรอข้าประเดียว หากข้าไม่ไป


อาจเกิดข้อครหา”

เฉินเหวินเค่อส่ายหน้าปฏิเสธ “เจ้าอยูด่ เู ปาจือเถอะ มี


เจ้าอยูข่ า้ ไม่กงั วล ลูป่ ิ นเดียวข้ากลับมา ไม่นานนัก
294
หรอก”

คนยืนกรานหนักแน่นยากจะดือรันต่อ หวางเย่ของจวน
สังให้บา่ วรับใช้หยิบเสือคลุมกันลมให้หวางเฟยด้วย
ความเป็ นห่วง รอจนรถม้าเคลือนออกไปไกล เฉินลูป่ ิ น
จึงละสายตา

295
ความเงียบงันในรถม้า ถูกจิงปูเ้ ป็ นฝ่ ายทําลายด้วยการ
เปิ ดบทสนทนา

“เจ้าไม่คิดจะบอกความจริงแก่เขาหน่อยหรือ”

“ไม่จาํ เป็ น...”

สินคํากล่าวก็ไม่มีการพูดคุยระหว่างศิษย์อาจารย์เกิดขึน
อีก จนกระทังเฉินเหวินเค่อกําลังจะก้าวเข้าสูต่ าํ หนักทรง
พระอักษร….แว่วเสียงบุคคลหลายคนกําลังทุม่ เถียงกัน
อย่างไม่มีใครยอมใคร

“เมือมีลกู ชายจึงจะบ่งบอกถึงครอบครัวทีสมบูรณ์ เหวิ


296
นเค่อ…ชีวิตคูค่ ือการเชือใจ ในขณะทีเขามีให้เจ้า แต่เจ้า
กลับไม่มีให้เขา อาจารย์ขอเตือน การทีเจ้าเริมต้นชีวิต
ใหม่ดว้ ยการโกหก….เรืองนีข้าไม่เห็นจุดจบทีสวยงาม
นัก”

“ข้าไม่ใช่ไม่เชือใจเขา แต่วา่ เรืองนี…เขาไม่รูจ้ ะดีกว่า”

เห็นเฉินเหวินเค่อยืนยันในจุดยืนของตน จิงปูก้ ็ไม่คิดจะ


กล่าวถ้อยคําใดเพิม

ถือว่าอาจารย์ผนู้ ี ได้เตือนเจ้าแล้ว…

297
ตอนที ๓๐ ความลับยากรักษา

ตามหลักแล้ว หลังสกุลหร่วนไร้ซงบทบาทในราชสํ
ึ านัก
จักรพรรดิจงึ หวนคืนอํานาจ แต่ในมุมกลับกัน ขุนนางที

298
สามารถไว้วางพระทัยได้ก็ไม่เหลือเลยสักคน

ถึงสกุลหร่วนจะหลงระเริง ชอบอวดอ้างบรรดาศักดิ แต่


ใช่วา่ จะไม่มีดา้ นดีๆ อย่างไรเสียหยกทีเคยนํางาม แม้จะ
แตกหักมีตาํ หนิ แต่ยอ่ มเคยเป็ นหยก ในด้านความภักดี
สกุลหร่วนล้วนมีครบ

ทันทีทีผูม้ าใหม่ทงสองเหยี
ั ยบย่างเข้ามา สรรพสิงพลัน
เงียบสงัด เฉินเหวินเค่อกวาดสายตาไปรอบๆ ก็พบแต่
คนคุน้ หน้าคุน้ ตา มุมปากพลันยกยิม ไม่ตอ้ งบอก
ปรากฏการณ์ตอ่ ไป คาดเดาได้แม่นยําดังตาเห็น

“รายงานจากชายแดนตะวันออกระบุชดั ว่าชนเผ่านอก

299
ด่านทีเข้ามาโจมตี ก่อความวุน่ วายเผาทําลายเมืองผีซวิ
ในมณฑลฉีเหิง ความรุนแรงเกินกว่าจะเป็ นชนเผ่าเร่รอ่ น
ทัวไป เผ่าเก๋อหลันทีเป็ นเผ่านักรบพ่ายแพ้ไปแล้ว แล้ว
ชนเผ่าใดเล่าจะสามารถสร้างความเสียหายได้มากถึง
ขนาดนี กระหม่อมสงสัยใคร่รู ้ จึงได้กระทําตนละลาบ
ละล้วงขอฝ่ าบาทโปรดประทานอภัย เมือกระหม่อมได้
ตรวจสอบอย่างละเอียดจึงพบว่า แท้จริงแล้วการบุกโจม
ตีในครังนีเป็ นการรวมกลุม่ กันของพวกเมียน ถูจือ เปย
ไห่ อูน่า เก๋อหลัน และติวข่าย สีเผ่าแรกทัวทังราชสํานัก
และไพร่ฟา้ ประชาชนต่างรูแ้ จ้งว่าเฉินอันหวางเฟยเป็ นผู้
ปราบปราม เช่นนันกระหม่อมขอบังอาจทูลถาม เหตุใด
พวกเร่รอ่ นป่ าเถือนนอกดินแดนจึงสามารถกลับมาแว้ง
กัดพวกเราชาวเสวียนได้ เฉินอันหวางเฟยโปรดไขข้อ
ข้องใจให้พวกเราและฝ่ าบาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

300
“ทุกคํารายงานของข้าเป็ นจริงไม่บิดพลิว” เฉินเหวินเค่อ
ยืนกรานหนักแน่น “เรืองนีข้าเองก็แปลกใจเช่นกัน” จาก
นันเขาหันไปประสานมือ ทูลต่อองค์จกั รพรรดิ “เสด็จพ่อ
ลูกรับใช้แผ่นดินด้วยใจจริง ไม่มีวนั คิดคดเป็ นอันขาด”

สิบปี ทีผ่านมาเฉินเหวินเค่ออาศัยเบืองหน้าโหดเหียมไร้
ความปรานี เพือสร้างข้อดูแคลนและไม่ให้ศตั รูไหวตัวทัน
ดังนันสีชนเผ่าทีกล่าวมาเขามันใจว่าตัวเองกวาดล้างจน
สิน ไม่มีทางเหลือหนทางให้ศตั รูกลับมาแก้แค้น หรือ
หากมีเหลือรอด ด้วยจํานวนคนเพียงหยิบมือก็ทาํ อะไร
ไม่ได้มาก

เรืองนีเป็ นสิงทีอยูน่ อกเหนือการคาดการณ์ของเขาเช่น


301
กัน

“อาศัยเพียงนําคําหนักแน่นมิอาจพิสจู น์สงใดได้
ิ เกรงว่า
หากเฉินอันหวางเฟยมิมีขอ้ สรุปทีชัดเจนกว่านี เท่ากับว่า
พระองค์หลอกลวงเบืองสูง ชักนําภัยมาสูแ่ ผ่นดิน”

เฉินเหวินเค่อปรายสายตาคมกริบ “ใต้เท้าเจิง…ตัวเรา
แม้จะแต่งออกนอกราชวงศ์เฉินสายหลัก แต่เราก็ยงั คง
เป็ นพระราชโอรสพระองค์แรกของจักรพรรดิฝไู ฉ ทังสามี
ผูเ้ ป็ นราชบุตรเขยแม้เป็ นสายรอง แต่ก็คือแซ่เฉินเช่นกัน
วาจาเช่นนันมิบงั อาจเกินไปหน่อยหรือ”

เพียงเปลียนสรรพนามแทนตน ใต้เท้าขุนนางทีอ้าปาก

302
เถียงฉอดต่างสูดลมหายใจลึก ทราบดีวา่ องค์ชายใหญ่
สมัยยังดํารงพระยศเว่ยหวาง รังตําแหน่งแม่ทพั ตะวัน
ออก ถึงนิสยั จะไม่น่าคบค้าสมาคม แต่พระองค์ก็มิใช่
เชือพระวงศ์ทีเคร่งครัด

ยกนิวขึนมานับครังได้เลยว่า องค์ชายใหญ่เคยแทนตัว
ว่า ‘เรา’ กีครัง ล้วนไม่ถงึ ห้านิว

เสียแต่วา่ โอกาสในการแก้แค้นไม่ได้มาให้คว้าไว้บอ่ ยๆ
ขุนนางครึงหนึง เฉินเหวินเค่อล่วงเกินมาแล้วทังสิน

“ถ้าเกิดบังอาจล่วงเกินแล้วได้ขอ้ เท็จจริงกระหม่อมก็ขอ
บังอาจ บัดนีทีชายแดนตะวันออกมีผรู้ กั ษาการณ์คือรอง

303
แม่ทพั แต่ในทีนีทุกคนล้วนทราบดีวา่ รองแม่ทพั จิงหาได้
รับตําแหน่งอย่างใสสะอาด เพียงอาศัยราชโองการพระ
ราชทานรางวัลทีเฉินอันหวางเฟยร้องขอ ความสามารถ
ของเขายังมิได้เป็ นทียอมรับนัก ถึงแม้เขาจะสกุลจิง แต่
ใช่วา่ จะเก่งกาจเสียทังหมด” ขุนนางด้านข้างใต้เท้าเจิงก
ล่าวเสียงฉะฉาน ใช้ศอกสะกิดเตือน เจิงไฉฝูก็รวบรวม
สติรบี กล่าวเสริมต่อ “จริงดังทีใต้เท้าถังกล่าว และถึงแม้
หวางเฟยจะพิสจู น์ได้วา่ ไม่รูเ้ ห็นเกียวกับเรืองชนเผ่าทัง
ห้า แต่วา่ การทีพระองค์ให้ผไู้ ร้ความสามารถครอบครอง
ตําแหน่งสําคัญอย่างมิชอบธรรม อย่างไรก็ตอ้ งรับผิด
ชอบ”

“ใต้เท้าหลายท่านกังขาในตัวจิงเสวีย หากเทียบกับอดีต
รองแม่ทพั จิงสุย่ เขาอาจยังอ่อนประสบการณ์ แต่วา่ ใน

304
ตอนทีเฉินอันหวางเฟยทูลขอพระราชทานตําแหน่งจาก
ฝ่ าบาท ข้าเป็ นผูเ้ ห็นชอบอย่างลับๆ เช่นนันแล้ววาจา
เมือครู ่ มิคิดว่าดูแคลนกันเกินไป” จิงปูเ้ อ่ยเสียงสูง ตังคํา
ถาม แต่มิมีผใู้ ดกล้าตอบ

แม่ทพั ใหญ่จิงแตกหักกับองค์ชายใหญ่เพราะลูกชาย
สองคน เรืองนีขนาดประชาชนทัวไปยังทราบ ไยพวกตน
เป็ นถึงใต้เท้าขุนนางแห่งราชสํานักจะไม่ทราบด้วย

แต่ความสัมพันธ์จากทีปรากฏกลับไม่เหินห่าง ทว่าเมือ
คิดอีกมุมหนึง แม่ทพั ใหญ่จิงแม้เป็ นคนจริงจัง แต่ก็เป็ น
บิดาคนหนึง กับลูกชายทีเกิดจากจิงฟูเหริน มีหรือจะไม่
ให้ความสําคัญ

305
ข้อพิพาทยืดยาวไม่จบสิน จวบจนมีคนกล่าวข้อเสนอ
หนึงทีทุกคนต่างเห็นพ้อง เว้นเพียงเฉินเหวินเค่อทีสาย
ตาเย็นชาขึนทันที ส่วนจิงปูว้ างท่าทีนิงเฉย แต่สายตาก็
พิจารณาการแสดงออกของขุนนางทุกคนโดยละเอียด

“ชีวิตของประชาชนฝากฝังไว้กบั รองแม่ทพั จิง จากความ


เห็นของกระหม่อมสุม่ เสียงเกินไป ชายแดนตะวันออก
เฉินอันหวางเฟยคุน้ เคยมากทีสุด ทังชนเผ่าต่างๆ
พระองค์ก็เคยปราบปรามมาแล้วทังสิน ในเมือหาข้อล้าง
มลทินไม่ได้ มิสฝู้ ่ าบาทคืนตราแม่ทพั ตะวันออก ปกป้อง
แผ่นดินพิสจู น์ความบริสทุ ธิ!”

“องค์ชายใหญ่พงมี
ึ ทายาทสืบทอดจวนเฉินอัน ใจคอใต้
306
เท้าทังหลายจะพรากมารดาจากเด็กน้อยทียังตังไข่ไม่ได้
คุณธรรมจริยธรรมช่างสูงส่งเหลือเกิน” จิงปูก้ ล่าวประชด
ประชัน

“พอ” จักรพรรดิตรัสด้วยสุรเสียงแสดงความเหลืออด
นัยน์ตาคมกริบสีขีเถ้าหยุดมองอยูท่ ีลูกชายคนโต “หลัง
จากเฉินอันหวางเฟยลงจากตําแหน่งแม่ทพั ตะวันออก
เป็ นเราทีรังรอหาผูเ้ หมาะสม เช่นนันจะกล่าวโทษมิใช่วา่
ต้องโทษเราด้วยหรือไม่ใช่”

จักรพรรดิทรงกล่าวโทษตนเอง แต่จะมีผใู้ ดเล่ากล้าเอ่ย


ปากบอกว่าจริง

307
โดยปกติแล้วอํานาจของขุนนางแบ่งเป็ นสามฝ่ ายใหญ่ๆ
คือฝ่ ายบุน๋ ฝ่ ายบู๊ และผูด้ าํ รงตนเป็ นกลาง แต่ราชสํานัก
ขาดความสมดุลมาตังแต่รชั สมัยก่อน มาจวบจนถึงรัช
สมัยฝูไฉของจักรพรรดิองค์ปัจจุบนั ผูท้ ีสามารถคาดเดา
อารมณ์ของฝ่ าบาท ในทีนีหากไม่นบั ไป๋ หลิงอี จิงปู้ เฉิน
เหวินเค่อ และเกากงกงท่านข้าหลวงใหญ่ ก็เหลืออยูไ่ ม่
มาก

ไป๋ หลิงอีสงั เกตเห็นพระขนงเริมบีบเข้าหากัน เขาคาด


เดาทิศทาง จักรพรรดิมิอยูใ่ นอารมณ์จะรับฟั งขุนนางทุม่
เถียงกันไม่รูจ้ บสิน ครันเมืออ้าปากจะกล่าวสักคํา จิงปูก้ ็
พูดนําขึนมาเสียก่อน

“กระหม่อมขอเสนอให้สง่ ทัพเสริมเข้าไปช่วยเหลือทีชาย
308
แดนตะวันออก ภายใต้ธงชิงหลงมีกนุ ซือปี ศาจคอยชีนํา
ทัพตะวันออกย่อมไม่แตกพ่ายโดยง่าย ส่วนเรืองของเฉิน
อันหวางเฟย กล่าวหนักแต่หลักฐานเบา ขอฝ่ าบาทโปรด
พิจารณาให้ถีถ้วนพ่ะย่ะค่ะ”

แม่ทพั ใหญ่จิงนับเป็ นหัวหอกแห่งฝ่ ายอํานาจหนึงในราช


สํานัก เดิมทีบนุ๋ บู๊ทาํ งานร่วมกันใช่วา่ จะถูกกัน แต่ละ
ฝ่ ายต่างมีขอ้ พิพาทภายใน

ใต้เท้าขุนนางหลายท่านลอบสังเกตสีหน้าของใต้เท้าไป๋
สกุลเก่าแก่มีสตรีครองตําแหน่งหวงโฮ่วมาแล้วถึงสอง
พระองค์ เห็นว่าหลับตานิงฟั งข้อเสนอไม่คดั ค้าน ก็รบั
ทราบกันโดยทัวกัน

309
“ดี เช่นนันทําตามจิงอ้ายชิง ส่วนเรืองอืนเราจะเป็ นคน
ตัดสินใจเอง”

ขามาเฉินเหวินเค่ออาศัยรถม้าของจวนแม่ทพั ใหญ่จิง
ขากลับก็ตอ้ งห้อยติดไปอย่างเลียงไม่ได้

310
รถม้าแล่นเอือยเฉือยตามทาง นึกย้อนกลับไปสมัยนัน
เขามีคาํ ถามมากมายทีอยากจะเอ่ยถามท่านอาจารย์อยู่
เสมอ บัดนีเติบใหญ่มาจนอายุเท่านีก็ไม่เคยเปลียน เฉิน
เหวินเค่อทราบดีวา่ ผูอ้ าวุโสแห่งฝ่ ายบู๊หาได้ปกป้องเขา
เพราะหลงเหลือเยือใยฉันท์ศิษย์อาจารย์ แต่ทาํ ไปเพราะ
เห็นแก่เสด็จพ่อมากกว่า

เฉินเหวินเค่อเอ่ยขึนมาเรียบๆ “ศัตรูทีแท้จริงหาใช่คนที
มุง่ ร้าย แต่กลับกลายเป็ นคนข้างกายทีคาดไม่ถงึ เสมอ…
ในสายตาของท่านอาจารย์ยอ่ มเห็นได้ชดั แจ้งกว่าศิษย์”

จิงปูเ้ หยียดยิม ถึงเฉินเหวินเค่อจะทําให้ข่นุ เคืองใจ แต่


อย่างไรความจริงทีว่าศิษย์คนโปรดทีเชิดชู ตลอดมาก็ยงั
311
เป็ นคนเดิม “คนทีน่าสงสัยทีสุดกลับมิใช่คนทีถือโอกาส
กดเจ้าให้ตกตํา แต่เป็ นคนทีทําทุกอย่างให้หลุดพ้นจาก
ข้อสงสัย เหวินเค่อ…เจ้าคิดอย่างไรกับไป๋ หลิงอี”

เฉินเหวินเค่อนิงคิด สกุลไป๋ แต่เดิมเคยดํารงตําแหน่ง


เสนาบดีสาํ นักราชเลขานุการ มีศกั ดิเสมออัครเสนาบดี
หากแต่ตกตําลงด้วยเพราะสกุลลวี ภายหลังเหวยกุย้
เฟยทําทังวงศ์ตระกูลพังพินาศ แต่สกุลไป๋ ก็ไม่อาจกลับ
มายิงใหญ่ดงั เก่าก่อน ขนาดมีสตรีจากสกุลไป๋ เป็ นหวง
โฮ่วถึงสองรัชสมัย

“หลังจากท่านลุงและสกุลหร่วนโดนสําเร็จโทษ ตําแหน่ง
อัครเสนาบดีวา่ งเว้นลง พิจารณาจากความเหมาะสม
และความอาวุโส ใต้เท้าไป๋ มีสทิ ธิได้รบั การแต่งตัง แต่
312
ว่า…”

จิงปูช้ ิงพูดตัดหน้าก่อน ซึงตรงกับสิงทีเฉินเหวินเค่อคิด


“ฝ่ าบาทคิดจะแต่งตังองค์ชายหกเป็ นไท่จือได้รบั การยืน
ยันแน่นอน ขาดเพียงราชโองการ อีกไม่นานจ้าวกุย้ เฟย
ย่อมถูกอวยยศตามหลังเป็ นหวงกุย้ เฟย หากไม่ติดว่า
จักรพรรดิทรงเห็นแก่ไท่โฮ่ว และหวังจะยกย่องคุณงาม
ความดีของอันเสียนหวงโฮ่วจากสกุลไป๋ จึงไม่คิดแต่งตัง
สนมชายาคนใดขึนดํารงตําแหน่งแม่ของแผ่นดิน เกรงว่า
จ้าวกุย้ เฟยคงไม่หยุดอยูแ่ ค่หวงกุย้ เฟยเป็ นแน่” หรีสาย
ตามองไปยังลูกศิษย์ทีนังอยูฝ่ ังตรงข้าม มารดาบังเกิด
เกล้าของเฉินเหวินเค่อฝ่ าบาทเองก็ยอ่ มไม่ยอมให้มี
ตําแหน่งแค่กยุ้ เฟย

313
“สกุลไป๋ เป็ นสกุลเก่า ฝ่ าบาทไม่ไว้วางใจให้เป็ นผูช้ ีแนะ
จักรพรรดิองค์ถดั ไป ข้าไม่คิดว่าไป๋ หลิงอีจะสามารถกลับ
คืนตําแหน่งขุนนางขันหนึง มูลเหตุจงู ใจนับว่ามี แต่
กําจัดเจ้าแล้วเขาจะได้อะไร น้องชายทีเหลือของเจ้า
นอกจากองค์ชายหกมีผใู้ ดฐานะเหมาะสมทีไป๋ หลิงอีจะ
สามารถผลักดัน จะมีผใู้ ดทีเขาหวังให้ยกย่องตนเอง”

รถม้าหยุดนิง บ่าวรับใช้กระโดดคว้าบันไดเตรียมพร้อม
ให้เจ้านาย เฉินเหวินเค่อก้าวลงจากรถม้า แหงนหน้า
มองท้องฟ้า เห็นเส้นแสงสีสม้ อยูร่ าํ ไรคล้ายเวลาพลบคํา
แต่เฉินเหวินเค่อรูว้ า่ มันคือแสงของวันใหม่แล้วต่างหาก

จิงปูพ้ ดู ข้อความทิงท้ายเอาไว้ “คิดทําสิงใดพึงระวังตัว


เอาไว้” มือกร้านทีเริมยับย่นตามสังขารลูบเครายาว นํา
314
เสียงจริงจัง แต่ใบหน้ากลับไม่นาํ พา “ก่อนเกษี ยณข้า
ต้องเร่งสร้างผลงานเสียหน่อย มีลกู ชายไม่เอาอ่าว อย่าง
น้อยหากเปลียนรัชสมัย อนาคตจะได้ไม่รุง่ แล้วร่วงลงมา
เร็วเกินไป”

เฉินเหวินเค่อหลุดหัวเราะเสียงแผ่ว ท่านอาจารย์ยงั คง
กล่าวได้ตรงไปตรงมาเหมือนเคย “ต้องฝากท่านแล้ว”

.
315
บ่าวรับใช้ประจําโรงครัวมองหน้ากันเลิกลัก บุรุษรูปงาม
ใช้ชอ้ นตักชิมนําแกงทีตุน๋ ได้ที เมือเห็นว่าได้รสชาติตาม
ทีต้องการก็เผยรอยยิม

มือขาวแบมือ บ่าวรับใช้นิงงัน

“ชาม”

คํากล่าวเพียงหนึงคําจากหวางเย่ ร่างนันก็กระวีกระวาด
ส่งสิงทีเฉินลูป่ ิ นต้องการ นําแกงไก่ตนุ๋ กลินหอมฉุยตักใส่
ชามเรียบร้อย

316
“หวางเย่ ให้บา่ วถือเถอะ”

“นียามใดแล้ว” เฉินลูป่ ิ นใช้ผา้ เช็ดนําแกงทีสาดกระเซ็น


เลอะขอบ

“ยามเหม่าสองเค่อ(5.30 น.)แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“หวางเย่ได้โปรดอย่าทําให้บา่ วลําบากใจเลยพ่ะย่ะค่ะ”

คิวใบหลิวขมวดน้อยๆ “หวางเฟยยังมิกลับมาอีกหรือ”

“หวางเย่~” บ่าวรับใช้รอ้ งเสียงโอดครวญ

317
ขันทีนอ้ ยคนหนึงแห่งจวนหวางวิงเข้ามา เห็น
สถานการณ์โดยรวมก็กรอกตาใช้ความคิดรอบหนึง เป็ น
บ่าวรับใช้เจ้านาย มีหรือจะสามารถเพิกเฉยต่อเจ้านายที
ทํางานของบ่าว หากหวางเย่ยืนควบคุมเรืองวัตถุดิบและ
วิธีการปฏิบตั ิ พวกตนคงมิเป็ นเดือดเป็ นร้อนขนาดนี แต่
นีหวางเย่ลงมือทําทุกอย่างโดยมิให้ผใู้ ดเข้ามายุม่ ย่าม

ถึงไม่ใช่ครังแรก แต่ผใู้ ดจะไปชินได้…บกพร่องในหน้าที


พวกตนล้วนบกพร่องในหน้าที!

“เสียวถงมีอะไร” เฉินลูป่ ิ นหันไปถามขันทีนอ้ ยทีพึงพรวด


พราดเข้ามาในโรงครัว

318
จะว่าไปเห็นเสียวถงพลันนึกถึงบ่าวคนหนึงทีจวนเฉินอัน
เพียงแต่นอกจากชือเสียวถงทังสองคนกลับมิมีสงใด

เหมือนกันสักอย่าง เสียวถงหมายเลขหนึงทีฉางซีขีขลาด
ตาขาวไปหน่อย แต่ก็ซือสัตย์จริงใจ เหวินเกอชอบแกล้ง
แหย่บา่ วน้อยคนนีเล่น ภาพจําทําคนกลัวจนหัวหด กับ
เสียวถงอีกคนเป็ นขันทีนอ้ ยรับใช้จวนเว่ยหวางมานาน
จิตใจกล้าแกร่ง คนสองคนอย่างไรก็ไม่เหมือนกัน

“หวางเฟยกลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เฉินลูป่ ิ นวางช้อนลงบนถาดไม้ ยกเดินลิวออกไปไกล ทัง


ทีท่าเดินส่งสง่า บ่าวรับใช้ยงั ไม่ทนั ได้อา้ ปากแย้ง แค่

319
พริบตาเดียวร่างในอาภรณ์สีออ่ นก็หายวับไปเสียแล้ว

ตังแต่กา้ วเท้าเข้ามาในจวน ภายในใจของเฉินเหวินเค่อ


โหวงเหวง ไม่รูว้ า่ เหตุใดจึงรูส้ กึ เช่นนัน จนตอนได้เห็น
ใครบางคนก้าวเท้าเข้ามาในห้องนอนพร้อมนําแกงหอม
กลินเครืองยาจีนตุน๋ รวมกับไก่ทงตั
ั ว

นําแกงรสดีเพียงใด ท้องเฉินเหวินเค่อร้องโครกคราก…
ให้คาํ ตอบได้ดีทีสุด

สายตาทังสองปะทะกัน เป็ นเขาทีหันหน้าหนีก่อน

“ข้ารูว้ า่ ท่านเหนือย แต่หาอะไรรองท้องเสียหน่อย มา…


320
ข้าตุน๋ นําแกงไก่เอาไว้ให้ คราวก่อนท่านบอกว่าข้าเคียว
นานเกินไป ข้าลองลดเวลาลงชัวเวลาหนึงถ้วยชา[2]
ท่านลองชิมดูก่อน ถ้าไม่ชอบเดียวข้าจะทําอย่างอืนให้”

ก็…เป็ นเสียแบบนี ถ้าหากอีกฝ่ ายใส่ใจน้อยเขาลงกว่านี


เขาอาจจะไม่รูส้ กึ ผิดต่อเจ้าตัวมากนัก

‘ชีวิตคูค่ ือการเชือใจ’

ใช้ความอบอุน่ จากถ้วยละลายปลายนิวทีเหน็บชา
พยายามไม่คิดฟุง้ ซ่านมากนัก หยิบช้อนตักนําแกงเข้า
ปาก รสชาติกลมกล่อมแผ่ซา่ นไปทัวทังลิน จนต้องตักอีก
คําตามไป อากาศเย็นลงทุกวัน จนกว่าจะถึงช่วงหิมะตก

321
ได้อะไรอุน่ ๆ ความวุน่ วายทังหมดราวถูกชะล้าง

ฝี มือของเฉินลูป่ ิ นดูแคลนไม่ได้ ทังยังไม่อาจฝึ กฝนได้ใน


ระยะเวลาไม่นาน ไม่วา่ เย็บปั ก ทําอาหาร ไหนจะวิชา
ฝี มือ อะไรก็เชียวชาญไปหมด ฉับพลันความรูส้ กึ อิจฉาก็
พุง่ ขึนมานิดๆ

เฉินเหวินเค่อคิดไม่ผิดด้านความเชียวชาญ เฉินลูป่ ิ น
สังเกตเห็นหลายครังแล้วว่าอีกฝ่ ายอยากจะถาม เพียง
แต่ปากหนักไม่ยอมพูดเสียที

หลังจากหนีออกจากจวนมาเผชิญโชค นอกจากการรํา
เรียนศาสตร์วิชาทีบุรุษสมควรจะเรียน เฉินลูป่ ิ นได้ขอ

322
ร้องให้ฟเู หรินผูเ้ ฒ่าของสกุลจ้าวสังสอนวิชางานบ้าน
งานเรือน เพือรอวันทีใครบางคนจะกลับมาหาตาม
สัญญา รอวันทีเขาล่วงพ้นวัยเด็ก ย่างเข้าวัยหนุ่ม มีอายุ
ถึงช่วงวัยทีสามารถแต่งงานได้

เอาเถอะ ถึงสถานะจะเปลียน แต่ชีวิตทีวาดฝันไว้ก็หาได้


เปลียนตาม ทุกวันนีก็มีความสุขดี ลูกชายลูกสาวพรัง
พร้อม ไม่คิดมาก..ไม่คิดมาก เผลอๆ เฉินลูป่ ิ นได้กาํ ไร
มากกว่าเสียอีก

“พระอาการของฝ่ าบาทเป็ นอย่างไรบ้าง”

เฉินเหวินเค่อเลิกคิว เผลอหลุดถามเสียงสูง “พระ

323
อาการ?” พอรูต้ วั ว่าแสดงกิรยิ าใดออกไปก็กระแอมไอ
หนึงครัง ทําเป็ นไม่ได้ยิน “เมือครูเ่ จ้าว่าอะไรนะ”

เฉินลูป่ ิ นทวนคําอย่างใจเย็น ใบหน้าประดับด้วยรอยยิม


บางราวกับถูกจารลึกสลักไว้ “ท่านบอกข้าว่าฝ่ าบาททรง
พระประชวร ข้าไม่ได้ตามเข้าวังไปกับท่าน จึงไม่ทราบ
ตกลงแล้วพระอาการของฝ่ าบาทเป็ นอย่างไรบ้าง”

ทรวงในสันสะท้านอย่างไม่ทราบสาเหตุ เพียงหนึงยิม
งามละไมกลับมิให้ความรูส้ กึ สุขสงบใจ จดจ้องเข้าไปใน
แก้วตาสีขีเถ้าเนือฉํา แสงไฟทีตกกระทบคล้ายทําให้แวว
ตาทอประกายวาวโรจน์ เปล่งแสงรัศมีสีเงินชวนให้หนาว
สัน

324
“เสด็จพ่อทรงงานหนัก พออากาศเปลียนก็ทรงพระ
กาสะ[3] ไม่หนักหนา”

“ได้ยินเช่นนันก็โล่งใจ ฝ่ าบาทคือโอรสสวรรค์ผสู้ งู ส่ง ได้


รับความรักจากสวรรค์ชนฟ้
ั า สํานักแพทย์หลวงมีแต่คน
มากฝี มือ ย่อมไม่มีอะไรน่าเป็ นห่วง” เฉินลูป่ ิ นเรียกบ่าว
ให้มาเก็บชาม หลังจากโบกมือไล่ขา้ รับใช้ทีเหลือเป็ น
สัญญาณว่าจะพักผ่อน ก็กล่าวออกมาเรียบๆ แต่กลับ
ทําให้หวั ใจของใครบางคนเกือบหยุดเต้น “แต่เพียงทรง
พระกาสะไม่หนักหนา ท่านถึงขันต้องรีบร้อนเข้าวังเชียว
หรือ”

เฉินเหวินเค่อกดซ่อนความประหวัน ตอบกลับไปเสียง
325
เข้มแสร้งใช้ความโกรธบดบังความวิตกในดวงตา “เฉินลู่
ปิ น! ต่อให้เสด็จพ่อพระเกศาหลุดร่วงเพียงหนึงเส้น ก็
ควรค่าทีจะเป็ นกังวล”

เฉินลูป่ ิ นหน้าซีด “ขะ…ข้าขอโทษ ท่านอย่าโมโหไปเลย”

“ช่างเถอะ” กล่าวจบก็สะบัดหน้าหนี ลุกขึนถอดเสือคลุม


คนข้างกายพลันถลาเข้ามากอดแขนไว้แน่น นําเสียงที
เอ่ยออกมาสันเครืออย่างน่าสงสาร

“เหวินเกอ..”

เฉินเหวินเค่อหักห้ามใจไม่ให้หนั ไป ด้วยกลัวตนจะเผลอ
326
หลุดพิรุธ แต่พอได้ยินเสียงสะอืนฮัก เขาก็พา่ ยแพ้เต็ม
ประตู

ทว่า…เมือพิศหน้ากลับไปยล สิงทีเห็นกลับหาใช่ใบหน้า
เปื อนนําตา กลับกลายเป็ นความเฉยชา ในขณะทีดวง
ตาอ่อนหวานชวนมอง แปรเปลียนเป็ นคมกริบดุจดังใบ
มีดโกน กรีดลึกบาดผิวกายจนโลหิตหลังริน

เฉินเหวินเค่อถูกพุง่ เข้าใส่ ร่างกายสูงตระหง่านซวนเซ


อย่างคนเสียหลัก หงายหลังล้มตึงไปบนเตียง

แขนซ้ายของอีกฝ่ ายโอบเอวเขาไว้ ส่วนมือขวากดลงบ


นไหล่ นิวทังห้างองุม้ เข้าหากัน จิกปลายเล็บลงไปอย่าง

327
แรงเสียจนความแหลมคมทะลุเนือผ้า ทิมแทงเข้าไปใน
ผิวกาย

เฉินเหวินเค่อหอบหายใจหนัก ร่างกายสันสะท้าน คนบน


ร่างดึงมือทีโอบเอวเขาออกมา จึงได้เห็นนิวชีและนิว
กลางทีประสานกัน ชวนรําลึกถึงความหลังทีได้พบพาน
ณ จวนเฉินอันทีฉางซี

นิวเรียวไล่กดไปตามจุดต่างๆ ภายนอกเหมือนกําลัง
หยอกเอิน แต่เฉินเหวินเค่อรูด้ ีวา่ ลมปราณในกายเขาปั น
ป่ วนมากขนาดไหน

เฉินลูป่ ิ นดันปลายคางให้ใบหน้าทียังเหลือแรงเบนหลบ

328
หันกลับมาจ้องตา สัมผัสอ่อนโยนจากนิวหัวแม่มือไล้อยู่
ตรงกลีบปากล่าง

“เหวินเกอ…ท่านปิ ดบังอะไรข้าอยู”่

ข้อมูลเพิมเติม

[1] ชัวเวลาหนึงถ้วยชา : "ชัวเวลาจิบชาหนึงถ้วย" (一


碗茶的时间) คือช่วงเวลาตังแต่นาชาถู
ํ กยกเข้า
มา จากนันค่อยๆ จิบจนหมด ความจริงแล้วก็คือช่วง
เวลาทีนําชาหนึงถ้วยเย็นลงจนสามารถดืมได้ หรือก็คือ
ประมาณ 15 นาทีสาํ หรับฤดูรอ้ น และไม่ถงึ 10 นาที
สําหรับฤดูหนาว วลี "ชัวเวลาจิบชาหนึงถ้วย" จึงกิน

329
ความได้ทงั 10 นาที และ 15 นาที แต่โดยส่วนมากจะใช้
ในความหมายเวลาประมาณ 15 นาที

[2] ทรงพระกาสะ : ไอ(พระเจ้าแผ่นดิน)

330
ตอนที ๓๑ ข่าวโคมลอย

ปฏิกิรยิ าแรกทีเฉินเหวินเค่อทําคือกรอกตาไปรอบหนึง
รูส้ กึ ว่าความหวาดหวันเล็กน้อย ยามได้ยินคําพูดของ
เฉินลูป่ ิ นช่างน่าละอายยิง

ถ้าไม่ตอ้ งการพูดก็คือไม่พดู ไม่วา่ ใครหน้าไหนก็งา้ งปาก


เขาไม่ได้

ความรูส้ กึ ของเฉินลูป่ ิ น คนตาบอดยังสัมผัสได้วา่ มันคือ


ความรักเทิดทูน นับประสาอะไรกับคนปกติรา่ งกายครบ
สมบูรณ์

1
ตอนเขาลองเข้าโรงครัวครังแรกจนมีดบาดนิว ใครเล่า
เป็ นห่วงจะเป็ นจะตายอย่างกับถูกดาบฟั น

คิดภาพอีกฝ่ ายทีจะมอบทัณฑ์ทรมานให้คายความจริง
ออกมาไม่ออกเลยแม้แต่นอ้ ย

ลอบมองมือขาวทีแนบอยูบ่ นแผ่นอก หรือจะวิธีการ


บังคับร่วมรัก? อืม…มันอาจได้ผลหากเฉินเหวินเค่อยัง
เป็ นเว่ยหวาง แม่ทพั ตะวันออกพิทกั ษ์ชายแดน และยัง
มองบุรุษรูปงามเบืองหน้าเป็ นแค่ชายหน้าละอ่อนทีพึง
แตกเนือหนุ่ม

หลับนอนกับคนทีตนมีความรูส้ กึ เป็ นสามีภรรยาร่วม

2
กราบไหว้ฟา้ ดิน หาได้ผิดทํานองคลองธรรม ฟ้าย่อมไม่
ผ่า มีสงได้
ิ ให้กริงเกรง

“ข้าไม่รูว้ า่ เจ้าพูดถึงเรืองอะไร” เฉินเหวินเค่อเฉไฉ มอง


คนคิวกระตุกกระชากอาภรณ์ขาดดังแควก

คิวเข้มเลิกมองแฝงความท้าท้าย อยากจะขยับตัวเพือไล่
อาการเหน็บชาเสียหน่อย ติดทีว่าร่างกายโดนสกัดจุด
จึงได้แต่อา้ ปากหาวหวอด ปรือสายตามองวงหน้า
ผุดผาด

“จะทําหรือไม่ ไม่ทาํ ก็ลกุ ออกไป ข้าเหนือย อยากนอน”

3
เฉินเหวินเค่อสะกดกลันความอับอายอย่างสุดความ
สามารถ ไม่คิดเลยว่าในชีวิตนีคํากล่าวไร้ยางอายจะ
หลุดออกมาจากปาก กับคนอย่างเฉินลูป่ ิ นนิสยั ตาม
ปกติของเขาก็มีแต่พา่ ยแพ้อยูร่ าไป

ดวงตาเรียวสวยคล้ายตกตะลึงไปชัวครู ่

ในตอนแรกเฉินเหวินเค่อคิดว่าอีกฝ่ ายจะบีบนําตาร้องไห้
กระซิกๆ หรือไม่ก็ตดั พ้ออย่างน่าสงสารด้วยดวงตาแดง
ระเรืออย่างทีชอบทํา อุบายตืนเขินทีทําเอาใจกล้าแกร่ง
ของชายชาติทหารอ่อนยวบยาบมาแล้วต่อหลายครัง แต่
ครังนีเฉินเหวินเค่อไม่คิดจะใจอ่อน

4
ใช่วา่ เขาไม่ไว้ใจเฉินลูป่ ิ น เพียงแต่เรืองอํานาจราชสํานัก
พัวพันยุง่ เหยิง เดิมทีจวนเฉินอันตัดขาดกับวังวนนี ไม่
ข้องแวะไม่ยงุ่ เกียว

ปั ญหาคาราคาซังมีเขาเป็ นคนผูก เพราะฉะนันผูท้ ีต้อง


แก้ยอ่ มเป็ นเขา แม้จะเดินหมากพลาดตรงทีว่าสุด
ท้ายกลับมีความรูส้ กึ ต่อเฉินลูป่ ิ นจริงๆ อย่างทีเจ้าตัวเคย
ลันวาจาไว้

สิบปี ก่อนหัวใจพ่ายแพ้ให้กบั เด็กตัวกระเปี ยกคนหนึง


สิบปี ตอ่ มา แม้ลืมเลือนก็ยงั หนีไม่พน้

เฉินลูป่ ิ นเป็ นพวกยึดติดอย่างน่ากลัว และทําทุกอย่าง

5
ตามทีปากพูด ไม่วา่ จะสัญญาปากเปล่าหรือคําพูด
ลอยๆ เมือเกียวข้องกับเขาก็เอาเป็ นสําคัญตลอด

เฉินเหวินเค่อคํานึงถึงอนาคต ด้วยตําแหน่งฐานะทาง
สังคมเขาคือหวางเฟย อีกฝ่ ายคือหวางเย่ ปณิธานทีสืบ
ทอดของราชทินนามฉินอันแห่งเมืองท่าฉางซีจะถูก
ทําลายด้วยนํามือเขาไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิงใน
อนาคตฉางเล่อจะต้องสืบทอดจวน

หากจวนเฉินอันหาได้ลอยตัวเหนืออํานาจราชสํานักจริง
เฉินเหวินเค่อเกรงว่าตนเองจะเป็ นผูช้ กั นําภัยมาสูค่ นที
ตัวเองรัก

6
นําหนักกดทับบนตัวหายไป ใจลอยชัวครูจ่ งึ ไม่ทนั ได้เห็น
สีหน้าของคนทีผุดกายลุกขึน หันหลังเดินจากไป

ผิดคาด…

ได้ยินเสียงประตูกระแทกปิ ดโครมใหญ่ บ่าวนอกห้อง


ร้องเรียกหวางเย่ แต่ก็ถกู ตวาดไล่อย่างรุนแรง แตกต่าง
จากนําเสียงทีเคยนุ่มนวลชวนฟั งมาโดยตลอด

เฉินเหวินเค่อปิ ดเปลือกตาแน่น ลมหายใจเข้าออกไม่รู ้


เหตุใดก้อนเนือในอกจึงปวดหนึบอย่างน่าประหลาด

เมือเรืองทุกอย่างจบลง ไม่วา่ สิงใดสามารถชดเชยให้ ก็


7
จะกระทําโดยไม่อิดออด…ลูป่ ิ นข้าสัญญา

นับตังแต่หวางเฟยให้กาํ เนิดท่านชายฉางเล่อ
บรรยากาศอบอุน่ ทีบ่าวรับใช้ไม่เคยได้สมั ผัสจากจวน
เว่ยหวางกําซาบลึกลงในหัวใจ จนอดคิดไม่ได้วา่ หากถึง
เวลาอันเหมาะสม เจ้านายทังหลายหวนกลับฉางซี
ความครืนเครงทีเคยมีก็จะอันตรธานหายไป…ช่างน่าใจ
หาย

บางสิงยามมังมีแข็งแกร่งดังภูผา ทว่ากลับพังทลายได้
ง่ายดายเหลือเกิน

หวางเย่ตวาดไล่บา่ วรับใช้ทกุ คนด้วยอารมณ์ข่นุ มัว ด้วย

8
มีสาเหตุมาจากหวางเฟย

ต้นสายปลายเหตุได้แต่คาดเดาโดยมิกล้าปริปาก ทุกคน
ต่างทราบดีวา่ หวางเย่ทรงเป็ นห่วงเป็ นใย และใส่ใจหวา
งเฟยมากเพียงไหน

จะมีครอบครัวชนชันสูงอีกสักกีครอบครัวทีรักมันเช่นนี
บ้าง

รอบจวนถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศอึมครึม…

ครังนีนําหนักมือทีกดจุดรุนแรงตามอารมณ์ แค่อา้ ปาก


ยังรูส้ กึ เหนือย เฉินเหวินเค่อไม่รูเ้ วลาผ่านไปเนินนาน
9
เท่าใด เหลือบลูกตามองรอบๆ ก็เห็นเพียงผ้าม่านสีขาว
เนือโปร่งสภาพดูไม่คอ่ ยเรียบร้อยนัก

ผ่านไปครูใ่ หญ่ ได้ยินเสียงเปิ ดประตูอีกครัง เงาคนผูห้ นึง


เดินอาดๆ เข้ามา ตอนแรกเข้าใจว่าเป็ นบ่าวรับใช้สกั คน
ทีเฉินลูป่ ิ นส่งมาดูแลเขาหลังจากใจเย็นลง

ใบหน้าจิมลิมของเด็กหญิงวัยกระเตาะ ชะโงกมองด้วย
ดวงตาใสแจ๋ว กระพริบตาหนึงที นัยน์ตาสีนาตาลสดใส

ก็กระพริบตาม

เฉินเหวินเค่อเผยอปาก เกือบหาเสียงตัวเองไม่เจอด้วย
ความแปลกใจ “อิงเอ๋อร์?”

10
เจ้าของชือได้ยินมารดาเรียกขานก็ทาํ แก้มป่ อง เป็ น
อาการแสดงความแง่งอนตามปกติ เฉินเหวินเค่อถูกทุบ
ตีดว้ ยความมึนงงอย่างหนักหน่วง

“ท่านแม่ใจร้าย ท่านแม่จะทิงอิงเอ๋อกับเสียวเล่อเล่อ
ฮึก…ท่านแม่ไม่รกั พวกเราแล้ว ฮือออ”

“ไม่ใช่นะ…ข้า”

“ใช่!” เสียงหนึงโพล่งขึนมา “มารดาเจ้าทําร้ายจิตใจบิดา


ยิง อิงเอ๋อร์บิดาไม่ดีเอง ฮึก….บิดาไม่ดีเอง!” เป็ นเฉินลู่
ปิ นยกผ้าเช็ดหน้ามาซับนําตาอย่างน่าสงสาร ด้วยนํา

11
เสียงตรอมตรมปานจะขาดใจตาย ทําให้เสียงร้องไห้ดงั
ขึนอีกหนึงระดับ

เฉินเหวินเค่อเริมขยับปลายนิวได้ หมุนขวับคอแทบเคล็ด
ลูกสาวกับสามีตวั ดีกอดคอกันนําหูนาตาไหลพราก

นัยน์ตากร้าวถลึงตาใส่คนเสแสร้ง ในใจด่าไอ้บดั ซบไป


หลายตลบ หากไม่เกรงบุตรีตวั น้อยจะได้ยิน จะแถมด่า
บิดาให้อีกสามคํา

“เฉินลูป่ ิ น!”

ทันทีทีขยับร่างกายได้เฉินเหวินเค่อพุง่ ไปเขย่าคอ หนัง


12
ศีรษะตึงเปรียะ โมโหปานพสุธาถล่ม

เพียงแค่แตะร่างกาย อีกฝ่ ายพลันอ่อนเปลีย ยกมือปิ ด


ปากไอโขลก “อิงเอ๋อร์บิดาทุกข์ใจเหลือคณาไม่อาจทน
ไหว มารดาไม่เชือใจบิดา เกรงว่าหัวใจของมารดาเจ้าคง
มิปรารถนาจะอยูก่ บั พวกเราแล้ว แค่กๆ”

“ฮือออ…ท่านแม่”

ฉู่มีอิงกระโดดเกาะขา กลัวว่าหากตนไม่ทาํ มารดาอาจ


จะฟาดหน้าแข้งใส่บิดาตายคาที

“ท่านแม่อย่าทําร้ายท่านพ่อเลยนะเจ้าคะ ท่านพ่อ
13
บอกว่าป่ วยเป็ นไข้ใจ หากท่านแม่กระทํารุนแรง ท่านพ่อ
จะตายได้นะเจ้าคะ!”

ไข้ ใจ ช่าง สรร หา

เฉินลูป่ ิ นลอบยกยิมหลังผ้าเช็ดหน้า

“เหวินเกอท่านปิ ดบังอะไรข้า” คําถามเดิมถูกย้อมถาม

“ไม่เกียวกับเจ้า!”

บุรุษรูปงามยกมือกุมอก ใบหน้าซีดเผือด

14
“ฮืออ” ฉู่มีอิงเริมต้นร้องไห้อย่างตังอกตังใจอีกครัง

“เหวินเกอท่านปิ ดบังอะไรข้า”

“ไม่เกียวกับเจ้า”

“ฮึก…ท่าน…แม่…ฮืออ”

รอบนีเฉินลูป่ ิ นโซซัดโซเซ เดินมาชนเขาล้มลงกับพืน โดย


มีฉ่มู ีอิงมุดเข้ามาเป็ นไส้กลาง

15
“เหวินเกอท่านปิ ดบังอะไรข้า”

“…” เฉินเหวินเค่อ

ต่อให้ผา่ นไปอีกสักกีปี ก็ยงั คงพ่ายแพ้ตอ่ ไอ้เด็กบัดซบ


คนเดิมตลอด คราวนีจุดอ่อนของเฉินเหวินเค่อมีเพิมอีก
ถึงสองคน

ลึกลงไปข้างใน คําตอบทีแน่ชดั ไม่ใคร่จะเอ่ยแต่ลว่ งรูด้ ี


คนทังคูต่ า่ งเป็ นเกล็ดย้อน[1]ของกันและกัน ผูใ้ ด
อาจหาญมาแตะต้องล้วนไม่ตายดี

เฉินเหวินเค่อรอจนบุตรีรอ้ งไห้จนเหนือย ผล็อยหลับคา


16
อ้อมอก แล้วค่อยผ่อนลมหายใจยาวเหยียด เอ่ยกับใคร
บางคนทีรอฟั งคําตอบ

“เจ้านีมัน....” อับจนในคําพูด “จริงๆ เลย”

“ข้าก็เป็ นคนเช่นนี ห่วงท่านมากไป และรักท่านมากเกิน


ข้าไม่ใจแข็งปากหนักเหมือนท่านเสียหน่อย”

เฉินเหวินเค่อแค่นเสียงเหอะ!

“หลายวันมานีเจ้าวุน่ วายกับฉางเล่อ ทังยังต้องสังสอน


อิงเอ๋อร์อีก” พูดถึงตรงนีเฉินเหวินเค่อก็นกึ ขึนมาได้ “จะ
ว่าไปทําไมเจ้าถึงไม่ให้ขา้ สอนนาง อย่างไรนางก็เป็ นลูก
17
ข้าเหมือนกัน”

“ท่านเล่าต่อเถอะ”

กล้าเมินกันเรอะ! เฉินเหวินเค่อพ่นลมหายใจหงุดหงิด
แอบจดบัญชีเอาไว้ในใจ แล้วจึงพูดต่อ “เจ้ารูไ้ หมว่าตอน
นีข้างนอกมีข่าวโคมลอยเกียวกับข้าอย่างไรกันบ้าง”

เฉินลูป่ ิ นเลิกคิว “ข้าหวังว่ามันจะเป็ นเรืองทีสวยงาม


เปี ยมคุณธรรม”

แต่ความคาดหวังมักสวนกระแสกับความจริงเสมอ โดย
เฉพาะเรืองเกียวกับเหวินเกอ
18
เฉินเหวินเค่อเหยียดยิม “คนอย่างข้าเคยมีคาํ เล่าลือใน
ด้านดีดว้ ยหรือ”

ถนนเฉียวซุย่ มีคนอยูส่ องประเภททีเดินเพ่นพ่านเป็ นส่วน


ใหญ่ หากมิใช่พวกวาณิช ก็เป็ นพวกขอทาน เดิมทีคือผู้
คนทีเดินทางมายังเมืองหลวงทว่าไร้ทีพักพิง ขัดสนเงิน
19
ทอง ล้วนแล้วแต่เป็ นพวกหนีความยากจนจากบ้านเกิด
มาตายเอาดาบหน้า หรือไม่ก็เป็ นบัณฑิตยากไร้ ฝาก
ความหวังทังชีวิตไว้ทีการสอบเคอจวี

สองข้างทางของถนนเฉียวซุย่ เต็มไปด้วยโรงเตียม แม้แต่


ในตรอกซอกซอยก็ยงั เป็ นบ้านเช่าราคาถูกตามอัตภาพ

เถ้าแก่โรงเตียมซุนถังยิมรับลูกค้าอย่างนอบน้อม เห็น
ลักษณะการแต่งกายและลักษณะของคนมาหลากหลาย
พืนที พริบตาเดียวก็ทราบว่าชายตรงหน้ามาจากทาง
ตะวันออก

หลายวันทีผ่านมามีข่าวโคมลอยไม่คอ่ ยน่าเชือถือ กอง

20
ทัพพิทกั ษ์ชายแดนตะวันออกกําลังแตกพ่าย ความจริง
แล้วพูดให้ถกู คือมีข่าวคราวมานานพอสมควร แต่ฟัง
อย่างไรก็หาเค้าความจริงไม่เจอ จึงแค่ฟังผ่านๆ พอให้มี
เรืองพูดคุยกันตามประสา

ทว่ามีควันมีหรือจะไม่มีมีไฟ

ข่าวโคมลอยทีว่ากลับกลายเป็ นจริงขึนมาหนึงส่วน
วิกฤติจากทางชายแดนพิสจู น์ได้จากจํานวนขอทาน
และพวกเร่รอ่ นทีเพิมขึนทุกวัน

ผนวกรวมกับคําบอกเล่าของเหล่าวาณิชทีมาจากทาง
ตะวันออก ต่างบอกเป็ นเสียงเดียวกัน หากองค์ชายใหญ่

21
ยังรังตําแหน่งแม่ทพั พวกชนเผ่านอกด่านมีหรือจะกล้า
เหิมเกริม ผูใ้ ดไม่ทราบว่ารองแม่ทพั รักษาการณ์มาจาก
ตระกูลทางการทหารทีมีชือเสียง แต่ทางด้าน
ประสบการณ์ไม่สอู้ ดีตรองแม่ทพั ผูเ้ ป็ นพีชาย ไหนเลยจะ
สามารถเอาตนไปเปรียบเทียบกับแม่ทพั เลือดไร้พา่ ยได้

เถ้าแก่แห่งโรงเตียมชุนถังภายนอกไม่ตา่ งกับชายชรา
ธรรมดาทัวไป เว้นเพียงมีนิสยั สอดรูส้ อดเห็น ห้ามใจว่า
ยาก ห้ามปากยิงยากเข้าไปใหญ่

“นายท่านมาจากทางตะวันออกใช่หรือไม่”

“ตะวันออก..ก็ใช่อยู”่ ชายคนนันกล่าวจบก็ถอนหายใจ

22
ออกมาเฮือกใหญ่

เถ้าแก่ชนุ ถังมุมปากสันระริก พยายามคุมนําเสียงมิให้


เกินควร “ข้าได้ยินข่าวลือเรืองหนึง” หันซ้ายแลขวา
ความดังลดลงเหลือเทียบเท่าเสียงกระซิบ “ชนเผ่านอก
ด่านทีโจมตีชายแดน ล้วนเป็ นชนเผ่าทีองค์ชายใหญ่
ปราบปรามทังสิน ตลอดสิบปี ทีผ่านมา ฉายาแม่ทพั
เลือดไร้พา่ ยล้วนเป็ นถ้อยคําผายลม เบืองหน้าสวยงาม
ข้างหลังฟอนเฟะ เรืองจริงหรือไม่”

“เรืององค์ชายใหญ่…ข้าเองก็ไม่อยากจะเชือเหมือนกัน
พวกท่านคนเมืองหลวง ทังชีวิตคงไม่เคยก้าวออกจาก
เทียนเฉิน ข้ายังโชคดีทีบ้านเกิดอยูเ่ จินหู ในมณฑลซี
เจียง ถัดไปอีกเมืองสองเมืองจึงจะเป็ นมณฑลฉีเหิง ตอน
23
นีไม่มีใครอยากจะไปเหยียบทีนันแล้ว”

เถ้าแก่ชนุ ถังหน้าเริมเบียว “นายท่าน ใส่รา้ ยเชือพระวงศ์


โทษมิใช่แค่ตดั ลินนา”

“เพ้ย! สหายข้ากลับไปเยียมมารดาทีเมืองผีซวิ ตอนนีแม้


แต่ศพยังหาไม่เจอ มณฑลฉีเหิงมีแต่คนตายอย่างกับโรค
ระบาด ถูกพิษงูป๋อตายทังนัน”

พืนทีนอกด่านทางตะวันออกเป็ นทุง่ หญ้าทะเลทราย


สัตว์มีพิษจําพวกแมงป่ องกับงูมีเต็มยัวเยีย โดยเฉพาะงู
ป๋ อ กลางวันหนีรอ้ นซุกตัวอยูใ่ ต้เนินทราย ตกกลางคืนจึง
ออกล่าเหยือ

24
พิษงูป๋อแรงมาก แค่ปา้ ยไว้ทีปลายเข็มก็ฆา่ คนตายได้
พวกคนทีรูว้ ิธีใช้พิษงูตวั นี มีแค่คนทีโตมาในทะเลทราย
ก็คือพวกนอกด่าน

ตอนแรกเถ้าแก่ชนุ ถังไม่ใคร่จะเชือ แต่ชายคนนีสําเนียง


หูชดั เปรียะ เป็ นคนทีมาจากเจินหูแน่นอน นําหนักในใจ
เลยเอนเอียงไปด้านทีเชือว่าจริงมากกว่าโกหกคําโต

“ไอ้หยา! จริงหรือนี”

“ประชาชนตายกันเป็ นผักปลา แต่อดีตท่านแม่ทพั ของ


เรากลับเสวยสุขอยูใ่ นจวนหวางอูฟ้ ู่ ได้ยินว่าเฉินอันหวา

25
งเก่งกาจการปกครอง ดูแลเมืองท่าฉางซีได้ดี แต่ตงแต่

เริมต้นปี ใหม่ยงั รังอยูท่ ีเทียนเฉิน มิใช่วา่ สุขสบายใน
ฐานะราชบุตรเขยขององค์จกั รพรรดิแล้วจึงลืมตน? ชน
ชันปกครองรืนเริงบนความทุกข์ยากของราษฎร ช่างดี
เหลือเกิน!”

เถ้าแก่ชนุ ถังดีรา้ ยอย่างไรก็กลัวตายเป็ นทุนเดิม ได้ยิน


ลูกค้าพ่นแต่ละคําออกมาน่าฟั งทังนัน ใบหน้าพลันซีด
ขาวตามสีหนวดเครา กลัวเหลือเกินว่าจะมีผใู้ ดได้ยิน
เกรงจะทําหัวตัวเองหลุดจากบ่า ละลําละลักเอ่ยขอตัว
ไปดูแลลูกค้าคนอืนต่อ แล้วโยนให้เสียวเอ้อท่าทางนิง
เงียบมารับหน้าแทน

มองตามร่างของเถ้าแก่โรงเตียมชุนถัง ข่าวลือกระจาย
26
เร็วล้วนมาจากพวกสอดรูท้ ีตาขาว เชือว่าไม่นานบท
สนทนาทังหมดทีเกิดขึนจะถูกนําไปขยายต่อแน่นอน

หน้าทีในวันนีเสร็จสินแล้ว เหลือแค่นอนค้างแรมสักคืน
ทําทีดงวาณิ
ั ชทัวไปทีมาค้าขาย ใช้สาํ เนียงชาวหูทาง
ตะวันออกรวมกับอาภรณ์ ย่อมดึงดูดพวกปากมากได้อีก
เป็ นกระบุง

เสียวเอ้อคนหนึงเดินนํามาทีห้องพัก โรงเตียมชุนถังไม่ได้
รํารวย สภาพห้องจึงพออยูไ่ ด้ ไม่สกปรกเกินไป ทันทีที
ก้าวเข้ามาในห้อง เสียวเอ้อปิ ดประตูดงั ปึ ง รวดเร็วจนไม่
ทันได้บอกให้เตรียมนําร้อนด้วยซํา

27
กึก..

ได้ยินเสียงถ้วยชาวางลงบนโต๊ะ แม้ไม่ดงั มาก แต่ดว้ ย


รอบด้านเงียบสงัดอย่างน่าพิกล จึงทําให้เสียงเบาๆ นัน
เด่นชัด

ชายอาวุโสผูห้ นึงมือหนึงลูบเครายาว อีกมือใช้ปลายนิว


เคาะเป็ นจังหวะเนิบนาบกับโต๊ะไม้

สีหน้าของคนทีพึงก้าวเข้าห้องตกตะลึงคล้ายเจอผี

“ทะ…ท่าน ใครก็ได้ช่วยด้วย! มีคนบุกรุกเข้ามา เถ้าแก่


เสียวเอ้อ”
28
“ข้าอยูใ่ นห้องก่อนเจ้า คงมิอาจเรียกว่าบุกรุกได้กระมัง”

ตอนมาถึงโรงเตียมชุนถังพระอาทิตย์ตรงหัว เทียงวันพอ
ดี ทังข้างนอกก็ติดกับถนนเฉียวซุย่ ไม่มีทางทีจะเงียบ
เช่นนี

“เจ้าเป็ นชาวเจินหู? มาจากทางตะวันออก?”

“ขะ…ขอรับ”

ผูอ้ าวุโสยกยิม “ดูเหมือนเจ้าจะรูจ้ กั ข้า”

29
“ประสบพบกันคราแรกจะรูจ้ กั กันได้อย่างไร ท่านผูเ้ ฒ่า
ช่างมากด้วยอารมณ์ขนั ”

“เจอคนแปลกหน้าอยูใ่ นห้องของตัวเอง ปฏิกิรยิ าแรก


ของเจ้ามิใช่ตืนตระหนกตกใจ แต่กลับทําหน้าราวกับเจอ
ผี หรือหน้าตาของข้าน่าเกลียดเหมือนจงขุย[2]?”

“ท่านผูเ้ ฒ่ากล่าวหนักเกินไปแล้ว”

“นังสิ”

ผูอ้ าวุโสผายมือไปยังเก้าอีฝังตรงข้าม
30
“ข้า…ข้าขอตัวดีกว่า”

ฉึก!

มีดบินพุง่ ทะยานเฉียดข้างแก้มปั กลงไปในประตู ทีปลาย


ด้ามแกะสลักตัวอักษรจิงเอาไว้

“ผูช้ รารูส้ กึ เหงาเล็กน้อย อยูส่ นทนากันสักครูจ่ ะเป็ นไร


ไป”

ความจริงแล้วผูอ้ าวุโสท่านนีก็คือจิงปู้ ข่าวโคมลอยทัง


หมดนัน เมือตรวจสอบดูโดยละเอียดพบว่ามีจดุ เริมต้น
31
มาจากคนนอกเมืองหลวง ซึงคงหนีไม่พน้ พวกพ่อค้า นัก
เดินทาง และบัณฑิต

จิงปูค้ ะเนนําหนักในใจไปทางพวกวาณิช แล้วก็เป็ นจริง


ดังคาด ขบวนสินค้าจากทางตะวันออกสองในสี แม้จะมี
ตัวตนอยูจ่ ริงในเมืองเจินหู ทว่ามีเรืองน่าประหลาดอยู่
หนึงเรือง คือขบวนสินค้าทีไม่เคยกลับไปยังเจินหู แต่
กลับสามารถขนสินค้าเข้าเมืองมาค้าขายได้อยูต่ ลอด…
ผีหลอกกลางวันแสกๆ

คนพวกนียังเผยตัวตนว่าตัวเองมาจากทางตะวันออกมา
เกินพอดี ทังสําเนียง การแต่งกาย และสินค้า

32
ดวงตาคูค่ มหาได้ฝา้ ฟางตามวัย เหลือบมองไปยังฉาก
กันลมในห้อง

จิงปูเ้ ป่ าใบชาทีลอยคว้างอยู่ หลังยกขึนจิบรวดเดียว


มองไปยังก้นถ้วยก็แค่นหัวเราะออกมาหนึงเสียง

“เดิมแผ่นดินเสวียนเฉินเป็ นส่วนหนึงในการปกครองของ
แคว้นมู่ หนึงในห้าแว่นแคว้นอันยิงใหญ่ เพียงคําทํานาย
จากนําชาก้นถ้วย นําพาให้เฉินซูก่ ่อตังกองทัพแปดธง
แดงโค่นล้มมูฉ่ ินฮัน รวบรวมแผ่นดินจนก้าวขึนสูห่ นทาง
ทียิงใหญ่กว่าเจ้าครองแคว้น ในเวลานันมูห่ วาง[3] ก็
คลับคล้ายจะหลงใหลสนมทรงโปรด และให้ทา้ ยพระ
โอรสทีถือกําเนิดจากสนมนางนัน บ้านเมืองทีชนชันเจ้า
ฟ้ากดขีข่มเหงประชาราษฎร์ ย่อมก่อกําเนิดวีรชน” จิงปู้
33
เหลือบสายตามองชายทียืนตัวสัน “ขาดแค่หนึงถ้วยชา
หนึงคําทํานาย และอีกหนึงผูก้ อบกูบ้ า้ นเมือง เรืองราว
มากมายก็ครบถ้วนสมบูรณ์”

“ข้ามิรูว้ า่ ท่านกําลังพูดถึงเรืองใด”

“ปากคนสามารถละลายทอง ชาวบ้านยึดถือคําเล่าลือ
มากกว่าจะเชือมันในราชสํานัก จุดหมายปลายทางมิใช่
หายนะ? ช่างเถอะ ข้าหาได้มีเวลามากมายขนาดนัน”

สินคํากล่าว เงาดําสายหนึงวูบผ่าน ขยับตัวออกมาจาก


ฉากกันลม

34
เพล้ง!

ป้านกาและถ้วยชาบนโต๊ะถูกกวาดตกลงพืน แทนทีด้วย
ร่างของสมส่วนของชายชาวเจินหู ตาดําหดเกร็งด้วย
ความหวาดกลัว เหลือกมองขึนไปก็พบกับสันครามคม
ริมฝี ปากได้รูป คิวเข้มโค้งโก่งสมสง่า และนัยน์ตาสีขีเถ้า
ทีมีเพียงสกุลเดียวทีครอบครองเอกลักษณ์ทางสายเลือด
เช่นนี

“พวกท่านต่างล่วงรูต้ วั จริงของข้า”

เฉินเหวินเค่อมีสีหน้านิงสนิท ส่วนแม่ทพั ใหญ่จิง สิงเดียว


บนใบหน้าทีขยับก็คือมุมปากทีแย้มยิมอาดูร ให้ความ

35
รูส้ กึ ดูถกู ดูแคลนเป็ นอย่างยิง

เฉินเหวินเค่อหรีสายตา มองไปยังทิศทีหน้าต่างเปิ ดอยู่


ก่อนจะเอ่ยออกสันๆ “ตาม”

จิงปูย้ กมือเท้าคางกับโต๊ะ ท่าทางผ่อนคลาย แต่นาเสี


ํ ยง
มิสบอารมณ์เท่าใดนัก

“คนพวกนันเลียงเสียข้าวสุก ในเมือเชือฟั งเจ้ามากกว่า


ข้ายกให้เลยดีหรือไม่”

“ขออภัยด้วยทีศิษย์ลว่ งเกิน”

36
แม่ทพั ใหญ่เดาะลิน ตังแต่รูต้ วั ว่าทําผิดต่อข้า นอบน้อม
นักนะ

เฉินเหวินเค่อจับชายชาวเจินหูมดั มือไพล่หลัง จากนันจึง


กดไหล่ให้นงลงบนเก้
ั าอี

“เหวินเค่อ..”

ได้ยินอาจารย์เรียกขาน เฉินเหวินเค่อยืดหลังตรง ตังใจ


ฟั ง

“ออกมาข้างนอกเช่นนีสามีเจ้าไม่วา่ หรือ”

37
“แค่ก…” เฉินเหวินเค่อกระแอมไอ หลังจากรูต้ วั ว่าเผลอ
หลุดแสดงใบหน้าพิกลออกไป จากนันจึงกล่าวด้วยนํา
เสียงแฝงอารมณ์หงุดหงิด “ตัวน่ารําคาญ! เหตุใดข้าต้อง
ใส่ใจด้วย ข้าจะไปทีไหนมันก็เรืองของข้า”

จิงปูพ้ ิจารณาจากบรรยากาศหนักอึงระหว่างคิว พบว่า


ลูกศิษย์ดผู อ่ นคลายมากกว่าครังสุดท้ายทีได้เจอหน้า

“เขารูแ้ ล้วสินะ”

เฉินเหวินเค่ออําอึง “ก็…ไม่เชิง” ตามมาด้วยเสียงบ่นงึม


งําจับใจความไม่คอ่ ยได้ คล้ายว่าจะเป็ น เพราะเสียรูไ้ อ้
ลูกเต่านันหรอก…ลูกเต่า?

38
คิดถึงใบหน้างามนันแล้ว ในอกก็ชกั จะกรุน่ ๆ

หลังจากจําใจเปิ ดปากเล่า เฉินเหวินเค่อหลงลืมไปว่า


คนอย่างเฉินลูป่ ิ น ยึดติดเจ้าคิดเจ้าแค้น มีหรือจะปล่อย
เขาหนีออกจากอุง้ มือได้โดยง่าย

เฉินเหวินเค่อขยับขนสัตว์อนุ่ คอให้กระชับ ล่วงเข้า


เหมันต์ฤดู ปกปิ ดมิดชิดกันลมหนาวย่อมไม่ผิดสังเกต
หากต้องบากหน้าออกมาข้างนอกด้วยร่องรอยเต็มคอ
เขาสาบานต่อฟ้าว่าจะกระทืบมันให้ตาย!

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความตึงเครียดดังหินถ่วง

39
นําหนักในใจ มลายหายไปได้อย่างน่าพิศวง

ในอดีตเฉินเหวินเค่อมีตวั วอแวอยูห่ นึง เมือสูญเสียเขา


ได้ก่อกําแพงศิลาขึนมา เอาตัวออกห่างจากผูค้ น เบือง
หน้าไม่แยแสผูใ้ ด แต่กน้ บึงข้างในใจมีเพียงตัวเองทีรูด้ ีที
สุด

โดดเดียวมาเนินนาน ยืนอยูบ่ นปลายยอดเขาทีเหน็บ


หนาวกัดเซาะจนถึงกระดูก ลึกๆ แล้วเฉินเหวินเค่ออาจ
ปรารถนาให้เป็ นเช่นนีก็ได้

จะใส่ใจมากมายก็ช่าง จะน่ารําคาญเท่าใดก็ได้

40
“ความรักหนอความรัก”

“ท่านอาจารย์..”

จิงปูห้ วั เราะแผ่วเบา นานๆ ทีจะเห็นเฉดริวสีแดงพาด


ผ่านใบหน้าบึงตึงราวกับโมโหอยูต่ ลอดเวลา เหมือนได้
เห็นลูกชายแสนดือดึงได้เป็ นฝังเป็ นฝากับคนทีคูค่ วร

เสียแต่วา่ ลูกในไส้จริงๆ ต่างน่าเฉดหัวออกจากแซ่จิง


เหลือเกิน

“ไปจัดการให้เรียบร้อยกันเถอะ”

41
ในฐานะจักรพรรดิ ฝ่ าบาทต้องดํารงตนเป็ นธรรม และ
การไม่แสดงท่าทีเข้าข้างโอรสองค์โตนันเป็ นการดีทีสุด
เมือถึงคราวทีตัดสินย่อมไม่มีใครสามารถหาข้ออ้างกิน
แหนงแคลงใจ

ฉะนันจึงขึนอยูก่ บั สองฝ่ ายแล้วว่าผูใ้ ดจะเร็วกว่ากัน

ก้าวออกมายังโถงรับแขกของโรงเตียม เฉินเหวินค่อคว้า
ถุงเงินข้างเอวโยนไปให้เถ้าแก่ชนุ ถัง

เปิ ดถุงดู ดวงตาสะท้อนแสงสีทอง รอยยิมฉีกไปจนถึงใบ


หู “ขอบพระทัยองค์ชายใหญ่”

42
ในขณะทีกําลังก้าวเท้าออกไปข้างนอก บุรุษในชุดตัว
ยาว คอเสือแบะออกอวดลวดลายรังมุกล้อมกรอบเสือ
ดาว คาดเข็มขัดเตียเซีย[4] รีบร้อนเข้ามารายงาน คนผูน้ ี
เฉินเหวินเค่อเคยพบหน้า เป็ นผูต้ ิดตามแม่ทพั ใหญ่จิง
กับคนทีรับใช้ใกล้ชิดท่านอาจารย์ เรืองทีทําให้เดือดเนือ
ร้อนใจย่อมมิใช่เรืองเล็ก

และเขาก็คิดไม่ผิด…

“ท่านแม่ทพั ใหญ่ ทัพตะวันออก…ทัพตะวันออกแตก


พ่ายแล้วขอรับ!”

ความหนักอึงมหาศาลถาโถมเข้าใส่ มิมีผใู้ ดสามารถ

43
รักษาสีหน้าเยือกเย็น เว้นเพียงผูถ้ กู คุมตัวทีเผยรอยยิม
ยินดีเงียบงัน

ข้อมูลเพิมเติม

[1] เกล็ดย้อน คือ เกล็ดทีหันทิศทางตรงข้ามกับเกล็ดใน


บริเวณอืน เชือกันว่า หากใครไปสัมผัสกับเกล็ดนี มังกร
44
จะโกรธจัดและฆ่าคนผูน้ นั

[2] จงขุย 鍾馗 เป็ นเทพกึงปี ศาจในตํานานเทพของ


จีน เล่าว่าจงขุยเป็ นชายหนุ่มมีความรูด้ ี แต่หน้าตา
อัปลักษณ์ เขาเดินทางไปกับตูผ้ ิง (杜平) เพือนคน
หนึงซึงเป็ นคนบ้านเดียวกัน เพือเข้าสอบรับราชการเป็ น
บัณฑิต ในเมืองหลวง แม้วา่ จงจะสอบได้คะแนนสูงสุด
แต่ฮ่องเต้ก็มิได้ประทานตําแหน่งจอหงวน ให้เพราะจง
ขุยมีรูปร่างหน้าตาทีน่าเกลียด เมือเป็ นเช่นนี จงขุยจึง
โกรธและน้อยใจอย่างยิง และฆ่าตัวตายทีบันได
พระราชวังนันเอง

[3] สมัยราชวงศ์เซียจนถึงราชวงศ์โจว จีนยังไม่รวมเป็ น


ปึ กแผ่น ซึงแต่ละแคว้นก็จะมีหวาง(อ๋อง)เป็ นเจ้าผูค้ รอง
45
แคว้นเป็ นตําแหน่งสูงสุด เพราะฉะนันมูห่ วาง ก็คือเจ้าผู้
คองแคว้นมู่

[4] เข็มขัดเตียเซีย เป็ นเข็มขัดทีบุรษสมัยสุยและถังคาด


เอวไว้ มีแถบหนังยืนออกมาใช่หอ้ ยสิงของเล็กๆ เช่นมีด
หินไฟ(ใช้กะเทาะจุดไฟ) กระบอกเข็ม และของใช้ใน
ชีวิตประจําวันอืนๆ

46
ตอนที ๓๒ กลยุทธปราบพยัคฆ์

แผ่นดินเกิด...

นานเท่าใดแล้ว สิบสีปี ได้กระมัง

บุรุษรูปร่างสูงโปร่ง ชายอาภรณ์พลิวไสวตามแรงลม ร่ม


กระดาษสีขาววาดลวดลายดอกจือเถิงหลัว[1]งดงาม
อ่อนช้อย ไม่เข้ากับความวินาศ และผูค้ นป่ าเถือนทียืน
อยูเ่ คียงข้างเลยแม้แต่นอ้ ย
47
“นายท่าน” เสียงสตรีนอกด่านไม่หวานระรืนหู แต่ก็
เสนาะไปอีกแบบ นางเดินเข้ามายึดแขนซ้ายเอาไว้ แนบ
ข้างแก้มลงบนไหล่อย่างรักใคร่

ในฐานะบุตรีของหัวหน้าเผ่านักรบเก๋อหลัน นางเก่งกาจ
มากฝี มือ และในฐานะภรรยาก็ช่างเอาอกเอาใจ เอียงร่ม
ไปด้านหน้า คว้าเอวคอดเข้ามาชิดใกล้ ป้องกันผิวทอง
แดงงดงามของนางเปรอะเปื อนหยาดโลหิตทีกระเซ็นใส่

เงยหน้ามองฟ้าเหยียวสีนาตาลตี
ํ ปีกมาแต่ไกล หญิงสาว
ข้างกายรับร่มมาถือไว้ ขณะชายอีกคนยืนแขนหุม้ ปลอก
กันกรงเล็บแหลม ฉวยเอาม้วนกระดาษทีห้อยอยูต่ รงคอ

48
ก่อนยืนเนือชินเล็ก และลูบหัวส่งท้ายเป็ นรางวัล

ทันทีทีอ่านจบ มุมปากกดลึกด้วยความพอใจ ม้วน


กระดาษถูกโยนเข้ากองไฟทีถูกจุดขึนจากกองซากร่างไร้
วิญญาณนับสิบ เปลวเพลิงโหมกระพือเผาไหม้ จนไม่
อาจแยกออกว่าเคยเป็ นใครมาก่อน

เห็นมือหยาบกร้านจากการจับดาบสันเทา จนร่มในมือ
นางไหวระริกตามไปด้วย

“อ้ายเฟยรูห้ รือไม่ ในแผ่นดินเสวียนเฉินมีเมืองทางใต้


เมืองหนึงชือว่าเจียงจู ทิวทัศน์งดงาม ยามเช้ารับอรุณ
หมอกขาวเจือจาง นทีเขียวดังคราม”

49
“ข้าจินตนาการไม่ออก แต่หากนายท่านออกปากว่างาม
ข้าก็อยากจะชม”

“แผ่นดินนี” เขาขยีปลายเท้า “เต็มไปด้วยความอุดม


สมบูรณ์ พวกเขาไม่เคยอดอยาก ฤดูหนาวกินอิมนอน
หลับ มีบา้ น มีอาหาร มีความอบอุน่ เจ้าเคยนึกฝันถึงมัน
ไหม หิมะทีถาโถมลงมาจากฟ้า แต่กายเจ้าไม่หนาวสัน
สองมือเจ้ามิตอ้ งดินรนแทบตาย หรือหวนกลับมามิตอ้ ง
มีใครจากไป ในอดีตพวกเจ้าเอ๋อร์ก่นุ สมควรได้ครอบ
ครองทังหมด แผ่นดินนีควรเป็ นของสายสกุลสุย่ หยู
ข่าน...มันควรเป็ นของเจ้า” ปลายนิวชีไปยังกองไฟทียัง
ลุกโชน “พวกเขาเป็ นทหาร เข่นฆ่าคนของพวกเจ้าไป
เท่าใด นายของพวกมันพรากใครไปจากเจ้าบ้าง”

50
“ท่านอากับน้องข้า” แม้มิได้รว่ มบิดามารดาเดียวกัน แต่
ญาติผนู้ อ้ งคนนันก็เติบโตมาพร้อมกับนาง “ถูกสะบัน
ศีรษะ เหลือเพียงร่างกายอย่างน่าเวทนา”

ใบหน้างามปรากฏความเกลียดชังลึกลํา ในบรรดาเผ่า
นักรบ เผ่าเก๋อหลันเป็ นผูส้ ืบสายเลือดมาจากข่านสูงสุด
แห่งเผ่าเอ๋อร์ก่นุ เผ่านักรบทีเหลือทังหมด ต่างเป็ นผู้
ติดตามทีจงรักภักดี เหตุใดพวกเราจึงต้องอ้อนวอน ใน
เมือครังหนึงเราเคยยิงใหญ่เหนือผูใ้ ด!

หากมิได้นายท่านช่วยเหลือ บิดาทีเป็ นหัวหน้าเผ่าและ


คนอีกเกินครึงคงไม่เหลือรอด ดังเช่นเผ่านักรบทีร่วม

51
เคียงบ่าเคียงไหล่กนั มาอย่างยาวนาน

บุญคุณของนายท่าน นางผูเ้ ป็ นธิดาย่อมมอบกายเพือ


ตอบแทน ในหมูช่ ายาของนายท่าน นายท่านเอ็นดูนางที
สุด

“เมือพวกเราชาวนอกด่านครอบครองเสวียนเฉิน ข้าจะ
ได้ขนเป็
ึ นจักรพรรดิ มีเจ้าเก๋อหลันเก๋อมูเ่ อ๋อร์เป็ นสตรีคู่
บัลลังก์ พวกเจ้าจะได้เป็ นนาย พวกชาวเสวียนจะกลาย
เป็ นทาส”

“ข้าจะได้เป็ นทีหนึงของนายท่านใช่หรือไม่”

52
หญิงสาวแนบกายเข้าสูอ่ อ้ มกอด ได้ยินเสียงทุม้ นุ่มตอบ
ว่าแน่นอนก็เผยรอยยิมกว้าง

มิได้ทนั เห็นใบหน้าเฉยชา และนัยน์ตาสีขีเถ้าอันไร้ความ


รูส้ กึ ดํามืดราวก้นบึงอันไร้จดุ สินสุด

โง่เง่าและง่ายดาย...

ล้วงเข้าไปในแขนเสือ สัมผัสเย็นไต่ขนมาตามปลายนิ
ึ ว
เมือดึงออกมา หยกนํางามสีขาวเกลียงเกลา ยามอยูใ่ นที
มืดทอแสงเรืองรองดุจแสงจันทร์

คนหนึงอ่อนแอ แต่นาํ กายแลกชีวิตปกป้องด้วยใจ อีก


53
คนแม้ความตายจะมากองอยูต่ รงหน้า ก็กล้าทีจะบุกเข้า
หาเพือระบายไฟแค้น

ความรักของพีน้อง...ช่างน่าสะอิดสะเอียนเหลือเกิน

สําหรับเชือพระวงศ์ ความรักเช่นนีไม่มีอยูจ่ ริง

จากสองหลงเหลือเพียงหนึง คราวนันพลาดพลัง หนนี


ย่อมไม่มีวนั หลุดมือ ผูเ้ ดียวทีแตะต้องเจ้าได้ สมควรจะ
เป็ นข้าแต่เพียงผูเ้ ดียว ใช่หรือไม่เล่าหลานรัก?

54
.

ทุกสิงเกิดขึนเร็วเสมือนแค่พลิกหน้ากระดาษ อะไรก็ตาม
แต่ ดูทา่ ใต้เท้าไป๋ คงเบือทีจะรังรอแล้ว

บางครังกระบวนการยุติธรรมก็เชืองช้าจนมิอาจ
พรรณนาถึง การขึนศาลของขุนนางใหญ่ไม่ใช่เรืองเล็ก
และชายแดนมีความสําคัญมากกว่า ถึงจะใช้เวลาถึง
หนึงคืนกว่าจักรพรรดิจะทรงยกพูก่ นั ชุ่มด้วยหมึกแดง
จรดปลายอักษรร่างราชโองการ ทว่าผลลัพธ์สดุ ท้ายนัน
มิตา่ งกันดังคาด

55
เกากงกงยืนอย่างเงียบเชียบ คอยปรนนิบตั ินายเหนือหัว
อยูเ่ สมอมา พิศมองพระปฤษฎางค์มนคงด้
ั วยศักดิฐานะ
โอรสสวรรค์ผสู้ งู ส่ง กลับหนักอึงราวกับมีบางสิงทีมองไม่
เห็นกดทับเอาไว้

“ทีตําหนักอันชวี...” จักรพรรดิตรัสเว้นช่วง “เป็ นอย่างไร


บ้าง”

เกากงกงส่ายหน้าช้าๆ ระมัดระวังทุกคําพูด “ฮุ่ยกุย้ เฟย


ปิ ดตําหนักไม่พบผูใ้ ด แม้แต่จา้ วกุย้ เฟยก็ไม่ให้พบพ่ะย่ะ
ค่ะ โรงครัวเล็กในตําหนักอันชวีรายงานมาว่า พระสนม
ไม่เสวยสิงใดเลยตังแต่ทราบข่าว”

56
จักรพรรดิถอนหายใจยืดยาว “เราคือผูย้ งใหญ่
ิ เหนือทุก
คนในแผ่นดิน ทุกสิงทุกอย่างในใต้หล้าเป็ นของเราโดย
ชอบธรรม ไม่มีสงใดหากเราต้
ิ องการแล้วจะมิได้ครอง”

“เป็ นเช่นนันพ่ะย่ะค่ะฝ่ าบาท”

“แต่ความปรารถนาเรียบง่ายกลับไม่สามารถทําได้”

จักรพรรดิฝไู ฉอยากกลับไปเป็ นแค่เฉินหยางเหยียน เมือ


เป็ นหยางเหยียนเขายังสามารถไขว่คว้าความสุขเอาไว้
ได้ แต่เมือกลายเป็ นจักรพรรดิ เขากลับต้องเสียสละ
ความสุขนันเพือบ้านเมืองก่อนเสมอ

57
มือลูบไปตามบัลลังก์มงั กร เหตุใดผูค้ นจึงบ้าคลังกับมัน
นัก วังวนอํานาจพรากใครต่อใครจากเขาไปแล้วบ้าง ทัง
ผูท้ ีสินชีวาวาย และทียังมีลมหายใจ

ชนเผ่านอกด่านกําเริบเสิบสาน คิดก่อการใหญ่ บัดนี


ชายแดนตะวันออกมีภยั ฝ่ าบาทมีราชโองการมอบ
58
ตําแหน่งแม่ทพั ตะวันออก เฉินอันหวางเฟย เฉินเหวิ
นเค่อหวนคืนสูต่ าํ แหน่ง นํากองทัพพิทกั ษ์แผ่นดิน

ท้ายทีสุดก็ลงเอยแบบนีจนได้...

ตอนเฉินเหวินเค่อกลับจวนมาด้วยสีหน้าไม่สดู้ ี เฉินลูป่ ิ น
ก็ทราบได้โดยทันทีวา่ สถานการณ์อาจถึงจุดวิกฤต แต่ไม่
คิดว่าจะหนักหนาถึงเพียงนี

เฉินเหวินเค่อจึงไม่แปลกใจ ทีเห็นอีกฝ่ ายนิงเงียบไม่พดู


ไม่จา และไม่มีรอยยิมเหลืออยูบ่ นใบหน้า

ทางด้านท่านอาจารย์ หลังจากกลับมาจากโรงเตียมชุน
59
ถัง พวกเขาก็ไม่ได้สนทนากันมากนัก ภายนอกท่าน
อาจารย์อาจบ่นว่าจิงเสวียเป็ นลูกไม่รกั ดีบา้ ง นอกคอก
ดือดึงบ้าง แต่ในใจของบิดาย่อมรับความสูญเสียไม่ได้
หากเปลียนเป็ นเฉินฉางเล่อ ก็คงใจสลายไม่ตา่ งกัน ทัง
ต้นตอจริงๆ เขาเองก็มีสว่ นร่วมอยูด่ ว้ ยไม่มากก็นอ้ ย

ไหนจะจิงสุย่ ทีเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ ถวายฎีกาขอติดตามเขา


ไปชายแดนตะวันออก ด้วยเชือมันอย่างแรงกล้าว่าน้อง
ชายของตนยังมีชีวิตอยู่

นอกจากเฉินเหวินเค่อทีมีชือเสียงน่าหวาดหวัน ในฐานะ
ผูน้ าํ กองทัพไร้พา่ ย ย่อมขาดลิวล้อเสริมบารมีไม่ได้ ไม่
ว่าจะกุนซือปี ศาจอย่างซือหม่า หรือรองแม่ทพั อสรพิษ
อย่างจิงสุย่ เสด็จพ่อย่อมเห็นชอบ เขาเองก็เห็นด้วย มี
60
คนสนิทรูใ้ จติดตามไปย่อมอุน่ ใจกว่า

แต่จิงสุย่ ทีอุตส่าห์เอาตัวออกห่างคมดาบมาทํางานภาย
ใต้การปกครองของกรมกลาโหม แอบกระทําการลับหลัง
ไม่ปรึกษาจิงปูผ้ เู้ ป็ นบิดา เกรงว่าในอนาคตเฉินเหวินเค่อ
คงถูกเหม็นหน้ายิงกว่าเก่า

ข่าวคราวจากทางชายแดนมีนอ้ ยนัก หน่วยสอบแนมที


ส่งไป ส่วนใหญ่ไปแล้วไปลับไม่กลับมา ถึงกลับมาได้ คํา
รายงานก็พบแต่จดุ น่าสงสัย เชือถือไม่ได้

เฉินเหวินเค่อนวดหว่างคิว เคาะนิวลงบนแผนทีโดย
ละเอียด คิดถึงความเป็ นไปได้มากมาย ขนาดมีใครเปิ ด

61
ประตูหอ้ งหนังสือเข้ามาก็ยงั ไม่รูส้ กึ ตัว

กระทังมือขาววางบนลาดไหล่ “เหวินเกอ เวลาไม่นอ้ ย


แล้ว ท่านพักผ่อนเถอะ พรุง่ นียังต้องออกเดินทางอีก
ไกล”

ทําไมจะไม่รูว้ า่ เฉินลูป่ ิ นเลียงใช้คาํ ว่าไปรบ

สีหน้าอีกฝ่ ายไม่คอ่ ยดีนกั พักหลังเฉินลูป่ ิ นไม่คอ่ ยไป


ดูแลเสียวเล่อเล่อด้วยตัวเองเหมือนเคย และมักเลียงการ
พบหน้าอิงเอ๋อร์ คงเกรงว่าลูกจะรูส้ กึ ถึงบรรยากาศไม่
ค่อยดี จะพากันเสียขวัญเปล่าๆ

62
“ข้าขอโทษ” จู่ๆ เฉินลูป่ ิ นก็โพล่งขึนมาแบบไม่มีปีมีขลุย่
ใบหน้าซูบเซียว เต็มไปด้วยร่องรอยหมองคลํา

“เจ้าไม่ได้ทาํ ผิดอะไร”

“ข้าเป็ นสามีทา่ น”

“ข้ารู”้ เฉินเหวินเค่อตอบ

“ข้าไม่มีอาํ นาจในราชสํานักใดเลยทีจะช่วยท่านได้”

เดิมทีเฉินลูป่ ิ นภูมิใจในฐานะของตัวเอง ครองตนตามที


บิดาเคยสอนสัง ปฏิบตั ิตามคําแนะนําของเฉินอันหวา
63
งทุกรุน่ โดยเฉพาะกับเฉินอันหวางรุน่ แรก ผูท้ ีเป็ นถึงพระ
อนุชาขององค์จกั รพรรดิในรัชสมัยนัน พระองค์เป็ นคน
พิเศษ และเฉินลูป่ ิ นก็ได้รบั ตกทอดความพิเศษนันมา
ด้วย ฉะนันแล้วเขาจึงระวังตัวไม่ยงุ่ เกียวกับอํานาจใด

และเฉินลูป่ ิ นภูมิใจมากๆ ทีสามารถดึงคนทีตัวเองรักที


สุดให้หลุดพ้นจากวังวน ปลดปล่อยอีกฝ่ ายออกจาก
ภาระ ปลดเปลืองห่วงโซ่ทีพันธนาการบุรุษนามว่า ‘เฉิน
เหวินเค่อ’ เอาไว้

ทว่าเทพชะตามักกลันแกล้งผูท้ ีมีความสุขมากเกิน...มีสขุ
ย่อมมีทกุ ข์ตามมาเป็ นดังสีสนั ของชีวิต แต่เป็ นสีสนั ทีมิมี
ผูใ้ ดยินดีและชมชอบ

64
“ถึงมีเจ้าก็ทาํ อะไรไม่ได้หรอก ไม่มีน่ะดีแล้ว”

“...” เฉินลูป่ ิ นรูส้ กึ สะเทือนใจเป็ นอย่างยิง

“เหวินเกอ...ปลอบใจข้าเลย”

เฉินเหวินเค่อเลิกคิว “ไม่”

ใบหน้าละอ่อนเผยแววบึงตึง ในทีสุดก็เลิกทําสีหน้าอึ
มครึมอย่างกับมีใครตายได้เสียที

65
คนงามได้ยินก็หน้ามุย่ เหตุใดสามีอย่างเขาจึงได้ชอกชํา
นัก

เฉินเหวินเค่อเมินใครบางคนกลับไปตังสมาธิกบั แผนการ
รบต่อ แต่ก็ถกู รบกวนด้วยอ้อมแขนทีรัดอยูต่ รงเอว ลม
หายใจร้อนรดต้นคอ แม่ทพั เลือดกรอกตาหยิกหลังมือ
ขาวให้ปล่อย แต่นบั วันไม่ทราบได้วา่ เฉินลูป่ ิ นมีจิตวิปริต
ขึนหรือไม่

ถ้าเขาตบ อีกฝ่ ายจะยิม ตบแรงขึนจะเริมจากการหอม


แก้ม หากหนักขึนอีกก็จะจับจุมพิต

ถ้าหากหยิกตอนกอด ไม่วา่ ทีแขนหรือทีมือ อ้อมกอดจะ

66
รัดแน่นขึนเรือยๆ ถ้าเขาเริมดินริมฝี ปากร้อนจะแนบลง
มาประทับรอยตรงหลังคอ

และถ้าเฉินเหวินเค่อยกเท้าเตรียมกระทืบ แม้เขาจะเป็ น
อิสระจากอ้อมกอด แต่มือว่องไวนันจะเริมล้วง สุดท้าย
มันจะไปจบอยูท่ ีจุดเดิม และอย่าถามว่าเป็ นจุดไหน

ไอ้ตวั บัดซบนี!

ลับหลังเฉินลูป่ ิ นเรียกวิธีการนีว่ากลยุทธปราบพยัคฆ์ แน่


นอนว่าเฉินเหวินเค่อไม่ทราบ และไม่ควรจะทราบเป็ น
อย่างยิง

67
“เหวินเกอท่านไปพักผ่อนเถอะ” นําเสียงออดอ้อนกระ
เหง้ากระหงอดอยูข่ า้ งหู เหมือนเสียงลูกหมาอ้อนขอ
อาหาร

อยากเปรียบกับลูกเต่า แต่ไม่รูว้ า่ ลูกเต่ามันร้องอย่างไร

เฉินเหวินเค่อหมุนคอ ปลายจมูกกระทบกันเบาๆ เขา


แค่นยิมยามสัมผัสได้วา่ ลมหายใจของเฉินลูป่ ิ นกระตุก

“อุม้ ข้าไปสิ”

“ข้าอุม้ ไม่ไหว” นําเสียงอ่อนหวานนุ่มนวล เอ่ยเชืองช้า


ทว่าชัดเจน
68
“อ่อนแอจริง ให้เหมือนตอนทีเจ้า...” เฉินเหวินเค่องับ
ปาก วงหน้าเริมร้อนผ่าว

“หืม” เฉินลูป่ ิ นลากเสียงยาว “เหมือนตอนทีข้าอะไรหรือ”

ถ้าเป็ นการสนทนาตามปกติ เฉินเหวินเค่อคงปฏิเสธ


เสียงแข็งไม่ยอมพูด แต่เห็นแก่อีกฝ่ ายเลิกทําหน้าเศร้า
ให้รางวัลสักหน่อยจะได้มีกาํ ลังใจ หากเขาไม่อยูจ่ ะได้ไม่
คิดฟุง้ ซ่าน เหมือนกับตอนทหารคนไหนผลงานดีมีความ
ชอบ เฉินเหวินเค่อก็จะประทานรางวัลให้

หวางเฟยเม้มปากชังใจชัวครู ่ หลังสูดหายใจลึกก็กระซิบ

69
คําตอบไปทีข้างหู “เหมือนกับตอนทีเจ้า...เจ้าเข้ามาใน
กายข้า เหตุใดไม่แข็งแรงดุดนั เยียงนันบ้าง”

พูดจบสมองและใบหน้าของเฉินเหวินเค่อราวกับโดน
เหล็กร้อนหลอมละลาย เหมือนระเบิดลูกใหญ่ทีทําจาก
ดินปื น แค่ประกายไฟเสียวเดียวให้ผลลัพธ์มหาศาล

คนหนึงเขินอายแทบตาย อีกคนสุขจนลอยได้...ลอยไป
หาเทียนจวินบนสวรรค์แล้ว!

“ไม่ใช่วา่ เจ้าบอกให้ขา้ พักผ่อน?” เฉินเหวินเค่อถาม


ขณะเท้าศอกยันไม่ให้รา่ งกายตัวเองนอนราบไปกับโต๊ะ
กว้างทีมีแผนทีกางอยูด่ า้ นหลัง อีกมือยันแผ่นอกของ

70
เฉินลูป่ ิ นทีโน้มเข้าหา

ทังคูส่ บตากัน บุรุษรูปงามเหมือนตังสติได้จงึ ยกปลายนิว


ของคนข้างใต้ขนมาจุ
ึ มพิตอย่างอ้อยอิง คล้ายจะ
เสียดายและกําลังหักห้ามใจ

อา...เหตุใดจึงชอบทําแบบนีนะ

เฉินเหวินเค่ออาจอายุมากกว่าเฉินลูป่ ิ นถึงสิบปี แต่ดว้ ย


วัยสามสิบเอ็ด ยังเป็ นคนหนุ่มแข็งแรง และยังมีความ
ปรารถนามากไม่แพ้ใครอีกคน

“ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าอย่ามาอ่อนโยนกับข้า”
71
เฉินลูป่ ิ นแนบแก้มไปบนฝ่ ามือหยาบกระด้าง แสดง
ความเป็ นห่วงเป็ นใย “ข้ากลัวท่านจะรับไม่ไหว”

บุรุษรูปงามเห็นคนตรงหน้าคิวกระตุก อาศัยจังหวะยก
ชายแขนเสือขึนปิ ดลอบแสยะยิม

เฉินเหวินเค่อมีความภูมิใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง
และในฐานะขัตติยะวงศ์ เลียงนิสยั เย่อหยิงโดยสาย
เลือดได้ยาก

ปั จจัยสําคัญอยูท่ ีคนพูดเป็ นหลัก เฉินลูป่ ิ นรูปงาม


อ่อนแอ ภายนอกเป็ นเช่นนัน ภายในเฉินเหวินเค่อทราบ

72
สันดานของอีกฝ่ ายดี แต่หน้าตาของคนเป็ นปราการด่าน
แรก ทังยังเป็ นสิงลวงหลอกอันง่ายดาย

เฉินลูป่ ิ นปล่อยให้อีกคนขึนนํา ใช้ดวงตาฉําวาวกัดริม


ฝี ปากยัวยวน ขณะริมฝี ปากร้อนกําลังสาละวนอยูก่ บั
ซอกคอขาวผ่อง นิวเรียวไต่เข้าไปในอาภรณ์ ผ่านภูผาสูง
ตระหง่านสองลูก มุง่ หน้าสูช่ ่องเขา

กว่าใครบางคนจะรูต้ วั ก็เป็ นตอนทีถูกสิงแปลกปลอม


ชําแรกลึกเข้าไปในกาย

บุรุษรูปงามเอียงหน้าหลบกําปั นทีทุบลงมา มองนัยน์ตา


สีขีเถ้าแข็งกร้าวด้วยอารมณ์สนุ ทรี แน่นอนว่าเสียเวลา

73
ไม่รงรอหมั
ั ดทีสอง ปลายนิวสาละวนงอเป็ นรูปตะขอ ขูด
ผิวสัมผัสเปี ยกลืนหนานุ่มทีกําลังตอดรัดนิวเรียวทีล่วงลํา
ควานหาจุดบางจุด ซึงใช้เวลาไม่นานนัก

เฉินเหวินเค่อร่างกายกระตุกเกร็ง เจ็บใจทีอีกฝ่ ายล่วงรู ้


ทุกจุดในกายของเขาเป็ นอย่างดี

กับบุรุษคนอืนย่อมไม่อยากตกเป็ นรองฉันใด เฉินเหวิ


นเค่อก็ไม่อยากถูกกระแทกกระทันอยูร่ าไปฉั
ํ นนัน

หาใช่วา่ ไม่เคยพยายาม แต่มนั ไม่สาํ เร็จสักที!

พยัคฆ์รา้ ยเช่นเขา พริบตาเดียวก็ถกู ลูกแกะขยําจนตาย


74
เฉกเช่นภู่ภมรทีตกลงสูห่ ว่ งโซ่ของบุปผากินแมลง

สองร่างทีเหงือโซมกายนอนแผ่อยูบ่ นโต๊ะ ถึงแผนทีจะทํา


จากหนังสัตว์ฟอกขาวอย่างดี แต่เมือต้องรองรับกิจกรรม
ทีรุนแรงมีหรือจะไม่เสียหาย

เฉินเหวินเค่อพลิกกายนอนทับอีกคนอย่างหมันไส้ บ่น
อุบเมือเห็นสภาพของรักของหวงทีเขาเก็บถนอมคูจ่ วน
อย่างดี “คราวหลังห้ามทําในห้องหนังสือ เฮ้อ...แผนที
ข้า”

“เดียวข้าซือคืนให้”

75
ของเหลวในร่างกายเริมไหลย้อนมา คิวเข้มขมวดเข้าหา
กัน เฉินเหวินเค่อเริมบ่นอีกรอบ “เจ้าจะ..จะเสร็จข้าง
นอกไม่ได้เลยใช่ไหม”

แน่นท้องไปหมด...น่าหงุดหงิดจริงๆ

“ข้ายังอยากได้ลกู ชายลูกสาวเพิมอีกคนนะ”

“หึ! เจ้าทําอย่างกับจะมีได้ง่ายๆ ”

เฉินลูป่ ิ นมีนายาหรื
ํ อไม่ ขึนอยูก่ บั ร่างกายของเฉินเหวิ
นเค่อเจ็ดในสิบส่วนล้วนๆ

76
สองร่างอิงแอบแนบชิด เฉินเหวินเค่อใช้ปลายนิวลูบไล้
ไปบนแผ่นอกขาว ความคิดสายหนึงแล่นตรงเข้าหัว

“ลูป่ ิ น...การทีเจ้าไม่มีอาํ นาจในราชสํานักอาจเป็ นเรืองดี


ก็ได้” เฉินเหวินเค่อไม่รอให้ถาม กระซิบแผนการ
บางอย่างทีข้างหู “ข้าคงต้องให้เจ้าช่วยแล้ว”

หวางรูปงามแย้มยิมยินดี เหวินเกอก็คือเหวินเกอ

อย่างน้อยสามีก็ไม่ไร้ประโยชน์เสียทีเดียว

“ทุกสิงทุกอย่างตามทีท่านต้องการ วางใจเถอะ”

77
หวังว่าท่านอาจารย์คงไม่เอาความโกรธไปลงกับเฉินลู่
ปิ น หรือไม่ฝ่ายหลังอาจเป็ นทีถูกใจแม่ทพั ใหญ่จิงเป็ น
อย่างมากก็ได้

“เจ้ารวบผมให้ขา้ ได้หรือไม่”

“ไม่ใช่วา่ ข้าก็ทาํ เป็ นประจําหรอกหรือ”

“ปั กปิ นก้านเหมยให้ขา้ ”

เฉินเหวินเค่อใช้ดวงตาสีขีเถ้าสบกับนัยน์ตาไหวระริกสี
เดียวกันของอีกฝ่ าย ใช้นิวชีเกียวปอยผมยาว จรดริม
ฝี ปากลงไป เขาไม่ถนัดการบอกรักตรงไปตรงมา มีเพียง
78
ภาษากายเท่านันทีเฉินเหวินเค่อสามารถซือสัตย์ตอ่
หัวใจตนเอง

“เหวินเกอ...”

“อือ”

“ทําอีกรอบได้ไหม”

“...”

ไปตายซะ!

79
ข้อมูลเพิมเติม

[1]จือเถิงหลัว : ดอกวิสทีเรีย

80
ตอนที ๓๓ ตัวประกัน

ความทะเยอทะยานของสกุลหร่วนไม่หวังแบ่งบันความ
สําเร็จให้ใคร กระทังองค์ชายใหญ่ฝากฝังตัวเป็ นศิษย์
ของแม่ทพั ใหญ่จิง เฉินเหวินเค่อจึงได้มีสหายร่วมเรียน
คนแรก

จิงสุย่ พบกับองค์ชายใหญ่ตอนอายุเจ็ดขวบปี
ประสบการณ์แรกพบไม่ใคร่จะดีนกั เฉินเหวินเค่อมีนิสยั
เย่อหยิง มนุษย์สมั พันธ์เลวร้าย ฝี ปากคมกริบ พ่นแต่ละ
คําโมโหอกแทบแตก

81
น่าเสียดายเฉินเหวินเค่อมีความสามารถ แม่ทพั ใหญ่สงั
สอนคนมามากมาย แต่ในบรรดาลูกศิษย์ทงหมด
ั บิดา
เชิดชูศิษย์เอกคนนีทีสุด

รูอ้ ยูเ่ ต็มอกว่าท่านพ่อไม่มีใจเอนเอียง ชมคนล้วนชม


ตามเนือผ้า แต่ยากนักทีจะห้ามความอิจฉาริษยา จิงสุย่
ก็เป็ นคุณชายคนหนึง เขาเกลียดเฉินเหวินเค่อ ไม่อยาก
เป็ นสหายร่วมเรียน จะมากด้วยเกียรติยศก็ช่างมัน!

แต่ใดๆ ในโลกล้วนเกิดขึนได้ ดังเช่นชะตามนุษย์มิอาจ


คาดเดา จากคูแ่ ข่งชังนําหน้ากันแทบตาย กลับกลาย
เป็ นสหายเพียงผูเ้ ดียวทีสนิทชิดเชือ

82
สมัยวัยแรกรุน่ จิงสุย่ อารมณ์รอ้ น ทําตัวอันธพาล ลึกๆ
แล้วตอนนันยังไม่รูต้ วั พอเติบใหญ่ขนย้
ึ อนมอง วีรกรรม
มากมาย แค่เพียงหวังเรียกความสนใจจากบิดา ทําตัว
เองอับอายจริงๆ

เหยียบเท้าคน ไยไม่มีผใู้ ดคิดแค้น

จิงสุย่ แวะซือเกาลัดข้างทาง รูต้ วั อีกทีก็โดนคนนับสิบรุม


ล้อม ถึงจะรําเรียนศาสตร์การต่อสูจ้ ากบิดาตังแต่ยงั
เยาว์ ทว่าเด็กหนุ่มก็คือเด็กหนุ่มอยูว่ นั ยังคํา

ช่วงจังหวะสติพร่าเลือน ข้างหูยงั เต็มไปด้วยเสียงตบตี

83
วุน่ วาย

ใครบางคนแบกจิงสุย่ ขึนหลัง สภาพเหมือนผ้าขีริวไม่


ต่างจากเขานัก

"เจ้ามาช่วยข้าทําไม"

"อยากช่วย" องค์ชายทีจิงสุย่ ชังนําหน้านักเพียงตอบ


เรียบเฉย ขนาดแววตายังไม่วบู ไหว "ต้องมีเหตุผลด้วย
หรือ"

ถึงจะชุลมุนไปสักหน่อย แต่เกาลัดยังอยูด่ ี เด็กหนุ่มสอง


คน คนหนึงเลือดไหลอาบหน้า อีกคนเบ้าตาเขียวชํานัง
84
แกะเกาลัดกินกันเงียบๆ แม้ไร้ซงบทสนทนา
ึ แต่
บรรยากาศรอบตัวกลับไม่เหมือนเดิม

องค์ชายใหญ่มีนิสยั ไม่น่าคบ จิงสุย่ ยืนยันได้ แต่ก็ปฎิเส


ธได้เช่นกัน

ด้วยฐานะทีไม่สามารถไว้ใจใครได้ จะก่อกําแพงสูงไว้
ย่อมไม่แปลก

เฉินเหวินเค่อผ่านการสูญเสียมามาก ทังในแง่ความรูส้ กึ
และบุคคล เพราะเกิดมาในชนชันปกครอง แซ่เฉินทีนํา
หน้า ทุกคราทีเติบใหญ่แผ่นหลังนันก็เริมห่างไกลออกไป
และไร้คนเคียงข้าง

85
ตอนจิงสุย่ แต่งงาน ยังห่วงสหายอยูม่ าก กระทังเฉินเหวิ
นเค่อสามารถปล่อยวางหน้าทีทีเหนียวรัง และหวนกลับ
ไปใช้ชีวิตสงบสุขได้ จิงสุย่ ถึงวางใจ เสียดายเพียงช่วง
เวลานันมิได้ยืนยาวมากนัก

ล่วงเข้าวันทีเจ็ดเดือนสิบสองหิมะตกหนัก การเดินทาง
ยากลําบาก มองไปทางใดล้วนถูกย้อมด้วยสีขาว

ตังแต่เช้าหิมะหนาขึนเรือยๆ ตกกลางคืนทัศนวิสยั ยําแย่


การเสียงเดินทางต่อไม่ใช่ผลดี ขนาดทหารผูเ้ ขียนแผนที
ยังมีความเห็นให้รงรอ
ั จําต้องละลายหิมะ ตังค่ายพัก
แรมชัวคราว

86
“เหวินเค่อ” จิงสุย่ ร้องเรียกสหายอยูน่ อกกระโจม ไร้เสียง
ตอบรับกลับมา

ร้องเรียกซําอีกหน เสียงลมกลบเสียงจิงสุย่ เสียหมด เขา


ไม่อยากกระโตกกระตากโวยวายกลางดึกค่อนคืน หลัง
รออีกสักพักก็ยงั ไม่มีเสียงตอบรับ จิงสุย่ ไหวไหล่ มือ
แหวกผ้าเดินดุม่ เข้าไป

ไม่บอ่ ยนักทีจะได้เห็นแม่ทพั เลือดเหม่อลอย มองปิ น


ดอกไม้นิงงัน แต่ไม่รูว้ า่ ภายในใจล่องลอยไปแห่งหนใด
หรือกําลังคิดถึงใคร

87
จิงสุย่ กระแอมไอ เฉินเหวินเค่อจึงรูส้ กึ ตัว

“ถ้าข้าเป็ นศัตรูเจ้าคงหัวหลุดไปแล้ว”

“เจ้าเข้ามาไม่มีจิตสังหาร และหูขา้ ไม่ได้หนวก ถ้าเจ้าชัก


อาวุธข้าย่อมได้ยินเสียง” เฉินเหวินเค่อยกยิม ใช้นิวชี
เกียวอากาศเบืองหน้า เผยให้เห็นเส้นเอ็นคมกริบล้อม
รอบกาย ก่อนจะตวัดมือเก็บค่ายกลป้องกันตัวเล็กๆ เปิ ด
ทางให้จิงสุย่ เดินเข้ามาหา

“ไม่ยกั รูว้ า่ เจ้าใช้คา่ ยกลแบบนีเป็ น ดูเหมือนวิชาของชาว


ยุทธ?” จิงสุย่ ถามเสียงสูง

88
“พอดีวา่ ได้ผเู้ ชียวชาญชีแนะ” เฉินเหวินเค่อตอบ ขณะ
มือกําลังสาละวนอยูก่ บั การรวบผม ดูทลุ กั ทุเลไม่คล่อง
แคล่ว ชัดเจนว่าหน้าทีนีมีคนทําให้อยูเ่ ป็ นประจํา

“ไม่คิดว่าเจ้าถือเรืองนีด้วย”

“อะไร”

“สามีเพียงผูเ้ ดียวจึงมีสทิ ธิเห็นภรรยาปล่อยผม”

เฉินเหวินเค่อกรอกตา “พรุง่ นีเราจะเข้าเขตมณฑลจีหลิง


ตอนเกิดเรืองศัตรูรุกคืบเข้ายึดครองเมืองผีซวิ รวมทังหมู่
บ้านอําเภอในเขตการปกครองถูกบุกโจมตี ข้าคิดว่าจิง
89
เสวียน่าจะแบ่งทหารม้าขนาดกองร้อยเข้าเป็ นหน่วยช่วย
เหลือแบบสายฟ้าแลบ กองกําลังทหารม้าฝี มือและยศสูง
กว่าพลทหารชันประทวน ข้าคิดว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู”่

เปลียนเรือง…เอาเถิด นานทีปีหนจึงได้เห็นองค์ชายใหญ่
เป็ นเช่นนี

“ตอนนันเจ้าคิดแผนรับมือฉุกเฉินเอาไว้ วันหนึงหากทัพ
ตะวันออกแตกพ่ายขึนมา ขณะเข้ามณฑลจีหลิง ต้อง
ข้ามสะพานยวินหลง จุดพลุแดงสามครังส่งสัญญาณ
บอกให้ทหารทีซ่อนตัวอยูต่ ามป่ ารับรูว้ า่ มีทพั เสริมเข้า
ช่วยเหลือ”

90
“มิมีสงใดอยู
ิ ย่ งยื
ั นคงกระพัน” เฉินเหวินเค่อตอบยิมๆ
เช่นเดียวกับเขาทีไม่สามารถแบกรับชือเสียงแม่ทพั ไร้
พ่ายได้ตลอดกาล “ความจริงข้าพอจะคาดเดาได้ แต่
คราวนีฝังศัตรูเป็ นต่อ ข้าไม่อยากเสียงมาก ทหารจาก
ทัพเสริมเก่งกาจแค่ไหนพวกเขาก็ไร้ประสบการณ์ ทังยัง
ไม่ใช่ผชู้ าํ นาญพืนทีและแผนการรบ กองทัพต้องการ
ทหารทีเคยผ่านศึกชายแดน และคนทีเคยปะทะกับชน
เผ่านอกด่านมาก่อน”

พรสวรรค์เป็ นเพียงส่วนประกอบ ประสบการณ์ตา่ งหาก


จึงสร้างยอดคน

“บางทีจิงเสวียอาจจะยังมีชีวิตอยู”่ เฉินเหวินเค่อพูดต่อ

91
ศัตรูสามารถรุกคืบจากเมืองผีซวิ ในกรณีเลวร้ายแผ่นดิน
เสวียนเฉินอาจสูญเสียทังมณฑลฉีเหิง แต่ศตั รูกลับหยุด
อยูแ่ ค่นนั ไม่ถอยหลังและไม่เดินหน้าต่อ

“ตัวประกัน”

เฉินเหวินเค่อยกมือปาดคอตัวเองบอกเป็ นนัยว่า ‘หัวข้า


มีราคามากกว่าหัวน้องชายเจ้า’

“เจ้ายังคงนิงเฉยต่อเรืองเป็ นตายได้เหมือนเคย”

นับตังแต่แต่งงาน จิงสุย่ พบว่าตัวเองละเอียดอ่อน และ


92
ขวัญเสียได้ง่ายขึนกว่าเดิม ผลพวงจากภรรยากับลูกลิง
ทีบ้านส่งผลต่อเขามากจริงๆ

“ข้าจะไม่ตาย” เฉินเหวินเค่อหมุนปิ นในมือ ประกายตา


สะท้อนสีแดงของราชันบุปผาแห่งเหมันต์ฤดู “เพราะข้า
จะไม่มีวนั ทําให้คนทีรอต้องเสียใจ”

อย่างน้อยต้องไม่มีวนั เป็ นครังทีสอง

จะกลับไปให้ได้...

บทสนทนาสินสุดลงตรงนี ขณะจิงสุย่ กําลังจะออก


จากกระโจม เฉินเหวินเค่อเอ่ยรัง ในฐานะสหายสนิท
93
พวกเขาสนิทกันมาก แต่เมืออยูใ่ นหน้าทีรับใช้แผ่นดิน
จิงสุย่ ก็คือผูใ้ ต้บงั คับบัญชา คนสกุลจิงรูก้ าลเทศะเสมอ
บางเรืองถ้าเป็ นเรืองไม่สมควร ต่อให้ตอ้ งเก็บงําทังชีวิตก็
จะไม่ปริปาก

“จิงเสวียก็เหมือนน้องชายข้า”

จิงสุย่ หันหน้ากลับมา รูท้ งรู


ั ว้ า่ ไม่ควรเอ่ย “ถ้าเกิดอาเส
วียไม่ใช่แซ่จิง ไม่ใช่นอ้ งชายข้า ไม่ใช่บตุ รชายหัวแก้วหัว
แหวนของท่านพ่อ เจ้าจะช่วยเขาไหม”

กองทัพมิเคยขาดนักรบผูเ้ สียสละ และการปกป้องแผ่น


ดินเกิดมีนาหนั
ํ กมากกว่าหนึงชีวิต

94
ในขณะทีแผ่นดินมีทหารหาญเรือนแสน แต่จิงสุย่ มีนอ้ ง
ชายคนเดียว เหมือนกับทีเฉินเหวินเค่อเคยมี

“บางครังหน้าทีกับความรูส้ กึ มันไปด้วยกันไม่ได้” เฉินเห


วินเค่อเอ่นเสียงเรียบ นัยน์ตาสีขีเถ้าคมกริบ ดูเหินห่าง
และเย็นชา สมดังแม่ทพั เลือดผูแ้ สนอํามหิตไร้หวั ใจ ทว่า
ประโยคสุดท้ายเฉินเหวินเค่อก็กระตุกมุมปาก เอ่ยเช่น
องค์ชายใหญ่ผแู้ สนเย่อหยิงและเอาแต่ใจ “แต่ถา้ ข้า
อยากให้มนั ไปด้วยกัน มันก็ตอ้ งไปให้ได้”

จิงสุย่ ระเบิดเสียงหัวเราะ “เหวินเค่อ เจ้ามีลกู สองคนแล้ว


นะ ข้ากลัวเหลือเกินว่าโตไปพวกเขาจะเสียคนเพราะ

95
เจ้า”

เฉินเหวินเค่อขมวดคิว ริมฝี ปากขมุบขมิบเป็ นเชิงบ่น


“ทําไมใครต่อใครชอบคิดแบบนัน”

แน่นอนว่าไม่รอดหูของจิงสุย่

“อย่าบอกนะว่าสามีเจ้า...”

จิงสุย่ เห็นอีกฝ่ ายเบือนหน้าหนีเล็กน้อย...สรุปว่าใช่

96
.

รสชาติชาขมฝาดเฝื อน เดิมทีชาวนอกด่านไม่มี
วัฒนธรรมการดืมชา ด้วยสภาพอากาศและพืนที ทว่าใน
สถานทีเช่นนียังสามารถเสาะหามาได้ กลินหอมอ่อนๆ
ช่วยขจัดกลินคาวโลหิตทีติดตรึงอยูใ่ นโพรงจมูก...แค่เล็ก
น้อย

บุรุษทีนังอยูฝ่ ังตรงข้าม มองไอร้อนกรุน่ ลอยออกจาก


ถ้วยชา เพียงมองเช่นนันไม่ยอมยกขึนจิบ

97
“สิบสีปี ทีผ่านมา นอกจากชัยชนะทีรออยูเ่ บืองหน้า ก็มี
เพียงชาปี หลัวชุน[1]ทีข้าปรารถนาถึง” แก้วตาสะท้อน
ภาพของซือหม่า ดวงตาสีขีเถ้าเหมือนกับท่านแม่ทพั
เฉกเช่นสายเลือดขัตติยวงศ์ บนใบหน้ามีรอ่ งรอยตาม
กาลเวลา ทว่ายังดูออกว่าช่วงวัยอันรุง่ โรจน์ ฉีหวาง เฉิน
เฟิ งหลุนนับเป็ นบุรุษรูปงามผูห้ นึง “แล้วเจ้าเล่า ไม่คิดจะ
มีความต้องการเป็ นของตัวเองบ้างหรือ”

“ความต้องการของข้าคือความต้องการของท่านแม่ทพั ”

เฉินเฟิ งหลุนแค่นหัวเราะแฝงความดูแคลน “หึ! สุนขั รับ


ใช้ทีซือสัตย์”

98
แต่มนุษย์...ย่อมเป็ นมนุษย์

มีสงที
ิ ยึดถือเกินตัว และยึดติดเกินไป

“หลายวันมานีหนูสกปรกไม่คอ่ ยเข้ามายุม่ ย่าม บนท้อง


ฟ้าก็ไม่มีนกสอดรู ้ ท่านกุนซือผูเ้ ก่งกาจคิดเห็นเช่นไร”

ซือหม่ารักษาสีหน้านิงสงบ ฝ่ ามือทีซ่อนภายใต้แขนเสือ
ยาวจิกเข้าหากัน

“ข้าก็แค่กนุ ซือเล็กๆ ไม่ได้เก่งกาจอะไร ทําให้องค์ชาย


สามผิดหวังแล้ว”
99
สินคํากล่าวบุรุษผูม้ ีศกั ดิเป็ นเสด็จอาของท่านแม่ทพั ก็
หุบรอยยิม ซือหม่ารับรูไ้ ด้ทนั ทีวา่ อีกฝ่ ายไม่พอใจ...มาก

ฉีหวาง...หากนับจากลําดับพระโอรสของจักรพรรดิ
พระองค์ก่อนคือลําดับทีสาม การชิงบัลลังก์มีปรากฏอยู่
ในทุกประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ เพียงแต่เหตุผลย่อม
เหมือนและต่างกันออกไป

สําหรับฉีหวาง ซือหม่าไม่ขอคาดเดา แต่มีสงหนึ


ิ งที
สามารถพูดได้เต็มปาก ฉีหวางชิงชังองค์จกั รพรรดิผเู้ ป็ น
บิดา ชิงชังเสด็จพีผูข้ นเป็
ึ นจักรพรรดิองค์ถดั มา และชิง
ชังทุกสิงทุกอย่างทีเกียวโยงตนเข้ากับสกุลลวีและแซ่เฉิน

100
ซือหม่าอาจชาติกาํ เนิดตําต้อย แต่ชีวิตของเขาไม่มีวนั
ยอมศิโรราบให้ผใู้ ดโดยง่าย

“หลานรักของเราช่างโชคดี...โชคดีเหลือเกิน แต่หากแม่
ทัพของเจ้าทราบว่ากุนซือของตนทรยศแผ่นดิน สังหาร
หน่วยลาดตระเวนแล้วส่งข้อมูลผิดๆ กลับไป เขายังมอง
เจ้าเป็ นข้ารับใช้ทีภักดีได้อยูอ่ ีกหรือไม่”

“ท่านบังคับข้า”

“ข้าบังคับอะไรเจ้า”

101
ปึ ง!

ซือหม่าทุบฝ่ ามือลงบนโต๊ะเบืองหน้า จากนันจึงตะคอก


ด้วยนําเสียงดุดนั อย่างลืมตัว

“องค์ชายสาม หากพระองค์มิเอาชีวิตของจิงเสวียมาขู่ขา้
ข้าซือหม่าผูน้ ียินยอมทิงชีวิตเพือแผ่นดิน ทดแทนบุญ
คุณให้กบั ท่านแม่ทพั !”

หากซือหม่าและจิงเสวียทิงชีวิตของตนเองไว้ ก็จะไม่มี
เครืองต่อรองใดให้ศตั รูได้ใช้ประโยชน์

เสียดายเฉินเฟิ งหลุนมิใช่คนเขลา และอีกฝ่ ายใช้ปัญญา


102
มากกว่ากําลัง

ตอนทีจับกุนซือและรองแม่ทพั แห่งกองทัพตะวันออกได้
ซือหม่ากับจิงเสวียไม่ลงั เลทีจะตาย เพียงแต่ศตั รูไม่
ยินยอม ขณะทีซือหม่าได้รบั การควบคุมดูแลอย่างดี แต่
จิงเสวียกลับแตกต่างออกไป

หากซือหม่าขัดขืนคนทีเจ็บตัวจะเป็ นจิงเสวีย

ถ้าเขาปฏิเสธข้อเสนอ ขณะจิงเสวียถูกลากไปตามพืน
ท่ามกลางหิมะและอากาศหนาวบาดลึก แส้หนามสะบัด
ลงไปบนฝ่ าเท้า ปล่อยโลหิตมากมายไหลย้อมสีขาวให้
กลายเป็ นสีชาด ถูกทุบตีอย่างทารุณ โดยซือหม่าทําได้

103
แค่มองเท่านัน

ท้ายทีสุดแล้วซือหม่าก็ยงั มีความรูส้ กึ ห่วงหาดังมนุษย์


เดินดินทัวไป หาใช่เทพเซียนทีสามารถตัดขาดเรืองทาง
โลก

ตอบรับข้อเสนอเพือไว้ชีวิตจิงเสวีย ขัดขวางไม่ให้ทา่ นแม่


ทัพล่วงรูส้ ถานการณ์ในปั จจุบนั

“ท่านก็แค่คนน่าสงสาร”

“เจ้าว่าอะไรนะ?” เฉินเฟิ งหลุนถาม คล้ายไม่เชือในสิงที


ตนได้ยิน
104
“องค์ชายสามทีเคยได้รบั ความรักมากมาย สุดท้ายเมือ
เหวยกุย้ เฟยสามารถมีโอรสได้จากครรภ์ของตนเอง ลูก
เลียงกับลูกในไส้ ดูจากท่านในตอนนี เหวยกุย้ เฟยย่อม
เลือกอย่างหลัง...ข้าสงสารท่านจริงๆ”

ซือหม่าไม่ได้มีเจตนาเยาะเย้ยหรือแสดงความสมเพช
เพียงสงสารตรงตัวตามปากพูด แต่หากกล่าวโดยมิมี
ความรูส้ กึ สาแก่ใจผสมโรง นับว่าโกหกตัวเอง

เพียะ!

ใบหน้าซือหม่าหันตามแรงตบ ซีกหน้าด้านขวาชาจนไร้

105
ความรูส้ กึ ในปากได้กลินสนิมเหล็กคลุง้ เหลือบสายตา
ขึนมอง ไม่แปลกใจทีจะได้เห็นสีหน้าโกรธจัดของฉีหวาง

ซือหม่าถ่มนําลายผสมเลือดลงบนอกเสือของเฉินเฟิ ง
หลุน กล่าวต่อไปโดยมีความแค้นส่วนตัวเป็ นไฟสุม ยาม
นึกถึงสิงทีอีกฝ่ ายทํากับจิงเสวีย

“แถมยังมากด้วยริษยา”

ด้วยฐานะกุนซือ เสนาธิการแห่งกองทัพ ไม่ควรปล่อยให้


อารมณ์อยูเ่ หนือเหตุผล เพราะล้วนแล้วแต่ไร้ประโยชน์
ทังยังเกิดโทษมากกว่า ทว่าวาจาเป็ นสิงทีดึงกลับไม่ได้
ผลทีตามมา คนทีเจ็บตัวไม่มีวนั เป็ นเขา

106
ตอนนีเฉินเฟิ งหลุนบีบหัวใจของซือหม่าเอาไว้ในอุง้ มือ
จะบีบให้ตายเมือใดก็ได้

“ลากตัวมันออกมา โยนเอาไว้กลางลานหิมะ”

สินคํากล่าวราวได้ยินเสียงอัสนีบาตฟาดกับปฐพี ดัง
ก้องอยูใ่ นหู

ซือหม่าเข่าทรุด ส่วนเฉินเฟิ งหลุนยิมอย่างพึงพอใจ

“บางทีหากเจ้ากราบขอโทษ ข้าอาจจะคิดสิงทีพูดไปอีก
ที”
107
ซือหม่ารักศักดิศรีเหมือนกับบุรุษทัวไป แต่เมือผืนผ้า
ของกระโจมแหวกออก เผยให้เห็นร่างของใครบางคนถูก
โยนทิงไว้ทา่ มกลางลมแรงและหิมะทีตกหนัก ถูกล่ามโซ่
เอาไว้กบั เสาต้นหนึงอย่างกับสัตว์ ทําราวกับร่างนันมิใช่
มนุษย์

หัวใจซือหม่าสะท้าน โดยเฉพาะเมือต้นเหตุนนมาจาก

เขา

ร่างของซือหม่าหมอบกราบลงตํา กลํากลืนความอัปยศ
ในใจ เพียงแต่เฉินเฟิ งหลุนเห็นว่ายังตําไม่พอ จึงใช้ฝ่า
เท้ากดลงไปบนศีรษะ ออกแรงฟั งเสียงใบหน้าถูกขยีกับ

108
ผืนพรม อารมณ์ข่นุ มัวถึงเริมบรรเทาลง

“เป็ นตัวประกันก็ทาํ ตัวให้สมกับตัวประกัน อย่าอวดดีให้


มากนัก” กล่าวจบแรงกดก็ยา้ ยจากบนศีรษะมาทีหลัง
มือขวา

ซือหม่าคว้าข้อเท้าของเฉินเฟิ งหลุนเอาไว้ “รักษาสัจจะ


ด้วย”

“ข้าเคยพูดอะไรด้วยหรือ”

เฉินเฟิ งหลุนปรายตามองฝ่ ามือทีกําเข้าหากันแน่น ก่อน


ชีนิวสังให้ลากตัวซือหม่าออกไป
109
นัยน์ตาสีขีเถ้ากลับไปจดจ้องทีถ้วยชา บัดนีควันกรุน่
เลือนหายไปแล้ว

‘เสด็จพ่อโปรดเจ้ามาก ตําแหน่งไท่จือย่อมต้องเป็ นของ


เจ้า เด็กน้อยมารดารักเจ้ามากทีสุด เจ้าก็รูห้ รือมิใช่’

110
ตราบใดทีซือหม่าไม่ขดั ขืนหรือก่อปั ญหา ไม่วา่ เขาจะทํา
อะไรก็ไม่มีใครมาขัด

กุนซือปี ศาจผูเ้ คยเป็ นส่วนหนึงของกองทัพไร้พา่ ย แบก


ผ้าคลุมขนสัตว์ออกจากกระโจม สาวเท้าไปยังนักโทษ
อีกคนทีถูกล่ามไว้กลางลานหิมะ

จิงเสวียสัมผัสได้วา่ มีคนมาใกล้ เมือมือเย็นแนบลงบน


ข้างแก้มก็เผยรอยยิม

หิมะทีตกใส่กลางหัวหยุดแล้ว ถึงข้อเท้าทังสองจะถูก
ล่าม แต่แขนสองข้างยังเป็ นอิสระ จิงเสวียใช้มือลูบคลํา

111
บางสิงทีคลุมศีรษะและร่างกายของตนเอง จากนันจึง
พึมพําออกมา

“ขนสัตว์...อย่างน้อยเจ้าก็ไม่ลาํ บาก”

ถ้อยคําห่วงใยนัน อกซ้ายพลันจุกแน่น ซือหม่าพูดไม่


ออก

“เจ้าไม่ปวดกระดูกหรือ หิมะตกหนักเช่นนี ร่างกายของ


เจ้า...”

“หุบปาก! ดูสารรูปของเจ้าสิ มาห่วงอะไรข้า” หลังตะเบ็ง


เสียงดุ ซือหม่าก็แทรกตัวเข้าไป ขอแบ่งไออุน่ ภายใต้ผา้
112
คลุมผืนเดียวกัน

รอบกายไร้ซงกองไฟ
ึ แม้แต่คบเพลิงสักอันยังไม่มี ความ
ทรมานจากอากาศหนาวแทบจะฆ่าซือหม่าให้ตาย เจ็บ
ปวดราวกับโดนกรีดแทงจากใต้ผิวหนัง

จิงเสวียได้รบั แรงสันสะเทือนจากคนทีแนบชิดอยูก่ ็ทาํ ได้


แค่กระชับวงแขน แบ่งเบาความร้อนในกายให้กนั ถึงจะ
พูดอย่างไร ซือหม่าก็ไม่มีทางทิงเขาไว้ลาํ พัง

“ตอนนีมืดแล้วหรือ”

“อืม...มืดแล้ว” ซือหม่าตอบ หางเสียงสันพร่า “หิมะตก


113
หนักมองไม่เห็นดวงจันทร์เลย”

ข้อมูลเพิมเติม

[1] ชาปี หลัวชุน เป็ นหนึงในสิบสุดยอดชาจีน ชาปี หลัว

114
ชุน มีถินกําเนิดและผลิตในแถบภูเขา "ต้งถิง" เมืองไท่หู
มณฑลเจียงซู ดินแดนเจียงหนาน ภาคกลางของจีน ที
ซึงมีอากาศและสภาพดินทีเหมาะสมแก่การเจริญเติบโต
ของต้นชา ชาปี หลัวชุนเป็ นชาทีถูกปลูกร่วมกับต้นไม้ผล
ชนิดต่าง ๆ ของจีน ได้แก่ตน้ สาลี ท้อ บ๊วย พลับ ส้มจีน
ไป๋ กว๋อ และทับทิม ดังนัน ชาปี หลัวชุน จึงมีกลินหอม
หวลของดอกไม้ผลเหล่านันติดมากับใบชาด้วย

ชาปี หลัวชุนมีประวัติยาวนานมากว่า 1 พันปี มีชือเสียง


โด่งดังมาตังแต่สมัยราชวงศ์สยุ ถัง และ ซ่ง ในสมัย
ราชวงศ์ชิง ราชวงศ์สดุ ท้ายของจีน จักรพรรดิคังซี จึงทรง
ตังชือชานีว่า "ปี หลัวชุน"อันมีความหมายว่า "ชาเขียวรูป
ก้นหอยแห่งฤดูใบไม้ผลิ" เป็ นทีโปรดปรานของจักรพรรดิ
คังซีมาก ใบชาปี หลัวชุนมีสีเขียวสด กลินหอม รูปร่าง

115
ของใบชามีความสวยงามม้วนเหมือนกับก้นหอย รสชาติ
หวานหอม ถือกันว่าช่วยแก้รอ้ นในได้ดี

ตอนที ๓๔ หนีเลือดย่อมล้างด้วยเลือด

116
ท่ามกลางราตรีอนั เงียบสงัด แสงของประกายไฟสว่าง
วาบ

“ศัตรูแอบลอบเข้ามา!”

“บัดซบ! พวกมันเผาเสบียง ดับไฟ…ดับไฟ!”

ร่างหนึงกระโจนผ่านกองเพลิงด้วยความเร็วทีเห็นเพียง
เส้นเงาสีดาํ พาดผ่าน นัยน์ตาสีขีเถ้ากวาดมองผลงาน
โดยรวมก่อนยกมือขึน เป็ นสัญญาณให้อีกสีชีวิตที
เหลือกระจายตัวออกไป

117
‘เจ้ามิคิดว่าการแก้แค้นทีดีทีสุดคือสวนกลับด้วยวิธีการ
เดียวกันหรือ’

บุรุษทีได้ฟังพลันเลิกคิว แล้วเอ่ยต่อ ‘ก็ไม่เลว’

ฝ่ ายศัตรูลอบเข้ามาเผาทําลายพืนทีทางการเกษตร และ
ยึดครองเสบียงฤดูหนาวของทัพตะวันออกเสียหมด ของ
ทีได้มาโดยการแย่งชิง ผลประโยชน์นีหากดึงกลับคืนมา
ไม่ได้ ก็มิสมควรตกลงสูเ่ งือมมือของฝ่ ายตรงข้าม

ดาบนันคืนสนองจึงจะสมนําสมเนือ

‘ใครจะเป็ นตัวล่อ?’
118
‘เจ้า’

‘หมายความว่าเจ้าจะบุกเข้าไปชิงตัวประกัน?’

‘ทีนีถินข้า’ รอยยิมหยันแต่งแต้มทีมุมปาก ฝ่ ายคนฟั ง


คล้ายได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจดังผสานตามมา ‘ใน
ฐานะสหายร่วมเรียนทีโตมาด้วยกัน สุย่ สุย่ ฝี มือเจ้าด้อย
กว่าข้า’

‘เลิกเรียกข้าเช่นนันเสียที…’ จิงสุย่ เผยสีหน้าเอือมระอา

ขณะทีเฉินเหวินเค่อยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ก็จริงดังว่า
119
หากใครบางคนมาได้ยินเดียวจะพาลแง่งอนใส่เขาอีก

ท่ามกลางเหล่าผูค้ นทีวุน่ วายโกลาหล เฉินเหวินเค่อใช้


ฝี เท้าเบากริบไหลเนียนไปกับเงามืด พบเจอศัตรูสามารถ
สังหารทิงได้ภายในครังเดียว ในทีมืดมิดไร้แสงไฟเว้น
เพียงแสงจันทร์ กลางลานกว้างทีเต็มไปด้วยหิมะหนา
แลเห็นเค้าลางของคนสองคน ใกล้ๆ กันเป็ นวัตถุ
บางอย่างถูกกองสุมกันไว้ มีผา้ เนือหยาบคลุมทับรัดด้วย
เชือกฟาง

นัยน์ตาสีขีเถ้าเรืองรองท่ามกลางความมืด มือทีเลิกผ้า
คลุมกําแน่นขึน อากาศหนาวเย็นทําให้ศพไม่เน่าเปื อย
จึงยังคงสภาพเมือตอนมีชีวิตอยูท่ กุ กระเบียดนิว เฉินเหวิ
นเค่อหลับตาลงครูห่ นึง จากนันดึงผ้าคลุมลง หันหลัง
120
เดินจากมา ตรงไปยังเงาร่างของคนสองคนทีอยูไ่ ม่ไกล

ทันทีทีปลายนิวแตะลงไปทีกลุม่ ผม ตอนนันเองมือเย็น
เฉียบของอีกร่างทีอิงแอบอยูต่ รงแผ่นอกก็คว้าข้อมือของ
เฉินเหวินเค่อไว้แน่น ทว่าด้วยแรงสันสะเทือนทีส่งผ่าน
มา เพียงออกแรงสะบัดเล็กน้อยก็หลุดออกมาได้ง่าย
ดาย

บุรุษด้านหลังถึงผมเผ้าจะยุง่ เหยิง ใบหน้าซีดเซียวซูบ


ตอบ แต่เฉินเหวินเค่อก็จาํ รองแม่ทพั ของตนเองได้ ใน
ขณะทีซือหม่าดูไม่เปลียนไปมากนัก เว้นเสียมุมปากมี
แผลแตก ซีกหน้าด้านขวาปรากฏรอยชําเลือด

121
ซือหม่าไม่มีกาํ ลังอะไรไปต่อต้านคนตรงหน้า ทราบดีวา่
การกางแขนปกป้องจิงเสวียทีไม่มีแรงขยับกายนันดูโง่
เง่ามากขนาดไหน บุรุษลึกลับสวมผ้าคลุมหน้าอ่าน
เจตนาไม่ออกว่าดีหรือร้าย

แสงจันทร์สาดส่องลงมาก่อเกิดเงาทะมึนพาดผ่าน จึง
มองไม่เห็นดวงตา

“ผูค้ นต่างต้องยอมรับผลของการกระทําไม่วา่ ดีหรือร้าย


ข้าต้องการคําตอบและคําอธิบายทีกระจ่าง” บุรุษลึกลับ
กล่าวเสียงราบเรียบไม่แฝงอารมณ์ใด แต่บรรยากาศกด
ดันรอบตัวชวนให้แข้งขาอ่อนแรง

122
จะมีผใู้ ดเข้าใจความคิดของเฉินเหวินเค่อได้ดีไปกว่าคน
ติดตามทีรูใ้ จ รวมทังรับใช้มาเนินนานหลายปี แผนการ
กลยุทธ์ใด คนทีล่วงรูท้ กุ สิงทุกอย่างมีเพียงแค่สองคน
หากไม่นบั รวมจิงสุย่ ก็เหลือแค่จิงเสวียกับซือหม่า

“เสียงนี...” ซือหม่ากลืนนําลายลงลําคอทีแห้งผาก ขอบ


ตารืนด้วยความละอายแก่ใจ ปะปนมากับความรูส้ กึ โล่ง
อก

บุรุษลึกลับดึงผ้าคลุมหน้าออก ซือหม่าเปลียนท่าทาง
คุกเข่าโขกศีรษะลงกับพืน

“คารวะท่านแม่ทพั กระหม่อมยินดีเล่าทุกอย่างให้ฟัง

123
ตามปรารถนา” เหลือบสายตากลับไปมองด้านหลัง “แต่
เรืองนีเขาไม่เกียวอะไรด้วย ท่านแม่ทพั ...”

“เอาไว้ทีหลัง” เฉินเหวินเค่อตัดบท

ได้ยินเสียงตะโกนว่าทัพย่อยของชาวเสวียนบุกโจมตี
ลอยมาตามสายลม

ตัวล่อได้ทาํ หน้าทีของตัวล่อแล้ว...

“จิงเสวียยังไหวไหม?”

“ท่าน...แม่...แม่ทพั ” จิงเสวียพึงได้สติเอ่ยด้วยนําเสียง
124
อ่อนแรง พยายามใช้แขนของซือหม่าเป็ นแรงส่งให้ตวั
เองลุกขึน แต่ไม่สาํ เร็จ

“ฝ่ าเท้าของจิงเสวียโดนแส้หนามฟาด ทังยังโดนทุบตี


เกรงว่าจะเดินไม่ได้”

“ข้าอุม้ เขาเอง”

แต่เมือเฉินเหวินเค่อได้มองหน้าจิงเสวียชัดๆ ในระยะ
ประชิด จึงพบความผิดปกติอีกอย่างหนึง หันหน้ากลับ
ไปมองซือหม่า เห็นอีกฝ่ ายเม้มปากแน่นก่อนจะพยัก
หน้าอย่างคนไม่อยากยอมรับนัก

125
ฝ่ ามือของเฉินเหวินเค่อโบกผ่านใบหน้า อีกฝ่ ายยังนิงงัน
ไร้แสงประกายในดวงตาของจิงเสวีย บ่งบอกอย่างชัด
เจนว่าจิงเสวียไม่สามารถมองเห็นได้อีกแล้ว

นับว่าไม่ใช่เรืองทีควรประหลาดใจ....เฉินเหวินเค่อมีสี
หน้านิงสนิทขัดกับภายในหัวสมองทีขาวโพลน อดคิดไม่
ได้วา่ หากเป็ นเขาคงเป็ นเรืองทีตัดสินใจได้ยากยิง ถึงสุด
ท้ายจะเลือกแผ่นดินก่อนก็ตาม

สําหรับเขา...แม้มิอาจเคียงคูย่ ามมีลมหายใจ ทว่ายังได้


เคียงข้างภายใต้ธุลีดิน

เฉินเหวินเค่อแบกจิงเสวียขึนหลังแล้วพูดกับซือหม่าสันๆ

126
ว่า “ไป”

พลุสีแดงถูกจุดขึน พลทหารของแผ่นดินเสวียนเฉินส่ง
สัญญาณถอยทัพ ระหว่างถูกลอบเผาเสบียง ตัวประกัน
ทังสองหลบหนีไปได้ ฉีหวางยกนําชาขึนจิบ ปล่อยให้คน
เข้ามารายงานหน้าซีดตัวสัน เดือดร้อนให้สตรีขา้ งกาย
พัดวีเอาใจ

ในฐานะเผ่านักรบเก๋อหลัน กับผูบ้ กุ รุกยามวิกาลแค่เพียง


หยิบมือกลับจัดการไม่ได้เลยสักคน จะเอาหน้าไปไว้ที
ไหน

“นายท่าน...”

127
“ถ้าจะมาครําครวญขอความเมตตาก็ไสหัวไปเสีย”

หัวหน้าเผ่าเก๋อหลันกลํากลืนคําพูดลงท้อง สบสายตา
กับบุตรี เก๋อมูเ่ อ๋อร์จงึ กล่าวด้วยนําเสียงอ่อนหวาน ทังยัง
นอบน้อมอยูห่ ลายส่วน หวังเอาสายนําเย็นเข้าลูบ

“ผูบ้ กุ รุกฝี มือไม่ธรรมดา ทังยังดูคนุ้ เคยกับทีนีพอสมควร


มูเ่ อ๋อร์มีคนผูห้ นึงอยูใ่ นใจ”

เฉินเฟิ งหลุนปรายสายตา กระตุกมุมปากเผยรอยยิมที


คาดเดาไม่ได้ “ว่ามา”

128
“ถึงแม้ตอนนีคนผูน้ นจะแต่
ั งงานออกเรือน ละวาง
ตําแหน่งแม่ทพั ตะวันออกไปแล้ว แต่หากถึงคราวคับขัน
เกรงว่าจักรพรรดิของชาวเสวียนคงมินิงดูดาย ผูบ้ กุ รุกใน
ครังนีขวัญกล้ามากฝี มือ ก็เหลือแค่เพียงผูเ้ ดียว อดีตแม่
ทัพตะวันออก องค์ชายใหญ่ของพวกชาวเสวียน...เฉินเห
วินเค่อ”

“อ้ายเฟยกับข้าใจสือถึงกันเสมอ”

กับคนอ่อนแอหนึงคน พ่วงด้วยตัวถ่วงทีเจ็บหนักจนเดิน
ไม่ได้ทงยั
ั งตาบอด อยากรูน้ กั ว่าจะหนีไปได้อีกสักกีนํา

นัยน์ตาสีขีเถ้าทอประกายวาวโรจน์...ดินรนให้มากอีกสัก

129
หน่อยจึงจะน่าสนุก

เดิมทีการเดินทางจากเมืองผีซวในมณฑลฉี
ิ เหิงไปยัง
มณฑลจีหลิง ต้องผ่านเมืองอีกสองเมืองเข้าสูม่ ณฑลซี
เจียง สะพานยวินหลงเป็ นจุดตัดเขตแดนของฝังตะวัน
ออก สรุปโดยรวมแล้ว หากเดินเท้าต้องใช้เวลาราวหนึง
สัปดาห์ ถ้านังเกวียนหรือรถม้าก็จะย่นระยะเวลามาได้
130
วันสองวัน การมีคนเจ็บร่วมทางจึงทําให้การเดินทางล่า
ช้าลงไปอีก

กับซือหม่าแค่ให้คนมีวรยุทธสักคนแบกขึนหลังไปก็หมด
ปั ญหา ทว่าจิงเสวียอาการไม่สดู้ ี ระหว่างทางไข้กลับไป
สามหน ธาตุไฟเข้าแทรก เฉินเหวินเค่อช่วยได้แค่ถ่ายเท
ลมปราณประคองอาการ ขึนอยูช่ ะตาของจิงเสวียแล้วว่า
จะเป็ นหรือตาย

ภรรยาสักคนยังไม่ได้แต่ง เป็ นถึงรองแม่ทพั ของเขา อย่า


ใจเสาะชิงจากไปก่อนเสียเล่า...

“อดทนอีกสักชัวยามก็จะถึงสะพานยวินหลงแล้ว” ซือ

131
หม่ากล่าวพร้อมบีบมือของจิงเสวียแน่น

“พีชายของเจ้ารออยูท่ ีอีกฟากของสะพาน” เฉินเหวินเค่อ


เอ่ยสมทบ หันหน้าไปทางด้านหลัง ดวงตาคูค่ มหรีลง แม่
ทัพเลือดคว้าทวนคูก่ ายมาถือไว้

เคร้ง!

มีดบินพุง่ ทะยานมาจากบนยอดไม้กระทบกับคมทวนที
ยกขึนมาปั ดป้อง

“ไป!”

132
ซือหม่าเม้มปากแน่น ด้วยความอ่อนแอของตนจึงไม่
อาจอยูถ่ ่วงแข้งถ่วงขาท่านแม่ทพั และเพราะเอาแต่รบี
เร่งเดินทางจึงไม่มีโอกาสได้บอกเรืองหนึง ดังนันก่อนกุน
ซือหนุ่มจะถูกแบกขึนหลังได้ตะโกนบอกเรืองสําคัญทิง
ท้าย

“ท่านแม่ทพั !”

เฉินเหวินเค่อไม่ได้ตอบ แต่เงียหูรอฟั งอยู่

“เขายังไม่ตาย...” ซือหม่าพูด “ฉีหวางยังไม่ตายพ่ะย่ะ


ค่ะ!”

133
เฉินเหวินเค่อทีได้ยินก็นิงงันไปครูห่ นึง แล้วหัวร่อออกมา
อย่างชอบใจ

“ดี...ดี...ดีมาก!”

ตอนนันเล่อเล่อถูกพรากจากเขาไป ทําท่านแม่หวั ใจ
สลาย ซําร้ายยังมิทนั ได้ทวงคืนชีวิตของน้องชายร่วม
สายเลือด หลังฟื นขึนมาอีกทีก็ได้รบั ข่าวว่าฉีหวางสิน
พระชมน์ เสด็จอาของเขาไม่เพียงทิงแผลเป็ นทีไม่อาจ
สมาน แต่ยงั ทิงหนีแค้นทีไม่มีวนั สะสางเอาไว้ดว้ ย

คนเรามีบญ
ุ คุณต้องทดแทน มีแค้นย่อมต้องชําระ มีหรือ
หนีเลือดจะไม่ตอ้ งล้างด้วยเลือด!

134
คนลึกลับในชุดปิ ดมิดชิด มองไม่ออกว่าเป็ นบุรุษหรือ
สตรีกระโดดออกมาจากทีซ่อน การเคลือนไหวปราด
เปรียว คนพวกนีหาใช่ชนเผ่านอกด่าน เหมือนจะเป็ น
สุนขั รับใช้ทีพวกขุนนางกังฉินเลียงเอาไว้ใต้จวน เฉินเหวิ
นเค่อคว้าคอหนึงในมือสังหารทีล้อมรอบกาย ยามรีดเร้น
ลมปราณสามารถสังหารคนได้ในหนึงฝ่ ามือ บรรยากาศ
กดดันจากแม่ทพั เลือด ทําเอาเผลอเดินถอยหลังอย่างไม่
รูต้ วั

“เคยได้ยินมาว่า อันเสียนหวงโฮ่วเป็ นสตรีทีดี เสียดายใต้


เท้าไป๋ บิดาของนาง เนือแท้กลับไม่สงู ส่งเฉกเช่นบุตรี”

135
“...”

“ทําไม? หรือว่านายของพวกเจ้าคือใต้เท้าเจิง”

แต่ใต้เท้าขุนนางท่านนัน นอกจากมากในตัณหาจึงมี
ความกล้าทําเรืองชัวช้าขึนมาสักหน่อย อย่างอืนล้วนหา
ข้อดีไม่เจอ

“ใต้เท้าไป๋ ก็ดี ใต้เท้าเจิงก็ดี คนตายไม่มีปากพูดจะรูไ้ ป


ทําไม”

“หึ!” เฉินเหวินเค่อแค่นเสียงหัวเราะ

136
นันสินะ...คนตายไม่มีปากพูดจะรูไ้ ปทําไม

สิงสุดท้ายทีคนเหล่านันได้เห็น คือแสงสีเงินจากคมทวน
และรอยยิมเหียมเกรียม โลหิตอาบไล้เรือนกายสูงใหญ่
เฉกเช่นอดีตกาลทีเคยย้อมแม่นาลั
ํ วเป็ นสีชาด จนผูค้ น
ขนานนามองค์ชายใหญ่แห่งราชวงศ์เฉินว่า ‘แม่ทพั
เลือด’

หลังจากจัดการมือสังหารทังหมด ไม่มีเวลากลบร่องรอย
จําต้องรีบเร่งเดินทางต่อ เฉินเหวินเค่อยกมือขึนกุมอก
กระอักเลือดออกมา แอบซ่อนมืออันสันเทาเอาไว้ภายใต้
แขนเสือ

137
คลอดลูกหนึงคนก็ออ่ นแอลงหนึงส่วน ร่างกายยังพักฟื น
ไม่เต็มทีก็ตอ้ งออกรบเสียแล้ว ทังในอดีตเคยกินยาลูก
กลอนว่านเซียงโหรว แม้ตอนนันโชคเข้าข้างเส้นลม
ปราณตีบตันเพียงชัวคราว ทว่าผลกระทบในระยาวกลับ
ปรากฏให้เห็นตอนตังครรภ์

เขารูด้ ีวา่ ตอนนีตัวเองไม่แข็งแรงเหมือนดังกาลก่อนอีก


แล้ว...

วิงพ้นแนวป่ าก็เห็นซือหม่ากับจิงเสวียกําลังข้ามสะพาน
ยวินหลง อีกฟากหนึงมองเห็นค่ายทหารอยูไ่ กลๆ จิงสุย่ ชี
นิวสังให้แพทย์หลวงและหมอยาทีติดตามมาด้วยเตรียม
รับคนเจ็บมาดูแล ขณะจิงสุย่ กําลังเดินมารับน้องชายที
อยูก่ ลางสะพาน ก็ถกู สหายยกมือปรามเสียก่อน
138
เฉินเหวินเค่อจ้องเขม็งไปทางป่ าด้านหลัง ทันทีทีแน่ใจ
ในเสียงทีตัวเองได้ยิน แม่ทพั เลือดสะกิดปลายเท้าพุง่
ทะยานเข้าหาจิงเสวียกับซือหม่า ลูกธนูนบั ร้อยตกลงมา
จากฝากฟ้าราวห่าฝน เฉินเหวินเค่อรีดเร้นลมปราณควง
ทวนในมือเป็ นวงกลม ปั ดป้องไม่ให้ผใู้ ต้บงั คับบัญชาที
ไม่มีแรงสูไ้ ด้รบั อันตราย ส่วนหัวของลูกศรถูกย้อมด้วย
ไฟ โชคดีทีแม้สะพานยวินหลงจะทํามาจากไม้เนือแข็ง
แต่ก็ไม่ติดไฟได้โดยง่าย ทังหิมะทีตกหนักก็เป็ นตัวช่วย
ไม่ให้เปลวเพลิงลุกลาม ฝนธนูมาอีกระลอก กับฝี มือของ
แม่ทพั ไร้พา่ ยมีหรือจะเพลียงพลํา

ลูกธนูดอกหนึงปั กลงบนพืนดินทีไม่มีหิมะปกคลุมอย่าง
ผิดธรรมชาติ ยามใช้วรยุทธประสาทสัมผัสทังห้าเฉียบ

139
คมขึน เฉินเหวินเค่อได้ยินเสียงเปลวไฟกําลังเผาไหม้....
เสียงทีคุน้ ชินกับมันดี เป็ นเสียงเดียวกับยามจุดชนวนปื น
ใหญ่

“บัดซบ!” เขาสบถลัน “พาสองคนนันออกไปเดียวนี”

ตูม!

เสียงระเบิดดังสนัน ใต้ฝ่าเท้าสันโครงเครง ตามมาด้วย


เสียงของสะพานทีกําลังพังทลาย เฉินเหวินเค่อไม่รอช้า
รีบสะกิดปลายเท้าตามมาทันที มีดบินเล่มหนึงพุง่ ตรง
เข้ามาหา เฉินเหวินเค่อเอียงคอหลบวืด มีดบินเล่มนันจึง
พุง่ ตรงไปยังจิงเสวีย ด้วยความกระชันชิด ชายทีอุม้ ซือ

140
หม่าอยูจ่ งึ ต้องใช้แผ่นหลังของตนเป็ นเกราะกําบัง

อย่างไรคนเหล่านีล้วนเป็ นอดีตทหารภายใต้กองธง
ตะวันออกของเฉินเหวินเค่อ ซือหม่าเองก็รูจ้ กั มักคุน้
เรืองฝี มือและร่างกายทีแข็งแกร่งเป็ นหนึงไม่มีสอง กับ
บาดแผลจากมีดเล่มหนึงมีหรือจะระคายผิว ทว่าวิงต่อ
ไปได้ไม่นานชายผูน้ นก็
ั กระอักเลือดสีดาํ ข้นคลักออกมา
กองใหญ่ จากนันไม่นานร่างนันก็หน้าคํามะล้มตึง

ซือหม่าถูกร่างกายสูงใหญ่ลม้ ทับ เรียวแรงมีนอ้ ยนิดจึง


ทําอันใดแทบไม่ได้ แต่สงหนึ
ิ งทีแน่ใจคือชายผูน้ ีตายด้วย
พิษของงูป๋อ งูทีมีมีพิษร้ายแรงทีสุดในดินแดนทุง่ หญ้า
และทะเลทราย ดึงมีดทีปั กอยูบ่ นแผ่นหลังมาพิจารณา
ตัวมีดทําจากกระดูกสัตว์สีขาวมุก เป็ นของพวกชนเผ่า
141
นอกด่านอย่างไม่ตอ้ งสงสัย

นําหนักทีกดทับบนตัวมลายหายไป ซือหม่าถูกคว้าคอ
เสือ ทวนประจํากายของท่านแม่ทพั ถูกยัดใส่มือ กุนซือ
หนุ่มถูกความมึนงงจู่โจมกะทันหัน ไม่ทนั ได้อา้ ปากถาม
ร่างกายของตัวเองก็ลอยหวือ สายลมหนาวไล้ผา่ นร่าง
กาย ส่วนภาพของท่านแม่ทพั ก็หา่ งไกลออกไปทุกที

หากเปรียบนําในกระเป๋ าหนังกับลมปราณ นันเป็ นนํา


หยดสุดท้ายของเขาแล้ว

เฉินเหวินเค่อปาดเลือดทีมุมปาก เสียงไม้แตกไล่ตามมา
ด้านหลัง

142
“อาเค่อ!” จิงสุย่ ตะเบ็งออกมาสุดเสียง ขณะยืนมือออก
ไปหาเฉินเหวินเค่อ

ร่างกายเริมร่วงหล่น เมือใต้ฝ่าเท้ามีเพียงอากาศธาตุ
และความว่างเปล่า ทันทีทีคว้ามือของจิงสุย่ เอาไว้ได้
เฉินเหวินเค่อหันกลับไปมองยังอีกฝากของสะพาน พบ
ชายอายุราวสีสิบแปด แต่งกายภูมิฐานแบบชาวเสวียน
ใบหน้านันแม้จะมีอายุขนตามวั
ึ ย แต่เฉินเหวินเค่อไม่มี
วันลืม....นัยน์ตาสีขีเถ้าทังสองคูส่ บกันเป็ นคราแรกใน
รอบสิบสีปี

ทันทีทีประสบพักตร์ เลือดในกายพลันร้อนระอุ

143
ข้างๆ กันเป็ นโฉมสะคราญผิวทองแดงเงือเกาทัณฑ์คา้ ง
เอาไว้ ทันทีทีนวลนางปล่อยมือจากสายคันศร ธนูดอก
หนึงก็ปักเข้าทีบริเวณข้อมือของจิงสุย่ ชายหนุ่มไม่อาจ
ยับยังความเจ็บปวด มือทีฉุดรังเฉินเหวินเค่อเอาไว้จงึ
คลายออก

"อาเค่อ!"

จิงสุย่ มองสหายร่วงหล่นไปเบืองล่าง โดยอ่านปากของ


เฉินเหวินเค่อทีพยายามบอกอะไรบางอย่างได้เพียงแค่
สามคํา

144
‘เฉิน-ลู-่ ปิ น’

“เฉินอันหวาง?”

นําชาร้อนลวกผิวสติถงึ กลับเข้าร่าง เฉินลูป่ ิ นขยับยิมเล็ก


น้อย เป็ นการขอโทษทีเสียมารยาทต่อคูส่ นทนา

145
“ขออภัยใต้เท้าไป๋ ข้าใจลอยไปชัวครู ่ เชิญใต้เท้าไป๋ กล่าว
ต่อ”

ไป๋ หลิงอีโบกมือ “เรืองแค่นี เฉินอันหวางโปรดอย่าคิด


มาก”

“เสียมารยาทอย่างไรก็คือเสียมารยาท” เฉินลูป่ ิ นตอบ

ไป๋ หลิงอีเห็นเชือพระวงศ์ตรงหน้ายืนยันหนักแน่นก็ไม่ดือ
ดึง รีบเปลียนบทสนทนา

“ท่านชายน้อยสุขภาพแข็งแรงดีใช่หรือไม่”
146
“แข็งแรงดี”

ไป๋ หลิงอีหวั เราะร่วน ดังผูอ้ าวุโสทีผ่านประสบการณ์มา


แล้ว ในฐานะบิดาและท่านปู่ ใหญ่ของสกุลไป๋ “เด็กเล็ก
อายุยงั ไม่ถงึ หนึงขวบปี คงทําท่านปวดหัวไม่นอ้ ย”

เฉินลูป่ ิ นยิมรับ “ลูกชายข้าเลียงง่าย เลยไม่ลาํ บาก


เท่าไร”

ใต้เท้าไป๋ ยกชาขึนจิบ รอยยิมงามนัน สมแล้วทีเคยติด


อันดับชายหนุ่มรูปงาม มองไม่ออกเลยว่าบุรุษบอบบาง
มือจับแต่พกู่ นั มีเรียวแรงขนาดกดพยัคฆ์รา้ ยเฉกเช่น

147
องค์ชายใหญ่เอาไว้ใต้รา่ งได้อย่างไร? ถึงแม้จะเคยได้ยิน
ข่าวคราวว่าหวางผูน้ ีไม่ธรรมดา สามารถทําให้องค์ชาย
ใหญ่ทีดุดนั พร้อมจะกินหัวคนท้องโต คลอดพระราช
นัดดาพระองค์แรกให้ฝ่าบาทได้ ตอนนันไป๋ หลิงอีไม่ได้
เดินทางมาเยียมเยียนพิสจู น์ความจริง เห็นว่าเป็ นเรืองไร้
สาระ จึงฝากแค่ของกํานัลรับขวัญมาให้ทีจวนเว่ยหวาง

“เฉินอันหวาง?” ใต้เท้าไป๋ ส่งเสียงเรียกบุรุษรูปงามทีเริม


เหม่อลอยอีกครัง

เหตุใดในอกจึงรูส้ กึ วูบโหวงเช่นนี...

เฉินลูป่ ิ นสูดลมหายใจลึก พยายามสลัดความรูส้ กึ ไม่

148
สบายใจออกไป

“หวางเย่เพคะ!”

สตรีนางหนึงรีบรุดเข้ามาขัดจังหวะอย่างเสียมารยาท ใต้
เท้าไป๋ มีสีหน้าไม่พอใจ แต่เฉินลูป่ ิ นจําได้วา่ นางคือแม่
นมของฉางเล่อ หรือว่าเกิดเรืองร้ายแรงอะไรขึน?!

“มีอะไร”

“ท่านชายน้อย...ท่านชายน้อยร้องไห้ไม่หยุดเลยเพคะ
ปกติยามนีเป็ นเวลานอนกลางวัน ทุกทีทา่ นชายน้อยจะ
งีบหลับไม่เคยงอแง แต่วนั นีไม่รูเ้ ป็ นอะไร บ่าวปลอบอยู่
149
นาน ท่านชายน้อยก็ไม่ยอมหยุดร้องเพคะ”

เงียหูฟังดีๆ พบว่าได้ยินเสียงทารกแผดเสียงร้องไห้จา้

“ใต้เท้าไป๋ ขอตัวสักครู.่ ..ตามแพทย์หลวงหรือยัง”


ประโยคแรกเฉินลูป่ ิ นกล่าวกับใต้เท้าไป๋ ส่วนประโยคต่อ
มากล่าวกับแม่นมทีก้าวเท้าเดินตามมาติดๆ

“ส่งคนไปแจ้งแก่สาํ นักแพทย์หลวงแล้วเพคะ” แม่นม


ตอบ

“อาจเพราะป่ วยใจหาใช่ป่วยกาย ได้ยินว่าเด็กน้อย


บริสทุ ธิไร้เดียงสา ชีวิตผูกพันกับมารดา บางที...” ไป๋ หลิง
150
อีเอ่ยขึนมาลอยๆ ท่าทางราวกําลังชืนชมบุปผางาม ผิด
กับเนือความทีกล่าวออกมา

เฉินลูป่ ิ นไม่ฟังจนจบประโยค ก็พดู แทรกขึนมาเสียก่อน


“ข้าไม่ทราบว่าใต้เท้าไป๋ หมายความว่าอะไร”

วินาทีทีไป๋ หลิงอีได้กล่าวถ้อยคําสมควรตายออกมา เท่า


กับเลือกตัดชะตาชีวิตของตัวเองทิงอย่างโง่งม แผ่นหลัง
ของเฉินอันหวางแม้ไม่กล้าแกร่งดังภูผา แต่ไม่รูเ้ พราะ
เหตุใดจึงรูส้ กึ ว่าไม่สมควรล่วงเกินเป็ นอย่างยิง

151
ตอนที ๓๕ ซ่อนกระบีได้ แต่ไม่อาจซ่อนตลอดกาล

152
ดรุณีนอ้ ยนางหนึงเดินลัดเลาะไปตามทางเดินภายใน
จวนหลังงาม ภายในมือประคองถ้วยชา เมือมาถึงห้อง
หนังสือ นางเอ่ยปากขออนุญาต ไม่นานนักก็มีเสียง
ตอบกลับ ทีกลางห้องพบชายวัยกลางคนจดจ้อง
แผ่นกระดาษในมือหน้าตาครําเคร่ง ไม่แม้แต่จะเงยหน้า
ขึนมองผูม้ าเยือน

‘พรุง่ นีเจ้าต้องแต่งเข้าตําหนักไท่จือแล้ว เหตุใดยังไม่


เตรียมตัวอีก’

นางไม่ตอบคํา วางถ้วยนําชา

‘ลูกเพียงอยากพบหน้าท่านพ่อเจ้าค่ะ’

153
‘ไร้สาระ อีกไม่นานเจ้าหาใช่คณ
ุ หนูไป๋ แต่จะเป็ นไท่จือ
เฟย อนาคตมารดาแห่งแผ่นดิน รูห้ น้าทีของตนให้มาก
หน่อย’

‘ลูกทราบดีเจ้าค่ะ’ นางก้มหน้ารับ ก่อนจะเอ่ยขอตัว


‘ท่านพ่อโปรดรักษาสุขภาพ’

กลินดอกหลันหอมกรุน่ ลอยเข้าจมูก ไป๋ หลิงอีเหลือบ


สายตามองถ้วยชา ไม่ให้ความสนใจ

บุตรีของเขาเคยเป็ นสตรีทีว่านอนสอนง่าย แต่เมือนาง


ผูกสัมพันธ์กบั เช่อเฟยคนหนึงของฝ่ าบาท ไป๋ หลันฮวา

154
พลันมีความคิดอ่านกล้าแข็งขึนมา สกุลไป๋ สมควรหวน
คืนสูอ่ าํ นาจ หากมิใช่เพราะบุตรีของเขาใช้การไม่ได้ มี
หรือเช่อเฟยจะเทียบเคียงไท่จือเฟย สกุลหร่วนมีหรือจะ
เทียบเท่าสกุลไป๋

คล้อยหลังเจ้าของจวน ไม่รูเ้ พราะเหตุใดในหัวจึงคิดถึง


เรืองนีขึนมา เดิมทีเขาไม่ได้มีปฏิสมั พันธ์อะไรกับเฉินอัน
หวาง ย้อนไปก่อนสกุลหร่วนจะสินอํานาจ ไป๋ หลิงอีกบั
องค์ชายใหญ่ประหนึงคนแปลกหน้า

ช่วงนีตาเฒ่าจิงจ้องจับผิดตาเป็ นมัน ไป๋ หลิงอีมนใจว่


ั า
ตัวเองไม่มีทางเผยพิรุธใดออกมา ทังพวกมือสังหารทัง
หลาย เดิมทีก็เป็ นของสกุลลวีทีให้ความช่วยเหลือฉีหวา
งทังนัน แม้ฉีหวางจะทรงเกลียดทรงชังมารดาเลียงของ
155
ตนมากขนาดไหน แต่เพือชัยชนะจําต้องมีมือเท้าทีใช้
การได้

เช้าวันนีใต้เท้าไป๋ ได้รบั เทียบเชิญอย่างลับๆ ตอนออก


จากจวนจึงอาศัยมากับเกวียนสําหรับขนของ การแต่ง
กายเรียบง่าย มองเผินๆ ไร้ซงราศี
ึ ของขุนนางใหญ่ เทียบ
เชิญจากเฉินอันหวางดูน่าสงสัย นิสยั ของใต้เท้าไป๋ หลีก
เลียงสิงทีตนเองคาดเดาไม่ได้ เรืองนีก็เช่นกัน เพียงแต่
คะเนนําหนักทังสองฝัง ระหว่างปฏิเสธกับตอบรับ การ
ปฏิเสธดูจะเป็ นผลเสียมากกว่า

ชายชราเหม่อมองถ้วยนําชา ขณะห้วงความคิดล่องลอย
ออกไปไกล

156
ฝังเฉินลูป่ ิ นใช้เวลาถึงสองเค่อจึงสามารถกล่อมให้ลกู
น้อยสงบลงได้

“ท่านพ่อเจ้าคะ..” ลูกสาวตัวน้อยกระตุกชายอาภรณ์ สี
หน้าดูเป็ นกังวล

“ไม่เป็ นไร….ไม่เป็ นไร” เฉินลูป่ ิ นกล่าว ทังปลอบใจลูก


และปลอบใจตนเอง

ประตูหอ้ งถูกเคาะสามครัง…ประกายตาของชายหนุ่ม
รูปงามเปลียนไป

157
“อิงเอ๋อร์อยูเ่ ป็ นเพือนน้องก่อนนะ”

ฉู่มีอิงไม่ทนั ได้เปิ ดปาก ก็ได้ยินเสียงน้องชายส่งเสียงร้อง


ออกมาหนึงเสียง คล้ายจะสะอืนไห้อีกหน ถ้อยคํางอแง
เอาแต่ใจทังหมดหยุดชะงักงัน บัดนีท่านแม่ตอ้ งไปทํา
หน้าที ส่วนท่านพ่อนันดูเหมือนมีเรืองบางอย่างอยูใ่ นใจ
เด็กอายุยงั น้อยความคิดไม่ซบั ซ้อน ทว่าสัมผัสทาง
อารมณ์กลับเฉียบคมยิงนัก

นิวจิมไปทีแก้มยุย้ สมดังชือเล่นว่าเปาจือ หยาดนําจาก


หางตาสะท้อนกับแสงไฟ หยดลงไปบนหมอนข้างศีรษะ
ทุย ฉู่มีอิงฝื นขยับยิมได้ครึงเดียว

158
“อย่าร้องไห้ส…
ิ เจียเจียก็จะไม่รอ้ งเหมือนกัน”

ตอนเฉินลูป่ ิ นเดินกลับมา ทันได้ยินใต้เท้าไป๋ ส่งเสียง


โหวกเหวก เห็นชายสองคนแต่งกายในชุดขุนนางฝังบู๊กด
ร่างใต้เท้าไป๋ แนบลงกับโต๊ะ บนใบหน้าเยาว์วยั ราบเรียบ
ไม่แสดงอาการประหลาดใจ

159
“จิงปู้ เจ้ากล้าดียงั ไง!”

“ก็กล้าดังทีเจ้าเห็น” จิงปูล้ บู เครายาว ตอบไม่ยินดี


ยินร้าย

“ฝ่ ายบู๊มีสทิ ธิอะไรมาทําอย่างนีกับข้า”

“บุน๋ บู๊มีสว่ นไหนต่าง อย่างไรก็เป็ นข้าราชบริพารรับใช้ฝ่า


บาทด้วยกันทังคู”่ จิงปูเ้ อ่ยเหมือนตังคําถาม ซุกซ่อน
ความหยามหยัน

แรกเริมไป๋ หลิงอีผนู้ ีก็ดเู ข้าท่า ขุนนางทีดีหาใช่ขนุ นางที


มันคงในคุณธรรม เพราะคนทีชิงชังความชัวมากเกินไป
160
ไม่เหมาะจะเป็ นขุนนางใหญ่ ทังไม่สามารถใช้อาํ นาจได้
อย่างถูกวิธี

ไม่ผิดหากบอกว่าใต้เท้าขุนนางท่านนีเหมาะสมกับ
ตําแหน่ง ทว่ามีความผิดมหันต์สองประการ ประการ
แรกกระหายอํานาจมากเกินพอดี ส่วนประการต่อมาคือ
มีใจคิดคดต่อแผ่นดิน มีสว่ นร่วมในการก่อกบฏสังหาร
เชือพระวงศ์

“จัดการเรียบร้อยแล้ว?”

จิงปูไ้ ม่ได้ตอบคํา แต่สายตาสือถึงคําตอบได้ชดั เจน

161
ทันทีทีเฉินลูป่ ิ นกล่าว ตาดําของใต้เท้าไป๋ พลันหดเล็กลง
ภายในใจเริมตระหนก เป็ นไปไม่ได้! หลักฐานทุกอย่างที
เชือมโยงมาหาตนถูกทําลายจนหมดสิน ต่อให้จิงปู้
เก่งกาจเช่นภูตผี ก็ไม่มีวนั หาสิงทีไม่มีอยูต่ งแต่
ั แรกพบ

“ใต้เท้าไป๋ รับใช้ฝ่าบาทมาเนินนานหลายปี ไยจะไม่


ทราบว่าสิงทีฝ่ าบาทรังเกียจทีสุด คือการทีขุนนางคน
หนึงมีอาํ นาจในมือมากเกินไป”

ตังแต่ขนครองราชย์
ึ จักรพรรดิฝไู ฉถูกกดอยูใ่ ต้อาํ นาจ
ของสกุลหร่วนอย่างเลียงไม่ได้ ดังนันก่อนจะส่งมอบ
บัลลังก์สยู่ คุ สมัยถัดไป พระองค์ปรารถนาให้ราชสํานัก
กลับคืนสูส่ ภาวะสมดุล

162
จิงปูอ้ ดไม่ได้ทีจะส่ายหน้า ตัวอย่างใช่วา่ มิมีให้เห็น
ปั จจุบนั สกุลหร่วนมีจดุ จบทีดีหรือไม่

ส่วนเฉินลูป่ ิ นนันมองฉากตรงหน้าดังมองละครปาหี รอย


ยิมอ่อนโยนเบาบาง กลับให้ความรูส้ กึ เฉยชา สิงทีดึงดูด
ความสนใจได้ เดิมทีมีเพียงเรืองของคนเพียงคนเดียว
ราชสํานักไม่เกียวข้องอะไรกับเขาอยูแ่ ล้ว

“พาตัวไป ความผิดของเจ้าหลักฐานแน่ชดั ไม่จาํ เป็ น


ต้องขึนศาลขุนนางให้เสียเวลา ฝ่ าบาทเป็ นจักรพรรดิ
ผูท้ รงธรรม เรืองนีให้เป็ นพระราชวินิจฉัยของพระองค์”
จิงปูห้ นั กลับมามองบุรุษรูปงาม “เฉินอันหวางเฟยนับ
เป็ นผูเ้ สียหายจากเรืองนี แต่ตอนนีหวางเฟยกําลังทํา
163
หน้าทีพิทกั ษ์แผ่นดิน เฉินอันหวางคิดเห็นเช่นไร”

“ภรรยาถูกใส่ความ ในฐานะสามีไม่อาจนิงดูดาย” เฉินลู่


ปิ นตอบ

“ถ้าเช่นนันรบกวนเฉินอันหวางเข้าวังไปพร้อมกัน”

เฉินลูป่ ิ นเดินตามแผ่นหลังแม่ทพั ใหญ่จิง ขณะเดินผ่าน


ใต้เท้าไป๋ เขาหยุดมองใบหน้าเหียวย่นทีซุกซ่อนความ
วิตก จากนันจึงเหยียดยิมกว้างก้มหน้าลงไปกระซิบที
ข้างหู

“บางสิงถึงไม่มีก็สามารถสร้างขึนมาได้ ความผิดทังหมด
164
นันตัวท่านรูอ้ ยูแ่ ก่ใจ”

เอกบุรุษรูปงาม อ่อนโยนมากด้วยคุณธรรม บัดนีคํา


ยกย่องมากมายถึงตัวเฉินอันหวางแห่งฉางซี ช่างเป็ น
ถ้อยคําโป้ปด หาความจริงไม่เจอสักเสียว ในเมือชายผูน้ ี
ไม่ตา่ งอะไรกับหมาป่ าห่มหนังแกะ!

ใต้เท้าไป๋ กัดฟั นกรอด เพียงแต่อย่างน้อยยังมีตวั เลือกสุด


ท้าย เทียบเชิญทีอีกฝ่ ายส่งมายังไม่ได้เผาทําลาย อาศัย
วาจาและความภักดี ฝ่ าบาทย่อมเข้าใจว่าตนถูกใส่
ความ เหลือบสายตาแฝงความอาฆาตไปยังแผ่นหลัง
บอบบาง ทันได้เห็นรอยยิมเปี ยมด้วยความเมตตา จน
คล้ายมีรศั มีเซียนแผ่ออกมาจากร่างนัน ขณะในมือ
ขาวกระจ่างถือจดหมายทีดูคนุ้ ตาอยูฉ่ บับหนึง….หัวใจ
165
ของไป๋ หลิงอีกระตุกวูบ

ยามเหม่าครึงชัวยาม (6:00 น.) ขุนนางเข้าวัง

จักรพรรดิฝไู ฉครองตนอย่างสง่างามบนบัลลังก์มงั กร
สายพระเนตรทอดมองใต้เท้าไป๋ ทีถูกมัดไว้ตรงกึงกลาง
ระหว่างขุนนางทังสองฝ่ าย ปั จจุบนั แม้ใต้เท้าไป๋ จะหาใช่
166
ขุนนางขันหนึง แต่ก็เป็ นถึงเสนาบดีในลําดับขันสอง

ถึงจักรพรรดิมีอาํ นาจยิงใหญ่เสมอฟ้า แต่คน


ธรรมดากระทําผิดยังต้องตัดสินโทษ มีหรือขุนนางจะยก
เว้น ไม่เช่นนันจะมีศาลยุติธรรมไปเพืออะไร

จักรพรรดิฝไู ฉมีรอ่ งรอยของความแปลกใจปรากฏขึนเล็ก


น้อย แต่ไม่มีวีแววถึงอารมณ์ข่นุ เคือง แม่ทพั ใหญ่จิงมิใช่
คนไร้เหตุผล การกระทําในครังนีคงเตรียมคําอธิบายที
ชัดเจนเอาไว้แล้ว

“จิงอ้ายชิงพอจะบอกเราได้ไหมว่าเกิดอะไรขึน”

167
“กระหม่อมนําตัวคนผิดมาตัดสินโทษพ่ะย่ะค่ะ”

ชายคนหนึงกระแอมไอ มือเรียวผละออกจากแขนเสือ
คล้ายพึงหยิบบางอย่างออกมา ขุนนางหลายคนจดจํา
บุรุษรูปงามได้จากงานเลียงเทศกาลชุนเจีย เป็ นเฉินอัน
หวางราชบุตรเขยของฝ่ าบาท ได้ยินว่ารังอยูท่ ีเทียนเฉิน
จนกว่าท่านชายน้อยจะอายุครบปี จึงจะเดินทางกลับ
ฉางซี หวางเย่ผนู้ ีถึงเป็ นเชือพระวงศ์ แต่ก็ไม่ได้มีอาํ นาจ
หรือฝักฝ่ ายใดในราชสํานัก เหตุใดวันนีจึงมาปรากฏตัว
อยูท่ ีนีได้?

“ถวายพระพรฝ่ าบาท กระหม่อมขออภัยทีเข้ามาล่วงเกิน


การประชุมขุนนาง” เฉินลูป่ ิ นประสานมือค้อมกายขอ
อภัย “ขออภัยใต้เท้าทุกท่านด้วย เพียงแต่วนั นี
168
กระหม่อมติดตามใต้เท้าจิง เพือทวงคืนความยุติธรรมให้
กับหวางเฟยพ่ะย่ะค่ะ”

“เราไม่อาจฟั งความข้างเดียว ไป๋ อ้ายชิงมีขอ้ คัดค้านหรือ


ไม่” จักรพรรดิเบนพระพักตร์ตรัสถามใต้เท้าไป๋

“ฝ่ าบาทกระหม่อมไม่ได้… “จิงปูค้ า้ นเสียงแข็งทันที แต่


พูดไม่จบประโยคก็รูส้ กึ เหมือนมีอะไรทิมหลังคอ ร่างกาย
แข็งค้าง นอกจากดวงตาทังสองข้างทีกรอกไปมาก็ขยับ
ส่วนอืนไม่ได้อีก

จิงปูแ้ ค่นหัวเราะ เหล่สายตาไปทางเฉินลูป่ ิ น…ร้ายเหลือ


เกิน มิน่าลูกศิษย์ตวั ดีถงึ ได้ตกหลุมพราง

169
ขุนนางหลายท่านเห็นใต้เท้าไป๋ ยังนิงเงียบ ดวงตาลอก
แลกเนือตัวสันเทา คล้ายอับจนในคําพูด หรือจะเป็ น
ความจริง?

“เช่นนันเฉินอันหวางว่ามา”

“พ่ะย่ะค่ะฝ่ าบาท…” เฉินลูป่ ิ นกระแอมไอ “ฝ่ าบาทคง


ทราบข่าวโคมลอยเกียวกับหวางเฟยไม่มากก็นอ้ ย…”

“เราทราบดี”

“เมือราวสองเดือนก่อนหวางเฟยกับแม่ทพั จิงวางแผนจับ
170
กุมตัวชายผูป้ ล่อยข่าวลือ จนสามารถสาวไปถึงต้นตอ
ทว่าเมือสืบลึกลงไปกลับพบเรืองราวทีใหญ่โตกว่าการใส่
ร้ายป้ายสี แต่เป็ นการก่อกบฏพ่ะย่ะค่ะ” ทันทีทีพูดจบ
ทัวทังท้องพระโรงต่างเต็มไปด้วยเสียงเซ็งแซ่

“เฉินอันหวาง วาจาเมือสักครูไ่ ม่สมควรนํามาล้อเล่น”

“ตัวข้ารูก้ าลเทศะดี ทุกคําทีกล่าวมาพร้อมด้วยข้อมูล


หลักฐานเป็ นจริงทุกประการ เดิมทีใต้เท้าจิงประสงค์ยืน
ฎีกาสอบสวนใต้เท้าไป๋ เสียดายทีชายแดนตะวันออก
เกิดเรืองขึนเสียก่อนจึงล่าช้าจนถึงบัดนี”

ใต้เท้าจิงพยักหน้ายืนยัน เฉินอันหวางมีสีหน้าจริงจัง

171
ดวงตาใสกระจ่างมองอย่างไรก็เหมือนคนหนุ่มซือสัตย์
จริงใจ โกหกผูใ้ ดไม่เป็ น

เฉินลูป่ ิ นสบตาส่งสัญญาณให้กบั จิงปู้

“พาตัวมันมา”

ไม่นานนักชายวัยกลางคนคนหนึงถูกลากมาวางไว้ไม่
ไกลจากใต้เท้าจิง ด้วยสภาพผมเผ้ารุงรังจดจําแทบไม่ได้
เลยว่าเคยเป็ นผูใ้ ดมาก่อน ถัดจากชายผูน้ ี อีกคนทีถูกพา
ตัวมาทําไป๋ หลิงอีเปลียนสีหน้า

นันมิใช่ใต้เท้าเจิง? รองเสนาบดีกรมคลัง ได้ข่าวว่า


172
สุขภาพทรุดโทรมนอนซมอยูบ่ นเตียงร่วมเดือน ทังยังไม่
เคยเห็นใต้เท้าไป๋ กับใต้เท้าเจิงมีความสัมพันธ์อนั ดีตอ่ กัน
มองสลับใต้เท้าทังสองท่านกับชายทีถูกพาตัวมา หรือทุก
คนมีสว่ นข้องเกียว….เรืองนีซับซ้อนยิงนัก

เฉินลูป่ ิ นเคยได้ยินจากเหวินเกอว่าใต้เท้าเจิงเป็ นพวก


มากตัณหา ในฐานะขุนนางทีทํางานกรมคลัง ถึงไม่เคย
ฉ้อโกงขูดรีดประชาชน แต่ก็ทาํ เรืองทุจริตรับสินบนมา
มากมาย โดยสันดานแล้วเป็ นพวกโลภมาก ทว่าขีขลาด
กลัวตาย ผิดกับใต้เท้าไป๋ ทีมีนิสยั สุขมุ รอบคอบ ถ้า
กระทําการใหญ่ยอ่ มรับมือได้ยาก

มีคาํ กล่าวทีว่า ‘เลือกคนให้เหมาะกับงาน พวกพ้องทีขี


ขลาด และข้ารับใช้ทีห้ามปากไม่ได้ จุดจบย่อมเป็ น
173
หายนะ’ ไป๋ หลิงอีทาํ พลาดอย่างหนึง คือการลงเรือลํา
เดียวกับเจิงไฉฝู ทํางานกับคนชัวช้าไม่กลัวขาดทุน กลัว
เพียงจะเป็ นคนชัวช้าตาขาว ใต้เท้าเจิงก็แค่สนุ ขั ขีเรือน
ตัวหนึง พอโดนจับได้ไม่ตอ้ งง้างปากให้เมือย คํา
สารภาพพรังพรูออกมาดังสายนําหลาก

จิงปูม้ อบเรืองวาจาให้เฉินลูป่ ิ นจัดการ ตัวเขาเขม่นกับใต้


เท้าไป๋ มาหลายปี ทังสําเนียงกระโชกโฮกฮากไม่น่าฟั ง
ผิดกับคนหนุ่มหน้างามเสียงเพราะลืนหู ขนาดฟั งแจก
แจงข้อหายาวเหยียดยังดูเหมือนท่องคํากลอน สละ
สลวยกินใจ

ชายชราแค่นหัวเราะในลําคอ แต่ใต้หล้านี บุปผายิงงาม


ยิงมากพิษร้าย…
174
“ชายผูน้ ีชือว่าเถาชิงเป็ นชาวเจินหู อาศัยอยูอ่ าํ เภอเล็ก
ในมณฑลซีเจียง พืนเพเดิมเกิดในสกุลวาณิชย์ อาชีพรับ
ขนส่งสินค้าจําพวกสมุนไพร และพืชผลทางตะวันออก
ข่าวโคมลอยส่วนใหญ่ถกู พูดกันปากต่อปาก บางเรือง
ถูกนักเล่าเรืองแต่งเติมเพือล้อเลียนเสียดสี แต่เมือลอง
สืบสาวหาต้นตอพบว่าต้นเรืองทีน่าเชือถือถูกเล่าต่อมา
จากชาวตะวันออก ช่วงทีเถาชิงเริมเข้ามาค้าขายเป็ น
ช่วงเดียวกับทีเริมมีข่าวลือกระจายออกไป” เฉินลูป่ ิ น
เหลือบสายตาไปมองใต้เท้าจิง “ใต้เท้าจิงกับหวางเฟย
จับชายคนนีได้ทีโรงเตียมชุนถัง ขณะทีเขากําลังใส่ความ
หวางเฟยพอดี ก่อนหน้านีเขาเองก็ทาํ เช่นนีกับเถ้าแก่โรง
เตียมอีกหลายคนเช่นกัน”

175
“แล้วเถาชิงผูน้ ีเกียวข้องกับใต้เท้าทังสองท่านอย่างไร”
ขุนนางท่านหนึงเอ่ยถาม ส่วนตัวเขากับใต้เท้าเจิงเคยมี
ผลประโยชน์คาบเกียวต่อกัน กลัวว่าหากไม่แสดงนําใส
ใจจริงต่อหน้าฝ่ าบาท เจิงไฉฝูอาจปากมากลากคนลง
โคลนไปด้วยก็เป็ นได้

“เรืองนีซับซ้อนเล็กน้อย ต้องย้อนความกันเสียก่อน บุตรี


ของใต้เท้าเจิงคนหนึงเกิดจากสาวใช้ เมือหลายปี ก่อน
นางแต่งงานออกเรือนกับสามีชาวเมืองเว่ยหู สกุลเฟิ ง
สามีของนางมารดาเป็ นบุรุษ สกุลเดิมคือสกุลเถา บ้าน
เดิมอยูเ่ จินหู ตอนทีบุตรีของใต้เท้าเจิงแต่งงาน สกุลเถา
กําลังประสบวิกฤต ทว่าได้สนิ เดิมของลูกสะใภ้ช่วย
เหลือ”

176
เฉินลูป่ ิ นเห็นอีกฝ่ ายแสร้งทําท่าทางเข้าใจก็กล่าวต่อ
“เหวียงแหหลายทอดเพือจะได้ปลา แต่กลินคาวติดตัว
ไม่อาจกลบมิด มีหลายคนข้องเกียว หากจะให้พดู ทัง
หมดเกรงจะรบกวนเวลาของฝ่ าบาท”

“เราไม่ถือ เพียงพิสจู น์ทกุ สิงให้กระจ่างเป็ นพอ”

ใต้เท้าท่านเดิมหางตาตก หน้าซีดเสียงเฝื อน “อะ…อา


กระหม่อมนึกออกแล้วพ่ะย่ะค่ะ ราวแปดปี ก่อนใต้เท้า
เจิงเคยตบแต่งบุตรีทีเกิดจากสาวใช้กบั สกุลเฟิ งจริงๆ
ตอนนันยังนึกชืนชมใต้เท้าทีมีเมตตาต่อบุตรีทีเกิดจาก
สาวใช้ มอบสินเดิมให้มากมาย ไม่คิดเลยว่าบุญคุณใน
ครังนัน ใต้เท้าเจิงจะให้สกุลเฟิ งใช้คืนแบบนี”

177
เฉินลูป่ ิ นยิมนิดๆ ไม่ได้กล่าวเสริม “เถาชิงเกียวข้องกับใต้
เท้าเจิงปฏิเสธไม่ได้ ให้รา้ ยใส่ความราชวงศ์มีโทษหนัก
ทว่าเป็ นแค่สว่ นหนึง ใต้เท้าเจิงถึงจะหน้ามืดหลงผิดไป
แต่ก็ให้ความร่วมมือ บอกข้อมูลสําคัญ เบืองลึกเบือง
หลังครบถ้วนกระบวนความ”

เจิงไฉฝูได้ยินคําว่า ‘หน้ามืดหลงผิด’ ก็พลันใจชืน นับว่า


แม่ทพั ใหญ่จิงกับเฉินอันหวางยังรักษาคําพูด หากเฉินลู่
ปิ นได้ยินความคิดนีคงนึกขันอยูใ่ นใจ ความขีขลาดของ
ใต้เท้าเจิงช่างน่าเวทนา เสมือนมองหัวผักกาดเน่าๆ หัว
หนึง ถูกแมลงรุมแทะจนพรุน แม้อาศัยเขาช่วยพูดหลบ
เลียง แต่โทษทัณฑ์ทงหมดแทบไม่
ั เปลียนแปลง เจิงไฉฝู
มัวแต่โล่งใจ ลืมคิดไปว่าฝ่ าบาทคือโอรสสวรรค์ ถึงเฉินลู่

178
ปิ นจะเป็ นคนออกมาแฉความผิดทุกอย่าง แต่ชะตาชีวิต
ทังหมดล้วนกลิงอยูบ่ นฝ่ าพระหัตถ์ของพระองค์

“ใต้เท้าหลายท่านคงทราบดีถงึ ประวัติศาสตร์การรวบ
รวมห้าแว่นแคว้นให้กลายเป็ นหนึงแผ่นดิน โดยเฉพาะ
กับแคว้นมู่ ผนวกรวมกับข่าวโคมลอย ทุกท่านคิดเห็น
เช่นไร” จิงปูเ้ อ่ยขึนมาเรียบๆ แต่จดุ ประกายความคิด
สว่างวาบ

“ครานันมูห่ วางลุม่ หลงมัวเมาในตัณหา หลงใหลสนม


ทรงโปรดมิสนบ้านเมือง ให้ทา้ ยพระโอรสพระองค์โตที
เกิดจากสนมผูน้ นั องค์ชายใหญ่สร้างผลงานมากมาย
สุดท้ายเป็ นเรืองลวงหลอก ฝ่ าบาทนิงเฉย ขุนนางกดขี
ประชาราษฎร์” เฉินลูป่ ิ นเป็ นลูกรับ กล่าวลืนไหลไม่มีสะ
179
ดุด จิงปูล้ อบยิมพึงพอใจ หากเปลียนเป็ นเฉินเหวินเค่อ
เกรงว่าสิงทีพ่นออกมามีแต่ถอ้ ยคําบาดลึกชอกชํา
เถรตรงจนน่าละเหียใจ ถึงจิงปูว้ าจาจะไม่ตา่ งกันนัก แต่
ก็ผา่ นพ้นอะไรมามาก รูจ้ งั หวะหนักเบาผ่อนผัน

“มีราชาไร้คณ
ุ ธรรมแล้ว ขาดแค่วีรชนนํากองทัพกอบกู้
บ้านเมือง” จักรพรรดิฝไู ฉตรัสเสียงเรียบนิง เข้าใจ
ทุกอย่างได้ง่ายดาย ไม่มีความตระหนกสักเสียว “นับว่า
เป็ นการก่อกบฏทีแยบคายจริงๆ”

วิธีการนีแยบยลสะอาดหมดจด คนรุน่ หลังได้ศกึ ษามีแต่


บอกว่า ‘ทําตัวเอง’

180
ใต้เท้าขุนนางอาวุโสหลายคนรูไ้ ส้รูพ้ งุ กันหมดเปลือก อ้า
ปากไม่เพียงเห็นลินไก่ เลยไปกระเพาะ หนําซํายังทะลุ
ถึงไส้ตงิ กับคนอย่างเจิงไฉฝู…มีดวงวาสนาไต่เต้าถึง
ระดับนี แต่สมองออกจะกลวงเล็กน้อย ไม่มีทางคิดได้
ประจวบเหมาะสายตาหยุดทีบุคคลทีสาม ขุนนางอาวุโส
ทีวางตัวกลางๆ มาตลอดก็กล่าวขึนมาอย่างไม่ไว้หน้า

“พูดมาถึงตรงนีกลับไม่ทราบเลยว่าใต้เท้าไป๋ เกียวอันใด
ด้วย ใต้เท้าเจิงมีความผิดฐานใส่รา้ ยราชวงศ์ชกั จูง
ประชาชน เฉินอันหวางกล่าวเบืองหลังคือการก่อกบฏ
คงมิใช่วา่ …”

คําถามนีเปิ ดมาเหมือนไม่ได้ตงใจ
ั แต่คาํ ตอบกลับเหลือ
ไว้ให้เพียงข้อเดียว เห็นได้ชดั ว่าการเป็ นขุนนางในราช
181
สํานัก อาศัยความฉลาดหลักแหลมอย่างเดียวมิได้จริงๆ

“ใต้เท้าเจิงมีใจสํานึกผิด สารภาพแล้วว่าได้รบั คําสังจาก


ใต้เท้าไป๋ หลักฐานทังหมดค้นเจอในห้องลับทีจวนโหว
สกุลไป๋ ”

“เอามาให้เรา”

การกระทําในครังนีไม่ถกู ต้องนัก บุกชิงเข้ามาดือๆ ถึงจะ


เป็ นหลักฐานจริง แต่ได้มาโดยมิชอบธรรม ทว่าองค์
จักรพรรดิก็ทรงปล่อยผ่าน คล้ายมองไม่เห็น

ฝังไป๋ หลิงอีกดั ฟั นคังแค้นแทบกระอัก เห็นหน้าซือตาใส


182
ของเฉินลูป่ ิ น ไม่คิดเลยว่าจะเป็ นพวกปั นนําเป็ นตัว ปั น
เก่งเสียด้วย!

จักรพรรดิฝไู ฉทรงทอดพระเนตรพิจารณานิงเงียบ ทัวทัง


ท้องพระโรงจึงเงียบสงัด เสียงหายใจฟึ ดฟั ดของไป๋ หลิงอี
ดูจะเด่นชัดทีสุด ยิงเหมือนพวกจนในความผิดเข้าไปอีก
หนึงขัน ครูห่ นึงก่อนแผ่นกระดาษนับสิบแผ่นจะถูก
ปากระจัดกระจายประจักษ์สสู่ ายตาของขุนนางใหญ่
เต็มสองตา

ลายมือเขียนอักษรเป็ นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทีเลียนแบบ
ได้ยาก การเขียนฎีกาขุนนางส่วนมากยึดถือการเขียน
แบบลีซู [1] มองเผินๆ เป็ นระเบียบคล้ายกันหมด ส่วน
ลายมือจริงๆ นันก็แล้วแต่ตวั บุคคล ใต้เท้าไป๋ มิใช่ขนุ นาง
183
ไร้บทบาท ผูค้ นล้วนทราบว่าใต้เท้าท่านนีชอบการเขียน
แบบสิงซู [2] หมึกสีดาํ ลากผ่านประหวัดถึงความงดงาม
อันไม่จีรงั ลายมือของใต้เท้าไป๋ นับเป็ นหนึงในต้นแบบให้
ยุวชนรุน่ หลัง กล่าวว่าลอกเลียน ออกจะเป็ นคําฟุง้ เฟ้อ
เกินไปหน่อย

นอกจากตัวต้นเหตุ คงมีแค่ไป๋ หลิงอีเท่านันกระมังทีรู ้


ความจริง…

เสียแต่วา่ ความจริงนี แค่โอกาสได้อา้ ปากสักครึงคํายังไม่


มี หากนําสิงนีขึนมาก่อน อันดับแรกยังคงพอใช้เหตุผล
โดนลอกเลียนได้อยู่ เสียดายทีก่อนหน้านอกจากพยาน
วัตถุยงั มีพยานบุคคล คิดจะกอบกูต้ นเองก็เหมือน
พยายามใช้เศษดินสร้างวิมาน ปิ ดโอกาสให้แก้ตวั โดย
184
สินเชิง รสชาติขมๆ เช่นนี ไป๋ หลิงอีจงึ ได้แต่กลํากลืนลง
ท้อง

“ส่วนวีรชนของใต้เท้าไป๋ ขออภัยทีกระหม่อมไม่อาจสืบ
ทราบมาได้”

สรุปได้สนๆ
ั หากต้องการคําตอบอย่างไรก็ตอ้ งเค้นถาม
จากไป๋ หลิงอี

กว่าฤทธิวิชาเข็มบินสกัดจุดของเฉินลูป่ ิ นจะคลาย ทุกสิง


ทุกอย่างก็เดินมาจนถึงปลายทางแล้ว

ไป๋ หลิงอีเผยอปาก คิดจะพูดบางอย่างแต่สดุ ท้ายก็นิง


185
เงียบไป

“โทษฐานกบฏประหารเจ็ดชัวโคตร แม้เราแซ่เฉิน แต่


เลือดครึงหนึงของเราก็มาจากสกุลไป๋ เช่นกัน สําหรับไป๋
อ้ายชิง เราจะละเว้นคนในครอบครัวให้ ปลดชือออกจาก
ทําเนียบขุนนาง คืนบรรดาศักดิโหว เนรเทศไปเซียวหนิง
กู่ สามรุน่ ไม่มีสทิ ธิรับราชการ”

“ตลอดเวลาทีผ่านมากระหม่อมทําเพือฝ่ าบาทตังมาก
มาย บัดนีทุกสิงทุกอย่างไม่เหลือค่าใดเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ หลิงอีดวงตาเลือนลอย ถ้อยคําตัดพ้อ

หลายคนไม่เก็บสีหน้าหยามเหยียด ถึงตัวเองจะต้องตาย

186
แต่ละเว้นโทษประหารทังชัวโคตร เท่านีฝ่ าบาทก็ทรง
เมตตามากพอแล้ว

จักรพรรดิฝไู ฉผ่อนลมหายใจ “ไป๋ อ้ายชิงเคยเป็ นคนทีเรา


ไว้ใจมากทีสุด” แต่คาํ ว่าเคยย่อมเป็ นอดีต “เรายังจําครัง
แรกทีเราพบไป๋ อ้ายชิงได้ ครังนันเรายังเป็ นเพียงองค์ชาย
รอง ราชครูซพู าคนผูห้ นึงติดตามมาด้วย...ตัวท่านจดจํา
ตนเองเมือครังเป็ นเพียงจินซือ[3] ได้หรือไม่”

ไป๋ หลิงอีนิงเงียบ

“ตอนเราพบเจ้าครังแรก เราคิดว่าขุนนางท่านนีมีรศั มีน่า


เลือมใส” จักรพรรดิฝไู ฉเว้นจังหวะช่วงหนึง สายตาจด

187
จ้องอยูท่ ีไป๋ หลิงอี “แต่บดั นีเรากลับไม่รูส้ กึ เช่นนันแล้ว”

เวลาผ่านไป ไยใจคนไม่ผนั แปร

กว่าจะรูต้ วั ก็สายเกินไปเสียแล้ว...

อดีตขุนนางอาวุโสสดับฟั งจนจบเพียงหลับตาลงช้าๆ
ดวงตาฝ้าฟาง ทว่าหัวใจแจ่มชัด

คุกเข่าสามที โขกศีรษะเก้าครัง [4] ถวายพระพรต่อฝ่ า


บาท ทรงพระเจริญหมืนปี หมืนๆ ปี

คําคืนเงียบเหงาในคุกหลวง สิงใดควรบอกล้วนบอก สิง


188
ใดควรพูดก็พดู ไปหมดแล้ว ชายชราเหม่อมองแสงจันทร์
ทีลอดผ่านช่องหิน หมุนจอกชาในมือ รสชาติฝาดเฝื อน
แต่กลับได้กลินของดอกหลัน[5] กําจายออกมา

‘ท่านพ่อโปรดรักษาสุขภาพ’

จบเรืองแล้วเฉินลูป่ ิ นไม่จาํ เป็ นต้องอยูต่ อ่ ลอบออกมาได้


189
อย่างแนบเนียนไม่สะดุดตา ข้างกันเป็ นผูอ้ าวุโสแห่งฝ่ าย
บู๊ แม้ในใจจะเกิดคําถาม แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไร จนมอง
เผินๆ ดูเหมือนท่านปู่ ใหญ่กบั หลานชายเดินกระทบไหล่
กัน สมัครสมานรักใคร่ เกือบลบภาพท่าทางลําบากใจ
ยามเฉินเหวินเค่อเอ่ยถึงคนผูน้ ีเสียมิด

แสงอาทิตย์สะท้อนหลังคาสีทองมงคลของวังหลวง คดี
ความยืดยาวนาน ข้ามวันจนได้

“ยอดฝี มือทีแท้จริงมักจะไม่โอ้อวด และยอดฝี มือทีแท้


จริงย่อมรูจ้ กั วิธีซอ่ นคมกระบี” จู่ๆ จิงปูก้ ็พดู ขึนมาลอยๆ
เฉินลูป่ ิ นไม่รูจ้ ะตอบอย่างไรดี

190
“ปั นหน้าใสซือหลอกผูใ้ ดกัน หืม?”

“…”

จิงปูเ้ ป็ นใคร ตําแหน่งแม่ทพั ใหญ่บญ


ั ชาการแปดกองธง
ได้มาเปล่ากระนันหรือ สายตาทีจิงปูใ้ ช้มองเฉินลูป่ ิ น
ทะลุปรุโปร่งเช่นเดียวกับเฉินเหวินเค่อ ต่างเพียงลูกศิษย์
ตัวดีมองด้วยอารมณ์ซือตรง แม้มิใช่ศตั รู แต่เป็ นมังกร
ซ่อนเล็บ ชวนให้รา่ งกายอยากปะทะ กับจิงปูม้ องลึกลง
ไปกว่านัน เห็นคมดาบทีซ้อนคมดาบในอีกชัน ระมัด
ระวังตัวทุกฝี กา้ ว ชัวชีวิตนีหากไม่มีเหตุจาํ เป็ น คงเก็บงํา
ฝี มือไปจนตาย

191
“ข้าได้ทกุ สิงทีต้องการแล้ว และสิงนันไม่จาํ เป็ นต้องใช้
วิชาเก่งกาจอะไร อา…ไม่สอิ าจต้องงัดมาใช้เล็กน้อยใน
บางครัง” ใครใช้ให้มีภรรยาเป็ นยอดนักรบกันเล่า

ยอดบุรุษทีแท้จริงมิใช่หมืนคมดาบกล้าแกร่ง หนึงฝ่ ามือ


เย้ยยุทธภพ แต่คือคนทีอ่านเกมขาด อ่อนได้งอเป็ น

เกิดมาพร้อมขาทองคํา แต่ไม่ประมาณตน ท้ายทีสุดอาจ


มีสภาพไม่ตา่ งอะไรกับผ้าพันเท้า ใครจะไปรู ้

“ซ่อนกระบีได้ แต่ไม่อาจซ่อนตลอดกาล” จิงปูก้ ล่าว

เฉินลูป่ ิ นนิงไป รอยยิมบางฉาบอยูบ่ นใบหน้า ยิงมองยิง


192
เสียดาย ตําแหน่งทางการทหารอาจจะยุง่ ยาก แต่ถา้
ออกบุกลุยไปทัวใต้หล้า ดังยอดยุทธพเนจรย่อมไม่
ปราชัยให้ผใู้ ด

ขณะกําลังขึนรถม้ากลับจวน คนผูห้ นึงในชุดเกราะสับ


ฝี เท้าใกล้เข้ามาเรือยๆ ชัวอึดใจเดียวก็มาถึง ชายหนุ่ม
อายุราวสามสิบ วัยใกล้เคียงกับเฉินเหวินเค่อหันมาก้ม
ศีรษะลวกๆ พอเป็ นพิธีอย่างเร่งรีบ เดิมทีเฉินลูป่ ิ นมิใช่
คนเจ้าระเบียบอะไร หากไม่เสียมารยาทกับเฉินเหวิ
นเค่อล้วนมองผ่านทังหมด ทีบริเวณข้อมือของคนคนนี
พันผ้าพันแผลเอาไว้ เลือดยังไหลซึมออกมา เขายิงไม่คิด
ติดใจเอาความ

อีกฝ่ ายเดินเลยไปหาแม่ทพั ใหญ่จิงทีขมวดคิวมุน่ เมือ


193
มองเทียบกัน พบว่าทังสองคนละม้ายคล้ายคลึงกัน
หลายส่วน

“ท่านพ่อ…”

“มีเรืองเร่งด่วนอะไร” จิงปูม้ องปราดเดียวก็ทราบ ส่งม้า


เร็วกลับมาล้วนมีอยูส่ องเรือง หากไม่ได้รบั ชัยชนะก็ตอ้ ง
เกิดเรืองใหญ่ขนึ

“สะพานยวินหลงถูกทําลาย ตอนนีช่องทางทีเร็วทีสุดใน
การข้ามไปมณฑลตะวันออกทังหมดถูกตัดขาด” ชายผู้
นันหันหน้ากลับมามองเฉินลูป่ ิ น แม้ไม่เคยเห็นหน้า แต่
บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของใต้เท้าจิงมีสองคน คนโต

194
นามว่าจิงสุย่ อีกคนคือจิงเสวีย คนนีน่าจะเป็ นจิงสุย่

จิงปูจ้ บั สังเกตบางอย่างได้ รีบถามทันที “เกิดอะไรขึนกับ


แม่ทพั ตะวันออก”

จิงสุย่ เม้มปากแน่นก่อนจะบอกคําตอบออกมา หัวใจ


ของเฉินลูป่ ิ นกระตุกวูบ

“ท่านแม่ทพั ตกลงไปในแม่นายวิ
ํ นหลงอูซ๋ ือ ตอนนียังหา
ตัวไม่พบ”

“รีบเข้าไปรายงานฝ่ าบาท!” จิงปูก้ ล่าว แผ่นหลังของบุตร


ชายจากไปครูห่ นึงจึงหันมาพูดกับเฉินลูป่ ิ น “เจ้าจะทํา
195
อย่างไร”

“ข้าไม่มีสทิ ธิ” รอยยิมนุ่มนวลเหือดหาย

ในฐานะหวางผูป้ กครองเมือง เรืองทางการทหารเฉินลู่


ปิ นไม่สามารถแม้แต่เหยียบเท้าเข้าไป แต่ถา้ มี ‘ของสิง
นัน’ มันก็อีกเรืองหนึง ดวงตาสีขีเถ้าบัดนีทอประกายวาว
โรจน์มิได้ใสกระจ่างสะอาดบริสทุ ธิ “ข้าต้องกลับไปเอา
ของ ขอตัวสักครู”่

คนเราแข็งแกร่งแค่บางสถานการณ์ก็เพียงพอ ฉะนันเมือ
ถึงเวลาทีต้องแข็งแกร่งก็ไม่จาํ เป็ นต้องเก็บงําอีกต่อไป

196
.

ความรูส้ กึ แรกคือแผ่นหลังกระแทกอะไรบางอย่าง ตามา


ด้วยเสียงเปรียะ จากนันมวลนําเย็นยะเยือกก็โอบล้อม
ร่างกาย กดให้จมลงไปในสายธารอันมืดมิด ร่างกายทิง
ดิงลงไปเรือยๆ ถูกกระแสนํากระชากไปตามการไหล
เวียน ความหนักของชุดเกราะไม่ใช่เรืองน่าตลก ขณะ
อากาศในปอดถูกผลาญไปจนสิน นําหนักบนร่างกายก็
หายไป สองมือตะเกียกตะกายขึนไปสูผ่ ิวนํา ไม่ทนั ได้

197
สูดลมหายใจก็ถกู ฉุดลงไปดังเดิม

แผ่นหลังถูกกระแทกซําอีกหน กระเด็นกระดอนจนถูก
แง่งหินบาด พริบตาหนึงเห็นสีแดงหลุดลอยออกมา
จากอกเสือ เกือบถูกกระแสนําเชียวกราดพัดปลิว ชาย
หนุ่มกําของในมือเอาไว้แน่น เลิกสนใจว่าร่างกายจะ
ถูกกระแทกสักกีหน เพียงถนอมเอาไว้ กระทังสูญเสีย
เรียวแรงขึนสูผ่ ิวนํา มองเห็นแสงสว่างเริมริบหรี สติพลัน
หลุดลอยออกไป

ถงเห่าแบกฟื นไว้บนหลัง แม้หิมะจะตกหนักแต่ผิวนํายัง


ไม่แข็งถึงขนาดขึนไปเหยียบได้ บางวันอากาศอุน่ ลง
ออกมาเจาะรูดกั ปลา โชคดีหน่อยก็ได้ปลาสักตัวติดมือ
กลับไป
198
หิมะถมกันจนเป็ นเนิน ทุลกั ทุเลเล็กน้อยแต่ไม่ถงึ ปี นข้าม
ไม่ได้ เมือถึงจุดทีดักปลาเอาไว้ เห็นได้ชดั ว่าอากาศเย็น
ลง กลายเป็ นแผ่นนําแข็งบางๆ ซําร้ายไม่ได้ปลาสักตัว
ริมฝี ปากแห้งแตกยูล่ ง นึกเสียดาย

ขณะกําลังหมุนตัวกลับ ปลายหางตาก็พบร่างคนนอน
ควําอยูร่ มิ ฝังของอีกฝาก บริเวณนีตกกลางคืนนําขึนสูง
กลางวันนําลดตํา เคยได้ยินว่านานๆ ทีพบเจอของดี
บางทีก็เจอร่างคน ถงเห่าพึงอายุครบสิบปี ขวัญหนีดีฝ่อ
ต่อให้เป็ นเด็กผูช้ ายอย่างไรก็ไม่กล้าตอแยกับศพคนตาย
ยิงศพไม่มีญาติยิงแล้วใหญ่

กระทังเห็นร่างนันขยับเล็กน้อย ขยีตาดูพบว่าตาไม่ฝาด
199
ตอนนีนําลดลึกสุดแค่เกือบถึงอก ถงเห่าจึงรีบวิงข้ามไป

“เฮ้!” ถงเห่าส่งเสียงเรียก ไม่กล้าเขย่าคนทีมีแผลทัวทัง


ตัว ดูทรงแล้วทังรอยบาดรอยชํา กระแสนําของยวินหลง
อูซ๋ ือธรรมดาทีไหน คงสาหัสไม่นอ้ ย มือเล็กเสยผมทีปิ ด
ใบหน้า พบว่าเป็ นบุรุษรูปงามทียังอยูใ่ นช่วงวัยหนุ่ม
ปรือตาได้เสียวเดียวก็สลบไปอีกหน

แต่ถงึ จะสินสติไปมือขวากลับกําแน่นไม่ยอมคลาย ถง
เห่านึกสงสัยลองเพ่งมองดู พบว่าเป็ นเพียงปิ นก้านเหม
ยสีแดงอันหนึง

ข้อมูลเพิมเติม

200
[1] ลีซู คือ อักษรเวลาเขียนเรืองทีเป็ นราชการ

[2] สิงซู เป็ นลายมือหวัดแกมบรรจงของพวกมีศิลปะที


เขียนลายมือสวยๆ

[3] จินซือ ใช้เรียกผูท้ ีสอบผ่านในรอบสุดท้าย ผูส้ อบผ่าน


รอบนีจะได้รบั การขึนบัญชีเพือรอการเรียกบรรจุเข้ารับ
ราชการ และได้คณ
ุ วุฒิทีเรียกว่า "จินซือ" (进士) ใน
รอบจินซือนี ผูท้ ีได้คะแนนสูงสุดสามอันดับแรก โดย
อันดับหนึง จะได้ตาํ แหน่ง "จ้วงหยวน" (状元) หรือจอ
หงวน อันดับสอง จะได้ตาํ แหน่ง "ปั งเหยียน" (榜眼)
และอันดับสาม จะได้ตาํ แหน่ง "ทันฮวา" (探花)

201
[4] คุกเข่าสามที โขกศีรษะเก้าครัง เป็ นการแสดงความ
เคารพสูงสุด สือความหมายถึงการทําสิงใดด้วยความ
เคารพและจริงใจอย่างถึงทีสุด

[5] ดอกหลัน 兰花 : ดอกกล้วยไม้

202
ตอนที ๓๖ คนคุน้ เคยทีคาดไม่ถงึ ๑

ตาสองข้างกระพริบถี เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า มือเล็กลีบ


แห้งโบกไปมาสองสามรอบ

“อ๊ะ! ฟื นแล้ว” เด็กน้อยยิมแป้น ปรีเข้าไปเกาะแขนของ


ใครอีกคนหนึงทีกําลังง่วนอยูก่ บั การตังหม้อต้ม

203
“ฟื นแล้ว!” ถงเห่าเอ่ยซําอีกหน

“เร็วกว่าทีคิด…” ใครอีกคนพึมพํา ตอนแรกน้องชายวิง


แจ้นกลับมาบอกว่าเจอคนหมดสติอยูร่ มิ แม่นาํ ร้องขอ
ให้ชาวบ้านไปช่วยแบกกลับมา รวมๆ แล้วก็เกือบครึงชัว
ยามได้ ยังไม่ทนั ได้ดอู าการ ฟื นแล้ว? อะไรจะอึดถึกทน
ปานนัน

แม่นายวิ
ํ นหลงอูซ๋ ือมีตน้ นํามาจากยอดเขายวินหยาง
หลง มีทงสิ
ั นห้าสาย สามในห้ากระแสนําเชียวกราดบ้า
คลัง โดยเฉพาะกระแสนําทีผ่านสะพานยวินหลง

ทังความสูง ความชันและแรงกระแทก หากคนธรรมดา

204
ตกลงมาร้อยละเก้าสิบไม่มีทางรอดแน่นอน สายทีไหล
ผ่านหมูบ่ า้ นโชคดีทีเป็ นสายย่อย ความรุนแรงลดทอน
มาบ้างแล้ว แต่กว่าจะมาถึงทีนีได้ เกิดมาก็พงได้
ึ พบคน
ทียังครบสามสิบสอง

ถงเห่าเซ้าซีพีชายอีกหลายคํา จนกระทังอีกฝ่ ายนํายาที


บดเรียบร้อยยัดใส่หม้อต้มจึงได้ฤกษ์ขยับตัว

“ท่าน…อย่าพึงขยับดีกว่า” เขากล่าว

ร่างนันชะงักครูเ่ ดียว แล้วกลับไปบังคับร่างกายให้ลกุ ขึน


นังอย่างเต็มฝื น คนคนนีมันอะไรกันเนีย! เด็กหนุ่มกรอก
ตามองบนสักสิบตลบ

205
“อึก…”

“ก็บอกแล้วว่าอย่าพึงขยับ”

สมนําหน้า!

ถึงในใจจะหัวเราะเยาะไปท่วมทุง่ แต่คนอย่างเขาใช่วา่
จะใจจืดใจดํา แถมโดนสายตาทิมแทงจากน้องชายจน
หลังพรุน เด็กหนุ่มอายุราวสิบหกก็เข้าไปพยุงคนเจ็บ ผิว
กายเย็นเชียบจนเกือบเผลอปล่อยมือ นีคงไม่ใช่….เจียง
ซือ[1] หรอกกระมัง ส่ายหัวให้กบั ความคิดไร้สาระ เพ้ย!
ภูตผีในนิทานพิสดารมีจริงทีไหนกัน

206
ครึงหนึงของใบหน้าถูกปิ ดด้วยกลุม่ ผมเปี ยกชืนสีดาํ เข้ม
ปลายผมเริมแข็งเนืองด้วยสภาพอากาศ เด็กหนุ่มเห็นอีก
ฝ่ ายไม่คอ่ ยมีแรง จึงอาสาช่วยเกลียเส้นผมทีบดบัง
ทัศนวิสยั ออกไปให้พน้ ทาง บุรุษรูปงาม หล่อเหลาคม
คาย ดวงตาทีแข็งกร้าว ช่างคุน้ เคยเหลือเกิน คะ…คุน้
เกินไปแล้ว!

“อะ วะ...หวา…หวาง หวางเฟย”

“ท่านยอดบุรุษ ข้าเป็ นคนเจอท่านเอง ข้าเอง!” ถงเห่าพุง่


ตัวเข้าไปเกาะขอบเตียงด้วยดวงตาพราวระยับ เหมือน
ได้ยินพีชายงึมงําอะไรสักอย่าง แต่ช่างมันละกัน คนที
รอดจากแม่นานรกแตกนั
ํ นได้ตอ้ งมิใช่คนธรรมดา เมือมิ
207
ใช่คนธรรมดาต้องเป็ นวรยุทธ เมือเป็ นวรยุทธย่อม
สามารถสอนเขาได้ ยอดฝี มือ!

เด็กผูช้ ายกับวิชาฝี มือย่อมเป็ นของคูก่ นั ชาวบ้าน


ธรรมดาไร้พรสวรรค์แทบไม่มีโอกาสเข้าถึง เสียวถงเข้า
ใจแจ่มแจ้ง แต่เสียวตีติ[2] เชือเกอเถิด คนผูน้ ีอย่าไปล่วง
เกินดีกว่า ไม่ลว่ งเกินดีทีสุด

เด็กหนุ่มกลืนนําลายเอือก ขยับตัวหวังหลบเข้ามุมมืด
แต่สายตานันจะขยับซ้ายขวามุดลงดินก็มองตามไม่
คลาดเคลือน ยิงเห็นริมฝี ปากซีดขาวนันกระตุกยิม เอ่ย
ออกมาโดยไร้เสียงว่า ‘เสียวถง’ หัวใจพลันร่วงหล่นไปที
ตาตุม่ นําตาไหลนองเต็มหน้า

208
หวางเฟยขอรับ ท่านเป็ นวิญญาณอาฆาตของข้าใช่หรือ
ไม่

“ข้ามีนามว่าถงเห่า[3]” กล่าวถึงตรงนีเด็กชายก็ยปู่ าก
เหล่ตามองคนฟั งเห็นว่าไม่ได้ขาํ ขันกับชือตน นิวชีพุง่ ไป
ยังเป้าหมายต่อไป “ส่วนคนทีดูปัญญาอ่อนตรงนันคือ
ถงกวา[4] พีชายของข้าเอง ท่านมีชือเสียงเรียงนามว่า
อะไรหรือ” ตาของเด็กชายระริกระรีด้วยความตืนเต้น

พีชายปั ญญาอ่อนได้ยินถึงขันเกือบกัดลิน ขณะเดียวกัน


อีกคนกลันขําจนเกือบตาย

209
ช่างเป็ นบิดามารดาทีตังชือลูกได้สร้างสรรค์นกั

เสียวถงประคองถ้วยยาด้วยมืออันสันระริก น้องชายตัวดี
ฝอยนําลายแตกฟอง โดยคูส่ นทนาเอียงคอไม่ตอบคํา
คล้ายสมองได้รบั การกระทบกระเทือนขันหนักหน่วง ลืม
แม้กระทังวิธีการพูด

“อ๋า~” ถงเห่าลากเสียงยาว เริมตระหนักได้ถงึ บางสิง


“ท่านยอดฝี มือได้ยินข้าไหม”

คนตัวใหญ่ในมุมมองของถงเห่าพยักหน้าเชืองช้า

“นีกีนิว” ถงเห่ากล่าว ชูนิวสองนิวโบกไปมา


210
“…”

“ท่านพูดได้หรือเปล่า พูดด้ายหมายย” ถงเห่ากล่าว ท้าย


ประโยคพยายามพูดช้าๆ ให้อีกฝ่ ายฟั งเข้าใจ จึงได้ดู
ยานคางประหนึงผีแม่เฒ่าเช่นนัน

“…”

“ท่าจะอาการหนัก” ถงเห่าส่ายหน้าอ่อนใจ

เจ้าสิอาการหนัก! เสียวถงสะกดก้อนสะอืน “เจ้าไปหามู่


เจียเจีย[5] บอกว่าข้าขอยาทาแก้ฟกชํากับสมุนไพร
211
บรรเทาอาการชําในให้ที ทีบ้านมีแต่สมุนไพรแก้ปวดลด
ไข้ธรรมดา เร็วหน่อยใกล้คาแล้
ํ ว”

“อือ!”

คล้อยหลังน้องชาย ถงกวาหรือชือทีคุน้ เคยกันดีอย่าง


เสียวถงก็ทรุดตัวลงกับพืน คลานเข่ายกถ้วยยาถวายแก่
ชายหนุ่มร่างยักษ์ผมเผ้ารุงรัง หากบอกไปว่าคนคนนี
เป็ นถึงองค์ชายใหญ่ของแผ่นดิน เกรงว่าจะไม่มีใครเชือ

“หว..หวางเฟย” เสียงสันเท่าใด มือก็สนเท่


ั านัน

“เหอะๆ ช่างน่าแปลกใจจริงเชียว” ไม่ใช่เสียวถงทีรูส้ กึ


212
เช่นนัน ตัวเฉินเหวินเค่อเองพลันค้นพบว่า ‘เทพเซียน
กําหนดหนทาง โชคชะตายากคาดเดา’

บ่าวรับใช้ทีควรอยูใ่ นจวนเฉินอันทีฉางซี เรืองนีใช่วา่ จะ


ไม่มีทีไป เดิมทีมารดาของถงกวาเป็ นบ่าวรับใช้สญ
ั ญา
จ้าง ช่วงหนึงทํานาปลูกข้าวผลผลิตไม่ดี ถงกวาจึง
ติดตามมารดามาทํางานหาเงินเลียงน้องชายอายุนอ้ ย
และได้รบั ชือว่าเสียวถงในเวลาถัดมา

ภายหลังมารดาสินบุญลง ภาระนีจึงตกมาแก่เขาเพียง
คนเดียว ตังแต่อายุหกขวบปี จนบัดนีอายุสบิ หกแล้ว เห
ล่าไท่ทีบ้านเกิดอายุมากชราตายตามยถากรรม เหลือ
น้องชายอายุสบิ ปี อยูต่ วั คนเดียว เขามีหรือจะนิงดูดาย
ปล่อยให้นอ้ งชายตกทุกข์ได้ยาก ขออนุญาตพ่อบ้าน
213
เหมาเดินทางรอนแรม จุดมุง่ หมายมีเพียงหวังพาน้อง
ชายเข้าพึงร่มเงาของต้นสนใหญ่ ขายตัวเป็ นบ่าวรับใช้
หวางเย่

ไม่คิดเลยว่าเดินทางครานีเป็ นเทียวเดียวมีขามา แต่ไม่มี


ขากลับ ทางฝังตะวันออกดันเกิดเรืองเสียก่อน แถมสะ
พานยวินหลงยัง…หมดโอกาสแล้ว

“ข้าต้องการพักรักษาตัว” เฉินเหวินเค่อกล่าว

“พระองค์ไม่อยากถามเรือง อ่า ทีบ่าวมาอยูน่ ี…”

“มาอยูท่ ีนีได้อย่างไรน่ะหรือ?”
214
“พ่ะย่ะค่ะ…”

“ไม่คอ่ ย เอาไว้ทีหลังแล้วกัน” เฉินเหวินเค่อบุย้ ปากไป


ทางทีถงเห่าวิงฉิวไปเอาสมุนไพรให้เขา เวลาพูดคุยไม่ได้
มีมากมายขนาดนัน

“ข้าเป็ นคนใบ้” เฉินเหวินเค่อลูบคาง นําเสียงจริงจัง

“เอ่อ…”

“พูดไม่ได้ สมองกระทบกระเทือน” มือกร้านแหวกเส้นผม


ทีปิ ดบังใบหน้าให้เห็นดวงตาสีขีเถ้าอันเป็ นเอกลักษณ์
215
“เข้าใจนะ”

“พ่ะย่ะค่ะ…” เสียวถงรับคํา เมือครูใ่ ช่ประโยคคําถาม


เสียทีไหน หวางเฟยน่ากลัวปานนัน ถึงคันปากยุบยิบ แต่
สถานการณ์ตงึ เครียด ใครจะไปกล้าถาม

เห็นบ่าวน้อยสมองเม็ดถัวเก็บปากสงบเสงียม เฉินเหวิ
นเค่อก็พยักหน้าพอใจ ไม่ใช่วา่ ไม่ไว้ใจเสียวถง แต่เด็ก
คนนีอายุยงั น้อย แถมพวกบ่าวไพร่ทีจวนเฉินอัน นิสยั แต่
ละคนเขารูด้ ีทีสุด...เรืองของคนอืนคืองานของข้า แถม
เสียวถงนอกจากสมองถัวแล้วยังมีอาการเอ๋อร่วมด้วย
กลัวว่ามันจะกําเริบผิดเวลาลําเวลา สภาพร่างกายของ
เขาพร้อมสูร้ บปรบมือกับใครเขาทีไหน

216
พิจารณาจากสภาพโดยรวมแล้ว เขาคงหมดสติไปไม่
นานเท่าใด อาการบาดเจ็บภายนอก มีรอยบาดรอยชํา
ไม่สาหัส ทีหนักหน่วงจริงๆ เกรงว่าจะเป็ นอาการบาด
เจ็บจากภายใน สิงนีร้ายแรงกว่านัก เฉินเหวินเค่อหลับ
ตาลงทําสมาธิเดินลมปราณเงียบๆ ทว่าทําได้ครูเ่ ดียว
หน้าอกพลันจุกแน่น กระอักเลือดออกมากองใหญ่

“อ้ากก หวางเฟย!” เสียวถงร้องลันจนเผลอทํานําร้อน


ลวกมือ

เฉินเหวินเค่อขมวดคิวปรับจังหวะลมหายใจ แต่ก็พน่
โลหิตออกมาอีกระลอก สภาพสยดสยองเป็ นอย่างยิง

217
“ท่านยอดฝี มือ!” คราวนีเป็ นถงเห่าทีพึงกลับมาร้องเสียง
หลงไปอีกคน

เด็กชายวิงไปยัดห่อยาใส่มือพีชาย ก่อนจะแล่นไปหาคน
เจ็บด้วยความเป็ นห่วงเป็ นใย ทิงพีชายกุมมือทีโดนลวก
เอาไว้ดา้ นหลัง เงียบเหงาเปล่าเปลียว เสียวถงนําตา
ปริม ช่างเป็ นน้องรักของพีจริงเชียว!

“เรียกเขาว่ายอดฝี มือๆ ถ้าเกิดเป็ นพวกชนเผ่านอกด่าน


ขึนมาจะทําอย่างไร” เสียวถงแกล้งดุเสียงเข้ม

“หึ” ถงเห่ามองเหยียด “เรืองแค่นีจับเขาแก้ผา้ ดูก็รูแ้ ล้ว

218
ถ้าไม่มีรอยสักก็คือไม่ใช่!”

“แค่กๆ เสียวตี จะจับคนเขาเปลืองผ้าไปทัวไม่ได้นะ”


เสียวถงสําลักลม หากหวางเย่มาได้ยินเข้า เด็กตัวเท่าหัว
เข่าก็หวั เข่าเถอะ โดนฆ่าหมกส้วม เป็ นผีเฝ้าส้วม อนาถ
ดีแท้

มือทีตะปบอยูต่ รงสาบเสือชักมือกลับ จากนันร่างผอม


แห้งวิงส่ายก้นดุกดิกผลุบหายออกจากห้องไป เรือนหลัง
นิดเดียวมีหนึงห้องครัว สองห้องนอนเล็ก ใช้เวลาไม่นาน
ก็กลับมาพร้อมกองผ้าหอบใหญ่ ดูทีแรกมองไม่ออกเลย
ว่าเป็ นอาภรณ์

219
เสือเนือหยาบถูกยัดใส่มือ ปกติสวมชุดคลุมยาวเป็ นการ
แสดงฐานะทางสังคมอย่างหนึง น้อยครังนักทีเขาจะมี
โอกาสได้สวมใส่ชดุ อืน แต่จะให้ทนใส่ชดุ เปี ยกชืนท่าม
กลางอากาศหนาวเย็น เฉินเหวินเค่อยังเป็ นปุถชุ น ผิว
กายมิได้เลียมด้วยทองคําไร้ความรูส้ กึ

“เสือผ้า อ่า ท่านใส่เป็ นใช่ไหม” ถงเห่ากล่าว

เฉินเหวินเค่อได้ยินก็หวั เราะอยูใ่ นใจ เจ้าหนูนีคิดว่าเขา


เลอะเลือนปานนัน เอาเถอะอย่างน้อยก็เป็ นบทบาทที
เลือกเอง ทังความห่วงใยของผูอ้ ืนก็ไม่สมควรดูแคลน

ทันทีทีถอดชุดเปี ยกชืนออก พลันได้ยินเสียงสูดลม

220
หายใจ

“แม่เจ้า! ต้าเกอท่านเห็นนันไหม กล้ามหกลูก เกอมีไหม


ไม่มีใช่ไหมล่ะ น่าอายชะมัด ทําไมท่านต้องเป็ นพีข้าด้วย
เนีย”

“ชิว ชิว ชิว ไปปิ ดหน้าต่างไป ฟ้ามืดแล้ว ประเดียวต้อง


ดับไฟ ยังจะมองอีก!”

ข้าไม่ได้ยินอะไรทังนัน…ความเร็วในการเปลียนเสือผ้า
เพิมขึนอีกสองระดับ

ถงเห่าเห็นท่านยอดฝี มือนังอยูบ่ นเตียงอย่างเรียบร้อย


221
มองซ้ายทีขวาทีก็ทกึ ทักเอาเองว่าอีกฝ่ ายคงสงสัย ไม่
ต้องถามเด็กน้อยก็เปิ ดปากช่างจ้อทันควัน

“ตะวันออกไม่ปลอดภัยอีกแล้ว เมืองหลายเมือง หมูบ่ า้ น


หลายหมูบ่ า้ นทีปลูกข้าวส่งเสบียงให้กองทัพถูกไล่
ทําลาย ทยอยหายไปทีละแห่งทีละแห่ง ตอนแรกคนทีนีก็
วางแผนจะอพยพไปตายเอาดาบหน้ากันอยูห่ รอก พีชาย
ของข้าเองก็บอกจะลองขอร้องหวางเจ้าของจวนทีพีรับ
ใช้ แต่เกิดเรืองทีสะพานยวินหลงเสียก่อน ลําพังจะให้
เดินอ้อมเขาเพือข้ามฝังก็ไม่มีกาํ ลังมากพอ เลยต้องอยู่
อย่างหลบซ่อนเช่นนี กลางวันหาฟื น กลางคืนปิ ดไฟเข้า
มุง้ ทนหนาวสักหน่อย กอดกันเข้าไว้ก็พอช่วยได้”

ถึงน้องชายตัวดีจะปากมากไปนิด แต่การมองโลกในแง่
222
ดีทาํ ให้เสียวถงพลอยได้รบั อานิสงค์จากความสดใสนัน
ไปด้วย เดิมทีบา่ วน้อยจากจวนเฉินอันขีขลาดตาขาว
กลัวนู่นกลัวนี มีครอบครัวคอยประคับประคอง
สถานการณ์เลวร้ายแค่ไหนก็ไม่ขาดกําลังใจ

หลังจากต้มยาแก้อาการชําในให้เฉินเหวินเค่อ เสียว
ถงแบกผ้านวมผืนใหญ่ มีรอยปะชุนเสริมจากเสือผ้าเก่า
เพิมความอบอุน่ ฝ่ ายถงเห่าปิ ดหน้าต่างเสร็จก็โดดขึน
เตียงมารอนานแล้ว เหลือแค่พีชายทีเอาแต่ยกึ ยักอยูน่ นั
แหละ!

ร่วมเตียงกับหวางเฟย ห้าคํานีลอยซําวนเวียนหลอก
หลอนอยูใ่ นหัว เสียวถงขาเริมสันอีกรอบ ยอมหนาวตาย
ดีกว่าเป็ นผีเฝ้าส้วมดีไหมหนอ อย่างไหนเลวร้ายกว่ากัน
223
หนอ

“เกอ ข้าหนาวนะ ท่านยอดฝี มือก็…” ถงเห่าพูดไม่จบ


ประโยค เหลือบสายตามองเฉินเหวินเค่อ ครุน่ คิด
บางอย่าง “ไม่ถกู ไม่ถกู จะเรียกท่านยอดฝี มือตลอดก็ไม่
ได้ ท่านพูดไม่ได้ใช่หรือไม่ อืมๆ พูดไม่ได้ ข้าควรเรียก
ท่านว่าอะไรดี”

“…”

เฉินเหวินเค่อเบียงหน้าไปหาเสียวถง โยนให้อีกฝ่ าย
ตัดสินใจ

224
หวางเฟยขอรับ…เสียวถงสายตาวิงวอน

ข้าพูดไม่ได้

อย่าให้ขา้ ตัดสินใจคนเดียวสิขอรับ

ก็ขา้ พูดไม่ได้ไง!

วินาทีทีความกดดันถล่มทับจนหายใจไม่ออก เสียวถงตา
เหลือก กรอกสายตาไปทัว ห้องนอนของชาวบ้านยากจน
ข้นแค้นไม่มีแม้แต่ประตู มองออกไปเห็นหัวมันเทศกอง
หนึงอยูบ่ นโต๊ะกลมกลางบ้าน

225
“หงสู!่ [6]”

“ต้าเกอ สมองท่านไม่มีปัญหาแน่นะ” ถงเห่าเหน็บแนม


แต่คิดไปคิดมาชือนีก็ดีเหมือนกัน เดิมทีเขากับพีชายมี
ปมด้อยเรืองชือทีห้อยติดตัวไปจนวันตาย มีคนร่วม
ขบวนพืชผักด้วยอีกคนไหนเลยจะไม่ยินดี

“งันข้าเรียกท่านว่าเสียวหงนะ!” ถงเห่ายิมแก้มปริ

“…” เฉินเหวินเค่ออยากจะกินหัวคน

ขณะทีคืนนัน เสียวถงโดนกล้ามแขนรัดคอจนเกือบ
หายใจไม่ออก
226
ข้อมูลเพิมเติม

[1] เจียงซือ แปลว่า "ศพแข็ง" เป็ นผีจาํ พวกแวมไพร์หรือ


ซอมบีตามความเชือของจีน

[2] ตีติ 弟弟 [dìdi ] น้องชาย

[5] เจียเจีย 姐姐 [jiějie] พีสาว

227
ตอนที ๓๗ คนคุน้ เคยทีคาดไม่ถงึ ๒

วังหลัง เขตพระราชฐานชันใน สวนบุปผาขององค์


จักรพรรดิ ไร้บรุ ุษย่างกราย เว้นเพียงขันทีทียอมละทิงตน
เอง

228
การปรากฏตัวของชายหนุ่มรูปงามต่างเรียกความสนใจ
จากเหล่านางกํานัลสาวในวัยสะพรัง รวมถึงความฉงน
สงสัยในฐานะของคนผูน้ ีด้วยเช่นกัน เพียงแต่ผทู้ ีเดินนํา
หน้าอยูค่ ือท่านข้าหลวงใหญ่ หัวหน้าขันทีแห่งตําหนัก
หยางชิง คําตอบจึงแน่ชดั อยูแ่ ล้ว

เกากงกงประเมินรอยยิมอ่อนโยนแล้วกล่าวออกมา “รูป
ลักษณ์ของท่านทําให้พวกนางตืนตา ล่วงเกินแล้ว”

โบกแส้ประจําตัวไปทางสายตาหลายคูท่ ีลอบมอง เหล่า


นางกํานัลเห็นท่านข้าหลวงใหญ่ขยับท่าทางเตือนก็รู ้
หน้าทีตนเอง ใครจะยกของก็ยกไป ใครเดินกลับตําหนัก
ก็เดินกลับไป ส่วนผูท้ ีไม่รูค้ วาม วันนีแขกสูงศักดิไม่ติดใจ
229
ถือสา แต่วนั หน้าไม่รูว้ า่ หนึงชีวิตจะสามารถรักษาไว้ได้
หรือไม่

พระราชวังต้องห้ามยิงใหญ่ มีกีชีวิตแล้วทีต้องสังเวย

เฉินลูป่ ิ นหัวเราะแล้วตอบคํา “ข้าไม่ถือ”

ในยุทธภพสิงทีสําคัญยิงกว่าหน้าตาคือฝี มือ ต่อให้รูป


ลักษณ์ชวนนําลายหก ทุกสิงล้วนถูกตัดสินด้วยกําลัง
นับเป็ นสังคมของปลาใหญ่กินปลาเล็กทีแท้จริง และโดย
ส่วนมากแล้ว คนหน้าตาดีทียืนหยัดได้ ล้วนแล้วแต่เป็ น
เทพมารจุติทงสิ
ั น

230
กับราชสกุลแห่งองค์จกั รพรรดิ มายาแรกพบเจอคือรูป
ลักษณ์ วจนะหลบหลีกซ่อนความนัย ฟาดฟั นกันด้วย
ปั ญญา

เฉกเช่นวังหลัง แม้รูปลักษณ์อาจมิใช่สงสํ
ิ าคัญทีสุด แต่ก็
เป็ นสิงเดียวทีขาดไม่ได้ มิเช่นนันจะกล่าวว่าตําหนักใน
คือสวนบุปผาจําลองแห่งสรวงสวรรค์ได้อย่างไร

หวางรูปงามกระชับมือเล็ก ลูกสาวตัวน้อยทีเคยห้าว
หาญซุกซน บัดนีเดินตัวลีบแบน พยายามใช้ชายชุดคลุม
ยาวเร้นกายจากสายตาทีมุง่ เป้ามาทีตนเอง ฝี เท้าปกติ
จึงลดความเร็วลงมาหลายส่วน

231
“พวกนางทําให้ทา่ นหญิงต้องอึดอัด บ่าวจะลงโทษพวก
นางเอง” เกากงกงกล่าว

“ไม่เป็ นไรเจ้าค่ะ” ฉู่มีอิงบอกปั ด เจ้าของมือทีกอบกุมอยู่


ข้างนาง จะหวาดกลัวสิงใดอีก “ข้าแค่ไม่ชอบทีพวกนาง
มองท่านพ่อด้วยสายตาเช่นนัน ข้าไม่อยากมีแม่รอง”

เฉินลูป่ ิ นกระแอมไอเตือน ขณะทีเกากงกงพึงหาเสียง


ของตัวเองเจอ “ท่านหญิงช่าง…” ขันทีขา้ งกายจักรพรรดิ
ค้นหาถ้อยคําทีเหมาะสม “...ตรงไปตรงมา”

เด็กหญิงตัวน้อยฉีกยิมแป้น ก่อนจะรูต้ วั ว่าไม่งามจึงลด


องศาของมุมปากลงมาให้พอเหมาะ “ท่านแม่เคย

232
บอกว่า คนเราล้วนเป็ นปุถชุ น หากอยากเป็ นคนผู้
ประเสริฐจะต้องมีสามสิงคือ จิตใจ การแสดงออก และ
วาจาทีซือตรง ใสสะอาด ปราศจากมลทิน” ฉู่มีอิงพูดจบ
ก็ขมวดคิวน้อยๆ กระตุกชายเสือกระซิบถามบิดาว่า “คํา
ศัพท์ยากเยอะจัง อิงเอ๋อร์ทอ่ งถูกไหมเจ้าคะ แล้วมลทิน
นีคืออะไรหรือ กินได้ไหมเจ้าคะ?”

เฉินลูป่ ิ นยิมอ่อน “ไม่ได้เจ้าค่ะ”

เดินผ่านตําหนักอีหลุน หวงโฮ่วแต่ละรัชสมัยต่างพํานัก
อยูท่ ีตําหนักนี แต่ปัจจุบนั ผูม้ ีตาํ แหน่งสูงสุดในวังหลังไม่
ได้ดาํ รงตําแหน่งมารดาแห่งแผ่นดิน กลับเป็ นคนทีเฉินลู่
ปิ นไม่อยากเคารพมากทีสุด ฝ่ าบาททรงทอดพระเนตร
เห็นโอกาสในการจัดการราชสํานักด้วยอํานาจเด็ดขาด
233
ระหว่างทีแผ่นดินกําลังถูกรุกราน ในสถานการณ์ทีน่า
เป็ นห่วง หากมีผใู้ ดออกตัวคัดค้านในการแต่งตังไท่จือ
มากเกินก็จะถูกมองว่าไม่ใส่ใจต่อความเดือดร้อนของ
ราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิง ไม่ใส่ใจต่อความเป็ นความ
ตายขององค์ชายใหญ่

จ้าวกุย้ เฟยได้ถกู อวยยศขึนเป็ นเลียงเหลียงหวงกุย้ เฟย


อํานาจในการปกครองไม่ตา่ งไปจากเดิม เพียงทําให้
เหมาะสมในฐานะพระมารดาของรัชทายาท จากนันไม่
นาน องค์จกั รพรรดิก็ประกาศแต่งตังองค์ชายหก เฉินคุ
นขึนเป็ นไท่จือ ขณะทรงมีพระชนมายุแปดชันษา

เลียงเหลียง…ความดีงามทีสว่างไสว ถุย! คนนอกเห็นไม่


ชัดเท่าคนใน จะบอกอะไรให้ จ้าวหลานศิษย์พีรูปงามล่ม
234
เมืองปานไซซี[1] คือศิษย์เอกทีปรมาจารย์มารอีซิวผูเ้ ป็ น
อาจารย์รกั ใคร่เชิดชูทีสุด หาใช่เพราะฝี มือเก่งกาจ แต่
เนืองด้วยความโฉดชัวศีลเสมอกันอย่างไม่น่าเชือนันต่าง
หาก รูปลักษณ์หลอกลวงทีสุด!

บัดนีแม้สกุลหร่วนสินอํานาจ แต่ฮ่ยุ กุย้ เฟยมิได้อยูอ่ ย่าง


ยากลําบากแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม ถัดจากหวง
กุย้ เฟย กุย้ เฟยท่านนีมีสทิ ธิชีขาดเรืองราวในวังหลัง
อย่างทีกุย้ เฟยในลําดับขันเดียวกันไม่อาจเทียบเท่า

ตําหนักยานซีเงียบเหงาวังเวงอย่างน่าประหลาด หาก
ประสงค์จะขอเข้าพบหวงกุย้ เฟยจําต้องขอเข้าเฝ้าผ่าน
ทางตําหนักอันชวีของฮุ่ยกุย้ เฟยเสียอย่างนัน นีนับเป็ น
เรืองทีชวนฉงน และกระอักกระอ่วนเป็ นอย่างยิง
235
“จูตา้ เกอ เมตตาข้าหน่อยเถิด”

“แค่นียังไม่สาสมกับสิงทีเจ้าทําไว้กบั ข้า! เงียบปากเสีย”

บทสนทนาจริงจังดังแว่วมาเป็ นระยะ หากมองไม่เห็นว่า


กําลังเล่นหมากล้อมอยู่ คงได้มีการห้ามทัพกันเกิดขึน
เฉินลูป่ ิ นหยุดยืนไม่ได้เดินต่อ นับตังแต่มีราชโองการให้
องค์ชายใหญ่หวนคืนสูต่ าํ แหน่งแม่ทพั ตะวันออก ความ
สัมพันธ์ขององค์จกั รพรรดิกบั ฮุ่ยกุย้ เฟยเริมมีช่องว่าง
ของความห่างเหินต่อกัน กับสนมชายาคนหนึงทีไม่มี
อํานาจวงศ์สกุลมาต่อรอง ฐานะของฝ่ าบาทย่อมไม่จาํ
เป็ นต้องใส่ใจ แต่เฉินลูป่ ิ นรูใ้ นสิงทีคนอืนไม่รู ้ ถึงพระทัย

236
ทีแท้จริงของโอรสสวรรค์

นอกวังผูค้ นทราบข่าวทีเหวินเกอหายสาบสูญ บ้างคาด


เดาว่าฉายาแม่ทพั เลือดผูไ้ ร้พา่ ยมาถึงกาลอวสาน บ้างก็
ยังมีความหวัง และรอคอยปาฏิหาริย ์ ทว่าในวัง โดย
เฉพาะตําหนักใน ไม่มีผใู้ ดกล้าปริปากแม้เพียงครึงคํา

“ข้าต้องไปแล้ว”

“ท่านพ่อจะไปไหนหรือเจ้าคะ” ฉู่มีอิงถาม ท้ายเสียงสัน


เครือ

“ไปพามารดาของเจ้ากลับมา”
237
นัยน์ตาสีขีเถ้าสบกับดวงตากลมโตไหวระริก ชายหนุ่ม
ย่อตัวลงจับบ่าทังสองข้างของบุตรี ขณะกลับมาเอาของ
บางอย่างก่อนเข้าวัง เฉินลูป่ ิ นประสงค์จะปิ ดข่าวเอาไว้
แต่บนโลกนีไม่มีกาํ แพงทีลมไม่เข้า[2] สุดท้ายอิงเอ๋อร์ก็
ได้ยินจากปากของนางกํานัลใหม่บางคนทีไม่รูก้ าลเทศะ

ตอนเฉินลูป่ ิ นกลับมาถึง ก็เห็นนางกํานัลสองคนนันนัง


คุกเข่าท่ามกลางหิมะทีกําลังตก นานพอทีจะเกิดแผล
หิมะกัด โดยมีเด็กผูห้ ญิงตัวเล็กๆ ยืนปาดนําตาทีไหล
ออกมาไม่หยุด

ลูกสาวของเขา ฉู่มีอิงเคยเสียครอบครัวทังหมดไปแล้ว
ครังหนึง ไม่วา่ เรืองซุบซิบนีจะจริงหรือลวง หัวใจของเด็ก
238
อายุนอ้ ยก็ยากจะรับไหว

เพราะฉะนันเขาจึงพาลูกมาทีนี ในระหว่างทีเขาไม่อยู่
เฉินลูป่ ิ นไม่อยากทิงเด็กทังสองไว้ทา่ มกลางจวนกว้าง
ใหญ่กบั ข้ารับใช้ อยากจะได้คนทีไว้ใจดูแล

“อยูท่ ีนีกับท่านยายของลูก และอย่าเอ่ยถึงคําพูดนอก


วังพวกนัน” เฉินลูป่ ิ นกล่าว

“ทําไมหรือเจ้าคะ?” ฉู่มีอิงเอ่ยถาม บิดาลูบศีรษะนาง


ทอดสายตามองไปยังบุรุษสองคนทียังคงทุม่ เถียงใส่กนั
โดยมีกระดานหมากล้อมกันกลาง แล้วจึงค่อยเปิ ดปาก
เล่าออกมาช้าๆ

239
“แม่ของเจ้าเคยมีนอ้ งชาย เขาเป็ นคนพิเศษ ทังแม่เจ้า
และท่านยายต่างรักเขามาก แต่เขาจากไปตังแต่อายุยงั
น้อย อดร่วมอวยพรงานแต่งของพ่อ อดเจอลูกกับเปา
จือ” เฉินลูป่ ิ นใช้ชายเสือซับหยาดนําจากดวงตากลมโต
“เขาถูกคนไม่ดีทาํ ร้าย ทําให้ทา่ นยายเสียใจมาก มาก
เกินกว่าจะเสียแม่ของลูกไปอีกคน”

ชีวิตของหร่วนจูอีถูกลิขิตเอาไว้ดว้ ยความทะเยอทะยาน
ของครอบครัว ถูกเด็ดปี กและขังเอาไว้ในกรงทองแห่งนี
พระทัยของจักรพรรดิเป็ นสิงทีไม่อาจยึดติด ดังนันบุตร
ทังสองจึงเป็ นสมบัติลาค่
ํ าทีสุด ไม่วา่ แก้วแหวนหยก
งามมากมายเท่าใดก็มิอาจนํามาเทียบ

240
“พาท่านแม่กลับมาให้ได้นะเจ้าคะ”

เฉินลูป่ ิ นจุมพิตกลางหน้าผาก กอดลูกสาวตัวน้อยเอาไว้


แน่น

“แน่นอน”

เฉินลูป่ ิ นยืดตัวขึน ส่งมือเล็กให้กบั หัวหน้านางกํานัลใน


ตําหนัก ก้มศีรษะเล็กน้อยให้เกากงกง ใบหน้างามแย้ม
ยิมให้กบั ลูกชายทียังเล็กเกินกว่าจะลืมตา กําชับให้ดแู ล
บุตรและบุตรีของตนให้ดี

ช่วงจังหวะทีกําลังเดินออกไป ดวงตาของศิษย์พีศิษย์
241
น้องร่วมอาจารย์ก็ประสานกันพอดี จ้าวหลานส่งยิมให้
รอยยิมจอมปลอมทีตกทอดมาจากท่านอาจารย์ เฉินลู่
ปิ นรูส้ กึ สะท้อนใจ เขากับเหวินเกอคือความรักทีไขว่คว้า
ได้ แต่กบั อีกคนไม่มีโอกาสนันชัวชีวิต

ทว่าความสุขเองก็มีหลากหลายรูปแบบ อารมณ์ความ
รูส้ กึ อย่างอืนไม่ได้จาํ กัดอยูเ่ พียงหนึงเดียว

เฉินลูป่ ิ นออกมานอกตําหนัก สายตาปะทะเข้ากับฉลอง


พระองค์ลวดลายมังกรสีทองอร่าม ในฝ่ าพระหัตถ์
ประคองร่มกระดาษนํามันวาดลวดลายเขาไท่ซาน บัง
หิมะสีขาวทีตกลงมาจากน่านฟ้าสีเทา

242
จักรพรรดิฝไู ฉเพ่งมองตัวอักษรเหนือตําหนัก ‘อันชวี’
จากลายพระหัตถ์ของพระองค์เอง

“ถวายบังคมฝ่ าบาท”

พระเนตรสีขีเถ้าของจักรพรรดิออ่ นจางกว่าจนเกือบ
กลายเป็ นสีเงิน

“จ้าวหลานทําหน้าทีของเขาได้ดี”

“คนของสกุลจ้าว เดิมทีก็เป็ นเช่นนัน” เฉินลูป่ ิ นหรุบตา


ลงตํา เสมอมาหรืออาจตลอดไป ไม่รูว้ า่ หน้าทีทีผูกมัดจะ
สินสุดลงเมือใด
243
“เราไม่เชือในเรืองเทพเซียน ต่อให้ผคู้ นเรียกเราว่าโอรส
สวรรค์เราก็ไม่เชือ เราไม่สวดอวยพรให้กบั ลูกของเรา
เพราะเราเชือว่าเหวินเค่อต้องไม่เป็ นอะไร เราคือมังกร
ลูกของเราย่อมมิใช่สนุ ขั เจ้าเองก็ไม่ใช่”

“ถ้าเกิดกระหม่อมกับเขาสามารถมีชยั เหนือกบฏแผ่นดิน
กระหม่อมมีสงที
ิ อยากร้องขอ”

“ว่ามา”

“ในภายภาคหน้า ต่อให้แผ่นดินเสวียนเฉินต้องเจอการ
ศึกใด ขอฝ่ าบาทอย่านําเขามาข้องเกียวด้วยอีก”

244
สายพระเนตรของจักรพรรดิยงั ไม่ละจากป้ายเหนือ
ตําหนัก “เราเป็ นจักรพรรดิ มีสงที
ิ ทําได้นอ้ ยนิด แต่สงที

ต้องฝื นทํากลับมีมากมาย เจ้าไม่ตอ้ งเป็ นห่วง แผ่นดิน
ใกล้ถงึ เวลาเปลียนผ่านแล้ว เราเกิดทีนี และต้องตายทีนี
อย่างน้อยกับเหวินเค่อ เราไม่อยากให้เขาเป็ นแบบเรา
เป็ นแบบกุย้ เฟย”

“ขอบพระทัยฝ่ าบาท”

บุรุษรูปงามเดินจากไปไกล แต่บรุ ุษอีกคนยังคงยืนอยู่


พร้อมร่มในมือ ท่ามกลางปุยนุ่นสีขาวทียังตกลงมาจาก
น่านฟ้า เนินนานทีเดียวกว่าจะก้าวเท้าเข้าไป

245
“ถวายบังคมฝ่ าบาท” ชายทีดูเยาว์วยั ทีสุดกล่าว “หมาก
ตานีฝ่ าบาทคิดเห็นเช่นไร”

จักรพรรดิทรงพระสรวลเสียงนุ่มลึก “เจ้าแพ้ให้กยุ้ เฟยมา


กีตาแล้ว”

“มากพอทีจะเสียสุราดอกท้อครึงหนึง” บุรุษทีนิงเงียบ
เป็ นผูต้ อบ

“ถ้าเจ้าชนะเราได้ เราจะยกอีกครึงหนึงของเราให้เจ้า”
จักรพรรดิกวาดกระดานทีรูผ้ ลแพ้ชนะแน่แล้วทิง “เราไม่
เคยแพ้ใครหรอกนะ”

246
“ฝ่ าบาทมีขอ้ ยกเว้นอยูเ่ สมอ” ใครคนหนึงเอ่ยขึนมาเคล้า
เสียงขบขัน

จักรพรรดิวางเม็ดหมากสีดาํ หวงกุย้ เฟยเริมหยิบขนม


จานทีสองเข้าปาก เมือเม็ดหมากสีขาววางลง หิมะทีโหม
กระหนําก็หยุดตกเสียที

.
247
“เสียวหง”

“เสียวหงหยิบไอ้นนให้
ั หน่อย”

“เสียวหงออกไปเก็บฟื นกัน”

“เสียวหงสู~่ ”

ทุกครังทีได้ยินเสียงน้องชายอ้าปากเจือยแจ้วนันออกคํา
สังกับหวางเฟย ภายในใจของเสียวถงเกิดความรูส้ กึ ลึก
ลําเกินบรรยาย

248
สามวันแรกเฉินเหวินเค่ออยากจะเอาหัวโขกเสา ทังชีวิต
สาบานจะเลิกกินมันเทศ แต่พออยูไ่ ปนานเข้า ก็เริมชิน
ชาเสียแล้ว

กิจวัตรประจําวันของพวกเขาค่อนข้างซําซากวนเวียน
ถงเห่าจะออกไปหาฝื นกับทํากับดักจับกระต่ายป่ า บางที
ก็คว้าหน้าไม้ออกไปยิงนก แต่ถงเห่าเป็ นเหมือนแมวสาม
ขา[3] ส่วนมากถ้าไม่ยิงลมก็ทารุณกรรมต้นไม้ ดังนัน
เมือเฉินเหวินเค่อทนมองต่อไปไม่ไหวฉวยหน้าไม้มายิง
เอง ด้วยฝี มือของเขาย่อมจุนเจือหมูบ่ า้ นเล็กๆ ไม่กี
หลังคาเรือนได้อย่างสบาย แต่ตอ้ งแลกมากับการโดน
คนส่วนใหญ่หมางเมินและมีทา่ ทีเย็นชาขึน

249
คนโชคดีทีรอดจากแม่นายวิ
ํ นหลงอูซ๋ ือ พอได้เห็นถึงฝี มือ
เก่งกาจก็อดไม่ได้ทีจะหวันเกรง

ชายผูน้ ีเป็ นใคร? ท่าทางบือใบ้ แต่กลับมีรา่ งกายสูงใหญ่


ลักษณะไม่เหมือนพ่อค้าวาณิช มิตรหรือศัตรูไม่สามารถ
บอกได้ มีเหตุผลใดไม่ให้หวาดระแวง ถงเห่าเด็กไม่รู ้
ประสา จะไปตระหนักถึงความโหดร้ายของใต้หล้าได้
อย่างไร หากวันหนึงหงสูจ่ าํ ได้ขนมาว่
ึ าตัวเองคือใคร ไม่
เท่ากับว่าชักศึกเข้าบ้านอย่างนันหรอกหรือ

หมูบ่ า้ นทีเฉินเหวินเค่อใช้หลบภัยชัวคราวไม่มีชือเรียก
อย่างเป็ นทางการ และไม่ปรากฏในแผนที แต่มีชืออยูใ่ น
เขตการปกครองภายใต้เมืองฉงอาน ของมณฑลจีหลิง
เทียบกับตําบลในเขตการปกครอง แทบจะเรียกได้วา่
250
เป็ นหมูบ่ า้ นลับแล คนในพืนทีจึงเรียกทีนีด้วยชือตาม
สภาพ รอบๆ หมูบ่ า้ นต้นไม้สว่ นใหญ่คือต้นไป๋ [4] จึง
เรียกว่าหมูบ่ า้ นไป๋ อู่

พวกตนหมดหนทางจะหลบหนี จะถูกข้าศึกพบเจอขึน
อยูก่ บั เวลา ระหว่างกองทัพตะวันออกกับพวกชนเผ่า
นอกด่าน ผูใ้ ดจะมีชยั ผูใ้ ดจะปราชัย

ชายแดนตะวันออกมีแม่ทพั ทีเก่งกาจเยียงปี ศาจ พวก


เขาต่างเชือมันศรัทธา แต่วนั แล้ววันเล่าไม่มีข่าวดี นาน
วันเข้าชายแดนตะวันออกเริมลุกเป็ นไฟ หลับตาลงล้วน
เจอฝันร้าย ต่างคาดหวังจะมีลมหายใจไปจนถึงรุง่ สาง

251
ฟ้าเริมมืดแล้ว วันนีโชคดีได้กระต่ายตัวใหญ่ เฉินเหวิ
นเค่อหิวเนือกระต่ายทีถูกหันแบ่งไว้ครึงหนึง เดินตาม
ถงเห่าไปบ้าน ‘มูเ่ จียเจีย’ ตอบแทนสมุนไพรทีหมดไป
เป็ นกระบุงกับการรักษาเขา มองสิงทีถืออยู่ ไม่น่าเชือว่า
เด็กขีกลัวอย่างถงกวาจะทําอาหารเก่ง ปกติอยูทีจวนก็
ทําแต่งานก้นครัว ถึงฝี มือเย็บปั กจะทนดูไม่ได้ก็ตาม

จําได้วา่ เสียวถงเคยขอให้เขาหาภรรยาน่ารักสักคน
พอกลับไปทีจวนเฉินอัน เฉินเหวินเค่อคงต้องปรึกษากับ
เฉินลูป่ ิ นให้กล่อมว่าเปลียนเป็ นสามีแทนได้ไหม แต่พลัน
คิดได้วา่ เรืองเสน่หป์ ลายจวักเฉินลูป่ ิ นก็ฝีมือเป็ นหนึงไม่
มีสอง ความคิดไร้สาระจึงถูกปั ดตกไป

ถงเห่าเคาะประตู ครูเ่ ดียวใบหน้าของหญิงสาวอายุราว


252
ยีสิบก็โผล่ออกมา สตรีทีถงเห่าเรียกว่ามูเ่ จียเจียยิม
น้อยๆ ขณะถามว่า “เสียวเห่ามีอะไรหรือ”

ทันทีทีหญิงสาวเหลือบสายตามาเห็นเฉินเหวินเค่อทียืน
สร้างเงาทะมึนด้านหลัง ประตูทีเปิ ดรอเชือเชิญปิ ด
กระแทกดังปั ง ก่อนจะแง้มเปิ ดอีกครัง เมือสตรีแซ่มนู่ กึ
ขึนได้วา่ ถงเห่าก็ยืนอยูด่ ว้ ย

“มาหาพีทําไมหรือ” มูเ่ จียเอ่ยซําอีกหน นําเสียงแข็ง


กระด้างขึนหลายส่วน

“วันนีเสียวหงกับข้าจับกระต่ายได้ตวั ใหญ่ กวาเกอเลย


ให้ขา้ นํามาแบ่งให้เจียเจีย ตอบแทนเรืองยา” ถงเห่า

253
สะกิดเฉินเหวินเค่อให้สง่ เนือกระต่ายให้มเู่ จีย

หญิงสาวรับไปแบบไม่เต็มใจเท่าใด “ช่างเถอะคนกันเอง
ทังนัน”

แววตาของมูเ่ จียแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากอยูเ่ สวนา


ด้วย...นางไปจากตรงนีได้หรือยัง

น่าเสียดายทีถงเห่าไม่สงั เกตเห็น เฉินเหวินเค่อจึงต้องอยู่


กับบรรยากาศไม่ตอ้ นรับอย่างโจ่งแจ้งนีอย่างช่วยไม่ได้

กระทังภายในบ้านของมูเ่ จียมีเสียงของเด็กทารกแผด
เสียงร้องไห้ หญิงสาวก็รบี ผละออกไปโดยไม่ได้ปิดประตู
254
“มูเ่ จียเจีย?” ถงเห่าตะโกนเรียก เมือไม่ได้รบั เสียง
ตอบกลับ แสงอาทิตย์เริมลาลับขอบฟ้า จึงเตรียมตัว
กลับบ้าน เดินนําออกมา เสียวหงยังยืนมองประตูทีเปิ ด
ค้างไว้ไม่ขยับไปไหน

“เสียวหง?” ถงเห่าเอ่ยเรียก

ได้ยินเสียงเด็กร้องก็นกึ ถึงฉางเล่อ ป่ านนีไม่รูว้ า่ จะเป็ น


อย่างไรบ้าง แถมเสียงร้องเมือสักครูด่ อู อ่ นระโหยโรยแรง
น่าเป็ นห่วง จนแล้วจนรอดเฉินเหวินเค่อก็ตดั ความรูส้ กึ
เป็ นกังวลไม่ขาด

255
เฉินเหวินเค่อเดินเข้าบ้านของสตรีแซ่มู่ ลากเอาถงเห่าที
ออกแรงดึงห้ามปรามเข้าไปด้วยกัน

มูเ่ จียนังหันหลัง อุม้ ลูกแนบอก พยายามเค้นนํานมให้


ไหล โชคร้ายทีนางทํางานหนัก แถมตังแต่คลอดลูกชาย
สามีทีเดินทางไปขอปั นข้าวกับชาวบ้านบางส่วนยังหมู่
บ้านใกล้เคียงก็ยงั ไม่กลับมา นํานมนางไม่ไหลมานาน
แล้ว ทําให้ตอ้ งใช้นาข้
ํ าวป้อนลูกทดแทน

แต่ขา้ วทีเก็บเกียวได้ เมือคราวกองทัพต้องปะทะกับข้า


ศึก ได้แบ่งบางส่วนจุนเจือกองทัพ

กองทัพตะวันออกมีแม่ทพั ไร้พา่ ย พวกตนไม่นกึ เสียดาย

256
มันใจว่าศึกสงครามไม่ยาวนานเหมือนดังทีผ่านมา คาด
ไม่ถงึ ว่าสถานการณ์จะพลิกผัน

ข้าวหมดไปตังแต่เมือวาน จนถึงวันนีนํานมนางก็ยงั ไม่


ไหล มูเ่ จียปาดนําตา

“เสียวหง!”

มูเ่ จียได้ยินเสียงของถงเห่า หันหน้าไปมองก็พบน้องชาย


ข้างบ้านพยายามดึงร่างสูงใหญ่ แต่ตวั ของเฉินเหวินเค่อ
เหมือนหลักศิลา ถงเห่าออกแรงเท่าใด เท้าลากอยูก่ บั
พืนตรงจุดเดิมไม่เปลียนแปลง

257
“เจ้าเข้ามาทําไม” มูเ่ จียกล่าว

“…” ชายหนุ่มผมเผ้ารุงรังไม่ตอบ แถมยังถือวิสาสะมา


นังข้างๆ ถงเห่าเห็นเข้าก็รอ้ นรน แต่สแู้ รงเสียวหงไม่ไหว
จึงได้แต่มองอีกฝ่ ายสะกิดแขนมูเ่ จียเจีย ใช้ภาษามือ
บอกให้สง่ เด็กมา

เสียวหงจะขอลูกต่อหน้ามารดาเขาตรงๆ ไม่ได้นะ!

มูเ่ จียยิงกอดลูกแน่นขึน ทว่าชัวจังหวะหนึง ไม่รูเ้ พราะ


เหตุใดจึงรูส้ กึ ว่าชายผูน้ ีไม่เป็ นอันตราย หญิงสาวลังเล
แต่พอได้ยินเสียงร้องของลูกอีกหน มูเ่ จียก็เชือใจ
สัญชาตญาณของตัวเอง

258
เด็กตัวเล็กนิดเดียว เมือได้อมุ้ หัวใจเฉินเหวินเค่อยิง
สะท้าน

หญิงสาวกับเด็กชายมองอีกคนเปิ ดอกเสือ ลูกชายของมู่


เจียดูดยอดถันของเฉินเหวินเค่อหลับตาพริม โล่งใจไป
เปลาะหนึง เขาเองก็ไม่มนใจว่
ั าร่างกายของตัวเองยังมี
นํานมหรือไม่ เพราะเดิมทีเทียบกับสตรี บุรุษทีมีครรภ์นาํ
นมมีไม่มาก และไม่นานเท่า บางคนถึงขันไม่มีเลยด้วย
ซํา

มูเ่ จียตะลึงจนอ้าปากค้าง ถงเห่าตาโตเท่าไข่หา่ น

259
“นะ..นีมัน นี นีคือ?” ถงเห่าถึงกับเรียบเรียงคําพูดไม่ถกู

ฝ่ ายมูเ่ จียสงบใจได้เร็วกว่า “เสียวเห่าคงไม่เคยเห็น ปกติ


ผูช้ ายเขาไม่ตงท้
ั องกันใช่หรือไม่”

ถงเห่าพยักหน้า

“จริงๆ แล้วก็ไม่เชิงว่าไม่ได้ เพียงแต่พวกเราเป็ นสามัญ


ชน การแต่งงานกับเพศเดียวกัน ถ้าท้องขึนมาแบกรับ
ความเสียงไม่ไหว ไหนจะต้องทํางานหนัก ไหนจะสภาพ
แวดล้อม สุดท้ายเรืองแบบนีจึงเป็ นสิงทีสงวนไว้ให้กบั ชน
ชันสูงกับครอบครัวคหบดี” มูเ่ จียกล่าวต่อ “แต่สว่ นใหญ่
พวกเขาก็แต่งกันเพราะผลประโยชน์ทงนั
ั น คนธรรมดา

260
อย่างเราไม่เข้าใจหรอก”

“ถ้าแบบนัน เสียวหงก็…” ถงเห่าค่อยๆ หันหน้าไปมอง

เรืองเหลือเชือพรรค์นี…เป็ นไปได้ดว้ ยหรือ?

“ก็คงเป็ นเช่นนัน” มูเ่ จียเอ่ย ในใจรูส้ กึ กระดากอาย หงสู่


เป็ นแค่คนโชคดีทีรอดชีวิตมาได้จริงๆ ทังฐานะคงไม่
ธรรมดา แต่พวกตนก็ตงแง่
ั รงั เกียจ เอาแต่หวาดกลัว ทัง
ทีอีกฝ่ ายคอยช่วยเหลืออยูห่ ลายครังหลายหน

มูเ่ จียรับลูกคืนมา นําตาก็รนอี


ื กรอบ “ขอบคุณเจ้ามาก
นะหงสู”่
261
“…” เฉินเหวินเค่อไม่ตอบ ถึงนางไม่รบั รู ้ แต่เขาได้รบั มัน
แล้ว

กลับบ้านไปถงเห่าถูกพีชายดุหลายคํา แต่เสียวหงกลับ
ได้รบั คําพูดเกรงอกเกรงใจอย่างไม่ยตุ ิธรรม ‘ได้โปรด
อย่าพาเขาไปเถลไถล’ ถงเห่าด่ากราดในใจไปหลายยก
เลือกปฏิบตั !ิ

ส่วนเสียวถงแสนจะชอกชํานําท่วมปาก บอกความจริงก็
ไม่ได้ แสดงละครเกินจริงไป โดนคิดบัญชียอ้ นหลังเกรง
ตอนจบศพจะไม่สวย เกิดเป็ นถงกวาทําไมช่างลําบาก
ขนาดนี

262
วันรุง่ ขึนท่าทีของทุกคนต่อเฉินเหวินเค่อเปลียนไปราว
พลิกฝ่ ามือ ไม่ใช่แค่เขาทีงุนงง เพราะเสียวถงงงยิงกว่า
ครันพอได้ยินต้นสายปลายเหตุ บ่าวน้อยพลันตระหนัก
ได้วา่ หรือนีคือความมหัศจรรย์ของแม่ลกู อ่อน

พริบตาเดียวจากวันเป็ นสัปดาห์ จากสัปดาห์กลายเป็ น


เดือน

ลมหนาวพัดผ่านวูบหนึงรูต้ วั อีกทีก็ปีใหม่แล้ว ถงเห่ากับ


เสียวถงคิดจะอยูเ่ ฝ้าปี พากันคอพับตังแต่ปลายยามไฮ่
(21.00 น. - 22.59 น.) ปี ก่อนฉางเล่อยังไม่เกิด เฉินเหวิ
นเค่อยังไม่ได้รบั อิงเอ๋อร์มาเลียง คืนเฝ้าปี เฉินลูป่ ิ นหน้า
ไม่อาย ตักตวงจากเขาอย่างไม่รูจ้ กั พอ แต่ปีนีเฉินเหวิ
263
นเค่อยืนพิงหน้าต่าง เหลือแค่เขาตัวคนเดียว

คืนนีหิมะไม่ตก เดือนนวลกลมเด่น ลูบปิ นก้านเหมยใน


มือ อดสงสัยไม่ได้วา่ อีกฝ่ ายมองดวงจันทร์ดวงเดียวกับ
ตนอยูห่ รือไม่

อีกฝากฝังหนึงบุรุษรูปงามอยูบ่ นหลังม้า รีบเร่งเดินทาง


เงยหน้ามองฟ้านัยน์ตาสีขีเถ้าสะท้อนแสงจันทร์ หยก
ศิลาจันทราข้างเอวทอแสงเรืองรอง หยิบหยกเนือเย็นขึน
มาพินิจ คล้ายได้ยินบทสนทนาก่อนจะแยกจากกัน

‘ข้ามีปินก้านเหมย แต่เจ้าไม่มีอะไรเลย เห็นแล้วสมเพช


นัก เอาไปสิ ให้แล้วข้าไม่รบั คืน!’

264
ตัวอักษร ‘เค่อ’ สลักไว้ ยิงนึกถึงเจ้าของแทบขาดใจ

ข้อมูลเพิมเติม

[1] ไซซี : หนึงในสียอดหญิงงามแห่งประวัติศาสตร์จีน

[2] บนโลกนีไม่มีกาํ แพงทีลมไม่เข้า เหมือนสํานวนไทย


กําแพงมีหปู ระตูมีช่อง

[3] แมวสามขา สือความหมายว่า รูอ้ ย่างงูๆ ปลาๆ ไม่


ชําชอง

265
[4] ต้นไป๋ : ต้นสนหอม หรือต้นสนฮิโนกิ

266
ตอนที ๓๘ อย่าตัดสินคนทีหน้าตา

ยีสิบสีฤดูกาล ลีชุน[1]เวียนมาบรรจบอีกครัง ฤดูใบไม้


ผลิเริมต้น ถึงเวลาทีต้องหว่านเมล็ดเพาะปลูก ช่วงพัก
ระหว่างลงหว่าน เฉินเหวินเค่อรับหัวมันเผาจากมูเ่ จีย
จากทีไกลสองพีน้องสกุลถงกําลังเดินตรงเข้ามาหา ถง
เห่ากระโดดโบกมือ พลังกายล้นเหลือ ผิดกับคนข้างตัว
เดินลากขาห่อเหียว

ฝูงนกแตกรังบินผ่าน เฉินเหวินเค่อส่งมือดึงหญิงสาวขึน
มา

“เจ้านีแข็งแรงดีจริง” มูเ่ จียกล่าว ตีทอ่ นแขนกํายําปึ กๆ

267
สุดท้ายเป็ นนางเองทีนิวหน้าเพราะเจ็บมือ

เฉินเหวินเค่อ “…”

ถึงเวลาแล้วหรือเปล่านะ…เฉินเหวินเค่อครุน่ คิดขณะ
กําลังเดิน

ตอนเกิดเรืองทีสะพานยวินหลง ทัพหลักอยูอ่ ีกฟากของ


สะพาน เฉินเหวินเค่อทีเป็ นแม่ทพั ได้รบั บาดเจ็บจนต้อง
พักรักษาตัว จิงสุย่ มีหน้าทีขึนเป็ นผูน้ าํ แทนเขา อย่างแรก
ต้องส่งม้าเร็วรายงานสถานการณ์ทีเมืองหลวง อย่างที
สองคือต้องหาแม่ทพั เพือมาทําศึกต่อ จิงสุย่ โดนธนูยิงที
ข้อมือ แม้บาดแผลไม่รา้ ยแรง แต่ไม่เหมาะทีจะจับดาบ

268
สะพานไม่มีแล้ว จะข้ามมาฝังตะวันออกต้องอ้อมแนว
เทือกเขา ระยะเวลารวมแล้วก็น่าจะถึงช่วงเวลานีพอดี

ผ่านมาตังสองเดือน ร่างกายเขาดีขนมาก
ึ เดินลมปราณ
ไม่ติดขัด ปลอดภัยจากการธาตุไฟเข้าแทรก ไม่กระอัก
โลหิตให้คนอืนอกสันขวัญแขวน

แสงแดดสะท้อนกับนําบนผืนนาข้าวส่องประกายระยิบ
ระยับ ลมแรงกระโชกวูบผ่านมูเ่ จีย ปอยผมปลิวสะบัด
นางหวีดร้องออกมาอย่างตระหนก พริบตาเดียวคนข้าง
กายก็หายวับไปแล้ว

269
ฉึก! ฉึก! ฉึก!

ได้ยินเสียงของแหลมทิมแทงลงผิวดิน ถงเห่าเหมือนเห็น
ภาพลวงตาราวต้องมนต์จิงจอก สมองมึนงงอย่างกับพึง
ถูกทุบตี ท่อนแขนแข็งแรงหิวคอเสือลอยเท้งเต้ง พีชาย
เองก็มีสภาพไม่ตา่ งกันนัก เสียวถงทีโดนแบกพาดบ่าตา
ยังหมุนติว

เด็กชายหมุนคอผ่านยังจุดทีตนยืนอยูเ่ มือสักครู ่ ลูกธนู


สามดอกปั กคาพืน สองพีน้องกลืนนําลายเอือก ใจหล่น
ไปอยูท่ ีตาตุม่ เกือบได้เป็ นผีโดยไม่รูต้ วั

“หวางเฟยพ่ะย่ะค่ะ หวางเฟยช่วยบ่าวด้วย!” เสียว

270
ถงหวาดกลัวจนลนลาน

หวางเฟย?

ถงเห่าทียังอยูใ่ นอาการตกใจไม่ทนั ได้ตริตรอง แต่มเู่ จียที


อยูใ่ กล้ได้ยินอย่างชัดเจน ครอบครัวนางกับสองพีน้องคู่
นีรูจ้ กั กันมานาน นางโตมากับถงกวา ตอนน้องชายคนนี
ตามมารดาไปทํางานทีฉางซี นางก็เป็ นคนช่วยเลียง
ถงเห่า เรืองทีถงกวาทํางานเป็ นบ่าวรับใช้เฉินอันหวา
งนางก็ทราบ เช่นนันแล้วหวางเฟยทีพูดถึง มิใช่เฉินอัน
หวางเฟยหรอกหรือ

"เจ้านีมัน..."

271
“เสียวหงนีเจ้า พูดได้หรือ?!” ถงเห่ากล่าวอย่างตกใจ

เฉินเหวินเค่อพ่นลมหายใจเหนือยหน่าย “ไม่ใช่เวลานี”

ชนเผ่านอกด่านไม่ใช่พวกเจ้าแผนการ ไม่มีการส่งธนู
เพือหยังเชิง คนกลุม่ ใหญ่ลอ้ มวงเข้ามารอบทิศทาง อยู่
ในทีโล่งทําให้เห็นศัตรูได้ง่าย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะ
หลุดพ้นจากมือโจมตีระยะไกล เฉินเหวินเค่อหรีสายตา
ใต้เรือนผมทีปิ ดบังใบหน้า เขาสะบัดเสียวถงทียังหน้าซีด
อยูบ่ นบ่าลงกระแทกพืน ก่อนจะสังให้เปลียนมาขีหลัง
แทน

272
“เร็ว!” เฉินเหวินเค่อตะเบ็งเสียงเร่ง

หลังคนบนหลังเกาะเป็ นมันเหมาะ เฉินเหวินเค่อก็ใช้อีก


มือทียังว่างคว้าเอวของมูเ่ จีย สะกิดปลายเท้าพุง่ ทะยาน
ผ่านศัตรูหนีออกไปไกล เมือใกล้พน้ จากนาข้าว เฉินเหวิ
นเค่อวางคนทังสามลง เป้าหมายของเสด็จอาย่อมเป็ น
เขา ชีวิตของประชาชน ในฐานะแม่ทพั พิทกั ษ์แผ่นดินมี
หน้าทีต้องปกป้อง จะลากชีวิตคนบริสทุ ธิมาข้องเกียวไม่
ได้โดยเด็ดขาด

“ข้าจะจัดการพวกมัน รีบกลับหมูบ่ า้ น อพยพคนหนีไป


ให้ไกล”

273
“แต่เสียวหง…” ถงเห่ารังมือเฉินเหวินเค่อเอาไว้ ผูเ้ ป็ นพี
ชายเห็นเข้าก็จบั บ่า ส่ายหน้าช้าๆ อยูไ่ ปรังแต่จะเป็ นตัว
ถ่วงเสียเปล่า

ถงเห่ากลันใจปาดนําตา วิงหายออกไป ก่อนจะกลับมา


อีกครังพร้อมท่อนไม้ยาว

“ข้าขอโทษ ข้าหาอาวุธดีๆ ไม่เจอเลย” ถงเห่ากล่าวนํา


เสียงสลด

“นีคืออะไร?” เฉินเหวินเค่อถาม

“ไม้กวนอึ[2]”
274
“เอาเถอะมีดีกว่าไม่มี” เฉินเหวินเค่อตอบ หัวเราะไม่ออก
ร้องไห้ไม่ได้ ฟาดฟั นศัตรูดว้ ยทวนศึกคูใ่ จมาทังชีวิต แค่
เปลียนมาเป็ นไม้กวนอึจะเป็ นไรไป

อาทิตย์ตรงหัว นกตัวใหญ่บินผ่าน เฉินเหวินเค่อเหลือบ


สายต่อไปมองครูห่ นึงก็กระตุกยิมมุมปาก ใบหน้าทีถูก
ปิ ดด้วยผมยาวเกะกะ เส้นผมรุงรังดูไม่เป็ นผูเ้ ป็ นคน มือ
หยาบคว้าปิ นดอกเหมยแดงรวบผมอย่างลวกๆ เผยให้
เห็นนัยน์ตาสีขีเถ้า เมือดวงตาคมกริบคูน่ นหั
ั นกลับมา
มองคนทังสาม แสงแดดทีตกกระทบเปลียนให้ดวงตาคู่
นันกลายเป็ นสีเงิน

ถึงถงเห่าอายุยงั น้อยใช่วา่ จะไม่รูค้ วาม บัดนีได้เห็นเต็ม


275
สองตา คนทีเขาเรียกว่าเสียวหงมาตลอดสองเดือน
ฐานะทีแท้จริงเกินกว่าคําว่าไม่ธรรมดาไปไกลโข

เฉินเหวินเค่อเห็นแต่ละคนเบิกตาโตกว่าไข่หา่ น เด็กชาย
ตัวน้อยช่างจ้อ เวลานีติดอ่าง หาปากตัวเองไม่เจอ

คนทังสามรูส้ กึ ว่าเหตุการณ์ตรงหน้าช่างคุน้ เหลือเกิน


กระพริบตาทีเดียว ร่างสูงใหญ่ก็หายไปจากครรลองสาย
ตา ลองกระพริบอีกที อาวุธในมือก็ฟาดใส่พวกนอกด่าน
ปลิวกระเด็น

แม้อาวุธในมือแทบจะเรียกว่าอาวุธได้ไม่เต็มปาก แต่
เฉินเหวินเค่อทีแสยะยิมพุง่ ตัวเข้าใส่ ไม่วา่ ใครก็ตอ้ งเข่า

276
อ่อน

ผูใ้ ดใช้ดาบฟั น เขาก็ใช้ดาบนันแทงสวนกลับไป

โลหิตหลังรินชโลมกาย มิใช่โลหิตของตนเอง บุรุษผูห้ นึง


ยืนตระหง่านน่าหวาดหวัน ดังสัตว์รา้ ยทีขยําคนตายภาย
ในเขียวเดียว ฉายาแม่ทพั เลือดมีทีมาเช่นไร บัดนีทุกคน
ได้เห็นเต็มสองตา

จิตสังหารรุนแรงมุง่ ตรงมาจากทางด้านหลัง เฉินเหวิ


นเค่อก้มหัวหลบตามสัญชาตญาณ สตรีผิวทองแดงถลึง
ตามองอย่างชิงชัง มีดสันทําจากกระดูกสัตว์กวาดผ่าน
เส้นผมของเขาไปส่วนหนึง

277
ขณะทีกําลังตังท่าเตรียมรับมือ ด้านหลังของเฉินเหวิ
นเค่อก็มีเสียงปรบมือจังหวะเนิบนาบ ตามมาด้วยเสียง
หัวเราะทีสะกิดอารมณ์แค้นเคืองของเขาให้เดือดพล่าน

นอกจากอายุทีเพิมมากขึน ฉีหวางยังเหมือนเดิมไม่มีผิด
เพียน

เหตุผลเดียวทีเฉินเหวินเค่อไม่พงุ่ เข้าใส่อีกฝ่ าย เพราะมี


เด็กคนหนึงกําลังสันกลัวภายใต้มือซ้ายทีกําลังลูบศีรษะ
อย่างอ่อนโยน ทว่ามือขวากลับจ่อคมมีดทีคอหอยอย่าง
เลือดเย็น ขยับเพียงก้าวเดียวใบมีดก็กดลึกจนเลือดไหล
ซิบ เสียวถงตัวสัน ทังกลัวทังห่วงน้องชาย

278
เฉินเหวินเค่อกัดฟั นกรอด “เสด็จอาใช้เป็ นแต่กลยุทธ์ตวั
ประกันหรือ”

“ก็เป็ นวิธีทีได้ผลดีไม่ใช่หรือไง” ฉีหวางตอบกลัวหัวเราะ


จ้องปิ นดอกไม้นิงงัน ภายในใจยิงเย็นเยียบ

ไม่วา่ เมือใดหลานชายคนนีโชคดีอยูเ่ สมอ ทังๆ ทีเฉินเหวิ


นเค่อเกิดมาพร้อมแรงกดดันในการเป็ นรัชทายาทเหมือน
กับเขา โดนน้องชายทีเกิดมาทีหลังแย่งชิงทุกสิงทุกอย่าง
แล้วเหตุใดจึงมีเพียงเขาทีถูกทอดทิง

มองเงาตัวเองสะท้อนบนใบมีด ไม่มีสว่ นใดเหมือนพระ

279
บิดา ด้วยใบหน้าของสตรีทีเป็ นดังดอกหญ้าในสวนบุ
ปผางาม ถูกเหยียบยํา ไม่มีใครจดจําได้ และไร้ซงคน

ระลึกถึง

“เสียดาย…” เฉินเฟิ งหลุนรําพึง “เมือสิบสีปี ก่อน กําจัด


ทิงได้แค่คนเดียว”

“ทําแบบนีไปทําไม” เฉินเหวินเค่อกล่าว ความสัมพันธ์


ของราชสกุลจักรพรรดิเป็ นเช่นไรเขาทราบดี แต่ถงึ อย่าง
นันจําเป็ นด้วยหรือ…บัลลังก์มงั กรต้องเสียทุกอย่างเพือ
ได้ครอบครอง ก็ยงั ยินยอมกระนันหรือ

“ข้าคือคนทีสมควรถูกกําหนดให้เป็ นไท่จือ เสด็จพีอาศัย

280
ตัวเองเป็ นพระโอรสตามกฎมณเฑียรบาลคว้าตําแหน่ง
เอาไว้ วางแผนใช้ความทะเยอทะยานของเหวยกุย้ เฟย
กับสกุลลวีให้ทาํ ลายตัวเอง” ดวงตาของเฉินเฟิ งหลุน
แดงกํา “เสด็จพีได้เป็ นจักรพรรดิสมใจปรารถนา เช่นนัน
มิสมควรแลกกับสิงสําคัญทีสุดในชีวิตของตนเอง?”

เฉินเฟิ งหลุนไม่สนใจว่าแผ่นดินจะถูกครอบครองโดยผู้
ใด จะชาวเสวียนหรือพวกนอกด่าน ขอแค่เขาได้เป็ น
จักรพรรดิก็เพียงพอ!

หญิงสาวทียืนอยูด่ า้ นหลังเฉินเหวินเค่อสะกดกลันไม่ให้
เผลอตัวจ้วงแทงใส่ศตั รูตวั ฉกาจใจแทบขาด ชดใช้ให้กบั
หัวของท่านอาและญาติผนู้ อ้ ง

281
เก๋อมูเ่ อ๋อร์สบกับดวงตาทรงเสน่หค์ นู่ นก็
ั เข้าใจสิงทีอีก
ฝ่ ายต้องการ หญิงสาวฉวยปิ นปั กผมของเฉินเหวินเค่อ
โดยทีเขาไม่ทนั ได้ตงตั
ั ว อยากจะเอาคืน ทว่าทุกครังที
ขยับตัวเท่ากับมีดตรงคอถงเห่ากดลงลึกไปมากเท่านัน

“รูห้ รือไม่ เหตุใดฝ่ าบาทถึงกลายเป็ นจักรพรรดิทีอยูภ่ าย


ใต้อาํ นาจของสกุลหร่วนถึงสามสิบปี ” เฉินเฟิ งหลุน
หัวเราะเมือเห็นว่าสายตาของหลานรักจ้องอยูท่ ีปิ นก้าน
เหมยไม่วางตา ‘ความรัก’ คือสิงทีลวงหลอกทีสุด ขณะ
เดียวกันก็เป็ นเครืองมือทีทรงพลังทีสุดเช่นกัน

ก้านปิ นสีนาตาลเข้
ํ ม ดอกแดงเฉิดฉัน ดวงตาพร่าเลือน
ไปชัวขณะ เฉินเหวินเค่อเหมือนมองเห็นแสงจันทร์ลอด
282
ผ่านไอแดดยามเทียงวัน มือเล็กของเด็กคนหนึงรับกิง
ดอกเหมยเอาไว้

เด็กน้อยรอข้า…

บุปผาสิบปี ไม่เหียวเฉา บัดนีหักสะบันครึง กลีบเหม


ยร่วงโรย ไม่มีวนั หวนคืน

“เจ้ากล้าดียงั ไง!!”

เฉินเหวินเค่อโกรธจนเลือดขึนตา ลืมตัวคว้าข้อมือของ
สตรีขา้ งหลังไว้แน่น ด้วยแรงอารมณ์แฝงลมปราณที
เดือดปะทุ โพรงปากมีรสเลือดไม่สนใจ เปิ ดโอกาสให้มีด
283
เล่มหนึงพุง่ ตรงไปยังหลังศีรษะ

“หวางเฟย!”

แค่มีดเล่มหนึงมีหรือเขาจะหลบไม่พน้ หากสตรีผิวทอง
แดงตรงหน้ามิได้จงใจเหนียวรังเอาไว้ ทังๆ ทีข้อมือของ
ตัวเองถูกบีบจนกระดูกแตกละเอียด ช่วงจังหวะทีแสงสี
เงินจากคมมีดกําลังปั กเข้ามาในตา เข็มบินเบียงวิถีของ
มีด เสียงเหล็กชันดีกระทบกัน เฉียดผ่านแก้มอย่างหวุด
หวิด

บุรุษผูห้ นึงยืนอยูบ่ นยอดไม้ ชายอาภรณ์สีขาวปลิว


สะบัดไปตามลม พัดจีบในมือโบกน้อยๆ แลคล้ายเทพ

284
เซียนทีลงมาเยียมเยือนพิภพมนุษย์

“ลูป่ ิ น…”

คนเพียงคนเดียวจะทําอะไรได้ เฉินเฟิ งหลุนหัวเราะเย้ย


หยัน ชักกระบีอ่อนข้างเอวออกมา “จัดการ!” หลังจาก
นันก็พงุ่ ตัวเข้าหาบุรุษอาภรณ์ขาว สกัดไม่ให้อีกฝ่ ายเข้า
ไปช่วยเหลือเฉินเหวินเค่อทีถูกศัตรูนบั สิบรุมล้อม

การเคลือนไหวของเฉินลูป่ ิ นพริวไหวดุจสายนํา กระบี


ของเฉินเฟิ งหลุนแตะต้องไม่ได้แม่แต่ปลายอาภรณ์ พัด
จีบในมือตัวด้ามพัดทํามาจากเหล็ก ไม่ใช่เครืองประดับ
สวยงามธรรมดา สมัยก่อนเขาไม่ชืนชมการจับทวนถือ

285
ดาบ เพราะถ้าต้องฝึ กใช้จะทําให้มือหยาบกร้าน ไม่น่มุ
นิมเรียบเนียน กลัวคนทีมารับเขาตามสัญญาจะไม่รกั
ชอบ

เข็มบินกับพัดเจ๋อซ่าน[3] จึงกลายเป็ นสิงทีเฉินลูป่ ิ นเชียว


ชาญทีสุด

ประมือกับอีกฝ่ ายมาหลายกระบวนท่า เฉินลูป่ ิ นเป็ นเชือ


พระวงศ์คนหนึง เรืองของฉีหวางได้ยินมาก็ไม่นอ้ ย เรือง
ทีฉีหวางประชวรหนักจนลุกจากเตียงไม่ไหวเกิดในช่วง
ผลัดเปลียนแผ่นดินพอดี อดีตจักรพรรดิทรงเสียพระทัย
ในเรืองของเหวยกุย้ เฟยอย่างหนัก ด้วยสุขภาพกําลัง
ทรุดโทรม ไม่นานหลังจากนันก็เสด็จสวรรคต

286
อดีตจักรพรรดิมิใช่จกั รพรรดิทีน่าชืนชมเท่าใดนัก ทรงใช้
อารมณ์ตดั สินทุกอย่าง และไม่อาจแยกออกจากเหตุผล
ทังในฐานะเจ้าแผ่นดิน ทังในฐานะบิดา

เหวยกุย้ เฟยเมือแผ่นหลังชนกําแพงโทษประหาร ก็เลือก


จากไปอย่างสมเกียรติในชุดประจําตําแหน่งกุย้ เฟย
พร้อมลากฉินหวางทีมีอายุแค่แปดชันษาตามนางไปด้วย
เหลือไว้เพียงฉีหวาง อดีตจักรพรรดิเองก็คล้ายจะลืม
เลือนไปแล้วว่ามีโอรสคนนีอยู่ ลืมว่าครังหนึงเคยโปรด
ปราน เคยคาดหวังมากขนาดไหน

“คุม้ ค่าแล้วหรือ” กระบีปะทะด้ามพัด เฉินลูป่ ิ นสบตากับ

287
คนตรงหน้า

“อย่างเจ้าจะไปรูอ้ ะไร!” เฉินเฟิ งหลุนตะคอก

“ข้าไม่รูห้ รอก” เฉินลูป้ ิ นแย้มยิมอ่อนโยน “แต่มีสงหนึ


ิ งที
ข้ารู ้ ท่านไม่มีวนั ได้เป็ นจักรพรรดิ”

ฉีหวางเป็ นคนฉลาด มีแผนการนับไม่ถว้ นเพือนําตนเอง


ไปสูเ่ ป้าหมาย แต่อีกฝ่ ายประมาทสกุลจ้าวเกินไป ยุทธ
ภพไม่อาจย่างกรายราชสํานัก พวกสํานักรับจ้างทีจ้าง
วานเอาไว้ก็หมดประโยชน์ในทันที คิดจะใช้หนทางของ
วีรชน บัดนีใต้เท้าไป๋ ถูกประหารไปแล้ว คิดจะรวบรวม
ชนเผ่านอกด่าน ไม่ง่ายขนาดนัน

288
หลังรวบรวมแผ่นดิน บ้านเมืองไม่ได้สงบสุข มีการทําศึก
สงครามบ่อยครัง ‘สรรพสิงยากทีการเริมต้น’ แต่เดิมเผ่า
นอกด่านเป็ นเผ่าใหญ่ ครอบครองทุง่ หญ้าและแดนทะเล
ทราย เรียกตัวเองว่า ‘เอ๋อร์ก่นุ ’ มีข่านสูงสุดเป็ นผู้
ปกครองในตําแหน่งเทียบเคียงจักรพรรดิ ต่อมาเมือทัง
สองฝ่ ายเข้าหําหันกัน ชาวเสวียนได้รบั ชัยชนะ เผ่าเอ๋อร์
กุ่นทีสูญเสียผูน้ าํ ก็กระจัดกระจายกันไปคนละทาง

แยกเป็ นชนเผ่าเร่รอ่ นเลียงสัตว์ บ้างเป็ นชนเผ่าทีอาศัย


อย่างสงบสุขตามทะเลทราย บ้างกลายเป็ นชนเผ่านักรบ
ทีมีปณิธานหวนคืนความยิงใหญ่เกรียงไกร

ต่อให้ฉีหวางรวบรวมชนเผ่านักรบทังหมดไว้ แต่แผนการ
289
กว่าครึงก็ถกู ทําลายหมดสินแล้ว คุม้ ค่าแล้วหรือทีจะเดิน
หน้าต่อ

พลิวกายหลบพ้นอีกรอบ เฉินลูป่ ิ นก็ตะโกนเรียก “เหวิ


นเกอ!”

ไม่นานนักเสียงผิวปากก็ดงั มาจากชายทีสาละวนอยู่
กลางวงล้อม ถึงบัดนีร่างกายจะเริมมีบาดแผล แต่ไม่
อันตรายถึงชีวิต เงาวูบผ่านเหนือศีรษะ เฉินลูป่ ิ นเอนตัว
ไปด้านหลังอย่างผิดธรรมชาติ ประสานมือจิมไปทีจุด
ชีพจรเหนือข้อมือของฝ่ ายตรงข้าม ทันทีทีกระบีอ่อน
หลุดออกจากมือ เหยียวขนทองตัวใหญ่ก็โฉบเอาอาวุธ
บินหายขึนฟ้า

290
เฉินลูป่ ิ นกางพัดรีดเร้นลมปราณ โบกพัดในมือบังเกิดลม
พายุซดั เฉินเฟิ งหลุนกระเด็นออกไปหลายช่องตัว ร่างใน
อาภรณ์ขาวไม่ได้กระโจนเข้าไปซํา แต่สะกิดปลายเท้า
พุง่ ตัวผ่านไป จุดมุง่ หมายคือคนทีกําลังเสียท่าอยู่
กลางวงล้อม

สองเดือนไม่เพียงพอให้เฉินเหวินเค่อหายดี ประกอบกับ
ช่วงร่างกายทดถอย เขายือมาได้จนถึงทีสุดแล้ว

แสงอาทิตย์สะท้อนคมดาบ ดวงตาทังสองข้างสูญเสีย
การมองเห็นไปชัวขณะ เฉินเหวินเค่อเริมหอบหายใจ
กระทังเอวถูกรวบ ขาทังสองลอยขึนเหนือพืนดิน
อุณหภูมิช่วงลีชุนเย็นสบาย ฉับพลันกลับร้อนระอุขนมา

291
อย่างน่าฉงน

แม่ทพั เลือดกระพริบตา คล้ายตาฝาดทีเห็นกําแพงเพลิง


ล้อมอยูร่ อบกาย เงยหน้าขึนมอง ดวงตาสีขีเถ้าอยูใ่ กล้
ในระยะประชิด ริมฝี ปากบางสีสดนันจุมพิตลงมากลาง
หน้าผาก โดยทีเฉินเหวินเค่อถูกอุม้ ตัวลอยในอ้อมแขน
ของอีกฝ่ าย

“ไหนว่าเจ้าบอกอุม้ ไม่ไหวไง”

“ตอนนันไม่คอ่ ยแข็งแรง”

“แล้วตอนนีแข็งแรงแล้ว?”
292
เฉินลูป่ ิ นหัวเราะ โน้มหน้าลงไปกระซิบทีข้างหู “เดียวข้า
ค่อยพิสจู น์ทีหลัง”

หญิงสาวผิวทองแดงคนหนึงโงนเงนจวนจะล้ม ซีกหน้า
ครึงหนึงถูกเผาไหม้ เหลือมือทียังใช้การได้แค่ขา้ งเดียว
นางยืนมือไปหาคนทีนางเคียดแค้นทีสุด แม้จะต้องตาย
ก็ตอ้ งลากมันมาลงนรกไปด้วยกัน!

เฉินลูป่ ิ นปรายสายตามอง ทันทีทีมือนันใกล้จะเอือมถึง


ชายเสือของเฉินเหวินเค่อ มือเรียวคว้าเอาไว้ได้ก่อน เล็บ
ยาวของเขาจิกลงไปในเนือ สัมผัสกับของเหลวสีแดงที
หล่อเลียงไปทัวร่างกาย หญิงสาวทีครังหนึงเคยสวยสด
งดงาม โลหิตไหลทะลักจากทวารทังเก้า[4] ดับสินไฟ
293
แห่งชีวิต

อย่าหวังว่าจะได้แตะต้องหวางเฟยของเขา

เฉินเหวินเค่อเบิกตากว้าง…เส้นลมปราณพิเศษ พิเศษ
ตามชือ รางวัลสําหรับคนทีสามารถก้าวข้ามขีดจํากัด ก็
คืออํานาจแห่งการบงการหนึงในธาตุทงห้
ั าในร่างกาย
ซึงก็คือ นํา ไฟ ดิน ไม้ และทอง นีเป็ นขีดจํากัดทีเฉินเหวิ
นเค่อก้าวข้ามไม่ได้ ไม่ใช่เพราะไร้ฝีมือ เพียงแค่เขาไม่มี
พรสวรรค์อนั ลําค่านีติดตัวมาตังแต่เกิด

คนทีก้าวข้ามไปได้มีไม่มาก โดยเฉพาะคนทีสามารถใช้
ได้ทงไฟและนํ
ั า เฉินเหวินเค่อรูจ้ กั อยูค่ นหนึง นับตังแต่

294
แคว้นทังห้าถูกรวบรวมเป็ นหนึงแผ่นดินก็ไม่ปรากฏผูท้ ี
สามารถทําเช่นนีได้

จักรพรรดิหยางหลง เฉินซู่ หากมิใช่ผคู้ รอบครองเส้นลม


ปราณพิเศษ มีหรือจะสามารถชีนําผูค้ น รวบรวมแผ่นดิน
ให้เป็ นปึ กแผ่น จักรพรรดิหยางหลงถือเป็ นหนึงในคนที
ยืนอยูบ่ นจุดสูงสุด ดวงตาสีขีเถ้าทีตกทอดมาในราชวงศ์
ก็เป็ นสิงพิสจู น์ถงึ ความยิงใหญ่นนั

ทุกคนในราชสกุลเฉินต่างคาดหวังว่าตัวเองจะเกิดมา
พร้อมพรสวรรค์ น้องชายของเฉินเหวินเค่อเป็ นเด็กโชคดี
เสียดายทีเฉินคังเล่อก้าวผ่านไปไม่ได้ รวมทังไม่ใช่ทกุ คน
ในแซ่เฉินจะมีเส้นลมปราณพิเศษเฉกเช่นปฐมจักรพรรดิ

295
“ข้ารูม้ าตลอดว่าเจ้าไม่ใช่แกะ” เฉินเหวินเค่อกล่าว “แต่
ไม่คิดว่าจะขนาดนี ไอ้ลกู เต่าบัดซบ! บอกกันหน่อยไม่ได้
หรือไง” เส้นเลือดข้างขมับเต้นตุบๆ ลงมือหยิกแก้มขาว
ไม่ออมแรง ต่อให้หน้างามนันจะน่าสงสารขนาดไหน แต่
ความหมันไส้มีมากกว่า

“วางข้าลง”

“ไม่อยากให้ขา้ อุม้ หรือ”

“เหอะ!” เฉินเหวินเค่อแค่นลมหายใจหงุดหงิด อดบ่น


อุบอิบไม่ได้วา่ “แล้วข้าลําบากอุม้ มันขึนเตียงไป

296
ทําไม…”

ยิงสุดท้ายคนทีเหนือยคือเขาทุกที!

อีกฝ่ ายวางเฉินเหวินเค่อลง มองมือขาวดังหิมะแรกลูบ


ไล้ไปตามเส้นผม ตังแต่เริมตังครรภ์ สิงเดียวในร่างกายที
มีสภาพดูดีขนมากที
ึ สุดก็คือเส้นผม เดิมทีเฉินเหวินเค่อ
ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับมันมาก ทุกวันต้องคลุกดินคลุกฝุ่ น
พอแต่งงานมีคนล้อมหน้าล้อมหลัง เฉินลูป่ ิ นดูแลเขา
ตังแต่หวั จรดเท้า คิดถึงเส้นผมเรียบลืนเงางาม บัดนีพัน
กันยุง่ ไม่เป็ นทรง รูส้ กึ ผิดต่อใครบางคนทีดูแลมันอย่างดี
จริงๆ

297
ทีสําคัญทีสุด…ชายหนุ่มล้วงเข้าไปในอกเสือ ดอกเหม
ยสีแดงทีเคยสวยงาม เหลือเพียงก้านไร้ดอก

ความทรงจําของเฉินเหวินเค่อพร่าเลือนดังสายหมอก
บางครังแจ่มชัด บางครังเลือนราง ภาพอดีตบางอย่าง
เขาจําไม่ได้ แต่หวั ใจรูส้ กึ ได้

ปิ นนีสําคัญต่อเขา เพราะมันคือของทีเฉินลูป่ ิ นถนอม


เก็บไว้ นานนับสิบปี

“ข้าผิดเอง”

อีกฝ่ ายส่ายหน้า “สิงของอย่างไรก็คือสิงของ เสียไป


298
ย่อมหาแทนได้ คนต่างหากทีเป็ นหนึงเดียว” รอยยิมอ่อน
หวานยังงดงามอยูเ่ สมอ “แค่ทา่ นปลอดภัยก็พอแล้ว”

คําคืนก่อนเฉินเหวินเค่อจะออกเดินทาง ได้ฝากฝังเรือง
ราวในราชสํานักให้เฉินลูป่ ิ นสานต่อ ถ้าเป็ นอีกฝ่ ายต้อง
ทําได้แน่ ในสายตาคนอืนเฉินอันหวางอาจเป็ นแค่หวา
งผูป้ กครองเมืองธรรมดาสามัญ มีกีคนทีรูว้ า่ เนือแท้ที
สวยงามคืออสรพิษ

“ทุกสิงทุกอย่างตามทีท่านต้องการ วางใจเถอะ”

หากเป็ นคนอืนรับปากเขาเช่นนี อาจได้รบั เสียงหัวเราะ


เยาะเย้ยกลับไปแล้ว แต่พอเป็ นลูป่ ิ น…มีอะไรทีไอ้ลกู เต่า

299
นีทําไม่ได้บา้ ง

กําแพงเพลิงมอดดับ เฉินเฟิ งหลุนมองสตรีทีนอนจมกอง


โลหิตด้วยสายตาเรียบเฉย

“ข้าค่อนข้างชอบนางเสียด้วย”

รูส้ กึ ว่าจะชือ เก๋อมูเ่ อ๋อร์หรือเปล่านะ?

“ไป๋ หลิงอีถกู จัดการแล้ว ท่านคิดว่ายังจะทําอะไรได้อีก


หรือ” เฉินลูป่ ิ นกล่าวพลางกางแขนกันให้ชายอีกคน
ถอยไปยืนอยูด่ า้ นหลัง

300
“พวกเจ้ามันใจว่าจะชนะ แล้วเหล่าราษฎรมันใจเหมือน
เจ้าไหม?” เฉินเฟิ งหลุนพูดจบก็หวั เราะในลําคอ “พวก
เราล้วนเกิดมาในชนชันปลายยอดฟ้า บางครังก็ลืมไปว่า
ทีแผ่นดินยังคงอยูไ่ ด้ก็เพราะมีรากฐาน จะเกิดอะไรขึน
หาก ‘รากฐาน’ ทีว่าไม่เชือมันในตัวพวกเจ้าแล้ว”

เฉินเฟิ งหลุนจัดชายเสือทียับย่นจากการต่อสูใ้ ห้เข้าที


รองเท้าเผลอเหยียบลงบนแอ่งเลือดพลันเผยสีหน้า
รังเกียจ กวาดสายตาไปรอบๆ ชนเผ่านักรบ นอกจาก
ยุแยงได้ง่าย สุดท้ายก็ไม่ใช่ตวั ดีอะไร เงยหน้าขึนมอง
ชายหนุ่มอายุนอ้ ย สามีปกป้องภรรยา ช่างแสลงหูแสลง
ตาเหลือเกิน

“ข้าไม่มีเหตุผลทีต้องทําอะไร เพราะอะไรทีจําเป็ นต้อง


301
ทําข้าก็ทาํ ไปหมดแล้ว”

‘สะพานทีใช้ขา้ ม ต่างถูกรือทิงไปเอง’ จะไป๋ หลิงอีหรือ


พวกนอกด่าน ล้วนหมดประโยชน์ อย่างมากก็ใช้ถ่วง
เวลาทําลายขวัญกําลังใจ สิงทีชาวบ้านธรรมดากังวลที
สุดคือบ้านเมืองยากไร้อดอยาก พวกเขาไม่เข้าใจระบบ
การปกครองทียุง่ ยากซับซ้อน ขอแค่ปลูกข้าวได้ ค้าขาย
คล่อง ไม่อดอยากก็เพียงพอ

จําได้วา่ ในยุคสมัยของเสด็จพ่อค่อนข้างอูฟ้ ู่ ใช้จ่ายไป


กับเรืองไม่เป็ นเรืองอย่างฟุ่ มเฟื อย พอเสด็จพีต้องครอง
ราชย์ตอ่ กองพระคลังคงฝื ดเคืองมิใช่นอ้ ย

302
แถมหลายปี มานีชายแดนเผชิญศึกไม่หยุดหย่อน มีทงั
เล็กทังใหญ่ แต่ไม่วา่ แบบไหนก็ตอ้ งผลาญงบประมาณ
แผ่นดินทังนัน

ความน่ากลัวของการอดอยาก หันไปมองจวนขุนนาง
สุขสบายกินอิมนอนหลับ สุดท้ายแล้วไม่จาํ เป็ นต้องใช้
ทหารเรือนแสนหมืนยอดนักรบ แค่ดไู ฟชายฝัง[5]
จักรพรรดิผเู้ ปรียบดังโอรสสวรรค์ ท้ายทีสุดก็เป็ นแค่
มนุษย์คนหนึง

แต่ก่อนอืนต้องจัดการอุปสรรคทีน่ารําคาญเสียก่อน
ตอนนันทีเจียงไค เฉินเฟิ งหลุนพลาดพลังไปเพราะแม่
ทัพใหญ่อย่างจิงปู้ จากเด็กทีดูใช้ได้หน่อย เลยมีโอกาส
ได้เป็ นแม่ทพั เต็มตัว
303
เฉินเฟิ งหลุนกับเฉินเหวินเค่อติดพันกันด้วยหนีเลือด ผูใ้ ด
เขียนบทเริมต้น ย่อมต้องเป็ นคนเขียนบทสรุป เฉินคัง
เล่อตายด้วยนํามือของเขา เช่นนันแล้วชะตาชีวิตของ
เฉินเหวินเค่อมีแค่เขาเท่านันทีเป็ นคนตัดสิน

“ความหวาดกลัวกระจายอยูแ่ ค่ละแวกชายแดนตะวัน
ออก ถึงจะเป็ นความจริงทีประชาชนเริมแสดงออกถึง
ความกังวล ทว่าตราบใดทีพิสจู น์ได้วา่ ข้ายังมีชีวิตอยู่ คน
ทีรอตีชิงตามไฟ[6]อย่างท่าน นอกจากฉกของไม่ได้ ยัง
โดนไฟเผาอีกด้วย” เฉินเหวินเค่อกล่าว

“ก็ถงึ ต้องรีบกําจัดทิงนีไง” เฉินเฟิ งหลุนหุบรอยยิม ฉับ

304
พลันเงาดํากลุม่ ใหญ่ก็เข้าล้อมรอบ

คนจากยุทธภพ? ไม่น่าเป็ นไปได้ ตัวตนของสกุลจ้าว


ทางราชสํานักอาจไม่ได้รบั รูเ้ บืองลึกเบืองหลังอะไรมาก
นัก แต่กบั อีกฝังเป็ นคนละด้าน ชาวยุทธไม่กลัวกฏหมาย
บ้านเมือง แต่สงที
ิ พวกเขากลัวมากทีสุดก็คือผูค้ วบคุม
สมดุลอย่างสกุลจ้าว

แผ่นหลังชนแผ่นหลัง เฉินเหวินเค่อกวาดสายตามอง
รอบๆ “คนของสกุลลวี?”

“สกุลลวี? เหวยกุย้ เฟยน่ะหรือ”

305
“อาจจะ…ถึงทังเหวยกุย้ เฟยกับฉินหวางทีเป็ นสายเลือด
ของนางโดยตรงจะสินไปนานแล้ว แต่วา่ ยังมีคนทีได้ชือ
ว่าเป็ นลูกยืนหัวโด่อยูโ่ น่น”

พวกนักฆ่าใต้ดิน เดิมทีซือสัตย์ตอ่ เจ้านายทีชุบเลียงตน


เองอย่างมากอยูแ่ ล้ว ถึงตัวเสด็จอาจะเป็ นแค่ลกู เลียง
แต่เป้าหมายของสกุลลวีก็คืออํานาจยิงใหญ่เหนือใคร
เฉกเช่นสกุลหร่วนของท่านแม่ พวกเขาต้องการผลักดัน
ให้ฉีหวางขึนครองราชย์ เพือบรรลุวตั ถุประสงค์

“เสด็จอา ท่านทําได้เพียงเท่านีเองหรือ” เฉินเหวินเค่อ


หัวเราะเยาะ

306
“หลานรัก สามีของเจ้าช่างทําให้ขา้ ลําบากใจ แต่วา่ การ
ต่อสูโ้ ดยมีใครอีกคนต้องดูแลอยูข่ า้ งหลัง ไม่มีทางทําได้
ตลอด”

“หวางเฟยของข้าอึดถึกทนเยียงม้าศึก ข้าเป็ นสามีผบู้ อบ


บางเกรงว่าผูท้ ีถูกปกป้องคือข้ามากกว่า”

บอบบาง ช่างกล้าพูด

คนบอบบางทีว่า เผาคนนับสิบได้ในพริบตา?

หลอกฟ้าโกหกสวรรค์อยูห่ รือ…

307
“ลมปราณพิเศษ แข็งแกร่งมากจริงๆ “ เฉินเฟิ งหลุนถอน
หายใจ “มันค่อนข้างจะเสียเวลาเลยทีเดียว” สบกับดวง
ตาเรียวสวยสงบนิงไม่ไหวติง หลานรักเลือกสามีได้ดี

กําลังภายในสูงลํา ร่างกายมนุษย์เหมือนดังเพลารถม้า
หากไม่ระวังเผลอทําเพลาแตกขึนมา มีกีชีวิตก็ไม่พอใช้
บังเอิญว่าคนเรามีแค่ชีวิตเดียวเสียด้วย

ชนเผ่านอกด่านพวกนันทําหน้าทีเป็ นนํามันเพือเร่งไฟ
สุดท้ายเมือเชือเพลิงหมด นําน้อยย่อมแพ้ไฟอยูว่ นั ยังคํา

“หมดแล้วใช่ไหม” เฉินลูป่ ิ นกล่าวพลางสอดส่ายสายตา


นับจํานวนคน

308
“อืม เราทําลายแกนหลักของแผนการอีกฝ่ ายไปแล้ว เพือ
ทีจะเดินหน้าต่อ หมากกระดานนีคือตัวตัดสิน ถ้าไม่ทมุ่
หมดหน้าตักก็เท่ากับแพ้” เฉินเหวินเค่อตอบ

แม่ทพั เลือดมองสามีรูปงามเกาะแขนส่งสายตาระยิบ
ระยับ เล็บสีขาวมุกบนนิวชีครูดเบาๆ ลงบนอกเสือ เฉิน
เหวินเค่อกรอกตา จําได้วา่ ทุกครังทีเฉินลูป่ ิ นทําท่าทาง
เช่นนีมีความหมายว่าอะไร

“แล้วทําไมเจ้าต้องให้ขา้ อุม้ ด้วย”

“ใช้ลมปราณเยอะไป เหนือยแล้ว”

309
“…”

ไอ้บดั ซบนี!

“ข้าต้องออมแรงไว้ทาํ ‘อย่างอืน’ นี” เฉินลูป่ ิ นยิมหวาน


หยด

“เก็บไว้ดีๆ ก็แล้วกัน” เฉินเหวินเค่อกัดฟั นพูด

แบกอีกฝ่ ายขึนบ่า ตีบนท้


ั ายด้วยความหมันเขียว บุรุษ
รูปงามหัวเราะคิกคัก ดูเหมือนภรรยาจะงอนเสียแล้ว

310
กระโดดออกมาจากวงล้อม เฉินเฟิ งหลุนกระโดดตาม

“คิดจะหนีไปไหน!”

“ไม่ได้หนีสกั หน่อย” เฉินลูป่ ิ นซัดเข็มบินเพือขัดจังหวะไม่


ให้อีกฝ่ ายตามมาได้ทนั

เฉินเฟิ งหลุนหมุนตัวกลางอากาศ เงยหน้าขึนมองอีกทีก็


เห็นตาข่ายครอบลงมาเหนือหัว

ตังแต่เมือไหร่กนั ?!

311
เสียงคมดาบปะทะ เหล่าทหารในชุดเกราะอันแสนคุน้ ตา
เข้าฟาดฟั นกับมือสังหารของสกุลลวี เป็ นทหารของชาว
เสวียน

เฉินเหวินเค่อรับทวนศึกจากจิงสุย่ ก่อนจะกล่าวว่า “เจ้า


ช้า”

สหายเคียงข้างไหวไหล่อย่างช่วยไม่ได้ “ไปบอกสามีเจ้า
นู่น ถ้าไม่แบ่งกําลังแยกไปคนละทางเพือตีวงล้อมตาม
แผน ข้าคงมาถึงเร็วกว่านี แต่เขาเองก็รบี ร้อนมาหาเจ้า
นี” จิงสุย่ ถองศอก “อาเสวียอาการดีขนแล้
ึ ว กลับเมือง
หลวงไว้วนั หลังเจ้าค่อยมาเยียม ไปอยูก่ บั สามีเจ้าเถิด

312
ระหว่างทางทีมา เขาคิดถึงเจ้าใจแทบขาดอยูแ่ ล้ว”

“แล้วใครให้เขาคิดถึงข้าเล่า” เฉินเหวินเค่อบ่นอุบ ใบ
หน้าฉายแววหงุดหงิด ทว่าใบหูทีถูกเส้นผมปิ ดไว้กลับ
แดงระเรือ

“เจ้าไม่คิดถึงเขาบ้างหรือ” จิงสุย่ ถามต่ออย่างนึกสนุก


หลังได้เห็นปฏิกิรยิ าของสหายรัก

“เหอะ!” ชายหนุ่มแค่นเสียง โบกปั ดอย่างนึกรําคาญ


สาวเท้าเดินหนีไปหาแผ่นหลังกว้างในอาภรณ์ขาวทียืน
คุมเชิงอยูไ่ ม่ไกล

313
จิงสุย่ มองชายหนุ่มรูปงามกางพัดพูดหยอกล้อกับเฉินเห
วินเค่อท่าทางเอียงอาย ดูบอบบางน่าถนอม หากไม่มี
ภาพเปรียบเทียบ ไม่มีทางเชือว่าเฉินเหวินเค่อจะถูกงาบ
กินเข้าไปทังตัว

นึกย้อนกลับไปเมือตอนทําหน้าทีม้าเร็วกลับมารายงาน
ข่าวทีเมืองหลวง

บุรุษรูปงามบุกเข้ามาระหว่างการประชุมขุนนางเร่งด่วน
อย่างอาจหาญ ในมือของเฉินอันหวางถือประกาศิต
ทองคํา สามรุน่ ก่อนในรัชสมัยนันองค์จกั รพรรดิโปรด
ปรานเฉินอันชินหวางผูเ้ ป็ นอนุชามาก แม้ไม่ได้พระราช
ทานกองกําลังทหารให้ แต่ไม่วา่ สิงลําค่าใดองค์
จักรพรรดิลว้ นนึกถึงพระอนุชาร่วมมารดาคนนีก่อนเสมอ
314
ประกาศิตทองคําทีเหนือขันกว่าป้ายทองเว้นโทษตาย
ป้ายอาญาสิทธิทีเป็ นดังตัวแทนของโอรสสวรรค์ ถูกใช้
ไปแล้วสองครัง สาเหตุเรียบง่ายไม่หวือหวา แค่เพียง
พิสจู น์ตนเองต่อโทษฐานกบฏ และหลีกเลียงสมรสพระ
ราชทานกับสตรีทีไม่มีใจปฏิพทั ธ์

แม้รุน่ ต่อมาบรรดาศักดิชินหวางจะถูกลดขันเป็ นหวา


ง แต่อาํ นาจในการปกครองเมืองท่าฉางซี จักรพรรดิใน
รัชสมัยต่อมาไม่มีใครกล้าเข้าไปยุง่ ทังซือหวางทีสืบทอด
ตําแหน่งต่อก็วางตัวเหมาะสม ไม่ได้มีความพิเศษเทียบ
เท่า ทังไม่กา้ วก่าย เอาใจออกห่างอํานาจชัดเจน ความ
หวาดกลัวต่อชินหวางผูค้ รอบครอง ‘เส้นลมปราณพิเศษ’
เฉกเช่นจักรพรรดิหยางหลงจึงลดทอนลงมา และสลาย

315
หายไปตามกาลเวลา

เฉินอันหวางคนปั จจุบนั เป็ นบุรุษรูปงามเยาว์วยั การวาง


ตัวสุภาพอ่อนโยน ลักษณะของบัณฑิตผูป้ ระศาสตร์วิชา
ความรู ้ จิงสุย่ เห็นอีกฝ่ ายครังแรกทีงานเลียงต้อนรับเทศ
กาลซุนเจีย พลันรูส้ กึ สงสารญาติผนู้ อ้ งของเฉินเหวินเค่อ
ขึนมาทันที สหายรักของเขาเป็ นพวกแข็งกระด้างทังปาก
และการแสดงออก เกรงจะทําร้ายจิตใจชายหนุ่มอายุ
น้อย

หวางรูปงามยืนหยัดท่ามกลางขุนนางทีดูถกู และทัด
ทานการเสนอตัวนําทัพเพือออกตามหาเฉินเหวินเค่อ

316
ราชสํานักมีกฎระเบียบ บุน๋ บู๊มีลาํ ดับขันตอน ตรงจุดนีไม่
ว่าใครก็สอดมือมายุง่ ไม่ได้ ต่อให้เป็ นเชือพระวงศ์ก็ตาม

แต่จกั รพรรดิก็ทรงรับฟั ง เพราะประกาศิตทองคําทีถืออยู่


ในมือ

เฉินอันหวางผูอ้ อ่ นแอนเสมือนลูกแกะทีถูกขยําตายได้ใน
เขียวเดียว พิสจู น์ตนเองให้เป็ นทีประจักษ์ โดยการคว้า
แผ่นฮูว้ า่ ราชการขุนนางทีคัดค้านจนหน้าดํา จากนันเผา
มันให้กลายเป็ นขีเถ้าคามือต่อหน้าคนทังท้องพระโรง

จิงสุย่ จึงต้องเปลียนความคิด คนทีน่าสงสารคือสหาย


ของเขาต่างหาก ลูกแกะทีไหนจะกลืนพยัคฆ์รา้ ยลงท้อง

317
ได้หมดจดขนาดนัน

คําสามคํา 'เฉินลูป่ ิ น' ทีเฉินเหวินเค่อเคยบอกกับเขาก่อน


จะตกลงไปในแม่นายวิ
ํ นหลงอูซ๋ ือ มิใช่มีใจระลึกถึง แต่
เพราะมันใจว่าหากตัวเองหายไป อีกฝ่ ายต้องตามหาจน
เจอได้แน่นอน

เหล่ามือสังหารถูกประกาศให้จบั ตาย เฉินเหวินเค่อไม่


ขอเสียงใดๆ ทังสิน

พัดจีบในมือโบกพัดบางเบา จมูกได้กลินคาวเลือด คิว


เรียวดังใบหลิวขมวดมุน่ เฉินเหวินเค่อแสร้งเดินให้
ห่างออกมา หวังใช้สายลมพัดพากลินชวนคลืนเหียนไม่

318
ให้ใครบางคนระคายจมูก บุรุษในอาภรณ์สีขาวบริสทุ ธิ
ยกพัดเอียงอายปิ ดบังพวงแก้มทีขึนสี

เฉินเหวินเค่อหันมามองแวบหนึง กระแอมไอไม่สนใจ
ก่อนจะกลับไปครุน่ คิดกับนักโทษคนเดียวทีไมได้สงั หาร
ทิง

เรืองของเสด็จอาขึนอยูก่ บั เสด็จพ่อ กบฏแผ่นดินขึนอยู่


กับการตัดสินใจของจักรพรรดิ แม้ในใจจะยังคุกรุน่ ด้วย
ไฟแค้น แต่มือนุ่มทีลูบหลังมือเบาๆ เหมือนกับกําลัง
ปลอบประโลม ดังสายนําเย็นทีเข้ามาชะล้างข้างในจิต
ใจ

319
เฉินเหวินเค่อไม่ทนั ได้เห็นคนข้างกาย ดวงตาอ่อนโยน
ละมุนละไมดุจแสงจันทร์ ทว่าริมฝี ปากกลับแสยะยิมมี
เลศนัย

จิงสุย่ เห็น ในใจเริมปลดปลง

นีสินะ 'อย่าตัดสินคนทีหน้า เขาว่ากันว่ารูห้ น้าไม่รูใ้ จ'

ข้อมูลเพิมเติม

[1] ลีชุน หมายถึง เริมต้นฤดูใบไม้ผลิ เป็ นหนึงใน ๒๔


ฤดูกาลของจีน วันทีโดยประมาณคือวันที 4 ก.พ.

320
[2] ไม้กวนอึ คือ ไม้ทีใช้กวนอุจาระสําหรับทําเป็ นปุ๋ ย ใช้
ในเชิงเปรียบเปรยกับคนทีชอบยุแหย่ สร้างความเดือด
ร้อนให้ผอู้ ืน

[3] พัดเจ๋อซ่าน / พัดพับ / พัดจีบ 折扇 [zhéshàn]


เป็ นลักษณะเหมือนพัดทีจอมยุทธ์จีนในหนังใช้ กางได้
พับได้ ปกติแล้วในสมัยก่อนผูช้ ายจะเป็ นคนใช้พดั
ลักษณะนี

[4] ทวารทังเก้า น. ช่องตามร่างกายทัง ๙ ช่อง ได้แก่ ตา


๒ หู ๒ จมูก ๒ ปาก ๑ ทวารหนัก ๑ ทวารเบา ๑.

[5] ดูไฟชายฝัง หนึงในสามสิบหกกลยุทธ์ซนุ จือ เฝ้ารอ

321
ข้าศึกเกิดความปั นป่ วนภายใน ให้อีกฝ่ ายแตกดับเอง

[6] ตีชิงตามไฟ หนึงในสามสิบหกกลยุทธ์ซนุ จือ แปลว่า


ชกฉวยโอกาส เหมือนกับฉกสิงของตอนเกิดไฟไหม้

322
ตอนที ๓๙ จากลา

แม่ทพั ไม่ได้เป็ นเพียงผูน้ าํ ทว่ายังเป็ นดังศูนย์กลาง

เด็ดหัวแม่ทพั ศัตรูได้ เท่ากับมีชยั

ในกรณีของเฉินเหวินเค่อ ทหารใต้บงั คับบัญชาภักดีตอ่


เขา เชือมันว่าแม่ทพั เลือดผูเ้ สมือนดังเทพมารจุติจะต้อง
มีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะสหายรักอย่างจิงสุย่ ทัพตะวันออก
จึงคงอยูไ่ ด้

แต่กบั ฉีหวาง ชนเผ่านักรบทีติดตาม มีเพียงเผ่าเก๋อหลัน


323
ทีจงรักภักดี ส่วนทีเหลือเพราะหวางผูน้ ีมีบญ
ุ คุณ ครึง
หนึงจึงยินดีรบั ฟั ง แต่ไม่ละทิงความแคลงใจ อย่างไร
โลหิตในกายก็เป็ นโลหิตมังกรของชาวเสวียน

บัดนีฉีหวางถูกจับกุมตัวกลับเทียนเฉิน หัวหน้าเผ่าเก๋
อหลันกับเก๋อเก๋อ[1] ผูเ้ ป็ นธิดาเพียงคนเดียวสินชีพลงไป
พร้อมกับบิดา พวกตนมองหน้ากัน รูส้ กึ เคว้งคว้าง คล้าย
โดนตบหน้าฉาดใหญ่ให้ตืนจากฝัน ความขัดแย้งทังหมด
นันสมควรทีจะหยุดแล้วหรือยัง?

สมัยจักรวรรดิฝไู ฉพึงครองราชย์เคยส่งสัญญาณการขอ
สงบศึก แต่ชายแดนตะวันออกไม่อาจเพิกเฉยถอนกําลัง
ทหาร สุดท้ายเรืองในตอนนันก็เหมือนลมไหวไกวผ่าน
ยอดไม้ ผ่านมาก็ผา่ นไป
324
หวนคืนวันยิงใหญ่เช่นวันวาน มิสอู้ ยูร่ ว่ มกันกับญาติพี
น้องทีกระจัดกระจายกันออกไป ถึงคราวลําบากได้พงร่
ึ ม
เงาของแผ่นดินใหญ่ เช่นนันไม่ดีกว่าหรือ เรืองในครังนี
พยายามอย่างถึงทีสุดแล้ว ผลลัพธ์เป็ นเช่นไรก็เห็นอยูต่ าํ
ตา

บุญคุณความแค้นยากปล่อยวาง ทว่าสมควรเริมต้นใหม่
ได้เสียที…

เฉินเหวินเค่อยกมือขึนห้ามปรามทหารโดยรอบ นัยน์ตา
สีขีเถ้าฉายแววครุน่ คิด

325
“ปล่อยไปก่อน”

“จะดีหรือ” จิงสุย่ ถาม

“อืม…”

พวกเขาคงไม่ก่อความวุน่ วายไปสักพักใหญ่ หรืออาจดี


กว่านัน

ม้าพันธุด์ ีลว้ นมาจากชนเผ่าเร่รอ่ นเลียงสัตว์ขา้ งนอก เผ่า


อืนนอกจากเผ่านักรบโดยกําเนิดส่วนใหญ่อยูอ่ ย่างสงบ
สุขดี เรืองอย่างสลายศัตรูให้กลายเป็ นมิตร[2] ต่างเป็ น
ประโยชน์ตอ่ แผ่นดินทังสิน งบประมาณด้านการทหารที
326
สูญเสียไปอย่างมหาศาล สามารถนําไปจุนเจือการแก้
ปั ญหาในช่วงแล้งนําแล้งฝนได้ ไหนจะเรืองเขือนชล
ประทาน…มือขาวเนียนละเอียดดุจหยกมันแพะวางบน
ลาดไหล่กว้าง

เฉินลูป่ ิ นส่งยิมให้เหมือนอ่านใจได้ “เมือกลับไปท่านมิใช่


แม่ทพั ตะวันออก แต่เป็ นหวางเฟยของข้า ท่านไม่จาํ เป็ น
ต้องคิดมากให้เปลืองแรง มิเช่นนันราชสํานักจะเลียงขุน
นางไว้เพืออะไร”

นันสินะ…เรืองทีเขาควรคิดให้มาก ก็คือเรืองของลูกทัง
สองคน

327
ร่างกายสูงใหญ่ยืมไหล่ของคนข้างกายเพือพักพิง ความ
อ่อนล้าจู่โจมถาโถม เหนือยจนแทบอยากหลับให้รูแ้ ล้วรู ้
รอด ดวงตาทังสองข้างปรือปรอย ข้างหูได้ยินเสียงจิงสุย่
บอกให้พาเขาไปพัก ต่อมาร่างกายหนักอึงพลันเบาหวิว
โพรงจมูกสูดดมกลินกายหอมกรุน่ อันแสนคุน้ เคย จิตใจ
ของเขาสงบอย่างน่าประหลาด เฉินเหวินเค่อไม่เคย
ปล่อยตัวโดยไร้การป้องกัน แต่พอได้กลินนี รวมถึงอ้อม
แขนทีโอบอุม้ อย่างถนอม คงไม่เป็ นอะไร

เฉินลูป่ ิ นมองใครบางคนซุกใบหน้าเข้าซอกคอ สูดลม


หายใจลึกชวนจักจี เหวินเกอไม่ชอบให้ใครเห็นด้าน
อ่อนแอ แต่เหวินเกอในช่วงบอบบางกลับเป็ นสิงทีน่า
รังแกทีสุด คิดถึงร่างกายทีซือตรง และใบหน้าแดงระเรือ
มุมปากก็กดลึกมากขึนเท่านัน

328
บุรุษรูปงามแอบงับปลายจมูกของร่างในอ้อมแขนอย่าง
หมันเขียว ชอบทําให้เป็ นห่วงนัก พักเอาแรงไปก่อนเถิด
แล้วเขาจะสังสอนแมวแก่แสนดือตัวนีให้หลาบจํา

สองเดือนต่อมา…

เทียนเฉินอยูต่ รงหน้า พระราชวังต้องห้ามก็เช่นกัน

กบฏแผ่นดินรอการตัดสิน ผูค้ นล้วนให้ความสนใจ

329
.

ตังแต่จาํ ความได้ มารดาของเฉินเฟิ งหลุนเป็ นสตรีทีงด


งามมาก และเป็ นทีทรงโปรดเหนือตําหนักใน สมัยยัง
เด็กพระบิดาเคยอุม้ เขามองดูความยิงใหญ่ของราชวัง
ต้องห้าม พร้อมบอกว่าสักวันหนึง ทุกสิงทุกอย่างจะเป็ น
ของเขา

เหวยกุย้ เฟยเอ่ยยําทุกครังว่าพระบิดาทรงรักทรงโปรด
หน้าทีของเขามีเพียงอย่างเดียว คือการเตรียมความ

330
พร้อมเพือขึนครองบัลลังก์มงั กร

วันเกิดอายุครบเจ็ดขวบ เสด็จพ่อทรงพระราชทาน
บรรดาศักดิ ‘หวาง’ พร้อมราชทินนาม ‘ฉี’ ให้ ข้ามหน้า
ข้ามตาเสด็จพีทีอายุมากกว่าเขาแค่สามปี

เฉินเฟิ งหลุนไม่เคยเจอพีชายคนโต ตอนเกิดมาพีชายคน


นีก็จากไปแล้ว ส่วนพีคนรอง เฉินหยางเหยียนคือองค์
ชายตามกฎมณเฑียรบาล ต่อให้เสด็จพ่อไม่ทรงโปรด
หวงโฮ่ว เสด็จพีรองไม่ได้รบั ความโปรดปราน แต่เฉิน
หยางเหยียนก็พยายามอย่างหนัก บางทีอาจมากกว่า
เขาเป็ นเท่าตัว เสด็จพีเป็ นคนเก็บซ่อนเก่ง โดยเฉพาะ
อารมณ์ความรูส้ กึ

331
“จงอย่าถูกหลอก”

เฉินหยางเหยียนพูดกับเขา คราแรกเฉินเฟิ งหลุนคิดว่า


อีกฝ่ ายริษยา ต่อมาจึงได้รูว้ า่ พระราชวังต้องห้ามแห่งนี
มิใช่บา้ นหลังใหญ่อนั สวยงาม แต่มนั คือคําโกหกโสมมที
ซุกซ่อนไว้เบืองหลังผ้าขาวบริสทุ ธิสูงส่ง

เด็กอายุแค่เจ็ดปี เป็ นปกติทีอยากให้กอดให้โอ๋ แต่เหวย


กุย้ เฟยเข้มงวดกับเขามาก เฉินเฟิ งหลุนพยายามเข้าใจ
ในหน้าทีของตัวเอง ฉะนันนานๆ ครังเขาจึงมาหาพระ
มารดาทีตําหนักหลิวเฟิ ง

332
ใบเฟิ งเปลียนสี อากาศเริมหนาว

ตําหนักหลิวเฟิ งวันนันค่อนข้างวุน่ วาย แม้ผา่ นมานาน


แล้ว จํานวนของขันทีกบั นางกํานัลทีเดินสวน มีกีคนจํา
ได้ขนใจ
ึ ณ ตอนนันไม่มีใครสังเกตเห็นองค์ชายสาม
กระทังเด็กชายเดินเข้ามาใกล้พระมารดาทีกําลังนัง
สนทนากับแพทย์หลวงคนหนึง

แจกันหยกขาวสะท้อนใบหน้า

“เจ้าตรวจดูแน่ชดั ? หากโกหกคงรูโ้ ทษทัณฑ์”

“กระหม่อมมันใจพ่ะย่ะค่ะ กุย้ เฟยเหนียงเหนียงทรงมี


333
ชีพจรของหญิงมีครรภ์ได้ราวเดือนเศษแล้ว”

หญิงสาวลูบท้องสีหน้าอิมเอิบ “เด็กคนนีจะเป็ นพระ


โอรสไหม?”

“อายุครรภ์ยงั น้อย บอกแน่ชดั ไม่ได้พะ่ ย่ะค่ะ”

ตังครรภ์? น้องชาย หรืออาจน้องสาว

สีหน้าทีสะท้อนกับแจกันเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ไม่วา่
อย่างไรถ้าท่านแม่รกั น้อง เขาก็จะรักด้วย เฉินเฟิ งหลุน
คิดเช่นนัน ช่างไร้เดียงสาเสียเหลือเกิน

334
“ตอนนันเจ้าบอกว่าข้าตังครรภ์ยาก ทําอย่างไรก็มีลกู ไม่
ได้เสียที” เหวยกุย้ เฟยกล่าวด้วยนําเสียงหงุดหงิด
“ปล่อยให้หญิงชันตําคลอดพระโอรสคนแรกให้ฝ่าบาท
ต่อมายังแพ้ให้กบั หวงโฮ่วอีก! ข้าเหลือทนจริงๆ”

“เหนียงเหนียงโปรดระงับโทสะ จะไม่ดีตอ่ บุตรในครรภ์


นะเพคะ” นางกํานัลข้างกายบีบนวดต้นขาหวังประจบ
เอาใจ สตรีทรงโปรดจึงสงบลงได้ชวครู
ั ่

“ไหนจะไอ้เด็กเหลือขอนันอีก นางกํานัลคนนันก็ช่าง
เก่งกาจเหลือเกิน หาโอกาสปี นขึนเตียงของฝ่ าบาท จน
คลอดเด็กชันตําอย่างมันออกมา”

335
ฝ่ าบาทต้องเสียองค์ชายใหญ่ทีอายุยงั น้อย ต่อมาหวง
โฮ่วอุม้ ครรภ์มงั กรไม่ได้รบั ความสนใจ ฉะนันกับองค์ชาย
สามจึงต่างออกไป ถึงมารดาชาติกาํ เนิดตําต้อย แต่ฝ่า
บาทก็ยงั สนพระทัย ด้วยอยากประชดประชันต่อหวงโฮ่ว
ล้วนไม่สาํ คัญ องค์ชายสามนับว่ามีวาสนา ทังยังดวงดี
เหลือทน แทนทีจะตายไปทังแม่ทงลู
ั ก!

เหวยกุย้ เฟยคิดแล้วก็กาํ มือแน่นจนเล็บแหลมจิกเข้าไป


ในเนือ “ซูเฟยก็เหลือเกิน พอรูว้ า่ ข้าพลาดทีฆ่าทังแม่ทงั
เด็กไม่ได้ บังอาจเล่นเล่หร์ บั องค์ชายสามไปเลียง นาง
ตายไปก็สาสมแล้ว”

“เช่นนันจะทําอย่างไรดีกบั องค์ชายสามเล่าเพคะ”

336
“ตอนนีเด็กนันยังได้รบั ความโปรดปรานจากฝ่ าบาท ข้า
เองทิงขว้างไปจะดูไม่ดี รอดูไปก่อน ถ้าหากลูกของข้า
คลอดออกมาเป็ นพระโอรส ฝ่ าบาทจะยังโปรดลูกเลียง
นอกไส้ หรือจะเลือกเลือดเนือเชือไขทีข้ามีให้พระองค์
เอง!”

เหวยกุย้ เฟยไม่อยากเป็ นแค่หวงไท่เฟย[3] หลังผลัด


เปลียนแผ่นดิน นางปรารถนาได้ครองตําหนักฉางหงใน
ฐานะหวงไท่โฮ่ว[4] พระมารดาของจักรพรรดิ

“จงอย่าถูกหลอก”

337
สีคํานีเฉินเฟิ งหลุนจําได้ขนใจ

มารดาผูใ้ ห้กาํ เนิดเขา แท้จริงคือผูใ้ ด...ไม่เคยมีใครตอบ

จากเด็กอายุยงั น้อยจนถึงจักรพรรดิผยู้ งใหญ่


ิ เกากงกงที
ติดตามรับใช้จกั รพรรดิมาตังแต่ยงั ทรงพระเยาว์ เห็น
ฉีหวางก็สะท้อนใจ อดีตจักรพรรดิทรงรังเกียจหวงโฮ่ว
เพียงเพราะพระนางเป็ นคนตรงไปตรงมา จึงมักใช้วาจา
ว่ากล่าวตักเตือนจักรพรรดิอยูเ่ สมอ แต่ก็ทาํ ไปด้วยความ
รักและห่วงใย ทว่าจักรพรรดิมิทรงโปรดมาลีพดู ได้ แต่
ทรงชมชอบปทุมมาหน้าหยก[5] กล่าวให้นอ้ ย มีจริตงด
งามชวนมอง

338
ต่อให้หวงโฮ่วมอบพระโอรสให้พระองค์ ก็มิสหู้ ญิงงาม
เหนือตําหนักในเช่นสตรีจากสกุลลวี

หญิงนางนันมีรูปโฉมเหนือใคร ทว่าจริยธรรมในใจนาง
ดังเงาสะท้อนอีกด้านยามส่องกระจก ข้าหลวงทีทํางาน
ในวังต่างรูว้ า่ เหวยกุย้ เฟยคือสตรีกินคนไม่คายกระดู
ก[6] ทําได้ทกุ อย่างเพือสกุลลวีและตัวนางเอง

สิบสีปี ก่อน จักรพรรดิเสียพระทัยอย่างหนัก มิใช่เพียง


เพราะเสียพระโอรส

“นางหลอกใช้เจ้า สุดท้ายเจ้าก็ยงั เดินตามความต้องการ


ของนาง” จักรพรรดิตรัสเสียงราบเรียบ จนเหมือนไม่รูส้ กึ

339
อะไร

“ทําไมเสด็จพีถึงต้องการบัลลังก์มงั กร” เฉินเฟิ งหลุนถาม


ดวงตาเหม่อมองไปรอบๆ

“เพราะเราคือองค์ชายตามกฎมณเฑียรบาล เราเลือกไม่
ได้ แต่เจ้าเลือกได้”

ขุนนางทีเข้าร่วมฟั งคําตัดสินอ้าปากจะพูดบางอย่าง
จักรพรรดิยกมือห้ามปราม ฎีกาเรียกร้องให้ประหารน้อง
ชายต่างมารดาของเขาคนนีสูงกองเทียบเท่าภูเขา

“ข้ามิรูว้ า่ ตนเองปรารถนาสิงใด ตังแต่จาํ ความได้บลั ลังก์


340
นันคือเป้าหมายสูงสุดของข้า”

ตอนอายุครบสิบห้า มารดาบุญธรรมก็ตอ้ งโทษทัณฑ์


เฉินเฟิ งหลุนกลัวตาย ถึงขันเป็ นไข้จบั สัน แต่สดุ ท้ายเขา
กลับยังมีชีวิตรอด ส่วนพระบิดาผิดหวังโทมนัสอย่าง
หนักจนเสด็จสวรรคต ระหว่างนันได้ตดั สินโทษประหาร
ผูค้ นมากมาย ล้วนแล้วแต่เกียวข้องกับสกุลลวีและเหวย
กุย้ เฟย

วาระสุดท้ายของทุกคน จากไปไม่หวนคืน หันมามอง


รอบกาย เหลืออยูล่ าํ พัง

ถูกทิงเอาไว้ในเงามืด เสมอมา และตลอดไป

341
บางทีตายจากไปเสียตังแต่ตอนนันอาจดีกว่า อย่างน้อย
เฉินเฟิ งหลุนก็ยงั ได้รูว้ า่ ตัวเองมิได้ถกู ลืมเลือน พระบิดา
ยังระลึกถึง มารดามิใช่ไม่เคยเอ็นดู

เฉินเฟิ งหลุนเฝ้าหาคําตอบกับตัวเองหลายปี กระทังคน


จากสกุลลวีทีเหลือรอดลอบติดต่อจนพบเขา แผนการที
เจียงไคเริมต้นจากจุดนี

ร่างของฉีหวางค่อยๆ ลุกขึนยืน อ่อนระโหยโรยแรงแทบ


ลุกไม่ขนึ สองเท้าก้าวไปข้างหน้า โซ่ตรวนล่ามข้อมือ
และเท้าทังสองข้าง เสียงโซ่กระทบกันดังตามจังหวะก้าว
เดิน

342
ฉับพลันร่างทีดูออ่ นยวบยาบก็พงุ่ ตัวเข้าหาจักรพรรดิที
นังอยูบ่ นบัลลังก์ มือหนึงล้วงเข้าไปในอกเสือ คล้ายมี
อาวุธซุกซ่อนอยู่ แต่จะเป็ นไปได้อย่างไร ในเมือฉีหวา
งถูกคุมตัว ได้ตรวจหาอาวุธทังหมดแล้ว

ฉึก!

หยาดโลหิตทะลักออกมาจากปากแผล ดาบทุกเล่มของ
องครักษ์พิทกั ษ์บลั ลังก์แทงทะลุรา่ งกบฏชัวช้า กีเล่มมิ
อาจนับไหว

มือข้างทีล้วงอยูใ่ นอกเสือเผยออกมา ว่างเปล่ามิมีสงใด


343
หลังกระอักเลือดออกมากองใหญ่ เฉินเฟิ งหลุนเอ่ยถาม
เสียงกระท่อนกระแท่น “เสด็จพี…ตอนนีตัว…ข้า…เป็ น
ทีจด…จําหรือ…ไม่”

จักรพรรดิฝไู ฉยืนพระหัตถ์ออกไปกุมมือข้างนันไว้ “อืม”

หลับตาลงชัวครูใ่ นฐานะโอรสสวรรค์

สุดท้ายต้องจบแบบนีหรือ…

เมือลืมตาขึน เฉินหยางเหยียนเอ่ยขึนช้าๆ “ฮัวจี…นาง


ชือฮัวจี”
344
เฉินเฟิ งหลุนเบิกตากว้าง ภาพตรงหน้าเริมพร่าเลือน
ดวงตาไร้ซงแสงไฟ
ึ พร้อมรอยยิมทีประทับอยูบ่ นใบหน้า

ทีแท้นางชือฮัวจี….

ระหว่างทางไปตําหนักอีหลุนของพระมารดา ต้องผ่าน
สระเจียงเจา ดอกบัวสีขาวชูช่องดงาม เพลานีตําหนักใน
เงียบเหงา ตําหนักหลิวเฟิ งกําลังวุน่ วาย มีทงผู
ั ค้ นกําลัง
สาปแช่ง และผูค้ นทีกําลังอวยพร

แผ่นหลังเล็กของเด็กคนหนึงนังกอดเข่าอยูเ่ พียงลําพัง
โดดเดียวไร้ทีพึง ไม่เหมือนอย่างเก่าก่อน มีนางกํานัล

345
ขันทีหอ้ มล้อมปรนนิบตั ิดแู ล

เด็กคนนันหันหน้ามามอง

“ทําไมถึงมาอยูท่ ีนี”

เฉินหยางเหยียนได้รบั ความเงียบสงัดเป็ นคําตอบ

“ข้าไม่รูว้ า่ ควรรูส้ กึ อย่างไร” เนินนานทีเดียวกว่าจะได้ยิน


เสียง…เฉินเฟิ งหลุนแอบได้ยินแพทย์หลวงบอกว่ามี
โอกาสเป็ นพระโอรส

ดวงตาของเด็กคนนันแดงเรือ เฉินหยางเหยียนมองลึก
346
ลงไปก้นสระ บัวงามบางดอกถูกโคลนตมทับถมไว้ อีก
ฟากฝังหนึงของสระ ขบวนเสด็จของพระสนมคนแล้วคน
เล่าผ่านไป จุดมุง่ หมายคือตําหนักหลิวเฟิ ง มือเล็กของ
เฉินเฟิ งหลุนกําเข้าหากันแน่น

กระทังความอบอุน่ เข้ามากอบกุม เฉินเฟิ งหลุนเงยหน้า


ขึนมองพีชายต่างมารดาทีคว้ามือเขาเอาไว้

บรรยากาศเงียบงัน ไร้ซงบทสนทนาต่
ึ อกัน

ทีริมสระบัว ทุกคนต่างเลยผ่าน แต่มีเพียงคนเดียวทีหยุด


เดิน

347
จากนันไม่นานองค์ชายสีก็ถงึ คราวประสูติกาล

ไปเดินเล่นกับเราสักหน่อย….

ตอนแรกทีจักรพรรดิเอ่ยชักชวน หร่วนจูอีไม่คิดว่าต้องมา
ไกลถึงขนาดนี

348
แสงอาทิตย์ตดั ผ่านเส้นขอบฟ้า ใกล้เวลายําคํา สองร่าง
ยืนเคียงข้างกันอยูบ่ นกําแพงวัง

ฉีหวางสินพระชนม์ในฐานะกบฏ แต่องค์จกั รพรรดิยงั มิ


ได้ตดั สิน ความผิดทีฉีหวางกระทํามิสมควรถูกฝังร่างไว้
ในสุสานราชวงศ์ ควรค่าแก่การถอดบรรดาศักดิ และลบ
พระนามออกจากหน้าประวัติศาสตร์

เฉินหยางเหยียนเป็ นเช่นนีเสมอ ชอบเก็บงําทุกสิงเอาไว้


จนกว่าจะถึงทีสุด

หร่วนจูอีลอบส่ายหน้า “ฝ่ าบาทเหมือนมีเรือง

349
บางอย่างอยูใ่ นใจ”

จักรพรรดิฝไู ฉหันมา ประคองใบหน้าทีครังหนึงเคยงด


งามเยาว์วยั กาลเวลาทีล่วงผ่าน ไม่เคยทําให้ความรูส้ กึ
ต่อชายผูน้ ีลดน้อยลง ในฐานะจักรพรรดิเขามี ‘รักเดียว’
ไม่ได้ และมีอีกหลายสิงทีทําร้ายหร่วนจูอีมากมายเหลือ
เกิน

หร่วนจูอีเอียงใบหน้าแนบรับสัมผัสจากมืออุน่ เอือมมือ
ไปแตะยังเครายาวของจักรพรรดิก็หวั เราะออกมาหนึง
เสียง “สมัยก่อนฝ่ าบาทดูน่าเกลียดน้อยว่านี”

“จูเอ๋อร์…”

350
“หืม?”

หากเขามิใช่จกั รพรรดิ และอีกฝ่ ายมิใช่พระสนม จะดีสกั


แค่ไหน…

ข้าคือเฉินหยางเหยียน ส่วนเจ้าคือหร่วนจูอี

ข้าคือสามี ส่วนเจ้าคือภรรยาเพียงหนึงเดียว

จักรพรรดิฝไู ฉถอนหายใจออกมา ดวงตะวันเริมเลือน


หาย มองเห็นดวงจันทร์ได้ชดั เจนยิงขึน รอจนสายลม
โลมไล้ผา่ นใบหน้าอีกครังหนึง องค์จกั รพรรดิผสู้ งู ศักดิจึง
351
เปิ ดพระโอษฐ์

“เราอยากแสดงให้เขาเห็นว่าเราอยูข่ า้ งเขา เพียงแต่เมือ


ขึนครองราชย์ สกุลหร่วนก็จบั ตามองเราตลอด เราเลย
ต้องช่วยเขาอย่างห่างๆ และปิ ดเป็ นความลับเสมอมา
แต่เราลืมคิดในมุมของเฟิ งหลุนไปว่า การโดนทอดทิง
เป็ นเช่นไร เราลืมคิดไปว่า ตังแต่เขาเกิดมาโดนผูค้ นกรีด
บาดแผลลงในใจไปแล้วกีแผล มีใครบ้างทีทําร้ายเขา”

นําเสียงและแววตาของจักรพรรดิฝไู ฉเรียบเฉยจนน่าใจ
หาย แต่หร่วนจูอีรูด้ ีวา่ ความจริงแล้วมิได้เป็ นเช่นนันเลย

“สุดท้ายทีเขาเป็ นเช่นนันก็เพราะเรา การทีคังเล่อต้อง

352
จากไปก็เพราะเรา”

เมือเป็ นจักรพรรดิมีหลายสิงต้องฝื นใจทํา และมีอีก


หลายสิงทีปกป้องเอาไว้ไม่ได้

หร่วนจูอีเอือมมือมาบีบพระหัตถ์ของจักรพรรดิเอาไว้
แน่น

“ฝ่ าบาททําดีทีสุดแล้ว” จากนันจึงกล่าวต่อ “คังเล่อจาก


ไปเพราะเขา เกือบทําให้กระหม่อมต้องเสียลูกทังสองคน
ความแค้นนีไม่อาจปล่อยวางได้โดยง่าย หัวอกของ
มารดาทีถูกพรากบุตรไป ขอฝ่ าบาทโปรดเข้าใจ แต่ไม่วา่
ฝ่ าบาทจะตัดสินใจอย่างไร กระหม่อมก็เคารพในการ

353
ตัดสินใจนัน”

จักรพรรดิสดับฟั ง นิงงันไปเนินนาน สุดท้ายก็ตดั สินใจ

วันทีห้า เดือนสี รัชศกฝูไฉทีสามสิบสี จักรพรรดิมีราช


โองการ อดีตฉีหวาง เฉินเฟิ งหลุน มีความผิดโทษมหันต์
ฟ้าดินไม่อาจอภัย[7] ข้อหากบฏแผ่นดินมิสมควรมีชือ
อยูใ่ นทําเทียบราชวงศ์ และเพือมิให้มีผใู้ ดเอาเป็ นเยียง
อย่าง ฝ่ าบาทมีรบั สังให้ฝังร่างไว้ทีริมทะเลสาบหูหนาน
ตังหลักศิลา จารึกทุกความผิดทีได้กระทํา

โคมกระจกหกเหลียมของชาววังกวัดแกว่งไปตามจังหวะ
ก้าวเดิน ถึงทีหมายเกากงกงยืนหลบมุมอย่างเงียบเชียบ

354
บัวบานยามคิมหันต์ สระเจียงเจาเงียบเงาไม่มีชีวิตชีวา

เกาฉีติดตามรับใช้ฝ่าบาทมานาน แม้ดอู อกว่ายามใด


จักรพรรดิเป็ นสุข ยามใดทุกข์ยามใดอารมณ์ดีหรือมีเรือง
ให้เคืองใจ แต่ขนั ทีชราอย่างเขากลับอ่านความคิดอันซับ
ซ้อนจากจักรพรรดิในตอนนีไม่ได้เลยแม้แต่นอ้ ย

ขวดสุราสีขาวบริสทุ ธิเช่นเดียวกับยามดอกบัวแย้มบาน
ปล่อยเมรัยไหลลงสูส่ ายชลจนหยดสุดท้าย

“ฝ่ าบาท...”

“ทีนีไม่เคยเป็ นบ้านสําหรับเขา ไม่ใช่ทงยามมี


ั ชีวิตอยู่
355
และยามทีไร้ลมหายใจ” จักรพรรดิฝไู ฉตรัสขึน สุรเสียง
เฉยชาคล้ายมีระลอกคลืนซุกซ่อนอยู่ ลึกๆ แล้วบางที
อาจไม่ใช่สาํ หรับเฉินหยางเหยียนด้วยเช่นกัน

นางกํานัลคนหนึงของเสด็จแม่ บ้านเกิดนางอยูท่ ีหูหนาน


เสด็จพ่อต้องพระทัยในตัวนาง มิรูว้ า่ เป็ นวาสนาอันดีหรือ
เลวร้ายกันแน่

เกากงกงถือโคมรออยูน่ าน กระทังฝ่ าบาทแย้มพระโอษฐ์


อันหาได้ยากยิง “ไปเถอะ พรุง่ นีเราสังงดประชุมขุนนาง
ยุง่ มาหลายวัน เราถึงมีโอกาสได้ไปหาหลานเสียที”

356
ข้อมูลเพิมเติม

[1] เก๋อเก๋อ (格格) โดยปกติใช้เรียกเชือพระวงศ์หญิง


ทีเป็ นพระธิดาหรือท่านหญิง อ้างอิงมาจากราชวงศ์ชิง

[2] สลายศัตรูให้กลายเป็ นมิตร หมายถึง กําชัยชนะโดย


ไม่ตอ้ งออกรบ

357
[3] หวงไท่เฟย (皇太妃) ตําแหน่งรองจากหวงไท่
โฮ่ว ซึงองค์จกั รพรรดิมกั จะแต่งตังให้กบั พระชายาหรือ
พระสนมในจักรพรรดิองค์ก่อน

[4] หวงไท่โฮ่ว (皇太后) หรือรูจ้ กั กันในชือ "ฮอง


ไทเฮา" ตําแหน่งของจักรพรรดินีในจักรพรรดิองค์ก่อน
หน้านับขึนไป 1 ขัน หรือตําแหน่งพระมารดาใน
จักรพรรดิองค์ปัจจุบนั ถ้าจักรพรรดิองค์ปัจจุบนั ไม่ได้
เป็ นพระโอรสทีเกิดแต่จกั รพรรดินีองค์ก่อน ผูเ้ ป็ นพระ
ชายาหรือพระสนมทีเป็ นพระมารดาของจักรพรรดิองค์
ปั จจุบนั จะได้รบั ตําแหน่งเป็ นฮองไทเฮาด้วยเช่นกัน

[5] มาจากสํานวน ‘ปทุมมาหน้าหยกพบง่ายดาย มาลี


พูดได้ยากแสวง’ หมายถึง สตรีงามแต่รูปนันหาได้ง่าย
358
ดาย แต่สตรีทีสนทนาด้วยได้และรูใ้ จหาได้ยากมาก

[6] กินคนไม่คายกระดูก หมายถึง คนทีโลภมากและ


ชอบเอารัดเอาเปรียบผูอ้ ืน

[7] ความผิดโทษมหันต์ ฟ้าดินไม่อาจอภัย สือถึง แม้


ตายก็ไม่สาสมกับความผิดทีได้กระทําลงไป

359
ตอนที ๔๐ เคียงคู่

ตอนเฉินเหวินเค่อทราบเรืองราชโองการของเสด็จอา
เวลาผ่านไปแล้วหนึงวัน เดิมทีเขาต้องเข้าร่วมประชุมขุน
นางในฐานะแม่ทพั ทีสามารถจับกุมตัวกบฏกลับมาได้
แต่เพียงหลับตาพักผ่อน คาดไม่ถงึ ว่าจะหลับลึกถึงเพียง
นี

ร่างกายของเขา เขาย่อมรูด้ ีทีสุด ตลอดสิบปี มีครังไหน


บ้างทีไม่บาดเจ็บ มีครังไหนทีไม่ออ่ นแรง ถึงจะเหนือย
ยากลําบากแค่ไหน เฉินเหวินเค่อลุกขึนมาได้เสมอ แต่
ครังนี…

360
กลับจวนมา จําได้วา่ ก่อนจะพักผ่อน ไม่ทนั ได้สนทนา
พูดคุย เฉินลูป่ ิ นก็เดินถือถ้วยยามาให้ คะยันคะยอนาน
สองนาน เพือตัดรําคาญเฉินเหวินเค่อจึงยอมตามใจ

ไอ้ลกู เต่าบัดซบ!

ได้ยินเสียงเปิ ดประตู ‘นึกถึงโจโฉ โจโฉก็มา’

ชายหนุ่มรูปงามยกมือปิ ดปากหัวเราะเสียงใสกระจ่างดัง
มุกกระทบ ยามใดเห็นใครบางคนขมวดคิวยุง่ หายใจฟั ด
ฟั ด ช่างน่ารักน่าแกล้งเหลือเกิน

361
“เหวินเกอ ตืนแล้วหรือ ข้าเตรียมอาหารเช้าไว้แล้ว จะกิน
เลยไหม” เฉินลูป่ ิ นกล่าว กดรอยยิมไม่ให้น่าสงสัย เดียว
แมวแก่จะตืนเสียก่อน

“เจ้าวางยาข้า!”

ใบหน้างามฉายแววงุนงง

“ข้าทําอะไรหรือ”

“อย่ามาทําตาใส! มีเจ้าคนเดียวทีกล้าทําแบบนีกับข้า…
ข้าอุตส่าห์ไว้ใจเจ้าแล้วเชียว เจ้านีมัน…ฮึย!” เฉินเหวิ
นเค่อตะคอก ทังหงุดหงิดทังเขินอาย เมือครูโ่ มโหมากไป
362
หน่อย เผลอพูดไปเสียได้

เห็นอีกฝ่ ายกําลังพ่นไฟ มือขาวตะปบใบยังใบหน้าหล่อ


เหลา ภรรยาเหตุใดท่านจึงหน้าตาดีขนาดนี ปลายนิว
เรียวคลึงบริเวณข้างขมับพลางกล่าวว่า “เหวินเกอโมโห
มากไปตีนกาขึนเร็วนะ”

“ถ้าข้าแก่ขนเจ้
ึ าจะไม่รกั ข้าแล้วหรือไง” เฉินเหวินเค่อก
ล่าว คิวเข้มทังสองข้างคลายออกจากกัน ชายหนุ่มถึงกับ
นิงงัน

ไม่ ไม่ ไม่…นีมันผิดปกติ

363
อดีตแม่ทพั เลือดเริมหน้าซีด เฉินเหวินเค่อมันใจ ต่อให้
เฉินลูป่ ิ นพูดจากวนบาทามากขนาดไหน เขาไม่น่าโกรธ
จนขาดสติ ยังปากตัวเองไม่ได้เช่นนี

“เจ้า…เจ้า เจ้าทําอะไรลงไป”

เฉินลูป่ ิ นเหยียดยิมหวานหยด ขนทัวสรรพางค์พลันลุก


ชัน

“เหวินเกอคิดถึงข้าไหม”

“คิดถึงสิ ถามมาได้”

364
“ทุกวันทุกคืน?”

“อืม”

“ชีวิตนีท่านขาดข้าไม่ได้ใช่หรือไม่”

“พูดมากปากเหม็น เจ้ารูอ้ ยูแ่ ล้วนี!”

บทสนทนายิงยืดยาว หน้าของเฉินเหวินเค่อก็รอ้ นมาก


ขึนเรือยๆ รูส้ กึ อับอายเสียจนไม่กล้ามองหน้าของอีกฝ่ าย
ตรงๆ แต่เฉินลูป่ ิ นมีหรือจะปล่อยโอกาสนีให้หลุดลอย
ปลายนิวจับปลายคางไม่ให้หนั หน้าหนี แก้มทังสองข้าง
แดงปลัง เฉินเหวินเค่อเม้มปากแน่น มือกําผ้าห่มสัน
365
ระริกจนขึนข้อขาว

“พอ พอ พอ…หยุดถาม หยุดถามเดียวนี!”

“เหวินเกอ…” เฉินลูป่ ิ นเรียกชือเขาด้วยนําเสียงสบายๆ


แต่ไม่รูเ้ พราะเหตุใด เฉินเหวินเค่อจึงรูส้ กึ สังหรณ์ใจไม่ดี
เอาเสียเลย “ท่านคิดว่าข้าวางยานอนหลับท่านอย่าง
เดียวหรือ ช่าง…ใสซือเกินไปแล้ว”

“เจ้า!” เฉินเหวินเค่อโมโหแทบกระอัก ซัดฝ่ ามือใส่เฉินลู่


ปิ นเต็มแรง

ฝ่ ามือขาวรับกําปั นหนักหน่วงเอาไว้ได้ง่ายดาย ข้อมือทัง


366
สองข้างของเฉินเหวินเค่อถูกรวบไว้เหนือหัว ดวงตาสีขี
เถ้าเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ไม่อยากเชือสายตาของตัว
เอง มือทีดูไม่มีแรงของเฉินลูป่ ิ นจะสามารถกดเขาลงกับ
เตียงได้อย่างง่ายดาย

ทุกคราเฉินลูป่ ิ นเล่นเล่หก์ บั เขาสารพัด ไม่เคยมีครังไหน


จะใช้แรงปะทะกันซึงหน้า

เฉินเหวินเค่อสัมผัสได้ถงึ บรรยากาศรอบตัวของอีกฝ่ ายที


เปลียนไป

บัดซบ! นีมันถึงกับใช้ลมปราณพิเศษกับเรืองแบบนี

367
เฉินเหวินเค่อถลึงตา “เจ้านีมันหน้าไม่อายเกินไปแล้ว!”

บุรุษรูปงามก้มหน้าลงมา ลมหายใจอุน่ ไล้ไปตามสัน


จมูก ลากผ่านสันกรามคมลงมายังต้นคอ เฉินเหวินเค่อ
สะท้าน ออกแรงเท่าใดก็ดงึ ข้อมือออกจากปราการอัน
แน่นหนาไม่ได้ ทีน่าเจ็บใจยิงกว่า มันใช้มือแค่ขา้ งเดียว
จับเขาเอาไว้

“อึก…ลูป่ ิ น…ไอ้ตวั บัดซบ!” เฉินเหวินเค่อสะอืน ร่างกาย


เริมอ่อนแรง กระดูกสันหลังเสียววาบ ทุกครังทีปลายนิว
ของอีกฝ่ ายหยอกล้อกับจุดชีพจรเหนือก้นกบ จุดอ่อนที
โดนล่วงรูท้ นั ทีตงแต่
ั แรกพบเจอ ไม่วา่ เมือใดก็ยอ้ นกลับ
มาทําร้ายเขา ซําแล้วซําเล่า

368
ยิงเฉินเหวินเค่อพ่นคําผรุสวาท นําหนักมือของเฉินลูป่ ิ น
ก็เริมรุนแรงมากขึนเท่านัน

“เจ้า…รังแกกันไปแล้ว” เฉินเหวินเค่อครางฮือ

สุดท้ายพยัคฆ์รา้ ยต่างอะไรกับแมว

ริมฝี ปากบางจูบซับนําตาทีรืนออกมาจากดวงตาคูค่ ม

“อา…ข้าจะทําอย่างไรกับท่านดี เหตุใดชอบทําให้เป็ น
ห่วงนัก”

369
“ข้าไม่ได้ตงใจ”
ั ปกติเฉินเหวินเค่อคงตะโกนใส่หน้าอีก
ฝ่ ายไปแล้วว่า ‘ใครใช้ให้มาเป็ นห่วง!’ แต่เขาควบคุมคํา
พูดทีพ่นออกจากปากของตัวเองไม่ได้

จวนเว่ยหวางค่อนข้างเงียบกว่าปกติ ตลอดสิบปี ทีผ่าน


บรรยากาศอ้างว้างโดดเดียวคือมิตรแท้คจู่ วน แต่เมือเขา
รับอิงเอ๋อร์มาเลียง ท่านหญิงน้อยช่างจํานรรจ์ ซุกซนเป็ น
ทีหนึง หาเรืองปวดหัวให้กกู จู ากในวังไม่เว้นวัน นาง
กํานัลจับกระโปรงวิงตามกันอุตลุด

“นียามใดแล้ว” เฉินเหวินเค่อยกมือดันแผ่นอกเปลือย
เปล่า ยังไม่ให้อีกฝ่ ายก้มตัวลงมาใกล้มากกว่าเดิม อดีต

370
แม่ทพั กรอกตา ทีเรืองเปลืองผ้าล่ะเร็วนักนะ!

“ยามอุย้ กับอีกครึงชัวยาม(14 : 00 น.)” เฉินลูป่ ิ นตอบ


ยิมๆ

เหมือนมีแสงสว่างวาบผ่านห้วงความคิด “ลูกอยูท่ ีไหน”

ช่วงเวลานีเสียวเล่อเล่อจะตืนจากนอนกลางวัน ส่วนอิง
เอ๋อร์ชอบวิงหนีอาจารย์สอนกู่เจิง[1]แอบมาหาเขาตอน
ช่วงพักดืมชา…นีมันเงียบเกินไป

เฉินลูป่ ิ นอาจลามก แต่ฉากบางฉากก็ไม่สมควรให้เด็ก


เห็น อีกฝ่ ายรูข้ อบเขตความเหมาะสม เฉินลูป่ ิ นชอบ
371
ยุม่ ย่ามตอนกลางคืน แต่ไม่เคยลงมือจาบจ้วงต่อเขาใน
ยามกลางวัน

หวางรูปงามยกมือจับแก้ม นําเสียงแสดงความรูส้ กึ ผิด


“ข้าขอโทษ…ข้าลืมบอกท่านไป ข้าไม่อยากทิงพวกเขา
ไว้ในจวนตอนข้าออกตามหาท่าน ข้าเลยพาลูกๆ เข้าวัง
ฝากให้ฮ่ยุ กุย้ เฟย…มารดาของท่านช่วยดูแล”

“ข้าอยากเจอหน้าลูกแล้ว ทําไมพวกเราไม่เข้าวังกันตอน
นีเลย” เฉินเหวินเค่อพยายามโน้มน้าว มือทีจับกุมเขา
คลายออก เฉินเหวินเค่อลอบถอนหายใจโล่งอก

ชายหนุ่มรูปงามยิมตาหยีจนโค้งเป็ นพระจันทร์เสียว ทัน

372
ใดนันสายคาดเอวของเฉินเหวินเค่อก็ถกู ดึงออก แล้วใช้
มันมัดข้อมือทังสองของเขาไว้แทน

“แหม~ ใช้แรงเยอะแล้วปวดไหล่” เฉินลูป่ ิ นขยับตัวไล่


ความเมือย “ข้าทําให้ทา่ นกลัวหรือเปล่า”

เฉินเหวินเค่อเม้มปากแน่น เมินหน้าหนี เฉินลูป่ ิ นเห็น


แล้วก็หวั เราะเสียงแผ่ว สมแล้วทีเป็ นเหวินเกอ แต่จะอด
ทนไปได้สกั กีนํา

“ตอบข้าสิ”

“ข้า..อึก ไม่..กลัว”
373
“ข้าไม่ได้ยินเลย ท่านพูดแล้วหรือ”

สําหรับผูฝ้ ึ กยุทธประสาทสัมผัสย่อมดีกว่าคนทัวไป มี
หรือไอ้ลกู เต่าบัดซบจะไม่ได้ยิน เฉินเหวินเค่อกัดริม
ฝี ปากจนเลือดไหลซิบ

“เจ้าไม่เคยเป็ นแบบนี”

เฉินลูป่ ิ นในแบบปกติคือบุรุษรูปงามทีมีรอยยิมจอม
ปลอม ชอบประจบเอาใจ สามวันเข้าครัวทําอาหาร ปั ก
ผ้าเช็ดหน้าให้เขาเดือนละครัง เลือกปิ นปั กผมทีดีทีสุด
ราวกับเลือกให้ตวั เอง

374
“ข้ายังมีอีกหลายแบบทีท่านไม่เคยเห็น”

สิบปี …เวลามิใช่นอ้ ย มีหลายสิงคงอยู่ และมีหลายสิงที


เปลียนแปลง แต่มีเพียงแค่อย่างเดียวทีไม่เคยเปลียนไป

หัวใจเต้นโครมครามเสมือนคราวลันกองศึก เอวถูกรังให้
สองกายแนบชิด จังหวะการเต้นจากกล้ามเนือในอกซ้าย
ดังสนันเสียจนกลัวอีกฝ่ ายจะได้ยิน

สาบเสือถูกแยกออก อวดกล้ามท้องเป็ นลอนสวย นิวชี


เรียวดุจลําเทียนเคาะลงบนแผ่นอกตึงแน่น ก่อนจะนําไป
จรดริมฝี ปาก

375
เฉดสีแดงฉาบไล้ใบหน้าคมคาย ปฏิเสธไม่ได้วา่ ท่าทาง
เมือครู ่ มีเสน่หเ์ หลือร้ายจริงๆ

“ยาทีข้าใส่ผสมไปออกฤทธิพร้อมยานอนหลับ แค่ฤทธิ
ยาอาจจะยาวนานกว่าเล็กน้อย...สักสองชัวยามเห็นจะ
ได้”

รอยยิมอ่อนโยนงดงามดังวันวาน แต่ไม่รูท้ าํ ไมถึงรูส้ กึ


ต่างไปจากเดิม

“คนดี ข้าปรานีมากแล้ว”

376
จากนัน…จากนัน ทุกอย่างกลายเป็ นสีขาวโพลน

เฉินเหวินเค่อเหมือนอยูก่ ลางพายุหมุน บ้าคลัง โหม


กระหนํา แตกต่าง รุนแรง ทว่าให้เกียรติ หากให้บรรยาย
ความรูส้ กึ ตอนนี เขาได้บอกทุกอย่างทังหมดแล้ว

ริมฝี ปากทีคอยพ่นคําหวาน บัดนีช่างน่าชังเหลือแสน

“เหวินเกอท่านรูส้ กึ ดีหรือไม่”

“อา…ดี ห..ยุดถามข้า หยุดถามได้แล้ว!”

อีกฝ่ ายเพียงขยับยิม โดยจังหวะของดนตรีมิเคยขาดช่วง


377
ด้วยท่วงทํานองรืนเริงหฤหรรษ์ สุขจนเปี ยมล้น และทุกข์
ตรมในคราเดียวกัน เกิดมาในฐานะองค์ชายใหญ่ พระ
โอรสพระองค์แรกของจักรพรรดิ แม้มิใช่องค์ชายตามกฎ
มณเฑียรบาล แต่ก็สงู ศักดิมากพอ เฉินเหวินเค่อมิเคย
ถูกรังแกจะมีก็แต่ไปรังแกเขา

ตอนนีแม่ทพั ไร้พา่ ย…อดีตแม่ทพั อย่างเขากลับโดนคนผู้


หนึงข่มเหง ลวงด้วยถ้อยคําหวานปานนําผึง หลอกล่อ
ให้พดู ทุกสิงทีอยูใ่ นใจ

โดยเฉพาะอย่างยิง…

“เหวินเกอข้ารักท่าน”

378
ลําคอแห้งผาก เสียงครวญครางเคล้าเสียงสะอืน

“ท่านเล่ารักข้าไหม”

“รัก อึก…ข้ารักเจ้า”

วนเวียนอยูเ่ ช่นนี กีรอบไม่อาจนับไหว รูเ้ พียงความแข็ง


แกร่งทีเฉินเหวินเค่อภาคภูมิใจ ถูกทําลายลงอย่างช้าๆ
นุ่มนวล อ่อนหวาน ทว่ามิเคยปรานี

“ได้โปรดอย่าถามอีก อย่าถาม”

379
จนสุดท้ายคําสังเด็ดขาด กลับกลายคําอ้อนวอน

มือขาวลูบใบหน้าทีแดงกํา ลมหายใจหอบกระชัน หยาด


เหงือพร่างพราวดังแสงดาว ริมฝี ปากได้รูปครวญหาแต่
ชือลูล่ ู่ เมือจุมพิตยังได้ลมรสชาติ
ิ หวานชําจากปลายลิน

เฉินลูป่ ิ นเห็นความอ่อนแอบอบบาง คล้ายแตกหักได้ง่าย


ดายจากความอับอาย เหวินเกอแบกขุนเขาไว้บนไหล่
ตังแต่ยงั เยาว์ ชินชากับการพึงตนเองและปกป้องผูอ้ ืน
จนลืมคิดไปว่าบางครังตนเองก็ตอ้ งการคนปกป้องเช่น
กัน

380
เหวินเกอรักใครไม่เคยบอกด้วยคําพูด แต่ทกุ การ
แสดงออกคือคําตอบทุกอย่าง ทําให้บางครังบุรุษผูเ้ ข้ม
แข็งคนนี ละเลยตนเองได้อย่างมิน่าเชือ แสนดือรัน และ
ชอบทําให้เป็ นห่วง

“ลูป่ ิ น...”

“หืม?” เฉินลูป่ ิ นครางรับ

“แก้มดั ให้ขา้ ” เฉินเหวินเค่อกล่าวขณะขยับข้อมือที


ปรากฏรอยชํา

ดวงตาของเฉินลูป่ ิ นพราวระยับ เปล่งประกายความเจ้า


381
เล่ห ์

“บอกเหตุผลดีๆ กับข้าสักข้อสิ”

วิชาปราบพยัคฆ์ได้ผลดียงิ แมวแก่แสนดืออ่อนแรงจนมิ
อาจแข็งข้อต่อต้าน มิจาํ เป็ นต้องหวาดหวันว่าอีกฝ่ ายจะ
ลุกขึนมากระทืบตายคาเตียง

“ข้าอยากกอดเจ้า อือ!” เรือนร่างกํายํากระตุกเกร็ง เป็ น


สัญญาณเตือนถึงห้วงอารมณ์ทีใกล้ปะทุ

เฉินลูป่ ิ นถูกคําตอบแสนน่ารักน่าชังทุบจนสมองมึนงง…
คงต้องหาเวลาว่างขึนไปคุกเข่ากราบขอบคุณท่าน
382
อาจารย์สกั ครา มิเสียแรงทีอดทนเรียนศาสตร์การปรุงยา
ไร้สาระทีเคยปรามาสเอาไว้

ผลสัมฤทธิช่างคุม้ ค่า เสียจนอยากรังแกอีกสักรอบ

เพียงแต่สองชัวยาม ยาวนานมากแล้ว เฉินลูป่ ิ นสัญญา


จะพาเฉินเหวินเค่อกลับมา ไม่ควรปล่อยให้อิงเอ๋อร์ตอ้ ง
รอนาน หวังว่าเหวินเกอจะเหลือแรงพอเดินไหว มิเช่น
นันเขาคงต้องทําหน้าทีสามีทีแข็งแรงอีกสักหน

“เจ้าไม่ตายดีแน่…” เฉินเหวินเค่อประกาศกร้าว

ด้วยนําเสียงอ่อนแรงเช่นนันจะทําให้ใครกลัวได้ เฉินลู่
383
ปิ นหัวเราะเอ็นดู เฉินเหวินเค่อได้ยินพลันชักสีหน้า

ชิชะ! ไอ้ลกู เต่า อายุนอ้ ยกว่านับสิบปี ริอาจคิดว่าเป็ น


สามีของเขาแล้วจะทํากิรยิ าเช่นนันได้หรือ บังอาจนัก

แต่เหนือสิงอืนใด…

“เจ้าเอาออกไปก่อนได้หรือไม่”

“ท่านหมายถึงอะไรหรือ”

บุรุษรูปงามพลิกกายสวมกอดคนตรงหน้าจากด้านหลัง
ไหล่กว้างสันระริก เฉินลูป่ ิ นจูบซับตามลาดไหล่ ทําไมจะ
384
ไม่รูว้ า่ ‘อะไร’ ทีว่าหมายถึงสิงใด

เฉินเหวินเค่อถองศอกใส่ดว้ ยอารมณ์หมันไส้ แต่สงที


ิ ได้
รับกลับมาก็คือเสียงหัวเราะเหมือนเดิม

แรงกอดรัดจากอ้อมแขนไม่ได้ทาํ ให้อดึ อัด กลับกันอ้อม


แขนนีทําให้อบอุน่ ใจ ลูบผิวขาวเนียนเรียบลืน ด้วยความ
สามารถของเฉินลูป่ ิ น ปรารถนาความยิงใหญ่เหนือใคร
ย่อมไขว่คว้ามาได้อย่างง่ายดาย

บุรุษรูปงามคว้ามือซุกซนขึนมาจุมพิต ใบหูของอีกฝ่ าย
แดงระเรือ เฉินเหวินเค่ออึกอัก ลังเลอยูช่ วครู
ั แ่ ล้วจึงพูด
ออกมาว่า “การมีความรักทําให้เจ้าอ่อนแอ”

385
“ข้ายินดีออ่ นแอ”

ตอบกลับรวดเร็วไม่แม้แต่หยุดคิด หนักแน่น มันคงจนใจ


สะท้าน

“แล้วท่านเล่า”

“ข้าเองก็ยินดีเช่นกัน”

“เหวินเกอ..” เฉินลูป่ ิ นส่งเสียงเรียก ชะโงกหน้าเข้ามา


ใกล้ เส้นเกศายาวสยายเกียวพันกันยากจะแยกออกว่า
ของใครเป็ นของใคร ใบหน้าคมคายสะท้อนออกมาจาก
386
แก้วตาคูส่ วย “ยาอะไรก็ตามแต่ทีข้าผสมลงไปกับยา
นอนหลับ หมดฤทธิไปชัวเวลาหนึงถ้วยชาแล้ว”

“…”

นางกํานัลคนหนึงกําลังขัดเครืองเคลือบในมืออย่าง
ระมัดระวัง ฉับพลันได้ยินเสียงดังโครมใหญ่ เกือบทํา
ของในมือหล่นลงพืน หญิงสาวหันไปมองหน้าสหายที
กําลังปั ดฝุ่ นตามชันหนังสือ เสียงนันมาจากทางเรือน
ใหญ่ หรือว่าเกิดเรืองร้ายแรงอันใดกับเจ้านายทังสอง?

หลังรีบเร่งจับกระโปรงวิงตัวปลิว หญิงสาวหันหน้าสบตา
กัน แก้มใสเปล่งปลังแดงระเรือ

387
ชายหนุ่มรูปงามห่อตัวด้วยผ้าห่มผืนเดียวยืนฉีกยิมบาง
ข้างกันเป็ นซากบานประตูทีหลุดออกมาอย่างน่าพิศวง
นันใช้มือหรือเท้ากันหนอ หวางเย่ช่างยัวโทสะของหวา
งเฟยได้เก่งเหลือเกิน

“ช่วยเตรียมชุดให้ขา้ สักหน่อย”

“เพคะ”

หวางเย่คอ่ ยๆ กระเถิบกลับเข้าใกล้สว่ นทีเคยเป็ นประตู

“เตรียมอ่างนําร้อนกับชุดให้หวางเฟย ยกกล่องเครือง
388
ประดับมาด้วย ข้าจะไปเข้าเฝ้าฮุ่ยกุย้ เฟย”

“เพคะ”

บ่าวรับใช้ประจําจวนเว่ยหวางค้อมกายรับคํา เดินออก
มาไม่ไกลนัก ทันได้เห็นกานําชาลอยละลิวเฉียดปลาย
จมูกของหวางเย่พอดิบพอดี

เฉินลูป่ ิ นยิมค้าง “พวกเจ้า..รีบหน่อยก็ดีนะ”

389
.

“เรียกว่าต้าเกอสิ ต้าเกอ!”

“แต่ไท่จือคือน้องชายของท่านแม่ ตามลําดับแล้วต้อง
เป็ นท่านอานีเจ้าคะ”

“ข้าเด็กทีสุดในวัง ใครๆ ก็เรียกว่าเสียวหวงจือ[2] มีพวก


เจ้าอายุนอ้ ยกว่า ข้าจะได้มีนอ้ งชายน้องสาว อิงเม่ยเหม่
ย[3] ห่างจากข้าแค่ไม่กีปี เรียกข้าว่าท่านอามิรูส้ กึ แปลก
ประหลาดบ้างหรือ พอเปาจือโตขึนพอรูค้ วาม พานจะ
390
ทําให้เสียวตีสับสน”

ฉู่มีอิงเอียงคอสงสัย “แปลกประหลาดขนาดนันเลยหรือ
เจ้าคะ”

หวงไท่จือแห่งเสวียนเฉินพยักหน้าหนักแน่น ท่านหญิง
น้อยรูส้ กึ อับจนหนทาง จึงหันไปพึงมารดาทีกําลังนังเดิน
หมากกับท่านยาย

เฉินเหวินเค่อตาจ้องกระดาน แต่หฟู ั งทุกบทสนทนา วาง


หมากดังดักทางคูม่ ือไว้ มารดาทีถือหมากขาวจําต้องรัง
รอไตร่ตรองให้รอบคอบ จึงค่อยหันไปสนใจเด็กซนทัง
สอง

391
“คุนคุนกล่าวเช่นนัน มิใช่กาํ ลังโทษว่าเป็ นความผิดของ
พีทีแต่งงานช้าหรอกหรือ”

“เสด็จพีอย่าให้นางเรียกข้าว่าท่านอาเลยนะ” เฉินคุนทํา
ตาใสเอ่ยเสียงออดอ้อน

เฉินเหวินเค่อถอนหายใจยาว “จนกว่าเจ้าจะบรรลุวยั
ผูใ้ หญ่ ให้อิงเอ๋อร์เรียกเจ้าเช่นนันก็ได้”

“ขอบคุณเสด็จพี เอาล่ะ เรียกว่าต้าเกอสิ!”

“คุนต้าเกอ?”
392
เป็ นเสียวหวงจือมาตังนาน ในทีสุดเฉินคุนก็หลุดพ้นจาก
ตําแหน่งนันเสียที ไท่จือยืดอกอย่างภาคภูมิใจ ลอบมอง
ซ้ายมองขวา มารดากําลังสนทนากับพระบิดาทีตําหนัก
ทรงพระอักษร เสด็จพีกลับไปเดินหมากกับฮุ่ยกุย้ เฟย
นับเป็ นโอกาสอันดีงาม

เฉินคุนกวักมือเรียกน้องสาวหมาดๆ กระซิบบอกว่า ช่วง


เวลานีห้องครัวหลวงจะทําขนมแจกจ่ายตามตําหนัก
ต่างๆ ในวังหลัง เขาสนิทกับขันทีคนหนึงทีทํางานในนัน
แอบพาเข้าไปกินขนมเท่าใดก็ได้

ท่านหญิงน้อยได้ฟังก็ตาลุกวาว จับมือกันแอบย่องออก

393
ไป

“แฮ่ม…จะไปไหนกันหือ?” เสียงกระแอมไอเรียกความ
สนใจดังมาจากด้านหลัง

บุรุษในอาภรณ์สีเขียวหยกลดหนังสือโคลงกลอนในมือ
ลงพลางส่งยิมบางมาให้

เฉินคุนย่นหน้าทันทีทีเห็นว่าคือผูใ้ ด ลืมคนผูน้ ีไปได้อย่าง


ไรกัน เฉินอันหวางทีแย่งเสด็จพีไปอยูฉ่ างซีตงนานสอง

นาน คนนิสยั ไม่ดี!

“ไปหาขนมเจ้าค่ะ” ฉู่มีอิงตอบตามตรง
394
“อืม…อย่าหายไปนานนัก เดียวมารดาเจ้าจะเป็ นห่วง”
เฉินลูป่ ิ นก้มหน้าลงอ่านต่อจากบรรทัดทีค้างเอาไว้ พลาง
กําชับส่งท้าย “อย่ากินเยอะจนปวดท้องอีกเล่า คราวนี
ถ้ามารดาเจ้าโกรธขึนมา บิดาช่วยไม่ได้แล้วนะ”

ง่ายดายขนาดนีเลย?

เฉินคุนยังมึนงง แต่พอคิดถึงขนมก็ไม่รอช้า อะไรปล่อย


ผ่านได้ก็ผล่อยผ่าน จะคิดมากไปไย

พลิกหน้ากระดาษต่ออีกสองสามบท เมือเริมเบือหน่าย
จึงวางหนังสือลง ใบหน้าอ่อนวัยของคนหนุ่มอายุตน้

395
ยีสิบหันไปมองภรรยาแอบยกกําปั นทุบเอวโดยไม่เปลียน
สีหน้า ก็ยกพัดจีบในมือกางปิ ดรอยยิม

ทําอะไรล้วนจืดชืด มิสมู้ องหวางเฟย

เฉินเหวินเค่อเดินหมากปั นหน้าเคร่งขรึม พยายามกดมุม


ปากไม่ให้ยกขึนยามรูส้ กึ ถึงสายตาทีจับจ้อง หร่วนจูอี
สลับมองคนหนุ่มทังสอง ความรักแรกรุน่ สัมผัสได้เฉพาะ
วัยหนุ่มสาว ถึงวัยแก่เฒ่าอย่างไรก็ไม่อาจเทียบ

“เจ้าคิดจะกลับฉางซีตอนไหน” หร่วนจูอีกล่าว

“ลูกคิดจะรอให้ฉางเล่ออายุครบปี แล้วค่อยกลับ”
396
“อืม…ก็ดี ลูกเจ้ายังเล็กนัก รอเขาโตกว่านีอีกสักหน่อย
งานเลียงฉลองครบปี สาํ คัญยิง ฝ่ าบาทมีพระประสงค์จะ
จัดให้ฉางเล่อ เดียวอีกสักครูฝ่ ่ าบาทจะเสด็จมาพร้อม
หวงกุย้ เฟย เจ้าก็อยูท่ านอาหารกลางวันด้วยกันทีนี
เถอะ” หมากสีขาวรุกคืบ ทําเอาเจ้าของหมากดําเริม
ขมวดคิวยุง่ “เจ้าจะพาอิงเอ๋อร์กบั ฉางเล่อกลับจวนใช่
ไหม”

“ลําบากท่านแม่แล้วทีคอยดูแล”

ใครจะไปรูด้ ีไปกว่าเขาว่าอิงเอ๋อร์ซกุ ซนมากขนาดไหน

397
“นางเป็ นเด็กดี แค่ซนตามประสา ถึงนิสยั จะแข็งกร้าวไป
เสียหน่อยเวลามีใครพูดไม่ดีถงึ เจ้ากับน้องชาย แต่ฝ่า
บาทก็โปรดนาง ทรงตรัสว่าสตรีทีดีมิใช่หน้าตางดงาม
เพียงอย่างเดียว” หร่วนจูอีหัวเราะน้อยๆ ยามนึกถึง “อิง
เอ๋อร์ของเจ้ามิยอมให้ผใู้ ดเปรียบกับดอกอวีจัน[4] กล่าว
ว่าดอกไม้บอบบางปกป้องน้องชายมิได้”

“ลูกผิดเองทีสอนนางเช่นนัน”

“เด็กๆ ยังไม่ประสา คําพูดใดล้วนเชือฟั งทังหมด คราว


หลังเจ้าก็ระวังหน่อยก็แล้วกัน”

เดินหมากอีกสามตาได้ผลตัดสิน หร่วนจูอีมองกระดาน

398
เหวยฉีออกมาเสมอได้อย่างแนบเนียนแล้วพลันส่ายหัว
เหมือนกันจริงๆ

“ถ้าอิงเอ๋อร์กลับไป ตําหนักนีคงเงียบเหงาน่าดู” หร่วนจู


อีกล่าวพลางทอดถอนใจ มองข้ามไหล่ลกู ชายสบตากับ
ใครบางคนทีด้านหลัง

“เจ้าเองก็ยงั ดูออ่ นเพลีย ให้นางกับฉางเล่ออยูท่ ีนีต่ออีก


สักสองสามวันเถอะ”

ทีอ่อนแรงหาใช่เพราะเหน็ดเหนือยจากการเดินทางกลับ
มาเสียทีไหน เฉินเหวินเค่อตวัดสายตาขุ่นเคืองไปยังตัว
ต้นเหตุ

399
แต่ในเมือท่านแม่ออกปาก วังหลังเงียบเหงา มีเด็กมาวิง
เล่นเสียหน่อยก็ดีเหมือนกัน

“เช่นนันต้องฝากท่านแม่แล้ว”

ไม่นานนัก องค์จกั รพรรดิเสด็จมาถึงตําหนักอันชวี เฉินคุ


นกับฉู่มีอิงกลับมาทันเวลา รอดตายหวุดหวิด คนโดนลง
โทษจึงกลายเป็ นเฉินลูป่ ิ น โดนหยิกจนแขนเขียวข้อหาไม่
ดูลกู ให้ดี ภรรยามือหนัก สงสัยไม่อยากหายเอวยอก

เมือถึงเวลากลับ หร่วนจูอีมองแผ่นหลังลูกชายทีรออยู่
นอกตําหนัก หลังพระสนมรังราชบุตรเขยของฝ่ าบาทเอา

400
ไว้

“ดูแลเขาให้ดี ตอนนีเจ้าคือฟ้าของเขาแล้ว”

“ขอเหนียงเหนียงโปรดวางใจ” เฉินลูป่ ิ นเอ่ยด้วยนําเสียง


หนักแน่น นัยน์ตาเรียวงามสีขีเถ้าแน่วแน่สมดังคําสัตย์
ปฏิญาณ

401
.

พริบตาเดียว จากเดือนสีล่วงเข้าสูเ่ ดือนเก้า

ทางเดินปูหินสะอาดสะอ้านยาวจนสุดสายตา เด็กหญิง
ตัวน้อยวิงวนไปรอบๆ อย่างซุกซน ให้ความสนใจต่อรูป
ปั นเทพนักษัตรทีเรียงรายอยูด่ า้ นข้าง แววตาใสกระจ่าง
สะท้อนความสงสัยต่อต้นไม้ทีอยูถ่ ดั จากรูปปั นชัดเจน
ชายหนุ่มทีถูกเรียกว่าท่านพ่อเสียงเจือยตอบกลับยิมๆ
ว่า นันคือต้นบ๊วย เบ่งบานช่วงปลายฤดูหนาว ฉู่มีอิงพอ
ทราบว่าผลบ๊วยอบแห้งรสชาติดีอย่างไร ก็ไม่ให้ความ
สนใจกับต้นไม้อีก

402
สิบสีปี ก่อนเฉินเหวินเค่อไม่มีความกล้าแม้แต่จะก้าวขา
เข้ามาทีนี ต่อมาความเจ็บปวดล้วนถูกเยียวยาด้วยเวลา

แรงบีบจากปลายนิวดึงห้วงความคิดทีล่องลอยไปไกล
เฉินเหวินเค่ออุม้ ฉู่มีอิงขึนมา กว่าจะถึงจุดหมายระยะ
ทางยังอีกไกล อิงเอ๋อร์โตขึนมาก งานเลียงฉลองวันเกิด
ของนางพึงผ่านพ้นไปได้ไม่นาน ถึงฉู่มีอิงจะมิใช่เลือด
เนือเชือไขโดยตรง ดวงตาของนางเป็ นสีดาํ สนิทราวนํา
หมึกชันดี ทว่าพระบิดาทรงเอ็นดูหลานสาวคนนีหลาย
ส่วน ตอนเขาเข้าวังหลังเพือรับตัวฉู่มีอิงกลับจวน นาน
เท่าใดแล้วทีไม่ได้เห็นท่านแม่ยมิ

ฮุ่ยกุย้ เฟยคลอดพระโอรสสองพระองค์ให้จกั รพรรดิฝไู ฉ


จึงปฏิเสธไม่ได้วา่ ลึกๆ แล้ว หร่วนจูอีเองก็อยากมีบตุ รีสกั
403
คน

ข้างกันเฉินลูป่ ิ นอุม้ บุตรชายวัยหนึงขวบปี ชีนิวดูนนดู


ั นี
อย่างมีความสุข ใครใช้ให้คาํ แรกทีเสียวเล่อเล่อพูดได้คือ
คําว่า ‘พ่อ’ กันเล่า เฉินเหวินเค่อกรอกตา ถึงฟั งมิชดั นัก
แต่ใครบางคนดีใจแทบลอยขึนสวรรค์

กําหนดการเดินทางกลับฉางซีคือวันพรุง่ นีต้นยามเห
ม่า( 05:00 น.) อย่างน้อยก่อนจะกลับมาลาน้องชายเสีย
ก่อนก็ดี คราวนันเฉินฉางเล่อยังไม่ลืมตาดูโลก เป่ าขลุย่
ฉวีตีคาดเดาว่าลูกน้อยในท้องจะเกิดมาเป็ นบุตรหรือ
บุตรี

404
สุดท้ายได้ลกู ชายเสียด้วย

คนทังสีเดินผ่านรูปปั นกิเลน เฉินเหวินเค่อเห็นแล้ว


ประหวัดนึกถึงคนสกุลจิง

จิงเสวียบาดเจ็บสาหัสกลับมา เกือบรักษาลมหายใจสุด
ท้ายเอาไว้ไม่ได้ ขาข้างหนึงเหยียบย่างเข้าแดนนําพุ
เหลือง โชคดีชะตายังไม่ถงึ ฆาต แต่คงมิอาจก้าวหน้า
ทางการทหารได้อีก กระดูกข้อเท้าซ้ายแตกละเอียด ยาก
จะรักษาให้กลับมาเดินแบบคนปกติดงั เดิม ชายหนุ่ม
อย่างจิงเสวียต้องพิการตังแต่อายุยงั น้อย ดีทีรองแม่ทพั
ของเขาจิตใจเข้มแข็งสมกับสายเลือดสกุลจิง

405
ดวงตาทังสองข้างบอดเนืองจากถูกพิษ ด้วยการช่วยเห
ลือจากจือเฉิงหลัวของสกุลจ้าว แม้รกั ษาหายขาดได้
เพียงตาขวา ส่วนดวงตาข้างซ้าย แม้ไม่มืดบอดเสียที
เดียว แต่การมองเห็นเสมือนโดนม่านหมอกบดบังก็มิ
ต่างกันนัก

จิงเสวียฟื นคืนจากปากเหวยกมือปั ดผ่าน เขาโชคดีมาก


แล้ว

คิดย้อนกลับไป คําแรกทีจิงเสวียเอ่ยออกมาคือคําถาม
ว่า…ซือหม่าอยูท่ ีไหน?

ความผิดของซือหม่ามีโทษถึงตาย ทียังมีชีวิตรอดมาได้

406
จนถึงตอนนีเป็ นเพราะไม่มีใครกล้าตีสนุ ขั ไม่มองเจ้าของ
รวมถึงรายงานทีถวายแด่พระบิดา เฉินเหวินเค่อไม่ได้
เขียนเรืองนีลงไปด้วย จิงเสวียปิ ดปากเงียบ จิงสุย่ มิได้
อยูใ่ ต้บงั คับบัญชาของเขาโดยตรงอีกแล้ว ถึงอีกฝ่ ายจะ
เป็ นสหายเพียงคนเดียวทีสนิทชิดเชือมาตังแต่เยาว์วยั
ทว่าอย่างไรสุดท้ายเลือดย่อมข้นกว่านํา

ในฐานะกุนซือเคียงกาย ตามหลักเหตุผลกล่าวอ้างว่า
ใช้ผลงานทังชีวิตหักล้างความผิด เฉินเหวินเค่อมิได้ชืน
ชอบขโมยฟ้าเปลียนตะวัน[5] แต่ปฏิเสธไม่ได้วา่ พอ
ตําแหน่งแม่ทพั ตะวันออกพ้นออกจากมือ ปุถชุ นล้วนมี
ใจลําเอียง

เฉินเหวินเค่อช่วยเด็กคนหนึงจากค่ายโจรมาชุบเลียง ตัง
407
ชือให้วา่ ‘ซือหม่า’ เติบโตผูกพันกันมาเนินนาน

“เจ้ารูค้ วามผิดของตัวเองดีใช่หรือไม่”

ซือหม่าก้มหน้าคางชิดอกด้วยความละอายใจ “พ่ะย่ะ
ค่ะ”

“จริยชนล้วนสร้างผลงานเพือส่งต่อไปยังลูกหลาน ชือ
เสียงอันดีงามของบรรพบุรุษคือความภาคภูมิใจของชน
รุน่ หลัง นับแต่นีต่อไป ความดีความชอบทังหมดของเจ้า
จะไม่ถกู นํามาบันทึกไว้ ไม่มีผใู้ ดกล่าวถึง เจ้ากับข้าถือ
ว่าสินสุดกันตรงนี ไม่มีกนุ ซือ ไม่มีแม่ทพั ไม่ใช่ทงนาย

และบ่าว”

408
ซือหม่าสูดลมหายใจลึก ดวงตาทังสองข้างแดงกํา “เช่น
นันขอให้ซือหม่าผูน้ ี คุกเข่าคํานับท่านแม่ทพั เป็ นครังสุด
ท้ายได้หรือไม่พะ่ ย่ะค่ะ”

“ได้”

คนบางคนยอมทําทุกอย่างเพือมิให้ถกู ลืม แต่บางคน


สามารถละทิงชือเสียงเกียรติยศ เพือมิให้ถกู โกรธเกลียด

จิงเสวียถึงคราวต้องออกเรือนหลายหน แม่ทพั ใหญ่จิงผู้


เป็ นบิดาโมโหลูกชายคนเล็กอกแทบแตก ขอเพียงให้จิง
เสวียเลิกดือด้าน เรืองชาติกาํ เนิดลูกสะใภ้ สกุลจิงไม่

409
ถือสา

ซือหม่าเป็ นตัวเลือกทีไม่เลว

คิดกับตนเองเรือยเปื อย รูต้ วั อีกทีก็เดินมาถึงตําหนักฉาง


หลิงเอิน เฉินเหวินเค่อชีตัวอักษรสามตัว ในสายตาของฉู่
มีอิงเห็นเพียงเส้นยึกยือชวนปวดเศียร นางยูป่ ากมิชอบ
ใจ

“สามเชือฟั งสีคุณธรรม[6] ต่างเป็ นเรืองทีสตรีตอ้ งเรียนรู ้


จริงอยูบ่ รุ ุษโดยทัวไปมิชืนชอบสตรีฉลาด แต่เจ้าคือท่าน
หญิงของจวนหวาง ก็สมควรอ่านออกเขียนได้ แล้วเป็ น
หญิงทําหน้าตาน่าชังเช่นนีได้ทีไหนกัน มันไม่งาม” เฉิน

410
เหวินเค่อกล่าวเสียงดุ

“แต่ลกู มิชอบเรืองสามเชือฟั งสีอะไรนันเลยเจ้าค่ะ” ฉู่มี


อิงเบะปาก

“ท่านนีก็…” เฉินลูป่ ิ นทีฟั งอยูส่ า่ ยหัวห้ามปราม “นาง


อายุแค่นีเอง ปล่อยให้นางโตขึนตามความต้องการของ
นางเถอะ เราแค่อบรมจริยธรรมให้นางก็พอ หากอิงเอ๋อร์
ไม่ชอบก็อย่าไปบังคับลูกเลย”

“แต่...”

เฉินเหวินเค่อเติบโตมากับการอบรมทีเข้มงวดของฮุ่ยกุย้
411
เฟย พอมีลกู เลยอดจะจูจ้ ีเรืองมารยาทตามมิได้ ผิดกับ
เฉินลูป่ ิ นทีเป็ นทายาทสายตรงเพียงคนเดียว ถูกเอาใจ
มากตามประสา

ใบหน้างามขยับเข้ามาใกล้ เฉินลูป่ ิ นกระซิบเสียงแผ่ว


เบาราวปุยนุ่น “ในอนาคตอิงเอ๋อร์ตอ้ งแต่งงานออกเรือน
การให้นางเป็ นสตรีทีเพียบพร้อมนับว่าดี แต่บตุ รี
แต่งออกก็เสมือนคนนอกตระกูล หากสามีนางไม่เอา
ไหน โดนรังแกขึนมา จริยธรรมหญิงก็ช่วยอันใดมิได้”

“มันตัวไหนกล้ารังแกลูกสาวข้า ข้าไม่เอาไว้แน่! มีสามีไม่


ดีก็ช่างหัวมันสิ หย่าขาดกลับมาอยูบ่ า้ นเดิม ลูกสาวคน
เดียวทําไมข้าจะดูแลไม่ไหว” เฉินเหวินเค่อกัดฟั นตอบ
“แล้วนางพึงห้าขวบ เจ้าคิดไกลถึงเพียงนัน”
412
เฉินลูป่ ิ นหัวเราะร่วน ลูกชายวัยครบขวบอ้าปากหัวเราะ
ตาม

“คนเป็ นพ่อแม่มีลกู แล้วพริบตาเดียวก็แก่เฒ่า พอนาง


สิบห้าถึงวัยปั กปิ นก็โตเป็ นสาวแล้ว ท่านคิดจะให้นาง
แต่งงานออกเรือนตอนอายุเท่าไรกันเล่า”

“ยีสิบห้ากําลังดี”

นางกํานัลในวังพออายุเท่านีต่างออกจากวังไปแต่งงาน
กันทังนัน ใครมีเจ้านายดี เมตตารักใคร่เอ็นดูก็นบั ว่ามี
วาสนา ครอบครัวพลอยสุขสบายตามๆ กันไป

413
เฉินลูป่ ิ นฟั งคําตอบพลันสําลักอากาศ “แค่ก…เหวินเก
อ ให้นางแต่งตอนอายุเท่านันก็เป็ นสาวเทือแล้ว”

“ข้าแต่งกับเจ้าตอนอายุสามสิบ ยีสิบห้านับว่าเร็วแล้ว
เถอะ”

“ท่านเป็ นบุรุษไม่เหมือนกันเสียหน่อย ว่าก็วา่ เรืองเช่นนี


มีหรือท่านจะไม่รู ้ คงมิใช่หว่ งนางจนเกินเหตุหรอกหรือ”

“เหอะ!” เฉินเหวินเค่อแค่นเสียง “แล้วเจ้ามิหว่ งนางหรือ


ไง”

414
เฉินลูป่ ิ นเพียงขยับยิมหวานหยดย้อยดังมีดอาบนําผึง
เฉินเหวินเค่อพิศดูแล้วเสียวสันหลังวาบ รูส้ กึ ลมทีพัด
ผ่านผิวกายหนาวเย็นโดยมิทราบสาเหตุ

“ช่างเถอะ ไม่พดู กับเจ้าแล้ว”

เฉินเหวินเค่อสะบัดหน้าหนี เดินนําเข้าไปด้านใน

มองป้ายวิญญาณสลักชือน้องชายร่วมอุทรขอบตาร้อน
ผ่าว อย่างน้อยตอนนีเขามีชีวิตทีดี สามารถพูดว่ามี
ความสุขได้เต็มปาก หวนนึกถึงวัยเยาว์สองพีน้องนัง
เคียงข้างกัน สนทนาถึงอนาคตภายภาคหน้า เฉินคังเล่อ
ไม่คาดหวังความรุง่ โรจน์ในชีวิตตนเอง จึงคาดเดาไป

415
ต่างๆ นานาว่าสุดท้ายแล้วเฉินเหวินเค่อจะกลายเป็ น
จักรพรรดิผยู้ งใหญ่
ิ หรือหลุดพ้นจากอํานาจ ใช้ชีวิตเรียบ
ง่ายสงบสุขกับใครสักคน

เจ้าดูอยูไ่ หม…

เกอแต่งงานมีครอบครัวแล้วนะ

“ท่านแม่มาทีนีทําไมหรือเจ้าคะ”

“มาลาท่านอาของเจ้า”

“อิงเอ๋อร์มีทา่ นอาอีกคนด้วยหรือเจ้าคะ” ฉู่มีอิงหันซ้าย


416
หันขวามองหาคนทีว่า “เขาไม่อยูน่ ีเจ้าคะ”

“เขายังอยูท่ ีนี” เฉินเหวินเค่อจับมือเล็กวางลงบน


ตําแหน่งหัวใจ “อยูใ่ นนีเสมอไม่เคยจากไปไหน”

ดวงตาดําขลับจ้องเขม็งไปทีมือของตนเองอย่างฉงน
สงสัย ฉู่มีอิงเงยหน้าขึนช้าๆ ก่อนจะกล่าวว่า “อยูใ่ นหน้า
อกของท่านแม่หรือเจ้า…คนอะไรประหลาดจัง” ท้าย
เสียงบ่นพึมพําไม่ดงั นัก

เฉินเหวินเค่อได้ยินเข้าเกือบจะกัดลิน ส่วนเฉินลูป่ ิ นกลัน


ขําจนตัวสัน อ่อนอกอ่อนใจกับบุตรีทีทังซุกซนและใสซือ

417
“จําทีบิดาบอกว่ามารดาเจ้ามีนอ้ งชายได้ไหม ท่านอา
ของเจ้าถูกสวรรค์รบั ตัวไปตังแต่อายุยงั น้อย เขาจึงอยูค่ น
ละโลกกับเรา ไม่อาจพบเจอหรือพูดคุย” เฉินลูป่ ิ นช่วย
พูดแก้

ฉู่มีอิงพยักหน้า “ถ้าเช่นนันก็น่าเศร้านะเจ้าคะ”

“เพราะฉะนันเมือเจ้าคิดถึงคนทีจากไป จึงต้องใช้หวั ใจ
หาใช่หน้าอก”

“แม้มองมิเห็น แต่รบั รูไ้ ด้” เฉินเหวินเค่อกล่าวต่อ

“ไม่ใช่หน้าอกจริงๆ หรือเจ้าคะ?”
418
“…ลูกรัก ไม่ใช่”

ฉู่มีอิงยูป่ าก กระโดดลงมาจากอ้อมแขนของมารดา นาง


มิชอบโดนอุม้ เท่าใดนัก อีกอย่างท่านพ่อบอกว่าช่วงนี
ท่านแม่ไม่คอ่ ยมีแรง ถึงมารดาของอิงเอ๋อร์จะเป็ นยอด
บุรุษ แต่นางมิอยากให้ทา่ นแม่ตอ้ งเหนือย

เด็กหญิงวัยห้าขวบเดินไปเกาะขาบิดา หวังอยากเล่นกับ
น้องชายเสียหน่อย เสียดายเสียวเล่อเล่อผล็อยหลับไป
เสียก่อน ฉู่มีอิงจิมแก้มยุย้ เหมือนก้อนแป้งสักสองสามที
ไม่นานก็ผละออก

419
เฉินลูป่ ิ นให้เวลาเฉินเหวินเค่ออยูก่ บั ตัวเอง อุม้ บุตรชาย
ไว้ในอ้อมแขน ชีชวนบุตรสาววัยกําลังซนดูนนดู
ั นี ส่วน
มากจะเป็ นพืชพรรณนอกตําหนักสุสาน น่าหนักใจเล็ก
น้อยยามอิงเอ๋อร์ถามว่าดอกไม้อนั ไหนอร่อย บุรุษรูป
งามหัวเราะแห้ง…ตัวตะกละน้อย เจ้าจะกินทุกอย่างมิ
ได้หนา

กระทังใบหน้าคมคายหันมาสบตากับเขาพร้อมรอยยิม
หนึง

มือขาววางบนลาดไหล่กว้าง ในทีสุดความหนักอึงก็ถกู
ปลดปล่อยโดยสมบูรณ์เสียที

420
เฉินเหวินเค่ออุม้ ฉู่มีอิงทีซนจนเหนือยขึนมา มองสลับ
เด็กน้อยทังสอง ต่างหลับคาอ้อมอกทังคู่ คนหนึงถึงเวลา
นอน อีกคนก็หมดแรงพยศ

“เหวินเกอ”

“อือ”

“กลับบ้านเรากันเถอะ”

เฉินเหวินเค่อมองมือขาวกระจ่างทียืนมาทางเขาเนิน
นาน…บ้านกระนันหรือ คนข้างกายมิได้เอ่ยเร่งเร้า ยัง
เฝ้าคอยใครอีกคนวางมือลงมาอย่างใจเย็น อย่างทีเคย
421
เป็ นเสมอมา

รอยยิมบางเบาถูกวาดขึนบนใบหน้า ยากจะบอกว่าเป็ น
รอยยิมแบบไหน แต่ไม่สาํ คัญเท่าความรูส้ กึ สุขใจทีเฉินลู่
ปิ นสัมผัสได้

“อืม” เฉินเหวินเค่อเพียงตอบรับสันๆ

ไม่นานมือของคนทังสองสอดประสาน ท่ามกลางสาย
ลมรวยรินพัดผ่าน จับจูงเคียงคูก่ นั ไป

(จบบริบรู ณ์.)

422
ข้อมูลเพิมเติม

[1] กู่เจิง เป็ นเครืองสายดีดโบราณของจีนซึงมีประวัติ


ยาวนานประมาณ 2500 ปี โดยเริมแรกจากสมัยจ้านกัว
ทําจากไม้และพัฒนามาอย่างต่อเนืองถึงสมัยฮันเป็ น 12
สาย สมัยถานและซ่งเป็ น 13 สาย สมัยชิงเป็ น 16สาย
จนถึง ค.ศ. 1960 ได้พฒ
ั นาเป็ น 18 21 23 และ 26 แต่
ส่วนมากปั จจุบนั นิยมใช้ 21

[2] หวงจือ : องค์ชาย

[3] เม่ยเหม่ย : น้องสาว

423
[4] ดอกอวีจัน : ดอกปิ นหยก

[5] ขโมยฟ้าเปลียนตะวัน หมายถึง การตบตา บิดเบือน


ความเป็ นจริง

[6] สามเชือฟั งสีคุณธรรม 三从四德 คือ กรอบ


คุณธรรมทีใช้ในการอบรมกุลสตรีชนสู
ั ง

บทส่งท้าย

งานเลียงคืนส่งท้ายปี จวนเฉินอันเข้าร่วมทุกครังไม่เคย
ขาด เว้นเพียงปี นีเฉินอันหวางเฟยล้มป่ วยกะทันหัน
424
จักรพรรดิกบั ฮุ่ยกุย้ เฟยจึงทําได้เพียงส่งจดหมาย กําชับ
ให้รกั ษาตัว

ถงเห่ากางร่มในมือบังหิมะให้เจ้านายน้อย หลังจาก
ทราบว่าเสียวหงคือหวางเฟย พีชายเดินทางกลับฉางซี
ได้พาเขากลับมาด้วย ถงกวาถนัดงานครัว เดิมทีถงเห่า
คาดว่าตนเองก็คงหนีไม่พน้ มิคาดว่าเมือหวางเฟยเสด็จ
กลับจวนหวาง พระองค์ตรัสกับเขาว่า ‘สําหรับข้าเสียว
หงสูไ่ ม่เคยมีตวั ตนอยูจ่ ริง แต่ไม่ใช่กบั เจ้า เจ้าเป็ นเด็ก
กล้าหาญ มีไหวพริบ หากฉางเล่อมีผตู้ ิดตามเช่นเจ้า ข้า
ก็วางใจ’

ถงเห่าได้ราเรี
ํ ยนวรยุทธสมใจปรารถนา ทังบุคคลทีคอย
สอนสังเป็ นตัวตนทีไม่อาจเอือมถึง
425
ผ่านมาแล้วแปดปี ท่านชายน้อยอายุครบเก้าขวบ

หิมะตกหนักหนาวบาดลึกถึงกระดูก ดอกเหมยแดงดอก
แล้วดอกเล่าผ่านสายตา แต่ไม่มีดอกไหนเลยทีถูกใจ

เล่าว่าบิดามารดาพานพบกันคราแรก ณ สวนเหม
ย เวลานีท่านแม่ลม้ ป่ วยอาการไม่สดู้ ี ท่านพ่อร้อนใจ ใน
ฐานะบุตรชาย เฉินฉางเล่อไม่อยากนังรออยูเ่ ฉยๆ

“เสียวซือหวาง[1]เลือกมาสีกิงแล้ว ข้างนอกหิมะดูทา่ จะ
ตกหนักขึนอีก หากท่านป่ วยไปอีกคน หวางเย่จะหาว่า
บ่าวดูแลท่านไม่ดี กลับเข้าเรือนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ถงเห่าพูด

426
โน้มน้าว

ท่านชายน้อย ข้าน้อยมิเพียงโดนดุดา่ แต่ชะตาอาจถึง


ฆาตนะขอรับ ถงเห่าคิดนําตาตกใน ตลอดมาพีชายของ
เขารูส้ กึ เช่นนีนีเอง

เฉินฉางเล่อมองผูต้ ิดตาม ใช่วา่ ไม่เข้าใจหัวอก ท่านพ่อ


ปกติทา่ ทางใจดีผิดกับท่านแม่ทีเข้มงวด แต่ถา้ ให้เลือก
ว่าผูใ้ ดน่ากลัวกว่ากันว่าระหว่างบุพการีบงั เกิดเกล้าทัง
สอง ท่านพ่อคือคนทีน่ากลัวทีสุด

“ปกติทา่ นแม่เป็ นคนแข็งแรง ตังแต่จาํ ความได้ขา้ ไม่เคย


เห็นท่านแม่ป่วยหนักเลยสักครัง ไม่แปลกหากท่านพ่อจะ

427
อารมณ์ไม่ดี…เอาเถอะ กลับเข้าไปข้างในกัน เจ้าไป
หยิบแจกันเคลือบขาวมาให้ขา้ ขาวล้วนมีแดงตัด คงพอ
ช่วยให้บรรยากาศดีขนบ้
ึ าง”

ปี นีสวนเหมยในจวนดูเหียวเฉา ไม่สดใสดังเก่าก่อน เฉิน


ฉางเล่อหันกลับไปมอง หิมะตกหนักขึนอีก

เวลานีท่านพ่ออยูใ่ นห้องหนังสือ ระหว่างทางไปเรือน


หลังเฉินฉางเล่อเห็นนางกํานัลหลายคนเดินสวนทาง
ด้วยท่าทางตืนตระหนก....คล้ายจะได้ยินเสียงแก้วแตก
ท่านพ่อมีหน้าทีทีไม่อาจละทิง แต่จิตใจไม่อยูก่ บั งานที
จําเป็ นต้องทํา อารมณ์วนั นีจึงแย่ลงกว่าเดิมมากนัก

428
ชายหนุ่มคนหนึงรีบเร่งฝี เท้ากระวนกระวาย เฉินฉางเล่อ
จําอนุภรรยาของท่านพ่อได้ทกุ คน กับจวนอืนเขาไม่
ทราบความสัมพันธ์ แต่อีเหนียงทุกคนในเรือนหลังต่างดี
ต่อเขา เฉินฉางเล่อไม่เพียงโตมากับบิดามารดาและพี
สาว แต่ยงั นับรวมเหล่าอนุภรรยาเข้าไปด้วย อีเหนียงแต่
ละคนต่างเปี ยมความรูค้ วามสามารถ จึงไม่แปลกนัก
หากเฉินฉางเล่อจะโตขึนมามีความคิดอ่านลําหน้ากว่า
วัย

“เยียอีเหนียง[2]” เฉินฉางเล่อเอ่ยทักทาย ในมือถือกิง


ดอกเหมยแดง

อนุสกุลเยียเห็นท่านชายน้อยก็ยกยิม รีบเข้ามาทําความ
เคารพ เยียอีเหนียงชอบโคลงกลอนคัดอักษร ปกติคอย
429
ช่วยฝนหมึกให้ทา่ นแม่อยูบ่ อ่ ยครัง

“เสียวซือหวาง”

“ข้าได้ยินพ่อบ้านเหมาบอกว่า ท่านไปช่วยงานท่านพ่อที
ห้องหนังสือมิใช่หรือ”

“ความจริงแล้วข้าช่วยซุนฮวานดูแลหวางเฟยอยู่ พอ
พระองค์ทราบว่าหวางเย่กาํ ลังทํางานก็สง่ ข้ามาช่วย แต่
หวางเย่อารมณ์ฉนุ เฉียวนักวันนี ใครต่อใครเข้าไป
รบกวนล้วนถูกไล่ตะเพิดออกมาจนหมด หวางเย่ทรงเป็ น
ห่วงพระอาการของหวางเฟย หวางเฟยก็เกรงหวางเย่จะ
เคร่งเครียดจนมิได้พกั ผ่อน ข้าไม่รูจ้ ะทําอย่างไรแล้ว…

430
ดอกเหมย ท่านชายน้อยกําลังจะไปหาหวางเฟยใช่หรือ
ไม่” เยียอีเหนียงพูดพลางถอนหายใจพลาง กระทัง
สังเกตเห็นดอกเหมยในมือของท่านชายน้อย

“อืม ข้ากําลังไปหาท่านแม่”

“เช่นนันท่านรีบหน่อยเถิด ตอนข้าออกมาหวางเฟยพึง
รับยา ตอนนีอาจจะยังตืนอยู”่ เยียอีเหนียงค้อมกายเอ่ย
ขอตัว “ข้าได้ยินว่าสุย่ เซียนลงครัวตุน๋ รังนกให้หวางเฟย
ข้าจะแวะไปดูนางเสียหน่อย”

“ท่านไปเถอะ”

431
แม้ทา่ นแม่จะป่ วย แต่เหล่าอนุภรรยาลงแรงแข็งขันเช่นนี
เฉินฉางเล่อก็เบาใจ

รีบเดินต่อไม่นานนักก็ถงึ เรือนซือจิง ท่านพ่อเขียนอักษร


ด้วยตัวเอง ‘ซือ’ อันหมายถึงความสุข และ ‘จิง’ คือความ
สงบ ทังสองคําต่างมอบให้ทา่ นแม่

“ข้าไม่เป็ นอะไรมากสักหน่อย บอกแล้วว่าไม่กีวันก็หาย”

“ช่วงนีสภาพอาการแปรปรวน เกิดอาการทรุดขึนมา
อีกรอบจะทําอย่างไร”

“เจ้าคิดมากไปแล้ว”
432
“เพราะเป็ นท่านข้าถึงคิดมาก”

เฉินฉางเล่อไม่จาํ เป็ นต้องเห็นหน้าผูพ้ ดู ก็ทราบทันทีวา่


เป็ นใคร

ท่านชายน้อยยกนิวชีจรดริมฝี ปาก ส่ายหน้าบอกเหล่าข้า


รับใช้มิให้สง่ เสียงรบกวนบุคคลทังสองในห้อง

ใบหน้าคมคายของท่านแม่ยงั ซีดเซียว แต่ก็สดใสขึนมาก


ท่านพ่อหยิบผ้าห่มอีกผืนคลุมให้ทา่ นแม่อีกชัน

ยิงทํางานจิตใจก็ไม่สงบ ไม่วา่ อย่างไรต้องแวะมาเฝ้าดู


433
ในระยะสายตา เฉินลูป่ ิ นประคองคนป่ วยลุกขึนนัง คน
ดือกินยาไปแล้ว แต่ยงั ไม่อยากพัก กล่อมเท่าใดก็ไม่ฟัง
น่าตีนกั

เฉินเหวินเค่อเห็นอีกฝ่ ายทําหน้าหงิก ขมวดคิวงามดังใบ


หลิวยุง่ เหยิงไม่น่ามองก็หน่ายใจ เขาแค่ไม่สบาย อาการ
แย่ลงนิดหน่อยเพราะอากาศหนาว ทําอย่างกับเขาจะ
ตายเสียอย่างนัน

“ข้านอนเยอะแล้ว เบือ” เฉินเหวินเค่อกล่าว

“แล้วต้องให้ขา้ ทําอย่างไร ท่านถึงยอมพักแต่โดยดี”

434
“ข้าชอบตอนเจ้าเล่นฉิน...เจ้าเล่นให้ขา้ ฟั งดีไหม”

ฝี มือของเฉินลูป่ ิ นดีมาก เฉินเหวินเค่อไม่ได้ยินทํานอง


เพลงทีกล่อมจิตกล่อมใจมานานแล้ว น่าคิดถึงไม่นอ้ ย
บุรุษรูปงามเล่นดนตรีให้ฟัง คงหลับได้อย่างง่ายดาย
ใครบางคนจะได้เลิกอารมณ์ไม่ดีเสียที

“เสียวเล่อ?” เสียงหวานเอ่ยเรียกจากทางด้านหลัง

เฉินฉางเล่อเห็นพีสาวรีบเดินตรงเข้ามา ท่านชายน้อยยก
มือส่งสัญญาณให้เบาเสียง ฉู่มีอิงนึกสงสัย แต่เมือมา
แอบดูตรงมุมของน้องชาย นางก็เข้าใจ

435
“ในทีสุดท่านพ่อก็ยมเสี
ิ ยที เจียเจียกับอีเหนียงหลายคน
พยายามตังมากมาย กลับสูท้ า่ นแม่เพียงคนเดียวไม่ได้”
ฉู่มีอิงกล่าวพร้อมหัวเราะคิกคัก

สีแดงของดอกเหมยค่อนข้างโดดเด่น ตัดกับมือขาวผ่อง

“นันเอามาให้ทา่ นแม่หรือ” ฉู่มีอิงชีไปยังดอกไม้ทีน้อง


ชายถืออยู่

“อืม!”

ดรุณีนอ้ ยหันกลับไปมองบิดามารดา ได้ยินเสียงเพลง


แว่วหวาน ช่วงเวลานีไม่รบกวนจะดีกว่า สองพีน้องจูง
436
มือกันเดินออกจากเรือนซือจิง จังหวะเดียวกับถงเห่าที
รีบวิงมาถึงพร้อมแจกันเคลือบขาวในมือ

“เสียวซือหวาง แจกันพ่ะย่ะค่ะ”

เฉินฉางเล่อโยนดอกเหมยในมือทิง ทังทีลงแรงเลือกเฟ้น
อยูน่ านเกือบครึงชัวยาม ถงเห่าไม่ซกุ ซ่อนสีหน้างุนงง

ท่านชายน้อยขยับยิมบาง “ไม่จาํ เป็ นต้องใช้แล้ว”

“เสียวเล่อไปหาสุย่ อีเหนียงกับเจียเจียไหม นางลงครัว


ตุน๋ รังนก ทําขนมตังหลายอย่าง”

437
อนุภรรยาคนนีฝี มือดีมาก แม้อาหารคาวมิสทู้ า่ นพ่อ แต่
ขนมหวานนางทําได้ดีกว่า ขนาดท่านพ่อยังยอมรับเลย
ว่าสุย่ อีเหนียงมีฝีมือมากกว่าตนเองหนึงขัน

เฉินฉางเล่อพยักหน้า “อือ! ไปสิ”

ท่านหญิงกับท่านชายน้อยเดินจากไป ทิงถงเห่าทีตาม
สถานการณ์ไม่ทนั ยืนถือแจกันไว้ลาํ พัง

ไม่จาํ เป็ นต้องใช้แล้ว…

หมายความว่าอย่างไรกัน?

438
[1] ซือหวาง : โอรสผูส้ ืบทอดในอ๋องจะมีตาํ แหน่งเป็ น
ซือหวาง หรือซืออ๋อง (嗣王)

[2] อีเหนียง เป็ นคําสรรพนามใช้เรียกอนุภรรยา ชือ


สกุล+อีเหนียง

END

439

You might also like