Professional Documents
Culture Documents
แบดมินตัน
ประวัติแบดมินตันในต่ างประเทศ
โดยกีฬาแบดมินตันได้รับการบันทึกแบบเป็ นลายลักษณ์อกั ษรในปี พ.ศ. 2413 ซึ่งพบว่า มี
การเล่นกีฬาลูกขนไก่เกิดขึ้นที่เมืองปูนา (Poona) ในประเทศอินเดีย เป็ นเมืองเล็ก ๆ ห่างจากเมือ
งบอมเบย์ประมาณ 50 ไมล์ โดยได้รวมการเล่นสองอย่างเข้าด้วยกันคือ การเล่นปูนาของประเทศ
อินเดีย และการเล่นไม้ตีกบั ลูกขนไก่ (Battledore Shuttle Cock) ของยุโรป
ในระยะแรก การเล่นแบดมินตันจะเล่นกันเพียงแต่ในหมู่นายทหารของกองทัพ และสมาชิก
ชนชั้นสูงของอินเดียเท่านั้น จนกระทัง่ มีนายทหารอังกฤษที่ไปประจำการอยูท่ ี่เมืองปูนา นำการ
เล่นตีลูกขนไก่น้ ีกลับไปอังกฤษ และเล่นกันอย่างกว้างขวาง ณ คฤหาสน์แบดมินตัน (Badminton
House) ของยุคแห่งบิวฟอร์ด ที่กลอสเตอร์เชียร์ ดังนั้นในปี พ.ศ. 2416 เกมกีฬาตีลูกขนไก่เลยถูก
เรี ยกว่า แบดมินตัน ตามชื่อคฤหาสน์ของดยุคแห่งบิวฟอร์ดตั้งแต่น้ นั เป็ นต้นมา
ประวัติแบดมินตันในประเทศไทย
การเล่นแบดมินตันได้เข้ามาสู่ ประเทศไทยในราวปี พ.ศ. 2456 โดยเริ่ มเล่นกีฬาแบดมินตันแบบ
มี ตาข่าย โดยพระยานิพทั ยกุลพงษ์ ได้สร้างสนามขึ้ นที่บา้ น ซึ่งตั้งอยูร่ ิ มคลองสมเด็จเจ้าพระยา
2
บิดาแหงวงการแบดมินตันไทย
มารยาทการเล่ น
มารยาทผู้เล่ น
1. ผูแ้ ข่งขันต้อง ตระหนักอยูเ่ สมอว่าผูเ้ ข้าแข่งขันเป็ นนักกีฬาส
เล่น
ซึ่งต้องมีน ้ำใจเป็ น นักกีฬาอยูเ่ สมอ และพร้อมที่จะให้อภัยแกคว
4
พลาดทุกโอกาส
โดยไม่คำนึงถึงผลแพ้ชนะเป็ นสำคัญจนเกินไป
2. ผูเ้ ข้าแข่งขันแต่งกายด้วยชุดกีฬาสี ขาว สะอาด เรี ยบร้อย
3. ยิม้ แย้มแจ่มใสต่อคูแ่ ข่งขันแสดงออกถึงมิตรภาพความสุภาพ อ่อนโยนด้วยการสัมผัสมือ
หรื อเปิ ดโอกาสให้คู่แข่งขันได้วอร์ม รวมทั้งไม่เอาเปรี ยบคู่ต่อสู้หรื อคู่แข่งขันในการเสี่ ยง
ให้โอกาสคู่ต่อสู้เป็ นผูนำ ้ การเลือกเสี่ ยงก่อน
4. ไม่แสดงกริ ยาที่ไม่ดีเมื่อทำเสี ยเอง ด้วยท่าทางหรื อคำพูด รวมทั้งการกล่าวตำหนิผเู้ ล่นฝ่ ายเดียวกัน
5. ใช้คำพูดที่สุภาพในการแข่งขัน
6. การถามข้อสงสัย หรื อถามคะแนนต่อผูต้ ดั สิ นในระหว่างการแข่งขันควรจะใช้ถอ้ ยคำที่สุภาพ
7. การอุทธรณ์คำวินิจฉัยของผูต้ ดั สิ น ก็เป็ นอีกเรื่ องหนึ่งที่ผแู้ ข่งขันควรจะใช้ถอ้ ยคำที่ระมัดระวัง
และเมื่อได้ทำการอุทธรณ์แล้ว ผูอ้ ุทธรณ์ตอ้ งอยูใ่ นความสงบ และพร้อมที่จะทำการแข่งขันต่อไปได้
และเมื่อผูต้ ดั สิ นชี้ขาดอย่างไรก็ตอ้ งปฏิบตั ิตามด้วยความเต็มใจ
8. เมื่อขณะดำเนินการแข่งขันอยูห่ ากจะหยุดพัก เช่น ขอเช็ดเหงื่อ ดื่มน้ำ เปลี่ยนแร็ กเกต
เปลี่ยนรองเท้าถุงเท้า ฯลฯ ต้องขออนุญาตผูต้ ดั สิ นทุกครั้ ง เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงปฏิบตั ิได้
9. ในการส่ งลูกเสี ยไปให้คู่ต่อสู้จะต้องส่ งลูกข้ามตาข่ายไปให้เสมอ
การส่ งลูกลอดใต้ตาข่ายไปให้คู่ต่อสู้ถือว่าเป็ นการเสี ยมารยาทอย่างรุ นแรง
10. ในระหว่างการแข่งขัน ถ้าผูต้ ดั สิ นทำหน้าที่ผดิ พลาดแต่เราอยูใ่ นฐานะได้เปรี ยบ
ไม่ควรใช้ความได้เปรี ยบนั้นเป็ นประโยชน์
11. การตีลูกเสี ย นักกีฬาที่ดีตอ้ งร้องออกมาดัง ๆ ว่า "เสี ย" โดยไม่ตอ้ งรอให้ผตู้ ดั สิ นร้องออกมาก่อน
แต่ถา้ ผูต้ ดั สิ นดูไม่ทนั ผูต้ ีลูกเสี ยไม่ควรจะฉวยโอกาสเล่นต่อไปด้วย เพราะการฉวยโอกาสเช่นนี้
เป็ นการกระทำที่ไม่สุจริ ต
12. เมื่อการแข่งขันเสร็ จสิ้ นลง ถ้าเราเป็ นฝ่ ายชนะจะต้องไม่แสดงความดีใจจนเกินควร
ต้องเข้าไปจับมือคู่แข่งขันทันทีพร้อมแสดงความเสี ยใจ ถ้าเป็ นฝ่ ายแพ้ไม่ควรจะแสดงอารมณ์ฉุนเฉี ยว
ต้องควบคุมอารมณ์ และรี บไปแสดงความยินดีกบั คูแ่ ข่งโดยทันทีเหมือนกัน
13. ยอมรับและเชื่อฟังการตัดสิ นโดยไม่โต้แย้ง และเมื่อเสร็ จสิ้ นการแข่งขันควรแสดงความเคารพ
ผูต้ ดั สิ น
14. ในสนามที่มีผมู้ ารอเล่นอยูม่ าก และไม่ใช่การแข่งขัน ไม่ควรเล่นกันนานจนเกินไป
ควรเปิ ดโอกาสให้ผอู้ ื่นได้เล่นบ้าง
มารยาทผู้ชม
1. แต่งกายให้สุภาพ เรี ยบร้อย เป็ นการให้เกียรติแก่การแข่งขันนั้น ๆ
2. ให้เกียรติแก่นกั กีฬาทั้ง 2 ฝ่ าย ด้วยการปรบมือเมื่อมีการแนะนำคู่แข่งขัน
3. ไม่กล่าววาจาไม่สุภาพ และไม่เชียร์ฝ่ายใดฝ่ ายหนึ่งจนไม่น่าดู
5
มารยาท ผู้ตัดสิ น
1. เมื่อเข้าสู่ สนามแข่งขัน ต้องแต่งกายให้ถูกต้องตามลักษณะของการเป็ นผูต้ ดั สิ น
เครื่ องแต่งกายต้องประณี ต และสะอาด วางตัวในลักษณะสุ ภาพอ่อนน้อม แต่สำรวมไม่หลอกล้อ
กับผูห้ นึ่งผูใ้ ด แสดงออกถึงอาการที่จะให้ความร่ วมมือกับผูอ้ ื่นด้วยท่าทีกระฉับกระเฉง
ไม่ใช่ประหม่าหรื อลุกลี้ลุกลน
2. ระหว่างการแข่งขัน หลีกเลี่ยงการพบปะสนทนากับผูเ้ ล่น ผูฝ้ ึ กสอน ตลอดจนผูค้ ุน้ เคยอื่น ๆ
พยายามตั้งใจจริ งในการปฏิบตั ิหน้าที่ในการตัดสิ น ตัดสิ นใจด้วยความเด็ดขาดถูกต้อง
แสดงออกถึงความมีน ้ำใจเป็ นนักกีฬา ไม่แสดงอารมณ์ออกมา ควรใช้วาจาเฉพาะในสิ่ งที่จำเป็ น
พูดเฉพาะหลักการเท่านั้น เพื่อสร้างความเชื่อมัน่ แก่ผฟู้ ัง และไม่ควรโต้เถียงกับผูใ้ ดผูห้ นึ่ง
ซึ่งจะเป็ นการลดฐานะของตนเอง อันเป็ นการทำให้เสื่ อมศักดิ์ศรี และเป็ นการนำไปสู่ การทะเลาะวิวาท
หรื อทำให้เกิดคับข้องขุ่นเคืองใจได้
3. เมื่อจบการแข่งขัน หลังจากตรวจใบนับคะแนนเรี ยบร้อยแล้ว ควรรี บออกจากสนามแข่งขันทันที
ไม่ควรรี รออยูเ่ พื่อขออภัยในความผิดพลาดในการตัดสิ น หรื อเพื่อแสดงความยินดีหรื อเสี ยใจต่อคู่แข่ง
ไม่ควรแสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ที่มีการถกเถียงกัน ในกรณี ที่มีผสู้ ื่ อข่าวขอสัมภาษณ์
ควรให้ความร่ วมมือด้วยอัธยาศัยอันดี โดยชี้ แจงอย่างเป็ นธรรมและเหมาะสมในขอบเขตของการ
เป็ นผูต้ ดั สิ นแต่ไม่ควรแสดงความคิดเห็นที่ซ ้ำเติม หรื อก้าวก่ายหน้าที่ของผูอ้ ื่น
6
ท่ ายืนเตรียมพร้ อมแบดมินตัน
การยืนท่ าเตรี ยมพร้ อม
1. การจับไม้แบบสั้น
การจับไม้แบบสั้น
2. การจับไม้แบบกลาง
การจับไม้แบบกลาง
8
3. การจับไม้แบบยาว
การจับไม้แบบยาว
ท่ ายืดก่ อนเล่ น
ก่อนการเล่นกีฬาทุกครั้งผูเ้ ล่นควรทำการอบอุ่นร่ างกายเสี ยก่อน ควรใช้เวลา 5 – 10 นาที เพื่อเพิ่ม
การเต้นของหัวใจ เพิ่มอุณหภูมิของร่ างกายอย่างช้าๆ และควรจะต้องมีการเคลื่อนไหวของข้อ
9
ส่ วนต่างๆ เช่น ข้อมือ ข้อเท่า เข่า สะโพก และควรยืดกล้ามเนื้ อหลังจากอบอุ่นร่ างกายแล้ว เพื่อ
ป้ องกันการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
การเล่นแบดมินตันก็เช่นกันควรอบอุ่นร่ างกายและยืดกล้ามเนื้ อก่อนการเล่น เนื่องจาก
แบดมินตันเป็ นกีฬาที่ตอ้ งใช้การเคลื่อนไหวของร่ างกายค่อนข้างมากและรวดเร็ ว หากไม่มีการ
อบอุ่นร่ างกายและยืดกล้ามเนื้ อที่เหมาะสม อาจทำให้บาดเจ็บ กล้ามเนื้ อ เอ็น ฉี กขาดได้
บรรณานุกรม
https://sites.google.com/site/61bad2556/prawati-baedmintan-ni-prathesthiy
https://sites.google.com/site/nisakornkhaosri/1-pra-wati-kila-echer-bxl
https://sites.google.com/site/kilabaedmintan01/ktika-laea-maryath-kar-len-baedmintan-1
https://siamroommate.com