Professional Documents
Culture Documents
231 PDF
231 PDF
การเตรียมรายงานวิจัยต้นฉบับและการประเมินคุณภาพงานวิจัยทางการพยาบาล
และสาธารณสุข
บทคัดย่อ
ความเจริญก้าวหน้าทางศาสตร์และเทคโนโลยีในปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล มีการตีพิมพ์เผยแพร่
งานวิจัยอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง งานวิจัยที่ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสารวิจัยมีระดับคุณภาพและความถูก
ต้องน่าเชือ่ ถือได้แตกต่างกันไป บทความฉบับนีไ้ ด้นำ� เสนอวิธกี ารน�ำเสนอ การเตรียมรายงานวิจยั ต้นฉบับ
และการประเมินคุณภาพรายงานวิจัยต้นฉบับ (Manuscript) โดยผู้เขียนขอน�ำเสนอตัวอย่างรูปแบบการ
ประเมินรายงานวิจยั ทีพ่ บได้บอ่ ยในงานวิจยั ทางการพยาบาลและสาธารณสุข ซึง่ ได้แก่ รูปแบบการประเมิน
ของ PRISMA ที่ใช้ประเมินงานวิจัยชนิดการวิเคราะห์อภิมาน (Meta-Analysis) รูปแบบการประเมินของ
STROBE –cross sectional study ทีใ่ ช้ประเมินรายงานวิจยั เชิงสังเกตการณ์หรือเชิงส�ำรวจ และรูปแบบการ
ประเมินรายงานวิจัยเชิงคุณภาพ (Checklist for qualitative research) และงานวิจยั เชิงกึง่ ทดลอง (Checklist
for quasi-experimental studies) ซึ่งเป็นงานวิจัยเชิงทดลองที่ไม่ได้มีการสุ่มเลือกเข้ากลุ่มทดลอง (Non-
randomized experimental studies) ของสถาบัน Joanna Briggs Institute ผู้สนใจสามารถน�ำวิธีการเตรียม
รายงานวิจัยต้นฉบับและรูปแบบการประเมินไปประยุกต์ใช้ในการเตรียมรายงานต้นฉบับของตนเองและ
การประเมินคุณภาพงานวิจยั เพือ่ น�ำผลลัพธ์ของงานวิจยั นัน้ ๆ ไปใช้ประโยชน์ รวมทัง้ สามารถน�ำไปพัฒนา
งานวิจัยของตัวเองให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้นได้
1,2
พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ, วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุราษฎร์ธานี
3
อาจารย์, คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี
4
พยาบาลวิชาชีพช�ำนาญการพิเศษ, วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุราษฎร์ธานี
5
ผู้อ�ำนวยการ, วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์
1
Corresponding author : Email : Wiriya@bcnsurat.ac.th
Abstract
Nowadays advance knowledge and technology have been greatly arising. Research studies have been
published fast and vastly. The published studies in research journals have certain levels of research
quality. This article presents manuscript preparation for publication and assessing research quality of the
manuscripts. The authors provide examples of research quality assessment tools for frequently conducted
research studies in nursing and public health. The assessment tools include PRISMA for Meta-Analysis
studies, STROBE for observational or cross-sectional studies, and Joanna Briggs Institute’s Checklist for
Qualitative Research and Checklist for Quasi-Experimental Studies (non-randomized experimental
studies). Interested readers can apply the manuscript preparation strategies and assessment tools in their
manuscript preparation and in research quality assessment in order to apply the research results, based
on the research quality, and improve the quality of their research studies.
1,
Registered Nurses, Practitioner Level, Boromarajonani College of Nursing, Suratthani
3
Lecturer, Suratthani Rajabhat University
4
Registered Nurses, Practitioner Level, Boromarajonani College of Nursing, Ratchaburi
5
College Director, Boromarajonani College of Nursing, Sawanpracharak, Nakhonsawan
1
Corresponding author : Email : Wiriya@bcnsurat.ac.th
ด้านการแพทย์และสาธารณสุขจ�ำนวน 117 เรื่อง กองทุ น สนั บ สนุ น การวิ จั ย , 2560) แต่ อ ย่ า งไร
ของ Bennett et al. (2011) พบว่าน้อยกว่า ร้อย ก็ตามในการประเมินดังกล่าว ยังไม่มีการประเมิน
ละ 7 ของงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารทางด้านการ คุณภาพเชิงเนือ้ หาและระเบียบวิธวี จิ ยั ความเชือ่ มัน่
แพทย์มีแนวทางข้อแนะน�ำส�ำหรับผู้แต่งผู้เขียน และเที่ ย งตรงของผลงานวิ จั ย เพื่ อ ส่ ง เสริ ม
บทความ จากงานวิจัยเชิงส�ำรวจทั้ง 117 เรื่องนั้น คุณภาพของการผลิตผลงานวิจัยและการน�ำเสนอ
พบว่ามีหลายประเด็นที่งานวิจัยน�ำเสนอไม่ถูกต้อง ผลงานวิจัยผ่านรายงานวิจัยต้นฉบับที่ดี รวมทั้ง
ชัดเจนและเหมาะสม มีงานวิจัยเพียง ร้อยละ 35 ที่ การน�ำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม
น�ำเสนอข้อค�ำถามที่ส�ำคัญจากแบบสอบถามที่ใช้ ในบทความฉบับนีผ้ เู้ ขียนต้องการน�ำเสนอ
ในงานวิจัย มีงานวิจัยเพียง 19 เรื่อง ที่รายงานค่า 2 ประเด็นคือ 1) วิธีการเขียนรายงานวิจัยต้นฉบับ
ความเชื่อมั่นและความเที่ยงตรงของแบบสอบถาม และ 2) การประเมิ น คุ ณ ภาพงานวิ จั ย ต้ น ฉบั บ
และ ร้อยละ 25 ระบุอัตราการตอบแบบสอบถาม พร้ อ มน� ำ เสนอตั ว อย่ า งรู ป แบบการประเมิ น
ร้อยละ 11 บรรยายถึงความเป็นตัวแทนประชากร คุณภาพงานวิจัยเชิงส�ำรวจ เชิงทดลอง เชิงคุณภาพ
ของกลุ่มตัวอย่าง และมีร้อยละ 11 ที่อธิบายวิธี และการทบทวนวรรณกรรมเป็นระบบตามรูปแบบ
การจัดการกับข้อมูลที่ขาดหายไป ซึ่งตัวอย่างนี้ และวิธีการประเมินของ STROBE และ PRISMA
แสดงให้เห็นว่างานวิจยั ทีต่ พี มิ พ์นนั้ ยังขาดคุณภาพ และ Joanna Briggs Institute โดยแบบประเมิน
ดั ง นั้ น การน� ำ ไปประยุ ก ต์ ใ ช้ ค วรมี ก ารประเมิ น ทีน่ ำ� เสนอนีผ้ เู้ ขียนได้ขออนุญาตจากเจ้าของในการ
คุณภาพก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่อย่างไร แปล ตีพิมพ์ และน�ำไปใช้ในงานวิจัยของผู้เขียน
ส� ำ หรั บ การประเมิ น คุ ณ ภาพงานวิ จั ย เอง เพื่อผู้อ่านที่น�ำผลการวิจัยไปใช้ นักวิจัย และ
ในประเทศไทยนั้ น มี ก ารประเมิ น งานวิ จั ย เชิ ง ผู ้ วิ พ ากษ์ ง านวิ จั ย สามารถน� ำ ไปประยุ ก ต์ ใ ช้ ไ ด้
วิ ช าการด้ า นวิ ท ยาศาสตร์ แ ละเทคโนโลยี โ ดย อย่างเหมาะสม ผลิตงานวิจัยที่มีคุณภาพ และท�ำให้
ส� ำ นั ก งานกองทุ น สนั บ สนุ น การวิ จั ย (สกว.) เกิดการพัฒนาคุณค่าของงานวิจัยต่อไป
โดยประเมินจากผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร
วิชาการ สิทธิบัตร และการน�ำผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ การเขียนรายงานวิจัยต้นฉบับ
ในวารสารวิ ช าการไปใช้ ป ระโยชน์ ในระหว่ า ง รายงานการวิ จั ย ต้ นฉบั บ (Manuscript)
ปี พ.ศ. 2550-2551 พ.ศ. 2552-2553 และ พ.ศ. ที่ อ ธิ บ ายถึ ง การศึ ก ษาวิ จั ย มั ก จะมี รู ป แบบที่ มี
2554-2556 ซึ่ ง กลุ ่ ม สาขาวิ ช าที่ ป ระเมิ น ได้ แ ก่ โครงสร้างตามกระบวนการวิจยั ซึง่ ต้นฉบับเหล่านี้
วิศวกรรมศาสตร์ วิชาเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ อธิบายว่าท�ำไมจึงต้องศึกษาเรื่องนั้น ๆ วิธีการที่ใช้
ธรรมชาติ วิ ท ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ก ารเกษตร ส�ำหรับการศึกษา ผลและสิง่ ทีค่ น้ พบจากการศึกษา
และสัตวแพทยศาสตร์ สาขาแพทยศาสตร์ และ วิจยั โดยทัว่ ไปรูปแบบทีใ่ ช้ในการเขียนรายงานวิจยั
ทั น ตแพทยศาสตร์ และวิ ท ยาศาสตร์ สุ ข ภาพ คือ IMRAD (Oermann, Christenbery, & Turner,
โดยมีการประเมินจ�ำนวนงานวิจัยที่อาจารย์ผลิต 2018) ซึ่ ง ได้ แ ก่ บทน� ำ (Introduction) วิ ธี ก าร
จ� ำ นวนงานวิ จั ย ที่ ไ ด้ รั บ การอ้ า งอิ ง (ส� ำ นั ก งาน (Methods) ผลลัพธ์ (Results) และการอภิปราย
เพิ่ ม เติ ม ได้ ที่ เว็ บ ไซต์ http://www.consort- STROBE –cross sectional study รูปแบบการ
statement.org หากเป็นงานวิจัยชนิดการทบทวน ประเมินที่ใช้ส�ำหรับงานวิจัยเชิงคุณภาพ (Check-
วรรณกรรมอย่างเป็นระบบหรือการวิเคราะห์อภิมาน list for qualitative research) และงานวิจัยเชิงกึ่ง
ควรใช้แนวทางประเมินเฉพาะที่เรียกว่า PRISMA: ทดลอง (Checklist for Quasi-experimental studies:
Preferred Reporting Items for Systematic Reviews non-randomized experimental studies) ของสถาบัน
and Meta-Analyses (Liberati, Liberati et al., et Joanna Briggs Institute ซึง่ แบบประเมินทีน่ ำ� เสนอนี้
al., 2009; Moher et al., 2015) ซึ่งสามารถศึกษา ผูเ้ ขียนได้ขออนุญาตจากเจ้าของในการแปล ตีพมิ พ์
รายละเอี ย ดเพิ่ ม เติ ม ได้ ที่ เ ว็ บ ไซต์ http://www. และน�ำไปใช้ในงานวิจัยของผู้เขียนเอง โดยในการ
prisma-statement.org แปลนัน้ ผูเ้ ขียน (วิรยิ า โพธิข์ วาง) ซึง่ มีความสามารถ
ส่วนงานวิจัยสังเกตเหตุการณ์ทางระบาด ทางด้ า นภาษาอั ง กฤษในระดั บ สู ง ได้ แ ปลแบบ
วิทยา ที่เป็นการศึกษาจากเหตุไปหาผลหรือการ ประเมิน และให้อาจารย์พยาบาลหนึ่งท่านที่ส�ำเร็จ
ศึกษาไปข้างหน้า (Cohort studies) การศึกษาจาก การศึกษาจากต่างประเทศทีม่ คี วามสามารถด้านการ
ผลไปหาเหตุ หรือ การศึกษาแบบย้อนหลัง (Case ใช้ภาษาอังกฤษในระดับสูงเช่นกัน ตรวจสอบความ
control) หรือ การศึกษาภาคตัดขวาง ณ เวลาใด ถูกต้องของภาษาที่แปล
เวลาหนึ่ง (Cross-sectional study) สามารถใช้วิธี ตัวอย่างการประเมินคุณภาพงานวิจัยชนิด
การประเมินคุณภาพงานวิจัยชนิดสังเกตเหตุการณ์ งานวิจัยเชิงส�ำรวจภาคตัดขวางตามแบบประเมิน
ทางระบาดวิทยา (Reporting of Observational ของ STROBE (von Elm et al., 2008) งานวิจัย
Studies in Epidemiology [STROBE]) ของ von กึ่งทดลองตามแบบตรวจสอบงานวิจัยกึ่งทดลอง
Elm et al. (2008) ซึ่งผู้สนใจสามารถศึกษาและ (Checklist for Quasi-Experimental Studies:
เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.strobe-statement. non-randomized experimental studies [Tufanaru,
org หรืองานวิจยั ชนิดอืน่ สามารถศึกษาเพิม่ เติมได้ที่ Munn, Aromataris, Campbell, & Hopp, 2017])
เว็บไซต์ http://www.equator-network.org/ ซึ่งเป็น งานวิ จั ย เชิ ง คุ ณ ภาพตามแบบประเมิ น วิ จั ย เชิ ง
เว็บไซต์ที่รวบรวมแบบประเมินคุณภาพในภาษา คุณภาพ (Checklist for Qualitative Research
ต่าง ๆ มากกว่า 400 แบบ ส่วนการประเมินคุณภาพ [Lockwood, Munn, & Porritt, 2015])โดย
งานวิจัยทางด้านการพยาบาลนิยมใช้แนวทางการ สถาบัน Joanna Briggs Institute และงานวิจัย
ประเมินของ Joanna Briggs Institute สามารถ ชนิดทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบตามแบบ
ศึกษาเพิม่ เติมได้ที่ http://joannabriggs.org/research/ ประเมินของ PRISMA (Liberati et al., 2009)
critical-appraisal-tools.html ซึ่ ง สามารถสรุ ป ผลและน� ำ เสนอตามตาราง
ในบทความฉบั บ นี้ ผู ้ เ ขี ย นขอน� ำ เสนอ ดังต่อไปนี้
ตั ว อย่ า งรู ป แบบการประเมิ น ของ PRISMA,
(มีต่อ)
คุณลักษณะ
ด้ าน สิ่ งทีป่ ระเมิน มี ไม่ ชัด ไม่ มี ไม่ สามารถ
ประเมินได้
(N/A)
(Sample 14. กลุ่มตัวอย่างมีความเป็ นตัวแทนของประชากรที่ศึกษา
selection) 15.ระบุวธิ ีการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง
16.มีการอธิบายกรอบและลักษณะประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
เครื่ องมือวิจยั 17.อธิบายถึงเครื่ องมือที่ใช้ในการวิจยั
(Research tool) 18.อธิบายวิธีการพัฒนาและการได้มาซึ่งเครื่ องมือหรื อ
แบบสอบถามที่ใช้ในการวิจยั
18.มีการทดสอบเครื่ องมือก่อนการใช้จริ งกับกลุ่มตัวอย่างที่
ศึกษา
19. เครื่องมือมีความเที่ยงตรง (Validity) ความแม่นยําใน
การวัด (Reliability)
20. ระบุการให้คะแนนและแปลผลคะแนนของ
แบบสอบถาม/เครื่ องมือ
ผลการศึกษา 21.มีการนําเสนอผลการศึกษาวิจยั
(Results) 22. มีการนําเสนอผลการศึกษาสอดคล้องกับวัตถุประสงค์
23.บรรยายผลการศึกษาอย่างชัดเจน ที่เป็ นผลจากกลุ่ม
ตัวอย่าง
24.ผลการศึกษาสามารถอ้างอิงไปถึงประชากรที่ศึกษา หรื อ
ประชากรในลักษณะที่คล้ายกันได้ (Generalizability)
อัตราการตอบ 25. มีการระบุอตั ราการตอบแบบสอบถาม
กลับ(Response 26. ระบุการคํานวณอัตราการตอบแบบสอบถาม
rates) 27.มีการอภิปรายถึง ความคลาดเคลื่อนจากการไม่ตอบ
แบบสอบถาม (Non response bias)
28. จํานวนผูต้ อบแบบสอบถามทั้งหมดมีความเป็ นตัวแทน
ของประชากร
การแปลผลและ 29. มีการแปลผลและอภิปรายผลการวิจยั ที่คน้ พบ
การอภิปราย 30. มีการสรุ ปผลและเสนอแนะการนําไปใช้หรื อการวิจยั ต่อ
ผลการวิจยั ยอด
(Interpretation 31.มีการระบุขอ้ จํากัดงานวิจยั
and discussion)
(มีต่อ)
คุณลักษณะ
ด้ าน สิ่ งทีป่ ระเมิน มี ไม่ ชัด ไม่ มี ไม่ สามารถ
ประเมินได้
(N/A)
ประเด็น 32.มีการระบุรายละเอียดการช้ แี จงการยินยอมการเป็ น
จริ ยธรรมและการ ประชากรกลุม่ ตัวอย่าง
เปิ ดเผย (Ethics 33. มีการระบุผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือผู้สนับสนุนงานวิจัย
and disclosure) (Sponsorship)
34. มีการรับรองจริ ยธรรมการวิจยั โดยคณะกรรมการ
พิจารณาจริ ยธรรมในมนุษย์
35. มีหลักฐานการรับรองด้านจริ ยธรรมการวิจยั ในมนุษย์
โดยคณะกรรมการพิจารณาจริ ยธรรมในมนุษย์
36. มีหลักฐานใบยินยอมการเป็ นประชากรกลุ่มตัวอย่าง
หมายเหตุ. แปลจาก STROBE Initiative. The Strengthening the Reporting of Observational Studies in
หมายเหตุ. แปลจาก STROBE Initiative. The Strengthening the Reporting of Observational Studies in Epidemiology
Epidemiology (STROBE) statement: guidelines for reporting observational studies by Evon Elm, D.
(STROBE) statement: guidelines for reporting observational studies by Evon Elm, D.G. Altman, M. Egger, S.J. Pocock, P.C.
G. Altman, M. Egger, S. J. Pocock, P. C. Gøtzsche, & J. P. Vandenbroucke (2008). Journal of Clinical
Gøtzsche, & J.P. Vandenbroucke (2008). Journal of Clinical Epidemiology, 61(4):344-9. PMID: 18313558. Retrieved from
Epidemiology, 61(4):344-9. PMID: 18313558. Retrieved from https://www.strobe-statement.org STROBE
https://www.strobe-statement.org
Initiative. The Strengthening the Reporting of Observational Studies in Epidemiology (STROBE)
STROBE Initiative. The Strengthening the Reporting of Observational Studies in Epidemiology (STROBE)statement:
statement: guidelines for reporting observational studies by von Elm E., & Altman D.G., Egger M,
guidelines for reporting observational studies by von Elm E, Altman DG, Egger M, Pocock SJ, Gøtzsche PC,
Pocock S.J.,JPGøtzsche
Vandenbroucke (2008). J P.C., Vandenbroucke
ClinEpidemiol. JP (2008). J ClinEpidemiol.
2008 Apr;61(4):344-9. PMID: 18313558.2008 Apr;from
Retrieved 61(4):https://www.strobe-
344-9. PMID:
18313558. Retrieved from https://www.strobe-statement.org
statement.org
ตารางที่ 2 การประเมินคุณภาพงานวิจัยกึ่งทดลอง
มี ไม่ มี ไม่ ชัด ประเมิน
รายการประเมิน ไม่ ได้ /ไม่
เกีย่ วข้ อง
1. มีตวั แปรต้นตัวแปรตามชัดเจนทําให้ทราบว่าอะไรเป็ นเหตุและอะไร
□ □ □ □
เป็ นผลหรื ออะไรเกิดก่อนอะไรเกิดหลัง
2. กลุ่มตัวอย่างที่เป็ นกลุ่มเปรี ยบเทียบ (ควบคุม)มีคุณสมบัติเท่าเทียมกัน
กับกลุ่มทดลอง □ □ □ □
ตารางที่ 2่ 2การประเมิ
ตารางที การประเมินนคุณคุณภาพงานวิ
ภาพงานวิจัยจกึัย่งกึทดลอง
่งทดลอง
มี ไม่ มี ไม่ ชัด ประเมิน
รายการประเมิน ไม่ ได้ /ไม่
เกีย่ วข้ อง
1. มีตวั แปรต้นตัวแปรตามชัดเจนทําให้ทราบว่าอะไรเป็ นเหตุและอะไร
□ □ □ □
เป็ นผลหรื ออะไรเกิดก่อนอะไรเกิดหลัง
2. กลุ่มตัวอย่างที่เป็ นกลุ่มเปรี ยบเทียบ (ควบคุม)มีคุณสมบัติเท่าเทียมกัน
□ □ □ □
กับกลุ่มทดลอง
3. กลุ่มควบคุมได้รับผลการกระทําทุกอย่างที่เท่าเทียมกันกับกลุ่มทดลอง
□ □ □ □
ยกเว้นสิ่ งที่จะใส่ ในการทดลอง
4. มีกลุ่มควบคุม? □ □ □ □
5. มีการวัดผลก่อนและหลังการทดลอง □ □ □ □
6. มีการติดตามผลที่สมบูรณ์ครบทุกเคสหรื อไม่ ถ้าไม่ครบ มีการแตกต่าง
ระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองอย่างไร จํานวนที่สิ้นสุ ดการ □ □ □ □
ทดลองมีเท่าไหร่ เพียงพอหรื อไม่อย่างไร มีการวิเคราะห์ผลอย่างไร
7. มีการวัดผลลัพธ์ท้ งั ในกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมในลักษณะเดียวกัน
□ □ □ □
หรื อไม่
8. มีการวัดผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือได้หรื อไม่ □ □ □ □
9. มีการใช้สถิติที่เหมาะสมหรื อไม่? □ □ □ □
ตารางที่ 3่ 3 การประเมินคุณภาพงานวิจัยเชิงคุณภาพ
ตารางที
มี ไม่ มี ไม่ ไม่ สามารถ
รายการประเมิน ชัดเจน ประเมินได้ /
ไม่ เกีย่ วข้ อง
1. มีความสอดคล้องกันระหว่างมุมมองด้านปรัชญา แนวคิดที่ได้ระบุ
□ □ □ □
กับระเบียบวิธีการวิจยั
2. มีความสอดคล้องกันระหว่างมุมมองด้านระเบียบวิธีวิจยั และคําถาม
□ □ □ □
การวิจยั หรื อวัตถุประสงค์การวิจยั
3. มีความสอดคล้องกันระหว่างระเบียบวิธีวิจยั และวิธีการที่ใช้ในการ
□ □ □ □
เก็บรวบรวมข้อมูล
4. มีความสอดคล้องกันระหว่างระเบียบวิธีวิจยั และการนําเสนอการ
□ □ □ □
วิเคราะห์ขอ้ มูล
5. มีความสอดคล้องกันระหว่างระเบียบวิธีวิจัยและการแปลผลหรื อ
□ □ □ □
แปลความข้อมูล
6. มีการระบุวา่ การวิจยั อยูบ่ นพื้นฐานความเชื่อ วัฒนธรรมของผูว้ ิจยั
□ □ □ □
หรื อการวิจยั อยูบ่ นทฤษฎี
7. มีการระบุถึงความมีอิทธิพลของผูว้ จิ ยั ต่อผลการวิจยั หรื อผลการ
□ □ □ □
วิจยั มีอิทธิพลต่อผูว้ จิ ยั
8. มีการนําเสนอ กลุ่มตัวอย่างและลักษณะความเป็ นกลุ่มตัวอย่างที่
□ □ □ □
ต้องการศึกษาอย่างเพียงพอ
9. มีการผ่านพิจารณาจริ ยธรรมการวิจยั จากคณะกรรมการจริ ยธรรม
□ □ □ □
การวิจยั ในมนุษย์
10. มีการสรุ ปผลการวิจยั มาจากรายงานการวิจยั การวิเคราะห์ การแปล
□ □ □ □
ความ ของข้อมูล
ผลการพิจารณาคุณภาพโดยรวม: ผ่าน □ ไม่ผา่ น□ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม□
ข้ข้ออเสนอแนะ…………………………………………………………………………………………………
เสนอแนะ…………………………......……………………………………………......…………………
……….........................................................................................................................................................
หมายเหตุ. แปลจาก JBI Critical Appraisal Checklist for Qualitative Research. Chapter 2: Systematic
reviews of qualitative evidence. In: Aromataris ,E., Munn, Z. (Editors) by Lockwood, C., Porrit, K.,
Munn, Z., Rittenmeyer, L., Salmond, S., Bjerrum, M., Loveday, H., Carrier, J. &, Stannard, D.. (2017)
Joanna Briggs Institute Reviewer’s Manual. The Joanna Briggs Institute, 2017. Retrieved from https://
reviewersmanual.joannabriggs.org/ โดยได้รับการอนุญาตให้แปลและตีพิมพ์ จาก Joanna Briggs Institute
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2562
(มีต่อ)
(มีต่อ)
หมายเหตุ. แปลจาก The PRISMA Statement for Reporting Systematic Reviews and Meta-Analyses
of Studies That Evaluate Health Care Interventions: Explanation and Elaboration by A. Liberati,
D. G. Altman, J. Tetzlaff, C. Mulrow, P. C. Gøtzsche et al. (2009). PLoS Med 6(7): e1000100.
doi:10.1371/journal.pmed.1000100. Available from http://www.prisma-statement.org ทั้งนี้ในการแปล
ตี พิ ม พ์ เผยแพร่ และน� ำ ไปใช้ ผู ้ ใ ช้ ส ามารถใช้ PRISMA Statement ได้ โ ดยไม่ ต ้ อ งขออนุ ญ าต
(http://www.prisma-statement.org/PRISMAStatement/CitingAndUsingPRISMA)