You are on page 1of 452

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.

๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑
และที่แก้ไขเพิ่มเติม

พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง
กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข
และระเบียบกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑
และที่แก้ไขเพิ่มเติม

พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
และระเบียบกระทรวงที่เกี่ยวข้อง

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ที่ปรึกษา :
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
นางจันฑนา จินดาถาวรกิจ ผู้อ�ำนวยการกองกฎหมาย

คณะด�ำเนินการ :
นายบุญเลิศ เตียวสุวรรณ นิติกรช�ำนาญการพิเศษ
นางสาวศิริพร รุ่งรัตน์ธวัชชัย นิติกรปฏิบัติการ
นายจักราวุธ จันทานี นิติกร
นางสาวณหทัย สุขเสนา นิติกร
นางสาวเจนจิรา แก้วม่วงพะเนา ปฏิบัติงานด้านกฎหมาย

พิมพ์ครั้งที่ ๒ : พฤษภาคม ๒๕๖๓


จ�ำนวน ๑,๐๐๐ เล่ม
จัดท�ำโดย กลุ่มพัฒนากฎหมาย กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข
พิมพ์ที่ : ส�ำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ค�ำน�ำ
โดยทีพ่ ระราชบัญญัตสิ ถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๑๕ ตอนที่ ๑๕ ก หน้า ๓๒ เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๔๑ ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่
วันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๔๑ เป็นต้นไป
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะเป็นหน่วยงานที่มี
ภารกิจในการด�ำเนินการเกีย่ วกับกฎหมายทีอ่ ยูใ่ นความรับผิดชอบของกรมสนับสนุนบริการ
สุขภาพ จึงได้ด�ำเนินการจัดพิมพ์พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑และที่แก้ไข
เพิ่มเติม พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
และระเบียบกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อเผยแพร่ข้อกฎหมายแก่ประชาชนทั่วไปและส�ำหรับ
ใช้ ป ระกอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ที่ เ กี่ ย วข้ อ ง เพื่ อ ให้ เ ป็ นไปตามเจตนารมณ์
ของกฎหมายต่อไป

กองกฎหมาย
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
พฤษภาคม ๒๕๖๓

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


รวมกฎหมายพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และระเบียบกระทรวงที่เกี่ยวข้อง

พระราชบัญญัติ
l พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓

กฎกระทรวง
l กฎกระทรวง (พ.ศ. ๒๕๔๓) ออกตามในพระราชบัญญัติสถานพยาบาล ๒๕
พ.ศ. ๒๕๔๑
l กฎกระทรวง ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๔๓) ออกตามในพระราชบัญญัติสถานพยาบาล ๒๘
พ.ศ. ๒๕๔๑
l กฎกระทรวงว่าด้วยการประกอบกิจการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ๓๒
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
l กฎกระทรวงก�ำหนดลักษณะของสถานพยาบาลและลักษณะการให้บริการ ๔๔
ของสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
l กฎกระทรวงก�ำหนดชนิดและจ�ำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ ๕๔
หรือยานพาหนะที่จ�ำเป็นประจ�ำสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
l กฎกระทรวงก�ำหนดวิชาชีพและจ�ำนวนผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ๗๑
พ.ศ. ๒๕๕๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
l กฎกระทรวงก�ำหนดชื่อสถานพยาบาล และการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับ ๘๑
ชื่อสถานพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลอัตราค่ารักษาพยาบาล
ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่น และสิทธิของผู้ป่วย
พ.ศ. ๒๕๖๒
l กฎกระทรวงว่าด้วยการด�ำเนินการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ๘๖
l กฎกระทรวงว่าด้วยผู้ด�ำเนินการสถานพยาบาลตามประเภท และลักษณะ ๙๐
การให้บริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


l กฎกระทรวงว่าด้วยการจัดให้มีและรายงาน หลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพ ๙๔
ในสถานพยาบาลและผู้ป่วย และเอกสารอื่นที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๕

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การก�ำหนดแบบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตาม ๑๐๑
กฎกระทรวงว่าว่าด้วยการประกอบกิจการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ และ
ตามกฎกระทรวงว่าด้วยวิชาชีพ และจ�ำนวนผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไข
เพิ่มเติม
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การก�ำหนดแบบตามกฎกระทรวงว่าด้วย ๑๔๗
การด�ำเนินการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติ
สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การก�ำหนดแบบตามกฎกระทรวง ๑๕๖
ว่าด้วยการจัดให้มีและรายงานหลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
และผู้ป่วยและเอกสารอื่นที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งออก
ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการ ๑๖๕
ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๒ /๒๕๔๑ เรื่อง โรคซึ่งเป็น ๑๖๗
ลักษณะต้องห้ามในการรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้น ๑๖๘
ไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การก�ำหนดลักษณะของสถานพยาบาล ๑๗๕
และมาตรฐานซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วย
สถานพยาบาล
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การก�ำหนดลักษณะของสถานพยาบาล ๑๗๙
และมาตรฐานซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วย
สถานพยาบาล (ฉบับที่ ๒)

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สถานพยาบาลอื่นที่มีลักษณะเป็นหน่วย ๑๘๑
บริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย
ว่าด้วยสถานพยาบาล
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ก�ำหนดผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตราย ๑๘๗
ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ๑๘๘
การช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วย
โรคติดต่อกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) การระดมทรัพยากรและมีส่วนร่วม
ในการช่วยเหลือเยียวยา และการจัดให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่น
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้น ๑๙๒
ไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล กรณีให้บริการ
เฉพาะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกรณี
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019
(COVID-19)) เป็นการชั่วคราว
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ลักษณะและมาตรฐานของสถานพยาบาลอื่น ๑๙๗
ซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
กรณีให้บริการเฉพาะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตราย ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease
2019 (COVID-19)) เป็นการชั่วคราว
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ๒๐๐
การก�ำหนดค่าใช้จ่ายในการด�ำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉิน โรคติดต่ออันตราย
ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ก�ำหนดผู้ป่วยฉุกเฉิน ๒๐๓
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ๒๐๔
การช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยฉุกเฉิน การระดมทรัพยากรและมีส่วนร่วม
ในการช่วยเหลือเยียวยาและการจัดให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่น

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ๒๐๗
การก�ำหนดค่าใช้จ่ายในการด�ำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต และที่แก้ไขเพิ่มเติม
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชนิดหรือประเภทของการรักษาพยาบาล ๒๑๑
ยาและเวชภัณฑ์ การบริการทางการแพทย์ หรือการบริการอื่น
ของสถานพยาบาลและสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งผู้รับอนุญาตจะต้องแสดง
ตามมาตรา ๓๒ (๓) พ.ศ. ๒๕๖๑
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ๒๓๐
การก�ำหนดเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์หรือยานพาหนะ
ที่จ�ำเป็นประจ�ำคลินิกการประกอบโรคศิลปะ
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๔๔) เรื่อง หลักเกณฑ์ ๒๔๑
การจัดศพในสถานพยาบาล
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๘ (พ.ศ. ๒๕๔๕) เรื่อง มาตรฐาน ๒๔๓
การส่งต่อผู้ป่วย
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง มาตรฐานการบริการแพทย์ฉุกเฉิน ๒๔๖
ของสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๗
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง มาตรฐานการให้บริการฟอกเลือด ๒๕๑
ด้วยเครื่องไตเทียมในสถานพยาบาล
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ก�ำหนดผู้ด�ำเนินการของสถานพยาบาล ๒๕๔
ประเภทสหคลินิก
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ๒๕๕
ในการเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นผู้แทนสภาวิชาชีพอื่น
ตามมาตรา ๗ (๑) ในคณะกรรมการสถานพยาบาล
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ๒๕๗
ในการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่น ตามมาตรา ๗ (๒)
ในคณะกรรมการสถานพยาบาล

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
l ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข ๒๖๑
และค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๖๒
l ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง มาตรฐานรถปฏิบัติการชันสูตร ๒๗๑
l ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง มาตรฐานรถทันตกรรม ๒๗๓
l ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง มาตรฐานรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ๒๗๕

ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข
l ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการในการ ๒๗๙
เปรียบเทียบปรับตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
พ.ศ. ๒๕๔๖

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติ

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

พระราชบัญญัติ
สถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๑
สํเป็านันกปีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ ๕๓ ในรัชกาลปัจจุบกันา

สํานัพระบาทสมเด็ จพระปรมินกาทรมหาภูมิพลอดุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัลกยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าฯ
ให้ประกาศว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลอันจะเป็นการจํากัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เสรีภาพในการประกอบกิ กา
จการหรือประกอบอาชี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พและการแข่ งขันโดยเสรีอย่างเป็นกธรรม
า ซึ่งมาตรา
๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่ง
นคณะกรร
กฎหมาย

จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอม
ของรัฐสภา ดังต่อไปนีกา้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานัมาตรา ๑ พระราชบัญญักตาินี้เรียกว่า “พระราชบั


กงานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัติสถานพยาบาลกาพ.ศ. ๒๕๔๑”
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๑ พระราชบั
มาตรา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วันถัดจากวันสําประกาศในราชกิ
ญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่ นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จจา กา
นุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๐๔


ษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานัมาตรา ๔ ในพระราชบัญกาญัตินี้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“สถานพยาบาล” หมายความว่า สถานที่รวมตลอดถึงยานพาหนะซึ่งจัดไว้เพื่อการ
ประกอบโรคศิลปะตามกฎหมายว่
นคณะกรรมการกฤษฎี กา สําาด้นัวกยการประกอบโรคศิ ลปะ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา การประกอบวิ
สํานัชกาชี พเวชกรรมตาม กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
กฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ตามกฎหมาย
ว่าด้วยวิชาชีพสํการพยาบาลและการผดุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี งครรภ์
กา การประกอบวิ ชาชีพทันตกรรมตามกฎหมายว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าด้วย
วิชาชีพทันตกรรม การประกอบวิชาชีพกายภาพบําบัดตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพกายภาพบําบัด
นคณะกรรมการกฤษฎี
การประกอบวิชาชีพกเทคนิา คการแพทย์
สํานักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ามกฎหมายว่าด้วยวิชกาชี
า พเทคนิคการแพทย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การประกอบ กา
วิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ตามกฎหมายว่าด้วย

ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๕/ตอนที่ ๑๕ ก/หน้า ๓๒/๒๔ มีนาคม ๒๕๔๑
ษฎี
๒ กา
มาตรา ๔ นิยามคํสําาว่นัาก“สถานพยาบาล”
งานคณะกรรมการกฤษฎี
แก้ไขเพิกา่มเติมโดยพระราชบั
สํานักญงานคณะกรรมการก
ญัติสถานพยาบาล
(ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓


วิชาชีพการแพทย์แผนไทย หรือการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่นตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติ

สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
าด้วยการนั้น ทั้งนี้ โดยกระทํ สํานัธกุรงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเป็นปกติ กาตอบแทนหรือสํไม่
ะไม่ว่าจะได้รับประโยชน์ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“ผู้ป่วย” หมายความว่า ผู้ขอรับบริการในสถานพยาบาล
สํ“ผู
านั้รกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
อนุญาต” หมายความว่กาา ผู้ได้รับใบอนุสําญนัาตให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประกอบกิจการสถานพยาบาล
“ผู้ดําเนินการ” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล
กฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“ผู้ประกอบวิชาชีพ”๓ หมายความว่า ผู้ประกอบโรคศิลปะ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
ผู้ประกอบวิชาชีพสําการพยาบาลและการผดุ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีงกครรภ์า ผู้ประกอบวิ
สํานักชงานคณะกรรมการกฤษฎี
าชีพทันตกรรม ผู้ประกอบวิ
กา ชาชีพ
เภสัชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบําบัด ผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ ผู้ประกอบวิชาชีพ
การแพทย์แผนไทย ผู้ปกระกอบวิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ชาชีพสําการแพทย์ แผนไทยประยุกกต์า หรือผู้ประกอบวิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ชาชีพทางการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แพทย์และสาธารณสุขอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และให้หมายความรวมถึงบุคคลตามมาตรา ๓๑
แห่งกฎหมายว่าด้สํวายการประกอบโรคศิ ลปะ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล หรือ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้เป็นผู้ปฏิบัติการตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัตินี้
“ผู้อนุี ญาต”๔ หมายความว่ า อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อผู้ซึ่งอธิบดีกรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สนับสนุนบริการสุขภาพมอบหมาย
สํ“คณะกรรมการ” หมายความว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า คณะกรรมการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๕ ๕ พระราชบัญ ญัตินี้ มิใ ห้ ใ ช้ บั งคั บแก่ส ถานพยาบาลซึ่ง ดํา เนิ น การโดย
กระทรวง ทบวง สํกรม
านักองค์
งานคณะกรรมการกฤษฎี
กรปกครองส่วนท้อกงถิา ่น รัฐวิสาหกิสํจานัสถาบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
นการศึกษาของรัฐ กหน่ า วยงานอื่น
ของรัฐ สภากาชาดไทย และสถานพยาบาลอื่นซึ่งรัฐมนตรีประกาศกําหนด
กฤษฎี กา
สถานพยาบาลที ่ได้รสํับายกเว้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ลักษณะของสถานพยาบาลและ
นตามวรรคหนึ่ง ต้องมี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรฐานตามหลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก าร และเงื่ อ นไขที่ รั ฐ มนตรี ป ระกาศกํ า หนดโดยคํ า แนะนํ า ของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คณะกรรมการ เว้นแต่สถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองคุณภาพจากหน่วยงานซึ่งผู้อนุญาตกําหนด
เพื่อประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แห่งการคุ
สํานัก้มงานคณะกรรมการกฤษฎี
ครองผู้บริโภคด้านระบบบริ
กา การสุขภาพ สํานักให้ รัฐมนตรีโดย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คําแนะนําของคณะกรรมการแจ้งให้สถานพยาบาลตามวรรคหนึ่งซึ่งไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขตามวรรคสอง ดําเนินการปรับปรุกงหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อแก้ไขภายในระยะเวลาที ่กําหนด กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

มาตรากา๖ ให้รัฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัว่ากการกระทรวงสาธารณสุ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาขรักษาการตามพระราชบั ญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และให้มีอํานาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ออกกฎกระทรวงกําหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้าย
พระราชบัญญัตินสํี้ ายกเว้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
นค่าธรรมเนียม และกํกาาหนดกิจการอื
สํา่นนัตลอดจนออกประกาศเพื
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา่อปฏิบัติการ

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี๓ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔ นิยามคําว่า “ผู้ประกอบวิชาชีพ” แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
(ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
สํ๔านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔ นิย ามคํา ว่า “ผู้อ นุญ าต” แก้ไ ขเพิ่ม เติม โดยพระราชบัญ ญัติส ถานพยาบาล
(ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
กฤษฎี
๕ กา ๕ แก้ไขเพิ่มเติสํามนัโดยพระราชบั
มาตรา กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ สํ๔)านัพ.ศ.
กงานคณะ
๒๕๕๙

๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ตามพระราชบัญญัตินี้

พระราชบัญญัติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กฎกระทรวงหรื สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อประกาศที ่ออกตามพระราชบัญกญัา ตินี้ เมื่อได้ปสํระกาศในราชกิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จจา กา
นุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้

หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คณะกรรมการสถานพยาบาล


มาตรากา๗ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งเรียกว่กาา“คณะกรรมการสถานพยาบาล”
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานกรรมการ อธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการที่
เรียกชื่ออย่างอื่นสํทีา่มนัีกฐงานคณะกรรมการกฤษฎี
านะเป็นกรมทุกกรมในสั กา งกัดกระทรวงสาธารณสุ ข ผู้แทนกระทรวงกลาโหม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
คุ้มครองผู้บริโภค และผูก้แา ทนสถาบันรัสํบารองคุ นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ณภาพสถานพยาบาลกา (องค์การมหาชน) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นกรรมการ กา
โดยตําแหน่ง กับกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคล ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ผู้ประกอบโรคศิลปะโดยคําแนะนําของคณะกรรมการการประกอบโรคศิ ลปะ
จํ า นวนสองคน และผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้ ป ระกอบวิ ช าชี พ โดยคํ า แนะนํ า ของสภาวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ช าชี พ ซึ ่ ง จั ด ตั ้ ง ขึ ้ น ตามกฎหมายเพื ่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ควบคุมการประกอบวิชาชีพนั้น จํานวนหกคน ได้แก่ ผู้แทนแพทยสภา ผู้แทนสภาการพยาบาล ผู้แทน
สภาเภสัชกรรม ผูสํ้แานัทนทั นตแพทยสภา สภาวิกชาาชีพละหนึ่งคน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัและผู ้แทนสภาวิชาชีพอืก่นาเลือกกันเอง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
จํานวนสองคน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด
(๒) ผูก้ทารงคุณวุฒิอื่นจํสํานันวนห้
กฤษฎี าคนซึ่งในจํานวนนีก้จาะต้องแต่งตั้งจากผู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้ดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําเนินการสอง กา
คน คณบดีคณะแพทยศาสตร์ในสถาบันอุดมศึกษาหนึ่งคน ผู้แทนสมาคมโรงพยาบาลเอกชนหนึ่งคน
และผู้แทนองค์กสํรเอกชนที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ดําเนินกิจกรรมทางด้ กา านคุ้มครองผูสํานั้บกริงานคณะกรรมการกฤษฎี
โภคหนึ่งคน ทั้งนี้ ตามหลั กา กเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีให้รองอธิ กา บดี ซึ่งอธิบสํดีากนัรมสนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บสนุนบริการสุขภาพมอบหมายเป็ สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กรรมการและ กา
เลขานุการ และผู้อํานวยการสํานักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สุขภาพเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

มาตรา ๘๗ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๗ มีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละ


สามปี กรรมการซึสํ่งาพ้นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
จากตําแหน่งตามวาระกอาจได้ า รับแต่งสํตัา้งนัอีกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ได้แต่จะดํารงตําแหน่งกติาดต่อกันเกิน
สองวาระมิได้
ในกรณี
กฤษฎี กา ที่ ก รรมการผู
สํา้ ทนักรงคุ ณ วุ ฒิ พ้ น จากตํ า แหน่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ง ตามวาระสําแต่
นักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ั ง มิ ไ ด้ แ ต่ ง ตั้ ง กา
กรรมการผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ใ หม่ ให้ ก รรมการผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ นั้ น ปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ต่ อ ไปจนกว่ า จะได้ แ ต่ ง ตั้ ง
กรรมการผู้ทรงคุณสําวุนัฒกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิใหม่ กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา ๙ นอกจากการพ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
น จากตํ า แหน่ ง ตามวาระตามมาตรา ๘ กรรมการ กา
ผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๗ พ้นจากตําแหน่ง เมื่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
กฤษฎี
๗ กา ๘ แก้ไขเพิ่มเติสํามนัโดยพระราชบั
มาตรา กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ สํ๔)านัพ.ศ.
กงานคณะ
๒๕๕๙

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๕


(๑) ตาย
พระราชบัญญัติ

(๒) ลาออก ี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


(๓) รัฐมนตรีให้ออก
สํ(๔)
านักเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี
นบุคคลล้มละลาย กา
(๕) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
กฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) พ้นจากการเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ดําเนินการในกรณีที่
ได้รับแต่งตั้งให้เป็สํนากรรมการในฐานะนั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี้น กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) ได้รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาหรือคําสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายถึงที่สุดให้จําคุก
สํานักเว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
นแต่เป็นโทษสําหรับความผิ กา ดที่ได้กระทํ
สํานัากโดยประมาทหรื อความผิกดาลหุโทษ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหน่งก่อนวาระ ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งผู้อื่น
เป็นกรรมการแทน สํานัและให้ กรรมการซึ่งได้รับกาแต่งตั้งแทนอยู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํา่ในันตํ าแหน่งเท่ากับวาระทีก่เาหลืออยู่ของ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
กรรมการซึ่งตนแทน แต่ถ้าวาระการดํารงตําแหน่งของกรรมการเหลือไม่ถึงเก้าสิบวันจะไม่แต่งตั้งก็ได้
ในการนี้ให้คณะกรรมการประกอบด้ี ํ ั
วยกรรมการเท่ าที่เหลืออยู่๘
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐ การประชุมของคณะกรรมการต้ องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่ง
หนึ่งของจํานวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นองค์ประชุม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อยู่ในที่ประชุม ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการ
คนหนึ่งเป็นประธานที
สํานัก่ปงานคณะกรรมการกฤษฎี
ระชุม กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งใน
สํานักการลงคะแนน ถ้า คะแนนเสี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ย งเท่า กัสํนานัให้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ป ระธานในที่ป ระชุม ออกเสี
กา ย งเพิ่ม ขึสํ้นานัอีกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เสีย งหนึ่งเป็น กา
เสียงชี้ขาด

มาตรา ๑๑๙ คณะกรรมการมีหน้าที่ให้คําปรึกษา ให้ความเห็น และให้คําแนะนําแก่


กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่องดังต่อไปนีสํ ้
รัฐมนตรีหรือผู้อนุญาตในเรื
(๑) การออกกฎกระทรวงหรือประกาศเพื่อปฏิบัตกิ ารตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) การอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล การดําเนินการสถานพยาบาล
การปิดสถานพยาบาล หรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาอการเพิกถอนใบอนุ ญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๓) การส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการบริการของสถานพยาบาล
สํ(๔) การควบคุ ม หรื อ การพิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จ ารณาเรื่สํอางร้
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
งเรี ย นเกี่ ย วกั บ การดํกา า เนิ น การ
สถานพยาบาล
(๕) การกํ
กฤษฎี กา าหนดลักษณะและมาตรฐาน หรือการรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บรองคุ ณภาพสถานพยาบาลที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี่ กา
ได้รับยกเว้นตามมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และการแจ้งให้ดําเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขสถานพยาบาล
ดังกล่าว สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) การกํ า หนดผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น ตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยการแพทย์ ฉุ ก เฉิ น โรคติ ด ต่ อ
สํานักอังานคณะกรรมการกฤษฎี
นตราย โรคติดต่อที่ต้อกงเฝ้
า าระวังหรือสํโรคระบาดตามกฎหมายว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีาด้กวายโรคติดต่อ หรื สํานัอกสาธารณภั
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ยตาม กา


มาตรา ๙ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๙ กา ๑๑ แก้ไขเพิ่มสํเติ
มาตรา านัมกโดยพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ญญัติสถานพยาบาล (ฉบับทีสํ่ า๔)นักพ.ศ.
งานคณะกร
๒๕๕๙

๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งผู้ป่วยจําเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดย

พระราชบัญญัติ
สํานักฉุงานคณะกรรมการกฤษฎี
กเฉินจากสถานพยาบาลกา และการกําหนดหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กเกณฑ์การดําเนินการในกรณี เช่นว่าสํนัานั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) เรื่องอื่น ๆ ตามที่รัฐมนตรีหรือผู้อนุญาตมอบหมาย

มาตรา ๑๒ คณะกรรมการมีอาํ นาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาและเสนอ


กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อยู่ในขอบเขตแห่งหน้าที่ของคณะกรรมการได้
สํให้
านันกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา ๑๐ มาใช้บังคับกาแก่การประชุมสํของคณะอนุ กรรมการโดยอนุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาโลม

มาตรากา ๑๓ ในการปฏิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บั ติ ห น้ า ที่ ต ามพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญ ญั ติ นี้ คณะกรรมการและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คณะอนุกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นตามมาตรา ๑๒ มีอํานาจออกคําสั่งเป็นหนังสือเรียกให้บุคคลหนึ่งบุคคล
ใดมาให้ถ้อยคําหรืสํอานัให้กสงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งเอกสารหรือหลักฐานที
กา ่เกี่ยวข้องหรืสํอาสินั่งกใดมาเพื ่อประกอบการพิกจาารณาได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หมวด ๒ กา
การประกอบกิจการสถานพยาบาลและการดําเนินการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๔ สถานพยาบาลมี ๒ ประเภท ดังต่อไปนี้


สํ(๑)
านักสถานพยาบาลประเภทที
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา่ไม่รับผู้ป่วยไว้สํคา้านังคื น
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๒) สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
ลักษณะของสถานพยาบาลแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ละประเภทตามวรรคหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งและลักสํษณะการให้ บริการ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ของสถานพยาบาลให้เป็นไปตามที่กําหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๔/๑๑๐ สถานพยาบาลอาจจัดให้มีการศึกษา การฝึกอบรม การวิจัยทาง


สํานักการแพทย์
งานคณะกรรมการกฤษฎี
และสาธารณสุกาข หรือการประสานความร่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
วมมือกับหน่วยงานของรั ฐ รัฐวิสํสานัาหกิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
จหรือองค์กร กา
เอกชนในการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบโรคศิลปะหรือการประกอบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพของสถานพยาบาล
ทั้ ง นี้ ให้ เ ป็ น ไปตามกฎหมายว่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า ด้ ว ยการนั ้ น และหลั ก เกณฑ์ กวิาธี ก าร และเงืสํ่ อานันไขที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ กํ า หนดใน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กฎกระทรวง

มาตรา ๑๕ ให้รัฐมนตรีโดยคําแนะนําของคณะกรรมการมีอํานาจประกาศกําหนด
สํานักมาตรฐานการบริ การของสถานพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๖ ห้ า มมิ ใ ห้ บุ คกคลใดประกอบกิ
า สํานักจงานคณะกรรมการกฤษฎี
การสถานพยาบาล กเว้า น แต่ ไ ด้ รั บ
ใบอนุญาตจากผู้อนุญาต
กฤษฎี
การขอกาการออกใบอนุ สํานัญกาต
งานคณะกรรมการกฤษฎี
และการประกอบกิกจาการสถานพยาบาลประเภทใดให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๐ กา ๑๔/๑ เพิ่มโดยพระราชบั
มาตรา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.
ญญัติสถานพยาบาล สํานั๒๕๕๙
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๗


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา๑๗ ผู้ขอรับสํใบอนุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
ญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล องมีคุณสมบัติ กา
พระราชบัญญัติ

และไม่มีลักษณะต้องห้ามดังนี้
สํ(๑)
านักมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
อายุไม่ต่ํากว่ายี่สิบปีบริกบา ูรณ์
(๒) มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
กฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ไม่เคยได้รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาหรือคําสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายถึงที่สุดให้
จําคุก เว้นแต่เป็นสํโทษสํ าหรับความผิดที่ได้กระทํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าโดยประมาทหรื
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ความผิดลหุโทษ กา
(๔) ไม่เป็นโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา
(๕) ไม่กเาป็นบุคคลล้มละลาย
กฤษฎี สํานักง
(๖) ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
สํในกรณี ที่นิติบุคคลเป็นผู้ขอรั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาบอนุญาต ผู้จสํัาดนัการหรื อผู้แทนของนิติบุคกคลนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้นต้องมี
คุณสมบัตแิ ละไม่มีลักษณะต้องห้ามตามวรรคหนึ่งด้วย

มาตรา ๑๘ ในการพิจารณาออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลของผู้
อนุญาต จะต้องปรากฏว่าผู้ขอรับใบอนุญาตได้จัดให้มีกรณีดสํังต่านัอกไปนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้โดยถูกต้องครบถ้วนแล้ว
(๑)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มี แ ผนงานการจั ด ตั ้ ง สถานพยาบาลที ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไ ด้ ร ั บ อนุ มัติแล้วตามหลั กเกณฑ์ วิธีการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง
สํ(๒)
านักมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลตามลักกษณะที า ่กําหนดในกฎกระทรวงที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ออกตามมาตรากา ๑๔
(๓) มีเครื่องมือ เครื่องใช้ เวชภัณฑ์หรือยานพาหนะที่จําเป็นประจําสถานพยาบาล
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้น ตามชนิดและจํานวนที กา ่กําหนดในกฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) มี ผู้ ป ระกอบวิ ช าชี พ ในสถานพยาบาลตามวิ ช าชี พ และจํ า นวนที่ กํ า หนดใน
กฎกระทรวง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) ชื่อสถานพยาบาลต้องเป็นไปตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เพื่อประโยชน์ สํานัก้มงานคณะกรรมการกฤษฎี
แห่งการคุ ครองผู้บริโภคด้านบริกกาารทางสาธารณสุ สํานักขงานคณะกรรมการกฤษฎี
รัฐมนตรีโดย กา
คําแนะนําของคณะกรรมการมีอํานาจประกาศกําหนดจํานวนสถานพยาบาลที่จะอนุญาตให้ตั้ง หรือมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บริการทางการแพทย์บางประเภทในสถานพยาบาลในท้องที่ใดท้องที่หนึ่งได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙ ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ให้ใช้ได้จนถึงวันสิ้นปี
ปฏิทินของปีที่สิบสํนัาบนัแต่ ปีที่ออกใบอนุญาต กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคําขอก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ เมื่อได้ยื่นคําขอแล้ว ให้
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้รับอนุญาตประกอบกิจกการสถานพยาบาลต่
า อไปได้ จนกว่าผู้อนุญาตจะสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งไม่อนุญสําตให้ ต่ออายุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การขอต่ออายุใบอนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา๒๐ ผู้รับอนุญสําาตต้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กเกณฑ์สํวิาธนัีกการ
องชําระค่าธรรมเนียมตามหลั งานคณะกรรมการกฤษฎี
และอัตราที่ กา
กําหนดในกฎกระทรวงตลอดเวลาที ่ยังประกอบกิจการ ถ้สําานัมิกได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชําระค่าธรรมเนียมภายในเวลาที
กา

กําหนด ให้ชําระเงินเพิ่มอีกร้อยละห้าต่อเดือน และถ้ายังไม่ยินยอมชําระค่าธรรมเนียมและเงินเพิ่ม
สํานักหลั งจากพ้นกําหนดหกเดืกาอนให้ผู้อนุญาตดํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากเนิ นการตามมาตรา ๔๙กต่า อไป
งานคณะกรรมการกฤษฎี

๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


มาตราี ๒๑ การโอนใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลให้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แก่บุคคล ซึ่งมี กา

พระราชบัญญัติ
คุณสมบัตแิ ละไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๗ ให้กระทําได้ เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต
สํการขอโอนใบอนุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตให้เป็สํานนัไปตามหลั
ญาตและการอนุ กงานคณะกรรมการกฤษฎี
กเกณฑ์ วิธีการกาและเงื่อนไข
ที่กําหนดในกฎกระทรวง
กงานคณะกรรมการกฤษฎีก

สํมาตรา ๒๒ ถ้าผู้รับอนุญาตตายและมี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บุคสํคลแสดงความจํ านงต่อผู้อกนุาญาตภายใน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สามสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับอนุญาตตาย เพื่อขอประกอบกิจการที่ผู้ตายได้รับอนุญาตนั้นต่อไป เมื่อผู้
อนุญาตตรวจสอบแล้วว่กาาบุคคลนั้นมีคสํุณานัสมบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ติและไม่มีลักษณะต้อกงห้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ามตามมาตรา
สํานัก๑๗ ก็ให้ผู้แสดง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความจํานงนั้นประกอบกิจการต่อไปได้จนกว่าใบอนุญาตนั้นสิ้นอายุ ในกรณีเช่นว่านี้ให้ถือว่า ผู้แสดง
ความจํานงเป็นผู้รสํับานัอนุกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญาตตามพระราชบัญญักตา ินี้ ตั้งแต่วันทีสํ่ผาู้รนัับกอนุ ญาตตาย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การแสดงความจํ า นงและการตรวจสอบให้ เ ป็ น ไปตามหลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก าร และ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๓ ผู้รับอนุญาตต้องจัดให้มีผู้ดําเนิสํนานัการคนหนึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ง เป็นผู้มีหน้าที่ควบคุม ดูแล
และรั บผิ ดชอบในการดํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าเนิ นการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๔ ห้ามมิให้บุคคลใดดํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าเนินการสถานพยาบาล เว้นแต่ได้รับใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตจาก
ผู้อนุญาต
การขอและการออกใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญ าตให้เ ป็ น ไปตามหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ก เกณฑ์ วิ ธสํี กาาร และเงื่ อ นไขที่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กําหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๕ ในการพิจารณาออกใบอนุญ าตให้ ดํา เนินการสถานพยาบาลของผู้


กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อนุญาตจะต้องปรากฏว่กาาผู้ขอรับใบอนุญสําาต
นัก
(๑)๑๑ เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ แต่บุคคลเช่นว่านี้จะได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ดําเนินการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามประเภทใดหรื อ สถานพยาบาลที่ ใ ห้ บ ริ ก ารทางการแพทย์ ใ ด ให้ เ ป็ น ไปตามที่ กํ า หนดใน
กฎกระทรวง
กงานคณะกรร
(๒) ไม่เป็นผู้ดําเนินการอยู่ก่อนแล้วสองแห่ง แต่ในกรณีที่เป็นผู้ดําเนินการประเภทที่
รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนสํอยู
านัก่แงานคณะกรรมการกฤษฎี
ล้วแห่งหนึ่ง จะอนุญาตให้
กา เป็นผู้ดําเนิสํนาการประเภทที ่รับผู้ป่วยไว้คก้าางคืนอีกแห่ง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนึ่งไม่ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๓) เป็กนาผู้ที่สามารถควบคุ
สํานักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดูแลกิจการสถานพยาบาลได้ กา โดยใกล้สํชาิดนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นจากหน้าทีสํ่หารืนัอกไม่
๒๖ ถ้าผู้ดําเนินการพ้ งานคณะกรรมการกฤษฎี
สามารถปฏิบัติหน้าทีก่ไาด้เกินเจ็ดวัน
ผู้รับอนุญาตอาจมอบหมายให้บคุ คลซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา ๒๕ ดําเนินการแทนได้ไม่เกินเก้าสิบวัน
สํานักในกรณี
งานคณะกรรมการกฤษฎี
เช่นว่านี้ให้ผู้ได้รกับามอบหมายให้สํดานัํากเนิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นการแทนแจ้งเป็นหนักงาสือให้ผู้อนุญาตทราบภายในสาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วันนับแต่วนั ที่เข้าสํดําานัเนิกงานคณะกร
นการแทน

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๑ กา ๒๕ (๑) แก้ไขเพิ
มาตรา สํานั่มกเติงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับสํทีา่ นั๔)กงานคณะกร
พ.ศ. ๒๕๕๙

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๙


ผู้รับมอบหมายให้ดําเนินการแทนตามวรรคหนึ่ง ให้มีหน้าที่และความรับผิดชอบ
พระราชบัญญัติ

สํานักเช่งานคณะกรรมการกฤษฎี
นเดียวกับผู้ดําเนินการกา
สํมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๗ ผู้รับอนุญาต ผูก้ดาําเนินการ และผู
สํานั้ปกระกอบวิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ชาชีพในสถานพยาบาลแห่ ง
หนึ่ง ๆ จะเป็นบุคคลคนเดียวกันก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํมาตรา ๒๘ ใบอนุญาตให้ดกําาเนินการสถานพยาบาลให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ใช้ได้จนถึงวันสิ้นกปีา ปฏิทินของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปีที่สองนับแต่ปีที่ออกใบอนุญาต
การขอต่
กฤษฎี กา ออายุใบอนุญ
สําาต ให้ยื่นคําขอก่อนใบอนุญกาาตสิ้นอายุ เมืสํ่อาได้นักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ื่นคําขอแล้วให้ กา
ผู้นั้นดําเนินการสถานพยาบาลต่อไปได้จนกว่าผู้อนุญาตจะสั่งไม่อนุญาตให้ต่ออายุ
สํการขอต่ ออายุใบอนุญาตและการอนุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตสําให้
นักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ป็นไปตามหลักเกณฑ์กวิา ธีการ และ
เงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๙ ในกรณี ที่ ผู้ อ นุ ญ าตไม่ อ อกใบอนุ ญ าต หรื อ ไม่ อ นุ ญ าตให้ ต่ อ อายุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใบอนุญาต ผู้ขอรับใบอนุญาตหรือผู้ขอต่ออายุใบอนุญาต แล้ วแต่กรณี มีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อ
รัฐมนตรีภายในสามสิบวันนับแต่วันทีสํ่ไาด้นัรกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แจ้งการไม่ออกใบอนุกญาาตหรือการไม่สําอนันุกญงานคณะกรรมการกฤษฎี
าตให้ต่ออายุ กา
ใบอนุญาต
สํคําานัวิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็กนาที่สุด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ผู้อนุญาตไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต ก่อนที่รัฐมนตรีจะมีคําวินิจฉัย
สํานักอุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทธรณ์ตามวรรคสอง รักฐามนตรีมีอํานาจสั สํานั่งกอนุ ญาตให้ประกอบกิจกการสถานพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานักหรื อดําเนินการ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สถานพยาบาล แล้วแต่กรณี ไปพลางก่อนได้ เมื่อผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตร้องขอ

มาตรา ๓๐ ในกรณีที่ ใ บอนุ ญ าตสูญ หายหรือ ถูก ทํา ลายในสาระสํา คัญ ให้ผู้ รั บ
สํานักอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา แล้วแต่กรณีสํานัแจ้
ญาตหรือผู้ดําเนินการ กงานคณะกรรมการกฤษฎี
งต่อผู้อนุญาตและยื่นคํกาาขอรับใบแทนใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญาตภายใน กา
สามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับทราบการสูญหายหรือถูกทําลายดังกล่าว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การขอและการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่กําหนดในกฎกระทรวงกา

สํมาตรา ๓๑ ผู้รั บอนุ ญาตต้กาองแสดงใบอนุสําญนักาตไว้


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ในที่เปิ ดเผยและเห็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กาน ได้ ง่า ย ณ
สถานพยาบาลนั้น

มาตรา ๓๒๑๒ ผู้รับอนุญาตต้องแสดงรายละเอียดดังต่อไปนี้ ณ สถานพยาบาลนั้น


สํ(๑)
านักชืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อสถานพยาบาล กา
(๒) รายการเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๓) อัตกราค่า ารักษาพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่ากบริ
า การทางการแพทย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ค่าบริการอื่น กา
และสิทธิของผู้ป่วสํยที ่สถานพยาบาลต้องแสดงตามมาตรา ๓๓สําวรรคหนึ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๒ กา ๓๒ แก้ไขเพิสํ่มาเติ
มาตรา นักมงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับสํทีา่ นั๔)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๕๙ กา

๑๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


การแสดงรายละเอียดตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่

พระราชบัญญัติ
กงานคณะกรรมการกฤษฎ
กําหนดในกฎกระทรวง
สํมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าแนะนําของคณะกรรมการมี
๓๓๑๓ รัฐมนตรีโดยคํ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อํานาจประกาศกํ าหนด
ชนิดหรือประเภทของการรักษาพยาบาล ยาและเวชภัณฑ์ การบริการทางการแพทย์ หรือการบริการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อื่นของสถานพยาบาล และสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งผู้รับอนุญาตจะต้องแสดงตามมาตรา ๓๒ (๓)
สํผูา้รนัั บกงานคณะกรรมการกฤษฎี
อนุญาตจะเรียกเก็บหรืกอายินยอมให้มีกสํารเรี ยกเก็บค่ารักษาพยาบาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ค่ายาและ
เวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ หรือค่าบริการอื่นเกินอัตราที่ได้แสดงไว้มิได้ และต้องให้บริการแก่
ผู้ป่วยตามสิทธิที่ได้แสดงไว้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๓๓/๑๑๔ เพื่อประโยชน์


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ในการคุ้มสํครองสุ ขภาพของประชาชนกาให้รัฐมนตรี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
โดยคําแนะนําของคณะกรรมการมีอํานาจประกาศกําหนดผู้ป่วยฉุกเฉินตามกฎหมายว่าด้วยการแพทย์
สํานักฉุงานคณะกรรมการกฤษฎี กา โรคติดต่อสํทีา่ตนั้อกงเฝ้
กเฉิน โรคติดต่ออันตราย งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
าระวัง หรือโรคระบาดตามกฎหมายว่ ด้วยโรคติดต่อ กา
หรือสาธารณภัยตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งผู้ป่วยจําเป็นต้องได้รับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การรักษาพยาบาลโดยฉุ กเฉินจากสถานพยาบาลตามมาตรา สํ๓๖
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๓๔๑๕ ให้ผู้ดําเนินการมีหน้าที่และความรับผิดชอบ ดังต่อไปนี้


สํ(๑)
านักควบคุ มและดูแลมิให้ผู้ปการะกอบวิชาชีพสําในสถานพยาบาลประกอบวิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาชาชีพผิดไป
จากสาขา ชั้น หรือแผน ที่ผู้รับอนุญาตได้แจ้งไว้ในการขอรับใบอนุญาต หรือมิให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่เป็นผู้
สํานักประกอบวิ ชาชีพทําการประกอบวิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ชาชีพสํในสถานพยาบาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ควบคุ ม และดู แ ลให้ ผู้ ป ระกอบวิ ช าชี พ ในสถานพยาบาลปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ต าม
กฎหมายเกี่ยวกับสํการประกอบวิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชาชีพของตนกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ควบคุมและดูแลมิให้มีการรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนเกินจํานวนเตียงตามที่กําหนดไว้ใน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใบอนุญาต เว้นแต่กรณีฉกุกา เฉินซึ่งหากไม่สํารนัับกไว้งานคณะกรรมการกฤษฎี
อาจเกิดอันตรายแก่ผู้ปกา่วย
(๔) ควบคุมและดูแลสถานพยาบาลให้สะอาด เรียบร้อย ปลอดภัย และมีลักษณะ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อันเหมาะสมแก่การใช้เป็นสถานพยาบาล

มาตรา ๓๕ ให้ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการมีหน้าที่และความรับผิดชอบร่วมกัน
ดังนี้
(๑) จัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลตามวิชาชีพและจํานวนที่กําหนดใน
สํานักกฎกระทรวงตลอดเวลาทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาาการ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) จัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยา และเวชภัณฑ์ที่จําเป็นประจําสถานพยาบาลนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามชนิดที่กําหนดในกฎกระทรวง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) จัดให้มีและรายงานหลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลและ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ป่วย และเอกสารอื่นทีก่เากี่ยวกับการรัสํกาษาพยาบาลตามหลั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กเกณฑ์ กา วิธีการ และเงื
สํา่อนันไขที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
่กําหนดใน กา

สํ๑๓านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๑๔
มาตรา ๓๓/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๕ กา ๓๔ แก้ไขเพิสํ่มาเติ
มาตรา นักมงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับสํทีา่ นั๔)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๕๙ กา

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๑


กฎกระทรวง โดยต้องเก็บรักษาไว้ให้อยู่ในสภาพที่ตรวจสอบได้ไม่นอ้ ยกว่าห้าปีนบั แต่วนั ที่จัดทํา
พระราชบัญญัติ

ี มและดูแลการประกอบกิ
(๔) ควบคุ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จการสถานพยาบาลให้ ํ ั
เป็นไปตามมาตรฐานการ
บริการที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดตามมาตรา ๑๕

มาตรา ๓๖๑๖ ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการของสถานพยาบาลต้องควบคุมและดูแล


ี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้มีการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยตามมาตรา ๓๓/๑ ซึ่งอยู่ในสภาพอันตรายและจําเป็นต้องได้รับการ
รั ก ษาพยาบาลโดยฉุ สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เฉิ น เพื่ อ ให้ พ้ น จากอักาน ตรายตามมาตรฐานวิ ช าชี พ และตามประเภทของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สถานพยาบาลนั้น ๆ
เพื่อประโยชน์
กฤษฎี กา สาธารณะ สํานักในการดํ าเนินการตามวรรคหนึ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ง ให้สถานพยาบาลมี
สํานักงานคณะกรรมก หน้าที่
ระดมทรัพยากรและมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเยียวยาหรือดําเนินการตามความเหมาะสมและความ
จําเป็น
การดําเนินการตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ
สํานักเงืงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกํ กา าหนดโดยคํสําานัแนะนํ กงานคณะกรรมการกฤษฎี
าของคณะกรรมการกา
เมื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยตามวรรคหนึ่งแล้ว ถ้ามีความจําเป็นต้องส่งต่อ
หรื อ ผู้ ป่ ว ยมี ค วามประสงค์ จ ะไปรั บ การรั ก ษาพยาบาลทีสํา่ สนัถานพยาบาลอื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ น ผู้ รั บ อนุ ญ าตและ
ผู้ดําเนินการต้องจัดการให้มีการจัดส่สํงาต่นัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไปยังสถานพยาบาลอืก่นาตามความเหมาะสม ทั้ งนี้ ตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดโดยคําแนะนําของคณะกรรมการ
สํค่าานัใช้ จ่ายในการดําเนินการตามวรรคหนึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํ่ งานัวรรคสอง และวรรคสี่ ให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาเป็ นไปตาม
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรีกําหนด

มาตรา ๓๗ ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการต้องควบคุมดูแลมิให้มีการใช้หรือยินยอม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ผู้อื่นใช้สถานพยาบาลประกอบกิ กา สํดาประเภทหรื
จการสถานพยาบาลผิ นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บริการ
อผิดลักษณะการให้
ตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาต

มาตรา ๓๘๑๗ ผู้ใดประสงค์จะโฆษณาหรือประกาศด้วยประการใด ๆ เกี่ยวกับการ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกอบกิ จ การของสถานพยาบาล นอกจากชื่ อ และที่ ตั้ ง ของสถานพยาบาลตามที่ ป รากฏใน
สํานักใบอนุ ญาต ต้องได้รับอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กามัติข้อความ สํเสีานัยกงงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือภาพที่ใช้ในการโฆษณาหรื
กา อประกาศจากผู ้อนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และค่าใช้จ่ายที่ผู้อนุญาตประกาศกําหนด
สํการโฆษณาหรื อ ประกาศด้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ว ยประการใด ๆ ซึ่ ง ชื่ อ ที่ ตั้ ง หรื อกกิา จ การของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาล หรือคุณวุฒิหรือความสามารถของผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล เพื่อชักชวนให้มี
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้มาขอรับบริการจากสถานพยาบาลโดยใช้
กา ข้อความ เสียง หรือภาพอั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นเป็นเท็จหรื สําอนัโอ้ อวดเกินความ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จริง หรือน่าจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสําคัญเกี่ยวกับการประกอบกิจการของสถานพยาบาล
จะกระทํามิได้
ค่าใช้จ่ายที่ได้รับตามวรรคหนึ่งให้นําส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๙ ในกรณี ที่ มี ก ารโฆษณาหรื อสํประกาศฝ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
า ฝื น มาตรา ๓๘ ผู้ อ นุ ญ าตมี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๖
มาตรา ๓๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
กฤษฎี
๑๗ กา ๓๘ แก้ไขเพิสํ่มาเติ
มาตรา นักมงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับสํทีา่ นั๔)กงานคณะกรร
พ.ศ. ๒๕๕๙

๑๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


อํานาจสั่งเป็นหนังสือให้ผู้โฆษณาหรือประกาศระงับการกระทําดังกล่าวได้

พระราชบัญญัติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๐ ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตประสงค์จะเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการของ
สถานพยาบาลให้สํแานัตกต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาต หรืสําอนัก่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
างไปจากที่ระบุไว้ในใบอนุ กา อดัดแปลง
สร้างอาคารขึ้นใหม่ หรื
อาคารเกินกว่าที่กําหนดในกฎกระทรวงเพื่อใช้ในการประกอบกิจการสถานพยาบาลให้กระทําได้เมื่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต
สํการขอและการอนุ ญาตให้เกป็านไปตามหลัสํกาเกณฑ์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี วิธีการ และเงื่อนไขที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กําหนดใน
กฎกระทรวง

มาตรา ๔๑ ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตประสงค์จะย้ายสถานพยาบาลไปประกอบกิจการ
ที่อื่น ให้ดําเนินการเสมื อนเป็นผู้ขออนุญาตประกอบกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการสถานพยาบาลใหม่
สํานักงานคณะกรรม

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา๔๒ เมื่อมีการเปลี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ยนตัวผู้ประกอบวิชาชีพกาในสถานพยาบาล
สํานักตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๘ กา
(๔) ผู้รับอนุญาตต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้อนุญาตทราบภายในกําหนดสามสิบวันนับแต่วันที่มีการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เปลี่ยนนั้น

มาตรา ๔๓ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๘ (๕) การเปลี่ยนชื่อสถานพยาบาลต้องได้รับ


อนุญาตจากผู้อนุญสําาต
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรากา๔๔ ผู้รับอนุสํญานัาตผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ใดประสงค์จะเลิกกิกจาการสถานพยาบาล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ต้องแจ้งเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หนังสือและจัดทํารายงานที่จะปฏิบัติเกี่ยวกับผู้ป่วยให้ผู้อนุญาตทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน
สํานัแกละวิ
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ธีการที่กําหนดในกฎกระทรวง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อได้รับแจ้งตามวรรคหนึ่ง ผู้อนุญาตมีอํานาจสั่งให้ผู้รับอนุญาตต้องปฏิบัติอย่าง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนึ่งอย่างใดก่อนเลิกกิกจาการก็ได้ ทั้งสํนีานั้ โดยให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แ ละส่วนได้
พิจารณาถึงประโยชน์ สํานัเสีกยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของผู้ป่วยใน กา
สถานพยาบาลนั้นเป็นสําคัญ
สํานักงานคณ
มาตรากา๔๕ ให้ผู้อนุสํญาาตจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดให้พนักงานเจ้าหน้ากทีา่ตรวจลักษณะของสถานพยาบาล
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และการประกอบกิจการของสถานพยาบาลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้โดยสม่ําเสมอ ในการนี้ถ้า
พบว่าสถานพยาบาล สํานักตลอดจนเครื ่องมือ เครืก่อางใช้ ยาและเวชภั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัณ ฑ์ของสถานพยาบาลนัก้นามีลักษณะที่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่อยู่ในสถานพยาบาลหรือผู้ที่อยู่ใกล้เคียงกับสถานพยาบาล ผู้อนุญาตมี
สํานักอํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านาจออกคําสั่งให้ผู้รับกอนุ
า ญาตแก้ไขปรั
สําบนัปรุ งให้เหมาะสมภายในระยะเวลาที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กําหนดได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นํามาตรา ๕๓ และมาตรา ๕๕ มาใช้บงั คับโดยอนุโลม

หมวด ๓
สํานัพนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานเจ้าหน้าที่ กา

มาตรากา๔๖ ในการปฏิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําบนักัตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้
กา าที่มีอํานาจดัสํงาต่นัอกไปนี ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๓


(๑) เข้าไปในอาคารสถานที่หรือยานพาหนะที่พนักงานเจ้าหน้าที่มีเหตุอันควรสงสัย
พระราชบัญญัติ

สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าเป็นสถานพยาบาลที่ไกม่าได้รับอนุญาตตามพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญญัตินี้ กา
(๒) เข้าไปในสถานพยาบาลในระหว่างเวลาทําการเพื่อตรวจสอบและควบคุมให้การ
สํานักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นไปตามพระราชบั ญัตินี้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) มีหนังสือเรียกผู้รับอนุญาต ผู้ดําเนินการ ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลมาให้ถ้อยคําหรือชี้แจงหรือให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมา
เพื่อประกอบการพิสําจนัารณา
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ยึ ดหรื ออายัด บรรดาเอกสารหรื อสิ่งของที่เ กี่ยวกับการกระทํ า ความผิด ตาม
สํานักพระราชบั ญญัตินี้ เพื่อเป็กนา หลักฐานในการดํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
เนินคดี กา
ในการปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ข องพนั ก งานเจ้ า หน้ า ที่ ต ามวรรคหนึ่ ง ให้ ผู้ รั บ อนุ ญ าต
ผู้ดําเนินการ ผู้ปสํระกอบวิ ชาชีพในสถานพยาบาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เจ้าหน้าทีสํา่ขนัองสถานพยาบาล หรือบุกคาคลซึ่งอยู่ใน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลนั้นอํานวยความสะดวกตามสมควร

มาตรา ๔๗ ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจําตัว


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บัตรประจําตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้เป็นไปตามแบบที ่กําหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๔๘ ในการปฏิ บั ติ ก ารตามพระราชบั ญ ญั ติ นี้ ใ ห้ ผู้ อ นุ ญ าตและพนั ก งาน


เจ้าหน้าที่เป็นเจ้าสํพนั
านักกงานตามประมวลกฎหมายอาญา
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การปิดสถานพยาบาลและการเพิกถอนใบอนุญาต

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา ๔๙ เมื่ อ ปรากฏว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
า ผู้ รั บ อนุ ญ าตหรื อ ผูก้ ดา ํ า เนิ น การปฏิสําบนัั ตกิ ไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ม่ ถู ก ต้ อ งตาม กา
พระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจสั่งให้ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดําเนินการ แล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ระงับหรือปฏิบัติให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่เห็นสมควร แต่ทั้งนี้ไม่เป็นเหตุลบล้างความผิดตาม
สํานักพระราชบั ญญัตินี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๕๐ ในกรณีที่ผู้รับกอนุา ญาตหรือผู้ดสํําาเนิ


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
การ กระทําการหรือละเว้
กา นกระทํา
การอย่างใด ๆ จนเป็นเหตุให้เกิดอันตราย ความเสียหายหรือความเดือดร้อนอย่างร้ายแรงแก่ผู้ที่อยู่ใน
สํานักสถานพยาบาลหรื อผู้ที่อกยูา่ใกล้เคียงกับสถานพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี หรือไม่ปฏิบัตกิตาามคําสั่งของผูสํ้อานันุกญงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าตตามมาตรา กา
๔๕ หรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๔๙ ให้ผู้อนุญาตมีอํานาจออกคําสั่งปิด
สถานพยาบาลเป็สํนาการชันักงานคณะกรรมการกฤษฎี
่วคราวจนกว่าจะได้ดํากเนิ
า นการให้ถูกสํต้าอนังภายในระยะเวลาที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
่กําหนด
ถ้าผู้รับอนุญาตหรือผู้ดําเนินการได้ดําเนินการให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กําหนด
สํานักแล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ว ให้ผู้อนุญาตสั่งเพิกกถอนคํ
า าสั่งปิดสถานพยาบาล
สํานักงานคณะ

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๑ ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดําเนินการขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะ
สํานักต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องห้ า มตามมาตรา ๑๗
กา หรื อ มาตราสํา๒๕ แล้ วแต่ก รณี หรื อถ้ ากผูา ้ รั บ อนุ ญ าตหรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ ดํา เนิ น การไม่ กา

๑๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ดําเนินการให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่ผู้อนุญาตกําหนดตามมาตรา ๕๐ ให้ผู้อนุญาตโดยคําแนะนํา

พระราชบัญญัติ
สํานักของคณะกรรมการมี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อํานาจออกคํ าสั่งเพิสํากนัถอนใบอนุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการสถานพยาบาลได้
ญาตให้ประกอบกิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ า ผู้ รั บ อนุ ญ าตหรื อ ผู้ ดํ า เนิ น การต้ อ งคํ า พิ พ ากษาถึ ง ที่ สุ ด ว่ า ได้ ก ระทํ า ผิ ด ตาม
พระราชบั ญ ญั ตสํิ นาี้ นัและผู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ อ นุ ญ าตเห็ น ว่ า เป็กนากรณี ร้ า ยแรงอั
สํานันกอาจมี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ นต่ อ การ
ผ ลกระทบกระเทื
รักษาพยาบาลผู้ป่วยต่อไป ให้ผู้อนุญาตโดยคําแนะนําของคณะกรรมการมีอํานาจออกคําสั่งเพิกถอน
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใบอนุญาตของผู้นั้นได้

มาตรา ๕๒ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองดูแลผู้ป่วยในสถานพยาบาลในกรณีที่
(๑) ผู้รกับา อนุญาตตายสํและไม่
กฤษฎี มีผู้แสดงความจํานงเพื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อขอประกอบกิ
สํานัจกการหรื อผู้แสดง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความจํานงนั้น ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ทั้งนี้ ตามที่บัญญัติในมาตรา ๒๒
สํ(๒)
านักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้อนุญาตมีคําสั่งปิดสถานพยาบาลเป็
กา นสํการชั ่วคราวตามมาตรา ๕๐กาหรือมีคําสั่ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพิกถอนใบอนุญาตตามมาตรา ๕๑
กฤษฎี
ผู้อนุญกาตอาจมี
า คําสั่งสํให้านัสกถานพยาบาลนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
้น อยู่ในความควบคุ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มของคณะกรรมการเพื ่อ กา
ดําเนินการใด ๆ ตามที่เห็นสมควรได้

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๓ คําสั่งของพนั กงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๔๙ หรือสําของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้อนุญาตตาม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๐ หรื อ มาตรา ๕๑ ให้ ทํ า เป็ น หนั ง สื อ ส่ ง ทางไปรษณี ย์ ล งทะเบี ย นให้ ผู้ รั บ อนุ ญ าตหรื อ
ผู้ดําเนินการ ณ ภูสํามนัิลกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
เนาของผู้นั้น แล้วแต่กกรณี
า ถ้าไม่พบตัสํวาหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ยอมรับคําสั่งดังกล่กาาว ให้จัดการ
ปิดคําสั่งไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานพยาบาล และให้ถือว่าผู้นั้นได้ทราบคําสั่งนั้นแล้วตั้งแต่
สํานักวังานคณะกรรมการกฤษฎี
นที่ปิดคําสั่ง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งของผู้อนุญาตตามวรรคหนึ่ง จะโฆษณาในหนังสือพิมพ์หรือโดยวิธีอื่นใดอีกด้วย
ก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา๕๔ ผู้ใดถูกเพิ
สํานักกถอนใบอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บใบอนุญาตใหม่
ญาตแล้วจะขอรั สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ีกไม่ได้จนกว่า กา
จะพ้นกําหนดสองปีนับแต่วันที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๕๕ คําสั่งของพนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๔๙ หรืสํอาของผู ้อนุญาตตาม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๕๐ หรือมาตรา ๕๑ ผู้ที่ได้รับคําสั่งมีสิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีภายในสามสิบวันนับแต่วันที่
ทราบคําสั่ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด

หมวด ๕
ฎีกา าหนดโทษ
บทกํ

มาตรา ๕๖ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของคณะกรรมการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือคณะอนุกรรมการตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๕


มาตรา ๕๗๑๘ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๒๔ วรรคหนึ่ง ต้อง
พระราชบัญญัติ

สํานักระวางโทษจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
าคุกไม่เกินห้กาา ปี หรือปรับไม่
สําเนักิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนึ่งแสนบาท หรือทั้งกจําาทั้งปรับ และศาลจะสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งริบบรรดา กา
สิ่งของที่ใช้ในการประกอบกิจการสถานพยาบาลด้วยก็ได้

มาตรา ๕๘ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของผู้อนุญาตตามมาตรา ๓๙ หรือมาตรา ๔๕


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือคําสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๔๙ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกิน
หนึ่งหมื่นบาท หรืสํอาทันัก้งจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าทั้งปรับ กา

มาตรากา ๕๙ ผู้รับอนุสําญนัาตผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๑ มาตรา
สํานั๓๑ มาตรา ๓๒
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๔๐ หรือมาตรา ๔๓ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท

มาตรา ๖๐ ผู้ รั บ อนุ ญ าตผู้ ใ ดประกอบกิ จ การสถานพยาบาลโดยมิ ไ ด้ จั ด ให้ มี


สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ดําเนินการตามมาตรากา๒๓ ต้องระวางโทษจํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
าคุกไม่เกินสองปี หรืกอาปรับไม่เกินสี่หสํมืานั่นกบาท
งานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือทั้งจํา กา
ทั้งปรับ

มาตรา ๖๑ ผู้ใดมีหสํน้าานัทีก่ตงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้องแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบ
กา
แต่ไม่แจ้งสํภายในกํ าหนดเวลา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามมาตรา ๒๖ มาตรา ๓๐ มาตรา ๔๒ หรือมาตรา ๔๔ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่ง
หมื่นบาท
๑๙
มาตรากา๖๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ผู้รับอนุ
สํานัญกาตผู ้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๓กา วรรคสอง ต้สํอางระวางโทษจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี าคุก
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

มาตรา ๖๓ ผู้ดําเนินการผู้ใดไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามมาตรา ๓๔ (๑) ต้อง


สํานักระวางโทษจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรือปรับสํไม่านัเกิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
าคุกไม่เกินสองปี สี่หมื่นบาท หรือทั้งจํากทัา้งปรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๔ ผู้ดําเนินการผู้ใดไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามมาตรา ๓๔ (๓) หรือ (๔)
ต้องระวางโทษปรับไม่เกิกนา หนึ่งหมื่นบาทสํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํมาตรา ๖๕ ผู้รับอนุญาตหรืกาอผู้ดําเนินการผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้ใกดฝ่ าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๓๔
(๒) หรือมาตรา ๓๕ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้ง
สํานักปรั บ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อผู้ดําเนินการผู
๖๖ ผู้รับอนุญาตหรื สํานัก้ใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดฝ่าฝืนมาตรา ๓๖ ต้อกงระวางโทษ

จําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

มาตรา ๖๗ ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดําเนินการผูสํา้ในัดฝ่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าฝืนมาตรา ๓๗ ต้องระวางโทษปรั
กา

๑๘
มาตรา ๕๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
กฤษฎี
๑๙ กา ๖๒ แก้ไขเพิสํ่มาเติ
มาตรา นักมงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับสํทีา่ นั๔)กงานคณะกรร
พ.ศ. ๒๕๕๙

๑๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ไม่เกินสองหมื่นบาท

พระราชบัญญัติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๘๒๐ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๘ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน
สํานักปงานคณะกรรมการกฤษฎี
สองหมื่นบาท และให้ รับอีกวันละไม่เกินหนึก่งาหมื่นบาทนับสํแต่
านัวกันงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ฝ่าฝืนคําสั่งที่ให้ระงักบาการโฆษณา
หรือประกาศ ทั้งนี้ จนกว่าจะระงับการโฆษณาหรือประกาศดังกล่าว
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๘ วรรคสอง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน
สองหมื่นบาท หรืสํอาทันัก้งจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าทั้งปรับ และให้ปรับกอีากวันละไม่เกินสํหนึ
านัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
หมื่นบาทนับแต่วันที่ฝ่ากฝืานคําสั่งที่ให้
ระงับการโฆษณาหรือประกาศ ทั้งนี้ จนกว่าจะระงับการโฆษณาหรือประกาศดังกล่าว

มาตรา ๖๙ ผู้รับอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของผู้อนุญาตตามมาตรา ๔๔ วรรค


สอง ต้องระวางโทษจํ
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
คุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรักาบไม่เกินสองหมื
สํา่นนักบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา ๗๐ ผู้ รั บ อนุ
สํานัญกาต
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้ ดํ า เนิ น การ ผู้ ป ระกอบวิ ช าชี พสํในสถานพยาบาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาล หรือบุคคลซึ่งอยู่ในสถานพยาบาล ผู้ใดไม่อํานวยความสะดวกให้แก่
พนักงานเจ้าหน้าทีสํา่ในันการปฏิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บัตกิ ารตามหน้าที่ตามมาตรา ๔๖ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท

มาตรา ๗๑ ผู้ใดประกอบกิจการสถานพยาบาลในระหว่างที่สถานพยาบาลนั้นถูกสั่ง
ปิดชั่วคราวตามมาตรา ๕๐ ต้องระวางโทษจํากคุากไม่เกินสองปีสําหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทกหรื
า อทั้งจําทั้ง
ปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน

มาตรา ๗๒ ผู้ใดขัดขวางหรือไม่อํานวยความสะดวกให้แก่คณะกรรมการในการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดําเนินการตามมาตรา ๕๒ ต้องระวางโทษจํากคุากไม่เกินหนึ่งเดืสําอนันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือปรับไม่เกินสองพันกบาท
า หรือทั้ง
จําทั้งปรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๓ ผู้รับอนุญาต ผู้ดําเนินการ ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลผู้ใด จัดทําหรือยินยอมให้ผู้อื่นจัดทําหลักฐานเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล
และค่าบริการเอกสารแสดงการตรวจโรค
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัเอกสารแสดงผลการรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกษาพยาบาลของสถานพยาบาล
กา หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เอกสารกรณีอื่นอันเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับ
ไม่เกินสี่หมื่นบาทสํหรื
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ทั้งจําทั้งปรับ กา

มาตรากา๗๔๒๑ ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัทกี่ผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้กระทําความผิดเป็นนิตกิบา ุคคล ถ้าการกระทํ าความผิดของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นิ ติ บุ ค คลนั้ น เกิ ด จากการสั่ ง การหรื อ การกระทํ า ของกรรมการ หรื อ ผู้ จั ด การ หรื อ บุ ค คลใดซึ่ ง
รับผิดชอบในการดํ สํานัากเนิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นงานของนิติบุคคลนัก้นา หรือในกรณีสํทานัี่บกุคงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลดังกล่าวมีหน้าที่ต้อกงสั
า ่งการหรือ
กระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้นกระทําความผิด ผู้นั้นต้อง
สํานักรังานคณะกรรมการกฤษฎี
บโทษตามที่บัญญัติไว้สกําาหรับความผิดสํนัา้นนักๆงานคณ
ด้วย

๒๐
มาตรา ๖๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
กฤษฎี
๒๑ กา ๗๔ แก้ไขเพิสํ่มาเติ
มาตรา นักมงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับสํทีา่ นั๔)กงานคณะกรร
พ.ศ. ๒๕๕๙

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๗


มาตรา ๗๕ ให้มีคณะกรรมการเปรียบเทียบคดี
พระราชบัญญัติ

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๑) ในเขตกรุ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
งเทพมหานคร ประกอบด้วย อธิบดีกกา รมสนับสนุนสํบริานักการสุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ขภาพ เป็น กา
ประธานกรรมการ ผู้อํานวยการสํานักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการ
สุขภาพ และผู้แทนสํ สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานอัยการสูงสุด เป็กานกรรมการ และให้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อธิบดีกรมสนับสนุนบริกาการสุขภาพ
แต่งตั้งข้าราชการของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพคนหนึ่ง เป็นเลขานุการ และอีกไม่เกินสองคน เป็น
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ช่วยเลขานุการ
สํ(๒)
านักในเขตจั งหวัดอื่น ประกอบด้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา วย ผู้ ว่ าสํราชการจั งหวั ด เป็นประธานกรรมการ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อัยการจังหวัดและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เป็นกรรมการ และให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
แต่งตั้งข้าราชการของสํกานัา กงานสาธารณสุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักขงานคณะกรรมการกฤษฎี
จังหวัดคนหนึ่ง เป็นเลขานุกา การ และอีกสํไม่
านักเกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นสองคน เป็น กา
๒๒
ผู้ช่วยเลขานุการ
สํบรรดาความผิ ดตามพระราชบั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัตินี้ที่มีสํโทษปรั บสถานเดียวหรือที่มกีโาทษจําคุกไม่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกินหนึ่งปี ให้คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีมีอํานาจเปรียบเทียบปรับได้ ถ้าเห็นว่าผู้ต้องหาไม่ควรถูก
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฟ้องร้องหรือได้รับโทษถึกางจําคุก ในการนี สํานั้กคงานคณะกรรมการกฤษฎี
ณะกรรมการเปรียบเทีกยา บคดีอาจมอบหมายให้สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พนักงาน กา
เจ้าหน้าที่เป็นผู้ทําการเปรียบเทียบปรับแทนสําหรับคดีที่มีโทษปรับสถานเดียวตามที่เห็นสมควรก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อผู้ต้องหาได้เสียค่าปรับตามที่เปรียบเที ยบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการ
เปรียบเทียบปรับ ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่พนักงานสอบสวนพบว่าผู้ใดกระทําความผิดที่มีอัตราโทษตามวรรคสอง
และผู้นั้นยินยอมให้ สํานัเกปรีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยบเทียบปรับ ให้พนักกางานสอบสวนส่สํางนัเรืก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
งให้คณะกรรมการเปรีกายบเทียบคดี
ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ผู้นั้นแสดงความยินยอมให้เปรียบเทียบปรับ

บทเฉพาะกาล

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา กา ๗๖ ใบอนุสํญ
านัาตให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตั้ ง สถานพยาบาลกา และใบอนุ ญสําาตให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดํ า เนิ น การ กา
สถานพยาบาลที่ออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๐๔ ให้ถือว่าเป็นใบอนุญาตให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกอบกิจการสถานพยาบาลหรือใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาลที่ออกตามพระราชบัญญัติ
สํานักนีงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ และให้ใช้ได้จนถึงวันสิก้นา ปีปฏิทินของปี
สําทนัี่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้กบางั คับ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํมาตรา ๗๗ บรรดากฎกระทรวง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรืสํอาประกาศที ่ อ อกตามพระราชบั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญ ญั ติ
สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๐๔ และยังใช้บังคับอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้
สํานักต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรืกอา แย้งกับพระราชบั ญญัตินี้ ทั้งนี้ จนกว่าจะมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กฎกระทรวงหรื
สํานัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประกาศที่ออก กา
ตามพระราชบัญญัตินี้

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ชวน หลี กภัย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นายกรัฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๒ กา ๗๕ วรรคหนึ่งสํแก้
มาตรา านัไกขเพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
่มเติมโดยพระราชบัญญักตาิสถานพยาบาล (ฉบั
สํานับกทีงานคณะกรรมก
่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙

๑๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


อัตราค่าธรรมเนียม

พระราชบัญญัติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๑. ใบอนุญาตให้ปสํระกอบกิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จการสถานพยาบาลกา
ประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒. ใบอนุญาตให้ปสํระกอบกิ จการสถานพยาบาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
(ก) ไม่เกิน ๑๐ เตียงกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ฉบับละ สํ๒,๐๐๐ บาท
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(ข) เกิน ๑๐ เตียง แต่ไม่เกิน ๒๕ เตียง ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท
(ค) เกิน ๒๕ เตีสํายนังกงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ไม่เกิน ๕๐ เตียง กา ฉบับละ ๑๐,๐๐๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บาท
(ง) เกิน ๕๐ เตียง แต่ไม่เกิน ๑๐๐ เตียง ฉบับละ ๒๐,๐๐๐ บาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(จ) เกิน ๑๐๐ เตียง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฉบับละ ๒๐,๐๐๐ บาท และ กา
ให้คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นสําหรับที่เกิน ๑๐๐ เตียง เตียงละ ๑๐๐ บาท

๓. ใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สําน
ประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ฉบับละ ๕๐๐ บาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔. ใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล
ประเภทที่รับผู้ป่วยไว้กาค้างคืน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ก) ไม่เกิน ๑๐ เตียง ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
(ข) เกิน ๑๐ เตีสํายนังกแต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่เกิน ๒๕ เตียง กา คณะกรรมการกฤษฎี
ฉบั บละ ๒,๕๐๐ กา บาท
(ค) เกิน ๒๕ เตียง แต่ไม่เกิน ๕๐ เตียง ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ง) เกิน ๕๐ เตียง แต่กาไม่เกิน ๑๐๐ สํเตีานัยกง สํ
ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ านักงานคณะก
บาท
(จ) เกิน ๑๐๐ เตียง ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นสําหรับที่เกิน ๑๐๐ เตียง เตียงละ ๕๐ บาท

๕. การต่ออายุใบอนุญาต ครัง้ ละเท่ากับค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประเภทนั้น ๆ แต่ละฉบับ

๖. ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ ๒๐๐ บาท

๗. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขในใบอนุญาต ครั้งละ ๑๐๐ บาท

๘. ค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานพยาบาล ปีละ ๑๐,๐๐๐ บาท

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๙


หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่กฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
พระราชบัญญัติ

ได้ใช้บังคับตั้งแต่ พ.ศ. ี๒๕๐๔ นั้น ไม่สํเหมาะสมกั


านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บสถานการณ์ปัจกจุาบัน และไม่สอดคล้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
องกับลักษณะ กา
การประกอบกิจการของสถานพยาบาลปัจจุบัน สมควรที่จะดําเนินการควบคุมกิจการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพื่อให้ความคุ้มครองประชาชนผู กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
้รับบริการจากสถานพยาบาลมากยิ กา ญาตให้
่งขึ้นในเรื่องเกี่ยวกับการอนุ
ประกอบกิจการ การเลิก การย้าย การปิดสถานพยาบาล การเพิกถอนใบอนุญาต การโฆษณากิจการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ของสถานพยาบาล ตลอดจนกํ า หนดอํ า นาจหน้ า ที่ ข องพนั ก งานเจ้ า หน้ า ที่ ใ นการควบคุ ม ดู แ ล
สถานพยาบาล และกํ สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
หนดหน้าที่ของผู้รับอนุกาญาตและผู้ดําสํเนิานันกการสถานพยาบาลให้
งานคณะกรรมการกฤษฎี เหมาะสมยิ
กา ่งขึ้น
รวมทั้งให้มีการกําหนดจํานวนสถานพยาบาลที่จะให้จัดตั้งได้หรือมีบริการทางการแพทย์บางชนิดใน
ท้องที่ใดท้ องที่ หนึ่งได้ กเพื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่อ ให้ มีก ารประกอบกิ จ การในลักษณะทีกา่ให้บริการทางสาธารณสุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ขที่ เป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริง สมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
จึงจําเป็นต้องตราพระราชบั ญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

กงานคณะกรรมการกฤษฎี
*พระราชกฤษฎีกาแก้ไกขบทบั
า ญญัติให้สํสาอดคล้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าที่ของส่วสํนราชการให้
องกับการโอนอํานาจหน้ านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นไป กา
ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕๒๓

มาตรา ๑๑๖ ในพระราชบั


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ให้สํแานัก้กไขคํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าว่า “อธิบดี
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรมควบคุ ม โรคติ ด ต่ อ ” เป็ น “อธิ บ ดี ก รมควบคุ ม โรค” และคํ า ว่ า “สํ า นั ก งานปลั ด กระทรวง
สาธารณสุข” เป็นสํา“กรมสนั บสนุนบริการสุขภาพ”
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํานักหมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําพนัระราชกฤษฎี กาฉบับนี้ คืกาอ โดยที่พระราชบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัติปรับปรุง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้บัญญัติให้จัดตั้งส่วนราชการขึ้นใหม่โดยมีภารกิจใหม่ ซึ่งได้มี
การตราพระราชกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก าโอนกิ จ การบริ หการและอํ
า า นาจหน้สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ ข องส่ ว นราชการให้กาเ ป็ น ไปตาม
พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม นั้นแล้ว และเนื่องจากพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
สํานักบังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญญัติให้โอนอํานาจหน้ กาาที่ของส่วนราชการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
รัฐมนตรีผู้ดํารงตําแหน่ กา งหรือผู้ซึ่งปฏิ
สํานับกัตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิหน้าที่ในส่วน กา
ราชการเดิมมาเป็นของส่วนราชการใหม่ โดยให้มีการแก้ไขบทบัญญัติต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับอํานาจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หน้าที่ที่โอนไปด้วย ฉะนั้น เพื่ออนุวัติให้เป็นไปตามหลักการที่ปรากฏในพระราชบัญญัติและพระราช
สํานักกฤษฎี กาดังกล่าว จึงสมควรแก้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ไขบทบัสํญาญันักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิของกฎหมายให้สอดคล้กอา งกับการโอนส่สําวนันราชการ เพื่อให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้เกี่ยวข้องมีความชัดเจนในการใช้กฎหมายโดยไม่ต้องไปค้นหาในกฎหมายโอนอํานาจหน้าที่ว่าตาม
กฎหมายใดได้ มสํี กาารโอนภารกิ จ ของส่ ว นราชการหรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ ผู้ รสํั บานัผิกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชอบตามกฎหมายนั้กนาไปเป็ น ของ
หน่วยงานใดหรือผู้ใดแล้ว โดยแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายให้มีการเปลี่ยนชื่อส่วนราชการ รัฐมนตรี
ผู้ดํารงตําแหน่งหรือผู้ซึ่งกปฏิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า บัติหน้าที่ขสํองส่
านักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
นราชการให้ตรงกับการโอนอํ กา านาจหน้สําานัทีก่ งานคณะกรรมการกฤษฎี
และเพิ่มผู้แทน กา
ส่วนราชการในคณะกรรมการให้ตรงตามภารกิจที่มีการตัดโอนจากส่วนราชการเดิมมาเป็นของส่วน
ราชการใหม่รวมทัสํ้งาตันัดกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ส่วนราชการเดิมที่มีการยุ กา บเลิกแล้ว ซึสํ่งาเป็นันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
การแก้ไขให้ตรงตามพระราชบั กา ญญัติ
และพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว จึงจําเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล
ํ ั
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ.

๒๕๔๗๒๔
๒๓
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๙/ตอนที่ ๑๐๒ ก/หน้า ๖๖/๘ ตุลาคม ๒๕๔๕
กฤษฎี
๒๔ กาจจานุเบกษา เล่สํมานั๑๒๑/ตอนที
ราชกิ กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สิงหาคม ๒๕๔๗
่ ๕๕ ก/หน้า ๑/๓๐ สํา

๒๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา๒ พระราชบัสําญนักญังานคณะกรรมการกฤษฎี
ตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วกันา ถัดจากวันประกาศในราชกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จจา กา

พระราชบัญญัติ
นุเบกษาเป็นต้นไป

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ได้มีการแยกการประกอบโรค


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ศิลปะสาขากายภาพบําบัดและการประกอบโรคศิลปะสาขาเทคนิคการแพทย์ ไปบัญญัติไว้ในกฎหมาย
เฉพาะ สมควรปรั สํานับกปรุ ง บทบั ญ ญั ติ ใ นส่ ว นทีกา่ เ กี่ ย วกั บ บทนิสํายนัามคํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า ว่ า “สถานพยาบาล”
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา และ “ผู้
ประกอบวิ ช าชี พ ” รวมทั้ ง บทบั ญ ญั ติ อื่ น ที่ เ กี่ ย วข้ อ งให้ ส อดคล้ อ งกั น ด้ ว ย จึ ง จํ า เป็ น ต้ อ งตรา
สํานักพระราชบั ญญัตินี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

พระราชบัญญัติสสํถานพยาบาล กา ๒๕๕๕๒๕
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ.
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา๒ พระราชบัสําญนักญังานคณะกรรมการกฤษฎี
ตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วกันา ถัดจากวันประกาศในราชกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จจา กา
นุเบกษาเป็นต้นไป

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้สํพาระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ได้มีการแยกการประกอบโรค
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยและการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ไปบัญญัติ
ไว้ในกฎหมายเฉพาะ
สํานักสมควรปรั บปรุงบทบัญญักาติในส่วนที่เกี่ยสํวกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี านักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
บทนิยามในคําว่า “สถานพยาบาล”
กา
และ “ผู้ประกอบวิชาชีพ” รวมทั้งบทบัญญัติอื่นที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกันด้วย จึงจําเป็นต้องตรา
สํานักพระราชบั ญญัตินี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

พระราชบัญญัติสสํถานพยาบาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๙๒๖
(ฉบับที่ ๔) พ.ศ.
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา๒ พระราชบัสําญนักญังานคณะกรรมการกฤษฎี
ตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วกันา ถัดจากวันประกาศในราชกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จจา กา
นุเบกษาเป็นต้นไป
สํ
มาตรากา๒๓ ให้คณะกรรมการสถานพยาบาลซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก่งาดํารงตําแหน่สํงาอยู
นัก่ใงานคณะกรรมการกฤษฎี
นวันก่อนวันที่ กา
พระราชบัญญัตินี้ใช้บงั คับ คงอยู่ในตําแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสถานพยาบาล
ตามพระราชบัญสํญัาตนัิสกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ กา ซึ่งแก้ไขเพิ สํา่มนักเติงานคณะกรรมการกฤษฎี
มโดยพระราชบัญญัตกินาี้ ทั้งนี้ ต้อง
ไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

มาตรา ๒๔ ให้ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดําเนินการซึ่งโฆษณาหรือประกาศด้วยประการใด ๆ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกี่ยวกับสถานพยาบาลอยู กา ญญัตินี้ใช้สํบานัังกคังานคณะกรรมการกฤษฎี
่ในวันก่อนวันที่พระราชบั กา
บ ต้องขออนุมัติการโฆษณาหรื อการ
ประกาศต่อผู้อนุญาตภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ ประกาศที่ออกตามมาตรา ๓๘ วรรคหนึ่ง แห่ง
สํานักพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ญญัติสถานพยาบาล สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๔๑ กา
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบั ญญัตสํินาี้ในัช้กบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ังคับ และเมื่อ กา
ได้ยื่นคําขออนุมัตสํิแาล้นัวกให้ ดําเนินการต่อไปได้จนกว่าจะได้รับแจ้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งจากผู้อนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๕
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๐/ตอนที่ ๒ ก/หน้า ๒๐/๙ มกราคม ๒๕๕๖
กฤษฎี
๒๖ กาจจานุเบกษา เล่สํมานั๑๓๓/ตอนที
ราชกิ กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ธันวาคม ๒๕๕๙
่ ๑๐๗ ก/หน้า ๔๑/๒๐ สํานักง

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๑


กฤษฎี
มาตรา กา ๒๕ บรรดากฎกระทรวงหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ อ อกตามพระราชบั
อ ประกาศที สํานักงานคณะกรรมก
ญ ญั ติ
พระราชบัญญัติ

สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับ


ได้ต่อไปเพียงเท่าสํทีา่ไนัม่กขงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัดหรือแย้งกับพระราชบักาญญัติสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไกขเพิา ่มเติมโดย
พระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะมีกฎกระทรวงหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ใช้บงั คับ
สํการดํ าเนินการออกกฎกระทรวงหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อประกาศตามวรรคหนึ ่ง ให้ดําเนินการให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แล้วเสร็จ
ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากไม่สามารถดําเนินการได้ ให้รัฐมนตรีรายงาน
สํานักเหตุ ผลที่ไม่อาจดําเนินการได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ต่อคณะรัฐสํมนตรี เพื่อทราบ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

สํมาตรา ๒๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ขรักษาการตามพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัตินี้

สํานักหมายเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํพาระราชบั
:- เหตุผลในการประกาศใช้ นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญญัติฉบับนี้ คือ กโดยที
า ่สถานพยาบาลที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ให้บริการแก่ กา
ประชาชนมีทั้งสถานพยาบาลซึ่งดําเนินการโดยภาครัฐและสถานพยาบาลที่ดําเนินการโดยภาคเอกชน
แต่กฎหมายว่าด้วสํยสถานพยาบาลไม่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใช้บังคับกับสถานพยาบาลซึ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งดําเนินการโดยภาครัฐ จึงควรแก้ไข
ให้สถานพยาบาลซึ่งดําเนินการโดยภาครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ฐต้องมีลักษณะและมาตรฐานตามที่กําสํหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือผ่านการ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รับรองคุณภาพจากหน่ วยงานที่ กําหนด แก้ ไของค์ประกอบของคณะกรรมการสถานพยาบาลให้
เหมาะสมยิ่งขึ้ น สํแก้
านักไ ขเพิ ่ ม เติ ม รายละเอียดที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ ผู้ รั บ อนุ ญ าตต้
สํานัอกงแสดงในสถานพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา และแก้ ไ ข
เพิ่มเติมหลักเกณฑ์การดําเนินการของสถานพยาบาลสําหรับผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดย
สํานักฉุงานคณะกรรมการกฤษฎี
กเฉิน รวมทั้งแก้ไขเพิก่มา เติมหลักเกณฑ์ สํานัเกกีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ยวกับการโฆษณาสถานพยาบาล กา สํานัากหนดโทษ
บทกํ และ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
องค์ประกอบของคณะกรรมการเปรียบเทียบคดีให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

๒๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


กฎกระทรวง
กฎกระทรวง
(พ.ศ. ๒๕๔๓)
ออกตำมควำมในพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑๑

อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำ ๖ แห่งพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑

กฎกระทรวง
อันเป็นพระรำชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบำงประกำรเกี่ยวกับกำรจำกัดสิทธิและเสรีภำพของบุคคล ซึ่ง
มำตรำ ๒๙ ประกอบกับมำตรำ ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดย
อำศัยอำนำจตำมบทบัญญัติแห่งกฎหมำย รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุขออกกฎกระทรวงไว้
ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้กำหนดค่ำธรรมเนียม ดังต่อไปนี้


(๑) ใบอนุญำตให้ประกอบกิจกำรสถำนพยำบำล
ประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน ฉบับละ ๑,๐๐๐ บำท
(๒) ใบอนุญำตให้ประกอบกิจกำรสถำนพยำบำล
ประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน
(ก) ไม่เกิน ๑๐ เตียง ฉบับละ ๒,๐๐๐ บำท
(ข) เกิน ๑๐ เตียง แต่ไม่เกิน ๒๕ เตียง ฉบับละ ๕,๐๐๐ บำท
(ค) เกิน ๒๕ เตียง แต่ไม่เกิน ๕๐ เตียง ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บำท
(ง) เกิน ๕๐ เตียง แต่ไม่เกิน ๑๐๐ เตียง ฉบับละ ๒๐,๐๐๐ บำท
(จ) เกิน ๑๐๐ เตียง ฉบับละ ๒๐,๐๐๐ บำท
และให้คิดค่ำธรรมเนียมเพิ่มขึ้น
สำหรับที่เกิน ๑๐๐ เตียง เตียงละ ๑๐๐ บำท
(๓) ใบอนุญำตให้ดำเนินกำรสถำนพยำบำล
ประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน ฉบับละ ๒๕๐ บำท
(๔) ใบอนุญำตให้ดำเนินกำรสถำนพยำบำล
ประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน
(ก) ไม่เกิน ๑๐ เตียง ฉบับละ ๕๐๐ บำท
(ข) เกิน ๑๐ เตียง แต่ไม่เกิน ๒๕ เตียง ฉบับละ ๑,๒๕๐ บำท
(ค) เกิน ๒๕ เตียง แต่ไม่เกิน ๕๐ เตียง ฉบับละ ๒,๕๐๐ บำท
(ง) เกิน ๕๐ เตียง แต่ไม่เกิน ๑๐๐ เตียง ฉบับละ ๕,๐๐๐ บำท
(จ) เกิน ๑๐๐ เตียง ฉบับละ ๕,๐๐๐ บำท
และให้คิดค่ำธรรมเนียมเพิ่มขึ้น
สำหรับที่เกิน ๑๐๐ เตียง เตียงละ ๕๐ บำท
(๕) กำรต่ออำยุใบอนุญำต ครั้งละเท่ำกับค่ำธรรมเนียมใบอนุญำตแต่ละฉบับตำม (๑)
(๒) (๓) และ (๔) แล้วแต่กรณี

๑ รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๑๗/ตอนที่ ๙๕ ก/หน้ำ ๑๔/๒๒ ตุลำคม ๒๕๔๓

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๕


(๖) ใบแทนใบอนุญำต ฉบับละ ๒๐๐ บำท
(๗) กำรเปลี่ยนแปลงแก้ไขในใบอนุญำต ครั้งละ ๑๐๐ บำท
(๘) ค่ำธรรมเนียมกำรประกอบกิจกำรสถำนพยำบำล
ประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน ปีละ ๕๐๐ บำท
(๙) ค่ำธรรมเนียมกำรประกอบกิจกำรสถำนพยำบำล
ประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน
กฎกระทรวง

(ก) ไม่เกิน ๑๐ เตียง ปีละ ๐๐ บำท


(ข) เกิน ๑๐ เตียง แต่ไม่เกิน ๒๕ เตียง ปีละ ๑,๒๕๐ บำท
(ค) เกิน ๒๕ เตียง แต่ไม่เกิน ๕๐ เตียง ปีละ ๒,๕๐๐ บำท
(ง) เกิน ๕๐ เตียง แต่ไม่เกิน ๑๐๐ เตียง ปีละ ๕,๐๐๐ บำท
(จ) เกิน ๑๐๐ เตียง ปีละ ๕,๐๐๐ บำท
และให้คิดค่ำธรรมเนียมเพิ่มขึ้น
สำหรับที่เกิน ๑๐๐ เตียง เตียงละ ๕๐ บำท
แต่ทั้งนี้ เมื่อรวมค่ำธรรมเนียมที่ คิดเพิ่มขึ้นแล้วต้องไม่เกินปีละ ๑๐,๐๐๐
บำท

ข้อ ๒ ให้ยกเว้นค่ำธรรมเนียมกำรประกอบกิจกำรสถำนพยำบำลสำหรับปีที่ได้
รับใบอนุญำตและสำหรับปีที่ได้รับกำรต่อใบอนุญำต

ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๑ ตุลำคม พ.ศ. ๒๕๔๓


กร ทัพพะรังสี
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุข

๒๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มำตรำ ๖ แห่งพระรำชบัญญัติ
สถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ บัญญัติให้รัฐมนตรีมีอำนำจออกกฎกระทรวงกำหนดค่ำธรรมเนียมไม่เกิน
อัตรำท้ำยพระรำชบัญญัติและยกเว้นค่ำธรรมเนียม จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

กฎกระทรวง

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๗


กฎกระทรวง
ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๔๓)
ออกตำมควำมในพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑๑

อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำ ๖ และมำตรำ ๔๗ วรรคสอง แห่งพระรำชบัญญัติ


กฎกระทรวง

สถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ อันเป็นพระรำชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบำงประกำรเกี่ยวกับกำรจำกัดสิทธิ


และเสรีภำพของบุคคลซึ่งมำตรำ ๒๙ ประกอบกับมำตรำ ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย
บั ญ ญั ติ ให้ ก ระท ำได้ โ ดยอำศั ย อ ำนำจตำมบทบั ญ ญั ติ แ ห่ ง กฎหมำย รั ฐ มนตรี ว่ ำ กำรกระทรวง
สำธำรณสุขออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ บัตรประจำตัวพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ให้เป็นไปตำมแบบท้ำยกฎกระทรวงนี้

ข้อ ๒ รูปถ่ำยที่ติดบัตรประจำตัวพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ ให้ใช้รูปถ่ำยที่ถ่ำยไม่เกินหก


เดือนก่อนวันที่ยืนคำขอมีบัตรประจำตัวพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ ขนำด ๒.๕ x ๓ เซนติเมตร ครึ่งตัวหน้ำ
ตรงไม่สวมหมวก แต่งเครื่องแบบข้ำรำชกำร

ข้อ ๓ ในกรุงเทพมหำนครให้ปลัดกระทรวงสำธำรณสุขเป็นผู้ออกบัตรประจำตัว
พนักงำนเจ้ำหน้ำที่
ส ำหรั บ ในจั งหวั ด อื่ น ให้ ผู้ ว่ ำ รำชกำรจั ง หวั ด เป็ น ผู้ อ อกบั ต รประจ ำตั ว พนั ก งำน
เจ้ำหน้ำที่

ข้อ ๔ บัตรประจำตัวพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ ให้ใช้ได้ตำมระยะเวลำที่กำหนดไว้ในบัตร


แต่ต้องไม่เกินห้ำปีนับแต่วันออกบัตร

ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๑ ตุลำคม พ.ศ. ๒๕๔๓


กร ทัพพะรังสี
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุข


รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๑๗/ตอนที่ ๙๕ ก/หน้ำ ๑๗/๒๒ ตุลำคม ๒๕๔๓

๒๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


หมำยเหตุ :- เหตุผ ลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับ นี้ คื อ โดยที่ม ำตรำ ๔๗ วรรคสอง แห่ ง
พระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ บัญญัติให้บัตรประจำตัวพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ต้องเป็นไป
ตำมแบบที่กำหนดในกฎกระทรวงสมควรกำหนดแบบบัตรประจำตัวพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ดังกล่ำว จึง
จำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

กฎกระทรวง

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๙


กฎกระทรวง

๓๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


กฎกระทรวง

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓๑


กฎกระทรวง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
วาดวยการประกอบกิจการสถานพยาบาล
าพ.ศ. ๒๕๔๕ส๑

อาศั ย อํ า นาจตามความในมาตรา ๖ มาตรา ๑๖ วรรคสอง มาตรา ๑๘ (๑)


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา ๒๐ มาตรากา๒๑ วรรคสองสํานัมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๓๐ วรรค
กฎกระทรวง

มาตรา ๑๙ วรรคสาม ๒๒ วรรคสอง มาตรา


สอง มาตรา ๔๐ วรรคสอง และมาตรา ๔๔ แหงพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ อัน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เปนพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่ง
มาตรา ๒๙ ประกอบกั บมาตรา ๕๐ ของรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาฐธรรมนูญแห
สํางนัราชอาณาจั กรไทย บัญญักาติใหกระทําได
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
โดยอาศั ย อํ า นาจตามบทบั ญ ญั ติ แ ห ง กฎหมาย รั ฐ มนตรี ว า การกระทรวงสาธารณสุ ข ออก
นคณะกรรมการกฤษฎี
กฎกระทรวงไว ดังตกอาไปนี้

หมวด ๑
บททั่วไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๑ ในกฎกระทรวงนีก้ า
“สมุดทะเบียนสถานพยาบาล” หมายความวา สมุดแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการ
นคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไดรบั อนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาลและการดําเนินการสถานพยาบาล ตามกฎหมายวา
ดวยสถานพยาบาล
สํานัก

ขอก๒า การยื่นคําสํขอหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อการแจงเปนหนังสือกตา อผูอนุญาตตามกฎกระทรวงนี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ ใน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กรุ ง เทพมหานครให ยื่ น ณ กองการประกอบโรคศิ ล ปะ สํ า นั ก งานปลั ด กระทรวง กระทรวง
สาธารณสุข หรืสําอนัสถานที ่อื่นที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ขสํประกาศกํ าหนด สําหรับจักงาหวัดอื่น ใหยื่น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ณ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดที่สถานพยาบาลนั้นตั้งอยู
การยื่นคําขอหรือสํการแจ
ษฎีกา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งเปนหนังสือตอผูอนุญาตตามกฎกระทรวงนี ้ หากไม
สามารถมายื่นสํคํานัากขอหรื อหนังสือแจงไดดกวา ยตนเอง ใหสํทาํานัหนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี งสือมอบอํานาจใหผกูอา ื่นมายื่นคําขอ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือหนังสือแจงแทนและในการมายื่นคําขอหรือหนังสือแจงแทน ใหผูรับมอบอํานาจนําสําเนา
บัตรประจําตัวประชาชนของผู
นคณะกรรมการกฤษฎี กา รับมอบอํ านาจมาแสดงตอเจาหน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาที่ผูรับคําขอหรื
สํานัอกหนั งสือแจงดวย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

หมวด ๒
การอนุมัติแผนงานการจัดตัง้ สถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สวนที่ ๑

ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๑๙/ตอนที่ ๘๒ ก/หนา ๓/๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๕

๓๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


สถานพยาบาลประเภทที ่ไมรับผูปวยไว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา คา งคืน

ขอ ๓ ผูใดประสงคจะประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทที่ไมรับผูปวยไว
คางคืน ใหยื่นคําขออนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มัติแผนงานการจั ดตั้งสถานพยาบาลตามแบบที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ปลัดสํกระทรวงสาธารณสุ ข กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา พรอมดวยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไวในแบบคําขอ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัก่ปงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ขกําหนดโดย

กฎกระทรวง
ดังกลาว และแผนงานการจั ดตั้งสถานพยาบาลตามแบบที ลัดกระทรวงสาธารณสุ
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาตอผูอนุญาตกอนยื่นคําขอรับใบอนุญาต

ขอ ๔ ในการพิจารณาอนุมัติ แผนงานการจัด ตั้งสถานพยาบาล ผูอนุ ญาตจะ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนุมัติไดตอเมื่อพิจารณาแลวเห็นวา
(๑)กา ผูขออนุมัติแสํผนงานการจั
ษฎี ดตั้งสถานพยาบาลมี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา คุณสมบั
สํานัตกิแงานคณะกรรมการกฤษฎี
ละไมมีลักษณะ กา
ตองหามตามมาตรา ๑๗ แหงพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
สํานั(๒)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลเปนกไปตามลัา สํานั่กกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
กษณะที หนดในกฎกระทรวงทีกา่ออกตามความ
ในมาตรา ๑๔ วรรคสอง แหงพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และจะมีผูประกอบ
นคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วิชาชีพเปนผูใหบริการตลอดเวลาเปดทําการตรงตามวิชาชีพและจํานวนที่กาํ หนดในกฎกระทรวงที่
ออกตามความในมาตรา ๑๘ (๔) แหงพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติสสํถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สวนที่ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคา งคืน

ขอก๕า ผูใดประสงค
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัจกะประกอบกิ จการสถานพยาบาลประเภทที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่รับผูปวยไวคาง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
คืน ใหยื่นคําขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
กําหนดโดยประกาศในราชกิ จจานุเบกษากา พรอมดวยเอกสารหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กฐานตามที่ระบุกไวา ในแบบคําขอ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดังกลาว และแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกําหนดโดย
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตอผูสํอานุนักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
นคณะกรรมการกฤษฎีกา กา
าตกอนยื่นคําขอรับใบอนุ ญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๖ เมื่อไดรับคําขออนุมัติและแผนงานการจั ดตั้งสถานพยาบาลตามขอ ๕
แลว ใหผูอนุญาตสกงาใหคณะกรรมการสถานพยาบาลพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี จารณาเสนอความเห็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานันกเพื ่อประกอบการ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
พิจารณาอนุมัติ

ขอ ๗ ในการพิจารณาอนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล ผูอนุญาตจะ


อนุมัติไดตอเมื่อพิจารณาแล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วเห็นวสํา นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ผูขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลมีคุณสมบัติและไมมีลักษณะ
สํ
ตองหามตามมาตรา านั กงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๗ แหงพระราชบัญกาญัติสถานพยาบาลสํานักงานคณะกรรมก
พ.ศ. ๒๕๔๑
(๒) บริ ก ารนั้ นสํเหมาะสมกั
ษฎีกา
บ ความต อ งการของประชาชนในเขตพื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้ น ที่ แ ละ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓๓


เหมาะสมกับสภาวะการเจ็
นคณะกรรมการกฤษฎี กา บปวยของประชาชนในเขตพื ้นที่นั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๓) แผนการลงทุนเหมาะสมกับขนาดและประเภทของบริการ
สํานั(๔)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แบบแปลนของสถานพยาบาลเป นสํไปตามลั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กษณะที่กําหนดในกฎกระทรวงที ่
ออกตามความในมาตรา ๑๔ วรรคสอง แหงพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) มีผูประกอบวิชาชีพเปนผูใหบริการตลอดเวลาเปดทําการตรงตามวิชาชีพ
และจํานวนทีสํ่กาํานัหนดในกฎกระทรวงที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี่อกอกตามความในมาตรา
า ๑๘ (๔) แหงพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติ
กฎกระทรวง

สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑

ขอ ๘ เมื่อผูอนุญาตอนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลแลว ใหปดประกาศ


สํานักจงานคณะกรรมการกฤษฎี
รายชื่อผูประสงค กา
ะประกอบกิจการสถานพยาบาล สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานที ่ตั้ง ประเภท ลักษณะกาและขนาดของ
สถานพยาบาลไวในที่เปดเผยและมองเห็นไดงาย รวมทั้งจัดทําเอกสาร หรือแผนพับ หรือขอมูล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สารสนเทศ เพื่อใหบริการแกผูรองขอ ณ กองการประกอบโรคศิลปะ สํานักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงสาธารณสุ ข หรือสํานักงานสาธารณสุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ขจังหวัด สํแล
านัวกแต กรณี
งานคณะ

ขอก๙า ใหผูไดรับสํอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล
กา สํจัาดนัทํกงานคณะกรรมการกฤษฎี
าปายขนาดความ กา
กวางไมนอยกวาหนึ่งรอยยี่สิบเซนติเมตร และยาวไมนอยกวาสองรอยสี่สิบเซนติเมตร ติดตั้งไวใน
ที่เปดเผยและเห็
สํานันกได งาย ณ สถานที่ซึ่งไดการับอนุมัติตามแผนงานการจั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ดตั้งสถานพยาบาลดั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งกลาว
โดยระบุประเภท ลักษณะ และขนาดของสถานพยาบาลที่จะจัดตั้ง พรอมทั้งวัน เดือน ป ที่ไดรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อนุมัติไวในปายดวยกา
สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๐ ใหผูไดรับอนุมกัตา ิแผนงานการจั
สํานัดกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตั้งสถานพยาบาลดําเนิกานการกอสราง
อาคารสถานที่ตามแผนงานดั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งกลาสํวให
านักแงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลวเสร็จภายในเวลาทีก่กาําหนดไวในแผนงานนั ้น และหากยัง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไมแลวเสร็จใหผูไดรับอนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลดังกลาวรายงานความกาวหนาของ
การกอสรางอาคารสถานที ่ตอผูอนุญาตเปกนา ระยะทุกเดือสํนานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กรณีที่ไมสามารถกอสรางอาคารสถานที่ใหแลวเสร็จไดภายในกําหนดระยะเวลา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สามปนับแตวันที่ไดกราับอนุมัติ ถาผูสําไนัดกรงานคณะกรรมการกฤษฎี
ับอนุมัติแผนงานการจักาดตั้งสถานพยาบาลผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นยังมีความ กา
ประสงคจะประกอบกิจการสถานพยาบาลอีก ใหยื่นคําขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใหม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓
การขอ การออกใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตและการกํ าหนดเงื่อนไข
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

ขอ ๑๑ ผูใดประสงคจะขอรับใบอนุญาต ใหยื่นคําขอตามแบบที่ปลัดกระทรวง


สาธารณสุขกําสํหนดโดยประกาศในราชกิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกจาจานุเบกษา พร
สํานัอกมด วยเอกสารหลักฐานตามที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ระบุไวใน
แบบคําขอดังกลาวและหนังสือแสดงความจํานงเปนผูปฏิบัติงานในสถานพยาบาลของผูประกอบ
นคณะกรรมการกฤษฎี
วิชาชีพตามแบบที่ปกลัาดกระทรวงสาธารณสุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ขกําหนดโดยประกาศในราชกิ สํานัเกบกษา
จจานุ งานคณะกรรมการก
พรอมดวย

๓๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เอกสารหลักฐานตามที
นคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ระบุไวในแบบหนั งสือนั้น
สํานักงานคณะก

สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๒ เมื่อกองการประกอบโรคศิ
กา สํลาปะ สํ านั กงานปลัดกระทรวง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กระทรวง
สาธารณสุข หรือสถานที่อื่นที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขประกาศกําหนด หรือสํานักงานสาธารณสุข
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได รั บ คํ า ขอรั
จั ง หวั ด แล ว แต ก รณี สํานับกใบอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญ าตพร อ มด ว ยเอกสารและหลั ฐานตามข อ ๑๑ กา
ครบถวนและถูกตองแลว ใหเสนอเรื่องตอคณะกรรมการเพื่อเสนอความเห็นตอผูอนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

กฎกระทรวง
ในการพิจารณาเสนอความเห็นของคณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง ใหพิจารณาวาผู
ขอรับใบอนุญาตไดกจาัดใหมีกรณีตามมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๑๘ แหงพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
โดยถูกตองครบถวนแลวหรือไม

ขอ ๑๓ ใบอนุญาตใหเปนไปตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกําหนดโดย
นคณะกรรมการกฤษฎี กา เบกษา
ประกาศในราชกิจจานุ
สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๔ ในการออกใบอนุ กา ญาต ใหผูอสํนุาญ
นักาตมอบสมุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ดทะเบียนสถานพยาบาลให
ผูรับอนุญาตเก็บไวเปนหลักฐานเพื่อใหพนักงานเจาหนาที่หรือผูอนุญาตตรวจสอบ
ษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมุดทะเบียนสถานพยาบาลตามวรรคหนึ่ง อยางนอยตองมีรายการดังตอไปนี้
สํานั(๑) สําเนาใบอนุญาตใหกปา ระกอบกิจการสถานพยาบาล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) บริการที่ไดรบั อนุญาต
(๓)กาการโอนใบอนุ
ษฎี สําญ
นักาตให ประกอบกิจการสถานพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๔) การแสดงความจํานงเปนผูรับอนุญาตแทนกรณีผูรับอนุญาตตาย
สํานั(๕)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
รายการการชําระคากธรรมเนี
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยมการประกอบกิ จการสถานพยาบาลรายป กา
(๖)กาการตออายุใสํบอนุ
ษฎี านักญ าตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) การออกใบแทนใบอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล
สํานั(๘) รายชื่อผูประกอบวิกชาาชีพที่ปฏิบัตสํิงานประจํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี าสถานพยาบาล กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๙) รายการแกไขเปลี่ยนแปลงใบอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล
ษฎี
(๑๐)กา บันทึกการตรวจสอบสถานพยาบาลของพนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานเจาหน สํานัากทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ กา
(๑๑) สําเนาใบอนุญาตใหดําเนินการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๒) การตออายุใบอนุญาตใหดําเนินการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑๓)
กา การออกใบแทนใบอนุ ญาตใหดําเนินการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๔) รายการแกไขเปลี่ยนแปลงใบอนุญาตใหดําเนินการสถานพยาบาล
สํานัสมุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ด ทะเบี ย นสถานพยาบาลให เ ป นสํไปตามแบบที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
่ ป ลั ด กระทรวงสาธารณสุ ข
กําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ขอ ๑๕ กรณีที่มีการแกไขเปลี่ยนแปลงรายการตามขอ ๑๔ ใหบันทึกลงในสมุด


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทะเบี ย นสถานพยาบาล หากสมุ ด ทะเบี ย นสถานพยาบาลหมดเนื้ อ ที่ ที่ จ ะบั น ทึ ก รายการที่
เปลี่ยนแปลงหรือที่เกพิา่มขึ้นใหนําไปบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานันกทึงานคณะกรรมการกฤษฎี
กไวในสมุดทะเบียนสถานพยาบาลเล
กา สํมานัใหม
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓๕


ข อกา๑๖ ผู รั บ อนุสํญ
ษฎี านัาตจะต อ งแสดงสมุ ด ทะเบี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ย นสถานพยาบาลแก พ นั ก งาน
สํานักงานคณะกรรมการก
เจาหนาที่ที่เขาไปตรวจสอบสถานพยาบาลหรือเมื่อไดรับการรองขอโดยใหบันทึกวันเวลาและ
ขอเสนอแนะของพนัสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดทะเบียนสถานพยาบาลด
กงานเจาหนาที่ไวในสมุ สํานักงานคณะกรรม
วย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ข อกา๑๗ ในกรณี
สํานัสกมุงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ด ทะเบี ย นสถานพยาบาลสู สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญ หายหรื อ ถู ก ทํ า ลายใน กา
สาระสํ า คั ญ ให ผู รั บ อนุ ญ าตแจ ง ต อ ผู อ นุ ญ าตเพื่ อ ขอรั บ สมุ ด ทะเบี ย นสถานพยาบาล ตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎกระทรวง

หลักเกณฑและเงื่อนไขที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ขอ ๑๘ ผูรับอนุญาตที่ประสงคจะแกไขเปลี่ยนแปลงรายการที่ไดรับอนุญาตไว
แลวในกรณีดังสํตานัอกไปนี ้ ใหยื่นคําขอตามแบบที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ปลัดกระทรวงสาธารณสุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีขกําหนดโดยประกาศในราช
กา
กิจจานุเบกษาพรอมดวยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไวในคําขอนั้น
ษฎี
(๑)กาเมื่อมีการเปลีสํา่ยนันตักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
วผูประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล สํานัและผู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
รับอนุญาตได กา
แจงเปนหนังสือใหผูอนุญาตทราบแลวตามมาตรา ๔๒ แหงพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.
๒๕๔๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒)กา เมื่อไดรับอนุสํญ านัาตจากผู อนุญาตใหเปลีก่ยานชื่อสถานพยาบาลตามมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๔๓ กา
แหงพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
สํานั(๓) เมื่อมีการเปลี่ยนชื่อกตัา ว ชื่อสกุลของผู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักรงานคณะกรรมการกฤษฎี
ับอนุญาต กา
(๔) เมื่อมีการเปลี่ยนชื่อที่ตั้งสถานพยาบาล
ษฎี
(๕)กาเมื่อมีการเปลีสํา่ยนันแปลงเวลาทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
าการ กา
สํานัการยื ่นคําขอแกไขเปลี่ยกนแปลงรายการตาม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า (๑) หรือ (๒) ใหยกื่นาพรอมการแจง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การเปลี่ยนตัวผูประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลหรือการขออนุญาตเปลี่ยนชื่อสถานพยาบาล
แลวแตกรณี การแกกไาขเปลี่ยนแปลงรายการตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) ใหผูอกนุา ญาตบันทึกการเปลี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ยนแปลงไวใน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สมุดทะเบียนสถานพยาบาลและระบุวัน เดือน ป ที่บันทึกการเปลี่ยนแปลงดังกลาวไวดวย
สํานัการแก
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไขเปลี่ยนแปลงรายการตาม (๒)สํานั(๓)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๔) หรือ (๕) ใหผกูอานุญาตออกใบ
แทนใบอนุญาตโดยออกใบอนุญาตใหมตามใบอนุญาตเดิม เวนแตรายการที่ผูรับอนุญาตขอแกไข
นคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เปลี่ยนแปลงใหแกไขเปลี่ยนแปลงไปตามนั้น และใหกํากับคําวา “ใบแทน” ไวที่ดานหนาซาย และ
ระบุ วั น เดื อ นสํานัปกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ อ อกใบแทนใบอนุ ญกาาตไว ดว ย พร สําอนักมทั ้ ง บั น ทึ ก การเปลี่ ย นแปลงไว
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ใ นสมุ
ทะเบียนสถานพยาบาล สําหรับใบอนุญาตเดิมใหประทับตรายกเลิกการใชดวยอักษรสีแดง
ษฎี กา ไขเปลี่ยนแปลงรายการชื
การแก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
่อที่ตั้งสถานพยาบาล ผูรสํับานัอนุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญาตไมตองเสีย กา
คาธรรมเนียมในการแกไขเปลี่ยนแปลง

หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การขอตออายุใบอนุญาตและการอนุญาต

ขอ ๑๙ ผูรับอนุญาตที่ประสงคจะขอตออายุใบอนุญาต ใหยื่นคําขอตามแบบที่


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา พรอมดวยเอกสารหลักฐาน

๓๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ตามที่ระบุไวในแบบคํ
นคณะกรรมการกฤษฎี กาาขอนั้น กอนใบอนุ ญาตสิ้นอายุ
สํานักงานคณะกรรมก
การพิ จ ารณาต อ อายุ ใ บอนุ ญ าต ผู อ นุ ญ าตต อ งจั ด ให มี ก ารตรวจสอบ
สํานักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลให ปนไปตามกฎหมายวกาดา วยสถานพยาบาล สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หากพบวามีการแกกไขเปลี
า ่ยนแปลง
การบริการแตกตางไปจากที่กําหนดไวในกฎหมาย ใหสถานพยาบาลดําเนินการใหถูกตองกอนการ
ตออายุใบอนุญาต
สํานัการอนุ ญาตใหตออายุใบอนุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาต ใหผสํูอานุนัญาตออกใบอนุญาตใหใกหม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า โดยใหระบุ

กฎกระทรวง
เลขที่ใบอนุญาตเดิมไวดวย และใหบันทึกการตออายุใบอนุญาตไวในสมุดทะเบียนสถานพยาบาล
นคณะกรรมการกฤษฎี
สําหรับใบอนุญาตเดิกมา ที่หมดอายุแสํลาวนันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใหประทับตรายกเลิกกาการใชดวยอักสํษรสี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แดง กา

สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๐ ผูรับอนุญาตที่ไกมาไดมายื่นคําขอต
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตสิน
อายุใบอนุญาตกอนใบอนุ ้ อายุ
หรือ ไดมายื่ น คํา ขอต ออายุ ใบอนุ ญาตก อ นใบอนุ ญาตสิ้ น อายุแ ตไม ไ ด รับการพิจารณาต อ อายุ
นคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใบอนุ ญ าตให ถื อ ว า ใบอนุ ญ าตนั้ น สิ้ น สุ ด ลง หากผู รั บ อนุ ญ าตประสงค จ ะประกอบกิ จ การ
สถานพยาบาลนั อไป จะตองยื่นคําขอรักบา ใบอนุญาตใหม
สํานั้นกตงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมวด ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การชําระคาธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานพยาบาลรายป

ข อกา๒๑ ผู รั บ อนุสําญนัาตต


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อ งยื่ น คํ า ขอชํ า ระคกาา ธรรมเนี ย มการประกอบกิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี จ การ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลรายปภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคมของทุกป เวนแตกรณีไดรบั ยกเวนคาธรรมเนียมตาม
กฎกระทรวงกํสําาหนดค าธรรมเนียมที่ออกตามความในพระราชบั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติสถานพยาบาลกา พ.ศ. ๒๕๔๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กรณีผูรับอนุญาตมิไดชําระคาธรรมเนียมภายในเวลาที่กําหนดตามวรรคหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะตองชําระเงินเพิ่มอีกรอยละหาสํตาอนัเดื
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อน การคํานวณเงินเพิ่มใหคํานวณตามจํ านวนเดือนที่ยัง
ไมไดชาํ ระเศษของเดื อนใหคิดเปนหนึ่งเดืกอา น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ข อกา๒๒ ใหพนั กสํางานเจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า หน า ที่ ซึ่ งรั บ ชํ า ระค
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า ธรรมเนี ย มการประกอบกิ จการ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลรายป อ อกหลั ก ฐานการชํ า ระค า ธรรมเนี ย มให แ ก ผู รั บ อนุ ญ าตตามแบบที่
ปลั ด กระทรวงสาธารณสุ ข กํ า หนดโดยประกาศในราชกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จ จานุ เ บกษา และบักนา ทึ ก การชํ า ระ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
คาธรรมเนียมนั้น และเงิ นเพิ่ม (ถา มี) ไว ในสมุดทะเบียนสถานพยาบาลทุกครั้งที่มีการชําระ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
คาธรรมเนียม กา

สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๓ ผูรับอนุญาตตกอา งแสดงหลักสํฐานการชํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระคาธรรมเนียกมการประกอบ

กิจการสถานพยาบาลรายป ณ สถานพยาบาล โดยปดไวในที่เปดเผยและเห็นไดชัดเจนบริเวณ
นคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทางเขาสถานพยาบาล

หมวด ๖
การขอโอนใบอนุ ญาตและการอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาญาต

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓๗


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๒๔๒ ผูรับอนุญาตทีก่ปา ระสงคจะโอนใบอนุ


สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี ญาตใหแกบุคคลอื่นกาซึ่งมีคุณสมบัติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
และไมมีลกั ษณะตองหามตามมาตรา ๑๗ ใหยื่นคําขอตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา พร อมดวยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไวในคํ าขอนั้น
สํานัการอนุ ญ าตให โ อนใบอนุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญ าต ให ผสํู อานุนัญ าตออกใบแทนใบอนุกาญ าตโดยออก
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
กฎกระทรวง

ใบอนุญาตใหมตามใบอนุญาตเดิม เวนแตรายการชื่อตัว ชื่อสกุลของผูโอนใหเปลี่ยนแปลงแกไข


เปนชื่อตัว ชื่อสกุลของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา รับโอน และให กํากับคําวา “ใบแทน”
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ไวที่ดานหน
สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ซาย และระบุวัน กา
เดือน ป ที่ออกใบแทนใบอนุญาตไวดวย พรอมทั้งบันทึกการเปลี่ยนแปลงแกไขไวในสมุดทะเบียน
สถานพยาบาลสําสํนัากหรังานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บใบอนุญาตเดิมใหประทับตรายกเลิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กการใชดวยอักษรสีแดง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ใหกยากเวนคาธรรมเนี
สํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
มการเปลี่ยนแปลงแกกไาขในใบอนุญาตเกี สํานัก่ยงานคณะกรรมการกฤษฎี
วกับรายการ ชื่อ กา
ตัว ชื่อสกุลของผูโอนตามวรรคสอง

หมวด ๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การแสดงความจํ านงขอเปนผูรับอนุกญา าตแทน
กรณีผูรับอนุญาตตายและการตรวจสอบ
รมการกฤษฎีกา

ขอ ๒๕๓ ผูใดประสงคจะประกอบกิจการสถานพยาบาลแทนกรณีผูรับอนุญาต


ตายใหยื่นหนัสํงาสืนัอกแสดงความจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎีานงตอผูอกานุญาตตามแบบที สํานัก่ปงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลัดกระทรวงสาธารณสุ กา ขกําหนดโดย
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา พรอมดวยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไวในแบบหนังสือนั้น เพื่อขอ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกอบกิจการที่ผูตายไดรับอนุญสําตนั านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้นตอไป ภายในสามสิบวันนับแตวันทีสํ่ผาูรนัับกอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญาตตาย
สํานัเมื ่ อ ผู อ นุ ญ าตตรวจสอบแล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ว พบว าสํผูา แนัสดงความจํ า นงมี คุ ณ สมบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ติ แ ละไม มี
ลักษณะตองหามตามมาตรา ๑๗ ใหผูอนุญาตออกใบแทนใบอนุญาตโดยออกใบอนุญาตใหมตาม
ใบอนุญาตเดิม เวนกแต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า รายการชื่อตัสําวนัชืกงานคณะกรรมการกฤษฎี
่อสกุลของผูรับอนุญาตเดิ กา มใหเปลี่ยนแปลงแก ไขเปนชื่อตัว กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชื่อสกุลของผูแสดงความจํานงเพื่อขอประกอบกิจการแทน และใหกํากับคําวา “ใบแทน” ไวที่
ดานหนาซายสํและระบุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
วัน เดือน ป ที่อกอกใบแทนใบอนุ
า สํานัญ กงานคณะกรรมการกฤษฎี
าตไวดวย สําหรับใบอนุกา ญาตเดิมให
ประทับตรายกเลิกการใช
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดวยอักษรสี สํานัแกดงพร อมทั้งบันทึกการเปลี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ยนแปลงแกสําไนัขไว ในสมุดทะเบียน กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลวาผูแสดงความจํานงเปนผูรับอนุญาตตั้งแตวันที่ผูรับอนุญาตตาย
ใหยกเวนคาธรรมเนี ยมการเปลี่ยนแปลงแก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ไขในใบอนุญ สําาตเกี ่ยวกับรายการ ชื่อตัวกชืา ่อสกุลของ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผูรับอนุญาตเดิมตามวรรคสอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ขอ ๒๔ แกไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงวาดวยการประกอบกิจการสถานพยาบาล (ฉบับที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒) พ.ศ. ๒๕๕๐

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีขกอา ๒๕ แกไขเพิสํ่มาเตินัมกงานคณะกรรมการกฤษฎี
โดยกฎกระทรวงวาดวยการประกอบกิ
กา จการสถานพยาบาล (ฉบับที่ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒) พ.ศ. ๒๕๕๐

๓๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๘
การขอและการออกใบแทนใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา

ขอ ๒๖ กรณีใบอนุญาตสูญหายหรือถูกทําลายในสาระสําคัญ ใหผูรับอนุญาต


แจงตอผูอนุญสําตและยื ่นคําขอรับใบแทนใบอนุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตตามแบบที ่ปลัดกระทรวงสาธารณสุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ขกําหนด

กฎกระทรวง
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาพรอมดวยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไวในแบบคําขอนั้น ภายใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สามสิบวันนับแตวันกทีา่ไดทราบการสูสําญนัหายหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อถูกทําลายดังกลกาาว
การพิ จ ารณาออกใบแทนใบอนุ ญ าต ให ผู อ นุ ญ าตออกใบอนุ ญ าตใหม ต าม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใบอนุญาตเดิมโดยใหกํากับคําวา “ใบแทน” ไวที่ดานหนาซาย และระบุวัน เดือน ป ที่ออกใบแทน
ใบอนุญาตไวดวย พร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อมทั้งบันทึกสําการออกใบแทนใบอนุ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญาตไว
กา ในสมุดทะเบีสํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
นสถานพยาบาล กา
ดวย

หมวด ๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การขอและการอนุ สํานักเปลี
ญาตให งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการสถานพยาบาล
่ยนแปลงการประกอบกิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ขอ ๒๗ การเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาลจากประเภทที่ไมรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผูปวยไวคางคืนเปนกการประกอบกิ
า สํจาการของสถานพยาบาลประเภทที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ่รับผูปวสํยไว
านักคงานคณะกรรมการกฤษฎี
างคืนไมสามารถ กา
กระทําได

ข อ ๒๘ ผู รั บ อนุ ญ าตที่ ป ระสงค จ ะเปลี่ ย นแปลงการประกอบกิ จ การ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สถานพยาบาลใหแตกตางไปจากที่ระบุไวในใบอนุญาต หรือกอสรางอาคารขึ้นใหม หรือดัดแปลง
อาคารเกินกวสําาทีนั่ไกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
รับอนุญาตไวเดิม ในกรณี กา ใดกรณีหสํนึานั่งหรื อหลายกรณีดังตอไปนี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้ ใหกระทําได
เมื่อไดรับอนุญาตจากผูอนุญาต
(๑)กาการลดหรือเพิ
ษฎี สํา่มนักแผนกบริ การ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๒) การลดหรื อ เพิ่ ม จํ า นวนเตี ย งรั บ บริ ก ารในแผนกผู ป ว ยในหรื อ แผนก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผูปวยหนัก
(๓)กาการลดหรือเพิ
ษฎี สํานั่มกจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านวนหองผาตัดหรือหกอางคลอด
(๔) การเปลี่ยนลักษณะของสถานพยาบาลจากที่ไดรับอนุญาตไวแลว
สํานั(๕) การเปลี่ยนลักษณะการใช
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สอยอาคาร โดยการยายสถานที่หรืกอา แผนกบริการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ภายในอาคารจากผังเดิมที่ไดรบั อนุญาตไวแลว
ษฎี
(๖)กาการเพิ่มหรือสํลดอุานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ปกรณ เชน เครื่องเอกซเรย สํานัมกอาร
เครื่องเอ็ งานคณะกรรมการกฤษฎี
ไอ เครื่องฉาย กา
รังสี หรือเครื่องฟอกบําบัดโลหิต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) การกอสรางอาคารขึ้นใหมที่ต องไดรับ อนุญาตตามกฎหมายวา ดวยการ
ควบคุมอาคาร กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓๙


(๘)กาการกอสรางอาคารขึ
ษฎี ้นใหมที่ทําใหตองเปลี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ยนแปลงการประกอบกิ จการอยาง
สํานักงานคณะกรรมการก
ใดอยางหนึ่งหรือหลายอยางตาม (๑) ถึง (๖)
สํานั(๙)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กอใหเกิดสํผลกระทบต
การดัดแปลงอาคารที านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อการบริการผูกปาวยในระหวาง
การดําเนินการดัดแปลงนั้น
(๑๐) การดัดแปลงอาคารที่ทําใหตองเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการอยางใด
อยางหนึ่งหรือสํหลายอย างตาม (๑) ถึง (๖)
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กฎกระทรวง

ขอก๒๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า การขออนุ
สํานัญกาตเปลี ่ยนแปลงการประกอบกิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการสถานพยาบาลตามข อ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๘ ใหยื่นคําขอตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พรอมดวยเอกสารหลั กฐานตามที่ระบุไวใกนแบบคํ
า าขอนัสํ้นา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขอก๓๐
า การขออนุ
สํานัมกัตงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิแผนงานการเปลี่ยนแปลงการประกอบกิ จการ ใหเปนไป กา
ตามที่กําหนดไวในหมวด ๒ โดยอนุโลม

ข อ ๓๑ การพิ จ ารณาอนุ ญ าตให เ ปลี่ ย นแปลงการประกอบกิ จ การของ


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สถานพยาบาลตามคํ า ขอของผู รั บ อนุ ญ าตตามข อ ๒๙ ผู อ นุ ญ าตต อ งจั ด ให มี ก ารตรวจ
สถานพยาบาลให
สํานักเปงานคณะกรรมการกฤษฎี
นไปตามมาตรา ๑๘ กแห า งพระราชบัสํญาญั
นักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิสถานพยาบาล พ.ศ. ก๒๕๔๑

ขอก๓๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า การอนุญ
สําาตให เปลี่ยนแปลงการประกอบกิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการสถานพยาบาล ซึ่งเปน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การเปลี่ยนแปลงลักษณะของสถานพยาบาล หรือกอสรางอาคารขึ้นใหม หรือดัดแปลงอาคารเกิน
กวาที่ไดรับอนุสํญานัาตไว เดิมและเปนเหตุใหกเาพิ่มหรือลดจํสําานวนเตี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ยงหรือเปนการเพิ่มกาหรือลดบริการ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใหผูอนุญาตออกใบอนุญาตใหใหมโดยกําหนดวันหมดอายุใบอนุญาตใหเปนไปตามใบอนุญาต
นคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เดิม และใหบันทึกการเปลี่ยนแปลงการประกอบกิ จการดังกลาว รวมทัง้ การเพิ ่มหรือลดจํานวนผู
ประกอบวิชาชีสํพานัไว ในสมุดทะเบียนสถานพยาบาล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําหรัสําบนัใบอนุ ญาตเดิมใหประทับกาตรายกเลิกการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใชดวยอักษรสีแดง

ขอ ๓๓ การอนุญาตใหเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาลซึ่งเปน
การกอสรางอาคารขึ ้นใหมหรือดัดแปลงอาคารเกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นกวาสํทีานั่ไกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
รับอนุญาตไวเดิมโดยไม
กา เปนการเพิ่ม
หรือลดจํานวนเตียงใหผูอนุญาตบันทึกการเปลี่ยนแปลงดังกลาวไวในสมุดทะเบียนสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดวย กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๑๐
การแจงและจัดทํารายงานเมื่อและเลิกกิจการสถานพยาบาล
ีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๓๔ ผูรับอนุญาตทีก่ปาระสงคจะเลิกสํกิานัจกการสถานพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ใหกแาจงเปนหนังสือ
ตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุสําขนักํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หนดโดยประกาศในราชกิ
กา
จจานุเบกษา ใหผูอนุญาตทราบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๔๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ลวงหนาไมนอยกวากสิาบหาวัน
นคณะกรรมการกฤษฎี
ใหสถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคางคืนจัดทํารายงานในการดําเนินการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดังตอไปนี้ เสนอพร อมหนังสือแจงตามวรรคหนึ กา ่ง
(๑) รายงานยอดผูปวยที่ยังคงคางอยูในสถานพยาบาล และแผนการดําเนินการ
ตอผูปวยที่ยังคงคางหลังจากการเลิกกิจการ
สํานั(๒) การประกาศในหนักางสือพิมพไมสํนาอนัยกว
กงานคณะกรรมการกฤษฎี าสองฉบับ หรือสื่อกอืา่น ๆ เปนเวลา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

กฎกระทรวง
ไมนอยกวาสามวันเพื่อใหผูปวยที่เคยรับการรักษาพยาบาลในระยะเวลาหาปกอนเลิกกิจการได
นคณะกรรมการกฤษฎี
ทราบและมาติดตอกขอรั า บเวชระเบีสํยานนักฟงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลมเอกซเรย และอื่นกาๆ ภายในกําหนดระยะเวลาไม เกิน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สองเดือนหลังจากวันแจงเลิกกิจการสถานพยาบาลนั้น โดยในประกาศดังกลาวตองระบุสถานที่ที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะใหผู ปวยมาติด ตอขอรับเอกสารดั งกลา วใหชัด เจนไมวาจะเป น ณ สถานพยาบาลนั้ น หรื อ
สถานที่อื่น
นคณะกรรม
(๓) การจําหนายเวชระเบียน ฟลมเอกซเรย และอื่น ๆ ที่ไมมีผูมาขอรับตาม
(๒) โดยมอบให สํานัสกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถานพยาบาลที่อยูใกลกเาคียงซึ่งยินดีจสํะรัานับกมอบ ถาไมมีสถานพยาบาลใดยิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นดีรับ
มอบใหมอบใหแกสถานพยาบาลของรัฐที่อยูในอําเภอหรือเขตพื้นที่นั้น
ษฎี
ใหกผาูรับอนุญาตสสํงาคืนันกใบอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ญาตใหประกอบกิ กาจการสถานพยาบาล ใบอนุญาตให กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดําเนินการสถานพยาบาล และสมุดทะเบียนสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาพรอมกับหนังสือแจงตามวรรคหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดวย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทเฉพาะกาล

ขอก๓๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ใหสถานพยาบาลทั นตกรรม ชั้นสอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา และสถานพยาบาลการผดุ งครรภ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ไดรับอนุญาตใหประกอบกิจการไดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ อยูในวันที่
กฎกระทรวงนีสํา้ปนัระกาศในราชกิ จจานุเบกษา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยังคงประกอบกิ จการตอไปไดจนกว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาผูดําเนินการ
สถานพยาบาลนั้นขอเลิกดําเนินการสถานพยาบาล

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีให
กา ไว ณ วันที่ ๒๕
สํานักกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๕กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
สุดารัตน เกยุราพันธุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รัฐมนตรีวาการกระทรวงสาธารณสุสํานัขกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๔๑


หมายเหตุ :- เหตุผกลในการประกาศใช
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า กฎกระทรวงฉบับนี้ คือกาโดยที่มาตราสํ๑๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี วรรคสอง มาตรา กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๘ (๑) มาตรา ๑๙ วรรคสาม มาตรา ๒๐ มาตรา ๒๑ วรรคสอง มาตรา ๒๒ วรรคสอง มาตรา
๓๐ วรรคสองสํามาตรานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
๔๐ วรรคสอง และมาตรา ๔๔สํแห
านักงงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.
๒๕๔๑ บัญญัติใหการอนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล การขอและการออกใบอนุญาตการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกอบกิจการสถานพยาบาล การขอตออายุใบอนุญาตและการอนุญาต การชําระคาธรรมเนียม
การประกอบกิสําจนัการสถานพยาบาลรายป
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกาการขอโอนใบอนุ สํานักญ าตและการอนุญาต กการแสดงความ
งานคณะกรรมการกฤษฎี า
กฎกระทรวง

จํานงขอเปนผูรับอนุญาตแทนกรณีผูรับอนุญาตตายและการตรวจสอบ การขอและการออกใบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แทนใบอนุญาต การขอและการอนุ สําญนักาตให
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เปลี่ยนแปลง การประกอบกิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จการสถานพยาบาล การ กา
แจงและจัดทํารายงานเมื่อจะเลิกกิจการสถานพยาบาลตองเปนไปตามหลักเกณฑ วิธีการ และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง จึงจําเปนตองออกกฎกระทรวงนี้

๔๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม



กฎกระทรวงวาดวยการประกอบกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จสํการสถานพยาบาล (ฉบับทีกา่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมายเหตุ :-สําเหตุ ผลในการประกาศใชกกา ฎกระทรวงฉบั


นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
นี้ คือ โดยที่กฎกระทรวงว
กา าดวยการ
ประกอบกิจการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ขอ ๒๔ และขอ ๒๕ ไดกําหนดหลักเกณฑ วิธีการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และเงื่อนไขกรณีการโอนใบอนุ ญสําตและกรณี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การแสดงความจํ กา านงเพื่อขอประกอบกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จการแทน กา
กรณีผูรับอนุญาตตาย ใหออกใบอนุญาตใหใหมและบันทึกไวในสมุดทะเบียนสถานพยาบาล ซึง่ ทํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

กฎกระทรวง
ใหผูรับโอนและผูแสดงความจํานงเพื่อขอประกอบกิจการแทนตองชําระคาธรรมเนียมเหมือนกับ
กรณีการออกใบอนุกญาาตใหม ทั้งทีสํ่เาปนันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สถานพยาบาลเดิม และไดกา ชําระคาธรรมเนี ยมตั้งแตเมื่อมี กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การออกใบอนุ ญ าตครั้ง แรกแล ว จึ งไม เป นธรรมกั บผูรั บ โอน และผูแ สดงความจํ า นงเพื่ อ ขอ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประกอบกิ จ การแทน สมควรแก ไ ขเป นกาการออกใบแทนใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญ าตเดิ ม และบักนาทึ ก ไว ใ นสมุ ด
ทะเบียนสถานพยาบาลเพื่อเปนการคุมครองสิทธิของประชาชนผูใชบริการสถานพยาบาล จึง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จําเปนตองออกกฎกระทรวงนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๒ คําขอโอนใบอนุญาตและหนังสือแสดงความจํานงขอเปนผูรับอนุญาต
แทนกรณีผูรับอนุญกาตตายที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่ไดยื่นสํไวานัแกลงานคณะกรรมการกฤษฎี
วกอนวันที่กฎกระทรวงนี
กา ้ใชบังคับ ให
สํานัถกืองานคณะกรรมการกฤษฎี
วาเปนคําขอและ กา
หนังสือแสดงความจํานงที่ไดยื่นตามกฎกระทรวงนี้แลวแตกรณี โดยอนุโลม

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๒๔/ตอนที่ ๒๗ ก/หนา ๓๘/๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๔๓


กฎกระทรวง
กำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล
พ.ศ. ๒๕๕๘๑

อำศัย อำนำจตำมควำมในมำตรำ ๖ วรรคหนึ่ ง และมำตรำ ๑๔ วรรคสอง แห่ ง


พระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุขออกกฎกระทรวงไว้
กฎกระทรวง

ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้ยกเลิกกฎกระทรวงว่ำด้วยลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะกำร
ให้บริกำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๕

ข้อ ๒ ในกฎกระทรวงนี้
“สถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่ วยไว้ค้ำงคืน ” หมำยควำมว่ำ สถำนพยำบำล
ประเภทคลินิกตำมกฎกระทรวงนี้
“สถำนพยำบำลประเภทที่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ค้ ำงคื น ” หมำยควำมว่ ำ สถำนพยำบำล
ประเภทโรงพยำบำลตำมกฎกระทรวงนี้
“คลินิกเวชกรรม” หมำยควำมว่ำ คลินิกที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพเวชกรรม ซึ่ง
ดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพเวชกรรม
“คลินิกทันตกรรม” หมำยควำมว่ำ คลินิกที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพทันตกรรม
ซึง่ ดำเนินกำรโดยผูป้ ระกอบวิชำชีพทันตกรรม
“คลิ นิ ก กำรพยำบำลและกำรผดุ ง ครรภ์ ” หมำยควำมว่ ำ คลิ นิ ก ที่ จั ด ให้ มี ก ำร
ประกอบวิชำชีพกำรพยำบำล และกำรประกอบวิชำชีพกำรผดุงครรภ์ ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบ
วิชำชีพกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
“คลิ นิ ก กำยภำพบ ำบั ด ” หมำยควำมว่ ำ คลิ นิ ก ที่ จั ด ให้ มี ก ำรประกอบวิ ช ำชี พ
กำยภำพบำบัดซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพกำยภำพบำบัด
“คลิ นิ ก เทคนิ คกำรแพทย์ ” หมำยควำมว่ำ คลิ นิ ก ที่ จั ด ให้ มีก ำรประกอบวิช ำชี พ
เทคนิคกำรแพทย์ ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพเทคนิคกำรแพทย์
“คลินิกกำรแพทย์แผนไทย”๒ หมำยควำมว่ำ คลินิกที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพ
กำรแพทย์แผนไทย ซึง่ ดำเนินกำรโดยผูป้ ระกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทย
“คลินิกกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ”๓ หมำยควำมว่ำ คลินิกที่จัดให้มีกำรประกอบ
วิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์


รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๒/ตอนที่ ๒๖ ก/หน้ำ ๒๓/๒ เมษำยน ๒๕๕๘

ข้อ ๒ นิยำมคำว่ำ “คลินิกกำรแพทย์แผนไทย” แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ
ของสถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

ข้อ ๒ นิยำมคำว่ำ “คลินิกกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์” เพิ่มโดยกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ
ของสถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

๔๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


“คลินิกกำรประกอบโรคศิลปะ” หมำยควำมว่ำ คลินิกที่ จัดให้ มีกำรประกอบโรค
ศิลปะตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรประกอบโรคศิลปะ ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบโรคศิลปะสำขำนั้น ๆ
“คลิ นิ ก เฉพำะทำง” หมำยควำมว่ำ คลิ นิ กที่ จั ด ให้ มี กำรประกอบวิช ำชี พ เฉพำะ
ทำงด้ำนเวชกรรม หรือทันตกรรม หรือกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์ ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบ
วิชำชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบวิชำชีพทันตกรรม หรือผู้ประกอบวิชำชีพกำรพยำบำลและกำรผดุง
ครรภ์ และผู้ประกอบวิชำชีพนั้นต้องได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติจำกแพทยสภำ หรือทันตแพทย
สภำ หรือสภำกำรพยำบำล แล้วแต่กรณี

กฎกระทรวง
“สหคลินิก” หมำยควำมว่ำ คลินิกที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพเวชกรรม ทันตกรรม
กำรพยำบำล กำรผดุงครรภ์ กำยภำพบำบัด เทคนิคกำรแพทย์ กำรแพทย์แผนไทย กำรแพทย์แผน
ไทยประยุก ต์ และกำรประกอบโรคศิล ปะ ตั้งแต่ส องลั กษณะขึ้น ไป ซึ่งดำเนิ น กำรโดยผู้ ป ระกอบ
วิช ำชีพ หรือ ผู้ ป ระกอบโรคศิ ล ปะสำขำใดสำขำหนึ่ ง โดยผู้ ดำเนิ น กำรต้ องเป็ น บุ ค คลที่ ผู้ อ นุ ญ ำต
ประกำศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมกำรสถำนพยำบำล
“โรงพยำบำลทั่วไป” หมำยควำมว่ำ โรงพยำบำลที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพเวช
กรรมในสำขำอำยุรกรรม ศัลยกรรม กุมำรเวชกรรม และสูตินรีเวชกรรม และให้มีกำรประกอบวิชำชีพ
กำรพยำบำล กำรผดุงครรภ์ เภสัชกรรม กำยภำพบำบัด เทคนิคกำรแพทย์ และรังสีเทคนิคเป็นอย่ำง
น้อย โดยอำจจัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพ หรือกำรประกอบโรคศิลปะอื่นร่วมด้วยก็ได้ ซึ่งดำเนินกำร
โดยผู้ประกอบวิชำชีพเวชกรรม
“โรงพยำบำลทันตกรรม” หมำยควำมว่ำ โรงพยำบำลที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพ
ทันตกรรม ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพทันตกรรม
“โรงพยำบำลกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์” หมำยควำมว่ำ โรงพยำบำลที่จัดให้มี
กำรประกอบวิชำชีพกำรพยำบำล และกำรประกอบวิชำชีพกำรผดุงครรภ์ ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบ
วิชำชีพกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
“โรงพยำบำลกำยภำพบ ำบัด ” หมำยควำมว่ำ โรงพยำบำลที่จัดให้มีก ำรประกอบ
วิชำชีพกำยภำพบำบัด ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพกำยภำพบำบัด
“โรงพยำบำลกำรแพทย์แ ผนไทย” ๔ หมำยควำมว่ำ โรงพยำบำลที่จัด ให้มีก ำร
ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยในด้ำนเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย กำรผดุงครรภ์ไทย และ
กำรนวดไทยซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทย
“โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ”๕ หมำยควำมว่ำ โรงพยำบำลที่จัดให้มี
กำรประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทย
ประยุกต์
“โรงพยำบำลเฉพำะทำง” หมำยควำมว่ำ โรงพยำบำลที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพ
เฉพำะทำงด้ำนเวชกรรม ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพเวชกรรม และผู้ประกอบวิชำชีพนั้นต้อง
ได้ รั บ วุ ฒิ บั ต รหรื อ หนั ง สื อ อนุ มั ติ จ ำกแพทยสภำ เช่ น โรงพยำบำลเฉพำะทำงหู ตำ คอ จมู ก
โรงพยำบำลเฉพำะทำงโรคหัวใจ และโรงพยำบำลเฉพำะทำงโรคมะเร็ง เป็นต้น

ข้อ ๒ นิยำมคำว่ำ “โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทย” แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนด
ลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

ข้อ ๒ นิยำมคำว่ำ “โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ” เพิ่มโดยกฎกระทรวงกำหนด
ลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๔๕


“โรงพยำบำลเฉพำะประเภทผู้ ป่ ว ย” หมำยควำมว่ ำ โรงพยำบำลที่ จั ด ให้ มี ก ำร
ประกอบวิชำชีพตำมลักษณะเฉพำะประเภทผู้ป่วย ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพเวชกรรม เช่น
โรงพยำบำลผู้ป่วยเรื้อรัง โรงพยำบำลผู้ป่วยจิตเวช โรงพยำบำลผู้สูงอำยุ โรงพยำบำลแม่และเด็ก และ
โรงพยำบำลบำบัดยำเสพติด เป็นต้น

หมวด ๑
ลักษณะโดยทั่วไปและลักษณะกำรให้บริกำร
กฎกระทรวง

ของสถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน

ข้อ ๓ คลินิกต้องมีลักษณะโดยทั่วไป ดังต่อไปนี้


(๑) ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวก ปลอดภัย และไม่เป็นอันตรำยต่อสุขภำพ
(๒) อำคำรต้องมั่นคงแข็งแรง ไม่อยู่ในสภำพชำรุดและเสี่ยงต่ออันตรำยจำกกำรใช้สอย
(๓) บริเวณทั้งภำยนอกและภำยในต้องสะอำด เป็นระเบียบเรียบร้อย จัดแบ่งพื้นที่
ใช้สอยอย่ำงเหมำะสม และมีสิ่งอำนวยควำมสะดวกแก่ผู้ป่วย
(๔) กำรสัญจรและกำรเคลื่อนย้ำยผู้ป่วยต้องกระทำได้โดยสะดว
(๕) มีห้องตรวจหรือห้องให้กำรรักษำเป็นสัดส่วนและมิดชิด
(๖) มีห้องน้ำห้องส้วมที่ถูกสุขลักษณะอย่ำงน้อยหนึ่งห้อง
(๗) มีแสงสว่ำงและกำรระบำยอำกำศเพียงพอ ไม่มีกลิ่นอับทึบ
(๘) มีระบบกำรเก็บและกำจัดมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลที่เหมำะสม
(๙) มีระบบกำรควบคุมกำรติดเชื้อที่เหมำะสม
(๑๐) กรณีบริกำรเอกซเรย์ กำรบริกำรจะต้องได้มำตรฐำน และได้รับอนุญำตจำก
หน่วยงำนที่รับผิดชอบตำมกฎหมำย หรือหน่วยงำนอื่นที่ได้รับมอบหมำย

ข้อ ๔ คลินิกต้องมีลักษณะกำรให้บริกำร ดังต่อไปนี้


(๑) มีควำมปลอดภัย มีควำมสะดวก และเหมำะสมต่อผู้ให้บริกำรและผู้รับบริกำรใน
กำรประกอบวิชำชีพนั้น
(๒) ได้มำตรฐำนตำมลักษณะวิชำชีพตำมที่สภำวิชำชีพหรือคณะกรรมกำรวิชำชีพ
ประกำศกำหนด แล้วแต่กรณี
(๓) พื้นที่ให้บริกำรจะต้องมีพื้นที่เชื่อมและเปิดติดต่อถึงกันได้ และไม่ตั้งอยู่ในพื้นที่
เดียวกับสถำนที่ขำยยำตำมกฎหมำยว่ำด้วยยำ หรือพื้นที่เดียวกับกำรประกอบอำชีพอื่น
(๔) พื้นที่ให้บริกำรจะต้องไม่ตั้งอยู่ในสถำนที่เดียวกั บสถำนพยำบำลของกระทรวง
ทบวง กรม กรุงเทพมหำนคร เมืองพัทยำ องค์กำรบริหำรส่วนจังหวัด เทศบำล องค์กำรบริหำรส่วน
ตำบล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น และสภำกำชำดไทย ซึ่งให้บริกำรในลักษณะเดียวกัน
(๕) กรณีที่มีกำรให้บริกำรในอำคำรเดียวกับกำรประกอบกิจกำรอื่น จะต้องมีกำร
แบ่งพื้นที่ให้ชัดเจน และกิจกำรอื่นต้องไม่กระทบกระเทือนต่อกำรประกอบวิชำชีพ รวมทั้งสำมำรถ
เคลื่อนย้ำยผู้ป่วยฉุกเฉินได้สะดวก

๔๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(๖) กรณี ที่มีกำรให้ บริกำรของลั กษณะสหคลินิกหรือมีคลินิกหลำยลักษณะอยู่ใน
อำคำรเดียวกัน จะต้องมีกำรแบ่งสัดส่วนพื้นที่ให้ชัดเจน และแต่ละสัดส่วนต้องมีพื้นที่และลักษณะตำม
มำตรฐำนของกำรให้บริกำรนั้น

หมวด ๒
ลักษณะโดยทั่วไปและลักษณะกำรให้บริกำร
ของสถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน

กฎกระทรวง
ข้อ ๕ ให้ โรงพยำบำลมีลักษณะตำมขนำดและจำนวนเตียงที่จัดให้ บริกำรผู้ ป่ว ย
ดังต่อไปนี้
(๑) โรงพยำบำลขนำดใหญ่ ต้องมีจำนวนเตียงที่จัดให้บริกำรผู้ป่วยตั้งแต่เก้ำสิบเอ็ด
เตียงขึ้นไป
(๒) โรงพยำบำลขนำดกลำง ต้องมีจำนวนเตียงที่จัดให้บริกำรผู้ป่วยตั้งแต่สำมสิบเอ็ด
เตียงขึ้นไปแต่ไม่เกินเก้ำสิบเตียง
(๓) โรงพยำบำลขนำดเล็ก ต้องมีจำนวนเตียงที่จัดให้บริกำรผู้ป่วยไม่เกินสำมสิบเตียง

ข้อ ๖ โรงพยำบำล ต้องมีลักษณะโดยทั่วไป ดังต่อไปนี้


(๑) ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวก ปลอดภัย และไม่เป็นอันตรำยต่อสุขภำพ
(๒) โครงสร้ำงของอำคำรต้องไม่ติดกับอำคำรหรือสิ่งปลูกสร้ำงอื่น
(๓) อำคำรที่ให้บริกำรผู้ป่วยตั้งแต่สำมชั้นขึ้นไป จะต้องมีลิฟท์บรรทุกเตียงผู้ป่วย
อย่ำงน้อยหนึ่ งตัว และเพิ่มขึ้น ตำมควำมเหมำะสมของจ ำนวนเตีย ง หรือมีทำงลำดเอียงเพื่อควำม
สะดวกและรวดเร็วในกำรเคลื่อนย้ำยผู้ป่วย
(๔) ทำงสัญจรร่วมในส่วนที่ให้บริกำรผู้ป่วย ซึ่งต้องมีกำรขนส่งผู้ป่วยโดยเตียงเข็น
ต้องกว้ำงไม่น้อยกว่ำสองเมตร ถ้ำมีระดับพื้นสูงต่ำไม่เท่ำกัน ต้องมีทำงลำดเอียงซึ่งมีควำมชันไม่เกิน
สิบห้ำองศำ
(๕) ต้องจัดสถำนที่และอุปกรณ์อำนวยควำมสะดวกที่เหมำะสมกับผู้สูงอำยุ และผู้
พิกำรแต่ละประเภทโดยอย่ำงน้อยต้องมีทำงลำดเอียง รำวเกำะ และห้องน้ำสำหรับผู้พิกำร
(๖) กรณีที่มีกำรจัดสถำนที่เพื่อกิจกำรอื่นซึ่งเป็นกำรอำนวยควำมสะดวกแก่ผู้มำใช้
บริกำร เช่น ร้ำนอำหำร ร้ำนขำยของ ให้กระทำได้โดยอยู่ในขอบเขตที่เหมำะสมและเพียงพอสำหรับ
กำรให้ บ ริ กำรที่ จ ำเป็ น แก่ผู้ ป่ ว ย เจ้ ำหน้ ำที่ และผู้ มำใช้ บ ริกำรของโรงพยำบำลนั้ น ๆ ทั้ งนี้ กำร
จัดบริกำรอื่นดังกล่ำวจะต้องไม่อยู่ในบริเวณแผนกผู้ป่วยใน และแยกเป็นสัดส่วนโดยไม่ปะปนกับกำร
ให้บริกำรในบริเวณแผนกผู้ป่วยนอก

ข้อ ๗ โรงพยำบำล ต้องมีลักษณะกำรให้บริกำร ดังต่อไปนี้


(๑) มีควำมปลอดภัย มีควำมสะดวก และเหมำะสมต่อผู้ให้บริกำรและผู้รับบริกำรใน
กำรประกอบวิชำชีพตำมประเภทและสำขำนั้น

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๔๗


(๒) ได้ ม ำตรฐำนกำรประกอบวิ ช ำชี พ ที่ ส ภำวิ ช ำชี พ หรื อ คณะกรรมกำรวิ ช ำชี พ
ประกำศกำหนด แล้วแต่กรณี
(๓) ได้รับอนุญำตเป็นอำคำรสถำนพยำบำลตำมกฎหมำยว่ำด้วยควบคุมอำคำร
(๔) มีลักษณะถูกสุขลักษณะตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรสำธำรณสุข
(๕) มีลักษณะเป็นไปตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรผังเมือง
(๖) มีรำยงำนกำรวิเครำะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ได้รับควำมเห็นชอบตำมกฎหมำย
ว่ำด้วยกำรส่งเสริมและรักษำคุณภำพสิ่งแวดล้อม
กฎกระทรวง

ข้อ ๘ โรงพยำบำลทั่วไป ต้องประกอบด้วยหน่วยบริกำร และระบบสนับสนุนกำร


ให้บริกำร ดังต่อไปนี้
(๑) แผนกเวชระเบียน
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก
(๓) แผนกผู้ป่วยใน
(๔) แผนกผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๕) แผนกเภสัชกรรม
(๖) แผนกกำยภำพบำบัด
(๗) แผนกเทคนิคกำรแพทย์
(๘) แผนกรังสีวิทยำ
(๙) แผนกผ่ำตัด
(๑๐) แผนกสูติกรรม
(๑๑) ระบบรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๑๒) ระบบควบคุมกำรติดเชื้อ
(๑๓) ระบบบำบัดน้ำเสีย
(๑๔) ระบบไฟฟ้ำสำรอง
(๑๕) ระบบน้ำสำรอง
(๑๖) หน่ วยบริก ำรหรื อระบบสนั บ สนุน กำรให้ บ ริก ำรอื่ น ตำมที่ แจ้ งไว้ในกำรขอ
อนุญำต
โรงพยำบำลทั่วไปขนำดเล็กอำจไม่มีหน่วยบริกำรตำม (๖) (๗) (๘) (๙) หรือ (๑๐)
แต่จะต้องจัดให้มีบริกำรเท่ำที่จำเป็นได้

ข้อ ๙ โรงพยำบำลทันตกรรม ต้องประกอบด้วยหน่วยบริกำร และระบบสนับสนุน


กำรให้บริกำร ดังต่อไปนี้
(๑) แผนกเวชระเบียน
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก
(๓) แผนกผู้ป่วยใน
(๔) แผนกเภสัชกรรม
(๕) แผนกรังสีวิทยำ
(๖) แผนกผ่ำตัด

๔๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(๗) ระบบรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๘) ระบบควบคุมกำรติดเชื้อ
(๙) ระบบบำบัดน้ำเสีย
(๑๐) ระบบไฟฟ้ำสำรอง
(๑๑) ระบบน้ำสำรอง
(๑๒) หน่ วยบริก ำรหรื อระบบสนั บ สนุ น กำรให้ บ ริก ำรอื่ น ตำมที่ แจ้ งไว้ในกำรขอ
อนุญำต

กฎกระทรวง
โรงพยำบำลทันตกรรมขนำดเล็กอำจไม่มีหน่วยบริกำรตำม (๕) หรือ (๖) แต่จะต้อง
จัดให้มีบริกำรเท่ำที่จำเป็นได้

ข้อ ๑๐ โรงพยำบำลกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์ ต้องประกอบด้วยหน่วยบริกำร


และระบบสนับสนุนกำรให้บริกำร ดังต่อไปนี้
(๑) แผนกเวชระเบียน
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก
(๓) แผนกผู้ป่วยใน
(๔)๖ แผนกกำรผดุงครรภ์
(๕) ระบบรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๖) ระบบควบคุมกำรติดเชื้อ
(๗) ระบบบำบัดน้ำเสีย
(๘) ระบบไฟฟ้ำสำรอง
(๙) ระบบน้ำสำรอง
(๑๐) หน่ วยบริก ำรหรือระบบสนั บ สนุ น กำรให้ บ ริก ำรอื่ น ตำมที่ แจ้ งไว้ในกำรขอ
อนุญำต
โรงพยำบำลกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์ขนำดเล็กอำจไม่มีหน่วยบริกำรตำม (๔)
แต่จะต้องจัดให้มีบริกำรเท่ำที่จำเป็นได้

ข้อ ๑๑ โรงพยำบำลกำยภำพบำบัด ต้องประกอบด้วยหน่ วยบริกำร และระบบ


สนับสนุนกำรให้บริกำร ดังต่อไปนี้
(๑) แผนกเวชระเบียน
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก
(๓) แผนกผู้ป่วยใน
(๔) ระบบรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๕) ระบบควบคุมกำรติดเชื้อ
(๖) ระบบบำบัดน้ำเสีย
(๗) ระบบไฟฟ้ำสำรอง
(๘) ระบบน้ำสำรอง

ข้อ ๑๐ (๔) แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะกำร
ให้บริกำรของสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๔๙


(๙) หน่วยบริกำรหรือระบบสนับสนุนกำรให้บริกำรอื่นตำมที่แจ้งไว้ในกำรขออนุญำต

ข้อ ๑๒๗ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยต้องประกอบด้วยหน่วยบริกำรและระบบ


สนับสนุนกำรให้บริกำร ดังต่อไปนี้
(๑) แผนกเวชระเบียน
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก
(๓) แผนกผู้ป่วยใน
กฎกระทรวง

(๔) แผนกเภสัชกรรมไทย
(๕) แผนกกำรผดุงครรภ์ไทย
(๖) แผนกกำรนวดไทย
(๗) ระบบรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๘) ระบบควบคุมกำรติดเชื้อ
(๙) ระบบบำบัดน้ำเสีย
(๑๐) ระบบไฟฟ้ำสำรอง
(๑๑) ระบบน้ำสำรอง
(๑๒) หน่ว ยบริกำรหรือ ระบบสนับ สนุน กำรให้บ ริกำรอื่น ตำมที่แจ้งไว้ในกำรขอ
อนุญำต
โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยขนำดเล็กอำจไม่มีหน่วยบริกำรตำม (๕) หรือ (๖)
แต่จะต้องจัดให้มีบริกำรเท่ำที่จำเป็นได้

ข้อ ๑๒/๑๘ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ต้องประกอบด้วยหน่ว ยบริกำร


และระบบสนับสนุนกำรให้บริกำร ดังต่อไปนี้
(๑) แผนกเวชระเบียน
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก
(๓) แผนกผู้ป่วยใน
(๔) แผนกเภสัชกรรมไทย
(๕) แผนกกำรผดุงครรภ์ไทยประยุกต์
(๖) แผนกหัตถเวชกรรมไทย
(๗) ระบบรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๘) ระบบควบคุมกำรติดเชื้อ
(๙) ระบบบำบัดน้ำเสีย
(๑๐) ระบบไฟฟ้ำสำรอง
(๑๑) ระบบน้ำสำรอง


ข้อ ๑๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะกำร
ให้บริกำรของสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

ข้อ ๑๒/๑ เพิ่มโดยกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำร
ของสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

๕๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(๑๒) หน่ วยบริก ำรหรือระบบสนั บ สนุ น กำรให้ บ ริก ำรอื่ น ตำมที่ แจ้ งไว้ในกำรขอ
อนุญำต
โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ขนำดเล็กอำจไม่มีหน่วยบริกำรตำม (๕)
แต่จะต้องจัดให้มีบริกำรเท่ำที่จำเป็นได้

ข้อ ๑๓ โรงพยำบำลเฉพำะทำง ต้องประกอบด้วยหน่วยบริกำร และระบบสนับสนุ น


กำรให้บริกำร ดังต่อไปนี้

กฎกระทรวง
(๑) แผนกเวชระเบียน
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก
(๓) แผนกผู้ป่วยใน
(๔) แผนกผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๕) แผนกเภสัชกรรม
(๖) แผนกเทคนิคกำรแพทย์
(๗) แผนกรังสีวิทยำ
(๘) ระบบรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๙) ระบบควบคุมกำรติดเชื้อ
(๑๐) ระบบไฟฟ้ำสำรอง
(๑๑) ระบบน้ำสำรอง
(๑๒) หน่ วยบริก ำรหรือระบบสนั บ สนุ น กำรให้ บ ริก ำรอื่ น ตำมที่ แจ้ งไว้ในกำรขอ
อนุญำต
โรงพยำบำลเฉพำะทำงขนำดเล็กอำจไม่มีหน่วยบริกำรตำม (๖) หรือ (๗) แต่จะต้อง
จัดให้มีบริกำรเท่ำที่จำเป็นได้

ข้อ ๑๔ โรงพยำบำลเฉพำะประเภทผู้ ป่วย ต้องประกอบด้ วยหน่ วยบริกำร และ


ระบบสนับสนุนกำรให้บริกำร ดังต่อไปนี้
(๑) แผนกเวชระเบียน
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก
(๓) แผนกผู้ป่วยใน
(๔) แผนกผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๕) แผนกเภสัชกรรม
(๖) แผนกเทคนิคกำรแพทย์
(๗) แผนกรังสีวิทยำ
(๘) ระบบรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๙) ระบบควบคุมกำรติดเชื้อ
(๑๐) ระบบไฟฟ้ำสำรอง
(๑๑) ระบบน้ำสำรอง
(๑๒) หน่ วยบริก ำรหรือระบบสนั บ สนุ น กำรให้ บ ริก ำรอื่ น ตำมที่ แจ้ งไว้ในกำรขอ
อนุญำต

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๕๑


โรงพยำบำลเฉพำะประเภทผู้ป่วยขนำดเล็กอำจไม่มีหน่วยบริกำรตำม (๖) หรือ (๗)
แต่จะต้องจัดให้มีบริกำรเท่ำที่จำเป็นได้

บทเฉพำะกำล

ข้อ ๑๕ ให้ ส ถำนพยำบำลประเภทที่ ไม่ รับ ผู้ ป่ ว ยไว้ค้ ำงคื น และสถำนพยำบำล


กฎกระทรวง

ประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืนตำมกฎกระทรวงว่ำด้วยลักษณะของสถำนพยำบำล และลักษณะกำร
ให้บริกำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นสถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน หรือ
สถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืนตำมกฎกระทรวงนี้ แล้วแต่กรณี เว้นแต่
(๑) คลินิกเวชกรรมเฉพำะทำง ให้เป็นคลินิกเฉพำะทำง
(๒) คลินิกทันตกรรมเฉพำะทำง ให้เป็นคลินิกเฉพำะทำง
(๓) คลินิกกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ให้เป็นคลินิกกำรแพทย์แผนไทย
(๔) สถำนพยำบำลเวชกรรมทั่วไป ให้เป็นโรงพยำบำลทั่วไปขนำดเล็ก
(๕) สถำนพยำบำลเวชกรรมเฉพำะทำง ให้เป็นโรงพยำบำลเฉพำะทำงขนำดเล็ก
(๖) สถำนพยำบำลทันตกรรมทั่วไปและสถำนพยำบำลทันตกรรมเฉพำะทำง ให้เป็น
โรงพยำบำลทันตกรรมขนำดเล็ก
(๗) สถำนพยำบำลกำรผดุงครรภ์ ให้เป็นโรงพยำบำลกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์
ขนำดเล็ก
(๘) สถำนพยำบำลผู้ป่วยเรื้อรัง ให้เป็นโรงพยำบำลเฉพำะประเภทผู้ป่วยขนำดเล็ก
(๙) สถำนพยำบำลกำรแพทย์แผนไทย ให้เป็นโรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยขนำดเล็ก
(๑๐) สถำนพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ให้เป็นโรงพยำบำลกำรแพทย์แผน
ไทยขนำดเล็ก

ข้ อ ๑๖ สถำนพยำบำลประเภทที่ ไม่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ ค้ ำ งคื น ตำมข้ อ ๑๕ ซึ่ ง ได้ รั บ


ใบอนุญำตให้ประกอบกิจกำรสถำนพยำบำลและใบอนุญำตให้ดำเนินกำรสถำนพยำบำลอยู่ในวันก่อน
วัน ที่กฎกระทรวงนี้ ใช้บั งคับ ต้องดำเนิ นกำรให้ มีลักษณะโดยทั่วไปและลักษณะกำรให้บริกำรตำม
กฎกระทรวงนี้ภำยในหนึ่งปีนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับ

ข้อ ๑๗ สถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืนตำมข้อ ๑๕ ซึ่งได้รับใบอนุญำต


ให้ ป ระกอบกิจกำรสถำนพยำบำล และใบอนุ ญ ำตให้ ดำเนิน กำรสถำนพยำบำลอยู่ในวัน ก่อนวัน ที่
กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ต้องดำเนินกำรให้มีลักษณะโดยทั่วไปและลักษณะกำรให้บริกำร รวมทั้งจัดให้
มี ห น่ ว ยบริ ก ำรและระบบสนั บ สนุ น กำรให้ บ ริ ก ำรตำมกฎกระทรวงนี้ ภ ำยในสองปี นั บ แต่ วั น ที่
กฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับ เว้นแต่โรงพยำบำลขนำดเล็กตำมข้อ ๕ (๓) มิให้นำลักษณะโดยทั่วไปตำม
ข้อ ๖ (๒) มำใช้บังคับ แต่ทั้งนี้ มิให้โรงพยำบำลขนำดเล็กเพิ่มจำนวนเตียงรับบริกำรเกินกว่ำที่กำหนด
ไว้ในใบอนุญำตให้ประกอบกิจกำรสถำนพยำบำลก่อนกฎกระทรวงฉบับนี้มีผลใช้บังคับ

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๕๘


คณะก รรมกำรก
ศำสตรำจำร ย์รฤษฎ
ัชตะีกำ รัชตะนำวิน
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุข
๕๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจำกกฎกระทรวงว่ำด้วยลักษณะ
ของสถำนพยำบำล และลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๕ ยังมีสำระไม่ครอบคลุม
ถึงสำขำกำรประกอบโรคศิลปะที่เพิ่มขึ้นตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรประกอบโรคศิลปะ ประกอบกับ
ลักษณะของสถำนพยำบำล และลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำลมีกำรพัฒ นำ และมีควำม
เปลี่ยนแปลงอย่ำงต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อให้กำรกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำล และลักษณะกำร
ให้ บ ริก ำรของสถำนพยำบำลเป็ น ไปโดยเหมำะสม และสอดคล้ องกั บ สภำวกำรณ์ ในปั จ จุ บั น จึ ง
จำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

กฎกระทรวง
กฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๒๙

ข้อ ๘ ให้คลินิกกำรแพทย์แผนไทยที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทย
ประยุกต์ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ และโรงพยำบำลกำรแพทย์
แผนไทยที่จัดให้ มีกำรประกอบวิช ำชีพ กำรแพทย์แผนไทยประยุ กต์ ซึ่งดำเนิ น กำรโดยผู้ ป ระกอบ
วิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ตำมกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะ
กำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๕๘ อยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ เป็นคลินิก
กำรแพทย์แผนไทยประยุกต์หรือโรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ตำมกฎกระทรวงกำหนด
ลั กษณะของสถำนพยำบำลและลั ก ษณะกำรให้ บ ริกำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งแก้ไข
เพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงนี้ แล้ วแต่กรณี โดยโรงพยำบำลกำรแพทย์ แผนไทยประยุ กต์ต้องจัดให้ มี
หน่วยบริกำรและระบบสนับสนุนกำรให้บริกำรตำมกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำล
และลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงนี้ ภำยใน
สองปีนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ

หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่กฎกระทรวงกำหนดลักษณะของ


สถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๕๘ กำหนดให้กำรดำเนินกำร
สถำนพยำบำลของผู้ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทย
ประยุกต์ต้องดำเนินกำรในลักษณะของคลินิกกำรแพทย์แผนไทยหรือโรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทย
แต่กำรประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยและกำรประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์มี
ควำมแตกต่ำงกัน สมควรแยกสถำนพยำบำลที่ดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทย
และสถำนพยำบำลที่ดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ออกจำกกัน ดังนั้น
เพื่อให้กำรกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำลดังกล่ำว
เป็นไปโดยเหมำะสมและสอดคล้องกับสถำนกำรณ์ในปัจจุบัน ประกอบกับสมควรแก้ไขเพิ่มเติมหน่วย
บริกำรของโรงพยำบำลกำรพยำบำลและกำรผดุง ครรภ์ให้สอดคล้องกับกำรดำเนินกำรในปัจจุบัน
จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้


รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๕/ตอนที่ ๑๖ ก/หน้ำ ๑/๘ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๒

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๕๓


กฎกระทรวง
กำหนดชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์
หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๕๘๑
กฎกระทรวง

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๘ (๓) และมาตรา ๓๕ (๒)


แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวงสาธารณสุ ข ออก
กฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้ยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและ


เวชภัณฑ์ หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕

ข้อ ๒ ในกฎกระทรวงนี้
“สถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ” หมายความว่า สถานพยาบาล
ประเภทคลิ นิกตามกฎกระทรวงว่ าด้ว ยการกำหนดลั กษณะของสถานพยาบาล และลั กษณะการ
ให้บริการของสถานพยาบาล
“สถานพยาบาลประเภทที่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ค้ างคื น ” หมายความว่ า สถานพยาบาล
ประเภทโรงพยาบาลตามกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดลักษณะของสถานพยาบาล และลักษณะการ
ให้บริการของสถานพยาบาล

หมวด ๑
เครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล
ประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน

ข้อ ๓ คลินิ กต้องจัดให้ มีเครื่องมื อ เครื่องใช้ ยาและเวชภั ณ ฑ์ ทั่ว ไปที่จำเป็ น ใน


จำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้
(๑) ตู้ห รือชั้นหรืออุป กรณ์ เก็บเวชระเบี ยนที่มั่นคง ปลอดภัย และต้องจัดให้ เป็ น
ระเบียบสามารถค้นหาได้ง่าย หรือถ้าเป็นระบบคอมพิวเตอร์ต้องจัดให้มีระบบข้อมูลสำรองเพื่อป้องกัน
ข้อมูลสูญหาย ซึ่งอาจจัดแยกเป็นแผนกเวชระเบียนโดยเฉพาะก็ได้
(๒) ตู้หรือชั้นเก็บยาและเวชภัณฑ์อื่น
(๓) เครื่องใช้ทั่วไปที่ใช้ในการตรวจรักษาและบริก าร เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ที่นั่งพักรอของ
ผู้ป่วย เตียงตรวจโรค และอ่างฟอกมือชนิดที่ไม่ใช้มือเปิดปิดน้ำ
(๔) เครื่องมืออุปกรณ์และเวชภัณฑ์สำหรับควบคุมการติดเชื้อในกรณีที่จำเป็นต้องใช้
เช่ น เครื่ อ งมื อ หรื อ อุ ป กรณ์ ในการทำความสะอาด หม้ อ ต้ ม หม้ อ นึ่ ง หม้ อ นึ่ ง อบความดั น ที่ มี


ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒/ตอนที่ ๒๖ ก/หน้า ๓๓/๒ เมษายน ๒๕๕๘

๕๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ ตู้ที่มิดชิดสำหรับเก็บเครื่องมือที่ปราศจากเชื้อแล้ว และมีเครื่องมือที่พร้อม
ใช้งาน เช่น ภาชนะบรรจุมูลฝอยทั่วไป และภาชนะบรรจุมูลฝอยติดเชื้อ
(๕) อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน ได้แก่ ถุงบีบลมเพื่อช่วยหายใจพร้อมหน้ากาก
ครอบช่วยการหายใจ ยาและเวชภัณฑ์อื่นที่ใช้ในการรักษา และช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินตามลักษณะ
ของคลินิก

กฎกระทรวง
ข้อ ๔ คลินิกต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์เฉพาะที่จำเป็น ประจำ
คลินิกตามลักษณะของคลินิก ในจำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้
(๑) คลินิกเวชกรรม ต้องจัดให้มี
(ก) ชุดตรวจโรคและชุดให้การรักษาทั่วไปตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(ข) ยาและเวชภัณฑ์อื่นที่จำเป็น โดยมีจำนวนรายการและปริมาณที่เพียงพอ
(ค) ตู้เย็นสำหรับเก็บยาหรือเวชภัณฑ์อื่น
(ง) ในกรณี ที่ มี วัต ถุออกฤทธิ์ต่อ จิ ตและประสาท หรื อยาเสพติด ให้ โทษ ให้ มี
สถานที่หรือตู้เก็บที่มั่นคงและปลอดภัย มีกุญแจปิดและเปิดอย่างมีประสิทธิภาพ
(จ) อุปกรณ์การนับเม็ดยาอย่างน้อยสองชุด
(๒) คลินิกทันตกรรม ต้องจัดให้มี
(ก) ยูนิตทำฟัน ประกอบด้วย ระบบให้แสงสว่าง ระบบเครื่องกรอฟัน ระบบดูด
น้ำลาย ระบบน้ำบ้วนปาก และเก้าอี้คนไข้
(ข) เก้าอี้ทันตแพทย์ และเก้าอี้ผู้ช่วยทันตแพทย์
(ค) เครื่องเอกซเรย์ฟันที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
(ง) หม้อนึ่งอบความดันที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ
(จ) ชุดตรวจฟัน อุดฟัน ถอนฟัน ชุดศัลยกรรมช่องปาก ชุดรักษาคลองรากฟัน
ชุด รัก ษาโรคเหงือ ก ชุ ด ทั น ตกรรมประดิ ษ ฐ์ เครื่ อ งขู ด หิ น น้ ำลาย และเครื่ อ งมื อ อุ ป กรณ์ อื่ น ตาม
มาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(๓)๒ คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ต้องจัดให้มี
(ก) ชุดตรวจโรคและชุดให้การรักษาทั่วไปตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(ข) ชุดตรวจครรภ์ ชุดทำคลอด ชุดตรวจหลังคลอด และเครื่องฟังเสียงหัวใจ
เด็กในกรณีที่มีบริการ
(ค) ยาและเวชภัณฑ์อื่นที่จำเป็น โดยมีจำนวนรายการและปริมาณที่เพียงพอ
ตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(ง) ตู้เย็นสำหรับเก็บยาหรือเวชภัณฑ์อื่น
(จ) อุปกรณ์การนับเม็ดยาอย่างน้อยสองชุด
(๔) คลินิกกายภาพบำบัดต้องจัดให้มี
(ก) เครื่ อ งมื อ หรื อ อุ ป กรณ์ ที่ ใ ช้ ใ นการตรวจประเมิ น และวิ นิ จ ฉั ย ทาง
กายภาพบำบัด เช่น โกนิโอมิเตอร์ สายวัดความยาว เครื่องวัดความดัน และหูฟัง


ข้อ ๔ (๓) แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดชนิด และจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ยาและ
เวชภัณฑ์ หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๕๕


(ข) เครื่ อ งมื อ หรื อ อุ ป กรณ์ ก ายภาพบำบั ด รวมทั้ ง เครื่ อ งมื อ ไฟฟ้ า และ
อิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(๕) คลินิกเทคนิคการแพทย์ ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องมือตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติก าร และน้ำยาตามมาตรฐานการ
ประกอบวิชาชีพของประเภทของการตรวจวิเคราะห์ที่ให้บริการ
(ข) ตู้เย็นสำหรับเก็บรักษาสิ่งตัวอย่างและน้ำยาสำหรับการตรวจวิเคราะห์
กฎกระทรวง

(๖) คลินิกการแพทย์แผนไทยต้องจัดให้มี

(ก) เครื่องมือการตรวจวินิจฉัยตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(ข) ชุดเครื่องมือและอุปกรณ์การนวดไทยตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพใน
กรณีที่มีบริการ
(ค) ชุดเครื่องมือและอุปกรณ์การอบและประคบสมุนไพรตามมาตรฐานการ
ประกอบวิชาชีพในกรณีที่มีบริการ
(ง) ยาและเวชภัณฑ์อื่นที่จำเป็น โดยมีจำนวนรายการและปริมาณที่เพียงพอ
(๖/๑)๔ คลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์ต้องจัดให้มี
(ก) ชุ ด ตรวจโรคและชุ ด ให้ ก ารรัก ษาทั่ ว ไปตามมาตรฐานการประกอบ
วิชาชีพ
(ข) ชุดเครื่องมือและอุปกรณ์การนวดไทยแบบราชสำนักตามมาตรฐาน
การประกอบวิชาชีพ
(ค) ชุดเครื่องมือและอุปกรณ์การอบและประคบสมุนไพรตามมาตรฐาน
การประกอบวิชาชีพในกรณีที่มีบริการ
(ง) ชุดเครื่ อ งมือและอุ ปกรณ์การผดุงครรภ์ไทยประยุกต์ตามมาตรฐาน
การประกอบวิชาชีพในกรณีที่มีบริการ
(จ) ยาและเวชภั ณ ฑ์ อื่ น ที่ จ ำเป็ น โดยมี จ ำนวนรายการและปริ ม าณที่
เพียงพอ
(๗) คลินิกการประกอบโรคศิลปะ ต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์
หรื อ ยานพาหนะที่ จ ำเป็ น ตามหลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก าร และเงื่อ นไขที่ ผู้ อ นุ ญ าตประกาศกำหนดโดย
คำแนะนำของคณะกรรมการสถานพยาบาล
(๘) คลินิกเฉพาะทาง ต้องจัดให้มี
(ก) ชุดอุปกรณ์เช่นเดียวกับคลินิกลักษณะนั้น ๆ
(ข) เครื่อ งมื อ อุ ป กรณ์ ยาและเวชภั ณ ฑ์ ส ำหรั บ บริ ก ารเฉพาะในสาขาที่ ข อ
อนุญาตให้บริการ
(๙) สหคลินิกต้องจัดให้มีเครื่องมือ อุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ครบถ้วนตามลักษณะ
ของคลินิกที่ขออนุญาตให้บริการ


ข้อ ๔ (๖) แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดชนิ ดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ยาและ
เวชภัณฑ์ หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

ข้อ ๔ (๖/๑) เพิ่มโดยกฎกระทรวงกำหนดชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ยาและเวชภัณฑ์
หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

๕๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


หมวด ๒
เครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำ
สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน

ข้อ ๕ โรงพยาบาลต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภั ณฑ์ทั่วไปที่จำเป็น

กฎกระทรวง
ประจำหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการ ในจำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้
(๑) เครื่องมือและเครื่องใช้ทั่วไปในแต่ละหน่วยบริการ เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง เก้าอี้ อ่าง
ฟอกมือชนิดไม่ใช้มือเปิดปิดน้ำ ภาชนะบรรจุมูลฝอยทั่วไป และภาชนะบรรจุมูลฝอยติดเชื้อ
(๒) เครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ ที่ต้องจัดให้มีในแต่ละหน่วยบริการต้อง
เหมาะสมกับลักษณะการให้บริการ
(๓) รถเข็นนอนและรถเข็นนั่งสำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วย

ข้อ ๖ โรงพยาบาลทั่ว ไปต้อ งจั ด ให้ มีเครื่ องมื อ เครื่อ งใช้ ยาและเวชภั ณ ฑ์ และ
ยานพาหนะเฉพาะที่จำเป็นประจำแต่ละหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการ ในจำนวนที่
เหมาะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้
(๑) แผนกเวชระเบียน ต้องจั ดให้มีตู้ห รือชั้นหรืออุป กรณ์ เก็บเวชระเบียนที่มั่นคง
ปลอดภัย และต้องจัดให้เป็นระเบียบสามารถค้นหาได้ง่าย หรือถ้าเป็นระบบคอมพิวเตอร์ต้องจัดให้มี
ระบบข้อมูลสำรองเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก ต้องจัดให้มี
(ก) ชุดตรวจโรคทั่วไปและชุดตรวจโรคเฉพาะทาง
(ข) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพ
(ค) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ง) เครื่องชั่งน้ำหนักและที่วัดส่วนสูงของร่างกาย
(๓) แผนกผู้ป่วยใน ต้องจัดให้มี
(ก) อุปกรณ์ประจำหน่วยบริการ ได้แก่ ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วย
ฟื้นคืนชีพ ชุดทำแผลฉีดยา ชุดให้ยาผู้ป่วย ตู้เก็บเวชภัณฑ์ที่เหมาะสม และชุดตรวจร่างกายเบื้องต้น
(ข) อุปกรณ์ประจำเตียงและห้องผู้ป่วย ได้แก่ เตียงที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ และมีระบบเรียกพยาบาล
(๔) แผนกผู้ป่วยฉุกเฉิน ต้องจัดให้มี
(ก) ชุดตรวจโรคทั่วไป
(ข) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพ
(ค) เครื่องกระตุกหัวใจ
(ง) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(จ) ชุดใส่ท่อหายใจ และช่วยหายใจ
(ฉ) ชุดและอุปกรณ์ในการปฐมพยาบาล เช่น การล้างสารพิษ การดามกระดูก
เบื้องต้น ชุดห้ามเลือด และชุดล้างท้อง

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๕๗


(ช) ชุดรักษาฉุกเฉิน เช่น ชุดเจาะปอด ชุดเจาะคอ ชุดให้น้ำเกลือโดยทางผ่าเส้น
เลือดและโคมไฟส่องเฉพาะที่
(ซ) อ่างฟอกมือชนิดที่ไม่ใช้มอื เปิดปิดน้ำ
(ฌ) ระบบไฟฟ้าและแสงสว่างสำรอง
(๕) แผนกเภสัชกรรม ต้องจัดให้มี
(ก) ตู้เย็นสำหรับเก็บ ยาหรื อเวชภัณ ฑ์ อื่น หรื อตู้ที่ต้องควบคุมอุณ หภู มิพร้ อม
กฎกระทรวง

เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์
(ข) ในกรณี ที่มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาท หรื อยาเสพติ ด ให้ โทษ ให้ มี
สถานที่หรือตู้เก็บที่มีกุญแจปิดและเปิดอย่างมีประสิทธิภาพ
(ค) อุปกรณ์การนับเม็ดยาอย่างน้อยสองชุด
(ง) ตู้หรือชั้นเก็บยาและเวชภัณฑ์อื่น
(๖) แผนกกายภาพบำบัด ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่ อ งมื อ หรื อ อุ ป กรณ์ ที่ ใ ช้ ใ นการตรวจประเมิ น และวิ นิ จ ฉั ย ทาง
กายภาพบำบัด เช่น โกนิโอมิเตอร์ สายวัดความยาว เครื่องวัดความดัน และหูฟัง
(ข) เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกายภาพบำบัด รวมถึงเครื่องมือไฟฟ้า
และอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(๗) แผนกเทคนิคการแพทย์ ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องมือตรวจวิเคราะห์ ทางห้องปฏิบัติการและน้ ำยาตามมาตรฐานการ
ประกอบวิชาชีพของประเภทการตรวจวิเคราะห์ที่ให้บริการ
(ข) ตู้เย็นสำหรับเก็บรักษาสิ่งตัวอย่างและน้ำยาสำหรับการตรวจวิเคราะห์
(๘) แผนกรังสีวิทยา ต้องจัดให้มี
(ก) อุปกรณ์วัดและป้องกันอันตรายจากรังสี
(ข) เครื่องเอกซเรย์ที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
(ค) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพอย่างน้อยหนึ่งชุด
(ง) เครื่องล้างฟิล์ม
(จ) ตู้อ่านฟิล์มหรืออุปกรณ์อ่านฟิล์มระบบดิจิทัล
(ฉ) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ช) ระบบไฟสัญญาณเตือนขณะเครื่องเอกซเรย์ทำงาน
(๙) แผนกผ่าตัด ต้องจัดให้มี
(ก) เตียงและโคมไฟผ่าตัดแบบมาตรฐานใช้ในการผ่าตัดทุกห้องที่ใช้งานผ่าตัด
(ข) เครื่องดมยาสลบที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ และระบบแก๊สทางการแพทย์
ซึ่งมีสัญญาณเตือนอันตรายทุกห้องที่ขออนุญาตใช้งาน
(ค) ถังออกซิเจนและเครื่องดูดเสมหะสำรองพร้อมใช้งาน
(ง) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพทุกห้อง
(จ) เครื่องมือผ่าตัดที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์และเพียงพอสำหรับการผ่าตัด
ตามสาขาโรค
(ฉ) อ่างฟอกมือชนิดที่ไม่ใช้มือเปิดปิดน้ำ
(ช) ตู้เสื้อผ้าและบริเวณสำหรับเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้า

๕๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(ซ) ระบบไฟฟ้าและแสงสว่างสำรอง
(๑๐) แผนกสูติกรรม ต้องจัดให้มี
(ก) เตียงทำคลอดและโคมไฟ
(ข) เตียงรอคลอดอย่างน้อยหนึ่งเตียงต่อเตียงทำคลอดหนึ่งเตียง
(ค) เตียงทารกแรกเกิด
(ง) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพทุกห้อง

กฎกระทรวง
(จ) ระบบแก๊สทางการแพทย์ เครื่องดูดเสมหะและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ฉ) เครื่องมือทำคลอดจำนวนที่เพียงพอและได้มาตรฐานทางการแพทย์
(ช) เครื่องตรวจสัญญาณชีพทารกในครรภ์
(ซ) อ่างฟอกมือชนิดที่ไม่ใช้มือเปิดปิดน้ำ
(ฌ) อ่างอาบน้ำทารก
(ญ) เครื่องชั่งน้ำหนักทารกแรกเกิด
(๑๑) ระบบรถรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน ต้องได้รับอนุญาตให้ใช้งานจากสำนักงานตำรวจ
แห่งชาติ และต้องจัดให้มี
(ก) ไฟสัญญาณฉุกเฉินสีน้ำเงินติดตั้งบนหลังคารถ
(ข) เปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
(ค) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ง) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพประจำรถ
(จ) ชุดห้ามเลือด เย็บแผล และทำแผล
(๑๒) ระบบควบคุมการติดเชื้อ ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำความสะอาด
(ข) อ่างและบริเวณที่เพียงพอสำหรับล้างและเตรียมเครื่องมือ
(ค) หม้อต้ม หม้อนึ่ง หรือหม้อนึ่งอบความดันหรือระบบฆ่าเชื้อด้วยแก๊สที่มี
ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ
(ง) ตู้ที่มิดชิดสำหรับเก็บเครื่องมือที่ปราศจากเชื้อแล้ว และมีเครื่องมือที่พร้อม
ใช้งาน
(จ) ตู้เสื้อผ้าและบริเวณสำหรับเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้า
(ฉ) อุปกรณ์สำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพการปราศจากเชื้อ
(ช) รถเข็นรับส่งสิ่งของสะอาด
(ซ) รถเข็นรับส่งสิ่งของใช้แล้ว
(๑๓) ระบบบำบัดน้ำเสียต้องจัดให้มีมาตรฐานที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
(๑๔) ระบบไฟฟ้ าสำรองต้ อ งจัด ให้ มี เครื่ อ งกำเนิ ด ไฟฟ้ ามี ก ำลั งเพี ย งพอสำหรั บ
อุปกรณ์ที่จำเป็นและติดตั้งไฟแสงสว่างฉุกเฉินตามจุดที่จำเป็น
(๑๕) ระบบน้ำสำรองต้องจัดให้มีที่เก็บกักน้ำสำรองขนาดที่เพียงพอสำหรับการใช้ที่
จำเป็น
ในกรณีที่มีหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการอื่นเพิ่มเติมจากวรรคหนึ่ง
โรงพยาบาลทั่วไปต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์เฉพาะที่จำเป็นประจำแต่ละหน่วย
บริการและระบบสนับสนุนการให้บริการเพิ่มเติม ในจำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๕๙


(๑) หอผู้ป่วยหนัก ต้องจัดให้มี
(ก) หน่วยปฏิบัติการพยาบาล
(ข) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้น คืนชีพอย่างน้อยหนึ่งชุด และ
เพิ่มขึ้นหนึ่งชุดทุก ๆ ห้าเตียง
(ค) เครื่องตรวจสอบการเต้นของหัวใจอย่างน้อยหนึ่งเครื่องต่อสองเตียง
(ง) เครื่องช่วยหายใจอย่างน้อยหนึ่งเครื่อง และเพิ่มขึ้นหนึ่งเครื่องทุก ๆ สามเตียง
กฎกระทรวง

(จ) เครื่องกระตุกหัวใจ
(ฉ) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจครบทุกเตียง
(ช) เตียงนอนแบบมาตรฐาน ซึ่งปรับศีรษะและปลายเท้าสูงต่ำได้
(ซ) ระบบเรียกพยาบาลประจำเตียงผู้ป่วย
(๒) ห้องให้การรักษาต้องจัดให้มีเตียง และอุปกรณ์ทำแผล ฉี ดยา ใส่เฝือก ให้เลือด
และให้น้ำเกลือ
(๓) ห้องผ่าตัดเล็กต้องจัดให้มีเตียงและโคมไฟผ่าตัด ชุดเครื่องมือผ่าตัดทั่วไป ตู้เก็บ
อุปกรณ์ปราศจากเชื้อ และระบบไฟฟ้าและแสงสว่างสำรอง
(๔) ห้องตรวจภายในและขูดมดลูก ต้องจัดให้มี
(ก) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพผู้ป่วยอย่างน้อยหนึ่งชุด
(ข) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ โคมไฟหรืออุปกรณ์แสง
สว่างเพื่อการตรวจภายใน
(ค) เตียงสำหรับใช้ตรวจภายในและใช้ขูดมดลูก
(ง) ชุดตรวจภายในและขูดมดลูกที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
(จ) อ่างฟอกมือชนิดที่ไม่ใช้มือเปิดปิดน้ำ
(๕) ห้องทารกหลังคลอด ต้องจัดให้มี
(ก) เตียงทารกหลังคลอด และตู้อบทารกคลอดก่อนกำหนด
(ข) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ค) อ่างอาบน้ำทารก
(ง) เครื่องรักษาทารกตัวเหลืองด้วยแสง
(๖) ห้องทันตกรรม ต้องจัดให้มี
(ก) ยูนิตทำฟัน ประกอบด้วยระบบให้แสงสว่าง ระบบเครื่องกรอฟัน ระบบดูด
น้ำลาย ระบบน้ำบ้วนปาก และเก้าอี้คนไข้
(ข) เก้าอี้ทันตแพทย์ และเก้าอี้ผู้ช่วยทันตแพทย์
(ค) เครื่องเอกซเรย์ฟันที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
(ง) หม้อนึ่งอบความดันที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ
(จ) ชุดตรวจฟัน อุดฟัน ถอนฟัน ชุดศัลยกรรมช่องปาก ชุ ดรักษาคลองรากฟัน
ชุด รัก ษาโรคเหงือ ก ชุ ด ทั น ตกรรมประดิ ษ ฐ์ เครื่ อ งขู ด หิ น น้ ำลาย และเครื่ อ งมื อ อุ ป กรณ์ อื่ น ตาม
มาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(๗) ห้องไตเทียม ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องล้างไต
(ข) เครื่องผลิตน้ำสำหรับล้างไต

๖๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(ค) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพ
(ง) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(จ) เครื่องกระตุกหัวใจประจำโรงพยาบาลที่สามารถนำมาใช้ได้โดยสะดวก
(๘) ห้องซักฟอก ต้องจัดให้มี
(ก) อุปกรณ์ซักรีด
(ข) อุปกรณ์ซักฟอกผ้าติดเชื้อ

กฎกระทรวง
(ค) ตู้เก็บเสื้อผ้า
(ง) อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อต่อผู้ปฏิบัติงาน
(๙) ห้องโภชนาการ ต้องจัดให้มี
(ก) โต๊ะเตรียมอาหารที่สะอาด
(ข) อุป กรณ์ เครื่องมือเครื่ องใช้ในการประกอบอาหารและจั ดส่ งอาหารที่ถู ก
สุขลักษณะ
(ค) อุปกรณ์ระบายอากาศ เครื่องดูดควัน และอุปกรณ์ป้องกันแมลงและสัตว์
รบกวน
(ง) ตู้เก็บอาหารที่สะอาดและมิดชิด
(จ) เครื่องแต่งกายของเจ้าหน้าทีต่ ามหลักสุขาภิบาลอาหาร
(๑๐) ห้องพักศพที่ให้บริการเก็บศพตั้งแต่ยี่สิบสี่ชั่วโมงขึ้นไป ต้องจัดให้มี
(ก) ตู้เย็นสำหรับเก็บศพ
(ข) รถเข็นศพ
(๑๑) ยานพาหนะสำหรับให้บริการนอกโรงพยาบาลต้องมีมาตรฐาน ดังต่อไปนี้
(ก) รถเอกซเรย์เคลื่อนที่ต้องมีเครื่องเอกซเรย์เ พื่อการตรวจวินิ จฉัย พร้อม
อุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากรังสีที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ หรือหน่วยงานอื่นที่
ได้ รับ มอบหมาย และหากมีก ารให้ บ ริก ารชั น สู ต รร่ ว มด้ว ย ต้อ งเป็ น ไปตามมาตรฐานที่ ผู้ อนุ ญ าต
ประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการสถานพยาบาล
(ข) รถทันตกรรมที่ได้มาตรฐานตามที่ผู้อนุญาตประกาศกำหนดโดยคำแนะนำ
ของคณะกรรมการสถานพยาบาล
(ค) รถปฏิบัติการชันสูตรที่ได้มาตรฐานตามที่ผู้อนุญาตประกาศกำหนดโดย
คำแนะนำของคณะกรรมการสถานพยาบาล

ข้อ ๗ โรงพยาบาลทันตกรรมต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ และ


ยานพาหนะเฉพาะที่จำเป็นประจำแต่ละหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการ ในจำนวนที่
เหมาะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้
(๑) แผนกเวชระเบี ยนต้องจั ดให้ มีตู้ห รื อชั้น หรืออุป กรณ์ เก็บ เวชระเบี ย นที่มั่น คง
ปลอดภัย และต้องจัดให้เป็นระเบียบสามารถค้นหาได้ง่าย หรือถ้าเป็นระบบคอมพิวเตอร์ต้ องจัดให้มี
ระบบข้อมูลสำรองเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก ต้องจัดให้มี
(ก) ยูนิตทำฟัน ประกอบด้วย ระบบให้แสงสว่าง ระบบเครื่องกรอฟัน ระบบดูด
น้ำลาย ระบบน้ำบ้วนปาก และเก้าอี้คนไข้

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๖๑


(ข) เก้าอี้ทันตแพทย์ และเก้าอี้ผู้ช่วยทันตแพทย์
(ค) เครื่องเอกซเรย์ฟนั ที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
(ง) หม้อนึ่งอบความดันที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ
(จ) ชุดตรวจฟัน อุดฟัน ถอนฟัน ชุดศัลยกรรมช่องปาก ชุดรักษาคลองรากฟัน
ชุด รั ก ษาโรคเหงือ ก ชุ ด ทั น ตกรรมประดิ ษ ฐ์ เครื่ อ งขู ด หิ น น้ ำลาย และเครื่ อ งมื อ อุ ป กรณ์ อื่ น ตาม
มาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
กฎกระทรวง

(๓) แผนกผู้ป่วยใน ต้องจัดให้มี


(ก) อุปกรณ์ประจำหน่วยบริการ ได้แก่ ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วย
ฟื้นคืนชีพ ชุดให้ยาผู้ป่วย และตู้เก็บเวชภัณฑ์
(ข) อุปกรณ์ประจำเตียงและห้องผู้ป่วย ได้แก่ เตียงที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ และระบบเรียกพยาบาล
(๔) แผนกเภสัชกรรม ต้องจัดให้มี
(ก) ตู้เย็น สำหรับ เก็บ ยาหรือเวชภัณ ฑ์อื่น หรือตู้ที่ต้องควบคุมอุณ หภูมิ พร้อม
เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์
(ข) ในกรณี ที่มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาท หรื อยาเสพติ ดให้ โทษ ให้ มี
สถานที่หรือตู้เก็บที่มีกุญแจปิดและเปิดอย่างมีประสิทธิภาพ
(ค) อุปกรณ์การนับเม็ดยาอย่างน้อยสองชุด
(ง) ตู้หรือชั้นเก็บยาและเวชภัณฑ์อื่น
(๕) แผนกรังสีวิทยา ต้องจัดให้มี
(ก) อุปกรณ์วัดและป้องกันอันตรายจากรังสี
(ข) เครื่องเอกซเรย์ที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
(ค) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพอย่างน้อยหนึ่งชุด
(ง) เครื่องล้างฟิล์ม
(จ) ตู้อ่านฟิล์มหรืออุปกรณ์อ่านฟิล์มระบบดิจิทัล
(ฉ) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ช) ระบบไฟสัญญาณเตือนขณะเครื่องเอกซเรย์ทำงาน
(๖) แผนกผ่าตัด ต้องจัดให้มี
(ก) เตียงและโคมไฟผ่าตัดแบบมาตรฐานใช้ในการผ่าตัดประจำทุกห้องที่ใช้งาน
ผ่าตัด
(ข) เครื่องดมยาสลบที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์และระบบแก๊สทางการแพทย์
ซึ่งมีสัญญาณเตือนอันตรายทุกห้องที่ขออนุญาตใช้งาน
(ค) ถังออกซิเจนและเครื่องดูดเสมหะสำรองพร้อมใช้งาน
(ง) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพทุกห้อง
(จ) เครื่องมือผ่าตัดที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์และเพียงพอสำหรับการผ่าตัด
ตามสาขาโรค
(ฉ) อ่างฟอกมือชนิดที่ไม่ใช้มือเปิดปิดน้ำ
(ช) ตู้เสื้อผ้าและบริเวณสำหรับเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้า
(ซ) ระบบไฟฟ้าและแสงสว่างสำรอง

๖๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(๗) ระบบรถรับ ส่งผู้ป่วยฉุก เฉิน ต้องได้รับ อนุญาตให้ใช้ งานจากสำนักงานตำรวจ
แห่งชาติ และต้องจัดให้มี
(ก) ไฟสัญญาณฉุกเฉินสีน้ำเงินติดตั้งบนหลังคารถ
(ข) เปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
(ค) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ง) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพประจำรถ

กฎกระทรวง
(จ) ชุดห้ามเลือด เย็บแผล และทำแผล
(๘) ระบบควบคุมการติดเชื้อ ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำความสะอาด
(ข) อ่างและบริเวณที่เพียงพอสำหรับล้างและเตรียมเครื่องมือ
(ค) หม้อต้ม หม้อนึ่ง หรือหม้อนึ่งอบความดันที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ
(ง) ตู้ที่มิดชิดสำหรับเก็บเครื่องมือที่ปราศจากเชื้อแล้ว และมีเครื่องมือที่พร้อมใช้งาน
(จ) ตู้เสื้อผ้าและบริเวณสำหรับเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้า
(ฉ) อุปกรณ์สำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพการปราศจากเชื้อ
(ช) รถเข็นรับส่งสิ่งของสะอาด
(ซ) รถเข็นรับส่งสิ่งของใช้แล้ว
(๙) ระบบบำบัดน้ำเสียต้องจัดให้มีมาตรฐานที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
(๑๐) ระบบไฟฟ้ าสำรองต้ อ งจั ด ให้ มี เครื่ อ งกำเนิ ด ไฟฟ้ ามี ก ำลั งเพี ย งพอสำหรั บ
อุปกรณ์ที่จำเป็น และติดตั้งไฟแสงสว่างฉุกเฉินตามจุดที่จำเป็น
(๑๑) ระบบน้ำสำรองต้องจัดให้มีที่เก็บกักน้ำสำรองขนาดที่เพียงพอสำหรับการใช้ที่
จำเป็น
ในกรณีที่มีหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการอื่นเพิ่มเติมจากวรรคหนึ่ง
โรงพยาบาลทันตกรรมต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์เฉพาะที่จำเป็นประจำแต่ละ
หน่ ว ยบริ ก ารและระบบสนั บ สนุ น การให้ บ ริ ก ารเพิ่ ม เติ ม ในจำนวนที่ เหมาะสมและเพี ย งพอ
เช่นเดียวกับที่กำหนดไว้ในข้อ ๖ วรรคสอง โดยอนุโลม

ข้อ ๘ โรงพยาบาลการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้


ยา และเวชภัณฑ์ และยานพาหนะเฉพาะที่จำเป็นประจำแต่ละหน่วยบริการที่เป็นแผนกบริการประจำ
ในจำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้
(๑) แผนกเวชระเบี ยนต้ องจั ดให้ มีตู้ห รื อชั้น หรืออุป กรณ์ เก็บ เวชระเบี ย นที่มั่น คง
ปลอดภัย และต้องจัดให้เป็นระเบียบสามารถค้นหาได้ง่าย หรือถ้าเป็นระบบคอมพิวเตอร์ต้องจัดให้มี
ระบบข้อมูลสำรองเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก ต้องจัดให้มี
(ก) ชุดตรวจโรคและชุดให้การรักษาทั่วไปตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(ข) ชุดตรวจครรภ์ ชุดทำคลอด ชุดตรวจหลังคลอด และเครื่องฟังเสียงหัวใจเด็ก
(ค) เตียงตรวจครรภ์
(ง) ยาและเวชภัณ ฑ์อื่นที่จำเป็น โดยมีจำนวนรายการและปริมาณที่เพีย งพอ
ตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๖๓


(จ) ตู้เย็นสำหรับเก็บยาหรือเวชภัณฑ์อื่น
(ฉ) อุปกรณ์การนับเม็ดยาอย่างน้อยสองชุด
(๓) แผนกผู้ป่วยใน ต้องจัดให้มี
(ก) อุปกรณ์ประจำหน่วยบริการ ได้แก่ ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วย
ฟื้นคืนชีพชุดให้ยาผู้ป่วย และตู้เก็บเวชภัณฑ์
(ข) อุปกรณ์ประจำเตียงและห้องผู้ป่วย ได้แก่ เตียงที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
กฎกระทรวง

เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ และระบบเรียกพยาบาล


(๔) แผนกสูติกรรม ต้องจัดให้มี
(ก) เตียงรอคลอดอย่างน้อยหนึ่งเตียงต่อเตียงทำคลอดหนึ่งเตียง
(ข) เตียงทำคลอดและโคมไฟ
(ค) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ง) เครื่องมือทำคลอดจำนวนที่เพียงพอและได้มาตรฐานทางการแพทย์
(จ) เครื่องตรวจครรภ์
(ฉ) เตียงทารกแรกเกิด
(ช) อ่างฟอกมือชนิดที่ไม่ใช้มือเปิดปิดน้ำ
(ซ) อุปกรณ์สำหรับอาบน้ำทารก
(ฌ) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพที่นำมาใช้ได้โดยสะดวก
(ญ) เครื่องตรวจสัญญาณชีพทารกในครรภ์
(๕) ระบบรถรับ ส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน ต้องได้รับอนุญาตให้ใช้งานจากสำนักงานตำรวจ
แห่งชาติ และต้องจัดให้มี
(ก) ไฟสัญญาณฉุกเฉินสีน้ำเงินติดตั้งบนหลังคารถ
(ข) เปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
(ค) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ง) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพประจำรถ
(จ) ชุดห้ามเลือด เย็บแผล และทำแผล
(๖) ระบบควบคุมการติดเชื้อ ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำความสะอาด
(ข) อ่างและบริเวณที่เพียงพอสำหรับล้างและเตรียมเครื่องมือ
(ค) หม้อต้ม หม้อนึ่ง หรือหม้อนึ่งอบความดันที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ
(ง) ตู้ที่มิดชิดสำหรับเก็บเครื่องมือที่ปราศจากเชื้อแล้ว และมีเครื่องมือที่พร้อมใช้งาน
(จ) ตู้เสื้อผ้าและบริเวณสำหรับเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้า
(ฉ) อุปกรณ์สำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพการปราศจากเชื้อ
(ช) รถเข็นรับส่งสิ่งของสะอาด
(ซ) รถเข็นรับส่งสิ่งของใช้แล้ว
(๗) ระบบบำบัดน้ำเสียต้องจัดให้มีมาตรฐานที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
(๘) ระบบไฟฟ้าสำรองต้องจัดให้มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามีกำลังเพียงพอสำหรับอุปกรณ์
ที่จำเป็นและติดตั้งไฟแสงสว่างฉุกเฉินตามจุดที่จำเป็น

๖๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(๙) ระบบน้ำสำรองต้องจัดให้มีที่เก็บกักน้ำสำรองขนาดที่เพียงพอสำหรับการใช้ที่
จำเป็น
ในกรณีที่มีหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการอื่นเพิ่มเติมจากวรรคหนึ่ง
โรงพยาบาลการพยาบาลและการผดุงครรภ์ต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์เฉพาะที่
จำเป็นประจำแต่ละหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการเพิ่มเติม ในจำนวนที่เหมาะสมและ
เพียงพอเช่นเดียวกับที่กำหนดไว้ในข้อ ๖ วรรคสอง โดยอนุโลม

กฎกระทรวง
ข้อ ๙ โรงพยาบาลกายภาพบำบัดต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์
และยานพาหนะเฉพาะที่ จำเป็ นประจำแต่ล ะหน่ว ยบริการและระบบสนับ สนุน การให้ บริการ ใน
จำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้
(๑) แผนกเวชระเบี ย นต้ อ งจั ด ให้ มี ตู้ ชั้ น หรื อ อุ ป กรณ์ เก็ บ เวชระเบี ย นที่ มั่ น คง
ปลอดภัย และต้องจัดให้เป็นระเบียบสามารถค้นหาได้ง่าย หรือถ้าเป็นระบบคอมพิวเตอร์ต้องจัดให้มี
ระบบข้อมูลสำรองเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่ อ งมื อ หรื อ อุ ป กรณ์ ที่ ใ ช้ ใ นการตรวจประเมิ น และวิ นิ จ ฉั ย ทาง
กายภาพบำบัด เช่น โกนิโอมิเตอร์ สายวัดความยาว เครื่องวัดความดัน และหูฟัง
(ข) เครื่ อ งมื อ หรื อ อุ ป กรณ์ ก ายภาพบำบั ด รวมทั้ ง เครื่ อ งมื อ ไฟฟ้ า และ
อิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(๓) แผนกผู้ป่วยใน ต้องจัดให้มี
(ก) อุปกรณ์ประจำหน่วยบริการ ได้แก่ ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วย
ฟื้นคืนชีพ ชุดให้ยาผู้ป่วย และตู้เก็บเวชภัณฑ์ที่เหมาะสม
(ข) อุปกรณ์ประจำเตียงและห้องผู้ป่วย ได้แก่ เตียงที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ และมีระบบเรียกพยาบาล
(๔) ระบบรถรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน ต้องได้รับอนุญาตให้ใช้งานจากสำนักงานตำรวจ
แห่งชาติ และต้องจัดให้มี
(ก) ไฟสัญญาณฉุกเฉินสีน้ำเงินติดตั้งบนหลังคารถ
(ข) เปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
(ค) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ง) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพประจำรถ
(จ) ชุดห้ามเลือด เย็บแผล และทำแผล
(๕) ระบบควบคุมการติดเชื้อ ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำความสะอาด
(ข) อ่างและบริเวณที่เพียงพอสำหรับล้างและเตรียมเครื่องมือ
(ค) หม้อต้ม หม้อนึ่ง หรือหม้อนึ่งอบความดันที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ
(ง) ตู้ที่มิดชิดสำหรับเก็บเครื่องมือที่ปราศจากเชื้อแล้ว และมีเครื่องมือที่พร้อมใช้งาน
(จ) ตู้เสื้อผ้าและบริเวณสำหรับเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้า
(ฉ) อุปกรณ์สำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพการปราศจากเชื้อ
(ช) รถเข็นรับส่งสิ่งของสะอาด

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๖๕


(ซ) รถเข็นรับส่งสิ่งของใช้แล้ว
(๖) ระบบบำบัดน้ำเสียต้องจัดให้มีมาตรฐานที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
(๗) ระบบไฟฟ้าสำรองต้องจัดให้มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามีกำลังเพียงพอสำหรับอุปกรณ์
ที่จำเป็นและติดตั้งไฟแสงสว่างฉุกเฉินตามจุดที่จำเป็น
(๘) ระบบน้ำสำรองต้องจัดให้มี ที่เก็บกักน้ำสำรองขนาดที่เพียงพอสำหรับการใช้ที่
จำเป็น
กฎกระทรวง

ในกรณีที่มีหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการอื่นเพิ่มเติมจากวรรคหนึ่ง
โรงพยาบาลกายภาพบำบัดต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์เฉพาะที่จำเป็นประจำแต่
ละหน่ ว ยบริ ก ารและระบบสนั บ สนุ น การให้ บ ริ ก ารเพิ่ ม เติ ม ในจำนวนที่ เหมาะสมและเพี ย งพอ
เช่นเดียวกับที่กำหนดไว้ในข้อ ๖ วรรคสอง โดยอนุโลม

ข้อ ๑๐ ๕ โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยต้องจัดให้ มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและ


เวชภัณฑ์ และยานพาหนะเฉพาะที่จำเป็นประจำแต่ละหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการ
ในจำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้
(๑) แผนกเวชระเบี ยนต้องจั ดให้ มีตู้ห รือชั้นหรืออุป กรณ์ เก็บเวชระเบียนที่มั่น คง
ปลอดภัย และต้องจัดให้เป็นระเบียบสามารถค้นหาได้ง่าย หรือถ้าเป็นระบบคอมพิวเตอร์ ต้องจัดให้มี
ระบบข้อมูลสำรองเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย
(๒) แผนกผู้ป่วยนอกต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องมือการตรวจวินิจฉัยตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(ข) ชุดเครื่องมือและอุปกรณ์การนวดไทยตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(ค) ชุดเครื่องมือและอุป กรณ์ การอบและประคบสมุน ไพรตามมาตรฐานการ
ประกอบวิชาชีพ
(ง) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจน และอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(จ) เครือ่ งชั่งน้ำหนักและที่วัดส่วนสูงของร่างกาย
(๓) แผนกผู้ป่วยในต้องจัดให้มี
(ก) อุปกรณ์ประจำหน่วยบริการ ได้แก่ ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ ชุดให้ยา
ผู้ป่วย และตู้เก็บเวชภัณฑ์ที่เหมาะสม
(ข) อุปกรณ์ประจำเตียงและห้องผู้ป่วย ได้แก่ เตียงที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจน และอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(๔) แผนกเภสัชกรรมไทยต้องจัดให้มี
(ก) ตู้เก็บยาแผนไทย
(ข) เครื่องชั่งตวงวัดยา
(ค) อุปกรณ์ต้มยา ในกรณีที่มีบริการยาต้ม
(๕) แผนกการผดุงครรภ์ไทยต้องจัดให้มี
(ก) เตียงตรวจครรภ์
(ข) ยาแผนไทยทีใ่ ช้สำหรับการผดุงครรภ์ไทย

ข้อ ๑๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดชนิ ดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ยาและ
เวชภัณฑ์ หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

๖๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(ค) ชุ ดเครื่องมือและอุป กรณ์ ก ารผดุงครรภ์ ไทยตามมาตรฐานการประกอบ
วิชาชีพ
(๖) แผนกการนวดไทยต้องจัดให้มี
(ก) ชุดเครื่องมือและอุปกรณ์การนวดไทยตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(ข) ชุดเครื่องมือและอุป กรณ์ การอบและประคบสมุน ไพรตามมาตรฐานการ
ประกอบวิชาชีพ

กฎกระทรวง
(๗) ระบบรถรับส่งผู้ป่วยฉุก เฉิน ต้องได้รับอนุญาตให้ใช้งานจากสำนักงานตำรวจ
แห่งชาติและต้องจัดให้มี
(ก) ไฟสัญญาณฉุกเฉินสีน้ำเงินติดตั้งบนหลังคารถ
(ข) เปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
(ค) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ง) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ประจำรถ
(๘) ระบบควบคุมการติดเชื้อต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำความสะอาด
(ข) อ่างและบริเวณที่เพียงพอสำหรับล้างและเตรียมเครื่องมือ
(ค) หม้อต้ม หม้อนึ่ง หรือหม้อนึ่งอบความดันที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ
(ง) ตู้ที่มิดชิดสำหรับเก็บเครื่องมือที่ปราศจากเชื้อแล้ว และมีเครื่องมือที่พร้อมใช้งาน
(จ) ตู้เสื้อผ้าและบริเวณสำหรับเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้า
(ฉ) อุปกรณ์สำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพการปราศจากเชื้อ
(ช) รถเข็นรับส่งสิ่งของสะอาด
(ซ) รถเข็นรับส่งสิ่งของใช้แล้ว
(๙) ระบบบำบัดน้ำเสียต้องจัดให้มีมาตรฐานที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
(๑๐) ระบบไฟฟ้ าสำรองต้องจั ดให้ มีเครื่องกำเนิ ดไฟฟ้ าที่มีกำลั งเพีย งพอสำหรั บ
อุปกรณ์ที่จำเป็นและติดตั้งไฟแสงสว่างฉุกเฉินตามจุดที่จำเป็น
(๑๑) ระบบน้ำสำรองต้องจัดให้มีที่เก็บกักน้ำสำรองขนาดที่เพียงพอสำหรับการใช้ที่
จำเป็น
ในกรณีที่มีหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการอื่นเพิ่มเติมจากวรรคหนึ่ง
โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์เฉพาะที่จำเป็นประจำ
แต่ ล ะหน่ ว ยบริการและระบบสนั บ สนุ นการให้ บริ การเพิ่ม เติมในจำนวนที่เหมาะสมและเพี ย งพอ
เช่นเดียวกับที่กำหนดไว้ในข้อ ๖ วรรคสอง โดยอนุโลม

ข้อ ๑๐/๑๖ โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยประยุกต์ต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้


ยาและเวชภัณฑ์ และยานพาหนะเฉพาะที่จำเป็นประจำแต่ละหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการ
ให้บริการในจำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้


ข้อ ๑๐/๑ เพิ่มโดยกฎกระทรวงกำหนดชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ยาและเวชภัณฑ์
หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๖๗


(๑) แผนกเวชระเบี ยนต้อ งจั ดให้ มีตู้ห รือชั้นหรืออุป กรณ์ เก็ บเวชระเบียนที่มั่น คง
ปลอดภัยและต้องจัดให้เป็นระเบียบสามารถค้นหาได้ง่าย หรือถ้าเป็นระบบคอมพิวเตอร์ ต้องจัดให้มี
ระบบข้อมูลสำรองเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย
(๒) แผนกผู้ป่วยนอกต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องมือการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคทั่ วไปตามมาตรฐานการประกอบ
วิชาชีพ
กฎกระทรวง

(ข) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ


(ค) เครื่องชั่งน้ำหนักและที่วัดส่วนสูงของร่างกาย
(๓) แผนกผู้ป่วยในต้องจัดให้มี
(ก) อุปกรณ์ประจำหน่วยบริการ ได้แก่ ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ ชุดทำแผล
ชุดให้ยาผู้ป่วย ตู้เก็บเวชภัณฑ์ที่เหมาะสม และชุดตรวจร่างกายเบื้องต้น
(ข) อุปกรณ์ประจำเตียงและห้องผู้ป่วย ได้แก่ เตียงที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(๔) แผนกเภสัชกรรมไทยต้องจัดให้มี
(ก) ตู้เก็บยาแผนไทย
(ข) เครื่องชั่งตวงวัดยา และอุปกรณ์การนับเม็ดยา
(ค) อุปกรณ์ต้มยา ในกรณีที่มีบริการยาต้ม
(๕) แผนการผดุงครรภ์ไทยประยุกต์ต้องจัดให้มี
(ก) เตียงตรวจครรภ์
(ข) ยาแผนไทยที่ใช้สำหรับการผดุงครรภ์ไทยประยุกต์
(ค) ชุดเครื่องมือและอุปกรณ์การผดุงครรภ์ไทยประยุก ต์ตามมาตรฐานการ
ประกอบวิชาชีพ
(๖) แผนกหัตถเวชกรรมไทยต้องจัดให้มี
(ก) ชุดเครื่องมือและอุป กรณ์ การนวดไทยแบบราชสำนักตามมาตรฐานการ
ประกอบวิชาชีพ
(ข) ชุดเครื่องมือและอุป กรณ์ การอบและประคบสมุนไพรตามมาตรฐานการ
ประกอบวิชาชีพ
(๗) ระบบรถรับ ส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน ต้องได้รับอนุญาตให้ใช้งานจากสำนักงานตำรวจ
แห่งชาติและต้องจัดให้มี
(ก) ไฟสัญญาณฉุกเฉินสีน้ำเงินติดตั้งบนหลังคารถ
(ข) เปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
(ค) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจน และอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ง) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ประจำรถ
(๘) ระบบควบคุมการติดเชื้อต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำความสะอาด
(ข) อ่างและบริเวณที่เพียงพอสำหรับล้างและเตรียมเครื่องมือ
(ค) หม้อต้ม หม้อนึ่ง หรือหม้อนึ่งอบความดันที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ
(ง) ตู้ที่มิดชิดสำหรับเก็บเครื่องมือที่ปราศจากเชื้อแล้ว และมีเครื่องมือที่พร้อมใช้งาน

๖๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(จ) ตู้เสื้อผ้าและบริเวณสำหรับเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้า
(ฉ) อุปกรณ์สำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพการปราศจากเชื้อ
(ช) รถเข็นรับส่งสิ่งของสะอาด
(ซ) รถเข็นรับส่งสิ่งของที่ใช้แล้ว
(๙) ระบบบำบัดน้ำเสียต้องจัดให้มีมาตรฐานที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
(๑๐) ระบบไฟฟ้ าสำรองต้องจั ดให้ มีเครื่องกำเนิ ดไฟฟ้ าที่มีกำลั งเพีย งพอสำหรั บ

กฎกระทรวง
อุปกรณ์ที่จำเป็นและติดตั้งไฟแสงสว่างฉุกเฉินตามจุดที่จำเป็น
(๑๑) ระบบน้ำสำรองต้องจัดให้มีที่เก็บกักน้ำสำรองขนาดที่เพียงพอสำหรับการใช้ที่
จำเป็น
ในกรณีที่มีหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการอื่นเพิ่มเติมจากวรรคหนึ่ง
โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยประยุกต์ต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์เฉพาะที่
จำเป็นประจำแต่ละหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการเพิ่มเติมในจำนวนที่เหมาะสมและ
เพียงพอเช่นเดียวกับที่กำหนดไว้ในข้อ ๖ วรรคสอง โดยอนุโลม

ข้อ ๑๑ โรงพยาบาลเฉพาะทางและโรงพยาบาลเฉพาะประเภทผู้ป่วยต้องจัดให้ มี
เครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภั ณฑ์ และยานพาหนะเฉพาะที่จำเป็นประจำแต่ละหน่วยบริการและ
ระบบสนับสนุนการให้บริการ ในจำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอเช่นเดียวกับที่กำหนดไว้ในข้อ ๖ โดย
อนุโลม

บทเฉพาะกาล

ข้ อ ๑๒ สถานพยาบาลประเภทที่ ไม่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ ค้ างคื น ซึ่ งได้ รั บ ใบอนุ ญ าตให้


ประกอบกิ จ การสถานพยาบาล และใบอนุ ญ าตให้ ด ำเนิ น การสถานพยาบาลอยู่ ในวั น ก่ อ นวั น ที่
กฎกระทรวงนี้ ใช้บั งคั บ ต้ อ งดำเนิ น การจั ด ให้ มี ช นิ ดและจำนวนเครื่ อ งมื อ เครื่ อ งใช้ และยาและ
เวชภัณฑ์ที่จำเป็นประจำสถานพยาบาลตามกฎกระทรวงนี้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้
มีผลใช้บังคับ

ข้อ ๑๓ สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนซึ่งได้รับใบอนุญาตให้ประกอบ
กิจการสถานพยาบาล และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลอยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้
บังคับ ต้องดำเนินการจัดให้มีชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์หรือยานพาหนะที่
จำเป็นประจำสถานพยาบาลตามกฎกระทรวงนี้ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้มี
ผลใช้บังคับ

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘


ศาสตราจารย์รัชตะ รัชตะนาวิน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๖๙


หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจากมีการปรับปรุงการกำหนด
ลักษณะของสถานพยาบาล และลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาลตามกฎกระทรวงว่าด้วย
ลักษณะของสถานพยาบาล และลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ดังนั้น เพื่อให้
การกำหนดชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ หรือยานพาหนะที่ จำเป็นประจำ
สถานพยาบาลเป็นไปโดยเหมาะสมและสอดคล้องกัน จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
กฎกระทรวง

กฎกระทรวงกำหนดชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ หรือยานพาหนะที่จำเป็น


ประจำสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒๗

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบั บนี้ คือ โดยที่มีการแก้ไขเพิ่มเติ มกฎกระทรวง


กำหนดลักษณะของสถานพยาบาลและลัก ษณะการให้บ ริก ารของสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘
โดยแยกสถานพยาบาลที่ดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและสถานพยาบาล
ที่ดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ออกจากกัน ดังนั้ น เพื่อให้การกำหนด
ชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล
ดังกล่ าว เป็ น ไปโดยเหมาะสมและสอดคล้ องกับสถานการณ์ ในปั จ จุบั น ประกอบกับ สมควรแก้ไข
เพิ่มเติมการกำหนดชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ หรือยานพาหนะที่จำเป็น
ประจำคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ให้สอดคล้องกับการดำเนินการในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้อง
ออกกฎกระทรวงนี้


ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕/ตอนที่ ๑๖ ก/หน้า ๕/๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

๗๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


กฎกระทรวง
กำหนดวิชำชีพและจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล
พ.ศ. ๒๕๕๘๑

อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำ ๖ วรรคหนึ่ง มำตรำ ๑๘ (๔) และมำตรำ ๓๕ (๑)

กฎกระทรวง
แห่ ง พระรำชบั ญ ญั ติ ส ถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ รั ฐ มนตรี ว่ ำ กำรกระทรวงสำธำรณสุ ข ออก
กฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

ข้ อ ๑ ให้ ย กเลิ ก กฎกระทรวงว่ ำ ด้ ว ยวิ ช ำชี พ และจ ำนวนผู้ ป ระกอบวิ ช ำชี พ ใน


สถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๕

ข้อ ๒ ในกฎกระทรวงนี้
“สถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่ วยไว้ค้ำงคืน ” หมำยควำมว่ำ สถำนพยำบำล
ประเภทคลิ นิกตำมกฎกระทรวงว่ำด้ว ยกำรกำหนดลั กษณะของสถำนพยำบำล และลั กษณะกำร
ให้บริกำรของสถำนพยำบำล
“สถำนพยำบำลประเภทที่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ค้ ำงคื น ” หมำยควำมว่ ำ สถำนพยำบำล
ประเภทโรงพยำบำลตำมกฎกระทรวงว่ำด้วยกำรกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำล และลักษณะกำร
ให้บริกำรของสถำนพยำบำล

หมวด ๑
ผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน

ข้อ ๓ คลินิกดังต่อไปนี้ต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชำชีพปฏิบัติงำนตลอดเวลำที่เปิดทำ
กำรตำมรำยชื่อในหนังสือแสดงควำมจำนงเป็ นผู้ ปฏิบัติงำนในคลินิกของผู้ รับ อนุญ ำตตำมแบบที่ผู้
อนุญำตกำหนดโดยประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ จำนวนอย่ำงน้อยหนึ่งคน
(๑) คลินิกเวชกรรม ต้องมีผู้ประกอบวิชำชีพเวชกรรม
(๒) คลินิกทันตกรรม ต้องมีผู้ประกอบวิชำชีพทันตกรรม
(๓) คลินิกกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์ ต้องมีผู้ประกอบวิชำชีพกำรพยำบำลและ
กำรผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชำชีพกำรพยำบำล ชั้นหนึ่ง
(๔) คลินิกกำยภำพบำบัด ต้องมีผู้ประกอบวิชำชีพกำยภำพบำบัด
(๕) คลินิกเทคนิคกำรแพทย์ ต้องมีผู้ประกอบวิชำชีพเทคนิคกำรแพทย์
(๖)๒ คลินิกกำรแพทย์แผนไทยต้องมีผู้ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทย


รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๒/ตอนที่ ๒๖ ก/หน้ำ ๕๐/๒ เมษำยน ๒๕๕๘

ข้ อ ๓ (๖) แก้ ไขเพิ่ม เติมโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพ และจำนวนผู้ป ระกอบวิชำชี พใน
สถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๗๑


(๖/๑) ๓ คลินิก กำรแพทย์แ ผนไทยประยุก ต์ต้อ งมีผู้ป ระกอบวิช ำชีพ กำรแพทย์
แผนไทยประยุกต์
(๗) คลินิกกำรประกอบโรคศิลปะ ต้องมีผู้ประกอบโรคศิลปะตำมที่ได้รับอนุญำต
(๘) คลินิกเฉพำะทำง ต้องมีผู้ประกอบวิชำชีพเฉพำะทำงตำมที่ได้รับอนุญำต
(๙) สหคลินิก ต้องมีผู้ประกอบวิชำชีพทุกวิชำชีพตำมที่ได้รับอนุญำต
ในกรณีที่คลินิกตำมวรรคหนึ่งทำกำรประกอบวิชำชีพโดยอำศัยศำสตร์หรือควำมรู้
กฎกระทรวง

จำกต่ ำงประเทศซึ่ งวิ ช ำชี พ นั้ น ยั งมิ ได้ มี กฎหมำยรั บ รองในประเทศไทยตำมกฎหมำยว่ำด้ ว ยกำร
ประกอบโรคศิลปะ ต้องจัดให้มีบุคคลที่ได้รับอนุญำตให้ทำกำรประกอบโรคศิลปะดังกล่ำวร่วมด้วย

หมวด ๒
ผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน

ข้อ ๔ โรงพยำบำลทั่วไปต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชำชีพปฏิบัติงำนเต็มเวลำหรือบำง
เวลำในเวลำที่เปิดทำกำรระหว่ำงเวลำ ๐๘.๐๐ นำฬิกำ ถึง ๒๐.๐๐ นำฬิกำ โดยมีจำนวนขั้นต่ำตำม
จำนวนเตียงที่ขออนุญำตเปิดดำเนินกำร ตำมที่กำหนดไว้ในตำรำงที่ ๑ ท้ำยกฎกระทรวงนี้

ข้อ ๕ โรงพยำบำลทันตกรรมต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชำชีพปฏิบัติงำนเต็มเวลำหรือ
บำงเวลำในเวลำที่เปิดทำกำรระหว่ำงเวลำ ๐๘.๐๐ นำฬิกำ ถึง ๒๐.๐๐ นำฬิกำ โดยมีจำนวนขั้นต่ำ
ตำมจำนวนเตียงที่ขออนุญำตเปิดดำเนินกำร ตำมที่กำหนดไว้ในตำรำงที่ ๒ ท้ำยกฎกระทรวงนี้

ข้อ ๖ โรงพยำบำลกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์ต้องจัดให้ มีผู้ประกอบวิชำชีพ


ปฏิ บั ติงำนเต็ม เวลำหรือบำงเวลำในเวลำที่ เปิด ทำกำรระหว่ำงเวลำ ๐๘.๐๐ นำฬิ กำ ถึง ๒๐.๐๐
นำฬิกำ โดยมีจำนวนขั้นต่ำตำมจำนวนเตียงที่ขออนุญำตเปิดดำเนินกำร ตำมที่กำหนดไว้ในตำรำงที่ ๓
ท้ำยกฎกระทรวงนี้

ข้อ ๗ โรงพยำบำลกำยภำพบำบัดต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชำชีพปฏิบัติงำนเต็มเวลำ
หรือบำงเวลำในเวลำที่เปิดทำกำรระหว่ำงเวลำ ๐๘.๐๐ นำฬิกำ ถึง ๒๐.๐๐ นำฬิกำ โดยมีจำนวนขั้น
ต่ำตำมจำนวนเตียงที่ขออนุญำตเปิดดำเนินกำร ตำมที่กำหนดไว้ในตำรำงที่ ๔ ท้ำยกฎกระทรวงนี้

ข้อ ๘ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชำชีพปฏิบัติงำนเต็ม
เวลำหรือบำงเวลำในเวลำที่เปิ ดทำกำรระหว่ำงเวลำ ๐๘.๐๐ นำฬิ กำ ถึง ๒๐.๐๐ นำฬิกำ โดยมี
จ ำนวนขั้ น ต่ ำตำมจ ำนวนเตี ย งที่ ข ออนุ ญ ำตเปิ ด ด ำเนิ น กำร ตำมที่ ก ำหนดไว้ ในตำรำงที่ ๕ ท้ ำ ย
กฎกระทรวงนี้


ข้ อ ๓ (๖/๑) เพิ่ ม โดยกฎกระทรวงก ำหนดวิ ช ำชี พ และจ ำนวนผู้ ป ระกอบวิ ช ำชี พ ใน
สถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

๗๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ข้อ ๘/๑๔ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชำชีพ
ปฏิบัติงำนเต็มเวลำหรือบำงเวลำในเวลำที่เปิดทำกำรระหว่ำงเวลำ ๐๘.๐๐ นำฬิกำ ถึง ๒๐.๐๐ นำฬิกำ
โดยมีจำนวนขั้นต่ำตำมจำนวนเตียงที่ขออนุญำตเปิดดำเนินกำร ตำมที่กำหนดไว้ในตำรำงที่ ๕/๑
ท้ำยกฎกระทรวงนี้

ข้อ ๙ โรงพยำบำลเฉพำะทำง และโรงพยำบำลเฉพำะประเภทผู้ป่วยต้องจัดให้มี

กฎกระทรวง
ผู้ประกอบวิชำชีพปฏิบัติงำนเต็มเวลำหรือบำงเวลำในเวลำที่เปิดทำกำรระหว่ำงเวลำ ๐๘.๐๐ นำฬิกำ
ถึง ๒๐.๐๐ นำฬิกำ โดยมีจำนวนขั้นต่ำตำมจำนวนเตียงที่ขออนุญำตเปิดดำเนินกำร ตำมที่กำหนดไว้
ในตำรำงที่ ๑ ท้ำยกฎกระทรวงนี้ โดยอนุโลม

ข้อ ๑๐ ในเวลำที่เปิ ดทำกำรระหว่ำงเวลำ ๒๐.๐๐ นำฬิกำ ถึง ๐๘.๐๐ นำฬิกำ


โรงพยำบำลตำมข้อ ๔ ถึงข้อ ๘/๑ ต้องจัดให้มีจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพปฏิบัติงำนเต็มเวลำหรือบำง
เวลำโดยมีจำนวนขั้นต่ำตำมจำนวนเตียงที่ขออนุญำตเปิดดำเนินกำร ตำมที่กำหนดไว้ในตำรำงที่ ๖ ถึง
ตำรำงที่ ๑๑ ท้ำยกฎกระทรวงนี้๕
สำหรับโรงพยำบำลตำมข้อ ๙ ต้องจัดให้มีจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพปฏิบัติงำนเต็ม
เวลำหรือบำงเวลำ โดยมีจำนวนขั้นต่ำตำมจำนวนเตียงที่ขออนุญำตเปิดดำเนินกำร ตำมที่กำหนดไว้ใน
ตำรำงที่ ๖ ท้ำยกฎกระทรวงนี้ โดยอนุโลม

บทเฉพำะกำล

ข้ อ ๑๑ สถำนพยำบำลประเภทที่ ไม่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ ค้ ำงคื น ซึ่ ง ได้ รั บ ใบอนุ ญ ำตให้


ประกอบกิ จ กำรสถำนพยำบำล และใบอนุ ญ ำตให้ ด ำเนิ น กำรสถำนพยำบำลอยู่ ใ นวั น ก่ อ นวั น ที่
กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ต้องดำเนิน กำรจัดให้ มีผู้ ประกอบวิช ำชีพและจำนวนผู้ ประกอบวิช ำชีพใน
สถำนพยำบำลตำมกฎกระทรวงนี้ภำยในเก้ำสิบวันนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับ

ข้อ ๑๒ สถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืนซึ่งได้รับใบอนุญำตให้ประกอบ
กิจกำรสถำนพยำบำล และใบอนุญำตให้ดำเนินกำรสถำนพยำบำลอยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้
บังคับ ต้องดำเนินกำรจัดให้มีผู้ประกอบวิชำชีพและจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำลตำม
กฎกระทรวงนี้ภำยในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับ

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๕๘


ศำสตรำจำรย์รัชตะ รัชตะนำวิน
รัฐมนตรีว่ำการกระทรวงสาธารณสุข

ข้อ ๘/๑ เพิ่มโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพและจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

ข้อ ๑๐ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพและจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ
ในสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๗๓


ตำรำงท้ำยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพและจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๕๘

ตำรำงที่ ๑ โรงพยำบำลทั่วไป๖
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ
สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่
ผู้ประกอบวิชำชีพ ผู้ประกอบวิชำชีพต่อ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง
จำนวนเตียงที่เพิ่มขึ้น
กฎกระทรวง

๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง


๑ คน ต่อ ๑
ผู้ประกอบวิชำชีพเวชกรรม ๑ คน ๒ คน ๓ คน ๔ คน ๕ คน
ถึง ๓๐ เตียง
ผู้ประกอบวิชำชีพกำรพยำบำล ๒ คน ต่อ ๑
๓ คน ๖ คน ๙ คน ๑๒ คน ๑๕ คน
และกำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ถึง ๓๐ เตียง
๑ คน ต่อ ๑
ผู้ประกอบวิชำชีพเภสัชกรรม ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๓ คน ๓ คน
ถึง ๖๐ เตียง
๑ คน ๑ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพเทคนิค ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี ๒ คน ๓ คน ๓ คน
กำรแพทย์ ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร)
๑ คน ๑ คน
๑ คน ต่อ ๑
ผู้ประกอบวิชำชีพกำยภำพบำบัด (หำกมี (หำกมี ๒ คน ๓ คน ๓ คน
ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร)
ผู้ประกอบวิชำชีพซึ่งเป็น ๑ คน ๑ คน
๑ คน ต่อ ๑
ผู้ประกอบโรคศิลปะ (หำกมี (หำกมี ๑ คน ๒ คน ๒ คน
ถึง ๙๐ เตียง
สำขำรังสีเทคนิค บริกำร) บริกำร)

ตำรำงที่ ๒ โรงพยำบำลทันตกรรม
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่ ผู้ประกอบวิชำชีพ
ผู้ประกอบวิชำชีพ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง ต่อจำนวนเตียง
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง ที่เพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๒ คน ต่อ ๑
๒ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน ๑๐ คน
ทันตกรรม ถึง ๓๐ เตียง
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๒ คน ต่อ ๑
กำรพยำบำลและ ๓ คน ๖ คน ๙ คน ๑๒ คน ๑๕ คน
ถึง ๓๐ เตียง
กำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๓ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เภสัชกรรม ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๓ คน
๑ คน ต่อ ๑
เทคนิคกำรแพทย์ (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)

ตำรำงที่ ๑ โรงพยำบำลทั่วไป แก้ไขเพิ่ มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพและจำนวนผู้
ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

๗๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ตำรำงที่ ๓ โรงพยำบำลกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่ ผู้ประกอบวิชำชีพ
ผู้ประกอบวิชำชีพ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง ต่อจำนวนเตียง
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง ที่เพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบวิชำชีพ

กฎกระทรวง
กำรพยำบำลและ
๒ คน ต่อ ๑
กำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ๓ คน ๖ คน ๙ คน ๑๒ คน ๑๕ คน
ถึง ๓๐ เตียง
หรือผู้ประกอบวิชำชีพ
กำรพยำบำล ชั้นหนึ่ง
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เภสัชกรรม ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เทคนิคกำรแพทย์ ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๓ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
กำยภำพบำบัด ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)

ตำรำงที่ ๔ โรงพยำบำลกำยภำพบำบัด
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่ ผู้ประกอบวิชำชีพ
ผู้ประกอบวิชำชีพ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง ต่อจำนวนเตียง
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง ที่เพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๒ คน ต่อ ๑
๒ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน ๑๐ คน
กำยภำพบำบัด ถึง ๓๐ เตียง
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๒ คน ต่อ ๑
กำรพยำบำลและ ๒ คน ๔ คน ๖ คน ๙ คน ๑๒ คน
ถึง ๓๐ เตียง
กำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๓ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เภสัชกรรม ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๗๕


ตำรำงที่ ๕ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทย๗
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ
สัดส่วนของผู้ประกอบ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่
ผู้ประกอบวิชำชีพ วิชำชีพต่อจำนวนเตียงที่
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง
เพิ่มขึ้น
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๑ คน ต่อ ๑
กำรแพทย์แผนไทย ๓ คน ๕ คน ๘ คน ๑๑ คน ๑๔ คน
ถึง ๑๐ เตียง
กฎกระทรวง

(ด้ำนเวชกรรมไทย)
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๑ คน ต่อ ๑
กำรแพทย์แผนไทย ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๓ คน ๔ คน
ถึง ๓๐ เตียง
(ด้ำนเภสัชกรรมไทย)

ตำรำงที่ ๕/๑ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์๘


จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ
สัดส่วนของผู้ประกอบ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่
ผู้ประกอบวิชำชีพ วิชำชีพต่อจำนวนเตียงที่
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง
เพิ่มขึ้น
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
๓ คน ๕ คน ๘ คน ๑๑ คน ๑๔ คน
กำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ถึง ๑๐ เตียง
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๑ คน ต่อ ๑
กำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๓ คน ๔ คน
ถึง ๓๐ เตียง
(ปฏิบัติงำนเภสัชกรรมไทย)


ตำรำงที่ ๕ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทย แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพและ
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

ตำรำงที่ ๕/๑ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ เพิ่มโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพ
และจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

๗๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ตำรำงที่ ๖ โรงพยำบำลทั่วไป๙
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่ ผู้ประกอบวิชำชีพ
ผู้ประกอบวิชำชีพ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง ต่อจำนวนเตียง
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง ที่เพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบวิชำชีพเวชกรรม ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๒ คน ๑ คน ต่อ ๑
ถึง ๖๐ เตียง

กฎกระทรวง
ผู้ประกอบวิชำชีพกำรพยำบำล ๑ คน ต่อ ๑
๒ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน ๑๐ คน
และกำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ถึง ๓๐ เตียง
๑ คน ต่อ ๑
ผู้ประกอบวิชำชีพเภสัชกรรม ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ถึง ๑๒๐ เตียง
๑ คน ๑ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพเทคนิค ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี ๑ คน ๑ คน ๒ คน
กำรแพทย์ ถึง ๑๒๐ เตียง
บริกำร) บริกำร)
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน
๑ คน ต่อ ๑
ผู้ประกอบวิชำชีพกำยภำพบำบัด (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
ถึง ๙๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
ผู้ประกอบวิชำชีพซึ่งเป็น ๑ คน ๑ คน
๑ คน ต่อ ๑
ผู้ประกอบโรคศิลปะ (หำกมี (หำกมี ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ถึง ๙๐ เตียง
สำขำรังสีเทคนิค บริกำร) บริกำร)


ตำรำงที่ ๖ โรงพยำบำลทั่วไป แก้ไขเพิ่ มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพและจำนวนผู้
ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๗๗


ตำรำงที่ ๗ โรงพยำบำลทันตกรรม
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่ ผู้ประกอบวิชำชีพ
ผู้ประกอบวิชำชีพ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง ต่อจำนวนเตียง
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง ที่เพิ่มขึน้
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๒ คน
ทันตกรรม ถึง ๖๐ เตียง
กฎกระทรวง

ผู้ประกอบวิชำชีพ
๑ คน ต่อ ๑
กำรพยำบำลและ ๑ คน ๒ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน
ถึง ๓๐ เตียง
กำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เภสัชกรรม ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เทคนิคกำรแพทย์ ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)

ตำรำงที่ ๘ โรงพยำบำลกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่ ผู้ประกอบวิชำชีพ
ผู้ประกอบวิชำชีพ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง ต่อจำนวนเตียง
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง ที่เพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบวิชำชีพ
กำรพยำบำลและ
๑ คน ต่อ ๑
กำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ๒ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน ๑๐ คน
ถึง ๓๐ เตียง
หรือผู้ประกอบวิชำชีพ
กำรพยำบำล ชั้นหนึ่ง
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เภสัชกรรม ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เทคนิคกำรแพทย์ ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
กำยภำพบำบัด ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)

๗๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ตำรำงที่ ๙ โรงพยำบำลกำยภำพบำบัด
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่ ผู้ประกอบวิชำชีพ
ผู้ประกอบวิชำชีพ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง ต่อจำนวนเตียง
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง ที่เพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๒ คน
กำยภำพบำบัด ถึง ๖๐ เตียง

กฎกระทรวง
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๑ คน ต่อ ๑
กำรพยำบำลและ ๑ คน ๒ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน
ถึง ๓๐ เตียง
กำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๓ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เภสัชกรรม ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)

ตำรำงที่ ๑๐ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทย๑๐
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่ ผู้ประกอบวิชำชีพ
ผู้ประกอบวิชำชีพ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง ต่อจำนวนเตียง
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง ที่เพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๑ คน ต่อ ๑
กำรแพทย์แผนไทย ๑ คน ๓ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน
ถึง ๑๕ เตียง
(ด้ำนเวชกรรมไทย)
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๑ คน ต่อ ๑
กำรแพทย์แผนไทย ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ถึง ๙๐ เตียง
(ทำงด้ำนเภสัชกรรมไทย)

ตำรำงที่ ๑๑ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์๑๑
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่ ผู้ประกอบวิชำชีพ
ผู้ประกอบวิชำชีพ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง ต่อจำนวนเตียง
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง ที่เพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
๑ คน ๓ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน
กำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ถึง ๑๕ เตียง
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๑ คน ต่อ ๑
กำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ถึง ๙๐ เตียง
(ทำงด้ำนเภสัชกรรมไทย)

๑๐
ตำรำงที่ ๑๐ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทย แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพ
และจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๑
ตำรำงที่ ๑๑ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ เพิ่มโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพ
และจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๗๙


หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจำกมีกำรปรับปรุงกำรกำหนด
ลักษณะของสถำนพยำบำล และลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำลตำมกฎกระทรวงว่ำด้วย
ลักษณะของสถำนพยำบำล และลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๕ ดังนั้น เพื่อให้
กำรกำหนดจำนวนวิชำชีพและจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำลเป็นไปโดยเหมำะสมและ
สอดคล้องกัน จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
กฎกระทรวง

กฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพและจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒๑๒

หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มีกำรแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง


กำหนดลัก ษณะของสถำนพยำบำลและลัก ษณะกำรให้บ ริก ำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๕๘
โดยแยกสถำนพยำบำลที่ดำเนิ นกำรโดยผู้ประกอบวิช ำชีพกำรแพทย์แผนไทยและสถำนพยำบำล
ที่ดำเนิน กำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ออกจำกกัน ประกอบกับกำรกำหนด
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำลที่เป็นโรงพยำบำลทั่วไป ตำมกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพ
และจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๕๘ ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน
ดังนั้น เพื่อให้กำรกำหนดวิชำชีพและจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำลดังกล่ำว เป็นไปโดย
เหมำะสมและสอดคล้องกับสถำนกำรณ์ในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

๑๒
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๕/ตอนที่ ๑๖ ก/หน้ำ ๑๒/๘ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๒

๘๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


กฎกระทรวง
กำหนดชื่อสถำนพยำบำล และกำรแสดงรำยละเอียด
เกี่ยวกับชื่อสถำนพยำบำล ผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล
อัตรำค่ำรักษำพยำบำล ค่ำยำและเวชภัณฑ์ ค่ำบริกำรทำงกำรแพทย์ ค่ำบริกำรอื่น และสิทธิของผู้ป่วย
พ.ศ. ๒๕๖๒๑

กฎกระทรวง
อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำ ๖ วรรคหนึ่ง และมำตรำ ๑๘ วรรคหนึ่ง (๕) แห่ง
พระรำชบั ญ ญั ติ ส ถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ และมำตรำ ๓๒ วรรคสอง แห่ งพระรำชบั ญ ญั ติ
สถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุขออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้ยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดชื่อสถำนพยำบำล และกำรแสดงรำยละเอียด


เกี่ยวกับชื่อสถำนพยำบำล ผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล อัตรำค่ำรักษำพยำบำล ค่ำบริกำรและ
สิทธิของผู้ป่วย พ.ศ. ๒๕๕๘

ข้อ ๒ ในกฎกระทรวงนี้
“สถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ ป่วยไว้ ค้ำงคืน” หมำยควำมว่ำ สถำนพยำบำล
ประเภทคลิ นิ ก ตำมกฎกระทรวงว่ำด้ว ยกำรก ำหนดลั กษณะของสถำนพยำบำลและลั กษณะกำร
ให้บริกำรของสถำนพยำบำล
“สถำนพยำบำลประเภทที่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ ค้ ำงคื น ” หมำยควำมว่ ำ สถำนพยำบำล
ประเภทโรงพยำบำลตำมกฎกระทรวงว่ำด้ว ยกำรกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะ
กำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล

ข้ อ ๓ ผู้ ข อรั บ ใบอนุ ญ ำตให้ ป ระกอบกิ จ กำรสถำนพยำบำลต้ อ งจั ด ให้ มี ชื่ อ


สถำนพยำบำลตำมที่กำหนด ดังต่อไปนี้
(๑) ค ำน ำหน้ ำ ชื่ อ หรื อ ต่ อ ท้ ำ ยชื่ อ สถำนพยำบำลต้ อ งประกอบด้ ว ยลั ก ษณะของ
สถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำลที่ขออนุญำต โดยไม่ต้องระบุรำยละเอียด
อื่นเพิ่มเติม
(๒) ชื่อสถำนพยำบำลจะต้องไม่ใช้คำหรือข้อควำมที่มีลักษณะชักชวนหรือโอ้อวดเกิน
ควำมจริงหรืออำจทำให้เกิดควำมเข้ำใจผิดในสำระสำคัญเกี่ยวกับกำรประกอบกิจกำรสถำนพยำบำล
(๓) ชื่อสถำนพยำบำลที่สื่อควำมหมำยหรืออ้ำงอิงสถำบันพระมหำกษัตริย์จะกระทำ
มิได้เว้นแต่ได้รับพระบรมรำชำนุญำตหรือพระรำชำนุญำต

ข้อ ๔ สถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ ค้ำงคืนซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอหรือในเขต


เดียวกันและสถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ ค้ำงคืนจะต้องมีชื่อไม่ซ้ำกัน เว้นแต่กรณีที่ผู้ขอรับ


รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๖/ตอนที่ ๑๖ ก/หน้ำ ๑๕/๘ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๒

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๘๑


ใบอนุญำตให้ประกอบกิจกำรสถำนพยำบำลใหม่และผู้รับอนุญำตเดิมเป็นบุคคลหรือนิติบุคคลเดียวกัน
หรือมีหนังสือยินยอมจำกผู้รับอนุญำตเดิมให้ใช้ชื่อซ้ำกันได้ แต่ต้องมีตัวอักษรหรือหมำยเลขเรียงลำดับ
หรือที่ตั้งสถำนที่ต่อท้ำยชื่อ

ข้อ ๕ ผู้รับอนุญำตต้องแสดงรำยละเอียดเกี่ยวกับชื่อสถำนพยำบำลที่ได้รับอนุญำต
ในที่เปิดเผย ณ สถำนพยำบำลนั้น ดังต่อไปนี้
กฎกระทรวง

(๑) ให้ จั ด ท ำแผ่ น ป้ ำ ยแสดงชื่ อ สถำนพยำบำลเป็ น ตั ว อั ก ษรไทย กรณี ใช้


ภำษำต่ำงประเทศด้วยขนำดตัวอักษรต้องเล็กกว่ำอักษรไทย โดยระบุลักษณะของสถำนพยำบำลไว้ใน
แผ่นป้ำยดังกล่ำวด้วย ทั้งนี้ กรณีที่เป็น สถำนพยำบำลเฉพำะทำงหรือเฉพำะประเภทผู้ป่วย ให้ระบุ
ลักษณะเฉพำะดังกล่ำวไว้ด้วย
(๒) แผ่นป้ำยแสดงชื่อสถำนพยำบำลต้องมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืน ผ้ำ มีขนำดควำม
กว้ำงไม่น้อยกว่ำสี่สิบเซนติเมตร และควำมยำวไม่น้อยกว่ำหนึ่งร้อยยี่สิบเซนติเมตร ตัวอักษรแสดงชื่อ
สถำนพยำบำลมี ควำมสูงไม่น้ อยกว่ำสิ บ เซนติเมตร และตัวอักษรแสดงลั กษณะกำรให้ บ ริกำรของ
สถำนพยำบำล เลขที่ใบอนุญำตให้ป ระกอบกิจกำรสถำนพยำบำล และจำนวนเตียงที่จัดให้บริกำร
ผู้ป่วยกรณีสถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน มีควำมสูงไม่น้อยกว่ำห้ำเซนติเมตร
(๓) ให้แสดงแผ่นป้ำยแสดงชื่อสถำนพยำบำลไว้ในบริเวณสถำนพยำบำลหรือตัวอำคำร
สถำนพยำบำลโดยสำมำรถมองเห็นได้ชัดเจนจำกภำยนอก
(๔) เอกสำรเวชระเบี ย น ซอง หรื อ ฉลำกบรรจุ ย ำหรื อ เวชภั ณ ฑ์ ต้ อ งปรำกฎชื่ อ
สถำนพยำบำลและสถำนที่ติดต่อด้วย

ข้อ ๖ สถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ ค้ำงคืนให้ใช้พื้นแผ่น ป้ำยสีขำวและ


ตัวอักษรในแผ่นป้ำยแสดงชื่อให้ใช้สี ดังต่อไปนี้
(๑) คลินิกเวชกรรมให้ใช้ตัวอักษรสีเขียว
(๒) คลินิกทันตกรรมให้ใช้ตัวอักษรสีม่วง
(๓) คลินิกกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์ให้ใช้ตัวอักษรสีฟ้ำ
(๔) คลินิกกำยภำพบำบัดให้ใช้ตัวอักษรสีชมพู
(๕) คลินิกเทคนิคกำรแพทย์ให้ใช้ตัวอักษรสีเลือดหมู
(๖) คลินิกกำรแพทย์แผนไทยให้ใช้ตัวอักษรสีน้ำเงิน
(๗) คลินิกกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ให้ใช้ตัวอักษรสีทอง
(๘) คลินิกกำรประกอบโรคศิลปะให้ใช้ตัวอักษรสีน้ำตำล
(๙) คลินิกเฉพำะทำงด้ำนเวชกรรมให้ใช้ตัวอักษรสีเขียว
คลินิกเฉพำะทำงด้ำนทันตกรรมให้ใช้ตัวอักษรสีม่วง
คลินิกเฉพำะทำงด้ำนกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์ให้ใช้ตัวอักษรสีฟ้ำ
(๑๐) สหคลินิกให้ใช้ตัวอักษรสีเขียวแก่

ข้อ ๗ สถำนพยำบำลประเภทที่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ ค้ ำงคื น ให้ ใช้พื้ น แผ่ น ป้ ำยสี ขำวและ
ตัวอักษรในแผ่นป้ำยแสดงชื่อให้ใช้สี ดังต่อไปนี้
(๑) โรงพยำบำลทั่วไปให้ใช้ตัวอักษรสีเขียว

๘๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(๒) โรงพยำบำลทันตกรรมให้ใช้ตัวอักษรสีม่วง
(๓) โรงพยำบำลกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์ให้ใช้ตัวอักษรสีฟ้ำ
(๔) โรงพยำบำลกำยภำพบำบัดให้ใช้ตัวอักษรสีชมพู
(๕) โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยให้ใช้ตัวอักษรสีน้ำเงิน
(๖) โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ให้ใช้ตัวอักษรสีทอง
(๗) โรงพยำบำลเฉพำะทำงให้ใช้ตัวอักษรสีเขียว

กฎกระทรวง
(๘) โรงพยำบำลเฉพำะประเภทผู้ป่วยให้ใช้ตัวอักษรสีเหลือง

ข้อ ๘ ให้ผู้รับอนุญำตแสดงรำยกำรเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล
ที่ได้รับอนุญำตในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่ำย ณ สถำนพยำบำลนั้น ดังต่อไปนี้
(๑) สถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ ค้ำงคืน ให้จัดให้มีแผ่นป้ำยแสดงชื่อและ
ชื่อสกุลของผู้ประกอบวิชำชีพและสำขำวิชำชีพ พร้อมทั้งระบุเลขที่ใบอนุญำตประกอบวิชำชีพให้อ่ำน
ได้ชัดเจน และให้แสดงรูป ถ่ำยที่ถ่ำยไม่เกินหนึ่งปี มีขนำดควำมกว้ำงไม่น้อยกว่ำแปดเซนติเมตรและ
ควำมยำวไม่น้อยกว่ำสิบสำมเซนติเมตร โดยสีของพื้นแผ่นป้ำยให้ใช้สีน้ำเงิน ตัวอักษรในแผ่นป้ำยให้ใช้
สีดำโดยมีแถบสี ขำวเป็ น พื้นหลังอยู่ตรงตัวอักษรที่ระบุ ข้อ ควำม และให้ ติดแผ่ น ป้ ำยไว้ในบริเวณที่
ผู้ป่วยมำติดต่อขอใช้บริกำร
(๒) สถำนพยำบำลประเภทที่รับ ผู้ป่ว ยไว้ ค้ำงคืน ให้จัดให้มีร ะบบแสดงชื่อ และ
ชื่อสกุลของผู้ประกอบวิชำชีพและสำขำวิชำชีพ พร้อมทั้งระบุเลขที่ใบอนุญำตประกอบวิชำชีพให้อ่ำน
ได้ชัดเจนในบริเวณที่ผู้ป่วยมำติดต่อขอใช้บริกำร

ข้อ ๙ ให้ผู้รับอนุญำตแสดงรำยละเอียดเกี่ยวกับอัตรำค่ำรักษำพยำบำล ค่ำยำและ


เวชภัณ ฑ์ ค่ำบริกำรทำงกำรแพทย์ และค่ำบริกำรอื่น ที่ ส ถำนพยำบำลต้องแสดงตำมมำตรำ ๓๓
วรรคหนึ่ง ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่ำย ณ สถำนพยำบำลที่ได้รับอนุญำต โดยจัดทำเป็นแผ่นประกำศ
แผ่นพับ เล่มหรือแฟ้มเอกสำร หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์แสดงให้ผู้ป่วยทรำบ และจัดทำแผ่นป้ำยให้
อ่ำนได้ชัดเจนด้วยตัวอักษรไทยขนำดควำมสู งไม่น้อยกว่ำสิบ เซนติเมตรแสดงให้ผู้ ป่วยทรำบว่ำจะ
สอบถำมอัตรำค่ำรักษำพยำบำล ค่ำยำและเวชภัณฑ์ ค่ำบริกำรทำงกำรแพทย์ และค่ำบริกำรอื่นของ
สถำนพยำบำลได้ที่ใดโดยแสดงไว้ในที่ที่เห็นได้ชัดเจน

ข้อ ๑๐ ให้ผู้รับอนุญำตแสดงรำยละเอียดเกี่ยวกับสิทธิของผู้ป่วยที่ สถำนพยำบำล


ต้องแสดงตำมมำตรำ ๓๓ วรรคหนึ่ง ในที่เปิดเผยและเห็นได้ ง่ำย ณ สถำนพยำบำลที่ได้รับอนุญำต
โดยจัดทำแผ่นป้ำยให้อ่ำนได้ชัดเจนด้วยตัวอักษรไทยขนำดควำมสูงไม่น้อยกว่ำหนึ่งเซนติเมตร และให้
ติดแผ่นป้ำยไว้ที่แผนกผู้ป่วยนอกและแผนกผู้ป่วยในกรณีสถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน

ข้ อ ๑๑ สถำนพยำบำลประเภทที่ ไม่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ ค้ ำงคื น ซึ่ ง ได้ รั บ ใบอนุ ญ ำตให้


ประกอบกิ จ กำรสถำนพยำบำลและใบอนุ ญ ำตให้ ด ำเนิ น กำรสถำนพยำบำลอยู่ ในวั น ก่ อ นวั น ที่
กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับต้องดำเนินกำรจัดให้มีชื่อ สถำนพยำบำล และกำรแสดงรำยละเอียดเกี่ยวกับ
ชื่อสถำนพยำบำล รำยกำรเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล อัตรำค่ำรักษำพยำบำล ค่ำยำ

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๘๓


และเวชภัณฑ์ ค่ำบริกำรทำงกำรแพทย์ ค่ำบริกำรอื่น และสิทธิของผู้ป่วยตำมกฎกระทรวงนี้ภำยในเก้ำ
สิบวันนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ

ข้อ ๑๒ สถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ ค้ำงคืนซึ่งได้รับใบอนุญำตให้ประกอบ


กิจกำรสถำนพยำบำลและใบอนุญำตให้ดำเนินกำรสถำนพยำบำลอยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้
ใช้บังคับต้องดำเนินกำรจัดให้มีชื่อสถำนพยำบำล และกำรแสดงรำยละเอียดเกี่ยวกับชื่อสถำนพยำบำล
กฎกระทรวง

ผู ้ป ระกอบวิช ำชี พ ในสถำนพยำบำล อั ตรำค่ ำรั กษำพยำบำล ค่ ำยำและเวชภั ณ ฑ์ ค่ ำบริ ก ำรทำง


กำรแพทย์ ค่ำบริกำรอื่น และสิทธิของผู้ป่วยตำมกฎกระทรวงนี้ภำยในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่
กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ

ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๑ มกรำคม พ.ศ. ๒๕๖๒


ปิยะสกล สกลสัตยำทร
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุข

๘๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


หมำยเหตุ :- เหตุ ผ ลในกำรประกำศใช้ กฎกระทรวงฉบั บ นี้ คื อ โดยที่ ม ำตรำ ๓๒ วรรคสองแห่ ง
พระรำชบัญญัติส ถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติ ส ถำนพยำบำล
(ฉบับ ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ บั ญ ญัติให้ ผู้ รับ อนุ ญ ำตต้องแสดงรำยละเอีย ดเกี่ยวกับ ชื่อ สถำนพยำบำล
รำยกำรเกี่ย วกับ ผู้ ป ระกอบวิช ำชีพในสถำนพยำบำล อัตรำค่ำรั กษำพยำบำล ค่ำยำและเวชภัณ ฑ์
ค่ำบริกำรทำงกำรแพทย์ ค่ำบริกำรอื่น และสิ ท ธิของผู้ ป่ วยตำมหลั กเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไขที่
กำหนดในกฎกระทรวง ประกอบกับมีกำรแก้ไขเพิ่มเติมกำรกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและ

กฎกระทรวง
ลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำลตำมกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและ
ลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๕๘ ดังนั้น เพื่อให้กำรกำหนดชื่อสถำนพยำบำล
และกำรแสดงรำยละเอียดเกี่ยวกับชื่อ สถำนพยำบำล ผู้ป ระกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล อัตรำ
ค่ำ รัก ษำพยำบำล ค่ำ ยำและเวชภัณฑ์ ค่ำบริกำรทำงกำรแพทย์ ค่ำบริกำรอื่น และสิทธิของผู้ป่วย
เป็นไปโดยเหมำะสมและสอดคล้องกัน จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๘๕


กฎกระทรวง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
วาดวยการดําเนินการสถานพยาบาล
าพ.ศ. ๒๕๔๕ส๑

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ มาตรา ๒๔ วรรคสอง มาตรา ๒๘ วรรคสาม
และมาตรา สํ๓๐
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
วรรคสอง แห ง พระราชบั ญ ญั ตสํิ สาถานพยาบาล
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พ.ศ. ๒๕๔๑ อั น เป น
กฎกระทรวง

พระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๙ ประกอบกับ มาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดย
อาศัยอํานาจตามบทบั ญญัติแหงกฎหมายการัฐมนตรีวาการกระทรวงสาธารณสุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ขออกกฎกระทรวงไว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ดังตอไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การขออนุญกาาตและการออกใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญาต กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๑ ผูใดประสงคจะขอรับใบอนุญาตใหดําเนินการสถานพยาบาล ใหยื่นคําขอ
ตามแบบที่ปลัสํดานักระทรวงสาธารณสุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขกําหนดโดยประกาศในราชกิ จจานุเบกษา พรกอามดวยเอกสาร
และหลักฐานตามที่ระบุไวในแบบคําขอนั้น

ข อ ๒ ผู ใ ดที่ ป ระสงค จ ะขอรั บ ใบอนุ ญ าตให ดํ า เนิ น การสถานพยาบาลเป น


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใบอนุญาตใหดําเนินการสถานพยาบาลแหงที่สอง ผูนั้นจะตองแสดงใหประจักษวาสามารถที่
ควบคุมดูแลสถานพยาบาลทั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้งสองแห
สํานังกได โดยใกลชิด โดยจะตกอา งแสดงวันเวลาที
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก่ผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ูดําเนินการจะไป กา
ดูแลสถานพยาบาลทั้งสองแหง และตองแสดงที่ตั้งของสถานพยาบาลแหงแรกและระยะหางของ
สถานพยาบาลทั
สํานั้งกสองแห ง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา

ขอก๓า ผูขอรับใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
าตใหดําเนินการสถานพยาบาลที
กา ่ไดสํปานัฏิกบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัติงานอื่นอยูแลว กา
ใหแจงวัน เวลาที่ปฏิบัติงานดังกลาวดวยในกรณีที่ปฏิบัติงานอื่นอยูแลว ตองมีเวลาที่ปฏิบัติงานใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สถานพยาบาลประเภทที ่รับผูปวยไวคางคืนในเวลาราชการไม นอยกวาสี่สิบชั่วโมงตอสัปดาห
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๔ การพิจารณาอนุ ญาตใหดําเนินการสถานพยาบาล ผูสํอานันุกญงานคณะกรรมการกฤษฎี
าตตองพิจารณา กา
วา วัน เวลาที่ผสําูยนัื่นกคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าขอรับใบอนุญาตใหดกาําเนินการสถานพยาบาล จะตองไมซ้ําซอกนกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บวัน เวลา ที่
ผูนั้นไดรับอนุญาตใหดําเนินการสถานพยาบาลอื่นไวแลว หรือตองไมซ้ําซอนกับวัน เวลาที่ผูนั้น
เปนผูประกอบวิชาชีกพา ในสถานพยาบาลอื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่น หรือไมซ้ําซอนกักบาวัน เวลา ที่ผสํูนาั้นนักปฏิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บัติงานในสวน กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ราชการหรือหนวยงานอื่น

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๑๙/ตอนที่ ๘๒ ก/หนา ๕๑/๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๕

๘๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ข อกา๕ ใบอนุ ญสําตให
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดํ า เนิ น การสถานพยาบาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ใหสําเ นัปกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไปตามแบบที่ กา
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา และใหผูรับอนุญาตแสดง
สําเนาใบอนุญสําตนั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
้นไวในสมุดทะเบียนสถานพยาบาล สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขอก๖า การไดรับอนุ
สํานัญกาตให
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เปนผูดําเนินการสถานพยาบาลสํตามข
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อ ๕ ไมเปนการ กา
ตัดอํานาจของผูรับอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาลในการที่จะเปลี่ยนตัวผูดําเนินการและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไมเปนการตัดสิทธิของผูดําเนินการที่ไมประสงคจะเปนผูดําเนินการ กอนใบอนุญาตใหดําเนินการ

กฎกระทรวง
สถานพยาบาลนั้นสิ้นกาอายุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๗ ผูรับอนุญาตใหกปา ระกอบกิจการสถานพยาบาลที ่ประสงค
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จะเปลี่ยนตัว
ผู ดํ า เนิ น การสถานพยาบาล หรื อ ในกรณี ที่ ผู ดํ า เนิ น การสถานพยาบาลไม ป ระสงค จ ะเป น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผูดําเนินการในสถานพยาบาลนั ้นตสํอานัไปกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใหแจงเปนหนังสือใหกาคูกรณีทราบลสํวางหน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
าไมนอยกวาสิบ กา
หาวัน และใหผูรับอนุญาตจัดหาบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา ๒๕ ยื่นคําขอและหลักฐานตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา พรอมแนบใบอนุญาต
ใหดําเนินการสถานพยาบาลเดิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มคืสํนาดนัวกยงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

หมวด ๒
การตออายุใบอนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๘ ผู ดํ า เนิ น การที
กา่ ป ระสงค จ สํะขอต อ อายุ ใ บอนุ ญ าตให
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดํ า เนิ น การ
สถานพยาบาลใหยื่นคําขอตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกําหนดโดยประกาศในราชกิจจา
นุ เ บกษา พร อ มด วกยเอกสารและหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ก ฐานตามที่ ร ะบุ ไ ว ใกนคํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า า ขอนั้ น การอนุ ญ าตให ต อ อายุ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใบอนุญาตใหดําเนินการสถานพยาบาล ใหผูอนุญาตแสดงไวในรายการทายใบอนุญาตเดิมหรือ
ออกใบอนุ ญสําตให
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใ หม โ ดยระบุ เ ลขที่ ใ บอนุ ญ าตเดิ มสํพร
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อ มบั น ทึ ก การการต อ อายุ ใ บอนุ ญ าต
ดังกลาวไวในสมุดทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนสถานพยาบาล สําหรับใบอนุญาตเดิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มที่หมดอายุสํแาลนัวกและได มีการออก กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ใบอนุญาตใหใหม ใหประทับตรายกเลิกการใชดวยอักษรสีแดง

หมวด ๓
สํการขอออกใบแทนใบอนุ ญกาตา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี

ขอ ๙ กรณีใบอนุญาตใหดําเนินการสถานพยาบาล สูญหายหรือถูกทําลายใน


สาระสํ า คั ญ ให ผู ดกํ าาเนิ น การแจ งสํตานัอกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี  อ นุ ญ าตและยื่ น คํ า ขอรั
กา บ ใบแทนใบอนุ ญ าตตามแบบที่ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปลั ด กระทรวงสาธารณสุ ข กํ า หนดโดยประกาศในราชกิ จ จานุ เ บกษา พร อ มด ว ยเอกสารและ
หลักฐานตามที สํา่รนัะบุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไวในคําขอนั้นภายในสามสิ กา บวันนัสํบานัแต
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
วันที่ไดรับทราบการสูกาญหายหรือถูก
ทําลายดังกลาว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๘๗


การพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จารณาออกใบแทนใบอนุ ญาตใหดําเนิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กานการสถานพยาบาล ใหผูอนุญาต กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ออกใบอนุญาตใหมตามใบอนุญาตเดิมโดยใหกํากับคําวา “ใบแทน” ไวที่ดานหนาซาย และระบุวนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เดือน ป ที่ออกใบแทนใบอนุ กา ้งบันทึกการออกใบแทนใบอนุ
ญาต พรอมทั สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญาตไวใกนสมุ
า ดทะเบียน
สถานพยาบาลดวย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การแกไขเปลีย่ นแปลงรายการอนุญาต
กฎกระทรวง

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๑๐ ผูดําเนินการที่ประสงคจะแกไขเปลี่ยนแปลงรายการการที่ไดรับอนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไวแลว ในกรณีดังกลาวตอไปนี้ ใหยื่นคําขอตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกํ าหนดโดย
ประกาศในราชกิจจานุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เบกษา
(๑) การเปลี่ยนชื่อสถานพยาบาล
สํานั(๒)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
การเปลี่ยนชื่อตัว ชืก่อาสกุล ของผูดสํําาเนิ นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
การ กา
(๓) การเปลี่ยนชื่อที่ตั้งสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การอนุญ าตให แ ก ไ ขเปลี่ ยนแปลงรายการดัง กล า ว ให ผู อ นุ ญ าตออกใบแทน
ใบอนุ ญ าตใหสํใานัหม แ ละให บั น ทึ ก การเปลี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ ย นแปลงไวสํใานสมุ ด ทะเบี ย นสถานพยาบาล
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํ า หรั บ
ใบอนุญาตเดิมใหประทับตรายกเลิกการใชดวยอักษรสีแดง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี การเปลี
กา ่ ย นชื่ อ ทีสํา่ ตนัั้ งกสถานพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี ตามกา (๓) ผู ดํ า เนิ
สํานันกการไม ต อ งเสี ย กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
คาธรรมเนียมในการเปลี่ยนแปลงแกไขใบอนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๑๑ การยื่นคําขอตามกฎกระทรวงนี้ ในกรุงเทพมหานคร ใหยื่น ณ กองการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกอบโรคศิลปะ สํานักงานปลัดสํกระทรวง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทรวงสาธารณสุข หรือสถานที สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อื่นที่ปลัดกระทรวง
สาธารณสุขประกาศกํ าหนดและสําหรับกในจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า งหวัดอื่นสํให
านักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ื่น ณ สํานักงานสาธารณสุกา ขจังหวัดที่
สถานพยาบาลนั้นตั้งอยู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีการยื
กา ่นคําขอตามข
สําอนัก๙งานคณะกรรมการกฤษฎี
และขอ ๑๐ หากไมสกาามารถมายื่นคํสํานัขอได ดวยตนเองให กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทําหนังสือมอบอํานาจใหผูอื่นมายื่นคําขอแทน และในการมายืนคําขอแทน ใหผูรับมอบอํานาจนํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลักฐานแสดงตนมาแสดงต อเจาหนาที่ผกูราับคําขอดวย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ใหไว ณ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๕


สุดารัสําตนันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกยุราพันธุ กา
รัฐมนตรีวาการกระทรวงสาธารณสุข
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๘๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


หมายเหตุ :- เหตุกผาลในการประกาศใช
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ก ฎกระทรวงฉบั บกนีา้ คื อ โดยที่ มสําตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๒๔ วรรคสอง กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา ๒๘ วรรคสามและมาตรา ๓๐ วรรคสอง แหงพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บัญญัติใหการขอและการออกใบอนุ ญาตกา การขอตออายุ
สํานัใกบอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ญาตและการอนุญกาต
า และการขอ
และการออกใบแทนใบอนุญาตใหดําเนินการสถานพยาบาลตองเปนไปตามหลักเกณฑ วิธีการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง จึงจําเปนตองออกกฎกระทรวงนี้

กฎกระทรวง

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๘๙


กฎกระทรวง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
วาดวยผูด ําเนินการสถานพยาบาลตามประเภท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
และลักษณะการใหบริกกา ารทางการแพทย
สํานักขงานคณะกรรมการกฤษฎี
องสถานพยาบาล กา
พ.ศ. ๒๕๔๕๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานัอาศั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ยอํานาจตามความในมาตรา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๖ และมาตรา กา
๒๕ (๑) แหงพระราชบั ญญัติ
กฎกระทรวง

สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ อันเปนพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัด


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิ ท ธิ แ ละเสรี ภ าพของบุ ค คลซึ่ ง มาตรา ๒๙ ประกอบกั บ มาตรา ๕๐ ของรั ฐ ธรรมนู ญ แห ง
ราชอาณาจั กสํรไทย บั ญ ญั ติ ใ ห ก ระทํกาาได โ ดยอาศัสํยาอํนักา งานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นาจตามบทบั ญ ญั ตกิ แา ห ง กฎหมาย
รัฐมนตรีวาการกระทรวงสาธารณสุขออกกฎกระทรวงไว ดังตอไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๑ ใหผูประกอบวิชาชีพเวชกรรม มีสิทธิไดรับอนุญาตใหเปนผูดําเนินการ
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตามประเภทและลั กา
ษณะการใหบริการทางการแพทย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของสถานพยาบาล ดังนี้ กา
(๑) สถานพยาบาลประเภทที่ไมรับผูปวยไวคางคืนที่มีลักษณะการใหบริการเปน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คลินิกเวชกรรมหรือสหคลินิกที่ใหบริการดานเวชกรรมดวย
สํานัคลิ นิกเวชกรรมเฉพาะทางหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อสหคลิสํนานัิกกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ใหบริการดานเวชกรรมเฉพาะทางผู
กา 
ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่มีสิทธิไดรับอนุญาตใหเปนผูดําเนินการ ตองเปนผูที่ไดรับวุฒิบัตรหรือ
อนุมัติบัตรจากแพทยสภาในสาขานั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํา้นนัดกวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ย กา
(๒) สถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคางคืนที่มีลักษณะการใหบริการเปน
สํ านั กงานคณะกรรมการกฤษฎี
โรงพยาบาล สถานพยาบาลเวชกรรม หรืกอาสถานพยาบาลผู
สํานัปกงานคณะกรรมการกฤษฎี
วยเรื้อรัง กา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขอก๒า ใหผูประกอบวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชาชีพทันตกรรม มีสิทกาธิไดรับอนุญาตให
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เปนผูดําเนินการ กา
ตามประเภทและลั
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ษณะการใหบริการทางการแพทย
กา ของสถานพยาบาล ดังนี้ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๑) สถานพยาบาลประเภทที่ไมรับผูปวยไวคางคืนที่มีลักษณะการใหบริการเปน
คลินิกทันตกรรมหรืกอาสหคลินิกที่ใหสําบนัริกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ารดานทันตกรรมดวยกา
คลินิกทันตกรรมเฉพาะทางหรือสหคลินิกที่ใหบริการดานทันตกรรมเฉพาะทางผู
ประกอบวิชาชีพทักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ตกรรมที่มีสิทธิไดรับกาอนุญาตใหเปสํนานัผูกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําเนินการ ตองเปนผูกทาี่ไดรับวุฒิบัตร
หรือหนังสืออนุมัติจากทันตแพทยสภาในสาขานั้นดวย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) สถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคางคืนที่มีลักษณะการใหบริการเปน
สถานพยาบาลทัสํานันกตกรรม
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ขอก๓า ใหผูประกอบวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ชาชีพการพยาบาลและการผดุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งครรภสําชันั้นกหนึ ่ง มีสิทธิไดรับ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
อนุ ญ าตให เ ป น ผู ดํ า เนิ น การตามประเภทและลั ก ษณะการให บ ริ ก ารทางการแพทย ข อง
สถานพยาบาลสําดันังกนีงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๑๙/ตอนที่ ๘๒ ก/หนา ๕๕/๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๕

๙๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(๑)กาสถานพยาบาลประเภทที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ไมรับผูปวยไวกคาางคืนที่มีลักษณะการให
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บริการเปน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ หรือสหคลินิกที่ใหบริการดานการพยาบาล การดูแลมารดา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
และทารกกอนและหลั งคลอดยกเวนการทํกาาคลอดดวย
(๒) สถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคางคืนที่มีลักษณะการใหบริการเปน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สถานพยาบาลการผดุงครรภหรือสถานพยาบาลผูปวยเรื้อรัง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๔ ใหผูประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ ชั้นหนึ่ง มีสิทธิไดรับอนุญาตใหเปน

กฎกระทรวง
ผู ดํ า เนิ น การสถานพยาบาลประเภทที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ รั บ ผู ป ว ยไว ค า งคืกนา ที่ มี ลั ก ษณะการให
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บ ริ ก ารเป น กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลการผดุงครรภ

ขอ ๕ ใหผูประกอบวิชาชีพซึ่งเปนผูประกอบโรคศิลปะ สาขากายภาพบําบัดมี


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สิทธิไดรับอนุญาตให กาเปนผูดําเนินสํการตามประเภทและลั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กษณะการให บริกสํารทางการแพทย
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของ กา
สถานพยาบาล ดังนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) สถานพยาบาลประเภทที่ไมรับผูปวยไวคางคืนที่มีลักษณะการใหบริการเปน
คลินิกกายภาพบําบัดกาหรือสหคลินิกสํทีานั่ใกหงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บริการดานกายภาพบํกาาบัดดวย
(๒) สถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคางคืนที่มีลักษณะการใหบริการเปน
สถานพยาบาลผู สํานัปกวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยเรื้อรัง กา

ขอก๖า ใหผูประกอบวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักชงานคณะกรรมการกฤษฎี
าชีพซึ่งเปนผูประกอบโรคศิ
กา ลปะ สาขาเทคนิ คการแพทยมี กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สิทธิไดรับอนุญาตใหเปนผูดําเนินการสถานพยาบาลประเภทที่ไมรับผูปวยไวคางคืนที่มีลักษณะ
สํานันกคลิ
การใหบริการเป งานคณะกรรมการกฤษฎี
นิกเทคนิคการแพทยกาหรือสหคลินิกสํทีานั่ใกหงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บริการดานเทคนิคการแพทย ดวย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๗ ใหผูประกอบวิ ชาชีพซึ่งเปนผูประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย แผนไทย
มีสิทธิไดรับอนุสําญนัาตให เปนผูดําเนินการตามประเภทและลั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ษณะการใหบริการทางการแพทย
กา ของ
สถานพยาบาล ดังนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑)กาสถานพยาบาลประเภทที ่ไมรับผูปวยไวกคาางคืนที่มีลักษณะการให
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บริการเปน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลินิกการแพทยแผนไทยหรือสหคลินิกที่ใหบริการดานการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย
แผนไทยดวย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) สถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคางคืนที่มีลักษณะการใหบริการเปน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สถานพยาบาลการแพทยแผนไทย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๘ ใหผูประกอบวิชาชีพซึ่งเปนผูประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทยแผนไทย
ประยุก ตมีสิทธิ ไ ดรกั บา อนุญ าตให เสํปานันกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี  ดํ าเนิ นการตามประเภทและลั
กา ก ษณะการให บริ ก ารทาง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การแพทยของสถานพยาบาล ดังนี้
สํานั(๑)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลประเภทที กา ่ไมรับผูปสํวานัยไว
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บริการเปน
คางคืนที่มีลักษณะการให
คลินิกการแพทยแผนไทยประยุกตหรือสหคลินิกที่ใหบริการดานการประกอบโรคศิลปะ สาขา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การแพทยแผนไทยประยุกตดวย

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๙๑


(๒)กา สถานพยาบาลประเภทที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่รับผูปวยไวคกาางคืนที่มีลักษณะการให
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บริการเปน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลการแพทยแผนไทยประยุกต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ใหไว ณ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ.ศ. สํ๒๕๔๕
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สุดารัตน เกยุราพันธุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รัฐมนตรีวาสํการกระทรวงสาธารณสุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ข กา
กฎกระทรวง

๙๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


หมายเหตุ :- เหตุกผาลในการประกาศใช
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ก ฎกระทรวงฉบั บกนีา้ คื อ โดยที่ มสําตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๒๕ (๑) แห ง กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ บัญญัติใหการพิจารณาออกใบอนุญาตใหดําเนินการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลของผู กา า ผู ข อรัสํบาใบอนุ
 อนุ ญ าตจะต อ งปรากฏว นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ญ าตเป น ผู ป ระกอบโรคศิ ล ปะ ผู
ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผูประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ ผูประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผดุ ง ครรภ หรื อ ผู ป ระกอบวิ ช าชี พ ทั น ตกรรม แต บุ ค คลเช น ว า นั้ น จะได รั บ อนุ ญ าตให เ ป น
ผูดําเนินการตามประเภทใด หรือสถานพยาบาลที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ใหสํบารินักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารทางการแพทยใด ให กา เปนไปตามที่

กฎกระทรวง
กําหนดในกฎกระทรวง จึงจําเปนตองออกกฎกระทรวงนี้

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๙๓


กฎกระทรวง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
วาดวยการจัดใหมีและรายงาน หลักฐานเกี่ยวกับผูประกอบวิชาชีพ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ในสถานพยาบาลและผู ปวยกและเอกสารอื
า สํ่นาทีนั่เกกีงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
่ยวกับการรักษาพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๕๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานัอาศั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ยอํานาจตามความในมาตรา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๖ และมาตรา กา
๓๕ (๓) แหงพระราชบั ญญัติ
กฎกระทรวง

สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ อันเปนพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัด


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สิ ท ธิ แ ละเสรี ภ าพของบุ ค คล ซึ่ ง มาตรา ๒๙ ประกอบกั บ มาตรา ๕๐ ของรั ฐ ธรรมนู ญ แห ง
ราชอาณาจั กสํรไทย บั ญ ญั ติ ใ ห ก ระทํกาาได โ ดยอาศัสํยาอํนักา งานคณะกรรมการกฤษฎี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี นาจตามบทบั ญ ญั ตกิ แา ห ง กฎหมาย
รัฐมนตรีวาการกระทรวงสาธารณสุขออกกฎกระทรวงไว ดังตอไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๑ ในกฎกระทรวงนี้
สํานั“กผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
 ป ว ยนอก ” หมายความว กา า ผู รั บ บริ สํานักการที
งานคณะกรรมการกฤษฎี
่ ไ ด รั บ การวิ นิ จ ฉั ยกวาา ป ว ยและได
ลงทะเบียนไวที่แผนกผูปวยนอก หรือผูปวยซึ่งมารับบริการในแผนกผูปวยฉุกเฉิน โดยแบงเปน ๓
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประเภท ดังนี้
สํานั(๑) มาขอรับบริการในสถานพยาบาลและกลั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บไดเลย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๒) มาขอรั บ บริ ก ารแล ว อยู พั ก ในสถานพยาบาลเพื่ อ สั ง เกตอาการ โดย
สถานพยาบาลไมไดกราบั ไวเปนผูปวสํยใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี หรือ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๓) มาขอรับบริการแลวสถานพยาบาลรับเขารักษาตอในแผนกผูปวยใน
สํานั“กผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
 ป ว ยใน ” หมายความว กา า ผู ป ว ยซึ่ งสํมารั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บ การรั ก ษาพยาบาลโดยผู กา  ป ระกอบ
วิชาชีพ ผูใหการรักกษาพยาบาลสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า สํ่งาให
นักรงานคณะกรรมการกฤษฎี
ับไวเพื่อใหอยูพักรักกษาในสถานพยาบาล
า และไดรับการ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลงทะเบียนเปนผูปวยใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๒ ให ผู รั บ อนุ ญ าตและผู ดํา เนิ น การจั ด ให มี ห ลัก ฐานเกี่ย วกั บผู ป ระกอบ
วิชาชีพที่ปฏิบัติงานในสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัดักงานคณะกรรมการกฤษฎี
งนี้ กา
(๑) สําเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
สํานั(๒)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทะเบียนของผูประกอบวิ กา ชาชีพ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) หลักฐานการมาปฏิบัติงาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๓ ใหผูรับอนุญาตและผูดําเนินการจัดใหมีหลักฐานเกี่ยวกับผูปวยนอก ดังนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ทะเบียนผูปวยนอก ที่บันทึกการมารับบริการของผูปวย อยางนอยตองมี
รายการ ดังตอไปนี้ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ก) ชื่อ นามสกุล อายุของผูปวย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ข) เลขที่ประจําตัวกผูา ปวย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๑๙/ตอนที่ ๘๒ ก/หนา ๕๙/๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๕

๙๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา(ค) วัน เดือสํนานัปกทงานคณะกรรมการกฤษฎี
ี่มารับบริการ กา
(๒) บัตรผูปวยนอก ที่บันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับผูปวยที่มารับบริการ อยางนอย
ตองมีรายการสํดัานังกตงานคณะกรรมการกฤษฎี
อไปนี้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ก) ชื่อสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ข) เลขที่ประจําตัวผูปวย
(ค) วัน เดือน ปทกี่มาารับบริการ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

กฎกระทรวง
(ง) ชื่อ นามสกุล อายุ เพศ และขอมูลสวนบุคคลอื่น ๆ ของผูปวย เชนเชื้อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชาติ สัญชาติ สถานภาพกา ที่อยูและเลขที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
่บัตรประจําตัวประชาชน กา
(จ) ประวั ติ อ าการป ว ย ผลการตรวจทางร า งกาย และผลการตรวจทาง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หองปฏิบัติการชันสูตรของผูปวย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา(ฉ) การวินิจสํฉัานัยกโรค
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ช) การรักษา
(ซ) ลายมือชื่อผูประกอบวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ชาชีพผูสําในัหกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารรักษาพยาบาล กา

ขอก๔า ใหผูรับอนุสํญานัาตและผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดําเนินการจัดใหกมา ีหลักฐานเกี่ยสํวกั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผูปวยใน ดังนี้ กา
(๑) ทะเบียนผูปวยใน แตละหอผูปวยจะตองจัดทําทะเบียนผูปวยใน อยางนอย
ตองมีรายการสํดัานังกตงานคณะกรรมการกฤษฎี
อไปนี้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ก) ชื่อ นามสกุ ล อายุ ผูปวย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ข) เลขที่ประจําตัวผูปวย
(ค) วันที่รับไวเปนกผูาปวยในและวัสํนาทีนัก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อกจากหอผูปวย กา
(ง) ชื่อผูประกอบวิชาชีพซึ่งเปนผูรับผิดชอบผูปวยโดยตรง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒) แฟมประวัตสํิากนัารรั
ก า กงานคณะกรรมการกฤษฎี
กษาประจําตัวผูปวยแต กา ละคน อยสําางน
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ยตองมีรายการ กา
ดังตอไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ก) บั น ทึ ก ประวั ติ ผลการตรวจร า งกาย การวิ นิ จ ฉั ย โรคและการ
เปลี่ยนแปลงของโรคโดยผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ประกอบวิ สํานัชกาชี พซึ่งเปนผูใหการรักษาพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(ข) คําสั่งการรักษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ค) บันทึกอาการเปลี กา ่ยนแปลง สัสํญานัญาณชี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พ การรักษาและการพยาบาลโดย
ผูประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ ยกเวนสถานพยาบาลการแพทยแผนไทย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ง) บันทึกการรักษาที่แผนกหรือหนวยบริการอื่น ตองแสดงชื่อ นามสกุล
อายุของผูปวยสําเลขที ่ประจําตัว วัน เวลาที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ใหบริการ ผลการบริ การ และชื่อผูประกอบวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ชาชีพซึ่ง
เปนผูใหการรักษาพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา(จ) บันทึกสรุ สําปนัเมื ่อสิ้นสุดการรักษา กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๕ ใหผูรับอนุญาตและผูดําเนินการจัดทําทะเบียนประจําแผนกหรือบริการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดานการรักษาอยางนอยตองมีรายการ ดังตอไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑)กาชื่อ นามสกุลสําอายุ ของผูปวยนอกและผูปกวา ยใน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๙๕


(๒)กาเลขที่ประจําสํตัาวนัผูกปงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี วยนอกและผูปวยในกา
(๓) ชื่อผูประกอบวิชาชีพ
สํานั(๔)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
วัน เวลาที่ใหบริการกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขอก๖า ผูรับอนุญสําตและผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดําเนินการอาจจัดกทํา าหลักฐานตามข
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
๒ ขอ ๓ ขอ ๔ กา
และขอ ๕ เปนเอกสารและสมุดทะเบียนหรือบันทึกโดยเครื่องคอมพิวเตอรหรือวิธีอื่นใดที่ทําใหสิ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่บันทึกไวปรากฏก็ได ทั้งนี้ ตองเก็บรักษาไวใหอยูในสภาพที่สามารถตรวจสอบไดไมนอยกวาหาป
กฎกระทรวง

นับแตวันที่จัดทํา กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๗ ใหผูรับอนุญาตและผู
กา ดําเนินการจั
สํานัดกทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารายงาน ดังตอไปนี้ กา
(๑) รายงานประจําป สําหรับสถานพยาบาลประเภทที่ไมรับผูปวยไวคางคืน และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลประเภททีกา ่รับผูปวยไว
สําคนัากงคื
งานคณะกรรมการกฤษฎี
น ใหเปนไปตามแบบทีกา ่ปลัดกระทรวงสาธารณสุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขกําหนด กา
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) รายงานอื่นตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๘ ใหผูรับอนุญาตและผูดําเนินการสงรายงานประจําปของสถานพยาบาล
ตามขอ ๗ (๑)สํานัตกองานคณะกรรมการกฤษฎี
ผูอนุญาต ภายในวันทีก่ า๓๑ มีนาคมของป ถัดไป โดยในกรุงเทพมหานคร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ใหยื่น
ณ กองการประกอบโรคศิลปะ สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข หรือ ณ สถานที่อื่น
ตามที่ ป ลั ด กระทรวงสาธารณสุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ขสํประกาศกํ า หนด สํ า หรั บกในจั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ง หวั ด อื่ นสํให
านักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ื่ น ณ สํ า นั ก งาน กา
สาธารณสุขจังหวัดที่สถานพยาบาลนั้นตั้งอยู

ใหไว ณ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา พ.ศ. สํ๒๕๔๕
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สุดารัตน เกยุราพันธุ
รัฐมนตรีวาสํการกระทรวงสาธารณสุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๙๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


หมายเหตุ :- เหตุกผาลในการประกาศใช
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กฎกระทรวงฉบับกนีา้ คือ โดยที่ มสําตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๓๕ (๓) แห ง กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ บัญญัติใหผูรับอนุญาตและผูดําเนินการมีหนาที่และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ความรั บ ผิ ด ชอบร ว มกั น ในการจั ด ให มกาี แ ละรายงานสําหลั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ช าชี พ ใน
ก ฐานเกี่ ย วกั บ ผู ป ระกอบวิ
สถานพยาบาลและผูปวย และเอกสารอื่นที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามหลักเกณฑ วิธีการ และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง จึงจําเปนตองออกกฎกระทรวงนี้

กฎกระทรวง

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๙๗


กฎกระทรวง

๙๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ประกาศกระทรวงสาธารณสุ
กกกกกข
เรื่อง การกําหนดแบบหลักเกณฑและเงื่อนไขตามกฎกระทรวง
วาดวยการประกอบกิ
กกกก ก
จการ สถานพยาบาล ๒๕๔๕
พ.ศ. กกกก ก
และตามกฎกระทรวง
วาดวยวิชาชีพและจํานวนผูประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕
กกกกก ซึ่งออกตามพระราชบักกกก
ญญัติสถานพยาบาลก พ.ศ. ๒๕๔๑

โดยที
กกกก ก ่ ก ฎกระทรวงว
ากดกกก
วยการประกอบกิจการสถานพยาบาล
ก กพ.ศ. ๒๕๔๕ และ ก
กกก
กฎกระทรวงวาดวยวิชาชีพและจํานวนผูประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล พ.ศ.๒๕๔๕ ซึ่งออกตาม

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
กกกก ก ไดกําหนดใหปลักดกกก
กระทรวงสาธารณสุขกมีอํานาจกําหนด
แบบหลักเกณฑและเงื่อนไขตามกฎกระทรวงวาดวยการประกอบกิจการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕
และกฎกระทรวงวาดกวยวิชาชีพและลักษณะผู
กกกก ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
กกกก ก พ.ศ. ๒๕๔๕
กกกก ก

อาศั
กกกก ก อ ๓ ขอ ๕ ขอก๑๑
ยอํานาจตามความในข กกก
ขอ ๑๓ ขอ ๑๔ กขอ ๑๗ ขอ ๑๘
ขอ ๑๙ ขอ ๒๒ ขอ ๒๔ ขอ ๒๕ ขอ ๒๖ ขอ ๒๙ และขอ ๓๔ ของกฎกระทรวงวาดวยการประกอบ
กกกกก
กิจการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ และข กกกกก กกกกก
อ ๑ ของกฎกระทรวงวาดวยวิชาชีพและลั กษณะผูประกอบ
วิ ช าชี พ ในสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่ ง ออกตามความในพระราชบั
กกกกก
ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล
กกกกก
พ.ศ. ๒๕๔๑ อันเปนพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพ
ของบุคคล ซึ่งมาตราก๒๙ ประกอบกั
กกกก บมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนู
กกกก กญแหงราชอาณาจั
กกกกก
รไทย บัญญัติให ก
กระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศไว
ดังตอไปนี้

ข อก๑ ๑ ประกาศกระทรวงสาธารณสุ
กกกก กกกก
ข ฉบักบนี้ ให ใ ช บั ง คับตัก้ งกกก
แต วั น ถั ด จากวั น ก
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปนตนไป
กกกกก
ขอ ๒ แบบคําขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลประเภทที่ไมรับผูปวยไว
กกกกก กกกกก กกกกก
คางคืน ใหเปนไปตามแบบ ส.พ. ๑ ทายประกาศนี้
กกกกก กกกกก
ขอ ๓ แบบแผนงานการจัด ตั้ง สถานพยาบาลประเภทที่ไ มรับ ผูปว ยไวคา งคืน
ใหเปนไปตามแบบ กส.พ.
กกกก  ๒ ทายประกาศนี ้
กกกก ก

ขกอกกก
๔ แบบคําขออนุมัตกิแผนงานการจัดตั้งกสถานพยาบาลประเภทที
กกกก่รับผูปวยไวคาง
คืน ใหเปนไปตามแบบ ส.พ. ๓ ทายประกาศนี้

ขอ ๕ แบบแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคางคืน ใหเปนไป


ตามแบบ ส.พ.๔กทกกก
ายประกาศนี้ ก กกกกก


ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๑๙/ตอนพิเศษ ๘๐ ง/หนา ๕/๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๕

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๐๑


กกกก
ขอ ๖ กแบบคํ
 าตให
าขออนุญ กกกก ก
ประกอบกิจการสถานพยาบาล ใหเปนไปตามแบบ
กกกก
ส.พ. ๕ ก
ทายประกาศนี้

ข อ ๗ แบบหนั ง สื อ แสดงความจํา นงเป น ผู ป ฏิ บั ติ ง านในสถานพยาบาลของ


กกกกก กกกกก กกกกก
ผู ป ระกอบวิ ช าชี พ ใหเปนไปตามแบบ ส.พ. ๖ ทายประกาศนี้
กกกกก กกกกก
ขอ ๘ แบบใบอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล ใหเปนไปตามแบบ ส.พ. ๗
กทกกก
ายประกาศนี้ ก
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ขอก๙กกก
แบบสมุดทะเบียนสถานพยาบาลประเภทที
ก ่ไมรับผูปวยไวคางคืกน ใหเปนไป
กกกก
ตามแบบ ส.พ. ๘ ทายประกาศนี้
กกกกก
ขอ ๑๐ แบบสมุดทะเบียนสถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคางคืน ใหเปนไป
ตามแบบ ส.พ. ๙ทากยประกาศนี
กกกก
้ กกกกก

กกกกก กกกกก กกกกก


ขอ ๑๑ กรณีสมุดทะเบียนสถานพยาบาลสูญหายหรือถูกทําลายในสาระสําคัญให
ผูรับอนุญาตแจงตอผูกอกกก
นุญาตเพื่อขอรับสมุดทะเบีก ยนสถานพยาบาล ภายในกําหนดเวลาเจ็กดวันนับจาก
กกกก
วันที่ผูรับอนุญาตไดพบวาสมุดทะเบียนสถานพยาบาลสูญหายหรือถูกทําลายในสาระสําคัญ ตามแบบ
กใน ส.พ. ๑๕ ทายประกาศนี
กกก ก ้ โดยผูรับอนุ
ญกาตจะต องเปนผูรับผิดชอบค
กกก ก าสมุดทะเบี
ยนสถานพยาบาล
กกกกก
ฉบับใหม
ให
พกนักกก
กงานเจาหนาที่ที่รับผิกดชอบคัดสําเนาของสถานพยาบาลนั
กกกก ก
้นตามรายการที ่ระบุ
ไวในขอ ๑๔ แหงกฎกระทรวงวาดวยการประกอบกิจการของสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ลงในสมุด
กทะเบี
กกก
ยนสถานพยาบาลกโดยให  ระบุ “ฉบั บกแทน”
กกก
ไวหนาสมุดทะเบีกยนสถานพยาบาล
กและให
กกก
พนักงาน ก
เจาหนาที่รับรองสําเนาในเอกสารทุกแผน
กกกกก
ข อ ๑๒
กกกก ก แบบคํ า ขอเปลี ่ ย นแปลงรายการใบอนุ
กกกก ก ญ าตใหประกอบกิ จ การ
กกกก ก
สถานพยาบาล ใหเปนไปตามแบบ ส.พ. ๑๐ ทายประกาศนี้

ขอ ๑๓ แบบคําขอตออายุใบอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล ใหเปนไป


กตามแบบ ส.พ. ๑๑ ทายประกาศนี
กกก ก ้ กกกกก

ขอก๑๔
กกก
แบบหลักฐานการชํการะคาธรรมเนียมการประกอบกิ
กกกก ก
จการสถานพยาบาลให
เปนไปตามแบบ ส.พ. ๑๒ ทายประกาศนี้

ขอ ๑๕ แบบคําขอโอนใบอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล ใหเปนไปตาม


กกกกก กกกกก
แบบ ส.พ. ๑๓ ทายประกาศนี้

๑๐๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ข อ ๑๖ แบบหนั ง สื อ แสดงความจํ า นงเป น ผู รั บ อนุ ญ าตให ป ระกอบกิ จ การ
กสถานพยาบาล
กกก
กรณีผูรับกอนุญาตตาย ให
เปกนกกก
ไปตามแบบ ส.พ. ๑๔กท ายประกาศนี้ กกกกก
ขอก๑๗
กกก ก ญาตใหประกอบกิ
แบบคําขอใบแทนใบอนุ กกกก
จการสถานพยาบาล ก ใหเปนไป
ตามแบบ ส.พ. ๑๕ ทายประกาศนี้
กกกกก

ขอก๑๘ แบบคําขอเปลี่ยนแปลงการประกอบกิ
กกก ก จการสถานพยาบาล ให
กกกก ก แตกตางไป
จากที่ระบุในใบอนุญาต หรือกอสรางอาคารขึ้นใหม หรือดัดแปลงอาคารเกินกวาที่ไดรับอนุญาตไวเดิม
กให เปนไปตามแบบ ส.พ.ก๑๖
 ทายประกาศนี ้

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
กกก กกกก ก

ขอก๑๙ แบบหนังสือแจงเลิกกกิจการสถานพยาบาล
กกก ใหเปนไปตามแบบ
กกกก ก ส.พ. ๑๗
ทายประกาศนี้
กกกกก

กกกกก
ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
วินัย วิริยกิจจา
กกกกก
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๐๓


[เอกสารแนบทาย]
กกกกก
๑.๒ คําขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลประเภทที่ไมรับผูปวยไวคางคืน
(แบบ ส.พ. ๑) (ปรับปรุ
กกกก
ง) ก กกกกก

๒. แผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลประเภทที่ไมรับผูปวยไวคางคืน (แบบ ส.พ. ๒)
กกกกก กกกกก กกกกก
(ปรับปรุง)

๓. คํ าขออนุ มั ติแ ผนงานการจั
กกกก ก ด ตั้ ง สถานพยาบาลประเภทที ่ รั บผู ปก วยไว ค างคื น
กกกก
(แบบ ส.พ. ๓) (ปรับปรุง)
๔.๕ แผนงานการจั ดตั้งสถานพยาบาลประเภทที
กกกกก่รับผูปวยไวคางคื
นกกกก
(แบบ ส.พ. ๔)
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

กกกก ก ก
(ปรับปรุง)
๕.๖กคํกกก
าขออนุญาตใหประกอบกิ ก จการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ. ๕) (ปรักบ ปรุง)
กกกก

๖. หนั ง สื อ แสดงความจํ า นงเป น ผู ป ฏิ บั ติ ง านในสถานพยาบาลของผู ป ระกอบ
กวิกกก
ชาชีพ (แบบ ส.พ. ๖) (ปรั ก บปรุง) กกกกก กกกกก

กกกกก กกกกก

คํ าขออนุ มั ติแ ผนงานการจั ดตั้ งสถานพยาบาลประเภทที่ไ ม รั บผู ปวยไว ค างคื น
ก(แบบ ส.พ. ๑) แกไขเพิก่มเติมโดยประกาศกระทรวงสาธารณสุ
กกก ข เรื่อกง การกําหนดแบบหลั
กกกก กเกณฑและ
กกกก ก
เงื่ อ นไขตามกฎกระทรวงว า ด ว ยการประกอบกิ จ การสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ และตาม
กฎกระทรวงกําหนดวิ กชกกก ก ชาชีพในสถานพยาบาล
าชีพและจํานวนผูประกอบวิ กกกก
พ.ศ. ๒๕๕๘กซึ่งออกตาม
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘
กกกก ๓ ก
แผนงานการจั กกกก
ดตั้งสถานพยาบาลประเภทที ก คางคืน (แบบส.พ.
่ไมรับผูปวยไว กกกก
๒) แกไขเพิ่มเติม ก
โดยประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข เรื่ อง การกํ า หนดแบบหลั ก เกณฑ แ ละเงื่ อนไขตามกฎกระทรวงว า ด วยการ
กกกก
ประกอบกิจการสถานพยาบาล ก
พ.ศ. ๒๕๔๕ และตามกฎกระทรวงกํ าหนดวิ
กกกก
ชาชีพและจํานวนผูประกอบวิ ก ชาชีพใน
สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘

กกกก ก มัติแผนงานการจั
คําขออนุ กกกก
ดตั้งสถานพยาบาลประเภทที ก ่รับผูปวยไวคางคื
กนกกก
(แบบ ส.พ. ๓) ก
แกไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกําหนดแบบหลักเกณฑและเงื่อนไขตามกฎกระทรวงวา
ดวยการประกอบกิจการสถานพยาบาล
กกกก พ.ศ. ๒๕๔๕ ก และตามกฎกระทรวงกํ
กกกก
าหนดวิชาชีพและจํากนวนผู  ประกอบ
วิชาชีพในสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
ก๒๕๕๘
กกกก กกกกก กกกกก

แผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคางคืน (แบบ ส.พ. ๔) แกไขเพิ่มเติม
โดยประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข เรื่ อง การกํ า หนดแบบหลั
กกกก ก ก เกณฑ
กแกกก
ละเงื่ อนไขตามกฎกระทรวงว ก า ด วยการ
ประกอบกิจการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ และตามกฎกระทรวงกําหนดวิชาชีพและจํานวนผูประกอบวิชาชีพใน
กสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘กซึ่งออกตามพระราชบั
กกก๖
ญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.ก๒๕๔๑
กกกก  (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๘
กกกก ก
คําขออนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ. ๕) แกไขเพิ่มเติมโดยประกาศ
กระทรวงสาธารณสุขเรืก่อกกก
ง การกําหนดแบบหลักเกณฑ ก และเงื่อนไขตามกฎกระทรวงว าดวยการประกอบกิ
กกกก ก จการ
สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ และตามกฎกระทรวงกําหนดวิชาชีพและจํานวนผูประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
กพ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งออกตามพระราชบั
กกก๗ ก ญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ (ฉบับทีก่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘กกกกก
กกกก
หนังสือแสดงความจํานงเปนผูปฏิบัติงานในสถานพยาบาลของผูประกอบวิชาชีพ (แบบ ส.พ. ๖)
แกไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกําหนดแบบหลักเกณฑและเงื่อนไขตามกฎกระทรวงวา
กกกกก กกกกก
ดวยการประกอบกิจการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ และตามกฎกระทรวงกําหนดวิชาชีพและจํานวนผูประกอบ
วิชาชีพในสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
ก๒๕๕๘
กกกก กกกกก กกกกก

๑๐๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


๗. ใบอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ. ๗)
กกกก
๘ สมุดกทะเบียนสถานพยาบาลประเภทที
กกกก
่ไมรับผูปกวยไวคางคืน (แบบ
กส.พ.
กกก
๘) ก
๙ สมุดทะเบียนสถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคางคืน (แบบ ส.พ. ๙)
๑๐.
กกกก ก
คําขอเปลี่ยนแปลงรายการใบอนุ ปกกกก
ญาตให ก
ระกอบกิจการสถานพยาบาล (แบบ
ส.พ. ๑๐)
กกกกก กกกกก กกกกก
๑๑. คําขอตออายุใบอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ. ๑๑)
๑๒. หลักฐานการชําระคากธรรมเนี
กกกก  ยมการประกอบกิ จการสถานพยาบาล
กกกก ก (แบบ
ส.พ. ๑๒)
๑๓. คํกาขอโอนใบอนุญาตให ประกอบกิจการสถานพยาบาล (แบบส.พ. ๑๓)

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
กกกก กกกก ก กกกก ก
๑๔. หนังสือแสดงความจํานงเปนผูรับอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล
กรณีผูรับอนุญาตตาย (แบบ ส.พ. ๑๔)
กกกก ก กกกกก
๑๕. คําขอใบแทนใบอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล คําขอใบแทนสมุด
กทะเบี
กกก
ยนสถานพยาบาลก(แบบ  ส.พ. ๑๕) กกกกก กกกกก
๑๖. คําขอเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ. ๑๖)
กกกกก
๑๗. หนังสือแจงเลิกกิจการสถานพยาบาล (แบบ
กกกกก
ส.พ. ๑๗)

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๐๕


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกําหนดแบบหลักเกณฑและเงื่อนไขตามกฎกระทรวงวาดวย
กการประกอบกิ
กกก ก พ.ศ.
จ การสถานพยาบาล กกกก ก าหนดวิ
๒๕๔๕ และตามกฎกระทรวงกํ กกกก
ช าชีพ และ ก
จํานวนผูประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑ (ฉบับที่ ก๒)กกก
พ.ศ. ๒๕๕๘๘ ก กกกกก

กกกกก กกกกก กกกกก


ขอ ๒ ประกาศนี้ใ หใ ชบังคับ ตั้ง แตวัน ถัด จากวัน ประกาศในราชกิจ จานุเ บกษา
เปนตนไป

ขอ ๓ กใหยกเลิกแบบส.พ. ๑ แบบ ส.พ. ๒ แบบกส.พ.


 ๓ แบบ ส.พ.
ก๔กกก
แบบ ส.พ. ๕
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

กกกก กกกก ก
และแบบ ส.พ. ๖ ทายประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกําหนดแบบหลักเกณฑและเงื่อนไข
ตามกฎกระทรวงวาดกวกกก
ยการประกอบกิจการสถานพยาบาล
ก พ.ศ. ๒๕๔๕ และตามกฎกระทรวงว
กกกก ก าดวย
วิชาชีพและจํานวนผูประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติ
กสถานพยาบาล
กกก
พ.ศ. ๒๕๔๑ ก และใหใชแบบ
กกกก
ส.พ. ๑ แบบ ส.พ. ๒กแบบ ส.พ. ๓แบบ
กกกก
ส.พ. ๔ แบบ ก
ส.พ. ๕ และแบบ ส.พ. ๖ ทายประกาศนี้แทน

กกกก

ราชกิกจจานุเบกษา เลม๑๓๒/ตอนพิ
กกกก
เศษ ๓๑๒ ง/หนาก๕/๒๖ พฤศจิกายน
๒๕๕๘
กกกกก

๑๐๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


แบบ ส.พ. ๑
เลขรับที่ ..…………………………………
วันที่ ……………..……………………….…
ลงชื่อ …………………………ผู้รับคําขอ
คําขออนุ มตั ิแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล
ประเภททีไ่ ม่รบั ผูป้ ่ วยไว้คา้ งคืน
เขียนที่ ………………………………………………….………….…………………………
………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………..
วันที่ …….…… เดือน ……………………………………. พ.ศ. …………..

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๑. ข้ าพเจ้ า
 ๑.๑ ชื่อ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
เลขประจําตัว สัญชาติ ………………………..……..… อายุ …………………… ปี
 ๑.๒ นิติบุคคล…….…………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………..…………………………………………………………….……………….. เลขประจําตัว
และ (๒) …………………………………………………………………………………………………….….เลขประจําตัว
เป็ นนิติบุคคลประเภท ……………………………………….………. จดทะเบียนเมื่อ ……………………………...……..…..เลขทะเบียน ……………….……………….
๑.๓ มี  บ้ าน  สํานักงาน ตั้งอยู่เลขที่ ……………..…… หมู่ท่ี ……….… ซอย/ตรอก ………………………….……………
ถนน ………………………….……………….…….. ตําบล/แขวง …………………..……………………………. อําเภอ/เขต ……………….………………..…………………….
จังหวัด ………………...………………………………….. รหัสไปรษณีย์……………....……………… โทรศัพท์ ………………………………………………………….……….…
โทรสาร..…………………………………………………..……….…. ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์……………………………………….…………………………………………………….

๒. ขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ ค้างคืน
 ๒.๑ สถานพยาบาลมีลักษณะเป็ น
 คลินิกเวชกรรม
 คลินิกทันตกรรม
 คลินิกเฉพาะทาง  ด้ านเวชกรรม  ด้ านทันตกรรม  ด้ านการพยาบาลและการผดุงครรภ์
 คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์
 คลินิกกายภาพบําบัด
 คลินิกเทคนิคการแพทย์
 คลินิกการแพทย์แผนไทย  การแพทย์แผนไทย  การแพทย์แผนไทยประยุกต์
 คลินิกการประกอบโรคศิลปะ  กิจกรรมบําบัด  การแก้ ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย
 เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก  รังสีเทคนิค  จิตวิทยาคลินิก  กายอุปกรณ์
 การแพทย์แผนจีน  อื่นๆ
 สหคลินิก ประกอบด้ วย ………………………………………………………………………………..……………………..…………………..
……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………..………………….
 ๒.๒ ขอเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาล โดย ………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
๓. ณ สถานพยาบาลตั้งอยู่เลขที่ ……………………… ซอย/ตรอก …………….…….….………………… ถนน ……..………….……………………………
ตําบล/แขวง ………………………………...…………………..อําเภอ/เขต …………………….………………………..…จังหวัด……………………………………………...…….
รหัสไปรษณีย์ ……………………………….…………….…….. โทรศัพท์ …………….……………………………..…………โทรสาร………………………………………………….
ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์…………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๐๗


พร้ อมกับคํา ขอนี้ข้าพเจ้ าได้ แนบเอกสารหลักฐานต่างๆ มาด้ วย จํานวน .............. ฉบับ คือ
� แผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล � แผนที่แสดงที่ต้งั ของสถานพยาบาลและสิ่งปลูกสร้ าง
� แผนผังภายในบริเวณสถานพยาบาล ในบริเวณใกล้ เคียง
� สําเนาทะเบียนบ้ านผู้ขออนุญาต � สําเนาบัตรประจําตัว
� สําเนาทะเบียนบ้ านของที่ต้งั สถานพยาบาล
� ใบรับรองแพทย์
� สําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน วัตถุประสงค์ และผู้มีอาํ นาจลงชื่อแทนนิติบุคคล (กรณีผ้ ูย่ ืนคําขอเป็ นนิติบุคคล)
� สําเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในสถานพยาบาล
� อื่นๆ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……….
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ข้ าพเจ้ าขอรับรองว่า
๑. ไม่เคยได้ รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สดุ หรือคําสั่งที่ชอบด้ วยกฎหมายถึงที่สดุ ให้ จาํ คุก เว้ นแต่เป็ นโทษสําหรับ
ความผิดที่กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
๒. ไม่เป็ นโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
๓. ไม่เป็ นบุคคลล้ มละลาย
๔. ไม่เป็ นบุคคลวิกลจริต คนไร้ ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ ความสามารถ

(ลายมือชื่อ) ……………….………………………………………………… ผู้ย่ ืนคําขอ


( …..…………..………………………………………..)

หมายเหตุ ๑. ใส่เครื่องหมาย  ในช่อง � หน้ าข้ อความที่ต้องการ


๒. กรณีมอบอํานาจให้ ผ้ ูอ่นื ดําเนินการแทนต้ องมีหนังสือมอบอํานาจติดอากรแสตมป์ พร้ อมสําเนาบัตรประชาชนของ
ผู้รับมอบอํานาจ และบัตรประชาชนของผู้มอบอํานาจ

๑๐๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


แบบ ส.พ. ๒
แผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล
ประเภททีไ่ ม่รบั ผูป้ ่ วยไว้คา้ งคืน

1.ลักษณะสถานพยาบาลเป็ น
 คลินิกเวชกรรม
 คลินิกทันตกรรม
 คลินิกเฉพาะทาง  ด้ านเวชกรรม  ด้ านทันตกรรม  ด้ านการพยาบาลและการผดุงครรภ์
 คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
 คลินิกกายภาพบําบัด
 คลินิกเทคนิคการแพทย์
 คลินิกการแพทย์แผนไทย  การแพทย์แผนไทย  การแพทย์แผนไทยประยุกต์
 คลินิกการประกอบโรคศิลปะ  กิจกรรมบําบัด  การแก้ ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย
 เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก  รังสีเทคนิค  จิตวิทยาคลินิก  กายอุปกรณ์
 การแพทย์แผนจีน  อื่นๆ
 สหคลินิก ประกอบด้ วย ………………………………………………………………………………..……………………..…………………..
……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………..………………….
๒. บริการที่จัดให้ มเี พิ่มเติม …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
๓. ลักษณะอาคารซึ่งใช้ เป็ นที่ต้งั สถานพยาบาล
 เป็ นอาคารสถานพยาบาลโดยเฉพาะ  เป็ นอาคารอยู่อาศัย  เป็ นห้ องแถว  เป็ นตึกแถว
 เป็ นบ้ านแถว  เป็ นบ้ านแฝด  เป็ นอาคารพาณิชย์  ตั้งอยู่ในศูนย์การค้ า
 อื่น ๆ ……………………………………………………………………………………………….……… มี……………………..……คูหา………..………………ชั้น

๔. พื้นที่……………………………………ตารางเมตร กว้ าง………………………เมตร ยาว………………………..เมตร สูง………………………….เมตร

๕. จํานวนของผู้ประกอบวิชาชีพ.................................คน

๖. ผู้ดาํ เนินการสถานพยาบาลชื่อ ……………………………………………………………. เลขที่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ…………………………..

๗. ระยะเวลาในการดําเนินการตามแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล ………..……………………………… วันนับแต่วันยื่นแบบ ส.พ.๑

(ลายมือชื่อ) ……………….………………………………………………… ผู้ย่ ืนคําขอ


( …..…………..………………………………………..)

อนุมัติ
(ลายมือชื่อ) ……………….………………………………………………… ผู้อนุญาต

วันที่……………………………………………………………………………

หมายเหตุ ใส่เครื่องหมาย  ในช่อง  หน้ าข้ อความที่ต้องการ

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๐๙


แบบ ส.พ. ๓
เลขรับที่ ..…………………………………
วันที่ ……………..……………………….…
ลงชื่อ …………………………ผู้รับคําขอ
คําขออนุมตั ิแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล
ประเภททีร่ บั ผูป้ ่ วยไว้คา้ งคืน
เขียนที่ ………………………………………………….………….…………………………
…………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………
วันที่ …..……... เดือน ……..………………………………. พ.ศ. ………...
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑. ข้ าพเจ้ า
 ๑.๑ ชื่อ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
เลขประจําตัว สัญชาติ ………………………..……..… อายุ …………………… ปี
 ๑.๒ นิติบุคคล…….…………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………..…………………………………………………………….……………….. เลขประจําตัว
และ (๒) …………………………………………………………………………………………………….….เลขประจําตัว
เป็ นนิติบุคคลประเภท ……………………………………….………. จดทะเบียนเมื่อ ……………………………...……..…..เลขทะเบียน ……………….……………….
๑.๓ มี  บ้ าน  สํานักงาน ตั้งอยู่เลขที่ ……………..…… หมู่ท่ี ……….… ซอย/ตรอก ………………………….……………
ถนน ………………………….……………….…….. ตําบล/แขวง …………………..……………………………. อําเภอ/เขต ……………….………………..…………………….
จังหวัด ………………...………………………………….. รหัสไปรษณีย์……………....……………… โทรศัพท์ ………………………………………………………….……….…
โทรสาร..…………………………………………………..……….…. ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์……………………………………….…………………………………………………….
๒. ขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ ค้างคืน จํานวน……………………………..เตียง
 ๒.๑ สถานพยาบาลมีลักษณะเป็ น
 โรงพยาบาลทั่วไป  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลเฉพาะทาง ……………………..……………. ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลทันตกรรม  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลการพยาบาลและการผดุงครรภ์  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลกายภาพบําบัด  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลเฉพาะประเภทผู้ป่วย  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 ๒.๒ ขอเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาล โดย .…………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๓. ณ สถานพยาบาลตั้งอยู่เลขที่ ………………….. ซอย/ตรอก …………………………………………… ถนน…………………………………………………


ตําบล/แขวง ……………………………………………..อําเภอ/เขต …….………………………………….……..…จังหวัด……………………………………….…………...…….
รหัสไปรษณีย์.……………………………...……… โทรศัพท์ …………….………………..…………………โทรสาร…………………………. ………………………………………..
ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์. ……………………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………….

๑๑๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


พร้ อมกับคําขอนี้ข้าพเจ้ าได้ แนบเอกสารหลักฐานต่างๆ มาด้ วย จํานวน ................. ฉบับ คือ
 แผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล
 แผนที่แสดงที่ต้ังของสถานพยาบาลและสิ่งปลูกสร้ างในบริเวณใกล้ เคียง
 แบบแปลน ประกอบด้ วย แบบร่างทางสถาปัตยกรรม ผังหลัก และผังบริเวณของสถานพยาบาลที่จะก่อสร้ าง
 ใบอนุญาตก่อสร้ างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร
 สําเนาหนังสือขอความเห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้ อม ตามกฎหมายว่าด้ วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพ
สิ่งแวดล้ อม
 สําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน วัตถุประสงค์ และผู้มีอาํ นาจลงชื่อแทนนิติบุคคล (กรณีผ้ ูย่ืนคําขอเป็ นนิติบุคคล)
 สําเนาบัตรประจําตัว
 สําเนาทะเบียนบ้ านผู้ขออนุญาต

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
 สําเนาทะเบียนบ้ านของที่ต้งั สถานพยาบาล
 ใบรับรองแพทย์
 สําเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในสถานพยาบาล
 อื่น ๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…

ข้ าพเจ้ าขอรับรองว่า
๑. ไม่เคยได้ รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สดุ หรือคําสั่งที่ชอบด้ วยกฎหมายถึงที่สดุ ให้ จาํ คุก เว้ นแต่เป็ นโทษสําหรับ
ความผิดที่กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
๒. ไม่เป็ นโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
๓. ไม่เป็ นบุคคลล้ มละลาย
๔. ไม่เป็ นบุคคลวิกลจริต คนไร้ ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ ความสามารถ

(ลายมือชื่อ) ……………….………………………………………………… ผู้ย่ ืนคําขอ


( …..……………….…..………………………………………..)

หมายเหตุ ๑. ใส่เครื่องหมาย  ในช่อง  หน้ าข้ อความที่ต้องการ


๒. กรณีมอบอํานาจให้ ผ้ ูอ่นื ดําเนินการแทนต้ องมีหนังสือมอบอํานาจติดอากรแสตมป์ พร้ อมสําเนาบัตรประชาชนของ
ผู้รับมอบอํานาจ และบัตรประชาชนของผู้มอบอํานาจ

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๑๑


แบบ ส.พ. ๔

แผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล
ประเภททีร่ บั ผูป้ ่ วยไว้คา้ งคืน
๑. สถานพยาบาลมีลักษณะเป็ น
 โรงพยาบาลทั่วไป  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลเฉพาะทาง ……………………..……………. ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลทันตกรรม  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลการพยาบาลและการผดุงครรภ์  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

 โรงพยาบาลกายภาพบําบัด  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่


 โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลเฉพาะประเภทผู้ป่วย  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่

๒. ขนาดสถานพยาบาล ………………………………………. เตียง

๓. บริการที่จัดให้ มเี พิ่มเติม…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….


………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
๔. ลักษณะอาคารสถานพยาบาล
 เป็ นอาคารสถานพยาบาลสร้ างใหม่  เป็ นอาคารดัดแปลงจากอาคารเดิม  อื่น ๆ ……………………………………….

๕. การเงินโดยประมาณ
งบลงทุน …………………………..…….บาท แหล่งลงทุนจาก
 ส่วนตัว …………………………………………………………… เปอร์เซ็นต์  สถาบันการเงินในประเทศ ……………………………… เปอร์เซ็นต์
 สถาบันการเงินต่างประเทศ ……………………………. เปอร์เซ็นต์  หุ้น………………………………………………..…………………..เปอร์เซ็นต์

๖. พื้นที่บริการครอบคลุม
๖.๑ ในเขตท้ องที่การปกครองของกระทรวงมหาดไทย (อําเภอ/เขต จังหวัด) ได้ แก่
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
๖.๒ จํานวนประชากรภายในเขตรัศมี ๕ กิโลเมตร โดยรอบสถานพยาบาล มีประมาณ………………………………….……………คน

๗. สถานพยาบาลของรัฐและเอกชน ในพื้นที่บริการ
(๑) สถานพยาบาลของรัฐ …………………..………… แห่ง มีบริการ
 ผู้ป่วยใน ……………………..….. เตียง  ห้ องผ่าตัด …………………..……. ห้ อง  เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ …………………… เครื่อง
 เครื่องตรวจอวัยวะภายในชนิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้ า ……..……….…. เครื่อง เครื่องสลายนิ่ว ….………………………………….….. เครื่อง
 เครื่องล้ างไต ….………………………………….….. เครื่อง  อื่น ๆ เช่น ………………………………………………………………………………………..…..
(๒) สถานพยาบาลเอกชน ………………………….… แห่ง มีบริการ
 ผู้ป่วยใน ……………………..….. เตียง  ห้ องผ่าตัด …………………..……. ห้ อง  เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ …………………… เครื่อง
 เครื่องตรวจอวัยวะภายในชนิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้ า ……..……….…. เครื่อง เครื่องสลายนิ่ว ….………………………………….….. เครื่อง
 เครื่องล้ างไต ….………………………………….….. เครื่อง
 อื่น ๆ เช่น ………………………………………………………………………………………..…..………………………………………………………………………………………..…..

๑๑๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


๘. ปัญหาการบริการรักษาพยาบาลในพื้นที่ท่คี รอบคลุม ซึ่งเป็ นเหตุให้ สมควรลงทุน คือ ……………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………….

๙. จํานวนของผู้ประกอบวิชาชีพที่จะมาปฏิบัติงาน
๙.๑ แพทย์ ………………...……..……….........…..… คน ๙.๒ พยาบาล ……….….………………….….… คน
๙.๓ ทันตแพทย์ …………..……..………..........…… คน ๙.๔ เภสัชกร …………………...….………….….คน

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๙.5 นักกายภาพบําบัด ……..….……….… คน 9.6 นักเทคนิคการแพทย์ ………..…..…. คน
9.7 แพทย์แผนไทย …………………………. คน
- เวชกรรมไทย …………………………. คน - เภสัชกรรมไทย …………………………. คน
- แพทย์แผนไทยประยุกต์ ….………. คน - การผดุงครรภ์ไทย………………………. คน
- การนวดไทย …………………………. คน - การแพทย์พ้ ืนบ้ านไทย…………………คน
๙.8 ผู้ประกอบโรคศิลปะ
(๑) กิจกรรมบําบัด ……..….……….… คน (๒) การแก้ ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย ……..…..…. คน
(๓) เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ….………. คน (๔) รังสีเทคนิค …………………………. คน
(๕) จิตวิทยาคลินิกอก ….………. คน (6) กายอุปกรณ์…………………………. คน
(7) การแพทย์แผนจีน…………………………. คน
(8) อื่นๆ..........................................................

๑๐. ผู้ประกอบวิชาชีพที่จะมาปฏิบัติงานในตําแหน่งที่สาํ คัญ (โปรดเขียน ชื่อ-สกุล ถ้ าสามารถระบุได้ )


 ผู้ดาํ เนินการสถานพยาบาล …………………………………..…….……  ผู้อาํ นวยการฝ่ ายการแพทย์ ………………………………...…………………………
 ผู้อาํ นวยการฝ่ ายการพยาบาล …………………………...…………….  อื่น ๆ …………………………………………………..…………………..………………..……

๑๑. ระยะเวลาในการดําเนินการตามแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล มีระยะเวลา.....................ปี นับตั้งแต่วันที่ได้ รับ


อนุมัติแผนการจัดตั้งสถานพยาบาล

(ลายมือชื่อ) ……………….………………………………………………… ผู้ย่ ืนคําขอ


( …..…………..………………………………………..)

อนุมัติ
(ลายมือชื่อ) ……………….………………………………………………… ผู้อนุญาต

วันที่………………………………………………………………………………..

หมายเหตุ ใส่เครื่องหมาย  ในช่อง  หน้ าข้ อความที่ต้องการ

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๑๓


แบบ ส.พ. ๕
เลขรับที่ ..…………………………………
วันที่ ……………..……………………….…
ลงชื่อ …………………………ผู้รับคําขอ
คําขออนุ ญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
เขียนที่ ………………………………………………….………….…………………………
………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………..
วันที่ ……..…… เดือน ……………………………………. พ.ศ. …………..
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑. ข้ าพเจ้ า
 ๑.๑ ชื่อ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
เลขประจําตัว สัญชาติ ………………………..……..… อายุ …………………… ปี
 ๑.๒ นิติบุคคล…….…………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………..…………………………………………………………….……………….. เลขประจําตัว
และ (๒) …………………………………………………………………………………………………….….เลขประจําตัว
เป็ นนิติบุคคลประเภท ……………………………………….………. จดทะเบียนเมื่อ ……………………………...……..…..เลขทะเบียน ……………….……………….
๑.๓ มี  บ้ าน  สํานักงาน ตั้งอยู่เลขที่ ……………..…… หมู่ท่ี ……….… ซอย/ตรอก ………………………….……………
ถนน ………………………….……………….…….. ตําบล/แขวง …………………..……………………………. อําเภอ/เขต ……………….………………..…………………….
จังหวัด ………………...………………………………….. รหัสไปรษณีย์……………....……………… โทรศัพท์ ………………………………………………………….……….…
โทรสาร..…………………………………………………..……….…. ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์……………………………………….…………………………………………………….

๒. ขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ ค้างคืน
 ๒.๑ สถานพยาบาลมีลักษณะเป็ น
 คลินิกเวชกรรม
 คลินิกทันตกรรม
 คลินิกเฉพาะทาง  ด้ านเวชกรรม  ด้ านทันตกรรม  ด้ านการพยาบาลและการผดุงครรภ์
 คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์
 คลินิกกายภาพบําบัด
 คลินิกเทคนิคการแพทย์
 คลินิกการแพทย์แผนไทย  การแพทย์แผนไทย  การแพทย์แผนไทยประยุกต์
 คลินิกการประกอบโรคศิลปะ  กิจกรรมบําบัด  การแก้ ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย
 เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก  รังสีเทคนิค  จิตวิทยาคลินิก  กายอุปกรณ์
 การแพทย์แผนจีน  อื่นๆ
 สหคลินิก ประกอบด้ วย ………………………………………………………………………………..……………………..…………………..
……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………..………………….
บริการที่จัดให้ มีเพิ่มเติม
 ห้ องเอกซเรย์  ห้ องไตเทียม  ห้ องผ่าตัด  ห้ องฝังเข็ม
 อื่นๆ ………………………………………………………………………………………………………………..…

๑๑๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


๒.๒ ลักษณะของสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ ค้างคืน จํานวน………………………………………..เตียง
 โรงพยาบาลทั่วไป  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลเฉพาะทาง ……………………..……………. ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลทันตกรรม  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลการพยาบาลและการผดุงครรภ์  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลกายภาพบําบัด  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
 โรงพยาบาลเฉพาะประเภทผู้ป่วย  ขนาดเล็ก  ขนาดกลาง  ขนาดใหญ่
บริการที่จัดให้ มีเพิ่มเติม
 อายุรกรรม  ศัลยกรรม  สูตินรีเวชกรรม  กุมารเวชกรรม

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
 แผนกเทคนิคการแพทย์  แผนกออร์โธปิ ดิกส์  แผนกโรคผิวหนัง  แผนกการผสมเทียม
 แผนกกายภาพบําบัด  แผนกการแพทย์แผนไทย  แผนกโภชนาการ  แผนกซักฟอก
 หอผู้ป่วยหนัก  ห้ องตรวจภายในและขูดมดลูก  ห้ องผ่าตัดเล็ก  ห้ องให้ การรักษา
 ห้ องทารกหลังคลอด  การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ  ห้ องไตเทียม  ห้ องทันตกรรม
 รังสีวินิจฉัยด้ วยคอมพิวเตอร์  การผ่าตัดเปิ ดหัวใจ  การสวนหัวใจ  รังสีบาํ บัด
 การตรวจอวัยวะภายในชนิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้ า  การสลายนิ่วด้ วยเครื่องมือ  ห้ องเก็บศพ
 แผนกการแพทย์แผนไทยประยุกต์  แผนกการนวด  แผนกการแพทย์แผนจีน  อื่นๆ ………..………………………………..
๓.วัน/เวลาที่ขออนุญาตประกอบกิจการ (โปรดระบุรายละเอียดวัน/เวลาทําการ) ……………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ณ สถานพยาบาลชื่อ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
ตั้งอยู่เลขที่ …………………….. หมู่ท่ี ……………… ซอย/ตรอก ………………………………………………… ถนน ………………………………………………………………
ตําบล/แขวง …………….……………………. อําเภอ/เขต …………. จังหวัด ……………………………….รหัสไปรษณีย์………………โทรศัพท์ ……………………
โทรสาร……………………… ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์………………………………………………..
พร้ อมกับคําขอนี้ข้าพเจ้ าได้ แนบหลักฐานต่าง ๆ ที่แสดงการเปลี่ยนแปลงมาด้ วย จํานวน ................ ฉบับ คือ
� สําเนาบัตรประจําตัว � หนังสือแสดงความจํานงเป็ นผู้ปฏิบัติงาน ตามแบบ ส.พ. ๖
พร้ อมสําเนา ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สําเนาทะเบียนบ้ าน
และสําเนาบัตรประจําตัว ของผู้ประกอบวิชาชีพ
�สําเนาทะเบียนบ้ านของผู้อนุญาต
� สําเนาทะเบียนบ้ านของที่ต้งั สถานพยาบาล
� ใบรับรองแพทย์ � สําเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในสถานพยาบาล
� สําเนาวุฒิบัตร หรือหนังสืออนุมัติ (ถ้ ามี) � หนังสืออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล
� สําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน วัตถุประสงค์ และผู้มีอาํ นาจลงชื่อแทนนิติบุคคล (กรณีผ้ ูย่ ืนคําขอเป็ นนิติบุคคล)
� แผนที่แสดงที่ต้งั สถานพยาบาลและสิ่งปลูกสร้ างในบริเวณใกล้ เคียง
� เอกสารแสดงลักษณะของสถานพยาบาล โดยมีรายการ ดังต่อไปนี้
(ก) แบบผังหลักของพื้นที่ท่ตี ้งั อาคารสถานพยาบาล
(ข) แบบแสดงภาพอาคารภายนอกสถานพยาบาลอย่างน้ อยด้ านหน้ าและด้ านข้ าง
(ค) แบบแสดงการแบ่งพื้นที่ใช้ สอยพร้ อมระบุช่ือให้ แสดงทุกชั้น ทุกอาคาร
(ง) ผังแสดงการติดตั้งอุปกรณ์เครื่องมือพิเศษที่สาํ คัญในแต่ละส่วนอาคาร
(จ) ผังการสัญจรของผู้ใช้ สอยแต่ละประเภทในอาคาร
(ฉ) เส้ นทางหนีไฟและอุปกรณ์ดับเพลิงภายในอาคาร
(ช) ระบบการระบายนํา้ และบําบัดนํา้ เสีย

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๑๕


� กรณีสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ ค้างคืน จะต้ องมีเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
(ก) แบบแปลนสถานพยาบาลพร้ อมแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลที่ได้ รับอนุมัติ
(ข) ใบอนุญาตก่อสร้ างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือ รื้อถอนอาคาร
(ค) หนังสือแสดงความเห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้ อมตามกฎหมายว่าด้ วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้ อม
�อื่น ๆ (ถ้ ามี)

ข้ าพเจ้ าขอรับรองว่า
๑. ไม่เคยได้ รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาหรือคําสั่งที่ชอบด้ วยกฎหมายถึงที่สดุ ให้ จาํ คุก เว้ นแต่เป็ นโทษสําหรับความผิด
ที่ได้ กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
๒. ไม่เป็ นโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๓. ไม่เป็ นบุคคลล้ มละลาย


๔. ไม่เป็ นบุคคลวิกลจริต คนไร้ ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ ความสามารถ

(ลายมือชื่อ) ……………….………………………………………………… ผู้ย่ ืนคําขอ


( …..…….……..…………………….……………………..)

หมายเหตุ ๑. ใส่เครื่องหมาย  ในช่อง� หน้ าข้ อความที่ต้องการ


๒. กรณีมอบอํานาจให้ ผ้ ูอ่นื ดําเนินการแทนต้ องมีหนังสือมอบอํานาจติดอากรแสตมป์ พร้ อมสําเนาบัตรประชาชนของ
ผู้รับมอบอํานาจ และบัตรประชาชนของผู้มอบอํานาจ

๑๑๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


แบบ ส.พ. ๖
หนังสือแสดงความจํ านงเป็ นผูป้ ฏิบตั ิงาน
ในสถานพยาบาลของผูป้ ระกอบวิชาชีพ
เขียนที่ ………………………………………………….………….…………………………
………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………..
วันที่ ……..……... เดือน ……………………………………. พ.ศ. ……..

ข้ าพเจ้ า ……………………………………………………………………………………….….เลขประจําตัว

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
อายุ …………………….…… ปี ผู้ประกอบวิชาชีพหรือประกอบโรคศิลปะสาขา………………………………………………………………………………..………………..
เลขที่ใบอนุญาต…………………………………………………….……. ออกให้ วันที่ ………………………………………………………….…..
ได้ รับ  หนังสืออนุมัติ  วุฒิบตั รแสดงความรู้ความชํานาญ ………………………………………………………… ออกให้ วันที่……………..……………
อยู่บ้านเลขที่………………..…….. ซอย/ตรอก ………………………………… ถนน ……………….…………………….. ตําบล/แขวง …………………………….…….…
อําเภอ/เขต ………………………………………..…….…….. จังหวัด …………………………………………………………… รหัสไปรษณีย์……………..………..………………
โทรศัพท์ …………………………………………………โทรสาร………………………………….ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์………………………………………………………………

ปัจจุบันข้ าพเจ้ า
ไม่ได้ รับราชการหรือทํางานอยู่แห่งใด
 รับราชการ หรือเป็ นผู้ดาํ เนินการสถานพยาบาล หรือทํางานประจําอยู่ท่ี (ระบุสถานที่ วัน เวลาทําการ) ……………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
 ไม่เคยเป็ นผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลเอกชนแห่งใดมาก่อน
 เคยเป็ นผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลเอกชน
ชื่อสถานพยาบาล……………………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………….…
อําเภอ/เขต ………………………………………………… จังหวัด ………………......…..……….……….. มาก่อน แต่ได้ เลิกเป็ นผู้ประกอบวิชาชีพ
ณ สถานพยาบาลดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ ……………………….. เดือน ……………………..………………………………………. พ.ศ. ……………………..

ข้ าพเจ้ ายินดีท่จี ะปฏิบัติงานในสถานพยาบาล ………………………………………………………………………………………………………………………………


โดยปฏิบัติงานตามวันและเวลา ดังต่อไปนี้ …………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………

พร้ อมนี้ข้าพเจ้ าได้ แนบหลักฐานต่าง ๆ มาด้ วย คือ


 สําเนาบัตรประจําตัว  สําเนาทะเบียนบ้ าน
 สําเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ/ประกอบโรคศิลปะ  สําเนาวุฒิบัตร หรือหนังสืออนุมัติจากสภาวิชาชีพ
 รูปถ่ายขนาด ๘ x ๑๓ เซนติเมตร ถ่ายไว้ ไม่เกินหนึ่งปี จํานวน ๑ รูป
 อื่น ๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...

(ลายมือชื่อ) ……………….………………………………………………… ผู้แสดงความจํานง


( …..…………..……………………………….………..)

หมายเหตุ ใส่เครื่องหมาย  ในช่อง หน้ าข้ อความที่ต้องการ

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๑๗


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๑๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๑๙


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๒๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๒๑


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๒๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๒๓


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๒๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๒๕


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๒๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๒๗


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๒๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๒๙


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๓๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๓๑


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๓๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๓๓


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๓๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๓๕


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๓๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๓๗


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๓๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๓๙


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๔๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๔๑


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๔๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๔๓


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๔๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๔๕


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๔๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


‡≈à¡ ÒÒ˘ µÕπ摇»… ¯ ß √“™°‘®®“πÿ‡∫°…“ Û  ‘ßÀ“§¡ ÚıÙı

ª√–°“»°√–∑√«ß “∏“√≥ ÿ¢
‡√◊ËÕß °“√°”Àπ¥·∫∫µ“¡°Æ°√–∑√«ß«à“¥â«¬°“√¥”‡π‘π°“√
 ∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙı ´÷ËßÕÕ°µ“¡æ√–√“™∫—≠≠—µ‘

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
 ∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙÒ

‚¥¬∑’Ë°Æ°√–∑√«ß«à“¥â«¬°“√¥”‡π‘π°“√ ∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙı ´÷Ëß


ÕÕ°µ“¡æ√–√“™∫—≠≠—µ‘ ∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙÒ ‰¥â°”Àπ¥„Àâª≈—¥°√–∑√«ß
 “∏“√≥ ÿ¢ ¡’Õ”π“®°”Àπ¥·∫∫µ“¡°Æ°√–∑√«ß«à“¥â«¬°“√¥”‡π‘π°“√ ∂“π欓∫“≈
æ.». ÚıÙı
Õ“»—¬Õ”π“®µ“¡§«“¡„π¢âÕ Ò ¢âÕ ı ¢âÕ ˜ ¢âÕ ¯ ¢âÕ ˘ ·≈–¢âÕ Ò
¢Õß°Æ°√–∑√«ß«à“¥â«¬°“√¥”‡π‘π°“√ ∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙı ´÷ßË ÕÕ°µ“¡§«“¡
„πæ√–√“™∫—≠≠—µ ‘ ∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙÒ Õ—π‡ªìπæ√–√“™∫—≠≠—µ∑‘ ¡’Ë ∫’ ∑∫—≠≠—µ‘
∫“ߪ√–°“√‡°’¬Ë «°—∫°“√®”°—¥ ‘∑∏‘·≈–‡ √’¿“æ¢Õß∫ÿ§§≈ ´÷ßË ¡“µ√“ Ú˘ ª√–°Õ∫°—∫
¡“µ√“ ı ¢Õß√—∞∏√√¡πŸ≠·Ààß√“™Õ“≥“®—°√‰∑¬ ∫—≠≠—µ‘„Àâ°√–∑”‰¥â ‚¥¬Õ“»—¬
Õ”π“®µ“¡∫∑∫—≠≠—µ‘·Ààß°ÆÀ¡“¬ ª≈—¥°√–∑√«ß “∏“√≥ ÿ¢ÕÕ°ª√–°“»‰«â
¥—ßµàÕ‰ªπ’È
¢âÕ Ò ª√–°“»°√–∑√«ß “∏“√≥ ÿ¢©∫—∫π’È „Àâ „™â∫—ߧ—∫µ—Èß·µà«—π∂—¥®“°
«—πª√–°“»„π√“™°‘®®“πÿ‡∫°…“‡ªìπµâπ‰ª
¢âÕ Ú ·∫∫§”¢Õ√—∫„∫Õπÿ≠“µ„À⥔‡π‘π°“√ ∂“π欓∫“≈ „À⇪ìπ‰ª
µ“¡·∫∫  .æ. Ò¯ ∑⓬ª√–°“»π’È

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๔๗


‡≈à¡ ÒÒ˘ µÕπ摇»… ¯ ß √“™°‘®®“πÿ‡∫°…“ Û  ‘ßÀ“§¡ ÚıÙı

¢âÕ Û ·∫∫„∫Õπÿ≠“µ„À⥔‡π‘π°“√ ∂“π欓∫“≈ „À⇪ìπ‰ªµ“¡·∫∫


 .æ. Ò˘ ∑⓬ª√–°“»π’È
¢âÕ Ù ·∫∫§”¢Õ‡ª≈’Ë¬πµ—«ºŸâ¥”‡π‘π°“√ ∂“π欓∫“≈ „À⇪ìπ‰ªµ“¡·∫∫
 .æ. Ò¯ ∑⓬ª√–°“»π’È
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

¢âÕ ı ·∫∫§”¢ÕµàÕÕ“¬ÿ„∫Õπÿ≠“µ„À⥔‡π‘π°“√ ∂“π欓∫“≈ „À⇪ìπ‰ª


µ“¡·∫∫  .æ. Ú ∑⓬ª√–°“»π’È
¢âÕ ˆ ·∫∫§”¢Õ√— ∫ „∫·∑π„∫Õπÿ ≠ “µ°√≥’ „ ∫Õπÿ ≠ “µ„Àâ ¥”‡π‘ π °“√
 ∂“π欓∫“≈ Ÿ≠À“¬À√◊Õ∂Ÿ°∑”≈“¬„π “√– ”§—≠ „À⇪ìπ‰ªµ“¡·∫∫  .æ. ÚÒ
∑⓬ª√–°“»π’È
¢âÕ ˜ ·∫∫§”¢Õ·°â‰¢‡ª≈’ˬπ·ª≈ß√“¬°“√∑’ˉ¥â√—∫Õπÿ≠“µ‰«â·≈â« „À⇪ìπ
‰ªµ“¡·∫∫  .æ. ÚÚ ∑⓬ª√–°“»π’È

ª√–°“» ≥ «—π∑’Ë Úˆ °√°Æ“§¡ æ.». ÚıÙı


«‘π—¬ «‘√‘¬°‘®®“
ª≈—¥°√–∑√«ß “∏“√≥ ÿ¢

๑๔๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๔๙


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๕๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๕๑


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๕๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๕๓


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๕๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๕๕


สํประกาศกระทรวงสาธารณสุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกขา
เรื่อง การกําหนดแบบตามกฎกระทรวงว่าด้วยการจัดให้มีและรายงาน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ชาชีพในสถานพยาบาลและผู
หลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ป้ ่วย กา
และเอกสารอืน่ ที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ซึ่งออกตามพระราชบั ญญัติสถานพยาบาลกา พ.ศ. ๒๕๔๑

โดยที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กฎกระทรวงว่
สําานัด้กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยการจัดให้มีและรายงานหลั
กา กฐานเกี่ยสํวกั
านับกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ประกอบวิชาชีพ กา
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ในสถานพยาบาลและผู้ป่วย และเอกสารอื่นที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งออกตาม


พระราชบัญญัสํตาิสนัถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได้กําหนดให้สํปานัลักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
กระทรวงสาธารณสุข กมีาอํานาจกําหนด
แบบตามกฎกระทรวงว่าด้วยการจัดให้มีและรายงานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลและ
ผู้ป่วย และเอกสารอืก่นาที่เกี่ยวกับการรั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํากนัษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี

สํานัอาศั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ ๗ ของกฎกระทรวงว่
ยอํานาจตามความในข้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กามีและรายงาน
าด้วยการจัดให้
หลั ก ฐานเกี่ ย วกั บ ผู้ ป ระกอบวิ ช าชี พ ในสถานพยาบาลและผู้ ป่ ว ย และเอกสารอื่ น ที่ เ กี่ ย วกั บ การ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รั ก ษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่ ง ออกตามพระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล สํพ.ศ. านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๕๔๑ อั น เป็ น
พระราชบัญญัสํตาิทนัี่กมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีบทบัญญัติบางประการเกี กา
่ ย วกั บ การจํ า กั ด สิ ท ธิ แ ละเสรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภ าพของบุ คคล ซึ่งมาตรา
๒๙ ประกอบกับมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัย
อํานาจตามบทบัญญักตาิแห่งกฎหมายสํปลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศไว้กา สํดัางนัต่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
ไปนี้ กา

สํานัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
๑ ประกาศกระทรวงสาธารณสุ
กา สําขนัฉบั บ นี้ ให้ ใ ช้ บั ง คั บ ตั้ ง แต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาวั น ถั ด จากวั น
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๒ แบบรายงานประจําปีสําหรับสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้เป็นไปตามแบบ ส.พ. ๒๓ ท้ายประกาศนีกา้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อ ๓ แบบรายงานประจําปีสําหรับสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
ให้เป็นไปตามแบบ ส.พ. ๒๔ ท้ายประกาศนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้

ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๕


สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา วิสํนาัยนักงานคณะกรรมการกฤษฎี
วิริยกิจจา กา
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๙/ตอนพิเศษ ๘๐ ง/หน้า ๑๑/๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๕

๑๕๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกําหนดแบบตามกฎกระทรวงว่าด้วยการจัดให้มีและรายงาน
สํานักหลั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ก ฐานเกี่ ย วกั บ ผู้ ป ระกอบวิ ช าชี พสํในสถานพยาบาลและผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ ป่ กวายและเอกสารอื
สํานั่ นกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ เ กี่ ย วกั บ การ กา
รักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
๒๕๕๘๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อ ๒ ประกาศนี้ใ ห้ใ ช้บัง คับ ตั้ง แต่วัน ถัด จากวัน ประกาศในราชกิจ จานุเ บกษา
เป็นต้นไป

ข้ อ ๓กาให้ ย กเลิ ก แบบ


สํานักส.พ. ๒๓ ท้ า ยประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข เรื่ อ ง การ

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กําหนดแบบตามกฎกระทรวงว่าด้วยการจัดให้มีและรายงานหลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพใน
สถานพยาบาลและผู
สํานัก้ ปงานคณะกรรมการกฤษฎี
่วยและเอกสารอื่นทีก่เกีา ่ยวกับการรักสําษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕กาซึ่งออกตาม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และให้ใช้แบบ ส.พ. ๒๓ ท้ายประกาศนี้แทน

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี

ราชกิกจาจานุเบกษา เล่มสํา๑๓๒/ตอนพิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เศษ ๓๑๒ ง/หน้ากา๗/๒๖ พฤศจิกายน
สํานั๒๕๕๘
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๕๗


แบบ ส.พ. ๒๓
รายงานประจําปของสถานพยาบาลประเภทที่ไมรับผูป วยไวคางคืน
ประจําปงบประมาณ ………………..……
(บันทึกขอมูลตั้งแต 1 ตุลาคมของปที่ผานมา ถึง 30 กันยายน ของปปจจุบัน)

๑. ขอมูลทั่วไป
๑.๑ ชื่อสถานพยาบาล ......................................................................................................................................
ตั้งอยูเลขที่ ................... หมูที่ .………………...... ซอย/ตรอก ........................... ถนน ............................................
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ตําบล/แขวง .............................……………….... อําเภอ/เขต ............................... จังหวัด .....................................


รหัสไปรษณีย...........................………………......โทรศัพท .................................โทรสาร...............…………..........
ไปรษณียอิเล็กทรอนิกส...................................
๑.๒ ชื่อผูรับอนุญาต……………………………………………………………เลขที่ใบอนุญาต……………………...
๑.๓ ชื่อผูดําเนินการ………………….…..……………………………….……เลขที่ใบอนุญาต………..……………

๒. ลักษณะสถานพยาบาลและจํานวนการใหบริการ
๒.๑ ลักษณะสถานพยาบาล…………………………………(คลินิกเฉพาะทาง ระบุสาขา)…………………………...
๒.๒ จํานวนผูปวย .…..............................…………………..คน...................................................................ครั้ง
๒.๓ จํานวนการใหบริการ
๒.๓.๑ เวชกรรม .................................................................................................................................ครั้ง
๒.๓.๒ เวชกรรมเฉพาะทาง...............................................................................................................…ครั้ง
๒.๓.๓ ทันตกรรม
สงเสริม, ปองกัน.......................................................................................………...….............ครั้ง
รักษา……………………………………………………………………………………………..…..ครั้ง
๒.๓.๔ ทันตกรรมเฉพาะทาง
สงเสริม, ปองกัน...............................................................................................……...............ครั้ง
รักษา…………………………………………………………………………….……………………ครั้ง
๒.๓.๕ กายภาพบําบัด (เวชศาสตรฟนฟู)
กายภาพบําบัด.................................................................................................................……ครั้ง
กายอุปกรณ…..................................................................................................................……ครั้ง
๒.๓.๖ การผาตัดเล็ก............................................................................................................................ครั้ง
๒.๓.๗ ลางไต…………………………………….…………………………………………........................ครั้ง
๒.๓.๘ การตรวจทางหองปฏิบัติการ ................................................................................................... ครั้ง
๒.๓.๙ รังสีวินิจฉัย ..............................................................................................................................ครั้ง

๑๕๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


๒.๓.๑๐ การพยาบาลและการผดุงครรภ
การตรวจกอนคลอด………....................................................................................................ครั้ง
การทําคลอดปกติ…..…………...............................................................................................ครั้ง
การดูแลหลังคลอด…..……....................................................................................................ครั้ง
๒.๓.๑๑ การแพทยแผนไทย .............................................................................................................. ครั้ง

๓. เครื่องมือที่สําคัญและยานพาหนะ
๓.๑ เครื่องเอกซเรยคอมพิวเตอร .......................................................................................................... เครื่อง

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๓.๒ เครื่องตรวจอวัยวะภายในชนิดสนามแมเหล็กไฟฟา ......................................................................... เครื่อง
๓.๓ เครื่องลางไต ................................................................................................................................ เครื่อง
๓.๔ เครื่องสลายนิ่ว .............................................................................................................................. เครื่อง
๓.๕ เครื่องอัลตราซาวนด (ไมนับรวมเครื่อง droptone) .......................................................................... เครื่อง
๓.๖ เครื่องเลเซอร ............................................................................................................................... เครื่อง
๓.๗ รถรับสงผูปวยฉุกเฉิน...........................................................................................................................คัน
๓.๘ อื่นๆ (ระบุ)……………………………………………………………………………………………….………

(ลายมือชื่อ) ……………….……………………………
( …………………………………... )
ผูรับอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล

(ลายมือชื่อ) ……………….…………………………..
( ………………………………….. )
ผูดําเนินการสถานพยาบาล
วันที่รายงาน ...…..……..........………

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๕๙


แบบ ส.พ. ๒๔
รายงานประจําปของสถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคางคืน
ประจําปงบประมาณ…………………………….
(บันทึกขอมูลตั้งแต 1 ตุลาคมของปที่ผานมา ถึง 30 กันยายน ของปปจจุบัน)

๑. ขอมูลทั่วไป
๑.๑ ชื่อสถานพยาบาล ………………..…………………………………………………………………………………
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ตั้งอยูบานเลขที่ ………….……….. หมูที่…………… ซอย/ตรอก ........................... ถนน ……………………………


ตําบล/แขวง …………………...…………….. อําเภอ/เขต ………….....…..……………จังหวัด …………..…………..
รหัสไปรษณีย.................................……….โทรศัพท ………………………...............โทรสาร............................…...
ไปรษณียอิเล็กทรอนิกส...............................................
๑.๒ ชื่อผูรับอนุญาต………………………………………………เลขที่ใบอนุญาต……………………...…………….
๑.๓ ชื่อผูดําเนินการ………………….…..………….……………เลขที่ใบอนุญาต………..………………….……….

๒. ลักษณะสถานพยาบาล………………..…………………(เฉพาะสาขา,เฉพาะทาง ระบุ)………………………………
จํานวน……………………………………เตียง

๓. สถิติการบริการ
๓.๑ ผูปวยนอกรวม ...........................................................คน...................................................................ครั้ง
๓.๒ ผูปวยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ
(๑) จราจร………………............................................คน...................................................................ครั้ง
(๒) ขนสง ………………............................................คน...................................................................ครั้ง
(๓) อื่นๆ ………………............................................คน..................................................................ครั้ง
๓.๓ ผูปวยในรวม ............................................. คน, จํานวนวันนอนรวม ...............................................…..วัน
๓.๔ ผูมารับบริการอื่นๆ ………………................................คน...................................................................
ครั้ง
๓.๕ ผูปวยในหอผูปวยหนัก .........................................................................................................................คน
๓.๖ ผูปวยผาตัด
(๑) การผาตัดใหญพเิ ศษ .................................................................................................................. ครั้ง
ก. การผาตัดเปลี่ยนอวัยวะ ......................................................................................................... ครั้ง
ข. การผาตัดเปดหัวใจ ................................................................................................................ ครั้ง
(๒) การผาตัดใหญ ........................................................................................................................... ครั้ง
(๓) การผาตัดเล็ก ............................................................................................................................ ครั้ง

๑๖๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


๓.๗ ผูปวยคลอดบุตร
(๑) การดูแลกอนคลอด………………………….…คน, การดูแลหลังคลอด……………………..………..คน
(๒) การคลอดปกติ ............................................................................................................................ คน
(๓) การคลอดผิดปกติ ................................................................................................................…... คน
ก. การผาตัดคลอด ......................................................................................................................
คน
ข. การคลอดโดยใชคีม ................................................................................................................ คน

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ค. การคลอดโดยใชเครื่องดูดสูญอากาศ ....................................................................................... คน
ง. การคลอดทาผิดปกติ ............................................................................................................... คน
๓.๘ จํานวนทารกแรกเกิด
(๑) ทารกคลอดครบกําหนด ............................................................................................................... คน
(๒) ทารกคลอดกอนกําหนด .............................................................................................................. คน
๓.๙ การสวนหัวใจ ................................................................................................................................. ครั้ง
๓.๑๐ การลางไต ...................................................................................................................................... ครั้ง
๓.๑๑ รังสีวินิจฉัย ......................................................................................................................................ครั้ง
(๑) ดวยเครื่องเอกซเรยคอมพิวเตอร ................................................................................................ ครั้ง
(๒) ดวยเครื่องตรวจอวัยวะภายในชนิดสนามแมเหล็กไฟฟา ............................................................... ครั้ง
๓.๑๒ รังสีบําบัด ....................................................................................................................................... ครั้ง
๓.๑๓ ทันตกรรม
สงเสริม, ปองกัน..........................................................................................……............…………...ครั้ง
รักษา…………………………………………..…………………………………………………………….ครั้ง
๓.๑๔ เวชศาสตรฟนฟู
กายภาพบําบัด..............................................................................................................……………..ครั้ง
กายอุปกรณ….............................................................................................................…………….. ครั้ง
๓.๑๕ การตรวจทางหองปฏิบัติการ............................................................................................................. ครั้ง
๓.๑๖ การแพทยแผนไทย ......................................................................................................................... ครั้ง
๓.๑๗ การสงตอผูปวย (จําแนกตามสาเหตุ)
(๑) เกินขีดความสามารถที่จะใหบริการ ............................................................................................. ครั้ง
(๒) เปนความประสงคของผูปวย ...................................................................................................… ครั้ง
๓.๑๘ การใหบริการนอกสถานที่ โดย
(๑) จํานวนผูรับบริการเอกซเรย......................................................................................................... คน
(๒) จํานวนผูรับบริการทันตกรรม ...................................................................................................... คน
(๓) จํานวนผูรับบริการชันสูตรพลิกศพ............................................................................................... คน
(๔) จํานวนผูรับบริการหนวยแพทยเคลื่อนที่….................................................................................... คน

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๖๑


๓.๑๙ การตายของผูปวย
(๑) ตายกอนถึงสถานพยาบาล .......................................................................................................... คน
(๒) ตายกอนรับไวรักษาภายใน ......................................................................................................... คน
(๓) ตายหลังรับไวรักษาภายใน ......................................................................................................... คน
(๔) โรคที่เปนสาเหตุการตาย ๕ อันดับแรกของโรงพยาบาล (ตามคูมือสอบสวนสาเหตุการตายของ
กระทรวงสาธารณสุข)
ก............................................……………………………………………………………………….. คน
ข. ................................................................……………………………………………………….. คน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ค .......................................…………………………………………………..……………………… คน
ง. ...................................................…………………………………………………….…………… คน
จ. ..................................................……………………………………….………………………… คน

๔. เครื่องมือที่สําคัญและยานพาหนะ
๔.๑ เครื่องเอกซเรยคอมพิวเตอร ......................................................................................................... เครื่อง
๔.๒ เครื่องตรวจอวัยวะภายในชนิดสนามแมเหล็กไฟฟา ........................................................................ เครื่อง
๔.๓ เครื่องลางไต ............................................................................................................................... เครื่อง
๔.๔ เครื่องสลายนิ่ว ............................................................................................................................. เครื่อง
๔.๕ เครื่องแกมมาไนฟ……………………………………………………………………...…………………เครื่อง
๔.๖ เครื่องอัลตราซาวนด ……………………………………………….................................................... เครื่อง
๔.๗ เครื่องเลเซอร ......….................................................................................................................... เครื่อง
๔.๘ รถรับสงผูปวยฉุกเฉิน.............................................................................................….........................คัน
๔.๙ รถเอกซเรย……………...........................................................................................……….......…......
คัน
๔.๑๐ รถทันตกรรม……………....................................................................................................................คัน
๔.๑๑ อืน่ ๆ (ระบุ)………………………………………………………………………………………………………

๕. ขอมูลดานคุณภาพบริการ
๕.๑ ระบบพัฒนาคุณภาพบริการ
๕.๑.๑. ISO อยูในระหวางการจัดทํา ไดรับการรับรองจากองคกรภายนอกแลว
ไดรับ ISO .......................…………………………………..………… เฉพาะสวน ทั้งหมด
จาก .................................................................. เมื่อวันที่ ...........................................................
๕.๑.๒. HA อยูในระหวางการจัดทํา ไดรับการรับรองจากองคกรภายนอกแลว
จาก ....................................................................เมื่อวันที่ ……...................................................

๑๖๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


๕.๒ ระบบประกันสุขภาพ
๕.๒.๑ เขารวมโครงการประกันสังคม จํานวนผูประกันตน……………………………………..……….คน
๕.๒.๒ เขารวมโครงการสรางหลักประกันสุขภาพถวนหนา จํานวนผูขึ้นทะเบียน……….…………………คน
๕.๓ การสงบุคลากรไปอบรมหรือฟนฟูวิชาการ …….................…………….. เรื่อง .................................... คน
๕.๔ การจัดอบรมวิชาการหรือพัฒนาการบริการภายในจํานวน .........……….เรือ่ ง .............................…..….. คน
๕.๕ จํานวนการตายผูปวยหองฉุกเฉิน (Preadmission Resuscitation Failure) ..........................…………… คน
๕.๖ จํานวนมารดาตาย ....................................................................................................................……… คน
๕.๗ จํานวนทารกเกิดไรชีพ ........................................................................................................................ คน

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๕.๘ จํานวนทารกที่ตายกอนอายุครบ 7 วัน .........................................................................................…….. คน
๕.๙ จํานวนเด็กที่อายุต่ํากวา 1 ปตาย ..................................................................................……………….. คน
๖. อัตรากําลังของบุคลากรทางการแพทยและบุคลากรอื่นๆ
๖.๑ แพทยทั่วไปและแพทยเฉพาะทาง
๖.๑.๑ แพทยทั่วไปที่อยูประจํา……………………..คน แพทยทั่วไปที่อยูบางเวลา ...............................
คน
๖.๑.๒ แพทยเฉพาะทางที่อยูประจํา จําแนกตามสาขา

เวชปฏิบัติทั่วไป .....................… คน ประสาทศัลยศาสตร ......................… คน


พยาธิวิทยาทั่วไป .....................… คน ศัลยศาสตรยูโรวิทยา ......................… คน
พยาธิวิทยากายวิภาค .....................… คน ศัลยศาสตรตกแตง ......................… คน
พยาธิวิทยาคลินิค .....................… คน กุมารศัลยศาสตร ......................… คน
อายุรศาสตร .....................… คน ศัลยศาสตรทวารหนัก ......................… คน
จิตเวชศาสตร .....................… คน ศัลยศาสตรทรวงอก ......................… คน
ศัลยศาสตร .....................… คน รังสีวิทยาวินิจฉัย ......................… คน
สูติศาสตรนรีเวช .....................… คน รังสีรักษา ......................… คน
กุมารเวชศาสตร .....................… คน เวชศาสตรนิวเคลียร ......................… คน
รังสีวิทยา .....................… คน เวชศาสตรฟนฟู ......................… คน
วิสัญญีวิทยา .....................… คน เวชศาสตรปองกัน ......................… คน
ประสาทวิทยา .....................… คน โลหิตวิทยา ......................… คน
สัจวิทยา .....................… คน อายุรศาสตรโรคระบบทางเดินอาหาร ......................… คน
จักษุวิทยา .....................… คน อายุรศาสตรโรคหัวใจ ......................… คน
โสต นาสิก ลาริงซวิทยา .....................… คน อายุรศาสตรโรคทรวงอก ......................… คน
นิติเวชศาสตร .....................… คน อื่นๆ(ระบุ)………………………….. ......................… คน
ศัลยศาสตรออรโตปดิกส .....................… คน ……………………………………… ......................… คน

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๖๓


๖.๒ ทันตแพทยประจํา .....................… คน ทันตแพทยบางเวลา ............................................คน
๖.๓ ผูชวยทันตแพทย .....................… คน
๖.๔ ชางทันตกรรม .....................… คน
๖.๕ เภสัชกรประจํา .....................… คน เภสัชกรบางเวลา................................................. คน
๖.๖ ผูชวยเภสัชกรรม .....................… คน
๖.๗ พยาบาลวิชาชีพประจํา .....................… คน พยาบาลวิชาชีพบางเวลา………........................... คน
๖.๘ พยาบาลเทคนิคประจํา .....................… คน พยาบาลเทคนิคบางเวลา.......................................คน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๖.๙ วิสัญญีพยาบาล .....................… คน


๖.๑๐ เจาหนาที่พยาบาล .....................… คน
๖.๑๑ นักกายภาพบําบัดประจํา .....................… คน นักกายภาพบําบัดบางเวลา…................................คน
๖.๑๒ ผูชวยกายภาพบําบัด .....................… คน
๖.๑๓ พนักงานอาชีวบําบัด .....................… คน
๖.๑๔ พนักงานเวชกรรมฟนฟู .....................… คน
๖.๑๕ นักเทคนิคการแพทยประจํา .....................… คน นักเทคนิคการแพทยบางเวลา…............................คน
๖.๑๖ นักวิทยาศาสตรการแพทย .....................… คน
๖.๑๗ เจาหนาที่รังสีการแพทย .....................… คน
๖.๑๘ นักโภชนาการ .....................… คน
๖.๑๙ โภชนากร .....................… คน
๖.๒๐ นักจิตวิทยา .....................… คน
๖.๒๑ นักสังคมสงเคราะห .....................… คน
๖.๒๒ นักสถิติ .....................… คน
๖.๒๓ เจาหนาที่เวชสถิติ .....................… คน
๖.๒๔ ลูกจางหรือพนักงานอื่นๆ .....................… คน

(ลายมือชื่อ) ……………….…………………………………………
( …………………………………..……… )
ผูรับอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล

(ลายมือชื่อ) ……………….…………………………………………
( …………………………………..………)
ผูดําเนินการสถานพยาบาล
วันที่รายงาน.......................................

๑๖๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกำศกระทรวงสำธำรณสุข
เรื่อง แต่งตั้งพนักงำนเจ้ำหน้ำที่
เพื่อปฏิบัติกำรตำมพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑

อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำ ๖ แห่งพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑


รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุขออกประกำศไว้ ดังต่อไปนี้

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกำศกระทรวงสำธำรณสุข เรื่อง แต่งตั้งพนักงำนเจ้ำหน้ำที่เพื่อ
ปฏิบัติกำรตำมพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ ลงวันที่ ๑๗ มีนำคม ๒๕๕๙

ข้อ ๒ ๑ ประกำศนี้ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วัน ถัดจำกวัน ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ


เป็นต้นไป

ข้อ ๓ ให้ข้ำรำชกำรและเจ้ำหน้ำที่ของรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นพนักงำน


เจ้ำหน้ำที่เพื่อปฏิบัติกำรตำมพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑
(๑) ปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
(๒) รองปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
(๓) ผู้ตรวจรำชกำรกระทรวงสำธำรณสุข
(๔) สำธำรณสุขนิเทศก์
(๕) อธิบดีกรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพ
(๖) รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพ
(๗) ผู้อำนวยกำรสำนั กสถำนพยำบำลและกำรประกอบโรคศิลปะ กรมสนับ สนุน
บริกำรสุขภำพ
(๘) นำยแพทย์ ทัน ตแพทย์ นัก วิช ำกำรสำธำรณสุข เภสัช กร พยำบำลวิช ำชีพ
นัก ทะเบียนวิชำชีพและนักวิเครำะห์นโยบำยและแผน ที่ปฏิบัติงำนในสำนักสถำนพยำบำลและกำร
ประกอบโรคศิลปะกรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพ
(๙) ผู้อำนวยกำรกองกฎหมำย กรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพ
(๑๐) นิติกร ที่ปฏิบัติงำนในกรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพ

ข้อ ๔ ให้ข้ำรำชกำรและเจ้ำหน้ำที่ของรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นพนักงำน


เจ้ำหน้ำที่เพื่อปฏิบัติกำรตำมพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ ทั้งนี้ เฉพำะในเขตท้องที่ที่
มีอำนำจหน้ำที่ดูแลและรับผิดชอบในกำรปฏิบัติงำน
(๑) นำยแพทย์สำธำรณสุขจังหวัด
(๒) นำยแพทย์เชี่ยวชำญ นักวิชำกำรสำธำรณสุขเชี่ยวชำญ เภสัชกรเชี่ยวชำญและ
ทันตแพทย์เชี่ยวชำญ ที่ปฏิบัติงำนในสำนักงำนสำธำรณสุขจังหวัด


รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๕/ตอนพิเศษ ๑๓๔ ง/หน้ำ ๖/๑๒ มิถุนำยน ๒๕๖๑

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๖๕


(๓) นิติกร ที่ปฏิบัติงำนในสำนักงำนสำธำรณสุขจังหวัด
(๔) เภสัชกร นักวิชำกำรสำธำรณสุขและเจ้ำพนักงำนเภสัชกรรมที่ปฏิบัติงำนในกลุ่ม
งำนคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสำธำรณสุข สำนักงำนสำธำรณสุขจังหวัด
(๕) ผู้ อ ำนวยกำรโรงพยำบำลศูนย์ /โรงพยำบำลทั่ว ไป ผู้ อำนวยกำรโรงพยำบำล
ชุมชนหรือผู้ปฏิบัติหน้ำที่ผู้อำนวยกำรโรงพยำบำลชุมชน
(๖) หัวหน้ำกลุ่มกำรพยำบำล โรงพยำบำลศูนย์/โรงพยำบำลทั่วไปและโรงพยำบำล
ชุมชน
(๗) ทันตแพทย์ เภสัชกร นักเทคนิคกำรแพทย์และนักกำยภำพบำบัด ที่ปฏิบัติงำน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ในโรงพยำบำลศูนย์/โรงพยำบำลทั่วไปและโรงพยำบำลชุมชน
(๘) สำธำรณสุขอำเภอ
(๙) นักวิชำกำรสำธำรณสุข ที่ปฏิบัติงำนในสำนักงำนสำธำรณสุขอำเภอ

ข้อ ๕ ให้ข้ำรำชกำรและเจ้ำหน้ำที่ของรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นพนักงำน


เจ้ำหน้ำที่เพื่อปฏิบัติกำรตำมพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ ทั้งนี้ เฉพำะในเขตท้องที่ที่
มีอำนำจหน้ำที่ดูแลและรับผิดชอบในกำรปฏิบัติงำน
(๑) ผู้อำนวยกำรสำนักงำนสนับสนุนบริกำรสุขภำพเขต กรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพ
(๒) นักวิชำกำรสำธำรณสุข หรือข้ำรำชกำรและเจ้ำหน้ำที่ของรัฐ ซึ่งปฏิบัติงำนใน
กลุ่มคุ้มครองผู้บริโภคด้ำนบริกำรสุขภำพ สำนักงำนสนับสนุนบริกำรสุขภำพเขต กรมสนับสนุนบริก ำร
สุขภำพ

ประกำศ ณ วันที่ ๙ พฤษภำคม พ.ศ. ๒๕๖๑


ปิยะสกล สกลสัตยำทร
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุข

๑๖๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๖๗


เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๘๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ เมษายน ๒๕๖๑

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง สถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับ
ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล

โดยที่ เป็ น การสมควรกํ า หนดสถานพยาบาลอื่ น ซึ่ ง ได้ รั บ การยกเว้ น ไม่ ต้ อ งอยู่ ใ นบั ง คั บ
ของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559


อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่งและวรรคสอง แห่งพระราชบัญญั ติสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 และมาตรา ๖
วรรคหนึ่ ง แห่ งพระราชบั ญ ญั ติ สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุ ข
โดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาล จึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ เรี ย กว่ า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข เรื่ อ ง สถานพยาบาลอื่ น
ซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๔๒) เรื่อง หลักเกณฑ์
การยกเว้นสถานพยาบาลซึ่งไม่ต้องอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
ข้อ 4 สถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
พ.ศ. 2541 ซึ่ ง แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล (ฉบั บ ที่ 4) พ.ศ. 2559
ต้องมีลักษณะของสถานพยาบาลอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้
(1) เป็ น สถานพยาบาลที่ ไ ม่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ ค้ า งคื น ที่ จั ด ให้ บ ริ ก ารด้ า นการรั ก ษาพยาบาล
การส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพอนามัยและการควบคุมและป้องกันโรค ในลักษณะที่เป็นการจัดสวัสดิการ
ให้แก่เจ้าหน้าที่ พนักงาน ลูกจ้าง หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
(ก) สถานศึกษาของเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือตามกฎหมายว่าด้วย
สถาบันอุดมศึกษาเอกชน
(ข) นายจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน
(ค) เจ้าของเรือตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานทะเล
(ง) ผู้ให้บริการขนส่งผู้โดยสารในยานพาหนะต่าง ๆ เช่น เครื่องบิ นโดยสาร เรือเดินทะเล
รถขนส่งไฟฟ้า เป็นต้น
ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
และใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล และไม่ต้องชําระค่าธรรมเนียมรายปี แต่ทั้งนี้หากมีผู้ประกอบวิชาชีพ
หรือผู้ประกอบโรคศิลปะปฏิบัติงานต้องจัดให้มีหลักฐานรายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ
พร้อมสําเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ สมุดทะเบียนผู้ป่วย บันทึกการปฏิบัติงาน

๑๖๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๘๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ เมษายน ๒๕๖๑
ที่สามารถตรวจสอบได้ และต้องแจ้งการประกอบกิจการสถานพยาบาล โดยผู้อนุญาตต้องออกแบบรับ
แจ้งให้ไว้เป็นหลักฐานตามแบบแนบท้ายประกาศนี้
(2) เป็นสถานพยาบาลที่ใช้ยานพาหนะในการออกไปให้บริการเคลื่อนที่ ณ สถานที่ใดที่หนึ่ง
เป็ น การชั่ ว คราว และมี วั ต ถุ ป ระสงค์ เพื่ อ ช่ ว ยเหลื อ หรื อ สงเคราะห์ โดยไม่ เรี ย กเก็ บ ค่ า บริ ก ารใด ๆ
ไม่ว่าจะเป็นการจัดให้บริการขององค์กรการกุศลต่าง ๆ มูลนิธิ สถานพยาบาลหรือของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
โดยผู้ให้ บ ริก ารต้ องเป็ น ผู้ ป ระกอบวิชาชี พ หรือ ผู้ ป ระกอบโรคศิ ล ปะ ให้ ได้ รับ การยกเว้น ไม่ ต้ อ งขอรับ

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลและใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล โดยไม่ต้องชําระ
ค่าธรรมเนียมรายปี แต่ทั้ งนี้ ต้อ งจัดให้มีหลักฐานรายชื่อ ผู้ประกอบวิชาชีพ หรือผู้ประกอบโรคศิลปะ
พร้อมสําเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ สมุดทะเบียนผู้ป่วย บันทึกการปฏิบัติงาน
ที่สามารถตรวจสอบได้ และต้องแจ้ง วัน เวลา สถานที่และชื่อผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ
ที่ออกไปให้บริการแก่ผู้อนุญาตทราบ ก่อนออกให้บริการอย่างน้อยห้าวันตามแบบแนบท้ายประกาศนี้
(3) เป็ น สถานพยาบาลเคลื่ อ นที่ ข องสถานพยาบาลตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยสถานพยาบาล
ที่ใช้ยานพาหนะ เป็นที่ให้บริการและออกให้บริการไปยังหน่วยงานที่ร้องขอเพื่อการตรวจดูแลสุขภาพ
รัก ษาพยาบาล การส่ งเสริม หรือ การป้ อ งกั น โรคแก่ พ นั กงาน นั ก ศึ ก ษา ตามสั ญ ญาประกั น สุ ข ภาพ
หรือการตรวจสุขภาพประจําปีระหว่างสถานพยาบาลกับหน่วยงานนั้น เช่น
(ก) รถเอกซเรย์ เคลื่ อ นที่ ต้ อ งมี เครื่ อ งเอกซเรย์ เพื่ อ การตรวจวิ นิ จ ฉั ย พร้ อ มอุ ป กรณ์
ป้องกันอันตรายจากรังสีที่ได้รับอนุญาตจากสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติหรือหน่วยงานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
และเป็นไปตามมาตรฐานที่ผู้อนุญาตประกาศกําหนดโดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาล
(ข) รถทั น ตกรรม ที่ ได้ ม าตรฐานตามที่ ผู้ อ นุ ญ าตประกาศกํ า หนดโดยคํ า แนะนํ า ของ
คณะกรรมการสถานพยาบาล
(ค) รถปฏิบัติการชันสูตร ที่ได้มาตรฐานตามที่ผู้อนุญาตประกาศกําหนดโดยคําแนะนําของ
คณะกรรมการสถานพยาบาล
(ง) รถรั ก ษาพยาบาลเคลื่ อ นที่ ที่ ไ ด้ ม าตรฐานตามที่ ผู้ อ นุ ญ าตประกาศกํ า หนด
โดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาล
ให้สถานพยาบาลเคลื่อนที่ตาม (ก) - (ง) ต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ
ที่ออกไปให้บริการสอดคล้องกับมาตรฐานการบริการและมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ หรือการประกอบ
โรคศิลปะนั้น ๆ ตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
และใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล และไม่ต้องชําระค่าธรรมเนียมรายปี แต่ต้องจัดให้มีหลักฐาน
สมุดทะเบียนผู้ป่วยและบันทึกการปฏิบัติงาน โดยระบุ วัน เวลา สถานที่และชื่อผู้ประกอบวิชาชีพ
หรื อ ผู้ ป ระกอบโรคศิ ล ปะที่ อ อกไปให้ บ ริ ก ารที่ ส ามารถตรวจสอบได้ แ ละต้ อ งแจ้ งวั น เวลา สถานที่

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๖๙


เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๘๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๙ เมษายน ๒๕๖๑
และชื่อผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะที่ออกไปให้บริการแก่ผู้อนุญาตทราบก่อนออกให้บริการ
อย่างน้อยห้าวันตามแบบแนบท้ายประกาศนี้
(4) สถานพยาบาล ณ ที่ พํ า นั ก ของผู้ ป่ ว ยเป็ น การชั่ ว คราวโดยไม่ ได้ ก ระทํ า เป็ น ปกติ ธุ ร ะ
ซึ่ ง ผู้ ป่ ว ยไม่ ส ามารถมารั บ บริ ก ารที่ ส ถานพยาบาลได้ เช่ น ผู้ ป่ ว ยโรคเรื้ อ รั ง ที่ น อนติ ด เตี ย ง ผู้ ป่ ว ย
ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ผู้ป่วยชราหรือผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ให้บริการต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
หรือ ผู้ ป ระกอบโรคศิ ลปะซึ่ งใบอนุ ญ าตของผู้ ป ระกอบวิ ช าชี พ หรือ ผู้ ป ระกอบโรคศิ ล ปะนั้ น ยั งคงใช้ ได้
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ตามกฎหมาย ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอรับใบอนุญ าตประกอบกิจการสถานพยาบาลและใบอนุญ าต


ให้ดําเนินการสถานพยาบาล และไม่ต้องชําระค่าธรรมเนียมรายปี
(5) ยานพาหนะที่ ใช้ในการเคลื่อ นย้ายผู้ป่ วย ที่ ได้ รับ อนุ ญ าตตามกฎหมาย เช่น รถ เรือ
หรือ เครื่อ งบิ น ขององค์ ก รเอกชนที่ ช่ วยเหลือ ผู้ป่ วยฉุก เฉิ น หรือ รถฉุ กเฉิน เป็ น ต้ น ได้ รับ การยกเว้น
ไม่ต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลและใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล และไม่ต้อง
ชําระค่าธรรมเนียมรายปี
ข้อ 5 สถานพยาบาลอื่ น ซึ่ ง ได้ รั บ การยกเว้ น ไม่ ต้ อ งอยู่ ใ นบั ง คั บ ของพระราชบั ญ ญั ติ
สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559
ดังกล่าว ไม่เป็นการตัดอํานาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการที่จะเข้าไปตรวจสอบและควบคุมสถานพยาบาล
เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
ข้อ 6 หากปรากฏในภายหลังว่าสถานพยาบาลที่ได้รับการยกเว้นมีการให้บริการที่มีลักษณะ
อันน่าจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้บริการ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจสั่งให้แก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสม
หรือสั่งให้ระงับหรือปฏิบัติให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กําหนด หากยังมีการฝ่าฝืนคําสั่งของพนักงาน
เจ้าหน้าที่ดังกล่าว ให้ผู้อนุญาตมีอํานาจออกคําสั่งปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราวหรืออาจสั่งเพิกถอน
สถานพยาบาลนั้น โดยรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ 7 การยื่ น แบบแจ้ งการประกอบกิ จ การสถานพยาบาลตามประกาศกระทรวงฉบั บ นี้
ในกรุงเทพมหานครให้ยื่น ณ สํานักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
สําหรับในจังหวัดอื่นให้ยื่น ณ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด ทั้งนี้ อาจจัดให้มีการยื่นแบบแจ้งผ่านระบบ
อิเล็กทรอนิกส์ด้วยก็ได้

ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑


ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

๑๗๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


แบบแจ้ง สพ.อ. 1

เลขรับที่ ……………………………
วันที่ ……..………..…………….…
ลงชื่อ ……………………ผู้รับคำขอ

แบบแจ้งการประกอบกิจการสถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับ
ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล

เขียนที่ ………………………………………………….……

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
วันที่ ……..……... เดือน ……..…………...…. พ.ศ. ………..….…..

ข้ำพเจ้ำ…………………………..………… โดย นำย/นำง/นำงสำว …………….…………………………………………………………………..


……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………......
อำยุ .……………… ปี .........สัญชำติ ………………………อยู่เลขที่ ………………….ซอย………………………….ตรอก ……………………................
ถนน ………………………….…หมู่ที่ ……………….ตำบล/แขวง …………………………………. อำเภอ/เขต ……………….………………..…………….
จังหวัด ………………...………………………………….. โทรศัพท์ …………………………………………………….………………………………………………..
ขอแจ้งกำรประกอบกิจกำรสถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน เพื่อเป็นสวัสดิกำรของเจ้ำหน้ำที่ พนักงำนลูกจ้ำงหรือ
บุคคลที่เกี่ยวข้อง จำนวน ............................................................. คน
ณ สถำนพยำบำล .....................................................................................................ตั้งอยู่ที่ ........................................................
ซอย .................................................... ตรอก .................................................. ถนน ........................................ หมู่ที่ .................
ตำบล/แขวง ........................................................................ อำเภอ/เขต .......................................................................................
จังหวัด .................................................................. โทรศัพท์ .......................................................................................................
โดยข้ำพเจ้ำขอรับรองว่ำมี ผู้ประกอบวิชำชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะที่ปฏิบัติงำน
๑. แพทย์ ………………...……..……….........…..… คน ๒. พยำบำล ……….….………………….….…. คน
๓. ทันตแพทย์ …………..……..………..........…… คน ๔. เภสัชกร …………………...….………….…. คน
5. นักกำยภำพบำบัด ……..….……….………….. คน 6. นักเทคนิคกำรแพทย์ ………..…..…….. คน
7. แพทย์แผนไทย ………………………………….. คน
- เวชกรรมไทย ……………………………… คน - เภสัชกรรมไทย …………………………. คน
- กำรผดุงครรภ์ไทย…………………………. คน - กำรนวดไทย …………………………….. คน
- กำรแพทย์พื้นบ้ำนไทย………………… คน
8. แพทย์แผนไทยประยุกต์ ….………. คน
9. ผู้ประกอบโรคศิลปะ
(๑) กิจกรรมบำบัด ……..….……….……… คน (๒) กำรแก้ไขควำมผิดปกติของกำรสื่อควำมหมำย…..……. คน
(๓) เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ….….. คน (๔) รังสีเทคนิค …………………………. คน
(๕) จิตวิทยำคลินิก ……...………………… คน (6) กำยอุปกรณ์…………………………. คน
(7) กำรแพทย์แผนจีน…………………….. คน
(8) อื่นๆ............................................... คน
เป็นผู้ให้บริกำรและเปิดให้บริกำรเวลำระหว่ำง .................................................. น.

(ลำยมือชื่อ) …………………………………… ผู้ยื่นคำขอ


( …..…………………………..)
ผู้มีอำนำจสูงสุดของหน่วยงำนนั้น

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๗๑


แบบรับแจ้ง สพ.อ. 2

แบบรับแจ้งการประกอบกิจการสถานพยาบาลอื่นประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
ซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ใบรับแจ้งเลขที่ ............./.......................

ใบรับแจ้งฉบับนี้เพื่อแสดงว่ำ สถำนพยำบำล ..................................................................................................................


..........................................................................................................................................................................................................
ตั้งอยู่เลขที่ .................................... ซอย ......................................................ตรอก ..........................................................................
ถนน ........................................................... หมู่ที่ ................... ตำบล/แขวง ....................................................................................
อำเภอ/เขต ............................................................. จังหวัด .......................................................โทรศัพท์ .......................................
เป็ น สถำนพยำบำลที่ จั ด ตั้ ง ขึ้ น เพื่ อ เป็ น สวั ส ดิ ก ำรแก่ เจ้ ำ หน้ ำ ที่ พ นั ก งำน ลู ก จ้ ำ งหรื อ บุ ค คลที่ เกี่ ย วข้ อ ง โดยได้ รั บ กำรยกเว้ น
ไม่ต้องอยู่ในบังคับตำมกฎหมำยว่ำด้วยสถำนพยำบำล

ให้ไว้ ณ วันที่ เดือน พ.ศ.

(ลำยมือชื่อ) ..................................................... ผูร้ ับแจ้ง


( ...................................................... )

๑๗๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


แบบแจ้ง สพ.อ. 3

เลขรับที่ ……………………………
วันที่ ……..………..…………….…
ลงชื่อ ……………………ผู้รับคำขอ

แบบแจ้งวัน เวลา สถานที่และชื่อผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะที่ออกไปให้บริการ


สาหรับสถานพยาบาลที่ใช้ยานพาหนะในการออกไปให้บริการเคลื่อนที่
ซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เขียนที่ ………………………………………………….……
วันที่ ……..……... เดือน ……..…………...…. พ.ศ. ………..….…..

ข้ำพเจ้ำ…………………………..………… โดย นำย/นำง/นำงสำว …………….…………………………………………………………………..


……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………......
อำยุ .……………… ปี .........สัญชำติ ………………………อยู่เลขที่ ………………….ซอย………………………….ตรอก ……………………................
ถนน ………………………….…หมู่ที่ ……………….ตำบล/แขวง …………………………………. อำเภอ/เขต ……………….………………..…………….
จังหวัด ………………...………………………………….. โทรศัพท์ …………………………………………………….………………………………………………..
ขอแจ้ ง แจ้ งวั น เวลำ สถำนที่ แ ละชื่ อ ผู้ ป ระกอบวิช ำชี พ หรื อ ผู้ ป ระกอบโรคศิ ล ปะที่ อ อกไปให้ บ ริ ก ำรส ำหรับ สถำนพยำบำล
ที่ใช้ยำนพำหนะในกำรออกไปให้บริกำรเคลื่อนที่ ดังนี้
(1) วัน เวลำในกำรออกให้บริกำร ระหว่ำง............................................ถึงวันที่.................................................................
(2) สถำนที่ในกำรออกให้บริกำร ณ.................................................................................................................................
(3) ผู้ประกอบวิชำชีพหรือผูป้ ระกอบโรคศิลปะทีอ่ อกไปให้บริกำร
3.1 วิชำชีพเวชกรรม ………………...……..……….........…..… คน ได้แก่
(1).............................................................................
(2).............................................................................
(3).............................................................................
3.2 วิชำชีพอื่นๆ …………..……..………................…………... คน ได้แก่
(1).............................................................................
(2).............................................................................
(3).............................................................................
3.3 ผู้ประกอบโรคศิลปะ.................................................. คน ได้แก่
(1).............................................................................
(2).............................................................................
(3).............................................................................

(ลำยมือชื่อ) …………………………………… ผู้ยื่นคำขอ


( …..…………………………..)
ผู้มีอำนำจสูงสุดของหน่วยงำนนั้น

(ลำยมือชื่อ) ............................................ ผูร้ ับแจ้ง


( ...................................................... )
ผู้อนุญำต

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๗๓


แบบแจ้ง สพ.อ. 4

เลขรับที่ ……………………………
วันที่ ……..………..…………….…
ลงชื่อ ……………………ผู้รับคำขอ

แบบแจ้งวัน เวลา สถานที่และชื่อผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะที่ออกไปให้บริการ


สาหรับสถานพยาบาลเคลื่อนที่ของสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลที่ใช้ยานพาหนะเป็น
ทีใ่ ห้บริการและออกให้บริการไปยังหน่วยงานที่ร้องขอเพื่อการตรวจดูแลสุขภาพ การส่งเสริมหรือ
การป้องกันโรคแก่พนักงาน นักศึกษา ตามสัญญาประกันสุขภาพหรือการตรวจสุขภาพประจาปีระหว่าง
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

สถานพยาบาลกับหน่วยงานนั้นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล

เขียนที่ ………………………………………………….……
วันที่ ……..……... เดือน ……..…………...…. พ.ศ. ………..….…..

ข้ำพเจ้ำ…………………………..………… โดย นำย/นำง/นำงสำว …………….…………………………………………………………………..


……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………......
อำยุ .……………… ปี .........สัญชำติ ………………………อยู่เลขที่ ………………….ซอย………………………….ตรอก ……………………................
ถนน ………………………….…หมู่ที่ ……………….ตำบล/แขวง …………………………………. อำเภอ/เขต ……………….………………..…………….
จังหวัด ………………...………………………………….. โทรศัพท์ …………………………………………………….………………………………………………..
ขอแจ้งแจ้งวัน เวลำ สถำนที่และชื่อผู้ประกอบวิชำชีพ หรือผู้ประกอบโรคศิลปะที่ออกไปให้บริกำรสำหรับสถำนพยำบำลเคลื่อนที่
ของสถำนพยำบำลประเภท.................................ที่ใช้ยำนพำหนะ เป็นที่ให้บริกำรและออกให้บริกำรไปยังหน่วยงำนที่ร้องขอ
เพื่ อกำรตรวจดูแลสุขภำพ รักษำพยำบำล กำรส่ งเสริม หรือกำรป้ องกัน โรคแก่ พ นัก งำน นักศึกษำ ตำมสัญญำประกันสุขภำพ
หรือกำรตรวจสุขภำพประจำปีระหว่ำงสถำนพยำบำลกับหน่วยงำนนั้น ดังนี้
(4) วัน เวลำในกำรออกให้บริกำร ระหว่ำง............................................ถึงวันที่.................................................................
(5) สถำนที่ในกำรออกให้บริกำร ณ.................................................................................................................................
(6) ผู้ประกอบวิชำชีพหรือผูป้ ระกอบโรคศิลปะทีอ่ อกไปให้บริกำร
3.2 วิชำชีพเวชกรรม ………………...……..……….........…..… คน ได้แก่
(1).............................................................................
(2).............................................................................
3.2 วิชำชีพอื่นๆ ...…………..……..………................…………. คน ได้แก่
(1).............................................................................
(2).............................................................................
3.3 ผู้ประกอบโรคศิลปะ.................................................. คน ได้แก่
(1).............................................................................
(2).............................................................................

* หมำยเหตุ หำกมีก ำรเปลี่ยนแปลงรำยชื่อ ผู้ประกอบวิชำชีพหรือ ผู้ประกอบโรคศิลปะ ให้นำใบที่แจ้งมำแสดงและแจ้งกำรเปลี่ย นแปลง


ในวันที่ออกให้บริกำรด้วย

(ลำยมือชื่อ) …………………………………… ผู้ยื่นคำขอ


( …..…………………………..)
ผู้มีอำนำจสูงสุดของหน่วยงำนนั้น

(ลำยมือชื่อ) ............................................ ผูร้ ับแจ้ง


( ...................................................... )
ผู้อนุญำต

๑๗๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกำศกระทรวงสำธำรณสุข
เรื่อง กำรกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและมำตรฐำนซึ่งได้รับ
กำรยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตำมกฎหมำยว่ำด้วยสถำนพยำบำล

อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำ ๕ วรรคสอง แห่งพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล


พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ และมำตรำ
๖ วรรคหนึ่งแห่งพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุขโดย

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
คำแนะนำของคณะกรรมกำรสถำนพยำบำล จึงออกประกำศไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ประกำศนี้เรียกว่ำ “ประกำศกระทรวงสำธำรณสุข เรื่อง กำรกำหนดลักษณะ


ของสถำนพยำบำลและมำตรฐำนซึ่ ง ได้ รั บ กำรยกเว้ น ไม่ ต้ อ งอยู่ ในบั ง คั บ ตำมกฎหมำยว่ ำ ด้ ว ย
สถำนพยำบำล”

ข้อ ๒ ๑ ประกำศนี้ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วัน ถัดจำกวัน ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ


เป็นต้นไป

ข้อ ๓ ในประกำศฉบับนี้
“สถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่ วยไว้ค้ำงคืน ” หมำยควำมว่ำ สถำนพยำบำล
ประเภทคลินิกหรือที่เรียกชื่ออย่ำงอื่นแต่ดำเนินงำนลักษณะเดียวกัน เช่น โรงพยำบำลส่งเสริมสุขภำพ
ตำบลศูนย์บริกำรสำธำรณสุข ศูนย์สุขภำพชุมชน เป็นต้น
“สถำนพยำบำลประเภทที่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ค้ ำงคื น ” หมำยควำมว่ ำ สถำนพยำบำล
ประเภทโรงพยำบำลหรือที่เรียกชื่ออย่ำงอื่นแต่ดำเนินงำนลักษณะเดียวกัน เช่น สถำบัน ศูนย์ เป็นต้น

ข้อ ๔ สถำนพยำบำลซึ่งได้รับ กำรยกเว้น ไม่ต้องอยู่ ในบั งคับ ของพระรำชบั ญ ญั ติ


สถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญ ญัติสถำนพยำบำล (ฉบั บ ที่ ๔) พ.ศ.
๒๕๕๙ หมำยถึง สถำนพยำบำลซึ่งดำเนินกำรโดยกระทรวง ทบวง กรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
รัฐวิสำหกิจ สถำบันกำรศึกษำของรัฐ หน่วยงำนอื่นของรัฐ สภำกำชำดไทย

ข้อ ๕ ให้สถำนพยำบำลมีลักษณะโดยทั่วไป และลักษณะกำรให้บริกำร ดังต่อไปนี้


(๑) มีควำมปลอดภัย มีควำมสะดวก และเหมำะสมต่อผู้ให้บริกำรและผู้รับบริกำร
ในกำรประกอบวิชำชีพตำมประเภทและสำขำนั้น ๆ
(๒) ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตำมกฎหมำยว่ำด้วยควบคุมอำคำร
(๓) ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรสำธำรณสุข
(๔) ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรผังเมือง


รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๕/ตอนพิเศษ ๘๙ ง/หน้ำ ๑๔/๑๙ เมษำยน ๒๕๖๑

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๗๕


(๕) ต้ อ งปฏิ บั ติ ให้ เป็ น ไปตำมกฎหมำยว่ ำ ด้ ว ยกำรส่ ง เสริ ม และรั ก ษำคุ ณ ภำพ
สิ่งแวดล้อม
(๖) ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตำมกฎหมำยอื่นที่เกี่ยวข้อง

ข้อ ๖ สถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน ต้องได้มำตรฐำน ดังต่อไปนี้


(๑) จัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยำและเวชภัณฑ์ตำมแต่ละแผนก หรือประเภทกำร
ให้บริกำรตำมหมวด ๒ แห่งกฎกระทรวงกำหนดชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ ยำ และเวชภัณฑ์
หรือยำนพำหนะที่จำเป็นประจำสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๕๘
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

(๒) ผู้ประกอบวิชำชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะต้องได้มำตรฐำนกำรประกอบวิชำชีพ
หรือกำรประกอบโรคศิลปะที่สภำวิชำชีพหรือคณะกรรมกำรวิชำชีพกำหนดหรือประกำศกระทรวง
สำธำรณสุขกำหนด

ข้อ ๗ สถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืนประเภททั่วไป ได้แก่ สถำนพยำบำล


ซึ่งให้บริกำรด้ำนกำรรักษำพยำบำลแก่ผู้ ป่ วยด้วยโรคทั่วไป มิ ได้จำกัดเฉพำะโรคใดโรคหนึ่ ง โดยต้อง
ประกอบด้วยหน่วยบริกำรและระบบสนับสนุนกำรให้บริกำร ดังต่อไปนี้
(๑) แผนกเวชระเบียน
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก
(๓) แผนกผู้ป่วยใน
(๔) แผนกผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๕) แผนกเภสัชกรรม
(๖) ระบบรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๗) ระบบควบคุมกำรติดเชื้อ
(๘) ระบบไฟฟ้ำสำรอง
(๙) ระบบน้ำสำรอง
(๑๐) จัดให้มีบริกำรชันสูตร
(๑๑) จัดให้มีบริกำรรังสีวิทยำ
(๑๓) แผนกบริกำร หรือหน่วยบริกำร หรือระบบสนับสนุนกำรให้บริกำรอื่น

ข้ อ ๘ สถำนพยำบำลประเภทที่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ ค้ ำงคื น ประเภทเฉพำะทำง ได้ แ ก่


สถำนพยำบำลที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพเฉพำะทำงด้ำนเวชกรรม โดยผู้ประกอบวิชำชีพเวชกรรม
และผู้ประกอบวิชำชีพนั้น ต้องได้รับวุฒิบัตร หรือหนังสืออนุมัติบัตรจำกแพทยสภำ เช่น โรงพยำบำล
เฉพำะทำงหู ตำ คอ จมูก โรงพยำบำลเฉพำะทำงทรวงอก โรงพยำบำลเฉพำะทำงโรคมะเร็ง เป็นต้น
โดยต้องประกอบด้วยหน่วยบริกำรและระบบสนับสนุนกำรให้บริกำร ตำมที่หน่วยงำนกระทรวง ทบวง
กรม องค์ ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น รั ฐ วิ ส ำหกิ จ สถำบั น กำรศึ ก ษำของรั ฐ หน่ ว ยงำนอื่ น ของรั ฐ
สภำกำชำดไทยประกำศกำหนด

ข้อ ๙ สถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืนประเภทเฉพำะประเภทผู้ป่วย
ได้แก่ สถำนพยำบำลที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพตำมลักษณะเฉพำะประเภทผู้ป่วย ซึ่งดำเนินกำร

๑๗๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


โดยผู้ประกอบวิชำชีพเวชกรรม เช่น ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยจิตเวช ผู้สูงอำยุ แม่และเด็ก บำบัดยำเสพติด
เป็ น ต้ น โดยต้ อ งประกอบด้ ว ยหน่ ว ยบริก ำรและระบบสนั บ สนุ น กำรให้ บ ริ กำร ตำมที่ ห น่ ว ยงำน
กระทรวง ทบวง กรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสำหกิจ สถำบันกำรศึกษำของรัฐ หน่วยงำนอื่น
ของรัฐ สภำกำชำดไทย ประกำศกำหนด

ข้อ ๑๐ สถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ ป่วยไว้ค้ำงคืนประเภทเฉพำะด้ำนวิชำชีพ


ได้แก่ สถำนพยำบำลที่จัดให้มีผู้ประกอบวิชำชีพตำมด้ำนนั้น ๆ เช่น ทันตกรรม กำรพยำบำลและกำร
ผดุงครรภ์ กำยภำพบำบัด กำรแพทย์แผนไทย เป็นต้น โดยต้องประกอบด้วยหน่วยบริกำรและระบบ

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
สนั บ สนุ น กำรให้ บ ริ ก ำร ตำมที่ ห น่ ว ยงำนกระทรวง ทบวง กรม องค์ ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น
รัฐวิสำหกิจสถำบันกำรศึกษำของรัฐ หน่วยงำนอื่นของรัฐ สภำกำชำดไทย ประกำศกำหนด

ข้ อ ๑๑ สถำนพยำบำลประเภทที่ ไม่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ ค้ ำ งคื น ต้ อ งจั ด ให้ มี เครื่ อ งมื อ


เครื่องใช้ ยำ และเวชภัณฑ์ทั่วไปที่จำเป็น ในจำนวนที่เหมำะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้
(๑) ตู้ห รือชั้นหรืออุปกรณ์ เก็บเวชระเบี ยนที่มั่น คง ปลอดภัย และต้องจัดให้ เป็ น
ระเบียบสำมำรถค้นหำได้ง่ำย หรือถ้ำเป็นระบบคอมพิวเตอร์ต้องจัดให้มีระบบข้อมูลสำรองเพื่อป้องกัน
ข้อมูลสูญหำยซึ่งอำจจัดแยกเป็นแผนกเวชระเบียนโดยเฉพำะก็ได้
(๒) ตู้หรือชั้นเก็บยำและเวชภัณฑ์อื่น
(๓) เครื่องใช้ทั่วไปที่ใช้ในกำรตรวจรักษำและบริกำร เช่น โต๊ะ เก้ำอี้ ที่นั่งพักรอของ
ผู้ป่วย เตียงตรวจโรค และอ่ำงฟอกมือชนิดที่ไม่ใช้มือเปิดปิดน้ำ
(๔) เครื่องมืออุปกรณ์และเวชภัณฑ์สำหรับควบคุมกำรติดเชื้อในกรณีที่จำเป็นต้องใช้
เช่น เครื่องมือหรืออุปกรณ์ในกำรทำควำมสะอำด หม้อต้ม หม้อนึ่ง ตู้ที่ มิดชิดสำหรับเก็บเครื่องมือที่
ปรำศจำกเชื้อแล้ว และมีเครื่อ งมือ ที่พ ร้อ มใช้งำน เช่น ภำชนะบรรจุมูล ฝอยทั่ว ไป และภำชนะ
บรรจุมูล ฝอยติดเชื้อ
(๕) อุป กรณ์ช ่ว ยเหลือ ผู ้ป ่ว ยฉุก เฉิน ได้แ ก่ ถุง บีบ ลมเพื ่อ ช่ว ยหำยใจพร้อ ม
หน้ำกำกครอบช่วยกำรหำยใจ ยำและเวชภัณฑ์อื่นที่ใช้ในกำรรักษำและช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๖) ชุดตรวจโรคและชุดให้กำรรักษำทั่วไปตำมมำตรฐำนกำรประกอบวิชำชีพ
(๗) ยำและเวชภัณฑ์อื่นที่จำเป็น โดยมีจำนวนรำยกำรและปริมำณที่เพียงพอ
(๘) ตู้เย็นสำหรับเก็บยำหรือเวชภัณฑ์อื่น
(๙) ในกรณีที่มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสำท หรือยำเสพติ ดให้โทษ ให้มีสถำนที่
หรือตู้เก็บที่มั่นคงและปลอดภัยมีกุญแจปิดและเปิดอย่ำงมีประสิทธิภำพ

ข้อ ๑๒ สถำนพยำบำล ซึ่งดำเนินกำรโดยกระทรวง ทบวง กรม องค์กรปกครอง


ส่ ว นท้ อ งถิ่ น รั ฐ วิ ส ำหกิ จ สถำบั น กำรศึ ก ษำของรั ฐ หน่ ว ยงำนอื่ น ของรั ฐ สภำกำชำดไทย ต้ อ ง
ดำเนินกำรให้เป็นไปตำมประกำศนี้ภำยในหนึ่งปี นับแต่วันที่ประกำศฉบับนี้มีผลใช้บังคับและให้แจ้ง
อธิบดีกรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพทรำบภำยใน ๓๐ วัน

ข้อ ๑๓ สถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืนประเภทเฉพำะทำง ประเภท


เฉพำะประเภทผู้ป่วยและประเภทเฉพำะด้ำนวิชำชีพ ซึ่งดำเนินกำรโดยกระทรวง ทบวง กรม องค์กร

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๗๗


ปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสำหกิจ สถำบันกำรศึกษำของรัฐ หน่วยงำนอื่นของรัฐ สภำกำชำดไทย ต้อง
ดำเนินกำรให้เป็นไปตำมประกำศนี้ภำยในสองปี นับแต่วันที่ประกำศฉบับนี้มีผลใช้บังคับและให้แจ้ง
อธิบดีกรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพทรำบภำยใน ๓๐ วัน

ประกำศ ณ วันที่ ๒๐ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖๑


ปิยะสกล สกลสัตยำทร
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุข
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๑๗๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๗๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๒

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง การกาหนดลักษณะของสถานพยาบาลและมาตรฐานซึ่งได้รบั
การยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
(ฉบับที่ 2)

อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๕ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ และมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง
แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคาแนะนา
ของคณะกรรมการสถานพยาบาล จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกาหนดลักษณะ
ของสถานพยาบาลและมาตรฐานซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ตอ้ งอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
(ฉบับที่ 2)”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ เ พิ่ ม ความต่ อ ไปนี้ เ ป็ น (3) ในข้ อ 6 แห่ ง ประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข
เรื่ อ ง การก าหนดลัก ษณะของสถานพยาบาลและมาตรฐานซึ่งได้รั บการยกเว้นไม่ ต้องอยู่ ในบังคับ
ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
“(3) จัดให้มีมาตรฐานระบบบริการสุขภาพ ดังต่อไปนี้
(ก) ด้านการบริหารจัดการ
(ข) ด้านการบริการสุขภาพ
(ค) ด้านอาคาร สถานที่ และสิ่งอานวยความสะดวก
(ง) ด้านสิ่งแวดล้อม
(จ) ด้านความปลอดภัย
(ฉ) ด้านเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์และสาธารณสุข
(ช) ด้านระบบสนับสนุนบริการที่สาคัญ
(ซ) ด้านสุขศึกษาและพฤติกรรมสุขภาพ
(ฌ) ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์”
ข้อ 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสอง ในข้อ 6 แห่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่ อ ง การก าหนดลัก ษณะของสถานพยาบาลและมาตรฐานซึ่งได้รั บการยกเว้นไม่ ต้องอยู่ ในบังคับ
ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
“รายละเอี ย ดเกี่ ย วกั บ มาตรฐานระบบบริ ก ารสุ ข ภาพตามวรรคหนึ่ ง ให้ เ ป็ น ไปตามที่
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพประกาศกาหนด”

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๗๙


เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๑๗๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๒
ข้อ 5 สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ซึ่งดาเนินการโดยกระทรวง ทบวง
กรม องค์ ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น รั ฐ วิ ส าหกิ จ สถาบั น การศึ ก ษาของรั ฐ หน่ ว ยงานอื่ น ของรั ฐ
สภากาชาดไทย ต้ อ งด าเนิ น การให้ เ ป็ น ไปตามประกาศนี้ ภ ายในหนึ่ ง ปี นั บ แต่ วั น ที่ ป ระกาศฉบั บ นี้
มีผลใช้บังคับ

ประกาศณ วันที่ 28 มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๖2


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

๑๘๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๗๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๑

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง สถานพยาบาลอื่นที่มีลักษณะเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ
หรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล

โดยที่ เป็ น การสมควรกํ าหนดสถานพยาบาลอื่ น ที่ มี ลั ก ษณะเป็ น หน่ ว ยบริ ก ารปฐมภู มิ ห รื อ


เครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่งและวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่ ง แก้ ไขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล (ฉบั บ ที่ 4) พ.ศ. 2559
และมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
โดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาลจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ เรี ย กว่ า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข เรื่ อ ง สถานพยาบาลอื่ น
ที่มีลักษณะเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย
ว่าด้วยสถานพยาบาล”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ในประกาศนี้
“การแพทย์ ป ฐมภู มิ แ ละบริ ก ารสาธารณสุ ข ” หมายความว่ า การดู แ ลสุ ข ภาพแต่ แ รก
แบบองค์รวม ผสมผสาน ต่อเนื่อง ทั้งบริการเชิงรุกเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ บริการควบคุมป้องกันโรค
คุ้มครองผู้บ ริโภค และปั ญ หาที่ คุ กคามสุข ภาพ บริการรักษาพยาบาลและฟื้ น ฟู สุข ภาพ สนั บ สนุ น
การจัดการสุขภาพตนเองและครอบครัว การดูแลสุขภาพที่ บ้าน ชุมชน และหน่วยบริการปฐมภู มิ
รวมทั้งการรับส่งต่อ
“หน่วยบริการ” หมายความว่า สถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
“หน่วยบริการปฐมภูมิ” หมายความว่า หน่วยบริการที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ตามที่กระทรวงสาธารณสุข
หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศกําหนด
“เครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ” หมายความว่า หน่วยบริการที่รวมตัวกันและขึ้นทะเบียน
เป็นเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิตามที่กระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศกําหนด
ข้อ 4 สถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 ต้องมีลักษณะ
ของสถานพยาบาล ดังต่อไปนี้
(ก) เป็นสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลและต้องได้รับใบอนุญาต
ให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลและใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล
(ข) ต้องได้ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๘๑


เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๗๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๑
(ค) ต้องให้บริการด้านการแพทย์ปฐมภูมิและบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมจากบริการ
ที่ได้รับอนุญาตจากกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
ข้อ 5 สถานพยาบาลอื่นตามข้อ 4 ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่าย
หน่ ว ยบริก ารปฐมภู มิ แ ล้ ว ให้ ผู้ รับ อนุ ญ าตแจ้ งผลการขึ้ น ทะเบี ย นให้ ผู้ อ นุ ญ าตทราบ และให้ ถื อ ว่ า
สถานพยาบาลอื่นนั้นได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541
ซึ่งแก้ ไขเพิ่ ม เติ มโดยพระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล (ฉบั บ ที่ 4) พ.ศ. 2559 เฉพาะหลักเกณฑ์
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

และเงื่อนไขที่กําหนดในข้อ 6 ตามประกาศฉบับนี้
การยื่นแบบแจ้ง ในกรุงเทพมหานครให้ยื่น ณ สํานักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ
กรมสนั บ สนุ น บริ ก ารสุ ข ภาพ สํ าหรับ ในจั งหวั ด อื่ น ให้ ยื่ น ณ สํ านั ก งานสาธารณสุ ข จั งหวั ด ทั้ งนี้
อาจจัดให้มีการยื่นแบบแจ้งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยก็ได้
แบบการแจ้งและแบบรับแจ้งให้เป็นไปตามแบบที่แนบท้ายประกาศนี้
ข้อ 6 สถานพยาบาลอื่นตามข้อ 5 ต้องจัดบริการตามลักษณะและเงื่อนไขการให้บริการ
ของหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ ดังต่อไปนี้
(1) จัดบริการด้านการแพทย์ปฐมภูมิและบริการสาธารณสุขตามประเภทและขอบเขตของ
การบริการตามที่กระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานตามที่กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกําหนด
(2) ปฏิ บัติตามมาตรการควบคุมคุณ ภาพและมาตรฐานของหน่วยบริการในการให้ บริการ
การแพทย์ปฐมภูมิและบริการสาธารณสุขตามที่กระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานตามที่กฎหมายอื่น
ที่เกี่ยวข้องกําหนด
(3) จัดทําระบบข้อมูลและการรายงานผลการให้บริการแพทย์ปฐมภูมิและบริการสาธารณสุข
เพื่อการตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐานและการบริการตามที่กระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานตามที่
กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกําหนด
(4) การออกให้ บ ริ ก ารด้ า นการแพทย์ ป ฐมภู มิ แ ละบริ ก ารสาธารณ สุ ข นอกสถานที่
ต้องให้บริการกับผู้ป่วยหรือผู้รับบริการที่ได้ขึ้นทะเบียนกับหน่วยบริการปฐมภูมินั้น ๆ
ข้อ 7 ในกรณี ส ถานพยาบาลอื่ น ตามข้ อ 5 ถู กสั่ งเพิ ก ถอนการขึ้ น ทะเบี ยนของหน่ วย
บริ ก ารปฐมภู มิ ห รื อ เครื อ ข่ า ยหน่ ว ยบริ ก ารปฐมภู มิ ให้ ส ถานพยาบาลนั้ น ระงั บ การให้ บ ริ ก าร
ด้านการแพทย์ปฐมภูมิและบริการสาธารณสุข และให้ผู้รับอนุญาตแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบภายใน 15 วัน
นั บ แต่ วั น ที่ ไ ด้ รั บ ทราบคํ า สั่ ง เพิ ก ถอนการขึ้ น ทะเบี ย นของหน่ ว ยบริ ก ารปฐมภู มิ ห รื อ เครื อ ข่ า ย
หน่วยบริการปฐมภูมิ
ให้นําความในข้อ 5 วรรคสองและวรรคสามมาใช้บังคับโดยอนุโลม

๑๘๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๗๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๑
ข้อ 8 สถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่ ง แก้ ไขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล (ฉบั บ ที่ 4) พ.ศ. 2559
ตามประกาศนี้ ไม่เป็นการตัดอํานาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการที่จะเข้าไปตรวจสอบและควบคุม
สถานพยาบาลเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
ข้อ 9 หากปรากฏในภายหลังว่าสถานพยาบาลอื่นที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับของ
พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่ งแก้ ไขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
(ฉบั บ ที่ 4) พ.ศ. 2559 ตามประกาศนี้ มี การให้ บ ริก ารที่ มี ลักษณะอั น น่ าจะก่ อให้ เกิด อัน ตราย
แก่ผู้ใช้บริการ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจสั่งให้แก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสมหรือสั่งให้ระงับหรือปฏิบัติ
ให้ ถู ก ต้ อ งภายในระยะเวลาที่ กํ า หนดให้ หากยั ง มี ก ารฝ่ าฝื น คํ าสั่ ง ของพนั ก งานเจ้ าหน้ า ที่ ดั ง กล่ า ว
ให้ผู้อนุญาตมีอํานาจออกคําสั่งปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราวหรืออาจสั่งเพิกถอนสถานพยาบาลนั้น
โดยรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. 256๑


ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๘๓


แบบแจ้ง สพ.อ. 5

เลขรับที่ ……………………………
วันที่ ……..………..…………….…
ลงชื่อ ……………………ผู้รับคำขอ

แบบแจ้งสถานพยาบาลอื่นที่มีลักษณะเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิหรือ
เครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับ
ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

เขียนที่ ………………………………………………….……
วันที่ ……..……... เดือน ……..…………...…. พ.ศ. ………..….…..

ข้ำพเจ้ำ…………………………..………… โดย นำย/นำง/นำงสำว …………….…………………………………………………………………..


……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………......
อำยุ .……………… ปี .........สัญชำติ ………………………อยู่เลขที่ ………………….ซอย………………………….ตรอก ……………………................
ถนน ………………………….…หมู่ที่ ……………….ตำบล/แขวง …………………………………. อำเภอ/เขต ……………….………………..…………….
จังหวัด ………………...………………………………….. โทรศัพท์ …………………………………………………….………………………………………………..
ขอแจ้งสถำนพยำบำลประเภท............................................เป็นสถำนพยำบำลอื่นทีไ่ ด้ขึ้นทะเบียนหน่วยบริกำรปฐมภูมิหรือเครือข่ำย
หน่วยบริกำรปฐมภูม.ิ ...จำก.....................................................................เมื่อวันที่................................................................................
โดยสถำนพยำบำล .....................................................................................................ตั้งอยู่ที่ ........................................................
ซอย .................................................... ตรอก .................................................. ถนน ........................................ หมู่ที่ .................
ตำบล/แขวง ........................................................................ อำเภอ/เขต .......................................................................................
จังหวัด .................................................................. โทรศัพท์ .......................................................................................................
โดยข้ำพเจ้ำขอรับรองว่ำมี ผู้ประกอบวิชำชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะที่ปฏิบัติงำน
๑. แพทย์ ………………...……..……….........…..… คน ๒. พยำบำล ……….….………………….….… คน
๓. ทันตแพทย์ …………..……..………..........…… คน ๔. เภสัชกร …………………...….………….…. คน
5. นักกำยภำพบำบัด ……..….……….………….. คน 6. นักเทคนิคกำรแพทย์ ………..…..…….. คน
7. แพทย์แผนไทย …………………………. คน
- เวชกรรมไทย …………………………. คน - เภสัชกรรมไทย …………………………. คน
- กำรผดุงครรภ์ไทย……………………….คน - กำรนวดไทย …………………………. คน
- กำรแพทย์พื้นบ้ำนไทย…………………คน
8.แพทย์แผนไทยประยุกต์ ….………. คน
9. ผู้ประกอบโรคศิลปะ
(๑) กิจกรรมบำบัด ……..….……….… คน (๒) กำรแก้ไขควำมผิดปกติของกำรสื่อควำมหมำย ……..…..…. คน
(๓) เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ….………. คน (๔) รังสีเทคนิค …………………………. คน
(๕) จิตวิทยำคลินิกอก ….………. คน (6) กำยอุปกรณ์…………………………. คน
(7) กำรแพทย์แผนจีน…………………………. คน
(8) อื่นๆ..........................................................คน
เป็นผู้ให้บริกำรและเปิดให้บริกำรเวลำระหว่ำง .................................................. น.

(ลำยมือชื่อ) …………………………………… ผู้ยื่นคำขอ


( …..…………………………..)
ผู้มีอำนำจสูงสุดของหน่วยงำนนั้น

๑๘๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


แบบรับแจ้ง สพ.อ. 6

แบบรับแจ้งสถานพยาบาลอื่นที่มีลักษณะเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิหรือ
เครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ใบรับแจ้งเลขที่ /

ใบรับแจ้งฉบับนี้เพื่อแสดงว่ำ สถำนพยำบำล ..................................................................................................................


..........................................................................................................................................................................................................
ตั้งอยู่เลขที่ .................................... ซอย ......................................................ตรอก ..........................................................................
ถนน ........................................................... หมู่ที่ ................... ตำบล/แขวง ....................................................................................
อำเภอ/เขต ............................................................. จังหวัด .......................................................โทรศัพท์ .....................................
เป็นสถำนพยำบำลอื่นทีไ่ ด้ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริกำรปฐมภูมิหรือเครือข่ำยหน่วยบริกำรปฐมภูมิโดยได้รับกำรยกเว้นไม่ต้องอยู่
ในบังคับตำมกฎหมำยว่ำด้วยสถำนพยำบำล

ให้ไว้ ณ วันที่ เดือน พ.ศ.

(ลำยมือชื่อ) ..................................................... ผูร้ ับแจ้ง


( ...................................................... )

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๘๕


แบบแจ้ง สพ.อ. 7

เลขรับที่ ……………………………
วันที่ ……..………..…………….…
ลงชื่อ ……………………ผู้รับคำขอ

แบบแจ้งสถานพยาบาลอื่นที่ถูกเพิกถอนจากการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ
หรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ

เขียนที่ ………………………………………………….……
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

วันที่ ……..……... เดือน ……..…………...…. พ.ศ. ………..….…..

ข้ำพเจ้ำ…………………………..………… โดย นำย/นำง/นำงสำว …………….…………………………………………………………………..


……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………......
อำยุ .……………… ปี .........สัญชำติ ………………………อยู่เลขที่ ………………….ซอย………………………….ตรอก ……………………................
ถนน ………………………….…หมู่ที่ ……………….ตำบล/แขวง …………………………………. อำเภอ/เขต ……………….………………..…………….
จังหวัด ………………...………………………………….. โทรศัพท์ …………………………………………………….………………………………………………..
ขอแจ้งสถำนพยำบำลประเภท............................................เป็นสถำนพยำบำลอื่นทีไ่ ด้ขึ้นทะเบียนหน่วยบริกำรปฐมภูมิหรือเครือข่ำย
หน่วยบริกำรปฐมภูม.ิ ...จำก.....................................................................เมื่อวันที่................................................................................
โดยสถำนพยำบำล .....................................................................................................ตั้งอยู่ที่ ........................................................
ซอย .................................................... ตรอก .................................................. ถนน ........................................ หมู่ที่ .................
ตำบล/แขวง ........................................................................ อำเภอ/เขต .......................................................................................
จังหวัด .................................................................. โทรศัพท์ .......................................................................................................
โดยข้ำพเจ้ำขอแจ้งว่ำสถำนพยำบำล.........................................ได้ถูกเพิกถอนจำกกำรเป็นหน่วยบริกำรปฐมภูมิหรือเครือข่ำยหน่วย
บริกำรปฐมภูมิ จำก.....................................ตำมหนังสือ/คำสั่ง..........................................................................................................

(ลำยมือชื่อ) …………………………………… ผู้แจ้ง


( …..…………………………..)
ผู้มีอำนำจสูงสุดของหน่วยงำนนั้น

.........ทรำบ

หมำยเหตุ .................................................................

(ลำยมือชื่อ) ............................................ ผูร้ ับแจ้ง

( ...................................................... )
ผู้อนุญำต

๑๘๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๕๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ มีนาคม ๒๕๖๓

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง กำหนดผู้ปว่ ยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรำยตำมกฎหมำยว่ำด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 หรือโรคโควิด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))

อำศั ย อ ำนำจตำมควำมในมำตรำ 6 วรรคหนึ่ ง แห่ ง พระรำชบั ญ ญั ติ ส ถำนพยำบำล

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
พ.ศ. ๒๕๔๑ และมำตรำ 33/1 แห่งพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุข
โดยคำแนะนำของคณะกรรมกำรสถำนพยำบำล จึงออกประกำศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกำศนี้เรียกว่ำ “ประกำศกระทรวงสำธำรณสุข เรื่อง กำหนดผู้ป่ว ยฉุกเฉิน
โรคติดต่ออันตรำยตำมกฎหมำยว่ำด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 หรือโรคโควิด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))”
ข้อ 2 ประกำศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019
(COVID-19)) ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตรำยตำมกฎหมำยว่ำด้วยโรคติดต่อเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งจำเป็นต้อง
ได้ รั บ กำรรั ก ษำพยำบำลโดยฉุ ก เฉิ น จำกสถำนพยำบำลตำมมำตรำ 36 แห่ ง พระรำชบั ญ ญั ติ
สถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559

ประกำศ ณ วันที่ 3 มีนำคม พ.ศ. ๒๕๖3


อนุทิน ชำญวีรกูล
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๘๗


เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๕๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ มีนาคม ๒๕๖๓

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผปู้ ่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตราย
ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
การระดมทรัพยากรและมีสว่ นร่วมในการช่วยเหลือเยียวยา
และการจัดให้มีการส่งต่อผูป้ ่วยไปยังสถานพยาบาลอื่น
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

โดยที่มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสาคัญของโรคติดต่ออันตราย


(ฉบั บ ที่ 3) พ.ศ. 2563 โดยก าหนดให้ โ รคติ ด เชื้ อ ไวรั ส โคโรนา 2019 หรื อ โรคโควิ ด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) เป็นโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
ดั ง นั้ น เพื่ อ เป็ น การเตรี ย มความพร้ อ มของสถานพยาบาลตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยสถานพยาบาล
ในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) ตามมาตรา 33/1
และมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ
สถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559
อาศั ย อ านาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่ ง แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑ และมาตรา 36 วรรคสามและวรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัตสิ ถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
โดยคาแนะนาของคณะกรรมการสถานพยาบาล จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ เ รีย กว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข เรื่ อ ง หลั ก เกณฑ์ วิ ธี การ
และเงื่อนไขการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
การระดมทรั พ ยากรและมี ส่ ว นร่ ว มในการช่ ว ยเหลื อ เยี ย วยาและการจั ด ให้ มี ก ารส่ ง ต่ อ ผู้ ป่ ว ย
ไปยังสถานพยาบาลอื่น”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ในประกาศนี้
“ผู้ ป่ ว ย” หมายความว่ า ผู้ ป่ ว ยโรคติ ด เชื้ อ ไวรั ส โคโรนา 2019 หรื อ โรคโควิ ด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))

๑๘๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๕๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ มีนาคม ๒๕๖๓
หมวด 1
การช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ปว่ ย

ข้อ 4 ภายใต้บังคับแห่งวรรคสอง ผู้รับอนุญาตและผู้ดาเนินการของสถานพยาบาลต้องจัด


ให้มีหน่วยคัดกรองผู้รับบริการที่เข้ามารับบริการในสถานพยาบาล ซึ่งหากคัดกรองแล้วพบอาการและ
อาการแสดงดังต่อไปนี้ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ป่วยดังกล่าวเป็นผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
(1) ผู้ป่วยมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หอบเหนื่อย หรือมีอาการของโรคปอดอักเสบในรายที่มี
อาการรุนแรงจะมีอาการระบบทางเดินหายใจล้มเหลว และอาจถึงขั้นเสียชีวิต
(2) ป่วยด้วยโรคปอดอักเสบที่หาสาเหตุไม่ได้และมีประวัติใกล้ชิดผู้ที่สงสัยติดเชื้อโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
อาการและอาการแสดงผู้ป่วย ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข หรือแนวทางตามที่
กระทรวงสาธารณสุขประกาศกาหนด
ข้อ 5 เมื่อคัดกรองผู้รับบริการและพบผู้รับบริการที่มีอาการและอาการแสดงตามข้อ 4
ให้ถือว่าเข้าเกณฑ์การเฝ้าระวังเป็นผู้ป่วย ให้ผู้รับอนุญาตและผู้ดาเนินการของสถานพยาบาล มีหน้าที่
ดาเนินการ ดังต่อไปนี้
(1) สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
(ก) จัดให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัย และดาเนินการใด ๆ อันจะมีผลเป็นการควบคุม
ระงับ หรือบรรเทาอันตรายจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus
Disease 2019 (COVID-19)) อย่างทันท่วงทีตามสมควรแก่กรณี
(ข) จัดให้มีห้องตรวจโรคแยกกับผู้ป่วยทั่วไป
(ค) จัดให้มีห้องพักผู้ป่วย ห้องน้า เพื่อรองรับผู้ป่วยแยกกับผู้ป่วยทั่วไป
(ง) จัดให้มีการซักประวัติและปัจจัยเสี่ยงตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกาหนด
(จ) แจ้งเจ้าพนั กงานควบคุมโรคติด ต่อ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
ที่กาหนดตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
(ฉ) จั ด ให้ มี ก ารเก็ บตั ว อย่ างส่ งตรวจจากผู้ ป่ว ยและส่ งตั วอย่ างส่ งตรวจดัง กล่ า วไปยัง
ห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019
(COVID-19)) ทั้งนี้ ตามแนวทางและห้องปฏิบัติการตามที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ประกาศกาหนด

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๘๙


เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๕๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ มีนาคม ๒๕๖๓

(ช) ผู้ ป่ ว ยต้ อ งได้ รั บ การบริ ก าร ตรวจวิ นิ จ ฉั ย ดู แ ลรั ก ษาจนเต็ ม ขี ด ความสามารถ


ของสถานพยาบาลนั้น หากมีความจาเป็นต้องส่งต่อ ผู้ประกอบวิชาชีพต้องให้การรับรองว่าการส่งต่อผู้ป่วย
จะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาของผู้ป่วยนั้น
(2) สถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
(ก) จัดให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัย และดาเนินการใด ๆ อันจะมีผลเป็นการควบคุม
ระงับ หรือบรรเทาอันตรายจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

Disease 2019 (COVID-19)) อย่างทันท่วงทีตามสมควรแก่กรณี


(ข) จัดให้มีบริเวณเพื่อรองรับผู้ป่วยแยกกับผู้ป่วยทั่วไป
(ค) แจ้งเจ้าพนั กงานควบคุมโรคติด ต่อ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
ที่กาหนดตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
(ง) แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทาการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่นที่มีศักยภาพ
ทั้งนี้ ตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกาหนด
การตรวจวินิจฉัย ดูแลรักษาผู้ป่วย ให้เป็นไปตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกาหนด
ข้อ 6 ผู้ รั บ อนุ ญ าตและผู้ ด าเนิ น การของสถานพยาบาล มี ห น้ า ที่ ป้ อ งกั น และควบคุ ม
โรคติด เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
ในสถานพยาบาล ทั้งนี้ ตามข้อแนะนาแนวปฏิบัตกิ ารป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
หรื อ โรคโควิ ด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) ตามที่ ก ระทรวงสาธารณสุ ข
ประกาศกาหนด
หมวด ๒
การระดมทรัพยากรและมีสว่ นร่วมในการช่วยเหลือเยียวยา

ข้อ 7 ให้ ผู้รับอนุ ญาตและผู้ดาเนิ น การของสถานพยาบาลจัด หาทรัพยากรด้านบุคลากร


อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ ยานพาหนะให้เพียงพอและพร้อมต่อการช่วยเหลือผูป้ ว่ ย
ตามขีดความสามารถของสถานพยาบาล
การระดมทรัพยากรในการช่วยเหลือเยียวยา ให้สถานพยาบาลสามารถดาเนินการช่วยเหลือ
ได้เต็มตามศักยภาพสูงสุดของสถานพยาบาลนอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
ข้อ 8 ในกรณี ไ ด้ รั บ การประสานความร่ ว มมื อ เกี่ ย วกั บ การช่ ว ยเหลื อ เยี ย วยาผู้ ป่ ว ย
จากสถานพยาบาลภาครั ฐ สถานพยาบาลเอกชนหรือ หน่ ว ยงานอื่น ที่เ กี่ย วข้อง ผู้ รั บ อนุ ญาตและ
ผู้ดาเนินการของสถานพยาบาลต้องให้ความร่วมมือและจัดให้มีการช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยเพื่อให้พ้น
จากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพและขีดความสามารถของสถานพยาบาล

๑๙๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๕๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๔ มีนาคม ๒๕๖๓
หมวด ๓
การจัดให้มีการส่งต่อผูป้ ่วยไปยังสถานพยาบาลอืน่

ข้อ 9 เมื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยตามหมวด 1 แล้ว ถ้ามีความจาเป็นต้องส่งต่อ


หรือผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยมีความประสงค์จะไปรับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลอื่น ผู้รับอนุญาต
และผู้ ด าเนิ น การของสถานพยาบาลต้ อ งจั ด การให้ มี ร ะบบการส่ ง ต่ อ ไปยั ง สถานพยาบาลอื่ น

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ตามความเหมาะสม โดยมี ร ะบบป้ อ งกั นการติ ด เชื้ อและแพร่ กระจายเชื้ อระหว่ างการส่ งต่ อผู้ป่วย
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข หรือแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกาหนด

ประกาศ ณ วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖3


อนุทิน ชาญวีรกูล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๙๑


เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๗๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒ เมษายน ๒๕๖๓

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง สถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
กรณีให้บริการเฉพาะผู้ปว่ ยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
เป็นการชัว่ คราว
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

โดยเป็ น การสมควรก าหนดสถานพยาบาลอื่ น ซึ่ ง ได้ รั บ การยกเว้ น ไม่ ต้ อ งอยู่ ใ นบั ง คั บ ของ
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 เพื่อให้มีความสอดคล้องกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยโรคติดต่ออันตราย
ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus
Disease 2019 (COVID-19)) โดยฉุกเฉินจากสถานพยาบาลตามมาตรา 33/1 และมาตรา 36
แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559
อาศั ย อ านาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่ ง แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล
พ.ศ. 2541 และมาตรา 5 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไข
เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับ
การยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล กรณีให้บริการเฉพาะผู้ป่วยโรคติดต่อ
อัน ตรายตามกฎหมายว่า ด้ว ยโรคติด ต่อ กรณีโ รคติด เชื้อ ไวรัส โคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) เป็นการชั่วคราว”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ในประกาศนี้
“สถานพยาบาล” หมายความว่า สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
ข้อ 4 ให้ สถานพยาบาลที่ให้บริการเฉพาะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วย
โรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019
(COVID-19)) ตามมาตรา 33/1 และมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 เป็นสถานพยาบาลอื่น
ซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559

๑๙๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๗๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒ เมษายน ๒๕๖๓
ข้อ 5 สถานพยาบาลตามข้อ 4 ให้ได้รับการยกเว้นไม่ตอ้ งขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการ
สถานพยาบาลและใบอนุ ญ าตให้ ด าเนิ น การสถานพยาบาล โดยไม่ ต้ อ งช าระค่ า ธรรมเนี ย มรายปี
แต่ต้องได้รับอนุมัติจากผู้อนุญาตตามแบบท้ายประกาศนี้
ข้อ 6 สถานพยาบาลตามข้อ 4 ซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติ
สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่ ง แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล (ฉบั บ ที่ 4)
พ.ศ. 2559 ตามประกาศนี้ ไม่เป็นการตัดอานาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการที่จะเข้าไปตรวจสอบ

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
และควบคุมสถานพยาบาลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
ข้อ 7 หากปรากฏในภายหลังว่า สถานพยาบาลตามข้อ 4 มีการให้บริการที่มีลักษณะ
อันน่าจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้รับบริการ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจสั่งให้แก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสม
หรื อ สั่ ง ให้ ระงั บหรือ ปฏิ บัติใ ห้ ถูกต้ องภายในระยะที่ กาหนด หากยั ง มีก ารฝ่า ฝื นคาสั่ งของพนักงาน
เจ้าหน้าที่ดังกล่าวให้ผู้อนุญาตมีอานาจออกคาสั่งปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราวหรืออาจสั่งเพิกถอน
สถานพยาบาลนั้น
ข้อ 8 สถานพยาบาลตามประกาศนี้ ต้ อ งมี ส ถานพยาบาลประเภทรับผู้ ป่ วยไว้ค้างคืน
ตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยสถานพยาบาล ให้ ก ารรั บ รองและให้ ก ารช่ ว ยเหลื อ สถานพยาบาลนั้ น
เพื่อการรักษาพยาบาลให้คาแนะนาและรับส่งต่อผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน
ข้อ 9 การยื่นคาขออนุมัติการประกอบกิจการสถานพยาบาลตามประกาศนี้ ในกรุงเทพมหานคร
ให้ยื่น ณ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข สาหรับในจังหวัดอื่นให้ยื่น ณ สานักงาน
สาธารณสุขจังหวัด ทั้งนี้ อาจจัดให้มีการยื่นคาขออนุมัติผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยก็ได้

ประกาศ ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖3


อนุทิน ชาญวีรกูล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๙๓


แบบ สพ.อ. 8
เลขรับที่ ...............................
วันที่ .......................................
ลงชื่อ ............................ ผู้รับคำขอ

แบบคำขออนุมัติสถำนพยำบำลอื่นซึ่งได้รับกำรยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตำมกฎหมำยว่ำด้วยสถำนพยำบำล
กรณีให้บริกำรเฉพำะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรำยตำมกฎหมำยว่ำด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

เป็นกำรชั่วครำว

เขียนที่ …………………………………………………
วันที่ ……..……... เดือน ……..…………...…. พ.ศ. ………..….…..

ข้ำพเจ้ำ…………………………..…………โดย นำย/นำง/นำงสำว …………….……………………………....


อำยุ .………………ปี สัญชำติ…………… อยู่เลขที่ ……………….ซอย……….……………….… ตรอก ……………………….....
ถนน ………………… หมู่ที่ ……... ตำบล/แขวง …………………………………. อำเภอ/เขต ……………............................
จังหวัด………………...…………………………………............................โทรศัพท์ ………………..........……………………………
เป็นผู้ประกอบกิจกำร ..........................................................................................................................................
ขออนุมัติสถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน เพื่อให้บริกำรเฉพำะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรำยตำมกฎหมำย
ว่ำด้วยโรคติดต่อกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
เป็นกำรชั่วครำว ตำมมำตรำ 5 วรรคหนึ่ง แห่งพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559
จำนวน ......................................... เตียง
ชื่อสถำนประกอบกิจกำร ..................................................................... ตั้งอยู่ที่ .......................
หมู่ท…ี่ ……...........ซอย.........................................ตรอก................................................. ถนน...............................
ตำบล/แขวง............................................ อำเภอ/เขต .........................................................................................
จังหวัด .................................................................. โทรศัพท์ ...............................................................................
โดยข้ำพเจ้ำขอรับรองว่ำมี ผู้ประกอบวิชำชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะที่ปฏิบัติงำน
๑. แพทย์ ………………...……..………......... คน ๒. พยำบำล ……….….………………….….…. คน
๓. ทันตแพทย์ …………..……..………........ คน ๔. เภสัชกร …………………...….………….…. คน
5. นักกำยภำพบำบัด ……..….……….…... คน 6. นักเทคนิคกำรแพทย์ ………..…..……... คน
7. แพทย์ …

๑๙๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


7. แพทย์แผนไทย …………………………… คน
- เวชกรรมไทย ……………………………….. คน - เภสัชกรรมไทย …………………………...... คน
- กำรผดุงครรภ์ไทย…………………………. คน - กำรนวดไทย ……………………………....... คน
- กำรแพทย์พื้นบ้ำนไทย…………………... คน
8. แพทย์แผนไทยประยุกต์ ….………….. คน
9. ผู้ประกอบโรคศิลปะ
(๑) กิจกรรมบำบัด ……..…. คน (๒) กำรแก้ไขควำมผิดปกติของกำรสื่อควำมหมำย…..…. คน

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
(๓) เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ….….. คน (๔) รังสีเทคนิค …………………………. คน
(๕) จิตวิทยำคลินิก ……...…………………. คน (6) กำยอุปกรณ์…………………………. คน
(7) กำรแพทย์แผนจีน…………………….. คน
(8) อื่นๆ............................................... คน
ทั้งนี้ ได้ ป ระสำนสถำนพยำบำลตำมกฎหมำยว่ำด้ วยสถำนพยำบำลเพื่ อให้ ก ำรช่ว ยเหลื อ
กำรรักษำพยำบำล ให้คำแนะนำ ประสำนควำมร่วมมือและรับส่งต่อผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน
ชื่อสถำนพยำบำล ............................................................................ เลขที่ใบอนุญำต ........................................
ตั้งอยู่ที่ ............ หมู่ที่ .................. ซอย ............................... ตรอก .......................... ถนน ...............................
ตำบล/แขวง ........................................................................ อำเภอ/เขต ...........................................................
จังหวัด .................................................................. โทรศัพท์ ...............................................................................

(ลำยมือชื่อ) …………………………………… ผู้ยื่นคำขอ


(………………………………………………)

(ลำยมือชื่อ) ……………………….....… ผู้ดำเนินกำรสถำนพยำบำลที่ให้กำรช่วยเหลือ


(………………………………………………)

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๙๕


แบบ สพ.อ. 9

หนังสืออนุมัติสถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
กรณีให้บริการเฉพาะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) เป็นการชั่วคราว

หนังสืออนุมัติเลขที่ ............./.......................
หนังสือฉบับนี้เพื่อแสดงว่า ....................................................................................................
................................................................................................................................................................... ............
ตั้งอยู่เลขที่ .................................... หมู่ที่ ...................ซอย .....................................................
ตรอก .......................................................................... ถนน ........................................................................
ตาบล/แขวง ...................................................................อาเภอ/เขต ...................................................................
จังหวัด ......................................................... โทรศัพท์ ........................................................................................
เป็นสถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล กรณีให้บริการ
เฉพาะผู้ ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรค
โควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) เป็นการชั่วคราว ตามมาตรา 5 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ
สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญ ญั ติสถานพยาบาล (ฉบั บที่ 4) พ.ศ. 2559
โดยมีสถานพยาบาลเพื่อให้การช่วยเหลือ การรักษาพยาบาล ให้คาแนะนา และรับส่งต่อผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน
ดังนี้
ชื่อสถานพยาบาล ............................................................................ เลขที่ใบอนุญาต .................. ......................
ตั้งอยู่ที่ ............ หมู่ที่ ............... ซอย ............................... ตรอก .......................... ถนน ...............................
ตาบล/แขวง ........................................................................ อาเภอ/เขต ...........................................................
จังหวัด .................................................................. โทรศัพท์ ...............................................................................
ให้ไว้ ณ วันที่ เดือน พ.ศ.

(ลายมือชื่อ) ..................................................... ผู้อนุมัติ

๑๙๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๗๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒ เมษายน ๒๕๖๓

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง ลักษณะและมาตรฐานของสถานพยาบาลอืน่ ซึง่ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับ
ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล กรณีให้บริการเฉพาะผู้ปว่ ยโรคติดต่ออันตราย
ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
เป็นการชัว่ คราว

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
โดยเป็นการสมควรกาหนดลักษณะของสถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับ
ของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 รวมถึงมาตรฐานของสถานพยาบาลดังกล่าว เพื่อให้มีความสอดคล้องกับ
การช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 หรื อโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) โดยฉุกเฉินจากสถานพยาบาล
ตามมาตรา 33/1 และมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559
อาศัยอานาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541
และมาตรา 5 วรรคสอง แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่ ง แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม
โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
โดยคาแนะนาของคณะกรรมการสถานพยาบาล จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ลักษณะและมาตรฐาน
ของสถานพยาบาลอื่ น ซึ่ ง ได้ รั บ การยกเว้ น ไม่ ต้ อ งอยู่ ใ นบั ง คั บ ตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยสถานพยาบาล
กรณีให้บริการเฉพาะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) เป็นการชั่วคราว”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ในประกาศนี้
“สถานพยาบาล” หมายความว่ า สถานพยาบาลประเภทที่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ ค้ า งคื น ซึ่ ง ได้ รั บ
การยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่ อ ง สถานพยาบาลอื่ นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้อ งอยู่ ใ นบั งคับ ตามกฎหมายว่าด้ว ยสถานพยาบาล
กรณีให้บริการเฉพาะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) เป็นการชั่วคราว

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๙๗


เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๗๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒ เมษายน ๒๕๖๓
หมวด 1
ลักษณะโดยทั่วไปและลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาล

ข้อ 4 สถานพยาบาลต้องมีลักษณะโดยทั่วไป ดังต่อไปนี้


(๑) ตั้งอยู่ในทาเลที่สะดวก ปลอดภัย และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
(๒) อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างต้องแบ่งพื้นที่ขอบเขตการให้บริการเป็นสัดส่วนให้ชัดเจน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

(๓) อาคารที่ให้บริการผู้ป่วยตั้งแต่สามชั้นขึ้นไป จะต้องมีลิฟต์อย่างน้อยหนึ่งตัว หรือมีทางลาดเอียง


เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
(4) ต้องจัดสถานที่และอุปกรณ์อานวยความสะดวกที่เหมาะสมกับผู้ป่วย และห้องน้าสาหรับผู้ป่วย
ข้อ 5 สถานพยาบาลต้องมีลักษณะการให้บริการ ดังต่อไปนี้
(๑) มีความปลอดภัย มีความสะดวกและเหมาะสมต่อผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
(๒) ได้มาตรฐานการประกอบวิชาชีพที่สภาวิชาชีพหรือคณะกรรมการวิชาชีพประกาศกาหนด
แล้วแต่กรณี
ข้อ 6 สถานพยาบาลโดยอย่างน้ อยต้องประกอบด้ว ย การบริการและระบบสนับสนุน
การให้บริการ ดังต่อไปนี้
(๑) ระบบเวชระเบียน
(๒) บริการดูแลผู้ป่วยใน
(3) ระบบรับส่งผู้ปว่ ยฉุกเฉิน
(4) ระบบควบคุมการติดเชื้อ
(5) ระบบบาบัดน้า
(6) ระบบน้าสารอง
หมวด 2
เครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ที่จาเป็นประจาสถานพยาบาล

ข้อ 7 สถานพยาบาลต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ ที่จาเป็นประจา


ในการให้บริการในจานวนที่เหมาะสมและเพียงพออย่างน้อย ดังต่อไปนี้
(๑) เครื่องมือและเครื่องใช้ทั่วไป เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง เก้าอี้ อ่างฟอกมือ ภาชนะบรรจุ
มูลฝอยทั่วไป และภาชนะบรรจุมูลฝอยติดเชื้อ
(2) รถเข็นนอนและรถเข็นนั่งสาหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยตามความเหมาะสม
(3) ต้ อ งจั ด ให้ มีอุ ปกรณ์เก็ บเวชระเบี ยนที่ มั่น คง ปลอดภั ย และต้องจัด ให้เป็นระเบียบ
สามารถค้นหาได้ง่าย หรือถ้าเป็นระบบคอมพิวเตอร์ต้องจัดให้มีระบบข้อมูลสารองเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย
(4) บริการผู้ป่วยในต้องจัดให้มี

๑๙๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๗๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒ เมษายน ๒๕๖๓
(ก) อุปกรณ์การให้บริการ ได้แก่ ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพ
ชุดให้ยาผู้ป่วย ตู้เก็บเวชภัณฑ์ที่เหมาะสม และชุดตรวจร่างกายเบื้องต้น
(ข) อุปกรณ์ประจาเตียงและห้องผู้ป่วยและมีระบบเรียกพยาบาล
(5) ระบบรั บ ส่ ง ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น ต้ อ งจั ด การให้ มี ร ะบบการส่ ง ต่ อ ไปยั ง สถานพยาบาลอื่ น
ตามความเหมาะสม โดยมีระบบป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อระหว่างการส่งต่อผู้ป่วย
(6) ระบบควบคุมการติดเชื้อต้องจัดให้มี

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
(ก) เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทาความสะอาด
(ข) อ่างและบริเวณที่เพียงพอสาหรับล้างและเตรียมเครื่องมือ
(ค) ตู้เสื้อผ้าและบริเวณสาหรับเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้า
(ง) ระบบเคลื่อนย้ายสิ่งของที่เหมาะสม
(7) ระบบบาบัดน้าเสียต้องจัดให้มีมาตรฐานที่เหมาะสม
(8) ระบบน้าสารองต้องจัดให้มีที่เก็บกักน้าสารองขนาดที่เพียงพอสาหรับการใช้ที่จาเป็น
หมวด 3
ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล

ข้อ 8 สถานพยาบาลต้องจัดให้ มี ผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะตามจานวน


ที่เหมาะสมตามสถานการณ์ความรุนแรงเร่งด่วนฉุกเฉิน เพื่อประโยชน์ในการรักษาเยียวยาแก่ผู้ป่วย

ประกาศ ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖3


อนุทิน ชาญวีรกูล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๙๙


เลม่ ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๘๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๗ เมษายน ๒๕๖๓

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกาหนดค่าใช้จ่ายในการดาเนินการผูป้ ่วยฉุกเฉิน
โรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))

ด้วยมาตรา 36 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 กาหนดให้ค่าใช้จ่ายในการดาเนินการ


ช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยฉุกเฉินการระดมทรัพยากรและมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเยียวยาและการจัด
ให้ มี ก ารส่ ง ต่ อ ผู้ ป่ ว ยไปยั ง สถานพยาบาลอื่ น ให้ เ ป็ น ไปตามหลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก าร และเงื่ อ นไข
ที่คณะรัฐมนตรีกาหนด ซึ่งคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 มีมติอนุมัติ
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกาหนดค่าใช้จ่ายในการดาเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตราย
ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus
Disease 2019 (COVID-19)) แล้ว จึงเห็นควรประกาศให้ทราบเป็นการทั่วไป
อาศั ย อ านาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่ ง แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และ
เงื่อนไขการกาหนดค่าใช้จ่ายในการดาเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วย
โรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019
(COVID-19))”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกาหนดค่าใช้จ่ายในการดาเนินการผู้ป่วยฉุกเฉิน
โรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) ซึ่ ง คณะรั ฐ มนตรี ไ ด้ มี ม ติ เ ห็ น ชอบแล้ ว เป็ น ไปตาม
แนบท้ายประกาศนี้

ประกาศ ณ วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. ๒๕๖3


อนุทิน ชาญวีรกูล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

หมายเหตุ แกไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขการกําหนดคาใชจายในการดําเนินการผูปวยฉุกเฉินโรคติ


ดตอ อันตรายตามกฎหมายวาดวยโรคติดตอ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) (ฉบับที่ ๒)

๒๐๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกาหนดค่าใช้จ่ายในการดาเนินการผู้ป่วยฉุกเฉิน
โรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))

เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus


Disease 2019 (COVID-19)) กรณีเข้ารับการรักษาพยาบาล ในสถานพยาบาลให้มีความเหมาะสม เห็นควรกาหนด
ค่าใช้จ่ายในการดาเนินการให้มีความสอดคล้องกับสภาวการณ์ เป็นธรรมและสามารถใช้บังคับทุกภาคส่วน
อาศัยอานาจตามความในมาตรา 36 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่ งแก้ ไขเพิ่ มเติ มโดยพระราชบั ญ ญั ติ สถานพยาบาล (ฉบั บที่ 4) พ.ศ. 2559 ประกอบกั บมติ คณะรั ฐมนตรี
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 คณะรัฐมนตรีจึงกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกาหนดค่าใช้จ่าย
ในการดาเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ไว้ดังนี้
ข้อ 1 ในหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขนี้
“ค่าใช้จ่าย” หมายความว่า ค่าใช้จ่ายจากการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การรักษาพยาบาล
หรือการส่งต่อผู้ป่วย ที่ปรากฏตามบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขนี้
“ผู้ ป่ วย” หมายความว่า ผู้ ป่ วยโรคติ ดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus
Disease 2019 (COVID-19))
“สถานพยาบาล” หมายความว่า สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
ข้อ 2 กรณีผู้ป่วยให้สถานพยาบาลให้การรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉินเพื่อให้พ้นจากอันตราย
ตามมาตรฐานวิชาชีพและขีดความสามารถของสถานพยาบาลโดยไม่มีเงื่อนไขในการเรียกเก็บ ค่ารักษาพยาบาล
เพื่ อ ไม่ ใ ห้ เ ป็ น อุ ป สรรคต่ อ การดู แ ลรั ก ษา และให้ ส ถานพยาบาลแจ้ ง ต่ อ กองทุ น ของผู้ มี สิ ท ธิ ไ ด้ รั บ
การรัก ษาพยาบาลตามกฎหมายว่ าด้ ว ยหลั ก ประกั น สุ ข ภาพแห่ งชาติ หรือ กฎหมายว่าด้ ว ยประกั น สั งคม
หรือกฎหมายว่าด้วยเงิน ทดแทน หรือจากส่วนราชการ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือรัฐ วิสาหกิจ
หรือหน่วยงานอื่นของรัฐทราบโดยเร็ว
ข้อ 3 สถานพยาบาลต้องให้การดูแลรักษาผู้ป่วยตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกาหนด
กรณีการส่งต่อผู้ป่วยไปรับการรักษาพยาบาลยังสถานพยาบาลอื่น สถานพยาบาลต้องจัดการให้
มีการจัดส่งต่อตามความเหมาะสม ตามมาตรฐานวิชาชีพมาตรฐานการส่งต่อผู้ป่วยและตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
โดยอาจส่งต่อผู้ป่วยได้ในกรณีดังนี้
(1) สถานพยาบาลส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาตัวในเครือข่ายสถานพยาบาลที่จัดไว้สาหรับผู้ป่วย
(2) สถานพยาบาลมีศักยภาพไม่เพียงพอในการดูแลรักษาผู้ป่วย
(3) ผู้ป่วยหรือญาติมีความประสงค์จะไปรับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลอื่น
ข้อ 4 สถานพยาบาลจะได้รับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานับตั้งแต่รับผู้ป่วยตามแนวทางที่
กระทรวงสาธารณสุ ขกาหนด หรือส่ งต่อผู้ ป่ วยไปยังสถานพยาบาลอื่น ในอัตราตามบัญชีและอัตราค่าใช้ จ่าย
แนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขนี้
กรณี ส ถานพยาบาลส่ งต่ อ ผู้ ป่ ว ยไปรั บ การดู แ ลรั ก ษายั งสถานพยาบาลอื่ น ตามข้ อ 3 (1)
หากผู้ ป่ วยหรื อญาติ ผู้ ป่ วยปฏิ เสธไม่ ขอให้ ส่ งต่ อ หรือกรณี ผู้ ป่ วยหรือญาติ ผู้ ป่ วย ประสงค์ จะไปรับการรัก ษา
ที่สถานพยาบาลอื่นตามข้อ 3 (3) ผู้ป่วยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเอง

หมายเหตุ แกไขเพิ่มเติมโดยหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขการกําหนดคาใชจายในการดําเนินการผูปวยฉุกเฉินโรคติดตออันตรายตามกฎหมายวาดวย


โรคติดตอ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) (ฉบับที่ ๒)

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๐๑


ข้อ 5 ให้สถานพยาบาลเรียกเก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไปที่สานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ตามแนวทางการเรียกเก็บที่สานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกาหนด
ข้อ 6 ให้สานัก งานหลักประกัน สุข ภาพแห่งชาติ ต รวจสอบความถูก ต้อ ง สรุป ค่า ใช้จ่า ย
และแจ้งให้กองทุน ของผู้มีสิทธิได้รับ การรักษาพยาบาลตามกฎหมายว่าด้ว ยหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ
หรือ กฎหมายว่า ด้ว ยประกัน สังคม หรือ กฎหมายว่าด้ว ยเงิน ทดแทน หรือ จากส่ว นราชการ หรือ องค์ก ร
ปกครองส่ว นท้อ งถิ่น หรือ รัฐ วิส าหกิจ หรือ หน่ว ยงานอื่น ของรัฐ ทราบภายในสามสิบ วัน นับ ตั้ง แต่เวลา
ที่ได้รับเอกสารครบถ้วนแล้ว
ข้อ 7 ให้กองทุนของผู้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

แห่งชาติหรือกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม หรือกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน หรือจากส่วนราชการ หรือองค์กร


ปกครองส่ว นท้องถิ่น หรือรัฐวิส าหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ จ่ายค่า ใช้จ่ายในอัตราตามบัญชีและอัตรา
ค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขนี้ ให้แก่สถานพยาบาลภายในสิบห้าวัน นับจากวันที่สานักงาน
หลักประกันสุขภาพแห่งชาติแจ้ง กองทุนของผู้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกัน
สุขภาพแห่งชาติ หรือกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม หรือกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน หรือจากส่วนราชการ
หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
ข้อ 8 ในกรณีที่มีการส่งต่อผู้ป่วยจากสถานพยาบาลแห่งที่หนึ่งไปยังสถานพยาบาลที่รับส่งต่อ
สถานพยาบาลนั้น จะได้รับค่า ใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาตั้งแต่รับผู้ป่วยตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุข
กาหนด ในอัตราตามบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขนี้
ข้อ 9 หลั ก เกณฑ์ วิธี ก าร และเงื่อ นไขนี้ ให้ ใช้ บั งคั บ ตั้ งแต่ วัน ที่ 5 มี น าคม พ.ศ. 2563
เป็นต้นไป

หมายเหตุ ในกรณี ที่ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต กฎหมายว่าด้วย


ประกันวินาศภัยให้ใช้สิทธิดังกล่าวก่อน

๒๐๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๙๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง กําหนดผู้ป่วยฉุกเฉิน

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และ


มาตรา 33/1 แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ
สถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคําแนะนําของ

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
คณะกรรมการสถานพยาบาลจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กําหนดผู้ป่วยฉุกเฉิน”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ผู้ ป่ว ยฉุ กเฉิ นตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ฉุ กเฉิน เรื่อ ง หลั กเกณฑ์
การประเมินเพื่อคัดแยกระดับความฉุกเฉินและมาตรฐานการปฏิบัติการฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามกฎหมาย
ว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉิน เป็นผู้ป่วยฉุกเฉินซึ่งจําเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉินจากสถานพยาบาล
ตามมาตรา 36 แห่ งพระราชบั ญญั ติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่ งแก้ไขเพิ่มเติ มโดยพระราชบัญญั ติ
สถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559

ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐


ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๐๓


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๙๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยฉุกเฉิน
การระดมทรัพยากรและมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเยียวยา
และการจัดให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่น

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

และมาตรา 36 วรรคสามและวรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม


โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
โดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาลจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และ
เงื่อนไขการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยฉุกเฉิน การระดมทรัพยากรและมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเยียวยา
และการจัดให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่น”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
หมวด 1
การช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยฉุกเฉิน

ข้อ 3 เมื่อมีผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งหากปล่อยไว้เช่นนั้นจะเป็นอันตรายต่อชีวิต หรือการรุนแรงขึ้น


ของการบาดเจ็บ หรืออาการป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินได้ ให้ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการของสถานพยาบาล
มีหน้าที่ดําเนินการช่วยเหลือเยียวยาตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
(๑) ตรวจคัดแยกระดับความฉุกเฉินและจัดให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการบริการตามลําดับความเร่งด่วน
ทางการแพทย์ฉุกเฉิน และเมื่อดําเนินการดังกล่าวแล้ว ให้แจ้งผลของการคัดแยกให้ผู้ป่วย หรือญาติ
ผู้ป่วยทราบ
กรณีที่มีปัญหาการวินิจฉัยในการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตให้ปรึกษาศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิ
ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติได้ตลอดเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง เพื่อดําเนินการวินิจฉัย
โดยคําวินิจฉัยของศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
ให้ถือเป็นที่สุด
(๒) ผู้ป่วยฉุกเฉินต้องได้รับการบริการฉุกเฉินจนเต็มขีดความสามารถของสถานพยาบาลนั้น
ก่อนการส่งต่อ เว้นแต่มีผู้ประกอบวิชาชีพให้การรับรองว่าการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน จะเป็นประโยชน์
ต่อการป้องกันการเสียชีวิต หรือการรุนแรงขึ้นของการเจ็บป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้น
(๓) การให้บริการต่อผู้ป่วยฉุกเฉินต้องเป็นไปตามความจําเป็นและข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ฉุกเฉิน
โดยมิ ใ ห้ นํ า สิ ท ธิ ก ารประกั น การขึ้ น ทะเบี ย นสถานพยาบาล หรื อ ความสามารถในการรั บ ผิ ด ชอบ
ค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือเงื่อนไขใด ๆ มาเป็นเหตุปฏิเสธผู้ป่วยฉุกเฉินให้ไม่ได้รับการบริการอย่างทันท่วงที

๒๐๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๙๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐
นอกจากวรรคหนึ่งแล้ว สถานพยาบาลต้องกระทําการใด ๆ อันจะมีผลเป็นการควบคุม ระงับ
หรือบรรเทาผลร้ายจากอันตรายและความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นได้อย่างทันท่วงทีตามสมควรแก่กรณี
ข้อ 4 การตรวจคัดแยกระดับความฉุกเฉินของผู้ป่วยตามข้อ 3 (๑) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
ดังต่อไปนี้
(๑) ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ได้แก่ บุคคลซึ่งได้รับบาดเจ็บ หรือมีอาการป่วยกะทันหัน ซึ่งมีภาวะ
คุกคามต่อชีวิต ซึ่งหากไม่ได้รับปฏิบัติการแพทย์ทันทีเพื่อแก้ไขระบบการหายใจ ระบบไหลเวียนเลือด
หรือระบบประสาทแล้ว ผู้ป่วยจะมีโอกาสเสียชีวิตได้สูง หรือทําให้การบาดเจ็บหรืออาการป่วยของผู้ป่วย

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ฉุกเฉินนั้น รุนแรงขึ้นหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้อย่างฉับไว
ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีแดง” สําหรับผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต
(๒) ผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน ได้แก่ บุคคลที่ได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยซึ่งมีภาวะเฉียบพลันมาก
หรือเจ็บปวดรุนแรงอันจําเป็นต้องได้รับปฏิบัติการแพทย์อย่างรีบด่วน มิฉะนั้น จะทําให้การบาดเจ็บ
หรื อ อาการป่ ว ยของผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น นั้ น รุ น แรงขึ้ น หรื อ เกิ ด ภาวะแทรกซ้ อ นขึ้ น ซึ่ ง ส่ ง ผลให้ เ สี ย ชี วิ ต
หรือพิการในระยะต่อมาได้
ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีเหลือง” สําหรับผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน
(๓) ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น ไม่ รุ น แรง ได้ แ ก่ บุ ค คลซึ่ ง ได้ รั บ บาดเจ็ บ หรื อ มี อ าการป่ ว ยซึ่ ง มี ภ าวะ
เฉียบพลันไม่รุนแรง อาจรอรับปฏิบัติการแพทย์ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือเดินทางไปรับบริการสาธารณสุข
ด้วยตนเองได้ แต่จําเป็นต้องใช้ทรัพยากรและหากปล่อยไว้เกินเวลาอันสมควรแล้วจะทําให้การบาดเจ็บ
หรืออาการป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้
ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีเขียว” สําหรับผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง
ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามแนวทางการปฏิบัติในการคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ตามนโยบาย
“เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่” กรณีการเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลเอกชนนอกคู่สัญญา
สามกองทุนตามที่คณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินกําหนด
ข้อ 5 ให้สถานพยาบาลจัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพ เพื่อคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินตามข้อ 3 (๑)
ตลอดเวลา รวมทั้งควบคุมและดูแลให้ผู้ปฏิบัติการดําเนินการให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการปฏิบัติการฉุกเฉิน
ตามลําดับความเร่งด่วน ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินประกาศกําหนด
ข้อ 6 นอกจากการจัดให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการบริการตามข้อ 3 แล้ว สถานพยาบาล
ต้องจัดให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการบําบัดเจาะจงตามขีดความสามารถอย่างทันท่วงทีด้วย
ข้อ 7 ในกรณีที่ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (สีแดง) ที่ได้รับการรักษาในสถานพยาบาลประเภท
ที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนผู้ใดเป็นผู้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
หรือกฎหมายว่าด้วยประกันสังคมหรือกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน หรือจากส่วนราชการ หรือองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ และเมื่อผู้นั้นไปรับบริการจากสถานพยาบาล
ประเภทที่รับผู้ป่วยไว้คา้ งคืนเมื่อใดแล้ว ให้สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนแจ้งการเข้ารับบริการและ
ให้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรีกําหนด

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๐๕


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๙๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐
หมวด ๒
การระดมทรัพยากรและมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเยียวยา

ข้อ 8 ให้ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการจัดหาทรัพยากรด้านบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องมือ


เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ ยานพาหนะให้เพียงพอและพร้อมต่อการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินตามมาตรา 33/1
ตามขีดความสามารถของสถานพยาบาล
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

หมวด ๓
การจัดให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่น

ข้อ 9 เมื่ อ ให้ ก ารช่ ว ยเหลื อ เยี ย วยาผู้ ป่ ว ยตามหมวดหนึ่ ง ถ้ า มี ค วามจํ า เป็ น ต้ อ งส่ ง ต่ อ
หรือผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยมีความประสงค์จะไปรับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลอื่น ผู้รับอนุญาต
และผู้ดําเนินการต้องจัดการให้มีการจัดส่งต่อไปยังสถานพยาบาลอื่นตามความเหมาะสม
ในกรณีที่ผู้ประกอบวิชาชีพให้การรับรองว่าการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินจะเป็นประโยชน์ต่อการป้องกัน
การเสียชีวิต หรือการรุนแรงขึ้นของการเจ็บป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้น หรือเกินขีดความสามารถตามนัยแห่ง
ข้อ 3 (๒) ให้สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนดําเนินการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน ตามมาตรฐาน
การส่งต่อผู้ป่วยที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกําหนด และให้สถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วย
ไว้ค้างคืนดําเนินการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินตามมาตรฐานการส่งต่อผู้ป่วยที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกําหนด
โดยอนุโลม

ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐


ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

๒๐๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๙๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต

ด้วยมาตรา 36 วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม


โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 กําหนดให้ค่าใช้จ่ายในการดําเนินการ
ช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยฉุกเฉิน การระดมทรัพยากรและมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเยียวยาและการจัด

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่นให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรี
กําหนด ซึ่งคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 มีมติอนุมัติหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตแล้ว เห็นควรประกาศให้ทราบ
เป็นการทั่วไป นั้น
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และ
เงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2560 เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผู้ป่วย
ฉุกเฉินวิกฤต ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้วเป็นไปตามแนบท้ายประกาศนี้

ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐


ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

หมายเหตุ แกไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขการกําหนดคาใชจายในการดําเนินการผูปวยฉุกเฉินวิกฤต (ฉบับที่ ๒)

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๐๗


หลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผูป้ ว่ ยฉุกเฉินวิกฤต

เพื่ อ เป็ น การคุ้ ม ครองสิ ท ธิ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น กรณี เ ข้ า รั บ การรั ก ษาพยาบาลในสถานพยาบาล
ให้ มี ค วามเหมาะสม เห็ น ควรกํ า หนดค่ า ใช้ จ่ า ยในการดํ า เนิ น การให้ มี ค วามสอดคล้ อ งกั บ สภาวการณ์
เป็นธรรมและสามารถใช้บังคับทุกภาคส่วน
อาศั ย อํ า นาจตามความในมาตรา 36 วรรคห้ า แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่ ง แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล (ฉบั บ ที่ 4) พ.ศ. 2559 ประกอบกั บ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

มติ ค ณะรั ฐ มนตรี เ มื่ อ วั น ที่ 28 มี น าคม พ.ศ. 2560 คณะรั ฐ มนตรี จึ ง กํ า หนดหลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก าร
และเงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ไว้ดังนี้
ข้อ 1 ในหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขนี้
“ค่าใช้จ่าย” หมายความว่า ค่าใช้จ่ายที่ได้รับการชดเชยจากการรักษาพยาบาล หรือการส่งต่อ
ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ที่ปรากฏตามบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขนี้
“ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤต” หมายความว่ า ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤตตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยการแพทย์
ฉุกเฉิน
“สถานพยาบาล” หมายความว่า สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
ข้อ 2 กรณี ผู้ ป่ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤตให้ ส ถานพยาบาลให้ ก ารรั ก ษาพยาบาลโดยฉุ ก เฉิ น เพื่ อ ให้ พ้ น
จากอันตรายตามมาตรฐานวิ ช าชี พและขี ด ความสามารถของสถานพยาบาลโดยไม่ มี เงื่ อนไขในการเรีย กเก็ บ
ค่ารักษาพยาบาลเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการดูแลรักษา และให้สถานพยาบาลแจ้งต่อกองทุนของผู้มีสิทธิได้รับ
การรั ก ษาพยาบาลตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยหลั ก ประกั น สุ ข ภาพแห่ ง ชาติ หรื อ กฎหมายว่ า ด้ ว ยประกั น สั ง คม
หรือ กฎหมายว่า ด้ว ยเงิน ทดแทน หรือ จากส่ว นราชการ หรือ องค์ก รปกครองส่ว นท้อ งถิ่น หรือ รัฐ วิส าหกิจ
หรือหน่วยงานอื่นของรัฐทราบโดยเร็ว
ข้อ 3 กรณีที่มีปัญหาการวินิจฉัยในการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตให้ปรึกษาศูนย์ประสาน
คุ้ ม ครองสิ ท ธิ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤต ของสถาบั น การแพทย์ ฉุ ก เฉิ น แห่ ง ชาติ ไ ด้ ต ลอดเวลายี่ สิ บ สี่ ชั่ ว โมง
เพื่อดําเนินการวินิจฉัย โดยคําวินิจฉัยของศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ของสถาบันการแพทย์
ฉุกเฉินแห่งชาติให้ถือเป็นที่สุด
ข้อ ๔ สถานพยาบาลต้ อ งให้ ก ารดู แ ลรั ก ษาผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤตจนพ้ น ภาวะวิ ก ฤตหรื อ
ถ้ ามี ค วามจํ าเป็ น ต้ อ งส่ ง ต่ อ หรื อ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤตหรื อ ญาติ มี ค วามประสงค์ จ ะไปรั บ การรั ก ษาพยาบาล
ที่สถานพยาบาลอื่ น สถานพยาบาลต้ องจั ดการให้ มี การจั ด ส่ งต่ อไปยั ง สถานพยาบาลอื่ นตามความเหมาะสม
ตามมาตรฐานวิชาชีพและมาตรฐานการส่งต่อผู้ป่วย
ข้อ ๕ สถานพยาบาลจะได้ รั บ ค่ าใช้ จ่า ยที่ เ กิด ขึ้น ในช่ วงเวลานั บ ตั้ ง แต่ รั บ ผู้ป่ ว ยฉุ กเฉิ น วิ ก ฤต
จนถึงเวลาเจ็ดสิบสองชั่วโมง ในอัตราตามบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขนี้

ข้อ 6...

หมายเหตุ แกไขเพิ่มเติมโดยหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขการกําหนดคาใชจายในการดําเนินการผูปวยฉุกเฉินวิกฤต (ฉบับที่ ๒)

๒๐๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ข้ อ 6 ค่ า ใช้ จ่ า ยที่ เ กิ ด ขึ้ น หลั ง เวลาเจ็ ด สิ บ สองชั่ ว โมง นั บ ตั้ ง แต่ รั บ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤต
ให้สถานพยาบาลเรียกเก็บไปที่กองทุนของผู้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพ
แห่ ง ชาติ ห รื อ กฎหมายว่า ด้ว ยประกัน สัง คม หรือ กฎหมายว่า ด้ว ยเงิน ทดแทน หรือ จากส่ว นราชการ
หรือ องค์ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น หรื อ รั ฐ วิ ส าหกิ จ หรื อ หน่ ว ยงานอื่ น ของรั ฐ หรื อ เรี ย กเก็ บ จากผู้ ป่ ว ย ทั้ ง นี้
ให้เป็นไปตามอัตราค่ารักษาพยาบาลของสถานพยาบาลหรือตามข้อตกลงระหว่างสถานพยาบาลกับกองทุนของ
ผู้มีสิทธิ
ข้อ 7 ให้ ส ถานพยาบาลเรี ย กเก็ บ ค่ า ใช้ จ่ า ยที่ เ กิ ด ขึ้ น ภายในเวลาเจ็ ด สิ บ สองชั่ ว โมงไปที่
สํ า นั ก งานหลั ก ประกั น สุ ข ภาพแห่ ง ชาติ ต ามแนวทางการเรี ย กเก็ บ ที่ สํ า นั ก งานหลั ก ประกั น สุ ข ภาพแห่ ง ชาติ
กําหนด

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ข้ อ ๘ ให้ สํ า นั ก งานหลั ก ประกั น สุ ข ภาพแห่ ง ชาติ ต รวจสอบความถู ก ต้ อ ง สรุ ป ค่ า ใช้ จ่ า ย
และแจ้ ง ให้ ก องทุ น ของผู้ มี สิ ท ธิ ไ ด้ รั บ การรั ก ษาพยาบาลตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยหลั ก ประกั น สุ ข ภาพแห่ ง ชาติ
หรือกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม หรือกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน หรือจากส่วนราชการ หรือองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ทราบภายในสามสิบวันนับตั้งแต่เวลาที่ได้รับเอกสาร
ครบถ้วนแล้ว
ข้อ ๙ ให้กองทุนของผู้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพ
แห่งชาติหรือกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม หรือกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน หรือจากส่วนราชการ หรือองค์กร
ปกครองส่ว นท้อ งถิ่น หรือ รัฐ วิส าหกิจ หรือ หน่ว ยงานอื่น ของรัฐ จ่า ยค่า ใช้จ่า ยในอัต รา ตามบัญชีและอัตรา
ค่าใช้จ่ายแนบท้ ายหลัก เกณฑ์ วิ ธีการและเงื่อนไขนี้ให้แก่สถานพยาบาลภายในสิบห้าวัน นับจากวันที่สํานักงาน
หลักประกันสุขภาพแห่งชาติแจ้งกองทุนของผู้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกัน
สุ ข ภาพแห่ งชาติ หรือ กฎหมายว่ า ด้ วยประกั น สั งคม หรื อ กฎหมายว่ าด้ ว ยเงิ นทดแทน หรือ จากส่ วนราชการ
หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
ข้อ 10 ใ น ก ร ณี ที่ มี ก า ร ส่ ง ต่ อ ผู้ ป่ ว ย ฉุ ก เ ฉิ น วิ ก ฤ ต จ า ก ส ถ า น พ ย า บ า ล แ ห่ ง ที่ ห นึ่ ง
ไปยั ง สถานพยาบาลแห่ ง ที่ ส อง ภายในเวลาก่ อ นครบเจ็ ด สิ บ สองชั่ ว โมงนั บ ตั้ ง แต่ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤต
เข้ า รั บ การรั ก ษาพยาบาลที่ ส ถานพยาบาลแห่ ง ที่ ห นึ่ ง สถานพยาบาลแห่ ง ที่ ส องจะได้ รั บ ค่ า ใช้ จ่ า ยที่ เ กิ ด ขึ้ น
ในช่ ว งเวลาตั้ ง แต่ รั บ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤตจนครบเจ็ ด สิ บ สองชั่ ว โมง (โดยนั บ เวลาต่ อเนื่ อ งจากสถานพยาบาล
แห่งที่หนึ่งรับ) ในอัตราตามบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขนี้ เว้นแต่
(1) กรณี ส ถานพยาบาลคู่ สั ญ ญาของสํ า นั ก งานประกั น สั ง คม รั บ ย้ า ยผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤต
ในสังกัดของตนให้ปฏิบัติตามระบบของสํานักงานประกันสังคม
(2) กรณีสถานพยาบาลคู่สัญญาของสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรับย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน
วิกฤตที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนให้ปฏิบัติตามระบบของสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
(3) กรณี ส ถานพยาบาลของรั ฐ รั บ ย้ า ยผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤตซึ่ ง มี สิ ท ธิ ต ามพระราชกฤษฎี ก า
เงิ น สวั ส ดิ ก ารเกี่ ย วกั บ การรั ก ษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๓ และที่ แ ก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม ให้ ดํ า เนิ น การตามแนวทางที่
กรมบัญชีกลางกําหนด
ข้อ 11...

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๐๙


ข้อ 11 ในกรณี ที่ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤตสามารถย้ า ยสถานพยาบาลได้ แ ต่ ป ฏิ เ สธไม่ ข อย้ า ย
ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นต่อไปเอง
ข้อ 12 กรณีหากมีความจําเป็ น ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยความเห็นชอบ
ของคณะกรรมการสถานพยาบาลตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยสถานพยาบาล ดํ า เนิ น การทบทวนปรั บ ปรุ ง บั ญ ชี
และอัต ราตามข้อ 5 ข้อ 9 และข้อ 10 ที่แนบท้ายหลักเกณฑ์ วิ ธีการ และเงื่อนไขนี้ ให้ มีความเหมาะสมได้
โดยให้ คํ า นึ ง ถึ ง ประโยชน์ ที่ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น จะได้ รั บ เป็ น สํ า คั ญ ภายในสามปี ห รื อ ตามที่ ค ณะกรรมการ
สถานพยาบาลตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยสถานพยาบาลเห็ น สมควร ทั้ งนี้ ให้ นํ า เสนอผลการทบทวนปรั บ ปรุ ง
บัญชีและอัตราตามที่แนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขนี้ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบด้วย
ข้อ 13 หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขนี้ ให้ใช้ บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

เป็นต้นไป

หมายเหตุ ในกรณีทผี่ ู้ป่วยมีสิทธิได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ


หรือตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิตให้ใช้สิทธิดงั กล่าวก่อน

๒๑๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๗๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๑

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง ชนิดหรือประเภทของการรักษาพยาบาล ยาและเวชภัณฑ์ การบริการทางการแพทย์
หรือการบริการอื่นของสถานพยาบาล และสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งผู้รับอนุญาตจะต้องแสดงตามมาตรา 32 (3)
พ.ศ. 2561

โดยที่ เป็ น การสมควรกํ า หนดชนิ ด หรื อ ประเภทของการรั ก ษาพยาบาล ยาและเวชภั ณ ฑ์

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
การบริการทางการแพทย์ หรือการบริการอื่นของสถานพยาบาล และสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งผู้รับอนุญาต
จะต้องแสดงตามมาตรา 32 (3)
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
และมาตรา ๓๓ วรรคหนึ่ ง แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่ ง แก้ ไขเพิ่ ม เติ ม
โดยพระราชบัญ ญั ติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
โดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาลจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ เรี ย กว่ า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข เรื่ อ ง ชนิ ด หรื อ ประเภท
ของการรักษาพยาบาล ยาและเวชภัณฑ์ การบริการทางการแพทย์ หรือการบริการอื่นของสถานพยาบาล
และสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งผู้รับอนุญาตจะต้องแสดงตามมาตรา 32 (3) พ.ศ. 2561”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ ย กเลิ กประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข ฉบั บ ที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๔๒) เรื่อ ง ชนิ ด
หรือประเภทของการรักษาพยาบาล การบริการอื่นของสถานพยาบาลและสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งผู้รับอนุญาต
จะต้องแสดงตามมาตรา ๓๒ (๓)
ข้อ 4 ผู้ รั บ อนุ ญ าตให้ ป ระกอบกิ จ การสถานพยาบาล ต้ อ งแสดงรายละเอี ย ดของอั ต รา
ค่ารักษาพยาบาล ยาและเวชภัณฑ์ การบริการทางการแพทย์ หรือการบริการอื่นของสถานพยาบาล
ตามบริ ก ารที่ จั ด ให้ มี ข องสถานพยาบาลตามมาตรา ๓๒ (๓) ไว้ ใ นที่ เ ปิ ด เผยและเห็ น ได้ ง่ า ย
ณ สถานพยาบาลนั้น มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
4.1 ค่ารักษาพยาบาล ยาและเวชภัณ ฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ (Drugs and
Medical Supplies, Hospital Medical Expenses)
ก. ค่ายาและสารอาหารทางหลอดเลือด (Drugs & Parenteral Nutrition)
ข. ค่าเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ (Medical Supplies & Devices)
ค. ค่ าบริ ก ารจั ด หาโลหิ ต และส่ ว นประกอบของโลหิ ต (Blood & Blood
Components)
ง. ค่าตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ (Laboratory Investigation)
จ. ค่าตรวจวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา (Pathology)

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๑๑


เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๗๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๑
ฉ. ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาและภาพการแพทย์ (Diagnostic Radiology &
Medical Imaging)
ช. ค่าบริการรังสีร่วมรักษา (Interventional Radiology)
ซ. ค่าบริการรังสีรักษา (Radiotherapy)
ฌ. ค่าบริการเวชศาสตร์นิวเคลียร์ (Nuclear Medicine)
ญ. ค่าตรวจวินิจฉัยโดยวิธีพิเศษอื่น (Special Diagnostics)
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ฎ. ค่าเครื่องมือทางการแพทย์ (Medical Equipment Services)


ฏ. ค่าห้องผ่าตัดและห้อ งคลอด (Operating Room & Delivery Room
Services)
ฐ. ค่าบริการทางทันตกรรม (Dental Services)
ฑ. ค่าบริการทางการพยาบาล-ผดุงครรภ์ (Nursing Services)
ฒ. ค่าบริการทางเภสัชกรรม (Pharmacy Services)
ณ. ค่าบริการกายภาพบําบัด (Physical Therapy Services)
ด. ค่าบริการกิจกรรมบําบัด (Occupational Therapy)
ต. ค่าบริการจิตวิทยาคลินิก (Clinical Psychology)
ถ. ค่าบริการการแก้ไขความผิดปกติ ของการสื่อความหมาย (Communication
Disorders Services)
ท. ค่าบริการเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก (Cardio-thoracic Technology
Services)
ธ. ค่าบริการกายอุปกรณ์ (Prosthetic and Orthotic Services)
น. ค่าบริการทัศนมาตรศาสตร์ (Optometry)
บ. ค่าบริการแพทย์แผนไทย (Traditional Thai Medicine Services)
ป. ค่าบริการแพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine Services)
ผ. ค่าบริการไคโรแพรคติก (Chiropractic Services)
ฝ. ค่าบริการชุดเหมาจ่ายการรักษาพยาบาล (Packaged Medical Services)
พ. ค่าบริการทางการแพทย์อื่น (Other Medical Services)
ฟ. ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตรวจรักษาทั่วไป (Physician Evaluation
& Management Services)
ภ. ค่ าผู้ ป ระกอบวิช าชี พ เวชกรรม ทํ าศั ล ยกรรมและหั ต ถการ (Physician
Surgery & Procedure)
ม. ค่ าผู้ ประกอบวิ ชาชี พเวชกรรม วิ สั ญ ญี แพทย์ (Physician Anesthesiology
Services)

๒๑๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๗๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๑
ย. ค่าผู้ประกอบวิชาชีพทันตแพทย์ (Dentist Fees)
ร. ค่าผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ๆ (Other professional fees)
4.2 ค่าบริการอื่นตามบริการที่จัดให้มขี องสถานพยาบาล (Other Hospital Services)
ก. ค่าห้องพักผู้ป่วยใน (Inpatient Room)
ข. ค่าห้องพักสังเกตอาการ (Observe Room)
ค. ค่าอาหารผู้ป่วยใน (Inpatient Foods)

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ง. ค่าอาหารเพื่อวัตถุประสงค์อื่น (Special Purpose Nutrition)
จ. ค่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary Supplement Products)
ฉ. ค่าพาหนะเดินทางสําหรับผู้ป่วย (Patient Transport Services)
ช. ค่าบริการเก็บรักษาศพ (Mortuary Services)
ซ. ค่าบริการอื่น ๆ ของสถานพยาบาล (Other Hospital Services)
ฌ. ค่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ (Other Non-Medical Hospital Products)
รายละเอียด 4.1 - 4.2 ให้เป็นไปตามการจัดทําบัญชีแนบท้าย ทั้งนี้การจัดทําบัญชี
แนบท้ายให้เป็นไปตามข้อจํากัดของสถานพยาบาล และศักยภาพของสถานพยาบาลนั้น ๆ
ข้อ 5 ผู้ รั บ อนุ ญ าตให้ ป ระกอบกิ จ การสถานพยาบาล ต้ อ งแสดงรายละเอี ย ดถึ ง สิ ท ธิ
ของผู้ป่วยที่พึงได้รับจากผู้ประกอบวิชาชีพไว้ ดังต่อไปนี้
5.1 ผู้ ป่ ว ยทุ ก คนมี สิ ท ธิ ขั้ น พื้ น ฐานที่ จ ะได้ รั บ การรั ก ษาพยาบาลและการดู แ ล
ด้านสุขภาพตามมาตรฐานวิชาชีพจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติตามที่บัญญัติ
ไว้ในรัฐธรรมนูญ
5.2 ผู้ป่วยที่ขอรับการรักษาพยาบาลมีสิทธิได้รับทราบข้อมูลที่เป็นจริงและเพียงพอ
เกี่ยวกับการเจ็บป่วย การตรวจ การรักษา ผลดีและผลเสียจากการตรวจ การรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพ
ด้านสุขภาพ ด้วยภาษาที่ผู้ป่วยสามารถเข้าใจได้ง่าย เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเลือกตัดสินใจในการยินยอม
หรือไม่ยินยอมให้ผู้ประกอบวิชาชีพ ด้านสุขภาพปฏิบัติต่อตน เว้นแต่ในกรณี ฉุกเฉินอันจําเป็นเร่งด่วน
และเป็นอันตรายต่อชีวิต
5.3 ผู้ ป่ ว ยที่ อ ยู่ ในภาวะเสี่ ย งอั น ตรายถึ ง ชี วิ ต มี สิ ท ธิ ได้ รั บ การช่ ว ยเหลื อ รี บ ด่ ว น
จากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยทันทีตามความจําเป็นแก่กรณี โดยไม่ต้องคํานึงว่าผู้ป่วยจะร้องขอ
ความช่วยเหลือหรือไม่
5.4 ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับทราบชื่อ สกุล และวิชาชีพของผู้ให้การรักษาพยาบาลแก่ตน
5.5 ผู้ป่วยมีสิทธิที่ขอความเห็นจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพอื่นที่มิได้เป็นผู้ให้
การรั ก ษาพยาบาลแก่ ต น และมี สิ ท ธิ ในการขอเปลี่ ย นผู้ ป ระกอบวิ ช าชี พ ด้ า นสุ ข ภาพหรื อ เปลี่ ย น
สถานพยาบาลได้ ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสิทธิการรักษาของผู้ป่วยที่มีอยู่

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๑๓


เล่ม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๗๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๑
5.6 ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับการปกปิดข้อมูลของตนเอง เว้นแต่ผู้ป่วยจะให้ความยินยอม
หรื อ เป็ น การปฏิ บั ติ ต ามหน้ าที่ ข องผู้ ป ระกอบวิ ช าชี พ ด้ านสุ ข ภาพ เพื่ อ ประโยชน์ โดยตรงของผู้ ป่ ว ย
หรือตามกฎหมาย
5.7 ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับทราบข้อมูลอย่างครบถ้วนในการตัดสินใจเข้าร่วมหรือถอนตัว
จากการเป็นผู้เข้าร่วมหรือผู้ถูกทดลองในการทําวิจัยของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ
5.8 ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลเฉพาะของตนที่ปรากฏ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ในเวชระเบียนเมื่อร้องขอตามขั้นตอนของสถานพยาบาลนั้น ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิ
หรือข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลของผู้อื่น
5.9 บิดา มารดา หรือผู้แทนโดยชอบธรรม อาจใช้สิทธิแทนผู้ป่วยที่เป็นเด็กอายุ
ยังไม่เกินสิบแปดปีบริบูรณ์ ผู้บกพร่องทางกายหรือจิต ซึ่งไม่สามารถใช้สิทธิด้วยตนเองได้
ข้อ 6 ให้ผู้รับอนุญาตซึ่งได้รับใบอนุญ าตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลอยู่ในวันก่อนที่
ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับต้องดําเนินการให้เป็นไปตามประกาศนี้ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ประกาศฉบับนี้
มีผลใช้บังคับ

ประกาศ ณ วันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑


ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

๒๑๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


บัญชีแนบท้าย
ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง ชนิดหรือประเภทของการรักษาพยาบาล ยาและเวชภัณฑ์ การบริการทางการแพทย์
หรือการบริการอื่นของสถานพยาบาล และสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งผู้รับอนุญาตจะต้องแสดงตามมาตรา 32 (3)
พ.ศ. 2561

วัตถุประสงค์ ตามมาตรา 32 (3) แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕41 แก้ไขเพิ่มเติม

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
โดยพระราชบั ญ ญั ติ สถานพยาบาล (ฉบั บ ที่ ๔) พ.ศ. 2559 ได้ ก าหนดให้ ผู้ รั บอนุ ญ าตให้ ประกอบกิ จการ
สถานพยาบาลต้องแสดงอัตราค่ารักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์ การบริการทางการแพทย์ หรือการบริการอื่น
ของสถานพยาบาล และสิทธิของผู้ป่วย ไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานพยาบาลนั้น หากไม่กระทาจะมีโทษ
ตามที่มาตรา 59 ระบุไว้ คือ ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ประกอบกับมาตรา 33 วรรคสอง ผู้รับอนุญาตจะเรียกเก็บ
หรือยินยอมให้ มีการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ หรือค่าบริการอื่น
เกิ นอั ตราที่ ได้ แสดงไว้ มิ ได้ และต้ องให้ บ ริ การแก่ ผู้ ป่ วยตามสิ ทธิ ที่ ได้ แสดงไว้ ห ากกรณี มี การฝ่ าฝื นเรี ยกเก็ บ
ค่ารักษาพยาบาลหรือค่าบริการอื่ นเกินอัตราที่แสดงไว้จะมีโทษตามที่มาตรา 62 กาหนดไว้ คือ ต้องระวางโทษ
จาคุก ไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจาทั้งปรับ
ดังนั้ น เพื่ อให้ ส ถานพยาบาลจั ดทาบั ญ ชีค่าบริการต่างๆ ของสถานพยาบาลให้ ครอบคลุ ม
การบริการที่มี และเป็ น ไปในแนวทางเดี ย วกัน โดยแยกเป็ นหมวดหมู่ เพื่ อให้ เกิดความชั ดเจนแก่ผู้ บริโภค
และสถานพยาบาลจะมีการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลได้ตามรายการที่ปรากฏในบัญชีที่แสดงไว้ และเก็บได้
ไม่เกินอัตราที่แสดงไว้ในบัญชีเท่านั้น รายละเอียดดังนี้
4.1 ค่ารั กษาพยาบาล ยาและเวชภั ณ ฑ์ ค่ าบริก ารทางการแพทย์ (Drugs and Medical
Supplies, Hospital Medical Expenses) หมายถึ ง บริ ก ารของสถานพยาบาลด้ ว ยการใช้ เทคโนโลยี
เครื่องมือ อุปกรณ์ ยา และเวชภัณฑ์ โดยบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อการตรวจ วินิจฉัย ป้องกัน
บาบัด บรรเทา รักษาโรค และบริบาลผู้ป่วย บริการทางการแพทย์ประกอบด้วยบัญชีบริการ ดังนี้
ก. ค่ายาและสารอาหารทางหลอดเลือด (Drugs & Parenteral Nutrition)
1. จัดทาบัญชียาตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 ยาแผนปัจจุบัน-ยาอันตราย (Modern Medicines-Dangerous Drugs)
1.2 ยาแผนปัจจุบัน-ยาควบคุมพิเศษ (Modern Medicines-Specially Controlled Drugs)
1.3 วัตถุออกฤทธิ์ (Psychotropic Drugs)
1.4 วัตถุเสพติด (Narcotic Drugs)
1.5 ยาแผนปัจจุบันบรรจุเสร็จ (Non-dangerous, Non-specially Controlled Drugs)
1.6 ยาสามัญประจาบ้าน (OTC)
1.7 ยาสมุนไพร (Traditional-Herbal Medicines)
1.8 ชีววัตถุ (Biological Products)
1.9 สารอาหารทางหลอดเลือด (Parenteral Nutrition)
1.10 ยาอื่น (Drugs-Others)
2. จั ดท าบั ญ ชี บ ริ การในระดั บ หน่ วยรายการตามมาตรฐานระบบ Thai Medicines
Terminology (TMT) โดยสานักพัฒนามาตรฐานระบบข้อมูลสุขภาพไทย (สมสท.) ส่วนงานมาตรฐานและบริการ
สารสนเทศระบบบริการสาธารณสุข (สมสส.) ในสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๑๕


3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 ยา และสารอาหารทางหลอดเลื อ ด รวมต้ น ทุ น การจั ด ซื้ อ จั ด หา การขนส่ ง
การจัดเก็บ รักษาที่ได้มาตรฐาน การใช้สถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ วัสดุ ภั ณฑ์ ระบบสารสนเทศทางเภสั ชกรรม
และการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบริการของบุคลากรที่จาเป็น ในขั้นตอนการจัด เตรียม และแบ่งบรรจุ
ผลิตภัณฑ์ จนถึงการบันทึก และรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ข. ค่าเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ (Medical Supplies & Devices)
1. จัดทาบัญชีเวชภัณฑ์ตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Medical Supplies-1 (บัญชีเวชภัณฑ์ 1) หมายถึง เวชภัณฑ์สิ้นเปลือง
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

1.2 Medical Supplies-2 (บั ญชี เวชภั ณฑ์ 2) หมายถึ ง เวชภั ณฑ์ คงทนใช้ ภายนอก
ร่างกาย
1.3 Medical Supplies-3 (บั ญ ชี เวชภั ณ ฑ์ 3) หมายถึ ง เวชภั ณ ฑ์ คงทนใช้ ภ ายใน
ร่างกาย
1.4 Medical Supplies-Others (บัญชีเวชภัณฑ์อื่น)
2. จัดกลุ่มรายการย่อยและหน่วยรายการของบัญชีเวชภัณฑ์ ตามลักษณะการใช้งาน
หรือกลไกการทางาน หรือเทคโนโลยี หรือเนื้อเยื่อ-อวัยวะที่ทาการรักษา
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 เวชภั ณ ฑ์ ให้ รวมการจัด ซื้อ จั ดหา การขนส่ ง การเก็บ รักษาที่ได้มาตรฐาน
การใช้สถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ วัสดุภัณฑ์ ระบบสารสนเทศ และการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน
บริการของบุคลากรที่จาเป็นในขั้นตอนการเตรียม การปลอดเชื้อ การจัด การบรรจุ การส่งมอบ และการให้
ข้อมูลคาแนะนาแก่ผู้ป่วยเพื่อการใช้ที่ถูกต้องเหมาะสม หรือพร้อมที่แพทย์จะใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วย
ได้ รวมถึงการบันทึก และรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
3.2 เวชภั ณ ฑ์ ที่ ต้ อ งอาศั ย การออกแบบ การปรั บ แต่ ง และฝึ ก สอนการใช้ งาน
โดยบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่ใช่แพทย์ (อาทิ นักกายอุปกรณ์) ให้รวมบริการของบุคลากรเหล่านั้นไว้ด้วย
ค. ค่าบริการจัดหาโลหิตและส่วนประกอบของโลหิต (Blood & Blood Components)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Whole Blood
1.2 Packed Red Cell
1.3 Red Cell Products-Others
1.4 Platelet Concentrate
1.5 Platelet Products-Others
1.6 Granulocyte Concentrate
1.7 Granulocyte Products-Others
1.8 Fresh Frozen Plasma
1.9 Cryoprecipitate
1.10 Cryopoor Plasma
1.11 Plasma Products-Others
1.12 Plasma Derivatives
1.13 Blood & Blood Components-Others

๒๑๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
2.1 บริ ก ารโลหิ ต และส่ ว นประกอบของโลหิ ต รวมการจั ด หา การรั บ การส่ ง
การแยก การเตรียม และการเก็บรักษาตลอดจนการใช้สถานที่ อุปกรณ์ บุคลากร และงานบริหารจัดการในส่วน
ของธนาคารโลหิต
2.2 บริ การวิเคราะห์ ก ารเข้ากัน ได้ ของโลหิ ตให้ อยู่ ในบั ญ ชีบ ริ การตรวจวินิ จ ฉั ย
ทางห้องปฏิบัติการ
ง. ค่าตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ (Laboratory Investigation)
1. โครงสร้างมาตรฐานบัญชีบริการ

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
1.1 จัดกลุ่มรายการ และกลุ่มรายการย่อยของบริการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ
ตามเทคนิคการตรวจวิเคราะห์ หรือเทคโนโลยีทางห้องปฏิบัติการ
1.2 จั ดท าบั ญชี บริ การในระดั บหน่ วยรายการตามมาตรฐานระบบ Thai Medical
Laboratory Terminology โดย สานักพัฒนามาตรฐานระบบข้อมูลสุขภาพไทย (สมสท.) ส่วนงานมาตรฐาน
และบริการสารสนเทศระบบบริการสาธารณสุข (สมสส.) ในสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)
2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
บริ ก ารตรวจวิ นิ จ ฉั ย ทางห้ อ งปฏิ บั ติ ก าร รวมถึ งการใช้ ส ถานที่ เครื่ อ งมื อ วัส ดุ
อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ที่จาเป็น ระบบสารสนเทศห้องปฏิบัติการ บริการของนักเทคนิคการแพทย์ และบุคลากร
ในส่ ว นของห้ อ งปฏิ บั ติ ก ารตลอดจนงานบริ ห ารจั ด การเพื่ อ ให้ เกิ ด บริ ก ารดั ง กล่ า ว ตั้ ง แต่ ก ารเก็ บ
การส่ง การรักษา การเตรียม และการตรวจตัวอย่างจากร่างกาย จนถึงการบันทึกและรายงานผล
จ. ค่าตรวจวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา (Pathology)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Surgical Pathology
1.2 Histopathology
1.3 Molecular Pathology
1.4 Cellular Imaging
1.5 Cytopathology
1.6 Cytogenetic
1.7 Forensic-Postmortem Pathology
1.8 Anatomic Pathology-Telepathology
1.9 Others
2. จัดกลุ่ มรายการย่ อยและหน่ วยรายการของบริการตรวจวินิ จฉัย ทางพยาธิวิทยา
ตามประเภทของเทคโนโลยี เทคนิคทางพยาธิวิทยา และอวัยวะที่ทาการตรวจ
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริการตรวจวินิ จ ฉัย ทางพยาธิวิทยา รวมถึงการใช้ส ถานที่ เครื่องมื อ วัส ดุ
อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ที่จาเป็น ระบบสารสนเทศวิเคราะห์และจัดการทางพยาธิวิทยา บริการของพนั กงานเทคนิ ค
พยาธิวิทยา และบุ คลากรในส่วนของห้องปฏิบัติการ ตลอดจนงานบริหารจัดการเพื่อให้ เกิดบริการดังกล่าว
ตั้งแต่ ก ารเก็บ การส่ ง การรั ก ษา การเตรี ย ม และการตรวจตั ว อย่ างเนื้ อ เยื่ อจากร่ างกายจนถึงการบั น ทึ ก
และรายงานผล

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๑๗


3.2 บริ ก ารตรวจวิ นิ จ ฉั ย ทางพยาธิ วิ ท ยาแบบโทรเวชกรรมให้ ร วมบริ ก าร
ด้านสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการตรวจดังกล่าวไว้แล้ว
3.3 บริการตรวจวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา ไม่รวมบริการของพยาธิแพทย์
ฉ. ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาและภาพการแพทย์ (Diagnostic Radiology & Medical Imaging)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Radiography-General
1.2 Radiography-Dental
1.3 Bone Densitometry (DEXA)
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

1.4 Mammography
1.5 Computed Tomography (CT)
1.6 Magnetic Resonance Imaging (MRI)
1.7 Ultrasound Imaging (US)
1.8 Diagnostic Radiology-Teleradiology
1.9 Diagnostic Radiology-Others
2. จั ด กลุ่ ม รายการย่ อย และหน่ ว ยรายการของบริ การตรวจวินิ จ ฉัย ทางรังสี วิท ยา
ตามประเภทของเทคโนโลยีเทคนิคทางรังสีวิทยา-ภาพการแพทย์ และอวัยวะที่ทาการตรวจ
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริ ก ารตรวจวิ นิ จ ฉั ย ทางรั ง สี วิ ท ยา รวมถึ งการใช้ ส ถานที่ เครื่ อ งมื อ วั ส ดุ
อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ที่จาเป็น ระบบสารสนเทศวิเคราะห์ประมวลบันทึกผลที่เกี่ยวข้อง บริการของนักรังสีเทคนิค
และบุ คลากรในส่ วนงานที่ให้ บ ริการตลอดจนงานบริหารจัดการเพื่อให้ เกิดบริการดังกล่ าว ตั้งแต่การรับตัว
การเตรียมตัว และการดูแลผู้ป่วยหลังบริการ จนถึงการบันทึกและรายงานผล
3.2 บริการตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาที่ระบุใช้สารทึบแสง หรือสารกัมมันตรังสี
หรือสารอื่นใดในการตรวจ ให้รวมสารเหล่านั้นในบริการด้วย
3.3 บริ ก ารตรวจวิ นิ จ ฉั ย ทางรั ง สี วิ ท ยาแบบโทรเวชกรรม ให้ ร วมบริ ก าร
ด้านสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการตรวจดังกล่าวไว้แล้ว
3.4 บริการตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา ไม่รวม บริการของรังสีแพทย์
ช. ค่าบริการรังสีร่วมรักษา (Interventional Radiology)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Vascular Intervention (Endovascular Procedures)
1.2 Non-vascular Intervention (Image-guided Procedures)
1.3 Interventional Radiology-Others
2. จัดกลุ่ มรายการย่ อย และหน่ วยรายการของบริการรังสีร่วมรักษา ตามประเภท
ของเทคโนโลยีเทคนิคทางภาพการแพทย์ที่ใช้ (อาทิ Fluoroscopy, Ultrasound, CT) และอวัยวะที่ทาการ
ตรวจรักษา
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริการรังสีร่วมรักษา รวมถึง การใช้สถานที่ เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ เวชภัณฑ์
ที่จาเป็น ระบบสารสนเทศวิเคราะห์ ประมวล บันทึกผลที่เกี่ยวข้อง บริการของนักรังสีเทคนิค และบุคลากรอื่น

๒๑๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ในส่วนงานที่ให้บริการ ตลอดจนงานบริหารจัดการเพื่อให้เกิดบริการดังกล่าว ตั้งแต่การรับตัว การเตรียมตัว
และการดูแลผู้ป่วยหลังบริการ จนถึงการบันทึกและรายงานผล
3.2 บริการรังสีร่วมรักษาที่ต้องใช้ส ารทึบ แสง หรือสารอื่นใดในการตรวจรักษา
ให้รวมสารเหล่านั้นในบริการด้วย
3.3 บริการรังสีร่วมรักษา ไม่รวม บริการของรังสีแพทย์
ซ. ค่าบริการรังสีรักษา (Radiotherapy)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 External Beam Radiation

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
1.2 Internal Radiation
1.3 Radiotherapy-Others
2. จั ด กลุ่ ม รายการย่ อ ย และหน่ ว ยรายการของบริ ก ารรั ง สี รั ก ษา ตามประเภท
ของเทคโนโลยีเทคนิครังสีรักษาที่ใช้ และอวัยวะที่ทาการตรวจรักษา
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริการรังสี รักษา รวมถึงการใช้ส ถานที่ เครื่องมือ วัส ดุ อุป กรณ์ เวชภั ณ ฑ์
ที่จาเป็ น ระบบสารสนเทศวิเคราะห์ ว างแผนรังสี รักษา บริการของนั กรังสีเทคนิ ค นั กฟิสิ กส์ และบุ คลากร
ในส่วนงานที่ให้บริการตลอดจนงานบริหารจัดการเพื่อให้เกิดบริการดังกล่าว ตั้งแต่การรับตัว การเตรียมตัว
และการดูแลผู้ป่วยหลังบริการ จนถึงการบันทึกและรายงานผล
3.2 บริ ก ารรั ง สี รั ก ษาที่ ต้ อ งใช้ ส ารกั มมั น ตรั ง สี หรื อ สารอื่ น ใดร่ ว มด้ ว ย
ให้รวมสารเหล่านั้นในบริการด้วย
3.3 บริการรังสีรักษา ไม่รวม บริการของรังสีแพทย์
ฌ. ค่าบริการเวชศาสตร์นิวเคลียร์ (Nuclear Medicine)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Nuclear Medicine-Diagnostic
1.2 Nuclear Medicine-Therapeutic (Systemic Radiation)
1.3 Nuclear Medicine-Others
2. จั ด กลุ่ ม รายการย่ อ ย และหน่ ว ยรายการของบริ ก ารเวชศาสตร์ นิ ว เคลี ย ร์
ตามประเภทของเทคโนโลยีเทคนิคเวชศาสตร์นิวเคลียร์ที่ใช้ และอวัยวะที่ทาการตรวจรักษา
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริการเวชศาสตร์นิวเคลียร์ รวมถึง การใช้สถานที่ เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์
เวชภัณฑ์ที่จาเป็น ระบบสารสนเทศเพื่อวิเคราะห์ ประมวล บันทึกผลที่เกี่ยวข้อง บริการของนักรังสีเทคนิค
และบุคลากรในส่วนงานที่เกี่ยวข้องตรง ตลอดจนงานบริหารจัดการเพื่อให้เกิดบริการดังกล่าว ตั้งแต่การรับตัว
การเตรียมตัว การรักษา และการดูแลผู้ป่วยหลังเสร็จสิ้นบริการ จนถึงการบันทึก และรายงานผล
3.2 บริการเวชศาสตร์นิวเคลียร์ รวมการใช้สารกัมมันตรังสี หรือสารอื่นใดเพื่อการ
ให้บริการดังกล่าว
3.3 บริการตรวจวินิจฉัยทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์แบบโทรเวชกรรม ให้รวมบริการ
ด้านสารสนเทศ และการสื่อสารเพื่อการตรวจดังกล่าวไว้แล้ว
3.4 บริ ก ารตรวจวิ นิ จ ฉั ย ทางรั ง สี วิ ท ยา ไม่ ร วมบริ ก ารของแพทย์ เวชศาสตร์
นิวเคลียร์

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๑๙


ญ. ค่าตรวจวินิจฉัยโดยวิธีพิเศษอื่น (Special Diagnostics)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Clinical Physiology
1.2 Endoscopy
1.3 Ophthalmological Diagnostics
1.4 Immunodiagnostics
1.5 Sleep Lab
1.6 Thermography
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

1.7 Special Diagnostics-Others


2. จั ด กลุ่ ม รายการย่ อ ย และหน่ ว ยรายการของบริ ก ารตรวจวินิ จ ฉั ย โดยวิธี พิ เศษ
ตามประเภทของเทคโนโลยีเทคนิคที่ใช้ และอวัยวะที่ทาการตรวจ
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริ ก ารตรวจวิ นิ จ ฉั ย ด้ ว ยวิ ธี พิ เศษ รวมถึ งการใช้ ส ถานที่ เครื่ อ งมื อ วั ส ดุ
อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ที่จาเป็น ระบบสารสนเทศวิเคราะห์ ประมวล บันทึกผลที่เกี่ยวข้อง และบริการของบุคลากร
ในส่วนงานที่เกี่ยวข้องตรง ตลอดจนงานบริหารจัดการเพื่อให้เกิดบริการดังกล่าว ตั้งแต่การรับตัว การเตรียมตัว
การตรวจ และการดูแลผู้ป่วยหลังการตรวจจนถึงการบันทึกและรายงานผล
3.2 บริ ก ารตรวจวิ นิ จ ฉั ย ด้ ว ยวิ ธี พิ เศษ ที่ ต้ อ งใช้ ส ารอื่ น ใดร่ ว มด้ ว ยให้ ร วมสาร
เหล่านั้นในบริการนั้น
3.3 บริการตรวจวินิจฉัยโดยวิธีพิเศษ ไม่รวมบริการของแพทย์ผู้ทาการตรวจ
3.4 บริ ก ารตรวจวิ นิ จ ฉั ย โดยวิ ธี พิ เศษ อาจจั ด ในรู ป แบบบริ ก ารชุ ด เหมาจ่ า ย
การรักษาพยาบาลที่รวมบริการของแพทย์ผู้ทาการตรวจด้วย
3.5 บริการการตรวจต้ องสอดคล้องกับประเภทและศักยภาพของสถานพยาบาล
ที่ได้รับอนุญาต
3.6 การตรวจด้วยอุปกรณ์ตรวจวินิจฉัยในห้องตรวจโรคทั่วไป อาทิ กล้องตรวจช่องหู
(Otoscope) กล้องตรวจตา (Ophthalmoscope) อุปกรณ์ตรวจทวารหนัก (Proctoscope) อุปกรณ์ตรวจช่องจมูก
(Nasal Speculum) อุปกรณ์ตรวจภายใน (Vaginal speculum) ถือเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจร่างกายผู้ป่วย
ทั่วไปของแพทย์สาขาต่าง ๆ ไม่ถือเป็นการตรวจวินิจฉัยด้วยวิธีพิเศษ
ฎ. ค่าเครื่องมือทางการแพทย์ (Medical Equipment Services)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Point-of-Care Equipment
1.2 Life Support Equipment
1.3 Emergency Resuscitation Equipment
1.4 Operating-Delivery Room Equipment
1.5 Special Therapeutic Equipment
1.6 Medical Equipment Services-Others
2. จั ด กลุ่ ม รายการย่ อ ย และหน่ ว ยรายการของบริ ก ารเครื่ อ งมื อ ทางการแพทย์
ตามประเภทของเทคโนโลยี และระบบอวัยวะที่ทาการตรวจรักษา

๒๒๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริ ก ารเครื่ อ งมื อ ทางการแพทย์ รวมถึ ง การใช้ เครื่ อ งมื อ วั ส ดุ เวชภั ณ ฑ์
ที่ จ าเป็ น สถานที่ ว างเครื่ อ งมื อ ระบบสารสนเทศสนั บ สนุ น ที่ เกี่ ย วข้ อ ง และบริ ก ารบุ ค ลากรที่ เกี่ ย วข้ อ ง
ตลอดจนงานบริ ห ารจั ด การตั้ งแต่ ก ารขนส่ ง การเตรีย ม การปลอดเชื้ อ การปรั บ ตั้ ง และการดู แ ลทั่ ว ไป
เพื่อให้เกิดบริการของเครื่องมือดังกล่าวตามมาตรฐาน จนถึงการบันทึกและรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
3.2 บริการเครื่องมือทางการแพทย์ ต้องกาหนดหน่วยของบริการที่ชัดเจนต่อครั้ง
ต่อช่วงเวลา หรือต่อการตรวจรักษาจนเสร็จสิ้น ซึ่งต้องสอดคล้องการใช้งานและเป็นธรรม
3.3 บริการเครื่องมือแพทย์ต้องสอดคล้องประเภทและศักยภาพสถานพยาบาล

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ที่ได้รับอนุญาต
ฏ. ค่าห้องผ่าตัดและห้องคลอด (Operating Room & Delivery Room Services)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 ห้องผ่าตัด (Operating Room)
1.2 ห้องคลอด (Delivery Room)
1.3 ห้องผ่าตัดเล็ก หรือห้องหัตถการ (Minor Surgery Operating Room)
1.4 ค่าห้องหรือค่าเตียงที่ใช้ในการสังเกตอาการหรืออื่นๆ (Recovery room)
2. จั ด กลุ่ ม รายการย่ อ ย และหน่ ว ยรายการของบริ ก ารห้ อ งผ่ าตั ด และห้ อ งคลอด
ตามประเภทของเทคโนโลยีเฉพาะทาง หรือสาขาเฉพาะทางของแพทย์
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริก ารห้ อ งผ่ าตั ด และห้ อ งคลอด รวมถึ งการใช้ ห้ อ ง เตี ย ง สาธารณู ป โภค
ระบบสารสนเทศสนับสนุนการผ่าตัด หรือการคลอด หรือช่วยดูแลผู้ป่วยระหว่างการรักษาพยาบาลดังกล่าว
บริ ก ารของพยาบาล ผดุ งครรภ์ และบุ ค ลากรที่ เกี่ ย วข้ อ งโดยตรงเพื่ อ ให้ ส ามารถดู แ ลผู้ ป่ ว ยรั บ การผ่ าตั ด
หรือคลอดบุตรได้ตามมาตรฐาน ตั้งแต่ขั้นตอนเตรียมการ การผ่าตัด การทาหัตถการ ตลอดจนงานบริหารจัดการ
งานปลอดเชื้ อ งานปรับ ตั้ ง งานดู แ ลทั่ ว ไป เพื่ อ ให้ เกิ ดบริก ารดังกล่ าวจนถึงการบั น ทึ ก และรายงานข้ อ มู ล
ที่เกี่ยวข้อง
3.2 บริการห้องผ่าตัดเล็ก หรือห้องทาหัตถการ ต้องไม่ใช่การใช้ห้องตรวจผู้ป่วย
ห้องสังเกตอาการ หรือเตียงตรวจในห้องฉุกเฉินในการทาหัตถการข้างเตียง (Bed-Side) หรือการใช้ห้องตรวจ
โดยวิธีพิ เศษที่ ก าหนดให้ รวมอยู่ในบริก ารตรวจวินิ จ ฉัยโดยวิธีพิ เศษ (อาทิ บริก ารการตรวจโดยกล้ อ งส่ อ ง
กระเพาะอาหาร) หรือการใช้ห้องเพื่อการตรวจรักษาด้วยเครื่องมือแพทย์ที่กาหนดให้รวมอยู่ในบริการเครื่องมือ
แพทย์
3.3 บริ ก ารห้ อ งผ่ า ตั ด ต้ อ งสอดคล้ อ งประเภท และศั ก ยภาพสถานพยาบาล
ที่ได้รับอนุญาต
3.4 บริ ก ารห้ อ งผ่ า ตั ด และห้ อ งคลอด ก าหนดหน่ ว ยของบริ ก ารต่ อ ช่ ว งเวลา
ของการใช้บริการจริงหรือต่อการผ่าตัด หรือต่อหัตถการจนเสร็จสิ้น
ฐ. ค่าบริการทางทันตกรรม (Dental Services)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Dental Preventive Services
1.2 Dental Surgery

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๒๑


1.3 Endodontic Treatments
1.4 Periodontal Treatments
1.5 Prosthodontic Treatments-Adjustment & Repairs
1.6 Prosthodontic Treatments-Fixed
1.7 Restorative Treatments
1.8 หัตถการทางด้านทันตกรรมอื่นๆ
2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
2.1 บริการทางทันตกรรม รวมถึงการใช้ห้องเตียง เครื่องมือ อุปกรณ์ ยา เวชภัณฑ์
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ระบบสารสนเทศสนับสนุนที่จาเป็น และบริการของบุคลากรสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถตรวจรักษา


ทางทันตกรรมตามที่ระบุอย่างได้มาตรฐาน ตั้งแต่ขั้นตอนเตรียมการ การทาหัตถการ และฟื้นตัว ตลอดจนงาน
บริหารจัดการ งานปลอดเชื้อ งานปรับตั้งเครื่องมือ งานดูแลทั่วไป เพื่อให้เกิดบริการดังกล่าวจนถึงการบันทึก
และรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
2.2 บริการทางทันตกรรม ไม่รวมบริการของทันตแพทย์
ฑ. ค่าบริการทางการพยาบาล-ผดุงครรภ์ (Nursing Services)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 บริการทางการพยาบาลห้องฉุกเฉิน (Emergency Room Nursing Service)
1.2 บริการทางการพยาบาลผู้ป่วยนอก (Outpatient Clinic Nursing Service)
1.3 บริการทางการพยาบาลผู้ป่วยห้องสังเกตอาการ (Observe Room Nursing Service)
1.4 บริการทางการพยาบาลผู้ป่วยในทั่วไป (Standard Care Inpatient Nursing Service)
1.5 บริการทางการพยาบาลผู้ป่วยในกึ่งวิกฤต (Step-down Care Nursing Service)
1.6 บริการทางการพยาบาลผู้ป่วยในวิกฤต (Intensive-Critical Care Nursing Service)
1.7 บริ การทางการพยาบาลผู้ ป่ วยในห้ องแยก (Isolation Room Inpatient Nursing
Service)
1.8 บริการทางการพยาบาลดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (Home Health Care Nursing Service)
1.9 บริการทางการพยาบาลผดุงครรภ์อื่น (Nursing Services-Others)
2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
2.1 บริการทางการพยาบาล หมายถึง บริการของพยาบาลและบุคลากรสนับสนุน
ทางการพยาบาล (อาทิ ผู้ ช่วยพยาบาล) ที่ครอบคลุมงานดูแล บริบาลผู้ป่วยตามมาตรฐานวิชาชีพของสภา
การพยาบาล โดยจาแนกประเภทและระดับตามจุดให้การรักษาพยาบาล
2.2 บริ ก ารทางการพยาบาลผู้ ป่ ว ยนอก ก าหนดหน่ ว ยของบริก ารเป็ น ต่ อ ครั้ ง
ของการใช้บริการกรณีผู้ป่วยนอก จนเสร็จสิ้นการตรวจรักษาทั้งหมด อนึ่ง การใช้บริการกรณีผู้ป่วยนอกครั้ง
หนึ่งอาจต้องผ่านจุดบริการผู้ป่วยนอกมากกว่า หนึ่งประเภท (อาทิ จากคลินิกศัลยกรรมไปคลินิกอายุรกรรม)
ให้ถือเป็นการใช้บริการเพียงครั้งเดียว
2.3 บริการทางการพยาบาลกรณี ผู้ ป่ว ยใน กาหนดหน่ วยของบริการเป็นต่อวัน
(24 ชั่ ว โมง) ของการรั บ ตั ว ไว้ เป็ น ผู้ ป่ ว ยใน อนึ่ ง ในการใช้ บ ริก ารกรณี ผู้ ป่ ว ยในรอบ 24 ชั่ ว โมง (1 วัน )
ผู้ป่วยอาจต้องใช้ห้องพักผู้ป่วยในมากกว่าหนึ่งประเภทตามความจาเป็น (อาทิ จากห้องผู้ป่วยวิกฤตย้ายไปห้อง
ผู้ป่วยปกติ) ให้ถือเป็นบริการของแต่ละประเภทตามสัดส่วนชั่วโมง

๒๒๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


2.4 บริก ารทางการพยาบาลกรณี ห้ อ งสั งเกตอาการ ก าหนดหน่ ว ยของบริ ก าร
เป็นต่อชั่วโมง สูงสุดไม่เกิน 6 ชั่วโมง
2.5 การบริการทางการพยาบาลอื่นๆ
ฒ. ค่าบริการทางเภสัชกรรม (Pharmacy Services)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 บริการทางเภสัชกรรมผู้ป่วยนอก (Outpatient Pharmacy Service)
1.2 บริการทางเภสัชกรรมผู้ป่วยใน (Inpatient Pharmacy Service)
1.3 บริ ก ารติ ด ตาม และจั ด การการใช้ ย าส าหรั บ ผู้ ป่ ว ยที่ มี ค วามเสี่ ย งจากยา

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
(Medication Therapy Management Service)
1.4 บริการบริ บ าลทางเภสั ช กรรมผู้ ป่ ว ยใน (Inpatient Pharmaceutical Care
Service)
1.5 บริการทางเภสัชกรรมเตรียมยาพิเศษ ได้แก่ ยาปลอดเชื้อ เคมีบาบัด และสารอาหาร
ทางหลอดเลือด (Special Drug Preparation (Aseptic-Chemotherapy Drug & Parenteral Nutrition)
1.6 ค่าบริการทางเภสัชกรรมอื่นๆ (Other Pharmaceutical Services)
2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
2.1 บริ การทางการเภสั ช กรรม หมายถึง บริการของเภสั ช กรรม และบุ คลากร
สนับสนุนโดยตรง ที่ครอบคลุมกระบวนการจัดยาตามใบสั่งแพทย์ตั้งแต่ การตรวจสอบความถูกต้องของใบสั่งยา
ตรวจสอบอันตรกิริยาของยา (Drug Interaction) และปัญหาจากการใช้ยาของผู้ป่วย แก้ไข และป้องกันปัญหา
จากการใช้ยาตามใบสั่งยา ตรวจสอบความถูกต้องของรายการยาที่จัดตามใบสั่งยา ไปจนถึงการส่งมอบ
2.2 ยาพร้อมคาแนะนาให้แก่ผู้ป่วยตามมาตรฐานสภาเภสัชกรรม โดยรวมการใช้
สถานที่อุปกรณ์ และระบบสารสนเทศทางเภสัชกรรมที่จาเป็น
2.3 บริการทางเภสัชกรรมผู้ป่วยนอก กาหนดหน่วยของบริการเป็น ต่อใบสั่งยา
2.4 บริการทางเภสัชกรรมผู้ป่วยใน กาหนดหน่วยของบริการเป็น ต่อใบสั่งยา
2.5 บริการบริหารการใช้ยาผู้ป่วยความเสี่ยงสูง กาหนดหน่วยของบริการเป็นต่อครั้ง
การปรึกษา
2.6 บริการบริบาลทางเภสั ชกรรมผู้ป่ วยใน กาหนดหน่ วยของบริการเป็น ต่อวัน
(24 ชั่วโมง) ของการรับตัวไว้เป็นผู้ป่วยใน
2.7 บริการทางเภสัชกรรมเตรียมยา กาหนดหน่วยบริการเป็น ต่อชนิด ต่อครั้ง
ณ. ค่าบริการกายภาพบาบัด (Physical Therapy Services)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Manual Therapy
1.2 Exercise Therapy
1.3 Gait Training
1.4 Traction
1.5 Hot-Cold Pack
1.6 Short Wave Diathermy
1.7 Ultrasound

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๒๓


1.8 Laser Therapy
1.9 Shock Wave
1.10 Electrical Stimulation-Transcutaneous Nerve (TENS)
1.11 Electrical Stimulation-Muscle
1.12 Patient Education-Physical Therapy
1.13 Physical Therapy-Others
2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
2.1 บริการกายภาพบ าบัด รวมถึงการใช้ส ถานที่ เครื่องมือ อุป กรณ์ เวชภัณ ฑ์
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ที่จาเป็น และระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนบริการของนักกายภาพบาบัด และบุคลากรสนับสนุนอื่น


ที่จาเป็น เพื่อให้เกิดบริการที่ได้มาตรฐาน
2.2 บริ ก ารด้ า นกายภาพบ าบั ด ไม่ ร วมบริ ก ารของแพทย์ ผู้ สั่ ง การรั ก ษาด้ ว ย
กายภาพบาบัด
ด. ค่าบริการกิจกรรมบาบัด (Occupational Therapy)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Sensory Training
1.2 Hand Function Training
1.3 Swallowing Training
1.4 Activity of Daily Living (ADL) Training
1.5 Cognitive Function Training
1.6 Education-Occupational Therapy
1.7 Occupational Therapy-Others
2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
2.1 บริการกิจ กรรมบ าบั ด รวมถึงการใช้ส ถานที่ เครื่องมื อ อุป กรณ์ เวชภั ณ ฑ์
ที่จาเป็น และระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนบริการของนักกิจกรรมบาบัดและบุคลากรสนับสนุนอื่น
ที่จาเป็น เพื่อให้เกิดบริการที่ได้มาตรฐาน
2.2 บริ ก ารด้ า นกิ จ กรรมบ าบั ด ไม่ ร วมบริ ก ารของแพทย์ ผู้ สั่ ง การรั ก ษาด้ ว ย
กิจกรรมบาบัด
ต. ค่าบริการจิตวิทยาคลินิก (Clinical Psychology)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Psychological Counselling-General
1.2 Psychological Assessment
1.3 Psychological Treatment-Rehabilitation
1.4 Behavior Therapy
1.5 Clinical Psychology Services-Others

๒๒๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
2.1 บริการจิตวิท ยาคลิ นิก รวมถึงการใช้ส ถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ เวชภัณ ฑ์
ที่จาเป็น และระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนบริการของนักจิตวิทยาคลินิก และบุคลากรสนับสนุนอื่น
ที่จาเป็น เพื่อให้เกิดบริการที่ได้มาตรฐาน
2.2 บริการจิตวิทยาคลินิก ไม่รวมบริการของแพทย์ผู้ สั่งการรักษาด้วยจิตวิทยา
คลินิก
ถ. ค่ า บริ ก ารการแก้ ไ ขความผิ ด ปกติ ข องการสื่ อ ความหมาย (Communication
Disorders Services)

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 บริการแก้ไขการได้ยิน และการทรงตัว
1.2 บริการแก้ไขการพูด และการกลืน
1.3 บริการแก้ไขความผิดปกติของการสื่อความหมายอื่นๆ
2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
2.1 บริการแก้ไขความผิดปกติการสื่อความหมาย รวมถึง การใช้สถานที่ เครื่องมือ
อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ที่จาเป็น และระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน บริการของนักแก้ไขความผิดปกติการสื่อ
ความหมาย และบุคลากรสนับสนุนอื่นที่จาเป็น เพื่อให้เกิดบริการที่ได้มาตรฐาน
2.2 บริการแก้ไขความผิดปกติการสื่อความหมาย ไม่รวมบริการของแพทย์ผู้สั่งการ
รักษาด้วยการแก้ไขความผิดปกติการสื่อความหมาย
ท. ค่าบริการเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก (Cardio-thoracic Technology Services)
ให้รวมอยู่ในบริการทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจรักษาโรคหัวใจและทรวงอก
ธ. ค่าบริการกายอุปกรณ์ (Prosthetic and Orthotic Services)
๑. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
๑.๑ Prosthetic Service
๑.๒ Orthotic Service
๑.๓ Pedorthic Service
๑.๔ Mobility Aid Service
๒. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
๒.๑ บริการกายอุปกรณ์ รวมถึง การใช้สถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ เวชภัณ ฑ์
ที่จาเป็น และระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนบริการของนักกายอุปกรณ์ และบุคลากรสนับสนุนอื่น
ที่จาเป็น เพื่อให้เกิดบริการที่ได้มาตรฐาน
๒.๒ บริการกายอุปกรณ์ ไม่รวมบริการของแพทย์ผู้สั่งการรักษาด้วยกายอุปกรณ์
น. ค่าบริการทัศนมาตรศาสตร์ (Optometry)
บ. ค่าบริการแพทย์แผนไทย (Traditional Thai Medicine Services)
ป. ค่าบริการแพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine Services)
ผ. ค่าบริการไคโรแพรคติก (Chiropractic Services)
ฝ. ค่าบริการชุดเหมาจ่ายการรักษาพยาบาล (Packaged Medical Services)

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๒๕


1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 ชุดบริการตรวจวินิจฉัยเฉพาะ (Specific Diagnostic Packages)
1.2 ชุดบริการรักษาพยาบาลเฉพาะ (Specific Treatment Packages)
1.3 ชุดบริการตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องมือพิเศษ (Special Equipment Diagnostic Packages)
1.4 ชุดบริการรักษาพยาบาลด้วยเครื่องมือพิเศษ (Special Equipment Treatment Packages)
1.5 ชุดบริการตรวจวินิจฉัยร่วมทางภาพการแพทย์ (Combined Diagnostic Imaging
Packages)
1.6 ชุดบริการหัตถการโดยแพทย์ (Physician Procedural Packages)
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

1.7 ชุ ดบริ การหั ตถการทางรั งสี ร่ วมรั กษา (Physician Interventional Radiology
Packages)
1.8 ชุดบริการผ่าตัดโดยแพทย์ (Physician Surgical Packages)
1.9 ชุดบริการรักษาพยาบาลทางสูติกรรมโดยแพทย์ (Physician Maternity Care
Packages)
1.10 ชุดบริการตรวจสุขภาพ เสริมสุขภาพและป้องกันโรค (Checkup-Wellness-
Preventive Care Packages)
1.11 ชุดบริการรักษาพยาบาลอื่น (Packaged Medical Services-Others)
2. จัดกลุ่มรายการย่อย และหน่วยรายการของบริการชุดเหมาจ่ายการรักษาพยาบาล
ตามประเภทของเทคโนโลยีการตรวจ หรือการรักษา อิงสาขาทางการแพทย์ หรืออวัยวะที่ทาการตรวจรักษา
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริการชุดเหมาจ่ายการรักษาพยาบาล ให้ รวมถึงการใช้สถานที่ ห้ องตรวจ
รักษา โครงสร้างพื้นฐานที่ได้มาตรฐาน เครื่องมือ อุปกรณ์ เวชภัณ ฑ์ วัส ดุภัณฑ์ ระบบสารสนเทศที่จาเป็น
วิชาชีพและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการบริหารจัดการ ตั้งแต่ขั้นเตรียมการ ขั้นปฏิบัติการและหลังเสร็จสิ้น
บริการ จนถึงการบันทึก และรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
3.2 บริการชุดเหมาจ่ายการรักษาพยาบาล ต้องรวมบริการหลั กที่ ชุดเหมาจ่าย
นั้นระบุ และหากเป็นชุดบริการของแพทย์ อาจจะรวมหรือไม่รวมบริการของแพทย์ แต่ทั้งนี้ต้องแจ้งให้ผู้ป่วย
ทราบก่อน
3.3 บริก ารชุ ด เหมาจ่ ายการรั ก ษาพยาบาลที่ ต้ อ งรั บ ตั ว ผู้ ป่ ว ยไว้ เป็ น ผู้ ป่ ว ยใน
ของสถานพยาบาล ต้องรวมจานวนวันที่ผู้ป่วยที่ต้องพักรักษาตัวจริงตามความจาเป็นทางการแพทย์
พ. ค่าบริการทางการแพทย์อื่น (Other Medical Services)
ฟ. ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตรวจรักษาทั่วไป (Physician Evaluation & Management
Services)
ภ. ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทาศัลยกรรมและหัตถการ (Physician Surgery & Procedure)
ม. ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม วิสัญญีแพทย์ (Physician Anesthesiology Services)

๒๒๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ย. ค่าผู้ประกอบวิชาชีพทันตแพทย์ (Dentist Fees)
ร. ค่าผู้ประกอบวิชาชีพอื่นๆ (Other professional fees)
4.2 ค่ า บริ ก ารอื่ น ตามบริ ก ารที่ จั ด ให้ มี ของสถานพยาบาล (Other Hospital Services)
หมายถึ ง บริการของสถานพยาบาลเพื่ อสนั บสนุ น การให้ บริ การทางการแพทย์ หรื อเพื่ ออ านวยความสะดวก
หรือ เป็นบริการเสริม หรือเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ประกอบด้วยบัญชีบริการ ดังนี้
ก. ค่าห้องพักผู้ป่วยใน (Inpatient Room)
1. จัดทาบัญชีบริการห้องพักผู้ป่วยในตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 ห้องพักผู้ป่วยในทั่วไป (Standard Care Inpatient Room)

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
1.2 ห้องพักผู้ป่วยในกึ่งวิกฤต (Step-down Care Inpatient Room)
1.3 ห้องพักผู้ป่วยในวิกฤต (Intensive Care Inpatient Room)
1.4 ห้องพักผู้ป่วยในแบบแยกเพื่อป้องกันการแพร่หรือการติดเชื้อ (Isolation
Inpatient Room)
จั ด หน่ ว ยรายการของบั ญ ชี บ ริ ก ารห้ อ งผู้ ป่ ว ยใน ตามจ านวนเตี ย งต่ อ ห้ อ ง
และจานวนพยาบาลต่อเตียง
2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
2.1 บริการห้องพักผู้ป่วยใน รวมถึงเตียง สาธารณูปโภค และอุปกรณ์มาตรฐาน
เพื่อการบริบาลผู้ป่วยที่สอดคล้องกับประเภทของห้องพัก ตลอดจนห้องน้า เครื่องใช้ สิ่งอานวยความสะดวก
ที่ จ าเป็ น ส าหรับ การพั ก รั กษาตัว ในสถานพยาบาล และบริ ก ารของบุ ค ลากรที่ ดู แ ลให้ ห้ อ งพั กอยู่ ในสภาพ
ถูกสุขลักษณะตามมาตรฐานสถานพยาบาลและพร้อมใช้
ข. ค่าห้องพักสังเกตอาการ (Observe Room)
จัดทาบัญชีบริการห้องพักสังเกตอาการเพียงบัญชีเดียว คือ Observe Room
จัดทาหน่วยรายการตามจานวนเตียงต่อห้องพักสังเกตอาการ
ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
1. บริการห้องพักสังเกตอาการ รวมถึงเตียง สาธารณูปโภค และอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อการ
สังเกตอาการของผู้ป่วย ตลอดจนห้องน้า เครื่องใช้ สิ่งอานวยความสะดวกที่จาเป็นและบริการของบุคลากรที่ดูแล
ให้ ห้ องพั กอยู่ ในสภาพถู กสุ ขลั กษณะตามมาตรฐานสถานพยาบาลและพร้ อมใช้ บริ การห้ องพั กสั งเกตอาการ
ต้องไม่ใช่การใช้เตียงตรวจในห้องฉุกเฉิน หรือในห้องตรวจผู้ป่วยนอก
2. บริการห้องพักสังเกตอาการ กาหนดหน่วยของบริการเป็นต่อชั่วโมง แต่ไม่เกิน 6
ชั่วโมง
ค. ค่าอาหารผู้ป่วยใน (Inpatient Foods)
1. จัดทาบัญชีบริการอาหารผู้ป่วยใน ตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 อาหารผู้ ป่ ว ยในมาตรฐาน (Standard Inpatient Food) หมายถึ ง อาหาร
ประจาวันที่สถานพยาบาลจัดให้แก่ผู้ป่วยเองเป็นมาตรฐาน

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๒๗


1.2 อาหารทางการแพทย์ (Special Inpatient Food) หมายถึง อาหารที่เตรียม
ขึ้น ส าหรั บ ผู้ ป่ ว ยที่ มี ส ภาวะผิ ด ปกติ ท างร่ างกาย เป็ น เหตุ ให้ มิ ส ามารถบริโ ภคอาหารทางปากได้ ต ามปกติ
รวมถึงอาหารสาเร็จรูปที่ขึ้นทะเบียนกับ สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อให้ทางสายหรือเป็นอาหาร
ที่ทางสถานพยาบาลจัดเตรียมขึ้นเอง ตามมาตรฐานทางโภชนาการเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว
จัดทาหน่วยรายการตามลักษณะของอาหาร อาทิ ธรรมดา อ่อน เหลว หรือตามลักษณะ
ของสารอาหาร อาทิ ไขมันต่า โปรตีนสูง
2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
2.1 บริการอาหารผู้ป่วยใน หมายถึง อาหารที่จัดเตรียมเป็นมาตรฐานสาหรับผู้ป่วยใน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ของสถานพยาบาล รวมถึ งอุ ปกรณ์ เครื่ องใช้ ที่ จ าเป็ น ตลอดจนการบริ หารจั ดการ และบุ คลากรที่ เกี่ ยวข้ อง
ในการให้บริการอาหารแก่ผู้ป่วย
2.2 บริการอาหารผู้ป่วยใน กาหนดหน่วยของบริการเป็น ต่อมื้อ หรือต่อวัน
ง. ค่าอาหารเพื่อวัตถุประสงค์อื่น (Special Purpose Nutrition) หมายถึง บริการอาหาร
ส าหรั บ บุ คคลที่ มีวัตถุ ป ระสงค์ในการบริ โภคอาหารเป็ น พิ เศษ อาทิ อาหารส าหรับ ผู้ ที่ ต้ องการลดน้าหนั ก
หรืออาหารเพื่อการดูแลสุขภาพ
โครงสร้างมาตรฐานบัญชีบริการ สถานพยาบาลสามารถกาหนดได้ตามความเหมาะสม
จ. ค่าผลิ ต ภั ณ ฑ์ เสริ ม อาหาร (Dietary Supplement Products) หมายถึ ง ผลิ ต ภั ณ ฑ์
ที่ขึ้น ทะเบี ย นเป็ น ผลิ ต ภัณ ฑ์ เสริม อาหารโดยส านั กงานคณะกรรมการอาหารและยา ใช้บ ริโภคนอกเหนื อ
จากอาหารตามปกติ โดยมีความมุ่งหมายเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ อาทิ น้ามันปลาแคปซูล และใยอาหารอัดเม็ด
ฉ. ค่าพาหนะเดินทางสาหรับผู้ป่วย (Patient Transport Services)
1. จัดทาบัญชีบริการพาหนะเดินทางสาหรับผู้ป่วยตามกลุ่มรายการ และหน่วยรายการ
มาตรฐาน ดังนี้
1.1 รถพ ยาบ าลฉุ ก เฉิ น ระดั บ สู ง (Ambulance-Advanced Life Support)
หมายถึ ง รถพยาบาลฉุ ก เฉิ น ที่ ได้ ม าตรฐานระดั บ สู ง ทั้ ง โครงสร้ า งรถ อุ ป กรณ์ ช่ ว ยชี วิ ต เครื่ อ งมื อ ยา
และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ สามารถรองรับการตรวจรักษาพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตโดยแพทย์สาขาเวชศาสตร์
ฉุก เฉิ น หรื อ แพทย์ เฉพาะทางสาขาที่ ส อดคล้ อ งภาวะวิก ฤตของผู้ ป่ ว ยได้ เต็ ม ที่ และนั ก ปฏิ บั ติก ารฉุ กเฉิ น
การแพทย์ (Paramedic)
1.2 รถพยาบาลฉุ ก เฉิ น ระดั บ มาตรฐาน (Ambulance-Basic Life Support)
หมายถึง รถพยาบาลฉุกเฉิน ที่ได้มาตรฐาน ทั้งโครงสร้างรถ อุปกรณ์ ช่วยชีวิต เครื่องมือ ยา และเวชภัณ ฑ์
ทางการแพทย์ ร องรั บ การตรวจรั ก ษาพยาบาลผู้ ป่ ว ยวิก ฤตโดยพนั ก งานฉุก เฉิ น การแพทย์ และพยาบาล
เวชศาสตร์ฉุกเฉิน
1.3 พาหนะพยาบาลฉุ ก เฉิ น เฉพาะ (Ambulance-Others) หมายถึ ง พาหนะ
พยาบาลฉุกเฉินที่ออกแบบสาหรับสถานการณ์ หรือภารกิจฉุกเฉินเฉพาะ
1.4 พาหนะรั บ ส่ ง ผู้ ป่ ว ยทุ พ ลภาพ (Disabled Patient Transport) หมายถึ ง
พาหนะที่มีอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานรองรับการเดินทางของผู้ป่วยทุพลภาพที่ไม่อยู่ในภาวะฉุกเฉิน
จั ด ท ากลุ่ มรายการย่ อ ย และหน่ ว ยรายการตามประเภทพาหนะ ศั กยภาพการ
ช่วยชีวิต การตรวจรักษาและการบริบาลผู้ป่วยระหว่างเดินทาง

๒๒๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
2.1 บริการพาหนะเดินทางผู้ป่วย รวมถึง พาหนะ เชื้อเพลิง พร้อมอุปกรณ์ เครื่องมือ
แพทย์ เวชภัณฑ์ที่ได้ตามมาตรฐานของศักยภาพบริการที่ระบุ ระบบสารสนเทศการสื่อสารที่จาเป็น ตลอดจน
บริ การของพนักงานขับ รถ นัก ปฏิ บั ติการฉุก เฉิน การแพทย์ (Paramedic) และพยาบาลเวชศาสตร์ ฉุกเฉิ น
และเจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์
2.2 บริการพาหนะพยาบาลฉุกเฉิน ยังไม่รวมบริการของแพทย์
2.3 บริการพาหนะพยาบาลฉุกเฉิน ยังไม่รวมค่ายา และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์
2.4 บริก ารพาหนะเดิ น ทางผู้ ป่ ว ย ต้ อ งสอดคล้ อ งกั บ ความจ าเป็ น ทางการแพทย์

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ของผู้ป่วย
2.5 บริการพาหนะเดิน ทางผู้ ป่ ว ย ก าหนดหน่ ว ยของบริก ารเป็ น ต่ อ ระยะทางจริ ง
หรือเขตพื้นที่ของการเดินทาง
ช. ค่าบริการเก็บรักษาศพ (Mortuary Services)
โครงสร้างมาตรฐานบัญชีบริการ สถานพยาบาลสามารถกาหนดได้ตามความเหมาะสม
ซ. ค่าบริการอื่นๆ ของสถานพยาบาล (Other Hospital Services) หมายถึง บริการอื่นๆ
ที่มิได้เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโดยตรง
1. โครงสร้างมาตรฐานบัญชีบริการ อาจจัดทาบัญชีบริการอื่นๆ ของสถานพยาบาล
ตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 บริการอาหารและเครื่องดื่มทั่วไป (General Food and Beverage Services)
1.2 บริการซักรีด (Laundry Services)
1.3 บริการด้านตัดแต่งผม (Hair Dressing Services)
1.4 บริการด้านการสื่ อสารรวมถึงการเชื่อมต่ออิน เตอร์เน็ ท (Communication
Services)
1.5 บริการรถรับส่งผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการทั่วไป (General Transport Services)
1.6 บริการอื่นๆ (Other Hospital Services-Miscellaneous)
ฌ. ค่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ (Other Non-Medical Hospital Products)
โครงสร้างมาตรฐานบัญชีบริการ อาจจัดทาบัญชีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของสถานพยาบาลตาม
กลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1. ของใช้ทั่วไป และของที่ระลึก (Amenities, Gifts and Souvenirs)
2. ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยส่วนบุคคล (Personal Care Products)
3. ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสาเร็จรูป (Food & Beverage Products)
4. ผลิตภัณฑ์ทั่วไปอื่น (Other Non-Medical Hospital Products-Miscellaneous)

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๒๙


เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๑๗๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธกี ารและเงื่อนไขการกําหนดเครื่องมือ เครื่องใช้
ยาและเวชภัณฑ์หรือยานพาหนะที่จําเป็นประจําคลินกิ การประกอบโรคศิลปะ

โดยที่เป็นการสมควรกําหนดให้คลินิกการประกอบโรคศิลปะ ต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้


ยาและเวชภัณ ฑ์ ห รื อ ยานพาหนะที่ จํ าเป็ น ประจํ าคลิ นิ ก ตามลั ก ษณะของคลินิ ก ในจํ า นวนที่ เ หมาะสม
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

และเพียงพอ
อาศัยอํานาจตามความในข้อ ๔ (๗) แห่ ง กฎกระทรวงกํ า หนดชนิ ด และจํ า นวนเครื่ อ งมื อ
เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์หรือยานพาหนะที่จําเป็นประจําสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งออกตาม
ความในพระราชบัญ ญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ปลั ดกระทรวงสาธารณสุขในฐานะผู้ อนุญาต
โดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาลจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้ เ รี ย กว่ า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข เรื่ อ ง หลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก าร
และเงื่อนไข การกําหนดเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์หรือยานพาหนะที่จําเป็นประจําคลินิก
การประกอบโรคศิลปะ”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ คลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขากิจกรรมบําบัด ต้องจัดให้มี
๓.๑ เครื่องใช้ทั่วไป
๓.๑.๑ เตียง หรือเบาะสําหรับตรวจร่างกายในท่านอน
๓.๑.๒ โต๊ะพร้อมเก้าอี้สําหรับซักประวัติหรือให้คําปรึกษาผู้มารับบริการ
๓.๑.๓ ตู้เก็บอุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ๆ เป็นสัดส่วน
๓.๑.๔ โต๊ะหรือชั้น สําหรับวางอุปกรณ์ เครื่องมือใช้ต่าง ๆ
๓.๑.๕ เครื่องมือ อุปกรณ์สําหรับควบคุมการติดเชื้อ
๓.๑.๖ เครื่องวัดความดันโลหิต
๓.๑.๗ เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายสําหรับเด็กหรือผู้ใหญ่
๓.๑.๘ ไม้กดลิ้น ไฟฉาย
๓.๑.๙ เครื่องชั่งน้ําหนัก
๓.๑.๑๐ ที่วัดความสูงและสายวัด
๓.๑.๑๑ ชุดปฐมพยาบาล
๓.๒ หากมีการให้บริการสําหรับผู้รับบริการเด็กและวัยรุ่น ต้องจัดให้มีเครื่องมือ
อุปกรณ์ทางกิจกรรมบําบัด ดังนี้
๓.๒.๑ การให้บริการเพื่อการตรวจประเมิน สําหรับผู้รับบริการเด็กและวัยรุ่น
มีดังนี้

๒๓๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๑๗๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘
ก) เครื่องวัดระยะการเคลื่อนไหวของข้อ (Goniometer)
ข) อุปกรณ์ทดสอบการรับความรู้สึก (Sensation Tests )
ค) อุปกรณ์ทดสอบการรับรู้ชนิดของวัตถุโดยการคลํา (Stereognosis Tests)
ง) อุปกรณ์ทดสอบความคล่องแคล่วการทํางานของมือ (Dexterity Tests)
จ) อุปกรณ์ทดสอบหน้าที่การทํางานของมือ (Hand Function Tests)
ฉ) แบบทดสอบการรับรู้ (Perception Tests)

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ช) แบบทดสอบความคิดความเข้าใจ (Cognitive Function Tests)
ซ) แบบทดสอบพัฒนาการ (Developmental Tests)
ฌ) แบบทดสอบสภาวะจิ ต ใจอารมณ์ แ ละสั ง คม (Psychological
and Psychosocial Tests)
ญ) แบบทดสอบการดูแลตนเองและกิจวัตรประจําวัน (ADL Tests)
ฎ) แบบบันทึกประวัติการทํากิจกรรมการดําเนินชีวิต (Occupational
History)
ฏ) แบบประเมินทักษะการเขียน (Hand Writing Skill Test)
ฐ) แบบประเมิ น ด้ า นพั ฒ นาการและการเรี ย นรู้ ใ นเด็ ก (Child
Developmental and Learning Assessment)
ฑ) แบบทดสอบกระบวนการประมวลผลการรับความรู้สึก (Sensory
ProcessingTest)
๓.๒.๒ การให้บริการเพื่อการส่งเสริม ป้องกัน บําบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพ
สําหรับผู้รับบริการเด็กและวัยรุ่น มีดงั นี้
ก) ชุดอุปกรณ์ช่วยในการทํากิจวัตรประจําวัน (Assistive Devices)
เช่น ที่คาดมืออเนกประสงค์ (Universal Cuff) อุปกรณ์ช่วยในการเขียนหนังสือ
ข) ชุดอุปกรณ์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก
ค) ชุดอุปกรณ์ฝึกกิจวัตรประจําวันและทักษะการดําเนินชีวิต
ง) ชุดอุปกรณ์ฝึกการรับรู้ความรู้สึกและความคิดความเข้าใจ
จ) ชุดอุปกรณ์ฝึกทักษะการเขียนและการทํางานของมือ
ฉ) เบาะฟองน้ําชนิดหนาและแน่นบุผนัง โดยมีความหนา ๒ - ๔ นิ้ว
และมีความสูง ๘๐ - ๑๒๐ เซนติเมตร
ช) เบาะฟองน้ํา ชนิ ด หนาและแน่ น โดยมี ค วามหนา ๒ - ๔ นิ้ ว
รองพื้นห้องให้เต็มพื้นที่
๓.๓ หากมี ก ารให้ บ ริ ก าร สํ า หรั บ ผู้ ใ หญ่ ห รื อ ผู้ สู ง อายุ ต้ อ งจั ด ให้ มี เ ครื่ อ งมื อ
อุปกรณ์ทางกิจกรรมบําบัด ดังนี้

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๓๑


เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๑๗๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘
๓.๓.๑ การให้บริการเพื่อการตรวจประเมิน สําหรับผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ มีดงั นี้
ก) เครื่องวัดระยะการเคลื่อนไหวของข้อ (Goniometer)
ข) อุปกรณ์ทดสอบการรับความรู้สึก (Sensation Tests )
ค) อุปกรณ์ทดสอบการรับรู้ชนิดของวัตถุโดยการคลํา (Stereognosis Tests)
ง) อุปกรณ์ทดสอบความคล่องแคล่วการทํางานของมือ (Dexterity Tests)
จ) อุปกรณ์ทดสอบหน้าที่การทํางานของมือ (Hand Function Tests)
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ฉ) แบบทดสอบการรับรู้ (Perception Tests)


ช) แบบทดสอบความคิดความเข้าใจ (Cognitive Function Tests)
ซ) แบบทดสอบสภาวะจิ ต ใจอารมณ์ แ ละสั ง คม (Psychological
and Psychosocial Tests)
ฌ) แบบทดสอบการดูแลตนเองและกิจวัตรประจําวัน (ADL Tests)
ญ) แบบบันทึกประวัติการทํากิจกรรมการดําเนินชีวิต (Occupational
History)
ฎ) แบบประเมินการรับประทานอาหาร (Feeding and eating
Evaluation)
ฏ) แบบประเมินสภาพแวดล้อมในการดําเนินชีวิต (Environmental
Evaluation)
ฐ) แบบสํารวจบทบาทของบุคคล (Role Checklist)
ฑ) แบบสํารวจความสนใจในการทํากิจกรรมของบุคคล (Interest
Checklist)
๓.๓.๒ การให้บริการเพื่อการส่งเสริม ป้องกัน บําบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพ
สําหรับผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุมีดังนี้
ก) ชุดอุปกรณ์ช่วยในการทํากิจวัตรประจําวัน (Assistive Devices)
เช่น ที่คาดมืออเนกประสงค์ (Universal Cuff), อุปกรณ์ช่วยในการเขียนหนังสือ
ข) ชุดอุปกรณ์ฝึกกิจวัตรประจําวันและทักษะการดําเนินชีวิต
ค) ชุดอุปกรณ์ฝึกการรับรู้ความรู้สึกและความคิดความเข้าใจ
ง) ชุดอุปกรณ์ฝึกทักษะการเขียนและการทํางานของมือ
จ) ชุดอุปกรณ์ฝึกความแข็งแรงและความทนทานของกล้ามเนื้อ
ฉ) ชุดอุปกรณ์ฝึกเตรียมความพร้อมการทํางานของแขนและมือ
ช) ชุดอุปกรณ์ฝึกการทํากิจกรรมยามว่างและนันทนาการ
ข้อ ๔ คลิ นิ กการประกอบโรคศิ ล ปะสาขาการแก้ ไขความผิ ด ปกติ ของการสื่ อ ความหมาย
ต้องจัดให้มี

๒๓๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๑๗๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘
๔.๑ เครื่องใช้ทั่วไป
๔.๑.๑ โต๊ะพร้อมเก้าอี้สําหรับซักประวัติหรือให้คําปรึกษาผู้มารับบริการ
๔.๑.๒ ตู้เก็บอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแก้ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย
เป็นสัดส่วนและมิดชิด
๔.๑.๓ โต๊ะ หรือชั้นสําหรับวางอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้
๔.๑.๔ เครื่องวัดความดันโลหิต

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๔.๑.๕ เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายสําหรับเด็ก หรือผู้ใหญ่
๔.๑.๖ ไม้กดลิ้น ไฟฉาย
๔.๑.๗ เครื่องชั่งน้ําหนัก
๔.๑.๘ ที่วัดความสูง หรือสายวัด
๔.๑.๙ ชุดปฐมพยาบาล
๔.๒ เครื่องมือการตรวจและการแก้ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย ที่ต้องจัดให้มี
ดังนี้
๔.๒.๑ หากมีการบริการการแก้ไขการพูด ต้องจัดให้มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์
ดังนี้
ก) กระจกเงาขนาดเหมาะสมกับการให้บริการ
ข) ถุงมือ
ค) ผ้าก๊อส
ง) แบบประเมินการได้ยิน ภาษา การพูด หรือการกลืน
จ) สื่อ อุปกรณ์ที่ใช้ในการกระตุ้น แก้ไข และฟื้นฟูการได้ยิน ภาษา
การพูด หรือการกลืน
๔.๒.๒ หากมีการบริการการแก้ไขการได้ยิน ต้องจัดให้มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์
ดังนี้
ก) กระจกเงาขนาดเหมาะสมกับการให้บริการ
ข) ถุงมือ
ค) ผ้าก๊อส
ง) แบบประเมินการได้ยิน ภาษา การพูด หรือการกลืน
จ) สื่อ อุปกรณ์ที่ใช้ในการกระตุ้น แก้ไข และฟื้นฟูการได้ยิน ภาษา
การพูด หรือการกลืน
ฉ) ตู้ตรวจการได้ยิน (เสียงรบกวนภายใน ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
ANSI S๓.๖-๒๐๐๔)
ช) เครื่องตรวจการได้ยิน (Audiometer)

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๓๓


เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๑๗๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘
ซ) เครื่องตรวจการทํางานหูชั้นกลาง (Acoustic immittance instrument)
ข้อ ๕ คลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ต้องจัดให้มี
๕.๑ เครื่องใช้ทั่วไป
๕.๑.๑ เตียงที่ใช้สําหรับการตรวจประเมิน
๕.๑.๒ โต๊ะพร้อมเก้าอี้สําหรับซักประวัติหรือให้คําปรึกษาผู้มารับบริการ
๕.๑.๓ ตู้หรือชั้น สําหรับวางหรือเก็บอุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ๆ เป็นสัดส่วน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๕.๑.๔ เครื่องวัดความดันโลหิต
๕.๑.๕ หูฟัง
๕.๑.๖ เครื่องชั่งน้ําหนัก
๕.๑.๗ เครื่องวัดความสูง
๕.๑.๘ ชุดปฐมพยาบาล
๕.๒ เครื่องมือตรวจประเมินและติดตามทางเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ในการให้บริการ
ภายใต้คําสั่งของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
๕.๒.๑ หากมีการให้บริการในระบบหัว ใจต้องจัด ให้มีเครื่อ งมือ อย่างน้อ ย
๑ รายการ ดังต่อไปนี้
ก) เครื่องบันทึกความดันโลหิตชนิดต่อเนื่อง
ข) เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
ค) เครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอก
ง) เครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจชนิดติดตัว
๕.๒.๒ หากมี ก ารให้ บ ริ ก ารในระบบปอดต้ อ งจั ด ให้ มี เ ครื่ อ งมื อ อย่ า งน้ อ ย
๑ รายการ ดังต่อไปนี้
ก) เครื่องวัดการทํางานของปอด
ข) เครื่องวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด
๕.๒.๓ หากมี ก ารให้ บ ริ ก ารในระบบหลอดเลื อ ด ต้ อ งจั ด ให้ มี เ ครื่ อ งมื อ
อย่างน้อย ๑ รายการ ดังต่อไปนี้
ก) เครื่องวัดสมรรถภาพหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
ข) เครื่องวัดความหนาตัวของหลอดเลือด
ข้อ ๖ คลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขารังสีเทคนิค ต้องจัดให้มี
๖.๑ เครื่องใช้ทั่วไป
๖.๑.๑ โต๊ะพร้อมเก้าอี้สําหรับซักประวัติหรือให้คําปรึกษาผู้มารับบริการ
๖.๑.๒ ตู้เก็บอุปกรณ์ เครื่องมือทางรังสีเทคนิค เป็นสัดส่วน
๖.๑.๓ โต๊ะ หรือชั้นสําหรับวางอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้

๒๓๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๑๗๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘
๖.๑.๔ เครื่องชั่งน้ําหนัก
๖.๑.๕ เสื้อผ้าสําหรับการตรวจทางรังสีวิทยา
๖.๑.๖ เครื่องวัดความดันโลหิต
๖.๑.๗ ป้ า ยสั ญ ลั ก ษณ์ แ สดงเขตรั ง สี แ ละมี ไ ฟสั ญ ญาณแสดงการใช้ ง าน
ของเครื่องกําเนิดรังสีติดไว้ด้านนอกของประตูห้อง
๖.๑.๘ ป้ายคําเตือนผู้ป่วยมีครรภ์ให้แจ้งเจ้าหน้าที่

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๖.๒ เครื่องมือ อุปกรณ์ ในการตรวจวินิจฉัยและรักษา
๖.๒.๑ อุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากรังสีสําหรับผู้ป่วย
ก) เสื้อตะกั่ว และ Thyroid Shield
ข) ฉากกั้นรังสี (หากมีการบริการด้านรังสี)
๖.๒.๒ ตู้ส่องฟิล์มหรือจอแสดงผลภาพถ่ายทางรังสีระบบดิจิทัล
๖.๒.๓ เครื่องมือทางสาขารังสีตามที่จัดให้มบี ริการ
๖.๓.๔ เครื่องวัดรังสีประจําบุคคลสําหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน
๖.๒.๕ เครื่องมือวัดความหนาผู้ป่วย
ข้อ ๗ คลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิก ต้องจัดให้มี
๗.๑ เครื่องใช้ทั่วไป
๗.๑.๑ โต๊ะพร้อมเก้าอี้สําหรับการให้บริการทางจิตวิทยาคลินิก
๗.๑.๒ โต๊ะ หรือชั้นสําหรับวางอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้
๗.๑.๓ มี ตู้ เ ก็ บ อุ ป กรณ์ เครื่ อ งมื อ การตรวจวิ นิ จ ฉั ย ทางจิ ต วิ ท ยาคลิ นิ ก
เป็นสัดส่วนและมิดชิดมีกุญแจปิดล็อคและควบคุมการใช้งานโดยผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิก
๗.๒ เครื่ อ งมื อ การตรวจวิ นิ จ ฉั ย ทางจิ ต วิ ท ยาคลิ นิ ก ตามประเภทการให้ บ ริ ก าร
และตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กําหนดเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางจิตวิทยาคลินิก พ.ศ. ๒๕๔๙
ได้แก่
๗.๒.๑ ชุดทดสอบเชาวน์ปัญญา (อย่างน้อย ๑ รายการ) ได้แก่ The Wechsler
Intelligence Scales, The Stanford-Binet Intelligence Scales
๗.๒.๒ ชุดทดสอบบุคลิกภาพ (อย่างน้อย ๑ รายการ) ได้แก่ Hermann
Rorschach Psycho-Diagnostics, Thematic Apperception Test, Children’s Apperception
Test, Minnesota Multiphasic Personality Inventory
๗.๒.๓ ชุ ด ทดสอบประสาทจิ ต วิ ท ยา (อย่ า งน้ อ ย ๑ รายการ) ได้ แ ก่
Bender Visual Motor Gestalt Test, Stroop Color Word Test, Wisconsin Card Sorting
Test, Wechsler Memory Scale, Halstead Reitan Neuropsychological Test Battery

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๓๕


เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๑๗๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘
๗.๒.๔ ชุดทดสอบพัฒนาการเด็ก (อย่างน้อย ๑ รายการ) ได้แก่ Denver
Development Screening Test, Vineland Adaptive Behavior Scales
๗.๒.๕ ชุดทดสอบความบกพร่องทางการเรียนรู้ (อย่างน้อย ๑ รายการ)
ได้แก่ Wide Range Achievement Test, Woodcock-Johnson Achievement Test, Kaufman
Assessment Battery of Children
๗.๒.๖ อุปกรณ์การทดสอบ ได้แก่ นาฬิกาจับเวลา แบบบันทึกการทดสอบ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ดินสอ กระดาษ ยางลบ


๗.๓ แบบบันทึกการบริการทางจิตวิทยาคลินิก
ข้อ ๘ คลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขากายอุปกรณ์ ต้องจัดให้มีเครื่องมือ หรืออุปกรณ์
ในการตรวจประเมิ น เพื่ อ ทํ า กายอุ ป กรณ์ แ ละเครื่ อ งมื อ ทางสาขากายอุ ป กรณ์ แ ละอุ ป กรณ์ อ ย่ า งอื่ น
อย่างน้อย ดังนี้
๘.๑ ห้องตรวจ
๘.๑.๑ เตียงตรวจผู้ป่วยกายอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
๘.๑.๒ โต๊ะตรวจโรคพร้อมเก้าอี้
๘.๑.๓ เครื่องชั่งน้ําหนัก
๘.๑.๔ ตู้เก็บอุปกรณ์และเครื่องมือที่เป็นสัดส่วน
๘.๑.๕ ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น
๘.๑.๖ ชุดทําแผลอย่างน้อย ๑๐ ชุด
๘.๑.๗ ผ้ า ยื ด หรื อ อี ล าสติ ก แบนเดจ ขนาด ๔ นิ้ ว หรื อ ๖ นิ้ ว จํ า นวน
อย่างน้อย ๑๐ ม้วน
๘.๑.๘ เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจประเมินเพื่อทํากายอุปกรณ์
๘.๑.๙ เครื่องตรวจประเมินการกระจายน้ําหนักของเท้า
๘.๑.๑๐ โกนิโอมิเตอร์ (อุปกรณ์วัดองศา)
๘.๑.๑๑ สายวัดความยาว
๘.๑.๑๒ เครื่องวัดความดันโลหิต
๘.๑.๑๓ เฝื อ กปู น หรื อ เฝื อ กวิ ท ยาศาสตร์ ที่ ใ ช้ สํ า หรั บ หล่ อ แบบ อย่ า งน้ อ ย
๒๐ ม้วน
๘.๑.๑๔ กรรไกรตัดเฝือก
๘.๑.๑๕ แบบฟอร์มการวัดขนาดเพื่อทํากายอุปกรณ์
๘.๑.๑๖ ราวโลหะขนานฝึกเดินความยาวไม่น้อยกว่า ๓ เมตร
๘.๑.๑๗ กระจกเงาขนาดกว้าง x ยาว อย่างน้อย ๕๐ x ๑๕๐ เซนติเมตร
๘.๑.๑๘ อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย เช่น ถุงมือยาง หน้ากากอนามัย

๒๓๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๑๗๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘
๘.๒ ห้องปฏิบัติการสําหรับปรับแก้ไขอุปกรณ์ต้องมีพื้นเรียบไม่เก็บฝุ่น แยกออกจาก
ห้องตรวจอย่างชัดเจน
๘.๒.๑ โต๊ะปฏิบัติงานพร้อมเก้าอี้
๘.๒.๒ อุ ป กรณ์ พื้ น ฐานสํ า หรั บ ปรั บ แก้ ไ ขอุ ป กรณ์ เช่ น ชุ ด ไขควง ค้ อ น
ตะไบ ชุดประแจ หกเหลี่ยม เครื่องตัดโลหะ
๘.๒.๓ ปืนทําความร้อน (ฮีทกัน)

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๘.๒.๔ สว่านไฟฟ้า
๘.๒.๕ เครื่องขัดหรือเครื่องกัด เพื่อขัด ตัด แต่ง ชิ้นงานด้านกายอุปกรณ์
๘.๒.๖ เครื่องดูดฝุ่น
๘.๒.๗ ปากกาจับชิ้นงาน
๘.๒.๘ อุปกรณ์สาํ หรับดัดโลหะ
๘.๒.๙ เครื่องตัดเฝือก
๘.๒.๑๐ ตู้เก็บเครื่องมือ
๘.๒.๑๑ ลูกดิ่งหรืออุปกรณ์สําหรับจัดแนว
๘.๒.๑๒ ตู้สําหรับเก็บสารเคมี พร้อมป้ายระบุชัดเจน
๘.๒.๑๓ อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยจากการใช้เครื่อง เช่น แว่นตาป้องกัน
ฝุ่น อุปกรณ์ป้องกันเสียง หน้ากากอนามัย
๘.๓ หากมีการบริการห้องปฏิบัติการผลิตกายอุปกรณ์ ต้องมีเครื่องมือ ดังนี้
๘.๓.๑ มี ส ถานที่ แ ละห้ อ งปฏิ บั ติ ก ารผลิ ต ที่ มี ร ะบบการป้ อ งกั น เสี ย งจาก
เครื่องจักร เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
๘.๓.๒ เครื่องดูดอากาศ เพื่อกําจัดกลิ่นจากสารเคมี
๘.๓.๓ เครื่องกําจัดฝุ่น
๘.๓.๔ เครื่องขึ้นรูปอุปกรณ์
๘.๓.๕ เครื่องขัดหรือเครื่องกัด เพื่อขัด ตัด แต่ง ชิ้นงานด้านกายอุปกรณ์
๘.๓.๖ ตู้อบความร้อน
๘.๓.๗ โต๊ะปฏิบัติงาน พร้อมเก้าอี้
๘.๓.๘ อุ ป กรณ์ พื้ น ฐานสํ า หรั บ ปรั บ แก้ ไ ขอุ ป กรณ์ เช่ น ชุ ด ไขควง ค้ อ น
ตะไบ ชุดประแจหกเหลี่ยม เครื่องตัดโลหะ
๘.๓.๙ สว่านไฟฟ้า
๘.๓.๑๐ ปากกาจับชิ้นงาน
๘.๓.๑๑ อุปกรณ์สําหรับดัดโลหะ
๘.๓.๑๒ เครื่องตัดเฝือก

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๓๗


เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๑๗๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘
๘.๓.๑๓ ตู้เก็บเครื่องมือ
๘.๓.๑๔ ลูกดิ่งหรืออุปกรณ์สําหรับจัดแนว
๘.๓.๑๕ ตู้สําหรับเก็บสารเคมี พร้อมป้ายระบุชัดเจน
๘.๓.๑๖ อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยจากการใช้เครื่อง เช่น แว่นตาป้องกันฝุ่น
อุปกรณ์ป้องกันเสียง หน้ากากอนามัย
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ข้อ ๙ คลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน ต้องจัดให้มี


๙.๑ เครื่องใช้ทั่วไป
๙.๑.๑ เตี ย งตรวจโรค ที่ น อน ผ้ า ปู ที่ น อน หมอนพร้ อ มปลอกหมอน
ผ้าคลุมตัวผู้ป่วย ให้อยู่ในสภาพที่สะอาดถูกสุขลักษณะอยู่เสมอ
๙.๑.๒ โต๊ะตรวจพร้อมเก้าอี้
๙.๑.๓ ตู้หรือที่เก็บอุปกรณ์ เครื่องมือการตรวจวินิจฉัย และการบําบัดรักษา
ทางการแพทย์แผนจีนให้เป็นสัดส่วนและมิดชิด
๙.๑.๔ เครื่องมืออุปกรณ์สําหรับควบคุมการติดเชื้อ
๙.๑.๕ เครื่องชั่งน้ําหนัก
๙.๑.๖ เครื่องวัดความดันโลหิต
๙.๑.๗ ไฟฉาย
๙.๒ เครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์แผนจีน
๙.๒.๑ เครื่ อ งมื อ การตรวจวิ นิ จ ฉั ย และบํ า บั ด รั ก ษาด้ ว ยการแพทย์ แ ผนจี น
โดยให้เป็นไปตามประเภทการให้บริการ (การบําบัดรักษาด้วยสมุนไพร การฝังเข็ม การนวดทุยหนา)
และตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กําหนดเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์แผนจีน
๙.๒.๒ อุปกรณ์การตรวจวินิจฉัย เช่น หมอนแมะ
๙.๒.๓ อุปกรณ์การบําบัดรักษาด้วยการฝังเข็ม รมยา และทุยหนา
ก) เข็มต้องได้มาตรฐาน ตัวเข็มต้องปราศจากเชื้อ มีคุณภาพไม่ชํารุด
มีการตรวจสอบวันหมดอายุของเข็มที่ใช้สําหรับฝังเข็ม
ข) สมุนไพรรมยาควรเก็บรักษาในที่เหมาะสมและพร้อมใช้
ค) กระบอกสูญญากาศ
ง) อุปกรณ์กัวซา
จ) เข็มการปล่อยเลือด, เข็มดอกเหมย
ฉ) อุปกรณ์การบําบัดอื่น ๆ ตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน

๒๓๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๑๗๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘
๙.๓ ยาและสมุนไพร
การบําบัดด้วยสมุนไพรจีน ต้องมีสมุนไพรอย่างน้อย ๑๐ รายการจาก ๓๐ รายการ
ตามที่กําหนดในตารางที่ ๑ หรือยาตํารับอย่างน้อย ๕ ตํารับ จาก ๑๐ ตํารับ ตามที่กําหนดในตารางที่ ๒
โดยต้องมีชื่อยา ชื่อตํารับยา กํากับ และสรรพคุณ วิธใี ช้ที่ชัดเจน
ตารางที่ ๑ รายการสมุนไพรจีนที่กําหนด ๓๐ รายการ
ลําดับ สมุนไพร คําอ่าน กลุ่มยา

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๑ 桂枝 กุ้ยจือ ขจัดลมหนาว
๒ 防风 ฝางเฟิง ขจัดลมหนาว
๓ 桑叶 ซางเย่ กระจายลมร้อน
๔ 菊花 จฺวี๋ฮฺวา กระจายลมร้อน
๕ 柴胡 ฉายหู กระจายลมร้อน
๖ 葛根 เก่อเกิน กระจายลมร้อน
๗ 知母 จือหมู่ ขจัดความร้อน
๘ 牛膝 หนิวชี ปรับการไหลเวียนเลือด
๙ 大黄 ต้าหวง ขับระบาย
๑๐ 桑寄生 ซางจี้เซิง ขับลมชื้น
๑๑ 茯苓 ฝูหลิง ขับน้ําขจัดความชื้น
๑๒ 泽泻 เจ๋อเซี่ย ขับน้ําขจัดความชื้น
๑๓ 陈皮 เฉินผี ปรับการไหลเวียนชี่
๑๔ 木香 มูเ่ ซียง ปรับการไหลเวียนชี่
๑๕ 山楂 ซานจา ย่อยอาหาร
๑๖ 半夏 ป้านเซี่ย สลายเสมหะ
๑๗ 川芎 ชวนซฺยง ปรับการไหลเวียนเลือด
๑๘ 丹参 ตันเซิน ปรับการไหลเวียนเลือด
๑๙ 天麻 เทียนหมา สงบตับระงับลม
๒๐ 党参 ตั่งเซิน บํารุงชี่
๒๑ 黄芪 หวงฉี บํารุงชี่
๒๒ 白术 ป๋ายจู๋ บํารุงชี่
๒๓ 山药 ซานย่าว บํารุงชี่
๒๔ 甘草 กานฉ่าว ยาบํารุงชี่
๒๕ 大枣 ต้าจ่าว ยาบํารุงชี่

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๓๙


เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๑๗๖ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘
ลําดับ สมุนไพร คําอ่าน กลุ่มยา
๒๖ 熟地黄 สูตี้หวง บํารุงเลือด
๒๗ 当归 ตังกุย บํารุงเลือด
๒๘ 白芍 ป๋ายสาว บํารุงเลือด
๒๙ 麦冬 ม่ายตง บํารุงสารอิน
๓๐ 枸杞子 โก่วฉีจื่อ บํารุงสารอิน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ตารางที่ ๒ รายการยาตํารับที่กําหนด ๑๐ ตํารับ


ลําดับ ชื่อตํารับ คําอ่าน สรรพคุณ
๑ 香砂六君丸 เซียงซาลิ่วจฺวินหวาน บํารุงชี่ ขับเคลื่อนชี่ สลายเสมหะ
๒ 补中益气丸 ปู่จงอี้ชี่หวาน บํารุงชี่ของจงเจียว
๓ 归脾丸 กุยผีหวาน บํารุงชี่และเลือด
๔ 八珍丸 ปาเจินหวาน บํารุงชี่และเลือด
๕ 六味地黄丸 ลิ่วเว่ยตี้หวงหวาน บํารุงสารอินของไต
๖ 肾气丸 เซิ่นชี่หวาน บํารุงชี่ของไต
๗ 逍遥丸 เซียวเหยาหวาน คลายตับ บํารุงม้ามและเลือด
๘ 保和丸 เป่าเหอหวาน ช่วยย่อย
๙ 天王补心丹 เทียนหวางปู่ซินตาน สงบระงับจิตใจ
๑๐ 小活络丹 เสี่ยวหัวลั่วตาน ขับลมชื้น สลายเสมหะ ปรับการ
ไหลเวียนของเลือด ระงับปวด

ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๘


สุริยะ วงศ์คงคาเทพ
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข

๒๔๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๔๑


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๒๔๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


‡≈à¡ ÒÒ˘ µÕπ摇»… ¯ˆ ß √“™°‘®®“πÿ‡∫°…“ ÒÛ °—𬓬π ÚıÙı

ª√–°“»°√–∑√«ß “∏“√≥ ÿ¢
©∫—∫∑’Ë ¯ (æ.». ÚıÙı)
‡√◊ËÕß ¡“µ√∞“π°“√ àßµàÕºŸâªÉ«¬

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
‚¥¬∑’ˇªìπ°“√ ¡§«√°”Àπ¥°“√ àßµàÕºŸâªÉ«¬„À⇪ìπ‰ªÕ¬à“ß¡’¡“µ√∞“π·≈–
‡æ◊ËÕª√–‚¬™πå „π°“√§ÿ⡧√ÕߺŸâªÉ«¬„ÀâæâπÕ—πµ√“¬·≈–¡’§«“¡ª≈Õ¥¿—¬
Õ“»—¬Õ”π“®µ“¡§«“¡„π¡“µ√“ ˆ ·≈–¡“µ√“ Òı ·Ààßæ√–√“™∫—≠≠—µ‘
 ∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙÒ Õ—π‡ªìπæ√–√“™∫—≠≠—µ‘∑’Ë¡’∫∑∫—≠≠—µ‘∫“ߪ√–°“√
‡°’¬Ë «°—∫°“√®”°—¥ ‘∑∏‘·≈–‡ √’¿“æ¢Õß∫ÿ§§≈ ´÷ßË ¡“µ√“ Ú˘ ª√–°Õ∫°—∫¡“µ√“ ı
¢Õß√—∞∏√√¡πŸ≠·Ààß√“™Õ“≥“®—°√‰∑¬ ∫—≠≠—µ„‘ Àâ°√–∑”‰¥â ‚¥¬Õ“»—¬Õ”π“®µ“¡∫∑∫—≠≠—µ‘
·Ààß°ÆÀ¡“¬ √—∞¡πµ√’«à“°“√°√–∑√«ß “∏“√≥ ÿ¢‚¥¬§”·π–π”¢Õߧ≥–°√√¡°“√
∂“π欓∫“≈ÕÕ°ª√–°“»‰«â ¥—ßµàÕ‰ªπ’È
¢âÕ Ò „πª√–°“»π’È
ç ∂“π欓∫“≈é À¡“¬§«“¡«à“  ∂“π欓∫“≈ª√–‡¿∑∑’√Ë ∫— ºŸªâ «É ¬‰«â§“â ߧ◊π
ç°“√ àßµàÕºŸâªÉ«¬é À¡“¬§«“¡«à“ °“√‡§≈◊ËÕπ¬â“¬ºŸâªÉ«¬®“° ∂“π∑’ËÀπ÷Ëß
‡æ◊ËÕ‰ª√—∫°“√√—°…“µàÕ¬—ßÕ’° ∂“π∑’ËÀπ÷Ëß‚¥¬ ∂“π欓∫“≈‡ªìπºŸâπ” àß
笓πæ“Àπ–é À¡“¬§«“¡«à “ ¬“πæ“Àπ–¢Õß ∂“π欓∫“≈À√◊ Õ ∑’Ë
 ∂“π欓∫“≈«à“®â“ßÀ√◊Õ®—¥À“¡“‡æ◊ÕË „™â„π°“√¢π àߺŸªâ «É ¬‰¡à«“à ®–‡ªìπ°“√¢π àß‚¥¬∑“ß∫°
∑“ßπÈ” À√◊Õ∑“ßÕ“°“»
¢âÕ Ú ºŸâ√—∫Õπÿ≠“µ·≈–ºŸâ¥”‡π‘π°“√ ∂“π欓∫“≈µâÕß àßµàÕºŸâªÉ«¬¥â«¬
¬“πæ“Àπ–·≈–«‘∏’°“√∑’ˇÀ¡“– ¡ª≈Õ¥¿—¬‚¥¬§”π÷ß∂÷ß‚√§ Õ“°“√ ·≈–§«“¡√ÿπ·√ß
¢Õß‚√§

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๔๓


‡≈à¡ ÒÒ˘ µÕπ摇»… ¯ˆ ß √“™°‘®®“πÿ‡∫°…“ ÒÛ °—𬓬π ÚıÙı

¢âÕ Û °“√ àßµàÕºŸªâ «É ¬®“° ∂“π欓∫“≈Àπ÷ßË ‰ª¬—ß ∂“π欓∫“≈Õ’°·ÀàßÀπ÷ßË


µâÕß¡’°“√ ◊ËÕ “√ª√– “πß“π·®âß ∂“π欓∫“≈∑’Ë®–√—∫‰«â≈à«ßÀπâ“æ√âÕ¡¢âÕ¡Ÿ≈·≈–
‡Õ° “√∑’ˇ°’ˬ«¢âÕß°—∫ºŸâªÉ«¬ µ≈Õ¥®π¢âÕ¡Ÿ≈∑“ß°“√·æ∑¬å∑’Ë®”‡ªìπ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

¢âÕ Ù °“√ àßµàÕºŸâªÉ«¬∑’ˬ—ß¡’¿“«–Õ“°“√¢Õß‚√§∑’˵âÕßÕ¬Ÿà„𧫓¡¥Ÿ·≈
¢ÕߺŸâª√–°Õ∫«‘™“™’殓° ∂“π欓∫“≈µâÕß°√–∑”‚¥¬ ∂“π欓∫“≈
¢âÕ ı ºŸâ√—∫Õπÿ≠“µ·≈–ºŸâ¥”‡π‘π°“√ ∂“π欓∫“≈µâÕß®—¥„Àâ¡’ºŸâª√–°Õ∫
«‘™“™’æÀ√◊Õ∫ÿ§≈“°√∑’¡Ë §’ «“¡ “¡“√∂„π°“√¥Ÿ·≈ºŸªâ «É ¬∑’‡Ë À¡“– ¡°—∫‚√§·≈–§«“¡√ÿπ·√ß
¢Õß‚√§‰ªæ√âÕ¡°—∫ºŸâªÉ«¬ ‡æ◊ËÕ„À⺟âªÉ«¬¡’§«“¡ª≈Õ¥¿—¬„π√–À«à“ß°“√ àßµàÕ
¢âÕ ˆ ¬“πæ“Àπ–„π°“√‡§≈◊ËÕπ¬â“¬ºŸâªÉ«¬µ“¡¢âÕ Ù µâÕß¡’≈—°…≥–¥—ßπ’È
ˆ.Ò ¡’‡ª≈π—Ëß·≈–πÕπ ”À√—∫„™â‡§≈◊ËÕπ¬â“¬ºŸâªÉ«¬
ˆ.Ú ¡’Õªÿ °√≥å™«à ¬™’æ∑’®Ë ”‡ªì𠇙àπ ™ÿ¥„ à∑Õà À“¬„®, ™ÿ¥„Àâ “√≈–≈“¬
∑“ß‚≈À‘µ, ™ÿ¥™à«¬À“¬„®, ‡§√◊ËÕߥŸ¥‡ ¡À–, ™ÿ¥„ÀâÕÕ°´‘‡®π, ‡§√◊ËÕß«—¥§«“¡¥—π
‚≈À‘µ·≈–ÀŸøíß, ‡«™¿—≥±å·≈–‡§√◊ËÕß¡◊Õ·æ∑¬å∑’Ë®”‡ªì𠇪ìπµâπ
ˆ.Û ¡’Õÿª°√≥å ◊ËÕ “√°—∫ ∂“π欓∫“≈√–À«à“ß°“√‡¥‘π∑“ß
ˆ.Ù ¡’¢π“¥æ◊Èπ∑’ˇ撬ßæÕ ”À√—∫ºŸâªÉ«¬·≈–∫ÿ§≈“°√∑’Ë®–°√–∑”
À—µ∂°“√‰¥â ‚¥¬ –¥«°æÕ§«√
ˆ.ı ¬“πæ“Àπ–®–µâÕß¡’≈—°…≥–·≈–‰¥â√—∫Õπÿ≠“µµ“¡ª√–°“»
·≈–¢âÕ°”Àπ¥¢Õß ”π—°ß“πµ”√«®·Ààß™“µ‘
ˆ.ˆ ¬“πæ“Àπ–µâÕß¡’§«“¡¡—πË §ß·¢Áß·√ß·≈–¡’§«“¡ –¥«° ∫“¬
µàÕºŸâªÉ«¬„π°“√‡¥‘π∑“ß ‰¡à∑”„Àâ ‚√§À√◊ÕÕ“°“√√ÿπ·√ß¡“°¢÷Èπ
ˆ.˜ ¬“πæ“À𖉥â√—∫°“√∫”√ÿß√—°…“‡À¡“– ¡°—∫°“√„™âß“π‰¥â
Õ¬à“ߪ≈Õ¥¿—¬ ·≈–¡’°“√§«∫§ÿ¡°“√µ‘¥‡™◊ÈÕ

๒๔๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


‡≈à¡ ÒÒ˘ µÕπ摇»… ¯ˆ ß √“™°‘®®“πÿ‡∫°…“ ÒÛ °—𬓬π ÚıÙı

¢âÕ ˜ „π°“√√—∫ºŸªâ «É ¬∑’¡Ë ¿’ “«–©ÿ°‡©‘π ‰¥â·°à ºŸªâ «É ¬∑’¡Ë  ’ ≠


— ≠“≥™’æÕ—πµ√“¬
Õ¬Ÿà„π¿“«–™à«¬‡À≈◊Õµπ‡Õ߉¡à‰¥â ¡’Õ“°“√‡¢â“ Ÿ¿à “«–«‘°ƒµ‘ µâÕß„™âÕªÿ °√≥å™«à ¬øóπô §◊π™’æ
ºŸâ√—∫Õπÿ≠“µ·≈–ºŸâ¥”‡π‘π°“√ ∂“π欓∫“≈µâÕß®—¥„Àâ¡’ºŸâª√–°Õ∫«‘™“™’æ¡“¥Ÿ·≈

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ºŸªâ «É ¬‚¥¬∑—π∑’ ·≈–µâÕ߉¥â√∫— °“√√—°…“∑’‡Ë À¡“– ¡‚¥¬‡√Á«®–ªØ‘‡ ∏°“√√—∫ºŸªâ «É ¬¡‘‰¥â
¢âÕ ¯ ºŸâªÉ«¬À√◊Õ≠“µ‘¡’ ‘∑∏‘‡≈◊Õ° ∂“π欓∫“≈À√◊Õ ∂“π∑’Ë∑’˵âÕß°“√„Àâ
 ∂“π欓∫“≈π” àß√«¡∑—Èß«‘∏’°“√π” àß ‡«âπ·µà‡ªìπ°“√‡°‘π¢’¥§«“¡ “¡“√∂¢Õß
 ∂“π欓∫“≈∑’Ëπ” àßÀ√◊Õ°“√π” àߢÕß ∂“π欓∫“≈π—ÈπÕ“®‡ªìπÕ—πµ√“¬µàÕºŸâªÉ«¬
„Àâ ∂“π欓∫“≈ºŸâ àß “¡“√∂‡≈◊Õ° ∂“π∑’ËÕ◊Ëπ√«¡∑—Èß«‘∏’°“√π” àß∑’ˇÀ¡“– ¡‰¥â
¢âÕ ˘ ºŸ√â ∫— Õπÿ≠“µ·≈–ºŸ¥â ”‡π‘π°“√ ∂“π欓∫“≈µâÕß®—¥„Àâ¡°’ “√„Àâ¢Õâ ¡Ÿ≈
·°àºŸâªÉ«¬À√◊Õ≠“µ‘‡°’ˬ«°—∫‡Àµÿº≈·≈–§«“¡®”‡ªìπ„π°“√ àßµàÕ
¢âÕ Ò ª√–°“»π’È„Àâ „™â∫—ߧ—∫‡¡◊ËÕæâπ°”Àπ¥À° ‘∫«—ππ—∫·µà«—π∂—¥®“°«—π
ª√–°“»„π√“™°‘®®“πÿ‡∫°…“‡ªìπµâπ‰ª

ª√–°“» ≥ «—π∑’Ë ˆ  ‘ßÀ“§¡ æ.». ÚıÙı


 ÿ¥“√—µπå ‡°¬ÿ√“æ—π∏åÿ
√—∞¡πµ√’«à“°“√°√–∑√«ß “∏“√≥ ÿ¢

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๔๕


เล่ม ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๖๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ เมษายน ๒๕๕๗

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง มาตรฐานการบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินของสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๕๗

โดยที่เป็นการสมควรกําหนดให้การบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินของสถานพยาบาลเป็นไปอย่าง
มีมาตรฐานและเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้ป่วยฉุกเฉินให้เป็นไปตามหลักการการปฏิบัติการฉุกเฉิน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ และมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล


พ.ศ. ๒๕๔๑ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาลจึงออกประกาศไว้
ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้ เ รี ย กว่ า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข เรื่ อ ง มาตรฐานการบริ ก าร
ด้านการแพทย์ฉุกเฉินของสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๗”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
“มาตรฐานการบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน” หมายความว่า มาตรฐานเกี่ยวกับการบริการ
ในการปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินนับแต่การรับรู้ถึงภาวะการเจ็บป่วยฉุกเฉินจนถึงการดําเนินการ
ให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการบําบัด รักษาให้พ้นภาวะฉุกเฉินซึ่งรวมถึงการประเมิน การจัดการ การประสานงาน
การควบคุม ดูแล การติดต่อสื่อสาร การลําเลียงหรือขนส่ง การตรวจวินิจฉัย และการบําบัดรักษาพยาบาล
ผู้ป่วยฉุกเฉิน
“ผู้ป่วยฉุกเฉิน” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยกะทันหัน ซึ่งเป็นภยันตราย
ต่ อ การดํ า รงชี วิ ต หรื อ การทํ า งานของอวั ย วะสํ า คั ญ จํ า เป็ น ต้ อ งได้ รั บ การประเมิ น การจั ด การและ
การบําบัดรักษาอย่างทันท่วงทีเพื่อป้องกันการเสียชีวิตหรือการรุนแรงขึ้นของการบาดเจ็บหรืออาการป่วยนั้น
“การบําบัดเจาะจง” หมายความว่า การบําบัดรักษาอันเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปของวิชาชีพเวชกรรม
ว่าเป็นวิธีการเจาะจงที่ทําให้ผู้ป่วยฉุกเฉินหายหรือพ้นจากภาวะผิดปกติภาวะใดภาวะหนึ่งหรือโรคใดโรคหนึ่ง
โดยเฉพาะตามหลักวิชาการของวิชาชีพเวชกรรม
ข้อ ๔ เมื่อมีผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งหากปล่อยไว้เช่นนั้นจะเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือการรุนแรงขึ้น
ของการบาดเจ็บหรืออาการป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินได้ ให้สถานพยาบาลมีหน้าที่ดําเนินการตามหลักการดังนี้
(๑) ตรวจคั ด แยกระดั บ ความฉุ ก เฉิ น และจั ด ให้ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น ได้ รั บ การบริ ก ารตามลํ า ดั บ
ความเร่งด่วนทางการแพทย์ฉุกเฉิน

๒๔๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๖๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ เมษายน ๒๕๕๗
(๒) ผู้ป่วยฉุกเฉินต้องได้รับการบริการฉุกเฉินจนเต็มขีดความสามารถของสถานพยาบาลนั้นก่อน
การส่งต่อ เว้นแต่มีผู้ประกอบวิชาชีพให้การรับรองว่าการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินจะเป็นประโยชน์ต่อการป้องกัน
การเสียชีวิตหรือการรุนแรงขึ้นของการเจ็บป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้น
(๓) การให้บริการต่อผู้ป่วยฉุกเฉินต้องเป็นไปตามความจําเป็นและข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ฉุกเฉิน
โดยมิให้นําสิทธิการประกัน การขึ้นทะเบียนสถานพยาบาล หรือความสามารถในการรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
ของผู้ป่วยฉุกเฉินหรือเงื่อนไขใด ๆ มาเป็นเหตุปฏิเสธผู้ป่วยฉุกเฉินให้ไม่ได้รับการบริการอย่างทันท่วงที

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
นอกจากวรรคหนึ่งแล้ว สถานพยาบาลต้องกระทําการใด ๆ อันจะมีผลเป็นการควบคุม ระงับ
หรือบรรเทาผลร้ายจากอันตรายและความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นได้อย่างทันท่วงทีตามสมควรแก่กรณี
ข้อ ๕ การตรวจคัดแยกระดับความฉุกเฉินของผู้ป่วยตามข้อ ๔ (๑) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
ดังต่อไปนี้
(๑) ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ได้แก่ บุคคลซึ่งได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยกะทันหันซึ่งมีภาวะ
คุกคามต่อชีวิต ซึ่งหากไม่ได้รับปฏิบัติการแพทย์ทันทีเพื่อแก้ไขระบบการหายใจ ระบบไหลเวียนเลือด
หรือระบบประสาทแล้ว ผู้ป่วยจะมีโอกาสเสียชีวิตได้สูง หรือทําให้การบาดเจ็บหรืออาการป่วยของผู้ป่วย
ฉุกเฉินนั้น รุนแรงขึ้นหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้อย่างฉับไว
ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีแดง” สําหรับผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต
(๒) ผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน ได้แก่ บุคคลที่ได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยซึ่งมีภาวะเฉียบพลันมาก
หรือเจ็บปวดรุนแรงอันจําเป็นต้องได้รับปฏิบัติการแพทย์อย่างรีบด่วน มิฉะนั้น จะทําให้การบาดเจ็บหรือ
อาการป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นรุนแรงขึ้นหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น ซึ่งส่งผลให้เสียชีวิตหรือพิการ
ในระยะต่อมาได้
ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีเหลือง” สําหรับผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน
(๓) ผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง ได้แก่ บุคคลซึ่งได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยซึ่งมีภาวะเฉียบพลัน
ไม่รุนแรง อาจรอรับปฏิบัติการแพทย์ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งหรือเดินทางไปรับบริการสาธารณสุขด้วย
ตนเองได้ แต่จําเป็นต้องใช้ทรัพยากรและหากปล่อยไว้เกินเวลาอันสมควรแล้วจะทําให้การบาดเจ็บหรือ
อาการป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นรุนแรงขึ้นหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้
ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีเขียว” สําหรับผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง
ข้อ ๖ ในกรณีที่ผู้ประกอบวิชาชีพให้การรับรองว่าการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินจะเป็นประโยชน์
ต่อการป้องกันการเสียชีวิตหรือการรุนแรงขึ้นของการเจ็บป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้น หรือเกินขีดความสามารถ
ตามนัยแห่งข้อ ๔ (๒) ให้สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนดําเนินการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน
ตามมาตรฐานการส่งต่อผู้ป่วยที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกําหนด และให้สถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับ
ผู้ ป่ ว ยไว้ ค้ า งคื น ดํ า เนิ น การส่ ง ต่ อ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น ตามมาตรฐานการส่ ง ต่ อ ผู้ ป่ ว ยที่ ก ระทรวงสาธารณสุ ข
ประกาศกําหนดโดยอนุโลม

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๔๗


เล่ม ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๖๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ เมษายน ๒๕๕๗
ข้อ ๗ ให้สถานพยาบาลจัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพ เพื่อคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินตามข้อ ๔ (๑)
ตลอดเวลา รวมทั้งควบคุมและดูแลให้ผู้ปฏิบัติการดําเนินการให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการปฏิบัติการฉุกเฉิน
ตามลําดับความเร่งด่วน ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินประกาศกําหนด
ข้อ ๘ นอกจากการจัดให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการบริการตามข้อ ๔ แล้ว สถานพยาบาล
ต้องจัดให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการบําบัดเจาะจงตามขีดความสามารถอย่างทันท่วงทีด้วย
ข้อ ๙ สถานพยาบาลจะต้องมีมาตรฐานการบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ด้านสถานที่เวชระเบียน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

เครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ ยานพาหนะหรือผู้ประกอบวิชาชีพประจําสถานพยาบาล


ดังต่อไปนี้
(๑) สถานที่สะอาด เรียบร้อย ปลอดภัย และอํานวยความสะดวกเพียงพอ
(๒) มีระบบเวชระเบียนที่ได้มาตรฐาน ได้แก่ ระบบการจัดเก็บ การสืบค้น การคืน และมี
ความสมบูรณ์ของข้อมูลที่บันทึกในเวชระเบียน ดังนี้
(๒.๑) ประวัติการเจ็บป่วย
(๒.๒) อาการแสดง สิ่งตรวจพบและการตรวจร่างกาย
(๒.๓) ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
(๒.๔) การวินิจฉัยและการวินิจฉัยแยกโรค
(๒.๕) คําสั่งรักษา
(๓) กรณีที่เป็นสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
(๓.๑) มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างน้อย ได้แก่ ถุงบีบลมพร้อมหน้ากากครอบ
ช่วยการหายใจ
(๓.๒) ยา เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์อื่นที่สามารถให้การรักษาพยาบาลและช่วยชีวิต
ผู้ป่วยฉุกเฉินตามลักษณะของสถานพยาบาล
(๔) กรณีที่เป็นสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
(๔.๑) มีแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินและต้องจัดให้มี
(ก) ชุดตรวจโรคทั่วไป
(ข) ชุดอุปกรณ์ ยา เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ในการช่วยฟื้นคืนชีพ
(ค) ชุดอุปกรณ์ฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติหรือกึ่งอัตโนมัติ
(ง) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(จ) ชุดใส่ท่อหายใจและช่วยหายใจ
(ฉ) ชุดและอุปกรณ์ในการปฐมพยาบาล เช่น การดามกระดูกเบื้องต้น ชุดห้ามเลือด
ชุดล้างสารพิษ

๒๔๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๖๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ เมษายน ๒๕๕๗

(ช) ชุดรักษาฉุกเฉิน เช่น ชุดเจาะปอด ชุดเจาะคอ ชุดให้น้ําเกลือโดยทางผ่าเส้นเลือด


และโคมไฟส่องเฉพาะที่
(ซ) เครื่องมือส่องหู คอ จมูก และเครื่องหยิบสิ่งแปลกปลอม
(ฌ) อ่างฟอกมือชนิดที่ไม่ใช้มอื เปิดปิดน้ํา
(ญ) ระบบไฟฟ้าและแสงสว่างสํารอง

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ เป็นไปตามลักษณะของสถานพยาบาลและมาตรฐานวิชาชีพ
(๔.๒) มีระบบรถรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน ต้องได้รับอนุญาตให้ใช้งานจากสํานักงานตํารวจแห่งชาติ
และต้องจัดให้มี
(ก) ไฟสัญญาณฉุกเฉินสีน้ําเงินติดตั้งบนหลังคารถ
(ข) เปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
(ค) ชุดอุปกรณ์ ยา เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ในการช่วยฟื้นคืนชีพประจํารถ
(ง) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(จ) ชุดห้ามเลือด เย็บแผลและทําแผล
(๔.๓) จัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ประจําแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินตลอดเวลาทําการอย่างน้อยหนึ่งคน
ข้อ ๑๐ ในกรณีที่ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตผู้ใดเป็นผู้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมาย
ว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือกฎหมายว่าด้วยประกันสังคมหรือกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน
หรื อ จากส่ ว นราชการ หรือ องค์ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น หรื อ รัฐ วิ ส าหกิ จ หรือ หน่ว ยงานอื่ น ของรั ฐ
และเมื่อผู้นั้นไปรับบริการจากสถานพยาบาลเมื่อใดแล้ว ให้สถานพยาบาลแจ้งการเข้ารับบริการและให้
เรียกเก็บค่าใช้จ่าย ด้านการรักษาพยาบาลตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่สํานักงาน หรือหน่วยงาน
ต้นสังกัด หรือกองทุนที่ผู้ป่วยพึงมีสิทธิด้านการรักษาพยาบาลนั้น หรือจากหน่วยงานตามนโยบายรัฐบาล
แล้วแต่กรณีประกาศกําหนด
ข้อ ๑๑ นอกจากมาตรฐานการบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินของสถานพยาบาลตามที่กําหนด
ในประกาศนี้ ให้ถือปฏิบัติโดยอนุโลมตามมาตรฐานการให้บริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินตามกฎหมาย
ว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉินและมาตรฐานการให้บริการสาธารณสุขกรณีอุบัติเหตุหรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน
ตามกฎหมาย ว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์
และสาธารณสุขด้วยแล้วแต่กรณี

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๔๙


เล่ม ๑๓๑ ตอนพิเศษ ๖๑ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๐ เมษายน ๒๕๕๗
ข้อ ๑๒ ให้สถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการ
สถานพยาบาลอยู่ก่อนวันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ดําเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานการบริการ
ด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ
ข้อ ๑๓ ในกรณีท่ีมีปัญหาในการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้ประธานกรรมการสถานพยาบาล
เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ประกาศ ณ วันที่ ๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗


ประดิษฐ สินธวณรงค์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

๒๕๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๒๘ ตอนพิเศษ ๑๕๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๔

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง มาตรฐานการให้บริการการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในสถานพยาบาล

อาศัย อํานาจตามความในมาตรา ๖ และมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล


พ.ศ.๒๕๔๑ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัด สิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาลออกประกาศกําหนด
มาตรฐานการให้บริการการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในสถานพยาบาลไว้ ดังต่อนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๔๓) เรื่อง มาตรฐาน
การให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในสถานพยาบาล
ข้อ ๒ ในประกาศฉบับนี้
“การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis)” หมายความถึง การรักษาผู้ป่วยโดยวิธีการ
กรองของเสีย หรือสารพิษจากเลือดโดยให้เลือดจากหลอดเลือดของผู้ป่ว ยผ่านเข้าไปในท่อฝอย ซึ่งมี
เป็น จํานวนมากในตัว กรองเลือด (Dialyser) เพื่อให้ของเสีย หรือสารพิษในเลือดซึมผ่านผนังท่อฝอย
ออกไปในน้ํายาที่หล่ออยู่รอบนอกของท่อฝอยในตัวกรองเลือด
ข้อ ๓ ผู้ รั บ อนุ ญ าตและผู้ ดํ า เนิ น การสถานพยาบาล จะต้ อ งรั บ ผิ ด ชอบหรื อ จั ด ให้ มี
ผู้ประกอบวิชาชีพเป็นผู้รับผิดชอบในการให้บริการการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ดังนี้
(๑) ผู้ประกอบวิชาชีพ เวชกรรมที่ได้รับวุฒิบัต รหรือหนังสืออนุมัติจากแพทยสภา ในสาขา
อายุรศาสตร์โรคไต หรือสาขากุมารเวชศาสตร์โรคไต หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ได้ผ่านการอบรม
การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมจากสถาบันที่คณะกรรมการสถานพยาบาลรับรอง
(๒) ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ที่ได้ผ่านการอบรมการฟอกเลือด
ด้ ว ยเครื่ อ งไตเที ย มจากสถาบั น ที่ ค ณะกรรมการสถานพยาบาลรั บ รอง โดยมี สั ด ส่ ว นไม่ น้ อ ยกว่ า
๑ คน ต่อผู้ป่วยที่รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ๔ คน ในแต่ละช่วงเวลาและมีพยาบาลวิชาชีพ
เป็นผู้ช่วยปฏิบัติงานร่วมด้วยในสัดส่วนเดียวกัน
นอกจากผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการสถานพยาบาลต้องจัด ให้มีบุค ลากรตามวรรคหนึ่งแล้ว
ควรจัดให้มีนักโภชนาการ นักจิตวิทยา เพื่อให้คําแนะนํา ปรึกษาในการดูแลผู้ป่วย
ข้อ ๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ ตามข้อ ๓ (๑) และข้อ ๓ (๒) จะต้องเป็นผู้ดูแลและรักษา
ผู้ป่วยและดําเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ในการให้บริการการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ให้เป็นไปตาม
หลักวิชาการและข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
ข้อ ๕ ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการสถานพยาบาลที่จะให้บริการการฟอกเลือดด้วยเครื่อง
ไตเทียม จะต้องจัดให้มีสถานที่ สิ่งแวดล้อม และสิ่งอํานวยความสะดวก ดังต่อไปนี้

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๕๑


เล่ม ๑๒๘ ตอนพิเศษ ๑๕๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๔
(๑) มีขนาดของห้องบริการฟอกเลือดที่สัมพัน ธ์กับจํานวนเตียงและอุปกรณ์แ ละพื้นที่ใช้สอย
เหมาะสมในการปฏิบัติงานที่ได้มาตรฐาน โดยมีพื้นที่ไม่ต่ํากว่าสี่ตารางเมตรต่อหนึ่งจุดบริการ โดยส่วนที่
แคบที่ สุ ด ไม่ น้ อ ยกว่ า ๑.๘ เมตร เพื่ อ ให้ มี พ้ื น ที่ ส ามารถช่ ว ยเหลื อ และเคลื่ อ นย้ า ยผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น
ได้โดยสะดวก ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวไม่รวมพื้นที่เตรีย มน้ําบริสุทธิ์ พื้น ที่ล้างตัวกรอง ห้องพักผู้ปฏิบัติงาน
ห้องเก็บของ ห้องน้ํา ทางเดิน เป็นต้น
(๒) มีระบบไฟฟ้าและแสงสว่างสํารอง
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

(๓) จัดให้มีบริการตรวจทางห้องปฏิบัติการชันสูตรที่ได้มาตรฐานและสามารถทําการตรวจวิเคราะห์
ผลการชันสูตรได้เท่าที่จําเป็นเป็นอย่างน้อย
ข้อ ๖ ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการสถานพยาบาลที่จะให้บริการการฟอกเลือด ด้วยเครื่องไตเทียม
ต้องจัดให้มีเครื่องมือและอุปกรณ์ในจํานวนที่เพียงพอ ดังนี้
(๑) เครื่องไตเทียมที่ได้มาตรฐาน พร้อมทั้งหนังสือคู่มือประจําเครื่อง เกณฑ์การทําความสะอาด
และการทะนุบาํ รุงเครื่อง โดยถ้าเป็นฉบับภาษาอังกฤษ ต้องมีฉบับภาษาไทยด้วย
(๒) ระบบทําน้ําบริสุท ธิ์ที่ได้มาตรฐาน (Water Treatment System) เช่น Reverse
Osmosis, Deionizer พร้อมเกณฑ์การทําความสะอาดระบบน้ําและควบคุมคุณ ภาพของน้ําบริสุท ธิ์
อยู่ตลอดเวลา
(๓) ตัวกรองเลือด ในกรณีที่จะนําตัวกรองเลือดมาใช้ซ้ํา (Dialyzer Reprocessing) จะต้อง
มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด
(๔) เครื่องมือและยาในการปฏิบัติการกู้ชีพ อย่างน้อยจะต้องมี
(ก) อุปกรณ์ในการปฏิบัติการกู้ชีพ ที่พ ร้อมจะใช้งาน ได้แ ก่ Self inflating bag
(Ambu bag), Laryngoscope, Endotracheal tube ขนาดต่าง ๆ, Oral Airway
(ข) ยาสําหรับช่วยชีวิตฉุกเฉิน ได้แก่ Adrenalin injection, Sodium Bicarbonate
injection, Calcium Chloride/Gluconate injection, Glucose
(ค) ออกซิเจนพร้อมอุปกรณ์ในการให้ออกซิเจนแก่ผู้ป่วย
(ง) เครื่องดูดเสมหะ
(จ) รถเข็นสําหรับกู้ชีพฉุกเฉิน
ข้อ ๗ ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนิน การสถานพยาบาลต้องจัด ให้มีระบบควบคุมการติด เชื้ อ
ดังนี้
(๑) ห้องให้บริการฟอกเลือด ต้องเป็นเขตกึ่งปลอดเชื้อ
(๒) การใช้และปฏิบัติงานในเขตห้องบริการฟอกเลือดถูกต้องตามหลักการมาตรฐานการควบคุม
การติดเชื้อ
(๓) มาตรฐานการดูแลทําความสะอาดห้อง อุปกรณ์ เครื่องใช้และสิ่งอํานวยความสะดวก

๒๕๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๒๘ ตอนพิเศษ ๑๕๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๔
ข้อ ๘ ในการให้บริการการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมทุกครั้ง ต้องจัดให้มีการลงทะเบียน
และบันทึกข้อมูลของผู้ป่วยระหว่างที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีการการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมทุกราย
ข้อ ๙ สถานพยาบาลจะต้องได้รั บความยินยอมจากผู้ ป่ว ยก่อ นให้ บริก ารการฟอกเลือ ด
ด้วยเครื่องไตเทียมครั้งแรกทุกราย โดยสถานพยาบาลจะต้องชี้แจงขั้นตอนปฏิบัติ ผลที่อาจเกิดขึ้นจาก
การให้บ ริ การทุ ก ด้า น ให้ ผู้ป่ ว ยทราบก่ อ นให้ค วามยิน ยอม และต้อ งได้ รับ ความยิ นยอมจากผู้ป่ ว ย
ในครั้งต่อไปทุก ๖ เดือน

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
กรณีฉุกเฉินซึ่งผู้ป่ว ยไม่อยู่ในภาวะที่จะให้ความยินยอมได้ หากเมื่อผู้ป่วยพร้อมให้ดําเนินการ
ตามวรรคหนึ่ง
ข้อ ๑๐ กรณีสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่ว ยไว้ค้างคืน ต้องมีระบบในการเคลื่อนย้าย
และส่งต่อผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน พร้อมที่จะนําส่งผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
ที่มีบริการการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมตามที่ได้มีข้อตกลงกันไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
ข้อ ๑๑ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบั บ นี้ ใ ห้ใ ช้ บั ง คั บ ตั้ง แต่ วั น ถัด จากวั น ประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ให้ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการสถานพยาบาล ซึ่งให้บริการการฟอกเลือด
ด้วยเครื่องไตเทียมอยู่ก่อนวันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ ดําเนินการให้ถูกต้องภายในสามร้อยหกสิบห้าวัน
นับแต่วันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บงั คับ

ประกาศ ณ วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔


วิทยา บุรณศิริ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๕๓


เล่ม ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๑๖๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๘

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง กําหนดผู้ดําเนินการของสถานพยาบาลประเภทสหคลินิก

โดยที่เป็นการสมควรกําหนดบุคคลที่เป็นผู้ดําเนินการของสถานพยาบาลประเภทสหคลินิก
อาศั ย อํ า นาจตามความในข้ อ ๒ แห่ ง กฎกระทรวงกํ า หนดลั ก ษณะของสถานพยาบาล
และลั ก ษณะการให้ บ ริ ก ารของสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่ ง ออกตามความในพระราชบั ญ ญั ติ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ปลั ด กระทรวงสาธารณสุ ข ในฐานะผู้ อ นุ ญ าตโดยคํ า แนะนํ า ของ


คณะกรรมการสถานพยาบาลออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กําหนดผู้ดําเนินการของ
สถานพยาบาลประเภทสหคลินิก”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
“ผู้ดําเนินการสหคลินิก” หมายความว่า ผู้ดําเนินการที่ให้บริการในคลินิกที่จัดให้มีการประกอบ
วิ ช าชี พ เวชกรรม ทั น ตกรรม การพยาบาล การผดุ ง ครรภ์ กายภาพบํ า บั ด เทคนิ ค การแพทย์
การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ และการประกอบโรคศิลปะ ตั้งแต่สองลักษณะขึ้นไป
และดําเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพ วิชาชีพใดวิชาชีพหนึ่งหรือผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาใดสาขาหนึ่ง
ที่ให้บริการในคลินิกนั้น

ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘


สุริยะ วงศ์คงคาเทพ
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข

๒๕๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไข ในการเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ซึ่งเป็นผู้แทนสภาวิชาชีพอื่นตามมาตรา ๗ (๑) ในคณะกรรมการสถานพยาบาล

โดยที่เป็นการสมควรกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน


คณะกรรมการสถานพยาบาล ตามมาตรา ๗ (๑) แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อให้การดําเนินการ
เป็นไปตามกฎหมาย
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
และมาตรา ๗ (๑) แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่ ง แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดย
พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล (ฉบั บ ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวงสาธารณสุ ข
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และ
เงื่ อ นไข ในการเลื อ กกรรมการผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ซึ่ ง เป็ น ผู้ แ ทนสภาวิ ช าชี พ อื่ น ตามมาตรา ๗ (๑)
ในคณะกรรมการสถานพยาบาล”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ การเลื อ กกรรมการผู้ท รงคุ ณ วุ ฒิซึ่ ง เป็ น ผู้ แ ทนสภาวิ ชาชี พ อื่ น ตามมาตรา ๗ (๑)
ซึ่งได้แก่ ผู้แทนสภากายภาพบําบัด สภาเทคนิคการแพทย์ และสภาการแพทย์แผนไทย ให้ดําเนินการ
ดังนี้
(๑) ให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพมีหนังสือแจ้งให้นายกสภากายภาพบําบัด นายกสภา
เทคนิคการแพทย์ และนายกสภาการแพทย์แผนไทย ดําเนินการเสนอรายชื่อบุคคลของแต่ละวิชาชีพ
ไปให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพภายในระยะเวลาที่กําหนด หากพ้นกําหนด ถือว่าหมดสิทธิ
ในการเสนอชื่อเพื่อเลือกกรรมการในครั้งนี้
การเสนอรายชื่อตามวรรคหนึ่ง ให้เสนอรายชื่อได้สภาวิชาชีพละไม่เกินหนึ่งคน พร้อมทั้งประวัติ
โดยบุคคลดังกล่าวต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพภายใต้การควบคุมของสภาวิชาชีพนั้น
(๒) ให้สํานักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพจัดทํา
บัญชีรายชื่อตามที่สภาวิชาชีพแต่ละวิชาชีพได้เสนอรายชื่อ
(๓) ให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพมีหนังสือเชิญบุคคลตาม (๒) มาประชุมด้วยตนเอง
เพื่อให้คัดเลือกกันเองให้เหลือจํานวนสองคน
(๔) ให้ อ ธิ บ ดี ก รมสนั บ สนุ น บริ ก ารสุ ข ภาพ ทํ า หน้ า ที่ ป ระธานในการประชุ ม อํ า นวยการ
การเลือกผู้แทนสภาวิชาชีพตาม (๓) และอาจแต่งตั้งข้าราชการในกรมสนับสนุนบริการสุขภาพทําหน้าที่
เป็นเลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการด้วยก็ได้

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๕๕


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐
(๕) การออกเสียงให้กระทําโดยการลงคะแนนลับในบัตรเลือกเพียง ๑ ใบ โดยให้ผู้ที่มีสิทธิ
เลื อ กกรรมการผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ต ามมาตรา ๗ (๑) เข้ า ประชุ ม เลื อ กบุ ค คลตามบั ญ ชี ร ายชื่ อ ใน (๒)
ที่มาประชุมจํานวนสองรายชื่อเท่านั้น ถ้าไม่เป็นไปตามเงื่อนไขนี้ถือว่าเป็นบัตรเสีย
(๖) ในกรณี ที่มีผู้ไ ด้รับการเสนอชื่อตามบัญ ชีรายชื่อใน (๒) และมาประชุมไม่เกินสองคน
ให้ ถื อ ว่ า ผู้ นั้ น เป็ น ผู้ ไ ด้ รั บ การคั ด เลื อ กให้ เ ป็ น กรรมการผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ใ นคณะกรรมการสถานพยาบาล
โดยไม่ต้องมีการออกเสียงลงคะแนน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

(๗) กรณี ที่ มี ผู้ ไ ด้ รั บ การเลื อ กตั้ ง แต่ ส องคนขึ้ น ไป ให้ ผู้ ซึ่ง ได้ ค ะแนนสู ง สุ ด และได้ ค ะแนน
รองลงมาเรี ย งตามลํา ดั บเป็ น ผู้ซึ่ ง ได้ รั บ การคัด เลื อกให้เป็ น กรรมการผู้ท รงคุ ณ วุ ฒิ ในคณะกรรมการ
สถานพยาบาล และหากได้คะแนนเท่ากันให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพดําเนินการตัดสินโดย
วิธีการจับสลากเพื่อเรียงตามลําดับที่ โดยให้ผู้ได้รับเลือกลําดับที่ ๑ และ ๒ เป็นผู้ได้รับการคัดเลือก
ให้เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถานพยาบาล
ข้อ ๔ ในกรณีที่ดําเนินการตามข้อ ๓ แล้ว และคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ไม่ครบสองคน
ให้ดําเนินการ ดังนี้
(๑) กรณีที่มีสภาวิชาชีพ เสนอชื่อไม่ถึงสองสภาวิชาชีพ ให้ดําเนินการตามข้อ ๓ เพื่อคัดเลือก
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มให้ครบจํานวน
(๒) กรณีที่มีสภาวิชาชีพเสนอชื่อมาตั้งแต่สองสภาวิชาชีพขึ้นไป แต่มาประชุมไม่ถึงสองสภาวิชาชีพ
ให้ดําเนินการตามข้อ ๓ (๓) (๔) (๕) และ (๖) จากรายชื่อตามข้อ ๓ (๒) ที่ยังไม่ถูกคัดเลือกโดยอนุโลม
ข้อ ๕ ให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเสนอรายชื่อบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกตามข้อ ๓
พร้อมทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ตามมาตรา ๗ (๑)
ข้อ ๖ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๗ (๑) พ้นจากตําแหน่งก่อนวาระ และ
จําเป็นต้องแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตามมาตรา ๙ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ให้ดําเนินการ
ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขที่กําหนด ในประกาศนี้โดยอนุโลม

ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐


ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

๒๕๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไข ในการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่น
ตามมาตรา ๗ (๒) ในคณะกรรมการสถานพยาบาล

โดยที่เป็นการสมควรกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่น


ในคณะกรรมการสถานพยาบาล ตามมาตรา ๗ (๒) แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อให้การดําเนินการ
เป็นไปตามกฎหมาย
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
และมาตรา ๗ (๒) แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่ ง แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดย
พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล (ฉบั บ ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวงสาธารณสุ ข
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และ
เงื่อนไข ในการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่น ตามมาตรา ๗ (๒) ในคณะกรรมการสถานพยาบาล”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
“คณะผู้สรรหา” หมายความว่า คณะผู้สรรหาบุคคลเพื่อเสนอให้รัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นกรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิอื่นตามมาตรา ๗ (๒) แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และฉบับแก้ไข
เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
ข้อ ๔ ให้มีคณะผู้สรรหาคณะหนึ่งประกอบด้วย อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพหรือ
ผู้ที่อธิบดีมอบหมาย เป็นประธาน ผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้แทนกลุ่มสถาบัน
แพทยศาสตร์ แ ห่ ง ประเทศไทย และผู้ อํ า นวยการสํ า นั ก สถานพยาบาลและการประกอบโรคศิ ล ปะ
เป็นเลขานุการ
ข้อ ๕ ให้ ค ณะผู้ ส รรหาตามข้ อ ๔ ดํ า เนิ น การคั ด เลื อ กและเสนอบุ ค คลผู้ ส มควรได้ รั บ
การแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่นตามที่กําหนดในมาตรา ๗ (๒) ไม่เกินสามเท่าของที่กําหนด
ในแต่ละด้าน ดังนี้
(๑) ผู้ดําเนินการสถานพยาบาลจํานวนไม่เกินหกคน
(๒) คณบดีคณะแพทยศาสตร์ในสถาบันอุดมศึกษาจํานวนไม่เกินสามคน
(๓) ผู้แทนสมาคมโรงพยาบาลเอกชนจํานวนไม่เกินสามคน
(๔) ผู้แทนองค์กรเอกชนที่ดําเนินกิจกรรมทางด้านการคุ้มครองผู้บริโภคจํานวนไม่เกินสามคน

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๕๗


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐
ข้อ ๖ ให้คณะผู้สรรหาเสนอชื่อบุคคลในข้อ ๕ พร้อมประวัติ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
สาธารณสุ ข คั ด เลื อ กผู้ ไ ด้ รั บ การเสนอชื่ อ จากคณะผู้ ส รรหา ตามข้ อ ๕ เพื่ อ แต่ ง ตั้ ง เป็ น กรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิอื่นในคณะกรรมการสถานพยาบาล ดังต่อไปนี้
(๑) ผู้ดําเนินการสถานพยาบาลจํานวนสองคน
(๒) คณบดีคณะแพทยศาสตร์ในสถาบันอุดมศึกษาจํานวนหนึ่งคน
(๓) ผู้แทนสมาคมโรงพยาบาลเอกชนจํานวนหนึ่งคน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

(๔) ผู้แทนองค์กรเอกชนที่ดําเนินกิจกรรมทางด้านการคุ้มครองผู้บริโภคจํานวนหนึ่งคน
ข้อ ๗ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่นตามมาตรา ๗ (๒) พ้นจากตําแหน่งก่อนวาระ
ตามมาตรา ๙ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ และจําเป็นต้องแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ด้านเดียวกันแทน ให้คณะผู้สรรหาดําเนินการคัดเลือกบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเดียวกันแทน ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขตามประกาศนี้โดยอนุโลม

ประกาศ ณ วันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐


ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

๒๕๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกรมสนับสนุน
บริการสุขภาพ
เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๘๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและค่าใช้จา่ ยในการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล
พ.ศ. 2562

โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและค่าใช้จ่ายในการโฆษณา หรือ


ประกาศเกี่ยวกับการประกอบกิจการของสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล เพื่อให้มี
ความเหมาะสม มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมถึงเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วน
อาศัยอานาจตามความในมาตรา 38 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 อธิบดีกรมสนับสนุน
บริการสุขภาพในฐานะผู้อนุญาต จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เงื่อนไขและค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล พ.ศ. 2562”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข
และค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล
ข้อ ๔ ในประกาศนี้
“โฆษณาหรือประกาศ” หมายความว่า การกระทาไม่ว่าโดยวิธีใด ๆ ให้ประชาชน เห็น
ได้ยิน หรือทราบ ข้อความ เสียง หรือภาพ เพื่อประโยชน์ทางการค้าของสถานพยาบาล
“คาขอ” หมายความว่า คาขออนุมัติการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล
“หนังสืออนุมัต”ิ หมายความว่า หนังสืออนุมัติการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล
หมวด 1
การโฆษณาหรือประกาศเกีย่ วกับสถานพยาบาล

ข้อ ๕ การโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล ซึ่งชื่อและที่ตั้งของสถานพยาบาล


ตามที่ได้รับอนุญาตให้สามารถกระทาได้โดยไม่ต้องขออนุมัติจากผู้อนุญาต
ข้อ ๖ การโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล ณ สถานพยาบาล ดังต่อไปนี้
ให้ถือว่าผู้อนุญาตอนุมัติให้มีการโฆษณาได้ โดยไม่ต้องยื่นคาขอ
(1) ชื่อย่อ ชื่อที่เป็นภาษาต่างประเทศ ชื่อที่ใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าของสถานพยาบาล
และสัญลักษณ์ของสถานพยาบาลที่สื่อความหมายเช่นเดียวกับชื่อสถานพยาบาล
(๒) คุ ณวุ ฒิ หรือความสามารถของผู้ ประกอบวิชาชีพซึ่งเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบ
วิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๖๑


เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๘๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
(๓) อัตราค่ารักษาพยาบาล ค่ายาเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่น ๆ ทั้งนี้
การโฆษณาอัตราค่าบริการแบบเหมาจ่ายต้องแจ้งรายละเอียดของเงื่อนไขในการโฆษณานั้น โดยต้องแจ้ง
เงื่อนไขให้ผู้รับบริการทราบล่วงหน้าก่อนให้บริการ
(4) สิทธิของผู้ป่วย ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
(๕) การบริการทางการแพทย์ ให้แจ้งเฉพาะบริการที่มีในสถานพยาบาล วัน เวลา ที่ให้บริการ
ตามที่ได้รับอนุญาต
(๖) การเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการและผลงานวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขต้องไม่เป็นเท็จ
โอ้อวดเกินจริง หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสาคัญเกี่ยวกับการให้บริการของสถานพยาบาล
และต้องระบุคาเตือนไว้ว่ามีความเสี่ยงของการไม่ได้ผลหรืออาจเกิดอันตรายหรือเกิดผลข้างเคียงกับ
ผู้ใช้บริการ โดยที่ขนาดตัวอักษรต้องเท่ากับตัวอักษรที่โฆษณาและความเร็วของเสียงต้องไม่เร็วไปกว่า
เสียงปกติ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

(๗) การแจ้งข่าวสาร เช่น แจ้งทาลายเวชระเบียน แจ้งย้ายสถานที่ แจ้งกิจกรรมในวันสาคัญ


ต่าง ๆ ให้แจ้งได้เฉพาะกิจกรรมและวันเวลาที่จัดกิจกรรม นั้น
ข้อ ๗ ห้ามมิให้โฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลในลักษณะ ดังต่อไปนี้
(๑) การโฆษณาหรือประกาศอันเป็นเท็จหรือไม่มีมูลความจริง โอ้อวดเกินจริง หลอกลวง
ปกปิดความจริง หรือทาให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดว่าเป็นจริงทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน เช่น ใช้ข้อความ
ภาพ หรือเสียงที่บ่งบอกว่าของตนดีกว่า เหนือกว่า ดีที่สุด รายแรก แห่งแรก รับรองผล ๑0๐%
หายขาด หรือ การเปรียบเทียบ หรือการใช้ข้อความ ภาพ หรือเสียงอื่นใดที่มีความหมายในทานอง
เดียวกัน มาใช้ประกอบการโฆษณาหรือประกาศทาให้เข้าใจว่าการบริการของสถานพยาบาลแห่งนั้น
มีคุณภาพมาตรฐานที่ดีกว่า เหนือกว่า หรือสูงกว่าสถานพยาบาลอื่น หรือเกิดความคาดหวังว่าจะได้รับ
บริการที่ดีกว่า เหนือกว่า หรือสูงกว่าสถานพยาบาลอื่น หรือได้ผลสูงสุด
(๒) การโฆษณาหรื อ ประกาศที่ ท าให้ บุ ค คลทั่ ว ไปเข้ า ใจหรื อ คาดหวั ง ว่ า ในสถานพยาบาล
มี ผู้ ป ระกอบวิ ช าชี พ บุ ค ลากร เครื่ อ งมื อ เครื่ อ งใช้ ยา เวชภั ณ ฑ์ หรื อ อุ ป กรณ์ ท างการแพทย์
แต่โดยข้อเท็จจริงไม่มีในสถานพยาบาล หรือไม่เป็นไปตามโฆษณาหรือประกาศ เช่น การโฆษณาหรือ
ประกาศเกี่ยวกับความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญในการรักษาพยาบาล คุณภาพ ประสิทธิภาพ
ประสิทธิผล ของผู้ประกอบวิชาชีพ สรรพคุณของเครื่องมือเครื่องใช้ ของสถานพยาบาล กรรมวิธีการรักษา
หรือโรคที่ให้การรักษาไปในทานองให้เข้าใจผิดโดยไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการที่เป็นมาตรฐานวิชาชีพ
(๓) การโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับชื่อสถานพยาบาล ซึ่งทาให้บุคคลทั่วไปเข้าใจ หรือ
หลงเชื่อว่าสถานพยาบาลนั้น ประกอบกิจการไม่ตรงกับที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการ
(๔) การโฆษณาหรือประกาศด้วยวิธีการอันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย จิตใจ หรือ
ก่อให้เกิดความราคาญแก่ผู้ใช้บริการหรือประชาชนทั่วไป

๒๖๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๘๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
(๕) การโฆษณาหรือประกาศที่ไม่เหมาะสมสร้างความหวาดกลัว หรือมีลักษณะเป็นการส่อ
ไปในทางลามกอนาจาร หรือมีลักษณะเป็นการกระตุ้น หรือยั่วยุทางกามารมณ์
(๖) การโฆษณาหรือประกาศโดยไม่สุภาพหรือแสดงอาการทุกข์ทรมานของผู้ป่วย
(๗) การโฆษณาหรือประกาศที่มีลักษณะที่เป็นการดูหมิ่นให้ร้าย เสียดสีหรือทับถมสถานพยาบาล
หรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่น
(๘) การโฆษณาหรือประกาศที่มีลั กษณะอันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรม
อันดีของประชาชน
(๙) การโฆษณาหรือประกาศที่รวมอยู่กับการถวายพระพร หรือการกระทาอย่างอื่นที่อ้างอิง
เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สาเร็จราชการแทนพระองค์
หมวด ๒
การอนุมตั ิโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ข้อ ๘ การโฆษณาหรื อ ประกาศเกี่ ย วกั บ สถานพยาบาล นอกเหนื อ จากข้ อ ๕ ข้ อ ๖
และข้อ ๗ ผู้ใดประสงค์จะโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการ
สถานพยาบาล หรือผู้รับอนุญาต ยื่นคาขอต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยข้อความ เสียงหรือภาพ ที่ใช้ในการ
โฆษณาหรือประกาศ เอกสาร หลักฐานและค่าใช้จ่ายตามที่ระบุไว้ในแบบคาขอท้ายประกาศนี้ และ
ชาระค่าธรรมเนียมตามประกาศนี้
กรณีที่ข้อความโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลได้ทาขึ้นเป็นภาษาต่างประเทศ
โดยให้ผู้ขอรับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล หรือผู้รับอนุญาต จัดทาคาแปลเป็นภาษาไทย
โดยมีคารับรองของผู้แปล ส่งให้ผู้อนุญาตเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย
ข้อ ๙ เมื่อผู้อนุญาตได้รับคาขอพร้อมด้วยเอกสาร หลักฐาน และค่าใช้จ่าย ถูกต้องครบถ้วนแล้ว
ให้ผู้อนุญาตพิจารณาการโฆษณาหรือ ประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล และมีคาสั่งอนุมัติ หรือไม่อนุมัติ
การโฆษณาหรือประกาศเกี่ย วกับสถานพยาบาลดัง กล่า ว ภายในสามสิบวัน นั บแต่วันที่ไ ด้รับคาขอ
พร้อมเอกสาร และหลักฐานดังกล่าวถูกต้องครบถ้วน ในกรณีที่มีเหตุผลหรือความจาเป็นที่ไม่อาจพิจารณา
ให้แล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว อาจขยายระยะเวลาการพิจารณาออกไปได้อีกไม่เ กินสามสิบวัน
แต่ต้องมีหนังสือแจ้งเหตุผลหรือความจาเป็นนั้นให้ผู้ยื่นคาขอทราบก่อนครบกาหนดระยะเวลาดังกล่าว
ในกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการพิจารณาโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล ตามวรรคหนึ่ง
ผู้อนุญาตอาจขอความเห็นจากอนุกรรมการที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการสถานพยาบาล เพื่อประกอบการ
พิจารณาได้
ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคาสั่งอนุมัติ อนุมัติโดยมีเงื่อนไข หรือไม่อนุมัติการโฆษณาหรือประกาศ
เกี่ยวกับสถานพยาบาลให้ผู้อนุญาตแจ้งให้ผู้ยื่นคาขอทราบ ทั้งนี้ กรณีผู้อนุญ าตมีคาสั่งไม่อนุมัติให้แจ้ง

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๖๓


เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๘๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
เป็ น หนัง สือแก่ ผู้ยื่ น คาขอทราบพร้ อมด้ว ยเหตุผล ภายในเจ็ด วัน ท าการนั บแต่วัน ที่มีคาสั่งไม่อนุ มัติ
การโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล
ข้อ ๑๐ การโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล ผู้อนุญาตอาจอนุมตั ิให้ทาการโฆษณา
หรือประกาศได้ ภายใต้เงื่อนไข ดังต่อไปนี้
(๑) กรณีการโฆษณาให้บริการ “ฟรี” โดยไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายใด ๆ จะต้องระบุวัน เวลา
และสถานที่ให้บริการ ตลอดจนแสดงรายละเอียดให้ชัดเจนว่าจะให้บริการฟรีในเรื่องใด
(๒) กรณี ก ารโฆษณาหรื อ ประกาศที่ จั ด ให้ มี ก ารแถมพก แลกเปลี่ ย น ให้ สิ ท ธิ ป ระโยชน์
รางวัลหรือการเสี่ยงโชค จากการเลือกรับบริการทางการแพทย์อย่างใดอย่างหนึ่งจากสถานพยาบาลนั้น
ต้องระบุให้ผู้รับบริการเป็นผู้รับประโยชน์โดยตรง และมาตรฐานการรับบริการทางการแพทย์จะต้อง
ไม่ต่ากว่ามาตรฐานทั่วไปของสถานพยาบาล
(๓) กรณี ก ารให้ ส่ ว นลดที่ มิไ ด้เ กี่ ย วกั บ การให้ บริ ก ารทางการแพทย์ ห รื อค่ า รั กษาพยาบาล
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

และมิได้เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการสถานพยาบาล ผู้รับบริการต้องเป็นผู้รับประโยชน์โดยตรง
จากส่วนลดนั้น
(๔) กรณีการให้ส่วนลดค่าบริการหรือค่ารักษาพยาบาล หาก
(ก) เป็ น กรณี ก ารให้ ส่ ว นลดเพื่ อ การอนุ เ คราะห์ บุ ค คลด้ อ ยโอกาสหรื อ ตามแผนงาน
ของกระทรวงสาธารณสุขหรือที่กระทรวงสาธารณสุขรับรอง หรือ
(ข) เป็นกรณีการให้ส่วนลดต่อสมาชิกกลุ่มบุคคลหรือสถาบันหรือองค์กรโดยเป็นการประกาศ
หรือแจ้งให้ทราบเฉพาะกลุ่มนั้น ๆ ทั้งนี้ จะต้องกาหนดประเภทของบริการให้ชัดเจนและกาหนดวันเริ่มต้น
และสิ้นสุดของระยะเวลาที่ให้ส่วนลดให้ชัดเจน โดยการให้ส่วนลดต้องไม่เกิน ๑ ปี
(๕) กรณีการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จะต้องระบุเงื่อนไขและรายละเอียดของสิทธิประโยชน์
ต่าง ๆ ให้ชัดเจนและจะต้องกาหนดวันเริ่มต้นและสิ้นสุดของระยะเวลาที่ให้สิทธิประโยชน์นั้น ๆ
(6) กรณีการโฆษณาหรือประกาศว่าในสถานพยาบาลมีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยา เวชภัณฑ์
อุปกรณ์ทางการแพทย์ จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ถูกต้องก่อนยื่นคาขอและให้นา
หลักฐานการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาแสดงต่อผู้อนุญาต
ข้อ 1๑ กรณี ผู้ อ นุ ญ าตมี ค าสั่ ง ไม่ อ นุ มั ติ ก ารโฆษณาหรื อ ประกาศเกี่ ย วกั บ สถานพยาบาล
ให้ผู้ยื่นคาขอมีสิทธิอุทธรณ์ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
ข้อ 1๒ หนังสืออนุมัติการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลให้ เป็น ไปตามแบบ
ท้ายประกาศนี้ โดยผู้อนุญาตจะกาหนดระยะเวลาหรือเงื่อนไขในหนังสืออนุมัติไว้ด้วยก็ได้
ข้อ ๑๓ ผู้ได้รับอนุมัติการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล ต้องปฏิบัติให้ถูกต้อง
ตามเงื่อนไขที่ปรากฏในหนั งสืออนุมัติโ ฆษณาหรื อประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล รวมถึงเอกสาร
ข้อความโฆษณา ภาพ และเสียงแนบท้ายหนังสืออนุมัติโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล

๒๖๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๘๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒

ข้อ ๑๔ การโฆษณาหรื อ ประกาศเกี่ ย วกั บ สถานพยาบาลให้ ผู้ ไ ด้ รั บ อนุ มั ติ แ สดงข้ อ ความ


เลขที่หนังสืออนุมัติในสื่อที่ได้รับอนุมัติให้ทาการโฆษณาหรือประกาศ
หมวด ๓
การขอออกใบแทนหนังสืออนุมัตโิ ฆษณาหรือประกาศเกีย่ วกับสถานพยาบาล

ข้อ ๑๕ ในกรณีที่หนังสืออนุมัติสูญหาย ถูกทาลาย หรือชารุด ในสาระสาคัญ ให้ผู้ได้รับ


หนังสืออนุมัติยื่นคาขอรับใบแทนหนังสืออนุมัติต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้
ในแบบคาขอรับใบแทนหนังสืออนุมัติและค่าใช้จ่ายภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับทราบถึงการสูญหาย
ถูกทาลาย หรือชารุดในสาระสาคัญดังกล่าว รวมทั้งให้ส่งคืนหนังสืออนุมัติฉบับเดิมที่ชารุดหรือยื่นหลักฐาน
การแจ้งความกรณีสูญหายหรือถูกทาลาย

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
การพิจารณาออกใบแทนหนังสืออนุมัติ ให้ผู้อนุญาตออกหนังสืออนุมัติใหม่ตามหนังสืออนุมัติเดิม
โดยให้กากับคาว่า “ใบแทน” ไว้ที่มุมบนด้านซ้าย และระบุวัน เดือน ปี ที่ออกใบแทนหนังสืออนุมัติ
ไว้ด้วย
หมวด ๔
ค่าใช้จ่าย

ข้อ ๑๖ ค่ า ใช้ จ่ า ยในการตรวจข้ อ ความ ภาพและเสี ย งการโฆษณาหรื อประกาศเกี่ยวกับ


สถานพยาบาล
(๑) ใบคาขออนุมัติโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลเนื้อหาโฆษณา กระดาษขนาดเอสี่
ตัวอักษรขนาดไม่ต่ากว่าสิบหกพอยต์ หน้าละห้าร้อยบาท สื่อโฆษณาที่เป็นภาพหรือเสียง วินาทีละ
ห้าสิบบาท
(๒) ใบแทนหนังสืออนุมัติ ฉบับละสามร้อยบาท
บทเฉพาะกาล

ข้อ ๑๗ ให้ ค าขออนุ มั ติ ก ารโฆษณาหรื อ ประกาศเกี่ ย วกั บ สถานพยาบาล ตามประกาศ


กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหรือประกาศ
เกี่ ย วกั บ สถานพยาบาล ที่ ไ ด้ ยื่ น ต่ อ ผู้ อ นุ ญ าตก่ อ นที่ ป ระกาศนี้ มี ผ ลบั ง คั บ ใช้ ให้ ถื อ ว่ า เป็ น ค าขอ
ตามประกาศนี้

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๖๕


เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๘๙ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒

ข้อ ๑๘ หนั ง สื อ อนุ มั ติ ก ารโฆษณาหรื อ ประกาศเกี่ ย วกั บ สถานพยาบาล ตามประกาศ


กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหรือประกาศ
เกี่ยวกับสถานพยาบาล ให้ถือว่าเป็นหนังสืออนุ มัติการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล
ตามประกาศนี้

ประกาศ ณ วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖2


ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

๒๖๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เลขรับที่ ...............................
วันที่ .....................................
ลงชื่อ ........................ ผู้รับคํา
ใบคําขออนุมตั ิโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล

เขียนที่ ………………………………………………..
วันที่ …….. เดือน ….……………. พ.ศ. ….…..
1. ข้าพเจ้า
1.1 ชื่อ .....................................................................................................................................
เลขประจําตัวประชาชน สัญชาติ .................... อายุ .............. ปี
1.2 นิติบุคคล ..........................................................................................................................
โดย (1) ........................................................... เลขประจําตัวประชาชน
(2) .......................................................... เลขประจําตัวประชาชน
เป็นนิติบุคคลประเภท ........................................ จดทะเบียนเมื่อ ............................. เลขทะเบียน ...................

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
1.3 มี บ้าน สํานักงาน ตั้งอยู่เลขที่ ............... หมู่ที่ ............ ซอย/ตรอก ..................
ถนน ........................................... ตําบล/แขวง ............................................ อําเภอ/เขต ...................................
จังหวัด ................................................. รหัสไปรษณีย์ ............................... โทรศัพท์ .........................................
โทรสาร .................................................. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ .......................................................................
2. ขอยื่นคําขออนุมัติโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล
2.1 ชือ่ สถานพยาบาลและเลขที่ใบอนุญาต .................................................................................
...........................................................................................................................................................................
ชื่อผู้ประกอบการสถานพยาบาล ............................................................................................
ชือ่ ผู้ดําเนินการสถานพยาบาล ...............................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2.2 ขอโฆษณาหรือประกาศทาง
หนังสือพิมพ์ แผ่นพับ วารสาร/หนังสือ วิทยุโทรทัศน์ สื่ออินเตอร์เน็ต
รูปลอก โปสเตอร์ เครื่องขยายเสียง วีดีทศั น์ ........................
นิตยสาร แผ่นป้าย วิทยุกระจายเสียง ภาพยนตร์ สื่ออื่นๆ ...........
3. เอกสารประกอบการขอโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลมีดงั นี้
สําเนาใบอนุญ าตให้ป ระกอบกิจ การสถานพยาบาล หรือหลักฐานการยื่นขออนุญ าตประกอบกิจการ
สถานพยาบาล
สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนผู้ยื่นคําขอ
ข้อความ /เสียงโฆษณา/ภาพโฆษณา (พร้อมสําเนาคู่ฉบับ)
หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีนิติบุคคล)
หนังสือมอบอํานาจ (ถ้ามี)
สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนผู้มอบอํานาจ (กรณีมีการมอบอํานาจ)
คําแปลภาษาต่างประเทศ ที่ได้รับการรับรองจากผู้แปลภาษา
เอกสารอ้างอิง (ถ้ามี)

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๖๗


-2-
4. กรณีโฆษณาเกี่ยวกับความรู้ความสามารถของผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ให้ยื่นเอกสารเพิ่มเติม
ดังนี้
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
หนังสืออนุมัติ อนุมัติบัตร หรือวุฒิบัตรของผู้ประกอบวิชาชีพ
เอกสารอ้างอิงอื่นๆ (ถ้ามี)
๕. กรณีโฆษณาเครื่องมือ เครื่องใช้ ยา เวชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์อื่น ในสถานพยาบาล ให้ยื่นเอกสารหลักฐาน
การปฏิบัตติ ามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
6. ข้าพเจ้าขอรับรองว่า
6.1 ข้อความข้างต้นเป็นจริงทุกประการ
6.2 สถานพยาบาลได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
6.3 ข้อความ /เสียงโฆษณา/ภาพโฆษณาต้องไม่เป็นเท็จหรือเกินความจริง ไม่ทําให้ผู้บริโภคเข้าใจ
ผิดในสาระสําคัญของการประกอบกิจการสถานพยาบาลและเกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร
6.4 เมื่อได้รับอนุมัติแล้วข้าพเจ้าจะดําเนินการโฆษณาให้ตรงตามข้อความและเงื่อนไขที่ผู้อนุญาต
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

กําหนด

ลงชื่อ ........................................ ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล (ผู้รับอนุญาต)/


ผู้ขออนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล
(.........................................)

๒๖๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


หนังสืออนุมัติโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล

หนังสืออนุมัติเลขที่ ............................

หนังสืออนุมัติฉบับนี้ให้ไว้แก่
……………………………………………………………………..

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เพื่ อแสดงว่ า เป็ น ผู้ ไ ด้ รั บ อนุ มั ติ ใ ห้ โฆษ ณ าห รื อ ป ระกาศเกี่ ย วกั บ สถาน พ ยาบ าล
ลักษณะสถานพยาบาล .................................................................... จํานวนเตียง .......................................เตียง
สถานพยาบาลชื่อ .................................................................................................................................................
ตั้งอยู่เลขที่ ................................... หมู่ที่ ................................. ซอย/ตรอก .........................................................
ถนน ..................................... ตําบล/แขวง ...................................... อําเภอ/เขต ...............................................
จังหวัด ..................................................... วัน/เวลาที่เปิดทําการ ........................................................................
โฆษณาทางสื่อ ......................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ตามเลขรับคําขออนุมัติให้โฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลประเภทที่ ................................................
วันที่ ......................................................................................................................................................................
อนุ มัติให้ โฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลได้ตามเอกสารข้อความโฆษณาหรือ
ประกาศที่แนบท้ายหนังสืออนุมัตินี้ จํานวน ........................................... หน้า โดยมีเงื่อนไขตามรายละเอียด
ด้านหลังของหนังสืออนุมัตินี้

ให้ไว้ ณ วันที่

ผู้อนุญาต

เงื่อนไขการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล มีดังนี้
1. อนุมัติเฉพาะข้อความและภาพทีไ่ ม่ได้ขีดฆ่า
2. ข้อความและภาพที่โฆษณาหรือประกาศต้องตรงตามที่ได้รับอนุมัติ ถ้าโฆษณาหรือประกาศแตกต่างไปจากนี้
ถือว่าข้อความและภาพโฆษณาหรือประกาศทั้งหมดไม่ได้รับอนุมัติ
3. ให้แสดงข้อความเลขที่หนังสืออนุมัติโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลในสื่อที่ได้รับอนุมัติ
4. เงื่อนไขอื่นๆ ตามที่กําหนดไว้ในเอกสารข้อความโฆษณาหรือประกาศ (ถ้ามี)
5. ผู้อนุญาตสงวนสิทธิ์ที่จะระงับการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลนี้ได้ หากมีการฝ่าฝืนมาตรา 38
แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4)
พ.ศ. 2559 ทัง้ นี้ ตามมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๖๙


เลขที่รับ ..........................
วันที่รับ ...........................
ลงชื่อ ...................ผู้รบั คําขอ

ใบคําขอรับใบแทนหนังสืออนุมัติโฆษณาหรือประกาศเกีย่ วกับสถานพยาบาล

เขียนที่ .....................................................
วันที่ ....... เดือน ...................... พ.ศ. ..............
1. ข้าพเจ้า
1.1 ข้าพเจ้า ....................................................................................................................
เลขประจําตัวประชาชน อายุ .................. ปี สัญชาติ ...............................
1.2 นิ ติ บุ ค คล .......................................................................................................................
โดย (1) ............................................................ เลขประจําตัวประชาชน
(2) ............................................................ เลขประจําตัวประชาชน
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

1.3 มี บ้าน สํานักงาน ตั้งอยู่เลขที่ ............... หมู่ที่ ............ ซอย/ตรอก ..................


ถนน ........................................... ตําบล/แขวง ............................................ อําเภอ/เขต ...................................
จังหวัด ................................................. รหัสไปรษณีย์ ............................... โทรศัพท์ .........................................
โทรสาร .................................................. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ .......................................................................
ได้ รับอนุ มั ติให้ โฆษณาหรือประกาศเกี่ ยวกับสถานพยาบาลตามหนั งสือ อนุมั ติที่ ........................................
ออกให้ ณ วันที่ ........... เดือน ............................. พ.ศ. ..............
2. มีความประสงค์ขอใบแทนหนังสืออนุมัติ เนื่องจาก
สูญหาย
ถูกทําลาย
ชํารุดในสาระสําคัญ.................................................... วันที่ .................................................
3. พร้อมกับคําขอนี้ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มาด้วย จํานวน ............... ฉบับ คือ
สําเนาใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนผู้ยื่นคําขอ
หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีนิติบุคคล)
ใบแจ้งความว่าใบอนุญ าตสูญ หายของสถานีตํารวจแห่งท้องที่ที่หนังสืออนุมัตินั้นสูญหาย
(กรณีหนังสืออนุมัติสูญหาย)
หนังสืออนุมัติโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล (กรณีชํารุด)
หนังสือมอบอํานาจ (ถ้ามี)
สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนผู้มอบอํานาจ (กรณีมีการมอบอํานาจ)
เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) .................................................

(ลายมือชื่อ) ............................................. ผู้ยื่นคําขอ


( ............................................)

๒๗๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกรมสนั บสนุนบริการสุขกภาพ
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า
เรื่อง มาตรฐานรถปฏิบัติการชันสูตร

อาศัยอานาจตามความในข้อ ๖ วรรคสอง (๑๑) (ค) แห่งกฎกระทรวงกาหนดชนิดและ


จานวนเครื่องมืสอานัเครื ่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์กหา รือยานพาหนะที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สานัก่จงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเป็นประจาสถานพยาบาล
กา พ.ศ. ๒๕๕๘
ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพใน
ฐานะผู้อนุญาตโดยคาแนะน
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าของคณะกรรมการสถานพยาบาลจึงออกประกาศไวดังตอไปนี้

สานัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
๑ ประกาศนี้เรียกว่ากา“ประกาศกรมสนั
สานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สนุนบริการสุขภาพ เรืก่อา ง มาตรฐานรถ
ปฏิบัติการชันสูตร”
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สานัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
๒ ประกาศฉบับนี้ใกห้าใช้บังคับตั้งแต่สวานั
ันถักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดจากวันประกาศในราชกิ
กา จจานุเบกษา

เป็นต้นไป
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ข้อ ๓ ในประกาศฉบับนี้
สานั“รถปฏิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
บัติการชันสูตร ”กาหมายความว่าสานั กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยานพาหนะส าหรับปฏิบัตกิกาารชันสูตร โดย
ให้บริการด้านเทคนิคการแพทยประกอบด้วยการเก็บสิ่งสงตรวจการตรวจวิเคราะหและรายงานผล
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

นักงข้อ ๔ มาตรฐานบริการปฏิบัติการชันสูตรดังนี้
(๑) มาตรฐานโครงสร้างรถปฏิบัติการชันสูตร
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก(ก)า ให้มีขนาด เครื สานั่องอุ ปกรณ์ และส่วนควบเป็กานไปตามประกาศกรมการขนส่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี งทางบก กา
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กาหนด
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ข) เคาน์เตอร์ปฏิบัติงกานมีา ความเหมาะสม
สานัก
(ค) มีการแสดงป้ายชื่อสถานพยาบาล และสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นรถปฏิบัติการ
ชันสูตรที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
กรณีมีการเก็บตัวอย่กาางที่ต้องใช้ห้องน้สานั
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าจะต้ องมีห้องน้าสาหรับเก็กบาตัวอย่าง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๒) มาตรฐานการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในรถปฏิบัติการชันสูตรตองให้มีที่ซักประวัติที่
จัดทําเวชระเบียนผูรับบริการ และพื้นที่ใหบริการตองมีความเหมาะสมตอการใหบริการ และการ
เคลื่อนย้ายผู้รับบริการ
(๓) มาตรฐานอุปกรณภายในรถปฏิบัติการชันสูตร
(ก) ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ (ตามมาตรฐานที่มีแหล่งข้อมูลอ้างอิงทางวิชาการ)
(ข) มีพัดลมระบายอากาศ (ตามมาตรฐานที่มีแหล่งข้อมูลอ้างอิงทางวิชาการ)
(ค) มีระบบไฟฟ้าต้องจัดให้มีระบบไฟฟ้าสารองที่มีกาลังเพียงพอสาหรับอุปกรณที่
จาเป็นและติดตั้งไฟแสงสว่างฉุกเฉินตามจุดที่จาเป็น
(ง) มีระบบนํ้าสําหรับให้บริการปฏิบัติการชันสูตร


ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕/ตอนพิเศษ ๑๗ ง/หน้า ๒๓/๒๔ มกราคม ๒๕๖๑

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๗๑


(จ) มีภาชนะรองรับขยะติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ
(ฉ) มีอางลางมือชนิดที่ไมใชมือเปด - ปด
(๔) มาตรฐานเครื่องมือเครื่องใชในการใหบริการภายในรถปฏิบัติการชันสูตร
ักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ก) เก้าอี้ และโต๊ะทางาน
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี(ข)กเครื
า ่องมือตรวจวิ เคราะห์
สานั ทางห้องปฏิบัติการและอุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ปกรณ์ตสรวจวิ เคราะห์ ตาม
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรฐานการประกอบวิชาชีพของประเภทการตรวจวิเคราะห์ที่ให้บริการ
สาน(ค) ตูเย็นสําหรับเก็บรักษาสิ่งสงตรวจและนํ้ายาสําหรับการตรวจวิเคราะห
กรณีมีตูปฏิบัติการชีวนิรภัยตองไมนอยกวาระดับ ๒
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๕) มาตรฐานยา สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
และเวชภั ณฑ์ในการช่วยชีวิตฉุกกเฉิานที่ให้บริการภายในรถปฏิ
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
บัติการ กา
ชันสูตรมีอุปกรณช่วยชีวิตผูป่วยฉุกเฉินอย่างนอย ไดแก่ ถุงบีบลมพรอมกากครอบช่วยการหายใจและ
เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)

สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีประกาศ
กา ณ วันที่ ๒๖
สานักธังานคณะกรรมการกฤษฎี
นวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ กา
ประนอม คาเที่ยง
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อธิบดีกรมสนับสนุนกบริ
า การสุขภาพส

๒๗๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกรมสนั บสนุนบริการสุขกภาพ
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า
เรื่อง มาตรฐานรถทันตกรรม

อาศัยอานาจตามความในข้อ ๖ วรรคสอง (๑๑) (ข) แห่งกฎกระทรวงกาหนดชนิดและ


จํานวนเครื่องมือ เครื่องใช ยาและเวชภัณฑ หรือยานพาหนะที่จําเปนประจําสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘
ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพใน
ฐานะผูอนุญาตโดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาลออกประกาศไวดังตอไปนี�
สานัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
๑ ประกาศนี้เรียกว่กาา “ประกาศกรมสนั
สานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สนุนบริการสุขภาพ เรืกา่อง มาตรฐาน
รถทัน ตกรรม”

ขอ ๒๑ ประกาศฉบับนี้ใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อ ๓ ในประกาศฉบับนี้
สานั“รถทั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ายานพาหนะส
นตกรรม” หมายความว่ สานักาหรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บให้บริการทันตกรรม

ขอ ๔ มาตรฐานการใหบริการโดยรถทันตกรรมดังนี้
สานั(๑) มาตรฐานโครงสร้างรถทั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นตกรรม สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ก) ให้มีขนาด เครื่องอุปกรณ์ และส่วนควบเป็นไปตามประกาศกรมการขนส่งทางบก
กําหนด
(ข) มีการแสดงป้ายชื่อสถานพยาบาลและสัญลักษณที่บงบอกวาเปนรถทันตกรรมที่
สามารถมองเห็นไดชัดเจน
(๒) มาตรฐานการจัดพื้นที่ใชสอยภายรถทันตกรรมตองจัดใหมีที่ซักประวัติ ที�จัดทํา
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เวชระเบียนบริการพื้นที่ใหบริการตองมีความเหมาะสมตอการใหบริการและการเคลื่อนยายผูรับบริการ
สานั(๓) มาตรฐานอุปกรณ์ภายในรถทั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นตกรรม สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ก) ติดตั�งเครื�องปรับอากาศ (ตามมาตรฐานที�มีแหลงขอมูลอางอิงทางวิชาการ)
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (ข) มีพัดลมระบายอากาศ (ตามมาตรฐานที�มีแหลงขอมูลอางอิงทางวิชาการ)
(ค) มีระบบไฟฟ้าและจัดใหมีเครื่องกําเนิดไฟฟาสํารองที่มีกําลังเพียงพอสําหรับ
อุปกรณ์ที่จาเป็น และติดตั้งไฟแสงสว่างฉุกกเฉิานตามจุดที่จาเป็
ส านั ก งานคณะกรรมการกฤษฎี สานัน
(ง) มีระบบนํ้าสาหรับใหบริการทันตกรรมและบบการกาจัดนํ้าทิ้งที�เหมาะสม
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(จ) มีภาชนะรองรับขยะติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ
(ฉ) มีอ่างล้างมือชนิดทีกา่ไม่ใช้มือเปิด- ปิสดานัพร้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
านคณะกรรมการกฤษฎี อมน้ายาทาความสะอาด กา
(ช) หลักฐานแสดงการเตรียมความพรอมใชของอุปกรณเครื่องมือ เครื่องใชตาง ๆ
ของรถทันตกรรม กา
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี


ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕/ตอนพิเศษ ๑๗ ง/หน้า ๒๑/๒๔ มกราคม ๒๕๖๑

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๗๓


(๔) มาตรฐานเครื่องมือเครื่องใช้ในการให้บริการภายในรถทันตกรรม
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ก)กยูา นิตทาฟัน ประกอบด้
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
วยระบบให้แสงสว่ากงา ระบบเครื่อสงกรอฟั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
น ระบบดูด กา
น้าลาย ระบบน้าบ้วนปากและเก้าอี้คนไข้
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ข) เก้าอี้ทันตแพทย์ และเก้าอี้ผู้ช่วยทันตแพทย์
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (ค)กเครื
า ่องมือ อุปกรณ์ เครื่องใช้มีการทาความสะอาดและท
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าให้
สานัปกราศจากเชื ้อที่
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เหมาะสมหรือมีหม้อนึ่งอบความดันที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อในกรณีที่ต้องฆ่าเชื้อซ้า
สานั(ง) ชุดตรวจฟัน อุดฟัน ถอนฟั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา น ชุดรักษาโรคเหงื อก ชุดขูดหินน้าลายกและเครื
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่องมือ
อุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้องตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพทันตกรรม หรือเครื่องมือ อุปกรณ์อื่นตาม
สานัขอบเขตที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ให้บริการ กา สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรณีมีเครื่องเอกซเรย์ฟันและมีฉากกั้นรังสีหรือห้องเอกซเรย์ที่ได้มาตรฐานทาง
การแพทย์ต้องมีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากรังสีอย่างครบถ้วสนานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๕) มาตรฐานยา


กา และเวชภั
สานักณงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฑ์ในการช่วยชีวิตฉุกเฉิกานที่ให้บริการภายในรถทั นตกรรม
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(ก) มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินอย่างน้อย ได้แก่ ถุงบีบลมพร้อมหน้ากากครอบ
ช่วยชีวิตการหายใจออกซิเจนและเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟาชนิดอัตโนมัติ (AED)
(ข) ยา เวชภัณฑและเครื่องมือแพทยอื่นที่สามารถใหการรักษาพยาบาล และ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

ัช่กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินอย่กาางน้อย ได้แก่ ยาฉี
สานัดกอะดรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี
นารีน ยาฉีดสเตียกรอยด์
า ยาแก้แพ้สานั กลูกโงานคณะกรรมการกฤษฎี
คส ยาอมใต้ลิ้น กา
เพื่อขยายหลอดเลือดและเซตให้สารน้าทางหลอดเลือดดา
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐


ประนอม คาเที่ยง
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

๒๗๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกรมสนั บสนุนบริการสุขกภาพ
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า
เรื่อง มาตรฐานรถเอกซเรย์เคลื่อนที่

สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา


อาศัยอานาจตามความในข้อ ๖ วรรคสอง (๑๑) (ก) แห่งกฎกระทรวงกาหนดชนิดและ
จํานวนเครื่องมือ เครื่องใช ยาและเวชภัณฑหรือยานพาหนะที่จําเปนประจําสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘
ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพใน
ฐานะผู้อนุญาตโดยคาแนะน
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าของคณะกรรมการสถานพยาบาลออกประกาศไว้
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สดัานั
งต่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
ไปนี้ กา

นัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
๑ ประกาศนี้เรียกว่ากา“ประกาศกรมสนั
สานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สนุนบริการสุขภาพ เรืก่อาง มาตรฐานรถ
เอกซเรยเคลื่อนที่"

สานัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
๒ ประกาศฉบับนี้ใกห้าใช้บังคับตั้งแต่สวานั
ัน กถังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดจากวันประกาศในราชกิ
กา จจานุเบกษา

เป็นต้นไป
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ข้อ ๓ ในประกาศฉบับนี้
สานั“รถเอกซเรย์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เคลื่อนที”่ หมายความว่ สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
า ยานพาหนะส กา
าหรับให้บริการตรวจวิ นิจฉัยด้วย
เครื่องเอกซเรย์
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ขอ ๔ มาตรฐานการตรวจวินิจฉัยดวยเครื่องเอกซเรยดังนี้
(๑) มาตรฐานโครงสร้างรถเอกซเรย์
(ก) ให้มีขนาด เครื
กา สานั่อกงอุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปกรณ์ และส่วนควบเป็
กา นไปตามประกาศกรมการขนส่ งทางบก กา
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กาหนด
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ข) ผนังโดยรอบห้องทีก่ใาห้บริการเอกซเรย์
สานักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
้องระบุด้วยตะกั่วป้องกักานรังสี หรือวัสดุอื่น
ที่มีคุณสมบัติเทียบเทาในการป้องกันรังสีไดตามมาตรฐานของกรมวิทยาศาสตรการแพทย แตทั้งนี้ ตองมี
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความปลอดภัยทางรังสีต่อบุคคลอันเนื่องมาจากการรั่วของรังสี
(ค) มีการแสดงป้ายชืก่อาสถานพยาบาลสานั
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี และสั ญลักษณ์ที่บ่งบอกว่ากาเป็นรถเอกซเรย์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เคลื่อนที่ที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒)กมาตรฐานการจั
า สดานั
พื้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ใช้สอยภายในรถเอกซเรย์ กา
(ก) ต้องจัดให้มีที่ซักประวัติ ที่จัดทาเวชระเบียนผู้รับบริก าร พื้นที่ให้บริการ ต้องมี
ส านั ก งานคณะกรรมการกฤษฎี
ความเหมาะสมต่อการให้บริการ และการเคลื กา ่อนย้ายผู้รับบริ
สานักการงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ข) มีพื้นที่สาหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) มาตรฐานอุปกรณ์ภายในรถเอกซเรย์
(ก) ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ (ตามมาตรฐานที่มีแหลงขอมูลอางอิงทางวิชาการ)
(ข) มีพัดลมระบายอากาศ (ตามมาตรฐานที่มีแหลงขอมูลอางอิงทางวิชาการ)


ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕/ตอนพิเศษ ๑๗ ง/หน้า ๑๙/๒๔ มกราคม ๒๕๖๑

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๗๕


(ค) มีระบบไฟฟ้าต้องจัดให้มีระบบไฟฟ้าสารองที่มีกาลังเพียงพอ สาหรับอุปกรณ์ที่
สานัจกาเป็
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา างฉุกเฉินตามจุ
นและติดตั้งไฟแสงสว่ สานัดกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่จาเป็น กา
(๔) มาตรฐานเครื่องมือ เครื่องใช้ในการให้บริการภายในรถเอกซเรย์
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ก) เครื่องเอกซเรย์ที่ได้มาตรฐาน สจากหน่ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วยงานที่รับมอบหมายจาก
สานัสกานั กงานปรมาณูเพื่อสันกติา และได้รับสใบอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี ญาตมีไว้ในครอบครองหรื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อใช้เครื่องกสาเนิ
านักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
รังสีจาก กา
สานักงานปรมาณูเพื่อสันติ
สานั(ข) อุปกรณ์วัดรังสีประจกาตัา วบุคคล และอุสานั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ปกรณ์ ป้องกันอันตรายจากรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งสี
(ค) ระบบไฟสัญญาณเตือนขณะเครื่องเอกซเรย์ทางาน
ษฎี
(ง) กป้าายสัญลักษณ์ทสางรั
านักงงานคณะกรรมการกฤษฎี
สีติดอยู่ที่ตัวรถให้เห็นกได้า ชัดเจน
(จ) ป้ายแสดงลักษณะคาเตือน เช่น สตรีมีครรภ์หรือสตรีมีครรภ์โปรดแจ้ง
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้าหน้าที่ทราบ
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กรณี
กา มีตู้อ่านฟิล์มหรื
สานัอกอุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปกรณ์อ่านฟิล์มระบบดิกาจิทัล
(๕) มาตรฐานเวชภัณฑ์ในการช่วยชีวิตฉุกเฉินที่ให้บริการภายในรถเอกซเรย์ ต้องมี
อุปกรณ์ช่วยชีวิตผูส้ปานั่วยฉุ กเฉินอย่างน้อย ได้แก่กาถุงบีบลมพร้อมหน้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
กากครอบช่วยการหายใจ กา
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐


ประนอม คําเที่ยง
อธิ บดีกรมสนับสนุนกบริ
คณะกรรมการกฤษฎี า การสุขภาพ

๒๗๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข
‡≈à¡ ÒÚ µÕπ摇»… ˆı ß √“™°‘®®“πÿ‡∫°…“ ÒÒ ¡‘∂ÿπ“¬π ÚıÙˆ

√–‡∫’¬∫°√–∑√«ß “∏“√≥ ÿ¢
«à“¥â«¬À≈—°‡°≥±å ·≈–«‘∏’°“√„π°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫
µ“¡æ√–√“™∫—≠≠—µ‘ ∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙÒ
æ.». ÚıÙˆ

‚¥¬∑’‡Ë ªìπ°“√ ¡§«√«“ß√–‡∫’¬∫°”Àπ¥À≈—°‡°≥±å·≈–«‘∏°’ “√„π°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫


‡æ◊ËÕ„Àâ°“√ªØ‘∫—µ‘ß“π¢Õߧ≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’‡ªìπ‰ª¥â«¬§«“¡‡√’¬∫√âÕ¬
¡’ª√– ‘∑∏‘¿“欑ßË ¢÷πÈ ·≈– Õ¥§≈âÕß°—∫∫∑∫—≠≠—µµ‘ “¡¡“µ√“ ˜ı ·Ààßæ√–√“™∫—≠≠—µ‘
 ∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙÒ Õ“»—¬Õ”π“®µ“¡æ√–√“™∫—≠≠—µ√‘ –‡∫’¬∫∫√‘À“√√“™°“√
·ºàπ¥‘π æ.». ÚıÛÙ ´÷ßË ·°â‰¢‡æ‘¡Ë ‡µ‘¡‚¥¬æ√–√“™∫—≠≠—µ√‘ –‡∫’¬∫∫√‘À“√√“™°“√·ºàπ¥‘π
(©∫—∫∑’Ë ı) æ.». ÚıÙı √—∞¡πµ√’«à“°“√°√–∑√«ß “∏“√≥ ÿ¢ÕÕ°√–‡∫’¬∫‰«â ¥—ßπ’È
¢âÕ Ò √–‡∫’¬∫π’È ‡√’¬°«à“ ç√–‡∫’¬∫°√–∑√«ß “∏“√≥ ÿ¢ «à“¥â«¬À≈—°‡°≥±å
·≈–«‘∏°’ “√„π°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫ µ“¡æ√–√“™∫—≠≠—µ ‘ ∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙÒ

ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข
æ.». ÚıÙˆ
¢âÕ Ú √–‡∫’¬∫π’„È Àâ„™â∫ß— §—∫µ—ßÈ ·µà«π— ∂—¥®“°«—πª√–°“»„π√“™°‘®®“πÿ‡∫°…“
‡ªìπµâπ‰ª
¢âÕ Û „π√–‡∫’¬∫π’È
秫“¡º‘¥é À¡“¬§«“¡«à“ §«“¡º‘¥∑’¡Ë ‚’ ∑…ª√—∫ ∂“π‡¥’¬« À√◊Õ∑’¡Ë ‚’ ∑…®”§ÿ°
‰¡à‡°‘πÀπ÷Ëߪﵓ¡æ√–√“™∫—≠≠—µ‘ ∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙÒ
纟âµâÕßÀ“é À¡“¬§«“¡«à“ ºŸâ∑’Ë∂Ÿ°°≈à“«À“«à“°√–∑”§«“¡º‘¥µ“¡√–‡∫’¬∫π’È

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๗๙


‡≈à¡ ÒÚ µÕπ摇»… ˆı ß √“™°‘®®“πÿ‡∫°…“ ÒÒ ¡‘∂ÿπ“¬π ÚıÙˆ

ç§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’é À¡“¬§«“¡«à“ §≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’


„π‡¢µ°√ÿ߇∑æ¡À“π§√ ·≈–§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’„π à«π¿Ÿ¡‘¿“§
¢âÕ Ù §≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’„π‡¢µ°√ÿ߇∑æ¡À“π§√ „Àâ¡’Õ”π“®
¥—ßπ’È
Ù.Ò ‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫§«“¡º‘¥∑’‡Ë °‘¥¢÷πÈ Õâ“ßÀ√◊Õ‡™◊ÕË «à“‰¥â‡°‘¥¢÷πÈ „π
‡¢µ°√ÿ߇∑æ¡À“π§√
Ù.Ú ¡Õ∫À¡“¬„Àâæπ—°ß“π‡®â“Àπâ“∑’Ë„π‡¢µ°√ÿ߇∑æ¡À“π§√‡ªìπ
ºŸ∑â ”°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫·∑π ”À√—∫§«“¡º‘¥∑’¡Ë ‚’ ∑…ª√—∫ ∂“π‡¥’¬« µ“¡∑’‡Ë ÀÁπ ¡§«√
°Á‰¥â
¢âÕ ı §≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’„π à«π¿Ÿ¡‘¿“§ „Àâ¡’Õ”π“®¥—ßπ’È
ı.Ò ‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫§«“¡º‘¥∑’ˇ°‘¥¢÷Èπ Õâ“ßÀ√◊Õ‡™◊ËÕ«à“‰¥â‡°‘¥¢÷Èπ
„π‡¢µ∑âÕß∑’Ë®—ßÀ«—¥∑’Ë√—∫º‘¥™Õ∫
ı.Ú ¡Õ∫À¡“¬„Àâæπ—°ß“π‡®â“Àπâ“∑’„Ë π‡¢µ∑âÕß∑’®Ë ß— À«—¥∑’√Ë ∫— º‘¥™Õ∫
‡ªìπºâŸ∑”°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫·∑π ”À√—∫§«“¡º‘¥∑’Ë¡’‚∑…ª√—∫ ∂“π‡¥’¬«
ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

¢âÕ ˆ ‡¡◊ÕË ª√“°ØÀ≈—°∞“π®“°æπ—°ß“π‡®â“Àπâ“∑’«Ë “à ¡’°“√°√–∑”§«“¡º‘¥‡°‘¥¢÷πÈ


·≈–§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’‡ÀÁπ«à“ºŸµâ Õâ ßÀ“‰¡à§«√∂Ÿ°øÑÕß√âÕßÀ√◊Õ‰¥â√∫— ‚∑…∂÷ß®”§ÿ°
À√◊Õ„π°√≥’∑æ’Ë π—°ß“π Õ∫ «π à߇√◊ÕË ß„Àâ§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’∑”°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫
ª√—∫ „Àâ§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’∑”Àπ—ß ◊Õ·®âߺŸâµâÕßÀ“¡“∑”°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫
ª√—∫µ“¡·∫∫ §ª. Ò ‡¡◊ËÕºŸâµâÕßÀ“¡“· ¥ßµ—«µàÕ§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’ „Àâ
§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’·®âߢâÕ°≈à“«À“„π°“√°√–∑”§«“¡º‘¥ «—𠇫≈“ ·≈–

๒๘๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


‡≈à¡ ÒÚ µÕπ摇»… ˆı ß √“™°‘®®“πÿ‡∫°…“ ÒÒ ¡‘∂ÿπ“¬π ÚıÙˆ

 ∂“π∑’Ë°√–∑”§«“¡º‘¥·≈–·®âß„ÀâºâŸµâÕßÀ“∑√“∫«à“§«“¡º‘¥∑’ˇ°‘¥¢÷Èπ‡ªì𧫓¡º‘¥∑’Ë
 “¡“√∂‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫‰¥â ∂⓺Ÿµâ Õâ ßÀ“„Àâ°“√√—∫ “√¿“æ·≈–¬‘π¬Õ¡„À⇪√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫
„Àâ∫—π∑÷°§”„Àâ°“√¢ÕߺŸâµâÕßÀ“·≈–∫—π∑÷°°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫‰«âµ“¡·∫∫ §ª.Ú ·≈–
§ª.Ù ∑⓬√–‡∫’¬∫π’È
‡¡◊Ë◊ÕºâŸâµâÕßÀ“‰¥â‡ ’¬§à“ª√—∫µ“¡∑’ˇª√’¬∫‡∑’¬∫¿“¬„π “¡ ‘∫«—ππ—∫·µà«—π∑’Ë¡’
°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫„Àâ∂Õ◊ «à“§¥’‡≈‘°°—π ·≈– ‘∑∏‘𔧥’Õ“≠“¡“øÑÕ߬àÕ¡‡ªìπÕ—π√–ß—∫‰ª
µ“¡ª√–¡«≈°ÆÀ¡“¬«‘∏’æ‘®“√≥“§«“¡Õ“≠“
∂⓺Ÿµâ Õâ ßÀ“„Àâ°“√ªØ‘‡ ∏À√◊Õ‰¡à¬π‘ ¬Õ¡„À⇪√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫ „Àâ∫π— ∑÷°§”„Àâ°“√
‰«âµ“¡·∫∫ §ª.Û ∑⓬√–‡∫’¬∫π’È
¢âÕ ˜ „Àâ§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’∑”°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫ 纟µâ Õâ ßÀ“é
µ“¡∑’ˇÀÁπ ¡§«√ ∑—Èßπ’È‚¥¬§”π÷ß∂÷ߧ«“¡Àπ—°‡∫“·ÀàߢâÕÀ“·≈–惵‘°“√≥å·Ààß
°“√°√–∑”§«“¡º‘¥
¢âÕ ¯ „𧥒‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫∑’Ë¡’¢Õß°≈“ß´÷Ëßæπ—°ß“π‡®â“Àπâ“∑’ˉ¥â¬÷¥À√◊Õ

ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข
Õ“¬—¥∫√√¥“¢Õß°≈“ß∑’‡Ë °’¬Ë «°—∫°“√°√–∑”§«“¡º‘¥ °àÕπ∑’®Ë –∑”°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫
„Àâ§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’ Õ∫∂“¡ºŸâµâÕßÀ“·≈–‡®â“¢Õß∑√—æ¬å ‘π¢Õß°≈“ß«à“
µ°≈߬‘π¬Õ¡¬°¢Õß°≈“ß„Àâµ°‡ªìπ¢Õß·ºàπ¥‘πÀ√◊Õ‰¡à ∂⓺Ÿµâ Õâ ßÀ“·≈–‡®â“¢Õß∑√—æ¬å π‘
¢Õß°≈“߬‘π¬Õ¡¬°¢Õß°≈“ß„Àâµ°‡ªìπ¢Õß·ºàπ¥‘π„Àâ§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’
∑”À≈—°∞“π‡ªìπÀπ—ß ◊Õ„À⺵Ÿâ Õâ ßÀ“·≈–‡®â“¢Õß∑√—æ¬å π‘ ¢Õß°≈“ß≈ßπ“¡„À⧫“¡¬‘π¬Õ¡
‰«â¥â«¬

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๘๑


‡≈à¡ ÒÚ µÕπ摇»… ˆı ß √“™°‘®®“πÿ‡∫°…“ ÒÒ ¡‘∂ÿπ“¬π ÚıÙˆ

¢âÕ ˘ „π°√≥’∑§’Ë ≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’‡ÀÁπ«à“§«√¥”‡π‘𧥒°∫— ºŸµâ Õâ ßÀ“


À√◊ÕºŸâµâÕßÀ“„Àâ°“√ªØ‘‡ ∏ À√◊Õ‰¡à¬‘π¬Õ¡„À⇪√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫ À√◊Õ‰¡à™”√–§à“ª√—∫
¿“¬„π‡«≈“∑’Ë°”Àπ¥ À√◊ÕºŸâµâÕßÀ“·≈–‡®â“¢Õß∑√—æ¬å ‘π¢Õß°≈“߉¡àµ°≈߬‘π¬Õ¡
¬°¢Õß°≈“ß„Àâµ°‡ªìπ¢Õß·ºàπ¥‘π „Àâ§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’ ßà ‡√◊ÕË ß„Àâæπ—°ß“π
 Õ∫ «π¥”‡π‘𧥒µ“¡æ√–√“™∫—≠≠—µ‘ ∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙÒ µàÕ‰ª
¢âÕ Ò °“√√—∫‡ß‘π °“√‡°Á∫√—°…“‡ß‘π ·≈–°“√π”‡ß‘π§à“ª√—∫∑’∑Ë ”°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫
ª√—∫ àߧ≈—ß
Ò.Ò „π‡¢µ°√ÿ߇∑æ¡À“π§√ „Àâæπ—°ß“π‡®â“Àπâ“∑’ËÕÕ°„∫π” àß
™”√–‡ß‘π„À⺟âµâÕßÀ“‰ª™”√–‡ß‘π§à“ª√—∫∑’Ë ”π—°∫√‘À“√ °√¡ π—∫ πÿπ∫√‘°“√ ÿ¢¿“æ
·≈–„À⇮â“Àπâ“∑’Ë ”π—°∫√‘À“√ÕÕ°„∫‡ √Á®√—∫‡ß‘π„ÀⷰຟâµâÕßÀ“ ‚¥¬√–∫ÿ√“¬≈–‡Õ’¬¥
„π„∫‡ √Á®√—∫‡ß‘π„Àâ¡’¢âÕ§«“¡· ¥ß«à“‡ªìπ„∫‡ √Á®√—∫‡ß‘π§à“ª√—∫µ“¡æ√–√“™∫—≠≠—µ‘
 ∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙÒ ‡ß‘π§à“ª√—∫„Àâπ” à߇ªìπ√“¬‰¥â·ºàπ¥‘π
„Àâæπ—°ß“π‡®â“Àπâ“∑’Ë∫—π∑÷°√“¬≈–‡Õ’¬¥°“√™”√–‡ß‘πæ√âÕ¡‡≈¢∑’˧¥’„π∫—π∑÷°
ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

°“√™”√–‡ß‘π∑⓬∫—π∑÷°°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫µ“¡·∫∫ §ª.Ù ∑⓬√–‡∫’¬∫π’È


Ò.Ú „π à«π¿Ÿ¡‘¿“§ „Àâæπ—°ß“π‡®â“Àπâ“∑’ÕË Õ°„∫π” àß™”√–‡ß‘π
„À⺵⟠Õâ ßÀ“‰ª™”√–‡ß‘π§à“ª√—∫∑’ßË “π°“√‡ß‘π¢Õß ”π—°ß“π “∏“√≥ ÿ¢®—ßÀ«—¥π—πÈ Ê ·≈–
„À⇮â“Àπâ“∑’°Ë “√‡ß‘πÕÕ°„∫‡ √Á®√—∫‡ß‘π„ÀⷰີŸâ Õâ ßÀ“‚¥¬√–∫ÿ√“¬≈–‡Õ’¬¥„π„∫‡ √Á®√—∫‡ß‘π
„Àâ¡’¢âÕ§«“¡· ¥ß«à“‡ªìπ„∫‡ √Á®√—∫‡ß‘π§à“ª√—∫µ“¡æ√–√“™∫—≠≠—µ‘ ∂“π欓∫“≈
æ.». ÚıÙÒ ‡ß‘π§à“ª√—∫„Àâπ” à߇ªìπ√“¬‰¥â·ºàπ¥‘π

๒๘๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


‡≈à¡ ÒÚ µÕπ摇»… ˆı ß √“™°‘®®“πÿ‡∫°…“ ÒÒ ¡‘∂ÿπ“¬π ÚıÙˆ

„Àâæπ—°ß“π‡®â“Àπâ“∑’Ë∫—π∑÷°√“¬≈–‡Õ’¬¥°“√™”√–‡ß‘πæ√âÕ¡‡≈¢∑’˧¥’„π∫—π∑÷°
°“√™”√–‡ß‘π∑⓬∫—π∑÷°°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫µ“¡·∫∫ §ª.Ù ∑⓬√–‡∫’¬∫π’È
¢âÕ ÒÒ „Àâæπ—°ß“π‡®â“Àπâ“∑’Ë∫—π∑÷°ª√–«—µ‘ºŸâµâÕßÀ“µ“¡·∫∫ §ª.ı ∑⓬
√–‡∫’¬∫π’Ȫ–Àπâ“ ”π«π§¥’ ·≈–„À⇰Á∫ ”π«π§¥’∑’ˉ¥â∑”°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫·≈â«
‰«â‡ªìπ√–¬–‡«≈“ Õߪïπ∫— ·µà«π— ∑’¡Ë °’ “√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫ ‡¡◊ÕË §√∫°”Àπ¥„À⥔‡π‘π°“√
∑”≈“¬
¢âÕ ÒÚ „Àâ§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’¥”‡π‘π°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫¿“¬„π
°”Àπ¥Õ“¬ÿ§«“¡‚¥¬¡‘™—°™â“ ‡¡◊ËÕ∑”°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫·≈⫇ √Á® „À⇠πÕ√“¬ß“π
º≈°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫µàÕ§≥–°√√¡°“√ ∂“π欓∫“≈‡æ◊ËÕ∑√“∫

ª√–°“» ≥ «—π∑’Ë ÚÙ ‡¡…“¬π æ.». ÚıÙˆ


 ÿ¥“√—µπå ‡°¬ÿ√“æ—π∏ÿå
√—∞¡πµ√’«à“°“√°√–∑√«ß “∏“√≥ ÿ¢

ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๘๓


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

๒๘๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๘๕


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

๒๘๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๘๗


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

๒๘๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๘๙


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

๒๙๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๙๑


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

๒๙๒ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๙๓


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

๒๙๔ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๙๕


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

๒๙๖ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๙๗


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

๒๙๘ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๙๙


ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

๓๐๐ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑
และที่แก้ไขเพิ่มเติม

พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง
กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข
และระเบียบกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


พ.ศ. ๒๕๕๙
และที่แก้ไขเพิ่มเติม

พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง
กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข
และระเบียบกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๕๙
และที่แก้ไขเพิ่มเติม

พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
และระเบียบกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ที่ปรึกษา :
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
นางจันฑนา จินดาถาวรกิจ ผู้อ�ำนวยการกองกฎหมาย

คณะด�ำเนินการ :
นายบุญเลิศ เตียวสุวรรณ นิติกรช�ำนาญการพิเศษ
นางสาวศิริพร รุ่งรัตน์ธวัชชัย นิติกรปฏิบัติการ
นายจักราวุธ จันทานี นิติกร
นางสาวณหทัย สุขเสนา นิติกร
นางสาวเจนจิรา แก้วม่วงพะเนา ปฏิบัติงานด้านกฎหมาย

พิมพ์ครั้งที่ ๒ : พฤษภาคม ๒๕๖๓


จ�ำนวน ๑,๐๐๐ เล่ม
จัดท�ำโดย กลุ่มพัฒนากฎหมาย กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข
พิมพ์ที่ : ส�ำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก
ค�ำน�ำ
โดยที่พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้ประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๓ ตอนที่ ๓๐ ก หน้า ๑๐ เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙
ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๙ เป็นต้นไป
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะเป็นหน่วยงาน
ที่มีภารกิจในการด�ำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมสนับสนุน
บริการสุขภาพ จึงได้ด�ำเนินการจัดพิมพ์พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ประกาศ
กรมสนั บสนุนบริก ารสุขภาพ และประกาศคณะกรรมการที่ เ กี่ ย วข้ อ ง เพื่ อ เผยแพร่
ข้อกฎหมายแก่ประชาชนทั่วไปและส�ำหรับใช้ประกอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายต่อไป

กองกฎหมาย
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
พฤษภาคม ๒๕๖๓

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
รวมกฎหมายพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙
และที่แก้ไขเพิ่มเติม พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและประกาศ
คณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง

พระราชบัญญัติ
l พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ ๓
และที่แก้ไขเพิ่มเติม

กฎกระทรวง
l กฎกระทรวงก�ำหนดค่าธรรมเนียมและการช�ำระค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับ ๒๑
การประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐
l กฎกระทรวงก�ำหนดบริการอื่นในกิจการสปา พ.ศ. ๒๕๖๐ ๒๕
l กฎกระทรวงการอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการ ๒๘
เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐
l กฎกระทรวงการอนุญาตเป็นผู้ด�ำเนินการในสถานประกอบการ ๓๔
เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐
l กฎกระทรวงการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการ ๓๙
เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐
l กฎกระทรวงก�ำหนดมาตรฐานด้านสถานที่ ความปลอดภัย ๔๓
และการให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปา
และกิจการนวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมความงาม พ.ศ. ๒๕๖๐

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ๕๑
เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
l ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง แบบบัตรประจ�ำตัวพนักงาน ๕๗
เจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙
l ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์การใช้ชื่อสถาน ๕๙
ประกอบการเพื่อสุขภาพ
l ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ๖๑
ที่ต้องมีผู้ด�ำเนินการ
l ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการ ๖๒
ในการเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๕๙
l ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง การก�ำหนดแบบตามกฎกระทรวง ๗๙
ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙

ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
l ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์ ๑๑๕
การรับรองวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่ผู้ด�ำเนินการหรือผู้ให้บริการ
ได้รับจากสถาบันการศึกษาหน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ พ.ศ. ๒๕๕๙
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
l ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์ ๑๒๓
การรับรองวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่ผู้ด�ำเนินการหรือผู้ให้บริการ
ได้รับจากสถาบันการศึกษาหน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
l ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์ ๑๒๔
การทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถของผู้ด�ำเนินการ พ.ศ. ๒๕๕๙
l ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เรื่อง หลักสูตร ๑๒๘
ด้านการบริการเพื่อสุขภาพอื่น ๆ เพิ่มเติม

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


พระราชบัญญัติ
พระรำชบัญญัติ

พระราชบัญญัติ
สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
พ.ศ. ๒๕๕๙

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๐ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๕๙
เป็นปีที่ ๗๑ ในรัชกำลปัจจุบัน

พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมรำชโองกำรโปรดเกล้ำฯ
ให้ประกำศว่ำ

โดยที่เป็นกำรสมควรมีกฎหมำยว่ำด้วยสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ

จึงทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำฯ ให้ตรำพระรำชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม
ของสภำนิติบัญญัติแห่งชำติ ดังต่อไปนี้

มำตรำ ๑ พระรำชบั ญ ญั ติ นี้ เรีย กว่ำ “พระรำชบั ญ ญั ติ ส ถำนประกอบกำรเพื่ อ


สุขภำพ พ.ศ. ๒๕๕๙”

มำตรำ ๒๑ พระรำชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคั บเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่


วันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป

มำตรำ ๓ ในพระรำชบัญญัตินี้
“สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ” หมำยควำมว่ำ สถำนที่ที่ตั้งขึ้นเพื่อดำเนินกิจกำร
ดังต่อไปนี้
(๑) กิจกำรสปำ อันได้แก่ บริกำรที่เกี่ยวกับกำรดูแลและเสริมสร้ำงสุขภำพโดยวิธีกำร
บำบัดด้วยน้ำและกำรนวดร่ำงกำยเป็นหลัก ประกอบกับบริกำรอื่นตำมที่กำหนดในกฎกระทรวงอีก
อย่ำงน้อยสำมอย่ำง เว้นแต่เป็นกำรดำเนินกำรในสถำนพยำบำลตำมกฎหมำยว่ำด้วยสถำนพยำบำล
หรือกำรอำบน้ำ นวด หรืออบตัวที่เป็นกำรให้บริกำรในสถำนอำบน้ำ นวด หรืออบตัวตำมกฎหมำยว่ ำ
ด้วยสถำนบริกำร
(๒) กิจกำรนวดเพื่อสุขภำพหรือเพื่อเสริมควำมงำม เว้นแต่กำรนวดเพื่อสุขภำพหรือ
เพื่ อ เสริม ควำมงำมในสถำนพยำบำลตำมกฎหมำยว่ ำด้ ว ยสถำนพยำบำล หรือ ในหน่ ว ยบริก ำร
สำธำรณสุขของหน่วยงำนของรัฐ หรือกำรนวดที่เป็นกำรให้บริกำรในสถำนอำบน้ำ นวด หรืออบตัว
ตำมกฎหมำยว่ำด้วยสถำนบริกำร
(๓) กิจกำรอื่นตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง


รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๓/ตอนที่ ๓๐ ก/หน้ำ ๑๐/๓๑ มีนำคม ๒๕๕๙
พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓
“ผู้อนุญำต” หมำยควำมว่ำ อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมำย
พระราชบัญญัติ

“ผู้ รั บ อนุ ญ ำต” หมำยควำมว่ ำ ผู้ ไ ด้ รั บ ใบอนุ ญ ำตให้ ป ระกอบกิ จ กำรสถำน


ประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
“ผู้ดำเนินกำร” หมำยควำมว่ำ ผู้ได้รับใบอนุญำตให้ดำเนินกำรบริหำรจั ดกำรสถำน
ประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
“ผู้ให้บริกำร” หมำยควำมว่ำ ผู้ได้รับกำรขึ้นทะเบียนให้ทำหน้ำที่บริกำรเพื่อสุขภำพ
ในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
“คณะกรรมกำร” หมำยควำมว่ำ คณะกรรมกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
“พนักงำนเจ้ำหน้ำที่” หมำยควำมว่ำ ข้ำรำชกำรพลเรือน หรือเจ้ำหน้ ำที่ของรัฐซึ่ง
ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ำข้ำรำชกำรพลเรือนสำมัญระดับปฏิบัติกำรหรือเทียบเท่ำ ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้
ปฏิบัติกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
“อธิบดี” หมำยควำมว่ำ อธิบดีกรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพ
“ปลัดกระทรวง” หมำยควำมว่ำ ปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
“รัฐมนตรี” หมำยควำมว่ำ รัฐมนตรีผู้รักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้

มำตรำ ๔ ให้รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุขรักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
และให้มีอำนำจแต่งตั้งพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ ออกกฎกระทรวงกำหนดค่ำธรรมเนียมไม่เกินอัตรำท้ำย
พระรำชบั ญ ญั ติ นี้ ลดหรื อ ยกเว้ น ค่ ำ ธรรมเนี ย ม และก ำหนดกิ จ กำรอื่ นเพื่ อ ปฏิ บั ติ ก ำรตำม
พระรำชบัญญัตินี้
กำรกำหนดค่ำธรรมเนี ย มตำมวรรคหนึ่ ง อำจกำหนดให้ แตกต่ำงกันโดยคำนึงถึง
ประเภทและขนำดของสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพที่กำหนดไว้ในใบอนุญำตด้วยก็ได้
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำแล้วให้ใช้บังคับได้

หมวด ๑
คณะกรรมกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ

มำตรำ ๕ ให้มีคณะกรรมกำรคณะหนึ่ง เรียกว่ำ “คณะกรรมกำรสถำนประกอบกำร


เพื่อสุขภำพ” ประกอบด้วย
(๑) ปลัดกระทรวงสำธำรณสุข เป็นประธำนกรรมกำร
(๒) กรรมกำรโดยตำแหน่ง ได้แก่ อธิบดีกรมกำรท่องเที่ยว อธิบดีกรมกำรปกครอง
อธิบ ดีกรมพัฒ นำกำรแพทย์แ ผนไทยและกำรแพทย์ทำงเลื อก อธิบดีกรมสนับสนุนบริกำรสุ ขภำพ
เลขำธิกำรคณะกรรมกำรคุ้มครองผู้บริโภค เลขำธิกำรคณะกรรมกำรอำหำรและยำ และผู้ว่ำกำรกำร
ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(๓) กรรมกำรผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ จ ำนวนสี่ ค น ซึ่ ง รั ฐ มนตรี แ ต่ ง ตั้ ง จำกผู้ มี ค วำมรู้
ควำมสำมำรถด้ำนบริกำรเพื่อสุขภำพ
ให้อธิบดีแต่งตั้งข้ำรำชกำรของกรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพคนหนึ่งเป็นเลขำนุกำร
และอีกไม่เกินสองคนเป็นผู้ช่วยเลขำนุกำร

๔ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


มำตรำ ๖ กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิมีวำระกำรดำรงตำแหน่งครำวละสำมปี

พระราชบัญญัติ
เมื่ อ ครบก ำหนดตำมวำระในวรรคหนึ่ ง หำกยั ง มิ ไ ด้ มี ก ำรแต่ ง ตั้ ง กรรมกำร
ผู้ทรงคุณ วุฒิ ขึ้นใหม่ ให้กรรมกำรผู้ ทรงคุณ วุฒิ ซึ่งพ้นจำกตำแหน่งตำมวำระนั้นอยู่ในตำแหน่งเพื่อ
ดำเนินงำนต่อไปจนกว่ำกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ำรับหน้ำที่
กรรมกำรผู้ทรงคุณ วุฒิ ซึ่งพ้นจำกตำแหน่งตำมวำระอำจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะ
ดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวำระไม่ได้

มำตรำ ๗ นอกจำกกำรพ้นจำกตำแหน่งตำมวำระ กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิ พ้นจำก


ตำแหน่ง เมื่อ
(๑) ตำย
(๒) ลำออก
(๓) เป็นบุคคลล้มละลำย
(๔) เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ควำมสำมำรถ หรือคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถ
(๕) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพำกษำถึงที่สุดให้จำคุก
(๖) รัฐมนตรีให้ออกเพรำะบกพร่องต่อหน้ำที่ มีควำมประพฤติเสื่อมเสีย หรือหย่อน
ควำมสำมำรถ

มำตรำ ๘ ในกรณีที่กรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจำกตำแหน่งก่อนวำระ ให้รัฐมนตรี


แต่งตั้ งผู้อื่น ดำรงตำแหน่ งแทน เว้น แต่วำระของกรรมกำรผู้ท รงคุณ วุฒิ เหลื อไม่ถึงเก้ำสิบ วันจะไม่
แต่งตั้งกรรมกำรผู้ทรงคุ ณวุฒิ แทนก็ได้ และให้ผู้ ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่ำงนั้นอยู่ในตำแหน่ง
เท่ำกับวำระที่เหลืออยู่ของกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ในกรณี ที่ ก รรมกำรผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ พ้ น จำกต ำแหน่ งก่ อ นวำระ ให้ ค ณะกรรมกำร
ประกอบด้วยกรรมกำรทั้งหมดเท่ำที่มีอยู่จนกว่ำจะมีกำรแต่งตั้งกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิตำมควำมใน
วรรคหนึ่ง

มำตรำ ๙ คณะกรรมกำรมีอำนำจหน้ำที่ ดังต่อไปนี้


(๑) เสนอนโยบำย แผน และยุ ท ธศำสตร์ เกี่ ย วกั บ กำรประกอบกิ จ กำรส ถำน
ประกอบกำรเพื่อสุขภำพต่อรัฐมนตรี
(๒) กำหนดมำตรกำรในกำรส่งเสริมสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพให้ได้มำตรฐำน
ตลอดจนกำรส่งเสริมบุคลำกรที่เกี่ยวข้องทุกกลุ่มให้เข้ำถึงและได้รับประโยชน์
(๓) กำหนดหลักเกณฑ์กำรรับรองวุฒิบัตรหรือประกำศนียบัตรที่ผู้ดำเนินกำรหรือผู้
ให้บริกำรได้รับจำกสถำบันกำรศึกษำ หน่วยงำน หรือองค์กรต่ำง ๆ
(๔) ก ำหนดหลั ก เกณฑ์ ก ำรทดสอบและประเมิ น ควำมรู้ ค วำมสำมำรถข อง
ผู้ดำเนินกำร
(๕) ให้คำแนะนำแก่รัฐมนตรีในกำรออกกฎกระทรวงตำมพระรำชบัญญัตินี้
(๖) ปฏิบัติกำรอื่นใดตำมที่กฎหมำยกำหนดให้เป็นอำนำจหน้ำที่ของคณะกรรมกำร
หรือตำมที่รัฐมนตรีมอบหมำย

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๕


มำตรำ ๑๐ กำรประชุมคณะกรรมกำรต้องมีกรรมกำรมำประชุมไม่น้อยกว่ำกึ่งหนึ่ง
พระราชบัญญัติ

ของจำนวนกรรมกำรทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม
ในกำรประชุมคณะกรรมกำร ถ้ำประธำนกรรมกำรไม่มำประชุมหรือไม่อำจปฏิบัติ
หน้ำที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมกำรคนหนึ่งเป็นประธำนในที่ประชุม
กำรวินิจฉัยชี้ขำดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้ำงมำก กรรมกำรคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งใน
กำรลงคะแนน ถ้ำคะแนนเสีย งเท่ำกัน ให้ป ระธำนในที่ป ระชุม ออกเสีย งเพิ่ม ขึ้น อีกเสีย งหนึ่งเป็น
เสียงชี้ขำด

มำตรำ ๑๑ คณะกรรมกำรมีอำนำจแต่งตั้งคณะอนุกรรมกำรเพื่อพิจำรณำ หรือ


ปฏิบัติกำรอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดแทนคณะกรรมกำร หรือตำมที่คณะกรรมกำรมอบหมำยได้
กำรประชุมคณะอนุกรรมกำร ให้นำบทบัญญัติมำตรำ ๑๐ มำใช้บังคับโดยอนุโลม

หมวด ๒
ใบอนุญำตและกำรขึ้นทะเบียน

มำตรำ ๑๒ ผู้ใดประสงค์จะประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ ต้อง


ได้รับใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพจำกผู้อนุญำต
กำรขอรั บ ใบอนุ ญ ำต กำรออกใบอนุ ญ ำต แบบใบอนุ ญ ำต กำรออกใบแทน
ใบอนุญำต และกำรชำระค่ำธรรมเนียมใบอนุญำต ให้เป็นไปตำมแบบ หลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไข
ที่กำหนดในกฎกระทรวง
กฎกระทรวงตำมวรรคสอง รัฐมนตรีจะกำหนดโดยแยกใบอนุญำตตำมประเภทหรือ
ขนำดของสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพก็ได้

มำตรำ ๑๓ ผู้ขอรับใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุ ขภำพต้องมี


อำยุไม่ต่ำกว่ำยี่สิบปีบริบูรณ์ และไม่มีลักษณะต้องห้ำม ดังต่อไปนี้
(๑) เป็นบุคคลล้มละลำย
(๒) เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ควำมสำมำรถ หรือคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถ
(๓) เป็นผู้เคยต้องคำพิพำกษำถึงที่สุดว่ำเป็นผู้กระทำผิดในควำมผิดเกี่ยวกับเพศตำม
ประมวลกฎหมำยอำญำ ควำมผิดตำมกฎหมำยเกี่ยวกับยำเสพติด ควำมผิดตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำร
ป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุษย์ หรือควำมผิดตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำม
กำรค้ำประเวณี
(๔) เป็นผู้เจ็บป่วยด้วยโรคติดต่ออันเป็นที่รังเกียจแก่สังคม โรคพิษสุรำเรื้อรัง หรือติด
ยำเสพติดให้โทษ
(๕) เป็นผู้อยู่ในระหว่ำงถูกสั่งพักใช้ใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำร
เพื่อสุขภำพ

๖ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(๖) เป็นผู้เคยถูกเพิกถอนใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ

พระราชบัญญัติ
และยังไม่พ้นกำหนดสองปีนับถึงวันยื่นคำขอรับใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อ
สุขภำพ
ในกรณี ที่นิติบุคคลเป็นผู้ขอรับ ใบอนุ ญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อ
สุขภำพ ผู้มีอำนำจจัดกำรแทนนิติบุคคลนั้นต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ ำมตำมควำมใน
วรรคหนึ่ง

มำตรำ ๑๔ ใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพให้มีอำยุห้ำปี
นับแต่วันที่ออกใบอนุญำต
กำรขอต่ออำยุใบอนุญำต ให้ผู้รับอนุญำตยื่นคำขอก่อนวันที่ใบอนุญำตสิ้นอำยุ และ
เมื่อได้ยื่นคำขอดังกล่ำวแล้ว ให้ผู้ยื่นคำขอประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพนั้นต่อไปได้
จนกว่ำจะได้รับแจ้งคำสั่งไม่ต่ออำยุใบอนุญำตจำกผู้อนุญำต
กำรขอต่ออำยุใบอนุญ ำตและกำรให้ต่ออำยุใบอนุญ ำต ให้ เป็ น ไปตำมหลั กเกณฑ์
วิธีกำร และเงื่อนไข ตลอดจนชำระค่ำธรรมเนียมตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง

มำตรำ ๑๕ ให้ ผู้ รั บ อนุ ญ ำตช ำระค่ ำ ธรรมเนี ย มกำรประกอบกิ จ กำรสถำน


ประกอบกำรเพื่อสุขภำพรำยปีตำมอัตรำ หลักเกณฑ์ วิธีกำร เงื่อนไข และภำยในระยะเวลำที่กำหนด
ในกฎกระทรวง
ผู้รับอนุญำตผู้ใดไม่ชำระค่ำธรรมเนียมตำมวรรคหนึ่งภำยในระยะเวลำที่กำหนด
ให้ผู ้อ นุญ ำตสั่ งพั ก ใช้ ใบอนุ ญ ำตประกอบกิ จกำรสถำนประกอบกำรเพื่ อ สุ ข ภำพจนกว่ำจะช ำระ
ค่ำธรรมเนียม
ในกรณีที่ผู้รับอนุญำตซึ่งถูกสั่งพักใช้ใบอนุญำตตำมวรรคสองไม่ชำระค่ำธรรมเนียม
ภำยในหกเดือนนับแต่วันสั่งพักใช้ใบอนุญำต ให้ผู้อนุญำตสั่งเพิกถอนใบอนุญำต

มำตรำ ๑๖ ใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพสิ้นสุดลง
เมื่อผู้รับอนุญำต
(๑) ตำย เว้นแต่ได้ดำเนินกำรตำมที่บัญญัติไว้ในมำตรำ ๑๘ หรือสิ้นสุดควำมเป็นนิติ
บุคคล
(๒) เลิกประกอบกิจกำรตำมมำตรำ ๑๙
(๓) ถูก เพิ ก ถอนใบอนุ ญ ำตประกอบกิจ กำรสถำนประกอบกำรเพื่ อ สุ ข ภำพตำม
มำตรำ ๑๕ วรรคสำม หรือมำตรำ ๓๒ (๑) (๒) หรือ (๓) หรือวรรคสำม

มำตรำ ๑๗ กำรโอนใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพให้แก่
บุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ำมตำมมำตรำ ๑๓ ให้กระทำได้เมื่อได้รับอนุญำตจำก
ผู้อนุญำต
กำรขอโอนใบอนุญำตและกำรอนุญำต ให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไข
ที่กำหนดในกฎกระทรวง

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๗


มำตรำ ๑๘ ในกรณี ผู้ รับอนุญ ำตถึงแก่ควำมตำยและทำยำทมีควำมประสงค์จะ
พระราชบัญญัติ

ประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพต่อไป ให้ผู้จัดกำรมรดกหรือทำยำทซึ่งมีคุณสมบัติและ
ไม่มีลักษณะต้องห้ ำมตำมมำตรำ ๑๓ หรือในกรณีที่มีทำยำทหลำยคนให้ทำยำทด้วยกันนั้นตกลงตั้ง
ทำยำทคนหนึ่งซึ่งมีคุณ สมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ ำมตำมมำตรำ ๑๓ ยื่นคำขอต่อผู้อนุญ ำตเพื่ อ
ขอรับโอนใบอนุญำตภำยในเก้ำสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับอนุญำตตำย ถ้ำมิได้ยื่นคำขอภำยในระยะเวลำ
ดังกล่ำว ให้ถือว่ำใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพนั้นสิ้นสุดลง
ในระหว่ำงระยะเวลำตำมวรรคหนึ่ง ให้ ผู้จัดกำรมรดกหรือทำยำทซึ่งเป็นผู้ ยื่นคำ
ขอรั บ โอนใบอนุ ญ ำตเข้ำประกอบกิ จ กำรสถำนประกอบกำรเพื่ อ สุ ขภำพ โดยมี ห น้ ำที่ แ ละควำม
รับผิดชอบเสมือนผู้รับอนุญำต ทั้งนี้ จนกว่ำผู้อนุญำตจะมีคำสั่งไม่อนุญำต
ถ้ำผลกำรตรวจสอบปรำกฏว่ำผู้ยื่นคำขอมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ำมตำม
มำตรำ ๑๓ ให้ผู้อนุญำตมีคำสั่งอนุญำตแก่ผู้ยื่นคำขอ
กำรขอรับ โอนและกำรอนุญ ำต ให้ เป็ น ไปตำมหลั กเกณฑ์ วิธีก ำร และเงื่อ นไขที่
กำหนดในกฎกระทรวง

มำตรำ ๑๙ ผู้ รับอนุญ ำตซึ่งประสงค์จะเลิกประกอบกิจกำร ให้ แจ้งให้ ผู้ อนุญ ำต


ทรำบ พร้อมทั้งส่งคืนใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพแก่ผู้อนุญำตภำยในสิบ
ห้ำวันนับแต่วันที่เลิกประกอบกิจกำร
กำรเลิ ก ประกอบกิ จ กำรไม่ เป็ น เหตุ ให้ ผู้ รั บ อนุ ญ ำตพ้ น จำกควำมรั บ ผิ ด ที่ มี ต ำม
พระรำชบัญญัตินี้

มำตรำ ๒๐ ผู้ใดประสงค์จะปฏิบัติหน้ำที่เป็นผู้ดำเนินกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อ
สุขภำพ ต้องได้รับใบอนุญำตเป็นผู้ดำเนินกำรจำกผู้อนุญำต
กำรขอรั บ ใบอนุ ญ ำต กำรออกใบอนุ ญ ำต แบบใบอนุ ญ ำต กำรออกใบแทน
ใบอนุญำต และกำรชำระค่ำธรรมเนียมใบอนุญำต ให้เป็นไปตำมแบบ หลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไข
ที่กำหนดในกฎกระทรวง

มำตรำ ๒๑ ผู้ขอรับใบอนุญำตเป็นผู้ดำเนินกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ำม ดังต่อไปนี้
ก. คุณสมบัติ
(๑) มีอำยุไม่ต่ำกว่ำยี่สิบปีบริบูรณ์
(๒) ได้รับวุฒิ บัตรหรือประกำศนียบัตรด้ำนกำรบริกำรเพื่อสุขภำพที่ได้รับกำร
รับรองจำกกรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพ
(๓) ผ่ำนกำรทดสอบและประเมินควำมรู้ควำมสำมำรถจำกกรมสนับสนุนบริกำร
สุขภำพ
ข. ลักษณะต้องห้ำม
(๑) เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ควำมสำมำรถ หรือคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถ
(๒) เป็นผู้เคยต้องคำพิพำกษำถึงที่สุดว่ำเป็นผู้กระทำผิดในควำมผิดเกี่ยวกับเพศ
หรือควำมผิดเกี่ยวกับทรัพย์ตำมประมวลกฎหมำยอำญำ ควำมผิดตำมกฎหมำยเกี่ยวกับยำเสพติด

๘ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ควำมผิดตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำมนุ ษย์ หรือควำมผิดตำมกฎหมำย

พระราชบัญญัติ
ว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำประเวณี
(๓) เป็ น ผู้ เจ็ บ ป่ วยด้วยโรคติดต่ออัน เป็ น ที่ รังเกีย จแก่สังคม โรคพิษสุ รำเรื้อรั ง
หรือติดยำเสพติดให้โทษ
(๔) เป็นผู้อยู่ในระหว่ำงถูกสั่งพักใช้ใบอนุญำตเป็นผู้ดำเนินกำร
(๕) เป็นผู้เคยถูกเพิกถอนใบอนุญำตเป็นผู้ดำเนินกำร และยังไม่พ้นกำหนดหนึ่งปี
นับถึงวันยื่นคำขอรับใบอนุญำตเป็นผู้ดำเนินกำร

มำตรำ ๒๒ ผู้ใดประสงค์จะปฏิบัติหน้ำที่เป็นผู้ให้บริกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อ
สุขภำพ ให้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริกำรต่อผู้อนุญำต
กำรขึ้ น ทะเบี ย นตำมวรรคหนึ่ ง ให้ เป็ น ไปตำมหลั กเกณฑ์ วิธี กำร และเงื่อ นไขที่
กำหนดในกฎกระทรวง

มำตรำ ๒๓ ผู้ ขอขึ้น ทะเบี ย นเป็ น ผู้ ให้ บ ริก ำร ต้ องมี คุ ณ สมบั ติ และไม่มี ลั กษณะ
ต้องห้ำม ดังต่อไปนี้
ก. คุณสมบัติ
(๑) มีอำยุไม่ต่ำกว่ำสิบแปดปีบริบูรณ์
(๒) ได้รับ วุฒิ บั ตรหรือประกำศนีย บัตรด้ำนกำรบริกำรเพื่อสุขภำพที่ได้รับ กำร
รับรองจำกกรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพ
ข. ลักษณะต้องห้ำม
(๑) เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ควำมสำมำรถ หรือคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถ
(๒)๒ (ยกเลิก)
(๓) เป็ น ผู้ เจ็ บ ป่ วยด้วยโรคติดต่ออัน เป็ น ที่รังเกีย จแก่สังคม โรคพิษสุ รำเรื้อรั ง
หรือติดยำเสพติดให้โทษ

หมวด ๓
หน้ำที่ของผู้รับอนุญำตและผู้ดำเนินกำร

มำตรำ ๒๔ ผู้ รั บ อนุ ญ ำตต้ อ งประกอบกิ จ กำรให้ ต รงตำมประเภทของสถำน


ประกอบกำรเพื่อสุขภำพที่ระบุไว้ในใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ

มำตรำ ๒๕ กำรใช้ชื่อสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ ให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์ที่


อธิบดีประกำศกำหนด


มำตรำ ๒๓ ข. (๒) ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
๒๕๖๒

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๙


มำตรำ ๒๖ มำตรฐำนด้ำนสถำนที่ ควำมปลอดภั ย และกำรให้ บ ริกำรในสถำน
พระราชบัญญัติ

ประกอบกำรเพื่อสุขภำพแต่ละประเภท ให้เป็นไปตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง

มำตรำ ๒๗ สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพประเภทใดต้องมีผู้ดำเนินกำร ให้เป็นไป


ตำมหลักเกณฑ์ที่อธิบดีประกำศกำหนด

มำตรำ ๒๘ ผู้รับอนุญำตมีหน้ำที่ ดังต่อไปนี้


(๑) แสดงใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพไว้ในที่เปิดเผย
และเห็นได้ง่ำย ณ สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพที่ระบุไว้ในใบอนุญำต
(๒) จัดให้มีผู้ดำเนินกำรอยู่ประจำสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพตลอดเวลำทำกำร
พร้อมทั้งแสดงชื่อผู้ดำเนินกำรไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่ำย
(๓) จัดทำทะเบียนประวัติผู้ดำเนินกำรและผู้ให้บริกำร
(๔) รักษำมำตรฐำนด้ำนสถำนที่ ควำมปลอดภัย และกำรให้บริกำรให้เป็นไปตำมที่
ได้รับอนุญำต
(๕) รับผู้ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริกำรตำมมำตรำ ๒๒ เท่ำนั้นเข้ำทำงำนในสถำน
ประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
(๖) ไม่โฆษณำเกี่ยวกับกำรให้บริกำรเพื่อสุขภำพในลักษณะ ดังต่อไปนี้
(ก) ใช้ข้อควำมโฆษณำอันเป็นเท็จ หรือโอ้อวดเกินควำมเป็นจริง
(ข) โอ้อวดสรรพคุณของกำรบริกำรเพื่อสุขภำพ หรืออุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ และ
เครื่องมือเครื่องใช้ต่ำง ๆ อันเป็นส่วนประกอบในกำรให้บริกำรว่ำสำมำรถบำบัด รักษำ หรือป้องกัน
โรคได้ หรือใช้ถ้อยคำอื่นใดที่มีควำมหมำยในทำนองเดียวกัน
(ค) โฆษณำในประกำรที่ น่ำจะก่อให้เกิดควำมเข้ำใจผิดในสำระสำคัญเกี่ยวกับ
กำรให้บริกำรเพื่อสุขภำพ
(ง) โฆษณำที่มีลักษณะส่อไปในทำงลำมกอนำจำร
(๗) ควบคุมดูแลมิให้สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพก่อให้เกิดควำมเดือดร้อนรำคำญ
แก่ผู้อำศัยในบริเวณใกล้เคียง
(๘) ห้ ำมมิให้ มี กำรจั ดสถำนที่ห รือ สิ่ งอื่น ใดส ำหรั บ ให้ ผู้ ให้ บ ริ กำรแสดงตนเพื่ อให้
สำมำรถเลือกผู้ให้บริกำรได้
(๙) ควบคุ มดู แ ลมิ ให้ มี ก ำรลั กลอบหรื อมี ก ำรค้ำประเวณี หรื อ มีก ำรกระท ำหรื อ
บริกำรที่ขัดต่อกฎหมำย ควำมสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
(๑๐) ห้ำมมิให้หรือยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ มีกำรจำหน่ำยหรือเสพเครื่องดื่ม
แอลกอฮอล์หรือผลิตภัณฑ์ยำสูบในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
(๑๑) ห้ำมมิให้หรือยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีกำรกระทำควำมผิดเกี่ยวกับยำ
เสพติดในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
(๑๒) ห้ำมมิให้หรือยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอำกำรมึนเมำจนประพฤติตน
วุ่นวำยหรือครองสติไม่ได้เข้ำไปในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพระหว่ำงเวลำทำกำร
(๑๓) ห้ำมมิให้ หรือยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ มีกำรน ำอำวุธเข้ำไปในสถำน
ประกอบกำรเพื่อสุขภำพ

๑๐ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


มำตรำ ๒๙ ผู้ดำเนินกำรมีหน้ำที่ ดังต่อไปนี้

พระราชบัญญัติ
(๑) จัดทำคู่มือปฏิบัติงำนส ำหรับบริกำรหรือคู่มื อกำรใช้อุปกรณ์ ผลิ ตภัณฑ์ และ
เครื่องมือเครื่องใช้ต่ำง ๆ และพัฒนำผู้ให้บริกำรให้สำมำรถให้บริกำรได้ตำมคู่มือที่จัดทำขึ้น
(๒) ควบคุมดูแลกำรบริกำร อุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ต่ำง ๆ ให้ได้
มำตรฐำน ถูกสุขลักษณะ และใช้ได้อย่ำงปลอดภัย
(๓) สอบถำมและบั น ทึ ก ข้ อ มู ล สุ ข ภำพพื้ น ฐำน และคั ด กรองผู้ รั บ บริ ก ำรเพื่ อ
จัดบริกำรที่เหมำะสมแก่สุขภำพของผู้รับบริกำร
(๔) ควบคุมดูแลผู้ให้บริกำรให้ปฏิบัติตำมคู่มือกำรปฏิบัติงำนอย่ำงเคร่งครัด และ
ควบคุมดูแลมิให้ผู้ให้บริกำรออกไปให้บริกำรนอกสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพในเวลำทำงำน
(๕) จัดให้มีมำตรกำรดูแลควำมปลอดภัยในกำรทำงำน และป้องกันมิให้ผู้รับบริกำร
ผู้ให้บริกำร และบุคคลซึ่งทำงำนในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพถูกล่วงละเมิดทำงเพศ
นอกจำกหน้ำที่ที่กำหนดไว้ในวรรคหนึ่ง ให้ผู้ดำเนินกำรมีหน้ำที่ตำมมำตรำ ๒๘ (๙)
(๑๐) (๑๑) (๑๒) และ (๑๓) ด้วย

หมวด ๔
กำรพักใช้ใบอนุญำต กำรเพิกถอนใบอนุญำต
และกำรลบชื่อออกจำกทะเบียน

มำตรำ ๓๐ เมื่อปรำกฏแก่พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ว่ำผู้รับอนุญำตฝ่ำฝืน หรือไม่ปฏิบัติ


ตำมหน้ำที่ที่ได้บั ญ ญั ติไว้ในมำตรำ ๒๘ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) (๗) หรือ (๘) กฎกระทรวง หรือ
ประกำศที่ออกตำมพระรำชบัญญัตินี้ ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่มีอำนำจสั่งให้ผู้รับอนุญำตดำเนินกำรแก้ไข
ให้ถูกต้องภำยในระยะเวลำที่กำหนด
หำกผู้รับอนุญำตไม่ดำเนินกำรแก้ไขภำยในระยะเวลำที่พนักงำนเจ้ำหน้ำที่กำหนด
ตำมวรรคหนึ่ง ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่รำยงำนต่อผู้อนุญำตเพื่อพิจำรณำ ในกำรนี้ ให้ผู้อนุญำตมีอำนำจ
สั่งพักใช้ใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพได้จนกว่ำจะได้ดำเนินกำรแก้ไขให้
ถู ก ต้ อ ง เมื่ อ ผู้ รั บ อนุ ญ ำตได้ ด ำเนิ น กำรแก้ ไขให้ ถู ก ต้ อ งแล้ ว ให้ ผู้ อ นุ ญ ำตสั่ งเพิ ก ถอนค ำสั่ งพั ก ใช้
ใบอนุญำตนั้น
ผู้รับอนุญำตซึ่งถูกสั่ งพักใช้ใบอนุญ ำตต้องหยุดประกอบกิจกำรตำมที่ถูกสั่งพักใช้
ใบอนุญำต

มำตรำ ๓๑ เมื่อปรำกฏแก่พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ว่ำผู้ดำเนินกำรฝ่ำฝืน หรือไม่ปฏิบัติ


ตำมหน้ ำ ที่ ที่ ไ ด้ บั ญ ญั ติ ไ ว้ ใ นมำตรำ ๒๙ วรรคหนึ่ ง กฎกระทรวง หรื อ ประกำศที่ อ อกตำม
พระรำชบัญญัตินี้ ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่มีอำนำจสั่งให้ผู้ดำเนินกำรปฏิบัติตำมหน้ำที่ของตนให้ถูกต้อง
ภำยในระยะเวลำที่กำหนด
หำกผู้ดำเนินกำรไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องภำยในระยะเวลำที่พนักงำนเจ้ำหน้ำที่กำหนด
ตำมวรรคหนึ่ง ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่รำยงำนผู้อนุญำตเพื่อพิจำรณำ ในกำรนี้ ให้ผู้อนุญำตมีอำนำจสั่ง

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๑


พักใช้ใบอนุญำตเป็นผู้ดำเนินกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพได้จนกว่ำจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
พระราชบัญญัติ

เมื่อผู้ดำเนินกำรได้ปฏิบัติให้ถูกต้องแล้ว ให้ผู้อนุญำตสั่งเพิกถอนคำสั่งพักใช้ใบอนุญำตนั้น
ผู้ ด ำเนิ น กำรซึ่ ง ถู ก สั่ งพั ก ใช้ ใบอนุ ญ ำตต้ อ งหยุ ด ปฏิ บั ติ ห น้ ำ ที่ ต ำมที่ ถู ก สั่ ง พั ก ใช้
ใบอนุญำต

มำตรำ ๓๒ อธิบดีมีอำนำจสั่งเพิกถอนใบอนุญำต เมื่อปรำกฏว่ำ


(๑) ผู้รับอนุญำตขำดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ำมตำมมำตรำ ๑๓ (๑) (๒) (๓)
(๔) หรือ (๖)
(๒) ผู้รับอนุญำตฝ่ำฝืนหรือไม่ปฏิบัติตำมหน้ำที่ที่บัญญัติไว้ในมำตรำ ๒๘ (๙) (๑๐)
(๑๑) (๑๒) หรือ (๑๓)
(๓) ผู้รับอนุญำตฝ่ำฝืนคำสั่งพักใช้ใบอนุญำตตำมมำตรำ ๓๐
(๔) ผู้ดำเนินกำรขำดคุณสมบัติตำมมำตรำ ๒๑ ก. (๑) (๒) หรือ (๓) หรือมีลักษณะ
ต้องห้ำมตำมมำตรำ ๒๑ ข. (๑) (๒) (๓) หรือ (๕)
(๕) ผู้ดำเนินกำรฝ่ำฝืนหรือไม่ปฏิบัติตำมหน้ำที่ที่บัญญัติไว้ในมำตรำ ๒๙ วรรคสอง
(๖) ผู้ดำเนินกำรฝ่ำฝืนคำสั่งพักใช้ใบอนุญำตตำมมำตรำ ๓๑
ในกรณีที่ผู้รับอนุญำตเป็นบุคคลธรรมดำ หำกอธิบดีมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญำตตำม
(๑) ให้สำมำรถประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพได้ต่อไปอีกหกสิบวันนับแต่วันที่อธิบดีมี
คำสั่งเพิกถอนใบอนุญำต
ในกรณีที่ผู้รับอนุญำตเป็นนิติบุคคล และปรำกฏต่อผู้อนุญำตว่ำผู้มีอำนำจจัดกำร
แทนนิติบุคคลขำดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ำมตำมมำตรำ ๑๓ (๑) (๒) (๓) (๔) หรือ (๖) ให้ผู้
อนุญำตแจ้งให้ผู้รับอนุญำตแต่งตั้งบุคคลอื่นเข้ำดำรงตำแหน่งแทนภำยในสำมสิบวันนับแต่วันที่ได้รับ
แจ้ง หำกผู้รับอนุญำตไม่ดำเนินกำรภำยในระยะเวลำดังกล่ำว ให้อธิบดีมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญำต

มำตรำ ๓๓ ในกรณี ที่ ป รำกฏว่ ำ ผู้ ให้ บ ริ ก ำรผู้ ใดขำดคุ ณ สมบั ติ ห รื อ มี ลั ก ษณะ
ต้องห้ำมตำมที่กำหนดในมำตรำ ๒๓ ให้ผู้อนุญำตลบชื่อผู้ให้บริกำรนั้นออกจำกทะเบียน

มำตรำ ๓๔ คำสั่งพักใช้ใบอนุญำต คำสั่งเพิกถอนใบอนุญำต และคำสั่งลบชื่อออก


จำกทะเบียน ให้ทำเป็นหนังสือแจ้งผู้รับอนุญำต ผู้ดำเนินกำร หรือผู้ให้บริกำรทรำบ แล้วแต่กรณี
กำรแจ้งค ำสั่ งตำมวรรคหนึ่ ง ให้ น ำหมวดว่ำด้ว ยกำรแจ้ งตำมกฎหมำยว่ำด้ว ยวิธี
ปฏิบัติรำชกำรทำงปกครองมำใช้บังคับโดยอนุโลม

หมวด ๕
พนักงำนเจ้ำหน้ำที่

มำตรำ ๓๕ ในกำรปฏิบัติหน้ำที่ ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่มีอำนำจ ดังต่อไปนี้


(๑) เข้ำไปในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพในระหว่ำงเวลำทำกำรของสถำนที่น้ัน
เพื่อตรวจสอบหรือควบคุมให้เป็นไปตำมพระรำชบัญญัตินี้

๑๒ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(๒) เก็บอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ต่ำง ๆ ที่ใช้ในกำรให้บริกำรเพื่อ

พระราชบัญญัติ
สุขภำพในปริมำณพอสมควรเพื่อเป็นตัวอย่ำงในกำรตรวจสอบหรือวิเครำะห์
(๓) ยึดหรืออำยัดอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ต่ำง ๆ ตลอดจนภำชนะ
บรรจุ หีบห่อ ฉลำกและเอกสำรกำกับ และเอกสำรหรือวัตถุอื่นใดที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ำจะเกี่ยวข้อง
กับกำรกระทำควำมผิด
(๔) มีหนังสือเรียกให้บุคคลที่เกี่ยวข้อ งมำให้ถ้อยคำ หรือส่งเอกสำรหรือหลักฐำนที่
จำเป็นเพื่อประกอบกำรพิจำรณำของพนักงำนเจ้ำหน้ำที่
ให้ผู้รับอนุญำต ผู้ดำเนินกำร ผู้ให้บริกำร หรือบุคคลซึ่งเป็นพนักงำนหรือลูกจ้ำงของ
สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพนั้นอำนวยควำมสะดวกตำมสมควร

มำตรำ ๓๖ ในกำรปฏิ บั ติ ห น้ ำที่ พนั ก งำนเจ้ ำหน้ ำ ที่ ต้ อ งแสดงบั ต รประจ ำตั ว
พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง
บัตรประจำตัวพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ให้เป็นไปตำมแบบที่อธิบดีประกำศกำหนด

มำตรำ ๓๗ ในกำรปฏิบัติหน้ำที่ ให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่เป็นเจ้ำพนักงำนตำมประมวล


กฎหมำยอำญำ

หมวด ๖
กำรอุทธรณ์

มำตรำ ๓๘ ในกรณีผู้อนุญำตไม่ออกใบอนุญำต ไม่ให้ต่ออำยุใบอนุญำต ไม่ให้โอน


ใบอนุญำต หรือไม่รับขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริกำร ให้ผู้ขออนุญำต ผู้ขอต่ออำยุใบอนุญำต ผู้ขอรับโอน
ใบอนุญำต หรือผู้ขอขึ้นทะเบียนมีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อปลัดกระทรวงภำยในสำมสิบวันนับแต่
วันที่ได้รับแจ้งกำรไม่ออกใบอนุญำต กำรไม่ให้ต่ออำยุใบอนุญำต กำรไม่ให้โอนใบอนุญำต หรือกำรไม่
รับขึ้นทะเบียน แล้วแต่กรณี

มำตรำ ๓๙ ผู้รับอนุญำต ผู้ดำเนินกำร หรือผู้ให้บริกำร ซึ่งถูกพักใช้ใบอนุญำต ถูก


เพิกถอนใบอนุญ ำต หรือถูกลบชื่อออกจำกทะเบี ย น มีสิ ทธิอุทธรณ์ เป็ นหนั งสื อต่ อปลั ดกระทรวง
ภำยในสำมสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญำต หรือคำสั่งลบชื่อออกจำก
ทะเบียน แล้วแต่กรณี
กำรอุทธรณ์ตำมวรรคหนึ่งไม่เป็นเหตุให้ทุเลำกำรบังคับตำมคำสั่งพักใช้ใบอนุญำต
คำสั่งเพิกถอนใบอนุญำต หรือคำสั่งลบชื่อออกจำกทะเบียน

มำตรำ ๔๐ กำรพิจำรณำอุทธรณ์ตำมมำตรำ ๓๘ หรือมำตรำ ๓๙ ให้ปลัดกระทรวง


พิจำรณำอุทธรณ์ ให้แล้ วเสร็จภำยในสำมสิบ วันนั บ แต่วันที่ได้รับคำอุทธรณ์ ถ้ำมีเหตุจำเป็ นไม่อำจ
พิ จ ำรณำให้ แ ล้ ว เสร็ จ ภำยในระยะเวลำดั ง กล่ ำ ว ให้ มี ห นั ง สื อ แจ้ ง ให้ ผู้ อุ ท ธรณ์ ท รำบก่ อ นครบ

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๓


กำหนดเวลำดังกล่ำว ในกำรนี้ ให้ขยำยระยะเวลำพิจำรณำอุทธรณ์ออกไปได้ไม่เกินสำมสิบวันนับแต่
พระราชบัญญัติ

วันที่ครบกำหนดระยะเวลำดังกล่ำว
คำวินิจฉัยของปลัดกระทรวงให้เป็นที่สุด

หมวด ๗
บทกำหนดโทษ

มำตรำ ๔๑ ผู้ใดใช้ชื่อหรือคำแสดงชื่อในธุรกิจว่ำ “สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ”


“กิจกำรสปำ” “นวดเพื่อสุขภำพหรือเพื่อเสริมควำมงำม” หรือกิจกำรอื่นตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง
ที่ออกตำมควำมใน (๓) ของบทนิยำมคำว่ำ “สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ” ในมำตรำ ๓ หรือคำอื่นใด
ที่มีควำมหมำยเช่นเดียวกันในประกำรที่อำจทำให้ ประชำชนเข้ำใจว่ำเป็นสถำนประกอบกำรเพื่ อ
สุขภำพโดยมิได้เป็นผู้รับอนุญำตตำมพระรำชบัญญัตินี้ ต้องระวำงโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบำท

มำตรำ ๔๒ ผู้ใดฝ่ำฝืนมำตรำ ๑๒ ต้องระวำงโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่


เกินห้ำหมื่นบำท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มำตรำ ๔๓ ผู้ใดฝ่ำฝืนมำตรำ ๒๐ ต้องระวำงโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบำท

มำตรำ ๔๔ ผู้รับอนุญำตผู้ใดฝ่ำฝืนมำตรำ ๒๔ ต้องระวำงโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบำท

มำตรำ ๔๕ ผู้รับอนุญำตผู้ใดฝ่ำฝืนหรือไม่ปฏิบัติตำมมำตรำ ๒๘ (๙) (๑๐) (๑๑)


(๑๒) หรือ (๑๓) หรือผู้ดำเนินกำรผู้ใดฝ่ำฝืนหรือไม่ปฏิบัติตำมมำตรำ ๒๙ วรรคสอง ต้องระวำงโทษ
ปรับไม่เกินสำมหมื่นบำท

มำตรำ ๔๖ ผู้ใดฝ่ำฝืนหรือไม่ปฏิบัติตำมมำตรำ ๓๕ วรรคสอง ต้องระวำงโทษปรับ


ไม่เกินหนึ่งหมื่นบำท

มำตรำ ๔๗ ในกรณีที่ผู้กระทำควำมผิดเป็นนิติบุคคล ถ้ำกำรกระทำควำมผิดของนิติ


บุคคลนั้นเกิดจำกกำรสั่งกำร หรือกำรกระทำของบุคคลใด หรือไม่สั่งกำร หรือไม่กระทำกำรอันเป็น
หน้ำที่ที่ต้องกระทำของกรรมกำรผู้จัดกำร หรือบุคคลใด ซึ่งรับผิดชอบในกำรดำเนินงำนของนิติบุคคลนั้น
ผู้นั้นต้องรับโทษตำมที่บัญญัติไว้สำหรับควำมผิดนั้น ๆ ด้วย

มำตรำ ๔๘ บรรดำควำมผิ ด ตำมพระรำชบั ญ ญั ติ นี้ ให้ ผู้ อ นุ ญ ำตมี อ ำนำจ


เปรียบเทียบได้ตำมหลักเกณฑ์ที่อธิบดีประกำศกำหนด
เมื่อผู้ต้องหำชำระเงินค่ำปรับตำมจำนวนที่เปรียบเทียบภำยในระยะเวลำที่กำหนดแล้ว
ให้ถือว่ำคดีเลิกกันตำมบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ

๑๔ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


บทเฉพำะกำล

พระราชบัญญัติ
มำตรำ ๔๙ ผู้ประกอบกิจกำร ผู้ดำเนินกำร และผู้ให้บริกำรในสถำนที่เพื่อสุขภำพ
หรือเพื่อเสริมสวยที่ได้รับกำรรับ รองตำมประกำศกระทรวงสำธำรณสุข เรื่อง กำหนดสถำนที่เพื่อ
สุขภำพหรือเพื่อเสริมสวย มำตรฐำนของสถำนที่ กำรบริกำร ผู้ให้ บริกำร หลักเกณฑ์ และวิธีกำร
ตรวจสอบเพื่อกำรรับรองให้เป็นไปตำมมำตรฐำนสำหรับสถำนที่เพื่อสุขภำพหรือเพื่อเสริมสวยตำม
พระรำชบัญญัติสถำนบริกำร พ.ศ. ๒๕๐๙ พ.ศ. ๒๕๕๑ อยู่ในวันก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญำตประกอบกิจกำร คำขอรับใบอนุญำตเป็นผู้ดำเนินกำร หรือคำขอขึ้นทะเบียน
เป็นผู้ให้บริกำรต่อผู้อนุญำตภำยในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และเมื่อ
ยื่นคำขอรับใบอนุญำตหรือคำขอขึ้นทะเบียนแล้ว ให้ประกอบกิจกำร ดำเนินกำร หรือให้บริกำรต่อไป
ได้จนกว่ำจะได้รับแจ้งคำสั่งไม่ออกใบอนุญำตหรือไม่รับขึ้นทะเบียนจำกผู้อนุญำต แล้วแต่กรณี

ผู้รับสนองพระบรมรำชโองกำร
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชำ
นำยกรัฐมนตรี

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๕


อัตรำค่ำธรรมเนียม
พระราชบัญญัติ

(๑) ใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บำท


(๒) ใบอนุญำตเป็นผู้ดำเนินกำร ฉบับละ ๑,๕๐๐ บำท
(๓) กำรต่ออำยุใบอนุญ ำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ ครั้งละเท่ำกับ
ค่ำธรรมเนียมใบอนุญำตประเภทและขนำดนั้น ๆ แต่ละฉบับ
(๔) ใบแทนใบอนุญำต ฉบับละ ๕๐๐ บำท
(๕) กำรเปลี่ยนแปลงแก้ไขรำยกำรในใบอนุญำต ครั้งละ ๕๐๐ บำท
(๖) ค่ำธรรมเนียมกำรประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
รำยปี ปีละ ๑,๐๐๐ บำท

๑๖ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่กิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อ

พระราชบัญญัติ
สุขภำพเป็นกิจกำรด้ำนบริกำรที่ สร้ำงงำนและรำยได้แก่ประเทศเป็นจำนวนมำก และเป็นกิจกำรที่
ได้รับควำมเชื่อมั่นจำกผู้รับบริกำรทั้งชำวไทยและชำวต่ำงประเทศมำยำวนำน จึงมีผู้ประกอบกิจกำร
สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพเพิ่มมำกขึ้นในแต่ละปี แต่ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมำยกำกับดูแลกำรดำเนิน
กิจกำรนี้เป็นกำรเฉพำะ ผู้ประกอบกิจกำร ผู้ดำเนินกำร และผู้ให้บริกำรจำนวนมำกขำดควำมรู้และ
ทักษะในกำรประกอบกิจกำร และกำรให้บริกำรของสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพส่วนใหญ่ไม่ได้
มำตรฐำน และส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภำพ ร่ำงกำย หรือจิตใจของผู้รับบริกำร ประกอบกับมีผู้ใช้
คำว่ำสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ เพื่อประกอบกิจกำรแฝงอย่ำงอื่นอันส่งผลกระทบต่อควำมเชื่อมั่น
ของผู้รับบริกำรชำวไทยและชำวต่ำงประเทศที่มีต่อกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ สมควรมี
กฎหมำยที่กำกับดูแลกำรประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพขึ้นเป็นกำรเฉพำะ เพื่อให้กำร
ดำเนินกิจกำรดังกล่ำวเป็นไปอย่ำงมีมำตรฐำนอันเป็นกำรส่งเสริมสุขภำพของประชำชน และคุ้มครอง
ผู้บริโภค จึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้

พระรำชบัญญัติสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒๓

มำตรำ ๒ พระรำชบั ญ ญัตินี้ให้ ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำ


นุเบกษำเป็นต้นไป

หมำยเหตุ :- เหตุผลในกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่กฎหมำยว่ำด้วยสถำนประกอบกำร


เพื่อสุขภำพที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันได้กำหนดลักษณะต้องห้ำมของผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริกำร
ว่ำจะต้องไม่เคยต้องคำพิพำกษำถึงที่สุดว่ำเป็นผู้กระทำควำมผิดในควำมผิดเกี่ยวกับเพศหรือควำมผิด
เกี่ยวกับทรัพย์ตำมประมวลกฎหมำยอำญำ ควำมผิดตำมกฎหมำยเกี่ยวกับยำเสพติด หรือควำมผิด
ตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำประเวณี เว้นแต่ได้พ้นโทษมำแล้วไม่น้อยกว่ำ
หนึ่งปีก่อนวันยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริกำร ซึ่งลักษณะต้องห้ ำมดังกล่ำวเป็นกำรตัดโอกำส
ในกำรประกอบอำชีพและเป็นอุปสรรคในกำรกลับเข้ำสู่สังคมได้ตำมปกติของผู้เคยกระทำควำมผิด
ดังกล่ำวหลังจำกพ้นโทษ จึงสมควรยกเลิกลักษณะต้องห้ ำมนั้น โดยเปิดโอกำสให้ กลุ่มบุคคลผู้เคย
กระทำควำมผิดเหล่ำนี้สำมำรถเข้ำสู่กำรประกอบอำชีพเป็นผู้ให้บริกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
ได้ทันที จึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้


รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๖/ตอนที่ ๕๐ ก/หน้ำ ๒๐๘/๑๖ เมษำยน ๒๕๖๒

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๗


พระราชบัญญัติ

๑๘ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


กฎกระทรวง
เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

กฎกระทรวง
กฎกระทรวง
กําหนดค่าธรรมเนียมและการชําระค่าธรรมเนียม
เกี่ยวกับการประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๖๐

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๒ วรรคสอง และมาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง


แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้กําหนดค่าธรรมเนียม ดังต่อไปนี้
(๑) ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปา
(ก) พื้นที่การให้บริการ
ไม่เกินหนึ่งร้อยตารางเมตร ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
(ข) พื้นที่การให้บริการเกินหนึ่งร้อยตารางเมตร
แต่ไม่เกินสองร้อยตารางเมตร ฉบับละ ๓,๐๐๐ บาท
(ค) พื้นที่การให้บริการเกินสองร้อยตารางเมตร
แต่ไม่เกินสี่ร้อยตารางเมตร ฉบับละ ๖,๐๐๐ บาท
(ง) พื้นที่การให้บริการเกินสี่ร้อยตารางเมตร ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท
(๒) ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพประเภทกิจการนวดเพื่อสุขภาพ
หรือเพื่อเสริมความงาม
(ก) พื้นที่การให้บริการ
ไม่เกินหนึ่งร้อยตารางเมตร ฉบับละ ๕๐๐ บาท
(ข) พื้นที่การให้บริการเกินหนึ่งร้อยตารางเมตร
แต่ไม่เกินสองร้อยตารางเมตร ฉบับละ ๑,๕๐๐ บาท

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๑


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

(ค) พื้นที่การให้บริการเกินสองร้อยตารางเมตร
แต่ไม่เกินสี่ร้อยตารางเมตร ฉบับละ ๓,๐๐๐ บาท
(ง) พื้นที่การให้บริการเกินสี่ร้อยตารางเมตร ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท
(๓) ใบอนุญาตเป็นผู้ดําเนินการ ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
กฎกระทรวง

(๔) การต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ครั้งละเท่ากับค่าธรรมเนียม
ใบอนุญาตตาม (๑) หรือ (๒)
(๕) ใบแทนใบอนุญาตตาม (๑) (๒) หรือ (๓) ฉบับละ ๓๐๐ บาท
(๖) การเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาต
ตาม (๑) (๒) หรือ (๓) ครั้งละ ๓๐๐ บาท
(๗) ค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพรายปี
สําหรับสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ตาม (๑) ปีละ ๑,๐๐๐ บาท
(๘) ค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพรายปี
สําหรับสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ตาม (๒) ปีละ ๕๐๐ บาท
ข้อ ๒ การคํ า นวณพื้ น ที่ ก ารให้ บ ริ ก ารของสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพตามข้ อ ๑
ให้คํานวณตามแบบแปลนแผนผังแสดงพื้นที่การให้บริการของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ได้ยื่นไว้
พร้อมกับคําขอรับใบอนุญาตหรือคําขอต่ออายุใบอนุญาต แล้วแต่กรณี
ข้อ ๓ ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพชําระค่าธรรมเนียม
การประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพรายปีในปีแรก พร้อมกับการชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต
และให้ถือว่าวันที่ชําระค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นวันครบกําหนดชําระค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพรายปีในปีต่อ ๆ ไปตลอดระยะเวลาที่ยังประกอบกิจการอยู่
เมื่อผู้อนุญาตได้รับชําระค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่งถูกต้องและครบถ้วนแล้ว ให้ผู้อนุญาตออก
หลักฐานการชําระค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้รับอนุญาตตามแบบที่อธิบดีประกาศกําหนดภายในสามวันนับแต่
วันที่ได้รับชําระค่าธรรมเนียมดังกล่าว
ข้อ ๔ ผู้ รั บ อนุ ญ าตต้ อ งแสดงหลั ก ฐานการชํ า ระค่ า ธรรมเนี ย มการประกอบกิ จ การ
สถานประกอบการเพื่อ สุ ข ภาพรายปีไ ว้ ใ นที่เปิ ด เผยและมองเห็ น ได้ ชั ด เจน ณ สถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพนั้น

๒๒ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

ข้อ ๕ การยื่นคําขอชําระค่าธรรมเนียมตามกฎกระทรวงนี้ ให้ยื่น ณ สถานที่ ดังต่อไปนี้


(๑) ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
(๒) ในจังหวัดอื่น ให้ยื่น ณ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด
(๓) สถานที่ อื่ น ตามที่ อ ธิ บ ดี กํ า หนดโดยประกาศในราชกิ จ จานุ เ บกษา โดยคํ า นึ ง ถึ ง
การอํานวยความสะดวกและการลดภาระแก่ผู้ยื่นคําขอ

กฎกระทรวง
การยื่ น คํ า ขอตามวรรคหนึ่ ง ผู้ ยื่ น คํ า ขออาจยื่ น คํ า ขอผ่ า นระบบอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ก็ ไ ด้ ทั้ ง นี้
ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกําหนด
คํ า ขอชํ า ระค่ า ธรรมเนี ย มตามวรรคหนึ่ ง ให้ เ ป็ น ไปตามแบบที่ อ ธิ บ ดี กํ า หนดโดยประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษา

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐


ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๓


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรกําหนดค่าธรรมเนียมและ
การชําระค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ซึ่งมาตรา ๔ วรรคหนึ่ง
และวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ บัญญัติให้รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงสาธารณสุขมีอํานาจออกกฎกระทรวงกําหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัติโดยอาจ
กํ าหนดให้แ ตกต่ า งกั น โดยคํ านึ งถึง ประเภทและขนาดของสถานประกอบการเพื่ อสุ ข ภาพที่กํ าหนดไว้ ใ น
กฎกระทรวง

ใบอนุญาตด้วยก็ได้ และมาตรา ๑๒ วรรคสอง และมาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว


บัญ ญั ติใ ห้การชําระค่าธรรมเนี ยมใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพและการชํ าระ
ค่ า ธรรมเนี ย มการประกอบกิ จ การสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพรายปี เป็ น ไปตามหลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก าร
เงื่อนไข และภายในระยะเวลาที่กําหนดในกฎกระทรวง จึงจําเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

๒๔ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

กฎกระทรวง
กฎกระทรวง
กําหนดบริการอื่นในกิจการสปา
พ.ศ. ๒๕๖๐

อาศัยอํานาจตามความใน (๑) ของบทนิยามคําว่า “สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ” ในมาตรา ๓


และมาตรา ๔ วรรคหนึ่ ง แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ให้บริการดังต่อไปนี้เป็นบริการอื่นในกิจการสปา
(๑) การขัดผิวกาย
(๒) การขัดผิวหน้า
(๓) การใช้ผ้าห่มร้อน
(๔) การทําความสะอาดผิวกาย
(๕) การทําความสะอาดผิวหน้า
(๖) การทําสมาธิ
(๗) การนวดหน้า
(๘) การบริการอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
(๙) การบํารุงผิวกาย
(๑๐) การบํารุงผิวหน้า
(๑๑) การประคบด้วยความเย็น
(๑๒) การประคบด้วยหินร้อน
(๑๓) การปรับสภาพผิวหน้า
(๑๔) การแปรงผิว
(๑๕) การพอกผิวกาย
(๑๖) การพอกผิวหน้า
(๑๗) การพันตัว
(๑๘) การพันร้อน

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๕


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

(๑๙) การอบซาวน่า
(๒๐) การอบไอน้ํา
(๒๑) การอาบด้วยทรายร้อน
(๒๒) ชิบอล
(๒๓) ไทเก็ก
กฎกระทรวง

(๒๔) ไทชิ
(๒๕) พิลาทิส
(๒๖) ฟิตบอล
(๒๗) โยคะ
(๒๘) ฤาษีดัดตน
(๒๙) แอโรบิก

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐


ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

๒๖ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐
หมายเหตุ :- เหตุ ผ ลในการประกาศใช้ ก ฎกระทรวงฉบั บ นี้ คื อ โดยที่ (๑) ของบทนิ ย ามคํา ว่ า
“สถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ” ในมาตรา ๓ แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
พ.ศ. ๒๕๕๙ บัญญัติให้กิจการสปา ได้แก่ บริการที่เกี่ยวกับการดูแลและเสริมสร้างสุขภาพโดยวิธีการบําบัด
ด้วยน้ําและการนวดร่างกายเป็นหลัก ประกอบกับบริการอื่นตามที่กําหนดในกฎกระทรวงอีกอย่างน้อยสามอย่าง
เพื่อให้ได้รับบริการที่ครบถ้วนตามหลักการทําสปา สมควรกําหนดให้บริการบางอย่างเป็นบริการอื่นในกิจการสปา

กฎกระทรวง
จึงจําเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๗


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐
กฎกระทรวง

กฎกระทรวง
การอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๖๐

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๒ วรรคสอง มาตรา ๑๔ วรรคสาม


มาตรา ๑๗ วรรคสอง และมาตรา ๑๘ วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๕๙ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในกฎกระทรวงนี้
“ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ข้อ ๒ การยื่นคําขอตามกฎกระทรวงนี้ ให้ยื่น ณ ท้องที่ที่สถานประกอบการเพื่อสุขภาพตั้งอยู่
ดังต่อไปนี้
(๑) ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
(๒) ในจังหวัดอื่น ให้ยื่น ณ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด
(๓) สถานที่ อื่ น ตามที่ อ ธิ บ ดี กํ า หนดโดยประกาศในราชกิ จ จานุ เ บกษา โดยคํ า นึ ง ถึ ง
การอํานวยความสะดวกและการลดภาระแก่ผู้ยื่นคําขอ
การยื่ น คํ า ขอตามวรรคหนึ่ ง ผู้ ยื่ น คํ า ขออาจยื่ น คํ า ขอผ่ า นระบบอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ก็ ไ ด้ ทั้ ง นี้
ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกําหนด
ข้อ ๓ คําขอรับใบอนุญาต ใบรับคําขอ คําขอต่ออายุใบอนุญาต คําขอโอนใบอนุญาต
คําขอรับโอนใบอนุญาต คําขอรับใบแทนใบอนุญาต และคําขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาต
ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
หมวด ๑
การขอรับใบอนุญาต และการออกใบอนุญาต

ข้อ ๔ ผู้ ใ ดประสงค์ จ ะประกอบกิ จ การสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพให้ ยื่ น คํ า ขอ


รับใบอนุญาตต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอรับใบอนุญาต

๒๘ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

ข้อ ๕ เมื่ อ ได้ รั บ คํ า ขอรั บ ใบอนุ ญ าตแล้ ว ให้ ผู้ อ นุ ญ าตออกใบรั บ คํ า ขอให้ แ ก่ ผู้ ข อ
รับใบอนุญาตไว้เป็นหลักฐาน
ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคําขอรับใบอนุญาต หากผู้อนุญาตเห็นว่าคําขอรับใบอนุญาต
หรื อ เอกสารหรื อ หลั ก ฐานที่ ยื่ น พร้ อ มกั บ คํ า ขอรั บ ใบอนุ ญ าตในเรื่ อ งใดไม่ ถู ก ต้ อ งหรื อ ไม่ ค รบถ้ ว น

กฎกระทรวง
ให้ ผู้อ นุ ญ าตมีห นัง สื อ แจ้ งให้ผู้ ข อรั บใบอนุ ญาตทราบพร้ อ มด้ วยเหตุ ผ ลเพื่อ แก้ ไขให้ แล้ ว เสร็จ ภายใน
สามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือนั้น
ในกรณี ที่ ผู้ ข อรั บ ใบอนุ ญ าตไม่ แ ก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม คํ า ขอรั บ ใบอนุ ญ าตหรื อ ไม่ จั ด ส่ ง เอกสารหรื อ
หลักฐานให้ถูกต้องและครบถ้วนภายในระยะเวลาตามวรรคสอง ให้ถือว่าผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ประสงค์
จะให้ดําเนินการต่อไป และให้ผู้อนุญาตจําหน่ายเรื่องออกจากสารบบ
ข้อ ๖ ในกรณีที่คําขอรับใบอนุญาตและเอกสารและหลักฐานถูกต้องและครบถ้วนแล้ว
ให้ ผู้ อ นุ ญ าตพิ จ ารณาคํ าขอ โดยผู้ อ นุ ญ าตจะมี คํ าสั่ ง อนุ ญ าตได้ ต่ อ เมื่ อ ปรากฏว่ าผู้ ข อรั บ ใบอนุ ญ าต
มี คุ ณ สมบั ติ แ ละไม่ มี ลั ก ษณะต้ อ งห้ า มตามมาตรา ๑๓ และสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพเป็ น ไป
ตามมาตรฐานที่กําหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในมาตรา ๒๖
ผู้ อ นุ ญ าตต้ อ งแจ้ ง ผลการพิ จ ารณาไปยั ง ผู้ ข อรั บ ใบอนุ ญ าตทราบภายในหกสิ บ วั น นั บ แต่
วันที่ได้รับคําขอพร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานดังกล่าวครบถ้วน ในกรณีที่มีเหตุผลหรือความจําเป็น
ไม่อาจพิจารณาให้แล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว อาจขยายระยะเวลาการพิจารณาออกไปได้อีก
ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินสามสิบวัน แต่ต้องมีหนังสือแจ้งเหตุผลหรือความจําเป็นนั้นให้ผู้ยื่นคําขอ
ทราบก่อนครบกําหนดระยะเวลาดังกล่าว
ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคําสั่งไม่อนุญาต ให้ผู้อนุญาตมีหนังสือแจ้งให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบ
พร้อมด้วยเหตุผลและสิทธิอุทธรณ์ ทั้งนี้ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีคําสั่งไม่อนุญาต
ข้อ ๗ ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคําสั่งอนุญาต ให้มีหนังสือแจ้งผู้ขอรับใบอนุญาตทราบ และ
ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตมาชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งดังกล่าว
เมื่อผู้ขอรับใบอนุญาตได้ชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตแล้ว ให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตให้ตามแบบ
ที่กําหนดไว้ท้ายกฎกระทรวงนี้ ทั้งนี้ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับชําระค่าธรรมเนียม
ในกรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตภายในระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง
ให้ถือว่าผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ประสงค์จะรับใบอนุญาต และให้ผู้อนุญาตจําหน่ายเรื่องออกจากสารบบ
เพื่ออํานวยความสะดวกแก่ผู้ขอรับใบอนุญาต ผู้อนุญาตจะแจ้งให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบ
ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปพร้อมกับหนังสือแจ้งตามวรรคหนึ่งด้วยก็ได้

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๒๙


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

หมวด ๒
การขอต่ออายุใบอนุญาต และการให้ต่ออายุใบอนุญาต

ข้อ ๘ ผู้ รั บ อนุ ญ าตที่ ป ระสงค์ จ ะขอต่ อ อายุ ใ บอนุ ญ าต ให้ ยื่ น คํ า ขอต่ อ อายุ ใ บอนุ ญ าต
ต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอต่ออายุใบอนุญาตภายในเก้าสิบวัน
กฎกระทรวง

ก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ
ให้นําความในข้อ ๕ ข้อ ๖ และข้อ ๗ มาใช้บังคับแก่การพิจารณาคําขอต่ออายุใบอนุญาต
และการอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตโดยอนุโลม
ข้อ ๙ ในกรณีที่ความปรากฏต่อผู้อนุญาตไม่ว่าโดยทางใด ๆ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ตามข้อ ๘ ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กําหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในมาตรา ๒๖ ผู้อนุญาต
มีหน้าที่แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ยื่นคําขอดําเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามมาตรฐานภายในระยะเวลาที่กําหนด
หากผู้ยื่นคําขอไม่ดําเนินการแก้ไขภายในกําหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้ผู้อนุญาตพิจารณาสั่งไม่อนุญาต
ให้ต่ออายุใบอนุญาต
หมวด ๓
การขอโอนใบอนุญาต การขอรับโอนใบอนุญาต และการอนุญาต

ข้อ ๑๐ ผู้รับอนุญาตซึ่งประสงค์จะโอนใบอนุญาตให้แก่บุคคลอื่นให้ยื่นคําขอโอนใบอนุญาต
ต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอโอนใบอนุญาต
ให้นําความในข้อ ๕ และข้อ ๖ วรรคสาม มาใช้บังคับแก่การพิจารณาคําขอโอนใบอนุญาต
โดยอนุโลม
ุ สมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ ให้ผู้อนุญาต
ในกรณีที่ผู้รับโอนใบอนุญาตมีคณ
มีคําสั่งอนุญาตและมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาไปยังผู้ยื่นคําขอภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคําขอ
พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานดังกล่าวครบถ้วน
ให้ ผู้ อ นุ ญ าตออกใบอนุ ญ าตให้ แ ก่ ผู้ รั บ โอนใบอนุ ญ าตโดยมี ร ะยะเวลาและเงื่ อ นไข
ตามใบอนุญาตเดิม และให้กํากับคําว่า “โอนใบอนุญาต” พร้อมชื่อผู้โอนไว้ที่มุมบนด้านซ้าย และ
ระบุวัน เดือน ปี ที่ออกใบอนุญาตดังกล่าวไว้ด้วย สําหรับใบอนุญาตเดิมให้ประทับตรายกเลิกการใช้
ด้วยอักษรสีแดง
ข้อ ๑๑ ในกรณีที่ ผู้รั บอนุ ญาตถึง แก่ ความตาย หากผู้ จัด การมรดกหรือ ทายาทประสงค์
จะประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อ สุขภาพต่อไป ให้ยื่นคําขอรับโอนใบอนุญาตต่อ ผู้อ นุญาต
พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอรับโอนใบอนุญาตภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่
ผู้รับอนุญาตตาย

๓๐ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

ให้นําความในข้อ ๕ ข้อ ๖ วรรคสาม และข้อ ๑๐ วรรคสามและวรรคสี่ มาใช้บังคับ


แก่การโอนใบอนุญาตด้วยโดยอนุโลม
หมวด ๔
การขอและการออกใบแทนใบอนุญาต

กฎกระทรวง
ข้อ ๑๒ ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหาย ถูกทําลาย หรือชํารุดในสาระสําคัญ ให้ผู้รับอนุญาต
ยื่นคําขอรับใบแทนใบอนุญาตต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอ
รับ ใบแทนใบอนุญ าต ภายในสามสิ บวั นนั บแต่ วัน ที่ ได้ ทราบถึ งการสู ญหาย ถู ก ทําลาย หรื อ ชํารุ ด
ในสาระสําคัญดังกล่าว รวมทั้งให้ส่งคืนใบอนุญาตฉบับเดิมที่ชํารุดหรือยื่นหลักฐานการแจ้งความกรณี
สูญหายหรือถูกทําลาย
ให้นําความในข้อ ๕ และข้อ ๗ มาใช้แก่การออกใบแทนใบอนุญาตด้วยโดยอนุโลม ทั้งนี้
ในการออกใบแทนใบอนุญาต ให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตใหม่ตามใบอนุญาตเดิม โดยให้กํากับคําว่า
“ใบแทน” ไว้ที่มุมบนด้านซ้าย และระบุวัน เดือน ปี ที่ออกใบแทนใบอนุญาตไว้ด้วย
หมวด ๕
การเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาต

ข้อ ๑๓ ผู้รับอนุญาตซึ่งประสงค์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาต ให้ยื่นคําขอ


เปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการดังกล่าวต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบ
คําขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาต
ให้นําความในข้อ ๕ และข้อ ๗ มาใช้แก่การเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาตด้วย
โดยอนุโลม ทั้งนี้ ในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาต ให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตใหม่โดยมี
สาระสําคัญตามใบอนุญาตเดิม เว้นแต่รายการที่เปลี่ยนแปลงแก้ไข และให้ประทับตรายกเลิกการใช้
ใบอนุญาตเดิมด้วยอักษรสีแดง

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐


ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓๑


กฎกระทรวง

กระทรวงสาธารณสุข
ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
........................................
ใบอนุญาตเลขที่ .............. (ใบอนุญาตเดิมเลขที่ ..............)

ใบอนุญาตฉบับนี้ให้ไว้เพื่อแสดงว่า

.......................................................................................

ได้รั บ อนุ ญ าตให้ ป ระกอบกิจ การสถานประกอบการเพื่ อ สุข ภาพตามพระราชบัญ ญั ติ ส ถานประกอบการ


เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ โดยใช้ชื่อภาษาไทยว่า ..................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ชื่อภาษาต่างประเทศ (ถ้ามี) .............................................................................................................................
กิจการประเภท ...............................................................................................................................................
ตั้งอยู่เลขที่ ..................................หมู่ที่.............................ซอย/ตรอก....................ถนน..................................
ตําบล/แขวง......................................... อําเภอ/เขต............................... จังหวัด..............................................
ใบอนุญาตฉบับนี้ให้ใช้ได้จนถึงวันที่ .......... เดือน ......................... พ.ศ. ........... และให้ใช้ได้เฉพาะสถานที่
ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ระบุไว้ในใบอนุญาตเท่านั้น

ให้ไว้ ณ วันที่ พ.ศ. ....

(...............................................)
ผู้อนุญาต

หมายเหตุ การขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคําขอภายในเก้าสิบวันก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ

๓๒ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๑๒ วรรคสอง มาตรา ๑๔
วรรคสาม มาตรา ๑๗ วรรคสอง และมาตรา ๑๘ วรรคสี่ แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ บัญญัติให้การขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต
การขอต่ออายุใบอนุญาตและการให้ต่ออายุใบอนุญาต การขอโอนใบอนุญาตและการอนุญาต การขอรับ
โอนใบอนุญาตและการอนุญาตให้โอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ การชําระ

กฎกระทรวง
ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและแบบใบอนุญาต เป็นไปตามแบบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่ อนไขที่กําหนด
ในกฎกระทรวง จึงจําเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓๓


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐
กฎกระทรวง

กฎกระทรวง
การอนุญาตเป็นผู้ดําเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๖๐

อาศั ย อํ า นาจตามความในมาตรา ๔ วรรคหนึ่ ง และมาตรา ๒๐ วรรคสอง แห่ ง


พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในกฎกระทรวงนี้
“ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตเป็นผู้ดําเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ข้อ ๒ ผู้ใดประสงค์ จะปฏิ บัติ หน้ าที่เ ป็น ผู้ดํ าเนิน การในสถานประกอบการเพื่อ สุข ภาพ
ให้ยื่นคําขอรับใบอนุญาตต่อ ผู้อ นุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐาน ตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอ
รับใบอนุญาต
ข้อ ๓ เมื่ อ ได้ รั บ คํ า ขอรั บ ใบอนุ ญ าตแล้ ว ให้ ผู้ อ นุ ญ าตออกใบรั บ คํ า ขอให้ แ ก่ ผู้ ข อ
รับใบอนุญาตไว้เป็นหลักฐาน
ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคําขอรับใบอนุญาต หากผู้อนุญาตเห็นว่าคําขอรับใบอนุญาต
หรื อ เอกสารหรื อ หลั ก ฐานที่ ยื่ น พร้ อ มกั บ คํ า ขอรั บ ใบอนุ ญ าตในเรื่ อ งใดไม่ ถู ก ต้ อ งหรื อ ไม่ ค รบถ้ ว น
ให้ ผู้ อ นุ ญ าตมี ห นั ง สื อ แจ้ ง ให้ ผู้ ข อรั บ ใบอนุ ญ าตทราบพร้ อ มด้ ว ยเหตุ ผ ลเพื่ อ แก้ ไ ขให้ แ ล้ ว เสร็ จ
ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือนั้น
ในกรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตไม่แก้ไขเพิ่มเติมคําขอรับใบอนุญาตหรือ ไม่จัดส่งเอกสาร หรือ
หลักฐานให้ถูกต้องและครบถ้วนภายในระยะเวลาตามวรรคสอง ให้ถือว่าผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ประสงค์
จะให้ดําเนินการต่อไป และให้ผู้อนุญาตจําหน่ายเรื่องออกจากสารบบ

๓๔ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

ข้อ ๔ ในกรณีที่คําขอรับใบอนุญาตและเอกสารและหลักฐานถูกต้องและครบถ้วนแล้ว
ให้ ผู้ อ นุ ญ าตพิ จ ารณาคํ าขอ โดยผู้ อ นุ ญ าตจะมี คํ าสั่ ง อนุ ญ าตได้ ต่ อ เมื่ อ ปรากฏว่ าผู้ ข อรั บ ใบอนุ ญ าต
มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๑
ผู้อนุญาตต้องแจ้งผลการพิจารณาไปยังผู้ขอรับใบอนุญาตทราบภายในหกสิบวันนับแต่วันที่

กฎกระทรวง
ได้รับคําขอพร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานดังกล่าวครบถ้วน ในกรณีที่มีเหตุผลหรือความจําเป็นที่ไม่อาจ
พิจารณาให้แล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว อาจขยายระยะเวลาการพิจารณาออกไปได้อีกไม่เกิน
สองครั้ง ครั้งละไม่เกินสามสิบวัน แต่ต้องมีหนังสือแจ้งเหตุผลหรือความจําเป็นนั้นให้ผู้ยื่นคําขอทราบ
ก่อนครบกําหนดระยะเวลาดังกล่าว
ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคําสั่งไม่อนุญาต ให้ผู้อนุญาตมีหนังสือแจ้งให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบ
พร้อมด้วยเหตุผลและสิทธิอุทธรณ์ ทั้งนี้ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีคําสั่งไม่อนุญาต
ข้อ ๕ ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคําสั่งอนุญาต ให้มีหนังสือแจ้งผู้ขอรับใบอนุญาตทราบและ
ให้ ผู้ ข อรั บ ใบอนุ ญ าตมาชํา ระค่ า ธรรมเนี ย มใบอนุญ าตภายในหกสิ บ วั น นั บแต่ วั น ที่ ไ ด้ รั บ หนั ง สื อ แจ้ ง
ดัง กล่ าว เมื่ อ ผู้ ขอรั บ ใบอนุ ญ าตได้ชํ า ระค่ า ธรรมเนี ยมใบอนุ ญ าตแล้ ว ให้ ผู้ อ นุญ าตออกใบอนุ ญ าต
ให้ตามแบบที่กําหนดไว้ท้ายกฎกระทรวงนี้ ทั้งนี้ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รบั ชําระค่าธรรมเนียม
ในกรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตภายในระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง
ให้ถือว่าผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ประสงค์จะรับใบอนุญาต และให้ผู้อนุญาตจําหน่ายเรื่องออกจากสารบบ
เพื่ออํานวยความสะดวกแก่ผู้ขอรับใบอนุญาต ผู้อนุญาตจะแจ้งให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบ
ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปพร้อมกับหนังสือแจ้งตามวรรคหนึ่งด้วยก็ได้
ข้อ ๖ ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหาย ถูกทําลาย หรือชํารุดในสาระสําคัญ ให้ผู้ดําเนินการ
ยื่นคําขอรับใบแทนใบอนุญาตต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอ
รับใบแทนใบอนุญาต ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับทราบถึงการสูญหาย ถูกทําลาย หรือชํารุด
ในสาระสําคัญดังกล่าว รวมทั้งให้ส่งคืนใบอนุญาตฉบับเดิมที่ชํารุดหรือยื่นหลักฐานการแจ้งความกรณี
สูญหายหรือถูกทําลาย
ให้นําความในข้อ ๓ และข้อ ๕ มาใช้แก่การออกใบแทนใบอนุญาตด้วยโดยอนุโลม ทั้งนี้
ในการออกใบแทนใบอนุญาต ให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตใหม่ตามใบอนุญาตเดิม โดยให้กํากับคําว่า
“ใบแทน” ไว้ที่มุมบนด้านซ้าย และระบุวัน เดือน ปี ที่ออกใบแทนใบอนุญาตไว้ด้วย
ข้อ ๗ ผู้ดําเนินการซึ่งประสงค์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาต ให้ยื่นคําขอ
เปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการดังกล่าวต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบ
คําขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาต

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓๕


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

ให้นําความในข้อ ๓ และข้อ ๕ มาใช้แก่การเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาตด้วย


โดยอนุโลม ทั้งนี้ ในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาต ให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตใหม่
โดยมีสาระสําคัญตามใบอนุญาตเดิม เว้นแต่รายการที่เปลี่ยนแปลงแก้ไข และให้ประทับตรายกเลิก
การใช้ใบอนุญาตเดิมด้วยอักษรสีแดง
ข้อ ๘ คําขอรับใบอนุญาต ใบรับคําขอ คําขอรับใบแทนใบอนุญาต และคําขอเปลี่ยนแปลง
กฎกระทรวง

แก้ไขรายการในใบอนุญาต ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ ๙ การยื่นคําขอตามกฎกระทรวงนี้ ให้ยื่น ณ สถานที่ ดังต่อไปนี้
(๑) ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
(๒) ในจังหวัดอื่น ให้ยื่น ณ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด
(๓) สถานที่ อื่ น ตามที่ อ ธิ บ ดี กํ า หนดโดยประกาศในราชกิ จ จานุ เ บกษา โดยคํ า นึ ง ถึ ง
การอํานวยความสะดวกและการลดภาระแก่ผู้ยนื่ คําขอ
การยื่ น คํ า ขอตามวรรคหนึ่ ง ผู้ ยื่ น คํ า ขออาจยื่ น คํ า ขอผ่ า นระบบอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ก็ ไ ด้ ทั้ ง นี้
ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกําหนด

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐


ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

๓๖ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


กระทรวงสาธารณสุข

กฎกระทรวง
ใบอนุญาตเป็นผู้ดําเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ประเภท..................................................................

ใบอนุญาตเลขที่ …………….

ใบอนุญาตฉบับนี้ให้ไว้เพื่อแสดงว่า
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

ได้ รั บ อนุ ญ าตเป็ น ผู้ ดํ า เนิ น การในสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ ตามพระราชบั ญ ญั ติ


สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙

ออกให้ ณ วันที่ พ.ศ. ....

(……………………………….........)
ผู้อนุญาต
ติดรูปถ่าย
ขนาด
๕x๖
เซนติเมตร

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓๗


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐
หมายเหตุ :- เหตุ ผ ลในการประกาศใช้ ก ฎกระทรวงฉบั บ นี้ คื อ โดยที่ ม าตรา ๒๐ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ บัญญัติให้การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต
แบบใบอนุ ญ าต การออกใบแทนใบอนุ ญ าต และการชํ า ระค่ า ธรรมเนี ย มใบอนุ ญ าตเป็ น ผู้ ดํ า เนิ น การ
ในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เป็นไปตามแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง
จึงจําเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
กฎกระทรวง

๓๘ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

กฎกระทรวง
กฎกระทรวง
การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๖๐

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๒๒ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติ


สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกกฎกระทรวงไว้
ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในกฎกระทรวงนี้
“ใบรับรอง” หมายความว่า ใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ
ข้อ ๒ ผู้ ใ ดประสงค์ จ ะปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ เ ป็ น ผู้ ใ ห้ บ ริ ก ารในสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
ให้ยื่นคําขอขึ้นทะเบียนต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอขึ้นทะเบียน
ข้อ ๓ เมื่อได้รับคําขอขึ้นทะเบียนแล้ว ให้ผู้อนุญาตออกใบรับคําขอให้แก่ผู้ขอขึ้นทะเบียน
ไว้เป็นหลักฐาน
ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคําขอขึ้นทะเบียน หากผู้อนุญาตเห็นว่าคําขอขึ้นทะเบียน
หรือเอกสารหรือหลักฐานที่ยื่นพร้อมกับคําขอขึ้นทะเบียนในเรื่องใดไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน ให้ผู้อนุญาต
มีหนังสือแจ้งให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนทราบพร้อมด้วยเหตุผล เพื่อแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่
วันที่ได้รับหนังสือนั้น
ในกรณีที่ผู้ขอขึ้นทะเบียนไม่แก้ไขเพิ่มเติมคําขอขึ้นทะเบียนหรือไม่จัดส่งเอกสารหรือหลักฐาน
ให้ ถู ก ต้ อ งหรื อ ครบถ้ว นภายในระยะเวลาตามวรรคสอง ให้ ถื อ ว่ าผู้ ขอขึ้ น ทะเบีย นไม่ ป ระสงค์ จ ะให้
ดําเนินการต่อไป และให้ผู้อนุญาตจําหน่ายเรื่องออกจากสารบบ
ข้อ ๔ ในกรณี ที่ คํ า ขอขึ้ น ทะเบี ย นและเอกสารและหลั ก ฐานถู ก ต้ อ งและครบถ้ ว นแล้ ว
ให้ผู้อนุญาตพิจารณาคําขอ โดยผู้อนุญาตจะมีคําสั่งรับขึ้นทะเบียนได้ต่อเมื่อปรากฏว่าผู้ขอขึ้นทะเบียน
มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๓

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓๙


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

ผู้อนุญาตต้องแจ้งผลการพิจารณาไปยังผู้ขอขึ้นทะเบียนทราบภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้
รับคําขอพร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานดังกล่าวครบถ้วน ในกรณีที่มีเหตุผลหรือความจําเป็นที่ไม่อาจ
พิจารณาให้แล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว อาจขยายระยะเวลาการพิจารณาออกไปได้อีกไม่เกินสองครั้ง
ครั้งละไม่เกิ นสามสิบวัน แต่ต้ องมีห นังสือ แจ้งเหตุผ ลหรือความจําเป็นนั้ นให้ผู้ข อขึ้นทะเบีย นทราบ
กฎกระทรวง

ก่อนครบกําหนดระยะเวลาดังกล่าว
ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคําสั่งไม่รับขึ้นทะเบียน ให้ผู้อนุญาตมีหนังสือแจ้งให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนทราบ
พร้อมด้วยเหตุผลและสิทธิอุทธรณ์ ทั้งนี้ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีคําสั่งไม่รับขึ้นทะเบียน
ข้อ ๕ ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคําสั่งรับขึ้นทะเบียน ให้มีหนังสือแจ้งผู้ขอขึ้นทะเบียนมารับ
ใบรับรองภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งดังกล่าว แต่หากผู้ขอขึ้นทะเบียนไม่มารับใบรับรอง
ภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าผู้ขอขึ้นทะเบียนไม่ประสงค์จะขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการ และ
ให้ผู้อนุญาตจําหน่ายเรื่องออกจากสารบบ
ข้อ ๖ ในกรณีที่ใบรับรองสูญหาย ถูกทําลาย หรือชํารุดในสาระสําคัญ ให้ผู้ให้บริการ
ยื่นคําขอรับใบแทนใบรับรองต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอรับ
ใบแทนใบรับรอง ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้ทราบถึงการสูญหาย ถูกทําลาย หรือชํารุดในสาระสําคัญ
ดังกล่าว รวมทั้งให้ส่ งคื น ใบรับ รองฉบั บเดิ มที่ ชํารุ ด หรือยื่ น หลักฐานการแจ้ งความกรณี สูญหายหรื อ
ถูกทําลาย
ให้นําความในข้อ ๓ และข้อ ๕ มาใช้แก่การออกใบแทนใบรับรองด้วยโดยอนุโลม ทั้งนี้
ในการออกใบแทนใบรับ รอง ให้ผู้ อ นุ ญ าตออกใบรับรองใหม่ต ามใบรับรองเดิม โดยให้กํ ากั บคํ าว่ า
“ใบแทน” ไว้ที่มุมบนด้านซ้าย และระบุวัน เดือน ปี ที่ออกใบแทนใบรับรองไว้ด้วย
ข้อ ๗ ผู้ให้บริการที่ประสงค์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว ให้ยื่นคําขอ
เปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการดังกล่าวต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอ
เปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการ
ให้นําความในข้อ ๓ และข้อ ๕ มาใช้แก่การเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ด้วย
โดยอนุโลม ทั้งนี้ ในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการที่ได้ขึ้นทะเบียน ให้ผู้อนุญาตออกใบรับรองใหม่
โดยมีสาระสําคัญตามใบรับรองเดิม และให้ประทับตรายกเลิกการใช้ใบรับรองเดิมด้วยอักษรสีแดง
ข้อ ๘ คําขอขึ้นทะเบียน ใบรับคําขอ ใบรับรอง คําขอรับใบแทนใบรับรอง และคําขอ
เปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการที่ขึ้นทะเบียน ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ ๙ การยื่นคําขอตามกฎกระทรวงนี้ ให้ยื่น ณ สถานที่ ดังต่อไปนี้

๔๐ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

(๑) ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข


(๒) ในจังหวัดอื่น ให้ยื่น ณ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด
(๓) สถานที่อื่นที่อธิบดีกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยคํานึงถึงการอํานวย
ความสะดวกและการลดภาระแก่ผู้ยื่นคําขอ

กฎกระทรวง
การยื่ น คํ า ขอตามวรรคหนึ่ ง ผู้ ยื่ น คํ า ขออาจยื่ น คํ า ขอผ่ า นระบบอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ก็ ไ ด้ ทั้ ง นี้
ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกําหนด

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐


ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๔๑


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐
หมายเหตุ :- เหตุ ผ ลในการประกาศใช้ ก ฎกระทรวงฉบั บ นี้ คื อ โดยที่ ม าตรา ๒๒ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ บัญญัติให้การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการ
ในสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพเป็ น ไปตามหลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก าร และเงื่ อ นไขที่ กํ า หนดในกฎกระทรวง
จึงจําเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
กฎกระทรวง

๔๒ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

กฎกระทรวง
กฎกระทรวง
กําหนดมาตรฐานด้านสถานที่ ความปลอดภัย และการให้บริการ
ในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปา และกิจการนวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมความงาม
พ.ศ. ๒๕๖๐

อาศั ย อํ า นาจตามความในมาตรา ๔ วรรคหนึ่ ง และมาตรา ๒๖ แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ


สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกกฎกระทรวงไว้
ดังต่อไปนี้
หมวด ๑
มาตรฐานด้านสถานที่

ข้อ ๑ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปา และกิจการนวดเพื่อสุขภาพ


หรือเพื่อเสริมความงาม ต้องมีลักษณะโดยทั่วไปด้านสถานที่ ดังต่อไปนี้
(๑) กรณีที่สถานประกอบการเพื่อสุขภาพอยู่ในอาคารเดียวกันกับการประกอบกิจการอื่น
ต้องมีการแบ่งเขตพื้นที่บริเวณที่ให้บริการอย่างชัดเจน และการประกอบกิจการอื่นนั้นต้องไม่ใช่กิจการ
สถานบริการที่เป็นสถานอาบน้ํา นวด หรืออบตัวซึ่งมีผู้บริการให้แก่ลูกค้าตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ
รวมทั้งจะต้องไม่รบกวนต่อการให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพด้วย
(๒) พื้ น ที่ ภ ายในสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพจะต้ อ งไม่ มี ช่ อ งทางที่ ผู้ ใ ห้ บ ริ ก ารหรื อ
ผู้รับบริการไปมาหาสู่กันกับสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ
(๓) กรณี ส ถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพมี ก ารให้ บ ริ ก ารหลายประเภทรวมอยู่ ใ นอาคาร
เดียวกันหรือสถานที่เดียวกัน จะต้องมีการแบ่งสัดส่วนการให้บริการให้ชัดเจนและแต่ละสัดส่วนจะต้อง
มีพื้นที่และลักษณะตามมาตรฐานของการให้บริการแต่ละประเภท
(๔) พื้นที่บริเวณที่มีการใช้น้ําในการให้บริการ พื้นผิวต้องทําด้วยวัสดุกันลื่น
(๕) พื้นที่บริเวณที่ให้บริการต้องมีแสงสว่างและการระบายอากาศที่เพียงพอและไม่มกี ลิ่นอับทึบ
(๖) มีการจัดการขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล และน้ําเสียที่เหมาะสม

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๔๓


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

(๗) มีระบบการควบคุมพาหะนําโรคตามหลักสุขาภิบาล
(๘) มีการจัดบริเวณสถานที่ที่ให้บริการที่เหมาะสม โดยในกรณีที่เป็นสถานที่ที่ให้บริการ
เฉพาะบุคคลต้องไม่มีลักษณะมิดชิดหรือลับตาจนเกินไป
(๙) มีการตกแต่งสถานที่ที่เหมาะสม และต้องไม่มีลักษณะที่ทําให้เสื่อมเสียศีลธรรม หรือ
ขัดต่อวัฒนธรรมและประเพณีอันดี
กฎกระทรวง

ข้อ ๒ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปาต้องจัดให้มีห้องอาบน้ํา ห้องส้วม


อ่างล้างมือ ห้องผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า และตู้เก็บเสื้อผ้าที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัยและเพียงพอ
และต้องแยกส่วนสําหรับชายและหญิง
ข้อ ๓ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทกิจการนวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมความงาม
ต้องจัดให้มีห้องส้วม อ่างล้างมือ ห้องผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า และตู้เก็บเสื้อผ้าที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ
ปลอดภัยและเพียงพอ และต้องแยกส่วนสําหรับชายและหญิง รวมทั้งอาจจัดให้มีห้องอาบน้ําด้วยก็ได้
หมวด ๒
มาตรฐานด้านความปลอดภัย

ข้อ ๔ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปา และกิจการนวดเพื่อสุขภาพหรือ


เพื่อเสริมความงาม ต้องมีลักษณะโดยทั่วไปด้านความปลอดภัย ดังต่อไปนี้
(๑) มีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นไว้ในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพและพร้อมใช้งานได้
ตลอดเวลาที่มีการให้บริการ
(๒) มีป้ายหรือข้อความเพื่อแสดงหรือเตือนให้ผู้รับบริการระมัดระวังอันตรายหรือบริเวณ
ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภัยอันตราย
(๓) มีการทําความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องมือทุกชนิดอย่างถูกสุขลักษณะหลังจากการใช้งาน
และให้บริการก่อนมีการนํากลับมาใช้ให้บริการครั้งต่อไป ทั้งนี้ กรณีที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค
ต้องนําอุปกรณ์และเครื่องมือไปผ่านกรรมวิธีการฆ่าเชื้อที่สามารถฆ่าและควบคุมเชื้อได้ทุกครั้งหลังจาก
การใช้งานและให้บริการ
(๔) จั ด ให้ ผู้ ใ ห้ บ ริ ก ารต้ อ งใส่ ห น้ า กากอนามั ย ทุ ก ครั้ ง เพื่ อ ป้ อ งกั น การแพร่ ก ระจายเชื้ อ
จากระบบทางเดินหายใจไปสู่ผู้รับบริการในกรณีที่มีการให้บริการที่ใกล้ชิดกับผู้รับบริการ
(๕) มี ร ะบบการเก็ บ และป้ อ งกั น การติ ด เชื้ อ จากมู ล ฝอยที่ เ หมาะสม ถู ก สุ ข ลั ก ษณะและ
มีวิธีการควบคุมการติดเชื้อหรือการแพร่กระจายของเชื้อโรค
(๖) มีระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ และติดตั้งเครื่องดับเพลิงไว้ในตําแหน่งที่เห็นชัดเจน
อย่างน้อยหนึ่งเครื่อง ณ บริเวณทางเข้าออกหลักของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

๔๔ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

ข้อ ๕ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่มีการให้บริการเกี่ยวกับการอบไอน้ํา การอบซาวน่า


หรือมีการใช้อ่างน้ําวน บ่อน้ําร้อนหรือน้ําเย็น ตลอดจนอุปกรณ์หรือบริการอื่นใดที่มีการใช้ความร้อน
หรือความเย็น แล้วแต่กรณี อันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้รับบริการ ต้องจัดให้มีบุคลากรและอุปกรณ์
ที่จําเป็น ดังต่อไปนี้
(๑) มีผู้ให้บริการหรือพนักงานที่มีความรู้ ความเข้าใจ และความชํานาญในการให้บริการ

กฎกระทรวง
และการใช้อุปกรณ์นั้นเป็นอย่างดี เป็นผู้รับผิดชอบและมีหน้าที่คอยตรวจตราดูแลการให้บริการและ
การใช้อุปกรณ์ดังกล่าวทั้งในขณะใช้งานและหลังจากการใช้งาน
(๒) มีนาฬิกาที่สามารถมองเห็นและอ่านเวลาได้โดยง่ายและชัดเจนจากบริเวณที่ผู้รับบริการ
กําลังใช้บริการอยู่
(๓) มีระบบฉุกเฉินซึ่งสามารถหยุดการทํางานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติในทันที
ที่ เ กิ ด ภาวะซึ่ ง อาจเป็ น อั น ตรายต่ อ ผู้ รั บ บริ ก าร และการเข้ า ถึ ง เพื่ อ ใช้ ร ะบบฉุ ก เฉิ น นั้ น ต้ อ งสามารถ
กระทําได้โดยง่ายและสะดวกในเวลาที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
(๔) มีเครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติหรือเครื่องตั้งเวลา แล้วแต่กรณี
เพื่อให้พนักงานผู้รับผิดชอบอุปกรณ์สามารถปรับและควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในสภาวะที่ปลอดภัยสําหรับ
ผู้รับบริการได้ตลอดเวลา
ข้อ ๖ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปาต้องดําเนินการตามหลักเกณฑ์
ดังต่อไปนี้
(๑) มีระบบคัดกรองผู้รับบริการที่อาจมีความเสี่ยงต่อการเข้าใช้บริการในบางกรณี โดยห้าม
สตรีมีครรภ์ ผู้ใช้ยาบางประเภทที่อาจเกิดปัญหาได้เมื่อเข้าไปใช้อุปกรณ์บางชนิด ผู้ซึ่งดื่มสุราหรือ
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มาก่อนเข้าใช้บริการ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ป่วยโรคหัวใจ
เข้าใช้อุปกรณ์หรือบริการที่เสี่ยงต่อภาวะนั้น
(๒) ต้ อ งดู แ ลและควบคุ ม คุ ณ ภาพน้ํ า ที่ ใ ช้ สํ า หรั บ การให้ บ ริ ก ารให้ มี คุ ณ สมบั ติ ท างเคมี
ที่มีความปลอดภัยและไม่เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค
ข้อ ๗ สถานประกอบการเพื่อ สุขภาพประเภทกิจการนวดเพื่อสุขภาพหรือกิจการนวด
เพื่อเสริมความงามต้องระมัดระวังมิให้ผู้รับบริการที่มีความเสี่ยงจากอายุหรือภาวะโรคประจําตัวมาใช้บริการ
อันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
หมวด ๓
มาตรฐานด้านการให้บริการ

ข้อ ๘ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปา และกิจการนวดเพื่อสุขภาพ


หรือเพื่อเสริมความงาม ต้องดําเนินการตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๔๕


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

(๑) การให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพต้องไม่ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการประกอบ
โรคศิ ลปะ กฎหมายเกี่ ยวกับการประกอบวิ ชาชี พ ทางการแพทย์ แ ละสาธารณสุ ข กฎหมายว่ าด้ ว ย
สถานบริการหรือกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
(๒) ต้องแสดงรายการการให้บริการและอัตราค่าบริการไว้ในที่เปิดเผยและมองเห็นได้ง่าย
หรือสามารถตรวจสอบได้ ณ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
กฎกระทรวง

(๓) ต้องไม่จัดให้มีบริการอื่นใดที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการในสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ
(๔) ต้อ งกํ า หนดให้มี เ ครื่ อ งแบบสํา หรั บ ผู้ ให้ บ ริ การ โดยเป็น เครื่ อ งแบบที่รั ด กุ ม สุ ภ าพ
สะอาดเรียบร้อยและสะดวกต่อการปฏิบัติงาน และต้องมีป้ายชื่อผู้ให้บริการติดไว้ที่บริเวณหน้าอก
(๕) มีการกําหนดเวลาเปิดและปิดของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ชัดเจนและแน่นอน
โดยสามารถกําหนดเวลาเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ นาฬิกา และให้บริการได้ไม่เกินเวลา
๒๔.๐๐ นาฬิกา
ข้อ ๙ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปาต้องมีการจัดทําทะเบียนประวัติ
ผู้รับบริการไว้เป็นหลักฐานตามแบบที่อธิบดีประกาศกําหนด

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐


ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

๔๖ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญั ติ
สถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ บั ญ ญั ติ ใ ห้ ม าตรฐานด้ า นสถานที่ ความปลอดภั ย และ
การให้ บ ริ ก ารในสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพแต่ ล ะประเภทเป็ น ไปตามที่ กํ า หนดในกฎกระทรวง
จึงจําเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

กฎกระทรวง

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๔๗


กฎกระทรวง

๔๘ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศ
กระทรวงสาธารณสุข
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการ
ตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๕๙ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดํารงตําแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่
เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙
(๑) สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
(ก) ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
(ข) รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
(ค) ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข
(ง) สาธารณสุขนิเทศก์
(๒) กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
(ก) อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
(ข) รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
(ค) ผู ้ อํ า นวยการสํ า นั ก บริ ห าร ผู ้ อํ า นวยการสํ า นั ก สถานพยาบาล และการ
ประกอบโรคศิ ล ปะ ผู้ อํ า นวยการกองกฎหมาย ผู้ อํ า นวยการกองสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
ผู้อํานวยการกองสุขภาพระหว่างประเทศ ผู้อํานวยการกองวิศวกรรมการแพทย์ ผู้อํานวยการกองแบบแผน
ผู้อํานวยการกองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน และผู้อํานวยการกองสุขศึกษา
(ง) ข้าราชการพลเรือนหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดํารงตําแหน่งไม่ต่ํากว่าข้าราชการพลเรือน
สามั ญ ระดับ ปฏิ บั ติ ก ารหรื อ เทีย บเท่ า ในตํ า แหน่ ง นายแพทย์ ทั น ตแพทย์ เภสั ช กร นิ ติ กร วิ ศวกร
นักวิชาการสาธารณสุข นักทะเบียนวิชาชีพ นักจัดการงานทั่วไปและนักวิเคราะห์นโยบายและแผน ที่ปฏิบัติงานใน
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพหรือสํานักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กองกฎหมาย กองสถาน
ประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ กองสุ ข ภาพระหว่ า งประเทศ กองวิ ศ วกรรมการแพทย์ กองแบบแผน
กองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน และกองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ข้อ ๔ ให้ข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดํารงตําแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่
เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ ทั้งนี้ เฉพาะในเขตท้องที่
ที่มีอํานาจหน้าที่ดูแลและรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๕๑


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐
(๑) สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
(ก) นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
(ข) นายแพทย์เชี่ยวชาญ ทันตแพทย์เชี่ยวชาญ เภสัชกรเชี่ยวชาญ และนักวิชาการ
สาธารณสุขเชี่ยวชาญที่ปฏิบัติงานประจําสํานักงานสาธารณสุขจังหวัด
(ค) ผู้อํานวยการโรงพยาบาลศูนย์ ผู้อํานวยการโรงพยาบาลทั่วไป และผู้อํานวยการโรงพยาบาล
ชุมชนหรือผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อํานวยการโรงพยาบาลชุมชน
(ง) ข้าราชการพลเรือนหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดํารงตําแหน่งไม่ต่ํากว่าข้าราชการพลเรือนสามัญ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ระดับปฏิบัติการหรือเทียบเท่า ในตําแหน่งเภสัชกร แพทย์แผนไทย นักวิชาการสาธารณสุข และนิติกร


ที่ ป ฏิ บั ติ ง านในกลุ่ ม งานคุ้ ม ครองผู้ บ ริ โ ภคและเภสั ช สาธารณสุ ข กลุ่ ม งานการแพทย์ แ ผนไทยและ
การแพทย์ทางเลือกหรือกลุ่มงานนิติการ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด
(จ) ข้าราชการพลเรือนหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดํารงตําแหน่งไม่ต่ํากว่าข้าราชการพลเรือนสามัญ
ระดั บ ชํ า นาญงานหรื อ เที ย บเท่ า ในตํ า แหน่ ง เจ้ า พนั ก งานเภสั ช กรรม ที่ ป ฏิ บั ติ ง านในกลุ่ ม งาน
คุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด
(ฉ) ข้าราชการพลเรือนหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดํารงตําแหน่งไม่ต่ํากว่าข้าราชการพลเรือนสามัญ
ระดั บ ปฏิ บั ติ ก ารหรื อ เที ย บเท่ า ในตํ า แหน่ ง นายแพทย์ ทั น ตแพทย์ เภสั ช กร แพทย์ แ ผนไทย
นักกายภาพบําบัด นักวิชาการสาธารณสุข และนิติกรที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป
หรือโรงพยาบาลชุมชน
(๒) สํานักงานสาธารณสุขอําเภอ
(ก) สาธารณสุขอําเภอ
(ข) ผู้ อํ า นวยการโรงพยาบาลส่ ง เสริ ม สุ ข ภาพตํ า บลหรื อ ผู้ อํ า นวยการสถานี อ นามั ย
เฉลิมพระเกียรติ
(ค) ข้าราชการพลเรือนหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดํารงตําแหน่งไม่ต่ํากว่าข้าราชการพลเรือนสามัญ
ระดับปฏิบัติการหรือเทียบเท่า ในตําแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข พยาบาลวิชาชีพ และแพทย์แผนไทย
ที่ปฏิบัติงานประจําสํานักงานสาธารณสุขอําเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล หรือสถานีอนามัย
เฉลิมพระเกียรติ
(จ) ข้าราชการพลเรือนหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดํารงตําแหน่งไม่ต่ํากว่าข้าราชการพลเรือนสามัญ
ระดั บ ชํ า นาญงานหรื อ เที ย บเท่ า ในตํ า แหน่ ง เจ้ า พนั ก งานสาธารณสุ ข ที่ ป ฏิ บั ติ ง านประจํ า สํ านั ก งาน
สาธารณสุขอําเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลหรือสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ
(๓) สํานักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
(ก) ผู้อํานวยการสํานักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต

๕๒ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐
(ข) ข้ า ราชการพลเรื อ นหรื อ เจ้ า หน้ า ที่ ข องรั ฐ ซึ่ ง ดํ า รงตํ า แหน่ ง ไม่ ต่ํ า กว่ า ข้ าราชการ
พลเรือนสามัญระดับปฏิบัติการหรือเทียบเท่า ในตําแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข นักจัดการงานทั่วไป นักวิเคราะห์
นโยบายและแผน และวิศวกร ที่ปฏิบัติงานประจําสํานักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต
(ค) ข้ า ราชการพลเรื อ นหรื อ เจ้ า หน้ า ที่ ข องรั ฐ ซึ่ ง ดํ า รงตํ า แหน่ ง ไม่ ต่ํ า กว่ า ข้ า ราชการ
พลเรือนสามัญระดับชํานาญงานหรือเทียบเท่า ในตําแหน่งนายช่างเทคนิค นายช่างโยธา และนายช่างไฟฟ้า
ที่ปฏิบัติงานประจําสํานักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๕๓


ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

๕๔ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศ
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เรื่อง แบบบัตรประจําตัวพนักงานเจ้าหน้าที่
ตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓๖ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ


พ.ศ. ๒๕๕๙ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง แบบบัตรประจําตัวพนักงาน
เจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ บัตรประจําตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบท้ายประกาศนี้
ข้อ ๔ รู ป ถ่ า ยที่ ติ ด บั ต รประจํ า ตั ว พนั ก งานเจ้ า หน้ า ที่ ให้ ใ ช้ รู ป ถ่ า ยที่ ถ่ า ยไม่ เ กิ น หกเดื อ น

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ก่อนวันยื่นคําขอมีบัตรประจําตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นรูปถ่ายครึ่งตัว ขนาด ๒.๕ × ๓ เซนติเมตร หน้าตรง
แต่งเครื่องแบบปกติ หรือเครื่องแบบที่ตนสังกัด ไม่สวมหมวก และไม่สวมแว่นตาดํา
ข้อ ๕ ให้ อ ธิ บ ดี ก รมสนั บ สนุ น บริ ก ารสุ ข ภาพหรื อ ผู้ ซึ่ ง อธิ บ ดี ก รมสนั บ สนุ น บริ ก ารสุ ข ภาพ
มอบหมายเป็นผู้ออกบัตรประจําตัวพนักงานเจ้าหน้าที่
ข้อ ๖ บัตรประจําตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ใช้ได้ตามระยะเวลาที่กําหนดไว้ในบัตร แต่ต้องไม่เกินห้าปี
นับแต่วันออกบัตรหรือเมื่อพ้นตําแหน่งที่ได้รับแต่งตั้ง

ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐


วิศิษฎ์ ตั้งนภากร
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๕๗


แบบบัตรประจำตัวพนักงำนเจ้ ำหน้ ำที่
ท้ำยประกำศกรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพ
ออกตำมควำมในพระรำชบัญญัติสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ พ.ศ. ๒๕๕๙

(ด้านหน้า)

บัตรประจำตัวพนักงำนเจ้ ำหน้ ำที่


ตำมพระรำชบัญญัตสิ ถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ พ.ศ. ๒๕๕๙
๕.๕ ซม.
กระทรวงสำธำรณสุข
ไม่นอ้ ยกว่า ๘ ซม.
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

วันออกบัตร....../........./......... บัตรหมดอำยุ......./........./..........

๘.๕ ซม.

(ด้านหลัง)
เลขที่.........................................................
รูปถ่ำยขนำด ชื่อ.............................................................
๒.๕ x ๓ ซม.
ไม่เกิน ๖ เดือน ตำแหน่ง......................................................
หน้ ำตรงไม่สวมหมวก สังกัด..........................................................
๕.๕ ซม.
พนักงำนเจ้ ำหน้ ำที่ตำมพระรำชบัญญัติ
สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ พ.ศ. ๒๕๕๙
....................... ............................
ลำยมือชื่อ ตำแหน่ง ............................
ผู้ออกบัตร

๘.๕ ซม.

ตรำครุฑหรือตรำกระทรวงสำธำรณสุข
แล้ วแต่กรณี

๕๘ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เรื่อง หลักเกณฑ์การใช้ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญ ญัติสถานประกอบการเพื่อ สุข ภาพ


พ.ศ. ๒๕๕๙ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์การใช้
ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ผู้ขอรับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพต้องจัดให้มีชื่อ
ตามที่กําหนด ดังต่อไปนี้
(๑) ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพต้องเป็นอักษรภาษาไทย แต่จะมีอักษรต่างประเทศ

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กํากับไว้ท้ายชื่ออักษรภาษาไทยด้วยก็ได้
(๒) ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพจะต้องไม่ใช้คําหรือข้อความที่มีลักษณะชักชวนหรือโอ้อวด
เกินความจริง หรือทําให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าสถานที่ดังกล่าวว่ามีการบําบัดรักษาโรค
(๓) ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพต้องไม่สื่อความหมายในทางลามก อนาจาร หรือขัดต่อความสงบ
เรียบร้อย ขนบธรรมเนียม ศีลธรรมอันดีงาม
(๔) ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่สื่อความหมายหรืออ้างอิงสถาบันพระมหากษัตริย์จะกระทํามิได้
เว้นแต่ได้รับพระบรมราชานุญาตหรือพระราชานุญาต
ข้อ ๔ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกันจะต้องมีชื่อที่ไม่ซ้ํากัน เว้นแต่
กรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพใหม่ และผู้ได้รับใบอนุญาต
ให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเดิมเป็นบุคคลหรือนิติบุคคลเดียวกันหรือมีหนังสือยินยอม
จากผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเดิมให้ใช้ชื่อซ้ํากันได้ แต่ต้องมีตัวอักษร
หรือหมายเลขเรียงลําดับหรือที่ตั้งสถานที่ต่อท้ายชื่อ
ข้อ ๕ ผู้รับอนุญาตต้องแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ได้รับอนุญาต
ในที่เปิดเผย ณ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพนั้นอย่างน้อยหนึ่งป้าย ดังต่อไปนี้
(๑) ให้ จั ด ทํา เป็ น แผ่ น ป้ า ยแสดงชื่ อ สถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพเป็ น ตั ว อั ก ษรไทย
กรณี ใ ช้ ภ าษาต่ า งประเทศด้ วยขนาดตั วอั กษรต้ องเล็ กกว่ าอั กษรไทย โดยระบุ ประเภทกิ จการของ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพไว้ในแผ่นป้ายชื่อดังกล่าวด้วย

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๕๙


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐
(๒) ป้ายชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพต้องตรงตามประเภทของกิจการ และตรงกับชื่อตามใบอนุญาต
(๓) ให้แสดงแผ่นป้ายชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพไว้บริเวณด้านหน้า หรือตัวอาคาร
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพโดยสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก

ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐


วิศิษฎ์ ตั้งนภากร
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

๖๐ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๐ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เรื่อง สถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ต้องมีผู้ดําเนินการ

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙


อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง สถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพที่ต้องมีผู้ดําเนินการ”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ กําหนดให้สถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปาเป็นสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพที่ต้องมีผู้ดําเนินการ

ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
วิศิษฎ์ ตั้งนภากร
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๖๑


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒ มิถุนายน ๒๕๖๐

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการในการเปรียบเทียบ
ตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๕๙

อาศัยอํานาจตามความในบทนิยามคําว่า “ผู้อนุญาต” ในมาตรา ๓ และมาตรา ๔๘ วรรคหนึ่ง


แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์ และ
วิธกี ารในการเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙”
ข้อ ๒ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

“ความผิด” หมายความว่า บรรดาความผิดที่มีโทษตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการ


เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙
“ผู้ ต้ อ งหา” หมายความว่ า บุ ค คลผู้ ถู ก กล่ า วหาว่ า ได้ ก ระทํ า ความผิ ด ตามพระราชบั ญ ญั ติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ แต่ยังมิได้ถูกฟ้องต่อศาล
“ผู้อนุญาต” หมายความว่า อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมสนับสนุน
บริการสุขภาพมอบหมาย
“คณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบ” หมายความว่า คณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบ
ในเขตกรุ ง เทพมหานคร ประกอบด้ ว ยอธิ บ ดี ก รมสนั บ สนุ น บริ ก ารสุ ข ภาพเป็ น ประธานกรรมการ
ผู้อํานวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นกรรมการ และผู้อํานวยการกองกฎหมายเป็นกรรมการ
และเลขานุ การ และให้ ผู้ อํ านวยการกองกฎหมายแต่ งตั้ งข้ าราชการของกองกฎหมายไม่ เกิ นสองคน
เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
คณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบในเขตจังหวัด ประกอบด้วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
เป็นประธานกรรมการ หัวหน้ากลุ่มงานนิติการเป็นกรรมการ และหัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค และ
เภสั ช สาธารณสุ ข หรื อ หั ว หน้ า กลุ่ ม งานการแพทย์ แ ผนไทยและการแพทย์ ท างเลื อ กตามที่ น ายแพทย์
สาธารณสุขจังหวัดมอบหมายเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแต่งตั้ง
ข้าราชการของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดไม่เกินสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ข้อ ๕ คณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบ ให้มีอํานาจดังนี้
(๑) คณะกรรมการกลั่ น กรองเปรี ย บเที ย บ ในเขตกรุ ง เทพมหานครมี อํ า นาจพิ จ ารณา
เสนอเปรียบเทียบความผิดซึ่งได้เกิด อ้างหรือเชื่อว่าได้เกิดในเขตกรุงเทพมหานคร

๖๒ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒ มิถุนายน ๒๕๖๐
(๒) คณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบ ในเขตจังหวัดมีอํานาจพิจารณาเสนอเปรียบเทียบ
ความผิดซึ่งได้เกิด อ้างหรือเชื่อว่าได้เกิดในเขตท้องที่จังหวัดที่รับผิดชอบ
ข้อ ๖ เมื่อปรากฏหลักฐานจากพนักงานเจ้าหน้าที่ว่ามีการกระทําความผิดเกิดขึ้น และ
ผู้อนุญาตเห็นว่าผู้ต้องหาไม่ควรถูกฟ้องดําเนินคดีหรือได้รับโทษถึงจําคุก หรือในกรณีที่พนักงานสอบสวน
ส่งเรื่องให้ผู้อนุญาตทําการเปรียบเทียบ ให้ผู้อนุญาตส่งเรื่องให้คณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบพิจารณา
ให้ความเห็น โดยทําหนังสือแจ้งผู้ต้องหามาทําการเปรียบเทียบปรับ ตามแบบ สป ๑ ท้ายประกาศนี้
เมื่อผู้ต้องหามาแสดงตัวต่อคณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบ ก่อนถามคําให้การให้คณะกรรมการกลั่นกรอง
เปรียบเทียบแจ้งให้ทราบถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทําที่กล่าวหาว่าผู้ต้องหาได้กระทําผิดแล้วจึงแจ้ง
ข้อกล่าวหาและแจ้งให้ทราบว่าความผิดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดที่สามารถเปรียบเทียบได้ ถ้าผู้ต้องหาให้การ
รับสารภาพและยินยอมให้เปรียบเทียบให้บันทึกคําให้การของผู้ต้องหาและบันทึกการเปรียบเทียบไว้
ตามแบบ สป. ๒ และ สป. ๔ ท้ายประกาศนี้
เมื่ อ คณะกรรมการกลั่ น กรองเปรี ย บเที ย บพิ จ ารณาเสร็ จ สิ้ น แล้ ว ให้ ผู้ อ นุ ญ าตพิ จ ารณา

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เปรียบเทียบโดยไม่ชักช้า
ถ้าผู้ต้องหาให้การปฏิเสธหรือไม่ยินยอมให้เปรียบเทียบ ให้บันทึกคําให้การไว้ตามแบบ สป. ๓
ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๗ ในการเปรี ย บเที ย บปรั บ ให้ ผู้ อ นุ ญ าตทํ า การเปรี ย บเที ย บปรั บ ผู้ ก ระทํ า ความผิ ด
ตามอัตราในบัญชีท้ายประกาศนี้ หรือในอัตราตามที่เห็นสมควรตามที่กฎหมายกําหนด โดยให้คํานึงถึง
จํานวนครั้งของการกระทําความผิดความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งการกระทําความผิด ทั้งนี้
อาจไม่เป็นไปตามอัตราในบัญชีท้ายประกาศนี้ก็ได้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้อนุญาตเห็นว่าควรดําเนินคดีกับผู้ต้องหา หรือ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
หรือไม่ให้ความยินยอมให้เปรียบเทียบ หรือไม่ชําระค่าปรับภายในเวลาที่กําหนด หรือผู้ต้องหากระทํา
ความผิดเดิมซ้ําสําหรับความผิดที่มีโทษจําคุก ให้ผู้อนุญาตส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดําเนินคดีต่อไป
ข้อ ๙ การรับเงิน การเก็บรักษาเงินและการนําเงินค่าปรับที่ทําการเปรียบเทียบปรับส่งคลัง
(๑) ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบนําส่งชําระเงินให้ผู้ต้องหาไปชําระเงิน
ค่าปรับที่กลุ่มคลัง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และให้เจ้าหน้าที่กลุ่มคลังออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้ต้องหา
โดยระบุรายละเอียดในใบเสร็จให้มีข้อความแสดงว่าเป็นใบเสร็จรับเงินค่าเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙
(๒) ในเขตจังหวัด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบนําส่งชําระเงินให้ผู้ต้องหาไปชําระเงินค่าปรับ
ที่สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดนั้น ๆ และให้ออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้ต้องหา โดยระบุรายละเอียดในใบเสร็จ
ให้มีข้อความแสดงว่าเป็นใบเสร็จรับเงินค่าเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๕๙

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๖๓


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๔๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒ มิถุนายน ๒๕๖๐
ให้ พ นั ก งานเจ้ า หน้ า ที่ บั น ทึ ก รายละเอี ย ดการชํ า ระเงิ น ในบั น ทึ ก การชํ า ระเงิ น ท้ า ยบั น ทึ ก
การเปรียบเทียบตามแบบ สป. ๔ ท้ายประกาศนี้
เงินค่าปรับที่ได้รับตามวรรคหนึ่งให้นําส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
ข้อ ๑๐ ให้ พ นั ก งานเจ้ า หน้ า ที่ บั น ทึ ก ประวั ติ ผู้ ต้ อ งหาตามแบบ สป. ๕ ท้ า ยประกาศนี้
ปะหน้าสํานวนคดี และให้เก็บสํานวนคดีที่ได้ทําการเปรียบเทียบแล้วไว้เป็นระยะเวลาสองปีนับแต่วันที่มี
การเปรียบเทียบ เมื่อครบกําหนดให้ดําเนินการทําลายตามระเบียบว่าด้วยงานสารบรรณ
ข้อ ๑๑ ในกรณีที่มีปัญหาในการปฏิบัติตามประกาศนี้ให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด คําวินิจฉัยของอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพถือเป็นที่สุด

ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๐


วิศิษฎ์ ตั้งนภากร
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

๖๔ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(แบบ สป 1)

ที่ ……………………… เขียนที่ ..............................................


...........................................................
วันที่ ......... เดือน .......................... พ.ศ. ................
เรื่อง ขอเชิญพบเรื่องการเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559
เรียน ................................................................................................................................................................
สิ่งที่ส่งมาด้วย หนังสือมอบอานาจ จานวน ......... ฉบับ
ตามที่ ......................................................................... ตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ได้ทาการตรวจสอบ ................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
..............................................................................................................................................................................
และตรวจสอบหลั ก ฐานทางทะเบี ย นแล้ ว ปรากฏว่ า สถานที่ ดั ง กล่ า วได้ รั บ อนุ ญ าตให้ ป ระกอบกิ จ การ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ โดยมี ........................................................................................ เป็นผู้รับอนุญาต
และ ............................................................................................................................. ..... เป็นผู้ดาเนินการ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ โดยพบว่ากระทาความผิดตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. 2559 มาตรา ....................................................... ฐานความผิด ..............................................................
.............................................................................................................................................................................
ซึ่งความผิดดังกล่าวเป็นความผิดที่สามารถเปรียบเทียบได้
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ/สานักงานสาธารณสุขจังหวัด จึงขอให้ ......................................
ไปพบคณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบ ณ...............................................................................................
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ ............ เดือน ..................................... พ.ศ. ............. ในวันเวลาราชการ
เพื่ อ ด าเนิ น การเปรีย บเที ย บให้ เป็ น ไปตามกฎหมาย หากไม่ ไปพบภายในวัน และเวลาที่ ก าหนดไว้ ข้ างต้ น
ทางราชการจะส่งเรื่องให้ พ นักงานสอบสวนดาเนิ นคดีตามพระราชบั ญ ญั ติส ถานประกอบการเพื่ อสุขภาพ
พ.ศ. 2559 ต่อไป
อนึ่ง เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเปรียบเทียบของท่านขอได้โปรดไปพบคณะกรรมการ
กลั่นกรองเปรียบเทียบ ในวันที่ .......... เดือน ...................... พ.ศ. ......... เวลา ............. น. ถึง ............. น. ด้วย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดไปพบคณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบตามวัน เวลา และสถานที่
ดังกล่าวข้างต้น ต่อไปด้วย จะเป็นพระคุณ
ขอแสดงความนับถือ

หมายเหตุ ความผิดกรณีเป็นความผิดครั้งที่ .......... จะทาการเปรียบเทียบปรับเป็นจานวนเงิน ................ บาท


และเมื่อได้เสียค่าปรับแล้ว ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๖๕


(แบบ สป 2)
บันทึกคำให้กำรผู้ต้องหำ
(กรณียินยอมให้เปรียบเทียบ)
คดีที่ …………… / ………… เขียนที่ ...............................................
วันที่ ......... เดือน .......................... พ.ศ. ................
ข้าพเจ้า ................................................................ อายุ .............. ปี สัญชาติ ...................
อยู่บ้านเลขที่ ................. หมู่ที่ .............. ซอย/ตรอก ..................................... ถนน .........................................
ตาบล/แขวง .................................................. อาเภอ/เขต ......................................... จังหวัด ............................
รหัสไปรษณีย์ .............................. โทรศัพท์ .......................................... โทรสาร ................................................
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ......................................... ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น...............................
(โดยมี ............................................................................ เป็นผู้ได้รับมอบอานาจจาก ..........................................
ตามหนังสือมอบอานาจที่ ...................... ลงวันที่ ............. เดือน ........................ พ.ศ. ...............) ขอให้การดังนี้
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

ข้าพเจ้าได้รับแจ้งจากคณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบ ว่า ............................................


............................................................................................................................. ............................................
...................................................................................................................................................................... ........
....................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................... ..........
......................................................................................................................... .................................................
เป็ น ผู้ ต้องหาว่ากระท าการอั น เป็ น การฝ่ าฝื น พระราชบั ญ ญั ติส ถานประกอบการเพื่ อสุ ขภาพ พ.ศ. 2559
มาตรา ..................... ข้ อ หากระท าผิ ด ฐาน ....................................................................... ...................
.............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
มีบทลงโทษตามมาตรา ................ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน ............... หรือปรับไม่เกิน ......................... บาท
ซึ่ ง ผู้ มี อ านาจเปรี ย บเที ย บได้ พิ จ ารณาและมี ค าสั่ ง ให้ ท าการเปรี ย บเที ย บปรั บ ได้ ข้ า พเจ้ า ได้ รั บ ทราบ
ข้อกล่าวหาแล้วขอให้การรับสารภาพว่ากระทาความผิดดังกล่าวจริงและผู้มีอานาจเปรียบเทียบพิจารณาแล้ว
กาหนดเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน จานวน ................................ บาท (.....................................................) นั้น
ข้าพเจ้าขอรับรองว่า
1. ข้ า พ เจ้ า ยิ น ยอมให้ ผู้ มี อ านาจเปรี ย บเที ย บท าการเปรี ย บเที ย บปรั บ เป็ น เงิ น
จานวน .................................... บาท (..................................................) โดย จะน าเงินค่าปรับ ตามจานวน
ดังกล่าวมาชาระภายในวันที่ ............... เดือน .................................... พ.ศ. ......................
2. ข้ าพเจ้ ายิ น ดีที่ จ ะปรั บ ปรุ งแก้ไขการกระท าอั น เป็ น ความผิ ด ตามกฎหมายให้ ถู กต้ อ ง
แล้วเสร็จโดยเร็วภายในกาหนด ...................... วัน เมื่อได้แก้ไขถูกต้องแล้วเสร็จจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป

๖๖ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


3. หากข้าพเจ้าไม่นาเงินตามจานวนดังกล่าวในข้อ 1 มาชาระภายในเวลาที่กาหนดหรือ
ไม่ปฏิบัติตามข้อ 2 ให้คณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบดาเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
บันทึกนี้ คณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบได้อ่านให้ผู้ต้องหาฟังแล้ว รับรองว่าถูกต้อง
ตามความเป็นจริง ทุกประการ โดยมิได้ถูกบังคับ ขู่เข็ญแต่ประการใด จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสาคัญต่อหน้า
คณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบ

ลงชื่อ ........................................................ ผู้ต้องหา


(....................................................)

ลงชื่อ ........................................................ ประธานกรรมการ


(....................................................)

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ลงชื่อ ........................................................ กรรมการ
(....................................................)

ลงชื่อ .................................................... กรรมการและเลขานุการ


(....................................................)

ลงชื่อ ........................................................ ผู้บันทึกถ้อยคา


(....................................................)

คาสั่ง ให้เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน ............................ บาท (..............................................)

.....................................
(.............................................)
ผู้อนุญาต

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๖๗


(แบบแนบท้าย สป 2)
บัญชีของกลาง
คดีเปรียบเทียบที่ …………… / ………… เขียนที่ ..............................................
วันที่ ......... เดือน .......................... พ.ศ. ................
ผู้ต้องหา ............................................................................. ... อยู่บ้านเลขที่ .........................
หมู่ที่ ......... ซอย .............................. ถนน ....................................... ตาบล/แขวง .................. ..........................
อ าเภอ/เขต ......................................... จั งหวัด ............................ รหั ส ไปรษณี ย์ ..............................
โทรศัพท์ .............................. โทรสาร ................................. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ..................... ....................
ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น.....................................................................................................

ลาดับที่ รายชื่อของกลาง จานวนปริมาณ หมายเหตุ


.............. .............................................................................. .......................... ............................................
.............. .............................................................................. .......................... ............................................
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

.............. .............................................................................. .......................... ............................................


.............. .............................................................................. .......................... ............................................
.............. .............................................................................. .......................... ............................................
.............. .............................................................................. .......................... ............................................
.............. .............................................................................. .......................... ............................................
.............. .............................................................................. .......................... ............................................
.............. .............................................................................. .......................... ............................................
.............. .............................................................................. .......................... ............................................
.............. .............................................................................. .......................... ............................................
.............. .............................................................................. .......................... ............................................
.............. .............................................................................. .......................... ............................................
.............. .............................................................................. .......................... ............................................
.............. .............................................................................. .......................... ............................................

ลงชื่อ ........................................................ ผู้ต้องหา


(....................................................)

ลงชื่อ ........................................................ พนักงานเจ้าหน้าที่


(....................................................)

ลงชื่อ ........................................................ พนักงานเจ้าหน้าที่


(....................................................)

๖๘ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(แบบ สป 3)
บันทึกคำให้กำรผู้ต้องหำ
(กรณีไม่ยินยอมให้เปรียบเทียบ)
คดีที่ …………… / ………… เขียนที่ ...............................................
วันที่ ......... เดือน .......................... พ.ศ. ................
ข้าพเจ้า ................................................................ อายุ .............. ปี สัญชาติ ...................
อยู่บ้านเลขที่ ............... หมู่ที่ ................. ซอย/ตรอก ..................................... ถนน .........................................
ตาบล/แขวง .................................................. อาเภอ/เขต ......................................... จังหวัด ............................
รหัสไปรษณีย์ .............................. โทรศัพท์ .......................................... โทรสาร ................................................
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ......................................... ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น...............................
(โดยมี ............................................................................ เป็นผู้ได้รับมอบอานาจจาก ..........................................
ตามหนังสือมอบอานาจที่ ...................... ลงวันที่ ............. เดือน ........................ พ.ศ. ...............) ขอให้การดังนี้
ข้าพเจ้าได้ รับแจ้งจากคณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบว่า ........................................
เป็ น ผู้ ต้องหาว่ากระท าการอั น เป็ น การฝ่ าฝื น พระราชบั ญ ญั ติส ถานประกอบการเพื่ อสุ ขภาพ พ.ศ. 2559

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
มาตรา .................. ข้อหากระทาผิดฐาน .............................................................................................................
มีบทลงโทษตามมาตรา ................ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน ............... หรือปรับไม่เกิน ......................... บาท
ซึ่งผู้ มีอานาจเปรีย บเทียบได้พิจารณาและมีคาสั่งให้ทาการเปรียบเทียบปรับ ได้ และให้ ทาการเปรียบเที ย บ
ปรับเป็นเงิน จานวน ................................ บาท (.....................................................) นั้น
ข้าพเจ้า .......................................................................... ได้รับทราบข้อกล่าวหาข้างต้น
แล้วแต่ไม่ยินยอมให้ผู้มีอานาจเปรียบเทียบทาการเปรียบเทียบ เพราะ
ข้าพเจ้าไม่ได้กระทาผิด
จานวนค่าปรับสูง
เหตุอื่น ๆ (โปรดระบุ) .............................................................................................
คณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบได้อ่านให้ผู้ต้องหาฟังแล้ว รับรองว่าถูกต้องและเป็นไป
ตามวัตถุประสงค์ของผู้ต้องหา จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสาคัญต่อหน้าคณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบ

ลงชื่อ ........................................................ ผู้ต้องหา


(....................................................)

ลงชื่อ ........................................................ ประธานกรรมการ


(....................................................)

ลงชื่อ ........................................................ กรรมการ


คาสั่ง ทราบ (....................................................)

........................................ ลงชื่อ ..................................................... กรรมการและเลขานุการ


(..............................................) (....................................................)
ผู้อนุญาต ลงชื่อ ........................................................ ผู้บันทึกถ้อยคา
(....................................................)

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๖๙


(แบบ สป 4)
บันทึกการเปรียบเทียบ
คดีเปรียบเทียบที่ …………… / …………
ที่ทําการเปรียบเทียบ ...............................................
วันที่ ......... เดือน .......................... พ.ศ. ................
………………………………………………………………………………. ผู้กล่าวหา
ระหว่าง
............................................................................................... ผู้ต้องหา
ข้อกล่าวหา .............................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
พฤติกรรมแห่งคดี ...................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
เหตุเกิดเมื่อวันที่ .......... เดือน ........................................ พ.ศ. ................. ณ สถานที่ ..........
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

.................................................... เลขที่ ............ ถนน ..................................... ตําบล/แขวง ..............................


อําเภอ/เขต .......................................... จังหวัด ................................................
คดี นี้ ผู้ ต้ อ งหารั บ สารภาพตลอดข้ อ กล่ า วหาได้ ก ระทํ า ความผิ ด ตามพระราชบั ญ ญั ติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 มาตรา .......... มีบทลงโทษตามมาตรา .................. ต้องระวางโทษ
จําคุกไม่เกิน .................... หรือปรับไม่เกิน ................................... บาท ซึ่งเป็นความผิดที่เปรียบเทียบได้
และผู้ต้องหายินยอมให้เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน จํานวน ...............................บาท (....................................)
โดยผู้ต้องหาได้ชําระค่าปรับตามจํานวนดังกล่าว เมื่อวันที่ ......... เดือน ........................... พ.ศ. .................. แล้ว
คณะกรรมการกลั่ น กรองเปรี ย บเที ย บได้ อ่ า นให้ ผู้ ต้ อ งหาฟั ง แล้ ว รั บ รองว่ า ถู ก ต้ อ ง
จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสําคัญต่อหน้าคณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบ

ลงชื่อ ........................................................ ผู้ต้องหา


(....................................................)

ลงชื่อ ........................................................ ประธานกรรมการ


(....................................................)

คําสั่ง ทราบ ลงชื่อ ........................................................ กรรมการ


(....................................................)
.............................................
(.............................................) ลงชื่อ ..................................................... กรรมการและเลขานุการ
ผู้อนุญาต (....................................................)

ลงชื่อ ........................................................ ผู้บันทึกถ้อยคํา


(....................................................)

๗๐ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(แบบแนบท้าย สป 4)

บันทึกการชาระเงิน
ใบเสร็จรับเงินเล่มที่ ...................... เลขที่ ........................
วันที่ .............. เดือน ................................... พ.ศ. ...........
จานวนเงินค่าปรับ ............................................. บาท

ลงชื่อ ....................................... พนักงานเจ้าหน้าที่

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๗๑


(แบบ สป 5)
บันทึกประวัติผู้ต้องหา

1. ผู้ต้องหา ชื่ อ ............................................... ชื่ อ สกุ ล ...................................... อายุ ............ ปี


เชื้ อ ชาติ ............... สั ญ ชาติ ................... อยู่ บ้ า นเลขที่ ............... หมู่ ที่ ...........
ตรอก/ซอย.......................................... ถนน ............. ..................................
ต าบล/แขวง ..................................... อ าเภอ/เขต .........................................
จังหวัด .......................................
เป็นผู้ประกอบกิจการ/ดาเนินการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพชื่อ ...............................
ใบอนุญาตเลขที่ ............................................

2. วัน เวลา และ เหตุ เกิ ดเมื่ อ วัน ที่ ................. เดื อน .................................. พ.ศ. ................... ............
สถานที่เกิดเหตุ สถานที่เกิดเหตุ ......................................................................................................................
................................................................................................................................................
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

3. ข้อกล่าวหา ฐาน ...................................................................................................................


................................................................................................ ........................................
ตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559

4. จานวนของกลาง 1. ยึดและเก็บมา ................................................................................................................ ..


................................................................................................................................................
2. อายั ด ..................................................................................................................
................................................................................................................................................

5. ผลคดี กระทาความผิดตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559


มาตรา ................. ฐาน ........................................................................................................
................................................................................................................................................
ผู้ต้องหายินยอมให้เปรียบเทียบและชาระเงินค่าปรับ จานวน ....................................... บาท
(........................................) วันที่ชาระค่าปรับ วันที่ ........ เดือน ..................... พ.ศ. ............
หลักฐานการสั่งเปรียบเทียบตามหนังสือหรือบันทึกที่ ....................................................
วันที่ .............. เดือน ....................................... พ.ศ. ...........................
6. งานคลังรับเงิน วันที่ ............ เดือน .............................. พ.ศ. ................. จานวนเงิน .......................... บาท
ตามใบเสร็จรับเงิน เล่มที่ ............................ เลขที่ ................................

ลงชื่อ ........................................................ ผู้ บันทึกประวัติ


(....................................................)
ตาแหน่ง .................................................
วันที่ ............................................

๗๒ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


บันทึกข้อความ
ส่วนราชการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ/สานักงานสาธารณสุขจังหวัด โทร.
ที่ สธ / วันที่
เรื่อง ขอส่งตัวผู้กระทาความผิดมาชาระค่าปรับ
เรียน
เนื่ องด้ ว ย คณ ะกรรมการกลั่ น กรองเป รี ย บ เที ยบ ได้ พิ จารณ าแล้ ว มี ม ติ / ค าสั่ ง
ว่าสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ............................................................................................................... ......
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
ได้กระทาความผิดตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2560 มาตรา .............................

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ฐาน ......................................................................................................................... ..................................
และได้รับคาสั่งให้ทาการเปรียบเทียบปรับผู้กระทาความผิด ตามมาตรา ...........................................................
เป็นเงิน ............................................. บาท (................................................................. ) นั้น
จึงขอส่งตัวผู้กระทาความผิดตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2560
ดังกล่าว เพื่อชาระค่าปรับตามฐานความผิดและจานวนเงินดังกล่าวข้างต้น
จึงเรียนมาเพื่อโปรดดาเนินการต่อไปด้วย จะเป็นพระคุณ

ลงชื่อ ………………………………………..
พนักงานเจ้าหน้าที่

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๗๓


ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

๗๔
บัญชีอัตราค่าปรับตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559
กรณีที่มีโทษจาคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท

ข้อหำควำมผิด ระวำงโทษ อัตรำค่ำปรับกำหนดให้เปรียบเทียบ (บำท)


ลำดับที่ มำตรำ ฐำนควำมผิด มำตรำ อัตรำโทษ ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4
(อัตรำสูงสุดที่
และครั้งต่อไป
กฎหมำยกำหนดไว้)

ประกอบกิจกำรสถำนประกอบกิจกำร จำคุกไม่เกิน 6 เดือน


1. 12 สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ 42 หรือปรับไม่เกิน 25,000 37,500 50,000 ส่งพนักงำนสอบสวน
โดยไม่ได้รับใบอนุญำตประกอบกิจกำร 50,000 บำท ดำเนินคดี
สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ หรือทั้งจำทั้งปรับ
จำกผู้อนุญำต

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


บัญชีอัตราค่าปรับตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559
กรณีที่มีโทษปรับสถานเดียว

ข้อหำควำมผิด ระวำงโทษ อัตรำค่ำปรับกำหนดให้เปรียบเทียบ (บำท)


ลำดับที่ ครั้งที่ 3
มำตรำ ฐำนควำมผิด มำตรำ อัตรำโทษ ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งต่อไป
(อัตรำสูงสุดที่
กฎหมำยกำหนดไว้)

ใช้ชื่อหรือคำแสดงชื่อในธุรกิจว่ำ “สถำน
3 ประกอบกำรเพื่อสุขภำพ”“กิจกำรสปำ”
1. นิยำมคำว่ำ “นวดเพื่อสุขภำพหรือเพื่อเสริมควำมงำม” 41 ปรับไม่เกิน 40,000 บำท 20,000 30,000 40,000
“สถำน หรือกิจกำรอื่นตำมที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออก
ประกอบกำร ตำมควำมใน (๓) ของบทนิยำมคำว่ำ “สถำน
เพื่อสุขภำพ” ประกอบกำรเพื่อสุขภำพ” ในมำตรำ ๓ หรือ
คำอื่นใดที่มีควำมหมำยเช่นเดียวกันในประกำร
ที่อำจทำให้ประชำชนเข้ำใจว่ำเป็นสถำน
ประกอบกำรเพื่อสุขภำพโดยมิได้เป็นผู้รับอนุญำต
2. 20 ด ำเนิ น กำรในสถำนประกอบกำรเพื่ อ สุ ข ภำพ 43 ปรับไม่เกิน 20,000 บำท 10,000 15,000 20,000
โด ย ไม่ ได้ รั บ ใบ อ นุ ญ ำ ต เป็ น ผู้ ด ำเนิ น ก ำ ร

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


จำกผู้อนุญำต

๗๕
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

๗๖
ข้อหำควำมผิด ระวำงโทษ อัตรำค่ำปรับกำหนดให้เปรียบเทียบ (บำท)
ลำดับที่ ครั้งที่ 3
มำตรำ ฐำนควำมผิด มำตรำ อัตรำโทษ ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งต่อไป
(อัตรำสูงสุดที่
กฎหมำยกำหนดไว้)

3. 24 ประกอบกิจกำรไม่ตรงตำมประเภทของสถำน 44 ปรับไม่เกิน 40,000 บำท 20,000 30,000 40,000


ประกอบกำรเพื่อสุขภำพที่ระบุไว้ในใบอนุญำต
ประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
28 (9) (10) กรณีผู้รับอนุญาตไม่ปฏิบัติตามหน้าที่
4. (11) (12) - ไม่ ค วบคุ ม ดู แ ลมิ ให้ มี ก ำรลั ก ลอบหรื อ มี ก ำรค้ ำ 45 ปรับไม่เกิน 30,000 บำท 15,000 22,500 30,000
หรือ (13) ประเวณีหรือมีกำรกระทำบริกำรที่ขัดต่อกฎหมำย
ควำมสงบเรี ย บร้ อ ย และศี ล ธรรมอั น ดี ในสถำน
ประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
- ไม่ควบคุมดูแลมิให้ ห รือยินยอมหรือปล่ อยปละ
ละเลยให้ มี ก ำรจ ำห น่ ำ ยห รื อ เสพ เครื่ อ งดื่ ม
แอล กอ ฮอ ล์ ห รื อ ผ ลิ ตภั ณ ฑ์ ยำสู บ ใน ส ถำน
ประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
- ไม่ควบคุมดูแลมิให้ ห รือยินยอมหรือปล่ อยปละ
ละเลยให้มีกำรกระทำควำมผิดเกี่ยวกับยำเสพติด
ในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ข้อหำควำมผิด ระวำงโทษ อัตรำค่ำปรับกำหนดให้เปรียบเทียบ (บำท)
ลำดับที่ ครั้งที่ 3
มำตรำ ฐำนควำมผิด มำตรำ อัตรำโทษ ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งต่อไป
(อัตรำสูงสุดที่
กฎหมำยกำหนดไว้)
- ไม่ควบคุมดูแลมิให้ ห รือยินยอมหรือปล่ อยปละ
ละเลยให้ ผู้มีอำกำรมึนเมำจนประพฤติตนวุ่นวำย
หรื อ ครองสติ ไม่ ได้ เข้ ำ ไปในสถำนประกอบกำร
เพื่อสุขภำพระหว่ำงเวลำทำกำร
- ไม่ควบคุมดูแลมิให้ ห รือยินยอมหรือปล่ อยปละ
ละเลยให้มีกำรนำอำวุธเข้ำไปในสถำนประกอบกำร
เพื่อสุขภำพ

กรณีผู้ดาเนินการไม่ปฏิบัติตามหน้าที่
- ไม่ ค วบคุ ม ดู แ ลมิ ให้ มี ก ำรลั ก ลอบหรื อ มี ก ำรค้ ำ
5. 29 วรรคสอง ประเวณีหรือมีกำรกระทำบริกำรที่ขัดต่อกฎหมำย 45 ปรับไม่เกิน 30,000 บำท 15,000 22,500 30,000
ควำมสงบเรี ย บร้ อ ย และศี ล ธรรมอั น ดี ในสถำน
ประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
- ไม่ควบคุมดูแลมิให้ ห รือยินยอมหรือปล่ อยปละ

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ละเลยให้ มี ก ำรจ ำห น่ ำ ยห รื อ เสพ เครื่ อ งดื่ ม
แอล กอ ฮอ ล์ ห รื อ ผ ลิ ตภั ณ ฑ์ ยำสู บ ใน ส ถำน
ประกอบกำรเพื่อสุขภำพ

๗๗
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

๗๘
ข้อหำควำมผิด ระวำงโทษ อัตรำค่ำปรับกำหนดให้เปรียบเทียบ (บำท)
ลำดับที่ ครั้งที่ 3
มำตรำ ฐำนควำมผิด มำตรำ อัตรำโทษ ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งต่อไป
(อัตรำสูงสุดที่
กฎหมำยกำหนดไว้)
- ไม่ควบคุมดูแลมิให้ ห รือยิ น ยอมหรือปล่ อยปละ
ละเลยให้มีกำรกระทำควำมผิดเกี่ยวกับยำเสพติด
ในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
- ไม่ควบคุมดูแลมิให้ ห รือยิ น ยอมหรือปล่ อยปละ
ละเลยให้ ผู้มีอำกำรมึน เมำจนประพฤติตนวุ่น วำย
หรื อ ครองสติ ไม่ ได้ เข้ ำ ไปในสถำนประกอบกำร
เพื่อสุขภำพระหว่ำงเวลำทำกำร
- ไม่ควบคุมดูแลมิให้ ห รือยิ น ยอมหรือปล่ อยปละ
ละเลยให้มีกำรนำอำวุธเข้ำไปในสถำนประกอบกำร
เพื่อสุขภำพ
ไม่ อ ำนวยควำมสะดวกแก่ พ นั ก งำนเจ้ ำ หน้ ำ ที่
5. 35 วรรคสอง ใน ก ำร ป ฏิ บั ติ ห น้ ำที่ ต ำม พ ระ รำช บั ญ ญั ติ 46 ปรับไม่เกิน 10,000 บำท 5,000 7,500 10,000

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ พ.ศ. 2559
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๓๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๐

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เรื่อง การกําหนดแบบตามกฎกระทรวงซึ่งออกตาม
พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๕๙

อาศัยอํานาจตามความในข้อ ๓ แห่งกฎกระทรวงการอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๘ แห่งกฎกระทรวงการอนุญาตเป็นผู้ดําเนินการ ในสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๘ แห่งกฎกระทรวงการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการ ในสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๓ วรรคสอง ข้อ ๕ วรรคสาม แห่งกฎกระทรวงกําหนดค่าธรรมเนียมและ
การชําระค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐ และข้อ ๙
แห่งกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานด้านสถานที่ ความปลอดภัย และการให้บริการในสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปาและกิจการนวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมความงาม พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งออก

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ตามความในพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง การกําหนดแบบ
ตามกฎกระทรวงซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙”
ข้อ ๒ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ แบบคําขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้เป็นไป
ตามแบบ สพส. ๑ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๔ แบบใบรับคําขออนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้เป็นไป
ตามแบบ สพส. ๒ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๕ แบบคํ า ขอต่ อ อายุ ใ บอนุ ญ าตประกอบกิ จ การสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
ให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๓ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๖ แบบคําขอโอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้เป็นไป
ตามแบบ สพส. ๔ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๗ แบบคํ า ขอรั บ โอนใบอนุ ญ าตประกอบกิ จ การสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
กรณีผู้รับอนุญาตถึงแก่ความตาย ให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๕ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๘ แบบคํ า ขอรั บ ใบแทนใบอนุ ญ าตประกอบกิ จ การสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
ให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๖ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๙ แบบคําขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๗ ท้ายประกาศนี้

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๗๙


เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๓๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๐
ข้อ ๑๐ แบบคําขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ดําเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้เป็นไป
ตามแบบ สพส. ๘ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๑๑ แบบใบรับคําขออนุญาตเป็นผู้ดําเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้เป็นไป
ตามแบบ สพส. ๙ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๑๒ แบบคําขอรับใบแทนใบอนุญาตเป็นผู้ดําเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๑๐ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๑๓ แบบคํ า ขอเปลี่ ย นแปลงแก้ ไ ขรายการในใบอนุ ญ าตเป็ น ผู้ ดํ า เนิ น การ ในสถาน
ประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๑๑ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๑๔ แบบคําขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้เป็นไป
ตามแบบ สพส. ๑๒ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๑๕ แบบใบรั บ คํ า ขอขึ้ น ทะเบี ย นเป็ น ผู้ ใ ห้ บ ริ ก ารในสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
ให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๑๓ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๑๖ แบบใบรั บ รองการขึ้ น ทะเบี ย นเป็ น ผู้ ใ ห้ บ ริ ก ารในสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

ให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๑๔ ท้ายประกาศนี้


ข้อ ๑๗ แบบคําขอรับใบแทนใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๑๕ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๑๘ แบบคํ า ขอเปลี่ ย นแปลงแก้ ไ ขรายการใบรั บ รองการขึ้ น ทะเบี ย นเป็ น ผู้ ใ ห้ บ ริ ก าร
ในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๑๖ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๑๙ แบบคําขอชําระค่าธรรมเนียม ให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๑๗ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๒๐ แบบหลักฐานการชําระค่าธรรมเนียม ให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๑๘ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๒๑ แบบทะเบียนประวัติผู้รับบริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ประเภท กิจการสปา)
ให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๑๙ ท้ายประกาศนี้

ประกาศ ณ วันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๐


วิศิษฎ์ ตั้งนภากร
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

๘๐ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


สพส. 1

ประเภท กิจการสปา เลขทีร่ ับ……………………………….


กิจการนวดเพื่อสุขภาพ วันที่…………………………………
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม ลงชื่อ………………………ผู้รับคาขอ
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน
กฎกระทรวง ………………………

คำขอรับใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เขียนที่ ………………………………………………..
……………………………..………………..
วันที่ …….. เดือน ….……………. พ.ศ. ….…..

๑. ข้าพเจ้า
 ๑.๑ ชื่อ ………………………………………………………………………………………………………………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
สัญชาติ ………………….. อายุ …… ปี ซึ่งเป็นผู้ยื่นคาขอ/ผู้รับมอบอานาจ (กรณีเป็นผู้รับมอบอานาจต้องแนบใบมอบอานาจด้วย)
 ๑.๒ นิตบิ ุคคล………..……………….…………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………………………………………………………………………………..………………..………………….…………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
(๒) ……………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (3) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
เป็นผู้มีอานาจลงชื่อแทนนิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาต เป็นนิติบุคคลประเภท ………………………..…………….……….
จดทะเบียนเมื่อ…………………………….………...……..…..เลขทะเบียน …….……………………………………….……………….

2. ข้าพเจ้าขอยื่นคาขอต่อผู้อนุญาตตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพือ่ สุขภาพ พ.ศ. 2559


เพื่อขออนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ดังนี้

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๘๑


กิ จ การสปา การบริ ก ารโดยวิ ธี ก ารบ าบั ด ด้ ว ยน้ าและการนวดร่ า งกายเป็ น หลั ก
และประกอบด้วยบริการอื่นอีกอย่างน้อยสามอย่าง คือ 1. …………………………………………………
2. ………………………………………………… 3. ………………………………………………..
4. ………………………………………………… 5. …………………………………………………

กิจการนวดเพื่อสุขภาพ โดยมีการให้บริการ คือ ....................................................................


กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม โดยมีการให้บริการ คือ ………………………………………………….
กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง คือ .........................................................................
โดยใช้ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นภาษาไทย ว่า
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ภาษาต่างประเทศ (ถ้ามี) ว่า
…………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………
3. ที่ตั้งของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

ลักษณะสถานที่ที่ใช้เป็นที่ตั้ง บ้าน อาคาร ศูนย์การค้า อื่น ๆ .......................


ตั้งอยู่เลขที่ ……………..….…….. หมู่ที่ …………………… ซอย/ตรอก ……………................................
ถนน ……..............................…ตาบล/แขวง ….………….……….....…….อาเภอ/เขต …………..……..………….………..
จังหวัด ………………………………….รหั ส ไปรษณี ย์ ….…………….……….…โทรศัพ ท์ ….………………………..…..…………
โทรสาร……………………………………………………………..…..……………….
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์………………………………………………….………………………….………………………………………..
วัน/เวลาที่เปิดให้บริการ (โปรดระบุรายละเอียดวัน/เวลาทาการ)
………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………
4. กรณียื่นขอรับใบอนุญาตเป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ประเภทที่มีผู้ดาเนินการ
กิจการสปา กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
มีผู้ดาเนินการ (1) ชื่อ…………………….…………… สกุล………………….....….สัญชาติ ………………… อายุ ………….. ปี
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าว
ใบอนุญาตให้ดาเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เลขที่……...........................................…......................
ออกให้ ณ วันที่ …………….................… เดือน ………...........…………….……พ.ศ. …………...........................….……..
วัน/เวลาที่ให้บริการเป็นผู้ดาเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (โปรดระบุรายละเอียดวัน/เวลาทาการ)
………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………

๘๒ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


อยู่บ้านเลขที่ …………….. หมู่ที่ ……… ซอย/ตรอก ……………………………. ถนน ………..............………………………
ตาบล/แขวง …………….……………………. อาเภอ/เขต ………………..……………จังหวัด …………………………………….
รหัสไปรษณีย…์ …………………โทรศัพท์ ……………...........…..……….โทรสาร…………..…………………….…………………
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์…………………….......................................................................................………………………
ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ........................................
(2) ชื่อ…………………….…………… สกุล………………….....….………. สัญ ชาติ ……………………….. อายุ ………..…… ปี
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าว
ใบอนุญาตให้ดาเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เลขที่……...........................................…......................
ออกให้ ณ วันที่ …………….................… เดือน ………...........…………….……พ.ศ. …………...........................….……..
วัน/เวลาที่ให้บริการเป็นผู้ดาเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (โปรดระบุรายละเอียดวัน/เวลาทาการ)
………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………
อยู่บ้านเลขที่ …………….. หมู่ที่ ……… ซอย/ตรอก ……………………………. ถนน ………..............……………………

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ตาบล/แขวง …………….……………………. อาเภอ/เขต ………………..……………จังหวัด ……………………………….
รหัสไปรษณีย…์ …………………โทรศัพท์ ……………...........…..……….โทรสาร…………..………………………………………
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์…………………….......................................................................................………………………
ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ........................................
5. ข้ า พเจ้ า ขอรั บ รองว่ า เป็ น ผู้ มี คุ ณ สมบั ติ แ ละไม่ มี ลั ก ษณ ะต้ อ งห้ า มตาม มาตรา 13
แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559
6. ข้ าพเจ้ าได้ ด าเนิ น การให้ สถานประกอบการเพื่ อสุ ขภาพเป็ นไปตามมาตรฐานที่ ก าหนดใน
กฎกระทรวงซึ่งออกตามมาตรา 26 ครบถ้วนทุกประการแล้ว
7. มีผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการต่อผู้อนุญาต
จานวน…..…….. คน ดังมีรายชื่อตามบัญชีแนบท้าย
8. ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณา จานวน ......... ฉบับ ดังนี้
(1) แผนที่ แ สดงบริ เวณที่ ตั้ ง สถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ พร้ อ มบรรยายสถานที่ ตั้ ง
โดยสังเขป จานวน 1 ฉบับ
(2) แบบแปลน หรือแผนผังการให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จานวน 1 ชุด
(3) กรณียื่นคาขอในนามนิติบุคคลให้แนบสาเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริคนธ์สนธิ
พร้อ มบัญ ชีผู ้ถ ือ หุ ้น วัต ถุป ระสงค์แ ละผู ้ม ีอ านาจลงชื ่อ แทนนิต ิบ ุค คล (ตามที ่ก าหนดในกฎกระทรวง)
จานวน 1 ฉบับ

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๘๓


(4) เอกสารแสดงความเป็ น เจ้ าของอาคาร สถานที่ ที่ ตั้ งสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
หรือหนังสือแสดงความยินยอมของเจ้าของอาคารหรือสถานที่ที่ตั้งสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือหลักฐาน
การแสดงกรรมสิทธิ์ของอาคารหรือสถานที่ตั้งสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ในกรณีที่ผู้ยื่นคาขอไม่ใช่เจ้าของ
อาคารหรือสถานที่ตั้ง) จานวน 1 ชุด
(5) บัญชีรายชื่อผู้ให้บริการ จานวน 1 ฉบับ
(6) สาเนาใบอนุญาตของผู้ดาเนินการและใบรับรองของผู้ให้บริการทุกคน คนละ 1 ฉบับ
(7) สาเนาบัตรประจาตัวประชาชนของผู้ประกอบการ ผู้ดาเนินการและผู้ให้บริการทุกคน
คนละ 1 ฉบับ
(8) สาเนาทะเบียนบ้านของผู้ประกอบการ 1 ฉบับ
(9) ใบรับรองแพทย์ของผู้ประกอบการ 1 ฉบับ (ออกให้ไม่เกินหกเดือนนับถึงวันยื่น)
(10) แบบแสดงความจานงเป็นผู้ดาเนินการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพนั้นจานวน 1 ฉบับ
(กรณีขอใบอนุญาตกิจการสปา)
(11) หลักฐานอื่นๆ (ถ้ามี) เช่น ใบสาคัญการเปลี่ยนชื่อ – สกุล ทะเบียนสมรส เป็นต้น
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

ลงชื่อ………….………..……………………………….ผู้ยื่นคาขอ/ผู้รับมอบอานาจ
(……………….…………….………………………)

๘๔ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


สพส. 2

แบบใบรับคำขออนุญำต
ประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพือ่ สุขภำพ

ชื่อผู้ขออนุญาต .....................................................................................................................................................
สถานที่ชื่อ ............................................................................................................................................................
ประเภทกิจการที่ยื่นคาขอ กิจการสปา กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ………

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ประเภทของการยื่นคาขอ
คาขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
คาขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
คาขอโอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
คาขอรับโอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพกรณี
ผู้รับอนุญาตถึงแก่ความตาย
คาขอรับใบแทนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ค าขอเป ลี่ ย น แป ลงแก้ ไ ขรายการใน ใบ อนุ ญ าตป ระกอบ กิ จ การ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

เลขที่รับ .................................................................. วันทีร่ บั เรือ่ ง ..............................................................

ผลกำรตรวจสอบคำขออนุญำต
เอกสารครบถ้วน ถูกต้อง

เอกสารหลักฐานไม่ครบตามข้อกาหนด ให้เพิ่มเติมให้ครบถ้วนถูกต้อง ดังนี้


..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................

ลงชื่อ .......................................... ผู้ยื่นคาขอ ลงชื่อ ......................................ผู้อนุญาต/ผู้อนุญาตมอบหมาย

วันที่ ............... / ........................ / .............


พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๘๕
สพส. 3

ประเภท กิจการสปา
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ เลขที่รับ……………………………….
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม วันที่…………………………………
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน ลงชื่อ………………………ผู้รับคาขอ
กฎกระทรวง ………………………
คำขอต่ออำยุใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
เขียนที่ ………………………………………………..
……………………………..………………..
วันที่ ….….. เดือน ….……………. พ.ศ. ….…..

๑. ข้าพเจ้า
 ๑.๑ ชื่อ ………………………………………………………………………………………………………………..
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
สัญชาติ …………………..… อายุ …… ปี ซึ่งเป็นผู้ยื่นคาขอ/ผูร้ ับมอบอานาจ (กรณีเป็นผู้รับมอบอานาจต้องแนบใบมอบอานาจด้วย)
 ๑.๒ นิตบิ ุคคล………..……………….…………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………………………………………………………………………………..………………..………………….…………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (๒) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (3) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
เป็นผู้มีอานาจลงชื่อแทนนิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาต เป็นนิติบุคคลประเภท ………………………..…………….……….
จดทะเบียนเมื่อ…………………………….………...……..…..เลขทะเบียน …….……………………………………….……………….

2. ข้าพเจ้าได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ตามใบอนุญาตเลขที่ .................................................................
เป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม
กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง

๘๖ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


โดยใช้ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นภาษาไทย ว่า
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ภาษาต่างประเทศ (ถ้ามี) ว่า
…………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………
สถานที่ตั้งอยูเ่ ลขที่ ……………..….…….. หมู่ที่ ……………………………… ซอย/ตรอก …………….....………………….....
ถนน ……..............................……………ตาบล/แขวง ….………….……….อาเภอ/เขต …………..……..………….………..
จังหวัด ………………………………….รหัสไปรษณีย์….……………………………………………………………………….……….…
โทรศัพท์ ….………………………..…..…………โทรสาร……………………………………………………………..…..……………….
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์………………………………………………….………………………….………………………………………..
ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ........................................................................................................
วัน/เวลาที่เปิดให้บริการ (โปรดระบุรายละเอียดวัน/เวลาทาการ)
………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
3. ข้าพเจ้าขอยื่นคาขอต่ออายุใบอนุญาตสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญั ติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 เพื่อขอต่ออายุใบอนุญ าตประกอบกิจการสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ ตามข้อ 2
4. ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณา จานวน ......... ฉบับ ดังนี้
(1) ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (เดิม)
(2) กรณี ที่ ห ลั ก ฐานและเอกสารที่ ยื่ น ไว้ในการขออนุ ญ าตมี ก ารแก้ ไข หรือ เปลี่ ย นแปลง
ผู้ยื่นคาขอต้องยื่นหลักฐานและเอกสารที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงด้วย
(3) สาเนาบัตรประจาตัวประชาชนของผู้ประกอบการ ผู้ดาเนินการและผู้ให้บริการทุกคน
คนละ 1 ฉบับ
(4) สาเนาทะเบียนบ้านของผู้ประกอบการ
(5) ใบรับรองแพทย์ของผู้ประกอบการ 1 ฉบับ (ออกให้ไม่เกินหกเดือนนับถึงวันยื่น)
(6) แบบแปลนเพิ่มเติม (กรณีมีการปรับ/ลดพื้นที่)
(7) เอกสารอื่นๆ (ระบุ).....................................................................................................

ลงชื่อ………….………………………..….……….ผู้ยื่นคาขอ/ผู้รับมอบอานาจ
(……….……………….…..……………………)

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๘๗


สพส. 4

ประเภท กิจการสปา เลขทีร่ ับ……………………………….


กิจการนวดเพื่อสุขภาพ วันที่…………………………………
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม ลงชื่อ………………………ผู้รับคาขอ
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน
กฎกระทรวง ………………………

คำขอโอนใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
เขียนที่ ………………………………………………..
……………………………..………………..
วันที่ …….. เดือน ….……………. พ.ศ. ….…..

๑. ข้าพเจ้า (ผู้โอน)
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

๑.๑ ชื่อ ………………………………………………………………………………………………………………..


บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
สัญชาติ ………………………..……..… อายุ …………………… ปี
๑.๒ นิตบิ ุคคล………..……………….…………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………………………………………………………………………………..………………..………………….…………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
(๒) ………………………………………………………………………………………………….………..…………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (3) …………………………………………………………………………………………..………………..………………….…………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
เป็นผู้มีอานาจลงชื่อแทนนิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาต เป็นนิติบุคคลประเภท ………………………..…………….……….
จดทะเบียนเมื่อ…………………………….………...……..…..เลขทะเบียน …….……………………………………….……………….

2. ข้าพเจ้าได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ตามใบอนุญาตเลขที่ .................................................................
เป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง

๘๘ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


โดยใช้ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นภาษาไทย ว่า
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ภาษาต่างประเทศ (ถ้ามี) ว่า
…………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………
สถานที่ตั้งอยูเ่ ลขที่ ……………..….…….. หมู่ที่ ……………………………… ซอย/ตรอก …………….....………………….....
ถนน ……..............................……………ตาบล/แขวง ….………….……….อาเภอ/เขต …………..……..………….………..
จังหวัด ………………………………….รหัสไปรษณีย์….……………………………………………………………………….……….…
โทรศัพท์ ….………………………..…..…………โทรสาร……………………………………………………………..…..……………….
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์………………………………………………….………………………….………………………………………..
ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ........................................................................................................
วัน/เวลาที่เปิดให้บริการ (โปรดระบุรายละเอียดวัน/เวลาทาการ)
………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
3. ข้าพเจ้ามีความประสงค์ขอโอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ดังกล่าวข้างต้น ให้แก่
๑.๑ ชื่อ ………………………………………………………………………………………………………………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
สัญชาติ ………………………..……..… อายุ …………………… ปี
๑.๒ นิติบุคคล………..……………….…………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………………………………………………………………………………..………………..………………….…………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
(๒) …………………………..…………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (3) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
เป็นผู้มีอานาจลงชื่อแทนนิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาต เป็นนิติบุคคลประเภท ………………………..…………….……….
จดทะเบียนเมื่อ…………………………….………...……..…..เลขทะเบียน …….……………………………………….……………….

4. พร้อมกับคาขอนี้ ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่างๆ มาด้วย จานวน ............... ฉบับ คือ


ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
สาเนาบัตรประจาตัวประชาชนและสาเนาทะเบียนบ้านของผู้รับโอน
ใบรับรองแพทย์ของผู้รับโอน (ออกให้ไม่เกินหกเดือนนับถึงวันยื่น)
เอกสารที่เป็นหลักฐานเกี่ยวข้องกับการโอนกรรมสิทธิ์

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๘๙


ส าเนาหนั ง สื อ รั บ รองหรื อ หลั ก ฐานการเป็ น นิ ติ บุ ค คล ซึ่ ง แสดงรายการเกี่ ย วกั บ ชื่ อ
วัตถุประสงค์ ที่ตั้งสานักงาน และผู้มีอานาจลงนามผูกพันนิติบุคคลที่เป็นปัจจุบัน
เอกสารแสดงความเป็ น เจ้ า ของอาคาร สถานที่ ที่ ตั้ งสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
หรือหนังสือแสดงความยินยอมของเจ้าของอาคารหรือสถานที่ที่ตั้งสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือหลักฐาน
การแสดงกรรมสิทธิ์ของอาคารหรือสถานที่ตั้งสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ในกรณีที่ผู้ยื่นคาขอไม่ใช่เจ้าของ
อาคารหรือสถานที่ตั้ง จานวน 1 ฉบับ
เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) .................................................
5 . ข้าพเจ้าผู้รับโอนขอรับรองว่า เป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 13 แห่ง
พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559

ลงชื่อ………….………………………………………….ผู้โอน
(……….…………….………….……………………)

ลงชื่อ………….………………………………………….ผู้รับโอน
(……….…………….………….……………………)
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

๙๐ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


สพส. 5

ประเภท กิจการสปา
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ เลขที่รับ……………………………….
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม วันที่…………………………………
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน ลงชื่อ………………………ผู้รับคาขอ
กฎกระทรวง ………………………

คำขอรับโอนใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
กรณีผู้รบั อนุญำตถึงแก่ควำมตำย
เขียนที่ ………………………………………………..
……………………………..………………..
วันที่ …….. เดือน ….……………. พ.ศ. ….…..

๑. ข้าพเจ้า (ผู้จัดการมรดก / ทายาทของผู้รับอนุญาต)

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
๑.๑ ชื่อ ………………………………………………………………………………………………………………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
สัญชาติ ………………………..……..… อายุ …………………… ปี
๑.๒ นิตบิ ุคคล………..……………….…………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………………………………………………………………………………..………………..………………….…………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
(๒) …………………..…………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (3) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
เป็นผู้มีอานาจลงชื่อแทนนิติบุคคลผูข้ อรับใบอนุญาต เป็นนิติบุคคลประเภท ………………………..…………….……….
จดทะเบียนเมื่อ…………………………….………...……..…..เลขทะเบียน …….……………………………………….……………….
2. มีความประสงค์ขอประกอบกิจการของ......................................................................................
ผู้ รับ อนุ ญ าตซึ่ ง ถึ งแก่ ค วามตาย ตามใบอนุ ญ าตเลขที่ ....................................... เป็ น สถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๙๑


โดยใช้ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นภาษาไทย ว่า…………………………………………………………………………
ภาษาต่างประเทศ (ถ้ามี) ว่า……………………………………………………………………….………………………………………….
สถานที่ตั้งอยูเ่ ลขที่ ……………..….…….. หมู่ที่ ……………………………… ซอย/ตรอก …………….....………………….......
ถนน ……..............................……………ตาบล/แขวง ….………….……….อาเภอ/เขต …………..……..………….………....
จังหวัด ………………………………….รหัสไปรษณีย์….……………………………………………………………………….……….…..
โทรศัพท์ ….………………………..…..…………โทรสาร……………………………………………………………..…..………………...
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์………………………………………………….………………………….………………………………………….
ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ............................................................................................................
วัน/เวลาที่เปิดให้บริการ (โปรดระบุรายละเอียดวัน/เวลาทาการ) ……………………………………………………………..
3. พร้อมกับคาขอนี้ ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่างๆ มาด้วย จานวน ............... ฉบับ คือ
ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
สาเนาบัตรประจาตัวประชาชนและสาเนาทะเบียนบ้าน
ใบรับรองแพทย์ (ออกให้ไม่เกินหกเดือนนับถึงวันยื่น)
สาเนาใบมรณะบัตรของผู้รับอนุญาต
เอกสารที่เป็นหลักฐานการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้รับอนุญาต
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

เอกสารที่เป็นหลักฐานการเป็นทายาทของผู้รับอนุญาต
ส าเนาหนั ง สื อ รั บ รองหรื อ หลั ก ฐานการเป็ น นิ ติ บุ ค คล ซึ่ ง แสดงรายการเกี่ ย วกั บ ชื่ อ
วัตถุประสงค์ ที่ตั้งสานักงาน และผู้มีอานาจลงนามผูกพันนิติบุคคลที่เป็นปัจจุบัน
เอกสารแสดงความเป็ น เจ้ าของอาคาร สถานที่ ที่ ตั้ งสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
หรือหนังสือแสดงความยินยอมของเจ้าของอาคารหรือสถานที่ที่ตั้งสถานประกอบการ
เพื่ อสุ ข ภ าพ ห รื อ ห ลั ก ฐาน การแสดงกรรม สิ ท ธิ์ ข องอาคารห รื อ สถาน ที่ ตั้ ง
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ในกรณีที่ผู้ยื่นคาขอไม่ใช่เจ้าของอาคารหรือสถานที่ตั้ง
จานวน 1 ฉบับ
เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) .................................................
4. ข้ า พเจ้ า ขอรั บ รองว่ า เป็ น ผู้ มี คุ ณ สมบั ติ แ ละไม่ มี ลั ก ษณะต้ อ งห้ า มตามมาตรา 13 แห่ ง
พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559

ลงชื่อ………….………………………………………….ผู้ยื่นคาขอ
(……….…………….………….……………………)

๙๒ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


สพส. 6

ประเภท กิจการสปา เลขทีร่ ับ……………………………….


กิจการนวดเพื่อสุขภาพ วันที่…………………………………
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม ลงชื่อ………………………ผู้รับคาขอ
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน
กฎกระทรวง ………………………

คำขอรับใบแทนใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพือ่ สุขภำพ
เขียนที่ ………………………………………………..
……………………………..………………..
วันที่ …….. เดือน ….……………. พ.ศ. ….…..

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
๑. ข้าพเจ้า
 ๑.๑ ชื่อ ………………………………………………………………………………………………………………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
สัญชาติ ………………………..……..… อายุ …………………… ปี
 ๑.๒ นิตบิ ุคคล………..……………….…………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………………………………………………………………………………..………………..………………….…………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
(๒) ………..……………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (3) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
เป็นผู้มีอานาจลงชื่อแทนนิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาต เป็นนิติบุคคลประเภท ………………………..…………….……….
จดทะเบียนเมื่อ…………………………….………...……..…..เลขทะเบียน …….……………………………………….……………….
2. ข้าพเจ้าได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ตามใบอนุญาตเลขที่ .................................................................
เป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา กิจการนวดเพื่อสุขภาพ
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๙๓


โดยใช้ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นภาษาไทย ว่า
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ภาษาต่างประเทศ (ถ้ามี) ว่า
…………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………
สถานที่ตั้งอยูเ่ ลขที่ ……………..….…….. หมู่ที่ ……………………………… ซอย/ตรอก …………….....………………….....
ถนน ……..............................……………ตาบล/แขวง ….………….……….อาเภอ/เขต …………..……..………….………..
จังหวัด ………………………………….รหัสไปรษณีย์….……………………………………………………………………….……….…
โทรศัพท์ ….………………………..…..…………โทรสาร……………………………………………………………..…..……………….
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์………………………………………………….………………………….………………………………………..
ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ........................................................................................................
วัน/เวลาที่เปิดให้บริการ (โปรดระบุรายละเอียดวัน/เวลาทาการ)
………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

3. ข้าพเจ้ามีความประสงค์ขอใบแทนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
เนื่องจาก
สูญหาย
ถูกทาลาย
ชารุดในสาระสาคัญ ................................................ วันที่ ..............................................
4. พร้อมกับคาขอนี้ ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่างๆ มาด้วย จานวน ............... ฉบับ คือ
ใบแจ้งความว่าใบอนุญาตสูญหายของสถานีตารวจแห่งท้องที่ที่ใบอนุญาตนั้นสูญหาย
(กรณีใบอนุญาตสูญหาย)
ใบอนุญาตที่ถูกทาลาย หรือชารุดบางส่วน (กรณีใบอนุญาตถูกทาลายหรือชารุด)
สาเนาบัตรประจาตัวประชาชน
สาเนาทะเบียนบ้าน
เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) .................................................

ลงชื่อ………….………………………………………….ผู้ยื่นคาขอ
(……….…………….………….……………………)

๙๔ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


สพส. 7

ประเภท กิจการสปา เลขทีร่ ับ……………………………….


กิจการนวดเพื่อสุขภาพ วันที่…………………………………
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม ลงชื่อ………………………ผู้รับคาขอ
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน
กฎกระทรวง ………………………
คำขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงรำยกำรใน
ใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
เขียนที่ ………………………………………………..
……………………………..………………..
วันที่ …….. เดือน ….……………. พ.ศ. ….…..

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
๑. ข้าพเจ้า
 ๑.๑ ชื่อ ………………………………………………………………………………………………………………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
สัญชาติ ………………………..……..… อายุ …………………… ปี
 ๑.๒ นิตบิ ุคคล………..……………….…………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………………………………………………………………………………..………………..………………….…………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (๒) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (3) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
เป็นผู้มีอานาจลงชื่อแทนนิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาต เป็นนิติบุคคลประเภท ………………………..…………….……….
จดทะเบียนเมื่อ…………………………….………...……..…..เลขทะเบียน …….……………………………………….……………….
2. ข้าพเจ้าได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ตามใบอนุญาตเลขที่ .................................................................
เป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา กิจการนวดเพื่อสุขภาพ
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๙๕


โดยใช้ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นภาษาไทย ว่า
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ภาษาต่างประเทศ (ถ้ามี) ว่า
…………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………
สถานที่ตั้งอยูเ่ ลขที่ ……………..….…….. หมู่ที่ ……………………………… ซอย/ตรอก …………….....………………….....
ถนน ……..............................……………ตาบล/แขวง ….………….……….อาเภอ/เขต …………..……..………….………..
จังหวัด ………………………………….รหัสไปรษณีย์….……………………………………………………………………….……….…
โทรศัพท์ ….………………………..…..…………โทรสาร……………………………………………………………..…..……………….
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์………………………………………………….………………………….………………………………………..
ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ........................................................................................................
วัน/เวลาที่เปิดให้บริการ (โปรดระบุรายละเอียดวัน/เวลาทาการ)
………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

3. ข้าพเจ้ามีความประสงค์ขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการในใบอนุญ าตประกอบกิจการสถาน
ประกอบการเพื่อสุขภาพ ดังต่อไปนี้
การเปลี่ยนชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
โดยใช้ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นภาษาไทย ว่า
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ภาษาต่างประเทศ (ถ้ามี) ว่า
…………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………
อื่นๆ…………………………………………………………………………………………….………………………..
…………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………
4. พร้อมกับคาขอนี้ ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่างๆ มาด้วย จานวน ............... ฉบับ คือ
ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
เอกสารที่เป็นหลักฐานเกี่ยวข้องกับการขอเปลี่ยนแปลงรายการ
เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) .................................................

ลงชื่อ………………….………………………………….ผู้ยื่นคาขอ
(………….……...…………….………………………)

๙๖ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


สพส. 8

ประเภท กิจการสปา
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ
เลขที่รับ ..........................
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม
วันที่รับ ...........................
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน
ลงชื่อ ...................ผู้รับคาขอ
กฎกระทรวง ………………………
คำขอรับใบอนุญำตเป็นผูด้ ำเนินกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ

เขียนที่ .....................................................
วันที่ ....... เดือน ...................... พ.ศ. ..............
1. ข้าพเจ้า ...................................................... เลขประจาตัวประชาชน
อายุ ............ ปี สัญชาติ ......................... อยู่บ้านเลขที่ ................ หมู่ที่ .................. ซอย / ตรอก ....................

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ถนน ............................... ตาบล / แขวง ................................ อาเภอ / เขต ......................................................
จังหวัด ............................ รหัสไปรษณีย์ .............................. โทรศัพท์ .............................. โทรสาร ..................
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ......................................ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อนื่ ......................................
เป็นผู้สอบผ่านการประเมินความรู้ความสามารถผู้ดาเนินการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จากกรมสนับสนุน
บริการสุขภาพ ปี ................
ขอรับใบอนุญาตเป็นผูด้ าเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ..................................
2. พร้อมกับคาขอนี้ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มาด้วย จานวน ............... ฉบับ คือ
ส าเนาวุ ฒิ บั ต รหรื อ ประกาศนี ย บั ต รหลั ก สู ต รผู้ ด าเนิ น การที่ ได้ รั บ การรั บ รองจากกรม
สนับสนุนบริการสุขภาพ
รูปถ่าย ขนาด 5x6 เซนติเมตร จานวน 2 รูป ถ่ายไว้ไม่เกินหกเดือน
สาเนาบัตรประจาตัวประชาชน
สาเนาทะเบียนบ้าน
ใบรับรองแพทย์ (ออกให้ให้เกินหกเดือนนับถึงวันยื่น)
หลั ก ฐานการเป็ น ผู้ ส อบผ่ า นการประเมิ น ความรู้ ค วามสามารถผู้ ด าเนิ น การสถาน
ประกอบการเพื่อสุขภาพ จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
หลักฐานอื่นๆ (ถ้ามี) เช่น ใบสาคัญการเปลี่ยนชื่อ – สกุล ทะเบียนสมรส เป็นต้น
3.ข้าพเจ้าขอรับรองว่าเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กาหนดไว้ในมาตรา 21
แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559
(ลายมือชื่อ) ............................................. ผู้ย่นื คาขอ
( ............................................)

สำหรับเจ้ำหน้ำที่
ใบอนุญาตผู้ดาเนินการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เลขที่ ...............

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๙๗


สพส. 9

แบบใบรับคำขออนุญำต
เป็นผู้ดำเนินกำรในสถำนประกอบกำรเพือ่ สุขภำพ

ชื่อผู้ขออนุญาต .................................................................................................................................................
ประเภทกิจการ กิจการสปา
กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ……………………………………..
ประเภทของการยื่นคาขอ
คาขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ดาเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

ค าขอรั บ ใบแทนใบอนุ ญ าตเป็ น ผู้ ด าเนิ น การในสถานประกอบการ


เพื่อสุขภาพ
ค าขอเป ลี่ ย นแป ลงแก้ ไ ขรายการใน ใบ อนุ ญ าตเป็ น ผู้ ด าเนิ น การ
ในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

เลขที่รับ .................................................................. วันทีร่ บั เรือ่ ง ..............................................................

ผลกำรตรวจสอบคำขออนุญำต
เอกสารครบถ้วน ถูกต้อง

เอกสารหลักฐานไม่ครบตามข้อกาหนด ให้เพิ่มเติมให้ครบถ้วนถูกต้อง ดังนี้


..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................

ลงชื่อ .......................................... ผู้ยื่นคาขอ ลงชื่อ ......................................ผู้อนุญาต/ผู้อนุญาตมอบหมาย


วันที่ ............... / ........................ / .............

๙๘ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


สพส. 10

ประเภท กิจการสปา
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ เลขที่รับ ..........................
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม วันที่รับ ...........................
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน ลงชื่อ ...................ผู้รับคาขอ
กฎกระทรวง ………………………

คำขอรับใบแทนใบอนุญำตเป็นผูด้ ำเนินกำรในสถำนประกอบกำรเพือ่ สุขภำพ

เขียนที่ .....................................................
วันที่ ....... เดือน ...................... พ.ศ. ..............

1. ข้าพเจ้า ......................................................... เลขประจาตัวประชาชน

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
อายุ ............ ปี สัญชาติ ..................... ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ดาเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง .........................................
ตามใบอนุญาตที่ ............................................ ออกให้ ณ วันที่ ........... เดือน ............................. พ.ศ. ..............
2. มีความประสงค์ขอใบแทนใบอนุญาต เนื่องจาก
สูญหาย
ถูกทาลาย
ชารุดในสาระสาคัญ.................................................... วันที่ .................................................
3. พร้อมกับคาขอนี้ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มาด้วย จานวน ............... ฉบับ คือ
รูปถ่าย ขนาด 5x6 เซนติเมตร จานวน 2 รูป ถ่ายไว้ไม่เกินหกเดือน
สาเนาบัตรประจาตัวประชาชน
สาเนาทะเบียนบ้าน
ใบแจ้ งความว่ าใบอนุ ญ าตสู ญ หายของสถานี ต ารวจแห่ งท้ อ งที่ ที่ ใบอนุ ญ าตนั้ น สู ญ หาย
(กรณีใบอนุญาตสูญหาย)
ใบอนุญาตเป็นผูด้ าเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (กรณีชารุด)
เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) .................................................

(ลายมือชื่อ) ............................................. ผู้ดาเนินการ


( ............................................)

(ลายมือชื่อ) ............................................
( ............................................) ผู้รับอนุญาต

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๙๙


สพส. 11

ประเภท กิจการสปา
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ เลขที่รับ ..........................
กิจการนวดเพือ่ เสริมความงาม วันที่รับ ...........................
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน ลงชื่อ ...................ผู้รับคาขอ
กฎกระทรวง ………………………

คำขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขรำยกำรในใบอนุญำตเป็นผูด้ ำเนินกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ

เขียนที่ .....................................................
วันที่ ....... เดือน ...................... พ.ศ. ..............
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

1. ข้าพเจ้า ......................................................... เลขประจาตัวประชาชน


อายุ ............ ปี สัญชาติ ........................ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ดาเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา
กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง .........................................
ตามใบอนุญาตที่ ............................................ ออกให้ ณ วันที่ ........... เดือน ............................. พ.ศ. ..............
2. มีความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาต ดังต่อไปนี้
การเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล ของผู้ดาเนินการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เป็น ..................
อื่นๆ
3. พร้อมกับคาขอนี้ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มาด้วย จานวน ............... ฉบับ คือ
ใบอนุญาตเป็นผู้ดาเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
เอกสารที่เป็นหลักฐานเกี่ยวข้องกับการขอเปลี่ยนแปลง เช่น ใบสาคัญการเปลี่ยนชื่อ - สกุล
เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) .................................................

(ลายมือชื่อ) .............................................ผู้ยื่นคาขอ
( ............................................)

๑๐๐ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


สพส. 12

ประเภท กิจการสปา
เลขที่รับ ..........................
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ
วันที่รับ ...........................
กิจการนวดเพื่อเสริมวามงาม
ลงชื่อ ...................ผู้รับคาขอ
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน
กฎกระทรวง ………………………

คำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
เขียนที่.............................................
วันที่.............เดือน............................................พ.ศ. ............
1. ข้าพเจ้า ชื่อ .............................................................................................................................
หมายเลขประจ าตั ว ประชาชนเลขที่ สั ญ ชาติ ..........................

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
อยู่บ้านเลขที่ ................ หมู่ที่ .................. ซอย / ตรอก ............................... ถนน ............................................
ตาบล / แขวง ................................ อาเภอ / เขต ......................................................จังหวัด ............................
รหัสไปรษณีย์ ................................... โทรศัพท์ .............................. โทรสาร ................................................
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ...................................... ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ..............................
2. มีความประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา นวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อเสริมความงาม กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ......
3. พร้อมกับคาขอนี้ ข้าพเจ้าได้แนบหลักฐานต่างๆ มาด้วย คือ
รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 1 นิ้ว ซึ่งถ่ายมาแล้วไม่เกินหกเดือน จานวน 2 รูป
สาเนาบัตรประจาตัวประชาชน
สาเนาทะเบียนบ้าน
สาเนาวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพที่ได้รับการรับรอง
จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ใบรับรองแพทย์ (ออกให้ไม่เกินหกเดือนนับถึงวันยื่น)
หลักฐานอื่นๆ (ถ้ามี) เช่น ใบสาคัญการเปลี่ยนชื่อ – สกุล เป็นต้น
4. ต้องคาพิพากษา
ไม่เคยต้องคาพิพากษา
เคยต้องคาพิพากษาหรือคาสั่งศาลให้ลงโทษถึงที่สุดในความผิดฐาน ..............................................
พ้นโทษเมื่อ ................................................................................................................................................
5. ข้าพเจ้าขอรับรองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559

ลายมือชือ่ .......................................................ผู้ยื่นคาขอ
(.....................................................)

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๐๑


สพส. 13

แบบใบรับคำขอขึ้นทะเบียน
เป็นผู้ให้บริกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ

ชื่อผู้ขอขึ้นทะเบียน ..............................................................................................................................................
ประเภทกิจการ กิจการสปา นวดเพื่อสุขภาพ
นวดเพื่อเสริมความงาม กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ……
ประเภทของการยื่นคาขอ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

คาขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
คาขอรับใบแทนใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ
ค าขอเปลี่ ย นแปลงแก้ ไขรายการใบรั บ รองการขึ้ น ทะเบี ย นเป็ น ผู้ ให้ บ ริ ก าร
ในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

เลขที่รับ .................................................................. วันทีร่ บั เรือ่ ง ..............................................................

ผลกำรตรวจสอบคำขอขึ้นทะเบียน
เอกสารครบถ้วน ถูกต้อง

เอกสารหลักฐานไม่ครบตามข้อกาหนด ให้เพิ่มเติมให้ครบถ้วนถูกต้อง ดังนี้


..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................

ลงชื่อ .......................................... ผู้ยื่นคาขอ ลงชื่อ ......................................ผู้อนุญาต/ผู้อนุญาตมอบหมาย

วันที่ ............... / ........................ / .............


๑๐๒ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
สพส. 14

กระทรวงสาธารณสุข

ใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

ใบรับรองเลขที่ ……………….

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ใบรับรองฉบับนี้ให้ไว้เพื่อแสดงว่า

....................................................................................

ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 โดยได้รับวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรด้านการบริการ
หลักสูตร ............................................................................................................................................................

ออกให้ ณ วันที่ ... เดือน ........ พ.ศ. ....

ลงชื่อ .....................................................
ผู้อนุญาต

รูปถ่าย
ขนาด 1 นิ ้ว

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๐๓


สพส. 15

ประเภท กิจการสปา เลขที่รับที่ .............../..............


กิจการนวดเพื่อสุขภาพ วันที่ .........................................
กิจการนวดเพื่อเสริมวามงาม ลงชื่อ....................... ผู้รับคาขอ
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน
กฎกระทรวง ………………………

คำขอรับใบแทนใบรับรองกำรขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
เขียนที่ ...........................................
วันที่ .......... เดือน ................... ปี ......................
1. ข้าพเจ้า ชื่อ ...........................................................................................................................................
เลขประจาตัวประชาชน อายุ ............ ปี สัญชาติ .........................
บ้ า นเลขที่ ................ หมู่ ท่ี .................. ซอย / ตรอก ............................... ถนน ...............................
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

ตาบล/แขวง ................................ อาเภอ / เขต ..................................................... จังหวัด ............................


รหัสไปรษณี ย์ ............................................. โทรศัพ ท์ .............................. โทรสาร .................. ................
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ...................................... ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ................................
2. ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ใบรับรองเลขที่............................
3. มีความประสงค์จะขอรับใบแทนใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
เนื่องจาก สูญหาย
ถูกทาลาย
ชารุดในสาระสาคัญ
4. พร้อมกับคาขอนี้ ข้าพเจ้าได้แนบหลักฐานต่างๆ มาด้วยคือ
รูปถ่าย ขนาด 1 นิ้ว จานวน 2 รูป (หน้าตรง ไม่สวมหมวก )
สาเนาบัตรประจาตัวประชาชน
สาเนาทะเบียนบ้าน
ใบแจ้ ง ความว่ า ใบรั บ รองสู ญ หายของสถานี ต ารวจแห่ ง ท้ อ งที่ ที่ ใบรั บ รองนั้ น สู ญ หาย
(กรณีใบรับรองสูญหาย)
ใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผูใ้ ห้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (กรณีชารุด)
เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) .................................................

ลงชื่อ................................................................. ผู้ยื่นคาขอ
(.................................................................)

๑๐๔ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


สพส. 16

เลขที่รับ ..........................
ประเภท กิจการสปา
วันที่รับ ...........................
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ
ลงชื่อ ...................ผู้รับคาขอ
กิจการนวดเพื่อเสริมวามงาม
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน
กฎกระทรวง ………………………

คำขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขรำยกำรในใบรับรองกำรขึ้นทะเบียน
เป็นผู้ให้บริกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ

เขียนที่ .....................................................
วันที่ ....... เดือน ...................... พ.ศ. ..............

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
1. ข้าพเจ้า ชื่อ ..........................................................................................................................................
เลขประจาตัวประชาชน อายุ .................. ปี สัญชาติ .................................
ได้รับใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ประเภท กิจการสปา นวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อเสริมความงาม
กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง .........................................
ตามใบรับรองที่ ............................................ ออกให้ ณ วันที่ ........... เดือน ............................. พ.ศ. ..............
2. มีความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบรับรอง ดังต่อไปนี้
การเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล ของผูใ้ ห้บริการ เป็น ................................................................
อื่นๆ
3. พร้อมกับคาขอนี้ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มาด้วย จานวน ............... ฉบับ คือ
ใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
เอกสารที่เป็นหลักฐานเกี่ยวข้องกับการขอเปลี่ยนแปลง เช่น ใบสาคัญการเปลี่ยนชื่อ สกุล
เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) .................................................

(ลายมือชื่อ) .............................................ผู้ยื่นคาขอ
( ............................................)

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๐๕


สพส. 17

(1) ใบอนุญาตสถานประกอบการ
ประเภท กิจการสปา
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ เลขที่รับ ..........................
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม วันที่รับ ...........................
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน ลงชื่อ ...................ผู้รับคาขอ
(2) ใบอนุญาตผู้ดาเนินการ
กฎกระทรวง ……………………… แบบคำขอชำระค่ำธรรมเนียม
ตำมพระรำชบัญญัตสิ ถำนประกอบกำรเพือ่ สุขภำพ พ.ศ. 2559
เขียนที่...............................................................................
วันที.่ .......... เดือน..................................... พ.ศ. .............................…
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

1. ข้าพเจ้า
1.1 ชื่อ...................................................................................................................................................................
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
สัญชาติ...............................อายุ..........ปี ซึ่งเป็นผู้ยื่นคาขอ/ผู้รับมอบอานาจ (กรณีเป็นผู้รับมอบอานาจต้องแนบใบมอบอานาจด้วย)
1.2 นิติบุคคล...........................................................................................................................................
โดย (1) ................................................................................................................................................................
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
(2) ........................................................................................................................................................................
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (3) ..................................................................................................................................................................
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
เป็นผู้มีอานาจลงชื่อแทนนิติบุคคลผู้ขอชาระค่าธรรมเนียม เป็นนิติบุคคลประเภท..............................................
จดทะเบียนเมื่อ......................................................เลขทะเบียน.................................................................................
2. ข้อมูลใบอนุญาต (แล้วแต่กรณี)
(1) ข้าพเจ้าได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามพระราชบัญญัติสถาน
ประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ตามใบอนุญาตเลขที.่ ..........................................................................................
ขนาดพื้นที่การให้บริการของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ...............................................ตารางเมตร

๑๐๖ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


(2) ข้ า พเจ้ า ได้ รั บ อนุ ญ าตด าเนิ น การสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพตามพระราชบั ญ ญั ติ ส ถาน
ประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ตามใบอนุญาตเลขที่...........................................................................................
3. ข้ า พเจ้ า มี ค วามประสงค์ ข อช าระค่ า ธรรมเนี ย มตามพระราชบั ญ ญั ติ ส ถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
พ.ศ.2559 ดังนี้
ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นเงิน.......................บาท

ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตผู้ดาเนินการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นเงิน 1,000 บาท

ค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นเงิน..............บาท

ค่าธรรมเนียมใบแทนใบอนุญาตเป็นเงิน 300 บาท

ค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาตเป็นเงิน 300 บาท

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ประจาปี...........เป็นเงิน...............บาท

ลงชื่อ.....................................................ผู้ยื่นคาขอ/ผู้รับมอบอานาจ
(....................................................)

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๐๗


สพส. 18

กรม/สสจ.
เลขที่รับคาขอ .......................... ออกให้ ณ ที่ ......................................
วันที.่ .......... เดือน....................... พ.ศ.....

หลักฐานการชาระค่าธรรมเนียม
ออกให้แก่ ชื่อ .............................................................................................................
ประเภทกิจการ  สปา  นวดเพื่อสุขภาพ  นวดเพื่อเสริมความงาม
1. ใบอนุญาต/ต่ออายุประกอบกิจการสปา  ใบอนุญาต/ต่ออายุประกอบกิจการนวด
สาหรับพื้นที่การให้บริการ เพื่อสุขภาพสาหรับพื้นที่การให้บริการ
 ไม่เกิน 100 ตร.ม. ฉบับละ 1,000 บ.  ไม่เกิน 100 ตร.ม. ฉบับละ 500 บ.
 ไม่เกิน 200 ตร.ม. ฉบับละ 3,000 บ.  ไม่เกิน 200 ตร.ม. ฉบับละ 1,500 บ.
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

 ไม่เกิน 400 ตร.ม. ฉบับละ 6,000 บ.  ไม่เกิน 400 ตร.ม. ฉบับละ 3,000 บ.
 เกิน 400 ตร.ม.ฉบับละ 10,000 บ.  เกิน 400 ตร.ม. ฉบับละ 5,000 บ.
 ใบอนุญาต/ต่ออายุประกอบกิจการนวด
เพื่อเสริมความงามสาหรับพื้นที่การให้บริการ
 ไม่เกิน 100 ตร.ม. ฉบับละ 500 บ.
 ไม่เกิน 200 ตร.ม. ฉบับละ 1,500 บ.
 ไม่เกิน 400 ตร.ม. ฉบับละ 3,000 บ.
 เกิน 400 ตร.ม. ฉบับละ 5,000 บ.

2.  ใบอนุญาตเป็นผู้ดาเนินการ ฉบับละ 1,000 บ.


3.  ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 300 บ.
4.  เปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการ ฉบับละ 300 บ.
ในใบอนุญาต

รวมเป็นเงิน .........-ตัวเลข-.......................... (....................ตัวอักษร...................)

ประทับตรากรม/สสจ. ลงชื่อ ……………………………


(....................................................................)
ตาแหน่ง............... ผู้อนุญาต/ผู้รับมอบอานาจ

๑๐๘ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


กรม/สสจ.
เลขที่รับคาขอ .......................... ออกให้ ณ ที่ .......................
วันที่......เดือน................ พ.ศ.....

หลักฐานการชาระค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการรายปี

ออกให้แก่สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ชือ่ .......................................................

ประเภทกิจการ ............................. ตามใบอนุญาตประกอบกิจการที่ .........................

ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เป็นจานวนเงิน ..............- ตัวเลข -......................... (...........- ตัวอักษร-........................)

วันที่ชาระเงิน ................................. วันครบกาหนดชาระในปีถัดไป .........................................

ประทับตรากรม/สสจ. ลงชื่อ ……………………………


(....................................................................)
ตาแหน่ง................ ผู้อนุญาต/ผู้รับมอบอานาจ

* สาหรับใช้เป็นหลักฐานการชาระค่าธรรมเนียม (รายปี) ที่ต้องแสดงไว้ในที่เปิดเผย ณ สถานประกอบการ

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๐๙


ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
สพส. 19

๑๑๐
แบบทะเบียนประวัติผู้รบั บริการ
ในสถานประกอบการเพือ่ สุขภาพ (ประเภทกิจการสปา)
ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป
ชื่อสถานประกอบการ...............................................................................................ใบอนุญาตเลขที่...................................สถานที่ตง้ั ..............................................................
หมู่..............................ถนน...............................................ตาบล/แขวง……………………………………….อาเภอ/เขต.................................จังหวัด...................................................
ประเภทของการให้บริการ
1. ............................................................................................
2. ............................................................................................
3. ............................................................................................

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


4. อื่น ๆ .................................................................................
ส่วนที่ 2 ข้อมูลผู้รับบริการ
ลาดับที่ ชื่อ-สกุล ผู้รบั บริการ ทีพ่ กั บริการที่ได้รบั วัน/เดือน/ปี เวลาทีร่ บั บริการ ผู้ให้บริการ หมายเหตุ
ที่รบั บริการ (เริ่มต้น - เสร็จสิ้น) (สัญชาติ/กรณีอื่นๆ)

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


๑๑๑
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

๑๑๒ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ประกาศคณะกรรมการ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
เรื่อง หลักเกณฑ์การรับรองวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตร
ที่ผู้ดำเนินการหรือผู้ให้บริการได้รับจากสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ
พ.ศ. ๒๕๕๙

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙ (๓) แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อ


สุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ คณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพจึงกำหนดหลักเกณฑ์การรับรอง
วุฒิบัตร หรือประกาศนียบัตรที่ผู้ดำเนินการหรือผู้ให้บริการได้รับจากสถาบันการศึกษา หน่วยงาน
หรือองค์กรต่าง ๆ ไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่ อสุขภาพ


เรื่ อง หลักเกณฑ์ การรับรองวุฒิ บั ตรหรือประกาศนี ย บั ตรที่ผู้ ดำเนิ น การหรือผู้ให้ บ ริการได้รั บ จาก
สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ พ.ศ. ๒๕๕๙”

ข้อ ๒๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วั น ถัด จากวัน ประกาศในราชกิจ จานุเบกษา


เป็นต้นไป

ข้อ ๓ ในประกาศนี้
“สถาบันการศึกษา” หมายความว่า สถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่
ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย
“หน่วยงาน” หมายความว่า หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่จัดตั้งขึ้น ตาม
กฎหมาย
“องค์กร” หมายความว่า องค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย

ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
“คณะอนุกรรมการ” หมายความว่า คณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการแต่งตั้งให้
ปฏิบัติการตามประกาศนี้
“อธิบดี” หมายความว่า อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

ข้อ ๔ ในกรณีที่มีปัญหาตามประกาศนี้ให้คณะกรรมการเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด

หมวด ๑
การรับรองวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตร


ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๓/ตอนพิเศษ ๓๐๔ ง/หน้า ๕/๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๙

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๑๕


ข้อ ๕ ในการรับรองวุฒิ บัตรหรือประกาศนียบัตรที่ผู้ดำเนินการหรือผู้ ให้ บริการ
ได้รับจากสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ ให้พิจารณาให้ เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน
ตามประกาศนี้ และจะต้องได้รับการรับรองจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

ข้อ ๖ วุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรจากสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กร


ต่าง ๆ ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพให้การรับรองหลักสูตรแล้ว และมิได้ถูกเพิกถอนการรับรอง ให้
ถือว่าเป็นวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพให้การรับรอง

หมวด ๒
สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ

ข้อ ๗ สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ ที่ประสงค์จะจัดการเรียน


การสอนหลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ จะต้องมีคุณสมบัติ มีความพร้อมในการจัดการศึกษา
และมีทรัพยากรด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
(๑) จำนวนอาจารย์ วิทยากรตามหลักเกณฑ์
(๒) คุณวุฒิของอาจารย์ วิทยากรในหลักสูตรที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพกำหนด
(๓) ความพร้อมของอาคารสถานที่สำหรับจัดการเรียนการสอน
(๔) ความพร้อมของครุภัณฑ์และอุปกรณ์
(๕) การเตรียมความพร้อมของแหล่งฝึกปฏิบัติงาน
(๖) อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการกำหนด

ข้อ ๘ สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ ที่ประสงค์จะจัดการเรียน


การสอนหลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ จะต้องมีปณิธานมุ่งผลิตบุคลากรด้านการบริการเพื่อ
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

สุขภาพที่มีความรู้ความสามารถและคุณ สมบัติส อดคล้องกับความต้องการและระบบสุ ขภาพของ


ประเทศ มีระบบบริหารที่ชัดเจนเพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการศึกษาให้บรรลุปณิธาน

ข้อ ๙ สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ ที่ประสงค์จะจัดการเรียน


การสอนหลั กสู ต รด้านการบริก ารเพื่ อสุ ขภาพ จะต้อ งจัด ให้ มีวิท ยากรประจำหลั ก สู ต รต่อ ผู้ เรีย น
ดังต่อไปนี้
(๑) การอบรมภาคทฤษฎี ต้ อ งจั ด ให้ มี วิ ท ยากรประจำหลั ก สู ต รต่ อ ผู้ เรี ย น ใน
อัตราส่วน ๑ : ๔๐
(๒) การอบรมภาคปฏิ บั ติ ต้ อ งจั ด ให้ มี วิ ท ยากรประจำหลั ก สู ต รต่ อ ผู้ เรี ย น ใน
อัตราส่วน ๑ : ๑๐

หมวด ๓
หลักสูตร

๑๑๖ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


ข้อ ๑๐ หลักสูตรต้องมีปรัชญาและวัตถุประสงค์ของหลักสูตรที่ชัดเจน สอดคล้อง
กับพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และมาตรฐานทางวิชาการ

ข้อ ๑๑ หลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ ประกอบด้วยหลักสูตร ดังต่อไปนี้


(๑) หลักสูตรนวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพ ๖๐ ชั่วโมง
(๒) หลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพ ๑๕๐ ชั่วโมง
(๓) หลักสูตรผู้ดำเนินการสปาเพื่อสุขภาพ ๑๐๐ ชั่วโมง
(๔) หลักสูตรผู้ให้บริการสปาเพื่อสุขภาพ ๕๐๐ ชั่วโมง
(๕) หลักสูตรการดูแลสุขภาพและความงามสตรีหลังเรือนไฟ ๑๕๐ ชั่วโมง
(๖)๒ หลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพสำหรับผู้พิการทางการเห็น ๒๕๕ ชั่วโมง
(๗) หลักสูตรการนวดด้วยน้ำมันหอมระเหย ๑๕๐ ชั่วโมง
(๘) หลักสูตรการนวดสวีดิช ๑๕๐ ชั่วโมง
(๙) หลักสูตรการบริการเพื่อความงาม ๑๕๐ ชั่วโมง
(๑๐) หลั ก สู ต รนวดไทยเพื่ อ สุ ข ภาพ ๑๐๐ ชั่ ว โมง ต่ อ ยอด ๖๐/๘๐ ชั่ ว โมง
(เทียบเท่าหลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพ ๑๕๐ ชั่วโมง)
(๑๑) หลักสูตรนวดเพื่อสุขภาพขั้นสูง ๖๐๐ ชั่วโมง
(๑๒) หลักสูตรอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการกำหนดเพิ่มเติม
ทั้งนี้ รายละเอียดจำนวนชั่วโมงในการอบรมแต่ละหมวดวิชาในแต่ละหลักสูตรให้
เป็นไปตามที่คณะอนุกรรมการกำหนด
สำหรับหลักสูตรที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการตรวจและประเมินมาตรฐาน
สถานประกอบการกลางและไม่เป็นไปตามประกาศนี้ สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่ าง ๆ
ที่ป ระสงค์ขอรับ รองหลักสู ตรจากกรมสนั บสนุนบริการสุ ขภาพ ให้ ดำเนิน การส่ งเสริมและพัฒ นา
หลักสูตรให้เป็นไปตามมาตรฐานหลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ ตามที่กำหนดไว้ในวรรคหนึ่ง
และวรรคสอง

ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
หมวด ๔
การรับรองหลักสูตร

ข้อ ๑๒ สถาบั น การศึ ก ษา หน่ ว ยงาน หรือองค์ ก รต่ าง ๆ ที่ ป ระสงค์ ขอรับ รอง
หลักสูตรจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะต้องยื่นคำขอรับรองหลักสูตร พร้อมด้วยเอกสารและ
หลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอรับรองที่กำหนดท้ายประกาศนี้


ข้อ ๑๑ (๖) แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เรื่อง
หลัก เกณฑ์ ก ารรับ รองวุฒิ บั ต รหรื อประกาศนี ยบั ต รที่ ผู้ ด ำเนิ น การหรือ ผู้ให้ บ ริก ารได้ รับ จากสถาบั น การศึ กษา
หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๑๗


ข้อ ๑๓ การขอรับรองหลักสูตรของสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรภาครัฐ
ให้หั วหน้าส่วนราชการเป็นผู้ยื่นคำขอรับรองหลักสูตร โดยให้ยื่ น ณ กรมสนั บสนุน บริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข หรือสถานที่อื่นที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพประกาศกำหนด
สำหรับสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรภาคเอกชน ให้ เจ้าของ ผู้จัดการ
หรือผู้แทนนิติบุคคลของสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือ องค์กรเป็นผู้ยื่นคำขอการรับรองหลักสูตร
โดยให้ ยื่น ณ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุ ข หรือสถานที่อื่นที่กรมสนั บ สนุ น
บริการสุขภาพประกาศกำหนด
ทั้งนี้ ผู้ ยื่นคำขอสามารถยื่นแบบคำขอรับ รองหลักสู ตรทางอิเล็กทรอนิ กส์ ได้ตาม
หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด

ข้อ ๑๔ เมื่ออธิบดีได้รับคำขอ พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานแล้ว ให้ตรวจสอบ


ความถูกต้องให้ครบถ้วน หากปรากฏว่าคำขอ เอกสารหรือหลักฐานไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน ให้แจ้ง
ผลการตรวจสอบให้ ผู้ยื่นคำขอทราบภายในสิบห้ าวันทำการนั บแต่วันที่ ยื่น คำขอ พร้อมทั้งกำหนด
ระยะเวลาให้ผู้ยื่นคำขอแก้ไข หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ผู้ยื่นคำขอไม่ดำเนินการแก้ไขให้
ถูกต้องให้ถือว่าผู้ยื่นคำขอทิ้งคำขอและให้อธิบดีจำหน่ายเรื่องออกจากสารบบ และแจ้งเป็นหนังสือให้
ผู้ยื่นคำขอทราบ
กรณีที่เอกสารหลักฐานถูกต้องครบถ้ วนแล้ว ให้อธิบดีส่งคำขอให้ คณะอนุกรรมการ
เพื่อดำเนินการพิจารณาให้เสร็จสิ้นภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำขอ กรณีมีเหตุจำเป็นไม่อาจ
พิ จ ารณาให้ แ ล้ ว เสร็ จ ได้ ภ ายในระยะเวลาดั ง กล่ า ว คณะอนุ ก รรมการโดยความเห็ น ชอบของ
คณะกรรมการอาจขยายระยะเวลาการพิจารณาออกไปได้ไม่เกิ นสามสิบวันนับแต่วันครบกำหนด แต่
ต้ อ งแจ้ ง เป็ น หนั ง สื อ ให้ ผู้ ยื่ น คำขอทราบก่ อ นครบกำหนดระยะเวลาดั ง กล่ า ว แล้ ว จึ ง เสนอให้
คณะกรรมการพิจารณาให้ความเห็นต่อไป

ข้ อ ๑๕ ในกระบวนการรั บ รองหลั ก สู ต ร ให้ พิ จ ารณาการรั บ รองวุ ฒิ บั ต รหรื อ


ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

ประกาศนียบัตร โดยพิจารณารายละเอียดในองค์ประกอบต่าง ๆ ดังนี้


(๑) เป็นหลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ ที่มีมาตรฐานตามเกณฑ์ของหลักสูตร
เป็ นผู้ ดำเนิ น การและผู้ ให้ บริการในสถานประกอบการเพื่ อสุ ขภาพ และมี รายละเอีย ดโครงสร้าง
หลักสูตรตามเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศนี้
(๒) สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ ต้องจั ดการเรียนการสอนที่มี
คุณภาพและเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศนี้

ข้อ ๑๖ เมื่อคณะกรรมการพิ จารณาให้ ความเห็ น แล้ว ให้ อธิบ ดีพิจารณารับ รอง


หรือไม่รับรองหลักสูตรและแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ยื่นคำขอทราบภายในสามสิบวันทำการ
กรณีที่อธิบดีได้พิจารณาให้การรับรองหลักสูตรแล้ ว หากพบว่ามีเหตุอันควรเชื่ อว่า
อาจก่อให้ เกิดผลกระทบต่อ คุณ ภาพและมาตรฐานของการรั บ รองหลั กสู ตร ให้ คณะอนุ กรรมการ
ดำเนินการพิจารณาตรวจสอบใหม่ คณะอนุ กรรมการเสนอผลการพิจารณาต่อคณะกรรมการเพื่อ
พิจารณาให้ความเห็นและอธิบดีอาจมีคำสั่งให้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องได้

๑๑๘ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


หมวด ๕
การเพิกถอน

ข้อ ๑๗ สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ ที่ขาดคุณสมบัติ ไม่ปฏิบัติ


หรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่คณะกรรมการได้กำหนดในการให้การรับรองหลักสูตร ไม่สามารถ
ดำเนินการ ตามเกณฑ์ที่กำหนด ให้คณะอนุกรรมการมีอำนาจสั่งให้สถาบันการศึกษา หน่ว ยงาน หรือ
องค์กรต่าง ๆ ดำเนิ นการแก้ไขให้ ถูกต้อง หากสถาบั นการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ ไม่
ดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด คณะอนุกรรมการอาจเสนอต่อคณะกรรมการให้ความเห็นและอธิบดี
อาจมีคำสั่งเพิกถอนการรับรองนั้น
สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ ที่ถูกเพิ กถอนการรับรองตามวรรค
หนึ่ง มีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุข ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
คำสั่งเพิกถอน
คำวินิจฉัยของปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้เป็นที่สุด

หมวด ๖
บทเฉพาะกาล

ข้อ ๑๘ วุฒิ บัตรหรือประกาศนียบัตรที่ได้รับการรับ รองจากคณะกรรมการตรวจ


และประเมินมาตรฐานสถานประกอบการกลางก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นวุฒิบัตรหรือ
ประกาศนียบัตรที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพให้การรับรองตามประกาศนี้

ข้อ ๑๙ วุฒิ บั ตรหรือประกาศนีย บั ตรที่ผู้ให้ บ ริการได้รับ การอบรมหรือถ่ายทอด

ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ความรู้ตามหลักสูตรของสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือ องค์กรต่าง ๆ ของภาครัฐ (หลักสูตร ๖๐
ชั่ ว โมงขึ้ น ไป) แต่ ยั ง ไม่ ได้ รั บ การรั บ รองจากคณะกรรมการตรวจและประเมิ น มาตรฐานสถาน
ประกอบการกลางก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่กรม
สนั บ สนุ น บริ ก ารสุ ข ภาพให้ ก ารรั บ รองตามประกาศนี้ แต่ ทั้ ง นี้ ใ ห้ บุ ค คลที่ ไ ด้ รั บ วุ ฒิ บั ต รหรื อ
ประกาศนียบัตรดังกล่าวยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการต่อผู้อนุญาตภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน
นับแต่วันที่ประกาศนี้มีผลบังคับใช้

ข้อ ๒๐ วุฒิ บั ตรหรือประกาศนี ยบั ตรที่ผู้ ให้ บ ริการเป็น บุ คคลผู้ พิการทางสายตา


ได้รับการอบรมหรือถ่ายทอดความรู้ตามหลักสูตรของสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ
ทั้ งของภาครั ฐ หรื อ ภาคเอกชน แต่ ยั งไม่ ได้ รั บ การรั บ รองจากคณะกรรมการตรวจและประเมิ น
มาตรฐานสถานประกอบการกลางก่อนวัน ที่พ ระราชบั ญ ญั ตินี้ ใช้บั งคับ ให้ ถือว่าเป็ น วุฒิ บั ตรหรื อ
ประกาศนียบัตรที่กรมสนับสนุนบริ การสุขภาพให้การรับรองตามประกาศนี้ แต่ทั้งนี้ให้บุคคลที่ได้รับ
วุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรดังกล่าว ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการต่อผู้อนุญาตภายในหนึ่งปี
นับแต่วันที่ประกาศนี้มีผลบังคับใช้

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๑๙


ประกาศ ณ วันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
เกียรติภูมิ วงศ์รจิต
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนงานบริการสุขภาพ
ประธานกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

๑๒๐ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


คําขอรับการรับรองหลักสูตร
สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ ที่ผลิตผู้ดําเนินการหรือผู้ให้บริการ
หลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพในความรับรองของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

หลักเกณฑ์ : ให้ยื่นแบบแสดงความจํานงครั้งละ 1 ชุดๆ ละ 1 หลักสูตร


: ถ้าประสงค์ขอรับการรับรองหลายหลักสูตร ให้แยกขอเป็นรายหลักสูตร

1. ชื่อ-สกุลผู้ขอ/หรือนิตบิ ุคคล/บุคคลที่ได้รับมอบหมาย………………………..………………………………
...................................................................................................................................................
2. ชื่อสถาบันการศึกษา/หน่วยงาน/องค์กร …………………………………………………………………………
...............................................................................................................................................
ชื่อภาษาอังกฤษ (ถ้ามี)...............................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................

ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
3. สถานที่ตั้ง...................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
4. หมายเลขโทรศัพท์ .......................................... หมายเลขโทรสาร...............................................
E-mail........................................................................................................................................
5. ประเภทสถาบันการศึกษา/หน่วยงาน/องค์กรต่างๆ ที่ขอรับรองหลักสูตร
หน่วยงานราชการ ต้นสังกัด..........................................................................................
สถาบันการศึกษาภาครัฐ
สถาบันการศึกษาภาคเอกชนที่ได้รับอนุมัติหลักสูตรจากกระทรวงศึกษาธิการ
องค์กรต่างๆ

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๒๑


6. หลักสูตรที่ประสงค์ขอรับการรับรอง
6.1 หลักสูตรนวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพ 60 ชั่วโมง
6.2 หลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง
6.3 หลักสูตรผู้ดําเนินการสปาเพื่อสุขภาพ 100 ชัว่ โมง
6.4 หลักสูตรผู้ให้บริการสปาเพื่อสุขภาพ 500 ชัว่ โมง
6.5 หลักสูตรการดูแลสุขภาพและความงามสตรีหลังเรือนไฟ 150 ชั่วโมง
6.6 หลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพสําหรับผู้พิการทางสายตา 255 ชั่วโมง
6.7 หลักสูตรการนวดด้วยน้ํามันหอมระเหย 150 ชั่วโมง
6.8 หลักสูตรการนวดสวีดิช 150 ชั่วโมง
6.9 หลักสูตรการบริการเพื่อความงาม 150 ชั่วโมง
6.10 หลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพ 100 ชั่วโมง ต่อยอด 60/80 ชั่วโมง
(เทียบเท่าหลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพ 150 ชัว่ โมง)
6.11 หลักสูตรนวดเพื่อสุขภาพขั้นสูง 600 ชั่วโมง
6.12 ระบุ...................................................................................................................
..........................................................................................................................................
7. ชื่อวุฒิการศึกษาของผู้สําเร็จการศึกษา/อบรม หลักสูตรนี้
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
(โปรดแนบสําเนาตัวอย่างใบแสดงวุฒิการศึกษาแนบท้าย)
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

ลงชื่อ ............................................. ผู้ยื่นคําขอ


(..............................................)
วัน/เดือน/ปี .........................................

ลงชือ่ ............................................... ผู้รับคําขอ


(...............................................)
วัน/เดือน/ปี .........................................

๑๒๒ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เลม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๖๕ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๒

ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
เรื่อง หลักเกณฑ์การรับรองวุฒบิ ัตรหรือประกาศนียบัตรที่ผู้ดาเนินการหรือผู้ให้บริการได้รบั จาก
สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562

อาศัยอานาจตามความในมาตรา 9 (3) แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ


พ.ศ. 2559 คณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้ เ รี ย กว่ า “ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
เรื่ อ ง หลั ก เกณฑ์ ก ารรั บ รองวุ ฒิ บั ต รหรื อ ประกาศนี ย บั ต รที่ ผู้ ด าเนิ น การหรื อ ผู้ ใ ห้ บ ริ ก ารได้ รั บจาก
สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้วุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรจากสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ
ที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการตรวจและประเมินมาตรฐานสถานประกอบการกลาง ก่อนวันที่
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ เรื่ อ ง หลั ก เกณฑ์ ก ารรั บ รองวุ ฒิ บั ต รหรือ
ประกาศนียบัตรที่ผู้ดาเนินการหรือผู้ให้บริการได้รับจากสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ
พ.ศ. 2559 ใช้บังคับมีอายุหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ

ประกาศ ณ วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. ๒๕๖2


พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนงานบริการสุขภาพ
ประธานกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๒๓


เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๓๐๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๙

ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
เรื่อง หลักเกณฑ์การทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถของผู้ดําเนินการ
พ.ศ. ๒๕๕๙

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๙ (๔) แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ


พ.ศ. ๒๕๕๙ คณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพจึงกําหนดหลักเกณฑ์การทดสอบและประเมิน
ความรู้ความสามารถของผู้ดําเนินการไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์
การทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถของผู้ดําเนินการ พ.ศ. ๒๕๕๙”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
“คณะอนุกรรมการ” หมายความว่า คณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการแต่งตั้งให้ปฏิบัติการ
ตามประกาศนี้
“ผู้สมัครสอบ” หมายความว่า ผู้สมัครทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถของผู้ดําเนินการ
ในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ข้อ ๔ ในกรณีที่มีปัญหาตามประกาศนี้ให้คณะกรรมการเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
หมวด ๑
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

ข้อ ๕ ผู้สมัครสอบจะต้องมีคณ ุ สมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้


(๑) คุณสมบัติ
(ก) อายุไม่ต่ํากว่า ๒๐ ปีบริบูรณ์
(ข) เป็นผู้ได้รับปริญญาตรีหรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบเท่าได้ไม่ต่ํากว่านี้ ในสาขาวิชา
วิทยาศาสตร์สุขภาพ หรือ
(ค) เป็ น ผู้ ไ ด้ รั บ วุ ฒิ บั ต รหรื อ ประกาศนี ย บั ต รหลั ก สู ต รผู้ ดํ า เนิ น การสปาเพื่ อ สุ ข ภาพ
จํานวน ๑๐๐ ชั่วโมง หรือหลักสูตรผู้ดําเนินการอื่น ๆ จากสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ
ที่ได้รับการรับรองจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ

๑๒๔ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๓๐๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๙
(๒) ลักษณะต้องห้าม
(ก) เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(ข) เป็ น ผู้ เ คยต้ อ งคํ า พิ พ ากษาถึ ง ที่ สุ ด ว่ า เป็ น ผู้ ก ระทํ า ผิ ด ในความผิ ด เกี่ ย วกั บ เพศ
หรื อ ความผิ ด เกี่ ย วกั บ ทรั พ ย์ ต ามประมวลกฎหมายอาญา ความผิ ด ตามกฎหมายเกี่ ย วกั บ ยาเสพติ ด
ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วย
การป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี
(ค) เป็นโรคต้องห้ามดังต่อไปนี้
๑) โรคติดต่ออันเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
๒) โรคพิษสุราเรื้อรัง
๓) โรคติดยาเสพติดให้โทษ
หมวด ๒
การสมัครสอบ

ข้อ ๖ ให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพดําเนินการจัดสอบและประเมินความรู้ความสามารถ
อย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง กําหนดการสอบ วัน เวลา สถานที่สอบและการปฏิบัติในการสอบ ให้เป็นไป
ตามหลักเกณฑ์ วิธกี ารและเงื่อนไขที่คณะอนุกรรมการประกาศกําหนด
ข้อ ๗ ให้ ผู้ ส มั ค รสอบ ยื่ น คํ า ขอรั บ การทดสอบและประเมิ น ความรู้ ค วามสามารถ
ของผู้ดําเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พร้อมด้วยเอกสาร หลักฐานต่าง ๆ ตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะอนุกรรมการประกาศกําหนด
หมวด ๓
การทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถ

ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ข้อ ๘ การทดสอบและประเมิ น ความรู้ ค วามสามารถของผู้ สมั ค รสอบ ลัก ษณะข้ อ สอบ
เป็นแบบปรนัย
ข้อ ๙ หลักเกณฑ์การออกข้อสอบ เนื้อหาของข้อสอบและการดําเนินการออกข้อสอบเพื่อใช้
ทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถของผู้สมัครสอบ ให้เป็นไปตามที่คณะอนุกรรมการกําหนด
หมวด ๔
ผลการทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถ

ข้อ ๑๐ ผู้ ส มั ค รสอบต้ อ งได้ ค ะแนนสอบไม่ ต่ํ า กว่ าร้ อ ยละ ๖๐ ของคะแนนสอบทั้ ง หมด
จึงจะเป็นผู้ผ่านการทดสอบความรู้ความสามารถเป็นผู้ดําเนินการ

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๒๕


เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๓๐๔ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๙
ข้อ ๑๑ หากภายหลังตรวจพบว่าผู้สอบผ่านรายใดขาดคุณสมบัติหรือแสดงเอกสารหลักฐาน
การสมั ค รอั น เป็ น เท็ จ ให้ ถื อ ว่ า ผู้ ส อบผ่ า นรายนั้ น เป็ น ผู้ ข าดคุ ณ สมบั ติ ไม่ ส ามารถขอรั บ ใบอนุ ญ าต
เป็นผู้ดําเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพได้
ข้อ ๑๒ เมื่อผู้สมัครสอบมีผลการสอบตามเกณฑ์ที่กําหนดในข้อ ๑๐ ให้คณะอนุกรรมการ
ดําเนินการประกาศผลสอบ โดยให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพดําเนินการ แจ้งผลการทดสอบและ
ประเมินความรู้ความสามารถของผู้ดําเนินการ เฉพาะผู้ที่ได้รับการประกาศว่าเป็นผู้สอบผ่านการทดสอบ
ความรู้ความสามารถของผู้ดําเนินการ ตามที่อยู่ที่ได้แจ้งไว้
กรณี ที่ ผู้ ส มั ค รสอบไม่ เ ห็ น ด้ ว ยกั บ ผลการทดสอบและประเมิ น ความรู้ ค วามสามารถ
มีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ประกาศผลสอบ
คําวินิจฉัยของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด
บทเฉพาะกาล

ข้อ ๑๓ บุคคลที่ผ่านการประเมินความรู้ความสามารถตามที่คณะกรรมการตรวจและประเมิน
มาตรฐานสถานประกอบการกลางกําหนดและให้การรับรองก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่า
เป็นผู้สอบผ่านการทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถของผู้ดําเนินการตามประกาศนี้ และให้มีสิทธิ
ยื่นคําขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ดําเนินการต่อผู้อนุญาตภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันที่ประกาศนี้
มีผลบังคับใช้

ประกาศ ณ วันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙


เกียรติภูมิ วงศ์รจิต
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนงานบริการสุขภาพ
ประธานกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

๑๒๖ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


เจ้าหน้าที่ผู้รับสมัคร………………….
คําขอรับการทดสอบและประเมินความรูค้ วามสามารถของผูด้ ําเนินการ ภาพถ่าย
ในสถานประกอบการเพือ่ สุขภาพ ขนาด
1 นิ้ว
เขียนที่ ..........................................................................
วันที่ .................เดือน............................พ.ศ.................
1. ข้าพเจ้า นาย/นาง/นางสาว......................................................นามสกุล..........................................................อายุ.....................ปี
เกิดวันที่...........เดือน............................พ.ศ......................สัญชาติ...........................เชื้อชาติ..........................ศาสนา.........................
บัตรประจําตัวประชาชน เลขที่
ที่อยู่ที่ติดต่อได้ เลขที่ ...............................หมู่ที่..............................ซอย/ตรอก................................................................................
ถนน.............................................ตําบล/แขวง.......................................................อําเภอ/เขต.........................................................
จังหวัด.......................................................รหัสไปรษณีย์............................โทรศัพท์........................................................................
โทรสาร..................................................................ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์......................................................................................
2. ข้าพเจ้ามีคุณสมบัตติ ามประกาศข้อ 5 คือ
ได้รบั ปริญญาตรีสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ
ได้รับวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรหลักสูตรผู้ดําเนินการสปาเพื่อสุขภาพ จํานวน 100 ชั่วโมง
ข้าพเจ้าได้แนบหลักฐานประกอบ จํานวน...........................ฉบับ ได้แก่
สําเนาใบปริญญาบัตรสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ
สําเนาใบวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรหลักสูตรผู้ดําเนินการสปาเพื่อสุขภาพ จํานวน 100 ชั่วโมง
สําเนาใบประกาศนียบัตรการผ่านการอบรมหลักสูตรผู้ดําเนินการอื่นๆ (โปรดระบุ)...................................................
รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 1 นิ้ว ไม่สวมหมวก ไม่ใส่แว่นตา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ไม่ใช้รูปถ่ายโพลาลอยด์
ถ่ายไว้ไม่เกิน ๖ เดือน จํานวน ๓ รูป
สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน ใบรับรองแพทย์
เอกสารอื่น ๆ โปรดระบุ.............................................................................................................................................

ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
3. ข้าพเจ้าขอรับรองว่า เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กําหนดไว้ในประกาศข้อ 5
 ต้องรับรองสําเนาถูกต้องเอกสารทุกฉบับที่เป็นสําเนาภาพถ่ายจึงจะถือว่าเอกสารสมบูรณ์
 หากเอกสารทีแ่ นบไม่ครบ จะไม่พิจารณารับสมัคร
 สถานทีท่ ตี่ ้องการสอบจังหวัด............................................................................................................................

ลงชื่อ...............................................................................ผู้สมัคร
(..................................................................................)

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑๒๗


เลม ๑๓๕ ตอนพิเศษ ๓๐๓ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑

ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
เรื่อง หลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ อื่น ๆ เพิ่มเติม

อาศัยอานาจตามความในข้อ 11 (12) แห่งประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการ


เพื่อสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับรองวุฒิบตั รหรือประกาศนียบัตรที่ผู้ดาเนินการหรือผู้ให้บริการได้รบั
จากสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ พ.ศ. 2559 คณะกรรมการสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ เ รี ย กว่ า “ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
เรื่อง หลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ อื่น ๆ เพิ่มเติม”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ ห ลั ก สู ต รนวดฝ่ า เท้ า เพื่ อ สุ ข ภาพส าหรั บ ผู้ พิ ก ารทางการเห็ น 80 ชั่ ว โมง
เป็นหลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ

ประกาศ ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑


พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนงานบริการสุขภาพ
ประธานกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

๑๒๘ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม


พ.ศ. ๒๕๕๙
และที่แก้ไขเพิ่มเติม

พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง
กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข
และระเบียบกระทรวงที่เกี่ยวข้อง

You might also like