You are on page 1of 100

Crq ped extern รวมเฉลยถึงรุน

่ แปดโรสอง
1.Iron def anemia describe slide invest diagnosis

Ans

WBC :-

Platelet : slightly increased

RBC morphology : hypochromic microcytic RBC 2+, anisocytosis few,

polychromasia few target cell few

invest :cbc ,pbs , serum iron ,ferritin ,tibc,

2.kawasaki invest
Ans

วินิจฉัย ไข้หา้ วันร่วมกับอาการสีใ่ นห้า lab cbc,esr,ua,echo


3.retropharyngeal abcess treatment pathogen describe film

 Ans Beta-hemolytic streptococcus (Streptococcuspyogenes).


 S aureus
 Peptostreptococcus species
 Haemophilusspecies

Treatment

Maintain air way

Iv atb cef 3 metro 14 day ถ้าไม่ดีอาจ i&D


Iv hydration , control pain

4.itp

Ans primary idiopathic acute มีตด


ิ ไวรัสมาก่อนหายขาดได้ ,chronic ไม่ป่วยมาก่อนหายยาก
Secondary sle ,hiv ,lymphoproliferative

้ กับปริมาณเกร็ดเลือด กลไกเกิดจาก ab to platelet


อาการ จุดจา้ เลือดขึน
Diagnosis

1 isolated thrombocytopenia

2.megacaryocyte เพิม

3.ตับไม่โต

4.r/o โรคอืน
่ sle ,hiv ,lymphoproliferative bone marrow diseased, drug ,alcohol

5.ab to platelet ซึงไม่จาเป็ นต้องทาครบ


Treatment

1.steroid 1mkd 2-3 wk

2.splenectomy

3.immune suppressive

Ref http://www.tsh.or.th/file_upload/files/v8%20n4%20357.pdf

5.temper tantrum

Ans การร้องอาละวาด (Temper tantrums)

พญ.วรวรรณ จงสง่าวิทยาเลิศ

การร ้องอาละวาด หมายถึง พฤติกรรมแสดงความไม่พอใจ เชน ่ การกรีดร ้อง ตะโกน


กระทืบเท ้า นอนดิน
้ กับพืน
้ ฟาดแขนขา จนถึงทาร ้ายตนเองหรือผู ้อืน

่ ระบายความโกรธหรือความคับข ้องใจ ซงึ่ เป็ นอารมณ์ทค
เพือ ี่ วบคุมได ้ยากในเด็กเล็ก

ระบาดวิทยา

การร ้องอาละวาดเป็ นพัฒนาการปกติทเี่ ด็กกาลังเรียนรู ้การควบคุมตนเอง


่ พบได ้ตัง้ แต่อายุ 12 ถึง 18 เดือน พบบ่อยในชว่ งอายุ 2 ถึง 3 ปี พบร ้อยละ 50-80
เริม
มีการร ้องอาละวาดอย่างน ้อยสป ั ดาห์ละครัง้ ในชว่ งวัยนี้ และจะค่อยๆลดลงจนหายไปเมือ ่ อายุ 4
ปี การร ้องอาละวาดรุนแรงพบประมาณร ้อยละ 5 มักพบในเด็กทีอ ่ ยูใ่ นครอบครัวทีม
่ เี ศรษฐานะตา่

อาการ

มักเริม
่ จากความโกรธ ไม่พอใจ ตามมาด ้วยการร ้องไห ้รุนแรง ล ้มตัวนอนกับพืน ้
ฟาดแขนขาไปมา อาจทาร ้ายตนเองหรือคนอืน ่ บางคนร ้องมากจนเกิดการร ้องกลัน
้ (breath
holding spell) สว่ นใหญ่การร ้องอาละวาดใชเวลาไม่
้ เกิน 5 นาที
เนือ ่ งจากการร ้องอาละวาดอาจเป็ นพัฒนาการปกติตามวัยหรือเป็ นการร ้องอาละวาดทีเ่ ป็ นปั ญหา
ผู ้ปกครองควรทราบลักษณะของการอาละวาดทีเ่ ป็ นปั ญหา

การร้องอาละวาดทีเ่ ป็นปัญหา

1. พ่อแม่คด ิ ว่าเป็ นปั ญหา หรือเกิดขึน


้ บ่อยทีโ่ รงเรียน
2. ร ้องตัง้ แต่ 3 ครัง้ ขึน
้ ไปต่อวัน แต่ละครัง้ ร ้องนานเกิน 15 นาที
3. มีปัญหาพฤติกรรมอืน ่ ๆร่วมด ้วย เชน่ ปั ญหาการนอน ปั ญหาการเรียน
ปั ญหาความสม ั พันธ์กับเพือ
่ น
4. มีการทาลายข ้าวของ ทาร ้ายตนเอง ทาร ้ายผู ้อืน ่ ร่วมด ้วย
ปัจจ ัยทีส ั ันธ์ก ับการร้องอาละวาด
่ มพ

1. โรคหรือการเจ็บป่ วยทางกาย

่ ภูมแ
ปั ญหาโรคต่างๆเชน ิ พ ้ ภาวะติดเชอ ื้ ทีท่ างเดินหายใจ หูอักเสบ
โรงระบบทางเดินอาหาร การนอนไม่พอจากปั ญหาการนอนกรม
การเข ้ารักษาตัวในโรงพยาบาลย่อยๆสง่ ผลให ้เด็กรู ้สก ึ ไม่สบาย เหนือ
่ ยหรือง่วง
การได ้รับยาบางชนิด เชน่ ยากันชก
ั ยาภูมแ ิ พ ้ เป็ นต ้น
อาจทาให ้เด็กง่วงนอนและร ้องอาละวาดได ้บ่อย

2. โรคหรือปั ญหาทางพัฒนาการหรือพฤติกรรม

ตามพัฒนาการปกติของเด็กอายุ 2-3 ขวบ จะมีความรู ้สก ึ อยากเป็ นตัวของตัวเอง


(Autonomy) ยังเด็กวัยนีย ้ ังไม่สามารถแสดงความต ้องการของตนเองได ้ดีนัก
ดังนัน้ เมือ
่ เด็กเกิดความคับข ้องใจก็จะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได ้
สว่ นในเด็กทีม
่ ภี าวะบกพร่องทางพัฒนาการ เชน ่ ภาวะออทิสติก สติปัญญาบกพร่อง
ซน สมาธิสน ั ้ ปั ญหาทางสายตาหรือการได ้ยินทีไ่ ม่ได ้รับการวินจิ ฉั ย พัฒนาการทางภาษาล่าชา้
ซงึ่ ปั ญหาเหล่านีจ ้ ะทาให ้เด็กมีความเสยี่ งต่อการร ้องอาละวาดมากขึน ้

3. พืน
้ อารมณ์

เด็กทีม ่ พ
ี น
ื้ อารมณ์แบบเลีย ้ งยาก (Difficult temperament) คือ มีจังหวะการนอน
การกิน หรือการขับถ่ายไม่เป็ นเวลา ปรับตัวต่อการเปลีย ่ นแปลงยาก อารมณ์หงุดหงิดง่าย
มีความอดทนตา่ ความรู ้สก ึ ไวต่อสงิ่ เร ้าวงจรการนอนและความหิวไม่สมา่ เสมอ
ทาให ้มีความเสย ี่ งต่อการร ้องอาละวาด
หากผู ้ปกครองตอบสนองต่อความต ้องการไม่เหมาะสมก็จะยิง่ กระตุ ้นให ้เด็กมีพฤติกรรมทีไ่ ม่เหม
าะสมมากขึน ้

4. การเลีย
้ งดู

การเลีย
้ งดูแบบตามใจมากหรือเข ้มงวดมากเกินไป
พ่อแม่มอ ี ารมณ์ทางลบอย่างรุนแรงต่อเด็ก ควบคุมอารมณ์ตนเองได ้ไม่ด ี ใชวิ้ ธล ี งโทษทีร่ น
ุ แรง
การมีข ้อจากัดแบบไม่สมา่ เสมอ หรือพ่อแม่ทเี่ ป็ นโรคซมึ เศร ้า ใชสารเสพติ
้ ด
จะทาให ้เด็กหงุดหงิดไม่พอใจได ้ง่าย เด็กเรียนรู ้การควบคุมอารมณ์ทไี่ ม่เหมาะสมจากพ่อแม่
นาไปสูก ่ ารแสดงพฤติกรรมทีไ่ ม่เหมาะสมในตัวเด็กและปั ญหาความสม ั พันธ์ในครอบครัวได ้

่ ยเหลือ
การชว

การให ้ความรู ้กับพ่อแม่เป็ นสงิ่ สาคัญ


ควรอธิบายให ้พ่อแม่เข ้าใจว่าการร ้องอาละวาดเป็ นพฤติกรรมทีป ่ กติของเด็กวัยนี้
และจะหายไปหากได ้รับการชว่ ยเหลืออย่างเหมาะสม
หากมีปัจจัยทีท
่ าให ้เกิดการร ้องอาละวาดควรแก ้ไข เชน ่ เด็กพูดชาควรส
้ ง่ ฝึ กพูด
มีภาวะหรือโรคทางกาย ก็ควรรักษาภาวะเหล่านัน ้ เป็ นต ้น
การป้องก ันการร้องอาละวาด การแก้ไขขณะเกิดการร้องอาละวาด

• กาหนดขอบเขตของสงิ่ ทีท ่ าได ้หรือทาไม่ได ้ให ้ชด ั เจน เหมาะสมกับอายุของเด็ก


และต ้องปฏิบัตต ิ ามข ้อกาหนดนัน ้ อย่างสมา่ เสมอ
• จัดกิจวัตรประจาวันให ้เป็ นเวลา โดยเฉพาะการกินและการนอน
• การให ้เด็กเลิกกิจกรรมทีเ่ ด็กสนใจ เชน ่ ให ้เลิกเล่น อาจกระตุ ้นให ้เด็กไม่พอใจ
ควรเตือนเด็กล่วงหน ้าก่อนจะให ้เด็กเลิกกิจกรรมนัน ้
• หลีกเลีย ่ งสงิ่ ทีท ่ าให ้เด็กหงุดหงิดหากเป็ นสงิ่ ทีไ่ ม่จาเป็ น
เชน่ การทากิจกรรมทีเ่ กินตามสามารถตามวัยของเด็ก
หากเด็กเริม ่ หงุดหงิดพยายามเบีย ่ งเบนเด็กให ้สนใจอย่างอืน ่ แทน
• สอนเด็กให ้ใชค้ าพูดแสดงความรู ้สก ึ หรือความต ้องการแทนการแสดงออกทางกาย
• เปิ ดโอกาสให ้เด็กได ้เลือกบ ้าง และตัวเลือกนัน ้ พ่อแม่ต ้องยอมรับได ้
• พ่อแม่หรือผู ้เลีย ้ งดูความเป็ นตัวอย่างทีด ่ ข ี องการควบคุมอารมณ์
ไม่ตอ ่ ว่าเด็กด ้วยอารมณ์หรือลงโทษด ้วยวิธท ี รี่ น
ุ แรง
• ควรให ้ความสนใจทางบวกแก่เด็กอย่างสมา่ เสมอ เชน ่ ชมเชยหากเด็กมีพฤติกรรมทีด ่ ี
เพือ่ ให ้เด็กมีแรงจูงใจทีจ ่ ะทาพฤติกรรมทีด ่ ม ี ากขึน ้ •
พ่อแม่หรือผู ้เลีย ้ งดูควรนิง่ สงบไม่ควรตะโกนหรือแสดงอาการโกรธให ้เด็กเห็น
จะยิง่ ทาให ้การร ้องอาละวาดเป็ นมากขึน ้
• อาจใชวิ้ ธเี บีย ่ งเบนความสนใจในชว่ งแรกโดยเฉพาะเด็กเล็ก หากไม่ได ้ผลควรวางเฉย
อาจยืนอยูห ่ า่ งๆโดยไม่ต ้องพูดหรือสนใจจนกว่าเด็กจะสงบลง
• ในเด็กโตควรแยกให ้เด็กอยูค ่ นเดียว (time-out)
และเก็บสงิ่ ของทีอ ่ าจเป็ นอันตรายให ้พ ้นมือเด็ก
• หากเด็กทาร ้ายตนเอง ผู ้อืน ่ หรือข ้าวของให ้จับเด็กออกมาจากบริเวณนัน ้
กาดหรือจับมือเด็กไว ้จนกว่าเด็กจะสงบ
• เมือ่ เด็กสงบแล ้วให ้เข ้าไปคุยกับเด็กตามปกติ หากเป็ นเด็กโต
อาจพูดคุยถึงสงิ่ เกิดขึน ้ และวิธก ี ารแก ้ไขต่อไป
• หากเด็กร ้องเพราะไม่ต ้องการทากิจกรรมบางอย่าง เชน ่ ไม่อยากเข ้านอน
ควรยืนยันในสงิ่ ทีเ่ ด็กต ้องทาแม ้ว่าเด็กกาลังร ้องอาละวาดอยู่
เพราะหากยืดเวลาออกไปจะทาให ้เด็กใชพฤติ ้ กรรมนีท ้ ก ึ คับข ้องใจ
ุ ครัง้ ทีร่ ู ้สก
• ไม่ควรลงโทษรุนแรงเมือ ่ เด็กร ้องอาละวาด เพราะจะทาให ้เด็กโกรธและหงุดหงิดมากขึน ้

จากทีก ่ ล่าวมาจะพบว่าการร ้องอาละวาดเป็ นสว่ นหนึง่ ของพัฒนาการปกติ


้ งดูควรมีความรู ้ความเข ้าใจในการสังเกตลักษณะการร ้องอาละวาดทีเ่ ป็ นปั ญหา
พ่อแม่และผู ้เลีย
ตลอดจนวิธก ี ารทีเ่ หมาะสมในการป้ องกันและแก ้ไขขณะทีเ่ ด็กอาละวาด
หากเด็กได ้รับการชว่ ยเหลือทีเ่ หมาะสมการร ้องอาละวาดจะดีขน ึ้ จนค่อยๆหายไปได ้

6.sle
Ans ใช้เกณฑ์การวินิจฉัย

รักษา
ให้ความรูเ้ ลีย่ งแสงแดดทาครีมกันแดด ใส่เสือ
้ มิดขิด ดูแลการตัง้ ครรภ์
ดูแลตามความรุนแรงกับอาการ
7. งูเห่า
Ans naja cobra

8.uti

Ans

1. พิจารณาตรวจหาโรคติดเชือทางเดิ ่ ไปนี ้
นปัสสาวะ ในกรณี ตอ
่ งชีถงึ โรคติดเชือทางเดิ
1.1 ผูป้ ่ วยมีอาการทีบ่ ้ นปัสสาวะ ได ้แก่

1.1.1 ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะลาบาก ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่สุด กลั


้้นปัสสาวะไม่ได ้ ร ้ อง

เวลาปัสสาวะ ปัสสาวะรดทีนอนที ่
มาเป็ นภายหลัง (secondary enuresis)

ปัสสาวะมีกลิน

หรือสีผด
ิ ปกติ เช่น ขุ่น มีตะกอน มีเลือดปน โดยผูป้ ่
วยอาจมีไข ้หรือไม่มไี ข ้ร่วมด ้วย

ก็ได ้7
่ เวณท ้อง ท ้องน้อย หลังหรือบั ้้นเอว
1.1.2 อาการปวดหรือกดเจ็บทีบริ
(evidence quality: X;

แนะน าให ้ปฏิบต


ั )ิ
่ ไข ้สูงไม่ทราบสาเหตุ(fever without localizing sign)
1.2 ผป้ ่ วยทีมี
โดยเฉพาะรายทีมี ่ อายุ

ต ้่ากว่า 2 ปี 6

(evidence quality: A; แนะนาให ้ปฏิบต


ั )ิ
่ี
โรคติดเชื ้้อทางเดินปัสสาวะเป็ นสาเหตุทพบบ่ ่ ไข ้สูง
อยในผูป้ ่ วยเด็กเล็กทีมี
โดยผูป้ ่ วยบาง

รายอาจไม่มอ ี าการหรืออาการแสดงอืน่ แพทย ์จึงควรนึ กถึงโรคนี


่ ไข ้ไม่
้้ด ้วยเสมอในเด็กเล็ กทีมี

ทราบสาเหตุ เพือการตรวจวิ
นิจฉัยและใหก้ ารร ักษาอย่างรวดเร็ว

2. การตรวจวินิจฉัยโรคติดเชือทางเดิ
นปัสสาวะ

2.1 การตรวจปัสสาวะ (urinalysis) เป็ นการตรวจเบื ้้องต ้น


โดยใช ้แถบตรวจ (dipstick) ร่วมกับการ

ตรวจโดยกล ้องจุลทรรศน์(microscopic exam) เป็


่ ยว่าอาจมี
นการตรวจคัดกรองในผูป้ ่ วยทีสงสั

โรคติดเชื ้้อทางเดินปัสสาวะ
2.1.1 การตรวจ leukocyte esterase และ nitrite โดยแถบ dipstick
ถือว่าผิดปกติหากใหผ
้ ลบวก

2.1.2 การตรวจนับเม็ดเลือดขาว ถือว่าผิดปกติหากเม็ดเลือดขาวมากกว่า 5


เซลล ์/high

power field (pyuria)


่ งเก็
2.1.3 การย ้อมแกรมปัสสาวะ (ใช ้ปัสสาวะทีเพิ ่ บใหม่ ย ้อม Gram’s stain
โดยไม่ป่ ัน) ถือว่า

ผิดปกติหากพบเชื ้้อแบคทีเรียมากกว่าหรือเท่ากับ 1 ตัว/oil power field

การตรวจเบื ้้องต ้นเป็ นการตรวจคัดกรอง


โดยหากพบความผิดปกติเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ ง อาจมี

โอกาสวินิจฉัยผิดพลาดได ้สูง แต่หากพบความผิดปกติต ั ้้งแต่ 2 อย่างขึ


้้นไป จะท าใหก้ ารวินิจฉัยแม่นย า

ขึ ้้น

http://www.thaipediatrics.org/Media/media-
20161208143440.pdf

Diagnosis
 Urine tests
 Imaging of the urinary tract
 Sometimes blood tests

Urine tests
Ua,urine culture

Imaging tests
Therefore, boys of all ages and girls younger than 3 years who develop even a single UTI usually
need further tests to look for structural abnormalities of the urinary system. Older girls who have
had recurring UTIs also need these tests.

The tests include

 Ultrasonography of the kidneys and bladder


 Possibly voiding cystourethrography (VCUG)
 Sometimes radionuclide cystography (RNC) or radionuclide kidney scans

Ultrasonography is done to identify abnormalities and blockages of the kidneys and bladder.

Voiding cystourethrography (VCUG) may be done to further identify abnormalities of the


kidneys, ureters, and bladder and can identify when the flow of urine is partially reversed
(reflux). For voiding cystourethrography, a catheter is passed through the urethra into the
bladder, a dye is instilled through the catheter, and x-rays are taken before and after the child
urinates. Voiding cystourethrography may be done if ultrasonography is abnormal or if children
have repeated UTIs.

Radionuclide cystography is similar to voiding cystourethrography except that a radioactive


agent is placed in the bladder and images are taken using a nuclear scanner. This procedure
exposes the child's ovaries or testes to less radiation than voiding cystourethrography. However,
radionuclide cystography is much more useful for monitoring the healing of reflux than for
diagnosing it, because the structures are not outlined as well as in voiding cystourethrography.

Treatment
 Antibiotics 7-14 days
 Sometimes surgery

9.hf

Ans
10.paraoverdose
Ans
11.umbilical granular
Ans An umbilical granuloma is one of the most common umbilical abnormalities in newborns. The
granuloma looks like a ball of moist, red tissue on the bellybutton.

Causes

The medical community is uncertain what causes umbilical granulomas.

Treatment

surgical thread.

Surgical thread may be used to cut off the blood supply to the granuloma so that it falls off by itself.

A doctor may suggest watching and waiting to see if a granuloma goes away without treatment.
They examine it at regular checkups and make sure that it is healing.

If the granuloma does not go away over time, the following options are available:

Silver nitrate: Applying this topical solution can cause a granuloma to dry out, shrink, and disappear.
This may require several visits. Silver nitrate is the most common treatment in newborns.

Home care

Follow a doctor's instructions when caring for an infant with a granuloma.

Some instructions may include:

-Changing diapers frequently. Keeping the diaper area clean and free of moisture will promote
healing and help to prevent infection.

-Positioning the diaper below the bellybutton. Roll the top of the diaper down at the front, so that it
sits under the navel. This will help to keep the area clean.

-Giving the baby sponge baths. A baby's skin is more likely to dry following sponge baths, rather than
soaks in the tub. When the navel area is dry, a granuloma is likely to heal more quickly.

12.intussusception

Ans Intussusception is the most common cause of intestinal obstruction in children younger than 3.
The cause of most cases of intussusception in children is unknown.

Symptoms

Children

Abdominal pain ,mucus bloody stool ,vomiting , A lump in the abdomen


Diagnosis
He or she may be able to feel a sausage-shaped lump in the abdomen. To confirm
the diagnosis, your doctor may order:

 Ultrasound or other abdominal imaging. An ultrasound, X-ray or


computerized tomography (CT) scan may reveal intestinal obstruction caused
by intussusception. Imaging will typically show a "bull's-eye," representing the
intestine coiled within the intestine. Abdominal imaging also can show if the
intestine has been torn (perforated).

 Air or barium enema. An air or barium enema is basically enhanced imaging


of the colon. During the procedure, the doctor will insert air or liquid barium into
the colon through the rectum.

In addition, an air or barium enema can actually fix intussusception 90 percent


of the time in children, and no further treatment is needed. A barium enema
can't be used if the intestine is torn.

Treatment
Iv ,ng, barium or air enema ,may be Surgery.

13.child abuse
Ans

http://www.errama.com/system/spaw2/uploads/files/child%20abuse.pdf

14.anaphylaxis

Ans
-HSP diag invest tx

เอา2/4

1.palpable purpura

2.อายุนอ้ ยกว่า20

3.bowel angina

4.wall granulocyte on bios


Invest

CBC UA BUN,Cr ESP CRP

Biopsy

TX

Supportive + การให้ steroid

-Myelomeningocele

Tx. Sx

Complication อาจเกิด hydrocephalus ได ้

-Vitc def

อาการงอขาไม่ยอมเดิน


กินนมแม่และนมถัวเหลื
องไม่กน
ิ ผัก

PE พบ Bleeding per gum

่ี รสเปรียส
Tx. Advice ให ้กินผัก ผลไม้ทมี ้ เช่นส ้ม

-หมากัด treatment

1.ล ้างแผล

2.ให้ ATB
2.1 ในกรณี ทได ่ี ้ร ับวัคซีนเข็มสุดท ้ายมาน้อยกว่า 6 เดือน
ให ้ฉี ดเข็มกระตุ ้นโดยฉี ดวัคซีนเข ้า กล ้ามเน้ือต ้นแขน (IM) 1
เข็ม หรือฉี ดวัคซีนเข ้าในหนังบริเวณต ้นแขน (ID) 0.1 มล.1
จุด วันที่ 0

ี่ ้ร ับวัคซีนเข็มสุดท ้ายมานานกว่า 6 เดือน


2.2 ในกรณี ทได
(โดยไม่ค�านึ งว่าผูป้ ่ วย ได ้ร ับมานาน เท่าใดก็ตาม)
ให ้ฉี ดเข็มกระตุ ้นโดย

- ฉ ดี ว คั ซ นี เ ข า้้ ก ล า้้ ม เ น อ ้ ้ื ต น้ แ ข น ( I M ) 1
เ ข ม็ ว นั ท ้ี ้่ 0 แ ล ะ 3 ห ร อื ฉ ดี ว คั ซ นี เ ข า้้ ใ น ห
น งั บ ร เ้ิ ว ณ ต ้นแขน (ID) 0.1 มล. 1 จุด วันท่ี 0 และ 3
-
ฉี ดวัคซีนเข ้าในหนังบริเวณต ้นแขนและต ้นขาหรือสะบักหลัง(I
D)0.1มล.4จุดวันที0่ (ต ้นแขน 2 ข ้าง
และด ้านหน้าต ้นขาหรือสะบักหลัง 2 ข ้าง)
2.3
ี่ ป้ ่ วยมีการสัมผัสโรคพิษสุนัขบ ้าอีกในขณะทีก�าลั
ในกรณี ทผู ่ ง
ได ้ร ับการฉี ด rabies post- exposure prophylaxis
อยู่ไม่จ�าเป็ นต ้องได ้ร ับการฉี ดเข็มกระตุ ้นเพราะพบว่าขณะนั้
นผูป้ ่ วยมีภม
ู ค
ิ ุ ้มกันเพียง พอในการป้ องกันโรคอยูแ่ ล ้ว
้ ้อะไร นัดต่อไปตอนไหน
-vaccine 18 เดือนเคยได ้อะไรมาแล ้วบ ้าง ตอนนี ให

ได ้ BCG Hb Dtp OPV ครบ3ครงั้ MMR1 JE1 JE2

้ ้ DTP OPV กระตุ ้นครงที


ตอนนี ให ้ั 1่

นัดต่อไปฉี ด JE3

-Hemophilia Ddx เปอเซนต ์การถ่ายทอด

• von Willebrand disease (autosomal


dominant transmission)

• Platelet disorders (eg, Glanzmann


thrombasthenia)

• Deficiency of other coagulation factors (ie,


factor II, V, VII, X, or XI; or fibrinogen)

การถ่ายทอดก็ไปคานวนเองมันเป็ น X-link recssive


-IE ส่งไร
CBC BUN
C3 C4
H/C
Echocardiogram

-AR บอกอาการมา4 ข ้อ

จาม

คันจมูก
้ กใส
นามู

ขอบตาคลา้

Tx.
1.Allergen avoidance
2.Antihistamine
3.Intranasal steroid
4.Leukotriene receptor antagonist
-Complicated pleural effusion Tx เชือ้

-Tx ICD ละก็ Supportive +ATB ตามเชือ้

เชือ้ common ก็พวก s.pneumoniae a.aureus


S.group A. mycoplasma

-Nephrotic Tx

Prednisolone 2MKD max60mg po 3-4 นาน3-


4week
้ั ดกัน3วัน
หรือจนกว่า urine protein neg 3 ครงติ
จากนั้นลดยาเป็ น single dose alternate day และ
tape off หมดใน4-6เดือน

Supportive

จากัดกลือ

จากัดนา้

ถ ้ามีความดันสูงให ้ยาลดความดัน

ถ่ายเป็ นเลือด DDx


2.1 Colon / rectum - diverticulosis, cancer, AVM, colitis, ulcer,
Hemorrhoids
2.2 Anus – anal fissure

2.3 R/O massive UGIB ทุกครง้ั

Lab

Stool exam

Stool occult blood

UA

NG OG ดู

ADHD แนะนา

1.

จัดสิงแวดล ้อมในบ ้านและก�าหนดกิจวัตรประจ�าวันให ้เป็ นระเบี
ยบแบบแผน

2.

จัดหาบริเวณทีสงบและไม่ มส ิ่
ี งรบกวนสมาธิ
ส�าหร ับให ้เด็กท�าก
ารบ ้าน

3.

แบ่งงานทีมากให ้เด็กท�าทีละน้อยและคอยก�ากับใหท้ �าจนเสร็

4.

ควรพูดหรือสังงานในขณะที ่ กพร ้อมทีจะฟั
เด็ ่ งเช่นอาจรอจังหวะทีเ่

หมาะหรือบอกใหเ้ ด็กตังใจฟั ง

5.
ิ ต
บอกเด็กล่วงหน้าถึงส่งที ่ ้องการให ้ปฏิบต ่
ั แิ ละชืนชมทั ื กท
นทีเม่อเด็
�าได ้หากเด็กยังท�าไม่ได ้อาจวางเฉยโดยไม่ต�าหนิ
่ ส�าคั
หรือประคับประคองช่วยเด็กให ้ท�าได ้ส�าเร็จถ ้าเป็ นเรืองที ่ ญ

6.
เมือเด็่ กมีพฤติกรรมก่อกวนทีเป็
่ นจากอาการของโรคสมาธิสนควร
้ั
ี นุ่ี ่ มนวลหยุดพฤติกรรมนั้นหรือเบนความสนใจให ้เด็ก
ใช ้วิธท
ได ้ท�ากิจกรรมอืนแทน ่

7.
่ี
หากเด็กท�าผิดควรใช ้ท่าทีทเอาจริ
งและสงบในการจัดการเช่นอา
จใช ้การแยกเด็กให ้อยู่ในมุมสงบ

ตามล�าพังชัวคราว
หรือลงโทษด ้วยวิธท ่ี รน
ี ไม่ ุ แรงและเป็ นไปตามข ้อตกลง เช่น
ลดเวลาดูโทรทัศน์ เป็ นต ้น

8.
ให ้เด็กมีโอกาสใช ้พลังงานและการไม่ชอบอยู่้นิ่ งใหเ้ ป็ นประโยชน์
เช่นใหช ่
้ ว่ ยงานบ ้านทีสามารถท�าได ้
9.
่ และช่วยฝึ กเด็กให ้มีวน
ผูป้ กครองควรเป็ นตัวอย่างทีดี ิ ัยอดทนรอคอ
ยบริหารเวลาและจัดระเบียบในการท�ากิจกรรมต่างๆ

10.
ติดต่อและประสานงานกับครูอย่างสม�้่าเสมอในการช่วยเหลือเด็
กด ้านการเรียนและการปร ับตัวในโรงเรียน

BCG abscess

BCG abscess ทีห่ ัวไหล่ เป็ น reaction ปกติ ไม่ต ้องให ้ยา ไม่ต ้อง
drain ให ้คาแนะนา เมือ
่ หายจะเป็ นแผลเป็ นทีห่ วั ไหล่ ขนาดไม่ใหญ่

การดูแลเมือ ่ เด็กปั สสาวะรดทีน


่ อน หรือตัวเองปั สสาวะรดทีน่ อน คือ การเข ้าใจ
อธิบายให ้เด็กเข ้าใจด ้วย พยายามหาสาเหตุ ชว่ ยกันแก ้ปั ญหา
ไม่ถอ
ื เป็ นเรือ
่ งน่าอาย และไม่มกี ารลงโทษ

เมือ
่ ร่วมกันแก ้ไขปั ญหาแล ้ว อาการไม่ดขี น
ึ้ ควรพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล
เพือ่ หาสาเหตุ โดยเฉพาะถ ้ามีการปั สสาวะรดทีน ่ อนชนิดทุตย
ิ ภูม ิ
ควรรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลเพือ ่ หาสาเหตุเสมอ

การป้ องกะนการจมน้ า

การป้ องกัน

เด็กอายุต่ากว่า 5 ปี

ผู ้ปกครองและผู ้ดูแลเด็กทุกคนควรดูแลเด็กอย่างใกล ้ชิ
้ นาทีเดียว
ด ไม่ควรเผอเรอแม ้แต่เสียววิ
โดยเด็กเล็กอายุต่ากว่า 5 ปี ต ้องอยู่ในระยะทีมองเห็
่ น
คว ้าถึงและเข ้าถึง

้ ้เด็กเล่นน้าเองตามลาพังแม ้ในกะละมัง
ไม่ปล่อยทิงให
ถังน้า โอ่ง

• ่
มีการจัดการสิงแวดล ้อม เช่น
เทน้าทิงภายหลั
้ งใช ้งาน หาฝาปิ ด
้ เล่
รวมถึงการจัดพืนที ่ นปลอดภัยให ้เด็ก

• สอนให ้เด็กเล็กรู ้จักแหล่งน้าเสียงภั


่ ยในบ ้าน เช่น
กะละมัง ถังน้า และวิธกี ารหลีกเลียง่ โดยเน้น “อย่าใกล ้
อย่าเก็บ อย่าก ้ม” คือ สอนให ้เด็กอย่าเข ้าไปใกล ้แหล่งน้า

อย่าเก็บสิงของหรื ่ ่ในน้า
อของเล่นทีอยู
และอย่าก ้มไปดูน้าในแหล่งน้า
้ั
เด็กอายุตงแต่ ้
5 ปี ขึนไป

• ไม่ปล่อยให ้เด็กไปเล่นน้ากันเองตามลาพัง
ต ้องมีผู ้ใหญ่ไปด ้วย

• สอนให ้เรียนรู ้กฎแห่งความปลอดภัยทางน้า เช่น


ไม่เล่นใกล ้แหล่งน้า ไม่เล่นคนเดียว
ไม่ลงไปเก็บดอกบัว/กระทงในแหล่งน้า
ไม่เล่นน้าตอนกลางคืน รู ้จักแหล่งน้าเสียง่
ี หรืออุปกรณ์ลอยน้าได ้เมือต
รู ้จักใช ้ชูชพ ่ ้องโดยสารเรือ

• ควรสอนให ้เด็กรู ้จักการเอาชีวต ิ รอดในน้า


เพราะหากเด็กไม่รู ้จักวิธก ิ รอดในน้า
ี ารเอาชีวต

เมือตกน ้าหรือจมน้าในจุดทีห่
่ างไกลจากฝั่งมาก ๆ
เด็กจะพยายามว่ายน้าเข ้าหาฝั่งจนหมดแรงก่อนทีจะว่
่ ายน้าถึ
งฝั่ง แต่การเอาชีวต ่ ทสุ
ิ รอดทีดี ี่ ดสาหร ับเด็กคือ
การลอยตัวอยู่ในน้าให ้ได ้นานทีสุ่ ดเพือรอการช่
่ วยเหลือ

• สอนให ้เด็กรู ้จักวิธก ่ กต ้อง คือ


ี ารช่วยเหลือทีถู

“ตะโกน โยน ยืน”

โดยเมือพบคนตกน ้าต ้องไม่กระโดดลงไปช่วย
แต่ควรตะโกนขอความช่วยเหลือ โทรแจ ้ง 1669

และหาอุปกรณ์โยนหรือยืนให ้คนตกน้าจับเพือช่
่ วย เช่น ไม ้
เชือก ถังแกลลอนพลาสติกเปล่า ขวดน้าพลาสติกเปล่า


จัดการสิงแวดล ่
้อมเพือให ้เกิดความปลอดภัยแก่เด็ก
เช่น สร ้างรว้ั หาฝาปิ ด/ฝังกลบหลุมบ่อทีไม่
่ ได ้ใช ้
ติดป้ ายคาเตือน
ุ กรณ์ชว่ ยคนตกน้าทีหาได
จัดให ้มีอป ่ ้ง่ายบริเวณแหล่งน้าเสีย่
ง (ถังแกลลอนพลาสติกเปล่า ขวดน้าพลาสติกเปล่า ไม ้
เชือก)
• มีมาตรการทางด ้านกฎหมาย/กฎระเบียบ/ข ้อบังคับ
้ ชพ
เช่น ต ้องใส่เสือชู ่
ี เมือโดยสารเรื

่ ราก่อนลงเล่นน้า
ห ้ามดืมสุ
กาหนดให ้มีบริเวณเล่นน้า/ดาน้าทีปลอดภั
่ ย
และแยกออกจากบริเวณสัญจรทางน้า กาหนดให ้มีเจ ้าหน้าที่
(lifeguard) ดูแลแหล่งน้า

Viral croup severe น่ าจะหมายถึง score >7

-ETT

-Dexamethasone 0.6mg/kg singledose

+supportive

Polycythemia Tx

-patial exchange โดยใช ้ NSS keep Hct 50-55


่ ้องการ = (Hct ผู ้ป่ วย-55)/55 * 80*นน(kg)
ปริมาณ NSS ทีต


เมือ

Hct > 65 + มีอาการ(hyperviscosity syndrome)

Hct > 70

-คานวน anion gap


Na-Cl-hco3


-เด็กอ ้วน เสียงอะไร + advise
่ ดจากโรคอ ้วนในเด็ก
ผลกระทบทางสุขภาพทีเกิ
• นอนกรน และอาจส่งผลให ้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
่ ้วนจานวนมากมักจะหายใจติดขัดเวลานอน
เด็กทีอ
้ั าใหน้ อนหลับไม่สนิ ทหลับไม่ดี
จึงส่งผลให ้เด็กนอนกรน บางครงท
รวมถึงหากเด็กอ ้วนมากและหายใจติดขัดรุนแรง
อาจส่งผลร ้ายแรงจนถึงขนาดทีว่่ า หยุดหายใจขณะนอนหลับก็เป็ นได ้

• เบาหวาน ความดัน ไขมันเลือดสูงในเด็ก


เด็กอ ้วนจะมีภาวะต่อต ้านอินซูลน

ทาให ้น้าตาลในเลือดสูงได ้ง่ายและเสียงที
่ จะเป็
่ ่ กโตขึ ้
นโรคเบาหวานเมือเด็


กระดูกและข ้อโดยเฉพาะข ้อเข่าและข ้อสะโพกผิดปกติเพราะต ้องร ั
บน้าหนักมากเกินไป ส่งผลให ้เด็กเสียบุคลิกภาพ

• เป็ นเด็กขาดความมั่นใจ
เนื่ องจากผิวหนังตามร่างกายโดยเฉพาะบริเวณข ้อพับจะกลายเป็ นปื ้ นสี
ดาเหมือนคนเป็ นเบาหวานเนื่ องจากเป็ นภาวะทีร่่ างกายดือต่
้ ออินซูลน

้ั กทีอ
และในบางครงเด็ ่ ้วนก็มก ่
ั จะโดนเพือนล ้อ
จึงอาจเป็ นเหตุผลหนึ่ งทีท
่ าใหเ้ ด็กกลายเป็ นเด็กขาดความมั่นใจก็เป็ นได ้

่ ภาวะแทรกซ ้อนด ้วยว่าเขามีปัญหาความดัน


ตรวจสุขภาพเพือดู

และเบาหวานหรือไม่ หากมีก็ต ้องดูแลรกั ษาตามแนวทางทีเหมาะสม

แต่หากไม่ได ้มีปัญหาอืนแทรกซ ่ี
้อนหมอก็จะใหค้ าแนะนาคุณพ่อคุณแม่ทมาปรึ
กษาโดยหลัก ๆ ก็คอ ่
ื เน้นเรืองการคุมอาหาร
่ี มรี
โดยให ้จากัดอาหารจาพวกคาร ์โบไฮเดรต เน้นการกินผักการกินผลไมท้ ไม่
สหวานจัดแทน และทีส ่ าคัญพ่อแม่ก็ควรให ้ความสาคัญกับเรืองของการออก

กาลังกายของลูก

เพราะว่าการออกกาลังกายจะช่วยในเรืองของการเผาผลาญพลั งงานได ้ค่อนข ้า
่ าคัญพ่อแม่ไม่ควรสะสมหรือเก็บอาหารไว ้ในตู ้เย็นเป็ นจานวนมาก
งเยอะ ทีส
เพราะง่ายสาหร ับการหยิบร ับประทานของเด็ก

Thalassemia ไม่รู ้ถามไร


อ่านตามชีทจารเพชรเลยละกัน
1.HF

2.MAC

Mycobacterium avium complex

Prophylaxis with either clarithromycin or azithromycin should be offered to HIV-infected


children who have advanced immunosuppression

 Children aged <1 year: <750 cells/mm3


 Children aged 1 to <2 years: <500 cells/mm3
 Children aged 2 to <6 years: <75 cells/mm3
 Children aged ≥6 years: <50 cells/mm3

MAC was the second most common opportunistic infection (OI) in HIV-infected children in the
United States after Pneumocystis jirovecii pneumonia during the era before combination
antiretroviral therapy (cART)

Respiratory symptoms are uncommon

Symptoms commonly associated with disseminated MAC infection in children include persistent
or recurrent fever, weight loss or failure to gain weight, sweats, fatigue, persistent diarrhea, and
persistent or recurrent abdominal pain

3.Weakness

Acute muscle weakness in children is a pediatric emergency.

During the diagnostic approach

onset of weakness, history of associated febrile states, ingestion of toxic substances/toxins,


immunizations, and family history.

Neurological examination must be meticulous as well. In this review, we describe

the most common diseases related to acute muscle weakness,

Early detection of hyperCKemia may lead to a myositis diagnosis,

hypokalemia points to the diagnosis of periodic paralysis.

Ophthalmoparesis, ptosis and bulbar signs are suggestive of myasthenia gravis or botulism.

Distal weakness and hyporeflexia are clinical features of Guillain-Barré syndrome,

Duchenne muscular dystrophy (DMD) is a severe type of muscular dystrophy.[2] The symptom
of muscle weakness usually begins around the age of four in boys and worsens
quickly.[1] Typically muscle loss occurs first in the upper legs and pelvis followed by those of the
upper arms.[2] This can result in trouble standing up.[2] Most are unable to walk by the age of
12.[1] Affected muscles may look larger due to increased fat content.[2] Scoliosis is also
common.[2]
The disorder is X-linked recessive

4.neurofibromatosis

NF1 is a life-long condition usually diagnosed early in life, often within the first year. NF1
is diagnosed based on specific skin, ocular, and other physical findings, and genetic
blood testing in selected cases

characterized by:

 Multiple cafe-au-lait (light brown) spots


 Neurofibromas (benign tumors growing on the sheath of a nerve) on or under the skin
 Enlargement and deformation of bones and curvature of the spine (scoliosis)
 Tumors that may develop in the brain, on cranial nerves, or in the spinal cord
 Learning disabilities, in about half of people with NF1

Diagnosis and Treatment of Type 2


NF2 is much rarer than NF1, occurring in 1 in 25,000 births. Tumors affecting both of the
auditory nerves are the hallmark of NF2, so the first symptom is often hearing loss
beginning in the teens or early 20s. NF2 is characterized by multiple tumors on the
cranial and spinal nerves, and by other lesions of the brain and spinal cord. NF2 is also
known as Bilateral Acoustic NF

5.FB
6.Anaphylaxis

อายุมากกว่า 1 ปี
้ กมากกว่า 10 kg
หรือนาหนั
7.Vaccine 1y6m
8.เด็กไม่ยอมกินข้าว

ลู กไม่ยอมกินข้าว นับเป็ นเรืองส ่ าคัญอีกเรืองหนึ


่ ่ งทีพบได
่ ่
้ทัวไปในการเจริ
ญเ

ติบโตของทารกและเด็กเล็ก เมือทารกอายุ ประมาณ 9-11 เดือน
จะไม่ต ้องการให ้พ่อแม่คอยป้ อนอาหารให ้ แต่อยากกินอาหารด ้วยตัวเอง
โดยเด็กแต่ละคนจะไม่กน ิ ข ้าวมากน้อยแตกต่างกันไป
ในขณะทีเด็่ กบางคนยังคงอยากให ้พ่อแม่ป้อนข ้าวอยู่

โดยเฉพาะเด็กทีคลอดก่ อนกาหนดหรือกล ้ามเนื อส้ าหร ับเคียวอาหารมี
้ พฒั นาก
ารช ้า
ทาไมลู กไม่ยอมกินข้าว ?

การเลือกกิน เด็กมีปัญหาในการเลือกรบั ประทานอาหารบางอย่าง


เนื่ องจากไม่ชอบเนื อสั
้ มผัส รสชาติ หรือกลินของอาหารนั
่ ้น ๆ
พ่อแม่ควรสังเกตพฤติกรรมการเลือกกินของลูก

เลียงของกิ ่ นอาหารใหม่
นแปลกใหม่ เด็กเล็กมักเลียงกิ
พ่อแม่ควรช่วยให ้เด็กลองร ับประทานอาหารใหม่ ๆ
่ รสชาติคล ้ายกับอาหารทีเด็
โดยให ้อาหารทีมี ่ กคุ ้นเคย

อาการแพ้อาหาร

โรคกลัวอาหาร อาการกลัวหรือโฟเบีย (Phobias) คือ


่ าให ้บุคคลนั้นเลียงสิ
อาการหวาดกลัวทีท ่ งที่ ท
่ าให ้ตนรู ้สึกกลัว

อาการกลัวอาหารจัดเป็ นภาวะทีพบได ่
้ทัวไป ่ มเข
โดยเฉพาะเด็กทีเริ ่ ้าเรียน

ซึงอาจเกิ ้
ดขึนมาเองหรื ่
อเกียวเนื ่ องกับปัญหาวิตกกังวลทัวไป

ปั ญหาสุขภาพทีส่่ งผลต่อการกิน ปัญหาสุขภาพบางอย่างอาจส่งผลให ้เด็ก


้ หรือกัดอาหารไม่ถนัด
ร ับประทานลาบาก โดยอาจดูด เคียว
่ ับประทานอาหาร
สาลักหรือรู ้สึกพะอืดพะอมเมือร
้ ้สึกเจ็บปวดหรือเกิดอาการท ้องผูก
รวมทังรู

แก้ปัญหาลู กไม่ยอมกินข้าวอย่างไร ?
การกระตุน
้ เด็ก

 ให้เด็กกินข้าวเอง เด็กเล็กจะใช ้มือหยิบอาหารเมืออายุ ่ ประมาณ 9 เดือน


และลองใช ้ช ้อนส ้อมเมืออายุ ่ ประมาณ 15-18 เดือน
พ่อแม่ควรให ้เด็กหัดร ับประทานอาหารเอง
โดยสังเกตว่าเด็กรู ้สึกหิวหรืออิมตอนไหน ่ ่
และใหอ้ าหารเพิมหากเด็ กหิวมาก
แต่ไม่ควรนาอาหารทีให ่ ้จนเยอะเกินไปกลับคืนมา
 สังเกตอาการ พ่อแม่ควรสังเกตว่าเด็กแสดงอาการหรือพฤติกรรมเกียวกั ่ บกา
รร ับประทานอาหารอย่างไร เพือจะได ่ ้ใหอ้ าหารเด็กอย่างเหมาะสม เช่น
เด็กอาจวางอาหารไว ้บนพืนเมื ้ อรู่ ้สึกอิม ่
 กระตุน ้ เด็กให้ร ับประทานอาหารจากจานของพ่อแม่ พ่อแม่ควรใหเ้ ด็กล
องร ับประทานอาหารจากจานของตนเอง
เนื่ องจากเด็กเรียนรู ้การร ับประทานอาหารทีแปลกใหม่ ่ จากการชิม

โดยเริมจากการเลี ยนแบบผูใ้ หญ่หรือเด็กอืน ่ หากเด็กไม่ชอบอาหารทีให ่ ้ชิม
ไม่ควรบังคับใหก้ น ิ เข ้าไป แต่ให ้เด็กคายออกมา
แล ้วค่อยให ้ลองกินครงต่ ้ั อไปแทน โดยใหล้ องร ับประทานในปริมาณน้อย ทังนี ้ ้
การใหเ้ ด็กได ้เห็นอาหารแปลกใหม่แม้จะไม่ได ้ร ับประทานเข ้าไปจะช่วยให ้รู ้สึกคุ ้
นเคยได ้
 ชมเมือเด็ ่ กกินอาหาร หากเด็กร ับประทานหรือชิมอาหารใหม่ ๆ ได ้
รวมทังมี้ พฤติกรรมการร่วมโต๊ะอาหารทีดี ่ พ่อแม่ควรชมเด็กทันที

เพือให ้เด็กรู ้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็ นสิงที ่ เหมาะสม

รวมทังท ้ าให ้รู ้สึกว่าพ่อแม่กาลังตังใจดู ้ ตนเองกินหรือลองชิมอาหารอยู่
ไม่ได ้มานั่งร่วมโต๊ะรบั ประทานอาหารเท่านั้น
 ไม่บงั คบ ั ให้กน ิ พ่อแม่ไม่ควรบังคับให ้เด็กร ับประทานอาหาร
หรือทาโทษเมือเด็ ่ กไม่กน ิ ข ้าว
เนื่ องจากจะทาใหเ้ ด็กรู ้สึกเครียดเมือต ่ ้องร่วมโต๊ะอาหาร ทังนี ้ ้
ควรให ้ลองชิมอาหารใหม่บ่อย ๆ
เนื่ องจากเด็กต ้องใช ้เวลานานถึงจะรู ้สึกคุ ้นเคยและร ับประทานอาหารทีชิ ่ มได ้
การสร ้างสุขลักษณะการกิน

 จัดอาหารให้ดงึ ดูด พ่อแม่ควรจัดอาหารให ้ดูน่าร ับประทาน เช่น


่ สส
ใช ้จานทีมี ี น
ั หรือตัดอาหารเป็ นรูปทรงต่าง ๆ
 ร ับประทานอาหารตรงเวลา ควรจัดเวลาและสถานทีในการร ่ ับประทานอาหา
รทีแน่ ่ นอน เช่น ให ้เด็กร ับประทานอาหารตรงเวลาอย่างสม่าเสมอ
หรือจัดตาแหน่ งสาหร ับให ้เด็กนั่งร่วมโต๊ะอาหาร
 สร ้างสีสน ั ในการร ับประทานอาหารร่วมกน ั พ่อแม่ควรช่วยกันสร ้างบรรย
ากาศในการร ับประทานอาหารร่วมกันเป็ นครอบคร ัว
โดยให ้สมาชิกทุกคนนั่งร่วมโต๊ะด ้วยกัน รวมทังใช ้ ้จาน ชาม
หรือแก ้วน้าทีมี ่ ลวดลายหรือสีสนั สวยงาม

เพือให ้เด็กรู ้สึกเพลิดเพลินกับการร ับประทานอาหาร ทังนี ้ ้
สมาชิกครอบคร ัวยังมีส่วนช่วยให ้เด็กเลียนแบบพฤติกรรมการรบั ประทานอาหา
รทีดี ่
 ให้กน ิ ข้าวก ับเพือน ่ หากพ่อแม่ต ้องการให ้เด็กร ับประทานอาหารทีมี ่ ประโยช
น์ ควรให ้เด็กร ับประทานร่วมกับเด็กเล็กคนอืน ่

ซึงจะช่ วยให ้เด็กร ับประทานอาหารทีมี ่ ประโยชน์ตามเพือน ่
 ไม่รบ ี กินอาหาร เด็กเล็กอาจร ับประทานอาหารได ้ช ้า
พ่อแม่จงึ ไม่ควรรีบร ับประทานอาหารและรบั ประทานอาหารนานเกินไป
โดยจากัดเวลาอาหารแต่ละมือไม่ ้ เกิน 30 นาที
เพือช่ ่ วยเสริมสร ้างวินัยในการร ับประทานอาหารของเด็ก
 ให้เด็กมีส่วนร่วม พ่อแม่ควรให ้เด็กมีส่วนร่วมในการเตรียมอาหาร ทาอาหาร
และชิมอาหาร ก่อนทีจะน ่ าอาหารเหล่านั้นจัดขึนโต๊ ้ ะสาหร ับร ับประทาน
 ให้เด็กกินปริมาณน้อย พ่อแม่ควรให ้เด็กร ับประทานอาหารในปริมาณทีร่ ับไ
ด ้ โดยอาจเริมให ่ เ้ ด็กกินอาหารประมาณ 2 ช ้อนโต๊ะ
แล ้วค่อยเติมให ้เมือเด็ ่ กต ้องการเพิม ่
วิธน ้ าใหเ้ ด็กไม่รู ้สึกพะอืดพะอมเมือต
ี ี จะท ่ ้องร ับประทานอาหาร
 งดน้ าตาล ไม่ควรให ้เด็กบริโภคอาหารหรือเครืองดื ่ มที
่ มี ่ น้าตาล
เนื่ องจากอาหารเหล่านี จะท ้ าให ้เด็กรู ้สึกอิมแต่
่ ไม่ได ้ร ับสารอาหารทีเป็ ่ นประโยช
น์ตอ ่ ร่างกาย
 เลียงขนม่ ควรจากัดขนมและของว่างระหว่างวัน
เนื่ องจากเด็กอาจร ับประทานขนมอิมเกิ ่ นไป
ทาให ้ไม่ยอมกินข ้าวเมือถึ ่ งเวลาอาหาร
อาหารเสริมแก้ปัญหาลู กไม่ยอมกินข้าว


โดยทัวไปแล ้ว
่ี ้ร ับสารอาห
ทารกหรือเด็กเล็ กไม่จาเป็ นต ้องร ับประทานอาหารเสริมในกรณี ทได
ารหลากหลายและเพียงพอต่อความต ้องการของร่างกาย อย่างไรก็ตาม
หากปัญหาลูกไม่ยอมกินข ้าวส่งผลให ้เด็กได ้ร ับสารอาหารทีจ่ าเป็ นไม่เพียงพอ
อาจต ้องได ้ร ับอาหารเสริมบางอย่างเพิม ่

ซึงควรได ่ ายอาหารเสริมตามแพทย ์สัง่
้ร ับการสังจ่
อาหารเสริมทีช่ ่ วยแก ้ปัญหาลูกไม่ยอมกินข ้าวนั้น มีดงั นี ้
 ธาตุเหล็กเสริม เด็กทีมี ่ ปัญหาการร ับประทานอาหาร
โดยไม่ร ับประทานเนื อสั ้ ตว ์ ปลา
หรือผักและอาหารทีอุ ่ ดมไปด ้วยธาตุเหล็ก จาเป็ นต ้องได ้ร ับธาตุเหล็กเสริม

เพือเสริ มสร ้างให ้แก่รา่ งกาย
 วิตามินดี วิตามินดีนับเป็ นสารอาหารทีจ่ าเป็ นต่อเด็ก
เนื่ องจากช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอร ัส
อันมีส่วนช่วยในการเสริมสร ้างกระดูก โดยทัวไปแล่ ้ว
วิตามินดีพบมากในแสงแดด
แต่เด็กเล็กบางคนอาจต ้องทาครีมกันแดดสาหร ับปกป้ องผิวจากการเผาไหม้
่ งเคราะห ์จากแสงแดดได ้น้อย
ส่งผลให ้ได ้ร ับวิตามินดี ทีสั

อีกทังการดื ่
มนมเพี ยงอย่างเดียวทาใหร้ ับวิตามินดีได ้ไม่เพียงพอ
จึงควรร ับประทานวิตามินดีเสริมตามแพทย ์แนะนาร่วมด ้วย

9.Staph pneumoniae
CLINICAL MANIFESTATIONS

signs and symptoms of pneumococcal infection are related to the anatomic


site of disease. Common clinical syndromes include otitismedia, sinusitis,
pneumonia and sepsis . Before routine use of PCVs, pneumococci caused >80%
of bacteremia episodes in infants 3-36 mo of age with fever without an
identi!able source (i.e., occult bacteremia). Bacteremia may be followed by
meningitis ,osteomyelitis , suppurative arthritis , endocarditis , and, rarely,
brain abscess . Primary peritonitis may occur in children with peritoneal
effusions due to nephrotic syndrome and other conditions. Local complications
of infection may occur, causing empyema, pericarditis, mastoiditis, epidural
abscess, periorbital cellulitis, or meningitis. Hemolytic-uremic syndrome and
disseminated intravascular coagulation also occur as rare complications of
pneumococcal infections. Epidemic conjunctivitis caused by nonencapsulated
or encapsulated pneumococci occurs as well.

DX
Pneumococci can be identi!ed in body &uids as Gram-positive, lancet-shaped
diplococci. Early in the course of pneumococcal meningitis, many bacteria may
be seen in relatively acellular cerebrospinal &uid. With current methods of
continuously monitored blood culture systems

Tx
Antimicrobial resistance among S. pneumoniae continues to be a serious healthcare concern,
especially for the widely used β-lactams, macrolides and Fuoroquinolones

Children 1 mo of age or older with suspected pneumococcal meningitis should be treated with
combination therapy using vancomycin (60 mg/kg/24 hr divided q 6 hr IV), and high-dose cefotaxime
(300 mg/kg/24 hr divided q 8 hr IV) or ce%riaxone (100 mg/kg/24 hr divided q 12 hr IV)

Prevention
10.Diaper dermatitis
Candidal Diaper Dermatitis Candidal diaper dermatitis is a ubiquitous problem
in infants and, although relatively benign, is ofen frustrating because of its
tendency to recur. Predisposed infants usually carry C. albicans in their
intestinal tracts, and the warm, moist, occluded skin of the diaper area
provides an optimal environment for its growth. A seborrheic, atopic, or
primary irritant contact dermatitis usually provides a portal of entry for the
yeast.
The primary clinical manifestation consists of an intensely erythematous,
confuent plaque with a scalloped border and a sharply demarcated edge. It is
formed by the confuence of numerous papules and vesicular pustules. Satellite
pustules, those that stud the contiguous skin, are a hallmark of localized
candidal infections. !e perianal skin, inguinal folds, perineum, and lower
abdomen are usually involved (Fig. 666-14). In males, the entire scrotum and
penis may be involved, with an erosive balanitis of the perimeatal skin. In
females, the lesions may be found on the vaginal mucosa and labia. In some
infants, the process is generalized, with erythematous lesions distant from the

diaper area. In some cases, the generalized process may represent a fungal id
(hypersensitivity) reaction.

Treatment

Applications of an imidazole cream 2 times daily. The combination of a


corticosteroid and an antifungal agent may be justified if infammation is severe
but may confuse the situation if the diagnosis is not firmly established.
Corticosteroid should not be continued for more than a few days. Protection of
the diaper area by an application of thick zinc oxide paste overlying the
anticandidal preparation may be helpful.
11.Down syndrome

สาเหตุของการเกิดทารกกลุ่มอาการดาวน์

การตังครรภ ์ทารกกลุ่มอาการดาวน์เกิดจากความผิดปกติทางโครโมโ
ซมใน 3 ลักษณะคือ(1)
ลักษณะที่ 1 (Trisomy 21 nondisjunction)
 เกิดจากความผิดปกติของการแบ่งเซลล ์แบบ meiosis
่ ฒนาไปเป็ น sperm cell หรือ egg cell ทาให ้โครโมโซมคูท
ทีจะพั ่ ี่
21 เกินมาหนึ่ งโครโมโซมจากภาวะ nondisjunction ทาให ้เกิดเป็ น
trisomy 21 (47,XX+21 หรือ 47,XY+21)
 ้
ลักษณะนี พบประมาณร ้อยละ 92-95

ของการตังครรภ ้ั
์ทารกกลุ่มอาการดาวน์ทงหมด
 โครโมโซมคูท ่ ี่ 21 ทีเกิ
่ นมาส่วนใหญ่มาจากมารดา
(ส่วนน้อยมาจากบิดา) และเกิดขึน้ ได ้ในสตรีตงครรภ ้ั ์ทุกช่วงอายุ
(sporadic)
อย่างไรก็ตามในสตรีตงครรภ ้ั ่ มากขึนจะมี
์ทีอายุ ้ โอกาสเกิดภาวะ
meiosis I nondisjunction ได ้บ่อยขึนท ้ าให ้มีโอกาสเกิด trisomy
21 ได ้มากขึนด้ ้วย
 ้
โอกาสเกิด trisomy 21 ซาในการตั ้
งครรภ ์ครงต่ ้ั อไป
ึ ้ บอายุของสตรีตงครรภ
(โดยไม่ขนกั ้ั ์) เท่ากับร ้อยละ 1

ลักษณะที่ 2 (Translocation Down Syndrome)


 เกิดจากความผิดปกติของการแบ่งเซลล ์
โดยมีบางส่วนของโครโมโซมคูท ่ ี่ 21
ได ้แตกออกและไปติดกับโครโมโซมคูอ ื่ (robertsonian
่ น

translocation) ซึงพบบ่ อยว่ามีการยึดติดกันระหว่างโครโมโซมคู่ที่
่ ี่ 21 เช่น 46,XX, t(14q 21q) หรือ 46,XY, t(14q 21q)
14 และคูท
 ้
ลักษณะนี พบประมาณร ้อยละ 3-4

ของการตังครรภ ์ทารกกลุ่มอาการดาวน์ทงหมด ้ั
 ้ ดขึนเอง
ร ้อยละ 50 ของภาวะ translocation นี เกิ ้ (de novo)

และมีโอกาสเกิดซาในการตั ้
งครรภ ้ั อไปน้อยมาก
์ครงต่
 อย่างไรก็ตามอีกประมาณร ้อยละ 50
เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ทลั ี่ กษณะภายนอกปก
ติแต่มค ี วามผิดปกติของโครโมโซมแบบ balanced translocation

ซึงในกรณี ้ โอกาสเกิดซาในการตั
นีจะมี ้ ้
งครรภ ้ั อไปได ้สูง
์ครงต่
้ อและแม่เสมอหากเด็ก
จึงจาเป็ นต ้องตรวจลักษณะโครโมโซมของทังพ่
มีความผิดปกติของโครโมโซมชนิ ดนี ้
เนื่ องจากจะต ้องนามาคานวณโอกาสการตังครรภ
้ ์ทารกกลุ่มอาการดา
วน์ซา้
ลักษณะที่ 3 (Mosaic Down Syndrome)
 เกิดจากความผิดปกติของการแบ่งเซลล ์หลังมีการปฎิสนธิ (after
fertilization) และหลังมีการแบ่งเซลล ์ไปบ ้างแล ้ว
ทาให ้เซลล ์ในร่างกายมีโครโมโซม 2 ชุด คือ ชุดปกติ และชุดทีเป็ ่ น
trisomy 21 (47,XX,+21/46,XX หรือ 47,XY,+21/46,XY)
ความผิดปกตินีมั ้ กเกิดขึนจากภาวะ
้ nondisjunction ในระยะ early
postzygotic mitosis
โดยสัดส่วนของเซลล ์ทีมี ่ โครโมโซมผิดปกติจะขึนอยู้ ่กบั ระยะเวลาการเ
กิดภาวะ nondisjunction

ซึงหากมี สด ั ส่วนของเซลล ์ทีมี ่ โครโมโซมชุดทีเป็
่ น trisomy 21
มากก็จะมีโอกาสเกิดการแสดงออกของกลุ่มอาการดาวน์ได ้มากขึนด ้ ้ว

 ้
ลักษณะนี พบประมาณร ้อยละ 1-2

ของการตังครรภ ้ั
์กลุ่มอาการดาวน์ทงหมด
้ ้
อาการมันเยอะ ไปอ่านตามลิงนี
http://www.med.cmu.ac.th/dept/obgyn/2011/index.php?
option=com_content&view=article&id=428:screening-
for-fetal-down-syndrome&catid=37&Itemid=248
12.Autism
13.DKA
วิธรี กั ษาเข้าไปอ่านตามนี้นะ มันเยอะมาก
http://thaipediatrics.org/attchfile/Diabetic_Ketoacidosis_28_09_20101.pdf

14.G6PD def with acute hemolysis


G6PD
เป็ นเอนไซม ์สาคัญในกระบวนการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมีทเกิ ี่ ดขึนในเซลล
้ ์ข
่ ชวี ต
องสิงมี ิ ในวิถ ี Pentose Phosphate Pathway

ของนาตาลกลู โคส ส่งผลให ้เกิดการทาลายสารอนุ มูลอิสระ (Oxidant
s) ต่าง ๆ
่ นพิษต่อเซลล ์ในร่างกายโดยเฉพาะเซลล ์เม็ดเลือดแดง ดังนั้นเอนไ
ทีเป็
ซม ์ G6PD
่ วยป้ องกันเม็ดเลือดแดงแตกจากการทาลายของสาร
จึงเป็ นเอนไซม ์ทีช่
อนุ มูลอิสระ คนทีมี ่ ภาวะพร่องเอนไซม ์ชนิ ดนี จึ้ งเกิดภาวะเม็ดเลือดแดง

แตกได ้ง่ายเมือได ่
้ร ับสารอนุ มูลอิสระจากสิงกระตุ ้นต่างๆ
ภาวะพร่องเอนไซม ์ G6PD (Glucose-6-phosphate
dehydrogenase
deficiency)เป็ นโรคทีถ่ ่ ายทอดทางพันธุกรรมผ่านยีน(gene) X โด
ยมีการแสดงออกแบบยีนด ้อย (X-linked
recessive) ดังนั้นโรคนี จึ ้ งแสดงอาการในผู ้ชายได ้มากกว่าผู ้หญิง

ในภาวะปกติผู ้ป่ วยมักไม่มอ ่


ี าการ แต่เมือได ่
้ร ับสิงกระตุ ้นต่างๆ เช่น
้ ไข ้สูง ถัวปากอ
การติดเชือมี ่ ้า หรือ ยาบางชนิ ด
จะเกิดภาวะซีดจากการทีเม็ ่ ดเลือดแดงแตกอย่างเฉี ยบพลัน (Acute
hemolytic anemia)เหนื่ อยง่าย อ่อนเพลีย ตาหรือตัวเหลืองได ้
มีปัสสาวะมีสด ้
ี าคลา้ ยสีนาปลาจากการที ่ เม็ดเลือดแดงแตก
มี
ปริมาณปัสสาวะอาจน้อยจนอาจนาไปสู่ภาวะไตวายเฉี ยบพลัน
(Acute
renalfailure)นอกจากนี ยั ้ งส่งผลให ้การควบคุมสมดุลของสารเกลือแ
ร่ตา่ งๆของร่างกายเสียไปด ้วย

การวินิจฉัย
สามารถตรวจเลือดเพือวั ่ ดปริมาณเอนไซม ์ G6PD ได ้

นอกจากนี ในขณะที ่ ้ป่ วยเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกเฉี ยบพลันอาจเ
ผู
ห็นรูปร่างของเม็ดเลือดแดงผิดปกติเป็ นเซลล ์แหว่งได ้ (bite cell)

สิงกระตุ น ่ าให้เกิดอาการ
้ ทีท

1. อาหารโดยเฉพาะ ถัวปากอ ่ ่ สารอนุ มูลอิสระหลายชนิ ด


้าซึงมี

2. การติดเชือโรคต่ าง

ๆซึงจะท ่
าให ้เซลล ์เม็ดเลือดขาวหลังสารอนุ มูลอิสระ(Oxidants)
มากขึน้
3. ยาต่าง ๆ เช่น แอสไพริน คลอแรมเฟนคอล คลอโรควีน
ซิโปรฟลอกซาซิน ลีโวฟลอกวาซิน แดปโซน เมฟโฟลลควิน
เมนทอล เมทิลน ี -บลู แนพทาลีน ไนโตรฟูแลนโตอิน
ไพรมาควิน ยากลุ่มซ ัลฟา

15.Paracet overdose
16.Asthma
17.DSS
18.SVC obstruction

https://med.mahidol.ac.th/med/sites/default/files/public/pdf/medicinebook1/Oncologic%20Emer
gencies.pdf
19.เด็ก 2 เดือน แนะนาอาหาร

1.ekg vf management
Defibrillation 2j/kg cpr ยังเป็ นvf defib 4j/kg

2.dypneaa dtx 450 invest


Cbc elyte arterial blood gas blood glucose ketone หาสาเหตุปจั จัยกระตุน
้ อืน
่ ๆ

3.เด็กท้องผูก ขีแ
้ ข็ง วินิจฉัย หาสาเหตุ รักษา

Ans constipationแยกอายุน้อยกว่าหกเดือนหรือมากกว่าหกเดือน
และดูวา่ มีอาการเตือนไหม
http://www.pthaigastro.org/Document/begodnrolvqymezpzpur4255constipation_August%2014
.pdf
4. pale swell nasal turbinate diagnosis management

Ans Diagnosis allergic rhinitis

Mx Allergen avoidance
You can prevent or lessen allergic reactions by evaluating the allergen content at home and work,
reducing your exposure. Consider your exposure to pets, lab animals, organic dust, farming,
horses, enzymes, organic products, chemicals and mold.
Home allergen control

 Dust mite control


 Use of air cleaners
 Humidity control
 Pet control

Immunotherapy
Pharmacological therapy
Antihistamines
Oral non-sedating Claritin, Clarinex, loratadine, and Allegra. Zyrtec and Xyzal may have mild
sedating effects. Antihistamines are helpful for sneezing but have many mild side effects. New
topical medication may also have some antihistaminic effect and they include Astepro and
Patanase.
Sympathomimetics
Usually combined with an oral antihistamine such as Claritin D12 or D24, Zyrtec D12 or D24,
Allegra D12 or D24. The sympathomimetics act as decongestants. Topical nasal decongestants
should be avoided.
Topical corticosteroids
These medications suppress or block inflammation by preventing the invading inflammatory cells
into the mucosa. Examples include: Nasonex, Flonase, Veramyst, Rhinocort, Omnaris, Nasacort,
Beconase, and others.
Topical mast cell inhibitors
Nasalcrom and to a lesser extent Patanase and Astepro primarily suppress the mast cells from
releasing their mediators.
Leukotriene inhibitors
Singulair, Accolate and Zyflo are all effective in blocking the inflammatory effect of the leukotriene
mediators that are pro-inflammatory and are synthesized during the allergic reaction. Only
Singulair is FDAapproved for allergic rhinitis.
Systemic corticosteroids are reserved for short-term use in individuals with severe nasal
obstruction, when topical sprays cannot penetrate the nasal passageway.
Topical anticholinergics
Atrovent or ipatroprium bromide can help with control of profuse rhinorrhea. They are particularly
effective for gustatory rhinorrhea.
Nasal/sinus saline wash once or twice a day removes pollen from the nose and clears excess
mucous and bacteria. While allergen avoidance is the best treatment, it's not always possible in
nature. Immunotherapy offers the possibility of reducing sensitivity, so that patients can tolerate
even significant allergen exposure.
Although medication often offers quick relief, immunotherapy provides a long-term solution to a
chronic problem that often recurs over many decades. SLIT, or sub-lingual immunotherapy is not
FDA-approved and not recommended at this time.

5. ก้อนทีค
่ อโต ประวัตโิ รคไทรอยด์ในครอบครัว ส่งแลป คิดถึงโรคไรบ้าง
Ans thyroid function , ultrasound
6.hyponate , hypo k metacido calculate anion gab diagnosis

Ans Anion gap = Na – (Cl + HCO3-)

dengue http://www.ped.si.mahidol.ac.th/HA/pdf/Denge.pdf

http://www.ped.si.mahidol.ac.th/HA/CPG/4denguehemorrhage.pdf
1.nephrotic syndrome
http://www.wcnpn.wales.nhs.uk/sitesplus/documents/1216/Guidelines%20for%20the%20manage
ment%20of%20Nephrotic%20syndrome%20in%20children.pdf

AR
Nephrotic syndrome
DKA

่ นมา มีหายใจหอบไรพวกนี ้ ประวัตD


ซ ักประวัติ ก็ซกั อาการทีเป็ ่
ิ M เยียวบ่ ้
อย อะไรงีไหม


ตรวจร่างกาย ก็ตรวจเรืองหอบ ่
r/o โรคทางระบบอืนออกไป

Lab ก็ for diag Dtx plasma glucose Urine ketone plasma


่ อก็ใส่ๆไป
ketone blood gas ทีเหลื

TX

้ นยังไงละก็tx ตามนั้น
ตามไกด ์ไลน์เลย ดูวา่ เคสนี เป็


ปล. คอมกูพงั เดียวลงรู
ปในกลุม

1. Vitamin c def (scurvy )


2.AIHAs
4.complicate UTI

http://www.thaipediatrics.org/Media/media-20161208143440.pdf

5.abdominal mass
5.allergic rhinitis
http://www.thaipediatrics.org/attchfile/Allergic%20rhinitis.doc

6.COLIC advice มารดา

https://meded.psu.ac.th/binla/class05/388_551/problems_in_young_children/index.html

7.BCG abbess
8.patial blood exchange
9.acute as attic attack
10.Infected diarrhea
http://www.thaipediatrics.org/Media/media-20161222110358.pdf

11.Hypogly in NB
12.APSGN
13.ชัก + hypopigmentlession ส่วนใหญ่จะมาด้วย focal seizure
https://www.epilepsy.com/learn/types-epilepsy-syndromes/neurocutaneous-
syndromes/tuberous-sclerosis-complex-tsc
14.strep gr A phalangitis
Tx
15.เด็กเขียว 2 hr ni order one day & continue

You might also like