Professional Documents
Culture Documents
เอกสารประกอบการปรับพื้นฐาน
วิชาวิทยาศาสตร์ 1 ว21101
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ของ
ชื่อ-นามสกุล......................................................
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/..... เลขที่ .......
จัดทาโดย
คุณครูปาณิสรา อุดอ้าย
โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
มัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1
บทที่ 1 การศึกษาชีววิทยา
2
เรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างไร
QR code : วิดีโอวิทยาศาสตร์
ความสาคัญและความหมายของวิทยาศาสตร์ และวิธีการทางวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์ (Science) ที่มีมาจากคาว่า Sientea ในภาษาลาติน แปลว่า ความรู้ (Knowledge)
หมายถึง กระบวนการหรือวิธีการแสวงหาความรู้ ความจริงจากธรรมชาติอย่างมีระบบเพื่ออธิบายและทาความ
เข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ โดยการสังเกต ทดลอง การวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล เพื่อให้ได้มา
ซึ่งความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับ และเชื่อถือได้
วิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับต่อการดารงชีวิต
และเป็นจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีต่าง ๆ
ตัวอย่างวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจาวัน
กระบวนการทางานของนักวิทยาศาสตร์
QR code : วิดีโอ
ศ.ดร.พิมพ์ใจ ใจเย็น
3
ตัวอย่างนักวิทยาศาสตร์โลกที่มีชื่อเสียง
การสังเกตและระบุปัญหา
การสังเกตนาไปสู่การระบุปัญหา และการหาคาอธิบายของสิ่งที่สงสัย
การตั้งสมมติฐาน
เป็นการสร้างคาอธิบายหรือคาดคะเนคาตอบไว้ล่วงหน้า ซึ่งเป็นแนวทางในการ
สารวจหรือทดลองว่าคาอธิบายหรือคาตอบนั้นเป็นจริงหรือไม่
***สมมติฐานไม่จาเป็นต้องถูกต้องหากพบว่าไม่เป็นจริง สามารถตั้งใหม่ได้
การวางแผนและการสารวจหรือการทดลอง หรือการเก็บข้อมูล
เป็นการวางแผนการสารวจหรือออกแบบการทดลองให้สอดคล้องกับสมมติฐาน
รวมทั้งเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนาไปใช้ในการวิเคราะห์และสร้างคาอธิบาย
การวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างคาอธิบาย
เมื่อได้ข้อมูลจากการสารวจหรือทดลองแล้วจะมีการนาข้อมูลมาวิเคราะห์
แปลความหมาย และสร้างคาอธิบายข้อมูลเหล่านั้น
การสรุปผลและสื่อสาร
หากได้คาอธิบายเกี่ยวกับข้อมูล สมมติฐาน และปัญหาที่เป็นเหตุเป็นผล
และเชื่อถือได้ ก็สามารถสรุปผลเป็นความรู้ใหม่และเผยแพร่ต่อไป
5
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
การทางานแต่ล ะขั้น ตอนในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จาเป็นต้องอาศัยทักษะเพื่อช่วยให้ ก าร
ทางานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เรียกว่า ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (science process skills)
1. การสังเกต 8. การพยากรณ์
2. การวัด 9. การตั้งสมมติฐาน
สเปซสเปซ
ตัวอย่างทักษะของนักวิทยาศาสตร์จนนาไปสู่การค้นพบ
QR code : วิดีโอ
การค้นพบยาเพนิซิลลิน อเล็กซานเดอร์ เฟลมิ่ง
(Alexander Fleming)
การสั ง เกต (observation) เป็ น ทั ก ษะที่ ส าคั ญ ที่ น าไปสู่ ก ารค้ น พบปั ญ หา และ
รวบรวมข้อมูล นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และผู้ที่สามารถสังเกตได้อย่างละเอียดรอบคอบจะ
ช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
7
ตัวอย่างการทดลอง เรือ่ ง แสงกับการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
ข้อควรระวัง
1. . แอลกอฮอล์เป็นสารไวไฟ ดังนั้นในการต้มใบชบาในแอลกอฮอล์จึงต้องให้ความร้อนผ่านน้า
2. ในการใช้หลอดหยดดูดสารละลายไอโอดีน ควรระวังอย่าให้สารละลายไอโอดีนถูกผิวหนัง
วิธีการทดลอง
1. นาต้นชบาครอบด้วยกล่องทึบแสงหรือที่มืดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
2. เลื อ กใบชบาที่ มี ข นาดใกล้ เ คี ย งกั น จ านวน 2 ใบ โดยหุ้ ม ใบที่ 1 ด้ ว ยกระดาษทึ บ แสงสี ด า
ใบที่ 2 ไม่หุ้มกระดาษทึบแสงสีดา แล้วนาต้นชบาไปวางกลางแดด 2-3 ชั่วโมง
3. เมื่อครบ 3 ชั่วโมง นาใบชบาทั้ง 2 ใบ วางบนจานเพาะเชื้อ แล้วสังเกตความแตกต่างระหว่างใบ
ชบาทั้งสองใบ บันทึกผล
4. นาใบชบาต้มในน้าเดือดประมาณ 5 นาที เพื่อทาให้เซลล์ใบชบาตาย
5. สกัดคลอโรฟิลล์ออกจากใบชบาด้วยแอลกอฮอล์ โดยคีบใบชบาที่ต้มแล้วใส่ในหลอดทดลองขนาด
ใหญ่ เติมเอทานอลจนท่วมใบชบา แล้วนาหลอดทดลองใส่ในบีกเกอร์ที่มีน้าร้อนต้มจนใบชบาซีดขาว
6. คีบใบชบาออกจากหลอดทดลองแล้วล้างด้วยน้าเปล่า คลี่ใบออก หยดสารละลายไอโอดีนลงบนใบ
ชบาทั้ง 2 ใบให้ทั่ว สังเกตและบันทึกผลการเปลี่ยนสารของสารละลายไอโอดีนบนใบชบา โดยการวาดภาพหรือ
ถ่ายภาพ
8
ตารางบันทึกผลการทดลอง
การทดลอบด้วย ใบที่ไม่หุ้มด้วย ใบที่หุ้มด้วย
สารละลายไอโอดีน กระดาษทึบแสงสีดา กระดาษทึบแสงสีดา
ก่อนการทดลอบด้วย
สารละลายไอโอดีน
หลังการทดลอบด้วย
สารละลายไอโอดีน
อภิปรายผลการทดลอง
........................................................................................................................................................... ...................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................. .............................
สรุปผลการทดลอง
........................................................................................................................................................... ...................
..............................................................................................................................................................................