You are on page 1of 863

ตอนที่901 ฟองอากาศ

ต่อหน้าต่อตาทุกคนปรากฏเป็ นประตูหินบรรพกาลขนาด
ยักษ์ บนบานประตูมีลวดลายมังกรสลักไว้อย่างวิจิต
สวยงาม

ประตูหินมังกรนี้ปลดปล่อยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ออกมา
อ่อนๆ แม้สิ่งนี้ จะคงอยูม่ าเป็ นเวลานานเกินนับแล้ว แต่
ความกดดันที่แผ่ออกมากลับบีบหัวใจทุกคนให้หวัน่ ผวา
ไม่นอ้ ยเช่นกัน

ด้านข้างประตูมงั กรหิ นมีสระน้ าไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป


ตั้งอยู่ น้ าในสระปรากฏเป็ นสี เขียวมรกตสวย
“ลู่หลี่ เจ้าก่อนเลย”

ผูส้ ู งส่ งสาราญสวรรค์เอ่ยปากขึ้น นายพลสังหารผูห้ นึ่ ง


ก้าวล้ าออกมาและตรงไปยังสระมรกตอย่างรวดเร็ ว

ลู่หลี่กดั นิ้วของตนเล็กน้อย และหยดเลือดหนึ่ งหยดลงใน


สระมรกตนั้น ทันใดนั้นแสงสี ที่เปล่งประกายออกมา
พลันวูบวาบสลับสี เล็กน้อย

ปุ๋ ง ปุ๋ ง…
สระมรกตมีปฏิกิริยาตอบพร้อมปลดปล่อยฟองอากาศสี
ฟ้าครามออกมา แต่น้ นั มีจานวนเพียงแค่สี่หรื อห้าลูก
เท่านั้น

มีฟองอากาศลูกหนึ่งลอยไปอยู่ตรงหน้าลู่หลี่ และทันทีที่
สัมผัส ฟองอากาศนั้นก็แตกออกพร้อมเข้าปกคลุมร่ างกาย
ของเขาจนก่อตัวเป็ นแสงสี ฟ้าครามเคลือบร่ างเป็ นชั้น
เกราะ!

ลู่หลี่โบกมือเบาๆ ฟองอากาศอันอื่นๆก็ลอยไปหาเหล่า
นายพลสังหารของพรรคสาราญสวรรค์ที่เหลือ พร้อมเกิด
ภาพฉากแบบเดียวกัน
ในที่สุดลู่หลี่และอีกสี่ คนที่เหลือก็ได้รับเกราะแสงเป็ นที่
เรี ยบร้อย

เมื่อเห็นภาพฉากอันน่าอัศจรรย์เหล่านี้ เย่หยวนพลางเดาะ
ลิน้ ด้วยความประหลาดใจไม่น้อยเช่นกัน

เช่าไคขยับเข้ามาใกล้เย่หยวนและกระซิบเบาๆว่า

“ภายในแดนราชามังกรมีค่ายกลขนาดยักษ์ปกคลุมอยูโ่ ดย
ทัว่ เราจึงต้องมีเกราะแสงนี้เคลือบคลุมไว้เพื่อมิให้ถูก
กาจัดทิ้งโดยค่ายกลนั้น แต่จากที่เห็น สายเลือดมังกรของ
ลู่หลี่มิค่อยดีนกั เขาเรี ยกเกราะแสงออกมาได้แค่สี่อนั
เท่านั้น”

หลังจากลู่หลี่ก็มีนกั สู ้สายเลือดมังกรอี กสองคนถูกเรี ยก


ตัวออกไปด้านหน้า แต่ความเข้มข้นของสายเลือดมังกร
ของพวกเขาเหมือนว่าจะไม่สูงมากนัก พวกเขาเรี ยก
ฟองอากาศออกมาได้เพียงหกลูกเท่านั้น

จานวนฟองอากาศที่ท้ งั สามเรี ยกออกมาได้มีนอ้ ยเกินไป


ซึ่งนั้นไม่เพียงพอสาหรับกองทัพของผูส้ ู งส่ งฝ่ ายตนเลย
“เหอะ…สายเลือดมังกรชั้นสวะ! แล้วพวกเจ้ายังกล้า
ออกมาอีก ไม่อายตัวเองบ้างเลยรึ !”

สุ ้มเสี ยงสุ ดหยิง่ ผยองสายหนึ่งดังขึ้น เยาวชนหนุ่มคนหนึ่ ง


ย่างเท้าก้าวออกมาจากกลุ่มกาลัง จากที่พินิจดูเขาน่าจะ
เป็ นผูใ้ ต้บญั ชาของผูส้ ู งส่ งเนตรสี เทา

ลู่หลี่และใบหน้าอีกสองคนผันเปลี่ยนเป็ นสี ดาดัง่ ก้นหม้อ


ไหม้ พวกเขากล่าวขึ้นอย่างไร้ความสุ ขว่า

“หล่งหยาง หากจาไม่ผิดเจ้าเป็ นแค่เยาวชนของตระกูล


เทียนหล่งหลิงเท่านั้น? แล้วไฉนถึงผยองจองเดชถึงเพียง
นี้!”
หล่งหยางกล่าวตอบทั้งสามอย่างเมินเฉยว่า

“แต่ขา้ เชื่อว่าเพียงเยาวชนของตระกูลเทียนหล่งหลิงก็
เหนือกว่าพวกสายเลือดจางๆแถวนี้ หากมีปัญญาก็เข้ามา
ได้ทุกเมื่อ!”

หล่งหยางผูน้ ้ ีหยิง่ ผยองเป็ นที่สุดและเขาเองยังรู ้สึก


ภาคภูมิใจกับภูมิหลังของตนเช่นกัน
เมื่อเย่หยวนได้ยนิ ชื่อ‘ตระกูลเทียนหล่งหลิง’ เขาก็เผย
ความประหลาดใจเล็กน้อยออกมา

ตระกูลเทียนหล่งหลิงนับเป็ นผูส้ ื บทอดสายเลือดมังกรที่


แท้จริ ง พวกเขามีความสัมพันธ์อนั แน่นแฟ้นกับเผ่ามังกร
ในภูมิภาคอสู ร และยังเป็ นถึงเมืองเทวะชั้นหนึ่ งอีกด้วย
ทั้งในด้านขุมพลังและอานาจเรี ยกได้วา่ ทรงพลังอย่าง
ยิง่ ยวด

อย่างไรก็ตาม เพราะว่าตระกูลหล่งเคยละเมิดกฎเหล็กของ
เผ่ามังกร ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าใช้ชื่อสกุลว่า‘หลง(龙
=มังกร)’อีกต่อไป และเปลี่ยนชื่อสกุลมาใช้‘หล่ง(陇
)’เท่านั้น
แน่นอนว่าเรื่ องนี้คล้ายกับเป็ นข้อห้ามของสมาชิกตระกูล
โดยปริ ยาย หากใครกล่าวถึงนับว่าอับอายแสนสาหัส

แม้วา่ ลู่หลี่และคนอื่นๆจะไม่พอใจกับทัศนคติอนั แสน


เย่อหยิง่ ของหล่งหยางอย่างมาก แต่พวกเขาก็ไม่มี
ทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับความจริ งว่า สายเลือดของ
ตนอ่อนแอเกินไปและไม่สมบูรณ์พอ พร้อมปิ ดปากเงียบ
ไม่พูดไม่จาใดๆอีก
หล่งหยางแสยะยิม้ อย่างมีความสุ ขเมื่อเห็นทั้งสามปิ ดปาก
สนิท เขาส่ ายหน้าด้วยความสมเพชให้แก่ท้ งั สามและก้าว
ย่างออกมาหน้าสระมรกต ก่อนจะหยดเลือดลงไปทันที

ปุ๋ ง ปุ๋ ง ปุ๋ ง…

บ่อมรกตมีปฏิกิริยาตอบกพร้อมเปลี่ยนสลับสี วิจิตรตา
ทันใดนั้นฟองอากาศจานวนมากก็พวยพุ่งออกมา!

หล่งหยางสวมเกาะแสงให้ตนเองก่อน ค่อยควบคุม
ฟองอากาศอื่นๆไปหาเหล่านายพลสังหารของผูส้ ู งส่ ง
เนตรสี เทาเพื่อสวมใส่ ทั้งนี้ มนั ก็ยงั เหลือฟองอากาศอีก
เป็ นจานวนสิ บลูก

แต่เพียงว่าสี หน้าการแสดงออกของเหล่านักสู ้พรรคอื่นๆ


พลันสลดลงอย่างน่าเสร้าเสี ยใจ พวกเขาหวังแค่เพียงว่าห
ล่งหยางจะใจดีแบ่งปันฟองอากาศอีกสิ บลูกที่เหลือให้แก่
พวกเขาบ้าง

แต่ปัจจุบนั เหลือเพียงแค่สิบลูกเท่านั้น ซึ่งมันไม่เพียงพอ


สาหรับแบ่งสรร!
“หึ หึ ยังเหลืออีกตั้งสิ บลูก ใครบ้างที่อยากเข้าสู่ แดนราชา
มังกร? ข้าขอบอกไว้ก่อน หากใครต้องการฟองอากาศที่
เหลือ จงสาบานต่อหน้าสรวงสวรรค์วา่ ทันทีที่พบสมบัติ
จะต้องให้ขา้ เลือกก่อนเป็ นอันดับแรก!”

หล่งหยางกล่าวขึ้นด้วยความใจแคบ

หากนับเย่หยวน มีเพียงห้าผูส้ ู งส่ งเท่านั้นที่มีนกั สู ้


สายเลือดมังกรอยูใ่ นสังกัดพรรค ซึ่งกล่าวได้วา่ ยังมีอีกเจ็ด
ผูส้ ู งส่ งที่ไม่สามารถส่ งนายพลสังหารของตนเข้าสู่ แดน
ราชามังกรได้
ใครๆก็สามารถบอกได้ทนั ทีวา่ ทัศนคติของผูส้ ู งส่ ง
เหล่านี้ต่างจับจ้องแดนราชามังกรดัง่ ภูเขาสมบัติ ภายใน
นั้นจะต้องมีสิ่งดีๆมากมายมหาศาล มิฉะนั้นนายพล
สังหารที่เข้าสารวจคงไม่ยอมเสี่ ยงเช่นกัน

ในช่วงเวลานี้ นักสู ้ที่มีสายเลือดมังกรนับเป็ นที่ตอ้ งการ


อย่างหาที่สุด เพราะเลือดหนึ่งหยดของหนึ่ งคนสามารถ
ใช้ได้เพียงครั้งเดียว หยดต่อไปเท่ากับไร้ประโยชน์ไม่มี
อะไรเปลี่ยนแปลง ยิง่ ไปกว่านั้นฟองอากาศที่ผดุ ขึ้นจาก
บ่อมรกตจะเชื่อฟังแค่นกั สู ้สายเลือดมังกรที่หยดเลือดลง
เท่านั้น ดังนั้นพวกเขาในเวลานี้ จึงมีค่าหาที่เปรี ยบไม่
“หึ ! หล่งหยางเจ้าใจขดแคบเพื่ออันใด?! เกราะแสงของ
เจ้ามีค่ามากก็จริ ง แต่อย่าลืมไปว่า พวกเรายังมีนกั สู ้
สายเลือดมังกรอีกคนที่ยงั ไม่ได้หยดเลือดลงไป!”

ลู่หลี่กล่าวขึ้นด้วยความไม่พอใจอย่างมาก

เนื่องด้วยคากล่าวประโยคนี้ของลู่หลี่ ทันใดนั้นทุกคนต่าง
เหลียวมองเย่หยวนอย่างพร้อมเพรี ยงเป็ นตาเดียวทันที

หล่งหยางหัวเราะลัน่ และกล่าวตอบว่า
“ช่างเป็ นเรื่ องตลกสิ้ นดี! ในแง่ความบริ สุทธิ์ของสายเลือด
มังกร มีผใู ้ ดในดินแดนมนุษย์ที่สามารถทัดเทียมได้กบั
สมาชิกตระกูลเทียงหล่งหลิงบ้าง? ลู่หลี่ เนื่องจากเจ้า
พูดจาไร้สาระไม่รู้ความออกมา แสดงว่าพรรคของเจ้าคง
ไม่ตอ้ งการมัน อืมม…ดูเหมือนว่าไม่มีใครสนใจ
ฟองอากาศทั้งสิ บลูกนี้เลย เช่นนั้นข้าทาลายพวกมันทิง้
ดีกว่า!”

ทันทีที่สิ้นเสี ยง หล่งหยางก็ทาท่าราวกับกาลังจะทาลาย
ฟองอากาศทั้งสิ บลูกนั้นทิ้ง ในท้ายที่สุดนายพลสังหารคน
อื่นๆก็ไม่สามารถทนดูได้อีก สุ่ มเสี ยงหนึ่งเร่ งกล่าวขึ้น
ทันทีวา่

“น้องชายหล่งไม่จาเป็ นต้องทาเช่นนี้เพื่อกระตุน้ ! ที่ให้


เลือกก่อนนั้นหมายถึงสมบัติเพียงชิ้นเดียวใช่หรื อไม่?”
คนที่กล่าวขึ้นมิใช่ใครอื่นนอกจากหวูเ่ หอ เนื่องจากผู ้
สู งส่ งอัคนีผผลาญไม่มีนกั สู ้สายเลือดมังกรอยูใ่ น
ครอบครองเลย หากวูเ่ หอต้องการเข้าไปในแดนราชา
มังกร เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับตามเงื่อนไข
ที่หล่งหยางกาหนด

ฟองอากาศสิ บอันนี้นบั เป็ นความหวังสุ ดท้ายของเขา


เนื่องจากหวูเ่ หอและเย่หยวนเป็ นศัตรู คู่อาฆาตกัน มัน
เป็ นไปไม่ได้แน่นอนที่เขาจะไปขอร้องเย่หยวน
“ฮ่าฮ่า ยังคงเป็ นท่านพี่หวูท่ ี่ฉลาดที่สุด!”

หล่งหยางกล่าวขึ้นพร้อมส่ งเสี ยงหัวเราะลัน่

หวูเ่ หอรี บสาบานต่อหน้าสรวงสวรรค์ทนั ที หลังจากนั้นห


ล่งหยางก็ควบคุมฟองอากาศลูกหนึ่ งไปให้เพื่อห่อหุม้ ร่ าง
ของหวูเ่ ห่ อเอาไว้

เมื่อหวูเ่ หอเคลื่อนไหว ผูส้ ู งส่ งคนอื่นๆก็ไม่อาจนิ่งดูดาย


ได้เช่นกัน กระทั้งผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเองยังต้องเอ่ย
ปากขอมาด้วยหนึ่ งลูก
สิ ทธิ์ท้ งั สิ บถูกแจกจ่ายออกไปหมดในพริ บตา!

“ฮ่าฮ่า ทุกคนแย่งจับจองกันเร็ วเหลือเกิน ดูท่าข้าคงต้อง


พึ่งตนเองเสี ยแล้ว!”

เย่หยวนหัวเราะอย่างสบายอารมณ์และตรงมายังบ่อมรกต
ทันที

สายตาคู่น้ นั ของหล่งหยางจับวางบนร่ างเย่หยวนพร้อมเผย


ท่าทีสุดเหยียดหยามออกมา เขารู ้สึกได้วา่ สายเลือดมังกร
ในกายเย่หยวนมิได้อ่อนแอก็จริ ง แต่น้ นั ไม่มีทางเหนือชั้น
ไปกว่าเขาแน่นอน

เย่หยวนกักนิ้วของตนเล็กน้อยและค่อยๆบรรจงหยดเลือด
ลงในบ่อมรกต

ติ้ง!

ทันทีที่เลือดเย่หยวนหยดลงไป บ่อมรกตพลันผัน
เปลี่ยนเป็ นสี ฟ้าครามสว่างในทันใด แต่…
หนึ่งอึดใจผ่านไป.. สองอึดใจผ่านไป… สามอึดใจผ่าน
ไป….

บ่อมรกตไม่มีปฏิกิริยาตอบใดๆเลย!

“ฮ่าฮ่าฮ่า! เย่หยวน เจ้ามาที่นี่เพื่อแสดงตลกรึ ไง! แน่ใจใช่


ไหมว่า สายเลือดมังกรในกายเจ้าเป็ นของจริ งแท้? ไฉน
บ่อมรกตแห่งนี้ถึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย!”
หวูเ่ หอระเบิดเสี ยงหัวเราะลัน่ ไม่หยุดเมื่อเห็นสถานการณ์
เป็ นเช่นนี้

หล่งหยางจ้องมองเย่หยวนด้วยสายตาสุ ดหยามเหยียด
และกล่าวด้วยความรังเกียจว่า

“เหอะ สายเลือดจางๆแบบนี้ยงั กล้าเสนอหน้าออกมาอีก!


วรยุทธต่อสู ้เผ่ามังกรที่เจ้าสาแดงออกมา คงเป็ นของ
เลียนแบบโดยใช้พลังปราณทดแทนกระมัง?”
สี หน้าการแสดงออกของซื่อหยินน่าเกลียดไม่นอ้ ยเลย
เช่นกัน นางแอบเฝ้าสังเกตเย่หยวนและได้เห็นการ
สัประยุทธ์ในครานั้นของเขากับตาคู่น้ ี นั้นคือแรงกดดัน
ของเผ่ามังกรของแท้ไม่ผิดแน่ แต่ไฉนบ่อมรกตนี้ถึงไม่มี
ปฏิกิริยาใดๆตอบเลยสักนิด?

แต่เย่หยวนก็มิได้สนใจอันใดแม้สักนิด รอยยิม้ นั้นยังคง


แขวนอยูบ่ นใบหน้าเช่นเดิมไม่จางหาย

ปุ๋ ง ปุ๋ ง ปุ๋ งง.. ปุ๋ งงง…


ในขณะที่ทุกคนกาลังแห่ ลอ้ เล่นดูถูกเย่หยวนอยู่น้ นั เอง
ในที่สุดบ่อมรกตก็มีปฏิกิริยาอย่างรุ นแรง!

เมื่อเห็นปฏิกิริยาเหล่านี้ สี หน้าของทุกคนพลันเผยความ
ประหลาดใจอย่างไม่น่าเชื่อออกมาทันที!
ตอนที่902 ราคาแค่ นี้!

“ฮ่าฮ่า ขออภัยด้วย บังเอิญ…เรี ยกออกมาเยอะไปหน่อย”

เย่หยวนกล่าวขึ้นพลางหัวเราะร่ า

แม้นี่เป็ นประโยควาจาขอโทษ แต่สีหน้าการแสดงออก


ของเขากลับไม่มีร่องรอยอันใดเช่นนั้นเลย

ในเวลานั้น ภายในบ่อมรกตที่กลายเป็ นสี ฟ้าครามประกาย


ก็กาลังเดือดขึ้นเรื่ อยๆ

มีฟองอากาศพวยพุ่งออกมาไม่หยุดหย่อน พร้อมปรากฏ
ขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคน
“ฟู่ วว…”

เหล่านายพลสังหารทุกคนอดที่จะสู ดหายใจเย็นลึกๆมิได้
เนื่องด้วยความตกตะลึงกับภาพฉากตรงหน้า

“ฮ่าฮ่าฮ่า! น่าขันที่สุด! หล่งหยางเมื่อครู่ เจ้ากล่าวอันใด?


ไหนลองกล่าวอีกครั้ง? ในดินแดนมนุษย์ สายเลือดมังกร
ของตระกูลหล่งของเจ้าคืออันดับหนึ่ง? ฮ่าฮ่า! ข้าขาจน
หายใจไม่ทนั แล้ว!”
ลู่หลี่เป็ นคนแรกที่ฟ้ื นสติข้ นึ และหันมากล่าวกับหล่งหยาง
ด้วยสายตาน้ าเสี ยงสุ ดเย้ยหยัน่

ความหยิง่ ยโสของหล่งหยาง ลู่หลี่ได้รับมาเกินพอแล้ว!

เพียงตอนนี้ที่เย่หยวนปรากฏตัวออกมาต่อหน้าทุกคน นั้น
เป็ นดัง่ การตบหน้าหล่งหยางฉะใหญ่ ลู่หลี่ที่ได้เห็นดังนั้น
จึงรู ้สึกมีความสุ ขสุ ดหัวใจ!
“นี่…นี่เป็ นไปไม่ได้จริ งไหม? สายเลือดมังการของเย่
หยวนจาต้องอยูร่ ะดับชั้นใด ถึงสามารถเรี ยกฟองอากาศ
ได้มากมายขนาดนี้!”

“เกินคาด! สายเลือดมังกรของตระกูลหล่งกลายเป็ นเรื่ อง


ตลกทันทีที่อยูต่ ่อหน้าเย่หยวน!”

“พวกเจ้าดูน้ นั เร็ ว! ทันทีที่ฟองอากาศนับไม่ถว้ นพวยพุ่ง


ออกมา จู่ๆสี บ่อมรกตก็เริ่ มจางลงทันใด!”
เมื่อทุกคนเห็นภาพฉากนี้ พวกเขาต่างตะลึงงันอย่างแรง

ฟองอากาศทั้งหมดลอยไปหยุดตรงหน้าทุกคน หากกล่าว
ตามตรง หากจะแจกผูค้ นทั้งหมดภายในนี้มนั ยังมิใช่
ปัญหาเลย

อุปทานมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ความต้องการกลับมี
เท่าเดิม ฟองอากาศในขณะนี้มนั เหลือเกินเหลือใช้แล้วใน
ปัจจุบนั !

ถึงจะเป็ นเช่นนั้น แม้ฟองอากาศจะมีมากจนเหลือเป็ น


ส่ วนเกิน แต่คนที่สามารถบังคับพวกมันได้มีเพียงเย่หยวน
คนเดียว
ผูส้ ู งส่ งจัวหยางค่อยๆย่างก้าวตรงเข้าหาเย่หยวนและเอ่ย
ปากกล่าวว่า

“เย่หยวน ข้าได้ยนิ มาว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าและ


ราชามารคล้ายมิได้ตื่นเขิน ข้าสงสัยว่าเจ้าพอจะแบ่งปั น
เกราะแสงเหล่านี้ให้แก่พวกเราบ้างได้หรื อไม่? แล้วไม่
ต้องกังวลเลย หากการเดินทางครั้งนี้ส้ิ นสุ ดลง ย่อมมีส่วน
แบ่งให้แก่เจ้าแน่นอน!”
ทุกคนพลันตื่นตะลึงอย่างไม่น่าเชื่อ ผูส้ ู งส่ งอันมาก
ศักดิ์ศรี ถึงกับเอ่ยปากขอเยาวชยหนุ่มด้วยตนเองจริ งๆ!

แต่ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบนั เช่นนี้ ยังมีทางเลือกใดที่


ดีกว่าอีก?

วาจาแบ่งสรรที่เอ่ยขึ้นนั้นหมายถึง สมบัติในแดนราชา
มังกรอย่างเลี่ยงไม่ได้

แม้วา่ ภายในหลุมอเวจีสังหารจะมีดินแดนลี้ลบั อยู่อีกมาก


แต่ตลอดหลายปี ที่ผา่ นมา ดินแดนที่ทุกคนเตรี ยมพร้อม
รับมือมาอย่างดีที่สุดยังคงเป็ นแดนราชามังกร
การสารวจดินแดนอื่นที่ไม่รู้จกั ในตอนนี้ มันอันตรายยิง่
กว่าอย่างเทียบไม่ติด

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น เย่หยวนพลางหัวเราะเบาๆและกล่าว


อย่างใจกว้างว่า

“นั้นมิใช่ปัญหา! ท่านพานายพลสังหารของตนมายืน
ตรงหน้าเลย เดี๋ยวข้าจะสวมเกราะแสงให้แก่ทุกคน!”

เนื่องจากเห็นแก่หน้าน่าหลันซู เย่หยวนจึงไม่พูดอะไร
มากนัก เขาควบคุมฟองอากาศเหล่านั้นและสวมให้กบั
นายพลสังหารของผูส้ ู งส่ งจัวหยางทันที เย่หยวนมิได้
เรี ยกร้องอะไรจริ งๆ แม้แต่ผสู ้ ู งส่ งจัวหยางที่กาลังจะ
สาบานต่อหน้าสรวงสวรรค์ เย่หยวนยังห้ามและกล่าวว่า
ไม่จาเป็ น

เมื่อดูชมเหตุการณ์เหล่านี้ ทุกอย่างมันดูง่ายดายยิง่

เย่หยวนไม่รอช้า จากนั้นเขาก็สวมเกราะแสงให้ตนเอง
และเหล่านายพลสังหารของผูส้ ู งส่ งซื่อหยินทันที
นัยน์ตาคู่งามของซื่อหยินเหลียวไปจับจ้องเย่หยวน พร้อม
ด้วยรอยยิม้ หวานแสนสดใส

นางคาดไม่ถึงเลยว่า เย่หยวนจะสามารถเรี ยกฟองอากาศ


ได้มากมายขนาดนี้ เรื่ องในคราวนี้นางได้หน้าไปเต็มๆ

ผูส้ ู งส่ งอีกหลายคนที่ไม่มีความขัดแย้งกับเย่หยวนต่างนัง่


ไม่ติดที่ ในเวลานั้นเอง พวกเขาแต่ละคนก็ค่อยๆแห่ มาขอ
ฟองอากาศจากเย่หยวน

ทัศนคติของเย่หยวนต่อผูส้ ู งส่ งเหล่านี้เรี ยกเป็ นคนแปลก


หน้าก็ไม่ผิด แต่เย่หยวนก็ไม่คิดบีบบังคับหรื อมีขอ้ แม้
ใดๆ เขาเพียงพยักหน้าและสวมเกราะแสงให้แก่นายพล
สังหารของพวกเขาทันที
แม้แต่พรรคสังกัดที่มีนกั สู ้สายเลือดมังกรทั้งสองก็ได้รับ
เกราะแสงจากเย่หยวนเช่นกัน ทว่านั้นไม่รวมถึงลู่หลี่

นอกเหนือจากคนของผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญ, ผูส้ ู งส่ งสาราญ


สวรรค์และผูส้ ู งส่ งเหลิ่งเสี่ ย ทั้งหมดต่างได้รับสิ ทธิ์เข้าสู่
แดนราชามังกรไปโดยปริ ยาย

ใบหน้าของผูส้ ู งส่ งทั้งสามมิได้ดูดีเกินไปในขณะนี้ พวก


เขารู ้สึกราวกับกาลังอยูใ่ นสภาวะกินไม่เข้าคายไม่ออก
อย่างสมบูรณ์
เย่หยวนผูน้ ้ ีแท้จริ งเป็ นคนเย่อหยิง่ ทระนงตน พวกเขาไม่
สามารถออกหน้าไปขอดัง่ คนอื่นๆได้ แต่หากไม่ทาอะไร
เลย ทั้งสามก็เตรี ยมบอกลาแดนราชามังกรเช่นกัน

ผูส้ ู งส่ งคนอื่นๆที่ไม่สามารถหานักสู ้สายเลือดมังกรของ


ตนได้ พวกเขาหวังเพียงแต่พ่ งึ พาใบบุญสักนิดสักหน่อย
แต่ไฉนถึงได้ชุดงานสมรสใหญ่เพียงนี้?

ในที่สุดผูส้ ู งส่ งเหลิ่งเสี่ ยก็ไม่สามารถอยูเ่ ฉยได้อีก และเอ่ย


ปากกล่าวขึ้นว่า
“เอ่อ…เย่หยวน แท้ที่จริ งแล้ว…ข้าผูส้ ู งส่ งก็มิได้เล็ง
เป้าหมายมายังเจ้าและน้องเล็กซื่อหยินแต่แรก เจ้าก็รู้วา่ ข้า
ผูส้ ู งส่ งมิได้รังเกียจเจ้าเลย ในตอนนั้นยังต้องการชักชวน
มาเป็ นพวกด้วยซ้ าจริ งไหม?”

ดัง่ เปลี่ยนสวมหน้ากากทันควัน ใบหน้าเหลิ่งเสี่ ยพลัน


เปลี่ยนเป็ นยิม้ แย้มทันทีพร้อมกล่าวออกมา

แม้รอยยิม้ ถูกแขวนบนใบหน้า แต่ลาไส้ของเหลิ่งเสี่ ยปาน


บิดเบี้ยวสี เขียวสลับม่วงด้วยความหดหู่ถึงขีดสุ ด

หากเขารู ้อย่างงี้ต้ งั แต่ก่อนหน้า ไหนเลยเขายังกล้าเอ่ยปาก


สร้างปัญหาให้แก่เย่หยวนและซื่อหยิน?
เดิมที เหลิ่งเสี่ ยเป็ นบุคคลที่ร้ายกาจที่สุดในบรรดาสิ บสอง
ผูส้ ู งส่ ง การเปลี่ยนสี สับหน้ากากตามสถานการณ์เช่นนี้
นับเป็ นงานถนัดของเขา

เย่หยวนกล่าวตอบอย่างยิ้มแย้มว่า

“ไม่เลย ไม่เลย บุญคุณที่เชื้อเชิญในครานั้นผูต้ ่าต่อยจดจา


สลักใจ ท่านผูส้ ู งส่ งเหลิ่งเสี่ ยเองก็เป็ นถึงพี่ใหญ่ในบรรดา
สิ บสองผูส้ ู งส่ ง หากต้องการกล่าวอันใดก็กล่าวมาเถิด!”
เมื่อเหลิ่งเสี่ ยเห็นว่าอีกฝ่ ายเล่นตอบ เขาก็อดรู ้สึกสุ ขใจ
มิได้และกล่าวว่า

“เช่นนั้น…ฟองอากาศที่เหลือนั้นเจ้าคงมิได้ใช้แล้ว เจ้า…
สามารถแบ่งสรรให้แก่พวกเราได้หรื อไม่? แน่นอนว่าข้า
ไม่ปล่อยให้เจ้าแจกโดยไม่จ่ายสักแดง”

“เรื่ องนี้ช่างง่ายดายนัก! มิใช่ปัญหาใหญ่เลย! อย่างไรก็


ตาม ข้ามิได้ตอ้ งการสมบัติหลังเข้าสารวจ แต่ตอนนี้ขอแค่
ผลึกแร่ สวรรค์บริ สุทธิ์ร้อยก้อนต่อคน! นี่ นบั เป็ นราคาที่
ไม่แพงเลยจริ งหรื อไม่?”
เย่หยวนกล่าว

ผลึกแร่ สวรรค์บริ สุทธิ์ กระทั้งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เองก็


ยังหายากยิง่ ความบริ สุทธิ์ของพลังปราณที่ควบแน่นอยู่
ภายในมีระดับที่สูงมาก โดยทัว่ ไปแล้วมีเพียงเซียน
อาณาจักรเต๋ าลึกล้ าขึ้นไปเท่านั้น ที่ใช้มนั ในการบ่มเพาะ
พลังหรื อธุรกรรมต่างๆ

และผลึกแร่ สวรรค์บริ สุทธิ์เพียงหนึ่ งก้อน มันมากพอที่จะ


นาไปแลกเป็ นผลึกแร่ ฟ้าบริ สุทธิ์ทวั่ ไปได้ถึงร้อยล้าน
ก้อน! ดังนั้นผลึกแร่ สวรรค์บริ สุทธิ์ร้อยก้อนจะเท่ากับ
ผลึกแร่ ฟ้าบริ สุทธิ์ทวั่ ไปมากถึงหมื่นล้านก้อน!

แน่นอนว่าภายใต้สถานการณ์ปกติทวั่ ไป คงไม่มีใครโง่
พอที่จะนาผลึกแร่ สวรรค์บริ สุทธิ์ไปแลกกับผลึกแร่ ฟ้า
บริ สุทธิ์ทวั่ ไป

กระทั้งมุมปากของผูส้ ู งส่ งเหลิ่งเสี่ ยพลันเบี้ยวผิดรู ปทันที


โดยไม่ต้ งั ใจ เมื่อได้ยินราคาขนาดนี้

ตัวเขาในฐานะนักสู ้ผเู ้ จนจัดทั้งด้านสมรภูมิและ


ประสบการณ์ นายพลสังหารใต้บญั ชาของเหลิ่งเสี่ ยจึงมี
มากถึงห้าสิ บคน และความแกร่ งกร้าวของแต่ละคนก็น่า
สะพรึ งยิง่
แต่หากส่ งพวกเขาทั้งหมดเข้าไป เหลิ่งเสี่ ยมีหวัง
ล้มละลายแน่นอน

เหลิ่งเสี่ ยกัดฟั นแน่น แต่ยงั คงกล่าวตอบด้วยรอยยิม้ ว่า

“เข้าใจแล้ว พวกเจ้าทั้งสิ บออกมา!”

เย่หยวนคาดไม่ถึงว่าผูส้ ู งส่ งเหลิ่งเสี่ ยจะยอมตกลงจริ งๆ


โดยไม่มีการเจรจาราคาใดๆ
แต่แน่นอน เย่หยวนย่อมทราบดีวา่ ภายในใจลึกๆของผู ้
สู งส่ งเหลิ่งเสี่ ยคงเกลียดชังจนอยากตบเขาให้ตายคามือ

ส่ งมาสิ บคนก็เท่ากับผลึกแร่ สวรรค์บริ สุทธิ์หนึ่งพันก้อน


ราคามหาศาลขนาดนี้ แม้แต่เซียนอาณาจักรเต๋ าลึกล้ ายัง
นับเป็ นค่าใช้จ่ายที่สูงเอาเรื่ องเช่นกัน

เรี ยกได้วา่ เป็ นโชคดีที่ถูกสมนาคุณโดยผูส้ ู งส่ งเหลิ่งเสี่ ย


ลาภลอยถึงมือ เย่หยวนได้รับผลึกแร่ สวรรค์บริ สุทธิ์ถึง
หนึ่งพันก้อนในการเดินทางครั้งนี้

เมื่อทาธุรกรรมเสร็ จสับ เย่หยวนก็บงั คับฟองอากาศ


เหล่านั้นสวมให้แก่นายพลสังหารทั้งสิ บที่ผสู ้ ู งส่ งเหลิ่ง
เสี่ ยเรี ยกออกมา บวกกับเกราะแสงก่อนหน้าที่ได้รับจากห
ล่งหยาง ในตอนนี้ฝ่ายของผูส้ ู งส่ งเหลิ่งเสี่ ยมีนายพล
สังหารที่เข้าสู่ แดนราชามังกรได้สิบเอ็ดคน

“ดูเหมือนว่าไม่มีใครต้องการฟองอากาศเหล่านี้อีกแล้วใช่
หรื อไม่? รอข้าทาลายที่เหลือทิ้งครู่ หนึ่ง จากนั้นก็เริ่ มเข้า
สารวจกันเถอะ!”

ทันทีที่กล่าวจบ เย่หยวนก็ยกฝ่ ามือเตรี ยมระเบิด


ฟองอากาศทั้งหมดในคราวเดียว
เมื่อเห็นเช่นนั้น ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญพลันตื่นตระหนกอย่าง
หนักและโพลงกล่าวทันทีวา่

“เดี๋ยวก่อน!”

เย่หยวนเหลียวมองผูส้ ู งส่ งอัคนี ผลาญเล็กน้อย และกล่าว


ขึ้นพร้อมรอยยิม้ ที่ไม่ใช่รอยยิม้ ว่า
“มีอะไรงั้นรึ ? ท่านผูส้ ู งส่ งอัคนี ผลาญยังมีเรื่ องอันใด
หรื อไม่?”

ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญกล่าวตอบพร้อมหน้าดาสลับเขียวว่า

“ผลึกแร่ สวรรค์ร้อยก้อนต่อคน ข้าขอซื้อฟองอากาศสิ บ


ลูก!”

“ข้าต้องการหกลูก!”
ปรากฏว่าเป็ นผูส้ ู งส่ งสาราญสวรรค์กล่าวเสริ มขึ้นอีกคน
ทันทีที่มีโอกาส

เย่หยวนแสยะยิม้ กว้างและกล่าวว่า

“ผลึกแร่ สวรรค์บริ สุทธิ์ร้อยก้อน? ข้ากล่าวว่าผลึกแร่


สวรรค์บริ สุทธิ์ร้อนก้อนตั้งแต่เมื่อไหร่ ? หากพวกท่าน
ต้องการจะซื้อย่อมได้แน่นอน แต่เป็ น….ผลึกแร่ สวรรค์
บริ สุทธิ์หา้ ร้อยก้อนต่อคน! อย่ามองข้าด้วยสายตาเช่นนั้น
เร็ วเข้า ราคาแค่น้ ีจะซื้อหรื อไม่ซ้ือ มิฉะนั้นข้าจะทาลายทิง้
แล้ว!”
ตอนที่903 ขอไม่ ย่ งุ

โป๊ ะ โป๊ ะ โป๊ ะ…

เย่หยวนพลันโบกมือปัดอย่างเฉยเมย ฟองอากาศจานวน
หนึ่งกระเพื่อมแรงพร้อมแตกสลายตามสายลม

เมื่อผูส้ ู งส่ งสาราญสวรรค์และอัคนีผลาญเห็นว่า เย่หยวน


กล้าทาลายฟองอากาศเหล่านี้ จริ งๆ สี หน้าของทั้งสองก็มืด
ลงอย่างมาก

“เย่หยวน เจ้าต้องการประกาศศึกกับพวกเราทั้งสองงั้นรึ ?”

ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าอันเหี้ ยมโหด


“โอ้ ขู่ขา้ รึ ?”

เย่หยวนพลางสะบัดปลายนิ้วเบาๆ ฟองอากาศจานวนมาก
เหล่านั้นเริ่ มแตกสลายเร็ วขึ้นดัง่ ไฟป่ าลาม

ผูส้ ู งส่ งสาราญสวรรค์เร่ งรุ ดกล่าวขึ้นทันทีวา่

“ใจเย็นก่อน! ห้าร้อยก็หา้ ร้อย! ข้าขอซื้อหกลูก!”


เย่หยวนคลี่ยมิ้ บางให้เมื่อได้ยนิ พร้อมกล่าวว่า

“หุหุ ท่านผูส้ ู งส่ งสาราญสวรรค์ช่างเฉลียวฉลาด มือข้าง


ซ้ายถือเงินส่ วนอีกมือเตรี ยมรับสิ นค้า”

ผูส้ ู งส่ งสาราญสวรรค์นาผลึกแร่ สวรรค์บริ สุทธิ์ออกมา


ทันทีสามพันก้อน พร้อมส่ งให้ดูท่าทางการแสดงออกสุ ด
ระทมใจ ก่อนได้รับฟองอากาศทั้งหกลูกกลับมาในที่สุด

โดยเฉพาะอย่างยิง่ กับผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญ ในขณะนี้สีหน้า


ท่าทางบิดเบี้ยวด้วบความน่าเกลียดสุ ดพรรณนา แต่เมื่ออยู่
ต่อหน้าเย่หยวน เขากลับไร้ซ่ ึงอานาจอิทธิพลอย่างหมด
จด

“ระวังตัวให้ดี อย่าโลภจนตัวแตกตาย!”

ในท้ายที่สุดนี้ ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญจาต้องนาผลึกแร่ สวรรค์


บริ สุทธิ์จานวนห้าพันก้อนออกมาอย่างจนใจ

“ข้าผูต้ ่าต้อยมีระบบเผาผลาญดีเยีย่ ม ต่อให้มากกว่านี้เกรง


ว่าสามารถย่อยได้เช่นกัน”
เย่หยวนเดาะถุงบรรจุผลึกแร่ สวรรค์เล็กน้อย พลางกล่าว
พร้อมรอยยิม้ สุ ดรื่ นรมณ์

เมื่อผูส้ ู งส่ งเหลิ่งเสี่ ยที่อยูข่ า้ งๆเห็นภาพฉากเหล่านี้ ก็อด


แอบหัวเราะอย่างลับๆมิได้ ในทางตรงกันข้าม ราคาที่เขา
ต้องจ่ายเย่หยวนเมื่อครู่ ดูคุม้ ค่าไปโดยปริ ยาย

อย่างไรก็ตาม เย่หยวนเองก็ทราบเช่นกันว่า ผูส้ ู งส่ งเหลิ่ง


เสี่ ยคนนี้ไม่ยอมปล่อยตนรอดกลับไปง่ายๆแน่นอน
หลังจากนี้เขาจะต้องสั่งการผูใ้ ต้บญั ชาให้หาโอกาส
กาจัดเย่หยวนทิ้งภายในแดนราชามังกรอย่างเลี่ยงไม่ได้
ทุกสิ่ งที่เย่หยวนกลืนลงไป จาต้องอาเจียนคืนกลับมา

ผูส้ ู งส่ งเหลิ่งเสี่ ยมิใช่นกั บุญ ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่


คิดที่จะโยนหิ นทิ้งลงบ่อเฉยๆเป็ นแน่

หลังเตรี ยมการครั้งสุ ดท้ายเสร็ จสิ้ น เหล่านายพลสังหาร


ต่างเข้าประจาที่อย่างพร้อมเพรี ยง เพื่อเข้าสู่ แดนราชา
มังกร

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร กรอกเทพพลังปราณลงในประตูหิน


ยักษ์ ลวดลายมังกรสุ ดวิจิตรบนประตูหินพลันสว่างไหว
ขึ้น
เอี๊ยด…

ประตูหินขนาดยักษ์ค่อยๆแงมกางเปิ ดออกอย่างช้าๆ
ปรากฏเส้นทางเบื้องหน้าต่อหน้าต่อตาทุกคน

“ไปได้!”

เหล่านายพลสังหารที่เรี ยงแถวเข้าประจาที่ค่อยๆทะยอย
เข้าไปอย่างรวดเร็ ว
“เย่หยวน หลังจากนี้เจ้าต้องระวังตัวให้มากขึ้น พวกหวู่
เหอและคนอื่นๆไม่ยอมปล่อยให้เจ้ากลับออกมาได้ง่ายๆ
เป็ นแน่ แม้พวกเขาที่เข้าไปจะมีจานวนน้อยกว่า แต่
ทั้งหมดล้วนเป็ นนักสู ้ระดับสู ง เป็ นเรื่ องยากนักที่เราจะ
รับมือไหว”

เช่าไคกล่าวเตือนเย่หยวน

เย่หยวนยิม้ ให้เล็กน้อยเมื่อได้ยินและกล่าวว่า
“หากไม่แส่ หาเรื่ องข้าก่อน ชีวิตพวกนั้นย่อมยืนยาว แต่ถา้
รนหาที่ตายกันเอง ไม่วา่ ใครก็ไม่สามารถหยุดข้าได้”

เช่าไคที่ได้ยนิ เช่นนั้นพลันตะลึงงัน เขาไม่อาจเข้าใจได้


เลยว่า เย่หยวนไปเอาความมัน่ ใจขนาดนี้มาจากไหน?

เย่หยวนเพิ่งขึ้นติดอันดับในทาเนียบนภาเถื่อน และความ
แกร่ งกร้าวยังคงห่างไกลจากนายพลสังหารเหล่านี้ มาก

“แต่ระวังตัวหน่อยก็ดี! หลังจากเดินข้ามทางเชื่อมนี้
ภายในมันอันตรายอย่างมาก มีกองทัพผีดิบที่จดั การยาก
ยิง่ รอพวกเราอยู่ หากต้องการฉกชิงสมบัติภายในนี้ จาต้อง
จัดการกองทัพผีดิบเหล่านี้ ให้ได้เสี ยก่อน”

เช่าไคกล่าว

เย่หยวนพยักหน้าเชิงสัญลักษณ์วา่ เข้าใจแล้ว

ตัวเขาเองก็เคยได้ยนิ มาเช่นกันว่า ภายในแดนราชามังกรมี


กองทัพผีดิบคอยพิทกั ษ์สมบัติอยูเ่ ช่นกัน ซึ่งกองทัพผีดิบ
เหล่านี้เป็ นอมตะฆ่าไม่ตาย ร่ างกายของมันแข็งแกร่ งและ
เป็ นปัญหาอย่างมาก
ในไม่ชา้ เมื่อทุกคนก้าวเดินจนสุ ดทางเชื่อม เบื้องหน้า
ปรากฏเป็ นโถงขนาดยักษ์ต่อหน้าต่อตาทุกคน

“ทุกคนระวังตัวให้ดี ทันทีที่เหล่าผีดิบได้กลิ่นมนุษย์ลุกล้ า
เข้ามา พวกมันจะเริ่ มโถมโจมตีในไม่ชา้ !”

ทุกคนเร่ งชักอาวุธคู่กายออกมาและรุ กหน้าต่อไปด้วย


ความระมัดระวังมากขึ้น

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!


กลุ่มเงาสายหนึ่งพุ่งเข้ามาปิ ดล้อมทุกคนอย่างรวดเร็ ว

จานวนทัพผีดิบเหล่านี้ มีมากมาย พวกเขาโหมเข้า


สัประยุทธ์กบั เหล่านายพลสังหารทันที

อย่างไรก็ตาม นายพลสังหารทุกคนที่อยูท่ ี่นี่ลว้ นเป็ นถึง


ยอดฝี มือแห่ งทาเนียบนภาเถื่อนระดับแนวหน้า ความ
แกร่ งกล้าของแต่ละคนช่างน่าสะพรึ งโดยแท้

โดยเฉพาะกลับบางคน ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่
กระบวนก็สามารถซัดผีดิบฝูงหนึ่งจนสิ โรราบนาบกันพื้น
ได้
แม้วา่ ทัพผีดิบเหล่านี้จะแข็งแกร่ งมาก แต่พวกมันก็ยงั ไม่ลุ
ถึงระดับเก้าอยูด่ ี หากเทียบกับเหล่ายอดฝี มือแห่งทาเนียบ
นภาเถื่อนชั้นแนวหน้าเหล่านี้ ทุกคนโดยส่ วนใหญ่ลว้ น
เป็ นถึงจุดสู งสุ งแห่งอาณาจักรไร้เทียมทาน การจะจัดการ
กับทัพผีดิบเหล่านี้ไม่นบั ว่าเป็ นปัญหาจนเกินไป

ถึงกระนั้น ยิง่ ยืดเหยื้อสัประยุทธ์นานเข้า อัตราการ


บาดเจ็บล้มตายก็เริ่ มเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆเช่นกัน

“เย่หยวนตามข้ามา! ระวังตัวด้วย!”

เช่าไคกล่าว
ภารกิจที่ซื่อหยินมอบให้แก่เขาคือ การปกป้องเย่หยวน
เพราะชายหนุ่มคนนี้ มีความสาคัญยิง่ ต่อนาง

ในขณะนี้เอง เช่าไคที่กาลังเตรี ยมพุ่งปะทะกับทัพผีดิบ


ตรงหน้า จู่ๆเย่หยวนก็ยนื่ มือมาตบไหล่เขาจากด้านหลัง

“ทัพผีดิบเหล่านี้ ปล่อยให้เป็ นหน้าที่ของพวกเขาเถอะ


พวกเรารี บไปค้นหาสมบัติก่อนดีกว่า”

เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิม้ บางๆ
เช่าไคกล่าวว่า

“เจ้าล้อเล่นเป็ นแน่?! มีกองผีดิบอยูท่ ุกหนทุกแห่ งใน


ขณะนี้ แล้วเราจะบุกเข้าไปได้อย่างไร?”

เย่หยวนหยิบถุงแป้ งสี ขาวถุงหนึ่งขึ้นมาพร้อมมอบให้เช่า


ไคและกล่าวว่า

“โปรยมันลงบนร่ างของพวกเรา เหล่าผีดิบพวกนี้ไม่มีทาง


โจมตีแน่นอน”
ดังที่กล่าวไป เย่หยวนควักมาหนึ่งกามือพร้อมโปรยใส่
ร่ างของตน จากนั้นเขาก็ยา่ งก้าวเดินฝ่ ากองทัพผีดิบไป
อย่างสบายอารมณ์

เช่าไคและนายพลสังหารคนอื่นต่างโพลงตาโตด้วยความ
ไม่อยากจะเชื่อ

ในความเป็ นจริ งแล้ว กองทัพผีดิบเหล่านี้ไม่ตอบสนอง


ใดๆต่อเย่หยวนแม้สักนิด ราวกับว่าพวกมันทั้งหมดไม่
เห็นเย่หยวนเดินผ่าน
เช่าไคได้สติตอบสนองอย่างรวดเร็ วและโปรยแป้งลงบน
ตัว ก่อนแจกจ่ายให้นายพลสังหารคนอื่นๆในทันที คน
แล้วคนเล่าพลัดกันโปรยและเร่ งเดินตามเย่หยวนออกไป

“เย่หยวน นี่…ผงแป้งนี่คืออะไร? ไฉนสรรพคุณช่าง


มหัศจรรย์ยงิ่ ?”

เช่าไคเร่ งติดตามพร้อมกล่าวถามด้วยความประหลาดใจ

ทุกสายตาของเหล่านายพลสังหารที่ตามหลังมา ต่างจับ
จ้องเย่หยวนด้วยความเลื่อมใสเจือเคารพ ในขณะที่นาย
พลสังหารของพรรคสังกัดอื่นกาลังโรมรันพันตูเป็ นตาย
แต่พวกเขากลับเดินฝ่ าสรมภูมิเดือดได้อย่างสบายใจ นี่มนั
เป็ นเรื่ องที่วิเศษอย่างยิง่

เย่หยวนกล่าวตอบด้วยรอยยิม้ ว่า

“ผงแผ้งนี้เรี ยกว่า ผงผีดิบ หลังจากที่โปรยใส่ ร่าง กลิ่นอาย


จากร่ างกายของพวกเราจะถูกเปลี่ยนคล้ายกับกลิ่นอายผี
ดิบ กองทัพผีดิบเหล่านี้จดจากลิ่นอายมนุษย์และบุกโจมตี
แต่ที่พวกมันไม่ทาร้ายพวกเรา เป็ นเพราะหลงนึ กว่าพวก
เราเป็ นพวกเดียวกับมัน และโดยธรรมชาติของพวกมันจะ
ไม่ทาร้ายกันเอง”
เช่าไคยังคงงงงวยเมื่อได้ยิน แต่ก็ยงั ยกหัวแม่มือให้เย่
หยวนด้วยชื่นชม

“กองทัพผีดิบเหล่านี้เป็ นปัญหาอย่างมาก ข้าเคยได้ยนิ มา


ว่าครั้งล่าสุ ดที่เข้าสารวจ มีคนล้มตายไปกว่าครึ่ ง แม้เรา
ต้องการจะหนี แต่พวกมันกลับไม่ปล่อยและบังคับให้สู้
จนตัวตาย!”

เย่หยวนกล่าวอย่างยิม้ แย้มว่า
“การต่อสู ้และความตายปล่อยให้เป็ นหน้าที่พวกนั้นรับ
กรรมไป”

เนื่องจากเย่หยวนสนใจแดนราชามังกรแห่งนี้อย่างมาก
เขาจึงตะเวนสอบถามข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับ
สถานการณ์ภายในนี้ ดังนั้นเมื่อทราบข้อมูลก่อนหน้า
มากมาย เย่หยวนจึงมีเวลามากพอในการเตรี ยมตัว
ล่วงหน้า

“เย่หยวน! พวกเจ้า! กล้าหนีทพั ไปก่อนงั้นรึ ?! ข้าจะฆ่า


พวกแก!”
หวูเ่ หอตรวจพบว่าบางสิ่ งผิดแปลกไปจึงชาเลือง
สังเกตการณ์ ก่อนจะพบว่ากลุ่มคนของเย่หยวนได้หนี
ออกจากวงสรมภูมิเป็ นที่เรี ยบร้อยแล้ว เขาโกรธแค้นอย่าง
สุ ดพรรณาพร้อมคารามลัน่ สุ ดเสี ยง

อย่างไรก็ตามเขาก็ทาได้แค่ตระโกนด่าสาปแช่ง
สภาพการณ์โดยรอบตัวเขาถูกปิ ดล้อมโดยทัพผีดิบอย่าง
หนาแน่น และไม่อาจหลุดออกจากวงแห่งความตายนี้ได้
เลย

เมื่อเห็นว่ากองทัพผีดิบมิได้จู่โจมพวกเย่หยวนเลยจริ งๆ
ความไม่เกลียดชังพลันโฉบแล่นเต็มหัวใจ
แต่ดว้ ยเสี ยงตะโกนสุ ดโกรธเกรี้ ยวของหวูเ่ หอ ต่างทาให้
ทุกคนตื่นตัวทันควันพร้อมหันไปมองกลุ่มของเย่หยวน
ด้วยความประหลาดใจ

“เช่าไค หากเจ้ากล้าหนีไปก่อน พรรคของเจ้าจะกลายเป็ น


ศัตรู ร่วมของทุกคนทันที!”

“เย่หยวน เจ้าจะต้องตายอย่างน่าสยดสยอง!”

เมื่อทุกคนเห็นภาพฉากเหล่านี้ ทั้งหมดต่างพากันอิจฉา
และกลัวว่าเย่หยวนจะคว้าสมบัติท้ งั หมดไปก่อน สิ่ งเดียว
ที่พวกเขาสามารถทาได้ในขณะนี้คือ พ่นวาจาข่มขู่อย่าง
น่ากลัวเท่านั้น

เพียงว่า ภัยคุกคามโดยวาจาเช่นนี้เย่หยวนหาได้สนใจไม่

เย่หยวนหมุนตัวกลับมาอย่างเริ งร่ าและกล่าวเสี ยงดังฟั ง


ชัดด้วยรอยยิม้ ว่า

“ทุกท่าน โปรดอุ่นเครื่ องตรงนี้ กนั ไปก่อน ส่ วนพวกเรา


ขอเข้าไปเป็ นแนวหน้าแทนพวกท่านเอง หุ หุ ต้อง
เดือดร้อนทุกท่านแล้ว! เย่คนนี้ ขอไม่ยงุ่ !”
เมื่อกล่าวจบ เย่หยวนก็ยา่ งก้าวเข้าไปข้างในต่อทันที

“เย่หยวน เจ้าจงภาวนาให้ดีวา่ อย่าได้พบเจอกับข้าอีก


มิฉะนั้นเจ้าจะต้องตายอย่างน่ากลัว!”

หวูเ่ หอคารามลัน่ กลางกองทัพผีดิบ

เย่หยวนตรงเข้าสารวจไปไกลแล้ว และไม่คิดอยูผ่ วั พัน


กับหวูเ่ หอใดๆอีก
เสี ยงวงสัประยุทธ์ดงั สะเทือนฟ้าสะท้านดิน ทัว่ ทุกบริ เวณ
ในโถงใหญ่เต็มไปด้วยคราบเลือดกองโลหิ ต แม้วา่ ความ
แข็งแกร่ งของนายพลสังหารเหล่านี้จะเหนื อชั้นยิง่ แต่ดว้ ย
กองทัพผีดิบอมตะไม่มีวนั ตาย พวกเขาเองก็ไม่สามารถ
จัดการปัญหานี้ได้ในเวลาอันสั้นเช่นกัน พวกเขาทาได้แต่
จ้องมองแผ่นหลังของเย่หยวนและคนอื่นๆลับไกล
ออกไปสุ ดสายตา
ตอนที่904 กระถางธูป

เดินทางผ่านโถงใหญ่ที่เต็มไปด้วยทัพผีดิบลึกลงไป
หลังจากนั้นตลอดทาง กลุ่มของเย่หยวนก็ไม่พานพบกับ
พวกมันอีกเลย

ด้านหลังโถงใหญ่เป็ นห้องโถงย่อยแยกออกมา เย่หยวน


พาทุกคนตรงเข้ามายังห้องโถงย่อยนี้อย่างรวดเร็ ว

อย่างไรก็ตามห้องโถงนี้ กลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ไม่


มีสิ่งดีๆหลงเหลือแม้สักนิด

“ครั้งล่าสุ ดที่พวกเขาส่ งคนมาที่นี่ อาจนาสมบัติภายใน


ห้องโถงนี้กลับไปหมดแล้วกระมัง”
“ไม่มีอะไรเหลือเลย พวกเรารี บไปยังที่ถดั ไปเถอะ มิ
เช่นนั้นเดี๋ยวพวกนั้นเร่ งตามมาทัน เราจะแย่เอา”

ในขณะที่เสวนาสั้นๆกระชับจบ พวกเขาก็หมุนตัวเตรี ยม
จากไปทันที

เช่าไคเองก็เตรี ยมออกไปแล้วเช่นกัน แต่เขาพลันค้น


พบว่า เย่หยวนยังคงยืนนิ่งสายตากวาดมองตรวจสอบทุก
หนแห่ งอย่างละเอียด ราวกับว่ายังไม่มีท่าทีจากไปไหน
“เย่หยวน มาเถอะ สมบัติในสถานที่แห่งนี้คงถูกกวาด
เรี ยบไปนานแล้ว ไม่เหลือสิ่ งใดน่ามองอีก”

เช่าไคกล่าว

เย่หยวนกล่าวตอบด้วยรอยยิม้ ว่า

“นั้นอาจไม่แน่!”
“หื้ ม? หรื อเป็ นไปได้ไหมว่า…เจ้าค้นพบบางอย่างเข้า
แล้ว?”

ในขณะที่กล่าวขึ้น เช่าไคพลันกวาดสายตาทัว่ ห้องโถงอีก


ครั้งโดยละเอียด แต่เขาก็ยงั ไม่คน้ พบสิ่ งของมีค่าอันใด

ห้องโถงย่อยแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่ นกั เพียงกวาด


สายตามองไม่กี่อึดใจก็เห็นทัว่ ห้อง และเช่าไคก็มนั่ ใจยิง่
ว่าตนมิได้พลาดของดีอะไรไป
เย่หยวนเดินไปยังทิศที่มีกระถางธูปวางอยูต่ รงมุมห้อง
อย่างเชื่องช้า ก่อนหยิบมันขึ้นมาตรวจสอบ

กระถางธูปใบนี้ค่อนข้างชารุ ดทรุ ดโทรมตามกาลเวลา


และดูธรรมดาไม่มีความโดดเด่นแม้แต่นอ้ ย ไม่วา่ ใครมอง
ล้วนคิดกันว่า มันไม่มีทางเป็ นสมบัติชิ้นหนึ่งได้เลย

เช่าไคกล่าวขึ้นว่า

“ดูยงั ไงก็เป็ นเพียงกระถางธูปเก่าๆอันหนึ่งมิใช่รึ?”


“เช่นนั้นรึ ?”

เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิม้ มือหนึ่งพลางยกขึ้นพร้อมกา
ขี้เถ้าภายในกระถางธูปขึ้นมาหนึ่งกา เขาส่ งไปให้เช่าไค
และกล่าวว่า

“กินมันดู!”

สี หน้าเช่าไคดูแขยงในทันที และกล่าวว่า

“จะกินมันได้อย่างไร? เย่หยวน เจ้าเล่นตลกอันใด?”


เย่หยวนกล่าวอธิ บายว่า

“นี่ถือขี้เถ้าของธูปจอมสวรรค์อายุยนื หากกินขี้เถ้ากามือนี้
ลงไป ท่านจะอายุยนื ขึ้นอีกห้าร้อยปี ! ส่ วนที่วา่ ท่านจะกิน
มันหรื อไม่กิน เรื่ องนี้ข้ นึ อยูก่ บั ตัวท่านแล้ว”

“หะ–ห้าร้อยปี ?”
เช่าไคเบิกตาโตดัง่ ไข่ห่าน พร้อมสายตาจับจ้องไปยังกอง
ขี้เถ้าในกามือเย่หยวนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

สิ่ งหนึ่ งที่ควรทราบคือ โอสถคืนชีวิตเก้าเซียนที่เย่หยวน


วานให้จอมราชันย์วิญญาณสัประยุทธ์หลอมให้ ยังช่วยยืด
อายุได้แค่สามร้อยปี เท่านั้น ทว่ากองขี้เถ้าหนึ่ งกามือนี้
กลับสามารถยืดอายุได้ยาวนานถึงห้าร้อยปี เห็นได้ชดั ว่า
สิ่ งนี้ทา้ ทายสวรรค์เพียงใด?

หากคนอื่นกล่าวแบบนี้ เช่าไคคงมองเป็ นเรื่ องไร้สาระ


และไม่มีทางเชื่อแน่นอน ทว่าคากล่าวเหล่านี้ กลับหลุด
จากปากเย่หยวนเอง และชายหนุ่มคนนี้เองก็สร้างความ
ตื่นตะลึงให้แก่เขาไม่เว้นวายนับครั้งไม่ถว้ นแล้ว

ทุกคากล่าวที่หลุดจากปากเย่หยวนล้วนมีความน่าเชื่อถือ
สู งมาก!

“ธูปจอมสวรรค์อายุยนื เป็ นสู ตรเครื่ องหอมบรรพกาลที่


หายสาบสู ญไปนานแล้ว ในปัจจุบนั แม้มนั จะถูกใช้จน
เหลือเพียงขี้เถ้า แต่มนั ก็ยงั ล้ าค่าหาประเมินไม่ เช่นนั้น…
ท่านจะไม่กินมันจริ งๆงั้นรึ ?”

เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิม้
“ข้ากิน ข้ากินแน่นอน!”

เช่าไครี บช้อนรับขี้เถ้ากองนั้นจากกามือของเย่หยวนอย่าง
ระมัดระวัง และกลืนทั้งหมดลงไปในหนึ่ งคาอย่างรวดเร็ ว

สิ่ งที่ทาให้เขาประหลาดใจยิง่ คือ เมื่อขี้เถ้ากองนี้ละลายลง


ไปในปาก นอกจากมันจะมีรสหวานหอมแล้ว เขายังกลับ
ไม่รู้สึกขยะแขยงเลยสักนิด

ในไม่ชา้ ดัง่ ความกระชุ่มกระชวยแห่งวัยหนุ่มหวน


คืนกลับมา เส้นผมบางตามวัยอายุพลันกลับมาดกดาอย่าง
ช้าๆ ร่ องรอยความเหี่ ยวย่นตามอายุบนใบหน้ากลับค่อยๆ
เต่งตึงขึ้นอีกครั้งดัง่ วันวาน

ใบหน้าของเขาก็ดูหนุ่มขึ้นกว่าก่อนหน้าหลายปี ในอึดใจ
เดียว

“นี่…นี่ มนั วิเศษจริ งๆ! ขี้เถ้าเหล่านี้มีสรรพคุณช่วยยืด


อายุขยั จริ งๆ!”

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่กลับมาแข็งแกร่ งขึ้นอีกครั้ง
เช่าไคก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างที่สุด
“พี่ใหญ่เช่า มันน่าทึ่งขนาดนั้นจริ งๆรึ ?”

นายพลสังหารอีกครั้งไม่อาจยืนนิ่งดูดายได้อีก เมื่อเห็น
การเปลี่ยนแปลงอันน่าอัศจรรย์ของเช่าไค

เขาอายที่จะเอ่ยปากถามเย่หยวนตรงๆ เพราะก่อนหน้าเขา
เองก็เคยดูถูกเย่หยวนเอาไว้เช่นกัน

แต่ทา้ ยที่สุดแล้ว เย่หยวนค้นพบสมบัติที่ซุกซ่อนอยูต่ ลอด


การเดินทาง และนั้นเป็ นตัวพิสูจน์ช้ นั ดีวา่ เย่หยวนคนนี้
เป็ นคนที่มีความสามารถจริ งๆ
เย่หยวนยิม้ และกล่าวว่า

“ไม่ตอ้ งกังวลไป ขี้เถ้าภายในนี้ เพียงพอสาหรับทุกท่าน”

เมื่อทุกคนได้ยนิ เช่นนี้ก็อดตื่นเต้นดีใจมิได้เลย

แม้บางคนภายในนี้ยงั หนุ่มยังแน่น และยังไม่เคยประสบ


ปัญหากับชีวิตที่แก่ตวั ลง แต่เมื่อมีของวิเศษที่ช่วยชืด
อายุขยั ได้อีกห้าร้อยปี อยูต่ รงหน้า มีหรื อที่จะไม่เอา? นี่
นับเป็ นโชคลาภครั้งใหญ่ของชีวิต!
ควรทราบไว้วา่ มีเวลาเพิ่มอีกห้าร้อยปี มันมากพอสาหรับ
พวกเขาที่จะทาอะไรต่อมิอะไร

ยิง่ ไปกว่านั้น อายุร่างกายที่หนุ่มแน่นขึ้น มันย่อมช่วยเพิม่


โอกาสในการการข้ามขีดจากัดให้สูงขึ้นเช่นกัน

เย่หยวนไม่คิดตระหนี่ ใจแคบใดๆ เขาแจกจ่ายขี้เถ้าเหล่านี้


ให้แก่ทุกคน คนละหนึ่งกามือโดยไม่ลงั เล

กองขี้เถ้าภายในกระถางธูปลดจานวนลงเรื่ อยๆ แต่เย่


หยวนกลับมิได้ใส่ ใจแม้แต่นอ้ ย
เพราะยังมีอีกเรื่ องที่เย่หยวนไม่ได้บอกพวกเขาก็คือ แท้ที่
จริ งแล้ว กระถางธูปใบนี้ต่างหากที่เป็ นสมบัติที่ล้ าค่า
ที่สุด!

คนอื่นๆล้วนไม่ทราบ แต่เย่หยวนรู ้จกั ต้นกาเนิดของ


กระถางธูปใบนี้ดี

ในฐานะจักรพรรดิโอสถผูอ้ ยูบ่ นจุดสู งสุ ดแห่งดินแดน


ศักดิ์สิทธิ์ เย่หยวนทาการวิจยั เกี่ยวกับหม้อหลอมโอสถ
อย่างละเอียดจนแจ่มแจ้ง
ในยุคบรรพกาล เผ่ามังกรเองก็เคยมีนกั หลอมโอสถผู ้
เก่งกาจอยูเ่ ช่นกัน นักหลอมโอสถของเผ่ามังกรผูน้ ้ นั ได้
สมญานาม เทพโอสถ

และหม้อหลอมโอสถที่เขาใช้ก่อนที่จะขึ้นกลายเป็ นเทพ
โอสถมีนามว่า‘หม้อหลอมราชามังกร’

‘หม้อหลอมราชามังกร’นี้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นยิง่ อยู่
ประการหนึ่งคือ ทุกครั้งที่ตอ้ งการหลอมกลัน่ โอสถ
จาเป็ นต้องหยดโลหิ ตมังกรก่อนหยดหนึ่ง ถึงจะสามารถ
กระตุน้ พลังของหม้อหลอมได้
และหลังจากที่หลอมกลัน่ โอสถเสร็ จสิ้ น หม้อหลอมราชา
มังกรก็จะแปรสภาพกลายเป็ นกระถางธูปเล็กๆโทรมๆใบ
หนึ่ง

ซึ่งกระถางธูปเก่าที่ค่อนข้างทรุ ดโทรมบนมือเย่หยวน ก็
เป็ นที่ชดั เจนว่ามันคือ ‘หม้อหลอมราชามังกร’อย่าง
แม่นยา!

ตานานเคยกล่าวไว้วา่ นักหลอมโอสถผูน้ ้ นั ชาระบริ สุทธิ์


หม้อหลอมราชามังกรอย่างต่อเนื่อง จนพัฒนาขึ้น
กลายเป็ นเครื่ องรางเทวะระดับสู งสุ ด แต่เนื่ องจากปัจจัย
หลายๆอย่าง ในท้ายที่สุดนี้ นกั หลอมโอสถผูน้ ้ นั ก็ไม่อาจ
พัฒนามันจนขึ้นเป็ นเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์ได้
ถึงกระนั้นเอง หม้อหลอมราชามังกรใบนี้ ก็ถือเป็ นหม้อ
หลอมโอสถอันดับต้นๆบนผืนพิภพ

เย่หยวนไม่นึกไม่ฝันเลยว่า เขาจะได้รับหม้อหลอมราชา
มังกรในสถานที่แบบนี้จริ งๆ พวกที่เคยปล้นชิงสมบัติที่นี่
ในอดีต กลับมีตาหามีแววไม่ เสี ยโอกาสทิ้งสมบัติที่มีค่า
ที่สุดเอาไว้
นอกเหนือจากเย่หยวนแล้ว มีน้อยคนนักในดินแดน
ศักดิ์สิทธิ์ที่รู้จกั หม้อหลอมราชามังกรและธูปจอมสวรรค์
อายุยนื

เย่หยวนพลันหลับตาและใส่ จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ของตน


ลงในหม้อหลอมราชามังกร เพื่อทาลายผนึกสัญญาเก่าทิ้ง
ทันที โดยที่คนอื่นๆไม่ทนั ได้สังเกตแม้แต่นอ้ ย เพราะมัว
แต่ท่ ึงตะลึงกลับความอ่อนเยาว์ที่หวนกลับคืนอีกครั้ง

สาหรับขี้เถ้าในส่ วนเหลือ เย่หยวนตั้งใจที่จะเก็บเอาไว้


เพื่อนาไปวิจยั ต่อไป บางทีเขาอาจสามารถเรี ยกคืนสู ตร
เครื่ องหอมนี้กลับมาได้อีกครั้ง
สู ตรเครื่ องหอมในยุคบรรพกาลนี้ช่างมีค่ามหาศาลเกิน
ประเมินได้

ออกจากห้องโถงย่อย เบื้องหน้าทุกคนพลันปรากฏเป็ น
พื้นที่เปิ ดกว้าง พร้อมถนนสายหนึ่งที่ทอดยาวออกไปไกล
ต้นสายถนนมีศิลาแผ่นยักษ์ต้ งั อยูข่ า้ งๆ บนแผ่นศิลานี้ถูก
สลักไว้วา่

‘เส้นทางมรณะเหลือง!’

“เย่หยวน นี่…”

สี หน้าของเช่าไคเคร่ งขรึ มขึ้นทันทีและน้ าเสี ยงก็เช่นกัน

แค่ได้อ่านชื่อ ทุกคนก็ตระหนักได้ทนั ทีวา่ ถนนสายนี้มนั


ไม่ง่ายเลยที่จะข้ามผ่าน
เย่หยวนพยักหน้าและกล่าวว่า

“มีค่ายกลในยุคบรรพกาลติดตั้งอยูม่ ากมายเต็มไปหมด
บนถนนสายนี้ นี่ มิใช่เรื่ องง่ายที่จะข้ามไป”

ในเวลานั้นเอง ก็มีกลุ่มคนจานวนมากเร่ งรุ ดวิ่งตาม


ออกมาติดๆ สภาพของแต่ละคนดูไม่จืดเลยสักนิด เป็ นที่
ชัดเจนว่า พวกเขาคือกลุ่มคนที่พวกเย่หยวนทิ้งให้เผชิญ
กับกองทัพผีดิบตามลาพัง
เนื่องจากกลุ่มของเย่หยวนล่าช้าเล็กน้อยในห้องโถงย่อย
ก่อนหน้า จึงเป็ นโอกาสเหมาะให้กลุ่มคนที่เหลือมีเวลาฝ่ า
ฝูงผีดิบจนไล่ตามออกมาติดๆเช่นนี้

“ฮ่าฮ่าฮ่า! เย่หยวน ในที่สุดพวกเราก็ได้พบกันอีกครั้ง! แต่


คราวนี้เจ้าไม่มีโอกาสหนีได้แน่นอน! ทั้งบัญชีเก่าใหม่
สะสางให้บรรจบเสร็ จตรงนี้ !”

เสี ยงตะโกนสุ ดขุ่นแค้นของหวู่เหอดังขึ้น ก่อนตรงมา


หาเย่หยวนอย่างรวดเร็ ว
คนอื่นๆเองต่างก็จอ้ งมองเย่หยวนอย่างไม่เป็ นมิตรเช่นกัน
เป็ นที่ชดั เจนยิ่งว่า การที่เขาทิ้งคนอื่นให้รับกรรมอยู่
เบื้องหลังและตนหนีออกมาเช่นนี้ มันสร้างความโกรธ
แค้นให้แก่ทุกคนเพียงใด

“เย่หยวนเจ้ามากเกินไปจริ งๆ! ในคราวนี้จะไม่มีใครช่วย


เจ้าได้อีก!”

แม้แต่โม่ซางเองก็เปล่งออกมาอย่างโกรธเกรี้ ยวเช่นกัน

การกระทาก่อนหน้าของเย่หยวนทาให้ทุกคนไม่พอใจ
อย่างแท้จริ ง
ทุกคนเร่ งเข้าปิ ดล้อมกลุ่มของเย่หยวนเป็ นวงกลมในทันที
พวกเขาตั้งใจที่จะรุ มประชาทัณฑ์พวกเย่หยวนให้ตายคา
มือคาเท้ากันตรงนี้

ในเวลานั้นเอง จู่ๆหวูเ่ หอก็สังเหตเห็นถึงความ


เปลี่ยนแปลงของพวกเช่าไค เขาเปิ ดปากเอ่ยถามเช่าไค
ทันทีวา่
“เช่าไค พวกแกคงได้ของดีมิใช่นอ้ ย? มันคืออะไร!? ไฉน
พวกเจ้าถึงดูหนุ่มขึ้นโขเช่นนี้ !?”

คากล่าวของหวูเ่ หอพลันทาให้ทุกคนตกตะลึงอย่างมาก

พวกเขากวาดตาสังเกตความเปลี่ยนแปลงของพวกเช่าไค
อย่างละเอียด ก่อนพบว่าแต่ละคนดูหนุ่มแน่นขึ้นทันตา
ทุกคนที่ได้เห็นดังนั้นต่างรู ้สึกประหลาดใจอย่างหาที่
เปรี ยบไม่
ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่า ในขณะที่ท้ งั สองฝ่ ายแยกทางกัน กลุ่ม
ของเย่หยวนได้เผชิญเข้ากับขุมสมบัติสุดท้าทายสวรรค์
อย่างจัง

เย่หยวนกล่าวตอบอย่างยิม้ แย้มว่า

“มันก็มิใช่อะไรมากมายเลย ก็แค่พบเจอธูปจอมสวรรค์
อายุยนื โดยบังเอิญ ข้าจึงให้เช่าไคและที่เหลือกินมันเข้าไป
สิ่ งนี้จะช่วยยืดอายุขยั ของพวกเขาให้ยนื ยาวขึ้นอีกห้าร้อย
ปี และนั้นคือทั้งหมด”
ตอนที่905 ฆ่ าทิง้ ในหนึ่งฝ่ ามือ

“ยืดอายุขยั ไปอีกห้าร้อยปี !”

ขณะที่เย่หยวนกล่าวขึ้น ทุกคนพลันสู ดหายใจเย็นเข้าเต็ม


ปอด แววตาทุกคนเปล่งประกายดัง่ ไฟริ ษยาแผดเผาหาที่
ใดเปรี ยบไม่

“เย่หยวน หากฉลาดพอก็จงยอมแพ้และส่ งสมบัติมาซะ!


มิฉะนั้นข้าจะทรมานแกจนต้องร้องขอความตาย!”

หวูเ่ หิ กล่าวขู่ดว้ ยน้ าเสี ยงเหี้ ยม


มีคนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า

“เย่หยวน ข้าจะให้โอกาสเจ้า! ตราบใดที่ยอมมอบสมบัติ


ให้ขา้ ข้าขอรับรองความปลอดภัยของเจ้า! มัน่ ใจได้เลยว่า
ต่อจากนี้ จะไม่มีใครกล้าแตะต้องเจ้า!”

บุคคลนี้นามว่าจ้งอูไ้ ป๋ นายพลสังหารที่หนึ่ งภายใต้บญั ชา


ของผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร ความแข็งแกร่ งของเขาเกินหยัง่ รู ้
ได้
เมื่อหวูเ่ หอได้ยนิ เช่นนั้น สี หน้าการแสดงออกพลันผัน
เปลี่ยน แต่ก็มิได้ส่งเสี ยงท้วงติงอันใด

ต่อหน้าจ้งอูไ้ ป๋ หวูเ่ หอไม่มีทุนรอนมากพอที่จะหาเรื่ อง

ทันทีทนั ใด เย่หยวนระเบิดเสี ยงหัวเราะขึ้นและกล่าวว่า

“ดูจากท่าทีของพวกท่าน คงมัน่ ใจนักใช่ไหมว่า จะ


สามารถล้มข้าคนนี้ลงได้?”
จ้งอูไ้ ป๋ กล่าวตอบพร้อมสี หน้าสลับสี ไปมาว่า

“หรื อเป็ นไปได้ไหมว่า เจ้ายังหวังพึ่งพาโชค?”

“พวกท่านไปหาสมบัติของตนเถอะ และหากไม่อยากอายุ
สั้นก็อย่าริ อาจข้าคนนี้เลยจะดีกว่า ข้าว่าพวกท่านเองก็
น่าจะฉลาดพอ อย่ารนหาที่ตายโดยเปล่าประโยชน์”

เย่หยวนกล่าวขึ้นอย่างเมินเฉย
ทุกคนที่ได้ฟังดังนั้นพลันหันมาแลกเปลี่ยนสายตากันไป
พวกเขาไม่แน่ใจเลยว่า เย่หยวนไปเอาความมัน่ ใจขนาดนี้
จากที่ใดมา

ณ ตอนนี้มียอดฝี มือมากมายเท่าจานานเมฆบนฟ้า ผูแ้ กร่ ง


กล้าเฉกเช่นจ้งอู่ไป๋ หรื อพวกอันดับต้นๆในทาเนียบนภา
เถื่อนยังยืนอยูต่ รงหน้ามากมาย ไฉนเย่หยวนถึงกล้าเอ่ย
วาจาเช่นนี้ได้?

หรื อเป็ นไปได้ไหมว่า ศีรษะของเจ้าหนุ่มนี้ จะกระแทก


อะไรเข้าระหว่างทาง?
“หยิง่ ผยองเกินไป! หวูเ่ หอ เรื่ องนี้ปล่อยให้เจ้าจัดการ ข้า
จะไม่เข้าไปแทรก! ส่ วนเรื่ องสมบัติก็ตามนั้น!”

จ้งอูไ้ ป๋ กล่าวขึ้นด้วยเสี ยงเย็น

หวูเ่ หอดีใจอย่างมากเมื่อได้ยิน ความหมายของจ้งอูไ้ ป๋ คือ


สมบัติน้ ี หลังได้มาจะถูกแบ่งอย่างเท่าเทียม
อย่างไรก็ตาม เขาเองก็ทราบ ธูปจอมสวรรค์อายุยนื มีผล
เพียงครั้งเดียวเท่านั้น หากกินอีกคราวนั้นเท่ากับไม่มี
ประโยชน์อนั ใด

“หึ หึ มัน่ ใจได้เลยหัวหน้าจ้ง หวูค่ นนี้จะดูแลมันอย่างดี!”

หวูเ่ หอหันมาจับจ้องเย่หยวนพร้อมรอยยิม้ เหยียดเย็นที่


แขวนอยูม่ ุมปาก เขากล่าวอย่างลาพองใจว่า
“ไอ้เหลือขอ ข้าบอกแกแล้วใช่ไหมว่า อย่าให้เรามาพบ
เจอกันอีก แต่เจ้าก็ไม่ฟัง! วันนี้ ขา้ จะทรมานแกให้สาแก่ใจ
อยาก!”

เช่าไครี บพุ่งตัวมาขวางหน้าเย่หยวนทันทีและกล่าวว่า

“หวูเ่ หอ หากต้องหารแตะต้องเย่หยวน ก็ขา้ มศพข้าไป


ก่อน!”
“เหอะๆ เช่าไค เจ้ายังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกงั้นรึ แค่เจ้า
คนเดียวมีหรื อจะหยุดข้าได้?”

หวูเ่ หอกล่าวขึ้นพลางร่ วนหัวเราะ

เย่หยวนยกมือขึ้นตบไหล่เช่าไคเบาๆ และกล่าวอย่างสงบ
นิ่งว่า

“ขยะเน่ากองนี้ ข้าจัดการเอง”
เช่าไคพูดไม่ออกบอกไม่ถูกพร้อมอึ้งในทันใด เย่หยวน
คนนี้มนั่ ใจในตัวเองเกินไป คาพูดสู งส่ งเช่นนี้ เขาไม่กลัว
ถูกตัดลิ้นเลยหรื ออย่างไร?

วูเ่ หอเป็ นถึงยอดฝี มือร้อยอันดับแรกในทาเนียบนภาเถื่อน


ในตอนที่เขาอยูใ่ นอาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้า คู่ต่อสู ้ของ
เขาล้วนมีแต่อาณาจักรไร้เทียมทานทั้งสิ้ น แล้วเย่หยวนที่
เป็ นเพียงนักสู ้อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าตัวเล็กๆ แต่จะไป
สู ้กบั หวูเ่ หอในตอนนี้ได้อย่างไร?
“ปัญญาอ่อน! ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นเองว่า สิ่ งใดเรี ยกว่า
ความแข็งแกร่ ง!”

หวูเ่ หอคารามสวนอย่างเยือกเย็น รัศมีสุดอันตรายของ


จุดสู งสุ ดแห่งอาณาจักรไร้เทียมทานระดับเก้าระเบิดขึ้น
ทันที ตั้งแต่ตน้ จนจบนับเป็ นภาพฉากที่ดูอศั จรรย์และน่า
ตกใจยิง่

“ทาเนียบนภาเถื่อนฉบับใหม่ที่เพิ่งประกาศออกไป ใน
ครั้งนี้อนั ดับของหวูเ่ หอกระโดดขึ้นไปที่อนั ดับสามสิ บ
ทันทีโดยตรง ความเร็ วในการพัฒนาเช่นนี้นบั ว่าน่า
ประหลาดใจยิง่ !”
“ถูกต้อง! ที่ความเร็ วในการพัฒนาสู งขึ้นขนาดนี้ เป็ น
เพราะอยูภ่ ายใต้ท่านผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญ ท่านผูน้ ้ นั นับว่า
สร้างความตื่นตะลึงไม่เว้นวาย และมีแนวโน้มสู งมากว่า
ท่านผูน้ ้ นั จะกลายเป็ นการดารงอยูใ่ นระดับชั้นเดียวกับ
ท่านผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร!”

“เย่หยวนประเมินตนเองสู งเกินไป แม้เขาจะสามารถขึ้น


ติดอันดับในทาเนียบนภาเถื่อนได้ แต่เบื้องหน้าเขาเป็ นถึง
ยอดฝี มือร้อยอันดับแรก นี่มิใช่บุคคลที่เขาควรท้าทายเลย”
จิตสังหารปะทุเดือดดัง่ ภูเขาไฟระเบิด หวูเ่ หอเร่ งโคจร
พลังปราณทัว่ ร่ างอย่างสุ ดกาลังไม่มีออ้ ม เพียงหนึ่งอึดใจ
แรงกดดันสุ ดล้นปรี่ พวยพุ่งไม่หยุด หลายคนที่ไก้เห็นฉาก
นี้ต่างตื่นตระหนกกันอย่างมาก

เมื่อสี หน้าการแสดงออกเผยถึงความตะลึง หวูเ่ หอเองก็


รู ้สึกพึงพอใจมากเช่นกัน

“เย่หยวน แกเห็นหรื อไม่! นี่แหละคือความแตกต่าง


ระหว่างข้ากับแก! อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าตัวน้อยมัน
กล้าหยิง่ ผยองต่อหน้าข้าผูน้ ้ ีจริ งๆ ลงนรกไปซะ!”
กาปั้นหนักพุ่งเข้าหาเย่หยวนในทันที

ในเวลานั้นเอง เย่หยวนก็ลืมตาขึ้น พร้อมโหมซัดฝ่ ามือ


ออกไป!

“ฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้า!”

ทว่าคราวนี้กลับไม่มีมงั กรฟ้าผงาดออกมา เป็ นเพียง


พลังงานแปลกประหลาดสุ ดน่าสะพรึ งกรอกเทปะทุ
บูมมม!

ภายใต้ทุกสายตาที่จบั จ้อง ร่ างของหวูเ่ หอถูกระเบิดเป็ น


ชิ้นเนื้อโดยตรง พร้อมร่ วงกระแทกพื้นตายทันที

เมื่อเห็นภาพฉากนี้ นัยน์ตาของจ้งอูไ้ ป๋ พลันหดเล็กลงเท่ารู


เข็มทันที เขาจับจ้องเย่หยวนไม่วางตาด้วยหลากอารมรณ์
สุ ดถาโถม

เขาต้องการทราบยิง่ ว่า เย่หยวนใช้อะไรกันแน่ถึงสามารถ


ฆ่าหวูเ่ หอทิ้งภายในหนึ่งอึดใจได้ ทว่าอย่างไร เขาก็ไม่
สามารถอธิบายได้เลย
สิ่ งเดียวที่จง้ อูไ้ ป๋ ตระหนักได้ก็คือ อนุภาพการทาลายล้าง
ของฝ่ ามือเมื่อครู่ อนั ตรายมาก แต่หากกล่าวว่า ถ้าต้องการ
ระเบิดร่ างหวูเ่ หอทิง้ ภายในหนึ่ งกระบวนด้วยฝ่ ามือนี้ นั้น
ก็ไม่มีทางเป็ นไปได่เลยเช่นกัน

เมื่อครู่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ไม่วา่ จ้งอูไ้ ป๋ จะครุ่ นคิดมากเพียงใด เขาก็ไม่สามารถ


จินตนาการออกเลยว่า เกิดอะไรขึ้นระหว่างนั้นกันแน่!
เย่หยวนกวาดสายตามองทุกคนและค่อยๆเอ่ยปากขึ้นว่า

“เอาล่ะ ยังมีใครอยากสัง่ สอนข้าอีกหรื อไม่? ก้าวออกมา


ได้เลย!”

ทุกพื้นที่ที่สายตาเย่หยวนกวาดมอง ทุกคนในบริ เวณนั้น


พลันเบี่ยงให้ไว ไม่ก็กม้ หน้าก้มตาหลบแทน

ฝ่ ามือของเย่หยวนเมื่อครู่ มนั ได้สยบฝูงชนเบื้องหน้า


โดยตรง
ในที่สุด เย่หยวนก็หยุดสายตาลงที่จง้ อูไ้ ป๋ และกล่าวถาม
พร้อมรอยยิม้ บางๆว่า

“หัวหน้าจ้ง ไฉน…ไม่ลองออกมาสัง่ สอนข้าด้วยตนเอง?


ขี้เถ้าของธูปจอมสวรรค์อายุยนื ในมือข้าสามารถยืดอายุขยั
ได้ต้ งั ห้าร้อยปี เชียว”

สี หน้าของจ้งอูไ้ ป๋ เปลี่ยนเป็ นสี ดาทันที วาจาสุ ดหยาม


เหยียดเช่นนี้ เขาไม่อาจรักษาศักดิ์ศรี ใดๆได้อีก
แต่ท่าทางการแสดงออกของเย่หยวนกลับไม่ได้หวาดกลัว
เขาเลยแม้แต่นอ้ ย นี่เป็ นเรื่ องที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้
จริ งๆ

เจ้าหนุ่มคนนี้มนั ผิดประหลาดเกินไป เห็นได้ชดั ว่ามีพลัง


เพียงแค่อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้า แต่กลับสามารถฆ่าหวู่
เหอได้ภายในหนึ่ งฝ่ ามือ

แม้แต่จง้ อูไ้ ป๋ ก็ไม่สามารถทาเช่นนี้ได้เลย!

ฟุบ! ฟุบ!
“แย่แล้ว เกราะแสงของหวูเ่ หอถูกทาลาย ค่ายกลขนาด
มหึ มานั้นเล็งเป้าหมายมาทางนี้ แล้ว!”

มีบางคนตะโกนขึ้น

ทันใดนั้นเอง จู่ๆก็มีเปลวเพลิงสี ขาวตรงดิ่งลงจากท้อง


นภา และฟาดใส่ ศพหวูเ่ ห่อโดยตรง

เพียงสองอึดใจต่อมา ศพหวูเ่ หอถูกเผาเหี้ ยมจนเหลือแค่


เพียงขี้เถ้ากองหนึ่ง หลังฌาปนกิจเสร็ จสับ เปลวเพลิงสี
ขาวเหล่านั้นก็สลายหายไป
ร่ างของยอดฝี มืออันทรงพลังอย่างหวูเ่ หอถูกกาจัดทิ้ง
ทันทีโดยค่ายกลขนาดมหึ มานั้น

เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ทุกคนต่างตกตะลึงเจือหวาดกลัวไม่
น้อย

พลังการทาลายล้างของเปลวเพลิงสี ขาวเมื่อครู่ ช่างน่าสะ


พรึ งเกินไป แม้จะเป็ นเหล่าผูส้ ู งส่ งเข้ามา แต่หากโดนเข้า
สิ่ งนี้ผา่ ใส่ ก็เป็ นไปไม่ได้ที่จะรอดออกมา!

ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ไฉนคราวล่าสุ ดที่เข้าสารวจ มีผู ้


สู งส่ งล้มตายถึงสองคนติดในที่แห่งนี้
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ท่าทีของจ้งอูไ้ ป๋ พลันแปรเปลี่ยนทันที
ความคิดที่จะลงมือต่ออีกฝ่ ายมลายหายสิ้ น เขาเอ่ยปากขึ้น
พร้อมกล่าวกับเย่หยวนว่า

“ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าต่าไป! เอาล่ะ ตั้งแต่น้ ีเป็ น


ต้นไป ทุกคนสามารถค้นหาสมบัติได้ตามอิสระ! ตาดีได้
ตาร้ายเสี ย!”

เมื่อทุกคนได้ยนิ ดังนั้น กระจิตกระใจของพวกเขาดัง่ ร่ วง


หล่น
หัวหน้าจ้งเป็ นคนแบบไหน? แต่ตอนนี้เขาหดหัวให้เด็ก
หนุ่มตรงหน้าจริ งๆ!

จ้งอูไ้ ป๋ เป็ นดัง่ ยอดฝี มือในใต้หล้าแห่งลานประลองอสู ร


ทว่าวันนี้เขากลับต้องถอยหนึ่งก้าวให้แก่เจ้าหนุ่มคที่อยู่
ท้ายตารางในทาเนียบนภาเถื่อน

เย่หยวนยิม้ และกล่าวว่า

“หุหุ วาจาพรั้งพรู ก่อนหน้าไยอันตรธานสิ้ น? เพียงส่ งคน


อื่นไม่ก็ตวั ท่านออกมา ข้าพร้อมเป็ นธุรุสะสาง! ยังไงซะ
ข้าเองก็เป็ นดัง่ ศัตรู ร่วมหัวจมหางของพวกท่านทั้งหมดอยู่
แล้วจริ งไหม? จะว่าไปก็ช่างน่าขันสิ้ นดี ในเมื่อข้ามีวิธี
เลี่ยงหลบกองทัพผีดิบเหล่านั้น ไฉนข้ายังต้องเข้าพัลวัน
กับพวกมันอย่างขมขื่น? หากเป็ นพวกท่าน มีหรื อจะไม่
ทาอย่างข้า?”

คากล่าวของเย่หยวนด้านทนอย่างหาที่เปรี ยบไม่ แต่


ทั้งหมดที่เขากล่าวไปกลับเป็ นความจริ ง

หากคนอื่นๆมีหนทางหลบเลี่ยงกองทัพผีดิบเช่นกัน แล้ว
เป็ นไปได้ไหมที่พวกเขาจะยืนรอ?

เหตุผลที่ทุกคนแสดงพฤติกรรมต่อพวกเย่หยวนดัง่ ศัตรู
ร่ วม ทั้งหมดมิใช่เพราะกลุ่มของเย่หยวนง่ายต่อการรังแก
หรอกรึ ?
แต่พวกเขากลับไม่คาดคิดเลยว่า ผลสุ ดท้ายที่ออกมามัน
จะเป็ นเช่นนี้ จริ งๆ
ตอนที่906 ลอกเลียนแบบโง่ ๆ

“นี่ๆ เจ้าทาได้อย่างไร เย่หยวน? ข้าล่ะรู ้สึกสะใจจริ งๆ! ไอ้


สุ นขั หวูเ่ หอนั้นรังแกพวกเราอยูต่ ลอด ในคราวนี้ตอ้ ง
ขอบคุณเจ้าจริ งๆที่ช่วยล้างแค้น!”

สุ่ มเสี ยงหนึ่งดังขึ้นเขามีนามว่า อาเหริ่ น เป็ นหนึ่งในนาย


พลสังหารภายใต้บญั ชาของซื่อหยิน อายุอานาเขามิใช่
น้อยๆ แต่ความแกร่ งกร้าวของเขาก็มิใช่ธรรมดาเช่นกัน

แต่ดว้ ยความแกร่ งกร้าวระดับนี้ เขายังถูกหวูเ่ หอรังแกอยู่


เสมอ
วันนี้ เย่หยวนกาจัดหวูเ่ หอทิ้งได้โดยใช้ฝ่ามือเดียว ดัง่ ผู ้
กล้าช่วยกอบกูศ้ กั ดิ์ศรี ของพวกเขากลับคืน ความปลื้มปิ ติ
อัดแน่นอยูใ่ นอกของเขาจนล้นปรี่

ในสายตาของเขาตอนนี้ อาเหริ่ นยกย่องชื่นชมเย่หยวนยิง่


กว่าสิ่ งใด

โดยปกติแล้ว ขุมกาลังของซื่อหยินอ่อนแอที่สุดในบรรดา
สิ บสองผูส้ ู งส่ ง จึงตกเป็ นเป้ารังแกโดยธรรมชาติ แน่นอน
ว่าพวกเขาทุกคนล้วนขุ่งเคืองอย่างยิง่ แต่กลับไม่กล้า
เคลื่อนไหวใดๆเช่นกัน
อาเหริ่ นไม่เคยรู ้สึกดีขนาดนี้ มาก่อน ในปัจจุบนั เขา
สามารถยืดอกชูคอได้อีกครั้งอย่างภาคภูมิ

แม้แต่จง้ อูไ้ ป๋ อันแกร่ งกล้ายังต้องถอยให้เย่หยวนหนึ่ งก้าว


เมื่อเผชิญหน้ากันตาต่อตา

เย่หยวนกล่าวตอบอย่างยิ้มแย้มว่า

“ท่านพึงทราบแค่วา่ ภายในแดนราชามังกรแห่งนี้ ข้าไร้


เทียมทานที่สุด!”
อันที่จริ ง ทันทีที่เย่หยวนเห็นฟองอากาศด้านหน้าประตู
หิ น เขาเองก็คิดแผนการเตรี ยมไว้ในใจแล้ว มิฉะนั้นเขา
จะใจดีมอบฟองอากาศเหล่านั้นให้แก่ผสู ้ ู งส่ งคนอื่นๆได้
อย่างไร?

หลักการก็มิได้ซบั ซ้อนอะไรเลย เกราะแสงที่ห่อหุม้ กาย


ทุกคนมันเกิดจากความถี่ของชีพจรมังกร!

ยิง่ หลังจากที่เข้าสู่ แดนราชามังกร ความเป็ นความตายล้วน


ขึ้นอยูก่ บั ความเมตาของเย่หยวนทั้งสิ้ น ค่ายกลขนาด
มหึ มาที่ปกคลุมที่แห่ งนี้ จะมีเกณฑ์การเลือกเป้าหมาย
โจมตีจากระดับความถี่ของชีพจรมังกรบนเกราะแสงนั้นๆ

เย่หยวนรู ้สึกได้วา่ คลื่นความถี่ของชีพจรมังกรที่ค่ายกล


ขนาดมหึ มานี้ตรวจจับ จาต้องมีมาตรฐานสู งกว่าขั้น
วิญญาณขึ้นไป!

แต่สิ่งนี้ มิใช่เรื่ องที่เย่หยวนต้องกังวลเลย กล่าวได้วา่ แม้


เขาจะไม่สวมเกราะแสง เขาก็สามารถอยูร่ อดปลอดภัยได้
ในแดนราชามังกรแห่ งนี้ และค่ายกลขนาดมหึ มาจะไม่มี
ทางทาอะไรเขาได้เช่นกัน
ในขณะที่คนอื่นๆจาเป็ นต้องสวมเกราะแสงเพื่อความ
ปลอดภัยของชีวิต ทว่านั้นเท่ากับการเพิ่มกุญแจมือให้แก่
ตนอีกหนึ่ งชั้น

เพียงเย่หยวนส่ งคลื่นความถี่ของชีพจรมังกรให้เกราะแสง
เกิดความผิดปกติ และขยายอนุภาพการทาลายล้างของฝ่ า
มือมังกรสวรรค์วินาศฟ้าโดยอาศัยพลังของค่ายกลขนาด
มหึ มาให้เป็ นประโยชน์ ฝ่ ามือมังกรสวรร์วินาศฟ้าที่ถูก
ปลดปล่อยออกไปย่อมทวีความรุ นแรงเพิ่มขึ้นหลายสิ บ
เท่าตัว!

ดังนั้นการโจมตีสุดน่าสะพรึ งเช่นนี้ มีหรื อที่หวูเ่ หอจะ


ต้านทานไหว?
เพียงหนึ่งฝ่ ามือ ก็สามารถระเบิดร่ างของอีกฝ่ ายได้ทนั ที
โดยไม่ทนั ต้องพึ่งค่ายกลขนาดมหึ มาด้วยซ้ า

ชีพจรมังกรถือเป็ นความลับสุ ดยอดของเผ่ามังกร มัน


เป็ นไปไม่ได้แน่นอนที่ตระกูลเทียนหล่งหลิงจะล่วงรู ้ กระ
ทั้งวิธีใช้งานก็ยงั ไม่อาจเข้าใจได้เช่นกัน

การประยุกต์ใช้สายเลือดมังกรเพื่อนามาบ่มเพาะพลัง
นับเป็ นคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของตระกูลเทียนหล่งห
ลิง แต่ท้ งั หมดก็มีเพียงแค่น้ นั

อาเหริ่ นยกหัวแม่มือให้และกล่าวว่า
“พี่ใหญ่เย่ ต่อแต่น้ ีเป็ นต้นไป ข้า,อาเหริ่ นของเป็ นน้องเล็ก
ของท่าน! หากมีคาแนะนาติเตียนใดๆอย่าได้ลงั เลที่จะ
กล่าว โปรดสัง่ สอนน้องเล็กคนนี้ให้เต็มที่! อุ๊ย! ใครเตะ
ก้นข้า?”

เช่าไคถีบก้นส่ งอาเหริ่ นบินออกไป พร้อมกล่าวด้วยสี หน้า


มืดดาว่า

“ดูเจ้าสิ ! ช่างน่าละอายใจเพียงใด! ตอนที่เจ้าเพิ่งเข้ามาใน


หลุมอเวจีสังหาร มิใช่เจ้าหรื อที่กล่าวเย้ยหยันเย่หยวนอยู่
ข้างๆท่านผูส้ ู งส่ งซื่อหยินตลอดทาง?”
แน่นอนว่าในเวลานั้น ใครๆต่างก็มองว่าเย่หยวนจงใจ
สร้างปัญหาเพื่อถ่วงเวลา ซึ่งในบรรดานายพลสังหารที่
วิพากษ์วิจารย์เย่หยวนหนักที่สุดก็คืออาเหริ่ น

อาเหริ่ นเกาหัวแกรกๆอย่างเก้อเขินและกล่าวอย่างเจียม
ตนว่า

“ในตอนนั้นข้ายังไม่คนุ ้ เคยกับพี่ใหญ่เย่เท่าไหร่ ทุกคนเอง


ก็บ่นอุบอิบไม่ต่างจริ งไหม? ฮะ–ฮ่าฮ่า…”
เย่หยวนยิม้ และกล่าวว่า

“ไม่ตอ้ งกังวลไป ในเมื่อพวกเราล่มหัวจมท้ายด้วยกันแล้ว


ข้าไม่มีทางปล่อยให้พวกท่านกลับไปมือเปล่าแน่นอน”

คู่ดวงตาของอาเหริ่ นสว่างไสวในทันใด เขารี บกล่าวตอบ


ด้วยความยินดีวา่

“ขอบคุณอย่างยิง่ พี่ใหญ่เย่!”
แต่สีหน้าการแสดงออกของเช่าไคไม่ค่อยดีนกั เขาขยับ
เข้ามาใกล้เย่หยวนและกล่าวว่า

“เย่หยวน ข้าได้ยนิ มาว่า ครั้งล่าสุ ดที่พวกนั้นเข้ามาใน


แดนราชามังกร มีนกั สู ้เกือบครึ่ งหนึ่ งตายลงในเส้นทาง
มรณะเหลืองแห่งนี้ พวกเรา…”
เย่หยวนกล่าวตอบด้วยรอยยิม้ เจือบางว่า

“เส้นทางมรณะเหลืองแห่งนี้ หากกล่าวว่ายากก็วา่ ยาก


หากกล่าวว่าไม่ยากก็วา่ ไม่ยากเช่นกัน! หลังจากนี้พวก
ท่านโปรดผ่อนคลายร่ างกายให้สงบนิ่งที่สุด ห้ามใช้หรื อ
เดินพลังปราณใดๆเด็ดขาด จงทาตัวดัง่ หุน้ เชิดให้ขา้ เชิด
ควบคุม! มิฉะนั้นหากผิดพลาดแม้สักนิด ค่ายกลทั้งหมด
จะทางานทันที!”

เมื่อได้ยนิ คากล่าวของเย่หยวน กระจิตกระใจของทุกคน


พลันเย็นยะเยือกในบัดดล
หากเป็ นก่อนหน้า พวกเขาไม่มีทางมอบชีวิตให้บุคคลอื่น
บงการแน่นอน แต่ในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดกลับเชื่อมัน่
ในตัวเย่หยวนอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆแล้ว

หากปราศจากเย่หยวน พวกเขาก็ไม่เหลือความหวังที่จะ
ข้ามผ่านเส้นทางมรณะเหลืองได้อีกแล้ว

ในเวลาเดียวกัน เหล่านักสู ้กลุ่มอื่นๆต่างดาหน้าอยูต่ น้ ทาง


เส้นทางมรณะเหลือง แต่กลับไม่มีสักคนที่กล้าแม้แต่ยา่ ง
ก้าวลงไป!
“พวกเจ้าดูน้ นั มันคือเส้นทางมรณะเหลืองจริ งๆ! ได้ยนิ
มาว่ากระทั้งจ่าวเทียนซิ น นายพลสังหารภายใต้บญั ชาของ
ท่านผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร ครั้งล่าสุ ดที่มาเขาเองยังจบชีวิต
ลงบนเส้นทางสายนี้ !”

“เส้นทางมรณะเหลือง…สมชื่อของมันโดยแท้! ด้วยความ
แกร่ งกล้าของพวกเราคงตายอย่างไม่ตอ้ งสงสัย!”
“แต่พวกเราก็มาถึงที่นี่แล้ว หากไม่เข้าไปแล้วจะเอา
สมบัติออกมาได้อย่างไร? บางทีสมบัติเหล่านั้นอาจพา
พวกเราขึ้นสวรรค์ได้ในอึดใจเดียว!”

“ครั้งล่าสุ ดที่เข้ามาในแดนราชามังกร บุคคลที่ได้รับ


ผลประโยชน์ยงิ่ ใหญ่ที่สุดก็คือ ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญ เขา
ได้รับขุมสมบัติสุดท้าทายสวรรค์ในที่แห่งนี้”

สิ บปี ก่อนที่เข้ามาสารวจภายในนี้ ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญยัง


เป็ นเพียงนายพลสังหารเท่านั้น แต่เขากลับเป็ นคนที่โชคดี
ที่สุด ดัง่ ทะยานขึ้นสู่ สรวงสวรรค์ในหนึ่งอึดใจอย่าง
แท้จริ ง เขาค้นพบสมบัติอนั ท้าทายสวรรค์บนเส้นทาง
มรณะเหลือง

แม้เขามิใช่คนที่แข็งแกร่ งที่สุดในเวลานั้น แต่เขาเป็ นคน


สุ ดท้ายที่หวั เราะดังที่สุด

มีตวั อย่างให้เห็นเป็ นทนโท่ แล้วพวกเขาเหล่านี้ จะไม่


อิจฉาได้อย่างไร?
เว้นเสี ยแต่ชื่อเสี ยงด้านภัยอันตรายของเส้นทางมรณะ
เหลืองเอง พวกเขาก็ประจักษ์ชดั แจ้งยิง่ และแม้จะไม่
ทราบว่าอันตรายแบบใดที่รอพวกเขาอยู่ แต่โครงกระดูกที่
เกลื่อนกลาดตามพื้นก็พิสูจน์อะไรหลายๆอย่างได้ตาตา!

ในเวลานี้ กระทั้งใครบางคนที่ทรงพลังพอๆกับจ้งอูไ้ ป๋ ก็
ยังไม่กล้าย่างก้าวออกไปเช่นกันในเวลานี้

เห็นได้ชดั ว่า บนเส้นทางมรณะเหลืองมันน่ากลัวกว่าที่


เห็นด้วยตาเปล่ามาก หากใครต้องการพิชิตเส้นทางมรณะ
เหลืองนี้ จาต้องมีความมัน่ ใจที่ยงิ่ ใหญ่มาก
“หลีกทาง! หลีกทาง! พวกท่านมัวยืนทาอะไรกันตรงนี้?
หากพวกท่านไม่ไปงั้นข้าจะไปเอง! อย่าเกะกะขวางทาง!”

สุ่ มเสี ยงสุ ดราคาญของเย่หยวนดังขึ้นจากข้างหลัง ทุก


สายตาต่างหันไปจับจ้องต้นเสี ยงกันเป็ นตาเดียว

โดยไม่รู้เนื้อรู ้ตวั ทันทีที่พวกเขาเห็นว่าเป็ นเย่หยวน


ทั้งหมดพลันถอยเปิ ดทางให้เย่หยวนกันอย่างพร้อมเพรี ยง
เย่หยวนนานายพลสังหารของซื่อหยินทั้งหมดตรงเข้ามา
และยืนเบื้องหน้าเส้นทางมรณะเหลือง
เมื่อมองดูภาพฉากนี้สีหน้าของจ้งอูไ้ ป๋ พลางมืดลงเล็กน้อย
เป็ นที่ชดั เจน เขานึกไม่ถึงเลยว่า เย่หยวนจะกล้าออกไป
เป็ นคนแรก

อย่างไรก็ตาม การที่เย่หยวนตัดสิ นใจโดยไม่ลงั เลเช่นนี้


มันเกินความคาดหมายของทุกคนยิง่ !

ไร้ซ่ ึงลีลารั้งรอใดๆ เย่หยวนก้าวเท้าแรกออกไปอย่างเด็ด


เดี่ยวพร้อมสื บเท้าอีกข้างตามมา และลงยืนบนเส้นทาง
มรณะเหลืองโดยตรง!
ดัง่ ห้วงเวลาหยุดชะงัก หัวใจทุกคนบีบแน่นด้วยความ
ระทึกขั้นรุ นแรง พร้อมคานึงคิดโดยไม่สมัตรใจว่า จาต้อง
มีบางอย่างเกิดขึ้นเป็ นแน่!

แต่กระนั้น…มันกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

เส้นทางมรณะเหลืองไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบ มันยังคงสงบ
นิ่งประหนึ่ งก่อนหน้าไม่แปรเปลี่ยน!
เส้นใยพลังปราณสุ ดเหนียวแน่นนับไม่ถว้ นพวยพุ่ง
ออกมา พร้อมเข้าควบคุมเหล่านายพลสังหารของซื่อหยิน
ทั้งหมด ดัง่ ปราถนาเชิงหุ่น ซึ่งพวกเขาแต่ละคนก็ไม่กล้า
ใช้พลังปราณใดๆเพื่อต่อต้านแม้แต่นอ้ ย

ในเวลานี้ร่างกายของพวกเขาทุกคนถูกเย่หยวนควบคุม
โดยสมบูรณ์ เส้นใยพลังปราณนับไม่ถว้ นพึงบรรจบเป็ น
ห้าเส้นใหญ่พร้อมเชื่อมต่อกับห้านิ้วบนมือของเย่หยวน

เย่หยวนนากลุ่มคนทั้งหมดของตนเดินลงมายังเส้นทาง
มรณะเหลืองต่อทันที!
มันปลอดภัย! และยังคงปลอดภัยอยู!่

บนเส้นทางมรณะเหลืองแห่งนี้ ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย!

“เร็ วเข้า! เดินตามไปเร็ ว!”

ทุกคนต่างตอบสนองกันอย่างฉับไว พร้อมกระโดดลงไป
ยังเส้นทางมรณะเหลืองตามรอยเท้าของพวกเย่หยวน
ฟู่ วว!

ในทันทีทนั ใด จู่ๆเปลวไฟเดือดก็โหมไหม้และเผาร่ างนัก


สู ้จานวนหนึ่งที่ลงไปทั้งเป็ นจนเหลือแค่เพียงเถ้าถ่าน

ท่วงท่าการเคลื่อนไหวของเย่หยวนภายในเส้นทางมรณะ
เหลืองนี้ลึกล้ าซับซ้อนยิง่ หากใครไม่มีความชานาญใน
ศาตร์แห่งค่ายกลจริ งๆ ก็ไม่มีทางลอกเลียนตามได้เลย

พวกเขาคิดเพียงว่า คงเป็ นเรื่ องดีหากเดินตามรอยเท้า


ของเย่หยวนไป แต่ผลสุ ดท้ายกลับกลายเป็ นโศก
นาฎกรรมไปโดยปริ ยาย
เมื่อจ้งอูไ้ ป๋ เห็นเหตุการณ์ต่อหน้าต่อตา สี หน้าของเขาก็ยงิ่
ดามืดลงอย่างรวดเร็ ว ในทีแรกเขาเองก็คิดที่จะเดินตาม
รอยเท้าเย่หยวนบนเส้นทางมรณะเหลืองเช่นกัน ทว่าเขาก็
ยังอดทนจนเสี้ ยวอึดใจสุ ดท้าย

หากตามรอยเท้าแล้วเดินฝ่ าไปได้จริ งๆ มันไม่ง่ายเกินไป


หน่อยรึ ?

และก็เป็ นอย่างที่คาดไว้ เส้นทางมรณะเหลืองแห่งนี้ไม่


สามารถข้ามผ่านไปได้โดยวิธีลอกเลียนโง่ๆ มิเช่นนั้นมัน
จะถูกเรี ยกว่า เส้นทางมรณะเหลืองได้อย่างไร?
ตอนที่907 เหตุผันแปรปัญหาหน้ าน่ านน้า

เย่หยวนไม่กล้าผันผ่อนคลายแม้เสี้ ยวอึดใจหนึ่ ง

หากเขาเดินบนนี้คนเดียวก็ไม่เท่าไหร่ แต่ในมือของเขายัง
มีอีกหลายชีวิตที่ตอ้ งแบกรับ!

เขาต้องควบคุมการวางเท้าของแต่ละคนอย่างแม่นยา กระ
ทั้งความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดย
เด็ดขาด

หนึ่งอาจกล่าวได้วา่ เขากาลังควบคุมหลายสิ บชีวิตให้เดิน


บนเส้นด้ายระหว่างความเป็ นความตาย
มีเพียงพลังจิตวิญญาณอันท้าทายสวรรค์ยงิ่ ของเย่หยวน
เท่านั้น ที่สามารถพยุงสถานการณ์ปัจจุบนั ให้เดินหน้า
ต่อไปได้

เส้นทางมรณะเหลืองแห่ งนี้ มีชื่อเสี ยงลือเลื่องมากมายยิง่


ซึ่งมันแตกต่างจากค่ายกลอื่นๆที่เย่หยวนเคยพบเจอมา
โดยสิ้ นเชิง

บนเส้นทางสายนี้ มีค่ายกลบรรพกาลกว่าหนึ่งโหลถูก
ติดตั้งไว้อยู!่

ไม่เพียงพวกมันทางานสอดผสานอย่างลงตัว แต่ทุกๆก้าว
ที่ยา่ งออกไปกลไกของค่ายกลทั้งหมดพลันผันเปลี่ยนไป
ตามในพริ บตา และเป็ นเช่นนี้ตลอดทาง
เย่หยวนต้องหาเส้นทางใหม่ให้พวกเขาก้าวเดินทุกครั้ง
และทุกย่างก้าวของแต่ละคนก็ไม่มีครั้งไหนเหมือนกันเลย

สาหรับเหล่านักสู ้คนอื่นๆที่ตอ้ งการพิชิตเส้นทางมรณะ


เหลืองนี้ หากฝี มือไม่ได้ครึ่ งของเย่หยวน นั้นก็เป็ นเพียง
ฝันกลางวันของคนโง่!

เผชิญกับค่ายกลบรรพกาลมากมายที่ทางานไร้รูปแบบที่
แน่นอน สติสมาธิของเย่หยวนจาต้องจดจ่อไม่ปรนผ่อน
ตามที่เย่หยวนคาดเดาเป็ นนัยๆ ค่ายกลทั้งหมดนี้ควรเป็ น
ค่ายกลของเผ่ามังกร เย่หยวนไม่สามารถควบคุมมันได้
อย่างอิสระดัง่ ในอดีต

เช่าไค อาเหริ่ นและคนอื่นๆที่เหลือล้วนเหงื่อนแตกพลัก่


ไม่หยุด ทั้งหมดต้องจดจ่ออย่างหนักหลังจากที่ถูกเย่
หยวนควบคุม เพื่อมิให้พลังปราณภายในร่ ายหลุดรอด
ไหลเวียนออกมาสกัด

เสี ยงโหร้องอันแสนเวทนาเมื่อครู่ ประจักษ์ชดั ก้องสองรู


หู ด้วยความแข็งแกร่ งของพวกเขา หากถูกค่ายกลนี้จู่โจม
เมื่อใด นั้นเท่ากับเส้นทางสู่ ความตายอย่างไม่อาจเลี่ยง
หลีก
อย่างไรก็ตาม สิ่ งที่ทาให้พวกเขาประหลาดใจที่สุดคือ เย่
หยวนสามารถทาหลายสิ่ งที่คาดไม่ถึงได้จริ งๆ!

สิ่ งหนึ่ งที่ควรทราบก็คือ แค่การควบคุมคนอื่นดัง่ หุน้ เชิด


ให้แม่นยาเรี ยกได้วา่ ต้องใช้สมาธิอย่างมากแล้ว แต่นี่ตอ้ ง
แยกประสาทเดินในส่ วนของตนเองและควบคุมผูค้ นนับ
สิ บให้เดินในเส้นทางที่ถูกต้อง เย่หยวนไปเอาพลังจิต
วิญญาณและสมาธิมาจากไหนเยอะแยะ? นี่ยงั ไม่รวมถึง
ความสามารถในศาสตร์แห่งค่ายกลอันน่าทึ่งนั้นอีก?
ในมุมมองของพวกเขา นี่เป็ นเรื่ องที่ไม่มีทางเป็ นไปได้เลย

แต่เย่หยวนในตอนนี้ กลับสามารถประคองสถานการณ์ได้
จริ งๆ!

“โม่ซ่าง พวกเราไปกันเถอะ!”

ในขณะนั้นเอง จ้งอูไ้ ป๋ ที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดก็เอ่ยปาก


ขึ้นในที่สุด
โม่ซ่างอดสะดุง้ เบาๆมิได้ก่อนหมุนตัวกล่าวตอบว่า

“ตอนนี้เลยงั้นรึ ?”

พวกเขาเหล่านี้ไม่นึกไม่ฝันเช่นกันว่า ความสามารถใน
ศาสตร์แห่งค่ายกลของเย่หยวนจะท้าทายสวรรค์เช่นนี้ เขา
ยังคงนาพากลุ่มคนของตนข้ามผ่าเส้นทางมรณะเหลืองได้
อย่างต่อเนื่องไร้ปัญหา!
อย่างไรก็ตาม หากพวกจ้งอูไ้ ป๋ ลงไปในเส้นทางมรณะ
เหลืองในตอนนี้ ค่ายกลต่างๆภายในนั้นย่อมส่ งผล
กระทบต่อเย่หยวนแน่นอน!

“ถูกต้อง! ข้าอยากจะเห็นเสี ยจริ งว่า เจ้าหนุ่มนั้นจะมี


ปัญญาเอาตัวรอดได้มากแค่ไหน!”

จ้งอูไ้ ป๋ กล่าวขึ้นอย่างเย้ยหยัน

นายพลสังหารภายใต้บญั ชาของผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร มี


เพียงแปดคนเท่านั้น แต่จุดแข็งของพวกเขาทั้งแปดกลับ
มิได้เล็กน้อยเลย
นอกจากนี้ผสู ้ ู งส่ งจอมสังหารก็เตรี ยมการมาอย่างดี
สาหรับการเดินทางในคราวนี้ รวมไปถึงวิธีฝ่าค่ายกล
เช่นกัน

เพียงว่าระบบการทางานของค่ายกลเหล่านี้ดูท่าจะเลวร้าย
กว่าที่พวกเขาจิตนาการเอาไว้!

แต่สาหรับผูค้ นในลานประลองอสู ร คาว่าเลวร้ายมันผ่าน


หูผา่ นตามากเกินจะนับแล้ว

จ้งอูไ้ ป๋ กระโดดลงสู่ เส้นทางมรณะเหลืองโดยตรง


ฟู่ ว ฟู่ ว ฟู่ ว…

ไร้ซ่ ึงความกลัวไร้ซ่ ึงความตาย สองเท้าพลันสัมผัสบน


เส้นทางทันทีดว้ ยใจเด็ดเดี่ยว

อีกเจ็ดคนกระโดดตามหลังมาติดๆโดยไม่ลงั เลแม้แต่นอ้ ย
เช่นกัน

เปลวเพลิงเดือดโหมปะทุพร้อมเข้ากลืนกินพวกเขาทั้ง
แปดในทันที แต่คนอื่นๆล้วนทราบดีวา่ พวกจ้งอูไ้ ป๋ ไม่มี
ทางทิ้งชีวิตลงในเปลวเพลิงเดือดเหล่านี้ง่ายๆเป็ นแน่
ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเป็ นผูม้ ีรากฐานหยัง่ ลึดที่สุดในบรรดา
สิ บสองผูส้ ู งส่ ง เนื่ องจากเขาทราบดีอยูแ่ ล้วว่า เบื้องหน้ามี
เส้นทางมรณะเหลืองรออยู่ แล้วเขาจะไม่ทิง้ ไพ่ตายให้แก่
จ้งอูไ้ ป๋ เลยรึ อย่างไร?

ลาแสงประกายสุ ดเยือกเย็นทะลุเปลวเพลิงแปดทิศสิ บทาง


กระจายสาดส่ อง ไอเย็นดุจทะลุจุดศูนย์เข้าปกคลุม
บรรยากาศโดยรอบในทันที!

“กรงนกน้ าแข็งธารเลิศ! สวรรค์! ท่านผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร


มอบเครื่ องรางเทวะธาตุน้ าแข็งระดับสู งให้แก่พวกเขา!”
เมื่อทุกคนเครื่ องรางชนิดนี้บนมือจ้งอูไ้ ป๋ ต่างพากันอุทาน
ดังลัน่

กรงนกถูกเปิ ดออก ปรากฏเป็ นนกพิราบสี ขาวบริ สุทธิ์


มากมายบินว่อน เกลียวคลื่นปราณน้ าแข็งสุ ดยะเยือก
ค่อยๆก่อ ตัวขึ้น และฉี กเปลวเพลิงเดือดโดยรอบจนดับ
มอด!

ฟู่ ว ฟู่ ว ฟู่ ว…


ค่ายกลทั้งหมดในเส้นทางมรณะเหลืองล้วนทางานสอด
ผสานพร้อมเพรี ยงอยูต่ ลอด ในขณะนี้ยอดฝี มือทั้งแปด
ต่างจับกลุ่มรวมกันให้อยูภ่ ายใต้รัศมีเกลียวคลื่นปราณ
น้ าแข็งนี้

เปลวเพลิงเดือดเหล่านั้นมุ่งตรงไปยังเบื้องหน้า ทางทิศเย่
หยวนต่อเนื่องทันที!

เมื่อรู ้สึกถึงไอร้อนที่แผดเผาอยูเ่ บื้องหลัง กลุ่มนายพล


สังหารของซื่อยหยินพลันสะท้านยันหัวใจด้วยความ
หวาดกลัว
“เจ้าหนุ่ม เจ้ายังอ่อนด้อยเกินไปที่จะต่อกรกับข้า! ข้าอยาก
เห็นเสี ยจริ งว่า เจ้าจะรับมือกับเปลวเพลิงเดือดเหล่านี้
อย่างไร!”

จ้งอูไ้ ป๋ กล่าวขึ้นด้วยน้ าเสี ยงสุ ดเย็นชา

หยัง่ ทราบความคิดที่เริ่ มสั่นคลอนของทุกคนได้ในบัดดล


เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยเสี ยงอันเคร่ งขรึ มว่า

“จงเพ่งสมาธิให้มนั่ ในทุกขณะจิต จงนิ่ งสงบไม่ไหวติง! มิ


เช่นนั้นตายกันหมด!”
เมื่อได้ยนิ คากล่าวของเย่หยวน หัวใจทุกคนพลันสั่น
สะท้านก่อนรี บดึงสติกลับมาโดยไว กระทั้งร่ างกายของ
พวกเขายังไม่กล้าขยับแม้แต่นิดเดียว

ณ จุดนี้นอกเหนื อจากเลือกที่จะเชื่อเย่หยวน พวกเขาก็ไม่


มีหนทางอื่นอีกแล้ว

แทนที่จะปลดปล่อยจิตใจให้วา้ วุน่ สู ้สงบสติอารมณ์และ


ปล่อยให้เย่หยวนควบคุมไปโดยง่ายไม่ดีกว่ารึ ?

ฝี ไม้ลายมือของเย่หยวน พวกเขาประจักษ์ชดั แจ้งมานัดต่อ


นัดแล้ว บางทีในคราวนี้เขาอาจสร้างปาฎิหาริ ยไ์ ด้อีกครั้ง?
นิ้วทั้งห้าของเย่หยวนเริ่ มเคลื่อนไหวเร็ วขึ้นอย่างเห็นได้
ชัด พร้อมสื บเท้าก้าวไปข้างหน้าอย่างว่องไว

ความเร็ วของเย่หยวนเร่ งเป็ นสองเท่าทวีในหนึ่งอึดใจ

อย่างไรก็ตาม ตัวเย่หยวนเองจาต้องจ่ายราคาที่เหมาะสม
เช่นกัน ทั้งพลังจิตวิญญาณและพลังปราณจาต้องเพิ่ม
ภาระเป็ นสองเท่า!

“ทุกคนตามไปเร็ ว! ไม่วา่ อยูห่ รื อตาย พวกเราจาต้องพึ่งพา


วิธีของตนเอง!”
เมื่อเห็นว่าพวกจ้งอูไ้ ป๋ และกลุ่มของเย่หยวนลงมาใน
เส้นทางมรณะเหลืองกันหมดแล้ว พวกที่เหลือเองก็ไม่
อาจทนได้อีกต่อไป ทุกคนต่างพากันกระโดดลงมาอย่าง
รวดเร็ ว

แม้พวกจ้งอูไ้ ป๋ จะทรงพลัง แต่น้ นั มิได้หมายความว่ายอด


ฝี มือจากพรรคสังกัดอื่นจะอ่อนแอเช่นกัน นอกจากนี้ ก่อน
เข้าสู่ แดนราชามังกร ผูส้ ู งส่ งคนอื่นๆก็ตระเตรี ยมหนทาง
ไว้แล้วเช่นกัน

ประหนึ่งทุกคนกาลังข้ามแปดพิภพสิ บสมุทร แต่ละฝ่ าย


ต่างงัดเอาความสามารถและของวิเศษออกมาไม่ซ้ าหน้า
ของวิเศษบินว้อนกลางนภากาศมากมายหลากสี สัน
สิ่ งของที่ดอ้ ยที่สุดในที่แห่งนี้เห็นจะเป็ นเครื่ องรางเทวะ
ระดับต่า

ดูเหมือนว่า การเข้าสู่ แดนราชามังกรในครั้งนี้ ผูส้ ู งส่ งแต่


ละคนจะงัดเอาทีเด็ดออกมาหมดหน้าตัก

มีตวั อย่างให้เห็นเฉกเช่นผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญ เกรงว่าที่นี่คง


ไม่อาจสงบได้อีกต่อไป
แต่การระดมใช้ของวิเศษมากมายขนาดนี้ในคราเดียว ดู
เหมือนจะเป็ นไปกระตุน้ เพลิงโทสะของค่ายกลขนาด
มหึ มาเข้าโดยตรง! พร้อมส่ งบทลงโทษลงมาในทันใด!

เปรี๊ ยงงง!

แสงอัสนีพิโรธโฉบแล่นคารนลัน่ ส่ งสายฟ้าอันทรงพลัง
ดัง่ ทัณฑ์สวรรค์ฟาดเข้าใส่ ของวิเศษของทุกคนโดยตรง

ของวิเศษชิ้นใดระดับชั้นต่าล้วนถูกทาลายเป็ นเสี่ ยงๆ


ทันที!
“อ๊ากกก!”

ครู่ หนึ่งให้หลัง เสี ยงร้องคร่ าครวญสุ ดน่าสังเวชดังระงม


โดยทัว่

เส้นทางมรณะเหลืองแห่ งนี้ กลายมาเป็ นสุ สานของเหล่า


ยอดฝี มือแห่ งลานประลองอสู รไปแล้ว

เสี ยงร้องสุ ดน่าสังเวชนี้ดงั ก้องชัดเจน เช่าไคและที่เหลือ


ต่างพากันขนลุกขนชันขึ้นทัว่ ร่ าง
ทันใดนั้น พวกเขาก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า เย่หยวนเพิ่ม
ความเร็ วขึ้นอีกครั้ง

เช่าไคอดที่จะกรนด่าเย่หยวนอย่างลับๆด้วยความตกใจ
มิได้

ทว่าสี หน้าท่าทางของเย่หยวนกลับดูมิได้ตกใจแม้แต่นอ้ ย
เลย ขนขายันหนังศีรษะของพวกเขาชูชนั ตั้งโด่ แต่เย่
หยวนกลับขนไม่ลุกเลยสักเส้น

ใต้แผ่นเท้าเย่หยวนยังคงเคลื่อนด้วยความเร็ วและยังเร็ ว
ขึ้นต่อเนื่องไม่หยุด แม้แต่นิ้วทั้งห้าของเขาเองยังขยับเร็ ว
ขึ้นตามจังหวะเช่นกัน!
เช่าไคอดตื่นตะลึงมิได้เมื่อได้เห็น พวกเขาไม่เพียงมิได้รับ
ผลกระทบจากการโจมตีของค่ายกลนับไม่ถว้ นเท่านั้น แต่
ระยะห่างระหว่างพวกเขาและมันยังค่อยๆกว้างขึ้นจนเห็น
ได้ชดั

แท้ที่จริ งแล้ว ความเร็ วของเย่หยวนในขณะนี้เหนือชั้นยิง่


กว่าจ้งอูไ้ ป๋ มาก!

เหตุการณ์เช่นนี้เป็ นไปได้อย่างไร?
สิ่ งหนึ่ งที่ควรทราบคือ เย่หยวนในตอนนี้ตอ้ งทาหลายสิ่ ง
อย่างในเวลาเดียวกัน แถมยังมีผลกระทบจากคนอื่นๆพุ่ง
ไล่หลังตามกดดันมาติดๆอีก

ทว่าภายใต้สถานการณ์อบั จนเช่นนี้ แทนที่ความเร็ วของเย่


หยวนจะลดลง แต่มนั กลับเพิ่มขึ้นและเพิม่ ขึ้นอย่างก้าว
กระโดด! นี่มนั ไม่ทา้ ทายสวรรค์เกินไปหน่อยรึ ?

จ้งอูไ้ ป๋ ในขณะนี้เองก็รู้สึกไม่พอใจอย่างที่สุด สายตาของ


เขาจับจ้องแผ่นหลังของเย่หยวนที่ไกลลิบออกไป พร้อม
ใบหน้าสุ ดบิดเบี้ยวน่าเกลียดเกินพรรณนา
ตอนที่908 กินฝุ่ น

เหล่านักสู ้ทยอยเข้าสู่ เส้นทางมรณะเหลืองมากขึ้นเรื่ อยๆ


นั้นยิง่ ทาให้พลังของค่ายกลสู งขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

นอกเหนือจากเปลวเพลิงแล้ว ก็ยงั มีการโจมตีอีกนานา


ชนิดหลากสี สันครบรู ปแบบ

บางครั้งบางคราวบนเส้นทางมรณะเหลืองดัง่ วิปลาส
โกลาหลสุ ดพรรณไม่
จ้งอูไ้ ป๋ ไล่สาปแช่งไม่หยุดอยูภ่ ายในใจ เขาอยากจะฆ่า
สหายเหล่านี้ท้ งั หมดให้ตายสิ้ น

ทว่าเวลานี้สมาธิและพลังจิตวิญญาณทั้งหมดจาต้องจดจ่อ
อุปสรรคตรงหน้า ไม่มีเวลาพอมาจัดการผูค้ นเหล่านี้ได้
เลย

แม้กรงนกน้ าแข็งธารเลิศจะเป็ นถึงเครื่ องรางเทวะ


ระดับสู ง แต่ยงิ่ ผูค้ นทยอยกันเข้ามาและเดินผิดๆถูกๆ การ
โต้กลับของค่ายกลก็เดือดดุไม่นอ้ ยเช่นกัน เรี ยกได้วา่
สร้างปัญหาอย่างแท้จริ ง
ในคราแรก จ้งอูไ้ ป๋ และทั้งเจ็ดยังมีพละกาลังเหลือใช้
พอสมควร แต่ต่อมาภายใต้สถานการณ์เฉกเช่นนี้ พวกเขา
ทั้งแปดจาต้องชะลอช้าลงเช่นกัน

ในทางตรงกันข้าม ความเร็ วของเย่หยวนมีแต่เพิ่มขึ้นและ


เพิ่มขึ้นเป็ นทบทวี ด้วยสภาวะจิตภูผาไร้ประมาท มันทา
ให้เขาสามารถควบคุมสถานการณ์ได้รอบด้าน!

เย่หยวนทราบดีวา่ ภายใต้สถานการณ์สุดกดดันเช่นนี้ มัน


ยิง่ เป็ นผลต่อการพัฒนาให้จิตภูผาไร้ประมาททะลวงผ่าน
ปัญหาคอขวด
หากนามาเปรี ยบเทียบกับระดับพลัง เย่หยวนในปั จจุบนั
น่าจะบรรลุถึงจิตภูพาไร้ประมาทขั้นกลางได้แล้ว

หลังเข้าสู่ สภาวะจิตภูพาไร้ประมาท ความสามารถในการ


วิเคราะห์ของเขาก็ดีข้ นึ ทันตา นั้นทาให้ความเร็ วในการ
แกะรหัสค่ายกลเพิม่ สู งขึ้นตามไปด้วย ทั้งหมดนี้ลว้ นเป็ น
ค่ายกลบรรพกาลอันลึกลับก็จริ ง แต่ยงิ่ แกะรหัสมันมาก
เท่าไหร่ เย่หยวนก็เริ่ มคุน้ ชินกับมันมากขึ้นแล้วเช่นกัน

ด้วยเหตุน้ ี นี่ จึงยิง่ ทาให้ความเร็ วของเย่หยวนเพิ่มขึ้นโดย


ธรรมาชาติ
เส้นทางมรณะเหลืองนี้ มีระยะทางประมาณเจ็ดลี้เศษ และ
ด้วยความเร็ วของเย่หยวน อีกเพียงไม่กี่อึดใจเขาก็จะถึง
ปลายทางแล้วในไม่ชา้

ฟู่ ว! ฟู่ ว! ฟู่ ว!

ร่ างสายหนึ่งของเย่หยวนกระโจนออกจากเส้นทางมรณะ
เหลืองได้สาเร็ จ ก่อนวาดมือห้านิ้วคล้องควบคุมพัลวัน
และดึงส่ วนที่เหลือขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย
“พี่ใหญ่เย่ ท่านช่างน่าเหลือเชื่อโดยแท้! ข้าขอเทอดทูน
ท่านจนกว่าชีวิตจะหาไม่!”

อาเหริ่ นกระโดดลิงโลดด้วยความตื่นเต้นดีใจ

เช่าไคจับจ้องเย่หยวนอยูค่ รู่ หนึ่ ง ในเวลานี้สายนั้นส่ งผ่าน


ด้วยความไม่อยากจะเชื่อเช่นกันพลางกล่าวว่า

“เย่หยวน เจ้า…เจ้าบรรลุขอบเขตจิตวิญญาณแล้ว?”
ขึ้นชื่อว่าเย่หยวน การที่เขาบรรลุขอบเขตจิตวิญญาณได้
ไม่นบั เป็ นเรื่ องแปลกเท่าไหร่ นกั แต่การที่เขาบรรลุได้ใน
ระหว่างเหตุการณ์เป็ นตายเช่นนี้ มันทาให้เขาตกตะลึง
อย่างอดมิได้

หางตาเหลือบมองจ้งอูไ้ ป๋ เล็กน้อย เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วย


รอยยิม้ เจือขบขันว่า

“ทั้งหมดต้องขอบคุณหัวหน้าจ้ง และหากเรามิได้ตอบ
แทนอันใดคงเสี ยมารยาทน่าดู?”
เย่หยวนจงใจกรอกเทพลังปราณเพื่อทาให้เสี ยงของเขาดัง
ทะลุผา่ นทัว่ ทั้งค่ายกล พร้อมส่ งประเคนเสี ยงถึงรู หูทุกคน
ในทันใด

ทันทีที่จง้ อูไ้ ป๋ ได้ยินเช่นนั้น สี หน้าท่าทางพลันผันเปลี่ยน


อย่างมาก

เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า เย่หยวนจะสามารถพิชิต
เส้นทางมรณะเหลืองได้จริ งๆ แถมยังได้รับกาไรระหว่าง
ทางไปอีก

เย่หยวนหมุนตัวกลับไปยังฝังเส้นทางมรณะเหลืองพร้อม
แสยะยิม้ แปลกๆ
ทันใดนั้นเย่หยวนก็ยกสองมือขึ้นและขยับนิ้วไปมาราว
กับกาลังร่ ายอะไรบางอย่าง ตราผนึกขึ้นก่อรู ปและบินตรง
ไปยังค่ายกลทันที

ตลอดทางที่ไล่ถอดรหัสต่อเนื่องไม่หยุด ในที่สุดเย่หยวน
ก็คนุ ้ เคยกับค่ายกลบรรพกาลเหล่านี้มากขึ้นแล้ว

เพียงเย่หยวนลงมือเล็กน้อย แต่ค่ายกลทั้งหมดพลัน
ตอบสนองอย่างรุ นแรง ประหนึ่งเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่

ทันใดนั้น การตอบโต้ของค่ายกลก็ยิ่งทวีความรุ นแรงขึ้น


หลายเท่าตัว!
ผลกระทบแพร่ กระจายออกเป็ นวงกว้าง ทุกคนได้รับ
ผลกระทบทั้งหมด เสี ยงกรี ดร้องสุ ดแสนเวทนาดังระงม
ขึ้นอีกระรอก

แผนการเตรี ยมพร้อมมานับสิ บปี ของเหล่าผูส้ ู งส่ ง เป็ น


ตายกลับขึ้นอยูใ่ นมือเย่หยวนแล้ว

บูมมม บูมมม บูมมม!


การตอบโต้ชุดใหญ่ของค่ายกลระเบิดไม่หยุด นั้นส่ งผล
ให้นกั สู ้จานวนหนึ่งตายลงทันที แม้แต่ฝ่ายจ้งอูไ้ ป๋ ยังพ่าย
ลงถึงสามคนเช่นกัน

พวกเขาทั้งหมดที่อยูใ่ นนี้ลว้ นเป็ นนักสู ้ระดับแนวหน้า


ทั้งสิ้ น!

เพียงว่าสภาพของนักสู ้ระดับแนวหน้านี้ดูไม่จืดเลยสักคน
ในปัจจุบนั นอกเหนือจากยอดฝี มือระดับจ้งอูไ้ ป๋ แล้ว คน
อื่นๆล้วนตกอยูใ่ นสภาวะวิกฤตทั้งสิ้ น

การสารวจภายในนี้ยงั เดินทางไม่ถึงครึ่ ง ทว่ากลับมิใช่


เรื่ องง่ายหากพวกเขาต้องการข้ามฝ่ าอุปสวรรคเหล่านี้ไป
ไม่มีโอกาสแม้แต่กรนด่าสาปแช่ง มือเท้าของจ้งอูไ้ ป๋ ใน
ขณะนี้พลั วันรับมือเภทภัยแปดทิศสิ บทางแทบไม่หวาด
ไม่ไหว

มุมปากพลันกระตุกยิม้ เย็น เย่หยวนกล่าวอย่างขบขันว่า

“ปล่อยให้พวกเขาเล่นไปก่อนแล้วกัน พวกเราไปล่า
สมบัติกนั เถอะ!”
“ฮ่าฮ่า กลุ่มสหายเหล่านี้ กล้าทาตัวเย่อหยิง่ ต่อหน้าหัวหน้า
เย่ จาต้องตอบแทนอย่างเหมาะสม อย่าหวังสมบัติติดมือ
ไปเลย กินฝุ่ นไปเถอะ!”

นั้นเป็ นอาเหริ่ นที่ระเบิดเสี ยงหัวเราะร่ า พร้อมเดิน


ตามหลังเย่หยวนไกลลับออกไป

เท่าที่วิเคราะห์ดูแล้ว เส้นทางมรณะเหลืองควรจะเป็ น
วิหารด่านที่สองเห็นจะได้

แต่เพียงแค่น้ ี ต่างก็ทาให้ทุกคนกระตือรื อร้นโลภยิง่ แล้ว


พวกเขาทราบกันดีวา่ ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญเคยได้รับสมบัติ
จากที่แห่ งนี้ไป นั้นเป็ นดัง่ การกระโดดขึ้นสู่ สวรรค์ในอึด
ใจ จากนายพลสังหารธรรมดาทัว่ ไปกลายมาเป็ นผูส้ ู งส่ ง
ได้ในทันที

“ไปต่อกันเถอะ!”

เย่หยวนกล่าว

ลักษณะท่าทางของทุกคนในขณะนี้ต่างดูตื่นเต้นกันอย่าง
มาก พวกเขายิม้ แย้มแจ่มใสตลอดทาง
เดินทางลึกลงไปสักครู่ ใหญ่ เบื้องหน้าปรากฏเป็ นตาหนัก
แห่งหนึ่ง ทุกคนไม่แช่มช้าเข้าไปในตัวตาหนักอย่าง
รวดเร็ ว เย่หยวนกวาดสายตาเข้าสังเกตโดยรอบ และไม่มี
จุดบริ เวณใดสะดุดตาเลย

เพียงว่านี่เป็ นแค่ช้ นั แรกของตาหนักเท่านั้น เกรงว่ากลุ่ม


คนที่มาสารวจในอดีตคงฉกฉวยสมบัติกนั ไปหมดแล้ว

“เครื่ องรางเทวะระดับสู ง!”

มีใครบางคนร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้น
แท้ที่จริ งแล้ว แม้เขาผูน้ ้ นั จะไม่ตะโกน ทุกคนเห็นก็เห็น
เจ้าสิ่ งนี้อยูต่ าตา

ตรงมุมหนึ่งของตาหนัก ปรากฏดาบสุ ดล้ าค่าชั้นวางงาม


วิจิตร ประหนึ่งดาบในตานานอันสู งศักดิ์ กลิ่นอายที่แผ่
ไพศาลออกมานั้นเป็ นเครื่ องรางเทวะระดับสู งอย่างไม่
ต้องสงสัย

ดาบงามวิไลเล่มนี้ช่างทรงเสน่ห์เย้ายวนเกินไป จนทาให้
คนที่ตะโกนเมื่อครู่ ไม่อาจอดใจได้อีกพร้อมเคลื่อนไหว
ในทันที
“หยุด!”

เย่หยวนคารามห้ามเสี ยงเข้ม ทัว่ ทั้งร่ างของเขาคนนั้นสั่น


สะท้านพลางชะงักหยุดในทันใด

“หะ–หัวหน้าเย่ มีอะไรงั้นรึ ?”

เขาคนนั้นกล่าวขึ้นด้วยความกลัว
เย่หยวนเพียงหยิบกิ่งไม้แห้งและโยนออกไปตรงหน้า
ทันใดนั้นประหนึ่ งเงาภูตผีสายหนึ่งโฉบวาบอย่างน่าสะ
พรึ ง กิ่งไม้แห้งนั้นพลันสลายกลายเป็ นไอโดยตรง

ลูกตาดาหดเล็กเท่ารู เข็มด้วยความกลัว เหงื่อเย็นชุ่มเต็มทัว่


แผ่นหลังเขาคนนั้นในทันใด ตอนนี้เขาทราบแล้วว่า
ตนเองเกือบวิ่งเข้าประตูนรกแล้วรอบหนึ่ ง

“แม้แต่คนโง่ก็รู้วา่ มันคือ เครื่ องรางเทวะระดับสู ง แต่ไฉน


กลุ่มคนที่เข้าสารวจก่อนหน้าถึงไม่หยิบมันกลับไปด้วย?
เจ้าเห็นกองขี้เถ้าตรงนั้นหรื อไม่ นั้นคงเป็ นกองกระดูก
ของเหล่านักสู ้ที่ถูกเปลวเพลิงคลอกตาย ไม่วา่ จะทรงพลัง
ขนาดไหน แต่พวกเขาก็ไม่มีทางได้ดาบล้ าค่าเล่มนี้ไป
เช่นกัน”
เขาคนนั้นถ่มน้ าลายทิง้ ด้วยความโกรธเคืองกับดัก
ตรงหน้า และตระหนักกับตนเองทันทีวา่ ตัวเขาไม่ควร
โลภจนเกินไป

เขาคนนั้นคิดว่าหลังจากที่ขา้ มเส้นทางมรณะเหลืองมาได้
ภายในตาหนักแห่ งนี้คงเหมือนโถงก่อนหน้าที่ไร้ซ่ ึง
อันตรายใดๆ ทว่ากลับคาดไม่ถึง กระทั้งที่แห่ งนี้ ก็ยงั มีกบั
ดักลักซ่ อนอยูท่ วั่ ทุกมุม!

แต่เขาคนนั้นและที่เหลือเองต่างลอบมองเย่หยวนด้วย
ความเลื่อมใส ทั้งๆที่เย่หยวนเพิ่งขึ้นมาในตาหนักนี้พร้อม
กันแท้ๆ แต่กลับช่างสังเกตมองกับดักออกอย่างทะลุปรุ
โปร่ งแล้ว

“เช่นนั้น…เราทาได้แค่ดูอยูเ่ ฉยๆงั้นรึ ?”

เขาคนนั้นกล่าวขึ้นอย่างไม่ค่อยเต็มใจ

การที่มีกบั ดักสุ ดอันตรายอยูร่ ายล้อมขนาดนี้ มันเป็ นที่


ชัดเจนว่า ดาบงามวิไลเล่มนี้ จกั ต้องพิเศษกว่าดาบเล่มอื่นๆ
แน่นอน บางทีอาจมิใช่แค่เครื่ องรางเทวะระดับสู ง
ธรรมดาทัว่ ไป
เมื่อทราบเช่นนี้ แล้วพวกเขาจะเต็มใจปล่อยทิ้งไปได้
อย่างไร?

เครื่ องรางเทวะระดับสู งนั้นหายากยิง่ แม้แต่ในลาน


ประลองอสู รยังไม่ค่อยได้พบเห็น

มีเพียงเหล่าผูส้ ู งส่ งเท่านั้น ที่สามารถครอบครอง


เครื่ องรางเทวะระดับสู งได้ และนับว่าน่าประจับใจยิ่งแล้ว
ที่ชนชั้นนายพลสังหารจะมีเครื่ องรางเทวะระดับกลางไว้
ในครอบครอง
เย่หยวนยิม้ และกล่าวตอบว่า

“เข้ามาขนาดนี้แล้ว แต่จะกลับไปมือเปล่าได้อย่างไร?”

ในขณะที่กล่าว เย่หยวนก็ยา่ งก้าวตรงเข้าหาดาบงามวิไล


เล่มนั้นทันที!

เมื่อทุกคนเห็นเช่นนั้น ใบหน้าของแต่ละคนพลันถอดสี
ในทันใด

“หัวหน้าเย่ อันตราย…”
อาเหริ่ นตะโกนลัน่ ด้วยความหวาดกลัว และพุ่งตัวออกไป
หวังจะดึงเย่หยวนกลับออกมา

แต่ทว่าร่ างเย่หยวนหายวับลับตาอย่างว่องไว สองมือของ


อาเหริ่ นคว้าได้แค่ธาตุอากาศเท่านั้น

เสี้ ยวอึดใจเป็ นตาย ทุกคนต่างลุน้ ระทึกหัวใจบีบแน่นด้วย


ความวิตกขั้นสุ ด พวกเขาถึงกับยกมือมาปิ ดตา เนื่องจาก
ไม่กล้ารับชมภาพฉากต่อจากนี้

เงียบ…
หลังจากปิ ดตาอยูค่ รู่ ใหญ่ พวกเขาต่างรู ้สึกเงียบนิ่งจนผิด
วิสัยจึงค่อยๆลืมตาขึ้นอีกครั้ง ปรากฏว่าเย่หยวนกาลัง
แกว่งดาบงามวิไลเล่มนั้นเล่นอยูไ่ ปมา

ทั้งหมดพลันหันมาสบตากันด้วยความฉงนสงสัย และไม่
ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ไม่วา่ ทรงพลังเพียงใดก็ไม่มีทางหยิบดาบเล่มนี้ได้ แต่


ไฉนดาบนั้นถึงอยูบ่ นมือเย่หยวนให้แกว่งเล่นแล้ว? เขา
เข้าไปเอาได้อย่างไร?
ตอนที่909 แม้ เขาทาไม่ ได้ แต่ มิได้ หมายความว่ าข้ าจะทา
ไม่ ได้ !

“เงื่อนไขกระมัง? แล้วเป็ นเงื่อนไขที่มีแต่ขา้ ทาได้เท่านั้น”

เย่หยวนกล่าวขึ้นอย่างเฉยเมย

เงื่อนไขที่วา่ มันเป็ นแบบเดียวกับที่ใช้กบั ค่ายกล นั้นก็คือ


ชีพจรมังกร

ตราบใดที่เย่หยวนปรับความถี่ของชีพจรมังกรให้
เหนือกว่าเงื่อนไขที่กาหนดได้ ไม่วา่ กับดักร้อยพันสุ ด
อันตรายเพียงใด เขาก็สามารถผ่านมันไปได้อย่างง่ายดาย
แต่ละคนหันเข้าสบตากันไปมา และไม่ทราบเลยว่าพวก
ตนควรกล่าวอันใดต่อไป

ยังมีข้ เี ถ้าจานวนมากกองเต็มพื้น นั้นคือจานวนนักสู ้ที่


พลาดพลั้งลงในที่แห่งนี้ ทว่าในปัจจุบนั เย่หยวน
กล่าวว่า เงื่อนไขนี้ มีเพียงตนเท่านั้นที่สามารถทาได้ แล้ว
จะให้พวกเขากล่าวอะไรอีก?

เย่หยวนผูน้ ้ ี ลึกลับเกินหยัง่ รู ้ ไม่วา่ จะเป็ นเรื่ องยากไร้


หนทางเพียงใด แต่ท้ งั หมดกลับกลายเป็ นเรื่ องง่ายทันทีที่
ถึงมือเย่หยวน
ดุจพลังวิเศษเปลี่ยนเรื่ องราวสุ ดเลวร้ายให้กลายเป็ น
เรื่ องราวสุ ดมหัศจรรย์ สิ่ งเหล่านี้ลว้ นแต่ทาให้ทุกคนรู ้สึก
เลื่อมใสไม่รู้จบ

กระทั้งเช่าไคในเวลานี้ยงั เชื่อมัน่ ในตัวเย่หยวนอย่างสนิท


ใจ

แม้แต่จง้ อูไ้ ป๋ ยังพลาดท่าในมือเย่หยวน แล้วเขายังมีเหตุ


อันใดที่จะไม่ยอมรับอีก?

ดังนั้นการที่ทุกคนปรับลดศีรษะของตนลงและเรี ยกเย่
หยวนว่า หัวหน้า มันจึงมิใช่เรื่ องผิดธรรมชาติแต่อย่างใด
ในทางกลับกัน พวกเขายังรู ้สึกภูมิใจด้วยซ้ าที่ได้ติดตาม
อยูใ่ ต้บญั ชาเย่หยวน
“แค่ก แค่ก.. หัวหน้าเย่ แล้วดาบเล่มนี้มีอนั ใดโดดเด่นเป็ น
พิเศษหรื อไม่?”

“ลองดูเอาเองแล้วกัน”

ยังไม่ทนั สิ้ นเสี ยง เย่หยวนโยนดาบในมือให้แก่อาเหริ่ น


ทันทีอย่างเฉยเมย
ราวกับถือของร้อนในมือ อาเหริ่ นตื่นตระหนกอย่างมาก
และรี บรับดาบเล่มนั้นด้วยความระมัดระวัง เมื่อถือสมบัติ
สุ ดล้ าค่าหาประเมินได้ในมือ ภายในใจเบื้องลึกพลัน
กระหน่าเต้นไม่เป็ นจังหวะ

ชวิง้ !

ดาบงามวิไลถูกชักออกจากฝักพลันประกายแสงคมดาบ
เลิศสง่า จิตสังหารแห่งดาบอันน่าเกรงขามแผ่ขยายปก
คลุมทัว่ ทั้งตาหนักทันที

“สุ ดยอดดาบโดยแท้! สุ ดยอดดาบโดยแท้!”


คลื่นดาบเปล่งงามพิสมัยพวยพุ่ง อาเหริ่ นเก็บดาบเข้าฝัก
ดังเดิมพร้อมกล่าวชื่นชมไม่หยุดปาก

เย่หยวนยิม้ และกล่าวว่า

“ท่านเองก็เป็ นนักดาบใช่หรื อไม่? งั้นเอาดาบเล่มนี้ไปใช้


เถอะ”

“อะ–อะ-…อะไรนะท่าน?”
อาเหริ่ นแทบไม่อยากเชื่อหูตนเอง เขาตะลึงงันจนกล่าว
ติดอ่างไม่เป็ นภาษา

“ข้าบอกว่า ท่านเอาดาบเล่มนี้ไปใช้เถอะ”

“….”
อาเหริ่ นพูดไม่ออกพร้อมอ้าปากกว้างจนกรามค้าง ส่ วน
คนอื่นๆต่างโพลงตาโตเท่าไข่ห่านด้วยความตื่นตะลึงสติ
หลุดไป

นี่คือเครื่ องรางเทวะระดับสู งอันล้ าค่า แต่เย่หยวนกลับยก


ให้คนอื่น ระหว่างทางหัวของเขาไปกระแทกอะไรหรื อ
เปล่า?

ครู่ หนึ่งให้หลัง คนอื่นๆพลันฟื้ นคืนสติกลับมาและจับ


จ้องอาเหริ่ นด้วยท่าทีสุดอิจฉา พลางรู ้สึกเสี ยใจในเวลา
เดียวกัน

หากรู ้เช่นนี้ พวกเขาคงเข้าประจบเย่หยวนแบบอาเหริ่ น


นานแล้ว!
นั้นเป็ นถึงเครื่ องรางเทวะระดับสู งอันทรงคุณค่า!

“พวกท่านไม่จาเป็ นต้องอิจฉาเขาเช่นนั้น หากการ


คาดการณ์ของข้าถูกต้อง ในส่ วนชั้นที่สองของตาหนัก
ควรจะมีขมุ สมบัติอีกมากมายรอเราอยู่ เมื่อถึงตอนนั้น
พวกท่านทั้งหมดย่อมได้รับผลกาไรแน่นอน”

เย่หยวนกล่าวขึ้นอย่างใจเย็น
“พะ–พวกเราทุกคน…จะได้รับเช่นกัน?”

พวกเขาในขณะนี้ไม่ทราบแล้วว่าตนควรกล่าวอันใดต่อ
เย่หยวนผูน้ ้ ี จะใจดีเกินไปแล้วจริ งไหม?

“เย่หยวน นี่มนั …มันเป็ นถึงเครื่ องรางเทวะระดับสู ง! เจ้า


ไม่ตอ้ งการมันจริ งๆรึ ?”

เช่าไคเอ่ยถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“เพียงเพราะของเล่นเหล่านี้มนั ไม่จาเป็ นเลยสาหรับข้า จึง
ยกให้พวกท่านจะดีกว่า แต่ทุกท่านจงสลักจาใส่ ใจ
หลังจากที่กลับออกไปภายนอก ห้ามเปิ ดเผยสิ่ งของ
เหล่านี้ให้ผอู ้ ื่นเห็นโดยง่าย มิฉะนั้นหายนะที่ตามมาอาจ
ร้ายแรงเกินจินตนาการ!”

เย่หยวนกล่าวเตือนอย่างเคร่ งขรึ ม

ทุกคนล้วนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเมื่อได้ยิน เย่หยวนกาลัง
กล่าวดูถูกดูแคลนเครื่ องรางเทวะระดับสู งจริ งๆ!

หากดาบเล่มนี้ถูกแขวนบนโลกภายนอก มันจะต้องชักพา
สมรภูมินองเลือดศึกใหญ่เข้ามาอย่างเลี่ยงมิได้ แต่ใน
สายตาเย่หยวน มันกลับเป็ นเพียงของเล่นเท่านั้น!
ผืนพิภพนี้มนั บ้าไปกันใหญ่แล้ว!

แม้ดาบเล่มนี้จะมิใช่ชนชั้นเลวทราม แต่มนั ก็ยงั อ่อนด้อย


เกินไปหากเทียบกับดาบจ้าวดาราจันทราของเย่หยวน

นอกจากนี้ จิตสังหารแห่งดาบของเครื่ องรางเทวะ


ระดับสู งชิ้นนี้มนั ไม่ค่อยเป็ นที่ถูกใจเท่าไหร่ นกั อนึ่งเป็ น
เพราะยังขาดตกไปมาก ดาบจ้าวดาราจันทรากินขาดอย่าง
ไม่ตอ้ งสงสัย สาหรับเย่หยวน ดาบเล่มนี้ จึงไร้ประโยชน์
แท้ที่จริ งแล้ว ศาสตราวุธที่แข็งแกร่ งที่สุดของเย่หยวน
มิใช่ดาบจ้าวดาราจันทรา แต่เป็ นเจดียเ์ ลื่องสวรรค์!

ด้วยพลังของเย่หยวนในปัจจุบนั เขาพอที่จะควบคุมเจดีย ์
เลื่องสวรรค์ได้แล้วในเบื้องต้น การจะใช้มนั สังหารศัตรู
มันง่ายดัง่ หักข้อมือเล่น เป็ นเพียงว่าจนตอนนี้ เขาก็ยงั ไม่
สามารถควบคุมจนชานาญถึงขั้นนั้นได้

ระดับชั้นของเจดียเ์ ลื่องสวรรค์ใกล้เคียงกับเครื่ องราง


ศักดิ์สิทธิ์ยงิ่ แล้ว และหากพัฒนามันถึงขั้นนั้นได้ อนุภาพ
ของมันมหาศาลเกินจินตนาการได้แน่นอน แต่เพียงว่า
หากเรื่ องนี้ ถูกเปิ ดเผย มันจะชักพานาปัญหาเข้ามาไม่รู้จบ
เมื่อเปรี ยบเทียบกับเจดียเ์ ลื่องสวรรค์ในมือ เครื่ องรางเทวะ
ระดับสู งเหล่านี้ ย่อมถูกเย่หยวนดูถูกดูแคลนไปโดย
ปริ ยาย

“เอาล่ะ ชั้นแรกไม่น่าจะมีอะไรเหลือแล้ว เราไปชั้นต่อไป


กันดีกว่า”

เย่หยวนกล่าว

เมื่อเย่หยวนมาถึงทางขึ้นสู่ ช้ นั ที่สอง กลับมีกาแพงโปร่ ง


แสงสกัดกั้นไว้อยู่
“เงื่อนไขอันใดอีก! ไฉนมีเงื่อนไขที่ถูกจากัดเช่นนี้ทวั่ ทุก
ที่ในแดนราชามังกร!”

บางคนเอ่ยบ่น

เย่หยวนกล่าวอย่างยิม้ แย้มว่า

“เงื่อนไขที่เปรี ยบเสมือนตัวคัดกรองแบบนี้ ไร้รูปร่ างไร้


รู ปแบบและไม่สามารถใช้วิธีอื่นเปิ ดออกได้ หากต้องการ
ไปต่อจาต้องทาลายมันเท่านั้นด้วยกาลัง หากข้าเดาไม่ผิด
น่าจะยังไม่มีใครเคยขึ้นไปที่ช้ นั สองมาก่อน”

คากล่าวของเย่หยวน ต่างทาให้จิตใจทุกคนเบิกบานใน
บัดดล!

หากยังไม่มีใครเคยขึ้นไปที่ช้ นั สอง มันมิได้หมายความว่า


ขุมสมบัติขา้ งบนนั้นยังคงครบถ้วนสมบูรณ์อยูห่ รอกรึ ?

“หัวหน้า ปล่อยให้ขา้ จัดการเอง! ด้วยดาบมังกรมรณะเล่ม


นี้ที่เพิ่งได้รับ ข้ากาลังอยากทดสอบขุมพลังอยูพ่ อดี!”
อาเหริ่ นเสนอตัวขอจัดการปัญหานี้เอง

อาเหริ่ นหยดโลหิ ตลงในตัวดาบเรี ยบร้อยแล้วเพื่อทา


สัญญากับมัน และได้ทราบชื่อในภายหลัง ดาบงามวิไล
เล่มนี้ มีนามว่า ดาบมังกรมรณะ

เย่หยวนเผยรอยยิม้ เล็กน้อย แต่มิได้กล่าวอันใดตอบ

อันดับของอาเหริ่ นในทาเนียบนภาเถื่อนมิได้ชนชั้นต่า
ทราม พลังฝี มือของเขาเป็ นสองรองจากเช่าไคเท่านั้นใน
หมู่นายพลสังหารของซื่อหยิน

และเขาเองก็เพิ่งได้รับดาบมังกรมรณะมาหมาดๆ แน่นอน
ว่าอยากลองของใหม่เป็ นธรรมดา
“ดาบคะนองวิบตั ิ!”

อาเหริ่ นคารามเลือด คลื่นคมดาบอันทรงพลังเกินหยัง่ ถึง


พุ่งกระแทกกาแพงโปร่ งแสงอย่างจัง

บูมมม!

ทว่ากลับเป็ นอาเหริ่ นที่กระเด็นกลับไปโดยตรง หัวร่ าง


ฟาดพื้นอย่างแรง

“โอ๊ยยย!”
อาเหริ่ นร้องระงมสุ ดเวทนาด้วยความเจ็บปวด ประหนึ่ ง
กระดูกทัว่ ร่ างแทบแตกเป็ นเสี่ ยงๆ

สี หน้าของเช่าไคมืดลงส่ วนที่เหลือท่าทางการแสดงออก
แปรเปลี่ยน พวกเขาไม่คาดไม่ฝันเลยว่า กาแพงโปร่ งแสง
ตรงหน้าจะทรงพลังได้ขนาดนี้ จริ งๆ

“เหอะ เหอะ ดูเหมือนว่าพวกเราจะประเมินพลังของ


กาแพงแสงต่าเกินไป! เนื่องด้วยไม่มีใครเคยขึ้นชั้นสอง
นั้นหมายความว่า กระทั้งผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญเองก็ไม่
สามารถขึ้นไปได้เช่นกัน แม้แต่เขาและคนอื่นๆในตอน
นั้นยังไม่สามารถฝ่ าเงื่อนไขนี้ไปได้ แล้วเราจะทาลายมัน
ได้อย่างไร?”

ทันใดนั้นเช่าไคพลางถอนหายใจยาวด้วยอารมณ์ที่
หลากหลายและกล่าวออกมาอย่างท้อแท้

เย่หยวนกล่าวอย่างยิม้ แย้มว่า
“กาแพงแสงตรงหน้าเรา ลืมไปได้เลยสาหรับผูส้ ู งส่ งอัคนี
ผลาญเมื่อกาลก่อน กระทั้งตัวเขาในปัจจุบนั ก็ไม่มีพลัง
อานาจพอที่จะทาลายได้เช่นกัน”

เมื่อได้ยนิ คากล่าวเหล่านี้ สี หน้าของทุกคนก็ยงิ่ เผยความ


สิ้ นหวังออกมา

ในตอนนั้นที่ผสู ้ ู งส่ งอัคนีผลาญเข้ามาที่แห่งนี้ เขายังเป็ น


เพียงนายพลสังหารเท่านั้น และความแกร่ งกล้าของเขาใน
อดีต เรี ยกได้วา่ ห่างไกลจากปัจจุบนั อย่างเทียบไม่ติด

เป็ นเวลากว่าสิ บปี เต็ม ที่ผสู ้ ู งส่ งเฝ้าบ่มฝึ กฝนจนความ


แข็งแกร่ งพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชดั ความแกร่ งกร้าว
ในปัจุบนั ของเขาแทบจะทัดเทียมได้กบั ผูส้ ู งส่ งอันเจน
ประสบการณ์หลายคน

แต่เมื่อครู่ เย่หยวนกลับกล่าวว่า แม้แต่ผสู ้ ู งส่ งอัคนีผลาญ


ในตอนนี้ ก็ไม่สามารถทาลายมันได้!

เช่นนั้นแล้ว กาแพงโปร่ งแสงเบื้องหน้าพวกเขา ยังมีใคร


อีกที่สามารถทาลายมันได้?
“ตามที่คาดไว้จริ งๆ เส้นทางการสารวจของเราคงต้อง
สิ้ นสุ ดแต่เพียงเท่านี้แล้ว!”

เช่าไคกล่าวขึ้นพริ มรอยยิม้ อันขมขื่น

“หุหุ แม้เขาทาไม่ได้ แต่น้ นั มิได้หมายความว่าข้าจะทา


ไม่ได้เช่นกัน!”

เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิม้ บางๆ
คากล่าวเหล่านี้ค่อนข้างหยิ่งผยองเกินไป!

ไม่วา่ ใครก็สามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากว่า เย่หยวนไม่มี


ทางเป็ นคู่มือของผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญได้เลย

แต่เย่หยวนกลับกล่าวราวกับว่า ตนสามารถทพลายกาแพง
โปร่ งแสงนี้ได้!

นี่จะเป็ นไปได้อย่างไร?

“ไม่เชื่องั้นรึ ? ทุกท่านโปรดถอยให้ห่าง แล้วจับตาดูขา้ ให้


ดี!”
เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยความมัน่ ใจ

ไม่ใช่วา่ พวกเช่าไคไม่เชื่อ แต่เพราะเย่หยวนกล่าวประเมิน


กาแพงโปร่ งนี้สูงเกินไป กระทั้งความแกร่ งกร้าวระดับผู ้
สู งส่ งยังไม่สามารถทาลายได้ แสดงว่ากาแพงนี้ จกั ต้อง
ทรงอนุภาพท้าทายสวรรค์ยงิ่

แม้แต่จง้ อูไ้ ป๋ ที่วา่ เก่งกาจในหมู่นายพลสังหาร ทว่าหาก


ต้องเผชิญหน้ากับผูส้ ู งส่ งคนใดคนหนึ่ง เพียงหนึ่ ง
กระบวนท่าก็เพียงพอที่จะระเบิดร่ างเขาทิ้งได้แล้ว

แต่เย่หยวนกลับกล่าวด้วยความมัน่ ใจว่า ตนสามารถ


ทาลายกาแพงโปร่ งแสงนี้ได้จริ งๆ
อย่างไรก็ตาม ในห้วงความคิดล้วนมีขอ้ สงสัยอยูเ่ ต็มไป
หมด ทว่าเหตุใดเบื้องลึกภายในใจของทุกคนกลับบอกว่า
เย่หยวนสามารถทาได้แน่!

เย่หยวนตรงมาหยุดต่อหน้ากาแพงโปร่ งแสงพร้อมค่อยๆ
หลับตาลง
ในขณะเดียวกัน สายเลือดมังกรทัว่ ร่ างของเขาพลันโคจร
หมุนติ้วไปทัว่ จนสั่นกระตุกเล็กน้อย เลือดเดือดมังกรเริ่ ม
ปะทุร้อนขึ้นไม่หยุด

รัศมีสุดแกร่ งกร้าวสายหนึ่งผงาดง้ า ต่อมาทัว่ ทั้งร่ างเย่


หยวนก็ปลดปล่อยแรงกดดันชนิดลึกลับเกินเข้าใจได้
ออกมา

เมื่อเช่าไคและคนอื่นๆเห็นภาพฉากนี้ พวกเขาล้วนตื่น
ตะลึงอย่างอดมิได้ ความประหลาดถูกแขวนไว้ทวั่ ใบหน้า

“ฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้า!”
เกลียวคลื่นชีพจรมังกรควงคลัง่ ดุจน้ าหมุนกลางฝ่ ามือ
ก่อนปลดปล่อยออกมาอย่างไม่ย้งั อดออม ประหนึ่ง
ต้องการพลิกภูเขาคว้าสมุทร!
ตอนที่910 ผู้สืบทอด

บูมมม!

ฝ่ ามือโหมวินาศสันตะโรดุจโค่นภูเขาพลิกสมุทร ถาโถม
เข้าชนกาแพงโปร่ งแสงอย่างไม่มีลิดรอน กาแพงโปร่ ง
แสงมิได้แตกสลายอย่างที่คิด มีเพียงปฏิกิริยาตอบกลับ
สะท้อนเล็กน้อย

“หัวหน้าเย่ นี่…”
อาเหริ่ นกล่าวอย่างลังเล

ฝ่ ามือของหัวหน้าเย่ดูทรงพลังรุ นแรงยิง่ ทว่าเมื่อเข้าชน


กับกาแพงโปร่ งแสงตรงหน้ามันกลับไม่มีอะไร
เปลี่ยนแปลงเลย

แต่เย่หยวนเพียงคลี่ยิ้มตอบเล็กน้อย ก่อนยกเท้าย่างเข้าสู่
กาแพงโปร่ งแสงโดยตรง และเดินผ่านเข้าไปได้อย่างน่า
อัศจรรย์

อาเหริ่ นและคนอื่นๆอ้าปากค้างตาค้างโตด้วยความไม่
อยากจะเชื่อ
นี่หมายความว่าอย่างไร? กาแพงโปร่ งแสงตรงหน้าพวก
เขาสามารถทะลุผา่ นไปได้?

“ยังงุนงงอันใดอีก? รี บเข้ามา”

อึดใจต่อมาอาเหริ่ นสะดุง้ คืนสติโดยไวและกล่าวอย่าง


ตื่นเต้นว่า

“หัวหน้าเย่ช่างน่าทึ่งโดยแท้!”

ชีพจรมังกรเป็ นดัง่ จุดศูนย์กลางของวรยุทธต่อสู ้ของเผ่า


มังกรทั้งหมด ภายในแดนราชามังกรแห่งนี้ไม่มีที่ใดที่
ไม่ใช่ชีพจรมังกร ทุกหนทุกแห่ งจาเป็ นต้องพึ่งพาชีพจร
มังกรเพื่อประยุกใช้ในด้านต่างๆ

และกาแพงโปร่ งแสงที่อยูต่ ่อหน้าพวกเขา คือด่านทดสอบ


ระดับชีพจรมังกรของผูท้ ี่เข้ามา!

ถึงแม้จะมีเหล่าอัจฉริ ยะของเผ่ามังกรร่ วมวงเข้ามา แต่ก็


มิใช่เรื่ องง่ายหากต้องการผ่านการทดสอบของกาแพง
โปร่ งแสงนี้ เนื่องด้วยระดับเกณฑ์ที่กาแพงโปร่ งแสง
ต้องการ จาต้องสู งกว่าชีพจรมังกรขั้นวิญญาณขึ้นไป
เย่หยวนนับเป็ นยอดอัจฉริ ยะคนหนึ่ งในด้านการบ่มเพาะ
ชีพจรมังกร ในปั จจุบนั ระดับชีพจรมังกรของเขาสู งถึงขั้น
วิญญาณระดับกลางแล้ว หากเป็ นยอดอัจฉริ ยะคนอื่นๆ
ในช่วงวัยเดียวกัน มันเป็ นไปไม่ได้แน่นอนที่จะก้าวล้ าถึง
ขั้นนี้

หนึ่งต้องทราบก่อนว่า เซียนผูเ้ ขย่าพิภพสะท้านสวรรค์


อย่างหลงเถิง กว่าที่เขาจะบ่มฝึ กฝนจนบรรลุชีพจรมังกร
ขั้นสวรรค์ เขาจาต้องใช้เวลานานถึงร้อยปี !

บุคคลที่สามารถฝึ กฝนจนลุถึงชีพจรมังกรขั้นวิญญาณ
ระดับกลาง ภายในเผ่ามังกรเกรงว่ามีจานวนน้อยจน
สามารถนับนิ้วได้
อาเหริ่ นและคนอื่นๆไม่แช่มช้าตรงขึ้นสู่ ช้ นั ที่สองโดยเร็ ว
ทันทีทนั ใด พวกเขาถึงกับพรู ลมหายใจเย็นออกมา แววตา
ของพวกเขาทั้งหมดพลางประกายวาววับจับใจ

“นั้น…นั้นโอสถระดับเก้า!”

“ฮ่าฮ่า! เครื่ องรางเทวะระดับสู งอีกชิ้น!”


“โอ้…วรยุทธบ่มเพาะพลังระดับเก้า!”

บนชั้นสองแห่งนี้เต็มไปด้วยรายการสิ่ งของระดับเก้า
ทั้งสิ้ น! นี่นบั เป็ นห้องสมบัติอย่างแท้จริ ง!

เท่าที่กวาดสายตามองอย่างหยาบๆ ภายในนี้มีสมบัติ
มากมายกว่ายีส่ ิ บชิ้น!

และสมบัติแต่ละชิ้นที่พบเจอถือได้วา่ ท้าทายสวรรค์ยงิ่ !
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เย่หยวน ข้าต้องขอบคุณเจ้าจริ งๆ! ไม่คาดไม่ฝัน
เลยว่า ฝ่ ามือของเจ้าจะสามารถทะลวงผ่านเงื่อนไขที่ปิด
กั้นเอาไว้ได้ในชั้นสอง! ไม่ตอ้ งห่วง สมบัติเหล่านี้ขา้ จะ
ช่วยลาเลียงออกไปให้เอง”

ในเวลาเดียวกัน สุ่ มเสี ยงสุ ดปรี ดาของจ้งอูไ้ ป๋ ก็ดงั ขึ้น


เหล่านักสู ้กว่าหนึ่งโหลปิ ดล้อมดักทางหนีในชั้นแรกอย่าง
หนาแน่น ส่ วนเบื้องหน้ากลุ่มคนของเย่หยวน ก็เป็ นจ้งอู ้
ไป๋ ที่เข้าประจันษ์หน้า

ไม่วา่ จะมองอย่างไร พวกเขากาลังไล่จบั เต่าภายในขวด


อย่างชัดแจ้ง
เมื่อเห็นฝ่ ายตรงข้ามดาหน้าเข้าประชิดพร้อมเพรี ยงเช่นนี้
สี หน้าการแสดงออกของพวกเช่าไคพลันมืดลงในทันใด

ดูเหมือนว่าผูค้ นที่เหลือรอดจากเส้นทางมรณะเหลืองจะมี
ไม่มาก อันที่จริ งจานวนที่เหลือออกมามีเพียงหนึ่งโหล
เศษเท่านั้น

แต่จานวนหนึ่ งโหลเศษนี้ ลว้ นเป็ นยอดฝี มือห้าสิ บอันดับ


แรกในทาเนียบนภาเถื่อนทั้งสิ้ น!

ดูเหมือนว่าลักษณะท่าทางของคนเหล่านี้จะชัดเจนยิง่ อยู่
แล้ว พวกเขาต้องการผนึ กกาลังกันเพื่อกาจัดเย่หยวนทิ้ง!
หากเป็ นรายคนมิใช่ปัญหา ทว่าร่ วมมือร่ วมใจกันกลับยาก
เกินต้านทานนัก!

แม้วา่ เย่หยวนจะสามารถบดขยี้หวูเ่ หอให้ตายคาฝ่ ามือ


เดียวได้ แต่หากจาต้องเผชิญหน้ากับพวกเขาทั้งหมด
พร้อมกัน ผลลัพธ์ที่ได้มนั มีแนวโน้มไม่สวยหรู นกั

ความแข็งแกร่ งของหวูเ่ หอห่างไกลจากคนพวกนี้หลายขุม


พอตัว ซ้ าร้ายทุกคนยังพร้อมใจร่ วมมือกันเพื่อกาจัดเย่
หยวนอีก
“เย่หยวนเจ้าชักจะโอหังเกินไปแล้ว! แต่ก็ตอ้ งขอบคุณ
เช่นกันที่ทาให้คนอื่นๆตายเกลี้ยง เท่านี้ก็ไม่มีผใู ้ ดแย่งชิง
สมบัติพวกเราไปได้แล้ว!”

“จงตาหนิความหยิ่งผยองของตนเสี ยเถอะ! แม้ขา้ จะไม่


ทราบว่าเจ้าใช้เล่ห์กลอันใดล่อหลอกจนหวูเ่ หอถึงแก่
ความตาย แต่หากต้องเผชิญหน้ากับยอดฝี มือยกโหล เกรง
ว่ากลอุบายทั้งหมดบนมือเจ้าคงไร้ประโยชน์แล้ว!”
“ฮ่าฮ่า แต่เจ้าหนุ่มนี่ ก็มีทีเด็ดแพรวพราวมิใช่เล่น ถึงขนาด
ผ่านเงื่อนไขที่แม้แต่ท่านผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญยังจนปัญญา!
ต้องขอบคุณอย่างยิง่ ที่เปิ ดทางสู่ ช้ นั สองให้พวกเรา!”

หากอยูภ่ ายใต้สถานการณ์โดยทัว่ ไป คนเหล่านี้ไม่มีทาง


ร่ วมแรงร่ วมใจสามัคคีกนั ขนาดนี้แน่นอน พวกเขาล้วน
เป็ นยอดฝี มือชนชั้นสู งอันมากศักด์ศรี หยิง่ ทะนง การรวม
พรรครวมพวกกับฝ่ ายอื่นมีแต่จะรังเกียจหยามกันเอง

แต่ท้ งั หมดเป็ นเพราะเย่หยวน พวกเขาจึงพร้อมใจกัน


สามัคคีร่วมมืออย่างไม่เคยมีมาก่อน
เย่หยวนคนนี้ผิดประหลาดและลึกลับสุ ดหยัง่ ถึงเกินไป
นั้นทาให้ยอดฝี มือเหล่านี้จาต้องผนึกกาลังกันอย่างไม่มี
ทางเลือก ทั้งหมดก็เพื่อเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวนั้นคือ
การสังหารเย่หยวน

เย่หยวนกวาดสายตาจับจ้องทุกคนที่ค่อยๆทยอยขึ้นมา
ด้วยสี หน้าขบขัน และพูดจาอย่างยิม้ แย้มว่า

“พวกท่านรนหาที่ตายโดยแท้! บนเส้นทางมรณะเหลือง
ตัวข้าผูน้ ้ ีอุตสาห์เมตตาไว้ชีวิตน้อยๆของพวกท่าน กลับ
ไม่คิดเลยว่า พวกท่านจะมาประเคนชีวิตให้เชือดทิ้งถึงที่
อีกครา สมแล้วที่เป็ นพวกหูหนวกตาบอด!”
จ้งอูไ้ ป๋ กล่าวตอบเจือเสี ยงเย็นยะเยือกว่า

“เย่หยวน เลิกดื้อรั้นได้แล้ว! ข้าจะส่ งเจ้าลงนรกเดี๋ยวนี้ !”

เย่หยวนกล่าวขึ้นอย่างสบายอารมณ์วา่

“ในเมื่อทุกท่านขึ้นมากันหมดแล้ว เช่นนั้นก็อย่าหวังได้
ออกไปไหนอีก! มาเปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อย! ภูต
เพลิง!”
เย่หยวนคารามเสี ยงต่า ทันใดนั้นลูกไฟนับร้อยดวงพลัน
ลุกพรึ บทัว่ ทุกมุมตาหนักอย่างพร้อมเพรี ยง!

บนหว่างคิว้ ของเย่หยวน จู่ๆก็ปรากฏลักษณ์มงั กรสว่าง


ไสวขึ้นพร้อมแสงกระพริ บ

ตึงงง!
ทัศนียภาพโดยรอบทุกคนเปลี่ยนไปโดยพลัน ณ ปัจจุบนั
พวกเขาทั้งหมดกาลังอยูใ่ นถ้ าอันกว้างใหญ่สุดมหึ มา!

บนกาแพงหิ นของถ้ าแห่งนี้มีลอยกรงเล็บมังกรขนาดยักษ์


ฝนข่วนอยูท่ วั่ ทุกที่ กาแพงถ้ าด้านในปรากฏเป็ นภาพ
มังกรหิ นสลักลวดลายสุ ดประณี ตอันใหญ่โต ทั้งดวงตา
กรงเล็บและขมเขี้ยวล้วนเหมือนจริ งดัง่ มีชีวิตชีวา ราวกับ
ว่ามันเป็ นมังกรจริ งๆ

“ที่นี่…ที่นี่ที่ไหน? ไฉนแรงกดดันมังกรถึงได้รุนแรงเพียง
นี้!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! สถานที่แห่งนี้ควรจะเป็ นส่ วนสุ ดท้ายของแดน
ราชามังกร! ภายในนี้จกั ต้องมีสุดยอดขุมสมบัติอนั ท้าทาย
สวรรค์ยงิ่ เป็ นแน่! เย่หยวน ข้า,จ้งอูไ้ ป๋ ขอขอบคุณเจ้าจาก
ใจจริ ง!”

ดูเหมือนว่าจ้งอูไ้ ป๋ จะตระหนักได้ถึงบางสิ่ งในทันที ไม่


เพียงสี หน้าของเขาจะไม่ตื่นตระหนกแม้สักนิด ทว่ากลับ
กลายเป็ นความบ้าคลัง่ ชนิดหักห้ามไม่อยูแ่ ทน!

เย่หยวนกล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า
“ไม่เลว ไม่เลว อย่างน้อยเจ้าก็มีความรู ้อยูบ่ า้ ง ถูกต้องแล้ว
ที่แห่งนี้คือส่ วนสุ ดท้ายของแดนราชามังกร! แต่น่า
เสี ยดาย…สิ่ งเหล่านี้มนั มิได้เกี่ยวข้องกับท่าน!”

“ช่างโง่งมสิ้ นดี! เป็ นเพียงนักสู ้อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้า


ตัวน้อย แต่กลับหาญกล้าพึ่งคิดว่าตนไร้เทียมทาน? ข้าจะ
แสดงให้เจ้าเห็นเองว่า ยอดฝี มืออันดับสามแห่งทาเนียบ
นภาเถื่อน แท้จริ งแล้วทรงพลังเพียงใด!”

สี หน้าน้ าเสี ยงของจ้งอูไ้ ป๋ เย็นลงอย่างรวดเร็ ว พร้อม


ปลดปล่อยรัศมีชวนขนลุกชนิดคว้านภาฟ้า!
ทันทีที่สัมผัสได้ถึงรัศมีอนั น่าเกรงขาม สี หน้าของเช่าไค
และที่เหลือล้วนผันเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชดั

ความแกร่ งกล้าระดับนี้มิได้อ่อยด้อยไปกว่าเซียน
อาณาจักรเต๋ าลึกล้ าเลยใช่ไหม?

ทว่าอย่างไร เมื่อเย่หยวนเห็นภาพฉากนี้แทนที่จะตกใจ
กลัว เขากลับฉี กยิม้ สุ ดเย้ยหยันขึ้นที่มุมปากแทน ขุมพลัง
ตรงหน้าเขาคร้านใส่ ใจไม่
“ตึงงง!”

ทันใดนั้นเอง จู่ๆก็มีหอกสี ดาปริ ศนาดิ่งสะท้านลงมาจาก


ฟากฟ้า มันมุ่งตรงไปยังจ้งอูไ้ ป๋ !

ภายใต้ขมุ พลังมืดฟ้ามัวฝนจากหอกเล่มนี้ ฟ้าดินต้อง


เปลี่ยนสี ผิดวิปลาส ฉี กอากาศสะบั้นห้วงนภาสู ญเจาะ
ทลวงลงมา แม้แต่ห้วงแห่งความว่างเปล่ายังบิดเบี้ยวเสี ย
รู ปทรง!

ท่าทางการแสดงออกของจ้งอูไ้ ปเปลี่ยนไปแทบจะ
ในทันที ในเวลานี้เขายังมัวสนใจเย่หยวนได้อย่างไร? ทัว่
ร่ างพลันสั่นกระตุก จ้งอูไ้ ป๋ เร่ งพลังปราณสุ ดเร็ วจี่และวิ่ง
หนีดว้ ยความเร็ วสู งสุ ดเท่าที่มี!

แม้เขาจะรวดเร็ วยิง่ แต่หอกสี ดานั้นกลับรวดเร็ วกว่า!

หอกสี ดาพุ่งทะลวงแผ่นอกกลางร่ างจ้งอูไ้ ป๋ พร้อมถูก


เสี ยบตรึ งบนกาแพงหิ นคาที่อย่างน่าสยดสยอง

จนกระทั้งความตายเยีย่ มเหยือน จ้งอูไ้ ป๋ ก็ยงั ไม่ทราบว่า


เกิดอะไรขึ้นกันแน่
เมื่อได้เห็นภาพฉากนี้ ผูค้ นอีกประมาณโหลเศษต่างสู ด
หายใจเย็นเข้าลึกๆอย่างแช่มช้า ความเย็นยะเยือกแล่นผ่าน
จากเบื้องลึกจนหนาวสะท้านจับใจ

หอกสี ดาเล่มนี้มิใช่ยทุ ธภัณฑ์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์


แน่นอน! และสิ่ งนี้น่าสะพรึ งกลัวเกินไป!

“ผูใ้ ดมิใช่เผ่ามังกร และบุกมายังถ้ ามังกรแห่งนี้ มีโทษตาย


สถานเดียว!”

จ้งอูไ้ ป๋ ตายคาที่ทนั ทีที่ถูกเสี ยบทะลวง ในขณะนั้นเองก็มี


สุ่ มเสี ยงหนึ่งอันน่าเกรงขามเปล่งดังอีกครั้ง
เมื่อได้ยนิ เนื้อความในประโยคเหล่านั้น สี หน้าของเหล่า
นักสู ้ที่เหลือต่างเปลี่ยนไปในทันใด

ในเวลานี้พวกเขายังมีเวลาคิดอันใดได้? ทุกคนต่างเร่ งพลัง


ปราณถึงขีดและวิง่ หนีไม่คิดชีวิตไปคนละทิศละทาง

สวบ สวบ สวบ…

หอกสี ดานับสิ บถูกกระหน่ายิง่ ลงมาจากท้องนภา ปรากฏ


เพียงเสี ยงหอกเจาะทะลวงทรวงอกไม่หยุด ชีวาของเหล่า
นักสู ้จานวนโหลเศษดับสู ญในบัดดล!
ตุบ.. ตุบ.. ตุบ…

เสี ยงฝี เท้าที่ย่าเข้ามาแล่นผ่านโสตประสาทของพวกเย่


หยวน ร่ างใหญ่กายาปรากฏขึ้นสู่ สายตาทุกคน

เป็ นเพียงเงาสี ดาเผชิญต่อหน้า ขุมพลังระดับชั้นใดไม่


สามารถสัมผัสได้แม้สักนิด

แต่ในเวลานั้นเอง เขาก็หยุดลงตรงหน้าเย่หยวนและค่อยๆ
เอ่ยปากกล่าวว่า
“เจ้าคือผูส้ ื บทอดใช่หรื อไม่?”
ตอนที่ 911 มรดกชิน้ สุดท้าย

สัญลักษณ์มงั กรบนหว่างคิว้ ของเย่หยวนประกายแสงแพรวพราวระยับ

“ข้าคิดว่า ตนน่าจะใช่ผสู้ ืบทอดที่วา่ ”

เผชิญหน้ากับเงาดําสุดสะพรึงเกินหยั่งรู ้ เย่หยวนกล่าวตอบอย่างสงบนิ่ง

ดั่งมีอะไรบางอย่างเพิ่มเสริมเติมเข้ามาในทะเลแห่งจิตใจ สายเลือดถูก
กระตุน้ ใช้งานประหนึ่งว่าเขาได้รบั การยอมรับจากบางสิ่งแล้ว

สัญลักษณ์มงั กรที่ประทับกลางหว่างคิว้ นัน้ เป็ นเครือ่ งยืนยันชัน้ ดี และนัน้


เป็ นเหตุผลที่เย่หยาบสามารถเข้าสูแ่ ดนราชามังกรในส่วนสุดท้ายได้
เช่นกัน
เงาดําเงียบนิ่งไม่กล่าวอันใด แต่สายตาพลันกวาดไปหาเช่าไคและคนอื่นๆ

เช่าไคและที่เหลือสั่นสะท้านหนักจากภายในดุจหัวใจเยือกแข็งฉับพลัน
เหงื่อเย็นจํานวนมากเปี ยกชุ่มทัง้ แผ่นหลังโดยไม่รูต้ วั

“พวกเขาล้วนเป็ นสหายของข้า ท่านอาวุโสโปรดส่งกลับไป”

เงาดําพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนโบกมือขึน้ กลางอากาศพร้อมส่งคนกลุม่ นี ้


ออกไปทันที

ทัศนีภาพของเช่าไคและที่เหลือต่างเบลอหนัก ก่อนจะรูส้ กึ ฟื ้ นสติอีกครัง้


ว่า พวกตนกลับมายังชัน้ สองของตําหนักเรียบร้อยแล้ว

“สวรรค์ ช่างอันตรายโดยแท้! จ้งอูไ้ ป๋ ถูกฆ่าทิง้ ทันทีในเสีย้ วพริบตา เงาดํา


เมื่อครูท่ รงพลังเกินไป! พี่ใหญ่เช่า หัวใจข้าแทบกระโดดออกจากคอ”
อาเหริม่ ตบอกตนเองสองสามที่เนื่องด้วยหายใจติดขัด ใบหน้าผัน
เปลี่ยนไปตามเหตุการณ์ท่ีเล่ากล่าวด้วยความกลัวสุดขีด

สภาพของเช่าไคหรือจะดีไปกว่าอาเหริม่ ? ทั่วทัง้ ใบหน้าถูกแขวนไปด้วย


ความสิน้ หวัง เขาพยักหน้าและกล่าวอย่างขมขื่นว่า

“ขุมพลังของเงาดําผูน้ นั้ เกินจะหยั่งรูไ้ ด้! หากมิใช่เพราะเย่หยวนออกปาก


ช่วยพวกเราไว้ ปานนี ้ พวกเราเองคงมีสภาพไม่ตา่ งจากคนอื่นๆ”

ทุกคนต่างสบตากันไปมาด้วยความรูส้ กึ แย่ย่ิง

เย่หยวนยอมกลายเป็ นตัวตายตัวแทนพวกเขา นี่มนั สมควรเกิดขึน้ ได้


อย่างไร?
จุดประสงค์หลักของพวกเขาที่มาคือคอยคุม้ กันคน อย่างไรก็ตาม พวกเขา
ต้องพรากจากเย่หยวนในส่วนสุดท้ายของแดนราชามังกร!

“พี่ใหญ่เช่า เราควรทําอย่างไรต่อไปดี.."

อาเหริน่ กวาดตามองโดยรอบ พร้อมหันกลับมาจ้องเช่าไคด้วยแววตาเรือ


ความโลภ

สีหน้าการแสดงออกของเช่าไคเปลี่ยนไปและกล่าวด้วยนํา้ เสียงเดือดดุวา่

“ไม่ทาํ อะไรทัง้ นัน้ ! ทัง้ หมดทัง้ มวลจะต้องรอเย่หยวนกลับ มาก่อน แล้ว


ค่อยว่ากันอีกที่หนึ่ง! อย่าได้ตาํ หนิขา้ หากไร้ปราณี เจ้ายังจํากองขีเ้ ถ้าใน
ชัน้ แรกได้อยูห่ รือไม่? ใครเป็ นคนช่วยชีวิตเจ้า”
ดั่งจิตใจของอาเหริน่ ถูกทุบอย่างแรง ความโลภชั่วขณะสลายหายสิน้ เขา
กล่าวอย่างเขินอายว่า

“ฮ่าฮ่า ข้าก็แค่ถาม แน่นอนว่าพวกจะต้องรอให้หวั หน้าเย่ กลับมาก่อน


แล้วคิดจะตัดสินใจกันอีกที่หนึ่ง เราไม่มีทางจากไปโดยไม่คาํ นึงถึงเขา แม้
จะมีสมบัติอยูเ่ ต็มมือ!”

“หึ! ดีมากที่ยงั รูส้ าํ นึก! พวกเจ้าทุกคนเองก็อย่าคิดทําอะไรแผงๆ! รอ


จนกว่าเย่หยวนจะกลับออกมา สมบัติเหล่านีไ้ ม่มีแขนมีขาวิ่งหนีไปไหนได้
แต่หากใครอยากตายลงบนตําหนัก ข้าเองก็พร้อมสงเคราะห์เช่นกัน”

เช่าไคกล่าวด้วยเสียงเย็นยะเยือก

ท่าทางของทุกคนเริม่ หวาดหวั่นด้วยความกลัวเมื่อได้ฟัง เช่าไคนับไม่วา่


เท่าไหร่ แต่หากพวกเขาคิดทําอะไรนอกลู่ นอกกรอบล่ะก็ รอจนว่าเย่
หยวนจะออกมา พวกเขาไม่ได้ตายดีแน่นอน เมื่อกล่าวถึงเรือ่ งนี ้ พวกเขา
ทัง้ หมดพลาง ระลึกถึงแง่มมุ สุดน่าสะพรึงอันไร้สนิ ้ สุดของเย่หยวน ทั่วทัง้
ร่างสั่นเทาโดยไม่ตงั้ ใจ

ในคราแรกที่พวกเขามาถึง มีคนนับร้อยยังคงอยูแ่ ละทัง้ หมด ล้วนแต่เป็ น


ยอดฝี มือสุดกล้าแกร่งทัง้ สิน้ แน่นอนว่าไม่มีใคร มองเย่หยวนในแง่ดีสกั คน
ในตอนนัน้ แต่หลังจากการเดิน ทางตลอดที่ผา่ นมา พวกเขาจํานวนมาก
ต่างต้องทิง้ ชีวิตอยู่ เบือ้ งหลัง ทัง้ หมดล้วนเกี่ยวข้องกับเย่หยวนไม่มากก็
น้อย

นี่เป็ นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าจะเกิดขึน้ จริง หลังเข้า


มาในแดนราชามังกร

เย่หยวนกลายมาเป็ นผูน้ าํ ของพวกเขาโดยอาศัยความแข็งแกร่งของตน


เพียงลําพัง!
ส่วนที่วา่ ไฉนถึงกลายมาเป็ นผูน้ าํ และได้รบั ความเคารพเลื่อมใส นี่ก็ไม่
จําเป็ นต้องกล่าวแล้วเช่นกัน

“เจ้าเป็ นมนุษย์ท่ีสามารถบ่มฝึ กฝนจนชีพจรมังกรบรรลุถึงขัน้ วิญญาณ


ระดับกลางได้จริงๆ!”

เงาดําปรับขยายสายตาเข้าจับจ้องเย่หยวนเป็ นการใหญ่ แม้นาํ้ เสียงของ


เขาจะสงบนิ่งเพียงใด แต่ความตื่นตะลึงที่รูส้ กึ กลับยากจะปกปิ ด

พรสววรค์ในการบ่มฝึ กฝนชีพจรมังกรของเยหยวน กระทั่งตัวเขาเองยัง


รูส้ กึ ตกใจยิ่ง

หากย้อนกลับไป ตอนที่เย่หยานเพิ่งบ่มฝึ กฝนชีพจรมังกรใหม่ๆ ด้วย


ความเร็วในการพัฒนาขนาดนี ้ หลงเถิงเองยังต้องรู ส้ กึ หดหู่ไม่คลายเช่นกัน
หากกล่าวถึงการบ่มเพาะชีพจรมังกรต่อหน้าเย่หยวน มันราวกับต้องการ
ขอให้อีกฝ่ ายเต้นรํา

“อืม ข้าบ่มฝึ กจนลุถึงขัน้ วิญญาณระดับกลางแล้ว"

เย่หยวนกล่าวตอบไปตามความจริงอย่างช่วยไม่ได้

เงาดําพลันตรึงแข็งไปชั่วขณะ วิธีการดูของเขาดูจะตรงไปเกินไปจนคล้าย
ไร้มารยาทเป็ นนัยๆ

แต่สาํ หรับเย่หยวนนีถ้ ือเป็ นปกติของตัวเขา

“โลหิตมังกรครึง่ สวรรค์! กระดูกมังกรบรรพกาล! เจ้าหนูโชคชะตาของเจ้า


มิใช่เล็กๆเลย! ดูทา่ โลหิตมังกรสองสามหยดนีค้ งไม่มีผลต่อตัวเจ้าเท่าไหร่
นัก”
เงาดําหยิบขวดเล็กๆขวดหนึ่งออกมา ภายในนัน้ มีโลหิตสีแดงสดอยูห่ ลาย
หยด ทว่าเขากลับโยนให้เย่หยวนโดยตรง

“หุหุ โลหิตมังกรเหล่านีล้ ว้ นเป็ นของลํา้ ค่า ข้าจะไม่พอใจได้อย่างไร!”

เย่หยวนกล่าวตอบอย่างร่าเริงใจและรีบเก็บขวดบรรจุโลหิตมังกรทันที

หลังจากนัน้ เงาดําก็หยิบบางสิ่งออกมาอีกครัง้ แท้ท่ีจริงมัน เป็ นกระดิ่ง


ลวดลายประณีตเล็กๆอันหนึ่ง เขาโยนไปให้เย่หยวนอีกครัง้ และกล่าวว่า

“นี่คือกระดิ่งราชาสวรรค์ เป็ นเครือ่ งรางเทวะระดับเหนือฟ้า! ทัง้ สองสิ่งนี ้


เป็ นรางวัลสําหรับเจ้าที่บรรลุชีพจรมังกรถึงขัน้ วิญญาณระดับกลาง"
เครือ่ งรางเทวะระดับเหนือฟ้า แม้แต่ในดินแดนศักดิส์ ทิ ธิ์ยงั เสาะหาได้
ยากยิ่ง กระทัง้ ดาบจ้าวดาราจันทราของเย่หยวนเองก็เคยเป็ นถึงเครือ่ งราง
เทวะระดับเหนือฟ้าเช่นกัน

ในยุคที่ศาสตร์แห่งสวรรค์เสื่อมถอย เซียนอาณาจักรพระเจ้า กลายเป็ นแค่


ตํานาน เครือ่ งรางศักดิส์ ทิ ธิ์เองก็สญ
ู หายไปพร้อมกัน ฉะนัน้ จึงเหลือแค่
เพียงเครือ่ งรางเทวะระดับเหนือฟ้า และได้กลายมาเป็ นจุดสูงสุดของ
ยุทธภัณฑ์ไปโดยปริยาย

แน่นอนว่ายังมีเครือ่ งรางศักดิส์ ทิ ธิ์เสมือนอยูเ่ ฉกเช่นเจดีย ์ เลื่องสวรรค์ ซึง่


ระดับชัน้ ของมันเหนือกว่าเครือ่ งรางเทวะระดับเหนือฟ้าโดยธรรมชาติ

แต่กระนัน้ เอง ตัง้ แต่ชีวิตก่อนหน้าจวบจนปั จจุบนั เครือ่ งรางศักดิส์ ทิ ธิ์


เสมือนชิน้ แรกที่เย่หยวนเคยเห็นก็คือเจดียเ์ ลื่องสวรรค์ และเขาก็ไม่เคยได้
ยินมาก่อนเลยว่า ขุมพลังใดในดิน แดนศักดิส์ ทิ ธิ์จะมีเครือ่ งรางศักดิส์ ทิ ธิ์
เสมือนอยูใ่ นครอบครอง
หลังจากที่เย่หยวนเก็บกระดิ่งราชาสวรรค์ลง เงาดําก็เอ่ยปากขึน้ อีกครัง้ ว่า

“ในปั จจุบนั เจ้ามีอยูส่ องทางเลือก! ทางแรก นําสิ่งของทัง้ สองชิน้ ไปและ


ข้าจะส่งเจ้าออกจากแดนราชามังกรทันที ทางที่สอง เข้ารับการสืบทอดขัน้
สุดท้าย แต่กระนัน้ เอง...ด้วย ระดับชัน้ พลังของเจ้าในขณะนีน้ บั ว่าสุม่ เสี่ยง
เกินไป!”

เย่หยวนกล่าวตอบทันทีโดยไม่คิดว่า “ยังมีอนั ใดให้คาํ นึงพินิจอีก? เมื่อ


ประสบโชคดีเช่นนีม้ ีหรือที่จะปฏิเสธ?”

เงาดําสายหัวและกล่าวว่า

“การสืบทอดขัน้ สุดท้ายมันเต็มไปด้วยภัยอันตรายไร้ปราณี ในขณะนีเ้ จ้า


อ่อนแอเกินไปจะเข้ารับมัน! ถอยกลับออกนับ เป็ นทางเลือกที่ดีกว่า และ
ถึงแม้เจ้าจะได้รบั มรดกหลังการ สืบทอดขัน้ สุดท้ายนัน้ แต่เจ้าก็ไม่
สามารถใช้งานได้เช่นกัน นอกจากนี”้

เมื่อกล่าวถึงจุดนีเ้ งาดําก็ดลู งั เลในทันใด

“นอกจากนี ้ ข้าก็มิใช่สมาชิกของเผ่ามังกรโดยตรง และไม่เหมาะสมยิ่ง


สําหรับมรดกในการสืบทอดขัน้ สุดท้ายใช่หรือไม่?” เย่หยวนกล่าวขึน้ พร้อม
รอยยิม้ ที่ไม่ใช่รอยยิม้

เงาดําผงะเล๊กน้อยแต่ไม่ได้เอ่ยอันใดตอบกลับ เป็ นที่ชดั เจนว่าเย่หยวน


เข้าใจในจุดนีด้ ีแล้ว

มนุษย์ท่ีได้รบั มรดกชิน้ สุดท้ายของเผ่ามังกร ไม่วา่ ใครฟั งก็น่าขันและไม่


สมเหตุสมผลเลยสักนิด
เย่หยวนกล่าวด้วยเสียงเย็นว่า

“ท่านอาวุโส ในเมื่อข้าดูดซับกระดูกมังกรบรรพกาล จนสายเลือดมังกรใน


กายข้าพัฒนาไปสูเ่ ชือ้ สายราชวงศ์แล้ว ไม่ว่าต้นกําเนิดของข้าจะมาจาก
อะไร แต่เพื่อได้รบั มรดกในการ สืบทอดขัน้ สุดท้ายนัน้ ตัวข้านับว่ามี
คุณสมบัติเพียบพร้อม และกฏที่วา่ ห้ามให้มนุษย์เข้ารับสืบทอดนัน้ ดูท่า
แล้วจะเป็ นแค่ความกังวลของท่านเอง!”

คํากล่าวของเย่หยวนไว้ซง่ึ ความสุภาพใดๆ และเงาดําตรง หน้าเขาก็เป็ น


แค่ผพู้ ิทกั ษ์มรดกชิน้ สุดท้ายอย่างชัดเจน เขามิใช่ผตู้ งั้ กฏ แต่เป็ นเพียง
ผูด้ แู ลกฏเท่านัน้

“ดี! เจ้าหนู เจ้ากล้าแสดงทัศนคติเช่นนีก้ บั ข้าเชียวรึ! ช่างเป็ นเด็กที่ไม่รูฟ้ ้า


ตํ่าแผ่นดินสูง!”

เงาดําเค้นเสียงเย็นยะเยือกก่อนเข้าโจมตีทนั ที!
ทันใดนัน้ งามังกรสีดาํ พลันปรากฏพร้อมเสียงคํารามลั่น ความน่าเกรงขาม
ของมันนับได้วา่ ฟ้าสะท้านแผ่นดินสะเทือน!

“ฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้า”

เงาดําชัดฝ่ ามือสุดวินาศสันตะโรเข้าใส่อย่างไม่หยั่งมือใดๆ เย่หยวนที่ได้


เห็นยังต้องสูดหายใจเย็นเข้าลึกๆโดยไม่ตงั้ ใจ

เขาสัมผัสได้เลยว่าฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้าที่เงาดําเป็ นคนปลดปล่อย


อนุภาพการทําลายมันทะลุขีดกําจัดของขัน้ วิญญาณไปแล้ว! ราวกับว่า
บรรลุถึงขัน้ ตํานาน!

เงาดําตรงหน้าเขาทรงพลังเกินหยั่งถึง กระทัง้ เขาเองยังเกริน่ เกรงอยูห่ ลาย


ส่วน!
ชายลึกลับผูน้ ีต้ นื ้ ลึกหนาบางมากน้อยอย่างไรกันแน่?

แต่ในเสีย้ วอึดใจนี ้ เขาไม่มีเวลามันม้วติดอะไรเหล่านีไ้ ด้ ช่วงหัวเลีย้ ว


หัวต่อระหว่างเป็ นตาย เขาเร่งพลังปราณถึงขีด สุดจนหมุนติว้ ทั่วร่าง
ทัง้ หมดเพื่อเรียกใช้เจดียเ์ ลื่องสวรรค์ อย่างสุดกําลังที่มี!

เมื่อเผชิญกับฝ่ ามือมังกรดําสุดสะท้านฟ้าดินชนิดนี ้ มีเพียงเจดียเ์ ลื่อง


สวรรค์เท่านัน้ ที่สามารถช่วยได้

เงาดําเผยเสียงประหลาดใจเล็กน้อย พร้อมเงามังกรดําที่สลายหายไป
กลางอากาศโดยพลัน ประหนึ่งว่ามันไม่เคยปรากฏขึน้ มาก่อน
ตอนที่ 912 บุตรแห่งประกาศิตสวรรค์

“ที่แท้ก็มีเครือ่ งรางศักดิส์ ทิ ธิ์เสมือนอยูใ่ นมือ ไม่น่าแปลกใจ ที่ไฉนเจ้าถึงดู


ไม่ตกในลยเมื่อได้รบั กระดิ่งราชาสวรรค์ไป”

เงาดํากล่าวขึน้ อย่างค่อนข้างแปลกใจ

ในมุมมองของเขา เย่หยวนควรตื่นเต้นดีใจจนแทบคลั่งเมื่อได้รบั เครือ่ งราง


เทวะขัน้ เหนือฟ้า แต่ทว่าเย่หยวนที่ได้เห็นกระดิ่งราชาสวรรค์อยูต่ รงหน้า
เขากลับนิ่งสงบดั่งบ่อนํา้ ไร้ระลอก

“ทะ ท่าน...ท่านหลงซาน?”

สุม่ เสียงลังเลสายหนึ่งตันขึน้ หลงเถิงตื่นขึน้ จากนิทราตัง้ แต่ เมื่อใดมิอาจ


ทราบและตอนนีเ้ ขาปรากฏกายต่อหน้าต่อตาออกมาแล้ว
หากฟั งจากนํา้ เสียงและวาจานัน้ เป็ นที่ชดั เจนว่าหลงเถิงรูจ้ กั ตัวตนที่
แท้จริงของอีกฝ่ ายแล้ว

“เหอะ ข้าไม่คิดเลยว่ายังมีใครบางคนจดจําข้าผูน้ ีไ้ ด้บนผืนปฐพี! ดี. เจ้า


กลายเป็ นจิตวิญญาณของเครือ่ งรางจริงๆ! มังกรผูส้ งู ศักดิถ์ งึ กับยอมลด
ตัวกลายเป็ นจิตวิญญาณของ เครือ่ งรางให้คนอื่นจริงๆ! ช่างเป็ นความอับ
อายของเผ่าพันธุ”์

เงาดํากล่าวขึน้ ด้วยนํา้ เสียงสุดรังเกียจ

เย่หยวนโพลงกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า

“ท่านเคยเสียสละบางอย่างในฐานะสมาชิกของเผ่ามังกรหรือไม่? แล้วกล้า
ดียงั ไงมาตําหนิท่านอาวุโสหลงเถิง?”
เย่หยวนเป็ นคนรักพวกพ้องอย่างที่สดุ ทันทีท่ีเงาดําเอ่ยปาก ดูหมิ่นหลง
เถิง เขาเองก็อยูเ่ ฉยไม่ได้แน่นอน แม้กระทัง้ นํา้ เสียงวาจายังแข็งกร้าวขึน้
ทันที

"เย่หยวน! ห้ามหยาบคาย! ท่านหลงซานเป็ นถึง...เซียนอาณาจักรพระเจ้า


และฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้าก็ถกู คิดค้นขึน้ โดยท่านหลงซานผูน้ ี!้ ”

เห็นได้ชดั ว่า หลงเถิงเคารพนับถือหลงซานอย่างมาก แม้อีกฝ่ ายจะกล่าว


วาจาดูถกู เหยียบหยามเพียงใด แต่เขาก็มิได้นาํ พามาใส่ใจ

เมื่อได้ฟังเช่นนัน้ เย่หยวนยังต้องตะลึงเช่นกัน เขาไม่คาดไม่ ฝันเลยว่า เงา


ดําเบือ้ งหน้าเขาจะเป็ นถึงเขียนอาณาจักรพระเจ้า

นอกจากนี ้ ฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้าที่เย่หยวนใช้งานเป็ นประจํา ยังถูก


คิดค้นโดยเงาดําที่อยูต่ อ่ หน้าต่อตาผูน้ ี!้
หากบ่มฝึ กฝนฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้าจนบรรลุอย่างชํานาญถ่องแท้
อนุภาพขีดสุดของมันมิได้ดอ้ ยกว่ามหาเก้าสุรยิ นั สิน้ สววรค์ของจอม
ราชันย์วิญญาณ!

การที่สามารถคิดค้นวรยุทธฝ่ ามือที่ทา้ ทายสวรรค์เช่นนีไ้ ด้ จะเห็นได้วา่


บุคคลระดับนีท้ รงพลังถึงขัน้ เขย่าฟ้าดินจนผืนพิภพต้องตะลึงอย่างแท้จริง!

เว้นเสียแต่ทศั นคติของอีกฝ่ ายที่ท่ีตอ่ เย่นยวนในปั จจุบนั มันไม่คอ่ ยดีนกั

“เซียนอาณาจักรพระเจ้าแล้วอย่างไร? สถานการณ์ในปั จบุ นั ผันเปลี่ยนไป


หมดแล้ว! เมื่อเวลาผ่านไปไม่มีเซียน ท่านใดเหลือรอด! ท่านเองก็เป็ น
เพียงเศษเสีย้ ววิญญาณที่หลงเหลือเท่านัน้ !” เย่หยวนกล่าวเย้ยโดย
ปราศจากความสุภาพใดๆ
“ดี! สามหาว! เจ้าคิดว่าเศษวิญญาณที่หลงเหลือนีจ้ ะไม่สามารถทําอะไร
เจ้าได้เลยใช่ไหม? หรือคิดจะพึง่ พาเครือ่ งรางศักดิส์ ทิ ธิ์เสมือนในมือดีละ่ ?
ไม่ว่าสิ่งใดก็ไม่สามารถหยุดข้าผูน้ ีไ้ ด้”

หลงซานกล่าวขึน้ พร้อมรอยยิม้ อันเหยียบเย็น

เย่หยวนสวนตอบโดยไร้ซง่ึ ความกลัวใดๆว่า “หากมีความสามารถก็ลอง


ได้!”

เหงื่อเย็นทั่วหน้าผากหลงเถิงแตกพลักอย่างล้มหลาม เขายืนฟั งตัวแข็งอยู่


ด้านข้างทัง้ สอง

เย่หยวน เจ้าหนุ่มคนนีม้ นั ดือ้ รัน้ เกินไปจริงๆ!

ท่านหลงซานผูน้ ีค้ ือเซียนอาณาจักรพระเจ้าตัวจริงเสียจริง!


อาณาจักรพระเจ้าเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งความนิรนั ดร์ แม้อีกฝ่ ายจะ
เป็ นเพียงเศษเสีย้ วจิตวิญญาณ แต่นนั้ ก็มิใช่สงิ่ ที่เซียนใดควรท้าทาย แม้
กระทัง้ จักรพรรดิหยก! ทว่าอย่าง ไร?...เย่หยวนเป็ นเพียงนักสูอ้ าณาจักร
วิชชาสวรรค์ฟ้าตัวน้อยๆ คนหนึ่ง!?

อย่างไรก็ตาม แทนที่หลงซานจะโกรธจัดเมื่อได้ยินเช่นนัน้ ทว่าเขากลับนิ่ง


เงียบไปแทน

หลังจากนัน้ ครูห่ นึ่งหลงซานเอ่ยปากขึน้ อีกครัง้ ว่า

“เจ้าจะฆ่าข้าผูน้ ีไ้ ด้อย่างไร? เหอะ เดี๋ยวหาว่าข้าไม่ให้โอกาสเจ้า เจ้า


ต้องการเข้ารับการสืบทอดขัน้ สุดท้ายจริงๆงัน้ รึ?”
เย่หยวนประหลาดใจอย่างมากเมื่อได้ยิน เขาเตรียมสูต้ ายกับหลงซานให้รู ้
ดํารูแ้ ดงกันไปข้าง แต่กลับคาดไม่ถงึ ว่า จู่ๆ หลงซานจะเปิ ดโอกาสให้เขา
ได้เข้ารับการสืบทอดขัน้ สุดท้ายจริงๆ!

ดูเหมือนว่าหลงซานจะมั่นใจไม่นอ้ ยกับความยากเข็ญใน การรับสืบทอด


ขัน้ สุดท้ายนี ้ และมั่นใจว่าเย่หยวนจะไม่มีทางพิชิตมันไปได้

“ช่างน่าขัน ท่านรูส้ กึ ว่านายน้อยผูน้ ีล้ อ้ เล่นหรืออย่างไร?” เย่หยวนกล่าว


เสียดสีอีกฝ่ ายตอบ

"ฝี ปากคมกล้าดีหนิ! แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ!” หลงซานกล่าว

“แย่หน่อย เพราะคนที่อาจเสียใจในท้ายที่สดุ ก็คือท่าน!” เย่หยวนกล่าว


ตอบ
“เดี๋ยวก่อน!” หลงเถิงที่เงียบโดยตลอดกล่าวขัดขึน้ และเอ่ยต่อว่า

“ท่านหลงซาน การรับสืบทอดขัน้ สุดท้ายที่ท่านกล่าวถึงหรือว่าจะเป็ น...


เสียงแห่งจอมเทพมังกร”

“นับว่ารูเ้ รือ่ งอยูบ่ า้ ง! ถูกต้องแล้ว! การรับสืบทอดขัน้ สุด ท้ายก็คือเสียง


แห่งจอมเทพมังกร! ทําไมเริม่ รูส้ กึ เสียใจแล้วงัน้ รึ"

หลงซานกล่าวด้วยนํา้ เสียงเพื่อเย้ยหยันเล็กน้อย

เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนัน้ เขาก็กล่าวตอบอย่างเย้ยหยันเช่น

“วรยุทธชัน้ ตํ่าเช่นนัน้ คิดว่าจะล้มข้าได้? และจําเอาไว้ในพจนานุกรมของ


นายน้อยผูน้ ีไ้ ม่เคยมีคาํ ว่าเสียใจ สลักจดอยู่”
“ไม่มีทาง เย่หยวน เจ้าไม่มีทางรับมือเสียงแห่งจอมเทพมังกรได้เลย!”

หลงเถิงโพลงขัดขึน้ ทันทีและกล่าวกระตุน้ เย่หยวนว่า

“เสียงเห่งจอมเทพมังกรเป็ นหนึ่งในวรยุทธต่อสูแ้ ข็งแกร่งที่สดุ ของเผ่า


มังกร! ครัน้ หนึ่งเคยกล่าวไว้วา่ ยามใดเสียงแห่งจอมเทพมังกรถ
ปลดปล่อย ยามนัน้ สายราธสะบัน้ แปดทิศ หุบเขาทลายสิบทาง! ฟ้าดิน
พลันวิบตั ิด่งั วันโลกาวินาศ สรรพสิ่งวิปลาสกลับหัวกลับหาง มันถูกสร้าง
ขึน้ เพื่อล้างพืน้ พิภพอย่างแท้จริง! ด้วยความแกรงกล้าในตอนนีข้ องเจ้าไม่
ทาง รับมือได้น่นอน!”

หลงซานกล่าวขึน้ พร้อมรอยยิม้ ว่า “ผ่อนคลายเถอะ ตอนนีไ้ ม่มีใคร


สามารถฝึ กฝนเสียงแห่งจอมเทพมังกรได้ถึงระดับชัน้ นัน้ อีกแล้ว เสียงแห่ง
จอมเทพ มังกรตรงหน้า เป็ นเพียงหนึ่งในล้านของอนุภาพที่แท้จริง"
วรยุทธที่ทรงพลังขัน้ ทําลายพืน้ พิภพ มันจะน่ากลัวขนาดไหนกัน? แม้จะ
เป็ นแค่หนึ่งในล้านของอนุภาพที่แท้จริง แต่มนั ก็มิใช่สงิ่ ที่นกั สูอ้ าณาจักร
วิชชาสวรรค์ฟ้าจะทานทนได้แม้แต่นอ้ ย

เนื่องจากหลงเถิงทราบดีเกี่ยวกับ เสียงแห่งจอมเทพมังกร และหาก


กล่าวถึงในด้านพลัง มันไม่มีทางเป็ นไปได้เลยที่เย่หยวนจะรับไหว

เฉกเช่นเดียวกับหลงซาน เขามั่นใจยิ่งว่า มันเป็ นไปไม่ได้แน่นอนที่เย่หยวน


ยังกล้ารับการสืบทอดนีอ้ ีก

ทว่าเขาคิดผิด!

“หุหุ วรยุทธต่อสูท้ ่ีแข็งแกร่งที่สดุ ของเผ่ามังกรนัน้ รึ? นายน้อยผูน้ ีส้ นใจยิ่ง


นัก! ข้าอยากจะเห็นเสียจริงว่า เสียงแห่งจอมเทพมังกรจะทรงพลัง
เพียงใด!”
เย่หยวนกล่าวพร้อมแสยะยิม้ บางๆ

หลงเลิงพลันถอนหายใจเฮือกใหญ่ดว้ ยอารมณ์ท่ีหลากหลายเมื่อได้ยิน
เขารูอ้ ยูแ่ ล้วว่านิสยั ของเย่หยวนดือ้ รัน้ เพียงใด

เขากับเย่หยวนก็อยูด่ ว้ ยกันนานมากแล้ว มีหรือที่เขายังไม่คนุ้ เคยกับเจ้า


หนุ่มคนนี?้

หากเย่หยวนเริม่ สนใจสิ่งใด แม้แต่เทพมังกรทัง้ เก้าก็ไม่สามารถเหนียวรัง้


เขาไว้ได้ แต่หากให้กล่าวตามความเป็ น จริง ถ้าเย่หยวนไม่มีแรงผลักดัน
ขนาดนีอ้ ยูใ่ นตัว แล้วยอด อัจฉริยะผูน้ ีจ้ ะกลายเป็ นยอดฝี มือที่แท้จริงได้
อย่างไร ?

“ช่างเป็ นเด็กที่หาญกล้า! ข้าหวังว่าเจ้ายังคงยิม้ เช่นนีไ้ ด้อีกสักพัก!” หลง


ซานกล่าวอย่างเยือกเย็น
อนุภาพของเสียงแห่งจอมเทพมังหร ไม่มีใครชัดเจนไปกว่า เขาอีกแล้ว เจ้า
หนุ่มอาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าที่อยูเ่ บือ้ งหน้า ตรงนีไ้ ม่มีทางรับมือได้ไหว
แน่นอน

ต้องการเข้ารับการฝึ กทอด ทัง้ ๆที่ทราบว่ามันคือวรยุทธต่อสูท้ ่ีแข็งแกร่ง


ที่สดุ ของเผ่ามังกร ?

หลงซานหันหน้าไปหาหลงเถิงและกล่าวว่า

“ไอ้หนู แม้เจ้าจะลดตัวกลายเป็ นจิตวิญญาณของเครือ่ งราง แต่ดว้ ย


สายตาอันเฉียบคมของเจ้าที่เฟ้นหาผูส้ ืบทอดระดับนีไ้ ด้ ข้าอดที่จะกล่าว
ชื่นชมมิได้จริง เว้นเสียแต่ลาํ พองตนเกินไป น่าเสียดาย น่าเสียดาย!”

แต่หลงเถิงกลับส่ายหัวและกล่าวว่า
“เขามิใช่ผสู้ ืบทอดที่ขา้ เลือก แต่เป็ นผูส้ ืบทอดที่ศิลาจารึกเลื่องสวรรค์
เลือก! ถึงแม้เสียงแห่งจอมเทพมังกรจะทรงพลังยิ่ง แต่ลกึ ๆแล้วจ้ายังหวัง
ว่าเขาอาจเหลือทางรอดอยูบ่ า้ ง!”

“ศิลาจารึกเลื่องสวรรค์! เด็กนัน้ เป็ นบุตรแห่งประกาศิตสวรรค์งนั้ รึ? นี่เป็ น


เป็ นไปได้อย่างไร?”

ทันที่ท่ีได้ยินชื่อ สีหน้าท่าทางของหลงซานก็แปรเปลี่ยนอย่างชัดเจน

หลงเถิงพยักหน้าและกล่าวว่า

“เจดียเ์ ลื่องสวรรค์ถกู สร้างมาเพื่อปกปิ ดศิลาจารึกเลื่องสวรรค์ท่ีอยูภ่ ายใน!


ใครผูใ้ ดที่เหมาะสมเป็ นผูส้ ืบทอดล้วนขึน้ อยูก่ บั ศิลาจารึกเลื่องสวรรค์
ทัง้ สิน้ ข้าที่เป็ นเพียงจิต วิญญาณของเครือ่ งรางเล็กๆ คนหนึ่งจะมี
คุณสมบัติคดั เลือกได้อย่างไร?”
หลงซานเงียบลงทันทีและไม่กล่าวอะไรเลยสักประโยค

ข้อมูลนีท้ ่ีเพิ่งได้รบั ได้สร้างความตกตะลึงต่อตัวเขามากเกินไป ศิลาจารึก


เลืองสวรรค์ เอ่ยนามสัน้ ๆ นีแ้ ต่สะท้านทั่วสวรรค์อย่างแท้จริง และเยาวชน
หนุ่มที่อยูต่ อ่ หน้าต่อตาเขาก็คือผูไ้ ด้รบั สืบทอดศิลาจารึกเลื่องสวรรค์รุน่
ปั จจุบนั !

ผูส้ ืบทอดเจดียเ์ ลื่องสวรรค์ทกุ ยุคทุกสมัย ล้วนเติบใหญ่กลายเป็ นเซียนผูไ้ ร้


เทียมทานที่สดุ แห่งยุค!

ทุกครัง้ ที่ศิลาจารึกเลื่องสวรรค์ปรากฏขึน้ นั่นหมายความว่าเวลาแห่ง


หายนะใกล้เวียนบรรจบอีกคราวแล้ว

และผูส้ ืบทอดศิลาจารึกเลื่องสวรรค์ก็มีบทบาทสําคัญยิ่ง ถึงขัน้ ชีช้ ะตาเป็ น


ตายในช่วงเวลาแห่งความหายนะ!
ดังนัน้ พวกเขาเหล่านีจ้ งึ ถูกเรียกว่า บุตรแห่งประกาศิตสวรรค์!

ในเวลาเดียวกันเสียงแห่งจอมเทพมังกรก็คอ่ ยๆ ถูกระดมก่อขึน้ แล้ว


ตอนที่913 พลังของเสี ยงแห่ งจอมเทพมังกร!

มุ่งสู่ จุดลึกที่สุดภายในถ้ า บนกาแพงที่สลักลวดลายมังกร


หิ นสุ ดวิจิตร ทันใดนั้นพลันหวนคืนชีวิตอีกครั้ง!

ทัว่ ทุกพื้นที่ผนั กลายเป็ นมืดมิดดุจราตรี กาลในทันใด


มังกรมหึ มาที่ขดตัวบนกาแพงถ้ าปรากฏกาย พร้อมด้วย
แรงกดดันสุ ดรุ นแรงเกินจินตนาการ!

ทัว่ ทั้งใบหน้าเย่หยวนยังคงนิ่ งสงบดัง่ บ่อบรรพกาลไร้ระ


รอกคลื่น สิ่ งน่าสะพรึ งตรงหน้ากลับไม่มีผลอันใดต่อเขา
เลย

เขาเร่ งเข้าสู่ สภาวะจิตภูผาไร้ประมาทจนถึงขีดสุ ดโดยเร็ ว!


แม้เย่หยวนจะกล่าววาจาหยามเหยียดต่อสิ่ งนี้ มาก แต่เมื่อ
มาในเวลานี้ เขากลับต้องเพิ่มความระมัดระวังขึ้นเป็ นเท่า
ทวีเกินร้อยส่ วน!

เขาทราบดีวา่ การสื บทอดขั้นสุ ดท้ายที่แม้แต่หลงเถิงยัง


เกริ่ นเกรงนี้ มันอันตรายมากเพียงใด

และเย่หยวนก็ทราบเช่นกันว่า เผ่ามังกรเป็ นคู่มือที่น่าสะ


พรึ งเพียงใด ขุมพลังและรากฐานของพวกเขามิใช่สิ่งที่คน
ทัว่ ไปจินตนาการได้

อนุภาพจาต้องวินาศสันตะโรขนาดไหน ถึงสามารถทาให้
เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรได้ชื่อว่าเป็ น วรยุทธต่อสู ้ที่
แข็งแกร่ งที่สุดของเผ่ามังกร แถมยังสามารถเขย่าฟ้าดินจน
วิปลาสได้

การสื บทอดขั้นสุ ดท้ายนี้ ไม่วา่ ใครก็จาต้องจริ งจังมิอาจ


เก็บรอนกาลังใดๆ ถึงกระนั้นก็ไม่แน่จะพิชิตได้

ครื นน! ครื นนน!

มังกรขนาดมหึ มาบินโคจรวนรอบห้วงนภากาศ รัศมีแรง


กดดันอันน่าเกรงขามยิง่ ทบทวีความรุ นแรงขึ้นเรื่ อยๆ
เสี ยงอัสนีกมั ปนาทระดมส่ งเสี ยงลัน่ กึกก้อง สายฟ้าโฉบ
แลบแซ่ซอ้ ง
ขดบินวาดโค้งควงดุจคันธนู ประหนึ่งศาสตรวุธครบ
เครื่ องประจักษ์หน้าพร้อมระดมโจมตีได้ทุกเมื่อ ไม่วา่
ผูใ้ ดเผชิญจาต้องเสี ยศูนย์กนั ทั้งสิ้ น

เย่หยวนเบิกตาเปิ ดกว้างในทันที สองฝ่ ามือพลันยกขึ้น


พร้อมปลดปล่อยฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้า มุ่งเข้าปะทะ
มังกรมหึ มาตรงหน้า!

บูมมม! บูมมมม!
มังกรฟ้าอันผยิ่งผยองยังไม่ทนั เคลื่อนเข้าใกล้ กลับถูกสาย
อัสนีฟ้าแซ่ซอ้ งฟั นฟาดบรรลัยสิ้ นในอึดใจ ฝ่ ามือมังกร
สวรรค์วินาศฟ้าอันซึ่งคว้าชัยมาโดยตลอด แต่คราวนี้หา
ได้สร้างภัยอันตรายไม่!

“การบ่มฝึ กฝนฝ่ ามือมังกรวรรค์วินาศฟ้าของเจ้าเด็กนี่


นับว่าประสบความสาเร็ จยิง่ ยอดอัจฉริ ยะเช่นนี้ หาตัวจับ
ยากโดยแท้ แต่น่าเสี ยดายนัก…เขากลับประเมินตนสู ง
เกินไป!”

หลงซานยืนจับจ้องพร้อมเอ่ยประเมินเย่หยวนตามที่เห็น
แม้คากล่าวของหลงซานจะทาให้หลงเถิงตกใจไม่น้อย แต่
ในตอนนี้หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับเย่หยวนจริ งๆ นี่กลับเรื่ อง
ยากยิง่ ที่เขาจะสามารถรับผิดชอบได้

ไม่วา่ อันใดประเด็นนี้ยงั คงไม่แปรเปลี่ยน ในท้ายที่สุดนี้


เย่หยวนก็ยงั เป็ นถึงผูส้ ื บทอดของศิลาจารึ กเลื่องสวรรค์

“เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรช่างน่ากลัวโดยแท้! คราวนี้เย่


หยวนหุ นหันพลันแล่นเกินไปจริ งๆ!”

หลงเถิงกล่าวขึ้นพร้อมถอนหายใจยาว
เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรเป็ นวรยุทธในยุคบรรพกาลที่สูญ
หายไปจากเผ่ามังกรนานแล้ว นี่เป็ นครั้งแรกที่หลงเถิงได้
เห็นชัดประจักษ์สองตา ที่เขาทราบถึงความน่าเกริ่ นเกรง
ของเสี ยงแห่งจอมเทพมังกร ทั้งหมดเป็ นเพียงเรื่ องเล่า
ขานสื บต่อกันมาเท่านั้น เขาไม่กล้าจินตนาการเลยว่า
หากวรยุทธนี้ถูกปลดปล่อยอย่างเต็มกาลัง อนุภาพทาลาย
ล้างของมันจะมหาศาลเพียงใด

หลงเถิงกาสองมือแน่นด้วยความวิตกโดยไม่รู้ตวั เหงื่อ
เย็นไหลแตกชุ่มทัว่ ทั้งหน้าผาก เขากังวลในความ
ปลอดภัยของเย่หยวนเป็ นอย่างมากในขณะนี้
หลงซานกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า

“ดูเหมือนว่า เขาจะมิใช่บุตรแห่ งประกาศิตสวรรค์อะไร


เทือกนั้น ศิลาจารึ กเลื่องสวรรค์คงมีอะไรผิดพลาดเป็ นแน่
เตรี ยมไปรับศพเจ้าเด็กนั้นซะ”

หลงเถิงหันมองอีกฝ่ ายอย่างรวดเร็ ว แต่มิได้กล่าวใดๆ


ตอบ
เย่หยวนกดริ มฝี ปากแน่นพร้อมกล่าวว่า

“ไม่ได้จริ งๆ อืม…สมชื่อยิง่ แล้วที่ถูกขนานนามว่า วรยุทธ


ต่อสู ้ที่แข็งแกร่ งที่สุดของเผ่ามังกร ดูท่ามิอาจการาบได้
โดยง่ายจริ งๆ!”

เย่หยวนมิได้ผยองหยิง่ ถึงขนาดพึงคิดว่า แค่ฝ่ามือมังกร


สวรรค์วินาศฟ้าเพียงอย่างเดียวจะสามารถการาบได้ จะ
แล้วอย่างไร มันก็เป็ นถึงสุ ดยอดวรยุทธต่อสู ้แห่ งเผ่ามังกร
เลยทีเดียว
ในความคิดของเขา ฝ่ ามือนี้พินิจพึงต้องการถ่วงเวลาสกัด
เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรเท่านั้น

แต่กลับคาดไม่ถึงจริ งๆว่า เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรจะน่า


สะพรึ งขนาดนี้

กระนั้นอย่างไร เย่หยวนยังคงไม่สิ้นหวัง เขาต้องการที่จะ


ท้าทายเสี ยงแห่งจอมเทพมังกรนี้ต่อไป

ในเมื่อตรงหน้าของเขาเป็ นถึงดินแดนแห่งสุ ดยอดมรดก


หวังพึ่งลูกหลานสื บสานสื บทอดเสื้ อคลุมต่อจากรุ่ นสู่ รุ่น
ลืมไปได้เลยกับเพียงเสี ยงแห่งจอมเทพมังกร ต่อให้พวก
เขายกกันมาทั้งเผ่ามังกร ทั้งหมดก็ไม่สามารถฉุดรั้งเย่
หยวนเอาไว้ได้ มีหรื อแค่เท่านี้ จะยอมแพ้?
เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรทรงพลัง ถึงขนาดที่ประมุขเผ่า
มังกรยังไม่สามารถต้านทาน แล้วจุดประสงค์ที่ให้ผู ้
ต้องการสื บทอดยืนรับต้านเช่นนี้หมายความอย่างไร?

จะเห็นได้วา่ แม้เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรจะน่าพรึ งเกรง


แต่มนั ย่อมมีวิธีควบคุมได้แน่นอนจากภายใน

แต่อย่างไรก็ตาม สาหรับเย่หยวนในปั จจุบนั ที่ตอ้ งการดึง


เคล็ดลับนั้นออกมา กลับยากเกินเป็ นไปได้ มิฉะนั้นหลง
ซานคงไม่ยอมปล่อยให้เขาเข้ามารับสื บทอดขั้นสุ ดท้ายนี้
แน่
เปรี้ ยง! เปรี้ ยง!

ปังงง!

รัศมีสุดกดดันแผ่ขยายทัว่ น่านฟ้าไม่หยุดหย่อน ประหนึ่ ง


ว่าวันโลกาวินาศย่างใกล้เข้ามาแล้วจริ งๆ

ดัง่ หลงเถิงที่กล่าวไว้วา่ สายธารสะบั้นแปดทิศหุบเขา


ทลายสิ บทาง นั้นมิใช่เรื่ องหลอกลวงแต่อย่างใด!

ถึงมังกรมหึ มาตัวนี้จะกาเนิดจากกาแพงหิ นของถ้ า ทว่า


กลับมีพลังอันไร้ขีดจากัด
หากถึงขั้นเซียนอาณาจักรพระเจ้าของเผ่ามังกรมาประทับ
เฝ้าด้วยตนเองเช่นนี้ เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรคงสามารถ
ทะลวงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ให้เป็ นรู โหว่ได้เลยกระมัง!

ทันใดนั้นทัว่ ท้องนภาพลันเงียบสงัดในทันที มังกรมหึ มา


ตัวนั้นหยุดขดโค้งโคจรโดยพลันเช่นกัน มันหยุดอยูเ่ บื้อง
หน้าพร้อมสองตาสว่างดุจลูกแก้วมณี ยกั ษ์จบั จ้องเย่หยวน
ไม่วางตา

สรรพสิ่ งราวกับหยุดเคลื่อนไหว

นี่คือความสงบก่อนพายุโดยแท้!
เย่หยวนพึงทราบ เสี ยงแห่ งจอมเทพมังกรกาลังจะมาถึงใน
ไม่ชา้ !

เขามิได้กงั วลจนเกินไป สองมือเร่ งคว้าโอสถหลายกายัน


เข้าปากอย่างบ้าคลัง่ และกลืนทั้งหมดเข้าไปในคาเดียว

“อ๊อก…”

เมื่อกองโอสถขนาดนั้นเข้าสู่ ทอ้ ง ดัง่ อวัยวะภายใน


แปรปรวนร้อนสลับเย็น ก่อนรุ่ มร้อนดัง่ ไฟแผดเผาทั้งร่ าง
จนเหงื่อเย็นเปี ยกชุ่มทัว่ ทั้งหน้าผากและแผ่นหลังอย่างล้น
เหลือ

“กลืนโอสถระดับแปดขนาดนั้นในคราวเดียว เด็กนั้นมัน
บ้าไปแล้ว!”

หลงซานอุทานขึ้นด้วยความตกใจ

สาหรับนักสู ้อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าที่กลินโอสถระดับ
แปดลง แน่นอนว่าพวกเขาย่อมมิอาจทานทนต่อฤทธิ์
โอสถระดับแปดได้ไหว ผูใ้ ดไม่แกร่ งกร้าวพออาจทาให้
ร่ างระเบิดได้โดยตรง
การกระทานี้ ย่อมมองว่าบ้าคลัง่ โดยธรรมชาติในสายตา
ของหลงซาน

หลงซานคิดแค่เพียงว่า เย่หยวนเชื่อมันในร่ างกายของตน


เกินไป จึงกล้ากลืนกินโอสถระดับแปดจานวนขนาดนั้น
ในหนึ่งอึดใจ ไม่วา่ อย่างไร เขาก็รู้สึกว่า ร่ างของเย่หยวน
กาลังจะระเบิดในไม่ชา้

แต่ร่างกายของเย่หยวน ก็มีแค่เย่หยวนเท่านั้นที่ทราบถึง
ขีดจากัดดี และการกลืนโอสถในจานวนนี้ ก็ยงั อยูใ่ น
ขอบเขตที่ร่างกายของเขารับได้
“ในบรรดาโอสถที่เขากลืนไป มีท้ งั โอสถก่อเกิดปราณ
จ้าวและโอสถกายจ้าวทรราชใช่หรื อไม่? โอสถก่อเกิด
ปราณจ้าวจะช่วยให้ร่างกายผลิตพลังปราณออกมาได้
อย่างไร้จากัดในช่วงเวลาหนึ่ ง เกราะพลังปราณที่ใช้
ออกมาระหว่างนั้นเรี ยกได้วา่ ไร้เทียมทาน! แถมยังผนวก
เข้ากับโอสถกายจ้าวทรราชที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ ง
ให้แก่ร่างกายทันทีสิบทวีเท่า! สู ตรโอสถทั้งสองชนิดนี้
ล้วนเป็ นสู ตรโอสถในยุคบรรพกาล ความยากในการ
หลอมกลัน่ จัดอยู่ในระดับท้าทายสวรรค์ยงิ่ ! เขาเอาของ
พวกนี้ มาจากไหน?”

หลงซานกล่าวขึ้นด้วยความสงสัย
ด้วยความรู ้ประสบการณ์สุดเจนจัดในทางโลกของหลง
ซาน นับได้วา่ กว้างใหญ่ไพศาล แม้จะเป็ นเสี้ ยวอึดใจสั้นๆ
แต่เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เย่หยวนกลืนโอสถชนิดใดลง
ไปบ้าง

หลงเถิงกล่าวตอบ

“ทั้งหมดนั้น เขาหลอมด้วยตัวเอง”

สี หน้าหลงซานพลันมืดลงและกล่าวอย่างไม่เชื่อว่า
“เป็ นไปไม่ได้! โอสถทั้งสองชนิดนี้ลว้ นเป็ นโอสถระดับ
แปด! แม้แต่เซียนโอสถนิรันดร์ยงั ไม่สามารถหลอมกลัน่
พวกมันได้! ทว่าเขาเป็ นเพียงนักสู ้อาณาจักรวิชชาสวรรค์
เท่านั้น?”

หลงเถิงกล่าวอย่างจนปัญญาว่า

“หากท่านหลงซานไม่เชื่อ ข้าเองก็ไม่รู้จะกล่าวอย่างไร
แล้วเช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ขา้ สามารถกล่าวได้อย่างเต็มปาก
เลยก็คือ ท่านยังรู ้จกั เย่หยวนน้อยเกินไป มิเช่นนั้นศิลา
จารึ กเลื่องสวรรค์จะเลือกเขามาเป็ นผูส้ ื บทอดได้
อย่างไร?”

หลงซานที่ได้ฟังเช่นนั้นกลับพูดไม่ออก

ในเวลานั้นเอง มังกรมหึ มาตรงหน้าจู่ๆก็อา้ ปากขึ้น พลัง


สุ ดหยัง่ ถึงที่แม้แต่ฟ้าดินยังมิอาจเทียบเทียมผงาดพุ่งใส่ เย่
หยวนในทันที!

ไร้เสี ยงและไร้ความผันผวนใดๆ การโจมตีสุดสะพรึ งนี้


พวยพุ่งออกมาทันทีอย่างไม่ทนั ตั้งตัว กระทั้งสัญญาณ
ใดๆยังไม่ปรากฏให้เห็นแม้สักนิด!
ก้องง…

ดัง่ ฆ้องระฆังยักษ์ดงั ง่า แรงระเบิดสุ ดมืดฟ้ามัวดิน


กระหน่าวินาศปะทะยอดเสี ยงแห่งจอมเทพมังกร
โดยตรง! และนั้นมิใช่อนั ใดอื่นนอกจาก ระฆังราชา
สวรรค์อย่างแม่นยา!

แน่นอนว่า ระฆังราชาสวรรค์เป็ นถึงเครื่ องรางเทวะระดับ


เหนือฟ้าสุ ดท้าทายสวรรค์ยงิ่ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับอนุภาพ
ดัง่ ล้างพิภพของเสี ยงแห่ งจอมเทพมังกร ระฆังราชา
สวรรค์กลับถูกทาลายสิ้ นในทันที!
“พร๊ วดดด!”

เย่หยวนกระอักเลือดสมคาโตโดยพลัน การโจมตีครานี้
สร้างความเสี ยหายต่อตัวเขาไม่นอ้ ยเลย

ในเวลาเดียวกัน เย่หยวนเร่ งเดินลมปราณจนเร็ วจี่ดว้ ยวร


ยุทธมังกรทรราชจุติอย่างบ้าคลัง่ และเริ่ มฟื้ นฟูอาการ
บาดเจ็บภายในโดยเร็ ว

แต่ทนั ใดนั้นเอง จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขากลับ


สั่นคลอนอย่างหนัก ราวกับเสี ยศูนย์ชวั่ ขณะหนึ่ง
“พร๊ วดด…”

การโจมตีระรอกสองพวยพุ่งเข้าใส่ อย่างต่อเนื่อง จนส่ ง


ร่ างเย่หยวนกระเด็นออกไปอีกครั้ง

ในคราแรกยังดีที่มีระฆังราชาสวรรค์ช่วยเหลือ แต่การ
โจมตีระรอกสองนี้ เย่หยวนกลับต้านมันด้วยพละกาลัง
ตนเองล้วนๆ!

แม้วา่ โอสถกายจ้าวทรราชจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ งของ


ร่ างกายเป็ นสิ บทวีเท่า แต่ภายใต้การโจมตีครั้งนี้ เย่หยวน
ยังคงได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินจะรับต้านไหว!
“ที่เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรน่าสะพรึ งอย่างยิง่ ยวดเป็ น
เพราะ มันเป็ นการโจมตีรูปแบบผสานระหว่างชีพจร
มังกรทางกายภาพ และการโจมตีทางจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
มันเป็ นไปไม่ได้แน่นอนที่เด็กนั้นจะป้ องกันการโจมตีท้ งั
สองทางได้โดยสมบูรณ์! เด็กนั้นต้องตายแน่นอน!”

หลงซานกล่าวขึ้นพร้อมถอนหายใจยาวให้แก่ความโชค
ร้ายของเย่หยวน

หลงเถิงหรี่ ตาแคบและกล่าวอย่างใจเย็นว่า
“มันก็ยงั ไม่แน่!”
ตอนที่914 ต้ องการขจัดทั้งหมดออกจากทรวงอก!

บูมม!

พลังงานไร้รูปร่ างอีกระรอกใหญ่พุ่งเข้าใส่ เย่หยวนอย่าง


แรง

ในคราวนี้ เย่หยวนกัดฟั นแน่นใช้แรงฮึดดึงเจดียเ์ ลื่อง


สวรรค์มหึ มาออกมา!

แต่กระนั้น ด้วยแรงระเบิดสุ ดจะต้านทาน ก็ยงั ส่ งร่ างของ


เขากระเด็นไปไกลอีกครา
ฤทธิ์โอสถก่อเกิดปราณจ้าวหลัง่ ไหลอย่างรวดเร็ ว เกราะ
พลังปราณที่วา่ ไร้เทียมทานในขณะนี้ยงั บางลงจนน่า
ตกใจ ร่ างกายที่วา่ แกร่ งกล้าโดยโอสถกายจ้าวทรราชพลัน
อ่อนแอลงอย่างมาก

เสี ยงแห่งจอมเทพมังกร สมแล้วที่ได้รับขนานนามว่า


เป็ นวรยุทธต่อสู ้ที่แข็งแกร่ งที่สุดของเผ่ามังกร การ
ป้องกันอันน่าเกรงขามของเย่หยวนที่ตระเตรี ยมมาอย่างดี
ยังไม่สามารถต้านทานได้เช่นกัน

แต่ในเวลานั้น หลงซานกลับตะลึงงันด้วยความประหลาด
ใจยิง่
เพราะการโจมตีทางจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเสี ยงแห่ง
จอมเทพมังกร กลับไม่มีผลอันใดต่อเย่หยวนเลยจริ งๆ!

ทั้งๆที่ต้ งั แต่ตน้ จนปั จจุบนั สมาธิท้ งั หมดของเย่หยวนจด


จ่ออยูก่ บั แต่การป้องกันทางกายภาพ ทว่าไฉนจิตวิญญาณ
ศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนยังคงปกติดีไร้ร่องรอยบาดเจ็บใดๆ

“เป็ นไปได้อย่างไร? อนุภาพการโจมตีทางจิตวิญญาณ


ของเสี ยงแห่งจอมเทพมังกรทรงพลังจนน่าสะพรึ ง แม้แต่
ข้ายังมิอาจทานทนได้! แล้วเด็กนั้นต้านทานไหวได้
อย่างไรกัน?”
หลงซานกล่าวขึ้นด้วยความไม่อยากเชื่อ

หลงเถิงยิม้ แต่มิได้กล่าวตอบใดๆสักคา

เขาทราบดีวา่ การโจมตีทางจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ไม่มีผล
อันใดต่อตัวเย่หยวนอยูแ่ ล้ว อันเนื่องมาจากไข่มุกสยบ
วิญญาณภายในทะเลแห่งจิตใจ

ไข่มุกนี้ ล้ ีลบั อย่างหาที่เปรี ยบไม่ แม้แต่เทพอสู รเจียหลาน


ยังประสบความสู ญเสี ยครั้งใหญ่กบั สิ่ งนี้ ทุกการรุ กล้ าเข้า
มาทางจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ไข่มุกสยบวิญญาณจะทา
หน้าที่กาจัดทิ้งทันที นั้นรวมไปถึงเสี ยงแห่งจอมเทพ
มังกรก็ไม่มีขอ้ ยกเว้น

ทว่าหากเป็ นเสี ยงแห่งจอมเทพมังกรที่แท้จริ งฉบับเต็ม


กาลังรบ นั้นอาจพอเป็ นไปได้ที่จะทาร้ายเย่หยวน แม้จะมี
ไข่มุกสยบวิญญาณก็ตาม

หรื อบางที แม้แต่เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรที่แท้จริ งก็ยงั มิ


อาจฝ่ าด่านป้องกันของไข่มุขสยบวิญญาณก็เป็ นได้!

บางสิ่ งที่กระทั้งเทพอสู รผูย้ งิ่ ใหญ่อย่างเจียหลานต้อง


หวาดกลัวจนหนีหางจุกตูด นั้นจาต้องทรงพลังเพียงใด?
แน่นอนว่าหลงเถิงย่อมไม่กล่าวเล่าเรื่ องนี้ให้แก่หลงซาน
ฟัง

เย่หยวนเป็ นถึงผูส้ ื บทอดของศิลาจารึ กเลื่องสวรรค์ และ


ยังมีสถานะเป็ นเจ้านายของเขาอีกด้วย แม้วา่ หลงซานจะ
เป็ นดัง่ บรรพบุรุษที่เคารพยิง่ ก็ตาม แต่ก็เป็ นไปไม่ได้
เช่นกันที่ เขาจะเปิ ดเผยความลับอันยิง่ ใหญ่น้ ีของเย่หยวน

หากเป็ นเพียงการโจมตีทางจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ อย่าง


เดียวก็คงดี เพราะโอกาสที่เย่หยวนจะคว้าชัยย่อมสู งขึ้น

แม้เย่หยวนจะพยายามกระตุน้ สายเลือดมังกรภายในร่ าง
หรื อสร้างเกราะลมปราณขึ้นมาป้องกันจนแกร่ งดัง่ เกราะ
เต่าเพียงใด แต่เย่หยวนก็เกือบประคองลมหายใจไม่ไหว
แล้วเช่นกัน!

ไม่น่าแปลกใจที่ไฉนหลงซานจึงกล้ายอมให้เย่หยวนเข้า
รับการสื บทอดขั้นสุ ดท้ายนี้ ทั้งๆที่ทราบว่าร่ างกายของเย่
หยวนแข็งแกร่ งเพียงใด

“ถึงแม้การโจมตีทางจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเสี ยงแห่ง
จอมเทพมังกร จะไร้ประโยชน์ต่อตัวเขา แต่ทางกายภาพ
นับว่าถึงตายได้! เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรมีท้ งั หมดเก้า
รอบดุจเก้าบทสวด แต่ละรอบที่ปลดปล่อยจะทวีอนุภาพ
มากขึ้นเรื่ อยๆ! และในตอนนี้เป็ นเพียงรอบที่สี่เท่านั้น แต่
เขากลับถึงขีดจากัดแล้ว แล้วเจ้าคิดหรื อว่าเขาจะทานทน
กับที่เหลือได้ไหว?”
หลงซานกลับมาสงบยะเยือกอีกครั้งอย่างรวดเร็ ว

แม้วา่ คากล่าวของเขาจะไม่น่าอภัยเท่าไหร่ นกั แต่ดูจาก


น้ าเสี ยงและวาจา เขามองเย่หยวนแตกต่างจากตอนแรกที่
พานพบมากแล้ว

เย่หยวนเกินความคาดหมายของเขาจริ งๆ

สาหรับนักสู ้อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าโดยทัว่ ไป มันไม่มี


ทางเป็ นไปได้เลยที่จะล่วงลุถึงขั้นนี้

หลงเถิงส่ ายหัวและกล่าวว่า
“จริ งๆแล้วข้าเองก็ไม่มนั่ เท่าไหร่ นกั แต่เบื้องลึกข้ากลับ
รู ้สึกว่า เขาสามารถผ่านพ้นมันไปได้!”

หลงซานเหลือบมองหลงเถิงเล็กน้อยและกล่าวอย่างเยือก
เย็นว่า

“โง่เขลา!”

บูมมม!
เปรี ยบเก้าบทสวดสุ ดทรงพลัง แต่สิ่งที่ออกมามิใช่เพียง
สุ่ มเสี ยง แต่เป็ นคลื่นพลังทาลายล้างสุ ดวินาศสันตะโร
อย่างแท้จริ ง!

อนุภาพของคลื่นเสี ยงนี้ในแต่ละรอบย่อมทรงพลังมากขึ้น
ตามลาดับ

เมื่อเสี ยงแห่ งจอมเทพมังกรรอบที่หา้ ถูกปลดปล่อย ร่ าง


ของเย่หยวนก็ลงกองกับพื้นโดยตรง!

ทัว่ ทั้งร่ างกายของเย่หยวนในปั จจุบนั อาบด้วยเลือดสี แดง


สด กลิ่นอายที่แผ่ออกมาอ่อนยวบอย่างมากในหนึ่งอึดใจ
ฤทธิ์โอสถทั้งหมดก่อนหน้าที่กลืนกินอันตรธานสิ้ นแล้ว
กระทั้งพลังปราณยังไม่เหลือเพื่อควบคุมเจดียเ์ ลื่องสวรรค์
ให้มาป้องกัน

บูมมมม!

ไม่รีรอให้แช่มช้า เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรรอบที่หกพวย


พุ่งถึงหน้าในพริ บตา!

เย่หยวนนอนเหยียดตัวอยูบ่ นพื้นและไม่สามารถขยับ
เขยื้อนร่ างกายได้แม้แต่น้อย ทาได้เพียงนอนทนรับพลัง
เบื้องหน้าเท่านั้น
แต่หลังรับการโจมตีครั้งนี้ไป กลิ่นอายทัว่ ร่ างเย่หยวนก็ยงิ่
อ่อนแอระหองระแหงอย่างมาก

เมื่อเห็นภาพฉากนี้ สี หน้าการแสดงออกของหลงเถิงพลัน
เลวร้ายอย่างยิง่ ภายในใจโศกเศร้าเจือขมขื่นสุ ดจะกังวล
แต่ตวั เขาในตอนนี้กลับไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

“เป็ นไปได้ไหมว่า…ข้าจะต้องใช้มาตรการสุ ดท้ายนั้น?”


มาตรการสุ ดท้ายที่วา่ คือ การผลาญพลังชีวิตเฮือกสุ ดท้าย
ของตนเพื่อหล่อเลี้ยงเจดียเ์ ลื่องสวรรค์ให้ช่วยปกป้องเย่
หยวนต่อการโจมตีหลังจากนี้

แต่แน่นอนว่า ด้วยวิธีน้ ี วิญญาณของหลงเถิงจักต้องสลาย


หายไป!

“เจ้าต้องการสละชีพเพื่อช่วยให้เขาผ่านพ้นวิกฤตนี้? ช่าง
ไร้ความคุม้ ค่า! เจ้าไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กนั้นได้! ใน
สถานะปัจจุบนั ของเจ้า เจ้าสามารถควบคุมเครื่ องราง
ศักดิ์สิทธิ์เสมือนได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น รอบที่เจ็ดอาจ
แคล้วคลาด แต่รอบแปดและเก้า เด็กนั้นต้องตายอย่าง
แน่นอน! เขาไม่มีทางทานทนอนุภาพของเสี ยงนี้ได้!”

หลงซานมองผ่านอ่านความคิดของหลงเถิงได้ในทันที

“แล้วอย่างไร? เขาเป็ นเจ้านายของข้า และที่สาคัญกว่านั้น


คือ เหตุผลที่เขามาในทะเลมารคลัง่ ก็เพื่อช่วยชีวิตข้า! แม้
ข้าจะตายลง แต่ขา้ ไม่ยอมปล่อยให้เขาตายต่อหน้าต่อตา
แน่นอน!”

หลงเถิงกล่าวขึ้นด้วยใจอันเด็ดเดี่ยว
หลงเถิงมีอายุกว่าหลายหมื่นปี แล้ว มันนานจนเขาไม่
สนใจบางสิ่ งอย่างแล้วเช่นกัน

เมื่อกล่าวจบหลงเถิงก็สูดหายใจเข้าลึกๆและเตรี ยมจะ
กลับเข้าในเจดียเ์ ลื่องสวรรค์

ในขณะเดียวกันเสี ยงแห่งจอมเทพมังกรรอบที่เจ็ดพลัน
พวยพุ่งอย่างมิให้สุ่มให้เสี ยง

เสี้ ยวอึดใจ หลงเถิงกาลังจะเคลื่อนไหว แต่ทนั ใดนั้น เขา


กลับต้องตกตะลึงเมื่อสัมผัสได้วา่ จู่ๆกลิ่นอายของเย่
หยวนก็พวยพุ่งผงาดขึ้นไม่หยุด!
“กรรรรร!”

บูมมมม!

เย่หยวนคารามลัน่ อย่างเดือดดุ เสี ยงคารามที่แปล่งออกมา


ของเขาดุจมังกรขนานแท้ ฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้า
กระหน่าปลดปล่อยอีกครา พร้อมเข้าปะทะกับเสี ยงแห่ ง
จอมเทพมังกรรอบที่เจ็ด
การปะทะครั้งนี้ ได้ส่งร่ างเย่หยวนกระเด็นออกไปอีกครั้ง

แต่ถึงอย่างไร กลิ่นอายของเย่หยวนยังคงทบทวีเพิม่ ขึ้นไม่


หยุดหย่อน!

เปรี๊ ยงง!

ทัณฑ์ฟ้าแห่งการทดสอบของสรวงสรรค์พลันฟาดฝ่ าลง
ใส่ ร่างเย่หยวนโดยตรง แต่น้ นั กลับไม่มีผลอันใดต่อเขา
เลย!
การทดสอบของสรวงสวรรค์เล็กๆน้อยๆเช่นนี้ มันไม่
สามารถทาอันตรายเขาได้แม้แต่ปลายเล็บเท้า!

“เขา…เขาดูดซับกระดูกมังกรบรรพกาลเสร็ จสมบูรณ์
แล้ว! แถมนั้น…ยังเริ่ มวิวฒั นาการสายเลือดแล้วด้วย!”

หลงเถิงอุทานพึมพาภายใต้ลมหายใจ ทัว่ ใบหน้าอันแน่น


ไปด้วยความตกตะลึงเกินระบายออกมา

หลงซานที่อยูข่ า้ งๆไม่เอ่ยปากกล่าวอันใดและยืนเงียบไป
เช่นนั้น เขาคาดไม่ถึงเลยว่า เย่หยวนจะสามารถดูดซับ
กระดูกมังกรบรรพกาลได้เสร็ จสมบูรณ์ทนั เวลาในช่วง
หัวเลี้ยวหัวต่อสุ ดท้ายพอดี!

อัตราความก้าวหน้าต่อการดูดซับกระดูกมังกรบรรพกาล
ของเย่หยวน ย่อมไม่อาจหลบซ่ อนได้จากสายตาของหลง
ซาน เขาทราบดีวา่ หากเย่หยวนต้องการดูดซับกระดูก
มังกรบรรพกาลให้เสร็ จสมบูรณ์ มันยังต้องใช้เวลาอีก
นานพอสมควร

แต่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเป็ นตายเช่นนี้ มันกลับกระตุน้


ศักยภาพแฝงอันน่าตะลึงของเย่หยวนได้จริ งๆ จนสามารถ
ดูดซับกระดูกมังกรบรรพกาลให้สาเร็ จสมบูรณ์ได้ใน
เสี้ ยวอึดใจ!
ความสามารถอันท้าทายสวรรค์เช่นนี้ หลงซานไม่เคยพบ
เห็นที่ไหนมาก่อน!

‘เป็ นไปได้ไหมว่า…เด็กนี่อาจเป็ นบุตรแห่ งประกาศิต


สวรรค์จริ งๆ?’

หลงซานคิดในใจ
ผลจากการดูดซับกระดูกมังกรบรรพกาลจนเสร็ จสมบูรณ์
มันทาให้ร่างกายและพลังปราณของเย่หยวนพัฒนาอย่าง
บ้าคลัง่ ไม่หยุด

“ฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้า!”

เย่หยวนปลดปล่อยฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้าออกมาโดย
ไร้ซ่ ึงความลังเล เข้าชนกับเสี ยงแห่งจอมเทพมังกรรอบที่
แปดอย่างแรง!

เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรยังคงรุ นแรงเกินไป เย่หยวนเป็ น


ฝ่ ายพ่ายและกระเด็นออกไปไกลอีกคราว
แต่ในเวลานี้ ไม่วา่ เป็ นการโจมตีที่ทรงพลังเพียงใด แต่หา
ได้หยุดหยั้งการพัฒนาของเย่หยวนไม่

เย่หยวนคารามลัน่ ไม่หยุดท่ามกลางแรงกดดันของมังกร
หิ นขนาดมหึ มาตรงหน้า

ประหนึ่งว่าเขาเองที่เป็ นจอมเทพมังกรที่แท้จริ ง!

บูมมม!
ก่อนเสี ยงแห่งจอมเทพมังกรรอบที่เก้าจะบรรจบ ทัณฑ์ฟ้า
แห่งการทดสอบพลันฟาดผ่าลงมาก่อน จนทาให้เย่หยวน
ทะลวงขึ้นสู่ อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าระดับเจ็ดโดยตรง!

ทว่ายังไม่จบ แรงดันลมปราณของเขากลับเพิม่ พูนขึ้น


ต่อเนื่องจนพาไปสู่ อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าระดับแปด!

พลังงานลึกลับที่บรรจุอยูใ่ นกระดูกมังกรบรรพกาล มัน


แข็งแกร่ งเสี ยกว่าโลหิ ตมังกรกึ่งสวรรค์ที่เย่หยวนเคยได้
รับมาเสี ยอีก เย่หยวนจึงไม่อาจดูดซับทั้งหมดได้ในเวลา
อันสั้น
ดังนั้น หลังจากที่ดูดซับจนเสร็ จสมบูรณ์แล้ว อาณาจักร
พลังของเขาจึงเป็ นดัง่ เขื่อนกั้นน้ าที่เกินอัดอั้นจนแตกออก
พลังปราณจานวนมหาศาลดัง่ มวลน้ ายักษ์พุ่งทะลักออกมา
เกินระงับ

ในปัจจุบนั เย่หยวนรู ้สึกว่าทัว่ ทั้งร่ างพลัง่ พลูไปด้วยพลัง


ปราณมหาศาลเกินกักเก็บ ตั้งแต่หวั จรดเท้า เขารู ้สึกอึดอัด
ยิง่ ราวกับร่ างกายแทบจะระเบิดเป็ นจุณออกมา ในตอนนี้
เขาต้องการขจัดมันทั้งหมดออกจากทรวงอกโดยด่วน!

ทันทีที่คิดได้ เย่หยวนพลันยกกาปั้นขวาขึ้นและซัดหมัด
เงามังกรสยบออกมาสุ ดแรงเกิด พร้อมเสี ยงคาราม
กึกก้อง!
“เสี ยงแห่งจอมเทพมังกร! พินาศไปซะ!”

เย่หยวนโห้ร้องอย่างดุเดือด
ตอนที่915 ตรามังกรศักดิ์สิทธิ์!

กำปั้นไร้เงำพวยพุ่ง ร่ ำงเย่หยวนถูกซัดระเบิดออกมำ

แต่ครำวนี้เขำมิได้กระเด็นกระดอนเมื่อครำวก่อนๆ สอง
เท้ำยึดติดบนพื้นอย่ำงมัน่ คงเช่นเดิม

บูมมม!

มังกรมหึ มำกลำงห้วงนภำกำศค่อยๆระเบิดกระจำยออก
พร้อมเสี ยงดังคึกโครม ก่อนกลำยเป็ นก้อนเมฆสลำยเป็ น
ไอบำงๆ
ในที่สุดสภำพแวดล้อมภำยในถ้ ำก็กลับสู่ ปกติดงั เดิม
เว้นเสี ยแต่ลวดลำยมังกรหิ นขนำดยักษ์ที่สลักอยูบ่ น
กำแพงถ้ ำ ปัจจุบนั กลับไม่มีอีกแล้ว

เย่หยวนไม่รอช้ำ เขำนัง่ ขัดสมำธิและเริ่ มรับประโยชน์จำก


กำรดูดซับกระดูกมังกรบรรพกำลต่อทันที

ในปัจจุบนั เย่หยวนทะลวงผ่ำนเข้ำสู่ อำณำจักรวิชชำ


สวรรค์ฟ้ำระดับเก้ำแล้ว และร่ ำงกำยของเขำก็กำ้ วขึ้นสู่
ระดับแปดขั้นกลำงแล้วเช่นกัน
“ท่ำนหลงซำน ดูเหมือนว่ำ…ผูส้ ื บทอดของศิลำจำรึ กเลื่อง
สวรรค์จะไม่น่ำผิดหวังอย่ำงที่ท่ำนคิด!”

หลงเถิงกล่ำวขึ้นอย่ำงขบขัน

เงำดำอดกรนเสี ยงเยือกเย็นมิได้เมื่อได้ยนิ พรสวรรค์และ


ควำมสำมำรถของเย่หยวนเหนื อกว่ำที่จินตนำกำรไว้จริ งๆ

สิ่ งที่ไม่ควรเป็ นไปได้ ทว่ำท้ำยที่สุด เย่หยวนกลับทำมัน


สำเร็ จจริ งๆ

ตำมคำประเมินของหลงซำนตำมก่อนหน้ำ เขำได้กล่ำวไว้
ว่ำ เย่หยวนไม่มีทำงต้ำนรับเสี ยงแห่งจอมเทพมังกรได้
ไหว แม้เขำจะดูดซับกระดูกมังกรบรรพกำล หรื อโลหิ ต
มังกรกึ่งสัตว์เทวะก็ตำม กระทั้งชีพจรมังกรขั้นวิญญำณ
ระดับกลำง แต่ก็ไม่มีวนั เป็ นไปได้เช่นกัน

แต่ตอนนี้ เย่หยวนกลับยกกำปั้ นทุบหน้ำเขำแหกอย่ำงไร้


ปรำณี !

เจ้ำหนุ่มเหลือขอนั้นประสบควำมสำเร็ จจริ งๆ!

เงำดำยืนนิ่งด้วยสี หน้ำเยือกเย็น แต่ก็มิได้กล่ำวอันใด

หลงซำนภำคภูมิทะนงตนเป็ นที่สุด หำกเขำผิดก็คือผิด


และจะไม่โต้เถียงใดๆ
หลงซำนไม่กล่ำว แต่หลงเถิงยังมีคำถำมมำกมำยอยูเ่ ต็ม
กระเพำะ

“ท่ำนหลงซำน หำกย้อนกลับไป เพรำเหตุใดท่ำนถึงออก


จำกเผ่ำมังกรไป?”

หลงเถิงกล่ำวขึ้นพร้อมท่ำทำงที่เต็มไปด้วยควำมสงสัย

เมื่อประมำณหนึ่งแสนปี ก่อน หลงซำนคือผูน้ ำสู งสุ ดของ


เผ่ำมังกรบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่ งก็เป็ นผูน้ ำของเผ่ำมังกร
คนสุ ดท้ำยเช่นกัน แต่ทว่ำในยุคที่รุ่งโรจญ์ที่สุดในชีวิต
เขำกลับลำจำกเผ่ำมังกรไปอย่ำงเงียบๆและตั้งแต่น้ นั เป็ น
ต้นมำ ก็ไม่มีใครเคยได้ยนิ ชื่อเขำอีกเลย

เกิดอะไรขึ้นมิอำจรู ้แจ้ง จนถึงตอนนี้ ที่หลงเถิงบังเอิญ


พำนพบหลงซำน เขำย่อมเกิดควำมสงสัยและเอ่ยถำมขึ้น
เป็ นธรรมชำติ

“อืม ในยุคที่ขำ้ ผูน้ ้ ีปกครองบังลังก์ของเผ่ำมังกร จู่ๆข้ำ


จำต้องออกมำเนื่องจำกได้รับหมำยเรี ยกจำกอดีตจอมเทพ
มังกร! เจ้ำควรทรำบดีวำ่ สุ ดยอดสมบัติของเผ่ำมังกรที่
แท้จริ งก็คือ ตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้รับมำจำกอดีตจอม
เทพมังกร!”
หลงซำนกล่ำวขึ้นโดยไม่คิดปิ ดบังใดๆรำวกับเป็ นเรื่ อง
ธรรมดำทัว่ ไป แต่นี่กลับเป็ นดัง่ คลื่นโกลำหลสุ ดน่ำสะ
พรึ งที่โฉบแลนเข้ำหูหลงเถิง

“ตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์ ! อดีตจอมเทพมังกรยังมีชีวิตอยูจ่ ริ งๆ
ในเวลำนั้น!”

หลงเถิงกล่ำวขึ้นด้วยควำมตกตะลึงสุ ดขีด

อดีตจอมเทพมังกรที่ออกจำกปำกหลงซำนคือ ผูน้ ำเผ่ำ


มังกรรุ่ นก่อนหน้ำหลงซำน ตำมคำเล่ำขำนได้กล่ำวกันว่ำ
ควำมแกร่ งกร้ำวของเขำน่ำหวำดกลัวเกินจินตนำกำรยิง่
ซึ่งหลงซำนก็ได้รับกำรเลี้ยงดูจำกอดีตผูน้ ำเผ่ำท่ำนนี้

“เฮ้อ ควำมแข็งแกร่ งของอดีตจอมเทพมังกรเป็ นสิ่ งที่เจ้ำ


ไม่มีทำงจินตนำกำรถึงได้เลย แม้แต่ตอนที่ขำ้ อยูใ่ น
สภำวะสู งสุ ด ข้ำยังไม่สำมำรถเอำชนะท่ำนได้ ทั้งๆที่ท่ำน
ใช้มือเพียงข้ำงเดียว!”

หลงซำนกล่ำวขึ้นพร้อมหัวเรำะเยำะตนเองเล็กน้อย

สี หน้ำกำรแสดงออกขแงหลงเถิงแปรเปลี่ยนเป็ นควำมสะ
พรึ งด้วยควำมหวำดกลัว ประดุจคลื่นพำยุคลัง่ พัดพำ
กระหน่ำจิตใจเขำไป
เมื่อหนึ่งแสนปี ก่อน มีหลำยเหตุกำรณ์ที่ถูกลบเลือนมำก
เกินไป ดูเหมือนว่ำเผ่ำมังกรยังมีควำมลับอีกมำกที่ไม่มิได้
เปิ ดเผยออกมำ

“ท่ำนหลงซำน แล้ว…แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเซียนอำณำจักร
พระเจ้ำ เมื่อแสนปี ก่อน พวกเขำทั้งหมดหำยไปได้
อย่ำงไร?”

หลงเถิงกล่ำวถำมคำถำมที่สำคัญที่สุดออกไป ในปั จจุบนั


เหล่ำนักสู ้ทวั่ ทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยงั คงกังขำกับเหตุกำรณ์
นี้และยังเฝ้ำหำคำตอบอยูต่ ลอด
หลงซำนรำพึงอยูค่ รู่ ใหญ่ แต่เขำกลับส่ ำยหัวอย่ำงขมขื่น
พร้อมกล่ำวว่ำ

“อย่ำถำมข้ำเลย เพรำะข้ำเองก็ไม่ทรำบเช่นกัน! ปัจจุบนั


ข้ำเป็ นเพียงเศษเสี้ ยวของวิญญำณที่หลงเหลืออยู่ กำย
รู ปธรรมดัง่ เดิมของข้ำถูกเก็บไว้ ทั้งหมดก็เพื่อปกป้อง
แดนรำชำมังกรแห่งนี้ แม้ขำ้ จะหลงเหลือเสี้ ยวควำมทรง
จำจำกกำยรู ปธรรมดัง่ เดิมอยูบ่ ำ้ ง แต่น้ นั เป็ นเพียงส่ วน
น้อย ควำมทรงจำที่เกี่ยวกับเซียนอำณำจักรพระเจ้ำได้ถูก
ลบออกไปหมดแล้ว”
หลงเถิงผงะด้วยควำมตกใจเล็กน้อย เขำไม่คำดคิดเลยว่ำ
เรื่ องเช่นนี้จะมีจริ งๆ

ในที่สุดหลงเถิงก็ได้พบเซียนอำณำจักรพระเจ้ำตัวจริ ง
เสี ยงจริ ง แต่กลับคำดไม่ถึงเลยว่ำควำมทรงจำในส่ วนนั้น
จะถูกลบทิง้ จนหมดสิ้ น

ควำมลี้ลบั ของศำสตร์แห่งสวรรค์ ยิง่ ผูค้ นไล่ตำมเท่ำใด


นั้นก็ยิ่งนำพำควำมสับสนและผิดประหลำดมำกขึ้น
เท่ำนั้น!

“นี่! ข้ำผ่ำนกำรทดสอบแล้ว!”
หลังจำกที่เย่หยวนเสร็ จสิ้ นกำรรวบรวมอำณำจักรพลัง
แล้ว เขำก็เอ่ยปำกขึ้นตรงๆโดยไม่แสดงควำมเคำรพใดๆ
ต่อหลงซำนเลย

“ช้ำก่อน!”

หลงซำนกล่ำวสั้นๆเสี ยงสองคำ ก่อนขยับร่ ำงหำยวับไป


จำกสำยตำ
เมื่อเย่หยวนเห็นภำพฉำกนี้ เขำก็พูดอะไรไม่ออกครู่ หนึ่ง
ก่อนเอ่ยขึ้นอย่ำงเย้ยหยันว่ำ

“สหำยเฒ่ำผูน้ ้ ีช่ำงไร้ควำมรับผิดชอบอย่ำงแท้จริ ง! เขำคง


ไม่คิดหนีเช่นนี้จริ งไหม?”

“กล่ำวไร้สำระ! ท่ำนหลงซำนเป็ นคนสัตย์ตรงในวำจำ!


แล้วท่ำนจะหนีได้อย่ำงไร?!”

หลงเถิงตอบสวนกลับไปทันที
เย่หยวนกล่ำวยิม้ ว่ำ

“เหอะ ข้ำก็มิได้คิดมำกหรอก! ข้ำเพียงอยำกทรำบเท่ำนั้น


ว่ำ ในเมื่อบททดสอบเป็ นเสี ยงแห่งจอมเทพมังกรอันน่ำ
สะพรึ งสุ ดขีดเช่นนี้ แล้วมรดกสื บทอดชิ้นสุ ดท้ำยที่วำ่ มัน
คืออะไรกันแน่? ก่อนหน้ำนี้ เขำได้มอบเครื่ องรำงเทวะ
ขั้นเหนือฟ้ำมำให้แล้ว ครำวนี้คงไม่มอบเครื่ องรำง
ศักดิ์สิทธิ์แก่ขำ้ ใช่ไหม?”

สุ่ มเสี ยงของเย่หยวนยังไม่ทนั จำงหำย ทันใดนั้นรอยแยก


ขนำดยักษ์ก็ถูกเปิ ดออกจำกมุมใดมุมหนึ่งของถ้ ำโดยตรง
แสงไฟนับไม่ถว้ นสำดส่ องทอดยำวเป็ นเส้นทำงลึกลงไป
ภำยในนั้น ทัว่ ทั้งรอยแยกภำยในพลันสว่ำงเติมเต็มแทน
ควำมมืดมิด
แรงกดดันของผ่ำมังกรมำกมำยมหำศำลไร้ขอบเขต
ประหนึ่งห้วงจักรวำลร่ วงหล่นจำกฟำกนภำ

เมื่อเย่หยวนเห็นสิ่ งเหล่ำนี้ยงั ต้องอ้ำปำกค้ำงด้วยควำมตก


ตะลึงเช่นกัน!

เขำยังไม่เคยเห็นโฉมหน้ำที่แท้จริ งของมรดกชิ้นสุ ดท้ำย


เลย แต่เย่หยวนกลับรู ้สึกได้ถึงพลังของมันแล้ว!
“ฟู่ วว…แรงกดดันของเผ่ำมังกรสุ ดทรงพลัง! ท่ำนอำวุโส
หลงเถิง ท่ำนเป็ นสมำชิกของเผ่ำมังกร ควรทรำบใช่
หรื อไม่วำ่ มันคืออะไร?”

เย่หยวนหันมองไปทำงหลงเถิง แต่กลับต้องประหลำดใจ
ที่เห็นหลงเถิงรำพึงรำพันอยูค่ นเดียวซ้ ำไปมำรำวกับคน
เสี ยสติ

“เป็ นไปไม่ได้…ไม่มีทำง! นี่เป็ นไปได้อย่ำงไร…”

หลงเถิงรำพึงซ้ ำวนไปไม่หยุดหย่อน
“เจ้ำเห็นไม่ผิด มันคือตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์”

ในเวลำนั้นเอง ร่ ำงของหลงซำนก็ค่อยๆปรำกฏขึ้นอีกครั้ง

เย่หยวนจับจ้องอีกฝ่ ำยโดยไม่ต้ งั ใจ พร้อมท่ำทีที่


เปลี่ยนไป

“ท่ำน…”

“หลังมอบตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์เสร็ จสิ้ น ภำระกิจอันแสน


ยำวนำนของข้ำก็จะเสร็ จสมบูรณ์เช่นกัน คงต้องลำจำก
โดยธรรมชำติ เพียงว่ำข้ำมิอำจทรำบได้เลยว่ำ กำย
รู ปธรรมดัง่ เดิมยังคงอยูจ่ ริ งหรื อไม่”

สำยตำของหลงซำนจับจ้องไปทำงไกลอย่ำงไร้ขอบเขต
รำวกับว่ำเขำต้องกำรพบพำนกำยรู ปธรรมดัง่ เดิมของตน
อีกครั้ง

แต่นี่ก็ผำ่ นมำกว่ำหนึ่ งแสนปี แล้ว เซียนอำณำจักรพระเจ้ำ


สู ญหำยเป็ นเช่นไรยังมิทรำบ กระทั้งตัวหลงซำนเองก็ไม่รู้
เช่นกัน

ในเวลำนี้เอง เงำดำร่ ำงหลงซำนค่อยๆจำงลงและหำยไป


ในไม่ชำ้
“เจ้ำหนุ่ม ตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์น้ ี เป็ นมรดกสู งสุ งของเผ่ำ
มังกร และยังเป็ นสัญลักษณ์แสดงถึงตันตนในฐำนะผูน้ ำ
เผ่ำมังกร! ตอนนี้เจ้ำได้รับมันแล้ว ฉะนั้นจงตัดขำดกับเผ่ำ
มนุษย์และกลำยมำเป็ นสมำชิกของเผ่ำมังกรซะ! ในทำง
กลับกัน หำกเผ่ำมังกรมีภยั อันใด ไม่วำ่ บุกน้ ำลุยไฟเจ้ำก็
ต้องช่วยเหลือพวกเขำ!”

หลงซำนส่ งเสี ยงกึกก้องไปทัว่ ถ้ ำเพื่อกล่ำวย้ำให้เย่หยวน


ฟัง

เย่หยวนนิ่ งไปครู่ หนึ่ ง ก่อนส่ ำยหัวและกล่ำวว่ำ


“ข้ำเป็ นมนุษย์ นี่คือควำมจริ งที่มิอำจเปลี่ยนแปลงได้!
หำกคิดจะใช้มรดกชิ้นนี้เพื่อลักพำตัวตนของข้ำ บอกเลย
ว่ำไม่มีทำง! แม้อนำคตอันไกล ข้ำก็ยงั คงยืนยันคำตอบ
เดิมคือ…ไม่!”

ในปัจจุบนั สำยเลือดมังกรของเย่หยวนสู งส่ งถึงขั้น


รำชวงศ์แล้ว

แต่ไม่วำ่ อย่ำงไร เย่หยวนก็ไม่เคยคิดเลยว่ำตนคือเผ่ำมังกร


หำกต้องกำรให้ละทิ้งตัวตนในฐำนะมนุษย์คนหนึ่งและ
ให้กลำยเป็ นมังกร ไม่วำ่ อะไรจะเกิดขึ้นนั้นเป็ นสิ่ งที่เย่
หยวนไม่สำมำรถยอมรับได้เลย
หลงซำนรำพึ่งอยูค่ รู่ หนึ่ งและทันใดนั้นก็เอ่ยขึ้นว่ำ

“ข้ำทรำบดี เจ้ำมันเป็ นพวกหัวรั้น! ลืมมันไปเถอะ ลืมมัน


ไป ในอนำคตไม่วำ่ จะทำอะไรนั้นเป็ นเรื่ องของเจ้ำ! แต่
เจ้ำจะต้องสัญญำกับข้ำก่อนว่ำ หำกอนำคตเผ่ำมังกรเกิด
ภัยอันตรำย เจ้ำจำต้องยืน่ มือเข้ำช่วยเหลือ! หำกทำไม่ได้ก็
จงส่ งตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์น้ ีคืนให้แก่เผ่ำมังกร!”

เย่หยวนรำพึงครู่ หนึ่งและพยักหน้ำกล่ำวว่ำ
“แน่นอน ข้ำขอสัญญำต่อท่ำน! เมื่อใดเผ่ำมังกรเกิดเภทภัย
ข้ำจะไปช่วยเหลือในทันที!”

สุ่ มเสี ยงของหลงซำนหันไปทำงทิศหลงเถิงและกล่ำวว่ำ

“ไอ้หนู นี่คือศิลำหยุนเฉิ นรับไป! และก่อนจำกกัน ข้ำขอ


มอบของขวัญอีกชิ้นให้แก่เจ้ำ!”
ตอนที่916 พลังปราณเทวะ

หลงซำนประสำนมือทั้งสองหลอมรวมตรำผนึกวิจิตงำม
เป็ นหนึ่งเดียว ไอสี ดำพลันปลดปล่อยออกมำจำกร่ ำงเงำ
ดำของหลงซำน ก่อนพุ่งเข้ำไปยังร่ ำงของหลงเถิงโดยตรง

“นี่เป็ นเศษเสี้ ยวพลังจิตวิญญำณสุ ดท้ำยของข้ำ หำกเก็บไว้


เองคงไม่มีประโยชน์อนั ใดนัก เช่นนั้นข้ำขอมอบให้แก่
เจ้ำ ด้วยสิ่ งนี้ผนวกกับศิลำหยุนเฉิ น พลังจิตวิญญำณของ
เจ้ำควรฟื้ นฟูกลับมำอย่ำงน้อยสำมถึงสี่ ส่วนเต็มในเวลำ
อันสั้น และไม่นำนมันจะช่วยฟื้ นคืนสภำพจิตวิญญำณ
ของเจ้ำจนกลับสู่ สภำวะสู งสุ ดอีกครั้ง”

หลงซำนกล่ำวอธิบำยอย่ำงใจเย็น
เย่หยวนตื่นตะลึงอย่ำงลับๆภำยในใจอยูข่ ำ้ งหลัง พร้อม
พึมพำเล็กน้อยด้วยควำมตกใจ เห็นได้ชดั ว่ำเศษเสี้ ยว
วิญญำณที่หลงเหลืออยูข่ องหลงซำน มันช่ำงอ่อนแอยิง่
แต่ทว่ำยังคงมีขมุ พลังระดับนี้ซุกซ่อนอยู่จริ งๆ!

พลังแห่ งอำณำจักรพระเจ้ำทรงพลังเกินจินตนำกำรโดย
แท้!

“ขอบพระคุณอย่ำงยิง่ ท่ำนหลงซำน!”
หลงเถิงโค้งคำนับให้และกล่ำวขึ้นด้วยควำมเคำรพ

หลงซำนกล่ำวตอบว่ำ

“พลังจิตวิญญำณของข้ำกำลังจะหมดลงแล้ว จึงเหลือแค่
เพียงเศษเสี้ ยวที่มีมอบให้ หลังจำกนี้ไม่วำ่ สลำยไปตำมลม
หรื อกลับสู่ กำยรรู ปธรรมดัง่ เดิมได้ ข้ำจะคอยตั้งตำดู! เจ้ำ
หนุ่ม หวังว่ำเจ้ำจะทำตำมสัญญำที่ให้ไว้!”
เมื่อกล่ำวเสร็ จแรงกดดันของหลงซำนก็อนั ตธำนสิ้ น ทัว่
ทั้งถ้ ำแห่งนี้ไร้ซ่ ึงร่ องรอยของเซียนอำณำจักรพระเจ้ำนำม
หลงซำนอีกต่อไป

และในขณะเดียวกัน ป้ำยตรำทรงแท่งแข็งก็ค่อยๆบิน
ออกมำจำกรอยแยกนั้น พร้อมร่ อนลงสู่ มือเย่หยวนอย่ำง
ประณี ต

เมื่อหลงเถิงเห็นสิ่ งนี้ เขำก็ดูตื่นเต้นอย่ำงมำกรำวกับกิน


โอสถกระตุน้
“ตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์ ! นี่มนั ตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์จริ งๆ!
มรดกชิ้นนี้สูญหำยไปกว่ำแสนปี แล้ว ข้ำไม่คิดเลยว่ำมัน
จะถูกเก็บไว้ในหลุมอเวจีสวรรค์เช่นนี้! ในเวลำนั้นผืน
พิภพเกิดเรื่ องอันใดกันแน่?”

เย่หยวนกล่ำวอย่ำงสงสัยว่ำ

“นี่คือมรดกสู งสุ ดของเผ่ำมังกรจริ งๆหรื อ? ไม่วำ่ จะดู


ยังไง มันก็ไม่ต่ำงจำกแท่งไฟธรรมดำๆอันหนึ่ ง?”

เย่หยวนกล่ำวขึ้นพร้อมลองจับเหวี่ยงไปมำเสมือนดำบ
หรื อยุทธ์ภณ
ั ฑ์สักอย่ำง เรื่ องนี้ ไม่สำมำรตำหนิเขำได้
เพรำะไม่วำ่ จะดูยงั ไงมันก็เป็ นแค่ป้ำยตรำทรงแท่งแข็งๆ
ทัว่ ไปเท่ำนั้นจริ งๆ

มันมีลกั ษณะเป็ นแท่งยำวสี ดำสนิท มีร่องรอยสึ กรอตำม


กำลเวลำ แต่กลับไม่มีกลิ่นอำยหรื อควำมผันผวนของพลัง
ปรำณใดๆทั้งสิ้ น นี่ได้สร้ำงควำมประหลำดใจให้แก่เย่
หยวนเป็ นอย่ำงยิง่ จนพลันคิดไปว่ำ ตนถูกตำแก่หลงซำน
นั้นสวมเขำเข้ำให้แล้ว

นี่มนั แท่งไฟหรื อแท่งเหล็กอะไรสักอย่ำงจริ งๆ ไฉนถึง


กล้ำอ้ำงว่ำเป็ นมรดกสู งสุ ดของเผ่ำมังกรได้อย่ำงหน้ำตำ
เฉย?
“หยุด! หยุดเหวี่ยได้แล้ว! ตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์ ในมือเจ้ำ
เป็ นถึงเครื่ องรำงศักดิ์สิทธิ์เชียว! แล้วเจ้ำจะใช้งำนง่ำยๆได้
อย่ำงไร? ที่เครื่ องรำงศักดิ์สิทธิ์ปรำกฏขึ้นเช่นนี้ มันอำจ
เป็ นไปได้วำ่ …วันโลกำวินำศกำลังจะมำถึง!”

หลงเถิงกล่ำวขึ้นพร้อมใบหน้ำอันเคร่ งขรึ ม

ในยุคที่ศำสตร์แห่งสวรรค์เสื่ อมโทรม เครื่ องรำงศักดิ์สิทธิ์


ทั้งหมดเองก็ถูกจมหำยไปกับหน้ำประวัติศำสตร์เช่นกัน

แต่ในตอนนี้ จู่ๆเครื่ องรำงศักดิ์สิทธิ์ก็ปรำกฏขึ้นมำบนผืน


พิภพอีกครั้ง หลงเถิงจึงรู ้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีนกั
“หำกกล่ำวถึงเครื่ องรำงศักดิ์สิทธิ์ แล้วศิลำจำรึ กเลื่อง
สวรรค์คืออะไร? แถมยังมีไข่มุกสยบวิญญำณนั้นอีก!
เฮ้ออ…ข้ำไม่อำจเข้ำใจอะไรได้เลยจริ งๆ!”

เย่หยวนถอนหำยใจแรงเฮือกใหญ่ พร้อมกล่ำวขึ้นอย่ำงไร้
ประโยชน์

หลงเถิงเองก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเช่นกัน เกี่ยวกับเรื่ อง
เครื่ องรำงศักดิ์สิทธิ์ มันลี้ลบั ยิ่งสำหรับเขำ
ลืมเขำไปได้เลย กระทั้งฟำนเทียนยังไม่ทรำบเช่นกันว่ำ
ศิลำจำรึ กเลื่องสวรรค์มีตน้ กำเนิ ดมำจำกที่ใด

“ลืมไปเถอะ ลืมไป ออกข้ำงนอกกันก่อนดีกว่ำ ในเมื่อไอ้


แท่งนี่ มนั เป็ นของดีจริ งๆ เช่นนั้นก็ค่อยหำวิธีใช้ทีหลัง
แต่…พวกเรำจะออกจำกที่นี่ได้อย่ำงไร?”

สหำยหลงซำนจำกไปทั้งอย่ำงนั้น โดยที่ทิ้งพวกเขำไว้ใน
ถ้ ำแห่งนี้ตำมลำพัง
หลงเถิงกล่ำวขึ้นว่ำ

“สถำนที่แห่งนี้น่ำจะเป็ นมิติอิสระที่ถูกสร้ำงขึ้น หำกเรำ


ต้องกำรออกไปเกรงว่ำต้องทำลำยเท่ำนั้น”

“เหอะ กระทั้งเสี ยงแห่งจอมเทพมังกรยังไม่สำมำรถทำให้


ที่นี่สะเทือนได้ดว้ ยซ้ ำ พวกเรำไม่มีทำงทำลำยมิติอิสระนี้
ออกไปได้แน่นอน!”

เย่หยวนกล่ำวขึ้นอย่ำงไร้ประโยชน์
กำรจู่โจมด้วยเสี ยงแห่งจอมเทพมังกรนั้นทรงอนุภำพกำร
ทำลำยล้ำงยิง่ แต่กระนั้นสถำนที่แห่งนี้กลับไม่สะท้ำน
สะเทือนแม้สักนิด จึงหมำยควำมได้วำ่ พวกเขำทั้งคู่ไม่
สำมำรถออกไปได้โดยวิธีใช้กำลัง

แม้ควำมแข็งแกร่ งของเย่หยวนจะพัฒนำขึ้นอย่ำงมำก แต่


กำรจะให้ทำลำยมิติอิสระแห่งนี้ดว้ ยพลัง เขำเองก็ทรำบดี
ว่ำมันเป็ นไปไม่ได้

หลงเถิงครุ่ นรำพึงครู่ หนึ่ง และทันใดนั้นเขำก็โพลงกล่ำว


ว่ำ
“จริ งด้วย! ตำมบันทึกในอดีต ตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์ มี
ควำมสำมำรถในกำรทำลำยมิติได้! รอยแยกเมื่อครู่ ก็มิใช่
มันรึ ? ที่ทำลำยออกมำเอง?”

ดวงตำเย่หยวนพลันสว่ำงประกำยทันทีที่ได้ยนิ และนำ
ตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์ ออกมำอีกครำ

เขำพยำยำมกรอกเทพลังปรำณจำนวนมำกลงไปในตรำ
มังกรศักดิ์สิทธิ์ ทว่ำกลับไม่มีปฏิกิริยำใดๆเลย

“ตำมที่คำดไว้ มันเป็ นแค่แท่งเหล็กธรรมดำ? แต่น่ำ


เสี ยดำย มันสั้นเกินจะใช้เกำหลังได้”
เย่หยวนกล่ำวขึ้นพลำงยกตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์ ใช้มนั เกำ
หลัง

หลงเถิงสำดสำยตำใส่ เย่หยวนอย่ำงรุ่ มร้อน และกล่ำวว่ำ

“หยุดเดี๋ยวนี้เลย! ในเมื่อมันเป็ นถึงเครื่ องรำงศักดิ์สิทธิ์ ก็


จำต้องใช้โดยเซียนอำณำจักรพระเจ้ำ หำกต้องกำรให้ตรำ
มังกรศักดิ์สิทธิ์ทำงำน เจ้ำก็ตอ้ งใช้พลังปรำณเทวะ!”
“พลังปรำณเทวะ? มันคืออันใด?”

เย่หยวนถำมสวนด้วยควำมงุนงง

“พลังปรำณเทวะจะมีเพียงเซียนอำณำจักรพระเจ้ำเท่ำนั้น
ที่สำมำรถใช้ได้! หลังจำกที่พลังฉี ล้ ีลบั เข้ำสู่ ร่ำงกำยและ
ได้รับกำรกลัน่ กรองโดยเซียนอำณำจักรพระเจ้ำ สิ่ ง
เหล่ำนั้นจะกลำยเป็ นพลังปรำณเทวะ!”

หลงเถิงกล่ำวอธิ บำย
สำหรับเรื่ องรำวเหล่ำนี้ที่หลงเถิงทรำบ เย่หยวนมิได้
แปลกใจอะไรเลย เผ่ำมังกรเป็ นหนึ่งในเผ่ำอสู รที่ปรำกฏ
หลักฐำนกำรดำรงอยูย่ ำวนำนที่สุดบนผืนพิภพ แน่นอนว่ำ
พวกเขำจำต้องทรำบเกี่ยวกับเรื่ องลี้ลบั บำงสิ่ งที่คน
ภำยนอกไม่ทรำบ

อย่ำงไรก็ตำม นี่นบั เป็ นครั้งที่สองแล้วที่เย่หยวนได้ยินคำ


ว่ำ‘พลังฉี ล้ ีลบั ’

“แต่…ข้ำจะไปสรรหำพลังปรำณเทวะจำกแห่งหนใด? ใน
มือข้ำก็มีเพียงแท่งเหล็กโง่ๆอันหนึ่ง?”
เย่หยวนกล่ำวขึ้นด้วยควำมฉงนสงสัย

“พลังปรำณเทวะ เจ้ำเองก็มีมิใช่รึ?”

หลงเถิงกล่ำวขึ้นพร้อมจ้องมองเย่หยวนด้วยรอยยิม้ ที่
ไม่ใช่รอยยิม้

เย่หยวนอดงุนงงหนักมิได้เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น พลันครุ่ นคิด


อยูส่ ักครู่ ก่อนโพลงกล่ำวอย่ำงตื่นเต้นว่ำ
“ท่ำนกำลังกล่ำวว่ำ…พลังงำนไร้นำมภำยในทะเลแห่ง
จิตใจของข้ำคือพลังปรำณเทวะ?”

หลงเถิงกล่ำวตอบอย่ำงยิม้ แย้มว่ำ

“ถูกต้องแล้ว พลังงำนไร้นำมที่เจ้ำได้รับภำยในเจดียเ์ ลื่อง


สวรรค์ในตอนนั้น มันคือพลังปรำณเทวะ! แต่ละหยด
พลังมีล้ ำค่ำหำประเมินไม่ และทั้งหมดได้รับมำจำกฟำน
เทียนในครำที่เข้ำสำรวจเทือกเขำเหวพระเจ้ำ หลังจำกที่
เขำมิได้ใช้งำนมันอีก เขำก็เก็บมันไว้ภำยในเจดียเ์ ลื่อง
สวรรค์ แต่มิได้คำดหวังเลยว่ำ ในท้ำยที่สุดมันกลับมี
ประโยชน์อย่ำงยิง่ ต่อตัวเจ้ำในขณะนี้”
เย่หยวนถึงกับพูดไม่ออก ปรำกฏว่ำเขำได้ครอบครองสุ ด
ยอดสมบัติมำโดยตลอด เพียงแต่ไม่รู้ตวั เลยสักนิด!
พลังงำนไร้นำมอันแปลกประหลำดนั้น แท้ที่จริ งกลับเป็ น
พลังปรำณเทวะที่เซียนอำณำจักรพระเจ้ำใช้กนั !

เว้นเสี ยแต่ นักสู ้ที่อยูต่ ่ำกว่ำอำณำจักรพระเจ้ำจะไม่มี


ปลดปล่อยพลังที่แท้จริ งของพลังปรำณเทวะนี้ได้เลย

สำหรับเย่หยวน หน้ำที่เพียงหนึ่ งเดียวของพลังปรำณเทวะ


คือ กำรใช้เป็ นกำรจู่โจมฉับพลันในยำมฉุกเฉิ นเท่ำนั้น
หำกเซียนอำณำจักรพระเจ้ำทรำบว่ำ เย่หยวนนำพลัง
ปรำณเทวะมำใช้แบบนี้ พวกเขำคงอำฆำตแค้นจนอยำก
ปี นออกมำบีบคอจำกหลุมศพเป็ นแน่

แต่โชคยังดีที่เย่หยวนตระหนักได้วำ่ สิ่ งเหล่ำนี้มนั มีค่ำ


เพียงใดและไม่เคยใช้จริ งๆออกมำเลยสักครั้งจนบัดนี้

เย่หยวนสำดสำยตำใส่ หลงเถิงสวนคืนกลับ และกล่ำวขึ้น


อย่ำงฉุนเฉี ยวว่ำ
“ท่ำนทรำบเรื่ องนี้นำนแล้ว แต่จงใจปิ ดบังข้ำโดยตลอด!
ท่ำนไม่กลัวว่ำ สักวันข้ำจะนำพลังปรำณเทวะเหล่ำนี้
ออกมำใช้โดยเปล่ำประโยชน์เลยงั้นรึ ?”

หลงเถิงกล่ำวตอบพร้อมรอยยิม้ ว่ำ

“ในเมื่อเจ้ำได้รับมันไป มันย่อมเป็ นของเจ้ำโดยธรรมชำติ


แล้วเจ้ำจะใช้งำนมันอย่ำงไรก็เป็ นเรื่ องของเจ้ำเช่นกัน”
เย่หยวนเสี ยศูนย์ไปทันทีเมื่อได้ยนิ เขำสู ดลมหำยใจลึกๆ
และระดมพลังปรำณเทวะเหล่ำนั้นภำยในทะเลแห่งจิตใจ
ออกมำอยู่หลำยหยด ก่อนที่จะกรอกเทลงในตรำมังกร
ศักดิ์สิทธิ์!

ทันใดนั้นตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์ ก็เปล่งประกำยสว่ำงสุ กใส


ยังไม่ทนั ได้เปิ ดใช้งำน เย่หยวนก็รู้สึกได้ถึงพลังอันไร้
สิ้ นสุ ดทันทีดงั่ ตอนแรกที่มนั ปรำกฏกำย!

วูบ! วูบ!
เย่หยวนยกมันขึ้นเพื่อใช้งำนในทันใด รอยร้ำวมิติพลัน
ปรำกฏและค่อยๆฉี กออกกว้ำงตำมลำดับ!

บูมมมม!

ทันใดนั้นดัง่ ภำพฉำกถ้ ำหิ นก่อนหน้ำแตกละเอียดดุจ


กระจก มิติอิสระแห่ งนี้พงั ทลำยลงอย่ำงรวดเร็ ว ร่ ำงของเย่
หยวนและหลงเถิงถูกหลุมพลังงำนลี้ลบั ขนำดยักษ์
ดูดกลืนลงไป
ฟุบ ฟุบ ฟุบ….

เหนือตำหนักชั้นสอง ดวงไฟทั้งหมดพลันดับมอดทันที
อย่ำงพร้อมเพรี ยง

เมื่อเห็นเหตุกำรณ์เช่นนี้ เช่ำไคลุกขึ้นทันทีดว้ ยควำมตื่น


ตระหนัก ก่อนขมวดคิว้ แน่นกล่ำวว่ำ

“เกิดอะไรขึ้น? เย่หยวน เขำ…เกิดอะไรขึ้นกับเขำ?”

“หัวหน้ำเย่ทรงพลังขนำดนั้น จะเกิดอะไรขึ้นกับเขำได้
อย่ำงไร?”
อำเหริ่ นกล่ำว

ทันใดนั้นสุ่ มเสี ยงแหลมดังหวือก้องกังวำล พร้อม


ห้วงอำกำศเบื้องหน้ำทุกคนบิดเบี้ยวจนเสี ยรู ปเนื่องด้วย
ควำมผันผวนของมิติ ก่อนที่จะปรำกฏร่ ำงเย่หยวนขึ้นใน
ตำหนักอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่ำเป็ นเย่หยวน อำเหริ่ นกล่ำวต่อทันทีพร้อมเสี ยง


หัวเรำะว่ำ
“ฮ่ำฮ่ำ ข้ำบอกอย่ำงไร? ในผืนพิภพแห่งนี้ สิ่ งที่สำมำรถ
สร้ำงเภทภัยให้แก่หวั หน้ำเย่ได้ มันยังไม่ลืมตำดูโลกด้วย
ซ้ ำ!”

สำหรับอำเหริ่ นในปั จจุบนั เย่หยวนนับเป็ นกำรดำรงอยูท่ ี่


เขำแทบเคำรพบูชำแล้ว

อย่ำงไรก็ตำม สี หน้ำกำรแสดงออกของเช่ำไคกลับ
เปลี่ยนไปและกล่ำวขึ้นด้วยควำมไม่น่ำเชื่อว่ำ

“เย่หยวน เจ้ำ…เจ้ำก้ำวข้ำมขีดจำกัดรวดเดียวเลยงั้นรึ ?”
เป็ นเวลำกว่ำหลำยวันแล้วที่เย่หยวนอยูใ่ นถ้ ำ ซึ่งใน
ระหว่ำงนั้นเอง เขำก็ทะลวงข้ำมอำณำจักรย่อยติดต่อกัน
ถึงสำมระดับในครำวเดียว และปัจจุบนั เย่หยวนก็ใกล้
ทะลวงขึ้นสู่ อำณำจักรไร้เทียมทำนเต็มทนแล้ว!

ควำมเร็ วในกำรพัฒนำเช่นนี้ช่ำงน่ำหวำดกลัวโดยแท้!
ตอนที่917 ไม่ เห็นหรื อว่ าข้ ากาลังสวมบทบาทอยู่?

ตึงงง…

นอกแดนราชามังกร สิ บสองผูส้ ู งส่ งที่กาลังนัง่ สมาธิอยู่


อย่างสงบพลันลืมตานทันที ท่าทางของแต่ละคนตกตะลึง
สุ ดขีด

“เกิดอะไรขึ้น? ไฉนแดนราชามังกรเริ่ มถล่มลงมาแล้ว”

ผูส้ ู งส่ งท่านหนึ่งกล่าวขึ้นอย่างเคร่ งขรึ ม


“เป็ นไปไม่ได้! แดนราชามังกรเป็ นถึงดินแดนของเซียน
อาณาจักรพระเจ้า! ใครกันที่ทาให้มนั ล่มสลายเช่นนี้?”

ผูส้ ู งส่ งอัคคีผลาญกล่าวขึ้นพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วย


ความไม่เชื่อ

เหล่าสิ บสองผูส้ ู งส่ ง ทุกคนล้วนตั้งความหวังไว้กนั แดน


ราชามังกรสู งมาก ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่เสี ยเวลานัง่ รอ
นายพลสังหารที่ส่งไปนานขนาดนี้

สิ่ งหนึ่ งที่ควรทราบก็คือ หลุมอเวจีสวรรค์มีเวลาเปิ ดเพียง


ครึ่ งปี เท่านั้น ทุกเสี้ ยวอึดใจล้วนมีค่าอย่างยิง่
หากแดนราชามังกรไม่สาคัญต่อพวกเขาจริ ง ป่ านนี้
ระหว่างที่รอพวกเขาทั้งสิ บสองคงแยกย้ายสารวจสมบัติ
ไปนานแล้ว

“แดนราชามังกรล่มสลายเป็ นเรื่ องเหลือเชื่อ บางทีอาจมี


บางสิ่ งเกิดขึ้นภายในนั้น ข้ากังวลยิง่ ว่า…นายพลสังหาร
ของเราอาจตกอยูใ่ นอันตราย”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารกล่าวขึ้นอย่างแช่มช้า

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้นสี หน้าของผูส้ ู งส่ งทุกคนล้วนเลวร้ายลง


ทันที
โดยเฉพาะกับซื่อหยิน นางถึงกับกัดริ มฝี ปากนุ่มของตน
แน่น พร้อมใบหน้าที่เผยให้เห็นถึงความสิ้ นหวังอย่าง
ชัดเจน

หากนางสู ญเสี ยเย่หยวนไปในแดนราชามังกรแห่งนี้ล่ะก็


การเดินทางต่อจากนี้อาจกล่าวได้ทนั ทีวา่ ไร้ประโยชน์
นางยังมีสถานที่ที่ตอ้ งไปอยูอ่ ีกหนึ่งจุด ดังนั้นนางจึง
โศกเศร้ากว่าคนอื่นๆมากนัก

แต่เมื่อผูส้ ู งส่ งเหลิ่งเสี่ ยทันสังเกตเห็นใบหน้าของนาง เขา


จึงกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิม้ บางว่า
“ไฉนน้องเล็กซื่อหยินถึงดูกงั วลขนาดนั้น? เกี่ยวกับนาย
พลสังหารวัยเยาว์คนนั้นหรื อไม่? หรื อเป็ นไปได้ไหม
ว่า…เจ้าจะชอบเจ้าหนุ่มนั้นเข้าให้แล้ว?”

ซื่อหยินสะดุง้ ตกใจอย่างลับๆ แต่สีหน้าของนางพลัน


เยือกเย็นลงและกล่าวว่า

“ท่านคิดว่าคนอื่นๆเลือดเย็นเหมือนท่านงั้นรึ ?”
เหลิ่งเสี่ ยมิได้ติดตามตอบใดๆ เขายังคงยิม้ บางๆและจู่ๆก็
กล่าวขึ้นว่า

“จะว่าไป เมื่อสิ บปี ก่อน น้องเล็กซื่อหยินเดินสารวจด้วย


ตนเองในหลุมอเวจีสวรรค์แห่งนี้ ส่ วนพวกเราก็เอาแต่เดิน
สารวจภายในแดนราชามังกรอย่างเดียวเลย จึงไม่ทราบว่า
บริ เวณที่นอ้ งเล็กซื่อหยินเคยสารวจมีสมบัติอนั ใดบ้าง?”

เมื่อคาเหล่านี้ดงั ออกมา ผูส้ ู งส่ งคนอื่นๆพลันหันมองซื่อห


ยินโดยไม่ต้ งั ใจ

ครั้งล่าสุ ดที่เข้าสารวจหลุมอเวจีสวรรค์ นอกเหนือจากการ


ตายของสองผูส้ ู งส่ ง คนอื่นๆก็มิได้พานพบสมบัติอนั ท้า
ทายสวรรค์มากนัก ขณะที่ผเู ้ ก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มาก
ที่สุดในเวลานั้นก็คือ ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญและผูส้ ู งส่ งซื่อห
ยินอย่างไม่ตอ้ งสงสัย

ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญได้รับขุมสมบัติภายในแดนราชามังกร


แห่งนี้ แต่สถานที่ที่ซื่อหยินเข้าสารวจจวบจนปัจจุบนั ก็ยงั
เป็ นปริ ศนาโดยตลอด

หากทุกคนได้รับผลประโยชน์มากมายจากแดนราชา
มังกรในคราวนี้ คงไม่มีใครหันมาสนใจซื่อหยินแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อตอนนี้แดนราชามังกรล่มสลายลงไป
แล้ว นายพลสังหารทั้งหมดมีแนวโน้มสู งว่าตายกันเกลี้ยง
สิ่ งเดียวที่เหลืออยูค่ งมีเพียงสถานที่ของซื่อหยิน
สี หน้าของซื่อหยินมืดลงและกล่าวว่า

“เหลิ่นเสี่ ย ท่านหมายความอย่างไร?!”

“หึ หึ ข้าหมายความอย่างไรใยเจ้าไม่ทราบ? การเข้าสารวจ


ในหลุมอเวจีสวรรค์คราวนี้ เจ้าคงไม่อยากให้พวกเราที่
เหลือกลับไปมือเปล่าใช่หรื อไม่? หากมีของดีก็อย่าเก็บไว้
คนเดียว ทุกคนต่างกาลังค้นหาสมบัติเพื่อเก็บเกี่ยว เหตุใด
ถึงไม่มาช่วยกันและแบ่งปั น?”
เหลิ่นเสี่ ยกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้างประดับใบหน้า แต่
รอยยิม้ นั้นกลับเลือดเย็นสุ ดจะบรรยาย

“ถูกต้องแล้ว น้องเล็กซื่ อหยิน จุดประสงค์ที่เจ้านาเย่


หยวนมาด้วย คงมิใช่เพื่อเข้าสู่ แดนราชามังกรใช่หรื อไม่?”

ผูส้ ู งส่ งอีกท่านกล่าวขึ้น

“หากเจ้าค้นพบสถานที่ดีๆ ไฉนถึงไม่บอกเล่าให้แก่ทุก
คนฟัง?”
ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารที่ปิดปากเงียบมาโดยตลอด ในที่สุด
เขายังต้องเอ่ยปากขึ้นเช่นกัน

หากเป็ นคนอื่นๆ ซื่อหยินมิได้ใส่ ใจอะไรนัก แต่ในเมื่อผู ้


สู งส่ งจอมสังหารเอ่ยปากขึ้นด้วยตนเองเช่นนี้ นางเองก็ไม่
มีทางเลือกอื่นแล้วเช่นกัน

ด้วยเหตุน้ ีทนั ทีที่มีหวั หอก ผูส้ ู งส่ งทุกคนจึงมุ่งเป้าไปยัง


ซื่อหยินโดยตรงพร้อมเข้ากดดัน ซึ่งนางในขณะนี้ก็รู้สึก
ราวกับนอนอยูบ่ นเตียงเข็ม
“ว้าว กลุ่มสุ ภาพบุรุษกาลังรุ มกดดันสุ ภาพสตรี เพียงหนึ่ง
เดียว! นี่คือสิ่ งที่ผสู ้ ู งส่ งนิยมกระทากระมัง?”

ทันใดนั้นเสี ยงเย้ยหยันหนึ่ งก็ดงั ขึ้น

เหล่าผูส้ ู งส่ งตกใจอย่างมากเมื่อได้ยนิ พร้อมรี บหันมองต้น


เสี ยงเป็ นตาเดียว แต่เพียงว่าเบื้องหน้าปรากฏเป็ นกลุ่ม
ของเย่หยวนที่กาลังย่างก้าวออกจากแดนราชามังกรอย่าง
สบายอารมณ์และไม่รีบร้อนใดๆ
เหล่าผูส้ ู งส่ งทั้งหมดต่างตกตะลึงยิง่ เพราะกลุ่มคนที่
ติดตามเย่หยวนมา ทั้งหมดล้วนมีแต่คนของพรรคซื่อหยิน
ทั้งสิ้ น!

นอกจากนี้ …นายพลสังหารของซื่อหยินยังคงอยูก่ นั ครบ!

“หึ ! เย่หยวน เรื่ องระหว่างผูส้ ู งส่ งด้วยกัน มันแทบไม่


เกี่ยวเนื่องกับตัวเจ้า! แต่ไฉนถึงคิดขดทาชัว่ ลอบสังหาร
สหายเดินทาง! จงบอกมา! คนอื่นๆอยูท่ ี่ไหน!?”
เมื่อเห็นพวกเย่หยวนออกมากลุ่มเดียว ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญ
ก็ปะทุโทสะเดือดทันที

เจ้าหนุ่มนี่มนั เฒ่าจิง้ จอกชัดๆ!

“คนอื่นๆ? เฮ้อ…แทบกล่าวเล่าทั้งน้ าตา พวกเขาต่างสละ


ชีวิตดัง่ วีรบุรุษเพื่อเหล่าผูส้ ู งส่ งที่เคารพรักของตน โดย
เฉพาะหวูเ่ หอที่ยอมสละชีวิตโดนค่ายกลเผาทั้งเป็ น
เพื่อให้พวกเรารอด! สมแล้วที่เป็ นผูก้ ล้าของท่านผูส้ ู งส่ ง
อัคนีผลาญ! หากมีโอกาสข้าขอคาราวะสามจอกให้!”
เย่หยวนกล่าวเล่าพรางปั่นสี หน้าสุ ดเศร้าโศกดูสมจริ ง แต่
เช่าไคและที่เหลืออยูด่ า้ นหลังต่างทราบดีวา่ เกิดอะไรขึ้น
เมื่อได้ยนิ เช่นนั้นพวกเขาแต่ละคนก็อดกลั้นขามิได้ เพียง
เพราะเกรงใจผูส้ ู งส่ งตรงหน้าจนจึงพยายามกลั้นหัวเราะ
จนตัวสั่นกันใหญ่ บ้างแทบสาลัก บ้างเกือบลืมหายใจ

ในคราแรก เมื่อผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญเห็นสี หน้าการ


แสดงออกของเย่หยวน เขาก็ยงั คงเชื่ออยูห่ ลายส่ วน แต่
เมื่อกวาดสายตามองพวกเช่าไคที่อยูข่ า้ งหลัง เขาก็รู้ทนั ที
ว่าเย่หยวนกาลังพล่ามเรื่ องไร้สาระ!

ระหว่างผูส้ ู งส่ งและนายพลสังหาร แม้จะเป็ น


ความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้าและผูใ้ ต้บญั ชา แต่ท้ งั สอง
ฝ่ ายยังคงเอื้อประโยชน์ซ่ ึงกันและกัน
นายพลสังหารจาต้องขอยืมพลังอานาจและอิทธิพล
ในขณะที่ผสู ้ ู งส่ งจาต้องมีแขนขาเพื่อสั่งการต่างๆ บางคน
อาจสนิทสนมกันถึงขั้นต้องการบ่มดูแลให้ข้ นึ แทนที่
ตาแหน่งในยามล่วงลับ

“ไอ้เด็กเวร แกกล้าหลอกข้า! คงเบื่อชีวิตแล้วใช่ไหม!”

ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญไม่พอใจเย่หยวนตั้งแต่แรกอยูแ่ ล้ว และ


ยิง่ ตอนนี้อีกฝ่ ายอาจเป็ นต้นเหตุที่ทาให้นายพลสังหาร
ของเขาตายหมดในแดนาราชามังกร เขาก็ยงิ่ อาฆาตแค้น
เกินอดกลั้น

ยิง่ ไปกว่านั้น เย่หยวนก็ยงั ยัว่ ยุกระตุน้ อีกฝ่ ายเช่นนี้ มีหรื อ


ที่เขายังอดทนไหว?
ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญเร่ งพลังปราณอย่างบ้าคลัง่ และพุ่ง
โจมตีเย่หยวนโดยตรง!

พลังปราณควบแน่นกลายเป็ นกรงเล็บสี ดาทมิฬเคลือบ


ด้วยพลังฉี สังหารสุ ดข้นคลัก ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญหวังใช้
กรงเล็บนี้ควักหัวใจเย่หยวนออกมาบดขยี้ให้สาแก่ใจ!

ซื่อหยินคาดไม่ถึงเลยว่าผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญจะระเบิดโทสะ


สังหารผูค้ นโดยมิลงั เลเช่นนี้ แต่เนื่องด้วยอีกฝ่ ายตัดสิ นใจ
เคลื่อนไหวกระทันหันเช่นนี้ มันก็สายเกินไปแล้ว นางได้
แต่จบั จ้องพร้อมใบหน้าที่ถอดสี ลงอย่างชัดเจน
“ระวัง เย่หยวน!”

ซื่อหยินตะโกนสุ ดเสี ยงอย่างกระวนกระวาย

ร่ องรอยแห่งความสุ ขสมถูกแขวนทัว่ ใบหน้าของผูส้ ู งส่ ง


อัคนีผลาญ กรงเล็บยาวสี ดาทมิฬพุ่งตรงไปยังขั้วหัวใจเย่
หยวนอย่างไร้ปราณี !

ทว่าทันใดนั้นเอง กลับปรากฏกรงเล็บที่ใหญ่กว่าตะปบลง
มาจากห้วงนภาบนฟ้า กรงเล็บขนาดยักษ์น้ นั หวดสะบั้น
กรงเล็บสี ดาทมิฬของผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญจนแหลกเป็ น
เสี่ ยงๆ
การโจมตีดุจเพชรฆาตของผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญพลัน
หยุดชะงัก พร้อมร้นถอยกลับทันทีดว้ ยความหวาดกลัว

สี หน้าการแสดงออกของผูส้ ู งส่ งคนอื่นๆพลันผันเปลี่ยน


ในบัดดล ต่อหน้าต่อตาพวกเขาปรากฏเป็ นมังกรสี ทมิฬ
ขนาดมหึ มาบินอยูก่ ลางอากาศ!

ตุบ!

เย่หยวนยกกาปั้นเขกหัวอาเหริ่ นไปหนึ่งทีและกล่าวด้วย
ท่าทางอันโกรธเคืองว่า
“ไฉนพวกท่านถึงโง่เช่นนี้? ไม่เห็นหรื อว่าข้ากาลังสวม
บทบาทอยู?่ ท่านผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญอุตสาห์เชื่อไปแล้ว
เช่นนี้จะทาอย่างไร?”

สี หน้าของผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญแปรเปลี่ยนเป็ นสี ดาสนิท


พร้อมความเศร้าโศกสุ ดขมขื่นในจิตใจที่พลัง่ พลูแทบ
ระเบิด มังกรสี ทมิฬตรงหน้าทาเขาหวาดกลัวอย่างยิง่

มังกรสี ทมิฬระดับเก้า!

มังกรสี ทมิฬตัวนี้ มิใช่ใครอื่นนอกจาก เจ้าปี กทมิฬอย่าง


แม่นยา!
ก่อนหน้านี้ ที่เย่หยวนไหว้วานของสมุนไพรวิญญาณจาก
ซื่อหยินไปจานวนมาก ทั้งหมดก็เพื่อนาไปหลอมกลั้น
โอสถให้แก่ปีกทมิฬ

ปี กทมิฬได้กา้ วย่างมาถึงหัวเลี้ยวหัวต่อสุ ดท้ายแล้ว และ


อีกเพียงก้าวเดียวมันก็จะทะลวงขึ้นสู่ ระดับเก้าได้สาเร็ จ

ภายใต้ความช่วยเหลือจากฤทธิ์ โอสถของเย่หยวน ในที่สุด


มันก็ข้ ึนสู่ ระดับเก้าได้สาเร็ จดังหมาย

เมื่อปี กทมิฬทะลวงขึ้นสู่ ระดับเก้า สายเลือดของมันเองก็


พัฒนากลายเป็ นสายเลือดมังกรแท้จริ งเช่นกัน!
ปัจจุบนั ปี กทมิฬได้วิวฒั นาการกลายเป็ นมังกรอย่าง
สมบูรณ์แล้ว!

หลังจากการวิวฒั นาการ ปี กทมิฬก็เปลี่ยนร่ างกลายเป็ น


มังกรขนาดมหึ มาทรงสง่าราศีอย่างแท้จริ ง และทันทีที่
เหล่าผูส้ ู งส่ งรับรู ้ได้ถึงแรงกดดันของเผ่ามังกรสุ ดมหาศาล
นี้ ท่าทางการแสดงออกของพวกเขายังต้องเผยถึงความ
เกริ่ นเกรงอยูห่ ลายส่ วน

ซื่อหยินเองก็ตกตะลึงไม่นอ้ ยเช่นกัน นางไม่คิดไม่ฝันเลย


ว่า เย่หยวนจะมีไพ่ตายที่น่าเกรงขามขนาดนี้ติดตัวจริ งๆ!
ในที่สุดนางก็เข้าใจแล้วว่า ไฉนเย่หยวนถึงไร้ซ่ ึงความ
เคารพต่อนาง ที่เขายอมเข้าร่ วมพรรคสังกัดของนาง
ทั้งหมดก็เพื่อซื้อสิ ทธิ มายืน ณ จุดนี้

หากเย่หยวนยังมีมงั กรสี ทมิฬตัวนี้หนุนหลัง ความแกร่ ง


กล้าของเขาก็เทียบเทียมได้กบั ผูส้ ู งส่ งทุกคน!
ตอนที่918 ขุมสมบัติจานวนมหาศาล

สี หน้าของผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญบิดเบี้ยวด้วยความน่าเกลียด


อย่างหาที่เปรี ยบไม่ เมื่อเผชิญหน้ากับมังกรสี ทมืฬตัวนี้
เขาไม่มีทางเอาชนะได้แน่นอน

ปี กทมิฬขึ้นกลายเป็ นอสู รระดับเก้าแล้ว และนี่ มิใช่ง่ายๆที่


จะต่อสู ้ขา้ มอาณาจักรหลัก

สาหรับรู ปร่ างของปี กทมิฬที่วิวฒั นาการจากร่ างงูทะเลกึ่ง


มังกร กลายมาเป็ นมังกรตัวจริ งเสี ยงจริ งในที่สุด นี่ถือเป็ น
การเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ มันถูกยกระดับพลังให้สูงจน
อดีตมิอาจทัดเทียมได้
ความแข็งแกร่ งของปี กทมิฬในขณะนี้ มันมิใช่สิ่งที่ผู ้
สู งส่ งคนสองคนจะมาเป็ นคู่มือได้เลย

ถึงแม้ผสู ้ ู งส่ งอัคนีผลาญจะขึ้นสู่ อาณาจักรเต๋ าลึกล้ าตั้งแต่


สิ บปี ก่อนแล้ว แต่หากต้องเข้าสัประยุทธ์กบั ปี กทมิฬจริ งๆ
เขาก็มิอาจเป็ นคู่มือได้เลย

“เย่หยวน ไฉนถึงมีแต่พวกเจ้าที่ออกมา แล้วที่เหลืออยูท่ ี่


ใด?”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารกล่าวถามขึ้น หลังจากที่เงียบอยูน่ าน


ผูใ้ ต้บญั ชาของเขาล้วนเป็ นถึงนายพลสังหารระดับสู งใน
หมู่นายพลสังหารทั้งหมด หากพวกเย่หยวนสามารถ
ออกมาได้ ก็หมายความว่าคนของเขาก็ควรออกมาได้
เช่นกัน

เย่หยวนยักไหล่และกล่าวอย่างไม่แยแสว่า

“นอกจากพวกข้า ทุกคนตายหมดแล้ว”

เมื่อได้ยนิ คากล่าวนี้ ทุกคนต่างสู ดหายใจเย็นโดยพลัน


แม้พวกเขาจะสังหรณ์ใจได้รางๆตั้งแต่กลุ่มเย่หยวนออก
มาแล้ว แต่เมื่อได้ยินคายืนยันจากปากเย่หยวน พวกเขา
ยังคงใจหายอย่างสุ ดจะบรรยาย

ทว่าสิ่ งที่พวกเขาตกตะลึงที่สุดมิใช่เรื่ องที่ทุกคนเสี ยชีวิต


แต่ไฉนคนของซื่อหยินถึงยังคงอยูค่ รบแถมมิได้รับ
บาดเจ็บกันเลยสักคน นอกจากนี้…ดูจากสี หน้าท่าทาง
ของพวกเขาราวกับว่าเพิ่งพบพานช่วงเวลาดีๆภายในนั้น

“เกิดอะไรขึ้นภายในนั้นกันแน่? เหตุใดมีเพียงพวกเจ้าที่
รอดออกมา?”
ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญกล่าวขึ้นด้วยท่าทางอันน่ากลัว

เย่หยวนที่ได้ฟังก็ระเบิดเสี ยงหัวเราะขึ้นและกล่าวว่า

“เพราะเหตุใดงั้นรึ ? ก็เห็นชัดแจ้งอยูแ่ ล้ว เพราะข้า


แข็งแกร่ งยังไงล่ะ! หรื อเป็ นไปได้ไหมที่…พวกท่านมิได้
คิดเช่นนั้น?”
ผูส้ ู งส่ งอัคคีผลาญกล่าวตอบพร้อมรอยยิม้ อันเยือกเย็นว่า

“หยุดพล่ามไร้สาระ! แม้แต่ยอดฝี มือระดับเก้ายังพลาดท่า


ตายลงในแดนราชามังกร แล้วเจ้านับเป็ นอันใด!”

“จะให้เปรี ยบเทียบกับลูกน้องชั้นขยะของท่านงั้นรึ ? ท่าน


ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญ ท่านคิดมากเกินไป”

เย่หยวนกล่าวเย้ยเบาๆ
“พี่ใหญ่จอมสังหาร ไอ้บดั ซบนี่ คิดคดปิ ดบังความจริ ง!
นอกจากนี้ การที่พวกมันสามารถออกจากแดนราชามังกร
ได้อย่างปลอดภัย นี่เป็ นเรื่ องผิดปกติยงิ่ ! หากการสันนิ
ฐานของข้าถูกต้อง เย่หยวนจักต้องคิดขดหักหลังสหาย
ร่ วมเดินทางคนอื่นๆและลอบสังหารทิง้ ไป ทั้งหมดก็เพื่อ
ต้องการบรรทุกกองสมบัติอยูเ่ ต็มหลังเพียงลาพัง!”

ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญหันมากล่าวกับผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร

หากเป็ นคนอื่นๆลืมมันไปได้เลย แต่นี่เป็ นถึงนายพล


สังหารอันแกร่ งกล้าทั้งแปดของผูส้ ู งส่ งจอมสังการ ยอด
ฝี มือชนชั้นแนวหน้าของลานประลองอสู รจะบังเอิญตาย
พร้อมกันได้อย่างไร?
หากนายพลสังหารคนอื่นๆตาย นี่นบั เป็ นเรื่ องน่ายินดี
สาหรับผูส้ ู งส่ งจอมสังหารด้วยซ้ า แน่นอนว่าหากเป็ น
เช่นนั้น เขาย่อมไม่คิดตาหนิเอาความ

แต่ในความเป็ นจริ ง นายพลสังหารทั้งแปดของเขาตายสิ้ น


มีเพียงกลุ่มของเย่หยวนเท่านั้นที่รอดชีวิตออกมา แล้วผู ้
สู งส่ งจอมสังหารจะปล่อยเรื่ องนี้ไปได้อย่างไร?

แค่หนึ่งมังกรทมิฬและซื่อหยิน ยอดฝี มือระดับเก้ามีเพียง


สองคนเท่านั้น แต่ในฝ่ ายของพวกเขามีกนั ถึงสิ บเอ็ดคน!
เมื่อคากล่าวเหล่านี้เปล่งดังออกมา ผูส้ ู งส่ งคนอื่นๆก็จบั
จ้องไปยังผูส้ ู งส่ งจอมสังหารอย่างพร้อมเพรี ยง

เป็ นที่ชดั แจ้ง หนึ่งประโยคนี้ของผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญ


สามารถกาหนดแนวโน้มของเหตุการณ์ที่กาลังจะตามมา
ได้

ซื่อหยินมิได้แสดงสี หน้าใดๆออกมา แต่ในเบื้องลึก หัวใจ


นางกลับกระหน่าเต้นแรงยิง่

นางไม่นึกไม่ฝันเลยว่า กลุ่มผูใ้ ต้บญั ชาของนางจะเป็ น


กลุ่มคนเดียวที่รอดออกมา และแม้ซื่อหยินจะไม่ทราบว่า
เกิดอะไรขึ้นข้างใน แต่ทุกสิ่ งอย่างที่เกิดขึ้นจะต้อง
เกี่ยวข้องกับเย่หยวนแน่นอน!
เย่หยวนนากลุ่มคนของนางออกมาได้ท้ งั หมด แต่ทิ้งให้
นายพลสังหารของผูส้ ู งส่ งอื่นๆตายสิ้ น นี่เท่ากับการสร้าง
ความขุ่งเคือนให้แก่ทุกคนในเวลาเดียวกัน

หากนางต้องเข้ารับมือกับอีกสิ บเอ็ดคนพร้อมกัน มัน


เป็ นไปได้หรื อที่ซื่นหยินจะต้านทานไหว?

ยังไม่ทนั ที่ผสู ้ ู งส่ งจอมสังหารเอ่ยปากกล่าวอันใด ทว่าเย่


หยวนกลับตรงเข้าหาซื่อหยินอย่างสบายอารมณ์และกล่าว
พร้อมรอยยิม้ ว่า
“ท่านผูส้ ู งส่ งซื่อหยิน กองสมบัติเหล่านี้เป็ นสิ่ งที่พวกเรา
ค้นพบภายในนั้น ท่านโปรดรักษาพวกมันให้ดี! มา มา มา
มาเอากองสมบัติท้ งั หมดนี้ไป มันควรเป็ นของท่าน”

ซื่อหยินยังไม่ทนั ได้ตอบสนองอันใด เย่หยวนก็ยดั


เครื่ องรางเทวะระดับสู งไว้ในมือนางอย่างรวดเร็ ว

“นี่ นี่ และนี่ แล้วก็นี่…”

เย่หยวนกระหน่ายัดสมบัติล้ าค่ามากมายไว้ในมือซื่อหยิน
ไม่หยุด ภาพฉากนี้ต่างทาให้ทุกคนจับจ้องด้วยความงุนงง
ยิง่

เจ้าหนุ่มนี่ไปบุกขุดหลุมศพของใครเข้าหรื อเปล่า?
เครื่ องรางเทวะระดับสู ง, โอสถระดับเก้า, วรยุทธบ่มเพาะ
พลังระดับเก้า, เครื่ องประดับล้ าค่ามากมาย สมบัติที่เย่
หยวนมอบให้มนั มากจนซื่อหยินไม่สามารถถือไว้ได้อีก
ต่อไป

เมื่อผูส้ ู งส่ งคนอื่นๆเห็น ดวงตทุกคู่ที่จบั จ้องพลัน


เปลี่ยนเป็ นสี แดงด้วยความโลภ

ซื่อหยินจ้องมองเย่หยวนอย่างว่างเปล่า นางคิดไม่ออกเลย
ว่าไฉนเย่หยวนถึงทาเช่นนี้
เย่หยวนเป็ นบ้าไปแล้ว? หรื อเป็ นไปได้ไหมที่เจ้าหนุ่มคน
นี้จะไม่ทราบ คากล่าวที่วา่ ความมัง่ คัง่ มิควรเปิ ดเผย?

สหายคนนี้ได้รับขุมสมบัติมากมายมหาศาลโดยแท้ แต่ใน
ความเป็ นจริ ง เขากลับไม่คิดซุกซ่อนใดๆเอาไว้เลย แถม
ยังหยิบออกมาให้คนรอบตัวมองตาเป็ นประกายเล่น หรื อ
เขากาลังต้องการโอ้อวด?

อย่างไรก็ตาม ความประหลาดใจยิง่ ขยายตัวขึ้นภายในใจ


ซื่อหยิน เย่หยวนยังคงหยิบสมบัติออกมาให้ไม่หยุด
จานวนขุมสมบัติที่เขาพบเจอมันมากเกินจินตนาการ!
จานวนสมบัติมากมายขนาดนี้ กระทั้งเหล่าผูส้ ู งส่ งที่เข้า
สารวจหลุมอเวจีสวรรค์มาแล้วหลายครั้งก็ยงั ไม่เคยได้รับ
มาก่อน!

เย่หยวนเดินทางเข้าสู่ แดนราชามังกรโดยไม่สนใจว่า ตน
จะเผลอทาให้ดินแดนแห่งนี้ ลม้ สลายหรื อไม่ พร้อมลาก
กองสมบัติขนาดยักษ์ออกมา

ซึ่งซื่อหยินไม่ทราบเลยว่า สมบัติเหล่านี้เป็ นเพียงส่ วน


หนึ่งที่เย่หยวนได้มา และคนอื่นๆเองก็คิดเช่นนี้โดย
ธรรมชาติ
ยังมีกองสมบัติอีกจานวนมากที่มิได้หยิบออกมา และเย่
หยวนเองก็ไม่คิดที่จะเอ่ยถึงส่ วนนั้นเช่นกัน

“พี่ใหญ่จอมสังการ เอ่อ…”

สายตาแผดเผาดัง่ เพลิงริ ษยาของผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญโหม


ปะทะหนัก หากไม่ใช่เพราะความแกร่ งกล้าของเย่หยวน
มิได้อ่อนด้อย เขาคงฉวยโอกาสไปนานแล้ว

ผูส้ ู งส่ งคนอื่นๆเองก็มีความคิดคล้ายคลึงกัน พวกเขาทุก


คนพร้อมเคลื่อนไหวยิง่ รอเพียงผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเอ่ย
ปากสั่งการ
“หื้ ม พวกท่านมองด้วยสายตาแบบไหนเพื่ออันใด? ท่านผู ้
สู งส่ งซื่อหยิน นี่คือสมบัติท้ งั หมดที่ขา้ ค้นพบภายในนั้น
ท่านจะต้องรักษามันไว้ให้ดี!”

เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยท่าทางแปลกๆ

ซื่อหยินได้แต่พยักหน้าอย่างฉงนใจ เห็นเพียงเย่หยวน
ลอบขยิบตาให้นางเล็กน้อย และแสร้งทาเป็ นไม่มีอะไร
เกิดขึ้น เขายังคงกล่าวย้าต่อไปโดยไม่สนใจผูใ้ ด
ในด้านเช่าไคและที่เหลือต่างเหงื่อตกจนชุ่มทัว่ แผ่นหลัง
เย่หยวนเล่นกับไฟมากเกินไป!

ฝ่ ายตรงข้ามเป็ นถึง ผูส้ ู งส่ งทั้งหมด!

เล่นกับไฟเช่นนี้ มิใช่หาเรื่ องแสวงหาความตายใช่ไหม?

ในที่สุดผูส้ ู งส่ งจอมสังหารก็เปิ ดปากขึ้น!

“ซื่อหยิน ในเมื่อเจ้าได้รับกองสมบัติมากมายขนาดนี้แล้ว
สามารถพาพวกเราไปยังบริ เวณนั้นได้หรื อไม่?”
คากล่าวของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารทาให้ทุกคนต้องตะลึงงัน

ประโยคนี้ที่เอ่ยขึ้นหมายความอย่างไร? สิ่ งดีๆมากมายที่


กองอยูต่ รงหน้าพวกเขา ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารกับไม่คิดฉก
ฉวยใดๆเลย!

ในหัวของซื่อหยินเร่ งขาวโพลนสุ ดงุนงง ทันทีที่คาถาม


อีกฝ่ ายดังขึ้น นางก็คืนสติกลับมาอย่างรวดเร็ วและกล่าว
พร้อมหยักหน้าว่า
“แน่นอน ในเมื่อท่านพี่ใหญ่จอมสังหารถึงกับเอ่ยปากเอง
ซื่อหยินย่อมทาตามความปรารถนาของท่าน!”

ซื่อหยินกล่าวไปทั้งอย่างนั้น และยังไม่เข้าใจเช่นกันว่า
เหตุใดผูส้ ู งส่ งจอมสังหารถึงยอมปล่อยนางไป

กองสมบัติมากมายมหาศาลขนาดนี้ ไม่วา่ ใครเห็นต่างต้อง


อยากได้ และนางก็ไม่เชื่อว่า ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารจะไม่
สนใจเลย

ซื่อหยินอดหันมองเย่หยวนมิได้ ลักษณ์ท่าทางของชาย
หนุ่มคนนี้ดูไร้พิษภัยอย่างสมบูรณ์ หลากอารมณ์พลัง่ พลู
แล่นเข้ามาภายในใจนาง
ชายหนุ่มคนนี้ไม่เคยบอกกล่าวอันใดให้ทราบก่อนลงมือ
ทาสิ่ งต่างๆเลย ช่างเป็ นบุคคลที่น่ากลัวโดยแท้!

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารพยักหน้าและกล่าวว่า

“อืม สิ่ งใดของซื่อหยิน อย่าให้เห็นพวกเจ้าจับจ้องด้วย


เจตนาร้าย ทั้งหมดที่ได้มาเป็ นเพราะความสามารถและ
โชคของนายพลสังหารของนางทั้งสิ้ น! ใครก็ตามที่คิดคด
ปองร้าย ก็อย่าหาว่าผูส้ ู งส่ งคนนี้ไร้ความสุ ภาพ!”

ในเสี้ ยวอึดใจต่อมา เหล่าผูส้ ู งส่ งคนอื่นๆกลับดูโง่เง่าไป


ในทันที พวกเขาทั้งหมดต่างสบตากันไปมาด้วยความไม่
อยากเชื่อ ผูส้ ู่ ส่งเหลิ่นเสี่ ยส่ อแววพยศเล็กน้อย แต่สุดท้าย
ยังต้องถอยกลับอย่างเจียมตัว

เขามิใช่คนโง่ เย่หยวนจักต้องมีความเชื่อมัน่ ในบางสิ่ ง


แน่นอน ถึงกล้านากองสมบัติมหามายขนาดนี้ออกมา!

และความเชื่อมัน่ ที่วา่ มันไม่ใช่เพียงแค่มงั กรสี ทมิฬตัวนั้น


เช่นกัน!

ไม่วา่ จะมองอย่างไร เย่หยวนก็มิใช่คนโง่ที่หาญกล้าโดย


ขาดสติปัญญา

หากผูใ้ ดคิดฉกฉวยของๆเขา ผูน้ ้ นั อาจต้องจ่ายคืนในราคา


ที่เลวร้ายยิง่ !
เย่หยวนที่สามารถนาเหล่านายพลสังหารของซื่ อหยิน
กลับออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีใครตายหรื อบาง
เจ็บแม้แต่คนเดียว นี่ก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ
เขาอย่างประจักษ์ชดั แจ้งพอแล้ว!

อย่างน้อย ก็น่าจะมีใครสักคนพลาดท่าตายลงในเส้นทาง
มรณะเหลืองบ้างจริ งหรื อไม่?

ทว่าทุกคนยังคงมีชีวิตอยูค่ รบตรงนี้ในเวลานี้ นี่บ่งบอก


ได้ถึงหลายๆสิ่ งในตัวของมันเองอยูแ่ ล้ว!

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเองก็ระมัดระวังในตัวเย่หยวนอย่าง


มากเช่นกัน นั้นจึงเป็ นเหตุผลที่เขาไม่กล้าเคลื่อนไหวเพื่อ
ฉกฉวยสมบัติจากซื่อหยิน และใช้สิ่งนี้เพื่อต่อรองให้นาง
พาไปยังบริ เวณต่อไป

เย่หยวนคนนี้ลึกลับเกินไป! ทั้งๆเจ้าหนุ่มนี่ยงั ขึ้นไม่ถึง


อาณาจักรไร้เทียมทานแท้ๆ แต่กลับสามารถทาให้ผสู ้ ู งส่ ง
ทั้งหมดหวาดกลัวได้!
ตอนที่919 ยกถอนทองคำทมิฬเลิศ!

ดัง่ ทางไปสู่ โลกกว้าง ทว่าที่แห่ งนี้เป็ นเพียงหุบเขาแห้ง


แล้งที่มีเศษดินเศษฝุ่ นกระจายไปทัว่ ทุกพื้นที่ เรี ยกได้วา่
กระทั้งที่วางเท้ายังแทบไม่มี

ทัว่ ทุกพื้นที่ในบริ เวณนี้แล้งแคลนขาดอย่างหนัก แม้แต่


ใบไม้ใบหญ้ายังไม่สามารถงอกเงยได้ ไม่วา่ จะมองไป
ทางใดมันก็เต็มไปด้วยความว่างเปล่า

“ซื่อหยิน นี่คือสถานที่ที่เจ้าเข้าสารวจล่าสุ ด? คิดว่าพวก


เราตลกด้วยหรื อไม่? หุบเขาปี ศาจอนันต์มีเพียงความว่าง
เปล่า ผูค้ นจานวนนับถ้วนเคยสารวจสถานที่แห่งนี้แล้วใน
อดีต เจ้าคิดว่าพวกเราโง่งมขนาดนั้น?”
ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญกล่าวซักทันที

สถานที่แห่ งนี้เป็ นที่รู้จกั ในนาม หุบเขาปี ศาจอนันต์ ทว่าที่


แห่งนี้ มีเพียงความแห้งแล้งเท่านั้นที่หลงเหลือ

นอกจากนี้ หุบเขาปี ศาจอนันต์ยงั เป็ นแค่สถานที่ธรรมดาๆ


แห่งนี้ ที่อยูใ่ นระยะสิ บกว่าลี้เท่านั้น มีผคู ้ นนับไม่ถว้ นที่
เคยเข้าสารวจที่แห่งนี้

และหากภายในนี้ มีสมบัติเก็บซ่ อนอยูจ่ ริ งๆ พวกมันก็ควร


ถูกค้นพบนานแล้ว
“แล้วเห็นพวกเราตลกกันหรื อไม่? ทาไม? จะกระโดดกัด
ข้างั้นรึ ?”

ซื่อหยินยังไม่ทนั อ้าปากตอบ กลับเป็ นเย่หยวนที่สาดวาจา


สวนใส่ ผสู ้ ู งส่ งอัคนีผลาญแทน

แต่ไหนแต่ไร ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญก็เป็ นคนอารมณ์ร้อนอยู่


แล้ว และยิง่ ถูกเย่หยวนยัว่ ยุซ้ าแล้วซ้ าเล่า ตัวเขาก็มีแต่จะ
ส้องสุ มความโกรธมากขึ้นและมากขึ้น

“ไอ้บดั ซบ ผูส้ ู งส่ งคนนี้ จะฉี กปากแก!”


“มาเลย! มาเลย! ข้ายืนรอให้ฉีกตรงนี้แล้ว! หากเก่งจริ งก็
รี บมา!”

ทั้งสองฝ่ ายเรี ยกได้วา่ เตรี ยมที่จะกระโดดกัดกันทุกเมื่อ


แล้ว ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญกัดแน่นจนแทบร้าวด้วยความ
โกรธจัด แต่เมื่อดห็นปี กทมิฬที่อยูข่ า้ งหลัง กลับต้องถอย
ห่างอย่างจนใจ

“เอาล่ะ เอาล่ะ ฟังที่ซื่อหยินจะกล่าวบ้าง”


ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญพยายามข่มอารมณ์ให้เย็นลง ก่อนเดิน
ไปยังมุมหนึ่ งเพื่อสงบสติความโกรธ

จนตอนนี้เขาก็ยงั ไม่เข้าใจว่า ไฉนมังกรสี ทมิฬอันทรง


พลังระดับเก้าตัวนี้ ถึงยอมรับเย่หยวนในฐานะเจ้านาย คิด
ให้ตายยังไงก็มีแต่ยงิ่ ฉงนสงสัย

สาหรับความดื้อรั้นเช่นนี้ของเย่หยวน ซื่อหยินเองก็ช่วย
อะไรไม่ได้เช่นกัน
สิ บปี ที่ผา่ นมา นางมักซ่อนความสามารถที่แท้จริ งและ
สงบเสงี่ยมอยูเ่ สมอ เพราะกลัวจะไปสร้างศัตรู รอบทิศ แต่
หลายสิ่ งอย่างในขณะนี้ช่างยอดเยีย่ มเกินไปจริ งๆ ผูส้ ู งส่ ง
อีกสิ บเอ็ดคนที่เหลือล้วนขุ่นเคืองในตัวเย่หยวนอย่างหนัก

นางยังไม่ทราบด้วยซ้ าว่า เย่หยวนไปเอาความมัน่ ใจขนาด


นี้มาจากไหน เพียงตัวนางและมังกรสี ทมิฬด้านหลัง มัน
ไม่เพียงพอที่จะเป็ นคู่มือของที่เหลือได้เลย

แต่เพราะอย่างนั้น เย่หยวนจึงดูลึกลับยิ่งขึ้นไปอีก

“ทุกท่านเพียงติดตามข้ามาก็พอ!”
ซื่อหยินไม่บอกอะไรมากพร้อมเดินหน้าต่อไป

ไม่นาน ซื่อหยินก็มาถึงหน้าก้อนหิ นขนาดใหญ่กอ้ นหนึ่ง


นางกล่าวขึ้นว่า

“ถึงแล้ว”

พอกล่าวจบ นางก็เดินตรงไปยังก้อนหิ นขนาดใหญ่ท้ งั


อย่างนั้น!

ภาพฉากอันน่าอัศจรรย์ใจพลันปรากฏ ร่ างของซื่อหยิน
ทะลุกอ้ นหิ นขนาดใหญ่เข้าไปและหายวับไปจากสายตา
ของทุกคนทันที!
“ช่างเป็ นการอาพรางที่แยบยล! คาดไม่ถึงเลยว่า จริ งๆ
แล้วหุบเขาปี ศาจอนันต์ยงั มีถ้ าลับซ่อนตัวอยู!่ ”

ผูส้ ู งส่ งท่านหนึ่งอุทานขึ้นด้วยความประหลาดใจ

หิ นขนาดใหญ่กอ้ นนี้ มิได้โดดเด่นอะไรเลย แม้จะเดินผ่าน


หน้ามันไป ก็เป็ นไปไม่ได้ที่ตรวจพบความผิดปกติอนั ใด
พวกเขาไม่คาดไม่ฝันเลยว่า นี่จะเป็ นทางลับที่เชื่อมไปยัง
สถานที่อื่นต่อไป
“รี บเข้าไปกันเถอะ!”

เหล่าผูส้ ู งส่ งทั้งหมดต่างเร่ งทะลุหินเข้าไปในทันที

ทัศนีภาพโดยรอบของทุกคนพลันเบลอหนัก ก่อนที่พวก
เขาจะปรากฏขึ้นอีกครั้งในดินแดนที่ไม่รู้จกั

สถานที่แห่ งนี้เต็มไปด้วยภูมิทศั น์เขียวขจีงามทัว่ ทุก


บริ เวณ สันเขายาวคดเลี้ยวไปมาดัง่ มังกรขดหาง
สภาพแวดล้อมโดยรวมแตกต่างจากหลุมอเวจีสวรรค์โดย
สิ้ นเชิง
“หลุมอเวจีสวรรค์เป็ นสมหรภูมิมหาศึกในยุคบรรพกาล
สถานที่อุดมสมบูรณ์สุดตระการตาเช่นนี้มีได้อย่างไร?”

“ทิวทัศน์ในที่แห่งนี้ช่างงดงามอย่างแท้จริ ง ข้าเองก็อยูใ่ น
ลายประลองอสู รมานมนาม ไฉนถึงไม่เคยได้ยนิ เลยว่า มี
สถานที่ดง่ั สวรรค์บนดินเช่นนี้ ดารงอยูด่ ว้ ย?”
“ช่างปะไร ตราบใดที่มีสมบัติ ใครจะสนว่าที่นี่คือที่
ไหน?”

ทิวทัศน์พฤกษาขจีสุดร่ มรื่ น สายลมเย็นเบาบางพัดพา


สัมผัสใบหน้า ทุกคนรู ้สึกผ่อนคลายยิง่ เมื่อมาถึงที่แห่งนี้
แต่เมื่อนึ กถึงสมบัติ พวกเขาก็กลับมากังวลอีกครั้ง

“สิ บปี ก่อน ข้าบังเอิญหลงมายังที่แห่งนี้ และเมื่อเข้า


สารวจก็พานพบกับศพของเซียนอาณาจักรพระเจ้าท่าน
หนึ่ง พร้อมหยิบแหวนเก็บของๆเขาออกมา เนื่องด้วย
สิ่ งของต่างๆภายในแหวนนั้นจึงทาให้ขา้ มีวนั นี้ แต่ต่อมา
เมื่อข้าเดินสารวจในบริ เวณรอบนอก ข้าก็ไม่พบศพใดๆ
อีกเลย จนเดินไปชนเข้ากับถ้ าหิ นแห่ งนี้ ทว่าปากถ้ าแห่ง
นั้นกลับถูกปิ ดโดยทองคาทมิฬเลิศ และด้วยความ
แข็งแกร่ งของข้าในขณะนั้นยังไม่สามารถเปิ ดมันออกได้
ดังนั้นข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากถอนตัวออกมาอย่าง
จนใจ”

ซื่อหยินชี้ไปยังทิศทางหนึ่งพร้อมกล่าวอธิบาย

“ทองคาทมิฬเลิศ!”
เมื่อทุกคนได้ฟังคากล่าวของซื่ อหยิน พวกเขาต่างก็สูด
หายใจเย็นโดยมิต้ งั ใจ

ทองคาทมิฬเลิศเป็ นโลหะชนิดหนึ่งที่หายากมาก ซึ่งมันมี


คุณสมบัติในการสลายพลังปราณ หากถูกหลอมสร้างเป็ น
เครื่ องรางเทวะ มันจะสามารถลดทอนพลังการต่อสู ้ของ
ฝ่ ายตรงข้ามให้อ่อนแอลงอย่างมาก

เนื่องด้วยคุณสมบัติดงั กล่าว มันจึงถูกใช้เพื่อปิ ดกั้นปากถ้ า


ก็เป็ นได้?

ภายใต้การนาของซื่อหยิน เพียงไม่นานทุกคนก็มาถึงถ้ า
ที่วา่ นั้น แน่นอนว่าพวกเขาได้เห็นทองคาทมิฬเลิศก้อน
มหึ มาตั้งขวางปากถ้ าไว้อยู่
“สวรรค์! ทองคาทมิฬเลิศจากผืนพิภพใด ไฉนถึงใหญ่
ยักษ์ขนาดนี้! หากมีทองคาทมิฬเลิศก้อนนี้ปิดกั้นเส้นทาง
ที่นาไปสู่ ขมุ สมบัติอยูล่ ่ะก็ การเดินทางในคราวนี้ จาต้อง
กลับไปมือเปล่าจริ งๆ!”

บางคนร้องอุทานขึ้น

ขนาดของถ้ าแห่งนี้ ท้ งั ยาวและกว้างไพศาลยิง่ เพื่อให้


สามารถปิ ดปากถ้ าได้อย่างมิดชิด จะแสดงให้เห็นว่า
ทองคาทมิฬเลิศก้อนนี้มนั มีขนาดใหญ่เพียงใด
ในขณะนี้ ทุกคนต่างตระหนักได้ในทันทีวา่ เหตุใดซื่อห
ยินถึงต้องการให้เย่หยวนมาด้วยขนาดนี้

ถึงแม้เหล่าผูส้ ู งส่ งจะทรงพลังไร้เทียม แต่เมื่ออยูต่ ่อหน้า


ทองคพทมิฬเลิศก้อนนี้ พวกเขาเองก็ไม่สามารถทาอะไร
ได้เช่นกัน

เป็ นความจริ งที่นกั สู ้อาณาจักรเต๋ าลึกลนั้นแกร่ งกล้ายิง่ แต่


นั้นเป็ นเพียงส่ วนของพลังปราณ ในแง่ของความ
แข็งแกร่ งทางร่ างกาย ผูส้ ู งส่ งเหล่านี้ยงั คงห่างไกลจากเย่
หยวนหลายขุม
ภายใต้สถานการณ์ที่พลังปราณไร้ประโยชน์ เป็ นที่ชดั เจน
ว่า มีเพียงเย่หยวนเท่านั้นที่สามารถเคลื่อนย้ายทองคาทมิฬ
เลิศขนาดมหึ มาก้อนนี้ได้

“เย่หยวน พวกเจ้าเองก็ได้รับขุมสมบัติมาแล้วมากมายจาก
แดนราชามังกร ทองคาทมิฬเลิศล้ าที่เป็ นดัง่ ประตูขวางกั้น
นี้ มันเป็ นปัญหาต่อเราอย่างมาก เจ้าช่วยนามันออกไปให้
ที”

ในเวลานั้นเองผูส้ ู งส่ งจอมสังหารก็เอ่ยปากขึ้น


เพื่อให้เย่หยวนยอมช่วยเหลือ ทั้งน้ าเสี ยงและวาจาที่ผู ้
สู งส่ งจอมสังหารกล่าวออกไปนับว่าให้เกียรติอย่างมาก
และเย่หยวนถือเป็ นคนแรกที่เขากล่าวด้วยความสุ ภาพ
ขนาดนี้

ทว่าเย่หยวนกลับไม่ซ้ื อแต่อย่างใด วาจาอันให้เกียรติและ


เยินยอชนิดนี้ใช้ไม่ได้ผลกับเขา พลางยิม้ ขบขันและกล่าว
ตอบไปว่า

“ข้าจะช่วยนาออกไปก็ได้ แต่ทองคาทมิฬเลิศก้อนนี้ตอ้ ง
เป็ นของข้า!”
เมื่อเย่หยวนเอ่ยปากกล่าวเช่นนี้ ออกมา ผูส้ ู งสู งอีกคนก็
พลันไม่พอใจทันที

“เย่หยวน ได้คืบอย่าเอาศอก! ทองคาทมิฬเลิศก้อนใหญ่


ขนาดนี้นบั เป็ นสมบัติล้ าค่า! พวกเจ้าเองก็ได้สมบัติไป
แล้วมากมาย ใยไม่รู้จกั พอ!”

ผูส้ ู งส่ งสาราญสวรรค์กล่าวค้านด้วยความไม่พอใจ


แต่เย่หยวนแสยะยิม้ อย่างเยือกเย็นและกล่าวตอบกล่าวไป
ว่า

“ช่างเป็ นเรื่ องน่าขัน! ฟังจากคากล่าวของท่าน มันราวกับ


ว่าข้าหยิบคว้าสมบัติเหล่านี้มาได้โดยง่าย! หึ หึ หากองุ่น
เปรี้ ยวยังไม่ให้ องุ่นหวานก็อย่าหวังได้กิน! ไม่มีปัญหา!
หากโลภนักก็หาวิธีเคลื่อนทองคาทมิฬเลิศออกไปเอง!
พวกข้าได้รับสมบัติมามากมายจนพอใจแล้ว แต่พวกท่าน
คงต้องกลับไปมือเปล่า สิ บปี แห่งการรอคอยกลับต้องชวด
ไปเพียงเพราะทองคาทมิฬเลิศก้อนเดียว สติปัญญาช่างล้ า
เลิศ สมแล้วที่เป็ นผูส้ ู งส่ งอันไร้เทียมทาน!”

คากล่าวสุ ดเสี ยดสี ของเย่หยวนสาดเข้าใส่ เหล่าผูส้ ู งส่ ง


ทั้งหมดจนแทบเสี ยศูนย์ไปตามๆกัน พวกเขาทั้งหมด
เกรี้ ยวโกรธแทบบ้าจนเกือบกระอักเลือด
สหายหนุ่มคนนี้ยวั่ โทสะอย่างไม่ไว้หน้าฟ้าดินโดยแท้
ทว่าพวกเขากลับไม่สามารถทาอะไรอีกฝ่ ายได้จริ งๆ

สมบัติมากมายกาลังรอคอยพวกเขาอยูภ่ ายในถ้ าแห่งนี้ แต่


หากไม่สามารถจัดการทองคาทมิฬเลิศตรงหน้านี้ออกไป
ได้ ก็ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้เช่นกัน และทั้งหมดคงไร้
ประโยชน์

“เข้าใจแล้ว ทองคาทมิฬเลิศเป็ นของเจ้า!”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเอ่ยปากกล่าวขึ้น


เมื่อเย่หยวนได้ยนิ เช่นนั้น เขาก็ยมิ้ กว้างพลางกล่าวว่า

“หัดดูพี่ใหญ่ของพวกท่านเป็ นตัวอย่างบ้างก็ดี! เบื้องหลัง


ทองคาทมิฬเลิศก้อนมหึ มานี้ เต็มไปด้วยสมบัติล้ าค่าเกิน
ประเมินได้นบั ไม่ถว้ น กับแค่อย่างสองอย่างกลับแลก
ไม่ได้เชียวรึ ?”

เหล่าผูส้ ู งส่ งต่างจ้องเขม็งใส่ เย่หยวนด้วยความโกรธแค้น


แต่หากคิดให้ดีดูท่าจะเป็ นความจริ งอย่างที่กล่าว
หลังจากที่กาจัดทองคาทมิฬเลิศก้อนยักษ์น้ ีไปได้ ภายใน
ถ้ าแห่งนี้ควรจะมีสมบัติสุดน่าทึ่งมากมายรอพวกเขาอยู่

เมื่อผูส้ ู งส่ งเอ่ยปากอนุมตั ิแล้ว เย่หยวนก็ไม่ลีลาแช่มช้า


ย่างก้าวตรงมาถึงเบื้องหน้าทองคาทมิฬเลิศทันที

กล่าวถามกันจริ งๆ ถ้าต้องการถอนรากถอนโคลนทองคา
ทมิฬเลิศก้อนมหึ มาเช่นนี้ ร่ างกายจาเป็ นต้องแข็งแกร่ ง
ระดับใด?

จากขนาดของทองคาทมิฬเลิศ มันควรมีน้ าหนักอย่างน้อย


หลายสิ บล้านตัน! นอกจากนี้ทองคาทมิฬเลิศยังฝังอยูใ่ น
ดินลึกหน้าปากถ้ า เกรงว่าเลื่อนออกคงยากกว่าถอนราก
ถอนโคนทิ้งไป

เย่หยวนสู ดหายใจเข้าลึกๆ สองมือพลันประกบวางบน


ทองคาทมิฬเลิศ และออกแรงพลังสุ ดกาลัง!

“ฮึบบบ!!”

รัศมีทบทวีเพิ่มขึ้นอย่างไร้ขอบเขต พละกาลังอันท่วมท้น
ถูกกรองเทลงบนสองมือจนเส้นเอ็นปูดโปน
ทันทีที่รับรู ้ได้ถึงรัศมีความแกร่ งกล้าอันสุ ดสะท้าน เหล่า
ผูส้ ู งส่ งพลันเผยสี หน้าเกริ่ นเกรงขึ้นหลายส่ วน หากพวก
เขาจาต้องเข้าสัประยุทธกับเย่หยวนโดยห้ามใช้พลังปราณ
เย่หยวนอาจระเบิดร่ างของพวกเขาทิง้ ได้ทนั ทีดว้ ยมือ
เปล่า

รัศมีแรงกดดันสุ ดแข็งกร้าวของเย่หยวนแผ่ขยายกว้าง
กระทั้งหุบเขาโดยรอบยังเริ่ มสั่นสะเทือนแรงขึ้นต่อเนื่ อง
ผืนปฐพีที่ยนื อยูส่ ั่นคลอนไม่หยุดดัง่ แผ่นดินไหว

พลังแห่ งสายเลือดมังกรภายในร่ างพลันถูกกระตุน้ หนัก


จนปะทุข้ นึ กระทันหัน แขนทั้งสองของเย่หยวน
แปรเปลี่ยนเป็ นกรงเล็บมังกรคู่ในทันใด!
บูมมมม!!

ภายใต้ทุกสายตาที่จบั จ้อง ทองคาทมิฬเลิศก้อนมหึ มาถูก


ส่ งบินออกไปโดยตรง!
ตอนที่920 ดูท่าจะงานเข้ า!

บูมมม!

เสี ยงกระแทกดังกังวาล ทองคาทมิฬเลิศก้อนมหึ มาหล่น


กระแทกพื้นจนเกิดหลุมบ่อเป็ นรู โหว่ ประหนึ่งกึกก้อง
เสี ยงภูเขาไฟระเบิด ท้องนภาสะเทือนผืนพิภพสะท้านจน
ทุกคนรู ้สึกถึงแรงสั่น

เมื่อทุกคนได้เห็นภาพฉากนี้ พวกเขาล้วนอดพรู ลมหายใจ


เย็นออกมามิได้ดว้ ยความกลัว เย่หยวนคนนี้เป็ นดัง่ สัตว์
ประหลาดในคราบมนุษย์ชดั ๆ กระทั้งทองคาทมิฬเลิศ
ขนาดมหึ มายังสามารถถอนรากถอนโคนออกมาได้จริ งๆ!
ทว่ายังไม่ทนั ที่ทุกคนจะได้สาราญดีใจ พวกเขาพลันตื่น
ตกใจหนักเมื่อเห็นถึงความผิดปกติ!

ทันทีที่ถ้ าถูกเปิ ดขึ้น จู่ๆไอหมอกสี ดาก็พวยพุ่งออกมาไม่


หยุด ราวกับว่าพวกเขาเผลอไปเปิ ดผนึกบางสิ่ งออกมา!

“แย่แล้ว ดูท่าจะงานเข้า!”

เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมสี หน้าสุ ดไร้เดียงสา


สี หน้าการแสดงออกของเหล่าผูส้ ู งส่ งทั้งหมดแปรเปลี่ยน
แทบจะในทันทีเช่นกัน แต่ละคนยังคงจับจ้องเบื้องลึกใน
ถ้ าไม่วางตา หวังพบเจอขุมสมบัติ แต่หารู ้ไม่วา่ ภายใน
นั้นกลับมีบางสิ่ งอยูแ่ ทน!?

“หนีเร็ ว! ที่แท้ทองคาทมิฬเลิศถูกใช้เพื่อปิ ดผนึกปี ศาจ!


ทองคาทมิฬเลิศถูกดึงออกไปแล้ว ปี ศาจภายในนั้นถูก
ปลดพันธนาการเรี ยบร้อยแล้ว!”

ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญชิงวิ่งหนีก่อนทันทีที่ได้เห็นบางสิ่ ง


ภายในถ้ า
“ฮ่าฮ่าฮ่า! พวกเราถูกจองจาอยู่ในนี้ นานนับแสนปี ! ใน
ที่สุดก็ได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง!”

ในเวลานั้นเองเงาดากลุ่มหนึ่ งก็ลอยออกมา พร้อมเข้าปิ ด


ล้อมทุกเส้นทางหนี อย่างรวดเร็ ว

เมื่อเย่หยวนเห็นสถานการณ์เป็ นเช่นนี้ เขายังไม่ทราบได้


อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้น? นี่มิใช่ถ้ าที่เก็บซ่อนสมบัติล้ าค่า
แต่เป็ นถ้ าที่เซียนอาณาจักรพระเจ้าใช้ผนึกเผ่าปี ศาจในยุค
บรรพกาล!

เงาดาเหล่านี้มีกลิ่นอายเหมือนกันกับเจียหลานทุก
ตารางนิ้ว เว้นเสี ยแต่ระดับความเข้มข้นของพลังฉี ที่พลัง่
พลูออกจากร่ างเหล่านี้ อ่อนแอกว่าเจียหลานอยูม่ าก
เมื่อนึ กย้อนกลับไป หากนาคาอธิบายที่ซื่อหยินบอกเล่า เย่
หยวนก็สามารถปะติปะต่อเรื่ องราวได้ทนั ที

ดูเหมือนว่าศพของเซียนอาณาจักรพระเจ้าที่ซื่อหยินเจอ
จะเป็ นผูท้ ี่ปิดผนึกเทพอสู รเหล่านี้เอาไว้ เพียงว่าระหว่าง
เวลาเฝ้าพิทกั ษ์ผนึกนี้ ไส้น้ ามันตะเกียงพลันหมดเสี ยก่อน
จึงลาโลกจากไปทั้งๆแบบนั้น

“ฮิฮิ เจ้าหนุ่ม เจ้าเป็ นคนปลดปล่อยพวกเราออกมางั้นรึ ?


งั้นข้าขอตบรางวัล เจ้าจะได้รับเกียรติเป็ นกายรู ปธรรม
ใหม่ของข้าผูน้ ้ ี !”
เงาดาลอยเคว้งกลางอากาศพร้อมตรงเข้าหาเย่หยวนทันที
เพื่อยึดครองร่ าง

เมื่อเย่หยวนได้ยนิ เช่นนั้น เขาก็รีบกล่าวขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า

“นับเป็ นเกียรติยงิ่ นัก นับเป็ นเกรี ยรติยงิ่ นัก! โปรดอย่าได้


เกรงใจ ใช้ร่างของข้าผูต้ ่าต้อยเพื่ออานวยความสะดวกแก่
ท่าน!”

เงาดากลิ่นอายสุ ดเหี้ ยมโหมหยุดชะงักกระทันหันเมื่อได้


ยิน เขาคาดไม่ถึงเลยว่า เย่หยวนจะเอ่ยปากตอบกลับเช่นนี้
แต่เขาเองก็มิได้คิดมากเกินไป พร้อมพุ่งเข้าไปในร่ างเย่
หยวนทันที

“ฮิฮิ กลับกลายเป็ นว่าเจ้าหนุ่มนี่เป็ นคนมีปัญญา มู่หลัว


หลังยึดครองร่ างเสร็ จ จัดการเจ้าหนุ่มนี้ อย่างเบามือ!”

“โดยรอบยังมียอดฝี มืออาณาจักรเต๋ าลึกล้ าอยูไ่ ม่นอ้ ย นา


พวกมันมาเป็ นทาสพวกเรานับว่าประเสริ ฐยิง่ !”
ปี ศาจสุ ดเหี้ ยมโหดเหล่านี้ มิได้หวัน่ เกรงเหล่าผูส้ ู งส่ งเลย
แม้แต่น้อย

หลังจากปี ศาจร่ างหนึ่งพุ่งเข้าร่ างเย่หยวน ที่เหลือต่างบิน


วนไปมาอยู่หลายสิ บรอบ

แม้ความแกร่ งกล้าของปี ศาจเหล่านี้จะมิอาจเทียบเทียมได้


กับเทพอสู รเจียหลาน แต่พวกมันก็แข็งแกร่ งกว่าผูส้ ู งส่ ง
เหล่านี้มากมายหลายขุม พวกมันมีความคิดอย่างไรใน
ขณะนี้กลับมิอาจคาดเดาได้เลย
“เอาล่ะ มู่หลัว ในเมื่อเจ้ายึกครองร่ างเสร็ จสิ้ นแล้ว ก็รีบ
จัดการขยะพวกนี้ให้อ่อนแรง จะได้ง่ายต่อจากยึดครอง!”

ปี ศาจร่ างหนึ่งบินมาตรงหน้าพร้อมกล่าวกับเย่หยวน

ในคราแรกแววตาของเย่หยวนยังคงดูวา่ งเปล่า แต่เมื่อได้


ยินคาถาม แววตาพลันสว่างไสวมีชีวิตชีวาอีกคราพร้อม
กล่าวตอบด้วยรอยยิม้ ว่า

“เรี ยกข้ารึ ?”
ปี ศาจตนนั้นตกใจอย่างมากจนผงะถอยโดยไม่ต้ งั ใจ ก่อน
โพล่งถามลัน่ ว่า

“เจ้า…เจ้า…เป็ นไปได้อย่างไร? มู่หลัวอยูท่ ี่ไหน!?”

เย่หยวนกล่าวตอบด้วยรอยยิม้ ว่า

“กระทั้งเจียหลานยังไม่สามารถยึดครองร่ างข้าได้ แล้ว


ปี ศาจชั้นขยะอย่างพวกเจ้า คิดการใหญ่หวังยึดร่ างบิดาผูน้ ้ ี
รึ ? ช่างไม่เจียมเนื้อเจียมตน!”
“เป็ นไปไม่ได้! เจ้า…เจ้าเคยพบกับท่านเจียหลานมาก่อน
แล้ว?! ไม่มีทาง! ท่านเจียหลานคือเทพอสู รไร้เทียมทาน!
แล้วเจ้ายังมีชีวิตรอดจวบจนบัดนี้ได้อย่างไร? เจ้ารอดจาก
เงื่อมมือของท่านเจียหลานได้อย่างไร?!”

ปี ศาจตนนั้นกล่าวขึ้นด้วยความตกใจ

เย่หยวนบูป้ ากเล็กน้อยและกล่าวด้วยน้ าเสี ยงสุ ดหยาม


เหยียดว่า
“ไร้เทียมทาน? เผ่าปี ศาจของพวกเจ้านับว่าเหี้ ยมโหดนัก
หรื อ? มันกลัวจนฉี่ แตกเตล็ดไปแล้ว! หนีไปรักษาตัวไหน
ต่อไหนไม่รู้ตอนนี้!”

ปี ศาจเหล่านี้แน่นอนว่าไม่เชื่อคากล่าวของเย่หยวน แม้
พวกเขาจะไม่ได้อยูใ่ นยุคเดียวกับเทพอสู รเจียหลาน แต่
ในบรรดาเผ่าปี ศาจทั้งหมด เทพอสู รเจียหลานนับว่ามี
ชื่อเสี ยงเลื่องลือระบือไกลที่สุด

แม้กาลเวลาผ่านไปนานแสนนาน ชื่อเสี ยงอันน่าเกรงขาม


ของเทพอสู รเจียหลาน ก็ยงั เล่าขานต่อกันจนกลายเป็ น
ตานานในเผ่าปี ศาจ
แต่การดารงอยูอ่ นั เป็ นตานานนั้น กลับถูกไอ้เหลือขอคน
หนึ่งกล่าวว่า อีกฝ่ ายกลัวจนฉี่ แตกเตล็ดหนี ?

นี่มนั เรื่ องไร้สาระชัดๆ?!

แต่สิ่งที่น่าสงสัยคือเทพอสู รเจียหลานถูกปิ ดผนึ กไว้นาน


เกือบล้านปี แล้ว ลืมไปได้เลยสาหรับเผ่ามนุษย์ กระทั้งเผ่า
ปี ศาจชั้นต่าในปัจจุบนั ก็ยงั ไม่รู้จกั นามเทพอสู รเจียหลาน
เช่นนั้นแล้ว…ไอ้เหลือขอนี่รู้จกั ได้อย่างไร?
เหล่าผูส้ ู งส่ งตกตะลึงแล้วตกตะลึงอีกไม่รู้จบ พวกเขาเห็น
อย่างชัดแจ้งว่า เงาปี ศาจตนหนึ่ งพุ่งเข้าสิ งร่ างเย่หยวน
โดยตรง แต่ในเวลานี้ปีศาจตนนั้นกลับอันตธานหายสิ้ น
แล้ว

เย่หยวน…ไม่สิ สัตว์ประหลาดตนนี้ น่าสะพรึ งกลัว


เหลือเกิน!

“ไอ้หนุ่มอย่าอวดดีเกินตัว! ข้าผูน้ ้ ีจะดูแลเจ้าอย่างสาสม!”


ปี ศาจแปรเปลี่ยนสถานะเป็ นไอหมอก พร้อมพุ่งเข้าหา
เหล่านายพลสังหารทันที

เห็นได้ชดั ว่า แม้ปีศาจเหล่านี้ จะแกร่ งกว่าเหล่าผูส้ ู งส่ งมาก


แต่หากต้องการยึดครองร่ างของยอดฝี มืออาณาจักรเต๋ า
ลึกลับ นับว่ามีความเสี่ ยงอยูบ่ า้ ง ทว่าอย่างไรการจะยึด
ครองร่ างนักสู ้อาณาจักรไร้เทียมทาน พวกมันกลับไม่
เกริ่ นเกรงใดๆ

แม้เหล่านายพลสังหารภายใต้บญั ชาของผูส้ ู งส่ งแทบทุก


คนจะตายลงในแดนราชามังกร แต่นายพลสังหารของเห
ลิ่นเสี่ ย, สาราญสวรรค์และอัคนีผลาญก็ยงั เหลืออยูจ่ านวน
หนึ่ง ซึ่งมีจานวนร่ างเพียงพอสาหรับพวกปี ศาจเหล่านี้
เช่นกัน
แต่ชวั่ ขณะนั้นเอง พลันปรากฏมังกรฟ้าอันหยิง่ ทะนงโฉบ
แล่นสกัดไอหมอกปี ศาจเหล่านั้นจนร่ นถอยกลับไป

“ต้องการยึดครองร่ าง? มันจะง่ายเช่นนั้นได้อย่างไร?!”

เย่หยวนเค้นหัวเราะเสี ยงเย็นหนึ่งคา พร้อมปลดปล่อยฝ่ า


มือมังกรสวรรค์วินาศฟ้าอัดเข้าใส่ เหล่าปี ศาจอีกระรอก
บูมมมม!

เห็นได้ชดั ว่าเหล่าปี ศาจเองก็เกริ่ นเกรงอยูห่ ลายส่ วน พวก


มันเร่ งพลังฉี ปีศาจถึงขีดสุ ดพร้อมระเบิดพลังต้านรับฝ่ า
มือของเย่หยวนอย่างสุ ดกาลัง

“เหอะ เหอะ นับว่ามีความสามารถอยูบ่ า้ งเจ้าหนุ่ม แต่


เพียงเท่านี้ยงั ไม่อาจสร้างอันตรายแก่เราได้!”

ปี ศาจตนหนึ่ งกล่าวขึ้นพร้อมเสี ยงหัวร่ อ


แต่เย่หยวนแสยะยิม้ และกล่าวตอบ

“งั้นรึ ?”

เหล่าปี ศาจลอยเคว้งอยู่กลางอากาศพร้อมสี หน้าฉงน โดย


ไม่ทนั ตั้งตัว กลับถูกสายอัสนีฟาดลงมาอย่างแรง ร่ างพวก
มันร่ วงกระแทพพื้นดินอย่างจัง ดูท่าการลอบโจมตีน้ ี จะ
สร้างบาดแผลให้ไม่น้อยเลย
“อ๊ากกก! ไอ้บดั ซบ! ธาตุอสั นีเร้น! ลอบกัดกันงั้นรึ !”

เหล่าปี ศาจร้องระงมอย่างน่าสังเวช

ธาตุอสั นีหรื อสายฟ้านับเป็ นของแสลงยิง่ สาหรับเผ่าปี ศาจ


ใต้สวรรค์ ซึ่งพฤกษาวิญญาณหยวนฉื อของเย่หยวนเองก็
มีคุณสมบัติธาตุอสั นี จึงสามารถใช้มนั เพื่อครั้นครามเหล่า
ปี ศาจได้บา้ ง แต่นี่ก็ยงั ไม่ทรงอนุภาพพอที่จะสังหารพวก
มันเหล่านี้
“พวกท่านยังจะยืนนิ่งเพื่ออันใด? ระดับชั้นของพวกมัน
ล้วนเป็ นถึงจักรพรรดิปีศาจทั้งสิ้ น! หรื อพวกท่านจะ
ปล่อยให้พวกมันยึดร่ างเสร็ จก่อนแล้วค่อยเคลื่อนไหว?”

เย่หยวนตะโกนดังลัน่

หลังจากนั้นเหล่าผูส้ ู งส่ งจึงฟื้ นสติกลับคืนอีกครั้ง และ


เคลื่อนไหวจู่โจมปี ศาจเหล่านี้ทนั ที

เย่หยวนตรงมายังหน้าเช่าไคและที่เหลือด้วยก้าวพริ บตา
และกล่าวด้วยน้ าเสี ยงดัง่ ประกาศิตว่า
“ข้าจะคอยคุม้ กันพวกท่านเอง เร็ วเข้า รี บหนีออกจาก
พื้นที่น้ ีโดยด่วน! ผูส้ ู งส่ งเหล่านี้คงถ่วงเวลาจักรพรรดิ
ปี ศาจเหล่านี้ได้อีกไม่นาน!”

พวกเขาเหล่านี้ไม่เคบสัประยุทธ์กบั เผ่าปี ศาจมาก่อน และ


ไม่รู้ซ้ ึงถึงความน่ากลัวของพวกมัน เผ่าปี ศาจเป็ นเหมือน
แมลงสาบฆ่าไม่ตาย หากปราศจากพลังทาลายล้างระดับ
ท้าทายสวรรค์ ก็อย่าหวังว่าจะฆ่าพวกมันได้

แม้เย่หยวนพอจะยับยั้งพวกมันได้ดว้ ยพฤกษาวิญญาณ
หยวนฉื อ แต่ความแข็งแกร่ งในปัจจุบนั ของเขายังคงอ่อน
ด้อยเกินไป หากต้องการฆ่าเผ่าปี ศาจระดับสู งอย่าง
จักรพรรดิปีศาจเหล่านี้ นั้นเป็ นสิ่ งที่เป็ นไปไม่ได้
ศึกสัประยุทธ์คราวนี้แพ้ชนะยากจะกล่าวบรรยาย

ในช่วงเวลานี้เอง กลุ่มผูส้ ู งส่ งผนึกกาลังเข้าชนกับเหล่า


จักรพรรดิปีศาจได้อย่างเยีย่ มยอด พวกมันไม่นอ้ ยถูก
สะบั้นไม่เหลือภายในไม่กี่อึดใจ

แต่จานวนของจักรพรรดิปีศาจเหล่านี้มีมากกว่าผูส้ ู งส่ ง
หลายเท่า ยังคงมีปลาจานวนหนึ่งหลุดออกจากตาข่ายดัก
พร้อมพุ่งเข้าหาเหล่านายพลสังหารทันทีเพื่อยึดครองร่ าง
“อ๊ากกก!”

“อ๊ากกก!”

“อ๊ากกก!”

เสี ยงกรี ดร้องระงมดังลัน่ ซ้ าแล้วซ้ าเล่า นายพลสังหาร


หลายนายจาต้องยอมจานน แข้งขาทรุ ดฮวบพร้อมกรี ด
ร้องด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส
กระนั้นเองพวกจักรพรรดิปีศาจเหล่านี้ ลว้ นระมัดระวังใน
ตัวเย่หยวนเป็ นพิเศษ มันบุกเข้าโจมตีทุกสังกัดพรรค
เว้นเสี ยแต่กลุ่มของเย่หยวนที่ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้
ตอนที่921 เหตุไม่ คาดฝันซ้าซ้ อน!

เหล่าปี ศาจพวกนี้ลงมือเด็ดขาดไร้น้ าใจ สมกับเป็ นเผ่า


ปี ศาจสุ ดโหดเหี้ ยมอย่างหาที่เปรี ยบไม่ ในพริ บตาเหล่า
นายพลสังหารที่นอนกองบนพื้นก็ฟ้ื นขึ้นมา พร้อมด้วย
พลังฉี ปีศาจที่ลน้ ปรี่ ต้ งั แต่หัวจรดเท้า เห็นได้ชดั ว่าพวก
ปี ศาจยึกครองร่ างสาเร็ จดัง่ หมายแล้ว

เนื่องจากนายพลสังหารโดยส่ วนใหญ่เป็ นถึง จุดสู งส่ ง


แห่งอาณาจักรไร้เทียมทานระดับเก้าอยูแ่ ล้ว หลังจากที่
จักรพรรดิปีศาจยึดครองร่ างไป กลิ่นอายของพวกเขาแต่
ละคนก็ปะทุเดือดจนทะลวงขึ้นสู่ อาณาจักรเต๋ าลึกล้ า
โดยตรง
“ฮิฮิ กายรู ปธรรมดัง่ เดิมของพวกเราถูกเก็บไว้จนเน่าเปื่ อย
สิ้ นแล้ว เป็ นเวลานานเท่าใดที่ขา้ มิได้ลิม้ รสกลิ่นอายแห่ ง
ชีวิตเช่นนี้!”

จักรพรรดิปีศาจตนหนึ่ งกล่าวขึ้น พร้อมหัวร่ อเสี ยงแปลก


ประหลาด

เมื่อจักรพรรดิปีศาจได้รับกายรู ปธรรมกันแล้ว ความ


แข็งแกร่ งของพวกมันก็เหนื อกว่าเหล่าผูส้ ู งส่ งขึ้นเป็ นทวี
ทบ!
“เผ่ามนุษย์ของพวกเจ้าอ่อนแอเกินไป! จงเชื่อฟังรับใช้
พวกเราในฐานะทาสแก่โดยดี!”

จักรพรรดิปีศาจที่ยดึ ครองร่ างสาเร็ จเร่ งรุ ดพุ่งปะทะกับ


เหล่าผูส้ ู งส่ งในทันที

เหล่าผูส้ ู งส่ งเหล่านี้ก็มิใช่คนดีอะไร เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิ


ปี ศาจเหล่านี้หวาดกลัวเย่หยวน แต่ละคนจึงวิ่งล่อพวกมัน
ไปหาเย่หยวนโดยพร้อมเพรี ยง หวังให้เย่หยวนช่วยสกัด
เพื่อถ่วงเวลาหนี
“น่ารังเกียจสิ้ นดี!”

อาเหริ่ นกล่าวสบถด้วยความเกลียดชังเมื่อเห็นภาพฉาก
เหล่านี้

“ปี กทมิฬ พาพวกเขาหนีไปก่อน!”

เมื่อเย่หยวนเห็นว่าสถานการณ์เลวร้ายลง เขาจึงกล่าวสั่ง
การปี กทมิฬทันที
“รับทราบ! นายท่านระวังตัวด้วย!”

ปี กทมิฬตอบรับคาสัง่ และนาทุกคนออกข้างนอกอย่างเร่ ง
รี บ

เย่หยวนปลดปล่อยพลังของพฤกษาวิญญาณหยวนฉื ออ
อกมาทันใด รัศมีทวั่ ทั้งร่ างของเขาห่อหุม้ ไปด้วยสายฟ้า
อัสนีครามเป็ นสายๆ ไม่วา่ พื้นที่ใดที่เขาวิ่งผ่านเหล่า
จักรพรรดิปีศาจล้วนถอยห่างทันทีราวกับเลี่ยงโรคระบาด
เย่หยวนเข้าร่ วมสมรภูมิเดือด พร้อมตรงรวบหัวรวบห่าง
จักรพรรดิปีศาจจานวนหนึ่งได้ในอึดใจ สถานการณ์พลิก
กลับทันทีในช่วงเวลาสั้นๆ!

“มู่ตา้ ยังไม่เสร็ จอีกรึ ?”

จักรพรรดิปีศาจตนหนึ่ งกล่าวขึ้นอย่างกังวลใจ

สายอัสนีคลัง่ เหล่านี้โหดเหี้ ยมเกินที่จะรับมือไหว!


จักรพรรดิปีศาจนามว่า มูต้ า้ เพิ่งเข้ายึดครองกายรู ปธรรม
ร่ างหนึ่งได้ แต่เนื่องจากร่ างที่ยึดแกร่ งกร้าวไม่นอ้ ยจึงใช้
เวลานานเป็ นพิเศษ

แต่เพียงว่าในที่สุด สองตาพลันเปิ ดขึ้นพร้อมพลังฉี ปีศาจ


ทะลักล้นทัว่ ร่ าง เขาแสยะยิม้ สุ ดน่าเกลียดและกล่าวว่า

“เสร็ จแล้ว จับคนพวกนี้ มาเป็ นทาสเราเหล่าจักรพรรดิ


ปี ศาจ! ไอ้หนุ่มนั้นค่อนข้างผิดประหลาด คงต้องสร้าง
ความบันเทิงให้เสี ยหน่อย!”
ทันใดนั้นร่ างมู่ตา้ พุ่งโฉบกลายเป็ นสาย เขาท่องทลายฝ่ า
สรรพสิ่ งขวางหน้าดุจรถม้าศึกคลัง่ !

บูมมม!

ผูส้ ู งส่ งท่านหนึ่งถูกซัดหน้าหงายทันทีโดยกาปั้นอันทรง


พลังของมู่ตา้ เลือดสดพ่นสายกระจายก่อนล้มตัวลงนอน
อย่างไร้การขัดขืนใดๆ
เมื่อเห็นภาพฉากนี้เหล่าผูส้ ู งส่ งคนอื่นๆพลันถอดสี หน้า
ในบัดดล

มู่ตา้ ผูน้ ้ ีจาต้องมีความแข็งแกร่ งอยูใ่ นอาณาจักรเต๋ าลึกล้ า


ขั้นกลางเป็ นอย่างน้อย!

จักรพรรดิปีศาจตนนี้ที่เพิ่งได้กายรู ปธรรมไป ช่างทรง


พลังจนน่าหวาดกลัวโดยแท้!

ดวงตาของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเบิกกว้างพร้อมตะโกนลัน่


ว่า
“ล่าถอยโดยเร็ ว!”

เมื่อกล่าวจบร่ างของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารก็หายวับไป เขา


พุ่งตรงไปยังทางเข้าที่ตนมาด้วยความเร็ วสู งสุ ด

แม้แต่ผสู ้ ู งส่ งจอมสังหารยังต้องถอยหนีอย่างไม่คิดชีวิต


แล้วคนอื่นๆยังมีกระจิตกระใจสู ้ได้อย่างไร ไม่นานพวก
เขาล้วนกระจัดกระจายไปคนละทิศละทางเพื่อหนีเอาชีวิ
จรอด

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ต้องการหนีออกไปง่ายๆได้อย่างไร? ยอมจานน


และเชื่อฟังเราในฐานะเจ้านายซะ!”
ในขณะที่มู่ตา้ พลางหัวเราะร่ าดัง ร่ างสายหนึ่งของเขาก็
หายลับสายตาไป ความเร็ วระดับนี้เรี ยกได้วา่ เหนื อชั้นกว่า
ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารมากจริ งๆ!

ปังงง!

ราวกับวิ่งชนกับของแข็งอย่างจัง แท้ที่จริ งกลับเป็ นผู ้


สู งส่ งจอมสังหารที่กระเด็นออกไปไกล เขาถูกมู่ตา้ เข้า
สกัดและซัดหมัดเข้าสวน หนึ่งกาปั้นหนึ่งกระบวน ใคร
หมู่ใครจ่าตัดสิ นได้ในบัดดล!
กระทั้งผูส้ ู งส่ งจอมสังหารยังถูกผลักไสกลับไปในจาก
โจมตีเดียว สี หน้าของเหล่าผูส้ ู งส่ งที่เหลือเริ่ มซัดขาวและ
เผยถึงความสิ้ นหวังอย่างปิ ดไม่อยู่

จักรพรรดิปีศาจเหล่านี้แกร่ งกล้าเกินไป!

“อ๊ากก!”

“อ๊ากก!”
…….

เสี ยงกรี ดร้องครวญดังส่ งผ่านสู่ โสตประสาท จักรพรรดิ


ปี ศาจที่ได้รับกายรู ปธรรมค่อยๆเพิ่มขึ้นจนเป็ นจานวนที่
น่าสะพรึ ง

ความแข็งแกร่ งของจักรพรรดิปีศาจเหนือชั้นกว่าเป็ น
ทุนเดิม และยิง่ ผนวกเข้ากับกายรู ปธรรมของเหล่านายพล
สังหาร พวกมันก็ยงิ่ แกร่ งกล้าขึ้นเรื่ อยๆ ทว่าในทาง
กลับกัน ฝ่ ายของผูส้ ู งส่ งกลับอ่อนแอลงเรื่ อยๆแทน
จักรพรรดิปีศาจตนหนึ่ งปรากฏกายต่อหน้าผูส้ ู งส่ งท่าน
หนึ่งที่ถูกมู่ตา้ ซัดจนน่วม และเปลี่ยนสถานะกลายเป็ นไอ
หมกพร้อมแทรกซึ มเข้าสู่ ทะเลแห่งจิตใจของอีกฝ่ ายทันที

เพียงไม่กี่อึดใจถัดมา ผูส้ ู งส่ งท่านนั้นลุกขึ้นและโค้งมอบ


คันธนูให้จกั รพรรดิปีศาจตนหนึ่ง พร้อมกล่าวว่า

“ปี ศาจตนนี้ได้รับร่ างใหม่แล้ว ขอขอบคุณนายท่าน!”


จักรพรรดิปีศาจตนนั้นหัวเราะลัน่ ดัง มันกล่าวว่า

“ฮ่าฮ่า! ดี ดีมาก! ไปรับแขกพวกมันให้ดี! จงจาไว้อย่าฆ่า


พวกมันให้จบั เป็ น ข้าต้องการนาพวกมันมาเป็ นทาส!”

“รับทราบนายท่าน!”

เมื่อเห็นว่าผูส้ ู งส่ งท่านนั้นถูกจักรพรรดิปีศาจยึกครองร่ าง


เรี ยบร้อยแล้ว เหล่าผูส้ ู งส่ งอีกสิ บเอ็ดคนที่เหลืออดสั่น
สะท้านด้วยความกลัวมิได้ สถานการณ์เช่นนี้ประดุจฝูง
จิ้งจอกไล่ล่ากระต่ายก็ไม่ผิด
เผ่าปี ศาจทั้งโหดเหี้ ยมและแข็งแกร่ งเกินไป พวกเขาไม่สา
มาถต่อต้านใดๆได้เลย

หากเป็ นเช่นนี้ต่อไป นั้นไม่เท่ากับว่าฝ่ ายจักรพรรดิปีศาจ


แข็งแกร่ งขึ้น ส่ วนพวกเขาอ่อนแอลงหรอกรึ ?

ไม่สามารถต่อกรได้ แต่ก็ไม่สามารถหลบหนีได้เช่นกัน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาควรทาอย่างไรต่อไปดี?

“พี่ใหญ่จอมสังหาร พวกเราท่าไม่ดีแล้ว หากยังฝื นปะทะ


ต่อไป พวกเราทุกคนต้องตายแน่!”
ผูส้ ู งส่ งอัคนผลาญตะโกนขึ้นอย่างสุ ดจะกังวล

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารสวนมองกลับไปอย่างเยือกเย็น เขา


กล่าวพร้อมพยักหน้าว่า

“เอาล่ะ! ในตอนนี้พวกเราไม่มีทางเลือกมากเช่นกัน คง
ต้องเดิมพันกับการโจมตีครั้งสุ ดท้ายแล้ว!”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารกล่าวขึ้นพร้อมระเบิดพลังทั้งหมด


ออกมาโดยพลัน จิตสังหารเจือโลหิ ตพุ่งกวาดล้างสรรพ
สิ่ งโดยรอบพินาศสิ้ น ไม่เว้นแม้แต่จกั รพรรดิปีศาจที่อยู่
ในรัศมี
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ เหล่าผูส้ ู งส่ งที่เหลือเริ่ มกลับมามี
กาลังใจขึ้นอีกครั้ง

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารนับเป็ นบุคคลที่ลึกลับที่สุดในบรรดา


สิ บสองผูส้ ู งส่ ง เมื่อเขาสาแดงพลังที่แท้จริ งออกมา
นับเป็ นสิ่ งถูกต้องตามที่คาด เขาคือผูส้ ู งส่ งที่แข็งแกร่ ง
ที่สุดจริ งๆ กระทั้งสามารถกวาดล้างจักรพรรดิปีศาจ
จานวนหนึ่งได้ในพริ บตา
แต่ใครจะรู ้วา่ จักรพรรดิปีศาจตนอื่นๆกลับคร้านจะใส่ ใจ
พลังของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารกลับมิได้สร้างความกังวลใจ
ให้แก่พวกมันเลย มีเพียงเสี ยงหัวร่ อที่ส่งผ่านกลับคืน
พร้อมมันตนหนึ่งกล่าวว่า

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ความแข็งแกร่ งของเจ้านั้นไม่เลวเลย มี


คุณสมบัติผา่ นเกณฑ์ที่จะเป็ นทาสรับใช้พอดิบพอดี! ส่ วน
พวกที่เหลือถูกท่าความแข็งแกร่ งยังขาดแคลนอยู่
เล็กน้อย”

เหิ นผ่านน่านฟ้าทะลวงนภากาศ มู่ตา้ มิได้หวัน่ เกรงสักนิด


และพุ่งทะลวงจิตสังหารเจือโลหิ ตที่วา่ ทรงพลังนั้นเข้า
โจมตีโดยตรง! จิตสังหารอันน่าสะพรึ งของผูส้ ู งส่ งจอม
สังหารไม่มีผลใดๆต่ออีกฝ่ ายเลย!

บูมมม!

ภายใต้การโจมตีระดับจักรพรรดิปีศาจ ยังคงเป็ นมู่ตา้ ที่ถือ


ครองความได้เปรี ยบบนฝ่ ามือ

เมื่อมู่ตา้ ออกโรง จักรพรรดิปีศาจตนอื่นๆเองก็ไม่แช่มช้า


พุ่งเข้าสัประยุทธ์กบั ฝ่ ายผูส้ ู งส่ งต่อทันที
ยิง่ เวลาผ่านไป สถานการณ์ก็ยงิ่ เลวร้าย จักรพรรดิปีศาจที่
ได้รับกายรู ปธรรมเพิม่ สู งขึ้นเรื่ อยๆ ในขณะที่ฝ่ายของ
เหล่าผูส้ ู งส่ งกลับมีจานวนคนลดลง

ต่อจากนี้ มันเป็ นเรื่ องของเวลาแล้วว่าฝ่ ายผูส้ ู งส่ งจะแตก


พ่ายเมื่อใด

อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ก็มีจกั รพรรดิปีศาจ


จานวนหนึ่งเข้าโรมรันพันตูกวนใจเย่หยวนเป็ นระยะ ที่
เป็ นเช่นนี้เพราะครั่นคร้ามในตัวเย่หยวนอยู่หลายส่ วน จึง
ไม่กล้าเข้าใกล้นานเกินไป แต่พอเย่หยวนมีเจตนา
หลบหนี พวกมันเองก็ไม่อนุญาตเช่นกัน

เช่นนั้นทั้งสองฝ่ ายจึงได้แต่จบั จ้องดูท่าทีกนั และกัน

บูมมม!

ผูส้ ู งส่ งอีกท่านได้รับบาดเจ็บและพลาดท่าไป พร้อมถูก


ยึดครองร่ างทันทีโดยหนึ่งในบรรดาจักรพรรดิปีศาจ

สี หน้าท่าทางของเย่หยวนมืดลงเล็กน้อยเช่นกันที่ได้เห็น
เขาคาดไม่ถึงเลยว่าฝ่ ายจักรพรรดิปีศาจจะมีจานวน
มากมายขนาดนี้ เป็ นไปได้ไหมว่า เขาจาต้องนาตรามังกร
ศักดิ์สิทธิ์และเจดียเ์ ลื่องสวรรค์ออกมาใช้จริ งๆในตอนนี้?

ทั้งสองอย่างนี้เป็ นไพ่ตายใบสุ ดท้ายของเขา หากเป็ นไป


ได้เขาไม่ตอ้ งการเปิ ดเผยสิ่ งเหล่านี้ให้ผใู ้ ดล่วงรู ้

เย่หยวนขบคิดอยูน่ านสองนานและสรุ ปได้วา่ ขอดูท่าทีไป


ก่อน

เผ่าปี ศาจแกร่ งกล้าเกินรับมือไหว แม้จกั รพรรดิปีศาจ


เหล่านี้จะไม่ทรงพลังเทียบเคียงเทพอสู รเจียหลาน แต่
พวกมันก็มีประสบการณ์บนสมรภูมิกว่าแสนปี นับได้วา่
ปี ศาจเจนศึกน้อยใหญ่นบั ไม่ถว้ นโดยแท้ ถึงกระนั้นเอง
โชคยังดีที่มนั มิได้มีความสามารถในการรักษาตัวแบบเจีย
หลาน ดังนั้นสถานการณ์ออกหัวหรื อก้อยยังพอมี
แนวโน้ม

ทว่าเพียงเท่านี้เอง ก็นบั เป็ นปัญหาไม่นอ้ ยที่จะจัดการกับ


พวกมัน

หากไม่ใช่เพราะเจียหลานบังเอิญเตะเข้ากับแผ่นเหล็ก
อย่างจัง สภาพของเย่หยวนในขณะนั้นเองก็คงดูไม่จืด
เช่นกัน หรื อบางทีอาจล่วงลับไปนานแล้ว

ไข่มุขสยบวิญญาณ มันสร้างบาดแผลต่อเจียหลานสาหัญ
สากรรจ์เกินไป
เย่หยวนยังคงเฝ้ามองศึกสัประยุทธ์อยูม่ ุมหนึ่งบนสมรภูมิ
สี หน้าของเขาในขณะนี้บิดเบี้ยวด้วยความน่าเกลียดไม่
น้อยเช่นกัน ผูส้ ู งส่ งที่พลาดท่าท่านนั้นถูกยึดครองร่ างโดย
สมบูรณ์และกลายมาเป็ นดัง่ ขี้ขา้ ของฝ่ ายจักรพรรดิปีศาจ
ทันที

นอกจากนี้ หลังจากที่กลายมาเป็ นขี้ขา้ พวกมัน ความ


แข็งแกร่ งของผูส้ ู งส่ งท่านนั้นก็ทวีเพิ่มสู งอย่างมาก

ภายใต้สถานการณ์ที่เสี ยเปรี ยบถึงขีดสุ ดเช่นนี้ มันเป็ นไป


ไม่ได้แล้วที่ฝ่ายผูส้ ู งส่ งจะพลิกกลับขึ้นมาได้เปรี ยบ
เย่หยวนเริ่ มร่ ายคาถาอย่างเงียบๆทันที พร้อมเตรี ยมหยิบ
ตรามังกรศักดิ์สิทธิ์ ออกมา แต่ทนั ใดนั้นเหตุการณ์ไม่คาด
ฝันก็อุบตั ิข้ ึนอีกครา!

บูมมมม!

เกิดแรงระเบิดสุ ดวินาศสันตะโรกระจายตัวออกไป คลื่น


ความเสี ยหายกวาดล้างเหล่าจักรพรรดิปีศาจจนกระเด็น
หายโดยตรง! กระทั้งมู่ตา้ ที่วา่ แกร่ งกล้าที่สุดก็ยงั ไม่
สามารถทานทนได้แม้แต่นอ้ ย มันถูกซัดกระเด็นดัง่ ว่าวไร้
เชือกไม่รู้ทิศทาง

ท่าทางการแสดงออกของเย่หยวนพลันเปลี่ยนไป ตาทั้ง
สองกวาดสังเกตต้นพลังพร้อมปรับขยายม่านตาเข้าจับ
จ้องด้วยความประหลาดใจยิง่ ตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ ไฉน
ลักษณะท่าทางของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารถึงเปลี่ยนไปทันที
ราวกับหน้ามือเป็ นหลัง!
การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันเช่นนี้ กลับทาให้เบื้อง
ลึกภายในใจหลายคนรู ้สึกยะเยือกแข็งฉับพลัน

“พวกแกนี่ มนั ไร้ประโยชน์จริ งๆ! กับแค่จกั รพรรดิปีศาจ


ไม่กี่ฝงู ยังจัดการกันไม่ได้! ในเมื่อเป็ นเช่นนี้ พวกแกก็ไม่
มีประโยชน์อนั ใดต่อข้าแล้ว!”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารตะวาดลัน่ ด้วยน้ าเสี ยงสุ ดเย็นชา


ตอนที่922 สามหมื่นปี แห่ งการหลอกลวง

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารลอยเคว้งกลางนภากาศ เสื้ อผ้าทัว่ ร่ าง


ขาดรุ ้ยดัง่ ผ้าขี้ริ้ว เขาสวดพึมพาไม่หยุด เกลี้ยวคลื่น
รอบตัวเริ่ มก่อตัวรุ นแรงบิดพริ้ ว กลิ่นอายแรงกดดันของ
เขาช่างน่าสะพรึ งยิง่ ยวด!

ปัจจุบนั ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้ นเชิง


เดิมที่ผคู ้ นรู ้สึกถึงความเหนือชั้นอยูแ่ ล้ว ในขณะนี้มนั ยิง่
ไกลออกไปจนไม่เห็นเงา

แม้แต่เหล่าจักรพรรดิปีศาจยังจับจ้องไปยังผูส้ ู งส่ งจอม


สังหารด้วยสี หน้าสุ ดเคร่ งขรึ ม และในความเป็ นจริ ง พวก
เขาเริ่ มหวาดกลัวจนไม่กล้าเคลื่อนไหวโจมตีใดๆอีก
ดวงตาคู่น้ นั ภายใต้หน้ากาก เบื้องลึกสุ ดใจสะท้อนความ
มืดมิดเกินหยัง่ รู ้ ไม่มีแม้นใครผูใ้ ดกล้าสบตากับเขา
โดยตรงสักคน

“ข้าอุตส่ าห์เลี้ยงดูขนุ พวกแกเป็ นเวลานาน ทั้งชื่อเสี ยงและ


เกียรติยศมากมายล้วนมอบให้ มันถึงเวลาสมควรแล้ว ที่
พวกแกทุกคนจักต้องตอบแทนข้าผูน้ ้ ี!”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเอ่ยปากกล่าวขึ้นอย่างแช้มช้า แต่น้ นั


กลับทาให้หวั ใจของเหล่าผูส้ ู งส่ งที่เหลือสั่นระรัวหวาด
ผวายิง่
“พี่ใหญ่จอมสังหาร ท่าน…ท่านหมายความว่าอย่างไร?”

สี หน้าของผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญเลวร้ายลงอย่างมาก สังหรณ์


ไม่ดีแล่นตรงเข้าสู่ จิตใจโดยพลัน

“แล้วแกจะรู ้ทนั ที!”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารค่อยๆยกสองสื อขึ้นช้าๆ พร้อมก่อเกิด


แรงดึงดูดมหาศาลเข้าปกคลุมร่ างทุกคนทันที
ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเป็ นดัง่ ตาพายุอยูต่ รงจุดศูนย์กลาง พลัง
ปราณหลัง่ ไหลออกมาจากร่ างทุกคนจนเกิดเป็ นกระแส
น้ าวนมหาศาลขึ้นเป็ นเกลี้ยว พลังงานทั้งหมดไหลหลาก
เข้าสู่ จุดศูนย์กลางอย่างร่ างผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร

พร๊ วดดด!

นายพลสังหารที่หลงเหลือไม่สามารถทานทนได้อีก ร่ าง
ของพวกเขาระเบิดเป็ นจุณในทันใด แม้แต่เสี ยงคร่ าครวญ
ยังไม่มีโอกาสได้ร้องออกมา
ต่อเนื่องจากเกรี้ ยวพลังปราณดุจน้ าวนกรากเชี้ยว ไอ
พลังงานสี ดาจานวนมากไหลออกมาจากภายในร่ างกาย
ทุกคน พร้อมไหลรวมเข้าสู่ ร่างของผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร
โดยตรง

เย่หยวนเห็นภาพเหตุการณ์เหล่านี้อย่างชัดแจ้ง และทราบ
ทันทีวา่ ไอพลังงานสี ดาเหล่านั้นก็คือแนวคิดแห่งการ
สังหาร!

ปุก ปุก ปุก…


ในไม่ชา้ เสี ยงร่ างกายระเบิดดังระงมต่อเนื่อง ร่ างของนาย
พลสังหารเหล่านั้นระเบิดเป็ นเศษเนื้อกระจายทัว่ โดยไม่มี
สัญญาณเตือนใดๆให้รับทราบ!

ซูวว ซูววว ซูวววว!

ไอพลังแนวคิดแห่งการสังหาร ไหลโคจรเป็ นธารสาย


น้อย ก่อนไหลบรรจบเป็ นธารสายใหญ่หมุนติ้วเป็ นเกลี้ยว
คลื่นผสานกับพลังปราณน้ าวนต่อไป
“อ๊า…”

เสี ยงครางหวานดังขึ้นเล็กน้อย ปรากฏว่าเป็ นซื่อหยินที่


ร้องขึ้นพร้อมเผยสี หน้าแสดงความเจ็บปวดออกมา ก่อน
ร่ างบางของนางจะทรุ ดลงกับพื้นโดยตรง

แต่ทนั ใดนั้น ก่อนร่ างของเขาจะร่ วงตกถึงพื้น กลับมีท่อน


แขนของใครบางคนมารองรับเอาไว้ เมื่อพยายามใช้สติที่
หลงเหลือพินิจเพ่งมอง กลับมิใช่ใครอื่นนอกจากเย่หยวน

“เย่หยวน เจ้า…เจ้ายังปลอดภัยดี?”
ปวดร้าวดัง่ ศีรษะกาลังถูกฉี กออก ซื่อหยินรู ้สึกทรมาน
อย่างยิง่ จนแทบหมดสติท้ งั แบบนั้น ภายในร่ างกายของ
นางพลังฉี สังหารปะทุปั่นป่ วนไม่หยุด ราวกับมีระเบิดอยู่
ในร่ างและสามารถทางานได้ทุกเมื่อ แต่ในทางตรงกัน
ข้าม มองดูจากลักษณะท่าทางของเย่หยวน เขากลับไม่
เป็ นอะไรแม้สักนิด

เมื่อเห็นสี หน้าสุ ดแสนจะเจ็บปวดเจือฉงนใจ เย่หยวนจึง


ยิม้ และกล่าวตอบว่า
“มีเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆติดตัวอยูบ่ า้ ง เป็ นไปได้หรื อไม่วา่
ข้า,เย่หยวนจะติดกับชนิดนี้ ง่ายๆ?”

“นี่…เกิดอะไรขึ้น? ข้า…ข้าเป็ นอะไรกันแน่?”

สี หน้าของซื่อหยินในขณะนี้ซีดขาว ข่มกลั้นความ
เจ็บปวดสุ ดพรรณนา นางเอ่ยปากถามขึ้น
เย่หยวนหันไปจับจ้องผูส้ ู งส่ งจอมสังหารกลางห้วงนภา
กาศ ที่กาลังดูดกลืนเกลียวคลื่นพลังโหมอย่างบ้าคลัง่ เขา
พลางหันกลับมาและกล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า

“แนวคิดแห่งการสังหารในลานประลองอสู ร เป็ นเพียง


เรื่ องลวงหลอกที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดมานานกว่าส่ ามหมื่นปี แล้ว
และเหล่าผูส้ ู งส่ งทุกยุคทุกสมัยก็เป็ นเพียงภาชนะรองรับ
แนวคิดแห่งการสังหารขนาดใหญ่ เมื่อเขาเลี้ยงดูพวกท่าน
จนอวบอ้วนครบกาหนด ก็รอเชือดเก็บเกี่ยว”

ไม่มีอาหารแจกจ่ายบนผืนพิภพแห่งนี้ การที่สามารถดูด
ซับแนวคิดแห่ งการสังหารได้โดยไม่ตอ้ งเสี ยเวลาทาความ
เข้าใจ เรื่ องเช่นนี้มนั จะมีจริ งได้อย่างไร?
เพียงว่าลานประลองอสู รใช้กลไกเหล่านี้ ล่อลวงผูค้ น
ภายนอกมาโดยตลอด จวบจนปัจจุบนั มันก็ยงั ถูกปิ ดเป็ น
ความลับสุ ดยอด

เมื่อได้ยนิ คากล่าวของเย่หยวน ซื่อหยินก็เผยความสิ้ นหวัง


ผ่านใบหน้าอย่างไม้อดกลั้นใดๆอีก

ในไม่กี่อึดใจต่อมา ร่ างของนายพลสังหารทั้งหมดก็
ระเบิดออก ในขณะที่ไอพลังแนวคิดแห่งการสังหารก็
ค่อยๆหลัง่ ไหลออกมา จนมาบรรจบกันที่ร่างของผูส้ ู งส่ ง
จอมสังหาร
กลิ่นอายความแกร่ งกล้าของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารทวีความ
แข็งกร้าวมากขึ้นเรื่ อยๆ แต่เย่หยวนทราบดีวา่ ทั้งหมดนี่
เป็ นเพียงอาหารเรี ยกน้ าย่อยเท่านั้น

ผูส้ ู งส่ งเหล่านี้ ต่างหากที่นบั เป็ นอาหารจานหลักในงาน


ฉลองที่แท้จริ ง!

แนวคิดแห่งการสังหารของเหล่าผูส้ ู งส่ งมีสูงถึงแปดดาว


กันทุกคน ซึ่งแนวคิดระดับนี้นบั ว่าน่าเกรงขามอย่างหาที่
เปรี ยบไม่ หากสามารถดูดซับพลังแนวคิดแห่งการสังหาร
ของเหล่าผูส้ ู งส่ งได้หมด ความแข็งแกร่ งของผูส้ ู งส่ งจอม
สังหารจะพัฒนาขึ้นสู่ ระดับที่ไม่อาจหยัง่ รู ้ได้
“พร๊ วดด…”

ในที่สุด เหล่าจักรพรรดิปีศาจที่ครอบครองกายรู ปธรรมก็


ไม่สามารถทานทนได้อีกต่อไป ร่ างกายที่เพิ่งได้มาพลัน
ระเบิดเป็ นจุณในทันใด

“อ๊ะ! กายรู ปธรรมของข้า!”


จักรพรรดิปีศาจเหล่านี้ไม่คาดไม่ฝันเลยว่า ร่ างกายที่เพิ่ง
ได้มา กลับจาต้องจากลาไวถึงเพียงนี้

แต่แล้วอย่างไร ความแข็งแกร่ งของเผ่าปี ศาจน่าสะพรึ ง


ยิง่ ยวด แม้กายรู ปธรรมจะไม่มี แต่พวกมันก็ยงั คงเป็ นเงา
วิญญาณอันโหดเหี้ ยม

ปุก ปุก ปุก…

เหล่าจักรพรรดิปีศาจที่ได้รับกายรู ปธรรมมา ในที่สุดร่ าง


เหล่านั้นก็ระเบิดจนอันตธานสิ้ น
เย่หยวนจับจ้องไปที่ซื่อหยินในอ้อมแขน ในท้ายที่สุดนี้
เขายังคงถอยหายใจยาวออกมาพลางกล่าวว่า

“ซื่อหยิน หากท่านเชื่อใจข้าบ้าง โปรดเปิ ดผนึกจิต


วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ให้ขา้ มีโอกาสได้ช่วยเหลือ
ไม่วา่ อย่างไรอย่าได้พยายามขัดขืนเป็ นอันขาด มิฉะนั้น
จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของท่านอาจฉี กขาดได้!”

ปัจจุบนั ร่ างบางสวยของซื่อหยินพองตัวขึ้นจนเห็นได้ชดั
ร่ างกายของนางอวบอ้วนขึ้นราวกับภายในเต็มไปด้วย
อากาศ
เห็นได้ชดั ว่าร่ างของนางเองก็ใกล้ระเบิดเต็มทนแล้ว ขุ่ม
พลังที่แข็งแกร่ งกลับพยศร้ายจนกลายเป็ นจุดอ่อน ในเวลา
นี้ถึงคราวเหล่านผูส้ ู งส่ งกลายเป็ นมื้ออาหารจานใหญ่ และ
นางเป็ นคนแรกที่ออกอาการมาอย่างชัดเจน

แม้วา่ ซื่อหยินจะมิได้มีรูปโฉมงามจนไร้คู่แข่งในดินแดน
ศักดิ์สิทธิ์ แต่ความงดงามระดับนี้นบั ว่าหาได้ยากยิง่
เช่นกัน และด้วยสภาพนางที่ร้องครางสั่นอย่างเจ็บปวด
เช่นนี้ ไม่วา่ ใครย่อมรู ้สึกสงสารและอยากปกป้องไม่รู้จบ

แน่นอนว่าเหตุผลที่เย่หยวนเข้าช่วยเหลือชีวิตซื่อหยิน
มิใช่เพราะเขาต้องเอาชนะใจนางให้หลงรักดัง่ หนุ่มสาว
พึงปฏิบตั ิ แต่เพราะในบรรดาผูส้ ู งส่ งทั้งหมด นางเป็ นคน
เดียวที่ควรรอดชีวิตออกไปที่สุด
เมื่อได้ยนิ คากล่าว ราวกับว่าเย่หยวนยืบยืน่ ความหวัง
ให้แก่นางอีกครั้ง ซึ่งเจือมาด้วยความประหลาดใจสุ ด
พรรณนา หากกล่าวตามความจริ ง เย่หยวนเองก็มีป้ายตรา
สิ ทธิ์สังหารอยูใ่ นครอบครอง แต่ไฉนเขากลับสบายดี?

ความลี้ลบั ที่อยูเ่ บื้องหลังชายหนุ่มคนนี้ มันมีมากเกิน


เข้าใจได้อย่างแท้จริ ง

เมื่อได้ยนิ คากล่าวของเย่หยวน ซื่อหยินก็เปิ ดผนึ กจิต


วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของนางออกโดยสมบูรณ์ ในอึดใจให้
หลัง นางรู ้สึกได้ทนั ทีวา่ มีกลุ่มพลังจิตวิญญาณอันอบอุ่น
สายหนึ่งไหลริ นเข้ามา
เย่หยวนกรอกเทพลังจิตวิญญาณและสมาธิของตนลงใน
จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของซื่อหยินทันที และเริ่ มค้นหาต้น
สายปลายเหตุ

การเข้าสารวจจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของผูอ้ ื่น นับเป็ นเรื่ อง


อันตรายอย่างยิง่ ต่อผูถ้ ูกกระทา อุบตั ิเหตุเล็กน้อยเพียงครั้ง
เดียวอาจทาให้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ของผูน้ ้ นั ฉี กขาดได้
ทันที

หากผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทาให้อีกฝ่ ายพิการได้ แต่


หากผิดพลาดขั้นรุ นแรงนั้นส่ งผลถึงความตายอย่างไม่
หวดคืน
อย่างไรก็ตาม ความสาเร็ จของเย่หยวนในด้านจิตวิญญาณ
ศักดิ์สิทธิ์นบั ว่าสู งมาก ทัว่ ทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตวั เขา
นับว่าอยูบ่ นจุดสู งสุ ด บุคคลใดหาเทียบเคียงความชานาญ
ในด้านนี้ เรี ยกได้วา่ คงต้องพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินหาอยูแ่ รม
ปี ยิง่ ไปกว่านั้นตัวซื่อหยินเองเต็มใจให้เขาเข้ามา
ตรวจสอบ จึงนับว่ามิใช่เรื่ องยากเลย

เย่หยวนเพ่งจิตสมาธิตรวจสอบโดยละเอียดอย่าง
คล่องแคล่ว ราวกับว่าเขากาลังหาบางสิ่ งอย่างที่ซ่อนอยู่

ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีเมล็ดพันธุ์บางอย่างสี ดาปรากฏขึ้น


ต่อหน้าต่อตาเย่หยวน!
เมล็ดพันธุ์น้ นั เริ่ มงอกงามและเติบโตขึ้นแล้ว! เม็ดพันธุ์สี
ดานี่แหละคือตัวการสาคัญ!

หากย้อนกลับไป เมื่อตอนที่เย่หยวนทาสัญญาร่ วมกับ


ป้ายตราสิ ทธิ์สังหาร เมล็ดพันธุ์สีดาอันนี้ก็พยายามแทรก
ซึมเข้าสู่ จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาเช่นกัน แต่ทว่าพลัน
ถูกเย่หยวนกาจัดไปก่อนอย่างเงียบๆ

วิธีดาเนินการของเย่หยวนเกิดขึ้นเพียงเสี้ ยวพริ บตาและ


ลึกลับมาก แม้แต่ผสู ้ ู งส่ งจอมสังหารยังไม่สามารถตรวจ
พบร่ องรอยน้ าหมึกได้เช่นกัน
ทันทีที่ที่พบตัว ดูเหมือนว่าเมล็ดพันธุ์สีดานี่จะรู ้สึกได้ถึง
อันตรายและเข้าโจมตีเย่หยวนทันที

เย่หยวนเค้นหัวรอเย็นยะเยือกอีกสองคา ก่อนใช้พลังจิต
วิญญาณของตนกวาดล้างสิ้ นไป

เมื่อพบปัญหาในการกาจัดเย่หยวน เมล็ดพันธุ์น้ นั กลับ


แปรเปลี่ยนรู ปร่ าง คล้ายร่ างมนุษย์แต่ไม่เด่นชัด ซึ่ง
หน้าตาของมันดูทรงคับคล้ายคับคลากับผูส้ ู งส่ งจอม
สังหารไม่ผิด

“ไอ้หนุ่ม ข้าขอแนะนาอย่าคิดสะกิดโทสะข้า เรื่ องคนอื่น


เจ้าไม่ควรแส! มิฉะนั้นวิญญาณของหญิงสาวนางนี้จกั
ต้องดับสู ญ!”
ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารส่ งเสี ยงเตือน

กลุ่มก้อนพลังจิตวิญญาณของเย่หยวน ควบแน่นกลายมา
เป็ นร่ างมนุษย์สมบูรณ์ข้ นึ ทันที เขากล่าวตอบด้วยรอยยิม้
ที่ไม่ใช่รอยยิม้ ว่า

“มีทกั ษะการควบคุมพลังจิตวิญญาณแค่น้ ี คิดเล่นของสู ง


กับท่านปู่ เย่เลยงั้นรึ ? หากคิดว่าสลายวิญญาณของนางได้
ก็ลองดู!”
“หึ ! ในเมื่อแสวงหาความตายเอง งั้นข้าผูน้ ้ ีจะสนองให้
ตามต้องการ!”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเข้นเสี ยงสบถสุ ดเยือกเย็น ก่อนที่ร่าง


นั้นจะค่อยๆพ่องตัวขึ้นราวกับลูกโป่ งที่ใกล้แตก เขาผัน
ตัวเองกลายเป็ นระเบิด เพื่อหวังที่จะทาลายจิตวิญญาณ
ศักดิ์สิทธิ์ของซื่อหยินทิ้งทันที!

เย่หยวนหัวร่ อเสี ยงเย็นตอบกลับ สองมือพลันประสาน


พร้อมร่ ายคาถานับร้อยด้วยความเร็ วดุจสายฟ้า ทันใดนั้น
กระแสพลังอันอ่อนโยนก็ก่อตัวขึ้นพร้อมเข้าห่อหุ ้มจิต
วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ท้ งั หมดไว้

ไม่วา่ อีกฝ่ ายจะระเบิดอีท่าไหน เขาก็ไม่มีทางทาอันตราย


ใดๆต่อจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของซื่อหยินได้แม้แต่นอ้ ย!
ตอนที่923 กำจัดจักรพรรดิปีศำจ!

เบื้องลึกสุ ดใจในหลุมอเวจีสวรรค์ ชายหนุ่มหล่อหน้าดีดุจ


หยกสวมชุดสี ดาพลันเปิ ดตาทั้งสองอย่างช้าๆ ก่อนขมวด
คิ้วขึ้นโดยมิต้ งั ใจ

สายตาที่จบั จ้องราวกับมองผ่านทะลุทางไกลได้

สี หน้าของเขาช่างไร้อารมณ์ใดมาเจือปน กลิ่นอายแผ่
ความน่าสะพรึ งชนิดหนึ่งทั้งๆที่ยงั มิได้โกรธเกรี้ ยวอะไร

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ค่อยๆเอ่ยปากกล่าวว่า
“ช่างเถอะ ข้าผูน้ ้ ีถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สาคัญยิง่ แล้ว
เรื่ องนี้ให้เจ้านั้นจัดการไป!”

เมื่อกล่าวจบ ชายหนุ่มหล่อในชุดสี ดาก็หลับตาลงอีกครั้ง


คลื่นพลังแห่งความชัว่ ร้ายพุ่งพล่านไม่หยุดออกจาก
ร่ างกาย จนทาใหเอากาศโดยรอบเหนียวข้นขึ้นทันตา

…………………………….
ถึงระเบิดสิ้ นไปแล้ว แต่จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของซื่อหยิน
ยังคงปกติดงั เดิม

เพียงแค่วา่ แรงระเบิดจากพลังจิตวิญญาณเมื่อครู่ นบั ว่าทรง


พลังยิง่ เพียงเศษเสี้ ยวพลังจิตวิญญาณของร่ างแยกยัง
ขนาดนี้ แล้วร่ างหลักจะแกร่ งกร้าวขนาดไหน?

มีเย่หยวนเท่านั้นที่สามารถป้ องกันเหตุเช่นนี้ได้ หากเป็ น


คนอื่นๆมันไม่มีทางที่จะกาจัดพลังจิตวิญญาณที่ระเบิด
ออกให้ไร้ผลได้โดยง่าย

“ความแกร่ งกล้าของสหายคนนี้ กลับกลายเป็ นสิ่ งมิอาจ


หยัง่ รู ้เสี ย!”
เย่หยวนถอนหายใจเล็กน้อย พร้อมดึงพลังจิตวิญญาณ
ถอนกลับออกมายังจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของตนดังเดิม

ในเวลานี้เองร่ างกายของซื่อหยินก็กลับคืนสู่ สภาวะปกติ


รู ปร่ างสัดส่ วนกลับมาเรี ยวบางและงดงามอีกครั้ง ดวงตา
คู่งามของนางหันไปจับจ้องเย่หยวนด้วยความขอบคุณ
แฝงอารมณ์ของอิสตรี เจือบาง ซึ่งนางมิจาเป็ นต้องเอ่ยปาก
กล่าวใดๆ

นางยังคงสวมกอดอยู่ในอ้อมแขนเย่หยวนไม่ปล่อย ทันที
ที่รู้ตวั ท่าทางดูขดั ขืนเล็กน้อยพร้อมสี หน้าอันขวยเขิน นาง
เรี ยบผละออกพร้อมพยุงตัวลุกขึ้น และขณะที่กาลังจะเอ่ย
ปากกล่าวขอบคุณเย่หยวน ทันใดนั้นร่ างของนางกลับแข็ง
ทื่อในทันที

เย่หยวนเผยยิม้ บางๆและกล่าวว่า

“ไม่จาเป็ นต้องกังวล ในขณะนี้ เขากาลังง่วนกับการ


ดูดกลืนพลังแนวคิดแห่งการสังหารอยู่ แล้วอีกฝ่ ายจะมี
เวลาลงมือกับพวกเราได้อย่างไร?”
โดยไม่ตอ้ งสงสัย ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารตรวจจับความ
ผิดปกติได้ทนั ที นั้นเป็ นเหตุใดเขากวาดสายตามาทางนี้
ด้วยความประหลาดใจ

แต่แล้วอย่างไร ตามที่เย่หยวนกล่าวไปไม่ผิด ตัวเขากาลัง


ยุง่ กับการดูดกลืนพลังแนวคิดแห่งการสังหารอยู่ และไม่มี
เวลาว่างสาหรับสิ่ งใดอื่น

ปุก ปุก ปุกก…

ร่ างกายของแต่ละคนระเบิดขึ้นไม่หยุด ในขณะที่กลิ่นอาย
พลังของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารยิง่ ทวีเพิ่มสู งขึ้นเรื่ อยๆ
เพียงไม่นาน แม้แต่จกั รพรรดิปีศาจเองยังถูกกลิ่นอายพลัง
นี้บีบจนร่ างระเบิดตายโดยสมบูรณ์

แต่ผสู ้ ู งส่ งจอมสังหารมิได้คิดหยุดมือใดๆ คราวนี้ถึงตา


ของเหล่าผูส้ ู งส่ งบ้างแล้ว

เสี ยงกรี ดร้องสุ ดน่าสังเวทดังโหยหวน ใครฟังก็วา่ ระทม


ใจยิง่ นัก ผูส้ ู งส่ งท่านหนึ่ งที่ถูกจักรพรรดิปีศาจยึดครอง
ร่ างไป เป็ นรายแรกที่ระเบิดโดยตรง
สี หน้าของผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญเผยถึงความสิ้ นหวังเต็ม
ประตู ร่ างของเขาในขณะนี้บวมพองราวกับลูกโป่ งยักษ์
และใกล้จะแตกออกเต็มทนแล้ว

เขาไม่นึกไม่ฝันเลยว่า คนที่จะฆ่าเขาในท้ายที่สุดนี้กลับ
กลายเป็ น ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเสี ยเอง!

“ยะ–เย่ หยวน ช่วยข้าด้วย! ข้ารู ้วา่ เจ้าสามารถช่วยข้าได้!


ตราบใดที่เจ้ายอมช่วยข้า ข้าขอสัญญากับเจ้า ไม่วา่
ต้องการอันใดข้ายอมทั้งสิ้ น!”
ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญกล่าววิงวอนขอความเมตตาจากเย่
หยวน

เย่หยวนหันไปจับจ้องผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญที่ตวั พองเป็ น


ลูกโป่ งอย่างสงบเยือกเย็น และกล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า

“ช่วยท่าน? แต่หากจาไม่ผิด ท่านต้องการจะฆ่าข้านับครั้ง


ไม่ถว้ น แต่ตอนนี้กลับขอให้ขา้ ช่วย? ท่านหวังสู ง
เกินไป!”
ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญพยายามคุกเขาลงทั้งแบบนั้น และกล่าว
ขอขมาเย่หยวนว่า

“ขะ–ข้าขอร้อง! โปรดเมตตาช่วยข้าด้วย! สิ่ งที่เคยกระทา


ไปทั้งหมด ล้วนเกิดจากความโง่งมของข้าเอง! ข้าสมควร
ตาย! ข้าขอสาบานต่อหน้าสรวงสวรรค์ ในอนาคต ข้าจะ
ไม่…”

ด้วยแรงปะทุหนักอีดคราจากภายในร่ าง ผูส้ ู งส่ งอัคนี


ผลาญระเบิดกลายเป็ นชิ้นเนื้ อสับกระจายทันที
เมื่อเห็นภาพฉากเหล่านี้ ซื่อหยินก็ยงิ่ ตัวสั่นเทาด้วยความ
หวาดกลัว

ในสิ บปี ที่ผา่ นมานี้ นางและผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญ รวมไปถึง


คนอื่นๆล้วนแข่งขันหักกันอยูเ่ สมอ นับว่าเป็ นคู่หูคู่แค้น
กันตลอดมา แต่ตอนนี้อีกฝ่ ายกลับตายไปต่อหน้าต่อตา
นั้นทาให้นางรู ้สึกสลดใจมินอ้ ยและไว้อาลัยให้อย่างลับๆ
โดยมิรู้ตวั

“ฉะ–ไฉนเป็ นเช่นนี้? ข้าไม่เคยได้ยนิ มาก่อนเลยว่าทะเล


มารคลัง่ จะมีเรื่ องแบบนี้ดว้ ย? จอมสังหารแท้จริ งเป็ นใคร
กันแน่?”
ซื่อหยินบ่นพึมพา

นางในตอนนี้เต็มมไปด้วยความสงสัยอยูใ่ นอกและไม่
สามารถเข้าใจอะไรได้เลย

แต่เย่หยวนกล่าวตอบด้วยรอยยิม้ ว่า

“เช่นนั้น ท่านทราบใช่ไหมว่า ทุกครั้งที่เข้าสารวจหลุม


อเวจีสวรรค์ มักมีผสู ้ ู งส่ งตายลงอยูเ่ สมอ? แล้วไม่สงสัย
หรื อว่า หลังจากที่พวกเขาตายแนวคิดแห่งการสังหารที่สั่ง
สมมาหายไปไหน?”
ซื่อหยินสี หน้าตึงแข็งในทันใด ก่อนเอ่ยปากกล่าวด้วย
ความสัน่ กลัวว่า

“หรื อเป็ นไปได้ไหมว่า…พวกเขาทั้งหมดจะถูกจอม


สังหารฆ่าตาย?”

เย่หยวนส่ ายหัวและกล่าวว่า
“นั้นอาจไม่ใช่เสมอไป พวกเขาตายอย่างไรไม่สาคัญ
สาคัญที่วา่ หลังจากพวกเขาแนวคิดสังหารทั้งหมดจะถูกผู ้
สู งส่ งจอมสังหารดูดกลืนกลับไปทันที”

ซื่อหยินตะลึงงันจนตัวแข็งค้าง หากเป็ นตามที่เย่หยวน


กล่าวไปจริ งๆ นั้นมิได้หมายความว่าพวกเขาเป็ นเพียง
ภาชนะที่มีไว้เพาะเลี้ยงแนวคิดแห่งการสังหารเฉยๆหรอก
รึ ?

ในเวลานั้นเอง ในที่สุดเกลียวคลื่นน้ าวนขนาดยักษ์ก็หยุด


ลง ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารค่อยๆลอยตัวออกมาอย่างแช่มช้า
ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารในปัจจุบนั ราวกับบุคคลที่แตกต่างจาก
ก่อนหน้าอย่างสิ้ นเชิง ไม่วา่ ความแข็งแกร่ งหรื อรู ปร่ าง
ล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดฟ้ากับเหว

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารในอดีตดูเหนือชั้นกว่าเหล่าผูส้ ู งส่ งคน


อื่นๆอยูป่ ระมาณขุมหนึ่งได้ แต่ในปัจจุบนั ร่ างกายที่ลอย
เคว้งกลางนภากาศ ช่างยิง่ ใหญ่และสู งศักดิ์ราวกับราชาไม่
มีผิดเพี้ยน ทรงพลังจนทาให้ผคู ้ นไม่กล้าจ้องมองโดยตรง

สิ่ งที่ทาให้ซื่อหยินประหลาดใจที่สุดในตอนนี้คือ
นอกจากตัวนางและเย่หยวนแล้ว ยังเหลือผูส้ ู งส่ งอีกสอง
คนที่ยงั ปกติดี
หนึ่งในนั้นคือผูส้ ู งส่ งเหลิ่งเสี่ ย และผูส้ ู งส่ งสาราญสวรรค์
ผูส้ ่ งลงเรื อลาเดียวกับผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญ

สายตาสุ ดเหี้ ยมของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารกวาดมองไปยัง


เหล่าจักรพรรดิปีศาจ ก่อนกล่าวขึ้นอย่างหยิง่ ผยองว่า

“พวกแกบังคัญข้าเอง แล้วอยากให้ขา้ ผูส้ ู งส่ ง ส่ งพวกแก


กลับบ้านเก่าแบบใดดี?”
จักรพรรดิที่ได้รับกายรู ปธรรม ร่ างเหล่านั้นถูกทาลายสิ้ น
แล้วต่อหน้าต่อตา เหตุการณ์เช่นนี้กลับทาให้สีหน้าพวก
มันมืดขรึ มลงอย่างไม่น่าเชื่อ

แต่ในฐานะเผ่าปี ศาจ พวกมันไม่เคยเกรงกลัวเผ่ามนุษย์อยู่


แล้ว

“ช่างน่าขัน! คิดว่าตนเป็ นคู่มือของเราได้ เพียงเพราะ


สามารถทาลายกายรู ปธรรมของเราได้? โง่เขลานักที่เข่น
ฆ่าลูกน้องตนเองจนแทบไม่เหลือ เช่นนั้นแล้วยังคิดว่าตน
เป็ นคู่มือของเราได้อีก?”
จักรพรรดิปีศาจตนหนึ่ งกล่าวขึ้นพร้อมหัวเราะเยาะด้วย
เสี ยงเย็น

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเค้นเสี ยงเย็นสองคา ก่อนกล่าวว่า

“หัวรั้นโดยแท้! ไม่เห็นโลงศพไม่หลัง่ น้ าตา!”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเองมิได้เคลื่อนไหวใดๆเช่นกัน ทว่า


แรงกดดันพลันปกคลุมทัว่ ทั้งบริ เวณอย่างรวดเร็ ว จิต
สังหารแห่งดาบอันเยือกเย็นกดร่ างทุกคนให้ทรุ ดมอบราว
กับแรงดึงดูดตรึ งพิภพ มันรุ นแรงจนทาให้หลายต่แหลาย
คนไม่สามารถลืมตาได้เลย!
“เต๋ าดาบคะนองสังหาร!”

ทันทีที่เย่หยวนเห็นกระบวนดาบของผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร


เขาก็โพลงอุทานลัน่ ด้วยความตกใจ

ท่าร่ างดาบกระบวนนี้เป็ นส่ วนที่สองของเพลงดาบมหา


สังหาร ที่เย่หยวนได้มาจากร้านค้าอสู รอย่างแม่นยา!
กระบวนท่าที่สอง – เต๋ าดาบคะนองสังหาร!

ท่านี้เย่หยวนเองก็กาลังฝึ กปรื ออยูเ่ ช่นกัน แต่เมื่อมันถูก


ปลดปล่อยออกจากมือผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร อนุภาพการ
ทาลายล้างที่สาแดงเดช เย่หยวนกลับเทียบเคียงไม่ติด!
อนึ่ง ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารดูดซับแนวคิดแห่งการสังหาร
ของผูส้ ู งส่ งทั้งแปดจนพลังล้นปรี่ ระดับชั้นอริ ยะถ่องแท้
แห่งการสังหารของเขาในปั จจุบนั ก้าวย่างเข้าสู่ ข้นั เกิน
หยัง่ รู ้ได้แล้ว

ฟิ้ ง ฟิ้ ง ฟิ้ ง!

ไม่กี่คมดาบถูกปลดปล่อย ก็ก่อเกิดเสี ยงร้องคร่ าครวญสุ ด


เวทนาดังระงมไม่รู้จบ
เพียงการโจมตีแค่กระบวนเดียว เหล่าจักรพรรดิปีศาจโดย
ส่ วนใหญ่ลว้ นถูกพิฆาตสิ้ นจนสาหัส แม้ยงั ไม่สิ้นใจลา
โลก แต่บาดแผลที่ได้รับกลับรุ นแรงจนไร้ศกั ยภาพสู ้ต่อ
ทันที

แม้เผ่าปี ศาจจะแกร่ งกล้าจนขึ้นชื่อว่าฆ่าไม่ตายดัง่ เป็ น


อมตะ แต่แท้ที่จริ งแล้ว พวกมันก็ตายเป็ นและมิได้อยูย่ ง
คงกระพันตามที่เลื่องลือ หากได้รับความเสี ยหายหนักใน
ระดับหนึ่ง พวกมันเองก็จาต้องกลับบ้านเก่าเช่นกัน

เหล่าจักรพรรดิปีศาจอีกหลายตนที่เห็นดังนั้นต่างพากัน
ตื่นตระหนก เห็นได้อย่างชัดแจ้ง พวกมันไม่นึกไม่ฝันเลย
ว่า ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารจะทรงพลังขนาดนี้ได้จริ งๆ
“วิ่ง! รี บหนีไปเร็ ว! ชายคนนี้แข็งแกร่ งเกินไป! ด้วย
สภาวะปัจจุบนั ของเรา ไม่สามารถต่อกรได้เลย!”

ไร้ซ่ ึงความคิดอื่นใด ทันทีที่ได้สติพวกมันตะโกนลัน่


อย่างชุนมุลวุ่นวาย และเร่ งหาทางหนีทีไล่ทนั ที

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารระเบิดเสี ยงหัวเราะแสนเย็นยะเยือกดัง


และกล่าวขึ้นว่า

“ต้องการจะหนี? คงไม่ง่ายขนาดนั้น!”
เมื่อกล่าวจบ ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารก็ปลดปล่อยเต๋ าดาบ
คะนองสังหารอีกชุดใหญ่!

ในคราวนี้จิตสังหารที่ผสานลงไปกลับข้นคลักยิง่ กว่าตอน
แรกไม่รู้กี่เท่า!

เสี้ ยวอึดใจนั้นเอง ดัง่ เกิดแรงกระชากวิญญาณระรอกใหญ่


แล่นโฉบรุ นแรง เหล่าจักรพรรดิปีศาจทั้งหมดพลันชะงัก
นิ่งหนึ่งจังหวะอย่างน่าฉงนใจ

แต่ในระหว่างการสัประยุทธ์ หนึ่งจังหวะกลับสาคัญยิง่
กล่าวว่าสามารถตัดสิ นเป็ นตายได้
“อ๊ากกก!”

สุ่ มเสี ยงกรี ดร้องลัน่ สุ ดเศร้าโศกดังระงมไม่หยุดหย่อน


เพียงว่าเวลาผ่านไปเสี ยงร้องเหล่านั้นค่อยๆเบาลงและอัน
ตธานสิ้ นในท้ายที่สุด

เหล่าจักรพรรดิปีศาจในยุคบรรพกาลทั้งหมด ถูกล้างบาง
ไปโดยการร่ วมมือระหว่างผูส้ ู งส่ งจอมสังหารและเย่
หยวน!
แน่นอนว่าหากพวกมันอยูใ่ นสภาวะสุ ดยอดดัง่ กาลก่อน
มันมิใช่เรื่ องยากเลยที่จะหลบหนีจากเงื้อมมือผูส้ ู งส่ งจอม
สังหาร

แต่พวกมันถูกจองจามานานนับแสนปี และนี่เป็ นแค่เศษ


เสี้ ยวพลังที่เพิง่ ฟื้ นกลับมาเช่นกัน

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารฆ่าล้างเหล่าจักรพรรดิปีศาจจนหมด


สิ้ น แต่เขามิได้สุขหรื อทุกข์ใจใดๆ ในทางกลับกัน เขา
ค่อยๆกวาดสายตาไปยังเย่หยวน
ตอนที่924 ซื อกงซ่ ำง!

“เย่หยวน จงแสดงพลังที่แท้จริ งออกมา! ข้าอยากเห็นพลัง


ที่เก็บซ่อนของเจ้านัก ว่าแท้จริ งแล้วสามารถทัดเทียมได้
กับข้าผูส้ ู งส่ งหรื อไม่!”

สายตาคู่น้ นั ของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารจับจ้องเย่หยวนเป็ น


ประกายไสว

ตลอดการเดินทางที่ผา่ นมา ที่ผสู ้ ู งส่ งจอมสังหารยอม


อดทนอดกลัน่ ทุกวิถีทาง เพราะเขามิอาจหยัง่ รู ้ได้ถึงขุม
พลังดัง่ บ่อบรรพกาลของเย่หยวนได้เลย
แต่ในตอนนี้ตวั เขาที่ดูดซับแนวคิดแห่งการสังหารจนเต็ม
อิ่ม เจ้ายิง่ กล้าเผชิญหน้ากับเย่หยวนอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ
อีก

เย่หยวนจับจ้องผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร พร้อมเผยรอยยิม้


แปลกๆออกมา จู่ๆก็กล่าวขึ้นว่า

“ข้าควรเรี ยกท่านว่า ผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร หรื อให้เรี ยกว่า…


‘ซือกงซ่าง’ดี?”
ทันทีที่คากล่าวนี้เปล่งออกมา ผูส้ ู งส่ งทั้งสามที่เหลือรอด
ต่างดูสับสนฉงนใจอย่างมาก แต่ผสู ้ ู งส่ งจอมสังหารกลับ
แข็งทื่อไปในทันที

“พวกแกทั้งสาม จะไปไหนก็ไป!”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารกล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็น

ผูส้ ู งส่ งเหลิ่นเสี่ นและผูส้ ู งส่ งสาราญสวรรค์ พลันนิ่งไปครู่


หนึ่ง ก่อนโค้งคานับให้ผสู ้ ู งส่ งจอมสังหาร

“รับทราบ!”
สาหรับซื่อหยินแล้ว เย่หยวนในปัจจุบนั เป็ นถึงผูม้ ี
พระคุณต่อตัวนางที่ช่วยชีวิต ดังนั้นในเวลานี้ นางจะยอม
ปล่อยให้เย่หยวนตกอยูใ่ นอันตรายเพียงลาพังได้อย่างไร?

“เย่หยวน…”

เย่หยวนยิม้ และกล่าวว่า
“ไม่ตอ้ งกังวล ข้าคิดว่าท่านผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร คงไม่กล้า
ทาเรื่ องยากกับข้าที่เป็ นสหายเก่าได้ลง…จริ งไหม?”

สี หน้าซื่อหยินยังคงเต็มไปด้วยความกังวล แต่ในเมื่อเย่
หยวนกล่าวเองเช่นนี้ นางก็ไม่สามารถกล่าวโต้ใดๆได้
เช่นกัน พร้อมออกไปจากพื้นที่ในบริ เวณนี้ทนั ที

หลังจากที่ท้ งั สามหายลับตาไปแล้ว สุ่ มเสี ยงสุ ดเย็นยะ


เยือกของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารก็ดงั ขึ้น

“แกเป็ นใครกันแน่?!”
เย่หยวนผูน้ ้ ี ลึกลับเกินไป เห็นได้ชดั ว่าอีกฝ่ ายเป็ นแค่ เจ้า
หนุ่มที่มีพลังไม่ถึงอาณาจักรไร้เทียมทานด้วยซ้ า แต่
กระนั้นเขาก็ไม่สามารถมองทะลุอีกฝ่ ายออกเลย

ในช่วงเวลากว่าสามหมื่นปี ที่ผา่ นมา ใครจะรู ้วา่ มีนกั สู ้


จานวนมหาศาลเท่าใดที่แวะเวียนเข้ามาในลานประลอง
อสู รแห่งนี้ แต่ก็ไม่เคยมีใครเลย ที่สามารถหนีออกจาก
การพันธนาการของป้ายตราสิ ทธิ์สังหารได้

ทว่าเย่หยวนกลับสามารถทาได้!
ไม่เพียงปลดพันธนาการของตัวเองได้สาเร็ จเท่านั้น แต่
เขายังช่วยให้ซื่อหยินหลุดออกจากการพันธนาการได้
เช่นกัน วิธีการดังกล่าวกลับไม่นึกไม่ฝันว่าจะเกิดขึ้นจริ งๆ

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารตระหนักชัดแจ้งดีเกี่ยวกับคุณสมบัติ


ของป้ายตราสิ ทธิ์สังหาร เมื่อทาสัญญากับเจ้าของเสร็ จสิ้ น
ป้ายตราสิ ทธิ์สังหารนั้นจะผสานเข้ากับจิตวิญญาณ
ศักดิ์สิทธิ์จนกลายเป็ นหนึ่งเดียว และไม่มีวิถีทางใดที่
สามารถแยกออกจากกันได้อีก

เขาไม่อาจจินตนาการได้จริ งๆว่า เย่หยวนสามารถทา


เช่นนี้ได้อย่างไร?
เย่หยวนจับจ้องไปยังผูส้ ู งส่ งจอมสังหารและกล่าวตอบ
ด้วยรอยยิม้ ว่า

“ข้าเป็ นใครไม่สาคัญ สาคัญที่วา่ ทะเลมารคลัง่ แห่งนี้ถูก


ควบคุมมาโดยจอมราชันย์แห่งความมืดมาโดยตลอด!
และสิ่ งที่ขา้ ต้องการจะทราบที่สุดคือ ณ ปัจจุบนั จอม
ราชันย์แห่งความมืด,ซือกงซ่างเป็ นอย่างไรบ้าง!?”

จอมราชันย์แห่งความมือ เป็ นบุคคลที่ลึกลับที่สุดใน


บรรดาสิ บจอมราชันย์!

ทัว่ ทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ท้ งั หมด มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่


เคยพบเห็นจอมราชันย์แห่งความมืดมาก่อน หากมิใช่
เพราะหอคอยสวรรค์เร้นลับ เปิ ดเผยรายชื่อสิ บจอม
ราชันย์ออกมา ก็ไม่มีใครบนผืนพิภพที่ทราบว่าเขาผูน้ ้ ีมี
ตัวตน

เกี่ยวกับที่อยูข่ องจอมราชันย์แห่งความมืด มันมีความ


เป็ นไปได้หลายข้อที่แตกแขนงออกไป

แต่ในบรรดาเหล่าเซียนระดับสู งบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ล้วนคาดเดาตรงกันว่า จอมราชันย์แห่งความมืดเป็ น
ผูป้ กครองอาณาเขตทะเลมารคลัง่ !

ส่ วนชื่อแซ่นามจริ งของจอมราชันย์แห่งความมืด มีนอ้ ย


คนนักในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ล่วงรู ้
ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารราพึงอยูค่ รู่ หนึ่งก่อนกล่าวขึ้นว่า

“ข้าไม่ใช่จอมราชันย์แห่งความมืด!”

เย่หยวนกล่าวอย่างยิม้ แย้มว่า

“แน่นอน ข้าทราบดีวา่ ท่านไม่ใช่จอมราชันย์แห่งความมืด


มิเช่นนั้นจะกล่าวถามทาไม? หากจอมราชันย์แห่งความ
มืดมีพลังแค่น้ ี ทะเลมารคลัง่ ถูกกวาดล้างไปนานแล้ว! จะ
ดารงอยูน่ านถึงสามหมื่นปี ได้อย่างไร? หากการคาดเดา
ของข้าถูกต้อง ท่านควรจะเป็ นร่ างเสมือนของซือกงซ่าง
ที่มีหน้าที่เฝ้าดูแลลานประลองอสู ร และรวบรวมแนวคิด
แห่งการสังหารแทนเขา? สิ่ งที่ขา้ อยากรู ้คือ นี่ก็เป็ น
เวลานานกว่าสามหมื่นปี จอมราชันย์แห่งความมืด,ซือกง
ซ่างยังคงดารงอยูม่ าโดยตลอด หรื อมันเป็ นเพียงชื่อ
ตาแหน่งที่สืบทอดกันมาหลายชัว่ อายุคน?”

เซียนอาณาจักรราชันย์เทวะมีอายุขยั โดยเฉลี่ยประมาณ
หนึ่งหมื่นถึงหนึ่ งหมื่นห้าพันปี หากกล่าวตามหลักเหตุ
และผลจริ งๆ มันเป็ นไปไม่ได้เลยที่จอมราชันย์แห่งความ
มืดจะมีชีวิตอยู่นานถึงสามหมื่นปี

ยิง่ ไปกว่านั้น ในความเป็ นจริ งแล้ว สถานที่นามว่าทะเล


มารคลัง่ มันมีประวัติยาวนานกว่าสามหมื่นปี ด้วยซ้ า เพียง
ว่าคนทีทราบเรื่ องนี้กลับมีจานวนน้อยมาก
หากจอมราชันย์แห่งความมืดทุกรุ่ น มีพลังทัดเทียมกับสิ บ
จอมราชันย์ นั้นกลับเป็ นเรื่ องน่ากลัวอย่างยิง่ ยวด

มรดกที่สืบต่อกันมาจักต้องท้าทายสวรรค์เพียงใด ถึง
สามารถทาให้ทายาทรุ่ นหลังทรงพลังเทียบเคียงระดับสิ บ
จอมราชันย์ได้?

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารราพึงอีกคราและกล่าวตอบทันทีวา่

“มันมิใช่เรื่ องของเจ้า! เจ้ามายังทะเลมารคลัง่ แห่งนี้มี


วัตถุประสงค์ใดกันแน่?!”
เป็ นที่ชดั เจนแล้วว่า สิ่ งต่างๆที่เย่หยวนรู ้มนั มากกว่าที่เขา
จินตนาการเอาไว้มาก แทนที่จะตอบปฏิเสธสวนกลับไป
เขาควรถามถึงจุดประสงค์ที่แท้จริ งของอีดฝ่ ายเลยเป็ นดี
ที่สุด

แม้น้ าเสี ยงของผูส้ ู งส่ งจอมสังการจะสงบเยือกเย็น แต่


ความตื่นตะลึงภายในใจกลับมิใช่นอ้ ยๆเลย

ทะเลมารคัล่งแห่งนี้ถูกขนานนามว่าดินแดนลึกลับมาโดย
ตลอด มีเพียงเซียนชนชั้นสู งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น
ที่ทราบว่าสิ่ งที่เห็นกันทัว่ ไปเป็ นเพียงปลายภูขาน้ าแข็ง
เท่านั้น
แต่เย่หยวนเป็ นเพียงเยาวชนหนุ่มวัยยีส่ ิ บปี ทว่ากลับล่วงรู ้
ความลับเหล่านี้ได้อย่างไร?!

สิ่ งที่ทาให้เขาตื่นตกใจที่สุดคือ เย่หยวนสามารถเอ่ยนาม


จริ งของเขาออกมาได้ราวกับเป็ นเรื่ องปกติทวั่ ไป!

ดังนั้นเขาต้องทราบให้ได้วา่ เย่หยวนมาที่แห่งนี้แท้จริ ง
แล้วมีจุดประสงค์อนั ใดกันแน่!

อย่างไรก็ตาม เย่หยวนเผยยิม้ บางส่ งให้เมื่อได้ยนิ และ


กล่าวว่า
“ข้ามาที่นี่ก็เพียงเพื่อศิลาหยุนเฉิ นเท่านั้น และข้าก็ได้รับ
มันเรี ยบร้อยแล้ว จึงไม่มีความจาเป็ นอันใดที่ตอ้ งอยูท่ ี่นี่
อีก หากโชคชะตาพึงบรรจบ หวังว่าพวกเราจะได้พบกัน
อีกในอนาคต!”

เย่หยวนผสานมือคานับและกาลังจะหมุนตัวจากไป

“หึ ! ข้ามิได้กล่าวถามเพื่อต้องการลงจากหลังเสื อ! หาก


ต้องการจากไปจริ งๆก็ตอ้ งพิสูจน์ก่อนว่า แกมีคุณสมบัติ
นั้นหรื อไม่!”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารกล่าวไล่หลังอย่างเยือกเย็น


เย่หยวนเหลียวหลังกลับมาตอบอย่างเฉยเมยว่า

“ทุกคนล้วนมีความลับเป็ นของตนเอง ซึ่งความลับของ


ทะเลมารคลัง่ ข้าจะปิ ดปากให้แน่น แต่ไฉนไยต้องบังคับ
ให้ขา้ ลงมือ?”

ไม่ใช่วา่ เย่หยวนอหังการอวดดี แต่เพราะผูส้ ู งส่ งจอม


สังหารในขณะนี้แกร่ งกล้าเกินไป หากต้องลงมือ เขา
จาต้องงัดไพ่ตายออกมา
ซึ่งไพ่ตายของเย่หยวนมันอุกอาจเกินไป หากเป็ นไปได้
เขาก็ตอ้ งการเลี่ยงไม่ใช้มนั

แต่เมื่อมองดูสถานการณ์ในปัจจุบนั คงเป็ นเรื่ องยากที่ผู ้


สู งส่ งจอมสังการจะยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ

“หึ ! ก็แค่คนที่กาลังจะตาย! ข้าจะฉี กปากแกให้กว้างดัง่


โอง!”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเค้นเสี ยงเหอะเย็นอยูห่ นึ่ งคา ก่อน


สาแดงฤทธิ์ เต๋ าดาบคะนองสังหารอีกครา! ขุมพลังแห่ง
อาณาจักรเต๋ าลึกล้ า ด้วยกาลังของเย่หยวนในปั จจุบนั มิใช่
สิ่ งที่จะต่อกรได้โดยสมบูรณ์

สายลมโหมกระพัดดุ พักครู่ หนึ่ งเริ่ มก่อตัวขึ้นเป็ นพายุอนั


เหี้ ยมโหดกระหายเลือด พร้อมคมดาบพลังฉี ที่ถูก
ควบแน่นจนคมกริ บ ทั้งหมดเล็งเป้าหมายไปยังเย่หยวน
อย่างพร้อมเพรี ยง หากกล่าวเล่าจากสถานการณ์ โอกาส
รอดของเย่หยวนแทบเท่ากับศูนย์

เหตุผลที่วา่ ทาไมเพลงดาบมหาสังหารถึงทรงอนุภาพ
เทียบเคียงได้กบั สิ บจอมราชันย์ ที่แท้เป็ นเพราะเพลงดาบ
นี้เป็ นวรยุทธต่อสู ้หลักของจอมราชันย์แห่งความมืด
นั้นเอง!

ดังนั้นอนุภาพของกระบวนดาบเหล่านี้จึงทรงพลังเกิน
จินตนาการได้!

ภายใต้เพลงดาบนี้ ลืมไปได้เลยสาหรับนักสู ้อาณาจักร


วิชชาสวรรค์ฟ้าอย่างเย่หยวน แม้แต่นกั สู ้อาณาจักรเต๋ าลึก
ล้ าขั้นกลางยังไม่มีโอกาสรอดชีวิตเช่นกัน!

แต่ทนั ใดนั้น จู่ๆก็มีเจดียข์ นาดมหึ มาดิ่งลู่ลมกระแทกพื้น


อย่างแรง ขวางกันระหว่างทั้งสองฝ่ าย!
แกร๊ งงง!

สุ่ มเสี ยงแหลมดังเกิดจากโลหะกระทบดังกังวาล เต๋ าดาบ


คะนองสังหารที่ปลดปล่อยออกไปพุ่งชนกับเจดียเ์ ลื่อง
สวรรค์โดยตรง แต่ทว่าเจดียเ์ ลื่องสวรรค์กลับไม่มีแม้กระ
ทั้งรอยขีดข่วน!
“เครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์! เดี๋ยวก่อน…เครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์
เสมือน! แต่พลังของมันเทียบเคียงได้กบั เครื่ องราง
ศักดิ์สิทธิ์ของจริ งไปกว่าครึ่ ง!”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารกล่าวขึ้นด้วยตกใจ

สายตาของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารนับว่าเฉี ยบคมยิ่ง เพียงมอง


ผ่านแค่แวบเดียว เขาก็ทราบถึงระดับชั้นของเจดียเ์ ลื่อง
สวรรค์ทนั ที

แม้มนั มิใช่เครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์ ตัวจริ งเสี ยงจริ ง แต่ข้ นึ ชื่อ


ว่าเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์เสมือน มันก็น่าตกตะลึงมาก
พอแล้ว
เพราะในปัจจุบนั ทัว่ ทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใคร
สามารถหลอมสร้างเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์เสมือนได้แล้ว!

กว่าแสนปี ที่ผา่ นมา หลังจากที่ศาสตร์แห่งสวรรค์เสื่ อม


ถอย จานวนเซียนอาณาจักรพระเจ้ากลายเป็ นศูนย์ ก็มี
เพียงฟานเทียนเท่านั้นที่สามารถหลอมสร้างเครื่ องราง
ศักดิ์สิทธิ์เสมือนได้

แน่นอนว่า เหตุที่ทาให้ฟานเทียนหลอมสร้างเจดียเ์ ลื่อง


สวรรค์จนประสบความสาเร็ จเช่นนี้ ศิลาจารึ กเลื่องสวรรค์
เองก็มีส่วนเกี่ยวข้อง
หากเย่หยวนเป็ นคนเรี ยกใช้เจดียเ์ ลื่องสวรรค์ออกมาเอง
เขาคงไม่สามารถป้องกันการโจมตีของผูส้ ู งส่ งจอม
สังหารได้แน่นอน แต่ถา้ ผูค้ วบคุมเป็ นหลงเถิงเองล่ะก็
สถานการณ์ก็พลิกกลับอย่างสิ้ นเชิง

หลังจากที่ หลงเถิงได้รับพลังจิตวิญญาณในส่ วนสุ ดท้าย


ของหลงซาน ผนวกกลับพลังของศิลาหยุนเฉิ น นั้นจึงทา
ให้หลงเถิงฟื้ นคืนความแข็งแกร่ งจากอาการบาดเจ็บได้
กว่าหกถึงเจ็ดส่ วน

ซึ่งความแข็งแกร่ งระดับนี้ก็มากพอที่จะรับมือกับผูส้ ู งส่ ง


จอมสังหารแล้ว
นี่แหละ…คือความมัน่ ใจที่สุดของเย่หยวน!

“ข้าบอกท่านแล้วว่าอย่า แต่ท่านก็ยงั ดื้อดึงที่จะสู ้! ฉะนั้น


ท่านคงไม่อาจมีชีวิตอยูต่ ่อไปได้อีกแล้ว!”

เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมน้ าเสี ยงสุ ดเย็นยะเยือก


ตอนที่925 การประสบพบที่ไม่ คาดฝัน

หลังจากตะลึงงันอยูค่ รู่ ใหญ่ ภายในใจผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร


พลันก่อก้ ิดคาวมโลภเกินพรรณนาได้แทน!

เมื่อเผชิญหน้ากับสุ ดยอดขุมสมบัติเฉกเช่นเจดียเ์ ลื่อง


สวรรค์ มีใครบ้างที่ไม่หลงเสน่ห์?

แม้แต่สิบจอมราชันย์เองยังได้ครอบครองแค่เครื่ องรางเท
วะชั้นเหนือฟ้า ส่ วนเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์เสมือนมันไม่เคย
ปรากฏร่ องรอยมาเป็ นเวลากว่าแสนปี แล้ว
ในปัจจุบนั เครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์เสมือนปรากฏขึ้นต่อหน้า
ต่อตาเช่นนี้ ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารดีใจจนเนื้อเต้นไม่เป็ น
จังหวะ!

“ไม่น่าแปลกใจ ที่ไฉนเจ้าถึงมัน่ ใจขนาดนี้ กลับกลายเป็ น


ว่าเจ้ามีเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์เสมือนอยูใ่ นตัว นั้นจึงเป็ นไพ่
ตายของเจ้า! เว้นเสี ยแต่…อีกไม่ชา้ เครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์
เสมือนชิ้นนี้ก็จะกลายเป็ นของกานัลแก่ขา้ ผูน้ ้ ี!”

ยังไม่ทนั สิ้ นเสี ยงดี ร่ างของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารพลันหาย


วันในทันที พร้อมด้วยแนวคิดแห่งการสังหารที่ห่อหุม้ ร่ าง
ไว้จนข้นคลัก
นี่เป็ นหนึ่งในเหตุผลที่เย่หยวนไม่ค่อยเต็มใจหยิบมัน
ออกมาใช้นกั ความโลภไม่เคยเข้าใครออกใครแม้กระทั้ง
สหายใกล้ชิด นี่เป็ นคากล่าวที่จริ งแท้

เย่หยวนเค้นเสี ยงหัวร่ อเย็น และกระโดดเข้าไปในเจดีย ์


เลื่องสวรรค์โดยตรง

ด้วยการคุมบังเหี ยนของหลงเถิง เย่หยวนไม่จาต้องกังวล


ใจเลยว่า ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารจะสามารถทาอันตรายใดๆ
เขาได้
ก๊องงง….!

การจู่โจมสุ ดสะเทือนฟ้าสะท้านดินชนเข้ากับเจดียเ์ ลื่อง


สวรรค์อย่างแรง จนเกิดเสี ยงก้องกังวาลดัง ภายใต้อนุภาพ
ของเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์เสมือน ผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร
ค่อนข้างตระหนักดีวา่ ตนไม่สามารถทาอะไรได้มาก

ถึงกระนั้น เขายังคงงัดเอากระบวนท่าทั้งหมดมาใช้พร้อม
กระหน่าใส่ ไม่ย้งั มือ แต่ในท้ายที่สุด เขาก็ไม่สามารถฝ่ า
ด่านป้องกันสุ ดแกร่ งกร้าวของเจดียเ์ ลื่องสวรรค์ได้แม้สัก
นิด!
แม้ผสู ้ ู งส่ งจอมสังหารจะดูดกลืนพลังแนวคิดแห่ งการ
สังการมากล้นเพียงใด แต่เมื่ออยูต่ ่อหน้าเจดียเ์ ลื่องสวรรค์
ภายใต้การคุมบังเหี ยนของหลงเถิง เขาย่อมไม่มีทางทา
อันตรายอันใดได้แม้แต่ขยับเขยือ่ นมัน

“ท่านผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร ลองชิมสิ่ งนี้ดู! และอย่าได้


ปฏิเสธเชียว!”

สุ่ มเสี ยงสุ ดเย้ยหยันของเย่หยวนดังออกมาจากตัวเจดีย ์


เลื่องสวรรค์
ทันใดนั้นเจดียเ์ ลื่องสวรรค์กลัยเปล่งแสงประกายจรัส
ขนาดของมันค่อยๆขยายใหญ่ข้ ึนอย่างรวดเร็ ว จนคล้าย
กับภูเขายักษ์พร้อมพุ่งลงมาทับผูส้ ู งส่ งจอมสังหารทันที

ภูเขาสู งตระหง่านส่ องสะท้อนแสงอาทิตย์อสั ดง!

เมื่อผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเห็นดังนั้น สี หน้าการแสดงออกก็


เปลี่ยนไปอย่างมาก และต้องการสลัดเจดียเ์ ลื่องสวรรค์น้ ี
ให้พน้ ตัว!
แต่อนุภาพของเจดียเ์ ลื่องสวรรค์เป็ นอย่างไร? มันหรื อจะ
ง่ายต่อการปราบปราม?

“เรี ยกปัญหาเข้าตัวอย่างแท้จริ ง! ข้าอุตสาห์จะจากไปแก่


โดยดี แต่ท่านกลับหัวรั้นยิง่ นัก! ในตอนนี้ท้ งั ข้าและท่าน
ต่างฝ่ ายต่างล่วงรู ้ความลับซึ่งกันและกันแล้ว เช่นนั้น ข้า
สามารถจากไปได้หรื อยัง?”

เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมเผยร่ างออกมาอีกครา
แกร๊ ก!

ระหว่างที่ย้ดื ยุดฉุดกระชากกับเจดียเ์ ลื่องสวรรค์ขนาด


มหึ มาอยู่น้ นั เอง จู่ๆหน้ากากของผูส้ ู งสู งจอมสังหารพลัน
เกิดรอยร้าว และแตกออกเป็ นสองส่ วนในเวลาต่อมา

“หื้ ม?”

ใบหน้าสุ ดหล่อเหลาดุจหยกบริ สุทธิ์เผยปรากฏต่อหน้าต่อ


ตาเย่หยวนทันที
ซึ่งนี่…กลับเป็ นใบหน้าที่ค่อนข้างคุน้ เคยนัก

ทันทีที่เห็นใบหน้าที่แท้จริ งของผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร ทั้ง


รอยยิม้ และสี หน้าสุ ดเย้ยหยันของเย่หยวนพลันหุบลง
ในทันที เขาขมวดคิว้ แน่นพร้อมใบหน้าสุ ดเคร่ งขรึ มแทน

“อยากหนีนกั รึ ? มันจะง่ายเช่นนั้น? ร่ างต้นของข้าทราบ


แล้วว่า เจ้ามีเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์ เสมือนอยู่ในครอบครอง
ข้าเกรงว่าเจ้าคงไม่มีทางหลบหนีออกจากหลุมอเวจี
สวรรค์ได้อีกแล้ว!”
ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารกล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็น

แต่สาหรับคากล่าวเหล่านั้น ดูเหมือนว่าเย่หยวนจะไม่ได้
ยินเลยแม้แต่นอ้ ย ราวกับสติเลื่อนลอย เย่หยวนยังคงจับ
จ้องใบหน้าของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารอย่างไม่วางตา

ยิง่ จับจ้องใบหน้าของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารมากเท่าใด ความ


ตกตะลึงของเขาก็ยงิ่ ขยายใหญ่ข้ นึ ภายในใจ

เย่หยวนส่ ายหน้าช้าๆก่อนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิม้ สุ ดขมขื่น


ว่า
“ไม่น่าเชื่อ! ไม่น่าเชื่อเลยจริ งๆ! สวรรค์เล่นตลกแล้ว!”

เมื่อผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเห็นท่าทีและคาพูดแปลกๆของเย่


หยวน เขาเองก็อดจับจ้องอย่างฉงนใจมิได้

“ทิง้ เครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์เสมือนไว้ตรงหน้า บางที…ร่ าง


ต้นของข้าอาจเมตตาไว้ชีวิตเจ้า!”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารกล่าวเตือน


เย่หยวนยังคงจับจ้องใบหน้าของผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร
พร้อมกล่าวด้วยใบหน้าสุ ดสิ้ นหวังว่า

“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ใช่ตวั ของตัวเองอีกแล้ว! ข้า


คาดการณ์ผิดไป หากท่านเป็ นร่ างเสมือนของซือกงซ่าง
จริ งๆ ไฉนถึงมีสติสัมปชัญญะนึกคิดเองได้?”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารกล่าวขึ้นด้วยความสับสนว่า

“เจ้ากาลังพล่ามอันใด? คิดว่าทาตัวเช่นนี้แล้ว ร่ างต้นของ


ข้าจะยอมปล่อยเจ้าไป?”
เย่หยวนส่ ายหัวด้วยความสิ้ นหวัง ก่อนยกมือพร้อม
ควบแน่นเป็ นคมดาบพลังปราณขึ้น ทันใดนั้น เขาก็
ปลดปล่อยเพลงดาบเทพอัสนีม่วงทองออกมา!

เมื่อผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเห็นภาพฉากเหล่านี้ เขาก็กล่าวขึ้น


อย่างเหยียดหยามว่า

“วรยุทธต่อสู ้ที่ปลดปล่อยโดยใช้สัจธรรมแท้จริ ง? คิดดูถูก


กันรึ ?”
เพียงผูส้ ู งส่ งจอมสังหารโบกมือปัดลวกๆ เพลงดาบ
เหล่านั้นของเย่หยวนก็อนั ตธานสลายไป

เย่หยวนมิได้แปลกประหลาดใจแต่อย่างใด เขาถอน
หายใจยาวเฮือกใหญ่และกล่าวว่า

“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่หลงเหลือความทรงจาในอดีตเลย
จริ งๆ! โหย้ววู่หลาน หนอ…โหย้ววูห่ ลาน ข้าคิดเสมอว่า
ท่านจักต้องขึ้นกลายเป็ นยอดอัจฉริ ยะผูป้ ระสบ
ความสาเร็ จในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เฮ้ออ…ไม่นึกเลยว่าท่าน
จะมีจุดจบเช่นนี้ ! ซือกงซ่าง…แกผูกปมแค้นกับข้าเอง!”
เมื่อกล่าวถึงประโยคหลัง จิตสังหารของเย่หยวนก็พลัง่
พลูออกมาจนล้นปรี่ !

ถูกต้องแล้ว ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารที่อยูต่ ่อหน้าต่อตาเย่หยวน


ในขณะนี้ มิใช่ใครอื่นนอกจาก…บรรพบุรุษผูก้ ่อตั้งนิกาย
เมฆาราตรี ,โหย้ววูห่ ลาน!

แท้ที่จริ งแล้ว เย่หยวนเองก็อยากทราบอยูล่ ึกๆเช่นกันว่า


บุคคลที่มากพรสวรรค์อย่างโหย้ววูห่ ลานจะประสบ
ความสาเร็ จได้ไกลเพียงใดบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ?
แต่เย่หยวนกลับคาดไม่ถึงเลยว่า โหย้ววูห่ ลานจะพลาดท่า
ลงในลานประลองอสู ร และกลายมาเป็ นตัวตายตัวแทน
ของจอมราชันย์แห่ งความมืด,ซื อกงซ่าง!

ไม่มีเรื่ องใดที่ไม่บงั เอิญ เย่หยวนไม่นึกไม่ฝันเลยว่า


หลังจากที่โหย้ววู่หลานขึ้นสู่ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้สาเร็ จ
เขาจะเดินเข้าสู่ ทะเลมารคลัง่ และกลายมาเป็ นผูส้ ู งส่ งจอม
สังหารอย่างที่เห็นต่อหน้าต่อตา

หากย้อนกลับไป ในตอนที่เย่หยวนยังอยูใ่ นนิ กายเมฆา


ราตรี ภายในนิกายได้ประดิษฐ์รูปปั้นของบรรพบุรุษผู ้
ก่อตั้งนิกาย,โหย้ววูห่ ลานตั้งตระหง่านสง่าราศีอยู่ ซึ่ง
หน้าตาของคนในรู ปปั้นก็เหมือนกับผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร
อย่างไม่มีผิดเพี้ยน!

เว้นเสี ยว่า แม้รูปร่ างหน้าตายังเหมือนเดิม แต่เขากลับมิใช่


คนเดียวกับในอดีตอีกแล้ว

ถึงเย่หยวนไม่เคยพบเจอกับโหย้ววูห่ ลานมาก่อน แต่เขา


ยังคงเคารพนับถือในตัวโหย้ววู่หลานมาโดยตลอด ที่เขา
สามารถบรรลุสัจธรรมแท้จริ งแห่งดาบได้ ก็เพราะอีกฝ่ าย
เต็มๆ กล่าวได้วา่ ทั้งสองมีความสัมพันธ์คลับคล้ายคลับ
คลาศิษย์–อาจารย์แบบห่างๆ

นอกจากนี้เย่หยวนเองก็ยงั มีสายสัมพันธ์ที่ดีกบั นิกายเมฆา


ราตรี อย่างลึกซึ้ง ทว่าตอนนี้โหย้ววูห่ ลานกลับถูกล้าง
สมองและกลายมาเป็ นหุ่นเชิดของคนบางคน ความ
อาฆาตแค้นชนิดนี้ ได้สลึกลึกตรึ งใจเย่หยวนเอาไว้แล้ว!
เพลิงพิโรธสุ ดโกรธเกรี้ ยวโหมเดือดสุ ดพรรณนาอย่าง
แท้จริ ง!

แม้เป็ นเรื่ องปกติ ที่หลังจากเหล่าอัจฉริ ยะขึ้นสู่ ดินแดน


ศักดิ์สิทธิ์แล้วจะกลายมาเป็ นนักสู ้ชนชั้นต่าที่สุด แต่เรื่ อง
ผิดศีลธรรมมนษย์เช่นนี้ เย่หยวนไม่สามารถยอมรับได้
จริ งๆ!
“กล่าวอะไรไร้สาระ!”

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารตะหวาดขึ้นด้วยท่าทางอันงงงวย

เย่หยวนคร่ าครวญกับตนเองเล็กน้อยด้วยความขื่นขม
ก่อนถอนหายใจยาวและกล่าวว่า

“ทุกอย่างในวันนี้ มนั จบลงแล้ว! ท่านจงไปบอกกับซือกง


ซ่างว่า สักวันข้าจะกลับมาชาระแค้น!”

ทันทีที่กล่าวจบ เย่หยวนก็หมุนตัวกลับและจากไปทันที
ความแข็งแกร่ งของเย่หยวนในปัจจุบนั มันอ่อนแอเกินไป
ที่จะแก้ไขสิ่ งต่างๆได้!

แม้วา่ เย่หยวนจะสามารถจัดการกับผูส้ ู งส่ งจอมสังหารได้


โดยใช้ดจดียเ์ ลื่องสวรรค์ แต่หากต้องเผชิญกับร่ างต้นของ
จอมราชันย์แห่งความมืด เขาไม่มีโอกาสที่จะชนะได้เลย

ความน่าสะพรึ งของสิ บจอมราชันย์ มีผอู ้ ยูบ่ นจุดสู งสุ ด


ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่จะเข้าใจ!

ว่ากันว่าแท้ที่จริ งแล้ว ขุมพลังของสิ บจอมราชันย์ยงั คง


ห่างชั้นกับเหล่าทาเนียบจอมเทพ!
แต่ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบนั ที่ไร้ซ่ ึงเซียนอาณาจักรพระ
เจ้า การดารงอยูข่ องสิ บจอมราชันย์นบั เป็ น บุคคลทั้งสิ บ
อันไร้เทียมทานบนผืนพิภพ!

ด้วยความแข็งแกร่ งในปัจจุบนั ของเย่หยวน หากจาต้อง


เผชิญหน้ากับการดารงอยูใ่ นระดับสิ บจอมราชันย์ หนทาง
เดียวที่รอเขาอยูค่ ือความตาย!

ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารยืนมองแผ่นหลังของเย่หยวนที่ค่อยๆ


ไกลลับออกไป เขาตระหนักดีว่า แม้ตนจะไล่ล่าตามอีก
ฝ่ ายไป แต่ก็ไม่มีทางจับตายเย่หยวนได้เช่นกัน
ความหวังสุ ดท้ายคือร่ างต้น และเขาก็มนั่ ใจอย่างยิง่ ว่าร่ าง
ต้นของตนไม่มีทางปล่อยให้เย่หยวนหลุดมือเป็ นแน่ มี
เครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์เสมือนปรากฏขึ้นอยูต่ ่อหน้า เป็ นไป
ได้ไหมว่าร่ างต้นของเขาจะไม่สนใจ?

ทัศนีภาพโดยรอบเย่หยวนพลันพร่ ามัว ก่อนทะลุธารมิติ


ออกมา
ทันทีที่ออกมา ก็ปรากฏผูส้ ู งส่ งเหลิ่นเสี่ ย,ผูส้ ู งส่ งสาราญ
สวรรค์ และกลุ่มซื่อหยินรออยู่ตรงข้างนอก

“ฮ่าฮ่า พี่ใหญ่ น่าเหลือเชื่อจริ งๆที่…”

ในขณะที่อาเหริ่ นโพลงกล่าวขึ้นด้วยความดีใจเป็ นลิงโลด


จู่ๆเขากลับต้องกลืนคาพูดที่เหลือลงคอทันทีที่เห็นว่าสี
หน้าของเย่หยวนในขณะนี้ไม่ถูกต้องนัก

ณ ปัจจุบนั สี หน้าที่เผยออกมาของเย่หยวนมิได้ดูนิ่งสงบ
อย่างที่ผา่ นมา ทว่ากลับเป็ นสี หน้าที่เต็มไปด้วยความ
อาฆาตแค้น ราวกับต้องการฆ่าใครสักคน
นี่เป็ นครั้งแรกเช่นกัน ที่อาเหริ่ นได้เห็นสี หน้าแบบนี้
ของเย่หยวน

ตึงงง….

ทันใดนั้นกลุ่มเมฆาสี เทาเข้มพลันถูกซัดกวาดกระจายตัว
แปดทิศสิ บทาง สุ ดขอบฟ้านภาไพศาลกลับปรากฏฝ่ ามือ
สี ดาขนาดมหึ มาทะลวงออกจากห้วงแห่งความว่างเปล่า
พร้อมตรงเข้ามาเย่หยวนอย่างไร้ปราณี !
ตอนที่926 แค้ นนีต้ ้ องชาระในสั กวัน!

ฝ่ ามือวินาศสันตะโรนี้ดุจดัง่ ฝ่ ามือล้างพิภพ ดัง่ หุบเขา


ขนาดมหึ มาปกคลุมทัว่ น่านฟ้ามืดมิด กระทั้งแสงอาทิตย์
ยังถูกบดบังสนิ ทด้วยพลังอันไร้ขอบเขตเกินหยั้งรู ้

แม้ฝ่ามือมหึ มายังลอยเคว้งกลางขอบฟ้าไกล แต่ทุกคน


กลับสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึ งของมันได้อย่างชัดแจ้ง
ไม่เป็ นสอง

บูม! บูม! บูม!


สายวายุซดั โถม เศษหิ นเศษดินสะพัดกระจายทัว่ ทุก
บริ เวณในหุบเขาปี ศาจอนันต์ ดัง่ หมอกหนารอบตัวทว่า
กลับเป็ นฝุ่ นทั้งสิ้ น

บางครั้งบางครายังมีกระทั้งก้อนหิ นถูกแรงวายุพดั จนลอย


ละล่องกลางอากาศ พื้นพิภพสัน่ สะท้านหนักราวกับ
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่

ทุกคนไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า หากฝ่ ามือนี้ถูกตบ


ลงมาบนผืนพิภพ ภาพฉากต่อจากนั้นจะเป็ นเยีย่ งไร

“ฝ่ ามือนี้น่าสะพรึ งกลัวเกินไป! เป็ นไปได้ไหมว่า…นั้น


อาจเป็ นเซียนอาณาจักรพระเจ้า?”
“มะ–ไม่มีทาง..ใช่ไหม? หากผ่ามือนี้พิฆาตลงมา นั้น
นับเป็ นหายนะสุ ดเลวร้าย!”

“หรื อพวกเราเผลอไปรบกวนการจาศีลของสัตว์
ประหลาดเฒ่าท่านใดเข้า? ท่านผูน้ ้ นั อาจหลับใหลอยูใ่ น
หลุมอเวจีสวรรค์นานแล้ว? พลังฝ่ ามือนี้ทรงพลังจนรู ้สึก
เราเป็ นเพียงมดปลวก!”
นายพลสังหารของซื่อหยินสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามสุ ด
อันตราย พวกเขาทั้งหมดต่างโพลงอุทานลัน่ ด้วยความไม่
อยากเชื่อ

“ตามตื้อไม่เลิก! หากเป็ นเซียนอาณาจักรพระเจ้าจริ ง เพียง


เศษเสี้ ยวพลังก็บดขยี้เราเป็ นเต้าหูเ้ ละแล้ว คงไม่ลีลาถึง
เพียงนี้! น่าตายนัก! ซือกงซ่าง เจ้าคิดท้าทายท่านปู่ เย่คนนี้
จริ งๆใช่ไหม?!”

ในขณะที่กล่าว เย่หยวนเหาะขึ้นกลางห้วงนภากาศและ
เข้าเผชิญกับฝ่ ามือขนาดมหึ มาทันที
แม้กลิ่นอายที่พลัง่ พลูจากร่ างเย่หยวนจะน่าประทัยใจยิง่
แต่ภายใต้อนุภาพสุ ดวินาศสันตะโรของฝ่ ามือนี้ เขากลับ
ไม่นบั เป็ นอันใด

ทุกคนที่เห็นภาพฉากนี้ ลว้ นรู ้สึกได้ทนั ทีวา่ เย่หยวน


จะต้องถูกบดขยี้เป็ นผุยผงโดยฝ่ ามือในไม่ชา้

ในขณะนั้นเอง ฝ่ ามือขนาดมหึ มานั้นก็ค่อยๆเคลื่อนลงมา


แรงกดดันเข้าบดบี้พ้นื ดินจนแตกเป็ นสายกระจายออกไม่
หยุด
พร๊ วดด พร๊ วดด พร๊ วดดด…

ความแข็งแกร่ งของเหล่านายพลสังหารซื่อหยินยังคงขาด
ตกไปอยู่ ด้วยอนุภาพของฝ่ ามือนี้ พวกเขาทั้งหมดไม่
สามารถทนต่อแรงกดดันได้ไหวอีก พร้อมพ่นเลือดสด
ออกมาโดยตรง

ตามสภาพการณ์เช่นนี้ ฝ่ ามือไม่จาเป็ นต้องตบลงมาใส่


พวกเขาก็ถูกแรงกดดันบดขยี้ตายแล้ว
เย่หยวนเค้นเสี ยงหัวรอเย็นสองคา ตรามังกรศักดิ์สิทธิ์ ถูก
กาแน่นอยู่บนมือตั้งแต่เมื่อใดมิทราบ

ในเวลานี้ เขาไม่สามารถเก็บซ่ อนพลังที่แท้จริ งของตนได้


อีกต่อไป

แม้วา่ พลังปราณเทวะจะเป็ นทรัพยากรที่มีค่ายิง่ แต่หาก


เขาต้องตายในเวลานี้จริ งๆ พวกมันก็ไร้ประโยชน์เช่นกัน

ความน่าสะพรึ งของสิ บจอมราชันย์ คนธรรมดาทัว่ ไปไม่


มีทางจิตตนาการถึงได้เลย หากย้อนกลับไป จอมราชันย์
วิญญาณเคยสาแดงเดชหนึ่งกระบวนอย่าง มหาเก้าสุ ริยนั
สิ้ นสวรรค์ ซึ่งผลลัพธ์ก็คือเซียนอาณาจักรราชันย์เทวะ
ตายลงนับหลายสิ บทันที
ระดับความแข็งแกร่ งนี้ทาให้หลายต่อหลายคนจาต้องสิ้ น
หวังโดยสมบูรณ์

หากมิใช่แบบนั้นแล้ว สิ บจอมราชันย์จะเป็ นที่เคารพนับ


ถือของเหล่านักสู ้บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?

จอมราชันย์แห่งความมืด,ซือกงซ่าง เป็ นบุคคลที่ลึกลับ


ที่สุดในบรรดาสิ บจอมราชันย์ ระดับความแกร่ งกล้าของ
เขาไม่มีใครสามารถมองออก
และไม่วา่ ขุมพลังของอีกฝ่ ายจะแย่เพียงใด แต่อย่างน้อย
ที่สุดก็ไม่นอ้ ยไปกว่าจอมราชันย์วิญญาณแน่นอน

แม้ฝ่ามือนี้ จะถูกปลดปล่อยจากระยะไกลลิบโดยที่อีกฝ่ าย
ใช้พลังไม่ถึงเศษหนึ่ งส่ วนสิ บของทั้งหมด แต่น้ นั ก็มาก
พอแล้วที่จะขังเย่หยวนมิให้หนี ไป

“หนีไปเร็ วเข้า! ขืนพวกเรายังรั้งอยูท่ ี่นี่ มีหวังได้ตายกัน


หมด!”

ซื่อหยินตะโกนขึ้น
แม้ซื่อหยินไม่กล่าวเช่นนี้ คนอื่นๆเองก็ไม่กล้าอยูท่ ี่นี่ต่อ
เช่นกัน พวกเขาแต่ละคนเร่ งสาแดงวรยุทธการเคลื่อนที่
อย่างสุ ดกาลัง เพื่อหนีออกห่างบริ เวณสุ ดวิปลาสให้จงได้

ครื อออ…!

ฝ่ ามือขนาดมหึ มาค่อยๆเคลื่อนเข้าใกล้เรื่ อยๆ พื้นดิน


แตกระแหงแห้งกรอบหนัก ทั้งๆที่ฝ่ามือยังคงอยูห่ ่างกว่า
หมื่นลี้ แต่พ้ืนพิภพกลับสะเทือนรุ นแรงดัง่ ภูเขาไฟระเบิด!

เมื่อเห็นฉากนี้ เช่าไคและคนอื่นๆต่างเร่ งหันมองโดยเร็ ว


พร้ออ้าปากค้างตะลึงงันไปนาน
ในยุคที่ศาสตร์แห่งสวรรค์เสื่ อมโทรม ขุมพลังอันน่าสะ
พรึ งขนาดนี้ยงั มีดารงอยูอ่ ีกงั้นรึ ?

พวกเขาอดกวาดตาจับจ้องเย่หยวนบนกลางเวหามิได้เลย
ทุกคนจินตนาการไม่ออกจริ งๆว่า ไฉนเย่หยวนยังทนยืน
อยูต่ รงนั้นได้โดยไม่เป็ นอะไร?

หากเป็ นพวกเขายืนอยูต่ รงนั้น คงถูกบดขยี้จนเละไม่เหลือ


สภาพแล้ว
เย่หยวนยังคงลอยเคว้งกลางเวหาโดยไม่ขยับเขยื้อนใดๆ
ทั้งๆที่ฝ่ามือนี้เคลื่อนเข้าใกล้มากขึ้นเรื่ อยๆ

“ฝ่ ามือนั้นจะถูกปราบปรามได้อย่างไร? หัวหน้าเย่…


กาลังอยูใ่ นอันตราย!”

ไม่วา่ อาเหริ่ นจะมองเย่หยวนไร้เทียมทานเพียงใด แต่


ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขามิอาจมองในแง่ดีได้เลย
ครื นนน!

บูมมมม!

ฝ่ ามือขนาดมหึ มาเคลื่อนตรงมาหาเย่หยวนทันที พร้อม


เข้าบดขยี้ร่างเย่หยวนอัดกระแทกพื้นดินอย่างเลือดเย็น!

พื้นดินในบริ เวณนั้นกลายเป็ นหลุมระเบิดขนาดยักษ์ใน


ทันใด พร้อมฝ่ ามือที่ยงั จมมิดอยูใ่ นดิน

ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้เลยว่า เย่หยวนยังจะมีชีวิต
รอดอยูไ่ ด้อย่างไร ภายในฝ่ ามือขนาดมหึ มานั้น!
“เหอะ เหอะ เย่หยวนช่างหยิง่ ผยองเกินไป ในคราวนี้ นาย
ท่านถึงกลับลงมือด้วยตัวเอง แต่จริ งๆแล้วมันก็ยงั กล้ายืน
เผชิญหน้า นี่นบั เป็ นวิถีของคนฉลาดกระมัง?”

ผูส้ ู งส่ งเหลิ่นเสี่ ยหัวดราะเยาะเย้ยพลากล่าวหยามเหยียด


ออกมา

“ความแกร่ งกร้าวของนายท่าน คนธรรมดาทัว่ ไปอย่าง


เราๆไม่สามารถจินตนาการได้โดยแท้! ภายใต่ฝ่ามือนี้
สรรพสิ่ งล้วนมดปลวก! เย่หยวน เจ้าอวดดีถือตนตลอด
การเดินทาง นี่ถือเป็ นผลตอบแทนที่ควรได้รับแล้ว! ควร
ภาคภูมิ!”

ผูส้ ู งส่ งสาราญสวรรค์กล่าวเสริ มขึ้น

พวกเขาทั้งสองล้วนประสบความสู ญเสี ยในเงื้อมมือเย่


หยวนทั้งสิ้ น เห็นได้ชดั ว่า เย่หยวนเป็ นเพียงนักสู ้
อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าแท้ๆ แต่ความแกร่ งกล้ากลับ
เหนือจินตนาการ

แม้พวกเขาจะต้องการแก้แค้นเจ้าหนุ่มนี้เพียงใด แต่ขมุ
พลังยังคงขาดตกไปมาก
ในตอนนี้เจ้านายของทั้งคู่ถึงกับลงมือด้วยตัวเอง แล้วจะ
ไม่ให้พวกเขารู ้สึกตื่นเต้นได้อย่างไร

“หื้ ม? เกิดอะไรขึ้น?”

ทันใดนั้นสี หน้าของผูส้ ู งส่ งเหลิ่นเสี่ ยพลันแปรเปลี่ยนไป

พวกเขารู ้สึกได้ถึงกลิ่นอายบางสิ่ งที่กาลังเพิ่มทวีข้ ึนขาก


ใต้ฝ่ามือนั้น จนในที่สุดแม้แต่แรงกดดันของฝ่ ามือมหึ มา
นี้ก็ยงั ปิ ดไม่มิด!
บูมมมม!

ลาแสงผงาดง้ าทะยานเสี ยดฟ้า พร้อมเข้าทาลายฝ่ ามือ


มหึ มานั้นโดยตรง! อนุภาพการทาลายล้างของลาแสงเกิน
ล้ าเกินทุกความเข้าใจ ฝ่ ามือสุ ดวินาศสันตะโรยังพลัน
สลายไปอย่างต้านทานไม่อยู่!

ลาแสงนั้นแท้ที่จริ งก็คือ มังกรฟ้าขนาดยักษ์อนั หยิง่ ทะนง


มันพุ่งผงาดเหนือน่านนภาเก้าสวรรค์ พร้อมบดขยี้ฝ่ามือ
อันตธานสิ้ น!

แต่ทนั ใดนั้นมังกรฟ้าขนาดยักษ์ก็หาบวับไป!
“หื้ ม?”

ซือกงซ่างที่เก็บตัวอยูเ่ บื้องลึกสุ ดในหลุมอเวจีสวรรค์ลืม


ตาโพลงในทันใด จู่ๆเขาก็สัมผัมได้ถึงขุมพลังสุ ดแสนน่า
สะพรึ งบางชนิดกาลังตรงมาหาเขา!

สองคิ้วขมวดเป็ นปม เขารี บถอนตัวจากการทาสมาธิทนั ที


พร้อมลุกขึ้น

“กรรร!”
มังกรฟ้าขนาดยักษ์พุ่งทะลวงมิติสะบั้นห้วงแห่งความว่าง
เปล่า พร้อมเข้าปะทะถึงหน้าเขาโดยตรง!

สี หน้าการแสดงออกของซือกงซ่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ ว
แต่เพียงเขาเคาะนิ้วเบาๆ ขุมพลังลูกใหญ่ก็ก่อตัวขึ้นพร้อม
เข้าปราบปราม

บูมมม!

มังกรฟ้าถูกซัดสลายหายไปภายในหนึ่ งการปะทะ
ถึงกระนั้นใบหน้าของซือกงซ่างกลับบิดเบี้ยวด้วยความ
น่าเกลียดยิง่ พร้อมหันมองออกไปนอกถ้ าอันไกลโพ้น
โดยไม่ต้ งั ใจ

กลิ่นอายสุ ดน่าสะพรึ งพลัง่ พลูไม่หยุดจากส่ วนลึกสุ ด


ภายในถ้ าลับ ราวกับปี ศาจที่ซ่อนตัวอยูใ่ นเงากาลังแผง
ฤทธิ์แย้มหยัง่

“ไม่คิดไม่ฝันเลยว่า เจ้าเด็กเหลือขอนั้นจะถือครอง
เครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามังกร! ดูเหมือนว่าเรื่ องนี้ยงั ไม่
จบง่ายๆ ข้าจาต้องออกไปจัดการมันด้วยตนเอง!”

ในขณะที่กล่าว เขาทอดสายตายาวออกไปอย่างไร้
จุดหมาย ก่อนกล่าวขึ้นอย่างขมขื่นว่า
“สหายน้อยชักพาปัญหาเข้าตัวโดยแท้! ตอนนี้ขา้ จะต้อง
เร่ งมือแล้ว! เตรี ยมรอได้เลยเจ้าหนู!”

……………………
ภายในหลุมระเบิดเป็ นรู โหว่ลึก เย่หยวนค่อยๆคลาน
ขึ้นมาอย่างแช่มช้า เสื้ อผ้าของเขาขาดรุ่ งริ้ งเป็ นเศษขี้ริ้ว
ความผันผวนของพลังที่ปลดปล่อยออกมาดูไม่เป็ น
ระเบียบเช่นกัน

แต่เมื่อผูส้ ู งส่ งเหลิ่นเสี่ ยและผูส้ ู งส่ งสาราญสวรรค์เห็น


ภาพฉากนี้ ไอเย็นยะเยือกพลันโฉบแล่นเข้าสู่ จิตใจ พวก
เขาหวาดกลัวจนกระทั้งไม่กล้าหายใจแรง

เครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์!
นั้นคืออนุภาพของเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์!

ในมือเย่หยวนมีเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์จริ งๆ! (3038)

และสิ่ งที่น่าสะพรึ งกลัวที่สุดคือ เย่หยวนสามารถ


ปลดปล่อยอนุภาพที่แท้จริ งของเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์
ออกมาได้! มิเช่นนั้น เขาไม่มีทางรอดพ้นจากฝ่ ามือของ
เจ้านายพวกเขาได้แน่นอน!

ทั้งสองหันควับสบตากันไปมาอย่างลุกลี้ลุกลน แววตา
ของทั้งสองต่างสะท้อนความตกตะลึงอย่างสุ ดพรรณนา
ได้
ระรอกคลื่นมิติแปรปรวนพลันสัน่ กระเพือม ในที่สุดผู ้
สู งส่ งจอมสังหารในชุดสี ดาก็ปรากฏกายขึ้นต่อหน้าทุก
คน

เย่หยวนจับจ้องอีกฝ่ ายด้วยสายตาสุ ดเยียบเย็น และกล่าว


ว่า

“ฝากไปบอกซือกงซ่างด้วยว่า แค้นนี้ขา้ ต้องชาระในสัก


วัน!”
ตอนที่927 เรื่ องราวบนท้ องถนน

ณ ภูมิภาคต้าเซี่ยง มีสองเมืองเทวะที่มีชื่อเสี ยงลือลัน่ ทัว่


ทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ อย่าง เมืองสุ ริยนั อัคคีและเมือง
จันทร์ฉาย

สองเมืองอันยิง่ ใหญ่น้ ีเป็ นถึงเมืองเทวะชั้นหนึ่ง พวกเขามี


ขุมกาลังที่แข็งแกร่ งยิง่ และระยะทางระหว่างเมืองทั้งสอง
ก็ห่างกันเพียงแค่สามหมื่นกว่าลี้เท่านั้น

ระยะทางแค่น้ ี สาหรับยอดฝี มืออาณาจักรไร้เทียมทาน


นับว่ามิใช่ปัญหา เพียงครึ่ งวันก็ถึงที่หมาย
แม้เมืองทั้งสองจะมีเมืองอยูใ่ ต้การปกครองมากมาย แต่
ระยะห่างระดับนี้ถือว่าอยูใ่ กล้กนั มาก

ตระกูลโจวและตระกูลเยวี่ย ทั้งสองเป็ นตระกูลที่มี


ประวัติศาสตร์ดารงอยูม่ าช้านาน มีเพียงสวรรค์ที่ทรง
ทราบว่านานเพียงใด พวกเขาเปรี ยบเสมือนตานาน ทุกชัว่
ทุกรุ่ นอายุคน หนุ่มสาวของทั้งสองตระกูลจาต้องเข้าพิธี
สมรสกันอย่างเลี่ยงมิได้ ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ าย
นับว่าซับซ้อนและลึกซึ้งยิง่

ตานานเคยกล่าวไว้วา่ บรพพบุรุษของทั้งสองตระกูลใน
อดีตเป็ นถึงเซียนอาณาจักรพระเจ้า รากฐานของพวกเขา
หยัง่ รากลึกเกินความเข้าใจ แต่เนื่องจากกาลเวลาผ่านไป
สายเลือดของพวกเขาก็ค่อยๆเบาบางลงทีละน้อย ความ
แกร่ งกล้าดัง่ อดีตกาลจึงหาไม่มีแล้วเช่นกัน
แต่แน่นอนว่า เมื่อทั้งสองตระกูลจับมือสามัคคีกนั เมื่อใด
พวกเขาก็ยอ่ มกลายเป็ นขุมพลังที่น่าสะพรึ งอย่างยิง่ ยวด

แม้แต่หลายตระกูลใหญ่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยงั ไม่กล้าล้ า
เส้นพวกเขามากจนเกินไป

ณ ขณะนี้เอง บนถนนคนเดินในเมืองจันทร์ฉาย ได้มีหนึ่ ง


ชายหนุ่มและหนึ่งสาวน้อยกาลังเดินเล่นอย่างสนุกสนาม
พร้อมเที่ยวชมเมือง
สาวน้อยกวาดตาสาดส่ องและตรงเข้าสารวจทุกพื้นที่โดย
ละเอียดอย่างตื่นตาตื่นใจ แต่ชายหนุ่มที่อยูข่ า้ งๆกลับมิได้
หวงห้ามใดๆอีกฝ่ าย เขายังคงเดินตามอีกฝ่ ายอย่างเงียบๆ

ทันใดนั้น ราวกับว่าสาวน้อยนางนั้นเอ่ยใจนึกอะไรออก
นางวิ่งไปกอดแขนชายหนุ่มอย่างรักใคร่ และกล่าวว่า

“พี่ใหญ่ ข้าลืมบอกท่านไปเลย ระหว่างทางที่มา ข้าได้ไป


ยังเมืองไห่ซี และบังเอิญพบเข้ากับชายหนุ่มคนหนึ่ งรุ่ น
ราวคราวเดียวกับข้า แต่ความแกร่ งกล้าในศาสตร์แห่งค่าย
กลกลับเหนือล้ ากว่าท่านแล้ว! ในตอนนั้น เขาสามารถ
ซ่อมแซมค่ายกลมิติช้ นั สู งได้ดว้ ยตัวคนเดียว! ข้ากังวล
เหลือเกินว่า ฉายายอดอัจฉริ ยะแห่งค่ายกลอันดับสองของ
ท่านจะถูกเปลี่ยนเจ้าของ!”

ชายหนุ่มมิได้เผยท่าทีตื่นตกใจแต่อย่างใด เขาเพียงกล่าว
ตอบอย่างเฉยเมยว่า

“แค่ซ่อมค่ายกลมิติช้ นั สู ง นั้นนับเป็ นอันใด? นั้นมิใช่เรื่ อง


น่าตื่นเต้นอะไรเลย ทัว่ ทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ พวก
เราตระกูลติงแห่งวังสว่างอรุ ณอุทยั สวรรค์ ได้ชื่อว่าเป็ น
อันดับสาม และไม่มีใครหน้าไหนกล้าเรี ยกตนเองว่า
อันดับสอง! ในรุ่ นเยาวชนทั้งหมด นอกเหนือจากเจิ้งเซี่ย
ข้า,ติงซัวไม่เคยกลัวใครหน้าไหน! หยุดคิดเรื่ องไร้สาระ
ได้แล้ว ในเมื่อธุระในเมืองจันทร์ฉายเสร็ จสิ้ น เจ้าก็ควร
กลับไปยังวังอรุ ณอุทยั สวรรค์กบั ข้าแก่โดยดี เจ้ามิได้รับ
อนุญาติให้ไปเที่ยวเล่นตามใจชอบ!”

พี่ชายน้องสาวคู่น้ ีแท้ที่จริ งเป็ นพี่นอ้ งสกุลติงแห่งดินแดน


เทวะ,วังอรุ ณอุทยั สวรรค์! และนี่ก็คือติงซื่ ออวี้ที่เย่หยวน
เคยพบในเมืองซีไห่

ศาสตร์แห่งค่ายกลของตระกูลติงแห่งวังอรุ ณอุทยั สวรรค์


มีชื่อเสี ยงยิง่ ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และแท้ที่จริ งพวกเขา
สมควรได้รับการขนานว่าเป็ นอันดับสองบนผืนพิภพ!
แน่นอนว่า อันดับหนึ่ งมิใช่ใครอื่นนอกจากจอมราชันย์ตา้
เยีย่ น,หลู่หลินเฟย หนึ่ งในสิ บจอมราชันย์ผยู ้ งิ่ ใหญ่!

ก่อนหน้าที่ความแกร่ งกล้าของหลู่หยินเฟยจะโจษจันบน
ผืนพิภพ ตระกูลติงคือผูอ้ ยูบ่ นจุดสู งสุ ดในศาสตร์แห่งค่าย
กล

และเจิ้งเซี่ยที่ติงซัวเอ่ยไปเมื่อครู่ ก็มิใช่ใครอื่นนอกจากลูก
ศิษย์ของหลู่หลินเฟยอย่างแม่นยา!
เมื่อได้ยนิ คากล่าวของติงซัว ติงซื่ออวี้พลันเม้มริ มฝี ปาก
บางสวยของนางและกล่าวอย่างไร้หางเสี ยงว่า

“หึ ! ช่างหยิง่ ผยอง! ท่านปู่ เคยกล่าวอยูเ่ สมอว่า แม้แกร่ ง


กล้าเหนื อสวรรค์ก็ไม่ควรหยิง่ ยโส! ดูท่าท่านคงไม่เคยเชื่อ
ฟังคาสัง่ สอนของท่านเลย!”

ติงซัวหันมาจับจ้องติงซื่ออวี้ในทันใด และกล่าวด้วยเสี ยง
เย็นเจือแค้นว่า

“ที่ท่านปู่ กล่าวเช่นนั้น เพราะเขาเคยพ่ายแพ้ให้แก่จอม


ราชันย์ตา้ เยีย่ น! และตัวข้าเองก็ไม่เคยหยิง่ ยโส! เพียงว่า…
สักวันข้าต้องแก้แค้นแทนท่านปู่ ! ข้าต้องเอาชนะเจิ้งเซี่ย
ให้จงได้!”

คราวนี้สีหน้าท่าทางของติงซัวมืดขรึ มลงทันใด

เขารู ้สึกเคียดแค้นอย่างที่สุด!

ตระกูลติงมีรากฐานที่สืบทอดกันมารุ่ นสู่ รุ่นมาหลายชัว่


อายุคน ในแง่ความลึกล้ าทางด้านมรดกสื บต่อ แม้แต่
รากฐานของจอมราชันย์จา้ เยีย่ นยังไม่สามารถเทียบเคียง
ได้เช่นกัน!

ภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จอมราชันย์ตา้ เยีย่ นเพิ่งปรากฏ


ตัวออกมาในช่วงหมื่นปี นี้เท่านั้น
หลังจากที่ยคุ จอมราชันย์ตา้ เยีย่ นเริ่ มเสื่ อมถอย ติงซัว
มัน่ ใจอย่างยิง่ ยวดว่า ตระกูลติงจะต้องกลับมาผงาดอีก
ครั้ง! พร้อมเข้าเหยียบย้าคู่ปรับตลอดมาอย่างเจิ้งเซี่ยให้จง
ได้!

ท่านปู่ ของเขาเคยพ่ายให้แก่จอมราชันย์ตา้ เยีย่ น ความ


อัปยศนี้เขา,ติงซัวจัดต้องชาระออกให้ได้!

สาหรับเจ้าหนุ่มที่สามารถซ่อมแซมค่ายกลชั้นสู งได้ เขา


มิได้สนใจเลยแม้สักนิด

เป็ นเวลานานมากแล้ว ในสมัยที่ติงซัวเป็ นปรมจารย์ค่าย


กลระดับเจ็ด เขาเองก็สามารถซ่ อมแซมค่ายกลระดับเก้า
ได้แล้วเช่นกัน! และยิง่ ปัจจุบนั วันนี้ ความแข็งแกร่ งของ
ติงซัวยิง่ ไม่สามารถหยัง่ รู ้ได้

แล้วเจ้าหนุ่มที่สามารถซ่อมแซ่ มค่ายกลมิติช้ นั สู งคนนั้น


จะทาให้เขาหวัน่ เกรงได้อย่างไร?

เขาไม่เคยปฏิเสธว่า บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มีอจั ฉริ ยะใน


ศาสตร์แห่งค่ายกลมากมาย แต่เขา,ติงซัวคือยอดอัจฉริ ยะ
อันดับหนึ่ง!

“นั้น! ขะ–ขะ–เขา…”
จู่ๆติงซื่ออวี้ก็อร้องอุทานขึ้นพลางชี้นิ้วไปยังทิศทางหนึ่ ง

ติงซัวกวาดสายตาติดตามที่นอ้ งสาวชี้ไป และได้เห็นชาย


หนุ่มคนหนึ่ งในวัยยีส่ ิ บปี ที่กาลังเดินเล่นพร้อมด้วยกลุ่ม
คนกลุ่มหนึ่ งกลางท้องถนน

“เจ้ากาลังจะบอกว่า เขาคนนั้นเป็ นคนที่เจ้ากล่าวถึงก่อน


หน้า?”

ติงซัวกล่าวขึ้นด้วยความประหลาดใจ

ติงซื่ออวี้พยักหน้ารัวและกล่าวตอบว่า
“ถูกต้อง! เขานามว่าเย่หยวน!”

ติงซัวกวาดสายตาจับจ้องเย่หยวนโดยละเอียด ก่อยละ
สายตาออกมาอย่างเบื่อหน่ายว่า

“เหอะ ก็แค่ไอ้เหลือขอคนหนึ่ ง ยังมิใช่นกั สู ้อาณาจักรไร้


เทียมทานด้วยซ้ า คิดกาหนัดกินเนื้อหงส์ชดั ๆ ไร้สาระสิ้ น
ดี”

แต่ในขณะนั้นเอง จู่ๆติงซื่ ออวี้พลันยกมือทั้งสองขึ้น


พร้อมสร้างก่อตราผนึกขึ้นในบัดดล!
นางใช้ตราผนึกนั้นเสริ มความเร็ วและวิ่งไปยังทิศทางเย่
หยวนทันทีอย่างสุ ดกาลัง

แต่กระนั้นกลับมีกาแพงโปล่งแสงบานหนึ่งตั้งดักได้
ทันท่วงที ติงซื่ออวี้วงิ่ ชนกับกาแพงโปล่งแสงนั้นอย่าง
แรง และล้มลงกับพื้นทันที

“โอ๊ย!”

ติงซื่ออวี้ร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด เมื่อครู่ ดงั่ มีคอ้ นยักษ์


กระแทกเข้าหัวเต็มๆ จึงทาให้นางรู ้สึกปวดระบมยิ่ง นาง
ร้องครวญลัน่ รอบดวงตาเห่อร้อนก่อนน้ าตาจะมีไหล
ออกมาอย่างสุ ดอดกลั้น
ติงซัวตรงเข้ามาและกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า

“เจ้าหนีไม่พน้ อยูแ่ ล้ว เลิกทาเรื่ องโง่ๆซะที!”

แต่ใครจะรู ้วา่ ติงซื่ออวี้กลับมิได้สนใจคากล่าวนั้นเลย


ทันใดนั้นจู่ๆนางก็ตะโกนลัน่ สุ ดเสี ยงว่า

“เย่หยวนช่วยด้วย!”
เย่หยวนที่เดินเล่นพลางสนทนากับกลุ่มของตนได้ยนิ สุ่ ม
เสี ยงหนึ่งเรี ยกหา ทันทีที่ได้ยิน เขาอดหันมองต้นเสี ยง
มิได้ ก่อนพบสาวน้อยคนหนึ่งที่กาลังทรุ ดอยูบ่ นพื้น และ
เขาก็จาได้อย่างแม่นยา นั้นคือติงซื่ออวี้ สาวน้อยในตอน
นั้น คิว้ ทั้งสองขมวดแน่นสี หน้าเย่หยวนเปลี่ยนเป็ นมืด
ครึ มเล็กน้อย

เขาและติงซื่ออวี้เป็ นเพียงคนรู ้จกั ระหว่างทาง แต่


ในตอนนี้ เมื่อเห็นนางกาลังถูกใครไม่ทราบเข้าทาร้าย
เช่นนี้ เย่หยวนเองก็ไม่สามารถพับแขนพับขาดูอยูเ่ ฉยๆได้
เช่นกัน
แม้เย่หยวนยังไม่ทราบว่าเรื่ องราวเป็ นมาอย่างไร แต่เขาก็
เลือกเข้าโจมตีในทันที!

เมื่อติงซัวเห็นว่าเย่หยวนพุ่งเข้าจู่โจมเขาจริ งๆ สี หน้า
ท่าทางพลันมืดลงโดยมิต้ งั ใจ เขาเร่ งก้าวขึ้นไปขวางหน้า
ติงซื่ออวี้ทนั ที ก่อนยกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างรวดเร็ ว

ในเสี้ ยวอึดใจ สองมือพลันผสานประหนึ่งร่ ายคาถาจน


มองไม่ทนั เขากาลังก่อร่ างสร้างค่ายกลเข้าตอบโต้!
ฝูงชนโดยรอบเริ่ มสังเกตเห็นความผิดปกติ คนที่เก็นผ่าน
ไปมาแห่จบั กลุ่มก้อนเข้ารับชม และเมื่อเห็นฝี ไม้ลายมือ
ของติงซัว บางคนถึงกับปรมมือให้ดว้ ยความชื่นขม

“ชายหนุ่มคนนี้มีทกั ษะในศาสตร์แห่งค่ายกลที่น่าเกรง
ขามยิง่ ! เพียงผสานมือเปล่าฉับพลันยังทาให้พวกเขาเกริ่ น
เกรง!”

“เจ้าจาหน้าตามิได้รึ? ชายหนุ่มผูน้ ้ นั คือยอดอัจฉริ ยะ


ตระกูลติงแห่ งวังอรุ ณอุทยั สวรรค์! ส่ วนเจ้าหนุ่มอีกคน
เป็ นเพียงจุดสู งสุ ดแห่งอาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าระดับเก้า
เท่านั้น กลับกล้าหาเรื่ องอีกฝ่ ายจริ งๆ สงสัยอยากแสวงหา
ความตายกระมัง?”

“เอาน่า เอาน่า อุตสาห์มีการแสดงดีๆให้รับชม! ในตอนนี้


เองต่างมียอดอัจฉริ ยะมากมายมารวมตัวกับในเมืองจันทร์
ฉาย เรื่ องขัดแย้งเช่นนี้มีให้เห็นอยูบ่ ่อยครั้งไป!”
เย่หยวนอยูห่ ่างจากติงซื่ออวี้กว่าหลายพันก้าว ในขณะที่
ติงซัวที่พุ่งเข้ามาดักหน้าอยูห่ ่างจากติงซื่ออวี้เพียงร้อยก้าว
เท่านั้น

หากต้องการช่วยเหลือติงซื่ออวี้เกรงว่าแทบเป็ นไปไม่ได้

แต่กระนั้นความเร็ วของเย่หยวนกลับเพิ่มทวีเป็ นทบตัว


ฉับพลัน แถมเขายังเร็ วขึ้นและเร็ วขึ้นอย่างต่อเนื่อง!

เมื่อเห็นภาพฉากนี้ สี หน้าท่าทางของฝูงชนโดยรอบพลัน
เปลี่ยนไป พวกเขาคาดไม่ถึงเลยว่า นักสู ้อาณาจักรวิชชา
สวรรค์จะเร็ วได้ขนาดนี้จริ งๆ
อย่างไรก็ตาม ติงซัวกลับจับจ้องภาพฉากนี้ดว้ ยความ
ขบขัน ก่อนกล่าวขึ้นอย่างเย้ยหยันขึ้นว่า

“เร็ วแล้วอย่างไร? ต่อหน้าค่ายกลนี้ เจ้ายังไม่เลิกโง่งมอีก


งั้นรึ ?!”

ในขณะเดียวกัน ตราผนึกพลันควบแน่นและก่อตัวขึ้น
เป็ นค่ายกลอย่างรวดเร็ ว!

ติงซัวมีความมัน่ ใจอย่างยิง่ ต่อทักษะในศาสตร์แห่งค่ายกล


ของตน เขาเชื่อโดยสมบูรณ์วา่ ค่ายกลที่ก่อร่ างสร้างขึ้นนี้
จะต้องปราบปรามเย่หยวนได้อย่างแน่นอน!
กล้ายุง่ ย่ามเรื่ องภายในตระกูลติง ผลที่ตามมาล้วนมีแต่
ความวิบตั ิ!

แต่ทนั ใดนั้น เขากลับต้องโพลงตาโตด้วยความตกตะลึง


สุ ดขีด!

เย่หยวนมิได้สนใจค่ายกลตรงหน้าแม้สักนิด พร้อม
ทะลวงผ่านค่ายกลของติงซัวไปอย่างง่ายดาย!
ตอนที่928 ยังขาดตกอยู่มาก!

ฟิ้ วว!

เย่หยวนคว้าร่ างติงซื่ออวี้และจากไปพร้อมลาแสงสายยาว

ติงซัวตกตะลึงสุ ดขีดและฉงนสงสัยอย่างสุ ดพรรณนา เขา


ยืนจับจ้องภาพฉากตรงหน้าอยู่นานด้วยความไม่อยากเชื่อ

ในฐานะประมุขตระกูลติงรุ่ นต่อไป ติงซัวคิดอยูเ่ สมอว่า


ตนเองสู งส่ งและเหนือกว่าใครอื่นในศาสตร์แห่งค่ายกล!

อย่างน้อยที่สุดในบรรดาเหล่าเยาวชนทั้งหมด ไม่มีผใู ้ ด
สามารถทัดเทียมได้กบั ตัวเขาในแง่ของศาสตร์แห่งค่ายกล
นอกจากนี้เขายังชานาญการมากจนสามารถนาศาสตร์
แห่งค่ายกลเข้าประยุกต์ระหว่างต่อสู ้

แต่เหตุการณ์เมื่อครู่ กลับสะเทือนขวัญเขารุ นแรงเกินไป!

เป็ นที่ประจักษ์ชดั แจ้ง เขาก่อร่ างสร้างค่ายกลขึ้นมาดัก


แล้วจริ งๆ แต่ทว่ามันกลับไม่มีผลอันใดเลยต่อเย่หยวน
ราวกับค่ายกลของเขาเป็ นเพียงธาตุอากาศ!

นี่…นี่เป็ นไปได้อย่างไร?
ติงซื่ออวี้ยงั คงอยูใ่ นอ้อมกอดของเย่หยวน สายตาคู่งามจับ
จ้องเย่หยวนด้วยความเลื่อมใสยิง่ ความแกร่ งกล้าใน
ศาสตร์แห่งค่ายกลของเขาเหนื อกว่าของพี่ใหญ่จริ งๆด้วย!

แม้ก่อนหน้านางจะกล่าวเช่นนี้ ออกไป แต่เบื้องลึกภายใน


ใจนางก็ไม่คาดคิดเลยว่า เย่หยวนจะเหนื อกว่าพี่ใหญ่จริ งๆ

ค่ายกลที่พี่ใหญ่วางดักทางเมื่อครู่ ช่างน่าสะพรึ งอย่าง


แท้จริ ง ทว่านั้นกลับมิได้เป็ นอุปสรรคอันใดสาหรับเย่
หยวน เขาสามารถทะลวงฝ่ าได้โดยตรง!
เมื่อหนีออกมาได้ระยะหนึ่ง เย่หยวนก็วางร่ างติงซื่ออวี้ลง
แต่ติงซื่ออวี้กลับฉุดรั้งเขาเอาไว้และกล่าวว่า

“รี บไปต่อเร็ ว โดยเร็ วเลย! หากพวกเราไม่รีบหนี ตอนนี้


เขาจับข้าได้แน่!”

อย่างไรก็ตาม เย่หยวนกลับมิได้รู้เรื่ องรู ้ราวใดๆมาก่อน


เลย ถึงขนาดคิดไปว่า ติงซัวเป็ นคนโฉดชัว่ ที่วางแผน
ลักพาตัวติงซื่ ออวี้
ติงซื่ออวี้พยายามดึงเย่หยวนให้ไปต่อ แต่เขากลับปฏิเสธ
และกล่าวขึ้นอย่างเฉยเมยว่า

“ไม่ตอ้ งกังวล ข้าอยูต่ รงนี้แล้ว ไม่มีใครสามารถทาอะไร


เจ้าได้แน่นอน”

เมื่อได้เห็นความคิดอ่านของเย่หยวน ติงซื่ออวี้ยงิ่ กังวลใจ


เข้าไปใหญ่ นางพยายามดึงเย่หยวนให้ไปต่ออย่างสุ ดแรง
พร้อมกล่าวว่า
“เขามิได้มาคนเดียว! ยังมียอดฝี มืออีกมายอยูร่ ายล้อมและ
กาลังจะมาถึงในอีกไม่ชา้ ! หากเรายังไม่รีบ เกรงว่าจะสาย
เกินไป!”

ยังไม่ทนั ที่เย่หยวนจะได้กล่าวตอบ ติงซัวก็ไล่ตามจนเจอ


พวกเขาแล้วในเวลานี้

ซึ่งติงซัวเองก็ดูท่าจะโกรธเกรี้ ยวอย่างมาก เพียงวาดมือ


ออกไปเบาๆก็ปรากฏตะเกียงไฟขึ้นบนมือ

พลังปราณของเขาจานวนมากกรอกเทลงสู่ ตะเกียงไฟ
ในทันที และทันใดนั้นตะเกียงไฟในมือพลันสว่างไสวขึ้น
อย่างช้าๆ
เย่หยวนผลักร่ างติงซื่ออวี้ออกไปเบาๆให้แก่ซื่อหยินที่อยู่
ข้างๆ พร้อมกล่าวว่า

“ฝากดูแลนางด้วย!”

ทันทีที่สิ้นเสี ยง รอบตัวเย่หยวนก็ปรากฏวงผนึ กแสงก่อน


ควบแน่นกลายเป็ นค่ายกลกักขังเย่หยวนไว้ภายใน

“นั้นคือ เครื่ องรางเทวะระดับสู งสุ ดของตระกูลติงแห่งวัง


อรุ ณอุทยั สวรรค์! ตะเกียงอาคมพันธนาการ! กล่าวกันว่า
บรรพบุรุษของตระกูลติงได้สลักอาคมค่ายกลระดับเก้า
กว่าสิ บรู ปแบบภายในตะเกียงอันนี้! ทั้งหมดล้วนเป็ นค่าย
กลระดับเก้าสุ ดแกร่ งกร้าวอย่างแท้จริ ง! ตราบเท่าที่ผใู ้ ช้ยงั
หล่อเลี้ยงพลังปราณลงในตะเกียงอย่างสม่าเสมอ ค่ายกล
ที่ใช้จะไม่มีวนั เสื่ อมสลาย! นี่นบั เป็ นเครื่ องรางเทวะแขนง
ค่ายกลอันดับต้นๆในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ !”

ทันทีที่โคมไฟปรากฏขึ้น ก็มีหลายต่อหลายคนจาได้ใน
ทันใด

เครื่ องรางเทวะชนิดนี้มีรูปร่ างคล้ายตะเกียงไฟ ตะเกียง


อาคมพันธนาการนี้มีชื่อเสี ยงกระช่อนไปทัว่ ดินแดน
ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องด้วยฤทธิ์เดชอันไร้เทียมทานของมัน เมื่อ
ทุกคนได้เห็นกับตา นั้นถึงขั้นปลุกคลื่นความโกลาหลขึ้น
ฉับพลัน

พวกเขาไม่คาดไม่ฝันเลยว่า ตระกูลติงจะมอบเครื่ องรางเท


วะระดับสู งสุ ดเช่นนี้ให้แก่รุ่นเยาวชนได้ครอบครอง

กระทั้งติงซื่ออวี้ที่เห็นภาพฉากนี้ สี หน้าการแสดงออก
ของนางยังต้องพลันเปลี่ยนไปอย่างมาก นางไม่คิดเลยว่า
พี่ใหญ่ของนางจะสามารถใช้งานตะเกียงอาคม
พันธนาการได้จริ งๆ นี่ยงิ่ ทาให้ติงซื่อวี้เป็ นห่วงในความ
ปลอดภัยของเย่หยวนเข้าไปใหญ่
ในขณะที่ติงซื่ออวี้กาลังอ้าปากกล่าวขึ้น ซื่อหยินที่เห็น
ดังนั้นจึงตบไหล่อีกฝ่ ายเบาๆและกล่าวพร้อมรอยยิม้
หวานว่า

“ผ่อนคลาย เย่หยวนไม่เป็ นอะไรแน่นอน”

ตลอดที่ผา่ นมา ซื่อหยินได้เห็นฝี ไม้ลายมือของเย่หยวนจน


ชัดแจ้งพอแล้ว แม้แต่จอมราชันย์แห่งความมืด,ซือกงซ่าง
ก็ยงั ไม่สามารถทาอะไรเย่หยวนได้ แล้วเจ้าหนูตระกูลติง
ตรงหน้านับเป็ นอันใด?
หากย้อนกลับไป หลังจากที่พวกเขาทั้งหมดออกจากหลุม
อเวจีสวรรค์ ซื่อหยินและที่เหลือยังคงตื่นตะลึงกับ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่จางหาย

เย่หยวนมีเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์ อยูใ่ นครอบครอง!

นั้นคือเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์ของจริ งเสี ยงจริ ง!

ซึ่งในท้ายที่สุด ซื่อหยินและคนอื่นๆต่างปรึ กษาหารื อกัน


จนได้ขอสรุ ปว่า หลังจากนี้พวกนางจะขอติดตามเย่หยวน
ไปในอนาคต และหลังออกจากทะเลมารคลัง่ พวกนางก็
ทาสัญญาจิตวิญญาณรับใช้เย่หยวนในฐานะเจ้านาย ส่ วน
ทางด้านเย่หยวนก็ช่วยทาลายพันธนาการของป้ายตรา
สิ ทธิ์สังหารที่ติดตัวพวกเช่าไคออกให้

ซื่อหยินและคนอื่นๆล้วนเห็นตรามังกรศักดิ์สิทธิ์ ในมือเย่
หยวนกันหมดแล้ว และแม้พวกนางจะไม่ขอติดตามเช่นนี้
เย่หยวนเองคงปล่อยไว้ไม่ได้เช่นกัน

เครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์มีความสาคัญยิง่ ต่อตัวเย่หยวน และเขา


ก็ไม่ตอ้ งการให้ข่าวนี้รั่วไหลออกไป แต่สาหรับผูค้ นใน
ทะเลมารคลัง่ เขามิได้กงั วลเลย

ร่ างต้นของซือกงซ่างยังไม่สามารถออกมาได้ในขณะนี้
เนื่องจากติดเหตุสาคัญอย่างบาง ซึ่งเขาก็ทราบแล้วว่าเย่
หยวนมีเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์อยู่ในครอบครอง และเป็ น
ธรรมดาที่เขาย่อมไม่แพร่ พรายออกไป ฉะนั้นแล้ว มันไม่
เท่ากับว่าตัวเขาไปเพิ่มคู่แข่งให้ตนเองหรอกรึ ?

ออกจากทะเลมารคลัง่ เย่หยวนก็ตรงดิ่งเข้าสู่ เมืองจันทร์


ฉายในทันที

ตามที่เย่หยวนคานวณเวลาที่เหลืออยูข่ องเยวี่ยเมิ่งลี่ หาก


เขายังไม่รีบมาตอนนี้ นางต้องตายอย่างไม่ตอ้ งสงสัย

“แต่…”
ติงซื่ออวี้ตื่นตระหนกอย่างมากเมื่อได้ยนิ และยังคงยืนยัน
ที่จะออกไปหยุดพี่ใหญ่

กระนั้นเอง ทุกอย่างกลับสายเกินไปแล้ว ค่ายกลถูกเปิ ดใช้


โดยสมบูรณ์ ติงซัวรู ้สึกโกรธแค้นอย่างมากต่อเหตุการณ์
ก่อนหน้า เขาจึงพึ่งพาเครื่ องรางเทวะชิ้นนี้เพื่อสร้างค่าย
กลหวังฆ่าเย่หยวนให้ตาย!

“จุจุ ค่ายกลระดับเก้า! ทั้งๆที่เขายังเป็ นแค่ปรมาจารย์ค่าย


กลระดับแปดขั้นสู งแท้ๆ แต่กลับเปิ ดใช้งานค่ายกลระดับ
เก้าได้จริ งๆ!”
“ดูจากลักษณะค่ายกลตรงหน้านี้แล้ว มันควรจะเป็ นสุ ด
ยอดค่ายกลระดับเก้าของตระกูลติง ค่ายกลเงาประกาย
มรกต! นี่ นบั เป็ นค่ายกลแขนงสังหารที่ทรงอนุภาพยิง่ ดู
ท่าเจ้าหนุ่มที่ยวั่ ยุติงซัวแห่งตระกูลติง คงต้องชะตาขาด
แล้วกระมัง?”

“ข้าเคยได้ยนิ มาว่า ท่านบรรพบุรุษของตระกูลติงเคยใช้


ค่ายกลนี้ เพื่อข้าประลองกับท่านจอมราชันย์ตา้ เยีย่ น แม้
ในท้ายที่สุดจะพ่ายแพ้ไปนิดเดียว แต่ความทรงอนุภาพ
ของมันกลับไม่เป็ นสองรองใคร! เจ้าหนุ่มนั้นแกว่งเท้าหา
เสี้ ยนจริ งๆ!”
ในหมู่ฝงู ชน มีคนที่ทราบเกี่ยวกับค่ายกลเงาประกาย
มรกตไม่นอ้ ย

อดีตกาลเก่า บรรพบุรุษตระกูลติงเคยอาศัยพลังของค่าย
กลชนิดนี้ เข้าต่อกรกับหลู่หลินเฟยมาก่อน ถึงแม้ผลลัพธ์
ที่ออกมาจะเป็ นอย่างที่ทุกคนทราบกันก็ตาม

เว้นเสี ยแต่อนุภาพการสังหารของค่ายกลชนิดนี้ กลับไม่มี


ใครเคลือบแคลงใจเลย

ในทางกลับกัน การงัดสุ ดยอดค่ายกลนี้ออกมาใช้เพื่อ


กาจัดนักสู ้อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าคนหนึ่ง ดูท่าจะ
เกินไปหรื อไม่?
เจ้าหนุ่มอาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าคนนี้เป็ นสัตว์
ประหลาดหรื ออย่างไร ถึงกับต้องเลือกใช้มนั ?

อย่างไรก็แล้วแต่ ภายในสุ ดยอดค่ายกลชนิดนี้ เย่หยวน


ยังคงยืนนิ่ งอย่างสงบเยือกเย็น ราวกับว่าค่ายกลระดับเก้า
ที่ปิดรอบไว้อยู่ เป็ นเพียงธาตุอากาศเท่านั้น

“ค่ายกลเงาประกายมรกตนับเป็ นหนึ่ งในค่ายกลที่น่าสะ


พรึ งขวัญยิง่ หากเป็ นติงฉางกัวสาแดงมันออกมา ข้ายังพอ
ครั่นคร้ามอยูห่ ลายส่ วน แต่ในเมื่อเป็ นเจ้า…มันยังคงขาด
ตกอยูม่ าก!”
เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิม้ อันเหยียบเย็น

เมื่อคากล่าวนี้ ถูกเปล่งออกมา ทุกคนพลันตกตะลึงใน


ทันใด

เจ้าหนุ่มคนนี้โผล่มาจากไหน? ไฉนถึงไม่กลัวถูกเจาะลิ้น!

ส่ วนที่วา่ ติงฉางกัวคือใคร? เขาคือบรรพบุรุษของตระกูล


ติง!
การจะให้บรรพบุรุษของตระกูลติงหยิบใช้ค่ายกลระดับ
เก้า เพื่อจัดการกับนักสู ้อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าสักคน
หนึ่ง มันมิใช่การฆ่าเป็ ดฆ่าไก่เล่นหรื ออย่างไร?

กระนั้นเอง พวกเขาเหล่านี้จะทราบได้อย่างไรว่า
ความสาเร็ จของจี้ฉิงหยุนบนเส้นทางแห่ งค่ายกลในชีวิต
ก่อนหน้ามันเหนือล้ าเพียงใด? กล่าวว่ามิได้อ่อนด้อยไป
กว่าติงฉางกัวเลย!

แม้ติงฉางกัวแกร่ งกล้ากว่าเล็กน้อย แต่หากต้องการใช่ค่าย


กลเพื่อสังหารจี้ฉิงหยุน นั้นเป็ นไปไม่ได้
และในช่วงชีวิตนี้ ความสาเร็ จบนเส้นทางแห่งค่ายกล
ของเย่หยวนยังคงพัฒนาไปอีกขั้น หากเขาก้าวขึ้นสู่
อาณาจักรราชันย์เทวะเมื่อใด ติงฉางกัวไม่นบั เป็ นคู่มือ
ของเขาอีกแล้ว!

ดังนั้นวาจาที่เย่หยวนกล่าวไปมันมิได้เกินจริ งเลย ในทาง


ตรงข้าม ทั้งหมดล้วนกอปรขึ้นจากความจริ ง
ยิง่ ได้ยนิ เช่นนั้นไฟพิโรธที่ส้องสุ มยิง่ โหมแรง สี หน้าของ
ติงซัวบิดเบี้ยวด้วยความน่าเกลียดสุ ดพรรณนา และ
ตะคอกด่าอย่างดุเดือดว่า

“สามหาว! แกกล้าเอยนามท่านปู่ โดยไร้หางเสี ยง! คงเป็ น


พวกสวะข้างทาง ไร้การสัง่ สอนกระมัง? เช่นนั้นข้าจะสัง่
สอนแกสักหนึ่งบทเรี ยน คงไม่ทราบใช่ไหมว่า…ความ
ตายสะกดอย่างไร?!”

พลังปราณของติงซัวเร่ งกระตุน้ ตะเกียงไฟภายในมือ


ทันใดนั้นค่ายกลเงาประกายมรกตพลันส่ องแสงเขียวสลับ
เหลืองจางๆออกมา ก่อนที่พวกมันจะแปรเปลี่ยนเป็ นเงา
และพุ่งเข้าหาเย่หยวน!
ร่ องรอยยิม้ เยาะผุดขึ้นที่มุมปากเย่หยวน จู่ๆร่ างของเขาก็
เริ่ มเคลื่อนไหวด้วยท่าทีแสนประหลาด!

การเคลื่อนไหวของเย่หยวนช่างดูลึกลับซับซ้อนอย่าง
บอกไม่ถูก บ้างเรี ยกประหลาดก็ไม่ผิด

ทันทีที่เห็นภาพฉากเหล่านี้ ยิง่ ทาให้ฝงู ชนระเบิดเสี ยง


หัวเราะเยาะดังลัน่
ทว่าเหตุการณ์อนั ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น! เพียงสิ บอึดใจผ่าน
ไป ร่ างของเย่หยวนก็หลุดออกจากการจองจาของค่ายกล
ได้อย่างหน้าตาเฉย!

แม้ค่ายกลเงาประกายมรกตจะทรงอนุภาพเป็ นอย่างมาก
แต่เนื่องด้วยความแข็งแกร่ งของติงซัว เขาสามารถดึงพลัง
ของตะเกียงอาคมพันธนาการได้เพียงหนึ่งจากร้อยส่ วน
เท่านั้น

และหากต้องการจัดการเย่หยวนด้วยเศษพลังแค่น้ ี มันยัง
เร็ วเกินไปร้อยปี !
สี หน้าท่าทางของติงซัวพลันเปลี่ยนไปทันทีโดยไม่ต้ งั ใจ
เมื่อได้เห็น เขาโพลงกล่าวขึ้นด้วยความตกตะลึงว่า

“นี่…นี่เป็ นไปได้อย่างไร?”
ตอนที่929 หวังว่ าจะไม่ ใช้ เนตรกระจอกนั้นอีก

“หึ ! ลักพาตัวผูค้ นตามท้องถนน ลูกหลานของติงฉางกัว


ต่าทรามลงเช่นนี้ต้ งั แต่เมื่อใด?”

เมื่อกล่าวจบ เย่หยวนก็ควบแน่นพลังปราณขึ้นเป็ นคม


ดาบบนมือ พร้อมสาดโถมจิตสังหารสุ ดอามหิ ตปกคลุม
ทัว่ ร่ างติงซัวทันที

นี่คือกระบวนท่าแรกของเพลงดาบมหาสังหารที่เย่หยวน
ได้รับจากทะเลมารคลัง่ เสี ยงดาบมรณะ!

หากเปรี ยบเทียบให้เป็ นรู ปธรรม แนวคิดแห่ งการสังหาร


ของเย่หยวนบรรลุไปถึงพลวิญญาณระดับหกแล้ว เมื่อ
ผสานเข้ากับเสี ยงดาบมรณะนี้ อนุภาพสุ ดแสนน่าสะพรึ ง
ของเย่หยวนจึงไม่สามารถหยัง่ ทราบได้เลย

ติงซัวยังคงตกตะลึงยิง่ ทันทีที่ได้เห็นการโจมตีของเย่
หยวน ทว่ามันสายเกินไปเสี ยแล้วที่จะก่อร่ ายสร้างค่ายกล

เมื่อได้ภาพฉากดังกล่าว ติงซื่ออวี้อดกรี ดร้องขึ้นมิได้เลย


ว่า

“เย่หยวน อย่า! นั้นพี่ชายของข้า!”


เย่หยวนที่ได้ยนิ เช่นนั้นแทบกรนด่าสาปแช่งในใจ แต่ทว่า
คมดาบพลังฉี สังหารกลับตรงถึงหน้าติงซัวเสี ยแล้ว

“ไม่!”

ติงซื่ออวี้ข่มตาหลับด้วยความเจ็บปวดใจ ไม่กล้าเฝ้ามอง
ภาพฉากที่จะเกิดขึ้นต่อไป

ทว่าทันใดนั้น ปรากฏลาแสงสายหนึ่งจากท้องเวหาพุ่ง
ออกมาดักหน้าติงซัวโดยพลัน พร้อมเข้าชนกับเสี ยงดาบ
มรณะของเย่หยวนอย่างแรง
ซึ่งแท้ที่จริ งแล้ว รัศมีขอบเขตของลาแสงสายนี้ทรงพลัง
อย่างยิง่ มันเข้าทาลายเสี ยงดาบมรณะของเย่หยวนได้
ในทันที

ขนแขนยันหนังศีรษะของติงซัวลุกซ่าขึ้นทั้งตัว คู่ขาอัน
อ่อนนุ่มทรุ ดฮวบลงบนพื้นอย่างไร้เรี่ ยวแรง

กลางห้วงเวหา ปรากฏชายวัยกลางคนล่อยเคว้ง สายตาจับ


จ้องมาทางเย่หยวนอย่างไม่เป็ นมิตรมากนัก เขากล่าวขึ้น
ด้วยเสี ยงอันเคร่ งขรึ มว่า
“เจ้าหนุ่ม เจ้ากล้าสังหารผูค้ นบนท้องถนนโดยไม่คานึงถึง
ตระกูลเยวี่ยของข้าเลยงั้นรึ ?”

ในท้ายที่สุดนี้ เย่หยวนรู ้สึกโล่งใจอย่างมากที่มีบางคนเข้า


มาช่วยติงซัวได้ทนั ท่วงที เขาเกือบสร้างตราบาปภายในใจ
เสี ยแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยนิ คากล่าวอีกฝ่ าย นี่กลับ
ทาให้เย่หยวนโกรธอย่างมาก

สาหรับคากล่าวเหล่านี้ เห็นได้ชดั ว่า อีกฝ่ ายกาลังข่มขู่เย่


หยวนอย่างชัดเจน เนื่องด้วยเย่หยวนดูไร้ภูมิหลัง หาก
เปรี ยบเทียบกับติงซัว มิฉะนั้นอีกฝ่ ายจะกล่าววาจาเช่นนี้?
สี หน้าการแสดงออกของเย่หยวนยังคงสงบเยือกเย็นและ
เอ่ยปากขึ้นตอบอย่างเมินเฉยว่า

“ตระกูลเยวี่ย? แล้วตระกูลเยวี่ยคิดว่าตนเป็ นใคร!”

สี หน้าของชายวัยกลางคนเยือกเย็นขึ้นในบัดดล แรง
กดดันแห่ งอาณาจักรเต๋ าลึกล้ าอันแรงกล้าพุ่งเข้า
พันธนาการร่ างเย่หยวนทันทีอย่างหนักหน่วง
“ปรากฏว่าเจ้าหนุ่มคนนี้ช่างดื้อรั้น! กล้าทาตัวอวดดีใน
เมืองจันทร์ฉายของข้าจริ งๆ! เจ้าเข้าใจผิดคิดว่าจักรพรรดิ
ผูน้ ้ ีไม่กล้าลงมือกับเจ้างั้นรึ ?”

เหล่านักสู ้โดยรอบรู ้สึกได้ทนั ทีวา่ ร่ างกายของพวกเขา


หนักอึ้งขึ้นโดยพลัน ราวกับมีบางสิ่ งอย่างกดทับเอาไว้
แรงกดดันขนาดนี้ มนั แทบจะบดขยี้ร่างทุกคนเป็ นเสี่ ยงๆ

ทว่าภายใต้แรงกดดันสุ ดยิง่ ใหญ่น้ ี เย่หยวนยังคงยืนนิ่ ง


สงบประหนึ่ งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เย่หยวนกล่าวสวนด้วยเสี ยงเย็นว่า
“เลิกพล่าม! หากเก่งจริ งก็เข้ามา! ความสามารถ
เล็กๆน้อยๆของท่านอย่าหวังทาอันตรายท่านปู่ ผูน้ ้ ีได้!”

ชายวัยกลางคนมิได้คาดหวังเลยว่า แรงกดดันของตนจะ
ไม่สามารถทาอะไรเจ้าหนุ่มคนนี้ได้จริ งๆ สี หน้าของเขา
มืดมนลงยิง่ กว่าเดิมโดยไม่ต้ งั ใจ

“เจ้าหนุ่ม คงต้องให้ขา้ ฉี กปากก่อนกระมัง เจ้าถึงจะเลิก


อวดดี!”

ชายวัยกลางคนถูกเย่หยวนปลุกปั่นจนทาให้ตอ้ ง
เคลื่อนไหวในที่สุด เขาเตรี ยมพร้อมเข้าจู่โจมทันทีดว้ ย
ความโกรธเกรี้ ยว
ติงซื่ออวี้ที่เห็นสถานการณ์เลวร้ายลงก็ไม่อาจแช่มช้า นาง
เข้าขวางหน้าเย่หยวนและกล่าวกับชายวันกลางคนบน
เวหาว่า

“ท่านลุงหยุนเฟยโปรดระงับโทสะ เรื่ องทั้งหมดที่เกิดขึ้น


เป็ นเพียงความเข้าใจผิดเท่านั้น และต้นเหตุก็มาจากซื่ ออวี้
เอง ท่านลุงหยุนเฟยโปรดอย่าทาเรื่ องลาบากแก่เย่หยวน
เขา…เขาทาทุกอย่างเพราะเจตนาดีตอ้ งการช่วยเหลือข้า
เท่านั้นจริ งๆ นั้นจึงเป็ นเหตุให้เขาเข้าโจมตีพี่ใหญ่ขา้ ”
ติงซื่ออวี้เองก็ใจเด็ดมินอ้ ย กล้าได้กล้าเสี่ ยงพุ่งเข้าขัดขวาง
สถานการณ์อนั ไม่สู้ดี ไม่วา่ จะเป็ นทางด้านของติงซัว
หรื อเย่หยวน ทั้งสายตาด้านหน้าและหลังที่จบั จ้องนาง
ล้วนเปรี ยบเสมือนหนามแหลมคมที่จ่อแทงอย่างไม่เป็ น
มิตรนัก

นางเพียงต้องการหยิบยืมพลังของเย่หยวนเพื่อเลี่ยงออก
จากติงซัวเท่านั้น แต่นางกลับไม่นึกไม่ฝันเลยว่า พลัง
ของเย่หยวนจะเกินจินตนาการขนาดนี้ ถึงขั้นที่วา่ นาง
เกือบได้ไปงานศพพี่ชายของตนแล้ว

เมื่อนึ กถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า ร่ างของติงซื่ออวี้ก็เริ่ มสั่น


เทาด้วยความหวาดกลัวยิ่ง หากมิใช่เพราะเยวี่ยหยุนเฟย
เข้ามาช่วยได้ทนั เวลา ป่ านนี้ติงซัวคงกลายเป็ นวิญญาณเร
ร่ อนภายใต้คมดาบของเย่หยวนไปแล้ว และหากเป็ นแบบ
นั้นจริ งๆ นางคงมิอาจให้อภัยตนเองได้ชวั่ ชีวิต

เมื่อติงซื่ออวี้ออกหน้ามาขนาดนี้ เยวี่ยหยุนเฟยก็จาต้อง
ชะงักทุกการเคลื่อนไหวอย่างช่วยไม่ได้

ก่อนหน้า เขาต้องไว้หน้าวังอรุ ณอุทยั สวรรค์ นั้นจึงเป็ น


เหตุให้เยวี่ยหยุนเฟยกล่าววาจาข่มขู่และเหยียดหยามเย่
หยวนถึงเพียงนี้

วังอรุ ณอุทยั สวรรค์ เป็ นถึงดินแดนเทวะอันยิง่ ใหญ่ เพียง


เมืองเทวะชั้นหนึ่ งอย่างเมืองจันทร์ฉาย นับว่าห่างไกลที่
จะยัว่ ยุขมุ พลังระดับนี้ได้ และสถานะของตระกูลติงแห่ง
วังอรุ ณอุทยั สวรรค์เองก็ยอดเยี่ยมเกินไป ซึ่งสถานะของพี่
น้องสกุลติงคู่น้ ีเองก็สูงส่ งเหนื อจินตนาการเช่นกัน

ทันทีที่เยวี่ยหยุนเฟยมาถึงที่แห่ งนี้ โดยสัญชาตญาณ เขา


คิดไปก่อนเองว่า ที่เย่หยวนเข้าโจมตีติงซัวทั้งหมดเพียง
เพื่อชิงตัวติงซื่ออวี้

เว้นเสี ยแต่ เขากลับไม่คิดเลยว่า ตืงซื่ออวี้จะออกมาแก้ต่าง


แทนเย่หยวนแบบนี้

ด้วยเหตุน้ ี ท่าทางของเยวี่ยหยุนเฟยจึงดูแปลกใจอย่างมาก
“หึ้ ม! ถึงอย่างนั้นเขาก็กล่าววาจาผยองเดชยิง่ ต่อตระกูล
เยวี่ยของข้า! คงยากที่จะปล่อยไปโดยมิได้รับการ
ลงโทษ!”

เยวี่ยหยุนเฟยกล่าวขึ้นพร้อมเสี ยงฮึดฮัดติดฉุน

เย่หยวนผลักร่ างบางของติงซื่ อหวี้ออกไปข้างๆ พร้อม


กล่าวตอบด้วยรอยยิม้ สุ ดแสนเยือกเย็นว่า

“ข้า,นายน้อยผูน้ ้ ีก็ตอ้ งการเห็นเช่นกันว่า ท่านจะลงโทษ


ข้าอย่างไร?!”
ติงซื่ออวี้ไม่นึกไม่ฝันเลยว่า เย่หยวนยังคงยืนหยัดดังเดิม
และไม่ยอมก้มศีรษะให้อีกฝ่ ายแม้แต่น้อย เบื้องหน้าเขา
เป็ นถึงยอดฝี มืออาณาจักรเต๋ าลึกล้ า แต่เขากลับไม่ตื่น
ตระหนกเลยสักนิด!

ไม่วา่ อย่างไร เย่หยวนยอมทาทุกอย่างก็เพื่อตัวนาง


เช่นนั้นติงซื่ออวี้เองก็ไม่ยอมให้เย่หยวนถูกตระกูลเยวี่ย
จับไปลงโทษได้เช่นกันไม่วา่ ทางใด!

“เย่หยวน ข้าขอโทษ ทั้งหมดล้วนเป็ นความผิดของข้า!


ยอมกล่าวขอโทษแล้วถอยออกมาไม่ได้เลยหรื อ?”
ติงซื่ออวี้พยายามดึงแขนเสื้ อเย่หยวนเพื่อฉุดรั้ง

เย่หยวนสาดสายตาสวนกลับอย่างดุเดือด และโพลงกล่าว
ขึ้นว่า

“เรื่ องระหว่างเราค่อยสะสาง! ตอนนี้ ข้าขอจัดการสุ นขั


ขวางทางเสี ยก่อน!”

โดยปกติแล้ว เย่หยวนไม่เคยไปสร้างปัญหาให้ใครก่อน
แต่เขาเองก็ไม่เคยหวาดกลัวปั ญหาที่เข้ามาเช่นกัน!
หากเย่หยวนเข้าปะทะกับตระกูลเยวี่ยจริ งๆ หายนะครั้ง
เลวร้ายที่สุดในเมืองจันทร์ฉายอาจก่อเกิดขึ้น!

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ดี ดีมาก! แท้ที่จริ งกลับเป็ นผูก้ ล้าตัวน้อย!


จักรพรรดิผนู ้ ้ ีขอดูเสี ยหน่อยว่า เจ้าจะมีความสามารถ
มากมายสักเพียงใด!”

เยวี่ยหยุนเฟยระเบิดเสี ยหัวเราะคาโต ทันใดนั้นดวงตา


พลันเบิกกว้างเข้าใส่ เย่หยวน การโจมตีไร้รูปร่ างยิงเข้าสู่
ทะเลแห่งจิตใจของเย่หยวนโดยตรง!
“นั้นมันเนตรสวรรค์เคียงจันทร์ ! ถึงแม้วา่ สายเลือดแห่ง
กายเนตรสวรรค์เคียงจันทร์ของเยวี่ยหยุนเฟยจะเจือจาง
แต่เมื่อผนวกกับพลังแห่งอาณาจักรเต๋ าลึกล้ า อนุภาพกลับ
ทรงพลังยิง่ !”

“เนตรสวรรค์เคียงจันทร์นบั เป็ นการโจมตีทางจิตวิญญาณ


ศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสะพรึ งแขนงหนึ่ ง และแทบเป็ นไปไม่ได้ที่
จะป้องกัน!”
“เจ้าหนุ่มนั้นเลือดร้อนเกินไป ถึงขนาดกล้าท้าทายคน
ตระกูลเยวี่ย ซึ่งในท้ายที่สุด กลับเป็ นตัวเขาเองที่ตอ้ ง
ตาย!”

แม้แต่สมาชิกบางคนของตระกูลเยวี่ยยังไม่สามารถปลุก
กระตุน้ สายเลือดกายเนตรสวรรค์เคียงจันทร์ข้ นึ มาได้
และการที่เยวี่ยเมิ่งลี่สามารถปลุกสายเลือดนี้ได้ถึงระดับนี้
จะเห็นได้ชดั ว่านางคืออัจฉริ ยะแห่งตระกูลเยวี่ย

แต่อย่างไรก็ตาม การโจมตีที่วา่ ไม่มีทางป้ องกันได้ มัน


กลับเป็ นแค่ของเล่นเท่านั้นในสายตาเย่หยวน
“เจ้า…เจ้ายังคงปลอดภัยดีได้อย่างไร?!”

เยวี่ยหยุนเฟยตื่นตกใจอย่างมาก พร้อมจับจ้องเย่หยวน
ด้วยความไม่เชื่อ

การจู่โจมดุจเพชรฆาตของเยวี่ยหยุนเฟย แท้จริ งแล้วกลับ


ไม่เป็ นผลอันใดต่อตัวเย่หยวนเลย นี่ทาให้สีหน้าท่าทาง
ของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก
เย่หยวนเงยศีรษะจับจ้องเยวี่ยหยุนเฟย พร้อมกล่าวขึ้นด้วย
รอยยิม้ ที่ไม่ใช่รอยยิม้ ว่า

“เนตรสวรรค์เคียงจันทร์ง้ นั รึ ? สายเลือดกายเนตรสวรรค์
เคียงจันทร์ในตัวท่านเจือจางเกินไป คิดว่าเศษพลังแค่น้ ีจะ
สามารถจัดการข้าได้? ช่างไร้เดียงสา!”

ในขณะนี้ ทุกคนต่างจับจ้องเย่หยวนราวกับตัวประหลาด
เจ้าหนุ่มคนนี้ผิดประหลาดมากเกินไป!

เยวี่ยหยุนเฟยนับเป็ นบุคคลที่โดดเด่นยิง่ ในตระกูลเยวี่ยรุ่ น


สาม เขาสามารถทะลวงขึ้นสู่ อาณาจักรเต๋ าลึกล้ าระดับ
สองได้ต้ งั แต่วยั หนุ่ม และเมื่อผสานรวมกับเนตรสวรรค์
เคียงจันทร์ของตน พลังความแกร่ งกร้าวของเขาทัดเทียม
ได้กบั อาณาจักรเต๋ าลึกล้ าระดับสาม

แต่ในขณะนี้ เขาได้เบิกเนตรสวรรค์เคียงจันทร์เข้าจู่โจม
ทว่ากลับไม่สามารถทาอันตรายเจ้าหนุ่มอาณาจักรวิชชา
สวรรค์ฟ้าได้เลยสักนิด นี่มนั เรื่ องบ้าชัดๆ!

สี หน้าของเยวี่ยหยุนเฟยมืดครึ มหนักและกล่าวขึ้นว่า

“เป็ นไปได้ไหมว่า…เจ้ามีเครื่ องรางเทวะแขนงป้องกันจิต


วิญญาศักดิ์สิทธิ์ระดับสู งสุ ด?”
เครื่ องรางเทวะแขนงป้องกันจิตวิยญาณศักดิ์สิทธิ์นบั ว่าหา
ได้ยากนิ่ง และแทบไม่เคยปรากฏให้เห็นเลยบนผืนพิภพ
ทว่าสิ่ งหนึ่ งที่เยวี่ยหยุนเฟยไม่อาจล่วงรู ้ได้เลยก็คือ สมบัติ
ที่เย่หยวนครอบครองอยู่ มันทรงคุณค่ายิง่ กว่าเครื่ องรางเท
วะระดับสู งสุ ดไม่รู้กี่ร้อยกี่พนั เท่า!

ไข่มุกสยบวิญญาณนี้ แม้แต่เทพอสู รในตานานอย่างเจีย


หลานยังหวาดหวัน่ ยิ่ง แล้วสมบัติระดับนี้จะลดตัวมา
เทียบเคียงกับเครื่ องรางเทวะระดับสู งสุ ดได้อย่างไร?

เย่หยวนกล่าวตอบด้วยเสี ยงเย็นว่า
“เลิกเล่นทายคากันเสี ยที นายน้อยผูน้ ้ ียงั ไม่ได้เอาจริ ง
แม้แต่น้อย! เอาล่ะ หากมีทีเด็ดอันใดอีกก็รีบนาออก และ
หวังว่าจะไม่ใช้เนตรกระจอกนั้นอีก!”
ตอนที่930 ไร้ เหตุผลยิ่ง

เยวี่ยหยุนเฟยโกรธเกรี้ ยวถึงขีดสุ ดจนหน้าดาสลับแดง


ภายในเมืองจันทร์ฉายแห่ งนี้ไม่เคยมีใครกล้าหยิง่ ผยองต่อ
หน้าเขาขนาดนี้มาก่อน

สถานที่ที่พวกเขายืนอยู่ ณ ตรงนี้คือ เมืองจันทร์ ฉาย ซึ่ง


เป็ นถิ่นดินแดนของเขา แต่เย่หยวนกลับเล่นบทตรงข้าม
วางกิริยาท่าทางราวกับเจ้าบ้านเสี ยเอง และแขกผูม้ าเยือน
ก็คือเยวี่ยหยุนเฟย

ทุกคนโดยรอบกลับพูดไม่ออก เย่หยวนเป็ นเพียงหนึ่ ง


ตัวอย่างของอัจฉริ ยะที่หยิง่ ผยองเกินไปคนหนึ่ง แม้เขาจะ
พอมีความสามารถบางอย่างจริ งๆ แต่เขาก็ไม่สามารถทา
อันตรายอันใดต่อหน้าตระกูลเยวี่ยได้อยูด่ ี

อัจฉริ ยะเช่นนี้ มกั ประสบเภทภัยเพราะตนเองนับครั้งไม่


ถ้วนแล้ว

“ดี ดีมาก ดีจริ งๆ! ไอ้เหลือขออาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้า


ตัวน้อย กลับอาละวาดหนักถึงเพียงนี้จริ งๆ! มันคิดท้าทาย
ตระกูลเยวีย่ ของข้าจริ งๆ!”
เยวี่ยหยุนเฟยในขณะนี้โกรธแค้นจนเกินระงับไหวแล้ว
เขาเร่ งหยิบยันต์อาคมชนิดหนึ่ งออกมาทันที พร้อมเปิ ดใช้
โดยกรอกเทพลังปราณลงไปอย่างรวดเร็ ว

หวูบบบ!

เสี ยงดังทะลวงแก้วหูดงั ขึ้นฉับพลัน จากนั้นเขาก็โยนยันต์


อาคมนั้นออกไปกลางห้วงเวหา ทันใดนั้นมันก็ติดไฟ
กลายเป็ นควันทันที
การเปิ ดใช้ยนั ต์อาคมนี้ให้เกิดควันช่างสะดุดตาอย่างยิง่
เป็ นที่ชดั เจนว่ามันคือการส่ งสัญญาณ

เมื่อเห็นสถานการณ์เป็ นเช่นนี้ สี หน้าการแสดงออกของ


ติงซื่ออวี้พลันแปรเปลี่ยนอย่างมาก เรื่ องต่อไปหลังจากนี้
มันเกินมือนางแล้วจริ งๆ

ในคราแรกนางเพียงไม่ตอ้ งการกลับบ้านเท่านั้น แต่ใคร


จะไปคาดคิดว่าเหตุการณ์กลับเลวร้ายลงถึงขั้นนี้เสี ยแล้ว?
“เย่หยวน รี บหนีเร็ ว! ตระกูลเยวี่ยทรงอิทธิพลกว่าที่เจ้า
จินตนาการนัก! เจ้าไม่มีทางต้านทานขุมพลังพวกเขา
ไหว!”

ติงซื่ออวี้เร่ งกล่าวขึ้น

เยวี่ยหยุนเฟยปั้นสี หน้าสุ ดเย้ยหยันเมื่อเห็นดังนั้น และ


กล่าวว่า

“ไอ้เหลือขอ ในคราวนี้อย่าคิดหนีเตลิด! ศักดิ์ศรี ของ


ตระกูลเยวี่ยใช่วา่ เหยียบย้าแล้วจากไปได้ง่ายๆ!”
เยวี่ยหยุนเฟยรังเกียจเย่หยวนเกินพรรณนายิง่ เนตรสวรรค์
เคียงจันทร์นบั เป็ นไพ่ตายที่แข็งแกร่ งที่สุดของเขา แต่มนั
กลับไม่สามารถทาอะไรเย่หยวนได้จริ งๆ แถมยังถูกสบ
ประมาทขั้นหนักว่าเป็ นเนตรกระจอก

และด้วยนิสัยของเขาโดยธรรมชาติที่เป็ นคนรอบคอบ เขา


จึงส่ งสัญญาณเรี ยกรวมพลสมาชิกคนอื่นๆให้มาช่วยเหลือ

เย่หยวนมิได้มีเจตนาวิ่งหนีแม้แต่นอ้ ย เขายังคงกล่าวอย่าง
ใจเย็นว่า
“วิ่งหนี? แล้วทาไมข้าต้องวิ่งหนี? ภายใต้สถานการณ์
เช่นนี้ หากเยวี่ยเจี้ยนฉิ วไม่ออกมาเชื้อเชิญข้าเป็ นการ
ส่ วนตัว ก็อย่าหวังให้ขา้ เสด็จไปยังตระกูลเยวี่ย ในทาง
กลับกัน หากเขาทราบเรื่ องนี้ ล่ะก็ ท่านจะถูกทัณฑ์บน
ลงโทษอย่างหนักโดยตระกูลเยวี่ยเสี ยเอง”

ผึ้นโดยรอบแทบเสี ยศูนย์ในทันทีที่ได้ยนิ เย่หยวนคุยโวโอ้


อวดทะลวงฟ้าขั้นนี้

การดารงอยูเ่ ช่นนั้นถึงกับต้องออกเชื้อเชิญเจ้าหนุ่ม
อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าด้วยตนเอง?
การที่จู่ๆเย่หยวนก็เรี ยกนาม ติงฉางกัว และ เยวี่ยเจี้ยนฉิ ว
หยาบๆเช่นนี้ออกมาโดยตรง หรื อเจ้าหนุ่มคนนี้ไม่ทราบ
เลยว่า พวกเขาทั้งสองเป็ นถึงประมุขตระกูลอันยิง่ ใหญ่?

มีเพียงบุคคลทรงอิทธิพลในระดับชั้นเดียวกันเท่านั้น ที่
กล่าวเอ่ยนามคนเหล่านี้ได้โดยตรง

อย่างน้อยที่สุด แม้แต่ยอดฝี มืออาณาจักรเต๋ าลึกล้ าระดับ


แปดหรื อเก้ายังไม่กล้าเอ่ยนามโดยตรง!

เยวี่ยหยุนเฟยกล่าวขึ้นด้วยรอยยิม้ เย็นว่า
“ช่างน่าขัน! แกคิดว่าตนเองเป็ นใคร? ใหญ่มาจากไหน?!
แล้วเหตุใดท่านประมุขตระกูลต้องออกมาต้อนรับแกเป็ น
การส่ วนตัว?”

เย่หยวนหยักไหล่ตอบ พร้อมจับจ้องอีกฝ่ ายด้วยสายตาสุ ด


เหยียดหยาม

เมื่อเห็นภาพฉากนี้ของอีกฝ่ าย ไม่ทราบเหตุใด เบื้องลึก


ภายในใจเยวี่ยหยุนเฟยกลับสั่นระรัวขึ้นอย่างไม่แน่ใจ

หรื อเป็ นไปได้ไหมว่า…เบื้องหลังของเด็กเหลือขอนี่จะมี


การดารงอยูก่ นั ทรงพลังคอยปกป้อง?
แต่มนั จะเป็ นไปได้อย่างไร!

ในฐานะสมาชิกตระกูลเยวี่ย เขาย่อมทราบดีวา่ ยอด


อัจฉริ ยะในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยุคปัจจุบนั มีใครผูใ้ ดบ้าง ซึ่ง
แน่นอนว่าเขาไม่เคยได้ยนิ ชื่อเย่หยวนมาก่อน!

ไอ้เหลือขอตรงหน้าเพียงแค่คุยโวใหญ่โตเท่านั้น!

ฝูงชนจานวนมากเริ่ มจับกลุ่มสนทนาเป็ นวงใหญ่ข้ นึ


เรื่ อยๆ
ในปัจจุบนั ภายในเมืองจันทร์ฉายเหล่านี้เต็มไปด้วยเหล่า
ยอดอัจฉริ ยะจากทัว่ ทุกพื้นที่ การปะทะระหว่างท้องถนน
อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่ออย่างเลี่ยงมิได้ ดังนั้นทางตระกูลเยวี่
ยจึงส่ งยอดฝี มืออาณาจักรเต๋ าลึกล้ าออกไปลานตะเวน
เพื่อเลี่ยงการเกิดปั ญหาต่างๆ

“เกิดอะไรขึ้น หยุนเฟย?”

ชายวัยกลางคนอีกหนึ่งที่เพิ่งมาถึงหน้านิ่วกล่าวขึ้น

สาหรับเรื่ องที่เยวี่ยหยุนเฟยเผาควันส่ งสัญญาณออกไป


เขาผูน้ ้ ีไม่ค่อยพอใจอย่างชัดเจน ในปัจจุบนั ทันด่วน
สมาชิกทุกคนของตระกูลเยวี่ยต่างยุง่ เหยิงจนมือพันกัน
หมดแล้ว แต่นี่ยงั ต้องปลีกตัวออกไปช่วยบริ เวณอื่นอีก

ในขณะนี้เหล่าอัจฉริ ยะจากทัว่ ทุกมุมกาลังรวมตัวกันที่


เมืองจันทร์ฉาย และมีอีกมากหมายหลายขุมกาลังที่แม้แต่
ตระกูลเยวี่ยก็มิอาจยัว่ ยุได้

ใครคือเยวี่ยหยุนเฟย เย่หยวนเองก็จามิได้เช่นกัน สถานะ


ศักดิ์ของเขาในชีวิตก่อนหน้าสู งส่ งเกินกว่าจะมาจดจาตัว
ประกอบเช่นนี้ เมื่อเขาจาต้องถ่อมาถึงเมืองจันทร์ฉาย นั้น
หมายความว่าต้องมีเหตุเกี่ยวกับบุคคลสาคัญโดยตรง
ต่อหน้าจักรพรรดิโอสถที่อายุน้อยที่สุดอย่างจี้ฉิงหยุน ตัว
ละครปลาซิวปลาสร้อยอย่างเยวี่ยหยุนเฟยมีสิทธิ์เพียงเฝ้า
มองจากระยะไกลเท่านั้น

แต่ปัจจุบนั บุคคลที่อยูต่ ่อหน้าเขา กลับเป็ นเด็กหนุ่มวัย


ยีส่ ิ บปี นามเย่หยวนเท่านั้น นี่นบั เป็ นอันใด?

บุคคลอีกหนึ่งที่เพิ่งมาถึงหน้าแก่กว่าเยวี่ยหยุนเฟย
เล็กน้อย แต่เป็ นคนรุ่ นเดียวกับเยวี่ยเจี้ยนฉิ ว ดูท่าแล้ว
น่าจะเป็ นลุงของเยวี่ยหยุนเฟยนามว่า เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ ง
นับว่าเป็ นเรื่ องบังเอิญ ในครานั้นที่จ้ ีฉิงหยุนเดินทางมาถึง
เมืองจันทร์ฉาย ก็เป็ นเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งผูน้ ้ ีที่จดั การดูแล และ
อานวยความสะดวกทุกอย่างประหนึ่งพ่อบ้าน ระหว่างทั้ง
สองนับว่ามีความสัมพันธ์กนั อยูบ่ า้ ง

เยวี่ยหยุนเฟยเข้ากระซิบเบาๆให้แก่เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งฟัง
ทันใดนั้นคิ้วของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งพลันกระตุกโดยมิต้ งั ใจ
พร้อมหันมองเย่หยวนในทันที
“เจ้าหนุ่ม ถึงแม้ตระกูลเยวี่ยของข้าจะมิใช่ตระกูลชั้นนา
บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่เราก็มิได้อ่อนแอจนใครต่อใคร
สามารถรังแกโดยง่าย! สาหรับเรื่ องราวในคราวนี้ เจ้ามี
อันใดต้องการอธิบายเยวี่ยผูน้ ้ ี หรื อไม่?”

เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งกล่าวถามอย่างเคร่ งครึ ม

ในขณะนี้จานวนฝูงชนที่แห่เข้ามาดูเริ่ มเพิ่มมากขึ้นอย่าง
ต่อเนื่อง เรื่ องนี้นบั เป็ นประเด็นใหญ่ของวัน

พวกเขาตระกูลเยวี่ยไม่สามารถทาให้เย่หยวนก้มหัวขอ
โทษได้ นี่นบั เป็ นความอัปยศชนิดหนึ่ ง และหากเรื่ องนี้
กระจายออกไป ต้องกลับกลายเป็ นเรื่ องตลกเรื่ องหนึ่ งใน
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แน่นอน

สิ่ งที่เยวี่ยเจี้ยนเฟยต้องการในตอนนี้คือ การเปิ ดโอกาสให้


พวกตนลงจากหลังเสื อที่เต็มไปด้วยความอึดอัดเท่านั้น

เย่หยวนยังคงยืนอกผ่ายด้วยท่าทางอันภาคภูมิ ทั้งๆที่
เผชิญหน้าอยูก่ บั เยวี่ยเจี้ยนเฟย เขาก็ยงั ไร้ซ่ ึงความเกรง
กลัวใดๆ เขายิม้ และกล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า

“คาอธิบาย? คาอธิบายอันใด? แท้ที่จริ ง เรื่ องในวันนี้มิได้


เกี่ยวข้องกับตระกูลเยวี่ยเลยตั้งแต่แรก แต่เพราะเยวี่ยหยุน
เฟยเข้ามา และตัดสิ นรู ปการณ์อย่างไม่เป็ นธรรม ขาวดา
แบ่งแยกไม่ชดั เจน ให้ทา้ ยติงซัวโดยไม่ฟังเหตุผลของข้า
ทั้งหมดคงเพียงเพราะข้ามิใช่คนจากตระกูลใหญ่กระมัง?
หากตระกูลเยวี่ยตัดสิ นตัวบุคคลด้วยวิธีเช่นนี้ พลเมืองดี
อย่างข้าสักวันคงหมดไป?”

คากล่าวของเย่หยวนเกระตุน้ คลื่นฝูงชนจนโกลาหลยก
ใหญ่

เหล่านักสู ้ลว้ นถูกแบ่งทอนเป็ นหลายหลากระดับ และ


เป็ นไปไม่ได้ที่ตระกูลเยวี่ยจะทาตัวเป็ นกลางได้เสมอไป
แต่เรื่ องละเอียดอ่อนเช่นนี้ นับเป็ นเรื่ องยากยิง่ ที่จะกล่าว
ขึ้นในที่สาธารณะ ไม่เช่นนั้นหากไม่ระวังคาตอบอาจทา
ให้คนจานวนมากขุ่นเคือง

อย่างไรก็ตาม เหล่าอัจฉริ ยะที่มีภูมิหลังยิง่ ใหญ่ระดับพลิก


ฟ้าคว่าสมุทรกลับมีไม่มาก

เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งแอบสาปส่ งสหายหนุ่มตรงหน้าเล็กน้อย


เพียงหนึ่งประโยคแรกก็คิดที่จะคว้าใจฝูงชนไปเสี ย

เมื่อเย่หยวนจาต้องจับคู่ติงซัว แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมเป็ น
ฝ่ ายเสี ยเปรี ยบ ซึ่งคากล่าวเหล่านี้ได้กระตุน้ ผูค้ นโดยส่ วน
ใหญ่ที่อยูใ่ นฐานะเดียวกันได้ง่ายดายนัก
ด้วยวิธีเดินหมากเช่นนี้ของเย่หยวน ตระกูลเยวี่ยจาต้อง
เคลื่อนไหวระมัดระวังยิง่ ขึ้น

ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว อากลากชื่อเสี ยงตระกูลเยวี่ย


ทั้งหมดจมบ่อโคลนทันที

เสี ยงโห่ร้องอันกู่กอ้ งของฝูงชน สามารถทาลายรากฐาน


วิหารได้

แม้ตระกูลเยวี่ยจะไม่หวาดกลัวในพลังของคนเหล่านี้ แต่
กลับมีอิพธพลต่อตระกูลเยวี่ยในระยะยาว
“หยุนเฟิ งเพียงทาหน้าที่รักษาความสงบไปตามระเบียบ
เท่านั้น ทุกคนในที่น้ ีก็เห็นกันชัดแจ้งว่า เจ้าชักดาบฆ่า
ผูอ้ ื่น แล้วสิ่ งใดคือลาเอียง? ยิง่ ไปกว่านั้นเจ้ายังกล้ากล่าว
วาจาเหยียดหยามตระกูลเยวี่ย!”

เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งเป็ นถึงผูอ้ าวุโสของตระกูลและเคารพรักใน


ตระกูล สาหรับทัศนคติอนั หยามเหยียดของเย่หยวนที่มี
ต่อตระกูลเยวี่ย เขาย่อมไม่พอใจเป็ นธรรมดา
เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิม้ เย็นว่า

“ติงซัวใช้ตะเกียงอาคมพันธนาการเพื่อฆ่าข้า และข้าก็ไม่
เชื่อว่าเหตุการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้น เยวี่ยหยุนเฟยจะไม่เห็น
มัน ทั้งๆที่เป็ นแบบนั้น ไฉนถึงไม่เข้ามาห้าม? แต่พอข้า
ตอบโต้กลับเข้ามาและยัดคดีให้ขา้ เป็ นคนผิด? หากตัวข้า
ไร้เหตุผล ตัวต้นเรื่ องคงไร้เหตุผลกว่ากระมัง! ตัดสิ นขาว
ดาขาดตก ตระกูลเยวี่ยสมควรถูกเย้ยหยันหรื อไม่?”

แท้ที่จริ ง เย่หยวนสัมผัสถึงการมีอยูข่ องเยวี่ยหยุนเฟยนาน


แล้ว เพียงแค่วา่ อีกฝ่ ายไม่ยอมเปิ ดเผยตัว
หากเยวี่ยหยุนเฟยจัดการเรื่ องนี้ อย่างยุติธรรมในเวลานั้น
เย่หยวนย่อมเมินเฉยต่อเรื่ องนี้ แต่ไม่เพียงลาเอียงคิดปล่อย
เขาตายโดยไม่ยอมช่วย ทว่าเมื่อเย่หยวนตอบโต้ อีกฝ่ าย
กลับเข้ามาห้ามและโยนความผิดทั้งหมดให้เขาทันที

ติงซัวที่ยนื เงียบอยูข่ า้ งๆมาโดยตลอด เมื่อได้ยนิ คากล่าว


ของเย่หยวน หน้าของเขาก็แดงขึ้นลามไปยังใบหู

เขาใช้แม้กระทั้งตะเกียงอาคมพันธนาการ แต่ก็ยงั เกือบ


ถูกเย่หยวนผ่าออกเป็ นสองซี ก ความอัปยศอดสู ชนิดนี้
มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต

หลังจากวันนี้เป็ นต้นไป เขาอาจกลายเป็ นตัวตลกใน


สายตาของทุกคน
คิว้ ของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งขมวดขึ้นทันที พร้อมรู ้สึกเดือดดาล
ขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

จิตใจของเย่หยวนเป็ นดัง่ กระจกใส ยิง่ มาพร้อมกับความ


หัวรั้นขั้นสุ ดขัว่ การจะให้เขายอมลดศีรษะให้มิใช่เรื่ อง
ง่ายแต่อย่างใด!

หากเขายังไม่สามารถจัดการเรื่ องนี้ได้ ก็เหลือเพียงเรี ยก


กาลังเสริ มมาเพิ่ม เพื่อบังคับให้เย่หยวนยอมแพ้!
ตอนที่931 ไปเรียกเยวี่ยเจีย้ นฉิวมา!

แววตาเหยียดเย็นของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งที่เจืออยูเ่ บื้องลึก มันจะ


หนีพน้ จากสายตาของเย่หยวนได้อย่างไร?

เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งอยูท่ ี่อาณาจักรเต๋ าลึกล้ าระดับห้า แม้กระทั้ง


ในตระกูลเยวี่ยสถานะของเขานับว่าค่ขา้ งสู ง

แต่แล้วอย่างไร เย่หยวนกลับมิได้ใส่ ใจเลย เขาจับจ้องไป


ยังเยวี่ยเนเฟิ้ งด้วยรอยยิม้ ที่ไม่ใช่รอยยิม้ และกล่าวขึ้นว่า

“เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ ง ไม่วา่ อย่างไร นี่ ถือเป็ นครั้งแรกที่ตระกูล


เยวี่ยตัดสิ นปัญหาอย่างอยุติธรรม แต่ท่านถึงขั้นต้องลงไม้
ลงมือเลยงั้นรึ ?”
สี หน้าท่าทางของเยวี่ยเจี้นเฟิ้ งมืดลง เย่หยวนมองอ่านผ่าน
ความคิดของเขาได้ทะลวงขนาดนี้ เขายังสามารถลงมือ
ใดๆได้อีก?

ไอ้เหลือขอคนนี้ถือเป็ นปั ญหายิง่ ที่จะจัดการ!

แต่ใครจะรู ้วา่ จู่ๆเย่หยวนก็กล่าวขึ้นต่อ

“ดูเหมือนว่าเส้นลมปราณหยางเฉี ยวของท่านจะหายดี
แล้ว!”
ทัว่ ทั้งร่ างของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งแข็งทื่อไปในทันที พร้อมจับ
จ้องเย่หยวนแข็งค้างไม่วางตาด้วยความสงสัยสุ ดขีด

เมื่อหลายปี มาแล้ว มีอยูค่ รั้นหนึ่ง เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งได้รับ


บาดเจ็บภายในอย่างหนักระหว่างการต่อสู ้ แม้อาการ
บาดเจ็บของเขาจะหายดีในภายหลัง แต่พลังเนตรสวรรค์
เคียงจันทร์ของเขากลับได้รับผลกระทบขั้นหนัก

เหล่าสมาชิกตระกูลเยวี่ยทุกคน ตราบใดที่สามารถเบิก
เนตรขึ้นได้ ไพ่ตายที่แข็งแกร่ งที่สุดของพวกเขาล้วนเป็ น
เนตรสวรรค์เคียงจันทร์

พลังเนตรของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งในขณะนั้นอ่อนแอจนด้อยค่า
เกินจินตนาการ
ผูอ้ าวุโสของตระกูลที่เป็ นจักรพรรดิโอสถในเวลานั้น ได้
ตรวจวินิจฉัยและพบว่า เส้นลมปราณหยางเฉี ยวของเขา
ได้รับความเสี ยหายเกินครึ่ ง ดังนั้นจึงส่ งผลไปถึงพลัง
เนตรของเขา ทว่านี่เป็ นเพียงการวินิจฉัย ส่ วนขั้นตอนการ
รักษากลับมีความเสี่ ยงเกินไป

เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งต่างแสวงหาจักรพรรดิโอสถมมากมายให้มา
รักษาตน แต่ก็ไม่มีใครสามารถรักษาเส้นลมปราณหยาง
เฉี ยวได้เลย จนกระทั้งจี้ฉิงหยุนเสด็จมายังเมืองจันทร์ฉาย
ในครั้นกระโน้น

ในตอนนั้น เมื่อจี้ฉิงหยุนเสด็จมาถึงเมือง เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งพ


ยายามวางตัวให้สุภาพและรอบคอบที่สุด รี บได้วา่ หัวใจ
เกือบหยุดเต้นหลายรอบ ซึ่ งแน่นอนว่า โดยธรรมชาติของ
จี้ฉิงหยุน เขาย่อมอ่านความคิดอ่านของอีกฝ่ ายออก พร้อม
แนะแนวหนทางรักษาและส่ วนประกอบโอสถต่างๆขึ้น
ลอยๆ อีกฝ่ ายเร่ งจดจาสรรพสิ่ งที่จ้ ีฉิงหยุนแนะแนวให้
และค่อยๆรักษาเรื่ อยมา

ในช่วงไม่กี่ปีผ่านมา อาการบาดเจ็บของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ ง
แทบหายดีเป็ นปกติแล้ว พลังเนตรสวรรค์เคียงจันทร์เองก็
ฟื้ นคืนสู่ สภาวะสู งสุ ดแล้วเช่นกัน

สามารถกล่าวได้เลยว่า เย่หยวนได้มอบชีวิตใหม่ให้แก่
เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งอีกครั้ง

เนื่องจากเรื่ องนี้ มีผลกระทบต่อตาแหน่งของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ ง


ในตระกูล ทุกคนที่ทราบจึงถูกสั่งห้ามมิให้แพร่ งพราย
และเก็บเป็ นความลับเสมอมา แต่กระนั้นเขาไม่คาดไม่ฝัน
เลยว่า จู่ๆเย่หยวนจะขุดเรื่ องนี้ ออกมาจริ งๆ สิ่ งนี้ จะไม่ทา
ให้เขาตกใจได้อย่างไร?
เย่หยวนจับจ้องอีกฝ่ ายและส่ ายหัวพรู ลมหายใจยาวไม่
หยุด

“ทาคุณบูชาโทษแท้! นับว่าผิดพลาด ผิดพลาดจริ งๆ!”

เมื่อมาถึงจุดเย่หยวนไม่กล่าวใดๆอีก กระทั้งสี หน้ายังไม่


แม้แต่เปิ ดเผยร่ องรอยอันใด
สี หน้าของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งมืดลงและกล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็น
ว่า

“ผิดพลาดอะไรของเจ้า?!”

เย่หยวนสาดสายตาใส่ เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งสุ ดเย็นยะเยือก และ


กล่าวขึ้นอย่างเรี ยบนิ่ งว่า

“อย่าได้กล่าวถามอันใดอีก สรุ ปจะจับข้าหรื อไม่?”


“ท่านลุงเฟิ้ ง มันกล่าวไร้สาระสิ้ นดี! ภูมิหลังของไอ้
เหลือขอนี้คงไม่มีอนั ใด ก็แค่สวะตามทางจากตระกูล
กระจอก มันมาที่นี่เพียงเพื่อสร้างปัญหา! จับมันแล้ว
นาไปลงโทษ!”

เยวี่ยหยุนเฟยกล่าวแทรกขึ้น

เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งยกมือหยุดมิให้เยวี่ยหยุนเฟยกล่วาต่อ เขาสู ด


หายใจลึกๆและกล่าวว่า

“เจ้าหนุ่ม เจ้ารู ้อนั ใดกันแน่?”


คากล่าวเหล่านี้มิใช่เสแสร้ง เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งถามขึ้นด้วยสี
หน้าจริ งจังพร้อมน้ าเสี ยงเชิงขอคาแนะนา

เย่หยวนยังคงเมินเฉยกับอีกฝ่ าย ก่อนอ้าปากกล่าวขึ้นอย่าง
คร้านใส่ ใจว่า

“ในช่วงหลายปี มานี้ คงมีบางเหตุการณ์ที่ท่านรู ้สึกพลัง


ปราณอ่อนแอ? ทุกครั้งในระหว่างทาสมาธิ จู่ๆท่านก็ไม่
สามารถสัมผัสถึงพลังปราณได้ ข้ากล่าวถูกหรื อไม่?”
ในขณะที่เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งได้ฟัง สี หน้าการแสดงออกของเขา
ก็ยงิ่ แปรเปลี่ยนมากขึ้น ทุกวาจาที่เย่หยวนเปล่งออกมา
ล้วนเป็ นความจริ งทุกประการ!

“เจ้า…เจ้าทราบได้อย่างไร?!”

เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งตกตะลึงอย่างยิ่งจนกล่าวติดอ่าง

แต่เย่หยวนกลับโบกมือปัดและคร้านจะตอบ
เยวี่ยเจีเยนเฟิ้ งราวกับถูกตรึ งแข็งในบัดดล ในคราแรกเขา
ทราบว่า เย่หยวนพยายามกล่าวเพื่อกระตุน้ โทสะเขาให้
เคลื่อนไหว

ทว่าหลังจากที่ได้ยนิ เย่หยวนกล่าวประเมินสภาพร่ างกาย


ของเขา นี่มิใช่เรื่ องปกติแล้ว ไม่สิ…นี่ มิใช่เรื่ องที่ชายหนุ่ม
คนนี้ควรจะทราบได้เลย!

ปัญหาเล็กน้อยในตอนแรก เขามิได้ให้ความสาคัญอะไร
มากนัก แต่เมื่อได้ยนิ วาจาเช่นนี้จากปากเย่หยวน กิริยา
ท่าทางของเขาก็ดูอ่อนโยนลงพร้อมให้ความสาคัญกับ
เรื่ องนี้อย่างจริ งจัง
เหล่านักสู ้มากมายทัว่ สารทิฒต่างจับจ้องภาพเหตุการณ์ใน
ขณะนี้ไม่วางตา พวกเขาล้วนรู ้เรื่ องเส้นลมปราณหรื อสิ่ ง
ผิดปกติภายในร่ างมากกว่าผูค้ นทัว่ ไป เมื่อได้ยนิ คากล่าว
เหล่านั้น พวกเขาต่างตกใจไม่น้อย

เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งสู ดหายใจลึกๆ และเข้าโค้งคานับเย่หยวน


ทันทีพร้อมกล่าวว่า

“เยวี่ยผูต้ ่าต้อยมีตาหามีแววไม่! เรื่ องนี้หยุนเฟยผิดพลาด


จริ งๆ ข้าผูต้ ่าต้อยต้องขอโทษน้องเล็กแทนเขาด้วย! หาก
น้องเล็กยังคงว่างและไม่ทราบจะไปที่ใด โปรดให้เกียรติ
ไปเยีย่ มเยียนตระกูลเยวี่ยพร้อมสนทนากันสักครา?
สุ ดท้ายนี้…โปรดรับการขอขมาจากเยวี่ยคนนี้ดว้ ยเถิด!”

เมื่อกล่าวคาเหล่านี้ดงั ขึ้น กลางฝูงชนประหนึ่งระเบิดแห่ ง


ความโกลาหลลูกยักษ์ลงทันที!

เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งเป็ นบุคคลอันสู งศักดิ์ภายในเมืองจันทร์ ฉาย


แห่งนี้ ทว่าแท้ที่จริ ง เขากลับให้ความเคารพอย่างยิง่ ต่อเจ้า
หนุ่มขี้เปี ยกหลังหูคนนี้ แถมยังถึงขั้นลดศีรษะขอขมา!
ในท้ายที่สุดนี้ คนที่โศกเศร้าสุ ดพรรณนามิใช่ใครอื่น
นอกจาก เยวี่ยหยุนเฟย เขารอคอยการมาถึงของเยวี่ยเจี้ยน
เฟิ้ งหวังเพื่อช่วยจัดการเย่หยวน แต่ใครจะรู ้วา่ เพียงวาจา
ของเย่หยวนเปล่งออกไปไม่กี่คา ถึงขั้นทาให้เยวี่ยเจี้ยน
เฟิ้ งก้มศีรษะขนาดนี้

ในตอนนี้ กลับกลายเป็ นว่า ทั้งหมดเป็ นความผิดของเขา


แทน

แต่เย่หยวนโบกมือปัดและกล่าวขึ้นว่า

“ข้าไม่อยากฟังคาแก้ตวั ใดๆทั้งนั้น! และหากมิใช่เยวี่ย


เจี้ยนฉิ วออกมาเชื้อเชิญข้าด้วยตนเอง ก็อย่าหวังให้ขา้ เข้า
เหยียบตระกูลเยวี่ย! และอย่ามองข้าด้วยสี หน้าเช่นนั้น! ข้า
กล่าวตามตรง อาการของท่านยังคงน่าเป็ นห่วง แม้จะดู
คล้ายหายขาด แต่นี่กลับมิใช่เรื่ องเล็ก! ส่ วนที่วา่ จะเชื่อ
หรื อไม่ สุ ดแท้แล้วแต่วาสนาท่าน”

เมื่อได้ยนิ คากล่าวเหล่านี้ กระจิตกระใจของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ ง


ยิง่ ดูย้าแย่ลงไปอีก กระทั้งมือไม้ยงั แอบสั่นเทาเบาๆ

สิ่ งที่เย่หยวนกล่าวจนถึงตอนนี้ ลว้ นแม่นยาราวกับตาเห็น!


เขาเองก็รู้สึกรางๆได้วา่ ทุกอย่างยังคงน่าเป็ นห่วงแต่ไม่รู้
เพราะเหตุใด และยิง่ ได้ยนิ คากล่าวเมื่อครู่ มันยิง่ ทาให้เขา
ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อมัน่ ในตัวเย่หยวน!

เว้นเสี ยหากต้องการให้เยวี่ยเจี้ยนฉิ วมาเชื้อเชิญเย่หยวน


เป็ นการส่ วนตัว ในเวลานี้นบั เป็ นเรื่ องยากเกินไป
“ท่านลุงเฟิ้ ง ไอ้สวะนี่ มนั จงใจกล่าวเช่นนี้เพื่ออันใด?!
ท่านอย่าไปหลงเชื่อมันเด็ดขาด ทุกสิ่ งที่มนั กล่าวมาล้วนมี
แต่ขยะมูลฝอย! จับตัวมัน แล้วทรมานอย่างเหี้ ยมโหด
สถานเดียว!”

เยวี่ยหยุนเฟยยังคงไม่ยอมแพ้และเข้าหาเรื่ องเย่หยวนทันที

สี หน้าของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งมืดดาลงดัง่ ก้นหม้อไหม้ และ


ตะคอกใส่ เยวี่ยหยุนเฟยอย่างเยือกเย็นว่า
“หุบปากเดี๋ยวนี้ ! เรื่ องทั้งหมดที่เกิดขึ้นล้วนเป็ นความผิด
ของเจ้า! อะไร? นี่ยงั ไม่รีบคุกเขาขอโทษน้องเล็กอีกงั้น
รึ ?!”

เยวี่ยหยุนเฟยยืนตะลึงตัวแข็งในบัดดล เขาไม่คาดไม่ฝัน
เลยว่า เยวี่ยเจียนเฟิ้ งจะเป็ นคนจึดไฟเผาตัวเขาเสี ยเอง เขา
ตกใจจนถึงขั้นเสี ยศูนย์ไปชัว่ ครู่ หนึ่ง

“เจ้ายังงุนงงอันใดอีก?! หรื อเป็ นไปได้ไหมว่า เจ้าต้องการ


รับทัณฑ์บนจากตระกูลเยวี่ย!?”

คากล่าวของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งเยือกเย็นสุ ดขั้ว ประหนึ่งว่าเย่


หยวนเป็ นญาติคนสาคัญของเขา
จับตัวมัน แล้วทรมานอย่างเหี้ ยมโหด นี่มนั เรื่ องตลกอัน
ใด?

การที่สามารถมองอ่านอาการเจ็บปวดภายในร่ างได้ดว้ ย
ตาเปล่า การดารงอยูร่ ะดับชั้นนี้มิใช่สิ่งที่ตระกูลเยวี่ยจะ
สามารถยัว่ ยุได้เลย

อย่างน้อยที่สุด กระทั้งจักรพรรดิโอสถยังไม่สามารถ
วิเคราะห์อาการป่ วยของเขาได้ท้ งั ๆที่จบั ชีพจร แต่ชาย
หนุ่มคนนี้ช้ ีแจงอาการทั้งหมดได้อย่างแม่นยาเพียงแค่
มอง!

แต่เยวี่ยหยุนเฟยกลับกล้าแสดงกิริยาต่าช้าต่อหน้าชาย
หนุ่มผูน้ ้ ีจริ งๆ นี่ จะไม่ทาให้เขาพิโรธได้อย่างไร?
เมื่อตกอยูใ่ นสถานการณ์เช่นนี้ เยวี่ยหยุนเฟยก็ไม่มี
ทางเลือกอื่นเช่นกัน

ทันทีที่ได้ยินคาว่า ทัณฑ์บน ทัว่ ทั้งร่ างของเยวี่ยหยุนเฟย


พลันสัน่ เทาไม่หยุดด้วยความหวาดกลัวโดยไม่ต้ งั ใจ เขา
เร่ งมาตรงหน้าเย่หยวนและกล่าวว่า

“นะ–น้องเล็ก เรื่ อง…เรื่ องทั้งหมดก่อนหน้า…ล้วนเป็ น


ความผิดของหยุนเฟย! โปรดภัยให้ขา้ ด้วยเถิด!”
เยวี่ยหยุนเฟิ ยรู ้สึกกดดันอย่างมาก ในวันนี้ไม่เพียงเขาจะ
หน้าแตกเป็ นเสี่ ยงๆ แต่ยงั กระทบถึงหน้าตาตระกูลเยวี่ย
โดยตรง!

วันนี้ท่านลุงเฟิ้ งกินยาผิดแขนงหรื อไม่? ถึงเชื่อคากล่าวไร้


สาระของไอ้สวะนี้ได้!

เย่หยวนกล่าวตอบอย่างไม่ใส่ ใจอันใดว่า

“ข้ากล่าวไปก่อนหน้าแล้ว เจ้าเตรี ยมรับทัณฑ์บนได้เลย


และนี่เป็ นเพียงจุดเริ่ มต้นเท่านั้น!”
เมื่อกล่าวจบเขาก็หันไปหาเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งอีกครา และกล่าว
ว่า

“ข้าจะไม่มีวนั ย่างเหยียบเข้าตระกูลเยวี่ยแน่นอน หาก


ต้องการให้ขา้ ไปจริ งๆ ก็ไปเรี ยกเยวี่ยเจี้ยนฉิ วมา!”

เมื่อเห็นทัศนคติอนั หยาบคายของเย่หยวน ลึกๆแล้วเยวี่ย


เจี้ยนเฟิ้ งเองก็ไม่ค่อยพอใจเช่นกัน แต่เขาทราบดีวา่ บุคคล
ระดับชายหนุ่มคนนี้ไม่สามารถยัว่ ยุหรื อสะกิดโทสะใดๆ
ได้เลย
“น้องเล็ก ในเวลานี้ ท่านประมุขตระกูลมีธุระมากมายที่ยงั
สะสางไม่หมด เรี ยกได้วา่ ยุง่ จนมือพัน ท่าน…ท่านคงมา
เชื้อเชิญน้องเล็กไม่ได้จริ งๆ!”

เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งกล่าวขึ้นอย่างยากลาบาก

เย่หยวนหันสวนเข้าจับจ้องและกล่าวขึ้นด้วยรอยยิม้ ทันที
ว่า

“ไปตามเขามา! แค่บอกอีกฝ่ ายว่า คนที่มาช่วยชีวิต


บุตรสาวท่านมาถึงแล้ว!”
สี หน้าการแสดงออกของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งเปลี่ยนไปแทบจะ
ในทันที และร้องอุทานลัน่ ด้วยความตะลึงสุ ดขีดว่า

“ท่าน…ท่านคือชายหนุ่มนาม…เย่หยวน?!”

ในคราแรกเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งยังแทนเย่หยวนว่า‘น้องเล็ก’
เนื่องจากเกริ่ นเกรงอยูห่ นึ่งส่ วน แต่เมื่อทราบนามอีกฝ่ าย
เขากลับแปรเปลี่ยนเป็ น‘ท่าน’ในทันที!

ไม่กี่ปีที่ผา่ นมานี้ นาม‘เย่หยวน’ช่างดังกึกก้องเฉี ยดนภา


ฟ้าภายในตระกูลเยวี่ย!
ตอนที่932 ราชรถแปดอาชาศึก

“เจ้าหนุ่มนั้นมันบ้าไปแล้วหรื ออย่างไร? ท่านเยวี่ยเจี้ยน


ฉิ วเป็ นคนแบบใดไฉนไม่ทราบ? ท่านจะยอมลดศักดิ์ศรี
มาหาเด็กหนุ่มคนหนึ่งได้อย่างไร?”

“แม้เจ้าหนุ่มนี่จะมีภูมิหลังใหญ่โตจริ งๆ แต่ก็เป็ นไปไม่ได้


ท่านเยวี่ยเจี้ยนฉิ วจะมาหาด้วยตัวเอง! หากท่านยอมมา
จริ งๆ วันนี้ ใบหน้าตระกูลเยวี่ยคงแหลกไม่เหลือชิ้นดี!”
“เหอะ เหอะ ชีวิตต้องมีสีสันเช่นนี้ถึงจะถูก! ข้าอยากดู
ตอนที่ตระกูลเยวี่ยขจัดโคลนเน่าไม่ไหวแล้ว!”

เย่หยวนยังคงยืนนิ่งอยูก่ ลางท้องถนนอย่างสงบเยือกเย็น
และไม่สนใจเสี ยงฝูงชนรอบข้างที่ดงั สนัน่ แม้สักนิด

อย่างไรก็ตามแนวโน้มฝูงชนที่แห่เข้ามายังมีจานวน
เพิ่มขึ้นต่อเยือ่ ง และด้วยปริ มาณมากมายเช่นนี้ ก็ถือเป็ น
เรื่ องยากยิง่ ที่ตระกูลเยวี่ยจะปิ ดเรื่ องนี้ได้
เย่หยวนได้เผาน่านฟ้าเหนื อเมืองจันทร์ ฉายไปกว่าครึ่ ง
หากเยวี่ยเจี้ยนฉิ วยอมแพ้และยอมลดศีรษะให้ เขาผูน้ ้ นั จะ
ไม่มีวนั เชิดหน้าชูตาได้อีกบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์

แต่ดา้ นข้าง เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งยังคงตกตะลึงยิง่ ภายในใจ เขา


คาดไม่ถึงเลยว่า ชายหนุ่มที่อยู่ต่อหน้าเขาจะเป็ น เย่หยวน
ผูส้ ร้างความอัปยศต่อตระกูลโจวดัง่ ยกเท้าขึ้นลูบหน้าใน
ครานั้น!

เมื่อสองปี ก่อน โจวหยานแอบเดินทางไปยังเมืองเทวะ


ตะวันพิโรธโดยพละการเพื่อสร้างปัญหา แต่ในท้ายที่สุด
เขากลับได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกหามกลับมายัง
ตระกูลโจวโดยผูใ้ ต้บญั ชา

เหตุการณ์น้ ีได้สร้างคลื่นความโกลาหลไปทัว่ ทั้งเมือง


สุ ริยนั อัคคี และเมืองจันทร์ฉายอย่างรุ นแรง

หลังจากที่โจวหยานถูกนาตัวกลับมา ผูอ้ าวุโสตระกูลโจว


ก็ลนั่ วาจาด้วยความอาฆาตว่า พวกเขาจะไปล้างบางเมือง
เทวะตะวันพิโรธให้สิ้นซาก!

แต่เหตุการณ์หลังจากนั้น กลับต้องตาลปัตร!
คนในย่อมทราบมากกว่าคนนอก ซึ่งตระกูลเยวี่ยเองก็
ทราบข้อเท็จจริ งในภายหลังเช่นกัน! ในตอนนั้นทันทีที่
เข้าดูอาการ โจวเจี่ยก็ทราบทันทีวา่ โจวหยานได้รับ
บาดเจ็บสาหัสโดยจอมราชันย์วิญญาณสัประยุทธ์!

สิ บจอมราชันย์ผยู ้ งิ่ ใหญ่ พวกเขาล้วนเป็ นการดารงอยูท่ ี่


ตระกูลโจวไม่สามารถสะกิดโทสะได้แม้แต่นอ้ ย!

และเจ้าหนุ่มจากแดนล่างอันอ่อนแอคนนั้น แท้ที่จริ งก็


เกี่ยวข้องสัมพันธ์กบั จอมราชันย์วิญญาณสัประยุทธ์ เมื่อ
เป็ นเช่นนี้แล้ว ตระกูลโจวยังกล้าเคลื่อนไหวโดยไม่
ระมัดระวังได้อย่างไร?
ตระกูลเยวีย่ รู ้จกั นามเย่หยวนมาตั้งนานแล้ว และสาหรับ
เรื่ องที่เย่หยวนสามารถรักษาเยวี่ยเมิ่งลี่ได้น้ นั พวกเขา
กลับไม่เชื่อแต่อย่างใด

พวกเขาคิดเช่นนั้นมาโดยตลอด จนโจวหยางกลับมา
พร้อมสภาพสุ ดอนาถ และตั้งแต่น้ นั เป็ นต้นมา พวกเขาก็
เริ่ มมีความหวังอีกครั้ง

อย่างไรก็แล้วแต่ นี่เป็ นเวลากว่าสองปี เต็มที่เย่หยวนไม่


เคยปรากฏตัวออกมาแม้กระทั้งเงา เรื่ องนี้ทาให้ตระกูล
เยวี่ยรู ้สึกกังวลอย่างยิง่ และเกรงว่าพวกเขาอาจต้องเสี ย
ความหวังสุ ดท้ายไปแล้ว
แม้เย่ชิงจะมีน้ ายาผสานจิตอสุ ราคอยประคับประคอง
อาการของเยวี่ยเมิ่งลี่ แต่สองปี ที่ผา่ นมา สภาพร่ างกายของ
นางก็ยงั ทรุ ดโทรมลงอย่างต่อเนื่อง

ในปัจจุบนั เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งไม่คิดไม่ฝันเลยว่า เย่หยวนผูน้ ้ นั


จะปรากฏกายต่อหน้าเขาจริ งๆในเวลานี้ !

เว้นเสี ยแต่ เขามิได้คาดหวังว่า ทั้งสองฝ่ ายจะได้พบกันใน


ลักษณะเช่นนี้
ในเวลาเดียวกับที่ฝงู ชนจับกลุ่มสนทนาดังระงม จู่ๆพลัน
ปรากฏสุ่ มเสี ยงอาชากู่ร้องจากฟากฟ้า

ทุกคนล้วนหันไปจับจ้องต้นเสี ยงจนเป็ นตาเดียว และ


พบว่าเป็ นขนวนอาชาพร้อมราชรถอหังการกาลังบินมา
จากระยะไกล

ขบวนอาชาและราชรถนี้ช่างอลังยิง่ ใหญ่และน่าเกรงขาม
อย่างยิง่ ยวด ตัวราชรถเป็ นสี ทองแดงสว่างมันเงา แรง
กดดันที่ทุกคนสัมผัสได้ช่างยอดเยีย่ มเกินไป

เมื่อพิจจารณาอย่างถี่ถว้ น ราชรถอันยิง่ ใหญ่น้ ีควรจะเป็ น


เครื่ องรางเทวะระดับเหนือฟ้าอย่างแม่นยา!
“นั้นมันราชรถแปดอาชาศึก! ตระกูลเยวี่ยถึงขั้นส่ งราชรถ
แปดอาชาศึกมาต้อนรับจริ งๆ!! ผูท้ ี่สามารถขึ้นขี่ราชรถ
อันทรงเกียรติน้ ีได้มีเพียง ท่านเยวี่ยเจี้ยนฉิ วเท่านั้น!
นอกจากนี้ มนั ยังเป็ นสัญลักษณ์แสดงถึงสถานะของแขกผู ้
มารับ การที่สามารถเรี ยกราชรถแปดอาชาศึกให้ออกมา
ได้ แสดงว่าบุคคลผูน้ ้ นั ต้องเป็ น แขกผูม้ ีเกียรติข้นั สู งสุ ด!”

ราชรถเครื่ องรางเทวะระดับเหนือฟ้า ความแข็งแกร่ งและ


คงทนของมันสู งจนน่าตกตะลึง และที่สาคัญไปกว่านั้น
คือ ราชรถระดับนี้ตระกูลเยวี่ยล้วนใช้มนั เพื่อต้อนรับแขก
ผูม้ ีเกียรติช้ นั สู งสุ ดเท่านั้น!

แม้แต่เซียนอาณาจักรราชันย์เทวะของตระกูลเยวี่ยก็ยงั ไม่
มีโอกาสได้ข้ นึ นัง่ ด้วยซ้ า!

ในปัจจุบนั มีเหล่ายอดอัจฉริ ยะมากมายรวมตัวกับที่เมือง


จันทร์ฉาย การปรากฏของราชรถแปดอาชาศึกนี้ แสดงให้
เห็นอย่างชัดเจนว่า มาเพื่อต้อนรับบุคคลสาคัญยิง่ ของ
เมือง
เย่หยวนเงยหน้าจับจ้องราชรถแปดอาชาศึกที่อยู่ระยะไกล
พร้อมรอยยิม้ ที่ผดุ ขึ้นตรงมุมปากบางๆ

สาหรับการปรากฏตัวของราชรถแปดอาชาศึกนี้ เขามิได้
แปลกใจแต่อย่างใด หากย้อนไปกลับ ตอนที่จ้ ีฉิงหยุน
เสด็จมาถึงเมืองจันทร์ ฉาย ก็มีราชรถแปดอาชาศึกมารับ
เขาเช่นกัน

กาลเวลาพ้นผ่าน สถานการณ์ผนั เปลี่ยน แต่ก็ยงั เป็ นเยวี่ย


เจี้ยนฉิ วที่ขี่ราชรถนี้มารับเขาอีกครั้ง
แต่แน่นอน คนอื่นๆล้วนไม่มีใครคาดคิดว่า ราชรถแปด
อาชาศึกนี้จะมาที่นี่เพื่อรับเย่หยวน

เรี ยกใช้ราชรถแปดอาชาศุกเพื่อมารับเจ้าหนุ่มอาณาจักร
วิชชาสวรรค์ฟ้าคนหนึ่ง? เรื่ องไร้สาระเช่นนี้จะเป็ นไปได้
อย่างไร!

“สมแล้วที่เป็ นประมุขตระกูล ใจเด็ดการตัดสิ นได้ดี!”

เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิม้ ที่ไม่ใช่รอยยิม้
ข้างกายเย่หยวน ซื่อหยินกระพริ บตาปริ บๆและเข้า
กระซิบเย่หยวนเบาๆว่า

“นายท่านเย่ ท่านคงมิได้คิดว่าราชรถแปดอาชาศึกนี้จะมา
ที่นี่เพื่อรับท่านจริ งๆใช่ไหม?”

เย่หยวนยิม้ และกล่าวตอบว่า

“แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไร?”
ความเร็ วของราชรถแปดอาชาศึกนับว่าสู งมาก เพียงไม่
นานจากที่ลอยอยูก่ ลางห้วงนภา มันก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
บนท้องถนนอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยเร็ วเช่นนี้ฝงู ชนทั้งหมด
ได้แต่จบั จ้องด้วยความตื่นตะลึง

ไม่มีใครสามารถมองราชรถนี้ได้ทนั !

บนอานอาชาศึกตัวหนึ่ง ชายวัยกลางคนในเสื้ อผ้าไหมชั้น


เยีย่ ม ใบหน้าแม้มีอายุอยูบ่ า้ ง แต่ก็ยงั หล่อเหลาดัง่ เทพบุตร
รู ปหยก กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกจากร่ างล้วนสู งส่ งเกิน
จับต้อง
“ท่านอาจารย์เย่ เจี้ยนฉิ วรอคอยท่านอย่างขื่นขมมากว่า
สองปี แล้ว! แต่แล้วในที่สุดท่านก็มาถึงเมืองจันทร์ฉาย!
ข้าได้ตระเตรี ยมสุ ราอ่อนรสเลิศไว้ให้ ท่านอาจารย์เย่
โปรดเชิญเข้ามาก่อน พร้อมจิบชมสุ ราพลางสนทนากัน
เล็กน้อยดีกว่าหรื อไม่?”

สุ่ มเสี ยงสุ ดนุ่มลึกดังขึ้น ชายวักลางคนกาลังเชิญเชื้อ


บุคคลท่านหนึ่ งโดยเอ่ยนามว่า ท่านอาจารย์เย่
ฝูงชนโดยรอบเร่ งหันซ้ายขวาค้นหาทันทีวา่ ‘ท่านอาจารย์
เย่’ผูน้ ้ นั อยู่ที่ใด บุคคลที่แม้แต่เยวี่ยเจี้ยนฉิ วยังให้ความ
เคารพเพียงนี้ เขาแฝงตัวอยูต่ รงใดในฝูงชนกันแน่?

แม้เย่หยวนจะทาให้เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งก้มศีรษะได้ แต่ไม่วา่


อย่างไร พวกเขาก็ไม่เชื่อว่าเยวี่ยเจี้ยนฉิ วจะมาที่นี่เพื่อรับเย่
หยวนไปจริ งๆ

อย่างไรก็ตาม มีเพียงเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งและเยวี่ยหยุนเฟย สอง


คู่ลุงหลานเท่านั้นที่ตื่นตกใจอย่างยิง่ ยวดในขณะนี้!
พวกเขาทั้งคู่ไม่คิดมาก่อนเลยว่า ท่านประมุขตระกูลจะ
ออกหน้าต้อนรับเย่หยนอย่างอ่อนโยนถึงเพียงนี้ ! แม้กระ
ทั้งตอนที่ประมุขตระกูลโจวมาเยีย่ มเยียนเมืองจันทร์ฉาย
เยวี่ยเจี้ยนฉิ วก็ยงั ไม่เคยขี่ราชรถแปดอาชาศึกมาก่อนเลย
สักครั้ง

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเย่หยวน เขากลับต้องนามันออกมา
จริ งๆ!

ซื่อหยินที่อยูเ่ คียงข้าง หันมาจับจ้องเย่หยวนในทานอง


เดียวกัน นางรู ้สึกประหลาดใจเกินพรรณนาอย่างแท้จริ ง
ใครจะไปคิดว่าเยวี่ยเจี้ยนฉิ วจะมาที่นี่เพื่อรับเย่หยวนไป
จริ งๆ?!

เย่หยวนมิได้กล่าวอันใดตอบ พร้อมเหาะไปตรงหน้าราช
รถแปดอาชาศึกโดยตรง

เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ทุกคนต่างงุนงวยในทันที

“เจ้าหนุ่มนั้นเสี ยสติไปแล้ว? เขาคิดว่าท่านประมุขตระกูล


เยวี่ยเรี ยกเขาขึ้นไปจริ งๆ! ท่านอาจารย์เย่ที่กล่าวถึงนั้น จะ
เป็ นแค่เด็กข้างถนนเช่นนี้ได้อย่างไร?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างเป็ นเรื่ องน่าขัน! เจ้าหนูอาณาจักรวิชชา
สวรรค์ฟ้าคิดว่าท่านประมุขตระกูลเรี ยกขานชื่อมัน!
ทั้งหมดเป็ นเพียงความบังเอิญที่ชื่อแซ่ดนั เหมือนกัน เจ้า
หนุ่มปัญญาอ่อนนั้นหลงตัวเองเกินไปแล้ว!”

จากนั้นครู่ หนึ่ง เสี ยงเยาะเย้ยโดยรอบก็เริ่ มดังขึ้นอย่าง


ต่อเนื่อง
แม้วา่ เยวี่ยเจี้ยนฉิ วจะมาหยุดบริ เวณเดียวกับที่เย่หยวนยืน
อยู่ แต่พวกเขาก็ไม่มีวนั เชื่อว่า เยวี่ยเจี้ยนฉิ วจะขี่ราชรถ
แปดอาชาศึกเพื่อมารับเย่หยวนจริ งๆ

ครั้งล่าสุ ดที่ใช่ราชรถแปดอาชาศึกนี้ แขกผูม้ ีเกียรติสูงสุ ด


เป็ นถึงเซียนอาณาจักรราชันย์เทวะจากดินแดนอื่น และ
ราชรถนี้ก็ไม่เคยรับใครที่อยูต่ ่ากว่าเซียนอาณาจักรราชันย์
เทวะมาก่อน!

แล้วเย่หยวนคิดว่าตนเองเป็ นใครกัน?
แต่ทนั ใดนั้น เสี ยงหัวเราะลัน่ สุ ดเย้ยหยันโดยรอบพลัน
เงียบกริ บในทันที

ในเวลานี้เอง เยวี่ยเจี้ยนฉิ วเหาะลงจากอานอาชาศึก และ


เร่ งเข้าประสานมือทักทายเย่หยวนอย่างรวดเร็ ว

เย่หยวนจับจ้องไปยังเยวี่ยเจี้ยนฉิ ว และกล่าวอย่างใจเย็น
ว่า

“ท่านประมุขตระกูล ทาข้าแปลกใจไม่นอ้ ย ต้องเดือดร้อน


ท่านแล้ว!”
สายตาที่จบั จ้องของเยวี่ยเจี้ยนฉิ วดูลึกซึ้งอย่างยิง่ เขารู ้สึก
แปลกใจกับเย่หยวนคนนี้ไม่น้อยเลยภายในใจ

ทั้งๆที่เย่หยวนยังเด็กมาก แต่เขากลับไร้ซ่ ึงความหุ นหัน


พลันแล่นหรื อตื่นกลัวใดๆในแบบที่หนุ่มสาวควรมี
ในทางตรงกันข้าม เย่หยวนกลับเลือกที่จะตรงเข้ามา
เผชิญหน้ากับเขาโดยตรง และยังกล่าววาจาตามลักษณะ
ประเพณี ได้คล่องแคล่วนัก นี่แสดงให้เห็นว่า เขามิใช่ชาย
หนุ่มธรรมดาทัว่ ไป
รัศมีที่พลัง่ พลูออกจากร่ างเยวี่ยเจี้ยนฉิ วที่สั่งสมมานาน
หลายสิ บปี มันทั้งดูยงิ่ ใหญ่และองอาจ แต่เมื่อยืนประจันษ์
หน้าเย่หยวน รัศมีของเขากลับแผ่วลงอย่างไร้เหตุผล!

รัศมีแรงกดดันของเย่หยวนมิได้อ่อนแอกว่าเขาแม้แต่น้อย
เลย!

ช่างเป็ นภาพฉากที่ดูไม่ลงรอยกันยิง่ !

เยวี่ยเจี้ยนฉิ วกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า
“ทักษะในศาสตร์แห่งโอสถของท่านอาจารย์เย่ไร้ซ่ ึงคู่แข่ง
ไร้ผใู ้ ดเทียมทาน แล้วข้าจะไม่มาต้อนรับด้วยตนเองได้
อย่างไร! สถานที่ตรงนี่ไม่เหมาะสนทนา ท่านอาจารย์เย่
เชิญ”

เย่หยวนพยักหน้าอย่างแช่มช้า ก่อนยกขาขึ้นและตรงเข้า
ไปในตัวราชรถโดยตรง

อย่างไรก็ตามเยวี่ยเจี้ยนฉิ งกลับมิได้ติดตามเข้าไปทันที
เขาหันไปตะโกนสั่งโทษอย่างไม่พอใจขึ้นว่า
“เฟยเอ๋ อ เจ้าเกือบก่อปัญหาใหญ่แล้วในวันนี้! จงไปยัง
โถงวินยั เพื่อรับโทษซะ!”
ตอนที่933 จาต้ องผิดหวัง

ภายในตัวราชรถแปดอาชาศึก บรรยกาศค่อนข้างผิด
แปลกอย่างมาก

หลังจากที่เข้าสู่ ตวั ราชรถ พฤติกรรมของเยวี่ยเจี้ยนฉิ วก็


เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็ นหลังมือทันที มันช่างแตกต่าง
จากภาพฉากที่ดูกระตือรื อร้นก่อนหน้าอย่างมาก เขาใน
ปัจจุบนั ดูค่อนข้างเย็นชา

แต่เย่หยวนหาได้สนใจไม่ เขายังคงทาตัวตามสบายพร้อม
หยิบสุ ราขึ้นมาริ นเองหนึ่งจอก และค่อยๆจิบตามภาษา
อย่างเริ งรมณ์
“สุ ราชั้นเยีย่ มของเมืองจันทร์ฉาย สุ รากลีบจันทราละมุน
หุหุ…ไม่เลว ไม่เลว! เสี ยดายที่เป็ นเพียงชั้นกลาง อายุการ
บ่มยังคงสั้นเกินไป ท่านประมุขตระกูลเยวี่ยขี้เหนียวไม่
น้อย!”

เย่หยวนส่ ายหัวและกล่าวขึ้นพร้อมถอนหายใจ

สุ รากลีบจันทราละมุนนับเป็ นสุ ราชั้นเลิศที่เทียบชั้นได้กบั


สุ ราหยกราลึกอมตะ มันถูกหมักบ่มโดยใช้กลีบบุปผา
จันทราที่ปลูกขึ้นเฉพาะเมืองจันทร์ฉายเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชดั ว่า เยวี่ยเจี้ยนฉิ วมิได้ตระเตรี ยม


สุ รากลีบจันทราละมุนชั้นเลิศที่ใช้สาหรับแขกผูม้ ีเกียรติ
ชั้นสู งสุ ดให้แก่เย่หยวน มันเป็ นเพียงสุ ราชั้นกลางทัว่ ไป
“เย่หยวน เจ้ามอบของขวัญชิ้นใหญ่โตจริ งๆ! ทันทีที่มาถึง
เมืองจันทร์ฉาย เจ้าก็เกือบโยนทั้งเมืองลงในเหวนรกเสี ย
แล้ว! แถมยังต้องให้ขา้ ออกมารับเป็ นการส่ วนตัวอีก!”

แม้น้ าเสี ยงที่แปล่งออกมาจะสงบไร้ระรอกคลื่น แต่กลับ


เจือไปด้วยจิตสังหารบางๆเคลือบเย็นเอาไว้

ทว่าเย่หยวนกลับมิได้สนใจอะไรเลย เขายกมือเท้าคาง
ตรงที่พิงราวกับเป็ นเรื่ องปกติ และกล่าวอย่างเฉยเมยว่า
“ก็การต้อนรับภายในเมืองจันทร์ฉายยังคงแย่เหมือนเดิม
เมื่อไหร่ ขอ้ บกพร่ องเหล่านี้จะถูกแก้ไข? ข้าอุตสาห์ไว้
หน้าท่าน ยอมเล่นละครลิงตามน้ าเพื่อให้ลงจากหลังเสื อ
ได้ มิฉะนั้น การจะเชื้อเชิญข้าขึ้นราชรถแปดอาชาศึกคง
ไม่ง่ายแบบนี้แน่นอน!”

เยวี่ยเจี้นฉิ วหรี่ ตาแคบลงเล็กน้อย แต่กลับปรากฏกประ


กายแสงวับสะท้อนออก เห็นได้ชดั ว่าความอดทนของเขา
ถึงขีดสุ ดแล้ว

คากล่าวเหล่านี้ของเย่หยวนช่างหยิง่ ผยองเกินไปจริ งๆ
ราชรถแปดอาชาศึกมิใช่ทุกคนที่สามารถขึ้นนัง่ ได้ เย่
หยวนที่ได้ข้ นึ ราชรถแปดอาชาศึกเช่นนี้นบั ว่าเป็ นโอกาส
อันยอดเยีย่ มที่หาไม่ได้อีกแล้วในชัว่ ชีวิต!

แต่ในความเป็ นจริ ง ชายหนุ่มคนนี้ก็ยงั กล้าหว่านวาจาชัก


นาปัญหา!
ที่เยวี่ยเจี้ยนฉิ วยอมมาเชื้อเชิญเย่หยวนถึงที่ก่อนหน้านี้
ทั้งหมดก็เพื่อยกสถานะเย่หยวนให้สูงขึ้น และให้
กลายเป็ นดัง่ บุคคลลึกลับในสายตาของสาธารณะ

หากไม่ทาเช่นนี้ จนเย่หยวนอาละวาดกลายเป็ นเรื่ อง


ใหญ่โต เขาที่มาถึงตอนนั้นจะมิได้อยูส่ ถานะเช่นนี้ อีก
แล้ว เขาจึงชิงเคลื่อนไหวก่อนและทาให้ดูเหมือนว่าเย่
หยวนมีภูมิหลังอันน่าสะพรึ งอยูเ่ บื้องหลัง

ด้วยวิธีน้ ี มันมิได้ทาให้เยวี่ยเจี้ยนฉิ วต้องลดเกียรติหรื อเสี ย


หน้าใดๆเลย

ยิง่ ไปกว่านั้น ก่อนเดินทางจากไป เขายังจงใจประกาศ


โทษทัณฑ์ของเยวี่ยหยุนเฟยเสี ยงดังต่อหน้าทุกคน นี่เพื่อ
บ่งชี้วา่ เหตุการณ์ท้ งั หมดนี้ มิใช่เพราะความคิดของตระกูล
เยวี่ย แต่เป็ นเพียงความผิดของสมาชิกคนหนึ่ งในตระกูล
เยวี่ยเท่านั้น

ความผิดนี้เยวี่ยหยุนเฟยจาต้องแบกรับตามลาพัง!

เยวี่ยเจี้ยฉิ วสามารถแก้ไขสถานการณ์อนั สุ ดแสนจะอึดอัด


ของตระกูลได้เพียงยกฝ่ ามือ แน่นอนว่าเขาสมควรยิง่ แล้ว
ในฐานะผูป้ กครองตระกูล
ทัศนคติอนั ไม่พอใจของเขาที่มีต่อเย่หยวน เบื้องหน้าฝูง
ชนเขาไม่สามารถเปิ ดเผยออกมาได้

ดังนั้นหลังจากที่ข้ นึ ตัวราชรถ ในที่สุดความในใจอันอคติ


จึงปรากฏออกมา

“หึ ! อายุไม่เฒ่า แต่น้ าเสี ยงกลับไม่เล็ก! เป็ นไปได้ไหม


หลังจากเจ้าที่ข้ นึ ราชรถแปดอาชาศึกแล้ว สถานะของเจ้า
หลังจากนี้ยงั คงเท่าเดิม?”

เยวี่ยเจี้ยนฉิ วกล่าวขึ้นด้วยสุ่ มเสี ยงเย็น


“เหอะ ก็แค่ราชรถเห็บเหา นับเป็ นเรื่ องใหญ่อนั ใด? ข้า,เย่
หยวนไม่เคยชักพานาใส่ ใจ!”

เย่หยวนกล่าวสวนอย่างเยือกเย็น

เมื่อกล่าวถึงสถานะของเย่หยวนในชีวิตก่อนหน้า อย่าง
จุดสู งสุ ดแห่งจักรพรรดิโอสถ กลับเป็ นราชรถแปดอาชา
ศึกของตระกูลเยวี่ยมากกว่าที่ได้หน้า

ราชรถที่จกั รพรรดิโอสถแห่งยุคเคยประทับนัง่ ชื่อเสี ยง


ตระกูลเยวี่ยมีแต่ลื่อชาก้องสิ บทิศ
เมื่อได้ยนิ คากล่าวของเย่หยวน เยวี่ยเจี้ยนฉิ วก็พูดอะไรไม่
ออกครู่ ใหญ่ ไอ้เหลือขอคนนี้หยิง่ ผยองเกินไป ตัวเขาที่
เป็ นถึงประมุขของเมืองเทวะชั้นหนึ่ งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์
แต่อีกฝ่ ายกลับไม่เกร่ งกลัวแม้แต่นอ้ ยจริ งๆ!

“ไร้สาระมาพอแล้ว! อาการป่ วยของลี่เอ๋ อ เจ้ามัน่ ใจว่า


รักษาได้จริ งๆรึ ? กระทั้งเฉวียนซิ่งซียนื่ มือเข้ามาช่วยลี่เอ๋ อ
ในตอนก่อนหน้า เขาเองยังไม่สามารถทาอะไรได้
เช่นกัน!”
เยวี่ยเจี้ยนฉิ วกล่าวขึ้นพร้อมสี หน้าท่าทางอันน่ากลัว

เย่หยวนเค้นเสี ยงเย็นสองคา ก่อนกล่าวตอบอย่างเยือกเย็น


ว่า

“เฉวียนซิ่งซี? ตาแก่ที่บา้ ยศถาบรรดาศักดิ์น้ นั ? ก็ไม่น่า


แปลกใจที่ตาแก่น้ นั จะรักษาไม่ได้ เอาเถอะ คนเช่นนี้ ไม่
คุม้ ค่าที่จะกล่าวถึง แต่กล่าวไปแล้ว ที่ภายในเมืองจันทร์
ฉายมีอจั ฉริ ยะรวมตัวมากมายขนาดนี้ คงเป็ นเพราะจัด
งานประลองจันทร์ฉายใช่หรื อไม่ เหตุใดถึงจัดมัน? คิด
กาหนดชะตาบุตรสาวของท่านด้วยวิธีการอันแสน
ประมาทเช่นนี้ได้อย่างไร?”
ถึงเย่หยวนจะเพิ่งมาถึงเมืองจันทร์ฉายได้ไม่นาน แต่เขา
เองก็ได้ยนิ เรื่ องงานประลองจันทร์ฉายมาบ้างเช่นกัน

ที่เหล่ายอดอัจฉริ ยะรวมตัวกันที่นี่มากมาย ทั้งหมดก็เพื่อ


แย่งชิงตัวเยวี่ยเมิ่งลี่!

แน่นอนว่าอันดับหนึ่ งของงานประลอง จะได้สมรสกับ


เยวี่ยเมิ่งลี่ พร้อมสิ นสอดทองมัน่ และกลายมาเป็ นลูกเขต
ตระกูลเยวี่ย! รวมไปถึงมีสิทธิ์เข้าสู่ แดนจันทร์ฉายสุ ริยนั !
เยวี่ยเมิ่งลี่เป็ นดัง่ เทพธิดานางสวรรค์งดงามเกินบรรพณา
เพียงงานประลองจันทร์ ฉายถูกแพร่ ประกาศออกไป ก็
สามารถสร้างคลื่นความโกลาหลได้ทนั ที

อย่างไรก็ตาม เหล่าเยาวชนยอดอัจฉริ ยะที่ตอ้ งการเข้า


ประลอง ทั้งหมดมิใช่เพราะความงดงามของเยวี่ยเมิ่งลี่ มี
จานวนไม่นอ้ ยที่ยอมเข้าประลองเพียงเพราะต้องการสิ ทธิ์
ในการเข้าสู่ แดนจันทร์ฉายสุ ริยนั !

สาหรับบางคน การเข้าสัประยุทธ์เป็ นตายเพื่อแย่งชิงหญิง


สาวอย่างเดียว นี่นบั ว่ามีความหมายอันใด?
เยวี่ยเจี้ยนฉิ วสาดสายตาใส่ เย่หยวนอย่างดุเดือด และกล่าว
ว่า

“มิใช่หน้าที่ของเจ้าที่ตอ้ งข้องแวะเกี่ยวกับเรื่ องตระกูล


เยวี่ย! อย่ากล่าวราวกับข้าผูเ้ ป็ นพ่อใจไม้ไส้ระกา ข้าเพื่อ
ต้องการเลือกสิ่ งที่ดีที่สุดให้เท่านั้น และหากเจ้าจริ งใจต่อ
ลี่เอ๋ อจริ งๆ ก็จงเข้าร่ วมงานประลองจันทร์ฉายและ
เอาชนะชายหนุ่มเหล่านั้นขึ้นมาซะ!”

เมื่อเย่หยวนได้ยนิ เช่นนั้น สี หน้าท่าทางของเขาก็


แปรเปลี่ยนโดยมิต้ งั ใจ และเริ่ มครุ่ นคิดอย่างหนักทันที
ทันทีที่ภาพฉากนี้ปรากฏขึ้น เยวี่ยเจี้ยนฉิ วก็เริ่ มเย้ยหยัน่ เย่
หยวนภายในใจทันที

‘ไอ้เหลือขอนี่พยายามทาคะแนนหาดีเข้าตัว แต่เมื่อได้ยนิ
ว่าต้องเข้าประลองกับเหล่ายอดอัจฉริ ยะ มันกลับเหี่ ยวเฉา
ในทันที’

หัวใจของลี่เอ๋ อถูกผูดติดกับเย่หยวนมาตั้งนานแล้ว ใน
ฐานะผูเ้ ป็ นพ่อนาง ไฉนจะไม่ทราบ? แต่เพียงแค่ เขารู ้สึก
ว่าลูกสาวของตนไว้ใจผิดคนไปเสี ยแล้ว!

อย่างไรก็ตาม ภายในหัวของเย่หยวนตอนนี้ กลับแตกต่าง


จากที่เยวี่ยเจี้ยนฉิ วคิดไว้โดยสิ้ นเชิง
เหตุผลที่สีหน้าท่าทางของเย่หยวนแปรเปลี่ยนไป
กระทันหัน มิใช่เพราะเขาหวาดกลัว แต่เพราะเขาคาดไม่
ถึงเลยว่า เยวี่ยเจี้ยนฉิ วจะให้โอกาสเขาง่ายถึงเพียงนี้

กระนั้นอย่างไร สาหรับความรู ้สึกของเย่หยวที่มีต่อเยวี่ย


เมิ่งลี่ เขาไม่สามารถกล่าวบอกได้จริ งๆ

แต่ที่แน่นอนก็คือ ความรู ้สึกที่เขามีต่อนาง มันช่าง


แตกต่างจากตอนที่เขาพบเจอหญิงสาวคนอื่นโดยสิ้ นเชิง

ทุกครั้งที่เย่หยวนเฝ้านึกระลึกถึงเรื่ องราวของเยวี่ยเมิ่งลี่
โดยเฉพาะครานั้นที่นางแอบประทับรอยจูบ ไม่วา่ วันเวลา
ผ่านไปนานเท่าใด หัวใจเย่หยวนยังคงสั่นระรัวทุกครั้ง
เรื่ อยไป

เป็ นไปได้ไหมว่า…เย่หยวนจะตกหลุมรักเยวี่ยเมิ่งลี่เข้า
แล้วจริ งๆ?

ในชีวิตก่อนหน้า เขามัวแต่ทุ่มเทกาลังกายและกาลังใจลง
ในศาสตร์แห่งโอสถ ทุ่มเทถึงขั้นบ้าคลัง่ และเป้าหมายที่
ยิง่ ใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้ของเขาก็คือ การล้างแค้นจี้ฉาง
หลาน ดังนั้นเขาจึงไม่เคยหวนคิดถึงเรื่ องแบบนี้เลยสัก
ครั้ง
ในคราแรกเย่หยวนพลันคิดไปว่า ตนเพียงรู ้สึกขอบคุณ
เยวี่ยเมิ่งลี่ที่ช่วยชีวิตเขาเท่านั้น แต่เมื่อพิจารณาไตร่ ตรอง
ตัวเขาในตอนนี้ท่าทางจะไม่ใช่แค่น้ นั จริ งๆ

เว้นเสี ยแต่ เย่หยวนยังไม่สามารถกล่าวตอบออกมาได้


อย่างชัดเจนเท่านั้น

“ดีแล้วที่รู้จกั กลัวเสี ยบ้าง! หากเจ้าสามารถรักษาลี่เอ๋ อได้


จริ งๆ พวกเราตระกูลเยวี่ยย่อมตอบแทนด้วยใจจริ ง แต่
หากเจ้าต้องการใช้บุญคุณนี้เพื่อครองคู่กบั ลี่เอ๋ อ มันย่อม
เป็ นไปไม่ได้! อย่างไรก็ตาม หากเจ้าไม่สามารถรักษาได้
ตามที่ปากว่า ก็อย่าหาว่าข้าผูน้ ้ ีโหดร้าย!”
เยวี่ยเจี้ยนฉิ วกล่าวขึ้นด้วยสี หน้าเคร่ งขรึ ม

เย่หยวนฟื้ นสติกลับมาดังเดิม พร้อมริ นสุ รากลีบจันทรา


ละมุนและดื่มมันอย่างใจเย็น ก่อนกล่าวว่า

“อาการป่ วยของลี่เอ๋ อ ท่านไม่ตอ้ งกังวล! แต่การจัดงาน


ประลองจันทร์ฉายนับว่าโง่เขลาอย่างแท้จริ ง หลังจากที่
อาการเจ็บป่ วยของลี่เอ๋ อหายสนิท นางจะพัฒนาขึ้นอย่าง
ก้าวกระโดดทันที! และในไม่ชา้ จะไม่มีใครในตระกูล
เยวี่ยสามารถทัดเทียมนางได้อีก”
เยวี่ยเจี้ยนฉิ วกล่าวตอบด้วยน้ าเสี ยงนุ่มลึกว่า

“หึ ! ข้าก็ขอให้เป็ นเช่นนั้น! แม้วนั เวลาผ่านไปสองปี ตอน


นั้นอาณาจักรพลังของเจ้ายังต่าเกินไปและไม่มีทางหลอม
กลัน่ โอสถจิตวิญญาณได้เลย ถึงตอนนั้นจะเร่ งมาถึงก็คง
ไร้ประโยชน์? ลี่เอ๋ อเกิดมาพร้อมกายเนตรสวรรค์เคียง
จันทร์ต้ งั แต่แรกแล้ว พลังความแกร่ งกร้าวของนาง
นับเป็ นอันดับหนึ่ งในตระกูลเยวี่ย! หากนางต้องตายทั้งๆ
แบบนี้ นี่ จะเป็ นความสู ญเสี ยครั้งใหญ่ต่อตระกูลเยวี่
ยเพียงใด เจ้าทราบหรื อไม่?”
เมื่อได้ยนิ ดังนั้น เย่หยวนก็รู้สึกผิดหวังกับเยวี่ยเจี้ยนฉิ ว
อย่างสุ ดหัวใจ

ตามความหมายที่เยวี่ยเจี้ยนฉิ วกล่าวไป เขาผูเ้ ป็ นพ่อ


ปฏิบตั ิต่อเยวี่ยเมิ่งลี่ดงั่ เครื่ องมือของตระกูลจริ งๆ! หญิง
สาวที่มีกายเนตรสวรรค์เคียงจันทร์ต้ งั แต่กาเนิด จะมี
โอกาสสู งกว่าสามในสิ บส่ วน ที่บุตรจะได้รับสื บทอดกาย
เนตรสวรรค์เคียงจันทร์ต้ งั แต่กาเนิดเช่นกัน!

และถึงแม้บุตรที่คลอดออกมาจะไม่ได้รับสื บทอดตั้งแต่
กาเนิด แต่หลังจากที่เบิกเนตรได้ พลังของเนตรสวรรค์
เคียงจันทร์ยอ่ มเหนือชั้นกว่าคนอื่นๆอย่างเทียบไม่ติด
ด้วยเหตุน้ ีเยวี่ยเจี้ยนฉิ วจึงยินดีจดั งานประลองจันทร์ฉาย
ขึ้น เพื่อเฟ้นหาลูกเขยอันแข็งแกร่ งเข้าตระกูล!
ตอนที่934 เกรงว่ าทาให้ ท่านผิดหวังแล้ว!

“เรื่ องอาการป่ วยของลี่เอ๋ อปล่อยให้เป็ นหน้าที่ของข้า


ส่ วนตระกูลเยวี่ยก็ควรยกเลิกงานประลองจันทร์ ฉายซะ!”

เย่หยวนกล่าวขึ้นอีกครั้ง พร้อมจับจ้องเยวี่ยเจี้ยนฉิ วด้วย


ดวงตาสุ ดเย็นยะเยือก

แต่เยวี่ยเจี้ยนฉิ วกลับกล่าวว่า

“นั้นเป็ นไปไม่ได้! ในขณะนี้ เหล่าอัจฉริ ยะมากมายรวม


พลกันในเมืองจันทร์ฉายอย่างพร้อมเพรี ยงแล้ว ขุมกาลัง
เบื้องหลังคนเหล่านี้ กระทั้งตระกูลเยวี่ยยังมิอาจยัว่ ยุได้!
เช่นนั้นการจะยกเลิกงานประลองจันทร์ฉายยิง่ เป็ นไป
ไม่ได้เช่นกัน! เว้นเสี ยแต่เจ้าต้องเอาชนะงานประลอง
จันทร์ฉายให้ได้ แล้วจักรพรรดิผนู ้ ้ ีจะไม่กล่าวค้านอันใด
อีก!”

คากล่าวของเยวี่ยเจี้ยนฉิ วแฝงความตั้งใจของตนไว้หนึ่ ง
ส่ วน

แต่นี่ก็ไม่สามารถตาหนิเขาได้เช่นกัน ทัว่ ทั้งเมืองจันทร์


ฉายในปัจจุบนั มีเหล่ายอดอัจฉริ ยะผ้าไหมน้ าเงินมากมาย
ซึ่งตระกูลเยวี่ยก็ไม่สามารถควบคุมได้แล้วเช่นกัน
สี หน้าการแสดงออกของเย่หยวนมืดลง เขากล่าวด้วยเสี ยง
อันเคร่ งขรึ มว่า

“อัจฉริ ยะที่ท่านกาลังกล่าวถึงควรจะเป็ นโจวหยาน? ลืม


มันไปเถอะ อย่างน้อยท่านยังคงสถานะผูจ้ ดั งานประลอง
ก็เปลี่ยกฎเสี ยว่า ผูใ้ ดชนะงานประลองจะมีสิทธิ์ประลอง
กับข้า!”

ช่างเป็ นคากล่าวที่มนั่ ใจเกินไป!

ความหมายของเย่หยวนคือ เหล่าอัจฉริ ยะทั้งหมดทั้งมวล


นี้ไม่มีใครคู่ควรกับเย่หยวนเลย จะมีก็แค่ผชู ้ นะอันดับ
หนึ่งเท่านั้นที่เย่หยวนจะยอมลงมือด้วย
เยวี่ยเจี้ยนฉิ วแข็งทื่อไปในทันทีที่ได้ยนิ ก่อนจะกล่าวเสี ยง
นุ่มลึกกลับไปว่า

“อวดดีจริ งๆ! แค่รักษายังไม่รู้ว่าสาเร็ จหรื อไม่? ยิง่ ไปกว่า


นั้น เจ้าเป็ นเพียงอาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าเท่านั้น แล้วจะ
เข้าประลองกับคนอื่นได้อย่างไร?”

“เยวี่ยเจี้ยนฉิ ว ข้าว่าท่านกาลังเข้าใจผิด! ในตอนนี้ ทุกสิ่ ง


ที่ขา้ กล่าวกับท่าน มิใช่เสนอเพื่อแจ้งให้ทราบ แต่เป็ นสิ่ งที่
ท่านควรปฏิบตั ิตาม! หากไม่เห็นแก่หน้าลี่เอ๋ อเลยสักนิด
ข้าจะพานางจากไปทันที เหอะ ท่านอย่ามองข้าเช่นนั้น
หากเรื่ องนี้ มนั ยุ่งยากนักก็จดั การตัวต้นเรื่ องอย่างลี่เอ๋ อให้
จบๆไป! ทันทีที่ขา้ หมดความอดทน ไม่วา่ ใครก็ไม่
สามารถหยุดข้าได้! ส่ วนที่วา่ ทาไม…ข้าคิดว่าท่านน่าจะ
ทราบดี”

เย่หยวนกล่าวขึ้นอย่างเย็นชา

เยวี่ยเจี้ยนฉิ วเองก็สวนมองเย่หยวนด้วยสายตาเย็นตอบ
เช่นกัน
ทั้งๆที่ไอ้เหลือขอคนนี้กาลังเผชิญหน้ากับเขาประมุข
ตระกูลแท้ๆ ทว่ายังกล้าดื้อรั้นจริ งๆ!

แต่เมื่อมองเหรี ยญอีกด้าน การที่เย่หยวนมีความมัน่ ใจ


ขนาดนี้โดยไม่เกรงกลัวเขาแม้สักนิด นี่ยงิ่ ต้องระวัดระวัง
ในการลงมือสิ่ งต่างๆให้มากขึ้น

เยวี่ยเจี้ยนฉิ วทราบดี สิ่ งที่เย่หยวนกาลังเอ่ยอ้างถึงก็คือ


จอมราชันย์วิญญาณสัประยุทธ์ หากเย่หยวนคิดลงมือ
จัดการลี่เอ๋ อจริ งๆ ไม่สิ…กระทั้งฆ่าล้างทั้งเมืองจันทร์ฉาย
ก็จะไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้!

แน่นอนว่า เย่หยวนมิได้ทาเช่นนั้นจริ งๆ ทั้งหมดเพียงแค่


กล่าวข่มขู่อีกฝ่ าย
ทั้งตระกูลโจวและตระกูลเยวี่ย ทั้งสองฝ่ ายต่างคาดเดา
ตัวตนของเย่หยวนมาก่อนหน้าแล้ว ซึ่งพวกเขารู ้สึกว่า มี
แนวโน้มสู งยิง่ ที่เย่หยวนจะเป็ นบุตรบุณธรรมของซ่ งจี้
เจิน

ไม่เช่นนั้น เจ้าหนุ่มอาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าตัวน้อยๆอัน
อ่อนแอ จะทาให้หนึ่ งในสิ บจอมราชันย์ถึงกับเคลื่อนไหว
ด้วยตนเองได้อย่างไร?

นอกจากนี้ เย่ยวนยังมีความโดดเด่นยิง่ ทั้งในด้านการ


โจมตีทางจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ หรื อกระทั้งความสามารถ
ในศาสตร์แห่งโอสถอันไร้เทียมทาน ซึ่งนี่ราวกับแกะสลัก
มาจากแม่พิมพ์เดียวกันไม่ผิดเพี้ยน

เมื่อพิจารณาถึงขั้นนี้ เยวี่ยเจี้ยนฉิ วยังคงกังขาในตัวเย่


หยวนอีกได้อย่างไร?

“เข้าใจแล้ว จักรพรรดิผนู ้ ้ ีขอสัญญากับเจ้า! หากเจ้ายังคง


หัวรั้นทาตัวเป็ นผูก้ ล้าต่อไปก็ดี ข้าเองก็อยากเห็นเช่นกัน
ว่า นักสู ้อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าจะมีความสามารถ
มากมายเพียงใด!”

เยวี่ยเจี้ยนฉิ วกล่าวอย่างเยือกเย็น
เมื่อถูกข่มขู่อย่างหนักโดยเจ้าหนุ่มคนหนึ่งผูม้ ีภูมิกลังอัน
แกร่ งกล้า เยวี่ยเจี้ยนฉิ วก็กระอักกระอ่วนยิง่ ประดุจอม
แมลงเน่าไว้ในปาก จนท้ายที่สุดนี้ เขาไร้ซ่ ึงทางเลือกอื่น
นอกจากตอบปากรับคาที่เย่หยวนกล่าวมาทั้งหมด

………………………..
ณ ตาหนักควบคุมวินยั ของตระกูลเยวี่ย พื้นที่ท้ งั หมดใน
บริ เวณประกอบด้วยตัวคฤหาสน์ยกั ษ์และลานกว้างที่
ใหญ่มาก

ปัจจุบนั เคียงบ่อน้ าใสบริ สุทธิ์ รายล้อมด้วยทิวทัศน์อนั


งดงามโดยรอบ มีคนจานวนหนึ่งกาลังชื่มชมภูมิทศั น์
พลางสนทนา

“โอ้ ลี่เอ๋ อ เจ้าหยานเอ๋ อ มันเติบโตมาพร้อมกับเจ้าตั้งแต่ยงั


เด็ก แถมมันก็ยงั มีแค่เจ้าอยูภ่ ายในใจเสมอมา ยิง่ ไปกว่า
นั้นตระกูลโจวและตระกูลเยวี่ยต่างมีประเพณี ร่วม อย่าง
การสมรสผูกสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลมาหลายชัว่ อายุ
รุ่ น ไฉนเจ้าถึงปฏิเสธ เจ้าไม่ตอ้ งการแต่งกับหยานเอ๋ องั้น
รึ ?”

หญิงสัยกลางคนพยายามอย่างสุ ดตัวเพื่อเกลี้ยกล่อมหญิง
สาวที่อยูข่ า้ งๆอย่างเอาจริ งเอาจัง ซึ่งหญิงสาวนางนี้ ก็มิใช่
ใครอื่นนอกจาก เยวี่ยเมิ่งลี่อย่างแม่นยา

“ท่านป้า อย่าทาให้ลี่เอ๋ อลาบากใจอีกต่อไป! งานประลอง


จันทร์ฉายในคราวนี้ ข้าจะกาจัดเหล่าอัจฉริ ยะทั้งหมดด้วย
กาลังของตนเอง เพื่อพิสูจน์วา่ ข้านี่แหละ คือชายผูค้ ู่ควร
กับลี่เอ๋ อมากที่สุด! นอกจากนี้ตราบใดที่ขา้ ชนะ ข้ายัง
สามารถช่วยเหลือตระกูลเยวี่ยให้เข้าไปยังแดนอัคนี จนั ทร์
ฉายได้อีกด้วย!”

แน่นอนว่างานประลองจันทร์ฉายในคราวนี้ โจวหยานเอง
ก็เข้าร่ วม

ก่อนหน้านี้ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยจอมราชันย์
วิญญาณสัประยุทธ์ ในคราเดินทางไปยังเมืองเทวะตะวัน
พิโรธ และตระกูลโจวต้องทุ่มเงินจานวนมหาศาลกว่าจะ
ให้โจวหยานฟื้ นคืนสติอีกครั้ง

แต่ดว้ ยพรสวรรค์อนั สุ ดท้าทายฟ้าดินของโจวหยาน การ


ได้รับบาดเจ็บสาหัสในคราวนี้ ไม่เพียงทาให้ความ
แข็งแกร่ งของเขาไม่ถดถอยลงเท่านั้น แต่กลับส่ งผลดีต่อ
เขาแทน จนโจวหยานสามารถทะลวงขึ้นสู่ อาณาจักรเต๋ า
ลึกล้ าได้สาเร็ จ! เรี ยกได้วา่ พบสบหนึ่งโอกาส สามารถขึ้น
สู่ สวรรค์ได้ในหนึ่งก้าว!

ดังนั้น นี่ จึงเป็ นเหตุผลที่วา่ ทาไมสี หน้าท่าทางของโจวห


ยานในขณะนี้ถึงเต็มไปด้วยความัน่ ใจ และกล่าวว่า ตนจะ
กาจัดเหล่าอัจฉริ ยะทั้งหมดได้อย่างเต็มปากเต็มคา

หญิงวัยกลางคนนางนี้คือโจวเฉวียนยรู่ นางเป็ น
ลูกพี่ลูกน้องกับโจวเจี่ย ซึ่งนางเองก็แต่งงานกับน้องชาย
ของเยวี่ยเจี้ยนฉิ ว นามว่า,เยวี่ยเจี้ยนเค่อ ดังนั้นโจวหยาน
จึงเรี ยกนางว่าป้า
หลังจากที่โจวหยานขึ้นสู่ อาณาจักรเต๋ าลึกล้ าได้สาเร็ จ
นิสัยอันโพงพางและติดเอาแต่ใจอย่างเด็กน้อยดัง่ กาลก่อน
ดูท่าจะดีข้ นึ ซึ่งระดับความเป็ นผูน้ าของเขาเองก็มีมากขึ้น
เช่นกัน เพียงแต่วา่ สาหรับเรื่ องของเยวี่ยเมิ่งลี่ เขายังคง
มุทะลุเช่นเคย

“ลี่เอ๋ อ ในอดีตที่เจ้าไม่คิดเหลียวแลหยานเอ๋ อเลย เป็ น


เพราะเขายังติดนิสัยเฉกเช่นเด็กน้อย และในตอนนี้
หลังจากที่ประสบโลกมานัดต่อนัด เขาเองก็เป็ นผูใ้ หญ่ข้ นึ
แล้วเช่นกัน หากแต่งกับเขา พวกเราตระกูลโจวและ
ตระกูลเยวี่ยจะได้สนิทสนมกลมเกลียวมากขึ้น เรื่ องเช่นนี้
นับเป็ นเรื่ องดีจริ งหรื อไม่?”

โจวเฉวียนยรู่ ยังคงเกลี้ยกล่อมต่อไป
โจวหยานกล่าวขึ้นทันทีวา่

“ท่านป้า โปรดอย่ากล่าวอีกต่อไป! ในเมื่อลี่เอ๋ อลัน่ วาจา


เองว่า นางต้องการแต่งกับยอดอัจฉริ ยะที่แข็งแกร่ งที่สุด
แล้ว ฉะนั้น…ข้าก็จะกลายเป็ นยอดอัจฉริ ยะที่แข็งแกร่ ง
ที่สุดผูน้ ้ นั ให้จงได้!”

ทั้งหมดยังคงเป็ นบทสนทนาระหว่างบุคคลทั้งสอง ซึ่ง


เยวี่ยเมิ่งลี่ที่นงั่ อยูข่ า้ งๆยังคงปิ ดปากเงียบอยูต่ ลอด

แท้ที่จริ งแล้ว บุคคลที่เป็ นผูร้ ิ เริ่ มให้จดั ตั้งงานประลอง


จันทร์ฉายขึ้น มิใช่ใครอื่นนอกจาก ตัวเยวี่ยเมิ่งลี่เอง!
ย้อนกลับไปในเวลานั้น เยวี่ยเมิ่งลี่ยงั คงบอกปัดกล่าวปฎิ
เสธอย่างสุ ดตัว และยืนยันว่านางจะไม่ยอมแต่งกับโจวห
ยานเด็ดขาด แต่ไม่วา่ นางจะกล่าวอย่างไร คนเป็ นพ่ออย่าง
เยวี่ยเจี้ยนฉิ วกลับไม่ฟังเหตุผลแม้แต่น้อย ดังนั้นนางจึง
กล่าวขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยวทันทีวา่ ‘หากข้า,เยวี่ยเมิ่งลี่จดั ต้อง
ตบแต่งกับใครสักคนจริ งๆ เช่นนั้นข้าต้องการแต่งกับยอด
อัจฉริ ยะที่แข็งแกร่ งที่สุดเท่านั้น!’

นี่จึงเป็ นเหตุผลทั้งหมดที่ก่อให้เกิดงานประลองจันทร์ฉาย
ในคราวนี้
ในชัว่ พริ บตาเจ็ดถึงแปดปี ผ่านพ้นไป อาการป่ วยของจิต
วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ฉีกขาดทวีความรุ นแรงมากขึ้น เยวี่ย
เมิ่งลี่ได้แต่หลัง่ น้ าตาไม่หยุดด้วยความเจ็บปวดในทุกๆ
ขณะวัน อาการกาเริ บของนางเริ่ มถี่ข้ นึ เรื่ อยๆจนแทบทน
ทุกข์ทนมานเกือบทั้งวัน

ถึงแม้จะมีน้ ายาผสานจิตอสุ ระ แต่น้ นั ก็ช่วยให้นางพ้นจาก


ความเจ็บปวดได้ระยะหนึ่งเท่านั้น

ทว่าอย่างไร เยวี่ยเมิ่งลี่ยงั คงไม่สูญสิ้ นศรัทธา ทุกลม


หายใจนางยังคงเฝ้ารอการมาถึงของชายคนหนึ่งอยูต่ ลอด
เยวี่ยเมิ่งลี่เชื่อว่า สักวันเย่หยวนจะต้องกลับมาช่วยนาง
แน่นอน!

“ท่านป้า งานประลองจันทร์ฉายต่อจากนี้ จะเป็ นตัวตัดสิ น


ทุกอย่าง ไม่วา่ จะกล่าวอันใดในเวลานี้ ก็ไม่มีประโยชน์
แล้วกระมัง? หากโจวหยานสามารถคว้าอันดับหนึ่งมา
ครองได้จริ งๆ ข้าเองย่อมรักษาสัญญาที่ลนั่ ไว้”

เยวี่ยเมิ่งลี่เปิ ดปากกล่าวขึ้นด้วยเสี ยงเย็น


ผิวพรรณของนางขาวซีดและดูไร้เรี่ ยวแรงอย่างมาก แต่
กระนั้นมันก็ยงั ไม่อาจปิ ดซ่อนเส่ ห์ดุจเทพธิดานางสวรรค์
ของนางได้

ปัจจุบนั ยิง่ เยวี่ยเมิ่งลี่ผงู ้ ดงามดุจนางฟ้าอ่อนแอถึงขีดสุ ด


มันก็ยงิ่ กระตุน้ ให้บุรุษเพศทุกคนต้องการที่จะปกป้ อง

“หุหุ ข้าเกรงว่า…มันคงไม่ง่ายเช่นนั้น! หากเย่หยวนเข้า


ร่ วมงานประลองด้วย อันดับหนึ่งคงยากจะตัดสิ น!”

เบื้องหลังเยวี่ยเมิ่งลี่ ปรากฏเยาวชนในชุดสี น้ าเงินเอ่ยปาก


ออกมา
แน่นอนว่าเยาวชนในชุดสี น้ าเงินนี้ก็คือ เย่ชิง

เจ็ดถึงแปดปี ที่ผา่ นมา กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกจากร่ างเย่


ชิง แกร่ งกร้าวกว่าในอดีตอย่างไม่ติดฝุ่ น ในปัจจุบนั เขา
ทะลวงขึ้นสู่ พลังระดับเก้าเรี ยบร้อยแล้ว!

เมื่อได้ยนิ เช่นนั้น พลันทาให้คนอื่นๆพลางนึ กถึงบุรุษ


หนุ่มนามเย่หยวนได้ในทันใด

แต่โจวหยานมิได้แสดงท่าทีโกรธโมโหอันใด เขาเพียง
กล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มบางๆว่า
“เย่หยวน? แม้พรสวรรค์ของเขาจะดีเลิศเพียงใด แต่จะให้
ทรงพลังก่อนงานประลองจันทร์ฉายเริ่ มต้น เกรงว่า
เป็ นไปไม่ได้ เมื่อกล่าวถึงเรื่ องนี้ เขาเองก็หายสาบสู ญไป
หลายปี แล้ว”

“ถูกต้องที่สุด! ไอ้ขยะแดนล่างนั้น แค่ไม่กี่ปีมานี้ มันจะ


ทรงพลังมากมายแค่ไหนกัน? บางที มันยังขึ้นไม่ถึง
อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าด้วยซ้ า! เศษขยะจริ งๆ!”

โจวเฉวียนยรู่ กล่าวขึ้นพร้อมสี หน้าอันรังเกียจ


คิว้ โค้งงามดุจคันศรของเยวี่ยเมิ่งลี่ขมวดแน่น และกล่าว
ขึ้นอย่างไม่พอใจว่า

“อาการป่ วยของลี่เอ๋ อ ไม่สามารถทานทนได้ไหวอีก


ต่อไป หรื อเป็ นไปได้ไหมว่า ท่านป้าต้องการให้ลี่เอ๋ อตาย
ต่อหน้าต่อตาท่านตรงนี้?”

หัวใจของโจวเฉวียนเต้นกระหน่าโครมดังด้วยความตกใจ
นางไม่คิดว่าเยวี่ยเมิ่งลี่จะใจเด็ดกล้ากล่าวเช่นนี้ออกมา
ตรงๆ นางรี บหันไปกล่าวด้วยรอยยิม้ อ่อนทันทีวา่
“ลี่เอ๋ อ เจ้าเข้าใจป้าคนนี้ผิดไปแล้ว ตัวข้าหวังเสมอว่าสัก
วันอาการป่ วยของเจ้าจะต้องดีข้ นึ แต่ที่ขา้ กล่าวประเมิน
ก่อนหน้า ล้วนยึดหลักความเป็ นจริ งเท่านั้น ในระยะหก
ถึงเจ็ดปี มานี้ ต่อให้เย่หยวนมีพรสวรรค์มากมายเพียงใด
แต่มนั ก็ควรมีขีดจากัดใช่หรื อไม่? แล้วการที่ป้าคนนี้
คาดคะเนว่า อีกฝ่ ายยังขึ้นไม่ถึงอาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้า
มันผิดพลาดอย่างไร?”

“เช่นนั้นรึ ? เกรงว่าเย่ผนู ้ ้ ีคงต้องทาให้ท่านผิดหวังแล้ว!”


ในขณะนั้นเอง จู่ๆก็ปรากฏร่ างชายหนุ่มค่อยๆย่างก้าวเดิน
เข้ามา พร้อมน้ าเสี ยงเย้ยหยันสุ ดพรรณนา
ตอนที่935 ขึน้ สู งสู่ เก้าสวรรค์ ฟ้าเพื่อหยิบคว้ าในกามือ

เมื่อเห็นเงาร่ างที่นางมิได้พานพบกันเสี ยนาน เยวี่ยเมิ่งลี่


พลันงุนงงอยูค่ รู่ หนึ่ง

ไม่มีใครทราบว่าเยวี่ยเมิ่งลี่กลับมาที่นี่เนิ นนานตั้งแต่
เมื่อใด ใบหน้านี้ห่างเหิ นมานานกี่ปีแล้ว

ความเจ็บปวดที่จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ถูกฉี กทั้งเป็ น เยวี่ย


เมิ่งลี่สุดทรมานเกินพรรณนานับ คนภายนอกไม่สามารถ
จินตนาการออกได้เลย

ทว่าเมื่อใดที่อาการกาเริ บหนักถึงขั้นขาดใจ ภาพในหัว


ของนางมักมีใบหน้าชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นอยูเ่ สมอ
เย่หยวนคือสิ่ งเดียวที่ทาให้นางอยากมีชีวิตต่อไป! เขาคือผู ้
มอบความกล้าหาญให้แก่นาง!

ร่ างบางสวยพุ่งพุ่งเข้าโอบเอวเย่หยวนอย่างไม่คิดชีวิต
ทันที!

“ในที่สุด ในที่สุด…ท่านก็มา ข้ารอคอยท่านมาโดย


ตลอด!!”

สรรพสิ่ งช่างเงียบสงบ อารมณ์ผนั ผวนปรวนแปรมิใช่นาง


ไม่มี แต่มนั อัดอั้นตันใจจนเกินระบายย่างแท้จริ ง น้ าตาที่
ริ นไหลของเยวี่ยเมิ่งลี่มิใช่น้ าตาของหญิงสาวทัว่ ไปจะ
เทียบเทียม

แน่นอน เยวี่ยเมิ่งลี่เป็ นดัง่ นางฟ้าสาหรับทุกคนเสมอมา

ทว่าเพียงแค่ประโยคสั้นๆที่เปล่งเมื่อครู่ แม้จะเรี ยบง่าย


และสั้น แต่น้ นั ได้บ่งบอกถึงความรู ้สึกทั้งหมดออกไป
แล้ว

ความปรารถนาที่นางอยากมีชีวิตอยูต่ ่อไป ความอุตสาหะ


และใจที่เด็ดเดี่ยว ทั้งหมดหวังเพื่อได้พาบพบและนัง่ ชม
จันทร์ในยามราตรี กบั ชายหนุ่มคนนั้นอีกครั้ง และทั้งหมด
มีเพียงเท่านี้จริ งๆ
เพียงได้เห็นเย่หยวนอีกครั้ง นางก็สุขใจเกินพอแล้ว!

สรรพสิ่ งอื่นใดล้วนไม่สาคัญอีกต่อไป!

“อืม ข้ามาแล้ว ทุกอย่างจะจบลงในอีกไม่ชา้ ”

เย่หยวนกล่าวปลอบเบาๆ

“อะแฮ่ม อะแฮ่ม…”
เบื้องหลังเย่หยวน เสี ยงไอแห้งส่ งลอดผ่านออกมา

เยวี่ยเมิ่งลี่ตกใจจนผงะออกจากอ้อมกอดเย่หยวน และจับ
จ้องบุคคลด้านหลังอย่างไม่เป็ นมิตร

แต่เย่หยวนมิได้สนใจแม้สักนิด พร้อมดึงร่ างบางสวยของ


เยวี่ยเมิ่งลี่เข้ากระชับกอดดังเดิม และไม่มีเจตนาที่จะ
ปล่อยใดๆ

สี หน้าของโจวหยานเปลี่ยนเป็ นสี เขียวในบัดดล สายตาที่


จ้องมองเย่หยวนมันเต็มไปด้วยความอาฆาตสุ ดอัดอั้น
เขาเกิดและเติบโตมาพร้อมเยวี่ยเมิ่งลี่ต้ งั แต่เยาว์วยั กล่าว
ได้วา่ เขารู ้จกั อุปลักษณ์นิสัยของนางดีกว่าใครที่รู้จกั แม้เย่
หยวนจะกระชับอ้อมกอดแน่น แต่นางกลับมิได้ขดั ขืน
ใดๆ ไข่มุกบริ สุทธิ์ ที่เยือกเย็นดัง่ เจ้าหญิงหิ มะในใจเขา
กาลังยอมให้สวะแดนล่างคนหนึ่งกอดจริ งๆ!

เมื่อใดกัน? เมื่อใดที่เยวี่ยเมิ่งลี่จะทาเช่นนี้กบั เขาบ้าง?


ความหึ งหวงของโจนหยาน และความเกลียดชังที่มีต่อเย่
หยวน มันอัดแน่นจนล้นปรี่ อยู่ในจิตใจมากเกินไป และ
มากจนไม่สามารถหาคาใดมาเทียบเทียงได้

ทว่าเมื่อเขาพลันนึ กถึงจอมราชันย์วิญญาณสัประยุทธ์
เบื้องลึกในใจเขากลับสั่นกลัวอย่างห้ามไม่อยู่

“เจ้า…เจ้าเย่หยวนจริ งๆ? จุดสู งสุ ดแห่งอาณาจักรวิชชา


สวรรค์ฟ้าระดับเก้า? นี่…นี่เป็ นไปได้อย่างไร?”

ในขณะเดียวกัน สุ่ มเสี ยงสุ ดประหลาดใจของโจวเฉวียนย


รู่ ก็ดงั ขึ้น ภาพฉากนี้ทาให้ใบหน้าสุ ดมัน่ ใจของนางแตก
เป็ นเสี่ ยงๆ
ก่อนหน้านี้ นางยังคงกล่าวเย้ยหยันอย่างมัน่ ใจยิ่งว่า เย่
หยวนยังขึ้นไม่ถึงอาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าด้วยซ้ า แต่เย่
หยวนที่ยืนอยูต่ ่อหน้าต่อตานางในปัจจุบนั ไม่เพียงบรรลุ
ถึงอาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าแล้วเท่านั้น แต่อีกเพียงก้าว
เดียว เขาก็จะทะลวงขึ้นสู่ อาณาจักรไร้เทียมทาน!

ความเร็ วในการบ่มเพาะพลังเช่นนี้ ไม่น่ากลัวเกินไป


หรอกรึ ?

ในเวลานี้ โจวหยานเองก็ตระหนักได้ถึงอาณาจักรพลัง
ของเย่หยวนได้แล้วเช่นกัน เรี ยกได้วา่ แทบไม่อยากเชื่อ
เนตรตัวเอง
ตลอดที่ผา่ นมาสองปี ตระกูลโจวมักคาดเดาอยูเ่ สมอว่า เย่
หยวนน่าจะเป็ นบุตรบุญธรรมของจอมราชันย์วิญญาณ
สัประยุทธ์ แต่น้ นั เป็ นเพียงข้อสันนิฐานเท่านั้น อย่างไรก็
ตาม เมื่อเห็นระดับความเร็ วการบ่มเพาะของเย่หยวน
ในตอนนี้ ….หรื อนี่จะเป็ นเรื่ องจริ ง?!

ในครั้งแรกที่โจวหยานพบกับเย่หยวน อีกฝ่ ายจะเป็ นแค่


เศษขยะในอาณาจักรเคียงสวรรค์ช้ นั ฟ้าเท่านั้น

กาลเวลาไหลผ่านไปเพียงหกถึงเจ็ดปี แต่เย่หยวนกลับ
สามารถทะลวงสามอาณาจักรพลังหลักได้ในอึดใจเดียว!
สิ่ งเหล่านี้ได้สร้างแรงกดดันให้แก่โจวหยานอย่างใหญ่
หลวง
ใครจะคิดว่าเศษสวะแดนล่างจะเป็ นบุตรบุญธรรมของ
บุคคลอันทรงอานาจในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ? แถมมันก็ยงั
บ่มเพาะพลังได้รวดเร็ วถึงปานนี้?

“หึ ! จุดสู งสุ ดแห่ งอาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าแล้วอย่างไร?


ด้วยเศษเสี้ ยวความแข็งแกร่ งของแก มันเป็ นไปไม่ได้ที่จะ
เอาคว้าอันดับหนึ่ งในงานประลองจันท์ฉายอยูแ่ ล้ว! แต่ไม่
เป็ นไร เย่หยวน หากเจ้ายังเป็ นลูกผูช้ ายจริ งๆ จงเข้าร่ วงาน
ประลองและขึ้นต่อสู ้กบั โจวหยานผูน้ ้ ีอย่างสมเกียรติ! ให้
ทุกคนได้เห็นกันไปเลย ว่าใครที่เหมาะสมกว่ากันแน่!
เข้าใจไหมเย่หยวน?!”

โจวหยานในขณะนี้ร้อนรนยิง่ กว่าไก่ยา่ งในเตาอบ เขาเอ่ย


ปากท้าทายเย่หยวนในทันที

“เย่หยวน ข้า…”

เยวี่ยเมิ่งลี่เงยศีรษะจับจ้องเย่หยวนด้วยท่าทีค่อนข้างขวย
เขินเจือละอาย ที่นางลัน่ วาจาจัดงานประลองจันทร์ฉายก็
เพื่อถ่วงเวลาเท่านั้น และนางไม่คิดไม่ฝันเลยว่า เย่หยวน
จะปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้ จริ งๆ
เย่หยวนโบกมือปัดและกล่าวว่า

“ลี่เอ๋ อไม่เจ้าคงเป็ นคนเสนอความคิดนี้? อืม…เจ้าทาได้ดี


แล้วล่ะ ผูท้ ี่ได้ครองคู่กบั เจ้าควรจะเป็ นบุรุษผูแ้ ข็งแกร่ ง
ที่สุด! โจวหยาน อย่าคิดตาหนิ ขา้ คิดซะว่าข้า,ชายไม่แท้
หญิงไม่จริ งสักวันล่ะกัน! หุหุ เจ้าจาต้องเอาชนะทุกคนใน
งานประลองจันทร์ฉายและคว้าอันดับหนึ่งให้ได้เสี ยก่อน
ถึงจะมีคุณสมบัติเข้าต่อสู ้กบั ข้า มิเช่นนั้นก็อย่าหวัง!”
โจวหยานชะงักไปชัว่ ครู่ ก่อนระเบิดเสี ยงหัวเราะพลาง
กล่าวว่า

“ฮ่าฮ่าฮ่า! เย่หยวน เจ้าหยิง่ ผยองเกินไป! ใครจะโง่ไปฟัง


คนอย่างแก? เหล่ายอดอัจฉริ ยะในดินแดนศกดิ์สิทธิ์มีนบั
ไม่ถว้ น และพัฒนาการของพวกเขาแต่ละคนก็เหนือชั้น
กว่าเจ้านัก หากให้กล่าวตามตรง เจ้ายังไม่ติดร้อยอันดับ
แรกเลยซ้ าด้วย! ตอนนี้ขา้ ยังไม่มีคุณสมบัติทา้ ทายเจ้า?
ปัญญาอ่อนสิ้ นดี!”
เย่หยวนยักไหล่ตอบและกระชับกอดร่ างบางของเยวี่ยเมิ่ง
ลี่โดยไม่สนใจใดๆอีก เขาไม่คิดที่จะอธิบายใดๆเลยสัก
นิด

“อะแฮ่ม! เอ่อ… หยานเอ๋ อ ข้าสัญญากับเย่หยวนไว้แล้ว


งานประลองจันทร์ฉายในวันพรุ่ งนี้ ผูท้ ี่มีคุณสมบัติได้เข้า
ประลองกับเย่หยวน จาต้องคว้าชัยเป็ นอันดับหนึ่งของาน
ประลองให้ได้เสี ยก่อน!”

พลันจ้องเขม็งใส่ เย่หยวนกับลูกสาวตาขวาง เยวี่ยเจี้ยนฉิ ว


หันมาเอ่ยปากกล่าวกับโจวหยาน
โจวหยานสาดสายตาใส่ เยวี่ยเจี้ยนฉิ วด้วยความตะลึงงัน
พร้อมกล่าวขึ้นความไม่เชื่อว่า

“ท่านลุงเยวี่ย ท่าน…ท่านหยอกเล่นแล้วกระมังฦ เย่หยวน


มันมีสิทธิ์พิเศษอันใด ถึงได้รับคุณสมบัติเช่นนี้?”

การตัดสิ นใจของเยวี่ยเจี้ยนฉิ วในครั้งนี้ นับว่าน่าเกลียด


เกินไป!

เย่หยวนเป็ นเพียงนักสู ้อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้า กลับได้


สิ ทธิ์ไปยืนรออย่างสบายอารมณ์ แต่ในทางกลับกัน ตัว
เขากลับต้องเข้าฝ่ าฟันยอดอัจฉริ ยะจานวนนับไม่ถว้ นใน
วันพรุ่ งนี้ นี่ มนั เรื่ องตลกใช่ไหม?

สี หน้าของเยวี่ยเจี้ยนฉิ วมืดลงเล็กน้อยและกล่าวอย่างเยือก
เย็นว่า

“เจ้าเองก็ควรทราบดี…เย่หยวนย่อมมีสิทธิ์พิเศษเช่นนี้!”
เมื่อได้ยนิ คากล่าวเจือนัยแฝง โจวหยานพลันนึ กถึงจอม
ราชันย์วิญญาณสัประยุทธ์อีกครา หรื อเป็ นไปได้ไหมว่า
เรื่ องที่เย่หยวนเป็ นลูกบุญธรรมจะเป็ นความจริ ง?!

“เอาล่ะ เสวนามามากพอแล้ว อาการป่ วยของลี่เอ๋ อไม่อาจ


ล่าช้าได้ ข้าจาต้องเริ่ มตรวจชีพจรลี่เอ๋ อแล้ว”

เย่หยวนกล่าวขึ้นโดยไม่แยแสใดๆ
“เจ้า? เจ้ามาที่นี่เพื่อรักษาอาการป่ วยของลี่เอ๋ อจริ งๆ?
ตามที่ขา้ ทราบ หากต้องการรักษาอาการของลี่เอ๋ อให้
หายขาด จาต้องหลอมกลัน่ โอสถนามว่า โอสถจิตพิรุณ
ค้างฟ้า จริ งไหม? แต่โอสถชนิดนี้ แม้แต่จกั รพรรดิโอสถ
ที่ขา้ เชิญมายังไม่สามารถหลอมกลั้นได้ แล้วเจ้าที่อยูแ่ ค่
อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้า จะสามารถหลอมโอสถจิต
พิรุณค้างฟ้าได้อย่างไร?”

โจวหยานกล่าวถามพร้อมสายตาสุ ดดูถูกที่จบั จ้อง

เย่หยวนเงยหน้ามองสวนอีกฝ่ ายอย่างเยือกเย็น เขากล่าว


ขึ้นด้วยรอยยิม้ ที่ไม่ใช่รอยยิม้ ว่า
“หมายถึงสู ตรโอสถที่ขา้ เคยมอบให้เมื่อนานมาแล้ว? นั้น
เป็ นโอสถที่มีแต่ขา้ เท่านั้นที่สามารถหลอมได้ แต่เจ้าก็
กล่าวถูกต้องอยูส่ ิ่ งหนึ่ง ด้วยอาณาจักรพลังปัจจุบนั ของข้า
ข้ายังไม่สามารถหลอมกลัน่ โอสถระดับแปดได้จริ งๆ”

โจวหยานแสยะยิม้ อย่างเยือกเย็นทันทีที่ได้ยนิ และกล่าว


ว่า

“เห็นไหม ข้าบอกแล้ว! ถึงแม้ว่าสู ตรโอสถนี้จะเป็ นของ


เจ้า แต่เนื่องด้วยความยากซับซ้อนเกินเข้าใจ กระทั้ง
จักรพรรดิโอสถยังไม่สามารถทาสาเร็ จ แต่ดูเจ้าสิ ? ขึ้น
กลายเป็ นเซียนโอสถนิรันดร์ให้ได้ก่อนเถอะ! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“เซียนโอสถนิรันด์? นั้น…ช่างเป็ นเรื่ องง่ายดายนัก! รอข้า
เพียงสักครู่ !”

ทันใดนั้น จู่ๆสี หน้าท่าทางสุ ดเย้ยหยันของโจวหยานพลัน


แปรเปลี่ยนในทันที

พลังปราณธรรมชาติอย่างสวรรค์และปฐพีโดยรอบพุ่ง
ทะลักออกมาไม่หยุด ท้องนภาไพศาลอันสดใสอันตธาน
สิ้ น พร้อมแทนที่ดว้ ยกลุ่มเมฆาสี ทมิฬนับไม่ถว้ น สาย
อัสนีคลัง่ วาดผ่านหลายสิ บร้อย เสี ยงกัมปนาทกู่ลนั่ แซ่
ซ้อง ทันใดนั้น พลันปรากฏทัณฑ์สวรรค์สีขาวม่วงโฉบ
แลบไปมาอย่างรวดเร็ ว

ทัณฑ์ฟ้าสองสี !

เย่หยวนกาลังเข้ารับการทดสอบของสรวงสวรรค์!

“เย่หยวน เจ้าบ้าไปแล้ว! หากต้องการฝ่ าฟันการทดสอบ


ของสรวงสวรรค์ระดับนี้กลางบ้าน มีหวังตระกูลเยวี่ยได้ก
ลายเป็ นซากปรักหักพัง!”
เยวี่ยเจี้ยนฉิ วกล่าวขึ้นดัง่ เสี ยงประกาศิต

หากเป็ นการทดสอบของสรวงสวรรค์ทวั่ ไป ความ


แข็งแกร่ งของตาหนักเรื อนตระกูลเยวี่ยย่อมทานทนได้
อย่างสบายๆ แต่โดยส่ วนใหญ่ ทุกคนล้วนเข้าป่ าเขารับ
การทดสอบเพื่อความปลอดภัย

แต่เย่หยวนกลับเลือกที่จะเข้ารับการทดสอบของสรวง
สวรรค์ต่อหน้าทุกคน!

ยิง่ ไปกว่านั้น การทดสอบของสรวงสวรรค์ของเย่หยวน


ยังรุ นแรงเกินชาวบ้านชาวช่องไปมาก!
เย่หยวนยิม้ และกล่าวว่า

“หากต้องการหลอมกลัน่ โอสถจิตพิรุณค้างฟ้า จาต้อง


พึ่งพาพลังอัสนีเหล่านี้ และพลังของทัณฑ์ฟ้าเหล่านี้ก็ช่าง
เหมาะสมที่สุด! ทุกคนโปรดเฝ้ารออย่างใจเย็น ข้าขอเวลา
ไม่นาน!”

เมื่อกล่าวจบ เย่หยวนเหาะขึ้นสู งสู่ ใจกลางเก้าสวรรค์ฟ้า


พร้อมเตรี ยมรับการทดสอบของสรวงสวรรค์โดยตรง!
เขาเตรี ยมพร้อมรับมือทัณฑ์ฟ้าทั้งหมดกลางเวหาแล้ว!

ครื นน ครื นนน…เปรี๊ ยงงง!!

ทัณฑ์ฟ้าสุ ดน่าสะพรึ งสองสี ฟาดผ่าเข้าใส่ เย่หยวนสุ ดแรง


เป็ นสองสายผสานรวม!

เย่หยวนคารามลัน่ อย่างไร้ซ่ ึงความเกรงกลัว พร้อมเข้า


สะบั้นทัณฑ์ฟ้าสองสี สวนกลับคืนสุ ดกาลัง!
ความแกร่ งกร้าวทางด้านร่ างกายของเย่หยวนสู งถึงระดับ
แปดขั้นกลาง ทัณฑ์ฟ้าสี ขาวไม่สามารถทาอันตรายใดๆ
เขาได้เลย และด้วยอนุภาพของไข่มุขสยบวิญญาณภายใน
ทะเลแห่งจิตใจ ทัณฑ์ฟ้าสี ม่วงก็มิอาจย่างกรายทาร้ายจิต
วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนได้เช่นกัน!

ฉะนั้นแล้ว ต่อหน้าการทดสอบของสรวงสวรรค์ในคราว
นี้ เขาไม่จาเป็ นต้องกังวลใดๆเลย!

ครื นน…ครื นนน!


ดัง่ สรวงสวรรค์รู้สึกสัมผัสได้ เมื่อเห็นการกระทาอันหยิ่ง
ผยองของเย่หยวน ฟากฟ้าทัณฑ์ฟ้าสองสี ก็ยงิ่ โกรธเกรี้ ยว
เป็ นทบทวี!

แต่เย่หยวนยังคงทาตัวสบายอารมณ์ มิได้เกริ่ นเกรง


สวรรค์ฟ้าอันใด พร้อมเข้าสะบั้นทัณฑ์ฟ้าที่กระหน่าลงมา
หลังจากนั้นต่อเนื่ องไม่ย้งั มือ

ในที่สุด ทัณฑ์ฟ้าสองสี รอบสุ ดท้ายก็ก่อตัวขึ้น แรงกดดัน


จากสรวงสวรรค์ที่แผ่ลปกคลุมทัว่ บริ เวณช่างน่าตกใจยิ่ง
ดวงตาของทุกคนพลันเบิกกว้างทันทีดว้ ยความหวัน่ เกรง
โดยไม่แช่มช้าใดๆ ทัณฑ์ฟ้าสองสี รอบสุ ดท้ายฟาดผ่าลง
มาอย่างแรง อนุภาพการทาลายล้างของมัน กระทั้งฟ้ายัง
ต้องสะเทือน ผืนพิภพยังต้องสะท้าน!

แต่ทนั ใดนั้น เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น! เย่หยวนกลับ


ยืน่ มือออกไปคว้าจับทัณฑ์ฟ้าทันทีดว้ ยมือเปล่า!
ตอนที่936 เป็ นเขาอย่ างไม่ ต้องสงสั ย!

พลังปราณสุ ดสะเทือนฟ้าสะท้านดินพวยพุ่งจากร่ างเย่


หยวนอย่างบ้าคลัง่ แต่แล้วอย่างไรทัณฑ์ฟ้าในกามือกลับ
พยศอย่างไม่น่าเชื่อ ประหนึ่งต้องการฆ่าเย่หยวน
ตลอดเวลา
เพียงแต่เย่หยวนมิได้สนใจขุมพลังทาลายล้างของทัณฑ์ฟ้า
เหล่านี้เลย มือซ้ายเร่ งหยิบขวดบรรจุสีเขียนหยก พร้อม
ร่ ายอาคมพร้อมใช้พลังปราณยัดทัณฑ์ฟ้าเหล่านี้ลงไปใน
ขวดโดยตรง

“ฟู่ ววว…แข็งแกร่ งยิง่ ! ใครกันที่สามารถสะบั้นการ


ทดสอบของสรวงสวรรค์อนั น่าสะพรึ งขนาดนี้ได้?”
“เมื่อครู่ เจ้าเห็นหรื อไม่?! เขาคว้าจับทัณฑ์ฟ้าด้วยมือ
เปล่า! การทดสอบของสรวงสวรรค์ในอาณาจักรไร้เทียม
ทาน เหมือนกับเป็ นของเล่นในมือเขา!”

“นั้นคือทัณฑ์ฟ้าสองสี จากสองการทดสอบ เพียงทัณฑ์ฟ้า


สี ขาวก็ยากเกินรับมือ แต่ยงั ปรกอไปด้วยทัณฑ์ฟ้าสี ม่วงที่
สร้างความเสี ยหายต่อจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์โดยตรง! นี่
นับเป็ นอันตรายถึงตาย! แต่…เจ้าหนุ่มนั้น…ผิดประหลาด
เกินไปหรื อไม่?”
เนื่องจากเย่หยวนเข้ารับการทดสอบที่ฟากฟ้าเหนื อตระกูล
เยวี่ย นี่จึงเป็ นราวกับเหตุการณ์ใหญ่ที่ดึงดูดทุกความ
สนใจของคนในตระกูลโดยธรรมชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิง่ กับภาพฉากสุ ดท้าย เย่หยวนคว้าจับ
ทัณฑ์ฟ้าด้วยมือเปล่าราวกับกินข้าวดื่มน้ า นี่จึงทาให้ทุก
คนตกตะตึงจนแทบไม่เชื่อสายตา สาหรับเยาวชนตระกูล
เยวี่ย เย่หยวนได้กลายเป็ นต้นแบบอันน่าเลื่อมใสไปแล้ว

เมื่อเห็นฉากนี้ สี หน้าการแสดงออกของโจวหยานบิด
เบี้ยวด้วยความน่าเกลียดยิง่
เขาคิดว่าการที่ทะลวงขึ้นสู่ อาณาจักรเต๋ าลึกล้ าได้สาเร็ จ
นั้นเพียงพอแล้วที่จะสลัดเย่หยวนออกไปตลอดกาล แต่
เมื่อมองดูตอนนี้ มันกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด!
การพัฒนาของเย่หยวน ทาให้อาณาจักรพลังหลักต่างๆดู
ไร้ค่าไปเลย!
เป็ นเรื่ องจริ งที่วา่ หากปราศจากความแข็งแกร่ ง จะมีใคร
กล้าลุกขึ้นสู ้กบั การทดสอบของสรวงสวรรค์?
แม้วา่ สี หน้าพื้นผิวของเยวี่ยเจี้ยนฉิ วยังคงสงบนิ่ง แต่เบื้อง
ลึกภายในใจกลับตกตะลึงไม่น้อยเช่นกัน
ที่ผา่ นมาเขาเคยได้ยนิ แต่เกียรติศกั ดิ์วีรกรรมต่างๆของเจ้า
หนุ่มคนนี้ และความประทับใจแรกที่มีต่อเย่หยวนก็ไม่
ค่อยดีนกั ใครจะรู ้วา่ เจ้าหนุ่มคนนี้อาจหลอกใช้ลูกสาว
ของเขาก็เป็ นได้ หากไม่เห็นแก่หน้าจอมราชันย์วิญญาณ
สัประยุทธ์ ตระกูลเยวี่ยเองคงฆ่าเย่หยวนทิง้ ไปนานแล้ว

กระนั้นเอง ในปัจจุบนั เยวี่ยเจี้ยนฉิ วทราบแล้วว่า ไฉนเย่


หยวนถึงหยิง่ ผยองถึงขั้นนี้ เขาไม่ได้เพียงพึ่งพาชื่อเสี ยง
อันลือชาของซ่งจี้เจิน
แต่ตวั เขาเองก็มีความแข็งแกร่ งสุ ดน่าสะพรึ งอย่างหาที่ใด
เปรี ยบไม่!
เมื่อเย่หยวนเอาชนะการทดสอบของสรวงสวรรค์ได้
สาเร็ จ เขาก็ร่อนลงสู่ พ้นื ดินอย่างแช่มช้า พร้อมด้วยกลิ่น
อายแรงกดดันที่ทะยานเพิ่มขึ้นไม่หยุด
เมื่อเขามาถึงเบื้องหน้าทุกคนอีกครา นี่กลับทาให้หลายคน
รู ้สึกถึงความลึกลับของชายหนุ่มคนนี้
อาณาจักรไร้เทียมทาน แบ่งได้เป็ น อไร้เทียมทาน และ ไร้
เทียมทาน ความแตกต่างระหว่างสองระดับนี้ราวกับ
สวรรค์และผืนพิภพ นี่เป็ นตัวแสดงให้เห็นถึงระดับความ
เข้าใจต่อศาสตร์แห่งสวรรค์วา่ ลึกซึ้งถึงขั้นใด
อย่างไรก็ตาม จากภาพฉากเมื่อครู่ เย่หยวนก็แสดงให้เห็น
อย่างชัดแจ้งแล้วว่า ตนเหนือกว่านักสู ้โดยทัว่ ไปมาก และ
นี่คืออาณาจักรไร้เทียมทานที่แท้จริ ง
ยิง่ ไปกว่านั้นขุมพลังของเย่หยวนยังเหนือกว่านักสู ้คน
อื่นๆที่เพิ่งขึ้นสู่ อาณาจัดรไร้เทียมทานที่แท้จริ งมาก
สิ่ งนี้ช้ ีชดั ให้เห็นแจ้งว่า ระดับความเข้าใจของเย่หยวนต่อ
ศาสตร์แห่งสวรรค์ เหนือล้ าไปกว่านักสู ้ระดับชั้นเดียวกัน
หลายยขุม!

“ตอนนี้ ข้าก็สามารถหลอมกลัน่ โอสถจิตพิรุณค้างฟ้าได้


แล้ว!”
เข้าเผชิญหน้ากับทุกคนอย่างไร้ซ่ ึงความเกรงกลัว เย่หยวน
กล่าวขึ้นอย่างเมินเฉย

สี หน้าการแสดงออกของโจวหยานเปลี่ยนไปทันที ก่อน
หัวเราะเยาะดังขึ้นและกล่าวว่า
“แค่อาณาจักรไร้เทียมทานขั้นต้น จะมีปัญญาหลอมโอสถ
จิตพิรุณค้างฟ้าได้อย่างไร? กระทั้งจักรพรรดิโอสถยัง
ล้มเหลว แล้วแกนับเป็ นอันใด?”
ความยากลาบากในการหลอมกลัน่ โอสถจิตพิรุณค้างฟ้า
ได้แพร่ สะพัดออกเป็ นวงกว้างอย่างรวดเร็ วในช่วงหกถึง
เจ็ดปี ที่ผา่ นมา
แม้แต่จกั รพรรดิโอสถบางรายที่มีพลังเทียบเคียงเฉวียนซิ่ง
ซี เขายังต้องเสี ยศูนย์ไปเช่นกันเมื่อต้องหลอมโอสถระดับ
แปดที่น่าตายชนิดนี้
กล่าวได้วา่ ไม่มีใครเลยที่สามารหลอมกลั้นมันได้สาเร็ จ

เย่หยวนยังคงสงบเยือกเย็นยิง่ เขาเอ่ยปากกล่าวขึ้นอย่าง
เมินเฉยว่า
“ต่อหน้าข้าผูน้ ้ ี พวกนั้นเป็ นเพียงตัวตลก!”

“ช่างหยิง่ ยโส! แกมันก็แค่เด็กน้อยที่ไม่รู้ฟ้าสู งแผ่นดิน


ต่า! โอสถจิตพิรุณค้างฟ้าที่มาจากในมือเจ้า แม้แต่
จักรพรรดิโอสถก็ยงั ไม่สามารถหลอมกลัน่ ขึ้นได้ แล้ว
อาณาจักรไร้เทียมทานชั้นสวะอย่างแก คิดหรื อว่าจะ
หลอมได้? หรื อเป็ นไปได้ไหมว่า…แกจะจงใจให้สูตร
โอสถผิดๆแก่พวกเรา?!”
ทันใดนั้นโจวเฉวียนยรู่ ก็โพลงตะคอกด่า พร้อมด้วย
รอยยิม้ สุ ดเหยียดเย็น
เมื่อคากล่าวเหล่านี้เปล่งออกมา สี หน้าที่คนพลัน
เปลี่ยนไปทันที คากล่าวโต้แย้งของโจวเฉวียนยรู่ นบั ว่า
สมเหตุสมผลอย่างมาก นี่ นทาให้พวกเขาทั้งหมดอดสงสัย
ในตัวเย่หยวนทิได้เลย
ไม่ควรมีเหตุผลอันใด ที่แม้แต่จกั รพรรดิโอสถอันดับ
ต้นๆของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถหลอมกลัน่ ได้
เว้นเสี ยแต่วา่ สู ตรโอสถที่เย่หยวนให้มาจาผิดตั้งแต่แรก?
สถานการณ์เช่นนี้ช่างไม่สอดคล้องกับความเป็ นจริ งอย่าง
ยิง่

เมื่อเห็นปฏิกิริยาท่าทางของทุกคนที่แปรเปลี่ยน โจว
เฉวียนยรู่ ก็ยงิ่ รู ้สึกพึงพอใจกับตนเองอย่างมาก นางสาด
สายตาใส่ เย่หยวนอย่างเย้ยหยันและกล่าวต่อเวยรอยยิม้
เย็นว่า
“เจ้าใช้สูตรโอสถปลอมและหลอกลี่เอ๋ อมาโดย
ตลอด! บางที อาการป่ วยของลี่เอ๋ ออาจมิได้ร้ายแรงขนาด
นี้ต้ งั แต่แรก แต่เจ้ากลับเลี้ยงไข้และใช้วิธีผิดๆจนทาให้
อาการหนักถึงขั้นนี้ คงใช้เคล็ดลับอะไรบางอย่างเพื่อให้
นางแย่ลงใช่ไหม? จากนั้นเจ้าก็แสร้งทามาช่วยเพื่อให้นาง
ทราบซึ้งในบุญคุณ และครองคู่กบั นาง? ช่างเป็ นแผนที่ต่า
ทรามสิ้ นดี! พวกขยะแดนล่างล้วนแต่เศษสวะกันทุกคน!”
สี หน้าการแสดงออกของสมาชิดตระกูลเยวี่ยเริ่ มน่าเกลียด
มากขึ้นเรื่ อยๆ โดยเฉพาะโจวหยานที่จอ้ งเข็งใส่ เย่หยวน
ด้วยความอาฆาตสุ ดใจ
วางแผนล่อลวงและให้ลี่เอ๋ อมนทุกข์ทรมานมาเกือบสิ บปี
ทั้งหมดเพียงเพื่อครองใจนางเท่านั้น เย่หยวนมันสมควร
ตายยิง่ แล้ว!

“เย่หยวน! จิตใจของแกดามืดเกินไป! เกินไปจริ งๆ! พวก


เราทุกคนกลับถูกแกล่อหลวงมาโดยตลอด! ลี่เอ๋ อ เจ้ายัง
จะชื่นชมคนชัว่ ช้าเช่นนี้อยูอ่ ีกงั้นรึ !”
โจวหยานกัดฟั นแน่นด้วยความเกลียดชังยิง่ ภายในใจ

เย่หยวนจับจ้องอีกฝ่ ายสวนกลับ ด้วยสายตาประหนึ่งมอง


คนโง่ และกล่าวด้วยเสี ยงเย็นว่า
“ห้าวันต่อจากนี้ ข้าจะหลอมโอสถจิตพิรุณค้างฟ้าต่อหน้า
สาธารณะชนอย่างเปิ ดเผย! สามารถเชื้อเชิญนักหลอม
โอสถทุกท่านที่เคยทดลองหลอมโอสถจิตพิรุณค้างฟ้ามา
เป็ นสักขีพยานด้วยก็ได้! ไม่วา่ สู ตรโอสถของข้าจะมี
ปัญหาจริ งๆหรื อไม่ ข้อสงสัยทั้งหมดจะถูกขจัดทิ้งไปโดย
ธรรมชาติเมื่อถึงเวลานั้น!”

เมื่อคากล่าวเหล่านี้ดงั ขึ้น ทุกคนต่างตกตะลึงอย่างหาที่


เปรี ยบไม่
นักหลอมโอสถทุกคนล้วนรักสมบัติของตนยิง่ ชีพ สู ตร
โอสถที่ตนได้มาหรื อคิดค้นด้วยน้ าพักน้ าแรง หรื อกระ
ทั้งวรยุทธหลอมกลัน่ โอสถเฉพาะตัว ทั้งหมดล้วนเป็ น
สมบัติที่หาประเมินได้ไม่ แต่เย่หยวนกลับเอ่ยปากกล่าวว่า
จะหลอมโอสถต่อหน้าสาธารณะชนอย่างเปิ ดเผย นี่จะใจ
กว้างเกินไปหรื อไม่?
หากมิใช่เพราะ เย่หยวนมัน่ ใจในทักษาะการหลอมโอสถ
ขนาดนี้ เขาเองก็ไม่กล้าทาเช่นกัน
“นอกจากนี้ เนื่องจากป้าท่านนี้ สติไม่ค่อยสมประกอบ
กล่าวฟั่นเฟื อนใส่ ร้ายคนไปทัว่ เช่นนั้นแล้วอย่านานางเข้า
มาใกล้ขา้ อีก ข้าขยะแขยง!”
เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมมองโจวเฉวียนยรู่ ดว้ ยท่าทาง
รังเกียจ

สี หน้าท่าทางของโจวดฉวียนยรู่ เปลี่ยนไปทันทีและ
ขณะที่จะเอ่ยปากสวน นางกลับได้ยนิ ลี่เอ๋ อกล่าวแทรกขึ้น
แทนว่า
“ข้าเชื่อใจในตัวเย่หยวน! หากยังมีใครสักคนที่สามารถ
รักษาข้าได้ ก็มิใช่ใครอีกนอกจากเย่หยวนแล้ว! เขาไม่ได้
หลอกลวงข้า! นอกจากนี้ ไม่วา่ ใครที่คว้าชัยอันดับหนึ่ง
ในงานประลองจันทร์ฉาย เขาผูน้ ้ นั จะต้องเข้าต่อสู ้กบั เย่
หยวนเป็ นปราการด่านสุ ดท้าย!”
คากล่าวอันเด็ดเดี่ยวของเยวี่ยเมิ่งลี่ เป็ นดัง่ การฟาดแส่
อย่างแรงลงบนหัวใจของโจวหยาน
ความไว้วางใจขนาดนี้ ชัว่ ชีวิตนี้เขาไม่เคยได้รับจากนาง
มาก่อน

แต่เยวี่ยเมิ่งลี่และเย่หยวน เพิ่งรู ้จกั กันไม่ถึงสิ บปี แถมใน


ระหว่างนั้นหกถึงเจ็ดปี เขาและนางก็แยกจากไม่พบหน้า
กัน แต่ไฉนนางถึงเชื่อใจเย่หยวนถึงขนาดนี้?

“ลี่เอ๋ อ ทะ–ทาไมล่ะ?!”
โจวหยานโพลงกล่าวขึ้นพร้อมร่ ายกายที่สั่นเทา
ลี่เอ๋ อหันไปจับจ้องโจวหยานและกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า
“โจวหยาน หัวใจของข้า เจ้าไม่เคยเข้าใจเลยแม้สักนิด
ยอมแพ้ไปซะ!”
แน่นอนว่าไม่มีใครเคยเข้าใจหัวใจของเยวี่ยเมิ่งลี่มาก่อน
ในอดีตตั้งแต่วยั เยาว์ เยวี่ยเมิ่งลี่ได้พบสบตากับจี้ฉิงหยุน
และนั้นเป็ นดัง่ รักแรกพบของนาง ซึ่งหัวใจของนางถูกผูก
ติดไว้กบั เขาผูน้ ้ นั มาโดยตลอด
จนกระทั้งวันที่นางทราบข่าวการตายของจี้ฉิงหยุน หัวใจ
ของนางพลันแตกสลายกลายเป็ นเถ้าถ่าน และไม่เคยเปิ ด
ใจให้ใครอีกเลยตั้งแต่น้ นั
แต่สิ่งที่นางไม่คาดไม่ฝันถึงเลยก็คือ ในครานี่เยวี่ยเมิ่งลี่
เดินทางมายังแดนล่างเพื่อ ปลีกวิเวกตนเองออกจาก
ความเครี ยดทั้งมวลที่สั่งสม นางกลับวิ่งเข้าชนกับเด็ก
หนุ่มคนหนึ่ งนามเย่หยวนอย่างน่าอัศจรรย์!
และสิ่ งที่น่าแปลกใจที่สุดคือ ยิง่ ใช้เวลาร่ วมกันกับเย่
หยวนมากเท่าไหร่ ภาพของเขาคนนั้นก็ยงิ่ ซ้อนทับลงมา
จนแนบสนิท หัวใจที่เหี่ ยวเฉาของนางค่อยๆฟื้ นกลับคืน
ขึ้นอย่างช้าๆ

สาหรับเยวี่ยเมิ่งลี่ คงไม่มีสิ่งใดสวยงามไปกว่านี้อีกแล้ว!
อย่างไรก็ตามสิ่ งที่ทาให้เยวี่ยเมิ่งลี่ดีใจที่สุดคือ ไม่น่าเชื่อ
เลยว่า ประโยคดัง่ คาสารภาพภายในใจจะออกจากปากเย่
หยวนจริ งๆ
“ผูท้ ี่ได้ครองคู่กบั เจ้าควรจะเป็ นบุรุษผูแ้ ข็งแกร่ งที่สุด!”
และเย่หยวนก็แสดงตัวออกมาแล้วว่า ตนคือปราการด่าน
สุ ดท้าย
เป็ นไปได้ไหมว่า…ในที่สุดนางก็ได้รับการยอมรับจาก
เขาแล้ว?
ตอนที่937 ข้ าขอฟันฝ่ าไปพร้ อมท่ าน!

ดวงดาราทอประกายสุ กใสกลางห้วงราตรี จันทร์เจ้าสี


นวลสว่างสดใส เปล่งงามสุ ดขอบท้องถนนให้อารมณ์สุด
สงบรื่ นเย็น
แต่จนั ทร์เจ้าของเมืองจันทร์ฉายกลับแตกต่างจากที่อื่น
กระทั้งตอนกลางวันหากสังเกตดีๆ ก็ยงั สามารถพบเห็น
จันทร์เจ้าสว่างนวลงามอยูต่ ลอด ไร้ซ่ ึงกาลเวลาไร้ซ่ ึงรอบ
เวียนเคียงบรรจบ

ด้วยเหตุน้ ีจึงได้ชื่อว่า เมืองจันทร์ฉาย

เย่หยวนยืน่ ชมจันทร์เจ้าสุ กสว่างกลางราตรี พร้อมสองมือ


ไขว้หลัง สายลมอ่อนพัดโชยเผยสัมผัสชมชื่นเริ งอารมณ์
เขาสู ดหายใจลึกๆพร้อมถอนหายใจด้วยหลากอารมณ์ จู่ๆ
กล่าวขึ้นว่า
“สามร้อยปี เวียนบรรจบ สุ ริยนั อัคคีและจันทร์ฉาย ใน
ที่สุดทั้งสองพลันโคจรส่ องสว่างเคียงกันอีกครา! เนตร
สุ ริยนั จันทราเทวะที่ไม่เคยปรากฏมากว่าหนึ่งแสนปี ข้า
เพียงสงสัยว่า พวกท่านทั้งสองตระกูลจะสามารถทา
สาเร็ จหรื อไม่ อย่างไรก็ตาม…ลี่เอ๋ อ เจ้าคือความหวังสู งสุ
ของวงศ์ตระกูล”

ลี่เอ๋ อหรี่ ตาแคบครึ่ งหนึ่ งพร้อมจับจ้องไกลสุ ดขอบฟ้ามา


โดยตลอด แต่ทนั ทีที่ได้ยินคากล่าวของเย่หยวน ดวงตาคู่
งามของนางพลันเบิกกว้างและโพลงกล่าวขึ้นด้วยความ
แปลกใจว่า
“ท่าน…ไฉนท่านถึงดูคุน้ เคยกับเมืองสุ ริยนั อัคคีและเมือง
จันทร์ฉายถึงเพียงนี้?”
เย่หยวนหันไปจับจ้องเยวี่ยเมิ่งลี่และกล่าวด้วยรอยยิม้
บางๆว่า
“เจ้าไม่ตอ้ งวิง่ หาคาตอบอันใดอีกต่อไป เพราะตอนนี้คง
ถึงเวลาที่ขา้ ควรบอกแล้ว ทุกสิ่ งที่เจ้าเคยคาดเดา…ล้วน
ถูกต้อง!”

ทันใดนั้น ร่ างบางสวยของเยวี่ยเมิ่งลี่พลันสั่นเทาอย่างอด
ไม่อยู่ แววตาที่สะท้อนออกสั่นคลอนอย่างหนัก ภาพฉาก
เบื้องหน้าในขณะนี้ นางแทบไม่กล้าที่จะเชื่อ!
นางไม่คิดไม่ฝันเลยว่า จู่ๆเย่หยวนจะเอ่ยปากสารภาพกับ
นางอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้
ณ ครั้นที่อยูใ่ นดินแดนไร้สิ้นสุ ด เยวี่ยเมิ่งลี่เคยต้องการสื บ
หาความจริ งของเรื่ องนี้ แต่เย่หยวนกลับไม่ให้โอกาสใดๆ
แก่นางเลย
และหลังจากที่นางกลับถึงเมืองจันทร์ฉายอีกครั้ง เยวี่ยเมิ่ง
ลี่จึงค่อยๆใช้เวลาครุ่ นคิดทบทวนความรู ้สึกของตนแทน
เยวี่ยเมิ่งลี่สามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากว่า นางตกหลุม
รักเย่หยวนเข้าแล้วจริ งๆ
แต่วนั นี้ เมื่อเย่หยวนเฉลยคาตอบที่นางสงสัยมาโดยตลอด
ออกมา นางกลับรู ้สึกหวาดกลัวแทน
ใช่แล้ว มันคือความหวาดกลัวจริ งๆ

บุรุษหนุ่มที่นางเคยเฝ้ามองในวัยเด็ก ณ ปัจจุบนั เขาผูน้ ้ นั


ได้กลับมายืนอยูต่ รงหน้าแล้ว!
หากเย่หยวนที่เป็ นเย่หยวน เยวี่ยเมิ่งลี่ยอ่ มไม่ลงั เลที่จะรัก
เขาอย่างสุ ดใจแน่นอน แต่ในเมื่อเย่หยวนที่มิใช่เย่หยวน
นางกลับไม่รู้เลยว่า ตนควรวางตัวต่อหน้าเขาในฐานะ
อะไรดี?

ความคิดก่อนหน้าและหลังจากที่ทราบ มันช่างแตกต่าง
โดยสิ้ นเชิง
ท่านผูน้ ้ นั คือจักรพรรดิโอสถผูย้ นื อยูบ่ นจุดสุ ดยอดใน
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ท้ งั มวล แต่เย่หยวนที่นางเข้าใจในครา
แรก เป็ นเพียงเด็กหนุ่มจากแดนล่างธรรมดาทัว่ ไป
นี่นบั เป็ นความแตกต่างยิง่ กว่าสวรรค์และปฐพี แต่เรื่ อง
มหัศจรรย์เช่นนี้กลับเกิดขึ้นจริ งๆ!

“หะ–เหตุใด…ท่านผูส้ ู งส่ งถึงมาบอกข้าเช่นนี้?”


ความสงบเยือกเย็นที่นางรักษาไว้โดยตลอด แตกสลายไป
ในพริ บตา

เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิม้ บางๆว่า
“มิใช่วา่ เจ้าเองก็อยากรู ้มาโดยตลอดมิใช่รึ? ในเมื่อเจ้า
ต้องการจะทราบ ข้าย่อมบอกกล่าวอย่างเต็มใจ”
เยวี่ยเมิ่งลี่รู้สึกงุนงงอย่างยิง่ ยวด นางไม่คิดเลยว่าเหตุผล
มันจะง่ายๆเช่นนี้ ทว่าหลังคลื่นความประหลาดใจซัดผ่าน
กลับเป็ นความหวานละมุนที่โถมเข้าสู่ หวั ใจของเยวี่ยเมิ่งลี่
แทน
เรื่ องนี้นบั ว่ามีความสาคัญสู งสุ ด หากเรื่ องนี้รั่วไหล
ออกไป มันอาจกระทบไปถึงสถานการณ์โดยรวมของ
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในอนาคต
และสาหรับตัวเย่หยวนเองแล้ว นี่ถือเป็ นความลับที่
ยิง่ ใหญ่ที่สุดเช่นกัน เมื่อใดเรื่ องนี้ถูกแพร่ งพราย อาจเกิด
หายนะขั้นร้ายแรงถึงแก่ชีวิต
แต่เขาก็ยงั เต็มใจที่จะบอกนาง!

“แต่…แต่ในอดีต…”

เย่หยวนถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า
“ในอดีต หัวใจของข้ายังคงรวนเร แต่ตอนนี้ หัวใจของข้า
มัน่ คงได้คาตอบแล้ว”
ร่ างอันบอบบางของเยวี่ยเมิ่งลี่สั่นเทา ดวงตาคู่งามของ
นางยังคงสะท้อนความตื่นตะลึงออกมาไม่จางหาย
อ้อมแขนหนึ่ งเข้าสวมกอดร่ างบางของนาง พร้อมเข้า
กระชับแน่นในอ้อมอกและกล่าวขึ้นว่า
“ลี่เอ๋ อ เจ้าควรทราบไว้วา่ ตอนนี้ขา้ กาลังแบกรับหนี้
โลหิ ตอยู่ จนทาให้ตวั ข้า…หลงลืมบางสิ่ งอย่างไป ข้าไม่
เคยและไม่กล้าคิดถึงความรู ้สึกเหล่านั้นมาก่อน แต่เมื่อได้
สวมกอดเจ้าอีกครั้ง ข้า…ข้าไม่สามารถโกหกตัวเองได้อีก
แล้ว”

แม้เยวี่ยเมิ่งลี่มิได้กล่าวอันใดตอบ แต่เย่หยวนจะไม่รู้สึก
อะไรเลยได้อย่างไร? เห็นได้ชดั ว่า ตัวนางกาลังสั่นเทา
อย่างหนักภายในอ้อมกอดของเขา

“ท่านผูส้ ู งส่ ง ข้า…ข้ามีความสุ ขที่สุดเลย!”


แม้เป็ นไม่กี่คาที่ดงั ขึ้น แต่ความรู ้สึกทั้งหมดที่นางมีให้ก็
ถ่ายทอดลงในอ้อมกอดนี้จนหมดแล้ว
ภายใต้จนั ทร์เจ้าสุ ดสว่างยามราตรี ทั้งสองสวมกอดกัน
แน่นโดยมิได้เปล่งวาจาใดๆอีก

ไม่รู้ผา่ นไปนานเท่าใด เยวี่ยเมิ่งลี่กล่าวขึ้นด้วยเสี ยงอัน


แผ่วเบาในอ้อมกอดเย่หยวนว่า
“ท่านฉิ ง…”

“เรี ยกข้าว่าเย่หยวน กาลอดีตผ่านพ้นไปดัง่ ควันหมอกไม่


หวนกลับ ในชัว่ ชีวิตนี้ขา้ มีนามว่าเย่หยวน และข้าจักต้อง
ทาให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ส่ันสะเทือน!”
เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยจิตใจอันตั้งมัน่

เยวี่ยเมิ่งลี่พยักหน้าเล็กน้อยและเปลี่ยนคาเรี ยกว่า
“เย่หยวน ท่านกับจอมราชันย์เหมันต์…”
เย่หยวนเงียบไปชัว่ ครู่ ก่อนถอนหายใจและกล่าวว่า
“ข้ากับมู่หลิน…ทั้งหมดอาจเป็ นความไม่ต้ งั ใจ หาก
เปรี ยบกับเจ้าแล้ว ข้าย่อมห่วงใยเจ้ามากกว่า”
ทันทีที่สิ้นเสี ยง เย่หยวนพลางรู ้สึกได้ทนั ทีวา่ เยวี่ยเมิ่งลี่
กระชับกอดตนแน่นยิง่ กว่าเดิม
อีกช่วงเวลาแสนเงียบงันผ่านพ้น คราวนี้เย่หยวนเป็ นคน
เปิ ดปากกล่าวขึ้นก่อนว่า
“ลี่เอ๋ อ เจ้าควรท่านสถานการณ์ของข้าในปัจจุบนั ก่อน ใน
อนาคตอันใกล้น้ ี ข้าไม่อาจทราบได้เลยว่าตนกาลังเผชิญ
กับสิ่ งใดกันแน่ แต่ที่แน่ๆข้าคิดว่า จี้ฉางหลานมิใช่สิ่งที่น่า
กลัวที่สุด บางที…”
แต่ยงั ไม่ทนั ทีเย่หยวนจะพูดจบ กลับมีริมฝี ปากอันเนียน
นุ่มเข้าประกบบนริ มฝี ปากของเขาอย่างรวดเร็ ว นี่ทาให้เย่
หยวนเสี ยศูนย์ไปในทันที

เยวี่ยเมิ่งลี่ค่อยๆถอนริ มฝี ปากออกอย่างช้าๆ ก่อนเข้า


สบตาเย่หยวนพร้อมกล่าวอย่างจริ งจังว่า
“เย่หยวน ท่านไม่ทราบหรอกว่าข้าในตอนนี้มีความสุ ขแค่
ไหน! ในอดีต…ข้าที่ได้เห็นความสง่าของท่าน ข้าก็
ตัดสิ นใจตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่า ในชัว่ ชีวิตนี้ ตนจะแต่งงาน
กับท่านเพียงผูเ้ ดียวเท่านั้น! แต่เมื่อเวลาผ่านไป ตอนที่ขา้
ได้รับข่าวร้ายที่กาลังโด่งดังไปทัว่ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ใน
คราวนั้น ลี่เอ๋ อคนนี้ก็รู้สึกราวกับโลกที่วาดฝันไว้พงั ทลาย
เป็ นเสี่ ยงๆ จากนั้นไม่นาน กายจิตสังหารถ่องแท้ก็ตื่นขึ้น
พร้อมเริ่ มฉี กกระชากจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของข้า ต่อมา
ข้าไม่สามารถยอมรับความจริ งเรื่ องนี้ได้ จึงพาเยีย่ นเอ๋ อ
หนีลงมายังแดนล่างเพื่อปลีกวิเวกทาจิตใจให้สงบ แต่…
แต่ขา้ กลับไม่คิดไม่ฝันเลยว่า จะได้พบท่านอีกครั้ง
จริ งๆ หรื อนี่…คือสิ่ งที่เรี ยกว่า พรหมลิขิต? ในเมื่อพาน
พบอีกครั้งก็อย่าลาจาก ไม่วา่ หนทางข้างหน้าจะลาบาก
เพียงใด ข้า,ลี่เอ๋ อขอสาบานว่าจะฟันฝ่ าไปพร้อมท่าน!”
สายตาคู่งามของเยวี่ยเมิ่งลี่จบั จ้องไปที่เย่หยวน ด้วยความ
มัน่ คงและเด็ดเดี่ยวเกินพรรณนา ในเมื่อพรหมลิขิตได้ชกั
พานางและเขาให้พานพบกันอีกครา นางเองก็ขอยืนหยัด
เพื่อปกป้องชะตากรรมนี้มิให้พรากจากอันใดอีก

“ขอบคุณมาก ลี่เอ๋ อ!”


เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยความตื่นตัน
แม้บคุ ลิกภายนอกของลี่เอ๋ อจะดูอ่อนนุ่มน่าทะนุถนอม
แต่ภายในกลับแกร่ งกร้าวและใจเด็ดยิง่ กว่าบุรุษเพศบาง
คนยิง่ นัก! กระทั้งแปดอาชามหาศึกก็ยงั ไม่สามารถลาก
นางกลับไปได้ ในเมื่อนางตัดสิ นใจแล้วว่าจะยืนเคียง
ข้างเย่หยวนตลอดไปนับจากนี้ ต่อให้หนทางเบื้องหน้าคือ
เหวแห่งความตาย เยวี่ยเมิ่งลี่นางนี้ก็พร้อมกระโดดลงทุก
เมื่อ

บางที อาจเป็ นเพราะความใจเด็ดของนางจึงสามารถครอง


ใจเย่หยวนได้!

…………………………
ห้าวันต่อมา ณ สนามฝึ กซ้อมวรยุทธตระกูลเยวี่ย ในขณะ
ต่างอัดแน่นไปด้วยฝูงชนมากมายหลายหน้า
ในเวลานี้ จากสนามฝึ กซ้อมได้กลายเป็ นห้องหลอมกลัน่
โอสถขนาดยักษ์ไปแล้ว
ตระกูลเยวี่ยเองก็เป็ นตระกูลนักหลอมโอสถโบราณ
เช่นกัน มีสมาชิกตระกูลเยวี่ยจานวนไม่นอ้ ยที่เป็ นนัก
หลอมโอสถ ดังนั้นสมาชิกตระกูลเยวี่ยที่เป็ นจักรพรรดิ
โอสถจึงมีไม่นอ้ ยเลยทีเดียว
ณ เวลานี้ กลางสนามฝึ กซ้อมวรยุทธมีเซียนจักรพรรดิ
โอสถมากถึงสามสิ บคนเห็นจะได้!

“เจ้าหนุ่มนั้นต้องการหลอมโอสถจิตพิรุณค้างฟ้า? แต่ดู
เหมือนว่าเขาเพิ่งก้าวขึ้นสู่ เซียนโอสถนิรันดร์เองมิใช่รึ?!”
“ท่านประมุขตระกูลตั้งขอสันนิษฐานไว้วา่ สู ตรโอสถจิต
พิรุณค้างฟ้าชนิดนี้อาจไม่ถูกต้องหรื อถูกดัดแปลงไม่
ผิดเพี้ยนไป ทว่าหากกล่าวตามตรง ชายชราผูน้ ้ ีเองก็พยาม
ยามหลอมกลัน่ โอสถชนิดนี้อยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่พบความ
ผิดปกติอนั ใด ถึงจะล้มเหลวก็ตาม”

“ข้าเองก็ดว้ ย! หากกล่าวว่า เจ้าหนุ่มคนนี้สามารถใช้วิธี


บางอย่างเพื่อล่อหลอกพวกเราได้อย่างแนบเนียนจริ งๆ นี่
แสดงให้เห็นว่า ศาสตร์แห่งโอสถของเขาย่อมน่าสะพรึ ง
ยิง่ เช่นกัน!”
ในปัจจุบนั เย่หยวนถูกลายล้อมไปด้วยเหล่าจักรพรรดิ
โอสถมากมาย
พวกเข้าเหล่านี้เคยพยายามหลอมกลัน่ โอสถจิตพิรุณค้าง
ฟ้ามาก่อนแล้ว แต่ก็ไม่มีใครเลยที่รู้สึกว่า สู ตรโอสถนี้มนั
มีปัญหา
แต่คากล่าวของโจวเฉวียนยรู่ กลับทาให้พวกเขาต้องงุนงง
อย่างหนัก
กว่าที่พวกเขาจะก้าวขึ้นสู่ ข้ นั จักรพรรดิโอสถได้ ทั้งหมด
ล้วนผ่านการหลอมกลั้นโอสถระดับแปดมามากมายเกิน
นับไหว และด้วยสัญชาตญาณของพวกเขา จะไม่สามารถ
จับความผิดปกติของสู ตรโอสถได้เลยรึ ?

ในเวลานี้เอง แรงกดดันสุ ดยาเกรงพลันแพร่ ออกมาจาก


บนนภากาศ ทุกคนต่างเงยศีรษะขึ้นมองอย่างรวดเร็ ว และ
พบว่าเป็ นราชรถแปดอาชาศึกที่กาลังร่ อนลงจอด

“นั้น…นั้นท่านเฉวียนซิ่ งซีมิใช่รึ?! ท่านประมุขตระกูลถึง


ขั้นเชิญเชื้อท่านเฉวียนซิ่ งซีให้มาร่ วมงานได้!”
ทุกคนต่างกล่าวขึ้นด้วยความประหลาดใจยิง่
ในฐานะจุดสู งสุ ดแห่งจักรพรรดิโอสถ และยังเป็ นรอง
ประธานสมาคมนักหลอมโอสถแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์
สถานะของเฉวียนซิ่งซีถือว่าสู งส่ งอย่างมาก
และในวันนี้ เขาผูน้ ้ นั ถึงกับเดินทางมายังเมืองจันทร์ฉาย
เพื่อเข้าร่ วมรับชมการหลอมกลัน่ โอสถระดับแปด
เล็กๆน้อยๆด้วยตัวเอง! นี่ช่างน่าเหลือเชื่อเกินไป!

เว้นเสี ยแต่ พวกเขาเหล่านี้ไม่ทราบเลยว่า แท้ที่จริ งแล้ว


เฉวียนซิ่งซีเองก็เคยพยายามหลอมโอสถจิตพิรุณค้างฟ้า
มาก่อนแล้วเช่นกัน แต่กลับประสบความล้มเหลวใน
ท้ายที่สุด
ฉะนั้นเขาจึงสงสัยอย่างมากว่า โอสถระดับแปดอันน่าตาย
นี้ จะมีใครที่สามารถหลอมกลั้นมันได้จริ งๆหรื อไม่!

You might also like