Professional Documents
Culture Documents
CH 901 - 937
CH 901 - 937
ต่อหน้าต่อตาทุกคนปรากฏเป็ นประตูหินบรรพกาลขนาด
ยักษ์ บนบานประตูมีลวดลายมังกรสลักไว้อย่างวิจิต
สวยงาม
ประตูหินมังกรนี้ปลดปล่อยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ออกมา
อ่อนๆ แม้สิ่งนี้ จะคงอยูม่ าเป็ นเวลานานเกินนับแล้ว แต่
ความกดดันที่แผ่ออกมากลับบีบหัวใจทุกคนให้หวัน่ ผวา
ไม่นอ้ ยเช่นกัน
ปุ๋ ง ปุ๋ ง…
สระมรกตมีปฏิกิริยาตอบพร้อมปลดปล่อยฟองอากาศสี
ฟ้าครามออกมา แต่น้ นั มีจานวนเพียงแค่สี่หรื อห้าลูก
เท่านั้น
มีฟองอากาศลูกหนึ่งลอยไปอยู่ตรงหน้าลู่หลี่ และทันทีที่
สัมผัส ฟองอากาศนั้นก็แตกออกพร้อมเข้าปกคลุมร่ างกาย
ของเขาจนก่อตัวเป็ นแสงสี ฟ้าครามเคลือบร่ างเป็ นชั้น
เกราะ!
ลู่หลี่โบกมือเบาๆ ฟองอากาศอันอื่นๆก็ลอยไปหาเหล่า
นายพลสังหารของพรรคสาราญสวรรค์ที่เหลือ พร้อมเกิด
ภาพฉากแบบเดียวกัน
ในที่สุดลู่หลี่และอีกสี่ คนที่เหลือก็ได้รับเกราะแสงเป็ นที่
เรี ยบร้อย
เมื่อเห็นภาพฉากอันน่าอัศจรรย์เหล่านี้ เย่หยวนพลางเดาะ
ลิน้ ด้วยความประหลาดใจไม่น้อยเช่นกัน
เช่าไคขยับเข้ามาใกล้เย่หยวนและกระซิบเบาๆว่า
“ภายในแดนราชามังกรมีค่ายกลขนาดยักษ์ปกคลุมอยูโ่ ดย
ทัว่ เราจึงต้องมีเกราะแสงนี้เคลือบคลุมไว้เพื่อมิให้ถูก
กาจัดทิ้งโดยค่ายกลนั้น แต่จากที่เห็น สายเลือดมังกรของ
ลู่หลี่มิค่อยดีนกั เขาเรี ยกเกราะแสงออกมาได้แค่สี่อนั
เท่านั้น”
“แต่ขา้ เชื่อว่าเพียงเยาวชนของตระกูลเทียนหล่งหลิงก็
เหนือกว่าพวกสายเลือดจางๆแถวนี้ หากมีปัญญาก็เข้ามา
ได้ทุกเมื่อ!”
อย่างไรก็ตาม เพราะว่าตระกูลหล่งเคยละเมิดกฎเหล็กของ
เผ่ามังกร ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าใช้ชื่อสกุลว่า‘หลง(龙
=มังกร)’อีกต่อไป และเปลี่ยนชื่อสกุลมาใช้‘หล่ง(陇
)’เท่านั้น
แน่นอนว่าเรื่ องนี้คล้ายกับเป็ นข้อห้ามของสมาชิกตระกูล
โดยปริ ยาย หากใครกล่าวถึงนับว่าอับอายแสนสาหัส
บ่อมรกตมีปฏิกิริยาตอบกพร้อมเปลี่ยนสลับสี วิจิตรตา
ทันใดนั้นฟองอากาศจานวนมากก็พวยพุ่งออกมา!
หล่งหยางสวมเกาะแสงให้ตนเองก่อน ค่อยควบคุม
ฟองอากาศอื่นๆไปหาเหล่านายพลสังหารของผูส้ ู งส่ ง
เนตรสี เทาเพื่อสวมใส่ ทั้งนี้ มนั ก็ยงั เหลือฟองอากาศอีก
เป็ นจานวนสิ บลูก
หล่งหยางกล่าวขึ้นด้วยความใจแคบ
ลู่หลี่กล่าวขึ้นด้วยความไม่พอใจอย่างมาก
เนื่องด้วยคากล่าวประโยคนี้ของลู่หลี่ ทันใดนั้นทุกคนต่าง
เหลียวมองเย่หยวนอย่างพร้อมเพรี ยงเป็ นตาเดียวทันที
หล่งหยางหัวเราะลัน่ และกล่าวตอบว่า
“ช่างเป็ นเรื่ องตลกสิ้ นดี! ในแง่ความบริ สุทธิ์ของสายเลือด
มังกร มีผใู ้ ดในดินแดนมนุษย์ที่สามารถทัดเทียมได้กบั
สมาชิกตระกูลเทียงหล่งหลิงบ้าง? ลู่หลี่ เนื่องจากเจ้า
พูดจาไร้สาระไม่รู้ความออกมา แสดงว่าพรรคของเจ้าคง
ไม่ตอ้ งการมัน อืมม…ดูเหมือนว่าไม่มีใครสนใจ
ฟองอากาศทั้งสิ บลูกนี้เลย เช่นนั้นข้าทาลายพวกมันทิง้
ดีกว่า!”
ทันทีที่สิ้นเสี ยง หล่งหยางก็ทาท่าราวกับกาลังจะทาลาย
ฟองอากาศทั้งสิ บลูกนั้นทิ้ง ในท้ายที่สุดนายพลสังหารคน
อื่นๆก็ไม่สามารถทนดูได้อีก สุ่ มเสี ยงหนึ่งเร่ งกล่าวขึ้น
ทันทีวา่
เย่หยวนหัวเราะอย่างสบายอารมณ์และตรงมายังบ่อมรกต
ทันที
เย่หยวนกักนิ้วของตนเล็กน้อยและค่อยๆบรรจงหยดเลือด
ลงในบ่อมรกต
ติ้ง!
ทันทีที่เลือดเย่หยวนหยดลงไป บ่อมรกตพลันผัน
เปลี่ยนเป็ นสี ฟ้าครามสว่างในทันใด แต่…
หนึ่งอึดใจผ่านไป.. สองอึดใจผ่านไป… สามอึดใจผ่าน
ไป….
บ่อมรกตไม่มีปฏิกิริยาตอบใดๆเลย!
หล่งหยางจ้องมองเย่หยวนด้วยสายตาสุ ดหยามเหยียด
และกล่าวด้วยความรังเกียจว่า
เมื่อเห็นปฏิกิริยาเหล่านี้ สี หน้าของทุกคนพลันเผยความ
ประหลาดใจอย่างไม่น่าเชื่อออกมาทันที!
ตอนที่902 ราคาแค่ นี้!
เย่หยวนกล่าวขึ้นพลางหัวเราะร่ า
มีฟองอากาศพวยพุ่งออกมาไม่หยุดหย่อน พร้อมปรากฏ
ขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคน
“ฟู่ วว…”
เหล่านายพลสังหารทุกคนอดที่จะสู ดหายใจเย็นลึกๆมิได้
เนื่องด้วยความตกตะลึงกับภาพฉากตรงหน้า
เพียงตอนนี้ที่เย่หยวนปรากฏตัวออกมาต่อหน้าทุกคน นั้น
เป็ นดัง่ การตบหน้าหล่งหยางฉะใหญ่ ลู่หลี่ที่ได้เห็นดังนั้น
จึงรู ้สึกมีความสุ ขสุ ดหัวใจ!
“นี่…นี่เป็ นไปไม่ได้จริ งไหม? สายเลือดมังการของเย่
หยวนจาต้องอยูร่ ะดับชั้นใด ถึงสามารถเรี ยกฟองอากาศ
ได้มากมายขนาดนี้!”
ฟองอากาศทั้งหมดลอยไปหยุดตรงหน้าทุกคน หากกล่าว
ตามตรง หากจะแจกผูค้ นทั้งหมดภายในนี้มนั ยังมิใช่
ปัญหาเลย
อุปทานมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ความต้องการกลับมี
เท่าเดิม ฟองอากาศในขณะนี้มนั เหลือเกินเหลือใช้แล้วใน
ปัจจุบนั !
วาจาแบ่งสรรที่เอ่ยขึ้นนั้นหมายถึง สมบัติในแดนราชา
มังกรอย่างเลี่ยงไม่ได้
“นั้นมิใช่ปัญหา! ท่านพานายพลสังหารของตนมายืน
ตรงหน้าเลย เดี๋ยวข้าจะสวมเกราะแสงให้แก่ทุกคน!”
เนื่องจากเห็นแก่หน้าน่าหลันซู เย่หยวนจึงไม่พูดอะไร
มากนัก เขาควบคุมฟองอากาศเหล่านั้นและสวมให้กบั
นายพลสังหารของผูส้ ู งส่ งจัวหยางทันที เย่หยวนมิได้
เรี ยกร้องอะไรจริ งๆ แม้แต่ผสู ้ ู งส่ งจัวหยางที่กาลังจะ
สาบานต่อหน้าสรวงสวรรค์ เย่หยวนยังห้ามและกล่าวว่า
ไม่จาเป็ น
เมื่อดูชมเหตุการณ์เหล่านี้ ทุกอย่างมันดูง่ายดายยิง่
เย่หยวนไม่รอช้า จากนั้นเขาก็สวมเกราะแสงให้ตนเอง
และเหล่านายพลสังหารของผูส้ ู งส่ งซื่อหยินทันที
นัยน์ตาคู่งามของซื่อหยินเหลียวไปจับจ้องเย่หยวน พร้อม
ด้วยรอยยิม้ หวานแสนสดใส
เย่หยวนกล่าวตอบอย่างยิ้มแย้มว่า
“เช่นนั้น…ฟองอากาศที่เหลือนั้นเจ้าคงมิได้ใช้แล้ว เจ้า…
สามารถแบ่งสรรให้แก่พวกเราได้หรื อไม่? แน่นอนว่าข้า
ไม่ปล่อยให้เจ้าแจกโดยไม่จ่ายสักแดง”
แน่นอนว่าภายใต้สถานการณ์ปกติทวั่ ไป คงไม่มีใครโง่
พอที่จะนาผลึกแร่ สวรรค์บริ สุทธิ์ไปแลกกับผลึกแร่ ฟ้า
บริ สุทธิ์ทวั่ ไป
“ดูเหมือนว่าไม่มีใครต้องการฟองอากาศเหล่านี้อีกแล้วใช่
หรื อไม่? รอข้าทาลายที่เหลือทิ้งครู่ หนึ่ง จากนั้นก็เริ่ มเข้า
สารวจกันเถอะ!”
“เดี๋ยวก่อน!”
“ข้าต้องการหกลูก!”
ปรากฏว่าเป็ นผูส้ ู งส่ งสาราญสวรรค์กล่าวเสริ มขึ้นอีกคน
ทันทีที่มีโอกาส
เย่หยวนแสยะยิม้ กว้างและกล่าวว่า
เย่หยวนพลันโบกมือปัดอย่างเฉยเมย ฟองอากาศจานวน
หนึ่งกระเพื่อมแรงพร้อมแตกสลายตามสายลม
“เย่หยวน เจ้าต้องการประกาศศึกกับพวกเราทั้งสองงั้นรึ ?”
เย่หยวนพลางสะบัดปลายนิ้วเบาๆ ฟองอากาศจานวนมาก
เหล่านั้นเริ่ มแตกสลายเร็ วขึ้นดัง่ ไฟป่ าลาม
“ระวังตัวให้ดี อย่าโลภจนตัวแตกตาย!”
ประตูหินขนาดยักษ์ค่อยๆแงมกางเปิ ดออกอย่างช้าๆ
ปรากฏเส้นทางเบื้องหน้าต่อหน้าต่อตาทุกคน
“ไปได้!”
เหล่านายพลสังหารที่เรี ยงแถวเข้าประจาที่ค่อยๆทะยอย
เข้าไปอย่างรวดเร็ ว
“เย่หยวน หลังจากนี้เจ้าต้องระวังตัวให้มากขึ้น พวกหวู่
เหอและคนอื่นๆไม่ยอมปล่อยให้เจ้ากลับออกมาได้ง่ายๆ
เป็ นแน่ แม้พวกเขาที่เข้าไปจะมีจานวนน้อยกว่า แต่
ทั้งหมดล้วนเป็ นนักสู ้ระดับสู ง เป็ นเรื่ องยากนักที่เราจะ
รับมือไหว”
เช่าไคกล่าวเตือนเย่หยวน
เย่หยวนยิม้ ให้เล็กน้อยเมื่อได้ยินและกล่าวว่า
“หากไม่แส่ หาเรื่ องข้าก่อน ชีวิตพวกนั้นย่อมยืนยาว แต่ถา้
รนหาที่ตายกันเอง ไม่วา่ ใครก็ไม่สามารถหยุดข้าได้”
เย่หยวนเพิ่งขึ้นติดอันดับในทาเนียบนภาเถื่อน และความ
แกร่ งกร้าวยังคงห่างไกลจากนายพลสังหารเหล่านี้ มาก
“แต่ระวังตัวหน่อยก็ดี! หลังจากเดินข้ามทางเชื่อมนี้
ภายในมันอันตรายอย่างมาก มีกองทัพผีดิบที่จดั การยาก
ยิง่ รอพวกเราอยู่ หากต้องการฉกชิงสมบัติภายในนี้ จาต้อง
จัดการกองทัพผีดิบเหล่านี้ ให้ได้เสี ยก่อน”
เช่าไคกล่าว
เย่หยวนพยักหน้าเชิงสัญลักษณ์วา่ เข้าใจแล้ว
“ทุกคนระวังตัวให้ดี ทันทีที่เหล่าผีดิบได้กลิ่นมนุษย์ลุกล้ า
เข้ามา พวกมันจะเริ่ มโถมโจมตีในไม่ชา้ !”
โดยเฉพาะกลับบางคน ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่
กระบวนก็สามารถซัดผีดิบฝูงหนึ่งจนสิ โรราบนาบกันพื้น
ได้
แม้วา่ ทัพผีดิบเหล่านี้จะแข็งแกร่ งมาก แต่พวกมันก็ยงั ไม่ลุ
ถึงระดับเก้าอยูด่ ี หากเทียบกับเหล่ายอดฝี มือแห่งทาเนียบ
นภาเถื่อนชั้นแนวหน้าเหล่านี้ ทุกคนโดยส่ วนใหญ่ลว้ น
เป็ นถึงจุดสู งสุ งแห่งอาณาจักรไร้เทียมทาน การจะจัดการ
กับทัพผีดิบเหล่านี้ไม่นบั ว่าเป็ นปัญหาจนเกินไป
“เย่หยวนตามข้ามา! ระวังตัวด้วย!”
เช่าไคกล่าว
ภารกิจที่ซื่อหยินมอบให้แก่เขาคือ การปกป้องเย่หยวน
เพราะชายหนุ่มคนนี้ มีความสาคัญยิง่ ต่อนาง
เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิม้ บางๆ
เช่าไคกล่าวว่า
เช่าไคและนายพลสังหารคนอื่นต่างโพลงตาโตด้วยความ
ไม่อยากจะเชื่อ
เช่าไคเร่ งติดตามพร้อมกล่าวถามด้วยความประหลาดใจ
ทุกสายตาของเหล่านายพลสังหารที่ตามหลังมา ต่างจับ
จ้องเย่หยวนด้วยความเลื่อมใสเจือเคารพ ในขณะที่นาย
พลสังหารของพรรคสังกัดอื่นกาลังโรมรันพันตูเป็ นตาย
แต่พวกเขากลับเดินฝ่ าสรมภูมิเดือดได้อย่างสบายใจ นี่มนั
เป็ นเรื่ องที่วิเศษอย่างยิง่
เย่หยวนกล่าวตอบด้วยรอยยิม้ ว่า
เย่หยวนกล่าวอย่างยิม้ แย้มว่า
“การต่อสู ้และความตายปล่อยให้เป็ นหน้าที่พวกนั้นรับ
กรรมไป”
เนื่องจากเย่หยวนสนใจแดนราชามังกรแห่งนี้อย่างมาก
เขาจึงตะเวนสอบถามข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับ
สถานการณ์ภายในนี้ ดังนั้นเมื่อทราบข้อมูลก่อนหน้า
มากมาย เย่หยวนจึงมีเวลามากพอในการเตรี ยมตัว
ล่วงหน้า
อย่างไรก็ตามเขาก็ทาได้แค่ตระโกนด่าสาปแช่ง
สภาพการณ์โดยรอบตัวเขาถูกปิ ดล้อมโดยทัพผีดิบอย่าง
หนาแน่น และไม่อาจหลุดออกจากวงแห่งความตายนี้ได้
เลย
เมื่อเห็นว่ากองทัพผีดิบมิได้จู่โจมพวกเย่หยวนเลยจริ งๆ
ความไม่เกลียดชังพลันโฉบแล่นเต็มหัวใจ
แต่ดว้ ยเสี ยงตะโกนสุ ดโกรธเกรี้ ยวของหวูเ่ หอ ต่างทาให้
ทุกคนตื่นตัวทันควันพร้อมหันไปมองกลุ่มของเย่หยวน
ด้วยความประหลาดใจ
“เย่หยวน เจ้าจะต้องตายอย่างน่าสยดสยอง!”
เมื่อทุกคนเห็นภาพฉากเหล่านี้ ทั้งหมดต่างพากันอิจฉา
และกลัวว่าเย่หยวนจะคว้าสมบัติท้ งั หมดไปก่อน สิ่ งเดียว
ที่พวกเขาสามารถทาได้ในขณะนี้คือ พ่นวาจาข่มขู่อย่าง
น่ากลัวเท่านั้น
เพียงว่า ภัยคุกคามโดยวาจาเช่นนี้เย่หยวนหาได้สนใจไม่
เดินทางผ่านโถงใหญ่ที่เต็มไปด้วยทัพผีดิบลึกลงไป
หลังจากนั้นตลอดทาง กลุ่มของเย่หยวนก็ไม่พานพบกับ
พวกมันอีกเลย
ในขณะที่เสวนาสั้นๆกระชับจบ พวกเขาก็หมุนตัวเตรี ยม
จากไปทันที
เช่าไคกล่าว
เย่หยวนกล่าวตอบด้วยรอยยิม้ ว่า
“นั้นอาจไม่แน่!”
“หื้ ม? หรื อเป็ นไปได้ไหมว่า…เจ้าค้นพบบางอย่างเข้า
แล้ว?”
เช่าไคกล่าวขึ้นว่า
เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิม้ มือหนึ่งพลางยกขึ้นพร้อมกา
ขี้เถ้าภายในกระถางธูปขึ้นมาหนึ่งกา เขาส่ งไปให้เช่าไค
และกล่าวว่า
“กินมันดู!”
สี หน้าเช่าไคดูแขยงในทันที และกล่าวว่า
“นี่ถือขี้เถ้าของธูปจอมสวรรค์อายุยนื หากกินขี้เถ้ากามือนี้
ลงไป ท่านจะอายุยนื ขึ้นอีกห้าร้อยปี ! ส่ วนที่วา่ ท่านจะกิน
มันหรื อไม่กิน เรื่ องนี้ข้ นึ อยูก่ บั ตัวท่านแล้ว”
“หะ–ห้าร้อยปี ?”
เช่าไคเบิกตาโตดัง่ ไข่ห่าน พร้อมสายตาจับจ้องไปยังกอง
ขี้เถ้าในกามือเย่หยวนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ทุกคากล่าวที่หลุดจากปากเย่หยวนล้วนมีความน่าเชื่อถือ
สู งมาก!
เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิม้
“ข้ากิน ข้ากินแน่นอน!”
เช่าไครี บช้อนรับขี้เถ้ากองนั้นจากกามือของเย่หยวนอย่าง
ระมัดระวัง และกลืนทั้งหมดลงไปในหนึ่ งคาอย่างรวดเร็ ว
ใบหน้าของเขาก็ดูหนุ่มขึ้นกว่าก่อนหน้าหลายปี ในอึดใจ
เดียว
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่กลับมาแข็งแกร่ งขึ้นอีกครั้ง
เช่าไคก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างที่สุด
“พี่ใหญ่เช่า มันน่าทึ่งขนาดนั้นจริ งๆรึ ?”
นายพลสังหารอีกครั้งไม่อาจยืนนิ่งดูดายได้อีก เมื่อเห็น
การเปลี่ยนแปลงอันน่าอัศจรรย์ของเช่าไค
เขาอายที่จะเอ่ยปากถามเย่หยวนตรงๆ เพราะก่อนหน้าเขา
เองก็เคยดูถูกเย่หยวนเอาไว้เช่นกัน
เมื่อทุกคนได้ยนิ เช่นนี้ก็อดตื่นเต้นดีใจมิได้เลย
และหม้อหลอมโอสถที่เขาใช้ก่อนที่จะขึ้นกลายเป็ นเทพ
โอสถมีนามว่า‘หม้อหลอมราชามังกร’
‘หม้อหลอมราชามังกร’นี้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นยิง่ อยู่
ประการหนึ่งคือ ทุกครั้งที่ตอ้ งการหลอมกลัน่ โอสถ
จาเป็ นต้องหยดโลหิ ตมังกรก่อนหยดหนึ่ง ถึงจะสามารถ
กระตุน้ พลังของหม้อหลอมได้
และหลังจากที่หลอมกลัน่ โอสถเสร็ จสิ้ น หม้อหลอมราชา
มังกรก็จะแปรสภาพกลายเป็ นกระถางธูปเล็กๆโทรมๆใบ
หนึ่ง
ซึ่งกระถางธูปเก่าที่ค่อนข้างทรุ ดโทรมบนมือเย่หยวน ก็
เป็ นที่ชดั เจนว่ามันคือ ‘หม้อหลอมราชามังกร’อย่าง
แม่นยา!
เย่หยวนไม่นึกไม่ฝันเลยว่า เขาจะได้รับหม้อหลอมราชา
มังกรในสถานที่แบบนี้จริ งๆ พวกที่เคยปล้นชิงสมบัติที่นี่
ในอดีต กลับมีตาหามีแววไม่ เสี ยโอกาสทิ้งสมบัติที่มีค่า
ที่สุดเอาไว้
นอกเหนือจากเย่หยวนแล้ว มีน้อยคนนักในดินแดน
ศักดิ์สิทธิ์ที่รู้จกั หม้อหลอมราชามังกรและธูปจอมสวรรค์
อายุยนื
ออกจากห้องโถงย่อย เบื้องหน้าทุกคนพลันปรากฏเป็ น
พื้นที่เปิ ดกว้าง พร้อมถนนสายหนึ่งที่ทอดยาวออกไปไกล
ต้นสายถนนมีศิลาแผ่นยักษ์ต้ งั อยูข่ า้ งๆ บนแผ่นศิลานี้ถูก
สลักไว้วา่
‘เส้นทางมรณะเหลือง!’
“เย่หยวน นี่…”
“มีค่ายกลในยุคบรรพกาลติดตั้งอยูม่ ากมายเต็มไปหมด
บนถนนสายนี้ นี่ มิใช่เรื่ องง่ายที่จะข้ามไป”
แม้แต่โม่ซางเองก็เปล่งออกมาอย่างโกรธเกรี้ ยวเช่นกัน
การกระทาก่อนหน้าของเย่หยวนทาให้ทุกคนไม่พอใจ
อย่างแท้จริ ง
ทุกคนเร่ งเข้าปิ ดล้อมกลุ่มของเย่หยวนเป็ นวงกลมในทันที
พวกเขาตั้งใจที่จะรุ มประชาทัณฑ์พวกเย่หยวนให้ตายคา
มือคาเท้ากันตรงนี้
คากล่าวของหวูเ่ หอพลันทาให้ทุกคนตกตะลึงอย่างมาก
พวกเขากวาดตาสังเกตความเปลี่ยนแปลงของพวกเช่าไค
อย่างละเอียด ก่อนพบว่าแต่ละคนดูหนุ่มแน่นขึ้นทันตา
ทุกคนที่ได้เห็นดังนั้นต่างรู ้สึกประหลาดใจอย่างหาที่
เปรี ยบไม่
ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่า ในขณะที่ท้ งั สองฝ่ ายแยกทางกัน กลุ่ม
ของเย่หยวนได้เผชิญเข้ากับขุมสมบัติสุดท้าทายสวรรค์
อย่างจัง
เย่หยวนกล่าวตอบอย่างยิม้ แย้มว่า
“มันก็มิใช่อะไรมากมายเลย ก็แค่พบเจอธูปจอมสวรรค์
อายุยนื โดยบังเอิญ ข้าจึงให้เช่าไคและที่เหลือกินมันเข้าไป
สิ่ งนี้จะช่วยยืดอายุขยั ของพวกเขาให้ยนื ยาวขึ้นอีกห้าร้อย
ปี และนั้นคือทั้งหมด”
ตอนที่905 ฆ่ าทิง้ ในหนึ่งฝ่ ามือ
“ยืดอายุขยั ไปอีกห้าร้อยปี !”
“พวกท่านไปหาสมบัติของตนเถอะ และหากไม่อยากอายุ
สั้นก็อย่าริ อาจข้าคนนี้เลยจะดีกว่า ข้าว่าพวกท่านเองก็
น่าจะฉลาดพอ อย่ารนหาที่ตายโดยเปล่าประโยชน์”
เย่หยวนกล่าวขึ้นอย่างเมินเฉย
ทุกคนที่ได้ฟังดังนั้นพลันหันมาแลกเปลี่ยนสายตากันไป
พวกเขาไม่แน่ใจเลยว่า เย่หยวนไปเอาความมัน่ ใจขนาดนี้
จากที่ใดมา
เช่าไครี บพุ่งตัวมาขวางหน้าเย่หยวนทันทีและกล่าวว่า
เย่หยวนยกมือขึ้นตบไหล่เช่าไคเบาๆ และกล่าวอย่างสงบ
นิ่งว่า
“ขยะเน่ากองนี้ ข้าจัดการเอง”
เช่าไคพูดไม่ออกบอกไม่ถูกพร้อมอึ้งในทันใด เย่หยวน
คนนี้มนั่ ใจในตัวเองเกินไป คาพูดสู งส่ งเช่นนี้ เขาไม่กลัว
ถูกตัดลิ้นเลยหรื ออย่างไร?
“ทาเนียบนภาเถื่อนฉบับใหม่ที่เพิ่งประกาศออกไป ใน
ครั้งนี้อนั ดับของหวูเ่ หอกระโดดขึ้นไปที่อนั ดับสามสิ บ
ทันทีโดยตรง ความเร็ วในการพัฒนาเช่นนี้นบั ว่าน่า
ประหลาดใจยิง่ !”
“ถูกต้อง! ที่ความเร็ วในการพัฒนาสู งขึ้นขนาดนี้ เป็ น
เพราะอยูภ่ ายใต้ท่านผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญ ท่านผูน้ ้ นั นับว่า
สร้างความตื่นตะลึงไม่เว้นวาย และมีแนวโน้มสู งมากว่า
ท่านผูน้ ้ นั จะกลายเป็ นการดารงอยูใ่ นระดับชั้นเดียวกับ
ท่านผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร!”
“ฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้า!”
เมื่อครู่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ฟุบ! ฟุบ!
“แย่แล้ว เกราะแสงของหวูเ่ หอถูกทาลาย ค่ายกลขนาด
มหึ มานั้นเล็งเป้าหมายมาทางนี้ แล้ว!”
มีบางคนตะโกนขึ้น
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ทุกคนต่างตกตะลึงเจือหวาดกลัวไม่
น้อย
เย่หยวนยิม้ และกล่าวว่า
หากคนอื่นๆมีหนทางหลบเลี่ยงกองทัพผีดิบเช่นกัน แล้ว
เป็ นไปได้ไหมที่พวกเขาจะยืนรอ?
เหตุผลที่ทุกคนแสดงพฤติกรรมต่อพวกเย่หยวนดัง่ ศัตรู
ร่ วม ทั้งหมดมิใช่เพราะกลุ่มของเย่หยวนง่ายต่อการรังแก
หรอกรึ ?
แต่พวกเขากลับไม่คาดคิดเลยว่า ผลสุ ดท้ายที่ออกมามัน
จะเป็ นเช่นนี้ จริ งๆ
ตอนที่906 ลอกเลียนแบบโง่ ๆ
โดยปกติแล้ว ขุมกาลังของซื่อหยินอ่อนแอที่สุดในบรรดา
สิ บสองผูส้ ู งส่ ง จึงตกเป็ นเป้ารังแกโดยธรรมชาติ แน่นอน
ว่าพวกเขาทุกคนล้วนขุ่งเคืองอย่างยิง่ แต่กลับไม่กล้า
เคลื่อนไหวใดๆเช่นกัน
อาเหริ่ นไม่เคยรู ้สึกดีขนาดนี้ มาก่อน ในปัจจุบนั เขา
สามารถยืดอกชูคอได้อีกครั้งอย่างภาคภูมิ
เย่หยวนกล่าวตอบอย่างยิ้มแย้มว่า
เพียงเย่หยวนส่ งคลื่นความถี่ของชีพจรมังกรให้เกราะแสง
เกิดความผิดปกติ และขยายอนุภาพการทาลายล้างของฝ่ า
มือมังกรสวรรค์วินาศฟ้าโดยอาศัยพลังของค่ายกลขนาด
มหึ มาให้เป็ นประโยชน์ ฝ่ ามือมังกรสวรร์วินาศฟ้าที่ถูก
ปลดปล่อยออกไปย่อมทวีความรุ นแรงเพิ่มขึ้นหลายสิ บ
เท่าตัว!
การประยุกต์ใช้สายเลือดมังกรเพื่อนามาบ่มเพาะพลัง
นับเป็ นคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของตระกูลเทียนหล่งห
ลิง แต่ท้ งั หมดก็มีเพียงแค่น้ นั
อาเหริ่ นยกหัวแม่มือให้และกล่าวว่า
“พี่ใหญ่เย่ ต่อแต่น้ ีเป็ นต้นไป ข้า,อาเหริ่ นของเป็ นน้องเล็ก
ของท่าน! หากมีคาแนะนาติเตียนใดๆอย่าได้ลงั เลที่จะ
กล่าว โปรดสัง่ สอนน้องเล็กคนนี้ให้เต็มที่! อุ๊ย! ใครเตะ
ก้นข้า?”
อาเหริ่ นเกาหัวแกรกๆอย่างเก้อเขินและกล่าวอย่างเจียม
ตนว่า
“ขอบคุณอย่างยิง่ พี่ใหญ่เย่!”
แต่สีหน้าการแสดงออกของเช่าไคไม่ค่อยดีนกั เขาขยับ
เข้ามาใกล้เย่หยวนและกล่าวว่า
หากปราศจากเย่หยวน พวกเขาก็ไม่เหลือความหวังที่จะ
ข้ามผ่านเส้นทางมรณะเหลืองได้อีกแล้ว
“เส้นทางมรณะเหลือง…สมชื่อของมันโดยแท้! ด้วยความ
แกร่ งกล้าของพวกเราคงตายอย่างไม่ตอ้ งสงสัย!”
“แต่พวกเราก็มาถึงที่นี่แล้ว หากไม่เข้าไปแล้วจะเอา
สมบัติออกมาได้อย่างไร? บางทีสมบัติเหล่านั้นอาจพา
พวกเราขึ้นสวรรค์ได้ในอึดใจเดียว!”
ในเวลานี้ กระทั้งใครบางคนที่ทรงพลังพอๆกับจ้งอูไ้ ป๋ ก็
ยังไม่กล้าย่างก้าวออกไปเช่นกันในเวลานี้
แต่กระนั้น…มันกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
เส้นทางมรณะเหลืองไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบ มันยังคงสงบ
นิ่งประหนึ่ งก่อนหน้าไม่แปรเปลี่ยน!
เส้นใยพลังปราณสุ ดเหนียวแน่นนับไม่ถว้ นพวยพุ่ง
ออกมา พร้อมเข้าควบคุมเหล่านายพลสังหารของซื่อหยิน
ทั้งหมด ดัง่ ปราถนาเชิงหุ่น ซึ่งพวกเขาแต่ละคนก็ไม่กล้า
ใช้พลังปราณใดๆเพื่อต่อต้านแม้แต่นอ้ ย
ในเวลานี้ร่างกายของพวกเขาทุกคนถูกเย่หยวนควบคุม
โดยสมบูรณ์ เส้นใยพลังปราณนับไม่ถว้ นพึงบรรจบเป็ น
ห้าเส้นใหญ่พร้อมเชื่อมต่อกับห้านิ้วบนมือของเย่หยวน
เย่หยวนนากลุ่มคนทั้งหมดของตนเดินลงมายังเส้นทาง
มรณะเหลืองต่อทันที!
มันปลอดภัย! และยังคงปลอดภัยอยู!่
บนเส้นทางมรณะเหลืองแห่งนี้ ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย!
ทุกคนต่างตอบสนองกันอย่างฉับไว พร้อมกระโดดลงไป
ยังเส้นทางมรณะเหลืองตามรอยเท้าของพวกเย่หยวน
ฟู่ วว!
ท่วงท่าการเคลื่อนไหวของเย่หยวนภายในเส้นทางมรณะ
เหลืองนี้ลึกล้ าซับซ้อนยิง่ หากใครไม่มีความชานาญใน
ศาตร์แห่งค่ายกลจริ งๆ ก็ไม่มีทางลอกเลียนตามได้เลย
เย่หยวนไม่กล้าผันผ่อนคลายแม้เสี้ ยวอึดใจหนึ่ ง
หากเขาเดินบนนี้คนเดียวก็ไม่เท่าไหร่ แต่ในมือของเขายัง
มีอีกหลายชีวิตที่ตอ้ งแบกรับ!
เขาต้องควบคุมการวางเท้าของแต่ละคนอย่างแม่นยา กระ
ทั้งความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดย
เด็ดขาด
บนเส้นทางสายนี้ มีค่ายกลบรรพกาลกว่าหนึ่งโหลถูก
ติดตั้งไว้อยู!่
ไม่เพียงพวกมันทางานสอดผสานอย่างลงตัว แต่ทุกๆก้าว
ที่ยา่ งออกไปกลไกของค่ายกลทั้งหมดพลันผันเปลี่ยนไป
ตามในพริ บตา และเป็ นเช่นนี้ตลอดทาง
เย่หยวนต้องหาเส้นทางใหม่ให้พวกเขาก้าวเดินทุกครั้ง
และทุกย่างก้าวของแต่ละคนก็ไม่มีครั้งไหนเหมือนกันเลย
เผชิญกับค่ายกลบรรพกาลมากมายที่ทางานไร้รูปแบบที่
แน่นอน สติสมาธิของเย่หยวนจาต้องจดจ่อไม่ปรนผ่อน
ตามที่เย่หยวนคาดเดาเป็ นนัยๆ ค่ายกลทั้งหมดนี้ควรเป็ น
ค่ายกลของเผ่ามังกร เย่หยวนไม่สามารถควบคุมมันได้
อย่างอิสระดัง่ ในอดีต
แต่เย่หยวนในตอนนี้ กลับสามารถประคองสถานการณ์ได้
จริ งๆ!
“โม่ซ่าง พวกเราไปกันเถอะ!”
“ตอนนี้เลยงั้นรึ ?”
พวกเขาเหล่านี้ไม่นึกไม่ฝันเช่นกันว่า ความสามารถใน
ศาสตร์แห่งค่ายกลของเย่หยวนจะท้าทายสวรรค์เช่นนี้ เขา
ยังคงนาพากลุ่มคนของตนข้ามผ่าเส้นทางมรณะเหลืองได้
อย่างต่อเนื่องไร้ปัญหา!
อย่างไรก็ตาม หากพวกจ้งอูไ้ ป๋ ลงไปในเส้นทางมรณะ
เหลืองในตอนนี้ ค่ายกลต่างๆภายในนั้นย่อมส่ งผล
กระทบต่อเย่หยวนแน่นอน!
จ้งอูไ้ ป๋ กล่าวขึ้นอย่างเย้ยหยัน
เพียงว่าระบบการทางานของค่ายกลเหล่านี้ดูท่าจะเลวร้าย
กว่าที่พวกเขาจิตนาการเอาไว้!
อีกเจ็ดคนกระโดดตามหลังมาติดๆโดยไม่ลงั เลแม้แต่นอ้ ย
เช่นกัน
เปลวเพลิงเดือดโหมปะทุพร้อมเข้ากลืนกินพวกเขาทั้ง
แปดในทันที แต่คนอื่นๆล้วนทราบดีวา่ พวกจ้งอูไ้ ป๋ ไม่มี
ทางทิ้งชีวิตลงในเปลวเพลิงเดือดเหล่านี้ง่ายๆเป็ นแน่
ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเป็ นผูม้ ีรากฐานหยัง่ ลึดที่สุดในบรรดา
สิ บสองผูส้ ู งส่ ง เนื่ องจากเขาทราบดีอยูแ่ ล้วว่า เบื้องหน้ามี
เส้นทางมรณะเหลืองรออยู่ แล้วเขาจะไม่ทิง้ ไพ่ตายให้แก่
จ้งอูไ้ ป๋ เลยรึ อย่างไร?
เปลวเพลิงเดือดเหล่านั้นมุ่งตรงไปยังเบื้องหน้า ทางทิศเย่
หยวนต่อเนื่องทันที!
อย่างไรก็ตาม ตัวเย่หยวนเองจาต้องจ่ายราคาที่เหมาะสม
เช่นกัน ทั้งพลังจิตวิญญาณและพลังปราณจาต้องเพิ่ม
ภาระเป็ นสองเท่า!
เปรี๊ ยงงง!
แสงอัสนีพิโรธโฉบแล่นคารนลัน่ ส่ งสายฟ้าอันทรงพลัง
ดัง่ ทัณฑ์สวรรค์ฟาดเข้าใส่ ของวิเศษของทุกคนโดยตรง
เช่าไคอดที่จะกรนด่าเย่หยวนอย่างลับๆด้วยความตกใจ
มิได้
ทว่าสี หน้าท่าทางของเย่หยวนกลับดูมิได้ตกใจแม้แต่นอ้ ย
เลย ขนขายันหนังศีรษะของพวกเขาชูชนั ตั้งโด่ แต่เย่
หยวนกลับขนไม่ลุกเลยสักเส้น
ใต้แผ่นเท้าเย่หยวนยังคงเคลื่อนด้วยความเร็ วและยังเร็ ว
ขึ้นต่อเนื่องไม่หยุด แม้แต่นิ้วทั้งห้าของเขาเองยังขยับเร็ ว
ขึ้นตามจังหวะเช่นกัน!
เช่าไคอดตื่นตะลึงมิได้เมื่อได้เห็น พวกเขาไม่เพียงมิได้รับ
ผลกระทบจากการโจมตีของค่ายกลนับไม่ถว้ นเท่านั้น แต่
ระยะห่างระหว่างพวกเขาและมันยังค่อยๆกว้างขึ้นจนเห็น
ได้ชดั
เหตุการณ์เช่นนี้เป็ นไปได้อย่างไร?
สิ่ งหนึ่ งที่ควรทราบคือ เย่หยวนในตอนนี้ตอ้ งทาหลายสิ่ ง
อย่างในเวลาเดียวกัน แถมยังมีผลกระทบจากคนอื่นๆพุ่ง
ไล่หลังตามกดดันมาติดๆอีก
บางครั้งบางคราวบนเส้นทางมรณะเหลืองดัง่ วิปลาส
โกลาหลสุ ดพรรณไม่
จ้งอูไ้ ป๋ ไล่สาปแช่งไม่หยุดอยูภ่ ายในใจ เขาอยากจะฆ่า
สหายเหล่านี้ท้ งั หมดให้ตายสิ้ น
ทว่าเวลานี้สมาธิและพลังจิตวิญญาณทั้งหมดจาต้องจดจ่อ
อุปสรรคตรงหน้า ไม่มีเวลาพอมาจัดการผูค้ นเหล่านี้ได้
เลย
ร่ างสายหนึ่งของเย่หยวนกระโจนออกจากเส้นทางมรณะ
เหลืองได้สาเร็ จ ก่อนวาดมือห้านิ้วคล้องควบคุมพัลวัน
และดึงส่ วนที่เหลือขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย
“พี่ใหญ่เย่ ท่านช่างน่าเหลือเชื่อโดยแท้! ข้าขอเทอดทูน
ท่านจนกว่าชีวิตจะหาไม่!”
อาเหริ่ นกระโดดลิงโลดด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“เย่หยวน เจ้า…เจ้าบรรลุขอบเขตจิตวิญญาณแล้ว?”
ขึ้นชื่อว่าเย่หยวน การที่เขาบรรลุขอบเขตจิตวิญญาณได้
ไม่นบั เป็ นเรื่ องแปลกเท่าไหร่ นกั แต่การที่เขาบรรลุได้ใน
ระหว่างเหตุการณ์เป็ นตายเช่นนี้ มันทาให้เขาตกตะลึง
อย่างอดมิได้
“ทั้งหมดต้องขอบคุณหัวหน้าจ้ง และหากเรามิได้ตอบ
แทนอันใดคงเสี ยมารยาทน่าดู?”
เย่หยวนจงใจกรอกเทพลังปราณเพื่อทาให้เสี ยงของเขาดัง
ทะลุผา่ นทัว่ ทั้งค่ายกล พร้อมส่ งประเคนเสี ยงถึงรู หูทุกคน
ในทันใด
เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า เย่หยวนจะสามารถพิชิต
เส้นทางมรณะเหลืองได้จริ งๆ แถมยังได้รับกาไรระหว่าง
ทางไปอีก
เย่หยวนหมุนตัวกลับไปยังฝังเส้นทางมรณะเหลืองพร้อม
แสยะยิม้ แปลกๆ
ทันใดนั้นเย่หยวนก็ยกสองมือขึ้นและขยับนิ้วไปมาราว
กับกาลังร่ ายอะไรบางอย่าง ตราผนึกขึ้นก่อรู ปและบินตรง
ไปยังค่ายกลทันที
ตลอดทางที่ไล่ถอดรหัสต่อเนื่องไม่หยุด ในที่สุดเย่หยวน
ก็คนุ ้ เคยกับค่ายกลบรรพกาลเหล่านี้มากขึ้นแล้ว
เพียงเย่หยวนลงมือเล็กน้อย แต่ค่ายกลทั้งหมดพลัน
ตอบสนองอย่างรุ นแรง ประหนึ่งเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่
เพียงว่าสภาพของนักสู ้ระดับแนวหน้านี้ดูไม่จืดเลยสักคน
ในปัจจุบนั นอกเหนือจากยอดฝี มือระดับจ้งอูไ้ ป๋ แล้ว คน
อื่นๆล้วนตกอยูใ่ นสภาวะวิกฤตทั้งสิ้ น
“ปล่อยให้พวกเขาเล่นไปก่อนแล้วกัน พวกเราไปล่า
สมบัติกนั เถอะ!”
“ฮ่าฮ่า กลุ่มสหายเหล่านี้ กล้าทาตัวเย่อหยิง่ ต่อหน้าหัวหน้า
เย่ จาต้องตอบแทนอย่างเหมาะสม อย่าหวังสมบัติติดมือ
ไปเลย กินฝุ่ นไปเถอะ!”
เท่าที่วิเคราะห์ดูแล้ว เส้นทางมรณะเหลืองควรจะเป็ น
วิหารด่านที่สองเห็นจะได้
“ไปต่อกันเถอะ!”
เย่หยวนกล่าว
ลักษณะท่าทางของทุกคนในขณะนี้ต่างดูตื่นเต้นกันอย่าง
มาก พวกเขายิม้ แย้มแจ่มใสตลอดทาง
เดินทางลึกลงไปสักครู่ ใหญ่ เบื้องหน้าปรากฏเป็ นตาหนัก
แห่งหนึ่ง ทุกคนไม่แช่มช้าเข้าไปในตัวตาหนักอย่าง
รวดเร็ ว เย่หยวนกวาดสายตาเข้าสังเกตโดยรอบ และไม่มี
จุดบริ เวณใดสะดุดตาเลย
มีใครบางคนร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้น
แท้ที่จริ งแล้ว แม้เขาผูน้ ้ นั จะไม่ตะโกน ทุกคนเห็นก็เห็น
เจ้าสิ่ งนี้อยูต่ าตา
ดาบงามวิไลเล่มนี้ช่างทรงเสน่ห์เย้ายวนเกินไป จนทาให้
คนที่ตะโกนเมื่อครู่ ไม่อาจอดใจได้อีกพร้อมเคลื่อนไหว
ในทันที
“หยุด!”
“หะ–หัวหน้าเย่ มีอะไรงั้นรึ ?”
เขาคนนั้นกล่าวขึ้นด้วยความกลัว
เย่หยวนเพียงหยิบกิ่งไม้แห้งและโยนออกไปตรงหน้า
ทันใดนั้นประหนึ่ งเงาภูตผีสายหนึ่งโฉบวาบอย่างน่าสะ
พรึ ง กิ่งไม้แห้งนั้นพลันสลายกลายเป็ นไอโดยตรง
เขาคนนั้นคิดว่าหลังจากที่ขา้ มเส้นทางมรณะเหลืองมาได้
ภายในตาหนักแห่ งนี้คงเหมือนโถงก่อนหน้าที่ไร้ซ่ ึง
อันตรายใดๆ ทว่ากลับคาดไม่ถึง กระทั้งที่แห่ งนี้ ก็ยงั มีกบั
ดักลักซ่ อนอยูท่ วั่ ทุกมุม!
แต่เขาคนนั้นและที่เหลือเองต่างลอบมองเย่หยวนด้วย
ความเลื่อมใส ทั้งๆที่เย่หยวนเพิ่งขึ้นมาในตาหนักนี้พร้อม
กันแท้ๆ แต่กลับช่างสังเกตมองกับดักออกอย่างทะลุปรุ
โปร่ งแล้ว
“เช่นนั้น…เราทาได้แค่ดูอยูเ่ ฉยๆงั้นรึ ?”
เขาคนนั้นกล่าวขึ้นอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
“เข้ามาขนาดนี้แล้ว แต่จะกลับไปมือเปล่าได้อย่างไร?”
เมื่อทุกคนเห็นเช่นนั้น ใบหน้าของแต่ละคนพลันถอดสี
ในทันใด
“หัวหน้าเย่ อันตราย…”
อาเหริ่ นตะโกนลัน่ ด้วยความหวาดกลัว และพุ่งตัวออกไป
หวังจะดึงเย่หยวนกลับออกมา
เงียบ…
หลังจากปิ ดตาอยูค่ รู่ ใหญ่ พวกเขาต่างรู ้สึกเงียบนิ่งจนผิด
วิสัยจึงค่อยๆลืมตาขึ้นอีกครั้ง ปรากฏว่าเย่หยวนกาลัง
แกว่งดาบงามวิไลเล่มนั้นเล่นอยูไ่ ปมา
ทั้งหมดพลันหันมาสบตากันด้วยความฉงนสงสัย และไม่
ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เย่หยวนกล่าวขึ้นอย่างเฉยเมย
ตราบใดที่เย่หยวนปรับความถี่ของชีพจรมังกรให้
เหนือกว่าเงื่อนไขที่กาหนดได้ ไม่วา่ กับดักร้อยพันสุ ด
อันตรายเพียงใด เขาก็สามารถผ่านมันไปได้อย่างง่ายดาย
แต่ละคนหันเข้าสบตากันไปมา และไม่ทราบเลยว่าพวก
ตนควรกล่าวอันใดต่อไป
ดังนั้นการที่ทุกคนปรับลดศีรษะของตนลงและเรี ยกเย่
หยวนว่า หัวหน้า มันจึงมิใช่เรื่ องผิดธรรมชาติแต่อย่างใด
ในทางกลับกัน พวกเขายังรู ้สึกภูมิใจด้วยซ้ าที่ได้ติดตาม
อยูใ่ ต้บญั ชาเย่หยวน
“แค่ก แค่ก.. หัวหน้าเย่ แล้วดาบเล่มนี้มีอนั ใดโดดเด่นเป็ น
พิเศษหรื อไม่?”
“ลองดูเอาเองแล้วกัน”
ชวิง้ !
ดาบงามวิไลถูกชักออกจากฝักพลันประกายแสงคมดาบ
เลิศสง่า จิตสังหารแห่งดาบอันน่าเกรงขามแผ่ขยายปก
คลุมทัว่ ทั้งตาหนักทันที
เย่หยวนยิม้ และกล่าวว่า
“อะ–อะ-…อะไรนะท่าน?”
อาเหริ่ นแทบไม่อยากเชื่อหูตนเอง เขาตะลึงงันจนกล่าว
ติดอ่างไม่เป็ นภาษา
“ข้าบอกว่า ท่านเอาดาบเล่มนี้ไปใช้เถอะ”
“….”
อาเหริ่ นพูดไม่ออกพร้อมอ้าปากกว้างจนกรามค้าง ส่ วน
คนอื่นๆต่างโพลงตาโตเท่าไข่ห่านด้วยความตื่นตะลึงสติ
หลุดไป
เย่หยวนกล่าวขึ้นอย่างใจเย็น
“พะ–พวกเราทุกคน…จะได้รับเช่นกัน?”
พวกเขาในขณะนี้ไม่ทราบแล้วว่าตนควรกล่าวอันใดต่อ
เย่หยวนผูน้ ้ ี จะใจดีเกินไปแล้วจริ งไหม?
เช่าไคเอ่ยถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“เพียงเพราะของเล่นเหล่านี้มนั ไม่จาเป็ นเลยสาหรับข้า จึง
ยกให้พวกท่านจะดีกว่า แต่ทุกท่านจงสลักจาใส่ ใจ
หลังจากที่กลับออกไปภายนอก ห้ามเปิ ดเผยสิ่ งของ
เหล่านี้ให้ผอู ้ ื่นเห็นโดยง่าย มิฉะนั้นหายนะที่ตามมาอาจ
ร้ายแรงเกินจินตนาการ!”
เย่หยวนกล่าวเตือนอย่างเคร่ งขรึ ม
ทุกคนล้วนพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเมื่อได้ยิน เย่หยวนกาลัง
กล่าวดูถูกดูแคลนเครื่ องรางเทวะระดับสู งจริ งๆ!
หากดาบเล่มนี้ถูกแขวนบนโลกภายนอก มันจะต้องชักพา
สมรภูมินองเลือดศึกใหญ่เข้ามาอย่างเลี่ยงมิได้ แต่ใน
สายตาเย่หยวน มันกลับเป็ นเพียงของเล่นเท่านั้น!
ผืนพิภพนี้มนั บ้าไปกันใหญ่แล้ว!
ด้วยพลังของเย่หยวนในปัจจุบนั เขาพอที่จะควบคุมเจดีย ์
เลื่องสวรรค์ได้แล้วในเบื้องต้น การจะใช้มนั สังหารศัตรู
มันง่ายดัง่ หักข้อมือเล่น เป็ นเพียงว่าจนตอนนี้ เขาก็ยงั ไม่
สามารถควบคุมจนชานาญถึงขั้นนั้นได้
เย่หยวนกล่าว
บางคนเอ่ยบ่น
เย่หยวนกล่าวอย่างยิม้ แย้มว่า
คากล่าวของเย่หยวน ต่างทาให้จิตใจทุกคนเบิกบานใน
บัดดล!
อันดับของอาเหริ่ นในทาเนียบนภาเถื่อนมิได้ชนชั้นต่า
ทราม พลังฝี มือของเขาเป็ นสองรองจากเช่าไคเท่านั้นใน
หมู่นายพลสังหารของซื่อหยิน
และเขาเองก็เพิ่งได้รับดาบมังกรมรณะมาหมาดๆ แน่นอน
ว่าอยากลองของใหม่เป็ นธรรมดา
“ดาบคะนองวิบตั ิ!”
บูมมม!
“โอ๊ยยย!”
อาเหริ่ นร้องระงมสุ ดเวทนาด้วยความเจ็บปวด ประหนึ่ ง
กระดูกทัว่ ร่ างแทบแตกเป็ นเสี่ ยงๆ
สี หน้าของเช่าไคมืดลงส่ วนที่เหลือท่าทางการแสดงออก
แปรเปลี่ยน พวกเขาไม่คาดไม่ฝันเลยว่า กาแพงโปร่ งแสง
ตรงหน้าจะทรงพลังได้ขนาดนี้ จริ งๆ
ทันใดนั้นเช่าไคพลางถอนหายใจยาวด้วยอารมณ์ที่
หลากหลายและกล่าวออกมาอย่างท้อแท้
เย่หยวนกล่าวอย่างยิม้ แย้มว่า
“กาแพงแสงตรงหน้าเรา ลืมไปได้เลยสาหรับผูส้ ู งส่ งอัคนี
ผลาญเมื่อกาลก่อน กระทั้งตัวเขาในปัจจุบนั ก็ไม่มีพลัง
อานาจพอที่จะทาลายได้เช่นกัน”
เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิม้ บางๆ
คากล่าวเหล่านี้ค่อนข้างหยิ่งผยองเกินไป!
แต่เย่หยวนกลับกล่าวราวกับว่า ตนสามารถทพลายกาแพง
โปร่ งแสงนี้ได้!
นี่จะเป็ นไปได้อย่างไร?
เย่หยวนตรงมาหยุดต่อหน้ากาแพงโปร่ งแสงพร้อมค่อยๆ
หลับตาลง
ในขณะเดียวกัน สายเลือดมังกรทัว่ ร่ างของเขาพลันโคจร
หมุนติ้วไปทัว่ จนสั่นกระตุกเล็กน้อย เลือดเดือดมังกรเริ่ ม
ปะทุร้อนขึ้นไม่หยุด
เมื่อเช่าไคและคนอื่นๆเห็นภาพฉากนี้ พวกเขาล้วนตื่น
ตะลึงอย่างอดมิได้ ความประหลาดถูกแขวนไว้ทวั่ ใบหน้า
“ฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้า!”
เกลียวคลื่นชีพจรมังกรควงคลัง่ ดุจน้ าหมุนกลางฝ่ ามือ
ก่อนปลดปล่อยออกมาอย่างไม่ย้งั อดออม ประหนึ่ง
ต้องการพลิกภูเขาคว้าสมุทร!
ตอนที่910 ผู้สืบทอด
บูมมม!
ฝ่ ามือโหมวินาศสันตะโรดุจโค่นภูเขาพลิกสมุทร ถาโถม
เข้าชนกาแพงโปร่ งแสงอย่างไม่มีลิดรอน กาแพงโปร่ ง
แสงมิได้แตกสลายอย่างที่คิด มีเพียงปฏิกิริยาตอบกลับ
สะท้อนเล็กน้อย
“หัวหน้าเย่ นี่…”
อาเหริ่ นกล่าวอย่างลังเล
แต่เย่หยวนเพียงคลี่ยิ้มตอบเล็กน้อย ก่อนยกเท้าย่างเข้าสู่
กาแพงโปร่ งแสงโดยตรง และเดินผ่านเข้าไปได้อย่างน่า
อัศจรรย์
อาเหริ่ นและคนอื่นๆอ้าปากค้างตาค้างโตด้วยความไม่
อยากจะเชื่อ
นี่หมายความว่าอย่างไร? กาแพงโปร่ งแสงตรงหน้าพวก
เขาสามารถทะลุผา่ นไปได้?
“ยังงุนงงอันใดอีก? รี บเข้ามา”
“หัวหน้าเย่ช่างน่าทึ่งโดยแท้!”
บุคคลที่สามารถฝึ กฝนจนลุถึงชีพจรมังกรขั้นวิญญาณ
ระดับกลาง ภายในเผ่ามังกรเกรงว่ามีจานวนน้อยจน
สามารถนับนิ้วได้
อาเหริ่ นและคนอื่นๆไม่แช่มช้าตรงขึ้นสู่ ช้ นั ที่สองโดยเร็ ว
ทันทีทนั ใด พวกเขาถึงกับพรู ลมหายใจเย็นออกมา แววตา
ของพวกเขาทั้งหมดพลางประกายวาววับจับใจ
“นั้น…นั้นโอสถระดับเก้า!”
บนชั้นสองแห่งนี้เต็มไปด้วยรายการสิ่ งของระดับเก้า
ทั้งสิ้ น! นี่นบั เป็ นห้องสมบัติอย่างแท้จริ ง!
เท่าที่กวาดสายตามองอย่างหยาบๆ ภายในนี้มีสมบัติ
มากมายกว่ายีส่ ิ บชิ้น!
และสมบัติแต่ละชิ้นที่พบเจอถือได้วา่ ท้าทายสวรรค์ยงิ่ !
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เย่หยวน ข้าต้องขอบคุณเจ้าจริ งๆ! ไม่คาดไม่ฝัน
เลยว่า ฝ่ ามือของเจ้าจะสามารถทะลวงผ่านเงื่อนไขที่ปิด
กั้นเอาไว้ได้ในชั้นสอง! ไม่ตอ้ งห่วง สมบัติเหล่านี้ขา้ จะ
ช่วยลาเลียงออกไปให้เอง”
ดูเหมือนว่าผูค้ นที่เหลือรอดจากเส้นทางมรณะเหลืองจะมี
ไม่มาก อันที่จริ งจานวนที่เหลือออกมามีเพียงหนึ่งโหล
เศษเท่านั้น
ดูเหมือนว่าลักษณะท่าทางของคนเหล่านี้จะชัดเจนยิง่ อยู่
แล้ว พวกเขาต้องการผนึ กกาลังกันเพื่อกาจัดเย่หยวนทิ้ง!
หากเป็ นรายคนมิใช่ปัญหา ทว่าร่ วมมือร่ วมใจกันกลับยาก
เกินต้านทานนัก!
เย่หยวนกวาดสายตาจับจ้องทุกคนที่ค่อยๆทยอยขึ้นมา
ด้วยสี หน้าขบขัน และพูดจาอย่างยิม้ แย้มว่า
“พวกท่านรนหาที่ตายโดยแท้! บนเส้นทางมรณะเหลือง
ตัวข้าผูน้ ้ ีอุตสาห์เมตตาไว้ชีวิตน้อยๆของพวกท่าน กลับ
ไม่คิดเลยว่า พวกท่านจะมาประเคนชีวิตให้เชือดทิ้งถึงที่
อีกครา สมแล้วที่เป็ นพวกหูหนวกตาบอด!”
จ้งอูไ้ ป๋ กล่าวตอบเจือเสี ยงเย็นยะเยือกว่า
เย่หยวนกล่าวขึ้นอย่างสบายอารมณ์วา่
“ในเมื่อทุกท่านขึ้นมากันหมดแล้ว เช่นนั้นก็อย่าหวังได้
ออกไปไหนอีก! มาเปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อย! ภูต
เพลิง!”
เย่หยวนคารามเสี ยงต่า ทันใดนั้นลูกไฟนับร้อยดวงพลัน
ลุกพรึ บทัว่ ทุกมุมตาหนักอย่างพร้อมเพรี ยง!
ตึงงง!
ทัศนียภาพโดยรอบทุกคนเปลี่ยนไปโดยพลัน ณ ปัจจุบนั
พวกเขาทั้งหมดกาลังอยูใ่ นถ้ าอันกว้างใหญ่สุดมหึ มา!
“ที่นี่…ที่นี่ที่ไหน? ไฉนแรงกดดันมังกรถึงได้รุนแรงเพียง
นี้!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! สถานที่แห่งนี้ควรจะเป็ นส่ วนสุ ดท้ายของแดน
ราชามังกร! ภายในนี้จกั ต้องมีสุดยอดขุมสมบัติอนั ท้าทาย
สวรรค์ยงิ่ เป็ นแน่! เย่หยวน ข้า,จ้งอูไ้ ป๋ ขอขอบคุณเจ้าจาก
ใจจริ ง!”
เย่หยวนกล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า
“ไม่เลว ไม่เลว อย่างน้อยเจ้าก็มีความรู ้อยูบ่ า้ ง ถูกต้องแล้ว
ที่แห่งนี้คือส่ วนสุ ดท้ายของแดนราชามังกร! แต่น่า
เสี ยดาย…สิ่ งเหล่านี้มนั มิได้เกี่ยวข้องกับท่าน!”
ความแกร่ งกล้าระดับนี้มิได้อ่อยด้อยไปกว่าเซียน
อาณาจักรเต๋ าลึกล้ าเลยใช่ไหม?
ทว่าอย่างไร เมื่อเย่หยวนเห็นภาพฉากนี้แทนที่จะตกใจ
กลัว เขากลับฉี กยิม้ สุ ดเย้ยหยันขึ้นที่มุมปากแทน ขุมพลัง
ตรงหน้าเขาคร้านใส่ ใจไม่
“ตึงงง!”
ท่าทางการแสดงออกของจ้งอูไ้ ปเปลี่ยนไปแทบจะ
ในทันที ในเวลานี้เขายังมัวสนใจเย่หยวนได้อย่างไร? ทัว่
ร่ างพลันสั่นกระตุก จ้งอูไ้ ป๋ เร่ งพลังปราณสุ ดเร็ วจี่และวิ่ง
หนีดว้ ยความเร็ วสู งสุ ดเท่าที่มี!
แต่ในเวลานั้นเอง เขาก็หยุดลงตรงหน้าเย่หยวนและค่อยๆ
เอ่ยปากกล่าวว่า
“เจ้าคือผูส้ ื บทอดใช่หรื อไม่?”
ตอนที่ 911 มรดกชิน้ สุดท้าย
เผชิญหน้ากับเงาดําสุดสะพรึงเกินหยั่งรู ้ เย่หยวนกล่าวตอบอย่างสงบนิ่ง
ดั่งมีอะไรบางอย่างเพิ่มเสริมเติมเข้ามาในทะเลแห่งจิตใจ สายเลือดถูก
กระตุน้ ใช้งานประหนึ่งว่าเขาได้รบั การยอมรับจากบางสิ่งแล้ว
เช่าไคและที่เหลือสั่นสะท้านหนักจากภายในดุจหัวใจเยือกแข็งฉับพลัน
เหงื่อเย็นจํานวนมากเปี ยกชุ่มทัง้ แผ่นหลังโดยไม่รูต้ วั
ทุกคนต่างสบตากันไปมาด้วยความรูส้ กึ แย่ย่ิง
“พี่ใหญ่เช่า เราควรทําอย่างไรต่อไปดี.."
สีหน้าการแสดงออกของเช่าไคเปลี่ยนไปและกล่าวด้วยนํา้ เสียงเดือดดุวา่
เช่าไคกล่าวด้วยเสียงเย็นยะเยือก
เย่หยวนกล่าวตอบไปตามความจริงอย่างช่วยไม่ได้
เงาดําพลันตรึงแข็งไปชั่วขณะ วิธีการดูของเขาดูจะตรงไปเกินไปจนคล้าย
ไร้มารยาทเป็ นนัยๆ
เย่หยวนกล่าวตอบอย่างร่าเริงใจและรีบเก็บขวดบรรจุโลหิตมังกรทันที
เงาดําสายหัวและกล่าวว่า
เงาดําเค้นเสียงเย็นยะเยือกก่อนเข้าโจมตีทนั ที!
ทันใดนัน้ งามังกรสีดาํ พลันปรากฏพร้อมเสียงคํารามลั่น ความน่าเกรงขาม
ของมันนับได้วา่ ฟ้าสะท้านแผ่นดินสะเทือน!
“ฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้า”
เงาดําเผยเสียงประหลาดใจเล็กน้อย พร้อมเงามังกรดําที่สลายหายไป
กลางอากาศโดยพลัน ประหนึ่งว่ามันไม่เคยปรากฏขึน้ มาก่อน
ตอนที่ 912 บุตรแห่งประกาศิตสวรรค์
เงาดํากล่าวขึน้ อย่างค่อนข้างแปลกใจ
“ทะ ท่าน...ท่านหลงซาน?”
เย่หยวนโพลงกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า
“ท่านเคยเสียสละบางอย่างในฐานะสมาชิกของเผ่ามังกรหรือไม่? แล้วกล้า
ดียงั ไงมาตําหนิท่านอาวุโสหลงเถิง?”
เย่หยวนเป็ นคนรักพวกพ้องอย่างที่สดุ ทันทีท่ีเงาดําเอ่ยปาก ดูหมิ่นหลง
เถิง เขาเองก็อยูเ่ ฉยไม่ได้แน่นอน แม้กระทัง้ นํา้ เสียงวาจายังแข็งกร้าวขึน้
ทันที
หลงซานกล่าวด้วยนํา้ เสียงเพื่อเย้ยหยันเล็กน้อย
เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนัน้ เขาก็กล่าวตอบอย่างเย้ยหยันเช่น
ทว่าเขาคิดผิด!
หลงเลิงพลันถอนหายใจเฮือกใหญ่ดว้ ยอารมณ์ท่ีหลากหลายเมื่อได้ยิน
เขารูอ้ ยูแ่ ล้วว่านิสยั ของเย่หยวนดือ้ รัน้ เพียงใด
หลงซานหันหน้าไปหาหลงเถิงและกล่าวว่า
แต่หลงเถิงกลับส่ายหัวและกล่าวว่า
“เขามิใช่ผสู้ ืบทอดที่ขา้ เลือก แต่เป็ นผูส้ ืบทอดที่ศิลาจารึกเลื่องสวรรค์
เลือก! ถึงแม้เสียงแห่งจอมเทพมังกรจะทรงพลังยิ่ง แต่ลกึ ๆแล้วจ้ายังหวัง
ว่าเขาอาจเหลือทางรอดอยูบ่ า้ ง!”
ทันที่ท่ีได้ยินชื่อ สีหน้าท่าทางของหลงซานก็แปรเปลี่ยนอย่างชัดเจน
หลงเถิงพยักหน้าและกล่าวว่า
อนุภาพจาต้องวินาศสันตะโรขนาดไหน ถึงสามารถทาให้
เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรได้ชื่อว่าเป็ น วรยุทธต่อสู ้ที่
แข็งแกร่ งที่สุดของเผ่ามังกร แถมยังสามารถเขย่าฟ้าดินจน
วิปลาสได้
บูมมม! บูมมมม!
มังกรฟ้าอันผยิ่งผยองยังไม่ทนั เคลื่อนเข้าใกล้ กลับถูกสาย
อัสนีฟ้าแซ่ซอ้ งฟั นฟาดบรรลัยสิ้ นในอึดใจ ฝ่ ามือมังกร
สวรรค์วินาศฟ้าอันซึ่งคว้าชัยมาโดยตลอด แต่คราวนี้หา
ได้สร้างภัยอันตรายไม่!
หลงซานยืนจับจ้องพร้อมเอ่ยประเมินเย่หยวนตามที่เห็น
แม้คากล่าวของหลงซานจะทาให้หลงเถิงตกใจไม่น้อย แต่
ในตอนนี้หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับเย่หยวนจริ งๆ นี่กลับเรื่ อง
ยากยิง่ ที่เขาจะสามารถรับผิดชอบได้
หลงเถิงกล่าวขึ้นพร้อมถอนหายใจยาว
เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรเป็ นวรยุทธในยุคบรรพกาลที่สูญ
หายไปจากเผ่ามังกรนานแล้ว นี่เป็ นครั้งแรกที่หลงเถิงได้
เห็นชัดประจักษ์สองตา ที่เขาทราบถึงความน่าเกริ่ นเกรง
ของเสี ยงแห่งจอมเทพมังกร ทั้งหมดเป็ นเพียงเรื่ องเล่า
ขานสื บต่อกันมาเท่านั้น เขาไม่กล้าจินตนาการเลยว่า
หากวรยุทธนี้ถูกปลดปล่อยอย่างเต็มกาลัง อนุภาพทาลาย
ล้างของมันจะมหาศาลเพียงใด
หลงเถิงกาสองมือแน่นด้วยความวิตกโดยไม่รู้ตวั เหงื่อ
เย็นไหลแตกชุ่มทัว่ ทั้งหน้าผาก เขากังวลในความ
ปลอดภัยของเย่หยวนเป็ นอย่างมากในขณะนี้
หลงซานกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า
ปังงง!
สรรพสิ่ งราวกับหยุดเคลื่อนไหว
นี่คือความสงบก่อนพายุโดยแท้!
เย่หยวนพึงทราบ เสี ยงแห่ งจอมเทพมังกรกาลังจะมาถึงใน
ไม่ชา้ !
“อ๊อก…”
“กลืนโอสถระดับแปดขนาดนั้นในคราวเดียว เด็กนั้นมัน
บ้าไปแล้ว!”
หลงซานอุทานขึ้นด้วยความตกใจ
สาหรับนักสู ้อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าที่กลินโอสถระดับ
แปดลง แน่นอนว่าพวกเขาย่อมมิอาจทานทนต่อฤทธิ์
โอสถระดับแปดได้ไหว ผูใ้ ดไม่แกร่ งกร้าวพออาจทาให้
ร่ างระเบิดได้โดยตรง
การกระทานี้ ย่อมมองว่าบ้าคลัง่ โดยธรรมชาติในสายตา
ของหลงซาน
แต่ร่างกายของเย่หยวน ก็มีแค่เย่หยวนเท่านั้นที่ทราบถึง
ขีดจากัดดี และการกลืนโอสถในจานวนนี้ ก็ยงั อยูใ่ น
ขอบเขตที่ร่างกายของเขารับได้
“ในบรรดาโอสถที่เขากลืนไป มีท้ งั โอสถก่อเกิดปราณ
จ้าวและโอสถกายจ้าวทรราชใช่หรื อไม่? โอสถก่อเกิด
ปราณจ้าวจะช่วยให้ร่างกายผลิตพลังปราณออกมาได้
อย่างไร้จากัดในช่วงเวลาหนึ่ ง เกราะพลังปราณที่ใช้
ออกมาระหว่างนั้นเรี ยกได้วา่ ไร้เทียมทาน! แถมยังผนวก
เข้ากับโอสถกายจ้าวทรราชที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ ง
ให้แก่ร่างกายทันทีสิบทวีเท่า! สู ตรโอสถทั้งสองชนิดนี้
ล้วนเป็ นสู ตรโอสถในยุคบรรพกาล ความยากในการ
หลอมกลัน่ จัดอยู่ในระดับท้าทายสวรรค์ยงิ่ ! เขาเอาของ
พวกนี้ มาจากไหน?”
หลงซานกล่าวขึ้นด้วยความสงสัย
ด้วยความรู ้ประสบการณ์สุดเจนจัดในทางโลกของหลง
ซาน นับได้วา่ กว้างใหญ่ไพศาล แม้จะเป็ นเสี้ ยวอึดใจสั้นๆ
แต่เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เย่หยวนกลืนโอสถชนิดใดลง
ไปบ้าง
หลงเถิงกล่าวตอบ
“ทั้งหมดนั้น เขาหลอมด้วยตัวเอง”
สี หน้าหลงซานพลันมืดลงและกล่าวอย่างไม่เชื่อว่า
“เป็ นไปไม่ได้! โอสถทั้งสองชนิดนี้ลว้ นเป็ นโอสถระดับ
แปด! แม้แต่เซียนโอสถนิรันดร์ยงั ไม่สามารถหลอมกลัน่
พวกมันได้! ทว่าเขาเป็ นเพียงนักสู ้อาณาจักรวิชชาสวรรค์
เท่านั้น?”
หลงเถิงกล่าวอย่างจนปัญญาว่า
“หากท่านหลงซานไม่เชื่อ ข้าเองก็ไม่รู้จะกล่าวอย่างไร
แล้วเช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ขา้ สามารถกล่าวได้อย่างเต็มปาก
เลยก็คือ ท่านยังรู ้จกั เย่หยวนน้อยเกินไป มิเช่นนั้นศิลา
จารึ กเลื่องสวรรค์จะเลือกเขามาเป็ นผูส้ ื บทอดได้
อย่างไร?”
หลงซานที่ได้ฟังเช่นนั้นกลับพูดไม่ออก
เย่หยวนกระอักเลือดสมคาโตโดยพลัน การโจมตีครานี้
สร้างความเสี ยหายต่อตัวเขาไม่นอ้ ยเลย
ในคราแรกยังดีที่มีระฆังราชาสวรรค์ช่วยเหลือ แต่การ
โจมตีระรอกสองนี้ เย่หยวนกลับต้านมันด้วยพละกาลัง
ตนเองล้วนๆ!
หลงซานกล่าวขึ้นพร้อมถอนหายใจยาวให้แก่ความโชค
ร้ายของเย่หยวน
หลงเถิงหรี่ ตาแคบและกล่าวอย่างใจเย็นว่า
“มันก็ยงั ไม่แน่!”
ตอนที่914 ต้ องการขจัดทั้งหมดออกจากทรวงอก!
บูมม!
แต่ในเวลานั้น หลงซานกลับตะลึงงันด้วยความประหลาด
ใจยิง่
เพราะการโจมตีทางจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเสี ยงแห่ง
จอมเทพมังกร กลับไม่มีผลอันใดต่อเย่หยวนเลยจริ งๆ!
หลงเถิงยิม้ แต่มิได้กล่าวตอบใดๆสักคา
เขาทราบดีวา่ การโจมตีทางจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ไม่มีผล
อันใดต่อตัวเย่หยวนอยูแ่ ล้ว อันเนื่องมาจากไข่มุกสยบ
วิญญาณภายในทะเลแห่งจิตใจ
แม้เย่หยวนจะพยายามกระตุน้ สายเลือดมังกรภายในร่ าง
หรื อสร้างเกราะลมปราณขึ้นมาป้องกันจนแกร่ งดัง่ เกราะ
เต่าเพียงใด แต่เย่หยวนก็เกือบประคองลมหายใจไม่ไหว
แล้วเช่นกัน!
ไม่น่าแปลกใจที่ไฉนหลงซานจึงกล้ายอมให้เย่หยวนเข้า
รับการสื บทอดขั้นสุ ดท้ายนี้ ทั้งๆที่ทราบว่าร่ างกายของเย่
หยวนแข็งแกร่ งเพียงใด
“ถึงแม้การโจมตีทางจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเสี ยงแห่ง
จอมเทพมังกร จะไร้ประโยชน์ต่อตัวเขา แต่ทางกายภาพ
นับว่าถึงตายได้! เสี ยงแห่งจอมเทพมังกรมีท้ งั หมดเก้า
รอบดุจเก้าบทสวด แต่ละรอบที่ปลดปล่อยจะทวีอนุภาพ
มากขึ้นเรื่ อยๆ! และในตอนนี้เป็ นเพียงรอบที่สี่เท่านั้น แต่
เขากลับถึงขีดจากัดแล้ว แล้วเจ้าคิดหรื อว่าเขาจะทานทน
กับที่เหลือได้ไหว?”
หลงซานกลับมาสงบยะเยือกอีกครั้งอย่างรวดเร็ ว
เย่หยวนเกินความคาดหมายของเขาจริ งๆ
หลงเถิงส่ ายหัวและกล่าวว่า
“จริ งๆแล้วข้าเองก็ไม่มนั่ เท่าไหร่ นกั แต่เบื้องลึกข้ากลับ
รู ้สึกว่า เขาสามารถผ่านพ้นมันไปได้!”
หลงซานเหลือบมองหลงเถิงเล็กน้อยและกล่าวอย่างเยือก
เย็นว่า
“โง่เขลา!”
บูมมม!
เปรี ยบเก้าบทสวดสุ ดทรงพลัง แต่สิ่งที่ออกมามิใช่เพียง
สุ่ มเสี ยง แต่เป็ นคลื่นพลังทาลายล้างสุ ดวินาศสันตะโร
อย่างแท้จริ ง!
อนุภาพของคลื่นเสี ยงนี้ในแต่ละรอบย่อมทรงพลังมากขึ้น
ตามลาดับ
บูมมมม!
เย่หยวนนอนเหยียดตัวอยูบ่ นพื้นและไม่สามารถขยับ
เขยื้อนร่ างกายได้แม้แต่น้อย ทาได้เพียงนอนทนรับพลัง
เบื้องหน้าเท่านั้น
แต่หลังรับการโจมตีครั้งนี้ไป กลิ่นอายทัว่ ร่ างเย่หยวนก็ยงิ่
อ่อนแอระหองระแหงอย่างมาก
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ สี หน้าการแสดงออกของหลงเถิงพลัน
เลวร้ายอย่างยิง่ ภายในใจโศกเศร้าเจือขมขื่นสุ ดจะกังวล
แต่ตวั เขาในตอนนี้กลับไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
“เจ้าต้องการสละชีพเพื่อช่วยให้เขาผ่านพ้นวิกฤตนี้? ช่าง
ไร้ความคุม้ ค่า! เจ้าไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กนั้นได้! ใน
สถานะปัจจุบนั ของเจ้า เจ้าสามารถควบคุมเครื่ องราง
ศักดิ์สิทธิ์เสมือนได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น รอบที่เจ็ดอาจ
แคล้วคลาด แต่รอบแปดและเก้า เด็กนั้นต้องตายอย่าง
แน่นอน! เขาไม่มีทางทานทนอนุภาพของเสี ยงนี้ได้!”
หลงซานมองผ่านอ่านความคิดของหลงเถิงได้ในทันที
หลงเถิงกล่าวขึ้นด้วยใจอันเด็ดเดี่ยว
หลงเถิงมีอายุกว่าหลายหมื่นปี แล้ว มันนานจนเขาไม่
สนใจบางสิ่ งอย่างแล้วเช่นกัน
เมื่อกล่าวจบหลงเถิงก็สูดหายใจเข้าลึกๆและเตรี ยมจะ
กลับเข้าในเจดียเ์ ลื่องสวรรค์
ในขณะเดียวกันเสี ยงแห่งจอมเทพมังกรรอบที่เจ็ดพลัน
พวยพุ่งอย่างมิให้สุ่มให้เสี ยง
บูมมมม!
เปรี๊ ยงง!
ทัณฑ์ฟ้าแห่งการทดสอบของสรวงสรรค์พลันฟาดฝ่ าลง
ใส่ ร่างเย่หยวนโดยตรง แต่น้ นั กลับไม่มีผลอันใดต่อเขา
เลย!
การทดสอบของสรวงสวรรค์เล็กๆน้อยๆเช่นนี้ มันไม่
สามารถทาอันตรายเขาได้แม้แต่ปลายเล็บเท้า!
“เขา…เขาดูดซับกระดูกมังกรบรรพกาลเสร็ จสมบูรณ์
แล้ว! แถมนั้น…ยังเริ่ มวิวฒั นาการสายเลือดแล้วด้วย!”
หลงซานที่อยูข่ า้ งๆไม่เอ่ยปากกล่าวอันใดและยืนเงียบไป
เช่นนั้น เขาคาดไม่ถึงเลยว่า เย่หยวนจะสามารถดูดซับ
กระดูกมังกรบรรพกาลได้เสร็ จสมบูรณ์ทนั เวลาในช่วง
หัวเลี้ยวหัวต่อสุ ดท้ายพอดี!
อัตราความก้าวหน้าต่อการดูดซับกระดูกมังกรบรรพกาล
ของเย่หยวน ย่อมไม่อาจหลบซ่ อนได้จากสายตาของหลง
ซาน เขาทราบดีวา่ หากเย่หยวนต้องการดูดซับกระดูก
มังกรบรรพกาลให้เสร็ จสมบูรณ์ มันยังต้องใช้เวลาอีก
นานพอสมควร
หลงซานคิดในใจ
ผลจากการดูดซับกระดูกมังกรบรรพกาลจนเสร็ จสมบูรณ์
มันทาให้ร่างกายและพลังปราณของเย่หยวนพัฒนาอย่าง
บ้าคลัง่ ไม่หยุด
“ฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้า!”
เย่หยวนปลดปล่อยฝ่ ามือมังกรสวรรค์วินาศฟ้าออกมาโดย
ไร้ซ่ ึงความลังเล เข้าชนกับเสี ยงแห่งจอมเทพมังกรรอบที่
แปดอย่างแรง!
เย่หยวนคารามลัน่ ไม่หยุดท่ามกลางแรงกดดันของมังกร
หิ นขนาดมหึ มาตรงหน้า
ประหนึ่งว่าเขาเองที่เป็ นจอมเทพมังกรที่แท้จริ ง!
บูมมม!
ก่อนเสี ยงแห่งจอมเทพมังกรรอบที่เก้าจะบรรจบ ทัณฑ์ฟ้า
แห่งการทดสอบพลันฟาดผ่าลงมาก่อน จนทาให้เย่หยวน
ทะลวงขึ้นสู่ อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าระดับเจ็ดโดยตรง!
ทันทีที่คิดได้ เย่หยวนพลันยกกาปั้นขวาขึ้นและซัดหมัด
เงามังกรสยบออกมาสุ ดแรงเกิด พร้อมเสี ยงคาราม
กึกก้อง!
“เสี ยงแห่งจอมเทพมังกร! พินาศไปซะ!”
เย่หยวนโห้ร้องอย่างดุเดือด
ตอนที่915 ตรามังกรศักดิ์สิทธิ์!
กำปั้นไร้เงำพวยพุ่ง ร่ ำงเย่หยวนถูกซัดระเบิดออกมำ
แต่ครำวนี้เขำมิได้กระเด็นกระดอนเมื่อครำวก่อนๆ สอง
เท้ำยึดติดบนพื้นอย่ำงมัน่ คงเช่นเดิม
บูมมม!
มังกรมหึ มำกลำงห้วงนภำกำศค่อยๆระเบิดกระจำยออก
พร้อมเสี ยงดังคึกโครม ก่อนกลำยเป็ นก้อนเมฆสลำยเป็ น
ไอบำงๆ
ในที่สุดสภำพแวดล้อมภำยในถ้ ำก็กลับสู่ ปกติดงั เดิม
เว้นเสี ยแต่ลวดลำยมังกรหิ นขนำดยักษ์ที่สลักอยูบ่ น
กำแพงถ้ ำ ปัจจุบนั กลับไม่มีอีกแล้ว
หลงเถิงกล่ำวขึ้นอย่ำงขบขัน
ตำมคำประเมินของหลงซำนตำมก่อนหน้ำ เขำได้กล่ำวไว้
ว่ำ เย่หยวนไม่มีทำงต้ำนรับเสี ยงแห่งจอมเทพมังกรได้
ไหว แม้เขำจะดูดซับกระดูกมังกรบรรพกำล หรื อโลหิ ต
มังกรกึ่งสัตว์เทวะก็ตำม กระทั้งชีพจรมังกรขั้นวิญญำณ
ระดับกลำง แต่ก็ไม่มีวนั เป็ นไปได้เช่นกัน
หลงเถิงกล่ำวขึ้นพร้อมท่ำทำงที่เต็มไปด้วยควำมสงสัย
“ตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์ ! อดีตจอมเทพมังกรยังมีชีวิตอยูจ่ ริ งๆ
ในเวลำนั้น!”
หลงเถิงกล่ำวขึ้นด้วยควำมตกตะลึงสุ ดขีด
หลงซำนกล่ำวขึ้นพร้อมหัวเรำะเยำะตนเองเล็กน้อย
สี หน้ำกำรแสดงออกขแงหลงเถิงแปรเปลี่ยนเป็ นควำมสะ
พรึ งด้วยควำมหวำดกลัว ประดุจคลื่นพำยุคลัง่ พัดพำ
กระหน่ำจิตใจเขำไป
เมื่อหนึ่งแสนปี ก่อน มีหลำยเหตุกำรณ์ที่ถูกลบเลือนมำก
เกินไป ดูเหมือนว่ำเผ่ำมังกรยังมีควำมลับอีกมำกที่ไม่มิได้
เปิ ดเผยออกมำ
“ท่ำนหลงซำน แล้ว…แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเซียนอำณำจักร
พระเจ้ำ เมื่อแสนปี ก่อน พวกเขำทั้งหมดหำยไปได้
อย่ำงไร?”
ในที่สุดหลงเถิงก็ได้พบเซียนอำณำจักรพระเจ้ำตัวจริ ง
เสี ยงจริ ง แต่กลับคำดไม่ถึงเลยว่ำควำมทรงจำในส่ วนนั้น
จะถูกลบทิง้ จนหมดสิ้ น
“นี่! ข้ำผ่ำนกำรทดสอบแล้ว!”
หลังจำกที่เย่หยวนเสร็ จสิ้ นกำรรวบรวมอำณำจักรพลัง
แล้ว เขำก็เอ่ยปำกขึ้นตรงๆโดยไม่แสดงควำมเคำรพใดๆ
ต่อหลงซำนเลย
“ช้ำก่อน!”
หลงเถิงตอบสวนกลับไปทันที
เย่หยวนกล่ำวยิม้ ว่ำ
เย่หยวนหันมองไปทำงหลงเถิง แต่กลับต้องประหลำดใจ
ที่เห็นหลงเถิงรำพึงรำพันอยูค่ นเดียวซ้ ำไปมำรำวกับคน
เสี ยสติ
หลงเถิงรำพึงซ้ ำวนไปไม่หยุดหย่อน
“เจ้ำเห็นไม่ผิด มันคือตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์”
ในเวลำนั้นเอง ร่ ำงของหลงซำนก็ค่อยๆปรำกฏขึ้นอีกครั้ง
“ท่ำน…”
สำยตำของหลงซำนจับจ้องไปทำงไกลอย่ำงไร้ขอบเขต
รำวกับว่ำเขำต้องกำรพบพำนกำยรู ปธรรมดัง่ เดิมของตน
อีกครั้ง
เย่หยวนรำพึงครู่ หนึ่งและพยักหน้ำกล่ำวว่ำ
“แน่นอน ข้ำขอสัญญำต่อท่ำน! เมื่อใดเผ่ำมังกรเกิดเภทภัย
ข้ำจะไปช่วยเหลือในทันที!”
หลงซำนประสำนมือทั้งสองหลอมรวมตรำผนึกวิจิตงำม
เป็ นหนึ่งเดียว ไอสี ดำพลันปลดปล่อยออกมำจำกร่ ำงเงำ
ดำของหลงซำน ก่อนพุ่งเข้ำไปยังร่ ำงของหลงเถิงโดยตรง
หลงซำนกล่ำวอธิบำยอย่ำงใจเย็น
เย่หยวนตื่นตะลึงอย่ำงลับๆภำยในใจอยูข่ ำ้ งหลัง พร้อม
พึมพำเล็กน้อยด้วยควำมตกใจ เห็นได้ชดั ว่ำเศษเสี้ ยว
วิญญำณที่หลงเหลืออยูข่ องหลงซำน มันช่ำงอ่อนแอยิง่
แต่ทว่ำยังคงมีขมุ พลังระดับนี้ซุกซ่อนอยู่จริ งๆ!
พลังแห่ งอำณำจักรพระเจ้ำทรงพลังเกินจินตนำกำรโดย
แท้!
“ขอบพระคุณอย่ำงยิง่ ท่ำนหลงซำน!”
หลงเถิงโค้งคำนับให้และกล่ำวขึ้นด้วยควำมเคำรพ
หลงซำนกล่ำวตอบว่ำ
“พลังจิตวิญญำณของข้ำกำลังจะหมดลงแล้ว จึงเหลือแค่
เพียงเศษเสี้ ยวที่มีมอบให้ หลังจำกนี้ไม่วำ่ สลำยไปตำมลม
หรื อกลับสู่ กำยรรู ปธรรมดัง่ เดิมได้ ข้ำจะคอยตั้งตำดู! เจ้ำ
หนุ่ม หวังว่ำเจ้ำจะทำตำมสัญญำที่ให้ไว้!”
เมื่อกล่ำวเสร็ จแรงกดดันของหลงซำนก็อนั ตธำนสิ้ น ทัว่
ทั้งถ้ ำแห่งนี้ไร้ซ่ ึงร่ องรอยของเซียนอำณำจักรพระเจ้ำนำม
หลงซำนอีกต่อไป
และในขณะเดียวกัน ป้ำยตรำทรงแท่งแข็งก็ค่อยๆบิน
ออกมำจำกรอยแยกนั้น พร้อมร่ อนลงสู่ มือเย่หยวนอย่ำง
ประณี ต
เย่หยวนกล่ำวอย่ำงสงสัยว่ำ
เย่หยวนกล่ำวขึ้นพร้อมลองจับเหวี่ยงไปมำเสมือนดำบ
หรื อยุทธ์ภณ
ั ฑ์สักอย่ำง เรื่ องนี้ ไม่สำมำรตำหนิเขำได้
เพรำะไม่วำ่ จะดูยงั ไงมันก็เป็ นแค่ป้ำยตรำทรงแท่งแข็งๆ
ทัว่ ไปเท่ำนั้นจริ งๆ
หลงเถิงกล่ำวขึ้นพร้อมใบหน้ำอันเคร่ งขรึ ม
เย่หยวนถอนหำยใจแรงเฮือกใหญ่ พร้อมกล่ำวขึ้นอย่ำงไร้
ประโยชน์
หลงเถิงเองก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเช่นกัน เกี่ยวกับเรื่ อง
เครื่ องรำงศักดิ์สิทธิ์ มันลี้ลบั ยิ่งสำหรับเขำ
ลืมเขำไปได้เลย กระทั้งฟำนเทียนยังไม่ทรำบเช่นกันว่ำ
ศิลำจำรึ กเลื่องสวรรค์มีตน้ กำเนิ ดมำจำกที่ใด
สหำยหลงซำนจำกไปทั้งอย่ำงนั้น โดยที่ทิ้งพวกเขำไว้ใน
ถ้ ำแห่งนี้ตำมลำพัง
หลงเถิงกล่ำวขึ้นว่ำ
เย่หยวนกล่ำวขึ้นอย่ำงไร้ประโยชน์
กำรจู่โจมด้วยเสี ยงแห่งจอมเทพมังกรนั้นทรงอนุภำพกำร
ทำลำยล้ำงยิง่ แต่กระนั้นสถำนที่แห่งนี้กลับไม่สะท้ำน
สะเทือนแม้สักนิด จึงหมำยควำมได้วำ่ พวกเขำทั้งคู่ไม่
สำมำรถออกไปได้โดยวิธีใช้กำลัง
ดวงตำเย่หยวนพลันสว่ำงประกำยทันทีที่ได้ยนิ และนำ
ตรำมังกรศักดิ์สิทธิ์ ออกมำอีกครำ
เขำพยำยำมกรอกเทพลังปรำณจำนวนมำกลงไปในตรำ
มังกรศักดิ์สิทธิ์ ทว่ำกลับไม่มีปฏิกิริยำใดๆเลย
เย่หยวนถำมสวนด้วยควำมงุนงง
“พลังปรำณเทวะจะมีเพียงเซียนอำณำจักรพระเจ้ำเท่ำนั้น
ที่สำมำรถใช้ได้! หลังจำกที่พลังฉี ล้ ีลบั เข้ำสู่ ร่ำงกำยและ
ได้รับกำรกลัน่ กรองโดยเซียนอำณำจักรพระเจ้ำ สิ่ ง
เหล่ำนั้นจะกลำยเป็ นพลังปรำณเทวะ!”
หลงเถิงกล่ำวอธิ บำย
สำหรับเรื่ องรำวเหล่ำนี้ที่หลงเถิงทรำบ เย่หยวนมิได้
แปลกใจอะไรเลย เผ่ำมังกรเป็ นหนึ่งในเผ่ำอสู รที่ปรำกฏ
หลักฐำนกำรดำรงอยูย่ ำวนำนที่สุดบนผืนพิภพ แน่นอนว่ำ
พวกเขำจำต้องทรำบเกี่ยวกับเรื่ องลี้ลบั บำงสิ่ งที่คน
ภำยนอกไม่ทรำบ
“แต่…ข้ำจะไปสรรหำพลังปรำณเทวะจำกแห่งหนใด? ใน
มือข้ำก็มีเพียงแท่งเหล็กโง่ๆอันหนึ่ง?”
เย่หยวนกล่ำวขึ้นด้วยควำมฉงนสงสัย
“พลังปรำณเทวะ เจ้ำเองก็มีมิใช่รึ?”
หลงเถิงกล่ำวขึ้นพร้อมจ้องมองเย่หยวนด้วยรอยยิม้ ที่
ไม่ใช่รอยยิม้
หลงเถิงกล่ำวตอบอย่ำงยิม้ แย้มว่ำ
หลงเถิงกล่ำวตอบพร้อมรอยยิม้ ว่ำ
วูบ! วูบ!
เย่หยวนยกมันขึ้นเพื่อใช้งำนในทันใด รอยร้ำวมิติพลัน
ปรำกฏและค่อยๆฉี กออกกว้ำงตำมลำดับ!
บูมมมม!
เหนือตำหนักชั้นสอง ดวงไฟทั้งหมดพลันดับมอดทันที
อย่ำงพร้อมเพรี ยง
“หัวหน้ำเย่ทรงพลังขนำดนั้น จะเกิดอะไรขึ้นกับเขำได้
อย่ำงไร?”
อำเหริ่ นกล่ำว
อย่ำงไรก็ตำม สี หน้ำกำรแสดงออกของเช่ำไคกลับ
เปลี่ยนไปและกล่ำวขึ้นด้วยควำมไม่น่ำเชื่อว่ำ
“เย่หยวน เจ้ำ…เจ้ำก้ำวข้ำมขีดจำกัดรวดเดียวเลยงั้นรึ ?”
เป็ นเวลำกว่ำหลำยวันแล้วที่เย่หยวนอยูใ่ นถ้ ำ ซึ่งใน
ระหว่ำงนั้นเอง เขำก็ทะลวงข้ำมอำณำจักรย่อยติดต่อกัน
ถึงสำมระดับในครำวเดียว และปัจจุบนั เย่หยวนก็ใกล้
ทะลวงขึ้นสู่ อำณำจักรไร้เทียมทำนเต็มทนแล้ว!
ควำมเร็ วในกำรพัฒนำเช่นนี้ช่ำงน่ำหวำดกลัวโดยแท้!
ตอนที่917 ไม่ เห็นหรื อว่ าข้ ากาลังสวมบทบาทอยู่?
ตึงงง…
“ท่านคิดว่าคนอื่นๆเลือดเย็นเหมือนท่านงั้นรึ ?”
เหลิ่งเสี่ ยมิได้ติดตามตอบใดๆ เขายังคงยิม้ บางๆและจู่ๆก็
กล่าวขึ้นว่า
หากทุกคนได้รับผลประโยชน์มากมายจากแดนราชา
มังกรในคราวนี้ คงไม่มีใครหันมาสนใจซื่อหยินแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อตอนนี้แดนราชามังกรล่มสลายลงไป
แล้ว นายพลสังหารทั้งหมดมีแนวโน้มสู งว่าตายกันเกลี้ยง
สิ่ งเดียวที่เหลืออยูค่ งมีเพียงสถานที่ของซื่อหยิน
สี หน้าของซื่อหยินมืดลงและกล่าวว่า
“เหลิ่นเสี่ ย ท่านหมายความอย่างไร?!”
“หากเจ้าค้นพบสถานที่ดีๆ ไฉนถึงไม่บอกเล่าให้แก่ทุก
คนฟัง?”
ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารที่ปิดปากเงียบมาโดยตลอด ในที่สุด
เขายังต้องเอ่ยปากขึ้นเช่นกัน
ทว่าทันใดนั้นเอง กลับปรากฏกรงเล็บที่ใหญ่กว่าตะปบลง
มาจากห้วงนภาบนฟ้า กรงเล็บขนาดยักษ์น้ นั หวดสะบั้น
กรงเล็บสี ดาทมิฬของผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญจนแหลกเป็ น
เสี่ ยงๆ
การโจมตีดุจเพชรฆาตของผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญพลัน
หยุดชะงัก พร้อมร้นถอยกลับทันทีดว้ ยความหวาดกลัว
ตุบ!
เย่หยวนยกกาปั้นเขกหัวอาเหริ่ นไปหนึ่งทีและกล่าวด้วย
ท่าทางอันโกรธเคืองว่า
“ไฉนพวกท่านถึงโง่เช่นนี้? ไม่เห็นหรื อว่าข้ากาลังสวม
บทบาทอยู?่ ท่านผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญอุตสาห์เชื่อไปแล้ว
เช่นนี้จะทาอย่างไร?”
มังกรสี ทมิฬระดับเก้า!
เย่หยวนยักไหล่และกล่าวอย่างไม่แยแสว่า
“นอกจากพวกข้า ทุกคนตายหมดแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้นภายในนั้นกันแน่? เหตุใดมีเพียงพวกเจ้าที่
รอดออกมา?”
ผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญกล่าวขึ้นด้วยท่าทางอันน่ากลัว
เย่หยวนที่ได้ฟังก็ระเบิดเสี ยงหัวเราะขึ้นและกล่าวว่า
เย่หยวนกล่าวเย้ยเบาๆ
“พี่ใหญ่จอมสังหาร ไอ้บดั ซบนี่ คิดคดปิ ดบังความจริ ง!
นอกจากนี้ การที่พวกมันสามารถออกจากแดนราชามังกร
ได้อย่างปลอดภัย นี่เป็ นเรื่ องผิดปกติยงิ่ ! หากการสันนิ
ฐานของข้าถูกต้อง เย่หยวนจักต้องคิดขดหักหลังสหาย
ร่ วมเดินทางคนอื่นๆและลอบสังหารทิง้ ไป ทั้งหมดก็เพื่อ
ต้องการบรรทุกกองสมบัติอยูเ่ ต็มหลังเพียงลาพัง!”
เย่หยวนกระหน่ายัดสมบัติล้ าค่ามากมายไว้ในมือซื่อหยิน
ไม่หยุด ภาพฉากนี้ต่างทาให้ทุกคนจับจ้องด้วยความงุนงง
ยิง่
เจ้าหนุ่มนี่ไปบุกขุดหลุมศพของใครเข้าหรื อเปล่า?
เครื่ องรางเทวะระดับสู ง, โอสถระดับเก้า, วรยุทธบ่มเพาะ
พลังระดับเก้า, เครื่ องประดับล้ าค่ามากมาย สมบัติที่เย่
หยวนมอบให้มนั มากจนซื่อหยินไม่สามารถถือไว้ได้อีก
ต่อไป
ซื่อหยินจ้องมองเย่หยวนอย่างว่างเปล่า นางคิดไม่ออกเลย
ว่าไฉนเย่หยวนถึงทาเช่นนี้
เย่หยวนเป็ นบ้าไปแล้ว? หรื อเป็ นไปได้ไหมที่เจ้าหนุ่มคน
นี้จะไม่ทราบ คากล่าวที่วา่ ความมัง่ คัง่ มิควรเปิ ดเผย?
สหายคนนี้ได้รับขุมสมบัติมากมายมหาศาลโดยแท้ แต่ใน
ความเป็ นจริ ง เขากลับไม่คิดซุกซ่อนใดๆเอาไว้เลย แถม
ยังหยิบออกมาให้คนรอบตัวมองตาเป็ นประกายเล่น หรื อ
เขากาลังต้องการโอ้อวด?
เย่หยวนเดินทางเข้าสู่ แดนราชามังกรโดยไม่สนใจว่า ตน
จะเผลอทาให้ดินแดนแห่งนี้ ลม้ สลายหรื อไม่ พร้อมลาก
กองสมบัติขนาดยักษ์ออกมา
“พี่ใหญ่จอมสังการ เอ่อ…”
เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยท่าทางแปลกๆ
ซื่อหยินได้แต่พยักหน้าอย่างฉงนใจ เห็นเพียงเย่หยวน
ลอบขยิบตาให้นางเล็กน้อย และแสร้งทาเป็ นไม่มีอะไร
เกิดขึ้น เขายังคงกล่าวย้าต่อไปโดยไม่สนใจผูใ้ ด
ในด้านเช่าไคและที่เหลือต่างเหงื่อตกจนชุ่มทัว่ แผ่นหลัง
เย่หยวนเล่นกับไฟมากเกินไป!
“ซื่อหยิน ในเมื่อเจ้าได้รับกองสมบัติมากมายขนาดนี้แล้ว
สามารถพาพวกเราไปยังบริ เวณนั้นได้หรื อไม่?”
คากล่าวของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารทาให้ทุกคนต้องตะลึงงัน
ซื่อหยินกล่าวไปทั้งอย่างนั้น และยังไม่เข้าใจเช่นกันว่า
เหตุใดผูส้ ู งส่ งจอมสังหารถึงยอมปล่อยนางไป
ซื่อหยินอดหันมองเย่หยวนมิได้ ลักษณ์ท่าทางของชาย
หนุ่มคนนี้ดูไร้พิษภัยอย่างสมบูรณ์ หลากอารมณ์พลัง่ พลู
แล่นเข้ามาภายในใจนาง
ชายหนุ่มคนนี้ไม่เคยบอกกล่าวอันใดให้ทราบก่อนลงมือ
ทาสิ่ งต่างๆเลย ช่างเป็ นบุคคลที่น่ากลัวโดยแท้!
อย่างน้อย ก็น่าจะมีใครสักคนพลาดท่าตายลงในเส้นทาง
มรณะเหลืองบ้างจริ งหรื อไม่?
สาหรับความดื้อรั้นเช่นนี้ของเย่หยวน ซื่อหยินเองก็ช่วย
อะไรไม่ได้เช่นกัน
สิ บปี ที่ผา่ นมา นางมักซ่อนความสามารถที่แท้จริ งและ
สงบเสงี่ยมอยูเ่ สมอ เพราะกลัวจะไปสร้างศัตรู รอบทิศ แต่
หลายสิ่ งอย่างในขณะนี้ช่างยอดเยีย่ มเกินไปจริ งๆ ผูส้ ู งส่ ง
อีกสิ บเอ็ดคนที่เหลือล้วนขุ่นเคืองในตัวเย่หยวนอย่างหนัก
แต่เพราะอย่างนั้น เย่หยวนจึงดูลึกลับยิ่งขึ้นไปอีก
“ทุกท่านเพียงติดตามข้ามาก็พอ!”
ซื่อหยินไม่บอกอะไรมากพร้อมเดินหน้าต่อไป
“ถึงแล้ว”
ภาพฉากอันน่าอัศจรรย์ใจพลันปรากฏ ร่ างของซื่อหยิน
ทะลุกอ้ นหิ นขนาดใหญ่เข้าไปและหายวับไปจากสายตา
ของทุกคนทันที!
“ช่างเป็ นการอาพรางที่แยบยล! คาดไม่ถึงเลยว่า จริ งๆ
แล้วหุบเขาปี ศาจอนันต์ยงั มีถ้ าลับซ่อนตัวอยู!่ ”
ทัศนีภาพโดยรอบของทุกคนพลันเบลอหนัก ก่อนที่พวก
เขาจะปรากฏขึ้นอีกครั้งในดินแดนที่ไม่รู้จกั
“ทิวทัศน์ในที่แห่งนี้ช่างงดงามอย่างแท้จริ ง ข้าเองก็อยูใ่ น
ลายประลองอสู รมานมนาม ไฉนถึงไม่เคยได้ยนิ เลยว่า มี
สถานที่ดง่ั สวรรค์บนดินเช่นนี้ ดารงอยูด่ ว้ ย?”
“ช่างปะไร ตราบใดที่มีสมบัติ ใครจะสนว่าที่นี่คือที่
ไหน?”
ซื่อหยินชี้ไปยังทิศทางหนึ่งพร้อมกล่าวอธิบาย
“ทองคาทมิฬเลิศ!”
เมื่อทุกคนได้ฟังคากล่าวของซื่ อหยิน พวกเขาต่างก็สูด
หายใจเย็นโดยมิต้ งั ใจ
ภายใต้การนาของซื่อหยิน เพียงไม่นานทุกคนก็มาถึงถ้ า
ที่วา่ นั้น แน่นอนว่าพวกเขาได้เห็นทองคาทมิฬเลิศก้อน
มหึ มาตั้งขวางปากถ้ าไว้อยู่
“สวรรค์! ทองคาทมิฬเลิศจากผืนพิภพใด ไฉนถึงใหญ่
ยักษ์ขนาดนี้! หากมีทองคาทมิฬเลิศก้อนนี้ปิดกั้นเส้นทาง
ที่นาไปสู่ ขมุ สมบัติอยูล่ ่ะก็ การเดินทางในคราวนี้ จาต้อง
กลับไปมือเปล่าจริ งๆ!”
บางคนร้องอุทานขึ้น
“เย่หยวน พวกเจ้าเองก็ได้รับขุมสมบัติมาแล้วมากมายจาก
แดนราชามังกร ทองคาทมิฬเลิศล้ าที่เป็ นดัง่ ประตูขวางกั้น
นี้ มันเป็ นปัญหาต่อเราอย่างมาก เจ้าช่วยนามันออกไปให้
ที”
“ข้าจะช่วยนาออกไปก็ได้ แต่ทองคาทมิฬเลิศก้อนนี้ตอ้ ง
เป็ นของข้า!”
เมื่อเย่หยวนเอ่ยปากกล่าวเช่นนี้ ออกมา ผูส้ ู งสู งอีกคนก็
พลันไม่พอใจทันที
กล่าวถามกันจริ งๆ ถ้าต้องการถอนรากถอนโคลนทองคา
ทมิฬเลิศก้อนมหึ มาเช่นนี้ ร่ างกายจาเป็ นต้องแข็งแกร่ ง
ระดับใด?
“ฮึบบบ!!”
รัศมีทบทวีเพิ่มขึ้นอย่างไร้ขอบเขต พละกาลังอันท่วมท้น
ถูกกรองเทลงบนสองมือจนเส้นเอ็นปูดโปน
ทันทีที่รับรู ้ได้ถึงรัศมีความแกร่ งกล้าอันสุ ดสะท้าน เหล่า
ผูส้ ู งส่ งพลันเผยสี หน้าเกริ่ นเกรงขึ้นหลายส่ วน หากพวก
เขาจาต้องเข้าสัประยุทธกับเย่หยวนโดยห้ามใช้พลังปราณ
เย่หยวนอาจระเบิดร่ างของพวกเขาทิง้ ได้ทนั ทีดว้ ยมือ
เปล่า
รัศมีแรงกดดันสุ ดแข็งกร้าวของเย่หยวนแผ่ขยายกว้าง
กระทั้งหุบเขาโดยรอบยังเริ่ มสั่นสะเทือนแรงขึ้นต่อเนื่ อง
ผืนปฐพีที่ยนื อยูส่ ั่นคลอนไม่หยุดดัง่ แผ่นดินไหว
บูมมม!
“แย่แล้ว ดูท่าจะงานเข้า!”
เงาดาเหล่านี้มีกลิ่นอายเหมือนกันกับเจียหลานทุก
ตารางนิ้ว เว้นเสี ยแต่ระดับความเข้มข้นของพลังฉี ที่พลัง่
พลูออกจากร่ างเหล่านี้ อ่อนแอกว่าเจียหลานอยูม่ าก
เมื่อนึ กย้อนกลับไป หากนาคาอธิบายที่ซื่อหยินบอกเล่า เย่
หยวนก็สามารถปะติปะต่อเรื่ องราวได้ทนั ที
ดูเหมือนว่าศพของเซียนอาณาจักรพระเจ้าที่ซื่อหยินเจอ
จะเป็ นผูท้ ี่ปิดผนึกเทพอสู รเหล่านี้เอาไว้ เพียงว่าระหว่าง
เวลาเฝ้าพิทกั ษ์ผนึกนี้ ไส้น้ ามันตะเกียงพลันหมดเสี ยก่อน
จึงลาโลกจากไปทั้งๆแบบนั้น
ปี ศาจร่ างหนึ่งบินมาตรงหน้าพร้อมกล่าวกับเย่หยวน
“เรี ยกข้ารึ ?”
ปี ศาจตนนั้นตกใจอย่างมากจนผงะถอยโดยไม่ต้ งั ใจ ก่อน
โพล่งถามลัน่ ว่า
เย่หยวนกล่าวตอบด้วยรอยยิม้ ว่า
ปี ศาจตนนั้นกล่าวขึ้นด้วยความตกใจ
ปี ศาจเหล่านี้แน่นอนว่าไม่เชื่อคากล่าวของเย่หยวน แม้
พวกเขาจะไม่ได้อยูใ่ นยุคเดียวกับเทพอสู รเจียหลาน แต่
ในบรรดาเผ่าปี ศาจทั้งหมด เทพอสู รเจียหลานนับว่ามี
ชื่อเสี ยงเลื่องลือระบือไกลที่สุด
“งั้นรึ ?”
เหล่าปี ศาจร้องระงมอย่างน่าสังเวช
เย่หยวนตะโกนดังลัน่
เย่หยวนตรงมายังหน้าเช่าไคและที่เหลือด้วยก้าวพริ บตา
และกล่าวด้วยน้ าเสี ยงดัง่ ประกาศิตว่า
“ข้าจะคอยคุม้ กันพวกท่านเอง เร็ วเข้า รี บหนีออกจาก
พื้นที่น้ ีโดยด่วน! ผูส้ ู งส่ งเหล่านี้คงถ่วงเวลาจักรพรรดิ
ปี ศาจเหล่านี้ได้อีกไม่นาน!”
แม้เย่หยวนพอจะยับยั้งพวกมันได้ดว้ ยพฤกษาวิญญาณ
หยวนฉื อ แต่ความแข็งแกร่ งในปัจจุบนั ของเขายังคงอ่อน
ด้อยเกินไป หากต้องการฆ่าเผ่าปี ศาจระดับสู งอย่าง
จักรพรรดิปีศาจเหล่านี้ นั้นเป็ นสิ่ งที่เป็ นไปไม่ได้
ศึกสัประยุทธ์คราวนี้แพ้ชนะยากจะกล่าวบรรยาย
แต่จานวนของจักรพรรดิปีศาจเหล่านี้มีมากกว่าผูส้ ู งส่ ง
หลายเท่า ยังคงมีปลาจานวนหนึ่งหลุดออกจากตาข่ายดัก
พร้อมพุ่งเข้าหาเหล่านายพลสังหารทันทีเพื่อยึดครองร่ าง
“อ๊ากกก!”
“อ๊ากกก!”
“อ๊ากกก!”
อาเหริ่ นกล่าวสบถด้วยความเกลียดชังเมื่อเห็นภาพฉาก
เหล่านี้
เมื่อเย่หยวนเห็นว่าสถานการณ์เลวร้ายลง เขาจึงกล่าวสั่ง
การปี กทมิฬทันที
“รับทราบ! นายท่านระวังตัวด้วย!”
ปี กทมิฬตอบรับคาสัง่ และนาทุกคนออกข้างนอกอย่างเร่ ง
รี บ
เย่หยวนปลดปล่อยพลังของพฤกษาวิญญาณหยวนฉื ออ
อกมาทันใด รัศมีทวั่ ทั้งร่ างของเขาห่อหุม้ ไปด้วยสายฟ้า
อัสนีครามเป็ นสายๆ ไม่วา่ พื้นที่ใดที่เขาวิ่งผ่านเหล่า
จักรพรรดิปีศาจล้วนถอยห่างทันทีราวกับเลี่ยงโรคระบาด
เย่หยวนเข้าร่ วมสมรภูมิเดือด พร้อมตรงรวบหัวรวบห่าง
จักรพรรดิปีศาจจานวนหนึ่งได้ในอึดใจ สถานการณ์พลิก
กลับทันทีในช่วงเวลาสั้นๆ!
จักรพรรดิปีศาจตนหนึ่ งกล่าวขึ้นอย่างกังวลใจ
บูมมม!
ปังงง!
จักรพรรดิปีศาจเหล่านี้แกร่ งกล้าเกินไป!
“อ๊ากก!”
“อ๊ากก!”
…….
ความแข็งแกร่ งของจักรพรรดิปีศาจเหนือชั้นกว่าเป็ น
ทุนเดิม และยิง่ ผนวกเข้ากับกายรู ปธรรมของเหล่านายพล
สังหาร พวกมันก็ยงิ่ แกร่ งกล้าขึ้นเรื่ อยๆ ทว่าในทาง
กลับกัน ฝ่ ายของผูส้ ู งส่ งกลับอ่อนแอลงเรื่ อยๆแทน
จักรพรรดิปีศาจตนหนึ่ งปรากฏกายต่อหน้าผูส้ ู งส่ งท่าน
หนึ่งที่ถูกมู่ตา้ ซัดจนน่วม และเปลี่ยนสถานะกลายเป็ นไอ
หมกพร้อมแทรกซึ มเข้าสู่ ทะเลแห่งจิตใจของอีกฝ่ ายทันที
“รับทราบนายท่าน!”
ไม่สามารถต่อกรได้ แต่ก็ไม่สามารถหลบหนีได้เช่นกัน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาควรทาอย่างไรต่อไปดี?
“เอาล่ะ! ในตอนนี้พวกเราไม่มีทางเลือกมากเช่นกัน คง
ต้องเดิมพันกับการโจมตีครั้งสุ ดท้ายแล้ว!”
บูมมม!
บูมมม!
สี หน้าท่าทางของเย่หยวนมืดลงเล็กน้อยเช่นกันที่ได้เห็น
เขาคาดไม่ถึงเลยว่าฝ่ ายจักรพรรดิปีศาจจะมีจานวน
มากมายขนาดนี้ เป็ นไปได้ไหมว่า เขาจาต้องนาตรามังกร
ศักดิ์สิทธิ์และเจดียเ์ ลื่องสวรรค์ออกมาใช้จริ งๆในตอนนี้?
หากไม่ใช่เพราะเจียหลานบังเอิญเตะเข้ากับแผ่นเหล็ก
อย่างจัง สภาพของเย่หยวนในขณะนั้นเองก็คงดูไม่จืด
เช่นกัน หรื อบางทีอาจล่วงลับไปนานแล้ว
ไข่มุขสยบวิญญาณ มันสร้างบาดแผลต่อเจียหลานสาหัญ
สากรรจ์เกินไป
เย่หยวนยังคงเฝ้ามองศึกสัประยุทธ์อยูม่ ุมหนึ่งบนสมรภูมิ
สี หน้าของเขาในขณะนี้บิดเบี้ยวด้วยความน่าเกลียดไม่
น้อยเช่นกัน ผูส้ ู งส่ งที่พลาดท่าท่านนั้นถูกยึดครองร่ างโดย
สมบูรณ์และกลายมาเป็ นดัง่ ขี้ขา้ ของฝ่ ายจักรพรรดิปีศาจ
ทันที
บูมมมม!
ท่าทางการแสดงออกของเย่หยวนพลันเปลี่ยนไป ตาทั้ง
สองกวาดสังเกตต้นพลังพร้อมปรับขยายม่านตาเข้าจับ
จ้องด้วยความประหลาดใจยิง่ ตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ ไฉน
ลักษณะท่าทางของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารถึงเปลี่ยนไปทันที
ราวกับหน้ามือเป็ นหลัง!
การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันเช่นนี้ กลับทาให้เบื้อง
ลึกภายในใจหลายคนรู ้สึกยะเยือกแข็งฉับพลัน
พร๊ วดดด!
นายพลสังหารที่หลงเหลือไม่สามารถทานทนได้อีก ร่ าง
ของพวกเขาระเบิดเป็ นจุณในทันใด แม้แต่เสี ยงคร่ าครวญ
ยังไม่มีโอกาสได้ร้องออกมา
ต่อเนื่องจากเกรี้ ยวพลังปราณดุจน้ าวนกรากเชี้ยว ไอ
พลังงานสี ดาจานวนมากไหลออกมาจากภายในร่ างกาย
ทุกคน พร้อมไหลรวมเข้าสู่ ร่างของผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร
โดยตรง
เย่หยวนเห็นภาพเหตุการณ์เหล่านี้อย่างชัดแจ้ง และทราบ
ทันทีวา่ ไอพลังงานสี ดาเหล่านั้นก็คือแนวคิดแห่งการ
สังหาร!
“เย่หยวน เจ้า…เจ้ายังปลอดภัยดี?”
ปวดร้าวดัง่ ศีรษะกาลังถูกฉี กออก ซื่อหยินรู ้สึกทรมาน
อย่างยิง่ จนแทบหมดสติท้ งั แบบนั้น ภายในร่ างกายของ
นางพลังฉี สังหารปะทุปั่นป่ วนไม่หยุด ราวกับมีระเบิดอยู่
ในร่ างและสามารถทางานได้ทุกเมื่อ แต่ในทางตรงกัน
ข้าม มองดูจากลักษณะท่าทางของเย่หยวน เขากลับไม่
เป็ นอะไรแม้สักนิด
สี หน้าของซื่อหยินในขณะนี้ซีดขาว ข่มกลั้นความ
เจ็บปวดสุ ดพรรณนา นางเอ่ยปากถามขึ้น
เย่หยวนหันไปจับจ้องผูส้ ู งส่ งจอมสังหารกลางห้วงนภา
กาศ ที่กาลังดูดกลืนเกลียวคลื่นพลังโหมอย่างบ้าคลัง่ เขา
พลางหันกลับมาและกล่าวด้วยรอยยิม้ ว่า
ไม่มีอาหารแจกจ่ายบนผืนพิภพแห่งนี้ การที่สามารถดูด
ซับแนวคิดแห่ งการสังหารได้โดยไม่ตอ้ งเสี ยเวลาทาความ
เข้าใจ เรื่ องเช่นนี้มนั จะมีจริ งได้อย่างไร?
เพียงว่าลานประลองอสู รใช้กลไกเหล่านี้ ล่อลวงผูค้ น
ภายนอกมาโดยตลอด จวบจนปัจจุบนั มันก็ยงั ถูกปิ ดเป็ น
ความลับสุ ดยอด
ในไม่กี่อึดใจต่อมา ร่ างของนายพลสังหารทั้งหมดก็
ระเบิดออก ในขณะที่ไอพลังแนวคิดแห่งการสังหารก็
ค่อยๆหลัง่ ไหลออกมา จนมาบรรจบกันที่ร่างของผูส้ ู งส่ ง
จอมสังหาร
กลิ่นอายความแกร่ งกล้าของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารทวีความ
แข็งกร้าวมากขึ้นเรื่ อยๆ แต่เย่หยวนทราบดีวา่ ทั้งหมดนี่
เป็ นเพียงอาหารเรี ยกน้ าย่อยเท่านั้น
ปัจจุบนั ร่ างบางสวยของซื่อหยินพองตัวขึ้นจนเห็นได้ชดั
ร่ างกายของนางอวบอ้วนขึ้นราวกับภายในเต็มไปด้วย
อากาศ
เห็นได้ชดั ว่าร่ างของนางเองก็ใกล้ระเบิดเต็มทนแล้ว ขุ่ม
พลังที่แข็งแกร่ งกลับพยศร้ายจนกลายเป็ นจุดอ่อน ในเวลา
นี้ถึงคราวเหล่านผูส้ ู งส่ งกลายเป็ นมื้ออาหารจานใหญ่ และ
นางเป็ นคนแรกที่ออกอาการมาอย่างชัดเจน
แม้วา่ ซื่อหยินจะมิได้มีรูปโฉมงามจนไร้คู่แข่งในดินแดน
ศักดิ์สิทธิ์ แต่ความงดงามระดับนี้นบั ว่าหาได้ยากยิง่
เช่นกัน และด้วยสภาพนางที่ร้องครางสั่นอย่างเจ็บปวด
เช่นนี้ ไม่วา่ ใครย่อมรู ้สึกสงสารและอยากปกป้องไม่รู้จบ
แน่นอนว่าเหตุผลที่เย่หยวนเข้าช่วยเหลือชีวิตซื่อหยิน
มิใช่เพราะเขาต้องเอาชนะใจนางให้หลงรักดัง่ หนุ่มสาว
พึงปฏิบตั ิ แต่เพราะในบรรดาผูส้ ู งส่ งทั้งหมด นางเป็ นคน
เดียวที่ควรรอดชีวิตออกไปที่สุด
เมื่อได้ยนิ คากล่าว ราวกับว่าเย่หยวนยืบยืน่ ความหวัง
ให้แก่นางอีกครั้ง ซึ่งเจือมาด้วยความประหลาดใจสุ ด
พรรณนา หากกล่าวตามความจริ ง เย่หยวนเองก็มีป้ายตรา
สิ ทธิ์สังหารอยูใ่ นครอบครอง แต่ไฉนเขากลับสบายดี?
เย่หยวนเพ่งจิตสมาธิตรวจสอบโดยละเอียดอย่าง
คล่องแคล่ว ราวกับว่าเขากาลังหาบางสิ่ งอย่างที่ซ่อนอยู่
เย่หยวนเค้นหัวรอเย็นยะเยือกอีกสองคา ก่อนใช้พลังจิต
วิญญาณของตนกวาดล้างสิ้ นไป
กลุ่มก้อนพลังจิตวิญญาณของเย่หยวน ควบแน่นกลายมา
เป็ นร่ างมนุษย์สมบูรณ์ข้ นึ ทันที เขากล่าวตอบด้วยรอยยิม้
ที่ไม่ใช่รอยยิม้ ว่า
สายตาที่จบั จ้องราวกับมองผ่านทะลุทางไกลได้
สี หน้าของเขาช่างไร้อารมณ์ใดมาเจือปน กลิ่นอายแผ่
ความน่าสะพรึ งชนิดหนึ่งทั้งๆที่ยงั มิได้โกรธเกรี้ ยวอะไร
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ค่อยๆเอ่ยปากกล่าวว่า
“ช่างเถอะ ข้าผูน้ ้ ีถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สาคัญยิง่ แล้ว
เรื่ องนี้ให้เจ้านั้นจัดการไป!”
…………………………….
ถึงระเบิดสิ้ นไปแล้ว แต่จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของซื่อหยิน
ยังคงปกติดงั เดิม
นางยังคงสวมกอดอยู่ในอ้อมแขนเย่หยวนไม่ปล่อย ทันที
ที่รู้ตวั ท่าทางดูขดั ขืนเล็กน้อยพร้อมสี หน้าอันขวยเขิน นาง
เรี ยบผละออกพร้อมพยุงตัวลุกขึ้น และขณะที่กาลังจะเอ่ย
ปากกล่าวขอบคุณเย่หยวน ทันใดนั้นร่ างของนางกลับแข็ง
ทื่อในทันที
เย่หยวนเผยยิม้ บางๆและกล่าวว่า
ร่ างกายของแต่ละคนระเบิดขึ้นไม่หยุด ในขณะที่กลิ่นอาย
พลังของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารยิง่ ทวีเพิ่มสู งขึ้นเรื่ อยๆ
เพียงไม่นาน แม้แต่จกั รพรรดิปีศาจเองยังถูกกลิ่นอายพลัง
นี้บีบจนร่ างระเบิดตายโดยสมบูรณ์
เขาไม่นึกไม่ฝันเลยว่า คนที่จะฆ่าเขาในท้ายที่สุดนี้กลับ
กลายเป็ น ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารเสี ยเอง!
นางในตอนนี้เต็มมไปด้วยความสงสัยอยูใ่ นอกและไม่
สามารถเข้าใจอะไรได้เลย
แต่เย่หยวนกล่าวตอบด้วยรอยยิม้ ว่า
เย่หยวนส่ ายหัวและกล่าวว่า
“นั้นอาจไม่ใช่เสมอไป พวกเขาตายอย่างไรไม่สาคัญ
สาคัญที่วา่ หลังจากพวกเขาแนวคิดสังหารทั้งหมดจะถูกผู ้
สู งส่ งจอมสังหารดูดกลืนกลับไปทันที”
สิ่ งที่ทาให้ซื่อหยินประหลาดใจที่สุดในตอนนี้คือ
นอกจากตัวนางและเย่หยวนแล้ว ยังเหลือผูส้ ู งส่ งอีกสอง
คนที่ยงั ปกติดี
หนึ่งในนั้นคือผูส้ ู งส่ งเหลิ่งเสี่ ย และผูส้ ู งส่ งสาราญสวรรค์
ผูส้ ่ งลงเรื อลาเดียวกับผูส้ ู งส่ งอัคนีผลาญ
เหล่าจักรพรรดิปีศาจอีกหลายตนที่เห็นดังนั้นต่างพากัน
ตื่นตระหนก เห็นได้อย่างชัดแจ้ง พวกมันไม่นึกไม่ฝันเลย
ว่า ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารจะทรงพลังขนาดนี้ได้จริ งๆ
“วิ่ง! รี บหนีไปเร็ ว! ชายคนนี้แข็งแกร่ งเกินไป! ด้วย
สภาวะปัจจุบนั ของเรา ไม่สามารถต่อกรได้เลย!”
“ต้องการจะหนี? คงไม่ง่ายขนาดนั้น!”
เมื่อกล่าวจบ ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารก็ปลดปล่อยเต๋ าดาบ
คะนองสังหารอีกชุดใหญ่!
ในคราวนี้จิตสังหารที่ผสานลงไปกลับข้นคลักยิง่ กว่าตอน
แรกไม่รู้กี่เท่า!
แต่ในระหว่างการสัประยุทธ์ หนึ่งจังหวะกลับสาคัญยิง่
กล่าวว่าสามารถตัดสิ นเป็ นตายได้
“อ๊ากกก!”
เหล่าจักรพรรดิปีศาจในยุคบรรพกาลทั้งหมด ถูกล้างบาง
ไปโดยการร่ วมมือระหว่างผูส้ ู งส่ งจอมสังหารและเย่
หยวน!
แน่นอนว่าหากพวกมันอยูใ่ นสภาวะสุ ดยอดดัง่ กาลก่อน
มันมิใช่เรื่ องยากเลยที่จะหลบหนีจากเงื้อมมือผูส้ ู งส่ งจอม
สังหาร
“พวกแกทั้งสาม จะไปไหนก็ไป!”
“รับทราบ!”
สาหรับซื่อหยินแล้ว เย่หยวนในปัจจุบนั เป็ นถึงผูม้ ี
พระคุณต่อตัวนางที่ช่วยชีวิต ดังนั้นในเวลานี้ นางจะยอม
ปล่อยให้เย่หยวนตกอยูใ่ นอันตรายเพียงลาพังได้อย่างไร?
“เย่หยวน…”
เย่หยวนยิม้ และกล่าวว่า
“ไม่ตอ้ งกังวล ข้าคิดว่าท่านผูส้ ู งส่ งจอมสังหาร คงไม่กล้า
ทาเรื่ องยากกับข้าที่เป็ นสหายเก่าได้ลง…จริ งไหม?”
สี หน้าซื่อหยินยังคงเต็มไปด้วยความกังวล แต่ในเมื่อเย่
หยวนกล่าวเองเช่นนี้ นางก็ไม่สามารถกล่าวโต้ใดๆได้
เช่นกัน พร้อมออกไปจากพื้นที่ในบริ เวณนี้ทนั ที
“แกเป็ นใครกันแน่?!”
เย่หยวนผูน้ ้ ี ลึกลับเกินไป เห็นได้ชดั ว่าอีกฝ่ ายเป็ นแค่ เจ้า
หนุ่มที่มีพลังไม่ถึงอาณาจักรไร้เทียมทานด้วยซ้ า แต่
กระนั้นเขาก็ไม่สามารถมองทะลุอีกฝ่ ายออกเลย
ทว่าเย่หยวนกลับสามารถทาได้!
ไม่เพียงปลดพันธนาการของตัวเองได้สาเร็ จเท่านั้น แต่
เขายังช่วยให้ซื่อหยินหลุดออกจากการพันธนาการได้
เช่นกัน วิธีการดังกล่าวกลับไม่นึกไม่ฝันว่าจะเกิดขึ้นจริ งๆ
แต่ในบรรดาเหล่าเซียนระดับสู งบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ล้วนคาดเดาตรงกันว่า จอมราชันย์แห่งความมืดเป็ น
ผูป้ กครองอาณาเขตทะเลมารคลัง่ !
“ข้าไม่ใช่จอมราชันย์แห่งความมืด!”
เย่หยวนกล่าวอย่างยิม้ แย้มว่า
เซียนอาณาจักรราชันย์เทวะมีอายุขยั โดยเฉลี่ยประมาณ
หนึ่งหมื่นถึงหนึ่ งหมื่นห้าพันปี หากกล่าวตามหลักเหตุ
และผลจริ งๆ มันเป็ นไปไม่ได้เลยที่จอมราชันย์แห่งความ
มืดจะมีชีวิตอยู่นานถึงสามหมื่นปี
มรดกที่สืบต่อกันมาจักต้องท้าทายสวรรค์เพียงใด ถึง
สามารถทาให้ทายาทรุ่ นหลังทรงพลังเทียบเคียงระดับสิ บ
จอมราชันย์ได้?
ทะเลมารคัล่งแห่งนี้ถูกขนานนามว่าดินแดนลึกลับมาโดย
ตลอด มีเพียงเซียนชนชั้นสู งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น
ที่ทราบว่าสิ่ งที่เห็นกันทัว่ ไปเป็ นเพียงปลายภูขาน้ าแข็ง
เท่านั้น
แต่เย่หยวนเป็ นเพียงเยาวชนหนุ่มวัยยีส่ ิ บปี ทว่ากลับล่วงรู ้
ความลับเหล่านี้ได้อย่างไร?!
ดังนั้นเขาต้องทราบให้ได้วา่ เย่หยวนมาที่แห่งนี้แท้จริ ง
แล้วมีจุดประสงค์อนั ใดกันแน่!
เย่หยวนผสานมือคานับและกาลังจะหมุนตัวจากไป
เหตุผลที่วา่ ทาไมเพลงดาบมหาสังหารถึงทรงอนุภาพ
เทียบเคียงได้กบั สิ บจอมราชันย์ ที่แท้เป็ นเพราะเพลงดาบ
นี้เป็ นวรยุทธต่อสู ้หลักของจอมราชันย์แห่งความมืด
นั้นเอง!
ดังนั้นอนุภาพของกระบวนดาบเหล่านี้จึงทรงพลังเกิน
จินตนาการได้!
แม้แต่สิบจอมราชันย์เองยังได้ครอบครองแค่เครื่ องรางเท
วะชั้นเหนือฟ้า ส่ วนเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์เสมือนมันไม่เคย
ปรากฏร่ องรอยมาเป็ นเวลากว่าแสนปี แล้ว
ในปัจจุบนั เครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์เสมือนปรากฏขึ้นต่อหน้า
ต่อตาเช่นนี้ ผูส้ ู งส่ งจอมสังหารดีใจจนเนื้อเต้นไม่เป็ น
จังหวะ!
ถึงกระนั้น เขายังคงงัดเอากระบวนท่าทั้งหมดมาใช้พร้อม
กระหน่าใส่ ไม่ย้งั มือ แต่ในท้ายที่สุด เขาก็ไม่สามารถฝ่ า
ด่านป้องกันสุ ดแกร่ งกร้าวของเจดียเ์ ลื่องสวรรค์ได้แม้สัก
นิด!
แม้ผสู ้ ู งส่ งจอมสังหารจะดูดกลืนพลังแนวคิดแห่ งการ
สังการมากล้นเพียงใด แต่เมื่ออยูต่ ่อหน้าเจดียเ์ ลื่องสวรรค์
ภายใต้การคุมบังเหี ยนของหลงเถิง เขาย่อมไม่มีทางทา
อันตรายอันใดได้แม้แต่ขยับเขยือ่ นมัน
เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมเผยร่ างออกมาอีกครา
แกร๊ ก!
“หื้ ม?”
แต่สาหรับคากล่าวเหล่านั้น ดูเหมือนว่าเย่หยวนจะไม่ได้
ยินเลยแม้แต่นอ้ ย ราวกับสติเลื่อนลอย เย่หยวนยังคงจับ
จ้องใบหน้าของผูส้ ู งส่ งจอมสังหารอย่างไม่วางตา
เย่หยวนมิได้แปลกประหลาดใจแต่อย่างใด เขาถอน
หายใจยาวเฮือกใหญ่และกล่าวว่า
“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่หลงเหลือความทรงจาในอดีตเลย
จริ งๆ! โหย้ววู่หลาน หนอ…โหย้ววูห่ ลาน ข้าคิดเสมอว่า
ท่านจักต้องขึ้นกลายเป็ นยอดอัจฉริ ยะผูป้ ระสบ
ความสาเร็ จในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เฮ้ออ…ไม่นึกเลยว่าท่าน
จะมีจุดจบเช่นนี้ ! ซือกงซ่าง…แกผูกปมแค้นกับข้าเอง!”
เมื่อกล่าวถึงประโยคหลัง จิตสังหารของเย่หยวนก็พลัง่
พลูออกมาจนล้นปรี่ !
เย่หยวนคร่ าครวญกับตนเองเล็กน้อยด้วยความขื่นขม
ก่อนถอนหายใจยาวและกล่าวว่า
ทันทีที่กล่าวจบ เย่หยวนก็หมุนตัวกลับและจากไปทันที
ความแข็งแกร่ งของเย่หยวนในปัจจุบนั มันอ่อนแอเกินไป
ที่จะแก้ไขสิ่ งต่างๆได้!
ณ ปัจจุบนั สี หน้าที่เผยออกมาของเย่หยวนมิได้ดูนิ่งสงบ
อย่างที่ผา่ นมา ทว่ากลับเป็ นสี หน้าที่เต็มไปด้วยความ
อาฆาตแค้น ราวกับต้องการฆ่าใครสักคน
นี่เป็ นครั้งแรกเช่นกัน ที่อาเหริ่ นได้เห็นสี หน้าแบบนี้
ของเย่หยวน
ตึงงง….
ทันใดนั้นกลุ่มเมฆาสี เทาเข้มพลันถูกซัดกวาดกระจายตัว
แปดทิศสิ บทาง สุ ดขอบฟ้านภาไพศาลกลับปรากฏฝ่ ามือ
สี ดาขนาดมหึ มาทะลวงออกจากห้วงแห่งความว่างเปล่า
พร้อมตรงเข้ามาเย่หยวนอย่างไร้ปราณี !
ตอนที่926 แค้ นนีต้ ้ องชาระในสั กวัน!
“หรื อพวกเราเผลอไปรบกวนการจาศีลของสัตว์
ประหลาดเฒ่าท่านใดเข้า? ท่านผูน้ ้ นั อาจหลับใหลอยูใ่ น
หลุมอเวจีสวรรค์นานแล้ว? พลังฝ่ ามือนี้ทรงพลังจนรู ้สึก
เราเป็ นเพียงมดปลวก!”
นายพลสังหารของซื่อหยินสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามสุ ด
อันตราย พวกเขาทั้งหมดต่างโพลงอุทานลัน่ ด้วยความไม่
อยากเชื่อ
ในขณะที่กล่าว เย่หยวนเหาะขึ้นกลางห้วงนภากาศและ
เข้าเผชิญกับฝ่ ามือขนาดมหึ มาทันที
แม้กลิ่นอายที่พลัง่ พลูจากร่ างเย่หยวนจะน่าประทัยใจยิง่
แต่ภายใต้อนุภาพสุ ดวินาศสันตะโรของฝ่ ามือนี้ เขากลับ
ไม่นบั เป็ นอันใด
ความแข็งแกร่ งของเหล่านายพลสังหารซื่อหยินยังคงขาด
ตกไปอยู่ ด้วยอนุภาพของฝ่ ามือนี้ พวกเขาทั้งหมดไม่
สามารถทนต่อแรงกดดันได้ไหวอีก พร้อมพ่นเลือดสด
ออกมาโดยตรง
แม้ฝ่ามือนี้ จะถูกปลดปล่อยจากระยะไกลลิบโดยที่อีกฝ่ าย
ใช้พลังไม่ถึงเศษหนึ่ งส่ วนสิ บของทั้งหมด แต่น้ นั ก็มาก
พอแล้วที่จะขังเย่หยวนมิให้หนี ไป
ซื่อหยินตะโกนขึ้น
แม้ซื่อหยินไม่กล่าวเช่นนี้ คนอื่นๆเองก็ไม่กล้าอยูท่ ี่นี่ต่อ
เช่นกัน พวกเขาแต่ละคนเร่ งสาแดงวรยุทธการเคลื่อนที่
อย่างสุ ดกาลัง เพื่อหนีออกห่างบริ เวณสุ ดวิปลาสให้จงได้
ครื อออ…!
พวกเขาอดกวาดตาจับจ้องเย่หยวนบนกลางเวหามิได้เลย
ทุกคนจินตนาการไม่ออกจริ งๆว่า ไฉนเย่หยวนยังทนยืน
อยูต่ รงนั้นได้โดยไม่เป็ นอะไร?
บูมมมม!
ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้เลยว่า เย่หยวนยังจะมีชีวิต
รอดอยูไ่ ด้อย่างไร ภายในฝ่ ามือขนาดมหึ มานั้น!
“เหอะ เหอะ เย่หยวนช่างหยิง่ ผยองเกินไป ในคราวนี้ นาย
ท่านถึงกลับลงมือด้วยตัวเอง แต่จริ งๆแล้วมันก็ยงั กล้ายืน
เผชิญหน้า นี่นบั เป็ นวิถีของคนฉลาดกระมัง?”
แม้พวกเขาจะต้องการแก้แค้นเจ้าหนุ่มนี้เพียงใด แต่ขมุ
พลังยังคงขาดตกไปมาก
ในตอนนี้เจ้านายของทั้งคู่ถึงกับลงมือด้วยตัวเอง แล้วจะ
ไม่ให้พวกเขารู ้สึกตื่นเต้นได้อย่างไร
“หื้ ม? เกิดอะไรขึ้น?”
แต่ทนั ใดนั้นมังกรฟ้าขนาดยักษ์ก็หาบวับไป!
“หื้ ม?”
“กรรร!”
มังกรฟ้าขนาดยักษ์พุ่งทะลวงมิติสะบั้นห้วงแห่งความว่าง
เปล่า พร้อมเข้าปะทะถึงหน้าเขาโดยตรง!
สี หน้าการแสดงออกของซือกงซ่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ ว
แต่เพียงเขาเคาะนิ้วเบาๆ ขุมพลังลูกใหญ่ก็ก่อตัวขึ้นพร้อม
เข้าปราบปราม
บูมมม!
มังกรฟ้าถูกซัดสลายหายไปภายในหนึ่ งการปะทะ
ถึงกระนั้นใบหน้าของซือกงซ่างกลับบิดเบี้ยวด้วยความ
น่าเกลียดยิง่ พร้อมหันมองออกไปนอกถ้ าอันไกลโพ้น
โดยไม่ต้ งั ใจ
“ไม่คิดไม่ฝันเลยว่า เจ้าเด็กเหลือขอนั้นจะถือครอง
เครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามังกร! ดูเหมือนว่าเรื่ องนี้ยงั ไม่
จบง่ายๆ ข้าจาต้องออกไปจัดการมันด้วยตนเอง!”
ในขณะที่กล่าว เขาทอดสายตายาวออกไปอย่างไร้
จุดหมาย ก่อนกล่าวขึ้นอย่างขมขื่นว่า
“สหายน้อยชักพาปัญหาเข้าตัวโดยแท้! ตอนนี้ขา้ จะต้อง
เร่ งมือแล้ว! เตรี ยมรอได้เลยเจ้าหนู!”
……………………
ภายในหลุมระเบิดเป็ นรู โหว่ลึก เย่หยวนค่อยๆคลาน
ขึ้นมาอย่างแช่มช้า เสื้ อผ้าของเขาขาดรุ่ งริ้ งเป็ นเศษขี้ริ้ว
ความผันผวนของพลังที่ปลดปล่อยออกมาดูไม่เป็ น
ระเบียบเช่นกัน
เครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์!
นั้นคืออนุภาพของเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์!
ทั้งสองหันควับสบตากันไปมาอย่างลุกลี้ลุกลน แววตา
ของทั้งสองต่างสะท้อนความตกตะลึงอย่างสุ ดพรรณนา
ได้
ระรอกคลื่นมิติแปรปรวนพลันสัน่ กระเพือม ในที่สุดผู ้
สู งส่ งจอมสังหารในชุดสี ดาก็ปรากฏกายขึ้นต่อหน้าทุก
คน
ตานานเคยกล่าวไว้วา่ บรพพบุรุษของทั้งสองตระกูลใน
อดีตเป็ นถึงเซียนอาณาจักรพระเจ้า รากฐานของพวกเขา
หยัง่ รากลึกเกินความเข้าใจ แต่เนื่องจากกาลเวลาผ่านไป
สายเลือดของพวกเขาก็ค่อยๆเบาบางลงทีละน้อย ความ
แกร่ งกล้าดัง่ อดีตกาลจึงหาไม่มีแล้วเช่นกัน
แต่แน่นอนว่า เมื่อทั้งสองตระกูลจับมือสามัคคีกนั เมื่อใด
พวกเขาก็ยอ่ มกลายเป็ นขุมพลังที่น่าสะพรึ งอย่างยิง่ ยวด
แม้แต่หลายตระกูลใหญ่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยงั ไม่กล้าล้ า
เส้นพวกเขามากจนเกินไป
ทันใดนั้น ราวกับว่าสาวน้อยนางนั้นเอ่ยใจนึกอะไรออก
นางวิ่งไปกอดแขนชายหนุ่มอย่างรักใคร่ และกล่าวว่า
ชายหนุ่มมิได้เผยท่าทีตื่นตกใจแต่อย่างใด เขาเพียงกล่าว
ตอบอย่างเฉยเมยว่า
ก่อนหน้าที่ความแกร่ งกล้าของหลู่หยินเฟยจะโจษจันบน
ผืนพิภพ ตระกูลติงคือผูอ้ ยูบ่ นจุดสู งสุ ดในศาสตร์แห่งค่าย
กล
และเจิ้งเซี่ยที่ติงซัวเอ่ยไปเมื่อครู่ ก็มิใช่ใครอื่นนอกจากลูก
ศิษย์ของหลู่หลินเฟยอย่างแม่นยา!
เมื่อได้ยนิ คากล่าวของติงซัว ติงซื่ออวี้พลันเม้มริ มฝี ปาก
บางสวยของนางและกล่าวอย่างไร้หางเสี ยงว่า
ติงซัวหันมาจับจ้องติงซื่ออวี้ในทันใด และกล่าวด้วยเสี ยง
เย็นเจือแค้นว่า
คราวนี้สีหน้าท่าทางของติงซัวมืดขรึ มลงทันใด
เขารู ้สึกเคียดแค้นอย่างที่สุด!
“นั้น! ขะ–ขะ–เขา…”
จู่ๆติงซื่ออวี้ก็อร้องอุทานขึ้นพลางชี้นิ้วไปยังทิศทางหนึ่ ง
ติงซัวกล่าวขึ้นด้วยความประหลาดใจ
ติงซื่ออวี้พยักหน้ารัวและกล่าวตอบว่า
“ถูกต้อง! เขานามว่าเย่หยวน!”
ติงซัวกวาดสายตาจับจ้องเย่หยวนโดยละเอียด ก่อยละ
สายตาออกมาอย่างเบื่อหน่ายว่า
แต่กระนั้นกลับมีกาแพงโปล่งแสงบานหนึ่งตั้งดักได้
ทันท่วงที ติงซื่ออวี้วงิ่ ชนกับกาแพงโปล่งแสงนั้นอย่าง
แรง และล้มลงกับพื้นทันที
“โอ๊ย!”
“เย่หยวนช่วยด้วย!”
เย่หยวนที่เดินเล่นพลางสนทนากับกลุ่มของตนได้ยนิ สุ่ ม
เสี ยงหนึ่งเรี ยกหา ทันทีที่ได้ยิน เขาอดหันมองต้นเสี ยง
มิได้ ก่อนพบสาวน้อยคนหนึ่งที่กาลังทรุ ดอยูบ่ นพื้น และ
เขาก็จาได้อย่างแม่นยา นั้นคือติงซื่ออวี้ สาวน้อยในตอน
นั้น คิว้ ทั้งสองขมวดแน่นสี หน้าเย่หยวนเปลี่ยนเป็ นมืด
ครึ มเล็กน้อย
เมื่อติงซัวเห็นว่าเย่หยวนพุ่งเข้าจู่โจมเขาจริ งๆ สี หน้า
ท่าทางพลันมืดลงโดยมิต้ งั ใจ เขาเร่ งก้าวขึ้นไปขวางหน้า
ติงซื่ออวี้ทนั ที ก่อนยกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างรวดเร็ ว
“ชายหนุ่มคนนี้มีทกั ษะในศาสตร์แห่งค่ายกลที่น่าเกรง
ขามยิง่ ! เพียงผสานมือเปล่าฉับพลันยังทาให้พวกเขาเกริ่ น
เกรง!”
หากต้องการช่วยเหลือติงซื่ออวี้เกรงว่าแทบเป็ นไปไม่ได้
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ สี หน้าท่าทางของฝูงชนโดยรอบพลัน
เปลี่ยนไป พวกเขาคาดไม่ถึงเลยว่า นักสู ้อาณาจักรวิชชา
สวรรค์จะเร็ วได้ขนาดนี้จริ งๆ
อย่างไรก็ตาม ติงซัวกลับจับจ้องภาพฉากนี้ดว้ ยความ
ขบขัน ก่อนกล่าวขึ้นอย่างเย้ยหยันขึ้นว่า
ในขณะเดียวกัน ตราผนึกพลันควบแน่นและก่อตัวขึ้น
เป็ นค่ายกลอย่างรวดเร็ ว!
เย่หยวนมิได้สนใจค่ายกลตรงหน้าแม้สักนิด พร้อม
ทะลวงผ่านค่ายกลของติงซัวไปอย่างง่ายดาย!
ตอนที่928 ยังขาดตกอยู่มาก!
ฟิ้ วว!
เย่หยวนคว้าร่ างติงซื่ออวี้และจากไปพร้อมลาแสงสายยาว
อย่างน้อยที่สุดในบรรดาเหล่าเยาวชนทั้งหมด ไม่มีผใู ้ ด
สามารถทัดเทียมได้กบั ตัวเขาในแง่ของศาสตร์แห่งค่ายกล
นอกจากนี้เขายังชานาญการมากจนสามารถนาศาสตร์
แห่งค่ายกลเข้าประยุกต์ระหว่างต่อสู ้
นี่…นี่เป็ นไปได้อย่างไร?
ติงซื่ออวี้ยงั คงอยูใ่ นอ้อมกอดของเย่หยวน สายตาคู่งามจับ
จ้องเย่หยวนด้วยความเลื่อมใสยิง่ ความแกร่ งกล้าใน
ศาสตร์แห่งค่ายกลของเขาเหนื อกว่าของพี่ใหญ่จริ งๆด้วย!
พลังปราณของเขาจานวนมากกรอกเทลงสู่ ตะเกียงไฟ
ในทันที และทันใดนั้นตะเกียงไฟในมือพลันสว่างไสวขึ้น
อย่างช้าๆ
เย่หยวนผลักร่ างติงซื่ออวี้ออกไปเบาๆให้แก่ซื่อหยินที่อยู่
ข้างๆ พร้อมกล่าวว่า
“ฝากดูแลนางด้วย!”
ทันทีที่โคมไฟปรากฏขึ้น ก็มีหลายต่อหลายคนจาได้ใน
ทันใด
กระทั้งติงซื่ออวี้ที่เห็นภาพฉากนี้ สี หน้าการแสดงออก
ของนางยังต้องพลันเปลี่ยนไปอย่างมาก นางไม่คิดเลยว่า
พี่ใหญ่ของนางจะสามารถใช้งานตะเกียงอาคม
พันธนาการได้จริ งๆ นี่ยงิ่ ทาให้ติงซื่อวี้เป็ นห่วงในความ
ปลอดภัยของเย่หยวนเข้าไปใหญ่
ในขณะที่ติงซื่ออวี้กาลังอ้าปากกล่าวขึ้น ซื่อหยินที่เห็น
ดังนั้นจึงตบไหล่อีกฝ่ ายเบาๆและกล่าวพร้อมรอยยิม้
หวานว่า
ซื่อหยินและคนอื่นๆล้วนเห็นตรามังกรศักดิ์สิทธิ์ ในมือเย่
หยวนกันหมดแล้ว และแม้พวกนางจะไม่ขอติดตามเช่นนี้
เย่หยวนเองคงปล่อยไว้ไม่ได้เช่นกัน
ร่ างต้นของซือกงซ่างยังไม่สามารถออกมาได้ในขณะนี้
เนื่องจากติดเหตุสาคัญอย่างบาง ซึ่งเขาก็ทราบแล้วว่าเย่
หยวนมีเครื่ องรางศักดิ์สิทธิ์อยู่ในครอบครอง และเป็ น
ธรรมดาที่เขาย่อมไม่แพร่ พรายออกไป ฉะนั้นแล้ว มันไม่
เท่ากับว่าตัวเขาไปเพิ่มคู่แข่งให้ตนเองหรอกรึ ?
“แต่…”
ติงซื่ออวี้ตื่นตระหนกอย่างมากเมื่อได้ยนิ และยังคงยืนยัน
ที่จะออกไปหยุดพี่ใหญ่
อดีตกาลเก่า บรรพบุรุษตระกูลติงเคยอาศัยพลังของค่าย
กลชนิดนี้ เข้าต่อกรกับหลู่หลินเฟยมาก่อน ถึงแม้ผลลัพธ์
ที่ออกมาจะเป็ นอย่างที่ทุกคนทราบกันก็ตาม
เจ้าหนุ่มคนนี้โผล่มาจากไหน? ไฉนถึงไม่กลัวถูกเจาะลิ้น!
กระนั้นเอง พวกเขาเหล่านี้จะทราบได้อย่างไรว่า
ความสาเร็ จของจี้ฉิงหยุนบนเส้นทางแห่ งค่ายกลในชีวิต
ก่อนหน้ามันเหนือล้ าเพียงใด? กล่าวว่ามิได้อ่อนด้อยไป
กว่าติงฉางกัวเลย!
การเคลื่อนไหวของเย่หยวนช่างดูลึกลับซับซ้อนอย่าง
บอกไม่ถูก บ้างเรี ยกประหลาดก็ไม่ผิด
แม้ค่ายกลเงาประกายมรกตจะทรงอนุภาพเป็ นอย่างมาก
แต่เนื่องด้วยความแข็งแกร่ งของติงซัว เขาสามารถดึงพลัง
ของตะเกียงอาคมพันธนาการได้เพียงหนึ่งจากร้อยส่ วน
เท่านั้น
และหากต้องการจัดการเย่หยวนด้วยเศษพลังแค่น้ ี มันยัง
เร็ วเกินไปร้อยปี !
สี หน้าท่าทางของติงซัวพลันเปลี่ยนไปทันทีโดยไม่ต้ งั ใจ
เมื่อได้เห็น เขาโพลงกล่าวขึ้นด้วยความตกตะลึงว่า
“นี่…นี่เป็ นไปได้อย่างไร?”
ตอนที่929 หวังว่ าจะไม่ ใช้ เนตรกระจอกนั้นอีก
นี่คือกระบวนท่าแรกของเพลงดาบมหาสังหารที่เย่หยวน
ได้รับจากทะเลมารคลัง่ เสี ยงดาบมรณะ!
ติงซัวยังคงตกตะลึงยิง่ ทันทีที่ได้เห็นการโจมตีของเย่
หยวน ทว่ามันสายเกินไปเสี ยแล้วที่จะก่อร่ ายสร้างค่ายกล
“ไม่!”
ติงซื่ออวี้ข่มตาหลับด้วยความเจ็บปวดใจ ไม่กล้าเฝ้ามอง
ภาพฉากที่จะเกิดขึ้นต่อไป
ทว่าทันใดนั้น ปรากฏลาแสงสายหนึ่งจากท้องเวหาพุ่ง
ออกมาดักหน้าติงซัวโดยพลัน พร้อมเข้าชนกับเสี ยงดาบ
มรณะของเย่หยวนอย่างแรง
ซึ่งแท้ที่จริ งแล้ว รัศมีขอบเขตของลาแสงสายนี้ทรงพลัง
อย่างยิง่ มันเข้าทาลายเสี ยงดาบมรณะของเย่หยวนได้
ในทันที
ขนแขนยันหนังศีรษะของติงซัวลุกซ่าขึ้นทั้งตัว คู่ขาอัน
อ่อนนุ่มทรุ ดฮวบลงบนพื้นอย่างไร้เรี่ ยวแรง
สี หน้าของชายวัยกลางคนเยือกเย็นขึ้นในบัดดล แรง
กดดันแห่ งอาณาจักรเต๋ าลึกล้ าอันแรงกล้าพุ่งเข้า
พันธนาการร่ างเย่หยวนทันทีอย่างหนักหน่วง
“ปรากฏว่าเจ้าหนุ่มคนนี้ช่างดื้อรั้น! กล้าทาตัวอวดดีใน
เมืองจันทร์ฉายของข้าจริ งๆ! เจ้าเข้าใจผิดคิดว่าจักรพรรดิ
ผูน้ ้ ีไม่กล้าลงมือกับเจ้างั้นรึ ?”
เย่หยวนกล่าวสวนด้วยเสี ยงเย็นว่า
“เลิกพล่าม! หากเก่งจริ งก็เข้ามา! ความสามารถ
เล็กๆน้อยๆของท่านอย่าหวังทาอันตรายท่านปู่ ผูน้ ้ ีได้!”
ชายวัยกลางคนมิได้คาดหวังเลยว่า แรงกดดันของตนจะ
ไม่สามารถทาอะไรเจ้าหนุ่มคนนี้ได้จริ งๆ สี หน้าของเขา
มืดมนลงยิง่ กว่าเดิมโดยไม่ต้ งั ใจ
ชายวัยกลางคนถูกเย่หยวนปลุกปั่นจนทาให้ตอ้ ง
เคลื่อนไหวในที่สุด เขาเตรี ยมพร้อมเข้าจู่โจมทันทีดว้ ย
ความโกรธเกรี้ ยว
ติงซื่ออวี้ที่เห็นสถานการณ์เลวร้ายลงก็ไม่อาจแช่มช้า นาง
เข้าขวางหน้าเย่หยวนและกล่าวกับชายวันกลางคนบน
เวหาว่า
นางเพียงต้องการหยิบยืมพลังของเย่หยวนเพื่อเลี่ยงออก
จากติงซัวเท่านั้น แต่นางกลับไม่นึกไม่ฝันเลยว่า พลัง
ของเย่หยวนจะเกินจินตนาการขนาดนี้ ถึงขั้นที่วา่ นาง
เกือบได้ไปงานศพพี่ชายของตนแล้ว
เมื่อติงซื่ออวี้ออกหน้ามาขนาดนี้ เยวี่ยหยุนเฟยก็จาต้อง
ชะงักทุกการเคลื่อนไหวอย่างช่วยไม่ได้
ด้วยเหตุน้ ี ท่าทางของเยวี่ยหยุนเฟยจึงดูแปลกใจอย่างมาก
“หึ้ ม! ถึงอย่างนั้นเขาก็กล่าววาจาผยองเดชยิง่ ต่อตระกูล
เยวี่ยของข้า! คงยากที่จะปล่อยไปโดยมิได้รับการ
ลงโทษ!”
เยวี่ยหยุนเฟยกล่าวขึ้นพร้อมเสี ยงฮึดฮัดติดฉุน
เย่หยวนสาดสายตาสวนกลับอย่างดุเดือด และโพลงกล่าว
ขึ้นว่า
โดยปกติแล้ว เย่หยวนไม่เคยไปสร้างปัญหาให้ใครก่อน
แต่เขาเองก็ไม่เคยหวาดกลัวปั ญหาที่เข้ามาเช่นกัน!
หากเย่หยวนเข้าปะทะกับตระกูลเยวี่ยจริ งๆ หายนะครั้ง
เลวร้ายที่สุดในเมืองจันทร์ฉายอาจก่อเกิดขึ้น!
แม้แต่สมาชิกบางคนของตระกูลเยวี่ยยังไม่สามารถปลุก
กระตุน้ สายเลือดกายเนตรสวรรค์เคียงจันทร์ข้ นึ มาได้
และการที่เยวี่ยเมิ่งลี่สามารถปลุกสายเลือดนี้ได้ถึงระดับนี้
จะเห็นได้ชดั ว่านางคืออัจฉริ ยะแห่งตระกูลเยวี่ย
เยวี่ยหยุนเฟยตื่นตกใจอย่างมาก พร้อมจับจ้องเย่หยวน
ด้วยความไม่เชื่อ
“เนตรสวรรค์เคียงจันทร์ง้ นั รึ ? สายเลือดกายเนตรสวรรค์
เคียงจันทร์ในตัวท่านเจือจางเกินไป คิดว่าเศษพลังแค่น้ ีจะ
สามารถจัดการข้าได้? ช่างไร้เดียงสา!”
ในขณะนี้ ทุกคนต่างจับจ้องเย่หยวนราวกับตัวประหลาด
เจ้าหนุ่มคนนี้ผิดประหลาดมากเกินไป!
แต่ในขณะนี้ เขาได้เบิกเนตรสวรรค์เคียงจันทร์เข้าจู่โจม
ทว่ากลับไม่สามารถทาอันตรายเจ้าหนุ่มอาณาจักรวิชชา
สวรรค์ฟ้าได้เลยสักนิด นี่มนั เรื่ องบ้าชัดๆ!
สี หน้าของเยวี่ยหยุนเฟยมืดครึ มหนักและกล่าวขึ้นว่า
เย่หยวนกล่าวตอบด้วยเสี ยงเย็นว่า
“เลิกเล่นทายคากันเสี ยที นายน้อยผูน้ ้ ียงั ไม่ได้เอาจริ ง
แม้แต่น้อย! เอาล่ะ หากมีทีเด็ดอันใดอีกก็รีบนาออก และ
หวังว่าจะไม่ใช้เนตรกระจอกนั้นอีก!”
ตอนที่930 ไร้ เหตุผลยิ่ง
หวูบบบ!
ติงซื่ออวี้เร่ งกล่าวขึ้น
เย่หยวนมิได้มีเจตนาวิ่งหนีแม้แต่นอ้ ย เขายังคงกล่าวอย่าง
ใจเย็นว่า
“วิ่งหนี? แล้วทาไมข้าต้องวิ่งหนี? ภายใต้สถานการณ์
เช่นนี้ หากเยวี่ยเจี้ยนฉิ วไม่ออกมาเชื้อเชิญข้าเป็ นการ
ส่ วนตัว ก็อย่าหวังให้ขา้ เสด็จไปยังตระกูลเยวี่ย ในทาง
กลับกัน หากเขาทราบเรื่ องนี้ ล่ะก็ ท่านจะถูกทัณฑ์บน
ลงโทษอย่างหนักโดยตระกูลเยวี่ยเสี ยเอง”
การดารงอยูเ่ ช่นนั้นถึงกับต้องออกเชื้อเชิญเจ้าหนุ่ม
อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าด้วยตนเอง?
การที่จู่ๆเย่หยวนก็เรี ยกนาม ติงฉางกัว และ เยวี่ยเจี้ยนฉิ ว
หยาบๆเช่นนี้ออกมาโดยตรง หรื อเจ้าหนุ่มคนนี้ไม่ทราบ
เลยว่า พวกเขาทั้งสองเป็ นถึงประมุขตระกูลอันยิง่ ใหญ่?
มีเพียงบุคคลทรงอิทธิพลในระดับชั้นเดียวกันเท่านั้น ที่
กล่าวเอ่ยนามคนเหล่านี้ได้โดยตรง
เยวี่ยหยุนเฟยกล่าวขึ้นด้วยรอยยิม้ เย็นว่า
“ช่างน่าขัน! แกคิดว่าตนเองเป็ นใคร? ใหญ่มาจากไหน?!
แล้วเหตุใดท่านประมุขตระกูลต้องออกมาต้อนรับแกเป็ น
การส่ วนตัว?”
ไอ้เหลือขอตรงหน้าเพียงแค่คุยโวใหญ่โตเท่านั้น!
“เกิดอะไรขึ้น หยุนเฟย?”
ชายวัยกลางคนอีกหนึ่งที่เพิ่งมาถึงหน้านิ่วกล่าวขึ้น
บุคคลอีกหนึ่งที่เพิ่งมาถึงหน้าแก่กว่าเยวี่ยหยุนเฟย
เล็กน้อย แต่เป็ นคนรุ่ นเดียวกับเยวี่ยเจี้ยนฉิ ว ดูท่าแล้ว
น่าจะเป็ นลุงของเยวี่ยหยุนเฟยนามว่า เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ ง
นับว่าเป็ นเรื่ องบังเอิญ ในครานั้นที่จ้ ีฉิงหยุนเดินทางมาถึง
เมืองจันทร์ฉาย ก็เป็ นเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งผูน้ ้ ีที่จดั การดูแล และ
อานวยความสะดวกทุกอย่างประหนึ่งพ่อบ้าน ระหว่างทั้ง
สองนับว่ามีความสัมพันธ์กนั อยูบ่ า้ ง
เยวี่ยหยุนเฟยเข้ากระซิบเบาๆให้แก่เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งฟัง
ทันใดนั้นคิ้วของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งพลันกระตุกโดยมิต้ งั ใจ
พร้อมหันมองเย่หยวนในทันที
“เจ้าหนุ่ม ถึงแม้ตระกูลเยวี่ยของข้าจะมิใช่ตระกูลชั้นนา
บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่เราก็มิได้อ่อนแอจนใครต่อใคร
สามารถรังแกโดยง่าย! สาหรับเรื่ องราวในคราวนี้ เจ้ามี
อันใดต้องการอธิบายเยวี่ยผูน้ ้ ี หรื อไม่?”
ในขณะนี้จานวนฝูงชนที่แห่เข้ามาดูเริ่ มเพิ่มมากขึ้นอย่าง
ต่อเนื่อง เรื่ องนี้นบั เป็ นประเด็นใหญ่ของวัน
พวกเขาตระกูลเยวี่ยไม่สามารถทาให้เย่หยวนก้มหัวขอ
โทษได้ นี่นบั เป็ นความอัปยศชนิดหนึ่ ง และหากเรื่ องนี้
กระจายออกไป ต้องกลับกลายเป็ นเรื่ องตลกเรื่ องหนึ่ งใน
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แน่นอน
เย่หยวนยังคงยืนอกผ่ายด้วยท่าทางอันภาคภูมิ ทั้งๆที่
เผชิญหน้าอยูก่ บั เยวี่ยเจี้ยนเฟย เขาก็ยงั ไร้ซ่ ึงความเกรง
กลัวใดๆ เขายิม้ และกล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า
คากล่าวของเย่หยวนเกระตุน้ คลื่นฝูงชนจนโกลาหลยก
ใหญ่
เมื่อเย่หยวนจาต้องจับคู่ติงซัว แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมเป็ น
ฝ่ ายเสี ยเปรี ยบ ซึ่งคากล่าวเหล่านี้ได้กระตุน้ ผูค้ นโดยส่ วน
ใหญ่ที่อยูใ่ นฐานะเดียวกันได้ง่ายดายนัก
ด้วยวิธีเดินหมากเช่นนี้ของเย่หยวน ตระกูลเยวี่ยจาต้อง
เคลื่อนไหวระมัดระวังยิง่ ขึ้น
แม้ตระกูลเยวี่ยจะไม่หวาดกลัวในพลังของคนเหล่านี้ แต่
กลับมีอิพธพลต่อตระกูลเยวี่ยในระยะยาว
“หยุนเฟิ งเพียงทาหน้าที่รักษาความสงบไปตามระเบียบ
เท่านั้น ทุกคนในที่น้ ีก็เห็นกันชัดแจ้งว่า เจ้าชักดาบฆ่า
ผูอ้ ื่น แล้วสิ่ งใดคือลาเอียง? ยิง่ ไปกว่านั้นเจ้ายังกล้ากล่าว
วาจาเหยียดหยามตระกูลเยวี่ย!”
“ติงซัวใช้ตะเกียงอาคมพันธนาการเพื่อฆ่าข้า และข้าก็ไม่
เชื่อว่าเหตุการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้น เยวี่ยหยุนเฟยจะไม่เห็น
มัน ทั้งๆที่เป็ นแบบนั้น ไฉนถึงไม่เข้ามาห้าม? แต่พอข้า
ตอบโต้กลับเข้ามาและยัดคดีให้ขา้ เป็ นคนผิด? หากตัวข้า
ไร้เหตุผล ตัวต้นเรื่ องคงไร้เหตุผลกว่ากระมัง! ตัดสิ นขาว
ดาขาดตก ตระกูลเยวี่ยสมควรถูกเย้ยหยันหรื อไม่?”
“ดูเหมือนว่าเส้นลมปราณหยางเฉี ยวของท่านจะหายดี
แล้ว!”
ทัว่ ทั้งร่ างของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งแข็งทื่อไปในทันที พร้อมจับ
จ้องเย่หยวนแข็งค้างไม่วางตาด้วยความสงสัยสุ ดขีด
เหล่าสมาชิกตระกูลเยวี่ยทุกคน ตราบใดที่สามารถเบิก
เนตรขึ้นได้ ไพ่ตายที่แข็งแกร่ งที่สุดของพวกเขาล้วนเป็ น
เนตรสวรรค์เคียงจันทร์
พลังเนตรของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งในขณะนั้นอ่อนแอจนด้อยค่า
เกินจินตนาการ
ผูอ้ าวุโสของตระกูลที่เป็ นจักรพรรดิโอสถในเวลานั้น ได้
ตรวจวินิจฉัยและพบว่า เส้นลมปราณหยางเฉี ยวของเขา
ได้รับความเสี ยหายเกินครึ่ ง ดังนั้นจึงส่ งผลไปถึงพลัง
เนตรของเขา ทว่านี่เป็ นเพียงการวินิจฉัย ส่ วนขั้นตอนการ
รักษากลับมีความเสี่ ยงเกินไป
เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งต่างแสวงหาจักรพรรดิโอสถมมากมายให้มา
รักษาตน แต่ก็ไม่มีใครสามารถรักษาเส้นลมปราณหยาง
เฉี ยวได้เลย จนกระทั้งจี้ฉิงหยุนเสด็จมายังเมืองจันทร์ฉาย
ในครั้นกระโน้น
ในช่วงไม่กี่ปีผ่านมา อาการบาดเจ็บของเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ ง
แทบหายดีเป็ นปกติแล้ว พลังเนตรสวรรค์เคียงจันทร์เองก็
ฟื้ นคืนสู่ สภาวะสู งสุ ดแล้วเช่นกัน
สามารถกล่าวได้เลยว่า เย่หยวนได้มอบชีวิตใหม่ให้แก่
เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งอีกครั้ง
“ผิดพลาดอะไรของเจ้า?!”
เยวี่ยหยุนเฟยกล่าวแทรกขึ้น
เย่หยวนยังคงเมินเฉยกับอีกฝ่ าย ก่อนอ้าปากกล่าวขึ้นอย่าง
คร้านใส่ ใจว่า
“เจ้า…เจ้าทราบได้อย่างไร?!”
เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งตกตะลึงอย่างยิ่งจนกล่าวติดอ่าง
แต่เย่หยวนกลับโบกมือปัดและคร้านจะตอบ
เยวี่ยเจีเยนเฟิ้ งราวกับถูกตรึ งแข็งในบัดดล ในคราแรกเขา
ทราบว่า เย่หยวนพยายามกล่าวเพื่อกระตุน้ โทสะเขาให้
เคลื่อนไหว
ปัญหาเล็กน้อยในตอนแรก เขามิได้ให้ความสาคัญอะไร
มากนัก แต่เมื่อได้ยนิ วาจาเช่นนี้จากปากเย่หยวน กิริยา
ท่าทางของเขาก็ดูอ่อนโยนลงพร้อมให้ความสาคัญกับ
เรื่ องนี้อย่างจริ งจัง
เหล่านักสู ้มากมายทัว่ สารทิฒต่างจับจ้องภาพเหตุการณ์ใน
ขณะนี้ไม่วางตา พวกเขาล้วนรู ้เรื่ องเส้นลมปราณหรื อสิ่ ง
ผิดปกติภายในร่ างมากกว่าผูค้ นทัว่ ไป เมื่อได้ยนิ คากล่าว
เหล่านั้น พวกเขาต่างตกใจไม่น้อย
แต่เย่หยวนโบกมือปัดและกล่าวขึ้นว่า
เยวี่ยหยุนเฟยยังคงไม่ยอมแพ้และเข้าหาเรื่ องเย่หยวนทันที
เยวี่ยหยุนเฟยยืนตะลึงตัวแข็งในบัดดล เขาไม่คาดไม่ฝัน
เลยว่า เยวี่ยเจียนเฟิ้ งจะเป็ นคนจึดไฟเผาตัวเขาเสี ยเอง เขา
ตกใจจนถึงขั้นเสี ยศูนย์ไปชัว่ ครู่ หนึ่ง
การที่สามารถมองอ่านอาการเจ็บปวดภายในร่ างได้ดว้ ย
ตาเปล่า การดารงอยูร่ ะดับชั้นนี้มิใช่สิ่งที่ตระกูลเยวี่ยจะ
สามารถยัว่ ยุได้เลย
อย่างน้อยที่สุด กระทั้งจักรพรรดิโอสถยังไม่สามารถ
วิเคราะห์อาการป่ วยของเขาได้ท้ งั ๆที่จบั ชีพจร แต่ชาย
หนุ่มคนนี้ช้ ีแจงอาการทั้งหมดได้อย่างแม่นยาเพียงแค่
มอง!
แต่เยวี่ยหยุนเฟยกลับกล้าแสดงกิริยาต่าช้าต่อหน้าชาย
หนุ่มผูน้ ้ ีจริ งๆ นี่ จะไม่ทาให้เขาพิโรธได้อย่างไร?
เมื่อตกอยูใ่ นสถานการณ์เช่นนี้ เยวี่ยหยุนเฟยก็ไม่มี
ทางเลือกอื่นเช่นกัน
เย่หยวนกล่าวตอบอย่างไม่ใส่ ใจอันใดว่า
เยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งกล่าวขึ้นอย่างยากลาบาก
เย่หยวนหันสวนเข้าจับจ้องและกล่าวขึ้นด้วยรอยยิม้ ทันที
ว่า
“ท่าน…ท่านคือชายหนุ่มนาม…เย่หยวน?!”
ในคราแรกเยวี่ยเจี้ยนเฟิ้ งยังแทนเย่หยวนว่า‘น้องเล็ก’
เนื่องจากเกริ่ นเกรงอยูห่ นึ่งส่ วน แต่เมื่อทราบนามอีกฝ่ าย
เขากลับแปรเปลี่ยนเป็ น‘ท่าน’ในทันที!
เย่หยวนยังคงยืนนิ่งอยูก่ ลางท้องถนนอย่างสงบเยือกเย็น
และไม่สนใจเสี ยงฝูงชนรอบข้างที่ดงั สนัน่ แม้สักนิด
อย่างไรก็ตามแนวโน้มฝูงชนที่แห่เข้ามายังมีจานวน
เพิ่มขึ้นต่อเยือ่ ง และด้วยปริ มาณมากมายเช่นนี้ ก็ถือเป็ น
เรื่ องยากยิง่ ที่ตระกูลเยวี่ยจะปิ ดเรื่ องนี้ได้
เย่หยวนได้เผาน่านฟ้าเหนื อเมืองจันทร์ ฉายไปกว่าครึ่ ง
หากเยวี่ยเจี้ยนฉิ วยอมแพ้และยอมลดศีรษะให้ เขาผูน้ ้ นั จะ
ไม่มีวนั เชิดหน้าชูตาได้อีกบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์
แต่เหตุการณ์หลังจากนั้น กลับต้องตาลปัตร!
คนในย่อมทราบมากกว่าคนนอก ซึ่งตระกูลเยวี่ยเองก็
ทราบข้อเท็จจริ งในภายหลังเช่นกัน! ในตอนนั้นทันทีที่
เข้าดูอาการ โจวเจี่ยก็ทราบทันทีวา่ โจวหยานได้รับ
บาดเจ็บสาหัสโดยจอมราชันย์วิญญาณสัประยุทธ์!
พวกเขาคิดเช่นนั้นมาโดยตลอด จนโจวหยางกลับมา
พร้อมสภาพสุ ดอนาถ และตั้งแต่น้ นั เป็ นต้นมา พวกเขาก็
เริ่ มมีความหวังอีกครั้ง
ขบวนอาชาและราชรถนี้ช่างอลังยิง่ ใหญ่และน่าเกรงขาม
อย่างยิง่ ยวด ตัวราชรถเป็ นสี ทองแดงสว่างมันเงา แรง
กดดันที่ทุกคนสัมผัสได้ช่างยอดเยีย่ มเกินไป
แม้แต่เซียนอาณาจักรราชันย์เทวะของตระกูลเยวี่ยก็ยงั ไม่
มีโอกาสได้ข้ นึ นัง่ ด้วยซ้ า!
สาหรับการปรากฏตัวของราชรถแปดอาชาศึกนี้ เขามิได้
แปลกใจแต่อย่างใด หากย้อนไปกลับ ตอนที่จ้ ีฉิงหยุน
เสด็จมาถึงเมืองจันทร์ ฉาย ก็มีราชรถแปดอาชาศึกมารับ
เขาเช่นกัน
เรี ยกใช้ราชรถแปดอาชาศุกเพื่อมารับเจ้าหนุ่มอาณาจักร
วิชชาสวรรค์ฟ้าคนหนึ่ง? เรื่ องไร้สาระเช่นนี้จะเป็ นไปได้
อย่างไร!
เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิม้ ที่ไม่ใช่รอยยิม้
ข้างกายเย่หยวน ซื่อหยินกระพริ บตาปริ บๆและเข้า
กระซิบเย่หยวนเบาๆว่า
“นายท่านเย่ ท่านคงมิได้คิดว่าราชรถแปดอาชาศึกนี้จะมา
ที่นี่เพื่อรับท่านจริ งๆใช่ไหม?”
เย่หยวนยิม้ และกล่าวตอบว่า
“แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไร?”
ความเร็ วของราชรถแปดอาชาศึกนับว่าสู งมาก เพียงไม่
นานจากที่ลอยอยูก่ ลางห้วงนภา มันก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
บนท้องถนนอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยเร็ วเช่นนี้ฝงู ชนทั้งหมด
ได้แต่จบั จ้องด้วยความตื่นตะลึง
ไม่มีใครสามารถมองราชรถนี้ได้ทนั !
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเย่หยวน เขากลับต้องนามันออกมา
จริ งๆ!
เย่หยวนมิได้กล่าวอันใดตอบ พร้อมเหาะไปตรงหน้าราช
รถแปดอาชาศึกโดยตรง
เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ทุกคนต่างงุนงวยในทันที
แล้วเย่หยวนคิดว่าตนเองเป็ นใครกัน?
แต่ทนั ใดนั้น เสี ยงหัวเราะลัน่ สุ ดเย้ยหยันโดยรอบพลัน
เงียบกริ บในทันที
เย่หยวนจับจ้องไปยังเยวี่ยเจี้ยนฉิ ว และกล่าวอย่างใจเย็น
ว่า
รัศมีแรงกดดันของเย่หยวนมิได้อ่อนแอกว่าเขาแม้แต่น้อย
เลย!
ช่างเป็ นภาพฉากที่ดูไม่ลงรอยกันยิง่ !
เยวี่ยเจี้ยนฉิ วกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า
“ทักษะในศาสตร์แห่งโอสถของท่านอาจารย์เย่ไร้ซ่ ึงคู่แข่ง
ไร้ผใู ้ ดเทียมทาน แล้วข้าจะไม่มาต้อนรับด้วยตนเองได้
อย่างไร! สถานที่ตรงนี่ไม่เหมาะสนทนา ท่านอาจารย์เย่
เชิญ”
เย่หยวนพยักหน้าอย่างแช่มช้า ก่อนยกขาขึ้นและตรงเข้า
ไปในตัวราชรถโดยตรง
อย่างไรก็ตามเยวี่ยเจี้ยนฉิ งกลับมิได้ติดตามเข้าไปทันที
เขาหันไปตะโกนสั่งโทษอย่างไม่พอใจขึ้นว่า
“เฟยเอ๋ อ เจ้าเกือบก่อปัญหาใหญ่แล้วในวันนี้! จงไปยัง
โถงวินยั เพื่อรับโทษซะ!”
ตอนที่933 จาต้ องผิดหวัง
ภายในตัวราชรถแปดอาชาศึก บรรยกาศค่อนข้างผิด
แปลกอย่างมาก
แต่เย่หยวนหาได้สนใจไม่ เขายังคงทาตัวตามสบายพร้อม
หยิบสุ ราขึ้นมาริ นเองหนึ่งจอก และค่อยๆจิบตามภาษา
อย่างเริ งรมณ์
“สุ ราชั้นเยีย่ มของเมืองจันทร์ฉาย สุ รากลีบจันทราละมุน
หุหุ…ไม่เลว ไม่เลว! เสี ยดายที่เป็ นเพียงชั้นกลาง อายุการ
บ่มยังคงสั้นเกินไป ท่านประมุขตระกูลเยวี่ยขี้เหนียวไม่
น้อย!”
เย่หยวนส่ ายหัวและกล่าวขึ้นพร้อมถอนหายใจ
ทว่าเย่หยวนกลับมิได้สนใจอะไรเลย เขายกมือเท้าคาง
ตรงที่พิงราวกับเป็ นเรื่ องปกติ และกล่าวอย่างเฉยเมยว่า
“ก็การต้อนรับภายในเมืองจันทร์ฉายยังคงแย่เหมือนเดิม
เมื่อไหร่ ขอ้ บกพร่ องเหล่านี้จะถูกแก้ไข? ข้าอุตสาห์ไว้
หน้าท่าน ยอมเล่นละครลิงตามน้ าเพื่อให้ลงจากหลังเสื อ
ได้ มิฉะนั้น การจะเชื้อเชิญข้าขึ้นราชรถแปดอาชาศึกคง
ไม่ง่ายแบบนี้แน่นอน!”
คากล่าวเหล่านี้ของเย่หยวนช่างหยิง่ ผยองเกินไปจริ งๆ
ราชรถแปดอาชาศึกมิใช่ทุกคนที่สามารถขึ้นนัง่ ได้ เย่
หยวนที่ได้ข้ นึ ราชรถแปดอาชาศึกเช่นนี้นบั ว่าเป็ นโอกาส
อันยอดเยีย่ มที่หาไม่ได้อีกแล้วในชัว่ ชีวิต!
ความผิดนี้เยวี่ยหยุนเฟยจาต้องแบกรับตามลาพัง!
เย่หยวนกล่าวสวนอย่างเยือกเย็น
เมื่อกล่าวถึงสถานะของเย่หยวนในชีวิตก่อนหน้า อย่าง
จุดสู งสุ ดแห่งจักรพรรดิโอสถ กลับเป็ นราชรถแปดอาชา
ศึกของตระกูลเยวี่ยมากกว่าที่ได้หน้า
‘ไอ้เหลือขอนี่พยายามทาคะแนนหาดีเข้าตัว แต่เมื่อได้ยนิ
ว่าต้องเข้าประลองกับเหล่ายอดอัจฉริ ยะ มันกลับเหี่ ยวเฉา
ในทันที’
หัวใจของลี่เอ๋ อถูกผูดติดกับเย่หยวนมาตั้งนานแล้ว ใน
ฐานะผูเ้ ป็ นพ่อนาง ไฉนจะไม่ทราบ? แต่เพียงแค่ เขารู ้สึก
ว่าลูกสาวของตนไว้ใจผิดคนไปเสี ยแล้ว!
ทุกครั้งที่เย่หยวนเฝ้านึกระลึกถึงเรื่ องราวของเยวี่ยเมิ่งลี่
โดยเฉพาะครานั้นที่นางแอบประทับรอยจูบ ไม่วา่ วันเวลา
ผ่านไปนานเท่าใด หัวใจเย่หยวนยังคงสั่นระรัวทุกครั้ง
เรื่ อยไป
เป็ นไปได้ไหมว่า…เย่หยวนจะตกหลุมรักเยวี่ยเมิ่งลี่เข้า
แล้วจริ งๆ?
ในชีวิตก่อนหน้า เขามัวแต่ทุ่มเทกาลังกายและกาลังใจลง
ในศาสตร์แห่งโอสถ ทุ่มเทถึงขั้นบ้าคลัง่ และเป้าหมายที่
ยิง่ ใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้ของเขาก็คือ การล้างแค้นจี้ฉาง
หลาน ดังนั้นเขาจึงไม่เคยหวนคิดถึงเรื่ องแบบนี้เลยสัก
ครั้ง
ในคราแรกเย่หยวนพลันคิดไปว่า ตนเพียงรู ้สึกขอบคุณ
เยวี่ยเมิ่งลี่ที่ช่วยชีวิตเขาเท่านั้น แต่เมื่อพิจารณาไตร่ ตรอง
ตัวเขาในตอนนี้ท่าทางจะไม่ใช่แค่น้ นั จริ งๆ
และถึงแม้บุตรที่คลอดออกมาจะไม่ได้รับสื บทอดตั้งแต่
กาเนิด แต่หลังจากที่เบิกเนตรได้ พลังของเนตรสวรรค์
เคียงจันทร์ยอ่ มเหนือชั้นกว่าคนอื่นๆอย่างเทียบไม่ติด
ด้วยเหตุน้ ีเยวี่ยเจี้ยนฉิ วจึงยินดีจดั งานประลองจันทร์ฉาย
ขึ้น เพื่อเฟ้นหาลูกเขยอันแข็งแกร่ งเข้าตระกูล!
ตอนที่934 เกรงว่ าทาให้ ท่านผิดหวังแล้ว!
แต่เยวี่ยเจี้ยนฉิ วกลับกล่าวว่า
คากล่าวของเยวี่ยเจี้ยนฉิ วแฝงความตั้งใจของตนไว้หนึ่ ง
ส่ วน
เย่หยวนกล่าวขึ้นอย่างเย็นชา
เยวี่ยเจี้ยนฉิ วเองก็สวนมองเย่หยวนด้วยสายตาเย็นตอบ
เช่นกัน
ทั้งๆที่ไอ้เหลือขอคนนี้กาลังเผชิญหน้ากับเขาประมุข
ตระกูลแท้ๆ ทว่ายังกล้าดื้อรั้นจริ งๆ!
ไม่เช่นนั้น เจ้าหนุ่มอาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้าตัวน้อยๆอัน
อ่อนแอ จะทาให้หนึ่ งในสิ บจอมราชันย์ถึงกับเคลื่อนไหว
ด้วยตนเองได้อย่างไร?
เยวี่ยเจี้ยนฉิ วกล่าวอย่างเยือกเย็น
เมื่อถูกข่มขู่อย่างหนักโดยเจ้าหนุ่มคนหนึ่งผูม้ ีภูมิกลังอัน
แกร่ งกล้า เยวี่ยเจี้ยนฉิ วก็กระอักกระอ่วนยิง่ ประดุจอม
แมลงเน่าไว้ในปาก จนท้ายที่สุดนี้ เขาไร้ซ่ ึงทางเลือกอื่น
นอกจากตอบปากรับคาที่เย่หยวนกล่าวมาทั้งหมด
………………………..
ณ ตาหนักควบคุมวินยั ของตระกูลเยวี่ย พื้นที่ท้ งั หมดใน
บริ เวณประกอบด้วยตัวคฤหาสน์ยกั ษ์และลานกว้างที่
ใหญ่มาก
หญิงสัยกลางคนพยายามอย่างสุ ดตัวเพื่อเกลี้ยกล่อมหญิง
สาวที่อยูข่ า้ งๆอย่างเอาจริ งเอาจัง ซึ่งหญิงสาวนางนี้ ก็มิใช่
ใครอื่นนอกจาก เยวี่ยเมิ่งลี่อย่างแม่นยา
แน่นอนว่างานประลองจันทร์ฉายในคราวนี้ โจวหยานเอง
ก็เข้าร่ วม
ก่อนหน้านี้ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยจอมราชันย์
วิญญาณสัประยุทธ์ ในคราเดินทางไปยังเมืองเทวะตะวัน
พิโรธ และตระกูลโจวต้องทุ่มเงินจานวนมหาศาลกว่าจะ
ให้โจวหยานฟื้ นคืนสติอีกครั้ง
หญิงวัยกลางคนนางนี้คือโจวเฉวียนยรู่ นางเป็ น
ลูกพี่ลูกน้องกับโจวเจี่ย ซึ่งนางเองก็แต่งงานกับน้องชาย
ของเยวี่ยเจี้ยนฉิ ว นามว่า,เยวี่ยเจี้ยนเค่อ ดังนั้นโจวหยาน
จึงเรี ยกนางว่าป้า
หลังจากที่โจวหยานขึ้นสู่ อาณาจักรเต๋ าลึกล้ าได้สาเร็ จ
นิสัยอันโพงพางและติดเอาแต่ใจอย่างเด็กน้อยดัง่ กาลก่อน
ดูท่าจะดีข้ นึ ซึ่งระดับความเป็ นผูน้ าของเขาเองก็มีมากขึ้น
เช่นกัน เพียงแต่วา่ สาหรับเรื่ องของเยวี่ยเมิ่งลี่ เขายังคง
มุทะลุเช่นเคย
โจวเฉวียนยรู่ ยังคงเกลี้ยกล่อมต่อไป
โจวหยานกล่าวขึ้นทันทีวา่
นี่จึงเป็ นเหตุผลทั้งหมดที่ก่อให้เกิดงานประลองจันทร์ฉาย
ในคราวนี้
ในชัว่ พริ บตาเจ็ดถึงแปดปี ผ่านพ้นไป อาการป่ วยของจิต
วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ฉีกขาดทวีความรุ นแรงมากขึ้น เยวี่ย
เมิ่งลี่ได้แต่หลัง่ น้ าตาไม่หยุดด้วยความเจ็บปวดในทุกๆ
ขณะวัน อาการกาเริ บของนางเริ่ มถี่ข้ นึ เรื่ อยๆจนแทบทน
ทุกข์ทนมานเกือบทั้งวัน
แต่โจวหยานมิได้แสดงท่าทีโกรธโมโหอันใด เขาเพียง
กล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มบางๆว่า
“เย่หยวน? แม้พรสวรรค์ของเขาจะดีเลิศเพียงใด แต่จะให้
ทรงพลังก่อนงานประลองจันทร์ฉายเริ่ มต้น เกรงว่า
เป็ นไปไม่ได้ เมื่อกล่าวถึงเรื่ องนี้ เขาเองก็หายสาบสู ญไป
หลายปี แล้ว”
หัวใจของโจวเฉวียนเต้นกระหน่าโครมดังด้วยความตกใจ
นางไม่คิดว่าเยวี่ยเมิ่งลี่จะใจเด็ดกล้ากล่าวเช่นนี้ออกมา
ตรงๆ นางรี บหันไปกล่าวด้วยรอยยิม้ อ่อนทันทีวา่
“ลี่เอ๋ อ เจ้าเข้าใจป้าคนนี้ผิดไปแล้ว ตัวข้าหวังเสมอว่าสัก
วันอาการป่ วยของเจ้าจะต้องดีข้ นึ แต่ที่ขา้ กล่าวประเมิน
ก่อนหน้า ล้วนยึดหลักความเป็ นจริ งเท่านั้น ในระยะหก
ถึงเจ็ดปี มานี้ ต่อให้เย่หยวนมีพรสวรรค์มากมายเพียงใด
แต่มนั ก็ควรมีขีดจากัดใช่หรื อไม่? แล้วการที่ป้าคนนี้
คาดคะเนว่า อีกฝ่ ายยังขึ้นไม่ถึงอาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้า
มันผิดพลาดอย่างไร?”
ไม่มีใครทราบว่าเยวี่ยเมิ่งลี่กลับมาที่นี่เนิ นนานตั้งแต่
เมื่อใด ใบหน้านี้ห่างเหิ นมานานกี่ปีแล้ว
ร่ างบางสวยพุ่งพุ่งเข้าโอบเอวเย่หยวนอย่างไม่คิดชีวิต
ทันที!
สรรพสิ่ งอื่นใดล้วนไม่สาคัญอีกต่อไป!
เย่หยวนกล่าวปลอบเบาๆ
“อะแฮ่ม อะแฮ่ม…”
เบื้องหลังเย่หยวน เสี ยงไอแห้งส่ งลอดผ่านออกมา
เยวี่ยเมิ่งลี่ตกใจจนผงะออกจากอ้อมกอดเย่หยวน และจับ
จ้องบุคคลด้านหลังอย่างไม่เป็ นมิตร
ทว่าเมื่อเขาพลันนึ กถึงจอมราชันย์วิญญาณสัประยุทธ์
เบื้องลึกในใจเขากลับสั่นกลัวอย่างห้ามไม่อยู่
ในเวลานี้ โจวหยานเองก็ตระหนักได้ถึงอาณาจักรพลัง
ของเย่หยวนได้แล้วเช่นกัน เรี ยกได้วา่ แทบไม่อยากเชื่อ
เนตรตัวเอง
ตลอดที่ผา่ นมาสองปี ตระกูลโจวมักคาดเดาอยูเ่ สมอว่า เย่
หยวนน่าจะเป็ นบุตรบุญธรรมของจอมราชันย์วิญญาณ
สัประยุทธ์ แต่น้ นั เป็ นเพียงข้อสันนิฐานเท่านั้น อย่างไรก็
ตาม เมื่อเห็นระดับความเร็ วการบ่มเพาะของเย่หยวน
ในตอนนี้ ….หรื อนี่จะเป็ นเรื่ องจริ ง?!
กาลเวลาไหลผ่านไปเพียงหกถึงเจ็ดปี แต่เย่หยวนกลับ
สามารถทะลวงสามอาณาจักรพลังหลักได้ในอึดใจเดียว!
สิ่ งเหล่านี้ได้สร้างแรงกดดันให้แก่โจวหยานอย่างใหญ่
หลวง
ใครจะคิดว่าเศษสวะแดนล่างจะเป็ นบุตรบุญธรรมของ
บุคคลอันทรงอานาจในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ? แถมมันก็ยงั
บ่มเพาะพลังได้รวดเร็ วถึงปานนี้?
“เย่หยวน ข้า…”
เยวี่ยเมิ่งลี่เงยศีรษะจับจ้องเย่หยวนด้วยท่าทีค่อนข้างขวย
เขินเจือละอาย ที่นางลัน่ วาจาจัดงานประลองจันทร์ฉายก็
เพื่อถ่วงเวลาเท่านั้น และนางไม่คิดไม่ฝันเลยว่า เย่หยวน
จะปรากฏตัวขึ้นในเวลานี้ จริ งๆ
เย่หยวนโบกมือปัดและกล่าวว่า
สี หน้าของเยวี่ยเจี้ยนฉิ วมืดลงเล็กน้อยและกล่าวอย่างเยือก
เย็นว่า
“เจ้าเองก็ควรทราบดี…เย่หยวนย่อมมีสิทธิ์พิเศษเช่นนี้!”
เมื่อได้ยนิ คากล่าวเจือนัยแฝง โจวหยานพลันนึ กถึงจอม
ราชันย์วิญญาณสัประยุทธ์อีกครา หรื อเป็ นไปได้ไหมว่า
เรื่ องที่เย่หยวนเป็ นลูกบุญธรรมจะเป็ นความจริ ง?!
เย่หยวนกล่าวขึ้นโดยไม่แยแสใดๆ
“เจ้า? เจ้ามาที่นี่เพื่อรักษาอาการป่ วยของลี่เอ๋ อจริ งๆ?
ตามที่ขา้ ทราบ หากต้องการรักษาอาการของลี่เอ๋ อให้
หายขาด จาต้องหลอมกลัน่ โอสถนามว่า โอสถจิตพิรุณ
ค้างฟ้า จริ งไหม? แต่โอสถชนิดนี้ แม้แต่จกั รพรรดิโอสถ
ที่ขา้ เชิญมายังไม่สามารถหลอมกลั้นได้ แล้วเจ้าที่อยูแ่ ค่
อาณาจักรวิชชาสวรรค์ฟ้า จะสามารถหลอมโอสถจิต
พิรุณค้างฟ้าได้อย่างไร?”
พลังปราณธรรมชาติอย่างสวรรค์และปฐพีโดยรอบพุ่ง
ทะลักออกมาไม่หยุด ท้องนภาไพศาลอันสดใสอันตธาน
สิ้ น พร้อมแทนที่ดว้ ยกลุ่มเมฆาสี ทมิฬนับไม่ถว้ น สาย
อัสนีคลัง่ วาดผ่านหลายสิ บร้อย เสี ยงกัมปนาทกู่ลนั่ แซ่
ซ้อง ทันใดนั้น พลันปรากฏทัณฑ์สวรรค์สีขาวม่วงโฉบ
แลบไปมาอย่างรวดเร็ ว
ทัณฑ์ฟ้าสองสี !
เย่หยวนกาลังเข้ารับการทดสอบของสรวงสวรรค์!
แต่เย่หยวนกลับเลือกที่จะเข้ารับการทดสอบของสรวง
สวรรค์ต่อหน้าทุกคน!
ฉะนั้นแล้ว ต่อหน้าการทดสอบของสรวงสวรรค์ในคราว
นี้ เขาไม่จาเป็ นต้องกังวลใดๆเลย!
เมื่อเห็นฉากนี้ สี หน้าการแสดงออกของโจวหยานบิด
เบี้ยวด้วยความน่าเกลียดยิง่
เขาคิดว่าการที่ทะลวงขึ้นสู่ อาณาจักรเต๋ าลึกล้ าได้สาเร็ จ
นั้นเพียงพอแล้วที่จะสลัดเย่หยวนออกไปตลอดกาล แต่
เมื่อมองดูตอนนี้ มันกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด!
การพัฒนาของเย่หยวน ทาให้อาณาจักรพลังหลักต่างๆดู
ไร้ค่าไปเลย!
เป็ นเรื่ องจริ งที่วา่ หากปราศจากความแข็งแกร่ ง จะมีใคร
กล้าลุกขึ้นสู ้กบั การทดสอบของสรวงสวรรค์?
แม้วา่ สี หน้าพื้นผิวของเยวี่ยเจี้ยนฉิ วยังคงสงบนิ่ง แต่เบื้อง
ลึกภายในใจกลับตกตะลึงไม่น้อยเช่นกัน
ที่ผา่ นมาเขาเคยได้ยนิ แต่เกียรติศกั ดิ์วีรกรรมต่างๆของเจ้า
หนุ่มคนนี้ และความประทับใจแรกที่มีต่อเย่หยวนก็ไม่
ค่อยดีนกั ใครจะรู ้วา่ เจ้าหนุ่มคนนี้อาจหลอกใช้ลูกสาว
ของเขาก็เป็ นได้ หากไม่เห็นแก่หน้าจอมราชันย์วิญญาณ
สัประยุทธ์ ตระกูลเยวี่ยเองคงฆ่าเย่หยวนทิง้ ไปนานแล้ว
สี หน้าการแสดงออกของโจวหยานเปลี่ยนไปทันที ก่อน
หัวเราะเยาะดังขึ้นและกล่าวว่า
“แค่อาณาจักรไร้เทียมทานขั้นต้น จะมีปัญญาหลอมโอสถ
จิตพิรุณค้างฟ้าได้อย่างไร? กระทั้งจักรพรรดิโอสถยัง
ล้มเหลว แล้วแกนับเป็ นอันใด?”
ความยากลาบากในการหลอมกลัน่ โอสถจิตพิรุณค้างฟ้า
ได้แพร่ สะพัดออกเป็ นวงกว้างอย่างรวดเร็ วในช่วงหกถึง
เจ็ดปี ที่ผา่ นมา
แม้แต่จกั รพรรดิโอสถบางรายที่มีพลังเทียบเคียงเฉวียนซิ่ง
ซี เขายังต้องเสี ยศูนย์ไปเช่นกันเมื่อต้องหลอมโอสถระดับ
แปดที่น่าตายชนิดนี้
กล่าวได้วา่ ไม่มีใครเลยที่สามารหลอมกลั้นมันได้สาเร็ จ
เย่หยวนยังคงสงบเยือกเย็นยิง่ เขาเอ่ยปากกล่าวขึ้นอย่าง
เมินเฉยว่า
“ต่อหน้าข้าผูน้ ้ ี พวกนั้นเป็ นเพียงตัวตลก!”
เมื่อเห็นปฏิกิริยาท่าทางของทุกคนที่แปรเปลี่ยน โจว
เฉวียนยรู่ ก็ยงิ่ รู ้สึกพึงพอใจกับตนเองอย่างมาก นางสาด
สายตาใส่ เย่หยวนอย่างเย้ยหยันและกล่าวต่อเวยรอยยิม้
เย็นว่า
“เจ้าใช้สูตรโอสถปลอมและหลอกลี่เอ๋ อมาโดย
ตลอด! บางที อาการป่ วยของลี่เอ๋ ออาจมิได้ร้ายแรงขนาด
นี้ต้ งั แต่แรก แต่เจ้ากลับเลี้ยงไข้และใช้วิธีผิดๆจนทาให้
อาการหนักถึงขั้นนี้ คงใช้เคล็ดลับอะไรบางอย่างเพื่อให้
นางแย่ลงใช่ไหม? จากนั้นเจ้าก็แสร้งทามาช่วยเพื่อให้นาง
ทราบซึ้งในบุญคุณ และครองคู่กบั นาง? ช่างเป็ นแผนที่ต่า
ทรามสิ้ นดี! พวกขยะแดนล่างล้วนแต่เศษสวะกันทุกคน!”
สี หน้าการแสดงออกของสมาชิดตระกูลเยวี่ยเริ่ มน่าเกลียด
มากขึ้นเรื่ อยๆ โดยเฉพาะโจวหยานที่จอ้ งเข็งใส่ เย่หยวน
ด้วยความอาฆาตสุ ดใจ
วางแผนล่อลวงและให้ลี่เอ๋ อมนทุกข์ทรมานมาเกือบสิ บปี
ทั้งหมดเพียงเพื่อครองใจนางเท่านั้น เย่หยวนมันสมควร
ตายยิง่ แล้ว!
สี หน้าท่าทางของโจวดฉวียนยรู่ เปลี่ยนไปทันทีและ
ขณะที่จะเอ่ยปากสวน นางกลับได้ยนิ ลี่เอ๋ อกล่าวแทรกขึ้น
แทนว่า
“ข้าเชื่อใจในตัวเย่หยวน! หากยังมีใครสักคนที่สามารถ
รักษาข้าได้ ก็มิใช่ใครอีกนอกจากเย่หยวนแล้ว! เขาไม่ได้
หลอกลวงข้า! นอกจากนี้ ไม่วา่ ใครที่คว้าชัยอันดับหนึ่ง
ในงานประลองจันทร์ฉาย เขาผูน้ ้ นั จะต้องเข้าต่อสู ้กบั เย่
หยวนเป็ นปราการด่านสุ ดท้าย!”
คากล่าวอันเด็ดเดี่ยวของเยวี่ยเมิ่งลี่ เป็ นดัง่ การฟาดแส่
อย่างแรงลงบนหัวใจของโจวหยาน
ความไว้วางใจขนาดนี้ ชัว่ ชีวิตนี้เขาไม่เคยได้รับจากนาง
มาก่อน
“ลี่เอ๋ อ ทะ–ทาไมล่ะ?!”
โจวหยานโพลงกล่าวขึ้นพร้อมร่ ายกายที่สั่นเทา
ลี่เอ๋ อหันไปจับจ้องโจวหยานและกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า
“โจวหยาน หัวใจของข้า เจ้าไม่เคยเข้าใจเลยแม้สักนิด
ยอมแพ้ไปซะ!”
แน่นอนว่าไม่มีใครเคยเข้าใจหัวใจของเยวี่ยเมิ่งลี่มาก่อน
ในอดีตตั้งแต่วยั เยาว์ เยวี่ยเมิ่งลี่ได้พบสบตากับจี้ฉิงหยุน
และนั้นเป็ นดัง่ รักแรกพบของนาง ซึ่งหัวใจของนางถูกผูก
ติดไว้กบั เขาผูน้ ้ นั มาโดยตลอด
จนกระทั้งวันที่นางทราบข่าวการตายของจี้ฉิงหยุน หัวใจ
ของนางพลันแตกสลายกลายเป็ นเถ้าถ่าน และไม่เคยเปิ ด
ใจให้ใครอีกเลยตั้งแต่น้ นั
แต่สิ่งที่นางไม่คาดไม่ฝันถึงเลยก็คือ ในครานี่เยวี่ยเมิ่งลี่
เดินทางมายังแดนล่างเพื่อ ปลีกวิเวกตนเองออกจาก
ความเครี ยดทั้งมวลที่สั่งสม นางกลับวิ่งเข้าชนกับเด็ก
หนุ่มคนหนึ่ งนามเย่หยวนอย่างน่าอัศจรรย์!
และสิ่ งที่น่าแปลกใจที่สุดคือ ยิง่ ใช้เวลาร่ วมกันกับเย่
หยวนมากเท่าไหร่ ภาพของเขาคนนั้นก็ยงิ่ ซ้อนทับลงมา
จนแนบสนิท หัวใจที่เหี่ ยวเฉาของนางค่อยๆฟื้ นกลับคืน
ขึ้นอย่างช้าๆ
สาหรับเยวี่ยเมิ่งลี่ คงไม่มีสิ่งใดสวยงามไปกว่านี้อีกแล้ว!
อย่างไรก็ตามสิ่ งที่ทาให้เยวี่ยเมิ่งลี่ดีใจที่สุดคือ ไม่น่าเชื่อ
เลยว่า ประโยคดัง่ คาสารภาพภายในใจจะออกจากปากเย่
หยวนจริ งๆ
“ผูท้ ี่ได้ครองคู่กบั เจ้าควรจะเป็ นบุรุษผูแ้ ข็งแกร่ งที่สุด!”
และเย่หยวนก็แสดงตัวออกมาแล้วว่า ตนคือปราการด่าน
สุ ดท้าย
เป็ นไปได้ไหมว่า…ในที่สุดนางก็ได้รับการยอมรับจาก
เขาแล้ว?
ตอนที่937 ข้ าขอฟันฝ่ าไปพร้ อมท่ าน!
ทันใดนั้น ร่ างบางสวยของเยวี่ยเมิ่งลี่พลันสั่นเทาอย่างอด
ไม่อยู่ แววตาที่สะท้อนออกสั่นคลอนอย่างหนัก ภาพฉาก
เบื้องหน้าในขณะนี้ นางแทบไม่กล้าที่จะเชื่อ!
นางไม่คิดไม่ฝันเลยว่า จู่ๆเย่หยวนจะเอ่ยปากสารภาพกับ
นางอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้
ณ ครั้นที่อยูใ่ นดินแดนไร้สิ้นสุ ด เยวี่ยเมิ่งลี่เคยต้องการสื บ
หาความจริ งของเรื่ องนี้ แต่เย่หยวนกลับไม่ให้โอกาสใดๆ
แก่นางเลย
และหลังจากที่นางกลับถึงเมืองจันทร์ฉายอีกครั้ง เยวี่ยเมิ่ง
ลี่จึงค่อยๆใช้เวลาครุ่ นคิดทบทวนความรู ้สึกของตนแทน
เยวี่ยเมิ่งลี่สามารถกล่าวได้อย่างเต็มปากว่า นางตกหลุม
รักเย่หยวนเข้าแล้วจริ งๆ
แต่วนั นี้ เมื่อเย่หยวนเฉลยคาตอบที่นางสงสัยมาโดยตลอด
ออกมา นางกลับรู ้สึกหวาดกลัวแทน
ใช่แล้ว มันคือความหวาดกลัวจริ งๆ
ความคิดก่อนหน้าและหลังจากที่ทราบ มันช่างแตกต่าง
โดยสิ้ นเชิง
ท่านผูน้ ้ นั คือจักรพรรดิโอสถผูย้ นื อยูบ่ นจุดสุ ดยอดใน
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ท้ งั มวล แต่เย่หยวนที่นางเข้าใจในครา
แรก เป็ นเพียงเด็กหนุ่มจากแดนล่างธรรมดาทัว่ ไป
นี่นบั เป็ นความแตกต่างยิง่ กว่าสวรรค์และปฐพี แต่เรื่ อง
มหัศจรรย์เช่นนี้กลับเกิดขึ้นจริ งๆ!
เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิม้ บางๆว่า
“มิใช่วา่ เจ้าเองก็อยากรู ้มาโดยตลอดมิใช่รึ? ในเมื่อเจ้า
ต้องการจะทราบ ข้าย่อมบอกกล่าวอย่างเต็มใจ”
เยวี่ยเมิ่งลี่รู้สึกงุนงงอย่างยิง่ ยวด นางไม่คิดเลยว่าเหตุผล
มันจะง่ายๆเช่นนี้ ทว่าหลังคลื่นความประหลาดใจซัดผ่าน
กลับเป็ นความหวานละมุนที่โถมเข้าสู่ หวั ใจของเยวี่ยเมิ่งลี่
แทน
เรื่ องนี้นบั ว่ามีความสาคัญสู งสุ ด หากเรื่ องนี้รั่วไหล
ออกไป มันอาจกระทบไปถึงสถานการณ์โดยรวมของ
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในอนาคต
และสาหรับตัวเย่หยวนเองแล้ว นี่ถือเป็ นความลับที่
ยิง่ ใหญ่ที่สุดเช่นกัน เมื่อใดเรื่ องนี้ถูกแพร่ งพราย อาจเกิด
หายนะขั้นร้ายแรงถึงแก่ชีวิต
แต่เขาก็ยงั เต็มใจที่จะบอกนาง!
“แต่…แต่ในอดีต…”
เย่หยวนถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า
“ในอดีต หัวใจของข้ายังคงรวนเร แต่ตอนนี้ หัวใจของข้า
มัน่ คงได้คาตอบแล้ว”
ร่ างอันบอบบางของเยวี่ยเมิ่งลี่สั่นเทา ดวงตาคู่งามของ
นางยังคงสะท้อนความตื่นตะลึงออกมาไม่จางหาย
อ้อมแขนหนึ่ งเข้าสวมกอดร่ างบางของนาง พร้อมเข้า
กระชับแน่นในอ้อมอกและกล่าวขึ้นว่า
“ลี่เอ๋ อ เจ้าควรทราบไว้วา่ ตอนนี้ขา้ กาลังแบกรับหนี้
โลหิ ตอยู่ จนทาให้ตวั ข้า…หลงลืมบางสิ่ งอย่างไป ข้าไม่
เคยและไม่กล้าคิดถึงความรู ้สึกเหล่านั้นมาก่อน แต่เมื่อได้
สวมกอดเจ้าอีกครั้ง ข้า…ข้าไม่สามารถโกหกตัวเองได้อีก
แล้ว”
แม้เยวี่ยเมิ่งลี่มิได้กล่าวอันใดตอบ แต่เย่หยวนจะไม่รู้สึก
อะไรเลยได้อย่างไร? เห็นได้ชดั ว่า ตัวนางกาลังสั่นเทา
อย่างหนักภายในอ้อมกอดของเขา
เยวี่ยเมิ่งลี่พยักหน้าเล็กน้อยและเปลี่ยนคาเรี ยกว่า
“เย่หยวน ท่านกับจอมราชันย์เหมันต์…”
เย่หยวนเงียบไปชัว่ ครู่ ก่อนถอนหายใจและกล่าวว่า
“ข้ากับมู่หลิน…ทั้งหมดอาจเป็ นความไม่ต้ งั ใจ หาก
เปรี ยบกับเจ้าแล้ว ข้าย่อมห่วงใยเจ้ามากกว่า”
ทันทีที่สิ้นเสี ยง เย่หยวนพลางรู ้สึกได้ทนั ทีวา่ เยวี่ยเมิ่งลี่
กระชับกอดตนแน่นยิง่ กว่าเดิม
อีกช่วงเวลาแสนเงียบงันผ่านพ้น คราวนี้เย่หยวนเป็ นคน
เปิ ดปากกล่าวขึ้นก่อนว่า
“ลี่เอ๋ อ เจ้าควรท่านสถานการณ์ของข้าในปัจจุบนั ก่อน ใน
อนาคตอันใกล้น้ ี ข้าไม่อาจทราบได้เลยว่าตนกาลังเผชิญ
กับสิ่ งใดกันแน่ แต่ที่แน่ๆข้าคิดว่า จี้ฉางหลานมิใช่สิ่งที่น่า
กลัวที่สุด บางที…”
แต่ยงั ไม่ทนั ทีเย่หยวนจะพูดจบ กลับมีริมฝี ปากอันเนียน
นุ่มเข้าประกบบนริ มฝี ปากของเขาอย่างรวดเร็ ว นี่ทาให้เย่
หยวนเสี ยศูนย์ไปในทันที
…………………………
ห้าวันต่อมา ณ สนามฝึ กซ้อมวรยุทธตระกูลเยวี่ย ในขณะ
ต่างอัดแน่นไปด้วยฝูงชนมากมายหลายหน้า
ในเวลานี้ จากสนามฝึ กซ้อมได้กลายเป็ นห้องหลอมกลัน่
โอสถขนาดยักษ์ไปแล้ว
ตระกูลเยวี่ยเองก็เป็ นตระกูลนักหลอมโอสถโบราณ
เช่นกัน มีสมาชิกตระกูลเยวี่ยจานวนไม่นอ้ ยที่เป็ นนัก
หลอมโอสถ ดังนั้นสมาชิกตระกูลเยวี่ยที่เป็ นจักรพรรดิ
โอสถจึงมีไม่นอ้ ยเลยทีเดียว
ณ เวลานี้ กลางสนามฝึ กซ้อมวรยุทธมีเซียนจักรพรรดิ
โอสถมากถึงสามสิ บคนเห็นจะได้!
“เจ้าหนุ่มนั้นต้องการหลอมโอสถจิตพิรุณค้างฟ้า? แต่ดู
เหมือนว่าเขาเพิ่งก้าวขึ้นสู่ เซียนโอสถนิรันดร์เองมิใช่รึ?!”
“ท่านประมุขตระกูลตั้งขอสันนิษฐานไว้วา่ สู ตรโอสถจิต
พิรุณค้างฟ้าชนิดนี้อาจไม่ถูกต้องหรื อถูกดัดแปลงไม่
ผิดเพี้ยนไป ทว่าหากกล่าวตามตรง ชายชราผูน้ ้ ีเองก็พยาม
ยามหลอมกลัน่ โอสถชนิดนี้อยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่พบความ
ผิดปกติอนั ใด ถึงจะล้มเหลวก็ตาม”