You are on page 1of 971

บทที 59 ลําบากนายท่านแล้ว

ภายในห้อง จีเหิงกําลังนังเล่นพัดในมืออย่างไม่ยีหระ

หากมีใครสามารถเดินเข้ามาในห้องของเขาได้จะต้อง
ตกใจเป็ นแน่ ซูก่ วกงที
ั ชืนชมแต่ของสวยงามท่านนี กลับ
มีหอ้ งหนังสือทีเรียบง่ายอย่างไม่น่าเชือ ทัวทังห้องดู
กว้างขวางโปร่งสบาย ตกแต่งด้วยสีขาวดําทําให้รูส้ กึ
เรียบโล่ง

หากสายตาของผูม้ าเยือนกวาดมองมาถึงใบหน้าอัน
หล่อเหลาของจีเหิงเข้า พวกเขาก็จะรูเ้ องว่าความว่าง

1
เปล่าของห้องหนังสือนันถูกเติมเต็มในทีสุด

ตะเกียงส่องแสงรําไร ในห้องยังมีบรุ ุษอีกคนนังอยู่

ลูจ่ ียงั คงสวมอาภรณ์ของสํานักบัณฑิต เขาไว้หนวดเครา


เล็กน้อยบนใบหน้า “วันนีนายท่านแวะไปทีสนามสอบ
ได้ฟังดนตรีแล้วรูส้ กึ อย่างไรบ้าง”

“น่าเบือ” จีเหิงกล่าวอย่างเกียจคร้าน

“แต่พรุง่ นียังจะต้องไปชมการแข่งขันขีม้ายิงธนูอีกนะขอ
รับ ลําบากนายท่านแล้ว”

2
จีเหิงกลอกตาไปมาราวกับอดรนทนไม่ไหว

เขาไม่เพียงแต่เป็ นผูค้ มุ สอบวิชาดนตรีเท่านัน ยังรวมไป


ถึงวิชาขีม้าและยิงธนูดว้ ย ในวันพรุง่ เขายังคงต้องไป
สนามสอบอีกครัง

“เหตุใดฮ่องเต้จงึ รับสังให้นายท่านไปเป็ นผูค้ มุ สอบเล่า”


ลูจ่ ีถามด้วยความสงสัย

“ลูจ่ ี ข้าเรียกตัวเจ้า ไม่ใช่เพือให้มาตังคําถาม” ลูจ่ ีพลัน


เกิดความหวันเกรง เขาไม่ควรถามในเรืองทีไม่มีสทิ ธิเอ่ย
ถึง แต่กลับได้ยินคนทีอยูต่ รงหน้าตอบว่า “ฝ่ าบาทต้อง
การให้ขา้ ไปเฝ้าจับตาเฉิงอ๋อง”

3
เฉิงอ๋องรึ ลูจ่ ีตกใจนัก แต่แล้วก็เข้าใจได้ทนั ที

ถึงแม้ฮ่องเต้หงเซียวจะขึนครองราชย์ แต่องค์รชั ทายาท


นันยังเยาว์วยั นัก หากเฉิงอ๋องยังอยูก่ ็เสมือนหนาม
ยอกอกของพระองค์ ทว่าเฉิงอ๋องผูน้ ีมีพระสนมหลิวคอย
หนุนหลัง ฮ่องเต้หงเซียวทรงเป็ นผูป้ กครองทีมากด้วย
คุณธรรม หากยังจับพิรุธเฉิงอ๋องไม่พบก็คงทําอะไรเขา
ไม่ได้ จึงจําเป็ นต้องปล่อยเฉิงอ๋องไปก่อน แต่ดว้ ยนิสยั
ของผูค้ รองแผ่นดิน อย่างไรเสียก็ไม่คอ่ ยไว้วางใจผูใ้ ด ใน
เมือเฉิงอ๋องเดินทางมาดูการสอบใหญ่ ฮ่องเต้หงเซียวจึง
จัดแจงให้จีเหิงตามไปด้วย

แต่วา่ ... ลูจ่ ีอดมองชายหนุ่มตรงหน้าไม่ได้ ฮ่องเต้หง


4
เซียวคงจะไม่รูว้ า่ ตอนนีเฉิงอ๋องมีอาํ นาจมากขนาดไหน
ลําพังจีเหิงคนเดียวคงไม่สามารถต่อกรฝ่ ายนันได้

ให้จีเหิงจับตาดูเฉิงอ๋องรึ จีเหิงไม่ถือโอกาสนีเข้าร่วมกับ
เฉิงอ๋องก็นบั ว่าดีถมไปแล้ว

“ท่านเสนาบดีสนิทกับเฉิงอ๋องมาก” จีเหิงกล่าวอย่างไม่
ใส่ใจ “ข้าคิดว่าท่านจงซูเส่อหลางก็คงใกล้จะสวามิภกั ดิ
ฝ่ ายนันแล้ว”

“เสินอวีหยงหรือ” ลูจ่ ีกล่าวทวน “เขากับองค์หญิงหย่ง


ื าลับๆ ทีผูค้ น
หนิง คล้ายดัง...” ลูจ่ ีเพียงแต่คิดถึงเรืองเล่
กระซิบกระซาบกัน แต่ไม่รูว้ า่ จะพูดออกมาอย่างไร

5
อย่างน้อยอีกฝ่ ายก็เป็ นถึงองค์หญิง ทําเรืองน่าอับอาย
เช่นนีได้ เขาแทบไม่อยากจะเชือ

“นีก็เป็ นละครชันดีอีกเรือง เพียงแต่ดมู ากเกินไปอาจรูส้ กึ


เบือหน่าย ปล่อยพวกเขาไปเถิด” จีเหิงคลีพัดในมือ บน
นันมีภาพโบตันดอกใหญ่ทีกลีบดอกโค้งมนราวกับของ
จริง เพราะทําจากไหมทองคํา จึงส่องประกายวาววับ

“ถ้าเช่นนัน ในวันพรุง่ ...”

“เฉิงอ๋องไม่โง่เขลาขนาดลงมือในสนามสอบกระมัง
ฮ่องเต้ทรงกังวลจนเกินเหตุ” จีเหิงกล่าว “ข้าไปแล้วก็ไม่
มีอะไรให้ทาํ แต่วา่ ...” จีเหิงชะงักถ้อยคํา “ให้เจ้าคอยจับ

6
ตาดูทา่ ทีของเย่ซือเจียดีๆ”

“เย่ซือเจียมีอะไรหรือขอรับ” ลูจ่ ีลองคาดเดา “ตอนนีเขา


เป็ นบัณฑิตอันดับหนึงของสํานักบัณฑิตชาย ย่อมจะมี
ประโยชน์ในไม่ชา้ ”

“ไม่ตอ้ งคิดถึงอนาคต สนใจเพียงว่าเหตุใดจู่ๆ เขาก็ตีตวั


ออกห่างจากหลีเหลียน ไม่สนิทสนมเหมือนเคย” จีเหิง
ยิมแฝงความนัย “ข้าอยากรูน้ กั ว่า ใครกันเป็ นคนทีเตือน
เขา”

ลูจ่ ีตะลึงงัน ไม่พดู อะไรต่อ

7
คืนนี เจียงหลีนอนหลับสนิท

นางฝันเห็นเซวียเจากับตนขีม้าคนละตัว ห้อตะบึงรุกไล่
อยูก่ ลางป่ า ลูกธนูของเซวียเจาไม่เพียงพอเขาจึงแย่งเอา
ของนางไป ถุงใส่ของบนหลังม้าทีนางขีมีสตั ว์ทีล่ามาได้
อยูเ่ ต็มถุง

ขณะทีพวกเขาสองคนกําลังจะกลับ จู่ๆ ก็มีเสือตัวหนึง


ผ่านเข้ามา เพือปกป้องนาง เซวียเจาจึงขีม้าล่อเสือไปอีก
ทาง ส่วนนางนันไล่ตามเขาไม่ทนั เห็นเพียงแผ่นหลังของ
เซวียเจาค่อยๆ เลือนหายไปจากสายตาเจียงหลีตืนนอน
พร้อมกับเหงือเต็มกรอบหน้า ถงเอ๋อเองก็พลอยตกใจไป
ด้วย นางรีบหยิบก้อนนําแข็งในโครงบรรจุนาแข็
ํ งรูปวัว
สําริดพลางบ่นว่า “ห้องครัวทางนันเอานําแข็งให้พวกเรา
8
น้อยเกินไป...”

ขณะเดียวกัน ไป๋ เสวียก็ประคองชุดขีม้าตัวใหม่เข้ามา


“คุณหนู จัดเตรียมเสือผ้าเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”

“วางไว้บนโต๊ะ”

การขีม้าพร้อมกับยิงธนูบงั คับให้นางต้องใส่ชดุ ขีม้าที


ทะมัดทะแมง เป็ นเพราะเจียงหลีไม่เคยมีชดุ ประเภทนี นี
จึงเป็ นอาภรณ์ทีฮูหยินผูเ้ ฒ่าสังคนตัดเย็บให้นางเป็ น
พิเศษ อาจเพือแสดงให้เห็นถึงความยุติธรรมก็เป็ นได้ ใน
เมือหลานสาวทังสีคนของจวนตระกูลเจียงล้วนมีชดุ ขีม้า
ด้วยกันทุกคน เนือผ้าทีใช้ตดั เย็บนันพวกนางต่างเลือก

9
เฟ้นด้วยตนเอง แน่นอนว่าผ้าเนือดีทีสุดต้องยกให้เจียง
โย่วเหยา

เนืองจากการสอบขีม้ายิงธนูเริมตังแต่เช้า เจียงหลีจงึ
ต้องตืนไปรวมกับทุกคนทีสวนหวันฟ่ งถาง นางไปถึงใน
เวลาทีเหมาะสม คนอืนๆ ก็เพิงจะทยอยมาถึงเช่นกัน
เจียงอวีเอ๋อและเจียงโย่วเหยาพินิจพิจารณาเจียงหลี

ชุดขีม้าของเจียงโย่วเหยาเป็ นสีชมพูตลอดร่าง เดิมทีนาง


ก็งดงามอยูแ่ ล้ว สีชมพูยงขั
ิ บเน้นให้นางดูสดใสสมวัย
ชุดขีม้าของเจียงอวีเอ๋อเป็ นสีนาเงิ
ํ นรับกับเรียวคิวโดด
เด่นและรอยยิมทรงเสน่ห ์ ชุดของเจียงอวีเยียนนันมีสี
เหลือง อาจเพราะนางไม่ใช่คนผิวขาว สีเหลืองจึงทําให้
เจียงอวีเยียนดูหม่นแสงลงไปสักหน่อย เรียกว่าแทบจะ
10
กลืนหายไปกับฝูงชน

ชุดขีม้าของเจียงหลีเป็ นสีเขียวทีนางชืนชอบ แม้กระทัง


ชุดขีม้าก็ยงั เลือกสีนี เดิมทีหน้าตาของเจียงหลีก็งดงาม
น่ารัก บางคนค่อนแคะว่านางค่อนข้างจืดชืด นางจึงรูว้ า่
ตนเองไม่เหมาะกับชุดขีม้าทีมีสีเข้มดุดนั เช่นนี แต่ไม่รูว้ า่
เพราะเหตุใด พอนางสวมชุดนีกลับดูทะมัดทะแมง มี
ชีวิตชีวาอย่างบอกไม่ถกู

แม้แต่ฮหู ยินผูเ้ ฒ่าเองก็ยงั อดชืนชมไม่ได้

เจียงโย่วเหยาพลันรูส้ กึ ไม่พอใจขึนมาอีกครัง แต่เมือคิด


ถึงคําทีจีซูหรันบอกกับนางเมือวาน จึงยิมให้เจียงหลีแล้ว

11
เอ่ยว่า “พีรองวันนีดูตา่ งจากวันก่อนๆ งามแปลกตานัก
ไม่รูว้ า่ ฝี มือขีม้ายิงธนูทีจะได้เห็นในไม่ชา้ จะทําให้ผคู้ น
ตกตะลึงกันทังสนามหรือไม่”

“น้องสามชมเกินไปแล้ว”

เจียงโย่วเหยาหันไปกล่าวกับจีซูหรันบ้าง “ท่านแม่ ออก


เดินทางกันเถิดเจ้าค่ะ”

กลับเป็ นเจียงหยวนปั วทียืนรังท้าย เขาชะงักไปครูห่ นึง


แล้วจึงหันมากล่าวกับเจียงหลี “หากทําไม่ได้ ก็อย่าฝื น”
จบคําก็เดินจากไป

12
เจียงหลีองงั
ึ นเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้า นางไม่ได้คิดมาก
เพียงตามไปขึนรถม้าเพือมุง่ สูส่ นามสอบ

วันนีในเมืองเยียนจิงมีผคู้ นคลาคลําเต็มท้องถนน ด้าน


นอกสนามสอบมีฝงู ชนแน่นขนัด วิชาดนตรีเมือวานดึง
ดูดผูค้ นไม่นอ้ ย วันนีคนทีสนใจมาดูขีม้าและยิงธนูจงึ
เพิมขึนกว่าเมือวานเป็ นเท่าตัว

เจียงหลีลงจากรถม้าเรียบร้อยแล้วก็เดินตรงไปทีข้าง
สนามสอบ

หลิวสวีเห็นนางมาถึงจึงทักทายอย่างตืนเต้น “วันนีเจ้าดู
อารมณ์ดีไม่นอ้ ย คงไม่มีปัญหาล่ะสิทา่ ”

13
“ก็พอได้”

หลิวสวีได้ฟังดังนันก็พงึ พอใจนัก แวบเดียวก็เห็นเมิงหง


จินเดินแหวกฝูงชนเข้ามา วันนีเมิงหงจินดูสะดุดตาเป็ น
พิเศษ ด้วยชุดขีม้าสีแดงกระชับเรือนร่าง ขับเน้นให้สรีระ
ของนางโดดเด่นดังเปลวไฟทีกําลังลุกโชติช่วง พอเห็น
เจียงหลี เมิงหงจินก็มองนางแวบหนึงแล้วรีบละสายตา
ไป

เจียงหลีรูส้ กึ ประหลาดใจอยูบ่ า้ ง

ผูค้ นทีคอยเย้ยหยันเจียงหลีในวันนีน้อยลงมาก อาจเป็ น

14
เพราะเมือวานนางแสดงความสามารถออกมาให้ได้เห็น
เป็ นทีประจักษ์ ต่อให้เป็ นกลุม่ บัณฑิตหญิงของหมิงอี
ถางก็ทาํ เพียงยืนรวมกลุม่ กันแอบมองเจียงหลีเงียบๆ อยู่
อีกด้าน ไม่กล้าเอ่ยปากวิจารณ์นางต่อหน้าอีก

หลิวสวีสบถขึนเบาๆ “ตอนนีรูจ้ กั กลัวกันบ้างแล้วสินะ”

เจียงหลีเอ่ยถาม “ข้ามีอะไรน่ากลัวหรือ”

“ตอนนีเจ้าไม่ใช่คนทีได้คะแนนอันดับสุดท้ายของหมิงอี
ถางอีกแล้ว ข้อเดิมพันระหว่างเจ้ากับเมิงหงจิน อย่างไร
เสียเจ้าก็ไม่มีทางพ่ายแพ้ รูห้ รือไม่วา่ เมือวานบรรดา
เหลาสุราทุกแห่งในเมืองเยียนจิงขายดีเป็ นเทนําเทท่า มี

15
ผูค้ นไม่รูต้ งเท่
ั าไรทีไปลงพนันข้างเมิงหงจินแล้วผิดหวัง
ต้องไปหาสุรามาดืมย้อมใจจนเมามาย” พูดถึงตรงนี
หลิวสวีก็เอ่ยทับถม “ข้าได้ยินว่าบ้านตระกูลเมิงเองก็
แทงเดิมพันไว้ไม่นอ้ ย คราวนีคงพ่ายแพ้ราบคาบไป
ตามๆ กัน แหม... น่าเสียดาย หากตอนนันท่านพ่อไม่
ยับยังเอาไว้เสียก่อน ข้าก็คงจะแทงพนันสักตา ไม่รูว้ า่ จะ
ได้เงินกลับมามากแค่ไหน”

เจียงหลีหวั เราะอย่างขบขัน “ข้าไม่ใช่ของเดิมพันสัก


หน่อย”

“มาเข้าเรืองกันเถอะ” หลิวสวีกล่าวต่อด้วยนําเสียงจริง
จัง “ทักษะขีม้ายิงธนู เป็ นวิชาถนัดของเมิงหงจินมาแต่
ไหนแต่ไร หากเจ้าสูน้ างไม่ได้ก็จงอย่าฝื นเป็ นอันขาด
16
หากพลาดจนล้มหัวกระแทกพืนจะได้ไม่คมุ้ เสีย อย่างไร
เจ้าก็ชนะแน่นอนอยูแ่ ล้ว เหลืออีกแค่สองวิชา ไม่ตอ้ งไป
จริงจังมากนักหรอก”

เจียงหลีพลันตอบรับ “ข้ารู ้ ขอบใจทีเตือนสติ”

วิชาขีม้าและยิงธนูในปี นีรวมเป็ นหมวดเดียวกัน ผูเ้ ข้า


สอบมีทงหมดสามสิ
ั บชีวิต แยกออกเป็ นห้ากลุม่ ทางผู้
คุมสอบจัดการให้พวกนางจับฉลากแบ่งสาย กลุม่ ละหก
คน ทังห้ากลุม่ จับฉลากเรียงลําดับการสอบก่อนหลังเป็ น
ทีเรียบร้อย

17
บทที 60 เจ้าอยู่กลุ่มสุดท้าย

การจับฉลากดําเนินไปอย่างราบรืน เจียงหลีจบั ฉลาก


จากกล่องไม้แล้วยืนให้ผคู้ มุ สอบ หลิวสวีชะโงกหน้าเข้า
ไปดู กล่าวว่า “ข้าอยูก่ ลุม่ สองเจ้าอยูก่ ลุม่ ห้า พวกเราไม่
ได้อยูด่ ว้ ยกัน” นางแสดงความผิดหวังออกมาให้เห็นเล็ก
น้อย

เจียงหลีไม่ใส่ใจเท่าไรนัก ขณะนันได้ยินคนทางฝังของ
เมิงหงจินร้องเฮเสียงดัง คงเป็ นสหายสนิทของเมิงหงจิน
พวกนันตะโกนว่า “หงจิน เจ้าอยูก่ ลุม่ สุดท้าย”

1
นางอยูก่ ลุม่ เดียวกับเมิงหงจินจนได้ ไม่ชอบหน้ากันก็
ต้องมาประจันหน้า ระหว่างทีเจียงหลีกาํ ลังครุน่ คิดอยู่
นัน เจียงโย่วเหยาก็กา้ วเข้ามายืนตรงหน้าแล้วเอ่ยทัก “พี
รอง ไม่นกึ ว่าท่านก็อยูก่ ลุม่ ห้า ข้ากับน้องห้าเองก็อยูก่ ลุม่
นีเช่นกัน”

เจียงหลีอยากถอนหายใจยาวๆ นีมันเป็ นกรรมอะไรของ


นาง กลุม่ หนึงมีหกคน นางต้องมาอยูร่ วมกับเมิงหงจิน
เจียงโย่วเหยา และเจียงอวีเอ๋อ ไม่ตอ้ งถามว่าอีกสองคน
เป็ นใคร แค่มีสามในหกก็มองนางเหมือนหนามยอกอกที
ต้องเด็ดทิงเสียแล้ว ต้องอยูด่ ว้ ยกัน... หากคนเหล่านันไม่
หาเรืองให้นางเจ็บตัวก็นบั ว่าแปลกแล้ว

ขณะครุน่ คิดก็เห็นฝูงชนทีอยูไ่ ม่ไกลเริมโหวกเหวก


2
โวยวายเสียงดัง หลิวสวีพลันชะโงกหน้ามองแล้วกล่าว
ว่า “ผูค้ มุ สอบวันนีมาถึงแล้ว”

ผูค้ มุ สอบในวันนีมีจาํ นวนไม่มากเหมือนเมือวาน มีอยู่


ด้วยกันเพียงสามคน หนึงเป็ นนักรบในเสือเกราะ อายุ
ราวยีสิบเจ็ดย่างยีสิบแปด ดูเข้มแข็งบึกบึน เขาคือรอง
แม่ทพั ข่งเวย เนืองจากเขาเป็ นบุตรชายคนทีหก คนอืนๆ
จึงเรียกขานเขาตามลําดับพีน้องว่า ‘ข่งลิว’*

อีกคนคืออดีตจอหงวนฝ่ ายบู๊ ตอนนีดํารงตําแหน่งเป็ นผู้


บัญชาการกองทหารม้า นามว่าเจิงหูเ่ ฉิน อายุรุน่ ราว
คราวเดียวกันกับเจียงหยวนปั ว ผิวคลํา ดูองอาจฉกาจ
ฉกรรจ์

3
สองคนนีดูก็รูว้ า่ เป็ นผูฝ้ ึ กยุทธ์ทีมีทว่ งท่าน่าเกรงขาม ต่อ
ให้ยืนนิงๆ ก็กดดันจนผูค้ นรูส้ กึ หวาดกลัวได้ แต่คนสุด
ท้าย คาดไม่ถงึ เลยจริงๆ เขาสวมชุดสีแดงตลอดร่าง มือ
ถือพัดแถบสีทอง ใบหน้าประดับรอยยิมบางๆ คิวเข้ม ตา
โต... จะเป็ นใครไปไม่ได้นอกเสียจากท่านซูก่ วกงจี
ั เหิง
ความองอาจของข่งลิวและความแข็งแกร่งของเจิงหูเ่ ฉิน
ก็มิอาจข่มให้จีเหิงดูออ่ นแอลงเลย ในทางตรงกันข้าม
ความน่าเกรงขามของเขากลับทําให้ข่งลิวกับเจิงหูเ่ ฉินดู
ราวกับทหารองครักษ์ฝังซ้ายและขวาไปเสียนี

แต่ถงึ กระนัน เขาก็ยงั ดูไม่เข้ากับสถานที

เจียงหลีประหลาดใจอยูไ่ ม่นอ้ ย จีเหิงมาทําอะไร เมือ


4
วานทีเขามาเป็ นผูค้ มุ สอบวิชาดนตรีก็ทาํ ให้ผคู้ นแปลก
ใจมากพออยูแ่ ล้ว หรือว่าวันนีเขาก็จะเข้ามามีสว่ นร่วม
อีก

ไม่เพียงแต่เจียงหลีทีสงสัย บนอัฒจันทร์สาํ หรับผูช้ ม เฉิง


อ๋องเองก็ยงั ขมวดคิวพึมพําว่า “เสด็จพีมีเจตนาอะไรกัน
แน่ เหตุใดวันนียังมอบหมายให้ซกู่ วกงมาคุ
ั มสอบอีก”

เฉิงอ๋องเกรงใจซูก่ วกงไม่
ั นอ้ ย ฮ่องเต้หงเซียวจึงยิงเชือ
มันในตัวเขา

เฉิงอ๋องเคยคิดทีจะดึงซูก่ วกงจี
ั เหิงมาอยูก่ บั ตน ทว่าจีเหิง
คนนี ไม่วา่ เขาจะมาไม้ไหนก็ลว้ นยืนกรานปฏิเสธ ซํายัง

5
เป็ นคนมีความสามารถ ปะทะด้วยกีครังก็ตอ้ งแพ้ไม่เป็ น
ท่าอยูร่ าไป
ํ เฉิงอ๋องจึงไม่กล้าหาเรืองต่อกรกับจีเหิง แต่
ยังคงแอบสังเกตการณ์อีกฝ่ ายเงียบๆ หากจีเหิงเป็ นมือ
เป็ นเท้าให้ฮ่องเต้หงเซียวจริง เกรงว่าเขาคงต้องตกทีนัง
ลําบากแน่

องค์หญิงหย่งหนิงมิได้ตอบคําถามของเฉิงอ๋อง ใจของ
นางโบยบินไปอยูท่ ีเสินอวีหยงนานแล้ว เมือวานตอน
บ่ายหลังการสอบดนตรีเสร็จสิน เสินอวีหยงมีนดั กับนาง
แต่เขาก็ขอเลือนออกไปอย่างไม่ไยดี องค์หญิงหย่งหนิงดู
ออกว่าเขาเจตนาหลบหน้า นางรูว้ า่ เมือวานหลังจาก
เสินอวีหยงได้ฟังเสียงพิณของบัณฑิตหญิง หัวใจของเขา
เอาแต่คะนึงถึงเซวียฟั งเฟยทีตายจาก คิดมาถึงตรงนี
องค์หญิงหย่งหนิงก็ยงโมโหนั
ิ ก หรือว่านางยังเทียบไม่ได้

6
แม้กระทังคนทีตายไปแล้ว

ไม่ได้การ... จะต้องรีบแต่งกับเขา เสินอวีหยงต้องการจะ


ไว้ทกุ ข์ให้กบั เซวียฟั งเฟยเป็ นเวลาสามปี แต่นางรอนาน
ขนาดนันไม่ไหว

รอให้สอบใหญ่ผา่ นพ้นไปเสียก่อน แล้วนางจะหยิบยก


เรืองนีไปปรึกษาพระสนมหลิว--ผูเ้ ป็ นมารดา

ทางด้านนี... เจียงหลีกาํ ลังใจลอยมองกระดาษในมือ

คนทีสอบกลุม่ เดียวกับนางมีทงหมดหกชี
ั วิต นอกเหนือ
จากเมิงหงจิน เจียงอวีเอ๋อ และเจียงโย่วเหยาแล้ว ก็ยงั มี
7
คุณหนูผสู้ งู ศักดิของหมิงอีถางอีกสองคน คือเนียเสียว
ซวงกับจูซินเอ๋อ ทังสองดูเหมือนคุณหนูจวนขุนนางทีถูก
เลียงดูมาอย่างทะนุถนอม นิสยั ใจคอค่อนข้างหยิงทะนง
ไม่ใช่คนทีจะตีสนิทได้ง่ายๆ

เมือเทียบกับเจียงหลีแล้ว พวกนางดูเอนเอียงไปทาง
เจียงโย่วเหยามากกว่า เจียงหลีไม่แปลกใจ เด็กสาวผูส้ งู
ศักดิในเมืองเยียนจิง ส่วนใหญ่ก็ชอบเจียงโย่วเหยา
มากกว่านางอยูแ่ ล้ว

ต้องสอบเป็ นกลุม่ สุดท้ายเชียวหรือ... เจียงหลีพมึ พํา

ไม่มีใครสังเกตเมิงหงจินทียืนแอบอยูอ่ ีกมุมหนึง นาง

8
กําลังกวาดตามองเจียงหลีอย่างรวดเร็ว ดวงตาวาววับ
ของนางยากจะปิ ดบังความสะใจและโกรธแค้น ทําให้สี
หน้าของนางเปลียนไปเล็กน้อย ครันมีคนเดินผ่าน
เมิงหงจินพลันก้มหน้า เก็บซ่อนแววตาของตนแล้วกํา
ฉลากในมือแน่น

แม้แต่สวรรค์ก็ยงั เข้าข้างให้นางได้อยูก่ ลุม่ เดียวกับเจียง


หลี แล้วก็ยงั มีเจียงโย่วเหยากับเจียงอวีเอ๋อทีไม่ถกู กับ
เจียงหลีอยูร่ ว่ มด้วย ในเมือเป็ นเช่นนี การจะให้เจียงหลี
ได้รูซ้ งถึ
ึ งความเจ็บปวดก็ยงง่
ิ ายเหมือนพลิกฝ่ ามือ

มือของเมิงหงจินสันระริกอยูบ่ า้ ง นางทําเรืองแบบนีเป็ น
ครังแรก แปลกนัก... แม้จะนึกหวาดกลัวแต่สีหน้ากลับ
เด็ดเดียวยิง นางรูว้ า่ หากตนไม่ทาํ เช่นนี ในวันพรุง่ นีก็จะ
9
ต้องคุกเข่าขอโทษเจียงหลีตอ่ หน้าคนทังสํานักบัณฑิต
ชาย แล้วชือเสียงของนางก็คงป่ นปี

ไม่เจ้าตายก็เป็ นข้าทีต้องมอดม้วย นีเป็ นการประลองทีดุ


เดือดเสียยิงกว่าการสอบใหญ่ของสํานักบัณฑิตหญิง
และนาง... ถูกกําหนดให้เป็ นผูช้ นะ

การสอบเริมขึนแล้ว

สนามสอบในปี นีกว้างขวางสุดลูกหูลกู ตา บัณฑิตหกคน


ในแต่ละกลุม่ ต้องขึนหลังม้าและควบออกไปพร้อมกันจน
ถึงจุดหมายทีกําหนด แต่ใช่วา่ คนทีไปถึงก่อนจะเป็ นผู้
ชนะ ยังจะต้องดูทกั ษะในการบังคับม้าควบคูก่ นั ไปด้วย

10
เมือใกล้ถงึ จุดหมายจะมีเป้าธนูปักเรียงกันอยู่ บัณฑิตแต่
ละคนจะต้องยิงธนูให้เข้าเป้า ลูกธนูของแต่ละคนจะมี
สัญลักษณ์ของตนติดไว้เพือป้องกันการเข้าใจผิด

เนืองจากต้องขีม้าเคลือนไหวอยูต่ ลอดเวลาและยิงธนูไป
ด้วย การสอบครังนีจึงไม่ใช่เรืองง่าย อย่าว่าแต่จะยิงให้
ตรงเป้าเลย แค่ทรงตัวบนหลังม้าก็ยากแล้ว จะมีคณ
ุ หนู
สักกีคนทีสามารถยิงโดนเป้าได้

กลุม่ ทีหนึงเริมต้น

เจียงหลีกวาดตามองไปรอบด้าน เกียวกับกฎระเบียบ
ของหมิงอีถาง อาศัยว่าเคยเป็ นสหายกับเซียวเต๋ออินมา

11
ก่อน นางจึงพอรูม้ าบ้างแต่ไม่ละเอียดนัก วันนีนางต้อง
ลงสนามด้วยตัวเอง ข้อปฏิบตั ิทกุ อย่างจึงอาศัยทังตาดูหู
ฟั งจากผูค้ นรอบกาย ใครเขาทําอย่างไร เจียงหลีตงใจ

ศึกษาอย่างละเอียด พอถึงเวลาลงสนามจะได้ไม่มีอะไร
ผิดพลาด

เจียงอวีเยียนกับหลิวสวีอยูก่ ลุม่ ทีสอง กลุม่ ทีหนึงแข่งขัน


กันเร็วนัก แม้สนามสอบจะกว้าง แต่บณ
ั ฑิตในกลุม่ ที
หนึงฝี มือไม่เอาไหน สักแต่จะยิงออกไปอย่างสะเปะ
สะปะ ทว่าไม่โดนเป้าเลยสักคน ท่าขีม้าก็ธรรมดาไม่มี
อะไรโดดเด่น แต่บณ
ั ฑิตเหล่านี... พอสอบเสร็จกลับมีสี
หน้ายินดี คล้ายว่าเพียงแค่ขนหลั
ึ งม้าและลงมาได้ก็พอ
ใจเป็ นอย่างยิง

12
หญิงสาวทางตอนเหนือของเมืองเยียนจิงนันไม่ให้ความ
สําคัญกับการฟ้อนดาบรํามีด เจียงหลีมองการสอบตรง
หน้า รูส้ กึ ไม่คอ่ ยพอใจในทักษะการขีม้าและยิงธนูของ
คุณหนูเหล่านีสักเท่าไร

หลิวสวีและเจียงอวีเยียนซึงอยูก่ ลุม่ ทีสองทําได้ดีกว่า


กลุม่ ทีหนึงอยูบ่ า้ ง อย่างน้อยผูข้ ีก็สามารถทําให้มา้ ‘วิง’
ได้จริงๆ ยังมีคนทีตังใจกระตุน้ ม้าให้ไปถึงจุดหมาย
ปลายทาง หลิวสวีเป็ นคนทีมีทกั ษะการยิงธนูดีทีสุดใน
กลุม่ เพียงเพราะนางยิงลูกธนูไม่หลุดออกนอกเป้า แต่
ปั กเอียงๆ อยูต่ รงขอบเท่านัน

หลิวสวีพน้ สนามสอบมาได้ดว้ ยใบหน้าปี ติยินดี กล่าว


กับเจียงหลีวา่ “ปี นีรวมเอาขีม้าและยิงธนูไว้ในหมวด
13
เดียวกัน ช่างยากจริงๆ ไม่รูว้ า่ พวกทหารม้าเขาฝึ กซ้อม
กันอย่างไร ต้องยิงธนูให้เข้าเป้าขณะขีอยูบ่ นหลังม้า ไม่
ธรรมดาเลย...”

“เจ้าทําได้ดีทีสุดในกลุม่ เชียวนะ” เจียงหลียิมพลางกล่าว


แสดงความยินดี

“แต่ไหนแต่ไร ทักษะขีม้ายิงธนูของข้าก็ไม่ดีนกั วันนีโชค


ดีมากกว่า” หลิวสวีกล่าว “แต่เจ้าน่ะสิ คราวนีเจ้ากับ
เมิงหงจินอยูก่ ลุม่ เดียวกัน จะต้องมีคนมากมายคอย
หัวเราะหยันเจ้าแน่ อย่างไรเสียเจ้าต้องอดทนไว้ อย่าใจ
ร้อนเป็ นอันขาด”

14
“ข้าไม่ใจร้อนหรอกน่า” เจียงหลีตอบยิมๆ

หลิวสวีคิดว่าเป็ นเรืองจริง นับแต่ครังแรกทีนางเห็นเจียง


หลี หลิวสวีก็ไม่เคยเห็นเจียงหลีมีทา่ ทีววู่ ามสักครัง คิด
ได้ดงั นันจึงเบาใจ

เจียงหลีชมการประลองต่ออย่างตังอกตังใจ ไม่รูว้ า่ กลุม่


ทีหนึงและสองรวมบัณฑิตทีด้อยทักษะในการขีม้ายิงธนู
ไว้ดว้ ยกันหรืออย่างไร อีกสองกลุม่ ถัดมาจึงไม่ได้ยาแย่

เท่าสองกลุม่ แรก มีคณ
ุ หนูบางคนถึงกับแสดงทักษะควบ
ม้าด้วยท่วงท่าสง่างามน่าตืนตาตืนใจ เป้าธนูก็คอ่ ยๆ มี
ลูกธนูปักอยูจ่ นเต็ม ทียิงออกนอกเป้าก็มี เกือบยิงเข้าใจ
กลางเป้าก็มากการประลองดุเดือดขึนเป็ นลําดับ

15
และแล้วก็มาถึงกลุม่ สุดท้าย... ได้เวลาทีเจียงหลีตอ้ งลง
สนามแล้ว

16
บทที 61 เสียดายม้าดีๆ

สนามม้าแห่งนีมีพืนทีเป็ นวงกลม กว้างขวางเพียงพอ


สําหรับให้คนหกชีวิตยืนเรียงกันเป็ นแถว

จุดเริมต้นของสนามนับเป็ นจุดสินสุด ณ จุดสินสุดมีเป้า


ธนูวางเรียงรายอย่างเป็ นระเบียบ บนเป้ามีลกู ธนูดอก
เก่าปั กคาสะเปะสะปะ ส่วนใหญ่นนหล่
ั นอยูบ่ นพืนเสีย
มากกว่า ผูค้ มุ สอบจะทําหน้าทีจดบันทึกผลการสอบแต่
ละครัง

บัณฑิตหญิงทังหกทีเข้าสอบจะมีมา้ คนละหนึงตัว ข่งลิว

1
เป็ นผูค้ ดั เลือกม้าเหล่านีจากกองทหารม้าด้วยตนเอง ม้า
ทีนํามาใช้ในแต่ละรอบล้วนเปลียนเป็ นตัวใหม่ นอกจาก
นียังถูกฝึ กจนเชือง ทังนีก็เพือเป็ นการรักษาความ
ปลอดภัยให้แก่บณ
ั ฑิตหญิงทังหลาย เพราะอย่างไรเสีย
ม้าพยศก็ยากจะควบคุม หากทําให้บณ
ั ฑิตหญิงเหล่านี
พลัดตกลงมาคงไม่ดีแน่

ม้าของเจียงหลีมีสีนาตาลเข้
ํ ม มันกําลังก้มหน้าก้มตา
เล็มหญ้า ดูแล้วไม่คอ่ ยสวยงามสักเท่าไร เจียงหลีอดไม่
ได้จงึ ยืนมือออกไปลูบไล้แผงคอ มีคนเห็นกิรยิ าเช่นนีของ
นางจึงกล่าวว่า “คุณหนูรองเจียงกําลังทําอะไร นางไม่รู ้
หรือว่าควรจะขึนขีม้าด้วยวิธีไหน ก็เลยลองลูบๆ คลําๆ ดู
ก่อน เผือมันจะใจอ่อนยอมให้นางขี”

2
“ล้อเล่นน่า ม้าเหล่านีล้วนมาจากกองทหารม้า จะลูบ
หรือไม่ก็เหมือนกัน แต่วา่ คุณหนูรองเจียงคงจะไม่เคยขี
ม้า ดูทา่ ทางของนางสิ ไม่คนุ้ เคยเอาเสียเลย”

เจียงโย่วเหยาทีอยูอ่ ีกด้าน พอเห็นเช่นนันก็นกึ เย้ยหยัน


อยูใ่ นใจ คิดว่าเจียงหลีคงไม่รูว้ ิธีขีม้ายิงธนู

เจียงอวีเอ๋อเห็นว่าครังนีเจียงหลีแสดงท่าทีไม่คนุ้ เคยก็
รูส้ กึ โล่งใจ

ไม่นาน ชายร่างใหญ่ผหู้ นึงก็ถือกระบองเหล็กเดินออก


มา เขาตีกลองขนาดใหญ่ทีตังอยูใ่ นสนามสอบ เสียงดัง
“ตุม่ ---”

3
บัณฑิตทังหลายจึงเริมเตรียมพร้อม พาดลําตัวขึนหลัง
ม้า

เมิงหงจินขึนม้าได้เป็ นคนแรก ขยับตัวแค่ครังเดียวนางก็


ขึนไปนังเฉิดฉายอยูบ่ นหลังม้าได้แล้ว พอนางยืดหลัง
ตรง ผูค้ นทังหลายพลันรูส้ กึ ราวกับทุกอย่างกลายเป็ นสี
แดงตามชุดทีนางสวมใส่ อดไม่ได้ทีจะไชโยโห่รอ้ ง

คนทีขึนนังบนหลังม้าเป็ นลําดับทีสองคือเจียงอวีเอ๋อ ท่า


ทางเหวียงร่างของนางดูไม่ตอ่ เนืองราบรืนเหมือนของ
เมิงหงจิน แต่กลับน่ารักน่าเอ็นดู ทําให้ผคู้ นรูส้ กึ เอาใจ
ช่วย

4
คนต่อมาคือเนียเสียวซวง นางขึนม้าพร้อมๆ กับจูซินเอ๋อ
ปกติทงสองมี
ั ความสนิทสนม ท่วงท่าขึนหลังม้าจึงคล้าย
กันมาก แม้ไม่เลิศเลอนักแต่ก็นบั ว่าไม่เลว

ต่อมาก็คือเจียงโย่วเหยา นางเผยรอยยิมเขินอายออกมา
กว่าจะพาดตัวขึนหลังม้าได้ไม่ง่ายเลย เนืองจากหน้าตา
ทีจิมลิมพริมเพรา รอยยิมงดงามดังบุปผา ทําให้ไม่มีใคร
สนใจวิธีการขึนม้าของนาง เอาแต่ใส่ใจใบหน้าสะสวย
กันจนตาค้าง

ข่งลิวไม่ชืนชมวิธีนีเอามากๆ เขาบ่นพึมพํากับเจิงหูเ่ ฉินที


อยูข่ า้ งกาย “ชิ... หมอนปั กลายดอกไม้”*

5
เจิงหูเ่ ฉินไม่ได้โต้ตอบ จีเหิงทีอยูอ่ ีกด้านหนึงเอนกายพิง
พนักเก้าอี มิได้สนใจท่าทางเขินอายของคุณหนูคนไหน

ลําดับสุดท้ายก็คือเจียงหลี

เพียงครู ่ ข่งลิวก็มีชีวิตชีวาขึน เขานังหยัดกายตรง จีเหิง


ชายตามองสหายด้วยแววตาเยือกเย็นอย่างยิง

‘ไม่รูว้ า่ เจียงหลีจะขึนม้าเป็ นไหม ทีสํานักนางชีมีมา้ หรือ


เปล่าก็ยงั ไม่รู’้ เย่ซือเจียนึกในใจ ก่อนจะเห็นเจียงหลียก
เท้าขึนสอดเข้ากับโกลนม้า ดึงบังเหียนแล้ววาดขาขึน
คร่อมบนอานอย่างสง่างาม

6
ดูลนไหลเป็
ื นธรรมชาตินกั นางไม่เหมือนเมิงหงจินทีทํา
ทุกอย่างด้วยความเร่งรีบรวดเดียวจบ ทังยังไม่เหมือน
เจียงอวีเอ๋อทีน่าเอ็นดู ยิงแตกต่างจากเจียงโย่วเหยาที
ยักแย่ยกั ยันแต่ขยัน ‘ส่งยิม’ ให้กบั ผูช้ ม นางเพียงดึง
บังเหียนม้าอย่างมันคง แล้วทรงตัวนิงเป็ นปกติ

ข่งลิวดูออก รีบหันมากระซิบกระซาบกับเจิงหูเ่ ฉินเสียง


เบา “คุณหนูรองเจียงไม่ธรรมดา”

เจิงหูเ่ ฉินขมวดคิวเล็กน้อย

เจียงหลีขนนั
ึ งบนหลังม้าอย่างสง่าผ่าเผย โดยมีกระบอก

7
ธนูทีหนักอึงสะพายอยูด่ า้ นหลัง นางเงยศีรษะ จู่ๆ สาย
ลมฤดูรอ้ นก็พดั มากระทบใบหน้า อบอุน่ อ่อนโยน ราว
กับมีคาํ สังสอนของบิดาและเสียงหัวเราะของน้องชาย
ไหลวนอยูร่ อบกาย

จู่ๆ ดวงตาของเจียงหลีก็ทอประกายรืนนําตา

ทว่าประกายนําหยดนันพลันสลายไปอย่างรวดเร็ว
เสียงกลองประกาศเริมการแข่งขันพลันดังขึน ชัวครูม่ า้
ทังหกตัวก็เริมออกวิงพร้อมๆ กัน

หากจะบอกว่าทะยานออกไป... ความจริงแล้วก็คงไม่ถงึ
ขนาดนัน เนียเสียวซวงและจูซินเอ๋อกระตุน้ ม้าช้าๆ ทัง

8
สองแทบไม่ได้ฟาดแส้ แค่รกั ษาอัตรา ‘การวิง’ ไว้อย่าง
ระมัดระวัง ข่งลิวได้แต่ปิดหน้า นําเสียงทีเปล่งออกมาไม่
พึงพอใจนัก “เสียดายม้าดีๆ ของข้าเสียจริง”

เจียงโย่วเหยากับเจียงอวีเอ๋อนันดีกว่าสองคนแรก อย่าง
น้อยท่าฟาดแส้ของนางยังดูองอาจอยูบ่ า้ ง

เจิงหูเ่ ฉินพลันส่ายหน้า ไม่พอใจในท่วงท่าขีม้าของ


บรรดาคุณหนูเหล่านี แต่ไหนแต่ไร วิชาขีม้ายิงธนูก็ไม่ใช่
ทักษะทีสํานักบัณฑิตหญิงถนัด หรืออาจกล่าวได้วา่ คุณ
หนูนอ้ ยคนนักทีจะยอมลําบากเรียนรูค้ วามสามารถที
แทบจะไม่ได้ใช้ในชีวิตประจําวัน

9
ทังสนามสอบ ทีนํามาเป็ นอันดับหนึงคือเมิงหงจิน

นางเปรียบดังดวงไฟลูกหนึง ชุดขีม้าสีแดงสดทําให้นางดู
งดงามองอาจ เด็กสาวมีรูปร่างทรวดทรงทีทําให้ผคู้ น
หลงใหลได้ง่าย เรือนผมด้านหลังของนางสะบัดขึนลง
ตามจังหวะควบม้า ยิงมองก็ราวกับได้ยลรูปวาดทีงด
งามภาพหนึง ถึงแม้ความงามของเมิงหงจินจะไม่สเู้ จียง
โย่วเหยา แต่ยามทีนางอยูบ่ นหลังม้ากลับดึงดูดสายตาผู้
คนได้มากกว่าเจียงโย่วเหยาหลายส่วน

“คุณหนูตระกูลเมิงเก่งกาจมาก” มีคนกล่าวชืนชม
“อย่างน้อยในวิชาขีม้ายิงธนูก็ไม่มีใครสามารถเทียบนาง
ได้”

10
“เช่นนันคุณหนูรองเจียงเป็ นอย่างไร” คนข้างๆ เอ่ยอย่าง
นึกสนุก “สีวิชาก่อน คุณหนูรองเจียงเป็ นม้ามืดตลอด
พลิกความพ่ายแพ้ให้กลายเป็ นชัยชนะได้ไม่ใช่หรือ”

“เจ้าก็ดสู ิ ตอนนีคุณหนูรองเจียงอยูร่ งท้


ั าย” ผูพ้ ดู คนแรก
ตอบว่า “อีกอย่าง คุณหนูรองเจียงดูทา่ ทางเอือยเฉือย
เหมือนไม่มีแก่ใจอยากเอาชนะ หากจะให้แซงคุณหนูเมิง
ขึนมา ก็ไม่น่าจะเป็ นไปได้”

ในสนามสอบ ม้าสีนาตาลเข้
ํ มของเจียงหลีกาํ ลังวิงอย่าง
สมําเสมอ

11
ใช่วา่ เจียงหลีจะขีม้าไม่ชาํ นาญอย่างทีใครต่อใครคาด
เดา พิจารณาจากท่วงท่าแล้วนางน่าจะเคยขีม้ามาบ้าง
เพียงแต่เทียบกับสามวิชาแรกทีได้อนั ดับหนึงและการ
บรรเลงพิณเพลง ‘ขลุย่ พเนจรสิบแปดดีด’ ทีไพเราะตรึง
ใจ ฝี มือการขีม้ายิงธนูของนางจึงค่อนข้างธรรมดาเอา
มากๆ

นางไม่ได้ทาํ การแสดงอย่างผาดโผน จึงดูไม่ออกว่า


ทักษะการขีม้าดีหรือไม่ แต่มีสงที
ิ สามารถยืนยันว่านาง
ไม่ได้ยาแย่
ํ ก็คือการขีทีจริงจังตังมัน มาถึงตอนนี... จาก
อันดับสุดท้ายนางก็ไล่กวดเมิงหงจินจนแซงหน้าคนอืนๆ
ขึนมาเป็ นอันดับทีสองเรียบร้อยแล้ว

เหตุการณ์นีไม่ยากเกินความเข้าใจ เดิมทีเนียเสียวซวง
12
กับจูซินเอ๋อกลัวการขีม้าเป็ นทุนเดิม ดังนันจึงระวังตัวอยู่
มาก เจียงโย่วเหยาและเจียงอวีเอ๋อก็มวั แต่แสดงออกถึง
ความงามอันน่าเอ็นดูของตน จะขยับแต่ละครังก็เอาแต่
วางท่าเหนียมอาย เมือเทียบกันแล้ว มีเพียงเจียงหลีกบั
เมิงหงจินทีตังใจแข่งขัน

เจียงหลีกบั เมิงหงจินไม่ได้ทิงระยะห่างกันมากนัก แค่


เจียงหลีออกแรงฟาดแส้อีกสักเล็กน้อยก็คงจะแซงหน้า
เมิงหงจินได้ แต่เจียงหลีดเู หมือนไม่คิดจะออกแรง นาง
ควบม้าสบายๆ ราวกับชมนกชมไม้ไปเสียอย่างนัน

ข่งลิวร้อนใจแต่ก็ไม่อาจทําอะไรได้ “คุณหนูรองเจียงเป็ น
อะไรไป แค่ออกแรงอีกนิดก็สามารถแซงขึนหน้าเมิงหง
จินได้แล้ว เหตุใดนางถึงไม่ขยับไม้ขยับมือเอาเสียเลย
13
เฮ้อ... ข้าร้อนใจจะแย่”

เจิงหูเ่ ฉินเอ่ยปราม “สงบอารมณ์บา้ ง...”

“ข้าทนสงบอยูไ่ ม่ไหวหรอกนะ เห็นชัดๆ ว่าสามารถขึน


นําได้...”

เสียง “ปั ง” ดังมาจากคนทีอยูข่ า้ งๆ

ข่งลิวตัวแข็งค้าง หยุดส่งเสียงในทันที เขาหันไปหาคนที


ตบโต๊ะอย่างไม่สบอารมณ์ จีเหิงไม่ได้มองเขาแม้แต่นอ้ ย
เพียงกล่าวเสียงเย็นว่า “โหวกเหวกเกินไปแล้ว”

14
ข่งลิวไม่กล้าพูดอะไรอีก

ถึงแม้การทีเจียงหลีไม่สามารถแซงหน้าเมิงหงจินจะทํา
ให้ข่งลิวร้อนรน แต่คนทีเป็ นห่วงนางกลับเบาใจเสีย
มากกว่า ยกตัวอย่างเช่นหลิวสวี, เย่ซือเจีย หรือแม้แต่
เจียงจิงรุย่ การได้รบั รูว้ า่ เจียงหลีขีม้าเป็ นทําให้พวกเขา
โล่งอก ท่าทางทีขีก็มนคง
ั หากผ่านการขีม้ายิงธนูในวันนี
ไปได้ เดิมพันระหว่างนางกับเมิงหงจินก็ถือว่าเจียงหลี
เป็ นฝ่ ายชนะ ไม่ตอ้ งโดนขับออกจากหมิงอีถาง

ความคิดของคนทังหลายเป็ นอย่างไรเจียงหลีไม่อาจ
ทราบ ทีนางตังใจอยูห่ า่ งเมิงหงจิน ก็เพียงเพราะอยาก
จะดูวา่ แท้จริงแล้วอีกฝ่ ายคิดอะไรกันแน่

15
ดังคาด ขับเคียวไปได้ประมาณหนึงก้านธูป เมิงหงจินก็
ค่อยๆ ลดความเร็วให้ชา้ ลง เจียงหลีเริมระมัดระวังตัว
มากขึน พยายามลดฝี เท้าม้าให้ชา้ ตามไปด้วย นางรักษา
ระยะห่างระหว่างตนกับเมิงหงจินไว้ ทําให้การแข่งขันใน
สนามครังนีแปลกพิกล กระทังเจียงโย่วเหยาทีรังท้ายอยู่
ด้านหลังยังไล่ทนั

ทังสามควบม้าเรียงกันเป็ นแถวเดียว

“นีมันอะไรกัน” ผูช้ มทีดูอยูร่ อบด้านงุนงงนัก “ม้าของ


กองทหารม้าไม่ได้ความรึ หรือว่าตอนเช้าลืมให้อาหาร”

16
“บัดซบ” ข่งลิวได้ยินคําก่นด่าของฝูงชนด้านล่างก็หวั เสีย
จนต้องตะโกนตอบโต้ “เมือวานข้าเพิมหญ้ารอบดึกไป
ไม่รูเ้ ท่าไร จะหิวได้อย่างไร”

“เช่นนันก็คงอิมจนวิงไม่ไหวสินะ” ผูค้ นทังหลายต่าง


หัวเราะหยัน

ข่งลิวโกรธจนพูดไม่ออก เพียงครูจ่ ีเหิงทีอยูด่ า้ นข้างก็ไม่รู ้


ว่าลืมตาขึนมาตังแต่เมือใด เขาจ้องมองม้าในสนามทีวิง
แบบหน้ากระดานเรียงสามอยูใ่ นตอนนี สีหน้าเหมือนคิด
อะไรบางอย่างขึนมาได้

17
บทที 62 ณ ใจกลางเป้ า

หัวใจข่งลิวพลันกระตุกวูบราวกับเป็ นลางบอกเหตุ

ต่อให้เจียงหลีขีช้าลง แต่มา้ ของนางก็คอ่ ยๆ พาตัวเอง


ขึนไปเทียบสีขา้ งกับม้าของเมิงหงจินในทีสุด ดูเหมือ
นเมิงหงจินคงทุม่ แรงหวดม้ามากเกินไปในตอนต้น พอ
ถึงยามนีม้าของนางจึงอ่อนล้าจนวิงได้ชา้ ลง

เวลานี ม้าทุกตัววิงมาถึงครึงหลังสนามแข่ง เข้าใกล้เป้า


ธนูขนไปทุ
ึ กขณะ เส้นทางเริมตีโค้งเป็ นวงแคบ เจียงหลี
กับเมิงหงจินกําลังควบม้าผ่านตรงทางแคบนันพร้อมกัน

1
มือหนึงของเจียงหลีกมุ บังเหียนม้า ส่วนอีกมือหนึงก็
ควานหากระบอกธนูทีอยูด่ า้ นหลัง ล้วงเอาลูกธนูดอก
หนึงออกมา เตรียมขึนสายเพือยิงออกไป การทีต้องขีม้า
และยิงธนูไปด้วยนันยากนัก ทีว่ายากก็คือตอนยิงธนูบน
หลังม้านัน มือทังสองต้องจับลูกและคันธนู ไม่สามารถ
กุมบังเหียนม้าได้ จึงจําเป็ นต้องใช้ลาํ ตัวท่อนล่างบังคับ
ม้า

คุณหนูสว่ นมากเวลายิงธนูมือจะรีบจับบังเหียนม้า
เพราะกลัวพลาดตกลงมา ดังนันจึงยากทีจะเล็งให้ตรง
เป้า ได้แต่ยิงออกไปอย่างสะเปะสะปะ หรือบางครังก็ไม่
กล้าปล่อยมือจากบังเหียน ยอมสละสิทธิการสอบยิงธนู
ไปเสียดือๆ คนทีใจกล้าจะพยายามไม่กาํ บังเหียน แล้ว

2
ใช้สองมือในการยิงธนู แต่ดว้ ยเวลาชัวพริบตา พอยิงธนู
ออกไปแล้วก็ตอ้ งรีบจับบังเหียนม้าต่อ ทําให้ธนูพลาด
เป้า

เดิมทีเล็งธนูตอ้ งใช้เวลาแต่นียังทําอย่างรีบร้อน แล้วจะ


ยิงโดนเป้าได้อย่างไร ดังนันการขีม้ายิงธนูจนถึงตอนนี
จึงไม่มีใครยิงเข้ากลางเป้าตรงๆ เลยสักคน

แต่สองมือของเจียงหลีกลับปล่อยบังเหียน มือถือคันธนู
แล้วเล็งเป้าด้วยท่วงท่าสบายๆ

“ใจกล้าจริงๆ” เจิงหูเ่ ฉินกล่าวชืนชมออกมาประโยคหนึง

3
ผูค้ นโดยรอบร้องอุทานเสียงดัง ต่างอัศจรรย์ใจในความ
กล้าหาญของคุณหนูรองเจียง “นางไม่กลัวจริงๆ หรือนี
เจ้าดูสิ นางปล่อยมือจากบังเหียนตังนาน เป็ นคนทีกล้า
หาญกว่าใครในตอนนี”

“ไม่แปลก เจ้าดูการขีม้าของนางเอาเถิด มันคงออกปาน


นัน นางนังหลังตรง ไม่มีโอนเอนแม้แต่นอ้ ย ข้าว่าคุณหนู
รองเจียงต้องเป็ นสตรีทีขีม้าเก่งคนหนึงเลยทีเดียว”

วิธีขีม้าของเจียงหลีนนผ่
ั อนคลายทว่ามันคง สองขา
กระชับอานม้าไว้แน่น มือทีจับง้างคันธนูก็แน่วนิง ไม่สนั
ไหว ถึงแม้รา่ งกายของเจียงหลีจะไม่แข็งแรงเท่าร่างสูง
สง่าของเซวียฟั งเฟย ทว่าตังแต่ฟืนขึนมาเป็ นเจียงหลี
นางก็หมันดูแลสุขภาพร่างกายจนคล่องแคล่วขึนไม่นอ้ ย
4
สายตาเล็งไปยังกลางเป้า ในความคิดของเจียงหลียามนี
เป้าธนูกลายเป็ นกระต่ายป่ า จิงจอก หรือนกทีกําลังกาง
ปี กบินตัวหนึง มันเคลือนไหวไปมาเหมือนตอนที
นางออกล่าสัตว์กบั เซวียเจานับครังไม่ถว้ น ในตอนนัน
นางต้องทรงตัวอยูบ่ นหลังม้าซึงกําลังเคลือนที แม้แต่เป้า
เองก็ยงั มีชีวิต จะว่าไปแล้วก็ยากกว่าการทดสอบมาก

ตอนนีแค่เล็งให้แม่นยําแล้วยิงออกไป

เสียง “ฟึ บ” ดังขึน ทันทีทีลูกธนูแล่นออกจากสาย แหวก


อากาศไปอย่างรวดเร็ว

5
หลังจากนัน ทุกสายตาก็ได้เห็นลูกธนูทีติดสัญลักษณ์สี
แดง ตรึงแน่นอยู่ ณ ใจกลางเป้าพอดิบพอดี

เข้าเป้า!

ทังสนามพลันเงียบกริบไปครูห่ นึง คนทังหมดแทบไม่


อยากเชือสายตา

ข่งลิวตบเข่าฉาด ร้องเสียงดังว่า “งดงามมาก!”

เขายังพูดไม่ทนั จบคําก็เห็นเจียงหลีลว้ งลูกธนูอีกดอก


เล็งตรงกลางแล้วยิงออกไปอย่างรวดเร็ว

6
เข้าเป้าอีกแล้ว!

เจียงหลีไม่คิดหยุดพัก นางคว้าธนูอีกดอกออกมา

เข้าเป้าเช่นเคย!

ในระยะเวลาอันสัน เจียงหลียิงธนูออกไปถึงสามดอก ทัง


หมดล้วนตรงเป้า

ความเงียบสงัดกลับกลายเป็ นอึกทึก มีเสียงโห่รอ้ งด้วย


ความดีใจตามมาเป็ นระยะ

7
เจียงจิงรุย่ ทําได้เพียงบ่นพึมพํา “นีมันอะไรกัน...”

นีไม่ใช่วิชาดนตรี แต่เป็ นการขีม้ายิงธนู สํานักบัณฑิต


ชายก็ตอ้ งทดสอบเช่นกัน เจียงจิงรุย่ เคยเรียนขีม้ายิงธนู
มาก่อน จึงรูว้ า่ การทีต้องขีม้าแล้วยิงธนูไปพร้อมกันนัน
ยากเย็นอย่างยิง ด้วยเหตุนี พอเห็นเจียงหลียิงเข้าเป้าทัง
สามดอก เขาจึงรูส้ กึ ไม่อยากจะเชือสายตาตนเอง

เป็ นเพราะนางดวงดีรึ ไม่... ไม่ใช่เพราะโชคช่วยแน่

ข่งลิวมองจนสองตาเบิกค้าง ตืนเต้นเสียจนเผลอถีบ
เก้าอีล้มแล้วถอนหายใจหนักหน่วง

8
กระทังเจิงหูเ่ ฉินต้องเอ่ยถาม “เป็ นอะไร”

“ให้ตายสิ เจ้าไม่เห็นหรือไร” ข่งลิวชีไปทีเจียงหลี “ยิงเข้า


เป้าทังสามดอก คนทีทําได้ดีเช่นนีในกองทหารม้าของข้า
ยังมีแค่ไม่กีคน บัดซบจริงๆ... เหตุใดนางถึงเป็ นคุณหนู
ของจวนอํามาตย์ หากนางเกิดเป็ นบุรุษ หรือเป็ นเพียง
บุตรสาวของชาวบ้านธรรมดา ข้าจะเอานางมาอยูใ่ น
กองทหารให้จงได้”

เจิงหูเ่ ฉินพลันตัดบท “หุบปาก...”

ครันจีซูหรันเห็นเจียงหลียิงเข้าเป้าทังสามดอก นางก็
พยายามเก็บงําสีหน้าไม่พอใจ นางรูว้ า่ การทีเจียงหลียิง

9
เข้าเป้าเช่นนีกลบรัศมีอนั โดดเด่นของเมิงหงจินไปไม่
น้อย ยิงไม่ตอ้ งกล่าวถึงเจียงโย่วเหยาทีด้อยทักษะด้าน
การขีม้า คนทีเหลือในกลุม่ ราวกับเป็ นแค่ตวั เปรียบเทียบ
ให้เจียงหลียิงโด่งดังคับฟ้า

นางขมวดคิวพลางกล่าวกับเจียงหยวนปั ว “หลีเอ๋อไป
เรียนวิชาขีม้ายิงธนูมาจากไหน ข้าคิดว่าจิงรุย่ กับจิงโย่ว
ของเรา อีกทังอาจารย์ฝ่ายบู๊ยงั ทําได้ไม่ดีเท่าเจียงหลี
ด้วยซํา หรือว่าสํานักนางชีจะมีเงินทองพอส่งเสียให้นาง
รําเรียนวิชาต่างๆ ได้ หลีเอ๋อกลับมาคราวนีถึงเก่งกาจนัก
ราวกับไม่มีอะไรทีนางทําไม่ได้” จีซูหรันพยายามทําให้
เจียงหยวนปั วเกิดความคลางแคลงใจขึนมาอย่างแนบ
เนียน

10
“สะใภ้ใหญ่ นันเป็ นเพราะหลีเอ๋อเฉลียวฉลาดมาตังแต่
เล็กๆ อย่างทีมีคนกล่าวว่า พันธุก์ ล้วยไม้เติบโตอยูใ่ นป่ า
ผลิดอกออกมาก็ยงั คงเป็ นกล้วยไม้...” นางหลูซือของ
บ้านสายรองรูเ้ ท่าทัน จึงคิดแดกดันจีซูหรันกลับ

ทันใดนัน พลันได้ยินเสียงร้องวีดว้ายดังขึน

คนทังหมดมองไปยังสนามสอบ

บนทางโค้งทีตีวงแคบ เจียงหลีควบม้าอยูเ่ บืองหน้าโดยมี


เมิงหงจินติดตามอยูด่ า้ นหลัง เจียงหลียิงธนูเข้าเป้าทัง
สามดอก เมิงหงจินเองก็คิดจะง้างคันธนูแล้วเช่นกัน ทว่า
เมิงหงจินเพิงจะคลํากระบอกลูกธนูทีอยูด่ า้ นหลัง จู่ๆ ม้า

11
ของเจียงหลีก็สง่ เสียงร้องแล้วยกขาหน้าตะกุยอากาศ

“ไม่ได้การ” ข่งลิวลุกพรวดพราดขึนทันที

ม้าสีนาตาลเข้
ํ มของเจียงหลีตวั นันมีอาการผิดปกติ ไม่รู ้
ว่าเป็ นเพราะสาเหตุใดมันถึงวิงเตลิดแล้วสะบัดตัวไปมา

เมิงหงจินตกใจจนต้องหยุดคลําลูกธนูแล้วรังม้าของตน
แน่น

ชัวครู ่ ในสนามก็เกิดความโกลาหล

จําได้วา่ ในอดีตเคยมีบณ
ั ฑิตหญิงขีม้าไม่ดีจนพลัดตก
12
จากหลังม้า แต่ก็ได้บาดแผลแค่เล็กน้อย ทว่าเหตุการณ์
ทีม้าฝึ กเกิดอาการตกใจเช่นนียังไม่เคยเกิดขึนมาก่อน
เนืองจากม้าทีนํามาล้วนถูกคัดเลือกเป็ นอย่างดีจากกอง
ทหารม้า เลือกตัวทีเชืองและว่านอนสอนง่าย หากไม่ใช่
เพราะเกิดความผิดปกติ พวกมันไม่มีทางทีจะพยศขึนมา
ได้แน่ แต่เห็นได้ชดั ว่าจู่ๆ ม้าตัวนีก็เกิดพยศขึนมาโดยที
ไม่มีใครเข้าไปแตะต้อง ทังยังไม่มีเหตุรบกวนจากภาย
นอกนีมันเกิดอะไรขึน

“รีบช่วยคนเร็วเข้า!” เจิงหูเ่ ฉินออกคําสังทหารโดยรอบ

“สวรรค์!” หลิวสวีเอามือปิ ดปาก รีบวิงไปทีด้านหน้า


สนาม นําตากําลังจะร่วงหล่น นางไม่สามารถวิงเข้าไป
ในสนามแข่งม้า ทําได้เพียงเป็ นห่วงเจียงหลีอยูด่ า้ นนอก
13
เย่ซือเจียก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเรืองเช่นนี พวก
เขาทีอยูน่ อกสนามไม่สามารถทําสิงใดได้ ได้แต่มอง
เจียงหลีถกู ม้าพยศพาวิงเตลิดไปข้างหน้า ในใจให้รูส้ กึ
พะว้าพะวัง จู่ๆ ม้าสีนาตาลเข้
ํ มก็สะบัดหัวสะบัดหาง มัน
พยายามดีดเจียงหลีให้รว่ งลงกับพืน

“เจียงหลี!” เจียงจิงรุย่ ร้องตะโกน

ในเวลาถัดมา ผูค้ นรอบสนามก็เห็นสองมือของเจียงหลี


กําบังเหียนม้าเอาไว้แน่น ลําตัวครึงท่อนของนางลอย
คว้างแนบหลังม้า ราวกับกําลังถูกลากให้พงุ่ ทะยานไป
ด้านหน้าโดยทีขาไม่แตะพืน ทว่านางกลับไม่ได้ถกู สะบัด

14
ตก

คนทังหมดตาเบิกโพลง จ้องมองเจียงหลีอย่างลืมหายใจ

“นางขีม้าผาดโผนเป็ นรึ!” ข่งลิวร้องออกมาขณะมองไป


ยังจีเหิง

จีเหิงเอาสองมือเท้าคาง มองคนและม้าทีกําลังอยูใ่ น
อาการตืนตระหนกโดยไม่กล่าวอะไร

เดิมทีเมิงหงจินทีอยูด่ า้ นหลังคิดว่าจะได้เห็นเจียงหลี
พลัดตกลงจากหลังม้า ไม่นกึ ว่านางยังสามารถทรงตัว
แนบสีขา้ งของมันได้อย่างสบายๆ โดยไม่ได้รบั อันตราย
15
ใดๆ

เมิงหงจินรูส้ กึ ผิดหวังนัก ในแขนเสือนางยังมีสงของ



ขนาดเล็กชินหนึง รูปร่างคล้ายกับด้ามพูก่ นั นันเป็ นของ
เล่นทีพีชายคนโตของนางหามาให้เมือหลายปี ก่อน ใต้
ด้ามพูก่ นั ขนาดเล็กมีปมุ่ ปิ ดเปิ ดนูนออกมา เพียงแค่กด
ลงไปก็จะสามารถยิงเข็มเล่มเล็กๆ ได้

เมิงหงจินอาบนํายาบางอย่างไว้บนเข็ม ระหว่างทีอยูต่ รง
ทางแคบ เจียงหลีเพิงจะยิงธนูทงสามดอกออกไป
ั เมิงหง
จินได้ฉวยโอกาสตอนทีตนเองกําลังควานหาลูกธนูนนั
ใช้แขนเสือช่วยกําบัง แล้วแอบกดด้ามพูก่ นั อย่างรวดเร็ว

16
เข็มทีอยูใ่ นด้ามพูก่ นั ปั กเข้าทีบันท้ายม้าอย่างจัง ม้าตัว
นันพลันตกใจจนเกิดพยศขึนมา หากเป็ นไปตามคาด
เจียงหลีจะต้องถูกสะบัดตกจากหลังม้า ไม่มีใครรูว้ า่ นาง
จะแขนขาหักหรือไม่ เข็มเล่มนันทังแหลมและเล็กมาก
หลังเกิดเหตุการณ์ ต่อให้อยากสืบสวนก็ยากจะพบ
สาเหตุ หรือต่อให้พบหลักฐาน ก็ไม่มีใครรูว้ า่ นางเป็ นคน
ทํา

ก่อนหน้านีเมิงหงจินไม่เห็นเจียงหลีแสดงออกว่าขีม้า
ผาดโผนได้ นางจึงนึกว่าอีกฝ่ ายแค่ขีม้าเป็ นเท่านัน คิด
ไม่ถงึ ว่าขณะทีม้ากําลังพยศ เจียงหลีไม่เพียงทรงตัวได้
แต่ยงั สามารถแสดงฝี มือออกมาให้คนทังสนามได้ชืน
ชม... ท่าทางเช่นนี ไม่ใช่ลกั ษณะของคนทีขีม้าไม่เป็ นแม้
แต่นอ้ ย

17
บทที 63 ตําแหน่งเดิม!

นางถูกเจียงหลีหลอกเอาเสียแล้ว

เมิงหงจินทังตกใจและโกรธขึง

คนทีมารอรับเจียงหลีตา่ งกรูกนั เข้ามาอยูอ่ ีกด้านหนึง


เจียงหยวนปั วตกใจแทบสินสติ แต่มา้ พยศนันน่ากลัวนัก
ทางเดียวทีอาจทําได้ก็คือบันคอมันให้ขาด ทว่าตอนทีม้า
ล้มลงเจียงหลีอาจได้รบั บาดเจ็บไปด้วย ไม่เช่นนันก็ตอ้ ง
ใช้วิชาตัวเบาเข้าฉุดร่างพานางเหินออกมา แต่คนทีรูว้ ิชา
ตัวเบาก็เป็ นบุรุษด้วยกันทังสิน หากเจียงหลีถกู ผูช้ าย

1
กอดไว้ในอ้อมอกต่อหน้าคนทังเมือง อย่างไรเสียก็ตอ้ ง
ถูกครหา

ขณะทีกําลังขบคิดอยูน่ นั ม้าสีนาตาลเข้
ํ มก็ยิงวิงเร็วขึน
คนทังหมดต่างร้องอุทานออกมา เจียงหลีไม่ทนั ระวัง มือ
ข้างหนึงจึงหลุดจากการเกาะกุม เจ้าม้าสะบัดตัวไปมา
นางเหลือมือเพียงข้างเดียวทีกําบังเหียนอยู่

เมิงหงจินแอบดีใจ เจียงโย่วเหยากับเจียงอวีเอ๋อเองก็
มองอย่างลิงโลด คิดว่าเจียงหลีคงไม่รอดแน่แล้ว แต่
พวกนางยังไม่ทนั จะได้หวั เราะออกมา ก็เห็นเจียงหลียืน
มือกําแผงคอม้าไว้

2
ม้าสีนาตาลเข้
ํ มได้รบั ความเจ็บปวดก็รอ้ งเสียงดังอีกครัง
ลําตัวครึงบนโผนขึนกลางอากาศ

จังหวะนัน เจียงหลีสบโอกาส นางพลิกตัวทะยานขึน


หลังม้าและกลับไปนังบนอานม้าโดยไม่ได้รบั บาดเจ็บแม้
แต่นอ้ ย

กลับไปอยู่ ณ ตําแหน่งเดิม!

ภาพเหตุการณ์อนั น่าตกตะลึงนี เกิดขึนในชัวระยะเวลา


อันสัน ในลําคอของผูช้ มเหมือนมีอะไรบางอย่างมาจุกไว้
ล้วนตืนเต้นจนพูดไม่ออก พอเห็นเจียงหลีสามารถนัง
หลังตรงอยูบ่ นอานม้าได้แล้วก็โล่งใจไปตามๆ กัน

3
“แม่หนูผนู้ ี...” เจิงหูเ่ ฉินพูดไม่ออก

ด้านนีเพิงจะโล่งใจ ผูค้ นรอบกายก็สง่ เสียงด้วยความตืน


ตระหนกอีกครัง เจิงหูเ่ ฉินพยายามตังสติแล้วเพ่งมอง
เห็นเจียงหลีทีเพิงกลับไปนังอยูบ่ นอานม้าอีกครัง คว้า
บังเหียนได้ก็ควบทะยานไปสูจ่ ดุ หมายสุดกําลัง โดยไม่
สนใจม้าทีกําลังพยศ

นางยังคิดจะปิ ดการแข่งขันครังนี ด้วยม้าพยศตัวนัน


หรือ?

เหลวไหลสินดี บ้าระหําเกินไปแล้ว!

4
เจียงหลีแนบตัวไปกับหลังม้า ยามนีชุดสีเขียวของนาง
พลิวไหวคล้ายดังสายลมแห่งเสรี... เป็ นสายลมทีพัดรวด
เร็วไม่ตา่ งจากสายฟ้าสีเขียว เป็ นสีทีให้ความรูส้ กึ สดชืน
ผ่อนคลายเหมือนใบไผ่หลังฝนเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทํา
ให้ไม่อยากจะเชือสายตาว่าเรือนร่างทีแบบบางนีจะ
เปี ยมไปด้วยความกล้าหาญ ดุจสายนําอ่อนโยนที
สามารถม้วนก้อนหินอันแข็งแกร่งขึนมาได้

“ดูสิ เจ้ารีบดูเร็วเข้า...” ข่งลิวดึงแขนเสือของจีเหิงอย่าง


ตืนเต้น

จีเหิงมองปลายแขนเสือของตนแล้วกล่าวอย่างเรียบเฉย

5
ว่า “ข้าเห็นแล้ว”

เมิงหงจินทีติดตามอยูด่ า้ นหลังใบหน้าพลันเปลียนสี
เป็ นความตกใจอย่างคาดไม่ถงึ ไม่คิดเลยว่าเจียงหลีจะ
โชคดีเช่นนี ม้าทีเกิดพยศไม่ได้สะบัดนางตกลงมา แต่
ความเจ็บปวดกลับเพิมแรงฮึดให้ฝีเท้าม้ารวดเร็วกว่า
เดิม หากยอมให้เจียงหลีแซงขึนหน้าแบบนีต่อไปคงไม่ดี
แน่ เมิงหงจินเกิดร้อนใจจนมือเท้าสับสนไปหมด เห็นคน
รอบข้างพากันโห่รอ้ งให้กบั เจียงหลี ยังจะมีใครคิดถึง
นางอีก

นีเป็ นการขีม้ายิงธนู เป็ นวิชาทีนางถนัดทีสุด หากแม้แต่


การขีม้ายิงธนูก็ยงั ต้องพ่ายแพ้ให้กบั เจียงหลี นางคงไม่มี
สิงใดเหลือแล้ว
6
เมิงหงจินคิดได้ก็ออกแรงขึนทันที นางฟาดแส้สดุ กําลัง
ควบทะยานตามเจียงหลีขนไปติ
ึ ดๆ

หลังจากเหตุการณ์ตา่ งๆ ทีเกิดขึน เจียงโย่วเหยากับ


เจียงอวีเอ๋อทีอยูร่ งท้
ั ายก็ไล่กวดกันขึนมา พอเห็นเมิงหง
จินออกแรงพวกนางก็ไม่อยากน้อยหน้า อีกทังยังเป็ นโค้ง
สุดท้าย ต่างฟาดแส้ แสดงความสามารถกันเต็มพิกดั

กลุม่ นีสอบด้วยบรรยากาศเอาเป็ นเอาตาย และคนทีทํา


ให้ผชู้ มทังหลายต้องตกใจซําๆ ก็คือเจียงหลี ม้าสีนาตาล

เข้มเป็ นสัตว์เดรัจฉาน เกิดความเจ็บปวดขึนมาก็คิดแต่
จะสะบัดผูข้ ีทิง แต่ไม่วา่ จะพยศอย่างไร มือของเจียงหลี
ก็ยงั คงกําบังเหียนเอาไว้แน่น ดูเหมือนตังแต่ตน้ จนจบ
7
ยังไม่มีอะไรขัดขวางความมุง่ มันของนางได้

ขณะเข้าใกล้โค้งสุดท้าย ด้านหน้ายังปรากฏเป้าธนูอีก
หนึงแถว เจียงหลีวาดเท้าขึนยืนทรงตัวบนหลังม้า มือ
หนึงจับบังเหียนไว้ อีกมือคลําไปทีกระบอกธนู

“ดูสิ นางยังจะยิงธนูอยูอ่ ีก”

“สวรรค์ นางไม่หว่ งชีวิตแล้วจริงๆ”

ครังก่อนเจียงหลียิงเข้าเป้าไปถึงสามดอกอย่างเหนือ
ความคาดหมาย เป็ นเพียงคนเดียวในสนามสอบวันนีที
สามารถทําได้สาํ เร็จ นางไม่จาํ เป็ นต้องยิงธนูอีกก็ยงั
8
สอบผ่าน ทีสําคัญม้าของนางตอนนีกําลังพยศ หากนาง
ใช้สองมือไปกับการยิงธนู ย่อมตกอยูใ่ นอันตรายยิงกว่า
ครังก่อน

“แม่นางน้อยผูน้ ีมีความกล้าหาญยิง” ข่งลิวยกย่อง “ข้า


ชืนชมในตัวนาง”

เมิงหงจินเห็นสถานการณ์ตรงหน้าในใจพลันบังเกิด
ความหดหู่ จู่ๆ นางก็คิดขึนมาได้ ระหว่างทางทีควบผ่าน
ไปเมือสักครู ่ นางมัวแต่ยงุ่ อยูก่ บั การใช้อาวุธลับทําร้าย
เจียงหลี จึงไม่ทนั ได้ยิงธนู ส่วนเจียงหลีกลับยิงธนูเข้า
เป้าไปแล้วถึงสามดอก มาตอนนี ตัวนางเองยังไม่ได้ยิง
ออกไปสักครัง

9
หากการแข่งขันจบลงแล้วนางยังยิงไม่เข้าเป้าเกิน
สามดอก เกรงว่าจะต้องพ่ายแพ้ให้แก่เจียงหลีแน่ ไม่ได้
การเสียแล้ว

เมิงหงจินคิดอะไรไม่ทนั รีบหยิบลูกธนูจากกระบอกออก
มาเล็งเป้าแล้วยิงออกไป

ในขณะเดียวกัน เจียงหลีพลันแสยะยิมพลางยกคันธนู
ตามมาติดๆ

ธนูดอกหนึงถูกยิงออกจากมือของเจียงหลี

10
ลูกธนูของเจียงหลีมีสญ
ั ลักษณ์สีแดงติดอยู่ ส่วนลูกธนู
ของเมิงหงจินเป็ นสีนาเงิ
ํ น บังเอิญหรือไม่ทีลูกธนูทงสอง

ต่างก็เล็งไปทีเป้าหมายเดียวกัน

ข้างหน้าดอกหนึง ข้างหลังไล่ตาม หนึงแดง หนึงนําเงิน

แหวกอากาศออกไปอย่างรวดเร็ว

อาจเป็ นเพราะเจียงหลีออกแรงดึงคันธนูมากกว่า หรือ


อาจเป็ นเพราะเมิงหงจินตืนเต้นจนเกินไป อย่างไรก็ตาม
ลูกธนูของเจียงหลีซงยิ
ึ งทีหลังกลับแซงหน้าลูกธนูของ
เมิงหงจินไปอย่างเฉียดฉิว ในจังหวะทีสายตาผูค้ นมอง
ตามไม่ทนั ลูกธนูของเจียงหลีก็กระทบเข้ากับลูกธนูของ

11
เมิงหงจิน

กระทบเพียงเล็กน้อย ราวกับไม่ได้เฉียดใกล้

ลูกธนูของเจียงหลีตรงดิงไปยังใจกลางเป้า แต่ลกู ธนูของ


เมิงหงจินกลับเบนไปอีกทิศทางอย่างน่าพิศวง

“องค์หญิง!” มีคนร้องเสียงหลง

ชัวครู ่ เสียงร้องก็ดงั ระงม

เมิงหงจินมองไปตามสัญชาตญาณ ทีใกล้กบั จุดหมาย


ปลายทางเป็ นตําแหน่งทีนังของผูช้ มระดับสูง ณ ทีนัง
12
ข้างกายเฉิงอ๋อง องค์หญิงหย่งหนิงกําลังกุมไหล่ของตน
ขณะทีโลหิตสดๆ ไหลทะลัก

นันมัน... เมิงหงจินงุนงง

“ชัวช้า! ไปจับตัวนางมาให้ขา้ เดียวนี” องค์หญิงหย่งหนิง


ร้องเสียงแหลม

“เป็ นข้าหรือ” เมิงหงจินงุนงงจนทําอะไรไม่ถกู ยังไม่ทนั รู ้


ว่าเกิดอะไรขึนกันแน่ก็มีทหารองครักษ์ขององค์หญิงหย่ง
หนิงรุดเข้ามา ไม่สนใจว่ากําลังอยูใ่ นระหว่างการแข่งขัน
พลันจับกุมตัวนางไว้แล้วมัดโยงกับต้นไม้

13
หลังจากการสอบเสร็จสิน ม้าพยศสีนาตาลเข้
ํ มของเจียง
หลียงั คงวิงออกไปนอกสนาม แต่ก็มีกลุม่ คนตามไปไล่
จับมันได้ ในตอนท้ายเจียงหลีกบั เมิงหงจินยิงธนูออกไป
พร้อมกัน ลูกธนูทีปั กลงกลางเป้านันมีสญ
ั ลักษณ์สีแดง

เจียงหลีชนะแล้ว

เจียงหลีขบฟั นแล้วก็มองไปทางองค์หญิงหย่งหนิงทีถูกผู้
คนห้อมล้อม ภายในใจพลันรูส้ กึ เย็นเยียบ

องค์หญิงหย่งหนิงยังรอดไปได้ หากนางเข้าใกล้กว่านีอีก
นิด... กระแทกธนูของเมิงหงจินให้แรงอีกหน่อย ลูกธนูสี
นําเงินคงไม่เพียงแค่เฉียดไปโดนไหล่ แต่ตอ้ งปั กเข้าที

14
กลางอกขององค์หญิงแล้ว

น่าเจ็บใจนัก พลาดไปแค่นิดเดียวเท่านัน!

ในทีสุดข่งลิวก็นงลงจนได้
ั ใบหน้าของเขาชุ่มเหงือ เจิงหู่
เฉินทีอยูข่ า้ งๆ ก็ไม่ตา่ งกัน ต้องมาชมการสอบทีขับเคียว
กันอย่างเอาเป็ นเอาตายในรอบนี รูส้ กึ ว่าเหนือยกว่าดู
การฝึ กซ้อมของทหารเสียอีก

แต่วา่ ... ข่งลิวยังรูส้ กึ ดีใจ เขากล่าวกับจีเหิง “เจ้าเห็น


หรือยัง คุณหนูรองเจียงเก่งกาจขนาดไหน วันนีช่วยเปิ ด
หูเปิ ดตาข้าจริงๆคราวนีนางโดดเด่นไม่นอ้ ย คงยินดี
มาก”

15
“ดีใจรึ... ผิดหวังสิไม่วา่ ” จีเหิงกล่าวเสียงเรียบ

“ผิดหวังรึ” ข่งลิวงุนงง “ผิดหวังอะไรกัน นางได้คะแนน


นํามาเป็ นอันดับหนึง แล้วนีศิลปะทังหกแขนงก็สอบไป
หมดแล้ว ทุกวิชาล้วนได้อนั ดับหนึงทังสิน ยังจะมีอะไร
ให้ผิดหวังอีก”

“ยืมมือฆ่าคนไม่สาํ เร็จ ก็ตอ้ งผิดหวังแน่นอนอยูแ่ ล้ว” จี


เหิงหัวเราะเสียงเย็นแล้วลุกขึน “ละครวันนีก็ไม่เลวนัก
แค่ไม่เห็นเลือดตกยางออกสักเท่าไร ไม่เป็ นไร เอาไว้วนั
หลังค่อยมาดูใหม่” พูดจบก็สะบัดแขนเสือจากไป

16
“พิลกึ คนจริงๆ” ข่งลิวบ่นออกมาหนึงคํา ราวกับคิดอะไร
บางอย่างได้ “เฮ้... ช้าก่อน เจ้ายังไม่ได้ตดั สินเลยนะ”

จีเหิงจากไปเสียแล้ว ถึงกระนัน การขีม้ายิงธนูในวันนีก็


ตัดสินง่ายกว่าวิชาดนตรีมาก เพราะผลการแข่งขัน
ชัดเจนอย่างยิง ใครๆ ก็สามารถดูออก วิชาขีม้ายิงธนู...
คุณหนูรองเจียงนันเยียมยอดทีสุด

ทว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเมิงผูน้ นน่
ั ะสิจะเป็ นอย่างไร
ฝี มือการยิงธนูยาแย่
ํ ก็แล้วไปเถิด แต่จะยิงไปโดนองค์
หญิงหย่งหนิง ธิดาคนโปรดของพระสนมหลิวให้เนือตัวมี
รอยแผลเป็ นได้อย่างไร อย่าว่าแต่องค์หญิงหย่งหนิงเลย
แม้แต่คณ
ุ หนูลกู ขุนนางทังหลาย หากโดนลอบทําร้าย
เช่นนีก็คงไม่มีละเว้น พูดให้เป็ นเรืองเล็กก็อาจกล่าวว่า
17
แค่พลังมือ พูดให้เป็ นเรืองใหญ่ก็อาจกลายเป็ นการลอบ
ทําร้ายเชือพระวงศ์ได้เลยทีเดียว

ใบหน้าของเมิงหงจินเหมือนกับสีดินไม่มีผิด ทังตกใจ
และตืนกลัวจนตัวสัน นางดินรนพลางกล่าวว่า “ไม่ใช่ขา้
ข้าไม่ได้คิดปองร้ายองค์หญิง เป็ น... เป็ นเจียงหลี เจียง
หลีเป็ นคนให้รา้ ยข้า

18
บทที 64 เสียเปรียบ

ในฝูงชนมีคนเย้ยหยันออกมา “คุณหนูเมิง เหตุใดถึงพูด


จาโกหกเช่นนีเล่า ธนูทีอยูบ่ นร่างขององค์หญิงหย่งหนิง
มีสญ
ั ลักษณ์สีนาเงิ
ํ นติดอยู่ เป็ นลูกธนูของคุณหนูเมิง ยัง
คิดจะโยนความผิดให้แปดเปื อนคุณหนูรองเจียงอีกรึ น่า
ขันจริงๆ”

หลิวสวีวิงซอยเท้าเข้ามาดึงมือเจียงหลีดว้ ยสีหน้าหวาด
หวัน “เจ้าทําให้ขา้ ตกใจแทบแย่ เมือครูต่ อนทีม้าพยศ
เหตุใดเจ้ายังจะควบม้าไปข้างหน้าอีก นีเป็ นแค่การสอบ
คุม้ ค่ากับการเอาชีวิตเข้าแลกเชียวหรือ”

1
“ข้าก็ปลอดภัยมิใช่หรือ” เจียงหลียิมปลอบ ทว่าในใจ
นางกลับโศกเศร้า จังหวะสําคัญตอนสุดท้ายนางจงใจยิง
ให้ธนูของเมิงหงจินเปลียนทิศทาง คิดว่าหากทําให้องค์
หญิงหย่งหนิงเจ็บหนักได้ก็คงดีแต่น่าเสียดายทีพลาด
เป้าไปอย่างเฉียดฉิว

“คราวนีเมิงหงจินแย่แน่แล้ว...” หลิวสวีกล่าวเสียงเบา
“ดูทา่ ทางเอาเรืองขององค์หญิงหย่งหนิงสิ เกรงว่าเรืองนี
คงจบไม่ดีแน่”

เจียงหลีแอบหัวเราะในใจ ไม่ไยดีเมิงหงจินแม้แต่นอ้ ย ที
ม้าสีนาตาลเข้
ํ มของนางพยศในครังนี จะต้องเกียวข้อง
กับเมิงหงจินแน่เจียงหลีจาํ ได้แม่นยํา ก่อนทีม้าตัวนันจะ
2
พยศ เมิงหงจินอยูด่ า้ นหลังนาง

แค่การประลองของเด็กๆ ฝ่ ายนันถึงกับคิดจะเอาชีวิต
นาง เมิงหงจินถือได้วา่ ใจดําอํามหิต ตอนนีต้องมาเป็ น
อริกบั องค์หญิงหย่งหนิงทีใจดําอํามหิตเช่นเดียวกัน นับ
ว่าเป็ นนางเองทีหาเรืองใส่ตวั

“พูดก็พดู เถอะ ตอนแรกคิดว่าเราต้องเสียเปรียบเมิงหง


จินแล้ว” หลิวสวีเองก็ไม่ได้เห็นใจเมิงหงจิน กลับกล่าวว่า
“คราวนีนางไปมีเรืองกับองค์หญิงหย่งหนิง ข้อเดิมพันที
ทําไว้กบั เจ้าคงถูกยกเลิกไปด้วย”

“ใครจะยอมให้ยกเลิกไปง่ายๆ เล่า” เจียงหลียอ้ นถาม

3
“รอให้นางสะสางเรืองขององค์หญิงหย่งหนิงเสร็จ ก็ตอ้ ง
ทําตามข้อเดิมพันของข้า... ข้ายังรออยู”่

หลิวสวีองงั
ึ น แล้วอดขําออกมาไม่ได้ “ควรเป็ นเช่นนี
ตังแต่แรกแล้ว”

เจียงหลียิมพลางพยักหน้ารับ

เวลานี พวกของเจียงโย่วเหยาเองก็ลงจากหลังม้า กลับ


ไปอยูข่ า้ งกายคนในจวนแล้ว เจียงโย่วเหยาเห็นจีซูหรันก็
ร้องเรียก “ท่านแม่” นางยังรูส้ กึ ตกใจไม่หาย

ในใจของจีซูหรันนันโกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ ตังแต่เมือวาน


4
นางเห็นแววตาทีเมิงหงจินมองเจียงหลีจงึ พอคาดเดาได้
ว่าอีกฝ่ ายต้องลงมือจัดการเจียงหลี ไม่ตอ้ งบอกก็รู ้ วันนี
ทีจู่ๆ ม้าของเจียงหลีก็เกิดพยศขึนมา จะต้องเป็ นฝี มือ
ของเมิงหงจินอย่างแน่นอน แต่ตอนสุดท้ายเจียงหลีกลับ
ไม่ได้รบั อันตรายแม้แต่ปลายเส้นผม กลับเป็ นเมิงหงจิน
ทีหาเรืองเดือดร้อนใส่ตวั

ถึงจะไม่รูว้ า่ เจียงหลีใช้วิธีใด แต่เรืองในวันนี ทําให้จีซูห


รันได้ทาํ ความรูจ้ กั กับตัวตนของเจียงหลีใหม่อีกครัง แต่
ละเรืองราว แต่ละเหตุการณ์ ทําให้นางรูว้ า่ นิสยั ของเจียง
หลีนนเปลี
ั ยนไปแล้ว น่าจะไม่เหมือนเดิมตังแต่กลับมา
ถึงเมืองเยียนจิง มิหนําซํายังมีวิชาดนตรีขีม้าและยิงธนู
ทีจู่ๆ ก็โผล่ขนมา
ึ ล้วนแต่ทาํ ให้จีซูหรันรูส้ กึ ถึงความเป็ น
คนแปลกหน้าและอันตราย

5
หากเป็ นเมือก่อน จีซูหรันคงคิดจะยืมมือคนอืนมากําจัด
เจียงหลีผทู้ ีเป็ นหนามยอกอก มาบัดนี นางกลับรูส้ กึ ว่า
ต้องลงมือด้วยตัวเองเสียแล้ว การดํารงอยูข่ องเจียงหลี
เป็ นภัยต่อนางและบุตรสาวมากขึนทุกที นางต้องทําให้
เจียงหลีรบี หายไปจากสายตาโดยเร็ว

ลานกว้างหน้าสนามสอบกําลังมีการแจ้งผลสอบ ฝูงชน
ต่างสับสนอลหม่าน เนืองจากองค์หญิงหย่งหนิงได้รบั
บาดเจ็บ จึงไม่มีใครให้ความสนใจกับรายชือทีถูก
ประกาศ

สายตาของเจียงหลีมองข้ามผูค้ นไปตกอยู่ ณ ตําแหน่งที

6
ห่างจากเฉิงอ๋องไม่ไกลนัก

เสินอวีหยง... เขานังห่างจากองค์หญิงหย่งหนิงพอ
ประมาณ

องค์หญิงหย่งหนิงมีทหารองครักษ์ให้ความคุม้ ครอง นาง


กํานัลคนสนิทกําลังประคองออกจากสนามสอบเพือ
รักษาอาการบาดเจ็บ แม้ลกู ธนูดอกนันจะไม่ถงึ ขันเอา
ชีวิตนางได้ แต่ก็บาดเจ็บไม่นอ้ ย จําต้องพักรักษาตัวกัน
เป็ นเดือน จะหลงเหลือรอยแผลเป็ นหรือไม่ก็เดาได้ยาก
ดังนันองค์หญิงหย่งหนิงต้องโมโหมากเป็ นแน่

แล้วก็จริงเสียด้วย องค์หญิงหย่งหนิงในเวลานีนอกจาก

7
จะโมโหแล้ว สายตาก็ยงั คงวนเวียนอยูท่ ีเสินอวีหยง ช่าง
น่าสงสารเสียจริง

เจียงหลีมองไปทีเสินอวีหยงอีกครัง เขาพยายามหลบ
สายตาขององค์หญิงหย่งหนิง แต่ขณะทีองค์หญิงจวน
จะระเบิดอารมณ์ออกมา เขาก็สง่ สายตาห่วงใยได้อย่าง
ทันท่วงที ทําให้ความโกรธขึงขององค์หญิงผูห้ ยิงยโส
มอดลง

เจียงหลีเห็นแล้วแทบอยากอาเจียนออกมา อดหัวเราะ
อย่างเย็นชาไม่ได้ คนอย่างเสินอวีหยง เมือต้องการจะ
‘รัก’ ใครสักคน ไม่มีผใู้ ดสงสัยในความจริงใจของเขา
น้อยคนนักทีจะปฏิเสธได้

8
นางหันหน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว เกรงว่าหากมองนาน
เกินไปจะปิ ดบังแววตาอาฆาตจนเข้ากระดูกเอาไว้ไม่ได้

ตอนนียังไม่ถงึ เวลา ยังไม่มนใจเต็


ั มที รออีกสักหน่อย รอ
อีกสักหน่อย...

ทีตรอกด้านนอกสนามม้า มีบรุ ุษสองคนกําลังเยืองย่าง

คนทีอยูด่ า้ นหน้าสวมอาภรณ์สีแดงสด มองเห็นเพียง


แผ่นหลังยังรูว้ า่ หล่อเหลา

“เหวินจี” คนทีเดินอยูด่ า้ นหน้าเอ่ยปากถามด้วยความ


9
แคลงใจ “องค์หญิงหย่งหนิงกับเจียงหลี มีความแค้นต่อ
กันหรือไม่”

เหวินจีสะดุง้ อยูใ่ นใจ ตอบว่า “ข้าน้อยไม่ทราบ”

ผูท้ ีอยูด่ า้ นหน้ายังไม่หยุดสงสัย ผ่านไปนานสองนาน จึง


เอ่ยออกมา “นันสินะ... ตัวข้าเองก็ไม่อาจรู”้

การสอบใหญ่ของสํานักบัณฑิตหญิงหมิงอีถาง สามวิชา
แรกและสามวิชาสุดท้าย ในทีสุดก็เสร็จสิน

การสอบใหญ่ครังนีเริมด้วยความเข้มข้นแล้วจบลงอย่าง
ดุเดือดไม่แพ้กนั มีเพียงชือเดียวทีทุกคนกล่าวขวัญกัน
10
อย่างเอิกเกริกหลังการสอบใหญ่ครังนี นันก็คือเจียงหลี
หรือคุณหนูรองเจียง

เขียนพูก่ นั คํานวณ มารยาทพิธีการ ดนตรี ขีม้าและยิง


ธนู นางล้วนได้อนั ดับหนึงทังหกแขนง หากคุณหนูรอง
เจียงเป็ นอัจฉริยะทีมีชือเสียงโด่งดังมาตังแต่เยาว์วยั ก็คง
ไม่แปลก แต่นางกลับเป็ นคุณหนูทีถูกส่งตัวออกไปอยูใ่ น
สํานักนางชีเพียงลําพังนานถึงแปดปี ตังแต่ตอนทีอยูใ่ น
วัยเริมเรียนรู ้

การสอบใหญ่ในปี นีจบลง ภาพบุปผางามทีแข่งกันผลิ


บานอวดโฉมก็มลายไปด้วย

11
ในจวนของท่านหนิงหย่วนโหว โจวเยียนปั งกําลังนัง
เหม่อลอย หนังสือทีวางอยูบ่ นโต๊ะถูกลมพัดจนเปิ ดอ้า
แต่เขากลับไม่มีแก่ใจจะไปไยดี สิงทีปรากฏในสมองคือ
ท่วงท่าราวสายลมของหญิงสาวในชุดสีเขียวสดบน
สนามม้า

โจวเยียนปั งยอมรับว่าตนกําลังลุม่ หลง ในช่วงหลายปี ที


ผ่านมาของเขา ยังไม่เคยปั กใจกับหญิงใดเช่นนีมาก่อน
หญิงสาวผูน้ นราวกั
ั บมีปริศนามากมายซ่อนเร้น ยิงนาง
ไม่สนใจในตัวเขา โจวเยียนปั งก็ยงอยากครอบครอง

เมือก่อนเจียงหลีมีชือเสียงด่างพร้อย เกรงว่าต่อไปจะหา
สามีได้ยาก ทว่าในการสอบใหญ่ครังนี ความสามารถ
ของเจียงหลีประจักษ์แก่สายตาคนทังเมืองหลวง นาง
12
เป็ นถึงโฉมสะคราญซึงถือกําเนิดจากอดีตฮูหยินใหญ่
แห่งจวนตระกูลเจียง เกรงว่าไม่นานคงจะมีคนไปสูข่ อ...

โจวเยียนปั งรูส้ กึ ทุกข์ระทม เมือคิดว่าเจียงหลีตอ้ งแต่ง


กับชายอืนก็ทงโกรธเคื
ั องและโศกเศร้า ขณะทีกําลังกลุม้
ใจอยูน่ นั เด็กรับใช้คนหนึงก็เดินเข้ามาแจ้งว่า “คุณชาย
โจว ฮูหยินมาแล้วขอรับ”

โหวฮูหยินเดินเข้ามา โจวเยียนปั งรีบลุกขึนต้อนรับ “ท่าน


แม่”

โหวฮูหยินคลียิมกล่าว “ข้าสังคนครัวทําขนมดอกเหม
ยมาให้ ไม่กีวันมานีอากาศร้อน เจ้ากินสักหน่อยจะได้

13
เย็นท้อง” มองเห็นหนังสือทีวางระเกะระกะอยูบ่ นโต๊ะ
ของโจวเยียนปั ง โหวฮูหยินก็นิงงัน แล้วถามหยังเชิง
“เยียนปั ง ช่วงนีเจ้ามีเรืองในใจหรือ”

ช่วงนีโจวเยียนปั งทําอะไรก็เหมือนจิตใจไม่อยูก่ บั เนือกับ


ตัว โหวฮูหยินคิดว่าอาจเป็ นเพราะเรืองการสอบใหญ่
ของสํานักบัณฑิตชาย เขาได้คะแนนมาเป็ นอันดับสาม
จึงรูส้ กึ เสียใจ คิดได้ดงั นัน นางจึงเอ่ยปลอบ “คงไม่ใช่
เพราะการสอบใหญ่ของสํานักบัณฑิตชายหรอกนะ ท่าน
พ่อของเจ้าก็กล่าวว่าเรืองนีไม่อาจโทษเจ้า ได้เป็ นอันดับ
สามก็ถือว่าไม่เลวแล้ว”

การสอบใหญ่ของสํานักบัณฑิตชายในปี นี เดิมทีโจว
เยียนปั งคิดว่าตนเองจะคว้าอันดับสอง ทังสํานักบัณฑิต
14
ชาย ผูท้ ีความสามารถเหนือกว่าเขามีเพียงคุณชายใหญ่
หลีจิงแห่งจวนเสนาบดีเท่านัน แต่การสอบคราวนีหลีจิง
กลายเป็ นอันดับสอง เขาจึงตกลงมาเป็ นอันดับสาม
อันดับหนึงกลับกลายเป็ นของเย่ซือเจีย ม้ามืดทีใครต่อ
ใครไม่เคยได้ยินชือมาก่อน

“ท่านแม่ ไม่ใช่เพราะเรืองนี...” โจวเยียนปั งรูส้ กึ อึดอัดที


จะเล่า

“เช่นนันเป็ นเพราะเหตุใด” โหวฮูหยินแปลกใจนัก

“ลูก...” โจวเยียนปั งกัดฟั นกล่าว “ลูกไม่อยากจะแต่งกับ


คุณหนูสามแห่งจวนอํามาตย์ หญิงทีลูกชอบคือคุณหนู

15
รองต่างหากเล่า”

ถาดขนมในมือของโหวฮูหยินตกกระจายเต็มพืน เสียง
ดังบาดหู

“นายท่านใหญ่สง่ เงินมาเจ้าค่ะ”

ในเรือนฟั งเฟย ถงเอ๋อถือกล่องไม้ใบเล็กไว้แนบอก ดีใจ


ยกใหญ่ นางนํากล่องไม้ไปวางไว้บนโต๊ะ เจียงหลีเห็น
แล้วก็กล่าวว่า “เก็บไว้ให้ดี วันหน้าเราอาจต้องใช้”

ถงเอ๋อเก็บเงินไว้ตามคําสัง หมิงเย่ทีอยูด่ า้ นนอกเคาะ


ประตู
16
เจียงหลีพยักหน้ากล่าว “เข้ามาได้”

หลังจากหมิงเย่เข้ามาแล้วก็ปิดประตูลงกลอน นางก้าว
เข้ามาแล้วกล่าวเสียงเบา “คุณหนู บ่าวไปสืบมาแล้ว
คุณหนูตระกูลเมิงยังไม่ได้กลับจวนเจ้าค่ะ เมิงฮูหยินเอง
ก็กาํ ลังรออยู่ ส่วนใต้เท้าเมิงออกไปวิงเต้นหาคนช่วย
เหลือ แต่ดเู หมือนว่าองค์หญิงหย่งหนิงจะไม่ยอมรามือ”

17
บทที 65 อีกไม่ช้า

เจียงหลีพยักหน้ารับ นีเป็ นเรืองทีนางพอจะเดาได้


เมิงหงจินคงจะไม่รอดแน่ วิธีการทําร้ายผูค้ นขององค์
หญิงหย่งหนิง เจียงหลีเคยประสบกับตัวเองมาก่อน
คราวนีตระกูลเมิงต้องรับเคราะห์จนพูดไม่ออกแน่

ไป๋ เสวียได้ยินเช่นนันก็เอ่ยถามเจียงหลี “แล้วข้อเดิมพัน


ระหว่างคุณหนูกบั คุณหนูเมิง ยังจะมีผลหรือเปล่าเจ้า
คะ”

“อยากจะให้มีผลอยูเ่ หมือนกัน เสียดายทีคงไร้ประโยชน์

1
เสียแล้ว วันพรุง่ นีเมิงหงจินคงไม่ยอมออกมาแน่นอน ถึง
เวลานัน พวกเจ้าค่อยไปหาคนมาตีฆอ้ งร้องป่ าวทีหน้า
ประตูสาํ นักบัณฑิตชายก็แล้วกัน บอกว่าข้าเห็นใจคุณ
หนูเมิงทีกําลังเสียขวัญ ข้อเดิมพันนันเป็ นแค่เรืองทีเล่น
สนุก ขอให้จบแต่เพียงเท่านี ต่อไปจะไม่กล่าวถึงอีก”

ถงเอ๋อรูส้ กึ ผิดหวัง “มีแต่ฝ่ายเราทีเสียประโยชน์ให้นาง”

เจียงหลีคลียิม “ต่อให้ขา้ ไม่พดู เมิงโหย่วเต๋อก็ตอ้ งหา


เหตุผลมาทําให้ขอ้ เดิมพันนีเป็ นโมฆะหรืออาจจะขอขมา
ข้า แต่ถงึ อย่างไรก็คงไม่ยอมให้เมิงหงจินต้องอับอาย
ขายหน้าแน่ เช่นเดียวกัน หากข้าเป็ นฝ่ ายแพ้ ท่านพ่อก็
ต้องหาวิธีการหลบเลียงข้อเดิมพันนี ทุกอย่างถูกกําหนด
ไว้อยูแ่ ล้ว การทีข้าชิงพูดออกไปก่อน ยังจะได้รบั คําชืน
2
ชมเสียอีก เหตุใดจึงจะไม่ทาํ เล่า”

ผูค้ นด้านนอกได้ฟังก็จะชืนชมว่านางเป็ นคนดี ใจ


คอกว้างขวาง ไม่เพียงแต่มีความสามารถเท่านัน ยัง
เปี ยมคุณธรรมอีกด้วย หากนางเลือกบีบบังคับจนทําให้
อีกฝ่ ายตกทีนังลําบาก ก็นบั ว่าเป็ นคนคิดเล็กคิดน้อยจน
เกินไป พูดออกมาคําเดียวไม่ทาํ ให้เดือดร้อน อีกทังไม่
กระทบต่อผลลัพธ์ทีควรจะเป็ น เหตุใดถึงจะไม่ฉวย
โอกาสไว้

ในชาติก่อน นางไม่สนใจกับเรืองชือเสียงนัก เป็ นเหตุให้


คนอืนนําชือเสียงของนางมาเป็ นอาวุธ ตอนนีนางจะต้อง
มีชือเสียงโด่งดังไปทัวหล้า เมือใส่หน้ากากทําการใดก็จะ
ง่ายยิงขึน
3
“ครังนีคุณหนูสอบได้คะแนนเป็ นอันดับหนึง ได้ยินว่าคน
ทีได้อนั ดับหนึงต้องเข้าวัง ฮ่องเต้จะพระราชทานรางวัล
ด้วยพระองค์เอง” ถงเอ๋อคิดอะไรขึนมาได้ “คุณหนูก็
สามารถเข้าเฝ้าฮ่องเต้ได้แล้วสินะเจ้าคะ ได้รบั รางวัลที
ฮ่องเต้พระราชทานให้จากหัตถ์เชียวนะ นับเป็ นความ
ภาคภูมิใจอย่างสุดซึง ต่อไปก็จะไม่มีใครกล้ามารังแก
คุณหนูอีก”

เจียงหลีหวั เราะเบาๆ หวนคิดถึงครังก่อน ตอนทีนางเข้า


เฝ้าฮ่องเต้หงเซียวขึนมา หลังจากทีเสินอวีหยงสอบได้จอ
หงวน ฮ่องเต้ทรงจัดงานเลียงรืนเริงยามราตรีขนในวั
ึ ง
หลวง นางไปร่วมงานพร้อมกับเสินอวีหยงในฐานะ
ภรรยา คนจํานวนมากต่างริษยาทีนางได้เป็ นฮูหยินของ

4
ท่านจอหงวนคนใหม่ อย่างไรเสีย เสินอวีหยงก็มีความ
สามารถ ทังยังอนาคตไกลและหล่อเหลา ตอนนันองค์
หญิงหย่งหนิงยังดืมให้กบั นาง สายตาของเจียงหลีฉาย
แววครุน่ คิด อาจเป็ นตอนนันทีองค์หญิงหย่งหนิงเกิดพอ
ใจในตัวเสินอวีหยง

ชาตินีได้เข้าวังอีกครัง นางจะต้องได้พบกับองค์หญิง
หย่งหนิงแน่ หากเป็ นงานเลียงในวัง เสินอวีหยงอาจมา
ร่วมงาน ทว่าครังนีนางไม่ใช่ฮหู ยินบ้านตระกูลเสินอีกต่อ
ไป แต่เป็ นบุตรสาวของตระกูลเจียง

นางเริมขยับเข้าใกล้สองคนนันได้อีกหน่อยแล้ว

5
โรงเตียมแห่งหนึงซึงอยูไ่ ม่หา่ งจากสํานักบัณฑิตชาย
แสงตะเกียงถูกจุดขึนในห้องยามดึก

เย่ซือเจียกําลังเขียนจดหมายอยูท่ ีโต๊ะ

ครังนีเขาสอบได้อนั ดับหนึงของสํานักบัณฑิตชาย อีกไม่


กีวันข้างหน้าจะได้มีโอกาสเข้าวังเพือเข้ารับพระราชทาน
รางวัลจากหัตถ์ของฮ่องเต้ อีกไม่ชา้ ก็สามารถเข้าดํารง
ตําแหน่งขุนนาง เขาจะต้องนําข่าวดีนีบอกกล่าวแก่ญาติ
พีน้องทีเมืองเซียงหยาง

ถ้อยคําสันๆ เพียงไม่กีประโยคก็สามารถบรรยายเรือง
ของตัวเองเสร็จสรรพ ส่วนทีเหลือ เย่ซือเจียยกพูก่ นั ขึน

6
อย่างลังเลใจ

เจียงหลีเองก็ได้ทีหนึงของสํานักบัณฑิตหญิงเช่นกัน

เย่ซือเจียไม่รูว้ า่ ตนควรจะเขียนเรืองของเจียงหลีลงไป
ด้วยหรือเปล่า หลายปี ทีผ่านมา บ้านตระกูลเย่ไม่เคยมี
ใครเอ่ยชือเจียงหลีอีกเลย คําพูดเมือหลายปี ก่อน
ประโยคนันของคุณหนูรองเจียง ทําให้ใจของคนบ้าน
ตระกูลเย่ตายจากนางไปเสียแล้ว อีกทังยังทําให้ฮหู ยินผู้
เฒ่าต้องล้มป่ วย นับแต่นนมา
ั บ้านตระกูลเย่จงึ ไม่เคย
คิดว่ามีญาติอย่างเจียงหลีอีก แม้กระทังเย่เจินเจินก็ไม่มี
ใครกล่าวถึง

7
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี จู่ๆ ก็กล่าวถึงความเป็ นอยูข่ อง
เจียงหลี อาจกลายเป็ นเรืองใหญ่ เย่ซือเจียตัดสินใจว่า
จะไม่เขียนถึงแล้วเชียว ครันวางพูก่ นั ลง พลันนึกถึงสิงที
เจียงหลีเอ่ยกับตนขึนมาได้

‘ตอนนันข้ายังเด็ก ท่านยายก็อยูไ่ กลถึงเมืองเซียงหยาง


ท่านแม่ของข้าตายจากตังแต่ยงั เล็ก ท่านพ่อก็ยงุ่ กับงาน
ในราชการจนปล่อยข้าไว้กบั แม่เลียงเป็ นส่วนใหญ่ ข้า
พูดอะไรออกไป หากไม่ใช่เพราะมีคนเสียมสอน ก็คงถูก
บีบบังคับ’

เขายกพูก่ นั ขึนมาจรดลงอีกครัง วางแล้วก็ยก ยกแล้วก็


วาง เป็ นเช่นนีอยูห่ ลายครังหลายหน ขณะทีเย่ซือเจีย
รูส้ กึ เบือหน่ายเต็มทน เอวียนเป่ า เด็กรับใช้คนสนิทก็เดิน
8
เข้ามา

เอวียนเป่ าล้วงจดหมายออกมาจากอกแล้วกล่าวด้วย
ความตืนเต้นดีใจ “คุณชายใหญ่ ทางเซียงหยางมี
จดหมายมาถึงท่านขอรับ”

“มีจดหมายมาถึงรึ” เย่ซือเจียตกใจ “ยังไม่ถงึ เวลาส่ง


จดหมายนี”

“ฮูหยินคงคิดถึงการสอบใหญ่ครังนีของคุณชายอยู”่ เอ
วียนเป่ าดีอกดีใจ “หากฮูหยินผูเ้ ฒ่าทราบว่าคุณชาย
ใหญ่สอบได้อนั ดับหนึง จะต้องสังให้จดั งานฉลองทีเมือง
เซียงหยางสามวันสามคืนเป็ นแน่”

9
เย่ซือเจียไม่ได้สนใจ เขาเปิ ดจดหมายออกอ่าน สิบ
บรรทัดแรก เพียงแวบเดียวก็อา่ นจบ

เอวียนเป่ าเห็นสีหน้าของเย่ซือเจียแสดงออกว่าตืนเต้น
ยินดี จึงเอ่ยถาม “คุณชายใหญ่ เป็ นอะไรไปขอรับ”

“ท่านพ่อกับท่านอารองจะมาส่งของทีเมืองเยียนจิง” เย่
ซือเจียกล่าว “ตอนนีอยูร่ ะหว่างทางแล้ว คาดว่าอีกเจ็ด
วันก็คงมาถึง”

“หือ” เอวียนเป่ าตะลึงงัน พลันเอ่ยถามอย่างไร้เดียงสา


“เช่นนันพวกเรายังจะเขียนจดหมายตอบกลับหรือไม่”

10
“เขียนสิ” เย่ซือเจียกล่าว แต่เขียนเฉพาะเรืองของตัวเขา
เท่านันก็พอแล้ว เย่ซือเจียคิดในใจ ในเมือท่านพ่อกับอา
รองจะมาเมืองเยียนจิงอยูแ่ ล้ว ก็เท่ากับมีคนของทีบ้าน
เดินทางมาหา เขาสามารถปรึกษาเกียวกับเรืองของเจียง
หลีได้ ดีกว่าต้องมานังปวดหัวอยูต่ รงนีคนเดียว

คิดเช่นนัน เย่ซือเจียก็รูส้ กึ เบาใจ เขาพับจดหมายเมือสัก


ครูส่ องสามครังแล้วนําใส่ซอง ก่อนจะยืนให้เอวียนเป่ า
“ส่งกลับไป”

เอวียนเป่ าดีใจกับปฏิกิรยิ าตอบสนองของผูเ้ ป็ นนาย “ขอ


รับ”

11
หลังการสอบใหญ่

เหล่าบัณฑิตหญิงไม่ตอ้ งมาเรียนทีสํานักบัณฑิตชัวคราว
จึงถือโอกาสพักผ่อนอยูก่ บั บ้าน

คนของเจียงหลีอยูท่ ีหน้าประตูสาํ นักบัณฑิตชาย ทําตาม


คําสังของเจียงหลีดว้ ยการประกาศข้อเดิมพันระหว่าง
เจียงหลีกบั เมิงหงจินแล้วแจกแจงว่าให้ทกุ อย่างถือเป็ น
โมฆะ ไม่ตอ้ งคิดถึงเรืองนีอีก

เมือคําพูดนีถูกประกาศออกไป คนในเมืองเยียนจิงก็มอง
เจียงหลีอย่างชืนชมยิงขึน ตัวเจียงหลีเองทุม่ เทให้กบั การ

12
เดิมพันเป็ นอย่างมาก แต่พอได้รบั ชัยชนะก็ไม่จดจ่ออยู่
กับข้อเดิมพันอีก เป็ นสตรีทีมีจิตใจกว้างขวาง เป็ นคนดีที
หาได้ยาก

เมือเป็ นเช่นนี เมิงหงจินจึงกลายเป็ นตัวตลก

ไม่เพียงเท่านัน เนืองจากเจียงหลีมีทา่ ทางอ่อนโยนไม่ถือ


สาเมิงหงจิน จึงเริมมีคนสงสัยว่าในอดีตเจียงหลีคิด
สังหารมารดาและน้องชายจริงไหม หรือว่าเรืองนีมีอะไร
แอบแฝง คุณหนูผอู้ อ่ นโยนน่ารักใคร่ ดูอย่างไรก็ไม่
เหมือนหญิงอํามหิตทีทําเรืองชัวช้าได้

คําเล่าลือเช่นนีได้ยินไปถึงหูของจีซูหรัน นางจึงโมโห

13
โกรธานัก ต่อหน้านางแสร้งรักและทะนุถนอมเจียงหลี
มากขึนกว่าเดิมเพือลบคําครหา ทําเอาเจียงหลีรูส้ กึ
กระอักกระอ่วนใจ

ภายในสวนซูซวเอวี
ิ ยน สาวใช้ตา่ งก็ทาํ งานอย่างขันแข็ง
ทีหน้าประตูมีสาวใช้สองคนเฝ้าอยู่ ภายในห้อง ต่อให้
วางวัวสําริดโอบก้อนนําแข็งก็เหมือนจะคลายร้อนลงไม่
ได้ ช่วงนีเข้าสูป่ ลายฤดูรอ้ นแล้ว อากาศจึงร้อนอบอ้าว
ขึนกว่าเดิม

จีซูหรันกําลังพูดคุยกับเฉินจีฮูหยินผูเ้ ป็ นพีสาว

เฉินจีฮูหยินมาหาจีซูหรันตังแต่เช้าตรูเ่ พราะรูด้ ีวา่ วันนี

14
เจียงหยวนปั วไม่ได้อยูท่ ีจวน เฉินจีฮูหยินกล่าวว่า “ช่วง
ไม่กีวันทีผ่านมาเจ้าทําอะไรอยู่ ควรจะรูว้ า่ ตอนนีข้าง
นอกพูดคุยถึงเจ้าว่าอย่างไร แม้แต่ขา้ ก็ยงั ได้ยินเสียงรํา
ลือเหล่านัน เขาพูดกันว่าเรืองทีเจียงหลีลอบสังหาร
มารดากับน้องชายในวัยเด็กนัน อาจเป็ นแผนการทีเจ้า
วางไว้ก็เป็ นได้”

ไม่พดู ถึงเรืองนีก็แล้วไป แต่พอได้เอ่ยถึง จีซูหรันก็ยงเจ็


ิ บ
ใจเป็ นอย่างมาก “พีรอง ท่านจะโทษข้าได้อย่างไร เสียง
รําลือเหล่านันเป็ นถ้อยคําของคนนอก คนของข้าไม่มีใคร
กล้าหยิบยกเรืองนีมาพูดหรอก”

“ไม่วา่ ใครพูดก็ไม่ใช่เรืองดีทงนั
ั น” เฉินจีฮูหยินกล่าว
“ทุกอย่างล้วนเป็ นเรืองทีเด็กนันก่อขึนมา เหตุใดแค่เด็ก
15
สาวตัวเล็กๆ คนหนึงถึงเอาไม่อยู”่

จีซูหรันตอบอย่างไม่พอใจ “นังเด็กนันร้ายกาจไม่เบา คิด


อ่านวางแผนการรอบคอบ อย่าว่าแต่ขา้ เลย ต่อให้พีรอง
มาช่วยรับมือด้วยก็ยงั ต้องเหนือยอีกมาก ครังนีถือว่า
ตระกูลเมิงตกทีนังลําบากแล้ว ถูกนางซ้อนแผนเสียจน
ยับเยินถึงขันโดนสังตัดกําลังทหาร เดิมทีขา้ คิดว่าเมิงหง
จินจะจัดการนางได้ ส่วนข้าแค่นงรอเก็
ั บปลาตัวอ้วนกิน
ก็พอคิดไม่ถงึ ว่าเมิงหงจินจะไม่ได้ความ ไม่เพียงแค่ไม่
เป็ นไปตามแผนยังเอาตัวเองไม่รอดอีกด้วย”

16
บทที 66 ท่านพีหมายความว่า...

“เรืองเป็ นมาอย่างไรกันแน่” เฉินจีฮูหยินตกใจ “เรืองของ


เมิงหงจินก็พวั พันเกียวข้องกับนางอย่างนันหรือ”

จีซูหรันจึงเล่าความเป็ นมาเป็ นไประหว่างเมิงหงจินกับ


เจียงหลีให้เฉินจีฮูหยินฟั งอย่างละเอียด สุดท้ายจึงกล่าว
สําทับ “นับจากทีเจียงหลีกลับมาเยียนจิงก็ไม่เคยพ่าย
แพ้ให้แก่ผใู้ ด อายุนางก็พอๆ กับโย่วเหยาแต่จะทําอะไร
สักอย่างดูระแวดระวังกว่ามาก หากเก็บนางไว้ในจวน
ต่อไป เกรงว่าโย่วเหยาจะรับมือนางไม่ไหว”

1
“ฟั งทีเจ้าเล่า” เฉินจีฮูหยินพึมพํา “เราเก็บเจียงหลีเอาไว้
ไม่ได้เสียแล้ว ต่อไปในวันข้างหน้าจะยิงเก่งกล้ากว่าเดิม
ดีทีสุดต้องรีบส่งตัวนางออกไปโดยเร็ว”

“ท่านพีหมายความว่า... จะให้นางแต่งออกไปงันรึ” จีซูห


รันเดา “ใช่วา่ จะทําไม่ได้ เพียงแต่ฮหู ยินผูเ้ ฒ่าต้องถาม
ถึงเรืองนีแน่”

“เรืองเล็ก” เฉินจีฮูหยินยิมเย็น กล่าวว่า “คุณชายที ‘ข้าง


นอกสุกใสข้างในเป็ นโพรง’ มีออกถมไป ก็แค่หาคนทีดู
แล้วไม่เลว แต่เนือแท้ไม่ได้เรืองมายัดเยียดให้นางสักคน
แล้วจัดการแต่งออกไปเสียก็สนเรื
ิ อง สองสามปี นางก็คง
จะหายหน้าไป แผนการเช่นนีคนภายนอกย่อมดูไม่ออก”

2
“ท่านก็ช่วยข้าหาสิ” จีซูหรันกล่าว “หากมีคนเช่นนันจริง
ข้าก็จะคิดหาวิธีไปคุยกับฮูหยินผูเ้ ฒ่า ให้นางออกหน้า
เป็ นธุระจัดการเรืองงานแต่ง”

เฉินจีฮูหยินพยักหน้ารับ ขณะทีสองคนกําลังพูดกันอยู่
นัน จู่ๆ ก็เห็นเจียงโย่วเหยาวิงเข้ามาจากด้านนอก นาง
รีบร้อนเกินไป ไม่มองใครแม้แต่เฉินจีฮูหยิน มาถึงก็รอ้ ง
ทักเพียงว่า “ท่านแม่”

จีซูหรันตกใจ รีบตรงเข้าไปดึงมือเจียงโย่วเหยา เห็นใบ


หน้าของเด็กสาวเต็มไปด้วยคราบนําตาจึงรีบถาม “โย่ว
เหยา เจ้าเป็ นอะไร” แล้วก็หนั ไปตะคอกใส่จินฮัวกับ
อินฮัวสาวใช้ทงสองของบุ
ั ตรสาว “พวกเจ้าดูแลคุณหนู
3
กันอย่างไร...”

“ท่านแม่” ไม่รอให้จีซูหรันกล่าวต่อ เจียงโย่วเหยาก็ซบ


หน้าลงกับอกนางพลางสะอึกสะอืน “คุณชายโจว... คุณ
ชายโจวจะยกเลิกสัญญาแต่งงานกับลูก”

“อะไรนะ” เฉินจีฮูหยินทีอยูอ่ ีกฝังพลันเกรียวกราด “โย่ว


เหยา เจ้าว่าอะไรนะ”

เจียงโย่วเหยาเพิงเห็นว่าเฉินจีฮูหยินก็อยูด่ ว้ ย นางรีบร้อง
ทัก “ท่านป้า” ขึนมาคําหนึง แล้วก็รอ้ งไห้ฟมู ฟายไม่หยุด

จีซูหรันให้สาวใช้ไปปิ ดประตูลงกลอน ก่อนจะหันมาถาม


4
เจียงโย่วเหยาอีกครัง “โย่วเหยา เจ้าพูดล้อเล่นหรือเปล่า
โจวเยียนปั งจะยกเลิกสัญญาแต่งงานกับเจ้าได้อย่างไร
เจ้าคงไม่ได้ฟังข่าวลือมัวซัวจากทีไหนมาหรอกนะ...”

“เป็ นความจริงเจ้าค่ะ พีสาวของจินฮัวทํางานอยูท่ ีจวน


หนิงหย่วนโหว เมือคืนวานโหวฮูหยินกับคุณชายทะเลาะ
กัน สาวใช้คนนันให้สนิ บนเด็กรับใช้ของคุณชายโจวแล้ว
สอบถามมาอย่างละเอียด คุณชายโจวกล่าวว่าจะยก
เลิกสัญญาแต่งงานกับลูก เขาต้องการจะแต่งกับเจียง
หลี”

“จินฮัว” จีซูหรันหันขวับทันควัน “ทีโย่วเหยาพูดเป็ น


ความจริงรึ”

5
จินฮัวคุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว “คําพูดของบ่าวเป็ นความ
จริงทุกประการ มีเรืองแบบนีจริงๆ เจ้าค่ะ” จินฮัวตกใจ
กลัวอยูไ่ ม่นอ้ ย เรืองคุณชายโจวจะสูข่ อเจียงหลีแทนที
เจียงโย่วเหยานับเป็ นเรืองใหญ่ขนาดนําท่วมวังพญา
มังกรได้เลยทีเดียว เกรงว่าคนบ้านนันจะต้องทะเลาะกัน
เองเป็ นแน่

“เป็ นความจริงหรือนี” จีซูหรันโมโหกว่าเดิม กล่าวว่า


“โจวเยียนปั งเห็นคนตระกูลเจียงเป็ นตัวอะไร นึกอยาก
จะมาก็มา นึกอยากจะไปก็ไป”

เจียงโย่วเหยาร้องไห้ฟมู ฟาย คว้าแขนเสือของจีซูหรันไว้


“ท่านแม่ ลูกควรทําอย่างไร คุณชายโจวไม่เอาลูกแล้ว
6
เขาจะไปแต่งงานกับเจียงหลี... ลูกจะต้องกลายเป็ นตัว
ตลกของเมืองเยียนจิงแน่ ท่านแม่ ลูกไม่ยอม...”

จีซูหรันเจ็บใจไม่นอ้ ย ได้แต่กมุ มือของเจียงโย่วเหยาแล้ว


ปลอบโยน “วางใจเถิด แม่จะจัดการแทนเจ้าเอง หาก
โจวเยียนปั งเป็ นคนโลเลเอาแน่เอานอนไม่ได้แบบนัน
จวนตระกูลเจียงของเราใช่วา่ จะให้ใครมาทําอะไรก็ได้
คิดจะยกเลิกสัญญาแต่งงานคงไม่ง่ายนักหรอก ใครจะ
ยอมให้เจ้ากลายเป็ นตัวตลกของเมืองเยียนจิงกัน คอยดู
นะ แม่จะต้องทําให้เขาเสียใจไปทังชาติ”

“โย่วเหยาอย่าเพิงร้อนใจ” เฉินจีฮูหยินสงบสติอารมณ์ได้
เร็วกว่าจีซูหรัน กล่าวแต่เพียงว่า “หากเมือคืนวานโจว
เยียนปั งทะเลาะกับโหวฮูหยิน นันก็แสดงให้เห็นว่าโหว
7
ฮูหยินไม่เห็นด้วยกับการกระทําของบุตรชาย ทีสําคัญ
โจวเยียนปั งก็เคยยกเลิกสัญญามาแล้วหนหนึงจะมายก
เลิกเป็ นครังทีสองได้หรือ จากพีสาวเปลียนเป็ นน้องสาว
จากน้องสาวเปลียนเป็ นพีสาวอีกหน คนทัวเมืองเยียนจิง
ก็เพิงจะเคยได้ยินเรืองแบบนีเป็ นครังแรก หากวันข้าง
หน้าโจวเยียนปั งอยากได้ดิบได้ดีในราชสํานัก เขาต้องไม่
ทําเรืองเหลวไหลเช่นนี ท่านหนิงหย่วนโหวไม่ยอมให้เขา
ทําสําเร็จแน่ ท่านพ่อของเจ้าก็คงไม่ยินยอมด้วยเช่นกัน”

เจียงโย่วเหยาได้ฟังก็ใจชืนขึนบ้าง “สรุปว่า คุณชาย


โจวจะไม่ยกเลิกสัญญาแต่งงานกับหลานใช่หรือไม่เจ้า
คะ”

“ไม่ยกเลิกแน่นอน” เฉินจีฮูหยินกล่าวเสียงเข้ม “เจ้าเป็ น


8
ถึงบุตรสาวของฮูหยินใหญ่แห่งจวนอํามาตย์ ใครจะกล้า
ทํากับเจ้าเช่นนัน”

“แต่เจียงหลีก็เป็ นคุณหนูจวนอํามาตย์เช่นกัน” โย่วเหยา


แย้ง “หากนางไม่ใช่คนของจวนตระกูลเจียงก็คงจะดี
หากนางเป็ นแค่หญิงสาวธรรมดา ก็จะไม่มีเรืองเดือด
ร้อนเช่นนีเกิดขึนกับเรา”

“ต่อให้นางเป็ นคนของจวนตระกูลเจียง เราก็จะไม่เดือด


ร้อน” เฉินจีฮูหยินตบบ่าเจียงโย่วเหยา กล่าวเสียงเข้ม
“โย่วเหยา เจ้าออกไปก่อน ข้ามีเรืองจะปรึกษากับท่าน
แม่ของเจ้า”

9
เดิมทีเจียงโย่วเหยาอยากให้จีซูหรันเป็ นคนจัดการแทน
นาง แต่เมือเห็นสีหน้าของเฉินจีฮูหยิน พลันรูว้ า่ ท่านป้า
และมารดามีเรืองสําคัญต้องหารือ จึงไม่ได้พดู อะไรอีก
เพียงพาจินฮัวกับอินฮัวจากไปพร้อมคราบนําตา

หลังจากเจียงโย่วเหยาออกไป จีซูหรันก็กล่าวต่อด้วยนํา
เสียงเย็นชา “ท่านพี ตอนนีท่านก็เห็นแล้ว เจียงหลี นัง
แพศยานันมีพิษสงมาก เพิงกลับเมืองหลวงได้ไม่เท่าไร
กระทังโจวเยียนปั งก็ให้ทา่ ได้สาํ เร็จ”

“โจวเยียนปั งอายุยงั น้อย ผูช้ ายก็มกั จะเป็ นเช่นนี” เฉินจี


ฮูหยินกล่าว “มีภรรยาไม่เท่ามีอนุ มีอนุไม่เท่าแอบซือกิน
ก่อนหน้านี ตอนทีสัญญาแต่งงานระหว่างเจียงหลีกบั
โจวเยียนปั งยังไม่ถกู ยกเลิก โจวเยียนปั งเคยถามถึงนาง
10
สักคําหรือไม่ พอตอนนีเจียงหลีกลับมาเขาก็คิดถึง
สัญญาแต่งงานนีได้ จะให้คนแบบนีล้มเลิกความคิดนัน
ไม่ยาก ทําให้เขามองเจียงหลีเป็ นของทีไม่คคู่ วรเสียก็สนิ
เรือง เดียวเขาก็จะนึกถึงความดีของโย่วเหยาขึนมา”

จีซูหรันกล่าว “แม้จะเป็ นเช่นนัน แต่เมือรูว้ า่ ใจของว่าที


ลูกเขยแอบรักคนอืนอยู่ ข้าก็รูส้ กึ คลืนไส้แล้ว”

“ข้าถึงได้พดู ว่าจะต้องหาวิธีอย่างไรเล่า” เฉินจีฮูหยินยํา


“เดิมทีขา้ คิดจะวางแผนเกียวกับงานแต่งของเจียงหลี แต่
ตอนนีคิดไปคิดมา เจียงหลีแต่งงานกับคนในเมืองเยียน
จิงยิงจะทําให้โจวเยียนปั งเป็ นทุกข์ คิดถึงนางหนักขึน”

11
จีซูหรันพยักหน้า “ข้าก็คิดเช่นนัน แต่วา่ จะลงมือจัดการ
นางในเมืองเยียนจิงคงไม่ใช่เรืองง่าย”

“จะลงมือไปทําไม” เฉินจีฮูหยินส่ายหน้า “พวกเราเป็ น


คนตระกูลจีคิดทําอะไรไม่เคยต้องลงมือเองให้เปลืองแรง
ชีวิตนางมีคา่ พอรึ”

จีซูหรันงุนงง “ท่านพีหมายความว่าอย่างไร”

“กล่าวกันว่า ผูท้ ีได้คะแนนอันดับหนึงของสํานักบัณฑิต


หญิงอีกไม่กีวันจะต้องไปเข้าเฝ้าฝ่ าบาททีวังเพือรับพระ
ราชทานรางวัล ทุกครังเวลามีงานเลียงภายในราชสํานัก
ผูค้ นย่อมไปร่วมงานไม่นอ้ ย ล้วนเป็ นชนชันสูงของเมือง

12
เยียนจิง หากในระหว่างงานเลียงมีเรืองอะไรเกิดขึนกับ
เจียงหลี นางจะต้องอับอายขายหน้าแน่”

“จะให้นาง...” จีซูหรันพลันกระจ่าง

“จําเรืองของฮูหยินน้อยเสินภรรยาท่านจงซูเส่อหลางได้
หรือไม่ งดงามเสียขนาดนัน สุดท้ายยังถูกผูค้ นหมางเมิน
ไม่ใช่เพราะนางทําเรืองน่าอับอายท่ามกลางสายตาชน
ชันสูงเหล่านันหรอกรึ”

เฉินจีฮูหยินกล่าวอย่างลืนไหล แต่ก็ทาํ ให้จีซูหรันเข้าใจ


ขึนมาทันที ในสมองราวกับมีภาพของเจียงหลีทีถูกคน
ทังหลายชีหน้าด่าทอ ทําให้นางรูส้ กึ ตืนเต้นและเป็ นสุข

13
ยิง “ข้าจะเป็ นคนจัดการเรืองนีเอง ในงานเลียงของราช
สํานัก ข้าจะจัดหา ‘ชูร้ กั ’ ให้นางอย่างเหมาะสมทีเดียว”

เฉินจีฮูหยินมองจีซูหรัน กล่าวว่า “โง่เขลานัก... เรามีอยู่


คนหนึงแล้ว จําไม่ได้หรือ”

จีซูหรันยังไม่เข้าใจ

“ข้าได้ยินว่าผูท้ ีได้คะแนนอันดับหนึงของสํานักบัณฑิต
ชายในครังนีคือเย่ซือเจีย เป็ นญาติฝังมารดาของเจียง
หลี ก่อนหน้านีเจียงหลียงั เคยช่วยเย่ซือเจียไว้กลางถนน
หากเกิดเรืองบัดสีขนึ คนในวังจะต้องคาดเดาว่าพวกเขา
มีความสัมพันธ์กนั อย่างลับๆ แน่”

14
สีหน้าของจีซูหรันพลันตึงเครียด “ท่านพูดถึงเย่ซือเจียรึ
เหตุใดถึงให้นางได้คนดีเช่นนันไปครองเล่า” ในสายตา
ของจีซูหรัน เย่ซือเจียยังพอจะเรียกได้วา่ เป็ นชายหนุ่ม
มากความสามารถ เขาได้คะแนนสอบเป็ นอันดับหนึง
ของสํานักบัณฑิตชาย หากเจียงหลีแต่งกับเย่ซือเจีย ไม่
นับว่านางได้ประโยชน์หรือ

“น้องสาวข้า เจ้าจะต้องประเมินสถานการณ์ให้รอบคอบ
เจียงหลีแต่งกับเย่ซือเจียนันดีมากเชียวล่ะ” เฉินจีฮูหยิน
กล่าว “เจ้าคงคิดว่าเย่ซือเจียนันสอบได้คะแนนเป็ น
อันดับหนึง ต่อไปก็จะได้เข้ารับราชการ เจียงหลีจงึ พลอย
มีหน้ามีตาไปด้วย” เฉินจีฮูหยินส่ายหน้า “ในความเป็ น
จริงหาได้เป็ นเช่นนัน เย่ซือเจียกับเจียงหลีลกั ลอบมี

15
ความสัมพันธ์ หากฮ่องเต้ทรงทราบก็ตอ้ งโกรธกริวจนรับ
สังขับไล่เย่ซือเจียออกจากวังเป็ นแน่ เขาไม่มีทางจะได้
รับตําแหน่ง ซํายังโดนผูค้ นก่นด่า ส่วนเจียงหลีทีชือเสียง
ด่างพร้อยเพราะเขา หลังแต่งงานทังสองยังจะครองรัก
กันได้อยูอ่ ีกหรือ” เฉินจีฮูหยินกล่าวเนิบๆ “เนืองจาก
เจียงหลีทาํ ลายอนาคตของเย่ซือเจีย คนตระกูลเย่ทีหวัง
จะอาศัยเย่ซือเจียสร้างชือเสียงให้วงศ์ตระกูลต้องเคียด
แค้นเจียงหลีตามไปด้วย ถึงเวลานัน หากเจ้าคิดจะ
กําจัดนางก็ง่ายดังพลิกฝ่ ามือ”

16
บทที 67 ข้าจะไปเดียวนี

จีซูหรันกระจ่างแจ้งในทันที

ขอแค่เจียงหลีแต่งออกไปอยูเ่ มืองเซียงหยาง จีซูหรันเชือ


ว่า นางมีนบั หมืนวิธีการทีจะทําให้เจียงหลีตายเสียดีกว่า
อยู่

“ขอบคุณพีรองทีให้คาํ ชีแนะ” จีซูหรันแสดงความเคารพ


จากใจ “วิธีการของท่านละเอียดรอบคอบกว่าข้านัก”

“เทียบกับลีผินทีอยูใ่ นวัง พวกเราทังสองยังนับว่าห่างชัน


1
มาก” เฉินจีฮูหยินกล่าว “ตอนนีเจ้ารีบไปปลอบใจโย่ว
เหยาเถิด นางถูกตามใจมาตังแต่เด็ก ถูกโจวเยียนปั งดู
แคลนถึงเพียงนี นางต้องเสียใจมากแน่ๆ อย่าให้นางทํา
เรืองวูว่ ามจนกระทบแผนของเจ้า”

จีซูหรันอกสันขวัญแขวน พลันตอบรับ “ทราบแล้ว ข้าจะ


ไปเดียวนี”

เฉินจีฮูหยินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

อีกฝัง ถงเอ๋อนําความทีได้ยินมาแจ้งกับเจียงหลี

“เล่ากันว่าคุณหนูสามอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก สาวใช้ใน
2
สวนเหยากวงจูถ้ กู ทําโทษกันเป็ นแถว มีคนเห็นคุณหนู
สามร้องไห้ดว้ ยเจ้าค่ะ...”

เจียงหลีวางหนังสือในมือลงกล่าวอย่างแปลกใจ “ร้องไห้
ด้วยรึ”

“เจ้าค่ะ ไม่รูเ้ พราะเหตุใด ได้ยินว่าฮูหยินใหญ่ปลอบใจ


ตังนานกว่าจะดีขนึ แต่นายท่านใหญ่เสียอีกทีโมโหมาก”
ถงเอ๋อเพิงจะพูดมาถึงประโยคนีก็ได้ยินคนทีอยูน่ อก
ประตูตะโกนเรียก “เจียงหลี เจียงหลี”

“คุณชายรองมาอีกแล้วเจ้าค่ะ” ไป๋ เสวียรีบรายงาน

3
เจียงจิงรุย่ สอดขาข้างหนึงก้าวเข้าห้อง

เจียงหลีถาม “มีธุระอะไร”

เจียงจิงรุย่ นังลงหน้าโต๊ะนําชาทีทําจากไม้ สะบัดมือสัง


ให้ไป๋ เสวียรินชาให้แล้วขมวดคิวเบิกตาจับจ้องนาง
“คราวนีข้าเอาความลับสุดยอดมาบอกกับเจ้า”

“ว่ามา”

“หึๆ” เจียงจิงรุย่ แสร้งหัวเราะเสียงเบา “เจ้ารูห้ รือไม่ โจว


เยียนปั ง ทายาทท่านหนิงหย่วนโหวเตรียมจะบอกเลิก
สัญญาแต่งงานกับเจียงโย่วเหยาแล้ว”
4
“อย่างนันหรือ” แม้เจียงหลีจะเตรียมใจล่วงหน้า ก็ยงั
ตกใจกับคําบอกเล่าของเจียงจิงรุย่ ไม่นอ้ ย เกิดเรืองอะไร
ขึน?

“คิดไว้แล้วเชียวว่าเจ้าต้องยังไม่รู”้ เจียงจิงรุย่ ได้ใจ “เจ้า


เดาสิ เหตุใดโจวเยียนปั งถึงอยากยกเลิกสัญญาแต่งงาน
กับเจียงโย่วเหยา”

เจียงหลีสา่ ยหน้า “ข้าเดาไม่ถกู หรอก”

“ก็เพราะเจ้าน่ะสิ” เจียงจิงรุย่ หัวเราะเสียงดัง “ตอนนีโจว


เยียนปั งเกิดนึกเสียดายขึนมา คงจะเป็ นเพราะเห็นเจ้ามี

5
หน้ามีตาอยูใ่ นหมิงอีถาง รูส้ กึ ว่าเจ้าดีกว่าเจียงโย่วเหยา
เป็ นไหนๆ จึงตัดสินใจบอกเลิกสัญญาแต่งงาน แล้ว
เปลียนกลับมาเป็ นเจ้าตามเดิม”

“น่าขันนัก” ถงเอ๋อเป็ นคนเอ่ยประโยคนี “คุณหนูของข้า


ไม่ใช่สาวใช้ในบ้านตระกูลโจวสักหน่อย คิดอยากจะทํา
อะไรก็ทาํ รึ ครังก่อนตอนยกเลิกสัญญาแต่งงานก็เป็ นคน
ตระกูลโจวทีตัดสินใจ มาตอนนีคิดอยากแต่งงานขึนมา
เคยถามความเห็นของคุณหนูขา้ หรือยังจวนหนิงหย่วน
โหวรังแกกันเกินไปแล้ว”

เจียงจิงรุย่ ได้ฟังก็แปลกใจ “มีอะไรน่าโมโหเล่า แม้โจว


เยียนปั งจะทําตัวไม่ดีนกั แต่ในเมืองเยียนจิงเขาก็นบั ว่า
เป็ นชายหนุ่มมากความสามารถ เหมาะสมกับเจียงหลี
6
หน้าตาก็ไม่เลว มีหญิงสาวมากมายหลงใหลในตัวเขา
หากให้จบั คูก่ บั คุณหนูของเจ้าก็ไม่ได้เสียหายอะไรไม่ใช่รึ
อีกอย่าง เจียงหลี...” เขาหันมามองนาง “หากเจ้าอยูก่ บั
โจวเยียนปั งเจียงโย่วเหยาต้องคลังตายแน่ นางจะคิดว่า
ตัวเองสูเ้ จ้าไม่ได้”

คําพูดของเจียงจิงรุย่ ทําให้เจียงหลีขาํ จนแทบกลิง “เพือ


เป็ นการยัวโมโหเจียงโย่วเหยา ข้าต้องยอมเสียสละ
อนาคตของตัวเองเชียวรึ หากทําตามทีเจ้าว่ามา ข้าก็คง
จะบ้าไปแล้ว”

เจียงจิงรุย่ แย้ง “เจ้าจะมาเย้ยหยันข้าทําไม คนทียกเรือง


นีมาพูดคือโจวเยียนปั ง”

7
“แล้วอย่างไร” ถงเอ๋อถามต่อ “นายท่านใหญ่เห็นด้วยกับ
เรืองนีหรือไม่เจ้าคะ”

“เห็นด้วยได้อยูร่ ”ึ เจียงจิงรุย่ ส่ายหน้า “ท่านลุงใหญ่ไม่วิง


ไปถอนหงอกคนตระกูลโจวก็ถือว่าเมตตามากแล้ว”

เจียงหลีจบั ใจความสําคัญในคําพูดของเจียงจิงรุย่ ได้ จึง


เอ่ยถาม “หมายความว่า บ้านตระกูลโจวยังไม่ได้สง่ คน
มาพูดถูกไหม”

“ชิ... คนตระกูลโจวมีหรือจะกล้า โจวเยียนปั งคงเสียสติ


ไปแล้ว แต่บิดามารดาของเขาไม่ได้เป็ นเช่นนัน ความ

8
ต้องการนีเป็ นของโจวเยียนปั ง ท่านหนิงหย่วนโหวและ
ภรรยามิได้เห็นชอบ เด็กรับใช้ของโจวเยียนปั งได้ยินพวก
เขาทะเลาะกันเลยแอบนํามาบอกสาวใช้ในจวนของพวก
เรา สาวใช้นนก็
ั รบี คาบข่าวไปบอกกับท่านลุงใหญ่ ได้ยิน
ว่าเจียงโย่วเหยาร้องไห้ฟมู ฟาย ท่านป้าใหญ่ยงั ปลอบใจ
นางอยู่ ท่านลุงใหญ่นนโกรธมาก
ั แทบจะรีไปทีจวนหนิง
หย่วนโหวด้วยตนเองแล้ว”

เจียงหลีพลันกระจ่าง มิน่าถงเอ๋อถึงได้ยินว่าเจียงโย่ว
เหยาร้องไห้

“เจ้ารูไ้ ด้อย่างไร” เจียงหลีถาม

9
“ท่านแม่ของข้าพูดกับแม่นม แล้วข้าบังเอิญได้ยินเข้าน่ะ
สิ” เจียงจิงรุย่ กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ท่านแม่ของข้าวันๆ
สนใจแต่เรืองของบ้านสายหลัก มีข่าวคราวเล็กน้อยก็รู ้
ก่อนใคร เรียกว่ารูเ้ ร็วกว่าเจ้ามาก”

เจียงหลีเข้าใจได้ การทีโจวเยียนปั งยกเลิกสัญญาแต่ง


งานไม่ใช่เรืองดีสาํ หรับนาง อย่างน้อยเวลานีในใจของจี
ซูหรันสองแม่ลกู คงยิงโกรธแค้นนางขึนอีกเป็ นร้อยหรือ
อาจจะพันเท่า

สองแม่ลกู คูน่ ีใจคอคับแคบ ทังยังอํามหิตโหดเหียม เจียง


หลีคิดว่า เจียงโย่วเหยาจะต้องไม่ปล่อยนางไปง่ายๆ
เพือทีจะทําลายความคิดของโจวเยียนปั ง คนพวกนันจะ
ต้องคิดตัดรากถอนโคนนางแน่
10
ครันใคร่ครวญแล้วจึงเห็นว่า งานเลียงของราชสํานักทีจะ
มีขนในอี
ึ กไม่กีวันข้างหน้านับเป็ นโอกาสอันดี

เจียงหลีหลับตาลง วิกฤติกาํ ลังจะใกล้เข้ามาแล้ว

หลังการสอบใหญ่ของสํานักบัณฑิตหญิงไม่นาน

แต่ละบ้านก็ได้รบั หนังสือเชิญร่วมงานเลียงภายในราช
สํานัก แต่ในครังนี ท่านเฉิงเซียนสือ--เมิงโหย่วเต๋อ บิดา
ของเมิงหงจินกลับมิอาจไปร่วมงานได้

ทีบ้านตระกูลเมิง เมือเทียบกับความครึกครืนของช่วง
11
เวลาทีผ่านมา ยามนีกลับไม่มีชีวิตชีวาเอาเสียเลย

ตกกลางคืน ในห้องทีจุดตะเกียงแสงสลัว มีเสียงคนพูด


คุยดังขึนราวกับทะเลาะทุม่ เถียง ผ่านไปสักพักก็ได้ยิน
เสียง “เพล้ง” เหมือนมีอะไรตกแตก ก่อนทีจะมีคน
กระแทกประตูออกมา

นันก็คือเมิงโหย่วเต๋อในระยะเวลาอันสัน เมิงโหย่วเต๋อดู
ชราลงไปมาก คนทีอยูด่ า้ นหลังวิงไล่ตามเขามาติดๆ
นางก็คือเมิงฮูหยิน ภรรยาของเมิงโหย่วเต๋อนันเอง

“ท่านพี ท่านพี...” เมิงฮูหยินไล่ตามวิงวอน

12
“ไม่ตอ้ งพูดอะไรอีกแล้ว วันพรุง่ นีส่งนางไปสํานักนางชี
หากนางยังเป็ นเช่นนีต่อไป จะต้องเกิดเรืองใหญ่ขนในไม่

ช้า” เมิงโหย่วเต๋อกล่าวโดยไม่หนั หน้ามอง

“นันเป็ นบุตรสาวของท่านนะ เหตุใดท่านจึงใจดําเพียงนี”


เมิงฮูหยินร้องเสียงแหลม

“ข้าใจดํางันรึ” เมิงโหย่วเต๋อหยุดเดิน หันขวับกลับมา ชี


ไปยังประตูหอ้ งทีปิ ดสนิท “เจ้าดูนางตอนนีสิ เก็บไว้ใน
จวนต่อไปยังจะดีขนได้
ึ หรือ วันนีข้าขัดแย้งกับองค์หญิง
หย่งหนิงเข้าให้แล้ว ท่านเสนาบดีเองก็ไม่สนใจข้าอีก
หน้าทีการงานของข้าก็คงต้องจบเห่ ทังหมดนีล้วนเป็ น
เพราะบุตรสาวคนดีของเจ้าก่อเรือง หากไม่เป็ นเพราะ
นางไม่รูจ้ กั ทีตําทีสูงไปเดิมพันกับเจียงหลี หรือหากนาง
13
ไม่ยิงธนูใส่องค์หญิงหย่งหนิงจนได้รบั บาดเจ็บ ข้า
เมิงโหย่วเต๋อจะต้องมีสภาพเช่นทุกวันนีหรือ”

“แต่วา่ ...” เมิงฮูหยินยังอยากจะพูดอะไรต่อ

“ตอนนีนางเสียสติไปแล้ว นางเป็ นบุตรสาวของข้า คิดว่า


ข้าไม่เสียใจหรือไร แต่คนก็เป็ นบ้าไปแล้ว เก็บนางไว้กบั
ตระกูลเมิงใช่วา่ จะเป็ นเรืองดี หากให้คนอืนรูเ้ รืองนาง
เสียสติเข้า ต่อไปยังจะมีใครกล้าแต่งงานกับนางอีก ไป
อยูท่ ีสํานักนางชีสกั พักจนอาการดีขนแล้
ึ วค่อยกลับมา ก็
จะไม่มีใครรูว้ า่ นางเคยเป็ นบ้า แบบนีไม่ดีหรอกรึ”

เมิงฮูหยินได้ฟังก็คอ่ ยๆ สงบใจลงได้ นางมองเมิงโหย่

14
วเต๋อแล้วกล่าวอย่างโศกเศร้า “ตอนทีหงจินโดนองค์
หญิงหย่งหนิงกักตัว แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึนกันแน่ พวก
เราไม่สามารถแก้แค้นให้ลกู ได้เลยหรือ”

“แก้แค้นรึ” เมิงโหย่วเต๋อยิมเย็น ไม่รูว้ า่ ควรโกรธองค์


หญิงหย่งหนิงหรือตัวเองกันแน่ เขากล่าวต่อ “รากฐาน
ขององค์หญิงหย่งหนิงคือเฉิงอ๋อง อํานาจของเฉิงอ๋องใน
ตอนนีแม้แต่ฮ่องเต้ก็ยงั ทรงหวันเกรง...” เขาถอนหายใจ
“สามัญชนย่อมไม่มีเรืองกับขุนนางฉันใด ขุนนางก็ไม่
อาจมีเรืองกับราชนิกลุ ฉันนัน” นําเสียงแฝงความน้อย
เนือตําใจ ทําให้เมิงฮูหยินเงียบเสียง

ภายในห้องหนึงซึงอยูไ่ ม่ไกลกันนัก เมิงหงจินกําลังนัง


กอดผ้าห่มแล้วขดตัวอยูท่ ีมุมเตียง สายตามองคนทีเดิน
15
เข้าออกห้องของนางอย่างหวาดระแวง ปากก็รอ้ งว่า
“ออกไป... ออกไปนะ”

บนพืนมีถว้ ยยาแตกกระจายเกลือนกลาด ตัวยา


สาดกระเซ็นเต็มพืนห้อง สาวใช้นางหนึงก้มลงเก็บเศษ
ถ้วย อีกคนพยายามพูดปลอบใจเมิงหงจิน “คุณหนู ไม่มี
อะไรเจ้าค่ะ บ่าวไม่ทาํ ร้ายคุณหนูนะเจ้าคะ”

“ออกไป” เมิงหงจินร้องเสียงแหลม “ข้าไม่ได้เป็ นคนทํา


ข้าไม่ได้เป็ นคนทํา”

เมิงหงจินถูกคนขององค์หญิงหย่งหนิงส่งกลับมาเมือ
สามวันก่อน

16
เมิงโหย่วเต๋อกับเมิงฮูหยินเกรงว่าองค์หญิงหย่งหนิงจะ
ใช้วิธีรุนแรงกับบุตรสาว พอนางกลับมาถึงก็รบี ให้คนไป
ตรวจสภาพร่างกายว่ามีบาดแผลหรือไม่ ตรวจไปตรวจ
มากลับไม่พบร่องรอยใดๆ แต่พอเมิงหงจินตืนขึนมานาง
ก็กลายเป็ นเช่นนี เห็นผูค้ นก็ถอยกรูด จําใครไม่ได้ ราว
กับได้รบั ความสะเทือนใจอย่างรุนแรง เวลานีแม้แต่ตวั
เองนางก็ไม่รูจ้ กั

ไม่มีใครรูว้ า่ ช่วงทีเมิงหงจินอยูก่ บั องค์หญิงหย่งหนิงเกิด


อะไรขึน มีเพียงเมิงหงจินทีฟั นเฟื อนไปแล้วกับองค์หญิง
หย่งหนิงเท่านันทีรู ้ ไม่มีใครกล้าเอาความกับองค์หญิง
หย่งหนิง แม้แต่เมิงโหย่วเต๋อเองก็เช่นกัน หากเขายังต้อง
การมีอนาคตทีสดใส คงต้องเสียสละเมิงหงจินอย่างไม่

17
อาจหลีกเลียง

18
บทที 68 ดูไม่มชี วี ติ ชีวาสักคน

ณ ตําหนักขององค์หญิงหย่งหนิง

แสงตะเกียงลุกโชติช่วงสว่างไสวผิดกับในจวนตระกู
ลเมิง

นางรําทังหลายสวมใส่อาภรณ์เนือบาง ร่ายรําอยูก่ ลาง


ห้องโถงด้วยท่วงท่างดงาม มีผา้ สีขาวเนือบางปิ ดบังใบ
หน้าไว้ครึงหนึง เผยให้เห็นเพียงดวงตาคมทีกําลังเย้า
ยวนคนทังห้องโถง

1
บุรุษทีนังอยูก่ ลางห้องโถงในยามนีมีใบหน้าหล่อเหลา
จมูกโด่ง เบ้าตาลึก ริมฝี ปากบาง คิวเข้ม แต่เนืองจาก
โครงหน้าค่อนข้างเด่นชัดจึงดูเย็นชา ไม่เป็ นมิตรสัก
เท่าไร

เขาก็คือเฉิงอ๋อง

“พีใหญ่วา่ คนไหนดี ก็เอาตัวไปได้เลย” องค์หญิงหย่ง


หนิงกล่าวอย่างเอาอกเอาใจ

เฉิงอ๋องปรายตามองเหล่านางรํา “ดูไม่มีชีวิตชีวาสักคน”

“เพราะช่วงนีไม่มีเรืองน่าตืนเต้น ทุกคนก็เลยทําตัวจืดชืด
2
ตามไปด้วย” องค์หญิงหย่งหนิงเท้าคางอย่างเบือหน่าย

เฉิงอ๋องถามต่อ “ได้ยินว่าไม่กีวันก่อน เจ้าเอาตัวคุณหนู


ใหญ่ของจวนเฉิงเซียนสือมากักขังไว้ไม่ใช่หรือ ทําไมยัง
ทําหน้าเบือหน่ายอยูอ่ ีกเล่า”

พอได้ยินคําถาม ลึกๆ องค์หญิงหย่งหนิงก็ยงั ตกใจอยู่


บ้าง “ไม่คิดว่าพีใหญ่จะมีเวลามาสนใจเรืองพวกนี” นาง
แคะเล็บไปมา แล้วกล่าวต่อ “อย่าเอ่ยถึงอีกเลย เมิงหง
จินวางท่าเก่งกาจแต่แท้จริงก็ทา่ ดีทีเหลว ข้าก็แค่พานาง
เดินดูหอ้ งขังในเรือนจําของตําหนักเพียงหนึงรอบ ยังไม่
ทันได้แตะต้องเลยด้วยซํา นางก็ตกใจจนฉีราดแล้ว” สอง
ตาองค์หญิงหย่งหนิงฉายความร้ายกาจออกมา “พอเห็น
นางเป็ นแบบนันข้าก็หมดสนุก เลยส่งตัวกลับไป”
3
“สภาพห้องขังทีน่าสยดสยองของเจ้า ต่อให้สง่ บุรุษเข้า
ไปก็ใช่วา่ จะทนได้” เฉิงอ๋องยิมพราย “เจ้าพานางเดินดู
สิงเหล่านันรึ มิน่านางถึงได้ตกใจกลัวจนเสียสติ”

ห้องขังขององค์หญิงหย่งหนิงมีไว้จองจําบุคคลทีนางไม่
พอใจ ผูท้ ีองค์หญิงหย่งหนิงโกรธแค้นแต่ยงั ไม่อยากให้
ตายง่ายๆ ก็จะถูกขังไว้ทีนี นางมักนําวิธีกลันแกล้งใหม่ๆ
มาใช้อยูเ่ สมอ เช่นถลกหนังหัวครึงหนึง หรือบางคนก็ถกู
แหวกเนือตัดกระดูกหัวเข่าออกมาต้ม จะกล่าวว่าเป็ น
นรกบนพืนโลกก็ไม่ผิด ถึงแม้เมิงหงจินจะเอาแต่ใจ ทว่า
ในจวนตระกูลเมิง อย่างมากสุดนางก็คงเคยเห็นแค่สาว
ใช้ทีถูกตีจนตายเท่านัน นรกคนเป็ นแบบนี ได้เห็นเพียง
ครังเดียวยังสามารถทําให้นางฝันร้ายไปชัวกัปชัวกัลป์

4
“ไม่สนุกเอาเสียเลย” องค์หญิงหย่งหนิงหัวเราะเสียงเย็น
“จะทรมานคนก็ตอ้ งเก็บไว้ให้อยูใ่ นสายตาแล้วค่อยๆ
บีบคันถึงจะรืนรมย์ ดีทีสุดต้องให้มนั ดินทุรนทุรายอย่าง
กลัวตาย เวลาทีเห็นคนอยากมีชีวิตรอดหรือมีความหวัง
อยูใ่ นแววตา แล้วเราเป็ นคนเป่ าความหวังสุดท้ายของ
พวกมันจนดับสูญ” นางเป่ าตะเกียงทีเหลือแสงรําไรให้
ดับลงพลางหัวเราะ “ทําให้พวกมันหมดหวัง แบบนันถึง
จะสนุก เช่นเดียวกับสัตว์ป่า ตัวทีรูจ้ กั ต่อสูด้ นรนถึ
ิ งจะล่า
สนุก”

เฉิงอ๋องยิมเฝื อน “เจ้ากําลังพูดถึงเซวียฟั งเฟยอยูส่ นิ ะ”

องค์หญิงหย่งหนิงเบ้ปาก กําลังจะตอบคําถาม ด้านนอก


5
พลันมีคนเข้ามารายงานว่า “ท่านจงซูเส่อหลางมาถึง
แล้วขอรับ”

องค์หญิงหย่งหนิงได้ฟังก็ตาลุกวาว สีหน้าเบือหน่าย
หายวับราวปลิดทิง รีบเอ่ยปากอย่างดีใจ “ให้เขาเข้ามา”

เฉิงอ๋องหยิบถ้วยทีอยูต่ รงหน้าขึนมาดืมอย่างไม่ยีหระ

ผ่านไปครูห่ นึงก็มีคนนําทางเสินอวีหยงเข้ามา เขา


ประสานมือคารวะเฉิงอ๋องก่อนแล้วจึงปรายตามององค์
หญิงหย่งหนิง กล่าวทักเสียงเบา “องค์หญิง”

ครันองค์หญิงหย่งหนิงเห็นเขาก็ดีใจจนออกนอกหน้า
6
หันไปเอ่ยกับเฉิงอ๋อง “ข้าเป็ นคนเชิญใต้เท้าเสินมา พี
ใหญ่ ก่อนหน้านีท่านบอกว่าทีตําหนักเหวินชังขาดคนมิ
ใช่หรือ...”

เฉิงอ๋องขมวดคิว ดูไม่พอใจองค์หญิงหย่งหนิงทีรีบร้อน
รับคนโดยไม่ปรึกษา

ยังดี... ทีมีเพียงองค์หญิงหย่งหนิงเท่านันทีลืมตัว เสินอ


วีหยงยังคงยืนอยูก่ ลางห้องโถงด้วยอาการสํารวม สาย
ตาไม่วอกแวกแม้แต่นอ้ ย เฉิงอ๋องจึงรูส้ กึ พอใจเขาขึนมา
บ้าง

องค์หญิงหย่งหนิงดูออกว่าเฉิงอ๋องพอใจในตัวเสินอวีห

7
ยงจึงแสดงความดีใจผ่านสีหน้า นางรูส้ กึ ภาคภูมิใจใน
ตัวเสินอวีหยงอย่างเหลือล้น ตังแต่วนั นันทีสนามม้า
หลังจากทีนางถูกลูกธนูของเมิงหงจินยิงจนได้รบั บาด
เจ็บ ทีตําหนักก็มีคนจํานวนไม่นอ้ ยเข้ามาเยียมไข้แต่
เสินอวีหยงไม่เคยปรากฏตัว

เสินอวีหยงเป็ นคนทีฮ่องเต้หงเซียวให้ความสําคัญ
ภรรยาของเขาก็เพิงจะตายไปไม่นาน หากทําตัวใกล้ชิด
สนิทสนมกับองค์หญิงแล้วมีใครเห็นเข้าคงไม่ใช่เรืองดี

องค์หญิงหย่งหนิงใช่วา่ จะไม่เข้าใจ เพียงแต่ทนคิดถึง


เขาไม่ไหว เสินอวีหยงไม่ประจบประแจงนางเหมือนบุรุษ
ทัวไป แต่ยงเขาทํ
ิ าตัวเย็นชา องค์หญิงหย่งหนิงก็ยงิ
หลงใหลตัวตนทีเป็ นแบบนีของเขา
8
เฉิงอ๋องเริมถามไถ่เสินอวีหยงในบางเรือง เสินอวีหยงยืน
ตัวตรง ตอบคําถามได้อย่างเหมาะสม ความชืนชมของ
เฉิงอ๋องทีมีตอ่ เสินอวีหยงจึงมากขึนเป็ นลําดับ แม้เสินอ
วีหยงกับองค์หญิงหย่งหนิงจะมีความสัมพันธ์กนั อย่าง
ลับๆ แต่เฉิงอ๋องก็ไม่เห็นว่าเป็ นเรืองผิด

จะทําการใหญ่อย่าคิดเล็กคิดน้อย โดยเฉพาะอย่างยิง
อย่าได้คิดถึงเรืองรักใคร่อนั ไร้ประโยชน์ของสตรี ทุกคน
บนโลกนี หากไม่ใช่กอ้ นหินทีใช้ปีนป่ ายก็เป็ นก้อนหินที
ขวางทางเดิน แต่เชือเถอะว่า หนทางของท่านอ๋องอย่าง
เขาในวันข้างหน้าจะยิงกว้างไกล สดใส และมีแต่ความ
ราบรืน

9
“เสินอวีหยงไปเยือนตําหนักขององค์หญิงหย่งหนิง เฉิง
อ๋องก็อยูด่ ว้ ยขอรับ” ทหารองครักษ์ชดุ ดํารายงาน

ในห้องหนังสือของจวนกัวกง จีเหิงวางหนังสือทีหยิบ
ออกมาจากชันเก็บเข้าที

พอทหารองครักษ์รายงานจบก็หายตัวไปอย่างไร้รอ่ งรอย

“เห็นที... เสินอวีหยงกับเฉิงอ๋องจะเริมติดต่อกันแล้ว” ลูจ่ ี


ดืมชาไปอึกหนึง แล้วมองจีเหิง

“ไม่ชา้ ก็เร็ว” จีเหิงเก็บหนังสือแล้วก็ยงั คงไม่ออกจากห้อง


แต่เดินมาหยุดอยูต่ รงหน้าตูไ้ ม้สีเหลือง มองหาหนังสือ
10
เล่มอืนต่อไป

“ยินดีกบั นายท่านทีภารกิจชินแรกเป็ นไปตามคาด


หมาย” ลูจ่ ีกล่าว “เสินอวีหยงติดต่อกับเฉิงอ๋องแล้ว เฉิง
อ๋องผูน้ ีได้คนเก่งมาอยูใ่ นมืออีกหนึงชีวิต ก็จะยิงแผ่
อํานาจกว้างไกล”

จีเหิงตอบอย่างไม่ยีหระ “เสินอวีหยงอยากเป็ นใหญ่ เฉิง


อ๋องเองก็อยากเป็ นใหญ่ กลินอายของคนแบบเดียวกัน
ย่อมดึงดูดกัน เหมือนหมาป่ าทีไม่ยอมอยูร่ วมกับสุนขั
เสินอวีหยงอยูใ่ นวัง ไม่เลือกฝังฮ่องเต้แต่กลับจะไปยืน
ข้างเฉิงอ๋อง เขาอาจคิดว่ามีเพียงเฉิงอ๋องเท่านันทีจะ
สามารถทําให้ตนสมปรารถนา”

11
“นายท่านมองคนได้แม่นยํานัก” ลูจ่ ีสดู หายใจ พลันนึก
อะไรขึนมาได้ “เพียงแต่เรืองของเมิงโหย่วเต๋อทางฝังนัน
น่าเสียดายนัก เดิมทีเมิงโหย่วเต๋อเป็ นคนของท่าน
เสนาบดี ทว่าตอนนีไปมีเรืองกับองค์หญิงหย่งหนิง จึงไม่
ต่างจากการมีเรืองกับเฉิงอ๋อง ท่านเสนาบดีเป็ นคนของ
เฉิงอ๋อง เพือแสดงความจงรักภักดี เขาย่อมไม่ใช้งาน
เมิงโหย่วเต๋ออีก เมิงโหย่วเต๋อผูน้ ี อันทีจริงก็เป็ นคนมี
ความสามารถ...”

เดิมทีตระกูลเมิงทํางานให้กบั ท่านเสนาบดีซงเป็
ึ นข้ารับ
ใช้ฝ่ายเฉิงอ๋อง เนืองจากอุบตั ิเหตุระหว่างเมิงหง
จินกับองค์หญิงหย่งหนิง ทําให้ตระกูลเมิงต้องถูกเฉิง
อ๋องเฉือนทิง

12
“ครังนีเป็ นเพราะคุณหนูรองเจียง” ลูจ่ ีหวั เราะเบาๆ
แล้วกล่าวว่า “เย่ซือเจียในตอนนัน ก็เพราะคุณหนูรอง
เข้ามาช่วยไว้จนทําให้แผนต้องเปลียน มาตอนนีก็เป็ น
เมิงหงจินอีกคน ทําให้ตระกูลเมิงต้องหลุดจากเข้าร่วม
ฝ่ ายเฉิงอ๋อง ทังสองครังล้วนเป็ นฝี มือของคุณหนูรอง
เจียงทีทําให้แผนการของนายท่านไม่สมั ฤทธิผล คุณหนู
เจียงหลีกบั นายท่านนับว่ามีกรรมสัมพันธ์กนั เสียจริง”

“เจ้าจะบอกว่า นางจงใจรึ” จีเหิงกล่าว

“นายท่านไม่คิดเช่นนีหรอกหรือ” ลูจ่ ีตอบพร้อมรอยยิม


“หากไม่คิดก็คงไม่ให้เหวินจีไปสืบว่าใครกันแน่ทีแอบชี

13
แนะเย่ซือเจียอยูเ่ บืองหลัง”

ในทีสุดจีเหิงก็หาหนังสือทีต้องการพบแล้ว เขาหยิบม้วน
หนังสือแล้วหมุนตัวกลับมาตอบว่า “แล้วเจ้าคิดว่าใคร...
เป็ นคุณหนูรองเจียงทีอยูเ่ บืองหลังเรืองทังหมดใช่หรือ
ไม่”

ลูจ่ ีหบุ ยิมแล้วมองมายังจีเหิง “หรืออาจจะเป็ น... ตระกูล


เจียง”

“ไม่ใช่ตระกูลเจียงหรอก” จีเหิงค่อยๆ คลีริมฝี ปาก เผย


รอยยิมทีมีจดุ ประสงค์ไม่แน่ชดั “เป็ นคุณหนูรองนัน
แหละ เมือเป็ นเช่นนีข้าก็รูส้ กึ สนุกขึนมาบ้างแล้ว” จีเหิง

14
เอนร่างพิงไปด้านหลังแล้วกล่าวเสียงเรียบเรือย “สงสัย
คุณหนูนอ้ ยผูน้ นอยากเป็
ั นปฏิปักษ์กบั ข้า”

ฤดูรอ้ นรอบนียาวนานนัก

ย่างเข้าฤดูใบไม้รว่ งแต่กลับไร้วีแววของสายลมเย็น
สบายอันเป็ นเอกลักษณ์ ตะวันร้อนแรงยังคงส่องแสง
เจิดจ้า ดอกไม้ในสวนล้วนโดนแดดเผาจนแห้งเหียว

ดังนัน สายฝนทีเทลงมาในช่วงปลายฤดูจงึ ได้รบั ความ


ชืนชมเป็ นพิเศษ

ฝนตกตังแต่กลางดึก รุง่ เช้าตืนขึนมาก็ยงั ไม่หยุด นําฝน


15
ไหลลงตามหลังคาโค้ง ร่วงหล่นเหมือนม่านไข่มกุ ทีเรียง
ร้อยต่อเนือง ตกกระทบพืนเสียงดังเปาะแปะ ช่วยชะล้าง
คราบสกปรกบนกระเบืองหินสีเขียวจนสะอาดสะอ้าน

ถงเอ๋อยกอาหารเช้าเข้ามา พอเห็นเจียงหลียงั ไม่ตืนก็


รูส้ กึ ตกใจ ทุกวันเจียงหลีจะตืนแต่เช้าตรู ่ เวลายกเอา
อาหารเช้ามาก็มกั จะเห็นนางหวีผมเองจนเสร็จสรรพ
แล้ว

“คุณหนู” ถงเอ๋อร้องเรียกเบาๆ

บนเตียง เจียงหลีเปิ ดตากว้างตืนขึนจากฝัน พอเห็นว่า


เป็ นถงเอ๋อก็มีสีหน้าลังเลไปพักหนึง แล้วจึงเข้าใจได้วา่ นี

16
เป็ นเวลาใดนางลุกขึนนังพลางกดหน้าผาก ถงเอ๋อเห็น
หน้าผากของเจียงหลีอาบไปด้วยเหงือก็ตกใจ รีบหาผ้า
เช็ดหน้ามาซับเหงือให้พลางกล่าว “คุณหนู นีท่านฝัน
ร้ายใช่หรือไม่ เหงือออกเต็มหน้าเลยเจ้าค่ะ”

17
บทที 69 ข้าฝั นไป

ไป๋ เสวียได้ยินก็เดินไปเปิ ดหน้าต่าง ครูเ่ ดียวลมเย็นจาก


ด้านนอกก็พดั เข้ามา ห้องทีร้อนอบอ้าวพลันเย็นสบาย

เจียงหลีดกู ระปรีกระเปร่าขึนมาก นางกล่าวเสียงเบาว่า


“ข้าฝันไป”

ถงเอ๋อถามเจียงหลี “คุณหนูฝันเห็นอะไรหรือเจ้าคะ ถึง


ได้ตกใจกลัวขนาดนี”

“ไม่มีอะไร” เจียงหลีพยายามสงบสติอารมณ์ “แค่ฝันถึง


1
คนเคยรูจ้ กั ”

เมือคืนนางฝันเห็นเซวียเจา

ไม่เหมือนครังก่อน ครังนีเจียงหลีเห็นเซวียเจาถูกขังไว้ใน
ทีแห่งหนึงซึงคล้ายกับห้องขังขนาดใหญ่ ในทีแห่งนันมี
คนยืนยามเฝ้าอยูจ่ าํ นวนมาก แต่ละคนล้วนหน้าตาดุดนั
ร่างของเซวียเจาเต็มไปด้วยเลือด ถูกแขวนโยงไว้กลาง
ห้อง นางอยากจะเข้าไปช่วยน้องชาย แต่ถกู ขวางไว้ดว้ ย
แผงเหล็ก

ภาพทีเห็นหลังจากนันคือคนจํานวนหนึงกรูกนั เข้ามาหา
พวกมันเริมใช้กาํ ลังทําร้ายเซวียเจา บ้างก็เอาแผ่นเหล็ก

2
ทีเผาจนแดงนาบลงบนตัวของน้องชายนาง แล้วยังป่ น
พริกผสมเกลือสาดมาอีกหนึงคํารบเซวียเจาเริมส่งเสียง
คําราม ภาพนีทําให้เจียงหลีรูส้ กึ เจ็บปวดทรมานสุดแสน
แต่นางก็ไม่อาจเข้าไปคว้าตัวน้องชายได้

กระทังได้ยินเสียงปลุกของถงเอ๋อ เจียงหลีถงึ รูว้ า่ ตนเอง


ฝันไป

ใจของนางอดหวาดหวันไม่ได้ เหตุใดนางจึงฝันเห็นเซวี
ยเจา นันเป็ นสถานทีใด

หรือจะเป็ นนรกภูม?ิ

3
แต่ชายหนุ่มอย่างเซวียเจา ยามมีชีวิตอยูเ่ ขาทังจงรัก
ภักดี กล้าหาญและซือตรง อย่างไรก็ไม่ควรตกนรก

สาวใช้ทงหมดต่
ั างมองเจียงหลีทีตกอยูใ่ นภวังค์ ถงเอ๋อ
และไป๋ เสวียไม่รูว้ า่ เหตุใดคุณหนูถงึ มีทา่ ทีเช่นนี เจียงหลี
เหมือนไม่อยากให้ผอู้ ืนรบกวน สาวใช้แต่ละนางจึงทํา
งานของตนเองเงียบๆ

ในช่วงบ่าย เฝ่ ยชุ่ยมาทีเรือนฟั งเฟยแล้วแจ้งให้เจียงหลี


ไปทีเรือนหวันฟ่ งถาง ฮูหยินผูเ้ ฒ่ามีเรืองจะคุยกับนาง
หลังจากเจียงหลีรบั คําแล้วก็กลับเข้าห้องไปเปลียนเสือ
ผ้า

4
ทีเรือนหวันฟ่ งถางในเวลานี นอกจากเจียงหลีแล้วยังมี
บรรดาลูกหลานของบ้านสายหลัก บ้านสายรอง และ
บ้านสายสาม ต่างก็อยูก่ นั พร้อมหน้า

เจียงหยวนปั วเป็ นถึงมหาอํามาตย์ของรัชสมัยนี เจียง


หยวนผิงเป็ นขุนนางขันสาม ถึงแม้เจียงหยวนชิงจะเป็ น
เพียงราชเลขา แต่เนืองจากพีชายสองคนมีตาํ แหน่งสูง
ส่ง เขาจึงสามารถเข้าร่วมงานเลียงในวังได้

งานเลียงในวังนับเป็ นเรืองใหญ่ เพือชือเสียงและ


เกียรติยศของจวนตระกูลเจียง ฮูหยินผูเ้ ฒ่าจําต้องกําชับ
ตักเตือนข้อควรระวังต่างๆ เป็ นธรรมดา

5
ข้อควรระวังเหล่านันนางพูดไปเกือบหมดแล้ว กฎ
ระเบียบก็คล้ายกับทุกปี เนืองจากปี นีเจียงหลีตอ้ ง
ติดตามเข้าวัง ดังนันนางจึงต้องยําเตือนเจียงหลีเป็ น
พิเศษอีกครัง

ขณะทีกําลังรอเจียงหลี นางหลูซือก็เอ่ยถามจีซูหรัน
“สะใภ้ใหญ่ ได้ยินว่าฤกษ์แต่งงานของโย่วเหยากับคุณ
ชายโจวกําหนดออกมาแล้วใช่หรือไม่”

เมือประโยคนีหลุดออกมา แววตาของคนในห้องก็
เปลียนไป

ฮูหยินผูเ้ ฒ่าไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ แต่คนของบ้านสาย

6
สามล้วนแสดงออกถึงความสงสัย เห็นได้ชดั ว่าเพิงเคย
ได้ยินเรืองนีเป็ นครังแรก

จีซูหรันยิมอย่างอ่อนโยน “ข่าวของน้องสะใภ้รวดเร็วเสีย
จริง ไม่ผิด วันก่อนข้าได้ปรึกษากับภรรยาท่านหนิง
หย่วนโหว โหวฮูหยินคิดว่าโย่วเหยาอายุอานามก็พอ
เหมาะ ถึงเวลาทีสมควรจะออกเรือนแล้ว นางคิดว่าฤดู
หนาวปี หน้าเป็ นช่วงเวลาทีดีทีสุด”

ฤดูหนาวปี หน้า เจียงโย่วเหยาก็คงใกล้จะอายุครบสิบหก


แล้ว

เจียงโย่วเหยาได้ฟัง ใบหน้าก็แดงกําขึนอย่างรวดเร็ว

7
กลับเป็ นเจียงอวีเอ๋อทีตกใจ นางรูม้ านานแล้วว่างานแต่ง
ระหว่างเจียงโย่วเหยากับโจวเยียนปั งเป็ นเรืองทีต้องเกิด
ขึนในไม่ชา้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี

ครันเห็นเจียงโย่วเหยาได้แต่งกับคุณชายตระกูลใหญ่
เจียงอวีเอ๋อก็อดคิดถึงตัวเองไม่ได้ บิดาของนางเป็ นแค่
ราชเลขา ตําแหน่งทีตําต้อยจนแทบติดพืน อยูใ่ นตระกูล
เจียงก็เป็ นเพียงลูกหลานจากอนุภรรยาห่างไกลจากท่าน
ลุงใหญ่กบั ท่านลุงรองลิบลับ แม้ตวั นางจะพยายามประ
จบจีซูหรัน แต่ถงึ กระนัน... มีหรือทีจีซูหรันจะยอมให้นาง
ได้สามีเกินหน้าเกินตาบุตรสาวของตน เรืองการแต่งงาน
ของนาง จีซูหรันคงไม่ใส่ใจสนับสนุน ทีสามารถพึงพาได้
ก็มีเพียงไม่กีคน ถึงอย่างไรนางก็ไม่มีโอกาสได้สามีทีดี
เหมือนเจียงโย่วเหยา

8
เห็นอีกฝ่ ายสมปรารถนา เจียงอวีเอ๋อก็ได้แต่นกึ ถึงชะตา
ของตนแล้วแอบทอดถอนใจ ทังรูส้ กึ โศกเศร้าและไม่
อยากยอมรับ

นางหลูซือคลียิม “โย่วเหยามีบญ
ุ โดยแท้ คุณชายโจว
เป็ นบุคคลทีใครๆ ในเมืองเยียนจิงล้วนอยากแต่งด้วย
แต่วา่ สะใภ้ใหญ่” นางถามอย่างห่วงใย “อย่าลืมว่าหลี
เอ๋อก็เป็ นคนในจวนตระกูลเจียงของพวกเราเหมือนกัน
หลีเอ๋อเป็ นถึงพีสาว เรืองงานแต่งของหลีเอ๋อยังไม่ถกู
กําหนด แต่โย่วเหยากลับมีทกุ อย่างแล้ว เราอาจจะถูก
คนครหาได้”

คําพูดประโยคนีแฝงความนัยอยู่ ฮูหยินผูเ้ ฒ่าหลับตาลง


9
เล็กน้อย ไม่อยากฟั งลูกสะใภ้ทงสองแก่
ั งแย่งชิงดี นาง
เคยชินกับภาพทีปรากฏอยูต่ รงหน้ามานาน จีซูหรันภาย
นอกอ่อนโยนแต่จิตใจกลับแข็งกระด้าง นางหลูซือ
หลงใหลในชือเสียงลาภยศ ทังยังชอบเอาชนะคะคาน
ให้สองคนนีมาอยูร่ ว่ มกันก็ตอ้ งมีกระทบกระทังเป็ น
ธรรมดา

เล็กน้อยพอเป็ นสีสนั อย่าให้ถงึ กับเสียการใหญ่เป็ นใช้ได้

“ขอบใจน้องสะใภ้ทีเป็ นห่วง” จีซูหรันตอบอย่างเป็ นมิตร


“เรืองงานแต่งงานของหลีเอ๋อ ข้าก็คิดอยูใ่ นใจตลอดมา
เพียงแต่ตอนนียังไม่มีคนมาสูข่ อ ข้าเองก็ยงั ไม่เจอใครที
เหมาะสม หากน้องสะใภ้มีคนดีๆ อยากแนะนําก็รบกวน
บอกด้วย ข้าจะให้ทา่ นพีช่วยพิจารณา ดูกนั หลายตา
10
หน่อย อย่างไรเสียก็เป็ นเรืองใหญ่ในชีวิตของหลีเอ๋อ ข้า
ก็ไม่กล้าทําอะไรบุม่ บ่าม ต้องรอให้ทา่ นแม่และท่านพี
พิจารณาเสียก่อน”

จีซูหรันพูดเลียงเรืองเจียงโย่วเหยาแย่งงานแต่ง แล้วยัง
เหยียบยําเจียงหลีวา่ ไม่มีใครมาสูข่ อได้อย่างแนบเนียน
ไม่ทิงร่องรอยใดๆ ให้ยอ้ นเข้าตัวได้

กล่าวกันว่า บ้านไหนมีบตุ รสาวหนึงคน อีกร้อยบ้านย่อม


ต้องมาสูข่ อ แต่เจียงหลีกลับเข้าเมืองเยียนจิงเนินนาน
จนป่ านนียังไร้วีแววคนมาสูข่ อ หากคนนอกไม่นกึ สนใจ
ตระกูลเจียงก็ไม่อาจส่งบุตรสาวไปเสนอได้ สุดท้าย เรือง
งานแต่งงานของเจียงหลีก็โยนไปทีฮูหยินผูเ้ ฒ่ากับเจียง
หยวนปั ว ออกตัวว่าไม่เกียวกับนางสักนิด
11
เจียงหลีทีเพิงเดินมาถึงเรือนหวันฟ่ งถางบังเอิญได้ยิน
ถ้อยคําเหล่านันพอดี จึงอดขําไม่ได้

ถงเอ๋อโมโหจนควันลอยเต็มหัว เห็นคุณหนูยงั หัวเราะได้


ก็งนุ งงขึนมา จีซูหรันว่าร้ายนางถึงเพียงนี เจียงหลีมิ
เพียงไม่โกรธเคือง ยังหัวเราะออก มีอะไรให้ขาํ กัน?

เจียงหลียกเท้าก้าวข้ามธรณีประตูของเรือนหวันฟ่ งถาง
แล้วเอ่ยทักเสียงดัง “ท่านย่า”

นางหลูซือดีใจจนตาตัง คิดว่าเจียงหลีอาจได้ยินถ้อยคํา
เมือสักครูข่ องจีซูหรัน เจียงหลีจะต้องโต้กลับอย่างเจ็บ

12
แสบแน่ นางอยากเห็นสีหน้าไม่เป็ นสุขของจีซูหรันเหลือ
เกิน

แต่เจียงหลีกลับวางท่าราวกับไม่ได้ยินคําพูดเหยียด
หยามเสียอย่างนัน หลังจากคารวะฮูหยินผูเ้ ฒ่าแล้ว นาง
ก็ทาํ ความเคารพผูอ้ าวุโสทีละคน ไม่ได้ตอบโต้จีซูหรัน
เลยสักคํา

เจียงโย่วเหยาจ้องมองเจียงหลี นึกถึงสิงทีได้ยินจากปาก
สาวใช้เมือคราวก่อนว่าโจวเยียนปั งต้องการยกเลิก
สัญญาแต่งงานกับนางเพือไปหาเจียงหลี คิดแล้วก็อด
แสดงความโกรธแค้นผ่านแววตาไม่ได้

13
เจียงหลียืนอย่างสงบ ไม่สนใจสายตาทีมองมาของผูใ้ ด

“หลีเอ๋อ พรุง่ นีเจ้าต้องเข้าวังไปพร้อมกับพวกข้า” ฮูหยิน


ผูเ้ ฒ่าเอ่ยปาก “ยังขาดเหลือสิงใด ต้องการอะไรเพิมเติม
ก็บอกมาเถิด ท่านแม่ของเจ้าจะได้เป็ นธุระจัดเตรียมให้”

เจียงหลีรบั คํา

“นีเป็ นครังแรกทีเจ้าเข้าวัง อย่าได้ทาํ ผิดระเบียบ สงสัย


อะไรก็ให้ถาม หากไม่รูว้ า่ ควรทําตัวอย่างไรก็ให้ทาํ ตาม
โย่วเหยาไปก่อน” ฮูหยินผูเ้ ฒ่ากําชับอย่างละเอียด

เจียงหลียิมพลางพยักหน้ารับ ไม่ได้แสดงอาการตืนเต้น
14
ออกมา

“หลีเอ๋อเก่งจริงๆ ครังนีได้รบั พระราชทานรางวัลจากฝ่ า


บาทเสียด้วย คลืนลูกหลังในจวนของเรา มีแต่หลีเอ๋อคน
เดียวทีสามารถนําพาชือเสียงมาให้” นางหลูซือยิมกริม
แล้วกล่าวเสริม “ได้ยินว่าคนทีสอบได้อนั ดับหนึงของ
สํานักบัณฑิตชายปี นีคือเย่ซือเจีย พูดถึงชือนีขึนมาข้าจํา
ได้วา่ เขาเกียวดองกับตระกูลเจียงของพวกเราเช่นกัน
เป็ นถึงญาติฝ่ายมารดาของเจียงหลี”

เจียงหลีได้ยินนางหลูซือกล่าวถึงเย่ซือเจียก็ลอบถอนใจ
นางไม่อยากให้ตระกูลเย่มาพัวพันกับคนของจวนตระกูล
เจียงเลย นีไม่ใช่เรืองดีนกั สําหรับคนตระกูลเย่

15
จีซูหรันหัวเราะแล้วมองเจียงหลี “ใช่แล้ว ข้าเห็นว่าหลี
เอ๋อควรจะไปมาหาสูก่ บั คุณชายตระกูลเย่บา้ ง แม้
มารดาของเจ้าจะล่วงลับไป แต่ทงสองบ้
ั านก็ยงั คงเกียว
ดองเป็ นญาติ หากภายภาคหน้าได้รบั ราชการ นายท่าน
ใหญ่ของพวกเราก็ยงั สามารถอุปถัมภ์เขาได้ อย่างไรเสีย
ก็เป็ นคนบ้านเดียวกัน อุปถัมภ์คนในครอบครัวดีกว่าช่วย
เหลือคนนอก”

เจียงหลีได้ฟัง หางตาพลันกระตุกเล็กน้อย

คําพูดของจีซูหรันเหมือนปรารถนาดี แต่จีซูหรันมีหรือจะ
อารีถงึ ขันสนับสนุนให้เจียงหยวนปั วช่วยอุปถัมภ์เย่ซือ

16
เจีย... เป็ นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

เจียงหลีมองรอยยิมอ่อนโยนของอีกฝ่ าย จีซูหรันกําลัง
เล่นบทมารดาทีมีทงความรั
ั กและเมตตาเปี ยมล้น เพียง
แต่เจียงหลีกลับรูส้ กึ ว่าแววตาของนางดังอสรพิษเลือย
พันอยูบ่ นต้นไม้ทีกําลังจับจ้องเหยือ ฟั นแหลมคมคูน่ นั
อาบไปด้วยพิษร้าย

17
บทที 70 จ้องข้าทําไม

จีซูหรันกําลังวางแผนอะไรบางอย่างแน่

แววตาของเจียงหลีเคลือนมาทีเจียงโย่วเหยา

เจียงโย่วเหยาอายุนอ้ ย จึงไม่มากเล่หเ์ หมือนจีซูหรัน แม้


จะพยายามแสดงออกว่า ‘ข้าบริสทุ ธิ ไม่ได้คิดร้าย’ อย่าง
สุดกําลัง ก็ยงั ไม่อาจปิ ดบังแววตาแห่งความโกรธแค้นที
ส่งมายังเจียงหลีได้ แววตาทีว่านีมีความสาแก่ใจแฝง
อยู.่ .. ไม่รูว้ า่ เพราะสาเหตุใด

1
แววตานันทําให้เจียงหลีรูส้ กึ คุน้ ตา

หลังจากฮูหยินผูเ้ ฒ่ากําชับกําชาดีแล้ว ทุกคนจึงแยก


ย้ายกลับไป เจียงหลีกา้ วออกจากประตูเรือนหวันฟ่ งถาง
มุง่ สูเ่ รือนของตนทีอยูห่ วั มุมของจวนตระกูลเจียง คนละ
ทิศกับเรือนของเจียงโย่วเหยา จึงไม่จาํ เป็ นต้องเดินด้วย
กัน จังหวะหนึง... นางลองหันกลับไปมอง ทันเห็นเจียง
อวีเอ๋อกับเจียงอวีเยียนเข้าพอดี

สําหรับสองคนนี เจียงอวีเยียนไม่เคยออกความเห็นใดๆ

ส่วนเจียงอวีเอ๋อ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยแสดงสีหน้าเป็ น
มิตรกับเจียงหลีสกั ครัง วันนีพอได้เห็นหน้าเจียงอวีเอ๋อ

2
เจียงหลีก็รูท้ นั ทีวา่ ฝ่ ายตรงข้ามกําลังวางแผนบางอย่าง
ในใจ

“ทําไมพีรองถึงเดินเร็วเช่นนี ข้าตามแทบไม่ทนั ” เจียงอวี


เอ๋อเอ่ยปากอย่างเป็ นกันเอง

เจียงหลีหยุดยืนอยูก่ บั ทีแล้วเอ่ยถาม “น้องห้ามีอะไร


หรือ”

เจียงอวีเอ๋อยกยิมกล่าว “วันนีตอนอยูท่ ีหวันฟ่ งถางแล้ว


พีรองยังมาไม่ถงึ พวกเราก็ได้ยินเรืองหนึงเข้า” พูดถึง
ตรงนี เจียงอวีเอ๋อก็จงใจเว้นระยะไปครูห่ นึงเพือเรียก
ความสนใจ ก่อนจะสาธยายต่อ “เรืองงานแต่งของพีสาม

3
ท่านป้าใหญ่บอกว่าฤกษ์แต่งงานของพีสามกับคุณชาย
โจวกําหนดออกมาแล้ว เป็ นช่วงฤดูหนาวปี หน้า ข้าเข้า
ใจว่าพีรองคงยังไม่ทราบเกียวกับเรืองนี จึงตังใจมาแจ้ง
ข่าวเจ้าค่ะ”

เพือเรืองนีเองหรอกหรือ

เจียงหลียิมบางๆ “ขอบใจน้องห้าทีแจ้งข่าว ข้าทราบ


แล้ว”

เจียงอวีเอ๋อพยายามสังเกตสีหน้าของเจียงหลีโดย
ละเอียด แต่ไม่เห็นแววตาทีบ่งบอกถึงความผิดหวังชอก
ชําใจแม้แต่นอ้ ย นางจึงกล่าวต่อไปว่า “หากไม่เกิดเรือง

4
กับพีรองในตอนนัน คนทีจะได้แต่งเข้าจวนหนิงหย่วน
โหวก็ตอ้ งเป็ นพี คุณชายโจวเป็ นบุรุษอันดับต้นๆของ
เมืองเยียนจิงทีสตรีทงหลายต่
ั างหมายปอง ไม่เสียแรงที
พีสามสามารถแต่งเข้าบ้านตระกูลโจวของเขาได้ เฮ้อ...
ทังๆ ทีพีรองอายุมากกว่าพีสามแท้ๆ แต่เรืองงาน
แต่งกลับยังไม่เป็ นทีแน่ชดั ข้ารูส้ กึ ว่าไม่ยตุ ิธรรมต่อพีรอง
เสียเลย”

เจียงอวีเยียนได้ฟังก็กลัวจนหัวหด อยากจะเอ่ยปากห้าม
เจียงอวีเอ๋อ แต่สดุ ท้ายก็ได้แค่รงชายเสื
ั อของน้องสาว
เท่านัน

เจียงหลีไม่ได้ตอบเจียงอวีเอ๋อ เพียงจ้องมองกลับไปแล้ว
อมยิมทีมุมปาก
5
เจียงอวีเอ๋อเห็นเช่นนันจึงเอ่ยถาม “พีรองจ้องข้าทําไม”

“ไม่มีอะไร” เจียงหลีตอบอย่างผ่อนคลาย “ทีน้องห้าเป็ น


กังวลแทนนัน ข้ารูส้ กึ ปลาบปลืมนัก เพียงแต่...”
นางกล่าวต่อเสียงเนิบ “ความปรารถนาดีของน้องห้านี
ไม่รูว้ า่ ท่านแม่กบั น้องสามทราบหรือไม่”

สีหน้าของเจียงอวีเอ๋อแปรเปลียนในฉับพลัน

นางรีบมาพูดจาทิมแทงเจียงหลี กลับไม่รูว้ า่ หากคําพูด


ประโยคทีว่า ‘ไม่ยตุ ิธรรมต่อพีรอง’ นี ได้ยินไปถึงหูของจี
ซูหรันสองแม่ลกู เหตุการณ์จะเป็ นเช่นไร

6
เจียงอวีเอ๋อหัวเราะเฝื อน ตอบว่า “นีเป็ นคําพูดทีข้าเอ่ย
กับพีรองจากใจ... เพียงผูเ้ ดียว”

เจียงหลียิม “ความจริงเรืองงานแต่งของข้าน้องห้าไม่จาํ
เป็ นต้องกังวลให้มาก ท่านพ่อของข้าเป็ นถึงมหา
อํามาตย์ ต่อให้เมืองเยียนจิงสินคนดี ข้าก็ยงั สามารถหา
ตระกูลขุนนางใหญ่แต่งออกไปได้ ถึงท่านแม่ไม่เดือด
ร้อนเป็ นธุระให้ ข้าก็ยงั มีทา่ นพ่อกับท่านย่ามาช่วยคิดอยู่
ดี ข้าเป็ นถึงบุตรีอนั เกิดจากภรรยาเอกของบ้านสายหลัก
ตระกูลเจียง จะแต่งกับคนทีด้อยกว่าได้หรือ” นางมอง
เจียงอวีเอ๋อแล้วกล่าวเป็ นนัย “แม้นอ้ งห้าอายุยงั ไม่ครบ
สิบห้าปี ก็ควรดูแลตัวเองให้ดีกว่านีสักหน่อย อาชีพการ
งานของท่านอาสามในตอนนีไม่แจ่มใสนัก อาศัยเพียง

7
บารมีของท่านอาสามกับอาสะใภ้สาม ต่อไปน้องห้าจะ
แต่งกับคุณชายบ้านไหนก็ยงั ตอบได้ยาก”

พูดประโยคนีจบ นางก็ไม่รอให้เจียงอวีเอ๋อตอบโต้ รีบพา


ถงเอ๋อเดินจากไปทันที

ระหว่างทางถงเอ๋อหัวเราะจนตัวงอ พอถึงเรือนฟั งเฟย ก็


เล่าเรืองทังหมดให้พวกไป๋ เสวียฟั งอย่างไม่ตกหล่น นาง
หัวเราะลัน “พวกเจ้าไม่เห็นสีหน้าของคุณหนูหา้ ในตอน
นัน คุณหนูของพวกเราเก่งกาจจริงๆ คุณหนูหา้ ต้องโมโห
จนอกแทบระเบิดแน่”

“เหตุใดคุณหนูหา้ ถึงชอบมาหาเรืองคุณหนูของพวกเรา

8
นัก” หมิงเย่ถามอย่างประหลาดใจ “คุณหนูหา้ เป็ นคน
ของบ้านสายสาม คุณหนูของพวกเราไม่ได้ไปขวางทาง
อะไรนางสักหน่อย”

“เห็นคนอืนดีกว่าไม่ได้ รูส้ กึ ริษยาอย่างไรเล่า” ถงเอ๋อ


หลุดปาก

เจียงหลีฟังคําวิพากษ์วิจารณ์ของสาวใช้ก็ได้แต่หวั เราะ
พลางส่ายหน้า “โลกของเราก็มีคนแบบนี เกิดมาชาติ
ตระกูลด้อยกว่าแล้วยังไม่รูจ้ กั เจียมตัว วันๆ คิดแต่จะ
กระโดดข้ามหัวผูอ้ ืน คนแบบนีสามารถทําอะไรก็ได้ทงั
นัน”

9
สาวใช้ทงหลายผงกศี
ั รษะ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง

เจียงหลีกาํ ลังคิดว่าเจียงอวีเอ๋อกับเสินอวีหยงนับเป็ นคน


ประเภทเดียวกัน ยิงมีชาติตระกูลตําก็ยงอยากจะไขว่

คว้าหาทีสูง พยายามป่ ายปี นขึนไปโดยไม่คาํ นึงถึงวิธี
การ เพียงแต่เจียงอวีเอ๋อไม่รูจ้ กั ปิ ดบังความไม่รูจ้ กั พอ
ของตัวเอง แต่เสินอวีหยงนันกระทําได้แนบเนียนกว่า

เจียงหลีกล่าว “ถงเอ๋อ ไปเอากล่องใบเล็กมาให้ขา้ ”

สายลมทีโหมกระหนําเมือคืนก่อน ไม่ได้สง่ ผลกระทบ


ใดๆ ต่อผูค้ นทังหลายทีเข้าวังอย่างยินดีปรีดาในวันนี

10
พอเจียงอวีเอ๋อเห็นเจียงหลี ก็ไม่ได้เพิกเฉยเย็นชาต่อนาง
เพราะเรืองเมือวาน กลับยิมแย้มแจ่มใส แล้วยังชืนชม
กระโปรงของเจียงหลีวา่ งดงามอีกด้วย

เจียงหลีได้แต่ตอบว่า “ของน้องห้าก็ไม่เลว”

เจียงอวีเอ๋อสวมกระโปรงสีเหลืองอ่อนปั กลายดอก
เบญจมาศ เรือนผมเกล้าสูงประดับด้วยปิ นหยกรูปดอก
ไห่ถงั ในความเป็ นจริง การแต่งกายหรูหราเช่นนีกลับลด
ทอนความน่ารักสมวัยของเจียงอวีเอ๋อ ทว่าเจียงอวีเอ๋อที
กําลังเห่อเครืองประดับราคาแพงกลับรูส้ กึ ภูมิใจยิง

จีซูหรันเห็นคนรอบตัวเป็ นเช่นนีก็รูส้ กึ ดีใจนัก เจียงอวี

11
เยียนนันธรรมดาจนเกินไป ส่วนเจียงอวีเอ๋อก็แต่งตัวมาก
เกินงาม ทําให้เจียงโย่วเหยายิงโดดเด่นสะดุดตา

เจียงโย่วเหยาเองก็ใส่ใจกับการแต่งกายของตน
ทุกกระเบียด ไม่ตอ้ งพูดถึงอืนใด แค่กระโปรงตัวยาวลาก
พืนสีแดงเหลือบทองของนางก็เพียงพอให้ดงึ ดูดสายตาผู้
คนแล้ว ซํานางยังเสริมความหรูหราด้วยหวีรูปนกยูง
ทองคํา กําไลแปดมณี ผูกกระเป๋ าถักสีแดงข้างเอวและ
แต่งหน้าทาปากอีกด้วย

ปกติแล้วเจียงโย่วเหยาจะไม่แต่งหน้าจัดนัก แต่ครังนี
ต้องเข้าวัง นางจึงต้องเขียนคิวเติมแป้งเพิม เดิมใบหน้า
ของนางนันสะสวย เมือแต่งแต้มจนคมขําเช่นนี ต่อให้
เป็ นบุปผางามก็ยงั มิอาจเทียบ หากเข้าวังในรูปลักษณ์นี
12
จะต้องดึงดูดสายตาของคุณชายตระกูลใหญ่อย่างแน่แท้

เพียงแต่เจียงหลีไม่เข้าใจ... ในเมือเจียงโย่วเหยาหมัน
หมายไว้กบั โจวเยียนปั งแล้ว เหตุใดยังต้องแต่งกายเลิศ
หรูอีก

ขณะทีเจียงหลีกาํ ลังพินิจพิจารณาเจียงโย่วเหยาอยูน่ นั
จีซูหรันก็กาํ ลังมองประเมินนางเช่นกัน นางหลูซือยิงทํา
เกินกว่าเหตุ นางปิ ดปากหัวเราะแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่
รูจ้ กั สาวใช้ทงสอง
ั คงจดจําหลีเอ๋อไม่ได้จริงๆ”

แต่ไหนแต่ไรเจียงหลีก็ไม่ชอบแต่งตัวหรูหรา ฮูหยินผูเ้ ฒ่า


คงจะคาดเดาความชอบของนางได้ ครังนีจึงสังให้คนตัด

13
เย็บเสือผ้าทีมีสีสนั ไม่ฉดู ฉาดนัก แต่เนืองจากต้องเข้า
เฝ้าฮ่องเต้ จะให้เรียบง่ายเกินไปก็คงไม่เหมาะ

เจียงหลีในวันนีจึงสวมอาภรณ์สีเขียวตลอดร่าง ด้านใน
เป็ นชุดกระโปรงสีเขียวอ่อน เกล้าผมทรงนําเต้าเปิ ดใบ
หน้ากระจ่างใสยิงชวนให้ติดตราตรึงใจนัก นางไม่ได้ปัก
ปิ นหรือประดับหวีเลยสักอัน เพียงห้อยต่างหูหยกขาว
ขนาดเล็กกะทัดรัดทีรับกับใบหน้าขาวดุจหยก

นางเขียนคิวบางๆ ตีวงโค้ง ดวงตาทอประกาย แต่งแต้ม


ริมฝี ปากสีออ่ น ทําให้ดโู ดดเด่นเป็ นพิเศษ

พอมายืนอยูก่ บั เจียงโย่วเหยา อีกฝ่ ายจึงดูเหมือนดอกไม้

14
สีแดงฉูดฉาดทีนํามาประดับกับใบไผ่เขียวเย็นตา มอง
คล้ายกองไฟท่ามกลางไพรสัณฑ์

ความร้อนแรงทําให้คนชืนชม แต่ความสบายตานันง่าย
ต่อการจดจํา

จีซูหรันหมุนตัวกลับมากดไหล่บตุ รสาวเบาๆ เจียงโย่ว


เหยาจึงเก็บแววตาอาฆาตแค้นไว้ได้ทนั

ฮูหยินผูเ้ ฒ่าอดมองเจียงหลีอีกครังไม่ได้ เดิมทีนางคิด


เสมอว่าเจียงโย่วเหยาเป็ นดังมณีเม็ดงามทีโดดเด่นอยู่
กลางฝ่ ามือตน ยามผูค้ นได้ยลต่างนิยมชมชอบ ทว่า
ตอนนี เจียงหลีทีเติบโตอยูน่ อกบ้านกลับให้ความรูส้ กึ

15
ราวกับหยกเนือดีทีหล่นอยูบ่ นชายฝัง นางทอประกาย
เจิดจรัสได้ดว้ ยตัวเอง

แบบไหนดีกว่า ตอนนีก็ยากจะหาคําตอบ

เจียงหยวนปั วเห็นบุตรสาวทังสองงดงามเคียงคู่ ก็รูส้ กึ


พึงพอใจ กล่าวว่า “ออกเดินทางได้”

คนแต่ละบ้านต่างนังอยูใ่ นรถม้าของตน รถม้าทุกคันมุง่


หน้าสู่

วังหลวง เวลาผ่านไปประมาณครึงชัวยาม รถม้าก็ถงึ จุด


หมาย
16
คนขับรถม้าด้านนอกพลันแจ้งข่าว “ฮูหยิน นายท่าน
ใหญ่ ถึงแล้วขอรับ”

เจียงหยวนปั วก้าวลงจากรถม้าเป็ นคนแรก ก่อนทีพ่อ


บ้านน้อยจะเข้าไปพยุงพวกของจีซูหรัน ทางด้านเจียงหลี
เองก็กาํ ลังเตรียมลงจากรถม้า เท้าสัมผัสพืนซึงอยูห่ า่ ง
จากประตูวงั แค่หนึงกําแพงกันครันมองกําแพงวังทีแน่น
หนา เพียงครูใ่ นใจก็เกิดความสับสน

17
บทที 71 สตรีตระกูลเจียงมาถึงแล้ว

“พีรอง นีก็คือประตูวงั หลวง” เจียงอวีเอ๋อทีเพิงลงมาจาก


รถม้าคันหลังกล่าวแนะนํา

นอกประตูวงั รถม้าของผูอ้ าวุโสเริมทยอยกันมาถึง ขุน


นางชันผูน้ อ้ ยยังเข้ามาคารวะเจียงหยวนปั ว คนตระกูล
เจียงเดินทางล่าช้ามากแล้ว เจียงหยวนปั วจึงไม่ได้รงอยู
ั ่
ทีหน้าประตูวงั นานนัก เขารีบเดินตามผูน้ าํ ทางเข้าไป
ด้านใน

เดิมทีเจียงโย่วเหยาคิดว่าเจียงหลีทีเข้าวังเป็ นครังแรกจะ

1
ต้องมือไม้สนจนทํ
ั าอะไรไม่ถกู ด้วยความตืนเต้น หาก
เจียงหลีทาํ เรืองน่าอายขึนมาก็คงดี ไม่นกึ ว่าจะได้เห็น
เจียงหลียกกระโปรงขึนเล็กน้อย เยืองย่างอย่างผ่อน
คลาย ราวกับว่าวังหลวงเป็ นสวนดอกไม้ของบ้านตัวเอง
เสียอย่างนัน

เจียงโย่วเหยารูส้ กึ กระวนกระวาย ส่วนฮูหยินผูเ้ ฒ่ากลับ


พอใจนัก

ตําหนักอวีหมิงในเวลานี คนจากตระกูลขุนนางมากหน้า
หลายตาเข้ามาร่วมงานแล้ว คุณหนูและฮูหยินเหล่านี
ล้วนมีชาติตระกูลสูงส่ง งานเลียงยังไม่ทนั เริม แขกเหรือ
ส่วนใหญ่จงึ แลกเปลียนพูดคุยตามความสนิทสนม งาน
เลียงในวังเช่นนี บุตรีของแต่ละบ้านพยายามแต่งองค์
2
ทรงเครือง เนืองจากคนทีเข้าวังมาร่วมงานนันยังมีลกู
ชายตระกูลขุนนางชันสูงทีล้วนแต่รูปงามมากความ
สามารถ ราชวงศ์เยียนมีประเพณีทีเปิ ดกว้างกว่ารัชสมัย
ก่อนหน้า แค่หนุ่มสาวไม่แสดงออกจนเกินงาม หากต่าง
ฝ่ ายรูจ้ กั และมีใจให้กนั ก็สามารถไปสูข่ อถึงบ้านฝ่ าย
หญิงได้

งานเลียงในวังจึงเป็ นโอกาสอันดี ทีผูร้ ว่ มงานส่วนมากมี


สถานะสมนําสมเนือกัน ทําให้เรืองต่างๆ สะดวกมากขึน

สองแม่ลกู ทีนังอยูท่ างทิศตะวันออก คนลูกอายุประมาณ


สิบเจ็ดย่างสิบแปด ใส่ชดุ สีเขียว สวมเครืองประดับหยก
รูปผีเสือบนศีรษะ หน้าตาก็นบั ว่าสะสวย ส่วนคนแม่ทีนัง
อยูข่ า้ งๆ นันแต่งกายหรูหราฉูดฉาด เพียงแต่อากัปกิรยิ า
3
ดูไม่เป็ นธรรมชาติเหมือนกับฮูหยินคนอืนๆ ยังเห็นเค้า
ลางของความเป็ นชนชันล่างแฝงอยู่

สองแม่ลกู คูน่ ีก็คือเสินหรูอวิน--น้องสาวของเสินอวีหยง


และมารดาของเขา--เสินฮูหยิน

เพือเห็นแก่หน้าของเสินอวีหยง ฮูหยินผูส้ งู ศักดิทังหลาย


จึงมาพูดคุยกับเสินฮูหยิน พวกนางต่างไม่ติดใจเรืองชน
ชันในอดีตของเสินฮูหยิน กลับพูดจายกย่องเสินฮูหยิน
อย่างเป็ นกันเองจนนางตัวแทบลอย

เนียเสียวซวงและจูซินเอ๋อ สองคุณหนูทีอยูก่ ลุม่ เดียวกับ


เจียงหลีตอนทดสอบขีม้ายิงธนูของสํานักบัณฑิตหญิง

4
หมิงอีถาง ก็เข้าไปรุมล้อมพูดคุยกับเสินหรูอวินด้วยเช่น
กัน

หลิวสวีทีอยูอ่ ีกด้านเห็นเหตุการณ์ก็ได้แต่ครางเสียงเบา
พลางกระซิบข้างหูหลิวฮูหยิน “เป็ นครังแรกจริงๆ ทีเห็น
คนอยากแต่งงานกับพ่อหม้ายเมียตายจนตัวสัน”

หลิวฮูหยินจิมหน้าผากของหลิวสวีแล้วปรามเสียงเบา
“พูดมาก”

“ก็มนั จริงนีเจ้าคะ” หลิวสวีบน่ อุบ นางดูกิรยิ าของสหาย


ร่วมชันเหล่านันอย่างไม่เข้าใจ ภรรยาของ ‘เสินจอหงวน’
ท่านนันเพิงตายจาก ไม่ตอ้ งพูดถึงเรืองของเซวียฟั งเฟย

5
ว่าเป็ นอย่างไร แต่ดกู ็รูว้ า่ เสินจอหงวนยังคงไว้อาลัยให้
กับอดีตภรรยา คุณหนูเหล่านันไยไม่คิดบ้าง ในเมือเป็ น
เช่นนี เขาจะรีบแต่งงานใหม่ได้รึ หากอยากแต่งงานใหม่
ในเร็ววัน เสินจอหงวนก็คงไม่ออกตัวไว้อาลัย ให้ดู
เหมือนคนปากอย่างใจอย่างหรอก

กําลังพูดถึงก็ได้ยินคนข้างๆ เอ่ยขึนว่า “ได้ยินว่างานแต่ง


ระหว่างทายาทท่านหนิงหย่วนโหวกับคุณหนูสามของ
อํามาตย์เจียงจะจัดขึนปลายฤดูหนาวปี หน้า”

เพิงพูดจบเสินหรูอวินทีอยูอ่ ีกฟากก็หน้าเปลียนสี พลัน


เอ่ยถามอย่างร้อนรน “จริงรึ”

6
“จริงแท้แน่นอน” เนียเสียวซวงตอบ “ข้าเพิงได้ยินท่าน
แม่พดู ถึงไปเมือไม่กีวันนีเอง”

เสินหรูอวินเจ็บแค้นใจ ขณะกําลังจะเอ่ยปากก็ได้ยินนาง
กํานัลประกาศว่า “สตรีตระกูลเจียงมาถึงแล้ว”

ฝูงชนต่างมองไปยังประตู ทีเดินนําหน้าก็คือฮูหยินผูเ้ ฒ่า


ตามมาด้วยจีซูหรัน นางหลูซือและนางหยางซือตาม
ลําดับ ต่อจากนันคุณหนูของจวนตระกูลเจียงจึงค่อยๆ
เดินเรียงกันเข้ามา

เจียงโย่วเหยาเดินนําด้วยใบหน้ายิมรืน น่ารักใคร่เอ็นดู
ดุจบุปผาแรกแย้ม นางเยืองย่างอย่างอ่อนโยน ใบหน้า

7
สะสวย ทําให้ตาํ หนักอวีหมิงมีสีสนั ขึนทันใด บรรดาคุณ
หนูผมู้ ีหน้าตาไม่โดดเด่น เห็นเจียงโย่วเหยาแล้วให้รูส้ กึ
อับอายไปตามๆ กันทีรูปโฉมเทียบนางไม่ได้

เจียงโย่วเหยาเติบใหญ่ในตระกูลขุนนางทีหลายคนต้อง
อิจฉา เป็ นทีรักใคร่ของคนในบ้าน อ่อนวัยไร้เดียงสา อีก
ทังงดงามหาใดเปรียบ งานวิวาห์ก็กาํ ลังจะมีขนในไม่
ึ ชา้
ว่าทีสามีก็หล่อเหลาอ่อนโยน เหมาะสมกันจนใครหลาย
คนต้องอิจฉา

เจียงโย่วเหยาเก็บสายตาริษยาและชืนชมไว้ในใจ รูส้ กึ
ดีใจนัก ฝี เท้าพลันเบาสบายขึนหลายส่วน

8
คนทีเดินตามเจียงโย่วเหยาในลําดับต่อมาก็คือเจียงหลี

เปรียบเทียบกับการแต่งกายเต็มอัตราของเจียงโย่วเหยา
แล้ว เจียงหลีดไู ร้สีสนั กว่าเล็กน้อย แต่ในความเรียบง่าย
ใบหน้าทีคมคายก็เหมือนหมึกสีเข้มบนภาพวาดภูเขา
และสายธาร ให้ความรูส้ กึ ผ่อนคลายไร้จดุ สินสุด

ฝี เท้าของคุณหนูรองเจียงเนิบช้าและมันคง มิได้รบี ร้อน


ดูแล้วอ่อนโยนและมุง่ มัน หากเจียงโย่วเหยาคือคุณหนูที
งดงามฉูดฉาด หญิงสาวผูน้ ีก็เปรียบดังเทพธิดาทีสดใส
น่ารักและฉลาดเฉลียว เจียงโย่วเหยาเหมาะจะเป็ นสีสนั
แต่งแต้มให้แก่มวลบุปผา แต่เจียงหลีราวกับชินชาต่อ
การมีอยูข่ องผูค้ นบนโลก

9
มีคนสังเกตเห็นว่าบนข้อมือเล็กๆ ของเจียงหลีไม่ได้สวม
เครืองประดับกําไล แต่คล้องลูกประคําสีดาํ ไว้ แลดู
อบอุน่ เรียบง่าย รับกับข้อมือเนียนขาวราวกับหยกของ
นาง

ใบหน้าของหญิงสาวมีรอยยิมประดับริมฝี ปาก ดูเป็ น


มิตรและอารี อีกทังดูสบายใจไร้กงั วล ทําให้ผมู้ องรูส้ กึ
ผ่อนคลายตามไปด้วย

ภรรยาท่านหนิงหย่วนโหวทีกําลังพูดคุยกับเฉินจีฮูหยิน
ขมวดคิวมอง

10
นับแต่โจวเยียนปั งคิดจะยกเลิกสัญญาแต่งงานกับเจียง
โย่วเหยาเป็ นต้นมา โหวฮูหยินก็ทกุ ข์ใจนัก แม้เมือก่อน
นางกับเย่เจินเจินจะเป็ นสหายสนิทกัน แต่เย่เจินเจินก็
ตายจากไปนานหลายปี แล้ว เจียงหลีเป็ นบุตรสาวทีเย่
เจินเจินทิงไว้ อย่างไรก็ไม่อาจเทียบกับบุตรสาวแท้ๆ ทีได้
รับการเอาใจใส่เลียงดูจากจีซูหรัน อีกทังต่อมาเจียงหลี
ยังทําร้ายจีซูหรันจนแท้งลูก ชือเสียงจึงตกตํายําแย่นกั
โหวฮูหยินจึงหยุดความคิดทีจะเกียวดองกับตระกูลเจียง
ลงเพียงเท่านัน

แต่คิดไม่ถงึ ว่าจีซูหรันกลับเป็ นฝ่ ายติดต่อนางอีกครัง

โหวฮูหยินดีใจจนออกนอกหน้า ในสายตาของนาง เมือ


เทียบกับเจียงหลีแล้วเจียงโย่วเหยามีแต่ขอ้ ดีไร้ทีติ
11
ประการแรก เจียงโย่วเหยาเองก็เป็ นบุตรีจากภรรยาเอก
คนปั จจุบนั ของเจียงหยวนปั ว ประการทีสอง ไม่วา่ หน้า
ตา ความสามารถ หรืออุปนิสยั ใจคอ ทุกฝ่ ายล้วนพอใจ
ในตัวเจียงโย่วเหยา โจวเยียนปั งเองก็ไม่คดั ค้านการแต่ง
ในครังนี โหวฮูหยินจึงเห็นชอบให้ดาํ เนินการตามสมควร

ใครจะรูว้ า่ เจียงหลีกลับมาเมืองหลวงได้ไม่นาน จู่ๆ โจว


เยียนปั งกลับมีความคิดเหลวไหลขึนมา

โหวฮูหยินเกรงว่าโจวเยียนปั งจะสร้างความเดือดร้อน
งานเลียงในวังหลวงวันนีจึงตังใจมาดูตวั เจียงหลีดว้ ยตน
เอง ในการสอบใหญ่สองครังทีผ่านมา โหวฮูหยินไม่ได้
ไปร่วมชมการทดสอบ จึงไม่รูว้ า่ เหตุใดเจียงหลีถงึ เป็ นที
กล่าวขวัญ แม้ผคู้ นรอบกายต่างชืนชมการสอบใหญ่ของ
12
คุณหนูรองเจียง แต่โหวฮูหยินก็ยงั ไม่อาจนึกภาพตามได้

ตอนนี ในทีสุดนางก็ได้รูว้ า่ สตรีทีทําให้บตุ รชายลุม่ หลง


จนหัวปั กหัวปํ าหน้าตาเป็ นอย่างไร

เมือเห็นเจียงหลีแล้ว โหวฮูหยินก็เยือกเย็นขึนเป็ นลําดับ


รูปร่างหน้าตาอย่างเจียงหลี สามารถคว้าหัวใจของโจว
เยียนปั งได้ก็ไม่ใช่เรืองแปลก

ไม่มีใครรูว้ า่ โหวฮูหยินคิดอะไร ต่างพุง่ ความสนใจไปที


หญิงสาวตระกูลเจียง บุตรีทงสองของบ้
ั านสายหลักนันดู
ดีกนั ไปคนละแบบ อายุอานามก็อยูใ่ นรุน่ ราวคราวเดียว
กัน

13
ด้วยชาติตระกูลของพวกนาง เมือสตรีตระกูลเจียง
ปรากฏกายขึนในงาน ผูค้ นจํานวนไม่นอ้ ยจึงรายล้อม
เข้ามาโอภาปราศรัย จีซูหรันกับเฉินจีฮูหยินนังอยูด่ ว้ ย
กัน นางหลูซือนังข้างฮูหยินทีตนสนิทสนม ส่วนนาง
หยางซือนันไร้ซงมิ
ึ ตรสหายจึงไม่มีใครเข้ามาทัก จําต้อง
ยืนอยูข่ า้ งกายฮูหยินผูเ้ ฒ่า เจียงอวีเอ๋อและเจียงอวี
เยียนราวกับถูกเมิน

ส่วนเจียงหลีนนตรงไปหาหลิ
ั วสวี

หลิวสวียืนอยูต่ ามลําพังมานานจนรูส้ กึ เบือหน่าย พอ


เห็นหน้าสหายก็ดีใจจนแทบเก็บอาการไม่อยู่ รอให้เจียง
หลีคารวะหลิวฮูหยินแล้วจึงรีบพานางปลีกตัวไปอีกทาง
14
พลางเอ่ยถาม “ได้ยินว่าฤกษ์งานแต่งของโจวเยียนปั ง
กับเจียงโย่วเหยาถูกกําหนดแล้วหรือ”

เจียงหลีตกใจอยูค่ รูห่ นึงจึงพยักหน้ารับ

“ไม่เป็ นไร” หลิวสวีอดั อันมานาน ได้แต่ตบหลังมือนาง


เบาๆ “ในเมืองหลวงมีบรุ ุษทีดีกว่าโจวเยียนปั งอยูอ่ ีก
มากมาย คนของเจ้าในอนาคตจะต้องดีกว่าโจวเยียนปั ง
เป็ นหมืนเท่า”

เจียงหลีหวั เราะออกมาอย่างลืมตัว ครันรูส้ กึ ได้ถงึ สาย


ตาคูห่ นึงทีกําลังจับจ้องมาจึงเงยหน้ามอง อดตกใจไม่ได้
เมือพบว่าเป็ นสายตาของเสินหรูอวิน

15
แววตาของอีกฝ่ ายยังคงเหยียดหยันเหมือนในอดีต ทัง
ยังมองอย่างสํารวจตรวจตรา ทําให้เจียงหลีไม่มีสมาธิ
เหมือนกับครังแรกทีติดตามเสินอวีหยงมาถึงบ้านตระกู
ลเสินในเมืองเยียนจิงไม่มีผิด เสินหรูอวินในตอนนันก็ใช้
สายตาราวกับประเมินค่าสิงของมองนางเช่นนี เมือก่อน
เจียงหลียงั ไม่เข้าใจ จนวันนีถึงได้กระจ่างแจ้ง นีคือแวว
ตาทีกําลังสอดส่ายหาประโยชน์จากนางว่าสามารถเชิด
ชูบา้ นตระกูลเสินให้รุง่ เรืองได้อย่างไร

16
บทที 72 ไทเฮาเสด็จ

เดิมทีเสินหรูอวินกับเซวียฟั งเฟยนันใช่วา่ จะเข้ากันไม่ได้


ตอนเสินอวีหยงยังสอบจอหงวนไม่ผา่ น แม้เสินหรูอวิน
จะอวดดีแค่ไหน ต่อหน้าก็ยงั ทําดีกบั นาง ทังยังเรียก
อย่างสนิทสนมว่า ‘พีสะใภ้’

แต่หลังจากทีเสินอวีหยงสอบได้จอหงวน เสินหรูอวินก็ไม่
เห็นหัวนางอีกเลย

เห็นเจียงหลีจอ้ งมองเสินหรูอวินเช่นนัน หลิวสวีพลัน


สงสัย “เจ้ารูจ้ กั นางรึ”

1
เจียงหลียิมพลางส่ายหน้า

รอยยิมของเจียงหลีในสายตาเสินหรูอวินนันช่างขัดตา
นางส่งเสียงฮึขนจมู
ึ กเบาๆ แล้วสะบัดหน้าหนี ไม่หนั มา
มองเจียงหลีอีก

พูดคุยสรวลเสเฮฮาได้สกั พัก นางกํานัลก็เข้ามาป่ าวร้อง


ว่า “ไทเฮาเสด็จ”

ฮูหยินทังหมดต่างลุกขึนยืนรับเสด็จ

ไทเฮาคนปั จจุบนั ไม่ใช่มารดาแท้ๆ ของฮ่องเต้หงเซียว


บัดนีสงบจิตเจริญภาวนาสร้างแต่บญ
ุ กุศล หันหลังให้กบั
2
ทางโลก ทรงแต่งกายด้วยชุดของราชสํานักสีมว่ งทอง
สวมมงกุฎทรงกลมเหนือศีรษะ กล่าวกันตามจริง ไทเฮา
ตอนนีก็มีพระชนมายุได้หา้ สิบพรรษาแล้ว แต่เนืองจาก
ทรงดูแลตัวเองเป็ นอย่างดี ยามยืนเคียงกับฮองเฮาเช่นนี
จึงมิได้ดสู งู วัยกว่ากันนัก สามารถเห็นเค้าความงามบาด
ใจเมือครังยังสาว ริมฝี ปากประดับรอยยิมเปี ยมไมตรี

ผูท้ ีตามหลังไทเฮามาก็คือองค์หญิงหย่งหนิงกับหลิวไท่
เฟยผูเ้ ป็ นมารดา เมือเทียบกับหลิวไท่เฟยแล้วไทเฮาดูสงู
วัยกว่ามาก นอกจากนีนางยังสวมอาภรณ์สีสนั ฉูดฉาด
มีความทะนงตนฉายชัดผ่านคิวและดวงตาเหมือนกับ
องค์หญิงหย่งหนิงไม่มีผิด

ทันทีทีเห็นองค์หญิงหย่งหนิง เลือดในกายของเจียงหลีก็
3
พลันเย็นยะเยือก นางสวมกระโปรงปั กเลือมทองคําทอ
ประกายระยับ หน้าตาผิวพรรณงดงามดุจบุปผา เทียบ
กับเจียงโย่วเหยาแล้วดูสะสวยน่ารักกว่ามาก

องค์หญิงหย่งหนิงยืนอยูก่ ลางตําหนักด้วยท่าทางดังนาง
พญา ไม่จาํ เป็ นต้องเหลือบแลผูใ้ ด ดูสงู ส่งจนไม่มีใคร
อาจเอือม

ได้ยินว่าหลิวไท่เฟยนันเย่อหยิงนัก ส่วนไทเฮาก็ไม่คิดจะ
สูร้ บปรบมือกับนาง เรืองต่างๆ ของวังหลังล้วนมีหลิวไท่
เฟยเป็ นผูค้ วบคุมสังการ ฐานอํานาจของฮ่องเต้หงเซียว
ไม่มนคงนั
ั ก ส่วนฮองเฮานันยิงไม่ตอ้ งกล่าวถึง ดังนัน คํา
พูดขององค์หญิงหย่งหนิงจึงแทบจะไม่มีผใู้ ดกล้าโต้แย้ง

4
ไทเฮาเห็นคนทังหลายลุกยืนก็ทรงยิมละไมแล้วรับสังให้
นังลงทําตัวตามสบาย อีกสักครูง่ านเลียงก็จะเริมต้น

เจียงหลีเห็นองค์หญิงหย่งหนิงเหลียวซ้ายแลขวาราวกับ
กําลังมองหาใครอยูก่ ็แค่นหัวเราะในใจ คิดว่านางช่าง
ปั กใจรักมันในตัวเสินอวีหยงเสียจริง

สตรีทงหลายมาถึ
ั งกันอย่างรวดเร็ว งานเลียงจัดขึนทีตํา
หนักอวีหมิง นอกตําหนักอวีหมิงมีศาลากลางนําทอด
ยาว หลังจากงานเลียงตอนกลางคืน สามารถยลบุปผา
ชืนชมจันทราได้ สวยงามยิงนัก

5
ผ่านไปได้ครูใ่ หญ่ บุรุษทังหลายก็เริมทยอยกันเข้ามา

หญิงกับชายไม่รว่ มโต๊ะ แต่อยูใ่ นตําหนักเดียวกัน แคว้น


เยียนในยามนีไม่เหมือนกาลก่อน หากอยูใ่ นทีรโหฐาน
สตรีเห็นบุรุษก็มกั จะหลบเลียงด้วยความเขินอาย หญิง
สาวทีหน้าบางนันถึงกับหันหลังให้ เพือลดความขัดเขิน

เจียงหยวนปั วกับเจียงหยวนผิงสองพีน้องก้าวเท้าเข้า
งานเคียงกันมา ส่วนเจียงหยวนชิงทีไม่นบั ว่าสนิทสนม
กับสองพีน้องนักย่อมรูส้ กึ เก้อกระดากเป็ นธรรมดา

เจียงหลีเห็นเย่ซือเจียแล้ว เขาทําคะแนนได้ดีเกินคาด คง
ถูกเรียกตัวเข้ารับราชการในไม่ชา้ ลูกหลานจากตระกูล

6
สูงศักดิบางคนก็คบเขาเป็ นสหาย ทีเดินตีคกู่ นั มากับเย่
ซือเจียก็มีไม่นอ้ ย ดูๆ ไปแล้ว เย่ซือเจียสามารถเข้ากับ
พวกเขาเหล่านันได้ดีทีเดียว

เจียงหลีคอ่ ยรูส้ กึ โล่งใจขึนมาบ้าง

หากคุณหนูรองเจียงมีญาติฝ่ายมารดาทีแข็งแกร่ง ย่อม
ส่งผลดีตอ่ อนาคตของนางอย่างไม่ตอ้ งสงสัย

เย่ซือเจียภูมิใจในคะแนนสอบของตน คนทีเดินตามมา
ด้านหลังก็คือผูท้ ีมีคะแนนสอบมาเป็ นอันดับสองของ
สํานักบัณฑิตชาย หลีจิง คุณชายจวนเสนาบดีซงเดิ
ึ มที
ควรจะเป็ นทีหนึง แต่กลับถูกเย่ซือเจียช่วงชิงไปจนได้

7
หลีจิงหน้าตาธรรมดา เมือเทียบกับหลีเหลียนผูเ้ ป็ นน้อง
ชายจึงไม่ได้เป็ นทีหมายปองของสตรี กระนันสวรรค์ก็ยงั
ยุติธรรม แม้หลีจิงจะรูปไม่งามแต่มากความสามารถ
ส่วนหลีเหลียนทีหน้าตาดีกลับไม่สนใจเรียนหนังสือ
สํามะเลเทเมาไปวันๆ

หลีจิงกับหลีเหลียนติดตามท่านเสนาบดีหลีจงหนันเข้า
งานมา บรรดาสตรีทีใจกล้าต่างก็มองสองพีน้องคูน่ ี
อย่างสํารวจตรวจตรา

ท่านเสนาบดีตอนนีนับว่าสามารถทัดเทียมกับตระกูล
เจียงได้ หลีจิงและหลีเหลียนจึงพลอยมีชือเสียงไปด้วย

8
เย่ซือเจียได้คะแนนสอบเป็ นทีหนึงของสํานักบัณฑิตชาย
อันดับสองก็คือหลีจิง ส่วนอันดับสามตกเป็ นของโจว
เยียนปั ง ผูเ้ ป็ นทายาทของท่านหนิงหย่วนโหว

ไม่นาน เจียงหลีก็สงั เกตเห็นโจวเยียนปั ง

ใช่วา่ นางอยากจะมองหาอีกฝ่ าย แต่เป็ นเพราะสายตาที


โจวเยียนปั งใช้จบั จ้องนางนันเร่าร้อนเกินไป เจียงหลีนกึ
โมโหนัก พลันลุกขึนเปลียนทีนังเพือหลบสายตาของอีก
ฝ่ าย นางไม่อยากเกียวข้องใดๆ กับเขาแม้แต่นอ้ ย

ครันโจวเยียนปั งไม่เห็นแม้เงาของเจียงหลีก็รูส้ กึ ผิดหวัง

9
แต่เพียงชัวครูก่ ็ตงสติ
ั กลับมาวางท่าเป็ นคุณชายเจ้า
สําราญ พูดคุยสรวลเสเฮฮาตามเดิม

เจียงหลีมองผ่านฝูงชน ในทีสุดก็พบเสินอวีหยง

วันนีเสินอวีหยงสวมชุดขุนนางขันสามของราชสํานัก อยู่
ในเครืองแบบขุนนางเช่นนีทําให้เขาดูภมู ิฐานขึนมาก ยัง
คงสุภาพอ่อนโยนเหมือนทีผ่านมา ทว่านัยน์ตาฉายแวว
จัดเจน

เจียงหลีเห็นเสินอวีหยงวางตัวสูงส่งขณะพูดคุยกับสหาย
ขุนนางทีพยายามประจบสอพลอ มีจงั หวะหนึงทีนางรู ้
สึกว่าเสินอวีหยงในภาพลักษณ์เช่นนี เหมือนกับองค์

10
หญิงหย่งหนิงไม่มีผิด

เจียงหลีเบนสายตามององค์หญิงหย่งหนิงทีนังอยูอ่ ีก
ฟาก

องค์หญิงหย่งหนิงกลับไม่ปิดบังแววตาทีเต็มไปด้วย
ความรักใคร่ในตัวเสินอวีหยง นางแทบจะจับตามองเขา
ทุกฝี กา้ ว เพียงแต่ การแสดงออกเช่นนีราวกับ ‘ดอกไม้มี
ใจร่วงหล่น ทว่าสายนําไหลกลับไม่ตอบสนอง’ เสินอวีห
ยงไม่มององค์หญิงหย่งหนิงสักครัง

เป็ นธรรมดา ท่ามกลางสายตาผูค้ นก็จาํ ต้องปิ ดบัง เสินอ


วีหยงเป็ นคนระมัดระวังตัว ย่อมไม่ทาํ ให้ใครจับได้

11
ทีเจียงหลีสงั เกตเห็นเป็ นลําดับถัดมาก็คือคนบ้านตระกูล
จี รวมถึงจีเยียนหลิน--บิดาของจีซูหรัน ยังมีหลิวเอ
วียนฟง--บิดาของหลิวสวี ส่วนเฉิงอ๋องนันมาล่าช้าไปสัก
หน่อย เมือเข้างานมาได้ก็ตรงไปถวายคํานับไทเฮา

คนสุดท้ายทีมาถึงก็คือฮ่องเต้หงเซียว

ในชาติทีผ่านมาและชาตินี นีเป็ นครังทีสองทีเจียงหลีได้


พบกับฮ่องเต้หงเซียว ตอนนีพระองค์มีพระชนมพรรษา
ได้ยีสิบเจ็ดพรรษา เป็ นฮ่องเต้อายุนอ้ ย เจ็ดปี ทีทรงขึน
ครองราชย์แคว้นเยียนก็สงบสุขเรือยมา ต่อให้เป็ นเช่น
นัน บัลลังก์ของฮ่องเต้หงเซียวก็มิได้มนคงอย่
ั างทีเห็นผู้
คนในราชสํานักต่างรูว้ า่ เฉิงอ๋องมีอิทธิพลต่อฮ่องเต้หง
12
เซียวทีสุด เมือเจ็ดปี ก่อน ฮ่องเต้หงเซียวขึนครองราชย์
อย่างปั จจุบนั ทันด่วน กองทัพกําลังอ่อนแอ ชัวระยะ
เวลาแค่เพียงเจ็ดปี ฮ่องเต้หงเซียวจะลําหน้าเฉิงอ๋องได้
อย่างไร

เป็ นสิงทีใครต่อใครมิอาจคาดเดา

ผูท้ ียืนอยูข่ า้ งกายของฮ่องเต้หงเซียวคือหญิงสาวอ่อน


เยาว์นางหนึง หญิงสาวผูน้ ีมีหน้าตาสะสวย แบบบาง งด
งามบาดใจ เสือผ้าเครืองแต่งกายไม่หรูหราจนอาจเรียก
ได้วา่ เรียบง่าย ขณะทีใบหน้ามีรอยยิมอยูต่ ลอดเวลา
หลิวสวีพลันกระซิบบอกเจียงหลี “นันคือลีผิน มีศกั ดิเป็ น
ป้าของเจียงโย่วเหยา”

13
เจียงหลีเพิงได้รูว้ า่ ทีแท้หญิงผูน้ นก็
ั คือบุตรสาวคนโตที
เกิดจากภรรยาเอกของจีเยียนหลิน ซึงก็คือพีสาวของจี
ซูหรัน

เมือครังทีนางติดตามเสินอวีหยงเข้าวังนันยังไม่มีโอกาส
ได้พบลีผิน แต่ก็เคยได้ยินชือเสียงของอีกฝ่ ายมานาน มี
คนกล่าวว่าลีผินผูน้ ีสามารถเทียบเคียงได้กบั เซียกุย้ เฟย
ซึงเป็ นทีโปรดปรานของฮ่องเต้พระองค์ก่อน แต่สงที
ิ ลีผิน
แตกต่างจากเซียกุย้ เฟยก็คือนางมีตระกูลจีหนุนหลัง
ส่วนเซียกุย้ เฟยนันไร้คนสนับสนุน

เจียงหลีมองอย่างพินิจพิเคราะห์ ลีผินมีรูปลักษณ์ทีดู
อ่อนเยาว์กว่าจีซูหรันมาก ไม่รูว้ า่ ปกติมีวิธีดแู ลตัว
14
เองอย่างไร ถึงได้ดอู อ่ นวัย โอบอ้อมอารีและเป็ นมิตร ทัง
ยังไม่เคร่งครัดจนเกินไป แต่เจียงหลีก็รูด้ ีวา่ หากลีผินเอือ
อารีไม่ชิงดีชิงเด่นเช่นทีตาเห็น ก็คงจะไม่สามารถมายืน
อยูต่ รงจุดนีได้

ลีผินพูดคุยอะไรบางอย่างกับฮ่องเต้หงเซียว
ครันพระองค์ยกมืออนุญาต ลีผินก็ตรงไปทักทายเฉินจี
ฮูหยินและจีซูหรัน

เจียงโย่วเหยาจึงมีโอกาสได้พบกับท่านป้าผูน้ ี บรรดา
หญิงสาวตระกูลใหญ่รอบกายต่างมองเจียงโย่วเหยา
ด้วยความริษยาทีมีทา่ นป้าอย่างลีผิน ดูจะได้หน้ากว่า
เป็ นหลานของฮองเฮาเสียด้วยซํา แม้วา่ ฮองเฮาจะให้
กําเนิดองค์รชั ทายาท แต่พระองค์ก็เพิงจะอายุครบห้า
15
ขวบได้ไม่นาน หากลีผินให้กาํ เนิดองค์ชายน้อยบ้าง
กอปรกับความรักใคร่ทีฮ่องเต้หงเซียวมีตอ่ ลีผิน ตําแหน่ง
รัชทายาทจะตกเป็ นของผูใ้ ดนันก็ยงั ไม่อาจสรุปได้

อย่างไรเสีย ในรัชสมัยทีผ่านมา เรืองการเปลียนตัว


รัชทายาทก็ใช่วา่ จะไม่เคยเกิดขึน

ไม่รูว้ า่ จีซูหรันกับลีผินพูดคุยกันไปถึงไหน ลีผินจึงคลียิม


แล้วมองมายังเจียงหลีดว้ ยสายตาทีไม่บง่ บอกอารมณ์
สายตานันทําให้เจียงหลีรูส้ กึ ร้อนๆ หนาวๆ อย่างบอกไม่
ถูก

ในเวลานัน ขันทีพลันรายงานว่ามีคนจะเข้างานอีก

16
สามารถมาสายกว่าฮ่องเต้ ช่างกล้าดีไม่นอ้ ย ครันเจียง
หลีกวาดตามองออกไปทีระเบียงยาวนอกประตูตาํ หนัก
ก็เห็นคนผูห้ นึงย่างเท้าเข้ามาด้วยท่วงท่าสบายๆ

17
บทที 73 งานเลียงในวังกําลังจะเริมแล้ว

ชายหนุ่มสวมชุดตัวยาวสีแดงปั กดินทอง ชายเสือสะบัด


พลิวทอประกายภายใต้แสงตะเกียงเจิดจ้า โดดเด่นยิง
กว่าอัญมณีทีฝังประดับอยูบ่ นต้นเสาของตําหนักใหญ่

อาภรณ์ทีหรูหราฉูดฉาดเช่นนี หากหน้าตาไม่โดดเด่นคง
ถูกบดบังรัศมีราวกับ ‘อาภรณ์ใส่คน’ เว้นเสียแต่จะเป็ นผู้
ทีมีเอกลักษณ์สะดุดตา ใบหน้าหล่อเหลาหารอยตําหนิมิ
ได้ อีกทังความสามารถยังต้องเหนือชัน ถึงจะพอรอดตัว
ไปได้

1
ทว่าอาภรณ์ดงั กล่าวเมือถูกสวมใส่โดยชายหนุ่มผูน้ ี ไม่
เพียงแค่พอรับไหว แต่สามารถกล่าวได้วา่ ทุกอย่างช่าง
ลงตัว เห็นบุรุษแต่งกายในรูปลักษณ์เช่นนี ผูค้ นทังหลาย
ก็อดทอดถอนใจมิได้ ต้องยอมรับว่าคงมีแต่เขาทีสวมใส่
แล้วไม่ลดคุณค่าของเครืองแต่งกาย

เสือผ้าเจิดจ้ากว่าอัญมณี ยังมีใบหน้าหล่อเหลาของเขา
ทีโดดเด่นยิงกว่าอาภรณ์บนร่าง

เขาก็คือซูก่ วกงจี
ั เหิง

จีเหิงมาร่วมงานล่าช้าไปมาก

2
ต่อให้เป็ นเช่นนี ฮ่องเต้หงเซียวก็มิได้วา่ กล่าว ราวกับทรง
ชินชาไปเสียแล้ว ไม่เพียงเท่านัน แม้แต่เฉิงอ๋องเองก็ไม่
คิดจะติติงเขา

เจียงหลีมองเหตุการณ์ตรงหน้า ถึงคนจํานวนมากจะกริง
เกรงซูก่ วกง
ั แต่ก็เป็ นเพราะซูก่ วกงนั
ั บเป็ นบุคคล
อันตราย เขาทังเลือดเย็นและอารมณ์แปรปรวน ทว่า
เจียงหลีเข้าใจความเป็ นไปในราชสํานักซูก่ วกงกล้
ั าทํา
ตามอําเภอใจเช่นนี จะต้องมีมลู เหตุอืนอยูเ่ บืองหลังแน่
คนทีทําอะไรตามใจนันพบเห็นได้ทวไป
ั แต่จาํ พวกที
อาจหาญสร้างความเดือดร้อนแก่คนทีมีอาํ นาจเหนือ
กว่า ย่อมได้รบั การสังสอนให้รูซ้ งถึ
ึ งความทุกข์ทรมาน
จากผูส้ งู ศักดิเป็ นธรรมดา

3
แต่ดเู หมือนว่าคนทีกล้าสังสอนซูก่ วกงจะยั
ั งไม่ปรากฏ
แม้แต่ฝ่ายของหลิวไท่เฟยทีหยิงยโสก็ยงั ไม่ออกหน้า
ตําหนิ ขนาดองค์หญิงหย่งหนิงเห็นซูก่ วกงประพฤติ
ั เช่น
นันก็มิได้พดู อะไร

โลกมนุษย์เรา ผูน้ อ้ ยเกรงกลัวคนทีอยูเ่ หนือกว่า ผูท้ ีมียศ


ถานอบน้อมต่อผูส้ งู ศักดิ ทว่าฮ่องเต้หงเซียวเป็ นถึงโอรส
สวรรค์ก็ยงั ไม่อาจผ่อนคลายได้เท่ากับซูก่ วกง

หลังจากจีเหิงถวายคํานับฮ่องเต้หงเซียวแล้วก็จดั แจงหา
ทีนัง ตําแหน่งของเขาถูกจัดอยูใ่ กล้กบั เฉิงอ๋อง แทบจะ
ทัดเทียมกัน

4
หญิงสาวเยาว์วยั ทังหลายทีเคยส่งสายตาให้กบั เฉิงอ๋อง
และเสินอวีหยง ต่างหันมามองจีเหิงเป็ นตาเดียว

หากพูดถึงรูปร่างหน้าตา บุรุษทังหมดในตําหนักรวมกัน
ยังไม่อาจเทียบกับจีเหิงได้ คนทีหล่อเหลา คิวเข้มตาคม
อย่างเสินอวีหยงและเย่ซือเจีย เมือเปรียบกับจีเหิงแล้ว
ยังด้อยดังฝุ่ นผง

คนเช่นนี เกิดมาเพือเป็ นเดือนทีถูกล้อมด้วยหมูด่ าว


บดบังรัศมีผอู้ ืนไปจนสิน

“ซูก่ วกงได้
ั รบั ความสําคัญจากฮ่องเต้เป็ นอย่างมาก”
หลิวสวีเอ่ยกับเจียงหลีเสียงเบา

5
“ฮ่องเต้ไม่อาจวางใจในตัวผูใ้ ด” เจียงหลียกยิม “ทําได้
เพียงอาศัยซูก่ วกงไปก่
ั อน”

จนบัดนีตําแหน่งของฮ่องเต้หงเซียวยังไม่มนคง
ั พระองค์
ถูกเฉิงอ๋องจับตามองทุกฝี กา้ ว ท่านเสนาบดีและเฉิงอ๋อง
เกือกูลซึงกันและกัน ทําให้ฝ่ายของเฉิงอ๋องสามารถยืน
หยัดมันคง ส่วนอีกด้านเจียงหยวนปั วบิดาของเจียงหลี
เป็ นผูน้ าํ ขุนนางฝ่ ายบุน๋ ทีมีฐานอํานาจแม้ตระกูลเจียงมิ
ได้มีใจคิดก่อการกบฏ แต่สาํ หรับฮ่องเต้ซงมี
ึ อาํ นาจอยู่
ในมือเพียงเล็กน้อย ตระกูลเจียงจึงนับว่าเป็ นภัยคุกคาม

ด้านหนึงคือฝ่ ายของอํามาตย์ ส่วนอีกด้านคือฝ่ ายของ


เฉิงอ๋อง หากนับฝ่ ายทีสวามิภกั ดิกับฮ่องเต้หงเซียว ยาม
6
นีแคว้นเยียนจึงเหมือนถูกแบ่งออกเป็ นสามขัวอํานาจ
กําลังของเจียงหยวนปั วแผ่ขยายไพศาล หากขาดเขาสัก
คน เกรงว่าเรืองราวต่างๆ ในราชสํานักคงไม่อาจดําเนิน
ต่อไปได้ ส่วนหนึง ฮ่องเต้หงเซียวจําต้องอาศัยเจียง
หยวนปั วรักษาความสงบในวังหลวง ส่วนอีกด้านก็ตอ้ ง
ป้องกันตัวเองจากการลอบทําร้ายของเฉิงอ๋อง ในขัว
อํานาจทังสามฝ่ าย ฮ่องเต้หงเซียวเป็ นกลุม่ ทีมีกาํ ลังน้อย
ทีสุด เจียงหลียงั รูส้ กึ หนักใจแทนพระองค์จริงๆ

นอกจากนี ขุนนางในราชสํานักส่วนใหญ่ยงั แบ่งเป็ นสอง


ฝักสองฝ่ าย ทีเข้าร่วมกับเจียงหยวนปั วนันภักดี ส่วนฝ่ าย
ทีสมคบกับเฉิงอ๋องเท่ากับมีใจคิดก่อการกบฏ ผูท้ ีฮ่องเต้
หงเซียวสามารถเรียกใช้มีเพียงไม่กีคนเท่านัน แม้จะทรง
ครองราชย์มาถึงเจ็ดปี ทว่าก็ยงั ไม่อาจเทียบเท่ากับฐาน

7
อํานาจทีทังสองฝ่ ายสังสมมาได้ ภายใต้สถานการณ์เช่น
นี ซูก่ วกงอย่
ั างจีเหิงจึงเป็ นตัวเลือกทีดีทีสุด

ประการแรก... เขามีกองทัพในบังคับบัญชาทีสืบทอดมา
จากแม่ทพั จินอู-่ -จีหมิงหันผูเ้ ป็ นบิดา ในมือมีกาํ ลังทหาร
ทีแสนยานุภาพไม่ดอ้ ยกว่าใคร ประการทีสอง แม่ทพั ผู้
เฒ่า--ท่านปู่ ของจีเหิงนันเติบโตขึนมาบนหลังม้า มีความ
จงรักภักดีตอ่ แผ่นดิน เป็ นผูผ้ ดุงคุณธรรมอย่างไม่ตอ้ ง
สงสัย ประการทีสาม จีเหิงคนนีอารมณ์แปรปรวนตลอด
เวลาทังยังเลือดเย็น คนแบบนีไม่อาจซือตัวไปง่ายๆ อีก
ทังในแต่ละวันยังตามตัวได้ยาก ไม่เข้าหาตระกูลเจียง
หรือพัวพันกับคนของเฉิงอ๋อง นับว่าใจซือมือสะอาด

ด้วยเหตุนีฮ่องเต้หงเซียวจึงให้ความสําคัญกับจีเหิง และ
8
มองว่าเขาจงรักภักดีเป็ นธรรมดา

ทว่าจีเหิงจะยินยอมสวามิภกั ดิต่อฮ่องเต้หงเซียวหรือไม่
นัน เจียงหลีอดมองชายหนุ่มในอาภรณ์สีแดงอีกครังไม่
ได้ นางรูส้ กึ ว่าจีเหิงไม่ได้อารมณ์แปรปรวนอย่างทีใคร
ต่อใครเล่าลือ ยากนักทีจะทําความเข้าใจ ใช่วา่ เขาปิ ด
บังตัวตนจนแนบเนียนไร้รอ่ งรอย แต่เป็ นเพราะว่าเขา
เก็บงําไว้อย่างลึกลํา

เจียงหลีรูส้ กึ ได้ถงึ ความผิดปกติทีไม่อาจอธิบายในความ


สัมพันธ์ระหว่างฮ่องเต้หงเซียว เฉิงอ๋อง และจีเหิง ดู
เหมือนมีบางสิงทีไม่ได้เป็ นอย่างตาเห็น

9
ยังไม่ทนั ขบคิดให้ถีถ้วน หลิวสวีก็ดงึ ชายเสือของเจียงหลี
เบาๆ กล่าวว่า “งานเลียงในวังกําลังจะเริมแล้ว”

งานเลียงในวังกําลังจะเริม แขกเหรือแต่ละคนจึงแยก
ย้ายไปนังประจําตําแหน่งของตน

เจียงหลีจาํ ต้องแยกจากหลิวสวีไปนังรวมอยูก่ บั ผูห้ ญิงที


มาจากจวนตระกูลเจียง ตําแหน่งทีนังของเจียงหลีนนอยู
ั ่
ตรงกลางระหว่างเจียงโย่วเหยาและเจียงอวีเอ๋อ

ในเวลานัน ฮ่องเต้หงเซียวพลันรับสัง “ข้าได้ยินว่าผล


สอบถูกประกาศออกมาแล้ว คนทีได้คะแนนอันดับหนึง
ของสํานักบัณฑิตชายและสํานักบัณฑิตหญิงหมิงอีถาง

10
ล้วนอยูใ่ นตําหนักแห่งนี ว่าแต่เป็ นใครกันบ้าง ออกมาให้
ข้าเห็นหน้าผูม้ ากความสามารถชัดๆ เถิด”

เจียงหลีและเย่ซือเจียลุกขึนยืนพร้อมกัน

เจียงโย่วเหยากําผ้าเช็ดหน้าในมือแน่นอยูใ่ ต้โต๊ะ เจียง


อวีเอ๋อมองเจียงหลีตาค้าง แทบจะปิ ดบังแววตาริษยา
เอาไว้ไม่อยู่

เย่ซือเจียลุกขึนเดินออกไปกลางตําหนัก โดยมีเจียงหลี
ติดตามอยูด่ า้ นหลัง

เนืองจากเป็ นครังแรกทีได้เข้าเฝ้าต่อหน้าพระพักตร์ แม้


11
เย่ซือเจียจะพยายามรักษากิรยิ าอย่างสุดความสามารถ
แต่ก็ยงั คงแสดงอาการตืนเต้นออกมา ท่าเดินจึงดูแข็ง
กระด้าง ทีผิดคาดก็คือเจียงหลี เมือเปรียบเทียบกับเย่ซือ
เจียแล้ว ความสงบเยือกเย็นในแววตาของนางยิงเด่นชัด
ราวกับอยูต่ อ่ หน้าบุคคลธรรมดามิใช่ฮ่องเต้

นัยน์ตาของฮ่องเต้หงเซียวฉายแววสนพระทัยอย่างเห็น
ได้ชดั

นายทหารระดับสีอย่างข่งลิวก็มาร่วมงานเช่นกัน ยามนี
เขานังอยูข่ า้ งจีเหิง สวมชุดเกราะอันแสนคุน้ เคยขณะเอ่ย
เสียงเบา “แม่หนูนีไม่แสดงอาการขัดเขินแม้แต่นอ้ ย ดู
คล่องแคล่วนัก”

12
จีเหิงมองเขาแวบหนึงแล้วยิมบางๆ

เจียงหลีกบั เย่ซือเจียถวายคํานับแล้ว ฮ่องเต้หงเซียวก็รบั


สังให้พวกเขาทังสองทําตัวตามสบาย ก่อนจะมองเย่ซือ
เจียแล้วตรัสถาม “เจ้าก็คือเย่ซือเจียรึ”

“ทูลฝ่ าบาท เป็ นกระหม่อมเองพ่ะย่ะค่ะ” เย่ซือเจีย


ตอบอย่างนอบน้อม

“ได้ยินว่าเจ้ามาจากตระกูลค้าขาย แต่กลับมีความรู ้
ความสามารถถึงขนาดสอบได้คะแนนเป็ นอันดับหนึง
ของสํานักบัณฑิตชาย นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว” ฮ่องเต้หง

13
เซียวยกยิม “ข้าชืนชมในความทะเยอทะยานของเจ้าจึง
ขอตกรางวัลให้ ช่วงนีตําแหน่งฮู่ปวู้ า่ งลงพอดี ข้าจะให้
เจ้าดํารงตําแหน่งเป็ นฮู่ป*ู้ ก็แล้วกัน หลังงานเลียงวันนีก็
ให้เข้ารับตําแหน่งทันที”

เย่ซือเจียได้ฟังก็ตืนเต้นยินดีนกั รีบน้อมรับพระกรุณา
อย่างรวดเร็ว “กระหม่อมรับราชโองการ เป็ นพระมหา
กรุณาธิคณ
ุ อย่างหาทีสุดมิได้”เจียงหลีเองก็ตกใจมาก
เช่นกัน ด้วยไม่คาดคิดมาก่อนว่าฮ่องเต้หงเซียวจะพระ
ราชทานตําแหน่งฮู่ปใู้ ห้แก่เย่ซือเจียด้วยพระองค์เองเช่น
นี แม้วา่ ตําแหน่งดังกล่าวจะไม่ใหญ่โตนัก แต่ก็มีผคู้ น
มากมายในเมืองเยียนจิงแข่งกันอย่างเอาเป็ นเอาตายให้
ได้มาครอบครอง

14
ประการแรก นีนับว่าเป็ นขุนนางตําแหน่งหนึง ชายหนุ่ม
จํานวนมากทีสําเร็จการศึกษาจากสํานักบัณฑิตชาย ใน
ปี แรกต้องเข้ารับตําแหน่งอยูน่ อกเมือง แต่เย่ซือเจียกลับ
ได้เริมทํางานในเมืองเยียนจิงทันที ประการทีสอง นีคือ
ตําแหน่งขุนนางขันห้า เท่าทีเคยรูม้ า เจียงหยวนชิงจาก
บ้านสายสามอาศัยชือเสียงของตระกูลเจียงตะเกียก
ตะกายในแวดวงขุนนางมานาน ก็ยงั ได้เป็ นแค่เสียวผิน
ขันเจ็ดเท่านัน

เย่ซือเจียเพิงจะได้รบั พระราชทานตําแหน่ง ก็แซงหน้า


ใครต่อใครไปเสียแล้ว

มือทีจับแก้วของหลีเหลียนพลันสันระริก เขาประเมิน
อนาคตทางหน้าทีการงานอันก้าวหน้าของเย่ซือเจียได้
15
นานแล้ว เดิมทีคิดอยากจะดึงตัวมาเป็ นพวก ทุกอย่าง
กําลังดําเนินไปด้วยความราบรืน แต่ระหว่างนันไม่รูว้ า่
เพราะสาเหตุใด จู่ๆ เย่ซือเจียก็ตีตวั ออกห่าง บัดนีเส้น
ทางชีวิตของเย่ซือเจียดําเนินไปดังคาด เพิงเข้ารับ
ราชการก็ได้ตาํ แหน่งสูงส่ง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขา
และอีกฝ่ ายกลับไม่ได้เป็ นอย่างทีหวัง ทําให้เรืองต่างๆ
ยากขึน

16
บทที 74 ต้องหาเรืองทะเลาะ

ณ ทีนังฝังบุรุษ มุมปากเจียงหยวนชิงกระตุกด้วยความ
รันทดท้อ หนุ่มน้อยทีเพิงเข้ารับราชการล้วนมีตาํ แหน่ง
สูงกว่าเขา กลับจวนไปวันนี นางหยางซือจะต้องหาเรือง
ทะเลาะกับเขาเป็ นแน่

เจียงหยวนผิงมองตาเจียงหยวนปั วแล้วเอ่ยว่า “เย่ซือเจีย


ก็นบั ได้วา่ เป็ นญาติกบั บ้านสายหลัก ตําแหน่งขุนนาง
ของพวกเราก็อยูใ่ นระดับหนึงแล้ว สมควรแก่การหา
สมัครพรรคพวก หากเย่ซือเจียเป็ นคนเก่งมากความ
สามารถ มิสสู้ นับสนุนเขาสักหน่อย ไม่แน่วา่ วันข้างหน้า
อาจเก็บเกียวผลตอบแทนได้”
1
จีซูหรันขมวดคิวมุน่ เย่ซือเจียได้รบั พระราชทานตําแหน่ง
ฮู่ปู้ เป็ นเรืองทีเหนือความคาดหมาย นางไม่อาจปล่อย
ให้ตระกูลเย่ได้ดิบได้ดี อย่างไรฝ่ ายนันก็ตอ้ งย่อยยับ ใคร
ต่อใครจะได้ลืมเลือนเย่เจินเจินไป แล้วนึกถึงนางใน
ฐานะภรรยาเอกของท่านมหาอํามาตย์แต่เพียงผูเ้ ดียว
กระนันเมือคิดถึงเรืองทีจะเกิดขึนในคืนนี คิวของจีซูหรัน
ก็คอ่ ยๆ ผ่อนคลาย จะมัวใส่ใจเย่ซือเจียและเจียงหลีไป
ไย ขอแค่ผา่ นพ้นคืนนีเย่ซือเจียก็จะไม่มีวาสนาได้ครอบ
ครองตําแหน่งฮู่ปทู้ ีว่างอยูเ่ ป็ นแน่

หลังจากเย่ซือเจียน้อมรับพระมหากรุณาธิคณ
ุ แล้ว
ฮ่องเต้ก็ทรงหันมายิมให้เจียงหลี “ข้าได้ยินมานานแล้ว
ว่า บ้านของอาจารย์ขา้ มีบตุ รีทีเกิดจากภรรยาเอกอยู่

2
หนึงคน แต่กลับไม่เคยได้พบหน้า เจ้าก็คือคุณหนูรอง
เจียงรึ”

เจียงหลีเงยหน้ายิมรับ แล้วกราบทูลว่า “หม่อมฉันถวาย


พระพรฝ่ าบาท”

ฮ่องเต้หงเซียวมองคุณหนูนอ้ ยทีอยูต่ รงหน้า นัยน์ตาของ


นางหาได้มีความหวันเกรงต่อโอรสสวรรค์อย่างเขา แต่
ในทางกลับกันก็มิได้จาบจ้วงล่วงเกินเบืองสูง ฮ่องเต้หง
เซียวสังเกตเห็นลูกประคําทีข้อมือของนาง พลันนึกขึนได้
ว่าเจียงหลีเคยอยูใ่ นสํานักนางชีมานานถึงแปดปี จงึ ตรัส
ถาม “ปกติเจ้าสวดมนต์ภาวนาทุกวันรึ แล้วสวดบทใด”

3
“ทูลฝ่ าบาท ยามว่างหม่อมฉันชอบคัดบทสวดมนต์ ปกติ
จะสวด ‘บทปั ญญา’ ‘พระสูตร’ ‘คัมภีรท์ อง’ และ ‘บงกช’
เพคะ”

ฮ่องเต้หงเซียวหัวเราะร่วน แล้วตรัสชม “มิน่า เจ้าถึงดู


สุขมุ นัก นิสยั ของเจ้าเช่นนีสามารถเข้ากับไทเฮาได้”

เจียงหลีอมยิมตอบ

ฮ่องเต้หงเซียวรูส้ กึ ประหลาดใจ พระองค์เคยได้ยินถ้อย


คํารําลือมากมายเกียวกับเจียงหลี รวมไปถึงเรืองทีนาง
ทําร้ายแม่เลียงและสังหารน้องชาย แต่เนืองจากนางเสีย
มารดาไปตังแต่อายุยงั น้อย ทําให้ฮ่องเต้หงเซียวรูส้ กึ

4
เวทนาสงสาร... สําหรับฮ่องเต้หงเซียว ทรงมิได้นกึ
รังเกียจเจียงหลี ยามนีเมือนางสอบได้คะแนนเป็ นอันดับ
หนึงของสํานักบัณฑิตหญิงหมิงอีถาง และพระองค์ก็ได้
เห็นด้วยตาว่าเจียงหลีออ่ นโยนไร้เดียงสา ไม่เหมือนกับ
คําครหาทีใครต่อใครพูดกัน จึงเกิดความรูส้ กึ ชืนชมในตัว
นางไม่นอ้ ย

ฮ่องเต้หงเซียวมีรบั สัง “อํามาตย์เจียง เจ้าเลียงดูบตุ ร


สาวคนนีได้ดี สมควรเป็ นมณีในมือ ทังนางยังสอบได้
คะแนนเป็ นอันดับหนึงของหมิงอีถาง ข้ามีรางวัลให้”
ครันทรงโบกหัตถ์ขนก็
ึ มีขนั ทีประคองราชโองการตรงเข้า
มาแล้วเริมต้นอ่าน

เจียงหลีนอ้ มรับพระมหากรุณาธิคณ
ุ แล้วจึงกลับไปนัง
5
ประจําทีท่ามกลางความยินดีของฝูงชน จีซูหรันยิมพลาง
เอ่ยชืนชมว่า “หลีเอ๋อ เชิดหน้าชูตาให้กบั จวนของเรา
จริงๆ”

“พีรองความสามารถเหนือกว่าข้ามาก” เจียงโย่ว
เหยากล่าวเสริม

จีซูหรันแสดงท่าทีเช่นนีก็ยงั ไม่นบั ว่าแปลก กระทังเจียง


โย่วเหยายังฝื นข่มความไม่พอใจแล้วแสดงสีหน้าชืนชม
ออกมา ทําให้เจียงหลีประหลาดใจนัก นางจับสังเกต
เจียงโย่วเหยาอย่างละเอียดอีกครัง แล้วก็พบว่าในแวว
ตาของอีกฝ่ ายมีความคาดหวังและยินดีแฝงอยู่ เห็นเช่น
นัน เจียงหลีจงึ เพิมความระแวดระวังขึน

6
อย่างไรก็ดี งานเลียงในวังก็ยงั คงดําเนินต่อไป

อาหารหลากหลายแต่เจียงหลีกลับไม่มีกะจิตกะใจจะลิม
รส ทางฝังโต๊ะของบุรุษ โจวเยียนปั งมองมาทางเจียงหลี
อยูบ่ อ่ ยครัง เป็ นถึงบุตรสาวมหาอํามาตย์ ชาติตระกูลดี
มีความสามารถ อ่อนโยนและงดงาม ทังยังได้รบั ความ
ชืนชมจากฮ่องเต้ นับว่าเป็ นสตรีทีเพียบพร้อมกว่าใครใน
เมืองเยียนจิงแห่งนี

ใจของโจวเยียนปั งร้อนรุม่ ไม่เป็ นสุข ฤกษ์แต่งงานของ


เขากับเจียงโย่วเหยาถูกกําหนดขึนในช่วงปลายฤดูหนาว
ของปี หน้า หากไม่มีอะไรเปลียนแปลง เขาก็คงต้อง

7
คลาดจากเจียงหลี

โจวเยียนปั งไม่อยากจะให้เป็ นเช่นนัน

ขณะทีเขาเหลือบมองเจียงหลีอยูบ่ อ่ ยครัง โจวเยียนปั งก็


ไม่รูส้ กึ ตัวเลยว่า ทุกอิรยิ าบถของตนมีคนจับจ้องอยู่ ผู้
นันก็คือเสินหรูอวิน

เสินหรูอวินเสียใจนัก นางหลงรักโจวเยียนปั งจนหัวปั ก


หัวปํ า เมือก่อนเป็ นเพราะฐานะไม่คคู่ วร ทว่ายามนีนาง
เป็ นถึงน้องสาวของท่านจอหงวน มีพีชายรับราชการ
สามารถยืนเทียบเคียงกับโจวเยียนปั งได้ แต่เขากลับ
หมันหมายไปเสียแล้ว

8
หากนีเป็ นแค่การหมันหมายก็คงดี ทว่าเสินหรูอวินเห็น
เต็มสองตาว่าโจวเยียนปั งมองเจียงโย่วเหยาอย่างรักใคร่
นันก็หมายความว่า โจวเยียนปั งยังมีใจให้กบั เจียงโย่ว
เหยา

เสินหรูอวินเหมือนตกลงไปในเหวลึก นอกจากความโศก
เศร้า ยังรูส้ กึ ไม่อยากจะเชือและเกิดความริษยาขึนมา
นางเคียดแค้นจนอยากให้การแต่งงานระหว่างเจียงโย่ว
เหยากับโจวเยียนปั งมีปัญหา หากถึงขันล้มเลิกได้ก็ยงดี

เจียงหลีกินอะไรไม่ลง อาจเป็ นเพราะต้องทนมองเสินอ


วีหยงกับองค์หญิงหย่งหนิง จึงรูส้ กึ คลืนไส้จนไม่อยาก
อาหาร ถึงกระนันงานเลียงก็ยงั ต้องดําเนินต่อไป ทําได้
9
แค่เก็บงําความในใจไว้

เวลาผ่านไปเป็ นนาน เหล่าขุนนางต่างดืมกินกันจนอิม


หนํา เปลียนจากจอกเล็กมาเป็ นจอกใหญ่ หารือกันแต่
ข้อราชการ บรรดาฮูหยินสรวลเสกันแต่เรืองสัพเพเหระ
พูดคุยแลกเปลียนเรืองขบขันของแต่ละจวน เหล่าคุณหนู
และคุณชายทังหลายนันนังแยกกันคนละโต๊ะ ต่างแอบ
ชําเลืองมองกันและกันอยูบ่ า้ ง มีบางคูท่ ีบังเอิญได้
ประสานสายตา แต่แล้วก็รบี เสมองไปทางอืนอย่างรวด
เร็ว ทําเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึน แต่ลอบจดจําหน้าตาและ
อากัปกิรยิ าของฝ่ ายตรงข้ามเอาไว้ในใจ หมายจะกลับ
ไปสืบพืนเพในภายหลัง

ความสัมพันธ์ระหว่างเฉิงอ๋องกับฮ่องเต้หงเซียวนันดู
10
เหมือนปรองดองรักใคร่ แต่แท้จริงแล้วเป็ นปฏิปักษ์ตอ่
กันในทางลับ ไทเฮายังคงสงบนิงเหมือนเช่นเคย ส่วน
หลิวไท่เฟยกําลังพูดคุยกับฮองเฮา ลีผินนังอยูอ่ ีก
ข้างอย่างนอบน้อม คอยรินสุราปรนนิบตั ิฮ่องเต้ทงๆ
ั ทีไม่
ใช่หน้าทีของนาง แต่ลผิี นก็ทาํ ได้ดีและเป็ นธรรมชาติ

ในจอกหยกขาวขนาดเล็กทีวางอยูบ่ นโต๊ะคือสุราดอกซิง
เนืองจากสุภาพสตรีไม่จดั เจนด้านการดืมสุรา ฝ่ ายราช
พิธีของวังหลวงจึงเตรียมไว้เพียงเหล้าผลไม้รสหวาน ไม่
ทําให้ถงึ กับเมา ตรงหน้าของเจียงหลีมีถว้ ยชาวางอยู่
นางไม่แตะต้องจอกสุราแม้แต่นอ้ ย นับแต่เกิดเรืองในวัน
งานวันเกิดของเสินฮูหยินคราวนัน ทุกครังทีเจียงหลีนกึ
ถึงก็จะคิดว่าหากตอนนันนางไม่ดืมสุรา เหตุการณ์ทงั
หมดก็คงไม่กลายเป็ นแบบนี

11
ดืมสุราทําให้เสียงาน ตังแต่นนมานางจึ
ั งไม่แตะมันแม้
แต่หยดเดียว ยิงเป็ นงานเลียงในวังหลวงอันโอ่อา่ เช่นนี
นางจะไม่ยอมทําอะไรผิดพลาดแม้แต่นอ้ ย

เจียงอวีเอ๋อกลับชืนชอบรสหวานของเหล้าผลไม้ นางดืม
จนตาปรือปรอยลงมาเกือบครึง ใบหน้าแดงระเรือ แสดง
กิรยิ าออดอ้อนอย่างทีไม่เคยแสดงออกมาในช่วงเวลา
ปกติ

เป็ นตอนนีเองทีจีซูหรันอมยิมแล้วหันมาเอ่ยถาม “หลี


เอ๋อ เหตุใดไม่ลมลองเหล้
ิ าผลไม้ดสู กั หน่อย”

12
เจียงหลีมองกลับไปก็เห็นจีซูหรันยกจอกสุราทีวางอยู่
ตรงหน้าขึนรินเหล้าให้นางจนเต็มแก้ว แย้มยิมพลางวาง
จอกลงตรงหน้าเจียงหลี “สุราดอกซิงของวังหลวงไม่
เหมือนกับเหล้าทีจวนของพวกเราหมักกันเอง รสชาติ
หอมหวานยิง อีกทังยังดืมแล้วไม่เมา ลูกผูห้ ญิงอย่าง
พวกเจ้าดืมแล้วมีประโยชน์”

เจียงหลีพลันบ่ายเบียง “ขอบคุณท่านแม่ แต่ลกู สูฤ้ ทธิ


สุราไม่ไหว”

“นีจะเรียกว่าสุราได้อย่างไร เป็ นแค่นาหวานเท่


ํ านัน” จี
ซูหรันกล่าวพร้อมรอยยิม “คืนนีหลีเอ๋อกินอาหารเย็นได้
น้อย อากาศในช่วงฤดูรอ้ นทําให้รูส้ กึ อ่อนล้าได้ง่าย น่า
จะดืมสุราดอกซิงเพือขับไล่ความเหนือยล้าสักหน่อย”
13
เจียงหลีนกึ สะกิดใจขึนมา พอดีกบั สายตาบังเอิญเหลือบ
ไปเห็นตําแหน่งหนึงซึงห่างออกไปไม่ไกลนัก เป็ นภาพ
ของเสินหรูอวินและเสินฮูหยินกําลังพูดคุยกัน พลันใจ
หายวาบ ชัวพริบตาภาพเหตุการณ์บางอย่างก็ปรากฏ
ขึนในสมอง ตอนนีเจียงหลีรูแ้ ล้วว่าเหตุใดแววตาของจี
ซูหรันจึงคุน้ ตานัก

นันเป็ นแววตาทีพยายามกลบเกลือนความคาดหวังและ
เสแสร้งปิ ดบังบางอย่างไว้ คล้ายดังแววตาของอสรพิษ
เหมือนกับทีเจียงหลีเคยเห็นในงานวันเกิดของเสินฮูหยิน
คราวนัน แววตาของเสินฮูหยิน อีกทังรอยยิมของเซียว
เต๋ออินยามคะยันคะยอให้นางดืมสุรา

14
เจียงหลีแทบจะเปลียนสีหน้าในชัวพริบตา นางสามารถ
คาดเดาได้วา่ จีซูหรันสองแม่ลกู คิดแผนการอะไรกันอยู่
ก็เหมือนกับทีคนพวกนันสร้างสถานการณ์ในงานเลียง
วันเกิดของเสินฮูหยิน ทังหมดเป็ นเพราะต้องการทําลาย
ชือเสียงของนาง

ตังแต่บตุ รสาวของนายอําเภอเล็กๆ ไปจนถึงบุตรี


ของมหาอํามาตย์ ฟื นขึนมาเป็ นคนในชาติใหม่ นางกลับ
ต้องพบกับเหตุการณ์แบบเดิมซําๆ

เจียงหลีไม่รูว้ า่ ควรจะโกรธเคืองหรือเหนือยหน่าย
มากกว่ากัน สุดท้ายก็อยากหัวเราะออกมา

15
ในชาติทีแล้วก็เป็ นเพราะเหตุการณ์เช่นนีทีทําให้นางต้อง
โศกเศร้าไปชัวชีวิต ยามนีได้เปลียนเป็ นคนใหม่ เรืองราว
ต่างๆ ยังไม่วายวนกลับมา ถ้าอย่างนัน นางจะไม่ยอมให้
เหตุการณ์เป็ นไปตามทีพวกเขาปรารถนา

16
บทที 75 เสร็จสินงานเลียง ชืนชมบุปผา

เจียงหลีมองเจียงโย่วเหยา คลียิมแล้วกล่าวว่า “น้องสาม


เองก็ยงั ไม่ได้ดืมสุรานีเช่นกัน”

“โย่วเหยาแพ้ดอกซิง” จีซูหรันกล่าว “หากดืมเข้าไปจะ


เกิดผืนแดงขึนเต็มตัว เห็นอย่างนีเจ้าอย่านึกว่านางไม่
คิดจะลิมลอง ความจริงแล้วโย่วเหยาอยากดืมจะแย่”

เจียงโย่วเหยาเบะปากโดยไม่เอ่ยถ้อยคําใดๆ

เจียงหลียิมบางๆ ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบ “อย่างนีเองรึ


1
ถ้าเช่นนันก็ขอบคุณท่านแม่มาก” หญิงสาวรับจอกสุรา
ใช้แขนเสือบังขณะดืมเข้าไปอึกหนึงแล้ววางลง

ยังเหลือเหล้าอยูม่ ากกว่าครึงจอก

จีซูหรันเห็นเช่นนันก็มิได้ชกั ชวนให้เจียงหลีดืมสุราทียัง
คงเหลืออยูอ่ ีกครึงแก้ว แต่หนั มาคีบอาหารให้นางด้วย
ท่าทางรักใคร่เปี ยมเมตตาของมารดาผูอ้ อ่ นโยน

เจียงหลีรูส้ กึ เย็นยะเยือกจับขัวหัวใจ ครันมองไปยังโต๊ะ


ของบุรุษก็เห็นเย่ซือเจียถูกคนเชือเชิญให้ดืมเช่นกัน วันนี
เย่ซือเจียได้รบั ราชโองการแต่งตังให้ดาํ รงตําแหน่งขุน
นางในวังหลวง เดิมทีก็เป็ นเรืองทีควรต้องดืมฉลองอยู่

2
แล้ว ทว่าขันทีทีรินสุราอยูน่ นดู
ั จะขยันเป็ นพิเศษ

มีคณ
ุ ชายมากหน้าหลายตามาร่วมงานเช่นนี แต่ขนั ทีผู้
นันกลับประกบเย่ซือเจียแค่คนเดียว ดืมกินกันอย่างสนุก
สนานจนไม่มีใครสนใจพฤติกรรมของขันทีคนหนึง เรือง
ละเอียดเล็กน้อยเพียงนีกลับถูกเจียงหลีดอู อกอย่าง
ชัดเจน

ในทีสุด นางก็กระจ่างแจ้งในใจ

ทีแท้ จีซูหรันสองแม่ลกู ก็เตรียมชูร้ กั ไว้ให้นางเป็ นทีเรียบ


ร้อย และคนผูน้ นก็
ั คือเย่ซือเจีย

3
สมเหตุสมผล ดูเหมือนทุกสิงดําเนินไปอย่างเหมาะเจาะ
เย่ซือเจียกับเจียงหลีเป็ นญาติกนั ครังหนึงนางยังเคย
ช่วยเหลือเย่ซือเจียให้พน้ จากข้อกล่าวหา กระทังแปร
เปลียนเป็ นความรักใคร่ผกู พัน แน่นอนว่าการทีหนุ่มสาว
สองคนมีใจให้กนั นันไม่ใช่เรืองใหญ่ แต่ถา้ ทําเรืองน่าอับ
อายระหว่างร่วมงานเลียงในวังหลวงจนถูกผูค้ นติฉิน
ย่อมนับเป็ นเรืองร้ายแรงมาก

นางทีเป็ นลูกผูห้ ญิงจะต้องอับอายขายหน้า ความ


พยายามในการสอบใหญ่ของสํานักบัณฑิตหญิงหมิงอี
ถางทังหมดคงไร้ความหมายในพริบตา ส่วนเย่ซือเจียที
เพิงได้รบั พระราชทานตําแหน่งขุนนาง เมือมีเรืองเช่นนี
ไม่แน่วา่ หากฮ่องเต้หงเซียวทรงกริวแล้วจะลงโทษเขา
ด้วยวิธีใด แต่อย่างน้อย หน้าทีการงานของเย่ซือเจียก็จะ

4
ต้องจบลง

ตระกูลเย่กบั นางย่อมผิดใจกันอย่างใหญ่หลวง จะให้


แต่งงานก็ไม่ดี แต่ถา้ ไม่แต่งงานกันก็ไม่ได้ โดยสรุปแล้ว
ชาตินีนางกับเย่ซือเจียจะต้องยับเยินทังคู่

เป็ นแผนการทีรอบคอบอย่างยิง

เจียงหลีกม้ ศีรษะลงชัวครูแ่ ล้วค่อยๆ เงยขึนอีกครัง ยังคง


มีรอยยิมประดับใบหน้าอยูเ่ ช่นเดิม

ครันเจียงโย่วเหยาหันมาก็เห็นว่าจอกสุราทีอยูต่ รงหน้า
เจียงหลีหมดไปเสียแล้ว นางตะลึงงันครูห่ นึงจึงเอ่ยถาม
5
“เจ้าดืมหมดเลยหรือ”

“อืม” เจียงหลียิมรับ “รสหวานดี ข้าเลยดืมไปจนหมด


แต่คงดืมต่ออีกไม่ไหว จอกเดียวก็พอแล้ว”

จีซูหรันได้ฟังก็เบาใจ

เจียงอวีเอ๋อทีอยูอ่ ีกด้าน พลันวางจอกสุรา

หลังช่วงเวลาแห่งการสรวลเสเฮฮาจบลง ไทเฮาก็มีพระ
ประสงค์จะไปชมดอกบัวในสระด้านนอกตําหนักอวีหมิง

สระนําดังกล่าวขุดขึนเลียนแบบแม่นาหย่
ํ งหนิงของเมือง
6
เยียนจิง มีขนาดกว้างใหญ่นกั ช่วงตอนฤดูรอ้ นกอบัวจะ
ชูกา้ นเขียวชอุม่ เต็มสระ

‘เสร็จสินงานเลียง ชืนชมบุปผา’ เป็ นสิงทีผูด้ ีตระกูลสูง


นิยมกระทํา เจียงหลีติดตามคนของจวนตระกูลเจียงไป
ยังริมสระบัว

ณ ศาลากลางนํา ฮูหยินและคุณหนูทงหลายเข้
ั าไปนัง
กันจนเนืองแน่น บนโต๊ะมีขนมขบเคียวต่างๆ จัดวางเอา
ไว้เรียบร้อย ขณะทีเจียงหลีกาํ ลังเยืองย่างก็รูส้ กึ เหมือนมี
อะไรบางอย่างถูกยัดเข้ามาในฝ่ ามือ ครันหันมองก็เห็น
นางกํานัลทีไม่รูจ้ กั กําลังเดินผ่านไป

7
เจียงหลีกาํ มือแน่น รับรูไ้ ด้วา่ เป็ นกระดาษแผ่นหนึง นาง
หันไปจับสังเกตจีซูหรันและเจียงโย่วเหยา ด้วยคิดว่านี
เป็ นสิงทีจีซูหรันวางแผนไว้ แต่อีกฝ่ ายกลับไม่มีอาการ
ผิดปกติ ราวกับไม่ทนั สังเกตเสียด้วยซํา เจียงหลีรูส้ กึ
ประหลาดใจนัก

ในทีสุดก็เดินมาถึงศาลากลางนํา เจียงหลีตงใจเยื
ั อง
ย่างอย่างเชืองช้าให้เข้ามาเป็ นคนสุดท้าย แล้วใช้โอกาส
ทีจีซูหรันกับเจียงโย่วเหยาไม่อยูใ่ กล้ๆ แบมือออก เป็ น
กระดาษแผ่นหนึงดังคาด อาศัยแสงไฟอันน้อยนิด เห็น
อักษรขนาดเล็กยาวหนึงบรรทัด ความว่า ‘พบกันทีหออวี
ซิว อุทยานฝังตะวันออก’ ลงนาม โจวเยียนปั ง

เจียงหลีอา่ นแล้วก็ตกใจนัก ครันรูต้ วั ว่าจีซูหรันกําลัง


8
เรียกนางอยูก่ ็รบี เก็บม้วนกระดาษ แรกทีเดียวคิดจะโยน
ทิงนําไป แต่จ่ๆู ก็คิดอะไรขึนมาได้ จึงซ่อนกระดาษแผ่น
นันไว้ในแขนเสือ

เพิงเดินมาถึงข้างกายจีซูหรัน อีกฝ่ ายก็คลียิมพลางกล่าว


ว่า “หลีเอ๋อเดินช้าไปแล้ว”

เจียงหลีสง่ ยิมตอบกลับไป ในใจนึกโมโหจดหมายลับ


ของโจวเยียนปั ง เขาไม่น่าจะใช่คนในแผนการของจีซูห
รัน แต่ทีทําแบบนันมาจากการตัดสินใจของตนเอง

เจียงหลีไม่คิดมาก่อนว่าครังนีโจวเยียนปั งจะเข้ามามี
ส่วนร่วม ไม่รูว้ า่ เหตุใดทายาทของท่านหนิงหย่วนโหวถึง

9
มันใจในตัวเองเช่นนี หากนางไปตามนัดอย่างทีเขียนไว้
ในจดหมาย โจวเยียนปั งอาจคิดว่าคุณหนูรองเจียงยังมี
ใจให้กบั เขา แต่เมือเจียงหลีคิดทบทวนอย่างถีถ้วนอีก
ครังก็พบว่า หลังจากกลับมาถึงเมืองเยียนจิง นางและ
โจวเยียนปั งก็ได้พบหน้ากันเพียงไม่กีครัง ทังยังไม่เคย
แสดงออกว่าสนใจในตัวโจวเยียนปั งเลยแม้แต่นอ้ ย

ทีแท้เขาก็คิดเข้าข้างตัวเอง แม้นางเย็นชากับเขาแค่ไหน
โจวเยียนปั งก็ยงั คงสามารถหาเหตุผลมาหลอกตัวเองว่า
นางมีใจให้

เจียงหลีครุน่ คิด วันนีเรืองของนางกับเย่ซือเจียจะต้องไม่


จบลงตามแผนทีอีกฝ่ ายวางไว้ แต่จะปล่อยให้จีซูหรัน
รอดตัวไปง่ายๆ หรือ แผนการของจีซูหรันสกปรกเกินทน
10
ทําให้นางหวนคิดถึงเรืองของตัวเองในอดีต

เจียงหลีกลิงม้วนกระดาษในมือไปมา แล้วยกยิมขึนทัน
ใด

ในเมือโจวเยียนปั งคิดแส่หาเรือง เช่นนันอย่าโทษว่านาง


นําความเดือดร้อนมาให้ก็แล้วกัน เจียงโย่วเหยาเอาแต่
กีดกันนางอยูต่ ลอดเวลา กลับไม่รูต้ วั เลยว่าคนทีอยาก
แต่งงานกับโจวเยียนปั งนันยังมีอีกมาก ยกตัวอย่างเช่น
น้องสาวอดีตสามีของนางอย่างเสินหรูอวิน หรือเจียงอวี
เอ๋อจากบ้านสายสาม

สมมติวา่ เจียงอวีเอ๋อมีโอกาส สามารถแต่งงานเข้าจวน

11
หนิงหย่วนโหวได้ เจียงหลีอยากรูน้ กั ว่านางจะตัดสินใจ
อย่างไร จะเลือกพีน้องทีสนิทสนมกันมานาน หรือผูช้ าย
ดีๆ ทีชีวิตนีอาจไม่มีวนั ได้เจอะเจอ

จีซูหรันเหลือบมองเจียงหลีอยูบ่ อ่ ยครัง ขณะทีเวลา


เคลือนผ่านไปอย่างช้าๆ ในทีสุดเจียงหลีก็ยกมือขึนแตะ
หน้าผากแล้วร้องเบาๆ ว่า “ท่านแม่ ลูกรูส้ กึ เวียนหัว
นัก...”

เหตุใดถึงออกฤทธิรวดเร็วเช่นนี จีซูหรันเกิดความ
ประหลาดใจ แต่ดว้ ยเกรงว่าหากกระทําการล่าช้าจะถูก
ผูอ้ ืนจับสังเกตได้ ควรรีบพาเจียงหลีหลบฉากไปก่อน

12
จีซูหรันจึงกล่าวกับนางกํานัลทียืนอยูข่ า้ งกายนางมาโดย
ตลอด “เจ้าพาคุณหนูรองไปพักผ่อนทีห้องรับรองก่อน
อีกสักครูข่ า้ จะไปรับนางกลับ”

เจียงโย่วเหยาลองเรียกหยังเชิง “พีรอง”

เจียงหลีขมวดคิวเล็กน้อย โบกมือไปโดนถ้วยทีอยูด่ า้ น
ข้างโดยไม่ตงใจ
ั นําชาทีบรรจุอยูเ่ ต็มถ้วยพลันหกรดกระ
โปรงเจียงอวีเอ๋อ

เจียงอวีเอ๋อร้องลันพลางลุกขึนยืนด้วยความตกใจ

เจียงหลีคอ่ ยๆ เบิกตากว้าง ราวกับได้สติขนมาเล็


ึ กน้อย
13
“ต้องขอโทษน้องห้า ข้าไม่ได้ตงใจจะทํ
ั าให้กระโปรงของ
เจ้าเลอะเทอะเช่นนี” กล่าวพลางมองรอยนําชาทีหกราด
ลงไปบนตัวของเจียงอวีเอ๋ออย่างสํานึกผิด “แล้วนีจะทํา
อย่างไรกันดี ข้ากําลังจะไปพักผ่อน เช่นนันเจ้าก็ไป
เปลียนเสือกับข้าเถิด”

“ไม่ตอ้ ง...” จีซูหรันพลันร้องห้าม

“ท่านแม่ ทีนีเป็ นงานเลียงของราชสํานัก ให้นอ้ งห้าใส่


เสือผ้าสกปรกมอมแมมจะดูไม่งาม ในวังหลวงน่าจะมี
ชุดสํารองอยูบ่ า้ ง หากหาไม่ได้จริงๆ ยังสามารถหยิบยืม
จากลีผินได้นีเจ้าคะ ให้นอ้ งห้าเปลียนเสือจะดีกว่า”

14
เจียงอวีเอ๋อกําลังโมโห กระโปรงชุดนีนางเพิงใส่เป็ นครัง
แรก เนืองจากเป็ นผ้าทีฮูหยินผูเ้ ฒ่าหาช่างมาตัดให้ ปกติ
แล้วจะมีโอกาสสวมใส่ผา้ เนือดีอย่างนีทีไหน แต่นีกลับ
ถูกเจียงหลีทาํ ให้สกปรกไปหมด ครันได้ยินเจียงหลีเอ่ย
ถึงลีผินก็รูส้ กึ ตืนเต้นขึนมา หากลีผินหาอาภรณ์ให้นาง
สวมใส่ แม้จะเป็ นชุดธรรมดาๆ ก็ยงั เป็ นของวังหลวง ไม่
แน่วา่ เนือผ้าอาจจะดีกว่าทีฮูหยินผูเ้ ฒ่าจัดหาให้ เจียงอวี
เอ๋อจึงรีบลุกพรวดขึนมาพร้อมรอยยิม “ท่านป้าใหญ่ ไม่
เป็ นไรหรอกเจ้าค่ะ ข้าไปกับพีรองก็ได้ พีรองกล่าวถูก
ต้องแล้ว ใส่เสือผ้าสกปรกมอมแมมแบบนี คนอืนจะติ
ฉินว่าตระกูลเจียงของพวกเราไม่ให้เกียรติฝ่าบาท
ระหว่างทางข้ายังสามารถดูแลพีรองได้อีกด้วย”

ฝ่ ามือของจีซูหรันเปี ยกชืนเล็กน้อย เจียงอวีเอ๋อไม่รูแ้ ผน

15
การของนาง จะให้มาทําวุน่ วายจนแผนเสียไม่ได้ แต่เมือ
คิดทบทวนแล้วก็คล้อยตาม รอให้เดินไปถึงครึงทางค่อย
ให้คนพาเจียงอวีเอ๋อปลีกตัวออกมา ทุกอย่างก็ยงั เป็ นไป
ตามแผน การทียาออกฤทธิรวดเร็วจนเจียงหลีตอ้ ง
ลุกออกไปตังแต่ตอนนี ทําให้มีเวลาเพียงพอสําหรับ
เตรียมการ จีซูหรันจึงส่งสายตาเป็ นสัญญาณให้กบั นาง
กํานัล กล่าวว่า “ในเมือเป็ นเช่นนัน เจ้าทังสองคนก็ไปกัน
เถิด”

16
บทที 76 คงต้องปล่อยไปตามวาสนา

นางหยางซือไม่ได้กล่าวอะไร แม้เจียงอวีเอ๋อจะเป็ นบุตร


สาวของนาง ทว่าวันๆ ก็ได้แต่ประจบสอพลอบ้านสาย
หลัก ใกล้ชิดสนิทสนมกับจีซูหรันซึงเป็ นท่านป้าใหญ่คน
นีเสียยิงกว่ามารดาแท้ๆ นางหยางซือชินชาเสียแล้ว

เจียงอวีเอ๋อจึงปลีกตัวไปพร้อมกับเจียงหลี ทังสองเดิน
ตามนางกํานัลแปลกหน้าคนนัน

ห่างจากศาลากลางนําไม่ไกลนักมีหอ้ งนําชาว่างอยูม่ าก
มาย จัดเตรียมไว้ให้กบั ผูส้ งู ศักดิภายในวังหลวงทีเกิด

1
ปวดหัวตัวร้อนขึนมากะทันหัน ต้องการจะพักผ่อน
อิรยิ าบถหรือผลัดเปลียนเสือผ้า โดยทัวไปแล้วจะไม่มีคน
เข้าใช้ ยามนีจึงเงียบสงบนัก

เจียงหลีกบั เจียงอวีเอ๋อเดินเคียงกัน ไม่รูว้ า่ เป็ นเพราะดืม


สุรามากเกินไปหรือเปล่า เดินกันได้สกั พักเจียงอวีเอ๋อจึง
เริมรูส้ กึ มึนงง ส่วนเจียงหลีนนั สาวเท้าไปก็เอ่ยถึงงาน
แต่งของเจียงโย่วเหยาไปด้วย

“...วันนีได้ยินท่านแม่เอ่ยถึงการแต่งงานของน้องสามกับ
คุณชายโจว น้องสามดูดีใจเอามากๆ ข้าคิดว่าโหวฮูหยิน
ก็พงึ พอใจน้องสามอยูไ่ ม่นอ้ ยเช่นกัน”

2
“...จะว่าไป งานแต่งของน้องสามก็ไม่เลวจริงๆ คุณชาย
โจวเป็ นบุรุษทีหาได้ยากคนหนึงในเมืองเยียนจิง แต่ขา้
กับคุณชายโจวไร้วาสนา ก็คงต้องหาคนอืนแต่งงานด้วย
ในวันข้างหน้า”

“...น้องห้าก็จวนจะอายุครบสิบห้าปี แล้ว ข้าได้ยินเด็กรับ


ใช้ในสวนของท่านพ่อพูดกันว่า ท่านอาสามเองก็กาํ ลัง
ให้ทา่ นพ่อของข้าช่วยหาคนดีๆ มาแต่งกับน้องห้า ไม่รูว้ า่
ต่อไปน้องห้าจะได้ออกเรือนไปอยูท่ ีจวนใด”

จู่ๆ เจียงหลีก็เอ่ยถึงเรืองพวกนีขึนมา เจียงอวีเอ๋อนึก


หวาดระแวงว่าเจียงหลีคิดจะแก้แค้นนาง ถึงได้เอามีด
มากรีดแทงหัวใจกันเช่นนี

3
เจียงอวีเอ๋อพลันตอบโต้ “รูส้ กึ ว่าพีรองจะเป็ นกังวลกับ
การแต่งงานของข้ายิงนัก แต่ขา้ อายุยงั น้อย พีรองเป็ น
คนพูดเอง ท่านพ่อของข้าหรือจะเทียบกับท่านลุงใหญ่ได้
หากคิดหาใครมาแต่งด้วยจริงๆ อย่างไรก็คงเทียบกับพี
รองและพีสามไม่ได้อยูแ่ ล้ว”

เจียงหลีมองนางแวบหนึง นัยน์ตาฉายแววเวทนาสงสาร
“จะว่าไปแล้ว เหตุใดคนเราถึงไม่สามารถเลือกเกิดได้
ระหว่างน้องห้ากับน้องสามหากถามข้า เจ้าเองก็หน้าตา
ไม่เลว ความสามารถรึก็ไม่ดอ้ ยกว่า เพียงแต่แพ้กนั ที
ฐานะ หากเจ้าเป็ นบุตรสาวของบ้านสายหลัก เจ้ากับคุณ
ชายโจวก็เหมาะสมกันดี”

4
ไม่พดู ยังพอทําเนา แต่เมือกล่าวถึงเรืองนี เจียงอวีเอ๋อก็
คิดถึงความเหลือมลําในจวนตระกูลเจียงระหว่างนางกับ
เจียงโย่วเหยาขึนมา ให้รูส้ กึ ว่าช่างไม่ยตุ ิธรรมเอาเสียเลย
น่าเจ็บใจนัก เจียงอวีเอ๋ออึงงันอยูน่ านโดยไม่ได้ตอ่ ปาก
ต่อคํา

ทางด้านเจียงหลีก็พดู เองเออเองต่อไป “น่าเสียดาย น้อง


ห้าหน้าตาสะสวยมากความสามารถ ทว่าต่อไปก็คงต้อง
แต่งงานกับชายผูไ้ ร้บรรดาศักดิ อย่าว่าแต่ตีเสมอคุณ
ชายโจวเลย แม้แต่บตุ รของข้าราชการธรรมดาก็ยงั เทียบ
ไม่ติด... คงจะจริงทีว่าเป็ นภรรยาของคนธรรมดา บาง
ครังอาจยังสูเ้ ป็ นอนุของคุณชายโจวไม่ได้เสียด้วยซํา”
นางจบประโยคเพียงเท่านี

5
ในทีสุดก็สา่ ยหน้าพลางทอดถอนใจ “แข่งกับคนไม่ได้ ก็
คงต้องปล่อยไปตามวาสนา”

เจียงอวีเอ๋อเศร้าใจนัก “โชคชะตาของข้าก็เป็ นเช่นนี สูพ้ ี


สามไม่ได้อยูแ่ ล้ว แต่วา่ พีรองนันช่างใจกว้าง เดิมทีคณ

ชายโจวต้องแต่งงานกับพีรอง แต่ตอนนีกลายมาเป็ น
สามีของน้องสาว พีรองยังสามารถอดทนได้ มิน่าผูค้ นถึง
กล่าวกันว่า หากอยูว่ ดั สักระยะจิตใจจะสงบเยือกเย็น”

เจียงหลีฟังอย่างขอไปทีแล้วแค่นยิมบางๆ “ยอมหรือไม่
แล้วจะเป็ นอย่างไร ไหนๆ ก็ลว่ งเลยมาถึงขนาดนี อีกทัง
วันข้างหน้าข้ายังมีโอกาส แม้จะไม่อาจเทียบกับคุณชาย
โจวได้ แต่อย่างไรก็ยงั นับว่ามีทางเลือก แต่เจ้านีสินอ้ ง
ห้า...” นางมองเจียงอวีเอ๋ออย่างมีความหมาย โดยไม่
6
กล่าวอะไรต่อไปอีก

เจียงอวีเอ๋อรูซ้ งถึ
ึ งสิงทีเจียงหลีไม่ได้เอ่ยออกมา ตัวเลือก
ของนาง อย่างไรก็ไม่มากเท่ากับเจียงหลี

อาจเป็ นเพราะความคับแค้นใจ เจียงอวีเอ๋อถึงรูส้ กึ ร้อน


รุม่ อยูใ่ นอกอีกทังยังเวียนศีรษะ เลยไม่รูจ้ ะตอบโต้อย่าง
ไร

เจียงหลีพดู ไปพลางสังเกตแววตาของนางกํานัลทีนํา
ทาง ครันเห็นว่านางกํานัลผูน้ นฟั
ั งเรืองทีนางกับเจียงอวี
เอ๋อพูดคุยกันอย่างไม่ยีหระ ใจของเจียงหลีก็ยงตื
ิ นตัวขึน
เป็ นกอง

7
เยืองย่างกันไปสักระยะก็มีนางกํานัลอีกคนเดินสวนทาง
เข้ามากล่าวกับเจียงอวีเอ๋อ “ลีผินให้บา่ วมาพาคุณหนู
ห้าเจียงไปเปลียนเสือทีห้องข้างๆ ก่อนเจ้าค่ะ” จบคําก็
หันมาบอกเจียงหลี “เชิญคุณหนูรองพักผ่อนทีห้องด้าน
หน้า รอให้คณ
ุ หนูหา้ เลือกอาภรณ์เสร็จแล้วบ่าวจะมาพา
คุณหนูกลับ”

เจียงหลียิมบางๆ กดนวดขมับพลางพูดกับเจียงอวีเอ๋อ
“ในเมือเป็ นเช่นนี น้องห้าก็ไปก่อนเถิด ข้าปวดหัวมาก
จะไปพักผ่อนรอเจ้าอยูท่ ีห้อง”

เจียงอวีเอ๋อโมโหเจียงหลีมาตลอดทาง จึงไม่อยากพูดจา
เหนียวรัง ยิงมีโอกาสได้เลือกอาภรณ์ทีลีผินจัดเตรียมให้
8
เจียงอวีเอ๋อก็ดีใจจนออกนอกหน้า รีบรับคําอย่างรวดเร็ว
เห็นเช่นนันเจียงหลีจงึ หมุนตัวเดินตามสาวใช้คนแรกไป
ข้างใน

ขณะทีกําลังหมุนตัวกลับ พลันมีของสิงหนึงร่วงหล่นลง
มาจากแขนเสือของเจียงหลี

เจียงอวีเอ๋อทียืนอยูใ่ กล้ๆ จึงก้มเก็บ เห็นเป็ นม้วน


กระดาษแผ่นหนึง กําลังจะเรียกเจียงหลีก็พอดีกบั ทีแสง
ตะเกียงบนศาลาสาดลงมาให้เห็นข้อความบนกระดาษ
ได้อย่างชัดเจน

เสียงของเจียงอวีเอ๋อชะงักอยูใ่ นลําคอ

9
นางกํากระดาษแล้วลุกขึนยืนมองเจียงหลีเดินจากไป
ด้วยหัวใจทีเต้นรัว

ข้อความบนกระดาษมีใจความว่าโจวเยียนปั งต้องการ
พบกับเจียงหลีเป็ นการส่วนตัว ดูทา่ คงจะเป็ นคืนนี
ปฏิกิรยิ าแรกของเจียงอวีเอ๋อก็คือ ต้องนํากระดาษแผ่นนี
ไปให้จีซูหรัน ป่ าวประกาศเรืองน่าอับอายของเจียงหลีให้
ผูค้ นได้รบั รู ้ พอคิดเช่นนี อาการเวียนศีรษะก็ดีขนมาก

เจียงอวีเอ๋อซ่อนกระดาษไว้ในแขนเสือ เจียงหลีและนาง
กํานัลเดินลับศาลาไปไม่เห็นแม้เงาแล้ว เจียงอวีเอ๋อจึง
หันกลับมามองนางกํานัลทีกําลังจะนําทางไปเปลียนเสือ
ผ้า แย้มยิมแล้วกล่าวว่า “พีรองของข้าช่างไม่ระมัดระวัง
10
เสียเลย ทําของตกหล่นแล้วยังไม่รูต้ วั อีก เอาไว้ขา้ ค่อย
หาโอกาสคืนให้นาง พวกเราไปกันเถิด”

เจียงอวีเอ๋อติดตามนางกํานัลทีปรากฏตัวขึนกลางทาง
ย้อนไปยังอีกทิศหนึง

ส่วนอีกด้าน เจียงหลีทีกําลังเดินตามนางกํานัลไปยังห้อง
รับรองก็เผยรอยยิมออกมา โดยทีหน้าไม่เปลียนสี

ตอนทีนางทํากระดาษนันหล่นและไม่มีเสียงใดๆ ไล่หลัง
มา เจียงหลีก็รูว้ า่ เจียงอวีเอ๋อติดกับเสียแล้ว

ภายใต้สถานการณ์เช่นนัน เป็ นไปไม่ได้ทีเจียงอวีเอ๋อจะ


11
ไม่เห็นกระดาษทีเจียงหลีทาํ หล่นไว้ แต่นางไม่ได้รอ้ งทัก
นันก็หมายความว่านางเห็นข้อความบนกระดาษอย่าง
ชัดเจนแล้ว

เจียงอวีเอ๋อคิดจะทําอะไร คงไม่พน้ นําความไปแจ้งจีซูห


รันเพือเอาหน้า แต่ตอ่ ให้มีกระดาษแผ่นนีก็ไม่ได้บง่ บอก
อะไร เพราะเจียงหลีจะไม่ไปตามนัด ทว่าหากเจียงอวี
เอ๋อเก็บเอาคําพูดทีเจียงหลีโน้มน้าวมาตลอดทางมาขบ
คิด ทางเลือกของนางก็คงจะเปลียนไป

ด้วยนิสยั ชอบเอาชนะของเจียงอวีเอ๋อ นางคงไม่ยอมอยู่


ใต้อาํ นาจของผูใ้ ด ย่อมถูกผลประโยชน์ในภายภาคหน้า
บังตาเอาได้ง่ายๆ อย่างทีเจียงหลีกล่าว ‘เป็ นอนุของโจว
เยียนปั ง ยังดีกว่าเป็ นภรรยาของผูช้ ายธรรมดา’ สตรีที
12
เฉลียวฉลาดและมีศกั ดิศรีอาจไม่คล้อยตาม แต่เจียงอวี
เอ๋อนันก็ไม่แน่

เจียงหลีติดตามนางกํานัลเลียวไปอีกทาง จนมาถึงห้อง
นําชาทีอยูส่ ดุ ทางของศาลาด้านข้าง นางกํานัลพลัน
กล่าวพร้อมรอยยิม“เชิญคุณหนูรองเจียงพักผ่อนก่อน
เถิด ในห้องมีนาชาและของว่
ํ าง บ่าวจะไปเอานําแข็งมา
ให้คลายร้อน”

เจียงหลีตอบรับ “เจ้าไปเถอะ”

ทันทีทีนางกํานัลจากไป เจียงหลีซงนั
ึ งอย่างสงบก็รบี ลุก
ขึนเดินไปยังกระถางธูปหอมทีจุดอยูใ่ นห้อง แล้วหักธูป

13
ออกเป็ นสองส่วน

อาจเป็ นเพราะเคยผ่านเหตุการณ์คล้ายกันมาแล้วครัง
หนึง เวลานี ใจของเจียงหลีจงึ เยือกเย็นอย่างน่า
ประหลาด หญิงสาวกลับมานังทีโต๊ะอีกครัง เท้าศอกเอา
มือปิ ดหน้า แสร้งทําเหมือนผล็อยหลับ ขณะทีอีกมือก็
เคาะโต๊ะเบาๆ อยูอ่ ย่างนัน จนนํามันตะเกียงกระเด็น
ออกมา

นางกํานัลยังเฝ้าอยูด่ า้ นนอก เจียงหลีครุน่ คิด... อย่าง


น้อยก็ตอ้ งรอให้เย่ซือเจียเข้ามาทีนีเสียก่อน นางถึง
สามารถจากไปได้ เพียงแต่ไม่รูว้ า่ เย่ซือเจียจะดืมไปมาก
แค่ไหน หากเย่ซือเจียเมามายถึงขันพูดจาไม่ได้ความ
เจียงหลีก็ยินดีทีจะใช้เลือดปลุกเขา นางลูบคลํามีดวง
14
พระจันทร์ทีอยูใ่ นแขนเสือ

ไม่รูว้ า่ ผ่านไปนานแค่ไหน รูเ้ พียงแต่วา่ นํามันตะเกียงลด


ลงไปแล้วครึงหนึง จู่ๆ ด้านนอกก็แว่วเสียงคนพูดคุยกัน
ผ่านไปครูห่ นึง เสียงประตูลนั “เอียดๆ” ก็ดงั ขึน ก่อนทีมี
คนจากด้านนอกก้าวเข้ามา

เจียงหลียงั คงแกล้งหลับต่อไป

“เชิญนายท่านพักผ่อนอยูต่ รงนีสักครู ่ บ่าวจะไปเติมนํา


ชาและของว่าง” มีเสียงสตรีเอ่ยขึน

เจียงหลีไม่ขยับเขยือน ขณะทีประตูถกู ปิ ดลงอีกครัง


15
ตามมาด้วยเสียงฝี เท้าสะเปะสะปะเตะนู่นชนนี

กลินสุราคละคลุง้ พลันปะทะเข้านาสิก พร้อมกับทีมีคน


ผลักไหล่ของนาง

ชัวขณะนัน ความทรงจําในอดีตชาติก็หลังไหลเข้าสู่
สมอง

เจียงหลีลว้ งเอามีดวงพระจันทร์ออกมาจากแขนเสือ
แล้วแทงสวนไปยังฝ่ ายตรงกันข้ามอย่างแม่นยํา เสียง
ของนางเย็นชา ทังยังแฝงความแข็งกร้าวโหดเหียมขณะ
เอ่ยเรียก “เย่ซือเจีย”

16
ลมหายใจของฝ่ ายตรงข้ามเริมสงบลง

ครันนางลืมตาก็เห็นว่าปลายมีดของตนจ่ออยูท่ ีคอของ
เย่ซือเจีย ใบหน้าของเขาแดงกํา มีกลินสุราคละคลุง้ ดู
เหมือนคนขีเมาอย่างไม่ตอ้ งสงสัย เขามองเจียงหลีดว้ ย
แววตาตืนตระหนก

17
บทที 77 นันก็ลูกนีก็ลูก

เจียงหลีขมวดคิวน้อยๆ

เย่ซือเจียไม่ได้เมา เขายังมีสติครบถ้วน

เจียงอวีเอ๋อถูกนางกํานัลพาไปทีห้องหนึงซึงอยูห่ า่ งออก
มา เพือรอผลัดเปลียนอาภรณ์

นางอยากนํากระดาษทีอยูใ่ นแขนเสือไปให้จีซูหรันดูโดย
เร็ว กระทังไม่มีแก่ใจจะรอคนทีเอาเสือมาส่ง อกของ
นางร้อนรุม่ นัก จึงล้วงกระดาษแผ่นนันออกมาอ่านอย่าง

1
ละเอียดอีกครัง

เจียงอวีเอ๋อคิดอย่างขุ่นเคือง ต่อหน้านาง เจียงหลีก็พดู


เหมือนไม่สนใจไยดีโจวเยียนปั ง นึกไม่ถงึ ว่าอีกฝ่ ายยัง
ตัดสัมพันธ์กบั โจวเยียนปั งไม่ขาด ถึงกระนันเจียงหลีก็
ยังคงเป็ นถึงบุตรสาวของเจียงหยวนปั ว หากเรืองนี
แดงออกไป นันก็ลกู นีก็ลกู บุตรสาวจากภรรยาเอกทัง
สองของตระกูลเจียง ไม่วา่ คนไหนก็ละเลยไม่ได้ทงนั
ั นไม่
รูว้ า่ โจวเยียนปั งจะเลือกใคร

เขาควรจะแต่งกับเจียงโย่วเหยามากกว่า เพราะอย่าง
น้อยเจียงโย่วเหยาก็เป็ นคนทีโจวเยียนปั งหมันหมายใน
ตอนนี

2
สุดท้าย โจวเยียนปั งก็ยงั คงต้องแต่งงานกับบ้านสาย
หลักของตระกูลเจียงอยูด่ ี

ไม่รูเ้ พราะเหตุใด จู่ๆ เจียงอวีเอ๋อก็คิดถึงคําพูดของเจียง


หลีขนมา

‘น้องห้าหน้าตาสะสวยมากความสามารถ ทว่าต่อไปก็
คงต้องแต่งงานกับชายผูไ้ ร้บรรดาศักดิ อย่าว่าแต่ตีเสมอ
คุณชายโจวเลย แม้แต่บตุ รของข้าราชการธรรมดาก็ยงั
เทียบไม่ติด... คงจะจริงทีว่า เป็ นภรรยาของคนธรรมดา
บางครังยังสูเ้ ป็ นอนุของคุณชายโจวไม่ได้เสียด้วยซํา’

เจียงอวีเอ๋อยิงคิดก็ยิงแค้นใจ คนทีโจวเยียนปั งนัดหมาย


เหตุใดถึงไม่ใช่นาง ทังๆ ทีนางก็มิได้ดอ้ ยไปกว่าเจียงหลี
3
และเจียงโย่วเหยา เพียงเพราะฐานะของนาง จึงไม่มีแม้
แต่คณ
ุ สมบัติผา่ นเข้าตาโจวเยียนปั งหรือครันนึกถึงว่า
คนทีเจียงหลีกบั เจียงโย่วเหยาพัวพันไม่เลิกก็คือโจว
เยียนปั งผูเ้ ป็ นทายาทท่านหนิงหย่วนโหว ส่วนสามีใน
อนาคตของนางนันยังไม่รูว้ า่ จะเทียบกับโจวเยียนปั งได้
แม้เพียงปลายเล็บหรือไม่ จู่ๆเจียงอวีเอ๋อก็เกิดความคิด
บางอย่างแวบขึนมา ราวกับไม่มีอะไรสามารถเบียงเบน
ความสนใจของนางได้ แม้แต่เรืองทีอยากเห็นเจียงหลีได้
รับความอับอายก็จางหายไป

ถึงอาการเวียนศีรษะจะเริมทุเลา แต่ใจของเจียงอวีเอ๋อก
ลับเริมร้อนรุม่ ด้วยความคิดทีว่า หากคนทีโจวเยียนปั ง
นัดหมายในวันนีคือนางเล่า

4
หากนางยืมชือของเจียงหลี อาศัยข้อความในกระดาษ
ไปพบโจวเยียนปั ง เขาจะสงสารนางหรือไม่ ขอเพียงมี
ใจให้นางสักนิดก็ยงั ดี แล้วนางค่อยหาวิธีพาตัวเองเข้า
ไปอยูใ่ นจวนของท่านหนิงหย่วนโหวบ้างจะเป็ นอย่างไร

ฐานะของนางในตอนนี ไม่สามารถเป็ นภรรยาเอกของ


โจวเยียนปั ง แต่ฐานะอนุผสู้ งู ศักดิก็ดีเหมือนกันมิใช่หรือ
ทีเจียงหลีพดู มาก็ถกู เป็ นภรรยาของคนธรรมดา ไม่สู้
เป็ นอนุของโจวเยียนปั ง

ยิงคิดก็ยิงมองเห็นความเป็ นไปได้ เจียงอวีเอ๋อมองกระ


ดาษในมือแล้วกําเอาไว้แน่น

นางตัดสินใจแล้ว
5
ในขณะนัน นางกํานัลก็หอบอาภรณ์มาส่งให้ถงึ หน้า
ประตูเจียงอวีเอ๋อจึงรีบลุกขึนยืน

นางอยากผลัดเปลียนเสือผ้าแล้วตรงไปหาโจวเยียนปั ง
ตามนัดหมาย ท่าทางร้อนรนจนนางกํานัลยังรูส้ กึ
ประหลาดใจ เจียงอวีเอ๋อกลบเกลือนด้วยรอยยิม “พอดี
ข้าอยากเข้าห้องนํา เลยต้องรีบเปลียนเสือผ้า พีสาวไม่
จําเป็ นต้องอยูเ่ ป็ นเพือนหรอก แค่บอกทางข้าก็พอ”

นางกํานัลผูน้ ีคงเป็ นคนทีจีซูหรันใช้ให้มาส่งข่าว เสร็จ


ภารกิจแล้วก็ไม่มีเรืองอะไรให้ทาํ จึงไม่สงสัยในคําพูด
ของเจียงอวีเอ๋อ “ไม่ไกลจากจุดนี คุณหนูเดินตรงไปจน
สุดทาง เลียวขวาก็ถงึ แล้วเจ้าค่ะ”
6
เจียงอวีเอ๋อผลัดเปลียนอาภรณ์เสร็จก็เปิ ดประตูออกไป
นางเดินตามเส้นทางทีนางกํานัลบอก พอสุดทางแล้ว
ต้องเลียวขวาก็เหลียวมองด้านหลัง ครันไม่เห็นใคร
ติดตามจึงเปลียนเส้นทาง โดยเดินแยกไปอีกด้าน

ตรงไปตามทิศทีโจวเยียนปั งระบุไว้ในกระดาษ... หออวี


ซิว อุทยานฝังตะวันออก

เจียงอวีเอ๋อสาวเท้าอย่างรวดเร็ว จนในทีสุดก็วงเหยาะๆ

ลมพัดปะทะใบหน้า ให้ความรูส้ กึ เย็นสบาย แต่กลับมิ


ได้ทาํ ให้ไฟทีลุกโชนอยูภ่ ายในใจของเจียงอวีเอ๋อมอดดับ

7
กลับยิงโหมจนโชติช่วง

เจียงอวีเอ๋อคิดไว้วา่ เมือพบกับโจวเยียนปั งแล้วนางจะ


เผยความรูส้ กึ ของตนทีมีตอ่ เขา บอกเล่าความทุกข์ใจ
ตอนทีอยูใ่ นจวนตระกูลเจียง ต้องไม่ลืมร้องไห้ให้เห็น
นําตาสักหน่อย บุรุษเห็นสาวงามแสดงความรักให้ มี
หรือจะไม่รูส้ กึ ยินดี ต่อให้เป็ นคนเถรตรงขนาดไหน คง
ไม่มีทางตัดรอนความรักทีมาจากฝ่ ายหญิง

เจียงอวีเอ๋อกัดริมฝี ปาก... ขอแค่ได้พดู กับโจวเยียนปั ง


ขอเพียงสามารถเกียวข้องกับโจวเยียนปั งได้ นางก็จะ
หลุดพ้นจากชะตาชีวิตทีไม่รูว้ า่ ต้องแต่งงานกับชายไร้
บรรดาศักดิคนไหนในอนาคต

8
ตอนนีเมือหวนคิดถึงคําพูดของเจียงหลี ถ้อยคําทีแฝง
ความเย้ยหยันประชดประชันทีเอ่ยออกมาเหมือนไม่
ตังใจ ทําให้ไฟทีสุมอยูใ่ นอกของเจียงอวีเอ๋อยิงลุกโชน
มากขึน

เป็ นคนบ้านสายหลักของตระกูลเจียงแล้วดีอย่างไร
ระหว่างเจียงหลีกบั เจียงโย่วเหยา มีเพียงคนเดียวเท่า
นันทีสามารถแต่งงานกับโจวเยียนปั งได้ ไม่วา่ จะเป็ น
เจียงหลีหรือเจียงโย่วเหยา ก็ตอ้ งมีหนึงคนทีเป็ นผูแ้ พ้

หากนางสามารถเข้าไปอยูใ่ นจวนหนิงหย่วนโหวได้
อย่างน้อยก็มีหนึงคน ต้องมีบตุ รีจากภรรยาเอกของบ้าน
สายหลักอย่างน้อยหนึงคนทีต้องพ่ายแพ้ให้แก่นาง แต่ง
เข้าไปเป็ นอนุ จําต้องเอาอกเอาใจภรรยาเอกก็ไม่เห็นจะ

9
เป็ นไร เจียงอวีเอ๋อคิด... เจียงหลีเย่อหยิงจนเคยตัว
เจียงโย่วเหยาก็ถกู จีซูหรันตามใจจนไม่เป็ นผูไ้ ม่เป็ นคน
พวกนางไม่มีวนั รูว้ ิธีทีจะทําให้ชายหนุ่มลุม่ หลงหรอก

แต่เจียงอวีเอ๋อมันใจว่าตนสามารถเอาชนะใจของโจว
เยียนปั งได้

ขณะทีกําลังคิดฟุง้ ซ่านอยูน่ นั สองเท้าก็เยืองย่างกระทัง


จวนจะถึงประตูหออวีซิวแล้ว

อาคารทีปลูกสร้างอยูเ่ หนือผิวนํายามนีมืดสนิท ภายใน


มิได้จดุ ตะเกียงแม้แต่ดวงเดียว เห็นได้ชดั ว่าปกติไม่มี
ใครแวะเวียนมาทีนี โจวเยียนปั งช่างเลือกสถานทีได้ดี
เสียจริง หรือเขาอาจจะสรรหาจุดนัดพบไว้ลว่ งหน้า เพือ
10
รอเจอเจียงหลีในวันนี

เจียงอวีเอ๋อยิมบางๆ พลางสาวเท้าเดินเข้าสูด่ า้ นใน


ด้วยใจทีร้อนรนยิงขึน

ไม่รูว้ า่ เป็ นเพราะความตืนเต้นหรืออย่างไร เจียงอวีเอ๋อ


เริมรูส้ กึ ถึงเหงือทีผุดพรายบนหน้าผาก กระทังลมหายใจ
ยังหอบแรงขึน อยากหาอะไรเย็นๆ มาเช็ดเนือเช็ดตัวให้
คลายความรูส้ กึ เร่าร้อนเหล่านี

นางถอนหายใจออกยาวๆ ขณะทีฝี เท้าหยุดลงตรงหน้า


หออวีซิว

11
เพียงย่างเท้าเข้าประตูบานนี นกกระจอกก็จะกลายเป็ น
หงส์ หลุดพ้นจากความตําต้อยตลอดชีวิต นีคืออนาคต
ทีนางกําหนดเอง ไม่เกียวกับบ้านสายสามแต่อย่างใด

เจียงอวีเอ๋อเปิ ดประตู ก้าวเท้าเข้าไป

ในห้องนําชามีแสงตะเกียงอันน้อยนิด ภายนอกเงียบ
สนิท

เจียงหลีกบั เย่ซือเจียนังประจันหน้า เจียงหลีเก็บมีดลง


แล้ว ส่วนเย่ซือเจียนันมีสีหน้าราวกับไม่อยากจะเชือ สุด
ท้ายจึงมองหญิงสาวแล้วกล่าวว่า “เจ้าเข้าวังยังพกมีด
ด้วยรึ”

12
เจียงหลีเพียงแต่ยอ้ นถามกลับไป “เหตุใดท่านจึงไม่
เมา”

ชายหนุ่มส่งเสียงฮึ “บ้านตระกูลเย่ของข้าทําการค้า
พบปะผูค้ นมากมาย วันนีคนพวกนันมาร่วมดืมกับข้า
บ้างก็เพือแสดงความยินดี บางคนนันเห็นได้ชดั ว่ามา
เพือผลประโยชน์” เขากล่าว “ข้าแกล้งเมา เพราะอยาก
จะรูว้ า่ ฝ่ ายตรงข้ามต้องการอะไรกันแน่ ไม่นกึ ว่าจะมี
แผนซ่อนอยูจ่ ริงๆ” พูดจบเขาก็ขมวดคิวถาม “พวกเขา
ทําแบบนี หมายความว่าอะไรกันแน่”

ได้ฟังคําของอีกฝ่ าย เจียงหลีก็แทบจะหลุดขําออกมา
“บุรุษและสตรี เกิดอารมณ์พิศวาสหลังฤทธิสุราอย่างไร
13
เล่า”

เย่ซือเจียสะดุง้ จนเกือบตกจากเก้าอี หลังจากได้สติกลับ


มา ใบหน้าก็พลันแดงกํา เขาชีไม้ชีมือไปทีเจียงหลีพลาง
พูดติดๆ ขัดๆ “เจ้า... เจ้าไม่รูจ้ กั อายบ้างหรือไร”

“แค่นีก็เรียกว่าไม่รูจ้ กั อายแล้วหรือ” เจียงหลีเอ่ยสบายๆ


“ข้าแค่เอาแผนการของผูอ้ ืนมาบอกท่านเท่านัน”

“เหตุใดพวกเขาต้องทําเช่นนี” เย่ซือเจียรูส้ กึ อึดอัดใจ


แต่ก็ข่มอารมณ์ไว้โดยไม่แสดงออก แล้วเอ่ยถามเจียง
หลีดว้ ยนําเสียงปกติวา่ “เพือทีจะทําลายชือเสียงของ
เจ้ารึ”

14
เจียงหลีตอบอย่างเย็นชา “อย่าได้พดู จาราวกับตัดสิน
ว่าข้าทําให้ทา่ นเดือดร้อนไปด้วย ไม่ลองคิดดูดีๆ เสีย
ก่อนเล่า หากท่านมีเรืองราวฉาวโฉ่กบั ข้า ตําแหน่งฮู่ปทู้ ี
เพิงได้รบั จะยังอยูก่ บั ท่านหรือไม่ ตระกูลเย่จะสามารถ
ก้าวเข้าสูแ่ วดวงขุนนางได้อีกหรือเปล่า”

เย่ซือเจียอึงงัน ถ้อยคําของเจียงหลีทาํ ให้เขาคิดได้ เหงือ


กาฬพลันอาบเต็มแผ่นหลัง ในทีสุดก็นกึ โมโหขึนมา “นี
คิดจะยิงธนูดอกเดียวได้นกสองตัวรึ”

“ไม่ผิด” เจียงหลีกล่าว “ยังดีทีท่านไม่ได้ตกหลุมพราง


ข้าเองก็เช่นกัน”

15
เย่ซือเจียพิจารณาเจียงหลีอีกครัง แล้วเอ่ยถามขึน
ทันควัน “พวกเขาวางยาเจ้าด้วยใช่หรือไม่”

เจียงหลีพยักหน้า “ใช่แล้ว แต่ขา้ ไม่ได้ดืม” เห็นเย่ซือ


เจียแสดงท่าทางโล่งใจ เจียงหลีก็ยกยิม “ข้าให้คนอืน
ดืมไปแล้ว”

“เจ้า!” เย่ซือเจียพลันขุ่นข้อง “เหตุใดถึงทําร้ายผูอ้ ืน”

เจียงหลีไม่ได้แสดงออกมากนัก “หลังจากดืมแล้ว พวก


เขาก็จะเข้าใจคําว่า ให้ทกุ ข์แก่ทา่ น ทุกข์นนถึ
ั งตัว”

เย่ซือเจียขมวดคิวถาม “หากคืนนีข้าเมาจริงๆ เจ้าจะทํา

16
อย่างไร”

“ไม่เป็ นไร” เจียงหลีกล่าวเสียงเย็นชา “ถึงเวลานันข้าก็


จะใช้มีดแทงท่านให้ได้แผลแล้วจากไป พอมีคนมาพบ
ในภายหลัง ก็จะคิดเพียงว่าในวังมีคนร้าย อีกอย่าง
หลังจากถูกแทงท่านย่อมได้สติ เมือทําความเข้าใจเรือง
ทังหมดแล้วก็ตอ้ งร่วมมือกับข้า แผนการ ‘หนุ่มสาวลอบ
นัดพบกันในวังหลวง’ ก็จะกลายเป็ นเรือง ‘ขุนนางคน
ใหม่ถกู ลอบทําร้ายในห้องนําชา’ แทน”

17
บทที 78 เจ้าจะไปไหน

นางกล่าวอย่างเรียบง่าย นําเสียงไม่แสดงอาการหวัน
วิตกแม้แต่นอ้ ย เย่ซือเจียได้ฟังก็ไม่รูว้ า่ จะแสดงสีหน้า
อย่างไร “เจ้าคิดจะใช้มีดแทงข้า เจ้าทําลงหรือ”

“ไม่มีอะไรทีข้าทําไม่ลง” เจียงหลีลกุ ขึนยืน “แน่นอนว่า


ได้รบั บาดเจ็บย่อมเป็ นเรืองร้าย แต่ก็ยงั ดีกว่าตายทัง
เป็ น”

ตอนทีนางเอ่ยคํานีออกมา นําเสียงนันเย็นยะเยือกจับใจ
ทําให้เย่ซือเจียอดสันสะท้านไปทังสรรพางค์กายไม่ได้

1
เขาเข้าใจแล้วว่า เจียงหลีสามารถแทงเขาได้จริงๆ

เห็นเจียงหลีลกุ ขึนเตรียมจะเดินออกไป เย่ซือเจียจึงรีบ


ร้องถาม “เจ้าจะไปไหน”

“คนทีเฝ้าอยูด่ า้ นนอกคงจะไม่อยูแ่ ล้ว อีกสักครู ่ คนจับ ‘ชู้


รัก’ ก็คงจะมาถึง ข้าต้องรีบหลบออกไปก่อน รอให้พวก
เขามาถึงแล้วพบท่านอยูต่ ามลําพัง พวกเขาก็จะเชือใน
สิงทีเห็น”

“แล้วเจ้าจะไปไหน” เย่ซือเจียถาม “หากเจ้าปรากฏตัว


ต่อหน้าคนพวกนัน ฝ่ ายตรงข้ามก็จะรูท้ นั ทีวา่ แผนการ
ของตัวเองมีขอ้ ผิดพลาด”

2
“ตอนนีข้าย่อมไม่ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาอยูแ่ ล้ว”
เจียงหลียกยิม “ข้าจะไปสังเกตการณ์อยูอ่ ีกด้าน ดูวา่
ทุกอย่างดําเนินตามแผนหรือไม่” นางผลักประตู แล้ว
เดินออกไปเงียบๆ

เย่ซือเจียอึงงันอยูก่ บั ที ด้านนอกมืดสนิท มองไม่เห็นแม้


แต่เงาคน คําพูดประโยคสุดท้ายของเจียงหลีทาํ ให้เขา
เกิดความรูส้ กึ หวาดกลัวจนขนหัวลุก เขาเชือว่าเจียงหลี
จะไปดําเนินแผนการส่วนทีเหลือ และมันใจว่าแผนการ
ของเจียงหลีจะทําให้คนพวกนันได้รบั ผลกรรมของตัว
เองอย่างสาสม

บ้านตระกูลเย่มีฐานะมังคัง บนเส้นทางของการค้าขาย
3
ไม่อาจหลีกเลียงคนทีมีจิตริษยาหรือเรืองโกหกพกลม จะ
ว่าไปแล้วก็ไม่ควรเกรงกลัวกับเรืองพวกนี

แต่ถงึ กระนัน เย่ซือเจียยังอดส่ายหน้าแล้วรําพึงกับตัว


เองไม่ได้

“ใจกล้าเสียจริง”

สถานการณ์ของหออวีซิวแตกต่างจากฝังของเจียงหลี
เวลานีเจียงอวีเอ๋อไม่รูต้ วั ว่าทําอะไรอยู่

หลังจากถึงหออวีซิวแล้ว เจียงอวีเอ๋อก็คลําทางเข้าไปใน
ความมืด หออวีซิวมิได้ใหญ่โตนัก เจียงอวีเอ๋อเองก็ไม่
4
กล้าจุดตะเกียงด้วยเกรงว่าคนอืนๆ จะเห็นเข้า ได้แต่
อาศัยแสงสว่างรําไรจากภายนอกนําทาง

ภายในหอไม่เห็นแม้เงาของโจวเยียนปั ง

เจียงอวีเอ๋อนึกหวาดกลัวขึนมา ไม่รูว้ า่ เป็ นเพราะกําลัง


ร้อนใจหรือเปล่า ทังตัวจึงร้อนรุม่ จนอยากถอดเสือ
นอกออกโดยเร็ว

ขณะทีเจียงอวีเอ๋อครันเนือครันตัวจนแทบทนไม่ไหว จู่ๆ
ด้านนอกหออวีซิวก็มีเงาคนขยับวูบ นางกําลังจะลุกขึน
จากเก้าอีเล็กๆทีอยูอ่ ีกด้าน ประตูใหญ่ของหออวีซิวพลัน
เปิ ดอ้า ก่อนจะปรากฏเงาร่างอันคุน้ เคยเดินเข้ามา

5
ดวงตาของเจียงอวีเอ๋อร้อนระอุ

แม้จะไม่ได้จดุ ตะเกียง นางก็สามารถแยกแยะได้วา่ นัน


คือเงาของโจวเยียนปั ง ในอดีต โจวเยียนปั งเป็ นเพียง
ความฝันอันเลือนลอยแต่ตอนนี ทุกอย่างกลับเป็ นรูป
เป็ นร่างแล้ว

โจวเยียนปั งค่อยๆ ย่างเท้าเข้ามา เขาเองก็ไม่คนุ้ เคยกับ


ความมืดภายในห้องเช่นกัน เดินหน้าไปได้สองก้าวก็เห็น
เงาหญิงสาวผุดลุกขึน เขาลังเลอยูค่ รูห่ นึง แล้วจึงเอ่ย
เรียกอย่างยินดี “คุณหนูรอง”

6
เจียงอวีเอ๋อกําลังจะตอบว่าตนเองไม่ใช่เจียงหลี แต่แล้ว
จู่ๆ ก็พลันหยุดชะงัก

อาจเป็ นเพราะความร้อนรุม่ ทีทําให้สมองของนางเลอะ


เลือน เจียงอวีเอ๋อเกิดความคิดบางอย่างแวบขึนมา หาก
นางไม่บอกว่าตนเองคือใคร แล้วถือโอกาสใกล้ชิดโจว
เยียนปั งเล่า

แบบนีข้าวสารก็จะกลายเป็ นข้าวสุก ไม่สามารถเปลียน


แปลงอะไรได้ ต่อให้จีซูหรันคิดจะใช้วิธีการใดๆ บ้านตระ
กูลโจวอยากจะปฏิเสธแค่ไหน แต่ในเมือโจวเยียนปั งได้
ตัวนางไปแล้ว อย่างไรเขาก็ตอ้ งแต่งกับนาง รับนางเข้า
จวน

7
ใช่วา่ นางจะไม่เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี ทีผ่านมาก็
เคยมีบรรดาคุณชายและคุณหนูลกั ลอบมีความสัมพันธ์
ฉันชูส้ าวแล้วถูกจับได้ หากมาจากตระกูลทีมีฐานะและ
ไม่อยากเสือมเสีย สุดท้ายก็จะจัดการตบแต่งให้เป็ นเรือง
เป็ นราว ถึงจะโดนติฉินนินทา แต่เมือเวลาผ่านไป ผูค้ น
เหล่านันก็จะลืมเลือนเรืองเล็กน้อยเหล่านีไปเสียสนิท

อีกอย่าง แม้จะโดนครหาไปตลอดชีวิต ขอเพียงได้อยูด่ ีมี


สุข จะมัวสนใจถ้อยคําว่าร้ายทําไม ก็แค่ลมปากของคน
ขีอิจฉาเท่านัน

เจียงอวีเอ๋อขบคิดอย่างรวดเร็ว

8
โจวเยียนปั งเห็นหญิงสาวในฝันยืนนิงไม่เอ่ยวาจาก็นกึ ว่า
เจียงหลีกาํ ลังเขินอาย จึงเดินเข้าไปใกล้อีกเล็กน้อย แล้ว
เอ่ยด้วยความตืนเต้น “ข้านึกว่าเจ้าจะไม่มาเสียแล้ว คิด
ไม่ถงึ ...” เขากุมมือหญิงสาวไว้ “เจ้ายังตัดใจจากข้าไม่ได้
จริงๆ”

โจวเยียนปั งไม่อาจปิ ดบังความประหม่าได้ หลายวันมา


นีเจียงหลีทาํ ตัวห่างเหิน ไม่วา่ เขาจะพยายาม
แสดงออกอย่างไร เจียงหลีก็ยงั คงทําตัวราวกับคนแปลก
หน้า

ยิงตีตวั ออกห่างก็ยงอยากครอบครอง
ิ เมือเขาได้พบเจียง
หลีในวังอีกครัง หัวใจก็สบั สนว้าวุน่ ทังๆ ทีรูว้ า่ การลอบ
9
นัดพบกับนางภายในวังหลวงเป็ นเรืองร้ายแรง หากมีคน
มาพบเข้า เจียงหลีคงไม่พน้ ถูกคนครหา แต่โจวเยียนปั ง
ก็ยงั ส่งกระดาษแผ่นนันไปให้

เดิมทีโจวเยียนปั งคิดว่าเจียงหลีคงจะไม่มาตามนัด แต่


ในใจก็ยงั แอบคาดหวัง เจียงหลีเคยกระโดดนําฆ่าตัว
ตายเพือเขามาแล้ว นางอาจยังคิดถึงความสัมพันธ์หน
หลังขึนมาก็ได้

ตอนนีเมือเห็นเจียงหลีปรากฏกายอยูต่ รงหน้า โจวเยียน


ปั งก็รูส้ กึ ยินดีจนยากจะระงับ ทังยังอดภาคภูมิใจเล็ก
น้อยไม่ได้

10
เจียงอวีเอ๋อถูกโจวเยียนปั งเอือมมือมาจับไว้ก็ได้แต่นิงงัน
นางไม่กล้าพูดอะไรออกมา ด้วยเกรงว่าโจวเยียนปั งจะรู ้
ว่านางเป็ นใคร อีกทัง เจียงอวีเอ๋อยังรูส้ กึ ว่าบริเวณทีมือ
สัมผัสกันนันช่างร้อนวูบวาบ ขณะทีสมองพร่าเลือนไม่
กระจ่างชัด ร่างกายพลันโอนเอนอยากซวนซบโจวเยียน
ปั ง

ครันโจวเยียนปั งสัมผัสไอร้อนจากเนือตัวของอีกฝ่ ายก็


เอ่ยขึนอย่างประหลาดใจ “เหตุใดตัวเจ้าถึงร้อนแบบนี
คุณหนูรอง เจ้า...”

เจียงอวีเอ๋อส่งเสียงครางเครืออยูใ่ นลําคอ สองขาโอน


เอนไปมาไม่มนคงนั
ั ก

11
โจวเยียนปั งพลันเอือมมือประคองนางไว้ตาม
สัญชาตญาณ สองมือโอบเอวคอดของหญิงสาว จรุง
กลินหอมในอ้อมกอด ปลายนาสิกยังได้กลินเรือนผม
หอมของโฉมสะคราญ หัวใจของโจวเยียนปั งพลันเต้นรัว

เดิมทีเขาก็มีใจให้เจียงหลีอยูแ่ ล้ว วันนียังดืมสุราเข้าไป


ไม่นอ้ ย จึงฉวยโอกาสกอดหญิงงามเข้าไว้ในอ้อมแขน
พลางกล่าวอย่างรักใคร่ “หลีเอ๋อ”

เจียงอวีเอ๋อรูส้ กึ จักจีบริเวณทีมือหนาของโจวเยียนปั ง
โอบกอด แทบไม่อยากตืนจากภวังค์ แล้วปล่อยให้
ทุกอย่างเป็ นไปตามสัญชาตญาณ เช่นนีถึงจะผ่อน
คลายความเร่าร้อนภายในจิตใจลงได้ เจียงอวีเอ๋อพลัน
12
อิงแอบแนบกายโจวเยียนปั ง พลางร้องครางในลําคอ

โจวเยียนปั งนึกสะดุดใจ มองท่าทางซวนเซของหญิงสาว


แล้วคิดว่า คืนนีเจียงหลีคงดืมเข้าไปไม่นอ้ ย กระทังเมา
มายจนไม่รูต้ วั ว่ากําลังทําอะไรอยู่ เห็นอีกฝ่ ายดินรนอยู่
ในอ้อมกอดของตน โจวเยียนปั งก็ถกู เพลิงปรารถนารุม
เร้า ใช่วา่ เขาจะเป็ นคุณชายทีไม่รูจ้ กั วิธีเข้าหอทีจวนมี
สาวใช้คอยสอนประสบการณ์ให้เขามานมนาน ชาย
หนุ่มจึงไม่มีความลังเลใดๆ

ภายใต้หอ้ งหับอันมืดมิด โจวเยียนปั งค่อยๆ โน้มตัวทาบ


ทับร่างของ ‘เจียงหลี’ ทีอยูใ่ นอ้อมแขนลงบนเตียงหลัง
ม่านไหม ภายในห้องมีเสียงเตียงลันดังกึกกัก ระหว่าง
นันยังมีเสียงอืนๆ แทรกขึนมาจากการกระทําอันน่าอับ
13
อาย

ณ ศาลากลางนํา จีซูหรันกับเจียงโย่วเหยา และคนอืนๆ


ยังคงชมดอกบัวอย่างสบายอุรา

หลิวฮูหยินเอ่ยถามหลิวสวี “เหตุใดถึงไม่เห็นคุณหนูรอง
เล่า”

หลิวสวีพลันตอบ “เห็นบอกว่าเวียนศีรษะ เลยจะไปพัก


ผ่อนทีห้องนําชาสักครูเ่ จ้าค่ะ”

หลิวฮูหยินขมวดคิวมุน่ ไม่รูว้ า่ เพราะเหตุถงึ ว้าวุน่ ใจขึน


มา
14
จีซูหรันกําลังยิมร่าฟั งฮูหยินท่านอืนๆ ชืนชมในตัวเจียง
โย่วเหยา แม่นมซุนทีอยูข่ า้ งกายพลันเดินขึนหน้ามาโน้ม
ตัวพูดคุยอะไรบางอย่างกับจีซูหรัน ครันจีซูหรันได้ฟังก็
พยักหน้า นัยน์ตาฉายแววดีอกดีใจ

เฉินจีฮูหยินเองก็มองมาทีจีซูหรัน เมือเห็นจีซูหรันยิม
อย่างพึงพอใจจึงพยักหน้ารับ

ส่วนนางหลูซือทีอยูอ่ ีกด้านก็สงั เกตเห็นพฤติกรรมทัง


หมด นางเหลือบมองทีนังว่างเปล่าของเจียงหลีแล้วก็
เหมือนจะเข้าใจอะไรขึนมาบ้าง จึงขยับเข้าไปใกล้จีซูห
รันแล้วเอ่ยถาม “สะใภ้ใหญ่ เหตุใดหลีเอ๋อถึงยังไม่กลับ

15
มาเล่า”

“หลีเอ๋อเวียนศีรษะมาก” จีซูหรันตอบพร้อมรอยยิม “ไม่


นึกว่านางดืมสุราไม่เป็ นแม้แต่นอ้ ย จริงสินะ ทีผ่านมา
นางอยูบ่ นเขาชิงเฉิงซานนานแปดปี สํานักนางชีไม่
อนุญาตให้ดืมสุรา นางย่อมไม่เคยได้แตะต้อง เหล้าผล
ไม้แค่นีถึงทําให้เมาเสียแล้ว”

จีซูหรันขุดคุย้ เรืองทีเจียงหลีทาํ ร้ายแม่เลียงสังหารน้อง


ชาย จนถูกขับไล่ออกจากจวนในตอนนันขึนมาอีกครัง
ฮูหยินรอบข้างต่างซุบซิบนินทาเป็ นการใหญ่

นางหลูซือได้แต่ยมเจื
ิ อนๆ ด้วยไม่อยากเห็นท่าทางได้ใจ

16
ของจีซูหรัน จึงกล่าวว่า “ข้าเห็นว่า หาคนไปเฝ้าเจียงหลี
สักหน่อยก็คงดี วังหลวงแห่งนีกว้างใหญ่นกั อีกทังนาง
เองก็เพิงเคยเข้าวังเป็ นครังแรก อาจจะหลงทางก็เป็ นได้”

“ไม่เป็ นไรหรอก” จีซูหรันยิมอย่างอ่อนโยน “อวีเอ๋อก็อยู่


กับนางด้วย ไหนจะนางกํานัลนําทางอีกเล่า น้องสะใภ้
อย่ากังวลเรืองความปลอดภัยไปเลย ในวังมีทหาร
รักษาการณ์อยู”่

นางหลูซือไม่มีอะไรจะพูดอีก อย่างไรเสียนางก็ไม่อาจ
คลางแคลงใจในความปลอดภัยของวังหลวง อีกทัง
ไทเฮาก็ยงั อยูท่ ีนีด้วยเช่นกัน

17
บทที 79 หญิงคนนันไม่ใช่ใครทีไหน

จีซูหรันดีใจนัก เมือสักครูเ่ พิงรูข้ ่าวดีวา่ เจียงหลีกบั เย่ซือ


เจียเข้าไปในห้องนําชาแล้ว อีกทังในห้องยังจุดธูป
รัญจวน เข้าใจว่าตอนนีน่าจะกําลังเคล้าคลอกันอยู่

รอให้ผา่ นไปอีกสักพัก ให้คนและหลักฐานสมบูรณ์พร้อม


พวกนางก็จะสามารถตังข้อกล่าวหาว่า ‘พบ’ เจียงหลีกบั
เย่ซือเจียลักลอบมีสมั พันธ์ แล้วนําเรืองราวฉาวโฉ่นีออก
มาแสดงให้คนทังหลายได้รบั รู ้

คราวตายของเจียงหลีมาถึงแล้ว จีซูหรันลูบเรือนผมดก

1
ดําของเจียงโย่วเหยา ในใจมีแต่ความปี ติยินดีอย่างผู้
ชนะ

ระเบียงทางเดินทอดยาวในวังหลวงเงียบสงัด

ใต้หลังคาโค้งมีตะเกียงแขวนไว้ ยามคําคืนเมือถูกลมพัด
พาก็จะแกว่งไกวน้อยๆ เงาทีทอดผ่านจึงให้ความรูส้ กึ
เยือกเย็น

วังหลวงกว้างใหญ่นกั เจียงหลีเยืองย่างอย่างเชืองช้า

นางไม่ได้รบี ร้อนทีจะไปดูให้เห็นกับตาว่าเจียงอวีเอ๋อ
‘อยูก่ บั ’ โจวเยียนปั งหรือไม่ เพราะรูแ้ ก่ใจว่าคนทีฐานะ
2
ตําต้อยแล้วยังไม่เจียมตัวอย่างเจียงอวีเอ๋อจะต้องมีจิต
คิดทะเยอทะยาน แค่ถกู ยัวยุเข้าหน่อยย่อมเอนเอียงได้
ง่าย

เดินๆ ไปก็ผา่ นมาเห็นสวนดอกไม้ฝังตรงข้าม ปรากฏเงา


ร่างของคนทีคุน้ เคย

เป็ นคุณหนูของขุนนางผูห้ นึงกําลังยืนอยูก่ บั สาวใช้ คุณ


หนูผนู้ นแต่
ั งกายด้วยอาภรณ์ลาค่
ํ า บนศีรษะมีปินห้าสีที
นําเข้าจากต่างแดนประดับอยู่ ปิ นนันมีราคาหลายร้อย
ตําลึง เพียงแต่คณ
ุ หนูทีแต่งกายด้วยของลําค่าผูน้ ี ดูจะ
ไม่คอ่ ยรืนรมย์สกั เท่าไร “คนพวกนันพูดแต่เรืองน่าเบือ
อยากฟั งเรืองของพีชายข้าจากปาก ไม่รูจ้ กั มองตัวเอง
เสียบ้าง พวกนางเหมาะสมกับพีชายของข้าอย่างนันรึ”
3
เจียงหลีได้ฟัง รอยยิมทีมุมปากก็คอ่ ยๆ จางหายไป

หญิงคนนันไม่ใช่ใครทีไหน นางก็คือน้องสาวของเสินอ
วีหยง อดีตสามีของนาง

เสินหรูอวินคงจะออกมาเดินเปลียนบรรยากาศ จึงไม่ได้
อยูก่ บั เสินฮูหยิน ครันเจียงหลีนกึ ถึงคําพูดของนางเมือ
สักครู ่ ก็อดขบขันไม่ได้

คนทีมาในงานวันนีล้วนเป็ นบุตรีของเจ้านายตระกูล
ใหญ่ ต่อให้เป็ นขุนนางชันผูน้ อ้ ย ก็ยงั คงเป็ นคุณหนูลกู ผู้
มีเกียรติ เสินหรูอวินพูดจาเกินเหตุไปมาก ฐานะอย่าง

4
เสินอวีหยงหากไม่ได้เป็ นขุนนาง แล้วยังไม่มีบิดา
ตําแหน่งใหญ่โตหนุนหลัง แม้จะเป็ นชายหนุ่มมากความ
สามารถ แต่ลาํ พังอํานาจของเขาก็นบั ว่าไร้นาหนั
ํ กยิง
บุรุษทีมีชาติตระกูลสูงส่งกว่าเสินอวีหยงในเมืองเยียนจิง
นันมากมายจนนับไม่ถว้ น แต่เสินหรูอวินกลับรูส้ กึ ว่า
สตรีเหล่านีล้วนไม่อาจเคียงคูก่ บั เสินอวีหยง

เจียงหลีเข้าใจเป็ นอย่างดี เสินหรูอวินกล่าวเช่นนีก็เพราะ


พีสะใภ้ในดวงใจของนาง มีเพียงองค์หญิงหย่งหนิง--เชือ
พระวงศ์ผสู้ งู ศักดิ

บุตรสาวของพวกขุนนางเหล่านันหรือจะเทียบกับองค์
หญิงหย่งหนิงได้

5
ขณะนัน จู่ๆ เจียงหลีก็เกิดความคิดแปลกๆ ขึนมา

นางรูซ้ งถึ
ึ งสิงทีฝังอยูใ่ นก้นบึงแห่งจิตใจของเสินหรูอวิน
ยกตัวอย่างเช่น ทีนางออกมาสูดอากาศด้านนอกตอนนี
เจียงหลีมนใจว่
ั าเป็ นเพราะนางไม่เห็นแม้เงาของโจว
เยียนปั ง ในเมือรูค้ วามลับของเสินหรูอวิน หากไม่นาํ มา
ใช้ให้เป็ นประโยชน์ ก็ไม่สมควรเกิดมาเป็ นพีสะใภ้ใน
ชาติก่อนแล้ว

คิดมาถึงตรงนี เจียงหลีก็ยกยิมบางๆ พลางก้าวออกมา


ปรากฏตัวช้าๆ แล้วเอ่ยเรียก “คุณหนูเสิน”

6
ทันทีทีเสินหรูอวินได้ยินเสียงร้องทักก็ตกใจเล็กน้อย ครัน
หันไปมองแล้วเห็นว่าเป็ นเจียงหลีก็ขมวดคิวมุน่ ฝื น
ตอบกลับไปว่า “คุณหนูรองเจียง”

เสินหรูอวินรูจ้ กั คุณหนูรองเจียงผูน้ ี ไม่วา่ จะเป็ นเรืองส่วน


ตัวหรืออืนใด นางก็ไม่ชอบใจในตัวอีกฝ่ ายนัก แค่เรืองที
เจียงหลีเคยเป็ นคูห่ มันคูห่ มายของโจวเยียนปั ง ก็เพียง
พอให้เสินหรูอวินไม่อยากจะเห็นหน้าอีกฝ่ ายแล้ว

เจียงหลีสง่ ยิมให้เสินหรูอวิน “คุณหนูเสิน เหตุใดถึงออก


มาเดินอยูต่ รงนีเล่า”

เสินหรูอวินตอบอย่างยโส “เจ้าเองก็ออกมาเช่นกันไม่ใช่

7
รึ”

เจียงหลีพลันส่ายหน้า “เป็ นเพราะข้าดืมเหล้าผลไม้มาก


เกินไป ทําให้รูส้ กึ เวียนศีรษะ จึงออกมาเดินสูดอากาศให้
หายเมาเท่านัน” จบคําก็ทาํ เหมือนนึกอะไรขึนมาได้
พลันกล่าวพร้อมรอยยิม “คืนนีช่างชะตาต้องกันเสียจริง
ถึงบังเอิญได้พบคนรูจ้ กั ตังหลายหน เมือสักครูก่ ็เพิงเจอ
คุณชายโจว ไม่นกึ ว่าตอนนียังมาพบกับคุณหนูเสินอีก”

“คุณชายโจวรึ” เสินหรูอวินได้ยินคําว่า ‘คุณชายโจว’


สามพยางค์นี ก็ถามอย่างรีบร้อน “ทายาทท่านหนิง
หย่วนโหวหรือ”

8
“ใช่แล้ว”

เสินหรูอวินมองเจียงหลีดว้ ยความหึงหวง “ความสัมพันธ์


ระหว่างเจ้ากับคุณชายโจวคงลึกซึงไม่เบา”

เจียงหลีหวั เราะอย่างลืมตัว “มิได้เป็ นเช่นนัน แค่บงั เอิญ


ผ่านมาเจอกันเพียงชัวครู ่ คุณชายโจวกําลังจะไปทีหออวี
ซิวเพือพักผ่อน พวกเราก็เลยเดินสวนกัน” นางชีมือออก
ไป “ทีนันอย่างไรเล่า”

“หออวีซิว อุทยานตะวันออกน่ะรึ” เสินหรูอวินถาม

“ใช่แล้ว ข้าเห็นคุณชายโจวดืมเข้าไปไม่นอ้ ย คงจะรูส้ กึ


9
ไม่สบายตัว” เจียงหลียิมรืน “ข้าคงต้องขอตัวกลับไปหา
ท่านแม่แล้ว คุณหนูเสินอย่ารังอยูใ่ ห้นานนักเล่า ด้าน
นอกอากาศเย็นแล้ว” จบคําก็อาํ ลาเสินหรูอวิน แล้วหมุน
ตัวจากไป

เสินหรูอวินอึงงันอยูก่ บั ที นัยน์ตาฉายแววลังเลออกมา
ขณะกัดริมฝี ปากอยูต่ ลอดเวลา ราวกับตัดสินใจไม่ได้

สาวใช้ขา้ งกายพลันเอ่ยถามเสียงเบา “คุณหนู ตอนนี...”

“ไป พวกเราไปเยือนหออวีซิว อุทยานฝังตะวันออก”


เสินหรูอวินตัดสินใจแน่วแน่

10
“คุณหนู แบบนีไม่ดีกระมังเจ้าคะ”

“จะไม่ดีได้อย่างไร ข้าแค่บงั เอิญเดินผ่านไปเจอเขาเท่า


นัน” เสินหรูอวินตวาดเสียงแข็งแล้วพาสาวใช้มงุ่ หน้าไป
ยังหออวีซิว ณ อุทยานฝังตะวันออก

หลังจากสองนายบ่าวเดินจากไป เจียงหลีก็เดินออกมา
จากหลังเงาไม้

เสินหรูอวินช่างมัวเมาเสียจริง

นางกําลังครุน่ คิดว่าจะทําอย่างไรให้ผคู้ นไปทีหออวีซิว ก็


พอดีวา่ เสินหรูอวินเข้ามาหาเรืองใส่ตวั คนทีลุม่ หลงจน
11
หน้ามืดตามัวอย่างเสินหรูอวิน หากเห็นชายทีตนหลงรัก
กําลังลอบมีสมั พันธ์กบั หญิงอืน ย่อมรับไม่ได้ และด้วย
นิสยั ใจร้อนวูว่ ามของน้องสาวอดีตสามีผนู้ ี เจียงหลีเชือ
ว่าทันทีทีเสินหรูอวินเห็นเหตุการณ์ จะต้องโหวกเหวก
โวยวายจนทําให้คนทีมาร่วมงานเลียงในวังได้รูเ้ รืองฉาว
โฉ่แน่

ในเหตุการณ์ครังนี แต่ละคนล้วนได้รบั ผลกรรมแตกต่าง


กันไป เจียงหลีพงึ พอใจนัก

ขณะทีนางกําลังทอดน่องครุน่ คิด เดินไปได้สกั พัก พลัน


สังเกตเห็นเงาร่างของคนสองคนกําลังพูดคุยกันอยูไ่ ม่
ไกล ฝ่ ายทีอยูใ่ นเงามืดนันราวกับดวงจันทร์ทีกําลังทอ
แสงกระจ่าง ดึงดูดสายตาคนให้จบั จ้องไปยังร่างของเขา
12
ชายหนุ่มในอาภรณ์สีแดงยิงมีเสน่หใ์ นยามราตรี เขา
กําลังก้มหน้าคุยอะไรบางอย่างกับคนทีอยูฝ่ ังตรงข้าม
เนืองจากแสงไฟนันรางสลัว อีกทังเขายังหันด้านข้างให้
กับเจียงหลี ทําให้นางมองไม่เห็นสีหน้าและแววตาของ
เขา

นึกไม่ถงึ ว่าจะมาพบซูก่ วกงที


ั นี

เจียงหลีหวาดหวันขึนมา ความรืนรมย์ทีได้แกล้งเสินหรู
อวินเมือสักครูก่ ็พลอยหมดสนุกไปด้วย

ทุกครังทีเห็นซูก่ วกง
ั เจียงหลีจะรูส้ กึ ไม่เป็ นตัวของตัวเอง

13
เอาเสียเลย อาจเป็ นเพราะซูก่ วกงรู
ั ปงามเกินไป หรือ
อาจเป็ นเพราะดวงตาทีดูเย็นชาคูน่ นของเขา
ั เป็ นดวงตา
ทีมีรอยยิมเสแสร้งทําให้ผทู้ ีถูกจับจ้องรูส้ กึ เหมือนถูก
สํารวจตรวจตราอย่างถีถ้วน

เจียงหลีพลันชะงักฝี เท้า ฝ่ ายของซูก่ วกงเองก็


ั รูส้ กึ ว่ามี
คนผ่านมาเช่นกัน จึงหันมองเจียงหลี ในใจของหญิงสาว
รูส้ กึ ยําแย่ แต่ก็แสร้งทําเป็ นสงบนิง นางคารวะซูก่ วกง

ตามธรรมเนียม แล้วเดินจากไปอีกทาง

ทําราวกับไม่ได้ตงใจ
ั เพียงผ่านมาพบซูก่ วกงโดยบั
ั งเอิญ
เท่านัน ผ่านมาแล้วผ่านไป ไม่มีอะไรมากกว่านี

14
ทว่าในใจกลับรูส้ กึ ว้าวุน่ นัก

นางคลับคล้ายคลับคลาว่าคนทีพูดคุยอยูก่ บั จีเหิงนัน
ช่างคุน้ ตา แม้จะนึกไม่ออกว่าเคยเจอกันทีไหน แต่เมือ
คนผูน้ นหั
ั นมา เจียงหลีก็ยงมั
ิ นใจว่านางต้องเคยพบกับ
อีกฝ่ าย

เจียงหลีไม่คอ่ ยเข้าใจนัก นางกับจีเหิงไม่รูจ้ กั กันมาก่อน


เคยเผชิญหน้ากันเพียงหนึงครัง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากไป
กว่านัน อีกทังในอดีตชาติก็ไม่เคยรูจ้ กั กัน รวมถึงนางไม่
เคยเกียวพันกับคนใกล้ตวั ของจีเหิง เขาผูน้ นจะต้
ั องเป็ น
คนของจีเหิงแน่ แต่วา่ เขาคือใครเล่า

15
ขณะทีกําลังครุน่ คิด ก็อดหาเหตุผลทีจีเหิงมาอยูต่ รงนีไม่
ได้ สามารถเดินอย่างองอาจไปทัววังหลวง ก็คงจะมีแต่ซู่
กัวกงเท่านัน ด้วยฮ่องเต้หงเซียวพระราชทานพระบรมรา
ชานุญาตให้เขาเป็ นกรณีพิเศษ ซึงก็นบั ว่าเป็ นเรือง
ธรรมดา เพราะขุนนางฝังหนึงเข้าร่วมกับตระกูลเจียง
ของนาง ส่วนอีกฝังก็เป็ นพรรคพวกของท่านเสนาบดีที
สวามิภกั ดิต่อเฉิงอ๋อง ดังนันเพือถ่วงดุลอํานาจ คนที
ฮ่องเต้หงเซียวสามารถพึงพาได้ก็มีแต่จีเหิง

อืม ท่านเสนาบดีรึ

เจียงหลีสะดุดใจ ดูเหมือนนางจะนึกอะไรขึนมาได้ คนที


พูดคุยกับจีเหิงเมือสักครู ่ ก็คือข้ารับใช้ของหลีจิง--บุตร
ชายคนโตของท่านเสนาบดีมิใช่หรือ
16
คุณชายใหญ่หลีมีคณ
ุ ธรรมเปี ยมความสามารถ ทังยัง
คบค้าสมาคมกับผูค้ นมากมาย เมือตอนทีเสินอวีหยง
สอบได้จอหงวน หลีจิงยังไม่ถือตัวว่าตนเป็ นบุตรชาย
ของท่านเสนาบดี แล้วเป็ นฝ่ ายมาแสดงความยินดีกบั
เสินอวีหยงก่อน ตอนนันเจียงหลียงั ติดตามเสินอวีหยง
ออกมาต้อนรับ จําได้วา่ หนึงในบรรดาผูต้ ิดตามอยูข่ า้ ง
กายหลีจิงก็คือคนผูน้ ี

17
บทที 80 เขาเป็ นกบฏรึ?

เจียงหลีมีความจําดีเลิศ นางจําท่าทางของคนผูน้ นได้



ชัดเจนราวกับเพิงเคยพบกันเมือวาน ไม่ผิดแน่

เขาก็คือคนของท่านเสนาบดี

เจียงหลีแจ้งแก่ใจในทันที ราวกับเพิงค้นพบความลับ
สําคัญบางอย่าง ต้องเข้าใจว่าจีเหิงเป็ นคนของฮ่องเต้หง
เซียว แต่เขากลับมาพูดคุยกับคนของหลีจิงเป็ นการส่วน
ตัว หรือว่าจีเหิงกับท่านเสนาบดีลอบติดต่อกันมานาน
แล้ว ถ้าเป็ นเช่นนันก็เท่ากับว่า ต่อหน้าทําเป็ นจงรักภักดี

1
แต่ลบั หลังกลับคิดการใหญ่ จีเหิงกลายเป็ นคนของท่าน
เสนาบดีไปแล้วหรือไม่ ต้องไม่ใช่แบบนัน ท่านเสนาบดี
ยังไม่น่าจะซือตัวจีเหิงได้ ถ้าอย่างนัน... จีเหิงน่าจะเป็ น
คนเลือกท่านเสนาบดีเสียเอง สรุปว่า... เขาเลือกเข้ากับ
ฝ่ ายเฉิงอ๋องรึ?

เขาเป็ นกบฏรึ?

ราวกับล่วงรูค้ วามลับของแผนการอันน่ากลัว ฝี เท้าของ


เจียงหลีพลันชะงัก ใจเต้นรัวไม่หยุด

ในชัวขณะนัน จู่ๆ ก็มีเสียงของคนทีอยูข่ า้ งหลังดังขึน


ราวกับรอจังหวะมานาน “คุณหนูรองเจียงไปพบเห็น

2
เหตุการณ์อะไรมาหรือ เหตุใดจึงดูหวาดกลัวเพียงนี”

เจียงหลีหนั หลังขวับ

พบว่าเป็ นจีเหิง นางไม่รูต้ วั เลยว่าอีกฝ่ ายติดตามนางมา


ตังแต่เมือใด จีเหิงอยูห่ า่ งตัวนางแค่หนึงกําปั น เพราะ
ส่วนสูงของเขาขณะพูดกับนางจึงต้องก้มลงเล็กน้อย พอ
ดีกบั ทีเจียงหลีหมุนตัวกลับมากะทันหันเกินไป ทําให้
แทบจะจมอยูใ่ นอ้อมอกของจีเหิง จึงถูกชายหนุ่มยกคอ
เสือขึนแล้วสบประสานสายตา

ดวงตาคูน่ นของเขางดงามนั
ั ก

3
เป็ นดวงตาทีดูดีอย่างยิง ทังเรียวยาวและกระจ่างใส หาง
ตาชีขึนเล็กน้อย สวยงามน่าหลงใหล ดวงตาคมสี
นําตาลวาววับ สามารถเห็นเงาของนางในดวงตาของจี
เหิงได้ นัยน์ตาทอประกาย ยามมองมาราวกับมีรอยยิมที
ส่งไปไม่ถงึ ดวงตา คล้ายดังพยายามสานสัมพันธ์ แต่ก็ดู
เหมือนไม่ได้มีใจให้แม้แต่นอ้ ย ไหนจะกลินอายสะกด
วิญญาณทีสามารถทะลุทะลวงจนผูท้ ีถูกมองรูส้ กึ กําซาบ
ซ่าน

ทว่าตัวเขาเองกลับเยือกเย็น

แม้จะแสดงท่าทางอ่อนโยนหรือหว่านเสน่หใ์ ห้คนลุม่
หลงภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาเช่นนี แต่เจียงหลีก็ยงั
สามารถสัมผัสได้ถงึ ความน่าหวาดหวันอันเย็นยะเยือก
4
เข้าถึงกระดูกดํา

เขาเป็ นปี ศาจทีสามารถอ่านใจผูค้ น

นับแต่เป็ นคุณหนูรองแห่งจวนตระกูลเจียง ได้เห็นหน้า


ค่าตากันมาก็หลายหน แต่นีเป็ นครังแรกทีนางได้มี
โอกาสพูดคุยกับเขา

เจียงหลีมองตาจีเหิง พยายามข่มอารมณ์ให้ดเู หมือน


สงบนิง แล้วกล่าวว่า “ท่านกัวกงล้อข้าเล่นเสียแล้ว”

จีเหิงคลายมือ คอเสือของเจียงหลีถกู ปล่อยโดยพลัน


“เจ้ามองไม่เห็นดวงตาของตน ไม่รูห้ รือว่ามันฉายแวว
5
สับสนร้อนรนแค่ไหน”

เจียงหลีถอยหลังไปหนึงก้าวโดยสัญชาตญาณ พยายาม
แยกตัวออกห่างจากเขา ราวกับรูส้ กึ ว่าเว้นระยะห่างเช่น
นีจึงจะทําให้ปลอดภัย “ท่านกัวกงดูผิดไปเสียแล้ว ข้าไม่
ได้รอ้ นรนสับสนแต่อย่างใด”

หากพูดกันตามเนือผ้า เจียงหลีแสดงออกด้วยอาการ
สงบนิงจนเกินไป ด้วยนางคิดว่าหากร้อนรนจนทําอะไร
ไม่ถกู เหมือนคุณหนูตระกูลใหญ่คนอืนๆ อีกฝ่ ายจะต้อง
ดูออกแน่

จีเหิงก้มหน้ามองนาง พินิจพิจารณาอยูค่ รูห่ นึง จู่ๆ ก็เอ่ย

6
ปาก “หรือว่า เจ้ารูจ้ กั กับคนทีข้าเพิงจะพบมาเมือสักครู”่

“ไม่รูจ้ กั ” เจียงหลีปฏิเสธ

จีเหิงเหมือนคิดอะไรได้ “ทุกครังทีได้พบกับคุณหนูรอง
เจียง ก็จะมีละครดีๆ ให้ดเู สมอ ในจวนกัวกงไม่เคยได้ดู
ละครทีสนุกสนานเช่นนีมาก่อน” เขาทําท่าปรบมือ
ประกอบ พัดสีทองทีถืออยูท่ อประกายระยับในยามราตรี
“น่าเสียดายจริงๆ”

“ท่านกัวกงดูผิดไปแล้ว” เจียงหลีกล่าว “ข้าไม่ใช่คนของ


คณะละคร และทีนีก็ไม่ใช่ลานแสดง”

7
“อย่างนันรึ” จีเหิงเม้มปาก “แต่เรืองทีเจ้าทําไปเมือสักครู ่
จัดการฉากระหว่างคุณหนูหา้ เจียงกับทายาทท่านหนิง
หย่วนโหว ช่างแยบยลจริงๆ”

เจียงหลีเกิดความหวันวิตก จีเหิงรูเ้ รืองพวกนัน

“ในเมือเป็ นเช่นนี แสดงว่าเจ้าไม่มีใจให้กบั โจวเยียนปั ง


โดยแท้ น่าเสียดายความจริงใจของชายผูน้ น”
ั จีเหิงถอน
หายใจ “แล้วยังทําให้คณ
ุ หนูตระกูลเสินต้องเข้าไป
พัวพันด้วย” ชายหนุ่มทําเสียงเข้ม “ละครฉากนีของคุณ
หนูรอง ไม่ธรรมดาเสียเลย”

ได้ยินถ้อยคําเหล่านันจากปากของชายหนุ่มรูปงามเช่นนี

8
ต่อให้เสียงของเขาจะดุดนั ก็ยงั ทําให้เกิดความลุม่ หลง
เจียงหลีรูส้ กึ ขนลุกขนชันไปทังแผ่นหลัง

เหตุการณ์ตา่ งๆ ในวังหลวงแห่งนี มีอะไรทีเขาไม่รูบ้ า้ ง


หรือว่า แม้แต่เรืองทีเสินอวีหยงกับองค์หญิงหย่งหนิง
ลักลอบมีสมั พันธ์ ก็ไม่รอดพ้นจากสายตาของคนผูน้ ี

สีหน้าของเจียงหลีพลันซีดเผือด สิงนีทําให้จีเหิงรูส้ กึ ว่า


เรืองราวเริมสนุกยิงขึน “คุณหนูรองเจียงกําลังคิดอะไร
อยูห่ รือ”

เจียงหลีเงยหน้าขึนมองตรงไปทีจีเหิง เพียงชัวพริบตา
นางก็ตดั สินใจกล่าว “ท่านกัวกงชอบดูละครก็เชิญชม

9
เถิด แต่วา่ การดูละครไม่ควรเปิ ดเผยเนือหา นีเป็ นวิถีที
ยึดถือกันมาแต่ดงเดิ
ั ม คิดว่าท่านกัวกงก็คงเข้าใจ”

จีเหิงได้ฟังก็เบียงกายเล็กน้อย แล้วเอ่ยด้วยนําเสียง
กํากวมยิงขึน “หากข้ายังยืนกรานจะเล่าเนือหา เจ้าจะ
ทําอะไรข้าได้”

“เช่นนัน ข้าก็คงทําได้เพียงจากคณะละครไป” เจียงหลี


วางเดิมพันในใจ แล้วตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย

จีเหิงชายตามองเจียงหลีแวบหนึง ก่อนจะยกยิมกล่าวว่า
“วางใจเถิด ข้าจะไม่พดู อะไรทังนัน” เขาใช้พดั ปั ดแขน
เสือทีไร้ฝนุ่ ละออง “หากแพร่งพราย ต่อไปจะไม่มีละคร

10
ให้ดอู ีก แบบนัน... น่าเสียดายแย่”

เจียงหลีได้ฟังก็โล่งใจ

แม้จะเป็ นคําพูดทีจีเหิงเอ่ยลอยๆ ออกมา แต่ดว้ ยนิสยั


ของเขาก็คงจะทําตามวาจาสัตย์ “เช่นนันก็ขอบพระคุณ
ท่านกัวกงยิงนัก”

“ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับเย่ซือเจียดูเหมือนไม่เลวที
เดียว” จู่ๆ จีเหิงก็พดู ถึงเย่ซือเจียขึนมา “เรืองในวันนี
พวกเจ้าดูกลมเกลียวกันเป็ นอย่างดี แสดงละครได้เข้าขา
โดยไม่ตอ้ งฝึ กซ้อม” จีเหิงกล่าว “เย่ซือเจียสนิทสนมกับ
เจ้ารึ”

11
ใคร่ครวญในใจอย่างรวดเร็วอยูห่ ลายตลบ ในทีสุดเจียง
หลีจงึ ตอบว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับพีซือเจียก็
เป็ นเช่นลูกพีลูกน้องทัวไป มิได้พดู คุยอะไรกันมากนัก ข้า
ไม่คอ่ ยรูเ้ รืองของพีชายสักเท่าไร เหตุการณ์ในวันนีเป็ น
แค่ความบังเอิญ”

จีเหิงได้ฟังพลันยกยิมราวกับมีความคิดบางอย่าง ทว่า
เขาก็ไม่เอ่ยอะไรออกมา แต่พอเจียงหลีมองตาจีเหิง
นางกลับรูส้ กึ อึดอัดนักยังดีทีคนผูน้ ีมิได้ดงึ ดันจะซักไซ้
นางต่อ จีเหิงเพียงกล่าวว่า “เชิญไปได้”

เจียงหลียอ้ นถาม “ว่าอย่างไรนะ”

12
“เจ้าจะไปชมละครมิใช่หรือ” เขากล่าวอย่างเรียบเฉย
“ข้าย่อมไม่พลาดเช่นกัน”

เจียงหลีพดู อะไรไม่ออก “...”

นางไม่อยากอยูใ่ กล้จีเหิงแม้แต่นอ้ ย ไม่ตอ้ งพูดถึงว่าคน


ในจวนตระกูลเจียงจะคิดอย่างไร แค่ถกู สายตาจับผิด
ของจีเหิงพินิจพิจารณา เจียงหลีก็รูส้ กึ ราวกับถูกสํารวจ
ตรวจตราจนทะลุปรุโปร่ง

แต่ถงึ อย่างไร นางก็ไม่อาจหลบเลียงข้อเรียกร้องของอีก


ฝ่ าย

13
เจียงหลีทาํ ได้เพียงออกเดินไปพร้อมกับจีเหิง

ณ ศาลากลางนํา นําชาบนโต๊ะถูกเติมมาแล้วไม่รูก้ ีครัง

ไทเฮาพระชนมายุมากแล้ว นังชมดอกบัวหลังจบงาน
เลียงได้สกั พักก็ตอ้ งกลับเข้าตําหนักเพือพักผ่อน แต่ไหน
แต่ไรหลิวไท่เฟยก็มกั จะเป็ นคูป่ รับกับไทเฮา พอไทเฮา
กลับไปแล้วก็พลอยรูส้ กึ หมดสนุก รังอยูไ่ ม่นานก็จากไป
เช่นกัน

บรรดาฮูหยินทังหลายทีอยูใ่ นศาลาเองก็เริมเบือหน่าย
เฉินจีฮูหยินประเมินสถานการณ์แล้วจึงเสนอว่า “นังอยู่

14
ตรงนีนานเข้าก็ชกั จะง่วงเสียแล้ว มิสลู้ กุ ขึนเดินยืดเส้น
ยืดสายจะดีกว่า ได้ยินว่าดอกบัวตรงศาลาสุดระเบียง
ทางเดินนันสีสดน่าชมนัก เห็นลีผินบอกว่าเมือไม่กีวัน
ก่อนมีดอกบัวจักรพรรดิบานสะพรังอย่างหาดูได้ยาก
พวกเราไปเปิ ดหูเปิ ดตาสักหน่อยดีไหม”

พอคําพูดนีออกมา บรรดาฮูหยินและคุณหนูทีมีทา่ ทาง


ง่วงงุนก็รูส้ กึ กระปรีกระเปร่ามีชีวิตชีวา

พลันมีคนเอ่ยขึนมา “บัวจักรพรรดิรึ ได้ยินว่าเมือก่อนที


สระนําในวัดไป๋ อวินก็มีอยูด่ อกหนึงเช่นกัน ผูค้ นแห่กนั ไป
ดูมากมาย กล่าวกันว่า หากได้ยลจะแคล้วคลาด
ปลอดภัย ในเรือนมีแต่ความสงบสุข”

15
“เป็ นเช่นนันจริงๆ” ลีผินกล่าวพร้อมรอยยิม “ฮูหยินทุก
ท่านสามารถร่วมชืนชมได้”

บรรดาฮูหยินและคุณหนูทีนังอยูใ่ นบริเวณนีดีใจถ้วน
หน้า ต่างปรารถนาจะชืนชมดอกบัวจักรพรรดิตามคํา
ของเฉินจีฮูหยิน

จีซูหรันยกยิม พลันลุกขึนยืนพลางกล่าว “หลีเอ๋อเองก็


อยูใ่ นห้องนําชาทีศาลาตรงสุดระเบียงทางเดิน นางเข้า
ไปพักผ่อนได้พกั ใหญ่ คงไม่รูส้ กึ เวียนศีรษะแล้ว ข้าจะได้
ถือโอกาสไปรับกลับบ้านพร้อมกันพอดี”

16
เจียงอวีเยียนพลันเอ่ยปาก “น้องห้าก็ยงั ไม่กลับมาเช่น
กัน”

เจียงหลีไปพักผ่อน แต่เจียงอวีเอ๋อแค่ผลัดเปลียนเสือผ้า
แล้วเหตุใดถึงยังไม่กลับมาอีก นางหยางซือเองก็สงั เกต
เห็นเช่นกัน พลันบ่นว่า “ลูกคนนี ไปหลงทางอยูท่ ีไหน
จนป่ านนียังไม่กลับมาอีก”

“ไม่ตอ้ งกังวลหรอก” เจียงโย่วเหยากล่าว “น้องห้ากับพี


รองไปด้วยกัน ไม่แน่วา่ ตอนนีน้องห้าอาจจะอยูก่ บั พีรอง
ก็ได้ เดียวพวกเราไปถึงห้องนําชาคงเจอพวกนาง”

ว่าแล้วคนทังหมดก็พากันมุง่ หน้าไปยังศาลาทีอยูส่ ดุ

17
ระเบียงทางเดิน

ไม่รูว้ า่ พระจันทร์ลบั หายเข้าไปใต้หมูเ่ มฆตังแต่เมือไร


แสงทีมีตอนนีจึงมืดสลัว

บงกชในสระถูกลมพัดจนโอนเอน มัจฉาทีแหวกว่ายอยู่
พอเห็นผูค้ นผ่านมา ก็พากันไปหลบอยูใ่ ต้ใบบัว

แสงไฟสะท้อนผิวนํา สันระริกเป็ นระลอกคลืน

18
บทที 81 พีรอง...

ระเบียงทางเดินทีดูทอดยาว ทว่าหากเดินพูดคุยสรวลเส
เฮฮา เพียงแค่แวบเดียวก็มาถึงจุดหมาย ทีสุดระเบียง
ทางเดิน มีบวั จักรพรรดิอยูก่ อหนึงดังคาด เพียงแต่ดอก
บัวจักรพรรดินีมิได้บานสะพรังเหมือนกับดอกบัวชนิดอืน
มีแค่ดอกเล็กๆ สองสามก้าน ไม่มีอะไรแปลกตา

ทําเอาผูช้ มทังหลายต่างรูส้ กึ ผิดหวัง

เพราะคํารําลือทีว่า ดอกบัวจักรพรรดิสามารถคุม้ ครอง


คนในบ้านให้เป็ นสุข จึงปรารถนาจะชืนชมสักครัง ครัน
ได้เห็นแล้วกลับรูส้ กึ ว่าทัศนียภาพตรงนีไม่อาจเทียบกับ

1
บรรยากาศทีศาลากลางนํา

จีซูหรันพลันเอ่ย “หลีเอ๋ออยูใ่ นห้องนําชา ข้าขอไปดูนาง


ก่อน หากท่านใดรูส้ กึ คอแห้งอยากดืมชา ก็เข้าไปด้วยกัน
เถิด”

เดินมาได้ถงึ ตรงนีก็มีฮหู ยินทีกระหายนําอยากดืมชา จึง


เดินไปพร้อมกับจีซูหรัน

จีซูหรันเดินไปถึงหน้าประตูหอ้ งนําชา

ในห้องนําชามีเพียงแสงตะเกียงสลัว มองเข้าไปผ่านทาง
หน้าต่างก็ไม่เห็นแม้เงาผูใ้ ด เงียบจนน่าประหลาด
2
เจียงโย่วเหยาแย้มยิม “พีรองนอนหลับไปแล้วหรือ เหตุ
ใดจึงเงียบเช่นนี ไม่ได้ยินเสียงอะไรสักนิด”

“ก็อาจเป็ นได้” จีซูหรันเอ่ยปากอย่างวิตกกังวล “เมือสัก


ครูก่ ็บน่ ว่าเวียนศีรษะ ตอนนีคงนอนหลับไปเสียแล้ว
เดียวก็ได้เป็ นหวัดกันพอดี” พูดแล้วก็รอ้ งเรียกเสียงเบา
พลางยืนมือออกไปเปิ ดประตู “หลีเอ๋อ”

ประตูหอ้ งนําชาไม่ได้ขดั กลอนไว้ เพียงออกแรงผลัก


เบาๆ ก็เปิ ดอ้า จีซูหรันสาวเท้าเข้าไป

ครันเข้ามาด้านในก็สมั ผัสได้วา่ มีบางอย่างผิดปกติ ยังไม่

3
ทันได้คิดอะไรก็เหลือบไปเห็นว่าทีโต๊ะนําชาภายใต้แสง
ไฟ เย่ซือเจียกําลังใช้มือเท้าคาง พลางขมวดคิวมองกลับ
มา

เสือผ้าอาภรณ์อยูใ่ นสภาพเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน บน


โต๊ะมีนาชาและของขบเคี
ํ ยววางอยูโ่ ดยทีภายในห้องไม่มี
แม้เงาของเจียงหลี

สภาพเช่นนีผิดกับความโกลาหลทีจีซูหรันคาดการณ์ไว้

จีซูหรันพลันหน้ามืด ฮูหยินท่านอืนๆ ทีอยูด่ า้ นหลังเดิน


ตามเข้ามาพร้อมกับเสียงแหลมๆ ของเจียงโย่วเหยา “พี
รอง...”

4
เสียงนันหยุดลงในฉับพลัน

ฮูหยินทีอยูด่ า้ นนอกต่างเห็นเย่ซือเจียซึงเป็ นบุรุษนังอยู่


ในห้องเพียงลําพังก็ตกใจ แต่ไม่นานก็มีคนจําได้วา่ เขา
คือเย่ซือเจีย ผูท้ ีสอบได้คะแนนเป็ นอันดับหนึงของสํานัก
บัณฑิตชาย และเพิงได้รบั พระราชทานตําแหน่งฮู่ปู้ พลัน
มีคนเอ่ยถาม “ท่านมาอยูท่ ีนีได้อย่างไร”

เจียงโย่วเหยาก้าวเข้ามาอย่างปี ติยินดี หมายจะได้เห็น


สถานการณ์โกลาหลของเจียงหลี แต่พอเห็นเย่ซือเจียนัง
อยูใ่ นสภาพปกติก็รอ้ งเสียงแหลมขึนมาทันใด “เจ้ามานัง
ทําอะไรอยูต่ รงนี แล้วพีรองของข้าเล่า..”

5
“พีรองของเจ้ารึ” เย่ซือเจียขมวดคิวกล่าว “คุณหนูรอง
เจียงรึ ข้าไม่เห็นคุณหนูรองแม้แต่เงา ข้าดืมสุราในงาน
เลียง เสร็จแล้วก็ให้นางกํานัลนําทางมา หวังจะพักผ่อน
อยูท่ ีนี ข้ามาถึงได้สกั ครูแ่ ล้วแต่ก็ไม่เห็นพีรองของเจ้า”
เขามองเจียงโย่วเหยา “คุณหนูรองคงจะออกไปนาน
แล้ว”

“เป็ นไปไม่ได้...” เจียงโย่วเหยาหัวเสียนัก “นางจะต้อง


ซ่อนอยูท่ ีไหนสักที นางอยูไ่ หน” ว่าแล้วก็ออกค้นหาให้
วุน่ วายไปทังห้อง

ฮูหยินทีอยูโ่ ดยรอบมองเจียงโย่วเหยาด้วยความ
ประหลาดใจ ทีเห็นนางแสดงปฏิกิรยิ าราวกับมันใจอย่าง
6
ยิงว่าเจียงหลีจะต้องอยูใ่ นห้อง เหมือนปรารถนาให้เป็ น
เช่นนันจริงๆ

เห็นสายตาของผูค้ นทีมองเจียงโย่วเหยา จีซูหรันพลันใจ


เต้นรัว รีบคว้าแขนบุตรสาว แล้วมองเย่ซือเจีย “โย่วเหยา
แค่เป็ นห่วงหลีเอ๋อเท่านัน ตอนนีก็ดกึ มากแล้วแต่หลีเอ๋อ
มาหายไป คงจะไม่ได้เกิดเรืองอะไรขึนหรอกกระมัง”

เย่ซือเจียแสยะยิมในใจ แต่ใบหน้ายังคงแสดงออกอย่าง
นอบน้อม พลางโบกไม้โบกมือกล่าว “ฮูหยินเป็ นกังวล
จนจิตใจวุน่ วาย สามารถเข้าใจได้ เพียงแต่...” เขากล่าว
อย่างมีมารยาท “ครังหน้าก่อนเข้าห้อง ควรจะรักษา
มารยาทโดยการเคาะประตูเสียก่อน”

7
จีซูหรันหน้าเห่อร้อนขึนมาทันที

นางตังใจอยากให้คนทังหลายได้เห็นสภาพอัปยศของ
เจียงหลีแล้วจะเคาะประตูได้อย่างไร แต่นีมันเรืองอะไร
กัน จีซูหรันเกิดความสงสัย ห้องนําชาก็เล็กแค่นี เจียงหลี
จะหลบไปไหนได้ อีกทังเย่ซือเจียก็ยงั แต่งกายเรียบร้อย
ในห้องไร้รอ่ งรอยใดๆ แล้วเจียงหลีเล่า เจียงหลีไปอยูท่ ี
ไหน

เย่ซือเจียลุกขึนยืน แสดงความเคารพต่อฮูหยินทังหลาย
เขาเป็ นบุรุษเพียงคนเดียว ยืนอยูท่ า่ มกลางสตรีมากมาย
อย่างไรก็รูส้ กึ ไม่สบายตัวนัก จึงคิดจะหลบฉากออกไป

8
เพิงเดินมาถึงประตู จู่ๆ ก็นิงงัน

“ฮูหยิน คุณหนูรองมาถึงแล้ว” เย่ซือเจียกล่าวกับคนใน


ห้อง

จีซูหรันตกตะลึง รีบเดินออกมาทีหน้าประตู ทันเห็นคน


เดินช้าๆ มาตามระเบียงทางเดิน ไม่ใช่เจียงหลีแล้วจะ
เป็ นใคร

ข้างกายเจียงหลียงั มีชายหนุ่มรูปงามในอาภรณ์สีแดง
ตามมาด้วย เป็ นซูก่ วกงจี
ั เหิงนันเอง

9
เจียงหลีเห็นผูค้ นทังหลาย ก็เงยหน้าถามด้วยความ
สงสัย “ท่านแม่... พวกท่านมาทําอะไรทีนี”

“หลีเอ๋อ” จีซูหรันซักไซ้ “เจ้าพักผ่อนอยูใ่ นห้องนําชามิใช่


หรือ เหตุใดเมือสักครูถ่ งึ ไม่พบเจ้า เห็นแต่...”

เจียงหลียิมรืน “ลูกอยูใ่ นห้องนําชาได้สกั พักก็ออกมาเดิน


หาห้องนํา แต่พอออกมาดันหลงทาง เดินวนอยูใ่ น
อุทยานตังนานสองนาน” เจียงหลีกล่าว “ยังดีทีได้พบกับ
ท่านกัวกง ท่านกัวกงเห็นลูกหลงทาง จึงพากลับมาส่ง
ลูกคิดจะมารอท่านแม่อยูใ่ นห้องนําชา ไม่นกึ ว่าพวกท่าน
จะมาถึงก่อนแล้ว มีอะไรกันหรือ” เจียงหลีมองจีซูหรัน
“เกิดเรืองอะไรขึนหรือเจ้าคะ”

10
จีซูหรันพูดอะไรไม่ออก

ซูก่ วกงจี
ั เหิงยืนอยูข่ า้ งกายเจียงหลี สอดคล้องกับคําพูด
ของนาง

จีซูหรันกัดฟั นจนแทบแหลกเป็ นผง

เจียงหลีเอียงคอมอง ครันเห็นเย่ซือเจียก็เกิดความสงสัย
“เหตุใดท่านถึงมาอยูท่ ีนีได้ ห้องนําชาในวังมีอยูม่ ากมาย
ห้องนําชาของบุรุษก็ไม่ได้อยูฝ่ ังนี...” เจียงหลีไม่ได้กล่าว
อะไรไปมากกว่านัน แต่นนก็
ั เพียงพอทีจะทําให้บรรดา
ฮูหยินทังหลายฉุกคิดขึนมา

11
หากเจียงหลีไม่ได้ไปห้องนําและไม่ได้หลงทาง นางกับเย่
ซือเจียก็คงต้องอยูใ่ นห้องเดียวกัน ถ้าคนอืนมาเห็นเข้า
ต่อให้ไม่มีอะไรก็ยากจะพูดให้ใครเข้าใจได้ สําหรับท่านฮู่
ปูท้ ีเพิงได้รบั ตําแหน่งมาหมาดๆ สิงนีย่อมไม่ใช่เรืองดีนกั
และแน่นอนทีสุดว่า สําหรับคุณหนูรองเจียงก็จะพลอย
เสือมเสียชือเสียงไปด้วย

มานึกทบทวนดูอีกครัง อากัปกิรยิ าอันผิดปกติเมือสักครู ่


ของคุณหนูสามยามก้าวเข้าไปในห้อง ราวกับมันใจว่า
คุณหนูรองต้องอยูใ่ นห้องนําชา ไหนจะท่าทางของจีซูห
รัน ตอนทีผลักประตูหอ้ งเข้าไปโดยไม่ได้เคาะประตูอีก
เล่า... ล้วนแต่เป็ นเรืองทีน่าขบคิด

12
จีซูหรันเห็นเจียงหลีพดู จาแต่ละคําล้วนเล็งเป้าเข้าหา
นาง พลันรูส้ กึ คับแค้นใจนัก แต่ก็ไม่รูจ้ ะตอบโต้กลับไป
อย่างไร ได้แต่สง่ สายตาขอความช่วยเหลือไปหาลีผินกับ
เฉินจีฮูหยิน

ขณะทีลีผินกําลังจะเอ่ยแก้สถานการณ์ ทันใดนันก็มีคน
วิงหน้าตาตืนเข้ามาหาฮูหยินของท่านหนิงหย่วนโหว ดู
เหมือนจะเป็ นสาวใช้ของโหวฮูหยิน

สาวใช้ผนู้ นรายงานด้
ั วยความตืนตระหนก “ฮูหยิน คุณ
ชายเกิดเรืองแล้วเจ้าค่ะ”

โหวฮูหยินรีบเอ่ยถามอย่างร้อนใจ “เกิดเรืองอะไร เหตุใด

13
ถึงแตกตืนเช่นนี”

สาวใช้กาํ ลังจะรายงาน พลันสังเกตเห็นสายตาแสดง


ความประหลาดใจของบรรดาฮูหยินทังหลายทีอยูโ่ ดย
รอบแล้วจู่ๆ ก็พดู อะไรไม่ออก ได้แต่อาๆ
ํ อึงๆ ด้วยใบ
หน้าทีแดงกํา

โหวฮูหยินเห็นท่าทางของสาวใช้ ในใจก็ยงวิ
ิ ตกกังวล
ทางด้านเจียงโย่วเหยา เมือเห็นเป็ นเรืองทีเกียวข้องกับ
ว่าทีสามี จึงอดเดินขึนมาซักถามไม่ได้ “คุณชายโจวเกิด
เรืองอะไรขึนรึ”

สาวใช้ผนู้ นยิ
ั งร้อนรน นางหลบเลียงไม่ตอบคําถามของ

14
เจียงโย่วเหยา แล้วมองไปยังนางหยางซือ

นางหยางซือเกิดความสับสนนัก จีซูหรันมองไปทีเจียง
หลีแวบหนึง เห็นอีกฝ่ ายยืนหยัดโดยไม่หวาดหวัน ซํามุม
ปากยังมีรอยยิม สิงน่ากลัวต่างๆ พลันปรากฏขึนเต็ม
สมอง

โหวฮูหยินกล่าวกับสาวใช้คนนัน “คุณชายอยูท่ ีไหน เจ้า


จงรีบพาข้าไปเดียวนี”

สาวใช้สะอืนไห้กล่าว “คุณชายอยูท่ ีหออวีซิว... แล้วยังมี


ผูอ้ าวุโสอีกจํานวนไม่นอ้ ย ฮูหยิน... คราวนีคุณชายแย่
แล้ว”

15
นางพูดจาคลุมเครือไม่กระจ่าง แต่เห็นท่าทางเช่นนีของ
สาวใช้ ผูค้ นทังหลายก็พอจะเข้าใจขึนมาบ้าง ท่าทางปิ ด
บังลับๆ ล่อๆ เช่นนี คงไม่พน้ ต้องเป็ นเรืองน่าอาย ในเมือ
มีผอู้ าวุโสหลายคนร่วมรับรู ้ เอาไว้กลับบ้านไปค่อยถาม
นายท่านของตนก็ยงั ไม่สาย

เมือโหวฮูหยินได้ยินสาวใช้กล่าวเช่นนันพลันซวนเซ แทบ
จะเป็ นลมล้มพับลงไป

เจียงหลียืนข้างกายจีเหิง ยังมีรอยยิมประดับอยูบ่ นใบ


หน้า จะว่าไปแล้วโจวเยียนปั งก็ใจกล้าไม่นอ้ ย ฮ่องเต้หง
เซียวและขุนนางน้อยใหญ่กาํ ลังหารือราชกิจอยูใ่ น
ตําหนัก ซึงห่างจากหออวีซิวไปไม่ไกลนัก สถานทีทัง
16
สองอยูใ่ กล้กนั ถึงเพียงนี พอเสินหรูอวินอาละวาดขึนมา
ในระยะเวลาอันสันผูอ้ าวุโสเหล่านันจึงมาทันเห็น
เหตุการณ์ทงหมด

จีเหิงรูส้ กึ สนุกขึนมา เขาเลียนแบบนาง โดยการยืนทํา


เป็ นทองไม่รูร้ อ้ น ใช้ดา้ มพัดแนบคาง อําพรางรอยยิมที
มุมปาก

เจียงโย่วเหยากังวลจนร้อนใจ นางไม่ไยดีอะไรทังนัน
“หออวีซิวรึ โหวฮูหยิน ข้าจะไปกับท่านด้วย... ท่านแม่”
นางดึงแขนเสือของจีซูหรัน “พวกเราก็ไปดูดว้ ยกันเถอะ”

จีซูหรันอยากจะเอามือปิ ดปากเจียงโย่วเหยาเสียจริง ต่อ

17
ให้ตอนนีอยากจะไปก็ไม่ควร แต่จะไม่ไปก็ไม่ได้ ในขณะ
นันหลิวฮูหยินพลันเอ่ย “ไม่วา่ อย่างไร อยูท่ ีนีต่อก็คงไม่ดี
สักประเดียวทุกท่านก็คงอําลากลับจวน อย่างไรพวกเรา
ออกไปจากห้องนีก่อน นีก็ดกึ มากแล้ว ต่างฝ่ ายต่างแยก
ย้ายกันกลับจะดีกว่า”

หลิวฮูหยินพูดเปิ ดทางให้กบั ทายาทของท่านหนิงหย่วน


โหว

18
บทที 82 เขา... รังแกลูก

โหวฮูหยินส่งยิมให้อย่างซาบซึงแล้วกล่าวสนับสนุน “ใช่
แล้ว ควรจะกลับกันไปก่อน” ขณะเดียวกันก็ออกเดิน
อย่างเลือนลอย

เจียงหลีมองเหตุการณ์ตรงหน้า จีซูหรันพลันเดินเข้ามา
มองตาเจียงหลีแล้วกล่าวเสียงเบา “หลีเอ๋อรูห้ รือไม่วา่
เกิดอะไรขึน”

เจียงหลีแสดงแววตาประหลาดใจได้อย่างเหมาะสม
นางส่ายหน้าปฏิเสธ “ลูกอยูก่ บั ท่านซูก่ วกง
ั จะรูเ้ รืองคุณ

1
ชายโจวได้อย่างไร ท่านแม่พดู จาแปลกนัก”

จีซูหรันหันไปมองจีเหิง หน้าตาหล่อเหลากอปรกับ
นัยน์ตาสีนาตาลเข้
ํ มคูน่ นที
ั ชําเลืองมองนางแวบหนึง ทํา
ให้จีซูหรันรูส้ กึ หนาวยะเยือกเข้าไปถึงกระดูก

นางฝื นยิมออกมา แล้วก็เดินตามเฉินจีฮูหยินไปเพือขอ


คําปรึกษา

เย่ซือเจียทีอยูด่ า้ นหลังสบตากับเจียงหลี เป็ นเพราะจีเหิง


ทําให้พดู คุยกับนางไม่สะดวก ได้แต่ขยับริมฝี ปาก แล้ว
ก้มหัวเดินตามฝูงชนออกไป

2
จีเหิงกับเจียงหลีอยูร่ งท้
ั าย

หญิงสาวพยายามเร่งฝี เท้า ตังใจจะทิงระยะห่างจากจี


เหิง เจียงหลีตงหน้
ั าตังตาจําอ้าว แต่จีเหิงขายาวกว่านาง
เขาเยืองย่างสบายๆ ก็ยงั สามารถเดินเคียงกับเจียงหลีได้

ชายหนุ่มกล่าวเนิบๆ “ความสามารถด้านการละครของ
คุณหนูรองเจียง โดดเด่นกว่านายละครหลิวจากคณะ
ละครเซียงซือปั นเสียอีก”

เจียงหลีใจหายวาบ นายละครหลิวจากคณะละครเซียง
ซือปั นผูน้ นั เป็ นเพราะอยากขึนเตียงมีสมั พันธ์กบั หญิง
สาว จึงถูกเจ้านายทีอยูต่ รงหน้าคนนีหักแข้งหักขาแล้ว

3
โยนทิงไป

จีเหิงคงมิได้กล่าวอะไรแฝงความนัยหรอกกระมัง

เจียงหลีครุน่ คิดอยูค่ รูห่ นึง จึงกล่าวว่า “ท่านกัวกงเข้าใจ


ผิดแล้ว ข้าไม่สนใจเรืองการละคร”

“ไม่จาํ เป็ นต้องสนใจหรอก” จีเหิงอมยิมบางๆ “ทําออก


มาได้สนุกก็พอ”

เจียงหลีไม่รูจ้ ริงๆ ว่าซูก่ วกงท่


ั านนีหมายความว่าอย่างไร
แต่นางก็จาํ เป็ นต้องรับมือจีเหิงอย่างไว้ไมตรี ด้วยอีก
ฝ่ ายดูทา่ จะไม่ใช่คนดีมีคณ
ุ ธรรม
4
เงาด้านหลังของคนทังคู่ หนึงเพรียวระหงอีกหนึงภูมิฐาน
ไร้ความเกียวพันต่อกันอย่างเห็นได้ชดั ทว่าแสงซึงสาด
ลงมาทําให้เงาทอดยาวของคนทังคู่ ดูเหมาะสมกันอย่าง
ยิง

หลังกลับออกจากศาลา เพือจะไปรอนายท่านของแต่ละ
จวน

ขณะกําลังเดินอยูน่ นั จู่ๆ ฮูหยินทังหลายก็ได้ยินเสียง


หญิงสาวนางหนึงดังขึน “ท่านแม่”

นําเสียงแหลมสูงนันฟั งดูหวาดหวัน ครันผูค้ นหันไปมอง

5
ก็พบว่าทีด้านนอกของหออวีซิว มีหญิงสาวแต่งกายไม่
เรียบร้อยนางหนึง วิงกระเจิดกระเจิงตรงไปหามารดา
ของเสินอวีหยง

หญิงผูน้ นก็
ั คือเสินหรูอวิน

แม้แต่เจียงหลีก็ยงั รูส้ กึ แปลกใจไม่นอ้ ย เดิมทีนางแค่ตอ้ ง


การให้เสินหรูอวินเห็นเจียงอวีเอ๋อกับโจวเยียนปั งลักลอบ
มีสมั พันธ์แล้วเกิดริษยาจนเป็ นเหตุให้ผคู้ นรูก้ นั ไปทัว แต่
ตอนนีอาภรณ์ของเสินหรูอวินเองก็อยูใ่ นสภาพทีไม่เรียบ
ร้อย ผมเผ้ายุง่ เหยิง ไม่รูว้ า่ เกิดอะไรขึน

หรือว่ายังมีอะไรเหนือความคาดหมายเกิดขึนอีก

6
หลิวฮูหยินจูงมือหลิวสวี จากไปด้วยใบหน้าเปื อนยิม

เมือครู ่ ผูค้ นมัวแต่สนใจสาวใช้ทีมาส่งข่าวให้กบั โหวฮูห


ยิน แต่นางได้ยินสาวใช้คนนันพูดออกมาสามพยางค์วา่
‘หออวีซิว’ หลิวฮูหยินจําได้แม่นยําว่าเส้นทางออกจากวัง
ต้องผ่านหออวีซิว จึงเสนอให้ทกุ คนแยกย้ายกลับจวน
ด้วยความกระวนกระวายใจ ทําให้โหวฮูหยินไม่ทนั คิดให้
รอบคอบ ต่อให้เป็ นคนทีรูจ้ กั ทางเข้าออกวังหลวงดีอย่าง
ลีผิน ต่างก็กนั ตัวเองออกมาจากสถานการณ์ จึงไม่ได้คดั
ค้านใดๆ

หลิวฮูหยินกับคนในจวนหนิงหย่วนโหวมิได้มีความแค้น
ต่อกัน เพียงแต่ตอ้ งการจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กบั
7
เจียงหลี เห็นได้ชดั ว่าบุตรสาวของสหายรักเป็ นเด็กสาว
น่ารักทีรูจ้ กั วางตัว แต่ตอ้ งประสบเรืองเลวร้ายมากมาย
เช่นนี คนของจวนหนิงหย่วนโหวก็ไม่รกั ษาคําพูด เปลียน
ข้อตกลงเรืองการแต่งงานไปเสียดือๆ ตอนนีโจวเยียนปั ง
เกิดเรือง หลิวฮูหยินจึงไม่รูส้ กึ เห็นใจ กลับยินดีเสียด้วย
ซําทีสวรรค์มีตา ในเมือเป็ นเช่นนี จะไม่ให้พาฝูงชนมาดู
ให้เห็นกับตาว่าเกิด ‘เรือง’ อะไรขึนกับโจวเยียนปั ง ก็คง
จะผิดต่อสวรรค์แล้ว

นางไม่ยอมพูดเปิ ดทางให้กบั คนจวนหนิงหย่วนโหวแน่

เสินหรูอวินวิงเข้าไปหาเสินฮูหยิน เกือบจะเป็ นลมล้มลง


ไป คนทังหลายต่างเห็นเหตุการณ์อย่างแจ่มชัดว่า
เสินหรูอวินร้องไห้ฟมู ฟาย น่าสงสารนัก
8
“ท่านแม่ ท่านแม่...”

“หรูอวิน นีเจ้าเป็ นอะไรไป” เสินฮูหยินถามอย่างกังวล

“ท่านแม่ ทายาทท่านหนิงหย่วนโหว เขา... เขา... รังแก


ลูก”

ไม่รูค้ ณ
ุ หนูของบ้านไหนอดไม่ได้ พลันส่งเสียงหัวเราะคิก
คักเบาๆ การทีหญิงสาวถูกรังแก แม้จะเป็ นเรืองน่าโกรธ
ขึง แต่ผหู้ ญิงก็จะไม่เป็ นฝ่ ายพูดออกมาก่อน เพราะลูก
ผูห้ ญิงหน้าบาง ให้พดู เรืองพวกนีออกมาต่อหน้า
ธารกํานัล อย่างไรเสียก็รูส้ กึ ไม่งาม แต่เสินหรูอวินกลับ

9
ป่ าวประกาศเสียงดังราวกับกลัวคนอืนไม่ได้ยิน หรือว่า
เป็ นเพราะชาติตระกูลอันตําต้อย จึงไม่รูธ้ รรมเนียมกัน
แน่

เสินฮูหยินชําเลืองมองต้นเสียงแวบหนึง คุณหนูผนู้ นั
พลันเงียบเสียงลงแล้วไปหลบอยูด่ า้ นหลังมารดาของตน

เสินหรูอวินร้องห่มร้องไห้อย่างเอาเป็ นเอาตาย

เจียงหลีเห็นเช่นนันก็แปลกใจนัก จากการคาดคะเนของ
นาง แม้โจวเยียนปั งจะเป็ นผูด้ ีจอมปลอมอย่างไรก็ไม่
ควรรังแกเสินหรูอวิน เพราะเขาไม่รูจ้ กั มักคุน้ กับนาง อีก
ทังในขณะนันเจียงอวีเอ๋อก็อยูด่ ว้ ย โจวเยียนปั ง... จะมี

10
เวลาหรือ

ในจังหวะนัน เจียงหลีพลันเหลือบไปเห็นเสินหรูอวิน
กะพริบตาปริบๆ อยูใ่ นอ้อมอกของเสินฮูหยิน ไร้รอ่ งรอย
โศกเศร้าเสียใจ แต่เต็มไปด้วยแผนการแอบแฝง

เจียงหลีสงสัยว่าตนเองน่าจะตาฝาด จึงหันไปมองนาง
อีกครัง ก่อนจะสังเกตเห็นว่าอาภรณ์ทียับย่น ผมเผ้าอัน
กระเซอะกระเซิงของเสินหรูอวิน ดูราวกับจงใจให้มี
สภาพเช่นนัน มีอย่างทีไหน ถูกบุรุษรังแกจนทังตัวเต็มไป
ด้วยร่องรอย ทว่ารองเท้ากลับไม่มีฝนุ่ แม้แต่นอ้ ยปิ นก็ยงั
ปั กผมอย่างแน่นหนา ต่างหูรกึ ็อยูค่ รบ

11
แปลกจริงๆ

เจียงหลีใคร่ครวญแล้วก็คิดว่ามีความน่าจะเป็ นเพียง
ประการเดียว

นางมองเสินหรูอวินอย่างแทบไม่เชือสายตา ตะลึงกับ
ความใจกล้าของเสินหรูอวิน

เสินหรูอวินพูดอย่างชัดเจนว่าโจวเยียนปั งข่มเหงนาง
เจียงโย่วเหยาได้ฟังก็โมโห ไม่รอให้โหวฮูหยินเอ่ยปากก็
ตวาดออกมา “เหลวไหล คุณชายโจวจะรังแกเจ้าได้
อย่างไร คุณชายโจวเป็ นคนดีมีคณ
ุ ธรรม เขาถูกเจ้าใส่
ร้าย”

12
ในสายตาของผูค้ น เรืองนีไม่น่าจะเป็ นไปได้จริงๆ ละเลย
สตรีทีงดงามอย่างเจียงโย่วเหยาแต่ไปรังแกเสินหรูอวินที
ความสวยไม่เข้าขัน ยกเว้นเสียแต่วา่ โจวเยียนปั งจะเป็ น
คนโง่

เสินหรูอวินเห็นท่าทางหึงหวงของคนบ้านสายหลักอย่าง
เจียงโย่วเหยาก็นกึ โมโหขึนมา นางหัวเราะเสียงเย็นแล้ว
หลุดปากอย่างไม่คิด “ฮึ เขาไม่เพียงแต่รงั แกข้า แม้
กระทังคุณหนูหา้ ในจวนเดียวกับเจ้าก็ถกู เขาข่มเหงเช่น
กัน”

เจียงโย่วเหยาอึงงัน

13
จีซูหรันงุนงงนัก พลันหันไปมองนางหยางซือตาม
สัญชาตญาณ นางหยางซือเองก็สบั สนเช่นกัน เดิมทีนาง
ก็ตามหาเจียงอวีเอ๋อไม่พบ จิตใจจึงร้อนรนอยูเ่ ป็ นทุน
เดิม ตอนนีเมือได้ยินถ้อยคําของเสินหรูอวิน ความรูส้ กึ ก็
ราวกับโดนสายฟ้าฟาด

นางหยางซือปฏิเสธพึมพํา “เป็ นไปไม่ได้...”

“เหตุใดจะเป็ นไปไม่ได้” เสินหรูอวินรีบกล่าวโต้ “ฮ่องเต้


และท่านขุนนางผูใ้ หญ่ทงหลายต่
ั างก็เห็นกับตา คุณหนู
ห้าของตระกูลเจียงถูก... ถูก...” นางมิได้กล่าวต่อไป

14
โหวฮูหยินรูส้ กึ เหมือนทุกอย่างลอยคว้าง สวรรค์! โจว
เยียนปั งทําอะไรลงไป เหตุใดจู่ๆ ถึงได้พวั พันกับหญิง
แปลกหน้าถึงสองคน แล้วยังถูกฮ่องเต้พบเห็นเข้า

คราวนีชือเสียงของโจวเยียนปั งคงป่ นปี ไม่มีเหลือ

เจียงโย่วเหยาถอยหลังไปสองก้าว รูส้ กึ ราวกับทังเนือทัง


ตัวอ่อนปวกเปี ยกไร้เรียวแรง แม้ปากของนางยังคง
พึมพําว่า “เป็ นไปไม่ได้” แต่กลับเชือเสียสนิทแล้ว

เพียงชัวครูก่ ็รูส้ กึ ปวดร้าวไปทังใจ ไม่รูว้ า่ สาเหตุใดโจว


เยียนปั งถึงได้ทาํ เช่นนี เป็ นเสินหรูอวินก็ยงั พอทําเนา แต่
เจียงอวีเอ๋อเป็ นคนของตระกูลเจียง โจวเยียนปั งทําเช่นนี

15
ก็เท่ากับหักหน้านาง ต่อไปจะให้นางเอาหน้าไปไว้ทีไหน
หรือว่าจะต้องแต่งเจียงอวีเอ๋อเข้าไปเป็ นอนุ พีน้องสอง
คนต้องใช้สามีรว่ มกันรึ ต่อให้นางเป็ นภรรยาเอก แต่
เจียงโย่วเหยาก็ยงั คงรับไม่ได้อยูด่ ี

เจียงโย่วเหยาในเวลานียังคงแสดงตนเป็ นภรรยาเอกของ
โจวเยียนปั ง นางคิดว่าผ่านพ้นเรืองคราวนี โจวเยียนปั งก็
ยังต้องแต่งงานกับตน

แต่เจียงหลีมองสถานการณ์ออกอย่างชัดเจน การทีเจียง
โย่วเหยาจะแต่งงานกับโจวเยียนปั ง เป็ นเรืองทีไม่อาจ
เกิดขึนเสียแล้ว

16
หากไม่มีเสินหรูอวินเข้ามาเกียวข้อง ก็แค่มีคนรูเ้ รืองของ
โจวเยียนปั งกับเจียงอวีเอ๋อ อย่างไรเสียเจียงอวีเอ๋อก็เป็ น
ลูกหลานจากบ้านฝังอนุภรรยาสถานะจึงแตกต่าง เจียง
โย่วเหยาย่อมอยูเ่ หนือกว่านางเป็ นธรรมดา เพียงแต่
หน้าทีการงานของโจวเยียนปั งคงจะจบลง หากเจียงโย่ว
เหยาอยูก่ ินกับโจวเยียนปั งนานวันเข้า ก็ไม่พน้ จะมีแต่
เรืองทะเลาะเบาะแว้ง การดึงเจียงอวีเอ๋อเข้ามาพัวพันให้
สองพีน้องตบตีกนั เอง ทําให้เจียงหลีเบาแรง

แต่เสินหรูอวินกลับถูกโจวเยียนปั ง ‘รังแก’ เช่นกัน

เสินหรูอวินเป็ นถึงน้องสาวคลานตามกันมาของเสินอวีห
ยง ซึงเป็ นขุนนางในราชสํานัก อีกทังฮ่องเต้หงเซียวยังให้
ความสําคัญกับเขามาก พระองค์จะต้องมอบเรืองนีให้
17
เสินอวีหยงเป็ นผูต้ ดั สินใจ เสินหรูอวินรักใคร่ชอบพอโจว
เยียนปั ง นางคงจะทนเห็นโจวเยียนปั งถูกลงทัณฑ์ไม่ได้
วิธีแก้ไขทีดีทีสุดก็คือให้เสินหรูอวินแต่งงานกับโจวเยียน
ปั ง

เสินหรูอวินก็จะสมปรารถนา

18
บทที 83 พวกเขาอยู่ทนัี น

เจียงหลีแทบจะมันใจได้เลยว่า ทีเสินหรูอวินถูกโจวเยียน
ปั งรังแกนันเป็ นเรืองทีนางกุขนมา
ึ คงจะเป็ นเพราะตอน
นันโจวเยียนปั งเมามายไม่ได้สติ จึงถูกเสินหรูอวินฉวย
โอกาสปรักปรํา

เจียงหลีไม่รูว้ า่ เสินหรูอวินคิดแผนนีขึนมาได้อย่างไร แต่


ก็คงต้องยกนิวให้กบั แผนของนาง เสินหรูอวินอยากแต่ง
งานกับโจวเยียนปั งด้วยวิธีการนีย่อมสมความตังใจแล้ว

ในขณะนัน เบืองหน้าก็มีเสียงดังโหวกเหวก ฮูหยินทัง

1
หลายพลันหันหน้ามองพร้อมกันโดยมิได้นดั หมาย จึง
เห็นว่าขุนนางน้อยใหญ่กาํ ลังชุมนุมกันอยูท่ ีหน้าประตู
หออวีซิว ไม่รูว้ า่ กําลังทําอะไร

เสินหรูอวินเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็รบี กล่าวเสริม “ดูสิ


พวกเขาอยูท่ ีนัน”

เจียงโย่วเหยาได้ยินว่าโจวเยียนปั งอยูข่ า้ งหน้าก็ไม่สนใจ


คําทักท้วงของจีซูหรัน พลันวิงตรงไปยังหออวีซิว กลุม่ คน
ทียืนอยูห่ น้าประตูลว้ นแต่เป็ นขุนนางชันผูใ้ หญ่ เจียง
หยวนปั วเองก็อยูต่ รงนีเช่นกัน เมือเห็นเจียงโย่วเหยาจึง
รีบเอ่ยเรียก “โย่วเหยา”

2
เจียงโย่วเหยาวิงไปถึงหน้าประตู

ข้าวของภายในหออวีซิวกระจายเกลือน โจวเยียนปั งกับ


เจียงอวีเอ๋อคืนสติในสภาพเสือผ้าอาภรณ์ยบั ย่น คงจะ
เพิงแต่งตัวเสร็จ โจวเยียนปั งใบหน้าแดงกํา เขามีทา่ ทาง
ลําบากใจอย่างยิง เจียงอวีเอ๋อมองเจียงโย่วเหยา พลัน
ส่งเสียงเรียกทีฟั งดูน่าสงสาร “พีสาม”

เจียงโย่วเหยารีบสาวเท้าเข้าไป แล้วยกมือขึนตบลงบน
ใบหน้าของเจียงอวีเอ๋อฉาดใหญ่โดยไม่ตอ้ งหยุดคิด

เจียงอวีเอ๋อถูกตบจนตัวเอียงแต่มิได้ตอบโต้ เพียงกุม
หน้าตนเองด้วยนําตาไหลพราก “พีสาม ข้า... ข้าขอ

3
โทษ”

เจียงโย่วเหยาหันไปมองโจวเยียนปั ง แล้วเอ่ยถามด้วย
ความเสียใจ “คุณชายโจว ท่าน... เหตุใดท่านถึงได้ทาํ
เช่นนี”

“ข้า... ข้าไม่รู”้ โจวเยียนปั งรูส้ กึ งุนงงนัก เขาไม่รูต้ วั เลย


ว่าเกิดอะไรขึนบ้าง จําได้เพียงว่าเขานัดพบกับเจียงหลี
แล้วนางก็มาปรากฏตัว ทังสองต่างเคล้าคลอ ต่อมา
ความจําทังหมดก็เลือนหาย กระทังมีสตรีนางหนึงมา
ปลุกเขาให้ตืนขึน สตรีผนู้ นเป็
ั นหญิงแปลกหน้า
นางกล่าวหาว่าถูกเขาลวนลาม แล้วในเวลาต่อมา
ฮ่องเต้และท่านพ่อ ยังมีขนุ นางคนอืนๆ ในราชสํานักก็
มาถึง ทว่าหญิงสาวทีนอนอยูข่ า้ งกายเขากลับกลายเป็ น
4
เจียงอวีเอ๋อ

โจวเยียนปั งนึกอะไรไม่ออก ครันเห็นเจียงโย่วเหยาตบ


หน้าเจียงอวีเอ๋อ ส่วนเจียงอวีเอ๋อนันได้แต่ใช้มือกุมหน้า
ด้วยท่าทางน่าเวทนา เขาจึงรูส้ กึ สงสารเห็นใจเจียงอวี
เอ๋อ ยามทีเจียงโย่วเหยาอยูต่ อ่ หน้าเขาจะวางตัวน่ารักไร้
เดียงสามาโดยตลอด ไม่เคยมีทา่ ทางร้ายกาจเช่นนี

เจียงหลียืนอยูใ่ นฝูงชน เห็นสภาพเช่นนีของโจวเยียนปั ง


ก็ไม่เข้าใจ ว่ากันตามหลักการแล้ว คนทีดืมสุราผสมยา
กระตุน้ ก็มีเพียงเจียงอวีเอ๋อ แล้วเหตุใดโจวเยียนปั งถึงได้
มีทา่ ทางงุนงง ราวกับจําอะไรไม่ได้

5
“คุณหนูรองกําลังคิดอะไรอยู”่ จีเหิงพลันเอ่ยถาม

“กําลังคิดว่าเหตุใดคุณชายโจวถึงจําอะไรไม่ได้แม้แต่
น้อย หรือว่านีเป็ นข้ออ้างของเขา”

จีเหิงหัวเราะเสียงเบา

เจียงหลีเงยหน้ามองตาเขาด้วยความสงสัย เห็นจีเหิง
โบกพัดไปมาอย่างมีเลศนัยก็เข้าใจกระจ่างแจ้งในทันที

คนผูน้ ีชอบดูละครเป็ นชีวิตจิตใจ เฝ้าดูเหตุการณ์อยูน่ อก


วงอย่างไม่วิตกกังวลกับเรืองใด เขารูท้ นั ความคิดของ
นางมาตังแต่ตน้ หากไม่ได้เขายืนมือเข้าแทรก ละคร
6
เรืองนีจะสนุกได้อย่างไร

ทีโจวเยียนปั งมีสภาพเช่นนี เป็ นเพราะฝี มือของเขาสินะ

เจียงหลีสบั สนนัก ไม่รูว้ า่ ควรจะพูดอย่างไร จีเหิงนันไม่มี


อะไรดี แต่ในสถานการณ์แบบนีกลับทําจนเป็ นเรืองใหญ่
โตได้

เสินหรูอวินมาพบโจวเยียนปั งในสภาพทีไม่มีสติเช่นนี
คงเกิดความคิดร้ายกาจขึนมา

นีถือว่าเป็ นเหตุบงั เอิญหรือไม่

7
เจียงหยวนปั วพลันหมดความอดทน ตรงเข้าไปลากตัว
เจียงโย่วเหยาออกมาส่งให้จีซูหรัน เจียงโย่วเหยาเห็น
เหตุการณ์เต็มสองตาก็เจ็บปวดใจนัก ในเวลานีจึงไม่ไยดี
ต่อสิงใด ได้แต่รอ้ งห่มร้องไห้อยูใ่ นอ้อมอกของมารดา

ฮ่องเต้หงเซียวเสด็จออกไปแล้ว กล่าวกันว่าเป็ นเพราะ


ทรงทนดูสภาพอันน่าอัปยศเช่นนีมิได้ แต่ละครเรืองนีจะ
จบลงอย่างไร เจียงหลีเองก็อยากรูเ้ ช่นกัน ระหว่างทีคน
ในจวนหนิงหย่วนโหวกําลังหารือกันถึงเรืองนี โจวเยียน
ปั งก็คงต้องอยูแ่ ต่ในจวนเป็ นการชัวคราว ทว่าเจียงอวี
เอ๋อจะรับมือกับโทสะของคนจากบ้านสายหลักอย่างไร
นางแย่งว่าทีสามีของพีสาวเช่นนี เจียงหลีไม่เชือว่าเจียง
โย่วเหยาจะรามือไปแต่โดยดี

8
อีกอย่าง เจียงหลีกวาดตามองรอบกาย เกิดเรืองใหญ่
ขนาดนีเสินอวีหยงก็ยงั ไม่ปรากฏตัว

เพิงจะคิดถึงจุดนี คนผูห้ นึงก็แหวกฝูงชนเข้ามาอย่างรีบ


ร้อน เสินหรูอวินเห็นเขาก็เอ่ยเรียก “พีใหญ่”

เสินอวีหยงมาแล้ว

ท่านหนิงหย่วนโหวทีกําลังกังวลใจอยูว่ า่ จะจัดการอย่าง
ไรต่อไป พอเห็นเสินอวีหยงมาถึงก็ยงปวดหั
ิ วหนักขึนเป็ น
สองเท่า ขุนนางจงซูเส่อหลางท่านนีเป็ นถึงคนทีฮ่องเต้
โปรดปราน น้องสาวของเขาถูกรังแกเช่นนี จะไม่ให้เดือด
เนือร้อนใจได้อย่างไร

9
คนในจวนหนิงหย่วนโหวจะทําการใดก็ลาํ บาก

ฐานะของเจียงอวีเอ๋อยังไม่ตอ้ งยกขึนมากล่าวถึง แต่โจว


เยียนปั งกับเจียงโย่วเหยามีสญ
ั ญาแต่งงาน คนหนึงเป็ น
ถึงบุตรีมหาอํามาตย์ ส่วนอีกคนเป็ นน้องสาวของท่านจง
ซูเส่อหลาง ไม่วา่ จะมีเรืองผิดใจกับฝ่ ายไหนก็ไม่ดีทงนั
ั น
แต่เรืองเลยเถิดมาถึงขันนี ก็เท่ากับว่าโจวเยียนปั งทําผิด
ต่อทังสองฝ่ าย

“อวีหยง เหตุใดเจ้าถึงเพิงมาเล่า” เสินฮูหยินรําไห้ “น้อง


สาวของเจ้าถูกรังแก”

10
เจียงหลีแสยะยิมอยูใ่ นใจ เหตุใดถึงเพิงมาน่ะหรือ เวลา
อันมีคา่ เช่นนีก็ตอ้ งเอาไปพบกับองค์หญิงหย่งหนิงอย่าง
ไรเล่า

ดังคาด หลังจากทีเสินอวีหยงปรากฏตัวได้ไม่นาน เจียง


หลีก็สงั เกตเห็นเงาของหญิงสาวเดินฝ่ าความมืดเข้ามา
อย่างเนิบช้า ถ้าไม่ใช่องค์หญิงหย่งหนิงแล้วจะเป็ นผูใ้ ด

ไม่ยอมห่างกันแม้เพียงชัวครู ่ ชายนําหญิงก็ติดตาม

เจียงหลีจบั จ้ององค์หญิงหย่งหนิง พยายามปกปิ ดสาย


ตาเย็นชา ทว่าจีเหิงก็ยงั ดูออก เขาโบกพัดในมือพลาง
ครุน่ คิด ดวงตาฉายแววประหลาดใจ

11
องค์หญิงหย่งหนิงเข้ามาร่วมเหตุการณ์ในเวลาอัน
เหมาะเจาะ พลันเอ่ยถามด้วยความตกใจว่าเกิดอะไรขึน

เสินอวีหยงพูดปลอบใจเสินหรูอวินอยูไ่ ม่กีประโยคก็ลกุ
ขึนเดินเข้าไปหาโจวเยียนปั งทีกําลังวางตัวไม่ถกู อยูข่ า้ ง
เจียงอวีเอ๋อ

โจวเยียนปั งมีสติไม่ครบถ้วน ยังคงมึนงงอยูเ่ ช่นนันโดย


ไม่แสดงอาการหวันเกรงใดๆ เสินอวีหยงเห็นท่าทางของ
อีกฝ่ ายก็เดินตรงไปหาท่านหนิงหย่วนโหว กล่าวว่า “ผู้
อาวุโสโจว เกียวกับเหตุการณ์นีควรจะต้องชดเชยให้กบั
น้องสาวของข้า”

12
ท่านหนิงหย่วนโหวนึกโกรธเคือง แต่จาํ ต้องแสดงท่าที
เสียใจในสิงทีเกิดขึน “เป็ นความผิดของข้าทีไม่สงสอน

ลูกให้ดีจนเกิดเรืองบัดสีเช่นนี ใต้เท้าเสินไม่จาํ เป็ นต้อง
เอ่ยปาก ข้าก็ตอ้ งชดเชยให้กบั น้องสาวของท่านแน่นอน”

เสินอวีหยงออกหน้าปกป้องน้องสาวของตนเองเช่นนี
บรรดาสตรีตระกูลสูงต่างมองด้วยความริษยา กอปรกับ
ใบหน้าอันหล่อเหลา ทําให้หญิงสาวหลายๆ คนมองเขา
อย่างหลงใหล

เจียงหลีสง่ เสียงเย้ยหยันอยูใ่ นลําคอ ทําตัวเป็ นคนดีมี


คุณธรรม ใครเลยจะรูว้ า่ เพือจะได้เลือนตําแหน่ง เขาถึง
กับทําเรืองร้ายกาจ สามารถเข่นฆ่าลูกเมียได้ลงคอ ช่าง
13
ไร้มนุษยธรรมจริงๆ

จีเหิงพลันกล่าว “ใต้เท้าเสินเป็ นพีชายทีดียงนั


ิ ก”

เดิมทีเจียงหลีไม่อยากจะสนใจ แต่พอได้ยินคนข้างๆ
กล่าวชืนชมเสินอวีหยงก็อดย้อนกลับไปไม่ได้ “หลัก
เกณฑ์ประเมินผูค้ นของท่านกัวกงช่างมาตรฐานตําเสีย
จริง”

“คุณหนูรองไม่ชอบใต้เท้าเสินหรอกรึ” จีเหิงย้อนถาม
“น่าแปลก ใต้เท้าเสินหน้าตาหล่อเหลา สุภาพอ่อนโยน
เหตุใดจึงไม่ถกู ใจเจ้า”

14
เจียงหลียิมอย่างเยือกเย็น “ตายแล้วก็เหลือแค่เถ้า
กระดูกสีขาว มีอะไรให้ชืนชม”

“คุณหนูรองละทางโลกใฝ่ หาธรรมะ” จีเหิงกล่าว “ทีแท้ก็


ไม่ดคู นแค่ภายนอก”

เจียงหลีพลันนึกขึนได้ กัวกงท่านนีไม่ใช่คนทีชอบความ
สวยงามแล้วดูคนจากภายนอกหรอกหรือ นางเองก็ไม่รู ้
ว่าตนจะไปใส่อารมณ์กบั จีเหิงเพืออะไร จึงเสพูดไปอีก
ทาง “ในเมือใต้เท้าเสินหน้าตาดีเช่นนัน ท่านกัวกงก็ควร
พิจารณาเก็บเขาไว้ในจวน ถือเป็ นบุปผางามดอกหนึง”

พูดอย่างกับเสินอวีหยงเป็ นชายขายตัวเสียอย่างนัน

15
นิงเงียบไปนานไม่เห็นจีเหิงตอบโต้ ไม่รูว้ า่ เป็ นเพราะ
สะดุดใจในคําพูดของนางหรือเปล่า เจียงหลีกาํ ลังจะหัน
ไปมอง ก็ได้ยินจีเหิงเอ่ยออกมา “ไม่นกึ ว่าคุณหนูรองจะรู ้
เยอะเช่นนี น่าประหลาดใจนัก”

รูแ้ ม้กระทังเรืองทีหญิงสาวไม่ควรรู ้

เจียงหลีคร้านจะต่อปากต่อคํา ส่วนอีกด้าน ในทีสุดองค์


หญิงหย่งหนิงก็รบั รูเ้ รืองราวตังแต่ตน้ จนจบ ขบคิดอยูค่ รู ่
หนึงจึงก้าวออกมา

บุตรสาวผูเ้ ป็ นทีรักของหลิวไท่เฟย--น้องสาวเฉิงอ๋อง ยิม

16
กริมพลางเอ่ยปาก “ยังจะมีอะไรควรทําอีกเล่า ชือเสียง
ของลูกผูห้ ญิงเป็ นเรืองสําคัญทีสุด คุณหนูเสินก็เป็ นสตรี
ถูกคนข่มเหงรังแกเช่นนี ต่อไปจะให้แต่งงานกับใครได้”
นางกวาดตามองไปทีโจวเยียนปั งซึงกําลังเหม่อลอยแล้ว
หัวเราะเบาๆ “ยังดีทีพวกท่านทังสองบ้านมีฐานะใกล้
เคียงกัน เรืองนีจัดการได้ไม่ยาก ให้ทายาทท่านหนิง
หย่วนโหวแต่งงานกับคุณหนูเสิน ทุกอย่างก็จะกลายเป็ น
เรืองน่าดีใจมิใช่หรือ”

เจียงโย่วเหยาได้ฟังก็ตวั แข็งทือ พลันมององค์หญิงหย่ง


หนิงอย่างไม่อยากเชือสายตา ส่วนเสินหรูอวินทีอยูใ่ น
อ้อมอกของเสินฮูหยินนัน พยายามปิ ดบังแววตาแห่ง
ความปี ติยินดี

17
บทที 84 อับอายจนแทบแทรกแผ่นดิน

เจียงอวีเอ๋อกลับกังวลจนไม่เป็ นสุข องค์หญิงหย่ง


หนิงกล่าวถึงแต่เพียงเสินหรูอวิน มิได้เผือแผ่มาถึงนาง
แม้แต่นอ้ ย หรือเพราะนางเป็ นเพียงลูกหลานจากบ้านฝัง
อนุภรรยา ไม่คคู่ วรจะนํามาเทียบเคียงกับเสินหรูอวิน...
เจียงอวีเอ๋อรูส้ กึ อัดอันทีถูกเหยียดหยาม แต่ก็ได้แค่กม้
หน้ามองกระโปรงของตนอย่างไม่พอใจ

เจียงหลีเก็บมือไว้ในแขนเสือ อดทีจะกําหมัดแน่นไม่ได้
มุมปากยกยิมอย่างเย้ยหยัน

1
เห็นได้ชดั ว่าองค์หญิงหย่งหนิงคิดแทนเสินหรูอวิน นางก็
แค่ช่วยให้เรืองนีสําเร็จเร็วขึน เพือเอาอกเอาใจน้องสาว
ของชายทีตนรัก

เปลือกตาของเสินอวีหยงพลันกระตุกเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้
พูดอะไร

เจียงหลีนกึ เย้ยหยันทีเขายังวางตัวสุขมุ อยูไ่ ด้ นางคิดว่า


เสินอวีหยงจะรีบหมอบกรานน้อมรับพระมหากรุณาเสีย
อีก

จีซูหรันทีอยูอ่ ีกด้านสัมผัสได้ถงึ ความโกรธเกรียวของ


เจียงโย่วเหยา นางเองก็รูส้ กึ ลําบากใจเช่นกัน หากโจว

2
เยียนปั งยกเลิกสัญญาแต่งงานไปก่อนหน้านี จีซูหรันคง
จะแค่โมโหเท่านัน แต่สถานการณ์ตรงหน้าเกินขีดจํากัด
ทีจีซูหรันสามารถรับได้

แค่เจียงอวีเอ๋อเพียงคนเดียว จีซูหรันยังสามารถคิดหาวิธี
แก้ไขสถานการณ์ แต่เสินหรูอวินไม่ใช่ตวั ละครทีจะปั ด
ไปให้พน้ ทางได้โดยง่าย ครันจีซูหรันมองสีหน้าของเจียง
หยวนปั วก็รูไ้ ด้วา่ งานแต่งครังนีของเจียงโย่วเหยาคงไม่
อาจเกิดขึน

จีซูหรันเองก็ไม่ตอ้ งการให้เจียงโย่วเหยาแต่งกับโจวเยียน
ปั งเช่นกัน... ผ่านเหตุการณ์นีไป อนาคตของโจวเยียนปั ง
ก็คงเป็ นอันต้องจบสิน ในเวลานีเสินอวีหยงรูส้ กึ ลําบาก
ใจนัก หากเขาทําตามข้อเสนอขององค์หญิงหย่งหนิง ก็
3
เท่ากับปล่อยผ่านเรืองนีง่ายดายเกินไป จนเหมือนตระกู
ลเสินยอมให้คนอืนรังแกได้ง่ายๆ แต่ถา้ ไม่ยอมรับข้อ
เสนอดังกล่าว... เสินหรูอวินจะต้องไม่เข้าใจแน่

องค์หญิงหย่งหนิงนึกว่าตนเองรูใ้ จเขา เข้าอกเข้าใจเขา


ช่างโง่เขลานัก เรืองแบบนีควรตกลงกันเป็ นการส่วนตัว
เหตุใดต้องจัดการในตอนนี เอ่ยออกมาต่อหน้าผูค้ นมาก
มาย ทําให้เขาไม่รูว้ า่ ควรจะมีปฏิกิรยิ าอย่างไร ถ้าเซวี
ยฟั งเฟยยังอยู่ นางจะต้องไม่ทาํ เช่นนีเป็ นอันขาด...
เสินอวีหยงคิดอย่างเศร้าใจ

ในทีสุด เขามิได้ทาํ ตามคําพูดขององค์หญิงหย่งหนิง


เพียงแต่กล่าวกับท่านหนิงหย่วนโหวว่า “วันนีน้องสาวข้า
ได้รบั ความกระทบกระเทือนใจ ขอตัวพานางกลับจวนไป
4
พักผ่อนให้ทา่ นหมอมาดูอาการเสียก่อน เรืองนีทุกท่านก็
เห็นแล้ว อย่างไรวันหน้าคงต้องขอเชิญผูอ้ าวุโสไปหารือ
กันทีจวนตระกูลเสิน” จบคําก็เดินไปหาเสินฮูหยิน แล้ว
พาเสินหรูอวินกลับจวน ด้วยไม่ตอ้ งการให้เรืองยืดเยือไป
มากกว่านี

เสินหรูอวินผิดหวังนัก นางติดตามเสินอวีหยงกลับไป
อย่างขุ่นเคือง

ไม่นกึ เลยว่าเสินอวีหยงจะไม่ยอมรับความปรารถนาดี
ของนาง ทังยังหักหน้านางอย่างแรง ด้านหนึงองค์หญิง
หย่งหนิงก็ก่นด่าว่าเสินอวีหยงงีเง่าสินดี ส่วนอีกด้านก็
กล่าวโทษโจวเยียนปั งทีก่อเรือง ผ่านไปเพียงครูก่ ็เปลียน
เป็ นโกรธแค้นโจวเยียนปั ง นางจึงส่งยิมอย่างเย็นชาให้
5
กับท่านหนิงหย่วนโหว กล่าวว่า “พฤติกรรมยําแย่จนไม่มี
ชินดี” จบคําก็หมุนตัวเดินจากไป

วันนีต่อหน้าสหายในงาน ท่านหนิงหย่วนโหวได้รบั ความ


อับอายจนแทบแทรกแผ่นดิน ได้แต่ยืนนิงอยูก่ บั ทีด้วยใบ
หน้าแดงกํา

เจียงหลียกยิมทีมุมปาก

จีเหิงพลันเอ่ยถาม “คุณหนูรองเจียงยิมอะไรรึ”

“เห็นคนก่นด่าคนประเภทเดียวกัน” เจียงหลีกล่าว “ไม่


น่าขันหรอกหรือ”
6
องค์หญิงหย่งหนิงด่าทอท่านหนิงหย่วนโหวว่าพฤติกรรม
ยําแย่จนไม่มีชินดี ช่างไม่มองตัวเองเอาเสียเลยว่าดีพอ
จะกล่าวคําพูดประโยคนีออกมาหรือเปล่า

โหวฮูหยินได้สติก็ข่มโทสะและความตืนตระหนก พลัน
เดินเข้าไปในหออวีซิว แล้วแสร้งทุบตีโจวเยียนปั ง ก่อน
จะหันไปมองเจียงอวีเอ๋อ “วันนีคุณหนูหา้ เจียงก็คงจะ
ตกใจไม่นอ้ ย กลับจวนไปพักผ่อนก่อนเถิด แล้วอีกสอง
สามวันตระกูลโจวจะหาคําอธิบายไปให้”

รอยยิมทีไม่ได้มาจากใจ ทําให้เจียงอวีเอ๋อรูส้ กึ หวาดกลัว


ขึนมา

7
เสินหรูอวินป่ าวประกาศว่าเจียงอวีเอ๋อถูกโจวเยียนปั ง
รังแก แต่เมือตอนทีผูค้ นทังหลายมาพบนางอยูก่ บั โจว
เยียนปั ง กลับไม่เหมือนคนทีโดนข่มเหง แต่คล้ายดังมีใจ
ให้กนั มากกว่า ไม่แน่วา่ ในสายตาของโหวฮูหยินนัน
เจียงอวีเอ๋อคงเป็ นฝ่ ายให้ทา่ โจวเยียนปั งเสียมากกว่า
อีกทังฐานะของเจียงอวีเอ๋อก็ไม่อาจทําให้โหวฮูหยินเกรง
อกเกรงใจ ต่อให้ตอ้ งไว้หน้านาง อย่างมากก็แค่ได้แต่ง
เป็ นอนุของบ้านตระกูลโจว

เจียงอวีเอ๋อฟั งนําเสียงดูแคลนของโหวฮูหยินแล้วให้นอ้ ย
เนือตําใจและอับอายนัก แต่ก็ไม่รูว้ า่ ควรทําเช่นไร

ยามนีนางหยางซือกับเจียงหยวนชิงทุกข์ทนยิง นาง
8
หยางซือบากหน้าเข้าไปประคองเจียงอวีเอ๋อ พูดจากับ
เจียงหยวนปั วอยูส่ องสามคําแล้วรีบจากไป ไม่กล้ามอง
หน้าของจีซูหรันแม้แต่นอ้ ย

คนทีอยูใ่ นเหตุการณ์ดมู าถึงตรงนีก็รูว้ า่ หมดสนุกแล้ว จึง


พากันขอตัวกลับ แต่ระหว่างทางก็ยงั วิพากษ์วิจารณ์
เรืองบัดสีทีน่าหวาดเสียวในครังนีไม่หยุดปาก

เจียงหลีเองก็ตอ้ งกลับจวนเช่นกัน

ส่วนเจียงโย่วเหยานันยังอยากถามโจวเยียนปั งว่าเหตุใด
ถึงทํากับนางแบบนี แต่ก็ถกู จีซูหรันรังตัวเอาไว้แน่น นาง
จําเป็ นต้องปล่อยเรืองนีให้ผา่ นไป ทังทีในใจราวกับตาย

9
ทังเป็ น ชอกชํายิงกว่าโจวเยียนปั งทีถูกจับได้คาหนังคา
เขาเสียอีก

เจียงหลีเดินตามอยูด่ า้ นหลังคนตระกูลเจียงเพือเตรียม
กลับจวน ขณะทีกําลังจะจากไป จู่ๆ ก็นกึ อะไรขึนมาได้
พลันหยุดฝี เท้าแล้วหันกลับไปมอง

จีเหิงยังคงยืนอยูท่ ีเดิม ครันเห็นนางหันกลับมาก็รูส้ กึ


ประหลาดใจ

เจียงหลียอบกายคํานับเขาน้อยๆ แล้วกล่าวว่า “เรืองราว


ในวันนี เป็ นเพราะได้รบั ความช่วยเหลือจากท่านกัวกง
เจียงหลีรูส้ กึ ซาบซึงเป็ นอย่างยิง”

10
“มิได้” ในความมืดมิด พัดของจีเหิงส่องประกายวับวาว
เขากล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “คนทีแสดงละครก็คือเจ้า ส่วน
ข้านันเป็ นเพียงผูช้ ม คุณหนูรองอย่าได้เข้าใจผิด”

เจียงหลีองงั
ึ นไปชัวครู ่ รูส้ กึ ท้อใจอยูบ่ า้ ง นางจงใจพูด
เช่นนีเพราะอยากให้จีเหิงคิดว่า เรืองราวทีเกิดขึนเป็ นสิง
ทีพวกเขาสองคนช่วยกันก่อขึนมา หากวันหน้าจีเหิงคิด
จะเปิ ดโปงนาง อย่างน้อยก็ตอ้ งพิจารณาให้ดีเสียก่อน
ใครจะรูว้ า่ คนผูน้ ีไม่ให้ความร่วมมือซํายังระมัดระวัง
ตัวอย่างมาก ฉลาดแกมโกงนัก

รอยยิมของเจียงหลีพลันเลือนหาย ได้แต่พยักหน้ารับ

11
แล้วติดตามคนตระกูลเจียงจากไป

“อืม... หญิงสาวทีต้องการชําระหนีแค้นรึ ช่างน่ากลัว


จริงๆ” จีเหิงกล่าวกับตัวเองพร้อมรอยยิม

ขากลับ เจียงหลีไม่ได้นงรถม้
ั าคันเดียวกับเจียงโย่วเหยา

ครันถึงจวนแล้วก็ไม่ได้ไปคํานับเจียงหยวนปั วแต่ตรง
กลับเรือนฟั งเฟยทันที วันนีดึกมากแล้ว ไป๋ เสวียกับ
ถงเอ๋อเห็นนางปลอดภัยกลับมาก็เบาใจ เจียงหลีไม่ได้
เล่าให้พวกนางทังสองคนฟั งว่างานเลียงในวังวันนีเกิด
อะไรขึน นางยุง่ วุน่ วายมาทังคืน แล้วยังต้องวุน่ วายวิงไป
วิงมาอยูก่ บั จีเหิง ตอนนีจึงอยากพักผ่อน สําหรับเรือง

12
อืนๆ เก็บไว้คยุ กันวันหลังก็ยงั ไม่สาย

ทีเรือนหวันฟ่ งถาง ฮูหยินผูเ้ ฒ่ามองเจียงหยวนปั วด้วยสี


หน้าเคร่งเครียด

นางชิงชังคนทีไม่รกั ศักดิศรีตวั เอง รังเกียจลูกหลานที


ทําลายชือเสียงของวงศ์ตระกูล ไม่นกึ เลยว่าวันหนึง เรือง
แบบนีจะเกิดขึนกับตระกูลเจียงของตน

“สายเลือดพวกอนุโดยแท้” ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเอ่ยอย่างเย็นชา


“สอนบุตรสาวออกมาก็ยงั ไม่ทิงสันดาน”

เจียงหยวนปั วนิงงัน
13
“เจ้าคิดจะจัดการอย่างไร” ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเอ่ยถาม

“ลูกคิดว่าคงต้องยกเลิกการแต่งงานระหว่างโย่วเหยากับ
โจวเยียนปั งโดยเร็ว” เจียงหยวนปั วกล่าว “มีเรืองเช่นนี
เกิดขึน โย่วเหยาย่อมไม่อาจแต่งเข้าตระกูลโจว คนอย่าง
โจวเยียนปั งใจไม่ซือ ทังๆ ทีมีสญ
ั ญาหมันหมายอยูก่ บั
โย่วเหยา แต่ยงั ลักลอบมีสมั พันธ์กบั หญิงอืนของตระกูล
เจียง ลูกไม่เชือว่าคนผูน้ ีต่อไปจะสามารถดูแลเจียงโย่ว
เหยาได้”

“ข้าก็คิดเช่นนัน” สีหน้าของฮูหยินผูเ้ ฒ่าอ่อนโยนขึนเล็ก


น้อย “คราวนีตระกูลโจวก็จะไม่มีหน้าหยิบยกเรืองการ
แต่งงานของโย่วเหยามาพูดอีก ไม่วา่ อย่างไร บุตรสาว
14
ของจวนตระกูลเจียงก็ตอ้ งหาสามีทีดีกว่าลูกชายตระกู
ลโจวได้ง่ายดายราวกับพลิกฝ่ ามือ”

เจียงหยวนปั วพยักหน้ารับ

สองคนแม่ลกู พูดกันถึงตรงนี เสียงร้องห่มร้องไห้ของ


หญิงสาวก็ดงั แว่วมาจากด้านนอก เจียงหยวนปั วหันไป
มอง เห็นเจียงโย่วเหยาพยายามจะบุกเข้ามาโดยไม่
สนใจเสียงห้ามปรามของจีซูหรัน

เจียงโย่วเหยาบุกเข้ามาได้ก็ดงึ แขนเสือของเจียงหยวน
ปั วรําไห้พลางอ้อนวอน “ท่านพ่อ ลูกไม่อยากยกเลิกงาน
แต่งกับคุณชายโจว”

15
จีซูหรันรีบดึงตัวนางไว้ ในขณะทีฮูหยินผูเ้ ฒ่าเริมขมวด
คิวมุน่ “เหตุใดถึงปล่อยให้นางเข้ามาเช่นนี”

จีซูหรันไม่รูจ้ ะทําอย่างไร ได้แต่แก้ตวั ว่า “ท่านแม่ ท่านพี


โย่วเหยาเสียใจจนเกินไป ก่อนหน้านีก็แทบจะเป็ นลมล้ม
พับอยูห่ ลายครัง... โย่วเหยาช่างน่าสงสารโดยแท้ จู่ๆ
คุณชายโจวก็ทาํ เรืองแบบนี ไม่ตา่ งกับการเอาเข็มมาทิม
แทงจิตใจโย่วเหยาของเราเลย”

เจียงหยวนปั วก้มหน้ามองบุตรสาวคนเล็ก รูส้ กึ สงสาร


จับใจ ผูท้ ีได้รบั ความชอกชําจากเหตุการณ์ครังนีก็คือ
เจียงโย่วเหยา เขาจึงข่มอารมณ์แล้วกล่าวว่า “โย่วเหยา
โจวเยียนปั งทําเรืองแบบนี จะเป็ นเขยตระกูลเจียงได้
16
อย่างไร หากหัวใจเขามีเจ้าอยูแ่ ม้เพียงเล็กน้อย ก็คงไม่
ทําเรืองบัดสีให้เจ้าเจ็บชํา คนเป็ นพ่อไม่อาจปล่อยให้เจ้า
แต่งงานอยูก่ ินกับชายทีไร้ความรับผิดชอบเช่นนี มิหนํา
ซํายังเป็ นชายทีไม่มีใจให้แก่เจ้า”

17
บทที 85 ผู้หญิงทีพูดวาจาหยาบคาย

“ไม่จริง...” ผิดคาด เจียงโย่วเหยาฟั งคําของเจียงหยวน


ปั วแล้วกลับยิงดึงดัน พลันเอ่ยแย้ง “คุณชายโจวมีใจให้
ลูก แต่ทีเขาไปอยูก่ บั เจียงอวีเอ๋อ เป็ นเพราะ... เป็ น
เพราะนางให้ทา่ เขา เจียงอวีเอ๋อทําร้ายเขา ใช่แล้ว เป็ น
เจียงอวีเอ๋อทีก่อเรือง นางอยากแย่งคุณชายโจวมานาน
แล้ว ถึงได้ใช้วิธีนี นีไม่ใช่ความผิดของคุณชายโจว ท่าน
พ่อ เป็ นความผิดของเจียงอวีเอ๋อ สิงทีท่านต้องทําไม่ใช่
ยกเลิกการแต่งงานของลูกกับคุณชายโจว แต่ตอ้ งลง
โทษเจียงอวีเอ๋อ นังแพศยาคนนัน”

พอถ้อยคําเหล่านีถูกเอ่ยออกมา จีซูหรันก็รอ้ งครางเบาๆ


1
ไม่ได้การเสียแล้ว เจียงหยวนปั วมองเจียงโย่วเหยาอย่าง
ตกตะลึง

ในความรูส้ กึ ของเจียงหยวนปั ว โย่วเหยาเป็ นเด็กสาวที


บริสทุ ธิไร้เดียงสา น่ารักน่าเอ็นดู ผูห้ ญิงทีพูดวาจาหยาบ
คายเช่นนี ดูราวกับคนแปลกหน้า

จีซูหรันรีบแก้สถานการณ์ “โย่วเหยากําลังโมโห ก่อน


หน้านียังเคยได้ยินเสียงเล่าลือมาบ้าง ว่าอวีเอ๋อ...”

“เหลวไหล” ฮูหยินผูเ้ ฒ่าตวาดเสียงดุดนั “ถ้าเจียงอวีเอ๋อ


ให้ทา่ โจวเยียนปั ง แล้วเสินหรูอวินเล่า น้องสาวของท่าน
จงซูเส่อหลางแบบนาง คงไม่จาํ เป็ นต้องให้ทา่ โจวเยียน

2
ปั งกระมัง”

เจียงโย่วเหยาอึงงันดูเหมือนนางจะเริมคิดได้

ฮูหยินผูเ้ ฒ่าพลันกล่าวเสียงเรียบ “ทีสําคัญ สุดท้ายไม่


ว่าเจียงอวีเอ๋อกับโจวเยียนปั งจะลงเอยอย่างไร ตระกูล
เจียงของเราก็ไม่ยอมให้พีน้องใช้สามีรว่ มกันเป็ นอันขาด
โจวเยียนปั งไม่อาจเป็ นสามีของเจ้าได้”

เจียงโย่วเหยาตัวอ่อนล้มพับลงกับพืน ได้แต่รอ้ งไห้ครํา


ครวญด้วยความโศกเศร้า

นางรูว้ า่ ทีฮูหยินผูเ้ ฒ่ากล่าวมานันเป็ นความจริง นางกับ


3
โจวเยียนปั งไม่อาจเกียวดองกันได้อีก

การแต่งงานนีนางแย่งมาจากเจียงหลี จัดวางแผนการไว้
อย่างแยบยล ทว่าสุดท้าย กลับเป็ นการปูทางให้ผอู้ ืนได้
ไปครอบครอง

ในใจของเจียงโย่วเหยามีแต่ความผิดหวัง

ขณะนัน พลันมีเสียงของสตรีรอ้ งห่มร้องไห้ดงั ขึนมาจาก


ด้านนอก ก่อนจะปรากฏเงาร่างของผูม้ าใหม่ เป็ นคน
ของบ้านสายสามนันเอง

เมือเจียงหยวนชิงก้าวเข้าประตูก็ไม่พดู พรําทําเพลง แต่


4
ตรงไปคุกเข่าลงตรงหน้าฮูหยินผูเ้ ฒ่า ด้านหลังของเขา
คือนางหยางซือกับเจียงอวีเอ๋อทีกําลังคุกเข่าเช่นกัน

เจียงหยวนชิงหันมาโขกศีรษะลงกับพืนต่อหน้าเจียง
หยวนปั ว กล่าวว่า “พีใหญ่ น้องสามผิดต่อท่าน ไม่สงั
สอนบุตรให้ดีเป็ นความผิดของบิดา อวีเอ๋อก่อเรืองใน
คราวนี เป็ นเพราะข้ามิได้อบรมนางอย่างเหมาะสม ขอ
ท่านพีโปรดตีขา้ ให้ตาย”

นางหยางซือเองก็ราไห้
ํ กล่าวกับจีซูหรัน “สะใภ้ใหญ่ ข้า
แทบจะไม่มีหน้ามาพบเจ้า ข้ารูว้ า่ คราวนีอวีเอ๋อทําเกิน
ไป แต่วา่ ... อวีเอ๋อเป็ นเลือดเนือเชือไขของข้า เจ้าเองก็
เป็ นแม่คน ข้าไม่รูจ้ ะทําอย่างไรแล้วจริงๆ ได้โปรดปล่อย
อวีเอ๋อไปเถิด เกิดชาติหน้าข้าขอเป็ นวัวเป็ นม้าชดใช้ให้
5
กับเจ้า”

เจียงอวีเอ๋อนําตานองหน้า ขณะร้องวิงวอน “พีสาม... ข้า


ผิดไปแล้ว...”

คนทังบ้านนีล้วนมาเพือขอขมา ในชัวพริบตาก็มีเพียง
เสียงรําไห้ดงั ระงมไปทังหวันฟ่ งถาง ไร้ความสงบสุขโดย
สินเชิง

เห็นเจียงหยวนปั ววางตัวไม่ถกู จีซูหรันพลันฝื นยิมกล่าว


“น้องสะใภ้พดู อะไรอย่างนัน มาขอให้ขา้ ละเว้นอวีเอ๋อได้
อย่างไร ข้าไม่ได้ทาํ อะไรนางสักหน่อย หากเจ้าจะพูด
เรืองการแต่งงานระหว่างโจวเยียนปั งกับโย่วเหยา ก็ไม่

6
จําเป็ นต้องกังวลใจ โย่วเหยาของข้ากับโจวเยียนปั งไม่มี
วันเกียวดองกันได้อีก อวีเอ๋อจะทําอย่างไรต่อ ก็ไม่เกียว
ข้องกับโย่วเหยาทังสิน”

เจียงอวีเอ๋อได้ฟังก็แอบนึกกระหยิมยิมย่อง แต่ไม่นกึ ว่า


เจียงโย่วเหยาจะสังเกตเห็นแววตาปี ติยินดีของนางได้
อย่างชัดเจน เจียงโย่วเหยารูแ้ ต่เพียงว่า ไฟทีกําลังสุม
ทรวงพลันลุกโชติช่วงขึนกว่าเดิมเป็ นเท่าตัว พลันพุง่ เข้า
ใส่เจียงอวีเอ๋ออย่างรวดเร็ว

“นังสารเลว” นางกรีดร้องเสียงแหลม

เพียงพริบตา เจียงอวีเอ๋อก็ลงไปกองอยูก่ บั พืน ปิ นปั กผม

7
บนศีรษะพลันร่วงหล่น เจียงโย่วเหยาหยิบได้ก็กระหนํา
แทงไปไม่ยงั

เจียงอวีเอ๋อทําได้แค่รอ้ งโอดครวญ

แสงตะวันค่อยๆ อาบไล้กรอบหน้าต่าง นกขมินตัวหนึง


กําลังส่งเสียงเจือยแจ้วอย่างเพลิดเพลินอยูบ่ นกิงดอกชิ
วไฮ้ถาง

เจียงหลีลืมตามองท้องฟ้าด้านนอก อากาศช่างดีเสียจริง

“คุณหนู... คุณหนู...” ถงเอ๋อวิงเข้ามาอย่างรีบร้อนกว่า


ปกติจนแทบหัวคะมํา
8
“มีอะไร เหตุใดถึงรีบร้อนเช่นนี” ไป๋ เสวียเอ่ยถามด้วย
ความสงสัย “พูดช้าๆ หน่อยไม่ได้ร”ึ

“ไม่ได้ๆ เป็ นเรืองใหญ่มาก พูดช้าเกรงว่าการข่าวจะเก่า


ไปเสียก่อน คุณหนู...” ในทีสุดนางก็หนั มารายงานเจียง
หลี “บ่าวได้ยินว่าเมือคืนเกิดเรืองขึนทีเรือนหวันฟ่ งถาง
คุณหนูสามกับคุณหนูหา้ ตบตีกนั เจ้าค่ะ”

“ตบตีกนั รึ”

“แล้วใครเป็ นฝ่ ายชนะ” ไป๋ เสวียสนใจในจุดนี

9
“คุณหนูสามดุดนั ออกปานนัน ผูช้ นะก็ตอ้ งเป็ นคุณหนู
สามแน่นอนอยูแ่ ล้ว ได้ยินว่าคุณหนูหา้ ถูกคุณหนูสามตี
จนหน้าบวม เสียโฉมไปเลย”

ถงเอ๋อยักไหล่ “ไม่รูเ้ หมือนกันว่าตบตีกนั ด้วยสาเหตุใด”

เจียงหลียิมบางๆ นางรูต้ น้ ตอของความขัดแย้ง ก็โจว


เยียนปั งอย่างไรเล่า

เจียงหลีเห็นถงเอ๋อกับไป๋ เสวียมีทา่ ทางงุนงงสงสัย จึงเล่า


เรืองทีเกิดขึนเมือคืนให้พวกนางฟั ง

สาวใช้ทงสองไม่
ั ได้ติดตามไปร่วมงานเลียงในวังหลวง
10
จึงไม่รูว้ า่ มีเหตุการณ์แบบนีเกิดขึน เมือถงเอ๋อได้ฟังเรือง
ราวทังหมดแล้วก็เอ่ยอย่างตืนตระหนกว่า “ยังดีทียานัน
ถูกคุณหนูหา้ ดืมเข้าไป หากเป็ นคุณหนูของบ่าว... นีต้อง
เป็ นเพราะฮูหยินทีอยูบ่ นสวรรค์ช่วยปกป้องไม่ให้คณ
ุ หนู
ถูกทําร้าย ขอบคุณสวรรค์...”

“ฮูหยินใหญ่อาํ มหิตเกินไปแล้ว” ไป๋ เสวียขมวดคิวกล่าว


“พวกเราไปฟ้องนายท่านใหญ่ไม่ได้หรือเจ้าคะ หรือจะ
ต้องรอให้นายท่านใหญ่เห็นความร้ายกาจของนางด้วย
ตัวเอง”

เจียงหลีสา่ ยหน้า

11
“เรืองนีข้าก็ไม่มีหลักฐาน อีกอย่างการแต่งงานของเจียง
โย่วเหยาก็ถกู ยกเลิก ท่านพ่อย่อมรูส้ กึ สงสารและเข้าข้าง
นางอยูแ่ ล้ว ต่อให้ขา้ พูดอะไรออกไปก็คงไม่มีใครเชือ ไม่
เป็ นไรหรอก” เจียงหลีกล่าว “แค่การแต่งงานกับโจว
เยียนปั งในครังนีต้องเป็ นโมฆะ ก็ทาํ ให้สองแม่ลกู นัน
กระทบกระเทือนใจมากแล้ว”

ฟั งเจียงหลีกล่าวเช่นนัน ถงเอ๋อพลันเอ่ยถาม “แล้วตอน


นีคุณชายโจวจะเป็ นอย่างไร ต้องมาสูข่ อคุณหนูหา้ หรือ
ไม่เจ้าคะ”

“คุณหนูหา้ คงไม่สามารถเป็ นภรรยาเอกได้” ไป๋ เสวียกล่า


วต่อ “คุณชายโจวยังมีเรืองพัวพันกับคุณหนูตระกูลเสิน
อีกคนมิใช่หรือ ระหว่างคุณหนูตระกูลเสินกับคุณหนูหา้
12
ก็ตอ้ งเอาใจคุณหนูตระกูลเสินเป็ นอันดับแรกอยูแ่ ล้ว”

ถงเอ๋อพยักหน้าสนับสนุน พลันนึกขึนได้จงึ เอ่ยออกมา


ด้วยความสงสัย “ไม่เคยได้ยินว่าคุณชายโจวกับคุณหนู
ตระกูลเสินเกียวพันกันมาก่อน เหตุใดระหว่างพวกเขา
ถึงเกิดเรืองแบบขึนได้ จะบอกว่าเป็ นแค่เหตุบงั เอิญรึ”

โจวเยียนปั งทีดืมจนเมามายได้เห็นเสินหรูอวินแล้วจู่ๆ ก็
ยับยังชังใจไม่ไหวจนล่วงเกินนางอย่างนันหรือรอยยิม
ของเจียงหลีคอ่ ยๆ เลือนหาย

ผูช้ ายไม่มีใจ ทว่าฝ่ ายหญิงกลับไขว่คว้า นีไม่ใช่เหตุ


บังเอิญ แต่เป็ น ‘แผนการ’ ทีถูกเสินหรูอวินจัดวางไว้

13
อย่างตังอกตังใจ

ทีบ้านตระกูลเสิน

สาวใช้ทงหมดต่
ั างก้มหน้าก้มตาทํางานกันอย่างแข็งขัน

ท่านจงซูเส่อหลางเป็ นคนดี จิตใจกว้างขวาง ทว่ามารดา


และน้องสาวของเขานันล้วนเจ้ากีเจ้าการ โดยเฉพาะ
อย่างยิงในเวลานี เมือเสินอวีหยงรุง่ เรืองในหน้าทีการ
งาน สตรีทงสองก็
ั ยงเจ้
ิ ายศเจ้าอย่างมากขึน ราวกับต้อง
การชดเชยความคับแค้นในอดีตของพวกตน จึงระบาย
ความอัดอันแต่หนหลังออกมา และวิธีผอ่ นคลายก็คือ
การกดขีข่มเหงผูอ้ ืน

14
ในห้อง เสินหรูอวินกับเสินอวีหยงกําลังโต้เถียงกัน

“เจ้าทําเกินไปแล้ว” เสินอวีหยงกล่าว

เสินหรูอวินไม่ใส่ใจ “พีใหญ่ คนทีทําผิดก็คือโจวเยียนปั ง


บุตรชายของท่านหนิงหย่วนโหวต่างหาก เหตุใดถึงมา
กล่าวโทษข้า ท่านยังเป็ นพีชายใหญ่ของข้าอยูห่ รือเปล่า”

เสินอวีหยงมิได้โกรธเคือง เพียงมองเสินหรูอวินแล้วถาม
พร้อมรอยยิม “อย่างนันรึ เป็ นความผิดของเขาหรอก
หรือ”

15
สายตาคมกริบของเสินอวีหยงจับจ้องจนเสินหรูอวินต้อง
หดคอหนีไปชัวครู ่ แต่ก็ยงั กล่าวอย่างดือรัน “เป็ นเช่น
นัน”

เสินอวีหยงมองนางตาไม่กะพริบ เสินหรูอวินรูส้ กึ ละอาย


ใจอยูบ่ า้ ง

งานเลียงภายในวังคืนนัน สิงทีผูค้ นทังหลายเห็นก็คือ


โจวเยียนปั งกับเจียงอวีเอ๋อ--น้องสาวของว่าทีภรรยา
ลักลอบมีความสัมพันธ์ แล้วยังคิดจะรังแกเสินหรูอวินผู้
เป็ นน้องสาวของท่านจงซูเส่อหลาง

แต่ความเป็ นจริงก็คือ นางพบเจียงหลีในสวนเข้าโดย

16
บังเอิญ พอรูว้ า่ โจวเยียนปั งอยูท่ ีใดก็ใคร่ครวญหลาย
ตลบ สุดท้ายก็ข่มความคิดถึงเอาไว้ไม่อยู่ จึงตามไปพบ
เขาทีหออวีซิว ด้วยหมายจะ ‘บังเอิญ’ ได้พบกับโจวเยียน
ปั ง อย่างน้อยแค่มีโอกาสพูดคุยกันสักหน ให้เขาจดจํา
และรูว้ า่ นางมีตวั ตน มิใช่คนแปลกหน้า

มาจนถึงตอนนี เสินหรูอวินยังพอใจในสิงทีตนทํา

ตอนผลักประตูหออวีซิวเข้าไป แล้วเห็นเจียงอวีเอ๋อกับ
โจวเยียนปั งกําลังเคล้าคลอกันอยูน่ นั เพลิงแค้นไฟริษยา
พลันปะทุขนสุ
ึ มทรวง แรกทีเดียว เสินหรูอวินคิดจะวิง
ออกไปป่ าวประกาศเรืองฉาวโฉ่นีต่อสาธารณชนโดยไม่
ลังเล เพือแก้แค้นบุรุษทีทําร้ายจิตใจนางผูน้ ีและสตรีทีไม่
รูจ้ กั ยางอายให้สาสม
17
บทที 86 ไม่มหี นทางอืนงันรึ

ทว่าก่อนทีจะก้าวออกไป จู่ๆ เสินหรูอวินก็ชกั เท้ากลับ


เข้ามาอีกครัง นางอยากถามโจวเยียนปั งว่าเหตุใดถึงทํา
เช่นนี โจวเยียนปั งทีหมันหมายและใกล้จะแต่งงาน เหตุ
ใดถึงมาอยูก่ บั หญิงอืน หรือว่าแท้จริงแล้วเขาชอบพออยู่
กับเจียงอวีเอ๋อ

แต่หลังจากทีเสินหรูอวินรวบรวมความกล้าเอ่ยถามออก
ไป โจวเยียนปั งกลับไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ดูเหมือนเขา
จะไม่ได้ยิน

1
เสินหรูอวินจึงเงยหน้ามอง ทว่าสีหน้าทีปรากฏแก่สาย
ตากลับอยูใ่ นสภาพงุนงงราวกับคนเมาอย่างไรอย่างนัน
อีกทังหน้ายังแดงกําจนผิดปกติ

เสินหรูอวินพลันนึกถึงคําบอกเล่าของเจียงหลีทีกล่าวว่า
โจวเยียนปั งเมามายจนต้องปลีกตัวไปพักผ่อนสักครู ่ นึก
ถึงเรืองนีแล้วก็มีความคิดหนึงวาบขึนมา หากโจวเยียน
ปั งขาดสติเพราะฤทธิสุราจนกระทําเรืองเหล่านันเล่า

ครันนางขยับเข้าไปใกล้แล้วฝื นความเกลียดชังมองไป
ทางเจียงอวีเอ๋อ ก็พบว่าอีกฝ่ ายนันมีทา่ ทางสับสนเลือน
ลอยคล้ายกับโจวเยียนปั ง

2
แต่คนเมาสุราไม่ควรตกอยูใ่ นสภาพเช่นนีนี

เสินหรูอวินคลับคล้ายคลับคลาเหมือนคุน้ เคยกับภาพ
เหตุการณ์ตรงหน้า เหมือนเคยเห็นทีไหนมาก่อน กระทัง
นางมองไปทีมุมห้องแล้วเห็นธูปหอมซึงถูกจุดไปครึง
ดอก ส่วนอีกครึงกลายเป็ นกองขีเถ้าทีร่วงหล่นอยูบ่ นพืน

เสินหรูอวินกระจ่างแจ้งขึนมาในทันที

นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดถึงรูส้ กึ คุน้ เคยกับภาพเหตุการณ์


เช่นนี เสินหรูอวินคิดทบทวนไปมา สุดท้ายก็นกึ ได้วา่ นี
คือภาพเหตุการณ์ทีเซวียฟั งเฟย พีสะใภ้ของนางถูกจับ
ได้วา่ คบชูม้ ิใช่หรือ

3
แทบจะอยูใ่ นสภาพเดียวกันไม่มีผิด

ทังสองต่างเลือนลอยไม่ได้สติ ทังยังมีธูปหอมมาเกียว
ข้อง

ยิงเสินหรูอวินอยูใ่ นห้องนันนานเข้า ก็รูส้ กึ ได้วา่ ลําคอเริม


แห้งผาก ความร้อนรุม่ แผ่ซา่ นไปทัวสรรพางค์กาย

หากว่าเสินหรูอวินไม่เคยผ่านเหตุการณ์ของเซวียฟั งเฟย
มาก่อน ลําพังมันสมองทีไม่ชาญฉลาดนักของนางคงไม่
สามารถล่วงรูถ้ งึ สาเหตุอย่างแน่นอน แต่เป็ นเพราะมี
ประสบการณ์ เสินหรูอวินจึงพอจะคาดเดาสาเหตุได้

4
โจวเยียนปั งกับเจียงอวีเอ๋อถูกคนวางแผนเล่นงานเข้า
แล้ว

เรืองมาถึงตรงนี เสินหรูอวินกลับรูส้ กึ ลังเลขึนมา หาก


โจวเยียนปั งถูกคนใช้แผนเล่นงาน นีก็ไม่ใช่ความต้อง
การของเขา เช่นนัน นางก็ไม่จาํ เป็ นต้องเจ็บแค้นแล้ว
เรียกผูค้ นมารับรูเ้ รืองราวฉาวโฉ่นี แต่ถา้ ปล่อยไว้ หาก
พวกเขาตืนขึนมา เจียงอวีเอ๋ออาจฉวยโอกาสนีเข้าไปพัว
พันกับโจวเยียนปั ง ยิงคิดก็รูส้ กึ ถึงความเป็ นไปได้ รวมถึง
การตังข้อสงสัยว่า คนทีคิดแผนเล่นงานโจวเยียนปั งก็คือ
เจียงอวีเอ๋อนันเอง

ต้องเข้าใจว่าด้วยฐานะของเจียงอวีเอ๋อ หากนางอยาก
5
แต่งกับบุตรชายตระกูลขุนนางนันยังพอเป็ นไปได้ แต่ถา้
คิดจะแต่งเข้าไปเป็ นอนุภรรยาของทายาทท่านหนิง
หย่วนโหวกลับทําได้ยากยิง

ดังนัน เสินหรูอวินจึงคิดคํานวณว่า หากนางจากไปทัง


อย่างนี ก็เท่ากับเป็ นการเปิ ดทางให้แก่เจียงอวีเอ๋อโดย
ง่าย

ใคร่ครวญอยูน่ าน เสินหรูอวินก็ยงั นึกวิธีแก้ไข


สถานการณ์ไม่ออก ได้แต่กระฟั ดกระเฟี ยด ใครใช้ให้คน
ทีโจวเยียนปั งมีสมั พันธ์ดว้ ยไม่ใช่นางกันเล่า หากตอนนี
คนทีนอนอยูบ่ นเตียงเดียวกับโจวเยียนปั งคือนาง เรือง
ราวต่างๆ ก็คงจะง่ายขึน นางเป็ นถึงน้องสาวท่านจงซู
เส่อหลางโจวเยียนปั งย่อมต้องแต่งกับนาง ด้วยฐานะ
6
ของทังสองครอบครัวนันเหมาะสมกันอย่างยิง

เดิมทีนางแค่จินตนาการเรืองนีในใจเท่านัน แต่พอครุน่
คิดจนเป็ นรูปเป็ นร่าง เสินหรูอวินก็ถงึ กับตกตะลึง

จริงสิ แล้วเหตุใดถึงไม่ทาํ เรืองนีให้เป็ นจริงเล่า

อย่างไรเสีย ตอนนีโจวเยียนปั งก็ถกู คนวางยาจนเมามาย


ไม่ได้สติ เพิมคนมีพวั พันเข้าไปอีกหนึงชีวิต โจวเยียนปั ง
ก็คงไม่รู ้

แต่เสินหรูอวินรูด้ ีวา่ ตนมีพีชายเป็ นถึงท่านจงซูเส่อหลา


ง หากเกิดเรืองน่าบัดสีเกินไป จะทําให้หน้าทีการงานใน
7
อนาคตของเสินอวีหยงมีปัญหา นางไม่สามารถทํา
เหมือนเจียงอวีเอ๋อทีนอนอยูข่ า้ งกายโจวเยียนปั งด้วย
เสือผ้าหลุดลุย่ ได้ อย่างไรก็ยงั ต้องคํานึงถึงชือเสียงของ
ตน

ในเหตุการณ์นี เสินหรูอวินนําสติปัญญาและความ
สามารถทีมีอยูท่ งชี
ั วิตมาใช้จนหมดสิน จึงได้เรียบเรียง
เรืองราวการถูกรังแกขึนมา เมือเป็ นเช่นนัน นางก็จะ
กลายเป็ นผูร้ บั เคราะห์ทีทุกฝ่ ายให้ความสงสาร โดยมี
ความสัมพันธ์ทีถูกโจวเยียนปั งล่วงเกินมาทําให้เขาต้อง
รับผิดชอบ

เสินหรูอวินรีบแก้สถานการณ์ “พีใหญ่ ตอนนีพูดขึนมา


จะมีประโยชน์อะไร ท่านหนิงหย่วนโหวก็กล่าวเองกับ
8
ปากว่าจะหาทางออกให้ มาถึงขันนีคงไม่มีใครกล้าแต่ง
กับข้าแล้ว นอกจากจะแต่งงานกับเขา ข้าก็ไม่มีหนทาง
อืน”

“ไม่มีหนทางอืนงันรึ” เสินอวีหยงสบถออกมา “ตอนทีเจ้า


ทําเรืองเช่นนี เหตุใดจึงไม่คิดบ้าง ข้ารูว้ า่ เจ้าชอบพอโจว
เยียนปั ง แต่เขาเป็ นลูกเขยของตระกูลเจียง” เสินอวีหยง
กล่าว “เจ้าทําให้ตระกูลเจียงกับตระกูลโจวต้อง
บาดหมาง เจ้าคิดว่าคนในจวนของท่านหนิงหย่วนโหว
จะไม่โกรธเคืองเจ้าอย่างนันหรือ นอกจากนี คนตระกูล
เจียงย่อมเจ็บแค้นเจ้าด้วยเช่นกัน”

เสินหรูอวินชิงชังคนตระกูลเจียงนัก จึงอดทีจะเย้ยหยัน
ไม่ได้ “คําก็คนตระกูลเจียง สองคําก็คนตระกูลเจียง
9
ท่านเห็นแก่คนตระกูลเจียงเท่านันหรือ จะว่าไป ท่านก็
เอาแต่กงั วลกับตําแหน่งขุนนางของตน ตอนนีองค์หญิง
หย่งหนิงก็เป็ นเหมือนคนของตระกูลเสินแล้ว เหตุใดท่าน
ยังต้องเกรงกลัวคนตระกูลเจียงอีก ท่าน...”

“เพียะ” เสียงดังฉาดใหญ่ จบบทสนทนาของเสินหรูอวิน


ลงทันที

เสินอวีหยงตบหน้านาง

เสินหรูอวินถูกตบตัวเอียงจนเกือบจะล้ม เห็นเพียงใบ
หน้าแดงกําของเสินอวีหยงและมืออันสันระริก ขณะมอง
นางด้วยสายตาหม่นหมองพลางกล่าว “ระวังคําพูดของ

10
เจ้าด้วย”

เสินหรูอวินตกใจจนลืมรําไห้ครําครวญ

เสินฮูหยินทีอยูด่ า้ นนอกได้ยินเสียงดังเอะอะก็รบี ผลัก


ประตูเข้ามา ครันเห็นใบหน้าของเสินหรูอวินมีรอยตบก็
โมโหขึนมาทันที“อวีหยง ทําไมเจ้าถึงลงไม้ลงมือกับน้อง
สาวของตัวเองได้ลงคอ”

เสินอวีหยงหมดความอดทน พลันระเบิดอารมณ์ “ท่าน


แม่ เรืองนีขออย่าได้เข้ามายุง่ เกียว”

“จะให้ไม่ยงุ่ ได้อย่างไร” เสินฮูหยินกล่าว “ข้าเป็ นแม่ของ


11
พวกเจ้า หรูอวินทําอะไรผิด นางเป็ นน้องสาวของเจ้า ข้า
รูว้ า่ เจ้าปี กกล้าขาแข็งแล้ว ตอนนีแม่อย่างข้าควบคุม
อะไรเจ้าไม่ได้ หากเจ้ารูส้ กึ ว่าข้ากับหรูอวินเป็ นตัวถ่วงก็
ขอให้บอกมาตรงๆ พวกเราก็จะได้เก็บข้าวของกลับบ้าน
นอก ไม่อยูร่ บกวนท่านจอหงวนอย่างเจ้าอีก” พูดถึงตรง
นีก็ทงตั
ิ วลงกับพืนแล้วตัดพ้อ “เป็ นเพราะท่านพีด่วนจาก
ไป ทิงข้าไว้เพียงลําพัง เลียงดูลกู จนเติบใหญ่ไม่ใช่เรือง
ง่าย ตอนนีเขาก็มองไม่เห็นหัวแม่อย่างข้าแล้วเวรกรรม
แท้ๆ...”

เสินหรูอวินรีบทรุดลงไป สองแม่ลกู กอดกันรําไห้ครํา


ครวญ

เสินอวีหยงเห็นเช่นนันก็คกุ เข่า แล้วกล่าวปลอบ “ท่าน


12
แม่ ข้าพูดว่าจะไม่สนใจพวกท่านหรือ เป็ นความผิดของ
ข้าเอง... หรูอวิน ประเดียวช่วงบ่ายข้าจะไปเยือนจวน
หนิงหย่วนโหวสักครัง เรืองนีข้าจะไม่ให้เจ้าต้องชอกชํา
แน่ โจวเยียนปั ง... คนผูน้ ีจะได้เห็นดีกนั ”

เสินหรูอวินแอบกระหยิมยิมย่องในใจ แสร้งกล่าวเจือ
สะอืน “พีใหญ่อย่าหลอกข้านะ...”

เสินอวีหยงเลิกคิวเล็กน้อย “รูแ้ ล้วๆ เจ้ารออยูท่ ีจวนเถิด


ข้าออกไปไม่นาน” จบคําก็รบี จากไป

เสินหรูอวินซุกตัวอยูใ่ นอ้อมอกของเสินฮูหยิน พลันยก


ยิมมุมปากอย่างอดใจไม่อยู่ ในทีสุดนางก็สมปรารถนา

13
ณ จวนของท่านหนิงหย่วนโหวในเวลานี มีเสียงร้องห่ม
ร้องไห้ของสตรีดงั มาจากห้องโถง

“ท่านพี อย่าตีอีกเลย ได้โปรดยังมือด้วย” โหวฮูหยิน


ยือยุดฉุดกระชากแส้จากมือของสามีจนถูกท่านหนิง
หย่วนโหวผลักกระเด็นลงไปกองอยูก่ บั พืน ได้แต่ทนมอง
แส้ดาํ เป็ นมันฟาดลงบนหลังของบุตรชาย โจวเยียนปั ง
พลันร้องโอดโอย

ท่านหนิงหย่วนโหวเฆียนตีพลางก่นด่า “ลูกไม่รกั ดี”

โหวฮูหยินมิอาจห้ามปราม จําต้องนังมองสามีลงโทษ

14
บุตรชาย กระทังเหนือยจนต้องโยนแส้ทิง ขุนนางใหญ่สง่
เสียงคํารามอย่างโกรธขึงแล้วเดินจากไปโดยไม่หนั กลับ
มามอง

โหวฮูหยินรีบเข้าไปประคองบุตรชาย พลางขู่ตะคอกบ่าว
รับใช้ “รีบไปเชิญหมอมาเร็วเข้า”

ท่านหมอมาถึงอย่างรวดเร็ว โหวฮูหยินเรียกให้คนเอายา
ไปต้มในครัว แล้วก็ทายาบนหลังโจวเยียนปั งด้วยตัวเอง

ผ่านไปสักพักใหญ่ โจวเยียนปั งทีหมดสติไปจึงลืมตาขึน


มาช้าๆ “ท่านแม่”

15
นําตาของโหวฮูหยินพลันร่วงหล่นลงบนหลังมือ ใจนึก
อยากทุบตีโจวเยียนปั งแต่ก็ทาํ ไม่ลง ได้แต่กล่าวตัดพ้อ
“นีเจ้าทําอะไรลงไป”

โจวเยียนปั งพูดไม่ออก

ทําอะไรลงไป? ตังแต่เมือคืนจนถึงตอนนีเขายังมึนงง สติ


พร่าเบลอจนคิดอะไรไม่ออก

โหวฮูหยินยังกล่าวอีกว่า “หากเจ้ามีความสัมพันธ์กบั
เจียงอวีเอ๋อเพียงคนเดียวก็ยงั พอทําเนา อย่างไรเสียนาง
ก็เป็ นแค่ลกู หลานฝังอนุ แต่อยูด่ ีไม่วา่ ดีไยต้องไปยุง่ เกียว
กับเสินหรูอวิน นางเป็ นถึงน้องสาวของท่านจงซูเส่อหลา

16
ง เจ้าไปมีเรืองกับคนตระกูลเสิน ฮ่องเต้ยอ่ มไม่พอ
พระทัย บิดาของเจ้าถึงได้โมโหเพียงนี”

โจวเยียนปั งได้ฟังก็สบั สนนัก เขาไปยุง่ เกียวกับเสินหรู


อวินตังแต่เมือไร เสินหรูอวินหน้าตาเป็ นอย่างไรเขาก็ยงั
ไม่รู ้ เรืองทีเกิดขึนเมือคืน นางร้องทุกข์ทงนํ
ั าตานองหน้า
โจวเยียนปั งจึงมองหญิงสาวทีเพิงเคยพบหน้านางนีไม่
ถนัดตานัก

“คราวก่อน เจ้าบอกว่าพอใจในตัวเจียงหลี ในเมือเจ้า


ชอบนาง เหตุใดยังไปมีสมั พันธ์กบั บุตรีคนทีห้าของ
ตระกูลเจียงเล่า แล้วยังมีเสินหรูอวินนันอีก เยียนปั ง แท้
จริงแล้วเจ้าคิดอะไรอยูก่ นั แน่ เหตุใดถึงทําตัวเหลวไหล
เช่นนี”
17
บทที 87 เจ้าเป็ นอะไรไป

เจียงหลีรึ โจวเยียนปั งตะลึงงัน เมือคืนเขานัดพบกับ


เจียงหลีทีหออวีซิว แล้วทําไมกลายเป็ นเจียงอวีเอ๋อไปได้
ตอนนันเขาเห็นว่ามีคนอยูใ่ นหออวีซิว เลยนึกว่าเป็ น
เจียงหลีทีมาตามนัดหมาย ด้วยความดีใจจึงกระทําเรือง
เลยเถิดดังกล่าว หรือว่าตังแต่ตน้ หญิงสาวคนนันก็คือ
เจียงอวีเอ๋อ

เห็นโจวเยียนปั งนิงเงียบ ไม่พดู อะไรออกมา โหวฮูหยิน


จึงเอ่ยถาม “เจ้าเป็ นอะไรไป”

1
โจวเยียนปั งพลันได้สติ ชายหนุ่มกล่าวอย่างเลือนลอย
“ไม่มีอะไร” ภายนอกเป็ นเช่นนัน แต่กลับไม่สามารถทํา
ใจให้สงบลงได้ ครันคิดต่อก็จาํ ได้วา่ ตอนทีเสินหรูอวิน
ร้องแรกแหกกระเชอให้ผคู้ นมามุงดู เจียงหลีก็ยืนอยูท่ า่ ม
กลางฝูงชนด้วย สายตาของนางทีจับจ้องมา กลับไม่มี
อาการตืนตระหนกแม้แต่นอ้ ย

นางรูม้ าตังแต่ตน้

ราวกับมีนาเย็
ํ นเฉียบราดรดศีรษะ ร่างของโจวเยียนปั ง
สันสะท้าน เปลวเพลิงแห่งโทสะพลันลุกโชน

เพราะแบบนี นางถึงสามารถยืนอยูท่ า่ มกลางฝูงชน มอง

2
สภาพอเนจอนาถของเขาอย่างเย็นชา

ความโกรธแค้นอัดแน่นอยูใ่ นใจของโจวเยียนปั ง

ต่อให้เขาจะโง่เขลาปานใดก็พอจะรูว้ า่ ผ่านพ้นเรืองคืน
นันอนาคตของเขาย่อมพินาศยับเยิน ทําให้ฮ่องเต้หง
เซียวไม่พอพระทัยเขายังจะมีโอกาสได้แสดงความ
สามารถในหน้าทีการงานต่อไปอีกหรือ

ทังหมด ต้องขอบคุณเจียงอวีเอ๋อกับเจียงหลี

โจวเยียนปั งโกรธเคืองเจียงอวีเอ๋อและยิงเคียดแค้นเจียง
หลี อีกฝ่ ายไม่มาตามนัดหมายก็แล้วไปเถิด แต่กลับใช้
3
วิธีดถู กู กันเช่นนี นางไม่เห็นความจริงใจของเขาซํายัง
สลัดทิงอย่างไม่ไยดี แล้วใช้วิธีการเช่นนีมาทําลาย
อนาคตในหน้าทีการงาน

ช่างเป็ นสตรีทีใจดําอํามหิตนัก

โหวฮูหยินซักถามต่อ “หรือว่าไม่สบายตรงไหน จะให้


เชิญหมอมาดูอาการอีกครังหรือเปล่า”

“ไม่จาํ เป็ น” โจวเยียนปั งฝื นความเจ็บปวดทีแผ่นหลัง


และอาการหนาวสะท้านจับขัวหัวใจ “ท่านแม่ ต่อไปข้า
ควรทําอย่างไร จะให้แต่งกับเจียงโย่วเหยาก็คงเป็ นไปไม่
ได้อีกแล้วกระมัง”

4
โหวฮูหยินอึงงันครูห่ นึงจึงส่ายหน้า “วันนีตระกูลเจียงส่ง
คนมาทีนีแต่เช้า เรืองการแต่งงานกับเจียงโย่วเหยา เจ้า
จงถือเสียว่าไม่เคยตกลงกัน”

โจวเยียนปั งออกปาก “ไม่เป็ นไร เดิมทีการแต่งงาน


ระหว่างลูกกับเจียงโย่วเหยาก็ไม่ควรเกิดขึน”

โหวฮูหยินรูส้ กึ ว่าคําพูดของบุตรชายฟั งดูชอบกล จึงอด


ประเมินมองเขาไม่ได้

ในใจของโจวเยียนปั งกําลังครุน่ คิดว่า เรืองการแต่งงาน


กับเจียงโย่วเหยานัน เดิมทีก็เป็ นสิงทีนํามาเพือทดแทน

5
การแต่งระหว่างเขากับเจียงหลี ตอนนีเจียงโย่วเหยาถูก
กันออกไป ก็เท่ากับว่าทุกอย่างย้อนคืนสูจ่ ดุ เริมต้น

แต่เรืองราวระหว่างเขากับตระกูลเจียง ดูเหมือนยังตัด
กันไม่ขาด

“แล้วเจียงอวีเอ๋อเล่าจะทําอย่างไร” โจวเยียนปั งถาม


“ลูกควรให้ฐานะกับนาง ท่านแม่... ข้ารับนางมาเป็ นอนุ
ดีหรือไม่”

“เป็ นทางออกทีดีทีสุด” โหวฮูหยินตอบแล้วเอ่ยหยัน “ไม่


ดูฐานะของตัวเองเสียบ้าง หากสถานะอนุยงั ไม่สมใจ
นางก็อย่าได้คิดจะเข้าจวนหนิงหย่วนโหวเลย”

6
ทีจวนหนิงหย่วนโหวหารือกันอย่างไร ณ สวนของบ้าน
สายสามแห่งจวนตระกูลเจียง นางหยางซือก็กาํ ลังถก
เถียงกับเจียงหยวนชิงถึงเรืองของเจียงอวีเอ๋อแบบนัน

“ตอนนีอวีเอ๋อจะเป็ นอย่างไรก็อยูท่ ีโจวเยียนปั งแล้ว นาง


ทําได้แค่แต่งงานกับเขาเท่านัน” นางหยางซือถลึงตา
กล่าว

“ข้าไม่อนุญาตให้บตุ รสาวของเราแต่งเข้าไปเป็ นอนุ


หรอกนะ” เจียงหยวนชิงมิได้ออ่ นปวกเปี ยกเหมือนเมือ
ก่อน เขาโต้แย้งนางหยางซือคอเป็ นเอ็นจนหน้าแดงกํา
“ไปเป็ นอนุให้กบั ตระกูลโจว ต่อไปหากนางมีลกู ชาย คง

7
ไม่พน้ ต้องเจริญรอยตามข้า คือเป็ นได้แค่ลกู อนุ”

เจียงหยวนชิงโมโหนัก มีแต่เขาทีรูว้ า่ การเป็ นลูกอนุนนั


ต้อยตําเพียงใด ต่อหน้าพีชายทังสองก็ได้แต่นอ้ ยเนือตํา
ใจจนไม่อาจเงยหน้า

“แล้วท่านจะทําอย่างไร” นางหยางซือเริมสงบอารมณ์ลง
มาบ้าง ได้แต่กล่าวอย่างสินหวัง “ฐานะของอวีเอ๋อ ทําได้
แค่แต่งเข้าไปเป็ นอนุในจวนหนิงหย่วนโหว ผูค้ นในเมือง
เยียนจิงต่างก็รูว้ า่ อวีเอ๋อมีความสัมพันธ์กบั โจวเยียนปั ง
ถึงขันนีแล้วยังจะมีใครอยากแต่งงานกับนางอีก จะให้อวี
เอ๋อเป็ นสาวเทืออยูแ่ ต่ในเรือนไปจนตาย หรือท่านจะให้
นางโกนหัวบวชชีตลอดชีวิตเสียเลย” หยางซือพึมพํา “ข้า
มิได้สงสอนลู
ั กสาวให้ดีก็จริง แต่ถา้ ท่านไม่ได้เป็ นแค่
8
เสียวผิน หากคนทีเกิดเรืองไม่ใช่อวีเอ๋อแต่เป็ นลูกสาว
ของบ้านสายหลัก ผลลัพธ์ทีออกมาย่อมไม่เป็ นเช่นนี”

เจียงหยวนชิงเหมือนถูกสายฟ้าฟาด พลันเซถอยหลังไป
สองก้าว

ในตอนนัน เจียงอวีเอ๋อก็วิงผลุนผลันเข้ามาคุกเข่าลง
แทบพืน นางรําไห้พลางกล่าวกับเจียงหยวนชิง “ท่านพ่อ
ลูกไม่อยากเป็ นสาวเทือ แล้วก็ไม่อยากอยูแ่ ต่ในวัดไป
ตลอดชีวิต ไหนๆ เรืองก็เลยเถิดมาถึงขันนี หากไม่แต่ง
กับโจวเยียนปั งลูกก็ไม่มีทางเลือกอืน ท่านพ่อ ท่านจะ
บีบบังคับให้ลกู จนตรอกเชียวหรือเจ้าคะ”

9
เห็นลูกเมียเป็ นเช่นนี เจียงหยวนชิงก็ได้แต่คิดถึงสถานะ
ของตนอีกครัง สีหน้าค่อยๆ กลับมาเป็ นปกติ ไม่มีเรียว
แรงจะสูร้ บปรบมืออีกต่อไป ได้แต่เผยอริมฝี ปากเล็กน้อย
สุดท้ายก็หลับตาลง เงียบงันอยูน่ านจึงเอ่ยว่า “ตามใจ”

เรืองนีจึงได้ขอ้ สรุปเสียที

วันเวลาผันผ่านตามครรลอง ฤดูรอ้ นผ่านพ้น ฤดูใบไม้


ร่วงติดตามมาจากฟากฟ้าแสนห่างไกลพร้อมกับกลิน
หอมของดอกกุย้ ฮัว

ฤดูรอ้ นปี นีผ่านไปอย่างเชืองช้า เมืองเยียนจิงมีเรือง


ตืนเต้นต่างๆ เกิดขึนมากมาย โชคชะตาด้านความรัก

10
ของโจวเยียนปั งแห่งจวนหนิงหย่วนโหวก็กาํ ลังพุง่ แรง
เรืองบัดสีคราวนัน สามารถใช้การแต่งงานของโจวเยียน
ปั งมาแก้สถานการณ์ได้

โจวเยียนปั งจะแต่งเสินหรูอวิน--คุณหนูตระกูลเสินเป็ น
ภรรยาเอก ขณะเดียวกันก็จะแต่งคุณหนูหา้ เจียงเข้าเป็ น
อนุภรรยา

จากสายตาของคนนอก โจวเยียนปั งมีทงเมี


ั ยหลวงเมีย
น้อยไว้ในอ้อมกอด แล้วยังได้เป็ นน้องเขยของขุนนางจง
ซูเส่อหลางทีฮ่องเต้พอพระทัย นับเป็ นเรืองน่ายินดี แต่
ความรูส้ กึ แท้จริงของโจวเยียนปั งนีจะมีก็แต่เขาเองเท่า
นันทีรู ้

11
ณ เรือนฟั งเฟย ถงเอ๋อกําลังนังถักไหมพรมอยูท่ ีเก้าอี
หน้าห้องกับไป๋ เสวีย

เจียงหลีทีอยูใ่ นสวนยิมพลางมองสาวใช้ ช่วงทีผ่านมา


นับว่าพวกนางเบาตัวไปมาก อาจเป็ นเพราะจีซูหรันสอง
แม่ลกู ไม่มีเวลาสนใจเรือนฟั งเฟย

เจียงโย่วเหยาถูกสังห้ามออกนอกจวน

ทีเรือนหวันฟ่ งถางคืนนัน เจียงโย่วเหยากรีดหน้าเจียงอวี


เอ๋อจนเป็ นแผล ฮูหยินผูเ้ ฒ่าโกรธจนยากจะระงับ จึงสัง
กักบริเวณเจียงโย่วเหยา

12
เจียงหลีคิดว่า การทีฮูหยินผูเ้ ฒ่าสังห้ามเจียงโย่วเหยา
ออกจากจวน ผิวเผินอาจดูเหมือนเป็ นการลงโทษเจียง
โย่วเหยาทีทําร้ายเจียงอวีเอ๋อ แต่แท้จริงแล้ว ฮูหยินผู้
เฒ่าเกรงว่าเจียงโย่วเหยายังไม่สามารถตัดใจจากโจว
เยียนปั งจนทําเรืองโง่เขลา ถึงได้ตดั หนทางของนางเสีย
มากกว่า

ฮูหยินผูเ้ ฒ่าทําเช่นนี ก็เป็ นการผ่อนแรงให้เจียงหลี ไม่มี


เจียงโย่วเหยาคอยก่อเรืองน่ารําคาญขึนในจวนตระกูล
เจียง จีซูหรันก็ไม่มีแรงจะมาสูร้ บปรบมือกับนาง ช่วง
เวลาไม่กีวันมานี จวนตระกูลเจียงจึงเงียบสงบเอามากๆ

เจียงอวีเอ๋อถูกส่งไปรักษาตัวในหมูบ่ า้ น ทังยังหาฤกษ์
13
ยามเพือแต่งเข้าจวนหนิงหย่วนโหวเป็ นทีเรียบร้อย
เสินหรูอวินเองก็สมความปรารถนา ได้แต่งกับโจวเยียน
ปั ง ชายทีตนแอบหมายปองมานาน

คนเลวก็ตอ้ งได้รบั ผลแห่งกรรมชัว ให้เสินหรูอวินอยูก่ บั


เจียงอวีเอ๋อเช่นนี นับว่าเหมาะสมลงตัวเป็ นทีสุด

พอคิดถึงเรืองวุน่ ๆ ทีจะเกิดขึนต่อไปในจวนหนิงหย่วน
โหว เจียงหลีก็อดขําไม่ได้ ขณะกําลังนึกภาพตามอยูน่ นั
ก็ได้ยินเสียงของชายหนุ่มพลันดังขึน “เจ้ากําลังคิดเรือง
ความรักอยูห่ รือ”

เจียงหลีเหลือบมอง เห็นเจียงจิงรุย่ กําลังหรีตาจับจ้อง

14
นางพลางรุดเข้ามา “คุณหนูรองของจวนเราหมายปอง
ลูกหลานบ้านไหนเอาไว้หรือ คุณชายอย่างข้าจะช่วยดู
ให้เจ้าเอง”

“เจ้ามาทีนีมีธุระอะไรกันแน่” เจียงหลีถาม

“อีกสามวันก็จะถึงเทศกาลจงหยวนเจีย*แล้ว ตกกลาง
คืนมีงานแสดงโคมไฟ เจ้าอยากไปดูหรือไม่” เจียงจิงรุย่
พูดเป็ นคุง้ เป็ นแคว

เจียงหลีได้ฟังก็ตอบเพียงว่า “ไม่”

“ไม่ดไู ด้อย่างไร งานแสดงโคมไฟในเทศกาลจงหยวนเจีย


15
มีของกินมากมาย เหตุใดถึงไม่สนใจเล่า”

เจียงหลีกล่าว “ไม่อยากไป” จบคําก็ลกุ ขึนหมายจะกลับ


เข้าห้องไม่นกึ ว่าเจียงจิงรุย่ จะหน้าทนเช่นนี เขารีบลุกขึน
เดินตามนางอย่างไม่ลดละ “เจียงหลี เจ้าไม่ปกติเอา
มากๆ คุณหนูทงหลายต่
ั างก็รอให้ถงึ งานแสดงโคมไฟอัน
ครึกครืนของเทศกาลจงหยวนเจียทีจะจัดขึนทุกปี แต่เจ้า
กลับไม่ไป จะอยูเ่ ฝ้าจวนทําไมเล่า จะนังเล่นไพ่กบั เจียง
โย่วเหยาทีถูกสังห้ามออกนอกจวน หรือว่าจะอยูเ่ ป็ น
เพือนท่านย่านังคัดบทสวดมนต์กนั แน่”เจียงหลีตอบ
เรียบๆ “ไม่มีเหตุผล ไม่อยากไปก็คือไม่อยาก”

เจียงจิงรุย่ ยืนอึงอยูก่ บั ที ถงเอ๋อและไป๋ เสวียต่างก็มอง


เจียงหลีเป็ นตาเดียว
16
เจียงหลีพลันสงบอารมณ์กล่าวกับเจียงจิงรุย่ “ข้าไม่ชอบ
ความอึกทึก ผูค้ นมากมายย่อมต้องเบียดเสียดกันบ้าง
ข้าขยาดจริงๆ เจ้าสนใจก็ไปเองเถิด ข้าไม่ไปสักคนคงไม่
เป็ นไร”

เจียงจิงรุย่ อึกๆ อักๆ อยูพ่ กั ใหญ่ สุดท้ายก็หมดความอด


ทน เมือเห็นว่าเจียงหลีดเู หมือนจะไม่ยอมเปลียนใจ จึง
ได้แต่เดินคอพับกลับไป

17
บทที 88 ค้นหาเขาคนนันท่ามกลางฝูงชน

หลังจากเจียงจิงรุย่ ออกไปแล้ว เจียงหลีก็มิได้นงรั


ั บแดด
อยูใ่ นสวน แต่กลับเข้าห้อง

รอให้เจียงหลีเข้าห้องแล้ว ไป๋ เสวียจึงถามถงเอ๋อด้วย


ความสงสัย “เหตุใดคุณหนูถงึ อารมณ์ไม่ดีเล่า”

ถงเอ๋อส่ายหน้า “ไม่รูส้ ิ อาจเป็ นเพราะเบือคุณชาย


รองกระมัง”

ในห้อง เจียงหลีหลบมานังริมหน้าต่าง
1
ท่ามกลางพุม่ ใบเขียวชอุม่ มีกยุ้ ฮัวดอกเล็กๆ สีเหลือง
อําพันแซมประดับ แล้วเทศกาลจงหยวนเจียก็เวียนมา
บรรจบอีกครัง เจียงหลีนงคิ
ั ดเงียบๆ

นางนึกย้อนถึงตอนทีเพิงมาเยือนเมืองเยียนจิงกับเสินอ
วีหยงเป็ นครังแรก พวกเขาทังสองอยูฉ่ ลองเทศกาลจง
หยวนเจียด้วยกัน ครันนางคิดถึงบิดาและเซวียเจาซึงอยู่
ทีบ้านเกิดอันห่างไกลก็รูส้ กึ โศกเศร้า เสินอวีหยงจึงจูงมือ
นางแล้วกล่าวว่า ‘นับแต่นีไป ทีนีก็คือบ้านของเจ้า งาน
แสดงโคมไฟในเทศกาลจงหยวนเจียของเมืองเยียนจิง
นันไม่ดอ้ ยไปกว่าทีถงเซียง ทุกปี จากนีข้าจะพาเจ้ามา
เทียวชม เจ้าจะต้องชอบทีนีแน่’

2
ไม่เหมือนกับถงเซียง เมืองเยียนจิงมีผคู้ นคึกคัก การเล่น
ทายปริศนาทีคนขายติดไว้กบั โคมไฟก็เอาชนะได้ง่าย
ดายนัก นางกับเสินอวีหยงตอบได้ทกุ ข้อจนมือไม่พอจะ
หอบหิว ต้องแบ่งโคมไฟยกให้กบั เด็กๆ ทีพบตามราย
ทาง

นางยังจําได้มีขอ้ หนึงถามว่า ‘ค้นหาเขาคนนันท่ามกลาง


ฝูงชน’ นางเดาคําตอบได้วา่ ‘รอคอย’ เสินอวีหยงพลัน
กระซิบข้างหู ‘อักษรเหล่านี ก็เหมือนกับความรูส้ กึ ของข้า
ทีมีตอ่ เจ้า’

เขา ‘รอคอย’ นางอยู่ ในตอนนัน นางหลงนึกว่าเป็ น


ความจริงจึงเชือเสียสนิทใจ ไม่รูเ้ ลยว่าหลัง ‘รอคอย’ ยัง
มีคาํ ว่า ‘ตาย’ อยูอ่ ีกหนึงคํา
3
เขารอคอยให้นางตาย ไม่มีใครสามารถขัดขวางหนทาง
ก้าวหน้าของเสินอวีหยง

เจียงหลีกาํ หมัดแน่น สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วคลาย


มือออกช้าๆ

เจียงจิงรุย่ อยากให้นางออกไปดูโคมไฟในเทศกาลจง
หยวนเจีย แต่เจียงหลีเข็ดขยาดเสียแล้ว นางกลัวว่า
หากออกจากบ้านแล้วจะนึกถึงความทรงจําเก่าๆ เห็นแต่
เรืองราวในอดีตทีผ่านมา

มันโหดร้ายเกินไป สูน้ างไม่ไปเห็นเลยเสียยังดีกว่า ถือว่า

4
ไม่เคยเกิดขึน

นางไม่ยอมหาเรืองเดือดร้อนใส่ตวั แน่

ห้องหนึง ณ โรงเตียมในเมืองเยียนจิง แสงตะเกียงถูกจุด


จนสว่างไสวเป็ นพิเศษ

เย่ซือเจียนังอยูใ่ นห้อง กําลังขยับไส้ตะเกียงอย่างระมัด


ระวัง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงประตูลนั ด้วยมีคนผลักเข้ามา

เย่ซือเจียพลันลุกขึนยืนแล้วหันกลับไปมอง สีหน้าฉาย
แววปี ติยินดี “ท่านอารอง”

5
ผูม้ าใหม่เป็ นชายวัยกลางคนทีรูปร่างค่อนข้างผอม สวม
หมวกขนนกกับอาภรณ์สีขาว ดูแล้วคล้ายกับบัณฑิต
แววตาแฝงความฉลาดแกมโกง เขาปิ ดประตูแล้วรีบสาว
เท้าเข้ามา ขณะเดียวกันปากก็รอ้ งทัก “ซือเจีย เจ้านีเก่ง
ไม่เบา”

เขาเดินมาหยุดอยูต่ รงหน้าเย่ซือเจีย ตบไหล่ชายหนุ่ม


เต็มแรงแล้วกล่าวว่า “เรืองของเจ้าข้าได้ยินมาหมดแล้ว
ตลอดทางผูค้ นต่างชืนชมในตัวเจ้าไม่นอ้ ย เป็ นทีเชิด
หน้าชูตาให้กบั ตระกูลเย่ของพวกเรา”

บุรุษผูน้ ีก็คือท่านอารองของเย่ซือเจีย ผูอ้ าวุโสรองเย่แห่ง


เมืองเซียงหยาง นามว่าเย่หมิงเซียน

6
เย่ซือเจียมองไปยังด้านหลังของเย่หมิงเซียน ครันไม่เห็น
ว่ามีผใู้ ดติดตามก็ถามด้วยความกังขา “ท่านอารอง เหตุ
ใดถึงมีแต่ทา่ นเพียงลําพัง แล้วท่านพ่อของหลานเล่า”

เย่หมิงเซียนพลันขมวดคิว ความปี ติยินดีเมือสักครูเ่ ลือน


หายไปเล็กน้อย กล่าวว่า “ท่านย่าของเจ้าสุขภาพไม่แข็ง
แรง ไม่กีเดือนก่อนก็เป็ นลมอยูใ่ นเรือนไปครังหนึง ตอนนี
รอบตัวต้องมีคนคอยเฝ้า อีกทังการค้าทีเมืองเซียงหยาง
ยังประสบปั ญหา อย่าว่าแต่บิดาเจ้าเลย แม้แต่อาสามก็
กําลังเดินทางกลับเซียงหยางแล้ว”

“ว่าอย่างไรนะ” เย่ซือเจียตกใจนัก “เกิดอะไรขึนกันแน่”

7
“ไม่ใช่เรืองใหญ่” เย่หมิงเซียนตบศีรษะเย่ซือเจียเบาๆ
“ครังนีข้านําเงินมาให้เจ้า แล้วก็มาติดต่อทําการค้าใน
เมืองเยียนจิง ตอนนีเจ้าเป็ นขุนนางแล้ว ย่อมมีเรืองให้ใช้
จ่ายอีกมาก แม้เงินทองจะไม่สามารถซือหาทุกอย่างได้
แต่เรืองทีสมควรจับจ่าย บ้านเราก็ใช่วา่ จะขัดสน”

เย่ซือเจียยังคงค้างคาใจ “ท่านอารอง ไม่มีเรืองอะไรจริง


หรือ หลานอยากกลับไปเยียมท่านย่า”

“เจ้าเพิงได้รบั ตําแหน่งมาไม่นาน จะมีเวลากลับไปเมือง


เซียงหยางเสียทีไหน ท่านย่าของเจ้าก็ไม่ได้เป็ นอะไรมาก
ทําใจให้สบายแล้วรออยูท่ ีเมืองเยียนจิงเถิด รอให้เจ้า
เป็ นหลักเป็ นฐาน ถึงเวลานันพวกข้าค่อยย้ายเข้าเมือง
8
เยียนจิงก็ไม่ใช่เรืองยาก คิดว่าตอนนันเจ้าคงได้เลือน
ตําแหน่งเป็ นขุนนางขันสาม น่าจะใช้เวลาประมาณสาม
ถึงห้าปี ” เขาลูบคางพลางครุน่ คิด

เย่ซือเจียใคร่ครวญแล้วกล่าวกับเย่หมิงเซียน “ท่านอา
รอง ท่านยังจําท่านอาเล็กได้หรือไม่”

เย่หมิงเซียนมองเย่ซือเจียอย่างอึงงัน

ตระกูลเย่ของพวกเขามีดว้ ยกันสามชายหนึงหญิง บุตร


สาวเพียงคนเดียวมีนามว่าเย่เจินเจิน นางก็คือน้องสาว
ของเขา เพียงแต่นอ้ งสาวคนนีอายุสนั มาด่วนตายจาก
ตังแต่อายุยงั น้อย พูดขึนมาก็ทาํ ให้รูส้ กึ หดหูใ่ จ

9
เย่ซือเจียประเมินสีหน้าของเย่หมิงเซียน แล้วกล่าวอย่าง
ระมัดระวัง “ก่อนหน้านี หลานได้พบกับบุตรีของอา
เล็ก... ญาติผนู้ อ้ งคนนัน”

“เจียงหลีร”ึ

เย่ซือเจียรูส้ กึ โล่งใจขึนมาบ้าง ยังดี เย่หมิงเซียนยังไม่ลืม


ว่ามีเจียงหลีอยูอ่ ีกคน เขาจึงเล่าเรืองทีได้พบกับนาง อีก
ทังคํารําลือเกียวกับเจียงหลีทีโหมสะพัดอยูใ่ นเมืองเยียน
จิง ทุกๆ เรืองราวถูกถ่ายทอดให้แก่เย่หมิงเซียน

กว่าจะครบถ้วน เย่ซือเจียก็ถงึ กับคอแห้ง เขาดืม

10
นําชาบนโต๊ะเข้าไปอึกใหญ่ “ท่านอารอง ท่านคิดว่าเจียง
หลีทาํ แบบนีมีจดุ ประสงค์อะไร ต้องการกลับมาคืนดีกบั
ตระกูลเย่ของพวกเราอย่างนันหรือ แต่ในอดีตนางเคย
ลันวาจาว่าจะไม่ยงุ่ เกียวกับตระกูลค้าขาย ตอนนีหลาน
มาคิดดูก็ยงไม่
ิ เข้าใจ”

เย่หมิงเซียนฟั งความจากเย่ซือเจียจบก็ไม่ได้ตอบคําถาม
ในทันที เขาครุน่ คิดอย่างถีถ้วน แล้วจึงกล่าวว่า “ทีเจ้า
เล่ามานี ข้าเข้าใจแล้ว เรืองใดก็ตามไม่อาจฟั งความแค่
ข้างเดียวได้ ใช่วา่ ข้าจะไม่เชือคําของเจียงหลี เพียงแต่ขา้
ไม่ไว้ใจคนตระกูลเจียง กลัวว่าเรืองของนางจะมีคน
ตระกูลเจียงคอยบงการอยูเ่ บืองหลัง แม้วา่ ตระกูลของ
เราจะไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรให้กอบโกย แต่ก็ตอ้ งปก
ป้องตัวเองไว้บา้ ง” เย่หมิงเซียนเคาะโต๊ะกล่าว “เอาอย่าง

11
นีก็แล้วกัน ข้าจะหาโอกาสพบเจียงหลีสกั ครัง”

“ท่านอารอง” เย่ซือเจียถามด้วยความสงสัย “ทีเจียง


หลีบอกว่าถ้อยคําลบหลูต่ ระกูลค้าขายนันไม่ใช่ความ
ตังใจของนาง ท่านคิดว่านางพูดความจริงหรือไม่”

เย่หมิงเซียนตอบกลัวหัวเราะ “ก็ใช่วา่ จะเป็ นไปไม่ได้


เพียงแต่ ต่อให้มีคนชักใยอยูเ่ บืองหลังให้นางพูดคําต่างๆ
ออกมา ถ้าตอนนันนางยอมเปิ ดเผยความจริง พวกข้า
ย่อมหาหนทางพานางออกมาจนได้ แต่นางกลับไม่เชือ
ใจตระกูลเย่”

“อาจเป็ นเพราะว่าตอนนันนางเด็กเกินไป เจียงหลีอายุ

12
ยังน้อย อาจถูกคนทําให้หวาดกลัวได้” เย่ซือเจียอดช่วย
แก้ตา่ งไม่ได้

เย่หมิงเซียนไม่พดู อะไร แค่มองเย่ซือเจียพร้อมรอยยิม


แฝงความนัยจนเย่ซือเจียรูส้ กึ ไม่เป็ นตัวของตัวเอง เขา
อดรนทนไม่ไหวจึงเอ่ยถาม “ทะ... ทําไมหรือ”

“ไม่มีอะไร” เย่หมิงเซียนบอกปั ด “ทีเจ้าพูดมานันไม่ผิด ผู้


เยาว์ยอ่ มโดนหลอกเอาได้ง่าย หากเป็ นความจริงข้าก็จะ
ไม่กล่าวโทษนาง ต้องตําหนิตวั เองทีตอนนันข้าประเมิน
สถานการณ์ผิดไป ทว่าตอนนีนางไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ฟั ง
จากทีเจ้าเล่ามา เจียงหลีเป็ นสตรีทีมีความคิดความอ่าน
ทังยังกล้าหาญ นางสามารถพูดสิงทีคิดออกมาตรงๆ
และมีสทิ ธิเลือกได้วา่ จะเชือใจพวกเราหรือไม่”
13
“ทุกอย่าง รอให้พบหน้าก็จะรูเ้ อง” เขากล่าว

ณ จวนซูก่ วกง

ฤดูใบไม้รว่ งอากาศเหน็บหนาว แต่ดอกไม้ในสวนทีจวน


กัวกงก็ยงั คงบานสะพรัง สวยสดงดงาม

จวนกัวกงแทบจะไม่เคยปรากฏภาพบุปผาร่วงหล่นใน
ฤดูใบไม้รว่ งและฤดูหนาว ท่านซูก่ วกงปลู
ั กดอกไม้ไว้เต็ม
จวน มวลบุปผาจึงผลิสะพรังทังสีฤดู ดอกท้อไม่บานใน
ฤดูใบไม้รว่ งก็ยงั มีดอกเก๊กฮวย ดอกบัวไม่บานในฤดู
หนาวก็ยงั มีดอกเหมยแดง

14
ผูค้ นในจวนกัวกง ตังแต่พอ่ บ้านไปจนถึงคนงานล้างส้วม
ล้วนมีฝีมือในการดูแลพรรณไม้ หากคนทัวไปทีไม่รูจ้ กั วิธี
การปลูกชํา ลองได้ไปนังทีหน้าประตูจวนซูก่ วกงในตอน

เช้า รอให้เด็กรับใช้เปิ ดประตูออกมาแล้วขอคําปรึกษา
รับรองว่าจะต้องได้รบั คําตอบทีน่าพอใจ

ถ้าถามคนทัวไปว่าทัศนียภาพใดงดงามทีสุดในเมือง
เยียนจิง คําตอบทีได้จะไม่ใช่เขาไป๋ อวิน ไม่ใช่วดั เต๋า ไม่
ใช่เรือสําราญ หรือแม้กระทังวังหลวง แต่เป็ นทีจวนกัวกง
เคหสถานทีเก็บรวบรวมสีสนั อันงดงามของโลกมาจัด
วางไว้ในจุดเดียวกัน งดงามแตกต่างจากทีพบเห็นได้ทวั
ไป มีคนเคยกล่าวว่า หากไม่ใช่เพราะท่านซูก่ วกงเป็
ั นคน
อารมณ์แปรปรวนง่ายจนไม่มีใครกล้าตอแย เกรงว่าฝูง

15
ชนคงมาแอบดูสวนดอกไม้ของจวนกัวกงจนกําแพงถล่ม
ลงมา

ยิงไปกว่านัน ไม่รูว้ า่ เป็ นเพราะสถานทีอันงดงามหรือ


อย่างไร ถึงทําให้ผคู้ นพลอยหน้าตาดีไปด้วย เด็กรับใช้
ตลอดจนทหารอารักขาจวนของท่านกัวกงล้วนหน้าตาดี
ทังสิน แม้จะไม่หล่อเหลาเท่าจีเหิง แต่หากเทียบกับ
มาตรฐานทัวไป ยังทําให้ผคู้ นลุม่ หลงกันเป็ นแถว

ในเวลานี ทีห้องหนังสือจวนซูก่ วกงมี


ั คนกําลังหารือกัน

ข่งลิวตบโต๊ะเสียงดังพลางกล่าว “งานแสดงโคมไฟทีจะ
จัดขึนในเทศกาลจงหยวนเจียในวันพรุง่ นี เจ้าจะไปหรือ

16
ไม่”

“ไม่ไป” จีเหิงตอบง่ายๆ เพียงสองคํา

“ทําไมเล่า” ข่งลิวถาม “เจ้าไม่อยากรูห้ รือว่าเฉิงอ๋องมี


แผนการอะไร”

“ยังไม่ถงึ เวลาทีเขาจะก่อการใดๆ ออกไปดูก็ไม่มี


ประโยชน์” จีเหิงตอบอย่างไม่แยแส “ทุกปี ก็เหมือนๆ กัน
ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ”

17
บทที 89 น่าเสียดายจริงๆ

“ปี นีมีคณะละครจินหม่านถาง” ลูจ่ ีทีนังเงียบๆ อยูอ่ ีกฝัง


พลันเอ่ย “นายท่านชอบดูละครมิใช่หรือ”

“ใช่ๆๆ” ข่งลิวกล่าวเสริม “ได้ยินว่า คณะจินหม่านถาง


แสดงดีกว่าคณะเซียงซือปั นทีมีชือเสียงโด่งดังไปทัวเสีย
อีก”

เห็นจีเหิงยังไม่ตอบรับ ข่งลิวก็รอ้ งเสียงดังว่า “หากเจ้าไม่


ไป ข้ากับเจ้าหนวดลูก่ ็ตอ้ งอยูแ่ ต่ในจวนกัวกง สะสาง
งานราษฎร์งานหลวงกับเจ้าทังคืน วันพรุง่ นีเป็ นเทศกาล

1
จงหยวนเจีย เทศกาลจงหยวนเจียเชียวนะ จีเหิง ท่านกัว
กง นายท่านของข้า โปรดมีความเป็ นคนบ้างได้ไหม แม้
แต่ขอทานก็ยงั ต้องพักผ่อนนะขอรับ”

ลูจ่ ียกยิม เห็นด้วยกับคําพูดของข่งลิวอย่างมาก จีเหิง


ถลึงตามองพวกเขาทังสอง เงียบงันไปครูห่ นึงจึงบอกปั ด
“ไม่”

ข่งลิวถอนหายใจ กําลังจะโน้มน้าว จู่ๆ ประตูก็ถกู เปิ ด


ท่านปู่ ของจีเหิง--แม่ทพั ผูเ้ ฒ่าก้าวเข้ามา

อากาศกลางเดือนแปดทําให้ทา่ นแม่ทพั ผูเ้ ฒ่าถลกเสือ


เปลือยกล้ามแขน คงเพิงกลับจากฝึ กกระบีในสวน ที

2
หน้าผากจึงมีเม็ดเหงือผุดพราย บนศีรษะยังมีเศษ
ดอกไม้ติดอยู่ หนังตาลูจ่ ีกระตุกอย่างยากจะระงับ เขา
พอจะมองออกว่าดอกไม้นนคื
ั อ ‘ทะเลหิมะหอม’ ทีเมือ
คราวก่อนจีเหิงซือมาด้วยเงินถึงหนึงพันตําลึง
กลีบดอกไม้พวกนีก็คงมีราคาราวๆ หนึงร้อยตําลึงเห็น
จะได้

“วันพรุง่ นีพวกเจ้าจะไปร่วมงานแสดงโคมไฟของ
เทศกาลจงหยวนเจียหรือไม่” ท่านแม่ทพั ผูเ้ ฒ่าเอ่ยเสียง
หนักแน่นดังกังวานพลางมองจีเหิง นัยน์ตาฉายแวว
อาวรณ์ “เดิมทีขา้ หวังให้เจ้าอยูเ่ ป็ นเพือนฝึ กเพลงกระบี
แต่ได้ยินพวกเจ้าคุยกันเรืองงานแสดงโคมไฟ น่าเสียดาย
นัก”

3
ขณะทีข่งลิวกําลังจะปฏิเสธว่า ‘อย่าเสียดายเลย จีเหิงไม่
คิดจะไป’ ก็ได้ยินเสียงเศร้าสร้อยของจีเหิงเอ่ยว่า “น่า
เสียดายจริงๆ”

ข่งลิวมองอีกฝ่ ายอย่างตกตะลึง จีเหิงยิมรับแล้วกล่าว


เรียบๆ “ท่านปู่ ฝึกกระบีอยูใ่ นจวนคนเดียวนันเหมาะสม
แล้ว ทางทีดีควรฝึ กในทีโล่ง พวกข้าออกไปเดินเทียว
ดึกๆ ถึงจะกลับ”

เทศกาลจงหยวนเจีย ตรงกับวันทีสิบห้า เดือนแปด ตาม


ปฏิทินจันทรคติ

วันนีก็เหมือนปกติทวไป
ั อย่างมากคนในจวนตระกูล

4
เจียงก็จะมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน กล่าวว่า
‘พร้อมหน้าพร้อมตา’ ก็ไม่คอ่ ยจะถูกนัก เพราะเจียงอวี
เอ๋อถูกส่งไปชนบทเพือ ‘รักษาตัว’

ในทีสุดเจียงโย่วเหยาก็รูแ้ ล้วว่าเรืองนีไม่มีทางเปลียน
แปลงได้ ในเวลาไม่ถงึ หนึงเดือนนางซูบผอมลงไปมาก
เมือเป็ นเช่นนีเจียงหยวนปั วก็ยงสงสารจั
ิ บใจ ระหว่างมือ
อาหาร ท่าทีของเจียงหยวนปั วทีมีตอ่ จีซูหรันจึงอ่อนโยน
ขึน

เจียงหลีเห็นครอบครัวพวกเขาอยูก่ นั อย่างเป็ นสุขก็ไม่ได้


รูส้ กึ อะไร กลับเป็ นนางหลูซือทีนึกหมันไส้ จงใจพูดดัก
คอจีซูหรัน “คืนนีมีงานแสดงโคมไฟเทศกาลจงหยวนเจีย
น่าเทียวชมอย่างยิง”
5
“โย่วเหยาไม่ไป” จีซูหรันกล่าว “โย่วเหยาล้มป่ วย อาการ
ยังไม่ดีขนึ หากออกไปเจอลมหนาวจะยิงไม่ดีตอ่ สุขภาพ
พวกเจ้าไปกันเถิด ข้าจะอยูบ่ า้ นเป็ นเพือนโย่วเหยาเอง”

เจียงโย่วเหยาไม่ยอมออกไปไหน แค่คิดถึงเรืองทีผูค้ น
ด้านนอกจะมองนางด้วยสายตาเวทนา เจียงโย่วเหยาก็
รูส้ กึ น้อยเนือตําใจแล้ว สูไ้ ม่รบั รูแ้ ล้วอยูแ่ ต่ในบ้านเสียยัง
ดีกว่า

“ข้าก็ไม่ไป” เจียงหยวนปั วกล่าว “ข้ายังมีงานการต้อง


สะสางอีกมาก” ตอนนีเขานึกอยากชดเชยให้กบั บุตรสาว
คนเล็กเพียงอย่างเดียว ในเมือจีซูหรันสองแม่ลกู ออก
จากบ้านไม่ได้ เจียงหยวนปั วก็ไม่มีเหตุผลทีจะละทิงลูก
6
เมียออกไปเทียว

นางหลูซือครุน่ คิดอยูค่ รูห่ นึงจึงกล่าวว่า “พวกท่านไม่ไป


แล้วหลีเอ๋อเล่า อย่างไรก็ไม่ควรให้หลีเอ๋อไปตามลําพัง
กระมัง”

เจียงหยวนผิงทีอยูอ่ ีกด้านพลันกระแอมขึนมา

“ไม่เป็ นไรเจ้าค่ะ” เจียงหลีกล่าว “ข้าเองก็ไม่อยากไป”

“หลีเอ๋อกับหยวนผิง สองคนอาหลานไปเดินเทียวด้วย
กันเถิด” จู่ๆ ฮูหยินผูเ้ ฒ่าก็ออกความเห็น “ปี นีหลีเอ๋อเพิง
กลับเข้าเมืองเยียนจิง งานแสดงโคมไฟเทศกาลจงหยวน
7
เจียนันน่าตืนตาตืนใจยิง ช่วงไม่กีวันมานีหยวนผิงเองก็
เหนือยมามาก ไปพักผ่อนเสียบ้างเถิด”

ฮูหยินผูเ้ ฒ่าออกปากเช่นนี เจียงหลีจงึ จําต้องรับคํา


อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ทําเอาเจียงหยวนปั วพลอย
ลําบากใจ ด้านหนึงเป็ นบุตรสาวคนโตทีเพิงกลับเมือง
หลวง ส่วนอีกด้านหนึงเป็ นบุตรสาวคนเล็กทีได้รบั ความ
น้อยเนือตําใจ หน้าหรือหลังมือต่างก็เป็ นเนือของตน สุด
ท้ายเจียงหยวนปั วก็ยงั คงตัดสินใจทีจะรังอยูใ่ นจวน ด้วย
เจียงหลีดจู ะเป็ นคนทีเข้าใจอะไรง่าย แต่เจียงโย่วเหยา
ไม่เคยรูจ้ กั ความทุกข์ทนมาก่อนวันหน้าถ้ามีโอกาสค่อย
ชดเชยให้กบั เจียงหลี

เห็นบุตรชายคนโตยังคงห่วงใยแต่จีซูหรันสองแม่ลกู
8
เหมือนคนโง่เขลาไร้วิสยั ทัศน์ ฮูหยินผูเ้ ฒ่าก็ได้แต่ถอนใจ
แล้วส่ายหน้า ครันกินข้าวเสร็จก็จากไปทันที

หลังมืออาหาร ท้องฟ้าค่อยๆ หม่นแสง เจียงหลีกบั คน


ของบ้านสายรองออกจากจวนพร้อมกัน

ฮูหยินผูเ้ ฒ่ามิได้ออกไปด้วยกัน เพราะแข้งขานางไม่คอ่ ย


แข็งแรง จึงอยูเ่ ลียงเจียงปิ งจีทีเรือน บ้านสายหลักมีเพียง
เจียงหลี ส่วนคนของบ้านสายรองทังหมดมากันพร้อม
หน้า ทางด้านนางหยางซือและเจียงหยวนชิงจากบ้าน
สายสามนันไม่ได้ไปด้วย

ถงเอ๋อกับไป๋ เสวียคอยติดตามเจียงหลี สาวใช้ทงสองมี


9
โอกาสเทียวงานแสดงโคมไฟเป็ นครังแรก ต่างส่งเสียง
อุทานอย่างตืนตาตืนใจ อยูเ่ ป็ นระยะ เจียงจิงรุย่ เดิน
เคียงไปกับเจียงหลี “ทําไมเจ้าดูเหมือนไม่แปลกใจเลย
สักนิด”

เจียงหลีมีสีหน้าสงบนิง ถึงขันเรียกว่าไม่แยแสเสียด้วย
ซํา แสงอบอุน่ จากโคมไฟไม่อาจทําให้ใบหน้าของนางมี
รอยยิมได้ ทว่าความงดงามอันโดดเดียวเช่นนีก็สามารถ
ดึงดูดบรรดาคุณชายจํานวนไม่นอ้ ยทีออกมาเทียวชม
งาน ตลอดทางหากนับเฉพาะคุณชายทีแอบมองเจียง
หลีก็มีไม่ตากว่
ํ าเจ็ดแปดคนแล้ว

ตามท้องถนนในเมืองเยียนจิง เหลาสุราโรงนําชาต่างๆ
ล้วนประดับประดาโคมไฟหลากหลายรูปแบบ มีทงโคม

10
ไฟทรงหกเหลียมและโคมไฟแบบมีทีตัง พอเห็นโคมไฟที
ทําเป็ นรูปกระต่าย เจียงจิงรุย่ เห็นแล้วก็ไม่อาจทําใจเดิน
ผ่านไป ตังใจจะซือมาเก็บไว้สกั อัน ทว่าเจ้าของร้านเป็ น
คนหัวรัน อย่างไรก็ไม่ยอมขายโคมอันนี ยกเว้นเสียแต่วา่
มีผทู้ ีสามารถทายปริศนาบนโคมได้ ถึงจะยอมมอบให้
เป็ นของรางวัล

เจียงจิงรุย่ เห็นแค่ตวั หนังสือก็ปวดเศียรเวียนเกล้า ได้แต่


ยือแขนเสือของเจียงหลีแล้วกล่าวว่า “เจ้าสอบได้ทีหนึงมิ
ใช่หรือ มานี มาช่วยตอบปริศนาชิงโคมไฟกระต่ายมาให้
ข้าที แล้วข้าจะให้เจ้าห้าสิบตําลึง”

เดิมทีเจียงหลีคิดจะปฏิเสธ แต่พอได้ยินคําพูดประโยค
สุดท้ายของเขาก็ชะงักฝี เท้าลงในฉับพลัน แล้วหันมอง
11
เจียงจิงรุย่ ทีติดอกติดใจโคมไฟนีเป็ นอย่างมาก

ช่างทําโคมไฟอันนีนับว่ามีฝีมือ โคมไฟรูปสัตว์ปกติก็มี
ขันตอนรังสรรค์อนั ยุง่ ยาก แต่ช่างฝี มือผูน้ ีกลับประดิษฐ์
ออกมาได้ราวกับมีชีวิต ทีตัวกระต่ายใช้ผา้ สีขาวพันอยู่
โดยรอบ ภายในทําจากโครงไม้ไผ่ มีหยู าวๆ สีขาวอม
ชมพูคหู่ นึง ยังใช้เมล็ดถัวแดงทําเป็ นดวงตา ยามโคมไฟ
แกว่งไกว ดวงตาของกระต่ายก็เหมือนกับมีชีวิต คล้าย
จะสามารถกระโดดหนีออกไปได้อย่างไรอย่างนัน

นับว่าเป็ นโคมไฟทีงดงามอันหนึง

ครันมองปริศนาทีเขียนไว้กบั โคมไฟอีกครัง รอยยิมที

12
เดิมทีปรากฏบนใบหน้าเจียงหลีพลันแข็งกระด้าง

แค่เห็นอักษรตัวเล็กๆ ทีเขียนติดไว้กบั โคมไฟ เป็ น


ปริศนาทีคุน้ เคย ‘ค้นหาเขาคนนันท่ามกลางฝูงชน’

เพียงพริบตา เจียงหลีก็ราวกับได้ยินเสียงทีเต็มไปด้วย
ความรูส้ กึ นันอีกครังทีข้างหู ‘อักษรเหล่านี ก็เหมือนกับ
ความรูส้ กึ ของข้าทีมีตอ่ เจ้า’

เรืองราวในอดีตทีเคยผ่านพ้น กลับลอยวนมาอยูต่ รง
หน้า เจียงหลีชกั มือกลับด้วยความปวดร้าว

เจียงจิงรุย่ พลันเร่งรัด “ว่าอย่างไร รีบทายเข้าสิ”


13
“ข้าไม่รู”้ เจียงหลีตอบเสียงเย็น

“จะเป็ นไปได้ร”ึ เจียงจิงรุย่ ซักไซ้ “เจ้าสอบได้อนั ดับหนึง


ของสํานักบัณฑิตหญิงหมิงอีถางเชียวนะ”

เจียงหลีกล่าว “ตอบไม่ได้ก็คือตอบไม่ได้ เจ้าไปเชิญผูร้ ู ้


ท่านอืนมาดีกว่า” นางหมุนตัวกลับแล้วก้าวเท้าเดินจาก
ไป ราวกับรังเกียจโคมไฟอันนันจนไม่อยากมอง

นางทําสิงทีอยูน่ อกเหนือความคาดหมาย อีกทังเจียงจิง


รุย่ ยังอยากได้โคมไฟนันอยู่ จึงลังเลจนตามเจียงหลีไม่
ทัน รูต้ วั อีกที นางก็หายไปในฝูงชนเสียแล้ว เจียงจิงรุย่

14
รูส้ กึ ยําแย่นกั

ท่ามกลางกลุม่ คน เจียงหลีเยืองย่างอย่างเชืองช้า

นางหลูซือและคนอืนๆ เดินนําไปก่อนแล้ว เจียงจิงรุย่ ที


อยูด่ า้ นหลังถูกเบียดเสียดจนคลาดกันในทีสุด หากไม่รอ
อยูจ่ ดุ เดิมอาจพลัดหลงได้

เจียงหลีไม่กลัวแม้แต่นอ้ ย นางจดจําเส้นทางในเมือง
เยียนจิงได้ดี ทังยังสังเกตทีตังของจุดรักษาความ
ปลอดภัยประจําเมืองทีใกล้ทีสุดไว้ หากมีปัญหาอะไรก็
สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว

15
นางไม่อยากตามหานางหลูซือหรือเจียงจิงรุย่ ด้วยรูส้ กึ
ว่าช่วงเวลาแบบนีช่างมีคา่ สามารถละวางการเป็ น
‘เจียงหลี’ ได้อยูต่ ามลําพังสักพักก็ดีเหมือนกัน

ในฝูงชนตอนนีมองไม่เห็นเงาของเจียงจิงรุย่ และคนอืนๆ
ถงเอ๋อพลันเอ่ย “คุณหนู พวกเรากลับไปหาพวกนาย
ท่านรองดีไหมเจ้าคะ เดียวหาทางกลับจวนไม่ถกู แล้วจะ
ลําบาก”

“ไม่เป็ นไร” เจียงหลีตอบ “ข้าจําทางได้”

“คนเยอะเกินไป” ไป๋ เสวียทักท้วง “พวกเราไม่มีทหาร


ติดตามมาสักคน หากเกิดเรืองจะทําอย่างไร”

16
เจียงหลีทอดถอนใจ กล่าวว่า “มีเหตุผล” ขณะทีกําลังจะ
ออกไปตามหากลุม่ ของนางหลูซือ พลันเหลือบไปเห็น
ใครคนหนึงซึงอยูไ่ ม่ไกล “เย่ซือเจียรึ”

หน้าแผงขายโคมไฟทีตังอยูห่ า่ งออกไปเล็กน้อย เย่ซือ


เจียกับชายวัยกลางคนผูห้ นึงกําลังเลือกซือโคมไฟ พลาง
พูดคุยกัน

17
บทที 90 ข้าสูงวัยรึ

เจียงหลีเดาว่าจะต้องเป็ นคนรูจ้ กั ของเย่ซือเจีย นางเองก็


อยากถามไถ่สารทุกข์สกุ ดิบในช่วงทีผ่านมาของเขา โดย
เฉพาะอย่างยิง นางอยากรูว้ า่ หลีเหลียนยังเข้ามาตีสนิท
กับเขาอีกไหม จึงคิดจะเดินฝ่ าฝูงชนเข้าไปหาเย่ซือเจีย
โดยทีไม่รูเ้ ลยว่าตนถูกคนผูห้ นึงจับตามองอยู่

ชันบนสุดของหอวังเซียน ข่งลิวกําลังตังหน้าจับตามอง
ฝูงชนด้านล่างทีเดินกันขวักไขว่ ความจริงเขาไม่ได้ชืน
ชอบการชมบุปผาทัศนาโคมไฟอะไรทํานองนี ด้วยรูส้ กึ
ว่าแสงสีวิบวับนันลายตา แต่เมือเทียบกับการนังทํา
งานอยูใ่ นจวนกัวกง เทศกาลอันรืนเริงนีย่อมน่าสนใจ
1
กว่ามาก อีกทังท่ามกลางความครึกครืนยังมีหญิง
งามมากหน้าหลายตาเข้ามาแต่งแต้มสีสนั ให้กบั คําคืนนี

เพียงแต่ราตรีนี ท่ามกลางโฉมสะคราญทีข่งลิวกําลังเฝ้า
มอง พลันปรากฏเงาร่างทีคุน้ เคย “เอ๊ะ คุณหนูรองเจียง”
ข่งลิวลุกขึนยืนแล้วร้องเรียกจีเหิง “รีบมาดูเร็วเข้า เหตุใด
คุณหนูรองเจียงถึงมาเดินเทียวเพียงลําพัง รอบกายไม่มี
คนตระกูลเจียงเลยสักคน นีนางแอบหนีออกมารึ”

ลูจ่ ีทีกําลังจิบชาหันไปมองตามคําบอกเล่า “มีอย่างที


ไหน แอบหนีออกมาแล้วยังพาสาวใช้ติดตามมาด้วย
ข้างนอกคนเยอะขนาดนี คงจะพลัดหลงกับทีบ้านเสีย
มากกว่า”

2
“พลัดหลงรึ” คิวของข่งลิวขมวดมุน่ “ข้างนอกผูค้ นคับคัง
ทุกปี จะมีสตรีถกู คนร้ายลักพาตัว หญิงสาวทีงดงามราว
บุปผา ผิวพรรณดุจหยกเนือดีแบบนาง ยากทีจะเล็ดลอด
สายตาใครไปได้ หากเกิดเรืองคงไม่ดีแน่”

“เช่นนัน ท่านจะทําอย่างไร” ลูจ่ ีมองอีกฝ่ ายด้วยความ


อยากรูอ้ ยากเห็น

“ข้าก็จะส่งนางกลับไปหาคนทีบ้านน่ะสิ” ข่งลิวกล่าว
หนักแน่น

“ข่งลิว” ลูจ่ ีเอ่ย “ท่านอย่าได้คิดอะไรเลยเถิดไป อย่าว่า

3
แต่บตุ รสาวมหาอํามาตย์เลย แม้แต่หญิงสาวชาวบ้าน
ธรรมดาก็ยงั ไม่มองคนสูงวัยอย่างท่านหรอก”

“ข้าสูงวัยรึ” ข่งลิวรีบแสดงท่าทีโกรธขึง “อายุขา้ อยูใ่ น


ช่วงวัยทีเหมาะสมอย่างยิง เจ้าจะไปรูอ้ ะไร อายุอย่างข้า
แล้วจะทําไม”

ลูจ่ ีชีไม้ชีมือออกไปด้านนอกให้ข่งลิวดูพลางยิม “ข้าไม่ได้


ว่าร้าย แต่ทา่ นจะไปสูค้ นหนุ่มได้อย่างไร ท่านดูส.ิ .. คุณ
หนูรองเจียงกําลังจะเดินไปหาเขามิใช่หรือ”

จบคํา ไม่เพียงแต่ข่งลิว แม้กระทังจีเหิงทีกําลังเล่นพัดอยู่


ข้างๆ ยังอดชําเลืองมองลงไปข้างล่างไม่ได้

4
ท่ามกลางฝูงชนทีเดินเบียดเสียด เจียงหลีกบั สาวใช้คน
สนิททังสองก็กาํ ลังเดินไปยังถนนฝังตรงข้าม เนืองจากผู้
คนคับคัง ระยะทางเพียงหนึงช่วงถนนก็ยงั ฝ่ าไปได้อย่าง
ยากลําบาก ดีทีนางจดจําทิศทางได้แม่นยํา จึงมุง่ ตรงไป
ยังจุดมุง่ หมาย กลุม่ คนทีสัญจรขวักไขว่ไม่อาจทําให้นาง
หลงทิศ

และแน่นอนทีสุดว่า จุดมุง่ หมายของนางก็คือชายหนุ่ม


รูปงามทีกําลังยืนอยูอ่ ีกฟาก นามว่าเย่ซือเจีย

ลูจ่ ียกยิมกล่าว “ญาติสองคนนีสนิทสนมกันมากทีเดียว”

5
“ใช่น่ะสิ”

จีเหิงก็ยืนอยูร่ มิ หน้าต่าง จับตามองอยูน่ านราวกับกําลัง


คิดอะไรอยู่ จู่ๆ ก็หบุ พัดแล้วกล่าวว่า “เหวินจี”

องครักษ์ในชุดดําปรากฏกายขึนต่อหน้าเขาอย่างเงียบก
ริบ

“ไปเชิญคุณหนูรองเจียงขึนมา”

ลูจ่ ีกบั ข่งลิวคิดไม่ถงึ ว่า จู่ๆ จีเหิงจะเอ่ยเช่นนี ต่างจ้อง


มองเขาตาค้าง ยากจะปิ ดบังความรูส้ กึ ประหลาดใจได้

6
“บอกว่าขอเชิญคุณหนูรองเจียงมาร่วมชมละครของ
คณะจินหม่านถาง ข้าได้จดั ทีนังด้านหน้าสุดไว้ให้นาง
แล้ว”

ข่งลิวอ้าปากค้างจนคางแทบจะหลุดลงมา

ฝูงชนเบียดเสียดแน่นขนัด ถนนเส้นแคบๆ ในวันธรรมดา


เวลานีจะข้ามฝังยังทําได้ยากยิง

ใกล้จะถึงฝังตรงข้ามอยูร่ อมร่อ

เจียงหลีแอบโล่งใจ ขณะพาสาวใช้ทงสองเดิ
ั นไปหาเย่ซือ
เจีย ตอนนัน พลันมีคนชุดดําปรากฏตัวออกมาขวางหน้า
7
ถงเอ๋อตกใจจนแทบกรีดร้องเสียงแหลม คนในชุดดํา
กล่าวโดยไม่แสดงสีหน้า “คุณหนูรองเจียง ท่านกัวกงขอ
เชิญไปดูละครคณะจินหม่านถาง ทังนีได้จดั ทีนังด้าน
หน้าสุดไว้ให้แล้วทีหอวังเซียน”

“ท่านกัวกง” เจียงหลีกล่าว “จีเหิงรึ?”

เจียงหลีขมวดคิว ถงเอ๋อพลันเอ่ยเสียงเบา “คุณหนู คนผู้


นีอยูด่ ีๆ ก็โผล่ขนมา
ึ พูดถึงท่านกัวกงอะไรก็ไม่รู ้ คงอยาก
ทําให้เราตกใจเล่น...”

“ไม่ใช่ทาํ ให้ตกใจ” เจียงหลีตอบ “เขาเป็ นคนของท่านกัว

8
กงจริงๆ”

เหวินจีได้ฟังก็รูส้ กึ แปลกใจ เจียงหลีไม่เคยเห็นหน้าเขา


มาก่อน เหตุใดจึงพูดอย่างมันใจเช่นนี ผ่านไปสักพัก ก็
ได้ยินเสียงของเจียงหลีดงั แว่วมา “ซูก่ วกงชื
ั นชมของสวย
งาม ชิงชังสิงทีไม่จรรโลงสายตา องครักษ์ทีดูดีเช่นนีจะ
ต้องเป็ นคนของท่านกัวกงอย่างแน่นอน”

เหวินจีแทบจะหกล้มหน้าคะมํา

ไป๋ เสวียดึงแขนเสือของเจียงหลีไว้ “คุณหนู แล้วพวกบ่าว


ต้องไปด้วยหรือเปล่าเจ้าคะ”

9
เจียงหลีมองเหวินจี ครุน่ คิดอยูห่ ลายตลบจึงทอดถอนใจ
แล้วกล่าวว่า “ไปสิ”

จบคําก็นาํ ถงเอ๋อและไป๋ เสวียมุง่ หน้าไปยังหอวังเซียน


พร้อมกับเหวินจี

เย่ซือเจียและเย่หมิงเซียนพูดคุยพลางเลือกดูโคมไฟ
ครันหันหน้ากลับมาก็เหลือบไปเห็นเงาร่างของคนรูจ้ กั
ชายหนุ่มเกือบจะหลุดปากเรียกเจียงหลี แต่ยงั ไม่ทนั
เปล่งเสียง ร่างนันก็เลือนหายไปในฝูงชนจนไม่เห็นแม้
เงา

เย่ซือเจียคิดว่าตนเองดูผิดไป ตะลึงงันอยูค่ รูห่ นึง กระทัง

10
เย่หมิงเซียนต้องออกปากถาม “เป็ นอะไรรึ”

“ไม่มีอะไรขอรับ” เย่ซือเจียคืนสติกลับมา แล้วส่ายหน้า


ปฏิเสธ

เขาผิดปกติไปจริงๆ

หอวังเซียนเป็ นเหลาสุราซึงกิจการใหญ่โตทีสุดในเมือง
เยียนจิง

ห้องโถงชันล่างมีคนจํานวนหนึงมาร่วมสังสรรค์ ส่วน
เจียงหลีนนถู
ั กเชิญขึนไปบนชันสอง

11
จวนอํามาตย์ทีว่าหรูหรา ทว่าหอวังเซียนยังดูพิถีพิถนั
กว่าเสียอีก ทีนํามาปูพืนคือพรมเปอร์เซียขนยาวทอลาย
บุปผา เพดานยังมีอญ
ั มณีหอ้ ยระย้า ในห้องจรุงกลินธูป
หอมอบอวล หากเป็ นเซวียเจา--เขาคงกล่าวว่า ห้องนํา
ชาชันสองของหอวังเซียนนันดู ‘เลอค่า’ มากจริงๆ

เหวินจีช่วยเปิ ดม่านให้นางเดินเข้าไป

เจียงหลีกวาดตามองคนในห้อง

นอกจากจีเหิงแล้วยังมีอีกสองชีวิต คนหนึงไว้เคราแพะ
สวมใส่อาภรณ์ของบัณฑิต เขายิมน้อยๆ ให้กบั เจียงหลี
ซึงนางเองก็ยมรั
ิ บส่วนอีกหนึงเป็ นคนทีเจียงหลีรูจ้ กั เขา

12
คือผูค้ มุ สอบการขีม้ายิงธนูของสํานักบัณฑิตในตอนนัน
ท่านข่งเวยแห่งกองทหารม้า หรือทีใครๆ ต่างขนานนาม
ว่า... ข่งลิว

ข่งลิวเอ่ยต้อนรับด้วยนําเสียงแหบพร่า “คุณหนูรอง
เจียง” ดูเหมือนอยากพูดกับเจียงหลีอีกสักสองสาม
ประโยค แต่คิดไปคิดมาก็นกึ ถ้อยคําทีเหมาะสมไม่ออก
จึงได้แต่กล่าวชืนชมอย่างจืดชืด“คุณหนูรองขีม้าได้ไม่
เลว อีกทังยิงธนูได้แม่นยํานัก”

ราวกับกําลังชมเชยทหารแรกประจําการ

ลูจ่ ีกบั จีเหิงมองเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด ข่งลิว

13
เกาหัวแกรกๆ ทําเพียงส่งยิมแห้งแล้วไม่พดู อะไรอีก

ในทีสุดเจียงหลีจงึ มองไปทีจีเหิง วันนีชายหนุ่มสวมเสือ


ตัวยาวสีแดงอ่อนตลอดร่าง แม้สีจะไม่สดใส แต่ก็รบั กับ
ใบหน้าอันหล่อเหลาของอีกฝ่ าย ผิวขาวกว่าสตรีทีผัด
แป้งแต่งหน้าเสียอีก อีกทังริมฝี ปากก็ยงั แดงระเรือยิง
กว่าดอกท้อเดือนสี ดวงตาสีนาตาลคู
ํ น่ นทอประกายสด

ใสทังเนือทังตัวโดดเด่นต่างจากคนทัวไป ไม่วา่ จะยืนอยู่
ทีใด ต่อให้กาํ ลังเล่นพัดในมือ ก็ยงั ดูงดงามราวกับภาพ
วาดทีผูค้ นหลงใหลได้ตลอดเวลา

“ท่านกัวกงให้คนตามข้ามา มีเรืองอะไรหรือ” เจียงหลี


ถาม

14
จีเหิงชายตามองนาง จู่ๆ ก็ยกยิมกล่าว “อย่างน้อย เรา
ทังคูก่ ็มีมิตรไมตรีตอ่ กัน คุณหนูรองไม่จาํ เป็ นต้องทําตัว
ห่างเหิน เทศกาลจงหยวนเจียเช่นนี ได้บงั เอิญพบกันคง
เพราะมีวาสนา ทีหอวังเซียนมีการแสดงของคณะละครจิ
นหม่านถาง จึงเชิญคุณหนูรองมารับชมด้วย”

เจียงหลีแปลกใจไม่นอ้ ย นางกับเขามีไมตรีตอ่ กันตังแต่


เมือไร เรียกว่าเวรกรรมร่วมกันถึงจะถูก จีเหิงเคยเห็น
นางใช้แผนเปิ ดโปงจิงอันซือไท่กบั เหลียวอูต้ อนทีอยูบ่ น
เขาชิงเฉิงซาน แล้วยังเคยเห็นนางยุแยงเสินหรูอวิน ให้
เข้าไปก่อเรืองรบกวนเวลาส่วนตัวของโจวเยียนปั งกับ
เจียงอวีเอ๋อ อีกทังนางก็ยงั เคยเห็นจีเหิงลอบคบค้ากับ
คนตระกูลหลี ต่างฝ่ ายต่างรูค้ วามลับของกันและกัน จี

15
เหิงยังพูดออกมาอย่างผ่อนคลายราวกับเขาและนางมี
ไมตรีตอ่ กันมานานหลายปี

เจียงหลีกล่าว “ขอบคุณในความปรารถนาดีของท่านกัว
กง แต่ขา้ ไม่ชอบชมละคร”

“หากคุณหนูรองอยากแสดงละครให้สมบทบาท ก็ควร
ศึกษาดูจากคณะละครให้มากสักหน่อย” จีเหิงอมยิม
ตอบ

ข่งลิวมองสถานการณ์ตรงหน้า แล้วกล่าวกับเจียงหลี
“คุณหนูรองเจียง เมือสักครูเ่ ห็นเจ้าอยูด่ า้ นล่าง ไม่มี
ทหารสักคนคุม้ กัน คิดว่าคงพลัดหลงกับคนทีบ้าน งาน

16
แสดงโคมไฟในแต่ละปี มีหญิงสาวจํานวนไม่นอ้ ยหายตัว
ไป อีกทังผูร้ า้ ยก็ชกุ ชุม ดูละครชุดนีจบแล้วพวกข้าจะให้
คนไปส่งเจ้ากลับจวน เพือความปลอดภัย”

มือทียืนออกมาย่อมไม่ตบคนทีมีใบหน้าเป็ นมิตร
สถานการณ์ตอนนี การเดินอยูท่ า่ มกลางฝูงชนเพียง
ลําพังนับว่าเป็ นเรืองทีไม่ฉลาดจริงๆ เสียด้วย เจียงหลี
คลียิมช้าๆ ดูบริสทุ ธิไร้เดียงสายิง “ขอบคุณผูอ้ าวุโสข่ง”

ขณะทีกําลังพูดคุยอยูน่ นั เสียงเปิ ดฉากละครทีเป็ น


เอกลักษณ์พลันดังขึนมาจากชันล่าง

พืนทีบนชันสองทังหมดคงถูกจีเหิงเหมาไว้ จึงไม่มีใครอืน

17
นอกจากพวกเขา เจียงหลีสามารถออกจากห้องนําชา
แล้วเดินไปทีระเบียงของชันสอง ซึงสามารถมองลงไปยัง
ลานแสดงละครได้พอดิบพอดี

เจียงหลีเดาว่านีเป็ นมุมจากด้านบนทีจีเหิงมักจะเลือกใช้
ในการชมละคร ต้องยอมรับว่า เมือเทียบกับการดูละคร
ตรงลานแสดงมุมมองด้านบนนี ยิงแยกความรูส้ กึ ของผู้
ชมออกจากละครได้ชดั เจนขึน

18
บทที 91 ละครเรืองนีชือว่า ‘คดีของจิวเอ๋อ’

นักแสดงผูม้ ีชือเสียงของคณะจินหม่านถางนามว่าเสียว
เถาหง เป็ นหญิงสาวอ่อนเยาว์ เนืองจากถูกพอกด้วย
แป้งจนเต็มหน้า จึงมองไม่เห็นรูปโฉมทีแท้จริง แต่ดู
จากรูปร่างและนําเสียงอันอ่อนหวาน ก็นบั ได้วา่ เป็ นสตรี
ทีมีความสามารถคนหนึง มิน่าผูช้ มในลานแสดงด้าน
ล่างจึงแน่นขนัด เสียงปรบมือดังเกรียวกราว

ละครเรืองนีชือว่า ‘คดีของจิวเอ๋อ’

‘คดีของจิวเอ๋อ’ เป็ นละครทีค่อนข้างมีชือเสียง กล่าวถึง

1
หญิงสาวนางหนึงในรัชสมัยก่อน หญิงสาวทีอายุนอ้ ยผูน้ ี
มีนามว่าจิวเอ๋อ นางแต่งงานกับซิวไฉอยูใ่ นชนบทด้วย
ความรักใคร่กลมเกลียว ทังคูอ่ ยูก่ นั อย่างมีความสุข ต่อ
มาซิวไฉเข้าเมืองหลวงเพือสอบเลือนขันจนได้เป็ นจอหง
วน กลายเป็ นขุนนางใหญ่ กระทังไปถูกใจคุณหนูสงู ศักดิ
ผูห้ นึงเข้า บิดาของคุณหนูสงู ศักดิอยากได้ตวั เขามาเป็ น
บุตรเขย ซิวไฉจึงปกปิ ดเรืองทีตนแต่งงานมีครอบครัว
แล้วไปสมรสกับคุณหนูผสู้ งู ศักดินางนัน

จิวเอ๋อกับลูกน้อยทีอยูใ่ นชนบทไม่รูว้ า่ สามีของตนได้


กลายเป็ นคูค่ รองของคนอืนไปเสียแล้ว ซิวไฉขาดการ
ติดต่อ ไม่มีแม้แต่จดหมายสักฉบับ อยูม่ าวันหนึงเกิดฝน
ตกหนักทังคืน ด้วยบ้านหลังคารัว ทําให้บตุ รชายของจิว
เอ๋อล้มป่ วย ทีบ้านก็ยากจนไม่มีเงินมารักษา จนจิวเอ๋อ

2
ต้องพาลูกน้อยเข้าเมืองไปตามหาสามี หนทางยาก
ลําบากแสนเข็ญ ได้รบั ความดูแคลนจากคนรอบข้าง
กว่าจะมาถึงเมืองหลวงได้ แต่กลับพบสามีคลอเคลียอยู่
กับหญิงอีกคน

ซิวไฉไม่ยอมรับจิวเอ๋อ มิหนําซํายังให้คนลากตัวนางไป
โบยตีแล้วขับไล่ไสส่ง จิวเอ๋อจึงได้รูว้ า่ เขาลืมลูกเมียทีอยู่
ในชนบทไว้ขา้ งหลัง จิวเอ๋อไม่มีเงินรักษาบุตรชาย
ประกอบกับหนทางยาวไกลอันแสนยากเข็ญ ไม่นานลูก
น้อยจึงตายจากไป

จิวเอ๋อถูกสามีทอดทิงแล้วยังมาสูญเสียบุตรชาย ให้รูส้ กึ
เจ็บปวดรวดร้าว สุดท้ายจึงไปกระโดดทะเลสาบหน้า
จวนของซิวไฉเพือฆ่าตัวตาย หลังจากทีนางสินใจก็ได้
3
กลับชาติมาเกิดเป็ นนก ทังวันก็เอาแต่รอ้ งไห้ครําครวญ
อยูท่ ีหน้าประตูจวนของซิวไฉ ทําให้คนทีผ่านมาผ่านไป
ต้องหยุดฝี เท้า เรืองนีได้ยินไปถึงหูฮ่องเต้ จนมีรบั สังให้
สืบสาวเรืองราวทังหมด ครันรูว้ า่ ซิวไฉเป็ นคนไร้คณ
ุ ธรรม
เช่นนี จึงถอดถอนตําแหน่งของเขา ต้องเลิกรากับคุณหนู
ผูส้ งู ศักดิ ผลสุดท้าย ซิวไฉก็ตอ้ งตกอยูใ่ นสภาพสินเนือ
ประดาตัว มีชีวิตอยูไ่ ม่พน้ ฤดูหนาวอันโหดร้าย

บทละครนีเป็ นทีรูจ้ กั กันอย่างแพร่หลายโดยนักเล่าเรือง


คนหนึงของรัชสมัยก่อน ด้วยเนือหาอันเข้มข้น และ
ความน่าสงสารเห็นใจในชะตากรรมเลวร้ายทีจิวเอ๋อต้อง
เผชิญ จึงถูกคณะละครนํามาแสดงจนกลายเป็ นทีรูจ้ กั
มากมาย

4
ครังแรกทีเจียงหลีรูจ้ กั ละครเรืองนี นางยังเป็ นสาวน้อย
อยูท่ ีถงเซียง ไม่นกึ ว่าหลายปี ให้หลัง ละครบทนีราวกับ
ถูกดัดแปลงเสียใหม่แล้วเกิดเชือมโยงกับชีวิตจริงของ
นาง นางกลายเป็ นจิวเอ๋อ ชีวิตเปลียนไปอย่างพลิกฟ้า
ควําแผ่นดิน

เสียวเถาหงทีอยูบ่ นลานแสดง รับบทเป็ นจิวเอ๋อ สุดท้าย


หาสามีของตนจนพบ แต่กลับถูกปฏิเสธอย่างไร้เยือใย
นักแสดงต่อบทไปตามเนือเรือง “ใช่วา่ ข้าอยากปฏิเสธ
เจ้า แต่หากก้าวผิดไปเพียงเล็กน้อย อาจต้องทุกข์ทนไป
ตลอดชีวิต”

จิวเอ๋อพลันตอบโต้ “อย่าอ้างว่าก้าวผิดไปเพียงเล็กน้อย
จะต้องทุกข์ทนไปตลอดชีวิต เห็นชัดๆ ว่าเจ้ามีรกั ใหม่ ถึง
5
ได้ลืมคนรักเก่านึกถึงเมือก่อนตอนเจ้าขอไปเรียนทีจวิ
นโจว ข้าอยูไ่ ว้ทกุ ข์หน้าหลุมฝังศพท่านพ่อท่านแม่แทน
เจ้าสิ นึกถึงปี ถดั มาต้องส่งเจ้าเข้าเมืองหลวงเพือสอบจอ
หงวน ก่อนจากยังยําว่าสอบได้หรือไม่ก็ตอ้ งรีบกลับมา
ควรจะรูว้ า่ ท่านพ่อท่านแม่อายุมากแล้ว ย่อมคิดถึงและ
ห่วงใยลูกเป็ นธรรมดา ใครจะรูว้ า่ เจ้าจากไปโดยไม่มีแม้
แต่ขอ้ ความส่งกลับ สายนํากว้างใหญ่ ท่านพ่อท่านแม่
ต้องอดอยากจนตายจากไปนานแล้ว”

“ขนาดท่านพ่อท่านแม่ลว่ งลับยังยากจะหาทีฝังศพ ข้าจึง


พาลูกออกมาตามหาเจ้า ความรักในอดีตเจ้าลืมไปเสีย
สิน ลูกแท้ๆ ของตนกลับไม่ไยดี ลองเอามือคลําอกตัวเอง
ดูเถิด หัวใจของเจ้าทํามาจากหินหรือไม่”

6
นักแสดงร้องห่มร้องไห้ออกมาไม่ขาดสาย เจียงหลีฟัง
แล้วก็รูส้ กึ เหมือนถูกมีดกรีดลงกลางใจ บทพูดแต่ละคํา
ยากนักทีจะไม่นกึ ถึงตนเองนางก็เหมือนกับจิวเอ๋อทีถึง
อย่างไรก็ไม่เข้าใจว่าตนเองทําอะไรผิด นางประพฤติดี
มาโดยตลอด เหตุใดสามีถงึ ทํากับนางเช่นนี นางเองก็
อยากจะถามเสินอวีหยงเช่นกัน ลาภยศเงินทองเหล่านัน
สําคัญจริงหรือ สําคัญถึงขันละทิงความเป็ นคน ผิดชอบ
ชัวดีอย่างไรก็ไม่สนใจเลยหรือ

ยิงไปกว่านัน ยังมีลกู ในท้อง

ลูกของนางยังไม่ทนั ได้ลืมตาดูโลก กลับต้องถูกฝังเพราะ


แผนการสกปรกครังนี ตอนทีเสินอวีหยงตัดสินใจละทิง
เมียและลูก เขาเคยลังเลบ้างหรือไม่
7
ขณะนันลูจ่ ีทีดูละครอยูอ่ ีกด้าน จู่ๆ ก็เอ่ยขึนว่า “อืม ดู
เหมือน คุณหนูรองจะตังใจชมละครเอามากๆ”

ชายหนุ่มทังสามพลันหันมองนาง

เจียงหลีนงหั
ั นข้างให้กบั พวกเขา เปลือกตาหลุบตํา หาก
จะโทษก็ตอ้ งบอกว่าคนทีอยูด่ า้ นล่างแสดงได้ดีเกินไป
ถ้าสังเกตให้ถีถ้วนจะเห็นว่านางจับราวระเบียงชันสอง
เอาไว้แน่นจนกระดูกข้อมือกลายเป็ นสีขาว

นางเคลิบเคลิมไปกับการแสดงเสียแล้ว

8
“ไม่แปลก” ข่งลิวไม่คิดว่าผิดปกติแต่อย่างใด “คุณหนู
รองเจียงถูกละครดึงดูดใจ ย่อมคล้อยตามเป็ นธรรมดา”

“ถูกละครดึงดูดใจจนคล้อยตามเป็ นธรรมดา” ลูจ่ ียมิ


“แต่วา่ นางคือคุณหนูรองเจียงเชียวนะ”

ปลายนิวของจีเหิงสัมผัสด้ามพัดสีขาวสะอาด จู่ๆ ก็ลกุ


ขึนยืน แววตาทีมองเจียงหลีแฝงความรูส้ กึ สนุกสนาน
เขาเดินอย่างผ่อนคลายเข้าไปหาเจียงหลี

“เขา...” ข่งลิวอยากเอ่ยทัก แต่กลับถูกสหายรังเอาไว้ ลูจ่ ี


ใช้นิวจ่อปากทําเสียง “จุ๊ๆ” ให้เขาแล้วเอ่ยปราม “ดูละคร
ต่อ”

9
เสียวเถาหงยังคงแสดงไปตามบทบาท “สามีเข้าเมือง
หลวงเป็ นลูกเขยตระกูลสูงศักดิ ส่วนข้าต้องเจ็บชํา อุม้
พิณอยูใ่ นเมืองหลวง แค้นใจทีวันหนึงเขาได้ดิบได้ดี กลับ
ลืมหนีบุญคุณจนหมดสิน เขา... เขาทอดทิงลูกเมีย”

“ข้าคือเมียคนก่อนของเขา ยังจําได้ ก่อนไปสอบในปี นนั


เขาบอกว่า แม้จะสอบได้หรือไม่ก็จะกลับบ้าน ไม่นกึ ว่า
ภายหลังจะเกิดภัยแล้ง ผูค้ นอดอยากล้มตาย สองผูเ้ ฒ่า
ผัวเมียอดตายอยูก่ ลางทุง่ ไม่มีแม้เงินจะทําศพพ่อกับแม่
ต้องแบ่งผ้าไหมคลุมศีรษะออกเป็ นสองชินเพือนําไปขาย
แลกเงิน บอกชาวบ้านว่าสามีสอบได้จอหงวน ข้าพาลูก
ออกตามหา ตลอดทางก็เร่ขอทานมาเรือยๆ บุกเข้าไปหา
แต่เขากลับขับไล่ไสส่ง ถูกถีบจนล้มอยูห่ น้าประตูจวน...”

10
เมียคนก่อน... เจียงหลีครุน่ คิด นีเป็ นคําสรรพนามทีคุน้ หู
ราวกับคําพูดอ่อนหวานทีเสินอวีหยงใช้กล่าวกับนางมา
โดยตลอด ในคืนเทศกาลจงหยวนเจียเช่นนี นางเคยชืน
ชมแสงสียามคําคืนมาไม่นอ้ ย ทุกๆ ครังล้วนแต่สขุ สม
หวัง ไม่คิดว่าจะมีวนั นี นึกถึงความหลังแต่ละครัง ราว
กับมีคมมีดกรีดลึกลงกลางใจ ทะลุไปถึงกระดูกดํา ทํา
เอาเจ็บปวดเจียนตายนางแทบจะแยกไม่ออกว่าตรงหน้า
เป็ นเพียงละครเรือง ‘คดีของจิวเอ๋อ’ หรือชีวิตจริงของตน
กันแน่ ราวกับนางกลายเป็ นจิวเอ๋อทีเศร้าโศกเสียยิงกว่า
ในละคร

ขณะนัน จู่ๆ ก็มีผา้ เช็ดหน้ายืนมาจากด้านข้าง

11
สีขาวสะอาด ไร้ลวดลายเย็บปั กใดๆ เนือผ้าละเอียด
อ่อนนุ่ม ผิวสัมผัสมันวาวทอประกายระยับภายใต้แสง
ตะเกียง ดูดว้ ยตาก็รูว้ า่ เนียนนุ่มและบางเบา

“เช็ดหน่อยเถิด” นําเสียงของจีเหิงยังคงสงบ เรียบเรือย


“คุณหนูรองทีดูราวกับดอกหลีฮวั ต้องฝนเช่นนี ไม่งามตา
เอาเสียเลย”

เจียงหลียกมือขึนลูบไปตามใบหน้า พบว่ามีรอยเปี ยกชืน


นางเผลอร้องไห้โดยไม่รูต้ วั

นางเสียนําตาจนได้

12
เจียงหลีอยากจะรับผ้าเช็ดหน้าจากจีเหิงไว้ตาม
สัญชาตญาณ แต่แล้วก็นกึ ขึนได้ จึงแย้มยิมกล่าวว่า
“ขอบคุณท่านกัวกง แต่ขา้ มีแล้ว” นางดึงผ้าเช็ดหน้าสี
เขียวอ่อนออกมาจากอกเสือ แม้จะไม่มีราคาเหมือนกับ
ของจีเหิง แต่ก็ดเู รียบง่าย

นางซับนําตา กิรยิ าสงบสํารวมราวกับปั ดฝุ่ นผง

เจียงหลีเผยรอยยิมออกมาโดยไม่ตงใจ
ั พร้อมกับหยาด
นําตาทีรินไหลตรงปลายหางตา ดูน่าพิศวงอย่างพูดไม่
ถูก จีเหิงเองก็หยุดชะงักเล็กน้อย เขาเก็บผ้าเช็ดหน้า
กลับ มิได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาขณะกล่าวกับเจียงหลี
“ไม่นกึ ว่าหญิงสาวใจแข็งอย่างคุณหนูรองเจียงก็รอ้ งไห้
เป็ น” เขาค่อยๆ เปิ ดปากอย่างเนิบช้า “ข้ายังเคยสงสัยว่า
13
คุณหนูรองคงจะชอบดูละครเช่นกัน”

“ละครสนุกก็ดสู กั หน่อย แต่ถา้ ไม่น่าสนใจก็ไม่เสียเวลา”


เจียงหลียิม “สมกับคํารําลือทีว่า คณะละครจินหม่าน
ถางมีชือเสียงโด่งดังในเมืองเยียนจิง วันนีก็ได้มาเห็น
ของจริงแล้ว นักแสดงทีชือเสียวเถาหงคนนัน แสดงได้
สะเทือนใจเหลือเกิน”

“ทีว่าสะเทือนใจ คงไม่ใช่การแสดงของเสียวเถาหง แต่


เป็ นเนือหา” จีเหิงกล่าว “เมือครู ่ คุณหนูรองเอาตัวเอง
เข้าไปอยูใ่ นละครสินะ”

“ข้าน่ะหรือ” เจียงหลีมองเขาอย่างประหลาดใจ

14
แล้วกล่าวพร้อมรอยยิม “ข้าไม่ใช่คนในเนือเรือง เหตุใด
ต้องเอาตัวเองเข้าไปอยูใ่ นละครเล่า ขอท่านกัวกงอย่าได้
ล้อเล่น”

“ความสามารถในการสร้างละครของคุณหนูรองมีชนเชิ
ั ง
มาก แต่โกหกไม่ได้ความสักเท่าไร” จีเหิงอมยิมพลาง
ทอดถอนใจ “คําลวงของเจ้า ถูกข้าดูออกอย่างง่ายดาย”

หัวคิวของเจียงหลีขมวดมุน่ เล็กน้อย กําลังจะเอ่ยปาก


ตอบโต้ พลันถูกจีเหิงเชยคาง บังคับให้นางเงยหน้ามอง
เขา

15
บทที 92 เด็กสาวอ่อนเดียงสา

ท่าทางเช่นนีล่อแหลมนัก ข่งลิวทีอยู่ขา้ งๆ เกือบจะร้องเสียง


หลงออกมา ทว่าถูกลูจ่ ีใช้มืออุดปากเสียก่อน

เจียงหลีเองก็รูส้ กึ ประหลาดใจ ไม่รูว้ า่ ควรเขินอายหรือตืน


ตระหนก จึงได้แต่สบตาจีเหิงนิง

มีโอกาสได้มองอีกฝ่ ายในระยะประชิดเช่นนีอยู่สองสามครัง
ถึงกระนัน ในแต่ละครังก็ยงั คงตืนเต้นราวกับเป็ นครังแรก
เสือคลุมตัวยาวสีแดงอ่อนของเขาสะบัดพลิว ลายดอกโบตัน
ทีปั กอยู่บนคอเสือสวยงามเป็ นระเบียบ เทียบกับบทละครที
กําลังโศกเศร้า ยิงขับเน้นให้เขาดูมีสีสนั ราวกับดอกบัวแดง

1
บานสะพรังท่ามกลางหิมะขาวในฤดูหนาว ฉูดฉาดบาดตายิง
ทังยังคล้ายดังเงาสะท้อนของจันทรานวลกระจ่าง งดงามจน
น่าพรันพรึง

นัยน์ตาของเขาเป็ นสีนาตาลสุ
ํ กสกาวลึกลํา ราวกับธรรมชาติ
บรรจงวาดคิวและดวงตาให้ออกมาน่าหลงใหล จมูกของเขา
โด่งเป็ นสัน ดูดีรบั กับริมฝี ปากแดงฉํา ต่อให้เป็ นรอยยิมหยัน
ก็ยงั มีคนแย่งกันจุมพิต

ริมฝี ปากเปื อนยิมของจีเหิงค่อยๆ ขยับเข้ามา ยิงใกล้ก็ยิง


รูส้ กึ วาบหวาม ดวงตาทอประกายคูน่ นทํ
ั าให้นางแทบกลัน
หายใจ ในทีสุดชายหนุ่มก็เอ่ยเสียงเบา “ดวงตาเป็ นหน้าต่าง
ของหัวใจ นัยน์ตาบอกว่าเจ้าพูดไม่ตรงกับความจริง”

2
เจียงหลีรบี ปฏิเสธ “ไม่จริง”

“ในใจของเจ้ามีคนผูห้ นึง” จีเหิงกล่าว

หญิงสาวยังคงยืนกราน “ไม่ม”ี

“คนทีอยู่ในใจผูน้ ี เจ้าไม่ได้รกั แต่กลับเคียดแค้น” เขาอมยิม


กล่าวต่อ

เจียงหลีได้ฟังก็องงั
ึ นอย่างไม่อาจปฏิเสธ

ชายหนุ่มตรงหน้าราวกับปี ศาจทีสามารถอ่านใจผูค้ น ทุกสิง


บนโลกล้วนไม่อาจรอดพ้นจากสายตาของจีเหิง เจียงหลีอด

3
แปลกใจไม่ได้ ชายผูน้ ีแยกแยะจริงเท็จได้แน่หรือ เขาเข้าใจ
เรืองราวหักหลังต่างๆ ทังหมดได้เชียวหรือ ด้วยดวงตาของจี
เหิงสามารถทําให้ผคู้ นลุม่ หลง มีเพียงหนึงเดียวทีสามารถ
รอดพ้นก็คือตัวเขา

เขารูแ้ ละเข้าใจเรืองต่างๆ มากเกินไปจนไม่มีความสุข

ในขณะนัน จู่ๆ เจียงหลีก็เลิกขมวดคิว ร่างกายทีตึงเครียด


เริมผ่อนคลาย นางมองจีเหิงพร้อมรอยยิม “ท่านกัวกงอยาก
จะคิดอย่างไร ก็คิดไปเถอะ”

ไม่นกึ ว่าเจียงหลีจะยอมรับ ดวงตาของจีเหิงฉายแวว


ประหลาดใจ

4
หญิงสาวค่อยๆ สะบัดจนหลุดออกจากการเกาะกุมของเขา
จีเหิงจึงคลายนิวแล้วกําพัดไว้ตามเดิม ขณะเดียวกันก็หนั มา
สวมหน้ากากเกรงอกเกรงใจอย่างมีมารยาทเช่นในยามปกติ
“ท่านกัวกงชอบดูละครเป็ นชีวิตจิตใจเช่นนี ไม่กลัวว่าวันหนึง
จะต้องเข้าไปอยู่ในละคร ให้คนอืนหัวเราะเยาะเสียเองบ้าง
หรือ”

ดวงตาของจีเหิงพลันลึกลํา ราวกับคาดไม่ถึงว่าเจียงหลีจะ
ไม่เพียงยืนหยัด แต่ยงั กล้าพูดจาท้าทายตอบโต้ “คุณหนูรอง
เจียงคิดว่า จะมีวนั ทีข้าต้องเข้าไปอยู่ในละครอย่างนันรึ” เขา
โบกพัดในมือแล้วกล่าวสบายๆ “ข้าไม่ได้มีความเมตตา
เหมือนกับเจ้า ละครก็คือละคร ไหนเลยจะเป็ นความจริงได้”
เขาหยิบยกคําพูดทีเคยได้ยินจนติดหูขนมากล่
ึ าวอ้าง

“คนทีอยู่ในละคร มักไม่รูต้ วั ว่าตนเองอยู่ในนัน” เจียงหลีเอ่ย


5
เสียงเบา “ก็เหมือนกับข้าทีมาพบเรืองสะเทือนใจ อาจจะมี
วันทีท่านจะได้ประสบเช่นกัน”

ถ้อยคําของนางอ่อนหวาน ทว่าแววตาทีมองจีเหิงนันแฝง
ความดือรัน ทําให้นางคล้ายกับ ‘เด็กสาวอ่อนเดียงสา’ ทว่า
วิธีการพูดจาก็ยงั คงอ้อมค้อมแฝงความนัย

“ถ้าเช่นนัน ข้าคงต้องทําลายละครฉากนันเสียก่อน” จีเหิงยิม


อย่างไว้ไมตรี “เพราะคนแบบข้า ไม่ชอบเป็ นนักแสดงแน่”
ถ้อยคําสันๆ แต่เรียบง่าย เป็ นเอกลักษณ์ของจีเหิง

เจียงหลีพลันกล่าว “ก็ขอให้ทา่ นกัวกงเป็ นผูช้ มตลอดไปก็


แล้วกัน” หญิงสาวไม่เข้าใจว่าเส้นประสาทส่วนไหนของนาง
ทีผิดปกติ ถึงได้มาอยู่ทนีี เพือต่อล้อต่อเถียงกับจีเหิง “ภาย

6
นอกดูฉดู ฉาดแต่ภายในกลับกลวงเปล่า ไม่สวู้ างตัวเรียบง่าย
แต่เปี ยมสาระ” พูดจบก็หนั หน้าเดินไปทางข่งลิว

จีเหิงนิงอึงอยู่กบั ที หลังจากใคร่ครวญอย่างถีถ้วนแล้วก็แทบ
จะหัวเราะเสียงดังออกมา นีนางกําลังเตือนเขา

ข่งลิวเห็นเจียงหลีเดินเข้ามาก็รบี ฝื นยิมกล่าว “เหตุใดคุณหนู


รองถึงจะไปเสียแล้ว ไม่ดตู อ่ หรือ”

“ไม่มีอะไรน่าสนใจกระมัง” รอยยิมของเจียงหลีอบอุ่นอ่อน
โยน ดูไม่ออกเลยว่าเมือสักครูเ่ พิงจะต่อปากต่อคํากับจีเหิง
“ละครเรืองนีดูมาแล้วหลายครัง ทังยังเศร้าเกินไป เทศกาล
จงหยวนเจียเช่นนี ข้าเองก็ไม่อยากจมอยู่กบั ความทุกข์”

7
ข่งลิวรีบพยักหน้ารับ “จริงด้วย”

จีเหิงยืนกอดอกอยู่ทระเบี
ี ยง มองเจียงหลีพดู คุยกับข่งลิว
อย่างมีสาระ เป็ นสตรีทพลิ
ี กแพลงสถานการณ์เก่ง มิหนําซํา
ความสามารถก็ยงั โดดเด่นไม่ธรรมดา

เขากวาดตามองไปยังเสียวเถาหงทีกําลังทําการแสดง ในใจ
ก็ครุน่ คิดว่า คนทีนางทังรักทังชังนันเป็ นใคร

แต่ถึงอย่างไรก็คงไม่ใช่โจวเยียนปั ง

สนทนากับคนทีมีนิสยั ตรงไปตรงมาอย่างข่งลิว ย่อมง่าย


ดายกว่าจีเหิงมาก

8
แม้แต่ชายไว้เคราแพะผูม้ ีใบหน้าเปื อนยิม ทีมักจะหลอกถาม
นางคนนัน ก็ยงั พูดคุยได้ง่ายกว่าจีเหิงเสียอีก

เจียงหลีโอภาปราศรัยกับพวกเขาพร้อมรอยยิมพลางเลียงคํา
ถามสําคัญ เป็ นเช่นนีอยู่หลายครัง กระทังลูจ่ ีรูว้ า่ เจียงหลีจบั
ทางได้ จึงไม่พยายามถามอะไรอีก เพียงส่งยิมให้แล้วถก
เถียงกับข่งลิวต่อไป

ส่วนจีเหิงนันไม่ได้ทาํ อะไร แค่ยืนพิงราวระเบียงดูละคร ‘คดี


ของจิวเอ๋อ’ ด้วยท่าทางเหมือนไม่ใส่ใจจนน่าสงสัยว่าแท้จริง
แล้วเขายังดูอยู่หรือเปล่า

ไม่รูว้ า่ นังอยู่นานเท่าไร ในทีสุดเจียงหลีก็ลกุ ขึนยืนแล้วกล่าว

9
ลา “ผูอ้ าวุโสทุกท่าน ข้าคงต้องขอตัว หากท่านอารองหาข้า
ไม่พบจะต้องร้อนใจแน่ ตอนนีก็ดกึ มากแล้ว...”

“ถ้าเช่นนัน ข้าจะให้คนไปส่งเจ้า” ข่งลิวโบกมือขึน

“ช้าก่อน” ลูจ่ ีรอ้ งขัด กล่าวว่า “อย่างไรเสียพวกเราก็เป็ นคน


ของท่านกัวกง ส่งคุณหนูรองกลับไปเช่นนี แม้สามารถ
อธิบายแต่ก็ยากจะป้องกันเรืองเข้าใจผิด เพือไม่ให้เป็ นการ
เพิมภาระแก่คณ
ุ หนูรองเจียง มิสสู้ ง่ คุณหนูรองไปหาพีชาย
อย่างไรก็ยงั สามารถอธิบายได้ง่ายกว่า”

เจียงหลีเข้าใจแจ่มแจ้ง ความหมายในถ้อยคําของลูจ่ ีก็คือ


โกหกเจียงจิงรุย่ เพียงคนเดียวยังง่ายกว่าหลอกคนทังบ้าน
ของนางหลูซือ

10
จีเหิงพลันเอ่ยเรียก “เหวินจี”

เหวินจีรีบขานรับ “นายท่าน”

“น้อมส่งคุณหนูรองเจียง” จีเหิงออกคําสัง

เหวินจีผงกศีรษะ เจียงหลีคารวะจีเหิง “ขอบคุณท่านกัวกงที


กรุณา”

“ไม่ตอ้ งเกรงใจ” จีเหิงยิมน้อยๆ “คราวหน้าหวังว่าจะได้พบ


กันอีก”

11
เจียงหลีมิได้ตอบรับ

หวังอย่างยิงว่าวันทีได้ ‘พบกันอีกครัง’ จะเป็ นหนึงร้อยปี ขา้ ง


หน้า ไม่สิ อีกหนึงพันปี ขา้ งหน้าถึงจะดี

ในทีสุดก็ออกมาจากหอวังเซียนจนได้ เจียงหลีโล่งใจขึนมา
บ้าง ครันหันกลับไป หอวังเซียนนีตังตระหง่านอยู่ในย่าน
ชุมชนบนถนนใจกลางเมืองเยียนจิง โคมไฟประดับประดา
ลานตาราวกับภาพฝันทีไม่ใช่ความจริง

จู่ๆ เจียงหลีพลันพบว่า เทศกาลจงหยวนเจียซึงเดิมทีคิดว่า


จะเวียนตอกยําภาพเหตุการณ์ในอดีต กลับมีจีเหิงแทรกเข้า
มา แม้ตอนแรกจะนึกถึงเรืองราวหนหลังอยู่บา้ ง แต่พอได้ตอ่
ปากต่อคํากับจีเหิง ความทุกข์เหล่านันก็มลายสิน ไม่มีเวลา

12
ไปคิดถึงอีก ตอนนีจึงรูส้ กึ ปลอดโปร่งโล่งสบายไปทังตัว นับ
เป็ นโชคดีของนางก็แล้วกัน

เจียงหลีพลันออกปาก “ไปกันเถิด”

เมือหาตัวเจียงจิงรุย่ พบ เหวินจีก็เร้นกายไปในฝูงชน ครัน


เจียงจิงรุย่ เห็นเจียงหลีก็กล่าวอย่างร้อนรน “เมือสักครูเ่ จ้าไป
ไหนมา ข้าตามหาจนทัวก็ไม่พบ เกือบจะไปบอกท่านแม่ให้
ส่งคนออกตรวจค้นอยู่แล้วเชียว”

“ถูกผูค้ นเบียดเสียดจนพลัดหลงไปไกล กว่าจะกลับมาได้


ลําบากแท้” เจียงหลีพดู เท็จโดยไม่เปลียนสีหน้า “แต่ตอนนี
ไม่เป็ นไรแล้ว”

13
“จริงรึ” เจียงจิงรุย่ มองนางอย่างแคลงใจ “เหตุใดถึงไปนาน
นักเล่า เครืองประทินโฉมบนใบหน้าก็เลอะเลือน...”

“อากาศร้อนเกินไปจนเหงือออกน่ะสิ” เจียงหลีกล่าว “ตอนนี


ไปหาอาสะใภ้รองก่อนดีกว่า สมควรแก่เวลากลับกันได้แล้ว”

เจียงจิงรุย่ พลันเศร้าสลด เขายังไม่ได้โคมกระต่ายมาครอบ


ครอง จําต้องตัดใจในทีสุด

เจียงหลีได้แต่ทอดถอนใจ มิน่าลูจ่ ีถึงเสนอวิธีการนี เจียงจิง


รุย่ ถูกหลอกง่ายจริงๆ

เจียงหลีกลับไป แต่ละคร ณ หอวังเซียนก็ยงั คงดําเนินต่อ จี


เหิงนังลงอย่างเกียจคร้าน ขณะเอ่ยถาม “เป็ นอย่างไร”
14
“คุณหนูรองเจียงเฉลียวฉลาดนัก” ลูจ่ ียิมบางๆ “ข้าน้อย
หลอกถามอยู่นานสองนานก็ไม่หลุดปากอะไรออกมา”

“อย่างน้อยนางก็เป็ นบุตรสาวของเจียงหยวนปั ว” จีเหิง


ตอบอย่างไม่ใส่ใจ

ส่วนอีกด้าน องครักษ์ก็กลับมารายงานว่า “สืบดูอย่าง


ละเอียดแล้วพบว่า เย่ซือเจียกับคุณหนูรองเจียงไม่ได้นดั
หมายกันมาก่อน เพียงพบกันโดยบังเอิญ ทว่าเมือวานเย่หมิ
งเซียน--ผูอ้ าวุโสรองของตระกูลเย่เพิงจะมาถึงเมืองเยียนจิง
ขอรับ”

“เย่หมิงเซียนมาถึงแล้วรึ” ข่งลิวขมวดคิวมุน่ “การค้าของตระ

15
กูลเย่ไม่ได้อยู่ในเมืองเยียนจิง เขามาทีนีด้วยเหตุใด”

“การค้าของตระกูลเย่เกิดปั ญหาเล็กน้อย” ลูจ่ ีกล่าว “ทีเย่หมิ


งเซียนมาในครังนี ก็เพือหาลูท่ างทีเมืองเยียนจิง ว่าจะ
สามารถช่วยอะไรได้หรือไม่”

จีเหิงหัวเราะออกมา “คนจากลา ชาก็เย็นชืด”

“แล้วเหตุใดเขาไม่ให้เย่ซือเจียช่วยเหลือเล่า ตอนนีเย่ซือเจีย
รับราชการเป็ นขุนนางแล้ว คนทีอยากประจบสอพลอเขามี
อยู่มากมาย เริมหาลูท่ างจากตรงนีย่อมง่ายดายกว่ามาก”
ข่งลิวพูดเหมือนเป็ นเรืองปกติ

ลูจ่ ีพลันส่ายศีรษะ “ตระกูลเย่ทกุ รุน่ ทีผ่านมาล้วนทําการค้า


16
เย่ซือเจียเป็ นลูกหลานคนแรกทีเข้ารับราชการ ตอนนีเพิงโดด
เด่นขึนมา จะใช้ตาํ แหน่งขุนนางของเย่ซือเจียเป็ นใบเบิกทาง
ในการค้าขาย ตระกูลเย่คงไม่ใจกล้าปานนัน”

17
บทที 93 เพราะคุณหนูรอง

ข่งลิวบ่นพึมพํา “แล้วเหตุใดเขาไม่ไปหาตระกูลเจียงเล่า
อย่างไรเสียสองบ้านก็เคยเกียวดองกัน หากเย่หมิงเซียน
ไปเยือนจวนตระกูลเจียงสักครัง เจียงหยวนปั วทีรักหน้า
ตัวเองยิงกว่าสิงใดจะต้องให้ความช่วยเหลือแน่”

ลูจ่ ีทอดถอนใจ “เจ้าเองก็เคยฟั งเรืองเล่าต่างๆ ภายใน


เมืองเยียนจิง คุณหนูรองอีกทังคนในตระกูลเจียงมิได้ไป
มาหาสูก่ บั ตระกูลเย่เป็ นเวลาร่วมสิบปี เย่หมิงเซียนจะ
ไปหาคนตระกูลเจียงได้อย่างไร” สินเสียง ทุกชีวิตก็นิงงัน
ไปพักใหญ่

1
ก่อนทีจีเหิงจะเอ่ยว่า “สุดท้าย เย่หมิงเซียนอาจจะไปพบ
กับคนตระกูลเจียง”

“นายท่าน...” ลูจ่ ียงั คงไม่เข้าใจ

“เพราะคุณหนูรอง” จีเหิงกล่าวต่อ

หลังจากพบกับเจียงจิงรุย่ แล้ว ทังสองก็ตามหากลุม่ ของ


นางหลูซือเจออย่างรวดเร็ว เดินเทียวกับคนบ้านสายรอง
ไม่นานเท่าไร ก็ได้เวลากลับจวน

คืนนีหลับไม่สบายเอาเสียเลย พอถึงกลางดึกฝนก็เริมตก
2
หนัก เสียงฟ้าผ่าประสานกับเสียงห่าฝนทําให้เจียงหลี
นอนไม่หลับ กระทังได้เวลาไก่ขนั แสงตะวันเริมสาดส่อง
ทางทิศตะวันออก ฟ้าฝนถึงสงบลง นางจึงข่มตานอนได้

ครันถึงตอนตืนก็สายมากแล้ว

เฝ่ ยชุ่ย--สาวใช้ขา้ งกายฮูหยินผูเ้ ฒ่ามาหยุดยืนอยูห่ น้า


ประตูเรือนฟั งเฟย แล้วเอ่ยกับเจียงหลีวา่ “คุณหนูรอง
ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเชิญท่านให้ไปพบทีเรือนหวันฟ่ งถาง”

ถงเอ๋อออกหน้าถาม “พีเฝ่ ยชุ่ย ทีจวนมีเรืองอะไรหรือ


เปล่า”

3
“ไม่มีอะไร” เฝ่ ยชุ่ยตอบพร้อมรอยยิม “มีแขกมาขอพบ
และให้เชิญคุณหนูรองด้วย”

ถงเอ๋อเห็นเฝ่ ยชุ่ยตอบเช่นนันจึงวางใจ สังเกตจากนํา


เสียงและท่าทางของอีกฝ่ าย ฮูหยินผูเ้ ฒ่าคงไม่ได้เรียก
เจียงหลีไปดุดา่ ว่ากล่าวกระมัง อีกอย่างคุณหนูของนาง
ก็ไม่ได้ทาํ ความผิดใดๆ

เจียงหลีกล่าวกับเฝ่ ยชุ่ย “พีเฝ่ ยชุ่ยโปรดรอสักครู ่ ข้าขอ


ตัวไปเปลียนเสือก่อน” เจียงหลีกลับเข้าห้องไปเปลียนชุด
แล้วมุง่ หน้าสูเ่ รือนหวันฟ่ งถางพร้อมกับถงเอ๋อและเฝ่ ย
ชุ่ย

4
พอมาถึงทีหมาย เฝ่ ยชุ่ยก็เดินนําเข้าประตูไปก่อน นาง
ยิมละไมพลางกล่าวกับคนทีอยูฝ่ ังตรงข้าม “เรียนฮูหยิน
ผูเ้ ฒ่า คุณหนูรองมาแล้วเจ้าค่ะ”

เมือเจียงหลีและถงเอ๋อเดินตามเข้าไป จึงได้พบกับชาย
หนุ่มทีคุน้ หน้าคุน้ ตา ซึงนังอยูท่ างฝังขวามือของฮูหยินผู้
เฒ่า เขาเงยหน้าขึนเล็กน้อย ราวกับไม่คอ่ ยสบายตัวนัก

ฝี เท้าของเจียงหลีพลันหยุดชะงัก ในใจเกิดความสงสัย
เหตุใดเย่ซือเจียถึงมาอยูท่ ีนีได้ ยังไม่ทนั ใคร่ครวญให้ถี
ถ้วน ก็ได้ยินฮูหยินผูเ้ ฒ่ากล่าวอย่างสุภาพ “หลีเอ๋อ รีบ
มาพบกับท่านลุงหมิงเซียนของเจ้าเร็วเข้า”เจียงหลีองงั
ึ น
ท่านลุงหมิงเซียนรึ

5
นางเพิงจะสังเกตเห็นว่าข้างกายของเย่ซือเจียยังมีชาย
วัยกลางคนนังอยู่ ชายวัยกลางคนผูน้ ีสวมอาภรณ์สีขาว
ตลอดร่าง ใส่หมวกสีเงิน คาดเอวด้วยผ้าสีทอง ราวกับ
บัณฑิตรูว้ ิชา ทว่าดูหรูหรากว่าคนทัวไป ใบหน้าขาวไร้
หนวดเครา รูปร่างผอมเพรียว แววตาดูเฉลียวฉลาด

เขาลุกขึนยืนพลางมองเจียงหลี ก่อนจะหัวเราะออกมา
แล้วกล่าวว่า “หลีเอ๋อตัวสูงขนาดนีเชียวรึ ข้าจําแทบไม่
ได้”

เจียงหลีมนึ งงไปชัวครู ่ ท่านลุงหมิงเซียนผูน้ ีเรียกนางว่า


‘หลีเอ๋อ’ ทําให้นางคิดไปถึงตอนทีเซวียฮว๋ายหย่วนเรียก

6
ตนว่า ‘หลีเอ๋อ’

ครันเย่หมิงเซียนพินิจพิจารณาเจียงหลีแล้ว นัยน์ตาก็
ฉายแววประหลาดใจ

ได้ยินเรืองราวมากมายของนางจากปากเย่ซือเจีย อาทิ
วางเดิมพันกับเมิงหงจินทีสํานักบัณฑิตหญิงหมิงอีถาง
แสดงความสามารถให้เห็นเป็ นทีประจักษ์ไปทังสนาม
สอบ จ่อมีดบังคับให้เย่ซือเจียรูจ้ กั แก้ปัญหาด้วยสติ
ปั ญญา แล้วอืนๆ อีกมากมาย ทําให้เย่หมิงเซียนนึกไม่
ถึงว่านางจะเป็ นเด็กหญิงเอาแต่ใจในความทรงจําคนนัน

สิบปี พน้ ผ่าน เย่หมิงเซียนไม่ได้เจอเจียงหลีมาเป็ นเวลา

7
สิบปี แล้ว หลังจากเย่เจินเจินล่วงลับไปในตอนนัน ตระกู
ลเย่เกรงว่าหลังจากทีเจียงหยวนปั วแต่งงานใหม่ เจียง
หลีจะถูกแม่เลียงรังแก ถึงได้คิดจะรับตัวเจียงหลีกลับ
เซียงหยาง ไม่นกึ ว่าเจียงหลีทีอยูใ่ นวัยย่างห้าขวบจะชัก
สีหน้าดูแคลนครอบครัวค้าขายอย่างบ้านตระกูลเย่ ซํา
ยังพูดจาทิมแทงจิตใจว่าคนทํามาค้าขายเป็ นพวกชันตํา
ในตอนนัน ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่ถงึ กับล้มป่ วย

เด็กน้อยเยาว์วยั เหตุใดถึงพูดจาทําร้ายจิตใจได้เพียงนี
นางในตอนนันราวกับสืบทอดความเย็นชามาจากคน
ตระกูลเจียง เป็ นขุนนางทีทําอะไรแฝงด้วยผลประโยชน์
ยากนักจะทําให้คนไว้ใจได้

เด็กสาวทียืนตรงหน้าเย่หมิงเซียนตอนนี สวมอาภรณ์สี
8
เขียวอ่อน รูปร่างผอมสูง สะคราญโฉมนัก มุมปากของ
นางมีรอยยิมบางๆ ใบหน้าอ่อนโยนไร้เดียงสา ปราศจาก
ร่องรอยความอ่อนแอและแสบสันเหมือนครังเยาว์วยั

นางแตกต่างจากในอดีตอย่างสินเชิง

เย่หมิงเซียนทีเคยกล่าวโทษเด็กน้อยในอดีตคนนัน ครัน
เห็นดวงตาทีดูสกุ สกาวของเจียงหลี ความรูส้ กึ ทีเคยมี
กลับเลือนหายไปกว่าครึง ไม่รูว้ า่ เป็ นเพราะสายเลือดก่อ
ให้เกิดความผูกพัน หรือว่าเป็ นเพราะเจียงหลีดอู อ่ นโยน
ดีงาม ถึงทําให้เขาแยกเจียงหลีผนู้ ีกับเด็กน้อยห้าขวบ
ออกจากกันอย่างชัดเจน

9
เย่หมิงเซียนส่งยิมให้กบั เจียงหลี

ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเก็บความรูส้ กึ ชืนชมของเย่หมิงเซียนไว้ใน


สายตา ค่อยๆ รูส้ กึ โล่งใจขึนเป็ นลําดับ ตอนนีเย่ซือเจีย
ดํารงตําแหน่งเป็ นถึงฮู่ปู้ อายุยงั น้อยก็สามารถมาถึงจุด
นีได้นบั ว่าไม่ง่ายเลยจริงๆ ดังนันเมือเย่ซือเจียกับเย่หมิ
งเซียนเข้ามาเยียมคารวะ ฮูหยินผูเ้ ฒ่าจึงปรารถนาจะ
กลับมาสานไมตรีกบั ตระกูลเย่ดงั เดิม

แรกพบหน้า ท่าทีของเย่หมิงเซียนถือว่าอ่อนโยนต่อเจียง
หลีอยูม่ าก เป็ นสัญญาณทีดียงิ

เย่หมิงเซียนยิมพลางกล่าว “เจ้าคงจําข้าไม่ได้ ครังก่อน

10
ตอนทีพบกัน เจ้ายังเป็ นแค่เด็กตัวเล็กๆ” เขาวางมือ
ขนานแค่ระดับเข่าของตน “...สูงเท่านีเอง” เย่หมิงเซียน
กล่าวต่อไป “ข้าเป็ นพีชายคนทีสองของมารดาเจ้า... จะ
เรียกข้าว่าลุงหมิงเซียนก็ได้”

“ท่านลุงหมิงเซียน” เจียงหลีขานรับเบาๆ

“ท่านลุงของเจ้ามาทําธุระเล็กน้อยในเมืองเยียนจิง จึง
ตังใจแวะมาเยียมเจ้า” ฮูหยินผูเ้ ฒ่ากล่าวพร้อมรอยยิม
“ยังมีของขวัญติดมือมาฝาก สักครูจ่ ะให้คนนําไปส่งที
เรือนของเจ้า”

เจียงหลียิมบางๆ มองเย่ซือเจีย อีกฝ่ ายเห็นเช่นนันก็หนั

11
หน้าไปอีกทาง หลบเลียงสายตาของเจียงหลี

เย่หมิงเซียนพูดคุยกับเจียงหลีและฮูหยินผูเ้ ฒ่า ต่างถาม


ไถ่สารทุกข์สกุ ดิบทัวไป ฮูหยินผูเ้ ฒ่ายังแสดงความ
ห่วงใยไปถึงสมาชิกตระกูลเย่คนอืนๆ เย่หมิงเซียนเองก็
ตอบอย่างเกรงอกเกรงใจไม่ให้เสียมารยาท ดูจาก
ภาพรวมแล้ว อย่างน้อยความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเย่
กับตระกูลเจียงก็อบอุน่ ขึนมาก

เจียงหลีสงั เกตว่าการพบหน้ากันในคราวนี เจียงหยวน


ปั วไม่ปรากฏตัว ฮูหยินผูเ้ ฒ่าคงรูส้ กึ ว่า หากคนใน
ตระกูลเจียงมากันพร้อมหน้าจะผิดกาลเทศะ ค่อยเป็ น
ค่อยไปจะดีกว่า

12
นําชาหนึงกาหมดลงโดยไม่รูต้ วั ได้เวลาทีเย่หมิงเซียนลุก
ขึนยืนเพือขอตัวกลับ กล่าวว่ายังมีธุระต้องสะสาง เอาไว้
วันหลังจะมาเยียมใหม่ ก่อนส่งยิมให้เจียงหลี แล้วกล่าว
ว่า “ของขวัญทีมอบให้หลีเอ๋อ ข้าได้สงให้
ั คนนําไปส่งที
เรือนของนางแล้ว”

“ดี” ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเอ่ยรับ “หลีเอ๋อ พาท่านลุงหมิงเซียน


ของเจ้าไปชมสวนด้วยกันสิ”

ทําเช่นนีก็เพือเป็ นการเปิ ดโอกาสให้ลงุ และหลานได้พดู


คุยกันเป็ นการส่วนตัว

13
เย่หมิงเซียนตอบรับข้อเสนอของฮูหยินผูเ้ ฒ่าแต่โดยดี
เจียงหลีจงึ พาเย่หมิงเซียนกับเย่ซือเจียไปยังเรือนฟั งเฟย
พร้อมกัน

ตลอดทางเย่ซือเจียไม่ได้เอ่ยถ้อยคําใดๆ ดูสงบปากสงบ
คําจนเกินเหตุ มีแต่เย่หมิงเซียนทีถามไถ่ถงึ ชีวิตความ
เป็ นอยูข่ องเจียงหลีไม่หยุดปาก ส่วนนางก็ตอบพร้อม
รอยยิม

เย่หมิงเซียนเห็นเจียงหลีทาํ ตัวเป็ นกันเองก็รูส้ กึ ตกใจไม่


น้อยดูจากท่าทีของฮูหยินผูเ้ ฒ่า ฐานะของเจียงหลีใน
จวนตระกูลเจียงก็ไม่ได้ตาต้
ํ อยอย่างทีคิด อีกทังกิรยิ า
มารยาทและการพูดจาก็ดถู กู ต้องเหมาะสม ไม่เหมือน
คนถูกข่มเหงรังแก
14
หลานสาวคนนี ราวกับมีความลับมากมายทีไม่อยากให้
ใครล่วงรู ้ เย่หมิงเซียนแอบคิดในใจ

ตอนทีมาถึงประตูทางเข้าเรือนฟั งเฟย ชิงฟงกับหมิงเย่


กําลังเก็บกวาดสวนด้านหน้า ทันทีทีไป๋ เสวียเห็นเจียง
หลีกลับมาก็ตงท่
ั าจะรีบไปยกนําชา ครันสังเกตเห็นว่า
ข้างกายเจียงหลียงั มีเย่หมิงเซียนกับเย่ซือเจียก็
ประหลาดใจนัก

“นีคือท่านลุงหมิงเซียนกับลูกพีลูกน้องของข้า” เจียงหลี
ยิมพลางออกคําสัง “ไป๋ เสวีย ไปยกนําชาเข้ามา”

15
ชัวขณะทีเย่หมิงเซียนเห็นเรือนฟั งเฟยก็ถงึ กับตกตะลึง

ถึงแม้จะเป็ นฤดูใบไม้รว่ ง ดอกไม้ทีเรือนฟั งเฟยกลับยัง


คงบานสะพรังหลากสีสนั อาทิดอกเก๊กฮวยและดอก
กุย้ ฮัวทีมีกลินหอมจรุงต้องนาสิก มิได้โรยรา เจียงหยวน
ปั ววางตนเป็ นคนสูงส่ง พันธุไ์ ม้ภายในสวนส่วนมากจะ
เป็ นสีเขียวในฤดูใบไม้รว่ ง ยิงชืนชอบสีขาวตัดดําดูเป็ น
ระเบียบ แสดงให้เห็นถึงความปลอดโปร่งเรียบง่าย ด้วย
เหตุนี ตลอดทางจึงไม่เห็นบุปผาผลิบาน

ทว่าสวนของเจียงหลีดมู ีชีวิตชีวาไม่เข้ากับจวนอํามาตย์
ทําให้เย่หมิงเซียนนึกถึงเย่เจินเจิน--น้องสาวผูล้ ว่ งลับขึน
มาทันใด ดวงตาพลันแสบร้อนยากจะระงับ

16
เจียงหลีเห็นสีหน้าประหลาดใจของเย่หมิงเซียนก็พอจะ
เดาได้ จึงกล่าวว่า “นีเป็ นเรือนทีท่านแม่ใช้พกั รักษาตัว
หลังจากหลานได้กลับเข้าเมืองเยียนจิง ฮูหยินใหญ่ก็
มอบสวนนีให้ ตอนนันดอกไม้ทงสวนแห้
ั งตายจนหมด
ถงเอ๋อกับไป๋ เสวียลงแรงไปมากถึงได้อยูใ่ นสภาพอย่าง
ทุกวันนี”

17
บทที 94 จริงเสียยิงกว่าจริง

นางเรียกจีซูหรันว่า ‘ฮูหยินใหญ่’

เย่หมิงเซียนตากระตุกไปครูห่ นึง แล้วจึงเอ่ยถาม “ฮูหยิน


ใหญ่ดีกบั เจ้าหรือเปล่า”

เจียงหลียิมบางๆ ไม่ได้ตอบคําถามของเย่หมิงเซียน แต่


เสกล่าวว่า “นําชาพร้อมแล้ว ท่านลุงหมิงเซียน พวกเรา
เข้าไปพูดคุยกันในห้องเถิด”

นางเลียงคําถาม
1
เย่หมิงเซียนกับเย่ซือเจียมองตากันพลางคิดตีความ
ก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินตามเจียงหลีไป

ถงเอ๋อยืนสงบเสงียมอยูอ่ ีกด้าน รินนําชาให้กบั เย่หมิ


งเซียนและเย่ซือเจียตามลําดับ

“ไม่คิดว่าจู่ๆ ท่านลุงจะมาเยือนเมืองเยียนจิง” เจียงหลี


กล่าว “หลานนึกไม่ออกจริงๆ ว่าท่านลุงหมิงเซียนมาถึง
จวนตระกูลเจียงด้วยเหตุใด”

เย่ซือเจียส่งเสียงกระแอมเบาๆ กล่าวว่า “ข้าเล่าเรืองของ


เจ้าให้ทา่ นอารองฟั ง”

2
เจียงหลีมิได้กล่าวอะไรต่อ นางรูม้ าตังแต่แรกแล้วว่าเกิด
เรืองขึนมากมายเช่นนี ไม่ชา้ ก็เร็ว เย่ซือเจียจะต้องเล่า
เรืองของนางให้คนตระกูลเย่ฟัง เพียงแต่คิดไม่ถงึ ว่าคน
ตระกูลเย่จะมาเยือนเมืองเยียนจิงด้วยตนเอง เย่หมิ
งเซียนทอดถอนใจ “นับย้อนไปก็สบิ ปี แล้วสินะ หลีเอ๋อ
เรืองของเจ้าข้าได้ฟังมาจากซือเจียแล้ว เจ้าช่วยเหลือซือ
เจียไว้หลายต่อหลายครัง ข้าต้องขอบใจเจ้าแทนซือเจีย
ด้วย”

เจียงหลีหวั เราะอย่างลืมตัว “ครอบครัวเดียวกัน ท่านลุง


หมิงเซียนอย่าได้เกรงใจ”

นางกล่าวด้วยความจริงใจและอ่อนโยน ดวงตาทังคู่
3
กระจ่างใสดังสายธาร ทําให้รูส้ กึ ว่านางพูดทุกอย่างออก
มาจากใจ

“ท่านยาย สบายดีไหมเจ้าคะ” เจียงหลีถาม

“สุขภาพไม่คอ่ ยแข็งแรง” เย่หมิงเซียนตอบ “อายุมาก


แล้วก็เป็ นเช่นนี เดิมทีก็อยากมาเยียมซือเจียทีเมืองเยียน
จิงด้วย แต่สงั ขารไม่เอืออํานวย”

เจียงหลีขมวดคิวช้าๆ ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่สขุ ภาพยําแย่ไม่ใช่


เรืองดี

เย่ซือเจียเองก็รูส้ กึ ไม่สบายใจ ทีฮูหยินผูเ้ ฒ่าสุขภาพไม่


4
แข็งแรงนันสืบเนืองจากเมือก่อนเจียงหลีเคยดูแคลนตระ
กูลเย่มิใช่หรือ ตอนนันฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่ลม้ ป่ วย ร่างกาย
ทรุดโทรม ไม่แข็งแรงเหมือนเดิมอีก หลายปี มานีสุขภาพ
ก็ยาแย่
ํ ลงไปทุกขณะ

“ท่านยายมาไม่ได้ แล้วท่านลุงคนอืนๆ เหตุใดถึงไม่มา


ด้วยเล่า” เจียงหลีถาม นางเคยสืบทราบมาว่า คุณหนู
รองเจียงมีลงุ สามคน เย่หมิงเซียนเป็ นคนรอง บิดาของ
เย่ซือเจียเป็ นคนโต แล้วยังมีทา่ นลุงคนเล็กอีกหนึงคน

“การค้าในเมืองเซียงหยางมีปัญหาเล็กน้อย” เย่หมิ
งเซียนกล่าวกลัวหัวเราะ “ช่วงนีพวกเขางานยุง่ กันมาก”

5
แม้เย่หมิงเซียนจะกําลังหัวเราะ แต่เจียงหลีก็ยงั สังเกต
เห็นความกังวลแฝงอยูใ่ นแววตาของอีกฝ่ าย ดังนันคําว่า
‘มีปัญหาเล็กน้อย’ จะต้องไม่ใช่เรืองเล็กน้อยอย่างที
เย่หมิงเซียนกล่าวเป็ นแน่

เจียงหลีครุน่ คิดแล้วเอ่ยถาม “ท่านลุงหมิงเซียนตังใจจะ


อยูท่ ีเยียนจิงนานแค่ไหน เมือไรถึงจะเดินทางกลับเซียง
หยาง”

“ครังนี หลักๆ ก็เพือมาดูความเป็ นอยูข่ องซือเจีย แล้วถือ


โอกาสจัดการกับเรืองการค้าทางฝังนี รอให้ทกุ อย่าง
เรียบร้อยถึงจะกลับเซียงหยาง” เย่หมิงเซียนครุน่ คิดอยู่
ครูห่ นึงจึงกล่าว “คิดว่าคงใช้เวลาไม่นานนัก อย่างมากก็
ราวๆ สิบกว่าวัน ทางเซียงหยางมิอาจขาดคนดูแล ดังนัน
6
จะรังอยูเ่ ยียนจิงนานไม่ได้”

แค่สบิ วันเศษๆ ก็ถือว่าเสียเวลาแล้ว เห็นทีเรืองทางเมือง


เซียงหยางคงจะเร่งด่วนไม่เบา ได้ยินเย่หมิงเซียนกล่าว
เช่นนี ยิงตอกยําการคาดเดาของเจียงหลี ครันนางชํา
เลืองมองเย่ซือเจียก็เห็นว่าอีกฝ่ ายมีทา่ ทางกังวลใจเช่น
กัน

เย่หมิงเซียนหัวเราะพลางกล่าว “ถึงแม้มาเยือนเยียนจิง
ครังนีเพือดูความเป็ นอยูข่ องซือเจีย แต่การได้พบหลีเอ๋อ
ก็นบั เป็ นเรืองน่ายินดีอย่างคาดไม่ถงึ ได้ยินว่าเจ้าสอบ
ได้คะแนนเป็ นอันดับหนึงของสํานักบัณฑิตหญิงหมิงอี
ถาง แล้วยังได้รบั พระราชทานรางวัลจากฮ่องเต้ หาก
ท่านยายของเจ้ารูเ้ ข้าจะต้องดีใจแน่”
7
“จะว่าไป หลานก็ไม่ได้พบท่านยายมานานแล้ว ยังมีปา้
สะใภ้คนอืนๆ” เจียงหลีหวั เราะเบาๆ “ครังนีได้พบท่าน
ลุงหมิงเซียน เหมือนทีท่านลุงจําหลานไม่ได้ หลานเองก็
จดจําท่านลุงไม่ได้เช่นกัน”

เย่หมิงเซียนหัวเราะลัน “ไม่เป็ นไรๆ เอาไว้มีโอกาส เจ้า


กับซือเจียค่อยกลับเมืองเซียงหยางด้วยกัน ไปพบท่าน
ยายกับป้าๆ ของเจ้า พวกเขาจะต้องดีใจแน่”

เจียงหลีคอยคํานีจากเขามานาน ดวงตาพลันโค้งขึนแฝง
รอยยิม “ไม่จาํ เป็ นต้องรอ ครังนีนับเป็ นโอกาสดี ท่านลุง
หมิงเซียนทําธุระเสร็จเมือไร หลานค่อยกลับเมืองเซียง

8
หยางไปพร้อมกับท่าน”

เมือคําพูดนีถูกเอ่ยออกมา เย่ซือเจียและเย่หมิงเซียนก็
พากันอึงงัน ถงเอ๋อถึงกับเบิกตาโต

เงียบไปนาน เย่หมิงเซียนพลันเอ่ยถามด้วยความลังเล
“เมือสักครูเ่ จ้ากล่าวว่า อยากกลับเมืองเซียงหยางไป
พร้อมข้ารึ”

“ใช่แล้วเจ้าค่ะ” เจียงหลีรบี ตอบรับ “หลายปี มานีหลานก็


ไม่ได้พบหน้าท่านยายและท่านลุงทังหลาย ตอนยังเด็ก
หลานทําความผิดไว้อย่างมหันต์ ภายหลังรูส้ กึ เสียใจแต่
ก็ไม่มีโอกาสได้ขอขมา ตอนนีในเมือท่านลุงมาเยือนถึง

9
เมืองเยียนจิง อีกไม่กีวันก็ตอ้ งกลับเซียงหยาง จึงนับเป็ น
โอกาสอันดี” นางก้มศีรษะลง “ไม่มีโอกาสได้แสดงความ
กตัญ ตู อ่ ท่านยาย บางครังเมือนึกถึงเรืองนีขึนมา
หลานก็รูส้ กึ ไม่เป็ นสุข”

เดิมทีเย่ซือเจียอยากจะหัวเราะออกมา วาจาเย้ยหยัน
มากมายติดอยูท่ ีริมฝี ปาก แต่พอเห็นสายตาของเจียงหลี
อย่างไรเขาก็พดู ไม่ออก

หากเจียงหลีกาํ ลังพูดจาโป้ปด นางก็ตอ้ งเป็ นจอมโกหก


ทีเยียมยอดกว่าใครในโลกเป็ นแน่

เย่หมิงเซียนยิงอึงงันจนพูดอะไรไม่ออก

10
ประการแรก แม้ตระกูลเย่จะรํารวยเงินทอง แต่ถงึ อย่าง
ไรความเจริญในเซียงหยางก็ไม่อาจเทียบกับเยียนจิงได้
ไหนจะการเดินทางทีลําบากนันอีกเล่า คุณหนูทีถูกเลียง
ดูอย่างประคบประหงมจะทนทุกข์ยากได้หรือ อีก
ประการหนึงก็คือ หากเจียงหยวนปั วหรือคนตระกูลเจียง
รับรูเ้ รืองนีและอนุญาตให้เจียงหลีกลับบ้านตระกูลเย่
แล้วพวกเขาจะได้ประโยชน์อะไร แค่ตอ้ งการเอาใจ
ตระกูลเย่อย่างนันรึ ตระกูลเจียงจําเป็ นต้องทําแบบนี
หรือไร

“ท่านลุงไม่จาํ เป็ นต้องคิดมากถึงเพียงนัน” เจียงหลียิม


อย่างอ่อนหวาน “หลานแค่อยากกลับไปเยียมท่านยาย”
ราวกับสามารถอ่านความในใจของเย่หมิงเซียนได้ จู่ๆ

11
เจียงหลีก็เอ่ยออกมาตรงกับความคิดของเขาพอดิบพอดี
เย่หมิงเซียนมิได้แสดงสีหน้าลําบากใจ “ข้ากําลังคิดว่า
หนทางกลับเมืองเซียงหยางค่อนข้างยากลําบาก หญิง
สาวบอบบางอย่างเจ้าจะทนได้หรือ”

“ท่านลุงอย่าลืมว่าหลานเคยอยูใ่ นสํานักนางชีมาถึงแปด
ปี หาบนําหรือผ่าฟื นก็ตอ้ งทําเองทังหมด หลานไม่ได้
อ่อนแอขนาดนัน” เจียงหลีกล่าว

หัวคิวของเย่ซือเจียขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

“แต่... เกรงว่าบิดาของเจ้าจะไม่ไว้ใจให้เจ้ากลับไปพร้อม
กับข้าน่ะสิ” เย่หมิงเซียนพึมพํา

12
“หากท่านลุงออกปากกับท่านพ่อด้วยตัวเอง หลานเชือ
ว่าท่านพ่อจะต้องอนุญาตแน่” เจียงหลีกล่าวเรียบๆ
“ท่านแม่จากไปนับสิบปี หลานเองก็โตแล้ว อีกทังทีจวน
ยังมีนอ้ งสาม หลานไม่ใช่บตุ รีเพียงคนเดียวทีเกิดจาก
ภรรยาเอก ท่านพ่อไม่มาใส่ใจหลานหรอกเจ้าค่ะ”

คําพูดของนางมีความหมายลึกซึง ท่านลุงหมิงเซียนผูน้ ีดู


ก็รูว้ า่ เป็ นคนฉลาดมีไหวพริบ เขาจะต้องเข้าใจความ
หมายทีแฝงอยูใ่ นถ้อยคําของนาง

“อีกทังตอนนี ญาติของหลานก็กลายเป็ นฮู่ปแู้ ล้ว” เจียง


หลีกล่าวพร้อมรอยยิม “ท่านพ่อจะต้องยอมให้พวกเรา

13
สองบ้านไปมาหาสูก่ นั มากขึนแน่นอน”

เย่หมิงเซียนมองนางอย่างชืนชม “หลีเอ๋อเข้าใจ
สถานการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง”

เจียงหลีสามารถเข้าใจเรืองต่างๆ ได้ถงึ เพียงนี เย่หมิ


งเซียนรูส้ กึ ประหลาดใจไม่นอ้ ย และสิงทีทําให้เขาถึงกับ
ตกตะลึงก็คือ ความมันใจในตนเองของนาง เย่หมิงเซียน
ไม่ได้พดู อะไรต่อ

ในตอนนัน จู่ๆ เย่ซือเจียก็เปิ ดปากพูด เขามองเจียงหลี


แล้วถามยําอย่างชัดถ้อยชัดคํา “เจ้าอยากกลับเซียง
หยางไปดูแลท่านย่าจริงรึ”

14
“จริงเสียยิงกว่าจริง”

เย่ซือเจียมองเจียงหลีไม่ละสายตา ใบหน้าของชายหนุ่ม
พลันเคร่งเครียด พินิจพิจารณาได้สกั พัก จึงกล่าวกับ
เย่หมิงเซียนว่า “ในเมือนางอยากไป ท่านลุงก็พา
นางกลับไปด้วยเถิด”

เย่หมิงเซียนประหลาดใจยิง

“ญาติผนู้ อ้ งหญิงมีความตังใจถึงเพียงนี อย่างไรก็แค่


เพิมภาระมาอีกคนเท่านัน ให้นางกลับไปเยียมท่านย่า
แสดงความกตัญ กู ็ดีไม่นอ้ ย”

15
เจียงหลีสง่ ยิมให้กบั เย่ซือเจีย “ขอบคุณพีชาย”

เย่ซือเจียยังคงคลางแคลงใจอยูบ่ า้ ง แต่เขาก็เริมทีจะเชือ
นางขึนมาแล้ว

เงียบไปอยูค่ รูห่ นึง เย่หมิงเซียนพลันเงยหน้ากล่าวกับ


เจียงหลี “ถ้าอย่างนันข้าจะไปปรึกษากับบิดาเจ้าเสีย
ก่อน”

“เจ้าค่ะ” เจียงหลีตอบรับ

“เจ้าอยากไปเยือนเซียงหยางสักครังอย่างนันรึ”
16
ณ หวันฟ่ งถาง เจียงหยวนปั วทีเพิงกลับจากวังหลวงยัง
ไม่ทนั ถอดเครืองแบบขุนนาง ก็ขมวดคิวถามเจียงหลี

หญิงสาวเอียงคออธิบาย “ได้ยินท่านลุงหมิงเซียน
บอกว่าช่วงนีท่านยายสุขภาพยําแย่ ลูกเองก็ไม่ได้เยียม
คารวะท่านยายมาหลายปี แล้ว รูส้ กึ คิดถึงนัก” เจียงหลี
กล่าวต่อ “อีกอย่าง ลูกยังไม่เคยเห็นเมืองเซียงหยาง จึง
อยากไปเยือนสักครัง”

เจียงหยวนปั วมองเย่หมิงเซียน ขณะทีเย่หมิงเซียนเองก็


ส่งยิมให้อย่างสุภาพอ่อนโยน

17
สําหรับเจียงหยวนปั ว เขาไม่เคยนึกรังเกียจเย่หมิงเซียน
คุณชายรองเย่เป็ นชายผูร้ กั การอ่าน ไม่มีกลินอายของ
พ่อค้าวาณิชสักเท่าไร ดังนัน หากเป็ นเย่หมิงเซียนแล้ว
เจียงหยวนปั วยินดีจะคบค้าสมาคมด้วย

18
บทที 95 ท่านแม่กังวลเกินไป

ทว่าหลายปี มานีไม่เคยมีข่าวคราว จู่ๆ อีกฝ่ ายก็มาเยือน


ถึงที จึงรูส้ กึ แปลกใจอยูบ่ า้ ง

“ในเมือหลีเอ๋อมีปณิธาน ก็ควรพานางกลับไปเยียมบ้าน
เกิดทีเจินเจินเคยอาศัยเมือครังยังมีชีวิต” เย่หมิงเซียน
กล่าวพร้อมรอยยิม “นายท่านใหญ่โปรดวางใจ พวกเรา
จะดูแลหลีเอ๋อเป็ นอย่างดี”

“จะทําแบบนันได้อย่างไร” จีซูหรันทีติดตามอยูด่ า้ นหลัง


เจียงหยวนปั วเอ่ยปากขึนมาอย่างวิตกกังวล “การเดิน

1
ทางลําบาก อีกทังหลีเอ๋อก็ยงั ไม่เคยไปเยือนเมืองเซียง
หยาง อยูท่ ีนันจะกินนอนอย่างไร”

เย่ซือเจียคิดไม่ถงึ ว่าจีซูหรันจะพูดออกมาเช่นนี ทํา


เหมือนตระกูลเย่ปฏิบตั ิไม่ดีตอ่ เจียงหลีอย่างไรอย่างนัน

“ท่านแม่กงั วลเกินไปแล้ว” เจียงหลีกล่าวเรียบๆ “ลูกอยูท่ ี


สํานักนางชีบนเขาชิงเฉิงซานมานานแปดปี สามารถใช้
ชีวิตอยูจ่ นเคยชินไปเสียแล้ว เมือเทียบกับเขาชิงเฉิงซาน
เมืองเซียงหยางดูจะน่าสนใจกว่ามาก”

จีซูหรันราวกับถูกอุดปากจนเป็ นใบ้ เดิมทีเรืองนีน่าจะ


เป็ นจุดด่างพร้อยอันน่าอับอายไปชัวชีวิตของเจียงหลี

2
แต่มาถึงตอนนีกลับกลายเป็ นแต้มต่อทีนางใช้เป็ นเกราะ
คุม้ ภัยไปเสียแล้ว

รอยยิมของจีซูหรันพลันเจือนลง ช่วงนีนางยุง่ อยูก่ บั การ


ปลอบใจเจียงโย่วเหยาทีกําลังสินหวัง ไม่รูว้ า่ เจียงหลี
ติดต่อกับตระกูลเย่ได้อย่างไร ตอนทีอีกฝ่ ายเป็ นเด็ก
กําพร้าไร้ทีพึงพายังทําเรืองเจ็บแสบได้ถงึ เพียงนี หากมี
ตระกูลเย่หนุนหลัง ไม่รูว้ า่ จะก่อเรืองอะไรขึนมาอีก

“ก็ใช่วา่ จะไม่ดี...” เจียงหยวนปั วเอ่ยพึมพํา

“ในเมือหลีเอ๋ออยากไปเยือนเมืองเซียงหยาง ก็ให้นาง
เดินทางไปสักครังเถิด” ฮูหยินผูเ้ ฒ่าออกปากขึนมาบ้าง

3
“หากมิใช่เพราะร่างกายไม่แข็งแรง ข้าเองก็อยากไป
เยียมเช่นกัน หลายปี มานี...” กล่าวพลางทอดถอนใจ
“หลีเอ๋อโตแล้ว ก็ควรจะให้นางไปเยียมเยือนบ้าง”

ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเก็บความผูกพันไว้ในส่วนลึกแห่งจิตใจ
อย่างน้อยเย่เจินเจินก็เป็ นลูกสะใภ้ทีนางเป็ นคนเลือก
สรร แม้เย่เจินเจินจะไม่เฉลียวฉลาดนัก แต่ก็สามารถเอา
ชนะใจนางได้

ถึงเวลาฟื นฟูสมั พันธ์กบั ตระกูลเย่แล้ว ฮูหยินผูเ้ ฒ่าครุน่


คิด อย่างน้อยก็อย่าให้จีซูหรันได้ใจว่าขอแค่มีตระกูลจี
อยูก่ ็ไม่ตอ้ งเกรงกลัวสิงใด ตระกูลจีพึงพาลีผินปี นป่ าย
ขึนสูท่ ีสูง แต่ตระกูลเจียงของพวกนางไม่จาํ เป็ นต้องเอา
อกเอาใจตระกูลจี จีซูหรันลืมฐานะของตน ก็สมควร
4
เตือนสตินางเสียบ้าง ว่านีคือจวนตระกูลเจียง ไม่ใช่บา้ น
ตระกูลจี

“ท่านแม่...” จีซูหรันร้อนรน ฮูหยินผูเ้ ฒ่าพูดเช่นนีก็เท่า


กับเป็ นการตบหน้านางอย่างไม่ตอ้ งสงสัย ในชัวพริบตา
นันนางก็พบว่าเจียงหยวนปั วและฮูหยินผูเ้ ฒ่าค่อยๆ
เปลียนไปยืนอยูข่ า้ งเจียงหลีโดยไม่รูต้ วั

เจียงหลีทาํ ได้อย่างไร นางไม่เหมือนเจียงปิ งจีทีวางตัว


เป็ นเด็กน่ารักน่าเอ็นดูตอ่ หน้าฮูหยินผูเ้ ฒ่า ไม่เหมือน
เจียงโย่วเหยาทีคลุกคลีอยูก่ บั เจียงหยวนปั ว แล้วนางทํา
ได้อย่างไร

5
จีซูหรันมองฝ่ ายตรงข้าม

เจียงหลียิมบางๆ ตอบกลับมา

ไม่จาํ เป็ นต้องทําอะไร ในตระกูลขุนนางทีพูดกันแต่เรือง


ของผลประโยชน์นนใช่
ั วา่ จะไม่หลงเหลือสายใยแห่ง
เครือญาติ แต่จะอาศัยแค่ความเป็ นญาติทีสายสัมพันธ์
บางเบาและไม่มนคงเพี
ั ยงอย่างเดียวคงมิอาจยึดถือได้
หากวันใดความผูกพันฉันญาติมิตรหมดสินลง หรือฝ่ าย
ตรงข้ามไปฟั งความจากปากของผูอ้ ืน ไมตรีทีเคยมีแต่
เก่าก่อนก็คงถูกทําลาย

คนอย่างนางต้องพึงพาตัวเอง นีเป็ นหลักการทีเจียงหลี

6
แลกมาด้วยเลือดและนําตา

“ตกลงตามนีก็แล้วกัน” ฮูหยินผูเ้ ฒ่าพูดอย่างชัดเจน นาง


มองเย่หมิงเซียนพลางกล่าว “ระหว่างทางต้องการสิงใด
ก็บอกพวกเราได้เลย หลีเอ๋อเป็ นคุณหนูของจวนตระกูล
เจียง ครังนีก็ขอให้พวกท่านช่วยดูแลนางด้วย”

พูดด้วยความเกรงอกเกรงใจเป็ นอย่างมาก

เย่หมิงเซียนรีบยกมือคารวะ ขณะเดียวกันก็อดเหลือบ
มองเจียงหลีไม่ได้

เจียงหลีเองก็กาํ ลังมองเขาเช่นกัน ดวงตาฉายแววมุง่ มัน


7
ตังใจ นางส่งยิมให้เขาราวกับว่า การไปเยือนเมืองเซียง
หยางเป็ นความใฝ่ ฝันทีนางต้องทําให้สาํ เร็จ

ข้างฝ่ ายเจียงหลี นางมีความมุง่ มันอย่างแท้จริง

นางต้องกลับไปเมืองเซียงหยางให้จงได้ ไม่วา่ จะแลกมา


ด้วยอะไรก็ตาม ขอแค่ได้พบหน้าบิดาอีกสักครัง

นีคือความปรารถนาของนาง

ระหว่างทีเดินทางกลับ เย่ซือเจียและเย่หมิงเซียนต่าง
ฝ่ ายต่างเงียบงัน

8
เรืองทังหมดทีเกิดขึนภายในจวนตระกูลเจียงนัน ล้วนอยู่
เหนือความคาดหมายของพวกเขา ขณะกําลังจะเดิน
ผ่านประตูทางเข้าโรงเตียม เย่หมิงเซียนก็เอ่ยถามผูเ้ ป็ น
หลานชาย “ซือเจีย เจ้าคิดว่า หลีเอ๋ออยากกลับไปเยียม
ท่านย่าของเจ้าจริงหรือไม่”

“หลานตอบไม่ได้” เย่ซือเจียรูส้ กึ ว้าวุน่ นัก “รอบกายนาง


เต็มไปด้วยความระแวดระวัง กระทังใครๆ ก็ดอู อก”

“ข้าเองก็รูส้ กึ เช่นกัน” เย่หมิงเซียนครุน่ คิด “นางไม่ได้นกึ


อยากกลับเซียงหยางอย่างปั จจุบนั ทันด่วน การเดินทาง
ครังนีนางตังใจไว้นานแล้ว เพียงแต่ไม่มีโอกาส วันนีข้า
แวะไปเยียมเยือนตระกูลเจียงพอดี นางจึงรีบอาศัย
จังหวะนีเอ่ยออกมา”
9
“ท่านอาคิดว่านางโกหกรึ” เย่ซือเจียขมวดคิวมุน่ “นางมี
จุดประสงค์อืนแอบแฝง”

“พูดอย่างนันก็ไม่ถกู ” เย่หมิงเซียนส่ายหน้า “แต่ดจู าก


สถานการณ์เรืองนีไม่ใช่ความต้องการของฮูหยินผูเ้ ฒ่า
และเจียงหยวนปั ว เพราะตอนทีข้าหยิบยกเรืองนีขึนมา
พวกเขาทังสองต่างก็แสดงอาการตกใจ”

“น่าจะเป็ นความคิดของนาง” เย่ซือเจียก้าวเท้าเข้าห้อง


ปิ ดประตูลงกลอนแล้วนังลงบนเก้าอีข้างโต๊ะกลางห้อง
พลางมองไปยังเย่หมิงเซียน “ท่านอา... หรือว่าพวกเรา
ควรระวังตัวกันสักหน่อย” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างลังเล

10
“ไม่ถงึ ขนาดนัน” เย่หมิงเซียนกล่าวกลัวหัวเราะ “วันนีที
ข้าประเมินนาง ดูแล้วไม่เหมือนสตรีทีชอบดูแคลนผูค้ น
แม้จะไม่รูเ้ หตุผลทีทําให้นางอยากกลับเซียงหยาง แต่ถงึ
กระนันก็ยงั เป็ นคนในครอบครัวเดียวกัน พวกเราควรเชือ
นางสักครัง” เขาทอดถอนใจ “ความคิดคนตระกูลเจียง
นันยากจะคาดเดา จีซูหรันผูน้ ีเจ้าก็เห็นแล้ว หลีเอ๋ออยู่
รอดมาได้อย่างทุกวันนี ก็คงลําบากกว่าพวกเรามากนัก
นับว่าเป็ นหญิงสาวทีเข้มแข็ง และชาญฉลาดยิง”

เย่ซือเจียไม่พดู อะไรต่อ

หลังจากเงียบงันไปนานจึงกล่าวว่า “อย่าเพิงด่วนตัดสิน

11
คอยดูไปก่อนก็แล้วกัน”

ณ สวนซูซวเอวี
ิ ยน จีซูหรันกําผ้าเช็ดหน้าในมือแน่นจน
ข้อนิวเป็ นสีขาวด้วยโทสะถึงขีดสุด

เจียงหลีขอกลับไปเยียมบ้านตระกูลเย่ฝังมารดาของนาง
ดูเหมือนเป็ นแค่เรืองเล็กน้อย ทว่าจีซูหรันกลับสัมผัสได้
ถึงหายนะทีกําลังเริมก่อตัว

“ฮูหยินอย่าได้โมโหไปเลยเจ้าค่ะ” สวินชุน--สาวใช้ขา้ ง
กายจีซูหรันเดินหน้าขึนไปหนึงก้าว แล้วกระซิบว่า “การ
ทีคุณหนูรองจะไปเยือนเมืองเซียงหยาง อาจเป็ นเรืองดีก็
ได้นะเจ้าคะ”

12
“จะดีไปได้อย่างไร” จีซูหรันขมวดคิวมุน่

“ตอนนีในจวนมีเรืองเกิดขึนมากมาย คุณหนูรองเองก็
เฉลียวฉลาด มักจะทําเรืองรายงานนายท่านใหญ่เสมอ
หากคุณหนูรองจากไป ฮูหยินก็สามารถจัดแจงให้คณ
ุ หนู
สามได้ใช้เวลากับนายท่านใหญ่บา้ ง เดิมทีนายท่านใหญ่
ก็รูส้ กึ ผิดต่อคุณหนูสามเพราะเรืองของคุณชายโจว
คราวนีถือว่าเป็ นโอกาสอันดี ไม่มีคณ
ุ หนูรองแล้ว คุณหนู
สามกับนายท่านใหญ่จะต้องเข้าอกเข้าใจกันมากขึน”

จีซูหรันยังคงนิงเงียบ

13
“อีกทัง” สวินชุนกล่าวเสริมพร้อมรอยยิม “จวนอํามาตย์
นันออกง่าย แต่ใช่วา่ จะกลับเข้ามาได้อย่างสะดวกสบาย
ในตอนนัน คุณหนูรองก้าวออกจากประตูจวนตระกูล
เจียงไป แปดปี ให้หลังถึงมีโอกาสได้หวนกลับ ฐานะที
เป็ นอยูย่ งั นังครองได้ไม่นานก็รบี ร้อนจากไปเมืองเซียง
หยาง ถ้าไม่ใช่เพราะนางโง่เขลาแล้วจะเรียกว่าอะไร การ
จากไปครังนี ใครจะรูว้ า่ เมือไรถึงได้หวนกลับ หรือ...” พูด
ถึงตรงนีเสียงก็แผ่วลง “อาจจะไม่ได้กลับมาอีกเลย”

“เจ้าหมายความว่า...” จีซูหรันนิงอึง

เซียฮันทียืนอยูอ่ ีกด้านพลันเดินเข้ามา กล่าวว่า “ครัง


ก่อน ฮูหยินของรองเจ้ากรมอาญาก็เคยเอ่ยปากว่า เมือง
เยียนจิงมีสายตาหลายคูจ่ บั จ้อง ใต้พระบาทของโอรส
14
สวรรค์ยากจะลงมือ แต่ถา้ คุณหนูรองไปอยูเ่ มืองเซียง
หยางทีมีภเู ขาสูงและสายธารโอบล้อม... หากประสบ
อุบตั ิเหตุก็เป็ นเรืองธรรมดา ถึงตอนนัน ถ้าเกิดเหตุไม่
คาดฝันขึนมาจริงๆ ก็เป็ นคราวเคราะห์ของคนตระกูลเย่
ฝ่ ายนันย่อมไม่มีอะไรให้แก้ตา่ ง จวนของเรากับตระกูลเย่
ก็ตอ้ งตัดสัมพันธ์กนั อย่างเด็ดขาด เราก็สามารถพลิก
สถานการณ์กลับมาดังเดิมได้”

จีซูหรันเอ่ยรับ “ทีเจ้าพูด ใช่วา่ ข้าจะไม่เคยคิด ข้าสร้าง


ชือเสียงมานานหลายปี สุดท้ายกลับถูกนังนันทําลายสิน
ในช่วงทีผ่านมาข้ามัวแต่กระทําการอย่างระแวดระวัง ไม่
นึกว่าจะถูกคนเลวฉวยโอกาส” จีซูหรันสูดหายใจลึกๆ
“พวกเจ้าพูดไม่ผิด ทุกเรืองทีเกิดในเมืองเยียนจิง ข้าจํา
ต้องคิดอ่านให้รอบคอบ ด้วยอย่างน้อยนางก็เป็ นบุตร

15
สาวของจวนอํามาตย์ หากเกิดอะไรขึนคนรอบข้าง
ย่อมออกหน้าช่วยสืบหาสาเหตุ แต่ถา้ เกิดเหตุขนที
ึ เมือง
เซียงหยาง หรือในระหว่างการเดินทาง...” ดวงตาของจี
ซูหรันฉายแววอํามหิตออกมา “ก็จบั มือใครดมไม่ได้ หรือ
ต่อให้พยายามสืบสาวราวเรือง ทว่าร่องรอยต่างๆ ก็จะ
ถูกสะสางอย่างหมดจดไปแล้ว ตระกูลเย่มงคั
ั งรํารวย
และมากด้วยทรัพย์ มักถูกปองร้าย เป็ นเรืองทีพบได้บอ่ ย
ครัง”

เซียฮันกับสวินชุนผงกศีรษะสนับสนุน

จีซูหรันเอือมมือจับใบสีเขียวเรียบลืนของต้นลีทีอยูบ่ น
โต๊ะ

16
บทที 96 เหมือนเดินออกมาจากภาพวาด

ทีผ่านมา ทังในจวนตระกูลเจียงหรือในเมืองเยียนจิง
เพือรักษาชือเสียงว่าเป็ นแม่เลียงทีโอบอ้อมอารี นางจึง
ไม่มีโอกาสได้ลงมือ ทําให้เจียงหลีได้รบั ชัยชนะอยูร่ าไป

ตอนนีจู่ๆ เจียงหลีก็อยากไปเซียงหยาง คงหวังจะฟื นฟู


สัมพันธ์กบั คนตระกูลเย่เพือหาทีพึงให้กบั ตนเอง แต่กลับ
ไม่รูเ้ ลยว่าการไปในครังนีก็เหมือนกับทหารทีออกสู่
สนามรบ ละทิงชัยภูมิหลักของตนบากบันไปในดินแดน
อันห่างไกล ไม่ตา่ งกับการละทิงแตงโมลูกใหญ่เพือไล่
เก็บเมล็ดงา ในเมือเจียงหลีไม่อยากอยูใ่ นจวนอํามาตย์
ก็นบั ว่าเป็ นโอกาสทีจะขับไล่นางออกไปให้พน้ ทาง
1
เล็บมือของจีซูหรันจิกลงไปบนใบของต้นลีแล้วบดขยีใน
ฉับพลัน ใบลีถูกนางบีบจนแหลกคามือ ลําต้นขาดออก
เป็ นท่อนๆ ไม่เหลือชินดี ก่อนจะถูกปากระจายลงพืน

จีซูหรันลุกขึนยืนแล้วกล่าวว่า “ไปเอาพูก่ นั กับกระดาษ


มา ข้าจะเขียนจดหมายถึงท่านพ่อ”

ลําพังนางเพียงคนเดียวคงยากจะทําเรืองนีให้สาํ เร็จ
หากต้องการลงมือในเมืองเซียงหยางโดยไม่ถกู จับได้ คง
ต้องพึงพาคนตระกูลจี

ขณะทีทางฝังจีซูหรันกําลังปรึกษากัน เรืองการเดิน

2
ทางออกจากเมืองหลวงของเจียงหลี ณ เรือนฟั งเฟย
ถงเอ๋อและไป๋ เสวียก็วนุ่ วายอยูก่ บั การจัดเตรียมสัมภาระ

“คุณหนูไม่มีอะไรต้องนําติดตัวไปเป็ นพิเศษหรือเจ้าคะ”
ไป๋ เสวียถามอย่างตังอกตังใจ “หรือมีเรืองอืนใดทีต้องทํา
ออกจากเมืองเยียนจิงครังนีกว่าจะได้กลับมาก็อีกหลาย
วัน อยากกินขนมอะไร ประเดียวบ่าวจะไปซือมาให้ ที
เซียงหยางอาจไม่มีของทีต้องการ”

เจียงหลีหวั เราะในใจ ถงเซียงเป็ นอําเภอทียากจนก็จริง


แต่เซียงหยางไม่ได้ยาแย่
ํ อย่างทีคิด ทว่าคําพูดของไป๋ เส
วียช่วยเตือนสตินางเรืองหนึง “ทีเจ้าพูดมาก็ถกู เอาอย่าง
นี วันพรุง่ นีพวกเราไปเดินเทียวหาของกินกันดีไหม อย่าง
ไรเสียก็ตอ้ งอยูเ่ มืองเซียงหยางอีกนาน”
3
“จริงหรือเจ้าคะ” พอถงเอ๋อได้ฟัง พลันดีอกดีใจยกใหญ่

ไป๋ เสวียก็เช่นกัน

ทังสองไม่ทนั สังเกตผูเ้ ป็ นนายว่าในยามนี เจียงหลีหลับ


ตาลงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ก่อนกลับบ้านเกิด นางจะต้องไปดูเซวียเจาสักครัง แม้วา่


ตอนนียังไม่สามารถนําเถ้ากระดูกของเซวียเจากลับไป
ด้วย แต่เจียงหลีก็จะต้องไปดูเขาให้ได้

นําเอาความแค้นกับชีวิตทีดับสูญของเซวียเจากลับเมือง
4
เซียงหยาง ไม่วา่ จะอย่างไร นางก็ตอ้ งไปดูสกั ครัง

เซวียเจา น้องชายผูล้ ว่ งลับของนาง!

เช้าตรูว่ นั รุง่ ขึน เจียงหลีก็ตืนมาหวีผมแต่งตัวตังแต่ไก่โห่

เมือวานแสงแดดยังเจิดจ้า ทว่าวันนีกลับมีฝนตกปรอยๆ

ฤดูใบไม้รว่ งของเมืองเยียนจิงกินเวลาสันๆ ราวกับความ


ร้อนอบอ้าวของฤดูรอ้ นเพิงผ่านพ้น เพียงพริบตา ลม
หนาวก็ผา่ นเข้ามาทักทาย

ถงเอ๋อยืนมือออกไป แล้วหันกลับมารายงานเจียงหลี
5
“คุณหนู ฝนลงเม็ดหนาพอควร ถ้าอย่างไรเราออกไปกัน
วันหลังดีไหมเจ้าคะ”

“ไม่เป็ นไร” เจียงหลีกาํ ลังห่มผ้าคลุมไหล่ ได้ฟังแล้วจึง


กล่าวว่า “อยูแ่ ต่ในรถม้า ลงเดินก็คงไม่กีก้าว”

ถงเอ๋อได้ฟังจึงสงบปากสงบคํา

เจียงหลีนดั กับพวกนางว่าวันนีจะออกไปเทียวเล่น แล้ว


ยังสามารถซือหาของขวัญไปฝากคนตระกูลเย่ หลังจาก
ทีฮูหยินผูเ้ ฒ่าทราบเรือง ยังสังเจินจูนาํ เงินมามอบให้
เจียงหลีไปใช้จ่ายได้ตามใจ

6
ไม่นกึ ว่าวันนีฝนจะตก ด้วยถงเอ๋อคิดว่าเรืองนีมิใช่กิจ
ธุระเร่งด่วนใดๆ อย่างไรเสียเย่หมิงเซียนก็ยงั รังอยูเ่ มือง
เยียนจิงอีกสิบกว่าวัน ไว้รอให้อากาศปลอดโปร่งแล้ว
ค่อยออกไปก็ยงั ไม่สาย ใครเลยจะคิดว่าเจียงหลีทีเป็ น
คนง่ายๆ มาโดยตลอด จะเกิดดือรันเอาวันนี

เจียงหลีหม่ ผ้าคลุมไหล่เสร็จก็พินิจมองตัวเองอยูห่ น้า


คันฉ่องนิง

หน้าตาของคุณหนูรองเจียงมิได้งดงามโดดเด่นเช่นเซวี
ยฟั งเฟย แต่ก็ไม่นบั ว่าด้อยกว่ามาตรฐาน อีกทังช่วงที
ผ่านมาได้ฟืนฟูสขุ ภาพอยูใ่ นจวนตระกูลเจียง นับว่ากิน
ดีอยูด่ ีกว่าตอนทีอาศัยอยูบ่ นเขาชิงเฉิงซาน ยามนีถึงไม่
มีรอ่ งรอยรูปร่างอันซูบซีดผอมโซปรากฏให้เห็น ดูอย่าง
7
ไรก็สดใส น่ารักน่าเอ็นดู

“คุณหนูงามจริงๆ เจ้าค่ะ” ไป๋ เสวียทียืนอยูอ่ ีกด้าน กล่าว


ชืนชมด้วยความจริงใจ “เหมือนเดินออกมาจากภาพวาด
อย่างไรอย่างนัน”

เจียงหลีมองตัวเองในคันฉ่อง รูส้ กึ คุน้ เคยแววตาคูน่ ี แต่ที


ไม่ชินก็คือรูปโฉม หากอยูต่ อ่ หน้าเซวียเจา เขาจะยังจํา
นางได้หรือไม่

ท่านพ่อ... ก็คงจํานางไม่ได้เช่นกัน

ความหม่นหมองโศกเศร้าพลันพรังพรูเข้ามาในใจของ
8
เจียงหลี นางจึงไม่มองคันฉ่องบานนัน แต่หนั มากล่าวว่า
“ไปกันได้แล้ว”

เนืองจากฝนกําลังตก ผูค้ นทีออกมาเดินอยูบ่ นท้องถนน


ในเมืองเยียนจิงจึงบางตา เจียงหลี ถงเอ๋อและไป๋ เสวีย
เตร็ดเตร่ไปตามร้านขายเครืองประดับและเสือผ้า
อาภรณ์ เวลาผ่านไปไม่นาน เจียงหลีก็เลือกซือของขวัญ
ไปฝากคนบ้านตระกูลเย่จนครบ

กระทังตกบ่าย ก็ไปหาอะไรกินทีเหลาสุราในเมืองเยียน
จิง เห็นฝนยังไม่หยุด ถงเอ๋อจึงกล่าวว่า “เห็นทีฝนคงจะ
ไม่หยุดตกง่ายๆ คุณหนู ประเดียวกินข้าวเสร็จแล้วพวก
เรากลับกันดีกว่า ข้างนอกก็ไม่เห็นจะมีอะไรน่าเทียวเลย
นะเจ้าคะ”
9
เจียงหลีครุน่ คิดครูห่ นึงจึงตอบว่า “ไม่กลับ พวกเราจะไป
ลานหยูเ่ ก๋อ*กัน”

“ลานหยูเ่ ก๋อหรือเจ้าคะ” ถงเอ๋อและไป๋ เสวียเอ่ยถามด้วย


ความแปลกใจ “คือทีไหนหรือเจ้าคะ”

“เป็ นหอทีอยูไ่ ม่ไกลจากอ่าวไป๋ ลู*่ * ได้ยินว่าทัศนียภาพ


ยามฝนพรําของทีนันงดงามมาก กลับมาเมืองเยียนจิง
ตังนาน ข้าได้ยินเพียงชือแต่ไม่เคยไปเยือนสักครัง ฝนก็
กําลังตกพอดี ต่อให้เลือกวันใหม่ก็คงไม่ได้จงั หวะดีเท่า
ตอนนี อีกสักครู ่ พวกเราค่อยไปเทียวชม”

10
แต่ไหนแต่ไรไป๋ เสวียก็เชือฟั งเจียงหลีโดยไม่คิดจะเถียง
แม้เพียงครึงคํา ถงเอ๋อเห็นเช่นนันก็ยอมโอนอ่อนผ่อน
ตาม ได้แต่มองเจียงหลีแล้วเอ่ยปากถาม “คุณหนูไปรูจ้ กั
ลานหยูเ่ ก๋อตังแต่เมือไรหรือเจ้าคะ บ่าวไม่เคยได้ยินมา
ก่อน”

“บังเอิญคนอืนพูดกันผ่านหู” เจียงหลีกล่าวเรียบๆ
“เพราะไม่ใช่สถานทีโด่งดัง จึงยังไม่เป็ นทีรูจ้ กั ”

ถงเอ๋อพยักหน้าตาม ราวกับกําลังนึกอะไรบางอย่าง

เจียงหลีดืมชาทีวางอยูต่ รงหน้า ขณะทีความคิดล่องลอย


ไปไกล

11
ตอนนัน เนืองจากนางแท้งลูก ร่างกายจึงอ่อนแอกระทัง
ล้มป่ วย พอรูข้ ่าวการตายของเซวียเจายังพยายามลุกขึน
มาอย่างยากลําบาก แต่อาํ เภอถงเซียงอยูห่ า่ งจากเมือง
เยียนจิงมาก นางไม่มีปัญญาแบกสังขารอันป่ วยไข้ไปนํา
เถ้ากระดูกของเขากลับถงเซียง เสินฮูหยินเองก็ไม่
ยินยอมให้นางทําเช่นนัน นางถูกกล่าวหาว่าเป็ นความ
เสือมเสียของตระกูลเสิน ไม่สามารถออกจากจวนไปให้
ขายหน้า ดังนันเรืองจัดการศพของเซวียเจาล้วนแต่เป็ น
ความกรุณาของเสินอวีหยงทังสิน

เสินอวีหยงบอกกับนางว่า ทัศนียภาพทีลานหยูเ่ ก๋องด


งามแต่นอ้ ยคนนักจะไปถึง ใช้เป็ นสถานทีฝังกระดูกของ
เซวียเจาก็นบั ว่าไม่เลวนัก รอให้นางหายดี หากวันหน้ามี

12
โอกาสค่อยพาเซวียเจากลับบ้านเกิด

ตอนนันนางอยูใ่ นสภาพอ่อนแอไร้ทีพึง ได้แต่รอ้ งห่ม


ร้องไห้ขอบคุณเสินอวีหยง ตนเองก่อเรืองอือฉาว เขายัง
คงเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีตช่วยเป็ นธุระให้ นางรูส้ กึ
ซาบซึงใจยิงนัก แต่แล้วต่อมาถึงได้รูว้ า่ เรืองราวทังหมด
เป็ นฝี มือของเสินอวีหยงกับองค์หญิงหย่งหนิง และพวก
ขุนนางทีเป็ นสุนขั รับใช้รว่ มกันทําร้ายเซวียเจาจนตาย
เสินอวีหยงจะไม่รูเ้ ห็นได้อย่างไร พวกเขาเป็ นฆาตกร
สังหารคนแต่ยงั เสแสร้งเห็นอกเห็นใจอย่างโศกเศร้า น่า
คลืนไส้นกั

คิดถึงตรงนี หัวคิวของเจียงหลีก็ขมวดเข้าหากัน รูส้ กึ


เพียงว่า ต่อให้ลานหยูเ่ ก๋อสวยงามแค่ไหน ก็ยงั อยูใ่ น
13
แผนการทีเสินอวีหยงและองค์หญิงหย่งหนิงจัดฉากขึน
มา นางจะไม่ยินยอมให้เซวียเจาตายไปแล้วยังตกอยูใ่ น
เงือมมือของคนทังสอง ตอนนีเป็ นเพราะไม่มีหนทางอืน
แต่วา่ ในสักวัน นางจะพาเซวียเจาออกจากลานหยูเ่ ก๋
อ ไปให้พน้ เมืองเยียนจิง รวดเร็วเท่าไรก็ยิงดี

เจียงหลีวางถ้วยชาแล้วกล่าวว่า “ข้ากินอิมแล้ว พวกเรา


ไปกันเถิด”

ถงเอ๋อและไป๋ เสวียรูส้ กึ ว่าอารมณ์ของเจียงหลีดหู ม่น


หมอง ต่างมองตากันอย่างงุนงง แล้วเดินตามผูเ้ ป็ น
นายออกไป

14
อ่าวไป๋ ลูอ่ ยูร่ มิ ทะเลสาบรอบเมืองเยียนจิง ในรัชสมัย
ก่อน มีนกั ปราชญ์ทา่ นหนึงอาศัยอยูท่ ีนัน เขาเลียง
กระเรียนขาวไว้ฝงู ใหญ่ ต่อมาเมือนักปราชญ์ถงึ แก่กรรม
กระเรียนขาวก็บินจากไป เหลือไว้เพียงชืออ่าวไป๋ ลูแ่ ห่งนี
ลานหยูเ่ ก๋อตังอยูไ่ ม่ไกลจากอ่าวไป๋ ลูน่ กั

ศพของเซวียเจาถูกฝังไว้ใต้ตน้ ท้อด้านหลังลานหยูเ่ ก๋อ

ถงเอ๋อกับไป๋ เสวียมาเยือนอ่าวไป๋ ลูเ่ ป็ นครังแรก นําใน


ทะเลสาบสีเขียวมรกต ลานหยูเ่ ก๋อมีทงหมดหกชั
ั น หาก
ยืนอยูด่ า้ นบนแล้วมองลงมาจากหอทีตังตระหง่านอยู่
ท่ามกลางหมอกหนา ยามฝนตกลงมาทําให้เกิดภาพวง
นํากระเพือมติดๆ กันเป็ นระลอกคลืน

15
ถงเอ๋อยืนมองด้วยความตืนเต้น “สวยจริงๆ เจ้าค่ะคุณ
หนู หมอกฝนทีนีสวยมากๆ”

เจียงหลียิมรับ “พวกเจ้านังรออยูท่ ีนีก่อน ข้าจะไปดูทอ้


ต้นนันสักหน่อย”

ไป๋ เสวียรีบเสนอตัว “บ่าวจะไปเป็ นเพือน”

“ไม่ตอ้ ง” เจียงหลียบั ยังนางไว้ “ทีนีไร้ผคู้ น ข้าไปดูสกั ครู ่


ประเดียวก็กลับแล้ว ไม่เป็ นไรหรอก”

นางไม่เปิ ดโอกาสให้โต้แย้ง จบคําก็รบี เดินออกจากลาน


16
หยูเ่ ก๋อไป

ไม่ไกลนัก ท้อต้นหนึงหยังรากอย่างสงบนิงเหมือนทีผ่าน
มา ผลิดอกทังต้นจนโรยราไปนานแล้ว ยามนีจึงดูไร้สีสนั

17
บทที 97 ข้าคือพีสาวของเจ้า...

ใต้ตน้ ท้อ มีหลุมศพเล็กๆ ตังอยู่

เจียงหลียืนกางร่มอยูห่ น้าหลุมศพ

เซวียเจาถูกโจรป่ าทําร้ายระหว่างเดินทางเข้าเมืองหลวง
แล้วทิงศพลงแม่นาํ ดังนัน ตอนทีนางเห็นร่างเซวียเจา
เป็ นครังสุดท้าย ใบหน้าของเขาจึงเปลียนไปจนดูไม่ได้
หากไม่ใช่เพราะปานบนร่าง นางคงไม่เชือว่าศพทีเย็นยะ
เยือกนันคือชายหนุ่มทีสดใสร่าเริงอย่างเซวียเจา

1
ก่อนตาย เขาถูกทรมานจากเดนมนุษย์ แม้แต่ตอนนีรอย
มีดทีกรีดร่างยังทําให้เจียงหลีหวาดกลัว เมือก่อนนางไม่
เคยตังข้อสงสัย กระทังก่อนตายถึงได้รูค้ วามจริงว่าทัง
หมดเป็ นแผนการขององค์หญิงหย่งหนิง ดังนัน รอยมีดที
ปรากฏจึงไม่ใช่การกระทําของโจรป่ า แต่เกิดจากฝี มือ
ขององค์หญิงหย่งหนิง

เดิมทีคิดว่าหากนําเรืองนีไปร้องเรียนก็จะสามารถเอาผิด
ได้ แต่ตวั เองกลับต้องมาติดกับดักอย่างไม่คาดฝัน เจียง
หลีมิอาจจินตนาการภาพความสินหวังและทุกข์ทรมาน
ในช่วงลมหายใจสุดท้ายของเซวียเจาได้

ตายไปแล้วยังต้องมาอยูใ่ นทีห่างไกลไร้ผคู้ นเช่นนี ฝนตก


ก็ไม่มีแม้ทีกําบัง
2
เจียงหลีคอ่ ยๆ วางร่มในมือลงเหนือหลุมฝังศพ ราวกับ
ทําเช่นนีจะสามารถช่วยกันลมฝนให้กบั เซวียเจาได้
เสมือนหลุมศพตรงหน้าคือชายหนุ่มทีกําลังหัวเราะร่า
อย่างสบายอุรา

หญิงสาวหลับตาลงแล้วรําพึงในใจ ‘อาเจา พีมาเยียม


เจ้าแล้ว’

‘อาเจา ข้าคือพีสาวของเจ้า... เจ้าคงจะจําข้าไม่ได้ ตอน


นีข้าคือคุณหนูผเู้ ป็ นบุตรสาวจากภรรยาเอกของตระกูล
เจียง เป็ นบุตรสาวของเจียงหยวนปั ว เจ้าคงคิดว่าเป็ น
เรืองน่าเหลือเชือเพราะทีแรกข้าก็รูส้ กึ เช่นนัน เพียงแต่
ตอนนี เมือใคร่ครวญแล้วก็คิดได้วา่ อาจเป็ นเพราะ
3
สวรรค์ให้โอกาสข้าอีกครัง’

‘อีกสิบวันข้างหน้า ข้าจะไปเมืองเซียงหยาง เพือหาทาง


สืบข่าวของท่านพ่อ เรืองในตอนนัน เป็ นเพราะข้าทีทําให้
พวกเจ้าต้องลําบาก ข้ารูด้ ีวา่ คนทีทําร้ายพวกเราคือใคร
แล้วยังรูอ้ ีกว่าควรจะลงมือแก้แค้นผูใ้ ด แต่ตอนนีหน้าที
การงานของเสินอวีหยงเจริญก้าวหน้า ส่วนองค์หญิง
หย่งหนิงก็มีเฉิงอ๋องคอยหนุนหลัง ข้าจึงยังไม่อาจลงมือ
ได้ แต่ใช่วา่ จะไม่มีโอกาส’

‘ข้าจะใช้ชือของคุณหนูรองเจียง คิดหาวิธีเปิ ดโปงสาเหตุ


การตายของคนตระกูลเซวีย กระชากโฉมหน้าทีแท้จริง
ของเสินอวีหยงกับองค์หญิงหย่งหนิงออกมาชําระแค้น
ให้กบั พวกเจ้า’
4
‘อาเจา’ นางกล่าวในใจ ‘ให้อภัยทีข้าเพิงจะมาหาเจ้าได้
เจ้าคงกําลังกล่าวโทษพีสาวคนนีอยูเ่ ป็ นแน่ แต่ในใจของ
ข้าไม่มีวนั ไหนเลยทีลืมเลือนความแค้นของตระกูลเซวี
ย ขอให้เจ้าจงอดทนรอ รอวันทีข้าจะได้ชาํ ระแค้นแทน
พวกเจ้า’

‘อาเจา...’

นางพึมพําอยูใ่ นใจ ราวกับได้เห็นชายหนุ่มกําลังรํากระบี


พลางเอียงคอยิมมองนางอยู่ ไม่รูว้ า่ เวลาผ่านไปนาน
เท่าใด เจียงหลีจงึ ลืมตาขึน

5
ดูเหมือนฝนจะซาลงไปบ้าง หลุมศพทีอยูต่ รงหน้ายังคง
เงียบสงบ ไม่รูว้ า่ นกนางแอ่นสีแดงตัวหนึงบินมาจาก
ไหน มันโผลงเกาะกิงไม้แล้วเอียงคอมองนาง บนปี กมี
หยดนําพร่างพราว เจ้านกน้อยออกแรงกระพือปี กเพือ
ขับไล่ความเปี ยกชืน ครันเห็นร่มทีเจียงหลีวางไว้เหนือ
หลุมศพก็โฉบลงมาเกาะอยูบ่ นหลุมศพ อาศัยเงาร่มช่วย
บังฝนแล้วส่งเสียงร้องไม่หยุด

เจียงหลียิมบางๆ พลางกล่าวเสียงเบา “เจ้าก็ได้ยินแล้ว


สินะ”

หญิงสาวหมุนตัวกลับ ค่อยๆ เดินไปทีลานหยูเ่ ก๋อ

6
มุง่ หน้ากลับไปยังลานหยูเ่ ก๋อ เมือถงเอ๋อกับไป๋ เสวียเห็น
นางเปี ยกปอนก็ตกใจนัก ถงเอ๋อพลันกล่าวว่า “ร่มของ
คุณหนูละ่ เจ้าคะ เหตุใดถึงได้ตากฝนจนเสือเปี ยกซ่ก
แบบนี”

“เห็นนกนางแอ่นสีแดงตัวหนึงตากฝน ข้าสงสารก็เลย
วางร่มไว้ใต้ตน้ ท้อด้านหลัง เพือบังฝนให้”

ถงเอ๋อได้ฟังก็เอ่ยปาก “คุณหนู บ่าวรูว้ า่ คุณหนูใจดี แต่


คุณหนูควรจะบอกกล่าวบ่าวสักนิด ทีนียังมีรม่ เหลืออยู่
พวกบ่าวจะได้เอาร่มไปให้ เหตุใดต้องยอมตากฝน หาก
เป็ นหวัดขึนมาจะทําอย่างไร”

7
เจียงหลียิมพลางเอ่ยด้วยความตืนตัน “ข้าไม่ทนั คิด”

“คุณหนูอะไรก็ดีหมด” ไป๋ เสวียบ่นเสียงเบา “เสียแต่ใจ


อ่อนเกินไป”

ใจอ่อนรึ เจียงหลีหวั เราะในใจ

อาจจะเป็ นเช่นนัน เซวียฟั งเฟยเป็ นคนใจอ่อน แต่เจียง


หลีในตอนนีใจแข็งดุจเหล็กกล้า

ทีหอวังเซียนในเมืองเยียนจิง ลูจ่ ีกาํ ลังพูดคุยกับจีเหิง

ไม่นาน เหวินจี--องครักษ์คนสนิทของจีเหิงก็เดินเข้ามา
8
ใบหน้าของเหวินจีเต็มไปด้วยความลังเล “นายท่าน...”

จีเหิงชําเลืองมองสีหน้าอีกฝ่ ายแล้วเอ่ยปาก “มีอะไรก็วา่


มา”

“ขอรับ” เหวินจีรับคํา “วันนีคุณหนูรองเจียงพาสาวใช้ทงั


สองออกจากบ้าน ไปซือของตามร้านค้าในเมืองเยียนจิง
หลังจากหาอะไรกินแล้วก็ตรงไปทีลานหยูเ่ ก๋อแถบอ่าว
ไป๋ ลู”่

“ลานหยูเ่ ก๋อรึ” จีเหิงเบิกตากว้าง ยกยิมก่อนจะกล่าวว่า


“กระทังสถานทีอันห่างไกลนางก็ยงั รูจ้ กั ”

9
“ว่าอย่างไรนะ” ลูจ่ ีทีอยูอ่ ีกด้านพอจะมองออก เขาลูบ
เคราพลางถามซักไซ้ “นายท่านสังให้คนไปจับตาดูคณ

หนูรองเจียงหรือขอรับ”

จีเหิงโบกมือปฏิเสธ “ไม่ใช่อยากจับตา เพียงแต่


พฤติกรรมของนางดูผิดปกติ ให้ปล่อยผ่านก็คงยาก” เขา
เอ่ยปากถามเหวินจี “นางไปลานหยูเ่ ก๋อทําไม”

“ได้ยินว่าทิวทัศน์ของลานหยูเ่ ก๋องดงามนัก” จู่ๆ ลูจ่ ีก็ราว


กับนึกอะไรขึนมาได้ พลันกล่าวพร้อมรอยยิม “หรือว่า
คุณหนูรองเจียงจะไปชมหมอกฝน ช่างรืนรมย์เสียจริง”

“ไม่ใช่” เหวินจีกล่าว “เดิมทีคณ


ุ หนูรองกับสาวใช้ทงสอง

10
ไปนังเล่นกันทีลานหยูเ่ ก๋อ ต่อมานางจึงไปทีต้นท้อด้าน
หลังลานหยูเ่ ก๋อ ตรงนันมีหลุมศพของคนผูห้ นึง คุณหนู
รองเจียงเอาร่มของตนวางทิงไว้ เพือกางร่มให้หลุมศพ
นัน”

จีเหิงและลูจ่ ีพลันหยุดชะงักพร้อมกัน

จีเหิงเลิกคิว นัยน์ตาคูง่ ามแสดงความสนใจขึนมา “อืม


นางไปเคารพหลุมศพอย่างนันรึ”

“ไม่ได้นาํ ของเซ่นไหว้ไปด้วย แต่คณ


ุ หนูรองเจียงทําราว
กับรูจ้ กั ผูต้ าย นางยืนอยูห่ น้าหลุมศพเป็ นเวลานาน ดูทา่
ทางแล้วโศกเศร้านัก”

11
“ก็ดเู หมือนจะไปเซ่นไหว้” จีเหิงกล่าว

ลูจ่ ีได้ฟังก็เอ่ยถาม “เหตุใดนายท่านถึงกล่าวเช่นนัน”

“คุณหนูรองเจียงคนนีทําการอะไรไม่เคยทิงพิรุธให้ใคร
จับได้ ทังยังปิ ดกันตัวเองเสียจนเคยชิน” จีเหิงแค่นยิม
กล่าว “วันนีนางออกจากบ้านไปจับจ่ายข้าวของ ทังยัง
แวะชมทัศนียภาพทีลานหยูเ่ ก๋อ ล้วนแต่เป็ นฉากหน้า จุด
ประสงค์ทีแท้จริงของนางก็เพือไปยืนอยูห่ น้าหลุมฝังศพ
เพียงชัวครู”่

“ในหลุมศพ จะต้องเป็ นคนทีนางให้ความสําคัญอย่าง

12
มาก” เขาประมวลความคิดแล้วสรุปออกมา

หากกล่าวว่าเจียงหลีกระทําการสิงใดล้วนแนบเนียนไร้
ร่องรอย ก็ตอ้ งบอกว่าจีเหิงสามารถประเมินเหตุการณ์
ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง มองเพียงชัวครูก่ ็รูล้ กึ ถึงแก่นแท้

“คนในหลุมศพเป็ นใคร” จีเหิงถาม

“นามว่าเซวียเจา” เหวินจีตอบ “เมือหนึงปี ก่อนถูกโจร


ร้ายฆ่าตายแล้วทิงศพลงแม่นาํ แต่คนของข้าน้อยสืบ
ความได้วา่ เรืองนียังมีพิรุธ การตายของเซวียเจาอาจ
เกียวพันกับจิงจ้าวอิน”

13
ภายใต้การปกครองอันผาสุกก็ยงั มีจดุ ทีวุน่ วาย ใต้บาท
โอรสสวรรค์ในเมืองเยียนจิง มีคนตายอย่างไม่รูส้ าเหตุ
เป็ นจํานวนมาก มีหลุมศพกลบหน้ายังถือว่าโชคดี พวก
ทีไร้อาํ นาจขาดกําลังส่วนใหญ่ลว้ นมอดม้วยไปอย่างไร้
ค่า เหมือนทําเม็ดเกลือหล่นลงไปในทะเล ไม่ก่อให้เกิด
ผลกระทบใดๆ แต่ละลายกลายเป็ นเนือเดียวกับ
มหาสมุทร

“เซวียเจาผูน้ ีมีความเป็ นมาอย่างไร” ลูจ่ ีแคลงใจนัก “ใน


สมุดบันทึกรายนามขุนนางเมืองเยียนจิงก็ไม่เคยได้ยิน
ชือนีมาก่อน”

เหวินจีชะงักไปชัวครู ่ แล้วจึงกล่าวว่า “พูดถึงเซวียเจา


เขาไม่ใช่คนเมืองเยียนจิง แต่เป็ นน้องเมียของเสินอวีห
14
ยง--ขุนนางจงซูเส่อหลางคนปั จจุบนั หรือก็คือน้องชาย
ของเซวียฟั งเฟยผูเ้ ป็ นฮูหยินของเสินอวีหยงหลังจากเซวี
ยฟั งเฟยเกิดเรืองขึนในตอนนัน เซวียเจาคงจะทราบข่าว
จึงเดินทางเข้าเมืองหลวง ไม่คิดว่าจะต้องเอาชีวิตมาทิง
ไว้ทีนี”

“เป็ นน้องชายของเซวียฟั งเฟยรึ” ลูจ่ ีองงั


ึ นชัวครู ่ แล้ว
พลันส่ายหน้า “นึกไม่ถงึ จริงๆ”

“แต่เซวียเจากับเจียงหลีมีความเกียวข้องกันอย่างไร” ลูจ่ ี
งุนงงยิงนัก “ไม่วา่ ในแง่มมุ ไหน ตระกูลเซวียกับตระกูล
เจียงก็ไม่มีอะไรเกียวข้องกันสักอย่าง เจียงหลีอยูบ่ นเขา
ชิงเฉิงซานนานแปดปี ระหว่างนีก็ไม่น่าจะไปเกียวข้อง
กับเซวียเจาได้ อีกทังเซวียเจาเพิงตายจากไปเมือปี กลาย
15
ส่วนเจียงหลีนนเพิ
ั งกลับเข้าเมืองมาในปี นี” เขาลังเลอยู่
ครูห่ นึงจึงถามว่า “ก่อนหน้านี เซวียเจาเคยมาเยือนเมือง
เยียนจิงรึ หรือว่าเคยไปทีเขาชิงเฉิงซาน”

เหวินจีส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่น่าจะเป็ นไปได้ แต่เล็กจนโต


เซวียเจาก็อยูแ่ ต่ทีอําเภอถงเซียงของเมืองเซียงหยาง ไม่
เคยออกจากอําเภอถงเซียงสักครัง ตอนยังมีชีวิตอยูไ่ ด้
มาเมืองเยียนจิงแค่หนเดียวก็คือเมือปี กลาย แต่ยงั ไม่ทนั
พบกับเซวียฟั งเฟยก็มาตายไปเสียก่อน”

ลูจ่ ีมองจีเหิงแล้วรําพึงออกมา “แปลกจริงๆ”

ไม่ตอ้ งรอให้จีเหิงคาดเดาเขาก็รูว้ า่ ต่อให้คณ


ุ หนูรอง

16
ตระกูลเจียงใจดีมีเมตตาปานใด ก็คงจะไม่แสดงสีหน้า
โศกเศร้าให้กบั คนทีปราศจากความเกียวข้องผูกพัน
วันนีเจียงหลีวกไปวนมา ทีแท้ก็เพือจะเคารพศพของเซวี
ยเจา หากไม่รูจ้ กั มักคุน้ นางจะทําถึงเพียงนีเชียวหรือ

“บางที...” เหวินจีครุน่ คิดอยูค่ รูห่ นึง ก่อนจะคาด


คะเนอย่างระมัดระวัง “เซวียเจาคนนีกับคุณหนูรองเจียง
คงจะมีความสัมพันธ์บางอย่าง หรือว่าคุณหนูรองเจียง
จะชอบพออยูก่ บั เซวียเจา”

“เจ้าพูดเองว่าพวกเขาทังสองไม่มีทางรูจ้ กั กันได้มิใช่
หรือ” ลูจ่ ียอ้ นถาม “หน้าก็ยงั ไม่เคยเห็น แล้วจะชอบพอ
กันได้อย่างไร”

17
ก็ใช่สนิ ะ เหวินจีพูดอะไรไม่ออก

18
บทที 98 พวกข้าจะรอเจ้ากลับมา

จีเหิงหรีตาครุน่ คิด จู่ๆ ก็เอ่ยขึนว่า “เซวียเจาเป็ นคน


อําเภอถงเซียง เมืองเซียงหยางอย่างนันรึ”

“เป็ นเช่นนันขอรับ” เหวินจีตอบ

“เย่เจินเจิน มารดาแท้ๆ ของเจียงหลีเป็ นคนเซียงหยาง


เซวียเจาเองก็เป็ นคนเซียงหยางเช่นกัน...” จีเหิงกล่า
ว “ไม่ตอ้ งสืบสาวความสัมพันธ์ระหว่างเจียงหลีกบั เซวี
ยเจา แต่ไปเริมต้นสืบจากบ้านตระกูลเซวีย”

1
“บ้านตระกูลเซวีย” ลูจ่ ีสงสัย “เซวียฟั งเฟย--ฮูหยินท่าน
จอหงวนผูน้ นั ดูเหมือนว่าบิดาของนางจะเป็ นข้าราชการ
ชันผูน้ อ้ ย ในบ้านมีกนั อยูไ่ ม่กีชีวิต ไม่ได้มีอะไรเป็ น
พิเศษ”

“อย่าลืมว่าเจียงหลีกาํ ลังจะกลับเมืองเซียงหยางไป
พร้อมกับเย่หมิงเซียน ฟั งแล้วไม่น่าแปลกใจหรอกหรือ”
ริมฝี ปากของจีเหิงปรากฏรอยยิมบางๆ “ตามลักษณะ
นิสยั ของคุณหนูรอง จะละทิงชัยภูมิหลักอย่างจวน
ตระกูลเจียง แล้วเปลียนไปออกรบนอกสมรภูมิได้อย่าง
ไร เว้นเสียแต่วา่ เซียงหยางมีสงที
ิ สําคัญกว่า”

“นางกลับไปเพือฟื นฟูความสัมพันธ์กบั ตระกูลเย่มิใช่


หรือ” ลูจ่ ีถาม
2
“คุณหนูรองเจียงเป็ นคนไร้หวั ใจ” จีเหิงกล่าวอย่างไม่
แยแส “เดิมทีขา้ สงสัยว่าเหตุใดนางถึงอยากเดินทางไป
เยือนเซียงหยาง แต่ตอนนีทุกอย่างกระจ่างแล้ว”

“นางกับตระกูลเซวียมีความเกียวข้องกัน หรืออาจกล่าว
ได้วา่ ตระกูลเซวียมีสงที
ิ นางต้องการ”

เหวินจีและลูจ่ ีได้ฟังก็ครุน่ คิดกันไปคนละหลายตลบ สุด


ท้ายกลับไม่มีความเห็นใดๆ

“เหวินจี สาเหตุการตายของเซวียเจามีเบืองหลังอย่างไร
เจ้าจงไปสืบมาให้ละเอียด” จีเหิงเล่นพัดในมือพลาง

3
กล่าว “ไม่แน่วา่ สาเหตุการตายของเซวียเจาผูน้ ี คุณหนู
รองของพวกเราจะรูต้ ืนลึกหนาบางอยูไ่ ม่นอ้ ย”

ลูจ่ ีองงั
ึ น “แม้แต่เรืองนีนางก็รูอ้ ย่างนันรึ”

“นางกุมความลับมากมาย มิได้มีเพียงเท่านี” จีเหิงสะบัด


รอยยับบนอาภรณ์อย่างขอไปที แล้วกล่าวเสียงเรียบ
“พอดีวา่ ข้าเองก็อยากไปเยือนเซียงหยางเช่นกัน คราวนี
ตลอดทางต้องไม่เงียบเหงาแน่”

วันเวลาผ่านไปอย่างเรียบง่าย พริบตาเดียวก็ลว่ งเลยมา


ได้สบิ วันแล้ว

4
เย่หมิงเซียนมารับเจียงหลี เตรียมตัวเดินทางออกจาก
เมืองเยียนจิง มุง่ หน้าสูเ่ ซียงหยางพร้อมกัน

คราวนี แม้แต่ฮหู ยินผูเ้ ฒ่าก็ยงั มาส่งถึงหน้าประตูจวน


ตระกูลเจียง ถึงกระนัน กลับไม่เห็นแม้เงาของเจียงโย่ว
เหยากับเจียงอวีเอ๋อ จีซูหรันกล่าวกับเย่หมิงเซียนพร้อม
รอยยิม “เดินทางอย่างระมัดระวังด้วย คราวนีคงต้อง
ฝากหลีเอ๋อให้ทา่ นดูแลแล้ว”

เย่หมิงเซียนรับปาก “วางใจเถิด”

เย่ซือเจียกล่าวตัดบท “สายแล้ว พวกเรารีบออกเดินทาง


ดีกว่า จะได้ถงึ เซียงหยางเร็วขึน”

5
เจียงหลีหนั กลับมากล่าวอําลาฮูหยินผูเ้ ฒ่า “ท่านพ่อกับ
ท่านย่าอย่าได้กงั วลใจ พบท่านยายแล้ว หลานจะ
รีบกลับมาโดยเร็ว”

“แน่นอน” จีซูหรันกล่าว “พวกข้าจะรอเจ้ากลับมา”

เจียงหลียิมบางๆ ไม่แสดงอาการลังเลแม้แต่นอ้ ย ถงเอ๋อ


พยุงนางขึนรถม้า ก่อนทีม่านจะถูกปลดลง ปิ ดกันสาย
ตาของคนตระกูลเจียงทีอยูด่ า้ นนอก ได้ยินเพียงเสียง
ของเย่หมิงเซียนกําชับขบวนเดินทาง ในทีสุดรถม้าก็
ค่อยๆ เคลือนตัวออกไป

6
ในใจของนางพลันผ่อนคลาย แล้วจึงเปลียนเป็ นตืนเต้น

นีคือ... เส้นทางกลับสูบ่ า้ นเกิด

ถึงตอนนีจะไม่ได้มีชีวิตอยูเ่ ป็ นเซวียฟั งเฟย แม้วา่ จะ


กลายเป็ นบุตรสาวของมหาอํามาตย์ แต่ก็นบั ว่านาง
กําลังอยูร่ ะหว่างหนทางกลับบ้าน

ระยะห่างจากเมืองเยียนจิงถึงเซียงหยาง หากเดิน
ทางอย่างรีบเร่งโดยไม่หยุดพัก ก็จะใช้เวลาประมาณ
หนึงเดือนเศษๆ

เย่หมิงเซียนว่าจ้างขบวนรถม้าอารักขามาคุม้ ครองความ
7
ปลอดภัยให้กบั เจียงหลี เจียงหยวนปั วเองก็จดั หาทหาร
องครักษ์มาคอยติดตามนางเช่นกัน หากโชคร้ายถูกโจร
ป่ าดักปล้น ก็ยงั สามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย

ยังดีทีตลอดทางไม่ประสบเหตุรา้ ยใดๆ ออกจะราบรืน


เกินไปเสียด้วยซํา ดังนัน เมือเข้าใกล้ตวั เมืองเซียงหยาง
จึงใช้เวลาเดินทางเพียงหนึงเดือนเท่านัน

เมือขบวนรถม้ามาถึงหน้าประตูเมืองเซียงหยาง ถงเอ๋อก็
เปิ ดม่านขึนกวาดตามองออกไปด้านนอกด้วยความ
อยากรูอ้ ยากเห็น พลางพึมพําว่า “ทีนีก็คือเมืองเซียง
หยางสินะ ดูๆ ไปก็ครึกครืนดีเหมือนกัน”

8
เจียงหลีมองทิวทัศน์ดา้ นนอก ในแววตามีแต่ความคิดถึง

ถงเซียงเป็ นอําเภอเล็กๆ อยูใ่ นเมืองเซียงหยาง เมือก่อน


เซวียฮว๋ายหย่วนจะเข้ามาทีเซียงหยางเพือหาซือข้าวของ
ให้กบั เซวียฟั งเฟยและเซวียเจาสองพีน้องเฉพาะช่วง
เทศกาล ตอนนัน ทุกปี นางกับเซวียเจาวาดหวังอยากติด
สอยห้อยตามมาด้วย ตัวเมืองเซียงหยางคึกคักและ
เจริญกว่าอําเภอถงเซียง ของกินของใช้ลว้ นอร่อยและน่า
สนใจกว่ากันมาก เพียงแต่โอกาสเช่นนีไม่ได้มีบอ่ ยนัก

นับไปนับมา ตังแต่นางแต่งงานกับเสินอวีหยง สามปี


แล้วทีไม่ได้อยูใ่ นถงเซียง สําหรับเซียงหยางแล้ว ก็เป็ น
เวลาร่วมเจ็ดถึงแปดปี ทีไม่ได้มาเห็น

9
เซียงหยางทีอยูต่ รงหน้าในตอนนี ดูแล้วยังคงรูส้ กึ คุน้ เคย
เหมือนทีผ่านมา ทว่ารุง่ เรืองและคึกคักกว่ามาก อีกทัง
ยังมีผคู้ นพลุกพล่านกว่าเมือเจ็ดแปดปี ก่อน

หากเซวียเจายังอยู่ เขาจะต้องหัวเราะอย่างเบิกบาน
ขณะลากนางเดินเทียวไปทัวเซียงหยางแน่...

ระหว่างกําลังครุน่ คิดอยูใ่ นภวังค์ ทหารรักษาการณ์


ประจําเมืองก็ตรวจดูหนังสือผ่านทาง ก่อนจะอนุญาตให้
เข้าเมืองได้ ขบวนรถม้าจึงมุง่ หน้าต่อไป

เดินทางอีกราวๆ หนึงก้านธูป ขบวนรถม้าก็คอ่ ยๆ

10
เคลือนตัวช้าลง ไม่รูว้ า่ ผ่านไปนานแค่ไหน ในทีสุดรถม้า
ก็หยุดนิง เสียงของเย่หมิงเซียนดังเข้ามาจากด้าน
นอกอย่างกระตือรือร้น “หลีเอ๋อ ลงรถเถิด พวกเรามาถึง
แล้ว”

คนเฝ้าหน้าประตูเห็นเย่หมิงเซียนก็รบี เปิ ดทาง แล้วสังให้


เด็กรับใช้เข้าไปรายงานคนในบ้าน ตลอดทางก็ตะโกน
ป่ าวร้อง “นายท่านรองกลับมาแล้ว นายท่านรองกลับมา
แล้ว”

ถงเอ๋อพยุงเจียงหลีลงจากรถม้า

ตระกูลเย่นบั ว่ามังคังเป็ นอันดับหนึงของเมืองเซียงหยาง

11
หรืออาจกล่าวได้วา่ ความรํารวยของตระกูลเย่นนั หาก
นําไปเปรียบเทียบกับเศรษฐี ในเมืองเยียนจิงก็ยงั
สามารถติดอันดับได้

ด้วยเหตุนี คฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลเย่จงึ ถูกสร้าง


อย่างหรูหรา กล่าวกันว่าตังแต่สมัยบรรพบุรุษ ตระกูลเย่
ก็อยูท่ ีนีมาโดยตลอด ประตูใหญ่ทาสีแดงเป็ นมันเงา พืน
ปูดว้ ยกระเบืองแผ่นใหญ่ เสาหน้าประตูแกะสลักลวด
ลายละเอียดงดงาม แม้แต่โคมไฟทีแขวนประดับก็ยงั ใช้
ผ้าสีขาวทีถักทอจากด้ายปี กนกนางแอ่นของเจียงหนัน
คลุมไว้

ถงเอ๋อกับไป๋ เสวียทียืนอยูห่ น้าประตูใหญ่ของบ้านตระกู


ลเย่ตา่ งตะลึงมองจนตาค้าง ไม่นกึ ว่าบ้านตระกูลเย่จะ
12
โอ่อา่ หรูหราเช่นนี การตกแต่งแตกต่างจากจวนอํามาตย์
สําหรับสามัญชนทัวไป การตกแต่งหรูหราเช่นนียิงดึงดูด
ใจผูค้ น

เย่หมิงเซียนพลันเอ่ยว่า “หลีเอ๋อ นีคงเป็ นครังแรกทีได้มา


เยือนบ้านตระกูลเย่สนิ ะ เป็ นอย่างไร ทีนีดีหรือไม่”

“ไม่เลวเลยทีเดียว” เจียงหลียิมบางๆ

เมือก่อนนางกับเซวียเจามาเทียวเซียงหยาง ก็เคยได้ยิน
ชือเสียงของจวนตระกูลเย่อยูบ่ า้ ง ตอนเดินผ่านประตู
จวนแห่งนี เซวียเจายังเคยกล่าวว่า หากสามารถเข้าไปดู
ว่าข้างในหน้าตาเป็ นอย่างไรก็คงดี ไม่คิดเลยว่าวันหนึง

13
นางจะสามารถก้าวผ่านประตู เข้ามาดูความโอ่อา่ นีได้
อย่างเป็ นทางการ

เย่หมิงเซียนเอ่ยกลัวหัวเราะ “พวกเราไปกันเถิด”

เจียงหลีกบั เย่หมิงเซียนเดินเข้าประตูไปพร้อมกัน

สวนของจวนตระกูลเย่ ดูแล้วรูส้ กึ กว้างขวางโอ่อา่ แต่ก็ยงั


แฝงความมีชีวิตชีวาของตระกูลค้าขาย เด็กรับใช้ชาย
และหญิงสวมอาภรณ์ทีทอจากผ้าเนือดี สิงเหล่านีทําให้
พอจะมองออกว่าตระกูลเย่มงคั
ั งแค่ไหน สาวใช้ทงหลาย

พอเห็นเย่หมิงเซียนก็รบี ทําความเคารพ ครันพบว่าข้าง
กายของเย่หมิงเซียนมีกลุม่ ของเจียงหลีติดตามมาด้วยก็

14
มองอย่างสนอกสนใจ พากันคาดเดาสถานะของเจียงหลี
ไปต่างๆ นานา

ในห้องโถงจินฮว่ายามนีมีผคู้ นมารวมตัวกัน

“ท่านพ่อกลับมาเสียที” ชายหนุ่มอายุราวสิบสีย่างสิบห้า
ปี กล่าวทักทาย “ไม่รูว้ า่ กลับจากเยียนจิงครังนีมีอะไรติด
ไม้ติดมือมาบ้าง”

“เจ้าก็นกึ ถึงแต่เรืองพวกนี” ฮูหยินทีลักษณะท่าทางดูมี


การศึกษาซึงยืนอยูข่ า้ งกายเขากล่าวติติง “ปกติทีบ้านก็
มีขา้ วของของเจ้าอยูม่ ากมาย สิงทีเยียนจิงมี ก็ใช่วา่ เจ้า
จะขาด”

15
“น้องสาวอย่าได้ตาํ หนิหยูฟงเลย” ฮูหยินอีกคนไกล่เกลีย
“ความคิดความอ่านของหยูฟงยังเด็กไปบ้าง หากซือเจี
ยอยูด่ ว้ ย ก็คงเป็ นเช่นนีเหมือนกัน”

ข้างกายเย่หยูฟง คือหญิงสาวหน้าตาสะสวย ดูแล้วอายุ


อานามน่าจะมากกว่าเย่หยูฟงอยูส่ กั หน่อย หญิงสาว
พลันกล่าวอย่างกังวล “ไม่รูว้ า่ พีชายใหญ่อยูท่ างโน้นจะ
เป็ นอย่างไรบ้าง ตอนนีก็ได้เป็ นถึงฮู่ปแู้ ล้ว ไม่รูว้ า่ จะปรับ
ตัวได้หรือยัง”

ชายวัยกลางคนทียืนอยูก่ ลางห้องโถง มิได้เอ่ยถ้อยคํา


ใดๆ เพียงจิบชาต่อไปเงียบๆ

16
ขณะกําลังพูดคุยอยูน่ นั พลันได้ยินเสียงเด็กรับใช้จาก
ด้านนอกรายงานว่า “นายท่านรองกลับมาแล้วขอรับ”

ฮูหยินผูม้ ีรูปร่างผอมบางรีบลุกขึนยืนด้วยความดีใจ ทัน


ได้เห็นผ้าม่านของห้องโถงจินฮว่าถูกเปิ ดขึน เย่หมิงเซียน
หัวเราะร่าเสียงดังพลางก้าวเข้ามา “พีใหญ่ ฮูหยิน ข้า
กลับมาแล้ว”

“ท่านพ่อ” ชายหนุ่มรุดเข้ามา

เจียงหลียืนอยูด่ า้ นหลังเย่หมิงเซียน ความรูส้ กึ ของนาง


ต่อคนตระกูลเย่นนก็
ั เหมือนคนแปลกหน้า ต้องเข้าใจว่า

17
พวกเขาไม่ได้พบหน้ากันมานานนับสิบปี

หนุ่มน้อยคนนันคือบุตรชายของเย่หมิงเซียน นามว่า
เย่หยูฟง ทันทีทีสายตาเหลือบไปเห็นเจียงหลีทีอยูด่ า้ น
หลัง ก็ผละออกจากอ้อมกอดของเย่หมิงเซียนแล้วถาม
ขึนด้วยความสงสัย “นางเป็ นใคร”

18
บทที 99 ป้ าสะใภ้

เจียงหลียืนยิมอยูด่ า้ นหลังเย่หมิงเซียน มองจากลักษณะ


การแต่งกายของนางดูไม่เหมือนสาวใช้ ดังนันจึงไม่น่า
จะเป็ นบ่าวทีเย่หมิงเซียนรับเข้ามาระหว่างทาง

ฮูหยินรูปร่างผอมบางท่าทางเหมือนมีการศึกษาผูน้ นก็

คือภรรยาของเย่หมิงเซียน นางมาจากตระกูลจัว หรือที
คนทัวไปเรียกขานว่านางจัวซือ พอนางเห็นเจียงหลีก็ชกั
สีหน้าไม่พอใจ คงจะนึกว่าเจียงหลีเป็ นหญิงสาวอย่างว่า
ทีเย่หมิงเซียนพบเจอระหว่างทาง คนค้าขายจนรํารวย
มักจะมีเรืองแบบนีอยูเ่ ป็ นประจํา ระหว่างออกเดินทาง
ไปทําการค้า ต้องจากบ้านนานสามปี หา้ ปี ก็มกั จะมีสตรี
1
แปลกหน้าตามกลับมาด้วย บางคนยังหอบลูกกลับมา
อีกต่างหาก แต่เย่หมิงเซียนจากบ้านไปไม่กีเดือน จะมี
ลูกกลับมาก็คงเป็ นไปไม่ได้ หากบอกว่าระหว่างทางเขา
พาสตรีกลับมาด้วย ยังดูจะเข้าเค้ามากกว่า

บุรุษมักจะไม่คอ่ ยละเอียดลออกับเรืองแบบนี เย่หมิ


งเซียนยังไม่ทนั สังเกตเห็นแววตาทีผิดปกติไปของภรรยา
ทว่าไม่อาจเล็ดลอดสายตาของเจียงหลี สิงนีทําให้นาง
คาดเดาสถานะของนางจัวซือออก เพือป้องกันความเข้า
ใจผิดจึงก้าวออกมาข้างหน้า ส่งยิมให้กบั จัวซือแล้วเอ่ย
เรียก “ท่านป้าสะใภ้”

คําเรียกขานว่าป้าสะใภ้ ทําเอานางจัวซือตะลึงงัน สีหน้า


ขุ่นเคืองทีมีอยูเ่ มือครูพ่ ลันเลือนหายในพริบตา มีแต่
2
ความสงสัยเข้ามาแทนที “ท่านพี คุณหนูทา่ นนีเป็ นใคร
เหตุใดถึงเรียกข้าว่าป้าสะใภ้”

เย่หมิงเซียนหัวเราะชอบใจพลางเดินไปยังชายในชุดสี
นําเงินทียืนอยูอ่ ีกด้าน กล่าวว่า “พีใหญ่ ครังนีข้าไม่ได้
กลับมาเพียงลําพัง พวกท่านดูสวิ า่ นีใคร ยังจํากันได้หรือ
เปล่า”

ผูค้ นทังหมดต่างงุนงงสงสัย มีเพียงเย่หมิงฮุยทีจับสังเกต


ได้วา่ เจียงหลีเรียกนางจัวซือว่า ‘ป้าสะใภ้’ จึงพอจะคาด
เดาได้บา้ ง

“นางก็คือหลีเอ๋อ--บุตรสาวของเจินเจินอย่างไรเล่า”

3
เย่หมิงเซียนกล่าวกลัวหัวเราะ “ครังก่อนตอนทีได้พบหลี
เอ๋อ นางยังเป็ นแค่เด็กตัวเล็กๆ ดูสติ อนนีโตเป็ นสาวแล้ว
หลีเอ๋อ นีคือลุงหมิงฮุยกับป้าสะใภ้ใหญ่”

เจียงหลียิมละไม “ท่านลุงหมิงฮุย ท่านป้าสะใภ้ใหญ่”

เย่หมิงฮุยและนางกวนซือผูเ้ ป็ นภรรยาต่างตกตะลึง
นางกวนซือไม่รูว้ า่ ควรจะทําตัวอย่างไร ส่วนเย่หมิงฮุย
นันขมวดคิวมุน่

ภายในห้องพลันเงียบกริบ

ผ่านไปครูห่ นึง จู่ๆ เย่หยูฟงทีมองเจียงหลีอย่างดูแคลน


4
ก็เอ่ยปาก “นางก็คือบุตรีของท่านอาเล็ก คนทีเคยดู
แคลนตระกูลค้าขายอย่างพวกเรา ทําให้ทา่ นย่าต้องล้ม
ป่ วยคนนันหรอกรึ”

นางจัวซือรีบห้ามปรามบุตรชายไว้ ทว่าเย่หยูฟงกลับ
มองด้วยสายตาแข็งกร้าว ไม่มีความเกรงใจแม้แต่นอ้ ย
ขณะกล่าวต่อไปว่า “ในเมือกล้าทํา แล้วจะกลัวคําครหา
ของคนอืนไปทําไม”

ผูค้ นในห้องต่างเงียบกริบลงในพริบตา บรรยากาศไม่


รืนรมย์เอาเสียเลย

เป็ นความจริงว่า ตอนทีเย่หมิงเซียนเดินทางกลับเซียง

5
หยาง ไม่ได้สง่ ข่าวบอกกล่าวสักคําว่าจะพาเจียงหลี
ติดตามมาด้วย คนตระกูลเย่ไม่รูเ้ ลยว่าจะได้พบหน้า
เจียงหลี จู่ๆ นางก็ปรากฏตัวขึนมาในเวลานี ต่างก็ไม่รูว้ า่
จะต้องทําตัวอย่างไร ถ้อยคําในอดีตของเจียงหลีเมือ
หลายปี ก่อนทําร้ายจิตใจฮูหยินผูเ้ ฒ่าและคนตระกูลเย่
ทังหมดจนยับเยิน พวกเขาจึงถือเสียว่าเจียงหลีไม่มีตวั
ตนอีกต่อไป แต่แล้วจู่ๆ นางก็มาปรากฏตัวอย่างไม่คาด
คิด

เย่หมิงฮุยมองเย่หมิงเซียนอย่างกล่าวโทษทีเขาไม่บอก
เรืองนีตังแต่ตน้ เย่หมิงเซียนเองก็ทาํ หน้าไม่ถกู ขณะ
เดียวกันก็อดทีจะสังเกตปฏิกิรยิ าของเจียงหลีมิได้

เจียงหลียืนกรานทีจะกลับเซียงหยางมาพร้อมกับเขา ก็
6
ควรจะคาดเดาได้วา่ จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี ใช่วา่ ตระกู
ลเย่จะไม่มีหวั จิตหัวใจ สถานการณ์ตรงหน้า ไม่รูว้ า่ เจียง
หลีจะรับมืออย่างไร

เจียงหลีมองเหตุการณ์ตรงหน้าพร้อมรอยยิมเช่นเดิม ใน
ทีสุดก็กล่าวเพียงว่า “ใช่แล้ว ข้าก็คือเจียงหลี ‘ผูน้ น’
ั ”

คนตระกูลเย่ทงหมดได้
ั แต่องงั
ึ น

นางใช้ความสงบสยบความเคลือนไหว เย่หมิงเซียน
พิจารณาสถานการณ์แล้วก็อยากหัวเราะออกมา ขนาด
เย่หมิงฮุย--พีใหญ่ทีสุขมุ เยือกเย็น ครันต้องมาเผชิญกับ
เหตุการณ์ตรงหน้าก็ถงึ กับรับมือไม่ทนั ยังดีทีเขารูล้ าํ ดับ

7
ชันของคนตระกูลเย่ จึงแสร้งกระแอมเบาๆ แล้วเอ่ยแนะ
นํา “นีคือป้าสะใภ้รอง” เขาแนะนําภรรยาของตนอีกครัง

เจียงหลีอมยิมพลางผงกศีรษะให้กบั นางจัวซือ “ท่านป้า


สะใภ้รอง”

นางจัวซือยิมรับตามสัญชาตญาณ ครันนึกได้ก็นิงงัน

“นีเป็ นญาติผพู้ ีหญิงของเจ้านามว่าเจียเอ๋อ เป็ นพีสาว


ของหยูฟง” เย่หมิงเซียนกล่าวต่อ

เย่เจียเอ๋ออายุมากกว่าเจียงหลีประมาณหนึงปี หน้าตา
ท่าทางใจดีดมู ีสง่าราศี สายตาทีนางใช้มองเจียงหลีเต็ม
8
ไปด้วยความสงสัยใคร่รู ้ แต่ก็ยงั คงยิมแย้มและผงก
ศีรษะให้กบั เจียงหลี

แต่เย่หยูฟงไม่เหมือนกับเย่เจียเอ๋อ เขาร้องหยันแล้วหัน
หน้าไปอีกทาง ทําเหมือนไม่อยากมองเจียงหลี

“ท่านลุงหมิงอวีของเจ้าไม่อยูท่ ีบ้าน แต่อีกไม่กีวันก็คง


กลับมา” เย่หมิงเซียนกล่าว

เจียงหลีพยักหน้ารับ “ท่านยาย...”

“ช่วงนีฮูหยินผูเ้ ฒ่าสุขภาพไม่แข็งแรง” เย่หมิงฮุยลังเลอยู่


ครูห่ นึง “หากรูว้ า่ เจ้ามาเยียมคงจะตืนเต้นไม่นอ้ ย รอให้
9
ผ่านไปสักหน่อยค่อยแจ้งให้ทา่ นทราบ ดีหรือไม่”

เจียงหลียงั ไม่ทนั ตอบ เย่หยูฟงก็กล่าวเสียงเย็น “อย่าให้


พบเลยจะดีกว่า หากท่านย่าเห็นหน้านางแล้วล้มป่ วยไป
อีกจะทําอย่างไร”

“หยูฟง” นางจัวซือเอ่ยปราม เย่หยูฟงถึงได้สงบปากสงบ


คําลงได้

เจียงหลีได้โอกาสจึงกล่าวว่า “หลานเชือฟั งคําของท่าน


ลุงหมิงฮุยเจ้าค่ะ”

เย่หมิงฮุยพยักหน้ารับ แล้วออกปากสังนางกวนซือ“เจ้า
10
ไปเก็บกวาดห้องว่างให้หลีเอ๋อได้พกั ผ่อน” จบคําก็หนั มา
กล่าวกับเจียงหลี “เจ้ากับท่านลุงรองคงเหน็ดเหนือยมา
ตลอดทาง วันนีอย่าเพิงคิดอะไรให้วา้ วุน่ ใจเลย ไปพัก
ผ่อนเสียก่อน มีอะไรพรุง่ นีค่อยว่ากัน”

เจียงหลีองงั
ึ น คําพูดของเย่หมิงฮุยนี ออกจะเกรงใจและ
ห่างเหิน นางนึกทอดถอนใจ ความบาดหมางระหว่าง
คุณหนูรองเจียงกับตระกูลเย่ช่างหยังรากลึกเสียจริงๆ ไม่
อาจแก้ไขในระยะเวลาอันสัน เป็ นภาระอันหนักอึงไปอีก
นาน

เจียงหลียิมอย่างจริงใจ “ขอบคุณท่านลุงหมิงฮุย”

11
เมือเทียบกับผูเ้ ป็ นลุง ป้าสะใภ้ทงสองไม่
ั รูว้ า่ ควรทํา
ตัวอย่างไร ไม่อาจวางตัวห่างเหินเหมือนกับสองพีน้อง
ตระกูลเย่ แต่ก็ไม่สามารถใกล้ชิดสนิทสนมได้ ดูลาํ บาก
ใจจริงๆ เจียงหลีประเมินเหตุการณ์ดว้ ยความรูส้ กึ ขบขัน
ยังดีทีไม่ตอ้ งอยูต่ รงนีอีกนานนัก รอให้นางกวนซือปั ด
กวาดห้องหับจนเสร็จเรียบร้อย ข้างกายเจียงหลีก็ไม่มี
ใครอืนนอกจากสาวใช้ขา้ งกายทังสอง

เงียบสงบเสียที

เจียงหลีนงลงผ่
ั อนคลายอิรยิ าบถ ถงเอ๋อปิ ดประตูลง
กลอน ขณะทีไป๋ เสวียไปต้มนําเพือชงชา ถงเอ๋อพลัน
กระซิบเสียงเบา “คุณหนู คนตระกูลเย่จงใจไม่ให้ทา่ น
พบกับฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่ชดั ๆ”
12
“คุณหนู หากทนไม่ไหวจริงๆ รอพบกับฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่
แล้วพวกเราก็กลับเมืองเยียนจิงกันเถอะเจ้าค่ะ” ไป๋ เสวี
ยกล่าวเสริม “วันหลังหากตระกูลเย่ยงั เป็ นเช่นนี พวกเรา
คงอยูท่ ีนีกันลําบาก”

คนตระกูลเย่ใจกว้างและมีเหตุผล นอกจากจะไม่ขบั ไล่


ไสส่งนางยังต้อนรับขับสูอ้ ย่างดีและยังมีมารยาท แต่
ความทีมีพิธีรตี องมากเกินไป กลับทําให้วางตัวลําบาก

“ไม่เป็ นไรหรอก เพิงจะมาถึง ต่างฝ่ ายก็ตอ้ งทําความคุน้


เคยกันเสียก่อน” เจียงหลียิมบางๆ “ยิงไปกว่านัน เรือง
ราวในอดีตข้าเป็ นฝ่ ายผิด ตระกูลเย่มีทา่ ทีเช่นนี ยังดีกว่า
ทีข้าคาดเดาไว้เสียอีก รอให้ผา่ นไปสักหน่อย ให้ขา้ พบ
13
กับท่านยายเสียก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

นางมาเยือนเมืองเซียงหยางในครังนี การพบปะญาติพี
น้องหรือคารวะฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่ลว้ นเป็ นเพียงข้ออ้าง จุด
ประสงค์หลักทีนางมาก็เพือสืบเสาะเรืองของเซวี
ยฮว๋ายหย่วน เพียงแต่ตอนนียังไม่สามารถออกไปหา
ข่าวคราวได้ เพราะจะทําให้คนอืนนึกสงสัยขึนมา

ทุกอย่างจะต้องค่อยเป็ นค่อยไป

ส่วนอีกด้าน เย่หมิงเซียนกําลังถูกนางจัวซือไต่สวนทวน
ความอยูใ่ นห้อง

14
“อยูด่ ีๆ เหตุใดเจียงหลีถงึ ตามกลับมา ท่านไปทําอย่างไร
ทําไมถึงไม่บอกกล่าวล่วงหน้าเลยสักคํา แม้กระทังพี
ใหญ่ก็ยงั คิดไม่ถงึ ” นางจัวซือเดินไปเดินมาอยูห่ ลาย
ตลบ “แล้วตอนนีจะทําอย่างไร นางมาอยูใ่ นบ้านของ
พวกเรา คนข้างนอกเห็นเข้าก็จะต้องเอาไปนินทา ท่าน
นี...น่าโมโหจริงเชียว”เย่หมิงเซียนไม่รูจ้ ะทําอย่างไร
“เหตุใดถึงมาโทษข้า นางพูดเองว่าอยากมาทีเซียงหยาง
เพือคารวะท่านแม่ แม้กระทังฮูหยินผูเ้ ฒ่ากับเจียงหยวน
ปั วก็ยงั ยินยอม แล้วข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร”

“ฮึ เป็ นเพราะเห็นว่าพีใหญ่ได้เป็ นถึงฮู่ปลู้ ะ่ สิ” เย่หยูฟงก


ล่าวเย้ยหยัน “ดูถกู ว่าตระกูลค้าขายอย่างพวกเราเห็นแก่
ผลประโยชน์ ลูกดูพวกตระกูลเจียงแล้วเห็นว่า มหา
อํามาตย์คนปั จจุบนั ก็เป็ นคนเห็นแก่ได้เช่นกัน เมือก่อน

15
เห็นว่าตระกูลเย่ไม่มีลกู หลานเป็ นขุนนางจึงรีบตัด
สัมพันธ์ มาตอนนีเห็นตระกูลเย่พอมีลทู่ างก็รบี เข้ามาทํา
ดีดว้ ย”

“เจ้าอย่าได้พดู จาเหลวไหล” เย่เจียเอ๋อยับยังคําพูดของ


เย่หยูฟง “ต่อให้พีใหญ่ได้เป็ นฮู่ปู้ คนตระกูลเจียงก็ไม่จาํ
เป็ นจะต้องมาทําดีกบั

ตระกูลเย่ของพวกเราหรอก ผูม้ ากด้วยอํานาจวาสนาใน


เมืองเยียนจิงมีอยูม่ ากมาย ท่านลุงเขยยังต้องมาประจบ
เอาใจพวกเราอยูอ่ ีกหรือ? ทีท่านลุงเขยยอมให้เจียงหลี
มาเยือนเซียงหยาง คงไม่ใช่เพราะพีใหญ่หรอก”

16
บทที 100 เจ้าจะทําอะไรกันแน่

“ท่านลุงเขย ท่านลุงเขย... พีลืมไปแล้วหรือไร” เย่หยูฟงก


ล่าว “อํามาตย์เจียงแต่งงานกับคนอืนไปนานแล้ว เขา
มองตระกูลเย่ของพวกเราว่าตําต้อย ยังจะไปเรียกอย่าง
ใกล้ชิดสนิทสนมว่าท่านลุงเขยอยูอ่ ีก พีคงไม่คิดฉวย
โอกาสทําดีกบั คนของจวนอํามาตย์ เพือไต่เต้าเข้าไปอยู่
ในเมืองเยียนจิงกระมัง”

“เจ้า!” เย่เจียเอ๋อโมโหจนพูดไม่ออก

“พอแล้วๆ หยุดทะเลาะกันเสียที” นางจัวซือปวดหัวนัก

1
“ตอนนีก็ยงุ่ มากพอแล้ว หากพวกเจ้าทังสองอยาก
ทะเลาะกัน ก็ออกไปข้างนอกโน่น”

ขณะนัน ด้านนอกก็มีคนมาเคาะประตู เป็ นเย่หมิงฮุยที


พานางกวนซือเดินเข้ามา ในตอนนี หากไม่นบั เย่หมิงอวี
ทียังไม่กลับบ้านแล้ว คนทังสองบ้านของตระกูลเย่ลว้ น
มาอยูใ่ นห้องนีกันอย่างพร้อมหน้า

“น้องรอง นีเจ้าหมายความว่าอย่างไร” เพิงผ่านประตูเข้า


มา เย่หมิงฮุยก็ยิงคําถามทันที

เย่หมิงเซียนสะดุง้ โหยง “อะไรหมายความว่าอย่างไร”

2
“เหตุใดเจ้าจึงพานางกลับมาด้วย” เย่หมิงฮุยขมวดคิว
ถาม “ไม่บอกล่วงหน้าสักคํา เจ้าจะทําอะไรกันแน่”

“พีใหญ่ ท่านอย่าดุดา่ ข้าราวกับเป็ นน้องสามสิ” เย่หมิ


งเซียนรูส้ กึ น้อยใจ “ให้พาเจียงหลีกลับมาไม่ใช่จดุ
ประสงค์ของข้า แต่เป็ นความต้องการของนาง”

“นางเป็ นคนพูดเองรึ” กวนซือตังข้อสงสัย

“ก็ใช่น่ะสิ” เย่หมิงเซียนนังลงแล้วค่อยๆ ถ่ายทอดเรือง


ราวต่างๆ ให้ทกุ คนฟั งอย่างละเอียด เขาไปพบกับเย่ซือ
เจียในเมืองเยียนจิงอย่างไร เย่ซือเจียพูดถึงเจียงหลี
อย่างไร เหตุใดเขาถึงไปพบเจียงหลีทีจวนตระกูลเจียง

3
เจียงหลีแสดงเจตจํานงทีจะมาเยือนเซียงหยางกับเขาว่า
อย่างไร เล่าจบ เย่หมิงเซียนก็วางมือสองข้างลง “เรืองก็
เป็ นเช่นนี พวกท่านฟั งแล้วคิดว่าหลานสาวคนนีของพวก
เราต้องการอะไร”

คนทังหมดต่างนึกไม่ถงึ ว่า การทีเย่หมิงเซียนไปเยียนจิง


ครังนีจะเกิดเรืองขึนมากมาย ยิงคิดไม่ถงึ ว่าหลังจาก
เจียงหลีกลับเข้าเมืองเยียนจิงได้ไม่ถงึ ครึงปี ก็จะกลาย
เป็ นสตรีทีอยูใ่ นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมหลาย
ต่อหลายครัง

“นางสอบได้เป็ นอันดับหนึงในหกแขนงวิชาของหมิงอี
ถาง แล้วยังได้รบั พระราชทานรางวัลจากฮ่องเต้จริงหรือ”
เย่เจียเอ๋อถามอย่างตืนเต้น “ญาติผนู้ อ้ งหญิงไปอยูใ่ น
4
สํานักนางชีถงึ แปดปี ทีสํานักนางชีไม่มีอาจารย์คอยชี
แนะ แล้วเหตุใดนางถึงสอบได้คะแนนเป็ นอันดับหนึง
เล่า”

“นันน่ะสิ” เย่หมิงฮุยเอ่ยพึมพํา “เว้นเสียแต่วา่ นางจะเป็ น


อัจฉริยะ”

“บนโลกใบนีจะมีคนอัจฉริยะหลายด้านขนาดนีเชียว
หรือ” เย่หมิงเซียนส่ายหน้าแล้วเอ่ยแย้งพร้อมรอยยิม
“ข้าคิดว่าในตัวเจียงหลีเก็บงําความลับเอาไว้ไม่นอ้ ย
ตอนทีข้าไปเยียมคนตระกูลเจียง เดิมทีคิดว่าเจียงหลี
เพิงจะกลับเข้าเมืองเยียนจิง การมีอยูข่ องจีซูหรันจะต้อง
ทําให้นางระมัดระวังตัวอย่างมาก ใครเลยจะรูว้ า่ ไม่ได้
เป็ นเช่นนัน ฐานะของนางในจวนตระกูลเจียงสูงกว่าทีข้า
5
คาดไว้เสียอีก พวกท่านลองคิดๆ ดูเถิด ระยะเวลาแค่ครึง
ปี ก็สามารถมาอยูใ่ นจุดนีได้ นีไม่ใช่เรืองทีใครก็ทาํ กันได้
หรอกนะ”

คนในห้องได้ฟังต่างเงียบงัน แล้วพึมพําในสิงทีเย่หมิ
งเซียนเพิงกล่าวมา

“อย่างไรเสีย งานเลียงในวังหลวงนางก็เคยช่วยเหลือซือ
เจียไว้ ก่อนหน้านียังเคยเตือนสติซือเจียเกียวกับหลี
เหลียน ไม่วา่ นางจะใช้ประโยชน์จากตระกูลเย่ก็ดี หรือ
ว่าทําไปเพือการอืนก็ช่าง อย่างน้อยก็ไม่สง่ ผลร้ายต่อซือ
เจีย ข้าไปจวนตระกูลเจียงคราวนี เดิมทีแค่ตอ้ งการเห็น
เจียงหลีดว้ ยตา ใครจะรูว้ า่ นางกลับเปลียนไปเป็ นคนละ
คน”
6
“นางออกปากว่าอยากมาทีเซียงหยาง เดิมทีขา้ เข้าใจว่า
เป็ นอุบายของคนตระกูลเจียง แต่ขา้ ดูจากท่าทีของเจียง
หยวนปั วกับฮูหยินผูเ้ ฒ่าแล้ว พวกเขาราวกับไม่รูเ้ รืองนี
มาก่อน ข้าเองก็อยากรูว้ า่ แท้จริงแล้วนางคิดจะทําอะไร
ถึงได้ตกปากรับคําให้นางติดตามมาด้วย ส่วนทีใน
ระหว่างทางไม่ได้บอกกล่าวให้พวกท่านได้ทราบล่วง
หน้า เป็ นเพราะรีบร้อนกลับมาจนไม่ทนั คิด”

เงียบกันไปชัวครู ่ ในทีสุดเย่หมิงฮุยก็เอ่ยว่า “เจ้าทําเช่นนี


ก็ไม่เลว แม้จะไม่รูว้ า่ นางมีจดุ ประสงค์อะไร ก็คอยดูกนั
อีกที”

“แต่วา่ น้องรอง” นางกวนซือกล่าวอย่างกังวลใจ “เจ้าพา


7
เจียงหลีกลับมาเพราะนางบอกว่าต้องการเยียมคารวะ
ท่านแม่ แต่ตอนนีสุขภาพของท่านแม่ไม่อาจให้มี
เรืองกระทบกระเทือนจิตใจ หากท่านแม่ทราบว่าเจียง
หลีกลับมา ไม่รูว้ า่ จะเกิดอะไรขึน แล้วแบบนี... พวกท่าน
จะยังให้นางพบกับท่านแม่อีกหรือ”

เย่หมิงเซียนถูกคําถามนันปิ ดปากจนพูดอะไรไม่ออก ได้


แต่หนั มองเย่หมิงฮุยตามสัญชาตญาณ

เย่หมิงฮุยกล่าวเสียงตํา “ให้นางเข้าพบได้ แต่ตอ้ งบอก


ให้ทา่ นแม่รูต้ วั ก่อน จะได้ไม่ตกใจ”

ต่างจากคนตระกูลเย่ทีเป็ นกังวล

8
เจียงหลีกลับโล่งใจนัก อย่างน้อยในสายตาของสาวใช้
บ้านตระกูลเย่ นางก็เป็ นแขกคนหนึงทีต้องได้รบั การ
ปรนนิบตั ิอย่างนุ่มนวล

ผ่านไปไม่กีวัน สาวใช้ในจวนตระกูลเย่ก็เริมสนิทสนมกับ
ถงเอ๋อและไป๋ เสวีย ในวันธรรมดายังมาร่วมวงสนทนากัน
อย่างออกรส

ทว่าต่อให้เป็ นเช่นนัน ผ่านมาแล้วห้าหกวัน คนตระกูลเย่


ก็ยงั ไม่เปิ ดโอกาสให้เจียงหลีเข้าพบกับฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่

ถงเอ๋อเริมรูส้ กึ ไม่พอใจ “คนตระกูลเย่จะเอาอย่างไรกัน

9
แน่ ปากบอกจะให้คณ
ุ หนูเข้าพบฮูหยินผูเ้ ฒ่า แต่หลาย
วันมานีก็ไม่เห็นพูดถึงสักคํา น่าหงุดหงิดเสียจริง”

คนตระกูลเย่ไม่เอ่ยถึง เจียงหลีจงึ ไม่ควรถามขึนมา

“เจ้าสนิทสนมกับสาวใช้เหล่านันอยูม่ าก ไม่ได้ยินเรือง
อะไรมาบ้างหรือ” เจียงหลีอมยิมถาม

ถงเอ๋อพลันส่ายหน้า “บ่าวได้ยินพวกนางบอกว่า ฮูหยิน


ผูเ้ ฒ่าสุขภาพไม่แข็งแรง หลายปี ก่อนจะลงจากเตียงก็ยงั
ลําบาก ท่านหมอบอกว่าต้องนอนพักรักษาตัว” พูดมา
ถึงตรงนีก็ถอนหายใจกล่าว “คงเป็ นเพราะฮูหยินผูเ้ ฒ่า
ไม่อาจได้รบั ความกระทบกระเทือนจิตใจ” พลันนึกอะไร

10
บางอย่างขึนมาได้ “เห็นว่านายท่านสามทีอยูข่ า้ งนอกก็
กําลังเร่งเดินทางกลับเมืองเซียงหยาง คิดว่าอีกไม่กีวันก็
คงจะมาถึง”

ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่มีบตุ รชายสามคน บุตรสาวหนึงคน คนโต


คือเย่หมิงฮุย คนรองคือเย่หมิงเซียน ส่วนนายท่านสาม
เย่หมิงอวีคนนีเกิดมาพร้อมๆ กับเย่เจินเจิน เย่เจินเจิน
ประพฤติตนอยูใ่ นกรอบ แต่เย่หมิงอวีผูน้ ี ตังแต่เล็กจนโต
ก็ไม่อยูใ่ นขอบเขตสักเท่าไร หลายปี ก่อนมักทําตัวเป็ น
นักพเนจร เดินทางขึนเหนือล่องใต้ ช่วงทีอยูข่ า้ งนอกเกิด
เรืองขึนกับเขา สุดท้ายจึงตัดสินใจกลับมาสร้างกิจการ
กับครอบครัว แม้จะเรียกว่าทําการค้า แต่เย่หมิงอวีก็ยงั
ดูแลกิจการด้วยตนเอง ทุกปี เขาจะติดตามพ่อค้าเร่ออก
ทะเลไปตามเมืองต่างๆ ในดินแดนอันห่างไกล ใช้เงินซือ

11
ข้าวของแปลกๆ มาขายต่อ

บางครังก็ได้ของน่าสนใจคุณภาพไม่เลว แต่ก็มีบอ่ ยครัง


ทีขบวนสินค้าของเย่หมิงอวีนําของทีไม่ได้ราคากลับมา
ยังดีทีบ้านตระกูลเย่ทาํ การค้าหลากหลาย มีนายท่าน
ใหญ่กบั นายท่านรองดูแลกิจการของครอบครัว เย่หมิงอ
วีจึงสามารถทําอะไรได้ตามอําเภอใจ

ครังนีเป็ นเพราะฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่สขุ ภาพยําแย่ จากไปยัง


ไม่ถงึ ช่วงสินปี เย่หมิงอวีก็เดินทางกลับเซียงหยางเพือมา
เยียมไข้มารดาเสียก่อน

เนืองจากเย่เจินเจินกับเย่หมิงอวีเป็ นฝาแฝดต่างเพศที

12
คลอดออกมาพร้อมกัน ตังแต่เล็กจนโตทังสองจึงมีความ
สนิทสนมกันเป็ นพิเศษ นับแต่เจียงหลีพดู จาก้าวร้าวทํา
ร้ายจิตใจฮูหยินผูเ้ ฒ่า คนตระกูลเย่ก็เพิกเฉยต่อนาง มี
เพียงนายท่านสามผูน้ ีทียังไม่ลืมเจียงหลี จนภายหลัง
เย่หมิงฮุยสังห้ามมิให้คนในตระกูลเย่พดู ถึงนาง เย่หมิงอ
วีจึงยอมรามือ

“นายท่านสามกลับมาเซียงหยาง คงไม่ได้ตอ้ งการมาดู


อาการฮูหยินผูเ้ ฒ่าเพียงอย่างเดียวกระมัง” ไป๋ เสวียที
กําลังเช็ดโต๊ะอยูเ่ อ่ย “ได้ยินว่าช่วงนีการค้าของตระกูลเย่
มีอปุ สรรค สาวใช้ขา้ งนอกพูดกันว่านายท่านสามกลับ
มาเพือช่วยดูแลกิจการ”

“การค้ามีอปุ สรรครึ” เจียงหลีถาม “อุปสรรคอะไร”


13
ไป๋ เสวียได้แต่สา่ ยหน้า “บ่าวถามแล้ว แต่สาวใช้เหล่านัน
ก็คงไม่ทราบเช่นกัน พวกนางบอกเพียงว่าเป็ นอุปสรรค
เล็กน้อย”

เจียงหลีครุน่ คิด หากเป็ นปั ญหาเล็กน้อย เย่หมิงอวีก็คง


ไม่ตอ้ งรีบร้อนกลับมา เพียงแต่... ตอนนียังไม่อาจทําให้
คนตระกูลเย่ไว้วางใจ เจียงหลีจงึ ไม่มีทางรูไ้ ด้วา่ แท้ทีจริง
แล้วเรืองราวเป็ นมาอย่างไรกันแน่

ความจริงแล้วนางอยากจะกลับไปถงเซียง แต่อาํ เภอ


ถงเซียงนันอยูห่ า่ งจากเมืองเซียงหยาง สําหรับคนทีนี
ถงเซียงเป็ นเพียงอําเภอเล็กๆ ทียากจน จะสอบถาม

14
เกียวกับเซวียฮว๋ายหย่วนก็คงจะไม่ได้ความ

แต่วา่ ... แววตาของเจียงหลีพลันทอประกาย ยังมีอีกวิธี


หนึง อยูท่ ีเซียงหยางก็สามารถสืบหาข่าวคราวของ
ถงเซียงได้ ทีนีนอกจากตระกูลเย่แล้ว ใช่วา่ นางจะไม่มี
คนรูจ้ กั

อย่างน้อย นางก็เคยใช้ชีวิตเป็ นเซวียฟั งเฟยมาหลายปี

เจียงหลีลกุ ขึนยืน “อยูแ่ ต่ในห้องจนเบือจะแย่ พวกเรา


ออกไปเดินเล่นกันดีกว่า”

ถงเอ๋อมองนายหญิงหน้าตาตืน “ไปไหนหรือเจ้าคะ”
15
“ก็เดินเทียวไปเรือยเปื อย” เจียงหลียิมบางๆ “อุดอูอ้ ยูแ่ ต่
ในบ้านตระกูลเย่ทงวั
ั น ในเมือไม่มีอะไรให้ทาํ มิสอู้ อกไป
เดินเทียวยังดีกว่า เข้าเมืองตาหลิวก็ตอ้ งหลิวตาตาม
พวกเราออกไปสํารวจกันหน่อยว่าประเพณีของเซียง
หยางเหมือนหรือแตกต่างจากเยียนจิงอย่างไร”

ถงเอ๋อกับไป๋ เสวียผงกศีรษะสนับสนุน ถงเอ๋อหัวเราะร่า


“แบบนีก็ดีเลยเจ้าค่ะ พวกเราพอมีเงินเก็บอยูบ่ า้ ง คุณ
หนูจะได้เลือกของทีถูกใจ หรือซืออะไรทีหาไม่ได้ในเมือง
เยียนจิง”

เจียงหลียิมรับ

16
บทที 101 ไม่รบกวนพีสาวจะดีกว่า...

เก็บข้าวของเรียบร้อย ขณะทีกําลังเตรียมตัวจะออกไป
ข้างนอก ระหว่างทางก็พบกับเย่เจียเอ๋อและนางจัวซือ
เข้าพอดี

ครันทังสองเห็นพวกนางก็ตะลึงงัน นางจัวซือรูส้ กึ เหมือน


วางมือวางไม้ไม่ถกู ไปชัวครู ่ ได้แต่มองเจียงหลี พร้อม
รอยยิมแล้วกล่าวว่า “หลีเอ๋อ จะไปไหนกันรึ”

“อยูแ่ ต่ในบ้านจนรูส้ กึ อึดอัด เลยอยากจะไปเดินเทียวสัก


หน่อยเจ้าค่ะ” เจียงหลียิมพลางตอบคําถาม

1
“นีเจ้า... คิดจะออกไปเทียวตามลําพังรึ” อีกฝ่ าย
ถามอย่างลังเล

“เจ้าค่ะ” เจียงหลียิมกริมขยายความ “ข้ามาเยือนเมือง


เซียงหยางเป็ นครังแรก อยากดูวา่ แตกต่างจากเยียน
จิงอย่างไร”

นางจัวซือพลันหน้าแดงขึนมา ให้คณ
ุ หนูจากเยียน
จิงอย่างเจียงหลีไปเดินเทียวในเมืองเซียงหยางทีไม่คนุ้
เคยด้วยตัวเอง เป็ นการกระทําทีไม่สมควรอย่างยิง แต่
ว่าอีกสักครูน่ างต้องช่วยนางกวนซือตรวจบัญชีแล้ว ทํา
ให้ไม่อาจปลีกตัวไปกับเจียงหลีได้

2
เย่เจียเอ๋อทียืนฟั งนางจัวซือกับเจียงหลีคยุ กันอยูข่ า้ งๆ
พลันเอ่ยเสียงเบา “ไม่เป็ นไร ข้าเองก็อยากจะไปทีลีเจิง
ถาง กําลังคิดจะออกจากบ้านอยูเ่ หมือนกัน เช่นนันไป
พร้อมกับน้องสาวก็ได้”

เจียงหลียิมพลางปฏิเสธ “ไม่รบกวนพีสาวจะดีกว่า...”

เย่เจียเอ๋อกล่าวอย่างไว้ไมตรี “จะเรียกว่ารบกวนได้อย่าง
ไร ไปทางเดียวกันพอดี ลีเจิงถางเป็ นกิจการของตระกู
ลเย่ ข้าเลยจะไปดูสกั หน่อย หากน้องสาวไม่รงั เกียจก็
เชิญไปเลือกชมแพรพรรณ หากมีชินไหนทีถูกใจ ข้าจะ
มอบให้”

3
พูดถึงขนาดนี หากเจียงหลียงั คงปฏิเสธก็ดจู ะไม่รกั ษา
นําใจ จึงได้แต่กล่าวว่า “ในเมือเป็ นเช่นนี ข้าก็ขอไปกับ
ท่านด้วยคน”

เย่เจียเอ๋อพลันยิมรืน

นางจัวซือยืนมองพวกเขาทังสองคนเดินออกจากประตู
จวนไปอย่างโล่งใจ

เย่เจียเอ๋อมีบคุ ลิกลักษณะของลูกหลานเศรษฐี นางเป็ น


มิตรกับเจียงหลีมาก ระหว่างทางไปลีเจิงถาง ทังสองคน
ก็สนิทสนมกันยิงขึน ไม่รูว้ า่ เดินอยูน่ านแค่ไหน ในทีสุดเย่

4
เจียเอ๋อก็หยุดฝี เท้าแล้วส่งสัญญาณให้เจียงหลี “ดูสิ นัน
ก็คือลีเจิงถาง ร้านของตระกูลเย่เรา”

ไม่ไกลนัก มีอาคารมุงกระเบืองสีแดงตังตระหง่านอย่าง
งดงาม ท่ามกลางตัวเมืองอันคึกคัก อาคารนีตังอยูบ่ น
พืนทีกว่าสิบหมู่ ดูโอ่อา่ ยิง

“สินค้าจําพวกสิงทอของตระกูลเย่ทงหมดผลิ
ั ตขึนจากที
นี ร้านเสือผ้าในเมืองเซียงหยางจะตัดเย็บได้ก็ตอ้ งมาเอา
ผ้าจากลีเจิงถาง ทีผลิตออกมาแล้วมีชือเสียงกว่าใครก็
คือผ้าหอมโบราณ หากน้องสาวชอบก็เข้าไปเลือกได้
เลย” เย่เจียเอ๋อกล่าว

5
เจียงหลีพยักหน้ารับ

ตระกูลเย่รารวยขึ
ํ นได้เพราะอาศัยการค้าจําพวกสิงทอ
ชือเสียงโด่งดังไปไกลในเรืองของแพรพรรณ ผ้าหอม
โบราณทีเย่เจียเอ๋อกล่าว เป็ นผ้าทีบรรดาคุณหนูและฮูห
ยินทังหลายในเมืองเยียนจิงนิยมกันเป็ นอย่างมาก

แม้เย่เจียเอ๋อจะดูเรียบง่าย แต่เมือได้เอ่ยถึงสินค้าของ
ตระกูล นําเสียงก็ยงั แสดงความภาคภูมิใจออกมาอย่าง
ไม่รูต้ วั

ใช่วา่ เจียงหลีเพิงจะเคยเห็นลีเจิงถางเป็ นครังแรก เมือ


ก่อนตอนทีนางกับเซวียเจามาเทียวเล่นในเมืองเซียง

6
หยาง ก็เคยผ่านลีเจิงถางมาบ้าง เพียงแต่นางและน้อง
ชายไม่ใช่คนทีสามารถสวมใส่อาภรณ์ทีตัดเย็บจากผ้า
หอมโบราณ จึงได้แต่ยืนดูจากด้านนอก แต่คราวนีกลับ
ได้เป็ นแขกผูม้ ีเกียรติ ถูกเชิญเข้าไปเลือกชมด้วยตนเอง
โลกมนุษย์เรานีช่างไม่มีอะไรแน่นอนเสียเลย

เย่เจียเอ๋อยิมพลางเอ่ยชวน “พวกเราเข้าไปกันเถอะ”

ก้าวเท้าเข้าลีเจิงถางไปพร้อมกับเย่เจียเอ๋อ ครันพนักงาน
ต้อนรับเห็นเย่เจียเอ๋อก็รบี รุดหน้ามาต้อนรับด้วยความ
แจ่มใส “คุณหนูเจียเอ๋อ”

เย่เจียเอ๋อหันหน้ามาทางเจียงหลี “น้องสาว เจ้าลองดู

7
ก่อนว่ามีอะไรถูกใจหรือไม่”

ลูกจ้างและเถ้าแก่รา้ นได้ยินเย่เจียเอ๋อกล่าวเช่นนัน ก็พา


กันมองเจียงหลี เรืองทีคุณหนูรองเจียงมาถึงเมืองเซียง
หยาง ผูค้ นในร้านต่างรับรู ้ เรืองอือฉาวทําร้ายมารดา
สังหารน้องชายอันโด่งดังของเจียงหลี แม้แต่คนเซียง
หยางก็ยงั ได้ยินผ่านหู จึงพากันคาดเดาเกียวกับเจียงหลี
ผูใ้ จดําอํามหิตไปต่างๆ นานา และสตรีทีเย่เจียเอ๋อเรียก
ว่า ‘น้องสาว’ นางนี ก็คงจะเป็ นคุณหนูรองเจียงทีเมือ
เร็วๆ นีเพิงมาเยือนตระกูลเย่

ทว่าหญิงสาวทียืนอยูข่ า้ งกายเย่เจียเอ๋อนางนีมิได้ดเู ลว
ร้ายเลยสักนิด ดวงตาและคิวคางล้วนแต่งดงามน่ารัก
รอยยิมแจ่มกระจ่างสดใส ไม่เห็นเค้าลางของความโหด
8
ร้ายอย่างทีเคยจินตนาการ

เจียงหลีเดินอ้อมตูต้ รงเข้าไป เถ้าแก่รา้ นทีมาก


ประสบการณ์รบี สังให้ลกู จ้างนําผ้าชินใหม่มานําเสนอให้
กับเจียงหลี แล้วต้อนรับขับสูพ้ ร้อมรอยยิม “คุณหนู
เหล่านีล้วนเป็ นแพรพรรณทีเพิงทอออกมา เนือผ้าและ
ลวดลายกําลังได้รบั ความนิยม”

“ดูเหมือนของเหล่านีจะไม่ใช่ผา้ หอมโบราณสินะ” เจียง


หลีเอียงคอถาม

เย่เจียเอ๋อตกตะลึง มองเถ้าแก่รา้ นแล้วรีบกล่าวว่า “เถ้า


แก่เฉียน เหตุใดถึงไม่นาํ ผ้าหอมโบราณมาให้นอ้ งสาวดู

9
เล่า”

สีหน้าของเถ้าแก่เฉียนเปลียนสีในฉับพลัน “คุณหนูเจีย
เอ๋อ ใช่วา่ ข้าน้อยจะจงใจไม่นาํ ออกมาให้คณ
ุ หนูได้ชม
เพียงแต่...” พูดยังไม่ทนั จบคํา จู่ๆ สายตาก็จบั จ้องอยูท่ ี
จุดหนึงของร้าน ครันเจียงหลีมองตามสายตาของเขา ก็
เห็นว่าเป็ นชายแปลกหน้าวัยกลางคนคูห่ นึง

“ท่านอาจวง ท่านอาจ้าว เหตุใดจึงมาเยือนทีนีได้” เย่เจีย


เอ๋อเอ่ยถาม

คนทังสองมองหญิงสาว “เจียเอ๋อ บิดากับท่านลุงใหญ่


ของเจ้าไม่อยูร่ ”ึ

10
“ไม่อยูเ่ จ้าค่ะ มีเรืองอะไรหรือไม่” เย่เจียเอ๋อถามอย่าง
ระมัดระวัง

คุณหนูตระกูลเย่เริมศึกษาการค้าขายมาตังแต่เด็ก ส่วน
เย่ซือเจียเลือกเดินสูเ่ ส้นทางสายขุนนาง กิจการใหญ่โต
ของทีบ้าน จะให้คนรุน่ เก่ามาดูแลจัดการไปตลอดชีวิต
คงจะไม่ได้ รุน่ หลานของตระกูลเย่ก็เหลือเพียงเย่หยู
ฟงกับเย่เจียเอ๋อ ได้ยินสาวใช้ตระกูลเย่เคยบอกว่า เย่หยู
ฟงเป็ นชายหนุ่มทีมุทะลุดดุ นั ไม่เหมือนเย่เจียเอ๋อทีดูแล
จัดการเรืองต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม การค้าของลีเจิง
ถางในตอนนี ตระกูลเย่ก็เริมให้เย่เจียเอ๋อเข้ามามีสว่ น
ร่วมบ้างแล้ว

11
คนทังสองสบตากันชัวครู ่ แล้วมองมาทีเจียเอ๋อ “มี
ปั ญหาจริงๆ ในเมือบิดาของเจ้าไม่อยู่ พวกข้าขอคุยกับ
เจ้าก่อนก็แล้วกัน”

พวกเขาพูดคุยติดพันอยูก่ บั เย่เจียเอ๋อจึงมิได้ให้ความ
สนใจเจียงหลี คิดว่านางเป็ นสหายสนิทของเย่เจียเอ๋อคน
หนึง ไม่ใช่คนสลักสําคัญแต่อย่างใด ทว่าเจียงหลีกลับ
นึกสงสัยในตัวพวกเขาทังสอง อากัปกิรยิ าและถ้อยคําที
เลือกใช้เหมือนจะไม่ใช่เรืองเล็กน้อย คงมีเรืองเดือดร้อน
อะไรบางอย่าง

เย่เจียเอ๋อผงกศีรษะรับ “ย่อมได้” จบคําก็หนั มายิมอย่าง


รูส้ กึ ผิดให้กบั เจียงหลี “น้องสาว ข้ามีธุระต้องคุยกับท่าน
อาจวงและท่านอาจ้าว อย่างไรเจ้าก็รอข้าสักครูเ่ ถอะ
12
นะ...”

“ไม่เป็ นไร” เจียงหลีเอ่ยแทรกด้วยท่าทางสุภาพอ่อนโยน


“ท่านไปคุยธุระกับผูอ้ าวุโสทังสองเถิด เดิมทีวนั นีข้าก็แค่
อยากเดินเทียว ได้มาเห็นลีเจิงถางก็รูส้ กึ ตืนตาตืนใจแล้ว
ข้ากับถงเอ๋อและไป๋ เสวียจะไปเดินเล่นแถวๆ นีสักครู ่ ไม่
ไปไหนไกลหรอก”

“เจ้าจะไปคนเดียวรึ...”

“ไม่เป็ นไร” เจียงหลีกล่าว “มีทหารยืนยามอยูร่ อบเมือง


ไม่มีอะไรต้องกลัว”

13
เห็นเจียงหลียืนกรานเช่นนี เย่เจียเอ๋อก็ไม่พดู อะไรต่อ อีก
ทังการพูดคุยในครังนีก็ยงั ไม่รูว้ า่ จะต้องใช้เวลานาน
เท่าไร ให้เจียงหลีรออยูข่ า้ งนอกคนเดียวคงน่าเบือไม่
น้อย เย่เจียเอ๋อพยักหน้าให้กบั เจียงหลี แล้วเดินเข้าไป
ด้านในเพือคุยธุระกับชายทังสอง เจียงหลีเห็นเช่นนันจึง
อําลาเถ้าแก่เฉียน ก่อนจะพาถงเอ๋อกับไป๋ เสวียออก
จากร้านไป

ระหว่างทาง ถงเอ๋อพลันเอ่ยถาม “เหตุใดคุณหนูถงึ ไม่รอ


ก่อนล่ะเจ้าคะ ยังไม่ทนั ได้เห็นผ้าหอมโบราณเลย”

เจียงหลีพดู จาหยอกเย้า “อยูท่ ีเมืองเยียนจิง ใช่วา่ เจ้าจะ


ไม่เคยเห็นผ้าหอมโบราณมาก่อน เหตุใดตอนนีถึงทํา
อย่างกับเพิงเห็นเป็ นครังแรกเล่า ขายหน้าจริงๆ ผ้าหอม
14
โบราณหน้าตาเป็ นอย่างไรเจ้าลืมไปหมดแล้วหรือ”

“แต่วา่ ผ้าหอมโบราณทีเยียนจิงเป็ นของเจ้าอืนนําเข้ามา


ไม่แน่วา่ ผ้าหอมโบราณของตระกูลเย่อาจแตกต่างออก
ไปก็เป็ นได้” ถงเอ๋อบ่นอย่างน้อยใจ นางดึงไป๋ เสวียไว้
แล้วกล่าวว่า “อีกอย่าง ถึงแม้บา่ วจะเคยเห็นผ้าหอม
โบราณมาแล้วก็จริง แต่ไป๋ เสวียยังไม่เคยเห็นมิใช่หรือ ใช่
ไหมไป๋ เสวีย”

ไป๋ เสวียตอบนางจริงจัง “เคยเห็นแล้ว ครังก่อนตอนที


คุณหนูเข้าวังหลวง วันต่อมาก็ได้รบั พระราชทานรางวัล
ฮูหยินผูเ้ ฒ่าส่งผ้ามาให้ตงมากมาย
ั ในจํานวนนันก็มีผา้
หอมโบราณอยูด่ ว้ ย เจ้ายังเรียกให้ขา้ ไปลูบคลําอยูเ่ ลย”

15
ถงเอ๋ออึงงันอย่างพูดอะไรไม่ออก “...”

เจียงหลียิมบางๆ “เอาน่า ข้ายังมีเรืองอืนต้องทํา สําคัญ


กว่าผ้าหอมโบราณเสียอีก”

“คุณหนู ตอนนีพวกเราจะไปทีไหนกันหรือเจ้าคะ อย่า


เดินออกไปไกลนักจะดีกว่า ท่านเพิงมาเยือนเมืองเซียง
หยางเป็ นครังแรก ประเดียวหลงทางจะลําบาก พวกเรา
ไม่ได้นงรถม้
ั าออกมาเสียด้วย”

เซียงหยางไม่เหมือนกับเยียนจิง คุณหนูตระกูลใหญ่ใน
เมืองเยียนจิง ยามออกไปทําธุระนอกบ้านจะต้องมีรถม้า

16
เป็ นพาหนะเสมอ แต่ทีเซียงหยาง จะนังรถม้าหรือไม่ขนึ
อยูก่ บั ความต้องการส่วนบุคคล คุณหนูทงหลายเดิ
ั นเล่น
ตามท้องถนนเป็ นเรืองปกติ สามารถกล่าวได้วา่ ผูค้ นอยู่
กันอย่างเรียบง่ายและอิสระมาก

“ไม่เป็ นไร” เจียงหลีกล่าวพร้อมรอยยิม “พวกเราก็แค่


เดินเทียวไปตามถนนเส้นนี”

ถงเอ๋อไม่สงสัยอะไรอีก แต่ไป๋ เสวียกลับรูส้ กึ ว่ามี


บางอย่างผิดปกติ แม้ปากจะบอกว่าเดินเล่นไปเรือยๆ
แต่ฝีเท้าของเจียงหลีกลับดูแน่วแน่และชัดเจนนัก ราวกับ
ตัดสินใจแล้วว่าจะเดินไปทีใด

17
บทที 102 นางไปกับใคร

พักใหญ่ ในทีสุดเจียงหลีก็หยุดฝี เท้า

“คุณหนู” ถงเอ๋อคิดว่าเจียงหลีเดินจนหมดแรงจึงรีบ
เสนอว่า “เหนือยแล้วหรือเจ้าคะ ให้บา่ วพยุงไปพักก่อนดี
หรือไม่”

“ไม่เป็ นไร” เจียงหลีตอบ “พวกเราเข้าไปกันเถอะ”

“เข้าไปหรือเจ้าคะ” ถงเอ๋อมองตามด้วยความแปลกใจ
ด้านหน้าดูเหมือนจะเป็ นเพียงประตูสวนของชาวบ้าน
1
ธรรมดาๆ ครอบครัวหนึง ไม่มีอะไรเป็ นพิเศษ ถงเอ๋อ
พลันเอ่ยถาม “...คุณหนู นีเป็ นทีดินของคนอืนกระมัง
พวกเราจะเข้าไปได้อย่างไร คุณหนูรูจ้ กั คนในบ้านหรือ
เจ้าคะ” นางครุน่ คิดด้วยความสงสัย คุณหนูจะไปรูจ้ กั
กับชาวเซียงหยางได้อย่างไร นอกจากตระกูลเย่แล้ว
เจียงหลีก็ไม่เคยมีความเกียวข้องใดๆ กับเมืองเซียง
หยาง

“ไม่ใช่บา้ นใคร” คําตอบของเจียงหลีผิดไปจากความ


คาดหมาย “นีคือประตูหลังของหอซีฮวั ”

“หอซี... หอซีฮวั หรือเจ้าคะ” ถงเอ๋อถามอึกๆ อักๆ “คือที


ไหนกัน เป็ นเหลาสุราหรือ”

2
เจียงหลียิมพลางตอบว่า “เป็ นหอนางโลมทีมีชือเสียง
ของเมืองเซียงหยาง”

ถงเอ๋อกับไป๋ เสวียตกตะลึงเป็ นไก่ตาแตก

“นายท่าน คุณหนูรองเจียงไปทีหอซีฮวั ขอรับ”

พอคําพูดนีถูกเอ่ยออกไป ชายหนุ่มรูปงามในอาภรณ์สี
แดงก็มีปฏิกิรยิ าตอบสนองอย่างฉับพลัน เขาสะบัดมือ
คลีพัดเสียงดัง “ฟึ บ” ปั ดนําชาทีลูจ่ ีพน่ ออกมากลับไป
ด้วยแววตาเดียดฉันท์

3
ลูจ่ ีทีน่าสงสาร สําลักนําลายตัวเองแทบตาย แล้วยังโดน
จีเหิงปั ดนําชากระเด็นกลับมาเต็มหน้า กระทังเปี ยกไป
ครึงตัว ช่างไม่เห็นอกเห็นใจกันบ้าง

ทว่าในตอนนีลูจ่ ีไม่มีเวลาจะไยดีเนือตัวทีเลอะเทอะของ
ตัวเอง แต่รบี ถามซักไซ้เหวินจี “ทีเจ้าพูดมาเป็ นความ
จริงหรือ นางไปทีหอซีฮวั รึ”

“แน่เสียยิงกว่าแน่” เหวินจีกล่าวยืนยัน “แล้วคุณหนูรอง


เจียงยังเดินเข้าทางประตูหลังของหอซีฮวั ”

“ประตูดา้ นหลังกับด้านหน้ามีอะไรต่างกันเล่า” ลูจ่ ียงั ไม่


เข้าใจ

4
“หอซีฮวั เป็ นหอนางโลมขึนชือทีสุดของเมืองเซียงหยาง
บรรดาแขกทังหลายทีมาใช้บริการล้วนแต่เป็ นผูด้ ีสงู ศักดิ
ของเมืองเซียงหยาง แขกสูงศักดิมักจะเดินเข้าทางประตู
หน้า ส่วนทีมาตามหาครอบครัวถึงจะเดินเข้าทางประตู
ด้านหลัง”

ในทีสุดลูจ่ ีพลันกระจ่างแจ้ง ทีแท้ก็เป็ นเช่นนี พูดง่ายๆ ก็


คือ พวกบุรุษจะเข้าทางประตูหน้า พวกสตรีทีมาตาม
สามีกลับบ้านจะเข้าทางประตูดา้ นหลัง ทังนีเพือเป็ นการ
ไว้หน้าสามี จะว่าไปหอซีฮวั นีก็เข้าที มิน่าถึงได้รบั ความ
สนใจจากบุรุษในเมืองเซียงหยาง

“แต่นางรูไ้ ด้อย่างไรว่าจะต้องเข้าทางประตูดา้ นหลัง” ลูจ่ ี


5
ถาม “คนตระกูลเย่บอกกับนางรึ ตระกูลเย่เป็ นพวกใจซือ
มือสะอาด ไม่เทียวหอนางโลมมิใช่หรือ ยิงไปกว่านัน
นางเป็ นถึงคุณหนูผสู้ งู ศักดิ แล้วจะบอกว่าตนอยากไป
หอนางโลมได้อย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับคน
ตระกูลเย่ยงั ไม่แน่นแฟ้นขนาดนันมิใช่หรือ”

ลูจ่ ีงงเป็ นไก่ตาแตก อย่างไรก็ไม่อาจทําความเข้าใจได้


ซึงก็ไม่แปลก ใครจะไปคิดว่าสิงแรกทีบุตรสาวท่านมหา
อํามาตย์ทาํ หลังจากมาถึงเมืองเซียงหยางก็คือไปเยือน
หอนางโลม แล้วยังรูธ้ รรมเนียมปฏิบตั ิอีกว่าต้องเข้าทาง
ประตูดา้ นหลัง อย่างไรก็คงนึกไม่ถงึ

จีเหิงมิได้สนใจลูจ่ ี แต่ถามเพียงว่า “นางไปกับใคร”

6
“มีแค่คณ
ุ หนูรองเจียงกับสาวใช้ทงสองของนาง
ั โดยไม่มี
แม้คนนําทางขอรับ”

จีเหิงถามซักไซ้ “ถ้าเช่นนัน ตามความเห็นของเจ้า นาง


ตังใจไปทีนัน หรือว่าไม่มีเจตนา”

“เรียนนายท่าน บ่าวคิดว่านางตังใจไปทีนันด้วยตัวเอง
ขอรับ” เหวินจีลังเลอยูค่ รูห่ นึง แล้วจึงตอบไปตามความ
รูส้ กึ ของตนเอง “ดูเหมือนคุณหนูรองจะคุน้ เคยเส้นทาง
ในเมืองเซียงหยางเป็ นอย่างดี ระยะทางจากลีเจิงถางถึง
หอซีฮวั นันไม่ใช่ใกล้ๆ ทว่านางก็ยงั หาพบ นอกจากนี
ตลอดทางยังไม่มีจดุ มุง่ หมายอืนใด เพียงตรงไปทีหอซี

7
ฮัวเท่านัน”

“นี...” ลูจ่ ีพยายามจะหาคําอธิบายทีเหมาะสมให้กบั


เจียงหลี “คุณหนูรองเจียงมีความจําเป็ นเลิศมาโดย
ตลอด ตอนทีสอบศิลปะทังหกแขนง วิชาการเขียนและ
มารยาทพิธีการ คะแนนสอบของนางล้วนมาเป็ นอันดับ
หนึง นางใช้เวลาเรียนรูเ้ พียงไม่นานหลังจากกลับเข้า
เมืองเยียนจิง ไม่แน่วา่ คุณหนูรองอาจมีความสามารถใน
การจดจําก็เป็ นได้”

“ไม่ใช่แบบนัน” เหวินจีปฏิเสธความคิดของเขา “ต่อให้


นางมีความสามารถในการจดจํา จากเยียนจิงถึงเซียง
หยาง มาเยือนสถานทีแปลกใหม่เป็ นครังแรกย่อมต้อง
ระมัดระวังตัวอยูบ่ า้ ง แต่คณ
ุ หนูรองไม่ได้เป็ นเช่นนัน ดู
8
เหมือนนางจะผ่อนคลายอย่างยิง”

“นางรูแ้ ม้กระทังธรรมเนียมการเข้าทางประตูดา้ นหลัง


หอซีฮวั จะประมาทนางไม่ได้” จีเหิงยิมบางๆ “เจียงหลี
คิดหาวิธีกลับเมืองเซียงหยางมาโดยตลอด บางทีอาจจะ
เพือสิงนีก็เป็ นได้... เหวินจี” ชายหนุ่มเอ่ยปากอย่างสุขมุ
เยือกเย็น “สังคนเฝ้าเจียงหลีไว้อย่าให้คลาดสายตา สืบ
ดูวา่ นางไปทําอะไรทีหอซีฮวั กันแน่ และการไปเยือนครัง
นีนางพบกับใครบ้าง”

“ข้าอยากรูว้ า่ คุณหนูรองเจียงคนนีจะมีอะไรมาทําให้
พวกเราตืนเต้นกันอีก” เขากล่าวพร้อมรอยยิม

9
เจียงหลีกบั ถงเอ๋อและไป๋ เสวียเดินเข้าไปในหอซีฮวั

เพิงจะเดินผ่านประตูหอนางโลมได้ ก็มีหญิงสาวนาง
หนึงกุลีกจุ อออกมาต้อนรับด้วยใบหน้ายิมแย้ม “คุณหนู
ต้องการหาคนหรือ”

จะว่าไปแล้ว เจ้าของหอซีฮวั นับว่าเป็ นคนมีหวั คิด บุรุษที


เข้าทางประตูหน้าจะพบกับสตรีทียัวเย้านับหมืนพันรูป
แบบ อาภรณ์หลากสีสนั ตระการตา ทว่าหญิงสาวทีมา
รอต้อนรับอยูท่ างประตูดา้ นหลัง กลับแต่งกายสุภาพ
เรียบร้อย ท่าทางราวกับกําลังประกอบ ‘สัมมาชีพ’ อยู่

นีก็เป็ นเรืองธรรมดา บุรุษทีเข้าทางประตูหน้า มาเพือหา

10
ความสุขสําราญ ย่อมต้องแต่งตัวยัวยวนให้สดุ ความ
สามารถ ส่วนคนทีอยูท่ างประตูดา้ นหลังต้องต้อนรับสตรี
ทีมาตามจับชู้ หากแต่งกายเปิ ดเผยเกินไปจะยิงทําให้
ภรรยาทังหลายมีโทสะหนักขึน

ถงเอ๋อเบิกตากว้าง เห็นสตรีนางนีมิได้ดเู ย้ายวนเหมือน


หญิงสาวทัวไปในหอนางโลมก็เกิดความสงสัย หรือว่า
เมือครูท่ ีเจียงหลีบอกว่าทีนีคือหอนางโลมจะเป็ นเรืองล้อ
เล่น ความจริงก็แค่เหลาสุราเท่านัน

ขณะทีถงเอ๋อกําลังพินิจพิจารณาหญิงสาวนางนี อีกฝ่ าย
ก็กาํ ลังมองประเมินพวกนางอยูเ่ ช่นกัน แค่แวบเดียวก็รู ้
ว่าเจียงหลีเป็ นเจ้านาย เพียงแต่ไม่เข้าใจว่า เหตุใดสตรีที
ยังมิได้ออกเรือนอย่างนางถึงมาตามหาคนทีนี หรือว่าจะ
11
มาตามหาว่าทีเจ้าบ่าวของตน

เจียงหลียิมบางๆ “ข้าต้องการพบแม่นางฉงจือ”

หญิงต้อนรับชะงักไปเล็กน้อย ใบหน้ายิมแย้มฉายแวว
เกรงอกเกรงใจ “เรียนคุณหนู หญิงงามประจําหอซีฮวั ไม่
รับแขกทีเป็ นสตรี”

นางเห็นเจียงหลีตอ้ งการพบฉงจือก็เข้าใจไปว่า เจียงหลี


มาเอาเรืองฉงจือเพราะต้องการตามหาว่าทีสามี เพือ
ป้องกันเหตุวนุ่ วาย เลยพูดออกไปเช่นนัน

เจียงหลียิมบางๆ พลางล้วงตัวแลกเงินออกมาจากแขน
12
เสือ ส่งให้ถงเอ๋อนําไปยัดใส่มือของอีกฝ่ ายแล้วกล่าวว่า
“วางใจเถิด ข้าไม่ได้มาเพือหาเรือง แค่มีบางอย่างอยาก
ถามแม่นางฉงจือสักหน่อย ไม่ทาํ ให้เจ้าเดือดร้อนแน่ แม่
นางโปรดอํานวยความสะดวกด้วย”

หญิงสาวผูน้ นมองตั
ั วเลขบนตัวแลกเงิน หัวใจพลันเต้น
โครมครามอย่างอดไม่ได้ ต่อให้ยืนต้อนรับทีประตูดา้ น
หน้า บรรดาแขกสูงศักดิส่วนใหญ่ก็ยงั ไม่มือหนักเหมือน
กับคุณหนูผนู้ ี คิดพลางพินิจมองเจียงหลีอีกครัง... คิว
โก่ง ตาโต วาจาสุภาพอ่อนหวาน ในแววตาไม่มีรอ่ งรอย
เหยียดหยามใดๆ

นางรูส้ กึ สงสัยนัก อาชีพอย่างนางไร้ซงศั


ึ กดิศรี ต้องคอย
รับหน้าบรรดาสตรีทีมาตาม ‘ราวี’ ได้ยินแต่คาํ พูดจาไม่
13
น่าฟั งอยูเ่ ป็ นประจํา จนลืมไปนานแล้วว่าศักดิศรีหน้าตา
เป็ นอย่างไร แต่คณ
ุ หนูตระกูลใหญ่ผนู้ ีกลับปฏิบตั ิตอ่
นางราวกับคนธรรมดา เดิมทีหญิงผูน้ นคิ
ั ดจะปฏิเสธ แต่
เพราะเห็นแก่ความมือหนักของเจียงหลีจงึ พูดอะไรไม่
ออก ได้แต่หวั เราะพลางกล่าวว่า “คุณหนูโปรดรอสักครู ่
ผูน้ อ้ ยจะไปดูวา่ ตอนนีฉงจือมีแขกหรือไม่ ถ้าหากว่า...”

“ไม่มีปัญหา” เจียงหลียิมรับ “หากมีแขก ข้าจะรอนางอยู่


ทีนี เอาไว้นางว่างข้าค่อยเข้าไป”

หญิงสาวผูน้ นตกตะลึ
ั ง ในใจคิดว่าคุณหนูทา่ นนีไม่
เหมือนกับคนอืนๆ ก็ไม่รอช้า รีบไปยกนําชามาบริการ
เจียงหลี ก่อนจะไปติดต่อคนทีอยูด่ า้ นใน

14
หลังจากหญิงผูน้ นจากไป
ั ถงเอ๋อก็เอ่ยถาม “คุณหนู แม่
นางฉงจือคือใครหรือเจ้าคะ นางเป็ น... เป็ น...” จะอย่าง
ไร ถงเอ๋อก็พดู คําว่า ‘หญิงนางโลม’ ไม่ออก เจียงหลีเป็ น
ถึงบุตรสาวของมหาอํามาตย์ จะให้ไปยืนข้างๆ หญิงนาง
โลมได้อย่างไร หากใครรูเ้ ข้า จะเอาไปพูดกันสนุกปาก
แค่ไหน

เจียงหลีพลันตอบรับ “ใช่แล้ว”

ถงเอ๋อ “หือ”

แม้จะตกใจและงุนงงนัก แต่ถงเอ๋อก็ไม่กล้าถามซักไซ้อีก

15
ช่างเถิด ใครใช้ให้เจียงหลีเป็ นคุณหนูของนางเล่า ชาตินี
ทังชาติ ต่อให้บกุ นําลุยไฟก็ตอ้ งทํา

ไม่นานนัก หญิงสาวทีรับเงินจากเจียงหลีผนู้ นก็


ั กลับออก
มา นางยิมให้เจียงหลีและกล่าวว่า “คุณหนู แม่นาง
ฉงจือกําลังว่างอยู่ ท่านจะเข้าไปพบตอนนีเลยหรือไม่”

เจียงหลียิมบางๆ “วิเศษ”

เส้นทางทีหญิงผูน้ นเดิ
ั นนําเจียงหลีไปเป็ นคนละส่วนกับ
ทางเดินแขก ตลอดทางจึงไม่ปรากฏภาพทีระคายสาย
ตา สิงนีทําให้ถงเอ๋อรูส้ กึ โล่งใจเป็ นอย่างมาก

16
เดินอ้อมระเบียงทีทอดยาวขึนไปยังตัวอาคารอยูพ่ กั หนึง
หญิงผูน้ นก็
ั หยุดเดินแล้วกล่าวพร้อมรอยยิม “นีก็คือห้อง
ของแม่นางฉงจือ”

นางยืนอยูห่ น้าห้อง

เจียงหลีหยุดฝี เท้า

รอให้หญิงผูน้ นจากไปเจี
ั ยงหลีจงึ ออกคําสัง “ถงเอ๋อ ไป๋
เสวีย พวกเจ้ารอข้าอยูท่ ีนี” จบคําก็ผลักประตูเข้าไป แล้ว
ปิ ดประตูลงกลอน

17
บทที 103 นีเจ้าพูดเรืองอะไร...

หน้าโต๊ะเครืองแป้งคือแผ่นหลังอรชร ชุดสีนาเงิ
ํ นเนือผ้า
โปร่งบางแทบจะหลุดลงไปกองอยูท่ ีเอว เผยให้เห็นผิว
พรรณขาวนวลเนียน แผ่นหลังงดงามรับกับเงาร่างของ
หญิงสาวตรงหน้า

“แม่นางฉงจือ” เจียงหลีเอ่ยเรียกเสียงเบา

เจ้าของแผ่นหลังนันค่อยๆ หันกลับมา

ใบหน้าของนางมีขนาดประมาณหนึงฝ่ ามือ คิวโก่ง


1
นัยน์ตาเรียวสวย ทําให้รูปโฉมยิงคมคาย รูปคางของนาง
ค่อนข้างหนา ดูเป็ นคนซือตรง ทังยังให้ความรูส้ กึ เย้า
ยวนเป็ นพิเศษ นางคงรูต้ วั ว่ามีรมิ ฝี ปากทีสวยได้รูป จึง
แต่งแต้มด้วยชาดสีแดงสดทีช่วยขับเน้นความงาม
เหมือนนางเพิงจะปล่อยผมให้ยาวสยายลงมา เรือนผมที
ทิงตัวอยูบ่ นแผ่นหลังจึงดูยงุ่ เหยิงเล็กน้อย ให้ความรูส้ กึ
สวยแปลกตา

หญิงคนนีก็คือแม่นางฉงจือผูม้ ีชือเสียงของหอซีฮวั

พูดด้วยความสัตย์จริง หากกล่าวถึงหน้าตาแล้วฉงจือไม่
ถือว่างามเด่น ยังดูดอ้ ยกว่าเจียงอวีเอ๋อเสียด้วยซํา แต่
ความเป็ นธรรมชาติในตัวของนางกลับทําให้ผคู้ นลุม่ หลง
จนลืมไม่ลง
2
ฉงจือพินิจมองเจียงหลีอย่างถีถ้วน ผ่านไปครูห่ นึงจึง
ถามกลัวหัวเราะ “คุณหนูอยากดืมชาสักถ้วยหรือไม่”

เจียงหลียิมบางๆ กล่าวว่า “ไม่เป็ นไร ข้ามาหาแม่นาง


ฉงจือ เพราะมีเรืองอยากจะถาม”

“แต่ขา้ ไม่รูจ้ กั เจ้า” ฉงจือยิมละไม “หรือว่าข้ารูจ้ กั กับชาย


ทีเจ้าชอบพออยู”่

“มิได้เป็ นเช่นนัน” เจียงหลีนงลงบนเก้


ั าอี เผชิญหน้า
ฉงจือทีกําลังมองมาอย่างท้าทาย ก่อนจะส่งยิมให้นาง
พลางกล่าวเสียงเรียบเรือย “แต่ขา้ รูจ้ กั กับคนทีเจ้าชอบ”

3
ฉงจือป้องปากถาม “นีเจ้าพูดเรืองอะไร...”

“เซวียเจา” ครันเจียงหลีเปรยสองคํานีออกมา รอยยิมบน


ใบหน้าฉงจือก็คอ่ ยๆ เจือนลง

ในทีสุดหญิงสาวก็หยุดรักษาจริตอันเย้ายวนแล้วจ้อง
มองนัยน์ตาของเจียงหลี แม้จะปิ ดบังเป็ นอย่างดี แต่ก็
เก็บงําความรูส้ กึ สับสนไม่อยู่

“เจ้าเป็ นใครกันแน่” หลังจากผ่านไปพักใหญ่ ฉงจือจึง


เอ่ยปากถาม

4
“ข้าเป็ นสหายเก่าของเซวียเจา” เจียงหลีหลับตาลง

“เหตุใดเจ้าถึงรูว้ า่ ข้ารูจ้ กั กับเซวียเจา” ฉงจือถาม

“เซวียเจาเคยพูดถึงเจ้าให้ขา้ ฟั ง” เจียงหลีกล่าว “ก็เลย


จําได้”

“เคยพูดถึงข้า...” สีหน้าของฉงจือฉายแววงุนงงสงสัย

เจียงหลีจอ้ งมองหญิงสาวตรงหน้า แล้วได้ขอ้ สรุปว่า


ฉงจือยังคงมีใจให้กบั เซวียเจา

ตอนนันเซวียเจากับสหายร่วมชันเรียนวางเดิมพัน โดย
5
การแอบไปดืมสุราทีหอซีฮวั ลับหลังเซวียฮว๋ายหย่วน แม้
ว่าสุราทีดืมจะเป็ นเหล้าดอกไม้ แต่เซวียเจาไม่คอ่ ยคุน้
เคยกับบรรยากาศเช่นนี จึงหาข้ออ้างปลีกตัวออกมา
ระหว่างทางบังเอิญเห็นแขกใช้กาํ ลังบังคับฉงจืออยู่

เซวียเจามีนิสยั ชอบช่วยเหลือผูท้ ีอ่อนแอกว่า จึงหยุดเพือ


ซักถามถึงทีมาทีไป ฉงจือร้องห่มร้องไห้เล่าให้เซวียเจา
ฟั งอย่างละลําละลักอธิบายว่า ตนเองเป็ นคนดีทีถูก
บังคับให้หลงผิด นางไม่เต็มใจแต่ถกู บีบให้เดินบนเส้น
ทางนี เซวียเจาจึงกําราบแขกผูน้ นั แล้วถามหาวิธีไถ่ตวั
ฉงจือตอบตามตรงว่าต้องใช้เงินจํานวนมาก นันทําให้เซ
วียเจาจนปั ญญา

เขามิได้รารวยเงิ
ํ นทอง ตอนนันจึงกล่าวกับฉงจือว่า ขอ
6
เพียงนางยินยอม เขาสามารถพาฉงจือออกจากหอซีฮวั
ได้ แต่ตอ่ มาถึงได้รูว้ า่ ฉงจือเพียงต้องการสะบัดแขกคน
นันออกไป จึงใช้เซวียเจาเป็ นโล่กาํ บัง ฉงจือไม่เคยคิดจะ
หนีออกไปจากหอซีฮวั

เดิมทีเซวียเจาสูอ้ ตุ ส่าห์วางแผนว่าจะช่วยฉงจือหนีออก
มาอย่างไร แล้วยังขอให้เจียงหลีช่วยเขาคิดหาวิธี แต่เมือ
ฉงจือเห็นว่าเซวียเจาจะพานางหนีจริงๆ กลับรูส้ กึ ขบขัน
ก่อนจะสารภาพความจริงทังหมด ครันได้ฟังเซวียเจาก็
รูส้ กึ ว่าตนเองโดนหลอก เขาจึงผลุนผลันออกมาด้วย
โทสะ แล้วสัญญากับตัวเองว่าจะไม่มีวนั เชือคําพูดของ
สตรีในหอนางโลมอีก

เห็นชายหนุ่มอย่างเซวียเจาถูกหญิงสาวหลอกจนเดือด
7
ดาล เจียงหลีเองก็ทนไม่ได้ จึงไปทีหอซีฮวั เพือดูหน้า
ฉงจือสักครัง ครันรูว้ า่ เซวียฟั งเฟยคือพีสาวของเซวียเจา
ฉงจือก็ระมัดระวังตัวมากขึน คําพูดคําจาเต็มไปด้วย
ความห่วงใยในตัวเซวียเจา แล้วยังขอให้เซวียฟั งเฟยช่วย
ขอโทษเซวียเจาแทนนาง ในตอนนันเซวียฟั งเฟยดูออก
ว่าฉงจือคงจะชอบเซวียเจาเข้าแล้ว ทว่าเซวียเจากับ
ฉงจือนันไม่อาจเดินร่วมทาง นางจึงไม่ได้บอกเรืองนีให้
น้องชายทราบ

นับจากวันนันก็ไม่ได้ไปมาหาสูก่ บั ฉงจืออีกเลย

“ไม่นกึ เลยว่าเซวียเจาจะเคยพูดถึงข้าต่อหน้าเจ้า” ฉงจือ


กล่าวยิมๆ “อย่างไรเสียข้าก็เป็ นหญิงขายตัวอยูใ่ นหอ
นางโลม ชายทีเคร่งครัดในขนบธรรมเนียมอย่างเขา ช่าง
8
ไม่กลัวว่าชือเสียงของตัวเองจะแปดเปื อนเอาเสียเลย
เขาเล่าเรืองของข้าให้เจ้าฟั ง แสดงว่าคงจะสนิทสนมกัน
เป็ นอย่างมาก”

ในถ้อยคํายังแฝงการถามหยังเชิง คงจะเข้าใจว่าความ
สัมพันธ์ระหว่างเจียงหลีกบั เซวียเจานันไม่ธรรมดา เจียง
หลีสง่ ยิมให้ “ข้าเป็ นเพือนรักกับพีสาวของเซวียเจา เรือง
พวกนีความจริงแล้วเขาไม่ได้บอกกับข้า แต่เป็ นพีสาว
ของเขาต่างหาก”

สายตาของฉงจืออ่อนโยนลงในฉับพลัน นางยิมรืนแล้ว
เอ่ยรับ “ทีแท้ก็เป็ นเช่นนี”

9
“ข้าได้มาเยือนทีเมืองนีก็เลยลองมาพบเจ้า ลังเลอยูว่ า่
เจ้าอาจจะไปจากหอซีฮวั แล้ว ไม่นกึ ว่าจะยังอยู”่ เจียง
หลีกล่าว

“ไม่อยูท่ ีหอซีฮวั แล้วจะให้ขา้ ไปอยูท่ ีใด” ฉงจือเอ่ยกลัว


หัวเราะ

เจียงหลีนิงเงียบไปชัวครู ่ แล้วจึงเอ่ยถาม “ตอนนัน เซวี


ยเจาอยากพาเจ้าออกจากหอซีฮวั เหตุใดเจ้าถึงได้
ปฏิเสธเขา”

ฉงจือมองเจียงหลีอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะตอบช้าๆ “คุณ


หนู เจ้าไม่เหมือนกับข้า พ่อแม่ตายจากไปตังแต่ขา้ ยัง

10
เด็ก ในทีสุดก็เลยถูกขายให้มาอยูท่ ีหอซีฮวั เรียนพิณ
เดินหมาก เขียนอักษร และวาดภาพเพือเอาใจแขก นี
เป็ นความสามารถเดียวทีจะหาเลียงปากท้อง ข้าไม่รูส้ กึ
ว่าสิงเหล่านีเป็ นเรืองทีน่าอับอาย ดีกว่าถูกขายไปเป็ น
สาวใช้ในตระกูลใหญ่โต ไม่รูว้ า่ วันใดจะตกเป็ นเมียของ
นายจ้าง ได้รบั ตําแหน่งอนุภรรยา แต่ตอ้ งดํารงชีวิตอย่าง
สงบเสงียมเจียมตัว ประจบคนของบ้านใหญ่ ข้ารูส้ กึ พอ
ใจกับชีวิตในตอนนี... อย่างน้อยเป็ นหญิงงามอยูท่ ีนีก็ไม่
ต้องระวังตัวว่าจะถูกคนลอบวางยาพิษ”

“เจ้าอาจจะมองว่าข้าไร้ศกั ดิศรี หากข้าเกิดมาในตระกูล


ผูด้ ี ย่อมสามารถเชิดหน้าชูคอได้เหมือนกับเจ้า ทว่าจะ
ให้คนยากไร้พดู ถึงศักดิศรี ฟั งแล้วน่าขันนัก” นางหัวเราะ
แล้วกล่าวว่า “เซวียเจาเป็ นคนดีและซือสัตย์ เพียงแต่

11
ความซือสัตย์ของเขา บางครังมันช่างไร้เดียงสาเกินไป”

ฉงจือพลันนึกอะไรขึนมาได้ นางกล่าวกลัวหัวเราะ “วัน


นัน ตอนทีเขาจะมาพาตัวข้าออกไป ข้ายังเคยถามเขาว่า
หากข้าตามเขาออกไปจากหอซีฮวั แล้วอนาคตจะทํา
อย่างไร เขามองข้าอย่างตืนตระหนก ก่อนจะตอบว่า
‘ต่อไปเจ้าก็ตอ้ งหางานบริสทุ ธิทํา แล้วดําเนินชีวิตต่อ’ ”
ฉงจือกล่าวเสริม “เจ้าดูสิ เขาไม่เคยคิดจะเก็บข้าไว้ขา้ ง
กาย ผูช้ ายคนอืนๆ ไถ่ตวั นางโลมเพราะเหตุผลเช่นนี
หรือ”

“เซวียเจาไม่เคยมีใจให้ขา้ ทีเขาทําเรืองพวกนันก็เพราะ
ความชอบธรรม ข้าไม่สามารถยกการกระทํานีมาเป็ น
เครืองบ่งชีว่าเขาชอบข้า และก็ไม่อาจนํามาสรุปว่าเขาดี
12
ต่อข้าเป็ นพิเศษ คนทีไม่มีใจ ข้าไม่สามารถหนีไปกับเขา
ได้ เหตุใดข้าต้องออกจากหอซีฮวั เล่า อย่างน้อยอยูท่ ีนี
ข้ามีเงินใช้ไม่ขาดมือ แล้วยังมีบรุ ุษทีพร้อมจะเทิดทูนข้า”

ฉงจือทอดถอนใจ ดวงตาของนางฉายแววทุกข์โศกออก
มา พลันหยุดคิดทบทวนแล้วกล่าวว่า “คงจะเป็ นเพราะ
คุณธรรมอันไร้เดียงสาของเขาทีเอาชนะใจข้า... ข้าอยูท่ ี
หอซีฮวั ได้พบเจอบุรุษมากหน้าหลายตา คนเราต่างมี
ความคิดเป็ นของตัวเอง มนุษย์ทกุ คนล้วนเห็นแก่ตวั ผูท้ ี
ยึดถือคุณธรรมแบบเขานันมีอยูเ่ พียงน้อยนิด ชาตินีทัง
ชาติไม่รูว้ า่ จะยังหาได้อีกหรือไม่ ละทิงประโยชน์สว่ นตัว
เพียงเพือช่วยเหลือข้า... น่าเสียดายจริงๆ” นางหัวเราะ
อย่างเย้ยหยัน “หลังจากนัน เขาก็ไม่ได้กลับมาทีนี ข้า
เองก็ไม่ได้พบกับเขาอีกเลย”

13
เจียงหลีฟังความทังหมดของฉงจือ แม้บางถ้อยคํานาง
จะไม่เห็นด้วย แต่สาํ หรับบางเรืองนางก็ตอ้ งชืนชมฉงจือ
ทีประเมินสถานการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เจียงหลีข่ม
ความรูส้ กึ ปั นป่ วนในใจแล้วกล่าวว่า “แม่นางฉงจือ ใช่วา่
เซวียเจาไม่อยากมา แต่เป็ นเพราะเขามาไม่ได้”

“อย่างนันรึ” ฉงจือหัวเราะเบาๆ “เหตุใดถึงมาไม่ได้ หรือ


ว่าเขาแต่งงานแล้ว”

“เขาตาย” เจียงหลีกล่าว

ฉงจือตกตะลึง เงียบงันอยูน่ านกว่าจะเข้าใจความหมาย

14
ทีเจียงหลีกล่าว พลันรําพึงออกมาด้วยความตกใจ “เป็ น
ไปไม่ได้”

“เขาตายแล้วจริงๆ จบชีวิตลงทีเมืองเยียนจิง เขาถูกโจร


ป่ าฆ่าตายแล้วทิงศพลงแม่นา”

จบคําฉงจือก็รบี เอามือปิ ดปาก เจียงหลีมองเห็นชัดเจน


ว่านัยน์ตาของนางมีหยาดนําตาเอ่อคลอ หญิงสาวส่าย
หน้าพลางเอ่ยพึมพํา “เป็ นไปได้อย่างไร...”

“เจ้ารูจ้ กั แค่ชือของเซวียเจา แต่ไม่รูจ้ กั พืนเพของเขา เซวี


ยเจาเป็ นคนอําเภอถงเซียง เป็ นบุตรชายของเซวี
ยฮว๋ายหย่วน พีสาวของเขาชือว่าเซวียฟั งเฟยแต่งงาน

15
แล้วย้ายไปอยูท่ ีเมืองเยียนจิง เมือปี กลายเซวียฟั งเฟยซึง
อยูท่ ีเมืองเยียนจิงแท้งลูก เซวียเจาจึงรีบเดินทางเข้า
เมืองเยียนจิงเพือมาเยียมนาง ทว่ากลับถูกโจรป่ าสังหาร
ต่อมาเซวียฟั งเฟยก็ลม้ ป่ วย ส่วนเซวียฮว๋ายหย่วนนัน
ตายจากไป” เจียงหลีเอ่ยด้วยอาการสงบนิง นางมอง
ฉงจือแล้วกล่าวเสริม “ภายในระยะเวลาแค่หนึงปี คน
ตระกูลเซวียสามชีวิต ต้องมาตายจากไปทังหมด เจ้าไม่
รูส้ กึ แปลกใจบ้างหรือ”

16
บทที 104 ทําไมข้าต้องเชือเจ้า

ฉงจือพลันเอ่ยถาม “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

“เพราะความผูกพันกับเซวียฟั งเฟย ทําให้ขา้ คิดจะสืบหา


ความจริงเกียวกับเรืองนี ข้าสามารถยืนยันได้ การตาย
ของเซวียเจามีเงือนงํา แต่ตอนนีทุกอย่างยังไม่ชดั เจน ข้า
มาเซียงหยางเพือช่วยเซวียฟั งเฟยสืบหาความจริงให้
กระจ่าง แม่นางฉงจือ” เจียงหลีมองอีกฝ่ าย “ข้ารูว้ า่ เจ้า
เป็ นคนมีความสามารถ บรรดาเศรษฐี เหล่าผูด้ ีตระกูล
ใหญ่ในเมืองเซียงหยางต่างมาเยือนหอซีฮวั ทุกวัน ไม่วา่
เรืองใดหากเจ้าต้องการสืบความย่อมง่ายดายเหมือน
พลิกฝ่ ามือ”
1
“เจ้าอยากให้ขา้ ช่วยสืบเรืองอะไร” ฉงจือถามอย่างรีบ
ร้อน

“บ้านตระกูลเซวียทีอําเภอถงเซียง” เจียงหลีกล่าว
“ความจริง การตายของเซวียเจากับเซวียฟั งเฟยนันข้ารู ้
แน่ชดั เพราะเห็นด้วยตา...แต่เซวียฮว๋ายหย่วนอยูท่ ีถงเซี
ยง ข้าจึงไม่อาจรูไ้ ด้ ข้าอยากให้เจ้าช่วยข้าสืบข่าวว่าเมือ
ครึงปี ทีแล้วเขาตายเพราะสาเหตุใด มีใครเป็ นธุระจัด
งานศพ แล้วตอนนีศพถูกฝังอยูท่ ีไหน”

“ทําไมข้าต้องเชือเจ้า” ฉงจือถาม

2
แม้ข่าวการตายของเซวียเจาจะทําให้ฉงจือเศร้าใจนัก
แต่นางก็ยงั มีสติ

“เซวียเจาเป็ นคนมีนาใจ
ํ ข้าคิดว่าคนทีเขาผูกมิตรด้วย
ย่อมเป็ นคนทีมีนาใจเช่
ํ นกัน ข้ามาก็เพือคนตระกูลเซวี
ย หวังว่าเจ้าจะให้ความช่วยเหลือ” เจียงหลีกล่าว “ข้าไม่
มีสงใดเป็
ิ นข้อแลกเปลียน เพราะเจ้าเองก็ไม่ได้ขาด
แคลนอะไร ดังนัน ข้าจึงมาเพือขอร้อง”

ฉงจือมองอีกฝ่ ายนิง ท่าทีของเจียงหลีดจู ริงจังและจริงใจ


ถึงขันยอมลดตัวลงมา

“ทีเมืองเยียนจิง เซวียเจาไม่ใช่คนมีชือเสียง แต่เซวียฟั ง

3
เฟยนันผูค้ นรูจ้ กั กันทัว” เจียงหลีกล่าว “คนทีมาหอซีฮวั
อาจเคยไปเยือนเยียนจิง เจ้าสามารถสอบถามพวกเขา
หากรูเ้ รืองราวของเซวียฟั งเฟย ก็จะรูว้ า่ ข้าไม่ได้กล่าว
เท็จ”

เจียงหลีคิดทบทวนอยูห่ ลายตลบก็พบว่า ฉงจือเหมาะ


สมทีสุดในการสืบข่าวทางถงเซียง ประการแรก ฉงจือ
เป็ นหญิงงามชือดังประจําหอซีฮวั แขกแต่ละคนหากไม่
ใช่เศรษฐี ก็เป็ นผูด้ ีมีสกุล พบเจอคนหลากหลายรูปแบบ
จะสืบเสาะอะไรสักเรืองย่อมง่ายดายเหมือนปอกกล้วย
อีกทังยังสามารถล้วงข้อมูลทีผูค้ นทัวไปไม่รู ้

ประการทีสอง ฉงจือคนนีไม่ยอมถูกบังคับ ดูได้จากคํา


พูดของนางทีพอใจจะเป็ นหญิงนางโลมอยูใ่ นหอซีฮวั ทีนี
4
นางไม่ขาดแคลนเงินทอง ไม่ตอ้ งกลัวตาย ไม่ปรารถนา
จะป่ ายปี นให้สถานะของตัวเองสูงขึน แล้วยังไม่มีญาติ
สนิทมิตรสหาย หากมีคนรูว้ า่ ตนมาหาฉงจือแล้วอยาก
สอบถามเอาความจากปากของนาง ย่อมไม่อาจทําได้
โดยง่าย

ประการสุดท้าย คงไม่มีใครคาดคิดว่าเจียงหลีผเู้ ป็ นถึง


บุตรีของมหาอํามาตย์ จะคบค้าสมาคมกับหญิงนางโลม
อย่างฉงจือ ซ่อนตัวอยูใ่ นทีมืด อย่างไรเสียก็เป็ นการ
ระวังตัวเอาไว้ก่อน

ฉงจือทีกัดฟั นขบคิดอยูน่ านสองนาน กล่าวว่า “ข้ารับ


ปากก็ได้ แต่เจ้าต้องแสดงให้ขา้ เห็นก่อนว่าเซวียเจาตาย
ไปแล้วจริงๆ”
5
“สุสานของเซวียเจาอยูใ่ นเมืองเยียนจิง” เจียงหลีกล่าว
เสียงเบา “แต่เจ้าวางใจเถิด ต้องมีสกั วันทีพีน้องสองคน
นันจะได้กลับบ้านเกิด ข้าจะทําให้พวกเขาได้อยูก่ นั
พร้อมหน้า” เจียงหลีกล่าวเสริม “ถึงเวลานัน เจ้าก็จะได้
พบ”

ขณะทีรอเจียงหลีออกมาจากห้อง ถงเอ๋อกับไป๋ เสวียก็


ร้อนรนจนแทบทนไม่ไหว ครันเห็นคุณหนูปลอดภัยกลับ
มาก็โล่งใจ

เจียงหลีพลันกล่าวว่า “พวกเราไปกันเถิด”

6
ถงเอ๋อมัวแต่เก็บรวบรวมสติ ได้ยินเช่นนันก็รบี เดินตาม
เจียงหลีไปพร้อมกับไป๋ เสวีย

ฝี เท้าของเจียงหลีไม่ถงึ กับรวดเร็วและผ่อนคลาย แต่ก็ไม่


หนักอึงเหมือนขามา

ใครต่อใครต่างรูว้ า่ หญิงนางโลมไม่มีหวั ใจ แม้หญิงนาง


โลมจะไร้ความจริงใจ แต่เจียงหลีก็รูว้ า่ หญิงประเภทนี
หากรักใครขึนมา ก็จะยิงลุม่ หลงกว่าคนทัวไป
หมากกระดานนีนางจะต้องเป็ นฝ่ ายชนะ ฉงจือยังมีใจให้
กับเซวียเจา การตายของเขาย่อมกระทบกระเทือนจิตใจ
ของนาง หากฉงจือยอมให้ความช่วยเหลือ ก็จะเป็ นเรือง
ดีอย่างทีสุด

7
ขอเพียงทราบข่าวคราวทีเกิดขึนทางถงเซียง รับรูเ้ รือง
ราวทีเกิดขึนกับเซวียฮว๋ายหย่วน การมาในครังนีของ
นางก็ไม่นบั ว่าสูญเปล่า รูส้ ถานการณ์แล้วจึงค่อยหาวิธี
รับมือ จะหาเหตุกลับไปถงเซียงก็ง่ายดายขึนมาก

คนทังสามเดินกลับทางเก่า เดิมทีถงเอ๋อยังคิดจะหาคน
มาช่วยนําทางเพราะกลัวหลง แต่เมือเห็นเจียงหลีไม่มีทา่
ทีลงั เล ราวกับคุน้ เคยเส้นทางเป็ นอย่างดี ก็ได้แต่สาวเท้า
ติดตาม คิดเสียว่าคุณหนูของนางความจําเป็ นเลิศ เดิน
ผ่านเพียงครังเดียวก็สามารถจดจําเส้นทางได้

เพิงจะเดินมาถึงประตูดา้ นหลัง กลับไม่เจอหญิงสาวที


ออกมาให้การต้อนรับ แต่บงั เอิญพบกับชายคนหนึง
8
เนืองจากคนทีเข้าออกทางประตูดา้ นหลังมักเป็ นสตรีที
มาตามหาสามี ส่วนบุรุษทีมาหาความสําราญจะเข้า
ออกทางประตูหน้า เจียงหลีจงึ อดมองชายคนนันอีกครัง
ไม่ได้

เขาเป็ นชายวัยกลางคนทีดูกาํ ยําลําสัน การแต่งกายดู


แปลกตา ราวกับไม่ใช่คนเมืองเซียงหยาง คล้ายกําลัง
สวมชุดเกราะ บนใบหน้าของชายผูน้ ีมีรอยแผลเป็ นยาว
ประมาณหนึงชุ่น จนดูเหมือนโจรผูร้ า้ ย

ชายคนนันคงคิดไม่ถงึ ว่าจู่ๆ จะมีหญิงสาวเดินออกมา


เขาเองก็อดมองเจียงหลีอีกครังไม่ได้

9
ขณะทีทังสองสบตากันโดยบังเอิญ พลันบังเกิดรูส้ กึ
แปลกประหลาดราวกับเป็ นความคุน้ เคย แต่เจียงหลีแน่
ใจว่าไม่เคยพบชายคนนีมาก่อน ครุน่ คิดอยูน่ าน กระทัง
อีกฝ่ ายเดินผ่านนางเข้าไปด้านใน

เจียงหลีหยุดฝี เท้าแล้วหันกลับไปมองเขาอีกครัง แต่เงา


ร่างของชายคนนันก็ลบั หายไปจากสายตาแล้ว อาจเป็ น
แขกทีมาหาความสําราญ

“คุณหนู มีอะไรผิดปกติหรือเจ้าคะ” ไป๋ เสวียเห็นเจียงหลี


หันไปมองชายคนนัน จึงเอ่ยปากถาม

“ไม่มีอะไร” เจียงหลีครุน่ คิดเท่าไรก็นกึ ไม่ออกว่าเคยเห็น

10
คนผูน้ ีทีไหน จึงได้แต่พดู ตัดบท “ไปกันเถอะ”

จบคําก็เดินนําสาวใช้ทงสองออกจากหอซี
ั ฮวั ไป โดยไม่
หันกลับมามอง

เจียงหลีเพิงก้าวเท้าออกจากหอซีฮวั เหวินจีก็รบี กลับมา


รายงานจีเหิงทีจวนรับรอง

“คุณหนูรองเจียงเข้าไปในหอซีฮวั เพือพบกับแม่นาง
ฉงจือ สาวงามประจําหอซีฮวั ขอรับ” เหวินจีกล่าว

“ฉงจือ...” ลูจ่ ีพมึ พํา “นางตังใจไปหาฉงจือรึ”

11
“ไม่ผิดแน่ ฉงจือเป็ นสาวงามอันดับหนึงของหอซีฮวั หน้า
ห้องของนางมีขา้ รับใช้ยืนยามอยู่ คนของเราไม่อาจสืบ
ทราบว่าพวกนางสนทนากันเรืองอะไร รูเ้ พียงแต่วา่ คุณ
หนูรองเจียงอยูใ่ นห้องของฉงจือเป็ นเวลาราวหนึงก้าน
ธูป มิใช่การพบกันเพียงชัวครู ่ หลังจากทีคุณหนูรองกลับ
ไป ฉงจือก็ดเู หมือนจะอารมณ์แปรปรวน เอาแต่เก็บตัว
อยูใ่ นห้องเพียงลําพัง วันนีนางปิ ดประตูไม่รบั แขก”

จีเหิงขมวดคิวมุน่ “เช่นนันหรอกรึ”

“นายท่าน ให้คนไปหาแม่นางฉงจือผูน้ ีไม่ดีกว่าหรือ” ลูจ่ ี


เสนอ “จะได้สืบว่าแท้จริงแล้วคุณหนูรองเจียงพูดคุย
อะไรกับนาง”

12
“ไม่มีทางสําเร็จ” จีเหิงยิมบางๆ

“เพราะเหตุใด” ลูจ่ ีพลันเอ่ยถาม

เหวินจีเปิ ดฉากอธิบาย “แม่นางฉงจือผูน้ ีเป็ นคนซือ ลูก


ไม้แบบไหนก็ใช้กบั นางไม่ได้ ตังแต่เล็กจนโตก็ถกู แม่เล้า
ของหอซีฮวั อบรมปลูกฝัง นางจึงใจแข็งโดยอุปนิสยั แขก
หลายต่อหลายคนอยากช่วยไถ่ตวั นาง แม้แต่พวกคุณ
ชายตระกูลใหญ่ทงหลายยั
ั งปรารถนาจะแต่งนางเข้า
จวน แต่พวกเขากลับถูกฉงจือปฏิเสธ สาวงามคนอืนๆ
ขายตัวเพือเก็บเงินไว้เริมต้นชีวิตใหม่ แต่ฉงจือไม่ขดั สน
ทังยังไม่อยากเลิกเป็ นหญิงนางโลม ศักดิศรีเงินทองรวม
ถึงเกียรติยศต่างๆ ไม่อาจทําให้นางลุม่ หลง ฐานะภรรยา
13
เอกยังไม่อาจเอาชนะใจนางได้”

ลูจ่ ีถงึ กับอึงงัน

“อีกอย่าง ฉงจือไปมาหาสูก่ บั คนมีหน้ามีตามากมายใน


เมืองเซียงหยาง พวกเขาเหล่านีพร้อมจะปกป้องนาง ก็
เหมือนกับจิงหงเซียนจือทีเมืองเยียนจิงในอดีต ดังนันจึง
ไม่อาจใช้ไม้แข็งได้ ด้วยนิสยั ของฉงจือ ต่อให้ใช้ไม้แข็งก็
คงไม่สาํ เร็จ”

จีเหิงยกพัดขึนโบกปั ดอย่างเนิบช้า “เห็นหรือยังว่า คุณ


หนูรองเจียงเตรียมตัวมาดีแค่ไหน นางตังใจมาหามีดทีไร้
ปลอก”

14
“หากเป็ นเช่นนี ความคิดความอ่านของคุณหนูรองก็ลกึ
ลํายิงกว่าทีพวกข้าน้อยคาดเดา” ลูจ่ ีเอ่ยเสียงตํา

เจียงหลีเลือกใช้ฉงจือ ไม่วา่ พวกนางคิดจะทําการใด


ฉงจือก็ยงั คงเป็ นก้อนหินทีไม่มีวนั ถูกกะเทาะ เจียงหลี
วางแผนป้องกันคนทีจะมาล้วงความลับของนางตังแต่
ต้น ถึงได้เลือกใช้ฉงจือ

“สังคนให้จบั ตาดูฉงจือไว้” จีเหิงยิมกริม “ดูสวิ า่ นางจะ


ทําอะไรต่อไป”

เหวินจีรับคําสัง

15
ลูจ่ ีมองจีเหิงอีกครัง แล้วเอ่ยว่า “จะว่าไป คนทีตระกูลหลี
จัดหาก็มาถึงแล้ว ตอนนีคนของจวนเสนาบดีผนู้ นตั
ั ดสิน
ใจแล้วว่าจะเป็ นปฏิปักษ์กบั ตระกูลเย่ เป็ นเพราะเย่ซือ
เจียไม่ยอมเดินตามเส้นทางทีเขาวางไว้ ไม่รูว้ า่ การขัด
แข้งขัดขาตระกูลเย่คราวนี ผลลัพธ์ออกมาจะเป็ นอย่าง
ไร”

“เหตุใดจะไม่สาํ เร็จเล่า” จีเหิงย้อนถาม

ลูจ่ ีลงั เลอยูส่ กั ครู ่ ก่อนจะลูบเคราแพะของเขาแล้วกล่าว


ว่า “แผนการก่อนหน้านีของนายท่าน เป็ นเพราะถูกคุณ
หนูรองเจียงทําจนเสียเรือง ตอนนีคุณหนูรองก็อยูท่ ีเซียง
หยาง ข้าน้อยรูส้ กึ ว่าคุณหนูรองเจียงผูน้ ีไม่ธรรมดา ดู
16
อย่างเรืองทีคุณหนูรองไปพบฉงจือ จะเป็ นไปได้หรือไม่ที
นางเกียวพันกับเรืองนี หากคุณหนูรองเจียงก่อเรืองจน
แผนการของนายท่านเสียหายอีกครัง ย่อมไม่ดีแน่”

กีครังแล้วทีเจียงหลีทาํ แผนของจีเหิงพังไม่เป็ นท่า ทุกๆ


เหตุการณ์ดเู หมือนเจียงหลีไม่ได้มีเจตนา ลูจ่ ีรูส้ กึ ว่าคุณ
หนูรองเจียงมีพืนชะตาทีไม่สมพงศ์กบั จีเหิง ไม่วา่ คิดจะ
ทําอะไร ก็คอยแต่หาเรืองเดือดร้อนให้นายท่านเสมอ พบ
เจียงหลีทีไหน ทีนันก็จะมีแต่ ‘เหตุบงั เอิญ’ อยูร่ าไป

17
บทที 105 ไม่ไปแล้ว

“หากนางมีปัญญาก่อเรืองก็ลองดู” จีเหิงยิมจนมองไม่
เห็นลูกนัยน์ตาขณะเอ่ยสําทับ “ข้ารออยู”่

หลังจากทีเจียงหลี ถงเอ๋อและไป๋ เสวียกลับจากหอซีฮวั ก็


เป็ นเวลาสายมากแล้ว

พวกนางจึงไม่ได้เดินเทียว แต่ตรงดิงกลับบ้านตระกูลเย่
เด็กรับใช้ในบ้านตระกูลเย่ไม่มีใครกล้ามาวุน่ วายกับ
เจียงหลี นางจึงไปไหนมาไหนได้สะดวกนัก

วันนีเจียงหลีไปพบฉงจือ ก็ถือว่าทําการลุลว่ งไปแล้ว

1
เรืองหนึง ในใจจึงรูส้ กึ ผ่อนคลายลงไปมาก ตกเย็น ด้วย
เหนือยล้ามาทังวันเลยรูส้ กึ ง่วงนอนตังแต่หวั คํา จึงเลือก
ทีจะพักผ่อนอยูบ่ นเตียง

หลับฝันดีทงคื
ั น

นับแต่นนเป็
ั นต้นมา จู่ๆ คนตระกูลเย่ก็ดจู ะมีเรืองยุง่
วุน่ วายมากขึน ในวันอืนๆ หลังจากนัน เจียงหลีเดินวน
เวียนอยูใ่ นบ้านตระกูลเย่กลับเห็นแต่พอ่ บ้านและสาวใช้
อย่าว่าแต่เย่หมิงเซียนกับเย่หมิงฮุยเลย แม้กระทังนางจัว
ซือกับนางกวนซือก็ไม่เห็นหน้า เย่หยูฟงกับเย่เจียเอ๋อเอง
ก็ไม่รูว้ า่ ไปอยูก่ นั เสียทีไหน บางครัง แม้แต่เวลารับ
ประทานอาหารก็ยงั ไม่กลับ พ่อบ้านก็เลยสังคนทําครัว
เล็กๆ ให้กบั เจียงหลีเสียเลย แต่ละวัน เวลาเจียงหลี
2
อยากกินอะไรก็ไม่จาํ เป็ นต้องไปทีห้องโถงด้านหน้า แต่
ทําอาหารกินเองในเรือนของตน

ใช่วา่ คนตระกูลเย่จะไม่อยากต้อนรับเจียงหลี เพียงแต่


พวกเขายุง่ อยูก่ บั งานจนไม่มีเวลากินข้าวในจวน หากไม่
อยูใ่ นเหตุการณ์ทีลีเจิงถางนางก็คงสงสัยว่าคฤหาสน์
หลังใหญ่โตขนาดนี เหตุใดถึงไม่มีเจ้าของอยูส่ กั คน

เจียงหลีรบั รูอ้ ยูบ่ า้ งว่าปั ญหาของตระกูลเย่นนไม่


ั ใช่
ปั ญหาเล็กๆ แต่เมือไม่พบเจอผูใ้ ด ต่อให้นางอยากสอบ
ถามก็จนปั ญญา ให้ถงเอ๋อไปสืบข่าว สาวใช้ของตระกู
ลเย่ก็ไม่รูส้ ถานการณ์ ทําให้เจียงหลีไม่อาจช่วยอะไรได้

3
วันนีอากาศปลอดโปร่ง

ปลายฤดูใบไม้รว่ งกําลังล่วงเข้าสูต่ น้ ฤดูหนาว เซียง


หยางอยูท่ างตอนใต้ อากาศจึงอบอุน่ กว่าเมืองเยียนจิง
ฤดูหนาวเลยมาถึงช้า เจียงหลีสวมเสือคลุมไหล่ยืนอยูใ่ น
สวน มองถงเอ๋อกับไป๋ เสวียถักไหมพรม

สาวใช้ทงสองอยู
ั ใ่ นบ้านตระกูลเย่ก็เริมเกียจคร้าน
เพราะอย่างไรเสียก็ไม่ใช่บา้ นของตน จึงไม่มีกะจิตกะใจ
จะไปดูแลต้นหมากรากไม้ บางครังแค่สละเวลาครึงวัน
ในช่วงเช้า ก็สามารถสะสางงานให้เสร็จจนไม่มีอะไรให้
ทํา เจียงหลีจงึ สอนให้พวกนางอ่านหนังสือเป็ นการฆ่า
เวลา

4
ถงเอ๋อหาวแล้วเปรยว่า “วันนีบ้านตระกูลเย่ก็ไม่มีคนอยู่
อีกเหมือนเคย”

กล่าวว่าไม่มีคนอยูก่ ็ไม่ถกู นัก เพราะบ้านตระกูลเย่มีผู้


คนอยูเ่ ป็ นจํานวนมาก เพียงแต่ทงหมดเป็
ั นแค่บา่ วไพร่
ให้ไปถามถึงสถานการณ์ในตระกูลเย่กลับไม่มีใครรู ้
ความสักคน ถงเอ๋อไม่อยากแม้แต่จะเสียเวลา

ใต้แสงตะวันอันอบอุน่ เจียงหลีพลันเอ่ยปากชักชวน
“พวกเราออกไปเดินเล่นกันดีกว่า”

พอถงเอ๋อได้ฟังก็ตืนเต้นดีใจ รีบดึงไป๋ เสวียลุกขึน

5
แล้วกล่าวว่า “ดียงนั
ิ ก คุณหนูอยากจะไปไหนหรือเจ้า
คะ”

“เดินเทียวไปเรือยเปื อย”

ทังสามเดินออกจากสวนพร้อมกัน เด็กรับใช้หน้าประตูก็
มิได้ยบั ยังพวกนาง ถามเพียงว่าต้องการคนคุม้ กันหรือ
ไม่ เจียงหลีกาํ ลัง จะปฏิเสธ ในเวลานัน พลันเห็นรถม้า
ขบวนหนึงหยุดอยูห่ น้าประตูบา้ นตระกูลเย่

ดูเหมือนจะเป็ นขบวนสินค้า เพราะแม้แต่บนหลังม้าก็ยงั


มีสมั ภาระห้อยระโยงระยาง อีกทังมีหีบไม้หนักอึงผูกไว้
บนหลังอีกด้วย

6
เจียงหลีชะงักฝี เท้าลงเล็กน้อย นีเป็ นแขกของตระกูลเย่รึ

ขบวนสินค้าจอดอยูอ่ ย่างไร้ผคู้ มุ้ กัน มีเพียงคนบังคับม้า


และเด็กรับใช้อีกหนึงคน ครันเด็กรับใช้ผนู้ นเห็
ั นเจียงหลี
ยืนอยูห่ น้าประตู ก็มองประเมินนางอย่างตกใจ แล้วก็รบี
เดินไปทีรถม้า ก่อนจะมีชายคนหนึงกระโดดลงมา

บนใบหน้าของบุรุษผูน้ ีมีรอยแผลเป็ นยาวประมาณหนึง


ชุ่น สวมอาภรณ์สีดาํ แบบนักรบ ลําตัวท่อนบนยังสวม
เกราะอยูอ่ ีกชัน มองแล้วเหมือนคนทีออกแรงอยูเ่ ป็ น
ประจํา ทว่ารองเท้าทีสวมใส่กลับทําจากหนังแกะทีเย็บ
ขอบด้วยด้ายสีทอง ดูก็รูว้ า่ เป็ นของมีราคา

7
เจียงหลีตกใจ เขาก็คือชายซึงเคยพบกับนางทีประตูดา้ น
หลังหอซีฮวั เมือไม่กีวันทีผ่านมา ตอนนันชายคนนีก็มอง
นางเช่นกัน เจียงหลีรูส้ กึ ว่าเขาช่างคุน้ ตา ทังๆ ทีเป็ นบุรุษ
แปลกหน้าคนหนึง

ไม่นกึ ว่าจะมาพบกันทีนี

พอเด็กรับใช้หน้าประตูเห็นเขาก็ลืมเรืองของเจียงหลีใน
ฉับพลัน รีบเดินออกไปต้อนรับชายผูน้ นอย่
ั างกระตือ
รือร้น “นายท่านสาม ท่านกลับมาแล้วหรือ”

นายท่านสามรึ คนผูน้ ีก็คือเย่หมิงอวี

8
เจียงหลีกระจ่างแจ้งในทันที ทีแท้ชายคนนีก็คือเย่หมิงอวี
นายท่านสามทีไม่ได้ความผูน้ นั หรือก็คือท่านลุงหมิงอวี
ทีคลานตามกันมากับมารดาของนาง มิน่านางถึงรูส้ กึ คุน้
เคยนัก แต่ก็เป็ นคนแปลกหน้าจริงๆ เจียงหลีไม่เคยพบ
กับเย่หมิงอวีมาก่อน แต่เนืองจากสายเลือดทีผูกพันกับ
เย่เจินเจิน ทําให้สมั ผัสถึงกันได้

เย่หมิงอวีหัวเราะลัน ทักทายกับเด็กรับใช้ทีหน้าประตู
ขณะนันก็หนั มามองเจียงหลี เขาเพ่งพินิจแล้วก็จาํ ได้วา่
เคยพบหน้านางทีประตูหอซีฮวั ให้รูส้ กึ สงสัยนัก จึงเอ่ย
ถามเด็กรับใช้หน้าประตูวา่ “แม่นางท่านนีคือ...”

เด็กรับใช้รูส้ กึ อึดอัดใจนัก แต่ก็ทาํ ได้เพียงตอบเสียงเบา


9
“ท่านนีก็คือญาติผหู้ ญิงทีมาจากเมืองเยียนจิง คุณหนู
รองเจียง”

เด็กรับใช้ทีกําลังขนย้ายข้าวของอยูห่ น้าประตูจวน ทํา


หีบหลุดมือในฉับพลัน เกิดเสียงตกกระทบพืนดังกึกก้อง

เย่หมิงอวีเองก็ตกใจมากเช่นกัน

คุณหนูรองเจียงก็คือบุตรีของน้องสาวฝาแฝดของเขา
เย่หมิงอวียังคงห่วงหาอาทรหลานสาวทีไม่เคยพบหน้าผู้
นี ตอนนันเย่หมิงฮุยกับเย่หมิงเซียนเป็ นคนไปรับตัวเจียง
หลี เย่หมิงอวีออกไปทําการค้าในต่างแดน นายท่าน
ใหญ่กบั นายท่านรองเย่คือผูท้ ีได้ฟังวาจาก้าวร้าวของ

10
เจียงหลีมากับหู แต่นายท่านสามเย่ไม่เคยได้ยิน ดังนัน
นายท่านสามจึงไม่ผกู ใจเจ็บเหมือนพีชายทังสอง

เขาเดินทางขึนเหนือล่องใต้ เดิมทีก็เป็ นคนเรียบง่าย ใจ


คอกว้างขวาง พูดง่ายๆ ก็คือ เป็ นคนใจนักเลง เขาคิดว่า
เป็ นเพราะเจียงหลียงั เด็ก แม้พดู จาผิดหูไปบ้างก็ไม่เห็น
เป็ นไร หากไม่ใช่เพราะฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่ตอ้ งล้มป่ วยเพราะ
เหตุนี เขาก็คงจะไปรับตัวเจียงหลีอีกครัง โดยไม่สนใจ
เสียงคัดค้านของคนในตระกูล

ต่อมาเย่หมิงอวีออกเดินเรือกลางทะเลอยูบ่ อ่ ยครัง ปี
หนึงๆ จะมีโอกาสกลับบ้านแค่หนึงหน ความคิดทีจะไป
รับตัวเจียงหลีกลับมาจึงค่อยๆ เลือนรางจางไป

11
ไม่คิดว่าเวลานีจะได้พบกับหลานสาว เย่หมิงอวีแทบไม่
อยากจะเชือสายตา นึกว่าตนเองฝันไป เจียงหลีมา
แล้วอย่างนันหรือ เหตุใดเจียงหลีจงึ มาอยูท่ ีเซียงหยางได้
นางเป็ นบุตรสาวของเจียงหยวนปั ว คุณหนูทีคลอดจาก
ภรรยาเอกของมหาอํามาตย์ เหตุใดต้องทนลําบากนังรถ
ลงเรือมาถึงเซียงหยาง แล้วนางทําอย่างไรคนตระกูลเย่
ถึงให้การต้อนรับ

ให้ตาย นีมันเรืองวุน่ วายอะไรกันแน่

เหตุใดตอนทีพีรองเขียนจดหมายมา ถึงไม่บอกกล่าว
เรืองนีสักหน่อย เขากําลังฝันไปหรือเปล่า

12
คําพูดมากมายนับหมืนนับพันติดอยูท่ ีลําคอ ไม่รูจ้ ะพูด
ออกมาอย่างไร เจียงหลีเห็นเขามีทา่ ทางเช่นนัน กลับ
หัวเราะแล้วเอ่ยว่า “ท่านคือลุงหมิงอวีสินะเจ้าคะ หลาน
ก็คือเจียงหลี”

“ท่านลุงหมิงเซียนเดินทางไปเยียนจิง เลยถือโอกาสแวะ
เยียมเยียนตระกูลเจียง หลานจึงขอติดตามเขากลับเซียง
หยาง หลานอยากมาเยียมท่านยาย” เจียงหลีกวาดตา
มองไปยังด้านหลังของเย่หมิงอวี “ท่านลุงเพิงกลับมา
ทว่าในบ้านตอนนีไม่มีใครอยู”่

“ไม่มีใครอยูก่ ็ช่างเถิด อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่สาํ คัญ”


เย่หมิงอวีโบกมือกล่าว “หลีเอ๋อ เดียวข้าเอาของไปเก็บ
13
เสียก่อน ไปพบท่านแม่แล้ว เจ้าค่อยเล่าเรืองราวต่างๆ
ให้ขา้ ฟั งว่ามีความเป็ นมาอย่างไร”

เจียงหลีองงั
ึ น เย่หมิงอวีไม่แสดงออกอย่างเกรงอกเกรง
ใจ ไม่ถือว่านางเป็ นคนนอก แต่วา่ แบบนีก็ดีแล้ว เย่หมิ
งอวีเป็ นคนไม่คิดเล็กคิดน้อยกว่าทีนางคิดไว้เสียอีก

วันนีก็ไม่ตอ้ งออกจากจวนแล้ว เจียงหลียิมบางๆ พลาง


กล่าว “ได้เจ้าค่ะ หลานจะรอท่านลุงหมิงอวีอยูท่ ีห้องโถง
ด้านหน้า แต่วา่ ...” เจียงหลียิมรืน “ถึงตอนนีหลานก็ยงั
ไม่ได้พบกับท่านยายเลยสักครัง ส่วนท่านยายก็ยงั ไม่รูว้ า่
หลานมาเยือนบ้านตระกูลเย่ ตอนทีท่านลุงได้พบกับ
ท่านยาย ได้โปรดอย่าบอกเรืองของหลาน หากท่านยาย
รูแ้ ล้วเกิดกระทบกระเทือนจิตใจจนร่างกายรับไม่ไหวคง
14
ไม่ดีแน่”

ได้ฟัง เย่หมิงอวีก็นิงอึงไปชัวขณะ เจียงหลีบอกว่านาง


มาเซียงหยางเพือเยียมคารวะท่านแม่ แต่จนถึงตอนนีก็
ยังไม่ได้พบหน้า ท่านแม่เองก็ไม่รูว้ า่ นางกลับมาแล้ว นี
มันเรืองอะไรกันแน่ พีใหญ่กบั พีรองกําลังทําอะไรอยู่

ในสมองของเย่หมิงอวีรูส้ กึ สับสนจนยากจะแยกแยะ ได้


แต่รบั คําเจียงหลี แล้วปลีกตัวไปจัดการกิจธุระ

เจียงหลีหนั หลังกลับ มุง่ หน้าไปยังห้องโถง

ถงเอ๋อพลันเอ่ยถาม “คุณหนู แบบนีพวกเราจะไม่ออกไป


15
ข้างนอกแล้วหรือเจ้าคะ”

“ไม่ไปแล้ว” เจียงหลีกล่าวพร้อมรอยยิม ทีออกไปข้าง


นอกก็เพราะอยากรูว้ า่ เกิดเรืองอะไรขึนกับตระกูลเย่ ใน
เมือนายท่านสามเย่กลับถึงบ้านแล้ว ไม่จาํ เป็ นต้องออก
ไปไหน ก็สามารถรูเ้ รืองราวจากปากของนายท่านสามได้

ประเมินสถานการณ์แล้ว นายท่านสามเย่ดจู ะเป็ นคนพูด


คุยด้วยง่าย

มาถึงห้องโถงด้านหน้า เจียงหลีก็นงอยู
ั ห่ น้าโต๊ะ ส่วนไป๋
เสวียนันไปชงชาร้อนมาหนึงกา

16
เย่หมิงอวียังมาไม่ถงึ เจียงหลีเองก็มิได้รบี ร้อน นางนังรอ
อย่างใจเย็น

17
บทที 106 เป็ นเช่นนีหรอกรึ

ไม่รูว้ า่ ผ่านไปนานเท่าใด ในทีสุดเย่หมิงอวีก็มาถึง

เขามองเจียงหลีครูห่ นึง ดวงตาทอประกาย ขณะยิม


แย้มอย่างเบิกบานพลางเอ่ยออกมา “ข้านึกว่าเจ้าจะไม่
อยูร่ อเสียแล้ว เป็ นอย่างไร คอยนานเลยสิทา่ ”

“ไม่เป็ นไรเจ้าค่ะ” เจียงหลีมีรอยยิมเช่นกัน “ยังดืมชาไม่


หมดถ้วยเสียด้วยซํา”

เย่หมิงอวีทิงตัวนังลงตรงข้ามกับเจียงหลี ก้นเพิงจะติด
1
เก้าอีก็ซกั ถามอย่างไม่รงรอ
ั “หลีเอ๋อ ข้าเพิงจะกลับมา
จากต่างแดน ไม่รูว้ า่ เกิดเรืองอะไรขึนบ้าง เหตุใดจู่ๆ เจ้า
ถึงมาทีเมืองเซียงหยางได้”

“หลานอยากเยียมคารวะท่านยาย จึงเดินทางมาพร้อม
กับท่านลุงหมิงเซียน”

“แต่วา่ ... จนถึงตอนนีเจ้าก็ยงั ไม่ได้พบกับท่านยายของ


เจ้ามิใช่หรือ” เย่หมิงอวีกล่าว

“ใช่วา่ หลานไม่อยากพบท่านยาย แต่เป็ นเพราะท่านลุง


หมิงฮุยกับท่านลุงหมิงเซียนบอกว่าท่านยายสุขภาพไม่
แข็งแรง ปุบปั บหากท่านยายได้พบหลาน อาจรูส้ กึ

2
สะเทือนใจจนส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย หลานมาถึงเซียง
หยางไม่ถงึ ครึงเดือน ยังหาโอกาสอันเหมาะสมไม่ได้”

ฟั งคําของเจียงหลี เย่หมิงอวีพลันหน้าแดงกํา เขาฟั ง


ความนัยของเจียงหลีออก เป็ นเพราะคนตระกูลเย่ขดั
ขวางไม่ให้นางเข้าพบฮูหยินผูเ้ ฒ่า

เย่หมิงอวีเอ่ยขัดอย่างเนิบช้า “เป็ นเช่นนีหรอกรึ”

เจียงหลียิมพลางกล่าวว่า “ครังนีท่านลุงหมิงอวีคงต้อง
ลําบากเสียแล้ว”

เย่หมิงอวีหัวเราะร่วน “ข้ามีอะไรให้ตอ้ งลําบากกันเล่า ก็


3
แค่ไปเทียวชมภูผาและทะเลกว้าง”

สําหรับเรือง ‘การค้าทางทะเล’ ของเย่หมิงอวี แท้จริงแล้ว


ในแต่ละปี ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกําไรมากมายนัก คนตระกู
ลเย่เองก็ไม่อยากจะไปขัดขวาง ปากบอกว่าไปทําการค้า
แต่แท้จริงแล้วก็แค่ลอ่ งทะเลชมภูเขา และเนืองจากเอา
แต่ทอ่ งโลกกว้าง ตอนนีเจียงหลีอายุสบิ ห้าปี เย่หมิงอวีที
อยูใ่ นวัยเดียวกับเย่เจินเจินก็ยงั ไม่แต่งงาน

เรืองนีแทบจะกลายเป็ นความคับข้องใจของฮูหยินผูเ้ ฒ่า


เย่ ยามทีเย่หมิงอวีกลับมาเยือนเซียงหยางในช่วง
เทศกาลจงหยวนเจียของแต่ละปี ฮูหยินผูเ้ ฒ่าก็มกั จัด
แจงคัดเลือกหญิงงามมาให้ แต่เย่หมิงอวีก็หลบฉากได้
อย่างรวดเร็ว ครันผ่านเทศกาลจงหยวนเจีย เขาก็รบี ร้อน
4
ออกเดินทาง หลบเร้นออกไปท่องแดนไกล

“แม้จะเป็ นเช่นนัน ก็ใช่วา่ ทุกคนกล้าพอทีจะออกไปเทียว


ชมภูผาทะเลกว้างเสียเมือไร” เจียงหลียิมบางๆ “ไม่ให้
ใครมามีผลต่อการตัดสินใจ ได้ทาํ ในสิงทีปรารถนา คน
เราเกิดมาครังเดียวก็ตอ้ งหาความสุขใส่ตวั มิใช่หรือ
เพียงได้เห็นภูเขาและลําธารอันโด่งดัง ความงดงามที
แตกต่างกัน ทําให้สายตาเปิ ดกว้าง รูส้ กึ เป็ นอิสระกว่า
คนทีอยูแ่ ต่ในบ้านเสียอีก”

เย่หมิงอวีได้ฟังก็องงั
ึ น ชัวพริบตา กระแสความตืนเต้นก็
แล่นเข้าสูห่ วั ใจ แทบจะยกเจียงหลีขนมาเป็
ึ นผูร้ ูใ้ จเลยที
เดียว เขาเกาหัวแกรกๆ แล้วก็คิดอะไรขึนมาได้ “ครังนีข้า
ไม่มีอะไรจะมอบให้เจ้า ขบวนสินค้าของข้านําเข้าของ
5
แปลกๆ จากทะเลอันห่างไกล” เขารูส้ กึ กระดากอายอยู่
บ้าง “แต่วา่ เจ้ามาจากเมืองเยียนจิง สิงของเหล่านีคงไม่
ถือว่ามีราคา ข้าเห็นว่าน่าสนใจจึงซือเก็บไว้ ไม่รูว้ า่ เจ้า
จะชอบหรือเปล่า”

เย่หมิงอวีจับจ่ายซือของ ก็ตอ้ งใช้ความชอบของตนใน


การตัดสินใจอยูแ่ ล้ว ต่อให้ติดตามคณะเดินเรือออก
ทะเลทําการค้า ก็เป็ นเพราะเขาทําตามใจตัวเองเท่านัน
ไม่ได้คิดหวังสร้างฐานะให้รารวย
ํ อาศัยแต่ความพอใจ
เป็ นทีตัง

เจียงหลียิมพลางกล่าวว่า “สิงทีดูน่าสนใจ ยังมีคา่ กว่า


ของราคาแพงเสียอีก”

6
“เจ้าพูดถูก” เย่หมิงอวีเห็นด้วยกับคําพูดประโยคนีของ
เจียงหลี ว่าแล้วก็ตะโกนเรียกเด็กรับใช้ขา้ งกาย “อาซุน่
ไปยกหีบมาให้ขา้ ”

อาซุน่ และอาฝู เด็กรับใช้ของเย่หมิงอวีนันเป็ นพีน้อง


ฝาแฝด หน้าตาเหมือนกันแทบจะไม่ผิดเพียน ทว่านิสยั
ใจคอกลับแตกต่างอย่างสินเชิง อาฝูดเู ฉลียวฉลาดสุขมุ
เหมือนเย่หมิงเซียน ส่วนอาซุน่ กลับกระฉับกระเฉงแต่
ขาดความรอบคอบเหมือนกับเย่หมิงอวี เขายกหีบไม้สี
แดงออกมาอย่างรวดเร็ว ในขบวนสินค้าของเย่หมิงอวีมี
หีบแบบนีอยูม่ ากมาย

เย่หมิงอวีให้อาซุน่ เปิ ดหีบ ยิมร่าพลางเอ่ยปากถามเจียง


7
หลี “หลีเอ๋อ เจ้าชอบชินไหน ลุงจะมอบให้เจ้า”

เจียงหลีกม้ ศีรษะมองหีบใบนัน

ข้าวของด้านในกระจัดกระจายจนแยกไม่ออก มีทงไข่
ั มกุ
แก้วตาแมวซึงเป็ นของลําค่า ยังมีคนั ฉ่องจากต่างแดน
กล่องเล็กๆ ทีทําจากไม้ เมือกดปุ่ มจะมีคนตัวเล็กๆ
กระโดดออกมาเต้นระบําอยูบ่ นกล่อง ดูน่าสนใจนัก มี
ของชินหนึงทีลักษณะเป็ นทรงกระบอก เจียงหลีเพิงจะ
หยิบมาดู เย่หมิงอวีก็กล่าวว่า “นีคือกระบอกร้อยพัน
ประการ ข้าจะสอนวิธี...”

เอ่ยว่า ‘วิธีใช้’ ยังไม่ทนั จบคํา เจียงหลีก็หยิบของสิงนัน

8
ขึนมาวางทาบกับดวงตาอย่างคุน้ เคย แล้วหมุนวงแหวน
ไปมา

เย่หมิงอวีอึงงัน อาซุน่ มองเจียงหลีดว้ ยความตืนเต้น แม้


แต่เย่หมิงอวีทีพบเจอสิงของต่างๆ มามากมาย ตอนได้
พบของเล่นชินนีเป็ นครังแรกก็ยงั ไม่รูจ้ กั วิธีใช้ แต่คณ
ุ หนู
ตระกูลเจียงกลับดูคนุ้ เคยนัก

“เจ้าเคยเห็นของสิงนีมาก่อนหรือ” เย่หมิงอวีถามด้วย
ความสงสัย

“ไม่เคยเจ้าค่ะ” เจียงหลียิมตอบ “หลานเคยอ่านเจอใน


หนังสือบันทึกการเดินทางเล่มหนึง กับของจริงก็เพิงจะ

9
เคยสัมผัสเป็ นครังแรก”

เย่หมิงอวีมองเจียงหลีอย่างชืนชมยิงขึน พลันรูส้ กึ ว่านาง


กับเขามีวาสนาเกียวพัน

ต่อมาเจียงหลีก็หยิบของทีมีลกั ษณะคล้ายเปลือกหอย
ด้านนอกของเปลือกหอยนีสวยงามแปลกตาราวกับขน
นกยูงทีมีสีสนั สดใส หากสังเกตให้ดี ยามต้องแสงแดด
ยังทอประกายระยับ วางเทียบกับไข่มกุ นัยน์ตาแมวก็มิ
ได้ดดู อ้ ยกว่าแม้แต่นอ้ ย

เย่หมิงอวีเห็นเจียงหลีมองเปลือกหอยในมืออย่างสนอก
สนใจก็อธิบายว่า “ของสิงนีข้าซือมาจากพ่อค้าเร่ในทะเล

10
ข้าเห็นว่าของเล่นชินนีดูสวยงามแปลกตา ก็เลยซือมา
เป็ นจํานวนมาก เก็บไว้ในหีบทีอยูใ่ นห้อง แต่หลังจาก
เอาไปฝากขาย พอคนทัวไปได้ยินว่าเป็ นเปลือกหอยก็ได้
ราคาไม่ดีนกั อีกทังหนนีข้ายังเสียเงินจํานวนมากกว้าน
ซือขนนกยูง คราวนีคงจะขาดทุนเสียแล้ว” เย่หมิงอวี
ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วจู่ๆ ก็คิดอะไรขึนมาได้ พลัน
มองเจียงหลีแล้วเอ่ยว่า “ในเมือเจ้าชืนชอบ ขนนกยูงใน
หีบนีข้าขอมอบให้เจ้าก็แล้วกัน... อาซุน่ ประเดียวยก
ของพวกนีไปไว้ทีเรือนของคุณหนูเจียงหลีให้เรียบร้อย”

เจียงหลีไม่อาจปฏิเสธ จึงได้แต่ยมรั
ิ บ “เช่นนันก็ขอบคุณ
ท่านลุงหมิงอวีเจ้าค่ะ”

“ไม่ตอ้ งขอบอกขอบใจหรอก” เย่หมิงอวียกไม้ยกมือห้าม


11
“หากเจ้าชอบ ทีอยูก่ บั ข้าก็ยงั มีอีกมาก จะเอาไปกีหีบก็
ได้”

เจียงหลีได้ฟังก็ถงึ กับพูดอะไรไม่ออก “...”

หากคุยกันต่อไป เกรงว่าเย่หมิงอวีจะยกขนนกยูงทัง
หมดไปไว้ทีเรือนของนาง เจียงหลีจงึ รีบตัดบท “ท่านลุง
หมิงอวี พวกเราพูดถึงเรืองอืนกันดีกว่า”

จบคํา เย่หมิงอวีก็ตบขาตัวเองฉาดใหญ่ กล่าวว่า “เจ้า


ไม่พดู ก็ลืมไปเสียสนิท พอพูดแล้วก็นกึ ขึนมาได้ ดูส.ิ ..
คุยกันมาตังนาน มีเรืองหนึงทียังไม่ทนั ได้ถาม หลีเอ๋อ
เมือวันก่อนข้าพบเจ้าทีหอซีฮวั คิดว่าดูไม่ผิดแน่ อยูด่ ีๆ

12
เจ้าไปทําอะไรทีหอซีฮวั รึ”

เมือสักครู ่ ตอนทีเย่หมิงอวีมองเจียงหลีนนั จู่ๆ ก็นกึ ขึน


ได้วา่ เจียงหลีคือหญิงสาวทีตนเคยพบหลังหอซีฮวั ตอน
นันเขายังรูส้ กึ แปลกใจ ปกติสตรีทีไปเยือนหอซีฮวั ก็เพือ
ตามหาคน จึงเป็ นฮูหยินของบ้านต่างๆ แต่หญิงสาวนาง
นีแต่งตัวไม่เหมือนกับสตรีทีออกเรือนแล้ว อีกทังอากัป
กิรยิ ายังดูสงบเยือกเย็นจนน่าแปลกใจ ตอนทีเขาเห็น
นางยังรูส้ กึ คุน้ หน้า แต่นกึ ไม่ออกว่าเคยพบกันทีไหน
ตอนนีมาคิดๆ ดูแล้ว ความรูส้ กึ คุน้ เคยคงเกิดจากสาย
เลือดในตัวทีกระตุน้ เตือนว่า นีคือหลานสาวของเขา

เจียงหลียิมบางๆ พลางกล่าว “หลานก็มีอยูเ่ รืองหนึง


อยากจะถามท่านลุงเช่นกัน ท่านลุงหมิงอวีเดินทางมา
13
ถึงเมืองเซียงหยางได้ราวๆ สามวันแล้ว ยังบังเอิญพบกับ
หลานทีหอซีฮวั ในเมือกลับมาตังนาน เหตุใดจึงไม่ตรง
มาทีจวนตระกูลเย่เล่า”

สีหน้าของเย่หมิงอวีแสดงความอึดอัดใจ เขายกมือขึน
ลูบจมูกพลางกล่าวว่า “ข้า... ต้องทําความคุน้ เคยกับ
สภาพแวดล้อมเสียก่อน เพือเตรียมตัว”

เขาไม่ได้พดู ให้ชดั เจนนัก แต่เจียงหลีก็เข้าใจได้ เย่หมิงอ


วีไปหาความสําราญทีหอซีฮวั และคงเกรงว่าจะมีคนไป
เห็นเข้าแล้วนํามาเล่าให้คนตระกูลเย่ฟัง จึงเข้าออกทาง
ประตูดา้ นหลัง ส่วนเรืองทีมาถึงหน้าประตูบา้ นตระกูลเย่
นานแล้วแต่ยงั ไม่ยอมเข้าบ้าน ก็คงเป็ นเพราะกลัวโดน
คนตระกูลเย่ซกั ไซ้วา่ เมือไรจะแต่งงาน จึงพยายามหลบ
14
หน้า

เจียงหลีเองก็ไม่อยากฟั งเย่หมิงอวีเล่าเรืองสนุกของเขา
จึงพยักหน้ารับ “หลานไม่รูว้ า่ หอซีฮวั คือสถานทีแบบใด
คิดว่าเป็ นเหลาสุราสักแห่ง เห็นว่าด้านนอกปราศจากผู้
คนจึงเดินเข้าไปดู ไม่นกึ ว่าจะเป็ นหอนางโลม พอรูห้ ลาน
ก็รบี ออกมา กระทังบังเอิญพบกับท่านลุง”

“เป็ นเช่นนีนีเอง” เย่หมิงอวีเข้าใจไปตามนัน

“ท่านลุง ข้ามีอีกเรืองทีอยากจะถาม” เจียงหลีลงั เลชัวครู ่

“มีเรืองอะไรก็วา่ มา”
15
“ทีท่านลุงหมิงอวีกลับเซียงหยางคราวนี คงจะไม่ใช่
เพราะเรืองท่านยายเท่านัน การค้าของตระกูลเย่ดู
เหมือนจะมีปัญหา ถึงขันทีท่านลุงยังต้องรีบกลับมาเช่น
นี เข้าใจว่าคงไม่อาจแก้ไขสถานการณ์ได้โดยง่าย” เจียง
หลีมองเขาแล้วเอ่ยสําทับ “สามารถบอกหลานได้หรือไม่
แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึนกันแน่”

เย่หมิงอวีอึงงัน นึกไม่ถงึ ว่าสิงทีเจียงหลีตอ้ งการซักถาม


ก็คือเรืองนี นางสงสัยเกียวกับการค้าของตระกูลเย่ เย่ห
มิงอวีพลันระมัดระวังตัวขึนมาบ้าง ทว่าเจียงหลีกลับจ้อง
เขาตาไม่กะพริบ ยังคงยืนหยัดด้วยความมันคง

16
บทที 107 ตามสบาย

เย่หมิงอวีถูกเจียงหลีมองอย่างกดดันก็ไม่รูว้ า่ เกิดใจอ่อน
ได้อย่างไร คิดเพียงว่าเจียงหลีเองก็เป็ นคนตระกูลเย่ถงึ
ครึงตัว ตระกูลเย่กีดกันนางราวกับป้องกันโจรผูร้ า้ ย สาว
น้อยคนนีคงจะรูส้ กึ เสียใจ คิดได้เช่นนันจึงกล่าวปลอบ
โยน “ความจริงก็ไม่ใช่เรืองใหญ่ แพรพรรณจากตระกู
ลเย่ของพวกเรา แต่ละปี จะถูกส่งไปตามร้านตัดผ้าแต่ละ
แห่ง โดยเฉพาะผ้าหอมโบราณ เจ้าก็คงรูด้ ี ผูส้ งู ศักดิใน
เมืองเยียนจิงนิยมสวมกันมาก”

“ทว่าช่วงนีผ้าชนิดนีกลับมีปัญหา มีคนสวมใส่อาภรณ์ที
ตัดเย็บจากผ้าหอมโบราณแล้วเกิดผืนแดงเต็มตัว เมือ
หมอตรวจดูก็ไม่อาจวินิจฉัยได้วา่ เป็ นเพราะอะไร เรืองนี
1
พวกข้าก็กาํ ลังสืบหาสาเหตุ” สายตาของเย่หมิงอวีฉาย
แวววิตกกังวล “แต่ขา้ กล้าพูดได้เลยว่า ไม่ได้เป็ นเพราะ
เนือผ้าทีมีปัญหาแน่ เพราะโรงทอก็อยูท่ ีเซียงหยาง พี
ใหญ่กบั พีรองต่างควบคุมการผลิตด้วยตัวเอง ทีผ่านมา
ไม่เคยประสบปั ญหาสักครัง เพียงแต่พวกเราพูดไปก็ไม่
มีใครเชือ”

เย่หมิงอวีส่ายหน้า ท่าทีเป็ นกังวลนัก

ขณะกําลังพูดคุยอยูน่ นั เสียงฝี เท้าของคนด้านนอกก็ดงั


แว่วมา ตามด้วยเสียงเรียกอย่างประหลาดใจ “หมิงอวีรึ”

เจียงหลีกบั เย่หมิงอวีมองไปยังหน้าประตู ทีแท้ก็เป็ น

2
เย่หมิงฮุยกับเย่หมิงเซียนทีเพิงกลับมา

เมือเย่หมิงฮุยและเย่หมิงเซียนพบกับเย่หมิงอวี ต่างฝ่ าย
ต่างก็ประหลาดใจ

เย่หมิงฮุยถาม “เหตุใดกลับมาแล้วไม่บอกล่วงหน้าสักคํา
เล่า”

“ก็เพราะกลับมาอย่างรีบร้อนน่ะสิ” เย่หมิงอวีกล่าวเท็จ
โดยทีหน้าไม่เปลียนสี “ฉุกละหุกเสียจนนําสักอึกยังดืม
ไม่ทนั ไหนเลยจะมีเวลาแจ้งข่าวพวกท่านได้”

หากทังสองคนรูว้ า่ เย่หมิงอวีกลับมาถึงตังแต่เมือสามวัน
3
ก่อน แล้วยังไปหาความสําราญทีหอซีฮวั ทังสามวัน ไม่รู ้
ว่าพวกเขาจะทําหน้าอย่างไร

“เหตุใดพวกท่านถึงเพิงกลับเล่า” เย่หมิงอวีถาม “ฟ้ามืด


แล้ว ในบ้านไม่มีใครอยูส่ กั คน”

“พวกข้า...” เย่หมิงเซียนกําลังจะตอบ ครันเหลือบไปเห็น


เจียงหลี ถ้อยคําทีเกือบจะหลุดปากออกมาก็ถกู กลืน
กลับเข้าไป

เจียงหลีเข้าใจได้ทนั ที จึงรีบลุกขึนยืนยิมละไมแล้วกล่าว
ว่า “ท่านลุงหมิงอวี พวกท่านคุยกันเถิด หลานขอตัวกลับ
ห้องก่อนเจ้าค่ะ”

4
เย่หมิงอวียิมรับ “ตามสบาย”

เห็นเย่หมิงอวีและเจียงหลีมีทา่ ทางสนิทสนม สีหน้าของ


เย่หมิงฮุยกับเย่หมิงเซียนพลันดูแปลกไป

หลังจากทีเจียงหลีลากลับแล้ว เย่หมิงเซียนและเย่หมิ
งฮุยจึงนังลง ยังไม่ทนั จะได้กล่าวอะไร เย่หมิงอวีก็เปิ ด
ปากพูดก่อนเป็ นคนแรก “พีใหญ่ พีรอง พวกท่านทําเกิน
ไปแล้ว นางตังใจกลับมาเยียมท่านแม่ แต่จนป่ านนีก็ไม่
ยอมให้พบ นีเท่ากับเป็ นการกีดกันชัดๆ พวกท่านก็อายุ
ปูนนีเหตุใดถึงรังแกเด็กสาวตัวเล็กๆ เล่า”

5
เย่หมิงเซียนถูกคําพูดเหล่านีของเย่หมิงอวีทําเอาโมโห
จนแทบกระอัก “พวกข้ากลันแกล้งนางรึ ตาข้างไหนของ
เจ้าเห็นว่าข้าทําเช่นนัน”

“ข้าเห็นอยูเ่ ต็มสองตา” เย่หมิงอวีชีตาของตน “ไม่ได้เข้า


พบท่านยาย หลีเอ๋อก็ยงั เข้าใจแล้วยอมกลับเรือนไปแต่
โดยดี เด็กสาวคนนีใจอ่อนนัก หากเป็ นข้าคงอาละวาด
ไปนานแล้ว”

“โวยวาย โวยวายเข้าไป” เย่หมิงเซียนกล่าว “เจ้ารีบ


โวยวายซะให้พอ คิดว่าตัวเองยังเป็ นคุณชายวัยสิบขวบ
เศษหรือไร ไม่ดตู วั เองว่าอายุปนู ไหนแล้ว”

6
“เจ้าพูดคุยกับนางแล้วหรือ” เย่หมิงฮุยถาม

“คุยกันแล้ว” เย่หมิงอวีกล่าว “ทําไมรึ”

“เจ้ารูส้ กึ ว่านางเป็ นอย่างไร”

“ยอดเยียม” เย่หมิงอวีตบขาตัวเอง “ข้ามองว่าหลีเอ๋อไม่


ใช่คณ
ุ หนูบา้ นขุนนางทัวๆ ไป ความคิดความอ่าน การ
พูดการจาแบบนัน พวกท่านควรเรียนรูจ้ ากนางเสียบ้าง
ข้าเอากระบอกร้อยพันประการกลับมาจากขบวนเรือเดิน
ทะเล ใช่วา่ ข้าเข้าข้างนาง แต่หากเป็ นพวกท่าน ก็คงไม่รู ้
หรอกว่าสิงนันคืออะไร ส่วนวิธีใช้ยงไม่
ิ ตอ้ งพูดถึง ทว่า
นางรูจ้ กั แล้วยังใช้เป็ นอีกด้วย ข้าหาขนนกยูงได้ นางก็

7
รูจ้ กั ทีสําคัญเด็กสาวคนนีเชือถือได้”

“เชือถือได้งนรึ
ั ” เย่หมิงเซียนถาม “เหตุใดจึงบอกว่านาง
เชือถือได้ นางช่วยเจ้าปิ ดบังเรืองอะไรไว้หรือเปล่า”

เย่หมิงอวีลอบก่นด่าเย่หมิงเซียนในใจ ว่าเขาช่างกลอก
กลิงเสียจริง ก่อนจะกระแอมออกมาสองครัง แล้วเส
แสร้งกล่าว “ไม่มีอะไร จะว่าไปแล้วพวกท่านยังไม่ได้
ตอบคําถามของข้า พวกท่านไปไหนมา เหตุใดถึงไม่มี
ใครอยูบ่ า้ นเลยสักคน”

สองพีน้องสบตากัน สุดท้ายเย่หมิงฮุยก็กล่าว “ลีเจิงถาง


กําลังประสบปั ญหา พวกข้าก็เลยไปสะสาง”

8
“เมือสักครูข่ า้ ก็เพิงคุยกับหลีเอ๋อ เรืองนีไม่มีทางแก้ไข
แล้วหรือ” เย่หมิงอวีถาม

“เจ้าบอกนางแล้วรึ” เย่หมิงเซียนเอ่ยถามเสียงสูง

“อืม” เย่หมิงอวีผงกศีรษะรับ

“เจ้า... เจ้านีมันจริงๆ เลย” เย่หมิงเซียนอดทนอยูน่ าน


ในทีสุดก็สบถออกมา “เหลวไหลนัก”

เจียงหลีเพิงกลับมาถึงเรือนของตน พลันนังลงบนเก้าอี
หน้าโต๊ะ
9
ถงเอ๋อและไป๋ เสวียวุน่ วายอยูก่ บั การโยกย้ายหีบใบนัน
เข้าห้อง ส่วนเจียงหลีกลับจิตใจล่องลอย

ทีแท้ การค้าขายของตระกูลเย่ก็ประสบปั ญหาเช่นนีนี


เอง เดิมทีตระกูลเย่สร้างครอบครัวจากกิจการทอผ้า
แคว้นเยียนทีโด่งดัง ผ้าหอมโบราณยังเป็ นสิงขาดแคลน
มีแต่ตระกูลเย่เท่านันทีผลิตได้

หากผ้าของตระกูลเย่เกิดมีปัญหาขึนมาจริงๆ การค้าของ
ตระกูลเย่ยอ่ มได้รบั ผลกระทบอย่างหนัก

ไม่รูว้ า่ แท้จริงแล้วเนือผ้ามีปัญหาอะไรกันแน่ อย่างทีเย่ห

10
มิงอวีกล่าว โรงทอก็อยูท่ ีเซียงหยางแล้วยังมีเย่หมิงฮุย
กับเย่หมิงเซียนคอยเฝ้าดูแลกิจการอยู่ หลายปี ทีผ่านมา
ก็ไม่เคยประสบปั ญหา จู่ๆ กลับเกิดข้อผิดพลาดขึน จะ
บอกว่าเป็ นเพราะเหตุบงั เอิญรึ

แต่ความรูส้ กึ เจียงหลีกลับบอกว่า เรืองนีไม่ใช่เหตุ


บังเอิญ ไม่ตอ้ งพูดถึงอืนไกล เย่ซือเจียเพิงเข้ารับราชการ
หน้าทีการงานกําลังเริมต้น หากการค้าของตระกูลเย่
ประสบปั ญหาแล้วมาขอความช่วยเหลือจากเย่ซือเจีย ก็
เท่ากับว่าหน้าทีการงานของเขาสามารถถูกคนบงการได้
ผ่านตระกูลเย่

คิดมาถึงตรงนี เจียงหลีก็พลันตืนตระหนก หากเป็ น


อย่างทีนางคิด วิกฤติทางการค้าของตระกูลเย่อาจเป็ น
11
เพราะถูกคนกลันแกล้ง และจุดมุง่ หมายสุดท้ายก็เพือ
โยงตระกูลเย่เข้ากับเย่ซือเจีย หรืออาจกล่าวได้วา่ ต้อง
การควบคุมคนตระกูลเย่ทงหมด
ั ต้องเข้าใจว่าความรํา
รวยของตระกูลเย่นนทํ
ั าให้ใครหลายคนริษยา หากควบ
คุมตระกูลเย่ได้ อย่างน้อยจะทําการใดก็ง่ายเหมือนพลิก
ฝ่ ามือ

ใจของเจียงหลีพลันบีบรัด

ครุน่ คิดอยูค่ รูห่ นึงจึงกล่าวว่า “ถงเอ๋อ วันพรุง่ นีให้เจ้า


ออกไปข้างนอก สอบถามร้านตัดเสือหลายๆ แห่งใน
เมืองเซียงหยาง เลือกร้านทีดูดีหน่อย แล้วถามพวกเขา
ว่าช่วงนีมีชดุ ทีตัดเย็บจากผ้าหอมโบราณบ้างหรือไม่”

12
“เจ้าค่ะ” ถงเอ๋อรับคําแล้วเอ่ยถาม “เหตุใดคุณหนูตอ้ ง
การรูเ้ รืองพวกนีหรือเจ้าคะ”

“การค้าของตระกูลเย่กาํ ลังมีปัญหา หลักๆ ก็คือผ้าหอม


โบราณ ถ้าร้านตัดเสือเหล่านันเริมไม่รบั ซือผ้าหอม
โบราณ สถานการณ์นีก็จะกลายเป็ นเรืองใหญ่”

ยังมีประโยคหนึงซึงเจียงหลีไม่ได้เอ่ยออกมา อย่างน้อย
ในเมืองเยียนจิงก็ยงั ไม่มีใครรูเ้ รืองทีผ้าหอมโบราณมี
ปั ญหา ก็เท่ากับว่าตอนนีข่าวยังไม่ได้แพร่สะพัดออกไป
แต่ถา้ ร้านตัดเสือเหล่านีไม่รบั ซือผ้าหอมโบราณพร้อมๆ
กัน ก็เท่ากับมีเงือนงําซ่อนเร้น เป็ นไปได้วา่ อาจถูกจัด

13
วางไว้ก่อนแล้ว

“ตอนถาม ให้สงั เกตท่าทีของเถ้าแก่รา้ นให้ดี ดูวา่ คําตอบ


ของพวกเขาคือช่วงนีสินค้าขาดตลาด หรือผ้าหอม
โบราณมีปัญหา” เจียงหลีกาํ ชับ

ถงเอ๋อจดจําอย่างตังใจ

ทําการค้าไม่ใช่ซือขายเพียงหนึงครัง ต้องมีการติดต่อกัน
เรือยมา ถ้าแม้แต่เย่หมิงอวียังไม่สามารถสรุปแน่ชดั ว่า
เป็ นเพราะผ้ามีปัญหาจริงหรือไม่ หากเถ้าแก่รา้ นคิดจะ
ทําการค้ากับตระกูลเย่ตอ่ ไปในภายภาคหน้า ย่อมต้อง
ช่วยตระกูลเย่ปิดบังปั ญหาครังนี แต่ถา้ รีบกระจายข่าว

14
โพนทะนาออกมาตรงๆ ว่าเป็ นเพราะเนือผ้ามีปัญหา ก็
แทบจะสรุปได้ทนั ทีวา่ ร้านตัดเสือเหล่านันรับสินนําใจ
จากใครบางคนให้กลันแกล้งตระกูลเย่

ตระกูลเย่ไปมีเรืองกับใคร เจียงหลีได้แต่ครุน่ คิด

วันต่อมา ถงเอ๋อก็ออกจากเรือนแต่เช้าตรู ่ เพือสืบข่าว


ตามร้านตัดเสือ ส่วนเจียงหลีนนตั
ั งใจจะไปพูดคุยกับ
เย่หมิงอวี ไม่แน่วา่ วันนีอาจสืบจนได้ความจากปากของ
เย่หมิงอวีมากขึน

เพิงมาถึงห้องโถงด้านหน้า ก็บงั เอิญพบกับเย่เจียเอ๋อ


และเย่หยูฟง เย่เจียเอ๋อเดินกลับไปกลับมาด้วยท่าทาง

15
วิตกกังวล เย่หยูฟงเองก็ขมวดคิวแน่น

เจียงหลีเดินเข้าห้อง แล้วขานว่า “พีสาวพีชาย”

เย่เจียเอ๋อเห็นเจียงหลีก็สง่ ยิมให้ หากเป็ นรอยยิมทีแฝง


ความกังวล “น้องสาว เจ้ามาแล้วหรือ” ครูห่ นึงจึงกล่าว
ขอโทษขอโพย “เมือวันก่อนทีลีเจิงถาง จู่ๆ ท่านอาจ้าว
กับท่านอาจวงก็มาหา ต้องทิงเจ้าไว้เพียงลําพัง ขอโทษ
ด้วยจริงๆ”

“ไม่เป็ นไรเจ้าค่ะ” เจียงหลีกล่าวพร้อมรอยยิม “พีสาวมี


ธุระต้องสะสาง อีกอย่างข้าก็ตงใจไว้
ั แต่แรกแล้วว่าอยาก
จะเดินเทียวด้วยตัวเอง สุดท้ายก็สมหวัง เพลิดเพลินที

16
เดียวเจ้าค่ะ”

“เช่นนันก็ดีแล้ว” เย่เจียเอ๋อเอ่ยรับ

เสียงในห้องโถงพลันเงียบลง เย่หยูฟงไม่ทกั ทายเจียงหลี


ก่อนอยูแ่ ล้ว หากเป็ นวันอืนๆ เย่เจียเอ๋อคงจะชวนเจียง
หลีคยุ บ้าง ทว่าวันนีเย่เจียเอ๋อดูราวกับมีเรืองคับอก ไม่รู ้
ว่ากําลังครุน่ คิดถึงสิงใดเลยมิได้สนใจเจียงหลี

เจียงหลีใคร่ครวญอยูค่ รูห่ นึงจึงถามเสียงเบา “พีสาว


กําลังกังวลเกียวกับลีเจิงถางใช่หรือไม่”

เย่เจียเอ๋ออึงงัน ก่อนจะฝื นยิมแล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว การ


17
ค้ามีปัญหาเล็กน้อย”

18
บทที 108 ไปกันตอนนีเลย

“ปั ญหาเกียวกับผ้าหอมโบราณสินะ” เจียงหลีมองนาง


“ร้านตัดเสือหลายๆ แห่งก็รูก้ นั แล้วใช่หรือไม่”

เย่เจียเอ๋อตกใจนัก เป็ นเย่หยูฟงทีเอ่ยปาก “เจ้ารูไ้ ด้อย่าง


ไร แอบฟั งพวกข้าคุยกันรึ”

“ท่านลุงหมิงอวีบอกกับข้า” เจียงหลีตอบ

“น้องสาวกล่าวได้ถกู ต้อง” เย่เจียเอ๋อถอนหายใจ คิดว่า


ในเมือเย่หมิงอวีบอกเรืองนีกับเจียงหลีแล้ว ก็ไม่มีอะไร
1
ต้องปิ ดบังอีก ต่อให้อยากเก็บงําแล้วสามารถทําได้หรือ
เรืองนีนับวันก็ยงบานปลายยากจะแก้
ิ ไม่ชา้ ก็เร็วเจียง
หลียอ่ มต้องรูเ้ รืองนีจากปากคนนอก

“การค้าระหว่างตระกูลเย่กบั ร้านต่างๆ นันเหนียวแน่น


แต่มาถึงตอนนีร้านตัดเสือเหล่านันพากันหยุดรับผ้าจาก
ตระกูลเย่ รวมกันแล้วก็ไม่ใช่แค่รา้ นสองร้าน อีกทังเมือ
ไม่กีวันมานี เถ้าแก่รา้ นตัดเสือต่างนําสินค้ามาคืนถึงลี
เจิงถาง ทีน้องสาวเห็นเมือวันก่อน ท่านอาจวงกับท่าน
อาจ้าวซึงทําการค้ากับตระกูลเย่มากว่าสิบปี ก็มาทีลีเจิง
ถางเพือขอระงับการสังซือ”

“ทําการค้าร่วมกันมานานกว่าสิบปี กระทังคุน้ เคยกัน


ขนาดนี ยามคับขันยังกล้าถีบหัวส่งอีกหรือ” เจียงหลี
2
ถาม

“จะว่าถีบหัวส่งก็ไม่ถกู กล่าวได้เพียงว่าเป็ นธรรมดาของ


มนุษย์” เย่เจียเอ๋ออธิบายอย่างใจเย็น “ทว่าต้นทุนการ
ผลิตผ้าหอมโบราณค่อนข้างสูงมาก เถ้าแก่รา้ นเหล่านัน
ไม่ได้บอกตังแต่แรก พอผ้าหอมโบราณชุดนีทอออกมา
แล้วก็ไม่มีคนซือ จําต้องปล่อยเอาไว้แบบนัน สําหรับตระ
กูลเย่นบั ว่าขาดทุนมหาศาล”

“ไม่ใช่ธรรมดาของมนุษย์ นีเป็ นการถีบหัวส่งต่างหาก”


เย่หยูฟงสบถออกมา “ในอดีตยังมาขอร้องให้พวกข้าส่ง
สินค้าให้พวกเขาก่อนใคร ตอนนีพอมีปัญหา ไม่ทนั สืบ
ต้นสายปลายเหตุให้ดีก็รบี ระงับการสังซือ ทําการค้าร่วม
กันมานานกว่าสิบปี ยังเทียบกับผลประโยชน์ไม่ได้”
3
เย่เจียเอ๋อพูดไม่ออก แม้เย่หยูฟงจะพูดจาไม่น่าฟั ง แต่ก็
ใช่วา่ จะไร้เหตุผลไปเสียทังหมด

“ความจริง ผ้าหอมโบราณชุดนีขาดทุนแล้วก็แล้วกันไป
ยับยังความเสียหายทันเวลาก็ใช่วา่ ตระกูลเย่จะไม่เคย
ทําได้ กลัวแต่วา่ หากเรืองทีผ้าหอมโบราณของตระกูลเย่
มีปัญหาแพร่สะพัดออกไป ตระกูลเย่ก็จะพลอยเสียหาย
ชือเสียงทีสังสมมานับร้อยปี ยอ่ มต้องย่อยยับลงไปใน
พริบตา” เย่เจียเอ๋อเสียใจเอามาก

“พีสาวอย่าเพิงร้อนใจ” เจียงหลีปลอบ “เหตุใดพอสวม


ชุดทีตัดเย็บจากผ้าหอมโบราณแล้วถึงได้มีผืนขึน ตอนนี
ก็ยงั ไม่สามารถตอบได้วา่ ปั ญหาเกิดจากเนือผ้า แค่หา
4
สาเหตุทีแท้จริงแล้วนํามาเปิ ดเผยก็สามารถล้างผิดให้
กับตระกูลเย่ได้แล้ว”

“พูดนันมันง่าย” เย่เจียเอ๋อส่ายหน้า “อย่างไรพวกข้าก็หา


สาเหตุไม่พบ โรงทอผ้าหอมโบราณไม่มีปัญหา ทว่าร้าน
ตัดเสือแต่ละแห่ง ใช้ผา้ หอมโบราณในการตัดเย็บชุด
ต่างๆ แล้วกลับเกิดปั ญหา”

“สาเหตุอาจไม่ได้มาจากผ้าหอมโบราณ” เจียงหลีตงข้
ั อ
สงสัย “แต่เป็ นร้านตัดเสือเหล่านัน”

“ร้านเดียวก็ยงั พอทําเนา แต่รา้ นตัดเสือทังเมืองเซียง


หยางคงไม่เกิดปั ญหาพร้อมกันกระมัง” เย่เจียเอ๋อกล่า

5
ว “ข้าเข้าใจดี น้องสาวจะบอกว่าเราถูกคนลอบกัด ทว่า
แม้ตระกูลเย่จะไม่ได้เป็ นครอบครัวขุนนางในเมืองเซียง
หยาง แต่ปกติก็ไม่มีใครกล้าตอแย คนทีทําเช่นนันได้
ต้องฐานะสูงส่ง เขาทําลายตระกูลเย่ของเราแล้วจะได้
อะไรขึนมา”

“นอกจากตระกูลเย่แล้ว ในเมืองเซียงหยางยังมีโรงทอผ้า
อืนๆ อีกหรือไม่” เจียงหลีถาม

เย่เจียเอ๋อส่ายศีรษะ

ถ้าเช่นนัน ก็ไม่ใช่ศตั รูทางการค้า

6
เจียงหลีทอดถอนใจ ขณะทีกําลังพูดคุยกันอยูน่ นั พีน้อง
ทังสามคนของเย่หมิงฮุยก็กา้ วเข้ามา เห็นเย่เจียเอ๋อกับ
เจียงหลีสนทนากัน เย่หมิงอวีก็รอ้ งทัก “เจียเอ๋อ หลีเอ๋อ”

“ท่านลุงหมิงอวี” เจียงหลีคอ้ มศีรษะรับ

เย่หมิงฮุยมองเจียงหลีราวกับลังเลเล็กน้อย แต่ในทีสุดก็
เอ่ยปาก “หลีเอ๋อ ช่วงหลายวันก่อนไม่ได้ให้เจ้าเข้าพบ
ท่านยาย เป็ นเพราะท่านสุขภาพไม่แข็งแรง เจ้าอยูเ่ ซียง
หยางมานานเกือบครึงเดือนแล้ว สุขภาพท่านยายของ
เจ้าก็คอ่ ยๆ ดีขนเป็
ึ นลําดับ วันนีจะเข้าพบสักครังก็
สามารถทําได้”

7
เจียงหลีประหลาดใจนัก ก่อนจะสังเกตเห็นแววตาพึงพอ
ใจของเย่หมิงอวีทีอยูอ่ ีกด้าน พลันเข้าใจได้วา่ เป็ นเพราะ
เย่หมิงอวีช่วยพูดกับพีน้อง เย่หมิงฮุยจึงตัดสินใจให้เจียง
หลีเข้าพบฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่

เจียงหลีเอ่ยด้วยความปี ติยินดี “ดีเหลือเกินเจ้าค่ะ”

“ถ้าเช่นนันก็ไปกันตอนนีเลย” เย่หมิงเซียนกล่าว

เจียงหลีพยักหน้ารับ

ขณะทีทังหมดกําลังเตรียมออกจากห้อง ทันใดนัน
นางกวนซือกับนางจัวซือก็รบี ร้อนเข้ามา เป็ นนางกวนซือ
8
ทีกล่าวว่า “ท่านพี ท่านถงจือฝู่ สง่ คนมาเจ้าค่ะ”

“ท่านถงจือฝู่ ร”ึ เย่หมิงฮุยรําพึงด้วยความสงสัย “เขาส่ง


คนมาทําไม”

“ข้าก็ไม่ทราบ” นางกวนซือมีทา่ ทางร้อนรน พูดยังไม่ทนั


ขาดคําก็เห็นทหารทีเอวคาดดาบยาวกลุม่ หนึง บุกเข้า
มาในห้องโถงด้านหน้าอย่างไม่ลงั เล “นายท่านใหญ่กบั
นายท่านรองเย่อยูห่ รือไม่”

เย่หมิงเซียนขานรับ “ข้าอยูน่ ี พวกท่านมีเรืองอันใด”

“นายท่านถงให้มาเชิญพวกท่านเข้าพบ” ทหารทีเป็ นหัว


9
หน้ากล่าว “ท่านทังสอง เชิญ”

“ไปพบรึ ไปพบทีไหน พวกข้าทําความผิดอะไรหรือ” เย่ห


มิงอวีไม่เกรงกลัวขุนนําขุนนางทังหลาย เขาปั กหลักยืน
กราน “เหตุใดถึงเชิญแต่พวกเขาแค่สองคน คิดจะทํา
อะไรกันแน่”

ทหารเหล่านันพากันมองเย่หมิงอวีตังแต่หวั จรดเท้า เขา


แต่งตัวเหมือนคนตําศักดิ มีกลินอายของชาวยุทธ์อยูบ่ า้ ง
ไม่รูว้ า่ คนพวกนันจํานายท่านสามเย่ได้หรือเปล่า คงเห็น
เขาเป็ นคนทีไร้ความสําคัญ จึงกล่าวเพียงว่า “ข้าน้อยแค่
ทําตามคําสัง คําถามเหล่านัน เชิญท่านทังสองถามกับ
นายท่านถงด้วยตัวเองเถิด” เจรจาด้วยท่าทางวาง
อํานาจ
10
เย่หมิงอวียังอยากต่อล้อต่อเถียง ทว่าถูกเย่หมิงฮุยยกมือ
ห้าม เย่หมิงฮุยคํานับทหารเหล่านัน “ในเมือพวกท่านทํา
ตามคําสัง ข้าก็จะปฏิบตั ิตาม แต่ขอสังการกับคนทาง
บ้านสักครู”่

เขามองเจียงหลีเป็ นคนแรก แล้วกล่าวว่า “เดิมทีอยาก


พาเจ้าไปพบท่านยาย นึกไม่ถงึ ว่าจะเกิดเรืองขึนเสียก่อน
หลีเอ๋อ คงต้องขอให้เจ้ารอต่อไปอีกหน่อย”

“ไม่เป็ นไรเจ้าค่ะ” เจียงหลีตอบ

แล้วเขาก็มองมาทีเย่หมิงอวี “หมิงอวี เจ้าไม่สนใจทําการ

11
ค้า เช่นนันแค่ปกป้องดูแลตระกูลเย่เอาไว้ให้ดี หากลีเจิง
ถางมีปัญหาอะไรก็ให้เย่เจียเอ๋อกับเย่หยูฟงเป็ นคน
จัดการ เหตุการณ์ครังนีถือเป็ นโอกาสให้สองพีน้องได้
ฝึ กฝน ส่วนเรืองของข้ากับหมิงเซียน อย่าได้บอกท่านแม่
ว่าพวกข้าไปทีจวนท่านถงจือฝู่ จําไว้ให้ดี”

นางจัวซือมองไปยังทหารเหล่านัน “พวกท่าน เอ่อ นาย


ท่านใหญ่และสามีของข้า จะกลับมาได้เมือไร”

“ข้าก็ไม่รูเ้ ช่นกัน” ว่าแล้วทหารคนนันก็ถามเย่หมิ


งฮุย“นายท่านเย่ สังการเสร็จหรือยัง หากเรียบร้อยแล้วก็
ไปกันเถิด”

12
เย่หมิงฮุยมิได้ตอบรับ แต่หนั ไปปลอบนางกวนซือและ
นางจัวซือให้พวกนางวางใจ บอกว่าตนเองและเย่หมิ
งเซียนจะรีบกลับมาโดยเร็ว แล้วจึงจากไปพร้อมกับ
ทหารเหล่านัน

หลังจากทีพวกเขาจากไป คนตระกูลเย่ตา่ งก็ทาํ อะไรไม่


ถูก

เหตุการณ์นีเกิดขึนอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครคาดคิด ในที
สุดเย่เจียเอ๋อก็พมึ พําขึนว่า “ท่านพ่อกับท่านลุงใหญ่...
พวกเขาคงไม่เป็ นอะไรใช่หรือไม่”

“ไม่มีอะไรหรอก” เจียงหลีปลอบใจนาง “ท่านลุงหมิงฮุย

13
ก็บอกเองว่าจะกลับมาโดยเร็ว”

“เกรงว่าจะไม่เป็ นเช่นนัน” เย่เจียเอ๋อส่ายศีรษะ “ท่านลุง


ใหญ่ไม่เคยพูดอะไรแบบนีมาก่อน ไม่เคยพูดจาคล้ายสัง
เสีย แต่วนั นีเขาฝากฝังลีเจิงถางให้ขา้ และหยูฟงเป็ นคน
จัดการ... เขา... เขาคงรูส้ กึ ว่าตนเองอาจจะไม่ได้กลับมา
ในเร็ววัน...”

“นีมันเรืองอะไรกันแน่” นางจัวซือถาม “เหตุใดจู่ๆ ท่าน


ถงจือฝู่ ถงึ ส่งคนมาทีนี”

“จะต้องเป็ นเพราะผ้าหอมโบราณแน่ๆ” เย่หยูฟงกัดฟั น


กล่าว “แต่ก่อนร้านตัดเสือยังช่วยปิ ดบังให้ คนทีใส่

14
อาภรณ์จากผ้าหอมโบราณแล้วเกิดปั ญหาก็ยงั มีไม่มาก
แต่ตอนนี... ร้านตัดเสือพวกนันต่างไม่ทาํ การค้ากับลีเจิง
ถาง ปั ญหาของผ้าหอมโบราณก็จะแพร่สะพัดออกไปไม่
ช้าก็เร็ว หากชาวบ้านรูเ้ รืองนีเข้าย่อมไม่อยูเ่ ฉย เพือเป็ น
การรักษาความสงบของเซียงหยาง ท่านถงจือฝู่ จะต้อง
เอาผิดตระกูลเย่อย่างแน่นอน”

“ทีพีชายพูดมานันไม่ผิด” เจียงหลีกล่าว “ข้าก็เดาว่าเป็ น


เรืองของลีเจิงถาง”

เย่หยูฟงส่งเสียงฮึออกมา

“แต่วา่ ท่านถงจือฝู่ ผนู้ ีคือถงจือหยัง ใช่หรือไม่”

15
“เจ้ารูไ้ ด้อย่างไร” เย่หมิงอวีถาม เจียงหลีเป็ นคุณหนูอยู่
ในเยียนจิง ไม่เคยมาเยือนเมืองเซียงหยาง การทีนางรู ้
จักชือถงจือหยังจึงน่าแปลกใจนัก

“น้องเขยของเขา” เจียงหลียิมแล้วขยายความว่า “เป็ น


จงกวนลิงอยูใ่ นเมืองเยียนจิง”

“จงกวนลิงมีหน้าทีทําอะไร” ตระกูลเย่ทาํ การค้า ไม่คนุ้


เคยกับตําแหน่งหน้าทีของขุนนางสักเท่าไร

“ดูแลเกียวกับเรืองการเงิน” เจียงหลีอธิบาย

16
คนตระกูลเย่พยายามทําความเข้าใจ เย่หมิงอวีเอ่ยปาก
“ไม่นกึ ว่าเจ้าจะรูจ้ กั กระทังน้องเขยของเขา หลีเอ๋อ จือฝู่
ผูน้ ีมิได้มีตาํ แหน่งสูงส่งอะไรใช่หรือไม่”

“ไม่เจ้าค่ะ” เจียงหลียิมแล้วกล่าวว่า “หลานอยูต่ ระกูล


เจียง ก็เคยได้ยินมาบ้าง”

หญิงสาวคิดในใจ น้องเขยของถงจือหยัง เป็ นจงกวนลิ


งอยูใ่ นเมืองเยียนจิงก็จริง แต่ทีสําคัญไปกว่านันคือ น้อง
เขยของเขาผูน้ ี เป็ นคนของท่านเสนาบดีและสนิทกับหลี
เหลียนมาก

สามารถกล่าวได้วา่ ถงจือหยังก็เป็ นคนของท่านเสนาบดี

17
บทที 109 ข้าจะไปกับท่าน

ณ เรือนแห่งหนึงของเมืองเซียงหยาง ในห้องมีคนกําลัง
พูดคุยกันอยู่

“นายท่าน ถงจือหยังลงมือแล้ว” ลูจ่ ีกล่าว

จีเหิงนังอยูบ่ นเก้าอี กําลังอ่านหนังสือไม้ไผ่ ครันได้ยิน


รายงานจึงกล่าวว่า “เร็วเกินไป”

“ข้าน้อยก็รูส้ กึ เช่นนัน ลงมือเร็วเกินไป” ลูจ่ ีลบู เคราช้าๆ


“เล่ากันว่า เขาให้คนบุกเข้าไปถึงห้องโถงด้านหน้าของ
1
บ้านตระกูลเย่ เป็ นเรืองใหญ่ไม่นอ้ ย ตอนนีจะปิ ดข่าวก็
คงไม่มิด ทังเมืองเซียงหยางต่างรูก้ นั ทัว”

“เป็ นไปตามคาด” จีเหิงยิมและกล่าวว่า “สร้างผลงานเส


นอหลีเหลียน จะทําเป็ นเรืองเล็กน้อยไม่ได้”

“ได้ยินว่าตอนนัน คุณหนูรองเจียงก็อยูด่ ว้ ย” ลูจ่ ีกล่าว


“ทว่านางไม่ได้แสดงท่าทีอะไร คุณหนูรองคงมิอาจยืน
มือเข้าแทรก คราวนีจึงไม่มีเหตุวนุ่ วายใดๆ เกิดขึน” ครัง
ก่อนๆ ถูกเจียงหลีทาํ จนเสียเรือง ลูจ่ ีจงึ ไม่กล้าพูดจามัน
อกมันใจจนเกินควร

“ก็ไม่แน่” จีเหิงยิม นัยน์ตากลอกกลิงชัดเจน เขาวาง

2
หนังสือไม้ไผ่ไว้อีกด้าน “จะดูแคลนนางไม่ได้”

“ข้าไม่กล้าดูแคลนนางอยูแ่ ล้ว” ลูจ่ ีกล่าวกลัวหัวเราะ


“เพียงแต่เรืองของตระกูลเย่นนั หลีเหลียนวางแผนเอาไว้
นานแล้ว ตอนนีไม่มีเย่หมิงเซียนกับเย่หมิงฮุย ตระกูลเย่
ก็เป็ นแค่เม็ดทรายจานหนึง ส่วนเย่หมิงอวีก็ไม่ได้มี
บทบาทมากนัก หากปั ญหาของผ้าหอมโบราณแพร่
สะพัดออกไป ลีเจิงถางย่อมไม่อาจอยูร่ อด ก้าวต่อไป
ตระกูลเย่ก็จะถูกบีบจนไม่มีทางเลือก โอกาสของตระกู
ลหลีย่อมมาถึง”

“ลูจ่ ี อย่ามองใครต่อใครเป็ นคนโง่ไปเสียหมด” จีเหิงโบก


พัดในมือเบาๆ ดอกโบตันปั กไหมทองคําสะบัดไปตาม
จังหวะมือ ดูงดงามจับตา “แผนของตระกูลหลี ใช่วา่ จะ
3
ไร้ช่องโหว่จนคนอืนคาดไม่ถงึ ละครยังไม่ถงึ ฉากสุดท้าย
อย่าด่วนตัดสินว่าน่าชม” เขายิมอย่างอ่อนโยน

ตระกูลเย่เงียบเหงานัก

หลังจากทีถูกพาตัวไป เย่หมิงฮุยกับเย่หมิงเซียนก็ไม่ได้
กลับบ้านในคืนนัน

ผ่านไปสามวันก็แล้ว ห้าวันก็แล้ว กลับไม่มีแม้ข่าว


คราวนางกวนซือและนางจัวซืออดทนรอไม่ไหว วิงโร่ไป
ถึงหน้าทีว่าการเพือขอเข้าพบถงจือหยังด้วยตนเอง
เพราะต้องการรูใ้ ห้แน่ชดั ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึน

4
ทว่าถงจือหยังไม่ยอมออกมาพบนางกวนซือ กลับสังผู้
ช่วยส่วนตัวออกมารับหน้า แจ้งว่านายท่านใหญ่และ
นายท่านรองของตระกูลเย่มาเป็ นแขกอยูใ่ นทีว่าการ รอ
ให้ทกุ อย่างคลีคลายแล้วค่อยกลับ

นางกวนซือไม่รูจ้ ะทําอย่างไร จึงหันไปปรับทุกข์กบั นาง


จัวซือ“แม้แต่ทา่ นถงจือฝู่ ก็ยงั ไม่ได้พบ ยิงไม่ตอ้ งพูดถึง
ท่านพีกับน้องรองท่านถงจือฝู่ จงใจแน่ๆ เขารูแ้ ต่แรกแล้ว
ว่าข้าจะไปหา ถึงได้เจตนาหลบเลียง”

นางจัวซือฟั งแล้วก็รูส้ กึ วิตกกังวล “เขาคิดจะทําอะไรกัน


แน่สงให้
ั กกั ตัวสองคนนันไว้ พวกเขาคงไม่ได้จะใช้กาํ ลัง
หรอกกระมัง”

5
เย่หมิงอวีได้ฟังก็โกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ “ใช้กาํ ลังรึ พวกเขา
กล้าดีเกินไปแล้วพีสะใภ้ใหญ่ พีสะใภ้รอง พวกท่านรอ
อยูท่ ีนี ท่านถงจือฝู่ ไม่ยอมให้เข้าพบอย่างนันรึ เช่นนันข้า
ก็จะบุกเข้าไปเสียเลย หากมีดาบพาดคอ ดูสวิ า่ พวกเขา
จะให้พบหรือไม่”

นางกวนซือและนางจัวซือต่างร้องห้าม ทว่าเย่หมิงอวี
เป็ นคนทีพวกนางไม่อาจรังได้ เขาผลุนผลันกระโดดขึน
หลังม้าทีอยูห่ น้าประตูแล้วทะยานออกไปในพริบตา

เย่หมิงอวีมีกลินอายเยียงจอมโจรในยุทธจักร ราวกับไม่รู ้
ว่าทุกปั ญหามิอาจใช้กาํ ลังแก้ไข พอเจียงหลีรูข้ ่าวก็
รีบรุดมาทีห้องโถงด้านหน้า ทันได้เห็นนางกวนซือและ
6
นางจัวซือกําลังสังให้คนไปตามตัวเย่หมิงอวี

เย่เจียเอ๋อกับเย่หยูฟงเองก็ตามมาอย่างรีบร้อน เย่หยู
ฟงพลันอาสา “ข้าจะไปตามท่านอาสาม”

“หยูฟง” นางจัวซือรีบรังตัวเขาเอาไว้ “เวลาเช่นนีเจ้าอย่า


ได้สร้างเรืองเดือดร้อนขึนมาอีก ตอนนีในจวนไม่มีผชู้ าย
สักคน... เจ้านีมันจริงๆ เลย เฮ้อ”

เย่เจียเอ๋อรูส้ กึ ลําบากใจเช่นกัน เจียงหลีเห็นสภาพเช่น


นันจึงกล่าวกับนางว่า “พีสาว ตามความคิดของข้า หาก
ถงจือหยังจะทําอะไรพวกเขา ก็คงบอกกล่าวกันตังแต่ตน้
ทว่ากลับทําลับๆ ล่อๆ เหมือนมีขอ้ ตกลงอยากแลก

7
เปลียน ข้าเดาว่าทีฝ่ ายนันไม่ยอมให้ทา่ นป้าสะใภ้เข้าพบ
ก็เพราะต้องการโก่งราคา”

“โก่งราคารึ” เย่เจียเอ๋อยังไม่เข้าใจ

“ระหว่างทําการค้าก็มีเรืองเช่นนีอยูม่ ิใช่หรือ การค้า


หลายๆ อย่างใช่วา่ จะสําเร็จในครังเดียว ยังมีขนตอน

ของการต่อรอง ต่างฝ่ ายต่างกําหนดมูลค่าสินค้า แล้ว
ค่อยๆ ผ่อนปรน จนถึงราคาทีทังสองฝ่ ายพึงพอใจ ถึง
เวลานัน ก็ตอ้ งดูวา่ ใครถือหมากตัวสําคัญ ยิงอดทนรอก็
ยิงมีโอกาส”

เย่เจียเอ๋อพลันกระจ่างแจ้ง “เจ้าหมายความว่า ท่าน

8
ถงจือฝู่ ไม่ยอมให้พวกเราเข้าพบท่านพ่อกับท่านลุงใหญ่
หากคนของเราเป็ นฝ่ ายทนไม่ไหวก็ตอ้ งยอมศิโรราบ ถึง
เวลานันท่านถงจือฝู่ ตอ้ งการอะไรพวกเราก็ได้แต่กม้ หน้า
ยอมรับ”

“เป็ นเช่นนัน”

“แต่วา่ ท่านถงจือฝู่ อยากจะทําการค้าอะไรกับพวกเรากัน


แน่”เย่เจียเอ๋อไม่เข้าใจ “เขากักตัวคนของพวกเราไว้ดว้ ย
สาเหตุใด”

“นีก็ตอ้ งดูวา่ เงือนไขของถงจือหยังคืออะไร” เจียงหลี


กล่าว “วางใจเถิด หากถงจือหยังคิดจะทําการค้า อีกไม่

9
ช้าเขาต้องเสนอเงือนไขของตนแน่”

เย่เจียเอ๋อเห็นว่าเจียงหลีมีทา่ ทางมันอกมันใจนัก ราวกับ


พบต้นตอของเหตุการณ์ในครังนี ในทีสุดนางก็สงบ
อารมณ์ลงได้ พลันกล่าวอย่างขบขัน “เหตุใดน้องสาวถึง
เอ่ยนามท่านถงจือฝู่ ตรงๆ เล่า หากใครมาได้ยินเข้า...”

“ตําแหน่งของเขาก็แค่จือฝู่ ” เจียงหลียิมรับ ราวกับไม่มี


อะไรเกิดขึน “ท่านพ่อของข้าเป็ นถึงมหาอํามาตย์ ต่อให้
ข้ายืนต่อหน้าแล้วเรียกชือเขาตรงๆ ไม่วา่ ในส่วนลึกของ
เขาจะขุ่นเคืองเพียงใด ก็ยงั คงต้องแสดงออกอย่าง
พินอบพิเทา”

10
เย่เจียเอ๋อตกตะลึง เย่หยูฟงถึงกับหันมามองเจียงหลี

เจียงหลีไม่เห็นถงจือหยังอยูใ่ นสายตาจริงๆ ทว่ามิใช่


เพราะเขามีตาํ แหน่งเป็ นเพียงจือฝู่ แต่ถงจือหยังคนนี
อาศัยบารมีนอ้ งเขยฝังภรรยาถึงขึนมาอยูใ่ นตําแหน่งจือ
ฝู่ ได้ ก็เท่ากับเขาได้ดีเพราะพึงใบบุญฮูหยินของตน แม้
ภายนอกเขาจะทําตัวเกรงอกเกรงใจ แต่กลับเลียงเมีย
น้อยไว้นอกบ้าน มิหนําซํายังมีลกู ด้วยกัน

ทุกๆ ช่วงสินปี นายอําเภอแต่ละแห่งต้องไปรายงานตัว


กับจือฝู่ ผนู้ ี แต่เซวียฮว๋ายหย่วนเป็ นขุนนางใจซือมือ
สะอาด เขาไม่ได้มอบเงินให้ถงจือหยังเหมือนนายอําเภอ
คนอืนๆ ถงจือหยังจึงจงใจกลันแกล้งเขาจนเซวียเจาทน
ดูไม่ได้ จึงพยายามหาข้อผิดพลาดของถงจือหยังพอรู ้
11
ความลับนีของอีกฝ่ ายเลยนํามาข่มขู่ เพือไม่ให้ถงจือ
หยังหาเรืองกลันแกล้งเซวียฮว๋ายหย่วนอีก

เซวียฮว๋ายหย่วนไม่รูเ้ ห็นในสิงทีเซวียเจาทํา จึงได้แต่


แปลกใจว่าเหตุใดถงจือหยังถึงเลิกหาเรืองตน ความจริง
หากตอนนันเซวียเจามิได้ลว่ งรูค้ วามลับของถงจือหยัง
เข้าโดยบังเอิญ ก็ไม่รูว้ า่ เซวียฮว๋ายหย่วนจะเป็ นนาย
อําเภอได้อีกสักกีปี คนจิตใจคับแคบอย่างถงจือหยัง จะ
ต้องหาข้ออ้างมาทําให้เซวียฮว๋ายหย่วนหลุดจาก
ตําแหน่งอย่างแน่นอน

เจียงหลียอ่ มไม่ยกย่องคนแบบเขา นึกไม่ถงึ ว่าตระกูลเย่


จะเวียนมาพบกับถงจือหยัง จึงมิได้แสดงออกอย่างเป็ น
มิตร
12
นางกวนซือกล่าวกับนางจัวซือว่า “ทําไมคนทีไปตาม
น้องสามยังไม่กลับมาอีกนะ อย่าบอกว่ารังเขาไม่อยู”่

“เป็ นไปได้อย่างมาก” นางจัวซือค่อนข้างหวาดวิตก


“วรยุทธของน้องสามลําเลิศ ยามในบ้านของพวกเรา
ล้วนสูเ้ ขาไม่ได้... ขอแค่อย่ามีเรืองอะไรเกิดขึนก็แล้วกัน
สถานการณ์ตอนนีกําลังคับขัน อย่าได้เกิดปั ญหาขึนอีก
เลย”

“ไม่ได้ ข้าต้องไปทีว่าการอีกสักรอบ” นางกวนซือผุดลุก


ขึน “พวกยามในบ้านจะยับยังน้องสามได้อย่างไร ข้า
ต้องไปดูเสียหน่อย”

13
“ข้าจะไปกับท่าน” นางจัวซือกล่าว

ทังสองเพิงจะยืนขึน ก็เห็นอาฝูวิงเข้ามาทีหน้าประตู
อย่างรีบร้อน ช่วงหลายวันนี เขากับอาซุน่ ต่างก็อยูช่ ่วย
งานทีลีเจิงถาง ละวางงานในบ้านไว้ก่อน

“อาฝู เกิดอะไรขึน” นางจัวซือถามด้วยความตกใจ

เจียงหลีพินิจมอง เห็นเสือของอาฝูฉีกขาดไปถึงครึง
อาภรณ์แหว่งวิน ไม่รูว้ า่ ใบหน้าไปโดนกําปั นหรือฝ่ ามือ
พิฆาต จึงปรากฏรอยฟกชํา ทีมุมปากยังมีคราบเลือด
ราวกับเพิงเสร็จจากการชกต่อย

14
“ฮูหยินใหญ่ ฮูหยินรอง ไม่ได้การแล้วขอรับ” อาฝูกระหืด
กระหอบรายงาน “ลีเจิงถาง ลีเจิงถางถูกคนบุกเข้ามา
พวกยามของเราต้านไว้ไม่อยูแ่ ล้วขอรับ เถ้าแก่รา้ นถูก
คนล้อมเอาไว้ อาซุน่ กําลังพยายามช่วยอยู่ คนพวกนัน
เข้ามาก็ทาํ ลายข้าวของไม่หยุด แม้แต่ปา้ ยร้านก็ยงั ถูก
ปลดลงมาทําลาย ฮูหยิน ท่านไปดูสกั หน่อยเถิด”

“ลีเจิงถางถูกคนทําลายรึ” นางจัวซือแทบจะเป็ นลมล้ม


พับไป

“ใช่แล้วขอรับ” อาฝูดงึ เสือทีขาดวินพลางกล่าว “ข้าน้อย


อาศัยว่าตัวเล็กฝี เท้าว่องไว เลยสามารถพาตัวเองกลับ
มารายงานฮูหยินได้ คนพวกนันทําลายข้าวของอย่างบ้า
15
คลัง ทังยังกีดกันไม่ให้คนของลีเจิงถางออกมา”

ลีเจิงถางเป็ นกิจการของตระกูลเย่ ทุกชีวิตในเมืองเซียง


หยางต่างรูจ้ กั เป็ นอย่างดี กล้าบุกทําลายป้ายหน้าร้าน
ช่างกล้าดีนกั

อาฝูพลันขยายความ “พวกเขาเป็ นชาวบ้านธรรมดาๆ


ขอรับ”

“ชาวบ้านเหล่านันมาจากทีไหน กล้าดีอย่างไรถึงได้บกุ
ทําลายลีเจิงถาง ไม่อยากมีชีวิตอยูแ่ ล้วหรือไร” เย่หยู
ฟงเดือดดาลนัก “แล้วเหตุใดถึงไม่แจ้งทางการเล่า”

16
“เป็ นทหารทีจับตัวนายท่านใหญ่ของเราไป แล้วเรายังจะ
ไปแจ้งความกับใครได้อีก” อาฝูรอ้ งไห้ฟมู ฟายด้วยสีหน้า
โศกเศร้า

เจียงหลีพลันเอ่ยถาม “แล้วเหตุใดถึงบุกพังร้านเล่า พวก


เขาจะหาเรืองเดือดร้อนเพืออะไร”

17
บทที 110 มีคนตายรึ

“ได้ยินว่าเป็ นเพราะผ้าหอมโบราณขอรับ” สีหน้าของอา


ฝูฉายแวววิตกกังวล “พวกชาวบ้านทีมาต่างพูดว่า สวม
อาภรณ์ทีทอจากผ้าหอมโบราณแล้วเกิดผดผืนขึน ตอน
นีร้านตัดเสือในเมืองเซียงหยางก็ไม่รบั ผ้าจากเราแล้ว
ทว่าผ้าหอมโบราณทีถูกขายออกไปยังส่งผลเสียต่อผู้
สวมใส่ วันก่อนยังมีคนตายเพราะใช้ผา้ หอมโบราณอีก
ด้วย”

มีคนตายรึ

1
เย่เจียเอ๋อยกมือปิ ดปาก ในฐานะของบุตรีของตระกูลค้า
ขาย นางเข้าใจดีวา่ หากข่าวลือเรืองที ‘มีคนตายเพราะ
ใช้ผา้ หอมโบราณ’ แพร่สะพัดออกไป ตระกูลเย่ก็จะไม่มี
วันพลิกสถานการณ์กลับมาได้อีก

นางจัวซือและนางกวนซืออยากจะเป็ นลมไปเสียเลย

อาฝูมองเจ้านายทุกชีวิตในห้องโถง ไม่รูว้ า่ เป็ นเพราะ


สาเหตุใด ถึงได้รูส้ กึ หวาดกลัวขึนมา ตอนนีนายท่าน
ใหญ่และนายท่านรองก็ถกู เชิญตัวไปยังทีว่าการ ส่วน
นายท่านสามทีออกไปตามหาคนก็ไม่รูว้ า่ เป็ นตายร้ายดี
อย่างไร ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่ลม้ ป่ วยจนต้องนอนรักษาตัว ใน
ห้องโถงแห่งนี เย่หยูฟงยังเด็กเกินไป ส่วนคนอืนๆ ก็เป็ น
สตรีทีอ่อนแอ แต่วิกฤติทีโหมกระหนําตระกูลเย่นนั
2
รุนแรงนัก จะทําอย่างไรดีเล่า

“ข้าจะไปทีลีเจิงถาง” เย่หยูฟงกล่าว

“หยูฟง เจ้าไปตอนนีจะช่วยอะไรได้” นางจัวซือรังบุตร


ชายไว้

“ท่านแม่ ลีเจิงถางเป็ นกิจการทีบรรพบุรุษตระกูลเย่สร้าง


ขึนมาจะปล่อยให้ยอ่ ยยับในมือพวกเราไม่ได้ ในห้องนีมี
เพียงลูกทีเป็ นผูช้ าย ลูกต้องไป” เขากล่าวยํา “ลูกต้องไป
ขอรับ”

นางจัวซือปล่อยมือบุตรชายอย่างพูดอะไรไม่ออก
3
เจียงหลีรูส้ กึ ชืนชมเขามาก ในยามคับขันไม่หดหัวเข้า
กระดอง อุปนิสยั นีเหมือนกับเซวียเจา

แววตาของนางพลันอ่อนโยนขึนหลายส่วน

“ข้าจะไปกับเจ้า” เจียงหลีกล่าว “ไม่ตอ้ งกลัว ข้าจะหาวิธี


รับมือเอง”

“เจ้า...” เย่หยูฟงกําลังจะเอ่ยปาก แต่เย่เจียเอ๋อกลับฉวย


มือเจียงหลีมากุมไว้ “ข้าก็จะไปกับเจ้าด้วย”

ด้านนอกของลีเจิงถางวุน่ วายโกลาหล
4
ผูค้ นรุมล้อมกันอยูเ่ ต็มถนนจนปิ ดทางเข้าออก เถ้าแก่
ร้านข้างเคียงพากันออกมาดูละครฉากนี ลีเจิงถางตังอยู่
บนทําเลทีดีมาก กิจการค้าขายรุง่ เรือง จนคนอาชีพเดียว
กันเกิดความริษยา พอได้เห็นลีเจิงถางตกตํา ต่อหน้าก็
แสร้งทําเป็ นเห็นอกเห็นใจ ทว่าลับหลังนันแอบยินดีไม่
น้อย

อาซุน่ ยืนขวางฝูงชนอยูห่ น้าประตู เขาเดินทางบุกป่ าฝ่ า


ดงไปกับเย่หมิงอวี อย่างน้อยก็ยงั พอมีวรยุทธอยูบ่ า้ ง
คราวนีทีลีเจิงถางไม่ถกู เหยียบยําจนยับเยิน ส่วนหนึงก็
เป็ นเพราะเขาสังยามให้ช่วยกันขวางไว้ ทว่าต่อให้เป็ น
เช่นนัน ตูท้ ีอยูต่ ิดกับประตูก็ยงั ถูกทําลายจนไม่เหลือชิน
ดี บนพืนเต็มไปด้วยเศษผ้าทีถูกฉีกจนขาดวิน อีกทังด้าน

5
นอกยังมีคนหน้าใหม่ถือกระบองไม้บกุ เข้ามาไม่หยุด

สองกําปั นยากจะสูส้ มืี อไหว หากเป็ นเช่นนีต่อไป เขาก็


คงจะรังไม่อยู่

ในฝูงชนมีเด็กรับใช้ทีคนจากบ้านผูด้ ีตระกูลใหญ่สง่ มา ดู
ก็รูว้ า่ เป็ นชาวบ้านธรรมดาไม่ได้รารวย
ํ ทังหมดต่างมีสี
หน้าดุดนั ขณะร้องตะโกนอย่างเกรียวกราด

“ตระกูลเย่ทาํ ร้ายผูค้ น คิดเอาแต่ผลประโยชน์ มีคนตาย


เพราะผ้าหอมโบราณ”

“ตระกูลเย่หน้าเงิน เรียกประมุขตระกูลเย่ออกมา”
6
“คนตระกูลเย่ไม่ได้ตายดีแน่”

ในเมืองเซียงหยาง บ้านตระกูลเย่ทาํ แต่การกุศลมาโดย


ตลอด นีเป็ นครังแรกทีถูกกล่าวหาในทางเสียหาย อาซุน่
ฟั งจนปวดเศียรเวียนเกล้า ในตอนนัน มีคนผูห้ นึงถลก
แขนเสือให้ฝงู ชนดูผืนแดงทีเห่อขึนเต็มแขน ตามมาด้วย
เสียงโห่รอ้ งพลางทําลายข้าวของอย่างคลุม้ คลัง

ครันเย่เจียเอ๋อและคนอืนๆ มาถึงลีเจิงถาง สถานการณ์ก็


เป็ นเช่นนี

ทางด้านนางกวนซือนันตรงไปยังทีว่าการเพือตามหา

7
เย่หมิงอวี ส่วนนางจัวซือนันรอฟั งข่าวอยูท่ ีจวน

ยังดีทีก่อนออกจากบ้าน เจียงหลีได้สงให้
ั ทหารอารักขา
ติดตามมาด้วย พอพวกนางมาถึงลีเจิงถาง ผูค้ นทีพบ
เห็นก็รบี ป่ าวร้อง “คุณหนูและคุณชายของตระกูลเย่มา
แล้ว”

เพียงชัวครู ่ ฝูงชนทังหมดก็ ‘เฮโล’ กันเข้ามา อาซุน่ เห็น


ท่าไม่ดี เป็ นเวลาเดียวกับทีทหารซึงอยูด่ า้ นหลังของเจียง
หลีเดินเรียงหน้าออกมาคุม้ กัน

ทหารของมหาอํามาตย์สามารถข่มขู่ผคู้ นได้ วิสยั ของ


มนุษย์... มักรังแกคนอ่อนแอและหวาดกลัวผูท้ ีแข็ง

8
แรงกว่า ครันเห็นทหารหน้าตาดุดนั เช่นนี ก็หยุดชะงัก
ตามสัญชาตญาณ

ทหารอารักขาคุม้ กันเจียงหลีเข้าไปในลีเจิงถาง ชาว


บ้านพวกนันยังอยากจะตามเข้ามา แต่ก็กลัวดาบยาวใน
มือทหาร จึงค่อยๆ ตีวงล้อมทีละก้าว

มาถึงหน้าประตูลเจิ
ี งถาง เจียงหลีก็มองเข้าไป คนด้าน
ในสภาพยําแย่นกั เถ้าแก่เฉียนใช้ผา้ เช็ดหน้ากุมศีรษะที
มีเลือดซึมออกมา

“ทุกท่าน...” เย่หยูฟงรวบรวมความกล้ากล่าว “อย่าได้


โวยวายไปเลย โปรดใจเย็นก่อน ข้าเป็ นคุณชายของบ้าน

9
ตระกูลเย่ มีอะไรก็เจรจากันดีๆ ตระกูลเย่ไม่หนีความรับ
ผิดชอบอยูแ่ ล้ว...”

จบคํา ไข่ใบหนึงก็ถกู ปาใส่หวั ของเย่หยูฟงทีมีทหาร


อารักขาคุม้ กันไว้

“ผ้าหอมโบราณของพวกเจ้าใส่แล้วตาย พวกเจ้าทําคน
ตาย แล้วยังทํามาหากินกับคนเซียงหยาง พวกทําการค้า
อย่างเห็นแก่ตวั ต้องชดใช้ดว้ ยชีวิต”

ชัวพริบตา สีหน้าของเย่หยูฟงก็แดงกํา เด็กหนุ่มอายุ


น้อยยังไม่เคยรับมือกับเหตุการณ์แบบนี ให้รูส้ กึ จน
ปั ญญา อีกทังสับสนและท้อแท้ใจยิง

10
เย่เจียเอ๋ออายุมากกว่าเย่หยูฟงเล็กน้อย จึงเป็ นฝ่ ายออก
หน้า “ทุกท่าน ข้าไม่รูว้ า่ เรืองทีใส่ผา้ หอมโบราณแล้วตาย
มีความเป็ นมาอย่างไร เรืองนีพวกข้ายังไม่ได้ตรวจ
สอบอย่างละเอียด ตระกูลเย่ทาํ การค้าในเมืองเซียง
หยางมานานหลายปี ชือเสียงด้านการค้าเป็ นทีรับรูก้ นั
ทัว ข้าไม่หลอกลวงพวกท่านแน่”

แต่คาํ พูดนีถูกเสียงตะโกนโหวกเหวกกลบจนเลือนหาย
เจียงหลียงั เห็นคนก้มลงไปเก็บก้อนหิน เพือเตรียมจะปา
ใส่เย่เจียเอ๋อ

เจียงหลีรบี ดึงเย่เจียเอ๋อไว้ ให้นางไปหลบอยูด่ า้ นหลัง

11
ทหารอารักขา

“ใครกล่าวหาว่าผ้าหอมโบราณใส่แล้วทําให้คนตาย”
เสียงสตรีทีแฝงความเยือกเย็น มิได้สงู ส่งแต่ทรงพลัง
อํานาจ ลอยกระทบโสตประสาทฝูงชนอย่างชัดเจน

ทุกชีวิตต่างหันหน้ามอง

ไม่รูว้ า่ หญิงสาวอายุนอ้ ยทียืนอยูห่ น้าทหารอารักขาผูน้ ี


คือใคร นางสวมกระโปรงสีเขียวหยกทีมีทงเข้
ั มและอ่อน
ผสมผสาน สะอาดสะอ้าน คิวและดวงตาฉายแววอ่อน
โยน ดูงดงาม ทังยังน่ารักสดใส

12
ฐานะทีเปลียนแปลงไประหว่าง ‘บุตรสาวมหาอํามาตย์’
กับ ‘บุตรสาวตระกูลค้าขาย’ ทําให้แม้แต่บรรยากาศก็ยงั
แตกต่างกัน ชาวบ้านพวกนันกล้าปาก้อนหินใส่เย่เจีย
เอ๋อ ทว่าต่อหน้าคุณหนูนอ้ ยทีดูไร้เดียงสา กลับไม่กล้า
เอ่ยวาจาผรุสวาท ราวกับบังเกิดความเกรงกลัว

บางแห่งในตัวของเจียงหลี มี ‘รัศมี’ ของคนทีไร้ความ


หวาดหวันใดๆ

“เจ้าเป็ นใคร ผ้าหอมโบราณมีปัญหา เป็ นเรืองทีผูค้ น


ต่างรูก้ นั ทัวมิใช่หรือ เจ้าดูทีตัวของพวกข้าสิ” ชายคนนัน
อาจต้องการท้าทายคุณหนูนอ้ ยผูน้ ี เขาถลกแขนเสือขึน
ให้เจียงหลีดผู ืนทีเห่อแดงเป็ นปื น

13
คงคิดว่าเจียงหลีจะขาดสติไตร่ตรอง ทว่านางกลับใช้
เพียงสายตาเย็นชาชําเลืองมองแขนทีเปลือยเปล่า ราว
กับสิงทีเห็นเป็ นถ้วย ชาม หรือตะเกียงเท่านัน

“อ้อ” นางกล่าวเรียบๆ แล้วชักมีดสันออกมาจากแขนเสือ

ฝูงคนโดยรอบล้วนตืนตกใจ ต่างถอยหลังไปคนละหนึง
ก้าว แม่นางน้อยผูน้ ีไม่พดู พรําทําเพลงก็ชกั มีดเสียแล้ว
คงไม่คิดจะฆ่าคนกระมัง

“น้องสาว...” เย่เจียเอ๋อพยายามเหนียวรังอย่างร้อนรน

14
ในฉับพลัน เจียงหลีจบั มีดสันในแนวขวาง แล้วเฉือนผ้า
บริเวณแขนเสือของตน จนเกิดเสียงดัง

หลังจากนันนางก็โยนเศษผ้าไปทางชายทีกําลังถลกแขน
เสือ ชายผูน้ นรั
ั บผ้าไว้ตามสัญชาตญาณ

“ทุกท่านลองดูเถิด อาภรณ์ทีข้าสวมใส่ก็ทาํ มาจากผ้า


หอมโบราณเช่นกัน ทว่าบนตัวข้ากลับไม่มีผดผืนแบบ
นัน หากไม่เชือ พีสาวท่านไหนจะลองเข้ามาดูผิวพรรณ
ของข้าก็ได้” เจียงหลีกล่าว

เย่เจียเอ๋อกับเย่หยูฟงตกตะลึง พวกเขาไม่รูเ้ ลยว่าเสือที


เจียงหลีสวมใส่ชดุ นีทํามาจากผ้าหอมโบราณ ออกจาก

15
บ้านด้วยความเร่งรีบเช่นนี ใครจะยังสนใจว่าเจียงหลี
สวมเนือผ้าอะไรอยู่ แต่ตอนทีเจียงหลีมาถึงเซียงหยาง
ผ้าหอมโบราณก็เกิดปั ญหาขึนแล้ว แม้แต่ลเจิ
ี งถางก็ไม่
ขายผ้าหอมโบราณอีก เท่ากับว่านางจะต้องซือมาจาก
เมืองเยียนจิงแน่เจียงหลีเห็นแววตาของชาวบ้านเริมอ่อน
ลง ก็รูส้ กึ โล่งใจขึนบ้าง คําพูดใดก็ไม่มีนาหนั
ํ กเท่ากับ
สวมใส่ไว้กบั ตัว

ไม่มีใครกล้าตรวจสอบแขนของเจียงหลี อาจเป็ นเพราะ


ท่าทางของนางดูเย็นชา จําต้องเชือไปตามนัน ผิวพรรณ
ใต้แขนเสือขาวเนียนไม่ตา่ งจากใบหน้า

ยังมีชาวบ้านทีไม่เชือถือคําพูดของเจียงหลี จึงตรวจดู
แขนเสือทีถูกเฉือนชินนันอย่างละเอียด แต่สดุ ท้ายก็จาํ
16
ใจต้องผงกศีรษะรับ “เป็ นผ้าหอมโบราณจริงๆ”

เจียงหลีคลียิม “ดูสิ หากผ้าหอมโบราณมีปัญหา ข้าก็คง


ไม่เอามาสวมใส่ หาทีตายให้ตวั เองหรอก”

“มีอะไรเป็ นไปไม่ได้บา้ ง” ในฝูงชนมีคนพึมพําขึนมา “ถ้า


เจ้าเป็ นคนทีตระกูลเย่จา้ งมาให้แสดงละครเล่า แค่ชีวิต
เดียวก็ไม่เห็นจะเป็ นไร”

เจียงหลียงั ไม่ทนั ได้ตอบโต้ ถงเอ๋อทีอยูด่ า้ นข้างก็บนั ดาล


โทสะ “พูดจาเหลวไหล ชีวิตคุณหนูของข้ามีราคากว่า
พวกเจ้าไม่รูเ้ ท่าไร”

17
ชาวเมืองเซียงหยางไม่เคยเห็นหน้าหรือรูว้ า่ เจียงหลีเป็ น
ใคร ได้ยินเย่เจียเอ๋อเรียกเจียงหลีวา่ เป็ นน้องสาว ก็คิดว่า
เจียงหลีเป็ นญาติหา่ งๆ ทีมาอาศัยตระกูลเย่

เจียงหลีกล่าว “ข้าไม่จาํ เป็ นต้องช่วยพูดให้กบั ตระกูลเย่


ชีวิตของข้า ไม่แน่วา่ ยังมีคา่ มากกว่าลีเจิงถางนีเสียอีก”

18
บทที 111 หรือว่าเป็ นองค์หญิง

“แท้จริงแล้วเจ้าเป็ นใครกันแน่” มีคนร้องถามอย่างเย้ย


หยัน “หรือว่าเป็ นองค์หญิง”

พูดถึง ‘องค์หญิง’ สองคํานี ทําให้สีหน้าของเจียงหลีซีด


ลงไปเล็กน้อย แต่เพียงแวบเดียวก็เผยรอยยิมออกมา
ทว่าเป็ นรอยยิมทีแฝงความเย้ยหยัน

“ข้าไม่ใช่องค์หญิง แต่เป็ นบุตรสาวจากภรรยาเอก


ของมหาอํามาตย์เจียงแห่งเมืองเยียนจิง คุณหนูรอง
เจียง” นางกล่าว

1
เสียงหัวเราะเยาะของฝูงชนค่อยๆ จางหาย

รอยยิมของเจียงหลีแปรเปลียนเป็ นเย็นชาในทีสุด

ณ โรงนําชาซึงตังอยูต่ รงข้ามกับลีเจิงถาง ชายหนุ่มรูป


งามในอาภรณ์สีแดงกําลังจิบชาไปพลางชะเง้อมอง
ละครตรงหน้า

ลูจ่ ีแต่งกายด้วยเสือผ้าสีเขียวยืนอยูฝ่ ังตรงข้ามอย่าง


สุภาพ เขามองเหตุการณ์ของลีเจิงถางในตอนนีแล้ว
ขมวดคิวเล็กน้อย “ไม่นกึ ว่าคุณหนูรองจะออกหน้าช่วย
เหลือตระกูลเย่”

2
จีเหิงนังเท้าคาง ส่วนอีกมือหนึงก็สะบัดพัดให้หบุ ลงจน
เหลือแค่แถบเดียว ก่อนจะโบกพัดไปมาอย่างไม่ใส่ใจ
ราวกับสามารถเห็นไหมทองคําเส้นเล็กบนพัดได้

“แผนการของถงจือหยังไม่สาํ เร็จเสียแล้ว” จีเหิงกล่าว

ทีหน้าประตูลเจิ
ี งถาง เจียงหลียืนอยูด่ ว้ ยความสงบ

‘บุตรสาวจากภรรยาเอกของมหาอํามาตย์เจียง’ พอคํา
พูดนีถูกเอ่ยออกมา ในชัวพริบตาฝูงชนทังหลายก็เงียบ
งัน

3
“แม้วา่ เจ้าคือคุณหนูรองเจียง ก็ไม่สามารถใช้อาํ นาจ
กลันแกล้งคนได้” ในฝูงชนมีชายหน้าผอมผูห้ นึงกล่าว
อย่างใจกล้า เมือพูดจบก็ไปแอบอยูด่ า้ นหลังชายร่าง
กํายํา เพือปิ ดบังโฉมหน้าของตน

“ใช่แล้ว เหตุใดถึงใช้อาํ นาจกลันแกล้งคนเล่า”

“ตระกูลเจียงต้องการปกป้องตระกูลเย่ทีเป็ นญาติฝัง
บ้านภรรยา ขุนนางกับพ่อค้าสมคบคิดกันหาผล
ประโยชน์”

คําพูดของชายหน้าผอมยาว จุดประกายให้กบั ฝูงชนใน


พริบตา เย่เจียเอ๋อมองเจียงหลีอย่างวิตกกังวล ตระกูลเย่

4
เกิดเรืองก็แย่พอแล้ว แต่ชาวบ้านทังหลายยังเอาตระกูล
เจียงมาผูกรวมไว้กบั ตระกูลเย่ ทําให้ตระกูลเจียงพลอย
เสียชือไปด้วย เจียงหยวนปั วเป็ นถึงขุนนางชันผูใ้ หญ่ใน
เมืองเยียนจิง หากเกิดเรืองเดือดร้อนขึนมาจะทําอย่างไร

เย่หยูฟงเองก็ขมวดคิวเช่นกัน

ส่วนเจียงหลีนนยื
ั นอมยิมอยูก่ บั ที ก่อนจะเปิ ดปาก
“ตระกูลเจียงของข้าไม่ไว้หน้าแม้กระทังบุตรสาวของตน
บิดาของข้ามีความยุติธรรม ย่อมไม่ปกป้องใครโดยง่าย”

ฝูงชนพลันนึกขึนได้ คุณหนูทา่ นนีถูกส่งตัวไปอยูส่ าํ นัก


นางชีเนืองด้วยข้อหาทําร้ายมารดาสังหารน้องชายตังแต่

5
เมือหลายปี ก่อน เช่นนัน เจียงหยวนปั วย่อมไม่ใช่ขนุ นาง
ทีจะปกป้องคนผิด

ว่าแต่นางยําเตือนให้คนอืนๆ นึกถึงความเลวร้ายของตน
เช่นนีจะดีหรือ

เจียงหลีไม่สนใจว่าคนอืนจะมองตนอย่างไร แต่เอ่ยปาก
ถาม “เรียนถามทุกท่าน ปั ญหาของผ้าหอมโบราณนัน
พวกท่านรูม้ าจากไหน”

“ร้านตัดเสือต่างพูดกันไปทัว” ฮูหยินคนหนึงซึงยืนอยู่
ด้านหน้าตอบคําถาม “ตอนนีทังเมืองเซียงหยางต่างรูก้ นั
หมดแล้ว ท่านถงจือฝู่ ยงั นําตัวนายท่านตระกูลเย่กลับไป

6
สอบสวนยังทีว่าการอีกด้วย”

“สอบสวนรึ”

เจียงหลียิมเย็นอยูใ่ นใจ ทีแท้ก็คิดจะทําเรืองเช่นนีเอง


หรือ ครันมันใจ รอยยิมของนางก็ยงฉายชั
ิ ด “ข้าไม่รูม้ า
ก่อนเลยว่า การทอผ้า อยูใ่ นการควบคุมของทีว่าการ
ตังแต่เมือไหร่”

พลันมีคนเอ่ยถาม “ท่านพูดเช่นนีหมายความว่าอย่างไร”

เจียงหลีอมยิมตอบ “ตําแหน่งขุนนางชันสูงของเมือง
เซียงหยาง ทีเหนือกว่าใครก็คงจะเป็ นขุนนางจือฝู่ --
7
ถงจือหยังคนนีสินะ จากทีข้าเห็น ตําแหน่งของถงจือหยัง
คงจะยิงใหญ่เกินไป กระทังเรืองใดควรหรือไม่ควร
จัดการก็ลืมไปเสียแล้ว”

นางเรียกชือถงจือหยังตรงๆ ชาวบ้านโดยรอบได้ฟังต่าง
อึงงัน ครันหวนคิดอีกที ต่อให้นางเรียกชือถงจือหยังต่อ
หน้า ก็ไม่มีอะไรต้องหวาดกลัว เพราะอย่างน้อยนางก็มี
บิดาอย่างเจียงหยวนปั วคอยหนุนหลัง

“มีคนตาย ถงจือหยังควรจะเข้าไปจัดการก็จริง แต่ขา้ ไม่


เคยได้ยินว่าการทีโรงทอมีปัญหา จะต้องให้ขนุ นางจือฝู่
อย่างเขาช่วยสะสาง... ผ้าหอมโบราณของตระกูลเย่ ใช่
ว่าจะขายให้กบั คนเมืองเซียงหยางเท่านัน ทีเมืองเยียน
จิงยังมีขนุ นางสูงศักดินํามาสวมใส่ หากเป็ นอย่างทีพวก
8
เจ้ากล่าวหา ผ้าหอมโบราณใส่แล้วทําให้คนถึงตาย ทัง
ยังไม่ใช่เหตุบงั เอิญ ตามความเห็นของข้า หากผ้าหอม
โบราณทีเมืองเซียงหยางมีปัญหา ผ้าหอมโบราณทีเมือง
อืนๆ ก็ตอ้ งมีปัญหาเช่นกัน”

“หากเป็ นแบบนัน ถ้าบรรดาคุณหนูและฮูหยินทังหลาย


ในเมืองเยียนจิงได้รบั อันตรายเพราะผ้าหอมโบราณ
เรืองราวคงบานปลายใหญ่โตไปแล้ว เรืองใหญ่ถงึ เพียงนี
เกียวข้องกับความเป็ นความตายของราษฎรแคว้นเยียน
แต่ถกู คุมตัวไว้ในมือของขุนนางตําแหน่งเล็กๆ เท่านัน
หรอกหรือ? ในสายตาของข้า เขากล้าดีเกินไปเสียแล้ว”

ประโยคสุดท้าย กล่าวด้วยนําเสียงหนักแน่นและจริงจัง
เป็ นอย่างมาก ทําเอาผูค้ นอกสันขวัญหาย
9
พอถ้อยคําเหล่านีถูกเอ่ยออกมา ชาวบ้านจํานวนไม่นอ้ ย
ก็ตกตะลึงไปตามคาด มีคนหนึงถามขึนอย่างระมัดระวัง
“คุณหนูรองเจียง หากเรืองนีท่านถงจือฝู่ ไม่ควรเป็ นผู้
สะสาง แล้วใครถึงสมควรจัดการเล่า”

“แน่นอนว่าต้องเป็ นผูว้ า่ การด้านสิงทอ--ท่านจือซือลิง


แห่งเมืองเยียนจิง ปั ญหาด้านการผลิตแพรพรรณทัว
แคว้น ล้วนถูกควบคุมโดยแผนกสิงทอของท่านจือซือลิง
อย่างทีพวกท่านกล่าว ผ้าหอมโบราณของตระกูลเย่มี
ปั ญหา ก็ควรจะไล่เรียงเหตุการณ์ออกมาให้ชดั เจน แล้ว
จือฝู่ คอ่ ยรายงานเรืองนีไปยังแผนกสิงทอ แล้วแผนกสิง
ทอจึงจะส่งเจ้าหน้าทีมายังเมืองเซียงหยางเพือสืบสาว
เรืองราวอย่างละเอียด” เจียงหลีกล่าว “แต่ถงจือหยัง

10
กลับไม่ทาํ เช่นนัน เขาจับคนไปทําการสอบสวนโดย
พลการ ไม่รายงานปั ญหาไปยังแผนกสิงทอ เขาคิดจะทํา
อะไรกันแน่ ในสายตาของข้า เขาคงอยากปกป้องตระกู
ลเย่เสียมากกว่า”

ลูจ่ ีทีอยูฝ่ ังตรงข้ามมองอย่างชืนชม แล้วกล่าวเพียงว่า


“คุณหนูรองเจียงผูน้ ี ความสามารถในการพลิกดําให้เป็ น
ขาวช่างน่าทึงเสียจริง”

“ไม่เพียงแค่พลิกดําให้เป็ นขาว เจ้าดูวิธีการวางอํานาจ


กลันแกล้งผูค้ นของนางเถิด ช่างชําชองนัก” จีเหิงกล่าว

สินเสียงของเจียงหลี ในฝูงชนก็มีทงคนที
ั ไม่รูว้ า่ จะต้อง

11
ทําอย่างไร บ้างก็เข้าใจกระจ่างแจ้ง พวกเขาทังหมดล้วน
เป็ นชาวบ้านธรรมดา ต่อให้มีคนทีรับราชการอยูบ่ า้ ง แต่
ก็เป็ นเพียงขุนนางชันผูน้ อ้ ย ไม่รูว้ า่ แต่ละตําแหน่งของขุน
นางในเมืองเยียนจิงนันดูแลเกียวกับอะไร สําหรับด้านสิง
ทอก็ยงไม่
ิ เข้าใจไปกันใหญ่ ส่วนเจียงหลีนนพู
ั ดจามี
เหตุผล ฟั งแล้วไม่เหมือนว่ากําลังโป้ปดมดเท็จ

พลันมีคนเอ่ยถาม “คุณหนูรองเจียง แผนกสิงทอของ


ท่านจือซือลิงควบคุมเรืองนีได้จริงหรือ”

“ใต้ฝ่าเท้าทีทุกท่านกําลังเหยียบยํา ล้วนเป็ นแผ่นดิน


แคว้นเยียน พสกนิกรใต้หล้าล้วนเป็ นราษฎรของโอรส
สวรรค์ ขุนนางทํางานรับใช้ประชาชน ทีมีแผนกสิงทอนี
อยู่ เดิมทีก็เพือช่วยแก้ไขปั ญหาเกียวกับเรืองสิงทออยู่
12
แล้ว พวกเขาต้องทํางานของตนอย่างแน่นอน เพียงแต่
ตอนนีช่างน่าแปลกใจนัก ถงจือหยังไม่เพียงเก็บงําเรืองนี
ไว้ ยังคิดจะแก้ไขด้วยตนเองเสียอีก เรืองใหญ่ขนาดนี
เขารับผิดชอบไหวหรือ” นําเสียงของเจียงหลีแฝงความ
ขุ่นเคือง

“เหตุใดท่านถงจือฝู่ ถงึ ไม่รายงานปั ญหานีขึนไปเล่า”

“ไม่อาจทราบได้” เจียงหลีพลันเอ่ยชีช่อง “อาจเป็ นไปได้


ว่า ถงจือหยังทํางานอยูท่ ีเมืองเซียงหยางนาน ทว่า
หน้าทีของขุนนางแต่ละตําแหน่งก็ยงั ไม่รู ้ ด้วยความทีมี
อุดมการณ์ ไม่วา่ เรืองใดก็อยากจะสะสางด้วยตัว
เองกระมัง” เจียงหลียิมอย่างจริงใจ “ขุนนางดีๆ เช่นนี รอ
ให้ขา้ กลับเมืองเยียนจิงแล้วจะต้องบอกกล่าวกับท่านพ่อ
13
ให้เขาทราบถึงการมีอยูข่ องขุนนางแบบนี คนขยันแต่
ต้องมาเป็ นแค่ ‘จือฝู่ ’ อยูใ่ นเมืองเซียงหยาง ช่างสิน
เปลืองทรัพยากรบุคคลเสียจริง”

ฝูงชนต่างหัวเราะด้วยความขบขัน

ถ้อยคําเย้ยหยันของเจียงหลีใครๆ ก็ฟังออก แม้แต่คนที


โง่เขลาก็ยงั รูว้ า่ ถงจือหยังผูน้ ีคงจะถึงคราวเคราะห์เสีย
แล้ว

“ถงจือหยังทําประโยชน์ตอ่ แว่นแคว้นและราษฎร อยาก


สืบสวนคดีความด้วยตนเอง พวกข้าไม่อาจปล่อยให้เขา
ต้องเหนือยเปล่า” เจียงหลีกล่าวติดตลก “ข้าจะนําเรืองนี

14
รายงานไปยังเมืองเยียนจิง หลังจากทีบิดาของข้าได้รบั
จดหมายก็จะแจ้งไปยังแผนกสิงทอของท่านจือซือลิง
ด้วยตนเอง เข้าใจว่าอีกไม่นาน คนของแผนกสิงทอก็จะ
มาถึงเมืองเซียงหยาง”

“จริงรึ”

“ในฐานะของคุณหนูรองเจียง ข้าขอให้สญ
ั ญากับพวก
ท่าน” เจียงหลียิมบางๆ

คิวโก่งของนางสอดรับกับดวงตา พอคลียิมออกมาจึงงด
งามราวกับบุปผาทีเบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิ ทําให้
บรรยากาศทีตึงเครียดอ่อนโยนลงอย่างไม่รูต้ วั

15
“ข้าคิดว่าครังนี ท่านทังหลายคงไม่ได้คิดมาทําลายลีเจิง
ถาง แต่มาเพือหาวิธีแก้ไข หากเป็ นความผิดพลาดของ
ตระกูลเย่ ตระกูลเย่ก็ตอ้ งยอมรับแน่ ทว่าก่อนทีคนของ
แผนกสิงทอจะมาถึง ตระกูลเย่เองก็ไม่อาจแบกรับความ
ผิดทีไม่มีมลู ตอนนีเวลาก็ลว่ งเลยมามาก ทุกท่านคง
เหนือยกันแล้ว สิงทีพวกข้าสามารถทําได้ก็จะพยายาม
ทําให้สาํ เร็จ ถงเอ๋อ” นางสังสาวใช้ “ไปนําเงินออกมา”

เจียงหลีกล่าวต่อไป “ขอให้ทกุ ท่านช่วยข้าเรืองหนึง ใน


เมือพวกท่านเคยซือผ้าหอมโบราณ เพือเป็ นการเก็บ
รักษาหลักฐาน หวังอย่างยิงว่าจะสามารถเก็บผ้ากลับ
คืนมาได้ แน่นอนทีสุดว่า ในการคืนสินค้าต้องมอบเงิน
ทดแทนให้แก่ทกุ ท่าน นอกจากราคาเต็มของผ้าหอม

16
โบราณทีซือมา ยังมีเงินชดเชยอีกจํานวนหนึง เรืองนี
พวกข้าจะพยายามดําเนินการให้ทกุ ฝ่ ายได้รบั ประโยชน์
อีกทังยังอยากจะขอเวลาให้กบั ตระกูลเย่ อย่างน้อยใน
ช่วงสิบปี ทีผ่านมา ตระกูลเย่ก็ไม่เคยมีขอ้ ผิดพลาด”
นางกล่าว “เห็นแก่ไมตรีในอดีต เวลานีขอให้เชือใจสัก
ครัง หวังว่าจะไม่ลาํ บากจนเกินไป”

เจียงหลีกล่าวอย่างจริงจัง

17
บทที 112 ให้ตายเถอะ

หญิงสาวทีมุง่ มันนันงดงามนัก เงินตอบแทนทีได้รบั ก็ยงิ


งดงามเข้าไปใหญ่ พูดกันตามความจริงแล้ว ทีฝูงชนมา
กันในวันนี จุดมุง่ หมายก็เพราะเงิน หากเรืองทีถูกกล่าว
หาเป็ นความจริง ตระกูลเย่ก็ไม่ใช่หมอทีจะสามารถ
รักษาผืนแดงบนร่างกายให้หายได้

เจียงหลีใช้ทงไม้
ั ออ่ นและไม้แข็ง คนเหล่านีไม่อาจรับเงิน
แล้วยังกระด้างกระเดือง ทีสําคัญต่อหน้าบุตรสาวของ
ท่านมหาอํามาตย์ พวกเขาก็ไม่สามารถทําอะไรได้

1
อีกทังเจียงหลียงั โยนต้นเรืองไปให้ถงจือหยัง หากถงจือ
หยังรายงานปั ญหาไปทีแผนกสิงทอของท่านจือซือลิง
เสียตังแต่แรก ปั ญหาของตระกูลเย่ก็คงถูกแก้ไขไปนาน
แล้ว จะล่าช้ามาถึงตอนนีได้อย่างไร

พลันมีคนกล่าวว่า “เช่นนันก็ตามนี คุณหนูรองเจียงจะ


ต้องทําให้คนของแผนกสิงทอมาทีเมืองเซียงหยางโดย
เร็ว”

“แน่นอน จะช้าไม่ได้”

เจียงหลีปฏิญาณ “วางใจเถิด ขอให้ทกุ ท่านนําผ้าหอม


โบราณทีเคยใช้มาให้ขา้ เสือผ้าเหล่านียังต้องมอบให้กบั

2
แผนกสิงทอของท่านจือซือลิง ข้าเกรงว่าหากไม่รบี
ดําเนินการ เรืองนีจะตกไปถึงมือของถงจือหยังอีกครัง”

ชาวบ้านทังหลายต่างหัวเราะขบขัน ตอนนีไม่มีความ
โกรธแค้นเป็ นปฏิปักษ์เหมือนทีผ่านมา ต่างกลับไปหาผ้า
หอมโบราณทีเคยใช้ แล้วนํามามอบให้เจียงหลี

เจียงหลีสง่ สายตาให้กบั ญาติผพู้ ี เย่เจียเอ๋อรีบสังให้สาว


ใช้ไปเตรียมเงินและกําลังคนด้วยความโล่งใจ เรืองที
สามารถใช้เงินแก้ไขได้ไม่นบั เป็ นปั ญหา ถือว่าใช้เงินซือ
ความอับโชค

เย่หยูฟงมองเจียงหลีดว้ ยแววตาสับสน ตังแต่ตอนทีรูว้ า่

3
เมือครังเยาว์วยั เจียงหลีเคยพูดไม่ดีตอ่ ตระกูลเย่ เขาก็
คิดไม่ถงึ ว่าจะมีวนั ทีได้รบั ความช่วยเหลือจากเจียงหลี

สตรีผนู้ ี... ทําให้คนนิยมชมชอบ ซํายังแค้นไม่ลง เย่หยู


ฟงเก็บความสับสนไว้ในใจ

ชันบนของโรงนําชาฝังตรงข้าม จีเหิงมองไปนอก
หน้าต่างพลางถาม “ละครเรืองนีเป็ นอย่างไรบ้าง”

เสียงปรบมือของลูจ่ ีพลันดังขึน ก่อนจะเอ่ยปาก “วันนีข้า


น้อยเพิงจะรูว้ า่ แม่นางน้อยคนหนึงมีความสามารถถึง
เพียงนี หากไม่เห็นด้วยตา คงจะนึกว่าเป็ นเรืองทีคนอืน
แต่งขึน”

4
“ใช่น่ะสิ” จีเหิงถอนหายใจเบาๆ “อายุยงั น้อยก็สามารถ
แสดงละครฉากใหญ่ตวั คนเดียวได้”

“นางตอบโต้ได้ดี โดยไม่กลัวว่าถ้าอํามาตย์เจียงทีอยู่
เมืองหลวงรูเ้ รืองนีเข้าจะถูกคาดโทษ” ลูจ่ ีกล่าว “เจียง
หยวนปั วเป็ นจิงจอกเฒ่า ฉลาดแกมโกงนัก พบเรือง
เดือดร้อนเช่นนีย่อมหลบเลียงไปให้ไกล ไม่นกึ ว่าบุตร
สาวของเขากลับชอบใช้อาํ นาจ”

จีเหิงชีพัดไปทางหน้าต่าง “นางจงใจอ้างถึงเจียงหยวน
ปั ว”

5
“อืม เพราะเจียงหยวนปั วเป็ นถึงมหาอํามาตย์ ถงจือหยัง
จะได้เกิดความหวาดกลัวรึ ฝ่ ายทีหนุนหลังถงจือหยังก็
คือตระกูลหลี...”

“เช่นนันก็ถกู ต้องแล้ว” จีเหิงยกยิม “คุณหนูรองต้องการ


ให้ตระกูลหลีบาดหมางกับตระกูลเจียง ด้วยความขัด
แย้งชนิดทีไม่อาจไกล่เกลียได้”

ลูจ่ ีตกตะลึง “เพราะเหตุใด”

“ก็ตอ้ งดูวา่ นางต้องการอะไร”

ขณะทีกําลังพูดคุยกันอยู่ จู่ๆ ลูจ่ ีก็รอ้ งลัน “ให้ตายเถอะ”


6
ณ ถนนฝังตรงข้ามทีห่างออกไปไม่ไกลนัก หญิงสาวยืน
อยูใ่ ต้ชายคา ขณะทีสายตามองผ่านฝูงชนตรงมาที
หน้าต่างโรงนําชาแห่งนีเขม็ง

“พวกเราถูกพบเข้าเสียแล้ว” จีเหิงยิมพลางโบกพัดในมือ
“แย่จริงๆ”

เจียงหลีพาถงเอ๋อก้าวออกมา

เพิงจะแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าทีลีเจิงถางไปหยกๆ
เจียงหลีกาํ ลังคิดจะสังทหารให้สืบหาข่าวความเคลือน
ไหวทางฝังของเย่หมิงอวี นึกไม่ถงึ เพิงเดินออกจากลีเจิง

7
ถางก็รูส้ กึ ว่าถูกจับจ้อง เจียงหลีมองตามสัญชาตญาณ
แล้วก็พบกับอาภรณ์สีแดงอันคุน้ เคย พร้อมกับพัดไหมสี
ทองทีโบกช้าๆ

จีเหิงรึ

เขาอยูท่ ีนีได้อย่างไร

เจียงหลีเก็บความตกใจไว้ในอก คิดว่าจีเหิงคงไม่ได้
ติดตามนางมาถึงเมืองเซียงหยางหรอกใช่ไหม ไม่ควรจะ
เป็ นเช่นนัน เขาเป็ นถึงซูก่ วกง
ั คงจะไม่ทาํ เรืองไร้สาระ
อย่างเช่นวันๆ คอยติดตามดูนางกระมัง

8
ทว่า... เจียงหลีจบั จ้องไปยังหน้าต่างโรงนําชาอีกครัง
จากมุมมองนัน คงจะเห็นเรืองราวทังหมดทีเกิดขึนในลี
เจิงถาง ซูก่ วกงท่
ั านนีชอบดูละครนัก คิดว่าตังแต่ตน้ จน
จบเขาคงไม่พลาดสักฉากแน่

รูส้ กึ ไม่ดีเอาเสียเลย

เจียงหลีถอนหายใจยืดยาว ไม่วา่ ซูก่ วกงท่


ั านนีมีจดุ
ประสงค์อะไร นางจะต้องขึนไปพบกับเขาสักครังเพือ
หยังเชิงให้รูต้ น้ สายปลายเหตุ หากไม่เกียวข้องกัน ก็
ปล่อยให้เขาดูละครต่อไปได้ ขอแค่ไม่สอดมือเข้ามาเท่า
นัน แต่ถา้ หากขัดข้อง... นางก็ตอ้ งพิจารณาให้ดีวา่ จะทํา
อย่างไร

9
เจียงหลีสงถงเอ๋
ั อและไป๋ เสวียเสร็จแล้วก็เดินไปยังโรงนํา
ชา

“นางมาแล้ว” ลูจ่ ีลบู เครา “นายท่าน ขอพูดอย่างไม่ปิด


บัง ตอนนีข้าน้อยรูส้ กึ กลัวคุณหนูรองเจียงผูน้ ีเสียแล้ว”

“กลัวทําไม” จีเหิงสะบัดพัดไปมา “ก็แค่เด็กสาวเท่านัน”

“คุณหนูรองเจียงไม่ใช่เด็กสาวธรรมดา” ลูจ่ ีกล่าวกลัว


หัวเราะ “ใช้ทงพระเดชและพระคุ
ั ณ เป็ นวิธีทีใช้กนั ใน
ระบบราชการ นางเลียนแบบพฤติกรรมของเจียงหยวน
ปั วได้อย่างหมดจด เพียงแต่ขา้ น้อยไม่เข้าใจว่า คุณหนู

10
รองอยูใ่ นสํานักนางชีมานานแปดปี เหตุใดถึงรู ้
ธรรมเนียมของพวกขุนนาง ราวกับเจียงหยวนปั วจับมือ
สอนนางมาอย่างไรอย่างนัน หรือแค่เป็ นพ่อลูกกัน ก็
สามารถสืบทอดเจตนารมณ์ได้” จีเหิงชําเลืองมองเขา
แวบหนึง “นันมิใช่เรืองทีคนธรรมดาจะเลียนแบบกันได้
ง่ายๆ”

ขณะทีทังสองคนกําลังพูดคุยอยูน่ นั พลันได้ยินเสียงเด็ก
นําทางเคาะประตู ก่อนทีเจียงหลีจะก้าวเข้ามา

พอเจียงหลีผา่ นประตูมาได้ก็เห็นจีเหิงกับบัณฑิตชุดสี
เขียวทีเคยพบกันตอนชมละคร

11
“บังเอิญจริงๆ” จีเหิงเอ่ยปาก “มาพบกับคุณหนูรองเจียง
จนได้”

เจียงหลีไม่แสดงอาการใดๆ เพียงยิมบางๆ พลางกล่าว


“ข้าก็รูส้ กึ แปลกใจเช่นกัน ทีได้พบกับท่านซูก่ วกงเช่
ั นนี”
ก่อนจะถามด้วยความสงสัย “ไม่รูว้ า่ ท่านกัวกงมาเมือง
เซียงหยางด้วยธุระอันใด”

จีเหิงยิมพลางมองนาง ผ่านไปนานจึงกล่าวออกมาสอง
คํา “งานราชการ”

เจียงหลีคอ่ ยวางใจได้บา้ ง

12
“ดูเหมือนตระกูลเย่จะมีเรือง” จีเหิงมองผ่านบาน
หน้าต่างออกไปยังลีเจิงถางทีอยูไ่ ม่ไกล “หากไม่ได้เจ้า
ช่วยไว้ ลีเจิงถางก็ตอ้ งพังไปแล้ว”

แม้เขาจะพูดเช่นนี แต่ในนําเสียงยังแฝงความรูส้ กึ
เสียดาย เจียงหลีอดหลุดปากออกมาไม่ได้ “เหตุใดถึงดู
เหมือนว่า ท่านกัวกงอยากเห็นลีเจิงถางพังทลายไปเสีย”

“ช่วยไม่ได้” จีเหิงตอบอย่างลําบากใจ “ข้าเป็ นคนชอบดู


ละคร”

คําพูดนียัวโทสะคนฟั งอย่างช่วยไม่ได้ เจียงหลีตอบกลับ


ไปพร้อมรอยยิมเสแสร้ง “ท่านกัวกงอารมณ์ดีจริงๆ ไม่วา่

13
เรืองใดก็สามารถมองให้เป็ นละครได้”

“แต่คนแสดงละครได้ดีอย่างคุณหนูรองเจียงนันมีนอ้ ย
เหลือเกิน” จีเหิงตอบ

“ข้าก็เหมือนกับท่านกัวกง” เจียงหลียิมจนเห็นฟั นขาว


“ไม่ใช่นกั แสดง”

“เช่นนันก็น่าเสียดาย” จีเหิงกล่าวทอดอาลัย “ข้ายังคิด


อยูว่ า่ ได้มาพบกับเจ้าทีเมืองเซียงหยางครังนี น่าจะมี
ละครดีๆ ให้ดอู ีกมาก”

“ว่าอย่างไรนะ” เจียงหลีมองชายหนุ่มนิง
14
นัยน์ตางดงามของเขาทอประกาย ราวกับหลุมลึกอันน่า
พิศวงทีชวนให้ผคู้ นหลงใหล ขณะกล่าวเหมือนมีรอยยิม
แฝงความนัย “มีความรูส้ กึ หนึงบอกกับข้าว่า คุณหนูรอง
จะต้องแสดงละครดีๆ ในเมืองเซียงหยางอีกหลายฉาก”

“ท่านกัวกงมาทีนี ไม่ใช่ดว้ ยข้อราชการหรอกหรือ” เจียง


หลียอ้ นถาม “จะมีเวลาให้กบั เรืองไม่เป็ นเรืองได้อย่างไร”

“หากละครดีจริง ข้าก็ไม่อยากพลาด” เขาจับจ้องเจียง


หลีตาไม่กะพริบ ขณะเอ่ยวาจาด้วยถ้อยคําท้าทาย

เจียงหลีก่นด่าจีเหิงว่าหน้าไม่อายอยูใ่ นใจ จีเหิงตอนนี

15
อายุยีสิบปี เศษเห็นจะได้ แต่คณ
ุ หนูรองเจียงเป็ นเพียง
เด็กสาวอายุนอ้ ย เขายังใช้ความหล่อเหลามายัวเย้า
อย่างไร้จิตสํานึก ตอนทีเซวียฟั งเฟยเกิดเรือง คนในเมือง
เยียนจิงต่างประณามว่านางใช้ความสวยหลอกล่อบุรุษ
ให้หลงใหล แล้วเหตุใดถึงไม่มีใครก่นด่าจีเหิงว่าใช้ความ
งามสังหารผูค้ นเล่า

เจียงหลีจบั จ้องจีเหิงครูห่ นึง จู่ๆ จึงกล่าวว่า “ท่านกัวกง


คงได้ยินแล้ว... ข้าเพิงตําหนิถงจือหยังทีหน้าประตูลเจิ
ี ง
ถาง”

“ได้ยินแล้ว” จีเหิงพยักหน้า

16
“ท่านกัวกงคิดว่า ข้ากล่าวได้ถกู ต้องหรือไม่” เจียงหลี
อยากลองหยังเชิงดูทา่ ทีของจีเหิง ตอนนีเจียงหลีคาดเดา
ว่าถงจือหยังถูกตระกูลหลีบงการ จีเหิงรูจ้ กั กับหลีจิง
นางจึงอยากรูว้ า่ ทีเรืองนีเกียวข้องกับตระกูลหลีนัน จีเหิง
ทราบหรือไม่ เขามาถึงเซียงหยางเพือจะแทรกแซงเรืองนี
หรือเปล่า หากจีเหิงยืนมือเข้ามา เรืองก็จะยิงยากขึนไป
อีก

“คุณหนูรองให้ขา้ ดูละครเงียบๆ เถอะนะ” จีเหิงอมยิม


ตอบ “อย่าให้ออกความเห็นเลย”

คนผูน้ ีจะไม้ออ่ นหรือไม้แข็งก็ใช้ไม่ได้ผล ไม่เปิ ดเผยตัว


ตนแม้แต่นอ้ ย เจียงหลีรูส้ กึ ท้อใจจริงๆ

17
หญิงสาวพลันกล่าวว่า “หากท่านกัวกงแค่ดลู ะครเงียบๆ
ไปตลอดก็คงดี”

จีเหิงยกยิมโดยไม่ตอบโต้

เจียงหลีจงึ เอ่ยเรืองของตนเอง “น้องเขยของถงจือหยังมี


ตําแหน่งเป็ นจงกวนลิง จงกวนลิงเป็ นคนของหลี
เหลียน--บุตรชายท่านเสนาบดี อาจกล่าวได้วา่ ถงจือ
หยังผูน้ ียังเป็ นคนของท่านเสนาบดีอีกด้วย คงจะดูแคลน
ไม่ได้”

มือทีจับพัดของจีเหิงพลันชะงักเล็กน้อย ขณะจับจ้อง

18
แววตาแฝงความนัยของเจียงหลี

ทางด้านลูจ่ ีนนตกใจนั
ั ก แม้แต่เรืองนีเจียงหลีก็รู ้

ในทีสุดจีเหิงก็เอ่ยปาก “จะว่าไปแล้ว คุณหนูรองก็รอบรู ้


เรืองพวกนีเป็ นอย่างดี”

“เพราะบิดาของข้าคือมหาอํามาตย์” เจียงหลีกล่าวเสียง
เบา “ตระกูลเจียงของพวกเรามีศตั รูไม่นอ้ ย หากไม่ระวัง
อาจขวางทางผูอ้ ืนได้ ตระกูลหลีของท่านเสนาบดีกบั
บิดาข้าเป็ นอริกนั ฝ่ ายศัตรูประกอบไปด้วยใครบ้าง ย่อม
ต้องจดจําให้ขนใจ
ึ ไม่เช่นนัน อาจติดกับพวกขุนนาง
ตําแหน่งเล็กๆ จนกลายเป็ นเรืองราวลุกลามใหญ่โต”

19
บทที 113 ช่วยไม่ได้

จีเหิงกล่าวกลัวหัวเราะ “มีคณ
ุ หนูรองเจียงอยูเ่ ช่นนี ข้า
คิดว่าตระกูลเจียงคงไม่ถกู คนลอบทําร้ายโดยง่าย แล้ว
ยังจะรุง่ เรืองไปนับร้อยปี ดว้ ย”

“ท่านกัวกงพูดจาน่าขันเสียแล้ว” เจียงหลีกล่าว “อํานาจ


ทีหนุนหลังท่านเสนาบดีอยูน่ นไม่
ั ธรรมดา พวกข้าไหน
เลยจะกล้าเอาไข่ไก่ไปปาใส่กอ้ นหิน”

หว่างคิวของนางแฝงความเจ้าเล่หก์ ลิงกลอก แม้นาเสี


ํ ยง
จะอ่อนหวานมีมารยาท แต่ทกุ อิรยิ าบถล้วนเป็ นการหยัง

1
เชิง

“งันรึ” จีเหิงเลิกคิวตอบ “เมือสักครู ่ ตอนทีเจ้ากล่าวโทษ


ถงจือหยังอยูห่ น้าประตู กลับไม่เหมือนคนทีเกรงกลัวแม้
แต่นอ้ ย”

เจียงหลียกยิม “นันก็ทาํ ไปเพือราษฎรทังสิน เพือปวง


ประชาอย่าว่าแต่ถงจือหยังเลย ต่อให้เป็ นท่านเสนาบดี
หลีจงหนัน ข้าก็ไม่กลัว”

ลูจ่ ีแทบจะตบมือร้องสรรเสริญ เด็กสาวนางนีมีหลาย


โฉมหน้า พบคนประเภทไหนก็รบั มือได้หมด ไม่รูส้ กึ
ละอายหรือเกรงกลัวแม้แต่นอ้ ย ทังยังสามารถทําให้ฝ่าย

2
ตรงข้ามอับจนถ้อยคํา

จีเหิงเองก็ไม่มีอะไรจะพูด ไม่รูว้ า่ ผ่านไปนานเท่าใด เขา


จึงยิมออกมาอย่างเก้อกระดาก พลางกล่าว “นับถือยิง
นัก”

“คิดว่าเหตุการณ์คราวนีคงทําให้ทา่ นเสนาบดีตอ้ งมี


โทสะไม่มากก็นอ้ ย” เจียงหลีถอนหายใจ “ทว่า... เป็ น
เรืองทีช่วยไม่ได้”

“ท่านเสนาบดีไม่โกรธเจ้าหรอก” จีเหิงแค่นยิม “ก็อย่างที


เจ้าว่า... เพือราษฎร”

3
เจียงหลีกล่าว “แบบนันย่อมดีทีสุด” จบคํานางก็ลกุ ขึน
ยืนแล้วเอ่ยกับจีเหิง “เมือสักครูเ่ ห็นท่านกัวกงอยูท่ ีนี จึง
ตังใจขึนมาทักทาย ได้พดู คุยกันพอสมควรแล้วคงต้อง
ขอตัว ญาติผพู้ ีของข้าคงกําลังยุง่ อยู่ ข้าต้องไปช่วยนาง
สะสางปั ญหา ไม่รบกวนท่านกัวกงแล้ว” นางคํานับจีเหิ
งอย่างเกรงอกเกรงใจ

จีเหิงไม่คิดจะส่งแขก เพียงยิมเย็นชาแล้วตอบว่า “คุณ


หนูรองเจียงโชคดี”

เจียงหลียิมบางๆ แล้วออกจากโรงนําชาไปอย่างเชืองช้า
ยังคงระแวดระวัง นางโต้ตอบจีเหิงแต่ละครังด้วยความ
รอบคอบยิงขึน

4
เจียงหลีกา้ วออกจากโรงนําชาด้วยหัวใจอันเต้นรัว

ประโยคเมือสักครูท่ ีนางกล่าวว่า ‘เหตุการณ์คราวนีคงทํา


ให้ทา่ นเสนาบดีตอ้ งมีโทสะไม่มากก็นอ้ ย’ เป็ นการพูด
หยังเชิง และผลลัพธ์ก็คือ เรืองทีถงจือหยังกระทําต่อตระ
กูลเย่นนมี
ั ความเกียวข้องกับท่านเสนาบดีจริงดังคาด
เพราะการทีจีเหิงตอบว่า ‘เสนาบดีไม่โกรธเจ้าหรอก’ ก็
เท่ากับเป็ นการยอมรับว่าเกียวข้องกับหลีจงหนัน

เจียงหลีหลับตาลง หลีจงหนันมีสว่ นเกียวข้อง มิน่าถงจือ


หยังจึงกล้าดีถงึ เพียงนี ทว่าแล้วอย่างไร ฉวยโอกาสนีทํา
ให้กลายเป็ นเรืองใหญ่เสียเลยดีไหม? ใช้ตระกูลเจียงมา
เป็ นโล่กาํ บัง ทําลายสมดุลระหว่างฝังเสนาบดีกบั ตระกูล
5
เจียง อีกทังทําให้เฉิงอ๋องหมดหนทางดึงเจียงหยวนปั ว
เข้าไปเป็ นพวก

เฉิงอ๋องกับตระกูลเจียงจะได้กลายเป็ นศัตรูทีไม่ยอมลง
ให้อีกฝ่ ายจนแตกหักกันไปข้าง เมือเป็ นเช่นนี เจียง
หยวนปั วจึงจะสามารถทุบหม้อข้าวตนเองโดยไม่ลงั เล
แล้วลุกขึนสูก้ บั เฉิงอ๋องได้อย่างองอาจและผ่าเผย

นีเป็ นจุดประสงค์ของนาง

ภายในห้อง ลูจ่ ีทอดสายตามองไปยังด้านล่าง จนกระทัง


แผ่นหลังของเจียงหลีคอ่ ยๆ ห่างออกไป ก่อนจะถอน
หายใจแล้วกล่าวว่า “คลืนลูกใหม่ไล่คลืนลูกเก่า มาก

6
ความสามารถจริงๆ”

“ตกหลุมพรางเสียแล้ว” จู่ๆ จีเหิงก็เอ่ยปากออกมา

“อะไรนะขอรับ” ลูจ่ ีตะลึงงัน

“ทีแท้ เมือครูน่ างกําลังลองเชิงข้า” จีเหิงคิดอะไรขึนมา


ได้ พลันกล่าวกลัวหัวเราะ “ถงจือหยังไม่ใช่คตู่ อ่ สูข้ อง
นางหรอก”

จีเหิงเอ่ยสําทับ “แม่นางน้อยฉลาดเฉลียวนัก”

7
หลังจากเจียงหลีออกไปแล้วก็กลับมาทีลีเจิงถางอีกครัง

รอให้จดั การกับฝูงชนจนเสร็จเรียบร้อยก็จวนพลบคํา
กลุม่ ของเจียงหลีพากันกลับบ้านตระกูลเย่ นางกวนซือที
เพิงมาถึง ได้รบั รูเ้ รืองราวซึงเกิดขึนทีลีเจิงถางจากนางจัว
ซือก็โล่งใจ เหลือแต่เย่หมิงอวียังไม่กลับมา

“น้องสามเป็ นคนวูว่ าม กว่าข้าจะไปถึงเขาก็บกุ เข้าทีว่า


การเสียแล้ว ซํายังตะโกนโหวกเหวกว่าต้องการพบถงจือ
หยัง จึงถูกพวกทหารคุมตัวไว้ ข้าอยากขอร้องถงจือหยัง
แต่ก็ไม่ได้รบั อนุญาตให้เข้าพบ ทหารทีรักษาการณ์หน้า
ประตูบอกข้าว่าอย่างน้อยก็ตอ้ งนําเงินมาเป็ นสินจ้าง ข้า
ออกจากบ้านอย่างรีบร้อนไหนเลยจะทันพกเงินติดตัว
ทําได้เพียงรอให้ถงึ พรุง่ นีเช้าค่อยกลับเข้าไปอีกครัง หวัง
8
ว่าเจ้าสามคงไม่เดือดร้อนมากนักนะ”

“ยังต้องใช้เงินอีกหรือ” เย่หยูฟงกล่าวอย่างเคียดแค้น
“พวกสุนขั รับใช้”

“ก็เป็ นแบบนีกันทังนัน” นางจัวซือถอนใจ “พวกเรารวบ


รวมเงินหน่อยก็แล้วกัน อย่างไรก็ไม่อาจนิงดูดายแล้ว
ปล่อยน้องสามไว้”

เย่เจียเอ๋อพลันแสดงความเห็น “หากสิงทีพวกเขาต้อง
การคือเงินทอง เช่นนันก็เป็ นเรืองง่าย”

“เจียเอ๋อ เจ้าไม่รูอ้ ะไร” นางกวนซือถอนใจ “ผ้าหอม


9
โบราณเกิดปั ญหา ต้องใช้เงินชดเชยค่าเสียหายไปเป็ น
จํานวนไม่นอ้ ย ร้านตัดผ้าหยุดทําการค้ากับพวกเรา เป็ น
ความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง กลัวแต่คนพวกนีจะไม่
รูจ้ กั พอ นึกว่าตระกูลเย่ของพวกเราเป็ นโรงแลกเงิน จะ
ว่าไปแล้ว... อยากดึงตัวท่านลุงใหญ่กบั ท่านพ่อของเจ้า
ออกมา คงต้องลงแรงไม่นอ้ ย”

ตระกูลเย่ราวกับเนือชันดี ถงจือหยังจับจ้องตาเป็ นมันอยู่


นาน ในเมือสบโอกาสลงมือได้ จะปล่อยเนือทีคาบไว้ใน
ปากให้บินออกไปหรือ

เจียงหลีกล่าวพร้อมรอยยิม “ความจริงไม่จาํ เป็ นต้อง


กังวล” สินเสียง ทุกชีวิตในห้องก็มองนางเป็ นตาเดียว

10
ทุกคนต่างรับรู ้ ทีวันนีลีเจิงถางผ่านพ้นวิกฤติมาได้ เป็ น
เพราะเจียงหลีช่วยพูดออกหน้า แม้วา่ นางจะอายุนอ้ ย
กว่าเย่เจียเอ๋อ และไม่เคยทําการค้า แต่ดลู กั ษณะท่าทาง
แล้ว เจียงหลีคิดอ่านรอบคอบกว่าทุกคนในตอนนี

“ไม่ตอ้ งรวบรวมเงินทอง ข้าก็เชือว่าถงจือหยังจะต้อง


ปล่อยตัวท่านลุงหมิงอวีมาในเร็ววันนี”

“เพราะเหตุใดรึ” เย่หยูฟงขมวดคิวถาม

“เพราะว่า... บิดาของข้าคือเจียงหยวนปั ว” เจียงหลี


กล่าว “เขากลัวเรืองนัน”

11
ในห้องหนังสือของจวนตระกูลถง

ถงจือหยังย้อนถามเสียงสูง “บุตรสาวของเจียงหยวนปั วรึ


เหตุใดนางถึงมาอยูท่ ีเซียงหยางได้”

ถงจือหยังเป็ นคนรูปร่างอ้วนท้วน ตัวกลม ตาเล็กจมูก


แบนราวกับกระเทียม แม้จะอยูใ่ นจวนก็ยงั สวมชุดขุน
นางทังวัน เวลานีเขากําลังบันดาลโทสะใส่คนรอบกาย

“ข้าน้อยก็ไม่ทราบ” ข้ารับใช้ตอบ “เดิมทีคิดว่าตระกูลเย่


ให้คนปลอมตัวมา ทว่าทหารอารักขาของจวนอํามาตย์
ไม่สามารถปลอมกันได้ง่ายๆ คนเมืองเซียงหยางทีเคย

12
ไปเยียนจิงล้วนเห็นมากับตา ต่างยืนยันว่าเป็ นคุณหนู
รองเจียงจริงๆ ไม่ผิดแน่ขอรับ”

ถงจือหยังซักไซ้ “ไม่ใช่วา่ ตระกูลเย่กบั ตระกูลเจียงตัด


ขาดกันมากว่าสิบปี เพราะเจียงหลีไม่ยอมรับคนตระกู
ลเย่หรอกรึ เหตุใดจู่ๆ ถึงมาเยือนเมืองเซียงหยางได้”

“เรืองนี ทราบมาว่าฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่ป่วยหนัก คุณหนูรอง


จึงมาเยียมคารวะขอรับ”

ถงจือหยังพลันถีบเก้าอี “นีพวกเขาคิดจะหลอกใครกัน
ไม่มีข่าวคราวมาหลายปี จู่ๆ ก็มามีนาจิ
ํ ตนําใจต่อกัน
กระนันหรือ”

13
“นียังไม่ถือว่าหนักหนา... นายท่าน คุณหนูรองเจียงคน
นันยังยืนอยูห่ น้าประตูลเจิ
ี งถางแล้วกล่าว... กล่าว...” ข้า
รับใช้รายงานอึกๆ อักๆ

“พูดว่าอะไร”

ลังเลอยูค่ รูห่ นึง จึงถ่ายทอดถ้อยคําทีเจียงหลียืนพูดอยู่


หน้าลีเจิงถางให้เจ้านายฟั งอย่างไม่ผิดเพียน

ถงจือหยังฟั งจบก็หน้าซีดลงไปถนัดตา อัดอันอยูน่ านจึง


ตวาดลันเพียงสองคํา “ออกไป!”

14
“นายท่าน เดิมทีตระกูลเย่อยูใ่ นกํามือของเราแล้ว แต่
ใครจะรูว้ า่ จู่ๆ ก็มีคณ
ุ หนูรองเจียงโผล่ขนมา
ึ คุณหนูรอง
เป็ นถึงคนของตระกูลเจียง เช่นนัน... ตอนนีคงต้องคิด
วางแผนกันใหม่ใช่หรือไม่”

คําพูดของข้ารับใช้ทาํ ให้ถงจือหยังต้องเก็บมาครุน่ คิด


เช่นกัน ก่อนหน้านีน้องเขยให้เขาหาโอกาสจัดการตระกู
ลเย่ บอกว่าหากสําเร็จเขาจะมีโอกาสได้เลือนตําแหน่ง
ถงจือหยังไม่พดู พรําทําเพลงก็ตกปากรับคํา ทุกอย่าง
เป็ นไปตามแผนของน้องเขย เพียงแค่รอให้ตระกูลเย่ถกู
บีบคัน ยําแย่จนสินไร้ไม้ตอก ค่อยเปิ ดช่องให้หนีรอด
ตามแผนทีวางไว้ในตอนสุดท้าย

ใช้โอกาสนี ผลักดันให้ตนเองได้เลือนตําแหน่ง แล้วยังหา


15
เงินจากตระกูลเย่ได้อีกก้อน เรืองดีๆ เช่นนี เหตุใดจะไม่
ทําเล่า

ทังหมดกําลังดําเนินตามแผน ใครจะรูว้ า่ จู่ๆ เจียงหลีก็


โผล่เข้ามา

“ปล่อยไว้เช่นนีไม่ได้” ถงจือหยังเดินวนไปเวียนมาอยู่
สองรอบ แล้วว่ากล่าว “ไปเอากระดาษกับพูก่ นั มา”

ข้ารับใช้รบี ปฏิบตั ิตามคําสัง ถงจือหยังปาดเหงือบนหน้า


ผาก มองกระดาษกับพูก่ นั ตรงหน้า ขณะขบคิดอยูว่ า่ จะ
เขียนอย่างไร

16
ลาภยศและเงินทองเป็ นสิงชวนปรารถนา แต่ถา้ ต้องชด
ใช้ดว้ ยการลดจํานวนภรรยาและกําลังทหารก็ไม่น่า
พิสมัยเสียแล้ว ถงจือหยังตัดสินใจถามน้องเขย เพือให้
อีกฝ่ ายไปปรึกษาผูม้ ีพระคุณท่านนัน อย่างน้อยก็ชีแนะ
ว่าเขาควรก้าวต่อไปอย่างไร ไม่เช่นนัน ลําพังตัวเขาเอง
หากก้าวพลาด นึกเสียใจก็คงสายไปเสียแล้ว

ขณะกําลังเขียนจดหมายอย่างรีบร้อนอยูน่ นั ข้ารับใช้
ข้างกายพลันนึกอะไรขึนมาได้ “นายท่าน ตอนนีนาย
ท่านสามตระกูลเย่ยงั ถูกขังไว้ จะปล่อยตัวหรือไม่ขอรับ”

“ขังอะไรกันเล่า ยังไม่รบี ปล่อยตัวอีก บอกว่าเป็ นเรือง


เข้าใจผิด ทหารใต้บงั คับบัญชาก่อปั ญหากันเองทังนัน
ไม่เกียวข้องกับข้า” ถงจือหยังก่นด่า
17
สินเสียง ข้ารับใช้ก็รบี ออกไปทําตามคําสัง

ถงจือหยังยืนอยูใ่ นห้อง ยิงคิดก็รอ้ นใจนัก อีกทัง


สถานการณ์ตอนนีไม่อาจรอช้าได้ ด้วยเจียงหลีได้ลนั
วาจาไว้ ว่านางเขียนจดหมายกลับเมืองเยียนจิงเพือแจ้ง
เรืองนีแก่เจียงหยวนปั วแล้ว เขาจะต้องรีบเขียนจดหมาย
ถึงน้องเขย ให้อีกฝ่ ายช่วยหาทางแก้ไข

เป็ นความโชคร้ายทีผ่านเข้ามาอย่างไม่ทนั ตังตัวจริงๆ

18
บทที 114 กลับมาแล้วก็ดี

หนึงชัวยามให้หลัง เย่หมิงอวีก็กลับมาถึงจวนตระกูลเย่

ทุกคนเห็นเขาปลอดภัยก็รูส้ กึ ดีใจนัก นางกวนซือถาม


เย่หมิงอวีว่าบาดเจ็บทีไหนหรือไม่ เย่หมิงอวีได้แต่สา่ ย
ศีรษะ ถึงแม้จะถูกทหารพวกนันคุมตัวไป ก็ใช่วา่ เขาจะ
ยอมง่ายๆ เย่หมิงอวีเองก็สร้างเรืองเดือดร้อนให้กบั
ทหารพวกนันไม่นอ้ ยเช่นกัน

“ข้ายังนึกว่าพรุง่ นีจะต้องนําเงินไปไถ่ตวั เจ้าเสียอีก” นาง


จัวซือโล่งใจนัก “กลับมาแล้วก็ดี”

1
เย่หมิงอวีเกาหัวแกรกๆ “เดิมทีทหารพวกนันก็ข่มขู่ขา้
เป็ นอย่างมาก แต่พอตกเย็นกลับเกรงอกเกรงใจ ขอโทษ
ขอโพยว่าเป็ นเพียงความเข้าใจผิด แล้วปล่อยตัวข้ากลับ
มา”

ทุกชีวิตในห้องพลันมองไปทีเจียงหลี

“พวกเจ้ามองหลีเอ๋อทําไม” เย่หมิงอวีถาม “เรืองนีเกียว


ข้องอะไรกับหลีเอ๋อรึ”

“เรืองนียังดีทีมีนอ้ งสาวอยู”่ เย่เจียเอ๋อจึงเล่าวีรกรรมที


เจียงหลีทาํ ตรงหน้าประตูลเจิ
ี งถาง จบแล้วก็เอ่ยว่า

2
“ถงจือหยังคงจะเกรงกลัวตระกูลเจียง จึงปล่อยตัวท่าน
อาสามออกมาเร็วเช่นนี”

เย่หมิงอวีคิดไม่ถงึ ว่าเรืองราวจะซับซ้อนเช่นนี ได้แต่มอง


เจียงหลีอย่างพูดไม่ออก เมือก่อนคนตระกูลเย่มกั จะ
กล่าวว่าไม่ควรให้เย่เจินเจินแต่งงานกับเจียงหยวนปั ว
หากนางแต่งงานกับคนธรรมดา ชะตาชีวิตอาจจะไม่เป็ น
เช่นนี ทว่าหากเย่เจินเจินแต่งงานกับคนธรรมดาขึนมา
จริงๆ ทุกวันนีคงไม่มีชือเสียงของเจียงหยวนปั วคอยหนุน
หลัง ถ้าเป็ นเช่นนันตระกูลเย่จะยืนหยัดอยูไ่ ด้นานแค่
ไหน

หลายปี ทีผ่านมา หากไม่ใช่เพราะเย่เจินเจินเป็ นสะใภ้


ตระกูลเจียง เกรงว่าการค้าของตระกูลเย่คงไม่ราบรืนมา
3
จนถึงตอนนี สิบกว่าปี ทีผ่านมา ด้วยเห็นว่าตระกูลเจียง
ขาดการติดต่อกับตระกูลเย่ คนพวกนันถึงคิดกระทําการ
อย่างโง่เขลา

อาจจะกล่าวได้วา่ ต้นไม้ใหญ่มกั ต้านแรงลม

เจียงหลีกล่าวพร้อมรอยยิม “เรืองเล็กน้อย ถงจือหยังใจ


ฝ่ อเหมือนหนู แต่ยงั คิดโลภโมโทสัน กระทําการอย่าง
ห่วงหน้าพะวงหลัง ชือเสียงของตระกูลเจียงจึงสามารถ
ข่มขวัญเขาได้ อันทีจริงถ้าเป็ นคนทีใจเด็ดสักหน่อย ไม่
แน่วา่ จะได้ผลเช่นนี”

“เจ้าพูดเหมือนกับรูจ้ กั ถงจือหยังดี” เย่หยูฟงอดตังข้อ

4
สงสัยไม่ได้“ตังแต่ตน้ จนถึงตอนนี ถงจือหยังมิได้แสดง
ตัว กลับให้คนรอบกายออกหน้า เช่นนีก็รูไ้ ด้วา่ เขาเป็ น
คนขีขลาดตาขาว เขาวางแผนให้ตวั เองปลอดภัย หมาย
จะรอรับแต่ชยั ชนะเท่านัน รอจนเรืองทุกอย่างสินสุดลง
ถึงค่อยปรากฏตัว”

เย่หมิงอวีพยักหน้ารับ แล้วเอ่ยถาม “หลีเอ๋อ เจ้าเขียน


จดหมายถึงบิดาจริงหรือ”

ตอนทีเจียงหลีอยูห่ น้าลีเจิงถาง นางได้ประกาศว่าจะ


เขียนจดหมายเล่าเรืองราวทีเกิดขึนในเมืองเซียงหยางให้
เจียงหยวนปั วทราบ เขาจะได้รายงานต่อแผนกสิงทอ
ของท่านจือซือลิง เพือให้ทา่ นจือซือลิงรีบส่งเจ้าหน้าทีมา
ตรวจสอบ เย่หมิงอวีลังเลชัวครู ่ จึงถามต่อ “บิดาของ
5
เจ้า... จะออกหน้าสะสางเรืองนีจริงหรือ”

เจียงหลีสา่ ยศีรษะ “ไม่ได้เขียน”

คนตระกูลเย่มองนางอย่างตืนตะลึง เย่เจียเอ๋อพลันซักไซ้
“เช่นนันน้องสาว เจ้าแค่ข่ถู งจือหยังรึ”

“ก็ไม่ใช่แบบนันอีกเช่นกัน” เจียงหลีกล่าว “แม้ขา้ จะไม่


ได้สง่ จดหมายถึงท่านพ่อ แต่ก็เขียนถึงญาติผพู้ ีแล้ว
ตอนนีญาติผพู้ ีเป็ นถึงฮู่ปู้ แผนกสิงทอย่อมไม่กล้ากระทํา
การชักช้าแน่ ยิงไปกว่านัน ข้ายังบอกกับญาติผพู้ ีอีกว่า
ให้อา้ งชือของท่านพ่อ คนของท่านจือซือลิงย่อมให้ความ
สําคัญมากยิงขึน ข้าคิดว่าเมือท่านจือซือลิงได้รบั

6
รายงานแล้ว จะต้องรีบส่งคนมาเซียงหยางโดยเร็วแน่”

ทุกคนไม่นกึ ว่าเจียงหลีจะเอ่ยเช่นนี เย่หยูฟงพลันถาม


ต่อไป “เหตุใดเจ้าถึงให้พีใหญ่อา้ งชือบิดาของเจ้า”

“ในงานเลียงของวังหลวง ข้ากับญาติผพู้ ีได้รบั พระราช


ทานรางวัลพร้อมกัน ผูค้ นทังหลายต่างก็รูถ้ งึ ความ
สัมพันธ์ระหว่างเราทังคู่ ข้าคิดว่าท่านพ่อก็ชืนชมเขาอยู่
เช่นกัน หากมีคนในแวดวงขุนนางถามถึงเรืองนี ท่านพ่อ
ก็คงจะไม่หลบเลียง ในเมือชาวเมืองเยียนจิงต่างเข้าใจ
ว่าญาติผพู้ ีกับบิดาของข้าอยูฝ่ ่ ายเดียวกัน ก็ปล่อยให้
พวกเขาเชือเช่นนันไปเสียเลย มีอาํ นาจแล้วไม่อาจนํามา
อวดอ้าง ก็เท่ากับเปล่าประโยชน์มิใช่หรือ”

7
“ไม่กลัวว่าจะเป็ นการหาเรืองให้กบั บิดาเจ้าหรือ” เย่หยู
ฟงถาม “กระทําโดยพลการเช่นนี หากกลับถึงเมืองเยียน
จิง ท่านอํามาตย์คงไม่ละเว้นเจ้าแน่”

“แล้วจะเป็ นอย่างไร” เจียงหลียิมบางๆ “เรืองมาถึงขันนี


สังหารข้าให้ตายแล้วจะได้ประโยชน์อะไร”

ท่าทีทีไร้ความเกรงกลัว ราวกับรอให้เรืองต่างๆ ดําเนิน


ไปตามวิถีทางของมัน ทําให้คนตระกูลเย่กลายเป็ นใบ้
อย่างพูดอะไรไม่ออก

ทว่าเจียงหลีรูด้ ีแก่ใจ นางต้องการตัดความเป็ นไปได้ที

8
จะทําให้เฉิงอ๋องกับตระกูลเจียงต้องอยูฝ่ ่ ายเดียวกัน นัน
ก็เท่ากับว่า จะต้องทําให้เจียงหยวนปั วและเสนาบดีมี
ความบาดหมางชนิดไร้หนทางแก้ไข เมือเป็ นเช่นนัน
นางถึงจะมีโอกาส

ส่วนเรืองทีว่า หากเดินทางกลับไปถึงเมืองเยียนจิง
แล้วจะถูกเจียงหยวนปั วขุ่นเคืองหรือไม่นนค่
ั อยว่ากันที
หลัง เพือแก้แค้นองค์หญิงหย่งหนิงและเสินอวีหยง เจียง
หลียินดีทีจะสละทุกสิง

แม้กระทังชีวิตของตัวเอง

หากถงจือหยังมีคนบงการอยูเ่ บืองหลังจริงดังคาด การ

9
ปรากฏตัวของนางย่อมทําให้แผนของเขาพังไม่เป็ นท่า
เขาจะต้องเขียนจดหมายไปขอความช่วยเหลือแน่ แต่
ก่อนหน้านัน จดหมายทีเจียงหลีเขียนถึงเย่ซือเจียก็จะ
ถูกส่งไปแล้ว ถงจือหยังยังไม่ทนั ตังรับ คนของแผนกสิง
ทอของท่านจือซือลิงก็จะมาถึงเซียงหยางก่อน ทังหมด
ไม่ใช่เรืองทีถงจือหยังสามารถชักเชิดได้ตามอําเภอใจ

ระหว่างนีนับเป็ นโอกาสอันดี

“วางใจเถิด” เจียงหลีกล่าวพร้อมรอยยิม “ข้าคิดว่าช่วงนี


ถงจือหยังจะยังไม่เคลือนไหว แต่บรรดาผ้าหอมโบราณที
เก็บกลับคืนมาต้องรักษาเอาไว้ให้ดี ผ้าหอมโบราณทีข้า
ใส่เองนันไม่มีปัญหาใดๆ ชัดเจนว่าผ้าหอมโบราณทีมี
ปั ญหาคือสินค้ารอบใหม่ หรืออาจกล่าวได้วา่ ผ้าทีมี
10
ปั ญหาจํากัดอยูเ่ ฉพาะในเมืองเซียงหยางเท่านัน คิด
อย่างไรก็รูส้ กึ ว่าเรืองนีไม่ใช่เหตุบงั เอิญ รอให้คนของ
ท่านจือซือลิงมาถึง ก็จะสามารถตรวจสอบได้อย่าง
ชัดเจน”

เย่เจียเอ๋อพยักหน้ารับ “ข้าเองก็คิดเช่นนัน”

พูดคุยเกียวกับวิธีรบั มือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าเสร็จ
แล้ว คนทังหมดของบ้านตระกูลเย่จงึ แยกย้ายกลับไปพัก
ผ่อน เจียงหลีกา้ วออกมาเป็ นลําดับสุดท้าย โดยมีเย่หมิ
งอวีเดินนําอยูด่ า้ นหน้า ในทีสุดหญิงสาวก็เอ่ยปากเรียก
“ท่านลุงหมิงอวี”

11
เย่หมิงอวีหยุดฝี เท้า “หลีเอ๋อ มีอะไรรึ”

“ข้าขอรบกวนเวลาท่านสักครู”่

ได้ฟังดังนัน เย่หมิงอวีจึงเดินตามเจียงหลีมาทีห้อง
หนังสือของเย่หมิงฮุย เจียงหลีให้ถงเอ๋อยืนสังเกตการณ์
อยูด่ า้ นนอก แล้วจึงกล่าวว่า “ท่านลุงหมิงอวีขึนเหนือ
ล่องใต้ คงจะมีสหายอยูบ่ า้ ง”

เย่หมิงอวีหัวเราะลัน “ไม่ผิด ข้ามีเพือนมากมาย”

“สหายพวกนันคงจะเป็ นคนทีสามารถบุกนําลุยไฟเพือ
เพือนได้ ท่านลุงหมิงอวี หลานมีอยูเ่ รืองหนึง ต้องให้ทา่ น
12
หรือสหายเหล่านันช่วยจัดการ”

เย่หมิงอวีเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเจียงหลีก็หบุ ยิม แล้ว


เอ่ยถาม “มีเรืองอะไร เจ้าบอกข้าได้เลย”

“คนเมืองเซียงหยางต่างก็รูก้ นั ดีวา่ ถงจือหยังกลัวภรรยา


นัก แม้คนผูน้ ีจะโลภโมโทสันแต่เรืองอย่างว่ากลับไม่มี
ด่างพร้อย แม้แต่หอนางโลมก็ยงั ไม่เคยเข้าไปเหยียบย่าง
ด้วยเหตุนีญาติฝ่ายภรรยาถึงยอมผลักดันเขาจนได้นงั
ตําแหน่งจือฝู่ ของเมืองเซียงหยางอย่างมันคง”

พอพูดถึงเรืองความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชาย แม้แต่เย่ห
มิงอวีก็ยงั รูส้ กึ ไม่สบายตัว ทว่าเจียงหลีกลับไม่แสดงออก

13
ทางสีหน้า เย่หมิงอวีเห็นเช่นนันก็ได้แต่นกึ หาเหตุผลให้
กับนาง อย่างน้อยเจียงหลีก็อยูใ่ นสํานักนางชีมานาน
แปดปี จิตใจจึงกระจ่างใสไร้ตณ
ั หาราคะ เห็นว่ากามาก็
คือความว่างเปล่า และความว่างเปล่าก็คือกามา ถึงได้
มองความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชายอย่างทะลุปรุโปร่ง

นีก็คือการออกบวชกระมัง

เย่หมิงอวีตกอยูใ่ นภวังค์จนล่องลอยไปไกล กระทังได้ยิน


เจียงหลีกล่าว “แต่ความจริงแล้วถงจือหยังกลับไม่ได้อยู่
กับร่องกับรอยเหมือนทีเห็น เขามีเมียเก็บอยูน่ อกบ้าน
ซุกซ่อนไว้ในทีซึงห่างจากเมืองเซียงหยางไปไม่ไกลนัก
เขาซือบ้านให้กบั เมียเก็บอยูอ่ ย่างลับๆ ทังยังมีบตุ รชาย
อีกด้วย”
14
“อะไรนะ!” เย่หมิงอวีตกใจนัก เรืองทีเป็ นความลับขนาด
นีเขายังไม่เคยได้ยินมาก่อน หากพิจารณาว่าถงจือหยัง
คนนีกลัวเมียเหมือนกลัวเสือ แล้วจะใจกล้าถึงเพียงนัน
เชียวหรือ

“ท่านลุงไม่ตอ้ งตกใจไป” เจียงหลีกล่าว “เมียเก็บคนนัน


หน้าตาสะสวย ซํายังรูใ้ จถงจือหยัง กอปรกับลูกจาก
ภรรยาเอกของเขาก็เป็ นบุตรสาวทังสองคน ถงจือหยัง
อยากได้บตุ รชาย เมียเก็บทีทําให้เขาสมหวังจึงกลาย
เป็ นแก้วตาดวงใจเรือยมา แต่ละช่วงจะต้องหาเวลาไป
พบหน้าสองแม่ลกู ”

เย่หมิงอวีตกใจจนหุบปากไม่ลง “เจ้า... ทีเจ้าพูดมาเป็ น


15
ความจริงรึ”

“เป็ นความจริงทุกประการ” ตอนนันเซวียเจารูค้ วามลับนี


ของถงจือหยัง ทําให้ถงจือหยังไม่สามารถกลันแกล้งเซวี
ยฮว๋ายหย่วนได้อีกต่อไป ในยามนันถงจือหยังเพิงจะมี
ลูกชายกับเมียเก็บ มาถึงตอนนีคงจะอายุราวห้าถึงหก
ขวบ เจียงหลีสืบจนได้ความว่า ห้าหกปี ทีผ่านมายังไม่มี
ข่าวลือเรืองทีถงจือหยังเลียงเมียเก็บเล็ดลอดออกมา
เห็นได้ชดั ว่าเขาเก็บงําไว้เป็ นอย่างดี เจียงหลียงั ให้คนไป
สืบข่าวแถบชานเมืองจนพบแม่ลกู คูน่ นั

ถงจือหยังรักใคร่ดแู ลสองแม่ลกู คูน่ ีมากจนน่าขัน

16
“หากทีเจ้าพูดมาเป็ นความจริง” เย่หมิงอวีถาม “แล้วเจ้า
รูเ้ รืองพวกนีได้อย่างไร”

17
บทที 115 ลักพาตัวสองแม่ลูก...

“ข้ามีทหารติดตามมาจากเมืองเยียนจิง” เจียงหลีกล่าว
พร้อมรอยยิม “ข้าได้สง่ ทหารนายหนึงไปสืบข่าวทีจวน
ตระกูลถง บังเอิญว่าถงจือหยังกําลังสังให้คนนําเงินไป
ให้แม่ลกู คูน่ นั ครันคนของข้าติดตามไปจึงพบว่าเรือง
ต่างๆ ไม่ผิดจากความคาดหมาย”

“ดี... หลีเอ๋อนําความลับเรืองเมียเก็บของถงจือหยังมา
เปิ ดเผยเช่นนี เจ้าคิดจะทําอะไร”

“อย่างทีพูดไป ถงจือหยังรักใคร่สองแม่ลกู คูน่ ีมาก ข้า

1
สงสัยว่าถงจือหยังเกียวพันกับเรืองทีผ้าหอมโบราณของ
ตระกูลเย่มีปัญหา บางทีอาจมีคนบงการอยูเ่ บืองหลัง
เพือป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด ข้าต้องการให้เขา
รูส้ กึ หวาดกลัว อย่างน้อยก่อนทีคนของแผนกสิงทอจะ
มาถึงเมืองเซียงหยาง ก็อย่าให้ถงจือหยังทําอะไรตาม
แผนได้”

เย่หมิงอวีมองนางอย่างสงสัย ยังคงไม่เข้าใจความนัยที
เจียงหลีกล่าว

“ในเมือท่านลุงหมิงอวีเป็ นคนในยุทธภพ จะหอบหิวแม่


ลูกสองชีวิตไปไหนสักทีคงมิใช่เรืองยากกระมัง” เจียงหลี
กล่าว “ข้าหวังให้ทา่ นลุงหมิงอวีหรือสหายของท่าน ไป
ลักพาตัวเมียเก็บและลูกชายของถงจือหยัง เมือเขารูข้ ่าว
2
ก็จะทุม่ เทสมาธิในการตามหาลูกเมีย จนไม่มีแก่ใจจะมา
สูร้ บปรบมือกับตระกูลเย่ ยามจําเป็ น ยังสามารถใช้แม่
ลูกคูน่ ีข่มขู่เขาได้...” เจียงหลียิมพลางกล่าว “ต้องเข้าใจ
ว่าถงจือหยังไม่กล้าให้ภรรยาเอกรูเ้ รืองเมียเก็บและลูก
คนนี ด้วยกลัวว่าหากความลับเกิดแดงขึนมาจะทําให้ตาํ
แหน่งจือฝู่ แห่งเมืองเซียงหยางสันคลอน เพือปิ ด
บังความลับนี ถงจือหยังย่อมทําตามข้อเสนอของท่าน
โดยไม่มีเงือนไข อย่างน้อยเขาเป็ นคนทีกลัวเมียดังกลัว
เสือ”

พูดมาถึงตรงนี เย่หมิงอวีก็เข้าใจกระจ่างแจ้ง เจียงหลี


ต้องการให้เขาลักพาตัวเมียเก็บและลูกชายของถงจือ
หยังไป ไม่วา่ จะทําเพือก่อกวนสมาธิหรือเก็บไว้เป็ นตัว
ประกัน ถงจือหยังทีเป็ นคนขีขลาดจะต้องไม่กล้าทําอะไร

3
ตระกูลเย่เป็ นแน่

เย่หมิงอวีกล่าว “หลีเอ๋อ เจ้าอยากให้ขา้ ลักพาตัวสองแม่


ลูก...” ชาวยุทธ์อย่างพวกเขาไม่ยินดีกระทําเรืองเลวร้าย
เช่นนัน มิอาจทําใจรังแกเด็กและสตรีได้

เจียงหลีมองเย่หมิงอวีเงียบๆ แล้วเอ่ยว่า “ท่านลุงหมิงอวี


เวลาทีถงจือหยังหาเรืองตระกูลเย่ ใช้ชาวบ้านบังหน้ามา
ทําลายลีเจิงถาง ไยเขาไม่คิดถึงเด็กและคนชราในครอบ
ครัวตระกูลเย่บา้ ง นียังไม่ได้พดู ถึงญาติผพู้ ีทีรับราชการ
อยูใ่ นเมืองเยียนจิง ท่านยายสุขภาพไม่แข็งแรง หากรู ้
เรืองทีเกิดขึนกับตระกูลเย่ จะทําใจเย็นอยูไ่ ด้อย่างไร”

4
“ทีท่านต้องทําคือลักพาตัวแม่ลกู คูน่ นั ไม่ใช่ทาํ ร้ายพวก
เขา พวกเขาสามารถกินอิมนอนหลับ เพียงแค่ได้รบั
ความตกใจเท่านัน เมือทุกอย่างเสร็จสินแล้วค่อยส่งพวก
เขากลับไป” เจียงหลีกล่าวพร้อมรอยยิม “ถึงยามคับขัน
ท่านลุงจะใจอ่อนเหมือนสตรีไม่ได้”

เย่หมิงอวีได้ฟังพลันสันสะท้าน ไตร่ตรองอย่างถีถ้วนแล้ว
จึงกล่าวกับเจียงหลีดว้ ยความรูส้ กึ ผิด “ข้าคิดง่ายเกินไป”
เขาพูดอย่างมีหลักการ “เรืองนีให้เป็ นหน้าทีข้าเอง พรุง่ นี
ข้าจะพาสหายทีเชือใจได้ไปยังสถานทีซึงไม่มีใครหาพบ
ในเมือถงจือหยังกลัวเมียเสียยิงกว่าเสือ วันธรรมดาก็คง
ไม่กล้าไปมาหาสูแ่ ม่ลกู คูน่ นั เป็ นโอกาสอันดีของพวก
เรา”

5
เจียงหลีพยักหน้ารับ “หากลงมือสําเร็จ รอให้ถงจือหยังรู ้
ข่าวก็สายไปเสียแล้ว อยากตามหาก็คงยากนัก”

“แต่...” เย่หมิงอวีถาม “ทีเจ้าบอกว่าถงจือหยังมีสว่ น


พัวพันกับการทีผ้าหอมโบราณมีปัญหา อีกทังเรืองนียังมี
คนบงการอยูเ่ บืองหลัง เป็ นความจริงรึ”

“ข้าก็แค่สงสัยเท่านัน” เจียงหลีกล่าว “ไม่มีหลักฐานแน่


ชัด แต่วา่ รอให้คนของแผนกสิงทอมาถึงเซียงหยาง
ทุกอย่างก็จะกระจ่างแจ้ง”

เมืองเซียงหยางสงบสุขลงชัวคราว

6
ลีเจิงถางหยุดทําการ ผ่านมาสองสามวันก็ไม่มีชาวบ้าน
แห่มาทีหน้าประตูรา้ น หรือไปก่อกวนทีบ้านตระกูลเย่อีก

ตระกูลเย่คืนสูค่ วามสงบ แต่ถงจือหยังผูด้ าํ รงตําแหน่ง


จือฝู่ แห่งเมืองเซียงหยางกลับกําลังมีเรืองเดือดร้อน

“อะไรนะ ฮูหยินกับคุณชายน้อยหายไปรึ” ถงจือหยังตบ


โต๊ะเสียงดัง

เขากับถงฮูหยินหรือก็คือเฮ่อซือ ดูผิวเผินแล้วเหมือนจะ
ให้เกียรติซงกั
ึ นและกันเป็ นอย่างดี แต่ชาวเซียงหยางต่าง
รูว้ า่ เขากลัวภรรยาผูน้ ียิงนัก ถงจือหยังรูด้ ีวา่ หากไม่มี
บ้านฝังภรรยาช่วยผลักดัน ตําแหน่งจือฝู่ ของเขาก็คง

7
หลุดมือไปตังแต่เมือหลายปี ก่อนแล้ว ถงจือหยังจึงไม่
กล้าขัดคําสังภรรยาแม้แต่นอ้ ย

ทว่า... สุดท้ายเขาก็ทนความเงียบเหงาไม่ไหว จึงแอบ


เลียงเมียเก็บไว้ทีชานเมืองเซียงหยาง เมียเก็บของเขา
ช่างเอาอกเอาใจและเป็ นคนอ่อนหวาน น่ารักใคร่เสียยิง
กว่าแม่เสือในบ้าน ถงจือหยังจึงลุม่ หลงเมียคนนีมาก ถึง
ขนาดให้สาวใช้เรียกว่าฮูหยินเป็ นการเฉพาะ หลายปี มา
นี ต่อให้ตอ้ งเผชิญกับความเสียงต่างๆ เขาก็ยงั เก็บนาง
ไว้ขา้ งกาย ครันเมียเก็บให้กาํ เนิดทายาทผูส้ ืบสกุล ถงจือ
หยังก็ยงทิ
ิ งสองแม่ลกู ไม่ลง

แต่ไหนแต่ไรเขาก็ซกุ ซ่อนแม่ลกู คูน่ ีไว้เป็ นอย่างดี นอก


จากคนทีเขาไว้ใจ ใครหน้าไหนก็ไม่มีทางล่วงรู ้ ตอนนี
8
เมือได้ยินว่าสองแม่ลกู หายตัวไป จึงตกใจจนแทบจะร้อง
ตะโกนออกมา

“เฮ่อซือรูเ้ รืองนีได้อย่างไร ความแตกแล้วรึ”

คนสนิทรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ใช่ขอรับนายท่าน ยังไม่


แน่ชดั ว่าเป็ นฝี มือผูใ้ ด แต่คนร้ายทิงจดหมายไว้ฉบับหนึง
ระบุวา่ ขอยืมตัวฮูหยินกับคุณชายน้อยไปสักระยะ
แล้วจะนํากลับมาส่ง”

“เกิดเรืองแบบนีได้อย่างไร” ถงจือหยังโมโหนัก “พวกมัน


คิดว่าคนของข้าเป็ นอะไร สิงของรึ” ถงจือหยังย้อนถาม
เสียงดัง “พวกมันอยากได้อะไร เงินทอง หรือว่าต้องการ

9
แก้แค้น”

“เรืองนี...” คนสนิทของถงจือหยังเองก็หาเหตุผลไม่ได้

“เข้ามาลักพาคนถึงในถินของข้า พวกมันคงอยากตาย
เสียแล้ว” ถงจือหยังสบถออกมา ก่อนจะออกคําสัง “ค้น
ให้ทวั ต่อให้ตอ้ งขุดดินลึกห้าฉือ ก็ตอ้ งหาฮูหยินกับคุณ
ชายน้อยให้พบ”

คนสนิทรับคําสัง ถงจือหยังหยุดชะงักไปชัวครู ่ แล้วจึง


กล่าวต่อ “จงทําการอย่างระมัดระวัง อย่าให้เฮ่อซือรูเ้ ป็ น
อันขาด”

10
เขาช่างขีขลาดจนไม่กล้าทําอะไรสักอย่าง

เจียงหลีรบั รูจ้ ากปากของเย่หมิงอวีว่า เรืองของซือฉิน


เมียเก็บของถงจือหยังและลูกชายถูกจัดการเรียบร้อย
แล้ว

เย่หมิงเซียนกับเย่หมิงฮุยยังคงไม่ได้กลับจวน แต่เมือ
นางกวนซือและนางจัวซือไปขอเข้าพบอีกครัง ทหาร
รักษาประตูก็ไม่ได้วางอํานาจบาตรใหญ่ แต่ยอมให้พวก
นางเข้าพบเย่หมิงเซียนกับเย่หมิงฮุยโดยดี

แม้นายท่านทังสองของตระกูลเย่จะถูกคุมตัวอยูใ่ นเรือน
จํา แต่ก็นบั ว่าเนือตัวสะอาดสะอ้าน ไร้รอ่ งรอยบาดแผล

11
ครันสอบถามถึงสถานการณ์ในช่วงทีผ่านมาแล้วทราบ
ว่าทุกอย่างได้เจียงหลีช่วยเหลือไว้ ก็รูส้ กึ แปลกใจเป็ น
อย่างมาก ด้วยไม่นกึ ว่าในยามคับขัน จะเป็ นเจียงหลีที
ช่วยคนตระกูลเย่ ความรูส้ กึ ทีคอยปิ ดกันและกีดกันเจียง
หลีให้ออกห่าง ก็เจือจางลงไปกว่าครึง

นายท่านทังสองสังกําชับว่า ช่วงนีอย่าได้ก่อเรือง ให้คอย


สังเกตความเปลียนแปลง รอให้คนของแผนกสิงทอมา
ถึงเมืองเซียงหยาง หากเหตุการณ์ครังนีเกิดจากตระกู
ลเย่ถกู คนแอบให้รา้ ย อีกฝ่ ายต้องไม่ยอมรามือไปง่ายๆ
เป็ นแน่

หลังจากนางกวนซือและนางจัวซือกลับมา ก็ถ่ายทอด
เรืองราวทังหมดให้กบั คนตระกูลเย่ฟัง แล้วยังนําคํา
12
ขอบอกขอบใจของนายท่านตระกูลเย่ทงสองมามอบให้

กับเจียงหลี

หญิงสาวยิมรับ ผ่านเหตุการณ์ยงุ่ ยากมาด้วยกัน ทําให้


คนตระกูลเย่สนิทใจกับเจียงหลีมากขึน

แต่เนืองจากนายท่านใหญ่และนายท่านรองยังไม่กลับ
มา เรืองทีจะเข้าพบฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่จงึ ต้องพักเอาไว้เป็ น
การชัวคราว

เย่หมิงอวีรอให้ทกุ คนแยกย้ายกันไปแล้วจึงหาโอกาสคุย
กับเจียงหลีเป็ นการส่วนตัว “ลงมือเรียบร้อยแล้ว”

13
เจียงหลียิมรับพลางกล่าว “ขอบคุณท่านลุงหมิงอวี”

“ขอบคุณข้าทําไม” เย่หมิงอวีบอกปั ด “จะว่าไป ควรเป็ น


ตระกูลเย่ของพวกข้าทีต้องขอบคุณเจ้า”

“ครอบครัวเดียวกัน ไม่ตอ้ งเกรงใจ” เจียงหลีคลียิม

ทังสองพูดคุยไปพลางเดินมาถึงหน้าประตูบา้ น บ้านตระ
กูลเย่ตงอยู
ั บ่ นทําเลทอง ถนนทังเส้นล้วนเป็ นทีตังของ
ครอบครัวเศรษฐี ในเมืองเซียงหยาง ดังนันตลอดทางจึง
มีบา้ นขนาดใหญ่เพียงไม่กีหลัง บ้านแต่ละหลังกินเนือที
กว้างขวางไปเป็ นจํานวนไม่นอ้ ย

14
ยามนี มีเสียงการแสดงจากคณะละครดังแว่วมา

เจียงหลีพลันเอ่ยถาม “ทีนียังมีคณะละครด้วยหรือ”

เย่หมิงอวีเบะปากไปยังสวนข้างบ้าน “เพิงย้ายเข้ามา
ใหม่ ยังไม่เคยเห็นหน้าเจ้าของบ้าน คงเป็ นคนทีหลงใหล
ในการแสดงละคร ไม่กีวันมานีได้ยินว่า คนข้างในดู
ละครจนติดนิสยั ไปแล้ว”

เจียงหลีฟังถึงตรงนีก็ใจสะท้าน พลันกระจ่างแจ้ง

ตอนนีจีเหิงอยูใ่ นเมืองเซียงหยาง นิสยั ชอบดูละครเช่น


เขา อีกทังยังมีเงินเหลือพอซือบ้านในแถบนีได้ ไม่แน่วา่
15
อาจจะเป็ นจีเหิง

อย่าเรียกว่า ‘อาจจะ’ เลย เจียงหลีจบั จ้องกําแพง


มุงกระเบืองหินสีเขียวแล้วทอดถอนใจ นางเชือว่าผูท้ ีเพิง
ย้ายมาใหม่ทีเย่หมิงอวีพูดถึงก็คือจีเหิง

แม้แถบนีจะเป็ นทําเลทองของเมืองเซียงหยาง แต่ความ


จริงจีเหิงไม่จาํ เป็ นต้องย้ายมาอยูท่ ีนี ด้วยฐานะของเขา
จะหาบ้านทีหรูหราใหญ่โตขนาดไหนก็ได้ แต่กลับ
จําเพาะเจาะจงมาอยูข่ า้ งบ้านตระกูลเย่ ทําให้อดคิดไม่
ได้วา่ จีเหิงมาเพราะนาง

หรือคนผูน้ ีต้องการจับตาดูนาง

16
ในใจของเจียงหลี เกิดความรูส้ กึ โกรธขึงขึนมาทันใด

เย่หมิงอวีไม่ทนั สังเกตความผิดปกติของเจียงหลี เขา


เพียงบิดขีเกียจแล้วกล่าวว่า “ข้าต้องไปกําชับพีน้อง
เหล่านันสักหน่อย หลีเอ๋อ เจ้าเดินเล่นในสวนเถิด หรือ
หากเบือแล้วจะไปหาเจียเอ๋อก็ได้ พวกเจ้าเป็ นสตรี
เหมือนๆ กัน คงมีเรืองให้พดู คุยไม่นอ้ ย”

เจียงหลีผงกศีรษะรับ

หลังเย่หมิงอวีขีม้าจากไป เจียงหลีก็ไม่ได้กลับเข้าบ้านใน
ทันที นางยืนอยูท่ ีหน้าประตูพลางจ้องมองกําแพงบ้าน

17
หลังนัน แว่วยินเสียงละครดังมาจากกําแพงสวนทีอยูอ่ ีก
ฟาก ครูห่ นึงจึงค่อยๆ ก้าวเท้าออกไป

18

You might also like