Professional Documents
Culture Documents
จัดทำโดย
นางสาวศุภรดา เจริญศรี รหัสนักศึกษา 63B44640322
นำเสนอ
อาจารย์ ดร.กาญจนา เวชบรรพต (อาจารย์นิเทศก์)
คำนำ
ผู้จัดทำ
ข
สารบัญ
เรื่อง หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
สภาพปัญหาของนักเรียน 1
จุดประสงค์ในการศึกษา 1
สภาพทั่วไปเกี่ยวกับนักเรียน 1
- ประวัติสว่ นตัวและครอบครัว 1
- ประวัติการศึกษาและผลการศึกษา 2
- ประวัติสุขภาพ 2
- สภาพครอบครัวและฐานะทางเศรษฐกิจ 2
- ทัศนคติของบุคคลรอบข้างที่มีต่อนักเรียน 2
- ความคิดเห็นของครูประจำชั้นที่มีต่อนักเรียน 3
- บุคลิกภาพทั่วไปของนักเรียน 4
- พฤติกรรมที่ควรปรับปรุงแก้ไข 5
วิธีการรวบรวมข้อมูล 5
สมมติฐานของปัญหา 5
แนวทางการแก้ปัญหา 5
การติดตามผล 6
การให้ความช่วยเหลือ 7
ข้อเสนอแนะ/ปัญหาและอุปสรรค 7
ประโยชน์จากการศึกษารายกรณีครั้งนี้ 7
ภาคผนวก ค
1
การศึกษารายกรณี
( Case Study )
ชื่อนักเรียน…………เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา…(นามสมมติ)…………ชั้น ป.…2…/…1…เลขที่……6……
1. สภาพปัญหาของนักเรียน
เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา มีปัญหาทางด้านพฤติกรรม คือ การไม่ตั้งใจเรียน นักเรียนมีผลการเรียน
เฉลี่ยต่ำกว่า 1 เป็นเวลา 3 ปี โดยปัจจุบันเรียนซ้ำชั้นป.2 เมื่อถึงเวลาเข้าเรียน นักเรียนจะเดิน
ออกจากห้องเรียน และเดินเล่นบริเวณรอบๆ โรงเรียน จนถึงเวลาเลิกเรียน มีพฤติกรรมก้าวร้าว
เข้ากับเพื่อนไม่ได้ มักจะแกล้งเพื่อน ด้วยการทำร้ายร่างกาย พูดคำหยาบต่อเพื่อนในโรงเรียนและ
ครูผู้สอน ขาดทักษะในการเข้าสังคมที่ดี แต่งกายไม่สุภาพ ใส่เครื่องแบบนักเรียนไม่ถูกต้องตาม
ระเบียบของโรงเรียน และมาโรงเรียนสายเป็นประจำ
2. จุดประสงค์ในการศึกษา
1. เพื่อให้ทราบถึงสภาพปัญหา และสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นจริงเกี่ยวกับนักเรียน
2. เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาและศึกษาวิธีแก้ไขเกี่ยวกับปัญหาของนักเรียนอย่างถูกต้องเหมาะสม
3. เพื่อจะช่วยเหลือเด็กนักเรียนในเรื่องการเรียนและปรับพฤติกรรมของนักเรียนให้เข้ากับเพื่อน
ร่วมห้องเรียน และสังคมภายนอกให้ดียิ่งขึ้น
3. สภาพทั่วไปเกี่ยวกับนักเรียน
3.1 ประวัติส่วนตัวและครอบครัว
ชื่อ……………………………เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา………………………………………………
ชื่อเล่น…………ยิ้ม………. เกิดวันที่………12…….เดือน……พฤศจิกายน……พ.ศ……2553…..
ที่อยู่ปัจจุบัน
ตำบล……………ห้วยบง……………อำเภอ…………เฉลิมพระเกียรติ…………จังหวัด………สระบุรี………
โทรศัพท์บ้าน……-……โทรศัพท์มือถือ………-………
บิดาชื่อ…………นายสมชาย แสนดี …(นามสมมติ)…….อาชีพ………รับจ้างทั่วไป……..
รายได้ต่อเดือน………6,000……บาท
มารดาชื่อ…………นางสาวแสนสวย วงษ์ดารา……(นามสมมติ)… …อาชีพ………ค้าขาย………..
รายได้ต่อเดือน…..…7,500…….บาท
ผู้ปกครองชื่อ……………นางยินดี วงษ์ดารา……(นามสมมติ)…..อาชีพ………รับจ้างทั่วไป……..
รายได้ต่อเดือน………6,000……บาท
2
นักเรียนมีพี่น้องร่วมบิดามารดา………2……..คน (รวมทั้งนักเรียนด้วย)
คน เพศ อายุ ประกอบอาชีพ การศึกษา หมายเหตุ
1 ชาย 10 นักเรียน ประถมศึกษาปีที่ 2
2 ชาย 7 นักเรียน ประถมศึกษาปีที่ 1
3.2 ประวัติการศึกษาและผลการศึกษา
ปีการศึกษา ระดับ โรงเรียน เกรด
2561-2564 ประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ผลการเรียน
เฉลี่ยต่ำกว่า 1
2560 ประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี 2.32
2559 อนุบาล 3 โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ผ่าน
2558 อนุบาล 2 โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี ผ่าน
3.3 ประวัติสุขภาพ
อายุ……10 ปี……….น้ำหนัก……19 กิโลกรัม…..ส่วนสูง…130 เซนติเมตร….กรุ๊ปเลือด……โอ...…
3.4 สภาพครอบครัวและฐานะทางเศรษฐกิจ
นักเรียนมีปัญหาครอบครัว กล่าวคือ บิดา - มารดา แยกทางกัน นักเรียนและน้องชายถูกเลี้ยงดู
ด้วยยาย ซึ่งอยู่ในวัย 64 ปี เพียงลำพัง และครอบครัวมีฐานะยากจน โดยมีรายได้สำหรับใช้สอยภายใน
ครัวเรือนเพียงวันละ 200 บาท (6,000 บาท/เดือน)
3.5 ทัศนคติของบุคคลรอบข้างที่มีต่อนักเรียน
- ยาย
เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา และน้องชายอาศัยอยู่กับยาย ซึ่งอยู่ในวัย 64 ปี เพียงลำพัง เด็กชายยิ้ม
เป็นเด็กที่ไม่ค่อยพูดถึงโรงเรียนให้ยายฟัง เมื่อกลับจากโรงเรียนเด็กชายยิ้มมักจะออกไปเล่นกับเพื่อนบ้าน
ข้างเคียง เมื่อยายถามเกี่ยวกับเรื่องการเรียน ก็ตอบกลับมาว่า เนื้อหาที่เรียนยาก ตนทำไม่ค่อยได้ ไม่อยาก
เรียนแล้ว อยากลาออกมาทำงานมากกว่า ไปเรียนไม่เห็นจะได้อะไรเลย แต่เด็กชายยิ้มจะร่าเริง สนุกสนาน
เวลาอยู่กับน้องชาย และเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียง มีความรับผิดชอบต่องานบ้านที่รับผิดชอบ เด็กชายยิ้ม
มีความชอบและมีความสามารถทางด้านศิลปะ การวาดภาพ ระบายสีมักจะทำให้เด็กชายยิ้มมีความสุข มี
สมาธิ และไม่จำเป็นต้องออกไปเล่นข้างนอกบ้าน
3
3.7 บุคลิกภาพทั่วไปของนักเรียน
- ลักษณะทางร่างกาย (รูปร่าง หน้าตา การแต่งกาย กิริยาวาจา ฯลฯ)
เด็กชายยิ้มมีรูปร่างซูบผอม ผิวขาวเหลือง หน้าตาและการแต่งกายไม่สะอาด เสื้อผ้าเครื่องแต่ง
กายเลอะเทอะ เครื่องแบบนักเรียนไม่ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียนและมีการชำรุด กิริยาวาจาก้าวร้าว
มักพูดจา/สบถ ด้วยคำหยาบ ไม่เคารพครูบาอาจารย์คนใด
4. การรวบรวมข้อมูลได้รวบรวมข้อมูลจากวิธีการต่อไปนี้
1. การสังเกต
2. การสัมภาษณ์
5. สมมติฐานของปัญหา
หลังจากได้ศึกษานักเรียนด้วยวิธีต่างๆ แล้ว ได้ข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
1. เด็กชายยิ้มขาดความกระตือรือร้นและแรงจูงใจในการเรียน
2. เด็กชายยิ้มมีทัศนคติไม่ดีต่อครู
3. ครอบครัวไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่ และฐานะทางบ้านยากจน
4. เด็กชายยิ้มต้องการความสนใจจากผู้อื่น
5. เด็กชายยิ้มขาดทักษะทางสังคมที่ดี
6. แนวทางการแก้ปัญหา
มีการนำองค์ความรู้ในเรื่องทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของ Abraham A. Maslow มาใช้ใน
การแก้ปัญหา ช่วยเหลือ และส่งเสริมเด็กชายยิ้มทั้ง 5 ลำดับขั้น ดังนี้
1. ความต้องการด้านกายภาพ
ทำการช่วยเหลือและแก้ปัญหาด้วยการจัดหาทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีฐานะ
ยากจน เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของนักเรียนและครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น
2,3. ความต้องการด้านความมั่นคง และด้านความรัก
ส่งเสริมด้วยการสร้างกิจกรรมการเรียนการสอนในรูปแบบกระบวนการทำงานกลุ่ม
เพื่อส่งเสริมให้เกิดปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างผู้เรียน และเกิดความคิดเชิงบวก (Positive Thinking)
6
4. ความต้องการด้านความเคารพ
ส่งเสริมด้วยการทดลองมอบหมายให้เด็กชายยิ้มเป็นหัวหน้าห้อง เพื่อกระตุ้นให้นักเรียน
กระตือรือร้น รู้จักที่จะมีความรับผิดชอบ มีแรงจูงใจที่จะมาโรงเรียนและตั้งใจเรียน อีกทั้งยังเป็นการ
แก้ปัญหาเรื่องการมาโรงเรียนสายของเด็กชายยิ้มด้วย
5. ความต้องการบรรลุความหมาย
ส่งเสริมด้วยการให้นักเรียนได้รับโอกาสพัฒนาศักยภาพที่ตนเองพึงมี และได้ทำตามสิ่งที่
ตนเองชอบและมีความถนัด โดยการให้นักเรียนได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันประกวดการวาด
ภาพในโอกาสต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ครูและนักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอีกด้วย
7. การติดตามผล
เริ่มทำการศึกษาตั้งแต่วันที่ ........1 กรกฎาคม 2563..... ถึงวันที่ .....30 มิถุนายน 2564.......
และได้ทำการติดตามผลเป็นช่วง ๆ ดังนี้
การติดตามผลในช่วงที่ 1
ผู้เรียนมีพฤติกรรมต่อต้านผู้ศึกษาเป็นอย่างมาก เพราะผู้เรียนมีทัศนคติต่อครูที่ไม่ดี จึงรู้สึกไม่เชื่อ
ใจ ไม่ให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียนเลย และผู้เรียนยังคงแสดงพฤติกรรมเดิม
ออกมา
การติดตามผลในช่วงที่ 2
ผู้เรียนมีพฤติกรรมการมาโรงเรียนสายลดลง มีความตั้งใจเรียนเพิ่มมากขึ้น เมื่อถึงเวลาเข้าเรียน
ผู้เรียนจะเข้าห้องเรียนตามปกติและร่วมทำกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนตามแต่ละวิชา มีการ
พยายามปรับตัว คุยกับเพื่อนในชั้นเรียน และลดพฤติกรรมก้าวร้าวจากการแกล้งเพื่อนด้วยการใช้ความรุนแรง
การติดตามผลในช่วงที่ 3
ผู้เรียนมีพฤติกรรมการมาโรงเรียนก่อนเข้าแถว เพื่อช่วยเหลือเพื่อนๆ ทำความสะอาดบริเวณเขต
ที่รับผิดชอบอย่างสม่ำเสมอ ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนมากขึ้นจากการเข้าร่วมกิจกรรมการ
จัดการเรียนการสอน ผู้เรียนเริ่มเปิดใจแสดงศักยภาพที่ตนพึงมี และไว้วางใจให้ครูประจำชั้น (คนใหม่ :
ศุภรดา) เรียนรู้และช่วยพัฒนาศักยภาพของตน ผู้เรียนพูดจาไพเราะกับเพื่อนและคุณครู อีกทั้งยังแต่งกาย
สุภาพเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น
7
8. การให้ความช่วยเหลือมีดังนี้
1. ช่วยเหลือและแก้ปัญหาความต้องการด้านกายภาพด้วยการจัดหาทุนการศึกษาสำหรับนักเรียน
ที่มีฐานะยากจน เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของนักเรียนและครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น
2. ส่งเสริมความต้องการด้านความมั่นคง และด้านความรักด้วยการสร้างกิจกรรมการเรียนการ
สอนในรูปแบบกระบวนการทำงานกลุ่ม เพื่อส่งเสริมให้เกิดปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างผู้เรียน และเกิด
ความคิดเชิงบวก (Positive Thinking)
3. ส่งเสริมความต้องการด้านความเคารพด้วยการทดลองมอบหมายให้เด็กชายยิ้มเป็นหัวหน้า
ห้อง เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนกระตือรือร้น รู้จักที่จะมีความรับผิดชอบ มีแรงจูงใจที่จะมาโรงเรียนและตั้งใจ
เรียน อีกทั้งยังเป็นการแก้ปัญหาเรื่องการมาโรงเรียนสายของเด็กชายยิ้มด้วย
4. ส่งเสริมความต้องการบรรลุความหมายด้วยการให้นักเรียนได้รับโอกาสพัฒนาศักยภาพที่
ตนเองพึงมี และได้ทำตามสิ่งที่ตนเองชอบและมีความถนัด โดยการให้นักเรียนได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม
การแข่งขันประกวดการวาดภาพในโอกาสต่างๆ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ครูและนักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่
ดีต่อกันอีกด้วย
9. ข้อเสนอแนะ/ปัญหาและอุปสรรค
1. ทุนการศึกษาของโรงเรียน หรือทุนการศึกษาที่โรงเรียนจัดหามาส่วนมากมีการกำหนด
คุณสมบัติของนักเรียน เพื่อใช้สำหรับการคัดเลือกนักเรียนที่มีความเหมาะสมที่จะได้รับทุนศึกษา
2. ครูประจำชั้นและครูผู้สอนควรรับฟังความคิดเห็นของนักเรียนอย่างตั้งใจ ไม่ควรพิจารณา/
ตัดสินนักเรียนจากสิ่งที่ตนเองเห็นเพียงด้านเดียว
3. ครูประจำชั้นและครูผู้สอนควรเชื่อมั่นว่านักเรียนทุกคนมีศักยภาพมากพอที่จะพัฒนาได้ และ
ควรหาช่องทางในการส่งเสริมศักยภาพที่นักเรียนแต่ละคนพึงมี รวมทั้งจัดการเรียนการสอนที่คำนึงถึง
ความแตกต่างของผู้เรียนด้วย
10. การทำการศึกษารายกรณีครั้งนี้มีประโยชน์ ดังนี้
1. ได้ทราบถึงสภาพปัญหา และสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นจริงเกี่ยวกับนักเรียน
2. เข้าใจถึงปัญหาและได้ศึกษาวิธีแก้ไขเกี่ยวกับปัญหาของนักเรียนอย่างถูกต้องเหมาะสม
3. สามารถช่วยเหลือนักเรียนในเรื่องการเรียนและปรับพฤติกรรมของนักเรียนให้เข้ากับเพื่อน
ร่วมห้องเรียน และสังคมภายนอกให้ดียิ่งขึ้น
ลงชื่อ ผู้รายงาน
(นางสาวศุภรดา เจริญศรี)
ค
ภาคผนวก
1
แบบสัมภาษณ์ผู้ปกครอง
ข้าพเจ้าชื่อ (นาย / นาง / นางสาว) .............นางยินดี...........นามสกุล..............วงษ์ดารา...............
อายุ.......64.........ปี สัญชาติ..............ไทย................ศาสนา.................พุทธ...................
เป็นผู้ปกครอง............เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา..............ผู้ปกครองมีความเกี่ยวข้องเป็น..........ยาย...........
ที่อยู่ปัจจุบัน
ตำบล……………ห้วยบง……………อำเภอ…………เฉลิมพระเกียรติ…………จังหวัด………สระบุรี………
โทรศัพท์บ้าน……-……โทรศัพท์มือถือ………-………
ข้อมูลทั่วไป
ปัจจุบันประกอบอาชีพ
( ) รับราชการ (ระบุ).........................................( ) เกษตรกร (ระบุ)............... ( / ) รับจ้างทั่วไป
( ) ค้าขาย ( ) อื่น ๆ (ระบุ).............................................................
เวลาที่ท่านและครอบครัวอยู่พร้อมเพียงกัน คือ
( ) ตอนเช้า ( / ) ตอนเย็น ( ) เวลาอื่น ๆ (ระบุ)........................................
เวลาใช้เวลาว่างของนักเรียนเวลาอยู่บ้าน
( ) ไม่มีเวลาทำการบ้านและอ่านหนังสือเพราะมีงานบ้านที่ต้องทำงานมาก
( ) ทำการบ้านและอ่านหนังสือมากช่วยงานบ้านเล็กน้อย
( ) ใช้เวลาส่วนมากดูโทรทัศน์
( / ) ใช้เวลาส่วนมากเที่ยวเล่นกับเพื่อน
เวลาอยู่ที่บ้านเด็กมีการทบทวนเนื้อหาบทเรียนที่ได้เรียนหรือไม่
( ) ทบทวน ( ) ไม่ททบทวน
( ) ขยันทำการบ้านมากกว่าที่ครูมอบหมาย ( ) ทำเฉพาะที่ครูสั่งโดยไม่ต้องเตือน
( ) ทำก็ต่อเมื่อทางบ้านเคี่ยวเข็ญ ( / ) ไม่เคยนำการบ้านมาทำที่บ้านเลย
( ) อื่น ๆ (ระบุ)...........................................
งานที่ทางบ้านมอบหมายให้ทำเป็นประจำคือ.........เลี้ยงดูน้องชาย, กวาด-ถูบ้าน, ซักผ้า.........
เด็กช่วยงานที่ท่านมอบหมายให้มากน้อยเพียงใด
( / ) ช่วยงานบ้านที่ได้รับมอบหมายให้ทำ ( ) ช่วยงานบ้านมากกว่าที่ได้รับมอบหมาย
( ) ไม่เคยช่วยเลย
นักเรียนได้เงินค่าใช้จ่ายประจำวัน จำนวน........20.........บาท
นักเรียนเดินทางไปโรงเรียนโดย............................จักรยาน.......................................................................
ความสามารถพิเศษของนักเรียนคือ.........................การวาดภาพระบายสี...............................................
โรคประจำตัวของนักเรียนคือ.........................................ไม่มี.....................................................
2
ถ้าเด็กของท่านทำความผิดท่านจะลงโทษหรือแก้ไขปัญหาอย่างไร
ถ้าเด็กชายยิ้มทำผิด คุณยายจะลงโทษ/แก้ไขปัญหาด้วยการตี และด่าทอ โดยที่ไม่ได้รับฟังเหตุผล
ของการกระทำนั้นๆ เลย
เด็กของท่านมีการพูดจากันเป็นอย่างไร
เด็กชายยิ้มมักจะเป็นเด็กเงียบขรึมในเวลาที่อยู่กับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว แต่จะมีนิสัยร่าเริง
สนุกสนานเวลาอยู่กับน้องชาย และเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียง ไม่ชอบพูดถึงเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับ
โรงเรียน
เมื่อเด็กของท่านโกรธหรือไม่พอใจจะแสดงกิริยาท่าทางอย่างไร
เมื่อเด็กชายยิ้มมีอารมณ์โกรธหรือไม่พอใจ จะมีนิสัยก้าวร้าว ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ค่อยได้
มักจะพูดคำหยาบ
การคบเพื่อนของเด็กเมื่ออยู่ที่บ้านเป็นอย่างไร
เมื่อกลับจากโรงเรียนเด็กชายยิ้มมักจะออกไปเล่นกับเพื่อนบ้านข้างเคียง ประมาณ 3 – 4 คน
ด้วยอารมณ์ที่มีความสุข ร่าเริงสนุกสนาน โดยการเล่นส่วนใหญ่จะเป็นการเล่นแบบเด็กผู้ชายทั่วไป ต่อสู้
ลูกแก้ว พับจรวด เล่นลูกข่าง เป็นต้น
ลักษณะนิสัยของเด็กขณะที่อยู่บ้านเป็นอย่างไร
เด็กชายยิ้มมักจะเป็นเด็กมีนิสัยร่าเริง สนุกสนานเวลาอยู่กับน้องชาย และเพื่อนบ้านบริเวณ
ใกล้เคียง มีความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูน้องชาย หรือการทำงานบ้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร
การกวาด-ถูบ้าน และการซักผ้า
ปัญหาที่ทางบ้านต้องการให้ครูดูแลและช่วยเหลือเด็กคือ
- ปัญหาด้านทุนการศึกษา
- ปัญหาด้านการไม่เล่าเรื่องใดๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนให้คนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทฟัง
3
ทัศนคติของครูที่มีต่อ............เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา...........ชั้น.....ป.2/1....เลขที่......6......
ลักษณะทางร่างกาย (รูปร่าง หน้าตา การแต่งกาย กิริยาวาจา ฯลฯ)
เด็กชายยิ้มมีรูปร่างซูบผอม ผิวขาวเหลือง หน้าตาและการแต่งกายไม่สะอาด เสื้อผ้าเครื่องแต่ง
กายเลอะเทอะ เครื่องแบบนักเรียนไม่ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียนและมีการชำรุด กิริยาวาจาก้าวร้าว
มักพูดจา/สบถ ด้วยคำหยาบ ไม่เคารพครูบาอาจารย์คนใด
พฤติกรรมที่ควรปรับปรุงแก้ไข
1. ด้านพฤติกรรมการเรียน คือ การไม่ตั้งใจเรียน การไม่เข้าห้องเรียน และการมีพฤติกรรมมา
โรงเรียนสายเป็นประจำ
2. ด้านพฤติกรรมก้าวร้าว การพูดคำหยาบต่อเพื่อนในโรงเรียนและครูผู้สอน การแกล้งเพื่อนด้วย
การทำร้ายร่างกาย และการขาดทักษะในการเข้าสังคมที่ดี
3. ด้านภาพลักษณ์และการแต่งกาย การแต่งกายไม่สุภาพ ใส่เครื่องแบบนักเรียนไม่ถูกต้องตาม
ระเบียบของโรงเรียน
ลงชื่อ
( นางสาวสุดสวย รวยทะลุฟ้า )
ครูที่ปรึกษานักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 (คนเก่า)
วันที่...1..เดือน....มิถุนายน....พ.ศ...2564....
5
ทัศนคติของเพื่อนร่วมห้องที่มีต่อ............เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา...........ชั้น.....ป.2/1....เลขที่......6......
ลักษณะทางร่างกาย (รูปร่าง หน้าตา การแต่งกาย กิริยาวาจา ฯลฯ)
เด็กชายยิ้มมีรูปร่างผอม แต่งกายไม่เรียบร้อยเลอะเทอะ เสื้อนักเรียนมักหลุดออกมานอก
กางเกง ถุงเท้าและรองเท้าขาด พูดจาไม่ไพเราะ ชอบพูดคำหยาบ และไม่เคารพคุณครู
พฤติกรรมที่ควรปรับปรุง แก้ไข
การพูดคำหยาบใส่เพื่อนและคุณครู การแกล้งเพื่อนด้วยการทำร้ายร่างกาย
ข้อดี
. ..............ไม่ม.ี ...............
ข้อเสีย
เด็กชายยิ้มชอบแกล้งเพื่อน ทำร้ายร่างกายเพื่อน พูดจาไม่ไพเราะ ชอบพูดคำหยาบใส่เพื่อน
และคุณครู
ลงชื่อ ผู้ให้ข้อมูล
( เด็กหญิงสดใส ใส่ใจการเรียน )
วันที่...1..เดือน....มิถุนายน....พ.ศ...2564..
6
แบบสังเกตพฤติกรรม ครั้งที่..1...
ชื่อนักเรียน......เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา.......ชั้น......ป.2/1......เลขที่…..6....วันเวลา...10 กรกฎาคม 2563....
สถานที่สังเกต..................โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี..................................
พฤติกรรม
- ลักษณะทางร่างกาย (รูปร่าง หน้าตา การแต่งกาย กิริยาวาจา ฯลฯ)
เด็กชายยิ้มมีรูปร่างซูบผอม ผิวขาวเหลือง หน้าตาและการแต่งกายไม่สะอาด เสื้อผ้าเครื่องแต่ง
กายเลอะเทอะ เครื่องแบบนักเรียนไม่ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียนและมีการชำรุด กิริยาวาจาก้าวร้าว
มักพูดจา/สบถ ด้วยคำหยาบ ไม่เคารพครูอาจารย์คนใด
- ลักษณะอารมณ์ (การแสดงอารมณ์สดชื่น ร่างเริง เงียบขรึม การควบคุมอารมณ์ ฯลฯ)
เมื่อเด็กชายยิ้มมีอารมณ์โกรธหรือไม่พอใจ จะมีนิสัยก้าวร้าว ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ค่อยได้
มักจะพูดคำหยาบต่อเพื่อนและครูเป็นประจำ หลายๆครั้งจะแกล้งเพื่อนด้วยการทำร้ายร่างกาย
ด้วยการต่อยตี
- ลักษณะทางสติปัญญา (ความสามารถด้านการเรียน ความสามารถพิเศษ ความถนัด)
เด็กชายยิ้ม มีพฤติกรรมของการไม่ตั้งใจเรียนและไม่เข้าเรียน
ด้านความถนัดและความสามารถพิเศษ เด็กชายยิ้มมีความชอบและมีความสามารถทางด้านศิลปะ
การวาดภาพ ระบายสี
- ลักษณะทางสังคม (การปรับตัวเข้ากับเพื่อน ครู สังคมในห้องเรียน และโรงเรียน)
เด็กชายยิ้มไม่มีการปรับตัวเข้ากับเพื่อนและครู และมักแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว คือ ชอบแกล้ง
เพื่อนร่วมชั้นเรียนด้วยความรุนแรง เช่น การต่อยตี และมีพฤติกรรมการพูดคำหยาบทั้งกับเพื่อนร่วมชั้นและ
ครู อีกทั้งเด็กชายยิ้มมักจะมาโรงเรียนสายเป็นประจำ
ความคิดเห็น
1. เด็กชายยิ้มขาดความกระตือรือร้นและแรงจูงใจในการเรียน
2. ครอบครัวไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่ และฐานะทางบ้านยากจน
3. เด็กชายยิ้มขาดทักษะทางสังคมที่ดี
ข้อเสนอแนะ
1. ครอบครัวควรดูแลเอาใจใส่นักเรียนมากกว่านี้
2. ผู้เรียนควรได้รับการคัดกรองภาวะสมาธิสั้น และภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้
ลงชื่อ ผู้สังเกต
(นางสาวสุดสวย รวยทะลุฟ้า)
วันที่..8...เดือน...กรกฎาคม...พ.ศ....2563...
7
แบบสังเกตพฤติกรรม ครั้งที่..2...
ชื่อนักเรียน......เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา.......ชั้น......ป.2/1......เลขที่…..6....วันเวลา...10 กรกฎาคม 2563....
สถานที่สังเกต..................โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี..................................
พฤติกรรม
- ลักษณะทางสติปัญญา
เด็กชายยิ้มมีปัญหาทางด้านพฤติกรรมการไม่ตั้งใจเรียน นักเรียนมีผลการเรียนเฉลี่ยต่ำกว่า 1 เป็น
เวลา 3 ปี เมื่อถึงเวลาเข้าเรียน นักเรียนจะเดินออกจากห้องเรียน และเดินเล่นบริเวณรอบๆ โรงเรียน จนถึง
เวลาเลิกเรียน
- ลักษณะอารมณ์
เมื่อเด็กชายยิ้มมีอารมณ์โกรธหรือไม่พอใจ จะมีนิสัยก้าวร้าว ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ค่อยได้
เข้ากับเพื่อนไม่ได้ มักจะแกล้งเพื่อน ด้วยการทำร้ายร่างกาย พูดคำหยาบต่อเพื่อนในโรงเรียนและครูผู้สอน
ขาดทักษะในการเข้าสังคมที่ดี
- ลักษณะทางร่างกาย
เครื่องแบบนักเรียนของเด็กชายยิ้มมีความเก่า, ไม่สะอาด แต่งกายไม่สุภาพ ใส่เครื่องแบบนักเรียน
ไม่ถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียน และมาโรงเรียนสายเป็นประจำ
ความคิดเห็น
1. เด็กชายยิ้มขาดความกระตือรือร้นและแรงจูงใจในการเรียน
2. เด็กชายยิ้มมีทัศนคติไม่ดีต่อครู
3. ครอบครัวไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่ และฐานะทางบ้านยากจน
4. เด็กชายยิ้มต้องการความสนใจจากผู้อื่น
5. เด็กชายยิ้มขาดทักษะทางสังคมที่ดี
8
ข้อเสนอแนะ
1. ทุนการศึกษาของโรงเรียน ควรมีการกระจายให้เด็กนักเรียนที่มีฐานะยากจนอย่างทั่วถึง
2. ครูประจำชั้นและครูผู้สอนควรรับฟังความคิดเห็นของนักเรียนอย่างตั้งใจ ไม่ควรพิจารณา/ตัดสินนักเรียน
ด้วยทัศนคติของตนเอง
3. ครูประจำชั้นและครูผู้สอนควรเชื่อมั่นว่านักเรียนทุกคนมีศักยภาพมากพอที่จะพัฒนาได้ และควรหา
ช่องทางในการส่งเสริมศักยภาพที่นักเรียนแต่ละคนพึงมี รวมทั้งจัดการเรียนการสอนที่คำนึงถึงความ
แตกต่างของผู้เรียนด้วย
ลงชื่อ ผู้สังเกต
(นางสาวศุภรดา เจริญศรี)
วันที่...15...เดือน...กรกฎาคม...พ.ศ....2563..
9
แบบสังเกตพฤติกรรม ครั้งที่..3...
ชื่อนักเรียน......เด็กชายยิ้ม วงษ์ดารา.......ชั้น......ป.2/1......เลขที่…..6....วันเวลา...10 กรกฎาคม 2563....
สถานที่สังเกต..................โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี..................................
พฤติกรรม
- ด้านการเรียน
เด็กชายยิ้มมีพฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียน ไม่เข้าห้องเรียนเมื่อถึงเวลาเรียน มีผลการเรียนเฉลี่ยต่ำกว่า
1 เป็นเวลา 3 ปี และมีพฤติกรรมการมาโรงเรียนสายเป็นประจำ
- ด้านพฤติกรรมและลักษณะนิสัย
เด็กชายยิ้ม มีปัญหาทางด้านพฤติกรรมและลักษณะนิสัยก้าวร้าว มักจะพูดคำหยาบต่อครูและ
เพื่อนเป็นประจำ ชอบแกล้งเพื่อนด้วยการทำร้ายร่างกาย ต่อยตี
- ด้านสุขภาพร่างกาย
เด็กชายยิ้ม มีปัญหาด้านการเจริญเติบโต โดยมีภาวะของการขาดสารอาหาร น้ำหนักต่ำกว่า
เกณฑ์มาตรฐาน ร่างกายซูบผอม มีภาวะของการเหม่อลอยเป็นครั้งคราว
- ด้านสังคมและการอยู่ร่วมกับเพื่อนในชั้นเรียน
เข้ากับเพื่อนไม่ได้ มักจะแกล้งเพื่อน ด้วยการทำร้ายร่างกาย พูดคำหยาบต่อเพื่อนในโรงเรียน
และครูผู้สอน ขาดทักษะในการเข้าสังคมที่ดี
ความคิดเห็น
1. เด็กชายยิ้มขาดความกระตือรือร้นและแรงจูงใจในการเรียน
2. เด็กชายยิ้มมีทัศนคติไม่ดีต่อครู
3. ครอบครัวไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่ และฐานะทางบ้านยากจน
ข้อเสนอแนะ
1. ครอบครัวควรดูแลเอาใจใส่นักเรียนมากกว่านี้
2. ควรจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมสัมพันธภาพที่ดีระหว่างครูและนักเรียน
3. ครูที่ปรึกษาและครูประจำรายวิชาควรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในชั้นเรียน
ให้ผู้เรียนเกิดความตื่นเต้น และสนใจมากยิ่งขึ้น
ลงชื่อ ผู้สังเกต
(นายแฮร์รี่ มัลฟอย)
วันที่...22...เดือน...กรกฎาคม...พ.ศ....2563..