คูมือ Arena : Basic Process Module

1.] Create Module : สำหรับสรางวัตถุที่เขามาในแบบจำลอง

ใชในการสราง วัตถุ ที่เขามาในระบบ

1. Name : ชื่อของ Module

2. Entity Type : ชื่อของวัตถุที่เขามาในระบบ
3. Type : รูปแบบการมาถึงของวัตถุ
4. Value : ระยะหางของการมาถึงของวัตถุ
5. Units : เลือกหนวยเวลาที่ใช ของการมาถึง
6. Entities per Arrival : จำนวนวัตถุที่เขามาถึงในระบบ ของการมาถึง 1 ครั้ง
7. Max Arrival : จำนวนสูงสุด ของการมาถึง ในระบบ
8. First Creation : เวลาเริม่ ตน จนกวาวัตถุแรกจะเขามาในระบบ
2.] Dispose Module : หนวยโครงสรางที่ใชจบการทำงานของวัตถุที่จำลอง
ใชเพื่อจบสิ้นการจำลอง เมื่อเสร็จสิ้นการเก็บขอมูลของการจำลอง

1. Name : ชื่อของ Module

2. Record Entity Statistics : ถามีการคลิกเครื่องหมายถูก จะกำหนดใหบันทึกขอมูลมูลคาเพิ่ม/ลดของวัตถุ ex.)
ตนทุนมูลคาเพิ่มของวัตถุ
3.] Process Module : หนวยโครงสรางที่แสดงกิจกรรมในแบบจำลอง
ใชในการสรางกิจกรรมที่เกิดขึ้นในระบบ อาจมีหรือไมมี ก็ได (สวนใหญมี)

1. Name : ชื่อของ Module

2. Type : ประเภทของลักษณะเฉพาะภายใน Module (ปกติใช Standard)
3. Action : ปฏิบัติการที่จะเลือกใชใน Module
3.1) Delay - ปฏิบัติการที่อาศัยชวงเวลา (Delay) ในการทำกิจกรรมแตไมตองการทรัพยากร (No Resource)
3.2) Seize Delay Release - ปฏิบัติการจอง (Seize) จำนวนทรัพยากรมาทำกิจกรรม รวมกับวัตถุโดยอาศัยชวงเวลา
(Delay) ในการทำกิจกรรม และเมื่อกิจกรรม
นั้นเสร็จสิ้น จะมีการปลอย (Release) ทรัพยากรใหวางเพื่อใหทรัพยากรนั้นสามารถทำ กิจกรรมกับวัตถุถัดไป
3.3) Seize Delay - ปฏิบัติการจอง (Seize) ทรัพยากรมาใชกิจกรรมรวมกับวัตถุ โดย อาศัยชวงเวลา (Delay) ในการ
ทำกิจกรรม
3.4) Delay Release - ปฏิบัติการที่อาศัยชวงเวลา (Delay) ในการทำกิจกรรม และเมื่อ กิจกรรมนั้นเสร็จสิ้น จะมีการ
ปลอยทรัพยากร (Release) ใหวาง
4. Priority : ลำดับความสำคัญของวัตถุที่รอคอยเพื่อเรียกใชทรัพยากร High (1) / Medium (2) / Low (3) / Other
Expression
5. Delay Type : ประเภทของชวงเวลาที่ใชในการทำกิจกรรม มีใหเลือก 5 ประเภท ซึ่งอยูในรูป ของลักษณะการ
แจกแจงชวงเวลาการทำกิจกรรม มี
5.1) Constant - เวลาที่ใชในการทำกิจกรรมเปนแบบคงที่
5.2) Normal - เวลาที่ใชในการทำกิจกรรมเปนแบบคงที่
5.3) Triangular - เวลาที่ใชในการทำกิจกรรมเปนแบบสามเหลีย่ ม
5.4) Uniform - เวลาที่ใชมนการทำกิจกรรมเปนแบบยูนิฟอรม
5.5) Expression - เลือกรูปแบบของการแจกแจงที่ไมปรากฏขางตน โดยชองนี้ผูสรางตอง ใสคาใหตวั แปรเสริม ที่
จำเปนเขาไป เพื่อทำใหขอมูลการแจกแจงสมบูรณ
6. Units : เลือกหนวยเวลาที่ใช ในการทำกิจกรรม
7. Allocation : เลือกกำหนดวาตองการขอมูลรูปแบบใด
8. Record Entity Statistics : ถามีการคลิกเครื่องหมายถูกที่นี่แสดงถึงการกำหนดใหบันทึกขอมูล

อธิบายขอมูลที่ตองใสในหนาตางทรัพยากร (Resource)
Type : เลือกประเภทของทรัพยากร
Resource Name : ชื่อของทรัพยากรที่จะถูกใชหรือปลอยออก
Set Name : ชื่อของกลุมทรัพยากรที่สมาชิกจะถูกใชหรือปลอยออก
Selection Rule : กฎในการเรียกใชทรัพยากรจากกลุมทรัพยากร หรือปลอยออกของ ทรัพยากรจากกลุมทรัพยากรที่
ระบุไวใน Set Name ชองนี้จะปรากฏเมื่อเลือกประเภทของ ทรัพยากรเปนแบบกลุมทรัพยากร (Set) ใน Selection
Rule มีใหเลือก 6 กฎคือ
ก) Cyclical : วัตถุเรียกใชทรัพยากรจากทรัพยากรไหนวางกอนใหเรียกใชทรัพยากรนั้น กอน
ข) Random : วัตถุเรียกใชทรัพยากรจากการสุมเรียกใชทรัพยากรจากทรัพยากรที่วาง
ค) Preferred Order : วัตถุเรียกใชทรัพยากรจากลำดับทรัพยากรทีเ่ รียงลำดับไวใน Members ของ Set
Spreadsheet Module โดยไมสนใจวาทรัพยากรไหนวางกอน แตสนใจ ณ เวลาทรัพยากรที่ถูกเรียกจองขณะนั้น วามี
ทรัพยากรไหนวางใหเรียก ทรัพยากรที่วางอยูในลำดับแรกกอน 19
ง) Specific Member : ระบุทรัพยากรที่ตองการเรียกใช หรือปลอยออก ตัวอยางเชน เมื่อวัตถุทำกิจกรรมเสร็จสิ้น
และวัตถุตองการปลอยทรัพยากรใหวาง ตามคาดัชนีชี้ ตำแหนงลำดับของทรัพยากรที่ระบุใน Set Index
จ) Largest Remaining Capacity : วัตถุเรียกใชทรัพยากรที่วาง จากทรัพยากรที่มีกำลัง การผลิต (จำนวน) คงเหลือ
มากที่สุดจะถูกเรียกใชกอน
ฉ) Smallest Number Busy : วัตถุเรียกใชทรัพยากรที่วาง จากทรัพยากรที่มีจำนวน ครั้งการทำงานนอยสุดกอน จะ
ถูกเรียกใชกอน
Save Attribute : การใสคุณสมบัติเฉพาะใหกับวัตถุ โดยคุณสมบัติเฉพาะนี้จะเก็บคาเลขชี้ (Set Index) ที่แสดง
ตำแหนงลำดับของทรัพยากรใน Set Spreadsheet Module ทำใหวัตถุ สามารถอางถึงชื่อของทรัพยากรที่ถูกเรียกใช
หรือปลอยออกได
Set Index : คาดัชนีคณ ุ สมบัติเฉพาะเพื่อแสดงตำแหนงลำดับของทรัพยากรใน Set Spreadsheet Module
Quantity : จำนวนทรัพยากรที่จะถูกเรียกใชจากชื่อทรัพยากรที่กำหนด หรือ จากกลุม ทรัพยากร
4.] Assign Module : หนวยโครงสรางที่ใชกำหนดหนาที่
ใหคาตัวแปร คุณสมบัติประจำตัว คาประตัว มีหลายหนาที่ วัตถุที่ผาน Module นี้จะมีทางออกเดียว ex.) เกิด
กระบวนการแปรรูปกอน เมื่อ ผาน Module นี้จะทำการเปลี่ยน
ชื่อวัตถุใหม จาก Wood เปน Wooden Plank เปนตน

1. Name : ชื่อของ Module

2. Assignments : กำหนดหนาที่ใหกับวัตถุ เมื่อวัตถุเขามาในโมดูลนี้ การกำหนดหนาที่ทำไดโดยการคลิกปุม Add จะ
ปรากฏหนาตางยอย (Assignments)
2.1) Type : เลือกประเภทของหนาที่ที่ถูกมอบหมายตามขอดานลาง
2.2) Variable Name - การตั้งชื่อใหกับตัวแปรที่จะไดรับการกำหนดคาตัวแปรเมื่อวัตถุ เขาสูโมดูลนี้
2.3) Attribute Name - การตั้งชื่อใหคุณสมบัติประจำตัวที่จะไดรับมอบหมายคาให โดย คุณสมบัติประจำตัวนี้จะถูก
กำหนดใหวัตถุ เมื่อวัตถุเขาสูโ มดูลนี้
2.4) Entity Type - การตั้งชื่อใหมใหวัตถุ โดยชื่อใหมนี้จะถูกกำหนดใหวัตถุ เมื่อวัตถุเขาสู โมดูลนี้
2.5) Entity Picture - การเลือกภาพใหมใหวตั ถุ โดยภาพใหมนี้จะถูกกำหนดใหวตั ถุ เมื่อ วัตถุเขาสูโมดูลนี้
2.6) Other - การกำหนดคาลงไปใหตัวแปรระบบพิเศษ (ตัวแปรJ) โดยคาใหมนี้จะถูก กำหนดใหวัตถเมื่อวัตถุเขาสู
โมดูลนี้
2.7) New Value - การใสคาใหกับตัวแปร คุณสมบัติประจำตัว ชื่อสูตร หรือตัวแปรระบบ พิเศษอื่นๆ
5.] Decide Module : หนวยโครงสรางที่ใชสำหรับตัดสินใจทางเลือกใหแกวัตถุ
โดยแตละวัตถุจะไปไดแคเพียงหนึ่งเสนทางเทานั้น! การตัดสินใจมี 2 หลักเกณฑ คือ แบบความเปนไปได และ แบบ
เงื่อนไขในการตัดสินใจ

1. Name : ชื่อของ Module

2. Type : เกณฑใชสำหรับตัดวินใจทางเลือก มีใหเลือก 4 ประเภท คือ
2.1) 2-way by Chance - มีทางเลือกจากโอกาสความนาจะเปน ปรับตรง Percent True
2.2) 2-way by Condition - แบบมี 2 เงื่อนไขในการตัดสินใจ
2.3) N-way by Chance - เลือกทางเลือก 1 ทาง จากทางเลือกหลายทาง
2.4) N-way by Condition - เลือกทางเลือก 1 ทาง จากเงื่อนไขการตัดสินใจ

อธิบายขอมูลทีต่ องใสในหนาตางหากใชแบบเงื่อนไข (Conditions)

If : เลือกตัวกำหนดเงื่อนไขจากตัวแปร (Variable) / คุณสมบัติประจำตัว (Attribute) / ชนิด ของวัตถุ (Entity Type)
หรือ สูตร (Expression)
Named : ชื่อของตัวเลือกที่เปนตัวกำหนดเงื่อนไขตามที่ระบุไวใน If โดยชองนี้จะไมปรากฏ ถาเลือกตัวกำหนดเงื่อนไข
แบบสูตร (Expression)
Is : เลือกสมการใหเงื่อนไข >, >=, = =, <= หรือ <> ใหกับตัวเลือกที่ถูกกำหนดใน Named โดยชองนี้จะไมปรากฏ
ถาเลือกตัวกำหนดเงื่อนไขแบบสูตร (Expression)
Value : ใสคาที่ใชสำหรับกำหนดเงื่อนไขใหกับตัวเลือกที่ถูกกำหนดใน Named
6.] Batch Module : หนวยโครงสรางที่ทำหนาที่รวมวัตถุที่สนใจ
สามารถระบุประเภทของวัตถุ รวมวัตถุประเภทเดียวกันหรือรวมทุกประเภทเลยก็ได รวมไดทงั้ แบบ ถาวร และ
ชั่วคราว และ!!หากการรวมนั้นเปนแบบชั่วคราวจะตองมี การแยกวัตถุที่รวมกันอยางชั่วคราวนี้ออกจากกันเสมอ กอนที่วัตถุนั้น
จะออกจากระบบไปที่ โมดูล Dispose มิฉะนั้นโปรแกรมจะเตือน (Warning) วามีความผิดพลาด!!

1. Name : ชื่อของ Module

2. Type : ประเภทของการรวมวัตถุ มี 2 ประเภทคือ Permanent รวมวัตถุแบบถาวร / Temporary รวมแบบ
ชั่วคราว
3. Batch Size : จำนวนของวัตถุที่ตองการรวม
4. Save Criterion : ตัวแทนกลุม วัตถุใหม จะยึดคาตามชนิดของวัตถุตัวสุดทาย (Last) ในแตละ กลุม หรือจะยึดคา
ตามชนิดของวัตถุตัวแรกสุด (First) ในแตละกลุม ที่อยูในคิว
5. Rule : กฎการรวมวัตถุ ประกอบดวย 2 กฎคือ
5.1) Any Entities - การรวมวัตถุแบบรวมวัตถุทุกชนิดไวดวยกัน โดยการรวมนับจำนวนวัตถุ ในแถวคอยรวมกัน
เทากับจำนวนของวัตถุที่ตองการรวม (Batch Size)
วัตถุนั้นก็จะถูก รวมเขาสูโมดูล
5.2) By Attribute - การรวมวัตถุที่ใหคาคุณสมบัติประจำตัวเดียวกันไวดวยกัน โดยการรวม วัตถุจะนับจำนวนวัตถุที่
คาคุณสมบัติประจำตัวเดียวกัน ที่อยูในแถวคอยใหรวมกันได เทากับจำนวนของวัตถุที่ตองการรวม (Batch Size) เมื่อ
ครบตามจำนวนที่กำหนดวัตถุ นั้น ก็จะถูกรวมเขาสูโมดูลนี้กอน
6. Attribute Name : เลือกชื่อของคุณสมบัติที่ใชเปนเกณฑในการรวมวัตถุ วัตถุที่มคี า คุณสมบัติเหมือนกันไว
ดวยกัน ซึ่งคุณสมบัตินี้อาจเลือกจากคุณลักษณะที่โปรแกรม Arena กำหนดใหกับวัตถุโดยอัตมัติ เชน Entity.Type /
Entity.SerialNumber เปนตน หรือเลือก จากคุณสมบัติที่ถูกสรางไวแลวใน Assign Module ที่อธิบายไวกอนหนานี้
ชองนี้จะปรากฏ ขั้นเมื่อเลือกกฎการรวมวัตถุ (Rule) แบบการรวมวัตถุคุณสมบัตเิ ดียวกันไวดวยกัน (By Attribute)
7. Representative Entity Type : การตั้งชื่อใหมใหชนิดของวัตถุ โดยชื่อใหมนี้จะถูกใชเปน ตัวแทนในการนำเสนอ
ผลลัพธตางๆ ที่เกี่ยวของกับวัตถุตวั นี้
7.] Seperate Module : หนวยโครงสรางทีท่ ำหนาที่คัดลอกวัตถุที่เขามาหรือแยกวัตถุที่เคยรวมกันไว
ทำการแยกหรือรวมวัตถุ

1. Name : ชื่อของ Module

2. Type : เลือกประเภทของการแยกวัตถุ มี 2 ประเภทคือ
2.1) Duplicate Original - การคัดลอกวัตถุที่เราสนใจ
2.2) Split Existing Batch – การแยกวัตถุออกจากกัน จากวัตถุที่ถูกรวมกันแบบชั่วคราวใน โมดูล Batch
3. Percent Cost to Duplicate (0-100) : กำหนดเปอรเซ็นตมลู คาตนทุน และมูลคาเวลาให วัตถุที่ถูกคัดลอกจาก
มูลคาตนทุนวัตถุดั้งเดิม ชองนี้จะปรากฏเมื่อเลือกประเภทของการแยก แบบ Duplicate Original
4. # of Duplicate : จำนวนของวัตถุที่คัดลอกออกจากหนวยโมดูลนี้ ชองนี้จะปรากฏขั้นเมื่อ ประเภท (Type) เปน
แบบ Duplicate Original
(แตถาผูสรางใสคาในชองนี้ เปนตัวเลขทศนิยม ขอมูลจะพิจารณาใหเปนเลขจำนวนเต็มโดยการปดตัวเลขนั้นลง)
5. Member Attribute : เลือกวิธีกำหนดคุณสมบัติใหกับวัตถุ มี 3 วิธีใหเลือก โดยชองนี้จะ ปรากฏขึ้น เมื่อประเภท
ของการแยกวัตถุ (Type) เปนแบบ Split Existing Batch ดังนี้
5.1) Retain Original Entity Values - คุณสมบัตปิ ระจำตัวดั้งเดิมตางๆ ทุกตัวของวัตถุตนกำเนิดรวมทั้งคุณสมบัติที่
ผูสรางกำหนดขึ้นมากอนวัตถุเขาสู Batch Module เมื่อวัตถุถูกแยกออกจากกัน ยังคงคาเหมือนเดิมทุกคุณสมบัติ
5.2) Take All Representative Values - คุณสมบัตปิ ระจำตัวตางๆ ทุกตัวของวัตถุที่ทำใหโมดูลนี้ทำงาน (อาจไมใช
วัตถุดั้งเดิมก็ได) ซึ่งอาจเปนคุณสมบัติที่ถูกกำหนดขึ้นมาใหม หลังจากกอนวัตถุออกจาก Batch Module
5.3) Take Specific Representative Values - ระบุคณ ุ สมบัติบางตัวจากคุณสมบัติประจำตัว ของวัตถุที่ทำใหโมดูล
นี้ทำงาน (อาจไมใชวัตถุดั้งเดิมก็ได) ซึ่งอาจเปนคุณสมบัติที ถูก กำหนดขึ้นใหมหลังจากกอนวัตถุออกจาก Batch
Module โดยกำหนดใหคณ ุ สมบัตนิ ั้น ติดตัวกับวัตถุมาเมื่อทำการแยก
6. Attribute Name : เลือกคุณสมบัติใหกับวัตถุจากคุณสมบัติประจำตัวทั้งหมดของวัตถุที่ทำให โมดูลนี้ทำงาน (อาจ
ไมใชวัตถุดั้งเดิมก็ได) ใหตดิ ตัววัตถุไปเมื่อวัตถุถูกแยกในโมดูล Separate ชองนี้จะปรากฏขึ้นเมื่อเลือกวิธกำหนด
คุณสมบัติเปนแบบ Take Specific Representative Values

!!ในโมดูล Separate นี้ เมื่อเลือกประเภทของการแยกแบบ Duplicate Original ทำใหโมดูลนี้มี สองทางออก!! คือ

1 ทางออกดานบน ซึ่งเปนทางออกของวัตถุเดิมที่เขามา (Original)
2 ทางออกดานลาง จะปรากฏคำวา “Duplicate” อยู คือทางออกของจำนวนวัตถุที่ถูกคัดลอก
8.] Record Module : หนวยโครงสรางที่ทำหนาที่รวบรวมขอมูลทางสถิติของแบบจำลอง
เก็บขอมูลวัตถุที่เขาโมดุลนี้ เวลาที่วัตถุอยูในระบบ etc. ใชเมื่อตองการจำแนกขอมูลที่สนใจเปนพิเศษใช สามารถใช
ตอเนื่องกับโมดุล Decide

1. Name : ชื่อของ Module

2. Type : ประเภทของสถิติที่ตองการบันทึกประกอบดวย
2.1) Count - บันทึกขอมูลการรับ
2.2) Entity Statistics - บันทึกขอมูลที่เกี่ยวของกับตนทุนของวัตถุ
2.3) Time Interval - บันทึกขอมูลประเภทนี้เปนการเปนการสั่งใหโมดูลนี้ ทำการคำนวณหา คาเวลาปจจุบันที่วัตถุ
เขาโมดูล Record ไปหักลบกับ คาที่วัตถุมีติดตัวในคุณสมบัติ ประจำตัว (Attribute Name) ในโมดูล Assign ที่ถูก
สรางไวกอนหนานี้
2.4) Time Between - บันทึกคาชวงเวลาหางของแตละวัตถุที่มาถึงโมดูลนี้
2.5) Expression - บันทึกคาทางสถิติตามสูตรที่กำหนด
3. Attribute Name : ชื่อคุณสมบัติที่ถูกกำหนดคา TNOW ไวในโมดูล Assign ที่ถูกสรางไวกอน หนานี้ ชองนี้จะ
ปรากฏขึ้น เมื่อประเภทของสถิติทตี่ องการเปนแบบ Count หรือ Expression
4. Tally Name : ชื่อที่ใชบันทึกผลลัพธทางสถิติของโมดูลนี้ โดยหลังจากการันแบบจำลอง ให อานผลลัพธทางสถิติ
จากชื่อนี้ในรายงานผลประเภท User Specified ชองนี้จะปรากฏขึ้นเมื่อ ประเภทของสถิติ ที่ตองการบันทึกเปนแบบ
Time Interval, Time Between หรือ Expression
5. Counter Name : ชื่อที่ใชบันทึกผลลัพธดานการนับทางสถิติของโมดูลนี้ โดยหลังจากการรัน แบบจำลอง ใหอาน
ผลลัพธทางสถิติจากชื่อนี้ในรายงานผลประเภท User Specified ชองนี้ จะปรากฏขึ้นเมื่อประเภทของสถิติ ที่ตองการ
บันทึกเปนแบบ Count
6. Record into Set: ถามีการคลิกเครื่องหมายถูกที่นี่ แสดงถึงการกำหนดใหขอมูลถูกเก็บอยูใน กลุม ขอมูลเดียวกัน
7. Counter Set Name : ใหบันทึกขอมูลที่ไดลงในชื่อกลุมที่ถูกระบุ ชองนี้จะปรากฏเมื่อคลิก เครื่องหมายถูกที่
Record into Set และมีประเภทของสถิติที ตองการบันทึกเปนแบบ Count
8. Tally Set Name : ใหบันทึกขอมูลที่ไดลงในชื่อกลุมที่ถูกระบุ ชองนี้จะปรากฏเมื่อคลิก เครื่องหมายถูกที่ Record
into Set และมีประเภทของสถิตทิ ี่ตองการบันทึกเปนแบบ Time Interval, Time Between หรือ Expression
9. Set Index : ดัชนีชี้ตำแหนงของสมาชิกในกลุมที่ระบุใน Counter Set Name หรือ Tally Set Name ใหระบุเลข
1,2... เพื่อบงวา ขอมูลขางตนใหบันทึกอยูในสมาชิกลำดับทีเ่ ทาไหร ของกลุม โดยชอง Set Index จะปรากฏเมื่อคลิก
เครื่องหมายถูกที่ Record into Set

!! ในกรณีใหบันทึกขอมูลไวในชื่อกลุมทีต่ ั้งไวใน Counter Set Name หรือ Tally Set Name ชื่อที่ถูกระบุนจี้ ะไปปรากฏอัตโนมัติใน Set
Spreadsheet Module และผูสรางตองเขาไปใสรายชื่อ สมาชิกที่ใชบันทึกผลลัพธใน Set Spreadsheet Module ดวย เพื่อใชอา น
ผลลัพธทางสถิติจาก รายชื่อสมาชิกที่กำหนด ในรายงานผลประเภท User Specified !!
คูมือ Arena : BP Spreadsheet

1.] Entity Spreadsheet Module : หนวยขอมูลวัตถุ

ใสขอมูลรายละเอียดเริ่มตนตางๆ ใหวัตถุ

1. Name : ชื่อของวัตถุ จะเปนชื่อเดียวกับ Entity Type ที่สรางไวใน Create Module

2. Initial Picture : กำหนดรูปภาพของวัตถุ
3. Holding Cost / Hour : กำหนดตนทุนในการเก็บรักษาวัตถุตอ หนวย / ชม. คาใชจายนี้จะนับเมื่อวัตถุอยูในระบบ
จำลอง
4. Initial Costs : การระบุตน ทุนเริ่มตนใหแกวตั ถุ
4.1) Value Added - คาจากกิจกรรมมูลคาเพิ่ม
4.2) Non-Value Added - คาจากกิจกรรมมูลคาไมเพิ่ม
4.3) Waiting - คาจากกิจกรรมการรอคอย
4.4) Transfer - คาจากการที่วัตถุทำกิจกรรมการขนสง
4.5) Other - คาจากการที่วัตถุทำกิจกรรมอื่น
5. Report Statistics : ถามีการคลิกเครื่องหมายถูก จะบันทึกขอมูลทางสถิติของวัตถุมลู คาเพิม่ และไมเพิ่มไปในสถิติ
รายงานผล
2.] Resource Spreadsheet Module : หนวยขอมูลทรัพยากร
ขอมูลตางๆของทรัพยากร

1. Name : ชื่อของทรัพยากร
2. Type : ประเภทของทรัพยากร มี 2 ประเภท
2.1) Fixed Capacity - กำลังการผลิตคงที่
2.2) Base on Schedule - กำลังการผลิตไมคงที่
3. Capacity : ชองนี้จะปรากฎขึน้ เมื่อกำลังการผลิตทรัพยากรคงที่ !ระบุเปนเลขจำนวนเต็ม+!
4. Costs : ตนทุนการผลิตทรัพยากร
4.1) Busy / Hour - มูลคาตนทุนที่เกิดจากการใชทรัพยากร ตอชั่วโมง
4.2) Idle / Hour - มูลคาตนทุนที่เกิดจากการวางงาน ตอชั่วโมง
4.3) Per Use - มูลคาตนทุนที่เกิดจากการใชตอครั้ง
5. StateSet Name :
6. Failure : ใชระบุความลมเหลวที่เกิดขึ้นจากทรัพยากร
7. Report Statistics : ถามีการคลิกเครื่องหมายถูก จะบันทึกขอมูลทางสถิติขอัตโนมัติของทรัพยากรที่เลือกไปใน
สถิติรายงานผลดานทรัพยากร
3.] Queue Spreadsheet Module : หนวยขอมูลแถวคอย
ใชใสลักษณะการเลือกวัตถุจาก แถวคอยในการเขารับบริการ โดย Module นี้จะเกิดขึ้นอัตโนมัติจาก Process Module ที่ใช
Seize Delay Release หรือ Seize Delayหรือหนวยโครงสรางที่เกีย่ วกับแถวคอย Batch / Decide

1. Name : ชื่อเดียวกับ Module ที่เกี่ยวของกับการตอคิว

2. Type : ลักษณะการใหบริการ มี 4 ประเภท คือ
2.1) First in First Out - เมื่อทรัพยากรวาง จะเลือกวัตถุที่เขามาในแถวคอยกอนเขา มาใชบริการกอน
2.2) Last in First Out - เมื่อทรัพยากรวาง จะเลือกวัตถุที่เขามาหลังสุดในแถวคอย มาใชบริการกอน
2.3) Lowest Attribute Value - เมื่อทรัพยากรวาง จะเลือกวัตถุจากแถวคอยที่มีคาคุณสมบัติประจำตัวต่ำสุด มาใช
บริการกอน
2.4) Highest Attribute Value - เมื่อทรัพยากรวาง จะเลือกวัตถุจากแถวคอยที่มีคาคุณสมบัติประจำตัวสูงสุด มาใช
บริการกอน
3. Attribute Name : เลือกชื่อคุณสมบัติประจำตัวที่ตองการให คาในคุณสมบัติประจำตัวนั้นกำหนดการใหบริการ
จะปรากฏเมื่อเลือก Type แบบ
Lowest / Highest เทานั้น
4. Shared : ถามีการคลิกเครื่องหมายถูก แสดงถึงการใชคิวรวมกัน !!ใชงานไดเมื่อใช Module Advance Process !!
5. Report Statistics : ถามีการคลิกเครื่องหมายถูก แสดงถึงการกำหนดใหบันทึกที่เกี่ยวของของการตอคิวในขอมูล
สถิตริ ายงานแถวคอย
4.] Variables Spreadsheet Module : หนวยขอมูลตัวแปร
ใสคาเริม่ ตนใหแกตัวแปร ตัวแปรที่ถูกกำหนดอาจเปลีย่ นแปลงคาไดจาก Assign Module ในการกำหนดตัวแปรใหม

1. Name : ชื่อของตัวแปน
2. Comment :
3. Rows : ระบุจำนวนแถว เพื่อกำหนดมิติแถวใหตัวแปร
4. Columns : ระบุจำนวนแนว เพื่อกำหนดมิติหลักใหตัวแปร
5. Data Type : เลือกชนิดขอมูลของคาตัวแปร มี 2 ประเภท
5.1) Real - ตัวแปรเปนจำนวนจริง
5.2) String - ตัวแปรชนิดขอความ
6. Clear Option : วิธีการลางคาตัวแปร มี 3 วิธี
6.1) Statistics - เมื่อคาสถิติถูกลาง คาสถิติจะเทากับคาเริ่มตน ขึ้นอยูกับการเช็คคาการรัน
6.2) Systems - เมื่อคาของระบบถูกลาง คาสถิติจะเทากับคาเริ่มตน ขึ้นอยูกับการเช็คคาการรัน
6.3) None - ไมมีการลางคาตัวแปร ใชตัวแปรอยางตอเนื่อง
7. Initial Values : กำหนดคาเริม่ ตนที่สอดคลองกับ ชนิดขอมูลกับตัวแปร แตคานี้อาจเปลีย่ นแปลงหากใช Assign
กำหนดคากับตัวแปรใหม
5.] Schedule Spreadsheet Module : หนวยขอมูลแสดง กำหนดตารางเวลาใหแก
วัตถุ หรือ ทรัพยากร
ถาตารางนี้กำหนดตารางเวลาทรัพยากร จะ เชื่อมโยงกับ Resource Spreadsheet Module แตถา กำหนด
ตารางเวลาการมาถึงแกวัตถุ จะเชือ่ มโยงกับ Create Module

1. Name : ชื่อของตารางกำหนดเวลา
2. Format Type : แบบฟอรมการทำตารางกำหนดเวลา มี 2 แบบฟอรม
2.1) Duration - เหมาะกับเวลาตารางที่แตละวันที่ตารางเวลาเหมือนกัน
2.2) Calender - เหมาะกับตารางเวลาที่แตละวันมีกำลังการผลิตไมเทากัน
3. Type : ประเภทของตารางเวลา
3.1) Capacity : จำนวนสูงสุดของการผลิต Resource
3.2) Arrival : การมาถึงของวัตถุ
3.3) Others : อื่นๆ
4. Time Units : คาหนวยของเวลาที่ใชระบุชวงความหาง
5. Scale Factor : คา Factor ที่ คูณ กับ คา Value !!ใชสำหรับการกำหนดสำหรับวัตถุเทานั้น!!
6. Durations : เปนการกำหนดชวงเวลา
6.] Set Spreadsheet Module : หนวยขอมูลแสดงกลุมขอมูล
ใชเก็บกลุมขอมูลที่มีการทำงานในลักษณะเดียวกัน เชน ทรัพยากรตางชนิดกันแตทำกิจกรรมอยางเดียวกันได

1. Name : ชื่อของกลุมขอมูล หากมีการสรางกลุมขอมูลอยูแลว จะปรากฎชื่อกลุมขอมูลอัตโนมัติ

2. Type : ประเภทของกลุม มี 5 ประเภท
2.1) Resource - กลุมทรัพยากร
2.2) Counter - กลุมขอมูลการนับ เลือกเมื่ออางอิงถึง Set name ใน Record Module
2.3 ) Tally - กลุมขอมูลบันทึกชวงเวลา เลือกเมื่ออางอิงถึง Tally Set name ใน Record Module
2.4) Entity Type - กลุมชนิดวัตถุ
2.5) Entity Picture - กลุมรูปภาพของวัตถุ
3. Member : เปนการใสรายชื่อสมาชิกใหแกกับกลุม เชน รายชื่อชนิดวัตถุ รายชื่อรูปภาพวัตถุ etc.