You are on page 1of 23

1

การศึกษารายกรณี (Case Study)

จัดทำโดย
นางสาวศุภรดา เจริญศรี รหัสนักศึกษา 63B44640322

นำเสนอ
อาจารย์ ดร.กาญจนา เวชบรรพต (อาจารย์นิเทศก์)

รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 (Internship 2 )


หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาวิชาชีพครู คณะครุศาสตร์ ปีการศึกษา 2564
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์

คำนำ

รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 (Internship 2 ) ผู้จัดทำได้


ทำการศึกษาการศึกษารายกรณี (Case Study) หลายหัวข้อ ได้แก่ สภาพปัญหาของนักเรียน จุดประสงค์
ในการศึกษา สภาพทั่วไปเกี่ยวกับนักเรียน วิธีการรวบรวมข้อมูล สมมติฐานของปัญหา แนวทางการ
แก้ปัญหา การติดตามผล การให้ความช่วยเหลือ ข้อเสนอแนะ/ปัญหาและอุปสรรค และประโยชน์จาก
การศึกษารายกรณีครั้งนี้
ผู้จัดทำขอขอบพระคุณอาจารย์ ดร.กาญจนา เวชบรรพต ผู้ให้ความรู้และแนวทางในการศึกษา
ค้นคว้า โดยผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้จะให้ความรู้และประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกๆ ท่าน หากมี
ข้อเสนอแนะ รวมทั้งข้อเพิ่มเติมประการใด ผู้จัดทำขอรับไว้ด้วยความขอบพระคุณอย่างยิ่ง

ผู้จัดทำ

สารบัญ
เรื่อง หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
สภาพปัญหาของนักเรียน 1
จุดประสงค์ในการศึกษา 1
สภาพทั่วไปเกี่ยวกับนักเรียน 1
- ประวัติสว่ นตัวและครอบครัว 1
- ประวัติการศึกษาและผลการศึกษา 2
- ประวัติสุขภาพ 2
- สภาพครอบครัวและฐานะทางเศรษฐกิจ 2
- ทัศนคติของบุคคลรอบข้างที่มีต่อนักเรียน 2
- ความคิดเห็นของครูประจำชั้นที่มีต่อนักเรียน 3
- บุคลิกภาพทั่วไปของนักเรียน 4
- พฤติกรรมที่ควรปรับปรุงแก้ไข 5
วิธีการรวบรวมข้อมูล 5
สมมติฐานของปัญหา 5
แนวทางการแก้ปัญหา 5
การติดตามผล 6
การให้ความช่วยเหลือ 7
ข้อเสนอแนะ/ปัญหาและอุปสรรค 7
ประโยชน์จากการศึกษารายกรณีครั้งนี้ 7
ภาคผนวก ค
1

การศึกษารายกรณี
( Case Study )
ชื่อนักเรียน…………เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา…(นามสมมติ)…………ชั้น ป.…2…/…1…เลขที่……6……
1. สภาพปัญหาของนักเรียน
เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา มีปัญหาทางด้านพฤติกรรม คือ การไม่ตั้งใจเรียน นักเรียนมีผลการเรียน
เฉลี่ยต่ำกว่า 1 เป็นเวลา 3 ปี โดยปัจจุบันเรียนซ้ำชั้นป.2 เมื่อถึงเวลาเข้าเรียน นักเรียนจะเดิน
ออกจากห้องเรียน และเดินเล่นบริเวณรอบๆ โรงเรียน จนถึงเวลาเลิกเรียน มีพฤติกรรมก้าวร้าว
เข้ากับเพื่อนไม่ได้ มักจะแกล้งเพื่อน ด้วยการทำร้ายร่างกาย พูดคำหยาบต่อเพื่อนในโรงเรียนและ
ครูผู้สอน ขาดทักษะในการเข้าสังคมที่ดี แต่งกายไม่สุภาพ ใส่เครื่องแบบนักเรียนไม่ถูกต้องตาม
ระเบียบของโรงเรียน และมาโรงเรียนสายเป็นประจำ
2. จุดประสงค์ในการศึกษา
1. เพื่อให้ทราบถึงสภาพปัญหา และสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นจริงเกี่ยวกับนักเรียน
2. เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาและศึกษาวิธีแก้ไขเกี่ยวกับปัญหาของนักเรียนอย่างถูกต้องเหมาะสม
3. เพื่อจะช่วยเหลือเด็กนักเรียนในเรื่องการเรียนและปรับพฤติกรรมของนักเรียนให้เข้ากับเพื่อน
ร่วมห้องเรียน และสังคมภายนอกให้ดียิ่งขึ้น
3. สภาพทั่วไปเกี่ยวกับนักเรียน
3.1 ประวัติส่วนตัวและครอบครัว
ชื่อ……………………………เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา………………………………………………
ชื่อเล่น…………ยิ้ม………. เกิดวันที่………12…….เดือน……พฤศจิกายน……พ.ศ……2553…..
ที่อยู่ปัจจุบัน
ตำบล……………ห้วยบง……………อำเภอ…………เฉลิมพระเกียรติ…………จังหวัด………สระบุรี………
โทรศัพท์บ้าน……-……โทรศัพท์มือถือ………-………
บิดาชื่อ…………นายสมชาย แสนดี …(นามสมมติ)…….อาชีพ………รับจ้างทั่วไป……..
รายได้ต่อเดือน………6,000……บาท
มารดาชื่อ…………นางสาวแสนสวย วงษ์ดารา……(นามสมมติ)… …อาชีพ………ค้าขาย………..
รายได้ต่อเดือน…..…7,500…….บาท
ผู้ปกครองชื่อ……………นางยินดี วงษ์ดารา……(นามสมมติ)…..อาชีพ………รับจ้างทั่วไป……..
รายได้ต่อเดือน………6,000……บาท
2

นักเรียนมีพี่น้องร่วมบิดามารดา………2……..คน (รวมทั้งนักเรียนด้วย)
คน เพศ อายุ ประกอบอาชีพ การศึกษา หมายเหตุ
1 ชาย 10 นักเรียน ประถมศึกษาปีที่ 2
2 ชาย 7 นักเรียน ประถมศึกษาปีที่ 1

3.2 ประวัติการศึกษาและผลการศึกษา
ปีการศึกษา ระดับ โรงเรียน เกรด
2561-2564 ประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ผลการเรียน
เฉลี่ยต่ำกว่า 1
2560 ประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี 2.32
2559 อนุบาล 3 โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ผ่าน
2558 อนุบาล 2 โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ผ่าน

3.3 ประวัติสุขภาพ
อายุ……10 ปี……….น้ำหนัก……19 กิโลกรัม…..ส่วนสูง…130 เซนติเมตร….กรุ๊ปเลือด……โอ...…

3.4 สภาพครอบครัวและฐานะทางเศรษฐกิจ
นักเรียนมีปัญหาครอบครัว กล่าวคือ บิดา - มารดา แยกทางกัน นักเรียนและน้องชายถูกเลี้ยงดู
ด้วยยาย ซึ่งอยู่ในวัย 64 ปี เพียงลำพัง และครอบครัวมีฐานะยากจน โดยมีรายได้สำหรับใช้สอยภายใน
ครัวเรือนเพียงวันละ 200 บาท (6,000 บาท/เดือน)

3.5 ทัศนคติของบุคคลรอบข้างที่มีต่อนักเรียน
- ยาย
เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา และน้องชายอาศัยอยู่กับยาย ซึ่งอยู่ในวัย 64 ปี เพียงลำพัง เด็กชายยิ้ม
เป็นเด็กที่ไม่ค่อยพูดถึงโรงเรียนให้ยายฟัง เมื่อกลับจากโรงเรียนเด็กชายยิ้มมักจะออกไปเล่นกับเพื่อนบ้าน
ข้างเคียง เมื่อยายถามเกี่ยวกับเรื่องการเรียน ก็ตอบกลับมาว่า เนื้อหาที่เรียนยาก ตนทำไม่ค่อยได้ ไม่อยาก
เรียนแล้ว อยากลาออกมาทำงานมากกว่า ไปเรียนไม่เห็นจะได้อะไรเลย แต่เด็กชายยิ้มจะร่าเริง สนุกสนาน
เวลาอยู่กับน้องชาย และเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียง มีความรับผิดชอบต่องานบ้านที่รับผิดชอบ เด็กชายยิ้ม
มีความชอบและมีความสามารถทางด้านศิลปะ การวาดภาพ ระบายสีมักจะทำให้เด็กชายยิ้มมีความสุข มี
สมาธิ และไม่จำเป็นต้องออกไปเล่นข้างนอกบ้าน
3

3.6 ความคิดเห็นของครูประจำชั้นที่มีต่อนักเรียน (คนเก่า)


- ด้านการเรียน
เด็กชายยิ้ม มีปัญหาทางด้านการเรียน คือ การไม่ตั้งใจเรียน นักเรียนมีผลการเรียนเฉลี่ยต่ำกว่า
1 เป็นเวลา 3 ปี โดยปัจจุบันเรียนซ้ำชั้นป.2 เมื่อถึงเวลาเข้าเรียน นักเรียนจะเดินออกจากห้องเรียน และเดิน
เล่นบริเวณรอบๆ โรงเรียน จนถึงเวลาเลิกเรียน และมีพฤติกรรมการมาโรงเรียนสายเป็นประจำ
- ด้านพฤติกรรมและลักษณะนิสัย
เด็กชายยิ้ม มีปัญหาทางด้านพฤติกรรมและลักษณะนิสัยก้าวร้าว มักจะพูดคำหยาบต่อครูและ
เพื่อนเป็นประจำ ชอบแกล้งเพื่อนด้วยการทำร้ายร่างกาย ต่อยตี
- ด้านสุขภาพร่างกาย
เด็กชายยิ้ม มีปัญหาด้านการเจริญเติบโต โดยมีภาวะของการขาดสารอาหาร น้ำหนักต่ำกว่า
เกณฑ์มาตรฐาน ร่างกายซูบผอม มีภาวะของการเหม่อลอยเป็นครั้งคราว
- ด้านสังคมและการอยู่ร่วมกับเพื่อนในชั้นเรียน
เข้ากับเพื่อนไม่ได้ มักจะแกล้งเพื่อน ด้วยการทำร้ายร่างกาย พูดคำหยาบต่อเพื่อนในโรงเรียน
และครูผู้สอน ขาดทักษะในการเข้าสังคมที่ดี
- สิ่งที่อยากให้ปรับปรุง
1. ด้านพฤติกรรมการเรียน คือ การไม่ตั้งใจเรียน เมื่อถึงเวลาเข้าเรียน นักเรียนจะไม่เข้าห้องเรียน
เลยจนถึงเวลาเลิกเรียน และมีพฤติกรรมการมาโรงเรียนสายเป็นประจำ
2. ด้านพฤติกรรมก้าวร้าว การพูดคำหยาบต่อเพื่อนในโรงเรียนและครูผู้สอน การแกล้งเพื่อนด้วย
การทำร้ายร่างกาย และการขาดทักษะในการเข้าสังคมที่ดี
3. ด้านภาพลักษณ์และการแต่งกาย แต่งกายไม่สุภาพ ใส่เครื่องแบบนักเรียนไม่ถูกต้องตาม
ระเบียบของโรงเรียน
4

3.7 บุคลิกภาพทั่วไปของนักเรียน
- ลักษณะทางร่างกาย (รูปร่าง หน้าตา การแต่งกาย กิริยาวาจา ฯลฯ)
เด็กชายยิ้มมีรูปร่างซูบผอม ผิวขาวเหลือง หน้าตาและการแต่งกายไม่สะอาด เสื้อผ้าเครื่องแต่ง
กายเลอะเทอะ เครื่องแบบนักเรียนไม่ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียนและมีการชำรุด กิริยาวาจาก้าวร้าว
มักพูดจา/สบถ ด้วยคำหยาบ ไม่เคารพครูบาอาจารย์คนใด

- ลักษณะอารมณ์ (การแสดงอารมณ์สดชื่น ร่างเริง เงียบขรึม การควบคุมอารมณ์ ฯลฯ)


เมื่อเด็กชายยิ้มมีอารมณ์โกรธหรือไม่พอใจ จะมีนิสัยก้าวร้าว ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ค่อยได้
มักจะพูดคำหยาบต่อเพื่อนและครูเป็นประจำ หลายๆครั้งจะแกล้งเพื่อนด้วยการทำร้ายร่างกาย
ด้วยการต่อยตี

- ลักษณะทางสติปัญญา (ความสามารถด้านการเรียน ความสามารถพิเศษ ความถนัด)


เด็กชายยิ้ม มีพฤติกรรมของการไม่ตั้งใจเรียนและไม่เข้าเรียน มีผลการเรียนเฉลี่ยต่ำกว่า 1 เป็น
เวลา 3 ปี โดยปัจจุบันเรียนซ้ำชั้นป.2
ด้านความถนัดและความสามารถพิเศษ เด็กชายยิ้มมีความชอบและมีความสามารถทางด้าน
ศิลปะ การวาดภาพ ระบายสี โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นสีขาวดำ และภาพวาดส่วนใหญ่ที่เด็กชายยิ้มวาดจะ
เป็นรูปตัวอักษรสามมิติ รถแข่ง และเครื่องบิน
- ลักษณะทางสังคม(การปรับตัวเข้ากับเพื่อน ครู บิดา มารดาพี่น้องคนอื่นๆ
ทักษะสังคมในห้องเรียนและโรงเรียน)
- ยาย
เด็กชายยิ้มจะค่อนข้างเงียบขรึม ไม่ค่อยร่าเริง สนุกสนานเหมือนกับเวลาอยู่กับน้องชาย
และเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียง แต่เด็กชายยิ้มเป็นคนมีความรับผิดชอบต่อการเลี้ยงน้องและงานบ้านที่
รับผิดชอบ
- เพื่อน
เมื่ออยู่โรงเรียนเด็กชายยิ้มจะไม่สุงสิงหรือสนิทกับเพื่อนคนไหนเลย มักจะอยู่คนเดียว
และใช้เวลาเรียนแทบจะทั้งหมดอยู่ภายนอกห้องเรียน แต่เด็กชายยิ้มมีเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียงที่สนิท
สนมและเล่นด้วยกันทุกวันตอนเย็นประมาณ 3 – 4 คน
- ครู
เด็กชายยิ้มมักจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ไม่เคารพ และพูดคำหยาบต่อครูผู้สอน ครูส่วน
ใหญ่เมินเฉยและไม่ใส่ใจเด็กชายยิ้ม เด็กชายยิ้มถูกตัดสินโดยผ่านมุมมองส่วนตัวของครูเพียงด้านเดียว
บางครั้งเมื่อเด็กชายยิ้มทำผิดพลาด ครูมักลงโทษโดยการตี และด่าทอ ทำให้เด็กชายยิ้มมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อ
ครูทุกคน
5

3.8 พฤติกรรมที่ควรปรับปรุงแก้ไข (เรียงลำดับจากมากไปน้อย)


1. ด้านพฤติกรรมการเรียน คือ การไม่ตั้งใจเรียน การไม่เข้าห้องเรียน และการมีพฤติกรรมมา
โรงเรียนสายเป็นประจำ
2. ด้านพฤติกรรมก้าวร้าว การพูดคำหยาบต่อเพื่อนในโรงเรียนและครูผู้สอน การแกล้งเพื่อนด้วย
การทำร้ายร่างกาย และการขาดทักษะในการเข้าสังคมที่ดี
3. ด้านภาพลักษณ์และการแต่งกาย การแต่งกายไม่สุภาพ ใส่เครื่องแบบนักเรียนไม่ถูกต้องตาม
ระเบียบของโรงเรียน

4. การรวบรวมข้อมูลได้รวบรวมข้อมูลจากวิธีการต่อไปนี้
1. การสังเกต
2. การสัมภาษณ์

5. สมมติฐานของปัญหา
หลังจากได้ศึกษานักเรียนด้วยวิธีต่างๆ แล้ว ได้ข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
1. เด็กชายยิ้มขาดความกระตือรือร้นและแรงจูงใจในการเรียน
2. เด็กชายยิ้มมีทัศนคติไม่ดีต่อครู
3. ครอบครัวไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่ และฐานะทางบ้านยากจน
4. เด็กชายยิ้มต้องการความสนใจจากผู้อื่น
5. เด็กชายยิ้มขาดทักษะทางสังคมที่ดี

6. แนวทางการแก้ปัญหา
มีการนำองค์ความรู้ในเรื่องทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของ Abraham A. Maslow มาใช้ใน
การแก้ปัญหา ช่วยเหลือ และส่งเสริมเด็กชายยิ้มทั้ง 5 ลำดับขั้น ดังนี้
1. ความต้องการด้านกายภาพ
ทำการช่วยเหลือและแก้ปัญหาด้วยการจัดหาทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีฐานะ
ยากจน เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของนักเรียนและครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น
2,3. ความต้องการด้านความมั่นคง และด้านความรัก
ส่งเสริมด้วยการสร้างกิจกรรมการเรียนการสอนในรูปแบบกระบวนการทำงานกลุ่ม
เพื่อส่งเสริมให้เกิดปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างผู้เรียน และเกิดความคิดเชิงบวก (Positive Thinking)
6

4. ความต้องการด้านความเคารพ
ส่งเสริมด้วยการทดลองมอบหมายให้เด็กชายยิ้มเป็นหัวหน้าห้อง เพื่อกระตุ้นให้นักเรียน
กระตือรือร้น รู้จักที่จะมีความรับผิดชอบ มีแรงจูงใจที่จะมาโรงเรียนและตั้งใจเรียน อีกทั้งยังเป็นการ
แก้ปัญหาเรื่องการมาโรงเรียนสายของเด็กชายยิ้มด้วย
5. ความต้องการบรรลุความหมาย
ส่งเสริมด้วยการให้นักเรียนได้รับโอกาสพัฒนาศักยภาพที่ตนเองพึงมี และได้ทำตามสิ่งที่
ตนเองชอบและมีความถนัด โดยการให้นักเรียนได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันประกวดการวาด
ภาพในโอกาสต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ครูและนักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอีกด้วย

7. การติดตามผล
เริ่มทำการศึกษาตั้งแต่วันที่ ........1 กรกฎาคม 2563..... ถึงวันที่ .....30 มิถุนายน 2564.......
และได้ทำการติดตามผลเป็นช่วง ๆ ดังนี้
การติดตามผลในช่วงที่ 1
ผู้เรียนมีพฤติกรรมต่อต้านผู้ศึกษาเป็นอย่างมาก เพราะผู้เรียนมีทัศนคติต่อครูที่ไม่ดี จึงรู้สึกไม่เชื่อ
ใจ ไม่ให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียนเลย และผู้เรียนยังคงแสดงพฤติกรรมเดิม
ออกมา
การติดตามผลในช่วงที่ 2
ผู้เรียนมีพฤติกรรมการมาโรงเรียนสายลดลง มีความตั้งใจเรียนเพิ่มมากขึ้น เมื่อถึงเวลาเข้าเรียน
ผู้เรียนจะเข้าห้องเรียนตามปกติและร่วมทำกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนตามแต่ละวิชา มีการ
พยายามปรับตัว คุยกับเพื่อนในชั้นเรียน และลดพฤติกรรมก้าวร้าวจากการแกล้งเพื่อนด้วยการใช้ความรุนแรง
การติดตามผลในช่วงที่ 3
ผู้เรียนมีพฤติกรรมการมาโรงเรียนก่อนเข้าแถว เพื่อช่วยเหลือเพื่อนๆ ทำความสะอาดบริเวณเขต
ที่รับผิดชอบอย่างสม่ำเสมอ ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนมากขึ้นจากการเข้าร่วมกิจกรรมการ
จัดการเรียนการสอน ผู้เรียนเริ่มเปิดใจแสดงศักยภาพที่ตนพึงมี และไว้วางใจให้ครูประจำชั้น (คนใหม่ :
ศุภรดา) เรียนรู้และช่วยพัฒนาศักยภาพของตน ผู้เรียนพูดจาไพเราะกับเพื่อนและคุณครู อีกทั้งยังแต่งกาย
สุภาพเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น
7

8. การให้ความช่วยเหลือมีดังนี้
1. ช่วยเหลือและแก้ปัญหาความต้องการด้านกายภาพด้วยการจัดหาทุนการศึกษาสำหรับนักเรียน
ที่มีฐานะยากจน เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของนักเรียนและครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น
2. ส่งเสริมความต้องการด้านความมั่นคง และด้านความรักด้วยการสร้างกิจกรรมการเรียนการ
สอนในรูปแบบกระบวนการทำงานกลุ่ม เพื่อส่งเสริมให้เกิดปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างผู้เรียน และเกิด
ความคิดเชิงบวก (Positive Thinking)
3. ส่งเสริมความต้องการด้านความเคารพด้วยการทดลองมอบหมายให้เด็กชายยิ้มเป็นหัวหน้า
ห้อง เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนกระตือรือร้น รู้จักที่จะมีความรับผิดชอบ มีแรงจูงใจที่จะมาโรงเรียนและตั้งใจ
เรียน อีกทั้งยังเป็นการแก้ปัญหาเรื่องการมาโรงเรียนสายของเด็กชายยิ้มด้วย
4. ส่งเสริมความต้องการบรรลุความหมายด้วยการให้นักเรียนได้รับโอกาสพัฒนาศักยภาพที่
ตนเองพึงมี และได้ทำตามสิ่งที่ตนเองชอบและมีความถนัด โดยการให้นักเรียนได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม
การแข่งขันประกวดการวาดภาพในโอกาสต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ครูและนักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่
ดีต่อกันอีกด้วย
9. ข้อเสนอแนะ/ปัญหาและอุปสรรค
1. ทุนการศึกษาของโรงเรียน หรือทุนการศึกษาที่โรงเรียนจัดหามาส่วนมากมีการกำหนด
คุณสมบัติของนักเรียน เพื่อใช้สำหรับการคัดเลือกนักเรียนที่มีความเหมาะสมที่จะได้รับทุนศึกษา
2. ครูประจำชั้นและครูผู้สอนควรรับฟังความคิดเห็นของนักเรียนอย่างตั้งใจ ไม่ควรพิจารณา/
ตัดสินนักเรียนจากสิ่งที่ตนเองเห็นเพียงด้านเดียว
3. ครูประจำชั้นและครูผู้สอนควรเชื่อมั่นว่านักเรียนทุกคนมีศักยภาพมากพอที่จะพัฒนาได้ และ
ควรหาช่องทางในการส่งเสริมศักยภาพที่นักเรียนแต่ละคนพึงมี รวมทั้งจัดการเรียนการสอนที่คำนึงถึง
ความแตกต่างของผู้เรียนด้วย
10. การทำการศึกษารายกรณีครั้งนี้มีประโยชน์ ดังนี้
1. ได้ทราบถึงสภาพปัญหา และสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นจริงเกี่ยวกับนักเรียน
2. เข้าใจถึงปัญหาและได้ศึกษาวิธีแก้ไขเกี่ยวกับปัญหาของนักเรียนอย่างถูกต้องเหมาะสม
3. สามารถช่วยเหลือนักเรียนในเรื่องการเรียนและปรับพฤติกรรมของนักเรียนให้เข้ากับเพื่อน
ร่วมห้องเรียน และสังคมภายนอกให้ดียิ่งขึ้น
ลงชื่อ ผู้รายงาน
(นางสาวศุภรดา เจริญศรี)

ภาคผนวก
1

แบบสัมภาษณ์ผู้ปกครอง
ข้าพเจ้าชื่อ (นาย / นาง / นางสาว) .............นางยินดี...........นามสกุล..............วงษ์ดารา...............
อายุ.......64.........ปี สัญชาติ..............ไทย................ศาสนา.................พุทธ...................
เป็นผู้ปกครอง............เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา..............ผู้ปกครองมีความเกี่ยวข้องเป็น..........ยาย...........
ที่อยู่ปัจจุบัน
ตำบล……………ห้วยบง……………อำเภอ…………เฉลิมพระเกียรติ…………จังหวัด………สระบุรี………
โทรศัพท์บ้าน……-……โทรศัพท์มือถือ………-………
ข้อมูลทั่วไป
ปัจจุบันประกอบอาชีพ
( ) รับราชการ (ระบุ).........................................( ) เกษตรกร (ระบุ)............... ( / ) รับจ้างทั่วไป
( ) ค้าขาย ( ) อื่น ๆ (ระบุ).............................................................
เวลาที่ท่านและครอบครัวอยู่พร้อมเพียงกัน คือ
( ) ตอนเช้า ( / ) ตอนเย็น ( ) เวลาอื่น ๆ (ระบุ)........................................
เวลาใช้เวลาว่างของนักเรียนเวลาอยู่บ้าน
( ) ไม่มีเวลาทำการบ้านและอ่านหนังสือเพราะมีงานบ้านที่ต้องทำงานมาก
( ) ทำการบ้านและอ่านหนังสือมากช่วยงานบ้านเล็กน้อย
( ) ใช้เวลาส่วนมากดูโทรทัศน์
( / ) ใช้เวลาส่วนมากเที่ยวเล่นกับเพื่อน
เวลาอยู่ที่บ้านเด็กมีการทบทวนเนื้อหาบทเรียนที่ได้เรียนหรือไม่
( ) ทบทวน ( ) ไม่ททบทวน
( ) ขยันทำการบ้านมากกว่าที่ครูมอบหมาย ( ) ทำเฉพาะที่ครูสั่งโดยไม่ต้องเตือน
( ) ทำก็ต่อเมื่อทางบ้านเคี่ยวเข็ญ ( / ) ไม่เคยนำการบ้านมาทำที่บ้านเลย
( ) อื่น ๆ (ระบุ)...........................................
งานที่ทางบ้านมอบหมายให้ทำเป็นประจำคือ.........เลี้ยงดูน้องชาย, กวาด-ถูบ้าน, ซักผ้า.........
เด็กช่วยงานที่ท่านมอบหมายให้มากน้อยเพียงใด
( / ) ช่วยงานบ้านที่ได้รับมอบหมายให้ทำ ( ) ช่วยงานบ้านมากกว่าที่ได้รับมอบหมาย
( ) ไม่เคยช่วยเลย
นักเรียนได้เงินค่าใช้จ่ายประจำวัน จำนวน........20.........บาท
นักเรียนเดินทางไปโรงเรียนโดย............................จักรยาน.......................................................................
ความสามารถพิเศษของนักเรียนคือ.........................การวาดภาพระบายสี...............................................
โรคประจำตัวของนักเรียนคือ.........................................ไม่มี.....................................................
2

ถ้าเด็กของท่านทำความผิดท่านจะลงโทษหรือแก้ไขปัญหาอย่างไร
ถ้าเด็กชายยิ้มทำผิด คุณยายจะลงโทษ/แก้ไขปัญหาด้วยการตี และด่าทอ โดยที่ไม่ได้รับฟังเหตุผล
ของการกระทำนั้นๆ เลย
เด็กของท่านมีการพูดจากันเป็นอย่างไร
เด็กชายยิ้มมักจะเป็นเด็กเงียบขรึมในเวลาที่อยู่กับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว แต่จะมีนิสัยร่าเริง
สนุกสนานเวลาอยู่กับน้องชาย และเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียง ไม่ชอบพูดถึงเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับ
โรงเรียน
เมื่อเด็กของท่านโกรธหรือไม่พอใจจะแสดงกิริยาท่าทางอย่างไร
เมื่อเด็กชายยิ้มมีอารมณ์โกรธหรือไม่พอใจ จะมีนิสัยก้าวร้าว ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ค่อยได้
มักจะพูดคำหยาบ

การคบเพื่อนของเด็กเมื่ออยู่ที่บ้านเป็นอย่างไร
เมื่อกลับจากโรงเรียนเด็กชายยิ้มมักจะออกไปเล่นกับเพื่อนบ้านข้างเคียง ประมาณ 3 – 4 คน
ด้วยอารมณ์ที่มีความสุข ร่าเริงสนุกสนาน โดยการเล่นส่วนใหญ่จะเป็นการเล่นแบบเด็กผู้ชายทั่วไป ต่อสู้
ลูกแก้ว พับจรวด เล่นลูกข่าง เป็นต้น

ลักษณะนิสัยของเด็กขณะที่อยู่บ้านเป็นอย่างไร
เด็กชายยิ้มมักจะเป็นเด็กมีนิสัยร่าเริง สนุกสนานเวลาอยู่กับน้องชาย และเพื่อนบ้านบริเวณ
ใกล้เคียง มีความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูน้องชาย หรือการทำงานบ้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร
การกวาด-ถูบ้าน และการซักผ้า

ปัญหาที่ทางบ้านต้องการให้ครูดูแลและช่วยเหลือเด็กคือ
- ปัญหาด้านทุนการศึกษา
- ปัญหาด้านการไม่เล่าเรื่องใดๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนให้คนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทฟัง
3

ทัศนคติของครูที่มีต่อ............เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา...........ชั้น.....ป.2/1....เลขที่......6......
ลักษณะทางร่างกาย (รูปร่าง หน้าตา การแต่งกาย กิริยาวาจา ฯลฯ)
เด็กชายยิ้มมีรูปร่างซูบผอม ผิวขาวเหลือง หน้าตาและการแต่งกายไม่สะอาด เสื้อผ้าเครื่องแต่ง
กายเลอะเทอะ เครื่องแบบนักเรียนไม่ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียนและมีการชำรุด กิริยาวาจาก้าวร้าว
มักพูดจา/สบถ ด้วยคำหยาบ ไม่เคารพครูบาอาจารย์คนใด

ลักษณะอารมณ์ (การแสดงอารมณ์สดชื่น ร่างเริง เงียบขรึม การควบคุมอารมณ์ ฯลฯ)


เมื่อเด็กชายยิ้มมีอารมณ์โกรธหรือไม่พอใจ จะมีนิสัยก้าวร้าว ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ค่อยได้
มักจะพูดคำหยาบต่อเพื่อนและครูเป็นประจำ หลายๆครั้งจะแกล้งเพื่อนด้วยการทำร้ายร่างกาย
ด้วยการต่อยตี

ลักษณะทางสติปัญญา (ความสามารถด้านการเรียน ความสามารถพิเศษ ความถนัด)


เด็กชายยิ้ม มีพฤติกรรมของการไม่ตั้งใจเรียนและไม่เข้าเรียน มีผลการเรียนเฉลี่ยต่ำกว่า 1 เป็น
เวลา 3 ปี โดยปัจจุบันเรียนซ้ำชั้นป.2
ด้านความถนัดและความสามารถพิเศษ เด็กชายยิ้มมีความชอบและมีความสามารถทางด้านศิลปะ
การวาดภาพ ระบายสี โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นสีขาวดำ และภาพวาดส่วนใหญ่ที่เด็กชายยิ้มวาดจะเป็นรูป
ตัวอักษรสามมิติ รถแข่ง และเครื่องบิน

ลักษณะทางสังคม (การปรับตัวเข้ากับเพื่อน ครู สังคมในห้องเรียน และโรงเรียน)


เด็กชายยิ้มไม่มีการปรับตัวเข้ากับเพื่อนและครู และมักแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว คือ ชอบแกล้ง
เพื่อนร่วมชั้นเรียนด้วยความรุนแรง เช่น การต่อยตี และมีพฤติกรรมการพูดคำหยาบทั้งกับเพื่อนร่วมชั้นและ
ครู อีกทั้งเด็กชายยิ้มมักจะมาโรงเรียนสายเป็นประจำ
4

พฤติกรรมที่ควรปรับปรุงแก้ไข
1. ด้านพฤติกรรมการเรียน คือ การไม่ตั้งใจเรียน การไม่เข้าห้องเรียน และการมีพฤติกรรมมา
โรงเรียนสายเป็นประจำ
2. ด้านพฤติกรรมก้าวร้าว การพูดคำหยาบต่อเพื่อนในโรงเรียนและครูผู้สอน การแกล้งเพื่อนด้วย
การทำร้ายร่างกาย และการขาดทักษะในการเข้าสังคมที่ดี
3. ด้านภาพลักษณ์และการแต่งกาย การแต่งกายไม่สุภาพ ใส่เครื่องแบบนักเรียนไม่ถูกต้องตาม
ระเบียบของโรงเรียน
ลงชื่อ
( นางสาวสุดสวย รวยทะลุฟ้า )
ครูที่ปรึกษานักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 (คนเก่า)
วันที่...1..เดือน....มิถุนายน....พ.ศ...2564....
5

ทัศนคติของเพื่อนร่วมห้องที่มีต่อ............เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา...........ชั้น.....ป.2/1....เลขที่......6......
ลักษณะทางร่างกาย (รูปร่าง หน้าตา การแต่งกาย กิริยาวาจา ฯลฯ)
เด็กชายยิ้มมีรูปร่างผอม แต่งกายไม่เรียบร้อยเลอะเทอะ เสื้อนักเรียนมักหลุดออกมานอก
กางเกง ถุงเท้าและรองเท้าขาด พูดจาไม่ไพเราะ ชอบพูดคำหยาบ และไม่เคารพคุณครู

ลักษณะอารมณ์ (การแสดงอารมณ์สดชื่น ร่างเริง เงียบขรึม การควบคุมอารมณ์ ฯลฯ)


โดยปกติเด็กชายยิ้มจะเงียบขรึม ไม่คุยกับคนที่ตนไม่สนิทด้วย แต่เมื่อเวลาโกรธ/ไม่พอใจ จะ
ชอบทำร้ายร่างกายเพื่อน และเวลาเรียนหนังสือจะชอบก่อกวนเพื่อนด้วยการแกล้ง

ลักษณะทางสติปัญญา (ความสามารถด้านการเรียน ความสามารถพิเศษ ความถนัด)


เด็กชายยิ้ม เรียนซ้ำชั้นป.2 เพราะไม่ค่อยเข้าเรียนและมาโรงเรียนสายเป็นประจำ
เด็กชายยิ้มชอบวาดภาพ ระบายสี และภาพที่วาดออกมาสวยมาก

ลักษณะทางสังคม (การปรับตัวเข้ากับเพื่อน ครู สังคมในห้องเรียน และโรงเรียน)


เด็กชายยิ้มชอบแกล้งเพื่อน ทำร้ายร่างกายเพื่อน พูดจาไม่ไพเราะ ชอบพูดคำหยาบใส่เพื่อน
และคุณครู ในห้องเรียนไม่มีใครอยากเล่นกับเด็กชายยิ้มเลย

พฤติกรรมที่ควรปรับปรุง แก้ไข
การพูดคำหยาบใส่เพื่อนและคุณครู การแกล้งเพื่อนด้วยการทำร้ายร่างกาย

ข้อดี
. ..............ไม่ม.ี ...............

ข้อเสีย
เด็กชายยิ้มชอบแกล้งเพื่อน ทำร้ายร่างกายเพื่อน พูดจาไม่ไพเราะ ชอบพูดคำหยาบใส่เพื่อน
และคุณครู
ลงชื่อ ผู้ให้ข้อมูล
( เด็กหญิงสดใส ใส่ใจการเรียน )
วันที่...1..เดือน....มิถุนายน....พ.ศ...2564..
6

แบบสังเกตพฤติกรรม ครั้งที่..1...
ชื่อนักเรียน......เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา.......ชั้น......ป.2/1......เลขที่…..6....วันเวลา...10 กรกฎาคม 2563....
สถานที่สังเกต..................โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี..................................
พฤติกรรม
- ลักษณะทางร่างกาย (รูปร่าง หน้าตา การแต่งกาย กิริยาวาจา ฯลฯ)
เด็กชายยิ้มมีรูปร่างซูบผอม ผิวขาวเหลือง หน้าตาและการแต่งกายไม่สะอาด เสื้อผ้าเครื่องแต่ง
กายเลอะเทอะ เครื่องแบบนักเรียนไม่ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียนและมีการชำรุด กิริยาวาจาก้าวร้าว
มักพูดจา/สบถ ด้วยคำหยาบ ไม่เคารพครูอาจารย์คนใด
- ลักษณะอารมณ์ (การแสดงอารมณ์สดชื่น ร่างเริง เงียบขรึม การควบคุมอารมณ์ ฯลฯ)
เมื่อเด็กชายยิ้มมีอารมณ์โกรธหรือไม่พอใจ จะมีนิสัยก้าวร้าว ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ค่อยได้
มักจะพูดคำหยาบต่อเพื่อนและครูเป็นประจำ หลายๆครั้งจะแกล้งเพื่อนด้วยการทำร้ายร่างกาย
ด้วยการต่อยตี
- ลักษณะทางสติปัญญา (ความสามารถด้านการเรียน ความสามารถพิเศษ ความถนัด)
เด็กชายยิ้ม มีพฤติกรรมของการไม่ตั้งใจเรียนและไม่เข้าเรียน
ด้านความถนัดและความสามารถพิเศษ เด็กชายยิ้มมีความชอบและมีความสามารถทางด้านศิลปะ
การวาดภาพ ระบายสี
- ลักษณะทางสังคม (การปรับตัวเข้ากับเพื่อน ครู สังคมในห้องเรียน และโรงเรียน)
เด็กชายยิ้มไม่มีการปรับตัวเข้ากับเพื่อนและครู และมักแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว คือ ชอบแกล้ง
เพื่อนร่วมชั้นเรียนด้วยความรุนแรง เช่น การต่อยตี และมีพฤติกรรมการพูดคำหยาบทั้งกับเพื่อนร่วมชั้นและ
ครู อีกทั้งเด็กชายยิ้มมักจะมาโรงเรียนสายเป็นประจำ
ความคิดเห็น
1. เด็กชายยิ้มขาดความกระตือรือร้นและแรงจูงใจในการเรียน
2. ครอบครัวไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่ และฐานะทางบ้านยากจน
3. เด็กชายยิ้มขาดทักษะทางสังคมที่ดี
ข้อเสนอแนะ
1. ครอบครัวควรดูแลเอาใจใส่นักเรียนมากกว่านี้
2. ผู้เรียนควรได้รับการคัดกรองภาวะสมาธิสั้น และภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้

ลงชื่อ ผู้สังเกต
(นางสาวสุดสวย รวยทะลุฟ้า)
วันที่..8...เดือน...กรกฎาคม...พ.ศ....2563...
7

แบบสังเกตพฤติกรรม ครั้งที่..2...
ชื่อนักเรียน......เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา.......ชั้น......ป.2/1......เลขที่…..6....วันเวลา...10 กรกฎาคม 2563....
สถานที่สังเกต..................โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี..................................
พฤติกรรม
- ลักษณะทางสติปัญญา
เด็กชายยิ้มมีปัญหาทางด้านพฤติกรรมการไม่ตั้งใจเรียน นักเรียนมีผลการเรียนเฉลี่ยต่ำกว่า 1 เป็น
เวลา 3 ปี เมื่อถึงเวลาเข้าเรียน นักเรียนจะเดินออกจากห้องเรียน และเดินเล่นบริเวณรอบๆ โรงเรียน จนถึง
เวลาเลิกเรียน
- ลักษณะอารมณ์
เมื่อเด็กชายยิ้มมีอารมณ์โกรธหรือไม่พอใจ จะมีนิสัยก้าวร้าว ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ค่อยได้
เข้ากับเพื่อนไม่ได้ มักจะแกล้งเพื่อน ด้วยการทำร้ายร่างกาย พูดคำหยาบต่อเพื่อนในโรงเรียนและครูผู้สอน
ขาดทักษะในการเข้าสังคมที่ดี
- ลักษณะทางร่างกาย
เครื่องแบบนักเรียนของเด็กชายยิ้มมีความเก่า, ไม่สะอาด แต่งกายไม่สุภาพ ใส่เครื่องแบบนักเรียน
ไม่ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียน และมาโรงเรียนสายเป็นประจำ
ความคิดเห็น
1. เด็กชายยิ้มขาดความกระตือรือร้นและแรงจูงใจในการเรียน
2. เด็กชายยิ้มมีทัศนคติไม่ดีต่อครู
3. ครอบครัวไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่ และฐานะทางบ้านยากจน
4. เด็กชายยิ้มต้องการความสนใจจากผู้อื่น
5. เด็กชายยิ้มขาดทักษะทางสังคมที่ดี
8

ข้อเสนอแนะ
1. ทุนการศึกษาของโรงเรียน ควรมีการกระจายให้เด็กนักเรียนที่มีฐานะยากจนอย่างทั่วถึง
2. ครูประจำชั้นและครูผู้สอนควรรับฟังความคิดเห็นของนักเรียนอย่างตั้งใจ ไม่ควรพิจารณา/ตัดสินนักเรียน
ด้วยทัศนคติของตนเอง
3. ครูประจำชั้นและครูผู้สอนควรเชื่อมั่นว่านักเรียนทุกคนมีศักยภาพมากพอที่จะพัฒนาได้ และควรหา
ช่องทางในการส่งเสริมศักยภาพที่นักเรียนแต่ละคนพึงมี รวมทั้งจัดการเรียนการสอนที่คำนึงถึงความ
แตกต่างของผู้เรียนด้วย

ลงชื่อ ผู้สังเกต
(นางสาวศุภรดา เจริญศรี)
วันที่...15...เดือน...กรกฎาคม...พ.ศ....2563..
9

แบบสังเกตพฤติกรรม ครั้งที่..3...
ชื่อนักเรียน......เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา.......ชั้น......ป.2/1......เลขที่…..6....วันเวลา...10 กรกฎาคม 2563....
สถานที่สังเกต..................โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี..................................
พฤติกรรม
- ด้านการเรียน
เด็กชายยิ้มมีพฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียน ไม่เข้าห้องเรียนเมื่อถึงเวลาเรียน มีผลการเรียนเฉลี่ยต่ำกว่า
1 เป็นเวลา 3 ปี และมีพฤติกรรมการมาโรงเรียนสายเป็นประจำ
- ด้านพฤติกรรมและลักษณะนิสัย
เด็กชายยิ้ม มีปัญหาทางด้านพฤติกรรมและลักษณะนิสัยก้าวร้าว มักจะพูดคำหยาบต่อครูและ
เพื่อนเป็นประจำ ชอบแกล้งเพื่อนด้วยการทำร้ายร่างกาย ต่อยตี
- ด้านสุขภาพร่างกาย
เด็กชายยิ้ม มีปัญหาด้านการเจริญเติบโต โดยมีภาวะของการขาดสารอาหาร น้ำหนักต่ำกว่า
เกณฑ์มาตรฐาน ร่างกายซูบผอม มีภาวะของการเหม่อลอยเป็นครั้งคราว
- ด้านสังคมและการอยู่ร่วมกับเพื่อนในชั้นเรียน
เข้ากับเพื่อนไม่ได้ มักจะแกล้งเพื่อน ด้วยการทำร้ายร่างกาย พูดคำหยาบต่อเพื่อนในโรงเรียน
และครูผู้สอน ขาดทักษะในการเข้าสังคมที่ดี
ความคิดเห็น
1. เด็กชายยิ้มขาดความกระตือรือร้นและแรงจูงใจในการเรียน
2. เด็กชายยิ้มมีทัศนคติไม่ดีต่อครู
3. ครอบครัวไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่ และฐานะทางบ้านยากจน
ข้อเสนอแนะ
1. ครอบครัวควรดูแลเอาใจใส่นักเรียนมากกว่านี้
2. ควรจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมสัมพันธภาพที่ดีระหว่างครูและนักเรียน
3. ครูที่ปรึกษาและครูประจำรายวิชาควรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในชั้นเรียน
ให้ผู้เรียนเกิดความตื่นเต้น และสนใจมากยิ่งขึ้น

ลงชื่อ ผู้สังเกต
(นายแฮร์รี่ มัลฟอย)
วันที่...22...เดือน...กรกฎาคม...พ.ศ....2563..

You might also like