Professional Documents
Culture Documents
เฉลยคำถามบทที่ 4
หลักการของรีเลย์ป้องกัน
1. จงเขียนวงจรแสดงส่วนประกอบของระบบป้ องกัน
ตอบ
ส่วนประกอบของระบบป้องกันแสดงได้ดงั รูป
4. รีเลย์ป้องกันที่มีใช้ในปัจจุบนั มีกี่ชนิ ด
ตอบ
รีเลย์ทม่ี ใี ช้กนั อยู่ในปจั จุบนั สามารถแบ่งเป็ นชนิดต่างๆ ตามหลักการทำงานได้ 3 ชนิดคือ
- Electromechanical Relay คือ รีเลย์ทใ่ี ช้กระแสไฟฟ้า สร้างแรงดึงดูดหรือแรงบิดทางแม่
เหล็กทำให้เกิดการเคลื่อนทีท่ างกลของหน้าสัมผัส
- Solid State Relay คือ รีเลย์ทใ่ี ช้วงจร Electronics ของสารกึง่ ตัวนำมาจำลอง
- Digital Relay คือ รีเลย์ทอ่ี าศัย Digital Electronic มาใช้
- Memory Unit
- Keyboard and Display
- Data Communication Hardware
11. RS 232 และ RS 485 ที่ใช้ใน Digital Relay คืออะไร จงอธิ บาย
ตอบ
สายส่งระบบสือ่ สารทีใ่ ช้มากทีส่ ดุ ใน Digital Relay คือ RS 232 และ RS 485
- RS 232 ใช้กบั Series Port โดยความเร็วในการส่งข้อมูลจะน้อยกว่า 10 kbits/sec และ
ระยะทางของการใช้งานค่อนข้างสัน้
- RS 485 ใช้กบั Parallel Port ความเร็วในการส่งข้อมูลมีถงึ 10 Mbits/sec โดยระยะทาง
ไปได้ไกลและสามารถต่อกันได้ถงึ 32 Devices
Series Sealing
ขดลวดของ Contactor ซึง่ ต่ออนุกรมกับ Contactor ของรีเลย์ป้องกัน จะรับกระแสเมือ่ Contact
ของรีเลย์ป้องกันปิด และ Contactor จะปิ ด Contact ของตัวเองขนานกับ Contact ของรีเลย์ การปิ ด
ของ Contactor นี้จะลดภาระของ Contact ของรีเลย์ไม่ให้ตอ้ งรับกระแสสูง ( กระแสจะผ่าน Contact
ของ Contactor แทน ) และจะทำให้ปิดวงจร Trip นี้อย่างมันคง ่ ถึงแม้ Contact ของรีเลย์จะไม่คอ่ ย
แน่น เวลาในการ Trip ทัง้ หมดจะไม่เพิม่ ขึน้ และตัวชีบ้ อกจะไม่ทำงานจนกว่ากระแสไหลผ่านขดลวด
Trip แล้วเท่านัน้
ข้อเสียของวิธนี ้คี อื ส่วนทีต่ ่ออนุกรมจะต้องมีขดลวดซึง่ พอเหมาะ ( Matched ) กันกับวงจร Trip
ทีต่ ่ออยูด่ ว้ ย
ขดลวดของ Contactor ประเภทนี้ตอ้ งมี Impedance ต่ำ คือจะต้องมีแรงดันตกคร่อมขดลวด
ประมาณ 5% ของแรงดันในวงจร
เมือ่ ใช้รว่ มกับรีเลย์ทม่ี คี วามเร็วสูง ( High Speed Trip Relay ) ซึง่ ตามปกติจะปิ ด Contact ครู่
หนึ่งแล้วจะตัดกระแสของตัวเอง Contactor จะต้องเร็วพอทีจ่ ะทำงาน ( ปิ ด Contact ของตัว ) และ
บังคับตัวชีบ้ อกให้ทำงานก่อนทีก่ ระแสในขดลวดของตัวจะถูกตัด ลักษณะเช่นนี้อาจทำให้เกิดปญั หาใน
การออกแบบถ้าในกรณีท่ี Contactor หลายตัวต้องทำงานขนานกันเพือ่ บังคับรีเลย์ Trip ตัวเดียวกัน
PR 52A
+ TC -
ก .แ บ บ S ir ie s S e a lin g
ค . แ บ บ S h u n t R e in f o r c in g W it h s e r ie s S e a lin g
6
โดยทัง้ แบบที่ 1 และ 2 จะเพิม่ สวิท ช์แบบปุม่ กด โดยต่ออนุ กรมกับหลอดไฟเพือ่ กดดูเ ฉพาะเวลา
ต้องการเท่านัน้ และทัง้ 2 แบบนี้ใช้ได้เฉพาะกรณีทอ่ี ยูใ่ นสถานีจา่ ยไฟย่อยหรือจุดทีม่ กี ารควบคุมดูแล
โดยตรง ในกรณีทส่ี งการมาจากที
ั่ ั ญาณส่งไปโดยใช้รเี ลย์ แทนทีจ่ ะเป็ นหลอดไฟ ดังรูปที่
อ่ ่นื ต้องมีสญ
2.3
แบบที่ 3. การควบคุมดูแล ขณะที่ Circuit Breaker ปิดหรือเปิ ดอยู่ โดยมีส ญ ั ญาณเตือนภัย
ระยะไกล
7
ในระบบไฟฟ้ า ทีม่ แี หล่ง จ่า ยไฟมากกว่า หนึ่ง แหล่ง (Multiple Sources) หรือ ทีม่ วี งจรเป็ น
Loop เมือ่ เกิดผิดพร่องขึน้ ณ จุดใดๆ จะมีกระแสผิดพร่องมากกว่าหนึ่ง ทาง การใช้รเี ลย์กระแสเกิน
แบบธรรมดา (ไม่มที ศิ ทาง) จะไม่สามารถจัดให้ทำ งานประสานกันได้ จำเป็ นจะต้องใช้รเี ลย์แบบที่
สามารถตรวจจับทิศทางของกระแสผิดพร่องได้
- Distance Relay ( 21 )
คือรีเลย์ทส่ี ามารถวัดค่า Impedance ของจุดทีเ่ กิดการผิดพร่องจนถึงจุดทีต่ ดิ ตัง้ CT และ VT
โดยจะต้องวัดค่ากระแสและแรงดันแล้ว นำมาหาอัตราส่วน เพือ่ หาค่า Impedance ถ้าค่า Impedance
ของสายส่งต่อความยาวมีคา่ สม่ำเสมอแล้ว ค่า Impedance จะเป็ นสัดส่วนกับระยะทาง ดังนัน้ รีเลย์
ชนิดนี้จงึ เรียกว่ารีเลย์ระยะทาง โดยจะทำงานเมือ่ การผิดพร่องทีเ่ กิดขึน้ อยู่ในระยะทางทีกำ
่ หนดไว้
9
- Differential Relay ( 87 )
เป็ นรีเลย์ทม่ี คี วามไวมากทีส่ ดุ สามารถตรวจจับกระแสผิดพร่องได้ แม้จะมีขนาดเล็ก เราใช้รเี ลย์
ประเภทนี้ในการป้องกันการผิดพร่องภายในอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ได้แก่ มอเตอร์ , เครือ่ งกำเนิดไฟฟ้า
และ หม้อแปลงไฟฟ้า การทำงานของรีเลย์ประเภทนี้จะใช้ CT ต่อทีว่ งจรด้านหน้าและด้านหลังของ
อุปกรณ์ไฟฟ้า การต่อขัว้ ของ CT จะต้องถูกต้องเพือ่ ให้มกี ระแสผลต่างผ่านรีเลย์ ในภาวะปกติ หรือ
เกิดการผิดพร่องนอกเขตป้องกัน จะไม่มคี า่ กระแสผลต่าง แต่ถา้ เกิดการผิดพร่องในเขตป้ องกัน จะมี
ค่ากระแสผลต่างเกิดขึน้ ดังนัน้ การตัง้ ค่า Pick up จึงสามารถตัง้ ค่าต่ำๆ ได้ ทำให้รเี ลย์ประเภทนี้ม ี
ความไวสูง
- Undervoltage Relay ( 27 )
- ควบคุมการทำงานของ Capacitor
- ป้องกันการเกิดแรงดันเกินของเครือ่ งกำเนิดไฟฟ้า
- ส่งผ่านแหล่งจ่ายกำลังโดยอัตโนมัติ
- มีการตัด Load เมือ่ แรงดันตก
- ป้องกันการเกิดแรงดันตกสำหรับ Motor
คำถามเพิ ม่ เติ ม
I>
I
IN >
Ii >
I
3. มาตรฐาน IEC ให้ชื่อรีเลย์อย่างไร จงอธิ บาย
ตอบ
ใIห้ชอ่ื รีเลย์ตามสัญลักษณ์ ดังนี้
มาตรฐาน IEC ได้
IN
Overcurrent Protection
U<
Current Directional Protection
>f > Zero Sequence Overcurrnet Protection
P Thermal Image
Differential Protection
Q
Earth Fault Differential Protection
UN >
11
Undervoltage Protection
Overvoltage Protection
Buchholz
4. จงอธิ บายหลักการทำงานของ
- Current Differential Relay
ตอบ
โดยหลักการจะอาศัยการเปรียบเทียบความแตกต่างของกระแสสามารถอธิบายได้ดงั ในรูป ที่ 3
เป็ นขดลวดของอุปกรณ์ไฟฟ้า มี CT แปลงกระแสทางเข้าและออกของขดลวด โดยจัดขัว้ ของ CT ให้
ได้กระแสผลต่าง ( I 1 I 2 ) ผ่านเข้าไปยังรีเลย์ ในการทำงานปกติกระแสเข้าและออกจากขดลวดจะ
เท่ากัน ทำให้กระแสผลต่างผ่านรีเลย์มคี า่ เป็ นศูนย์ รีเลย์จะไม่ทำงาน แต่ถา้ มีการผิดพร่องเกิดขึน้ ทีข่ ด
ลวด จะทำให้กระแสเข้าไม่เท่ากับกระแสออก เกิดกระแสผลต่างขึน้ ทำให้รเี ลย์ทำงาน รีเลย์ทใ่ี ช้น้ีจะ
สามารถตัง้ ค่ากระแส Pick up ต่ำ ๆ ได้ ทำให้มคี วามไวสูง การป้องกันแบบนี้มกั ใช้กบั อุปกรณ์ไฟฟ้ า
ต่างๆ เช่น เครือ่ งกำเนิดไฟฟ้า , มอเตอร์ , บัส และหม้อแปลงไฟฟ้า เป็ นต้น
12
I I
จากรูปที่ 4.2 เมือ่ เกิดการผิดพร่องนอก Zone of Protection ค่า 1 2 จะมีคา่ สูงจากกราฟ
2
I
เห็นว่าค่า 2 1 จะมีคา่ สูงด้วย ดังนัน้ รีเลย์จงึ มีความไวต่ำ โดยจะสามารถปรับค่า Percentage ได้
I
ซึง่ ก็คอื การปรับค่าความชันของเส้นกราฟนันเอง ่ ค่า Percentage สูง ก็คอื กราฟทีม่ คี วามชันสูง จะ
ทำให้บริเวณทำงาน ( Operating Zone ) น้อยลงนันคื ่ อรีเลย์จะมีความไวน้อยลงนันเอง ่ โดยลักษณะ
การทำงานเป็นแบบเส้นตรงในรูป ที่ 4.2 เรียกว่า Fixed Percentage Relay ส่วนรูป ที่ 4.3 เรียกว่า
I I
Variable Percentage Relay ซึง่ จะเห็นได้วา่ มีคณ ุ สมบัต ทิ ด่ี กี ว่า คือเมือ่ 1 2 มีคา่ สูง รีเลย์จะมี
2
I 1 I2
ความไวต่ำกว่า และเมือ่ มีคา่ ต่ำ รีเลย์จะมีความไวสูง
2