Professional Documents
Culture Documents
เซต
1.1 เซต
เซต (Set) เป็นคำอนิยำม หมำยถึง กลุ่มของสิ่งต่ำง ๆ ที่สำมำรถกำหนดสมำชิกได้อย่ำงชัดเจน เช่น
เซตของชื่อวันที่มีใน 1 สัปดำห์
เซตของคำตอบของสมกำร x 3 5x 2 2x 8 0
และเรียกสิ่งที่อยู่ในเซตนั้นว่ำ สมาชิก (Element หรือ member) เช่น
เซตของชื่อวันที่มีใน 1 สัปดำห์ มีสมำชิก คือ จันทร์ อังคำร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสำร์ และอำทิตย์
เซตของคำตอบของสมกำร x 3 5x 2 2x 8 0 มีสมำชิก คือ 1, 2 และ 4
และถ้ำหำกเซตนั้นไม่สำมำรถกำหนดสมำชิกได้อย่ำงชัดเจน จะถือว่ำไม่ใช่เซต เช่น
เซตของอำหำรที่คนไทยชื่นชอบ
เพรำะไม่สำมำรถระบุสมำชิกได้ชัดเจน หำกถำมคนไป คนแรกอำจได้คำตอบคือ {ส้มตำ}
ถำมคนที่สองอำจได้คำตอบ คือ {ผัดไท, แกงเขียวหวำน} ซึ่งมีควำมไม่ชัดเจนของสมำชิกนั่นเอง
การเขียนเซตสำมำรถเขียนได้ 2 แบบ คือ
1. แบบแจกแจงสมาชิก เขียนสมำชิกทุกตัวลงในเครื่องหมำยวงเล็บปีกกำ {} และใช้เครื่องหมำยจุลภำค
(,) คั่นระหว่ำงสมำชิกแต่ละตัว เช่น
เซตของจำนวนนับที่น้อยกว่ำ 6 เขียนได้ดังนี้ {1,2, 3, 4,5}
ข้อสังเกตเกี่ยวกับการเขียนเซตแบบแจกแจงสมาชิก
1. จะแทนเซตด้วยอักษรภำษำอังกฤษพิมพ์ใหญ่ เช่น A, B,C, D,...,Y, Z แทนชื่อเซต และใช้อักษรพิมพ์
เล็ก เช่น a,b,c,d,..., y, z แทนสมำชิกที่อยู่ในเซต เช่น ให้ A เซตของจำนวนนับที่น้อยกว่ำ 6 แล้วจะเขียนได้ว่ำ
A {1,2, 3, 4,5}
2. ในกรณีทเี่ ซตมีสมำชิกมำกไม่สะดวกที่จะเขียนได้ครบทุกตัวอำจละไว้ แล้วใช้เครื่องหมำยจุดสำมจุด (...)
แทน เช่น ให้ B เป็นเซตของจำนวนนับที่ไม่เกิน 100 แล้วจะเขียนได้ว่ำ
B {1,2, 3, 4,...,100}
ให้ C เป็นเซตของจำนวนเต็ม แล้วจะเขียนได้ว่ำ
C {..., 2, 1, 0,1,2,...}
3. อันดับก่อนหลังของกำรเขียนสมำชิกในเซตไม่ถือเป็นสิ่งสำคัญ เช่น
D {3,5,7,9} อำจเขียนเป็น D {9,7,5, 3} ก็ได้
4. หำกมีสมำชิกซ้ำกันหลำย ๆ ตัว ให้เขียนเพียงตัวเดียว
เช่น ให้เซต B เป็นเซตของเลขโดดของจำนวนนับ 14,543, 361 แล้วจะเขียนได้ว่ำ
E {1, 3, 4,5,6}
1
คณิตศำสตร์ ม.4 – 6 โดย พี่เจมส์เป็ด (คณิตศำสตร์ กศ.บ.) หน้ำที่ 2
เอกภพสัมพัทธ์
เอกภพสัมพัทธ์ (Relative Universe) คือ เซตใหญ่ที่กำลังสนใจอยู่ ใช้เครื่องหมำยแทน คือ U โดยเซตทุกเซตต้อง
เป็นสับเซตของเอกภพสัมพัทธ์
เช่น กำหนดให้ U เป็นเซตของจำนวนจริง
โดยที่ A {x | x 2 16} และ B {x | x 3 8}
จะได้ A {4, 4} และ B { 2}
แต่ถ้ำกำหนดให้ U เป็นเซตของจำนวนจริงบวก จะได้ A {4} และ B
นอกจำกนี้เอกภพสัมพัทธ์ยังสำมำรถใช้สัญลักษณ์ที่ใช้แทนเซตของจำนวนต่ำง ๆ มีดังนี้
แทน เซตของจำนวนนับ แทน เซตของจำนวนเต็ม
แทน เซตของจำนวนเต็มบวก แทน เซตของจำนวนเต็มลบ
แทน เซตของจำนวนตรรกยะ แทน เซตของจำนวนอตรรกยะ
แทน เซตของจำนวนจริง แทน เซตของจำนวนจริงบวก
แทน เซตของจำนวนจริงลบ แทน เซตของจำนวนเชิงซ้อน
บำงครั้งเพื่อควำมสะดวก จะระบุเอกภพสัมพัทธ์ลงในกำรเขียนเซตแบบบอกเงื่อนไข เช่น
A {x | x2 9}
B {x | x2 9}
จะได้ A {3} และ B { 3, 3}
หมายเหตุ : ในระดับชั้นมัธยมศึกษำตอนปลำยนั้น ถ้ำกล่ำวถึงเซตของจำนวน และไม่ได้กำหนดเซตใดเป็นเอกภพ
สัมพัทธ์ ให้ถือว่ำเอกภพสัมพัทธ์ คือ เซตของจานวนจริง
กำรเท่ำกันและกำรเทียบเท่ำกัน
1.2.2 เพำเวอร์เซต
เพาเวอร์เซตหรือเซตกาลัง (Power set) คือ เซตที่มีสมำชิกเป็นสับเซตของเซตนั้น ๆ เขียนแทนชื่อเซตด้วย P(A)
เช่น A {0,1,2} จะได้เพำเวอร์เซต คือ
P(A) { ,{0},{1},{2},{0,1},{0,2},{1,2},{0,1,2}}
1.3 แผนภำพเวนน์
แผนภาพเวนน์ (Venn Diagram) คือ แผนภำพที่ใช้เขียนแทนเซตโดยใช้รูปปิดอะไรก็ได้ เช่น รูปสำมเหลี่ยม รูป
วงกลม รูปวงรี แต่จะนิยมเขียนแทนเอกภพสัมพัทธ์ด้วยรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ำ แล้วเขียนแทนเซตในเอกภพสัมพัทธ์ U
ด้วยรูปวงกลม
ให้ A และ B เป็นเซตใด ๆ และ U เป็นเอกภพสัมพัทธ์แล้ว พิจำรณำแผนภำพเวนน์ต่อไปนี้
ตัวอย่างที่ 1.3 กำหนดให้ U {1,2, 3,...,10}, A {1, 3,5,7,9} และ B {2, 4,5,7,10} จงเขียน
แผนภำพเวนน์แสดงเซต
ตอบ
ตัวอย่างที่ 1.5 ให้ U {1,2, 3,...,10}, A {1,2, 3, 4,5} และ B {2, 4,6, 8} จงหำ A B
ตอบ A B {1,2, 3, 4,5,6, 8}
บทที่ 1 เซต (SET) หน้ำที่ 7
1.4.2 อินเตอร์เซคชัน
บทนิยามที่ 1.4.2 กาหนดให้ A และ B เป็นเซตใด ๆ แล้ว
A B {x | x และ x B}
A
และเราเรียก A B ว่าเซต A อินเตอร์เซกชัน (Intersection) กับเซต B
จำกบทนิยำมที่ 1.4.2 สำมำรถเขียนแผนภำพเวนน์ควำมสัมพันธ์แสดงได้ดังนี้
ตัวอย่างที่ 1.6 ให้ U {1,2, 3,...,10}, A {1,2, 3, 4,5} และ B {2, 4,6, 8} จงหำ A B
ตอบ A B {2, 4}
1.4.3 คอมพลีเมนต์
บทนิยามที่ 1.4.3 กาหนดให้ A เป็นเซตใด ๆ แล้ว
A และ x
{x | x U A}
และเราเรียก A ว่าเซต A คอมพลีเมนต์ (Complement)
หมายเหตุ : สำหรับหนังสือบำงเล่ม อำจจะใช้สัญลักษณ์อื่นแทน เช่น A, Ac , A,C (A)
จำกบทนิยำมที่ 1.4.3 สำมำรถเขียนแผนภำพเวนน์ควำมสัมพันธ์แสดงได้ดังนี้
ตัวอย่างที่ 1.7 ให้ U {1,2, 3,...,10}, A {1,2, 3, 4,5} และ B {2, 4,6, 8} จงหำ A และ B
ตอบ A {6, 7, 8, 9,10} และ B {1, 3,5,7,9,10}
ตัวอย่างที่ 1.8 ให้ A {1,2, 3, 4,5} และ B {2, 4,6, 8} จงหำ A B และ B A
ตอบ A B {1, 3,5} และ B A {6, 8}
1.4.5 สมบัติของกำรดำเนินกำรในเซต
ทฤษฎีบทที่ 1.4.1 กาหนดให้ A, B และ C เป็นเซตใด ๆ ทีเ่ ป็นสับเซตของเอกภพสัมพัทธ์แล้วจะได้ว่า
1) สมบัติการสลับที่
A B B A
A B B A
2) สมบัติการเปลี่ยนกลุ่ม
(A B) C A (B C )
(A B) C A (B C )
3) สมบัติการแจกแจง
(A B) C (A C ) (B C )
(A B) C (A C ) (B C )
4) กฎของเดอมอร์แกน (De Morgan's laws)
(A B) A B
(A B) A B
5) การดาเนินการกับเซตว่าง
A A
A
U
6) การดาเนินการกับเอกภพสัมพัทธ์
A U U
A U A
U
7) A B A B
8) A U A
9) (A ) A
บทที่ 1 เซต (SET) หน้ำที่ 9
1.5 กำรแก้ปัญหำโดยใช้เซต
เรำสำมำรถหำจำนวนสมำชิกของเซตจำกัด ทำได้โดย
1. การใช้การหาจานวนสมาชิกของเซตที่ยูเนียนกัน
ทฤษฎีบทที่ 1.5.1 กาหนดให้ A, B และ C เป็นเซตใด ๆ ที่ไม่ใช่เซตว่างแล้ว
n(A B) n(A) n(B) n(A B)
จำกแผนภำพ จะได้ว่ำ
n(A B C) n(U ) n(A B) n(B C) n(C A) n(A B C)
70 25 18 16 7
70 66
4
ดังนั้น n(A B C) 4