Professional Documents
Culture Documents
ภายในห้อง จีเหิงกําลังนังเล่นพัดในมืออย่างไม่ยีหระ
หากมีใครสามารถเดินเข้ามาในห้องของเขาได้จะต้อง
ตกใจเป็ นแน่ ซูก่ วกงที
ั ชืนชมแต่ของสวยงามท่านนี กลับ
มีหอ้ งหนังสือทีเรียบง่ายอย่างไม่น่าเชือ ทัวทังห้องดู
กว้างขวางโปร่งสบาย ตกแต่งด้วยสีขาวดําทําให้รูส้ กึ
เรียบโล่ง
หากสายตาของผูม้ าเยือนกวาดมองมาถึงใบหน้าอัน
หล่อเหลาของจีเหิงเข้า พวกเขาก็จะรูเ้ องว่าความว่าง
1
เปล่าของห้องหนังสือนันถูกเติมเต็มในทีสุด
“น่าเบือ” จีเหิงกล่าวอย่างเกียจคร้าน
“แต่พรุง่ นียังจะต้องไปชมการแข่งขันขีม้ายิงธนูอีกนะขอ
รับ ลําบากนายท่านแล้ว”
2
จีเหิงกลอกตาไปมาราวกับอดรนทนไม่ไหว
3
เฉิงอ๋องรึ ลูจ่ ีตกใจนัก แต่แล้วก็เข้าใจได้ทนั ที
ให้จีเหิงจับตาดูเฉิงอ๋องรึ จีเหิงไม่ถือโอกาสนีเข้าร่วมกับ
เฉิงอ๋องก็นบั ว่าดีถมไปแล้ว
“ท่านเสนาบดีสนิทกับเฉิงอ๋องมาก” จีเหิงกล่าวอย่างไม่
ใส่ใจ “ข้าคิดว่าท่านจงซูเส่อหลางก็คงใกล้จะสวามิภกั ดิ
ฝ่ ายนันแล้ว”
5
อย่างน้อยอีกฝ่ ายก็เป็ นถึงองค์หญิง ทําเรืองน่าอับอาย
เช่นนีได้ เขาแทบไม่อยากจะเชือ
“เฉิงอ๋องไม่โง่เขลาขนาดลงมือในสนามสอบกระมัง
ฮ่องเต้ทรงกังวลจนเกินเหตุ” จีเหิงกล่าว “ข้าไปแล้วก็ไม่
มีอะไรให้ทาํ แต่วา่ ...” จีเหิงชะงักถ้อยคํา “ให้เจ้าคอยจับ
6
ตาดูทา่ ทีของเย่ซือเจียดีๆ”
7
คืนนี เจียงหลีนอนหลับสนิท
นางฝันเห็นเซวียเจากับตนขีม้าคนละตัว ห้อตะบึงรุกไล่
อยูก่ ลางป่ า ลูกธนูของเซวียเจาไม่เพียงพอเขาจึงแย่งเอา
ของนางไป ถุงใส่ของบนหลังม้าทีนางขีมีสตั ว์ทีล่ามาได้
อยูเ่ ต็มถุง
“วางไว้บนโต๊ะ”
9
เฟ้นด้วยตนเอง แน่นอนว่าผ้าเนือดีทีสุดต้องยกให้เจียง
โย่วเหยา
เนืองจากการสอบขีม้ายิงธนูเริมตังแต่เช้า เจียงหลีจงึ
ต้องตืนไปรวมกับทุกคนทีสวนหวันฟ่ งถาง นางไปถึงใน
เวลาทีเหมาะสม คนอืนๆ ก็เพิงจะทยอยมาถึงเช่นกัน
เจียงอวีเอ๋อและเจียงโย่วเหยาพินิจพิจารณาเจียงหลี
11
เอ่ยว่า “พีรองวันนีดูตา่ งจากวันก่อนๆ งามแปลกตานัก
ไม่รูว้ า่ ฝี มือขีม้ายิงธนูทีจะได้เห็นในไม่ชา้ จะทําให้ผคู้ น
ตกตะลึงกันทังสนามหรือไม่”
“น้องสามชมเกินไปแล้ว”
12
เจียงหลีองงั
ึ นเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้า นางไม่ได้คิดมาก
เพียงตามไปขึนรถม้าเพือมุง่ สูส่ นามสอบ
เจียงหลีลงจากรถม้าเรียบร้อยแล้วก็เดินตรงไปทีข้าง
สนามสอบ
หลิวสวีเห็นนางมาถึงจึงทักทายอย่างตืนเต้น “วันนีเจ้าดู
อารมณ์ดีไม่นอ้ ย คงไม่มีปัญหาล่ะสิทา่ ”
13
“ก็พอได้”
เจียงหลีรูส้ กึ ประหลาดใจอยูบ่ า้ ง
14
เพราะเมือวานนางแสดงความสามารถออกมาให้ได้เห็น
เป็ นทีประจักษ์ ต่อให้เป็ นกลุม่ บัณฑิตหญิงของหมิงอี
ถางก็ทาํ เพียงยืนรวมกลุม่ กันแอบมองเจียงหลีเงียบๆ อยู่
อีกด้าน ไม่กล้าเอ่ยปากวิจารณ์นางต่อหน้าอีก
เจียงหลีเอ่ยถาม “ข้ามีอะไรน่ากลัวหรือ”
“ตอนนีเจ้าไม่ใช่คนทีได้คะแนนอันดับสุดท้ายของหมิงอี
ถางอีกแล้ว ข้อเดิมพันระหว่างเจ้ากับเมิงหงจิน อย่างไร
เสียเจ้าก็ไม่มีทางพ่ายแพ้ รูห้ รือไม่วา่ เมือวานบรรดา
เหลาสุราทุกแห่งในเมืองเยียนจิงขายดีเป็ นเทนําเทท่า มี
15
ผูค้ นไม่รูต้ งเท่
ั าไรทีไปลงพนันข้างเมิงหงจินแล้วผิดหวัง
ต้องไปหาสุรามาดืมย้อมใจจนเมามาย” พูดถึงตรงนี
หลิวสวีก็เอ่ยทับถม “ข้าได้ยินว่าบ้านตระกูลเมิงเองก็
แทงเดิมพันไว้ไม่นอ้ ย คราวนีคงพ่ายแพ้ราบคาบไป
ตามๆ กัน แหม... น่าเสียดาย หากตอนนันท่านพ่อไม่
ยับยังเอาไว้เสียก่อน ข้าก็คงจะแทงพนันสักตา ไม่รูว้ า่ จะ
ได้เงินกลับมามากแค่ไหน”
“มาเข้าเรืองกันเถอะ” หลิวสวีกล่าวต่อด้วยนําเสียงจริง
จัง “ทักษะขีม้ายิงธนู เป็ นวิชาถนัดของเมิงหงจินมาแต่
ไหนแต่ไร หากเจ้าสูน้ างไม่ได้ก็จงอย่าฝื นเป็ นอันขาด
16
หากพลาดจนล้มหัวกระแทกพืนจะได้ไม่คมุ้ เสีย อย่างไร
เจ้าก็ชนะแน่นอนอยูแ่ ล้ว เหลืออีกแค่สองวิชา ไม่ตอ้ งไป
จริงจังมากนักหรอก”
17
บทที 60 เจ้าอยู่กลุ่มสุดท้าย
เจียงหลีไม่ใส่ใจเท่าไรนัก ขณะนันได้ยินคนทางฝังของ
เมิงหงจินร้องเฮเสียงดัง คงเป็ นสหายสนิทของเมิงหงจิน
พวกนันตะโกนว่า “หงจิน เจ้าอยูก่ ลุม่ สุดท้าย”
1
นางอยูก่ ลุม่ เดียวกับเมิงหงจินจนได้ ไม่ชอบหน้ากันก็
ต้องมาประจันหน้า ระหว่างทีเจียงหลีกาํ ลังครุน่ คิดอยู่
นัน เจียงโย่วเหยาก็กา้ วเข้ามายืนตรงหน้าแล้วเอ่ยทัก “พี
รอง ไม่นกึ ว่าท่านก็อยูก่ ลุม่ ห้า ข้ากับน้องห้าเองก็อยูก่ ลุม่
นีเช่นกัน”
3
สองคนนีดูก็รูว้ า่ เป็ นผูฝ้ ึ กยุทธ์ทีมีทว่ งท่าน่าเกรงขาม ต่อ
ให้ยืนนิงๆ ก็กดดันจนผูค้ นรูส้ กึ หวาดกลัวได้ แต่คนสุด
ท้าย คาดไม่ถงึ เลยจริงๆ เขาสวมชุดสีแดงตลอดร่าง มือ
ถือพัดแถบสีทอง ใบหน้าประดับรอยยิมบางๆ คิวเข้ม ตา
โต... จะเป็ นใครไปไม่ได้นอกเสียจากท่านซูก่ วกงจี
ั เหิง
ความองอาจของข่งลิวและความแข็งแกร่งของเจิงหูเ่ ฉิน
ก็มิอาจข่มให้จีเหิงดูออ่ นแอลงเลย ในทางตรงกันข้าม
ความน่าเกรงขามของเขากลับทําให้ข่งลิวกับเจิงหูเ่ ฉินดู
ราวกับทหารองครักษ์ฝังซ้ายและขวาไปเสียนี
เฉิงอ๋องเกรงใจซูก่ วกงไม่
ั นอ้ ย ฮ่องเต้หงเซียวจึงยิงเชือ
มันในตัวเขา
เฉิงอ๋องเคยคิดทีจะดึงซูก่ วกงจี
ั เหิงมาอยูก่ บั ตน ทว่าจีเหิง
คนนี ไม่วา่ เขาจะมาไม้ไหนก็ลว้ นยืนกรานปฏิเสธ ซํายัง
5
เป็ นคนมีความสามารถ ปะทะด้วยกีครังก็ตอ้ งแพ้ไม่เป็ น
ท่าอยูร่ าไป
ํ เฉิงอ๋องจึงไม่กล้าหาเรืองต่อกรกับจีเหิง แต่
ยังคงแอบสังเกตการณ์อีกฝ่ ายเงียบๆ หากจีเหิงเป็ นมือ
เป็ นเท้าให้ฮ่องเต้หงเซียวจริง เกรงว่าเขาคงต้องตกทีนัง
ลําบากแน่
องค์หญิงหย่งหนิงมิได้ตอบคําถามของเฉิงอ๋อง ใจของ
นางโบยบินไปอยูท่ ีเสินอวีหยงนานแล้ว เมือวานตอน
บ่ายหลังการสอบดนตรีเสร็จสิน เสินอวีหยงมีนดั กับนาง
แต่เขาก็ขอเลือนออกไปอย่างไม่ไยดี องค์หญิงหย่งหนิงดู
ออกว่าเขาเจตนาหลบหน้า นางรูว้ า่ เมือวานหลังจาก
เสินอวีหยงได้ฟังเสียงพิณของบัณฑิตหญิง หัวใจของเขา
เอาแต่คะนึงถึงเซวียฟั งเฟยทีตายจาก คิดมาถึงตรงนี
องค์หญิงหย่งหนิงก็ยงโมโหนั
ิ ก หรือว่านางยังเทียบไม่ได้
6
แม้กระทังคนทีตายไปแล้ว
คนทีสอบกลุม่ เดียวกับนางมีทงหมดหกชี
ั วิต นอกเหนือ
จากเมิงหงจิน เจียงอวีเอ๋อ และเจียงโย่วเหยาแล้ว ก็ยงั มี
7
คุณหนูผสู้ งู ศักดิของหมิงอีถางอีกสองคน คือเนียเสียว
ซวงกับจูซินเอ๋อ ทังสองดูเหมือนคุณหนูจวนขุนนางทีถูก
เลียงดูมาอย่างทะนุถนอม นิสยั ใจคอค่อนข้างหยิงทะนง
ไม่ใช่คนทีจะตีสนิทได้ง่ายๆ
เมือเทียบกับเจียงหลีแล้ว พวกนางดูเอนเอียงไปทาง
เจียงโย่วเหยามากกว่า เจียงหลีไม่แปลกใจ เด็กสาวผูส้ งู
ศักดิในเมืองเยียนจิง ส่วนใหญ่ก็ชอบเจียงโย่วเหยา
มากกว่านางอยูแ่ ล้ว
8
กําลังกวาดตามองเจียงหลีอย่างรวดเร็ว ดวงตาวาววับ
ของนางยากจะปิ ดบังความสะใจและโกรธแค้น ทําให้สี
หน้าของนางเปลียนไปเล็กน้อย ครันมีคนเดินผ่าน
เมิงหงจินพลันก้มหน้า เก็บซ่อนแววตาของตนแล้วกํา
ฉลากในมือแน่น
มือของเมิงหงจินสันระริกอยูบ่ า้ ง นางทําเรืองแบบนีเป็ น
ครังแรก แปลกนัก... แม้จะนึกหวาดกลัวแต่สีหน้ากลับ
เด็ดเดียวยิง นางรูว้ า่ หากตนไม่ทาํ เช่นนี ในวันพรุง่ นีก็จะ
9
ต้องคุกเข่าขอโทษเจียงหลีตอ่ หน้าคนทังสํานักบัณฑิต
ชาย แล้วชือเสียงของนางก็คงป่ นปี
การสอบเริมขึนแล้ว
10
เมือใกล้ถงึ จุดหมายจะมีเป้าธนูปักเรียงกันอยู่ บัณฑิตแต่
ละคนจะต้องยิงธนูให้เข้าเป้า ลูกธนูของแต่ละคนจะมี
สัญลักษณ์ของตนติดไว้เพือป้องกันการเข้าใจผิด
เนืองจากต้องขีม้าเคลือนไหวอยูต่ ลอดเวลาและยิงธนูไป
ด้วย การสอบครังนีจึงไม่ใช่เรืองง่าย อย่าว่าแต่จะยิงให้
ตรงเป้าเลย แค่ทรงตัวบนหลังม้าก็ยากแล้ว จะมีคณ
ุ หนู
สักกีคนทีสามารถยิงโดนเป้าได้
กลุม่ ทีหนึงเริมต้น
เจียงหลีกวาดตามองไปรอบด้าน เกียวกับกฎระเบียบ
ของหมิงอีถาง อาศัยว่าเคยเป็ นสหายกับเซียวเต๋ออินมา
11
ก่อน นางจึงพอรูม้ าบ้างแต่ไม่ละเอียดนัก วันนีนางต้อง
ลงสนามด้วยตัวเอง ข้อปฏิบตั ิทกุ อย่างจึงอาศัยทังตาดูหู
ฟั งจากผูค้ นรอบกาย ใครเขาทําอย่างไร เจียงหลีตงใจ
ั
ศึกษาอย่างละเอียด พอถึงเวลาลงสนามจะได้ไม่มีอะไร
ผิดพลาด
12
หญิงสาวทางตอนเหนือของเมืองเยียนจิงนันไม่ให้ความ
สําคัญกับการฟ้อนดาบรํามีด เจียงหลีมองการสอบตรง
หน้า รูส้ กึ ไม่คอ่ ยพอใจในทักษะการขีม้าและยิงธนูของ
คุณหนูเหล่านีสักเท่าไร
14
“ข้าไม่ใจร้อนหรอกน่า” เจียงหลีตอบยิมๆ
15
และแล้วก็มาถึงกลุม่ สุดท้าย... ได้เวลาทีเจียงหลีตอ้ งลง
สนามแล้ว
16
บทที 61 เสียดายม้าดีๆ
1
เป็ นผูค้ ดั เลือกม้าเหล่านีจากกองทหารม้าด้วยตนเอง ม้า
ทีนํามาใช้ในแต่ละรอบล้วนเปลียนเป็ นตัวใหม่ นอกจาก
นียังถูกฝึ กจนเชือง ทังนีก็เพือเป็ นการรักษาความ
ปลอดภัยให้แก่บณ
ั ฑิตหญิงทังหลาย เพราะอย่างไรเสีย
ม้าพยศก็ยากจะควบคุม หากทําให้บณ
ั ฑิตหญิงเหล่านี
พลัดตกลงมาคงไม่ดีแน่
ม้าของเจียงหลีมีสีนาตาลเข้
ํ ม มันกําลังก้มหน้าก้มตา
เล็มหญ้า ดูแล้วไม่คอ่ ยสวยงามสักเท่าไร เจียงหลีอดไม่
ได้จงึ ยืนมือออกไปลูบไล้แผงคอ มีคนเห็นกิรยิ าเช่นนีของ
นางจึงกล่าวว่า “คุณหนูรองเจียงกําลังทําอะไร นางไม่รู ้
หรือว่าควรจะขึนขีม้าด้วยวิธีไหน ก็เลยลองลูบๆ คลําๆ ดู
ก่อน เผือมันจะใจอ่อนยอมให้นางขี”
2
“ล้อเล่นน่า ม้าเหล่านีล้วนมาจากกองทหารม้า จะลูบ
หรือไม่ก็เหมือนกัน แต่วา่ คุณหนูรองเจียงคงจะไม่เคยขี
ม้า ดูทา่ ทางของนางสิ ไม่คนุ้ เคยเอาเสียเลย”
เจียงอวีเอ๋อเห็นว่าครังนีเจียงหลีแสดงท่าทีไม่คนุ้ เคยก็
รูส้ กึ โล่งใจ
3
บัณฑิตทังหลายจึงเริมเตรียมพร้อม พาดลําตัวขึนหลัง
ม้า
4
คนต่อมาคือเนียเสียวซวง นางขึนม้าพร้อมๆ กับจูซินเอ๋อ
ปกติทงสองมี
ั ความสนิทสนม ท่วงท่าขึนหลังม้าจึงคล้าย
กันมาก แม้ไม่เลิศเลอนักแต่ก็นบั ว่าไม่เลว
ต่อมาก็คือเจียงโย่วเหยา นางเผยรอยยิมเขินอายออกมา
กว่าจะพาดตัวขึนหลังม้าได้ไม่ง่ายเลย เนืองจากหน้าตา
ทีจิมลิมพริมเพรา รอยยิมงดงามดังบุปผา ทําให้ไม่มีใคร
สนใจวิธีการขึนม้าของนาง เอาแต่ใส่ใจใบหน้าสะสวย
กันจนตาค้าง
5
เจิงหูเ่ ฉินไม่ได้โต้ตอบ จีเหิงทีอยูอ่ ีกด้านหนึงเอนกายพิง
พนักเก้าอี มิได้สนใจท่าทางเขินอายของคุณหนูคนไหน
ลําดับสุดท้ายก็คือเจียงหลี
6
ดูลนไหลเป็
ื นธรรมชาตินกั นางไม่เหมือนเมิงหงจินทีทํา
ทุกอย่างด้วยความเร่งรีบรวดเดียวจบ ทังยังไม่เหมือน
เจียงอวีเอ๋อทีน่าเอ็นดู ยิงแตกต่างจากเจียงโย่วเหยาที
ยักแย่ยกั ยันแต่ขยัน ‘ส่งยิม’ ให้กบั ผูช้ ม นางเพียงดึง
บังเหียนม้าอย่างมันคง แล้วทรงตัวนิงเป็ นปกติ
เจิงหูเ่ ฉินขมวดคิวเล็กน้อย
เจียงหลีขนนั
ึ งบนหลังม้าอย่างสง่าผ่าเผย โดยมีกระบอก
7
ธนูทีหนักอึงสะพายอยูด่ า้ นหลัง นางเงยศีรษะ จู่ๆ สาย
ลมฤดูรอ้ นก็พดั มากระทบใบหน้า อบอุน่ อ่อนโยน ราว
กับมีคาํ สังสอนของบิดาและเสียงหัวเราะของน้องชาย
ไหลวนอยูร่ อบกาย
จู่ๆ ดวงตาของเจียงหลีก็ทอประกายรืนนําตา
ทว่าประกายนําหยดนันพลันสลายไปอย่างรวดเร็ว
เสียงกลองประกาศเริมการแข่งขันพลันดังขึน ชัวครูม่ า้
ทังหกตัวก็เริมออกวิงพร้อมๆ กัน
หากจะบอกว่าทะยานออกไป... ความจริงแล้วก็คงไม่ถงึ
ขนาดนัน เนียเสียวซวงและจูซินเอ๋อกระตุน้ ม้าช้าๆ ทัง
8
สองแทบไม่ได้ฟาดแส้ แค่รกั ษาอัตรา ‘การวิง’ ไว้อย่าง
ระมัดระวัง ข่งลิวได้แต่ปิดหน้า นําเสียงทีเปล่งออกมาไม่
พึงพอใจนัก “เสียดายม้าดีๆ ของข้าเสียจริง”
เจียงโย่วเหยากับเจียงอวีเอ๋อนันดีกว่าสองคนแรก อย่าง
น้อยท่าฟาดแส้ของนางยังดูองอาจอยูบ่ า้ ง
9
ทังสนามสอบ ทีนํามาเป็ นอันดับหนึงคือเมิงหงจิน
นางเปรียบดังดวงไฟลูกหนึง ชุดขีม้าสีแดงสดทําให้นางดู
งดงามองอาจ เด็กสาวมีรูปร่างทรวดทรงทีทําให้ผคู้ น
หลงใหลได้ง่าย เรือนผมด้านหลังของนางสะบัดขึนลง
ตามจังหวะควบม้า ยิงมองก็ราวกับได้ยลรูปวาดทีงด
งามภาพหนึง ถึงแม้ความงามของเมิงหงจินจะไม่สเู้ จียง
โย่วเหยา แต่ยามทีนางอยูบ่ นหลังม้ากลับดึงดูดสายตาผู้
คนได้มากกว่าเจียงโย่วเหยาหลายส่วน
“คุณหนูตระกูลเมิงเก่งกาจมาก” มีคนกล่าวชืนชม
“อย่างน้อยในวิชาขีม้ายิงธนูก็ไม่มีใครสามารถเทียบนาง
ได้”
10
“เช่นนันคุณหนูรองเจียงเป็ นอย่างไร” คนข้างๆ เอ่ยอย่าง
นึกสนุก “สีวิชาก่อน คุณหนูรองเจียงเป็ นม้ามืดตลอด
พลิกความพ่ายแพ้ให้กลายเป็ นชัยชนะได้ไม่ใช่หรือ”
ในสนามสอบ ม้าสีนาตาลเข้
ํ มของเจียงหลีกาํ ลังวิงอย่าง
สมําเสมอ
11
ใช่วา่ เจียงหลีจะขีม้าไม่ชาํ นาญอย่างทีใครต่อใครคาด
เดา พิจารณาจากท่วงท่าแล้วนางน่าจะเคยขีม้ามาบ้าง
เพียงแต่เทียบกับสามวิชาแรกทีได้อนั ดับหนึงและการ
บรรเลงพิณเพลง ‘ขลุย่ พเนจรสิบแปดดีด’ ทีไพเราะตรึง
ใจ ฝี มือการขีม้ายิงธนูของนางจึงค่อนข้างธรรมดาเอา
มากๆ
เหตุการณ์นีไม่ยากเกินความเข้าใจ เดิมทีเนียเสียวซวง
12
กับจูซินเอ๋อกลัวการขีม้าเป็ นทุนเดิม ดังนันจึงระวังตัวอยู่
มาก เจียงโย่วเหยาและเจียงอวีเอ๋อก็มวั แต่แสดงออกถึง
ความงามอันน่าเอ็นดูของตน จะขยับแต่ละครังก็เอาแต่
วางท่าเหนียมอาย เมือเทียบกันแล้ว มีเพียงเจียงหลีกบั
เมิงหงจินทีตังใจแข่งขัน
ข่งลิวร้อนใจแต่ก็ไม่อาจทําอะไรได้ “คุณหนูรองเจียงเป็ น
อะไรไป แค่ออกแรงอีกนิดก็สามารถแซงขึนหน้าเมิงหง
จินได้แล้ว เหตุใดนางถึงไม่ขยับไม้ขยับมือเอาเสียเลย
13
เฮ้อ... ข้าร้อนใจจะแย่”
14
ข่งลิวไม่กล้าพูดอะไรอีก
ถึงแม้การทีเจียงหลีไม่สามารถแซงหน้าเมิงหงจินจะทํา
ให้ข่งลิวร้อนรน แต่คนทีเป็ นห่วงนางกลับเบาใจเสีย
มากกว่า ยกตัวอย่างเช่นหลิวสวี, เย่ซือเจีย หรือแม้แต่
เจียงจิงรุย่ การได้รบั รูว้ า่ เจียงหลีขีม้าเป็ นทําให้พวกเขา
โล่งอก ท่าทางทีขีก็มนคง
ั หากผ่านการขีม้ายิงธนูในวันนี
ไปได้ เดิมพันระหว่างนางกับเมิงหงจินก็ถือว่าเจียงหลี
เป็ นฝ่ ายชนะ ไม่ตอ้ งโดนขับออกจากหมิงอีถาง
ความคิดของคนทังหลายเป็ นอย่างไรเจียงหลีไม่อาจ
ทราบ ทีนางตังใจอยูห่ า่ งเมิงหงจิน ก็เพียงเพราะอยาก
จะดูวา่ แท้จริงแล้วอีกฝ่ ายคิดอะไรกันแน่
15
ดังคาด ขับเคียวไปได้ประมาณหนึงก้านธูป เมิงหงจินก็
ค่อยๆ ลดความเร็วให้ชา้ ลง เจียงหลีเริมระมัดระวังตัว
มากขึน พยายามลดฝี เท้าม้าให้ชา้ ตามไปด้วย นางรักษา
ระยะห่างระหว่างตนกับเมิงหงจินไว้ ทําให้การแข่งขันใน
สนามครังนีแปลกพิกล กระทังเจียงโย่วเหยาทีรังท้ายอยู่
ด้านหลังยังไล่ทนั
ทังสามควบม้าเรียงกันเป็ นแถวเดียว
16
“บัดซบ” ข่งลิวได้ยินคําก่นด่าของฝูงชนด้านล่างก็หวั เสีย
จนต้องตะโกนตอบโต้ “เมือวานข้าเพิมหญ้ารอบดึกไป
ไม่รูเ้ ท่าไร จะหิวได้อย่างไร”
17
บทที 62 ณ ใจกลางเป้ า
หัวใจข่งลิวพลันกระตุกวูบราวกับเป็ นลางบอกเหตุ
1
มือหนึงของเจียงหลีกมุ บังเหียนม้า ส่วนอีกมือหนึงก็
ควานหากระบอกธนูทีอยูด่ า้ นหลัง ล้วงเอาลูกธนูดอก
หนึงออกมา เตรียมขึนสายเพือยิงออกไป การทีต้องขีม้า
และยิงธนูไปด้วยนันยากนัก ทีว่ายากก็คือตอนยิงธนูบน
หลังม้านัน มือทังสองต้องจับลูกและคันธนู ไม่สามารถ
กุมบังเหียนม้าได้ จึงจําเป็ นต้องใช้ลาํ ตัวท่อนล่างบังคับ
ม้า
คุณหนูสว่ นมากเวลายิงธนูมือจะรีบจับบังเหียนม้า
เพราะกลัวพลาดตกลงมา ดังนันจึงยากทีจะเล็งให้ตรง
เป้า ได้แต่ยิงออกไปอย่างสะเปะสะปะ หรือบางครังก็ไม่
กล้าปล่อยมือจากบังเหียน ยอมสละสิทธิการสอบยิงธนู
ไปเสียดือๆ คนทีใจกล้าจะพยายามไม่กาํ บังเหียน แล้ว
2
ใช้สองมือในการยิงธนู แต่ดว้ ยเวลาชัวพริบตา พอยิงธนู
ออกไปแล้วก็ตอ้ งรีบจับบังเหียนม้าต่อ ทําให้ธนูพลาด
เป้า
แต่สองมือของเจียงหลีกลับปล่อยบังเหียน มือถือคันธนู
แล้วเล็งเป้าด้วยท่วงท่าสบายๆ
3
ผูค้ นโดยรอบร้องอุทานเสียงดัง ต่างอัศจรรย์ใจในความ
กล้าหาญของคุณหนูรองเจียง “นางไม่กลัวจริงๆ หรือนี
เจ้าดูสิ นางปล่อยมือจากบังเหียนตังนาน เป็ นคนทีกล้า
หาญกว่าใครในตอนนี”
วิธีขีม้าของเจียงหลีนนผ่
ั อนคลายทว่ามันคง สองขา
กระชับอานม้าไว้แน่น มือทีจับง้างคันธนูก็แน่วนิง ไม่สนั
ไหว ถึงแม้รา่ งกายของเจียงหลีจะไม่แข็งแรงเท่าร่างสูง
สง่าของเซวียฟั งเฟย ทว่าตังแต่ฟืนขึนมาเป็ นเจียงหลี
นางก็หมันดูแลสุขภาพร่างกายจนคล่องแคล่วขึนไม่นอ้ ย
4
สายตาเล็งไปยังกลางเป้า ในความคิดของเจียงหลียามนี
เป้าธนูกลายเป็ นกระต่ายป่ า จิงจอก หรือนกทีกําลังกาง
ปี กบินตัวหนึง มันเคลือนไหวไปมาเหมือนตอนที
นางออกล่าสัตว์กบั เซวียเจานับครังไม่ถว้ น ในตอนนัน
นางต้องทรงตัวอยูบ่ นหลังม้าซึงกําลังเคลือนที แม้แต่เป้า
เองก็ยงั มีชีวิต จะว่าไปแล้วก็ยากกว่าการทดสอบมาก
ตอนนีแค่เล็งให้แม่นยําแล้วยิงออกไป
5
หลังจากนัน ทุกสายตาก็ได้เห็นลูกธนูทีติดสัญลักษณ์สี
แดง ตรึงแน่นอยู่ ณ ใจกลางเป้าพอดิบพอดี
เข้าเป้า!
6
เข้าเป้าอีกแล้ว!
เจียงหลีไม่คิดหยุดพัก นางคว้าธนูอีกดอกออกมา
เข้าเป้าเช่นเคย!
7
เจียงจิงรุย่ ทําได้เพียงบ่นพึมพํา “นีมันอะไรกัน...”
ข่งลิวมองจนสองตาเบิกค้าง ตืนเต้นเสียจนเผลอถีบ
เก้าอีล้มแล้วถอนหายใจหนักหน่วง
8
กระทังเจิงหูเ่ ฉินต้องเอ่ยถาม “เป็ นอะไร”
ครันจีซูหรันเห็นเจียงหลียิงเข้าเป้าทังสามดอก นางก็
พยายามเก็บงําสีหน้าไม่พอใจ นางรูว้ า่ การทีเจียงหลียิง
9
เข้าเป้าเช่นนีกลบรัศมีอนั โดดเด่นของเมิงหงจินไปไม่
น้อย ยิงไม่ตอ้ งกล่าวถึงเจียงโย่วเหยาทีด้อยทักษะด้าน
การขีม้า คนทีเหลือในกลุม่ ราวกับเป็ นแค่ตวั เปรียบเทียบ
ให้เจียงหลียิงโด่งดังคับฟ้า
นางขมวดคิวพลางกล่าวกับเจียงหยวนปั ว “หลีเอ๋อไป
เรียนวิชาขีม้ายิงธนูมาจากไหน ข้าคิดว่าจิงรุย่ กับจิงโย่ว
ของเรา อีกทังอาจารย์ฝ่ายบู๊ยงั ทําได้ไม่ดีเท่าเจียงหลี
ด้วยซํา หรือว่าสํานักนางชีจะมีเงินทองพอส่งเสียให้นาง
รําเรียนวิชาต่างๆ ได้ หลีเอ๋อกลับมาคราวนีถึงเก่งกาจนัก
ราวกับไม่มีอะไรทีนางทําไม่ได้” จีซูหรันพยายามทําให้
เจียงหยวนปั วเกิดความคลางแคลงใจขึนมาอย่างแนบ
เนียน
10
“สะใภ้ใหญ่ นันเป็ นเพราะหลีเอ๋อเฉลียวฉลาดมาตังแต่
เล็กๆ อย่างทีมีคนกล่าวว่า พันธุก์ ล้วยไม้เติบโตอยูใ่ นป่ า
ผลิดอกออกมาก็ยงั คงเป็ นกล้วยไม้...” นางหลูซือของ
บ้านสายรองรูเ้ ท่าทัน จึงคิดแดกดันจีซูหรันกลับ
ทันใดนัน พลันได้ยินเสียงร้องวีดว้ายดังขึน
คนทังหมดมองไปยังสนามสอบ
11
ของเจียงหลีก็สง่ เสียงร้องแล้วยกขาหน้าตะกุยอากาศ
“ไม่ได้การ” ข่งลิวลุกพรวดพราดขึนทันที
ม้าสีนาตาลเข้
ํ มของเจียงหลีตวั นันมีอาการผิดปกติ ไม่รู ้
ว่าเป็ นเพราะสาเหตุใดมันถึงวิงเตลิดแล้วสะบัดตัวไปมา
เมิงหงจินตกใจจนต้องหยุดคลําลูกธนูแล้วรังม้าของตน
แน่น
ชัวครู ่ ในสนามก็เกิดความโกลาหล
จําได้วา่ ในอดีตเคยมีบณ
ั ฑิตหญิงขีม้าไม่ดีจนพลัดตก
12
จากหลังม้า แต่ก็ได้บาดแผลแค่เล็กน้อย ทว่าเหตุการณ์
ทีม้าฝึ กเกิดอาการตกใจเช่นนียังไม่เคยเกิดขึนมาก่อน
เนืองจากม้าทีนํามาล้วนถูกคัดเลือกเป็ นอย่างดีจากกอง
ทหารม้า เลือกตัวทีเชืองและว่านอนสอนง่าย หากไม่ใช่
เพราะเกิดความผิดปกติ พวกมันไม่มีทางทีจะพยศขึนมา
ได้แน่ แต่เห็นได้ชดั ว่าจู่ๆ ม้าตัวนีก็เกิดพยศขึนมาโดยที
ไม่มีใครเข้าไปแตะต้อง ทังยังไม่มีเหตุรบกวนจากภาย
นอกนีมันเกิดอะไรขึน
14
ตก
คนทังหมดตาเบิกโพลง จ้องมองเจียงหลีอย่างลืมหายใจ
จีเหิงเอาสองมือเท้าคาง มองคนและม้าทีกําลังอยูใ่ น
อาการตืนตระหนกโดยไม่กล่าวอะไร
เดิมทีเมิงหงจินทีอยูด่ า้ นหลังคิดว่าจะได้เห็นเจียงหลี
พลัดตกลงจากหลังม้า ไม่นกึ ว่านางยังสามารถทรงตัว
แนบสีขา้ งของมันได้อย่างสบายๆ โดยไม่ได้รบั อันตราย
15
ใดๆ
เมิงหงจินอาบนํายาบางอย่างไว้บนเข็ม ระหว่างทีอยูต่ รง
ทางแคบ เจียงหลีเพิงจะยิงธนูทงสามดอกออกไป
ั เมิงหง
จินได้ฉวยโอกาสตอนทีตนเองกําลังควานหาลูกธนูนนั
ใช้แขนเสือช่วยกําบัง แล้วแอบกดด้ามพูก่ นั อย่างรวดเร็ว
16
เข็มทีอยูใ่ นด้ามพูก่ นั ปั กเข้าทีบันท้ายม้าอย่างจัง ม้าตัว
นันพลันตกใจจนเกิดพยศขึนมา หากเป็ นไปตามคาด
เจียงหลีจะต้องถูกสะบัดตกจากหลังม้า ไม่มีใครรูว้ า่ นาง
จะแขนขาหักหรือไม่ เข็มเล่มนันทังแหลมและเล็กมาก
หลังเกิดเหตุการณ์ ต่อให้อยากสืบสวนก็ยากจะพบ
สาเหตุ หรือต่อให้พบหลักฐาน ก็ไม่มีใครรูว้ า่ นางเป็ นคน
ทํา
ก่อนหน้านีเมิงหงจินไม่เห็นเจียงหลีแสดงออกว่าขีม้า
ผาดโผนได้ นางจึงนึกว่าอีกฝ่ ายแค่ขีม้าเป็ นเท่านัน คิด
ไม่ถงึ ว่าขณะทีม้ากําลังพยศ เจียงหลีไม่เพียงทรงตัวได้
แต่ยงั สามารถแสดงฝี มือออกมาให้คนทังสนามได้ชืน
ชม... ท่าทางเช่นนี ไม่ใช่ลกั ษณะของคนทีขีม้าไม่เป็ นแม้
แต่นอ้ ย
17
บทที 63 ตําแหน่งเดิม!
นางถูกเจียงหลีหลอกเอาเสียแล้ว
เมิงหงจินทังตกใจและโกรธขึง
1
กอดไว้ในอ้อมอกต่อหน้าคนทังเมือง อย่างไรเสียก็ตอ้ ง
ถูกครหา
ขณะทีกําลังขบคิดอยูน่ นั ม้าสีนาตาลเข้
ํ มก็ยิงวิงเร็วขึน
คนทังหมดต่างร้องอุทานออกมา เจียงหลีไม่ทนั ระวัง มือ
ข้างหนึงจึงหลุดจากการเกาะกุม เจ้าม้าสะบัดตัวไปมา
นางเหลือมือเพียงข้างเดียวทีกําบังเหียนอยู่
เมิงหงจินแอบดีใจ เจียงโย่วเหยากับเจียงอวีเอ๋อเองก็
มองอย่างลิงโลด คิดว่าเจียงหลีคงไม่รอดแน่แล้ว แต่
พวกนางยังไม่ทนั จะได้หวั เราะออกมา ก็เห็นเจียงหลียืน
มือกําแผงคอม้าไว้
2
ม้าสีนาตาลเข้
ํ มได้รบั ความเจ็บปวดก็รอ้ งเสียงดังอีกครัง
ลําตัวครึงบนโผนขึนกลางอากาศ
กลับไปอยู่ ณ ตําแหน่งเดิม!
3
“แม่หนูผนู้ ี...” เจิงหูเ่ ฉินพูดไม่ออก
เหลวไหลสินดี บ้าระหําเกินไปแล้ว!
4
เจียงหลีแนบตัวไปกับหลังม้า ยามนีชุดสีเขียวของนาง
พลิวไหวคล้ายดังสายลมแห่งเสรี... เป็ นสายลมทีพัดรวด
เร็วไม่ตา่ งจากสายฟ้าสีเขียว เป็ นสีทีให้ความรูส้ กึ สดชืน
ผ่อนคลายเหมือนใบไผ่หลังฝนเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทํา
ให้ไม่อยากจะเชือสายตาว่าเรือนร่างทีแบบบางนีจะ
เปี ยมไปด้วยความกล้าหาญ ดุจสายนําอ่อนโยนที
สามารถม้วนก้อนหินอันแข็งแกร่งขึนมาได้
จีเหิงมองปลายแขนเสือของตนแล้วกล่าวอย่างเรียบเฉย
5
ว่า “ข้าเห็นแล้ว”
เมิงหงจินทีติดตามอยูด่ า้ นหลังใบหน้าพลันเปลียนสี
เป็ นความตกใจอย่างคาดไม่ถงึ ไม่คิดเลยว่าเจียงหลีจะ
โชคดีเช่นนี ม้าทีเกิดพยศไม่ได้สะบัดนางตกลงมา แต่
ความเจ็บปวดกลับเพิมแรงฮึดให้ฝีเท้าม้ารวดเร็วกว่า
เดิม หากยอมให้เจียงหลีแซงขึนหน้าแบบนีต่อไปคงไม่ดี
แน่ เมิงหงจินเกิดร้อนใจจนมือเท้าสับสนไปหมด เห็นคน
รอบข้างพากันโห่รอ้ งให้กบั เจียงหลี ยังจะมีใครคิดถึง
นางอีก
ขณะเข้าใกล้โค้งสุดท้าย ด้านหน้ายังปรากฏเป้าธนูอีก
หนึงแถว เจียงหลีวาดเท้าขึนยืนทรงตัวบนหลังม้า มือ
หนึงจับบังเหียนไว้ อีกมือคลําไปทีกระบอกธนู
ครังก่อนเจียงหลียิงเข้าเป้าไปถึงสามดอกอย่างเหนือ
ความคาดหมาย เป็ นเพียงคนเดียวในสนามสอบวันนีที
สามารถทําได้สาํ เร็จ นางไม่จาํ เป็ นต้องยิงธนูอีกก็ยงั
8
สอบผ่าน ทีสําคัญม้าของนางตอนนีกําลังพยศ หากนาง
ใช้สองมือไปกับการยิงธนู ย่อมตกอยูใ่ นอันตรายยิงกว่า
ครังก่อน
เมิงหงจินเห็นสถานการณ์ตรงหน้าในใจพลันบังเกิด
ความหดหู่ จู่ๆ นางก็คิดขึนมาได้ ระหว่างทางทีควบผ่าน
ไปเมือสักครู ่ นางมัวแต่ยงุ่ อยูก่ บั การใช้อาวุธลับทําร้าย
เจียงหลี จึงไม่ทนั ได้ยิงธนู ส่วนเจียงหลีกลับยิงธนูเข้า
เป้าไปแล้วถึงสามดอก มาตอนนี ตัวนางเองยังไม่ได้ยิง
ออกไปสักครัง
9
หากการแข่งขันจบลงแล้วนางยังยิงไม่เข้าเป้าเกิน
สามดอก เกรงว่าจะต้องพ่ายแพ้ให้แก่เจียงหลีแน่ ไม่ได้
การเสียแล้ว
เมิงหงจินคิดอะไรไม่ทนั รีบหยิบลูกธนูจากกระบอกออก
มาเล็งเป้าแล้วยิงออกไป
ในขณะเดียวกัน เจียงหลีพลันแสยะยิมพลางยกคันธนู
ตามมาติดๆ
ธนูดอกหนึงถูกยิงออกจากมือของเจียงหลี
10
ลูกธนูของเจียงหลีมีสญ
ั ลักษณ์สีแดงติดอยู่ ส่วนลูกธนู
ของเมิงหงจินเป็ นสีนาเงิ
ํ น บังเอิญหรือไม่ทีลูกธนูทงสอง
ั
ต่างก็เล็งไปทีเป้าหมายเดียวกัน
แหวกอากาศออกไปอย่างรวดเร็ว
11
เมิงหงจิน
กระทบเพียงเล็กน้อย ราวกับไม่ได้เฉียดใกล้
“องค์หญิง!” มีคนร้องเสียงหลง
นันมัน... เมิงหงจินงุนงง
13
หลังจากการสอบเสร็จสิน ม้าพยศสีนาตาลเข้
ํ มของเจียง
หลียงั คงวิงออกไปนอกสนาม แต่ก็มีกลุม่ คนตามไปไล่
จับมันได้ ในตอนท้ายเจียงหลีกบั เมิงหงจินยิงธนูออกไป
พร้อมกัน ลูกธนูทีปั กลงกลางเป้านันมีสญ
ั ลักษณ์สีแดง
เจียงหลีชนะแล้ว
เจียงหลีขบฟั นแล้วก็มองไปทางองค์หญิงหย่งหนิงทีถูกผู้
คนห้อมล้อม ภายในใจพลันรูส้ กึ เย็นเยียบ
องค์หญิงหย่งหนิงยังรอดไปได้ หากนางเข้าใกล้กว่านีอีก
นิด... กระแทกธนูของเมิงหงจินให้แรงอีกหน่อย ลูกธนูสี
นําเงินคงไม่เพียงแค่เฉียดไปโดนไหล่ แต่ตอ้ งปั กเข้าที
14
กลางอกขององค์หญิงแล้ว
น่าเจ็บใจนัก พลาดไปแค่นิดเดียวเท่านัน!
ในทีสุดข่งลิวก็นงลงจนได้
ั ใบหน้าของเขาชุ่มเหงือ เจิงหู่
เฉินทีอยูข่ า้ งๆ ก็ไม่ตา่ งกัน ต้องมาชมการสอบทีขับเคียว
กันอย่างเอาเป็ นเอาตายในรอบนี รูส้ กึ ว่าเหนือยกว่าดู
การฝึ กซ้อมของทหารเสียอีก
15
“ดีใจรึ... ผิดหวังสิไม่วา่ ” จีเหิงกล่าวเสียงเรียบ
16
“พิลกึ คนจริงๆ” ข่งลิวบ่นออกมาหนึงคํา ราวกับคิดอะไร
บางอย่างได้ “เฮ้... ช้าก่อน เจ้ายังไม่ได้ตดั สินเลยนะ”
ทว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเมิงผูน้ นน่
ั ะสิจะเป็ นอย่างไร
ฝี มือการยิงธนูยาแย่
ํ ก็แล้วไปเถิด แต่จะยิงไปโดนองค์
หญิงหย่งหนิง ธิดาคนโปรดของพระสนมหลิวให้เนือตัวมี
รอยแผลเป็ นได้อย่างไร อย่าว่าแต่องค์หญิงหย่งหนิงเลย
แม้แต่คณ
ุ หนูลกู ขุนนางทังหลาย หากโดนลอบทําร้าย
เช่นนีก็คงไม่มีละเว้น พูดให้เป็ นเรืองเล็กก็อาจกล่าวว่า
17
แค่พลังมือ พูดให้เป็ นเรืองใหญ่ก็อาจกลายเป็ นการลอบ
ทําร้ายเชือพระวงศ์ได้เลยทีเดียว
ใบหน้าของเมิงหงจินเหมือนกับสีดินไม่มีผิด ทังตกใจ
และตืนกลัวจนตัวสัน นางดินรนพลางกล่าวว่า “ไม่ใช่ขา้
ข้าไม่ได้คิดปองร้ายองค์หญิง เป็ น... เป็ นเจียงหลี เจียง
หลีเป็ นคนให้รา้ ยข้า
18
บทที 64 เสียเปรียบ
หลิวสวีวิงซอยเท้าเข้ามาดึงมือเจียงหลีดว้ ยสีหน้าหวาด
หวัน “เจ้าทําให้ขา้ ตกใจแทบแย่ เมือครูต่ อนทีม้าพยศ
เหตุใดเจ้ายังจะควบม้าไปข้างหน้าอีก นีเป็ นแค่การสอบ
คุม้ ค่ากับการเอาชีวิตเข้าแลกเชียวหรือ”
1
“ข้าก็ปลอดภัยมิใช่หรือ” เจียงหลียิมปลอบ ทว่าในใจ
นางกลับโศกเศร้า จังหวะสําคัญตอนสุดท้ายนางจงใจยิง
ให้ธนูของเมิงหงจินเปลียนทิศทาง คิดว่าหากทําให้องค์
หญิงหย่งหนิงเจ็บหนักได้ก็คงดีแต่น่าเสียดายทีพลาด
เป้าไปอย่างเฉียดฉิว
“คราวนีเมิงหงจินแย่แน่แล้ว...” หลิวสวีกล่าวเสียงเบา
“ดูทา่ ทางเอาเรืองขององค์หญิงหย่งหนิงสิ เกรงว่าเรืองนี
คงจบไม่ดีแน่”
เจียงหลีแอบหัวเราะในใจ ไม่ไยดีเมิงหงจินแม้แต่นอ้ ย ที
ม้าสีนาตาลเข้
ํ มของนางพยศในครังนี จะต้องเกียวข้อง
กับเมิงหงจินแน่เจียงหลีจาํ ได้แม่นยํา ก่อนทีม้าตัวนันจะ
2
พยศ เมิงหงจินอยูด่ า้ นหลังนาง
แค่การประลองของเด็กๆ ฝ่ ายนันถึงกับคิดจะเอาชีวิต
นาง เมิงหงจินถือได้วา่ ใจดําอํามหิต ตอนนีต้องมาเป็ น
อริกบั องค์หญิงหย่งหนิงทีใจดําอํามหิตเช่นเดียวกัน นับ
ว่าเป็ นนางเองทีหาเรืองใส่ตวั
3
“รอให้นางสะสางเรืองขององค์หญิงหย่งหนิงเสร็จ ก็ตอ้ ง
ทําตามข้อเดิมพันของข้า... ข้ายังรออยู”่
หลิวสวีองงั
ึ น แล้วอดขําออกมาไม่ได้ “ควรเป็ นเช่นนี
ตังแต่แรกแล้ว”
เจียงหลียิมพลางพยักหน้ารับ
5
หากเป็ นเมือก่อน จีซูหรันคงคิดจะยืมมือคนอืนมากําจัด
เจียงหลีผทู้ ีเป็ นหนามยอกอก มาบัดนี นางกลับรูส้ กึ ว่า
ต้องลงมือด้วยตัวเองเสียแล้ว การดํารงอยูข่ องเจียงหลี
เป็ นภัยต่อนางและบุตรสาวมากขึนทุกที นางต้องทําให้
เจียงหลีรบี หายไปจากสายตาโดยเร็ว
ลานกว้างหน้าสนามสอบกําลังมีการแจ้งผลสอบ ฝูงชน
ต่างสับสนอลหม่าน เนืองจากองค์หญิงหย่งหนิงได้รบั
บาดเจ็บ จึงไม่มีใครให้ความสนใจกับรายชือทีถูก
ประกาศ
6
ห่างจากเฉิงอ๋องไม่ไกลนัก
เสินอวีหยง... เขานังห่างจากองค์หญิงหย่งหนิงพอ
ประมาณ
แล้วก็จริงเสียด้วย องค์หญิงหย่งหนิงในเวลานีนอกจาก
7
จะโมโหแล้ว สายตาก็ยงั คงวนเวียนอยูท่ ีเสินอวีหยง ช่าง
น่าสงสารเสียจริง
เจียงหลีมองไปทีเสินอวีหยงอีกครัง เขาพยายามหลบ
สายตาขององค์หญิงหย่งหนิง แต่ขณะทีองค์หญิงจวน
จะระเบิดอารมณ์ออกมา เขาก็สง่ สายตาห่วงใยได้อย่าง
ทันท่วงที ทําให้ความโกรธขึงขององค์หญิงผูห้ ยิงยโส
มอดลง
เจียงหลีเห็นแล้วแทบอยากอาเจียนออกมา อดหัวเราะ
อย่างเย็นชาไม่ได้ คนอย่างเสินอวีหยง เมือต้องการจะ
‘รัก’ ใครสักคน ไม่มีผใู้ ดสงสัยในความจริงใจของเขา
น้อยคนนักทีจะปฏิเสธได้
8
นางหันหน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว เกรงว่าหากมองนาน
เกินไปจะปิ ดบังแววตาอาฆาตจนเข้ากระดูกเอาไว้ไม่ได้
การสอบใหญ่ของสํานักบัณฑิตหญิงหมิงอีถาง สามวิชา
แรกและสามวิชาสุดท้าย ในทีสุดก็เสร็จสิน
การสอบใหญ่ครังนีเริมด้วยความเข้มข้นแล้วจบลงอย่าง
ดุเดือดไม่แพ้กนั มีเพียงชือเดียวทีทุกคนกล่าวขวัญกัน
10
อย่างเอิกเกริกหลังการสอบใหญ่ครังนี นันก็คือเจียงหลี
หรือคุณหนูรองเจียง
11
ในจวนของท่านหนิงหย่วนโหว โจวเยียนปั งกําลังนัง
เหม่อลอย หนังสือทีวางอยูบ่ นโต๊ะถูกลมพัดจนเปิ ดอ้า
แต่เขากลับไม่มีแก่ใจจะไปไยดี สิงทีปรากฏในสมองคือ
ท่วงท่าราวสายลมของหญิงสาวในชุดสีเขียวสดบน
สนามม้า
เมือก่อนเจียงหลีมีชือเสียงด่างพร้อย เกรงว่าต่อไปจะหา
สามีได้ยาก ทว่าในการสอบใหญ่ครังนี ความสามารถ
ของเจียงหลีประจักษ์แก่สายตาคนทังเมืองหลวง นาง
12
เป็ นถึงโฉมสะคราญซึงถือกําเนิดจากอดีตฮูหยินใหญ่
แห่งจวนตระกูลเจียง เกรงว่าไม่นานคงจะมีคนไปสูข่ อ...
โหวฮูหยินคลียิมกล่าว “ข้าสังคนครัวทําขนมดอกเหม
ยมาให้ ไม่กีวันมานีอากาศร้อน เจ้ากินสักหน่อยจะได้
13
เย็นท้อง” มองเห็นหนังสือทีวางระเกะระกะอยูบ่ นโต๊ะ
ของโจวเยียนปั ง โหวฮูหยินก็นิงงัน แล้วถามหยังเชิง
“เยียนปั ง ช่วงนีเจ้ามีเรืองในใจหรือ”
การสอบใหญ่ของสํานักบัณฑิตชายในปี นี เดิมทีโจว
เยียนปั งคิดว่าตนเองจะคว้าอันดับสอง ทังสํานักบัณฑิต
14
ชาย ผูท้ ีความสามารถเหนือกว่าเขามีเพียงคุณชายใหญ่
หลีจิงแห่งจวนเสนาบดีเท่านัน แต่การสอบคราวนีหลีจิง
กลายเป็ นอันดับสอง เขาจึงตกลงมาเป็ นอันดับสาม
อันดับหนึงกลับกลายเป็ นของเย่ซือเจีย ม้ามืดทีใครต่อ
ใครไม่เคยได้ยินชือมาก่อน
15
รองต่างหากเล่า”
ถาดขนมในมือของโหวฮูหยินตกกระจายเต็มพืน เสียง
ดังบาดหู
“นายท่านใหญ่สง่ เงินมาเจ้าค่ะ”
หลังจากหมิงเย่เข้ามาแล้วก็ปิดประตูลงกลอน นางก้าว
เข้ามาแล้วกล่าวเสียงเบา “คุณหนู บ่าวไปสืบมาแล้ว
คุณหนูตระกูลเมิงยังไม่ได้กลับจวนเจ้าค่ะ เมิงฮูหยินเอง
ก็กาํ ลังรออยู่ ส่วนใต้เท้าเมิงออกไปวิงเต้นหาคนช่วย
เหลือ แต่ดเู หมือนว่าองค์หญิงหย่งหนิงจะไม่ยอมรามือ”
17
บทที 65 อีกไม่ช้า
1
เสียแล้ว วันพรุง่ นีเมิงหงจินคงไม่ยอมออกมาแน่นอน ถึง
เวลานัน พวกเจ้าค่อยไปหาคนมาตีฆอ้ งร้องป่ าวทีหน้า
ประตูสาํ นักบัณฑิตชายก็แล้วกัน บอกว่าข้าเห็นใจคุณ
หนูเมิงทีกําลังเสียขวัญ ข้อเดิมพันนันเป็ นแค่เรืองทีเล่น
สนุก ขอให้จบแต่เพียงเท่านี ต่อไปจะไม่กล่าวถึงอีก”
4
ท่านจอหงวนคนใหม่ อย่างไรเสีย เสินอวีหยงก็มีความ
สามารถ ทังยังอนาคตไกลและหล่อเหลา ตอนนันองค์
หญิงหย่งหนิงยังดืมให้กบั นาง สายตาของเจียงหลีฉาย
แววครุน่ คิด อาจเป็ นตอนนันทีองค์หญิงหย่งหนิงเกิดพอ
ใจในตัวเสินอวีหยง
ชาตินีได้เข้าวังอีกครัง นางจะต้องได้พบกับองค์หญิง
หย่งหนิงแน่ หากเป็ นงานเลียงในวัง เสินอวีหยงอาจมา
ร่วมงาน ทว่าครังนีนางไม่ใช่ฮหู ยินบ้านตระกูลเสินอีกต่อ
ไป แต่เป็ นบุตรสาวของตระกูลเจียง
นางเริมขยับเข้าใกล้สองคนนันได้อีกหน่อยแล้ว
5
โรงเตียมแห่งหนึงซึงอยูไ่ ม่หา่ งจากสํานักบัณฑิตชาย
แสงตะเกียงถูกจุดขึนในห้องยามดึก
เย่ซือเจียกําลังเขียนจดหมายอยูท่ ีโต๊ะ
ถ้อยคําสันๆ เพียงไม่กีประโยคก็สามารถบรรยายเรือง
ของตัวเองเสร็จสรรพ ส่วนทีเหลือ เย่ซือเจียยกพูก่ นั ขึน
6
อย่างลังเลใจ
เจียงหลีเองก็ได้ทีหนึงของสํานักบัณฑิตหญิงเช่นกัน
เย่ซือเจียไม่รูว้ า่ ตนควรจะเขียนเรืองของเจียงหลีลงไป
ด้วยหรือเปล่า หลายปี ทีผ่านมา บ้านตระกูลเย่ไม่เคยมี
ใครเอ่ยชือเจียงหลีอีกเลย คําพูดเมือหลายปี ก่อน
ประโยคนันของคุณหนูรองเจียง ทําให้ใจของคนบ้าน
ตระกูลเย่ตายจากนางไปเสียแล้ว อีกทังยังทําให้ฮหู ยินผู้
เฒ่าต้องล้มป่ วย นับแต่นนมา
ั บ้านตระกูลเย่จงึ ไม่เคย
คิดว่ามีญาติอย่างเจียงหลีอีก แม้กระทังเย่เจินเจินก็ไม่มี
ใครกล่าวถึง
7
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี จู่ๆ ก็กล่าวถึงความเป็ นอยูข่ อง
เจียงหลี อาจกลายเป็ นเรืองใหญ่ เย่ซือเจียตัดสินใจว่า
จะไม่เขียนถึงแล้วเชียว ครันวางพูก่ นั ลง พลันนึกถึงสิงที
เจียงหลีเอ่ยกับตนขึนมาได้
เอวียนเป่ าล้วงจดหมายออกมาจากอกแล้วกล่าวด้วย
ความตืนเต้นดีใจ “คุณชายใหญ่ ทางเซียงหยางมี
จดหมายมาถึงท่านขอรับ”
“ฮูหยินคงคิดถึงการสอบใหญ่ครังนีของคุณชายอยู”่ เอ
วียนเป่ าดีอกดีใจ “หากฮูหยินผูเ้ ฒ่าทราบว่าคุณชาย
ใหญ่สอบได้อนั ดับหนึง จะต้องสังให้จดั งานฉลองทีเมือง
เซียงหยางสามวันสามคืนเป็ นแน่”
9
เย่ซือเจียไม่ได้สนใจ เขาเปิ ดจดหมายออกอ่าน สิบ
บรรทัดแรก เพียงแวบเดียวก็อา่ นจบ
เอวียนเป่ าเห็นสีหน้าของเย่ซือเจียแสดงออกว่าตืนเต้น
ยินดี จึงเอ่ยถาม “คุณชายใหญ่ เป็ นอะไรไปขอรับ”
“ท่านพ่อกับท่านอารองจะมาส่งของทีเมืองเยียนจิง” เย่
ซือเจียกล่าว “ตอนนีอยูร่ ะหว่างทางแล้ว คาดว่าอีกเจ็ด
วันก็คงมาถึง”
10
“เขียนสิ” เย่ซือเจียกล่าว แต่เขียนเฉพาะเรืองของตัวเขา
เท่านันก็พอแล้ว เย่ซือเจียคิดในใจ ในเมือท่านพ่อกับอา
รองจะมาเมืองเยียนจิงอยูแ่ ล้ว ก็เท่ากับมีคนของทีบ้าน
เดินทางมาหา เขาสามารถปรึกษาเกียวกับเรืองของเจียง
หลีได้ ดีกว่าต้องมานังปวดหัวอยูต่ รงนีคนเดียว
11
หลังการสอบใหญ่
เหล่าบัณฑิตหญิงไม่ตอ้ งมาเรียนทีสํานักบัณฑิตชัวคราว
จึงถือโอกาสพักผ่อนอยูก่ บั บ้าน
เมือคําพูดนีถูกประกาศออกไป คนในเมืองเยียนจิงก็มอง
เจียงหลีอย่างชืนชมยิงขึน ตัวเจียงหลีเองทุม่ เทให้กบั การ
12
เดิมพันเป็ นอย่างมาก แต่พอได้รบั ชัยชนะก็ไม่จดจ่ออยู่
กับข้อเดิมพันอีก เป็ นสตรีทีมีจิตใจกว้างขวาง เป็ นคนดีที
หาได้ยาก
คําเล่าลือเช่นนีได้ยินไปถึงหูของจีซูหรัน นางจึงโมโห
13
โกรธานัก ต่อหน้านางแสร้งรักและทะนุถนอมเจียงหลี
มากขึนกว่าเดิมเพือลบคําครหา ทําเอาเจียงหลีรูส้ กึ
กระอักกระอ่วนใจ
ภายในสวนซูซวเอวี
ิ ยน สาวใช้ตา่ งก็ทาํ งานอย่างขันแข็ง
ทีหน้าประตูมีสาวใช้สองคนเฝ้าอยู่ ภายในห้อง ต่อให้
วางวัวสําริดโอบก้อนนําแข็งก็เหมือนจะคลายร้อนลงไม่
ได้ ช่วงนีเข้าสูป่ ลายฤดูรอ้ นแล้ว อากาศจึงร้อนอบอ้าว
ขึนกว่าเดิม
จีซูหรันกําลังพูดคุยกับเฉินจีฮูหยินผูเ้ ป็ นพีสาว
14
เจียงหยวนปั วไม่ได้อยูท่ ีจวน เฉินจีฮูหยินกล่าวว่า “ช่วง
ไม่กีวันทีผ่านมาเจ้าทําอะไรอยู่ ควรจะรูว้ า่ ตอนนีข้าง
นอกพูดคุยถึงเจ้าว่าอย่างไร แม้แต่ขา้ ก็ยงั ได้ยินเสียงรํา
ลือเหล่านัน เขาพูดกันว่าเรืองทีเจียงหลีลอบสังหาร
มารดากับน้องชายในวัยเด็กนัน อาจเป็ นแผนการทีเจ้า
วางไว้ก็เป็ นได้”
“ไม่วา่ ใครพูดก็ไม่ใช่เรืองดีทงนั
ั น” เฉินจีฮูหยินกล่าว
“ทุกอย่างล้วนเป็ นเรืองทีเด็กนันก่อขึนมา เหตุใดแค่เด็ก
15
สาวตัวเล็กๆ คนหนึงถึงเอาไม่อยู”่
16
บทที 66 ท่านพีหมายความว่า...
1
“ฟั งทีเจ้าเล่า” เฉินจีฮูหยินพึมพํา “เราเก็บเจียงหลีเอาไว้
ไม่ได้เสียแล้ว ต่อไปในวันข้างหน้าจะยิงเก่งกล้ากว่าเดิม
ดีทีสุดต้องรีบส่งตัวนางออกไปโดยเร็ว”
2
“ท่านก็ช่วยข้าหาสิ” จีซูหรันกล่าว “หากมีคนเช่นนันจริง
ข้าก็จะคิดหาวิธีไปคุยกับฮูหยินผูเ้ ฒ่า ให้นางออกหน้า
เป็ นธุระจัดการเรืองงานแต่ง”
เฉินจีฮูหยินพยักหน้ารับ ขณะทีสองคนกําลังพูดกันอยู่
นัน จู่ๆ ก็เห็นเจียงโย่วเหยาวิงเข้ามาจากด้านนอก นาง
รีบร้อนเกินไป ไม่มองใครแม้แต่เฉินจีฮูหยิน มาถึงก็รอ้ ง
ทักเพียงว่า “ท่านแม่”
เจียงโย่วเหยาเพิงเห็นว่าเฉินจีฮูหยินก็อยูด่ ว้ ย นางรีบร้อง
ทัก “ท่านป้า” ขึนมาคําหนึง แล้วก็รอ้ งไห้ฟมู ฟายไม่หยุด
5
จินฮัวคุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว “คําพูดของบ่าวเป็ นความ
จริงทุกประการ มีเรืองแบบนีจริงๆ เจ้าค่ะ” จินฮัวตกใจ
กลัวอยูไ่ ม่นอ้ ย เรืองคุณชายโจวจะสูข่ อเจียงหลีแทนที
เจียงโย่วเหยานับเป็ นเรืองใหญ่ขนาดนําท่วมวังพญา
มังกรได้เลยทีเดียว เกรงว่าคนบ้านนันจะต้องทะเลาะกัน
เองเป็ นแน่
“โย่วเหยาอย่าเพิงร้อนใจ” เฉินจีฮูหยินสงบสติอารมณ์ได้
เร็วกว่าจีซูหรัน กล่าวแต่เพียงว่า “หากเมือคืนวานโจว
เยียนปั งทะเลาะกับโหวฮูหยิน นันก็แสดงให้เห็นว่าโหว
7
ฮูหยินไม่เห็นด้วยกับการกระทําของบุตรชาย ทีสําคัญ
โจวเยียนปั งก็เคยยกเลิกสัญญามาแล้วหนหนึงจะมายก
เลิกเป็ นครังทีสองได้หรือ จากพีสาวเปลียนเป็ นน้องสาว
จากน้องสาวเปลียนเป็ นพีสาวอีกหน คนทัวเมืองเยียนจิง
ก็เพิงจะเคยได้ยินเรืองแบบนีเป็ นครังแรก หากวันข้าง
หน้าโจวเยียนปั งอยากได้ดิบได้ดีในราชสํานัก เขาต้องไม่
ทําเรืองเหลวไหลเช่นนี ท่านหนิงหย่วนโหวไม่ยอมให้เขา
ทําสําเร็จแน่ ท่านพ่อของเจ้าก็คงไม่ยินยอมด้วยเช่นกัน”
9
เดิมทีเจียงโย่วเหยาอยากให้จีซูหรันเป็ นคนจัดการแทน
นาง แต่เมือเห็นสีหน้าของเฉินจีฮูหยิน พลันรูว้ า่ ท่านป้า
และมารดามีเรืองสําคัญต้องหารือ จึงไม่ได้พดู อะไรอีก
เพียงพาจินฮัวกับอินฮัวจากไปพร้อมคราบนําตา
หลังจากเจียงโย่วเหยาออกไป จีซูหรันก็กล่าวต่อด้วยนํา
เสียงเย็นชา “ท่านพี ตอนนีท่านก็เห็นแล้ว เจียงหลี นัง
แพศยานันมีพิษสงมาก เพิงกลับเมืองหลวงได้ไม่เท่าไร
กระทังโจวเยียนปั งก็ให้ทา่ ได้สาํ เร็จ”
11
จีซูหรันพยักหน้า “ข้าก็คิดเช่นนัน แต่วา่ จะลงมือจัดการ
นางในเมืองเยียนจิงคงไม่ใช่เรืองง่าย”
จีซูหรันงุนงง “ท่านพีหมายความว่าอย่างไร”
12
เยียนจิง หากในระหว่างงานเลียงมีเรืองอะไรเกิดขึนกับ
เจียงหลี นางจะต้องอับอายขายหน้าแน่”
“จะให้นาง...” จีซูหรันพลันกระจ่าง
“จําเรืองของฮูหยินน้อยเสินภรรยาท่านจงซูเส่อหลางได้
หรือไม่ งดงามเสียขนาดนัน สุดท้ายยังถูกผูค้ นหมางเมิน
ไม่ใช่เพราะนางทําเรืองน่าอับอายท่ามกลางสายตาชน
ชันสูงเหล่านันหรอกรึ”
13
ยิง “ข้าจะเป็ นคนจัดการเรืองนีเอง ในงานเลียงของราช
สํานัก ข้าจะจัดหา ‘ชูร้ กั ’ ให้นางอย่างเหมาะสมทีเดียว”
จีซูหรันยังไม่เข้าใจ
“ข้าได้ยินว่าผูท้ ีได้คะแนนอันดับหนึงของสํานักบัณฑิต
ชายในครังนีคือเย่ซือเจีย เป็ นญาติฝังมารดาของเจียง
หลี ก่อนหน้านีเจียงหลียงั เคยช่วยเย่ซือเจียไว้กลางถนน
หากเกิดเรืองบัดสีขนึ คนในวังจะต้องคาดเดาว่าพวกเขา
มีความสัมพันธ์กนั อย่างลับๆ แน่”
14
สีหน้าของจีซูหรันพลันตึงเครียด “ท่านพูดถึงเย่ซือเจียรึ
เหตุใดถึงให้นางได้คนดีเช่นนันไปครองเล่า” ในสายตา
ของจีซูหรัน เย่ซือเจียยังพอจะเรียกได้วา่ เป็ นชายหนุ่ม
มากความสามารถ เขาได้คะแนนสอบเป็ นอันดับหนึง
ของสํานักบัณฑิตชาย หากเจียงหลีแต่งกับเย่ซือเจีย ไม่
นับว่านางได้ประโยชน์หรือ
“น้องสาวข้า เจ้าจะต้องประเมินสถานการณ์ให้รอบคอบ
เจียงหลีแต่งกับเย่ซือเจียนันดีมากเชียวล่ะ” เฉินจีฮูหยิน
กล่าว “เจ้าคงคิดว่าเย่ซือเจียนันสอบได้คะแนนเป็ น
อันดับหนึง ต่อไปก็จะได้เข้ารับราชการ เจียงหลีจงึ พลอย
มีหน้ามีตาไปด้วย” เฉินจีฮูหยินส่ายหน้า “ในความเป็ น
จริงหาได้เป็ นเช่นนัน เย่ซือเจียกับเจียงหลีลกั ลอบมี
15
ความสัมพันธ์ หากฮ่องเต้ทรงทราบก็ตอ้ งโกรธกริวจนรับ
สังขับไล่เย่ซือเจียออกจากวังเป็ นแน่ เขาไม่มีทางจะได้
รับตําแหน่ง ซํายังโดนผูค้ นก่นด่า ส่วนเจียงหลีทีชือเสียง
ด่างพร้อยเพราะเขา หลังแต่งงานทังสองยังจะครองรัก
กันได้อยูอ่ ีกหรือ” เฉินจีฮูหยินกล่าวเนิบๆ “เนืองจาก
เจียงหลีทาํ ลายอนาคตของเย่ซือเจีย คนตระกูลเย่ทีหวัง
จะอาศัยเย่ซือเจียสร้างชือเสียงให้วงศ์ตระกูลต้องเคียด
แค้นเจียงหลีตามไปด้วย ถึงเวลานัน หากเจ้าคิดจะ
กําจัดนางก็ง่ายดังพลิกฝ่ ามือ”
16
บทที 67 ข้าจะไปเดียวนี
จีซูหรันกระจ่างแจ้งในทันที
เฉินจีฮูหยินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
อีกฝัง ถงเอ๋อนําความทีได้ยินมาแจ้งกับเจียงหลี
“เล่ากันว่าคุณหนูสามอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก สาวใช้ใน
2
สวนเหยากวงจูถ้ กู ทําโทษกันเป็ นแถว มีคนเห็นคุณหนู
สามร้องไห้ดว้ ยเจ้าค่ะ...”
เจียงหลีวางหนังสือในมือลงกล่าวอย่างแปลกใจ “ร้องไห้
ด้วยรึ”
3
เจียงจิงรุย่ สอดขาข้างหนึงก้าวเข้าห้อง
เจียงหลีถาม “มีธุระอะไร”
“ว่ามา”
5
หน้ามีตาอยูใ่ นหมิงอีถาง รูส้ กึ ว่าเจ้าดีกว่าเจียงโย่วเหยา
เป็ นไหนๆ จึงตัดสินใจบอกเลิกสัญญาแต่งงาน แล้ว
เปลียนกลับมาเป็ นเจ้าตามเดิม”
7
“แล้วอย่างไร” ถงเอ๋อถามต่อ “นายท่านใหญ่เห็นด้วยกับ
เรืองนีหรือไม่เจ้าคะ”
8
ต้องการนีเป็ นของโจวเยียนปั ง ท่านหนิงหย่วนโหวและ
ภรรยามิได้เห็นชอบ เด็กรับใช้ของโจวเยียนปั งได้ยินพวก
เขาทะเลาะกันเลยแอบนํามาบอกสาวใช้ในจวนของพวก
เรา สาวใช้นนก็
ั รบี คาบข่าวไปบอกกับท่านลุงใหญ่ ได้ยิน
ว่าเจียงโย่วเหยาร้องไห้ฟมู ฟาย ท่านป้าใหญ่ยงั ปลอบใจ
นางอยู่ ท่านลุงใหญ่นนโกรธมาก
ั แทบจะรีไปทีจวนหนิง
หย่วนโหวด้วยตนเองแล้ว”
เจียงหลีพลันกระจ่าง มิน่าถงเอ๋อถึงได้ยินว่าเจียงโย่ว
เหยาร้องไห้
9
“ท่านแม่ของข้าพูดกับแม่นม แล้วข้าบังเอิญได้ยินเข้าน่ะ
สิ” เจียงจิงรุย่ กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ท่านแม่ของข้าวันๆ
สนใจแต่เรืองของบ้านสายหลัก มีข่าวคราวเล็กน้อยก็รู ้
ก่อนใคร เรียกว่ารูเ้ ร็วกว่าเจ้ามาก”
หลังการสอบใหญ่ของสํานักบัณฑิตหญิงไม่นาน
แต่ละบ้านก็ได้รบั หนังสือเชิญร่วมงานเลียงภายในราช
สํานัก แต่ในครังนี ท่านเฉิงเซียนสือ--เมิงโหย่วเต๋อ บิดา
ของเมิงหงจินกลับมิอาจไปร่วมงานได้
ทีบ้านตระกูลเมิง เมือเทียบกับความครึกครืนของช่วง
11
เวลาทีผ่านมา ยามนีกลับไม่มีชีวิตชีวาเอาเสียเลย
นันก็คือเมิงโหย่วเต๋อในระยะเวลาอันสัน เมิงโหย่วเต๋อดู
ชราลงไปมาก คนทีอยูด่ า้ นหลังวิงไล่ตามเขามาติดๆ
นางก็คือเมิงฮูหยิน ภรรยาของเมิงโหย่วเต๋อนันเอง
12
“ไม่ตอ้ งพูดอะไรอีกแล้ว วันพรุง่ นีส่งนางไปสํานักนางชี
หากนางยังเป็ นเช่นนีต่อไป จะต้องเกิดเรืองใหญ่ขนในไม่
ึ
ช้า” เมิงโหย่วเต๋อกล่าวโดยไม่หนั หน้ามอง
14
วเต๋อแล้วกล่าวอย่างโศกเศร้า “ตอนทีหงจินโดนองค์
หญิงหย่งหนิงกักตัว แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึนกันแน่ พวก
เราไม่สามารถแก้แค้นให้ลกู ได้เลยหรือ”
เมิงหงจินถูกคนขององค์หญิงหย่งหนิงส่งกลับมาเมือ
สามวันก่อน
16
เมิงโหย่วเต๋อกับเมิงฮูหยินเกรงว่าองค์หญิงหย่งหนิงจะ
ใช้วิธีรุนแรงกับบุตรสาว พอนางกลับมาถึงก็รบี ให้คนไป
ตรวจสภาพร่างกายว่ามีบาดแผลหรือไม่ ตรวจไปตรวจ
มากลับไม่พบร่องรอยใดๆ แต่พอเมิงหงจินตืนขึนมานาง
ก็กลายเป็ นเช่นนี เห็นผูค้ นก็ถอยกรูด จําใครไม่ได้ ราว
กับได้รบั ความสะเทือนใจอย่างรุนแรง เวลานีแม้แต่ตวั
เองนางก็ไม่รูจ้ กั
17
อาจหลีกเลียง
18
บทที 68 ดูไม่มชี วี ติ ชีวาสักคน
ณ ตําหนักขององค์หญิงหย่งหนิง
แสงตะเกียงลุกโชติช่วงสว่างไสวผิดกับในจวนตระกู
ลเมิง
1
บุรุษทีนังอยูก่ ลางห้องโถงในยามนีมีใบหน้าหล่อเหลา
จมูกโด่ง เบ้าตาลึก ริมฝี ปากบาง คิวเข้ม แต่เนืองจาก
โครงหน้าค่อนข้างเด่นชัดจึงดูเย็นชา ไม่เป็ นมิตรสัก
เท่าไร
เขาก็คือเฉิงอ๋อง
เฉิงอ๋องปรายตามองเหล่านางรํา “ดูไม่มีชีวิตชีวาสักคน”
“เพราะช่วงนีไม่มีเรืองน่าตืนเต้น ทุกคนก็เลยทําตัวจืดชืด
2
ตามไปด้วย” องค์หญิงหย่งหนิงเท้าคางอย่างเบือหน่าย
ห้องขังขององค์หญิงหย่งหนิงมีไว้จองจําบุคคลทีนางไม่
พอใจ ผูท้ ีองค์หญิงหย่งหนิงโกรธแค้นแต่ยงั ไม่อยากให้
ตายง่ายๆ ก็จะถูกขังไว้ทีนี นางมักนําวิธีกลันแกล้งใหม่ๆ
มาใช้อยูเ่ สมอ เช่นถลกหนังหัวครึงหนึง หรือบางคนก็ถกู
แหวกเนือตัดกระดูกหัวเข่าออกมาต้ม จะกล่าวว่าเป็ น
นรกบนพืนโลกก็ไม่ผิด ถึงแม้เมิงหงจินจะเอาแต่ใจ ทว่า
ในจวนตระกูลเมิง อย่างมากสุดนางก็คงเคยเห็นแค่สาว
ใช้ทีถูกตีจนตายเท่านัน นรกคนเป็ นแบบนี ได้เห็นเพียง
ครังเดียวยังสามารถทําให้นางฝันร้ายไปชัวกัปชัวกัลป์
4
“ไม่สนุกเอาเสียเลย” องค์หญิงหย่งหนิงหัวเราะเสียงเย็น
“จะทรมานคนก็ตอ้ งเก็บไว้ให้อยูใ่ นสายตาแล้วค่อยๆ
บีบคันถึงจะรืนรมย์ ดีทีสุดต้องให้มนั ดินทุรนทุรายอย่าง
กลัวตาย เวลาทีเห็นคนอยากมีชีวิตรอดหรือมีความหวัง
อยูใ่ นแววตา แล้วเราเป็ นคนเป่ าความหวังสุดท้ายของ
พวกมันจนดับสูญ” นางเป่ าตะเกียงทีเหลือแสงรําไรให้
ดับลงพลางหัวเราะ “ทําให้พวกมันหมดหวัง แบบนันถึง
จะสนุก เช่นเดียวกับสัตว์ป่า ตัวทีรูจ้ กั ต่อสูด้ นรนถึ
ิ งจะล่า
สนุก”
องค์หญิงหย่งหนิงได้ฟังก็ตาลุกวาว สีหน้าเบือหน่าย
หายวับราวปลิดทิง รีบเอ่ยปากอย่างดีใจ “ให้เขาเข้ามา”
เฉิงอ๋องหยิบถ้วยทีอยูต่ รงหน้าขึนมาดืมอย่างไม่ยีหระ
ครันองค์หญิงหย่งหนิงเห็นเขาก็ดีใจจนออกนอกหน้า
6
หันไปเอ่ยกับเฉิงอ๋อง “ข้าเป็ นคนเชิญใต้เท้าเสินมา พี
ใหญ่ ก่อนหน้านีท่านบอกว่าทีตําหนักเหวินชังขาดคนมิ
ใช่หรือ...”
เฉิงอ๋องขมวดคิว ดูไม่พอใจองค์หญิงหย่งหนิงทีรีบร้อน
รับคนโดยไม่ปรึกษา
องค์หญิงหย่งหนิงดูออกว่าเฉิงอ๋องพอใจในตัวเสินอวีห
7
ยงจึงแสดงความดีใจผ่านสีหน้า นางรูส้ กึ ภาคภูมิใจใน
ตัวเสินอวีหยงอย่างเหลือล้น ตังแต่วนั นันทีสนามม้า
หลังจากทีนางถูกลูกธนูของเมิงหงจินยิงจนได้รบั บาด
เจ็บ ทีตําหนักก็มีคนจํานวนไม่นอ้ ยเข้ามาเยียมไข้แต่
เสินอวีหยงไม่เคยปรากฏตัว
เสินอวีหยงเป็ นคนทีฮ่องเต้หงเซียวให้ความสําคัญ
ภรรยาของเขาก็เพิงจะตายไปไม่นาน หากทําตัวใกล้ชิด
สนิทสนมกับองค์หญิงแล้วมีใครเห็นเข้าคงไม่ใช่เรืองดี
จะทําการใหญ่อย่าคิดเล็กคิดน้อย โดยเฉพาะอย่างยิง
อย่าได้คิดถึงเรืองรักใคร่อนั ไร้ประโยชน์ของสตรี ทุกคน
บนโลกนี หากไม่ใช่กอ้ นหินทีใช้ปีนป่ ายก็เป็ นก้อนหินที
ขวางทางเดิน แต่เชือเถอะว่า หนทางของท่านอ๋องอย่าง
เขาในวันข้างหน้าจะยิงกว้างไกล สดใส และมีแต่ความ
ราบรืน
9
“เสินอวีหยงไปเยือนตําหนักขององค์หญิงหย่งหนิง เฉิง
อ๋องก็อยูด่ ว้ ยขอรับ” ทหารองครักษ์ชดุ ดํารายงาน
ในห้องหนังสือของจวนกัวกง จีเหิงวางหนังสือทีหยิบ
ออกมาจากชันเก็บเข้าที
พอทหารองครักษ์รายงานจบก็หายตัวไปอย่างไร้รอ่ งรอย
11
“นายท่านมองคนได้แม่นยํานัก” ลูจ่ ีสดู หายใจ พลันนึก
อะไรขึนมาได้ “เพียงแต่เรืองของเมิงโหย่วเต๋อทางฝังนัน
น่าเสียดายนัก เดิมทีเมิงโหย่วเต๋อเป็ นคนของท่าน
เสนาบดี ทว่าตอนนีไปมีเรืองกับองค์หญิงหย่งหนิง จึงไม่
ต่างจากการมีเรืองกับเฉิงอ๋อง ท่านเสนาบดีเป็ นคนของ
เฉิงอ๋อง เพือแสดงความจงรักภักดี เขาย่อมไม่ใช้งาน
เมิงโหย่วเต๋ออีก เมิงโหย่วเต๋อผูน้ ี อันทีจริงก็เป็ นคนมี
ความสามารถ...”
เดิมทีตระกูลเมิงทํางานให้กบั ท่านเสนาบดีซงเป็
ึ นข้ารับ
ใช้ฝ่ายเฉิงอ๋อง เนืองจากอุบตั ิเหตุระหว่างเมิงหง
จินกับองค์หญิงหย่งหนิง ทําให้ตระกูลเมิงต้องถูกเฉิง
อ๋องเฉือนทิง
12
“ครังนีเป็ นเพราะคุณหนูรองเจียง” ลูจ่ ีหวั เราะเบาๆ
แล้วกล่าวว่า “เย่ซือเจียในตอนนัน ก็เพราะคุณหนูรอง
เข้ามาช่วยไว้จนทําให้แผนต้องเปลียน มาตอนนีก็เป็ น
เมิงหงจินอีกคน ทําให้ตระกูลเมิงต้องหลุดจากเข้าร่วม
ฝ่ ายเฉิงอ๋อง ทังสองครังล้วนเป็ นฝี มือของคุณหนูรอง
เจียงทีทําให้แผนการของนายท่านไม่สมั ฤทธิผล คุณหนู
เจียงหลีกบั นายท่านนับว่ามีกรรมสัมพันธ์กนั เสียจริง”
13
แนะเย่ซือเจียอยูเ่ บืองหลัง”
ในทีสุดจีเหิงก็หาหนังสือทีต้องการพบแล้ว เขาหยิบม้วน
หนังสือแล้วหมุนตัวกลับมาตอบว่า “แล้วเจ้าคิดว่าใคร...
เป็ นคุณหนูรองเจียงทีอยูเ่ บืองหลังเรืองทังหมดใช่หรือ
ไม่”
14
เอนร่างพิงไปด้านหลังแล้วกล่าวเสียงเรียบเรือย “สงสัย
คุณหนูนอ้ ยผูน้ นอยากเป็
ั นปฏิปักษ์กบั ข้า”
ฤดูรอ้ นรอบนียาวนานนัก
ย่างเข้าฤดูใบไม้รว่ งแต่กลับไร้วีแววของสายลมเย็น
สบายอันเป็ นเอกลักษณ์ ตะวันร้อนแรงยังคงส่องแสง
เจิดจ้า ดอกไม้ในสวนล้วนโดนแดดเผาจนแห้งเหียว
“คุณหนู” ถงเอ๋อร้องเรียกเบาๆ
16
เป็ นเวลาใดนางลุกขึนนังพลางกดหน้าผาก ถงเอ๋อเห็น
หน้าผากของเจียงหลีอาบไปด้วยเหงือก็ตกใจ รีบหาผ้า
เช็ดหน้ามาซับเหงือให้พลางกล่าว “คุณหนู นีท่านฝัน
ร้ายใช่หรือไม่ เหงือออกเต็มหน้าเลยเจ้าค่ะ”
17
บทที 69 ข้าฝั นไป
เมือคืนนางฝันเห็นเซวียเจา
ไม่เหมือนครังก่อน ครังนีเจียงหลีเห็นเซวียเจาถูกขังไว้ใน
ทีแห่งหนึงซึงคล้ายกับห้องขังขนาดใหญ่ ในทีแห่งนันมี
คนยืนยามเฝ้าอยูจ่ าํ นวนมาก แต่ละคนล้วนหน้าตาดุดนั
ร่างของเซวียเจาเต็มไปด้วยเลือด ถูกแขวนโยงไว้กลาง
ห้อง นางอยากจะเข้าไปช่วยน้องชาย แต่ถกู ขวางไว้ดว้ ย
แผงเหล็ก
ภาพทีเห็นหลังจากนันคือคนจํานวนหนึงกรูกนั เข้ามาหา
พวกมันเริมใช้กาํ ลังทําร้ายเซวียเจา บ้างก็เอาแผ่นเหล็ก
2
ทีเผาจนแดงนาบลงบนตัวของน้องชายนาง แล้วยังป่ น
พริกผสมเกลือสาดมาอีกหนึงคํารบเซวียเจาเริมส่งเสียง
คําราม ภาพนีทําให้เจียงหลีรูส้ กึ เจ็บปวดทรมานสุดแสน
แต่นางก็ไม่อาจเข้าไปคว้าตัวน้องชายได้
ใจของนางอดหวาดหวันไม่ได้ เหตุใดนางจึงฝันเห็นเซวี
ยเจา นันเป็ นสถานทีใด
หรือจะเป็ นนรกภูม?ิ
3
แต่ชายหนุ่มอย่างเซวียเจา ยามมีชีวิตอยูเ่ ขาทังจงรัก
ภักดี กล้าหาญและซือตรง อย่างไรก็ไม่ควรตกนรก
สาวใช้ทงหมดต่
ั างมองเจียงหลีทีตกอยูใ่ นภวังค์ ถงเอ๋อ
และไป๋ เสวียไม่รูว้ า่ เหตุใดคุณหนูถงึ มีทา่ ทีเช่นนี เจียงหลี
เหมือนไม่อยากให้ผอู้ ืนรบกวน สาวใช้แต่ละนางจึงทํา
งานของตนเองเงียบๆ
4
ทีเรือนหวันฟ่ งถางในเวลานี นอกจากเจียงหลีแล้วยังมี
บรรดาลูกหลานของบ้านสายหลัก บ้านสายรอง และ
บ้านสายสาม ต่างก็อยูก่ นั พร้อมหน้า
5
ข้อควรระวังเหล่านันนางพูดไปเกือบหมดแล้ว กฎ
ระเบียบก็คล้ายกับทุกปี เนืองจากปี นีเจียงหลีตอ้ ง
ติดตามเข้าวัง ดังนันนางจึงต้องยําเตือนเจียงหลีเป็ น
พิเศษอีกครัง
ขณะทีกําลังรอเจียงหลี นางหลูซือก็เอ่ยถามจีซูหรัน
“สะใภ้ใหญ่ ได้ยินว่าฤกษ์แต่งงานของโย่วเหยากับคุณ
ชายโจวกําหนดออกมาแล้วใช่หรือไม่”
เมือประโยคนีหลุดออกมา แววตาของคนในห้องก็
เปลียนไป
6
สามล้วนแสดงออกถึงความสงสัย เห็นได้ชดั ว่าเพิงเคย
ได้ยินเรืองนีเป็ นครังแรก
จีซูหรันยิมอย่างอ่อนโยน “ข่าวของน้องสะใภ้รวดเร็วเสีย
จริง ไม่ผิด วันก่อนข้าได้ปรึกษากับภรรยาท่านหนิง
หย่วนโหว โหวฮูหยินคิดว่าโย่วเหยาอายุอานามก็พอ
เหมาะ ถึงเวลาทีสมควรจะออกเรือนแล้ว นางคิดว่าฤดู
หนาวปี หน้าเป็ นช่วงเวลาทีดีทีสุด”
เจียงโย่วเหยาได้ฟัง ใบหน้าก็แดงกําขึนอย่างรวดเร็ว
7
กลับเป็ นเจียงอวีเอ๋อทีตกใจ นางรูม้ านานแล้วว่างานแต่ง
ระหว่างเจียงโย่วเหยากับโจวเยียนปั งเป็ นเรืองทีต้องเกิด
ขึนในไม่ชา้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี
ครันเห็นเจียงโย่วเหยาได้แต่งกับคุณชายตระกูลใหญ่
เจียงอวีเอ๋อก็อดคิดถึงตัวเองไม่ได้ บิดาของนางเป็ นแค่
ราชเลขา ตําแหน่งทีตําต้อยจนแทบติดพืน อยูใ่ นตระกูล
เจียงก็เป็ นเพียงลูกหลานจากอนุภรรยาห่างไกลจากท่าน
ลุงใหญ่กบั ท่านลุงรองลิบลับ แม้ตวั นางจะพยายามประ
จบจีซูหรัน แต่ถงึ กระนัน... มีหรือทีจีซูหรันจะยอมให้นาง
ได้สามีเกินหน้าเกินตาบุตรสาวของตน เรืองการแต่งงาน
ของนาง จีซูหรันคงไม่ใส่ใจสนับสนุน ทีสามารถพึงพาได้
ก็มีเพียงไม่กีคน ถึงอย่างไรนางก็ไม่มีโอกาสได้สามีทีดี
เหมือนเจียงโย่วเหยา
8
เห็นอีกฝ่ ายสมปรารถนา เจียงอวีเอ๋อก็ได้แต่นกึ ถึงชะตา
ของตนแล้วแอบทอดถอนใจ ทังรูส้ กึ โศกเศร้าและไม่
อยากยอมรับ
นางหลูซือคลียิม “โย่วเหยามีบญ
ุ โดยแท้ คุณชายโจว
เป็ นบุคคลทีใครๆ ในเมืองเยียนจิงล้วนอยากแต่งด้วย
แต่วา่ สะใภ้ใหญ่” นางถามอย่างห่วงใย “อย่าลืมว่าหลี
เอ๋อก็เป็ นคนในจวนตระกูลเจียงของพวกเราเหมือนกัน
หลีเอ๋อเป็ นถึงพีสาว เรืองงานแต่งของหลีเอ๋อยังไม่ถกู
กําหนด แต่โย่วเหยากลับมีทกุ อย่างแล้ว เราอาจจะถูก
คนครหาได้”
จีซูหรันพูดเลียงเรืองเจียงโย่วเหยาแย่งงานแต่ง แล้วยัง
เหยียบยําเจียงหลีวา่ ไม่มีใครมาสูข่ อได้อย่างแนบเนียน
ไม่ทิงร่องรอยใดๆ ให้ยอ้ นเข้าตัวได้
เจียงหลียกเท้าก้าวข้ามธรณีประตูของเรือนหวันฟ่ งถาง
แล้วเอ่ยทักเสียงดัง “ท่านย่า”
นางหลูซือดีใจจนตาตัง คิดว่าเจียงหลีอาจได้ยินถ้อยคํา
เมือสักครูข่ องจีซูหรัน เจียงหลีจะต้องโต้กลับอย่างเจ็บ
12
แสบแน่ นางอยากเห็นสีหน้าไม่เป็ นสุขของจีซูหรันเหลือ
เกิน
แต่เจียงหลีกลับวางท่าราวกับไม่ได้ยินคําพูดเหยียด
หยามเสียอย่างนัน หลังจากคารวะฮูหยินผูเ้ ฒ่าแล้ว นาง
ก็ทาํ ความเคารพผูอ้ าวุโสทีละคน ไม่ได้ตอบโต้จีซูหรัน
เลยสักคํา
เจียงโย่วเหยาจ้องมองเจียงหลี นึกถึงสิงทีได้ยินจากปาก
สาวใช้เมือคราวก่อนว่าโจวเยียนปั งต้องการยกเลิก
สัญญาแต่งงานกับนางเพือไปหาเจียงหลี คิดแล้วก็อด
แสดงความโกรธแค้นผ่านแววตาไม่ได้
13
เจียงหลียืนอย่างสงบ ไม่สนใจสายตาทีมองมาของผูใ้ ด
เจียงหลีรบั คํา
เจียงหลียิมพลางพยักหน้ารับ ไม่ได้แสดงอาการตืนเต้น
14
ออกมา
เจียงหลีได้ยินนางหลูซือกล่าวถึงเย่ซือเจียก็ลอบถอนใจ
นางไม่อยากให้ตระกูลเย่มาพัวพันกับคนของจวนตระกูล
เจียงเลย นีไม่ใช่เรืองดีนกั สําหรับคนตระกูลเย่
15
จีซูหรันหัวเราะแล้วมองเจียงหลี “ใช่แล้ว ข้าเห็นว่าหลี
เอ๋อควรจะไปมาหาสูก่ บั คุณชายตระกูลเย่บา้ ง แม้
มารดาของเจ้าจะล่วงลับไป แต่ทงสองบ้
ั านก็ยงั คงเกียว
ดองเป็ นญาติ หากภายภาคหน้าได้รบั ราชการ นายท่าน
ใหญ่ของพวกเราก็ยงั สามารถอุปถัมภ์เขาได้ อย่างไรเสีย
ก็เป็ นคนบ้านเดียวกัน อุปถัมภ์คนในครอบครัวดีกว่าช่วย
เหลือคนนอก”
เจียงหลีได้ฟัง หางตาพลันกระตุกเล็กน้อย
คําพูดของจีซูหรันเหมือนปรารถนาดี แต่จีซูหรันมีหรือจะ
อารีถงึ ขันสนับสนุนให้เจียงหยวนปั วช่วยอุปถัมภ์เย่ซือ
16
เจีย... เป็ นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
เจียงหลีมองรอยยิมอ่อนโยนของอีกฝ่ าย จีซูหรันกําลัง
เล่นบทมารดาทีมีทงความรั
ั กและเมตตาเปี ยมล้น เพียง
แต่เจียงหลีกลับรูส้ กึ ว่าแววตาของนางดังอสรพิษเลือย
พันอยูบ่ นต้นไม้ทีกําลังจับจ้องเหยือ ฟั นแหลมคมคูน่ นั
อาบไปด้วยพิษร้าย
17
บทที 70 จ้องข้าทําไม
จีซูหรันกําลังวางแผนอะไรบางอย่างแน่
แววตาของเจียงหลีเคลือนมาทีเจียงโย่วเหยา
1
แววตานันทําให้เจียงหลีรูส้ กึ คุน้ ตา
สําหรับสองคนนี เจียงอวีเยียนไม่เคยออกความเห็นใดๆ
ส่วนเจียงอวีเอ๋อ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยแสดงสีหน้าเป็ น
มิตรกับเจียงหลีสกั ครัง วันนีพอได้เห็นหน้าเจียงอวีเอ๋อ
2
เจียงหลีก็รูท้ นั ทีวา่ ฝ่ ายตรงข้ามกําลังวางแผนบางอย่าง
ในใจ
3
ท่านป้าใหญ่บอกว่าฤกษ์แต่งงานของพีสามกับคุณชาย
โจวกําหนดออกมาแล้ว เป็ นช่วงฤดูหนาวปี หน้า ข้าเข้า
ใจว่าพีรองคงยังไม่ทราบเกียวกับเรืองนี จึงตังใจมาแจ้ง
ข่าวเจ้าค่ะ”
เพือเรืองนีเองหรอกหรือ
เจียงอวีเอ๋อพยายามสังเกตสีหน้าของเจียงหลีโดย
ละเอียด แต่ไม่เห็นแววตาทีบ่งบอกถึงความผิดหวังชอก
ชําใจแม้แต่นอ้ ย นางจึงกล่าวต่อไปว่า “หากไม่เกิดเรือง
4
กับพีรองในตอนนัน คนทีจะได้แต่งเข้าจวนหนิงหย่วน
โหวก็ตอ้ งเป็ นพี คุณชายโจวเป็ นบุรุษอันดับต้นๆของ
เมืองเยียนจิงทีสตรีทงหลายต่
ั างหมายปอง ไม่เสียแรงที
พีสามสามารถแต่งเข้าบ้านตระกูลโจวของเขาได้ เฮ้อ...
ทังๆ ทีพีรองอายุมากกว่าพีสามแท้ๆ แต่เรืองงาน
แต่งกลับยังไม่เป็ นทีแน่ชดั ข้ารูส้ กึ ว่าไม่ยตุ ิธรรมต่อพีรอง
เสียเลย”
เจียงอวีเยียนได้ฟังก็กลัวจนหัวหด อยากจะเอ่ยปากห้าม
เจียงอวีเอ๋อ แต่สดุ ท้ายก็ได้แค่รงชายเสื
ั อของน้องสาว
เท่านัน
เจียงหลีไม่ได้ตอบเจียงอวีเอ๋อ เพียงจ้องมองกลับไปแล้ว
อมยิมทีมุมปาก
5
เจียงอวีเอ๋อเห็นเช่นนันจึงเอ่ยถาม “พีรองจ้องข้าทําไม”
สีหน้าของเจียงอวีเอ๋อแปรเปลียนในฉับพลัน
6
เจียงอวีเอ๋อหัวเราะเฝื อน ตอบว่า “นีเป็ นคําพูดทีข้าเอ่ย
กับพีรองจากใจ... เพียงผูเ้ ดียว”
เจียงหลียิม “ความจริงเรืองงานแต่งของข้าน้องห้าไม่จาํ
เป็ นต้องกังวลให้มาก ท่านพ่อของข้าเป็ นถึงมหา
อํามาตย์ ต่อให้เมืองเยียนจิงสินคนดี ข้าก็ยงั สามารถหา
ตระกูลขุนนางใหญ่แต่งออกไปได้ ถึงท่านแม่ไม่เดือด
ร้อนเป็ นธุระให้ ข้าก็ยงั มีทา่ นพ่อกับท่านย่ามาช่วยคิดอยู่
ดี ข้าเป็ นถึงบุตรีอนั เกิดจากภรรยาเอกของบ้านสายหลัก
ตระกูลเจียง จะแต่งกับคนทีด้อยกว่าได้หรือ” นางมอง
เจียงอวีเอ๋อแล้วกล่าวเป็ นนัย “แม้นอ้ งห้าอายุยงั ไม่ครบ
สิบห้าปี ก็ควรดูแลตัวเองให้ดีกว่านีสักหน่อย อาชีพการ
งานของท่านอาสามในตอนนีไม่แจ่มใสนัก อาศัยเพียง
7
บารมีของท่านอาสามกับอาสะใภ้สาม ต่อไปน้องห้าจะ
แต่งกับคุณชายบ้านไหนก็ยงั ตอบได้ยาก”
“เหตุใดคุณหนูหา้ ถึงชอบมาหาเรืองคุณหนูของพวกเรา
8
นัก” หมิงเย่ถามอย่างประหลาดใจ “คุณหนูหา้ เป็ นคน
ของบ้านสายสาม คุณหนูของพวกเราไม่ได้ไปขวางทาง
อะไรนางสักหน่อย”
เจียงหลีฟังคําวิพากษ์วิจารณ์ของสาวใช้ก็ได้แต่หวั เราะ
พลางส่ายหน้า “โลกของเราก็มีคนแบบนี เกิดมาชาติ
ตระกูลด้อยกว่าแล้วยังไม่รูจ้ กั เจียมตัว วันๆ คิดแต่จะ
กระโดดข้ามหัวผูอ้ ืน คนแบบนีสามารถทําอะไรก็ได้ทงั
นัน”
9
สาวใช้ทงหลายผงกศี
ั รษะ เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง
10
พอเจียงอวีเอ๋อเห็นเจียงหลี ก็ไม่ได้เพิกเฉยเย็นชาต่อนาง
เพราะเรืองเมือวาน กลับยิมแย้มแจ่มใส แล้วยังชืนชม
กระโปรงของเจียงหลีวา่ งดงามอีกด้วย
เจียงหลีได้แต่ตอบว่า “ของน้องห้าก็ไม่เลว”
เจียงอวีเอ๋อสวมกระโปรงสีเหลืองอ่อนปั กลายดอก
เบญจมาศ เรือนผมเกล้าสูงประดับด้วยปิ นหยกรูปดอก
ไห่ถงั ในความเป็ นจริง การแต่งกายหรูหราเช่นนีกลับลด
ทอนความน่ารักสมวัยของเจียงอวีเอ๋อ ทว่าเจียงอวีเอ๋อที
กําลังเห่อเครืองประดับราคาแพงกลับรูส้ กึ ภูมิใจยิง
11
เยียนนันธรรมดาจนเกินไป ส่วนเจียงอวีเอ๋อก็แต่งตัวมาก
เกินงาม ทําให้เจียงโย่วเหยายิงโดดเด่นสะดุดตา
เจียงโย่วเหยาเองก็ใส่ใจกับการแต่งกายของตน
ทุกกระเบียด ไม่ตอ้ งพูดถึงอืนใด แค่กระโปรงตัวยาวลาก
พืนสีแดงเหลือบทองของนางก็เพียงพอให้ดงึ ดูดสายตาผู้
คนแล้ว ซํานางยังเสริมความหรูหราด้วยหวีรูปนกยูง
ทองคํา กําไลแปดมณี ผูกกระเป๋ าถักสีแดงข้างเอวและ
แต่งหน้าทาปากอีกด้วย
ปกติแล้วเจียงโย่วเหยาจะไม่แต่งหน้าจัดนัก แต่ครังนี
ต้องเข้าวัง นางจึงต้องเขียนคิวเติมแป้งเพิม เดิมใบหน้า
ของนางนันสะสวย เมือแต่งแต้มจนคมขําเช่นนี ต่อให้
เป็ นบุปผางามก็ยงั มิอาจเทียบ หากเข้าวังในรูปลักษณ์นี
12
จะต้องดึงดูดสายตาของคุณชายตระกูลใหญ่อย่างแน่แท้
เพียงแต่เจียงหลีไม่เข้าใจ... ในเมือเจียงโย่วเหยาหมัน
หมายไว้กบั โจวเยียนปั งแล้ว เหตุใดยังต้องแต่งกายเลิศ
หรูอีก
ขณะทีเจียงหลีกาํ ลังพินิจพิจารณาเจียงโย่วเหยาอยูน่ นั
จีซูหรันก็กาํ ลังมองประเมินนางเช่นกัน นางหลูซือยิงทํา
เกินกว่าเหตุ นางปิ ดปากหัวเราะแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่
รูจ้ กั สาวใช้ทงสอง
ั คงจดจําหลีเอ๋อไม่ได้จริงๆ”
13
เย็บเสือผ้าทีมีสีสนั ไม่ฉดู ฉาดนัก แต่เนืองจากต้องเข้า
เฝ้าฮ่องเต้ จะให้เรียบง่ายเกินไปก็คงไม่เหมาะ
เจียงหลีในวันนีจึงสวมอาภรณ์สีเขียวตลอดร่าง ด้านใน
เป็ นชุดกระโปรงสีเขียวอ่อน เกล้าผมทรงนําเต้าเปิ ดใบ
หน้ากระจ่างใสยิงชวนให้ติดตราตรึงใจนัก นางไม่ได้ปัก
ปิ นหรือประดับหวีเลยสักอัน เพียงห้อยต่างหูหยกขาว
ขนาดเล็กกะทัดรัดทีรับกับใบหน้าขาวดุจหยก
14
สีแดงฉูดฉาดทีนํามาประดับกับใบไผ่เขียวเย็นตา มอง
คล้ายกองไฟท่ามกลางไพรสัณฑ์
ความร้อนแรงทําให้คนชืนชม แต่ความสบายตานันง่าย
ต่อการจดจํา
15
ราวกับหยกเนือดีทีหล่นอยูบ่ นชายฝัง นางทอประกาย
เจิดจรัสได้ดว้ ยตัวเอง
แบบไหนดีกว่า ตอนนีก็ยากจะหาคําตอบ
17
บทที 71 สตรีตระกูลเจียงมาถึงแล้ว
เดิมทีเจียงโย่วเหยาคิดว่าเจียงหลีทีเข้าวังเป็ นครังแรกจะ
1
ต้องมือไม้สนจนทํ
ั าอะไรไม่ถกู ด้วยความตืนเต้น หาก
เจียงหลีทาํ เรืองน่าอายขึนมาก็คงดี ไม่นกึ ว่าจะได้เห็น
เจียงหลียกกระโปรงขึนเล็กน้อย เยืองย่างอย่างผ่อน
คลาย ราวกับว่าวังหลวงเป็ นสวนดอกไม้ของบ้านตัวเอง
เสียอย่างนัน
ตําหนักอวีหมิงในเวลานี คนจากตระกูลขุนนางมากหน้า
หลายตาเข้ามาร่วมงานแล้ว คุณหนูและฮูหยินเหล่านี
ล้วนมีชาติตระกูลสูงส่ง งานเลียงยังไม่ทนั เริม แขกเหรือ
ส่วนใหญ่จงึ แลกเปลียนพูดคุยตามความสนิทสนม งาน
เลียงในวังเช่นนี บุตรีของแต่ละบ้านพยายามแต่งองค์
2
ทรงเครือง เนืองจากคนทีเข้าวังมาร่วมงานนันยังมีลกู
ชายตระกูลขุนนางชันสูงทีล้วนแต่รูปงามมากความ
สามารถ ราชวงศ์เยียนมีประเพณีทีเปิ ดกว้างกว่ารัชสมัย
ก่อนหน้า แค่หนุ่มสาวไม่แสดงออกจนเกินงาม หากต่าง
ฝ่ ายรูจ้ กั และมีใจให้กนั ก็สามารถไปสูข่ อถึงบ้านฝ่ าย
หญิงได้
4
หมิงอีถาง ก็เข้าไปรุมล้อมพูดคุยกับเสินหรูอวินด้วยเช่น
กัน
หลิวสวีทีอยูอ่ ีกด้านเห็นเหตุการณ์ก็ได้แต่ครางเสียงเบา
พลางกระซิบข้างหูหลิวฮูหยิน “เป็ นครังแรกจริงๆ ทีเห็น
คนอยากแต่งงานกับพ่อหม้ายเมียตายจนตัวสัน”
หลิวฮูหยินจิมหน้าผากของหลิวสวีแล้วปรามเสียงเบา
“พูดมาก”
5
ว่าเป็ นอย่างไร แต่ดกู ็รูว้ า่ เสินจอหงวนยังคงไว้อาลัยให้
กับอดีตภรรยา คุณหนูเหล่านันไยไม่คิดบ้าง ในเมือเป็ น
เช่นนี เขาจะรีบแต่งงานใหม่ได้รึ หากอยากแต่งงานใหม่
ในเร็ววัน เสินจอหงวนก็คงไม่ออกตัวไว้อาลัย ให้ดู
เหมือนคนปากอย่างใจอย่างหรอก
6
“จริงแท้แน่นอน” เนียเสียวซวงตอบ “ข้าเพิงได้ยินท่าน
แม่พดู ถึงไปเมือไม่กีวันนีเอง”
เสินหรูอวินเจ็บแค้นใจ ขณะกําลังจะเอ่ยปากก็ได้ยินนาง
กํานัลประกาศว่า “สตรีตระกูลเจียงมาถึงแล้ว”
เจียงโย่วเหยาเดินนําด้วยใบหน้ายิมรืน น่ารักใคร่เอ็นดู
ดุจบุปผาแรกแย้ม นางเยืองย่างอย่างอ่อนโยน ใบหน้า
7
สะสวย ทําให้ตาํ หนักอวีหมิงมีสีสนั ขึนทันใด บรรดาคุณ
หนูผมู้ ีหน้าตาไม่โดดเด่น เห็นเจียงโย่วเหยาแล้วให้รูส้ กึ
อับอายไปตามๆ กันทีรูปโฉมเทียบนางไม่ได้
เจียงโย่วเหยาเติบใหญ่ในตระกูลขุนนางทีหลายคนต้อง
อิจฉา เป็ นทีรักใคร่ของคนในบ้าน อ่อนวัยไร้เดียงสา อีก
ทังงดงามหาใดเปรียบ งานวิวาห์ก็กาํ ลังจะมีขนในไม่
ึ ชา้
ว่าทีสามีก็หล่อเหลาอ่อนโยน เหมาะสมกันจนใครหลาย
คนต้องอิจฉา
เจียงโย่วเหยาเก็บสายตาริษยาและชืนชมไว้ในใจ รูส้ กึ
ดีใจนัก ฝี เท้าพลันเบาสบายขึนหลายส่วน
8
คนทีเดินตามเจียงโย่วเหยาในลําดับต่อมาก็คือเจียงหลี
เปรียบเทียบกับการแต่งกายเต็มอัตราของเจียงโย่วเหยา
แล้ว เจียงหลีดไู ร้สีสนั กว่าเล็กน้อย แต่ในความเรียบง่าย
ใบหน้าทีคมคายก็เหมือนหมึกสีเข้มบนภาพวาดภูเขา
และสายธาร ให้ความรูส้ กึ ผ่อนคลายไร้จดุ สินสุด
9
มีคนสังเกตเห็นว่าบนข้อมือเล็กๆ ของเจียงหลีไม่ได้สวม
เครืองประดับกําไล แต่คล้องลูกประคําสีดาํ ไว้ แลดู
อบอุน่ เรียบง่าย รับกับข้อมือเนียนขาวราวกับหยกของ
นาง
ภรรยาท่านหนิงหย่วนโหวทีกําลังพูดคุยกับเฉินจีฮูหยิน
ขมวดคิวมอง
10
นับแต่โจวเยียนปั งคิดจะยกเลิกสัญญาแต่งงานกับเจียง
โย่วเหยาเป็ นต้นมา โหวฮูหยินก็ทกุ ข์ใจนัก แม้เมือก่อน
นางกับเย่เจินเจินจะเป็ นสหายสนิทกัน แต่เย่เจินเจินก็
ตายจากไปนานหลายปี แล้ว เจียงหลีเป็ นบุตรสาวทีเย่
เจินเจินทิงไว้ อย่างไรก็ไม่อาจเทียบกับบุตรสาวแท้ๆ ทีได้
รับการเอาใจใส่เลียงดูจากจีซูหรัน อีกทังต่อมาเจียงหลี
ยังทําร้ายจีซูหรันจนแท้งลูก ชือเสียงจึงตกตํายําแย่นกั
โหวฮูหยินจึงหยุดความคิดทีจะเกียวดองกับตระกูลเจียง
ลงเพียงเท่านัน
โหวฮูหยินเกรงว่าโจวเยียนปั งจะสร้างความเดือดร้อน
งานเลียงในวังหลวงวันนีจึงตังใจมาดูตวั เจียงหลีดว้ ยตน
เอง ในการสอบใหญ่สองครังทีผ่านมา โหวฮูหยินไม่ได้
ไปร่วมชมการทดสอบ จึงไม่รูว้ า่ เหตุใดเจียงหลีถงึ เป็ นที
กล่าวขวัญ แม้ผคู้ นรอบกายต่างชืนชมการสอบใหญ่ของ
12
คุณหนูรองเจียง แต่โหวฮูหยินก็ยงั ไม่อาจนึกภาพตามได้
13
ด้วยชาติตระกูลของพวกนาง เมือสตรีตระกูลเจียง
ปรากฏกายขึนในงาน ผูค้ นจํานวนไม่นอ้ ยจึงรายล้อม
เข้ามาโอภาปราศรัย จีซูหรันกับเฉินจีฮูหยินนังอยูด่ ว้ ย
กัน นางหลูซือนังข้างฮูหยินทีตนสนิทสนม ส่วนนาง
หยางซือนันไร้ซงมิ
ึ ตรสหายจึงไม่มีใครเข้ามาทัก จําต้อง
ยืนอยูข่ า้ งกายฮูหยินผูเ้ ฒ่า เจียงอวีเอ๋อและเจียงอวี
เยียนราวกับถูกเมิน
ส่วนเจียงหลีนนตรงไปหาหลิ
ั วสวี
15
แววตาของอีกฝ่ ายยังคงเหยียดหยันเหมือนในอดีต ทัง
ยังมองอย่างสํารวจตรวจตรา ทําให้เจียงหลีไม่มีสมาธิ
เหมือนกับครังแรกทีติดตามเสินอวีหยงมาถึงบ้านตระกู
ลเสินในเมืองเยียนจิงไม่มีผิด เสินหรูอวินในตอนนันก็ใช้
สายตาราวกับประเมินค่าสิงของมองนางเช่นนี เมือก่อน
เจียงหลียงั ไม่เข้าใจ จนวันนีถึงได้กระจ่างแจ้ง นีคือแวว
ตาทีกําลังสอดส่ายหาประโยชน์จากนางว่าสามารถเชิด
ชูบา้ นตระกูลเสินให้รุง่ เรืองได้อย่างไร
16
บทที 72 ไทเฮาเสด็จ
แต่หลังจากทีเสินอวีหยงสอบได้จอหงวน เสินหรูอวินก็ไม่
เห็นหัวนางอีกเลย
1
เจียงหลียิมพลางส่ายหน้า
รอยยิมของเจียงหลีในสายตาเสินหรูอวินนันช่างขัดตา
นางส่งเสียงฮึขนจมู
ึ กเบาๆ แล้วสะบัดหน้าหนี ไม่หนั มา
มองเจียงหลีอีก
ฮูหยินทังหมดต่างลุกขึนยืนรับเสด็จ
ผูท้ ีตามหลังไทเฮามาก็คือองค์หญิงหย่งหนิงกับหลิวไท่
เฟยผูเ้ ป็ นมารดา เมือเทียบกับหลิวไท่เฟยแล้วไทเฮาดูสงู
วัยกว่ามาก นอกจากนีนางยังสวมอาภรณ์สีสนั ฉูดฉาด
มีความทะนงตนฉายชัดผ่านคิวและดวงตาเหมือนกับ
องค์หญิงหย่งหนิงไม่มีผิด
ทันทีทีเห็นองค์หญิงหย่งหนิง เลือดในกายของเจียงหลีก็
3
พลันเย็นยะเยือก นางสวมกระโปรงปั กเลือมทองคําทอ
ประกายระยับ หน้าตาผิวพรรณงดงามดุจบุปผา เทียบ
กับเจียงโย่วเหยาแล้วดูสะสวยน่ารักกว่ามาก
องค์หญิงหย่งหนิงยืนอยูก่ ลางตําหนักด้วยท่าทางดังนาง
พญา ไม่จาํ เป็ นต้องเหลือบแลผูใ้ ด ดูสงู ส่งจนไม่มีใคร
อาจเอือม
ได้ยินว่าหลิวไท่เฟยนันเย่อหยิงนัก ส่วนไทเฮาก็ไม่คิดจะ
สูร้ บปรบมือกับนาง เรืองต่างๆ ของวังหลังล้วนมีหลิวไท่
เฟยเป็ นผูค้ วบคุมสังการ ฐานอํานาจของฮ่องเต้หงเซียว
ไม่มนคงนั
ั ก ส่วนฮองเฮานันยิงไม่ตอ้ งกล่าวถึง ดังนัน คํา
พูดขององค์หญิงหย่งหนิงจึงแทบจะไม่มีผใู้ ดกล้าโต้แย้ง
4
ไทเฮาเห็นคนทังหลายลุกยืนก็ทรงยิมละไมแล้วรับสังให้
นังลงทําตัวตามสบาย อีกสักครูง่ านเลียงก็จะเริมต้น
เจียงหลีเห็นองค์หญิงหย่งหนิงเหลียวซ้ายแลขวาราวกับ
กําลังมองหาใครอยูก่ ็แค่นหัวเราะในใจ คิดว่านางช่าง
ปั กใจรักมันในตัวเสินอวีหยงเสียจริง
สตรีทงหลายมาถึ
ั งกันอย่างรวดเร็ว งานเลียงจัดขึนทีตํา
หนักอวีหมิง นอกตําหนักอวีหมิงมีศาลากลางนําทอด
ยาว หลังจากงานเลียงตอนกลางคืน สามารถยลบุปผา
ชืนชมจันทราได้ สวยงามยิงนัก
5
ผ่านไปได้ครูใ่ หญ่ บุรุษทังหลายก็เริมทยอยกันเข้ามา
เจียงหยวนปั วกับเจียงหยวนผิงสองพีน้องก้าวเท้าเข้า
งานเคียงกันมา ส่วนเจียงหยวนชิงทีไม่นบั ว่าสนิทสนม
กับสองพีน้องนักย่อมรูส้ กึ เก้อกระดากเป็ นธรรมดา
เจียงหลีเห็นเย่ซือเจียแล้ว เขาทําคะแนนได้ดีเกินคาด คง
ถูกเรียกตัวเข้ารับราชการในไม่ชา้ ลูกหลานจากตระกูล
6
สูงศักดิบางคนก็คบเขาเป็ นสหาย ทีเดินตีคกู่ นั มากับเย่
ซือเจียก็มีไม่นอ้ ย ดูๆ ไปแล้ว เย่ซือเจียสามารถเข้ากับ
พวกเขาเหล่านันได้ดีทีเดียว
หากคุณหนูรองเจียงมีญาติฝ่ายมารดาทีแข็งแกร่ง ย่อม
ส่งผลดีตอ่ อนาคตของนางอย่างไม่ตอ้ งสงสัย
เย่ซือเจียภูมิใจในคะแนนสอบของตน คนทีเดินตามมา
ด้านหลังก็คือผูท้ ีมีคะแนนสอบมาเป็ นอันดับสองของ
สํานักบัณฑิตชาย หลีจิง คุณชายจวนเสนาบดีซงเดิ
ึ มที
ควรจะเป็ นทีหนึง แต่กลับถูกเย่ซือเจียช่วงชิงไปจนได้
7
หลีจิงหน้าตาธรรมดา เมือเทียบกับหลีเหลียนผูเ้ ป็ นน้อง
ชายจึงไม่ได้เป็ นทีหมายปองของสตรี กระนันสวรรค์ก็ยงั
ยุติธรรม แม้หลีจิงจะรูปไม่งามแต่มากความสามารถ
ส่วนหลีเหลียนทีหน้าตาดีกลับไม่สนใจเรียนหนังสือ
สํามะเลเทเมาไปวันๆ
หลีจิงกับหลีเหลียนติดตามท่านเสนาบดีหลีจงหนันเข้า
งานมา บรรดาสตรีทีใจกล้าต่างก็มองสองพีน้องคูน่ ี
อย่างสํารวจตรวจตรา
ท่านเสนาบดีตอนนีนับว่าสามารถทัดเทียมกับตระกูล
เจียงได้ หลีจิงและหลีเหลียนจึงพลอยมีชือเสียงไปด้วย
8
เย่ซือเจียได้คะแนนสอบเป็ นทีหนึงของสํานักบัณฑิตชาย
อันดับสองก็คือหลีจิง ส่วนอันดับสามตกเป็ นของโจว
เยียนปั ง ผูเ้ ป็ นทายาทของท่านหนิงหย่วนโหว
9
แต่เพียงชัวครูก่ ็ตงสติ
ั กลับมาวางท่าเป็ นคุณชายเจ้า
สําราญ พูดคุยสรวลเสเฮฮาตามเดิม
เจียงหลีมองผ่านฝูงชน ในทีสุดก็พบเสินอวีหยง
วันนีเสินอวีหยงสวมชุดขุนนางขันสามของราชสํานัก อยู่
ในเครืองแบบขุนนางเช่นนีทําให้เขาดูภมู ิฐานขึนมาก ยัง
คงสุภาพอ่อนโยนเหมือนทีผ่านมา ทว่านัยน์ตาฉายแวว
จัดเจน
เจียงหลีเห็นเสินอวีหยงวางตัวสูงส่งขณะพูดคุยกับสหาย
ขุนนางทีพยายามประจบสอพลอ มีจงั หวะหนึงทีนางรู ้
สึกว่าเสินอวีหยงในภาพลักษณ์เช่นนี เหมือนกับองค์
10
หญิงหย่งหนิงไม่มีผิด
เจียงหลีเบนสายตามององค์หญิงหย่งหนิงทีนังอยูอ่ ีก
ฟาก
องค์หญิงหย่งหนิงกลับไม่ปิดบังแววตาทีเต็มไปด้วย
ความรักใคร่ในตัวเสินอวีหยง นางแทบจะจับตามองเขา
ทุกฝี กา้ ว เพียงแต่ การแสดงออกเช่นนีราวกับ ‘ดอกไม้มี
ใจร่วงหล่น ทว่าสายนําไหลกลับไม่ตอบสนอง’ เสินอวีห
ยงไม่มององค์หญิงหย่งหนิงสักครัง
11
ทีเจียงหลีสงั เกตเห็นเป็ นลําดับถัดมาก็คือคนบ้านตระกูล
จี รวมถึงจีเยียนหลิน--บิดาของจีซูหรัน ยังมีหลิวเอ
วียนฟง--บิดาของหลิวสวี ส่วนเฉิงอ๋องนันมาล่าช้าไปสัก
หน่อย เมือเข้างานมาได้ก็ตรงไปถวายคํานับไทเฮา
คนสุดท้ายทีมาถึงก็คือฮ่องเต้หงเซียว
เป็ นสิงทีใครต่อใครมิอาจคาดเดา
13
เจียงหลีเพิงได้รูว้ า่ ทีแท้หญิงผูน้ นก็
ั คือบุตรสาวคนโตที
เกิดจากภรรยาเอกของจีเยียนหลิน ซึงก็คือพีสาวของจี
ซูหรัน
เมือครังทีนางติดตามเสินอวีหยงเข้าวังนันยังไม่มีโอกาส
ได้พบลีผิน แต่ก็เคยได้ยินชือเสียงของอีกฝ่ ายมานาน มี
คนกล่าวว่าลีผินผูน้ ีสามารถเทียบเคียงได้กบั เซียกุย้ เฟย
ซึงเป็ นทีโปรดปรานของฮ่องเต้พระองค์ก่อน แต่สงที
ิ ลีผิน
แตกต่างจากเซียกุย้ เฟยก็คือนางมีตระกูลจีหนุนหลัง
ส่วนเซียกุย้ เฟยนันไร้คนสนับสนุน
เจียงหลีมองอย่างพินิจพิเคราะห์ ลีผินมีรูปลักษณ์ทีดู
อ่อนเยาว์กว่าจีซูหรันมาก ไม่รูว้ า่ ปกติมีวิธีดแู ลตัว
14
เองอย่างไร ถึงได้ดอู อ่ นวัย โอบอ้อมอารีและเป็ นมิตร ทัง
ยังไม่เคร่งครัดจนเกินไป แต่เจียงหลีก็รูด้ ีวา่ หากลีผินเอือ
อารีไม่ชิงดีชิงเด่นเช่นทีตาเห็น ก็คงจะไม่สามารถมายืน
อยูต่ รงจุดนีได้
ลีผินพูดคุยอะไรบางอย่างกับฮ่องเต้หงเซียว
ครันพระองค์ยกมืออนุญาต ลีผินก็ตรงไปทักทายเฉินจี
ฮูหยินและจีซูหรัน
เจียงโย่วเหยาจึงมีโอกาสได้พบกับท่านป้าผูน้ ี บรรดา
หญิงสาวตระกูลใหญ่รอบกายต่างมองเจียงโย่วเหยา
ด้วยความริษยาทีมีทา่ นป้าอย่างลีผิน ดูจะได้หน้ากว่า
เป็ นหลานของฮองเฮาเสียด้วยซํา แม้วา่ ฮองเฮาจะให้
กําเนิดองค์รชั ทายาท แต่พระองค์ก็เพิงจะอายุครบห้า
15
ขวบได้ไม่นาน หากลีผินให้กาํ เนิดองค์ชายน้อยบ้าง
กอปรกับความรักใคร่ทีฮ่องเต้หงเซียวมีตอ่ ลีผิน ตําแหน่ง
รัชทายาทจะตกเป็ นของผูใ้ ดนันก็ยงั ไม่อาจสรุปได้
ในเวลานัน ขันทีพลันรายงานว่ามีคนจะเข้างานอีก
16
สามารถมาสายกว่าฮ่องเต้ ช่างกล้าดีไม่นอ้ ย ครันเจียง
หลีกวาดตามองออกไปทีระเบียงยาวนอกประตูตาํ หนัก
ก็เห็นคนผูห้ นึงย่างเท้าเข้ามาด้วยท่วงท่าสบายๆ
17
บทที 73 งานเลียงในวังกําลังจะเริมแล้ว
อาภรณ์ทีหรูหราฉูดฉาดเช่นนี หากหน้าตาไม่โดดเด่นคง
ถูกบดบังรัศมีราวกับ ‘อาภรณ์ใส่คน’ เว้นเสียแต่จะเป็ นผู้
ทีมีเอกลักษณ์สะดุดตา ใบหน้าหล่อเหลาหารอยตําหนิมิ
ได้ อีกทังความสามารถยังต้องเหนือชัน ถึงจะพอรอดตัว
ไปได้
1
ทว่าอาภรณ์ดงั กล่าวเมือถูกสวมใส่โดยชายหนุ่มผูน้ ี ไม่
เพียงแค่พอรับไหว แต่สามารถกล่าวได้วา่ ทุกอย่างช่าง
ลงตัว เห็นบุรุษแต่งกายในรูปลักษณ์เช่นนี ผูค้ นทังหลาย
ก็อดทอดถอนใจมิได้ ต้องยอมรับว่าคงมีแต่เขาทีสวมใส่
แล้วไม่ลดคุณค่าของเครืองแต่งกาย
เสือผ้าเจิดจ้ากว่าอัญมณี ยังมีใบหน้าหล่อเหลาของเขา
ทีโดดเด่นยิงกว่าอาภรณ์บนร่าง
เขาก็คือซูก่ วกงจี
ั เหิง
จีเหิงมาร่วมงานล่าช้าไปมาก
2
ต่อให้เป็ นเช่นนี ฮ่องเต้หงเซียวก็มิได้วา่ กล่าว ราวกับทรง
ชินชาไปเสียแล้ว ไม่เพียงเท่านัน แม้แต่เฉิงอ๋องเองก็ไม่
คิดจะติติงเขา
เจียงหลีมองเหตุการณ์ตรงหน้า ถึงคนจํานวนมากจะกริง
เกรงซูก่ วกง
ั แต่ก็เป็ นเพราะซูก่ วกงนั
ั บเป็ นบุคคล
อันตราย เขาทังเลือดเย็นและอารมณ์แปรปรวน ทว่า
เจียงหลีเข้าใจความเป็ นไปในราชสํานักซูก่ วกงกล้
ั าทํา
ตามอําเภอใจเช่นนี จะต้องมีมลู เหตุอืนอยูเ่ บืองหลังแน่
คนทีทําอะไรตามใจนันพบเห็นได้ทวไป
ั แต่จาํ พวกที
อาจหาญสร้างความเดือดร้อนแก่คนทีมีอาํ นาจเหนือ
กว่า ย่อมได้รบั การสังสอนให้รูซ้ งถึ
ึ งความทุกข์ทรมาน
จากผูส้ งู ศักดิเป็ นธรรมดา
3
แต่ดเู หมือนว่าคนทีกล้าสังสอนซูก่ วกงจะยั
ั งไม่ปรากฏ
แม้แต่ฝ่ายของหลิวไท่เฟยทีหยิงยโสก็ยงั ไม่ออกหน้า
ตําหนิ ขนาดองค์หญิงหย่งหนิงเห็นซูก่ วกงประพฤติ
ั เช่น
นันก็มิได้พดู อะไร
หลังจากจีเหิงถวายคํานับฮ่องเต้หงเซียวแล้วก็จดั แจงหา
ทีนัง ตําแหน่งของเขาถูกจัดอยูใ่ กล้กบั เฉิงอ๋อง แทบจะ
ทัดเทียมกัน
4
หญิงสาวเยาว์วยั ทังหลายทีเคยส่งสายตาให้กบั เฉิงอ๋อง
และเสินอวีหยง ต่างหันมามองจีเหิงเป็ นตาเดียว
หากพูดถึงรูปร่างหน้าตา บุรุษทังหมดในตําหนักรวมกัน
ยังไม่อาจเทียบกับจีเหิงได้ คนทีหล่อเหลา คิวเข้มตาคม
อย่างเสินอวีหยงและเย่ซือเจีย เมือเปรียบกับจีเหิงแล้ว
ยังด้อยดังฝุ่ นผง
“ซูก่ วกงได้
ั รบั ความสําคัญจากฮ่องเต้เป็ นอย่างมาก”
หลิวสวีเอ่ยกับเจียงหลีเสียงเบา
5
“ฮ่องเต้ไม่อาจวางใจในตัวผูใ้ ด” เจียงหลียกยิม “ทําได้
เพียงอาศัยซูก่ วกงไปก่
ั อน”
จนบัดนีตําแหน่งของฮ่องเต้หงเซียวยังไม่มนคง
ั พระองค์
ถูกเฉิงอ๋องจับตามองทุกฝี กา้ ว ท่านเสนาบดีและเฉิงอ๋อง
เกือกูลซึงกันและกัน ทําให้ฝ่ายของเฉิงอ๋องสามารถยืน
หยัดมันคง ส่วนอีกด้านเจียงหยวนปั วบิดาของเจียงหลี
เป็ นผูน้ าํ ขุนนางฝ่ ายบุน๋ ทีมีฐานอํานาจแม้ตระกูลเจียงมิ
ได้มีใจคิดก่อการกบฏ แต่สาํ หรับฮ่องเต้ซงมี
ึ อาํ นาจอยู่
ในมือเพียงเล็กน้อย ตระกูลเจียงจึงนับว่าเป็ นภัยคุกคาม
7
อํานาจทีทังสองฝ่ ายสังสมมาได้ ภายใต้สถานการณ์เช่น
นี ซูก่ วกงอย่
ั างจีเหิงจึงเป็ นตัวเลือกทีดีทีสุด
ประการแรก... เขามีกองทัพในบังคับบัญชาทีสืบทอดมา
จากแม่ทพั จินอู-่ -จีหมิงหันผูเ้ ป็ นบิดา ในมือมีกาํ ลังทหาร
ทีแสนยานุภาพไม่ดอ้ ยกว่าใคร ประการทีสอง แม่ทพั ผู้
เฒ่า--ท่านปู่ ของจีเหิงนันเติบโตขึนมาบนหลังม้า มีความ
จงรักภักดีตอ่ แผ่นดิน เป็ นผูผ้ ดุงคุณธรรมอย่างไม่ตอ้ ง
สงสัย ประการทีสาม จีเหิงคนนีอารมณ์แปรปรวนตลอด
เวลาทังยังเลือดเย็น คนแบบนีไม่อาจซือตัวไปง่ายๆ อีก
ทังในแต่ละวันยังตามตัวได้ยาก ไม่เข้าหาตระกูลเจียง
หรือพัวพันกับคนของเฉิงอ๋อง นับว่าใจซือมือสะอาด
ด้วยเหตุนีฮ่องเต้หงเซียวจึงให้ความสําคัญกับจีเหิง และ
8
มองว่าเขาจงรักภักดีเป็ นธรรมดา
ทว่าจีเหิงจะยินยอมสวามิภกั ดิต่อฮ่องเต้หงเซียวหรือไม่
นัน เจียงหลีอดมองชายหนุ่มในอาภรณ์สีแดงอีกครังไม่
ได้ นางรูส้ กึ ว่าจีเหิงไม่ได้อารมณ์แปรปรวนอย่างทีใคร
ต่อใครเล่าลือ ยากนักทีจะทําความเข้าใจ ใช่วา่ เขาปิ ด
บังตัวตนจนแนบเนียนไร้รอ่ งรอย แต่เป็ นเพราะว่าเขา
เก็บงําไว้อย่างลึกลํา
9
ยังไม่ทนั ขบคิดให้ถีถ้วน หลิวสวีก็ดงึ ชายเสือของเจียงหลี
เบาๆ กล่าวว่า “งานเลียงในวังกําลังจะเริมแล้ว”
งานเลียงในวังกําลังจะเริม แขกเหรือแต่ละคนจึงแยก
ย้ายไปนังประจําตําแหน่งของตน
10
ล้วนอยูใ่ นตําหนักแห่งนี ว่าแต่เป็ นใครกันบ้าง ออกมาให้
ข้าเห็นหน้าผูม้ ากความสามารถชัดๆ เถิด”
เจียงหลีและเย่ซือเจียลุกขึนยืนพร้อมกัน
เย่ซือเจียลุกขึนเดินออกไปกลางตําหนัก โดยมีเจียงหลี
ติดตามอยูด่ า้ นหลัง
นัยน์ตาของฮ่องเต้หงเซียวฉายแววสนพระทัยอย่างเห็น
ได้ชดั
นายทหารระดับสีอย่างข่งลิวก็มาร่วมงานเช่นกัน ยามนี
เขานังอยูข่ า้ งจีเหิง สวมชุดเกราะอันแสนคุน้ เคยขณะเอ่ย
เสียงเบา “แม่หนูนีไม่แสดงอาการขัดเขินแม้แต่นอ้ ย ดู
คล่องแคล่วนัก”
12
จีเหิงมองเขาแวบหนึงแล้วยิมบางๆ
“ได้ยินว่าเจ้ามาจากตระกูลค้าขาย แต่กลับมีความรู ้
ความสามารถถึงขนาดสอบได้คะแนนเป็ นอันดับหนึง
ของสํานักบัณฑิตชาย นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว” ฮ่องเต้หง
13
เซียวยกยิม “ข้าชืนชมในความทะเยอทะยานของเจ้าจึง
ขอตกรางวัลให้ ช่วงนีตําแหน่งฮู่ปวู้ า่ งลงพอดี ข้าจะให้
เจ้าดํารงตําแหน่งเป็ นฮู่ป*ู้ ก็แล้วกัน หลังงานเลียงวันนีก็
ให้เข้ารับตําแหน่งทันที”
เย่ซือเจียได้ฟังก็ตืนเต้นยินดีนกั รีบน้อมรับพระกรุณา
อย่างรวดเร็ว “กระหม่อมรับราชโองการ เป็ นพระมหา
กรุณาธิคณ
ุ อย่างหาทีสุดมิได้”เจียงหลีเองก็ตกใจมาก
เช่นกัน ด้วยไม่คาดคิดมาก่อนว่าฮ่องเต้หงเซียวจะพระ
ราชทานตําแหน่งฮู่ปใู้ ห้แก่เย่ซือเจียด้วยพระองค์เองเช่น
นี แม้วา่ ตําแหน่งดังกล่าวจะไม่ใหญ่โตนัก แต่ก็มีผคู้ น
มากมายในเมืองเยียนจิงแข่งกันอย่างเอาเป็ นเอาตายให้
ได้มาครอบครอง
14
ประการแรก นีนับว่าเป็ นขุนนางตําแหน่งหนึง ชายหนุ่ม
จํานวนมากทีสําเร็จการศึกษาจากสํานักบัณฑิตชาย ใน
ปี แรกต้องเข้ารับตําแหน่งอยูน่ อกเมือง แต่เย่ซือเจียกลับ
ได้เริมทํางานในเมืองเยียนจิงทันที ประการทีสอง นีคือ
ตําแหน่งขุนนางขันห้า เท่าทีเคยรูม้ า เจียงหยวนชิงจาก
บ้านสายสามอาศัยชือเสียงของตระกูลเจียงตะเกียก
ตะกายในแวดวงขุนนางมานาน ก็ยงั ได้เป็ นแค่เสียวผิน
ขันเจ็ดเท่านัน
มือทีจับแก้วของหลีเหลียนพลันสันระริก เขาประเมิน
อนาคตทางหน้าทีการงานอันก้าวหน้าของเย่ซือเจียได้
15
นานแล้ว เดิมทีคิดอยากจะดึงตัวมาเป็ นพวก ทุกอย่าง
กําลังดําเนินไปด้วยความราบรืน แต่ระหว่างนันไม่รูว้ า่
เพราะสาเหตุใด จู่ๆ เย่ซือเจียก็ตีตวั ออกห่าง บัดนีเส้น
ทางชีวิตของเย่ซือเจียดําเนินไปดังคาด เพิงเข้ารับ
ราชการก็ได้ตาํ แหน่งสูงส่ง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขา
และอีกฝ่ ายกลับไม่ได้เป็ นอย่างทีหวัง ทําให้เรืองต่างๆ
ยากขึน
16
บทที 74 ต้องหาเรืองทะเลาะ
ณ ทีนังฝังบุรุษ มุมปากเจียงหยวนชิงกระตุกด้วยความ
รันทดท้อ หนุ่มน้อยทีเพิงเข้ารับราชการล้วนมีตาํ แหน่ง
สูงกว่าเขา กลับจวนไปวันนี นางหยางซือจะต้องหาเรือง
ทะเลาะกับเขาเป็ นแน่
หลังจากเย่ซือเจียน้อมรับพระมหากรุณาธิคณ
ุ แล้ว
ฮ่องเต้ก็ทรงหันมายิมให้เจียงหลี “ข้าได้ยินมานานแล้ว
ว่า บ้านของอาจารย์ขา้ มีบตุ รีทีเกิดจากภรรยาเอกอยู่
2
หนึงคน แต่กลับไม่เคยได้พบหน้า เจ้าก็คือคุณหนูรอง
เจียงรึ”
3
“ทูลฝ่ าบาท ยามว่างหม่อมฉันชอบคัดบทสวดมนต์ ปกติ
จะสวด ‘บทปั ญญา’ ‘พระสูตร’ ‘คัมภีรท์ อง’ และ ‘บงกช’
เพคะ”
เจียงหลีอมยิมตอบ
4
เวทนาสงสาร... สําหรับฮ่องเต้หงเซียว ทรงมิได้นกึ
รังเกียจเจียงหลี ยามนีเมือนางสอบได้คะแนนเป็ นอันดับ
หนึงของสํานักบัณฑิตหญิงหมิงอีถาง และพระองค์ก็ได้
เห็นด้วยตาว่าเจียงหลีออ่ นโยนไร้เดียงสา ไม่เหมือนกับ
คําครหาทีใครต่อใครพูดกัน จึงเกิดความรูส้ กึ ชืนชมในตัว
นางไม่นอ้ ย
เจียงหลีนอ้ มรับพระมหากรุณาธิคณ
ุ แล้วจึงกลับไปนัง
5
ประจําทีท่ามกลางความยินดีของฝูงชน จีซูหรันยิมพลาง
เอ่ยชืนชมว่า “หลีเอ๋อ เชิดหน้าชูตาให้กบั จวนของเรา
จริงๆ”
“พีรองความสามารถเหนือกว่าข้ามาก” เจียงโย่ว
เหยากล่าวเสริม
6
อย่างไรก็ดี งานเลียงในวังก็ยงั คงดําเนินต่อไป
อาหารหลากหลายแต่เจียงหลีกลับไม่มีกะจิตกะใจจะลิม
รส ทางฝังโต๊ะของบุรุษ โจวเยียนปั งมองมาทางเจียงหลี
อยูบ่ อ่ ยครัง เป็ นถึงบุตรสาวมหาอํามาตย์ ชาติตระกูลดี
มีความสามารถ อ่อนโยนและงดงาม ทังยังได้รบั ความ
ชืนชมจากฮ่องเต้ นับว่าเป็ นสตรีทีเพียบพร้อมกว่าใครใน
เมืองเยียนจิงแห่งนี
7
คลาดจากเจียงหลี
8
หากนีเป็ นแค่การหมันหมายก็คงดี ทว่าเสินหรูอวินเห็น
เต็มสองตาว่าโจวเยียนปั งมองเจียงโย่วเหยาอย่างรักใคร่
นันก็หมายความว่า โจวเยียนปั งยังมีใจให้กบั เจียงโย่ว
เหยา
เสินหรูอวินเหมือนตกลงไปในเหวลึก นอกจากความโศก
เศร้า ยังรูส้ กึ ไม่อยากจะเชือและเกิดความริษยาขึนมา
นางเคียดแค้นจนอยากให้การแต่งงานระหว่างเจียงโย่ว
เหยากับโจวเยียนปั งมีปัญหา หากถึงขันล้มเลิกได้ก็ยงดี
ิ
ความสัมพันธ์ระหว่างเฉิงอ๋องกับฮ่องเต้หงเซียวนันดู
10
เหมือนปรองดองรักใคร่ แต่แท้จริงแล้วเป็ นปฏิปักษ์ตอ่
กันในทางลับ ไทเฮายังคงสงบนิงเหมือนเช่นเคย ส่วน
หลิวไท่เฟยกําลังพูดคุยกับฮองเฮา ลีผินนังอยูอ่ ีก
ข้างอย่างนอบน้อม คอยรินสุราปรนนิบตั ิฮ่องเต้ทงๆ
ั ทีไม่
ใช่หน้าทีของนาง แต่ลผิี นก็ทาํ ได้ดีและเป็ นธรรมชาติ
ในจอกหยกขาวขนาดเล็กทีวางอยูบ่ นโต๊ะคือสุราดอกซิง
เนืองจากสุภาพสตรีไม่จดั เจนด้านการดืมสุรา ฝ่ ายราช
พิธีของวังหลวงจึงเตรียมไว้เพียงเหล้าผลไม้รสหวาน ไม่
ทําให้ถงึ กับเมา ตรงหน้าของเจียงหลีมีถว้ ยชาวางอยู่
นางไม่แตะต้องจอกสุราแม้แต่นอ้ ย นับแต่เกิดเรืองในวัน
งานวันเกิดของเสินฮูหยินคราวนัน ทุกครังทีเจียงหลีนกึ
ถึงก็จะคิดว่าหากตอนนันนางไม่ดืมสุรา เหตุการณ์ทงั
หมดก็คงไม่กลายเป็ นแบบนี
11
ดืมสุราทําให้เสียงาน ตังแต่นนมานางจึ
ั งไม่แตะมันแม้
แต่หยดเดียว ยิงเป็ นงานเลียงในวังหลวงอันโอ่อา่ เช่นนี
นางจะไม่ยอมทําอะไรผิดพลาดแม้แต่นอ้ ย
เจียงอวีเอ๋อกลับชืนชอบรสหวานของเหล้าผลไม้ นางดืม
จนตาปรือปรอยลงมาเกือบครึง ใบหน้าแดงระเรือ แสดง
กิรยิ าออดอ้อนอย่างทีไม่เคยแสดงออกมาในช่วงเวลา
ปกติ
12
เจียงหลีมองกลับไปก็เห็นจีซูหรันยกจอกสุราทีวางอยู่
ตรงหน้าขึนรินเหล้าให้นางจนเต็มแก้ว แย้มยิมพลางวาง
จอกลงตรงหน้าเจียงหลี “สุราดอกซิงของวังหลวงไม่
เหมือนกับเหล้าทีจวนของพวกเราหมักกันเอง รสชาติ
หอมหวานยิง อีกทังยังดืมแล้วไม่เมา ลูกผูห้ ญิงอย่าง
พวกเจ้าดืมแล้วมีประโยชน์”
นันเป็ นแววตาทีพยายามกลบเกลือนความคาดหวังและ
เสแสร้งปิ ดบังบางอย่างไว้ คล้ายดังแววตาของอสรพิษ
เหมือนกับทีเจียงหลีเคยเห็นในงานวันเกิดของเสินฮูหยิน
คราวนัน แววตาของเสินฮูหยิน อีกทังรอยยิมของเซียว
เต๋ออินยามคะยันคะยอให้นางดืมสุรา
14
เจียงหลีแทบจะเปลียนสีหน้าในชัวพริบตา นางสามารถ
คาดเดาได้วา่ จีซูหรันสองแม่ลกู คิดแผนการอะไรกันอยู่
ก็เหมือนกับทีคนพวกนันสร้างสถานการณ์ในงานเลียง
วันเกิดของเสินฮูหยิน ทังหมดเป็ นเพราะต้องการทําลาย
ชือเสียงของนาง
เจียงหลีไม่รูว้ า่ ควรจะโกรธเคืองหรือเหนือยหน่าย
มากกว่ากัน สุดท้ายก็อยากหัวเราะออกมา
15
ในชาติทีแล้วก็เป็ นเพราะเหตุการณ์เช่นนีทีทําให้นางต้อง
โศกเศร้าไปชัวชีวิต ยามนีได้เปลียนเป็ นคนใหม่ เรืองราว
ต่างๆ ยังไม่วายวนกลับมา ถ้าอย่างนัน นางจะไม่ยอมให้
เหตุการณ์เป็ นไปตามทีพวกเขาปรารถนา
16
บทที 75 เสร็จสินงานเลียง ชืนชมบุปผา
เจียงโย่วเหยาเบะปากโดยไม่เอ่ยถ้อยคําใดๆ
ยังเหลือเหล้าอยูม่ ากกว่าครึงจอก
จีซูหรันเห็นเช่นนันก็มิได้ชกั ชวนให้เจียงหลีดืมสุราทียัง
คงเหลืออยูอ่ ีกครึงแก้ว แต่หนั มาคีบอาหารให้นางด้วย
ท่าทางรักใคร่เปี ยมเมตตาของมารดาผูอ้ อ่ นโยน
2
แล้ว ทว่าขันทีทีรินสุราอยูน่ นดู
ั จะขยันเป็ นพิเศษ
มีคณ
ุ ชายมากหน้าหลายตามาร่วมงานเช่นนี แต่ขนั ทีผู้
นันกลับประกบเย่ซือเจียแค่คนเดียว ดืมกินกันอย่างสนุก
สนานจนไม่มีใครสนใจพฤติกรรมของขันทีคนหนึง เรือง
ละเอียดเล็กน้อยเพียงนีกลับถูกเจียงหลีดอู อกอย่าง
ชัดเจน
ในทีสุด นางก็กระจ่างแจ้งในใจ
3
สมเหตุสมผล ดูเหมือนทุกสิงดําเนินไปอย่างเหมาะเจาะ
เย่ซือเจียกับเจียงหลีเป็ นญาติกนั ครังหนึงนางยังเคย
ช่วยเหลือเย่ซือเจียให้พน้ จากข้อกล่าวหา กระทังแปร
เปลียนเป็ นความรักใคร่ผกู พัน แน่นอนว่าการทีหนุ่มสาว
สองคนมีใจให้กนั นันไม่ใช่เรืองใหญ่ แต่ถา้ ทําเรืองน่าอับ
อายระหว่างร่วมงานเลียงในวังหลวงจนถูกผูค้ นติฉิน
ย่อมนับเป็ นเรืองร้ายแรงมาก
4
ต้องจบลง
เป็ นแผนการทีรอบคอบอย่างยิง
ครันเจียงโย่วเหยาหันมาก็เห็นว่าจอกสุราทีอยูต่ รงหน้า
เจียงหลีหมดไปเสียแล้ว นางตะลึงงันครูห่ นึงจึงเอ่ยถาม
5
“เจ้าดืมหมดเลยหรือ”
จีซูหรันได้ฟังก็เบาใจ
หลังช่วงเวลาแห่งการสรวลเสเฮฮาจบลง ไทเฮาก็มีพระ
ประสงค์จะไปชมดอกบัวในสระด้านนอกตําหนักอวีหมิง
สระนําดังกล่าวขุดขึนเลียนแบบแม่นาหย่
ํ งหนิงของเมือง
6
เยียนจิง มีขนาดกว้างใหญ่นกั ช่วงตอนฤดูรอ้ นกอบัวจะ
ชูกา้ นเขียวชอุม่ เต็มสระ
ณ ศาลากลางนํา ฮูหยินและคุณหนูทงหลายเข้
ั าไปนัง
กันจนเนืองแน่น บนโต๊ะมีขนมขบเคียวต่างๆ จัดวางเอา
ไว้เรียบร้อย ขณะทีเจียงหลีกาํ ลังเยืองย่างก็รูส้ กึ เหมือนมี
อะไรบางอย่างถูกยัดเข้ามาในฝ่ ามือ ครันหันมองก็เห็น
นางกํานัลทีไม่รูจ้ กั กําลังเดินผ่านไป
7
เจียงหลีกาํ มือแน่น รับรูไ้ ด้วา่ เป็ นกระดาษแผ่นหนึง นาง
หันไปจับสังเกตจีซูหรันและเจียงโย่วเหยา ด้วยคิดว่านี
เป็ นสิงทีจีซูหรันวางแผนไว้ แต่อีกฝ่ ายกลับไม่มีอาการ
ผิดปกติ ราวกับไม่ทนั สังเกตเสียด้วยซํา เจียงหลีรูส้ กึ
ประหลาดใจนัก
ในทีสุดก็เดินมาถึงศาลากลางนํา เจียงหลีตงใจเยื
ั อง
ย่างอย่างเชืองช้าให้เข้ามาเป็ นคนสุดท้าย แล้วใช้โอกาส
ทีจีซูหรันกับเจียงโย่วเหยาไม่อยูใ่ กล้ๆ แบมือออก เป็ น
กระดาษแผ่นหนึงดังคาด อาศัยแสงไฟอันน้อยนิด เห็น
อักษรขนาดเล็กยาวหนึงบรรทัด ความว่า ‘พบกันทีหออวี
ซิว อุทยานฝังตะวันออก’ ลงนาม โจวเยียนปั ง
เจียงหลีไม่คิดมาก่อนว่าครังนีโจวเยียนปั งจะเข้ามามี
ส่วนร่วม ไม่รูว้ า่ เหตุใดทายาทของท่านหนิงหย่วนโหวถึง
9
มันใจในตัวเองเช่นนี หากนางไปตามนัดอย่างทีเขียนไว้
ในจดหมาย โจวเยียนปั งอาจคิดว่าคุณหนูรองเจียงยังมี
ใจให้กบั เขา แต่เมือเจียงหลีคิดทบทวนอย่างถีถ้วนอีก
ครังก็พบว่า หลังจากกลับมาถึงเมืองเยียนจิง นางและ
โจวเยียนปั งก็ได้พบหน้ากันเพียงไม่กีครัง ทังยังไม่เคย
แสดงออกว่าสนใจในตัวโจวเยียนปั งเลยแม้แต่นอ้ ย
ทีแท้เขาก็คิดเข้าข้างตัวเอง แม้นางเย็นชากับเขาแค่ไหน
โจวเยียนปั งก็ยงั คงสามารถหาเหตุผลมาหลอกตัวเองว่า
นางมีใจให้
เจียงหลีกลิงม้วนกระดาษในมือไปมา แล้วยกยิมขึนทัน
ใด
11
หนิงหย่วนโหวได้ เจียงหลีอยากรูน้ กั ว่านางจะตัดสินใจ
อย่างไร จะเลือกพีน้องทีสนิทสนมกันมานาน หรือผูช้ าย
ดีๆ ทีชีวิตนีอาจไม่มีวนั ได้เจอะเจอ
เหตุใดถึงออกฤทธิรวดเร็วเช่นนี จีซูหรันเกิดความ
ประหลาดใจ แต่ดว้ ยเกรงว่าหากกระทําการล่าช้าจะถูก
ผูอ้ ืนจับสังเกตได้ ควรรีบพาเจียงหลีหลบฉากไปก่อน
12
จีซูหรันจึงกล่าวกับนางกํานัลทียืนอยูข่ า้ งกายนางมาโดย
ตลอด “เจ้าพาคุณหนูรองไปพักผ่อนทีห้องรับรองก่อน
อีกสักครูข่ า้ จะไปรับนางกลับ”
เจียงโย่วเหยาลองเรียกหยังเชิง “พีรอง”
เจียงหลีขมวดคิวเล็กน้อย โบกมือไปโดนถ้วยทีอยูด่ า้ น
ข้างโดยไม่ตงใจ
ั นําชาทีบรรจุอยูเ่ ต็มถ้วยพลันหกรดกระ
โปรงเจียงอวีเอ๋อ
เจียงอวีเอ๋อร้องลันพลางลุกขึนยืนด้วยความตกใจ
14
เจียงอวีเอ๋อกําลังโมโห กระโปรงชุดนีนางเพิงใส่เป็ นครัง
แรก เนืองจากเป็ นผ้าทีฮูหยินผูเ้ ฒ่าหาช่างมาตัดให้ ปกติ
แล้วจะมีโอกาสสวมใส่ผา้ เนือดีอย่างนีทีไหน แต่นีกลับ
ถูกเจียงหลีทาํ ให้สกปรกไปหมด ครันได้ยินเจียงหลีเอ่ย
ถึงลีผินก็รูส้ กึ ตืนเต้นขึนมา หากลีผินหาอาภรณ์ให้นาง
สวมใส่ แม้จะเป็ นชุดธรรมดาๆ ก็ยงั เป็ นของวังหลวง ไม่
แน่วา่ เนือผ้าอาจจะดีกว่าทีฮูหยินผูเ้ ฒ่าจัดหาให้ เจียงอวี
เอ๋อจึงรีบลุกพรวดขึนมาพร้อมรอยยิม “ท่านป้าใหญ่ ไม่
เป็ นไรหรอกเจ้าค่ะ ข้าไปกับพีรองก็ได้ พีรองกล่าวถูก
ต้องแล้ว ใส่เสือผ้าสกปรกมอมแมมแบบนี คนอืนจะติ
ฉินว่าตระกูลเจียงของพวกเราไม่ให้เกียรติฝ่าบาท
ระหว่างทางข้ายังสามารถดูแลพีรองได้อีกด้วย”
15
การของนาง จะให้มาทําวุน่ วายจนแผนเสียไม่ได้ แต่เมือ
คิดทบทวนแล้วก็คล้อยตาม รอให้เดินไปถึงครึงทางค่อย
ให้คนพาเจียงอวีเอ๋อปลีกตัวออกมา ทุกอย่างก็ยงั เป็ นไป
ตามแผน การทียาออกฤทธิรวดเร็วจนเจียงหลีตอ้ ง
ลุกออกไปตังแต่ตอนนี ทําให้มีเวลาเพียงพอสําหรับ
เตรียมการ จีซูหรันจึงส่งสายตาเป็ นสัญญาณให้กบั นาง
กํานัล กล่าวว่า “ในเมือเป็ นเช่นนัน เจ้าทังสองคนก็ไปกัน
เถิด”
16
บทที 76 คงต้องปล่อยไปตามวาสนา
เจียงอวีเอ๋อจึงปลีกตัวไปพร้อมกับเจียงหลี ทังสองเดิน
ตามนางกํานัลแปลกหน้าคนนัน
ห่างจากศาลากลางนําไม่ไกลนักมีหอ้ งนําชาว่างอยูม่ าก
มาย จัดเตรียมไว้ให้กบั ผูส้ งู ศักดิภายในวังหลวงทีเกิด
1
ปวดหัวตัวร้อนขึนมากะทันหัน ต้องการจะพักผ่อน
อิรยิ าบถหรือผลัดเปลียนเสือผ้า โดยทัวไปแล้วจะไม่มีคน
เข้าใช้ ยามนีจึงเงียบสงบนัก
“...วันนีได้ยินท่านแม่เอ่ยถึงการแต่งงานของน้องสามกับ
คุณชายโจว น้องสามดูดีใจเอามากๆ ข้าคิดว่าโหวฮูหยิน
ก็พงึ พอใจน้องสามอยูไ่ ม่นอ้ ยเช่นกัน”
2
“...จะว่าไป งานแต่งของน้องสามก็ไม่เลวจริงๆ คุณชาย
โจวเป็ นบุรุษทีหาได้ยากคนหนึงในเมืองเยียนจิง แต่ขา้
กับคุณชายโจวไร้วาสนา ก็คงต้องหาคนอืนแต่งงานด้วย
ในวันข้างหน้า”
3
เจียงอวีเอ๋อพลันตอบโต้ “รูส้ กึ ว่าพีรองจะเป็ นกังวลกับ
การแต่งงานของข้ายิงนัก แต่ขา้ อายุยงั น้อย พีรองเป็ น
คนพูดเอง ท่านพ่อของข้าหรือจะเทียบกับท่านลุงใหญ่ได้
หากคิดหาใครมาแต่งด้วยจริงๆ อย่างไรก็คงเทียบกับพี
รองและพีสามไม่ได้อยูแ่ ล้ว”
เจียงหลีมองนางแวบหนึง นัยน์ตาฉายแววเวทนาสงสาร
“จะว่าไปแล้ว เหตุใดคนเราถึงไม่สามารถเลือกเกิดได้
ระหว่างน้องห้ากับน้องสามหากถามข้า เจ้าเองก็หน้าตา
ไม่เลว ความสามารถรึก็ไม่ดอ้ ยกว่า เพียงแต่แพ้กนั ที
ฐานะ หากเจ้าเป็ นบุตรสาวของบ้านสายหลัก เจ้ากับคุณ
ชายโจวก็เหมาะสมกันดี”
4
ไม่พดู ยังพอทําเนา แต่เมือกล่าวถึงเรืองนี เจียงอวีเอ๋อก็
คิดถึงความเหลือมลําในจวนตระกูลเจียงระหว่างนางกับ
เจียงโย่วเหยาขึนมา ให้รูส้ กึ ว่าช่างไม่ยตุ ิธรรมเอาเสียเลย
น่าเจ็บใจนัก เจียงอวีเอ๋ออึงงันอยูน่ านโดยไม่ได้ตอ่ ปาก
ต่อคํา
5
ในทีสุดก็สา่ ยหน้าพลางทอดถอนใจ “แข่งกับคนไม่ได้ ก็
คงต้องปล่อยไปตามวาสนา”
เจียงหลีฟังอย่างขอไปทีแล้วแค่นยิมบางๆ “ยอมหรือไม่
แล้วจะเป็ นอย่างไร ไหนๆ ก็ลว่ งเลยมาถึงขนาดนี อีกทัง
วันข้างหน้าข้ายังมีโอกาส แม้จะไม่อาจเทียบกับคุณชาย
โจวได้ แต่อย่างไรก็ยงั นับว่ามีทางเลือก แต่เจ้านีสินอ้ ง
ห้า...” นางมองเจียงอวีเอ๋ออย่างมีความหมาย โดยไม่
6
กล่าวอะไรต่อไปอีก
เจียงอวีเอ๋อรูซ้ งถึ
ึ งสิงทีเจียงหลีไม่ได้เอ่ยออกมา ตัวเลือก
ของนาง อย่างไรก็ไม่มากเท่ากับเจียงหลี
เจียงหลีพดู ไปพลางสังเกตแววตาของนางกํานัลทีนํา
ทาง ครันเห็นว่านางกํานัลผูน้ นฟั
ั งเรืองทีนางกับเจียงอวี
เอ๋อพูดคุยกันอย่างไม่ยีหระ ใจของเจียงหลีก็ยงตื
ิ นตัวขึน
เป็ นกอง
7
เยืองย่างกันไปสักระยะก็มีนางกํานัลอีกคนเดินสวนทาง
เข้ามากล่าวกับเจียงอวีเอ๋อ “ลีผินให้บา่ วมาพาคุณหนู
ห้าเจียงไปเปลียนเสือทีห้องข้างๆ ก่อนเจ้าค่ะ” จบคําก็
หันมาบอกเจียงหลี “เชิญคุณหนูรองพักผ่อนทีห้องด้าน
หน้า รอให้คณ
ุ หนูหา้ เลือกอาภรณ์เสร็จแล้วบ่าวจะมาพา
คุณหนูกลับ”
เจียงหลียิมบางๆ กดนวดขมับพลางพูดกับเจียงอวีเอ๋อ
“ในเมือเป็ นเช่นนี น้องห้าก็ไปก่อนเถิด ข้าปวดหัวมาก
จะไปพักผ่อนรอเจ้าอยูท่ ีห้อง”
เจียงอวีเอ๋อโมโหเจียงหลีมาตลอดทาง จึงไม่อยากพูดจา
เหนียวรัง ยิงมีโอกาสได้เลือกอาภรณ์ทีลีผินจัดเตรียมให้
8
เจียงอวีเอ๋อก็ดีใจจนออกนอกหน้า รีบรับคําอย่างรวดเร็ว
เห็นเช่นนันเจียงหลีจงึ หมุนตัวเดินตามสาวใช้คนแรกไป
ข้างใน
ขณะทีกําลังหมุนตัวกลับ พลันมีของสิงหนึงร่วงหล่นลง
มาจากแขนเสือของเจียงหลี
เสียงของเจียงอวีเอ๋อชะงักอยูใ่ นลําคอ
9
นางกํากระดาษแล้วลุกขึนยืนมองเจียงหลีเดินจากไป
ด้วยหัวใจทีเต้นรัว
ข้อความบนกระดาษมีใจความว่าโจวเยียนปั งต้องการ
พบกับเจียงหลีเป็ นการส่วนตัว ดูทา่ คงจะเป็ นคืนนี
ปฏิกิรยิ าแรกของเจียงอวีเอ๋อก็คือ ต้องนํากระดาษแผ่นนี
ไปให้จีซูหรัน ป่ าวประกาศเรืองน่าอับอายของเจียงหลีให้
ผูค้ นได้รบั รู ้ พอคิดเช่นนี อาการเวียนศีรษะก็ดีขนมาก
ึ
เจียงอวีเอ๋อซ่อนกระดาษไว้ในแขนเสือ เจียงหลีและนาง
กํานัลเดินลับศาลาไปไม่เห็นแม้เงาแล้ว เจียงอวีเอ๋อจึง
หันกลับมามองนางกํานัลทีกําลังจะนําทางไปเปลียนเสือ
ผ้า แย้มยิมแล้วกล่าวว่า “พีรองของข้าช่างไม่ระมัดระวัง
10
เสียเลย ทําของตกหล่นแล้วยังไม่รูต้ วั อีก เอาไว้ขา้ ค่อย
หาโอกาสคืนให้นาง พวกเราไปกันเถิด”
เจียงอวีเอ๋อติดตามนางกํานัลทีปรากฏตัวขึนกลางทาง
ย้อนไปยังอีกทิศหนึง
ส่วนอีกด้าน เจียงหลีทีกําลังเดินตามนางกํานัลไปยังห้อง
รับรองก็เผยรอยยิมออกมา โดยทีหน้าไม่เปลียนสี
ตอนทีนางทํากระดาษนันหล่นและไม่มีเสียงใดๆ ไล่หลัง
มา เจียงหลีก็รูว้ า่ เจียงอวีเอ๋อติดกับเสียแล้ว
เจียงหลีติดตามนางกํานัลเลียวไปอีกทาง จนมาถึงห้อง
นําชาทีอยูส่ ดุ ทางของศาลาด้านข้าง นางกํานัลพลัน
กล่าวพร้อมรอยยิม“เชิญคุณหนูรองเจียงพักผ่อนก่อน
เถิด ในห้องมีนาชาและของว่
ํ าง บ่าวจะไปเอานําแข็งมา
ให้คลายร้อน”
เจียงหลีตอบรับ “เจ้าไปเถอะ”
ทันทีทีนางกํานัลจากไป เจียงหลีซงนั
ึ งอย่างสงบก็รบี ลุก
ขึนเดินไปยังกระถางธูปหอมทีจุดอยูใ่ นห้อง แล้วหักธูป
13
ออกเป็ นสองส่วน
อาจเป็ นเพราะเคยผ่านเหตุการณ์คล้ายกันมาแล้วครัง
หนึง เวลานี ใจของเจียงหลีจงึ เยือกเย็นอย่างน่า
ประหลาด หญิงสาวกลับมานังทีโต๊ะอีกครัง เท้าศอกเอา
มือปิ ดหน้า แสร้งทําเหมือนผล็อยหลับ ขณะทีอีกมือก็
เคาะโต๊ะเบาๆ อยูอ่ ย่างนัน จนนํามันตะเกียงกระเด็น
ออกมา
เจียงหลียงั คงแกล้งหลับต่อไป
ชัวขณะนัน ความทรงจําในอดีตชาติก็หลังไหลเข้าสู่
สมอง
เจียงหลีลว้ งเอามีดวงพระจันทร์ออกมาจากแขนเสือ
แล้วแทงสวนไปยังฝ่ ายตรงกันข้ามอย่างแม่นยํา เสียง
ของนางเย็นชา ทังยังแฝงความแข็งกร้าวโหดเหียมขณะ
เอ่ยเรียก “เย่ซือเจีย”
16
ลมหายใจของฝ่ ายตรงข้ามเริมสงบลง
ครันนางลืมตาก็เห็นว่าปลายมีดของตนจ่ออยูท่ ีคอของ
เย่ซือเจีย ใบหน้าของเขาแดงกํา มีกลินสุราคละคลุง้ ดู
เหมือนคนขีเมาอย่างไม่ตอ้ งสงสัย เขามองเจียงหลีดว้ ย
แววตาตืนตระหนก
17
บทที 77 นันก็ลูกนีก็ลูก
เจียงหลีขมวดคิวน้อยๆ
เย่ซือเจียไม่ได้เมา เขายังมีสติครบถ้วน
เจียงอวีเอ๋อถูกนางกํานัลพาไปทีห้องหนึงซึงอยูห่ า่ งออก
มา เพือรอผลัดเปลียนอาภรณ์
นางอยากนํากระดาษทีอยูใ่ นแขนเสือไปให้จีซูหรันดูโดย
เร็ว กระทังไม่มีแก่ใจจะรอคนทีเอาเสือมาส่ง อกของ
นางร้อนรุม่ นัก จึงล้วงกระดาษแผ่นนันออกมาอ่านอย่าง
1
ละเอียดอีกครัง
เขาควรจะแต่งกับเจียงโย่วเหยามากกว่า เพราะอย่าง
น้อยเจียงโย่วเหยาก็เป็ นคนทีโจวเยียนปั งหมันหมายใน
ตอนนี
2
สุดท้าย โจวเยียนปั งก็ยงั คงต้องแต่งงานกับบ้านสาย
หลักของตระกูลเจียงอยูด่ ี
‘น้องห้าหน้าตาสะสวยมากความสามารถ ทว่าต่อไปก็
คงต้องแต่งงานกับชายผูไ้ ร้บรรดาศักดิ อย่าว่าแต่ตีเสมอ
คุณชายโจวเลย แม้แต่บตุ รของข้าราชการธรรมดาก็ยงั
เทียบไม่ติด... คงจะจริงทีว่า เป็ นภรรยาของคนธรรมดา
บางครังยังสูเ้ ป็ นอนุของคุณชายโจวไม่ได้เสียด้วยซํา’
ถึงอาการเวียนศีรษะจะเริมทุเลา แต่ใจของเจียงอวีเอ๋อก
ลับเริมร้อนรุม่ ด้วยความคิดทีว่า หากคนทีโจวเยียนปั ง
นัดหมายในวันนีคือนางเล่า
4
หากนางยืมชือของเจียงหลี อาศัยข้อความในกระดาษ
ไปพบโจวเยียนปั ง เขาจะสงสารนางหรือไม่ ขอเพียงมี
ใจให้นางสักนิดก็ยงั ดี แล้วนางค่อยหาวิธีพาตัวเองเข้า
ไปอยูใ่ นจวนของท่านหนิงหย่วนโหวบ้างจะเป็ นอย่างไร
นางตัดสินใจแล้ว
5
ในขณะนัน นางกํานัลก็หอบอาภรณ์มาส่งให้ถงึ หน้า
ประตูเจียงอวีเอ๋อจึงรีบลุกขึนยืน
นางอยากผลัดเปลียนเสือผ้าแล้วตรงไปหาโจวเยียนปั ง
ตามนัดหมาย ท่าทางร้อนรนจนนางกํานัลยังรูส้ กึ
ประหลาดใจ เจียงอวีเอ๋อกลบเกลือนด้วยรอยยิม “พอดี
ข้าอยากเข้าห้องนํา เลยต้องรีบเปลียนเสือผ้า พีสาวไม่
จําเป็ นต้องอยูเ่ ป็ นเพือนหรอก แค่บอกทางข้าก็พอ”
เจียงอวีเอ๋อสาวเท้าอย่างรวดเร็ว จนในทีสุดก็วงเหยาะๆ
ิ
7
กลับยิงโหมจนโชติช่วง
8
ตอนนีเมือหวนคิดถึงคําพูดของเจียงหลี ถ้อยคําทีแฝง
ความเย้ยหยันประชดประชันทีเอ่ยออกมาเหมือนไม่
ตังใจ ทําให้ไฟทีสุมอยูใ่ นอกของเจียงอวีเอ๋อยิงลุกโชน
มากขึน
เป็ นคนบ้านสายหลักของตระกูลเจียงแล้วดีอย่างไร
ระหว่างเจียงหลีกบั เจียงโย่วเหยา มีเพียงคนเดียวเท่า
นันทีสามารถแต่งงานกับโจวเยียนปั งได้ ไม่วา่ จะเป็ น
เจียงหลีหรือเจียงโย่วเหยา ก็ตอ้ งมีหนึงคนทีเป็ นผูแ้ พ้
หากนางสามารถเข้าไปอยูใ่ นจวนหนิงหย่วนโหวได้
อย่างน้อยก็มีหนึงคน ต้องมีบตุ รีจากภรรยาเอกของบ้าน
สายหลักอย่างน้อยหนึงคนทีต้องพ่ายแพ้ให้แก่นาง แต่ง
เข้าไปเป็ นอนุ จําต้องเอาอกเอาใจภรรยาเอกก็ไม่เห็นจะ
9
เป็ นไร เจียงอวีเอ๋อคิด... เจียงหลีเย่อหยิงจนเคยตัว
เจียงโย่วเหยาก็ถกู จีซูหรันตามใจจนไม่เป็ นผูไ้ ม่เป็ นคน
พวกนางไม่มีวนั รูว้ ิธีทีจะทําให้ชายหนุ่มลุม่ หลงหรอก
แต่เจียงอวีเอ๋อมันใจว่าตนสามารถเอาชนะใจของโจว
เยียนปั งได้
11
เพียงย่างเท้าเข้าประตูบานนี นกกระจอกก็จะกลายเป็ น
หงส์ หลุดพ้นจากความตําต้อยตลอดชีวิต นีคืออนาคต
ทีนางกําหนดเอง ไม่เกียวกับบ้านสายสามแต่อย่างใด
ในห้องนําชามีแสงตะเกียงอันน้อยนิด ภายนอกเงียบ
สนิท
12
เจียงหลีเพียงแต่ยอ้ นถามกลับไป “เหตุใดท่านจึงไม่
เมา”
ชายหนุ่มส่งเสียงฮึ “บ้านตระกูลเย่ของข้าทําการค้า
พบปะผูค้ นมากมาย วันนีคนพวกนันมาร่วมดืมกับข้า
บ้างก็เพือแสดงความยินดี บางคนนันเห็นได้ชดั ว่ามา
เพือผลประโยชน์” เขากล่าว “ข้าแกล้งเมา เพราะอยาก
จะรูว้ า่ ฝ่ ายตรงข้ามต้องการอะไรกันแน่ ไม่นกึ ว่าจะมี
แผนซ่อนอยูจ่ ริงๆ” พูดจบเขาก็ขมวดคิวถาม “พวกเขา
ทําแบบนี หมายความว่าอะไรกันแน่”
ได้ฟังคําของอีกฝ่ าย เจียงหลีก็แทบจะหลุดขําออกมา
“บุรุษและสตรี เกิดอารมณ์พิศวาสหลังฤทธิสุราอย่างไร
13
เล่า”
14
เจียงหลีตอบอย่างเย็นชา “อย่าได้พดู จาราวกับตัดสิน
ว่าข้าทําให้ทา่ นเดือดร้อนไปด้วย ไม่ลองคิดดูดีๆ เสีย
ก่อนเล่า หากท่านมีเรืองราวฉาวโฉ่กบั ข้า ตําแหน่งฮู่ปทู้ ี
เพิงได้รบั จะยังอยูก่ บั ท่านหรือไม่ ตระกูลเย่จะสามารถ
ก้าวเข้าสูแ่ วดวงขุนนางได้อีกหรือเปล่า”
15
เย่ซือเจียพิจารณาเจียงหลีอีกครัง แล้วเอ่ยถามขึน
ทันควัน “พวกเขาวางยาเจ้าด้วยใช่หรือไม่”
16
อย่างไร”
17
บทที 78 เจ้าจะไปไหน
นางกล่าวอย่างเรียบง่าย นําเสียงไม่แสดงอาการหวัน
วิตกแม้แต่นอ้ ย เย่ซือเจียได้ฟังก็ไม่รูว้ า่ จะแสดงสีหน้า
อย่างไร “เจ้าคิดจะใช้มีดแทงข้า เจ้าทําลงหรือ”
ตอนทีนางเอ่ยคํานีออกมา นําเสียงนันเย็นยะเยือกจับใจ
ทําให้เย่ซือเจียอดสันสะท้านไปทังสรรพางค์กายไม่ได้
1
เขาเข้าใจแล้วว่า เจียงหลีสามารถแทงเขาได้จริงๆ
2
“ตอนนีข้าย่อมไม่ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาอยูแ่ ล้ว”
เจียงหลียกยิม “ข้าจะไปสังเกตการณ์อยูอ่ ีกด้าน ดูวา่
ทุกอย่างดําเนินตามแผนหรือไม่” นางผลักประตู แล้ว
เดินออกไปเงียบๆ
บ้านตระกูลเย่มีฐานะมังคัง บนเส้นทางของการค้าขาย
3
ไม่อาจหลีกเลียงคนทีมีจิตริษยาหรือเรืองโกหกพกลม จะ
ว่าไปแล้วก็ไม่ควรเกรงกลัวกับเรืองพวกนี
“ใจกล้าเสียจริง”
สถานการณ์ของหออวีซิวแตกต่างจากฝังของเจียงหลี
เวลานีเจียงอวีเอ๋อไม่รูต้ วั ว่าทําอะไรอยู่
หลังจากถึงหออวีซิวแล้ว เจียงอวีเอ๋อก็คลําทางเข้าไปใน
ความมืด หออวีซิวมิได้ใหญ่โตนัก เจียงอวีเอ๋อเองก็ไม่
4
กล้าจุดตะเกียงด้วยเกรงว่าคนอืนๆ จะเห็นเข้า ได้แต่
อาศัยแสงสว่างรําไรจากภายนอกนําทาง
ภายในหอไม่เห็นแม้เงาของโจวเยียนปั ง
ขณะทีเจียงอวีเอ๋อครันเนือครันตัวจนแทบทนไม่ไหว จู่ๆ
ด้านนอกหออวีซิวก็มีเงาคนขยับวูบ นางกําลังจะลุกขึน
จากเก้าอีเล็กๆทีอยูอ่ ีกด้าน ประตูใหญ่ของหออวีซิวพลัน
เปิ ดอ้า ก่อนจะปรากฏเงาร่างอันคุน้ เคยเดินเข้ามา
5
ดวงตาของเจียงอวีเอ๋อร้อนระอุ
6
เจียงอวีเอ๋อกําลังจะตอบว่าตนเองไม่ใช่เจียงหลี แต่แล้ว
จู่ๆ ก็พลันหยุดชะงัก
7
ใช่วา่ นางจะไม่เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี ทีผ่านมาก็
เคยมีบรรดาคุณชายและคุณหนูลกั ลอบมีความสัมพันธ์
ฉันชูส้ าวแล้วถูกจับได้ หากมาจากตระกูลทีมีฐานะและ
ไม่อยากเสือมเสีย สุดท้ายก็จะจัดการตบแต่งให้เป็ นเรือง
เป็ นราว ถึงจะโดนติฉินนินทา แต่เมือเวลาผ่านไป ผูค้ น
เหล่านันก็จะลืมเลือนเรืองเล็กน้อยเหล่านีไปเสียสนิท
เจียงอวีเอ๋อขบคิดอย่างรวดเร็ว
8
โจวเยียนปั งเห็นหญิงสาวในฝันยืนนิงไม่เอ่ยวาจาก็นกึ ว่า
เจียงหลีกาํ ลังเขินอาย จึงเดินเข้าไปใกล้อีกเล็กน้อย แล้ว
เอ่ยด้วยความตืนเต้น “ข้านึกว่าเจ้าจะไม่มาเสียแล้ว คิด
ไม่ถงึ ...” เขากุมมือหญิงสาวไว้ “เจ้ายังตัดใจจากข้าไม่ได้
จริงๆ”
ยิงตีตวั ออกห่างก็ยงอยากครอบครอง
ิ เมือเขาได้พบเจียง
หลีในวังอีกครัง หัวใจก็สบั สนว้าวุน่ ทังๆ ทีรูว้ า่ การลอบ
9
นัดพบกับนางภายในวังหลวงเป็ นเรืองร้ายแรง หากมีคน
มาพบเข้า เจียงหลีคงไม่พน้ ถูกคนครหา แต่โจวเยียนปั ง
ก็ยงั ส่งกระดาษแผ่นนันไปให้
10
เจียงอวีเอ๋อถูกโจวเยียนปั งเอือมมือมาจับไว้ก็ได้แต่นิงงัน
นางไม่กล้าพูดอะไรออกมา ด้วยเกรงว่าโจวเยียนปั งจะรู ้
ว่านางเป็ นใคร อีกทัง เจียงอวีเอ๋อยังรูส้ กึ ว่าบริเวณทีมือ
สัมผัสกันนันช่างร้อนวูบวาบ ขณะทีสมองพร่าเลือนไม่
กระจ่างชัด ร่างกายพลันโอนเอนอยากซวนซบโจวเยียน
ปั ง
11
โจวเยียนปั งพลันเอือมมือประคองนางไว้ตาม
สัญชาตญาณ สองมือโอบเอวคอดของหญิงสาว จรุง
กลินหอมในอ้อมกอด ปลายนาสิกยังได้กลินเรือนผม
หอมของโฉมสะคราญ หัวใจของโจวเยียนปั งพลันเต้นรัว
เจียงอวีเอ๋อรูส้ กึ จักจีบริเวณทีมือหนาของโจวเยียนปั ง
โอบกอด แทบไม่อยากตืนจากภวังค์ แล้วปล่อยให้
ทุกอย่างเป็ นไปตามสัญชาตญาณ เช่นนีถึงจะผ่อน
คลายความเร่าร้อนภายในจิตใจลงได้ เจียงอวีเอ๋อพลัน
12
อิงแอบแนบกายโจวเยียนปั ง พลางร้องครางในลําคอ
หลิวฮูหยินเอ่ยถามหลิวสวี “เหตุใดถึงไม่เห็นคุณหนูรอง
เล่า”
เฉินจีฮูหยินเองก็มองมาทีจีซูหรัน เมือเห็นจีซูหรันยิม
อย่างพึงพอใจจึงพยักหน้ารับ
15
มาเล่า”
นางหลูซือได้แต่ยมเจื
ิ อนๆ ด้วยไม่อยากเห็นท่าทางได้ใจ
16
ของจีซูหรัน จึงกล่าวว่า “ข้าเห็นว่า หาคนไปเฝ้าเจียงหลี
สักหน่อยก็คงดี วังหลวงแห่งนีกว้างใหญ่นกั อีกทังนาง
เองก็เพิงเคยเข้าวังเป็ นครังแรก อาจจะหลงทางก็เป็ นได้”
นางหลูซือไม่มีอะไรจะพูดอีก อย่างไรเสียนางก็ไม่อาจ
คลางแคลงใจในความปลอดภัยของวังหลวง อีกทัง
ไทเฮาก็ยงั อยูท่ ีนีด้วยเช่นกัน
17
บทที 79 หญิงคนนันไม่ใช่ใครทีไหน
คราวตายของเจียงหลีมาถึงแล้ว จีซูหรันลูบเรือนผมดก
1
ดําของเจียงโย่วเหยา ในใจมีแต่ความปี ติยินดีอย่างผู้
ชนะ
ระเบียงทางเดินทอดยาวในวังหลวงเงียบสงัด
ใต้หลังคาโค้งมีตะเกียงแขวนไว้ ยามคําคืนเมือถูกลมพัด
พาก็จะแกว่งไกวน้อยๆ เงาทีทอดผ่านจึงให้ความรูส้ กึ
เยือกเย็น
วังหลวงกว้างใหญ่นกั เจียงหลีเยืองย่างอย่างเชืองช้า
นางไม่ได้รบี ร้อนทีจะไปดูให้เห็นกับตาว่าเจียงอวีเอ๋อ
‘อยูก่ บั ’ โจวเยียนปั งหรือไม่ เพราะรูแ้ ก่ใจว่าคนทีฐานะ
2
ตําต้อยแล้วยังไม่เจียมตัวอย่างเจียงอวีเอ๋อจะต้องมีจิต
คิดทะเยอทะยาน แค่ถกู ยัวยุเข้าหน่อยย่อมเอนเอียงได้
ง่าย
หญิงคนนันไม่ใช่ใครทีไหน นางก็คือน้องสาวของเสินอ
วีหยง อดีตสามีของนาง
เสินหรูอวินคงจะออกมาเดินเปลียนบรรยากาศ จึงไม่ได้
อยูก่ บั เสินฮูหยิน ครันเจียงหลีนกึ ถึงคําพูดของนางเมือ
สักครู ่ ก็อดขบขันไม่ได้
คนทีมาในงานวันนีล้วนเป็ นบุตรีของเจ้านายตระกูล
ใหญ่ ต่อให้เป็ นขุนนางชันผูน้ อ้ ย ก็ยงั คงเป็ นคุณหนูลกู ผู้
มีเกียรติ เสินหรูอวินพูดจาเกินเหตุไปมาก ฐานะอย่าง
4
เสินอวีหยงหากไม่ได้เป็ นขุนนาง แล้วยังไม่มีบิดา
ตําแหน่งใหญ่โตหนุนหลัง แม้จะเป็ นชายหนุ่มมากความ
สามารถ แต่ลาํ พังอํานาจของเขาก็นบั ว่าไร้นาหนั
ํ กยิง
บุรุษทีมีชาติตระกูลสูงส่งกว่าเสินอวีหยงในเมืองเยียนจิง
นันมากมายจนนับไม่ถว้ น แต่เสินหรูอวินกลับรูส้ กึ ว่า
สตรีเหล่านีล้วนไม่อาจเคียงคูก่ บั เสินอวีหยง
บุตรสาวของพวกขุนนางเหล่านันหรือจะเทียบกับองค์
หญิงหย่งหนิงได้
5
ขณะนัน จู่ๆ เจียงหลีก็เกิดความคิดแปลกๆ ขึนมา
นางรูซ้ งถึ
ึ งสิงทีฝังอยูใ่ นก้นบึงแห่งจิตใจของเสินหรูอวิน
ยกตัวอย่างเช่น ทีนางออกมาสูดอากาศด้านนอกตอนนี
เจียงหลีมนใจว่
ั าเป็ นเพราะนางไม่เห็นแม้เงาของโจว
เยียนปั ง ในเมือรูค้ วามลับของเสินหรูอวิน หากไม่นาํ มา
ใช้ให้เป็ นประโยชน์ ก็ไม่สมควรเกิดมาเป็ นพีสะใภ้ใน
ชาติก่อนแล้ว
6
ทันทีทีเสินหรูอวินได้ยินเสียงร้องทักก็ตกใจเล็กน้อย ครัน
หันไปมองแล้วเห็นว่าเป็ นเจียงหลีก็ขมวดคิวมุน่ ฝื น
ตอบกลับไปว่า “คุณหนูรองเจียง”
เสินหรูอวินตอบอย่างยโส “เจ้าเองก็ออกมาเช่นกันไม่ใช่
7
รึ”
8
“ใช่แล้ว”
เสินหรูอวินอึงงันอยูก่ บั ที นัยน์ตาฉายแววลังเลออกมา
ขณะกัดริมฝี ปากอยูต่ ลอดเวลา ราวกับตัดสินใจไม่ได้
10
“คุณหนู แบบนีไม่ดีกระมังเจ้าคะ”
หลังจากสองนายบ่าวเดินจากไป เจียงหลีก็เดินออกมา
จากหลังเงาไม้
เสินหรูอวินช่างมัวเมาเสียจริง
เจียงหลีหวาดหวันขึนมา ความรืนรมย์ทีได้แกล้งเสินหรู
อวินเมือสักครูก่ ็พลอยหมดสนุกไปด้วย
ทุกครังทีเห็นซูก่ วกง
ั เจียงหลีจะรูส้ กึ ไม่เป็ นตัวของตัวเอง
13
เอาเสียเลย อาจเป็ นเพราะซูก่ วกงรู
ั ปงามเกินไป หรือ
อาจเป็ นเพราะดวงตาทีดูเย็นชาคูน่ นของเขา
ั เป็ นดวงตา
ทีมีรอยยิมเสแสร้งทําให้ผทู้ ีถูกจับจ้องรูส้ กึ เหมือนถูก
สํารวจตรวจตราอย่างถีถ้วน
ทําราวกับไม่ได้ตงใจ
ั เพียงผ่านมาพบซูก่ วกงโดยบั
ั งเอิญ
เท่านัน ผ่านมาแล้วผ่านไป ไม่มีอะไรมากกว่านี
14
ทว่าในใจกลับรูส้ กึ ว้าวุน่ นัก
นางคลับคล้ายคลับคลาว่าคนทีพูดคุยอยูก่ บั จีเหิงนัน
ช่างคุน้ ตา แม้จะนึกไม่ออกว่าเคยเจอกันทีไหน แต่เมือ
คนผูน้ นหั
ั นมา เจียงหลีก็ยงมั
ิ นใจว่านางต้องเคยพบกับ
อีกฝ่ าย
15
ขณะทีกําลังครุน่ คิด ก็อดหาเหตุผลทีจีเหิงมาอยูต่ รงนีไม่
ได้ สามารถเดินอย่างองอาจไปทัววังหลวง ก็คงจะมีแต่ซู่
กัวกงเท่านัน ด้วยฮ่องเต้หงเซียวพระราชทานพระบรมรา
ชานุญาตให้เขาเป็ นกรณีพิเศษ ซึงก็นบั ว่าเป็ นเรือง
ธรรมดา เพราะขุนนางฝังหนึงเข้าร่วมกับตระกูลเจียง
ของนาง ส่วนอีกฝังก็เป็ นพรรคพวกของท่านเสนาบดีที
สวามิภกั ดิต่อเฉิงอ๋อง ดังนันเพือถ่วงดุลอํานาจ คนที
ฮ่องเต้หงเซียวสามารถพึงพาได้ก็มีแต่จีเหิง
อืม ท่านเสนาบดีรึ
17
บทที 80 เขาเป็ นกบฏรึ?
เขาก็คือคนของท่านเสนาบดี
เจียงหลีแจ้งแก่ใจในทันที ราวกับเพิงค้นพบความลับ
สําคัญบางอย่าง ต้องเข้าใจว่าจีเหิงเป็ นคนของฮ่องเต้หง
เซียว แต่เขากลับมาพูดคุยกับคนของหลีจิงเป็ นการส่วน
ตัว หรือว่าจีเหิงกับท่านเสนาบดีลอบติดต่อกันมานาน
แล้ว ถ้าเป็ นเช่นนันก็เท่ากับว่า ต่อหน้าทําเป็ นจงรักภักดี
1
แต่ลบั หลังกลับคิดการใหญ่ จีเหิงกลายเป็ นคนของท่าน
เสนาบดีไปแล้วหรือไม่ ต้องไม่ใช่แบบนัน ท่านเสนาบดี
ยังไม่น่าจะซือตัวจีเหิงได้ ถ้าอย่างนัน... จีเหิงน่าจะเป็ น
คนเลือกท่านเสนาบดีเสียเอง สรุปว่า... เขาเลือกเข้ากับ
ฝ่ ายเฉิงอ๋องรึ?
เขาเป็ นกบฏรึ?
2
เหตุการณ์อะไรมาหรือ เหตุใดจึงดูหวาดกลัวเพียงนี”
เจียงหลีหนั หลังขวับ
ดวงตาคูน่ นของเขางดงามนั
ั ก
3
เป็ นดวงตาทีดูดีอย่างยิง ทังเรียวยาวและกระจ่างใส หาง
ตาชีขึนเล็กน้อย สวยงามน่าหลงใหล ดวงตาคมสี
นําตาลวาววับ สามารถเห็นเงาของนางในดวงตาของจี
เหิงได้ นัยน์ตาทอประกาย ยามมองมาราวกับมีรอยยิมที
ส่งไปไม่ถงึ ดวงตา คล้ายดังพยายามสานสัมพันธ์ แต่ก็ดู
เหมือนไม่ได้มีใจให้แม้แต่นอ้ ย ไหนจะกลินอายสะกด
วิญญาณทีสามารถทะลุทะลวงจนผูท้ ีถูกมองรูส้ กึ กําซาบ
ซ่าน
ทว่าตัวเขาเองกลับเยือกเย็น
แม้จะแสดงท่าทางอ่อนโยนหรือหว่านเสน่หใ์ ห้คนลุม่
หลงภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาเช่นนี แต่เจียงหลีก็ยงั
สามารถสัมผัสได้ถงึ ความน่าหวาดหวันอันเย็นยะเยือก
4
เข้าถึงกระดูกดํา
เจียงหลีถอยหลังไปหนึงก้าวโดยสัญชาตญาณ พยายาม
แยกตัวออกห่างจากเขา ราวกับรูส้ กึ ว่าเว้นระยะห่างเช่น
นีจึงจะทําให้ปลอดภัย “ท่านกัวกงดูผิดไปเสียแล้ว ข้าไม่
ได้รอ้ นรนสับสนแต่อย่างใด”
หากพูดกันตามเนือผ้า เจียงหลีแสดงออกด้วยอาการ
สงบนิงจนเกินไป ด้วยนางคิดว่าหากร้อนรนจนทําอะไร
ไม่ถกู เหมือนคุณหนูตระกูลใหญ่คนอืนๆ อีกฝ่ ายจะต้อง
ดูออกแน่
6
ปาก “หรือว่า เจ้ารูจ้ กั กับคนทีข้าเพิงจะพบมาเมือสักครู”่
“ไม่รูจ้ กั ” เจียงหลีปฏิเสธ
จีเหิงเหมือนคิดอะไรได้ “ทุกครังทีได้พบกับคุณหนูรอง
เจียง ก็จะมีละครดีๆ ให้ดเู สมอ ในจวนกัวกงไม่เคยได้ดู
ละครทีสนุกสนานเช่นนีมาก่อน” เขาทําท่าปรบมือ
ประกอบ พัดสีทองทีถืออยูท่ อประกายระยับในยามราตรี
“น่าเสียดายจริงๆ”
7
“อย่างนันรึ” จีเหิงเม้มปาก “แต่เรืองทีเจ้าทําไปเมือสักครู ่
จัดการฉากระหว่างคุณหนูหา้ เจียงกับทายาทท่านหนิง
หย่วนโหว ช่างแยบยลจริงๆ”
ได้ยินถ้อยคําเหล่านันจากปากของชายหนุ่มรูปงามเช่นนี
8
ต่อให้เสียงของเขาจะดุดนั ก็ยงั ทําให้เกิดความลุม่ หลง
เจียงหลีรูส้ กึ ขนลุกขนชันไปทังแผ่นหลัง
เจียงหลีเงยหน้าขึนมองตรงไปทีจีเหิง เพียงชัวพริบตา
นางก็ตดั สินใจกล่าว “ท่านกัวกงชอบดูละครก็เชิญชม
9
เถิด แต่วา่ การดูละครไม่ควรเปิ ดเผยเนือหา นีเป็ นวิถีที
ยึดถือกันมาแต่ดงเดิ
ั ม คิดว่าท่านกัวกงก็คงเข้าใจ”
จีเหิงได้ฟังก็เบียงกายเล็กน้อย แล้วเอ่ยด้วยนําเสียง
กํากวมยิงขึน “หากข้ายังยืนกรานจะเล่าเนือหา เจ้าจะ
ทําอะไรข้าได้”
จีเหิงชายตามองเจียงหลีแวบหนึง ก่อนจะยกยิมกล่าวว่า
“วางใจเถิด ข้าจะไม่พดู อะไรทังนัน” เขาใช้พดั ปั ดแขน
เสือทีไร้ฝนุ่ ละออง “หากแพร่งพราย ต่อไปจะไม่มีละคร
10
ให้ดอู ีก แบบนัน... น่าเสียดายแย่”
เจียงหลีได้ฟังก็โล่งใจ
“ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับเย่ซือเจียดูเหมือนไม่เลวที
เดียว” จู่ๆ จีเหิงก็พดู ถึงเย่ซือเจียขึนมา “เรืองในวันนี
พวกเจ้าดูกลมเกลียวกันเป็ นอย่างดี แสดงละครได้เข้าขา
โดยไม่ตอ้ งฝึ กซ้อม” จีเหิงกล่าว “เย่ซือเจียสนิทสนมกับ
เจ้ารึ”
11
ใคร่ครวญในใจอย่างรวดเร็วอยูห่ ลายตลบ ในทีสุดเจียง
หลีจงึ ตอบว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับพีซือเจียก็
เป็ นเช่นลูกพีลูกน้องทัวไป มิได้พดู คุยอะไรกันมากนัก ข้า
ไม่คอ่ ยรูเ้ รืองของพีชายสักเท่าไร เหตุการณ์ในวันนีเป็ น
แค่ความบังเอิญ”
จีเหิงได้ฟังพลันยกยิมราวกับมีความคิดบางอย่าง ทว่า
เขาก็ไม่เอ่ยอะไรออกมา แต่พอเจียงหลีมองตาจีเหิง
นางกลับรูส้ กึ อึดอัดนักยังดีทีคนผูน้ ีมิได้ดงึ ดันจะซักไซ้
นางต่อ จีเหิงเพียงกล่าวว่า “เชิญไปได้”
12
“เจ้าจะไปชมละครมิใช่หรือ” เขากล่าวอย่างเรียบเฉย
“ข้าย่อมไม่พลาดเช่นกัน”
13
เจียงหลีทาํ ได้เพียงออกเดินไปพร้อมกับจีเหิง
ไทเฮาพระชนมายุมากแล้ว นังชมดอกบัวหลังจบงาน
เลียงได้สกั พักก็ตอ้ งกลับเข้าตําหนักเพือพักผ่อน แต่ไหน
แต่ไรหลิวไท่เฟยก็มกั จะเป็ นคูป่ รับกับไทเฮา พอไทเฮา
กลับไปแล้วก็พลอยรูส้ กึ หมดสนุก รังอยูไ่ ม่นานก็จากไป
เช่นกัน
บรรดาฮูหยินทังหลายทีอยูใ่ นศาลาเองก็เริมเบือหน่าย
เฉินจีฮูหยินประเมินสถานการณ์แล้วจึงเสนอว่า “นังอยู่
14
ตรงนีนานเข้าก็ชกั จะง่วงเสียแล้ว มิสลู้ กุ ขึนเดินยืดเส้น
ยืดสายจะดีกว่า ได้ยินว่าดอกบัวตรงศาลาสุดระเบียง
ทางเดินนันสีสดน่าชมนัก เห็นลีผินบอกว่าเมือไม่กีวัน
ก่อนมีดอกบัวจักรพรรดิบานสะพรังอย่างหาดูได้ยาก
พวกเราไปเปิ ดหูเปิ ดตาสักหน่อยดีไหม”
15
“เป็ นเช่นนันจริงๆ” ลีผินกล่าวพร้อมรอยยิม “ฮูหยินทุก
ท่านสามารถร่วมชืนชมได้”
บรรดาฮูหยินและคุณหนูทีนังอยูใ่ นบริเวณนีดีใจถ้วน
หน้า ต่างปรารถนาจะชืนชมดอกบัวจักรพรรดิตามคํา
ของเฉินจีฮูหยิน
16
เจียงอวีเยียนพลันเอ่ยปาก “น้องห้าก็ยงั ไม่กลับมาเช่น
กัน”
เจียงหลีไปพักผ่อน แต่เจียงอวีเอ๋อแค่ผลัดเปลียนเสือผ้า
แล้วเหตุใดถึงยังไม่กลับมาอีก นางหยางซือเองก็สงั เกต
เห็นเช่นกัน พลันบ่นว่า “ลูกคนนี ไปหลงทางอยูท่ ีไหน
จนป่ านนียังไม่กลับมาอีก”
ว่าแล้วคนทังหมดก็พากันมุง่ หน้าไปยังศาลาทีอยูส่ ดุ
17
ระเบียงทางเดิน
บงกชในสระถูกลมพัดจนโอนเอน มัจฉาทีแหวกว่ายอยู่
พอเห็นผูค้ นผ่านมา ก็พากันไปหลบอยูใ่ ต้ใบบัว
18
บทที 81 พีรอง...
ระเบียงทางเดินทีดูทอดยาว ทว่าหากเดินพูดคุยสรวลเส
เฮฮา เพียงแค่แวบเดียวก็มาถึงจุดหมาย ทีสุดระเบียง
ทางเดิน มีบวั จักรพรรดิอยูก่ อหนึงดังคาด เพียงแต่ดอก
บัวจักรพรรดินีมิได้บานสะพรังเหมือนกับดอกบัวชนิดอืน
มีแค่ดอกเล็กๆ สองสามก้าน ไม่มีอะไรแปลกตา
1
บรรยากาศทีศาลากลางนํา
จีซูหรันเดินไปถึงหน้าประตูหอ้ งนําชา
ในห้องนําชามีเพียงแสงตะเกียงสลัว มองเข้าไปผ่านทาง
หน้าต่างก็ไม่เห็นแม้เงาผูใ้ ด เงียบจนน่าประหลาด
2
เจียงโย่วเหยาแย้มยิม “พีรองนอนหลับไปแล้วหรือ เหตุ
ใดจึงเงียบเช่นนี ไม่ได้ยินเสียงอะไรสักนิด”
3
ทันได้คิดอะไรก็เหลือบไปเห็นว่าทีโต๊ะนําชาภายใต้แสง
ไฟ เย่ซือเจียกําลังใช้มือเท้าคาง พลางขมวดคิวมองกลับ
มา
สภาพเช่นนีผิดกับความโกลาหลทีจีซูหรันคาดการณ์ไว้
4
เสียงนันหยุดลงในฉับพลัน
5
“พีรองของเจ้ารึ” เย่ซือเจียขมวดคิวกล่าว “คุณหนูรอง
เจียงรึ ข้าไม่เห็นคุณหนูรองแม้แต่เงา ข้าดืมสุราในงาน
เลียง เสร็จแล้วก็ให้นางกํานัลนําทางมา หวังจะพักผ่อน
อยูท่ ีนี ข้ามาถึงได้สกั ครูแ่ ล้วแต่ก็ไม่เห็นพีรองของเจ้า”
เขามองเจียงโย่วเหยา “คุณหนูรองคงจะออกไปนาน
แล้ว”
ฮูหยินทีอยูโ่ ดยรอบมองเจียงโย่วเหยาด้วยความ
ประหลาดใจ ทีเห็นนางแสดงปฏิกิรยิ าราวกับมันใจอย่าง
6
ยิงว่าเจียงหลีจะต้องอยูใ่ นห้อง เหมือนปรารถนาให้เป็ น
เช่นนันจริงๆ
เย่ซือเจียแสยะยิมในใจ แต่ใบหน้ายังคงแสดงออกอย่าง
นอบน้อม พลางโบกไม้โบกมือกล่าว “ฮูหยินเป็ นกังวล
จนจิตใจวุน่ วาย สามารถเข้าใจได้ เพียงแต่...” เขากล่าว
อย่างมีมารยาท “ครังหน้าก่อนเข้าห้อง ควรจะรักษา
มารยาทโดยการเคาะประตูเสียก่อน”
7
จีซูหรันหน้าเห่อร้อนขึนมาทันที
นางตังใจอยากให้คนทังหลายได้เห็นสภาพอัปยศของ
เจียงหลีแล้วจะเคาะประตูได้อย่างไร แต่นีมันเรืองอะไร
กัน จีซูหรันเกิดความสงสัย ห้องนําชาก็เล็กแค่นี เจียงหลี
จะหลบไปไหนได้ อีกทังเย่ซือเจียก็ยงั แต่งกายเรียบร้อย
ในห้องไร้รอ่ งรอยใดๆ แล้วเจียงหลีเล่า เจียงหลีไปอยูท่ ี
ไหน
เย่ซือเจียลุกขึนยืน แสดงความเคารพต่อฮูหยินทังหลาย
เขาเป็ นบุรุษเพียงคนเดียว ยืนอยูท่ า่ มกลางสตรีมากมาย
อย่างไรก็รูส้ กึ ไม่สบายตัวนัก จึงคิดจะหลบฉากออกไป
8
เพิงเดินมาถึงประตู จู่ๆ ก็นิงงัน
ข้างกายเจียงหลียงั มีชายหนุ่มรูปงามในอาภรณ์สีแดง
ตามมาด้วย เป็ นซูก่ วกงจี
ั เหิงนันเอง
9
เจียงหลีเห็นผูค้ นทังหลาย ก็เงยหน้าถามด้วยความ
สงสัย “ท่านแม่... พวกท่านมาทําอะไรทีนี”
10
จีซูหรันพูดอะไรไม่ออก
ซูก่ วกงจี
ั เหิงยืนอยูข่ า้ งกายเจียงหลี สอดคล้องกับคําพูด
ของนาง
เจียงหลีเอียงคอมอง ครันเห็นเย่ซือเจียก็เกิดความสงสัย
“เหตุใดท่านถึงมาอยูท่ ีนีได้ ห้องนําชาในวังมีอยูม่ ากมาย
ห้องนําชาของบุรุษก็ไม่ได้อยูฝ่ ังนี...” เจียงหลีไม่ได้กล่าว
อะไรไปมากกว่านัน แต่นนก็
ั เพียงพอทีจะทําให้บรรดา
ฮูหยินทังหลายฉุกคิดขึนมา
11
หากเจียงหลีไม่ได้ไปห้องนําและไม่ได้หลงทาง นางกับเย่
ซือเจียก็คงต้องอยูใ่ นห้องเดียวกัน ถ้าคนอืนมาเห็นเข้า
ต่อให้ไม่มีอะไรก็ยากจะพูดให้ใครเข้าใจได้ สําหรับท่านฮู่
ปูท้ ีเพิงได้รบั ตําแหน่งมาหมาดๆ สิงนีย่อมไม่ใช่เรืองดีนกั
และแน่นอนทีสุดว่า สําหรับคุณหนูรองเจียงก็จะพลอย
เสือมเสียชือเสียงไปด้วย
12
จีซูหรันเห็นเจียงหลีพดู จาแต่ละคําล้วนเล็งเป้าเข้าหา
นาง พลันรูส้ กึ คับแค้นใจนัก แต่ก็ไม่รูจ้ ะตอบโต้กลับไป
อย่างไร ได้แต่สง่ สายตาขอความช่วยเหลือไปหาลีผินกับ
เฉินจีฮูหยิน
ขณะทีลีผินกําลังจะเอ่ยแก้สถานการณ์ ทันใดนันก็มีคน
วิงหน้าตาตืนเข้ามาหาฮูหยินของท่านหนิงหย่วนโหว ดู
เหมือนจะเป็ นสาวใช้ของโหวฮูหยิน
สาวใช้ผนู้ นรายงานด้
ั วยความตืนตระหนก “ฮูหยิน คุณ
ชายเกิดเรืองแล้วเจ้าค่ะ”
13
ถึงแตกตืนเช่นนี”
โหวฮูหยินเห็นท่าทางของสาวใช้ ในใจก็ยงวิ
ิ ตกกังวล
ทางด้านเจียงโย่วเหยา เมือเห็นเป็ นเรืองทีเกียวข้องกับ
ว่าทีสามี จึงอดเดินขึนมาซักถามไม่ได้ “คุณชายโจวเกิด
เรืองอะไรขึนรึ”
สาวใช้ผนู้ นยิ
ั งร้อนรน นางหลบเลียงไม่ตอบคําถามของ
14
เจียงโย่วเหยา แล้วมองไปยังนางหยางซือ
นางหยางซือเกิดความสับสนนัก จีซูหรันมองไปทีเจียง
หลีแวบหนึง เห็นอีกฝ่ ายยืนหยัดโดยไม่หวาดหวัน ซํามุม
ปากยังมีรอยยิม สิงน่ากลัวต่างๆ พลันปรากฏขึนเต็ม
สมอง
15
นางพูดจาคลุมเครือไม่กระจ่าง แต่เห็นท่าทางเช่นนีของ
สาวใช้ ผูค้ นทังหลายก็พอจะเข้าใจขึนมาบ้าง ท่าทางปิ ด
บังลับๆ ล่อๆ เช่นนี คงไม่พน้ ต้องเป็ นเรืองน่าอาย ในเมือ
มีผอู้ าวุโสหลายคนร่วมรับรู ้ เอาไว้กลับบ้านไปค่อยถาม
นายท่านของตนก็ยงั ไม่สาย
เมือโหวฮูหยินได้ยินสาวใช้กล่าวเช่นนันพลันซวนเซ แทบ
จะเป็ นลมล้มพับลงไป
เจียงโย่วเหยากังวลจนร้อนใจ นางไม่ไยดีอะไรทังนัน
“หออวีซิวรึ โหวฮูหยิน ข้าจะไปกับท่านด้วย... ท่านแม่”
นางดึงแขนเสือของจีซูหรัน “พวกเราก็ไปดูดว้ ยกันเถอะ”
17
ให้ตอนนีอยากจะไปก็ไม่ควร แต่จะไม่ไปก็ไม่ได้ ในขณะ
นันหลิวฮูหยินพลันเอ่ย “ไม่วา่ อย่างไร อยูท่ ีนีต่อก็คงไม่ดี
สักประเดียวทุกท่านก็คงอําลากลับจวน อย่างไรพวกเรา
ออกไปจากห้องนีก่อน นีก็ดกึ มากแล้ว ต่างฝ่ ายต่างแยก
ย้ายกันกลับจะดีกว่า”
18
บทที 82 เขา... รังแกลูก
โหวฮูหยินส่งยิมให้อย่างซาบซึงแล้วกล่าวสนับสนุน “ใช่
แล้ว ควรจะกลับกันไปก่อน” ขณะเดียวกันก็ออกเดิน
อย่างเลือนลอย
เจียงหลีมองเหตุการณ์ตรงหน้า จีซูหรันพลันเดินเข้ามา
มองตาเจียงหลีแล้วกล่าวเสียงเบา “หลีเอ๋อรูห้ รือไม่วา่
เกิดอะไรขึน”
เจียงหลีแสดงแววตาประหลาดใจได้อย่างเหมาะสม
นางส่ายหน้าปฏิเสธ “ลูกอยูก่ บั ท่านซูก่ วกง
ั จะรูเ้ รืองคุณ
1
ชายโจวได้อย่างไร ท่านแม่พดู จาแปลกนัก”
จีซูหรันหันไปมองจีเหิง หน้าตาหล่อเหลากอปรกับ
นัยน์ตาสีนาตาลเข้
ํ มคูน่ นที
ั ชําเลืองมองนางแวบหนึง ทํา
ให้จีซูหรันรูส้ กึ หนาวยะเยือกเข้าไปถึงกระดูก
2
จีเหิงกับเจียงหลีอยูร่ งท้
ั าย
ชายหนุ่มกล่าวเนิบๆ “ความสามารถด้านการละครของ
คุณหนูรองเจียง โดดเด่นกว่านายละครหลิวจากคณะ
ละครเซียงซือปั นเสียอีก”
เจียงหลีใจหายวาบ นายละครหลิวจากคณะละครเซียง
ซือปั นผูน้ นั เป็ นเพราะอยากขึนเตียงมีสมั พันธ์กบั หญิง
สาว จึงถูกเจ้านายทีอยูต่ รงหน้าคนนีหักแข้งหักขาแล้ว
3
โยนทิงไป
จีเหิงคงมิได้กล่าวอะไรแฝงความนัยหรอกกระมัง
หลังกลับออกจากศาลา เพือจะไปรอนายท่านของแต่ละ
จวน
5
ก็พบว่าทีด้านนอกของหออวีซิว มีหญิงสาวแต่งกายไม่
เรียบร้อยนางหนึง วิงกระเจิดกระเจิงตรงไปหามารดา
ของเสินอวีหยง
หญิงผูน้ นก็
ั คือเสินหรูอวิน
หรือว่ายังมีอะไรเหนือความคาดหมายเกิดขึนอีก
6
หลิวฮูหยินจูงมือหลิวสวี จากไปด้วยใบหน้าเปื อนยิม
หลิวฮูหยินกับคนในจวนหนิงหย่วนโหวมิได้มีความแค้น
ต่อกัน เพียงแต่ตอ้ งการจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กบั
7
เจียงหลี เห็นได้ชดั ว่าบุตรสาวของสหายรักเป็ นเด็กสาว
น่ารักทีรูจ้ กั วางตัว แต่ตอ้ งประสบเรืองเลวร้ายมากมาย
เช่นนี คนของจวนหนิงหย่วนโหวก็ไม่รกั ษาคําพูด เปลียน
ข้อตกลงเรืองการแต่งงานไปเสียดือๆ ตอนนีโจวเยียนปั ง
เกิดเรือง หลิวฮูหยินจึงไม่รูส้ กึ เห็นใจ กลับยินดีเสียด้วย
ซําทีสวรรค์มีตา ในเมือเป็ นเช่นนี จะไม่ให้พาฝูงชนมาดู
ให้เห็นกับตาว่าเกิด ‘เรือง’ อะไรขึนกับโจวเยียนปั ง ก็คง
จะผิดต่อสวรรค์แล้ว
ไม่รูค้ ณ
ุ หนูของบ้านไหนอดไม่ได้ พลันส่งเสียงหัวเราะคิก
คักเบาๆ การทีหญิงสาวถูกรังแก แม้จะเป็ นเรืองน่าโกรธ
ขึง แต่ผหู้ ญิงก็จะไม่เป็ นฝ่ ายพูดออกมาก่อน เพราะลูก
ผูห้ ญิงหน้าบาง ให้พดู เรืองพวกนีออกมาต่อหน้า
ธารกํานัล อย่างไรเสียก็รูส้ กึ ไม่งาม แต่เสินหรูอวินกลับ
9
ป่ าวประกาศเสียงดังราวกับกลัวคนอืนไม่ได้ยิน หรือว่า
เป็ นเพราะชาติตระกูลอันตําต้อย จึงไม่รูธ้ รรมเนียมกัน
แน่
เสินฮูหยินชําเลืองมองต้นเสียงแวบหนึง คุณหนูผนู้ นั
พลันเงียบเสียงลงแล้วไปหลบอยูด่ า้ นหลังมารดาของตน
เสินหรูอวินร้องห่มร้องไห้อย่างเอาเป็ นเอาตาย
เจียงหลีเห็นเช่นนันก็แปลกใจนัก จากการคาดคะเนของ
นาง แม้โจวเยียนปั งจะเป็ นผูด้ ีจอมปลอมอย่างไรก็ไม่
ควรรังแกเสินหรูอวิน เพราะเขาไม่รูจ้ กั มักคุน้ กับนาง อีก
ทังในขณะนันเจียงอวีเอ๋อก็อยูด่ ว้ ย โจวเยียนปั ง... จะมี
10
เวลาหรือ
ในจังหวะนัน เจียงหลีพลันเหลือบไปเห็นเสินหรูอวิน
กะพริบตาปริบๆ อยูใ่ นอ้อมอกของเสินฮูหยิน ไร้รอ่ งรอย
โศกเศร้าเสียใจ แต่เต็มไปด้วยแผนการแอบแฝง
เจียงหลีสงสัยว่าตนเองน่าจะตาฝาด จึงหันไปมองนาง
อีกครัง ก่อนจะสังเกตเห็นว่าอาภรณ์ทียับย่น ผมเผ้าอัน
กระเซอะกระเซิงของเสินหรูอวิน ดูราวกับจงใจให้มี
สภาพเช่นนัน มีอย่างทีไหน ถูกบุรุษรังแกจนทังตัวเต็มไป
ด้วยร่องรอย ทว่ารองเท้ากลับไม่มีฝนุ่ แม้แต่นอ้ ยปิ นก็ยงั
ปั กผมอย่างแน่นหนา ต่างหูรกึ ็อยูค่ รบ
11
แปลกจริงๆ
เจียงหลีใคร่ครวญแล้วก็คิดว่ามีความน่าจะเป็ นเพียง
ประการเดียว
นางมองเสินหรูอวินอย่างแทบไม่เชือสายตา ตะลึงกับ
ความใจกล้าของเสินหรูอวิน
เสินหรูอวินพูดอย่างชัดเจนว่าโจวเยียนปั งข่มเหงนาง
เจียงโย่วเหยาได้ฟังก็โมโห ไม่รอให้โหวฮูหยินเอ่ยปากก็
ตวาดออกมา “เหลวไหล คุณชายโจวจะรังแกเจ้าได้
อย่างไร คุณชายโจวเป็ นคนดีมีคณ
ุ ธรรม เขาถูกเจ้าใส่
ร้าย”
12
ในสายตาของผูค้ น เรืองนีไม่น่าจะเป็ นไปได้จริงๆ ละเลย
สตรีทีงดงามอย่างเจียงโย่วเหยาแต่ไปรังแกเสินหรูอวินที
ความสวยไม่เข้าขัน ยกเว้นเสียแต่วา่ โจวเยียนปั งจะเป็ น
คนโง่
เสินหรูอวินเห็นท่าทางหึงหวงของคนบ้านสายหลักอย่าง
เจียงโย่วเหยาก็นกึ โมโหขึนมา นางหัวเราะเสียงเย็นแล้ว
หลุดปากอย่างไม่คิด “ฮึ เขาไม่เพียงแต่รงั แกข้า แม้
กระทังคุณหนูหา้ ในจวนเดียวกับเจ้าก็ถกู เขาข่มเหงเช่น
กัน”
เจียงโย่วเหยาอึงงัน
13
จีซูหรันงุนงงนัก พลันหันไปมองนางหยางซือตาม
สัญชาตญาณ นางหยางซือเองก็สบั สนเช่นกัน เดิมทีนาง
ก็ตามหาเจียงอวีเอ๋อไม่พบ จิตใจจึงร้อนรนอยูเ่ ป็ นทุน
เดิม ตอนนีเมือได้ยินถ้อยคําของเสินหรูอวิน ความรูส้ กึ ก็
ราวกับโดนสายฟ้าฟาด
14
โหวฮูหยินรูส้ กึ เหมือนทุกอย่างลอยคว้าง สวรรค์! โจว
เยียนปั งทําอะไรลงไป เหตุใดจู่ๆ ถึงได้พวั พันกับหญิง
แปลกหน้าถึงสองคน แล้วยังถูกฮ่องเต้พบเห็นเข้า
15
ก็เท่ากับหักหน้านาง ต่อไปจะให้นางเอาหน้าไปไว้ทีไหน
หรือว่าจะต้องแต่งเจียงอวีเอ๋อเข้าไปเป็ นอนุ พีน้องสอง
คนต้องใช้สามีรว่ มกันรึ ต่อให้นางเป็ นภรรยาเอก แต่
เจียงโย่วเหยาก็ยงั คงรับไม่ได้อยูด่ ี
เจียงโย่วเหยาในเวลานียังคงแสดงตนเป็ นภรรยาเอกของ
โจวเยียนปั ง นางคิดว่าผ่านพ้นเรืองคราวนี โจวเยียนปั งก็
ยังต้องแต่งงานกับตน
แต่เจียงหลีมองสถานการณ์ออกอย่างชัดเจน การทีเจียง
โย่วเหยาจะแต่งงานกับโจวเยียนปั ง เป็ นเรืองทีไม่อาจ
เกิดขึนเสียแล้ว
16
หากไม่มีเสินหรูอวินเข้ามาเกียวข้อง ก็แค่มีคนรูเ้ รืองของ
โจวเยียนปั งกับเจียงอวีเอ๋อ อย่างไรเสียเจียงอวีเอ๋อก็เป็ น
ลูกหลานจากบ้านฝังอนุภรรยาสถานะจึงแตกต่าง เจียง
โย่วเหยาย่อมอยูเ่ หนือกว่านางเป็ นธรรมดา เพียงแต่
หน้าทีการงานของโจวเยียนปั งคงจะจบลง หากเจียงโย่ว
เหยาอยูก่ ินกับโจวเยียนปั งนานวันเข้า ก็ไม่พน้ จะมีแต่
เรืองทะเลาะเบาะแว้ง การดึงเจียงอวีเอ๋อเข้ามาพัวพันให้
สองพีน้องตบตีกนั เอง ทําให้เจียงหลีเบาแรง
เสินหรูอวินเป็ นถึงน้องสาวคลานตามกันมาของเสินอวีห
ยง ซึงเป็ นขุนนางในราชสํานัก อีกทังฮ่องเต้หงเซียวยังให้
ความสําคัญกับเขามาก พระองค์จะต้องมอบเรืองนีให้
17
เสินอวีหยงเป็ นผูต้ ดั สินใจ เสินหรูอวินรักใคร่ชอบพอโจว
เยียนปั ง นางคงจะทนเห็นโจวเยียนปั งถูกลงทัณฑ์ไม่ได้
วิธีแก้ไขทีดีทีสุดก็คือให้เสินหรูอวินแต่งงานกับโจวเยียน
ปั ง
เสินหรูอวินก็จะสมปรารถนา
18
บทที 83 พวกเขาอยู่ทนัี น
เจียงหลีแทบจะมันใจได้เลยว่า ทีเสินหรูอวินถูกโจวเยียน
ปั งรังแกนันเป็ นเรืองทีนางกุขนมา
ึ คงจะเป็ นเพราะตอน
นันโจวเยียนปั งเมามายไม่ได้สติ จึงถูกเสินหรูอวินฉวย
โอกาสปรักปรํา
1
หลายพลันหันหน้ามองพร้อมกันโดยมิได้นดั หมาย จึง
เห็นว่าขุนนางน้อยใหญ่กาํ ลังชุมนุมกันอยูท่ ีหน้าประตู
หออวีซิว ไม่รูว้ า่ กําลังทําอะไร
2
เจียงโย่วเหยาวิงไปถึงหน้าประตู
เจียงโย่วเหยารีบสาวเท้าเข้าไป แล้วยกมือขึนตบลงบน
ใบหน้าของเจียงอวีเอ๋อฉาดใหญ่โดยไม่ตอ้ งหยุดคิด
เจียงอวีเอ๋อถูกตบจนตัวเอียงแต่มิได้ตอบโต้ เพียงกุม
หน้าตนเองด้วยนําตาไหลพราก “พีสาม ข้า... ข้าขอ
3
โทษ”
เจียงโย่วเหยาหันไปมองโจวเยียนปั ง แล้วเอ่ยถามด้วย
ความเสียใจ “คุณชายโจว ท่าน... เหตุใดท่านถึงได้ทาํ
เช่นนี”
5
“คุณหนูรองกําลังคิดอะไรอยู”่ จีเหิงพลันเอ่ยถาม
“กําลังคิดว่าเหตุใดคุณชายโจวถึงจําอะไรไม่ได้แม้แต่
น้อย หรือว่านีเป็ นข้ออ้างของเขา”
จีเหิงหัวเราะเสียงเบา
เจียงหลีเงยหน้ามองตาเขาด้วยความสงสัย เห็นจีเหิง
โบกพัดไปมาอย่างมีเลศนัยก็เข้าใจกระจ่างแจ้งในทันที
เสินหรูอวินมาพบโจวเยียนปั งในสภาพทีไม่มีสติเช่นนี
คงเกิดความคิดร้ายกาจขึนมา
7
เจียงหยวนปั วพลันหมดความอดทน ตรงเข้าไปลากตัว
เจียงโย่วเหยาออกมาส่งให้จีซูหรัน เจียงโย่วเหยาเห็น
เหตุการณ์เต็มสองตาก็เจ็บปวดใจนัก ในเวลานีจึงไม่ไยดี
ต่อสิงใด ได้แต่รอ้ งห่มร้องไห้อยูใ่ นอ้อมอกของมารดา
8
อีกอย่าง เจียงหลีกวาดตามองรอบกาย เกิดเรืองใหญ่
ขนาดนีเสินอวีหยงก็ยงั ไม่ปรากฏตัว
เสินอวีหยงมาแล้ว
ท่านหนิงหย่วนโหวทีกําลังกังวลใจอยูว่ า่ จะจัดการอย่าง
ไรต่อไป พอเห็นเสินอวีหยงมาถึงก็ยงปวดหั
ิ วหนักขึนเป็ น
สองเท่า ขุนนางจงซูเส่อหลางท่านนีเป็ นถึงคนทีฮ่องเต้
โปรดปราน น้องสาวของเขาถูกรังแกเช่นนี จะไม่ให้เดือด
เนือร้อนใจได้อย่างไร
9
คนในจวนหนิงหย่วนโหวจะทําการใดก็ลาํ บาก
10
เจียงหลีแสยะยิมอยูใ่ นใจ เหตุใดถึงเพิงมาน่ะหรือ เวลา
อันมีคา่ เช่นนีก็ตอ้ งเอาไปพบกับองค์หญิงหย่งหนิงอย่าง
ไรเล่า
ไม่ยอมห่างกันแม้เพียงชัวครู ่ ชายนําหญิงก็ติดตาม
11
องค์หญิงหย่งหนิงเข้ามาร่วมเหตุการณ์ในเวลาอัน
เหมาะเจาะ พลันเอ่ยถามด้วยความตกใจว่าเกิดอะไรขึน
เสินอวีหยงพูดปลอบใจเสินหรูอวินอยูไ่ ม่กีประโยคก็ลกุ
ขึนเดินเข้าไปหาโจวเยียนปั งทีกําลังวางตัวไม่ถกู อยูข่ า้ ง
เจียงอวีเอ๋อ
12
ท่านหนิงหย่วนโหวนึกโกรธเคือง แต่จาํ ต้องแสดงท่าที
เสียใจในสิงทีเกิดขึน “เป็ นความผิดของข้าทีไม่สงสอน
ั
ลูกให้ดีจนเกิดเรืองบัดสีเช่นนี ใต้เท้าเสินไม่จาํ เป็ นต้อง
เอ่ยปาก ข้าก็ตอ้ งชดเชยให้กบั น้องสาวของท่านแน่นอน”
เสินอวีหยงออกหน้าปกป้องน้องสาวของตนเองเช่นนี
บรรดาสตรีตระกูลสูงต่างมองด้วยความริษยา กอปรกับ
ใบหน้าอันหล่อเหลา ทําให้หญิงสาวหลายๆ คนมองเขา
อย่างหลงใหล
เดิมทีเจียงหลีไม่อยากจะสนใจ แต่พอได้ยินคนข้างๆ
กล่าวชืนชมเสินอวีหยงก็อดย้อนกลับไปไม่ได้ “หลัก
เกณฑ์ประเมินผูค้ นของท่านกัวกงช่างมาตรฐานตําเสีย
จริง”
“คุณหนูรองไม่ชอบใต้เท้าเสินหรอกรึ” จีเหิงย้อนถาม
“น่าแปลก ใต้เท้าเสินหน้าตาหล่อเหลา สุภาพอ่อนโยน
เหตุใดจึงไม่ถกู ใจเจ้า”
14
เจียงหลียิมอย่างเยือกเย็น “ตายแล้วก็เหลือแค่เถ้า
กระดูกสีขาว มีอะไรให้ชืนชม”
เจียงหลีพลันนึกขึนได้ กัวกงท่านนีไม่ใช่คนทีชอบความ
สวยงามแล้วดูคนจากภายนอกหรอกหรือ นางเองก็ไม่รู ้
ว่าตนจะไปใส่อารมณ์กบั จีเหิงเพืออะไร จึงเสพูดไปอีก
ทาง “ในเมือใต้เท้าเสินหน้าตาดีเช่นนัน ท่านกัวกงก็ควร
พิจารณาเก็บเขาไว้ในจวน ถือเป็ นบุปผางามดอกหนึง”
พูดอย่างกับเสินอวีหยงเป็ นชายขายตัวเสียอย่างนัน
15
นิงเงียบไปนานไม่เห็นจีเหิงตอบโต้ ไม่รูว้ า่ เป็ นเพราะ
สะดุดใจในคําพูดของนางหรือเปล่า เจียงหลีกาํ ลังจะหัน
ไปมอง ก็ได้ยินจีเหิงเอ่ยออกมา “ไม่นกึ ว่าคุณหนูรองจะรู ้
เยอะเช่นนี น่าประหลาดใจนัก”
รูแ้ ม้กระทังเรืองทีหญิงสาวไม่ควรรู ้
16
กริมพลางเอ่ยปาก “ยังจะมีอะไรควรทําอีกเล่า ชือเสียง
ของลูกผูห้ ญิงเป็ นเรืองสําคัญทีสุด คุณหนูเสินก็เป็ นสตรี
ถูกคนข่มเหงรังแกเช่นนี ต่อไปจะให้แต่งงานกับใครได้”
นางกวาดตามองไปทีโจวเยียนปั งซึงกําลังเหม่อลอยแล้ว
หัวเราะเบาๆ “ยังดีทีพวกท่านทังสองบ้านมีฐานะใกล้
เคียงกัน เรืองนีจัดการได้ไม่ยาก ให้ทายาทท่านหนิง
หย่วนโหวแต่งงานกับคุณหนูเสิน ทุกอย่างก็จะกลายเป็ น
เรืองน่าดีใจมิใช่หรือ”
17
บทที 84 อับอายจนแทบแทรกแผ่นดิน
เจียงหลีเก็บมือไว้ในแขนเสือ อดทีจะกําหมัดแน่นไม่ได้
มุมปากยกยิมอย่างเย้ยหยัน
1
เห็นได้ชดั ว่าองค์หญิงหย่งหนิงคิดแทนเสินหรูอวิน นางก็
แค่ช่วยให้เรืองนีสําเร็จเร็วขึน เพือเอาอกเอาใจน้องสาว
ของชายทีตนรัก
เปลือกตาของเสินอวีหยงพลันกระตุกเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้
พูดอะไร
2
เยียนปั งยกเลิกสัญญาแต่งงานไปก่อนหน้านี จีซูหรันคง
จะแค่โมโหเท่านัน แต่สถานการณ์ตรงหน้าเกินขีดจํากัด
ทีจีซูหรันสามารถรับได้
แค่เจียงอวีเอ๋อเพียงคนเดียว จีซูหรันยังสามารถคิดหาวิธี
แก้ไขสถานการณ์ แต่เสินหรูอวินไม่ใช่ตวั ละครทีจะปั ด
ไปให้พน้ ทางได้โดยง่าย ครันจีซูหรันมองสีหน้าของเจียง
หยวนปั วก็รูไ้ ด้วา่ งานแต่งครังนีของเจียงโย่วเหยาคงไม่
อาจเกิดขึน
จีซูหรันเองก็ไม่ตอ้ งการให้เจียงโย่วเหยาแต่งกับโจวเยียน
ปั งเช่นกัน... ผ่านเหตุการณ์นีไป อนาคตของโจวเยียนปั ง
ก็คงเป็ นอันต้องจบสิน ในเวลานีเสินอวีหยงรูส้ กึ ลําบาก
ใจนัก หากเขาทําตามข้อเสนอขององค์หญิงหย่งหนิง ก็
3
เท่ากับปล่อยผ่านเรืองนีง่ายดายเกินไป จนเหมือนตระกู
ลเสินยอมให้คนอืนรังแกได้ง่ายๆ แต่ถา้ ไม่ยอมรับข้อ
เสนอดังกล่าว... เสินหรูอวินจะต้องไม่เข้าใจแน่
เสินหรูอวินผิดหวังนัก นางติดตามเสินอวีหยงกลับไป
อย่างขุ่นเคือง
ไม่นกึ เลยว่าเสินอวีหยงจะไม่ยอมรับความปรารถนาดี
ของนาง ทังยังหักหน้านางอย่างแรง ด้านหนึงองค์หญิง
หย่งหนิงก็ก่นด่าว่าเสินอวีหยงงีเง่าสินดี ส่วนอีกด้านก็
กล่าวโทษโจวเยียนปั งทีก่อเรือง ผ่านไปเพียงครูก่ ็เปลียน
เป็ นโกรธแค้นโจวเยียนปั ง นางจึงส่งยิมอย่างเย็นชาให้
5
กับท่านหนิงหย่วนโหว กล่าวว่า “พฤติกรรมยําแย่จนไม่มี
ชินดี” จบคําก็หมุนตัวเดินจากไป
เจียงหลียกยิมทีมุมปาก
จีเหิงพลันเอ่ยถาม “คุณหนูรองเจียงยิมอะไรรึ”
โหวฮูหยินได้สติก็ข่มโทสะและความตืนตระหนก พลัน
เดินเข้าไปในหออวีซิว แล้วแสร้งทุบตีโจวเยียนปั ง ก่อน
จะหันไปมองเจียงอวีเอ๋อ “วันนีคุณหนูหา้ เจียงก็คงจะ
ตกใจไม่นอ้ ย กลับจวนไปพักผ่อนก่อนเถิด แล้วอีกสอง
สามวันตระกูลโจวจะหาคําอธิบายไปให้”
7
เสินหรูอวินป่ าวประกาศว่าเจียงอวีเอ๋อถูกโจวเยียนปั ง
รังแก แต่เมือตอนทีผูค้ นทังหลายมาพบนางอยูก่ บั โจว
เยียนปั ง กลับไม่เหมือนคนทีโดนข่มเหง แต่คล้ายดังมีใจ
ให้กนั มากกว่า ไม่แน่วา่ ในสายตาของโหวฮูหยินนัน
เจียงอวีเอ๋อคงเป็ นฝ่ ายให้ทา่ โจวเยียนปั งเสียมากกว่า
อีกทังฐานะของเจียงอวีเอ๋อก็ไม่อาจทําให้โหวฮูหยินเกรง
อกเกรงใจ ต่อให้ตอ้ งไว้หน้านาง อย่างมากก็แค่ได้แต่ง
เป็ นอนุของบ้านตระกูลโจว
เจียงอวีเอ๋อฟั งนําเสียงดูแคลนของโหวฮูหยินแล้วให้นอ้ ย
เนือตําใจและอับอายนัก แต่ก็ไม่รูว้ า่ ควรทําเช่นไร
ยามนีนางหยางซือกับเจียงหยวนชิงทุกข์ทนยิง นาง
8
หยางซือบากหน้าเข้าไปประคองเจียงอวีเอ๋อ พูดจากับ
เจียงหยวนปั วอยูส่ องสามคําแล้วรีบจากไป ไม่กล้ามอง
หน้าของจีซูหรันแม้แต่นอ้ ย
เจียงหลีเองก็ตอ้ งกลับจวนเช่นกัน
ส่วนเจียงโย่วเหยานันยังอยากถามโจวเยียนปั งว่าเหตุใด
ถึงทํากับนางแบบนี แต่ก็ถกู จีซูหรันรังตัวเอาไว้แน่น นาง
จําเป็ นต้องปล่อยเรืองนีให้ผา่ นไป ทังทีในใจราวกับตาย
9
ทังเป็ น ชอกชํายิงกว่าโจวเยียนปั งทีถูกจับได้คาหนังคา
เขาเสียอีก
เจียงหลีเดินตามอยูด่ า้ นหลังคนตระกูลเจียงเพือเตรียม
กลับจวน ขณะทีกําลังจะจากไป จู่ๆ ก็นกึ อะไรขึนมาได้
พลันหยุดฝี เท้าแล้วหันกลับไปมอง
10
“มิได้” ในความมืดมิด พัดของจีเหิงส่องประกายวับวาว
เขากล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “คนทีแสดงละครก็คือเจ้า ส่วน
ข้านันเป็ นเพียงผูช้ ม คุณหนูรองอย่าได้เข้าใจผิด”
เจียงหลีองงั
ึ นไปชัวครู ่ รูส้ กึ ท้อใจอยูบ่ า้ ง นางจงใจพูด
เช่นนีเพราะอยากให้จีเหิงคิดว่า เรืองราวทีเกิดขึนเป็ นสิง
ทีพวกเขาสองคนช่วยกันก่อขึนมา หากวันหน้าจีเหิงคิด
จะเปิ ดโปงนาง อย่างน้อยก็ตอ้ งพิจารณาให้ดีเสียก่อน
ใครจะรูว้ า่ คนผูน้ ีไม่ให้ความร่วมมือซํายังระมัดระวัง
ตัวอย่างมาก ฉลาดแกมโกงนัก
รอยยิมของเจียงหลีพลันเลือนหาย ได้แต่พยักหน้ารับ
11
แล้วติดตามคนตระกูลเจียงจากไป
ขากลับ เจียงหลีไม่ได้นงรถม้
ั าคันเดียวกับเจียงโย่วเหยา
ครันถึงจวนแล้วก็ไม่ได้ไปคํานับเจียงหยวนปั วแต่ตรง
กลับเรือนฟั งเฟยทันที วันนีดึกมากแล้ว ไป๋ เสวียกับ
ถงเอ๋อเห็นนางปลอดภัยกลับมาก็เบาใจ เจียงหลีไม่ได้
เล่าให้พวกนางทังสองคนฟั งว่างานเลียงในวังวันนีเกิด
อะไรขึน นางยุง่ วุน่ วายมาทังคืน แล้วยังต้องวุน่ วายวิงไป
วิงมาอยูก่ บั จีเหิง ตอนนีจึงอยากพักผ่อน สําหรับเรือง
12
อืนๆ เก็บไว้คยุ กันวันหลังก็ยงั ไม่สาย
เจียงหยวนปั วนิงงัน
13
“เจ้าคิดจะจัดการอย่างไร” ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเอ่ยถาม
“ลูกคิดว่าคงต้องยกเลิกการแต่งงานระหว่างโย่วเหยากับ
โจวเยียนปั งโดยเร็ว” เจียงหยวนปั วกล่าว “มีเรืองเช่นนี
เกิดขึน โย่วเหยาย่อมไม่อาจแต่งเข้าตระกูลโจว คนอย่าง
โจวเยียนปั งใจไม่ซือ ทังๆ ทีมีสญ
ั ญาหมันหมายอยูก่ บั
โย่วเหยา แต่ยงั ลักลอบมีสมั พันธ์กบั หญิงอืนของตระกูล
เจียง ลูกไม่เชือว่าคนผูน้ ีต่อไปจะสามารถดูแลเจียงโย่ว
เหยาได้”
เจียงหยวนปั วพยักหน้ารับ
เจียงโย่วเหยาบุกเข้ามาได้ก็ดงึ แขนเสือของเจียงหยวน
ปั วรําไห้พลางอ้อนวอน “ท่านพ่อ ลูกไม่อยากยกเลิกงาน
แต่งกับคุณชายโจว”
15
จีซูหรันรีบดึงตัวนางไว้ ในขณะทีฮูหยินผูเ้ ฒ่าเริมขมวด
คิวมุน่ “เหตุใดถึงปล่อยให้นางเข้ามาเช่นนี”
17
บทที 85 ผู้หญิงทีพูดวาจาหยาบคาย
2
ปั งกระมัง”
เจียงโย่วเหยาอึงงันดูเหมือนนางจะเริมคิดได้
การแต่งงานนีนางแย่งมาจากเจียงหลี จัดวางแผนการไว้
อย่างแยบยล ทว่าสุดท้าย กลับเป็ นการปูทางให้ผอู้ ืนได้
ไปครอบครอง
ในใจของเจียงโย่วเหยามีแต่ความผิดหวัง
เจียงหยวนชิงหันมาโขกศีรษะลงกับพืนต่อหน้าเจียง
หยวนปั ว กล่าวว่า “พีใหญ่ น้องสามผิดต่อท่าน ไม่สงั
สอนบุตรให้ดีเป็ นความผิดของบิดา อวีเอ๋อก่อเรืองใน
คราวนี เป็ นเพราะข้ามิได้อบรมนางอย่างเหมาะสม ขอ
ท่านพีโปรดตีขา้ ให้ตาย”
นางหยางซือเองก็ราไห้
ํ กล่าวกับจีซูหรัน “สะใภ้ใหญ่ ข้า
แทบจะไม่มีหน้ามาพบเจ้า ข้ารูว้ า่ คราวนีอวีเอ๋อทําเกิน
ไป แต่วา่ ... อวีเอ๋อเป็ นเลือดเนือเชือไขของข้า เจ้าเองก็
เป็ นแม่คน ข้าไม่รูจ้ ะทําอย่างไรแล้วจริงๆ ได้โปรดปล่อย
อวีเอ๋อไปเถิด เกิดชาติหน้าข้าขอเป็ นวัวเป็ นม้าชดใช้ให้
5
กับเจ้า”
คนทังบ้านนีล้วนมาเพือขอขมา ในชัวพริบตาก็มีเพียง
เสียงรําไห้ดงั ระงมไปทังหวันฟ่ งถาง ไร้ความสงบสุขโดย
สินเชิง
6
จําเป็ นต้องกังวลใจ โย่วเหยาของข้ากับโจวเยียนปั งไม่มี
วันเกียวดองกันได้อีก อวีเอ๋อจะทําอย่างไรต่อ ก็ไม่เกียว
ข้องกับโย่วเหยาทังสิน”
“นังสารเลว” นางกรีดร้องเสียงแหลม
7
บนศีรษะพลันร่วงหล่น เจียงโย่วเหยาหยิบได้ก็กระหนํา
แทงไปไม่ยงั
เจียงอวีเอ๋อทําได้แค่รอ้ งโอดครวญ
เจียงหลีลืมตามองท้องฟ้าด้านนอก อากาศช่างดีเสียจริง
“ตบตีกนั รึ”
9
“คุณหนูสามดุดนั ออกปานนัน ผูช้ นะก็ตอ้ งเป็ นคุณหนู
สามแน่นอนอยูแ่ ล้ว ได้ยินว่าคุณหนูหา้ ถูกคุณหนูสามตี
จนหน้าบวม เสียโฉมไปเลย”
สาวใช้ทงสองไม่
ั ได้ติดตามไปร่วมงานเลียงในวังหลวง
10
จึงไม่รูว้ า่ มีเหตุการณ์แบบนีเกิดขึน เมือถงเอ๋อได้ฟังเรือง
ราวทังหมดแล้วก็เอ่ยอย่างตืนตระหนกว่า “ยังดีทียานัน
ถูกคุณหนูหา้ ดืมเข้าไป หากเป็ นคุณหนูของบ่าว... นีต้อง
เป็ นเพราะฮูหยินทีอยูบ่ นสวรรค์ช่วยปกป้องไม่ให้คณ
ุ หนู
ถูกทําร้าย ขอบคุณสวรรค์...”
เจียงหลีสา่ ยหน้า
11
“เรืองนีข้าก็ไม่มีหลักฐาน อีกอย่างการแต่งงานของเจียง
โย่วเหยาก็ถกู ยกเลิก ท่านพ่อย่อมรูส้ กึ สงสารและเข้าข้าง
นางอยูแ่ ล้ว ต่อให้ขา้ พูดอะไรออกไปก็คงไม่มีใครเชือ ไม่
เป็ นไรหรอก” เจียงหลีกล่าว “แค่การแต่งงานกับโจว
เยียนปั งในครังนีต้องเป็ นโมฆะ ก็ทาํ ให้สองแม่ลกู นัน
กระทบกระเทือนใจมากแล้ว”
โจวเยียนปั งทีดืมจนเมามายได้เห็นเสินหรูอวินแล้วจู่ๆ ก็
ยับยังชังใจไม่ไหวจนล่วงเกินนางอย่างนันหรือรอยยิม
ของเจียงหลีคอ่ ยๆ เลือนหาย
13
อย่างตังอกตังใจ
ทีบ้านตระกูลเสิน
สาวใช้ทงหมดต่
ั างก้มหน้าก้มตาทํางานกันอย่างแข็งขัน
14
ในห้อง เสินหรูอวินกับเสินอวีหยงกําลังโต้เถียงกัน
“เจ้าทําเกินไปแล้ว” เสินอวีหยงกล่าว
เสินอวีหยงมิได้โกรธเคือง เพียงมองเสินหรูอวินแล้วถาม
พร้อมรอยยิม “อย่างนันรึ เป็ นความผิดของเขาหรอก
หรือ”
15
สายตาคมกริบของเสินอวีหยงจับจ้องจนเสินหรูอวินต้อง
หดคอหนีไปชัวครู ่ แต่ก็ยงั กล่าวอย่างดือรัน “เป็ นเช่น
นัน”
16
บังเอิญ พอรูว้ า่ โจวเยียนปั งอยูท่ ีใดก็ใคร่ครวญหลาย
ตลบ สุดท้ายก็ข่มความคิดถึงเอาไว้ไม่อยู่ จึงตามไปพบ
เขาทีหออวีซิว ด้วยหมายจะ ‘บังเอิญ’ ได้พบกับโจวเยียน
ปั ง อย่างน้อยแค่มีโอกาสพูดคุยกันสักหน ให้เขาจดจํา
และรูว้ า่ นางมีตวั ตน มิใช่คนแปลกหน้า
มาจนถึงตอนนี เสินหรูอวินยังพอใจในสิงทีตนทํา
ตอนผลักประตูหออวีซิวเข้าไป แล้วเห็นเจียงอวีเอ๋อกับ
โจวเยียนปั งกําลังเคล้าคลอกันอยูน่ นั เพลิงแค้นไฟริษยา
พลันปะทุขนสุ
ึ มทรวง แรกทีเดียว เสินหรูอวินคิดจะวิง
ออกไปป่ าวประกาศเรืองฉาวโฉ่นีต่อสาธารณชนโดยไม่
ลังเล เพือแก้แค้นบุรุษทีทําร้ายจิตใจนางผูน้ ีและสตรีทีไม่
รูจ้ กั ยางอายให้สาสม
17
บทที 86 ไม่มหี นทางอืนงันรึ
แต่หลังจากทีเสินหรูอวินรวบรวมความกล้าเอ่ยถามออก
ไป โจวเยียนปั งกลับไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ดูเหมือนเขา
จะไม่ได้ยิน
1
เสินหรูอวินจึงเงยหน้ามอง ทว่าสีหน้าทีปรากฏแก่สาย
ตากลับอยูใ่ นสภาพงุนงงราวกับคนเมาอย่างไรอย่างนัน
อีกทังหน้ายังแดงกําจนผิดปกติ
เสินหรูอวินพลันนึกถึงคําบอกเล่าของเจียงหลีทีกล่าวว่า
โจวเยียนปั งเมามายจนต้องปลีกตัวไปพักผ่อนสักครู ่ นึก
ถึงเรืองนีแล้วก็มีความคิดหนึงวาบขึนมา หากโจวเยียน
ปั งขาดสติเพราะฤทธิสุราจนกระทําเรืองเหล่านันเล่า
ครันนางขยับเข้าไปใกล้แล้วฝื นความเกลียดชังมองไป
ทางเจียงอวีเอ๋อ ก็พบว่าอีกฝ่ ายนันมีทา่ ทางสับสนเลือน
ลอยคล้ายกับโจวเยียนปั ง
2
แต่คนเมาสุราไม่ควรตกอยูใ่ นสภาพเช่นนีนี
เสินหรูอวินคลับคล้ายคลับคลาเหมือนคุน้ เคยกับภาพ
เหตุการณ์ตรงหน้า เหมือนเคยเห็นทีไหนมาก่อน กระทัง
นางมองไปทีมุมห้องแล้วเห็นธูปหอมซึงถูกจุดไปครึง
ดอก ส่วนอีกครึงกลายเป็ นกองขีเถ้าทีร่วงหล่นอยูบ่ นพืน
เสินหรูอวินกระจ่างแจ้งขึนมาในทันที
3
แทบจะอยูใ่ นสภาพเดียวกันไม่มีผิด
ทังสองต่างเลือนลอยไม่ได้สติ ทังยังมีธูปหอมมาเกียว
ข้อง
หากว่าเสินหรูอวินไม่เคยผ่านเหตุการณ์ของเซวียฟั งเฟย
มาก่อน ลําพังมันสมองทีไม่ชาญฉลาดนักของนางคงไม่
สามารถล่วงรูถ้ งึ สาเหตุอย่างแน่นอน แต่เป็ นเพราะมี
ประสบการณ์ เสินหรูอวินจึงพอจะคาดเดาสาเหตุได้
4
โจวเยียนปั งกับเจียงอวีเอ๋อถูกคนวางแผนเล่นงานเข้า
แล้ว
ต้องเข้าใจว่าด้วยฐานะของเจียงอวีเอ๋อ หากนางอยาก
5
แต่งกับบุตรชายตระกูลขุนนางนันยังพอเป็ นไปได้ แต่ถา้
คิดจะแต่งเข้าไปเป็ นอนุภรรยาของทายาทท่านหนิง
หย่วนโหวกลับทําได้ยากยิง
เดิมทีนางแค่จินตนาการเรืองนีในใจเท่านัน แต่พอครุน่
คิดจนเป็ นรูปเป็ นร่าง เสินหรูอวินก็ถงึ กับตกตะลึง
ในเหตุการณ์นี เสินหรูอวินนําสติปัญญาและความ
สามารถทีมีอยูท่ งชี
ั วิตมาใช้จนหมดสิน จึงได้เรียบเรียง
เรืองราวการถูกรังแกขึนมา เมือเป็ นเช่นนัน นางก็จะ
กลายเป็ นผูร้ บั เคราะห์ทีทุกฝ่ ายให้ความสงสาร โดยมี
ความสัมพันธ์ทีถูกโจวเยียนปั งล่วงเกินมาทําให้เขาต้อง
รับผิดชอบ
เสินหรูอวินชิงชังคนตระกูลเจียงนัก จึงอดทีจะเย้ยหยัน
ไม่ได้ “คําก็คนตระกูลเจียง สองคําก็คนตระกูลเจียง
9
ท่านเห็นแก่คนตระกูลเจียงเท่านันหรือ จะว่าไป ท่านก็
เอาแต่กงั วลกับตําแหน่งขุนนางของตน ตอนนีองค์หญิง
หย่งหนิงก็เป็ นเหมือนคนของตระกูลเสินแล้ว เหตุใดท่าน
ยังต้องเกรงกลัวคนตระกูลเจียงอีก ท่าน...”
เสินอวีหยงตบหน้านาง
เสินหรูอวินถูกตบตัวเอียงจนเกือบจะล้ม เห็นเพียงใบ
หน้าแดงกําของเสินอวีหยงและมืออันสันระริก ขณะมอง
นางด้วยสายตาหม่นหมองพลางกล่าว “ระวังคําพูดของ
10
เจ้าด้วย”
เสินหรูอวินตกใจจนลืมรําไห้ครําครวญ
เสินหรูอวินแอบกระหยิมยิมย่องในใจ แสร้งกล่าวเจือ
สะอืน “พีใหญ่อย่าหลอกข้านะ...”
13
ณ จวนของท่านหนิงหย่วนโหวในเวลานี มีเสียงร้องห่ม
ร้องไห้ของสตรีดงั มาจากห้องโถง
โหวฮูหยินมิอาจห้ามปราม จําต้องนังมองสามีลงโทษ
14
บุตรชาย กระทังเหนือยจนต้องโยนแส้ทิง ขุนนางใหญ่สง่
เสียงคํารามอย่างโกรธขึงแล้วเดินจากไปโดยไม่หนั กลับ
มามอง
โหวฮูหยินรีบเข้าไปประคองบุตรชาย พลางขู่ตะคอกบ่าว
รับใช้ “รีบไปเชิญหมอมาเร็วเข้า”
ท่านหมอมาถึงอย่างรวดเร็ว โหวฮูหยินเรียกให้คนเอายา
ไปต้มในครัว แล้วก็ทายาบนหลังโจวเยียนปั งด้วยตัวเอง
15
นําตาของโหวฮูหยินพลันร่วงหล่นลงบนหลังมือ ใจนึก
อยากทุบตีโจวเยียนปั งแต่ก็ทาํ ไม่ลง ได้แต่กล่าวตัดพ้อ
“นีเจ้าทําอะไรลงไป”
โจวเยียนปั งพูดไม่ออก
โหวฮูหยินยังกล่าวอีกว่า “หากเจ้ามีความสัมพันธ์กบั
เจียงอวีเอ๋อเพียงคนเดียวก็ยงั พอทําเนา อย่างไรเสียนาง
ก็เป็ นแค่ลกู หลานฝังอนุ แต่อยูด่ ีไม่วา่ ดีไยต้องไปยุง่ เกียว
กับเสินหรูอวิน นางเป็ นถึงน้องสาวของท่านจงซูเส่อหลา
16
ง เจ้าไปมีเรืองกับคนตระกูลเสิน ฮ่องเต้ยอ่ มไม่พอ
พระทัย บิดาของเจ้าถึงได้โมโหเพียงนี”
1
โจวเยียนปั งพลันได้สติ ชายหนุ่มกล่าวอย่างเลือนลอย
“ไม่มีอะไร” ภายนอกเป็ นเช่นนัน แต่กลับไม่สามารถทํา
ใจให้สงบลงได้ ครันคิดต่อก็จาํ ได้วา่ ตอนทีเสินหรูอวิน
ร้องแรกแหกกระเชอให้ผคู้ นมามุงดู เจียงหลีก็ยืนอยูท่ า่ ม
กลางฝูงชนด้วย สายตาของนางทีจับจ้องมา กลับไม่มี
อาการตืนตระหนกแม้แต่นอ้ ย
นางรูม้ าตังแต่ตน้
ราวกับมีนาเย็
ํ นเฉียบราดรดศีรษะ ร่างของโจวเยียนปั ง
สันสะท้าน เปลวเพลิงแห่งโทสะพลันลุกโชน
2
สภาพอเนจอนาถของเขาอย่างเย็นชา
ความโกรธแค้นอัดแน่นอยูใ่ นใจของโจวเยียนปั ง
ต่อให้เขาจะโง่เขลาปานใดก็พอจะรูว้ า่ ผ่านพ้นเรืองคืน
นันอนาคตของเขาย่อมพินาศยับเยิน ทําให้ฮ่องเต้หง
เซียวไม่พอพระทัยเขายังจะมีโอกาสได้แสดงความ
สามารถในหน้าทีการงานต่อไปอีกหรือ
ทังหมด ต้องขอบคุณเจียงอวีเอ๋อกับเจียงหลี
โจวเยียนปั งโกรธเคืองเจียงอวีเอ๋อและยิงเคียดแค้นเจียง
หลี อีกฝ่ ายไม่มาตามนัดหมายก็แล้วไปเถิด แต่กลับใช้
3
วิธีดถู กู กันเช่นนี นางไม่เห็นความจริงใจของเขาซํายัง
สลัดทิงอย่างไม่ไยดี แล้วใช้วิธีการเช่นนีมาทําลาย
อนาคตในหน้าทีการงาน
ช่างเป็ นสตรีทีใจดําอํามหิตนัก
4
โหวฮูหยินอึงงันครูห่ นึงจึงส่ายหน้า “วันนีตระกูลเจียงส่ง
คนมาทีนีแต่เช้า เรืองการแต่งงานกับเจียงโย่วเหยา เจ้า
จงถือเสียว่าไม่เคยตกลงกัน”
5
การแต่งระหว่างเขากับเจียงหลี ตอนนีเจียงโย่วเหยาถูก
กันออกไป ก็เท่ากับว่าทุกอย่างย้อนคืนสูจ่ ดุ เริมต้น
แต่เรืองราวระหว่างเขากับตระกูลเจียง ดูเหมือนยังตัด
กันไม่ขาด
6
ทีจวนหนิงหย่วนโหวหารือกันอย่างไร ณ สวนของบ้าน
สายสามแห่งจวนตระกูลเจียง นางหยางซือก็กาํ ลังถก
เถียงกับเจียงหยวนชิงถึงเรืองของเจียงอวีเอ๋อแบบนัน
7
ไม่พน้ ต้องเจริญรอยตามข้า คือเป็ นได้แค่ลกู อนุ”
“แล้วท่านจะทําอย่างไร” นางหยางซือเริมสงบอารมณ์ลง
มาบ้าง ได้แต่กล่าวอย่างสินหวัง “ฐานะของอวีเอ๋อ ทําได้
แค่แต่งเข้าไปเป็ นอนุในจวนหนิงหย่วนโหว ผูค้ นในเมือง
เยียนจิงต่างก็รูว้ า่ อวีเอ๋อมีความสัมพันธ์กบั โจวเยียนปั ง
ถึงขันนีแล้วยังจะมีใครอยากแต่งงานกับนางอีก จะให้อวี
เอ๋อเป็ นสาวเทืออยูแ่ ต่ในเรือนไปจนตาย หรือท่านจะให้
นางโกนหัวบวชชีตลอดชีวิตเสียเลย” หยางซือพึมพํา “ข้า
มิได้สงสอนลู
ั กสาวให้ดีก็จริง แต่ถา้ ท่านไม่ได้เป็ นแค่
8
เสียวผิน หากคนทีเกิดเรืองไม่ใช่อวีเอ๋อแต่เป็ นลูกสาว
ของบ้านสายหลัก ผลลัพธ์ทีออกมาย่อมไม่เป็ นเช่นนี”
เจียงหยวนชิงเหมือนถูกสายฟ้าฟาด พลันเซถอยหลังไป
สองก้าว
ในตอนนัน เจียงอวีเอ๋อก็วิงผลุนผลันเข้ามาคุกเข่าลง
แทบพืน นางรําไห้พลางกล่าวกับเจียงหยวนชิง “ท่านพ่อ
ลูกไม่อยากเป็ นสาวเทือ แล้วก็ไม่อยากอยูแ่ ต่ในวัดไป
ตลอดชีวิต ไหนๆ เรืองก็เลยเถิดมาถึงขันนี หากไม่แต่ง
กับโจวเยียนปั งลูกก็ไม่มีทางเลือกอืน ท่านพ่อ ท่านจะ
บีบบังคับให้ลกู จนตรอกเชียวหรือเจ้าคะ”
9
เห็นลูกเมียเป็ นเช่นนี เจียงหยวนชิงก็ได้แต่คิดถึงสถานะ
ของตนอีกครัง สีหน้าค่อยๆ กลับมาเป็ นปกติ ไม่มีเรียว
แรงจะสูร้ บปรบมืออีกต่อไป ได้แต่เผยอริมฝี ปากเล็กน้อย
สุดท้ายก็หลับตาลง เงียบงันอยูน่ านจึงเอ่ยว่า “ตามใจ”
เรืองนีจึงได้ขอ้ สรุปเสียที
10
ของโจวเยียนปั งแห่งจวนหนิงหย่วนโหวก็กาํ ลังพุง่ แรง
เรืองบัดสีคราวนัน สามารถใช้การแต่งงานของโจวเยียน
ปั งมาแก้สถานการณ์ได้
โจวเยียนปั งจะแต่งเสินหรูอวิน--คุณหนูตระกูลเสินเป็ น
ภรรยาเอก ขณะเดียวกันก็จะแต่งคุณหนูหา้ เจียงเข้าเป็ น
อนุภรรยา
11
ณ เรือนฟั งเฟย ถงเอ๋อกําลังนังถักไหมพรมอยูท่ ีเก้าอี
หน้าห้องกับไป๋ เสวีย
เจียงโย่วเหยาถูกสังห้ามออกนอกจวน
12
เจียงหลีคิดว่า การทีฮูหยินผูเ้ ฒ่าสังห้ามเจียงโย่วเหยา
ออกจากจวน ผิวเผินอาจดูเหมือนเป็ นการลงโทษเจียง
โย่วเหยาทีทําร้ายเจียงอวีเอ๋อ แต่แท้จริงแล้ว ฮูหยินผู้
เฒ่าเกรงว่าเจียงโย่วเหยายังไม่สามารถตัดใจจากโจว
เยียนปั งจนทําเรืองโง่เขลา ถึงได้ตดั หนทางของนางเสีย
มากกว่า
เจียงอวีเอ๋อถูกส่งไปรักษาตัวในหมูบ่ า้ น ทังยังหาฤกษ์
13
ยามเพือแต่งเข้าจวนหนิงหย่วนโหวเป็ นทีเรียบร้อย
เสินหรูอวินเองก็สมความปรารถนา ได้แต่งกับโจวเยียน
ปั ง ชายทีตนแอบหมายปองมานาน
พอคิดถึงเรืองวุน่ ๆ ทีจะเกิดขึนต่อไปในจวนหนิงหย่วน
โหว เจียงหลีก็อดขําไม่ได้ ขณะกําลังนึกภาพตามอยูน่ นั
ก็ได้ยินเสียงของชายหนุ่มพลันดังขึน “เจ้ากําลังคิดเรือง
ความรักอยูห่ รือ”
14
นางพลางรุดเข้ามา “คุณหนูรองของจวนเราหมายปอง
ลูกหลานบ้านไหนเอาไว้หรือ คุณชายอย่างข้าจะช่วยดู
ให้เจ้าเอง”
“เจ้ามาทีนีมีธุระอะไรกันแน่” เจียงหลีถาม
“อีกสามวันก็จะถึงเทศกาลจงหยวนเจีย*แล้ว ตกกลาง
คืนมีงานแสดงโคมไฟ เจ้าอยากไปดูหรือไม่” เจียงจิงรุย่
พูดเป็ นคุง้ เป็ นแคว
เจียงหลีได้ฟังก็ตอบเพียงว่า “ไม่”
17
บทที 88 ค้นหาเขาคนนันท่ามกลางฝูงชน
ในห้อง เจียงหลีหลบมานังริมหน้าต่าง
1
ท่ามกลางพุม่ ใบเขียวชอุม่ มีกยุ้ ฮัวดอกเล็กๆ สีเหลือง
อําพันแซมประดับ แล้วเทศกาลจงหยวนเจียก็เวียนมา
บรรจบอีกครัง เจียงหลีนงคิ
ั ดเงียบๆ
นางนึกย้อนถึงตอนทีเพิงมาเยือนเมืองเยียนจิงกับเสินอ
วีหยงเป็ นครังแรก พวกเขาทังสองอยูฉ่ ลองเทศกาลจง
หยวนเจียด้วยกัน ครันนางคิดถึงบิดาและเซวียเจาซึงอยู่
ทีบ้านเกิดอันห่างไกลก็รูส้ กึ โศกเศร้า เสินอวีหยงจึงจูงมือ
นางแล้วกล่าวว่า ‘นับแต่นีไป ทีนีก็คือบ้านของเจ้า งาน
แสดงโคมไฟในเทศกาลจงหยวนเจียของเมืองเยียนจิง
นันไม่ดอ้ ยไปกว่าทีถงเซียง ทุกปี จากนีข้าจะพาเจ้ามา
เทียวชม เจ้าจะต้องชอบทีนีแน่’
2
ไม่เหมือนกับถงเซียง เมืองเยียนจิงมีผคู้ นคึกคัก การเล่น
ทายปริศนาทีคนขายติดไว้กบั โคมไฟก็เอาชนะได้ง่าย
ดายนัก นางกับเสินอวีหยงตอบได้ทกุ ข้อจนมือไม่พอจะ
หอบหิว ต้องแบ่งโคมไฟยกให้กบั เด็กๆ ทีพบตามราย
ทาง
เจียงจิงรุย่ อยากให้นางออกไปดูโคมไฟในเทศกาลจง
หยวนเจีย แต่เจียงหลีเข็ดขยาดเสียแล้ว นางกลัวว่า
หากออกจากบ้านแล้วจะนึกถึงความทรงจําเก่าๆ เห็นแต่
เรืองราวในอดีตทีผ่านมา
4
ไม่เคยเกิดขึน
นางไม่ยอมหาเรืองเดือดร้อนใส่ตวั แน่
เย่ซือเจียพลันลุกขึนยืนแล้วหันกลับไปมอง สีหน้าฉาย
แววปี ติยินดี “ท่านอารอง”
5
ผูม้ าใหม่เป็ นชายวัยกลางคนทีรูปร่างค่อนข้างผอม สวม
หมวกขนนกกับอาภรณ์สีขาว ดูแล้วคล้ายกับบัณฑิต
แววตาแฝงความฉลาดแกมโกง เขาปิ ดประตูแล้วรีบสาว
เท้าเข้ามา ขณะเดียวกันปากก็รอ้ งทัก “ซือเจีย เจ้านีเก่ง
ไม่เบา”
6
เย่ซือเจียมองไปยังด้านหลังของเย่หมิงเซียน ครันไม่เห็น
ว่ามีผใู้ ดติดตามก็ถามด้วยความกังขา “ท่านอารอง เหตุ
ใดถึงมีแต่ทา่ นเพียงลําพัง แล้วท่านพ่อของหลานเล่า”
7
“ไม่ใช่เรืองใหญ่” เย่หมิงเซียนตบศีรษะเย่ซือเจียเบาๆ
“ครังนีข้านําเงินมาให้เจ้า แล้วก็มาติดต่อทําการค้าใน
เมืองเยียนจิง ตอนนีเจ้าเป็ นขุนนางแล้ว ย่อมมีเรืองให้ใช้
จ่ายอีกมาก แม้เงินทองจะไม่สามารถซือหาทุกอย่างได้
แต่เรืองทีสมควรจับจ่าย บ้านเราก็ใช่วา่ จะขัดสน”
เย่ซือเจียใคร่ครวญแล้วกล่าวกับเย่หมิงเซียน “ท่านอา
รอง ท่านยังจําท่านอาเล็กได้หรือไม่”
เย่หมิงเซียนมองเย่ซือเจียอย่างอึงงัน
9
เย่ซือเจียประเมินสีหน้าของเย่หมิงเซียน แล้วกล่าวอย่าง
ระมัดระวัง “ก่อนหน้านี หลานได้พบกับบุตรีของอา
เล็ก... ญาติผนู้ อ้ งคนนัน”
“เจียงหลีร”ึ
10
นําชาบนโต๊ะเข้าไปอึกใหญ่ “ท่านอารอง ท่านคิดว่าเจียง
หลีทาํ แบบนีมีจดุ ประสงค์อะไร ต้องการกลับมาคืนดีกบั
ตระกูลเย่ของพวกเราอย่างนันหรือ แต่ในอดีตนางเคย
ลันวาจาว่าจะไม่ยงุ่ เกียวกับตระกูลค้าขาย ตอนนีหลาน
มาคิดดูก็ยงไม่
ิ เข้าใจ”
เย่หมิงเซียนฟั งความจากเย่ซือเจียจบก็ไม่ได้ตอบคําถาม
ในทันที เขาครุน่ คิดอย่างถีถ้วน แล้วจึงกล่าวว่า “ทีเจ้า
เล่ามานี ข้าเข้าใจแล้ว เรืองใดก็ตามไม่อาจฟั งความแค่
ข้างเดียวได้ ใช่วา่ ข้าจะไม่เชือคําของเจียงหลี เพียงแต่ขา้
ไม่ไว้ใจคนตระกูลเจียง กลัวว่าเรืองของนางจะมีคน
ตระกูลเจียงคอยบงการอยูเ่ บืองหลัง แม้วา่ ตระกูลของ
เราจะไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรให้กอบโกย แต่ก็ตอ้ งปก
ป้องตัวเองไว้บา้ ง” เย่หมิงเซียนเคาะโต๊ะกล่าว “เอาอย่าง
11
นีก็แล้วกัน ข้าจะหาโอกาสพบเจียงหลีสกั ครัง”
12
ยังน้อย อาจถูกคนทําให้หวาดกลัวได้” เย่ซือเจียอดช่วย
แก้ตา่ งไม่ได้
ณ จวนซูก่ วกง
ั
จวนกัวกงแทบจะไม่เคยปรากฏภาพบุปผาร่วงหล่นใน
ฤดูใบไม้รว่ งและฤดูหนาว ท่านซูก่ วกงปลู
ั กดอกไม้ไว้เต็ม
จวน มวลบุปผาจึงผลิสะพรังทังสีฤดู ดอกท้อไม่บานใน
ฤดูใบไม้รว่ งก็ยงั มีดอกเก๊กฮวย ดอกบัวไม่บานในฤดู
หนาวก็ยงั มีดอกเหมยแดง
14
ผูค้ นในจวนกัวกง ตังแต่พอ่ บ้านไปจนถึงคนงานล้างส้วม
ล้วนมีฝีมือในการดูแลพรรณไม้ หากคนทัวไปทีไม่รูจ้ กั วิธี
การปลูกชํา ลองได้ไปนังทีหน้าประตูจวนซูก่ วกงในตอน
ั
เช้า รอให้เด็กรับใช้เปิ ดประตูออกมาแล้วขอคําปรึกษา
รับรองว่าจะต้องได้รบั คําตอบทีน่าพอใจ
ถ้าถามคนทัวไปว่าทัศนียภาพใดงดงามทีสุดในเมือง
เยียนจิง คําตอบทีได้จะไม่ใช่เขาไป๋ อวิน ไม่ใช่วดั เต๋า ไม่
ใช่เรือสําราญ หรือแม้กระทังวังหลวง แต่เป็ นทีจวนกัวกง
เคหสถานทีเก็บรวบรวมสีสนั อันงดงามของโลกมาจัด
วางไว้ในจุดเดียวกัน งดงามแตกต่างจากทีพบเห็นได้ทวั
ไป มีคนเคยกล่าวว่า หากไม่ใช่เพราะท่านซูก่ วกงเป็
ั นคน
อารมณ์แปรปรวนง่ายจนไม่มีใครกล้าตอแย เกรงว่าฝูง
15
ชนคงมาแอบดูสวนดอกไม้ของจวนกัวกงจนกําแพงถล่ม
ลงมา
ข่งลิวตบโต๊ะเสียงดังพลางกล่าว “งานแสดงโคมไฟทีจะ
จัดขึนในเทศกาลจงหยวนเจียในวันพรุง่ นี เจ้าจะไปหรือ
16
ไม่”
17
บทที 89 น่าเสียดายจริงๆ
1
จงหยวนเจีย เทศกาลจงหยวนเจียเชียวนะ จีเหิง ท่านกัว
กง นายท่านของข้า โปรดมีความเป็ นคนบ้างได้ไหม แม้
แต่ขอทานก็ยงั ต้องพักผ่อนนะขอรับ”
2
หน้าผากจึงมีเม็ดเหงือผุดพราย บนศีรษะยังมีเศษ
ดอกไม้ติดอยู่ หนังตาลูจ่ ีกระตุกอย่างยากจะระงับ เขา
พอจะมองออกว่าดอกไม้นนคื
ั อ ‘ทะเลหิมะหอม’ ทีเมือ
คราวก่อนจีเหิงซือมาด้วยเงินถึงหนึงพันตําลึง
กลีบดอกไม้พวกนีก็คงมีราคาราวๆ หนึงร้อยตําลึงเห็น
จะได้
“วันพรุง่ นีพวกเจ้าจะไปร่วมงานแสดงโคมไฟของ
เทศกาลจงหยวนเจียหรือไม่” ท่านแม่ทพั ผูเ้ ฒ่าเอ่ยเสียง
หนักแน่นดังกังวานพลางมองจีเหิง นัยน์ตาฉายแวว
อาวรณ์ “เดิมทีขา้ หวังให้เจ้าอยูเ่ ป็ นเพือนฝึ กเพลงกระบี
แต่ได้ยินพวกเจ้าคุยกันเรืองงานแสดงโคมไฟ น่าเสียดาย
นัก”
3
ขณะทีข่งลิวกําลังจะปฏิเสธว่า ‘อย่าเสียดายเลย จีเหิงไม่
คิดจะไป’ ก็ได้ยินเสียงเศร้าสร้อยของจีเหิงเอ่ยว่า “น่า
เสียดายจริงๆ”
วันนีก็เหมือนปกติทวไป
ั อย่างมากคนในจวนตระกูล
4
เจียงก็จะมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน กล่าวว่า
‘พร้อมหน้าพร้อมตา’ ก็ไม่คอ่ ยจะถูกนัก เพราะเจียงอวี
เอ๋อถูกส่งไปชนบทเพือ ‘รักษาตัว’
ในทีสุดเจียงโย่วเหยาก็รูแ้ ล้วว่าเรืองนีไม่มีทางเปลียน
แปลงได้ ในเวลาไม่ถงึ หนึงเดือนนางซูบผอมลงไปมาก
เมือเป็ นเช่นนีเจียงหยวนปั วก็ยงสงสารจั
ิ บใจ ระหว่างมือ
อาหาร ท่าทีของเจียงหยวนปั วทีมีตอ่ จีซูหรันจึงอ่อนโยน
ขึน
เจียงโย่วเหยาไม่ยอมออกไปไหน แค่คิดถึงเรืองทีผูค้ น
ด้านนอกจะมองนางด้วยสายตาเวทนา เจียงโย่วเหยาก็
รูส้ กึ น้อยเนือตําใจแล้ว สูไ้ ม่รบั รูแ้ ล้วอยูแ่ ต่ในบ้านเสียยัง
ดีกว่า
เจียงหยวนผิงทีอยูอ่ ีกด้านพลันกระแอมขึนมา
“หลีเอ๋อกับหยวนผิง สองคนอาหลานไปเดินเทียวด้วย
กันเถิด” จู่ๆ ฮูหยินผูเ้ ฒ่าก็ออกความเห็น “ปี นีหลีเอ๋อเพิง
กลับเข้าเมืองเยียนจิง งานแสดงโคมไฟเทศกาลจงหยวน
7
เจียนันน่าตืนตาตืนใจยิง ช่วงไม่กีวันมานีหยวนผิงเองก็
เหนือยมามาก ไปพักผ่อนเสียบ้างเถิด”
เห็นบุตรชายคนโตยังคงห่วงใยแต่จีซูหรันสองแม่ลกู
8
เหมือนคนโง่เขลาไร้วิสยั ทัศน์ ฮูหยินผูเ้ ฒ่าก็ได้แต่ถอนใจ
แล้วส่ายหน้า ครันกินข้าวเสร็จก็จากไปทันที
9
โอกาสเทียวงานแสดงโคมไฟเป็ นครังแรก ต่างส่งเสียง
อุทานอย่างตืนตาตืนใจ อยูเ่ ป็ นระยะ เจียงจิงรุย่ เดิน
เคียงไปกับเจียงหลี “ทําไมเจ้าดูเหมือนไม่แปลกใจเลย
สักนิด”
เจียงหลีมีสีหน้าสงบนิง ถึงขันเรียกว่าไม่แยแสเสียด้วย
ซํา แสงอบอุน่ จากโคมไฟไม่อาจทําให้ใบหน้าของนางมี
รอยยิมได้ ทว่าความงดงามอันโดดเดียวเช่นนีก็สามารถ
ดึงดูดบรรดาคุณชายจํานวนไม่นอ้ ยทีออกมาเทียวชม
งาน ตลอดทางหากนับเฉพาะคุณชายทีแอบมองเจียง
หลีก็มีไม่ตากว่
ํ าเจ็ดแปดคนแล้ว
ตามท้องถนนในเมืองเยียนจิง เหลาสุราโรงนําชาต่างๆ
ล้วนประดับประดาโคมไฟหลากหลายรูปแบบ มีทงโคม
ั
10
ไฟทรงหกเหลียมและโคมไฟแบบมีทีตัง พอเห็นโคมไฟที
ทําเป็ นรูปกระต่าย เจียงจิงรุย่ เห็นแล้วก็ไม่อาจทําใจเดิน
ผ่านไป ตังใจจะซือมาเก็บไว้สกั อัน ทว่าเจ้าของร้านเป็ น
คนหัวรัน อย่างไรก็ไม่ยอมขายโคมอันนี ยกเว้นเสียแต่วา่
มีผทู้ ีสามารถทายปริศนาบนโคมได้ ถึงจะยอมมอบให้
เป็ นของรางวัล
เดิมทีเจียงหลีคิดจะปฏิเสธ แต่พอได้ยินคําพูดประโยค
สุดท้ายของเขาก็ชะงักฝี เท้าลงในฉับพลัน แล้วหันมอง
11
เจียงจิงรุย่ ทีติดอกติดใจโคมไฟนีเป็ นอย่างมาก
ช่างทําโคมไฟอันนีนับว่ามีฝีมือ โคมไฟรูปสัตว์ปกติก็มี
ขันตอนรังสรรค์อนั ยุง่ ยาก แต่ช่างฝี มือผูน้ ีกลับประดิษฐ์
ออกมาได้ราวกับมีชีวิต ทีตัวกระต่ายใช้ผา้ สีขาวพันอยู่
โดยรอบ ภายในทําจากโครงไม้ไผ่ มีหยู าวๆ สีขาวอม
ชมพูคหู่ นึง ยังใช้เมล็ดถัวแดงทําเป็ นดวงตา ยามโคมไฟ
แกว่งไกว ดวงตาของกระต่ายก็เหมือนกับมีชีวิต คล้าย
จะสามารถกระโดดหนีออกไปได้อย่างไรอย่างนัน
นับว่าเป็ นโคมไฟทีงดงามอันหนึง
12
เดิมทีปรากฏบนใบหน้าเจียงหลีพลันแข็งกระด้าง
เพียงพริบตา เจียงหลีก็ราวกับได้ยินเสียงทีเต็มไปด้วย
ความรูส้ กึ นันอีกครังทีข้างหู ‘อักษรเหล่านี ก็เหมือนกับ
ความรูส้ กึ ของข้าทีมีตอ่ เจ้า’
เรืองราวในอดีตทีเคยผ่านพ้น กลับลอยวนมาอยูต่ รง
หน้า เจียงหลีชกั มือกลับด้วยความปวดร้าว
14
รูส้ กึ ยําแย่นกั
ท่ามกลางกลุม่ คน เจียงหลีเยืองย่างอย่างเชืองช้า
เจียงหลีไม่กลัวแม้แต่นอ้ ย นางจดจําเส้นทางในเมือง
เยียนจิงได้ดี ทังยังสังเกตทีตังของจุดรักษาความ
ปลอดภัยประจําเมืองทีใกล้ทีสุดไว้ หากมีปัญหาอะไรก็
สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว
15
นางไม่อยากตามหานางหลูซือหรือเจียงจิงรุย่ ด้วยรูส้ กึ
ว่าช่วงเวลาแบบนีช่างมีคา่ สามารถละวางการเป็ น
‘เจียงหลี’ ได้อยูต่ ามลําพังสักพักก็ดีเหมือนกัน
ในฝูงชนตอนนีมองไม่เห็นเงาของเจียงจิงรุย่ และคนอืนๆ
ถงเอ๋อพลันเอ่ย “คุณหนู พวกเรากลับไปหาพวกนาย
ท่านรองดีไหมเจ้าคะ เดียวหาทางกลับจวนไม่ถกู แล้วจะ
ลําบาก”
16
เจียงหลีทอดถอนใจ กล่าวว่า “มีเหตุผล” ขณะทีกําลังจะ
ออกไปตามหากลุม่ ของนางหลูซือ พลันเหลือบไปเห็น
ใครคนหนึงซึงอยูไ่ ม่ไกล “เย่ซือเจียรึ”
17
บทที 90 ข้าสูงวัยรึ
ชันบนสุดของหอวังเซียน ข่งลิวกําลังตังหน้าจับตามอง
ฝูงชนด้านล่างทีเดินกันขวักไขว่ ความจริงเขาไม่ได้ชืน
ชอบการชมบุปผาทัศนาโคมไฟอะไรทํานองนี ด้วยรูส้ กึ
ว่าแสงสีวิบวับนันลายตา แต่เมือเทียบกับการนังทํา
งานอยูใ่ นจวนกัวกง เทศกาลอันรืนเริงนีย่อมน่าสนใจ
1
กว่ามาก อีกทังท่ามกลางความครึกครืนยังมีหญิง
งามมากหน้าหลายตาเข้ามาแต่งแต้มสีสนั ให้กบั คําคืนนี
เพียงแต่ราตรีนี ท่ามกลางโฉมสะคราญทีข่งลิวกําลังเฝ้า
มอง พลันปรากฏเงาร่างทีคุน้ เคย “เอ๊ะ คุณหนูรองเจียง”
ข่งลิวลุกขึนยืนแล้วร้องเรียกจีเหิง “รีบมาดูเร็วเข้า เหตุใด
คุณหนูรองเจียงถึงมาเดินเทียวเพียงลําพัง รอบกายไม่มี
คนตระกูลเจียงเลยสักคน นีนางแอบหนีออกมารึ”
2
“พลัดหลงรึ” คิวของข่งลิวขมวดมุน่ “ข้างนอกผูค้ นคับคัง
ทุกปี จะมีสตรีถกู คนร้ายลักพาตัว หญิงสาวทีงดงามราว
บุปผา ผิวพรรณดุจหยกเนือดีแบบนาง ยากทีจะเล็ดลอด
สายตาใครไปได้ หากเกิดเรืองคงไม่ดีแน่”
“ข้าก็จะส่งนางกลับไปหาคนทีบ้านน่ะสิ” ข่งลิวกล่าว
หนักแน่น
3
แต่บตุ รสาวมหาอํามาตย์เลย แม้แต่หญิงสาวชาวบ้าน
ธรรมดาก็ยงั ไม่มองคนสูงวัยอย่างท่านหรอก”
4
ท่ามกลางฝูงชนทีเดินเบียดเสียด เจียงหลีกบั สาวใช้คน
สนิททังสองก็กาํ ลังเดินไปยังถนนฝังตรงข้าม เนืองจากผู้
คนคับคัง ระยะทางเพียงหนึงช่วงถนนก็ยงั ฝ่ าไปได้อย่าง
ยากลําบาก ดีทีนางจดจําทิศทางได้แม่นยํา จึงมุง่ ตรงไป
ยังจุดมุง่ หมาย กลุม่ คนทีสัญจรขวักไขว่ไม่อาจทําให้นาง
หลงทิศ
5
“ใช่น่ะสิ”
องครักษ์ในชุดดําปรากฏกายขึนต่อหน้าเขาอย่างเงียบก
ริบ
“ไปเชิญคุณหนูรองเจียงขึนมา”
6
“บอกว่าขอเชิญคุณหนูรองเจียงมาร่วมชมละครของ
คณะจินหม่านถาง ข้าได้จดั ทีนังด้านหน้าสุดไว้ให้นาง
แล้ว”
ข่งลิวอ้าปากค้างจนคางแทบจะหลุดลงมา
ใกล้จะถึงฝังตรงข้ามอยูร่ อมร่อ
เจียงหลีแอบโล่งใจ ขณะพาสาวใช้ทงสองเดิ
ั นไปหาเย่ซือ
เจีย ตอนนัน พลันมีคนชุดดําปรากฏตัวออกมาขวางหน้า
7
ถงเอ๋อตกใจจนแทบกรีดร้องเสียงแหลม คนในชุดดํา
กล่าวโดยไม่แสดงสีหน้า “คุณหนูรองเจียง ท่านกัวกงขอ
เชิญไปดูละครคณะจินหม่านถาง ทังนีได้จดั ทีนังด้าน
หน้าสุดไว้ให้แล้วทีหอวังเซียน”
8
กงจริงๆ”
เหวินจีแทบจะหกล้มหน้าคะมํา
9
เจียงหลีมองเหวินจี ครุน่ คิดอยูห่ ลายตลบจึงทอดถอนใจ
แล้วกล่าวว่า “ไปสิ”
เย่ซือเจียและเย่หมิงเซียนพูดคุยพลางเลือกดูโคมไฟ
ครันหันหน้ากลับมาก็เหลือบไปเห็นเงาร่างของคนรูจ้ กั
ชายหนุ่มเกือบจะหลุดปากเรียกเจียงหลี แต่ยงั ไม่ทนั
เปล่งเสียง ร่างนันก็เลือนหายไปในฝูงชนจนไม่เห็นแม้
เงา
10
เย่หมิงเซียนต้องออกปากถาม “เป็ นอะไรรึ”
เขาผิดปกติไปจริงๆ
หอวังเซียนเป็ นเหลาสุราซึงกิจการใหญ่โตทีสุดในเมือง
เยียนจิง
ห้องโถงชันล่างมีคนจํานวนหนึงมาร่วมสังสรรค์ ส่วน
เจียงหลีนนถู
ั กเชิญขึนไปบนชันสอง
11
จวนอํามาตย์ทีว่าหรูหรา ทว่าหอวังเซียนยังดูพิถีพิถนั
กว่าเสียอีก ทีนํามาปูพืนคือพรมเปอร์เซียขนยาวทอลาย
บุปผา เพดานยังมีอญ
ั มณีหอ้ ยระย้า ในห้องจรุงกลินธูป
หอมอบอวล หากเป็ นเซวียเจา--เขาคงกล่าวว่า ห้องนํา
ชาชันสองของหอวังเซียนนันดู ‘เลอค่า’ มากจริงๆ
เหวินจีช่วยเปิ ดม่านให้นางเดินเข้าไป
เจียงหลีกวาดตามองคนในห้อง
นอกจากจีเหิงแล้วยังมีอีกสองชีวิต คนหนึงไว้เคราแพะ
สวมใส่อาภรณ์ของบัณฑิต เขายิมน้อยๆ ให้กบั เจียงหลี
ซึงนางเองก็ยมรั
ิ บส่วนอีกหนึงเป็ นคนทีเจียงหลีรูจ้ กั เขา
12
คือผูค้ มุ สอบการขีม้ายิงธนูของสํานักบัณฑิตในตอนนัน
ท่านข่งเวยแห่งกองทหารม้า หรือทีใครๆ ต่างขนานนาม
ว่า... ข่งลิว
ข่งลิวเอ่ยต้อนรับด้วยนําเสียงแหบพร่า “คุณหนูรอง
เจียง” ดูเหมือนอยากพูดกับเจียงหลีอีกสักสองสาม
ประโยค แต่คิดไปคิดมาก็นกึ ถ้อยคําทีเหมาะสมไม่ออก
จึงได้แต่กล่าวชืนชมอย่างจืดชืด“คุณหนูรองขีม้าได้ไม่
เลว อีกทังยิงธนูได้แม่นยํานัก”
ราวกับกําลังชมเชยทหารแรกประจําการ
13
เกาหัวแกรกๆ ทําเพียงส่งยิมแห้งแล้วไม่พดู อะไรอีก
14
จีเหิงชายตามองนาง จู่ๆ ก็ยกยิมกล่าว “อย่างน้อย เรา
ทังคูก่ ็มีมิตรไมตรีตอ่ กัน คุณหนูรองไม่จาํ เป็ นต้องทําตัว
ห่างเหิน เทศกาลจงหยวนเจียเช่นนี ได้บงั เอิญพบกันคง
เพราะมีวาสนา ทีหอวังเซียนมีการแสดงของคณะละครจิ
นหม่านถาง จึงเชิญคุณหนูรองมารับชมด้วย”
15
เหิงยังพูดออกมาอย่างผ่อนคลายราวกับเขาและนางมี
ไมตรีตอ่ กันมานานหลายปี
เจียงหลีกล่าว “ขอบคุณในความปรารถนาดีของท่านกัว
กง แต่ขา้ ไม่ชอบชมละคร”
“หากคุณหนูรองอยากแสดงละครให้สมบทบาท ก็ควร
ศึกษาดูจากคณะละครให้มากสักหน่อย” จีเหิงอมยิม
ตอบ
ข่งลิวมองสถานการณ์ตรงหน้า แล้วกล่าวกับเจียงหลี
“คุณหนูรองเจียง เมือสักครูเ่ ห็นเจ้าอยูด่ า้ นล่าง ไม่มี
ทหารสักคนคุม้ กัน คิดว่าคงพลัดหลงกับคนทีบ้าน งาน
16
แสดงโคมไฟในแต่ละปี มีหญิงสาวจํานวนไม่นอ้ ยหายตัว
ไป อีกทังผูร้ า้ ยก็ชกุ ชุม ดูละครชุดนีจบแล้วพวกข้าจะให้
คนไปส่งเจ้ากลับจวน เพือความปลอดภัย”
มือทียืนออกมาย่อมไม่ตบคนทีมีใบหน้าเป็ นมิตร
สถานการณ์ตอนนี การเดินอยูท่ า่ มกลางฝูงชนเพียง
ลําพังนับว่าเป็ นเรืองทีไม่ฉลาดจริงๆ เสียด้วย เจียงหลี
คลียิมช้าๆ ดูบริสทุ ธิไร้เดียงสายิง “ขอบคุณผูอ้ าวุโสข่ง”
พืนทีบนชันสองทังหมดคงถูกจีเหิงเหมาไว้ จึงไม่มีใครอืน
17
นอกจากพวกเขา เจียงหลีสามารถออกจากห้องนําชา
แล้วเดินไปทีระเบียงของชันสอง ซึงสามารถมองลงไปยัง
ลานแสดงละครได้พอดิบพอดี
เจียงหลีเดาว่านีเป็ นมุมจากด้านบนทีจีเหิงมักจะเลือกใช้
ในการชมละคร ต้องยอมรับว่า เมือเทียบกับการดูละคร
ตรงลานแสดงมุมมองด้านบนนี ยิงแยกความรูส้ กึ ของผู้
ชมออกจากละครได้ชดั เจนขึน
18
บทที 91 ละครเรืองนีชือว่า ‘คดีของจิวเอ๋อ’
นักแสดงผูม้ ีชือเสียงของคณะจินหม่านถางนามว่าเสียว
เถาหง เป็ นหญิงสาวอ่อนเยาว์ เนืองจากถูกพอกด้วย
แป้งจนเต็มหน้า จึงมองไม่เห็นรูปโฉมทีแท้จริง แต่ดู
จากรูปร่างและนําเสียงอันอ่อนหวาน ก็นบั ได้วา่ เป็ นสตรี
ทีมีความสามารถคนหนึง มิน่าผูช้ มในลานแสดงด้าน
ล่างจึงแน่นขนัด เสียงปรบมือดังเกรียวกราว
ละครเรืองนีชือว่า ‘คดีของจิวเอ๋อ’
1
หญิงสาวนางหนึงในรัชสมัยก่อน หญิงสาวทีอายุนอ้ ยผูน้ ี
มีนามว่าจิวเอ๋อ นางแต่งงานกับซิวไฉอยูใ่ นชนบทด้วย
ความรักใคร่กลมเกลียว ทังคูอ่ ยูก่ นั อย่างมีความสุข ต่อ
มาซิวไฉเข้าเมืองหลวงเพือสอบเลือนขันจนได้เป็ นจอหง
วน กลายเป็ นขุนนางใหญ่ กระทังไปถูกใจคุณหนูสงู ศักดิ
ผูห้ นึงเข้า บิดาของคุณหนูสงู ศักดิอยากได้ตวั เขามาเป็ น
บุตรเขย ซิวไฉจึงปกปิ ดเรืองทีตนแต่งงานมีครอบครัว
แล้วไปสมรสกับคุณหนูผสู้ งู ศักดินางนัน
2
ต้องพาลูกน้อยเข้าเมืองไปตามหาสามี หนทางยาก
ลําบากแสนเข็ญ ได้รบั ความดูแคลนจากคนรอบข้าง
กว่าจะมาถึงเมืองหลวงได้ แต่กลับพบสามีคลอเคลียอยู่
กับหญิงอีกคน
ซิวไฉไม่ยอมรับจิวเอ๋อ มิหนําซํายังให้คนลากตัวนางไป
โบยตีแล้วขับไล่ไสส่ง จิวเอ๋อจึงได้รูว้ า่ เขาลืมลูกเมียทีอยู่
ในชนบทไว้ขา้ งหลัง จิวเอ๋อไม่มีเงินรักษาบุตรชาย
ประกอบกับหนทางยาวไกลอันแสนยากเข็ญ ไม่นานลูก
น้อยจึงตายจากไป
จิวเอ๋อถูกสามีทอดทิงแล้วยังมาสูญเสียบุตรชาย ให้รูส้ กึ
เจ็บปวดรวดร้าว สุดท้ายจึงไปกระโดดทะเลสาบหน้า
จวนของซิวไฉเพือฆ่าตัวตาย หลังจากทีนางสินใจก็ได้
3
กลับชาติมาเกิดเป็ นนก ทังวันก็เอาแต่รอ้ งไห้ครําครวญ
อยูท่ ีหน้าประตูจวนของซิวไฉ ทําให้คนทีผ่านมาผ่านไป
ต้องหยุดฝี เท้า เรืองนีได้ยินไปถึงหูฮ่องเต้ จนมีรบั สังให้
สืบสาวเรืองราวทังหมด ครันรูว้ า่ ซิวไฉเป็ นคนไร้คณ
ุ ธรรม
เช่นนี จึงถอดถอนตําแหน่งของเขา ต้องเลิกรากับคุณหนู
ผูส้ งู ศักดิ ผลสุดท้าย ซิวไฉก็ตอ้ งตกอยูใ่ นสภาพสินเนือ
ประดาตัว มีชีวิตอยูไ่ ม่พน้ ฤดูหนาวอันโหดร้าย
4
ครังแรกทีเจียงหลีรูจ้ กั ละครเรืองนี นางยังเป็ นสาวน้อย
อยูท่ ีถงเซียง ไม่นกึ ว่าหลายปี ให้หลัง ละครบทนีราวกับ
ถูกดัดแปลงเสียใหม่แล้วเกิดเชือมโยงกับชีวิตจริงของ
นาง นางกลายเป็ นจิวเอ๋อ ชีวิตเปลียนไปอย่างพลิกฟ้า
ควําแผ่นดิน
จิวเอ๋อพลันตอบโต้ “อย่าอ้างว่าก้าวผิดไปเพียงเล็กน้อย
จะต้องทุกข์ทนไปตลอดชีวิต เห็นชัดๆ ว่าเจ้ามีรกั ใหม่ ถึง
5
ได้ลืมคนรักเก่านึกถึงเมือก่อนตอนเจ้าขอไปเรียนทีจวิ
นโจว ข้าอยูไ่ ว้ทกุ ข์หน้าหลุมฝังศพท่านพ่อท่านแม่แทน
เจ้าสิ นึกถึงปี ถดั มาต้องส่งเจ้าเข้าเมืองหลวงเพือสอบจอ
หงวน ก่อนจากยังยําว่าสอบได้หรือไม่ก็ตอ้ งรีบกลับมา
ควรจะรูว้ า่ ท่านพ่อท่านแม่อายุมากแล้ว ย่อมคิดถึงและ
ห่วงใยลูกเป็ นธรรมดา ใครจะรูว้ า่ เจ้าจากไปโดยไม่มีแม้
แต่ขอ้ ความส่งกลับ สายนํากว้างใหญ่ ท่านพ่อท่านแม่
ต้องอดอยากจนตายจากไปนานแล้ว”
6
นักแสดงร้องห่มร้องไห้ออกมาไม่ขาดสาย เจียงหลีฟัง
แล้วก็รูส้ กึ เหมือนถูกมีดกรีดลงกลางใจ บทพูดแต่ละคํา
ยากนักทีจะไม่นกึ ถึงตนเองนางก็เหมือนกับจิวเอ๋อทีถึง
อย่างไรก็ไม่เข้าใจว่าตนเองทําอะไรผิด นางประพฤติดี
มาโดยตลอด เหตุใดสามีถงึ ทํากับนางเช่นนี นางเองก็
อยากจะถามเสินอวีหยงเช่นกัน ลาภยศเงินทองเหล่านัน
สําคัญจริงหรือ สําคัญถึงขันละทิงความเป็ นคน ผิดชอบ
ชัวดีอย่างไรก็ไม่สนใจเลยหรือ
ชายหนุ่มทังสามพลันหันมองนาง
เจียงหลีนงหั
ั นข้างให้กบั พวกเขา เปลือกตาหลุบตํา หาก
จะโทษก็ตอ้ งบอกว่าคนทีอยูด่ า้ นล่างแสดงได้ดีเกินไป
ถ้าสังเกตให้ถีถ้วนจะเห็นว่านางจับราวระเบียงชันสอง
เอาไว้แน่นจนกระดูกข้อมือกลายเป็ นสีขาว
นางเคลิบเคลิมไปกับการแสดงเสียแล้ว
8
“ไม่แปลก” ข่งลิวไม่คิดว่าผิดปกติแต่อย่างใด “คุณหนู
รองเจียงถูกละครดึงดูดใจ ย่อมคล้อยตามเป็ นธรรมดา”
9
เสียวเถาหงยังคงแสดงไปตามบทบาท “สามีเข้าเมือง
หลวงเป็ นลูกเขยตระกูลสูงศักดิ ส่วนข้าต้องเจ็บชํา อุม้
พิณอยูใ่ นเมืองหลวง แค้นใจทีวันหนึงเขาได้ดิบได้ดี กลับ
ลืมหนีบุญคุณจนหมดสิน เขา... เขาทอดทิงลูกเมีย”
10
เมียคนก่อน... เจียงหลีครุน่ คิด นีเป็ นคําสรรพนามทีคุน้ หู
ราวกับคําพูดอ่อนหวานทีเสินอวีหยงใช้กล่าวกับนางมา
โดยตลอด ในคืนเทศกาลจงหยวนเจียเช่นนี นางเคยชืน
ชมแสงสียามคําคืนมาไม่นอ้ ย ทุกๆ ครังล้วนแต่สขุ สม
หวัง ไม่คิดว่าจะมีวนั นี นึกถึงความหลังแต่ละครัง ราว
กับมีคมมีดกรีดลึกลงกลางใจ ทะลุไปถึงกระดูกดํา ทํา
เอาเจ็บปวดเจียนตายนางแทบจะแยกไม่ออกว่าตรงหน้า
เป็ นเพียงละครเรือง ‘คดีของจิวเอ๋อ’ หรือชีวิตจริงของตน
กันแน่ ราวกับนางกลายเป็ นจิวเอ๋อทีเศร้าโศกเสียยิงกว่า
ในละคร
11
สีขาวสะอาด ไร้ลวดลายเย็บปั กใดๆ เนือผ้าละเอียด
อ่อนนุ่ม ผิวสัมผัสมันวาวทอประกายระยับภายใต้แสง
ตะเกียง ดูดว้ ยตาก็รูว้ า่ เนียนนุ่มและบางเบา
นางเสียนําตาจนได้
12
เจียงหลีอยากจะรับผ้าเช็ดหน้าจากจีเหิงไว้ตาม
สัญชาตญาณ แต่แล้วก็นกึ ขึนได้ จึงแย้มยิมกล่าวว่า
“ขอบคุณท่านกัวกง แต่ขา้ มีแล้ว” นางดึงผ้าเช็ดหน้าสี
เขียวอ่อนออกมาจากอกเสือ แม้จะไม่มีราคาเหมือนกับ
ของจีเหิง แต่ก็ดเู รียบง่าย
เจียงหลีเผยรอยยิมออกมาโดยไม่ตงใจ
ั พร้อมกับหยาด
นําตาทีรินไหลตรงปลายหางตา ดูน่าพิศวงอย่างพูดไม่
ถูก จีเหิงเองก็หยุดชะงักเล็กน้อย เขาเก็บผ้าเช็ดหน้า
กลับ มิได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาขณะกล่าวกับเจียงหลี
“ไม่นกึ ว่าหญิงสาวใจแข็งอย่างคุณหนูรองเจียงก็รอ้ งไห้
เป็ น” เขาค่อยๆ เปิ ดปากอย่างเนิบช้า “ข้ายังเคยสงสัยว่า
13
คุณหนูรองคงจะชอบดูละครเช่นกัน”
“ข้าน่ะหรือ” เจียงหลีมองเขาอย่างประหลาดใจ
14
แล้วกล่าวพร้อมรอยยิม “ข้าไม่ใช่คนในเนือเรือง เหตุใด
ต้องเอาตัวเองเข้าไปอยูใ่ นละครเล่า ขอท่านกัวกงอย่าได้
ล้อเล่น”
“ความสามารถในการสร้างละครของคุณหนูรองมีชนเชิ
ั ง
มาก แต่โกหกไม่ได้ความสักเท่าไร” จีเหิงอมยิมพลาง
ทอดถอนใจ “คําลวงของเจ้า ถูกข้าดูออกอย่างง่ายดาย”
15
บทที 92 เด็กสาวอ่อนเดียงสา
มีโอกาสได้มองอีกฝ่ ายในระยะประชิดเช่นนีอยู่สองสามครัง
ถึงกระนัน ในแต่ละครังก็ยงั คงตืนเต้นราวกับเป็ นครังแรก
เสือคลุมตัวยาวสีแดงอ่อนของเขาสะบัดพลิว ลายดอกโบตัน
ทีปั กอยู่บนคอเสือสวยงามเป็ นระเบียบ เทียบกับบทละครที
กําลังโศกเศร้า ยิงขับเน้นให้เขาดูมีสีสนั ราวกับดอกบัวแดง
1
บานสะพรังท่ามกลางหิมะขาวในฤดูหนาว ฉูดฉาดบาดตายิง
ทังยังคล้ายดังเงาสะท้อนของจันทรานวลกระจ่าง งดงามจน
น่าพรันพรึง
นัยน์ตาของเขาเป็ นสีนาตาลสุ
ํ กสกาวลึกลํา ราวกับธรรมชาติ
บรรจงวาดคิวและดวงตาให้ออกมาน่าหลงใหล จมูกของเขา
โด่งเป็ นสัน ดูดีรบั กับริมฝี ปากแดงฉํา ต่อให้เป็ นรอยยิมหยัน
ก็ยงั มีคนแย่งกันจุมพิต
2
เจียงหลีรบี ปฏิเสธ “ไม่จริง”
หญิงสาวยังคงยืนกราน “ไม่ม”ี
เจียงหลีได้ฟังก็องงั
ึ นอย่างไม่อาจปฏิเสธ
3
แปลกใจไม่ได้ ชายผูน้ ีแยกแยะจริงเท็จได้แน่หรือ เขาเข้าใจ
เรืองราวหักหลังต่างๆ ทังหมดได้เชียวหรือ ด้วยดวงตาของจี
เหิงสามารถทําให้ผคู้ นลุม่ หลง มีเพียงหนึงเดียวทีสามารถ
รอดพ้นก็คือตัวเขา
4
หญิงสาวค่อยๆ สะบัดจนหลุดออกจากการเกาะกุมของเขา
จีเหิงจึงคลายนิวแล้วกําพัดไว้ตามเดิม ขณะเดียวกันก็หนั มา
สวมหน้ากากเกรงอกเกรงใจอย่างมีมารยาทเช่นในยามปกติ
“ท่านกัวกงชอบดูละครเป็ นชีวิตจิตใจเช่นนี ไม่กลัวว่าวันหนึง
จะต้องเข้าไปอยู่ในละคร ให้คนอืนหัวเราะเยาะเสียเองบ้าง
หรือ”
ดวงตาของจีเหิงพลันลึกลํา ราวกับคาดไม่ถึงว่าเจียงหลีจะ
ไม่เพียงยืนหยัด แต่ยงั กล้าพูดจาท้าทายตอบโต้ “คุณหนูรอง
เจียงคิดว่า จะมีวนั ทีข้าต้องเข้าไปอยู่ในละครอย่างนันรึ” เขา
โบกพัดในมือแล้วกล่าวสบายๆ “ข้าไม่ได้มีความเมตตา
เหมือนกับเจ้า ละครก็คือละคร ไหนเลยจะเป็ นความจริงได้”
เขาหยิบยกคําพูดทีเคยได้ยินจนติดหูขนมากล่
ึ าวอ้าง
ถ้อยคําของนางอ่อนหวาน ทว่าแววตาทีมองจีเหิงนันแฝง
ความดือรัน ทําให้นางคล้ายกับ ‘เด็กสาวอ่อนเดียงสา’ ทว่า
วิธีการพูดจาก็ยงั คงอ้อมค้อมแฝงความนัย
6
นอกดูฉดู ฉาดแต่ภายในกลับกลวงเปล่า ไม่สวู้ างตัวเรียบง่าย
แต่เปี ยมสาระ” พูดจบก็หนั หน้าเดินไปทางข่งลิว
จีเหิงนิงอึงอยู่กบั ที หลังจากใคร่ครวญอย่างถีถ้วนแล้วก็แทบ
จะหัวเราะเสียงดังออกมา นีนางกําลังเตือนเขา
“ไม่มีอะไรน่าสนใจกระมัง” รอยยิมของเจียงหลีอบอุ่นอ่อน
โยน ดูไม่ออกเลยว่าเมือสักครูเ่ พิงจะต่อปากต่อคํากับจีเหิง
“ละครเรืองนีดูมาแล้วหลายครัง ทังยังเศร้าเกินไป เทศกาล
จงหยวนเจียเช่นนี ข้าเองก็ไม่อยากจมอยู่กบั ความทุกข์”
7
ข่งลิวรีบพยักหน้ารับ “จริงด้วย”
จีเหิงยืนกอดอกอยู่ทระเบี
ี ยง มองเจียงหลีพดู คุยกับข่งลิว
อย่างมีสาระ เป็ นสตรีทพลิ
ี กแพลงสถานการณ์เก่ง มิหนําซํา
ความสามารถก็ยงั โดดเด่นไม่ธรรมดา
เขากวาดตามองไปยังเสียวเถาหงทีกําลังทําการแสดง ในใจ
ก็ครุน่ คิดว่า คนทีนางทังรักทังชังนันเป็ นใคร
แต่ถึงอย่างไรก็คงไม่ใช่โจวเยียนปั ง
8
แม้แต่ชายไว้เคราแพะผูม้ ีใบหน้าเปื อนยิม ทีมักจะหลอกถาม
นางคนนัน ก็ยงั พูดคุยได้ง่ายกว่าจีเหิงเสียอีก
เจียงหลีโอภาปราศรัยกับพวกเขาพร้อมรอยยิมพลางเลียงคํา
ถามสําคัญ เป็ นเช่นนีอยู่หลายครัง กระทังลูจ่ ีรูว้ า่ เจียงหลีจบั
ทางได้ จึงไม่พยายามถามอะไรอีก เพียงส่งยิมให้แล้วถก
เถียงกับข่งลิวต่อไป
9
ลา “ผูอ้ าวุโสทุกท่าน ข้าคงต้องขอตัว หากท่านอารองหาข้า
ไม่พบจะต้องร้อนใจแน่ ตอนนีก็ดกึ มากแล้ว...”
10
จีเหิงพลันเอ่ยเรียก “เหวินจี”
เหวินจีรีบขานรับ “นายท่าน”
“น้อมส่งคุณหนูรองเจียง” จีเหิงออกคําสัง
11
เจียงหลีมิได้ตอบรับ
ในทีสุดก็ออกมาจากหอวังเซียนจนได้ เจียงหลีโล่งใจขึนมา
บ้าง ครันหันกลับไป หอวังเซียนนีตังตระหง่านอยู่ในย่าน
ชุมชนบนถนนใจกลางเมืองเยียนจิง โคมไฟประดับประดา
ลานตาราวกับภาพฝันทีไม่ใช่ความจริง
12
ไปคิดถึงอีก ตอนนีจึงรูส้ กึ ปลอดโปร่งโล่งสบายไปทังตัว นับ
เป็ นโชคดีของนางก็แล้วกัน
เจียงหลีพลันออกปาก “ไปกันเถิด”
13
“จริงรึ” เจียงจิงรุย่ มองนางอย่างแคลงใจ “เหตุใดถึงไปนาน
นักเล่า เครืองประทินโฉมบนใบหน้าก็เลอะเลือน...”
15
กูลเย่ไม่ได้อยู่ในเมืองเยียนจิง เขามาทีนีด้วยเหตุใด”
“แล้วเหตุใดเขาไม่ให้เย่ซือเจียช่วยเหลือเล่า ตอนนีเย่ซือเจีย
รับราชการเป็ นขุนนางแล้ว คนทีอยากประจบสอพลอเขามี
อยู่มากมาย เริมหาลูท่ างจากตรงนีย่อมง่ายดายกว่ามาก”
ข่งลิวพูดเหมือนเป็ นเรืองปกติ
17
บทที 93 เพราะคุณหนูรอง
ข่งลิวบ่นพึมพํา “แล้วเหตุใดเขาไม่ไปหาตระกูลเจียงเล่า
อย่างไรเสียสองบ้านก็เคยเกียวดองกัน หากเย่หมิงเซียน
ไปเยือนจวนตระกูลเจียงสักครัง เจียงหยวนปั วทีรักหน้า
ตัวเองยิงกว่าสิงใดจะต้องให้ความช่วยเหลือแน่”
1
ก่อนทีจีเหิงจะเอ่ยว่า “สุดท้าย เย่หมิงเซียนอาจจะไปพบ
กับคนตระกูลเจียง”
“เพราะคุณหนูรอง” จีเหิงกล่าวต่อ
คืนนีหลับไม่สบายเอาเสียเลย พอถึงกลางดึกฝนก็เริมตก
2
หนัก เสียงฟ้าผ่าประสานกับเสียงห่าฝนทําให้เจียงหลี
นอนไม่หลับ กระทังได้เวลาไก่ขนั แสงตะวันเริมสาดส่อง
ทางทิศตะวันออก ฟ้าฝนถึงสงบลง นางจึงข่มตานอนได้
ครันถึงตอนตืนก็สายมากแล้ว
3
“ไม่มีอะไร” เฝ่ ยชุ่ยตอบพร้อมรอยยิม “มีแขกมาขอพบ
และให้เชิญคุณหนูรองด้วย”
4
พอมาถึงทีหมาย เฝ่ ยชุ่ยก็เดินนําเข้าประตูไปก่อน นาง
ยิมละไมพลางกล่าวกับคนทีอยูฝ่ ังตรงข้าม “เรียนฮูหยิน
ผูเ้ ฒ่า คุณหนูรองมาแล้วเจ้าค่ะ”
เมือเจียงหลีและถงเอ๋อเดินตามเข้าไป จึงได้พบกับชาย
หนุ่มทีคุน้ หน้าคุน้ ตา ซึงนังอยูท่ างฝังขวามือของฮูหยินผู้
เฒ่า เขาเงยหน้าขึนเล็กน้อย ราวกับไม่คอ่ ยสบายตัวนัก
ฝี เท้าของเจียงหลีพลันหยุดชะงัก ในใจเกิดความสงสัย
เหตุใดเย่ซือเจียถึงมาอยูท่ ีนีได้ ยังไม่ทนั ใคร่ครวญให้ถี
ถ้วน ก็ได้ยินฮูหยินผูเ้ ฒ่ากล่าวอย่างสุภาพ “หลีเอ๋อ รีบ
มาพบกับท่านลุงหมิงเซียนของเจ้าเร็วเข้า”เจียงหลีองงั
ึ น
ท่านลุงหมิงเซียนรึ
5
นางเพิงจะสังเกตเห็นว่าข้างกายของเย่ซือเจียยังมีชาย
วัยกลางคนนังอยู่ ชายวัยกลางคนผูน้ ีสวมอาภรณ์สีขาว
ตลอดร่าง ใส่หมวกสีเงิน คาดเอวด้วยผ้าสีทอง ราวกับ
บัณฑิตรูว้ ิชา ทว่าดูหรูหรากว่าคนทัวไป ใบหน้าขาวไร้
หนวดเครา รูปร่างผอมเพรียว แววตาดูเฉลียวฉลาด
เขาลุกขึนยืนพลางมองเจียงหลี ก่อนจะหัวเราะออกมา
แล้วกล่าวว่า “หลีเอ๋อตัวสูงขนาดนีเชียวรึ ข้าจําแทบไม่
ได้”
6
ตนว่า ‘หลีเอ๋อ’
ครันเย่หมิงเซียนพินิจพิจารณาเจียงหลีแล้ว นัยน์ตาก็
ฉายแววประหลาดใจ
ได้ยินเรืองราวมากมายของนางจากปากเย่ซือเจีย อาทิ
วางเดิมพันกับเมิงหงจินทีสํานักบัณฑิตหญิงหมิงอีถาง
แสดงความสามารถให้เห็นเป็ นทีประจักษ์ไปทังสนาม
สอบ จ่อมีดบังคับให้เย่ซือเจียรูจ้ กั แก้ปัญหาด้วยสติ
ปั ญญา แล้วอืนๆ อีกมากมาย ทําให้เย่หมิงเซียนนึกไม่
ถึงว่านางจะเป็ นเด็กหญิงเอาแต่ใจในความทรงจําคนนัน
7
สิบปี แล้ว หลังจากเย่เจินเจินล่วงลับไปในตอนนัน ตระกู
ลเย่เกรงว่าหลังจากทีเจียงหยวนปั วแต่งงานใหม่ เจียง
หลีจะถูกแม่เลียงรังแก ถึงได้คิดจะรับตัวเจียงหลีกลับ
เซียงหยาง ไม่นกึ ว่าเจียงหลีทีอยูใ่ นวัยย่างห้าขวบจะชัก
สีหน้าดูแคลนครอบครัวค้าขายอย่างบ้านตระกูลเย่ ซํา
ยังพูดจาทิมแทงจิตใจว่าคนทํามาค้าขายเป็ นพวกชันตํา
ในตอนนัน ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่ถงึ กับล้มป่ วย
เด็กน้อยเยาว์วยั เหตุใดถึงพูดจาทําร้ายจิตใจได้เพียงนี
นางในตอนนันราวกับสืบทอดความเย็นชามาจากคน
ตระกูลเจียง เป็ นขุนนางทีทําอะไรแฝงด้วยผลประโยชน์
ยากนักจะทําให้คนไว้ใจได้
เด็กสาวทียืนตรงหน้าเย่หมิงเซียนตอนนี สวมอาภรณ์สี
8
เขียวอ่อน รูปร่างผอมสูง สะคราญโฉมนัก มุมปากของ
นางมีรอยยิมบางๆ ใบหน้าอ่อนโยนไร้เดียงสา ปราศจาก
ร่องรอยความอ่อนแอและแสบสันเหมือนครังเยาว์วยั
นางแตกต่างจากในอดีตอย่างสินเชิง
เย่หมิงเซียนทีเคยกล่าวโทษเด็กน้อยในอดีตคนนัน ครัน
เห็นดวงตาทีดูสกุ สกาวของเจียงหลี ความรูส้ กึ ทีเคยมี
กลับเลือนหายไปกว่าครึง ไม่รูว้ า่ เป็ นเพราะสายเลือดก่อ
ให้เกิดความผูกพัน หรือว่าเป็ นเพราะเจียงหลีดอู อ่ นโยน
ดีงาม ถึงทําให้เขาแยกเจียงหลีผนู้ ีกับเด็กน้อยห้าขวบ
ออกจากกันอย่างชัดเจน
9
เย่หมิงเซียนส่งยิมให้กบั เจียงหลี
แรกพบหน้า ท่าทีของเย่หมิงเซียนถือว่าอ่อนโยนต่อเจียง
หลีอยูม่ าก เป็ นสัญญาณทีดียงิ
10
ตอนทีพบกัน เจ้ายังเป็ นแค่เด็กตัวเล็กๆ” เขาวางมือ
ขนานแค่ระดับเข่าของตน “...สูงเท่านีเอง” เย่หมิงเซียน
กล่าวต่อไป “ข้าเป็ นพีชายคนทีสองของมารดาเจ้า... จะ
เรียกข้าว่าลุงหมิงเซียนก็ได้”
“ท่านลุงหมิงเซียน” เจียงหลีขานรับเบาๆ
“ท่านลุงของเจ้ามาทําธุระเล็กน้อยในเมืองเยียนจิง จึง
ตังใจแวะมาเยียมเจ้า” ฮูหยินผูเ้ ฒ่ากล่าวพร้อมรอยยิม
“ยังมีของขวัญติดมือมาฝาก สักครูจ่ ะให้คนนําไปส่งที
เรือนของเจ้า”
11
หน้าไปอีกทาง หลบเลียงสายตาของเจียงหลี
12
นําชาหนึงกาหมดลงโดยไม่รูต้ วั ได้เวลาทีเย่หมิงเซียนลุก
ขึนยืนเพือขอตัวกลับ กล่าวว่ายังมีธุระต้องสะสาง เอาไว้
วันหลังจะมาเยียมใหม่ ก่อนส่งยิมให้เจียงหลี แล้วกล่าว
ว่า “ของขวัญทีมอบให้หลีเอ๋อ ข้าได้สงให้
ั คนนําไปส่งที
เรือนของนางแล้ว”
13
เย่หมิงเซียนตอบรับข้อเสนอของฮูหยินผูเ้ ฒ่าแต่โดยดี
เจียงหลีจงึ พาเย่หมิงเซียนกับเย่ซือเจียไปยังเรือนฟั งเฟย
พร้อมกัน
ตลอดทางเย่ซือเจียไม่ได้เอ่ยถ้อยคําใดๆ ดูสงบปากสงบ
คําจนเกินเหตุ มีแต่เย่หมิงเซียนทีถามไถ่ถงึ ชีวิตความ
เป็ นอยูข่ องเจียงหลีไม่หยุดปาก ส่วนนางก็ตอบพร้อม
รอยยิม
“นีคือท่านลุงหมิงเซียนกับลูกพีลูกน้องของข้า” เจียงหลี
ยิมพลางออกคําสัง “ไป๋ เสวีย ไปยกนําชาเข้ามา”
15
ชัวขณะทีเย่หมิงเซียนเห็นเรือนฟั งเฟยก็ถงึ กับตกตะลึง
ทว่าสวนของเจียงหลีดมู ีชีวิตชีวาไม่เข้ากับจวนอํามาตย์
ทําให้เย่หมิงเซียนนึกถึงเย่เจินเจิน--น้องสาวผูล้ ว่ งลับขึน
มาทันใด ดวงตาพลันแสบร้อนยากจะระงับ
16
เจียงหลีเห็นสีหน้าประหลาดใจของเย่หมิงเซียนก็พอจะ
เดาได้ จึงกล่าวว่า “นีเป็ นเรือนทีท่านแม่ใช้พกั รักษาตัว
หลังจากหลานได้กลับเข้าเมืองเยียนจิง ฮูหยินใหญ่ก็
มอบสวนนีให้ ตอนนันดอกไม้ทงสวนแห้
ั งตายจนหมด
ถงเอ๋อกับไป๋ เสวียลงแรงไปมากถึงได้อยูใ่ นสภาพอย่าง
ทุกวันนี”
17
บทที 94 จริงเสียยิงกว่าจริง
นางเรียกจีซูหรันว่า ‘ฮูหยินใหญ่’
นางเลียงคําถาม
1
เย่หมิงเซียนกับเย่ซือเจียมองตากันพลางคิดตีความ
ก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินตามเจียงหลีไป
2
เจียงหลีมิได้กล่าวอะไรต่อ นางรูม้ าตังแต่แรกแล้วว่าเกิด
เรืองขึนมากมายเช่นนี ไม่ชา้ ก็เร็ว เย่ซือเจียจะต้องเล่า
เรืองของนางให้คนตระกูลเย่ฟัง เพียงแต่คิดไม่ถงึ ว่าคน
ตระกูลเย่จะมาเยือนเมืองเยียนจิงด้วยตนเอง เย่หมิ
งเซียนทอดถอนใจ “นับย้อนไปก็สบิ ปี แล้วสินะ หลีเอ๋อ
เรืองของเจ้าข้าได้ฟังมาจากซือเจียแล้ว เจ้าช่วยเหลือซือ
เจียไว้หลายต่อหลายครัง ข้าต้องขอบใจเจ้าแทนซือเจีย
ด้วย”
นางกล่าวด้วยความจริงใจและอ่อนโยน ดวงตาทังคู่
3
กระจ่างใสดังสายธาร ทําให้รูส้ กึ ว่านางพูดทุกอย่างออก
มาจากใจ
“การค้าในเมืองเซียงหยางมีปัญหาเล็กน้อย” เย่หมิ
งเซียนกล่าวกลัวหัวเราะ “ช่วงนีพวกเขางานยุง่ กันมาก”
5
แม้เย่หมิงเซียนจะกําลังหัวเราะ แต่เจียงหลีก็ยงั สังเกต
เห็นความกังวลแฝงอยูใ่ นแววตาของอีกฝ่ าย ดังนันคําว่า
‘มีปัญหาเล็กน้อย’ จะต้องไม่ใช่เรืองเล็กน้อยอย่างที
เย่หมิงเซียนกล่าวเป็ นแน่
เย่หมิงเซียนหัวเราะพลางกล่าว “ถึงแม้มาเยือนเยียนจิง
ครังนีเพือดูความเป็ นอยูข่ องซือเจีย แต่การได้พบหลีเอ๋อ
ก็นบั เป็ นเรืองน่ายินดีอย่างคาดไม่ถงึ ได้ยินว่าเจ้าสอบ
ได้คะแนนเป็ นอันดับหนึงของสํานักบัณฑิตหญิงหมิงอี
ถาง แล้วยังได้รบั พระราชทานรางวัลจากฮ่องเต้ หาก
ท่านยายของเจ้ารูเ้ ข้าจะต้องดีใจแน่”
7
“จะว่าไป หลานก็ไม่ได้พบท่านยายมานานแล้ว ยังมีปา้
สะใภ้คนอืนๆ” เจียงหลีหวั เราะเบาๆ “ครังนีได้พบท่าน
ลุงหมิงเซียน เหมือนทีท่านลุงจําหลานไม่ได้ หลานเองก็
จดจําท่านลุงไม่ได้เช่นกัน”
เจียงหลีคอยคํานีจากเขามานาน ดวงตาพลันโค้งขึนแฝง
รอยยิม “ไม่จาํ เป็ นต้องรอ ครังนีนับเป็ นโอกาสดี ท่านลุง
หมิงเซียนทําธุระเสร็จเมือไร หลานค่อยกลับเมืองเซียง
8
หยางไปพร้อมกับท่าน”
เมือคําพูดนีถูกเอ่ยออกมา เย่ซือเจียและเย่หมิงเซียนก็
พากันอึงงัน ถงเอ๋อถึงกับเบิกตาโต
เงียบไปนาน เย่หมิงเซียนพลันเอ่ยถามด้วยความลังเล
“เมือสักครูเ่ จ้ากล่าวว่า อยากกลับเมืองเซียงหยางไป
พร้อมข้ารึ”
9
เมืองเยียนจิง อีกไม่กีวันก็ตอ้ งกลับเซียงหยาง จึงนับเป็ น
โอกาสอันดี” นางก้มศีรษะลง “ไม่มีโอกาสได้แสดงความ
กตัญ ตู อ่ ท่านยาย บางครังเมือนึกถึงเรืองนีขึนมา
หลานก็รูส้ กึ ไม่เป็ นสุข”
เดิมทีเย่ซือเจียอยากจะหัวเราะออกมา วาจาเย้ยหยัน
มากมายติดอยูท่ ีริมฝี ปาก แต่พอเห็นสายตาของเจียงหลี
อย่างไรเขาก็พดู ไม่ออก
เย่หมิงเซียนยิงอึงงันจนพูดอะไรไม่ออก
10
ประการแรก แม้ตระกูลเย่จะรํารวยเงินทอง แต่ถงึ อย่าง
ไรความเจริญในเซียงหยางก็ไม่อาจเทียบกับเยียนจิงได้
ไหนจะการเดินทางทีลําบากนันอีกเล่า คุณหนูทีถูกเลียง
ดูอย่างประคบประหงมจะทนทุกข์ยากได้หรือ อีก
ประการหนึงก็คือ หากเจียงหยวนปั วหรือคนตระกูลเจียง
รับรูเ้ รืองนีและอนุญาตให้เจียงหลีกลับบ้านตระกูลเย่
แล้วพวกเขาจะได้ประโยชน์อะไร แค่ตอ้ งการเอาใจ
ตระกูลเย่อย่างนันรึ ตระกูลเจียงจําเป็ นต้องทําแบบนี
หรือไร
11
เจียงหลีก็เอ่ยออกมาตรงกับความคิดของเขาพอดิบพอดี
เย่หมิงเซียนมิได้แสดงสีหน้าลําบากใจ “ข้ากําลังคิดว่า
หนทางกลับเมืองเซียงหยางค่อนข้างยากลําบาก หญิง
สาวบอบบางอย่างเจ้าจะทนได้หรือ”
“ท่านลุงอย่าลืมว่าหลานเคยอยูใ่ นสํานักนางชีมาถึงแปด
ปี หาบนําหรือผ่าฟื นก็ตอ้ งทําเองทังหมด หลานไม่ได้
อ่อนแอขนาดนัน” เจียงหลีกล่าว
หัวคิวของเย่ซือเจียขมวดเข้าหากันเล็กน้อย
“แต่... เกรงว่าบิดาของเจ้าจะไม่ไว้ใจให้เจ้ากลับไปพร้อม
กับข้าน่ะสิ” เย่หมิงเซียนพึมพํา
12
“หากท่านลุงออกปากกับท่านพ่อด้วยตัวเอง หลานเชือ
ว่าท่านพ่อจะต้องอนุญาตแน่” เจียงหลีกล่าวเรียบๆ
“ท่านแม่จากไปนับสิบปี หลานเองก็โตแล้ว อีกทังทีจวน
ยังมีนอ้ งสาม หลานไม่ใช่บตุ รีเพียงคนเดียวทีเกิดจาก
ภรรยาเอก ท่านพ่อไม่มาใส่ใจหลานหรอกเจ้าค่ะ”
13
สองบ้านไปมาหาสูก่ นั มากขึนแน่นอน”
เย่หมิงเซียนมองนางอย่างชืนชม “หลีเอ๋อเข้าใจ
สถานการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง”
14
“จริงเสียยิงกว่าจริง”
เย่ซือเจียมองเจียงหลีไม่ละสายตา ใบหน้าของชายหนุ่ม
พลันเคร่งเครียด พินิจพิจารณาได้สกั พัก จึงกล่าวกับ
เย่หมิงเซียนว่า “ในเมือนางอยากไป ท่านลุงก็พา
นางกลับไปด้วยเถิด”
เย่หมิงเซียนประหลาดใจยิง
15
เจียงหลีสง่ ยิมให้กบั เย่ซือเจีย “ขอบคุณพีชาย”
เย่ซือเจียยังคงคลางแคลงใจอยูบ่ า้ ง แต่เขาก็เริมทีจะเชือ
นางขึนมาแล้ว
“เจ้าค่ะ” เจียงหลีตอบรับ
“เจ้าอยากไปเยือนเซียงหยางสักครังอย่างนันรึ”
16
ณ หวันฟ่ งถาง เจียงหยวนปั วทีเพิงกลับจากวังหลวงยัง
ไม่ทนั ถอดเครืองแบบขุนนาง ก็ขมวดคิวถามเจียงหลี
หญิงสาวเอียงคออธิบาย “ได้ยินท่านลุงหมิงเซียน
บอกว่าช่วงนีท่านยายสุขภาพยําแย่ ลูกเองก็ไม่ได้เยียม
คารวะท่านยายมาหลายปี แล้ว รูส้ กึ คิดถึงนัก” เจียงหลี
กล่าวต่อ “อีกอย่าง ลูกยังไม่เคยเห็นเมืองเซียงหยาง จึง
อยากไปเยือนสักครัง”
17
สําหรับเจียงหยวนปั ว เขาไม่เคยนึกรังเกียจเย่หมิงเซียน
คุณชายรองเย่เป็ นชายผูร้ กั การอ่าน ไม่มีกลินอายของ
พ่อค้าวาณิชสักเท่าไร ดังนัน หากเป็ นเย่หมิงเซียนแล้ว
เจียงหยวนปั วยินดีจะคบค้าสมาคมด้วย
18
บทที 95 ท่านแม่กังวลเกินไป
“ในเมือหลีเอ๋อมีปณิธาน ก็ควรพานางกลับไปเยียมบ้าน
เกิดทีเจินเจินเคยอาศัยเมือครังยังมีชีวิต” เย่หมิงเซียน
กล่าวพร้อมรอยยิม “นายท่านใหญ่โปรดวางใจ พวกเรา
จะดูแลหลีเอ๋อเป็ นอย่างดี”
1
ทางลําบาก อีกทังหลีเอ๋อก็ยงั ไม่เคยไปเยือนเมืองเซียง
หยาง อยูท่ ีนันจะกินนอนอย่างไร”
2
แต่มาถึงตอนนีกลับกลายเป็ นแต้มต่อทีนางใช้เป็ นเกราะ
คุม้ ภัยไปเสียแล้ว
“ในเมือหลีเอ๋ออยากไปเยือนเมืองเซียงหยาง ก็ให้นาง
เดินทางไปสักครังเถิด” ฮูหยินผูเ้ ฒ่าออกปากขึนมาบ้าง
3
“หากมิใช่เพราะร่างกายไม่แข็งแรง ข้าเองก็อยากไป
เยียมเช่นกัน หลายปี มานี...” กล่าวพลางทอดถอนใจ
“หลีเอ๋อโตแล้ว ก็ควรจะให้นางไปเยียมเยือนบ้าง”
ฮูหยินผูเ้ ฒ่าเก็บความผูกพันไว้ในส่วนลึกแห่งจิตใจ
อย่างน้อยเย่เจินเจินก็เป็ นลูกสะใภ้ทีนางเป็ นคนเลือก
สรร แม้เย่เจินเจินจะไม่เฉลียวฉลาดนัก แต่ก็สามารถเอา
ชนะใจนางได้
5
จีซูหรันมองฝ่ ายตรงข้าม
เจียงหลียิมบางๆ ตอบกลับมา
6
แลกมาด้วยเลือดและนําตา
พูดด้วยความเกรงอกเกรงใจเป็ นอย่างมาก
เย่หมิงเซียนรีบยกมือคารวะ ขณะเดียวกันก็อดเหลือบ
มองเจียงหลีไม่ได้
นีคือความปรารถนาของนาง
ระหว่างทีเดินทางกลับ เย่ซือเจียและเย่หมิงเซียนต่าง
ฝ่ ายต่างเงียบงัน
8
เรืองทังหมดทีเกิดขึนภายในจวนตระกูลเจียงนัน ล้วนอยู่
เหนือความคาดหมายของพวกเขา ขณะกําลังจะเดิน
ผ่านประตูทางเข้าโรงเตียม เย่หมิงเซียนก็เอ่ยถามผูเ้ ป็ น
หลานชาย “ซือเจีย เจ้าคิดว่า หลีเอ๋ออยากกลับไปเยียม
ท่านย่าของเจ้าจริงหรือไม่”
10
“ไม่ถงึ ขนาดนัน” เย่หมิงเซียนกล่าวกลัวหัวเราะ “วันนีที
ข้าประเมินนาง ดูแล้วไม่เหมือนสตรีทีชอบดูแคลนผูค้ น
แม้จะไม่รูเ้ หตุผลทีทําให้นางอยากกลับเซียงหยาง แต่ถงึ
กระนันก็ยงั เป็ นคนในครอบครัวเดียวกัน พวกเราควรเชือ
นางสักครัง” เขาทอดถอนใจ “ความคิดคนตระกูลเจียง
นันยากจะคาดเดา จีซูหรันผูน้ ีเจ้าก็เห็นแล้ว หลีเอ๋ออยู่
รอดมาได้อย่างทุกวันนี ก็คงลําบากกว่าพวกเรามากนัก
นับว่าเป็ นหญิงสาวทีเข้มแข็ง และชาญฉลาดยิง”
เย่ซือเจียไม่พดู อะไรต่อ
หลังจากเงียบงันไปนานจึงกล่าวว่า “อย่าเพิงด่วนตัดสิน
11
คอยดูไปก่อนก็แล้วกัน”
ณ สวนซูซวเอวี
ิ ยน จีซูหรันกําผ้าเช็ดหน้าในมือแน่นจน
ข้อนิวเป็ นสีขาวด้วยโทสะถึงขีดสุด
เจียงหลีขอกลับไปเยียมบ้านตระกูลเย่ฝังมารดาของนาง
ดูเหมือนเป็ นแค่เรืองเล็กน้อย ทว่าจีซูหรันกลับสัมผัสได้
ถึงหายนะทีกําลังเริมก่อตัว
“ฮูหยินอย่าได้โมโหไปเลยเจ้าค่ะ” สวินชุน--สาวใช้ขา้ ง
กายจีซูหรันเดินหน้าขึนไปหนึงก้าว แล้วกระซิบว่า “การ
ทีคุณหนูรองจะไปเยือนเมืองเซียงหยาง อาจเป็ นเรืองดีก็
ได้นะเจ้าคะ”
12
“จะดีไปได้อย่างไร” จีซูหรันขมวดคิวมุน่
“ตอนนีในจวนมีเรืองเกิดขึนมากมาย คุณหนูรองเองก็
เฉลียวฉลาด มักจะทําเรืองรายงานนายท่านใหญ่เสมอ
หากคุณหนูรองจากไป ฮูหยินก็สามารถจัดแจงให้คณ
ุ หนู
สามได้ใช้เวลากับนายท่านใหญ่บา้ ง เดิมทีนายท่านใหญ่
ก็รูส้ กึ ผิดต่อคุณหนูสามเพราะเรืองของคุณชายโจว
คราวนีถือว่าเป็ นโอกาสอันดี ไม่มีคณ
ุ หนูรองแล้ว คุณหนู
สามกับนายท่านใหญ่จะต้องเข้าอกเข้าใจกันมากขึน”
จีซูหรันยังคงนิงเงียบ
13
“อีกทัง” สวินชุนกล่าวเสริมพร้อมรอยยิม “จวนอํามาตย์
นันออกง่าย แต่ใช่วา่ จะกลับเข้ามาได้อย่างสะดวกสบาย
ในตอนนัน คุณหนูรองก้าวออกจากประตูจวนตระกูล
เจียงไป แปดปี ให้หลังถึงมีโอกาสได้หวนกลับ ฐานะที
เป็ นอยูย่ งั นังครองได้ไม่นานก็รบี ร้อนจากไปเมืองเซียง
หยาง ถ้าไม่ใช่เพราะนางโง่เขลาแล้วจะเรียกว่าอะไร การ
จากไปครังนี ใครจะรูว้ า่ เมือไรถึงได้หวนกลับ หรือ...” พูด
ถึงตรงนีเสียงก็แผ่วลง “อาจจะไม่ได้กลับมาอีกเลย”
“เจ้าหมายความว่า...” จีซูหรันนิงอึง
15
สาวของจวนอํามาตย์ หากเกิดอะไรขึนคนรอบข้าง
ย่อมออกหน้าช่วยสืบหาสาเหตุ แต่ถา้ เกิดเหตุขนที
ึ เมือง
เซียงหยาง หรือในระหว่างการเดินทาง...” ดวงตาของจี
ซูหรันฉายแววอํามหิตออกมา “ก็จบั มือใครดมไม่ได้ หรือ
ต่อให้พยายามสืบสาวราวเรือง ทว่าร่องรอยต่างๆ ก็จะ
ถูกสะสางอย่างหมดจดไปแล้ว ตระกูลเย่มงคั
ั งรํารวย
และมากด้วยทรัพย์ มักถูกปองร้าย เป็ นเรืองทีพบได้บอ่ ย
ครัง”
เซียฮันกับสวินชุนผงกศีรษะสนับสนุน
จีซูหรันเอือมมือจับใบสีเขียวเรียบลืนของต้นลีทีอยูบ่ น
โต๊ะ
16
บทที 96 เหมือนเดินออกมาจากภาพวาด
ทีผ่านมา ทังในจวนตระกูลเจียงหรือในเมืองเยียนจิง
เพือรักษาชือเสียงว่าเป็ นแม่เลียงทีโอบอ้อมอารี นางจึง
ไม่มีโอกาสได้ลงมือ ทําให้เจียงหลีได้รบั ชัยชนะอยูร่ าไป
ํ
ลําพังนางเพียงคนเดียวคงยากจะทําเรืองนีให้สาํ เร็จ
หากต้องการลงมือในเมืองเซียงหยางโดยไม่ถกู จับได้ คง
ต้องพึงพาคนตระกูลจี
ขณะทีทางฝังจีซูหรันกําลังปรึกษากัน เรืองการเดิน
2
ทางออกจากเมืองหลวงของเจียงหลี ณ เรือนฟั งเฟย
ถงเอ๋อและไป๋ เสวียก็วนุ่ วายอยูก่ บั การจัดเตรียมสัมภาระ
“คุณหนูไม่มีอะไรต้องนําติดตัวไปเป็ นพิเศษหรือเจ้าคะ”
ไป๋ เสวียถามอย่างตังอกตังใจ “หรือมีเรืองอืนใดทีต้องทํา
ออกจากเมืองเยียนจิงครังนีกว่าจะได้กลับมาก็อีกหลาย
วัน อยากกินขนมอะไร ประเดียวบ่าวจะไปซือมาให้ ที
เซียงหยางอาจไม่มีของทีต้องการ”
ไป๋ เสวียก็เช่นกัน
นําเอาความแค้นกับชีวิตทีดับสูญของเซวียเจากลับเมือง
4
เซียงหยาง ไม่วา่ จะอย่างไร นางก็ตอ้ งไปดูสกั ครัง
เมือวานแสงแดดยังเจิดจ้า ทว่าวันนีกลับมีฝนตกปรอยๆ
ถงเอ๋อยืนมือออกไป แล้วหันกลับมารายงานเจียงหลี
5
“คุณหนู ฝนลงเม็ดหนาพอควร ถ้าอย่างไรเราออกไปกัน
วันหลังดีไหมเจ้าคะ”
ถงเอ๋อได้ฟังจึงสงบปากสงบคํา
6
ไม่นกึ ว่าวันนีฝนจะตก ด้วยถงเอ๋อคิดว่าเรืองนีมิใช่กิจ
ธุระเร่งด่วนใดๆ อย่างไรเสียเย่หมิงเซียนก็ยงั รังอยูเ่ มือง
เยียนจิงอีกสิบกว่าวัน ไว้รอให้อากาศปลอดโปร่งแล้ว
ค่อยออกไปก็ยงั ไม่สาย ใครเลยจะคิดว่าเจียงหลีทีเป็ น
คนง่ายๆ มาโดยตลอด จะเกิดดือรันเอาวันนี
หน้าตาของคุณหนูรองเจียงมิได้งดงามโดดเด่นเช่นเซวี
ยฟั งเฟย แต่ก็ไม่นบั ว่าด้อยกว่ามาตรฐาน อีกทังช่วงที
ผ่านมาได้ฟืนฟูสขุ ภาพอยูใ่ นจวนตระกูลเจียง นับว่ากิน
ดีอยูด่ ีกว่าตอนทีอาศัยอยูบ่ นเขาชิงเฉิงซาน ยามนีถึงไม่
มีรอ่ งรอยรูปร่างอันซูบซีดผอมโซปรากฏให้เห็น ดูอย่าง
7
ไรก็สดใส น่ารักน่าเอ็นดู
ท่านพ่อ... ก็คงจํานางไม่ได้เช่นกัน
ความหม่นหมองโศกเศร้าพลันพรังพรูเข้ามาในใจของ
8
เจียงหลี นางจึงไม่มองคันฉ่องบานนัน แต่หนั มากล่าวว่า
“ไปกันได้แล้ว”
กระทังตกบ่าย ก็ไปหาอะไรกินทีเหลาสุราในเมืองเยียน
จิง เห็นฝนยังไม่หยุด ถงเอ๋อจึงกล่าวว่า “เห็นทีฝนคงจะ
ไม่หยุดตกง่ายๆ คุณหนู ประเดียวกินข้าวเสร็จแล้วพวก
เรากลับกันดีกว่า ข้างนอกก็ไม่เห็นจะมีอะไรน่าเทียวเลย
นะเจ้าคะ”
9
เจียงหลีครุน่ คิดครูห่ นึงจึงตอบว่า “ไม่กลับ พวกเราจะไป
ลานหยูเ่ ก๋อ*กัน”
10
แต่ไหนแต่ไรไป๋ เสวียก็เชือฟั งเจียงหลีโดยไม่คิดจะเถียง
แม้เพียงครึงคํา ถงเอ๋อเห็นเช่นนันก็ยอมโอนอ่อนผ่อน
ตาม ได้แต่มองเจียงหลีแล้วเอ่ยปากถาม “คุณหนูไปรูจ้ กั
ลานหยูเ่ ก๋อตังแต่เมือไรหรือเจ้าคะ บ่าวไม่เคยได้ยินมา
ก่อน”
“บังเอิญคนอืนพูดกันผ่านหู” เจียงหลีกล่าวเรียบๆ
“เพราะไม่ใช่สถานทีโด่งดัง จึงยังไม่เป็ นทีรูจ้ กั ”
ถงเอ๋อพยักหน้าตาม ราวกับกําลังนึกอะไรบางอย่าง
11
ตอนนัน เนืองจากนางแท้งลูก ร่างกายจึงอ่อนแอกระทัง
ล้มป่ วย พอรูข้ ่าวการตายของเซวียเจายังพยายามลุกขึน
มาอย่างยากลําบาก แต่อาํ เภอถงเซียงอยูห่ า่ งจากเมือง
เยียนจิงมาก นางไม่มีปัญญาแบกสังขารอันป่ วยไข้ไปนํา
เถ้ากระดูกของเขากลับถงเซียง เสินฮูหยินเองก็ไม่
ยินยอมให้นางทําเช่นนัน นางถูกกล่าวหาว่าเป็ นความ
เสือมเสียของตระกูลเสิน ไม่สามารถออกจากจวนไปให้
ขายหน้า ดังนันเรืองจัดการศพของเซวียเจาล้วนแต่เป็ น
ความกรุณาของเสินอวีหยงทังสิน
12
โอกาสค่อยพาเซวียเจากลับบ้านเกิด
14
อ่าวไป๋ ลูอ่ ยูร่ มิ ทะเลสาบรอบเมืองเยียนจิง ในรัชสมัย
ก่อน มีนกั ปราชญ์ทา่ นหนึงอาศัยอยูท่ ีนัน เขาเลียง
กระเรียนขาวไว้ฝงู ใหญ่ ต่อมาเมือนักปราชญ์ถงึ แก่กรรม
กระเรียนขาวก็บินจากไป เหลือไว้เพียงชืออ่าวไป๋ ลูแ่ ห่งนี
ลานหยูเ่ ก๋อตังอยูไ่ ม่ไกลจากอ่าวไป๋ ลูน่ กั
15
ถงเอ๋อยืนมองด้วยความตืนเต้น “สวยจริงๆ เจ้าค่ะคุณ
หนู หมอกฝนทีนีสวยมากๆ”
ไม่ไกลนัก ท้อต้นหนึงหยังรากอย่างสงบนิงเหมือนทีผ่าน
มา ผลิดอกทังต้นจนโรยราไปนานแล้ว ยามนีจึงดูไร้สีสนั
17
บทที 97 ข้าคือพีสาวของเจ้า...
เจียงหลียืนกางร่มอยูห่ น้าหลุมศพ
เซวียเจาถูกโจรป่ าทําร้ายระหว่างเดินทางเข้าเมืองหลวง
แล้วทิงศพลงแม่นาํ ดังนัน ตอนทีนางเห็นร่างเซวียเจา
เป็ นครังสุดท้าย ใบหน้าของเขาจึงเปลียนไปจนดูไม่ได้
หากไม่ใช่เพราะปานบนร่าง นางคงไม่เชือว่าศพทีเย็นยะ
เยือกนันคือชายหนุ่มทีสดใสร่าเริงอย่างเซวียเจา
1
ก่อนตาย เขาถูกทรมานจากเดนมนุษย์ แม้แต่ตอนนีรอย
มีดทีกรีดร่างยังทําให้เจียงหลีหวาดกลัว เมือก่อนนางไม่
เคยตังข้อสงสัย กระทังก่อนตายถึงได้รูค้ วามจริงว่าทัง
หมดเป็ นแผนการขององค์หญิงหย่งหนิง ดังนัน รอยมีดที
ปรากฏจึงไม่ใช่การกระทําของโจรป่ า แต่เกิดจากฝี มือ
ขององค์หญิงหย่งหนิง
เดิมทีคิดว่าหากนําเรืองนีไปร้องเรียนก็จะสามารถเอาผิด
ได้ แต่ตวั เองกลับต้องมาติดกับดักอย่างไม่คาดฝัน เจียง
หลีมิอาจจินตนาการภาพความสินหวังและทุกข์ทรมาน
ในช่วงลมหายใจสุดท้ายของเซวียเจาได้
‘อาเจา...’
5
ดูเหมือนฝนจะซาลงไปบ้าง หลุมศพทีอยูต่ รงหน้ายังคง
เงียบสงบ ไม่รูว้ า่ นกนางแอ่นสีแดงตัวหนึงบินมาจาก
ไหน มันโผลงเกาะกิงไม้แล้วเอียงคอมองนาง บนปี กมี
หยดนําพร่างพราว เจ้านกน้อยออกแรงกระพือปี กเพือ
ขับไล่ความเปี ยกชืน ครันเห็นร่มทีเจียงหลีวางไว้เหนือ
หลุมศพก็โฉบลงมาเกาะอยูบ่ นหลุมศพ อาศัยเงาร่มช่วย
บังฝนแล้วส่งเสียงร้องไม่หยุด
6
มุง่ หน้ากลับไปยังลานหยูเ่ ก๋อ เมือถงเอ๋อกับไป๋ เสวียเห็น
นางเปี ยกปอนก็ตกใจนัก ถงเอ๋อพลันกล่าวว่า “ร่มของ
คุณหนูละ่ เจ้าคะ เหตุใดถึงได้ตากฝนจนเสือเปี ยกซ่ก
แบบนี”
“เห็นนกนางแอ่นสีแดงตัวหนึงตากฝน ข้าสงสารก็เลย
วางร่มไว้ใต้ตน้ ท้อด้านหลัง เพือบังฝนให้”
7
เจียงหลียิมพลางเอ่ยด้วยความตืนตัน “ข้าไม่ทนั คิด”
ไม่นาน เหวินจี--องครักษ์คนสนิทของจีเหิงก็เดินเข้ามา
8
ใบหน้าของเหวินจีเต็มไปด้วยความลังเล “นายท่าน...”
9
“ว่าอย่างไรนะ” ลูจ่ ีทีอยูอ่ ีกด้านพอจะมองออก เขาลูบ
เคราพลางถามซักไซ้ “นายท่านสังให้คนไปจับตาดูคณ
ุ
หนูรองเจียงหรือขอรับ”
10
ไปนังเล่นกันทีลานหยูเ่ ก๋อ ต่อมานางจึงไปทีต้นท้อด้าน
หลังลานหยูเ่ ก๋อ ตรงนันมีหลุมศพของคนผูห้ นึง คุณหนู
รองเจียงเอาร่มของตนวางทิงไว้ เพือกางร่มให้หลุมศพ
นัน”
จีเหิงและลูจ่ ีพลันหยุดชะงักพร้อมกัน
11
“ก็ดเู หมือนจะไปเซ่นไหว้” จีเหิงกล่าว
“คุณหนูรองเจียงคนนีทําการอะไรไม่เคยทิงพิรุธให้ใคร
จับได้ ทังยังปิ ดกันตัวเองเสียจนเคยชิน” จีเหิงแค่นยิม
กล่าว “วันนีนางออกจากบ้านไปจับจ่ายข้าวของ ทังยัง
แวะชมทัศนียภาพทีลานหยูเ่ ก๋อ ล้วนแต่เป็ นฉากหน้า จุด
ประสงค์ทีแท้จริงของนางก็เพือไปยืนอยูห่ น้าหลุมฝังศพ
เพียงชัวครู”่
12
มาก” เขาประมวลความคิดแล้วสรุปออกมา
หากกล่าวว่าเจียงหลีกระทําการสิงใดล้วนแนบเนียนไร้
ร่องรอย ก็ตอ้ งบอกว่าจีเหิงสามารถประเมินเหตุการณ์
ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง มองเพียงชัวครูก่ ็รูล้ กึ ถึงแก่นแท้
13
ภายใต้การปกครองอันผาสุกก็ยงั มีจดุ ทีวุน่ วาย ใต้บาท
โอรสสวรรค์ในเมืองเยียนจิง มีคนตายอย่างไม่รูส้ าเหตุ
เป็ นจํานวนมาก มีหลุมศพกลบหน้ายังถือว่าโชคดี พวก
ทีไร้อาํ นาจขาดกําลังส่วนใหญ่ลว้ นมอดม้วยไปอย่างไร้
ค่า เหมือนทําเม็ดเกลือหล่นลงไปในทะเล ไม่ก่อให้เกิด
ผลกระทบใดๆ แต่ละลายกลายเป็ นเนือเดียวกับ
มหาสมุทร
“แต่เซวียเจากับเจียงหลีมีความเกียวข้องกันอย่างไร” ลูจ่ ี
งุนงงยิงนัก “ไม่วา่ ในแง่มมุ ไหน ตระกูลเซวียกับตระกูล
เจียงก็ไม่มีอะไรเกียวข้องกันสักอย่าง เจียงหลีอยูบ่ นเขา
ชิงเฉิงซานนานแปดปี ระหว่างนีก็ไม่น่าจะไปเกียวข้อง
กับเซวียเจาได้ อีกทังเซวียเจาเพิงตายจากไปเมือปี กลาย
15
ส่วนเจียงหลีนนเพิ
ั งกลับเข้าเมืองมาในปี นี” เขาลังเลอยู่
ครูห่ นึงจึงถามว่า “ก่อนหน้านี เซวียเจาเคยมาเยือนเมือง
เยียนจิงรึ หรือว่าเคยไปทีเขาชิงเฉิงซาน”
16
ตระกูลเจียงใจดีมีเมตตาปานใด ก็คงจะไม่แสดงสีหน้า
โศกเศร้าให้กบั คนทีปราศจากความเกียวข้องผูกพัน
วันนีเจียงหลีวกไปวนมา ทีแท้ก็เพือจะเคารพศพของเซวี
ยเจา หากไม่รูจ้ กั มักคุน้ นางจะทําถึงเพียงนีเชียวหรือ
“เจ้าพูดเองว่าพวกเขาทังสองไม่มีทางรูจ้ กั กันได้มิใช่
หรือ” ลูจ่ ียอ้ นถาม “หน้าก็ยงั ไม่เคยเห็น แล้วจะชอบพอ
กันได้อย่างไร”
17
ก็ใช่สนิ ะ เหวินจีพูดอะไรไม่ออก
18
บทที 98 พวกข้าจะรอเจ้ากลับมา
1
“บ้านตระกูลเซวีย” ลูจ่ ีสงสัย “เซวียฟั งเฟย--ฮูหยินท่าน
จอหงวนผูน้ นั ดูเหมือนว่าบิดาของนางจะเป็ นข้าราชการ
ชันผูน้ อ้ ย ในบ้านมีกนั อยูไ่ ม่กีชีวิต ไม่ได้มีอะไรเป็ น
พิเศษ”
“อย่าลืมว่าเจียงหลีกาํ ลังจะกลับเมืองเซียงหยางไป
พร้อมกับเย่หมิงเซียน ฟั งแล้วไม่น่าแปลกใจหรอกหรือ”
ริมฝี ปากของจีเหิงปรากฏรอยยิมบางๆ “ตามลักษณะ
นิสยั ของคุณหนูรอง จะละทิงชัยภูมิหลักอย่างจวน
ตระกูลเจียง แล้วเปลียนไปออกรบนอกสมรภูมิได้อย่าง
ไร เว้นเสียแต่วา่ เซียงหยางมีสงที
ิ สําคัญกว่า”
“นางกับตระกูลเซวียมีความเกียวข้องกัน หรืออาจกล่าว
ได้วา่ ตระกูลเซวียมีสงที
ิ นางต้องการ”
“เหวินจี สาเหตุการตายของเซวียเจามีเบืองหลังอย่างไร
เจ้าจงไปสืบมาให้ละเอียด” จีเหิงเล่นพัดในมือพลาง
3
กล่าว “ไม่แน่วา่ สาเหตุการตายของเซวียเจาผูน้ ี คุณหนู
รองของพวกเราจะรูต้ ืนลึกหนาบางอยูไ่ ม่นอ้ ย”
ลูจ่ ีองงั
ึ น “แม้แต่เรืองนีนางก็รูอ้ ย่างนันรึ”
4
เย่หมิงเซียนมารับเจียงหลี เตรียมตัวเดินทางออกจาก
เมืองเยียนจิง มุง่ หน้าสูเ่ ซียงหยางพร้อมกัน
เย่หมิงเซียนรับปาก “วางใจเถิด”
5
เจียงหลีหนั กลับมากล่าวอําลาฮูหยินผูเ้ ฒ่า “ท่านพ่อกับ
ท่านย่าอย่าได้กงั วลใจ พบท่านยายแล้ว หลานจะ
รีบกลับมาโดยเร็ว”
6
ในใจของนางพลันผ่อนคลาย แล้วจึงเปลียนเป็ นตืนเต้น
ระยะห่างจากเมืองเยียนจิงถึงเซียงหยาง หากเดิน
ทางอย่างรีบเร่งโดยไม่หยุดพัก ก็จะใช้เวลาประมาณ
หนึงเดือนเศษๆ
เย่หมิงเซียนว่าจ้างขบวนรถม้าอารักขามาคุม้ ครองความ
7
ปลอดภัยให้กบั เจียงหลี เจียงหยวนปั วเองก็จดั หาทหาร
องครักษ์มาคอยติดตามนางเช่นกัน หากโชคร้ายถูกโจร
ป่ าดักปล้น ก็ยงั สามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย
เมือขบวนรถม้ามาถึงหน้าประตูเมืองเซียงหยาง ถงเอ๋อก็
เปิ ดม่านขึนกวาดตามองออกไปด้านนอกด้วยความ
อยากรูอ้ ยากเห็น พลางพึมพําว่า “ทีนีก็คือเมืองเซียง
หยางสินะ ดูๆ ไปก็ครึกครืนดีเหมือนกัน”
8
เจียงหลีมองทิวทัศน์ดา้ นนอก ในแววตามีแต่ความคิดถึง
9
เซียงหยางทีอยูต่ รงหน้าในตอนนี ดูแล้วยังคงรูส้ กึ คุน้ เคย
เหมือนทีผ่านมา ทว่ารุง่ เรืองและคึกคักกว่ามาก อีกทัง
ยังมีผคู้ นพลุกพล่านกว่าเมือเจ็ดแปดปี ก่อน
หากเซวียเจายังอยู่ เขาจะต้องหัวเราะอย่างเบิกบาน
ขณะลากนางเดินเทียวไปทัวเซียงหยางแน่...
10
เคลือนตัวช้าลง ไม่รูว้ า่ ผ่านไปนานแค่ไหน ในทีสุดรถม้า
ก็หยุดนิง เสียงของเย่หมิงเซียนดังเข้ามาจากด้าน
นอกอย่างกระตือรือร้น “หลีเอ๋อ ลงรถเถิด พวกเรามาถึง
แล้ว”
ถงเอ๋อพยุงเจียงหลีลงจากรถม้า
11
หรืออาจกล่าวได้วา่ ความรํารวยของตระกูลเย่นนั หาก
นําไปเปรียบเทียบกับเศรษฐี ในเมืองเยียนจิงก็ยงั
สามารถติดอันดับได้
“ไม่เลวเลยทีเดียว” เจียงหลียิมบางๆ
เมือก่อนนางกับเซวียเจามาเทียวเซียงหยาง ก็เคยได้ยิน
ชือเสียงของจวนตระกูลเย่อยูบ่ า้ ง ตอนเดินผ่านประตู
จวนแห่งนี เซวียเจายังเคยกล่าวว่า หากสามารถเข้าไปดู
ว่าข้างในหน้าตาเป็ นอย่างไรก็คงดี ไม่คิดเลยว่าวันหนึง
13
นางจะสามารถก้าวผ่านประตู เข้ามาดูความโอ่อา่ นีได้
อย่างเป็ นทางการ
เย่หมิงเซียนเอ่ยกลัวหัวเราะ “พวกเราไปกันเถิด”
เจียงหลีกบั เย่หมิงเซียนเดินเข้าประตูไปพร้อมกัน
14
มองอย่างสนอกสนใจ พากันคาดเดาสถานะของเจียงหลี
ไปต่างๆ นานา
ในห้องโถงจินฮว่ายามนีมีผคู้ นมารวมตัวกัน
“ท่านพ่อกลับมาเสียที” ชายหนุ่มอายุราวสิบสีย่างสิบห้า
ปี กล่าวทักทาย “ไม่รูว้ า่ กลับจากเยียนจิงครังนีมีอะไรติด
ไม้ติดมือมาบ้าง”
15
“น้องสาวอย่าได้ตาํ หนิหยูฟงเลย” ฮูหยินอีกคนไกล่เกลีย
“ความคิดความอ่านของหยูฟงยังเด็กไปบ้าง หากซือเจี
ยอยูด่ ว้ ย ก็คงเป็ นเช่นนีเหมือนกัน”
16
ขณะกําลังพูดคุยอยูน่ นั พลันได้ยินเสียงเด็กรับใช้จาก
ด้านนอกรายงานว่า “นายท่านรองกลับมาแล้วขอรับ”
“ท่านพ่อ” ชายหนุ่มรุดเข้ามา
17
พวกเขาไม่ได้พบหน้ากันมานานนับสิบปี
หนุ่มน้อยคนนันคือบุตรชายของเย่หมิงเซียน นามว่า
เย่หยูฟง ทันทีทีสายตาเหลือบไปเห็นเจียงหลีทีอยูด่ า้ น
หลัง ก็ผละออกจากอ้อมกอดของเย่หมิงเซียนแล้วถาม
ขึนด้วยความสงสัย “นางเป็ นใคร”
18
บทที 99 ป้ าสะใภ้
ฮูหยินรูปร่างผอมบางท่าทางเหมือนมีการศึกษาผูน้ นก็
ั
คือภรรยาของเย่หมิงเซียน นางมาจากตระกูลจัว หรือที
คนทัวไปเรียกขานว่านางจัวซือ พอนางเห็นเจียงหลีก็ชกั
สีหน้าไม่พอใจ คงจะนึกว่าเจียงหลีเป็ นหญิงสาวอย่างว่า
ทีเย่หมิงเซียนพบเจอระหว่างทาง คนค้าขายจนรํารวย
มักจะมีเรืองแบบนีอยูเ่ ป็ นประจํา ระหว่างออกเดินทาง
ไปทําการค้า ต้องจากบ้านนานสามปี หา้ ปี ก็มกั จะมีสตรี
1
แปลกหน้าตามกลับมาด้วย บางคนยังหอบลูกกลับมา
อีกต่างหาก แต่เย่หมิงเซียนจากบ้านไปไม่กีเดือน จะมี
ลูกกลับมาก็คงเป็ นไปไม่ได้ หากบอกว่าระหว่างทางเขา
พาสตรีกลับมาด้วย ยังดูจะเข้าเค้ามากกว่า
เย่หมิงเซียนหัวเราะชอบใจพลางเดินไปยังชายในชุดสี
นําเงินทียืนอยูอ่ ีกด้าน กล่าวว่า “พีใหญ่ ครังนีข้าไม่ได้
กลับมาเพียงลําพัง พวกท่านดูสวิ า่ นีใคร ยังจํากันได้หรือ
เปล่า”
“นางก็คือหลีเอ๋อ--บุตรสาวของเจินเจินอย่างไรเล่า”
3
เย่หมิงเซียนกล่าวกลัวหัวเราะ “ครังก่อนตอนทีได้พบหลี
เอ๋อ นางยังเป็ นแค่เด็กตัวเล็กๆ ดูสติ อนนีโตเป็ นสาวแล้ว
หลีเอ๋อ นีคือลุงหมิงฮุยกับป้าสะใภ้ใหญ่”
เย่หมิงฮุยและนางกวนซือผูเ้ ป็ นภรรยาต่างตกตะลึง
นางกวนซือไม่รูว้ า่ ควรจะทําตัวอย่างไร ส่วนเย่หมิงฮุย
นันขมวดคิวมุน่
ภายในห้องพลันเงียบกริบ
นางจัวซือรีบห้ามปรามบุตรชายไว้ ทว่าเย่หยูฟงกลับ
มองด้วยสายตาแข็งกร้าว ไม่มีความเกรงใจแม้แต่นอ้ ย
ขณะกล่าวต่อไปว่า “ในเมือกล้าทํา แล้วจะกลัวคําครหา
ของคนอืนไปทําไม”
5
หยาง ไม่ได้สง่ ข่าวบอกกล่าวสักคําว่าจะพาเจียงหลี
ติดตามมาด้วย คนตระกูลเย่ไม่รูเ้ ลยว่าจะได้พบหน้า
เจียงหลี จู่ๆ นางก็ปรากฏตัวขึนมาในเวลานี ต่างก็ไม่รูว้ า่
จะต้องทําตัวอย่างไร ถ้อยคําในอดีตของเจียงหลีเมือ
หลายปี ก่อนทําร้ายจิตใจฮูหยินผูเ้ ฒ่าและคนตระกูลเย่
ทังหมดจนยับเยิน พวกเขาจึงถือเสียว่าเจียงหลีไม่มีตวั
ตนอีกต่อไป แต่แล้วจู่ๆ นางก็มาปรากฏตัวอย่างไม่คาด
คิด
เย่หมิงฮุยมองเย่หมิงเซียนอย่างกล่าวโทษทีเขาไม่บอก
เรืองนีตังแต่ตน้ เย่หมิงเซียนเองก็ทาํ หน้าไม่ถกู ขณะ
เดียวกันก็อดทีจะสังเกตปฏิกิรยิ าของเจียงหลีมิได้
เจียงหลียืนกรานทีจะกลับเซียงหยางมาพร้อมกับเขา ก็
6
ควรจะคาดเดาได้วา่ จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี ใช่วา่ ตระกู
ลเย่จะไม่มีหวั จิตหัวใจ สถานการณ์ตรงหน้า ไม่รูว้ า่ เจียง
หลีจะรับมืออย่างไร
เจียงหลีมองเหตุการณ์ตรงหน้าพร้อมรอยยิมเช่นเดิม ใน
ทีสุดก็กล่าวเพียงว่า “ใช่แล้ว ข้าก็คือเจียงหลี ‘ผูน้ น’
ั ”
คนตระกูลเย่ทงหมดได้
ั แต่องงั
ึ น
นางใช้ความสงบสยบความเคลือนไหว เย่หมิงเซียน
พิจารณาสถานการณ์แล้วก็อยากหัวเราะออกมา ขนาด
เย่หมิงฮุย--พีใหญ่ทีสุขมุ เยือกเย็น ครันต้องมาเผชิญกับ
เหตุการณ์ตรงหน้าก็ถงึ กับรับมือไม่ทนั ยังดีทีเขารูล้ าํ ดับ
7
ชันของคนตระกูลเย่ จึงแสร้งกระแอมเบาๆ แล้วเอ่ยแนะ
นํา “นีคือป้าสะใภ้รอง” เขาแนะนําภรรยาของตนอีกครัง
นางจัวซือยิมรับตามสัญชาตญาณ ครันนึกได้ก็นิงงัน
เย่เจียเอ๋ออายุมากกว่าเจียงหลีประมาณหนึงปี หน้าตา
ท่าทางใจดีดมู ีสง่าราศี สายตาทีนางใช้มองเจียงหลีเต็ม
8
ไปด้วยความสงสัยใคร่รู ้ แต่ก็ยงั คงยิมแย้มและผงก
ศีรษะให้กบั เจียงหลี
แต่เย่หยูฟงไม่เหมือนกับเย่เจียเอ๋อ เขาร้องหยันแล้วหัน
หน้าไปอีกทาง ทําเหมือนไม่อยากมองเจียงหลี
เจียงหลีพยักหน้ารับ “ท่านยาย...”
เย่หมิงฮุยพยักหน้ารับ แล้วออกปากสังนางกวนซือ“เจ้า
10
ไปเก็บกวาดห้องว่างให้หลีเอ๋อได้พกั ผ่อน” จบคําก็หนั มา
กล่าวกับเจียงหลี “เจ้ากับท่านลุงรองคงเหน็ดเหนือยมา
ตลอดทาง วันนีอย่าเพิงคิดอะไรให้วา้ วุน่ ใจเลย ไปพัก
ผ่อนเสียก่อน มีอะไรพรุง่ นีค่อยว่ากัน”
เจียงหลีองงั
ึ น คําพูดของเย่หมิงฮุยนี ออกจะเกรงใจและ
ห่างเหิน นางนึกทอดถอนใจ ความบาดหมางระหว่าง
คุณหนูรองเจียงกับตระกูลเย่ช่างหยังรากลึกเสียจริงๆ ไม่
อาจแก้ไขในระยะเวลาอันสัน เป็ นภาระอันหนักอึงไปอีก
นาน
เจียงหลียิมอย่างจริงใจ “ขอบคุณท่านลุงหมิงฮุย”
11
เมือเทียบกับผูเ้ ป็ นลุง ป้าสะใภ้ทงสองไม่
ั รูว้ า่ ควรทํา
ตัวอย่างไร ไม่อาจวางตัวห่างเหินเหมือนกับสองพีน้อง
ตระกูลเย่ แต่ก็ไม่สามารถใกล้ชิดสนิทสนมได้ ดูลาํ บาก
ใจจริงๆ เจียงหลีประเมินเหตุการณ์ดว้ ยความรูส้ กึ ขบขัน
ยังดีทีไม่ตอ้ งอยูต่ รงนีอีกนานนัก รอให้นางกวนซือปั ด
กวาดห้องหับจนเสร็จเรียบร้อย ข้างกายเจียงหลีก็ไม่มี
ใครอืนนอกจากสาวใช้ขา้ งกายทังสอง
เงียบสงบเสียที
เจียงหลีนงลงผ่
ั อนคลายอิรยิ าบถ ถงเอ๋อปิ ดประตูลง
กลอน ขณะทีไป๋ เสวียไปต้มนําเพือชงชา ถงเอ๋อพลัน
กระซิบเสียงเบา “คุณหนู คนตระกูลเย่จงใจไม่ให้ทา่ น
พบกับฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่ชดั ๆ”
12
“คุณหนู หากทนไม่ไหวจริงๆ รอพบกับฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่
แล้วพวกเราก็กลับเมืองเยียนจิงกันเถอะเจ้าค่ะ” ไป๋ เสวี
ยกล่าวเสริม “วันหลังหากตระกูลเย่ยงั เป็ นเช่นนี พวกเรา
คงอยูท่ ีนีกันลําบาก”
นางมาเยือนเมืองเซียงหยางในครังนี การพบปะญาติพี
น้องหรือคารวะฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่ลว้ นเป็ นเพียงข้ออ้าง จุด
ประสงค์หลักทีนางมาก็เพือสืบเสาะเรืองของเซวี
ยฮว๋ายหย่วน เพียงแต่ตอนนียังไม่สามารถออกไปหา
ข่าวคราวได้ เพราะจะทําให้คนอืนนึกสงสัยขึนมา
ทุกอย่างจะต้องค่อยเป็ นค่อยไป
ส่วนอีกด้าน เย่หมิงเซียนกําลังถูกนางจัวซือไต่สวนทวน
ความอยูใ่ นห้อง
14
“อยูด่ ีๆ เหตุใดเจียงหลีถงึ ตามกลับมา ท่านไปทําอย่างไร
ทําไมถึงไม่บอกกล่าวล่วงหน้าเลยสักคํา แม้กระทังพี
ใหญ่ก็ยงั คิดไม่ถงึ ” นางจัวซือเดินไปเดินมาอยูห่ ลาย
ตลบ “แล้วตอนนีจะทําอย่างไร นางมาอยูใ่ นบ้านของ
พวกเรา คนข้างนอกเห็นเข้าก็จะต้องเอาไปนินทา ท่าน
นี...น่าโมโหจริงเชียว”เย่หมิงเซียนไม่รูจ้ ะทําอย่างไร
“เหตุใดถึงมาโทษข้า นางพูดเองว่าอยากมาทีเซียงหยาง
เพือคารวะท่านแม่ แม้กระทังฮูหยินผูเ้ ฒ่ากับเจียงหยวน
ปั วก็ยงั ยินยอม แล้วข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร”
15
เห็นว่าตระกูลเย่ไม่มีลกู หลานเป็ นขุนนางจึงรีบตัด
สัมพันธ์ มาตอนนีเห็นตระกูลเย่พอมีลทู่ างก็รบี เข้ามาทํา
ดีดว้ ย”
16
บทที 100 เจ้าจะทําอะไรกันแน่
“เจ้า!” เย่เจียเอ๋อโมโหจนพูดไม่ออก
1
“ตอนนีก็ยงุ่ มากพอแล้ว หากพวกเจ้าทังสองอยาก
ทะเลาะกัน ก็ออกไปข้างนอกโน่น”
2
“เหตุใดเจ้าจึงพานางกลับมาด้วย” เย่หมิงฮุยขมวดคิว
ถาม “ไม่บอกล่วงหน้าสักคํา เจ้าจะทําอะไรกันแน่”
3
เจียงหลีแสดงเจตจํานงทีจะมาเยือนเซียงหยางกับเขาว่า
อย่างไร เล่าจบ เย่หมิงเซียนก็วางมือสองข้างลง “เรืองก็
เป็ นเช่นนี พวกท่านฟั งแล้วคิดว่าหลานสาวคนนีของพวก
เราต้องการอะไร”
“นางสอบได้เป็ นอันดับหนึงในหกแขนงวิชาของหมิงอี
ถาง แล้วยังได้รบั พระราชทานรางวัลจากฮ่องเต้จริงหรือ”
เย่เจียเอ๋อถามอย่างตืนเต้น “ญาติผนู้ อ้ งหญิงไปอยูใ่ น
4
สํานักนางชีถงึ แปดปี ทีสํานักนางชีไม่มีอาจารย์คอยชี
แนะ แล้วเหตุใดนางถึงสอบได้คะแนนเป็ นอันดับหนึง
เล่า”
“บนโลกใบนีจะมีคนอัจฉริยะหลายด้านขนาดนีเชียว
หรือ” เย่หมิงเซียนส่ายหน้าแล้วเอ่ยแย้งพร้อมรอยยิม
“ข้าคิดว่าในตัวเจียงหลีเก็บงําความลับเอาไว้ไม่นอ้ ย
ตอนทีข้าไปเยียมคนตระกูลเจียง เดิมทีคิดว่าเจียงหลี
เพิงจะกลับเข้าเมืองเยียนจิง การมีอยูข่ องจีซูหรันจะต้อง
ทําให้นางระมัดระวังตัวอย่างมาก ใครเลยจะรูว้ า่ ไม่ได้
เป็ นเช่นนัน ฐานะของนางในจวนตระกูลเจียงสูงกว่าทีข้า
5
คาดไว้เสียอีก พวกท่านลองคิดๆ ดูเถิด ระยะเวลาแค่ครึง
ปี ก็สามารถมาอยูใ่ นจุดนีได้ นีไม่ใช่เรืองทีใครก็ทาํ กันได้
หรอกนะ”
คนในห้องได้ฟังต่างเงียบงัน แล้วพึมพําในสิงทีเย่หมิ
งเซียนเพิงกล่าวมา
“อย่างไรเสีย งานเลียงในวังหลวงนางก็เคยช่วยเหลือซือ
เจียไว้ ก่อนหน้านียังเคยเตือนสติซือเจียเกียวกับหลี
เหลียน ไม่วา่ นางจะใช้ประโยชน์จากตระกูลเย่ก็ดี หรือ
ว่าทําไปเพือการอืนก็ช่าง อย่างน้อยก็ไม่สง่ ผลร้ายต่อซือ
เจีย ข้าไปจวนตระกูลเจียงคราวนี เดิมทีแค่ตอ้ งการเห็น
เจียงหลีดว้ ยตา ใครจะรูว้ า่ นางกลับเปลียนไปเป็ นคนละ
คน”
6
“นางออกปากว่าอยากมาทีเซียงหยาง เดิมทีขา้ เข้าใจว่า
เป็ นอุบายของคนตระกูลเจียง แต่ขา้ ดูจากท่าทีของเจียง
หยวนปั วกับฮูหยินผูเ้ ฒ่าแล้ว พวกเขาราวกับไม่รูเ้ รืองนี
มาก่อน ข้าเองก็อยากรูว้ า่ แท้จริงแล้วนางคิดจะทําอะไร
ถึงได้ตกปากรับคําให้นางติดตามมาด้วย ส่วนทีใน
ระหว่างทางไม่ได้บอกกล่าวให้พวกท่านได้ทราบล่วง
หน้า เป็ นเพราะรีบร้อนกลับมาจนไม่ทนั คิด”
ต่างจากคนตระกูลเย่ทีเป็ นกังวล
8
เจียงหลีกลับโล่งใจนัก อย่างน้อยในสายตาของสาวใช้
บ้านตระกูลเย่ นางก็เป็ นแขกคนหนึงทีต้องได้รบั การ
ปรนนิบตั ิอย่างนุ่มนวล
ผ่านไปไม่กีวัน สาวใช้ในจวนตระกูลเย่ก็เริมสนิทสนมกับ
ถงเอ๋อและไป๋ เสวีย ในวันธรรมดายังมาร่วมวงสนทนากัน
อย่างออกรส
9
แน่ ปากบอกจะให้คณ
ุ หนูเข้าพบฮูหยินผูเ้ ฒ่า แต่หลาย
วันมานีก็ไม่เห็นพูดถึงสักคํา น่าหงุดหงิดเสียจริง”
“เจ้าสนิทสนมกับสาวใช้เหล่านันอยูม่ าก ไม่ได้ยินเรือง
อะไรมาบ้างหรือ” เจียงหลีอมยิมถาม
10
บางอย่างขึนมาได้ “เห็นว่านายท่านสามทีอยูข่ า้ งนอกก็
กําลังเร่งเดินทางกลับเมืองเซียงหยาง คิดว่าอีกไม่กีวันก็
คงจะมาถึง”
11
ข้าวของแปลกๆ มาขายต่อ
เนืองจากเย่เจินเจินกับเย่หมิงอวีเป็ นฝาแฝดต่างเพศที
12
คลอดออกมาพร้อมกัน ตังแต่เล็กจนโตทังสองจึงมีความ
สนิทสนมกันเป็ นพิเศษ นับแต่เจียงหลีพดู จาก้าวร้าวทํา
ร้ายจิตใจฮูหยินผูเ้ ฒ่า คนตระกูลเย่ก็เพิกเฉยต่อนาง มี
เพียงนายท่านสามผูน้ ีทียังไม่ลืมเจียงหลี จนภายหลัง
เย่หมิงฮุยสังห้ามมิให้คนในตระกูลเย่พดู ถึงนาง เย่หมิงอ
วีจึงยอมรามือ
14
เกียวกับเซวียฮว๋ายหย่วนก็คงจะไม่ได้ความ
ถงเอ๋อมองนายหญิงหน้าตาตืน “ไปไหนหรือเจ้าคะ”
15
“ก็เดินเทียวไปเรือยเปื อย” เจียงหลียิมบางๆ “อุดอูอ้ ยูแ่ ต่
ในบ้านตระกูลเย่ทงวั
ั น ในเมือไม่มีอะไรให้ทาํ มิสอู้ อกไป
เดินเทียวยังดีกว่า เข้าเมืองตาหลิวก็ตอ้ งหลิวตาตาม
พวกเราออกไปสํารวจกันหน่อยว่าประเพณีของเซียง
หยางเหมือนหรือแตกต่างจากเยียนจิงอย่างไร”
เจียงหลียิมรับ
16
บทที 101 ไม่รบกวนพีสาวจะดีกว่า...
เก็บข้าวของเรียบร้อย ขณะทีกําลังเตรียมตัวจะออกไป
ข้างนอก ระหว่างทางก็พบกับเย่เจียเอ๋อและนางจัวซือ
เข้าพอดี
1
“นีเจ้า... คิดจะออกไปเทียวตามลําพังรึ” อีกฝ่ าย
ถามอย่างลังเล
นางจัวซือพลันหน้าแดงขึนมา ให้คณ
ุ หนูจากเยียน
จิงอย่างเจียงหลีไปเดินเทียวในเมืองเซียงหยางทีไม่คนุ้
เคยด้วยตัวเอง เป็ นการกระทําทีไม่สมควรอย่างยิง แต่
ว่าอีกสักครูน่ างต้องช่วยนางกวนซือตรวจบัญชีแล้ว ทํา
ให้ไม่อาจปลีกตัวไปกับเจียงหลีได้
2
เย่เจียเอ๋อทียืนฟั งนางจัวซือกับเจียงหลีคยุ กันอยูข่ า้ งๆ
พลันเอ่ยเสียงเบา “ไม่เป็ นไร ข้าเองก็อยากจะไปทีลีเจิง
ถาง กําลังคิดจะออกจากบ้านอยูเ่ หมือนกัน เช่นนันไป
พร้อมกับน้องสาวก็ได้”
เจียงหลียิมพลางปฏิเสธ “ไม่รบกวนพีสาวจะดีกว่า...”
เย่เจียเอ๋อกล่าวอย่างไว้ไมตรี “จะเรียกว่ารบกวนได้อย่าง
ไร ไปทางเดียวกันพอดี ลีเจิงถางเป็ นกิจการของตระกู
ลเย่ ข้าเลยจะไปดูสกั หน่อย หากน้องสาวไม่รงั เกียจก็
เชิญไปเลือกชมแพรพรรณ หากมีชินไหนทีถูกใจ ข้าจะ
มอบให้”
3
พูดถึงขนาดนี หากเจียงหลียงั คงปฏิเสธก็ดจู ะไม่รกั ษา
นําใจ จึงได้แต่กล่าวว่า “ในเมือเป็ นเช่นนี ข้าก็ขอไปกับ
ท่านด้วยคน”
เย่เจียเอ๋อพลันยิมรืน
นางจัวซือยืนมองพวกเขาทังสองคนเดินออกจากประตู
จวนไปอย่างโล่งใจ
4
เจียเอ๋อก็หยุดฝี เท้าแล้วส่งสัญญาณให้เจียงหลี “ดูสิ นัน
ก็คือลีเจิงถาง ร้านของตระกูลเย่เรา”
ไม่ไกลนัก มีอาคารมุงกระเบืองสีแดงตังตระหง่านอย่าง
งดงาม ท่ามกลางตัวเมืองอันคึกคัก อาคารนีตังอยูบ่ น
พืนทีกว่าสิบหมู่ ดูโอ่อา่ ยิง
“สินค้าจําพวกสิงทอของตระกูลเย่ทงหมดผลิ
ั ตขึนจากที
นี ร้านเสือผ้าในเมืองเซียงหยางจะตัดเย็บได้ก็ตอ้ งมาเอา
ผ้าจากลีเจิงถาง ทีผลิตออกมาแล้วมีชือเสียงกว่าใครก็
คือผ้าหอมโบราณ หากน้องสาวชอบก็เข้าไปเลือกได้
เลย” เย่เจียเอ๋อกล่าว
5
เจียงหลีพยักหน้ารับ
ตระกูลเย่รารวยขึ
ํ นได้เพราะอาศัยการค้าจําพวกสิงทอ
ชือเสียงโด่งดังไปไกลในเรืองของแพรพรรณ ผ้าหอม
โบราณทีเย่เจียเอ๋อกล่าว เป็ นผ้าทีบรรดาคุณหนูและฮูห
ยินทังหลายในเมืองเยียนจิงนิยมกันเป็ นอย่างมาก
แม้เย่เจียเอ๋อจะดูเรียบง่าย แต่เมือได้เอ่ยถึงสินค้าของ
ตระกูล นําเสียงก็ยงั แสดงความภาคภูมิใจออกมาอย่าง
ไม่รูต้ วั
6
หยาง ก็เคยผ่านลีเจิงถางมาบ้าง เพียงแต่นางและน้อง
ชายไม่ใช่คนทีสามารถสวมใส่อาภรณ์ทีตัดเย็บจากผ้า
หอมโบราณ จึงได้แต่ยืนดูจากด้านนอก แต่คราวนีกลับ
ได้เป็ นแขกผูม้ ีเกียรติ ถูกเชิญเข้าไปเลือกชมด้วยตนเอง
โลกมนุษย์เรานีช่างไม่มีอะไรแน่นอนเสียเลย
เย่เจียเอ๋อยิมพลางเอ่ยชวน “พวกเราเข้าไปกันเถอะ”
ก้าวเท้าเข้าลีเจิงถางไปพร้อมกับเย่เจียเอ๋อ ครันพนักงาน
ต้อนรับเห็นเย่เจียเอ๋อก็รบี รุดหน้ามาต้อนรับด้วยความ
แจ่มใส “คุณหนูเจียเอ๋อ”
7
ก่อนว่ามีอะไรถูกใจหรือไม่”
ทว่าหญิงสาวทียืนอยูข่ า้ งกายเย่เจียเอ๋อนางนีมิได้ดเู ลว
ร้ายเลยสักนิด ดวงตาและคิวคางล้วนแต่งดงามน่ารัก
รอยยิมแจ่มกระจ่างสดใส ไม่เห็นเค้าลางของความโหด
8
ร้ายอย่างทีเคยจินตนาการ
9
เล่า”
สีหน้าของเถ้าแก่เฉียนเปลียนสีในฉับพลัน “คุณหนูเจีย
เอ๋อ ใช่วา่ ข้าน้อยจะจงใจไม่นาํ ออกมาให้คณ
ุ หนูได้ชม
เพียงแต่...” พูดยังไม่ทนั จบคํา จู่ๆ สายตาก็จบั จ้องอยูท่ ี
จุดหนึงของร้าน ครันเจียงหลีมองตามสายตาของเขา ก็
เห็นว่าเป็ นชายแปลกหน้าวัยกลางคนคูห่ นึง
10
“ไม่อยูเ่ จ้าค่ะ มีเรืองอะไรหรือไม่” เย่เจียเอ๋อถามอย่าง
ระมัดระวัง
คุณหนูตระกูลเย่เริมศึกษาการค้าขายมาตังแต่เด็ก ส่วน
เย่ซือเจียเลือกเดินสูเ่ ส้นทางสายขุนนาง กิจการใหญ่โต
ของทีบ้าน จะให้คนรุน่ เก่ามาดูแลจัดการไปตลอดชีวิต
คงจะไม่ได้ รุน่ หลานของตระกูลเย่ก็เหลือเพียงเย่หยู
ฟงกับเย่เจียเอ๋อ ได้ยินสาวใช้ตระกูลเย่เคยบอกว่า เย่หยู
ฟงเป็ นชายหนุ่มทีมุทะลุดดุ นั ไม่เหมือนเย่เจียเอ๋อทีดูแล
จัดการเรืองต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม การค้าของลีเจิง
ถางในตอนนี ตระกูลเย่ก็เริมให้เย่เจียเอ๋อเข้ามามีสว่ น
ร่วมบ้างแล้ว
11
คนทังสองสบตากันชัวครู ่ แล้วมองมาทีเจียเอ๋อ “มี
ปั ญหาจริงๆ ในเมือบิดาของเจ้าไม่อยู่ พวกข้าขอคุยกับ
เจ้าก่อนก็แล้วกัน”
พวกเขาพูดคุยติดพันอยูก่ บั เย่เจียเอ๋อจึงมิได้ให้ความ
สนใจเจียงหลี คิดว่านางเป็ นสหายสนิทของเย่เจียเอ๋อคน
หนึง ไม่ใช่คนสลักสําคัญแต่อย่างใด ทว่าเจียงหลีกลับ
นึกสงสัยในตัวพวกเขาทังสอง อากัปกิรยิ าและถ้อยคําที
เลือกใช้เหมือนจะไม่ใช่เรืองเล็กน้อย คงมีเรืองเดือดร้อน
อะไรบางอย่าง
“เจ้าจะไปคนเดียวรึ...”
13
เห็นเจียงหลียืนกรานเช่นนี เย่เจียเอ๋อก็ไม่พดู อะไรต่อ อีก
ทังการพูดคุยในครังนีก็ยงั ไม่รูว้ า่ จะต้องใช้เวลานาน
เท่าไร ให้เจียงหลีรออยูข่ า้ งนอกคนเดียวคงน่าเบือไม่
น้อย เย่เจียเอ๋อพยักหน้าให้กบั เจียงหลี แล้วเดินเข้าไป
ด้านในเพือคุยธุระกับชายทังสอง เจียงหลีเห็นเช่นนันจึง
อําลาเถ้าแก่เฉียน ก่อนจะพาถงเอ๋อกับไป๋ เสวียออก
จากร้านไป
15
ถงเอ๋ออึงงันอย่างพูดอะไรไม่ออก “...”
เซียงหยางไม่เหมือนกับเยียนจิง คุณหนูตระกูลใหญ่ใน
เมืองเยียนจิง ยามออกไปทําธุระนอกบ้านจะต้องมีรถม้า
16
เป็ นพาหนะเสมอ แต่ทีเซียงหยาง จะนังรถม้าหรือไม่ขนึ
อยูก่ บั ความต้องการส่วนบุคคล คุณหนูทงหลายเดิ
ั นเล่น
ตามท้องถนนเป็ นเรืองปกติ สามารถกล่าวได้วา่ ผูค้ นอยู่
กันอย่างเรียบง่ายและอิสระมาก
17
บทที 102 นางไปกับใคร
“คุณหนู” ถงเอ๋อคิดว่าเจียงหลีเดินจนหมดแรงจึงรีบ
เสนอว่า “เหนือยแล้วหรือเจ้าคะ ให้บา่ วพยุงไปพักก่อนดี
หรือไม่”
“เข้าไปหรือเจ้าคะ” ถงเอ๋อมองตามด้วยความแปลกใจ
ด้านหน้าดูเหมือนจะเป็ นเพียงประตูสวนของชาวบ้าน
1
ธรรมดาๆ ครอบครัวหนึง ไม่มีอะไรเป็ นพิเศษ ถงเอ๋อ
พลันเอ่ยถาม “...คุณหนู นีเป็ นทีดินของคนอืนกระมัง
พวกเราจะเข้าไปได้อย่างไร คุณหนูรูจ้ กั คนในบ้านหรือ
เจ้าคะ” นางครุน่ คิดด้วยความสงสัย คุณหนูจะไปรูจ้ กั
กับชาวเซียงหยางได้อย่างไร นอกจากตระกูลเย่แล้ว
เจียงหลีก็ไม่เคยมีความเกียวข้องใดๆ กับเมืองเซียง
หยาง
2
เจียงหลียิมพลางตอบว่า “เป็ นหอนางโลมทีมีชือเสียง
ของเมืองเซียงหยาง”
พอคําพูดนีถูกเอ่ยออกไป ชายหนุ่มรูปงามในอาภรณ์สี
แดงก็มีปฏิกิรยิ าตอบสนองอย่างฉับพลัน เขาสะบัดมือ
คลีพัดเสียงดัง “ฟึ บ” ปั ดนําชาทีลูจ่ ีพน่ ออกมากลับไป
ด้วยแววตาเดียดฉันท์
3
ลูจ่ ีทีน่าสงสาร สําลักนําลายตัวเองแทบตาย แล้วยังโดน
จีเหิงปั ดนําชากระเด็นกลับมาเต็มหน้า กระทังเปี ยกไป
ครึงตัว ช่างไม่เห็นอกเห็นใจกันบ้าง
ทว่าในตอนนีลูจ่ ีไม่มีเวลาจะไยดีเนือตัวทีเลอะเทอะของ
ตัวเอง แต่รบี ถามซักไซ้เหวินจี “ทีเจ้าพูดมาเป็ นความ
จริงหรือ นางไปทีหอซีฮวั รึ”
4
“หอซีฮวั เป็ นหอนางโลมขึนชือทีสุดของเมืองเซียงหยาง
บรรดาแขกทังหลายทีมาใช้บริการล้วนแต่เป็ นผูด้ ีสงู ศักดิ
ของเมืองเซียงหยาง แขกสูงศักดิมักจะเดินเข้าทางประตู
หน้า ส่วนทีมาตามหาครอบครัวถึงจะเดินเข้าทางประตู
ด้านหลัง”
6
“มีแค่คณ
ุ หนูรองเจียงกับสาวใช้ทงสองของนาง
ั โดยไม่มี
แม้คนนําทางขอรับ”
“เรียนนายท่าน บ่าวคิดว่านางตังใจไปทีนันด้วยตัวเอง
ขอรับ” เหวินจีลังเลอยูค่ รูห่ นึง แล้วจึงตอบไปตามความ
รูส้ กึ ของตนเอง “ดูเหมือนคุณหนูรองจะคุน้ เคยเส้นทาง
ในเมืองเซียงหยางเป็ นอย่างดี ระยะทางจากลีเจิงถางถึง
หอซีฮวั นันไม่ใช่ใกล้ๆ ทว่านางก็ยงั หาพบ นอกจากนี
ตลอดทางยังไม่มีจดุ มุง่ หมายอืนใด เพียงตรงไปทีหอซี
7
ฮัวเท่านัน”
“ข้าอยากรูว้ า่ คุณหนูรองเจียงคนนีจะมีอะไรมาทําให้
พวกเราตืนเต้นกันอีก” เขากล่าวพร้อมรอยยิม
9
เจียงหลีกบั ถงเอ๋อและไป๋ เสวียเดินเข้าไปในหอซีฮวั
เพิงจะเดินผ่านประตูหอนางโลมได้ ก็มีหญิงสาวนาง
หนึงกุลีกจุ อออกมาต้อนรับด้วยใบหน้ายิมแย้ม “คุณหนู
ต้องการหาคนหรือ”
10
ความสุขสําราญ ย่อมต้องแต่งตัวยัวยวนให้สดุ ความ
สามารถ ส่วนคนทีอยูท่ างประตูดา้ นหลังต้องต้อนรับสตรี
ทีมาตามจับชู้ หากแต่งกายเปิ ดเผยเกินไปจะยิงทําให้
ภรรยาทังหลายมีโทสะหนักขึน
ขณะทีถงเอ๋อกําลังพินิจพิจารณาหญิงสาวนางนี อีกฝ่ าย
ก็กาํ ลังมองประเมินพวกนางอยูเ่ ช่นกัน แค่แวบเดียวก็รู ้
ว่าเจียงหลีเป็ นเจ้านาย เพียงแต่ไม่เข้าใจว่า เหตุใดสตรีที
ยังมิได้ออกเรือนอย่างนางถึงมาตามหาคนทีนี หรือว่าจะ
11
มาตามหาว่าทีเจ้าบ่าวของตน
เจียงหลียิมบางๆ “ข้าต้องการพบแม่นางฉงจือ”
หญิงต้อนรับชะงักไปเล็กน้อย ใบหน้ายิมแย้มฉายแวว
เกรงอกเกรงใจ “เรียนคุณหนู หญิงงามประจําหอซีฮวั ไม่
รับแขกทีเป็ นสตรี”
เจียงหลียิมบางๆ พลางล้วงตัวแลกเงินออกมาจากแขน
12
เสือ ส่งให้ถงเอ๋อนําไปยัดใส่มือของอีกฝ่ ายแล้วกล่าวว่า
“วางใจเถิด ข้าไม่ได้มาเพือหาเรือง แค่มีบางอย่างอยาก
ถามแม่นางฉงจือสักหน่อย ไม่ทาํ ให้เจ้าเดือดร้อนแน่ แม่
นางโปรดอํานวยความสะดวกด้วย”
หญิงสาวผูน้ นมองตั
ั วเลขบนตัวแลกเงิน หัวใจพลันเต้น
โครมครามอย่างอดไม่ได้ ต่อให้ยืนต้อนรับทีประตูดา้ น
หน้า บรรดาแขกสูงศักดิส่วนใหญ่ก็ยงั ไม่มือหนักเหมือน
กับคุณหนูผนู้ ี คิดพลางพินิจมองเจียงหลีอีกครัง... คิว
โก่ง ตาโต วาจาสุภาพอ่อนหวาน ในแววตาไม่มีรอ่ งรอย
เหยียดหยามใดๆ
หญิงสาวผูน้ นตกตะลึ
ั ง ในใจคิดว่าคุณหนูทา่ นนีไม่
เหมือนกับคนอืนๆ ก็ไม่รอช้า รีบไปยกนําชามาบริการ
เจียงหลี ก่อนจะไปติดต่อคนทีอยูด่ า้ นใน
14
หลังจากหญิงผูน้ นจากไป
ั ถงเอ๋อก็เอ่ยถาม “คุณหนู แม่
นางฉงจือคือใครหรือเจ้าคะ นางเป็ น... เป็ น...” จะอย่าง
ไร ถงเอ๋อก็พดู คําว่า ‘หญิงนางโลม’ ไม่ออก เจียงหลีเป็ น
ถึงบุตรสาวของมหาอํามาตย์ จะให้ไปยืนข้างๆ หญิงนาง
โลมได้อย่างไร หากใครรูเ้ ข้า จะเอาไปพูดกันสนุกปาก
แค่ไหน
เจียงหลีพลันตอบรับ “ใช่แล้ว”
ถงเอ๋อ “หือ”
แม้จะตกใจและงุนงงนัก แต่ถงเอ๋อก็ไม่กล้าถามซักไซ้อีก
15
ช่างเถิด ใครใช้ให้เจียงหลีเป็ นคุณหนูของนางเล่า ชาตินี
ทังชาติ ต่อให้บกุ นําลุยไฟก็ตอ้ งทํา
เจียงหลียิมบางๆ “วิเศษ”
เส้นทางทีหญิงผูน้ นเดิ
ั นนําเจียงหลีไปเป็ นคนละส่วนกับ
ทางเดินแขก ตลอดทางจึงไม่ปรากฏภาพทีระคายสาย
ตา สิงนีทําให้ถงเอ๋อรูส้ กึ โล่งใจเป็ นอย่างมาก
16
เดินอ้อมระเบียงทีทอดยาวขึนไปยังตัวอาคารอยูพ่ กั หนึง
หญิงผูน้ นก็
ั หยุดเดินแล้วกล่าวพร้อมรอยยิม “นีก็คือห้อง
ของแม่นางฉงจือ”
นางยืนอยูห่ น้าห้อง
เจียงหลีหยุดฝี เท้า
รอให้หญิงผูน้ นจากไปเจี
ั ยงหลีจงึ ออกคําสัง “ถงเอ๋อ ไป๋
เสวีย พวกเจ้ารอข้าอยูท่ ีนี” จบคําก็ผลักประตูเข้าไป แล้ว
ปิ ดประตูลงกลอน
17
บทที 103 นีเจ้าพูดเรืองอะไร...
หน้าโต๊ะเครืองแป้งคือแผ่นหลังอรชร ชุดสีนาเงิ
ํ นเนือผ้า
โปร่งบางแทบจะหลุดลงไปกองอยูท่ ีเอว เผยให้เห็นผิว
พรรณขาวนวลเนียน แผ่นหลังงดงามรับกับเงาร่างของ
หญิงสาวตรงหน้า
“แม่นางฉงจือ” เจียงหลีเอ่ยเรียกเสียงเบา
เจ้าของแผ่นหลังนันค่อยๆ หันกลับมา
หญิงคนนีก็คือแม่นางฉงจือผูม้ ีชือเสียงของหอซีฮวั
พูดด้วยความสัตย์จริง หากกล่าวถึงหน้าตาแล้วฉงจือไม่
ถือว่างามเด่น ยังดูดอ้ ยกว่าเจียงอวีเอ๋อเสียด้วยซํา แต่
ความเป็ นธรรมชาติในตัวของนางกลับทําให้ผคู้ นลุม่ หลง
จนลืมไม่ลง
2
ฉงจือพินิจมองเจียงหลีอย่างถีถ้วน ผ่านไปครูห่ นึงจึง
ถามกลัวหัวเราะ “คุณหนูอยากดืมชาสักถ้วยหรือไม่”
3
ฉงจือป้องปากถาม “นีเจ้าพูดเรืองอะไร...”
ในทีสุดหญิงสาวก็หยุดรักษาจริตอันเย้ายวนแล้วจ้อง
มองนัยน์ตาของเจียงหลี แม้จะปิ ดบังเป็ นอย่างดี แต่ก็
เก็บงําความรูส้ กึ สับสนไม่อยู่
4
“ข้าเป็ นสหายเก่าของเซวียเจา” เจียงหลีหลับตาลง
“เคยพูดถึงข้า...” สีหน้าของฉงจือฉายแววงุนงงสงสัย
ตอนนันเซวียเจากับสหายร่วมชันเรียนวางเดิมพัน โดย
5
การแอบไปดืมสุราทีหอซีฮวั ลับหลังเซวียฮว๋ายหย่วน แม้
ว่าสุราทีดืมจะเป็ นเหล้าดอกไม้ แต่เซวียเจาไม่คอ่ ยคุน้
เคยกับบรรยากาศเช่นนี จึงหาข้ออ้างปลีกตัวออกมา
ระหว่างทางบังเอิญเห็นแขกใช้กาํ ลังบังคับฉงจืออยู่
เขามิได้รารวยเงิ
ํ นทอง ตอนนันจึงกล่าวกับฉงจือว่า ขอ
6
เพียงนางยินยอม เขาสามารถพาฉงจือออกจากหอซีฮวั
ได้ แต่ตอ่ มาถึงได้รูว้ า่ ฉงจือเพียงต้องการสะบัดแขกคน
นันออกไป จึงใช้เซวียเจาเป็ นโล่กาํ บัง ฉงจือไม่เคยคิดจะ
หนีออกไปจากหอซีฮวั
เดิมทีเซวียเจาสูอ้ ตุ ส่าห์วางแผนว่าจะช่วยฉงจือหนีออก
มาอย่างไร แล้วยังขอให้เจียงหลีช่วยเขาคิดหาวิธี แต่เมือ
ฉงจือเห็นว่าเซวียเจาจะพานางหนีจริงๆ กลับรูส้ กึ ขบขัน
ก่อนจะสารภาพความจริงทังหมด ครันได้ฟังเซวียเจาก็
รูส้ กึ ว่าตนเองโดนหลอก เขาจึงผลุนผลันออกมาด้วย
โทสะ แล้วสัญญากับตัวเองว่าจะไม่มีวนั เชือคําพูดของ
สตรีในหอนางโลมอีก
เห็นชายหนุ่มอย่างเซวียเจาถูกหญิงสาวหลอกจนเดือด
7
ดาล เจียงหลีเองก็ทนไม่ได้ จึงไปทีหอซีฮวั เพือดูหน้า
ฉงจือสักครัง ครันรูว้ า่ เซวียฟั งเฟยคือพีสาวของเซวียเจา
ฉงจือก็ระมัดระวังตัวมากขึน คําพูดคําจาเต็มไปด้วย
ความห่วงใยในตัวเซวียเจา แล้วยังขอให้เซวียฟั งเฟยช่วย
ขอโทษเซวียเจาแทนนาง ในตอนนันเซวียฟั งเฟยดูออก
ว่าฉงจือคงจะชอบเซวียเจาเข้าแล้ว ทว่าเซวียเจากับ
ฉงจือนันไม่อาจเดินร่วมทาง นางจึงไม่ได้บอกเรืองนีให้
น้องชายทราบ
นับจากวันนันก็ไม่ได้ไปมาหาสูก่ บั ฉงจืออีกเลย
ในถ้อยคํายังแฝงการถามหยังเชิง คงจะเข้าใจว่าความ
สัมพันธ์ระหว่างเจียงหลีกบั เซวียเจานันไม่ธรรมดา เจียง
หลีสง่ ยิมให้ “ข้าเป็ นเพือนรักกับพีสาวของเซวียเจา เรือง
พวกนีความจริงแล้วเขาไม่ได้บอกกับข้า แต่เป็ นพีสาว
ของเขาต่างหาก”
สายตาของฉงจืออ่อนโยนลงในฉับพลัน นางยิมรืนแล้ว
เอ่ยรับ “ทีแท้ก็เป็ นเช่นนี”
9
“ข้าได้มาเยือนทีเมืองนีก็เลยลองมาพบเจ้า ลังเลอยูว่ า่
เจ้าอาจจะไปจากหอซีฮวั แล้ว ไม่นกึ ว่าจะยังอยู”่ เจียง
หลีกล่าว
10
เด็ก ในทีสุดก็เลยถูกขายให้มาอยูท่ ีหอซีฮวั เรียนพิณ
เดินหมาก เขียนอักษร และวาดภาพเพือเอาใจแขก นี
เป็ นความสามารถเดียวทีจะหาเลียงปากท้อง ข้าไม่รูส้ กึ
ว่าสิงเหล่านีเป็ นเรืองทีน่าอับอาย ดีกว่าถูกขายไปเป็ น
สาวใช้ในตระกูลใหญ่โต ไม่รูว้ า่ วันใดจะตกเป็ นเมียของ
นายจ้าง ได้รบั ตําแหน่งอนุภรรยา แต่ตอ้ งดํารงชีวิตอย่าง
สงบเสงียมเจียมตัว ประจบคนของบ้านใหญ่ ข้ารูส้ กึ พอ
ใจกับชีวิตในตอนนี... อย่างน้อยเป็ นหญิงงามอยูท่ ีนีก็ไม่
ต้องระวังตัวว่าจะถูกคนลอบวางยาพิษ”
11
ความซือสัตย์ของเขา บางครังมันช่างไร้เดียงสาเกินไป”
“เซวียเจาไม่เคยมีใจให้ขา้ ทีเขาทําเรืองพวกนันก็เพราะ
ความชอบธรรม ข้าไม่สามารถยกการกระทํานีมาเป็ น
เครืองบ่งชีว่าเขาชอบข้า และก็ไม่อาจนํามาสรุปว่าเขาดี
12
ต่อข้าเป็ นพิเศษ คนทีไม่มีใจ ข้าไม่สามารถหนีไปกับเขา
ได้ เหตุใดข้าต้องออกจากหอซีฮวั เล่า อย่างน้อยอยูท่ ีนี
ข้ามีเงินใช้ไม่ขาดมือ แล้วยังมีบรุ ุษทีพร้อมจะเทิดทูนข้า”
ฉงจือทอดถอนใจ ดวงตาของนางฉายแววทุกข์โศกออก
มา พลันหยุดคิดทบทวนแล้วกล่าวว่า “คงจะเป็ นเพราะ
คุณธรรมอันไร้เดียงสาของเขาทีเอาชนะใจข้า... ข้าอยูท่ ี
หอซีฮวั ได้พบเจอบุรุษมากหน้าหลายตา คนเราต่างมี
ความคิดเป็ นของตัวเอง มนุษย์ทกุ คนล้วนเห็นแก่ตวั ผูท้ ี
ยึดถือคุณธรรมแบบเขานันมีอยูเ่ พียงน้อยนิด ชาตินีทัง
ชาติไม่รูว้ า่ จะยังหาได้อีกหรือไม่ ละทิงประโยชน์สว่ นตัว
เพียงเพือช่วยเหลือข้า... น่าเสียดายจริงๆ” นางหัวเราะ
อย่างเย้ยหยัน “หลังจากนัน เขาก็ไม่ได้กลับมาทีนี ข้า
เองก็ไม่ได้พบกับเขาอีกเลย”
13
เจียงหลีฟังความทังหมดของฉงจือ แม้บางถ้อยคํานาง
จะไม่เห็นด้วย แต่สาํ หรับบางเรืองนางก็ตอ้ งชืนชมฉงจือ
ทีประเมินสถานการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เจียงหลีข่ม
ความรูส้ กึ ปั นป่ วนในใจแล้วกล่าวว่า “แม่นางฉงจือ ใช่วา่
เซวียเจาไม่อยากมา แต่เป็ นเพราะเขามาไม่ได้”
“เขาตาย” เจียงหลีกล่าว
14
ทีเจียงหลีกล่าว พลันรําพึงออกมาด้วยความตกใจ “เป็ น
ไปไม่ได้”
15
แล้วย้ายไปอยูท่ ีเมืองเยียนจิง เมือปี กลายเซวียฟั งเฟยซึง
อยูท่ ีเมืองเยียนจิงแท้งลูก เซวียเจาจึงรีบเดินทางเข้า
เมืองเยียนจิงเพือมาเยียมนาง ทว่ากลับถูกโจรป่ าสังหาร
ต่อมาเซวียฟั งเฟยก็ลม้ ป่ วย ส่วนเซวียฮว๋ายหย่วนนัน
ตายจากไป” เจียงหลีเอ่ยด้วยอาการสงบนิง นางมอง
ฉงจือแล้วกล่าวเสริม “ภายในระยะเวลาแค่หนึงปี คน
ตระกูลเซวียสามชีวิต ต้องมาตายจากไปทังหมด เจ้าไม่
รูส้ กึ แปลกใจบ้างหรือ”
16
บทที 104 ทําไมข้าต้องเชือเจ้า
ฉงจือพลันเอ่ยถาม “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
“บ้านตระกูลเซวียทีอําเภอถงเซียง” เจียงหลีกล่าว
“ความจริง การตายของเซวียเจากับเซวียฟั งเฟยนันข้ารู ้
แน่ชดั เพราะเห็นด้วยตา...แต่เซวียฮว๋ายหย่วนอยูท่ ีถงเซี
ยง ข้าจึงไม่อาจรูไ้ ด้ ข้าอยากให้เจ้าช่วยข้าสืบข่าวว่าเมือ
ครึงปี ทีแล้วเขาตายเพราะสาเหตุใด มีใครเป็ นธุระจัด
งานศพ แล้วตอนนีศพถูกฝังอยูท่ ีไหน”
“ทําไมข้าต้องเชือเจ้า” ฉงจือถาม
2
แม้ข่าวการตายของเซวียเจาจะทําให้ฉงจือเศร้าใจนัก
แต่นางก็ยงั มีสติ
“เซวียเจาเป็ นคนมีนาใจ
ํ ข้าคิดว่าคนทีเขาผูกมิตรด้วย
ย่อมเป็ นคนทีมีนาใจเช่
ํ นกัน ข้ามาก็เพือคนตระกูลเซวี
ย หวังว่าเจ้าจะให้ความช่วยเหลือ” เจียงหลีกล่าว “ข้าไม่
มีสงใดเป็
ิ นข้อแลกเปลียน เพราะเจ้าเองก็ไม่ได้ขาด
แคลนอะไร ดังนัน ข้าจึงมาเพือขอร้อง”
3
เฟยนันผูค้ นรูจ้ กั กันทัว” เจียงหลีกล่าว “คนทีมาหอซีฮวั
อาจเคยไปเยือนเยียนจิง เจ้าสามารถสอบถามพวกเขา
หากรูเ้ รืองราวของเซวียฟั งเฟย ก็จะรูว้ า่ ข้าไม่ได้กล่าว
เท็จ”
เจียงหลีพลันกล่าวว่า “พวกเราไปกันเถิด”
6
ถงเอ๋อมัวแต่เก็บรวบรวมสติ ได้ยินเช่นนันก็รบี เดินตาม
เจียงหลีไปพร้อมกับไป๋ เสวีย
7
ขอเพียงทราบข่าวคราวทีเกิดขึนทางถงเซียง รับรูเ้ รือง
ราวทีเกิดขึนกับเซวียฮว๋ายหย่วน การมาในครังนีของ
นางก็ไม่นบั ว่าสูญเปล่า รูส้ ถานการณ์แล้วจึงค่อยหาวิธี
รับมือ จะหาเหตุกลับไปถงเซียงก็ง่ายดายขึนมาก
คนทังสามเดินกลับทางเก่า เดิมทีถงเอ๋อยังคิดจะหาคน
มาช่วยนําทางเพราะกลัวหลง แต่เมือเห็นเจียงหลีไม่มีทา่
ทีลงั เล ราวกับคุน้ เคยเส้นทางเป็ นอย่างดี ก็ได้แต่สาวเท้า
ติดตาม คิดเสียว่าคุณหนูของนางความจําเป็ นเลิศ เดิน
ผ่านเพียงครังเดียวก็สามารถจดจําเส้นทางได้
9
ขณะทีทังสองสบตากันโดยบังเอิญ พลันบังเกิดรูส้ กึ
แปลกประหลาดราวกับเป็ นความคุน้ เคย แต่เจียงหลีแน่
ใจว่าไม่เคยพบชายคนนีมาก่อน ครุน่ คิดอยูน่ าน กระทัง
อีกฝ่ ายเดินผ่านนางเข้าไปด้านใน
10
คนผูน้ ีทีไหน จึงได้แต่พดู ตัดบท “ไปกันเถอะ”
จบคําก็เดินนําสาวใช้ทงสองออกจากหอซี
ั ฮวั ไป โดยไม่
หันกลับมามอง
“คุณหนูรองเจียงเข้าไปในหอซีฮวั เพือพบกับแม่นาง
ฉงจือ สาวงามประจําหอซีฮวั ขอรับ” เหวินจีกล่าว
11
“ไม่ผิดแน่ ฉงจือเป็ นสาวงามอันดับหนึงของหอซีฮวั หน้า
ห้องของนางมีขา้ รับใช้ยืนยามอยู่ คนของเราไม่อาจสืบ
ทราบว่าพวกนางสนทนากันเรืองอะไร รูเ้ พียงแต่วา่ คุณ
หนูรองเจียงอยูใ่ นห้องของฉงจือเป็ นเวลาราวหนึงก้าน
ธูป มิใช่การพบกันเพียงชัวครู ่ หลังจากทีคุณหนูรองกลับ
ไป ฉงจือก็ดเู หมือนจะอารมณ์แปรปรวน เอาแต่เก็บตัว
อยูใ่ นห้องเพียงลําพัง วันนีนางปิ ดประตูไม่รบั แขก”
จีเหิงขมวดคิวมุน่ “เช่นนันหรอกรึ”
12
“ไม่มีทางสําเร็จ” จีเหิงยิมบางๆ
14
“หากเป็ นเช่นนี ความคิดความอ่านของคุณหนูรองก็ลกึ
ลํายิงกว่าทีพวกข้าน้อยคาดเดา” ลูจ่ ีเอ่ยเสียงตํา
เหวินจีรับคําสัง
15
ลูจ่ ีมองจีเหิงอีกครัง แล้วเอ่ยว่า “จะว่าไป คนทีตระกูลหลี
จัดหาก็มาถึงแล้ว ตอนนีคนของจวนเสนาบดีผนู้ นตั
ั ดสิน
ใจแล้วว่าจะเป็ นปฏิปักษ์กบั ตระกูลเย่ เป็ นเพราะเย่ซือ
เจียไม่ยอมเดินตามเส้นทางทีเขาวางไว้ ไม่รูว้ า่ การขัด
แข้งขัดขาตระกูลเย่คราวนี ผลลัพธ์ออกมาจะเป็ นอย่าง
ไร”
17
บทที 105 ไม่ไปแล้ว
“หากนางมีปัญญาก่อเรืองก็ลองดู” จีเหิงยิมจนมองไม่
เห็นลูกนัยน์ตาขณะเอ่ยสําทับ “ข้ารออยู”่
พวกนางจึงไม่ได้เดินเทียว แต่ตรงดิงกลับบ้านตระกูลเย่
เด็กรับใช้ในบ้านตระกูลเย่ไม่มีใครกล้ามาวุน่ วายกับ
เจียงหลี นางจึงไปไหนมาไหนได้สะดวกนัก
1
เรืองหนึง ในใจจึงรูส้ กึ ผ่อนคลายลงไปมาก ตกเย็น ด้วย
เหนือยล้ามาทังวันเลยรูส้ กึ ง่วงนอนตังแต่หวั คํา จึงเลือก
ทีจะพักผ่อนอยูบ่ นเตียง
หลับฝันดีทงคื
ั น
นับแต่นนเป็
ั นต้นมา จู่ๆ คนตระกูลเย่ก็ดจู ะมีเรืองยุง่
วุน่ วายมากขึน ในวันอืนๆ หลังจากนัน เจียงหลีเดินวน
เวียนอยูใ่ นบ้านตระกูลเย่กลับเห็นแต่พอ่ บ้านและสาวใช้
อย่าว่าแต่เย่หมิงเซียนกับเย่หมิงฮุยเลย แม้กระทังนางจัว
ซือกับนางกวนซือก็ไม่เห็นหน้า เย่หยูฟงกับเย่เจียเอ๋อเอง
ก็ไม่รูว้ า่ ไปอยูก่ นั เสียทีไหน บางครัง แม้แต่เวลารับ
ประทานอาหารก็ยงั ไม่กลับ พ่อบ้านก็เลยสังคนทําครัว
เล็กๆ ให้กบั เจียงหลีเสียเลย แต่ละวัน เวลาเจียงหลี
2
อยากกินอะไรก็ไม่จาํ เป็ นต้องไปทีห้องโถงด้านหน้า แต่
ทําอาหารกินเองในเรือนของตน
3
วันนีอากาศปลอดโปร่ง
สาวใช้ทงสองอยู
ั ใ่ นบ้านตระกูลเย่ก็เริมเกียจคร้าน
เพราะอย่างไรเสียก็ไม่ใช่บา้ นของตน จึงไม่มีกะจิตกะใจ
จะไปดูแลต้นหมากรากไม้ บางครังแค่สละเวลาครึงวัน
ในช่วงเช้า ก็สามารถสะสางงานให้เสร็จจนไม่มีอะไรให้
ทํา เจียงหลีจงึ สอนให้พวกนางอ่านหนังสือเป็ นการฆ่า
เวลา
4
ถงเอ๋อหาวแล้วเปรยว่า “วันนีบ้านตระกูลเย่ก็ไม่มีคนอยู่
อีกเหมือนเคย”
ใต้แสงตะวันอันอบอุน่ เจียงหลีพลันเอ่ยปากชักชวน
“พวกเราออกไปเดินเล่นกันดีกว่า”
5
แล้วกล่าวว่า “ดียงนั
ิ ก คุณหนูอยากจะไปไหนหรือเจ้า
คะ”
“เดินเทียวไปเรือยเปื อย”
ทังสามเดินออกจากสวนพร้อมกัน เด็กรับใช้หน้าประตูก็
มิได้ยบั ยังพวกนาง ถามเพียงว่าต้องการคนคุม้ กันหรือ
ไม่ เจียงหลีกาํ ลัง จะปฏิเสธ ในเวลานัน พลันเห็นรถม้า
ขบวนหนึงหยุดอยูห่ น้าประตูบา้ นตระกูลเย่
6
เจียงหลีชะงักฝี เท้าลงเล็กน้อย นีเป็ นแขกของตระกูลเย่รึ
7
เจียงหลีตกใจ เขาก็คือชายซึงเคยพบกับนางทีประตูดา้ น
หลังหอซีฮวั เมือไม่กีวันทีผ่านมา ตอนนันชายคนนีก็มอง
นางเช่นกัน เจียงหลีรูส้ กึ ว่าเขาช่างคุน้ ตา ทังๆ ทีเป็ นบุรุษ
แปลกหน้าคนหนึง
ไม่นกึ ว่าจะมาพบกันทีนี
พอเด็กรับใช้หน้าประตูเห็นเขาก็ลืมเรืองของเจียงหลีใน
ฉับพลัน รีบเดินออกไปต้อนรับชายผูน้ นอย่
ั างกระตือ
รือร้น “นายท่านสาม ท่านกลับมาแล้วหรือ”
8
เจียงหลีกระจ่างแจ้งในทันที ทีแท้ชายคนนีก็คือเย่หมิงอวี
นายท่านสามทีไม่ได้ความผูน้ นั หรือก็คือท่านลุงหมิงอวี
ทีคลานตามกันมากับมารดาของนาง มิน่านางถึงรูส้ กึ คุน้
เคยนัก แต่ก็เป็ นคนแปลกหน้าจริงๆ เจียงหลีไม่เคยพบ
กับเย่หมิงอวีมาก่อน แต่เนืองจากสายเลือดทีผูกพันกับ
เย่เจินเจิน ทําให้สมั ผัสถึงกันได้
เย่หมิงอวีหัวเราะลัน ทักทายกับเด็กรับใช้ทีหน้าประตู
ขณะนันก็หนั มามองเจียงหลี เขาเพ่งพินิจแล้วก็จาํ ได้วา่
เคยพบหน้านางทีประตูหอซีฮวั ให้รูส้ กึ สงสัยนัก จึงเอ่ย
ถามเด็กรับใช้หน้าประตูวา่ “แม่นางท่านนีคือ...”
เย่หมิงอวีเองก็ตกใจมากเช่นกัน
คุณหนูรองเจียงก็คือบุตรีของน้องสาวฝาแฝดของเขา
เย่หมิงอวียังคงห่วงหาอาทรหลานสาวทีไม่เคยพบหน้าผู้
นี ตอนนันเย่หมิงฮุยกับเย่หมิงเซียนเป็ นคนไปรับตัวเจียง
หลี เย่หมิงอวีออกไปทําการค้าในต่างแดน นายท่าน
ใหญ่กบั นายท่านรองเย่คือผูท้ ีได้ฟังวาจาก้าวร้าวของ
10
เจียงหลีมากับหู แต่นายท่านสามเย่ไม่เคยได้ยิน ดังนัน
นายท่านสามจึงไม่ผกู ใจเจ็บเหมือนพีชายทังสอง
ต่อมาเย่หมิงอวีออกเดินเรือกลางทะเลอยูบ่ อ่ ยครัง ปี
หนึงๆ จะมีโอกาสกลับบ้านแค่หนึงหน ความคิดทีจะไป
รับตัวเจียงหลีกลับมาจึงค่อยๆ เลือนรางจางไป
11
ไม่คิดว่าเวลานีจะได้พบกับหลานสาว เย่หมิงอวีแทบไม่
อยากจะเชือสายตา นึกว่าตนเองฝันไป เจียงหลีมา
แล้วอย่างนันหรือ เหตุใดเจียงหลีจงึ มาอยูท่ ีเซียงหยางได้
นางเป็ นบุตรสาวของเจียงหยวนปั ว คุณหนูทีคลอดจาก
ภรรยาเอกของมหาอํามาตย์ เหตุใดต้องทนลําบากนังรถ
ลงเรือมาถึงเซียงหยาง แล้วนางทําอย่างไรคนตระกูลเย่
ถึงให้การต้อนรับ
เหตุใดตอนทีพีรองเขียนจดหมายมา ถึงไม่บอกกล่าว
เรืองนีสักหน่อย เขากําลังฝันไปหรือเปล่า
12
คําพูดมากมายนับหมืนนับพันติดอยูท่ ีลําคอ ไม่รูจ้ ะพูด
ออกมาอย่างไร เจียงหลีเห็นเขามีทา่ ทางเช่นนัน กลับ
หัวเราะแล้วเอ่ยว่า “ท่านคือลุงหมิงอวีสินะเจ้าคะ หลาน
ก็คือเจียงหลี”
“ท่านลุงหมิงเซียนเดินทางไปเยียนจิง เลยถือโอกาสแวะ
เยียมเยียนตระกูลเจียง หลานจึงขอติดตามเขากลับเซียง
หยาง หลานอยากมาเยียมท่านยาย” เจียงหลีกวาดตา
มองไปยังด้านหลังของเย่หมิงอวี “ท่านลุงเพิงกลับมา
ทว่าในบ้านตอนนีไม่มีใครอยู”่
เจียงหลีองงั
ึ น เย่หมิงอวีไม่แสดงออกอย่างเกรงอกเกรง
ใจ ไม่ถือว่านางเป็ นคนนอก แต่วา่ แบบนีก็ดีแล้ว เย่หมิ
งอวีเป็ นคนไม่คิดเล็กคิดน้อยกว่าทีนางคิดไว้เสียอีก
มาถึงห้องโถงด้านหน้า เจียงหลีก็นงอยู
ั ห่ น้าโต๊ะ ส่วนไป๋
เสวียนันไปชงชาร้อนมาหนึงกา
16
เย่หมิงอวียังมาไม่ถงึ เจียงหลีเองก็มิได้รบี ร้อน นางนังรอ
อย่างใจเย็น
17
บทที 106 เป็ นเช่นนีหรอกรึ
เย่หมิงอวีทิงตัวนังลงตรงข้ามกับเจียงหลี ก้นเพิงจะติด
1
เก้าอีก็ซกั ถามอย่างไม่รงรอ
ั “หลีเอ๋อ ข้าเพิงจะกลับมา
จากต่างแดน ไม่รูว้ า่ เกิดเรืองอะไรขึนบ้าง เหตุใดจู่ๆ เจ้า
ถึงมาทีเมืองเซียงหยางได้”
“หลานอยากเยียมคารวะท่านยาย จึงเดินทางมาพร้อม
กับท่านลุงหมิงเซียน”
2
สะเทือนใจจนส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย หลานมาถึงเซียง
หยางไม่ถงึ ครึงเดือน ยังหาโอกาสอันเหมาะสมไม่ได้”
เจียงหลียิมพลางกล่าวว่า “ครังนีท่านลุงหมิงอวีคงต้อง
ลําบากเสียแล้ว”
เย่หมิงอวีได้ฟังก็องงั
ึ น ชัวพริบตา กระแสความตืนเต้นก็
แล่นเข้าสูห่ วั ใจ แทบจะยกเจียงหลีขนมาเป็
ึ นผูร้ ูใ้ จเลยที
เดียว เขาเกาหัวแกรกๆ แล้วก็คิดอะไรขึนมาได้ “ครังนีข้า
ไม่มีอะไรจะมอบให้เจ้า ขบวนสินค้าของข้านําเข้าของ
5
แปลกๆ จากทะเลอันห่างไกล” เขารูส้ กึ กระดากอายอยู่
บ้าง “แต่วา่ เจ้ามาจากเมืองเยียนจิง สิงของเหล่านีคงไม่
ถือว่ามีราคา ข้าเห็นว่าน่าสนใจจึงซือเก็บไว้ ไม่รูว้ า่ เจ้า
จะชอบหรือเปล่า”
6
“เจ้าพูดถูก” เย่หมิงอวีเห็นด้วยกับคําพูดประโยคนีของ
เจียงหลี ว่าแล้วก็ตะโกนเรียกเด็กรับใช้ขา้ งกาย “อาซุน่
ไปยกหีบมาให้ขา้ ”
เจียงหลีกม้ ศีรษะมองหีบใบนัน
ข้าวของด้านในกระจัดกระจายจนแยกไม่ออก มีทงไข่
ั มกุ
แก้วตาแมวซึงเป็ นของลําค่า ยังมีคนั ฉ่องจากต่างแดน
กล่องเล็กๆ ทีทําจากไม้ เมือกดปุ่ มจะมีคนตัวเล็กๆ
กระโดดออกมาเต้นระบําอยูบ่ นกล่อง ดูน่าสนใจนัก มี
ของชินหนึงทีลักษณะเป็ นทรงกระบอก เจียงหลีเพิงจะ
หยิบมาดู เย่หมิงอวีก็กล่าวว่า “นีคือกระบอกร้อยพัน
ประการ ข้าจะสอนวิธี...”
8
ขึนมาวางทาบกับดวงตาอย่างคุน้ เคย แล้วหมุนวงแหวน
ไปมา
“เจ้าเคยเห็นของสิงนีมาก่อนหรือ” เย่หมิงอวีถามด้วย
ความสงสัย
9
เคยสัมผัสเป็ นครังแรก”
ต่อมาเจียงหลีก็หยิบของทีมีลกั ษณะคล้ายเปลือกหอย
ด้านนอกของเปลือกหอยนีสวยงามแปลกตาราวกับขน
นกยูงทีมีสีสนั สดใส หากสังเกตให้ดี ยามต้องแสงแดด
ยังทอประกายระยับ วางเทียบกับไข่มกุ นัยน์ตาแมวก็มิ
ได้ดดู อ้ ยกว่าแม้แต่นอ้ ย
เย่หมิงอวีเห็นเจียงหลีมองเปลือกหอยในมืออย่างสนอก
สนใจก็อธิบายว่า “ของสิงนีข้าซือมาจากพ่อค้าเร่ในทะเล
10
ข้าเห็นว่าของเล่นชินนีดูสวยงามแปลกตา ก็เลยซือมา
เป็ นจํานวนมาก เก็บไว้ในหีบทีอยูใ่ นห้อง แต่หลังจาก
เอาไปฝากขาย พอคนทัวไปได้ยินว่าเป็ นเปลือกหอยก็ได้
ราคาไม่ดีนกั อีกทังหนนีข้ายังเสียเงินจํานวนมากกว้าน
ซือขนนกยูง คราวนีคงจะขาดทุนเสียแล้ว” เย่หมิงอวี
ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วจู่ๆ ก็คิดอะไรขึนมาได้ พลัน
มองเจียงหลีแล้วเอ่ยว่า “ในเมือเจ้าชืนชอบ ขนนกยูงใน
หีบนีข้าขอมอบให้เจ้าก็แล้วกัน... อาซุน่ ประเดียวยก
ของพวกนีไปไว้ทีเรือนของคุณหนูเจียงหลีให้เรียบร้อย”
เจียงหลีไม่อาจปฏิเสธ จึงได้แต่ยมรั
ิ บ “เช่นนันก็ขอบคุณ
ท่านลุงหมิงอวีเจ้าค่ะ”
หากคุยกันต่อไป เกรงว่าเย่หมิงอวีจะยกขนนกยูงทัง
หมดไปไว้ทีเรือนของนาง เจียงหลีจงึ รีบตัดบท “ท่านลุง
หมิงอวี พวกเราพูดถึงเรืองอืนกันดีกว่า”
12
เจ้าไปทําอะไรทีหอซีฮวั รึ”
สีหน้าของเย่หมิงอวีแสดงความอึดอัดใจ เขายกมือขึน
ลูบจมูกพลางกล่าวว่า “ข้า... ต้องทําความคุน้ เคยกับ
สภาพแวดล้อมเสียก่อน เพือเตรียมตัว”
เจียงหลีเองก็ไม่อยากฟั งเย่หมิงอวีเล่าเรืองสนุกของเขา
จึงพยักหน้ารับ “หลานไม่รูว้ า่ หอซีฮวั คือสถานทีแบบใด
คิดว่าเป็ นเหลาสุราสักแห่ง เห็นว่าด้านนอกปราศจากผู้
คนจึงเดินเข้าไปดู ไม่นกึ ว่าจะเป็ นหอนางโลม พอรูห้ ลาน
ก็รบี ออกมา กระทังบังเอิญพบกับท่านลุง”
“มีเรืองอะไรก็วา่ มา”
15
“ทีท่านลุงหมิงอวีกลับเซียงหยางคราวนี คงจะไม่ใช่
เพราะเรืองท่านยายเท่านัน การค้าของตระกูลเย่ดู
เหมือนจะมีปัญหา ถึงขันทีท่านลุงยังต้องรีบกลับมาเช่น
นี เข้าใจว่าคงไม่อาจแก้ไขสถานการณ์ได้โดยง่าย” เจียง
หลีมองเขาแล้วเอ่ยสําทับ “สามารถบอกหลานได้หรือไม่
แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึนกันแน่”
16
บทที 107 ตามสบาย
เย่หมิงอวีถูกเจียงหลีมองอย่างกดดันก็ไม่รูว้ า่ เกิดใจอ่อน
ได้อย่างไร คิดเพียงว่าเจียงหลีเองก็เป็ นคนตระกูลเย่ถงึ
ครึงตัว ตระกูลเย่กีดกันนางราวกับป้องกันโจรผูร้ า้ ย สาว
น้อยคนนีคงจะรูส้ กึ เสียใจ คิดได้เช่นนันจึงกล่าวปลอบ
โยน “ความจริงก็ไม่ใช่เรืองใหญ่ แพรพรรณจากตระกู
ลเย่ของพวกเรา แต่ละปี จะถูกส่งไปตามร้านตัดผ้าแต่ละ
แห่ง โดยเฉพาะผ้าหอมโบราณ เจ้าก็คงรูด้ ี ผูส้ งู ศักดิใน
เมืองเยียนจิงนิยมสวมกันมาก”
“ทว่าช่วงนีผ้าชนิดนีกลับมีปัญหา มีคนสวมใส่อาภรณ์ที
ตัดเย็บจากผ้าหอมโบราณแล้วเกิดผืนแดงเต็มตัว เมือ
หมอตรวจดูก็ไม่อาจวินิจฉัยได้วา่ เป็ นเพราะอะไร เรืองนี
1
พวกข้าก็กาํ ลังสืบหาสาเหตุ” สายตาของเย่หมิงอวีฉาย
แวววิตกกังวล “แต่ขา้ กล้าพูดได้เลยว่า ไม่ได้เป็ นเพราะ
เนือผ้าทีมีปัญหาแน่ เพราะโรงทอก็อยูท่ ีเซียงหยาง พี
ใหญ่กบั พีรองต่างควบคุมการผลิตด้วยตัวเอง ทีผ่านมา
ไม่เคยประสบปั ญหาสักครัง เพียงแต่พวกเราพูดไปก็ไม่
มีใครเชือ”
2
เย่หมิงฮุยกับเย่หมิงเซียนทีเพิงกลับมา
เมือเย่หมิงฮุยและเย่หมิงเซียนพบกับเย่หมิงอวี ต่างฝ่ าย
ต่างก็ประหลาดใจ
เย่หมิงฮุยถาม “เหตุใดกลับมาแล้วไม่บอกล่วงหน้าสักคํา
เล่า”
“ก็เพราะกลับมาอย่างรีบร้อนน่ะสิ” เย่หมิงอวีกล่าวเท็จ
โดยทีหน้าไม่เปลียนสี “ฉุกละหุกเสียจนนําสักอึกยังดืม
ไม่ทนั ไหนเลยจะมีเวลาแจ้งข่าวพวกท่านได้”
หากทังสองคนรูว้ า่ เย่หมิงอวีกลับมาถึงตังแต่เมือสามวัน
3
ก่อน แล้วยังไปหาความสําราญทีหอซีฮวั ทังสามวัน ไม่รู ้
ว่าพวกเขาจะทําหน้าอย่างไร
เจียงหลีเข้าใจได้ทนั ที จึงรีบลุกขึนยืนยิมละไมแล้วกล่าว
ว่า “ท่านลุงหมิงอวี พวกท่านคุยกันเถิด หลานขอตัวกลับ
ห้องก่อนเจ้าค่ะ”
4
เย่หมิงอวียิมรับ “ตามสบาย”
หลังจากทีเจียงหลีลากลับแล้ว เย่หมิงเซียนและเย่หมิ
งฮุยจึงนังลง ยังไม่ทนั จะได้กล่าวอะไร เย่หมิงอวีก็เปิ ด
ปากพูดก่อนเป็ นคนแรก “พีใหญ่ พีรอง พวกท่านทําเกิน
ไปแล้ว นางตังใจกลับมาเยียมท่านแม่ แต่จนป่ านนีก็ไม่
ยอมให้พบ นีเท่ากับเป็ นการกีดกันชัดๆ พวกท่านก็อายุ
ปูนนีเหตุใดถึงรังแกเด็กสาวตัวเล็กๆ เล่า”
5
เย่หมิงเซียนถูกคําพูดเหล่านีของเย่หมิงอวีทําเอาโมโห
จนแทบกระอัก “พวกข้ากลันแกล้งนางรึ ตาข้างไหนของ
เจ้าเห็นว่าข้าทําเช่นนัน”
6
“เจ้าพูดคุยกับนางแล้วหรือ” เย่หมิงฮุยถาม
7
รูจ้ กั ทีสําคัญเด็กสาวคนนีเชือถือได้”
“เชือถือได้งนรึ
ั ” เย่หมิงเซียนถาม “เหตุใดจึงบอกว่านาง
เชือถือได้ นางช่วยเจ้าปิ ดบังเรืองอะไรไว้หรือเปล่า”
เย่หมิงอวีลอบก่นด่าเย่หมิงเซียนในใจ ว่าเขาช่างกลอก
กลิงเสียจริง ก่อนจะกระแอมออกมาสองครัง แล้วเส
แสร้งกล่าว “ไม่มีอะไร จะว่าไปแล้วพวกท่านยังไม่ได้
ตอบคําถามของข้า พวกท่านไปไหนมา เหตุใดถึงไม่มี
ใครอยูบ่ า้ นเลยสักคน”
8
“เมือสักครูข่ า้ ก็เพิงคุยกับหลีเอ๋อ เรืองนีไม่มีทางแก้ไข
แล้วหรือ” เย่หมิงอวีถาม
“เจ้าบอกนางแล้วรึ” เย่หมิงเซียนเอ่ยถามเสียงสูง
“อืม” เย่หมิงอวีผงกศีรษะรับ
เจียงหลีเพิงกลับมาถึงเรือนของตน พลันนังลงบนเก้าอี
หน้าโต๊ะ
9
ถงเอ๋อและไป๋ เสวียวุน่ วายอยูก่ บั การโยกย้ายหีบใบนัน
เข้าห้อง ส่วนเจียงหลีกลับจิตใจล่องลอย
หากผ้าของตระกูลเย่เกิดมีปัญหาขึนมาจริงๆ การค้าของ
ตระกูลเย่ยอ่ มได้รบั ผลกระทบอย่างหนัก
10
มิงอวีกล่าว โรงทอก็อยูท่ ีเซียงหยางแล้วยังมีเย่หมิงฮุย
กับเย่หมิงเซียนคอยเฝ้าดูแลกิจการอยู่ หลายปี ทีผ่านมา
ก็ไม่เคยประสบปั ญหา จู่ๆ กลับเกิดข้อผิดพลาดขึน จะ
บอกว่าเป็ นเพราะเหตุบงั เอิญรึ
ใจของเจียงหลีพลันบีบรัด
12
“เจ้าค่ะ” ถงเอ๋อรับคําแล้วเอ่ยถาม “เหตุใดคุณหนูตอ้ ง
การรูเ้ รืองพวกนีหรือเจ้าคะ”
ยังมีประโยคหนึงซึงเจียงหลีไม่ได้เอ่ยออกมา อย่างน้อย
ในเมืองเยียนจิงก็ยงั ไม่มีใครรูเ้ รืองทีผ้าหอมโบราณมี
ปั ญหา ก็เท่ากับว่าตอนนีข่าวยังไม่ได้แพร่สะพัดออกไป
แต่ถา้ ร้านตัดเสือเหล่านีไม่รบั ซือผ้าหอมโบราณพร้อมๆ
กัน ก็เท่ากับมีเงือนงําซ่อนเร้น เป็ นไปได้วา่ อาจถูกจัด
13
วางไว้ก่อนแล้ว
ถงเอ๋อจดจําอย่างตังใจ
ทําการค้าไม่ใช่ซือขายเพียงหนึงครัง ต้องมีการติดต่อกัน
เรือยมา ถ้าแม้แต่เย่หมิงอวียังไม่สามารถสรุปแน่ชดั ว่า
เป็ นเพราะผ้ามีปัญหาจริงหรือไม่ หากเถ้าแก่รา้ นคิดจะ
ทําการค้ากับตระกูลเย่ตอ่ ไปในภายภาคหน้า ย่อมต้อง
ช่วยตระกูลเย่ปิดบังปั ญหาครังนี แต่ถา้ รีบกระจายข่าว
14
โพนทะนาออกมาตรงๆ ว่าเป็ นเพราะเนือผ้ามีปัญหา ก็
แทบจะสรุปได้ทนั ทีวา่ ร้านตัดเสือเหล่านันรับสินนําใจ
จากใครบางคนให้กลันแกล้งตระกูลเย่
15
วิตกกังวล เย่หยูฟงเองก็ขมวดคิวแน่น
16
เดียวเจ้าค่ะ”
“เช่นนันก็ดีแล้ว” เย่เจียเอ๋อเอ่ยรับ
18
บทที 108 ไปกันตอนนีเลย
“ท่านลุงหมิงอวีบอกกับข้า” เจียงหลีตอบ
“ความจริง ผ้าหอมโบราณชุดนีขาดทุนแล้วก็แล้วกันไป
ยับยังความเสียหายทันเวลาก็ใช่วา่ ตระกูลเย่จะไม่เคย
ทําได้ กลัวแต่วา่ หากเรืองทีผ้าหอมโบราณของตระกูลเย่
มีปัญหาแพร่สะพัดออกไป ตระกูลเย่ก็จะพลอยเสียหาย
ชือเสียงทีสังสมมานับร้อยปี ยอ่ มต้องย่อยยับลงไปใน
พริบตา” เย่เจียเอ๋อเสียใจเอามาก
“สาเหตุอาจไม่ได้มาจากผ้าหอมโบราณ” เจียงหลีตงข้
ั อ
สงสัย “แต่เป็ นร้านตัดเสือเหล่านัน”
5
ว “ข้าเข้าใจดี น้องสาวจะบอกว่าเราถูกคนลอบกัด ทว่า
แม้ตระกูลเย่จะไม่ได้เป็ นครอบครัวขุนนางในเมืองเซียง
หยาง แต่ปกติก็ไม่มีใครกล้าตอแย คนทีทําเช่นนันได้
ต้องฐานะสูงส่ง เขาทําลายตระกูลเย่ของเราแล้วจะได้
อะไรขึนมา”
“นอกจากตระกูลเย่แล้ว ในเมืองเซียงหยางยังมีโรงทอผ้า
อืนๆ อีกหรือไม่” เจียงหลีถาม
เย่เจียเอ๋อส่ายศีรษะ
6
เจียงหลีทอดถอนใจ ขณะทีกําลังพูดคุยกันอยูน่ นั พีน้อง
ทังสามคนของเย่หมิงฮุยก็กา้ วเข้ามา เห็นเย่เจียเอ๋อกับ
เจียงหลีสนทนากัน เย่หมิงอวีก็รอ้ งทัก “เจียเอ๋อ หลีเอ๋อ”
เย่หมิงฮุยมองเจียงหลีราวกับลังเลเล็กน้อย แต่ในทีสุดก็
เอ่ยปาก “หลีเอ๋อ ช่วงหลายวันก่อนไม่ได้ให้เจ้าเข้าพบ
ท่านยาย เป็ นเพราะท่านสุขภาพไม่แข็งแรง เจ้าอยูเ่ ซียง
หยางมานานเกือบครึงเดือนแล้ว สุขภาพท่านยายของ
เจ้าก็คอ่ ยๆ ดีขนเป็
ึ นลําดับ วันนีจะเข้าพบสักครังก็
สามารถทําได้”
7
เจียงหลีประหลาดใจนัก ก่อนจะสังเกตเห็นแววตาพึงพอ
ใจของเย่หมิงอวีทีอยูอ่ ีกด้าน พลันเข้าใจได้วา่ เป็ นเพราะ
เย่หมิงอวีช่วยพูดกับพีน้อง เย่หมิงฮุยจึงตัดสินใจให้เจียง
หลีเข้าพบฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่
“ถ้าเช่นนันก็ไปกันตอนนีเลย” เย่หมิงเซียนกล่าว
เจียงหลีพยักหน้ารับ
ขณะทีทังหมดกําลังเตรียมออกจากห้อง ทันใดนัน
นางกวนซือกับนางจัวซือก็รบี ร้อนเข้ามา เป็ นนางกวนซือ
8
ทีกล่าวว่า “ท่านพี ท่านถงจือฝู่ สง่ คนมาเจ้าค่ะ”
11
ค้า เช่นนันแค่ปกป้องดูแลตระกูลเย่เอาไว้ให้ดี หากลีเจิง
ถางมีปัญหาอะไรก็ให้เย่เจียเอ๋อกับเย่หยูฟงเป็ นคน
จัดการ เหตุการณ์ครังนีถือเป็ นโอกาสให้สองพีน้องได้
ฝึ กฝน ส่วนเรืองของข้ากับหมิงเซียน อย่าได้บอกท่านแม่
ว่าพวกข้าไปทีจวนท่านถงจือฝู่ จําไว้ให้ดี”
12
เย่หมิงฮุยมิได้ตอบรับ แต่หนั ไปปลอบนางกวนซือและ
นางจัวซือให้พวกนางวางใจ บอกว่าตนเองและเย่หมิ
งเซียนจะรีบกลับมาโดยเร็ว แล้วจึงจากไปพร้อมกับ
ทหารเหล่านัน
เหตุการณ์นีเกิดขึนอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครคาดคิด ในที
สุดเย่เจียเอ๋อก็พมึ พําขึนว่า “ท่านพ่อกับท่านลุงใหญ่...
พวกเขาคงไม่เป็ นอะไรใช่หรือไม่”
13
ก็บอกเองว่าจะกลับมาโดยเร็ว”
14
อาภรณ์จากผ้าหอมโบราณแล้วเกิดปั ญหาก็ยงั มีไม่มาก
แต่ตอนนี... ร้านตัดเสือพวกนันต่างไม่ทาํ การค้ากับลีเจิง
ถาง ปั ญหาของผ้าหอมโบราณก็จะแพร่สะพัดออกไปไม่
ช้าก็เร็ว หากชาวบ้านรูเ้ รืองนีเข้าย่อมไม่อยูเ่ ฉย เพือเป็ น
การรักษาความสงบของเซียงหยาง ท่านถงจือฝู่ จะต้อง
เอาผิดตระกูลเย่อย่างแน่นอน”
เย่หยูฟงส่งเสียงฮึออกมา
15
“เจ้ารูไ้ ด้อย่างไร” เย่หมิงอวีถาม เจียงหลีเป็ นคุณหนูอยู่
ในเยียนจิง ไม่เคยมาเยือนเมืองเซียงหยาง การทีนางรู ้
จักชือถงจือหยังจึงน่าแปลกใจนัก
“ดูแลเกียวกับเรืองการเงิน” เจียงหลีอธิบาย
16
คนตระกูลเย่พยายามทําความเข้าใจ เย่หมิงอวีเอ่ยปาก
“ไม่นกึ ว่าเจ้าจะรูจ้ กั กระทังน้องเขยของเขา หลีเอ๋อ จือฝู่
ผูน้ ีมิได้มีตาํ แหน่งสูงส่งอะไรใช่หรือไม่”
17
บทที 109 ข้าจะไปกับท่าน
ณ เรือนแห่งหนึงของเมืองเซียงหยาง ในห้องมีคนกําลัง
พูดคุยกันอยู่
2
หนังสือไม้ไผ่ไว้อีกด้าน “จะดูแคลนนางไม่ได้”
ตระกูลเย่เงียบเหงานัก
หลังจากทีถูกพาตัวไป เย่หมิงฮุยกับเย่หมิงเซียนก็ไม่ได้
กลับบ้านในคืนนัน
4
ทว่าถงจือหยังไม่ยอมออกมาพบนางกวนซือ กลับสังผู้
ช่วยส่วนตัวออกมารับหน้า แจ้งว่านายท่านใหญ่และ
นายท่านรองของตระกูลเย่มาเป็ นแขกอยูใ่ นทีว่าการ รอ
ให้ทกุ อย่างคลีคลายแล้วค่อยกลับ
5
เย่หมิงอวีได้ฟังก็โกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟ “ใช้กาํ ลังรึ พวกเขา
กล้าดีเกินไปแล้วพีสะใภ้ใหญ่ พีสะใภ้รอง พวกท่านรอ
อยูท่ ีนี ท่านถงจือฝู่ ไม่ยอมให้เข้าพบอย่างนันรึ เช่นนันข้า
ก็จะบุกเข้าไปเสียเลย หากมีดาบพาดคอ ดูสวิ า่ พวกเขา
จะให้พบหรือไม่”
นางกวนซือและนางจัวซือต่างร้องห้าม ทว่าเย่หมิงอวี
เป็ นคนทีพวกนางไม่อาจรังได้ เขาผลุนผลันกระโดดขึน
หลังม้าทีอยูห่ น้าประตูแล้วทะยานออกไปในพริบตา
เย่หมิงอวีมีกลินอายเยียงจอมโจรในยุทธจักร ราวกับไม่รู ้
ว่าทุกปั ญหามิอาจใช้กาํ ลังแก้ไข พอเจียงหลีรูข้ ่าวก็
รีบรุดมาทีห้องโถงด้านหน้า ทันได้เห็นนางกวนซือและ
6
นางจัวซือกําลังสังให้คนไปตามตัวเย่หมิงอวี
เย่เจียเอ๋อกับเย่หยูฟงเองก็ตามมาอย่างรีบร้อน เย่หยู
ฟงพลันอาสา “ข้าจะไปตามท่านอาสาม”
7
เปลียน ข้าเดาว่าทีฝ่ ายนันไม่ยอมให้ทา่ นป้าสะใภ้เข้าพบ
ก็เพราะต้องการโก่งราคา”
“โก่งราคารึ” เย่เจียเอ๋อยังไม่เข้าใจ
8
ถงจือฝู่ ไม่ยอมให้พวกเราเข้าพบท่านพ่อกับท่านลุงใหญ่
หากคนของเราเป็ นฝ่ ายทนไม่ไหวก็ตอ้ งยอมศิโรราบ ถึง
เวลานันท่านถงจือฝู่ ตอ้ งการอะไรพวกเราก็ได้แต่กม้ หน้า
ยอมรับ”
“เป็ นเช่นนัน”
9
ช้าเขาต้องเสนอเงือนไขของตนแน่”
10
เย่เจียเอ๋อตกตะลึง เย่หยูฟงถึงกับหันมามองเจียงหลี
13
“ข้าจะไปกับท่าน” นางจัวซือกล่าว
ทังสองเพิงจะยืนขึน ก็เห็นอาฝูวิงเข้ามาทีหน้าประตู
อย่างรีบร้อน ช่วงหลายวันนี เขากับอาซุน่ ต่างก็อยูช่ ่วย
งานทีลีเจิงถาง ละวางงานในบ้านไว้ก่อน
เจียงหลีพินิจมอง เห็นเสือของอาฝูฉีกขาดไปถึงครึง
อาภรณ์แหว่งวิน ไม่รูว้ า่ ใบหน้าไปโดนกําปั นหรือฝ่ ามือ
พิฆาต จึงปรากฏรอยฟกชํา ทีมุมปากยังมีคราบเลือด
ราวกับเพิงเสร็จจากการชกต่อย
14
“ฮูหยินใหญ่ ฮูหยินรอง ไม่ได้การแล้วขอรับ” อาฝูกระหืด
กระหอบรายงาน “ลีเจิงถาง ลีเจิงถางถูกคนบุกเข้ามา
พวกยามของเราต้านไว้ไม่อยูแ่ ล้วขอรับ เถ้าแก่รา้ นถูก
คนล้อมเอาไว้ อาซุน่ กําลังพยายามช่วยอยู่ คนพวกนัน
เข้ามาก็ทาํ ลายข้าวของไม่หยุด แม้แต่ปา้ ยร้านก็ยงั ถูก
ปลดลงมาทําลาย ฮูหยิน ท่านไปดูสกั หน่อยเถิด”
“ชาวบ้านเหล่านันมาจากทีไหน กล้าดีอย่างไรถึงได้บกุ
ทําลายลีเจิงถาง ไม่อยากมีชีวิตอยูแ่ ล้วหรือไร” เย่หยู
ฟงเดือดดาลนัก “แล้วเหตุใดถึงไม่แจ้งทางการเล่า”
16
“เป็ นทหารทีจับตัวนายท่านใหญ่ของเราไป แล้วเรายังจะ
ไปแจ้งความกับใครได้อีก” อาฝูรอ้ งไห้ฟมู ฟายด้วยสีหน้า
โศกเศร้า
17
บทที 110 มีคนตายรึ
มีคนตายรึ
1
เย่เจียเอ๋อยกมือปิ ดปาก ในฐานะของบุตรีของตระกูลค้า
ขาย นางเข้าใจดีวา่ หากข่าวลือเรืองที ‘มีคนตายเพราะ
ใช้ผา้ หอมโบราณ’ แพร่สะพัดออกไป ตระกูลเย่ก็จะไม่มี
วันพลิกสถานการณ์กลับมาได้อีก
นางจัวซือและนางกวนซืออยากจะเป็ นลมไปเสียเลย
“ข้าจะไปทีลีเจิงถาง” เย่หยูฟงกล่าว
นางจัวซือปล่อยมือบุตรชายอย่างพูดอะไรไม่ออก
3
เจียงหลีรูส้ กึ ชืนชมเขามาก ในยามคับขันไม่หดหัวเข้า
กระดอง อุปนิสยั นีเหมือนกับเซวียเจา
แววตาของนางพลันอ่อนโยนขึนหลายส่วน
ด้านนอกของลีเจิงถางวุน่ วายโกลาหล
4
ผูค้ นรุมล้อมกันอยูเ่ ต็มถนนจนปิ ดทางเข้าออก เถ้าแก่
ร้านข้างเคียงพากันออกมาดูละครฉากนี ลีเจิงถางตังอยู่
บนทําเลทีดีมาก กิจการค้าขายรุง่ เรือง จนคนอาชีพเดียว
กันเกิดความริษยา พอได้เห็นลีเจิงถางตกตํา ต่อหน้าก็
แสร้งทําเป็ นเห็นอกเห็นใจ ทว่าลับหลังนันแอบยินดีไม่
น้อย
5
นอกยังมีคนหน้าใหม่ถือกระบองไม้บกุ เข้ามาไม่หยุด
ในฝูงชนมีเด็กรับใช้ทีคนจากบ้านผูด้ ีตระกูลใหญ่สง่ มา ดู
ก็รูว้ า่ เป็ นชาวบ้านธรรมดาไม่ได้รารวย
ํ ทังหมดต่างมีสี
หน้าดุดนั ขณะร้องตะโกนอย่างเกรียวกราด
“ตระกูลเย่หน้าเงิน เรียกประมุขตระกูลเย่ออกมา”
6
“คนตระกูลเย่ไม่ได้ตายดีแน่”
ทางด้านนางกวนซือนันตรงไปยังทีว่าการเพือตามหา
7
เย่หมิงอวี ส่วนนางจัวซือนันรอฟั งข่าวอยูท่ ีจวน
ยังดีทีก่อนออกจากบ้าน เจียงหลีได้สงให้
ั ทหารอารักขา
ติดตามมาด้วย พอพวกนางมาถึงลีเจิงถาง ผูค้ นทีพบ
เห็นก็รบี ป่ าวร้อง “คุณหนูและคุณชายของตระกูลเย่มา
แล้ว”
8
แรงกว่า ครันเห็นทหารหน้าตาดุดนั เช่นนี ก็หยุดชะงัก
ตามสัญชาตญาณ
มาถึงหน้าประตูลเจิ
ี งถาง เจียงหลีก็มองเข้าไป คนด้าน
ในสภาพยําแย่นกั เถ้าแก่เฉียนใช้ผา้ เช็ดหน้ากุมศีรษะที
มีเลือดซึมออกมา
9
ตระกูลเย่ มีอะไรก็เจรจากันดีๆ ตระกูลเย่ไม่หนีความรับ
ผิดชอบอยูแ่ ล้ว...”
“ผ้าหอมโบราณของพวกเจ้าใส่แล้วตาย พวกเจ้าทําคน
ตาย แล้วยังทํามาหากินกับคนเซียงหยาง พวกทําการค้า
อย่างเห็นแก่ตวั ต้องชดใช้ดว้ ยชีวิต”
10
เย่เจียเอ๋ออายุมากกว่าเย่หยูฟงเล็กน้อย จึงเป็ นฝ่ ายออก
หน้า “ทุกท่าน ข้าไม่รูว้ า่ เรืองทีใส่ผา้ หอมโบราณแล้วตาย
มีความเป็ นมาอย่างไร เรืองนีพวกข้ายังไม่ได้ตรวจ
สอบอย่างละเอียด ตระกูลเย่ทาํ การค้าในเมืองเซียง
หยางมานานหลายปี ชือเสียงด้านการค้าเป็ นทีรับรูก้ นั
ทัว ข้าไม่หลอกลวงพวกท่านแน่”
แต่คาํ พูดนีถูกเสียงตะโกนโหวกเหวกกลบจนเลือนหาย
เจียงหลียงั เห็นคนก้มลงไปเก็บก้อนหิน เพือเตรียมจะปา
ใส่เย่เจียเอ๋อ
11
ทหารอารักขา
“ใครกล่าวหาว่าผ้าหอมโบราณใส่แล้วทําให้คนตาย”
เสียงสตรีทีแฝงความเยือกเย็น มิได้สงู ส่งแต่ทรงพลัง
อํานาจ ลอยกระทบโสตประสาทฝูงชนอย่างชัดเจน
ทุกชีวิตต่างหันหน้ามอง
12
ฐานะทีเปลียนแปลงไประหว่าง ‘บุตรสาวมหาอํามาตย์’
กับ ‘บุตรสาวตระกูลค้าขาย’ ทําให้แม้แต่บรรยากาศก็ยงั
แตกต่างกัน ชาวบ้านพวกนันกล้าปาก้อนหินใส่เย่เจีย
เอ๋อ ทว่าต่อหน้าคุณหนูนอ้ ยทีดูไร้เดียงสา กลับไม่กล้า
เอ่ยวาจาผรุสวาท ราวกับบังเกิดความเกรงกลัว
13
คงคิดว่าเจียงหลีจะขาดสติไตร่ตรอง ทว่านางกลับใช้
เพียงสายตาเย็นชาชําเลืองมองแขนทีเปลือยเปล่า ราว
กับสิงทีเห็นเป็ นถ้วย ชาม หรือตะเกียงเท่านัน
ฝูงคนโดยรอบล้วนตืนตกใจ ต่างถอยหลังไปคนละหนึง
ก้าว แม่นางน้อยผูน้ ีไม่พดู พรําทําเพลงก็ชกั มีดเสียแล้ว
คงไม่คิดจะฆ่าคนกระมัง
“น้องสาว...” เย่เจียเอ๋อพยายามเหนียวรังอย่างร้อนรน
14
ในฉับพลัน เจียงหลีจบั มีดสันในแนวขวาง แล้วเฉือนผ้า
บริเวณแขนเสือของตน จนเกิดเสียงดัง
หลังจากนันนางก็โยนเศษผ้าไปทางชายทีกําลังถลกแขน
เสือ ชายผูน้ นรั
ั บผ้าไว้ตามสัญชาตญาณ
15
บ้านด้วยความเร่งรีบเช่นนี ใครจะยังสนใจว่าเจียงหลี
สวมเนือผ้าอะไรอยู่ แต่ตอนทีเจียงหลีมาถึงเซียงหยาง
ผ้าหอมโบราณก็เกิดปั ญหาขึนแล้ว แม้แต่ลเจิ
ี งถางก็ไม่
ขายผ้าหอมโบราณอีก เท่ากับว่านางจะต้องซือมาจาก
เมืองเยียนจิงแน่เจียงหลีเห็นแววตาของชาวบ้านเริมอ่อน
ลง ก็รูส้ กึ โล่งใจขึนบ้าง คําพูดใดก็ไม่มีนาหนั
ํ กเท่ากับ
สวมใส่ไว้กบั ตัว
ยังมีชาวบ้านทีไม่เชือถือคําพูดของเจียงหลี จึงตรวจดู
แขนเสือทีถูกเฉือนชินนันอย่างละเอียด แต่สดุ ท้ายก็จาํ
16
ใจต้องผงกศีรษะรับ “เป็ นผ้าหอมโบราณจริงๆ”
17
ชาวเมืองเซียงหยางไม่เคยเห็นหน้าหรือรูว้ า่ เจียงหลีเป็ น
ใคร ได้ยินเย่เจียเอ๋อเรียกเจียงหลีวา่ เป็ นน้องสาว ก็คิดว่า
เจียงหลีเป็ นญาติหา่ งๆ ทีมาอาศัยตระกูลเย่
18
บทที 111 หรือว่าเป็ นองค์หญิง
1
เสียงหัวเราะเยาะของฝูงชนค่อยๆ จางหาย
รอยยิมของเจียงหลีแปรเปลียนเป็ นเย็นชาในทีสุด
2
จีเหิงนังเท้าคาง ส่วนอีกมือหนึงก็สะบัดพัดให้หบุ ลงจน
เหลือแค่แถบเดียว ก่อนจะโบกพัดไปมาอย่างไม่ใส่ใจ
ราวกับสามารถเห็นไหมทองคําเส้นเล็กบนพัดได้
ทีหน้าประตูลเจิ
ี งถาง เจียงหลียืนอยูด่ ว้ ยความสงบ
‘บุตรสาวจากภรรยาเอกของมหาอํามาตย์เจียง’ พอคํา
พูดนีถูกเอ่ยออกมา ในชัวพริบตาฝูงชนทังหลายก็เงียบ
งัน
3
“แม้วา่ เจ้าคือคุณหนูรองเจียง ก็ไม่สามารถใช้อาํ นาจ
กลันแกล้งคนได้” ในฝูงชนมีชายหน้าผอมผูห้ นึงกล่าว
อย่างใจกล้า เมือพูดจบก็ไปแอบอยูด่ า้ นหลังชายร่าง
กํายํา เพือปิ ดบังโฉมหน้าของตน
“ตระกูลเจียงต้องการปกป้องตระกูลเย่ทีเป็ นญาติฝัง
บ้านภรรยา ขุนนางกับพ่อค้าสมคบคิดกันหาผล
ประโยชน์”
4
เกิดเรืองก็แย่พอแล้ว แต่ชาวบ้านทังหลายยังเอาตระกูล
เจียงมาผูกรวมไว้กบั ตระกูลเย่ ทําให้ตระกูลเจียงพลอย
เสียชือไปด้วย เจียงหยวนปั วเป็ นถึงขุนนางชันผูใ้ หญ่ใน
เมืองเยียนจิง หากเกิดเรืองเดือดร้อนขึนมาจะทําอย่างไร
เย่หยูฟงเองก็ขมวดคิวเช่นกัน
ส่วนเจียงหลีนนยื
ั นอมยิมอยูก่ บั ที ก่อนจะเปิ ดปาก
“ตระกูลเจียงของข้าไม่ไว้หน้าแม้กระทังบุตรสาวของตน
บิดาของข้ามีความยุติธรรม ย่อมไม่ปกป้องใครโดยง่าย”
5
เมือหลายปี ก่อน เช่นนัน เจียงหยวนปั วย่อมไม่ใช่ขนุ นาง
ทีจะปกป้องคนผิด
ว่าแต่นางยําเตือนให้คนอืนๆ นึกถึงความเลวร้ายของตน
เช่นนีจะดีหรือ
เจียงหลีไม่สนใจว่าคนอืนจะมองตนอย่างไร แต่เอ่ยปาก
ถาม “เรียนถามทุกท่าน ปั ญหาของผ้าหอมโบราณนัน
พวกท่านรูม้ าจากไหน”
“ร้านตัดเสือต่างพูดกันไปทัว” ฮูหยินคนหนึงซึงยืนอยู่
ด้านหน้าตอบคําถาม “ตอนนีทังเมืองเซียงหยางต่างรูก้ นั
หมดแล้ว ท่านถงจือฝู่ ยงั นําตัวนายท่านตระกูลเย่กลับไป
6
สอบสวนยังทีว่าการอีกด้วย”
“สอบสวนรึ”
พลันมีคนเอ่ยถาม “ท่านพูดเช่นนีหมายความว่าอย่างไร”
เจียงหลีอมยิมตอบ “ตําแหน่งขุนนางชันสูงของเมือง
เซียงหยาง ทีเหนือกว่าใครก็คงจะเป็ นขุนนางจือฝู่ --
7
ถงจือหยังคนนีสินะ จากทีข้าเห็น ตําแหน่งของถงจือหยัง
คงจะยิงใหญ่เกินไป กระทังเรืองใดควรหรือไม่ควร
จัดการก็ลืมไปเสียแล้ว”
นางเรียกชือถงจือหยังตรงๆ ชาวบ้านโดยรอบได้ฟังต่าง
อึงงัน ครันหวนคิดอีกที ต่อให้นางเรียกชือถงจือหยังต่อ
หน้า ก็ไม่มีอะไรต้องหวาดกลัว เพราะอย่างน้อยนางก็มี
บิดาอย่างเจียงหยวนปั วคอยหนุนหลัง
ประโยคสุดท้าย กล่าวด้วยนําเสียงหนักแน่นและจริงจัง
เป็ นอย่างมาก ทําเอาผูค้ นอกสันขวัญหาย
9
พอถ้อยคําเหล่านีถูกเอ่ยออกมา ชาวบ้านจํานวนไม่นอ้ ย
ก็ตกตะลึงไปตามคาด มีคนหนึงถามขึนอย่างระมัดระวัง
“คุณหนูรองเจียง หากเรืองนีท่านถงจือฝู่ ไม่ควรเป็ นผู้
สะสาง แล้วใครถึงสมควรจัดการเล่า”
10
กลับไม่ทาํ เช่นนัน เขาจับคนไปทําการสอบสวนโดย
พลการ ไม่รายงานปั ญหาไปยังแผนกสิงทอ เขาคิดจะทํา
อะไรกันแน่ ในสายตาของข้า เขาคงอยากปกป้องตระกู
ลเย่เสียมากกว่า”
สินเสียงของเจียงหลี ในฝูงชนก็มีทงคนที
ั ไม่รูว้ า่ จะต้อง
11
ทําอย่างไร บ้างก็เข้าใจกระจ่างแจ้ง พวกเขาทังหมดล้วน
เป็ นชาวบ้านธรรมดา ต่อให้มีคนทีรับราชการอยูบ่ า้ ง แต่
ก็เป็ นเพียงขุนนางชันผูน้ อ้ ย ไม่รูว้ า่ แต่ละตําแหน่งของขุน
นางในเมืองเยียนจิงนันดูแลเกียวกับอะไร สําหรับด้านสิง
ทอก็ยงไม่
ิ เข้าใจไปกันใหญ่ ส่วนเจียงหลีนนพู
ั ดจามี
เหตุผล ฟั งแล้วไม่เหมือนว่ากําลังโป้ปดมดเท็จ
ฝูงชนต่างหัวเราะด้วยความขบขัน
14
รายงานไปยังเมืองเยียนจิง หลังจากทีบิดาของข้าได้รบั
จดหมายก็จะแจ้งไปยังแผนกสิงทอของท่านจือซือลิง
ด้วยตนเอง เข้าใจว่าอีกไม่นาน คนของแผนกสิงทอก็จะ
มาถึงเมืองเซียงหยาง”
“จริงรึ”
“ในฐานะของคุณหนูรองเจียง ข้าขอให้สญ
ั ญากับพวก
ท่าน” เจียงหลียิมบางๆ
คิวโก่งของนางสอดรับกับดวงตา พอคลียิมออกมาจึงงด
งามราวกับบุปผาทีเบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิ ทําให้
บรรยากาศทีตึงเครียดอ่อนโยนลงอย่างไม่รูต้ วั
15
“ข้าคิดว่าครังนี ท่านทังหลายคงไม่ได้คิดมาทําลายลีเจิง
ถาง แต่มาเพือหาวิธีแก้ไข หากเป็ นความผิดพลาดของ
ตระกูลเย่ ตระกูลเย่ก็ตอ้ งยอมรับแน่ ทว่าก่อนทีคนของ
แผนกสิงทอจะมาถึง ตระกูลเย่เองก็ไม่อาจแบกรับความ
ผิดทีไม่มีมลู ตอนนีเวลาก็ลว่ งเลยมามาก ทุกท่านคง
เหนือยกันแล้ว สิงทีพวกข้าสามารถทําได้ก็จะพยายาม
ทําให้สาํ เร็จ ถงเอ๋อ” นางสังสาวใช้ “ไปนําเงินออกมา”
16
โบราณทีซือมา ยังมีเงินชดเชยอีกจํานวนหนึง เรืองนี
พวกข้าจะพยายามดําเนินการให้ทกุ ฝ่ ายได้รบั ประโยชน์
อีกทังยังอยากจะขอเวลาให้กบั ตระกูลเย่ อย่างน้อยใน
ช่วงสิบปี ทีผ่านมา ตระกูลเย่ก็ไม่เคยมีขอ้ ผิดพลาด”
นางกล่าว “เห็นแก่ไมตรีในอดีต เวลานีขอให้เชือใจสัก
ครัง หวังว่าจะไม่ลาํ บากจนเกินไป”
เจียงหลีกล่าวอย่างจริงจัง
17
บทที 112 ให้ตายเถอะ
เจียงหลีใช้ทงไม้
ั ออ่ นและไม้แข็ง คนเหล่านีไม่อาจรับเงิน
แล้วยังกระด้างกระเดือง ทีสําคัญต่อหน้าบุตรสาวของ
ท่านมหาอํามาตย์ พวกเขาก็ไม่สามารถทําอะไรได้
1
อีกทังเจียงหลียงั โยนต้นเรืองไปให้ถงจือหยัง หากถงจือ
หยังรายงานปั ญหาไปทีแผนกสิงทอของท่านจือซือลิง
เสียตังแต่แรก ปั ญหาของตระกูลเย่ก็คงถูกแก้ไขไปนาน
แล้ว จะล่าช้ามาถึงตอนนีได้อย่างไร
“แน่นอน จะช้าไม่ได้”
2
แผนกสิงทอของท่านจือซือลิง ข้าเกรงว่าหากไม่รบี
ดําเนินการ เรืองนีจะตกไปถึงมือของถงจือหยังอีกครัง”
ชาวบ้านทังหลายต่างหัวเราะขบขัน ตอนนีไม่มีความ
โกรธแค้นเป็ นปฏิปักษ์เหมือนทีผ่านมา ต่างกลับไปหาผ้า
หอมโบราณทีเคยใช้ แล้วนํามามอบให้เจียงหลี
3
เมือครังเยาว์วยั เจียงหลีเคยพูดไม่ดีตอ่ ตระกูลเย่ เขาก็
คิดไม่ถงึ ว่าจะมีวนั ทีได้รบั ความช่วยเหลือจากเจียงหลี
ชันบนของโรงนําชาฝังตรงข้าม จีเหิงมองไปนอก
หน้าต่างพลางถาม “ละครเรืองนีเป็ นอย่างไรบ้าง”
4
“ใช่น่ะสิ” จีเหิงถอนหายใจเบาๆ “อายุยงั น้อยก็สามารถ
แสดงละครฉากใหญ่ตวั คนเดียวได้”
“นางตอบโต้ได้ดี โดยไม่กลัวว่าถ้าอํามาตย์เจียงทีอยู่
เมืองหลวงรูเ้ รืองนีเข้าจะถูกคาดโทษ” ลูจ่ ีกล่าว “เจียง
หยวนปั วเป็ นจิงจอกเฒ่า ฉลาดแกมโกงนัก พบเรือง
เดือดร้อนเช่นนีย่อมหลบเลียงไปให้ไกล ไม่นกึ ว่าบุตร
สาวของเขากลับชอบใช้อาํ นาจ”
จีเหิงชีพัดไปทางหน้าต่าง “นางจงใจอ้างถึงเจียงหยวน
ปั ว”
5
“อืม เพราะเจียงหยวนปั วเป็ นถึงมหาอํามาตย์ ถงจือหยัง
จะได้เกิดความหวาดกลัวรึ ฝ่ ายทีหนุนหลังถงจือหยังก็
คือตระกูลหลี...”
“พวกเราถูกพบเข้าเสียแล้ว” จีเหิงยิมพลางโบกพัดในมือ
“แย่จริงๆ”
เจียงหลีพาถงเอ๋อก้าวออกมา
เพิงจะแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าทีลีเจิงถางไปหยกๆ
เจียงหลีกาํ ลังคิดจะสังทหารให้สืบหาข่าวความเคลือน
ไหวทางฝังของเย่หมิงอวี นึกไม่ถงึ เพิงเดินออกจากลีเจิง
7
ถางก็รูส้ กึ ว่าถูกจับจ้อง เจียงหลีมองตามสัญชาตญาณ
แล้วก็พบกับอาภรณ์สีแดงอันคุน้ เคย พร้อมกับพัดไหมสี
ทองทีโบกช้าๆ
จีเหิงรึ
เขาอยูท่ ีนีได้อย่างไร
เจียงหลีเก็บความตกใจไว้ในอก คิดว่าจีเหิงคงไม่ได้
ติดตามนางมาถึงเมืองเซียงหยางหรอกใช่ไหม ไม่ควรจะ
เป็ นเช่นนัน เขาเป็ นถึงซูก่ วกง
ั คงจะไม่ทาํ เรืองไร้สาระ
อย่างเช่นวันๆ คอยติดตามดูนางกระมัง
8
ทว่า... เจียงหลีจบั จ้องไปยังหน้าต่างโรงนําชาอีกครัง
จากมุมมองนัน คงจะเห็นเรืองราวทังหมดทีเกิดขึนในลี
เจิงถาง ซูก่ วกงท่
ั านนีชอบดูละครนัก คิดว่าตังแต่ตน้ จน
จบเขาคงไม่พลาดสักฉากแน่
รูส้ กึ ไม่ดีเอาเสียเลย
9
เจียงหลีสงถงเอ๋
ั อและไป๋ เสวียเสร็จแล้วก็เดินไปยังโรงนํา
ชา
10
รองอยูใ่ นสํานักนางชีมานานแปดปี เหตุใดถึงรู ้
ธรรมเนียมของพวกขุนนาง ราวกับเจียงหยวนปั วจับมือ
สอนนางมาอย่างไรอย่างนัน หรือแค่เป็ นพ่อลูกกัน ก็
สามารถสืบทอดเจตนารมณ์ได้” จีเหิงชําเลืองมองเขา
แวบหนึง “นันมิใช่เรืองทีคนธรรมดาจะเลียนแบบกันได้
ง่ายๆ”
ขณะทีทังสองคนกําลังพูดคุยอยูน่ นั พลันได้ยินเสียงเด็ก
นําทางเคาะประตู ก่อนทีเจียงหลีจะก้าวเข้ามา
พอเจียงหลีผา่ นประตูมาได้ก็เห็นจีเหิงกับบัณฑิตชุดสี
เขียวทีเคยพบกันตอนชมละคร
11
“บังเอิญจริงๆ” จีเหิงเอ่ยปาก “มาพบกับคุณหนูรองเจียง
จนได้”
จีเหิงยิมพลางมองนาง ผ่านไปนานจึงกล่าวออกมาสอง
คํา “งานราชการ”
เจียงหลีคอ่ ยวางใจได้บา้ ง
12
“ดูเหมือนตระกูลเย่จะมีเรือง” จีเหิงมองผ่านบาน
หน้าต่างออกไปยังลีเจิงถางทีอยูไ่ ม่ไกล “หากไม่ได้เจ้า
ช่วยไว้ ลีเจิงถางก็ตอ้ งพังไปแล้ว”
แม้เขาจะพูดเช่นนี แต่ในนําเสียงยังแฝงความรูส้ กึ
เสียดาย เจียงหลีอดหลุดปากออกมาไม่ได้ “เหตุใดถึงดู
เหมือนว่า ท่านกัวกงอยากเห็นลีเจิงถางพังทลายไปเสีย”
13
เรืองใดก็สามารถมองให้เป็ นละครได้”
“แต่คนแสดงละครได้ดีอย่างคุณหนูรองเจียงนันมีนอ้ ย
เหลือเกิน” จีเหิงตอบ
“ว่าอย่างไรนะ” เจียงหลีมองชายหนุ่มนิง
14
นัยน์ตางดงามของเขาทอประกาย ราวกับหลุมลึกอันน่า
พิศวงทีชวนให้ผคู้ นหลงใหล ขณะกล่าวเหมือนมีรอยยิม
แฝงความนัย “มีความรูส้ กึ หนึงบอกกับข้าว่า คุณหนูรอง
จะต้องแสดงละครดีๆ ในเมืองเซียงหยางอีกหลายฉาก”
15
อายุยีสิบปี เศษเห็นจะได้ แต่คณ
ุ หนูรองเจียงเป็ นเพียง
เด็กสาวอายุนอ้ ย เขายังใช้ความหล่อเหลามายัวเย้า
อย่างไร้จิตสํานึก ตอนทีเซวียฟั งเฟยเกิดเรือง คนในเมือง
เยียนจิงต่างประณามว่านางใช้ความสวยหลอกล่อบุรุษ
ให้หลงใหล แล้วเหตุใดถึงไม่มีใครก่นด่าจีเหิงว่าใช้ความ
งามสังหารผูค้ นเล่า
“ได้ยินแล้ว” จีเหิงพยักหน้า
16
“ท่านกัวกงคิดว่า ข้ากล่าวได้ถกู ต้องหรือไม่” เจียงหลี
อยากลองหยังเชิงดูทา่ ทีของจีเหิง ตอนนีเจียงหลีคาดเดา
ว่าถงจือหยังถูกตระกูลหลีบงการ จีเหิงรูจ้ กั กับหลีจิง
นางจึงอยากรูว้ า่ ทีเรืองนีเกียวข้องกับตระกูลหลีนัน จีเหิง
ทราบหรือไม่ เขามาถึงเซียงหยางเพือจะแทรกแซงเรืองนี
หรือเปล่า หากจีเหิงยืนมือเข้ามา เรืองก็จะยิงยากขึนไป
อีก
17
หญิงสาวพลันกล่าวว่า “หากท่านกัวกงแค่ดลู ะครเงียบๆ
ไปตลอดก็คงดี”
จีเหิงยกยิมโดยไม่ตอบโต้
มือทีจับพัดของจีเหิงพลันชะงักเล็กน้อย ขณะจับจ้อง
18
แววตาแฝงความนัยของเจียงหลี
ทางด้านลูจ่ ีนนตกใจนั
ั ก แม้แต่เรืองนีเจียงหลีก็รู ้
“เพราะบิดาของข้าคือมหาอํามาตย์” เจียงหลีกล่าวเสียง
เบา “ตระกูลเจียงของพวกเรามีศตั รูไม่นอ้ ย หากไม่ระวัง
อาจขวางทางผูอ้ ืนได้ ตระกูลหลีของท่านเสนาบดีกบั
บิดาข้าเป็ นอริกนั ฝ่ ายศัตรูประกอบไปด้วยใครบ้าง ย่อม
ต้องจดจําให้ขนใจ
ึ ไม่เช่นนัน อาจติดกับพวกขุนนาง
ตําแหน่งเล็กๆ จนกลายเป็ นเรืองราวลุกลามใหญ่โต”
19
บทที 113 ช่วยไม่ได้
จีเหิงกล่าวกลัวหัวเราะ “มีคณ
ุ หนูรองเจียงอยูเ่ ช่นนี ข้า
คิดว่าตระกูลเจียงคงไม่ถกู คนลอบทําร้ายโดยง่าย แล้ว
ยังจะรุง่ เรืองไปนับร้อยปี ดว้ ย”
1
เชิง
2
ตรงข้ามอับจนถ้อยคํา
3
เจียงหลีกล่าว “แบบนันย่อมดีทีสุด” จบคํานางก็ลกุ ขึน
ยืนแล้วเอ่ยกับจีเหิง “เมือสักครูเ่ ห็นท่านกัวกงอยูท่ ีนี จึง
ตังใจขึนมาทักทาย ได้พดู คุยกันพอสมควรแล้วคงต้อง
ขอตัว ญาติผพู้ ีของข้าคงกําลังยุง่ อยู่ ข้าต้องไปช่วยนาง
สะสางปั ญหา ไม่รบกวนท่านกัวกงแล้ว” นางคํานับจีเหิ
งอย่างเกรงอกเกรงใจ
เจียงหลียิมบางๆ แล้วออกจากโรงนําชาไปอย่างเชืองช้า
ยังคงระแวดระวัง นางโต้ตอบจีเหิงแต่ละครังด้วยความ
รอบคอบยิงขึน
4
เจียงหลีกา้ วออกจากโรงนําชาด้วยหัวใจอันเต้นรัว
เฉิงอ๋องกับตระกูลเจียงจะได้กลายเป็ นศัตรูทีไม่ยอมลง
ให้อีกฝ่ ายจนแตกหักกันไปข้าง เมือเป็ นเช่นนี เจียง
หยวนปั วจึงจะสามารถทุบหม้อข้าวตนเองโดยไม่ลงั เล
แล้วลุกขึนสูก้ บั เฉิงอ๋องได้อย่างองอาจและผ่าเผย
นีเป็ นจุดประสงค์ของนาง
6
ความสามารถจริงๆ”
จีเหิงเอ่ยสําทับ “แม่นางน้อยฉลาดเฉลียวนัก”
7
หลังจากเจียงหลีออกไปแล้วก็กลับมาทีลีเจิงถางอีกครัง
รอให้จดั การกับฝูงชนจนเสร็จเรียบร้อยก็จวนพลบคํา
กลุม่ ของเจียงหลีพากันกลับบ้านตระกูลเย่ นางกวนซือที
เพิงมาถึง ได้รบั รูเ้ รืองราวซึงเกิดขึนทีลีเจิงถางจากนางจัว
ซือก็โล่งใจ เหลือแต่เย่หมิงอวียังไม่กลับมา
“ยังต้องใช้เงินอีกหรือ” เย่หยูฟงกล่าวอย่างเคียดแค้น
“พวกสุนขั รับใช้”
เย่เจียเอ๋อพลันแสดงความเห็น “หากสิงทีพวกเขาต้อง
การคือเงินทอง เช่นนันก็เป็ นเรืองง่าย”
10
ทุกคนต่างรับรู ้ ทีวันนีลีเจิงถางผ่านพ้นวิกฤติมาได้ เป็ น
เพราะเจียงหลีช่วยพูดออกหน้า แม้วา่ นางจะอายุนอ้ ย
กว่าเย่เจียเอ๋อ และไม่เคยทําการค้า แต่ดลู กั ษณะท่าทาง
แล้ว เจียงหลีคิดอ่านรอบคอบกว่าทุกคนในตอนนี
“เพราะเหตุใดรึ” เย่หยูฟงขมวดคิวถาม
11
ในห้องหนังสือของจวนตระกูลถง
12
ไปเยียนจิงล้วนเห็นมากับตา ต่างยืนยันว่าเป็ นคุณหนู
รองเจียงจริงๆ ไม่ผิดแน่ขอรับ”
ถงจือหยังพลันถีบเก้าอี “นีพวกเขาคิดจะหลอกใครกัน
ไม่มีข่าวคราวมาหลายปี จู่ๆ ก็มามีนาจิ
ํ ตนําใจต่อกัน
กระนันหรือ”
13
“นียังไม่ถือว่าหนักหนา... นายท่าน คุณหนูรองเจียงคน
นันยังยืนอยูห่ น้าประตูลเจิ
ี งถางแล้วกล่าว... กล่าว...” ข้า
รับใช้รายงานอึกๆ อักๆ
“พูดว่าอะไร”
14
“นายท่าน เดิมทีตระกูลเย่อยูใ่ นกํามือของเราแล้ว แต่
ใครจะรูว้ า่ จู่ๆ ก็มีคณ
ุ หนูรองเจียงโผล่ขนมา
ึ คุณหนูรอง
เป็ นถึงคนของตระกูลเจียง เช่นนัน... ตอนนีคงต้องคิด
วางแผนกันใหม่ใช่หรือไม่”
“ปล่อยไว้เช่นนีไม่ได้” ถงจือหยังเดินวนไปเวียนมาอยู่
สองรอบ แล้วว่ากล่าว “ไปเอากระดาษกับพูก่ นั มา”
16
ลาภยศและเงินทองเป็ นสิงชวนปรารถนา แต่ถา้ ต้องชด
ใช้ดว้ ยการลดจํานวนภรรยาและกําลังทหารก็ไม่น่า
พิสมัยเสียแล้ว ถงจือหยังตัดสินใจถามน้องเขย เพือให้
อีกฝ่ ายไปปรึกษาผูม้ ีพระคุณท่านนัน อย่างน้อยก็ชีแนะ
ว่าเขาควรก้าวต่อไปอย่างไร ไม่เช่นนัน ลําพังตัวเขาเอง
หากก้าวพลาด นึกเสียใจก็คงสายไปเสียแล้ว
ขณะกําลังเขียนจดหมายอย่างรีบร้อนอยูน่ นั ข้ารับใช้
ข้างกายพลันนึกอะไรขึนมาได้ “นายท่าน ตอนนีนาย
ท่านสามตระกูลเย่ยงั ถูกขังไว้ จะปล่อยตัวหรือไม่ขอรับ”
18
บทที 114 กลับมาแล้วก็ดี
หนึงชัวยามให้หลัง เย่หมิงอวีก็กลับมาถึงจวนตระกูลเย่
1
เย่หมิงอวีเกาหัวแกรกๆ “เดิมทีทหารพวกนันก็ข่มขู่ขา้
เป็ นอย่างมาก แต่พอตกเย็นกลับเกรงอกเกรงใจ ขอโทษ
ขอโพยว่าเป็ นเพียงความเข้าใจผิด แล้วปล่อยตัวข้ากลับ
มา”
ทุกชีวิตในห้องพลันมองไปทีเจียงหลี
2
“ถงจือหยังคงจะเกรงกลัวตระกูลเจียง จึงปล่อยตัวท่าน
อาสามออกมาเร็วเช่นนี”
4
สงสัยไม่ได้“ตังแต่ตน้ จนถึงตอนนี ถงจือหยังมิได้แสดง
ตัว กลับให้คนรอบกายออกหน้า เช่นนีก็รูไ้ ด้วา่ เขาเป็ น
คนขีขลาดตาขาว เขาวางแผนให้ตวั เองปลอดภัย หมาย
จะรอรับแต่ชยั ชนะเท่านัน รอจนเรืองทุกอย่างสินสุดลง
ถึงค่อยปรากฏตัว”
คนตระกูลเย่มองนางอย่างตืนตะลึง เย่เจียเอ๋อพลันซักไซ้
“เช่นนันน้องสาว เจ้าแค่ข่ถู งจือหยังรึ”
6
รายงานแล้ว จะต้องรีบส่งคนมาเซียงหยางโดยเร็วแน่”
7
“ไม่กลัวว่าจะเป็ นการหาเรืองให้กบั บิดาเจ้าหรือ” เย่หยู
ฟงถาม “กระทําโดยพลการเช่นนี หากกลับถึงเมืองเยียน
จิง ท่านอํามาตย์คงไม่ละเว้นเจ้าแน่”
8
จะทําให้เฉิงอ๋องกับตระกูลเจียงต้องอยูฝ่ ่ ายเดียวกัน นัน
ก็เท่ากับว่า จะต้องทําให้เจียงหยวนปั วและเสนาบดีมี
ความบาดหมางชนิดไร้หนทางแก้ไข เมือเป็ นเช่นนัน
นางถึงจะมีโอกาส
ส่วนเรืองทีว่า หากเดินทางกลับไปถึงเมืองเยียนจิง
แล้วจะถูกเจียงหยวนปั วขุ่นเคืองหรือไม่นนค่
ั อยว่ากันที
หลัง เพือแก้แค้นองค์หญิงหย่งหนิงและเสินอวีหยง เจียง
หลียินดีทีจะสละทุกสิง
แม้กระทังชีวิตของตัวเอง
9
ปรากฏตัวของนางย่อมทําให้แผนของเขาพังไม่เป็ นท่า
เขาจะต้องเขียนจดหมายไปขอความช่วยเหลือแน่ แต่
ก่อนหน้านัน จดหมายทีเจียงหลีเขียนถึงเย่ซือเจียก็จะ
ถูกส่งไปแล้ว ถงจือหยังยังไม่ทนั ตังรับ คนของแผนกสิง
ทอของท่านจือซือลิงก็จะมาถึงเซียงหยางก่อน ทังหมด
ไม่ใช่เรืองทีถงจือหยังสามารถชักเชิดได้ตามอําเภอใจ
ระหว่างนีนับเป็ นโอกาสอันดี
เย่เจียเอ๋อพยักหน้ารับ “ข้าเองก็คิดเช่นนัน”
พูดคุยเกียวกับวิธีรบั มือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าเสร็จ
แล้ว คนทังหมดของบ้านตระกูลเย่จงึ แยกย้ายกลับไปพัก
ผ่อน เจียงหลีกา้ วออกมาเป็ นลําดับสุดท้าย โดยมีเย่หมิ
งอวีเดินนําอยูด่ า้ นหน้า ในทีสุดหญิงสาวก็เอ่ยปากเรียก
“ท่านลุงหมิงอวี”
11
เย่หมิงอวีหยุดฝี เท้า “หลีเอ๋อ มีอะไรรึ”
“ข้าขอรบกวนเวลาท่านสักครู”่
ได้ฟังดังนัน เย่หมิงอวีจึงเดินตามเจียงหลีมาทีห้อง
หนังสือของเย่หมิงฮุย เจียงหลีให้ถงเอ๋อยืนสังเกตการณ์
อยูด่ า้ นนอก แล้วจึงกล่าวว่า “ท่านลุงหมิงอวีขึนเหนือ
ล่องใต้ คงจะมีสหายอยูบ่ า้ ง”
“สหายพวกนันคงจะเป็ นคนทีสามารถบุกนําลุยไฟเพือ
เพือนได้ ท่านลุงหมิงอวี หลานมีอยูเ่ รืองหนึง ต้องให้ทา่ น
12
หรือสหายเหล่านันช่วยจัดการ”
พอพูดถึงเรืองความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชาย แม้แต่เย่ห
มิงอวีก็ยงั รูส้ กึ ไม่สบายตัว ทว่าเจียงหลีกลับไม่แสดงออก
13
ทางสีหน้า เย่หมิงอวีเห็นเช่นนันก็ได้แต่นกึ หาเหตุผลให้
กับนาง อย่างน้อยเจียงหลีก็อยูใ่ นสํานักนางชีมานาน
แปดปี จิตใจจึงกระจ่างใสไร้ตณ
ั หาราคะ เห็นว่ากามาก็
คือความว่างเปล่า และความว่างเปล่าก็คือกามา ถึงได้
มองความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชายอย่างทะลุปรุโปร่ง
นีก็คือการออกบวชกระมัง
16
“หากทีเจ้าพูดมาเป็ นความจริง” เย่หมิงอวีถาม “แล้วเจ้า
รูเ้ รืองพวกนีได้อย่างไร”
17
บทที 115 ลักพาตัวสองแม่ลูก...
“ข้ามีทหารติดตามมาจากเมืองเยียนจิง” เจียงหลีกล่าว
พร้อมรอยยิม “ข้าได้สง่ ทหารนายหนึงไปสืบข่าวทีจวน
ตระกูลถง บังเอิญว่าถงจือหยังกําลังสังให้คนนําเงินไป
ให้แม่ลกู คูน่ นั ครันคนของข้าติดตามไปจึงพบว่าเรือง
ต่างๆ ไม่ผิดจากความคาดหมาย”
“ดี... หลีเอ๋อนําความลับเรืองเมียเก็บของถงจือหยังมา
เปิ ดเผยเช่นนี เจ้าคิดจะทําอะไร”
1
สงสัยว่าถงจือหยังเกียวพันกับเรืองทีผ้าหอมโบราณของ
ตระกูลเย่มีปัญหา บางทีอาจมีคนบงการอยูเ่ บืองหลัง
เพือป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด ข้าต้องการให้เขา
รูส้ กึ หวาดกลัว อย่างน้อยก่อนทีคนของแผนกสิงทอจะ
มาถึงเมืองเซียงหยาง ก็อย่าให้ถงจือหยังทําอะไรตาม
แผนได้”
เย่หมิงอวีมองนางอย่างสงสัย ยังคงไม่เข้าใจความนัยที
เจียงหลีกล่าว
3
ตระกูลเย่เป็ นแน่
4
“ทีท่านต้องทําคือลักพาตัวแม่ลกู คูน่ นั ไม่ใช่ทาํ ร้ายพวก
เขา พวกเขาสามารถกินอิมนอนหลับ เพียงแค่ได้รบั
ความตกใจเท่านัน เมือทุกอย่างเสร็จสินแล้วค่อยส่งพวก
เขากลับไป” เจียงหลีกล่าวพร้อมรอยยิม “ถึงยามคับขัน
ท่านลุงจะใจอ่อนเหมือนสตรีไม่ได้”
เย่หมิงอวีได้ฟังพลันสันสะท้าน ไตร่ตรองอย่างถีถ้วนแล้ว
จึงกล่าวกับเจียงหลีดว้ ยความรูส้ กึ ผิด “ข้าคิดง่ายเกินไป”
เขาพูดอย่างมีหลักการ “เรืองนีให้เป็ นหน้าทีข้าเอง พรุง่ นี
ข้าจะพาสหายทีเชือใจได้ไปยังสถานทีซึงไม่มีใครหาพบ
ในเมือถงจือหยังกลัวเมียเสียยิงกว่าเสือ วันธรรมดาก็คง
ไม่กล้าไปมาหาสูแ่ ม่ลกู คูน่ นั เป็ นโอกาสอันดีของพวก
เรา”
5
เจียงหลีพยักหน้ารับ “หากลงมือสําเร็จ รอให้ถงจือหยังรู ้
ข่าวก็สายไปเสียแล้ว อยากตามหาก็คงยากนัก”
เมืองเซียงหยางสงบสุขลงชัวคราว
6
ลีเจิงถางหยุดทําการ ผ่านมาสองสามวันก็ไม่มีชาวบ้าน
แห่มาทีหน้าประตูรา้ น หรือไปก่อกวนทีบ้านตระกูลเย่อีก
เขากับถงฮูหยินหรือก็คือเฮ่อซือ ดูผิวเผินแล้วเหมือนจะ
ให้เกียรติซงกั
ึ นและกันเป็ นอย่างดี แต่ชาวเซียงหยางต่าง
รูว้ า่ เขากลัวภรรยาผูน้ ียิงนัก ถงจือหยังรูด้ ีวา่ หากไม่มี
บ้านฝังภรรยาช่วยผลักดัน ตําแหน่งจือฝู่ ของเขาก็คง
7
หลุดมือไปตังแต่เมือหลายปี ก่อนแล้ว ถงจือหยังจึงไม่
กล้าขัดคําสังภรรยาแม้แต่นอ้ ย
9
แก้แค้น”
“เรืองนี...” คนสนิทของถงจือหยังเองก็หาเหตุผลไม่ได้
“เข้ามาลักพาคนถึงในถินของข้า พวกมันคงอยากตาย
เสียแล้ว” ถงจือหยังสบถออกมา ก่อนจะออกคําสัง “ค้น
ให้ทวั ต่อให้ตอ้ งขุดดินลึกห้าฉือ ก็ตอ้ งหาฮูหยินกับคุณ
ชายน้อยให้พบ”
10
เขาช่างขีขลาดจนไม่กล้าทําอะไรสักอย่าง
เย่หมิงเซียนกับเย่หมิงฮุยยังคงไม่ได้กลับจวน แต่เมือ
นางกวนซือและนางจัวซือไปขอเข้าพบอีกครัง ทหาร
รักษาประตูก็ไม่ได้วางอํานาจบาตรใหญ่ แต่ยอมให้พวก
นางเข้าพบเย่หมิงเซียนกับเย่หมิงฮุยโดยดี
แม้นายท่านทังสองของตระกูลเย่จะถูกคุมตัวอยูใ่ นเรือน
จํา แต่ก็นบั ว่าเนือตัวสะอาดสะอ้าน ไร้รอ่ งรอยบาดแผล
11
ครันสอบถามถึงสถานการณ์ในช่วงทีผ่านมาแล้วทราบ
ว่าทุกอย่างได้เจียงหลีช่วยเหลือไว้ ก็รูส้ กึ แปลกใจเป็ น
อย่างมาก ด้วยไม่นกึ ว่าในยามคับขัน จะเป็ นเจียงหลีที
ช่วยคนตระกูลเย่ ความรูส้ กึ ทีคอยปิ ดกันและกีดกันเจียง
หลีให้ออกห่าง ก็เจือจางลงไปกว่าครึง
หลังจากนางกวนซือและนางจัวซือกลับมา ก็ถ่ายทอด
เรืองราวทังหมดให้กบั คนตระกูลเย่ฟัง แล้วยังนําคํา
12
ขอบอกขอบใจของนายท่านตระกูลเย่ทงสองมามอบให้
ั
กับเจียงหลี
แต่เนืองจากนายท่านใหญ่และนายท่านรองยังไม่กลับ
มา เรืองทีจะเข้าพบฮูหยินผูเ้ ฒ่าเย่จงึ ต้องพักเอาไว้เป็ น
การชัวคราว
เย่หมิงอวีรอให้ทกุ คนแยกย้ายกันไปแล้วจึงหาโอกาสคุย
กับเจียงหลีเป็ นการส่วนตัว “ลงมือเรียบร้อยแล้ว”
13
เจียงหลียิมรับพลางกล่าว “ขอบคุณท่านลุงหมิงอวี”
ทังสองพูดคุยไปพลางเดินมาถึงหน้าประตูบา้ น บ้านตระ
กูลเย่ตงอยู
ั บ่ นทําเลทอง ถนนทังเส้นล้วนเป็ นทีตังของ
ครอบครัวเศรษฐี ในเมืองเซียงหยาง ดังนันตลอดทางจึง
มีบา้ นขนาดใหญ่เพียงไม่กีหลัง บ้านแต่ละหลังกินเนือที
กว้างขวางไปเป็ นจํานวนไม่นอ้ ย
14
ยามนี มีเสียงการแสดงจากคณะละครดังแว่วมา
เจียงหลีพลันเอ่ยถาม “ทีนียังมีคณะละครด้วยหรือ”
เย่หมิงอวีเบะปากไปยังสวนข้างบ้าน “เพิงย้ายเข้ามา
ใหม่ ยังไม่เคยเห็นหน้าเจ้าของบ้าน คงเป็ นคนทีหลงใหล
ในการแสดงละคร ไม่กีวันมานีได้ยินว่า คนข้างในดู
ละครจนติดนิสยั ไปแล้ว”
เจียงหลีฟังถึงตรงนีก็ใจสะท้าน พลันกระจ่างแจ้ง
หรือคนผูน้ ีต้องการจับตาดูนาง
16
ในใจของเจียงหลี เกิดความรูส้ กึ โกรธขึงขึนมาทันใด
เจียงหลีผงกศีรษะรับ
หลังเย่หมิงอวีขีม้าจากไป เจียงหลีก็ไม่ได้กลับเข้าบ้านใน
ทันที นางยืนอยูท่ ีหน้าประตูพลางจ้องมองกําแพงบ้าน
17
หลังนัน แว่วยินเสียงละครดังมาจากกําแพงสวนทีอยูอ่ ีก
ฟาก ครูห่ นึงจึงค่อยๆ ก้าวเท้าออกไป
18