You are on page 1of 13

ข้ อบังคับสภาทนายความ

ว่าด้ วยการฝึ กอบรมวิชาว่าความ


พ.ศ.2529
------------------------------------------------
อาศัยอานาจตามความในมาตรา 27(3) และมาตรา 38 และด้วยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษ
แห่งสภาทนายความ ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2528 คณะกรรมการสภาทนายความ
ออกข้อบังคับว่าด้วยการฝึ กอบรมวิชาว่าความไว้ดงั ต่อไปนี้
ข้อ 1. ข้อบังคับนี้เรี ยกว่า “ข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยการฝึ กอบรมวิชาว่าความ พ.ศ.2529”
ข้อ 2. ข้อบังคับนี้ให้ใช้ต้ งั แต่วนั ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็ นต้นไป
ข้อ 3. ในข้อบังคับนี้
“สานักฝึ กอบรม” หมายถึง สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความ แห่งสภาทนายความ
“คณะกรรมการ” หมายถึง คณะกรรมการอานวยการสานักฝึ กอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ
ซึ่ งคณะกรรมการสภาทนายความได้แต่งตั้งให้เป็ นผูค้ วบคุมและบริ หารกิจการตามข้อบังคับนี้
“ผูอ้ านวยการ” หมายถึง ผูอ้ านวยการสานักฝึ กอบรมวิชาว่าความ แห่งสภาทนายความ ซึ่ งคณะกรรมการ
สภาทนายความแต่งตั้ง
หมวด 1
สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ
----------------------------------------------------------------
ข้อ 4. ให้สภาทนายความจัดตั้งสานักฝึ กอบรมวิชาว่าความ เรี ยกว่า “สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความแห่ง
สภาทนายความ” เพื่อฝึ กอบรมหลักปฏิบตั ิเบื้องต้นในการว่าความ ฝึ กอบรมมรรยาททนายความ และการ
ประกอบวิชาชีพทางกฎหมาย
ข้อ 5. ผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรมวิชาว่าความ ต้องมีคุณสมบัติดงั ต่อไปนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) สาเร็ จการศึกษาระดับปริ ญญาตรี หรื ออนุปริ ญญาทางนิติศาสตร์ หรื อประกาศนียบัตรในวิชา
นิติศาสตร์ ซึ่ งเทียบได้ไม่ต่ากว่าปริ ญญาตรี หรื ออนุปริ ญญา หรื อปริ ญญาตรี นิติศิลปศาสตรบัณฑิตทางกฎหมาย
(นศ.บ)[Juris Doctor(J.D.) หรื อ Doctor of Jurisprudence] จากสถาบันการศึกษาในประเทศหรื อต่างประเทศ ซึ่ง
สภาทนายความเห็นว่า สถาบันการศึกษานั้นมีมาตรฐานการศึกษาที่ผไู ้ ด้รับปริ ญญาตรี หรื ออนุปริ ญญา หรื อ
ประกาศนียบัตรควรเป็ นทนายความได้
(3) ไม่เป็ นผูม้ ีความประพฤติเสื่ อมเสี ยหรื อบกพร่ องในศีลธรรมอันดี และไม่เป็ นผูไ้ ด้กระทาการใด
ซึ่ งแสดงให้เห็นว่าไม่น่าไว้วางใจในความซื่ อสัตย์สุจริ ต
(4) ไม่อยูใ่ นระหว่างต้องโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก
(5) ไม่เป็ นโรคติดต่อซึ่ งเป็ นที่รังเกียจแก่สังคม
ผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรมวิชาว่าความ ซึ่ งได้ผา่ นการฝึ กอบรมที่จดั โดยสานักฝึ กอบรมตามหลักสู ตรและ
วิธีการที่กาหนดไว้ในข้อบังคับนี้เท่านั้นมีสิทธิ ขอจดทะเบียนเป็ นทนายความเว้นแต่ผทู ้ ี่ได้เคยปฏิบตั ิหน้าที่เกี่ยวกับ
การพิจารณาคดีในศาลมาแล้วไม่นอ้ ยกว่า 2 ปี อาจขอให้คณะกรรมการพิจารณาสั่งยกเว้นให้จดทะเบียนและ
รับใบอนุ ญาตเป็ นทนายความได้โดยไม่ตอ้ งเข้ารับการฝึ กอบรมตามข้อบังคับนี้
ข้อ 6. ให้ผอู ้ านวยการเป็ นผูบ้ ริ หารกิจการของสานักฝึ กอบรมตามนโยบาย หรื อมติของคณะกรรมการ
ข้อ 7. ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง ซึ่ งแต่งตั้งโดยคณะกรรมการสภาทนายความเรี ยกว่า “คณะกรรม-
การอานวยการสานักฝึ กอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ” ประกอบด้วยผูอ้ านวยการ ซึ่งทาหน้าที่
เป็ นประธานกรรมการ และกรรมการอื่นซึ่ งคณะกรรมการสภาทนายความแต่งตั้งไม่เกิน 15 คนทั้งนี้ให้นายก
อุปนายก เลขาธิ การสภาทนายความเป็ นที่ปรึ กษาโดยตาแหน่ง
ข้อ 8.ให้คณะกรรมการดารงตาแหน่งเท่ากับวาระของคณะกรรมการสภาทนายความ ซึ่ งเป็ นผูแ้ ต่งตั้งให้
เข้ารับตาแหน่ง
คณะกรรมการสภาทนายความอาจมีมติให้กรรมการคนใดคนหนึ่ง หรื อทั้งคณะพ้นจากตาแหน่งก่อน
ครบวาระก็ได้ และจะแต่งตั้งบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็ นกรรมการแทนกรรมการที่ตาย ลาออก หรื อต้องพ้น
ตาแหน่งก่อนวาระก็ได้ คณะกรรมการหรื อกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งแทนนี้ให้อยูใ่ นตาแหน่งได้เท่าวาระของ
กรรมการที่ตนแทน
ข้อ 9.ในกรณี ที่คณะกรรมการพ้นจากตาแหน่งทั้งคณะ ไม่วา่ จะเป็ นการพ้นจากตาแหน่งตามวาระ
หรื อก่อนครบกาหนดวาระก็ตาม ให้ผอู ้ านวยการยังคงรักษาการในตาแหน่งเช่นนั้นต่อไปจนกว่าจะมีคณะ
กรรมการชุ ดใหม่เข้ามารับหน้าที่
ข้อ 10.ให้คณะกรรมการมีอานาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(1) กาหนดนโยบาย และแนวทางปฏิบตั ิในการบริ หารกิจการสานักฝึ กอบรมให้บรรลุตาม
วัตถุประสงค์ของสภาทนายความ
(2) กาหนดรายละเอียดของหลักสู ตรการศึกษา และฝึ กอบรม ตลอดจนเปลี่ยนแปลง หรื อ
ปรับปรุ งรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการศึกษาและฝึ กอบรมให้เหมาะสมกับสภาพความเป็ นจริ ง
(3) กาหนดค่าธรรมเนียม หรื อค่าลงทะเบียน ที่จะพึงเรี ยกเก็บจากผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรมแต่
ต้องไม่เกินสามพันบาท
(4) จัดทาประมาณการรายรับ - รายจ่าย และรายงานเกี่ยวกับฐานะทางการเงินของสานัก
ฝึ กอบรมเสนอต่อคณะกรรมการสภาทนายความ เพื่อให้ความเห็นชอบ
(5) จัดทารายงานการฝึ กอบรมเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการสภาทนายความ
(6) คัดเลือก แต่งตั้ง และสับเปลี่ยนผูบ้ รรยาย ผูท้ ดสอบและผูค้ วบคุมหรื อผูใ้ ห้การฝึ ก
อบรมตามที่เห็นสมควร
(7) แต่งตั้งและถอดถอนที่ปรึ กษา หรื อคณะที่ปรึ กษาซึ่ งคณะกรรมการแต่งตั้งได้ตามที่
เห็นสมควร
(8) ปฏิบตั ิหน้าที่อื่น ๆ ที่จาเป็ นและสมควร เพื่อให้กิจการของสานักฝึ กอบรมสาเร็ จผล
ลงด้วยดี
ข้อ 11. ให้ผอู้ านวยการเป็ นผูก้ าหนดนัดและเรี ยกประชุมคณะกรรมการได้ตามความจาเป็ นและ
เหมาะสม
ในการประชุมคณะกรรมการจะต้องมีกรรมการเข้าร่ วมประชุมอย่างน้อยกึ่งหนึ่งจึงจะเป็ นองค์
ประชุม ให้ผอู้ านวยการหรื อกรรมการที่ผอู้ านวยการมอบหมายทาหน้าที่เป็ นประธานที่ประชุม
มติของที่ประชุมคณะกรรมการให้ถือเสี ยงข้างมาก ในกรณี ที่คะแนนเสี ยงเท่ากันให้ประธานที่
ประชุมมีสิทธิ ออกเสี ยงเพิม่ ขึ้นอีกเสี ยงหนึ่งเป็ นเสี ยงชี้ขาด
หมวด 2
หลักสู ตร
----------------------------------------------------------------
ข้อ 12. ให้สานักฝึ กอบรมจัดให้มีการฝึ กอบรมวิชาว่าความเป็ นประจาทุกปี ปี ละไม่นอ้ ยกว่า 1 ครั้ง
ข้อ 13. หลักสู ตรการฝึ กอบรมวิชาว่าความ แบ่งเป็ น 2 ภาคดังนี้
(1) ภาคทฤษฎี ให้สานักฝึ กอบรมกาหนดการอบรมภาคทฤษฎีโดยมีระยะเวลาให้ฝึกอบรม
ไม่นอ้ ยกว่า 90 ชัว่ โมง ในเรื่ องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
ก. มรรยาทและจริ ยธรรมทนายความ
ข. วิธีดาเนินกระบวนพิจารณาตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ค. วิธีดาเนินกระบวนพิจารณาตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ง. วิธีดาเนินกระบวนพิจารณาตามกฎหมายอื่น
จ. หลักการให้คาปรึ กษากฎหมาย
(2) ภาคปฏิบตั ิ ให้ฝึกอบรมภาคปฏิบตั ิเป็ นเวลาไม่นอ้ ยกว่า 6 เดือน
การฝึ กอบรมภาคปฏิบตั ิอาจกระทาได้ โดยให้ผเู้ ข้ารับการฝึ กอบรมฝึ กหัดงานที่สานักฝึ กอบรม
หรื อที่สานักงานทนายความก็ได้ แต่ระยะเวลาฝึ กหัดงานแห่งใดแห่งหนึ่ง หรื อทั้งสองแห่งรวมกันต้อง
ไม่นอ้ ยกว่าระยะเวลาที่กาหนดในวรรคแรก
หมวด 3
เบ็ดเตล็ด
------------------------------------
ข้อ 14. คณะกรรมการมีสิทธิที่จะคัดชื่อผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรมออกจากทะเบียน หรื อสั่งพักการฝึ ก
อบรมได้ ตามระยะเวลาที่เห็นสมควร หากปรากฏว่าผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรมขาดคุณสมบัติ หรื อประพฤติตน
ไปในทางที่อาจจะทาให้เกิดความเสื่ อมเสี ย หรื อความเสี ยหายแก่สานักฝึ กอบรม หรื อแก่สภาทนายความ
ข้อ 15. ให้ผอู ้ านวยการ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกาศกาหนดเวลาทาการของ
สานักฝึ กอบรม กาหนดเวลาฝึ กอบรม กาหนดการสอบและการวัดผล กาหนดการสัมมนา หรื อการประชุม
ตลอดจนวันหยุดทาการแต่ละปี เป็ นการล่วงหน้า
หมวด 4
บทเฉพาะกาล
------------------------------------
ข้อ 16. ให้ผทู ้ ี่ผา่ นการอบรมวิชาว่าความ ของสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยรุ่ น 11 และ
รุ่ น 12 ประจาปี 2527 และปี 2528 ตามลาดับ และได้รับวุฒิบตั รแล้วเป็ นผูผ้ า่ นการฝึ กอบรมวิชาว่าความ
ตามข้อบังคับนี้

ประกาศ ณ วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2529


คานวณ ชโลปถัมภ์
นายกสภาทนายความ
(ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ เล่ ม 103 ตอนที่ 103 วันที่ 19 มิถนุ ายน 2529)
ประกาศสานักฝึ กอบรมวิชาว่าความ แห่ งสภาทนายความ
เรือ่ ง รับสมัครบุคคลเข้ารับการฝึ กอบรมวิชาว่าความ รุ่นที่ 37
คุณสมบัติของผู้สมัคร

1. มีสัญชาติไทย
2. สาเร็ จการศึกษาระดับปริ ญญาตรี หรื ออนุปริ ญญาทางนิติศาสตร์ จากสถาบันที่สภาทนายความอนุมตั ิ
3. ไม่เป็ นผูม้ ีความประพฤติเสื่ อมเสี ยหรื อบกพร่ องในศีลธรรมอันดีและไม่เป็ นผูไ้ ด้กระทาการใด
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่น่าไว้วางใจในความซื่ อสัตย์สุจริ ต
4. ไม่อยูใ่ นระหว่างต้องโทษจาคุกตามคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก
5. ไม่เป็ นโรคติดต่อซึ่ งเป็ นที่รังเกียจแก่สังคม
หลักฐานทีใ่ ช้ ประกอบการสมัคร

กรณีสมัครใหม่
1.หนังสื อรับรองคุณวุฒิช้ นั อนุปริ ญญา หรื อปริ ญญาตรี ทางนิติศาสตร์ (ฉบับภาษาไทย)
จากสถาบันการศึกษาซึ่งสภาทนายความเห็นว่ามีมาตรฐานการศึกษาควรเป็ นทนายความได้ (เฉพาะ
หนังสื อรับรองที่ออกโดยสภามหาวิทยาลัยหรื อปริ ญญาบัตร) ต้องถ่ายเอกสาร พร้อมตัวจริ งแนบ
ใบสมัคร จานวน 1 ชุด
2. สาเนาบัตรประจาตัวประชาชน/ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ อื่น ๆ จานวน 1 ชุด
3. สาเนาทะเบียนบ้านจานวน 1 ชุด
4. รู ปถ่ายหนาตรงขนาด 1 นิ้ว จานวน 3 รู ป (แต่งกายสุ ภาพถ่ายไม่เกินหกเดือน)
5. กรณี ที่เปลี่ยนชื่อหรื อนามสกุล ต้องแนบหนังสื อสาคัญการเปลี่ยนชื่อหรื อสกุล จานวน 1 ชุด
6. กรณี ที่เคยต้องคาพิพากษา หรื อถูกลงโทษทางวินยั ต้องแนบสาเนาคาพิพากษาถึงที่สุด หรื อ
คาสั่งลงโทษ
กรณีเคยสมัครอบรมแล้ ว
1. รู ปถ่ายหนาตรงขนาด 1 นิ้ว จานวน 3 รู ป (แต่งกายสุ ภาพถ่ายไม่เกินหกเดือน)
2. บัตรประจาตัวผูเ้ ข้ารับการอบรม
ค่ าธรรมเนียมในการสมัคร
1. ค่าธรรมเนียมสมัครเข้ารับการฝึ กอบรม,ค่าลงทะเบียนสอบภาคทฤษฎี เป็ นเงิน 3,000 บาท และ
ค่าธรรมเนียมระเบียบการ 100 บาท รวมเป็ นเงินทั้งสิ้ น 3,100 บาท
2. กรณี เคยสมัครเข้ารับการอบรม เสี ยค่าธรรมเนียมสมัคร 1,350 บาท ค่าธรรมเนียมระเบียบการ
100 บาท รวมเป็ นเงินทั้งสิ้ น 1,450 บาท
กาหนดวันรับสมัคร
- ผู้ทเี่ คยสมัครแล้ ว รับสมัคร วันที่ 2 – 31 พฤษภาคม 2554 (วันเวลาราชการ)
- ผู้ทสี่ มัครใหม่ รับสมัคร วันที่ 1 – 24 มิถุนายน 2554 (วันเวลาราชการ)
ประกาศสานักฝึ กอบรมวิชาว่ าความ แห่ งสภาทนายความ
เรื่อง ระเบียบว่ าด้ วยการฝึ กอบรมวิชาว่ าความ รุ่ นที่ 37

ตามที่สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความ แห่งสภาทนายความ ได้กาหนดให้มีการฝึ กอบรมวิชาว่าความ


รุ่ นที่ 37 ประจาปี พ.ศ.2554 นั้น
เพื่อให้การฝึ กอบรมวิชาว่าความบรรลุตามวัตถุประสงค์แห่ งพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528
อาศัยอานาจตามข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยการฝึ กอบรมวิชาว่าความ พ.ศ. 2529 สานักฝึ กอบรมวิชาว่า-
ความ จึงกาหนดระเบียบว่าด้วยการฝึ กอบรมและทดสอบ ดังต่อไปนี้
ข้ อ 1. การฝึ กอบรมวิชาว่าความแบ่ งเป็ น 2 ภาค คือภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ
ภาคทฤษฎี
การฝึ กอบรมความรู้ภาคทฤษฎี สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความจะจัดให้มีการบรรยายทางวิชาการ
ในหัวข้อต่าง ๆ 17 วัน โดยผูเ้ ข้ารับการอบรมวิชาว่าความจะเข้ารับการอบรมหรื อไม่ก็ได้ (ไม่เช็คเวลาเรี ยน)
เมื่อเสร็ จสิ้ นการฝึ กอบรมภาคทฤษฎีแล้ว จะทาการสอบความรู ้ในภาคทฤษฎี ผูท้ ี่สอบไม่ผา่ น
สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความจะไม่ส่งเข้ารับการฝึ กอบรมภาคปฏิบตั ิ และถือว่าไม่ผา่ นการฝึ กอบรมวิชาว่าความ
รุ่ นที่ 37 แต่ไม่ตดั สิ ทธิ ที่จะเข้ารับการฝึ กอบรมในรุ่ นต่อไป โดยเสี ยค่าธรรมเนียมในการสมัครฝึ กอบรมตามที่
สานักฝึ กอบรมได้กาหนดไว้
ภาคปฏิบัติ
ผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรมที่สอบผ่านภาคทฤษฎี จะต้องฝึ กอบรมภาคปฏิบตั ิอีกไม่นอ้ ยกว่า 6 เดือน
ตามกาหนดเวลาที่สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความ ประกาศกาหนด โดยสานักฝึ กอบรมฯ จะจัดส่ งไปฝึ กอบรม
ภาคปฏิบตั ิ ณ สานักงานทนายความ, ฝ่ าย, องค์กรกฎหมายต่าง ๆ ทัว่ ประเทศ หรื อในกรณี ที่ผเู ้ ข้ารับการฝึ ก
อบรมได้แจ้งให้สานักฝึ กอบรมทราบว่าได้มีสานักงานที่จะฝึ กภาคปฏิบตั ิแล้ว สานักฝึ กอบรมจะพิจารณาจัดส่ ง
ไปฝึ กภาคปฏิบตั ิตามที่ได้แจ้งไว้ ทั้งนี้ ในการเข้าฝึ กอบรมภาคปฏิบตั ิของผูเ้ ข้ารับการอบรมนี้ ทนายความผูค้ วบ
คุมการฝึ กและเซ็นรับรอง และประเมินผลการฝึ กอบรมภาคปฏิบตั ิจะต้องเป็ นทนายความผูท้ ี่มีใบอนุญาตจนถึง
วันเริ่ มฝึ กภาคปฏิบตั ิ มาแล้วไม่นอ้ ยกว่าเจ็ดปี ขึ้นไป
การฝึ กอบรมความรู้ ภาคปฏิบตั ิ สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความ จะจัดให้มีการบรรยายทาง
วิชาการในหัวข้อต่าง ๆ 10 วัน โดยจะเริ่ มบรรยายในเดือนที่หา้ ของการฝึ กภาคปฏิบตั ิ และเมื่อเสร็ จสิ้ นการฝึ ก
อบรมภาคปฏิบตั ิแล้วจะทาการสอบความรู ้ในภาคปฏิบตั ิเกี่ยวกับวิธีปฏิบตั ิต่าง ๆ ตามกฎหมายในหน้าที่
ของทนายความ ผูท้ ี่สอบไม่ผา่ นภาคปฏิบตั ิสามารถขึ้นทะเบียนรักษาสถานภาพผูผ้ า่ นการสอบภาคทฤษฎีและ
ผ่านการฝึ กภาคปฏิบตั ิไว้ได้ภายใน 60 วัน นับแต่วนั ประกาศผลสอบภาคปฏิบตั ิ เพื่อใช้สิทธิ์ ในการสอบภาค
ปฏิบตั ิในรุ่ นต่อไป โดยไม่ตอ้ งเข้ารับการสอบภาคทฤษฎีและฝึ กภาคปฏิบตั ิอีก ทั้งนี้ ผูข้ อขึ้นทะเบียนจะต้อง
รักษาสิ ทธิ์ และเสี ยค่าธรรมเนี ยมการรักษาสถานภาพให้ต่อเนื่องกันตามกาหนดเวลาที่สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความ
ประกาศกาหนด
การสอบปากเปล่า
ผูเ้ ข้ารับการอบรมที่ผา่ นการสอบภาคทฤษฎีและภาคปฏิบตั ิแล้ว ให้เข้ารับการสอบปากเปล่า ตามกาหนด
วันเวลาและหลักเกณฑ์ ที่สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความประกาศกาหนด

การอบรมจริยธรรมและมรรยาททนายความ
ผูเ้ ข้ารับการอบรมที่ผา่ นการสอบปากเปล่าแล้วจะต้องเข้ารับการอบรมจริ ยธรรมและมรรยาททนายความ
ตามกาหนดวันที่สานักฝึ กอบรมฯ ประกาศกาหนดเป็ นเวลาไม่นอ้ ยกว่า 3 ชัว่ โมง ผูท้ ี่ผา่ นการอบรมจริ ยธรรม
และมรรยาททนายความดังกล่าว จึงจะถือว่าเป็ นผูผ้ า่ นการอบรมวิชาว่าความ และมีสิทธิ์ ในการยืน่ คาขอจด
ทะเบียน เพื่อรับใบอนุ ญาตประกอบวิชาชีพทนายความต่อไป

ข้ อ 2. ค่ าธรรมเนียมและค่ าลงทะเบียน
2.1 ค่าธรรมเนียมระเบียบการ เป็ นเงิน 100 บาท(หนึ่งร้อยบาทถ้วน)
2.2 ค่าธรรมเนียมในการสมัครเข้ารับการฝึ กอบรมวิชาว่าความ กรณี สมัครใหม่ เป็ นเงิน 2,700 บาท
(สองพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) กรณี เคยสมัครแล้ว เป็ นเงิน 1,350 บาท (หนึ่งพันสามร้อยห้าสิ บบาทถ้วน)
2.3 ค่าลงทะเบียนสอบภาคทฤษฎีและภาคปฏิบตั ิ ภาคละ 300 บาท (สามร้อยบาทถ้วน)
การลงทะเบียนสอบภาคปฏิบตั ิตอ้ งนาแบบแจ้งผลการฝึ กอบรมภาคปฏิ บตั ิตลอดจนเอกสารที่
เกี่ยวข้องมาเป็ นหลักฐานประกอบการลงทะเบียนสอบด้วย
2.4 ค่าลงทะเบียนเข้ าอบรมจริยธรรมฯ และรับประกาศนียบัตรเป็ นเงิน 500 บาท (ห้ าร้ อยบาทถ้ วน)
2.5 กรณี เคยเข้ารับการอบรมแล้ว เสี ยค่าธรรมเนียมสมัคร 1,350 บาท(หนึ่งพันสามร้อยห้าสิ บ-
บาทถ้วน)
2.6 ค่าธรรมเนี ยมรักษาสถานภาพเป็ นเงิน 1,500 บาท (หนึ่งพันห้าร้อยบาทถ้วน) ด้วย
*** กรณี สมัครใหม่ เสี ยค่าธรรมเนียมสมัครเข้าอบรม รวมค่าธรรมเนียมระเบียบการ เป็ นเงินทั้งสิ้ น 3,100
บาท (สามพันหนึ่งร้อยบาทถ้วน)
*** กรณี เคยสมัครแล้ว เสี ยค่าธรรมเนียมสมัครอบรม รวมค่าธรรมเนียมระเบียบการเป็ นเงินทั้งสิ้ น 1,450
บาท (หนึ่งพันสี่ ร้อยห้าสิ บบาทถ้วน)

ข้ อ 3. การรับประกาศนียบัตร

3.1 ผูท้ ี่จะได้รับประกาศนียบัตรจากสานักฝึ กอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ จะต้องสอบ


ได้ท้ งั ภาคทฤษฎี, ภาคปฏิบตั ิ, ผ่านการสอบปากเปล่าและจะต้องเข้ารับการอบรมจริ ยธรรมและมรรยาททนาย-
ความ เป็ นเวลาไม่นอ้ ยกว่า 3 ชัว่ โมง ตามกาหนดวันที่สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความประกาศกาหนด
3.2 ผูท้ ี่สอบได้ภาคทฤษฎี, ภาคปฏิบตั ิ, ผ่านการสอบปากเปล่า และเข้ารับการอบรมจริ ยธรรม
และมรรยาททนายความแล้ว และได้คะแนนแต่ละภาคตั้งแต่ร้อยละ 90 ขึ้นไป มีสิทธิ ได้รับการพิจารณา
จากสานักฝึ กอบรมวิชาว่าความ เพื่อให้ได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งและหากคะแนนแต่ละภาคได้ต้ งั แต่ร้อยละ
80 ขึ้นไป มีสิทธิ ได้รับการพิจารณาจากสานักฝึ กอบรมวิชาว่าความ เพื่อให้ได้รับเกียรตินิยมอันดับสอง
3.3 ในกรณี ผมู ้ ีสิทธิ ที่จะได้รับพิจารณาจากสานักฝึ กอบรมวิชาว่าความเพื่อให้ได้รับเกียรตินิยม
อันดับหนึ่ง หรื อสองแล้วแต่กรณี จะต้องผ่านการพิจารณาตรวจสอบโดยละเอียดว่าเป็ นผูม้ ีคุณสมบัติครบถ้วน
ตามข้อกาหนดที่จะได้รับเกียรตินิยม

ข้ อ 4. การแต่ งกาย
ผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรมต้องแต่งกายสุ ภาพเรี ยบร้อยทั้งในสถานที่ฝึกอบรมและสถานที่สอบทุกครั้ง
ดังนี้
ชาย – กางเกงสี ดาหรื อกรมท่า เสื้ อเชิ้ตสี ขาว ผูกเนคไทสี ดา หรื อเสื้ อชุดไทย (พระราชทาน)
แบบแขนสั้นหรื อแขนยาว สี สุภาพไม่มีลวดลาย รองเท้าหนังหุ ม้ ส้นสี ดาหรื อน้ าตาลเข้ม
หญิง - กระโปรงสี ขาว ดา หรื อกรมท่า เสื้ อสี ขาว หรื อสี ตามกระโปรง รองเท้าหนังหุ ม้ ส้น
สี ดา หรื อน้ าตาลเข้ม ผูฝ้ ่ าฝื นจะถูกพิจารณาไม่ให้เข้าอบรมหรื อไม่ให้เข้าสอบ หรื อถูกตัดคะแนนการแต่งกาย
ผิดระเบียบแล้วแต่กรณี
ผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรมจะต้องติดบัตรประจาตัวให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ตลอดเวลาที่เข้ารับการ
อบรมและเข้าสอบ
ผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรมจะต้องปฏิบตั ิตามกฎ ข้อบังคับ ระเบียบ และคาสั่งของสานักฝึ กอบรม
วิชาว่าความแห่งสภาทนายความโดยเคร่ งครัด
คณะกรรมการมีสิทธิที่จะคัดชื่อผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรมออกจากทะเบียน หรื อสั่งพักการอบรม
ได้ตามระยะเวลาที่เห็นสมควรหากปรากฏว่าผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรมขาดคุณสมบัติหรื อประพฤติตนไปในทาง
ที่จะทาให้เกิดความเสื่ อมเสี ยหรื ออาจจะเกิดความเสี ยหายแก่สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความ แห่งสภาทนายความ

ประกาศ ณ วันที่ 9 มีนาคม 2554

สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความ
แห่งสภาทนายความ
ประกาศสานักฝึ กอบรมวิชาว่ าความ
เรื่อง เปลีย่ นแปลงวิธีการสมัครอบรมวิชาว่ าความ

สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ ขอประกาศกาหนดการรับสมัคร


บุคคลเข้ารับการอบรมวิชาว่าความรุ่ น 37 ประจาปี 2554 และขอประกาศวิธีการยืน่ ใบ
สมัครเข้ารับการอบรมซึ่งได้ปรับเปลี่ยนรู ปแบบวิธีการ แบ่งได้ตามรายละเอียดดังนี้

ผู้ที่เคยสมัครอบรมแล้ ว
กรณี ผทู ้ ี่เคยสมัครอบรมวิชาว่าความแล้ว สามารถยืน่ สมัครอบรมวิชาว่าความรุ่ น
37 ได้ระหว่างวันที่ 2 - 31 พฤษภาคม 2554 (วันเวลาราชการ) โดยเอกสาร
ประกอบการสมัคร ประกอบด้วย
1.รู ปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จานวน 3 รู ป (เขียนชื่อ-สกุล)
2.บัตรประจาตัวผูเ้ ข้ารับการอบรมวิชาว่าความ
3.ค่าธรรมเนียมสมัคร จานวน 1,350 บาท
4.ค่าธรรมเนียมระเบียบการจานวน 100 บาท (ชาระพร้อมค่าธรรมเนียมสมัคร
ในวันยืน่ สมัคร)

หมายเหตุ เนื่องจากสานักฝึ กอบรมวิชาว่าความได้เปลี่ยนระบบการรับสมัครจากเดิมที่


ต้องซื้อใบสมัครก่อน และยืน่ สมัครตามกาหนดวันตามที่ระบุในใบสมัคร โดยได้
เปลี่ยนแปลงการยืน่ ใบสมัครเป็ นผูส้ มัครสามารถกรอกใบสมัครและยืน่ ใบสมัครได้เลย
ในวันเวลาที่มีการประกาศรับสมัคร โดยใบสมัครสามารถขอรับได้ในวันสมัคร หรื อ
สามารถดาวโหลดด้วยกระดาษขาวขนาด A4 จากเวปไซต์สภาทนายความ
(www.Lawyerscouncil.or.th)

วิธีการสมัคร ผูส้ มัครสามารถดาเนินการได้ 2 วิธีการดังนี้


1.สมัครด้วยตนเอง หรื อ
มอบให้ผอู ้ ื่นยืน่ สมัครแทนได้ (เฉพาะกรณี เคยสมัครอบรมแล้วเท่านั้น)
โดยผูส้ มัครต้องกรอกใบสมัครและลงนามในใบสมัครด้ วยตนเอง และยืน่ ใบ
สมัครพร้อมเอกสารและค่าธรรมเนียมตามที่กาหนดข้างต้น ระหว่างวันที่ 2 - 31
พฤษภาคม 2554 (ในวันและเวลาราชการ)
2.สมัครทางไปรษณี ย(์ เฉพาะผูท้ ี่เคยสมัครอบรมแล้วเท่านั้น) สามารถดาเนินการได้ตาม
รายละเอียดดังนี้
1.ผูส้ มัครต้องกรอกใบสมัครและลงนามในใบสมัครด้ วยตนเอง
2.โอนเงินค่าสมัครพร้อมค่าใบสมัคร รวมเป็ นเงิน 1,450.- บาท( หนึ่งพันสี่ ร้อย
ห้าสิ บบาทถ้วน) เข้าบัญชีธนาคาร

“ธนาคารกรุ งเทพจากัด สาขาสะพานผ่านฟ้ า


ชื่อบัญชี สภาทนายความ ประเภท สะสมทรัพย์
เลขที่บญั ชี 169 – 042439 - 3
หรื อ
“ธนาคารกรุ งไทยจากัด สาขาราชดาเนิน
ชื่อบัญชี สภาทนายความ ประเภทออมทรัพย์
เลขที่บญั ชี 018 – 1- 06234 – 8

3.ส่ งใบสมัคร พร้อมเอกสารมายัง


สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ (สมัครอบรมรุ่ น 37)
เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถ.ราชดาเนินกลาง
แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุ งเทพฯ 10200

เอกสารทีส่ ่ งประกอบด้ วย
- รู ปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จานวน 3 รู ป (เขียนชื่อ-สกุล)
- บัตรประจาตัวผูเ้ ข้ารับการอบรมวิชาว่าความ
- ใบโอนเงินค่าธรรมเนียมสมัครของธนาคาร (ต้นฉบับ) จานวน 1 แผ่น

*** กาหนดการยืน่ ใบสมัครวันสุ ดท้าย คือวันที่ 31 พฤษภาคม 2554 สานักฝึ กอบรม


วิชาว่าความ จะถือวันที่ไปรษณี ยป์ ระทับรับส่ งเอกสารของผูส้ มัครเป็ นสาคัญ และ
ภายหลังที่สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความได้รับเอกสารของผูส้ มัครแล้วจะทาการตรวจสอบ
ความถูกต้องของการสมัคร กรณี การสมัครถูกต้องครบถ้วนจะได้ออกบัตรประจาตัว ส่ ง
ให้ท่านตามที่อยูท่ ี่ระบุในใบสมัครต่อไป
ผู้ที่ยงั ไม่ เคยสมัครอบรม
ผูท้ ี่ไม่เคยสมัครอบรมวิชาว่าความ สามารถยืน่ สมัครอบรมวิชาว่าความรุ่ น 37 ได้
ระหว่างวันที่ 1 - 24 มิถุนายน 2554 (วันเวลาราชการ) โดยเอกสารประกอบการ
สมัคร ประกอบด้วย
1.สาเนาปริ ญญาบัตรหรื อหนังสื อรับรองจากสภามหาวิทยาลัยฉบับภาษาไทย
ต้ นฉบับพร้อมสาเนา (รับรองสาเนา) จานวน 1 ชุด
2.รู ปถ่ายหน้าตรง ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน แต่งกายสุ ภาพ ขนาด 1 นิ้ว จานวน 3 รู ป
(เขียนชื่อ-สกุลหลังรู ปถ่ายทุกรู ป)
3.สาเนาทะเบียนบ้าน(รับรองสาเนา) จานวน 1 ชุด
4.สาเนาบัตรประชาชน หรื อบัตรข้าราชการหรื อพนักงานรัฐวิสาหกิจ (รับรอง
สาเนา) จานวน 1 ชุด
5.ค่าธรรมเนียมสมัคร จานวน 3,000 บาท
6.ค่าธรรมเนียมระเบียบการ จานวน 100 บาท (ชาระพร้อมค่าธรรมเนียมสมัคร
ในวันยืน่ สมัคร)
7.สาเนาใบเปลี่ยนชื่อหรื อสกุลหรื อใบแต่งตั้งยศ (กรณี ไม่ตรงกับวุฒิการศึกษา)
*** กรณี ผสู ้ มัครประสงค์จองชีทคาบรรยาย เสี ยค่าธรรมเนียมค่าชีทคาบรรยายจานวน
400 บาทด้วย

กรณีการสมัครใหม่ ผูส้ มัครต้องกรอกใบสมัคร ลงนามในใบสมัคร และยืน่ ด้วย


ตนเองเท่านั้น

**********************************
ข้ อปฏิบัติการฝึ กอบรมวิชาว่ าความ

1. วิธีการสมัคร
การสมัครจะต้องดาเนินการและเตรี ยมเอกสาร
1.1 กรอกใบสมัคร ให้ติดรู ปถ่ายขาวดา หรื อสี ขนาด 1 นิ้ว โดยกรอกด้วยปากกาหมึกสี ดา หรื อ
สี น้ าเงินเข้ม รู ปถ่ายที่เหลืออีก 2 รู ป ให้เขียนชื่อ-นามสกุล หลังรู ปให้ชดั เจน
1.2 วุฒิบตั รต้องระบุวา่ จบ หรื อสาเร็ จการศึกษา ซึ่ งได้รับอนุมตั ิจากสภามหาวิทยาลัยแล้ว
(แสดงต้นฉบับและสาเนาพร้อมรับรองสาเนาจานวน 1 ฉบับ)
1.3 สาเนาทะเบียนบ้าน และสาเนาบัตรประชาชน ถ่ายเอกสารพร้อมรับรองสาเนาอย่างละ 1 ฉบับ
1.4 กรณี ชื่อ-นามสกุล คานาหน้านาม วันเดือนปี เกิดในสาเนาใบวุฒิบตั รไม่ตรงกับบัตรประชาชน
ให้แนบสาเนาพร้อมรับรองสาเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล
1.5 ยืน่ ใบสมัครที่กรอกข้อความ พร้อมเอกสารประกอบการสมัครตามข้อ 1.2 – 1.4 โดยรับรอง
สาเนาเอกสารถูกต้องทุกฉบับ แก่เจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบ
1.6 ชาระเงินค่าธรรมเนียมระเบียบการ ค่าธรรมเนียมสมัครและค่าธรรมเนียมลงทะเบียนสอบภาคทฤษฎี
รวมเป็ นเงิน 3,100 บาท(สามพันหนึ่งร้อยบาทถ้วน)
หรื อกรณี เคยสมัครเข้ารับการอบรมแล้วเสี ยค่าธรรมเนียมระเบียบการ ค่าธรรมเนียมสมัคร รวมเป็ นเงิน
1,450 บาท (หนึ่งพันสี่ ร้อยห้าสิ บบาทถ้วน)
1.7 ยืน่ ใบสมัครพร้อมใบเสร็ จรับเงินแก่เจ้าหน้าที่เพื่อออกเลขรหัสประจาตัว
1.8 รอรับบัตรประจาตัว

2.กาหนดวันยื่นสมัครอบรม
กรณีเคยสมัครอบรมแล้ว ยืน่ สมัครอบรมวิชาว่าความรุ่ น 37 ด้วยตนเอง หรื อมอบหมายให้ผอู ้ ื่นยืน่
สมัครแทน ณ สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ หรื อยืน่ สมัครทางไปรษณี ย ์
ได้ระหว่างวันที่ 2 – 31 พฤษภาคม 2554 (วันเวลาราชการ)
กรณีสมัครใหม่ ยืน่ สมัครอบรมวิชาว่าความรุ่ น 37 ด้ วยตนเองเท่านั้น ณ สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความ
แห่งสภาทนายความ ได้ระหว่างวันที่ 1 – 24 มิถุนายน 2554 (วันเวลาราชการ)

3. การแจ้ งสถานทีฝ่ ึ กอบรมภาคปฏิบัติ


ให้ผเู้ ข้ารับการฝึ กอบรมวิชาว่าความรุ่ นที่ 37 ที่ผา่ นการสอบภาคทฤษฎีทุกคน ส่ งหนังสื อแจ้ง
สถานที่ฝึกอบรมภาคปฏิบตั ิตามแบบฟอร์ มและภายในกาหนดเวลาที่สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความกาหนด
กรณี ผเู้ ข้ารับการอบรมมีสถานที่ฝึกภาคปฏิบตั ิให้นาแบบฟอร์มการแจ้งฝึ กอบรมภาคปฏิบตั ิให้ทนายความ
ซึ่งมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทนายความไม่นอ้ ยกว่า 7 ปี ลงชื่อรับรองการรับเข้าฝึ กภาคปฏิบตั ิ และแนบ
สาเนาใบอนุญาตทนายความผูร้ ับรอง 1 ฉบับด้วย
กรณี ผเู ้ ข้ารับการฝึ กอบรมไม่สามารถหาสถานที่ฝึกอบรมภาคปฏิบตั ิได้ ให้ระบุในแบบฟอร์ มแจ้ง
สถานที่ฝึกอบรมภาคปฏิบตั ิ (กรณี ไม่มีสานักงาน) โดยระบุเขตท้องที่ที่ประสงค์จะฝึ กอบรมภาคปฏิบตั ิ
ยืน่ ต่อสานักฝึ กอบรมฯ เพื่อจัดสถานที่ฝึกภาคปฏิบตั ิให้ภายในกาหนดที่สานักฝึ กอบรมฯ ประกาศกาหนด
4. การฝึ กภาคปฏิบัติ
ผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรมที่ผา่ นการสอบภาคทฤษฎีแล้ว ให้รายงานตัว และรับหนังสื อส่ งตัวฝึ กภาคปฏิบตั ิ
ตามกาหนดวัน, เวลา สถานที่ที่สานักฝึ กอบรมฯ ประกาศกาหนด กรณี ที่ไม่สามารถรายงานในวันดังกล่าวได้
ให้ผเู ้ ข้ารับการฝึ กอบรมติดต่อขอรับหนังสื อส่ งตัวฝึ กภาคปฏิบตั ิภายใน 30 วัน นับแต่วนั ที่ประกาศกาหนด
หากพ้นกาหนดดังกล่าว ผูเ้ ข้ารับการอบรมต้องทาคาร้องชี้แจงสาเหตุกรณี ที่ไม่มารับหนังสื อส่ งตัวภายใน
กาหนด และต้องให้สานักงานที่ผเู ้ ข้ารับการฝึ กอบรมฝึ กภาคปฏิบตั ิออกหนังสื อรับรองยืนยันการเข้าฝึ กภาค
ปฏิบตั ิในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
ในการฝึ กอบรมภาคปฏิบตั ิสานักฝึ กอบรมวิชาว่าความอนุ ญาตให้ ผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรมแจ้งความจานง
ขอย้ายสถานที่ฝึกภาคปฏิบตั ิได้ภายใน 1 เดือน นับแต่วนั ปฐมนิเทศภาคปฏิบตั ิ หากพ้นกาหนดดังกล่าวผูเ้ ข้ารับ
การฝึ กอบรมประสงค์จะย้ายสานักงานให้ทาเป็ นคาร้องเสนอต่อผูอ้ านวยการสานักฝึ กอบรม เพื่อพิจารณาโดย
แนบเอกสารประกอบดังนี้คือ
1. หนังสื อขอแจ้งย้ายสานักงาน
2. หนังสื อรับรองการฝึ กหัดงานภาคปฏิบตั ิจากสานักงานเดิม
3.หนังสื อรับรองแสดงความประสงค์รับผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรมเข้าฝึ กภาคปฏิบตั ิในสานักงาน
(ออกโดยสานักงานที่ผเู้ ข้ารับการอบรมประสงค์จะย้ายไปฝึ กภาคปฏิบตั ิ )
4. สาเนาใบอนุญาตการเป็ นทนายความของผูอ้ อกหนังสื อรับรอง ข้อ. 3

5. การลงทะเบียนสอบภาคปฏิบัติ
เมื่อเสร็ จสิ้ นการฝึ กอบรมภาคปฏิบตั ิแล้ว ให้ผเู ้ ข้ารับการอบรมนาเอกสารประกอบการฝึ กอบรมภาค
ปฏิบตั ิซ่ ึงประกอบด้วยแบบอภป.สาเนาใบอนุญาตการเป็ นทนายความของทนายความผูร้ ับรองการฝึ กอบรม
ภาคปฏิบตั ิ และค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนสอบ จานวน 300 บาท มายืน่ ต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอลงทะเบียน
สอบภาคปฏิบตั ิตามกาหนดวัน เวลาที่สานักฝึ กอบรมประกาศกาหนด

6. การรักษาสถานภาพ
ผูเ้ ข้ารับการอบรมที่ผา่ นการสอบภาคทฤษฎี และผ่านการฝึ กอบรมภาคปฏิบตั ิครบ 6 เดือน และไม่ผา่ น
การสอบข้อเขียนภาคปฏิบตั ิ ให้ลงทะเบียนรักษาสถานภาพ เพื่อขึ้นทะเบียนการสอบภาคทฤษฎีไว้ภาย
ใน 60 วันนับแต่วนั ประกาศผลการสอบภาคปฏิบตั ิ เพื่อใช้สิทธิ์ ในการสอบภาคปฏิบตั ิในรุ่ นต่อไป
โดยไม่ตอ้ งเข้ารับการสอบภาคทฤษฎี และฝึ กอบรมภาคปฏิบตั ิอีก โดยผูข้ อขึ้นทะเบียนจะต้องรักษาสิ ทธิ์
และเสี ยค่าธรรมเนียมการรักษาสถานภาพจานวน 1,500.-บาท (หนึ่งพันห้าร้อยบาทถ้วน) ให้ต่อเนื่อง

7. การสอบปากเปล่า
ให้ผเู ้ ข้ารับการอบรมที่ผา่ นการสอบภาคทฤษฎีและภาคปฏิบตั ิแล้ว เข้ารับการสอบปากเปล่า ตาม
กาหนดวันเวลาและหลักเกณฑ์ ที่สานักฝึ กอบรมวิชาว่าความประกาศกาหนด
8. การอบรมจริยธรรมและมรรยาททนายความ
ให้ผเู ้ ข้ารับการฝึ กอบรมที่ผา่ นการสอบปากเปล่าแล้วทุกคนลงทะเบียนเพื่อเข้าอบรมจริ ยธรรม และ
มรรยาททนายความ โดยเสี ยค่าธรรมเนียม 500 บาท และให้เข้ารับการอบรมจริ ยธรรมและมรรยาททนายความ
เป็ นเวลา 3 ชัว่ ตามกาหนดวันเวลาที่สานักฝึ กอบรมฯ ประกาศกาหนด ผูท้ ี่เข้ารับการอบรมจริ ยธรรมและ
มรรยาททนายความครบตามหลักเกณฑ์ที่สานักฝึ กอบรมฯ กาหนดจึงจะถือว่าเป็ นผูผ้ า่ นการอบรมวิชาว่าความ
มีสิทธิ์ ในการยืน่ คาขอจดทะเบียน เพื่อรับใบอนุ ญาตประกอบวิชาชีพทนายความ

9. การรับประกาศนียบัตร
ผูเ้ ข้ารับการฝึ กอบรมที่ผา่ นการสอบภาคทฤษฎี, ภาคปฏิบตั ิ, สอบปากเปล่า และเข้ารับการ
อบรมจริ ยธรรมและมรรยาททนายความแล้วเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์ ในการเข้ารับประกาศนียบัตรผูผ้ า่ นการ
ฝึ กอบรม
กรณี ผเู้ ข้ารับการฝึ กอบรมจบการศึกษาจากสถาบันการศึกษาภาครัฐบาลที่เอกสารประกอบการจด
ทะเบียนครบแล้ว หากประสงค์จะจดทะเบียนและรับใบอนุญาตให้เป็ นทนายความ ให้นาประกาศนียบัตร
ผูผ้ า่ นการอบรมวิชาว่าความ ใช้ประกอบการยืน่ คาขอจดทะเบียนเป็ นทนายความได้ที่ ฝ่ ายทะเบียนสภา-
ทนายความ ตามรายละเอียดที่ฝ่ายทะเบียน ประกาศกาหนด
แต่กรณี ที่ผเู ้ ข้ารับการฝึ กอบรมจบการศึกษาจากสถาบันการศึกษาภาคเอกชน ให้นาประกาศนียบัตร
ผูผ้ า่ นการอบรมวิชาว่าความ เพื่อเป็ นหลักฐานการขอสมัครวิสามัญสมาชิกที่เนติบณั ฑิตยสภา เมื่อเนติบณั -
ฑิตยสภาประกาศรับแล้วจึงจะสามารถยืน่ คาขอจดทะเบียนทนายความได้

You might also like