Professional Documents
Culture Documents
เรื่อง การผาตัดรักษาโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง
สําหรับ นักศึกษาแพทยปที่ 5
กิจกรรมการเรียนรู การบรรยาย (lecture)
ผูสอน นายแพทยสุชาต ไชยโรจน
ระยะเวลา 60 นาที
วัตถุประสงค
ภายหลังการสอนแลวนักศึกษาสามารถ
1. อธิบายถึงหลักการของการผาตัดโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง และความรูเบื้องตนของปอดและหัวใจ
เทียม
2. อธิบายถึงความจําเปนของการเตรียมผูปวยกอนผาตัด หลักการดูแลผูปวยหลังผาตัดรวมถึงการ
ประเมินอัตราเสี่ยงของการผาตัดโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง
3. บรรยายถึงแนวทางการรักษาทางการผาตัด ขอบงชี้ของการผาตัดและผลของการผาตัด ของ
โรคหัวใจทีเ่ กิดขึ้นภายหลังที่พบบอย ไดแก โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันรุนแรง และโรคลิ้นหัวใจ
4. มีความรูความเขาใจถึงหลักการผาตัดโรคลิ้นหัวใจ ประเภทตางๆ ของลิน้ หัวใจเทียมและการ
เลือกใชลิ้นหัวใจเทียมในผูปว ยที่ไดรับการผาตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ
5. มีความรูความเขาใจในหลักการของการผาตัด bypass เสนเลือดหัวใจ และขอดีขอเสียของหลอด
เลือดชนิดตางๆ ที่นาํ มาใชทาํ ผาตัด bypass
การจัดประสบการณการเรียนรู
1. การศึกษาดวยตนเองกอนเขาชัน้ เรียน
1.1 นักศึกษาทบทวนความรูเกี่ยวกับกายวิภาค พยาธิสรีรวิทยาและจลศาสตรการ
ไหลเวียนของเลือดทีเ่ กี่ยวของกับโรคหัวใจทีเ่ กิดขึน้ ภายหลัง
2. การเรียนรูในชั้นเรียน
2.1 นําเขาสูบทเรียน ดวยการบรรยายความสําคัญของการผาตัดโรคหัวใจที่เกิดขึ้น
ภายหลัง และหลักการของการผาตัดหัวใจ
2.2 บรรยายพรอมยกตัวอยางประกอบ เรื่อง การผาตัดโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง
การประเมินอัตราเสี่ยง ขอบงชีข้ องการผาตัด การดูแลรักษากอนและหลัง
ผาตัด โดยเฉพาะโรคลิ้นหัวใจ และโรคเสนเลือดหัวใจตีบตันรุนแรง
2.3 สรุปการเรียนรู และซักถาม
3. การศึกษาดวยตนเองหลังเลิกเรียน
3.1 นักศึกษาทบทวนเรื่องทีเ่ รียน และศึกษาเพิ่มเติมจากการเรียนรูตางๆ
อุปกรณการสอน
1. เครื่องคอมพิวเตอรทมี่ ีโปรแกรม keynote และ powerpoint
2. เครื่อง LCD
การประเมินผล
1. การถาม / ตอบ และการอภิปรายในชัน้ เรียน
2. การสอบ multiple choice questions (MCQ)
เอกสารประกอบการเรียน/อานเพิม่
1. ตํารา
1.1. Cardiac Surgery: morphology diagnostic criteria, natural history,
techniques, indications. Kirkling JW, Barrat-Boyes BG. Churchill-
Livingstone.
1.2 Surgery of the Chest. Sabiston, David C, spencer. Saunders.
1.3 Cardiac Surgery in the Adult by Louis Henry Enmunds.
1.4 Glenns Textbook on Thoracic and Cardiovascular Surgery, Appleton &
Lange.
2. วารสาร
2.1 Annals of Thoracic Surgery
2.2 Journal of Thoracic and Cardiovascular Surgery.
2.3 European Journal of Cardio-Thoracic Surgery.
--------------------------
2
การผาตัดรักษาโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง
(Surgery for Acquired Heart Disease) สุชาต ไชยโรจน
หลักการของการผาตัดรักษาโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง
การผาตัดรักษาโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง มีหลักการพืน้ ฐานเชนเดียวกับการผาตัดศัลยกรรมทั่วไปใน
การดูแลรักษาผูปวยทั้งกอนและหลังผาตัด อยางไรก็ตามมีขอแตกตางดังนี้ 1,2,3
1. การผาตัดรักษาโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง มีจุดประสงคมุงที่จะซอมแซม ปรับแตงและแกไขพยาธิ
สภาพเพื่อใหหัวใจสามารถทํางานสูบฉีดโลหิต และคงสภาพปกติของจลศาสตรของการไหลเวียน ดังนัน้ การ
ผาตัดโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลังเปนการรักษาเพื่อประคับประคองมากกวาที่จะเปนการรักษาใหหายขาด
2. การผาตัดหัวใจ เปนการผาตัดแบบเปนทีม มีความจําเปนตองอาศัยความรวมมือของบุคลากรดาน
ตางๆไดแก ศัลยแพทยหวั ใจ อายุรแพทยโรคหัวใจ วิสญ ั ญีแพทยโรคหัวใจ พยาบาลเฉพาะทาง หองผาตัดและ
ICU พนักงานเครื่องปอดและหัวใจเทียม ตลอดจนบุคลากรทางการแพทยอนื่ ๆที่เกี่ยวของ การผาตัดหัวใจจึง
มีความจําเปนตองมีความสอดคลองและประสานกันของหลายฝาย ทัง้ นี้เพื่อใหการผาตัดมีประสิทธิภาพสูงสุด
ไดประโยชนมากที่สุดสําหรับผูปวยโรคหัวใจ
3. การผาตัดโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง สวนใหญมคี วามจําเปนตองมีการหยุดหัวใจเปนการชั่วคราว
เพื่อทําการผาตัดไดถูกตอง แมนยํา โดยมีการใชเครื่องปอดและหัวใจเทียมเพื่อคงสภาพระบบการไหลเวียน
โลหิตขณะทีท่ าํ การผาตัด1,4
4. การผาตัดหัวใจมักจะเปนการผาตัดใหญ มีความซับซอนกวาการผาตัดแบบอื่นๆ การประเมิน
อัตราเสี่ยงจึงมีความสําคัญอยางยิ่ง มีความจําเปนตองชี้แจงใหผูปว ยเขาใจอยางชัดเจนถึงอัตราเสีย่ งและ
ประโยชนของการผาตัดเพื่อประกอบการตัดสินใจ
3
การจําแนกชนิดของการผาตัดโรคหัวใจที่เกิดขึน้ ภายหลัง1,2,3
1. การผาตัด bypass เสนเลือดหัวใจสําหรับโรคเสนเลือดหัวใจตีบตันรุนแรง (coronary artery
bypass graft surgery)
2. การผาตัดรักษาภาวะแทรกซอนตางๆ ซึ่งเปนผลมาจากเสนเลือดหัวใจตีบตันรุนแรง
(surgery for complication of acute myocardial infarction)
3. การผาตัดหลอดเลือดแดงใหญ aorta (aortic surgery)
4. การผาตัดรักษาโรคหัวใจเตนผิดจังหวะ (surgery for atrial fibrillation)
5. การผาตัดรักษาโรคเยื่อหุมหัวใจ (surgery for pericardial disease)
6. การผาตัดรักษาโรคเนื้องอกของหัวใจ (surgery for cardiac tumor)
7. การผาตัดรักษาการบาดเจ็บทีห่ ัวใจ (surgery for cardiac injury)15
8. การผาตัดรักษาโรคหัวใจวาย (surgery for heart failure)
การประเมินผูปวยกอนผาตัด
การประเมินผูป วยกอนทําการผาตัด มีความสําคัญอยางยิง่ โดยทัว่ ไปมีการซักประวัติตรวจรางกาย
ประกอบกับขอมูลจากการทดสอบทางดานตางๆ ความเปนไปไดของการผาตัดซึ่งจะนําไปสูการตัดสินใจเพื่อทํา
การผาตัดนัน้ ๆ เมื่อสิ้นสุดการประเมินผูปวยควรจะตองตอบคําถามใหไดวา การผาตัดมีความจําเปนและ
เหมาะสมหรือไม ผูปวยมีสภาพรางกายทีด่ ีพอสําหรับการผาตัดหรือไม อะไรคือผลแทรกซอนทีจ่ ะมีผลเสียตอ
ผูปวยในระยะระหวางและหลังผาตัด อัตราเสี่ยงและประโยชนของการผาตัดมีตางกันอยางไร และสุดทาย
ผูปวยและญาติมีความเขาใจ และตกลงใจที่จะดําเนินการผาตัดตอไปหรือไม 1,2,3
การเตรียมการกอนการผาตัดรักษาโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง
การเตรียมผูปว ยกอนการผาตัด เปนการรวบรวมขอมูลตางๆของผูปวยอยางเปนระบบ เพื่อจะนําไปใช
พิจารณาประเมินอัตราเสี่ยงและวางแผนการผาตัดอยางถูกตองและมีประสิทธิภาพ โดยทัว่ ไปการเตรียมการ
กอนผาตัดมีขนั้ ตอน ดังนี้ 1,3
Pre-operative workup
History, review of systems and physical exams
Blood count, chemistry and typing
Urinalysis
CxR
12 leads EKG
Coronary angiography
4
Exercise testing
Radionuclide myocardial imaging
PFT, ABG
Cardiac rehabilitation
Assessment of risk and benefit
Discussion
การประเมินอัตราเสี่ยงของการผาตัดรักษาโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง
อัตราเสี่ยงของการผาตัดรักษาโรคหัวใจทีเ่ กิดขึ้นภายหลังโดยเฉลี่ยประมาณ 3-5% มักจะไดขอมูลมา
จากสถิตกิ ารทําผาตัดที่มีรายงานในวารสารทางการแพทยตางๆ หรือจากประสบการณโดยตรงของแตละบุคคล
หรือสถาบัน1,2,3 ตอมาไดมกี ารนําหลักฐานทางการแพทยจากที่ตางๆมาจัดใหเปนระบบ มีการคิดคะแนนจาก
ปจจัยสําคัญตางๆ ไดแก ปจจัยทางดานผูปวย ปจจัยทางดานโรคหัวใจ และปจจัยทางดานการผาตัด ทําให
การประเมินอัตราเสี่ยงของการผาตัดมีความใกลเคียงกับความเปนจริง และมีความนาเชื่อถือมากขึ้น ใน
ปจจุบันแบบประเมินที่นาํ มาใชสําหรับผูปวยโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลังไดแก Parsonnet score3 หรือ
Euroscore6
5
โรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลังที่พบบอย
การผาตัดรักษาโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง สวนใหญเปนการผาตัดรักษาโรคลิ้นหัวใจและโรคกลามเนื้อ
หัวใจขาดเลือดจากเสนเลือดหัวใจตีบตันรุนแรง จากสถิติรายงานการผาตัดรักษาโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง
ของประเทศไทย (2549)7 พบวามีการผาตัดรักษาโรคลิ้นหัวใจประมาณ 50% โรคเสนเลือดหัวใจตีบตันรุนแรง
40% ซึ่งเปนสัดสวนที่คลายคลึงกับรายงานการผาตัดของทางยุโรป และอเมริกา3,8
6
1. Elective CABG: severe angina (chronic, post-infarct, recurrent or unstable) despite
maximum medical treatment, left main stenosis, triple vessel disease involving LAD with impaired
LV function.
2. Emergency CABG: myocardial infarction with unstable angina or refractory ischemia, MI
with refractory arrhythmias, MI with cardiogenic shock (may be combined with VSD repair or
valvular operations), acute failure of PTCA and stenting.
7
ผลของการผาตัด bypass เสนเลือดหัวใจ
ในระยะแรกมากกวา 90% ของผูปวย จะไดรับประโยชนจากการลดอาการเจ็บแนนหนาอก และ
คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น3,9 อัตราเสี่ยงของการผาตัดครั้งแรกประมาณ 2-3%1,3,9 โดยเฉลี่ยในกลุมประชากรทัว่ ไป
อัตราการเสื่อมของ saphenous vein graft ยังคงอยูป ระมาณ 2-4% ตอป พบวาการเกิดความเสื่อมของสวน
ตน (proximal portion) สวนตนของ graft ประมาณ 40% ที่ 5 ป9,10
การผาตัดรักษาโรคลิน้ หัวใจ
โรคลิ้นหัวใจยังคงเปนโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลังที่พบบอย สาเหตุของโรคลิ้นหัวใจโดยทั่วไปไดแก
1. Congenital
2. Degenerative
3. Rheumatic fever
4. Bacterial endocarditis
5. Ischemic heart disease
การผาตัดรักษาโรคลิ้นหัวใจในปจจุบัน ทําได 2 แบบคือ การซอมแซมลิ้นหัวใจ (valve repair) และ
การเปลี่ยนลิ้นหัวใจ (valve replacement) เนื่องจากไมมีลิ้นหัวใจเทียมชนิดใดสามารถทดแทนลิน้ หัวใจ
ธรรมชาติไดอยางสมบูรณแบบ ในปจจุบันจึงมีการพยายามซอมแซมลิ้นหัวใจมากขึ้นและไดผลดีขึ้น การ
ซอมแซมลิ้นหัวใจมีขอไดเปรียบกวาการเปลี่ยนลิน้ หัวใจตรงที่มีจลศาสตรการไหลเวียนของเลือดทีด่ ีกวา
หลีกเลี่ยงการใชยากันเลือดแข็งตัวในระยะยาว ลดอัตราเสี่ยงของการติดเชือ้ และลดการเกิดภาวะ
thromboembolism3 อัตราเสี่ยงในการทําผาตัดโรคลิ้นหัวใจโดยเฉลี่ยประมาณ 3-5%1,3 การทําผาตัดลิ้นหัวใจ
จําเปนตองหยุดหัวใจและใชเครื่องปอดและหัวใจเทียม ผลการผาตัดเปลี่ยนหรือซอมลิ้นหัวใจขึน้ อยูกับความ
รุนแรงของโรค ภาวะหัวใจวาย และพยาธิสภาพของลิน้ หัวใจ2,3
ขอบงชี้ในการทําผาตัดโรคลิ้นหัวใจ
โดยทัว่ ไปขึ้นอยูกับพยาธิสภาพของลิน้ หัวใจ และอาการของผูปวย ในปจจุบันมีแนวโนมที่จะทําการ
ผาตัดผูปวยโรคลิ้นหัวใจใหเร็วขึ้นเพื่อปองกันความเสื่อมของกลามเนื้อหัวใจ และภาวะหัวใจวายในระยะยาว
ไดสรุปขอบงชี้สําหรับการผาตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจดังนี3,8,14
้
8
2. Indications for aortic valve replacement-aortic regurgitation
Acute sever AR
Severe AR and NYHA class 3 symptoms, CHA class 2 symptoms, LVESD >5.5 cm
or EF <55%
Patients with severe AR undergoing other cardiac surgery
Native or prosthetic valve endocarditis
3. Indications for mitral valve surgery
MVA <1.5 cm2 and NYHA 3 symptoms or thromboembolic risk
MVA <1 cm2 and PAP >60 mmHg and NYHA class 1 symptoms
Acute symptomatic MR
Severe MR, NYHA 2 symptoms, and normal LV
Severe MR and LVESD >4.5 cm, or EF <50%
Severe MR and PAP >50 mmHg systolic at rest or AF
ขอบงชี้ของการผาตัดรักษาโรคลิ้นหัวใจติดเชื้อ
การรักษาโรคลิ้นหัวใจติดเชือ้ มีขอบงชี้ใหญอยู 2 ขอคือ ภาวะการติดเชื้อรุนแรงที่ควบคุมไมไดและ
ภาวะหัวใจลมเหลวที่ไมตอบสนองตอการรักษาทางยา ไดสรุปขอบงชี้สําหรับการผาตัดโรคลิ้นหัวใจติดเชื้อโดย
แบงเปนภาวะโรคลิ้นหัวใจติดเชื้อของ native valve และ prosthetic valve ดังนี3,8
้
1. Native valve endocarditis
Acute MR with heart failure or AR
Fungal endocarditis
Evidence of annular or aortic abscess, sinus, or aneurysm, or new onset conduction
disturbances
Failure or medical management (persistent valve dysfunction and evidence of sepsis
after 7-10 days appropriate antibiotic therapy
Recurrent emboli after antibiotic therapy
9
2. Prosthetic valve endocarditis
Heart failure with prosthetic valve dysfunction
Early prosthetic endocarditis (<2 months after surgery)
Fungal endocarditis
Staphylococcal endocarditis not responding to antibiotics
Gram negative organisms
Paravalvular leak, annular or aortic abscess, sinus, fistula, or aneurysm, or new onset
conduction disturbances
Vegetations on prosthesis, persistent sepsis despite antibiotics
การแบงประเภทของลิ้นหัวใจเทียม
ในปจจุบันมีลนิ้ หัวใจเทียมมากมายหลายประเภท ไดสรุปประเภทของลิ้นหัวใจเทียม1,2,3 ที่มีใชทั่วไป
ดังนี้
1. Mechanical valve
Ball and Cage
Tilting disc
Bi-leaflet
2. Tissue valve
Bioprostheses: stented, stentless, Bovine pericardial, porcine
Biological valve: homograft, autograft
10
3. No thromboembolism
4. Free from endocarditis
5. Good availability
6. Easy to implant
7. Quiet
8. No need for long term anticoagulant
9. Improve long term survival
10. Cost effective
การเลือกใชลนิ้ หัวใจสําหรับผูปวยแตละรายมีขอพิจารณาดังนี้
1. ความคงทนของลิ้นหัวใจ (Durability)
2. การผาตัดซ้ําในกรณีที่มกี ารเสื่อมสลายของลิ้นหัวใจ (reoperation for valve failure)
3. ภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ลิ้นหัวใจ (thromboembolism)
4. ภาวะติดเชือ้ ของลิ้นหัวใจเทียม (prosthetic valve endocarditis)
11
5. ภาวะแทรกซอนจากการใชยากันเลือดแข็งตัว (anticoagulant complication)
6. ระดับความรูความเขาใจของผูปวยเกีย่ วกับการติดตามดูแลรักษาหลังการผาตัดลิ้นหัวใจ
(patient’s compliance with medication and follow up plan)
7. คุณสมบัติเฉพาะตัวทางจลศาสตรการไหลเวียนของเลือดที่แตกตางกันของลิ้นหัวใจแตละ
ชนิด (hemodynamic performance)
การดูแลรักษาผูปวยหลังผาตัดลิ้นหัวใจ
ผูปวยที่ไดรับการผาตัดลิ้นหัวใจมักจะมีอาการดีขึ้นตามลําดับ เชนเดียวกับการผาตัดรักษาโรคหัวใจ
อื่นๆ ยังมีความจําเปนตองมีการตรวจรักษาและเฝาระวังอยางใกลชดิ และตอเนื่อง ปจจัยสําคัญที่ตองติดตาม
ตรวจสอบอยางใกลชิดไดแก การทํางานของลิ้นหัวใจ ภาวะแทรกซอนจากการกินยากันเลือดแข็งตัว การติดเชื้อ
ที่ลิ้นหัวใจ การเกิด valve thrombosis การเกิด embolization และระบบการทํางานของกลามเนื้อหัวใจ1,2,3 ซึ่ง
สามารถทําไดโดยการซักประวัติตรวจรางกาย การตรวจสอบพิเศษเพือ่ ลดปจจัยเสี่ยงตางๆ ดังกลาวขางตน
สรุป
การผาตัดรักษาโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง มีหลักการรักษาเชนเดียวกับการรักษาผาตัดโรคหัวใจอื่นๆ
ซึ่งจําเปนตองมีความรูพ ื้นฐานทางกายวิภาค พยาธิสรีรวิทยา จลศาสตรการไหลเวียนของเลือดและระบบการ
ทํางานของหัวใจเปนอยางดี สิ่งสําคัญคือการเตรียมผูป วยกอนผาตัด เขาใจถึงแนวทางการรักษา ขอบงชี้ของ
การผาตัดและการดูแลรักษาหลังผาตัด นอกจากนี้ควรจะประเมินอัตราเสี่ยงของการผาตัดโรคหัวใจที่เกิดขึ้น
ภายหลังดวยการซักประวัติและตรวจรางกายอยางละเอียดรอบ คอบ เพื่อนําไปสูการตัดสินใจการทําผาตัดที่
ถูกตองแมนยําและไดผลการผาตัดที่ดีที่สดุ สําหรับผูปวยโรคหัวใจ
--------------------------------
12
เอกสารอางอิง:
1. Sabiston DC Jr, and Spencer FC. Surgery of the Chest. Fifth edition 1990. WB Saunders Company,
London, U.K.
2. Kirklin JW, Barratt-Boyes BG. Cardiac Surgery. Second edition 1992. Churchill Livingstone, London,
U.K.
3. Franco KL, and Verrier ED. Advanced therapy in cardiac surgery. Second edition 2003. BC Decker Inc,
London, U.K.
4. Chaiyaroj S, Couyant M, Angelpoulos P, and Tatoulis J. Cardiac surgery with Low-systemic
heparinization using a heparin bonded tubing circuit. Austral As J Cardiac Thoracic Surg 1993; 2(1):
30.1
5. Chaiyaroj S, Mullerworth M, and Tatoulis J. Surgery in the management of Chylothorax after coronary
artery bypass with left internal mammary artery. J Thorac Cardiovas Surg 1993; 106: 754-6.
6. Nashef SA, Roques F, Michel P, Gauducheau E, Lemeshow S, Salamon R. European system for cardiac
operative risk evaluation (EuroSCORE). Eur J Cardiothorac Surg 1999 ; 16(1) : 9-13.
7. Annual Report of Society of Thoracic Surgeons of Thailand (STST) 2006.
8. ACC/AHA Guidelines for Cardiac Surgery 2005.
9. Buxton B, Frazier OH, and Westaby S. Ischemic Heart Disease: Surgical management. Illustrated by
ED, Croce 1999, Mosby, London, U.K.
10. He GW, ed. Arterial grafts for coronary artery bypass surgery. Springer Verlag, Singapore 1999.
11. Chaiyaroj S, Viengteerawat S, Bhumarangura W, et al. Techniques and Results of Off-pump Coronary
Artery Bypass Grafting Using Homemade Intracoronary Shunt. J Med Assoc Thai 2006; 89(9): 1434-9.
12. Bhumarangura W, and Chaiyaroj S. Ramathibodi Intracoronary Shunt. Ramathibodi Nur J 2007; 13(1).
13. Chaiyaroj S, Tatoulis J. Low-dose Dopamine in coronary artery bypass patients with pre-operative renal
dysfunction. Asian Cardiovasc & Thoracic Ann 1999; 7(1): 9-12.
14. Tatoulis J, Chaiyaroj S, Smith JA. Aortic valve replacement in patient 50 years old or younger with the St.
Jude Medical Valve: 14 years Experience J-heart-Valve-Dis 1996; 5(5): 491-7.
15. สุชาต ไชยโรจน “การบาดเจ็บที่หัวใจ” ใน : โสภณ จิรสิริธรรม จักรพันธ เอื้อนรเศรษฐทวีศักดิ์ จันทรวิทยานุชิต
ณรงค บุณยะโหตระ สาธิต กรเณศ สุกษม อัตนวานิช เจริญ ลีนานุพันธุ บรรณาธิการ ตําราศัลยศาสตร
ประยุกต 2 สํานักพิมพกรุงเทพเวชสาร 2549; 1:220-8.
16. Chaiyaroj S. Low cardiac output syndrome: Post cardiac surgery approach. Emerg Cardiotho Surg
2006; 66-70 (Book for Short Course in Cardiothoracic Surgery 2006, Society of Thoracic Surgeons of
Thailand)
-------------------------
13