Professional Documents
Culture Documents
พรบ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 และแก้ไขเพิ่มเติม โดยกองกฎหมาย กระทรวง สธ. พิมพ์ พ.ค.2563
พรบ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 และแก้ไขเพิ่มเติม โดยกองกฎหมาย กระทรวง สธ. พิมพ์ พ.ค.2563
๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง
กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข
และระเบียบกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
และระเบียบกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
คณะด�ำเนินการ :
นายบุญเลิศ เตียวสุวรรณ นิติกรช�ำนาญการพิเศษ
นางสาวศิริพร รุ่งรัตน์ธวัชชัย นิติกรปฏิบัติการ
นายจักราวุธ จันทานี นิติกร
นางสาวณหทัย สุขเสนา นิติกร
นางสาวเจนจิรา แก้วม่วงพะเนา ปฏิบัติงานด้านกฎหมาย
กองกฎหมาย
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
พฤษภาคม ๒๕๖๓
พระราชบัญญัติ
l พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓
กฎกระทรวง
l กฎกระทรวง (พ.ศ. ๒๕๔๓) ออกตามในพระราชบัญญัติสถานพยาบาล ๒๕
พ.ศ. ๒๕๔๑
l กฎกระทรวง ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๔๓) ออกตามในพระราชบัญญัติสถานพยาบาล ๒๘
พ.ศ. ๒๕๔๑
l กฎกระทรวงว่าด้วยการประกอบกิจการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ๓๒
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
l กฎกระทรวงก�ำหนดลักษณะของสถานพยาบาลและลักษณะการให้บริการ ๔๔
ของสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
l กฎกระทรวงก�ำหนดชนิดและจ�ำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ ๕๔
หรือยานพาหนะที่จ�ำเป็นประจ�ำสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
l กฎกระทรวงก�ำหนดวิชาชีพและจ�ำนวนผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ๗๑
พ.ศ. ๒๕๕๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
l กฎกระทรวงก�ำหนดชื่อสถานพยาบาล และการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับ ๘๑
ชื่อสถานพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลอัตราค่ารักษาพยาบาล
ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่น และสิทธิของผู้ป่วย
พ.ศ. ๒๕๖๒
l กฎกระทรวงว่าด้วยการด�ำเนินการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ๘๖
l กฎกระทรวงว่าด้วยผู้ด�ำเนินการสถานพยาบาลตามประเภท และลักษณะ ๙๐
การให้บริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การก�ำหนดแบบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตาม ๑๐๑
กฎกระทรวงว่าว่าด้วยการประกอบกิจการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ และ
ตามกฎกระทรวงว่าด้วยวิชาชีพ และจ�ำนวนผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไข
เพิ่มเติม
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การก�ำหนดแบบตามกฎกระทรวงว่าด้วย ๑๔๗
การด�ำเนินการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติ
สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การก�ำหนดแบบตามกฎกระทรวง ๑๕๖
ว่าด้วยการจัดให้มีและรายงานหลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
และผู้ป่วยและเอกสารอื่นที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งออก
ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการ ๑๖๕
ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๒ /๒๕๔๑ เรื่อง โรคซึ่งเป็น ๑๖๗
ลักษณะต้องห้ามในการรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้น ๑๖๘
ไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การก�ำหนดลักษณะของสถานพยาบาล ๑๗๕
และมาตรฐานซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วย
สถานพยาบาล
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การก�ำหนดลักษณะของสถานพยาบาล ๑๗๙
และมาตรฐานซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วย
สถานพยาบาล (ฉบับที่ ๒)
ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข
l ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการในการ ๒๗๙
เปรียบเทียบปรับตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
พ.ศ. ๒๕๔๖
พระราชบัญญัติ
สถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๑
สํเป็านันกปีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ ๕๓ ในรัชกาลปัจจุบกันา
สํานัพระบาทสมเด็ จพระปรมินกาทรมหาภูมิพลอดุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัลกยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา าฯ
ให้ประกาศว่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลอันจะเป็นการจํากัด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เสรีภาพในการประกอบกิ กา
จการหรือประกอบอาชี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พและการแข่ งขันโดยเสรีอย่างเป็นกธรรม
า ซึ่งมาตรา
๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่ง
นคณะกรร
กฎหมาย
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอม
ของรัฐสภา ดังต่อไปนีกา้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๑ พระราชบั
มาตรา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา วันถัดจากวันสําประกาศในราชกิ
ญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่ นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จจา กา
นุเบกษาเป็นต้นไป
สํานัมาตรา ๔ ในพระราชบัญกาญัตินี้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“สถานพยาบาล” หมายความว่า สถานที่รวมตลอดถึงยานพาหนะซึ่งจัดไว้เพื่อการ
ประกอบโรคศิลปะตามกฎหมายว่
นคณะกรรมการกฤษฎี กา สําาด้นัวกยการประกอบโรคศิ ลปะ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา การประกอบวิ
สํานัชกาชี พเวชกรรมตาม กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
กฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ตามกฎหมาย
ว่าด้วยวิชาชีพสํการพยาบาลและการผดุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี งครรภ์
กา การประกอบวิ ชาชีพทันตกรรมตามกฎหมายว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าด้วย
วิชาชีพทันตกรรม การประกอบวิชาชีพกายภาพบําบัดตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพกายภาพบําบัด
นคณะกรรมการกฤษฎี
การประกอบวิชาชีพกเทคนิา คการแพทย์
สํานักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ามกฎหมายว่าด้วยวิชกาชี
า พเทคนิคการแพทย์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การประกอบ กา
วิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ตามกฎหมายว่าด้วย
๑
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๕/ตอนที่ ๑๕ ก/หน้า ๓๒/๒๔ มีนาคม ๒๕๔๑
ษฎี
๒ กา
มาตรา ๔ นิยามคํสําาว่นัาก“สถานพยาบาล”
งานคณะกรรมการกฤษฎี
แก้ไขเพิกา่มเติมโดยพระราชบั
สํานักญงานคณะกรรมการก
ญัติสถานพยาบาล
(ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
าด้วยการนั้น ทั้งนี้ โดยกระทํ สํานัธกุรงานคณะกรรมการกฤษฎี
าเป็นปกติ กาตอบแทนหรือสํไม่
ะไม่ว่าจะได้รับประโยชน์ านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“ผู้ป่วย” หมายความว่า ผู้ขอรับบริการในสถานพยาบาล
สํ“ผู
านั้รกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
อนุญาต” หมายความว่กาา ผู้ได้รับใบอนุสําญนัาตให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประกอบกิจการสถานพยาบาล
“ผู้ดําเนินการ” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล
กฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“ผู้ประกอบวิชาชีพ”๓ หมายความว่า ผู้ประกอบโรคศิลปะ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
ผู้ประกอบวิชาชีพสําการพยาบาลและการผดุ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีงกครรภ์า ผู้ประกอบวิ
สํานักชงานคณะกรรมการกฤษฎี
าชีพทันตกรรม ผู้ประกอบวิ
กา ชาชีพ
เภสัชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบําบัด ผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ ผู้ประกอบวิชาชีพ
การแพทย์แผนไทย ผู้ปกระกอบวิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ชาชีพสําการแพทย์ แผนไทยประยุกกต์า หรือผู้ประกอบวิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ชาชีพทางการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แพทย์และสาธารณสุขอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และให้หมายความรวมถึงบุคคลตามมาตรา ๓๑
แห่งกฎหมายว่าด้สํวายการประกอบโรคศิ ลปะ กา
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล หรือ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้เป็นผู้ปฏิบัติการตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระราชบัญญัตินี้
“ผู้อนุี ญาต”๔ หมายความว่ า อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อผู้ซึ่งอธิบดีกรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สนับสนุนบริการสุขภาพมอบหมาย
สํ“คณะกรรมการ” หมายความว่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา า คณะกรรมการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๕ ๕ พระราชบัญ ญัตินี้ มิใ ห้ ใ ช้ บั งคั บแก่ส ถานพยาบาลซึ่ง ดํา เนิ น การโดย
กระทรวง ทบวง สํกรม
านักองค์
งานคณะกรรมการกฤษฎี
กรปกครองส่วนท้อกงถิา ่น รัฐวิสาหกิสํจานัสถาบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
นการศึกษาของรัฐ กหน่ า วยงานอื่น
ของรัฐ สภากาชาดไทย และสถานพยาบาลอื่นซึ่งรัฐมนตรีประกาศกําหนด
กฤษฎี กา
สถานพยาบาลที ่ได้รสํับายกเว้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ลักษณะของสถานพยาบาลและ
นตามวรรคหนึ่ง ต้องมี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรฐานตามหลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก าร และเงื่ อ นไขที่ รั ฐ มนตรี ป ระกาศกํ า หนดโดยคํ า แนะนํ า ของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คณะกรรมการ เว้นแต่สถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองคุณภาพจากหน่วยงานซึ่งผู้อนุญาตกําหนด
เพื่อประโยชน์
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แห่งการคุ
สํานัก้มงานคณะกรรมการกฤษฎี
ครองผู้บริโภคด้านระบบบริ
กา การสุขภาพ สํานักให้ รัฐมนตรีโดย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
คําแนะนําของคณะกรรมการแจ้งให้สถานพยาบาลตามวรรคหนึ่งซึ่งไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขตามวรรคสอง ดําเนินการปรับปรุกงหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า อแก้ไขภายในระยะเวลาที ่กําหนด กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา๖ ให้รัฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัว่ากการกระทรวงสาธารณสุ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาขรักษาการตามพระราชบั ญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
และให้มีอํานาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ออกกฎกระทรวงกําหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้าย
พระราชบัญญัตินสํี้ ายกเว้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
นค่าธรรมเนียม และกํกาาหนดกิจการอื
สํา่นนัตลอดจนออกประกาศเพื
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา่อปฏิบัติการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี๓ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔ นิยามคําว่า “ผู้ประกอบวิชาชีพ” แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
(ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
สํ๔านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔ นิย ามคํา ว่า “ผู้อ นุญ าต” แก้ไ ขเพิ่ม เติม โดยพระราชบัญ ญัติส ถานพยาบาล
(ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
กฤษฎี
๕ กา ๕ แก้ไขเพิ่มเติสํามนัโดยพระราชบั
มาตรา กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ สํ๔)านัพ.ศ.
กงานคณะ
๒๕๕๙
พระราชบัญญัติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กฎกระทรวงหรื สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อประกาศที ่ออกตามพระราชบัญกญัา ตินี้ เมื่อได้ปสํระกาศในราชกิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จจา กา
นุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คณะกรรมการสถานพยาบาล
๖
มาตรากา๗ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่งเรียกว่กาา“คณะกรรมการสถานพยาบาล”
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานกรรมการ อธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการที่
เรียกชื่ออย่างอื่นสํทีา่มนัีกฐงานคณะกรรมการกฤษฎี
านะเป็นกรมทุกกรมในสั กา งกัดกระทรวงสาธารณสุ ข ผู้แทนกระทรวงกลาโหม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
คุ้มครองผู้บริโภค และผูก้แา ทนสถาบันรัสํบารองคุ นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ณภาพสถานพยาบาลกา (องค์การมหาชน) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นกรรมการ กา
โดยตําแหน่ง กับกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคล ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ผู้ประกอบโรคศิลปะโดยคําแนะนําของคณะกรรมการการประกอบโรคศิ ลปะ
จํ า นวนสองคน และผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้ ป ระกอบวิ ช าชี พ โดยคํ า แนะนํ า ของสภาวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ช าชี พ ซึ ่ ง จั ด ตั ้ ง ขึ ้ น ตามกฎหมายเพื ่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ควบคุมการประกอบวิชาชีพนั้น จํานวนหกคน ได้แก่ ผู้แทนแพทยสภา ผู้แทนสภาการพยาบาล ผู้แทน
สภาเภสัชกรรม ผูสํ้แานัทนทั นตแพทยสภา สภาวิกชาาชีพละหนึ่งคน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัและผู ้แทนสภาวิชาชีพอืก่นาเลือกกันเอง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
จํานวนสองคน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด
(๒) ผูก้ทารงคุณวุฒิอื่นจํสํานันวนห้
กฤษฎี าคนซึ่งในจํานวนนีก้จาะต้องแต่งตั้งจากผู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัก้ดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําเนินการสอง กา
คน คณบดีคณะแพทยศาสตร์ในสถาบันอุดมศึกษาหนึ่งคน ผู้แทนสมาคมโรงพยาบาลเอกชนหนึ่งคน
และผู้แทนองค์กสํรเอกชนที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ดําเนินกิจกรรมทางด้ กา านคุ้มครองผูสํานั้บกริงานคณะกรรมการกฤษฎี
โภคหนึ่งคน ทั้งนี้ ตามหลั กา กเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีให้รองอธิ กา บดี ซึ่งอธิบสํดีากนัรมสนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บสนุนบริการสุขภาพมอบหมายเป็ สํานันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
กรรมการและ กา
เลขานุการ และผู้อํานวยการสํานักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สุขภาพเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา ๙ นอกจากการพ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
น จากตํ า แหน่ ง ตามวาระตามมาตรา ๘ กรรมการ กา
ผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๗ พ้นจากตําแหน่ง เมื่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖
มาตรา ๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
กฤษฎี
๗ กา ๘ แก้ไขเพิ่มเติสํามนัโดยพระราชบั
มาตรา กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ สํ๔)านัพ.ศ.
กงานคณะ
๒๕๕๙
๘
มาตรา ๙ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๙ กา ๑๑ แก้ไขเพิ่มสํเติ
มาตรา านัมกโดยพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ญญัติสถานพยาบาล (ฉบับทีสํ่ า๔)นักพ.ศ.
งานคณะกร
๒๕๕๙
พระราชบัญญัติ
สํานักฉุงานคณะกรรมการกฤษฎี
กเฉินจากสถานพยาบาลกา และการกําหนดหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กเกณฑ์การดําเนินการในกรณี เช่นว่าสํนัานั้นกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) เรื่องอื่น ๆ ตามที่รัฐมนตรีหรือผู้อนุญาตมอบหมาย
มาตรากา ๑๓ ในการปฏิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บั ติ ห น้ า ที่ ต ามพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญ ญั ติ นี้ คณะกรรมการและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คณะอนุกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นตามมาตรา ๑๒ มีอํานาจออกคําสั่งเป็นหนังสือเรียกให้บุคคลหนึ่งบุคคล
ใดมาให้ถ้อยคําหรืสํอานัให้กสงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งเอกสารหรือหลักฐานที
กา ่เกี่ยวข้องหรืสํอาสินั่งกใดมาเพื ่อประกอบการพิกจาารณาได้
งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หมวด ๒ กา
การประกอบกิจการสถานพยาบาลและการดําเนินการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕ ให้รัฐมนตรีโดยคําแนะนําของคณะกรรมการมีอํานาจประกาศกําหนด
สํานักมาตรฐานการบริ การของสถานพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๖ ห้ า มมิ ใ ห้ บุ คกคลใดประกอบกิ
า สํานักจงานคณะกรรมการกฤษฎี
การสถานพยาบาล กเว้า น แต่ ไ ด้ รั บ
ใบอนุญาตจากผู้อนุญาต
กฤษฎี
การขอกาการออกใบอนุ สํานัญกาต
งานคณะกรรมการกฤษฎี
และการประกอบกิกจาการสถานพยาบาลประเภทใดให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๐ กา ๑๔/๑ เพิ่มโดยพระราชบั
มาตรา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.
ญญัติสถานพยาบาล สํานั๒๕๕๙
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และไม่มีลักษณะต้องห้ามดังนี้
สํ(๑)
านักมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
อายุไม่ต่ํากว่ายี่สิบปีบริกบา ูรณ์
(๒) มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
กฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ไม่เคยได้รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาหรือคําสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายถึงที่สุดให้
จําคุก เว้นแต่เป็นสํโทษสํ าหรับความผิดที่ได้กระทํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าโดยประมาทหรื
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ความผิดลหุโทษ กา
(๔) ไม่เป็นโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา
(๕) ไม่กเาป็นบุคคลล้มละลาย
กฤษฎี สํานักง
(๖) ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
สํในกรณี ที่นิติบุคคลเป็นผู้ขอรั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาบอนุญาต ผู้จสํัาดนัการหรื อผู้แทนของนิติบุคกคลนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ้นต้องมี
คุณสมบัตแิ ละไม่มีลักษณะต้องห้ามตามวรรคหนึ่งด้วย
มาตรา ๑๘ ในการพิจารณาออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลของผู้
อนุญาต จะต้องปรากฏว่าผู้ขอรับใบอนุญาตได้จัดให้มีกรณีดสํังต่านัอกไปนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้โดยถูกต้องครบถ้วนแล้ว
(๑)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มี แ ผนงานการจั ด ตั ้ ง สถานพยาบาลที ่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไ ด้ ร ั บ อนุ มัติแล้วตามหลั กเกณฑ์ วิธีการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง
สํ(๒)
านักมีงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลตามลักกษณะที า ่กําหนดในกฎกระทรวงที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ออกตามมาตรากา ๑๔
(๓) มีเครื่องมือ เครื่องใช้ เวชภัณฑ์หรือยานพาหนะที่จําเป็นประจําสถานพยาบาล
สํานักนังานคณะกรรมการกฤษฎี
้น ตามชนิดและจํานวนที กา ่กําหนดในกฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) มี ผู้ ป ระกอบวิ ช าชี พ ในสถานพยาบาลตามวิ ช าชี พ และจํ า นวนที่ กํ า หนดใน
กฎกระทรวง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) ชื่อสถานพยาบาลต้องเป็นไปตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เพื่อประโยชน์ สํานัก้มงานคณะกรรมการกฤษฎี
แห่งการคุ ครองผู้บริโภคด้านบริกกาารทางสาธารณสุ สํานักขงานคณะกรรมการกฤษฎี
รัฐมนตรีโดย กา
คําแนะนําของคณะกรรมการมีอํานาจประกาศกําหนดจํานวนสถานพยาบาลที่จะอนุญาตให้ตั้ง หรือมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บริการทางการแพทย์บางประเภทในสถานพยาบาลในท้องที่ใดท้องที่หนึ่งได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๙ ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ให้ใช้ได้จนถึงวันสิ้นปี
ปฏิทินของปีที่สิบสํนัาบนัแต่ ปีที่ออกใบอนุญาต กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคําขอก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ เมื่อได้ยื่นคําขอแล้ว ให้
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้รับอนุญาตประกอบกิจกการสถานพยาบาลต่
า อไปได้ จนกว่าผู้อนุญาตจะสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่งไม่อนุญสําตให้ ต่ออายุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การขอต่ออายุใบอนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา๒๐ ผู้รับอนุญสําาตต้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กเกณฑ์สํวิาธนัีกการ
องชําระค่าธรรมเนียมตามหลั งานคณะกรรมการกฤษฎี
และอัตราที่ กา
กําหนดในกฎกระทรวงตลอดเวลาที ่ยังประกอบกิจการ ถ้สําานัมิกได้งานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ชําระค่าธรรมเนียมภายในเวลาที
กา
่
กําหนด ให้ชําระเงินเพิ่มอีกร้อยละห้าต่อเดือน และถ้ายังไม่ยินยอมชําระค่าธรรมเนียมและเงินเพิ่ม
สํานักหลั งจากพ้นกําหนดหกเดืกาอนให้ผู้อนุญาตดํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัากเนิ นการตามมาตรา ๔๙กต่า อไป
งานคณะกรรมการกฤษฎี
พระราชบัญญัติ
คุณสมบัตแิ ละไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๗ ให้กระทําได้ เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต
สํการขอโอนใบอนุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตให้เป็สํานนัไปตามหลั
ญาตและการอนุ กงานคณะกรรมการกฤษฎี
กเกณฑ์ วิธีการกาและเงื่อนไข
ที่กําหนดในกฎกระทรวง
กงานคณะกรรมการกฤษฎีก
สํมาตรา ๒๒ ถ้าผู้รับอนุญาตตายและมี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บุคสํคลแสดงความจํ านงต่อผู้อกนุาญาตภายใน
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สามสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับอนุญาตตาย เพื่อขอประกอบกิจการที่ผู้ตายได้รับอนุญาตนั้นต่อไป เมื่อผู้
อนุญาตตรวจสอบแล้วว่กาาบุคคลนั้นมีคสํุณานัสมบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ติและไม่มีลักษณะต้อกงห้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า ามตามมาตรา
สํานัก๑๗ ก็ให้ผู้แสดง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความจํานงนั้นประกอบกิจการต่อไปได้จนกว่าใบอนุญาตนั้นสิ้นอายุ ในกรณีเช่นว่านี้ให้ถือว่า ผู้แสดง
ความจํานงเป็นผู้รสํับานัอนุกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญาตตามพระราชบัญญักตา ินี้ ตั้งแต่วันทีสํ่ผาู้รนัับกอนุ ญาตตาย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การแสดงความจํ า นงและการตรวจสอบให้ เ ป็ น ไปตามหลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก าร และ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๓ ผู้รับอนุญาตต้องจัดให้มีผู้ดําเนิสํนานัการคนหนึ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่ง เป็นผู้มีหน้าที่ควบคุม ดูแล
และรั บผิ ดชอบในการดํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าเนิ นการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํมาตรา ๒๔ ห้ามมิให้บุคคลใดดํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าเนินการสถานพยาบาล เว้นแต่ได้รับใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตจาก
ผู้อนุญาต
การขอและการออกใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญ าตให้เ ป็ น ไปตามหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ก เกณฑ์ วิ ธสํี กาาร และเงื่ อ นไขที่
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กําหนดในกฎกระทรวง
สํมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นจากหน้าทีสํ่หารืนัอกไม่
๒๖ ถ้าผู้ดําเนินการพ้ งานคณะกรรมการกฤษฎี
สามารถปฏิบัติหน้าทีก่ไาด้เกินเจ็ดวัน
ผู้รับอนุญาตอาจมอบหมายให้บคุ คลซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา ๒๕ ดําเนินการแทนได้ไม่เกินเก้าสิบวัน
สํานักในกรณี
งานคณะกรรมการกฤษฎี
เช่นว่านี้ให้ผู้ได้รกับามอบหมายให้สํดานัํากเนิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นการแทนแจ้งเป็นหนักงาสือให้ผู้อนุญาตทราบภายในสาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
วันนับแต่วนั ที่เข้าสํดําานัเนิกงานคณะกร
นการแทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๑ กา ๒๕ (๑) แก้ไขเพิ
มาตรา สํานั่มกเติงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับสํทีา่ นั๔)กงานคณะกร
พ.ศ. ๒๕๕๙
สํานักเช่งานคณะกรรมการกฤษฎี
นเดียวกับผู้ดําเนินการกา
สํมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๗ ผู้รับอนุญาต ผูก้ดาําเนินการ และผู
สํานั้ปกระกอบวิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ชาชีพในสถานพยาบาลแห่ ง
หนึ่ง ๆ จะเป็นบุคคลคนเดียวกันก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํมาตรา ๒๘ ใบอนุญาตให้ดกําาเนินการสถานพยาบาลให้
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ใช้ได้จนถึงวันสิ้นกปีา ปฏิทินของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปีที่สองนับแต่ปีที่ออกใบอนุญาต
การขอต่
กฤษฎี กา ออายุใบอนุญ
สําาต ให้ยื่นคําขอก่อนใบอนุญกาาตสิ้นอายุ เมืสํ่อาได้นักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ื่นคําขอแล้วให้ กา
ผู้นั้นดําเนินการสถานพยาบาลต่อไปได้จนกว่าผู้อนุญาตจะสั่งไม่อนุญาตให้ต่ออายุ
สํการขอต่ ออายุใบอนุญาตและการอนุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตสําให้
นักเงานคณะกรรมการกฤษฎี
ป็นไปตามหลักเกณฑ์กวิา ธีการ และ
เงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๙ ในกรณี ที่ ผู้ อ นุ ญ าตไม่ อ อกใบอนุ ญ าต หรื อ ไม่ อ นุ ญ าตให้ ต่ อ อายุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใบอนุญาต ผู้ขอรับใบอนุญาตหรือผู้ขอต่ออายุใบอนุญาต แล้ วแต่กรณี มีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อ
รัฐมนตรีภายในสามสิบวันนับแต่วันทีสํ่ไาด้นัรกับงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แจ้งการไม่ออกใบอนุกญาาตหรือการไม่สําอนันุกญงานคณะกรรมการกฤษฎี
าตให้ต่ออายุ กา
ใบอนุญาต
สํคําานัวิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็กนาที่สุด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ผู้อนุญาตไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต ก่อนที่รัฐมนตรีจะมีคําวินิจฉัย
สํานักอุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทธรณ์ตามวรรคสอง รักฐามนตรีมีอํานาจสั สํานั่งกอนุ ญาตให้ประกอบกิจกการสถานพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี า สํานักหรื อดําเนินการ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สถานพยาบาล แล้วแต่กรณี ไปพลางก่อนได้ เมื่อผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตร้องขอ
มาตรา ๓๐ ในกรณีที่ ใ บอนุ ญ าตสูญ หายหรือ ถูก ทํา ลายในสาระสํา คัญ ให้ผู้ รั บ
สํานักอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา แล้วแต่กรณีสํานัแจ้
ญาตหรือผู้ดําเนินการ กงานคณะกรรมการกฤษฎี
งต่อผู้อนุญาตและยื่นคํกาาขอรับใบแทนใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญาตภายใน กา
สามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับทราบการสูญหายหรือถูกทําลายดังกล่าว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การขอและการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
สํานักทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่กําหนดในกฎกระทรวงกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๒ กา ๓๒ แก้ไขเพิสํ่มาเติ
มาตรา นักมงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับสํทีา่ นั๔)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๕๙ กา
พระราชบัญญัติ
กงานคณะกรรมการกฤษฎ
กําหนดในกฎกระทรวง
สํมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าแนะนําของคณะกรรมการมี
๓๓๑๓ รัฐมนตรีโดยคํ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อํานาจประกาศกํ าหนด
ชนิดหรือประเภทของการรักษาพยาบาล ยาและเวชภัณฑ์ การบริการทางการแพทย์ หรือการบริการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อื่นของสถานพยาบาล และสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งผู้รับอนุญาตจะต้องแสดงตามมาตรา ๓๒ (๓)
สํผูา้รนัั บกงานคณะกรรมการกฤษฎี
อนุญาตจะเรียกเก็บหรืกอายินยอมให้มีกสํารเรี ยกเก็บค่ารักษาพยาบาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ค่ายาและ
เวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ หรือค่าบริการอื่นเกินอัตราที่ได้แสดงไว้มิได้ และต้องให้บริการแก่
ผู้ป่วยตามสิทธิที่ได้แสดงไว้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๓๕ ให้ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการมีหน้าที่และความรับผิดชอบร่วมกัน
ดังนี้
(๑) จัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลตามวิชาชีพและจํานวนที่กําหนดใน
สํานักกฎกระทรวงตลอดเวลาทํ
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาาการ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) จัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยา และเวชภัณฑ์ที่จําเป็นประจําสถานพยาบาลนั้น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามชนิดที่กําหนดในกฎกระทรวง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) จัดให้มีและรายงานหลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลและ
สํานักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ป่วย และเอกสารอื่นทีก่เากี่ยวกับการรัสํกาษาพยาบาลตามหลั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กเกณฑ์ กา วิธีการ และเงื
สํา่อนันไขที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
่กําหนดใน กา
สํ๑๓านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
๑๔
มาตรา ๓๓/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๕ กา ๓๔ แก้ไขเพิสํ่มาเติ
มาตรา นักมงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับสํทีา่ นั๔)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๕๙ กา
ี มและดูแลการประกอบกิ
(๔) ควบคุ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
จการสถานพยาบาลให้ ํ ั
เป็นไปตามมาตรฐานการ
บริการที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดตามมาตรา ๑๕
มาตรา ๓๗ ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการต้องควบคุมดูแลมิให้มีการใช้หรือยินยอม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้ผู้อื่นใช้สถานพยาบาลประกอบกิ กา สํดาประเภทหรื
จการสถานพยาบาลผิ นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บริการ
อผิดลักษณะการให้
ตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาต
พระราชบัญญัติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๐ ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตประสงค์จะเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการของ
สถานพยาบาลให้สํแานัตกต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาต หรืสําอนัก่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
างไปจากที่ระบุไว้ในใบอนุ กา อดัดแปลง
สร้างอาคารขึ้นใหม่ หรื
อาคารเกินกว่าที่กําหนดในกฎกระทรวงเพื่อใช้ในการประกอบกิจการสถานพยาบาลให้กระทําได้เมื่อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต
สํการขอและการอนุ ญาตให้เกป็านไปตามหลัสํกาเกณฑ์
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี วิธีการ และเงื่อนไขที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กําหนดใน
กฎกระทรวง
มาตรา ๔๑ ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตประสงค์จะย้ายสถานพยาบาลไปประกอบกิจการ
ที่อื่น ให้ดําเนินการเสมื อนเป็นผู้ขออนุญาตประกอบกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการสถานพยาบาลใหม่
สํานักงานคณะกรรม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา๔๒ เมื่อมีการเปลี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ยนตัวผู้ประกอบวิชาชีพกาในสถานพยาบาล
สํานักตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๘ กา
(๔) ผู้รับอนุญาตต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้อนุญาตทราบภายในกําหนดสามสิบวันนับแต่วันที่มีการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เปลี่ยนนั้น
มาตรากา๔๔ ผู้รับอนุสํญานัาตผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ใดประสงค์จะเลิกกิกจาการสถานพยาบาล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ต้องแจ้งเป็น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หนังสือและจัดทํารายงานที่จะปฏิบัติเกี่ยวกับผู้ป่วยให้ผู้อนุญาตทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน
สํานัแกละวิ
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ธีการที่กําหนดในกฎกระทรวง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อได้รับแจ้งตามวรรคหนึ่ง ผู้อนุญาตมีอํานาจสั่งให้ผู้รับอนุญาตต้องปฏิบัติอย่าง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนึ่งอย่างใดก่อนเลิกกิกจาการก็ได้ ทั้งสํนีานั้ โดยให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา แ ละส่วนได้
พิจารณาถึงประโยชน์ สํานัเสีกยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ของผู้ป่วยใน กา
สถานพยาบาลนั้นเป็นสําคัญ
สํานักงานคณ
มาตรากา๔๕ ให้ผู้อนุสํญาาตจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดให้พนักงานเจ้าหน้ากทีา่ตรวจลักษณะของสถานพยาบาล
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และการประกอบกิจการของสถานพยาบาลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้โดยสม่ําเสมอ ในการนี้ถ้า
พบว่าสถานพยาบาล สํานักตลอดจนเครื ่องมือ เครืก่อางใช้ ยาและเวชภั
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัณ ฑ์ของสถานพยาบาลนัก้นามีลักษณะที่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่อยู่ในสถานพยาบาลหรือผู้ที่อยู่ใกล้เคียงกับสถานพยาบาล ผู้อนุญาตมี
สํานักอํงานคณะกรรมการกฤษฎี
านาจออกคําสั่งให้ผู้รับกอนุ
า ญาตแก้ไขปรั
สําบนัปรุ งให้เหมาะสมภายในระยะเวลาที
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กําหนดได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้นํามาตรา ๕๓ และมาตรา ๕๕ มาใช้บงั คับโดยอนุโลม
หมวด ๓
สํานัพนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
กงานเจ้าหน้าที่ กา
มาตรากา๔๖ ในการปฏิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สําบนักัตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้
กา าที่มีอํานาจดัสํงาต่นัอกไปนี ้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สํานักว่งานคณะกรรมการกฤษฎี
าเป็นสถานพยาบาลที่ไกม่าได้รับอนุญาตตามพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญญัตินี้ กา
(๒) เข้าไปในสถานพยาบาลในระหว่างเวลาทําการเพื่อตรวจสอบและควบคุมให้การ
สํานักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นไปตามพระราชบั ญัตินี้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) มีหนังสือเรียกผู้รับอนุญาต ผู้ดําเนินการ ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลมาให้ถ้อยคําหรือชี้แจงหรือให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมา
เพื่อประกอบการพิสําจนัารณา
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ยึ ดหรื ออายัด บรรดาเอกสารหรื อสิ่งของที่เ กี่ยวกับการกระทํ า ความผิด ตาม
สํานักพระราชบั ญญัตินี้ เพื่อเป็กนา หลักฐานในการดํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
เนินคดี กา
ในการปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ข องพนั ก งานเจ้ า หน้ า ที่ ต ามวรรคหนึ่ ง ให้ ผู้ รั บ อนุ ญ าต
ผู้ดําเนินการ ผู้ปสํระกอบวิ ชาชีพในสถานพยาบาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เจ้าหน้าทีสํา่ขนัองสถานพยาบาล หรือบุกคาคลซึ่งอยู่ใน
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลนั้นอํานวยความสะดวกตามสมควร
หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การปิดสถานพยาบาลและการเพิกถอนใบอนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา ๔๙ เมื่ อ ปรากฏว่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
า ผู้ รั บ อนุ ญ าตหรื อ ผูก้ ดา ํ า เนิ น การปฏิสําบนัั ตกิ ไงานคณะกรรมการกฤษฎี
ม่ ถู ก ต้ อ งตาม กา
พระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจสั่งให้ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดําเนินการ แล้วแต่กรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ระงับหรือปฏิบัติให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่เห็นสมควร แต่ทั้งนี้ไม่เป็นเหตุลบล้างความผิดตาม
สํานักพระราชบั ญญัตินี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๑ ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดําเนินการขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะ
สํานักต้งานคณะกรรมการกฤษฎี
องห้ า มตามมาตรา ๑๗
กา หรื อ มาตราสํา๒๕ แล้ วแต่ก รณี หรื อถ้ ากผูา ้ รั บ อนุ ญ าตหรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัอกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ ดํา เนิ น การไม่ กา
พระราชบัญญัติ
สํานักของคณะกรรมการมี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อํานาจออกคํ าสั่งเพิสํากนัถอนใบอนุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการสถานพยาบาลได้
ญาตให้ประกอบกิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้ า ผู้ รั บ อนุ ญ าตหรื อ ผู้ ดํ า เนิ น การต้ อ งคํ า พิ พ ากษาถึ ง ที่ สุ ด ว่ า ได้ ก ระทํ า ผิ ด ตาม
พระราชบั ญ ญั ตสํิ นาี้ นัและผู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ อ นุ ญ าตเห็ น ว่ า เป็กนากรณี ร้ า ยแรงอั
สํานันกอาจมี
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ นต่ อ การ
ผ ลกระทบกระเทื
รักษาพยาบาลผู้ป่วยต่อไป ให้ผู้อนุญาตโดยคําแนะนําของคณะกรรมการมีอํานาจออกคําสั่งเพิกถอน
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใบอนุญาตของผู้นั้นได้
มาตรา ๕๒ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองดูแลผู้ป่วยในสถานพยาบาลในกรณีที่
(๑) ผู้รกับา อนุญาตตายสํและไม่
กฤษฎี มีผู้แสดงความจํานงเพื
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่อขอประกอบกิ
สํานัจกการหรื อผู้แสดง
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ความจํานงนั้น ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ทั้งนี้ ตามที่บัญญัติในมาตรา ๒๒
สํ(๒)
านักผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้อนุญาตมีคําสั่งปิดสถานพยาบาลเป็
กา นสํการชั ่วคราวตามมาตรา ๕๐กาหรือมีคําสั่ง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เพิกถอนใบอนุญาตตามมาตรา ๕๑
กฤษฎี
ผู้อนุญกาตอาจมี
า คําสั่งสํให้านัสกถานพยาบาลนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
้น อยู่ในความควบคุ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มของคณะกรรมการเพื ่อ กา
ดําเนินการใด ๆ ตามที่เห็นสมควรได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๓ คําสั่งของพนั กงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๔๙ หรือสําของผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้อนุญาตตาม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๐ หรื อ มาตรา ๕๑ ให้ ทํ า เป็ น หนั ง สื อ ส่ ง ทางไปรษณี ย์ ล งทะเบี ย นให้ ผู้ รั บ อนุ ญ าตหรื อ
ผู้ดําเนินการ ณ ภูสํามนัิลกํางานคณะกรรมการกฤษฎี
เนาของผู้นั้น แล้วแต่กกรณี
า ถ้าไม่พบตัสํวาหรื
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่ยอมรับคําสั่งดังกล่กาาว ให้จัดการ
ปิดคําสั่งไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานพยาบาล และให้ถือว่าผู้นั้นได้ทราบคําสั่งนั้นแล้วตั้งแต่
สํานักวังานคณะกรรมการกฤษฎี
นที่ปิดคําสั่ง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งของผู้อนุญาตตามวรรคหนึ่ง จะโฆษณาในหนังสือพิมพ์หรือโดยวิธีอื่นใดอีกด้วย
ก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา๕๔ ผู้ใดถูกเพิ
สํานักกถอนใบอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา บใบอนุญาตใหม่
ญาตแล้วจะขอรั สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ีกไม่ได้จนกว่า กา
จะพ้นกําหนดสองปีนับแต่วันที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรากา๕๕ คําสั่งของพนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๔๙ หรืสํอาของผู ้อนุญาตตาม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๕๐ หรือมาตรา ๕๑ ผู้ที่ได้รับคําสั่งมีสิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีภายในสามสิบวันนับแต่วันที่
ทราบคําสั่ง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด
หมวด ๕
ฎีกา าหนดโทษ
บทกํ
มาตรา ๕๖ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของคณะกรรมการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือคณะอนุกรรมการตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
สํานักระวางโทษจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
าคุกไม่เกินห้กาา ปี หรือปรับไม่
สําเนักิกนงานคณะกรรมการกฤษฎี
หนึ่งแสนบาท หรือทั้งกจําาทั้งปรับ และศาลจะสั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
่งริบบรรดา กา
สิ่งของที่ใช้ในการประกอบกิจการสถานพยาบาลด้วยก็ได้
มาตรากา ๕๙ ผู้รับอนุสําญนัาตผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๑ มาตรา
สํานั๓๑ มาตรา ๓๒
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
มาตรา ๔๐ หรือมาตรา ๔๓ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๖๑ ผู้ใดมีหสํน้าานัทีก่ตงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
้องแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบ
กา
แต่ไม่แจ้งสํภายในกํ าหนดเวลา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตามมาตรา ๒๖ มาตรา ๓๐ มาตรา ๔๒ หรือมาตรา ๔๔ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่ง
หมื่นบาท
๑๙
มาตรากา๖๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ผู้รับอนุ
สํานัญกาตผู ้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๓กา วรรคสอง ต้สํอางระวางโทษจํ
งานคณะกรรมการกฤษฎี าคุก
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
สํมาตรา ๖๕ ผู้รับอนุญาตหรืกาอผู้ดําเนินการผู
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานั้ใกดฝ่ าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๓๔
(๒) หรือมาตรา ๓๕ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้ง
สํานักปรั บ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สํมาตรา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อผู้ดําเนินการผู
๖๖ ผู้รับอนุญาตหรื สํานัก้ใงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดฝ่าฝืนมาตรา ๓๖ ต้อกงระวางโทษ
า
จําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา ๖๗ ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดําเนินการผูสํา้ในัดฝ่กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
าฝืนมาตรา ๓๗ ต้องระวางโทษปรั
กา
บ
๑๘
มาตรา ๕๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
กฤษฎี
๑๙ กา ๖๒ แก้ไขเพิสํ่มาเติ
มาตรา นักมงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับสํทีา่ นั๔)กงานคณะกรร
พ.ศ. ๒๕๕๙
พระราชบัญญัติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๘๒๐ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๘ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน
สํานักปงานคณะกรรมการกฤษฎี
สองหมื่นบาท และให้ รับอีกวันละไม่เกินหนึก่งาหมื่นบาทนับสํแต่
านัวกันงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ฝ่าฝืนคําสั่งที่ให้ระงักบาการโฆษณา
หรือประกาศ ทั้งนี้ จนกว่าจะระงับการโฆษณาหรือประกาศดังกล่าว
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๘ วรรคสอง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน
สองหมื่นบาท หรืสํอาทันัก้งจํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าทั้งปรับ และให้ปรับกอีากวันละไม่เกินสํหนึ
านัก่งงานคณะกรรมการกฤษฎี
หมื่นบาทนับแต่วันที่ฝ่ากฝืานคําสั่งที่ให้
ระงับการโฆษณาหรือประกาศ ทั้งนี้ จนกว่าจะระงับการโฆษณาหรือประกาศดังกล่าว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา ๗๐ ผู้ รั บ อนุ
สํานัญกาต
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้ ดํ า เนิ น การ ผู้ ป ระกอบวิ ช าชี พสํในสถานพยาบาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาล หรือบุคคลซึ่งอยู่ในสถานพยาบาล ผู้ใดไม่อํานวยความสะดวกให้แก่
พนักงานเจ้าหน้าทีสํา่ในันการปฏิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บัตกิ ารตามหน้าที่ตามมาตรา ๔๖ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท
มาตรา ๗๑ ผู้ใดประกอบกิจการสถานพยาบาลในระหว่างที่สถานพยาบาลนั้นถูกสั่ง
ปิดชั่วคราวตามมาตรา ๕๐ ต้องระวางโทษจํากคุากไม่เกินสองปีสําหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทกหรื
า อทั้งจําทั้ง
ปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน
มาตรา ๗๒ ผู้ใดขัดขวางหรือไม่อํานวยความสะดวกให้แก่คณะกรรมการในการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดําเนินการตามมาตรา ๕๒ ต้องระวางโทษจํากคุากไม่เกินหนึ่งเดืสําอนันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือปรับไม่เกินสองพันกบาท
า หรือทั้ง
จําทั้งปรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๓ ผู้รับอนุญาต ผู้ดําเนินการ ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลผู้ใด จัดทําหรือยินยอมให้ผู้อื่นจัดทําหลักฐานเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล
และค่าบริการเอกสารแสดงการตรวจโรค
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัเอกสารแสดงผลการรั
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกษาพยาบาลของสถานพยาบาล
กา หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เอกสารกรณีอื่นอันเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับ
ไม่เกินสี่หมื่นบาทสํหรื
านักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ทั้งจําทั้งปรับ กา
มาตรากา๗๔๒๑ ในกรณี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัทกี่ผงานคณะกรรมการกฤษฎี
ู้กระทําความผิดเป็นนิตกิบา ุคคล ถ้าการกระทํ าความผิดของ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
นิ ติ บุ ค คลนั้ น เกิ ด จากการสั่ ง การหรื อ การกระทํ า ของกรรมการ หรื อ ผู้ จั ด การ หรื อ บุ ค คลใดซึ่ ง
รับผิดชอบในการดํ สํานัากเนิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นงานของนิติบุคคลนัก้นา หรือในกรณีสํทานัี่บกุคงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลดังกล่าวมีหน้าที่ต้อกงสั
า ่งการหรือ
กระทําการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทําการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้นกระทําความผิด ผู้นั้นต้อง
สํานักรังานคณะกรรมการกฤษฎี
บโทษตามที่บัญญัติไว้สกําาหรับความผิดสํนัา้นนักๆงานคณ
ด้วย
๒๐
มาตรา ๖๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
กฤษฎี
๒๑ กา ๗๔ แก้ไขเพิสํ่มาเติ
มาตรา นักมงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับสํทีา่ นั๔)กงานคณะกรร
พ.ศ. ๒๕๕๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๑) ในเขตกรุ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
งเทพมหานคร ประกอบด้วย อธิบดีกกา รมสนับสนุนสํบริานักการสุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ขภาพ เป็น กา
ประธานกรรมการ ผู้อํานวยการสํานักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการ
สุขภาพ และผู้แทนสํ สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
นักงานอัยการสูงสุด เป็กานกรรมการ และให้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อธิบดีกรมสนับสนุนบริกาการสุขภาพ
แต่งตั้งข้าราชการของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพคนหนึ่ง เป็นเลขานุการ และอีกไม่เกินสองคน เป็น
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผู้ช่วยเลขานุการ
สํ(๒)
านักในเขตจั งหวัดอื่น ประกอบด้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา วย ผู้ ว่ าสํราชการจั งหวั ด เป็นประธานกรรมการ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
อัยการจังหวัดและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เป็นกรรมการ และให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
แต่งตั้งข้าราชการของสํกานัา กงานสาธารณสุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักขงานคณะกรรมการกฤษฎี
จังหวัดคนหนึ่ง เป็นเลขานุกา การ และอีกสํไม่
านักเกิงานคณะกรรมการกฤษฎี
นสองคน เป็น กา
๒๒
ผู้ช่วยเลขานุการ
สํบรรดาความผิ ดตามพระราชบั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัตินี้ที่มีสํโทษปรั บสถานเดียวหรือที่มกีโาทษจําคุกไม่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกินหนึ่งปี ให้คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีมีอํานาจเปรียบเทียบปรับได้ ถ้าเห็นว่าผู้ต้องหาไม่ควรถูก
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฟ้องร้องหรือได้รับโทษถึกางจําคุก ในการนี สํานั้กคงานคณะกรรมการกฤษฎี
ณะกรรมการเปรียบเทีกยา บคดีอาจมอบหมายให้สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พนักงาน กา
เจ้าหน้าที่เป็นผู้ทําการเปรียบเทียบปรับแทนสําหรับคดีที่มีโทษปรับสถานเดียวตามที่เห็นสมควรก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมื่อผู้ต้องหาได้เสียค่าปรับตามที่เปรียบเที ยบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการ
เปรียบเทียบปรับ ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ธีพิจารณาความอาญา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่พนักงานสอบสวนพบว่าผู้ใดกระทําความผิดที่มีอัตราโทษตามวรรคสอง
และผู้นั้นยินยอมให้ สํานัเกปรีงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยบเทียบปรับ ให้พนักกางานสอบสวนส่สํางนัเรืก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
งให้คณะกรรมการเปรีกายบเทียบคดี
ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ผู้นั้นแสดงความยินยอมให้เปรียบเทียบปรับ
บทเฉพาะกาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรา กา ๗๖ ใบอนุสํญ
านัาตให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตั้ ง สถานพยาบาลกา และใบอนุ ญสําาตให้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดํ า เนิ น การ กา
สถานพยาบาลที่ออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๐๔ ให้ถือว่าเป็นใบอนุญาตให้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกอบกิจการสถานพยาบาลหรือใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาลที่ออกตามพระราชบัญญัติ
สํานักนีงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ และให้ใช้ได้จนถึงวันสิก้นา ปีปฏิทินของปี
สําทนัี่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้กบางั คับ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํมาตรา ๗๗ บรรดากฎกระทรวง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา หรืสํอาประกาศที ่ อ อกตามพระราชบั
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญ ญั ติ
สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๐๔ และยังใช้บังคับอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้
สํานักต่งานคณะกรรมการกฤษฎี
อไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรืกอา แย้งกับพระราชบั ญญัตินี้ ทั้งนี้ จนกว่าจะมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กฎกระทรวงหรื
สํานัอกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประกาศที่ออก กา
ตามพระราชบัญญัตินี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ชวน หลี กภัย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นายกรัฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๒ กา ๗๕ วรรคหนึ่งสํแก้
มาตรา านัไกขเพิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
่มเติมโดยพระราชบัญญักตาิสถานพยาบาล (ฉบั
สํานับกทีงานคณะกรรมก
่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
พระราชบัญญัติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑. ใบอนุญาตให้ปสํระกอบกิ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จการสถานพยาบาลกา
ประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒. ใบอนุญาตให้ปสํระกอบกิ จการสถานพยาบาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
(ก) ไม่เกิน ๑๐ เตียงกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ฉบับละ สํ๒,๐๐๐ บาท
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(ข) เกิน ๑๐ เตียง แต่ไม่เกิน ๒๕ เตียง ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท
(ค) เกิน ๒๕ เตีสํายนังกงานคณะกรรมการกฤษฎี
แต่ไม่เกิน ๕๐ เตียง กา ฉบับละ ๑๐,๐๐๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บาท
(ง) เกิน ๕๐ เตียง แต่ไม่เกิน ๑๐๐ เตียง ฉบับละ ๒๐,๐๐๐ บาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(จ) เกิน ๑๐๐ เตียง กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ฉบับละ ๒๐,๐๐๐ บาท และ กา
ให้คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นสําหรับที่เกิน ๑๐๐ เตียง เตียงละ ๑๐๐ บาท
๓. ใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สําน
ประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ฉบับละ ๕๐๐ บาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔. ใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล
ประเภทที่รับผู้ป่วยไว้กาค้างคืน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ก) ไม่เกิน ๑๐ เตียง ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
(ข) เกิน ๑๐ เตีสํายนังกแต่
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ไม่เกิน ๒๕ เตียง กา คณะกรรมการกฤษฎี
ฉบั บละ ๒,๕๐๐ กา บาท
(ค) เกิน ๒๕ เตียง แต่ไม่เกิน ๕๐ เตียง ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ง) เกิน ๕๐ เตียง แต่กาไม่เกิน ๑๐๐ สํเตีานัยกง สํ
ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ านักงานคณะก
บาท
(จ) เกิน ๑๐๐ เตียง ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นสําหรับที่เกิน ๑๐๐ เตียง เตียงละ ๕๐ บาท
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
*พระราชกฤษฎีกาแก้ไกขบทบั
า ญญัติให้สํสาอดคล้
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา าที่ของส่วสํนราชการให้
องกับการโอนอํานาจหน้ านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เป็นไป กา
ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕๒๓
สํานักหมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําพนัระราชกฤษฎี กาฉบับนี้ คืกาอ โดยที่พระราชบั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ญญัติปรับปรุง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้บัญญัติให้จัดตั้งส่วนราชการขึ้นใหม่โดยมีภารกิจใหม่ ซึ่งได้มี
การตราพระราชกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ก าโอนกิ จ การบริ หการและอํ
า า นาจหน้สํานักางานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ ข องส่ ว นราชการให้กาเ ป็ น ไปตาม
พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม นั้นแล้ว และเนื่องจากพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
สํานักบังานคณะกรรมการกฤษฎี
ญญัติให้โอนอํานาจหน้ กาาที่ของส่วนราชการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
รัฐมนตรีผู้ดํารงตําแหน่ กา งหรือผู้ซึ่งปฏิ
สํานับกัตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิหน้าที่ในส่วน กา
ราชการเดิมมาเป็นของส่วนราชการใหม่ โดยให้มีการแก้ไขบทบัญญัติต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับอํานาจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หน้าที่ที่โอนไปด้วย ฉะนั้น เพื่ออนุวัติให้เป็นไปตามหลักการที่ปรากฏในพระราชบัญญัติและพระราช
สํานักกฤษฎี กาดังกล่าว จึงสมควรแก้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ไขบทบัสํญาญันักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิของกฎหมายให้สอดคล้กอา งกับการโอนส่สําวนันราชการ เพื่อให้
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผู้เกี่ยวข้องมีความชัดเจนในการใช้กฎหมายโดยไม่ต้องไปค้นหาในกฎหมายโอนอํานาจหน้าที่ว่าตาม
กฎหมายใดได้ มสํี กาารโอนภารกิ จ ของส่ ว นราชการหรื
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ ผู้ รสํั บานัผิกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชอบตามกฎหมายนั้กนาไปเป็ น ของ
หน่วยงานใดหรือผู้ใดแล้ว โดยแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายให้มีการเปลี่ยนชื่อส่วนราชการ รัฐมนตรี
ผู้ดํารงตําแหน่งหรือผู้ซึ่งกปฏิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า บัติหน้าที่ขสํองส่
านักวงานคณะกรรมการกฤษฎี
นราชการให้ตรงกับการโอนอํ กา านาจหน้สําานัทีก่ งานคณะกรรมการกฤษฎี
และเพิ่มผู้แทน กา
ส่วนราชการในคณะกรรมการให้ตรงตามภารกิจที่มีการตัดโอนจากส่วนราชการเดิมมาเป็นของส่วน
ราชการใหม่รวมทัสํ้งาตันัดกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ส่วนราชการเดิมที่มีการยุ กา บเลิกแล้ว ซึสํ่งาเป็นันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
การแก้ไขให้ตรงตามพระราชบั กา ญญัติ
และพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว จึงจําเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล
ํ ั
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
ี
๒๕๔๗๒๔
๒๓
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๙/ตอนที่ ๑๐๒ ก/หน้า ๖๖/๘ ตุลาคม ๒๕๔๕
กฤษฎี
๒๔ กาจจานุเบกษา เล่สํมานั๑๒๑/ตอนที
ราชกิ กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สิงหาคม ๒๕๔๗
่ ๕๕ ก/หน้า ๑/๓๐ สํา
พระราชบัญญัติ
นุเบกษาเป็นต้นไป
พระราชบัญญัติสสํถานพยาบาล กา ๒๕๕๕๒๕
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ.
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา๒ พระราชบัสําญนักญังานคณะกรรมการกฤษฎี
ตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วกันา ถัดจากวันประกาศในราชกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จจา กา
นุเบกษาเป็นต้นไป
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้สํพาระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ได้มีการแยกการประกอบโรค
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยและการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ไปบัญญัติ
ไว้ในกฎหมายเฉพาะ
สํานักสมควรปรั บปรุงบทบัญญักาติในส่วนที่เกี่ยสํวกั
งานคณะกรรมการกฤษฎี านักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
บทนิยามในคําว่า “สถานพยาบาล”
กา
และ “ผู้ประกอบวิชาชีพ” รวมทั้งบทบัญญัติอื่นที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกันด้วย จึงจําเป็นต้องตรา
สํานักพระราชบั ญญัตินี้
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พระราชบัญญัติสสํถานพยาบาล
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ๒๕๕๙๒๖
(ฉบับที่ ๔) พ.ศ.
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
มาตรากา๒ พระราชบัสําญนักญังานคณะกรรมการกฤษฎี
ตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วกันา ถัดจากวันประกาศในราชกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จจา กา
นุเบกษาเป็นต้นไป
สํ
มาตรากา๒๓ ให้คณะกรรมการสถานพยาบาลซึ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก่งาดํารงตําแหน่สํงาอยู
นัก่ใงานคณะกรรมการกฤษฎี
นวันก่อนวันที่ กา
พระราชบัญญัตินี้ใช้บงั คับ คงอยู่ในตําแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสถานพยาบาล
ตามพระราชบัญสํญัาตนัิสกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ กา ซึ่งแก้ไขเพิ สํา่มนักเติงานคณะกรรมการกฤษฎี
มโดยพระราชบัญญัตกินาี้ ทั้งนี้ ต้อง
ไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา ๒๔ ให้ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดําเนินการซึ่งโฆษณาหรือประกาศด้วยประการใด ๆ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เกี่ยวกับสถานพยาบาลอยู กา ญญัตินี้ใช้สํบานัังกคังานคณะกรรมการกฤษฎี
่ในวันก่อนวันที่พระราชบั กา
บ ต้องขออนุมัติการโฆษณาหรื อการ
ประกาศต่อผู้อนุญาตภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ ประกาศที่ออกตามมาตรา ๓๘ วรรคหนึ่ง แห่ง
สํานักพระราชบั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ญญัติสถานพยาบาล สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พ.ศ. ๒๕๔๑ กา
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบั ญญัตสํินาี้ในัช้กบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ังคับ และเมื่อ กา
ได้ยื่นคําขออนุมัตสํิแาล้นัวกให้ ดําเนินการต่อไปได้จนกว่าจะได้รับแจ้
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งจากผู้อนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๕
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๐/ตอนที่ ๒ ก/หน้า ๒๐/๙ มกราคม ๒๕๕๖
กฤษฎี
๒๖ กาจจานุเบกษา เล่สํมานั๑๓๓/ตอนที
ราชกิ กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ธันวาคม ๒๕๕๙
่ ๑๐๗ ก/หน้า ๔๑/๒๐ สํานักง
สํมาตรา ๒๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ขรักษาการตามพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัตินี้
สํานักหมายเหตุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํพาระราชบั
:- เหตุผลในการประกาศใช้ นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญญัติฉบับนี้ คือ กโดยที
า ่สถานพยาบาลที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ให้บริการแก่ กา
ประชาชนมีทั้งสถานพยาบาลซึ่งดําเนินการโดยภาครัฐและสถานพยาบาลที่ดําเนินการโดยภาคเอกชน
แต่กฎหมายว่าด้วสํยสถานพยาบาลไม่
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใช้บังคับกับสถานพยาบาลซึ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่งดําเนินการโดยภาครัฐ จึงควรแก้ไข
ให้สถานพยาบาลซึ่งดําเนินการโดยภาครั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ฐต้องมีลักษณะและมาตรฐานตามที่กําสํหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือผ่านการ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รับรองคุณภาพจากหน่ วยงานที่ กําหนด แก้ ไของค์ประกอบของคณะกรรมการสถานพยาบาลให้
เหมาะสมยิ่งขึ้ น สํแก้
านักไ ขเพิ ่ ม เติ ม รายละเอียดที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ ผู้ รั บ อนุ ญ าตต้
สํานัอกงแสดงในสถานพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา และแก้ ไ ข
เพิ่มเติมหลักเกณฑ์การดําเนินการของสถานพยาบาลสําหรับผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดย
สํานักฉุงานคณะกรรมการกฤษฎี
กเฉิน รวมทั้งแก้ไขเพิก่มา เติมหลักเกณฑ์ สํานัเกกีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ยวกับการโฆษณาสถานพยาบาล กา สํานัากหนดโทษ
บทกํ และ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
องค์ประกอบของคณะกรรมการเปรียบเทียบคดีให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
กฎกระทรวง
อันเป็นพระรำชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบำงประกำรเกี่ยวกับกำรจำกัดสิทธิและเสรีภำพของบุคคล ซึ่ง
มำตรำ ๒๙ ประกอบกับมำตรำ ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดย
อำศัยอำนำจตำมบทบัญญัติแห่งกฎหมำย รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุขออกกฎกระทรวงไว้
ดังต่อไปนี้
ข้อ ๒ ให้ยกเว้นค่ำธรรมเนียมกำรประกอบกิจกำรสถำนพยำบำลสำหรับปีที่ได้
รับใบอนุญำตและสำหรับปีที่ได้รับกำรต่อใบอนุญำต
กฎกระทรวง
ข้อ ๑ บัตรประจำตัวพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ให้เป็นไปตำมแบบท้ำยกฎกระทรวงนี้
ข้อ ๓ ในกรุงเทพมหำนครให้ปลัดกระทรวงสำธำรณสุขเป็นผู้ออกบัตรประจำตัว
พนักงำนเจ้ำหน้ำที่
ส ำหรั บ ในจั งหวั ด อื่ น ให้ ผู้ ว่ ำ รำชกำรจั ง หวั ด เป็ น ผู้ อ อกบั ต รประจ ำตั ว พนั ก งำน
เจ้ำหน้ำที่
๑
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๑๗/ตอนที่ ๙๕ ก/หน้ำ ๑๗/๒๒ ตุลำคม ๒๕๔๓
กฎกระทรวง
หมวด ๑
บททั่วไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๑ ในกฎกระทรวงนีก้ า
“สมุดทะเบียนสถานพยาบาล” หมายความวา สมุดแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการ
นคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไดรบั อนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาลและการดําเนินการสถานพยาบาล ตามกฎหมายวา
ดวยสถานพยาบาล
สํานัก
ขอก๒า การยื่นคําสํขอหรื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อการแจงเปนหนังสือกตา อผูอนุญาตตามกฎกระทรวงนี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี ้ ใน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กรุ ง เทพมหานครให ยื่ น ณ กองการประกอบโรคศิ ล ปะ สํ า นั ก งานปลั ด กระทรวง กระทรวง
สาธารณสุข หรืสําอนัสถานที ่อื่นที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ขสํประกาศกํ าหนด สําหรับจักงาหวัดอื่น ใหยื่น
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ณ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดที่สถานพยาบาลนั้นตั้งอยู
การยื่นคําขอหรือสํการแจ
ษฎีกา านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
งเปนหนังสือตอผูอนุญาตตามกฎกระทรวงนี ้ หากไม
สามารถมายื่นสํคํานัากขอหรื อหนังสือแจงไดดกวา ยตนเอง ใหสํทาํานัหนั
งานคณะกรรมการกฤษฎี งสือมอบอํานาจใหผกูอา ื่นมายื่นคําขอ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
หรือหนังสือแจงแทนและในการมายื่นคําขอหรือหนังสือแจงแทน ใหผูรับมอบอํานาจนําสําเนา
บัตรประจําตัวประชาชนของผู
นคณะกรรมการกฤษฎี กา รับมอบอํ านาจมาแสดงตอเจาหน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาที่ผูรับคําขอหรื
สํานัอกหนั งสือแจงดวย
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
หมวด ๒
การอนุมัติแผนงานการจัดตัง้ สถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สวนที่ ๑
ขอ ๓ ผูใดประสงคจะประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทที่ไมรับผูปวยไว
คางคืน ใหยื่นคําขออนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มัติแผนงานการจั ดตั้งสถานพยาบาลตามแบบที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ปลัดสํกระทรวงสาธารณสุ ข กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา พรอมดวยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไวในแบบคําขอ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานัก่ปงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ขกําหนดโดย
กฎกระทรวง
ดังกลาว และแผนงานการจั ดตั้งสถานพยาบาลตามแบบที ลัดกระทรวงสาธารณสุ
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาตอผูอนุญาตกอนยื่นคําขอรับใบอนุญาต
สวนที่ ๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคา งคืน
ขอก๕า ผูใดประสงค
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานัจกะประกอบกิ จการสถานพยาบาลประเภทที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่รับผูปวยไวคาง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
คืน ใหยื่นคําขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
กําหนดโดยประกาศในราชกิ จจานุเบกษากา พรอมดวยเอกสารหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กฐานตามที่ระบุกไวา ในแบบคําขอ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดังกลาว และแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกําหนดโดย
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตอผูสํอานุนักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
นคณะกรรมการกฤษฎีกา กา
าตกอนยื่นคําขอรับใบอนุ ญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๖ เมื่อไดรับคําขออนุมัติและแผนงานการจั ดตั้งสถานพยาบาลตามขอ ๕
แลว ใหผูอนุญาตสกงาใหคณะกรรมการสถานพยาบาลพิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี จารณาเสนอความเห็
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานันกเพื ่อประกอบการ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
พิจารณาอนุมัติ
ขอก๙า ใหผูไดรับสํอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล
กา สํจัาดนัทํกงานคณะกรรมการกฤษฎี
าปายขนาดความ กา
กวางไมนอยกวาหนึ่งรอยยี่สิบเซนติเมตร และยาวไมนอยกวาสองรอยสี่สิบเซนติเมตร ติดตั้งไวใน
ที่เปดเผยและเห็
สํานันกได งาย ณ สถานที่ซึ่งไดการับอนุมัติตามแผนงานการจั
งานคณะกรรมการกฤษฎี ดตั้งสถานพยาบาลดั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งกลาว
โดยระบุประเภท ลักษณะ และขนาดของสถานพยาบาลที่จะจัดตั้ง พรอมทั้งวัน เดือน ป ที่ไดรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อนุมัติไวในปายดวยกา
สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๐ ใหผูไดรับอนุมกัตา ิแผนงานการจั
สํานัดกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ตั้งสถานพยาบาลดําเนิกานการกอสราง
อาคารสถานที่ตามแผนงานดั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งกลาสํวให
านักแงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลวเสร็จภายในเวลาทีก่กาําหนดไวในแผนงานนั ้น และหากยัง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ไมแลวเสร็จใหผูไดรับอนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลดังกลาวรายงานความกาวหนาของ
การกอสรางอาคารสถานที ่ตอผูอนุญาตเปกนา ระยะทุกเดือสํนานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กรณีที่ไมสามารถกอสรางอาคารสถานที่ใหแลวเสร็จไดภายในกําหนดระยะเวลา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สามปนับแตวันที่ไดกราับอนุมัติ ถาผูสําไนัดกรงานคณะกรรมการกฤษฎี
ับอนุมัติแผนงานการจักาดตั้งสถานพยาบาลผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
นั้นยังมีความ กา
ประสงคจะประกอบกิจการสถานพยาบาลอีก ใหยื่นคําขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใหม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๓
การขอ การออกใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตและการกํ าหนดเงื่อนไข
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๒ เมื่อกองการประกอบโรคศิ
กา สํลาปะ สํ านั กงานปลัดกระทรวง
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา กระทรวง
สาธารณสุข หรือสถานที่อื่นที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขประกาศกําหนด หรือสํานักงานสาธารณสุข
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ได รั บ คํ า ขอรั
จั ง หวั ด แล ว แต ก รณี สํานับกใบอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญ าตพร อ มด ว ยเอกสารและหลั ฐานตามข อ ๑๑ กา
ครบถวนและถูกตองแลว ใหเสนอเรื่องตอคณะกรรมการเพื่อเสนอความเห็นตอผูอนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎกระทรวง
ในการพิจารณาเสนอความเห็นของคณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง ใหพิจารณาวาผู
ขอรับใบอนุญาตไดกจาัดใหมีกรณีตามมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๑๘ แหงพระราชบั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
โดยถูกตองครบถวนแลวหรือไม
ขอ ๑๓ ใบอนุญาตใหเปนไปตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกําหนดโดย
นคณะกรรมการกฤษฎี กา เบกษา
ประกาศในราชกิจจานุ
สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๑๔ ในการออกใบอนุ กา ญาต ใหผูอสํนุาญ
นักาตมอบสมุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ดทะเบียนสถานพยาบาลให
ผูรับอนุญาตเก็บไวเปนหลักฐานเพื่อใหพนักงานเจาหนาที่หรือผูอนุญาตตรวจสอบ
ษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมุดทะเบียนสถานพยาบาลตามวรรคหนึ่ง อยางนอยตองมีรายการดังตอไปนี้
สํานั(๑) สําเนาใบอนุญาตใหกปา ระกอบกิจการสถานพยาบาล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) บริการที่ไดรบั อนุญาต
(๓)กาการโอนใบอนุ
ษฎี สําญ
นักาตให ประกอบกิจการสถานพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(๔) การแสดงความจํานงเปนผูรับอนุญาตแทนกรณีผูรับอนุญาตตาย
สํานั(๕)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
รายการการชําระคากธรรมเนี
า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยมการประกอบกิ จการสถานพยาบาลรายป กา
(๖)กาการตออายุใสํบอนุ
ษฎี านักญ าตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๗) การออกใบแทนใบอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล
สํานั(๘) รายชื่อผูประกอบวิกชาาชีพที่ปฏิบัตสํิงานประจํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี าสถานพยาบาล กา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๙) รายการแกไขเปลี่ยนแปลงใบอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล
ษฎี
(๑๐)กา บันทึกการตรวจสอบสถานพยาบาลของพนั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กงานเจาหน สํานัากทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ กา
(๑๑) สําเนาใบอนุญาตใหดําเนินการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๒) การตออายุใบอนุญาตใหดําเนินการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑๓)
กา การออกใบแทนใบอนุ ญาตใหดําเนินการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๔) รายการแกไขเปลี่ยนแปลงใบอนุญาตใหดําเนินการสถานพยาบาล
สํานัสมุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ด ทะเบี ย นสถานพยาบาลให เ ป นสํไปตามแบบที
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
่ ป ลั ด กระทรวงสาธารณสุ ข
กําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
หลักเกณฑและเงื่อนไขที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ขอ ๑๘ ผูรับอนุญาตที่ประสงคจะแกไขเปลี่ยนแปลงรายการที่ไดรับอนุญาตไว
แลวในกรณีดังสํตานัอกไปนี ้ ใหยื่นคําขอตามแบบที
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ปลัดกระทรวงสาธารณสุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีขกําหนดโดยประกาศในราช
กา
กิจจานุเบกษาพรอมดวยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไวในคําขอนั้น
ษฎี
(๑)กาเมื่อมีการเปลีสํา่ยนันตักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
วผูประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล สํานัและผู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
รับอนุญาตได กา
แจงเปนหนังสือใหผูอนุญาตทราบแลวตามมาตรา ๔๒ แหงพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.
๒๕๔๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒)กา เมื่อไดรับอนุสํญ านัาตจากผู อนุญาตใหเปลีก่ยานชื่อสถานพยาบาลตามมาตรา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ๔๓ กา
แหงพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
สํานั(๓) เมื่อมีการเปลี่ยนชื่อกตัา ว ชื่อสกุลของผู
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักรงานคณะกรรมการกฤษฎี
ับอนุญาต กา
(๔) เมื่อมีการเปลี่ยนชื่อที่ตั้งสถานพยาบาล
ษฎี
(๕)กาเมื่อมีการเปลีสํา่ยนันแปลงเวลาทํ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
าการ กา
สํานัการยื ่นคําขอแกไขเปลี่ยกนแปลงรายการตาม
กงานคณะกรรมการกฤษฎี า (๑) หรือ (๒) ใหยกื่นาพรอมการแจง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การเปลี่ยนตัวผูประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลหรือการขออนุญาตเปลี่ยนชื่อสถานพยาบาล
แลวแตกรณี การแกกไาขเปลี่ยนแปลงรายการตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑) ใหผูอกนุา ญาตบันทึกการเปลี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่ยนแปลงไวใน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สมุดทะเบียนสถานพยาบาลและระบุวัน เดือน ป ที่บันทึกการเปลี่ยนแปลงดังกลาวไวดวย
สํานัการแก
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ไขเปลี่ยนแปลงรายการตาม (๒)สํานั(๓)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๔) หรือ (๕) ใหผกูอานุญาตออกใบ
แทนใบอนุญาตโดยออกใบอนุญาตใหมตามใบอนุญาตเดิม เวนแตรายการที่ผูรับอนุญาตขอแกไข
นคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เปลี่ยนแปลงใหแกไขเปลี่ยนแปลงไปตามนั้น และใหกํากับคําวา “ใบแทน” ไวที่ดานหนาซาย และ
ระบุ วั น เดื อ นสํานัปกทีงานคณะกรรมการกฤษฎี
่ อ อกใบแทนใบอนุ ญกาาตไว ดว ย พร สําอนักมทั ้ ง บั น ทึ ก การเปลี่ ย นแปลงไว
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา ใ นสมุ
ทะเบียนสถานพยาบาล สําหรับใบอนุญาตเดิมใหประทับตรายกเลิกการใชดวยอักษรสีแดง
ษฎี กา ไขเปลี่ยนแปลงรายการชื
การแก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
่อที่ตั้งสถานพยาบาล ผูรสํับานัอนุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญาตไมตองเสีย กา
คาธรรมเนียมในการแกไขเปลี่ยนแปลง
หมวด ๔
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การขอตออายุใบอนุญาตและการอนุญาต
กฎกระทรวง
เลขที่ใบอนุญาตเดิมไวดวย และใหบันทึกการตออายุใบอนุญาตไวในสมุดทะเบียนสถานพยาบาล
นคณะกรรมการกฤษฎี
สําหรับใบอนุญาตเดิกมา ที่หมดอายุแสํลาวนันัก้นงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใหประทับตรายกเลิกกาการใชดวยอักสํษรสี
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
แดง กา
สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๐ ผูรับอนุญาตที่ไกมาไดมายื่นคําขอต
สํานักองานคณะกรรมการกฤษฎี กา ญาตสิน
อายุใบอนุญาตกอนใบอนุ ้ อายุ
หรือ ไดมายื่ น คํา ขอต ออายุ ใบอนุ ญาตก อ นใบอนุ ญาตสิ้ น อายุแ ตไม ไ ด รับการพิจารณาต อ อายุ
นคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใบอนุ ญ าตให ถื อ ว า ใบอนุ ญ าตนั้ น สิ้ น สุ ด ลง หากผู รั บ อนุ ญ าตประสงค จ ะประกอบกิ จ การ
สถานพยาบาลนั อไป จะตองยื่นคําขอรักบา ใบอนุญาตใหม
สํานั้นกตงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การชําระคาธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานพยาบาลรายป
สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๓ ผูรับอนุญาตตกอา งแสดงหลักสํฐานการชํ
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
าระคาธรรมเนียกมการประกอบ
า
กิจการสถานพยาบาลรายป ณ สถานพยาบาล โดยปดไวในที่เปดเผยและเห็นไดชัดเจนบริเวณ
นคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทางเขาสถานพยาบาล
หมวด ๖
การขอโอนใบอนุ ญาตและการอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาญาต
หมวด ๗
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การแสดงความจํ านงขอเปนผูรับอนุกญา าตแทน
กรณีผูรับอนุญาตตายและการตรวจสอบ
รมการกฤษฎีกา
กฎกระทรวง
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาพรอมดวยเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไวในแบบคําขอนั้น ภายใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สามสิบวันนับแตวันกทีา่ไดทราบการสูสําญนัหายหรื
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
อถูกทําลายดังกลกาาว
การพิ จ ารณาออกใบแทนใบอนุ ญ าต ให ผู อ นุ ญ าตออกใบอนุ ญ าตใหม ต าม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใบอนุญาตเดิมโดยใหกํากับคําวา “ใบแทน” ไวที่ดานหนาซาย และระบุวัน เดือน ป ที่ออกใบแทน
ใบอนุญาตไวดวย พร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อมทั้งบันทึกสําการออกใบแทนใบอนุ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี ญาตไว
กา ในสมุดทะเบีสํานักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
นสถานพยาบาล กา
ดวย
หมวด ๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
การขอและการอนุ สํานักเปลี
ญาตให งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการสถานพยาบาล
่ยนแปลงการประกอบกิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๒๗ การเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาลจากประเภทที่ไมรับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผูปวยไวคางคืนเปนกการประกอบกิ
า สํจาการของสถานพยาบาลประเภทที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ่รับผูปวสํยไว
านักคงานคณะกรรมการกฤษฎี
างคืนไมสามารถ กา
กระทําได
ขอก๒๙
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า การขออนุ
สํานัญกาตเปลี ่ยนแปลงการประกอบกิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการสถานพยาบาลตามข อ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๒๘ ใหยื่นคําขอตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พรอมดวยเอกสารหลั กฐานตามที่ระบุไวใกนแบบคํ
า าขอนัสํ้นา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขอก๓๐
า การขออนุ
สํานัมกัตงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ิแผนงานการเปลี่ยนแปลงการประกอบกิ จการ ใหเปนไป กา
ตามที่กําหนดไวในหมวด ๒ โดยอนุโลม
ขอก๓๒
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า การอนุญ
สําาตให เปลี่ยนแปลงการประกอบกิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จการสถานพยาบาล ซึ่งเปน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การเปลี่ยนแปลงลักษณะของสถานพยาบาล หรือกอสรางอาคารขึ้นใหม หรือดัดแปลงอาคารเกิน
กวาที่ไดรับอนุสํญานัาตไว เดิมและเปนเหตุใหกเาพิ่มหรือลดจํสําานวนเตี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี ยงหรือเปนการเพิ่มกาหรือลดบริการ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใหผูอนุญาตออกใบอนุญาตใหใหมโดยกําหนดวันหมดอายุใบอนุญาตใหเปนไปตามใบอนุญาต
นคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เดิม และใหบันทึกการเปลี่ยนแปลงการประกอบกิ จการดังกลาว รวมทัง้ การเพิ ่มหรือลดจํานวนผู
ประกอบวิชาชีสํพานัไว ในสมุดทะเบียนสถานพยาบาล
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สําหรัสําบนัใบอนุ ญาตเดิมใหประทับกาตรายกเลิกการ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใชดวยอักษรสีแดง
ขอ ๓๓ การอนุญาตใหเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาลซึ่งเปน
การกอสรางอาคารขึ ้นใหมหรือดัดแปลงอาคารเกิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นกวาสํทีานั่ไกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
รับอนุญาตไวเดิมโดยไม
กา เปนการเพิ่ม
หรือลดจํานวนเตียงใหผูอนุญาตบันทึกการเปลี่ยนแปลงดังกลาวไวในสมุดทะเบียนสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดวย กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๑๐
การแจงและจัดทํารายงานเมื่อและเลิกกิจการสถานพยาบาล
ีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๓๔ ผูรับอนุญาตทีก่ปาระสงคจะเลิกสํกิานัจกการสถานพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ใหกแาจงเปนหนังสือ
ตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุสําขนักํกางานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หนดโดยประกาศในราชกิ
กา
จจานุเบกษา ใหผูอนุญาตทราบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎกระทรวง
ไมนอยกวาสามวันเพื่อใหผูปวยที่เคยรับการรักษาพยาบาลในระยะเวลาหาปกอนเลิกกิจการได
นคณะกรรมการกฤษฎี
ทราบและมาติดตอกขอรั า บเวชระเบีสํยานนักฟงานคณะกรรมการกฤษฎี
ลมเอกซเรย และอื่นกาๆ ภายในกําหนดระยะเวลาไม เกิน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สองเดือนหลังจากวันแจงเลิกกิจการสถานพยาบาลนั้น โดยในประกาศดังกลาวตองระบุสถานที่ที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จะใหผู ปวยมาติด ตอขอรับเอกสารดั งกลา วใหชัด เจนไมวาจะเป น ณ สถานพยาบาลนั้ น หรื อ
สถานที่อื่น
นคณะกรรม
(๓) การจําหนายเวชระเบียน ฟลมเอกซเรย และอื่น ๆ ที่ไมมีผูมาขอรับตาม
(๒) โดยมอบให สํานัสกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ถานพยาบาลที่อยูใกลกเาคียงซึ่งยินดีจสํะรัานับกมอบ ถาไมมีสถานพยาบาลใดยิ
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา นดีรับ
มอบใหมอบใหแกสถานพยาบาลของรัฐที่อยูในอําเภอหรือเขตพื้นที่นั้น
ษฎี
ใหกผาูรับอนุญาตสสํงาคืนันกใบอนุ
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ญาตใหประกอบกิ กาจการสถานพยาบาล ใบอนุญาตให กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดําเนินการสถานพยาบาล และสมุดทะเบียนสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาพรอมกับหนังสือแจงตามวรรคหนึ่ง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดวย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บทเฉพาะกาล
ขอก๓๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ใหสถานพยาบาลทั นตกรรม ชั้นสอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา และสถานพยาบาลการผดุ งครรภ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ไดรับอนุญาตใหประกอบกิจการไดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ อยูในวันที่
กฎกระทรวงนีสํา้ปนัระกาศในราชกิ จจานุเบกษา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยังคงประกอบกิ จการตอไปไดจนกว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กาาผูดําเนินการ
สถานพยาบาลนั้นขอเลิกดําเนินการสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีให
กา ไว ณ วันที่ ๒๕
สํานักกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๕กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
สุดารัตน เกยุราพันธุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
รัฐมนตรีวาการกระทรวงสาธารณสุสํานัขกงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จํานงขอเปนผูรับอนุญาตแทนกรณีผูรับอนุญาตตายและการตรวจสอบ การขอและการออกใบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
แทนใบอนุญาต การขอและการอนุ สําญนักาตให
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เปลี่ยนแปลง การประกอบกิ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
จการสถานพยาบาล การ กา
แจงและจัดทํารายงานเมื่อจะเลิกกิจการสถานพยาบาลตองเปนไปตามหลักเกณฑ วิธีการ และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง จึงจําเปนตองออกกฎกระทรวงนี้
กฎกระทรวง
ใหผูรับโอนและผูแสดงความจํานงเพื่อขอประกอบกิจการแทนตองชําระคาธรรมเนียมเหมือนกับ
กรณีการออกใบอนุกญาาตใหม ทั้งทีสํ่เาปนันกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สถานพยาบาลเดิม และไดกา ชําระคาธรรมเนี ยมตั้งแตเมื่อมี กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การออกใบอนุ ญ าตครั้ง แรกแล ว จึ งไม เป นธรรมกั บผูรั บ โอน และผูแ สดงความจํ า นงเพื่ อ ขอ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ประกอบกิ จ การแทน สมควรแก ไ ขเป นกาการออกใบแทนใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญ าตเดิ ม และบักนาทึ ก ไว ใ นสมุ ด
ทะเบียนสถานพยาบาลเพื่อเปนการคุมครองสิทธิของประชาชนผูใชบริการสถานพยาบาล จึง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จําเปนตองออกกฎกระทรวงนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๒ คําขอโอนใบอนุญาตและหนังสือแสดงความจํานงขอเปนผูรับอนุญาต
แทนกรณีผูรับอนุญกาตตายที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ่ไดยื่นสํไวานัแกลงานคณะกรรมการกฤษฎี
วกอนวันที่กฎกระทรวงนี
กา ้ใชบังคับ ให
สํานัถกืองานคณะกรรมการกฤษฎี
วาเปนคําขอและ กา
หนังสือแสดงความจํานงที่ไดยื่นตามกฎกระทรวงนี้แลวแตกรณี โดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๔
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๒๔/ตอนที่ ๒๗ ก/หนา ๓๘/๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐
ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกกฎกระทรวงว่ำด้วยลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะกำร
ให้บริกำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๕
ข้อ ๒ ในกฎกระทรวงนี้
“สถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่ วยไว้ค้ำงคืน ” หมำยควำมว่ำ สถำนพยำบำล
ประเภทคลินิกตำมกฎกระทรวงนี้
“สถำนพยำบำลประเภทที่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ค้ ำงคื น ” หมำยควำมว่ ำ สถำนพยำบำล
ประเภทโรงพยำบำลตำมกฎกระทรวงนี้
“คลินิกเวชกรรม” หมำยควำมว่ำ คลินิกที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพเวชกรรม ซึ่ง
ดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพเวชกรรม
“คลินิกทันตกรรม” หมำยควำมว่ำ คลินิกที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพทันตกรรม
ซึง่ ดำเนินกำรโดยผูป้ ระกอบวิชำชีพทันตกรรม
“คลิ นิ ก กำรพยำบำลและกำรผดุ ง ครรภ์ ” หมำยควำมว่ ำ คลิ นิ ก ที่ จั ด ให้ มี ก ำร
ประกอบวิชำชีพกำรพยำบำล และกำรประกอบวิชำชีพกำรผดุงครรภ์ ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบ
วิชำชีพกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
“คลิ นิ ก กำยภำพบ ำบั ด ” หมำยควำมว่ ำ คลิ นิ ก ที่ จั ด ให้ มี ก ำรประกอบวิ ช ำชี พ
กำยภำพบำบัดซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพกำยภำพบำบัด
“คลิ นิ ก เทคนิ คกำรแพทย์ ” หมำยควำมว่ำ คลิ นิ ก ที่ จั ด ให้ มีก ำรประกอบวิช ำชี พ
เทคนิคกำรแพทย์ ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพเทคนิคกำรแพทย์
“คลินิกกำรแพทย์แผนไทย”๒ หมำยควำมว่ำ คลินิกที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพ
กำรแพทย์แผนไทย ซึง่ ดำเนินกำรโดยผูป้ ระกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทย
“คลินิกกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ”๓ หมำยควำมว่ำ คลินิกที่จัดให้มีกำรประกอบ
วิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์
๑
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๒/ตอนที่ ๒๖ ก/หน้ำ ๒๓/๒ เมษำยน ๒๕๕๘
๒
ข้อ ๒ นิยำมคำว่ำ “คลินิกกำรแพทย์แผนไทย” แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ
ของสถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
๓
ข้อ ๒ นิยำมคำว่ำ “คลินิกกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์” เพิ่มโดยกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ
ของสถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
กฎกระทรวง
“สหคลินิก” หมำยควำมว่ำ คลินิกที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพเวชกรรม ทันตกรรม
กำรพยำบำล กำรผดุงครรภ์ กำยภำพบำบัด เทคนิคกำรแพทย์ กำรแพทย์แผนไทย กำรแพทย์แผน
ไทยประยุก ต์ และกำรประกอบโรคศิล ปะ ตั้งแต่ส องลั กษณะขึ้น ไป ซึ่งดำเนิ น กำรโดยผู้ ป ระกอบ
วิช ำชีพ หรือ ผู้ ป ระกอบโรคศิ ล ปะสำขำใดสำขำหนึ่ ง โดยผู้ ดำเนิ น กำรต้ องเป็ น บุ ค คลที่ ผู้ อ นุ ญ ำต
ประกำศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมกำรสถำนพยำบำล
“โรงพยำบำลทั่วไป” หมำยควำมว่ำ โรงพยำบำลที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพเวช
กรรมในสำขำอำยุรกรรม ศัลยกรรม กุมำรเวชกรรม และสูตินรีเวชกรรม และให้มีกำรประกอบวิชำชีพ
กำรพยำบำล กำรผดุงครรภ์ เภสัชกรรม กำยภำพบำบัด เทคนิคกำรแพทย์ และรังสีเทคนิคเป็นอย่ำง
น้อย โดยอำจจัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพ หรือกำรประกอบโรคศิลปะอื่นร่วมด้วยก็ได้ ซึ่งดำเนินกำร
โดยผู้ประกอบวิชำชีพเวชกรรม
“โรงพยำบำลทันตกรรม” หมำยควำมว่ำ โรงพยำบำลที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพ
ทันตกรรม ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพทันตกรรม
“โรงพยำบำลกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์” หมำยควำมว่ำ โรงพยำบำลที่จัดให้มี
กำรประกอบวิชำชีพกำรพยำบำล และกำรประกอบวิชำชีพกำรผดุงครรภ์ ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบ
วิชำชีพกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
“โรงพยำบำลกำยภำพบ ำบัด ” หมำยควำมว่ำ โรงพยำบำลที่จัดให้มีก ำรประกอบ
วิชำชีพกำยภำพบำบัด ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพกำยภำพบำบัด
“โรงพยำบำลกำรแพทย์แ ผนไทย” ๔ หมำยควำมว่ำ โรงพยำบำลที่จัด ให้มีก ำร
ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยในด้ำนเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย กำรผดุงครรภ์ไทย และ
กำรนวดไทยซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทย
“โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ”๕ หมำยควำมว่ำ โรงพยำบำลที่จัดให้มี
กำรประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทย
ประยุกต์
“โรงพยำบำลเฉพำะทำง” หมำยควำมว่ำ โรงพยำบำลที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพ
เฉพำะทำงด้ำนเวชกรรม ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพเวชกรรม และผู้ประกอบวิชำชีพนั้นต้อง
ได้ รั บ วุ ฒิ บั ต รหรื อ หนั ง สื อ อนุ มั ติ จ ำกแพทยสภำ เช่ น โรงพยำบำลเฉพำะทำงหู ตำ คอ จมู ก
โรงพยำบำลเฉพำะทำงโรคหัวใจ และโรงพยำบำลเฉพำะทำงโรคมะเร็ง เป็นต้น
๔
ข้อ ๒ นิยำมคำว่ำ “โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทย” แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนด
ลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
๕
ข้อ ๒ นิยำมคำว่ำ “โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ” เพิ่มโดยกฎกระทรวงกำหนด
ลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
หมวด ๑
ลักษณะโดยทั่วไปและลักษณะกำรให้บริกำร
กฎกระทรวง
ของสถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน
หมวด ๒
ลักษณะโดยทั่วไปและลักษณะกำรให้บริกำร
ของสถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน
กฎกระทรวง
ข้อ ๕ ให้ โรงพยำบำลมีลักษณะตำมขนำดและจำนวนเตียงที่จัดให้ บริกำรผู้ ป่ว ย
ดังต่อไปนี้
(๑) โรงพยำบำลขนำดใหญ่ ต้องมีจำนวนเตียงที่จัดให้บริกำรผู้ป่วยตั้งแต่เก้ำสิบเอ็ด
เตียงขึ้นไป
(๒) โรงพยำบำลขนำดกลำง ต้องมีจำนวนเตียงที่จัดให้บริกำรผู้ป่วยตั้งแต่สำมสิบเอ็ด
เตียงขึ้นไปแต่ไม่เกินเก้ำสิบเตียง
(๓) โรงพยำบำลขนำดเล็ก ต้องมีจำนวนเตียงที่จัดให้บริกำรผู้ป่วยไม่เกินสำมสิบเตียง
กฎกระทรวง
โรงพยำบำลทันตกรรมขนำดเล็กอำจไม่มีหน่วยบริกำรตำม (๕) หรือ (๖) แต่จะต้อง
จัดให้มีบริกำรเท่ำที่จำเป็นได้
(๔) แผนกเภสัชกรรมไทย
(๕) แผนกกำรผดุงครรภ์ไทย
(๖) แผนกกำรนวดไทย
(๗) ระบบรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๘) ระบบควบคุมกำรติดเชื้อ
(๙) ระบบบำบัดน้ำเสีย
(๑๐) ระบบไฟฟ้ำสำรอง
(๑๑) ระบบน้ำสำรอง
(๑๒) หน่ว ยบริกำรหรือ ระบบสนับ สนุน กำรให้บ ริกำรอื่น ตำมที่แจ้งไว้ในกำรขอ
อนุญำต
โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยขนำดเล็กอำจไม่มีหน่วยบริกำรตำม (๕) หรือ (๖)
แต่จะต้องจัดให้มีบริกำรเท่ำที่จำเป็นได้
๗
ข้อ ๑๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะกำร
ให้บริกำรของสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
๘
ข้อ ๑๒/๑ เพิ่มโดยกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำร
ของสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
กฎกระทรวง
(๑) แผนกเวชระเบียน
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก
(๓) แผนกผู้ป่วยใน
(๔) แผนกผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๕) แผนกเภสัชกรรม
(๖) แผนกเทคนิคกำรแพทย์
(๗) แผนกรังสีวิทยำ
(๘) ระบบรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน
(๙) ระบบควบคุมกำรติดเชื้อ
(๑๐) ระบบไฟฟ้ำสำรอง
(๑๑) ระบบน้ำสำรอง
(๑๒) หน่ วยบริก ำรหรือระบบสนั บ สนุ น กำรให้ บ ริก ำรอื่ น ตำมที่ แจ้ งไว้ในกำรขอ
อนุญำต
โรงพยำบำลเฉพำะทำงขนำดเล็กอำจไม่มีหน่วยบริกำรตำม (๖) หรือ (๗) แต่จะต้อง
จัดให้มีบริกำรเท่ำที่จำเป็นได้
บทเฉพำะกำล
ประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืนตำมกฎกระทรวงว่ำด้วยลักษณะของสถำนพยำบำล และลักษณะกำร
ให้บริกำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นสถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน หรือ
สถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืนตำมกฎกระทรวงนี้ แล้วแต่กรณี เว้นแต่
(๑) คลินิกเวชกรรมเฉพำะทำง ให้เป็นคลินิกเฉพำะทำง
(๒) คลินิกทันตกรรมเฉพำะทำง ให้เป็นคลินิกเฉพำะทำง
(๓) คลินิกกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ให้เป็นคลินิกกำรแพทย์แผนไทย
(๔) สถำนพยำบำลเวชกรรมทั่วไป ให้เป็นโรงพยำบำลทั่วไปขนำดเล็ก
(๕) สถำนพยำบำลเวชกรรมเฉพำะทำง ให้เป็นโรงพยำบำลเฉพำะทำงขนำดเล็ก
(๖) สถำนพยำบำลทันตกรรมทั่วไปและสถำนพยำบำลทันตกรรมเฉพำะทำง ให้เป็น
โรงพยำบำลทันตกรรมขนำดเล็ก
(๗) สถำนพยำบำลกำรผดุงครรภ์ ให้เป็นโรงพยำบำลกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์
ขนำดเล็ก
(๘) สถำนพยำบำลผู้ป่วยเรื้อรัง ให้เป็นโรงพยำบำลเฉพำะประเภทผู้ป่วยขนำดเล็ก
(๙) สถำนพยำบำลกำรแพทย์แผนไทย ให้เป็นโรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยขนำดเล็ก
(๑๐) สถำนพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ให้เป็นโรงพยำบำลกำรแพทย์แผน
ไทยขนำดเล็ก
กฎกระทรวง
กฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๒๙
ข้อ ๘ ให้คลินิกกำรแพทย์แผนไทยที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทย
ประยุกต์ซึ่งดำเนินกำรโดยผู้ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ และโรงพยำบำลกำรแพทย์
แผนไทยที่จัดให้ มีกำรประกอบวิช ำชีพ กำรแพทย์แผนไทยประยุ กต์ ซึ่งดำเนิ น กำรโดยผู้ ป ระกอบ
วิชำชีพกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ตำมกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะ
กำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๕๘ อยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ เป็นคลินิก
กำรแพทย์แผนไทยประยุกต์หรือโรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ตำมกฎกระทรวงกำหนด
ลั กษณะของสถำนพยำบำลและลั ก ษณะกำรให้ บ ริกำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งแก้ไข
เพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงนี้ แล้ วแต่กรณี โดยโรงพยำบำลกำรแพทย์ แผนไทยประยุ กต์ต้องจัดให้ มี
หน่วยบริกำรและระบบสนับสนุนกำรให้บริกำรตำมกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำล
และลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงนี้ ภำยใน
สองปีนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ
๙
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๕/ตอนที่ ๑๖ ก/หน้ำ ๑/๘ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๒
ข้อ ๒ ในกฎกระทรวงนี้
“สถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ” หมายความว่า สถานพยาบาล
ประเภทคลิ นิกตามกฎกระทรวงว่ าด้ว ยการกำหนดลั กษณะของสถานพยาบาล และลั กษณะการ
ให้บริการของสถานพยาบาล
“สถานพยาบาลประเภทที่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ค้ างคื น ” หมายความว่ า สถานพยาบาล
ประเภทโรงพยาบาลตามกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดลักษณะของสถานพยาบาล และลักษณะการ
ให้บริการของสถานพยาบาล
หมวด ๑
เครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล
ประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
๑
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒/ตอนที่ ๒๖ ก/หน้า ๓๓/๒ เมษายน ๒๕๕๘
กฎกระทรวง
ข้อ ๔ คลินิกต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์เฉพาะที่จำเป็น ประจำ
คลินิกตามลักษณะของคลินิก ในจำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้
(๑) คลินิกเวชกรรม ต้องจัดให้มี
(ก) ชุดตรวจโรคและชุดให้การรักษาทั่วไปตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(ข) ยาและเวชภัณฑ์อื่นที่จำเป็น โดยมีจำนวนรายการและปริมาณที่เพียงพอ
(ค) ตู้เย็นสำหรับเก็บยาหรือเวชภัณฑ์อื่น
(ง) ในกรณี ที่ มี วัต ถุออกฤทธิ์ต่อ จิ ตและประสาท หรื อยาเสพติด ให้ โทษ ให้ มี
สถานที่หรือตู้เก็บที่มั่นคงและปลอดภัย มีกุญแจปิดและเปิดอย่างมีประสิทธิภาพ
(จ) อุปกรณ์การนับเม็ดยาอย่างน้อยสองชุด
(๒) คลินิกทันตกรรม ต้องจัดให้มี
(ก) ยูนิตทำฟัน ประกอบด้วย ระบบให้แสงสว่าง ระบบเครื่องกรอฟัน ระบบดูด
น้ำลาย ระบบน้ำบ้วนปาก และเก้าอี้คนไข้
(ข) เก้าอี้ทันตแพทย์ และเก้าอี้ผู้ช่วยทันตแพทย์
(ค) เครื่องเอกซเรย์ฟันที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
(ง) หม้อนึ่งอบความดันที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ
(จ) ชุดตรวจฟัน อุดฟัน ถอนฟัน ชุดศัลยกรรมช่องปาก ชุดรักษาคลองรากฟัน
ชุด รัก ษาโรคเหงือ ก ชุ ด ทั น ตกรรมประดิ ษ ฐ์ เครื่ อ งขู ด หิ น น้ ำลาย และเครื่ อ งมื อ อุ ป กรณ์ อื่ น ตาม
มาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(๓)๒ คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ต้องจัดให้มี
(ก) ชุดตรวจโรคและชุดให้การรักษาทั่วไปตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(ข) ชุดตรวจครรภ์ ชุดทำคลอด ชุดตรวจหลังคลอด และเครื่องฟังเสียงหัวใจ
เด็กในกรณีที่มีบริการ
(ค) ยาและเวชภัณฑ์อื่นที่จำเป็น โดยมีจำนวนรายการและปริมาณที่เพียงพอ
ตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(ง) ตู้เย็นสำหรับเก็บยาหรือเวชภัณฑ์อื่น
(จ) อุปกรณ์การนับเม็ดยาอย่างน้อยสองชุด
(๔) คลินิกกายภาพบำบัดต้องจัดให้มี
(ก) เครื่ อ งมื อ หรื อ อุ ป กรณ์ ที่ ใ ช้ ใ นการตรวจประเมิ น และวิ นิ จ ฉั ย ทาง
กายภาพบำบัด เช่น โกนิโอมิเตอร์ สายวัดความยาว เครื่องวัดความดัน และหูฟัง
๒
ข้อ ๔ (๓) แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดชนิด และจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ยาและ
เวชภัณฑ์ หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
(๖) คลินิกการแพทย์แผนไทยต้องจัดให้มี
๓
(ก) เครื่องมือการตรวจวินิจฉัยตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(ข) ชุดเครื่องมือและอุปกรณ์การนวดไทยตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพใน
กรณีที่มีบริการ
(ค) ชุดเครื่องมือและอุปกรณ์การอบและประคบสมุนไพรตามมาตรฐานการ
ประกอบวิชาชีพในกรณีที่มีบริการ
(ง) ยาและเวชภัณฑ์อื่นที่จำเป็น โดยมีจำนวนรายการและปริมาณที่เพียงพอ
(๖/๑)๔ คลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์ต้องจัดให้มี
(ก) ชุ ด ตรวจโรคและชุ ด ให้ ก ารรัก ษาทั่ ว ไปตามมาตรฐานการประกอบ
วิชาชีพ
(ข) ชุดเครื่องมือและอุปกรณ์การนวดไทยแบบราชสำนักตามมาตรฐาน
การประกอบวิชาชีพ
(ค) ชุดเครื่องมือและอุปกรณ์การอบและประคบสมุนไพรตามมาตรฐาน
การประกอบวิชาชีพในกรณีที่มีบริการ
(ง) ชุดเครื่ อ งมือและอุ ปกรณ์การผดุงครรภ์ไทยประยุกต์ตามมาตรฐาน
การประกอบวิชาชีพในกรณีที่มีบริการ
(จ) ยาและเวชภั ณ ฑ์ อื่ น ที่ จ ำเป็ น โดยมี จ ำนวนรายการและปริ ม าณที่
เพียงพอ
(๗) คลินิกการประกอบโรคศิลปะ ต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์
หรื อ ยานพาหนะที่ จ ำเป็ น ตามหลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก าร และเงื่อ นไขที่ ผู้ อ นุ ญ าตประกาศกำหนดโดย
คำแนะนำของคณะกรรมการสถานพยาบาล
(๘) คลินิกเฉพาะทาง ต้องจัดให้มี
(ก) ชุดอุปกรณ์เช่นเดียวกับคลินิกลักษณะนั้น ๆ
(ข) เครื่อ งมื อ อุ ป กรณ์ ยาและเวชภั ณ ฑ์ ส ำหรั บ บริ ก ารเฉพาะในสาขาที่ ข อ
อนุญาตให้บริการ
(๙) สหคลินิกต้องจัดให้มีเครื่องมือ อุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ครบถ้วนตามลักษณะ
ของคลินิกที่ขออนุญาตให้บริการ
๓
ข้อ ๔ (๖) แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดชนิ ดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ยาและ
เวชภัณฑ์ หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
๔
ข้อ ๔ (๖/๑) เพิ่มโดยกฎกระทรวงกำหนดชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ยาและเวชภัณฑ์
หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
กฎกระทรวง
ประจำหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการ ในจำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้
(๑) เครื่องมือและเครื่องใช้ทั่วไปในแต่ละหน่วยบริการ เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง เก้าอี้ อ่าง
ฟอกมือชนิดไม่ใช้มือเปิดปิดน้ำ ภาชนะบรรจุมูลฝอยทั่วไป และภาชนะบรรจุมูลฝอยติดเชื้อ
(๒) เครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ ที่ต้องจัดให้มีในแต่ละหน่วยบริการต้อง
เหมาะสมกับลักษณะการให้บริการ
(๓) รถเข็นนอนและรถเข็นนั่งสำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
ข้อ ๖ โรงพยาบาลทั่ว ไปต้อ งจั ด ให้ มีเครื่ องมื อ เครื่อ งใช้ ยาและเวชภั ณ ฑ์ และ
ยานพาหนะเฉพาะที่จำเป็นประจำแต่ละหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการ ในจำนวนที่
เหมาะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้
(๑) แผนกเวชระเบียน ต้องจั ดให้มีตู้ห รือชั้นหรืออุป กรณ์ เก็บเวชระเบียนที่มั่นคง
ปลอดภัย และต้องจัดให้เป็นระเบียบสามารถค้นหาได้ง่าย หรือถ้าเป็นระบบคอมพิวเตอร์ต้องจัดให้มี
ระบบข้อมูลสำรองเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก ต้องจัดให้มี
(ก) ชุดตรวจโรคทั่วไปและชุดตรวจโรคเฉพาะทาง
(ข) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพ
(ค) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ง) เครื่องชั่งน้ำหนักและที่วัดส่วนสูงของร่างกาย
(๓) แผนกผู้ป่วยใน ต้องจัดให้มี
(ก) อุปกรณ์ประจำหน่วยบริการ ได้แก่ ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วย
ฟื้นคืนชีพ ชุดทำแผลฉีดยา ชุดให้ยาผู้ป่วย ตู้เก็บเวชภัณฑ์ที่เหมาะสม และชุดตรวจร่างกายเบื้องต้น
(ข) อุปกรณ์ประจำเตียงและห้องผู้ป่วย ได้แก่ เตียงที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ และมีระบบเรียกพยาบาล
(๔) แผนกผู้ป่วยฉุกเฉิน ต้องจัดให้มี
(ก) ชุดตรวจโรคทั่วไป
(ข) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพ
(ค) เครื่องกระตุกหัวใจ
(ง) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(จ) ชุดใส่ท่อหายใจ และช่วยหายใจ
(ฉ) ชุดและอุปกรณ์ในการปฐมพยาบาล เช่น การล้างสารพิษ การดามกระดูก
เบื้องต้น ชุดห้ามเลือด และชุดล้างท้อง
เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์
(ข) ในกรณี ที่มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาท หรื อยาเสพติ ด ให้ โทษ ให้ มี
สถานที่หรือตู้เก็บที่มีกุญแจปิดและเปิดอย่างมีประสิทธิภาพ
(ค) อุปกรณ์การนับเม็ดยาอย่างน้อยสองชุด
(ง) ตู้หรือชั้นเก็บยาและเวชภัณฑ์อื่น
(๖) แผนกกายภาพบำบัด ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่ อ งมื อ หรื อ อุ ป กรณ์ ที่ ใ ช้ ใ นการตรวจประเมิ น และวิ นิ จ ฉั ย ทาง
กายภาพบำบัด เช่น โกนิโอมิเตอร์ สายวัดความยาว เครื่องวัดความดัน และหูฟัง
(ข) เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทำกายภาพบำบัด รวมถึงเครื่องมือไฟฟ้า
และอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(๗) แผนกเทคนิคการแพทย์ ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องมือตรวจวิเคราะห์ ทางห้องปฏิบัติการและน้ ำยาตามมาตรฐานการ
ประกอบวิชาชีพของประเภทการตรวจวิเคราะห์ที่ให้บริการ
(ข) ตู้เย็นสำหรับเก็บรักษาสิ่งตัวอย่างและน้ำยาสำหรับการตรวจวิเคราะห์
(๘) แผนกรังสีวิทยา ต้องจัดให้มี
(ก) อุปกรณ์วัดและป้องกันอันตรายจากรังสี
(ข) เครื่องเอกซเรย์ที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
(ค) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพอย่างน้อยหนึ่งชุด
(ง) เครื่องล้างฟิล์ม
(จ) ตู้อ่านฟิล์มหรืออุปกรณ์อ่านฟิล์มระบบดิจิทัล
(ฉ) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ช) ระบบไฟสัญญาณเตือนขณะเครื่องเอกซเรย์ทำงาน
(๙) แผนกผ่าตัด ต้องจัดให้มี
(ก) เตียงและโคมไฟผ่าตัดแบบมาตรฐานใช้ในการผ่าตัดทุกห้องที่ใช้งานผ่าตัด
(ข) เครื่องดมยาสลบที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ และระบบแก๊สทางการแพทย์
ซึ่งมีสัญญาณเตือนอันตรายทุกห้องที่ขออนุญาตใช้งาน
(ค) ถังออกซิเจนและเครื่องดูดเสมหะสำรองพร้อมใช้งาน
(ง) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพทุกห้อง
(จ) เครื่องมือผ่าตัดที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์และเพียงพอสำหรับการผ่าตัด
ตามสาขาโรค
(ฉ) อ่างฟอกมือชนิดที่ไม่ใช้มือเปิดปิดน้ำ
(ช) ตู้เสื้อผ้าและบริเวณสำหรับเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้า
กฎกระทรวง
(จ) ระบบแก๊สทางการแพทย์ เครื่องดูดเสมหะและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ฉ) เครื่องมือทำคลอดจำนวนที่เพียงพอและได้มาตรฐานทางการแพทย์
(ช) เครื่องตรวจสัญญาณชีพทารกในครรภ์
(ซ) อ่างฟอกมือชนิดที่ไม่ใช้มือเปิดปิดน้ำ
(ฌ) อ่างอาบน้ำทารก
(ญ) เครื่องชั่งน้ำหนักทารกแรกเกิด
(๑๑) ระบบรถรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน ต้องได้รับอนุญาตให้ใช้งานจากสำนักงานตำรวจ
แห่งชาติ และต้องจัดให้มี
(ก) ไฟสัญญาณฉุกเฉินสีน้ำเงินติดตั้งบนหลังคารถ
(ข) เปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
(ค) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ง) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพประจำรถ
(จ) ชุดห้ามเลือด เย็บแผล และทำแผล
(๑๒) ระบบควบคุมการติดเชื้อ ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำความสะอาด
(ข) อ่างและบริเวณที่เพียงพอสำหรับล้างและเตรียมเครื่องมือ
(ค) หม้อต้ม หม้อนึ่ง หรือหม้อนึ่งอบความดันหรือระบบฆ่าเชื้อด้วยแก๊สที่มี
ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ
(ง) ตู้ที่มิดชิดสำหรับเก็บเครื่องมือที่ปราศจากเชื้อแล้ว และมีเครื่องมือที่พร้อม
ใช้งาน
(จ) ตู้เสื้อผ้าและบริเวณสำหรับเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้า
(ฉ) อุปกรณ์สำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพการปราศจากเชื้อ
(ช) รถเข็นรับส่งสิ่งของสะอาด
(ซ) รถเข็นรับส่งสิ่งของใช้แล้ว
(๑๓) ระบบบำบัดน้ำเสียต้องจัดให้มีมาตรฐานที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
(๑๔) ระบบไฟฟ้ าสำรองต้ อ งจัด ให้ มี เครื่ อ งกำเนิ ด ไฟฟ้ ามี ก ำลั งเพี ย งพอสำหรั บ
อุปกรณ์ที่จำเป็นและติดตั้งไฟแสงสว่างฉุกเฉินตามจุดที่จำเป็น
(๑๕) ระบบน้ำสำรองต้องจัดให้มีที่เก็บกักน้ำสำรองขนาดที่เพียงพอสำหรับการใช้ที่
จำเป็น
ในกรณีที่มีหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการอื่นเพิ่มเติมจากวรรคหนึ่ง
โรงพยาบาลทั่วไปต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์เฉพาะที่จำเป็นประจำแต่ละหน่วย
บริการและระบบสนับสนุนการให้บริการเพิ่มเติม ในจำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้
(จ) เครื่องกระตุกหัวใจ
(ฉ) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจครบทุกเตียง
(ช) เตียงนอนแบบมาตรฐาน ซึ่งปรับศีรษะและปลายเท้าสูงต่ำได้
(ซ) ระบบเรียกพยาบาลประจำเตียงผู้ป่วย
(๒) ห้องให้การรักษาต้องจัดให้มีเตียง และอุปกรณ์ทำแผล ฉี ดยา ใส่เฝือก ให้เลือด
และให้น้ำเกลือ
(๓) ห้องผ่าตัดเล็กต้องจัดให้มีเตียงและโคมไฟผ่าตัด ชุดเครื่องมือผ่าตัดทั่วไป ตู้เก็บ
อุปกรณ์ปราศจากเชื้อ และระบบไฟฟ้าและแสงสว่างสำรอง
(๔) ห้องตรวจภายในและขูดมดลูก ต้องจัดให้มี
(ก) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพผู้ป่วยอย่างน้อยหนึ่งชุด
(ข) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ โคมไฟหรืออุปกรณ์แสง
สว่างเพื่อการตรวจภายใน
(ค) เตียงสำหรับใช้ตรวจภายในและใช้ขูดมดลูก
(ง) ชุดตรวจภายในและขูดมดลูกที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
(จ) อ่างฟอกมือชนิดที่ไม่ใช้มือเปิดปิดน้ำ
(๕) ห้องทารกหลังคลอด ต้องจัดให้มี
(ก) เตียงทารกหลังคลอด และตู้อบทารกคลอดก่อนกำหนด
(ข) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ค) อ่างอาบน้ำทารก
(ง) เครื่องรักษาทารกตัวเหลืองด้วยแสง
(๖) ห้องทันตกรรม ต้องจัดให้มี
(ก) ยูนิตทำฟัน ประกอบด้วยระบบให้แสงสว่าง ระบบเครื่องกรอฟัน ระบบดูด
น้ำลาย ระบบน้ำบ้วนปาก และเก้าอี้คนไข้
(ข) เก้าอี้ทันตแพทย์ และเก้าอี้ผู้ช่วยทันตแพทย์
(ค) เครื่องเอกซเรย์ฟันที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
(ง) หม้อนึ่งอบความดันที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ
(จ) ชุดตรวจฟัน อุดฟัน ถอนฟัน ชุดศัลยกรรมช่องปาก ชุ ดรักษาคลองรากฟัน
ชุด รัก ษาโรคเหงือ ก ชุ ด ทั น ตกรรมประดิ ษ ฐ์ เครื่ อ งขู ด หิ น น้ ำลาย และเครื่ อ งมื อ อุ ป กรณ์ อื่ น ตาม
มาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(๗) ห้องไตเทียม ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องล้างไต
(ข) เครื่องผลิตน้ำสำหรับล้างไต
กฎกระทรวง
(ค) ตู้เก็บเสื้อผ้า
(ง) อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อต่อผู้ปฏิบัติงาน
(๙) ห้องโภชนาการ ต้องจัดให้มี
(ก) โต๊ะเตรียมอาหารที่สะอาด
(ข) อุป กรณ์ เครื่องมือเครื่ องใช้ในการประกอบอาหารและจั ดส่ งอาหารที่ถู ก
สุขลักษณะ
(ค) อุปกรณ์ระบายอากาศ เครื่องดูดควัน และอุปกรณ์ป้องกันแมลงและสัตว์
รบกวน
(ง) ตู้เก็บอาหารที่สะอาดและมิดชิด
(จ) เครื่องแต่งกายของเจ้าหน้าทีต่ ามหลักสุขาภิบาลอาหาร
(๑๐) ห้องพักศพที่ให้บริการเก็บศพตั้งแต่ยี่สิบสี่ชั่วโมงขึ้นไป ต้องจัดให้มี
(ก) ตู้เย็นสำหรับเก็บศพ
(ข) รถเข็นศพ
(๑๑) ยานพาหนะสำหรับให้บริการนอกโรงพยาบาลต้องมีมาตรฐาน ดังต่อไปนี้
(ก) รถเอกซเรย์เคลื่อนที่ต้องมีเครื่องเอกซเรย์เ พื่อการตรวจวินิ จฉัย พร้อม
อุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากรังสีที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ หรือหน่วยงานอื่นที่
ได้ รับ มอบหมาย และหากมีก ารให้ บ ริก ารชั น สู ต รร่ ว มด้ว ย ต้อ งเป็ น ไปตามมาตรฐานที่ ผู้ อนุ ญ าต
ประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการสถานพยาบาล
(ข) รถทันตกรรมที่ได้มาตรฐานตามที่ผู้อนุญาตประกาศกำหนดโดยคำแนะนำ
ของคณะกรรมการสถานพยาบาล
(ค) รถปฏิบัติการชันสูตรที่ได้มาตรฐานตามที่ผู้อนุญาตประกาศกำหนดโดย
คำแนะนำของคณะกรรมการสถานพยาบาล
กฎกระทรวง
(จ) ชุดห้ามเลือด เย็บแผล และทำแผล
(๘) ระบบควบคุมการติดเชื้อ ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำความสะอาด
(ข) อ่างและบริเวณที่เพียงพอสำหรับล้างและเตรียมเครื่องมือ
(ค) หม้อต้ม หม้อนึ่ง หรือหม้อนึ่งอบความดันที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ
(ง) ตู้ที่มิดชิดสำหรับเก็บเครื่องมือที่ปราศจากเชื้อแล้ว และมีเครื่องมือที่พร้อมใช้งาน
(จ) ตู้เสื้อผ้าและบริเวณสำหรับเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้า
(ฉ) อุปกรณ์สำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพการปราศจากเชื้อ
(ช) รถเข็นรับส่งสิ่งของสะอาด
(ซ) รถเข็นรับส่งสิ่งของใช้แล้ว
(๙) ระบบบำบัดน้ำเสียต้องจัดให้มีมาตรฐานที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
(๑๐) ระบบไฟฟ้ าสำรองต้ อ งจั ด ให้ มี เครื่ อ งกำเนิ ด ไฟฟ้ ามี ก ำลั งเพี ย งพอสำหรั บ
อุปกรณ์ที่จำเป็น และติดตั้งไฟแสงสว่างฉุกเฉินตามจุดที่จำเป็น
(๑๑) ระบบน้ำสำรองต้องจัดให้มีที่เก็บกักน้ำสำรองขนาดที่เพียงพอสำหรับการใช้ที่
จำเป็น
ในกรณีที่มีหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการอื่นเพิ่มเติมจากวรรคหนึ่ง
โรงพยาบาลทันตกรรมต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์เฉพาะที่จำเป็นประจำแต่ละ
หน่ ว ยบริ ก ารและระบบสนั บ สนุ น การให้ บ ริ ก ารเพิ่ ม เติ ม ในจำนวนที่ เหมาะสมและเพี ย งพอ
เช่นเดียวกับที่กำหนดไว้ในข้อ ๖ วรรคสอง โดยอนุโลม
กฎกระทรวง
ข้อ ๙ โรงพยาบาลกายภาพบำบัดต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์
และยานพาหนะเฉพาะที่ จำเป็ นประจำแต่ล ะหน่ว ยบริการและระบบสนับ สนุน การให้ บริการ ใน
จำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอ ดังต่อไปนี้
(๑) แผนกเวชระเบี ย นต้ อ งจั ด ให้ มี ตู้ ชั้ น หรื อ อุ ป กรณ์ เก็ บ เวชระเบี ย นที่ มั่ น คง
ปลอดภัย และต้องจัดให้เป็นระเบียบสามารถค้นหาได้ง่าย หรือถ้าเป็นระบบคอมพิวเตอร์ต้องจัดให้มี
ระบบข้อมูลสำรองเพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย
(๒) แผนกผู้ป่วยนอก ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่ อ งมื อ หรื อ อุ ป กรณ์ ที่ ใ ช้ ใ นการตรวจประเมิ น และวิ นิ จ ฉั ย ทาง
กายภาพบำบัด เช่น โกนิโอมิเตอร์ สายวัดความยาว เครื่องวัดความดัน และหูฟัง
(ข) เครื่ อ งมื อ หรื อ อุ ป กรณ์ ก ายภาพบำบั ด รวมทั้ ง เครื่ อ งมื อ ไฟฟ้ า และ
อิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ
(๓) แผนกผู้ป่วยใน ต้องจัดให้มี
(ก) อุปกรณ์ประจำหน่วยบริการ ได้แก่ ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วย
ฟื้นคืนชีพ ชุดให้ยาผู้ป่วย และตู้เก็บเวชภัณฑ์ที่เหมาะสม
(ข) อุปกรณ์ประจำเตียงและห้องผู้ป่วย ได้แก่ เตียงที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ และมีระบบเรียกพยาบาล
(๔) ระบบรถรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน ต้องได้รับอนุญาตให้ใช้งานจากสำนักงานตำรวจ
แห่งชาติ และต้องจัดให้มี
(ก) ไฟสัญญาณฉุกเฉินสีน้ำเงินติดตั้งบนหลังคารถ
(ข) เปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
(ค) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ง) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ในการช่วยฟื้นคืนชีพประจำรถ
(จ) ชุดห้ามเลือด เย็บแผล และทำแผล
(๕) ระบบควบคุมการติดเชื้อ ต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำความสะอาด
(ข) อ่างและบริเวณที่เพียงพอสำหรับล้างและเตรียมเครื่องมือ
(ค) หม้อต้ม หม้อนึ่ง หรือหม้อนึ่งอบความดันที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ
(ง) ตู้ที่มิดชิดสำหรับเก็บเครื่องมือที่ปราศจากเชื้อแล้ว และมีเครื่องมือที่พร้อมใช้งาน
(จ) ตู้เสื้อผ้าและบริเวณสำหรับเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้า
(ฉ) อุปกรณ์สำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพการปราศจากเชื้อ
(ช) รถเข็นรับส่งสิ่งของสะอาด
ในกรณีที่มีหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการอื่นเพิ่มเติมจากวรรคหนึ่ง
โรงพยาบาลกายภาพบำบัดต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์เฉพาะที่จำเป็นประจำแต่
ละหน่ ว ยบริ ก ารและระบบสนั บ สนุ น การให้ บ ริ ก ารเพิ่ ม เติ ม ในจำนวนที่ เหมาะสมและเพี ย งพอ
เช่นเดียวกับที่กำหนดไว้ในข้อ ๖ วรรคสอง โดยอนุโลม
กฎกระทรวง
(๗) ระบบรถรับส่งผู้ป่วยฉุก เฉิน ต้องได้รับอนุญาตให้ใช้งานจากสำนักงานตำรวจ
แห่งชาติและต้องจัดให้มี
(ก) ไฟสัญญาณฉุกเฉินสีน้ำเงินติดตั้งบนหลังคารถ
(ข) เปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
(ค) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(ง) ชุดอุปกรณ์ ยาและเวชภัณฑ์ประจำรถ
(๘) ระบบควบคุมการติดเชื้อต้องจัดให้มี
(ก) เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำความสะอาด
(ข) อ่างและบริเวณที่เพียงพอสำหรับล้างและเตรียมเครื่องมือ
(ค) หม้อต้ม หม้อนึ่ง หรือหม้อนึ่งอบความดันที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ
(ง) ตู้ที่มิดชิดสำหรับเก็บเครื่องมือที่ปราศจากเชื้อแล้ว และมีเครื่องมือที่พร้อมใช้งาน
(จ) ตู้เสื้อผ้าและบริเวณสำหรับเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้า
(ฉ) อุปกรณ์สำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพการปราศจากเชื้อ
(ช) รถเข็นรับส่งสิ่งของสะอาด
(ซ) รถเข็นรับส่งสิ่งของใช้แล้ว
(๙) ระบบบำบัดน้ำเสียต้องจัดให้มีมาตรฐานที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
(๑๐) ระบบไฟฟ้ าสำรองต้องจั ดให้ มีเครื่องกำเนิ ดไฟฟ้ าที่มีกำลั งเพีย งพอสำหรั บ
อุปกรณ์ที่จำเป็นและติดตั้งไฟแสงสว่างฉุกเฉินตามจุดที่จำเป็น
(๑๑) ระบบน้ำสำรองต้องจัดให้มีที่เก็บกักน้ำสำรองขนาดที่เพียงพอสำหรับการใช้ที่
จำเป็น
ในกรณีที่มีหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการอื่นเพิ่มเติมจากวรรคหนึ่ง
โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์เฉพาะที่จำเป็นประจำ
แต่ ล ะหน่ ว ยบริการและระบบสนั บ สนุ นการให้ บริ การเพิ่ม เติมในจำนวนที่เหมาะสมและเพี ย งพอ
เช่นเดียวกับที่กำหนดไว้ในข้อ ๖ วรรคสอง โดยอนุโลม
๖
ข้อ ๑๐/๑ เพิ่มโดยกฎกระทรวงกำหนดชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ยาและเวชภัณฑ์
หรือยานพาหนะที่จำเป็นประจำสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
กฎกระทรวง
อุปกรณ์ที่จำเป็นและติดตั้งไฟแสงสว่างฉุกเฉินตามจุดที่จำเป็น
(๑๑) ระบบน้ำสำรองต้องจัดให้มีที่เก็บกักน้ำสำรองขนาดที่เพียงพอสำหรับการใช้ที่
จำเป็น
ในกรณีที่มีหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการอื่นเพิ่มเติมจากวรรคหนึ่ง
โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยประยุกต์ต้องจัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์เฉพาะที่
จำเป็นประจำแต่ละหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการเพิ่มเติมในจำนวนที่เหมาะสมและ
เพียงพอเช่นเดียวกับที่กำหนดไว้ในข้อ ๖ วรรคสอง โดยอนุโลม
ข้อ ๑๑ โรงพยาบาลเฉพาะทางและโรงพยาบาลเฉพาะประเภทผู้ป่วยต้องจัดให้ มี
เครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภั ณฑ์ และยานพาหนะเฉพาะที่จำเป็นประจำแต่ละหน่วยบริการและ
ระบบสนับสนุนการให้บริการ ในจำนวนที่เหมาะสมและเพียงพอเช่นเดียวกับที่กำหนดไว้ในข้อ ๖ โดย
อนุโลม
บทเฉพาะกาล
ข้อ ๑๓ สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนซึ่งได้รับใบอนุญาตให้ประกอบ
กิจการสถานพยาบาล และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลอยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้
บังคับ ต้องดำเนินการจัดให้มีชนิดและจำนวนเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์หรือยานพาหนะที่
จำเป็นประจำสถานพยาบาลตามกฎกระทรวงนี้ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้มี
ผลใช้บังคับ
๗
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕/ตอนที่ ๑๖ ก/หน้า ๕/๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
กฎกระทรวง
แห่ ง พระรำชบั ญ ญั ติ ส ถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ รั ฐ มนตรี ว่ ำ กำรกระทรวงสำธำรณสุ ข ออก
กฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๒ ในกฎกระทรวงนี้
“สถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่ วยไว้ค้ำงคืน ” หมำยควำมว่ำ สถำนพยำบำล
ประเภทคลิ นิกตำมกฎกระทรวงว่ำด้ว ยกำรกำหนดลั กษณะของสถำนพยำบำล และลั กษณะกำร
ให้บริกำรของสถำนพยำบำล
“สถำนพยำบำลประเภทที่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ค้ ำงคื น ” หมำยควำมว่ ำ สถำนพยำบำล
ประเภทโรงพยำบำลตำมกฎกระทรวงว่ำด้วยกำรกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำล และลักษณะกำร
ให้บริกำรของสถำนพยำบำล
หมวด ๑
ผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน
ข้อ ๓ คลินิกดังต่อไปนี้ต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชำชีพปฏิบัติงำนตลอดเวลำที่เปิดทำ
กำรตำมรำยชื่อในหนังสือแสดงควำมจำนงเป็ นผู้ ปฏิบัติงำนในคลินิกของผู้ รับ อนุญ ำตตำมแบบที่ผู้
อนุญำตกำหนดโดยประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ จำนวนอย่ำงน้อยหนึ่งคน
(๑) คลินิกเวชกรรม ต้องมีผู้ประกอบวิชำชีพเวชกรรม
(๒) คลินิกทันตกรรม ต้องมีผู้ประกอบวิชำชีพทันตกรรม
(๓) คลินิกกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์ ต้องมีผู้ประกอบวิชำชีพกำรพยำบำลและ
กำรผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง หรือผู้ประกอบวิชำชีพกำรพยำบำล ชั้นหนึ่ง
(๔) คลินิกกำยภำพบำบัด ต้องมีผู้ประกอบวิชำชีพกำยภำพบำบัด
(๕) คลินิกเทคนิคกำรแพทย์ ต้องมีผู้ประกอบวิชำชีพเทคนิคกำรแพทย์
(๖)๒ คลินิกกำรแพทย์แผนไทยต้องมีผู้ประกอบวิชำชีพกำรแพทย์แผนไทย
๑
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๒/ตอนที่ ๒๖ ก/หน้ำ ๕๐/๒ เมษำยน ๒๕๕๘
๒
ข้ อ ๓ (๖) แก้ ไขเพิ่ม เติมโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพ และจำนวนผู้ป ระกอบวิชำชี พใน
สถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
จำกต่ ำงประเทศซึ่ งวิ ช ำชี พ นั้ น ยั งมิ ได้ มี กฎหมำยรั บ รองในประเทศไทยตำมกฎหมำยว่ำด้ ว ยกำร
ประกอบโรคศิลปะ ต้องจัดให้มีบุคคลที่ได้รับอนุญำตให้ทำกำรประกอบโรคศิลปะดังกล่ำวร่วมด้วย
หมวด ๒
ผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืน
ข้อ ๔ โรงพยำบำลทั่วไปต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชำชีพปฏิบัติงำนเต็มเวลำหรือบำง
เวลำในเวลำที่เปิดทำกำรระหว่ำงเวลำ ๐๘.๐๐ นำฬิกำ ถึง ๒๐.๐๐ นำฬิกำ โดยมีจำนวนขั้นต่ำตำม
จำนวนเตียงที่ขออนุญำตเปิดดำเนินกำร ตำมที่กำหนดไว้ในตำรำงที่ ๑ ท้ำยกฎกระทรวงนี้
ข้อ ๕ โรงพยำบำลทันตกรรมต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชำชีพปฏิบัติงำนเต็มเวลำหรือ
บำงเวลำในเวลำที่เปิดทำกำรระหว่ำงเวลำ ๐๘.๐๐ นำฬิกำ ถึง ๒๐.๐๐ นำฬิกำ โดยมีจำนวนขั้นต่ำ
ตำมจำนวนเตียงที่ขออนุญำตเปิดดำเนินกำร ตำมที่กำหนดไว้ในตำรำงที่ ๒ ท้ำยกฎกระทรวงนี้
ข้อ ๗ โรงพยำบำลกำยภำพบำบัดต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชำชีพปฏิบัติงำนเต็มเวลำ
หรือบำงเวลำในเวลำที่เปิดทำกำรระหว่ำงเวลำ ๐๘.๐๐ นำฬิกำ ถึง ๒๐.๐๐ นำฬิกำ โดยมีจำนวนขั้น
ต่ำตำมจำนวนเตียงที่ขออนุญำตเปิดดำเนินกำร ตำมที่กำหนดไว้ในตำรำงที่ ๔ ท้ำยกฎกระทรวงนี้
ข้อ ๘ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชำชีพปฏิบัติงำนเต็ม
เวลำหรือบำงเวลำในเวลำที่เปิ ดทำกำรระหว่ำงเวลำ ๐๘.๐๐ นำฬิ กำ ถึง ๒๐.๐๐ นำฬิกำ โดยมี
จ ำนวนขั้ น ต่ ำตำมจ ำนวนเตี ย งที่ ข ออนุ ญ ำตเปิ ด ด ำเนิ น กำร ตำมที่ ก ำหนดไว้ ในตำรำงที่ ๕ ท้ ำ ย
กฎกระทรวงนี้
๓
ข้ อ ๓ (๖/๑) เพิ่ ม โดยกฎกระทรวงก ำหนดวิ ช ำชี พ และจ ำนวนผู้ ป ระกอบวิ ช ำชี พ ใน
สถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
กฎกระทรวง
ผู้ประกอบวิชำชีพปฏิบัติงำนเต็มเวลำหรือบำงเวลำในเวลำที่เปิดทำกำรระหว่ำงเวลำ ๐๘.๐๐ นำฬิกำ
ถึง ๒๐.๐๐ นำฬิกำ โดยมีจำนวนขั้นต่ำตำมจำนวนเตียงที่ขออนุญำตเปิดดำเนินกำร ตำมที่กำหนดไว้
ในตำรำงที่ ๑ ท้ำยกฎกระทรวงนี้ โดยอนุโลม
บทเฉพำะกำล
ข้อ ๑๒ สถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืนซึ่งได้รับใบอนุญำตให้ประกอบ
กิจกำรสถำนพยำบำล และใบอนุญำตให้ดำเนินกำรสถำนพยำบำลอยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้
บังคับ ต้องดำเนินกำรจัดให้มีผู้ประกอบวิชำชีพและจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำลตำม
กฎกระทรวงนี้ภำยในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับ
ตำรำงที่ ๑ โรงพยำบำลทั่วไป๖
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ
สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่
ผู้ประกอบวิชำชีพ ผู้ประกอบวิชำชีพต่อ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง
จำนวนเตียงที่เพิ่มขึ้น
กฎกระทรวง
ตำรำงที่ ๒ โรงพยำบำลทันตกรรม
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่ ผู้ประกอบวิชำชีพ
ผู้ประกอบวิชำชีพ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง ต่อจำนวนเตียง
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง ที่เพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๒ คน ต่อ ๑
๒ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน ๑๐ คน
ทันตกรรม ถึง ๓๐ เตียง
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๒ คน ต่อ ๑
กำรพยำบำลและ ๓ คน ๖ คน ๙ คน ๑๒ คน ๑๕ คน
ถึง ๓๐ เตียง
กำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๓ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เภสัชกรรม ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๓ คน
๑ คน ต่อ ๑
เทคนิคกำรแพทย์ (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
๖
ตำรำงที่ ๑ โรงพยำบำลทั่วไป แก้ไขเพิ่ มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพและจำนวนผู้
ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
กฎกระทรวง
กำรพยำบำลและ
๒ คน ต่อ ๑
กำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ๓ คน ๖ คน ๙ คน ๑๒ คน ๑๕ คน
ถึง ๓๐ เตียง
หรือผู้ประกอบวิชำชีพ
กำรพยำบำล ชั้นหนึ่ง
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เภสัชกรรม ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เทคนิคกำรแพทย์ ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๓ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
กำยภำพบำบัด ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
ตำรำงที่ ๔ โรงพยำบำลกำยภำพบำบัด
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่ ผู้ประกอบวิชำชีพ
ผู้ประกอบวิชำชีพ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง ต่อจำนวนเตียง
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง ที่เพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๒ คน ต่อ ๑
๒ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน ๑๐ คน
กำยภำพบำบัด ถึง ๓๐ เตียง
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๒ คน ต่อ ๑
กำรพยำบำลและ ๒ คน ๔ คน ๖ คน ๙ คน ๑๒ คน
ถึง ๓๐ เตียง
กำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๓ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เภสัชกรรม ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
(ด้ำนเวชกรรมไทย)
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๑ คน ต่อ ๑
กำรแพทย์แผนไทย ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๓ คน ๔ คน
ถึง ๓๐ เตียง
(ด้ำนเภสัชกรรมไทย)
๗
ตำรำงที่ ๕ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทย แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพและ
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
๘
ตำรำงที่ ๕/๑ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ เพิ่มโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพ
และจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
กฎกระทรวง
ผู้ประกอบวิชำชีพกำรพยำบำล ๑ คน ต่อ ๑
๒ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน ๑๐ คน
และกำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ถึง ๓๐ เตียง
๑ คน ต่อ ๑
ผู้ประกอบวิชำชีพเภสัชกรรม ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ถึง ๑๒๐ เตียง
๑ คน ๑ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพเทคนิค ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี ๑ คน ๑ คน ๒ คน
กำรแพทย์ ถึง ๑๒๐ เตียง
บริกำร) บริกำร)
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน
๑ คน ต่อ ๑
ผู้ประกอบวิชำชีพกำยภำพบำบัด (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
ถึง ๙๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
ผู้ประกอบวิชำชีพซึ่งเป็น ๑ คน ๑ คน
๑ คน ต่อ ๑
ผู้ประกอบโรคศิลปะ (หำกมี (หำกมี ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ถึง ๙๐ เตียง
สำขำรังสีเทคนิค บริกำร) บริกำร)
๙
ตำรำงที่ ๖ โรงพยำบำลทั่วไป แก้ไขเพิ่ มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพและจำนวนผู้
ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๑ คน ต่อ ๑
กำรพยำบำลและ ๑ คน ๒ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน
ถึง ๓๐ เตียง
กำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เภสัชกรรม ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เทคนิคกำรแพทย์ ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
ตำรำงที่ ๘ โรงพยำบำลกำรพยำบำลและกำรผดุงครรภ์
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่ ผู้ประกอบวิชำชีพ
ผู้ประกอบวิชำชีพ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง ต่อจำนวนเตียง
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง ที่เพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบวิชำชีพ
กำรพยำบำลและ
๑ คน ต่อ ๑
กำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ๒ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน ๑๐ คน
ถึง ๓๐ เตียง
หรือผู้ประกอบวิชำชีพ
กำรพยำบำล ชั้นหนึ่ง
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เภสัชกรรม ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เทคนิคกำรแพทย์ ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
กำยภำพบำบัด ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
กฎกระทรวง
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๑ คน ต่อ ๑
กำรพยำบำลและ ๑ คน ๒ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน
ถึง ๓๐ เตียง
กำรผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง
๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน ๓ คน
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
(หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี (หำกมี
เภสัชกรรม ถึง ๖๐ เตียง
บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร) บริกำร)
ตำรำงที่ ๑๐ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทย๑๐
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่ ผู้ประกอบวิชำชีพ
ผู้ประกอบวิชำชีพ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง ต่อจำนวนเตียง
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง ที่เพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๑ คน ต่อ ๑
กำรแพทย์แผนไทย ๑ คน ๓ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน
ถึง ๑๕ เตียง
(ด้ำนเวชกรรมไทย)
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๑ คน ต่อ ๑
กำรแพทย์แผนไทย ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ถึง ๙๐ เตียง
(ทำงด้ำนเภสัชกรรมไทย)
ตำรำงที่ ๑๑ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์๑๑
จำนวนผู้ประกอบวิชำชีพ สัดส่วนของ
ขนำดเล็ก ขนำดกลำง ขนำดใหญ่ ผู้ประกอบวิชำชีพ
ผู้ประกอบวิชำชีพ
ไม่เกิน ๑๑ ถึง ๓๑ ถึง ๖๑ ถึง ๙๑ ถึง ต่อจำนวนเตียง
๑๐ เตียง ๓๐ เตียง ๖๐ เตียง ๙๐ เตียง ๑๒๐ เตียง ที่เพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบวิชำชีพ ๑ คน ต่อ ๑
๑ คน ๓ คน ๔ คน ๖ คน ๘ คน
กำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ถึง ๑๕ เตียง
ผู้ประกอบวิชำชีพ
๑ คน ต่อ ๑
กำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๑ คน ๒ คน
ถึง ๙๐ เตียง
(ทำงด้ำนเภสัชกรรมไทย)
๑๐
ตำรำงที่ ๑๐ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทย แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพ
และจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๑
ตำรำงที่ ๑๑ โรงพยำบำลกำรแพทย์แผนไทยประยุกต์ เพิ่มโดยกฎกระทรวงกำหนดวิชำชีพ
และจำนวนผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๒
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๕/ตอนที่ ๑๖ ก/หน้ำ ๑๒/๘ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๒
กฎกระทรวง
อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำ ๖ วรรคหนึ่ง และมำตรำ ๑๘ วรรคหนึ่ง (๕) แห่ง
พระรำชบั ญ ญั ติ ส ถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ และมำตรำ ๓๒ วรรคสอง แห่ งพระรำชบั ญ ญั ติ
สถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุขออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๒ ในกฎกระทรวงนี้
“สถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ ป่วยไว้ ค้ำงคืน” หมำยควำมว่ำ สถำนพยำบำล
ประเภทคลิ นิ ก ตำมกฎกระทรวงว่ำด้ว ยกำรก ำหนดลั กษณะของสถำนพยำบำลและลั กษณะกำร
ให้บริกำรของสถำนพยำบำล
“สถำนพยำบำลประเภทที่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ ค้ ำงคื น ” หมำยควำมว่ ำ สถำนพยำบำล
ประเภทโรงพยำบำลตำมกฎกระทรวงว่ำด้ว ยกำรกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและลักษณะ
กำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล
๑
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๖/ตอนที่ ๑๖ ก/หน้ำ ๑๕/๘ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๒
ข้อ ๕ ผู้รับอนุญำตต้องแสดงรำยละเอียดเกี่ยวกับชื่อสถำนพยำบำลที่ได้รับอนุญำต
ในที่เปิดเผย ณ สถำนพยำบำลนั้น ดังต่อไปนี้
กฎกระทรวง
ข้อ ๗ สถำนพยำบำลประเภทที่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ ค้ ำงคื น ให้ ใช้พื้ น แผ่ น ป้ ำยสี ขำวและ
ตัวอักษรในแผ่นป้ำยแสดงชื่อให้ใช้สี ดังต่อไปนี้
(๑) โรงพยำบำลทั่วไปให้ใช้ตัวอักษรสีเขียว
กฎกระทรวง
(๘) โรงพยำบำลเฉพำะประเภทผู้ป่วยให้ใช้ตัวอักษรสีเหลือง
ข้อ ๘ ให้ผู้รับอนุญำตแสดงรำยกำรเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล
ที่ได้รับอนุญำตในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่ำย ณ สถำนพยำบำลนั้น ดังต่อไปนี้
(๑) สถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ ค้ำงคืน ให้จัดให้มีแผ่นป้ำยแสดงชื่อและ
ชื่อสกุลของผู้ประกอบวิชำชีพและสำขำวิชำชีพ พร้อมทั้งระบุเลขที่ใบอนุญำตประกอบวิชำชีพให้อ่ำน
ได้ชัดเจน และให้แสดงรูป ถ่ำยที่ถ่ำยไม่เกินหนึ่งปี มีขนำดควำมกว้ำงไม่น้อยกว่ำแปดเซนติเมตรและ
ควำมยำวไม่น้อยกว่ำสิบสำมเซนติเมตร โดยสีของพื้นแผ่นป้ำยให้ใช้สีน้ำเงิน ตัวอักษรในแผ่นป้ำยให้ใช้
สีดำโดยมีแถบสี ขำวเป็ น พื้นหลังอยู่ตรงตัวอักษรที่ระบุ ข้อ ควำม และให้ ติดแผ่ น ป้ ำยไว้ในบริเวณที่
ผู้ป่วยมำติดต่อขอใช้บริกำร
(๒) สถำนพยำบำลประเภทที่รับ ผู้ป่ว ยไว้ ค้ำงคืน ให้จัดให้มีร ะบบแสดงชื่อ และ
ชื่อสกุลของผู้ประกอบวิชำชีพและสำขำวิชำชีพ พร้อมทั้งระบุเลขที่ใบอนุญำตประกอบวิชำชีพให้อ่ำน
ได้ชัดเจนในบริเวณที่ผู้ป่วยมำติดต่อขอใช้บริกำร
กฎกระทรวง
ลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำลตำมกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถำนพยำบำลและ
ลักษณะกำรให้บริกำรของสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๕๘ ดังนั้น เพื่อให้กำรกำหนดชื่อสถำนพยำบำล
และกำรแสดงรำยละเอียดเกี่ยวกับชื่อ สถำนพยำบำล ผู้ป ระกอบวิชำชีพในสถำนพยำบำล อัตรำ
ค่ำ รัก ษำพยำบำล ค่ำ ยำและเวชภัณฑ์ ค่ำบริกำรทำงกำรแพทย์ ค่ำบริกำรอื่น และสิทธิของผู้ป่วย
เป็นไปโดยเหมำะสมและสอดคล้องกัน จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ มาตรา ๒๔ วรรคสอง มาตรา ๒๘ วรรคสาม
และมาตรา สํ๓๐
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
วรรคสอง แห ง พระราชบั ญ ญั ตสํิ สาถานพยาบาล
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พ.ศ. ๒๕๔๑ อั น เป น
กฎกระทรวง
พระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๙ ประกอบกับ มาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย บัญญัติใหกระทําไดโดย
อาศัยอํานาจตามบทบั ญญัติแหงกฎหมายการัฐมนตรีวาการกระทรวงสาธารณสุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ขออกกฎกระทรวงไว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ดังตอไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การขออนุญกาาตและการออกใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ญาต กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๑ ผูใดประสงคจะขอรับใบอนุญาตใหดําเนินการสถานพยาบาล ใหยื่นคําขอ
ตามแบบที่ปลัสํดานักระทรวงสาธารณสุ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขกําหนดโดยประกาศในราชกิ จจานุเบกษา พรกอามดวยเอกสาร
และหลักฐานตามที่ระบุไวในแบบคําขอนั้น
ขอก๓า ผูขอรับใบอนุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักญงานคณะกรรมการกฤษฎี
าตใหดําเนินการสถานพยาบาลที
กา ่ไดสํปานัฏิกบงานคณะกรรมการกฤษฎี
ัติงานอื่นอยูแลว กา
ใหแจงวัน เวลาที่ปฏิบัติงานดังกลาวดวยในกรณีที่ปฏิบัติงานอื่นอยูแลว ตองมีเวลาที่ปฏิบัติงานใน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สถานพยาบาลประเภทที ่รับผูปวยไวคางคืนในเวลาราชการไม นอยกวาสี่สิบชั่วโมงตอสัปดาห
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๔ การพิจารณาอนุ ญาตใหดําเนินการสถานพยาบาล ผูสํอานันุกญงานคณะกรรมการกฤษฎี
าตตองพิจารณา กา
วา วัน เวลาที่ผสําูยนัื่นกคํงานคณะกรรมการกฤษฎี
าขอรับใบอนุญาตใหดกาําเนินการสถานพยาบาล จะตองไมซ้ําซอกนกั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า บวัน เวลา ที่
ผูนั้นไดรับอนุญาตใหดําเนินการสถานพยาบาลอื่นไวแลว หรือตองไมซ้ําซอนกับวัน เวลาที่ผูนั้น
เปนผูประกอบวิชาชีกพา ในสถานพยาบาลอื
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ่น หรือไมซ้ําซอนกักบาวัน เวลา ที่ผสํูนาั้นนักปฏิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บัติงานในสวน กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ราชการหรือหนวยงานอื่น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๑๙/ตอนที่ ๘๒ ก/หนา ๕๑/๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขอก๖า การไดรับอนุ
สํานัญกาตให
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เปนผูดําเนินการสถานพยาบาลสํตามข
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อ ๕ ไมเปนการ กา
ตัดอํานาจของผูรับอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาลในการที่จะเปลี่ยนตัวผูดําเนินการและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไมเปนการตัดสิทธิของผูดําเนินการที่ไมประสงคจะเปนผูดําเนินการ กอนใบอนุญาตใหดําเนินการ
กฎกระทรวง
สถานพยาบาลนั้นสิ้นกาอายุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๗ ผูรับอนุญาตใหกปา ระกอบกิจการสถานพยาบาลที ่ประสงค
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา จะเปลี่ยนตัว
ผู ดํ า เนิ น การสถานพยาบาล หรื อ ในกรณี ที่ ผู ดํ า เนิ น การสถานพยาบาลไม ป ระสงค จ ะเป น
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ผูดําเนินการในสถานพยาบาลนั ้นตสํอานัไปกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใหแจงเปนหนังสือใหกาคูกรณีทราบลสํวางหน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
าไมนอยกวาสิบ กา
หาวัน และใหผูรับอนุญาตจัดหาบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติตามมาตรา ๒๕ ยื่นคําขอและหลักฐานตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา พรอมแนบใบอนุญาต
ใหดําเนินการสถานพยาบาลเดิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มคืสํนาดนัวกยงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒
การตออายุใบอนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๘ ผู ดํ า เนิ น การที
กา่ ป ระสงค จ สํะขอต อ อายุ ใ บอนุ ญ าตให
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ดํ า เนิ น การ
สถานพยาบาลใหยื่นคําขอตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกําหนดโดยประกาศในราชกิจจา
นุ เ บกษา พร อ มด วกยเอกสารและหลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ก ฐานตามที่ ร ะบุ ไ ว ใกนคํ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า า ขอนั้ น การอนุ ญ าตให ต อ อายุ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ใบอนุญาตใหดําเนินการสถานพยาบาล ใหผูอนุญาตแสดงไวในรายการทายใบอนุญาตเดิมหรือ
ออกใบอนุ ญสําตให
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใ หม โ ดยระบุ เ ลขที่ ใ บอนุ ญ าตเดิ มสํพร
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อ มบั น ทึ ก การการต อ อายุ ใ บอนุ ญ าต
ดังกลาวไวในสมุดทะเบี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ยนสถานพยาบาล สําหรับใบอนุญาตเดิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา มที่หมดอายุสํแาลนัวกและได มีการออก กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
ใบอนุญาตใหใหม ใหประทับตรายกเลิกการใชดวยอักษรสีแดง
หมวด ๓
สํการขอออกใบแทนใบอนุ ญกาตา
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๑๐ ผูดําเนินการที่ประสงคจะแกไขเปลี่ยนแปลงรายการการที่ไดรับอนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไวแลว ในกรณีดังกลาวตอไปนี้ ใหยื่นคําขอตามแบบที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกํ าหนดโดย
ประกาศในราชกิจจานุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา เบกษา
(๑) การเปลี่ยนชื่อสถานพยาบาล
สํานั(๒)กงานคณะกรรมการกฤษฎี
การเปลี่ยนชื่อตัว ชืก่อาสกุล ของผูดสํําาเนิ นักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
การ กา
(๓) การเปลี่ยนชื่อที่ตั้งสถานพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การอนุญ าตให แ ก ไ ขเปลี่ ยนแปลงรายการดัง กล า ว ให ผู อ นุ ญ าตออกใบแทน
ใบอนุ ญ าตใหสํใานัหม แ ละให บั น ทึ ก การเปลี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ ย นแปลงไวสํใานสมุ ด ทะเบี ย นสถานพยาบาล
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํ า หรั บ
ใบอนุญาตเดิมใหประทับตรายกเลิกการใชดวยอักษรสีแดง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี การเปลี
กา ่ ย นชื่ อ ทีสํา่ ตนัั้ งกสถานพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี ตามกา (๓) ผู ดํ า เนิ
สํานันกการไม ต อ งเสี ย กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
คาธรรมเนียมในการเปลี่ยนแปลงแกไขใบอนุญาต
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๑๑ การยื่นคําขอตามกฎกระทรวงนี้ ในกรุงเทพมหานคร ใหยื่น ณ กองการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกอบโรคศิลปะ สํานักงานปลัดสํกระทรวง
านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทรวงสาธารณสุข หรือสถานที สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
่อื่นที่ปลัดกระทรวง
สาธารณสุขประกาศกํ าหนดและสําหรับกในจั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี า งหวัดอื่นสํให
านักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ื่น ณ สํานักงานสาธารณสุกา ขจังหวัดที่
สถานพยาบาลนั้นตั้งอยู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีการยื
กา ่นคําขอตามข
สําอนัก๙งานคณะกรรมการกฤษฎี
และขอ ๑๐ หากไมสกาามารถมายื่นคํสํานัขอได ดวยตนเองให กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ทําหนังสือมอบอํานาจใหผูอื่นมายื่นคําขอแทน และในการมายืนคําขอแทน ใหผูรับมอบอํานาจนํา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
หลักฐานแสดงตนมาแสดงต อเจาหนาที่ผกูราับคําขอดวย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กฎกระทรวง
สํานัอาศั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ยอํานาจตามความในมาตรา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๖ และมาตรา กา
๒๕ (๑) แหงพระราชบั ญญัติ
กฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขอก๒า ใหผูประกอบวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชาชีพทันตกรรม มีสิทกาธิไดรับอนุญาตให
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เปนผูดําเนินการ กา
ตามประเภทและลั
สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ษณะการใหบริการทางการแพทย
กา ของสถานพยาบาล ดังนี้ กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๑) สถานพยาบาลประเภทที่ไมรับผูปวยไวคางคืนที่มีลักษณะการใหบริการเปน
คลินิกทันตกรรมหรืกอาสหคลินิกที่ใหสําบนัริกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ารดานทันตกรรมดวยกา
คลินิกทันตกรรมเฉพาะทางหรือสหคลินิกที่ใหบริการดานทันตกรรมเฉพาะทางผู
ประกอบวิชาชีพทักนงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํ านั ตกรรมที่มีสิทธิไดรับกาอนุญาตใหเปสํนานัผูกดงานคณะกรรมการกฤษฎี
ําเนินการ ตองเปนผูกทาี่ไดรับวุฒิบัตร
หรือหนังสืออนุมัติจากทันตแพทยสภาในสาขานั้นดวย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) สถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคางคืนที่มีลักษณะการใหบริการเปน
สถานพยาบาลทัสํานันกตกรรม
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอก๓า ใหผูประกอบวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ชาชีพการพยาบาลและการผดุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา งครรภสําชันั้นกหนึ ่ง มีสิทธิไดรับ กา
งานคณะกรรมการกฤษฎี
อนุ ญ าตให เ ป น ผู ดํ า เนิ น การตามประเภทและลั ก ษณะการให บ ริ ก ารทางการแพทย ข อง
สถานพยาบาลสําดันังกนีงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๑๙/ตอนที่ ๘๒ ก/หนา ๕๕/๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๕
กฎกระทรวง
ผู ดํ า เนิ น การสถานพยาบาลประเภทที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่ รั บ ผู ป ว ยไว ค า งคืกนา ที่ มี ลั ก ษณะการให
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บ ริ ก ารเป น กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลการผดุงครรภ
ขอก๖า ใหผูประกอบวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักชงานคณะกรรมการกฤษฎี
าชีพซึ่งเปนผูประกอบโรคศิ
กา ลปะ สาขาเทคนิ คการแพทยมี กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สิทธิไดรับอนุญาตใหเปนผูดําเนินการสถานพยาบาลประเภทที่ไมรับผูปวยไวคางคืนที่มีลักษณะ
สํานันกคลิ
การใหบริการเป งานคณะกรรมการกฤษฎี
นิกเทคนิคการแพทยกาหรือสหคลินิกสํทีานั่ใกหงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บริการดานเทคนิคการแพทย ดวย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๗ ใหผูประกอบวิ ชาชีพซึ่งเปนผูประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย แผนไทย
มีสิทธิไดรับอนุสําญนัาตให เปนผูดําเนินการตามประเภทและลั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ษณะการใหบริการทางการแพทย
กา ของ
สถานพยาบาล ดังนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑)กาสถานพยาบาลประเภทที ่ไมรับผูปวยไวกคาางคืนที่มีลักษณะการให
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี บริการเปน กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
คลินิกการแพทยแผนไทยหรือสหคลินิกที่ใหบริการดานการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย
แผนไทยดวย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) สถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคางคืนที่มีลักษณะการใหบริการเปน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สถานพยาบาลการแพทยแผนไทย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๘ ใหผูประกอบวิชาชีพซึ่งเปนผูประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทยแผนไทย
ประยุก ตมีสิทธิ ไ ดรกั บา อนุญ าตให เสํปานันกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดํ าเนิ นการตามประเภทและลั
กา ก ษณะการให บริ ก ารทาง กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
การแพทยของสถานพยาบาล ดังนี้
สํานั(๑)
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลประเภทที กา ่ไมรับผูปสํวานัยไว
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา บริการเปน
คางคืนที่มีลักษณะการให
คลินิกการแพทยแผนไทยประยุกตหรือสหคลินิกที่ใหบริการดานการประกอบโรคศิลปะ สาขา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การแพทยแผนไทยประยุกตดวย
กฎกระทรวง
กําหนดในกฎกระทรวง จึงจําเปนตองออกกฎกระทรวงนี้
สํานัอาศั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
ยอํานาจตามความในมาตรา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๖ และมาตรา กา
๓๕ (๓) แหงพระราชบั ญญัติ
กฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑
กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๑๙/ตอนที่ ๘๒ ก/หนา ๕๙/๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๕
กฎกระทรวง
(ง) ชื่อ นามสกุล อายุ เพศ และขอมูลสวนบุคคลอื่น ๆ ของผูปวย เชนเชื้อ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ชาติ สัญชาติ สถานภาพกา ที่อยูและเลขที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
่บัตรประจําตัวประชาชน กา
(จ) ประวั ติ อ าการป ว ย ผลการตรวจทางร า งกาย และผลการตรวจทาง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หองปฏิบัติการชันสูตรของผูปวย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา(ฉ) การวินิจสํฉัานัยกโรค
งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ช) การรักษา
(ซ) ลายมือชื่อผูประกอบวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ชาชีพผูสําในัหกกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารรักษาพยาบาล กา
ขอก๔า ใหผูรับอนุสํญานัาตและผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี ดําเนินการจัดใหกมา ีหลักฐานเกี่ยสํวกั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี านับกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ผูปวยใน ดังนี้ กา
(๑) ทะเบียนผูปวยใน แตละหอผูปวยจะตองจัดทําทะเบียนผูปวยใน อยางนอย
ตองมีรายการสํดัานังกตงานคณะกรรมการกฤษฎี
อไปนี้ กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ก) ชื่อ นามสกุ ล อายุ ผูปวย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ข) เลขที่ประจําตัวผูปวย
(ค) วันที่รับไวเปนกผูาปวยในและวัสํนาทีนัก่องานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี อกจากหอผูปวย กา
(ง) ชื่อผูประกอบวิชาชีพซึ่งเปนผูรับผิดชอบผูปวยโดยตรง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒) แฟมประวัตสํิากนัารรั
ก า กงานคณะกรรมการกฤษฎี
กษาประจําตัวผูปวยแต กา ละคน อยสําางน
นักองานคณะกรรมการกฤษฎี
ยตองมีรายการ กา
ดังตอไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ก) บั น ทึ ก ประวั ติ ผลการตรวจร า งกาย การวิ นิ จ ฉั ย โรคและการ
เปลี่ยนแปลงของโรคโดยผู
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ประกอบวิ สํานัชกาชี พซึ่งเปนผูใหการรักษาพยาบาล
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
(ข) คําสั่งการรักษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ค) บันทึกอาการเปลี กา ่ยนแปลง สัสํญานัญาณชี
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
พ การรักษาและการพยาบาลโดย
ผูประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ ยกเวนสถานพยาบาลการแพทยแผนไทย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ง) บันทึกการรักษาที่แผนกหรือหนวยบริการอื่น ตองแสดงชื่อ นามสกุล
อายุของผูปวยสําเลขที ่ประจําตัว วัน เวลาที
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา่ใหบริการ ผลการบริ การ และชื่อผูประกอบวิ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ชาชีพซึ่ง
เปนผูใหการรักษาพยาบาล
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา(จ) บันทึกสรุ สําปนัเมื ่อสิ้นสุดการรักษา กา
กงานคณะกรรมการกฤษฎี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๕ ใหผูรับอนุญาตและผูดําเนินการจัดทําทะเบียนประจําแผนกหรือบริการ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ดานการรักษาอยางนอยตองมีรายการ ดังตอไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๑)กาชื่อ นามสกุลสําอายุ ของผูปวยนอกและผูปกวา ยใน
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
นับแตวันที่จัดทํา กา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สํานัขกองานคณะกรรมการกฤษฎี
๗ ใหผูรับอนุญาตและผู
กา ดําเนินการจั
สํานัดกทํงานคณะกรรมการกฤษฎี
ารายงาน ดังตอไปนี้ กา
(๑) รายงานประจําป สําหรับสถานพยาบาลประเภทที่ไมรับผูปวยไวคางคืน และ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
สถานพยาบาลประเภททีกา ่รับผูปวยไว
สําคนัากงคื
งานคณะกรรมการกฤษฎี
น ใหเปนไปตามแบบทีกา ่ปลัดกระทรวงสาธารณสุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ขกําหนด กา
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) รายงานอื่นตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๘ ใหผูรับอนุญาตและผูดําเนินการสงรายงานประจําปของสถานพยาบาล
ตามขอ ๗ (๑)สํานัตกองานคณะกรรมการกฤษฎี
ผูอนุญาต ภายในวันทีก่ า๓๑ มีนาคมของป ถัดไป โดยในกรุงเทพมหานคร
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ใหยื่น
ณ กองการประกอบโรคศิลปะ สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข หรือ ณ สถานที่อื่น
ตามที่ ป ลั ด กระทรวงสาธารณสุ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ขสํประกาศกํ า หนด สํ า หรั บกในจั
านักงานคณะกรรมการกฤษฎี า ง หวั ด อื่ นสํให
านักยงานคณะกรรมการกฤษฎี
ื่ น ณ สํ า นั ก งาน กา
สาธารณสุขจังหวัดที่สถานพยาบาลนั้นตั้งอยู
กฎกระทรวง
โดยที
กกกก ก ่ ก ฎกระทรวงว
ากดกกก
วยการประกอบกิจการสถานพยาบาล
ก กพ.ศ. ๒๕๔๕ และ ก
กกก
กฎกระทรวงวาดวยวิชาชีพและจํานวนผูประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล พ.ศ.๒๕๔๕ ซึ่งออกตาม
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
กกกก ก ไดกําหนดใหปลักดกกก
กระทรวงสาธารณสุขกมีอํานาจกําหนด
แบบหลักเกณฑและเงื่อนไขตามกฎกระทรวงวาดวยการประกอบกิจการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕
และกฎกระทรวงวาดกวยวิชาชีพและลักษณะผู
กกกก ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
กกกก ก พ.ศ. ๒๕๔๕
กกกก ก
อาศั
กกกก ก อ ๓ ขอ ๕ ขอก๑๑
ยอํานาจตามความในข กกก
ขอ ๑๓ ขอ ๑๔ กขอ ๑๗ ขอ ๑๘
ขอ ๑๙ ขอ ๒๒ ขอ ๒๔ ขอ ๒๕ ขอ ๒๖ ขอ ๒๙ และขอ ๓๔ ของกฎกระทรวงวาดวยการประกอบ
กกกกก
กิจการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ และข กกกกก กกกกก
อ ๑ ของกฎกระทรวงวาดวยวิชาชีพและลั กษณะผูประกอบ
วิ ช าชี พ ในสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่ ง ออกตามความในพระราชบั
กกกกก
ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล
กกกกก
พ.ศ. ๒๕๔๑ อันเปนพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพ
ของบุคคล ซึ่งมาตราก๒๙ ประกอบกั
กกกก บมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนู
กกกก กญแหงราชอาณาจั
กกกกก
รไทย บัญญัติให ก
กระทําไดโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศไว
ดังตอไปนี้
ข อก๑ ๑ ประกาศกระทรวงสาธารณสุ
กกกก กกกก
ข ฉบักบนี้ ให ใ ช บั ง คับตัก้ งกกก
แต วั น ถั ด จากวั น ก
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปนตนไป
กกกกก
ขอ ๒ แบบคําขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลประเภทที่ไมรับผูปวยไว
กกกกก กกกกก กกกกก
คางคืน ใหเปนไปตามแบบ ส.พ. ๑ ทายประกาศนี้
กกกกก กกกกก
ขอ ๓ แบบแผนงานการจัด ตั้ง สถานพยาบาลประเภทที่ไ มรับ ผูปว ยไวคา งคืน
ใหเปนไปตามแบบ กส.พ.
กกกก ๒ ทายประกาศนี ้
กกกก ก
ขกอกกก
๔ แบบคําขออนุมัตกิแผนงานการจัดตั้งกสถานพยาบาลประเภทที
กกกก่รับผูปวยไวคาง
คืน ใหเปนไปตามแบบ ส.พ. ๓ ทายประกาศนี้
๑
ราชกิจจานุเบกษา เลม ๑๑๙/ตอนพิเศษ ๘๐ ง/หนา ๕/๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๕
ขอก๙กกก
แบบสมุดทะเบียนสถานพยาบาลประเภทที
ก ่ไมรับผูปวยไวคางคืกน ใหเปนไป
กกกก
ตามแบบ ส.พ. ๘ ทายประกาศนี้
กกกกก
ขอ ๑๐ แบบสมุดทะเบียนสถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคางคืน ใหเปนไป
ตามแบบ ส.พ. ๙ทากยประกาศนี
กกกก
้ กกกกก
ขอก๑๔
กกก
แบบหลักฐานการชํการะคาธรรมเนียมการประกอบกิ
กกกก ก
จการสถานพยาบาลให
เปนไปตามแบบ ส.พ. ๑๒ ทายประกาศนี้
ขอก๑๘ แบบคําขอเปลี่ยนแปลงการประกอบกิ
กกก ก จการสถานพยาบาล ให
กกกก ก แตกตางไป
จากที่ระบุในใบอนุญาต หรือกอสรางอาคารขึ้นใหม หรือดัดแปลงอาคารเกินกวาที่ไดรับอนุญาตไวเดิม
กให เปนไปตามแบบ ส.พ.ก๑๖
ทายประกาศนี ้
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
กกก กกกก ก
ขอก๑๙ แบบหนังสือแจงเลิกกกิจการสถานพยาบาล
กกก ใหเปนไปตามแบบ
กกกก ก ส.พ. ๑๗
ทายประกาศนี้
กกกกก
กกกกก
ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
วินัย วิริยกิจจา
กกกกก
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
กกกก ก ก
(ปรับปรุง)
๕.๖กคํกกก
าขออนุญาตใหประกอบกิ ก จการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ. ๕) (ปรักบ ปรุง)
กกกก
๗
๖. หนั ง สื อ แสดงความจํ า นงเป น ผู ป ฏิ บั ติ ง านในสถานพยาบาลของผู ป ระกอบ
กวิกกก
ชาชีพ (แบบ ส.พ. ๖) (ปรั ก บปรุง) กกกกก กกกกก
กกกกก กกกกก
๒
คํ าขออนุ มั ติแ ผนงานการจั ดตั้ งสถานพยาบาลประเภทที่ไ ม รั บผู ปวยไว ค างคื น
ก(แบบ ส.พ. ๑) แกไขเพิก่มเติมโดยประกาศกระทรวงสาธารณสุ
กกก ข เรื่อกง การกําหนดแบบหลั
กกกก กเกณฑและ
กกกก ก
เงื่ อ นไขตามกฎกระทรวงว า ด ว ยการประกอบกิ จ การสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ และตาม
กฎกระทรวงกําหนดวิ กชกกก ก ชาชีพในสถานพยาบาล
าชีพและจํานวนผูประกอบวิ กกกก
พ.ศ. ๒๕๕๘กซึ่งออกตาม
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘
กกกก ๓ ก
แผนงานการจั กกกก
ดตั้งสถานพยาบาลประเภทที ก คางคืน (แบบส.พ.
่ไมรับผูปวยไว กกกก
๒) แกไขเพิ่มเติม ก
โดยประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข เรื่ อง การกํ า หนดแบบหลั ก เกณฑ แ ละเงื่ อนไขตามกฎกระทรวงว า ด วยการ
กกกก
ประกอบกิจการสถานพยาบาล ก
พ.ศ. ๒๕๔๕ และตามกฎกระทรวงกํ าหนดวิ
กกกก
ชาชีพและจํานวนผูประกอบวิ ก ชาชีพใน
สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘
๔
กกกก ก มัติแผนงานการจั
คําขออนุ กกกก
ดตั้งสถานพยาบาลประเภทที ก ่รับผูปวยไวคางคื
กนกกก
(แบบ ส.พ. ๓) ก
แกไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกําหนดแบบหลักเกณฑและเงื่อนไขตามกฎกระทรวงวา
ดวยการประกอบกิจการสถานพยาบาล
กกกก พ.ศ. ๒๕๔๕ ก และตามกฎกระทรวงกํ
กกกก
าหนดวิชาชีพและจํากนวนผู ประกอบ
วิชาชีพในสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
ก๒๕๕๘
กกกก กกกกก กกกกก
๕
แผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลประเภทที่รับผูปวยไวคางคืน (แบบ ส.พ. ๔) แกไขเพิ่มเติม
โดยประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข เรื่ อง การกํ า หนดแบบหลั
กกกก ก ก เกณฑ
กแกกก
ละเงื่ อนไขตามกฎกระทรวงว ก า ด วยการ
ประกอบกิจการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ และตามกฎกระทรวงกําหนดวิชาชีพและจํานวนผูประกอบวิชาชีพใน
กสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘กซึ่งออกตามพระราชบั
กกก๖
ญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.ก๒๕๔๑
กกกก (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๘
กกกก ก
คําขออนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ. ๕) แกไขเพิ่มเติมโดยประกาศ
กระทรวงสาธารณสุขเรืก่อกกก
ง การกําหนดแบบหลักเกณฑ ก และเงื่อนไขตามกฎกระทรวงว าดวยการประกอบกิ
กกกก ก จการ
สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ และตามกฎกระทรวงกําหนดวิชาชีพและจํานวนผูประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
กพ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งออกตามพระราชบั
กกก๗ ก ญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ (ฉบับทีก่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘กกกกก
กกกก
หนังสือแสดงความจํานงเปนผูปฏิบัติงานในสถานพยาบาลของผูประกอบวิชาชีพ (แบบ ส.พ. ๖)
แกไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกําหนดแบบหลักเกณฑและเงื่อนไขตามกฎกระทรวงวา
กกกกก กกกกก
ดวยการประกอบกิจการสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ และตามกฎกระทรวงกําหนดวิชาชีพและจํานวนผูประกอบ
วิชาชีพในสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
ก๒๕๕๘
กกกก กกกกก กกกกก
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
กกกก กกกก ก กกกก ก
๑๔. หนังสือแสดงความจํานงเปนผูรับอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล
กรณีผูรับอนุญาตตาย (แบบ ส.พ. ๑๔)
กกกก ก กกกกก
๑๕. คําขอใบแทนใบอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล คําขอใบแทนสมุด
กทะเบี
กกก
ยนสถานพยาบาลก(แบบ ส.พ. ๑๕) กกกกก กกกกก
๑๖. คําขอเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาล (แบบ ส.พ. ๑๖)
กกกกก
๑๗. หนังสือแจงเลิกกิจการสถานพยาบาล (แบบ
กกกกก
ส.พ. ๑๗)
กกกก กกกก ก
และแบบ ส.พ. ๖ ทายประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกําหนดแบบหลักเกณฑและเงื่อนไข
ตามกฎกระทรวงวาดกวกกก
ยการประกอบกิจการสถานพยาบาล
ก พ.ศ. ๒๕๔๕ และตามกฎกระทรวงว
กกกก ก าดวย
วิชาชีพและจํานวนผูประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติ
กสถานพยาบาล
กกก
พ.ศ. ๒๕๔๑ ก และใหใชแบบ
กกกก
ส.พ. ๑ แบบ ส.พ. ๒กแบบ ส.พ. ๓แบบ
กกกก
ส.พ. ๔ แบบ ก
ส.พ. ๕ และแบบ ส.พ. ๖ ทายประกาศนี้แทน
กกกก
๘
ราชกิกจจานุเบกษา เลม๑๓๒/ตอนพิ
กกกก
เศษ ๓๑๒ ง/หนาก๕/๒๖ พฤศจิกายน
๒๕๕๘
กกกกก
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๑. ข้ าพเจ้ า
๑.๑ ชื่อ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
เลขประจําตัว สัญชาติ ………………………..……..… อายุ …………………… ปี
๑.๒ นิติบุคคล…….…………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………..…………………………………………………………….……………….. เลขประจําตัว
และ (๒) …………………………………………………………………………………………………….….เลขประจําตัว
เป็ นนิติบุคคลประเภท ……………………………………….………. จดทะเบียนเมื่อ ……………………………...……..…..เลขทะเบียน ……………….……………….
๑.๓ มี บ้ าน สํานักงาน ตั้งอยู่เลขที่ ……………..…… หมู่ท่ี ……….… ซอย/ตรอก ………………………….……………
ถนน ………………………….……………….…….. ตําบล/แขวง …………………..……………………………. อําเภอ/เขต ……………….………………..…………………….
จังหวัด ………………...………………………………….. รหัสไปรษณีย์……………....……………… โทรศัพท์ ………………………………………………………….……….…
โทรสาร..…………………………………………………..……….…. ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์……………………………………….…………………………………………………….
๒. ขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ ค้างคืน
๒.๑ สถานพยาบาลมีลักษณะเป็ น
คลินิกเวชกรรม
คลินิกทันตกรรม
คลินิกเฉพาะทาง ด้ านเวชกรรม ด้ านทันตกรรม ด้ านการพยาบาลและการผดุงครรภ์
คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์
คลินิกกายภาพบําบัด
คลินิกเทคนิคการแพทย์
คลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์
คลินิกการประกอบโรคศิลปะ กิจกรรมบําบัด การแก้ ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย
เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก รังสีเทคนิค จิตวิทยาคลินิก กายอุปกรณ์
การแพทย์แผนจีน อื่นๆ
สหคลินิก ประกอบด้ วย ………………………………………………………………………………..……………………..…………………..
……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………..………………….
๒.๒ ขอเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาล โดย ………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
๓. ณ สถานพยาบาลตั้งอยู่เลขที่ ……………………… ซอย/ตรอก …………….…….….………………… ถนน ……..………….……………………………
ตําบล/แขวง ………………………………...…………………..อําเภอ/เขต …………………….………………………..…จังหวัด……………………………………………...…….
รหัสไปรษณีย์ ……………………………….…………….…….. โทรศัพท์ …………….……………………………..…………โทรสาร………………………………………………….
ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์…………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ข้ าพเจ้ าขอรับรองว่า
๑. ไม่เคยได้ รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สดุ หรือคําสั่งที่ชอบด้ วยกฎหมายถึงที่สดุ ให้ จาํ คุก เว้ นแต่เป็ นโทษสําหรับ
ความผิดที่กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
๒. ไม่เป็ นโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
๓. ไม่เป็ นบุคคลล้ มละลาย
๔. ไม่เป็ นบุคคลวิกลจริต คนไร้ ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ ความสามารถ
1.ลักษณะสถานพยาบาลเป็ น
คลินิกเวชกรรม
คลินิกทันตกรรม
คลินิกเฉพาะทาง ด้ านเวชกรรม ด้ านทันตกรรม ด้ านการพยาบาลและการผดุงครรภ์
คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
คลินิกกายภาพบําบัด
คลินิกเทคนิคการแพทย์
คลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์
คลินิกการประกอบโรคศิลปะ กิจกรรมบําบัด การแก้ ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย
เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก รังสีเทคนิค จิตวิทยาคลินิก กายอุปกรณ์
การแพทย์แผนจีน อื่นๆ
สหคลินิก ประกอบด้ วย ………………………………………………………………………………..……………………..…………………..
……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………..………………….
๒. บริการที่จัดให้ มเี พิ่มเติม …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
๓. ลักษณะอาคารซึ่งใช้ เป็ นที่ต้งั สถานพยาบาล
เป็ นอาคารสถานพยาบาลโดยเฉพาะ เป็ นอาคารอยู่อาศัย เป็ นห้ องแถว เป็ นตึกแถว
เป็ นบ้ านแถว เป็ นบ้ านแฝด เป็ นอาคารพาณิชย์ ตั้งอยู่ในศูนย์การค้ า
อื่น ๆ ……………………………………………………………………………………………….……… มี……………………..……คูหา………..………………ชั้น
๕. จํานวนของผู้ประกอบวิชาชีพ.................................คน
อนุมัติ
(ลายมือชื่อ) ……………….………………………………………………… ผู้อนุญาต
วันที่……………………………………………………………………………
๑. ข้ าพเจ้ า
๑.๑ ชื่อ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
เลขประจําตัว สัญชาติ ………………………..……..… อายุ …………………… ปี
๑.๒ นิติบุคคล…….…………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………..…………………………………………………………….……………….. เลขประจําตัว
และ (๒) …………………………………………………………………………………………………….….เลขประจําตัว
เป็ นนิติบุคคลประเภท ……………………………………….………. จดทะเบียนเมื่อ ……………………………...……..…..เลขทะเบียน ……………….……………….
๑.๓ มี บ้ าน สํานักงาน ตั้งอยู่เลขที่ ……………..…… หมู่ท่ี ……….… ซอย/ตรอก ………………………….……………
ถนน ………………………….……………….…….. ตําบล/แขวง …………………..……………………………. อําเภอ/เขต ……………….………………..…………………….
จังหวัด ………………...………………………………….. รหัสไปรษณีย์……………....……………… โทรศัพท์ ………………………………………………………….……….…
โทรสาร..…………………………………………………..……….…. ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์……………………………………….…………………………………………………….
๒. ขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ ค้างคืน จํานวน……………………………..เตียง
๒.๑ สถานพยาบาลมีลักษณะเป็ น
โรงพยาบาลทั่วไป ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่
โรงพยาบาลเฉพาะทาง ……………………..……………. ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่
โรงพยาบาลทันตกรรม ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่
โรงพยาบาลการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่
โรงพยาบาลกายภาพบําบัด ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่
โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่
โรงพยาบาลเฉพาะประเภทผู้ป่วย ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่
๒.๒ ขอเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการสถานพยาบาล โดย .…………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
สําเนาทะเบียนบ้ านของที่ต้งั สถานพยาบาล
ใบรับรองแพทย์
สําเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในสถานพยาบาล
อื่น ๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…
ข้ าพเจ้ าขอรับรองว่า
๑. ไม่เคยได้ รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สดุ หรือคําสั่งที่ชอบด้ วยกฎหมายถึงที่สดุ ให้ จาํ คุก เว้ นแต่เป็ นโทษสําหรับ
ความผิดที่กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
๒. ไม่เป็ นโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
๓. ไม่เป็ นบุคคลล้ มละลาย
๔. ไม่เป็ นบุคคลวิกลจริต คนไร้ ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ ความสามารถ
แผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล
ประเภททีร่ บั ผูป้ ่ วยไว้คา้ งคืน
๑. สถานพยาบาลมีลักษณะเป็ น
โรงพยาบาลทั่วไป ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่
โรงพยาบาลเฉพาะทาง ……………………..……………. ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่
โรงพยาบาลทันตกรรม ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่
โรงพยาบาลการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๕. การเงินโดยประมาณ
งบลงทุน …………………………..…….บาท แหล่งลงทุนจาก
ส่วนตัว …………………………………………………………… เปอร์เซ็นต์ สถาบันการเงินในประเทศ ……………………………… เปอร์เซ็นต์
สถาบันการเงินต่างประเทศ ……………………………. เปอร์เซ็นต์ หุ้น………………………………………………..…………………..เปอร์เซ็นต์
๖. พื้นที่บริการครอบคลุม
๖.๑ ในเขตท้ องที่การปกครองของกระทรวงมหาดไทย (อําเภอ/เขต จังหวัด) ได้ แก่
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
๖.๒ จํานวนประชากรภายในเขตรัศมี ๕ กิโลเมตร โดยรอบสถานพยาบาล มีประมาณ………………………………….……………คน
๗. สถานพยาบาลของรัฐและเอกชน ในพื้นที่บริการ
(๑) สถานพยาบาลของรัฐ …………………..………… แห่ง มีบริการ
ผู้ป่วยใน ……………………..….. เตียง ห้ องผ่าตัด …………………..……. ห้ อง เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ …………………… เครื่อง
เครื่องตรวจอวัยวะภายในชนิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้ า ……..……….…. เครื่อง เครื่องสลายนิ่ว ….………………………………….….. เครื่อง
เครื่องล้ างไต ….………………………………….….. เครื่อง อื่น ๆ เช่น ………………………………………………………………………………………..…..
(๒) สถานพยาบาลเอกชน ………………………….… แห่ง มีบริการ
ผู้ป่วยใน ……………………..….. เตียง ห้ องผ่าตัด …………………..……. ห้ อง เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ …………………… เครื่อง
เครื่องตรวจอวัยวะภายในชนิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้ า ……..……….…. เครื่อง เครื่องสลายนิ่ว ….………………………………….….. เครื่อง
เครื่องล้ างไต ….………………………………….….. เครื่อง
อื่น ๆ เช่น ………………………………………………………………………………………..…..………………………………………………………………………………………..…..
๙. จํานวนของผู้ประกอบวิชาชีพที่จะมาปฏิบัติงาน
๙.๑ แพทย์ ………………...……..……….........…..… คน ๙.๒ พยาบาล ……….….………………….….… คน
๙.๓ ทันตแพทย์ …………..……..………..........…… คน ๙.๔ เภสัชกร …………………...….………….….คน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๙.5 นักกายภาพบําบัด ……..….……….… คน 9.6 นักเทคนิคการแพทย์ ………..…..…. คน
9.7 แพทย์แผนไทย …………………………. คน
- เวชกรรมไทย …………………………. คน - เภสัชกรรมไทย …………………………. คน
- แพทย์แผนไทยประยุกต์ ….………. คน - การผดุงครรภ์ไทย………………………. คน
- การนวดไทย …………………………. คน - การแพทย์พ้ ืนบ้ านไทย…………………คน
๙.8 ผู้ประกอบโรคศิลปะ
(๑) กิจกรรมบําบัด ……..….……….… คน (๒) การแก้ ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย ……..…..…. คน
(๓) เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ….………. คน (๔) รังสีเทคนิค …………………………. คน
(๕) จิตวิทยาคลินิกอก ….………. คน (6) กายอุปกรณ์…………………………. คน
(7) การแพทย์แผนจีน…………………………. คน
(8) อื่นๆ..........................................................
อนุมัติ
(ลายมือชื่อ) ……………….………………………………………………… ผู้อนุญาต
วันที่………………………………………………………………………………..
๑. ข้ าพเจ้ า
๑.๑ ชื่อ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
เลขประจําตัว สัญชาติ ………………………..……..… อายุ …………………… ปี
๑.๒ นิติบุคคล…….…………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………..…………………………………………………………….……………….. เลขประจําตัว
และ (๒) …………………………………………………………………………………………………….….เลขประจําตัว
เป็ นนิติบุคคลประเภท ……………………………………….………. จดทะเบียนเมื่อ ……………………………...……..…..เลขทะเบียน ……………….……………….
๑.๓ มี บ้ าน สํานักงาน ตั้งอยู่เลขที่ ……………..…… หมู่ท่ี ……….… ซอย/ตรอก ………………………….……………
ถนน ………………………….……………….…….. ตําบล/แขวง …………………..……………………………. อําเภอ/เขต ……………….………………..…………………….
จังหวัด ………………...………………………………….. รหัสไปรษณีย์……………....……………… โทรศัพท์ ………………………………………………………….……….…
โทรสาร..…………………………………………………..……….…. ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์……………………………………….…………………………………………………….
๒. ขออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ ค้างคืน
๒.๑ สถานพยาบาลมีลักษณะเป็ น
คลินิกเวชกรรม
คลินิกทันตกรรม
คลินิกเฉพาะทาง ด้ านเวชกรรม ด้ านทันตกรรม ด้ านการพยาบาลและการผดุงครรภ์
คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์
คลินิกกายภาพบําบัด
คลินิกเทคนิคการแพทย์
คลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์
คลินิกการประกอบโรคศิลปะ กิจกรรมบําบัด การแก้ ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย
เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก รังสีเทคนิค จิตวิทยาคลินิก กายอุปกรณ์
การแพทย์แผนจีน อื่นๆ
สหคลินิก ประกอบด้ วย ………………………………………………………………………………..……………………..…………………..
……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………..………………….
บริการที่จัดให้ มีเพิ่มเติม
ห้ องเอกซเรย์ ห้ องไตเทียม ห้ องผ่าตัด ห้ องฝังเข็ม
อื่นๆ ………………………………………………………………………………………………………………..…
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
แผนกเทคนิคการแพทย์ แผนกออร์โธปิ ดิกส์ แผนกโรคผิวหนัง แผนกการผสมเทียม
แผนกกายภาพบําบัด แผนกการแพทย์แผนไทย แผนกโภชนาการ แผนกซักฟอก
หอผู้ป่วยหนัก ห้ องตรวจภายในและขูดมดลูก ห้ องผ่าตัดเล็ก ห้ องให้ การรักษา
ห้ องทารกหลังคลอด การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ห้ องไตเทียม ห้ องทันตกรรม
รังสีวินิจฉัยด้ วยคอมพิวเตอร์ การผ่าตัดเปิ ดหัวใจ การสวนหัวใจ รังสีบาํ บัด
การตรวจอวัยวะภายในชนิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้ า การสลายนิ่วด้ วยเครื่องมือ ห้ องเก็บศพ
แผนกการแพทย์แผนไทยประยุกต์ แผนกการนวด แผนกการแพทย์แผนจีน อื่นๆ ………..………………………………..
๓.วัน/เวลาที่ขออนุญาตประกอบกิจการ (โปรดระบุรายละเอียดวัน/เวลาทําการ) ……………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ณ สถานพยาบาลชื่อ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………
ตั้งอยู่เลขที่ …………………….. หมู่ท่ี ……………… ซอย/ตรอก ………………………………………………… ถนน ………………………………………………………………
ตําบล/แขวง …………….……………………. อําเภอ/เขต …………. จังหวัด ……………………………….รหัสไปรษณีย์………………โทรศัพท์ ……………………
โทรสาร……………………… ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์………………………………………………..
พร้ อมกับคําขอนี้ข้าพเจ้ าได้ แนบหลักฐานต่าง ๆ ที่แสดงการเปลี่ยนแปลงมาด้ วย จํานวน ................ ฉบับ คือ
� สําเนาบัตรประจําตัว � หนังสือแสดงความจํานงเป็ นผู้ปฏิบัติงาน ตามแบบ ส.พ. ๖
พร้ อมสําเนา ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สําเนาทะเบียนบ้ าน
และสําเนาบัตรประจําตัว ของผู้ประกอบวิชาชีพ
�สําเนาทะเบียนบ้ านของผู้อนุญาต
� สําเนาทะเบียนบ้ านของที่ต้งั สถานพยาบาล
� ใบรับรองแพทย์ � สําเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในสถานพยาบาล
� สําเนาวุฒิบัตร หรือหนังสืออนุมัติ (ถ้ ามี) � หนังสืออนุมัติแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาล
� สําเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน วัตถุประสงค์ และผู้มีอาํ นาจลงชื่อแทนนิติบุคคล (กรณีผ้ ูย่ ืนคําขอเป็ นนิติบุคคล)
� แผนที่แสดงที่ต้งั สถานพยาบาลและสิ่งปลูกสร้ างในบริเวณใกล้ เคียง
� เอกสารแสดงลักษณะของสถานพยาบาล โดยมีรายการ ดังต่อไปนี้
(ก) แบบผังหลักของพื้นที่ท่ตี ้งั อาคารสถานพยาบาล
(ข) แบบแสดงภาพอาคารภายนอกสถานพยาบาลอย่างน้ อยด้ านหน้ าและด้ านข้ าง
(ค) แบบแสดงการแบ่งพื้นที่ใช้ สอยพร้ อมระบุช่ือให้ แสดงทุกชั้น ทุกอาคาร
(ง) ผังแสดงการติดตั้งอุปกรณ์เครื่องมือพิเศษที่สาํ คัญในแต่ละส่วนอาคาร
(จ) ผังการสัญจรของผู้ใช้ สอยแต่ละประเภทในอาคาร
(ฉ) เส้ นทางหนีไฟและอุปกรณ์ดับเพลิงภายในอาคาร
(ช) ระบบการระบายนํา้ และบําบัดนํา้ เสีย
ข้ าพเจ้ าขอรับรองว่า
๑. ไม่เคยได้ รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาหรือคําสั่งที่ชอบด้ วยกฎหมายถึงที่สดุ ให้ จาํ คุก เว้ นแต่เป็ นโทษสําหรับความผิด
ที่ได้ กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
๒. ไม่เป็ นโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ข้ าพเจ้ า ……………………………………………………………………………………….….เลขประจําตัว
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
อายุ …………………….…… ปี ผู้ประกอบวิชาชีพหรือประกอบโรคศิลปะสาขา………………………………………………………………………………..………………..
เลขที่ใบอนุญาต…………………………………………………….……. ออกให้ วันที่ ………………………………………………………….…..
ได้ รับ หนังสืออนุมัติ วุฒิบตั รแสดงความรู้ความชํานาญ ………………………………………………………… ออกให้ วันที่……………..……………
อยู่บ้านเลขที่………………..…….. ซอย/ตรอก ………………………………… ถนน ……………….…………………….. ตําบล/แขวง …………………………….…….…
อําเภอ/เขต ………………………………………..…….…….. จังหวัด …………………………………………………………… รหัสไปรษณีย์……………..………..………………
โทรศัพท์ …………………………………………………โทรสาร………………………………….ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์………………………………………………………………
ปัจจุบันข้ าพเจ้ า
ไม่ได้ รับราชการหรือทํางานอยู่แห่งใด
รับราชการ หรือเป็ นผู้ดาํ เนินการสถานพยาบาล หรือทํางานประจําอยู่ท่ี (ระบุสถานที่ วัน เวลาทําการ) ……………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ไม่เคยเป็ นผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลเอกชนแห่งใดมาก่อน
เคยเป็ นผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลเอกชน
ชื่อสถานพยาบาล……………………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………….…
อําเภอ/เขต ………………………………………………… จังหวัด ………………......…..……….……….. มาก่อน แต่ได้ เลิกเป็ นผู้ประกอบวิชาชีพ
ณ สถานพยาบาลดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ ……………………….. เดือน ……………………..………………………………………. พ.ศ. ……………………..
ª√–°“»°√–∑√«ß “∏“√≥ ÿ¢
‡√◊ËÕß °“√°”Àπ¥·∫∫µ“¡°Æ°√–∑√«ß«à“¥â«¬°“√¥”‡π‘π°“√
∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙı ´÷ËßÕÕ°µ“¡æ√–√“™∫—≠≠—µ‘
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙÒ
โดยที
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ่กฎกระทรวงว่
สําานัด้กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยการจัดให้มีและรายงานหลั
กา กฐานเกี่ยสํวกั
านับกผูงานคณะกรรมการกฤษฎี
้ประกอบวิชาชีพ กา
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
สํานัอาศั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา อ ๗ ของกฎกระทรวงว่
ยอํานาจตามความในข้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กามีและรายงาน
าด้วยการจัดให้
หลั ก ฐานเกี่ ย วกั บ ผู้ ป ระกอบวิ ช าชี พ ในสถานพยาบาลและผู้ ป่ ว ย และเอกสารอื่ น ที่ เ กี่ ย วกั บ การ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รั ก ษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่ ง ออกตามพระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล สํพ.ศ. านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๕๔๑ อั น เป็ น
พระราชบัญญัสํตาิทนัี่กมงานคณะกรรมการกฤษฎี
ีบทบัญญัติบางประการเกี กา
่ ย วกั บ การจํ า กั ด สิ ท ธิ แ ละเสรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภ าพของบุ คคล ซึ่งมาตรา
๒๙ ประกอบกับมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัย
อํานาจตามบทบัญญักตาิแห่งกฎหมายสํปลั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี านักดงานคณะกรรมการกฤษฎี
กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศไว้กา สํดัางนัต่กองานคณะกรรมการกฤษฎี
ไปนี้ กา
๑
สํานัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
๑ ประกาศกระทรวงสาธารณสุ
กา สําขนัฉบั บ นี้ ให้ ใ ช้ บั ง คั บ ตั้ ง แต่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กาวั น ถั ด จากวั น
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๒ แบบรายงานประจําปีสําหรับสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ให้เป็นไปตามแบบ ส.พ. ๒๓ ท้ายประกาศนีกา้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อ ๓ แบบรายงานประจําปีสําหรับสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
ให้เป็นไปตามแบบ ส.พ. ๒๔ ท้ายประกาศนี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๙/ตอนพิเศษ ๘๐ ง/หน้า ๑๑/๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๕
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อ ๒ ประกาศนี้ใ ห้ใ ช้บัง คับ ตั้ง แต่วัน ถัด จากวัน ประกาศในราชกิจ จานุเ บกษา
เป็นต้นไป
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี งานคณะกรรมการกฤษฎี กา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
กําหนดแบบตามกฎกระทรวงว่าด้วยการจัดให้มีและรายงานหลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพใน
สถานพยาบาลและผู
สํานัก้ ปงานคณะกรรมการกฤษฎี
่วยและเอกสารอื่นทีก่เกีา ่ยวกับการรักสําษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๕กาซึ่งออกตาม
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และให้ใช้แบบ ส.พ. ๒๓ ท้ายประกาศนี้แทน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๓
ราชกิกจาจานุเบกษา เล่มสํา๑๓๒/ตอนพิ
นักงานคณะกรรมการกฤษฎี
เศษ ๓๑๒ ง/หน้ากา๗/๒๖ พฤศจิกายน
สํานั๒๕๕๘
กงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑. ขอมูลทั่วไป
๑.๑ ชื่อสถานพยาบาล ......................................................................................................................................
ตั้งอยูเลขที่ ................... หมูที่ .………………...... ซอย/ตรอก ........................... ถนน ............................................
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๒. ลักษณะสถานพยาบาลและจํานวนการใหบริการ
๒.๑ ลักษณะสถานพยาบาล…………………………………(คลินิกเฉพาะทาง ระบุสาขา)…………………………...
๒.๒ จํานวนผูปวย .…..............................…………………..คน...................................................................ครั้ง
๒.๓ จํานวนการใหบริการ
๒.๓.๑ เวชกรรม .................................................................................................................................ครั้ง
๒.๓.๒ เวชกรรมเฉพาะทาง...............................................................................................................…ครั้ง
๒.๓.๓ ทันตกรรม
สงเสริม, ปองกัน.......................................................................................………...….............ครั้ง
รักษา……………………………………………………………………………………………..…..ครั้ง
๒.๓.๔ ทันตกรรมเฉพาะทาง
สงเสริม, ปองกัน...............................................................................................……...............ครั้ง
รักษา…………………………………………………………………………….……………………ครั้ง
๒.๓.๕ กายภาพบําบัด (เวชศาสตรฟนฟู)
กายภาพบําบัด.................................................................................................................……ครั้ง
กายอุปกรณ…..................................................................................................................……ครั้ง
๒.๓.๖ การผาตัดเล็ก............................................................................................................................ครั้ง
๒.๓.๗ ลางไต…………………………………….…………………………………………........................ครั้ง
๒.๓.๘ การตรวจทางหองปฏิบัติการ ................................................................................................... ครั้ง
๒.๓.๙ รังสีวินิจฉัย ..............................................................................................................................ครั้ง
๓. เครื่องมือที่สําคัญและยานพาหนะ
๓.๑ เครื่องเอกซเรยคอมพิวเตอร .......................................................................................................... เครื่อง
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๓.๒ เครื่องตรวจอวัยวะภายในชนิดสนามแมเหล็กไฟฟา ......................................................................... เครื่อง
๓.๓ เครื่องลางไต ................................................................................................................................ เครื่อง
๓.๔ เครื่องสลายนิ่ว .............................................................................................................................. เครื่อง
๓.๕ เครื่องอัลตราซาวนด (ไมนับรวมเครื่อง droptone) .......................................................................... เครื่อง
๓.๖ เครื่องเลเซอร ............................................................................................................................... เครื่อง
๓.๗ รถรับสงผูปวยฉุกเฉิน...........................................................................................................................คัน
๓.๘ อื่นๆ (ระบุ)……………………………………………………………………………………………….………
(ลายมือชื่อ) ……………….……………………………
( …………………………………... )
ผูรับอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล
(ลายมือชื่อ) ……………….…………………………..
( ………………………………….. )
ผูดําเนินการสถานพยาบาล
วันที่รายงาน ...…..……..........………
๑. ขอมูลทั่วไป
๑.๑ ชื่อสถานพยาบาล ………………..…………………………………………………………………………………
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๒. ลักษณะสถานพยาบาล………………..…………………(เฉพาะสาขา,เฉพาะทาง ระบุ)………………………………
จํานวน……………………………………เตียง
๓. สถิติการบริการ
๓.๑ ผูปวยนอกรวม ...........................................................คน...................................................................ครั้ง
๓.๒ ผูปวยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ
(๑) จราจร………………............................................คน...................................................................ครั้ง
(๒) ขนสง ………………............................................คน...................................................................ครั้ง
(๓) อื่นๆ ………………............................................คน..................................................................ครั้ง
๓.๓ ผูปวยในรวม ............................................. คน, จํานวนวันนอนรวม ...............................................…..วัน
๓.๔ ผูมารับบริการอื่นๆ ………………................................คน...................................................................
ครั้ง
๓.๕ ผูปวยในหอผูปวยหนัก .........................................................................................................................คน
๓.๖ ผูปวยผาตัด
(๑) การผาตัดใหญพเิ ศษ .................................................................................................................. ครั้ง
ก. การผาตัดเปลี่ยนอวัยวะ ......................................................................................................... ครั้ง
ข. การผาตัดเปดหัวใจ ................................................................................................................ ครั้ง
(๒) การผาตัดใหญ ........................................................................................................................... ครั้ง
(๓) การผาตัดเล็ก ............................................................................................................................ ครั้ง
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ค. การคลอดโดยใชเครื่องดูดสูญอากาศ ....................................................................................... คน
ง. การคลอดทาผิดปกติ ............................................................................................................... คน
๓.๘ จํานวนทารกแรกเกิด
(๑) ทารกคลอดครบกําหนด ............................................................................................................... คน
(๒) ทารกคลอดกอนกําหนด .............................................................................................................. คน
๓.๙ การสวนหัวใจ ................................................................................................................................. ครั้ง
๓.๑๐ การลางไต ...................................................................................................................................... ครั้ง
๓.๑๑ รังสีวินิจฉัย ......................................................................................................................................ครั้ง
(๑) ดวยเครื่องเอกซเรยคอมพิวเตอร ................................................................................................ ครั้ง
(๒) ดวยเครื่องตรวจอวัยวะภายในชนิดสนามแมเหล็กไฟฟา ............................................................... ครั้ง
๓.๑๒ รังสีบําบัด ....................................................................................................................................... ครั้ง
๓.๑๓ ทันตกรรม
สงเสริม, ปองกัน..........................................................................................……............…………...ครั้ง
รักษา…………………………………………..…………………………………………………………….ครั้ง
๓.๑๔ เวชศาสตรฟนฟู
กายภาพบําบัด..............................................................................................................……………..ครั้ง
กายอุปกรณ….............................................................................................................…………….. ครั้ง
๓.๑๕ การตรวจทางหองปฏิบัติการ............................................................................................................. ครั้ง
๓.๑๖ การแพทยแผนไทย ......................................................................................................................... ครั้ง
๓.๑๗ การสงตอผูปวย (จําแนกตามสาเหตุ)
(๑) เกินขีดความสามารถที่จะใหบริการ ............................................................................................. ครั้ง
(๒) เปนความประสงคของผูปวย ...................................................................................................… ครั้ง
๓.๑๘ การใหบริการนอกสถานที่ โดย
(๑) จํานวนผูรับบริการเอกซเรย......................................................................................................... คน
(๒) จํานวนผูรับบริการทันตกรรม ...................................................................................................... คน
(๓) จํานวนผูรับบริการชันสูตรพลิกศพ............................................................................................... คน
(๔) จํานวนผูรับบริการหนวยแพทยเคลื่อนที่….................................................................................... คน
ค .......................................…………………………………………………..……………………… คน
ง. ...................................................…………………………………………………….…………… คน
จ. ..................................................……………………………………….………………………… คน
๔. เครื่องมือที่สําคัญและยานพาหนะ
๔.๑ เครื่องเอกซเรยคอมพิวเตอร ......................................................................................................... เครื่อง
๔.๒ เครื่องตรวจอวัยวะภายในชนิดสนามแมเหล็กไฟฟา ........................................................................ เครื่อง
๔.๓ เครื่องลางไต ............................................................................................................................... เครื่อง
๔.๔ เครื่องสลายนิ่ว ............................................................................................................................. เครื่อง
๔.๕ เครื่องแกมมาไนฟ……………………………………………………………………...…………………เครื่อง
๔.๖ เครื่องอัลตราซาวนด ……………………………………………….................................................... เครื่อง
๔.๗ เครื่องเลเซอร ......….................................................................................................................... เครื่อง
๔.๘ รถรับสงผูปวยฉุกเฉิน.............................................................................................….........................คัน
๔.๙ รถเอกซเรย……………...........................................................................................……….......…......
คัน
๔.๑๐ รถทันตกรรม……………....................................................................................................................คัน
๔.๑๑ อืน่ ๆ (ระบุ)………………………………………………………………………………………………………
๕. ขอมูลดานคุณภาพบริการ
๕.๑ ระบบพัฒนาคุณภาพบริการ
๕.๑.๑. ISO อยูในระหวางการจัดทํา ไดรับการรับรองจากองคกรภายนอกแลว
ไดรับ ISO .......................…………………………………..………… เฉพาะสวน ทั้งหมด
จาก .................................................................. เมื่อวันที่ ...........................................................
๕.๑.๒. HA อยูในระหวางการจัดทํา ไดรับการรับรองจากองคกรภายนอกแลว
จาก ....................................................................เมื่อวันที่ ……...................................................
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๕.๘ จํานวนทารกที่ตายกอนอายุครบ 7 วัน .........................................................................................…….. คน
๕.๙ จํานวนเด็กที่อายุต่ํากวา 1 ปตาย ..................................................................................……………….. คน
๖. อัตรากําลังของบุคลากรทางการแพทยและบุคลากรอื่นๆ
๖.๑ แพทยทั่วไปและแพทยเฉพาะทาง
๖.๑.๑ แพทยทั่วไปที่อยูประจํา……………………..คน แพทยทั่วไปที่อยูบางเวลา ...............................
คน
๖.๑.๒ แพทยเฉพาะทางที่อยูประจํา จําแนกตามสาขา
(ลายมือชื่อ) ……………….…………………………………………
( …………………………………..……… )
ผูรับอนุญาตใหประกอบกิจการสถานพยาบาล
(ลายมือชื่อ) ……………….…………………………………………
( …………………………………..………)
ผูดําเนินการสถานพยาบาล
วันที่รายงาน.......................................
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกำศกระทรวงสำธำรณสุข เรื่อง แต่งตั้งพนักงำนเจ้ำหน้ำที่เพื่อ
ปฏิบัติกำรตำมพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ ลงวันที่ ๑๗ มีนำคม ๒๕๕๙
๑
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๕/ตอนพิเศษ ๑๓๔ ง/หน้ำ ๖/๑๒ มิถุนำยน ๒๕๖๑
ในโรงพยำบำลศูนย์/โรงพยำบำลทั่วไปและโรงพยำบำลชุมชน
(๘) สำธำรณสุขอำเภอ
(๙) นักวิชำกำรสำธำรณสุข ที่ปฏิบัติงำนในสำนักงำนสำธำรณสุขอำเภอ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง สถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับ
ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
โดยที่ เป็ น การสมควรกํ า หนดสถานพยาบาลอื่ น ซึ่ ง ได้ รั บ การยกเว้ น ไม่ ต้ อ งอยู่ ใ นบั ง คั บ
ของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลและใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล โดยไม่ต้องชําระ
ค่าธรรมเนียมรายปี แต่ทั้ งนี้ ต้อ งจัดให้มีหลักฐานรายชื่อ ผู้ประกอบวิชาชีพ หรือผู้ประกอบโรคศิลปะ
พร้อมสําเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ สมุดทะเบียนผู้ป่วย บันทึกการปฏิบัติงาน
ที่สามารถตรวจสอบได้ และต้องแจ้ง วัน เวลา สถานที่และชื่อผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ
ที่ออกไปให้บริการแก่ผู้อนุญาตทราบ ก่อนออกให้บริการอย่างน้อยห้าวันตามแบบแนบท้ายประกาศนี้
(3) เป็ น สถานพยาบาลเคลื่ อ นที่ ข องสถานพยาบาลตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยสถานพยาบาล
ที่ใช้ยานพาหนะ เป็นที่ให้บริการและออกให้บริการไปยังหน่วยงานที่ร้องขอเพื่อการตรวจดูแลสุขภาพ
รัก ษาพยาบาล การส่ งเสริม หรือ การป้ อ งกั น โรคแก่ พ นั กงาน นั ก ศึ ก ษา ตามสั ญ ญาประกั น สุ ข ภาพ
หรือการตรวจสุขภาพประจําปีระหว่างสถานพยาบาลกับหน่วยงานนั้น เช่น
(ก) รถเอกซเรย์ เคลื่ อ นที่ ต้ อ งมี เครื่ อ งเอกซเรย์ เพื่ อ การตรวจวิ นิ จ ฉั ย พร้ อ มอุ ป กรณ์
ป้องกันอันตรายจากรังสีที่ได้รับอนุญาตจากสํานักงานปรมาณูเพื่อสันติหรือหน่วยงานอื่นที่ได้รับมอบหมาย
และเป็นไปตามมาตรฐานที่ผู้อนุญาตประกาศกําหนดโดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาล
(ข) รถทั น ตกรรม ที่ ได้ ม าตรฐานตามที่ ผู้ อ นุ ญ าตประกาศกํ า หนดโดยคํ า แนะนํ า ของ
คณะกรรมการสถานพยาบาล
(ค) รถปฏิบัติการชันสูตร ที่ได้มาตรฐานตามที่ผู้อนุญาตประกาศกําหนดโดยคําแนะนําของ
คณะกรรมการสถานพยาบาล
(ง) รถรั ก ษาพยาบาลเคลื่ อ นที่ ที่ ไ ด้ ม าตรฐานตามที่ ผู้ อ นุ ญ าตประกาศกํ า หนด
โดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาล
ให้สถานพยาบาลเคลื่อนที่ตาม (ก) - (ง) ต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ
ที่ออกไปให้บริการสอดคล้องกับมาตรฐานการบริการและมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ หรือการประกอบ
โรคศิลปะนั้น ๆ ตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
และใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล และไม่ต้องชําระค่าธรรมเนียมรายปี แต่ต้องจัดให้มีหลักฐาน
สมุดทะเบียนผู้ป่วยและบันทึกการปฏิบัติงาน โดยระบุ วัน เวลา สถานที่และชื่อผู้ประกอบวิชาชีพ
หรื อ ผู้ ป ระกอบโรคศิ ล ปะที่ อ อกไปให้ บ ริ ก ารที่ ส ามารถตรวจสอบได้ แ ละต้ อ งแจ้ งวั น เวลา สถานที่
เลขรับที่ ……………………………
วันที่ ……..………..…………….…
ลงชื่อ ……………………ผู้รับคำขอ
แบบแจ้งการประกอบกิจการสถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับ
ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
เขียนที่ ………………………………………………….……
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
วันที่ ……..……... เดือน ……..…………...…. พ.ศ. ………..….…..
แบบรับแจ้งการประกอบกิจการสถานพยาบาลอื่นประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
ซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ใบรับแจ้งเลขที่ ............./.......................
เลขรับที่ ……………………………
วันที่ ……..………..…………….…
ลงชื่อ ……………………ผู้รับคำขอ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เขียนที่ ………………………………………………….……
วันที่ ……..……... เดือน ……..…………...…. พ.ศ. ………..….…..
เลขรับที่ ……………………………
วันที่ ……..………..…………….…
ลงชื่อ ……………………ผู้รับคำขอ
สถานพยาบาลกับหน่วยงานนั้นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
เขียนที่ ………………………………………………….……
วันที่ ……..……... เดือน ……..…………...…. พ.ศ. ………..….…..
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
คำแนะนำของคณะกรรมกำรสถำนพยำบำล จึงออกประกำศไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ ๓ ในประกำศฉบับนี้
“สถำนพยำบำลประเภทที่ไม่รับผู้ป่ วยไว้ค้ำงคืน ” หมำยควำมว่ำ สถำนพยำบำล
ประเภทคลินิกหรือที่เรียกชื่ออย่ำงอื่นแต่ดำเนินงำนลักษณะเดียวกัน เช่น โรงพยำบำลส่งเสริมสุขภำพ
ตำบลศูนย์บริกำรสำธำรณสุข ศูนย์สุขภำพชุมชน เป็นต้น
“สถำนพยำบำลประเภทที่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ค้ ำงคื น ” หมำยควำมว่ ำ สถำนพยำบำล
ประเภทโรงพยำบำลหรือที่เรียกชื่ออย่ำงอื่นแต่ดำเนินงำนลักษณะเดียวกัน เช่น สถำบัน ศูนย์ เป็นต้น
๑
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๕/ตอนพิเศษ ๘๙ ง/หน้ำ ๑๔/๑๙ เมษำยน ๒๕๖๑
(๒) ผู้ประกอบวิชำชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะต้องได้มำตรฐำนกำรประกอบวิชำชีพ
หรือกำรประกอบโรคศิลปะที่สภำวิชำชีพหรือคณะกรรมกำรวิชำชีพกำหนดหรือประกำศกระทรวง
สำธำรณสุขกำหนด
ข้อ ๙ สถำนพยำบำลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้ำงคืนประเภทเฉพำะประเภทผู้ป่วย
ได้แก่ สถำนพยำบำลที่จัดให้มีกำรประกอบวิชำชีพตำมลักษณะเฉพำะประเภทผู้ป่วย ซึ่งดำเนินกำร
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
สนั บ สนุ น กำรให้ บ ริ ก ำร ตำมที่ ห น่ ว ยงำนกระทรวง ทบวง กรม องค์ ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น
รัฐวิสำหกิจสถำบันกำรศึกษำของรัฐ หน่วยงำนอื่นของรัฐ สภำกำชำดไทย ประกำศกำหนด
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง การกาหนดลักษณะของสถานพยาบาลและมาตรฐานซึ่งได้รบั
การยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
(ฉบับที่ 2)
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ และมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง
แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคาแนะนา
ของคณะกรรมการสถานพยาบาล จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกาหนดลักษณะ
ของสถานพยาบาลและมาตรฐานซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ตอ้ งอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
(ฉบับที่ 2)”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ เ พิ่ ม ความต่ อ ไปนี้ เ ป็ น (3) ในข้ อ 6 แห่ ง ประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข
เรื่ อ ง การก าหนดลัก ษณะของสถานพยาบาลและมาตรฐานซึ่งได้รั บการยกเว้นไม่ ต้องอยู่ ในบังคับ
ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
“(3) จัดให้มีมาตรฐานระบบบริการสุขภาพ ดังต่อไปนี้
(ก) ด้านการบริหารจัดการ
(ข) ด้านการบริการสุขภาพ
(ค) ด้านอาคาร สถานที่ และสิ่งอานวยความสะดวก
(ง) ด้านสิ่งแวดล้อม
(จ) ด้านความปลอดภัย
(ฉ) ด้านเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์และสาธารณสุข
(ช) ด้านระบบสนับสนุนบริการที่สาคัญ
(ซ) ด้านสุขศึกษาและพฤติกรรมสุขภาพ
(ฌ) ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์”
ข้อ 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสอง ในข้อ 6 แห่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่ อ ง การก าหนดลัก ษณะของสถานพยาบาลและมาตรฐานซึ่งได้รั บการยกเว้นไม่ ต้องอยู่ ในบังคับ
ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
“รายละเอี ย ดเกี่ ย วกั บ มาตรฐานระบบบริ ก ารสุ ข ภาพตามวรรคหนึ่ ง ให้ เ ป็ น ไปตามที่
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพประกาศกาหนด”
ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง สถานพยาบาลอื่นที่มีลักษณะเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ
หรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่งและวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่ ง แก้ ไขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล (ฉบั บ ที่ 4) พ.ศ. 2559
และมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
โดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาลจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ เรี ย กว่ า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข เรื่ อ ง สถานพยาบาลอื่ น
ที่มีลักษณะเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย
ว่าด้วยสถานพยาบาล”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ในประกาศนี้
“การแพทย์ ป ฐมภู มิ แ ละบริ ก ารสาธารณสุ ข ” หมายความว่ า การดู แ ลสุ ข ภาพแต่ แ รก
แบบองค์รวม ผสมผสาน ต่อเนื่อง ทั้งบริการเชิงรุกเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ บริการควบคุมป้องกันโรค
คุ้มครองผู้บ ริโภค และปั ญ หาที่ คุ กคามสุข ภาพ บริการรักษาพยาบาลและฟื้ น ฟู สุข ภาพ สนั บ สนุ น
การจัดการสุขภาพตนเองและครอบครัว การดูแลสุขภาพที่ บ้าน ชุมชน และหน่วยบริการปฐมภู มิ
รวมทั้งการรับส่งต่อ
“หน่วยบริการ” หมายความว่า สถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
“หน่วยบริการปฐมภูมิ” หมายความว่า หน่วยบริการที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ตามที่กระทรวงสาธารณสุข
หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศกําหนด
“เครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ” หมายความว่า หน่วยบริการที่รวมตัวกันและขึ้นทะเบียน
เป็นเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิตามที่กระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศกําหนด
ข้อ 4 สถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 ต้องมีลักษณะ
ของสถานพยาบาล ดังต่อไปนี้
(ก) เป็นสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลและต้องได้รับใบอนุญาต
ให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลและใบอนุญาตให้ดําเนินการสถานพยาบาล
(ข) ต้องได้ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ
และเงื่อนไขที่กําหนดในข้อ 6 ตามประกาศฉบับนี้
การยื่นแบบแจ้ง ในกรุงเทพมหานครให้ยื่น ณ สํานักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ
กรมสนั บ สนุ น บริ ก ารสุ ข ภาพ สํ าหรับ ในจั งหวั ด อื่ น ให้ ยื่ น ณ สํ านั ก งานสาธารณสุ ข จั งหวั ด ทั้ งนี้
อาจจัดให้มีการยื่นแบบแจ้งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยก็ได้
แบบการแจ้งและแบบรับแจ้งให้เป็นไปตามแบบที่แนบท้ายประกาศนี้
ข้อ 6 สถานพยาบาลอื่นตามข้อ 5 ต้องจัดบริการตามลักษณะและเงื่อนไขการให้บริการ
ของหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ ดังต่อไปนี้
(1) จัดบริการด้านการแพทย์ปฐมภูมิและบริการสาธารณสุขตามประเภทและขอบเขตของ
การบริการตามที่กระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานตามที่กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกําหนด
(2) ปฏิ บัติตามมาตรการควบคุมคุณ ภาพและมาตรฐานของหน่วยบริการในการให้ บริการ
การแพทย์ปฐมภูมิและบริการสาธารณสุขตามที่กระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานตามที่กฎหมายอื่น
ที่เกี่ยวข้องกําหนด
(3) จัดทําระบบข้อมูลและการรายงานผลการให้บริการแพทย์ปฐมภูมิและบริการสาธารณสุข
เพื่อการตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐานและการบริการตามที่กระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานตามที่
กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกําหนด
(4) การออกให้ บ ริ ก ารด้ า นการแพทย์ ป ฐมภู มิ แ ละบริ ก ารสาธารณ สุ ข นอกสถานที่
ต้องให้บริการกับผู้ป่วยหรือผู้รับบริการที่ได้ขึ้นทะเบียนกับหน่วยบริการปฐมภูมินั้น ๆ
ข้อ 7 ในกรณี ส ถานพยาบาลอื่ น ตามข้ อ 5 ถู กสั่ งเพิ ก ถอนการขึ้ น ทะเบี ยนของหน่ วย
บริ ก ารปฐมภู มิ ห รื อ เครื อ ข่ า ยหน่ ว ยบริ ก ารปฐมภู มิ ให้ ส ถานพยาบาลนั้ น ระงั บ การให้ บ ริ ก าร
ด้านการแพทย์ปฐมภูมิและบริการสาธารณสุข และให้ผู้รับอนุญาตแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบภายใน 15 วัน
นั บ แต่ วั น ที่ ไ ด้ รั บ ทราบคํ า สั่ ง เพิ ก ถอนการขึ้ น ทะเบี ย นของหน่ ว ยบริ ก ารปฐมภู มิ ห รื อ เครื อ ข่ า ย
หน่วยบริการปฐมภูมิ
ให้นําความในข้อ 5 วรรคสองและวรรคสามมาใช้บังคับโดยอนุโลม
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
(ฉบั บ ที่ 4) พ.ศ. 2559 ตามประกาศนี้ มี การให้ บ ริก ารที่ มี ลักษณะอั น น่ าจะก่ อให้ เกิด อัน ตราย
แก่ผู้ใช้บริการ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจสั่งให้แก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสมหรือสั่งให้ระงับหรือปฏิบัติ
ให้ ถู ก ต้ อ งภายในระยะเวลาที่ กํ า หนดให้ หากยั ง มี ก ารฝ่ าฝื น คํ าสั่ ง ของพนั ก งานเจ้ าหน้ า ที่ ดั ง กล่ า ว
ให้ผู้อนุญาตมีอํานาจออกคําสั่งปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราวหรืออาจสั่งเพิกถอนสถานพยาบาลนั้น
โดยรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เลขรับที่ ……………………………
วันที่ ……..………..…………….…
ลงชื่อ ……………………ผู้รับคำขอ
แบบแจ้งสถานพยาบาลอื่นที่มีลักษณะเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิหรือ
เครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับ
ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เขียนที่ ………………………………………………….……
วันที่ ……..……... เดือน ……..…………...…. พ.ศ. ………..….…..
แบบรับแจ้งสถานพยาบาลอื่นที่มีลักษณะเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิหรือ
เครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ใบรับแจ้งเลขที่ /
เลขรับที่ ……………………………
วันที่ ……..………..…………….…
ลงชื่อ ……………………ผู้รับคำขอ
แบบแจ้งสถานพยาบาลอื่นที่ถูกเพิกถอนจากการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ
หรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ
เขียนที่ ………………………………………………….……
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
.........ทรำบ
หมำยเหตุ .................................................................
( ...................................................... )
ผู้อนุญำต
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง กำหนดผู้ปว่ ยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรำยตำมกฎหมำยว่ำด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 หรือโรคโควิด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
พ.ศ. ๒๕๔๑ และมำตรำ 33/1 แห่งพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุข
โดยคำแนะนำของคณะกรรมกำรสถำนพยำบำล จึงออกประกำศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกำศนี้เรียกว่ำ “ประกำศกระทรวงสำธำรณสุข เรื่อง กำหนดผู้ป่ว ยฉุกเฉิน
โรคติดต่ออันตรำยตำมกฎหมำยว่ำด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 หรือโรคโควิด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))”
ข้อ 2 ประกำศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจำกวันประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019
(COVID-19)) ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตรำยตำมกฎหมำยว่ำด้วยโรคติดต่อเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งจำเป็นต้อง
ได้ รั บ กำรรั ก ษำพยำบำลโดยฉุ ก เฉิ น จำกสถำนพยำบำลตำมมำตรำ 36 แห่ ง พระรำชบั ญ ญั ติ
สถำนพยำบำล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติสถำนพยำบำล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผปู้ ่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตราย
ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
การระดมทรัพยากรและมีสว่ นร่วมในการช่วยเหลือเยียวยา
และการจัดให้มีการส่งต่อผูป้ ่วยไปยังสถานพยาบาลอื่น
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
(1) ผู้ป่วยมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หอบเหนื่อย หรือมีอาการของโรคปอดอักเสบในรายที่มี
อาการรุนแรงจะมีอาการระบบทางเดินหายใจล้มเหลว และอาจถึงขั้นเสียชีวิต
(2) ป่วยด้วยโรคปอดอักเสบที่หาสาเหตุไม่ได้และมีประวัติใกล้ชิดผู้ที่สงสัยติดเชื้อโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
อาการและอาการแสดงผู้ป่วย ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข หรือแนวทางตามที่
กระทรวงสาธารณสุขประกาศกาหนด
ข้อ 5 เมื่อคัดกรองผู้รับบริการและพบผู้รับบริการที่มีอาการและอาการแสดงตามข้อ 4
ให้ถือว่าเข้าเกณฑ์การเฝ้าระวังเป็นผู้ป่วย ให้ผู้รับอนุญาตและผู้ดาเนินการของสถานพยาบาล มีหน้าที่
ดาเนินการ ดังต่อไปนี้
(1) สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
(ก) จัดให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัย และดาเนินการใด ๆ อันจะมีผลเป็นการควบคุม
ระงับ หรือบรรเทาอันตรายจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus
Disease 2019 (COVID-19)) อย่างทันท่วงทีตามสมควรแก่กรณี
(ข) จัดให้มีห้องตรวจโรคแยกกับผู้ป่วยทั่วไป
(ค) จัดให้มีห้องพักผู้ป่วย ห้องน้า เพื่อรองรับผู้ป่วยแยกกับผู้ป่วยทั่วไป
(ง) จัดให้มีการซักประวัติและปัจจัยเสี่ยงตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกาหนด
(จ) แจ้งเจ้าพนั กงานควบคุมโรคติด ต่อ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
ที่กาหนดตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
(ฉ) จั ด ให้ มี ก ารเก็ บตั ว อย่ างส่ งตรวจจากผู้ ป่ว ยและส่ งตั วอย่ างส่ งตรวจดัง กล่ า วไปยัง
ห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019
(COVID-19)) ทั้งนี้ ตามแนวทางและห้องปฏิบัติการตามที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ประกาศกาหนด
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ตามความเหมาะสม โดยมี ร ะบบป้ อ งกั นการติ ด เชื้ อและแพร่ กระจายเชื้ อระหว่ างการส่ งต่ อผู้ป่วย
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข หรือแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกาหนด
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง สถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
กรณีให้บริการเฉพาะผู้ปว่ ยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
เป็นการชัว่ คราว
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
โดยเป็ น การสมควรก าหนดสถานพยาบาลอื่ น ซึ่ ง ได้ รั บ การยกเว้ น ไม่ ต้ อ งอยู่ ใ นบั ง คั บ ของ
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 เพื่อให้มีความสอดคล้องกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยโรคติดต่ออันตราย
ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus
Disease 2019 (COVID-19)) โดยฉุกเฉินจากสถานพยาบาลตามมาตรา 33/1 และมาตรา 36
แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559
อาศั ย อ านาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่ ง แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล
พ.ศ. 2541 และมาตรา 5 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไข
เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับ
การยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล กรณีให้บริการเฉพาะผู้ป่วยโรคติดต่อ
อัน ตรายตามกฎหมายว่า ด้ว ยโรคติด ต่อ กรณีโ รคติด เชื้อ ไวรัส โคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) เป็นการชั่วคราว”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ในประกาศนี้
“สถานพยาบาล” หมายความว่า สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
ข้อ 4 ให้ สถานพยาบาลที่ให้บริการเฉพาะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วย
โรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019
(COVID-19)) ตามมาตรา 33/1 และมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 เป็นสถานพยาบาลอื่น
ซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
และควบคุมสถานพยาบาลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
ข้อ 7 หากปรากฏในภายหลังว่า สถานพยาบาลตามข้อ 4 มีการให้บริการที่มีลักษณะ
อันน่าจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้รับบริการ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจสั่งให้แก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสม
หรื อ สั่ ง ให้ ระงั บหรือ ปฏิ บัติใ ห้ ถูกต้ องภายในระยะที่ กาหนด หากยั ง มีก ารฝ่า ฝื นคาสั่ งของพนักงาน
เจ้าหน้าที่ดังกล่าวให้ผู้อนุญาตมีอานาจออกคาสั่งปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราวหรืออาจสั่งเพิกถอน
สถานพยาบาลนั้น
ข้อ 8 สถานพยาบาลตามประกาศนี้ ต้ อ งมี ส ถานพยาบาลประเภทรับผู้ ป่ วยไว้ค้างคืน
ตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยสถานพยาบาล ให้ ก ารรั บ รองและให้ ก ารช่ ว ยเหลื อ สถานพยาบาลนั้ น
เพื่อการรักษาพยาบาลให้คาแนะนาและรับส่งต่อผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน
ข้อ 9 การยื่นคาขออนุมัติการประกอบกิจการสถานพยาบาลตามประกาศนี้ ในกรุงเทพมหานคร
ให้ยื่น ณ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข สาหรับในจังหวัดอื่นให้ยื่น ณ สานักงาน
สาธารณสุขจังหวัด ทั้งนี้ อาจจัดให้มีการยื่นคาขออนุมัติผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยก็ได้
แบบคำขออนุมัติสถำนพยำบำลอื่นซึ่งได้รับกำรยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตำมกฎหมำยว่ำด้วยสถำนพยำบำล
กรณีให้บริกำรเฉพำะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรำยตำมกฎหมำยว่ำด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เป็นกำรชั่วครำว
เขียนที่ …………………………………………………
วันที่ ……..……... เดือน ……..…………...…. พ.ศ. ………..….…..
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
(๓) เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ….….. คน (๔) รังสีเทคนิค …………………………. คน
(๕) จิตวิทยำคลินิก ……...…………………. คน (6) กำยอุปกรณ์…………………………. คน
(7) กำรแพทย์แผนจีน…………………….. คน
(8) อื่นๆ............................................... คน
ทั้งนี้ ได้ ป ระสำนสถำนพยำบำลตำมกฎหมำยว่ำด้ วยสถำนพยำบำลเพื่ อให้ ก ำรช่ว ยเหลื อ
กำรรักษำพยำบำล ให้คำแนะนำ ประสำนควำมร่วมมือและรับส่งต่อผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน
ชื่อสถำนพยำบำล ............................................................................ เลขที่ใบอนุญำต ........................................
ตั้งอยู่ที่ ............ หมู่ที่ .................. ซอย ............................... ตรอก .......................... ถนน ...............................
ตำบล/แขวง ........................................................................ อำเภอ/เขต ...........................................................
จังหวัด .................................................................. โทรศัพท์ ...............................................................................
หนังสืออนุมัติสถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
กรณีให้บริการเฉพาะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
หนังสืออนุมัติเลขที่ ............./.......................
หนังสือฉบับนี้เพื่อแสดงว่า ....................................................................................................
................................................................................................................................................................... ............
ตั้งอยู่เลขที่ .................................... หมู่ที่ ...................ซอย .....................................................
ตรอก .......................................................................... ถนน ........................................................................
ตาบล/แขวง ...................................................................อาเภอ/เขต ...................................................................
จังหวัด ......................................................... โทรศัพท์ ........................................................................................
เป็นสถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล กรณีให้บริการ
เฉพาะผู้ ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรค
โควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) เป็นการชั่วคราว ตามมาตรา 5 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ
สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญ ญั ติสถานพยาบาล (ฉบั บที่ 4) พ.ศ. 2559
โดยมีสถานพยาบาลเพื่อให้การช่วยเหลือ การรักษาพยาบาล ให้คาแนะนา และรับส่งต่อผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน
ดังนี้
ชื่อสถานพยาบาล ............................................................................ เลขที่ใบอนุญาต .................. ......................
ตั้งอยู่ที่ ............ หมู่ที่ ............... ซอย ............................... ตรอก .......................... ถนน ...............................
ตาบล/แขวง ........................................................................ อาเภอ/เขต ...........................................................
จังหวัด .................................................................. โทรศัพท์ ...............................................................................
ให้ไว้ ณ วันที่ เดือน พ.ศ.
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง ลักษณะและมาตรฐานของสถานพยาบาลอืน่ ซึง่ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับ
ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล กรณีให้บริการเฉพาะผู้ปว่ ยโรคติดต่ออันตราย
ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19
(Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
เป็นการชัว่ คราว
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
โดยเป็นการสมควรกาหนดลักษณะของสถานพยาบาลอื่นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับ
ของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 รวมถึงมาตรฐานของสถานพยาบาลดังกล่าว เพื่อให้มีความสอดคล้องกับ
การช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 หรื อโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) โดยฉุกเฉินจากสถานพยาบาล
ตามมาตรา 33/1 และมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559
อาศัยอานาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541
และมาตรา 5 วรรคสอง แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่ ง แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม
โดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
โดยคาแนะนาของคณะกรรมการสถานพยาบาล จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ลักษณะและมาตรฐาน
ของสถานพยาบาลอื่ น ซึ่ ง ได้ รั บ การยกเว้ น ไม่ ต้ อ งอยู่ ใ นบั ง คั บ ตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยสถานพยาบาล
กรณีให้บริการเฉพาะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) เป็นการชั่วคราว”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ในประกาศนี้
“สถานพยาบาล” หมายความว่ า สถานพยาบาลประเภทที่ รั บ ผู้ ป่ ว ยไว้ ค้ า งคื น ซึ่ ง ได้ รั บ
การยกเว้นไม่ต้องอยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่ อ ง สถานพยาบาลอื่ นซึ่งได้รับการยกเว้นไม่ต้อ งอยู่ ใ นบั งคับ ตามกฎหมายว่าด้ว ยสถานพยาบาล
กรณีให้บริการเฉพาะผู้ป่วยโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) เป็นการชั่วคราว
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
(ก) เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทาความสะอาด
(ข) อ่างและบริเวณที่เพียงพอสาหรับล้างและเตรียมเครื่องมือ
(ค) ตู้เสื้อผ้าและบริเวณสาหรับเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้า
(ง) ระบบเคลื่อนย้ายสิ่งของที่เหมาะสม
(7) ระบบบาบัดน้าเสียต้องจัดให้มีมาตรฐานที่เหมาะสม
(8) ระบบน้าสารองต้องจัดให้มีที่เก็บกักน้าสารองขนาดที่เพียงพอสาหรับการใช้ที่จาเป็น
หมวด 3
ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกาหนดค่าใช้จ่ายในการดาเนินการผูป้ ่วยฉุกเฉิน
โรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่ งแก้ ไขเพิ่ มเติ มโดยพระราชบั ญ ญั ติ สถานพยาบาล (ฉบั บที่ 4) พ.ศ. 2559 ประกอบกั บมติ คณะรั ฐมนตรี
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 คณะรัฐมนตรีจึงกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกาหนดค่าใช้จ่าย
ในการดาเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ไว้ดังนี้
ข้อ 1 ในหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขนี้
“ค่าใช้จ่าย” หมายความว่า ค่าใช้จ่ายจากการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การรักษาพยาบาล
หรือการส่งต่อผู้ป่วย ที่ปรากฏตามบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขนี้
“ผู้ ป่ วย” หมายความว่า ผู้ ป่ วยโรคติ ดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus
Disease 2019 (COVID-19))
“สถานพยาบาล” หมายความว่า สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
ข้อ 2 กรณีผู้ป่วยให้สถานพยาบาลให้การรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉินเพื่อให้พ้นจากอันตราย
ตามมาตรฐานวิชาชีพและขีดความสามารถของสถานพยาบาลโดยไม่มีเงื่อนไขในการเรียกเก็บ ค่ารักษาพยาบาล
เพื่ อ ไม่ ใ ห้ เ ป็ น อุ ป สรรคต่ อ การดู แ ลรั ก ษา และให้ ส ถานพยาบาลแจ้ ง ต่ อ กองทุ น ของผู้ มี สิ ท ธิ ไ ด้ รั บ
การรัก ษาพยาบาลตามกฎหมายว่ าด้ ว ยหลั ก ประกั น สุ ข ภาพแห่ งชาติ หรือ กฎหมายว่าด้ ว ยประกั น สั งคม
หรือกฎหมายว่าด้วยเงิน ทดแทน หรือจากส่วนราชการ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือรัฐ วิสาหกิจ
หรือหน่วยงานอื่นของรัฐทราบโดยเร็ว
ข้อ 3 สถานพยาบาลต้องให้การดูแลรักษาผู้ป่วยตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกาหนด
กรณีการส่งต่อผู้ป่วยไปรับการรักษาพยาบาลยังสถานพยาบาลอื่น สถานพยาบาลต้องจัดการให้
มีการจัดส่งต่อตามความเหมาะสม ตามมาตรฐานวิชาชีพมาตรฐานการส่งต่อผู้ป่วยและตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
โดยอาจส่งต่อผู้ป่วยได้ในกรณีดังนี้
(1) สถานพยาบาลส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาตัวในเครือข่ายสถานพยาบาลที่จัดไว้สาหรับผู้ป่วย
(2) สถานพยาบาลมีศักยภาพไม่เพียงพอในการดูแลรักษาผู้ป่วย
(3) ผู้ป่วยหรือญาติมีความประสงค์จะไปรับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลอื่น
ข้อ 4 สถานพยาบาลจะได้รับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานับตั้งแต่รับผู้ป่วยตามแนวทางที่
กระทรวงสาธารณสุ ขกาหนด หรือส่ งต่อผู้ ป่ วยไปยังสถานพยาบาลอื่น ในอัตราตามบัญชีและอัตราค่าใช้ จ่าย
แนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขนี้
กรณี ส ถานพยาบาลส่ งต่ อ ผู้ ป่ ว ยไปรั บ การดู แ ลรั ก ษายั งสถานพยาบาลอื่ น ตามข้ อ 3 (1)
หากผู้ ป่ วยหรื อญาติ ผู้ ป่ วยปฏิ เสธไม่ ขอให้ ส่ งต่ อ หรือกรณี ผู้ ป่ วยหรือญาติ ผู้ ป่ วย ประสงค์ จะไปรับการรัก ษา
ที่สถานพยาบาลอื่นตามข้อ 3 (3) ผู้ป่วยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเอง
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง กําหนดผู้ป่วยฉุกเฉิน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
คณะกรรมการสถานพยาบาลจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กําหนดผู้ป่วยฉุกเฉิน”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ผู้ ป่ว ยฉุ กเฉิ นตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ฉุ กเฉิน เรื่อ ง หลั กเกณฑ์
การประเมินเพื่อคัดแยกระดับความฉุกเฉินและมาตรฐานการปฏิบัติการฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๔ ตามกฎหมาย
ว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉิน เป็นผู้ป่วยฉุกเฉินซึ่งจําเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉินจากสถานพยาบาล
ตามมาตรา 36 แห่ งพระราชบั ญญั ติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่ งแก้ไขเพิ่มเติ มโดยพระราชบัญญั ติ
สถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยฉุกเฉิน
การระดมทรัพยากรและมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเยียวยา
และการจัดให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่น
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ฉุกเฉินนั้น รุนแรงขึ้นหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้อย่างฉับไว
ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีแดง” สําหรับผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต
(๒) ผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน ได้แก่ บุคคลที่ได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยซึ่งมีภาวะเฉียบพลันมาก
หรือเจ็บปวดรุนแรงอันจําเป็นต้องได้รับปฏิบัติการแพทย์อย่างรีบด่วน มิฉะนั้น จะทําให้การบาดเจ็บ
หรื อ อาการป่ ว ยของผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น นั้ น รุ น แรงขึ้ น หรื อ เกิ ด ภาวะแทรกซ้ อ นขึ้ น ซึ่ ง ส่ ง ผลให้ เ สี ย ชี วิ ต
หรือพิการในระยะต่อมาได้
ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีเหลือง” สําหรับผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน
(๓) ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น ไม่ รุ น แรง ได้ แ ก่ บุ ค คลซึ่ ง ได้ รั บ บาดเจ็ บ หรื อ มี อ าการป่ ว ยซึ่ ง มี ภ าวะ
เฉียบพลันไม่รุนแรง อาจรอรับปฏิบัติการแพทย์ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือเดินทางไปรับบริการสาธารณสุข
ด้วยตนเองได้ แต่จําเป็นต้องใช้ทรัพยากรและหากปล่อยไว้เกินเวลาอันสมควรแล้วจะทําให้การบาดเจ็บ
หรืออาการป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้
ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีเขียว” สําหรับผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง
ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามแนวทางการปฏิบัติในการคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ตามนโยบาย
“เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่” กรณีการเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลเอกชนนอกคู่สัญญา
สามกองทุนตามที่คณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินกําหนด
ข้อ 5 ให้สถานพยาบาลจัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพ เพื่อคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินตามข้อ 3 (๑)
ตลอดเวลา รวมทั้งควบคุมและดูแลให้ผู้ปฏิบัติการดําเนินการให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการปฏิบัติการฉุกเฉิน
ตามลําดับความเร่งด่วน ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินประกาศกําหนด
ข้อ 6 นอกจากการจัดให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการบริการตามข้อ 3 แล้ว สถานพยาบาล
ต้องจัดให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการบําบัดเจาะจงตามขีดความสามารถอย่างทันท่วงทีด้วย
ข้อ 7 ในกรณีที่ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (สีแดง) ที่ได้รับการรักษาในสถานพยาบาลประเภท
ที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนผู้ใดเป็นผู้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
หรือกฎหมายว่าด้วยประกันสังคมหรือกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน หรือจากส่วนราชการ หรือองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ และเมื่อผู้นั้นไปรับบริการจากสถานพยาบาล
ประเภทที่รับผู้ป่วยไว้คา้ งคืนเมื่อใดแล้ว ให้สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนแจ้งการเข้ารับบริการและ
ให้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรีกําหนด
หมวด ๓
การจัดให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่น
ข้อ 9 เมื่ อ ให้ ก ารช่ ว ยเหลื อ เยี ย วยาผู้ ป่ ว ยตามหมวดหนึ่ ง ถ้ า มี ค วามจํ า เป็ น ต้ อ งส่ ง ต่ อ
หรือผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยมีความประสงค์จะไปรับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลอื่น ผู้รับอนุญาต
และผู้ดําเนินการต้องจัดการให้มีการจัดส่งต่อไปยังสถานพยาบาลอื่นตามความเหมาะสม
ในกรณีที่ผู้ประกอบวิชาชีพให้การรับรองว่าการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินจะเป็นประโยชน์ต่อการป้องกัน
การเสียชีวิต หรือการรุนแรงขึ้นของการเจ็บป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้น หรือเกินขีดความสามารถตามนัยแห่ง
ข้อ 3 (๒) ให้สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนดําเนินการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน ตามมาตรฐาน
การส่งต่อผู้ป่วยที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกําหนด และให้สถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วย
ไว้ค้างคืนดําเนินการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินตามมาตรฐานการส่งต่อผู้ป่วยที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกําหนด
โดยอนุโลม
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ให้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่นให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรี
กําหนด ซึ่งคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 มีมติอนุมัติหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตแล้ว เห็นควรประกาศให้ทราบ
เป็นการทั่วไป นั้น
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และ
เงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2560 เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผู้ป่วย
ฉุกเฉินวิกฤต ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้วเป็นไปตามแนบท้ายประกาศนี้
เพื่ อ เป็ น การคุ้ ม ครองสิ ท ธิ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น กรณี เ ข้ า รั บ การรั ก ษาพยาบาลในสถานพยาบาล
ให้ มี ค วามเหมาะสม เห็ น ควรกํ า หนดค่ า ใช้ จ่ า ยในการดํ า เนิ น การให้ มี ค วามสอดคล้ อ งกั บ สภาวการณ์
เป็นธรรมและสามารถใช้บังคับทุกภาคส่วน
อาศั ย อํ า นาจตามความในมาตรา 36 วรรคห้ า แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่ ง แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดยพระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล (ฉบั บ ที่ 4) พ.ศ. 2559 ประกอบกั บ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
มติ ค ณะรั ฐ มนตรี เ มื่ อ วั น ที่ 28 มี น าคม พ.ศ. 2560 คณะรั ฐ มนตรี จึ ง กํ า หนดหลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก าร
และเงื่อนไขการกําหนดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ไว้ดังนี้
ข้อ 1 ในหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขนี้
“ค่าใช้จ่าย” หมายความว่า ค่าใช้จ่ายที่ได้รับการชดเชยจากการรักษาพยาบาล หรือการส่งต่อ
ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ที่ปรากฏตามบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขนี้
“ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤต” หมายความว่ า ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤตตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยการแพทย์
ฉุกเฉิน
“สถานพยาบาล” หมายความว่า สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
ข้อ 2 กรณี ผู้ ป่ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤตให้ ส ถานพยาบาลให้ ก ารรั ก ษาพยาบาลโดยฉุ ก เฉิ น เพื่ อ ให้ พ้ น
จากอันตรายตามมาตรฐานวิ ช าชี พและขี ด ความสามารถของสถานพยาบาลโดยไม่ มี เงื่ อนไขในการเรีย กเก็ บ
ค่ารักษาพยาบาลเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการดูแลรักษา และให้สถานพยาบาลแจ้งต่อกองทุนของผู้มีสิทธิได้รับ
การรั ก ษาพยาบาลตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยหลั ก ประกั น สุ ข ภาพแห่ ง ชาติ หรื อ กฎหมายว่ า ด้ ว ยประกั น สั ง คม
หรือ กฎหมายว่า ด้ว ยเงิน ทดแทน หรือ จากส่ว นราชการ หรือ องค์ก รปกครองส่ว นท้อ งถิ่น หรือ รัฐ วิส าหกิจ
หรือหน่วยงานอื่นของรัฐทราบโดยเร็ว
ข้อ 3 กรณีที่มีปัญหาการวินิจฉัยในการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตให้ปรึกษาศูนย์ประสาน
คุ้ ม ครองสิ ท ธิ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤต ของสถาบั น การแพทย์ ฉุ ก เฉิ น แห่ ง ชาติ ไ ด้ ต ลอดเวลายี่ สิ บ สี่ ชั่ ว โมง
เพื่อดําเนินการวินิจฉัย โดยคําวินิจฉัยของศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ของสถาบันการแพทย์
ฉุกเฉินแห่งชาติให้ถือเป็นที่สุด
ข้อ ๔ สถานพยาบาลต้ อ งให้ ก ารดู แ ลรั ก ษาผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤตจนพ้ น ภาวะวิ ก ฤตหรื อ
ถ้ ามี ค วามจํ าเป็ น ต้ อ งส่ ง ต่ อ หรื อ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤตหรื อ ญาติ มี ค วามประสงค์ จ ะไปรั บ การรั ก ษาพยาบาล
ที่สถานพยาบาลอื่ น สถานพยาบาลต้ องจั ดการให้ มี การจั ด ส่ งต่ อไปยั ง สถานพยาบาลอื่ นตามความเหมาะสม
ตามมาตรฐานวิชาชีพและมาตรฐานการส่งต่อผู้ป่วย
ข้อ ๕ สถานพยาบาลจะได้ รั บ ค่ าใช้ จ่า ยที่ เ กิด ขึ้น ในช่ วงเวลานั บ ตั้ ง แต่ รั บ ผู้ป่ ว ยฉุ กเฉิ น วิ ก ฤต
จนถึงเวลาเจ็ดสิบสองชั่วโมง ในอัตราตามบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขนี้
ข้อ 6...
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ข้ อ ๘ ให้ สํ า นั ก งานหลั ก ประกั น สุ ข ภาพแห่ ง ชาติ ต รวจสอบความถู ก ต้ อ ง สรุ ป ค่ า ใช้ จ่ า ย
และแจ้ ง ให้ ก องทุ น ของผู้ มี สิ ท ธิ ไ ด้ รั บ การรั ก ษาพยาบาลตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยหลั ก ประกั น สุ ข ภาพแห่ ง ชาติ
หรือกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม หรือกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน หรือจากส่วนราชการ หรือองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ทราบภายในสามสิบวันนับตั้งแต่เวลาที่ได้รับเอกสาร
ครบถ้วนแล้ว
ข้อ ๙ ให้กองทุนของผู้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพ
แห่งชาติหรือกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม หรือกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน หรือจากส่วนราชการ หรือองค์กร
ปกครองส่ว นท้อ งถิ่น หรือ รัฐ วิส าหกิจ หรือ หน่ว ยงานอื่น ของรัฐ จ่า ยค่า ใช้จ่า ยในอัต รา ตามบัญชีและอัตรา
ค่าใช้จ่ายแนบท้ ายหลัก เกณฑ์ วิ ธีการและเงื่อนไขนี้ให้แก่สถานพยาบาลภายในสิบห้าวัน นับจากวันที่สํานักงาน
หลักประกันสุขภาพแห่งชาติแจ้งกองทุนของผู้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกัน
สุ ข ภาพแห่ งชาติ หรือ กฎหมายว่ า ด้ วยประกั น สั งคม หรื อ กฎหมายว่ าด้ ว ยเงิ นทดแทน หรือ จากส่ วนราชการ
หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
ข้อ 10 ใ น ก ร ณี ที่ มี ก า ร ส่ ง ต่ อ ผู้ ป่ ว ย ฉุ ก เ ฉิ น วิ ก ฤ ต จ า ก ส ถ า น พ ย า บ า ล แ ห่ ง ที่ ห นึ่ ง
ไปยั ง สถานพยาบาลแห่ ง ที่ ส อง ภายในเวลาก่ อ นครบเจ็ ด สิ บ สองชั่ ว โมงนั บ ตั้ ง แต่ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤต
เข้ า รั บ การรั ก ษาพยาบาลที่ ส ถานพยาบาลแห่ ง ที่ ห นึ่ ง สถานพยาบาลแห่ ง ที่ ส องจะได้ รั บ ค่ า ใช้ จ่ า ยที่ เ กิ ด ขึ้ น
ในช่ ว งเวลาตั้ ง แต่ รั บ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤตจนครบเจ็ ด สิ บ สองชั่ ว โมง (โดยนั บ เวลาต่ อเนื่ อ งจากสถานพยาบาล
แห่งที่หนึ่งรับ) ในอัตราตามบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขนี้ เว้นแต่
(1) กรณี ส ถานพยาบาลคู่ สั ญ ญาของสํ า นั ก งานประกั น สั ง คม รั บ ย้ า ยผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤต
ในสังกัดของตนให้ปฏิบัติตามระบบของสํานักงานประกันสังคม
(2) กรณีสถานพยาบาลคู่สัญญาของสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรับย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน
วิกฤตที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนให้ปฏิบัติตามระบบของสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
(3) กรณี ส ถานพยาบาลของรั ฐ รั บ ย้ า ยผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น วิ ก ฤตซึ่ ง มี สิ ท ธิ ต ามพระราชกฤษฎี ก า
เงิ น สวั ส ดิ ก ารเกี่ ย วกั บ การรั ก ษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๓ และที่ แ ก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม ให้ ดํ า เนิ น การตามแนวทางที่
กรมบัญชีกลางกําหนด
ข้อ 11...
เป็นต้นไป
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง ชนิดหรือประเภทของการรักษาพยาบาล ยาและเวชภัณฑ์ การบริการทางการแพทย์
หรือการบริการอื่นของสถานพยาบาล และสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งผู้รับอนุญาตจะต้องแสดงตามมาตรา 32 (3)
พ.ศ. 2561
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
การบริการทางการแพทย์ หรือการบริการอื่นของสถานพยาบาล และสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งผู้รับอนุญาต
จะต้องแสดงตามมาตรา 32 (3)
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
และมาตรา ๓๓ วรรคหนึ่ ง แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่ ง แก้ ไขเพิ่ ม เติ ม
โดยพระราชบัญ ญั ติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
โดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาลจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ เรี ย กว่ า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข เรื่ อ ง ชนิ ด หรื อ ประเภท
ของการรักษาพยาบาล ยาและเวชภัณฑ์ การบริการทางการแพทย์ หรือการบริการอื่นของสถานพยาบาล
และสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งผู้รับอนุญาตจะต้องแสดงตามมาตรา 32 (3) พ.ศ. 2561”
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ ย กเลิ กประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข ฉบั บ ที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๔๒) เรื่อ ง ชนิ ด
หรือประเภทของการรักษาพยาบาล การบริการอื่นของสถานพยาบาลและสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งผู้รับอนุญาต
จะต้องแสดงตามมาตรา ๓๒ (๓)
ข้อ 4 ผู้ รั บ อนุ ญ าตให้ ป ระกอบกิ จ การสถานพยาบาล ต้ อ งแสดงรายละเอี ย ดของอั ต รา
ค่ารักษาพยาบาล ยาและเวชภัณฑ์ การบริการทางการแพทย์ หรือการบริการอื่นของสถานพยาบาล
ตามบริ ก ารที่ จั ด ให้ มี ข องสถานพยาบาลตามมาตรา ๓๒ (๓) ไว้ ใ นที่ เ ปิ ด เผยและเห็ น ได้ ง่ า ย
ณ สถานพยาบาลนั้น มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
4.1 ค่ารักษาพยาบาล ยาและเวชภัณ ฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ (Drugs and
Medical Supplies, Hospital Medical Expenses)
ก. ค่ายาและสารอาหารทางหลอดเลือด (Drugs & Parenteral Nutrition)
ข. ค่าเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ (Medical Supplies & Devices)
ค. ค่ าบริ ก ารจั ด หาโลหิ ต และส่ ว นประกอบของโลหิ ต (Blood & Blood
Components)
ง. ค่าตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ (Laboratory Investigation)
จ. ค่าตรวจวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา (Pathology)
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ง. ค่าอาหารเพื่อวัตถุประสงค์อื่น (Special Purpose Nutrition)
จ. ค่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary Supplement Products)
ฉ. ค่าพาหนะเดินทางสําหรับผู้ป่วย (Patient Transport Services)
ช. ค่าบริการเก็บรักษาศพ (Mortuary Services)
ซ. ค่าบริการอื่น ๆ ของสถานพยาบาล (Other Hospital Services)
ฌ. ค่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ (Other Non-Medical Hospital Products)
รายละเอียด 4.1 - 4.2 ให้เป็นไปตามการจัดทําบัญชีแนบท้าย ทั้งนี้การจัดทําบัญชี
แนบท้ายให้เป็นไปตามข้อจํากัดของสถานพยาบาล และศักยภาพของสถานพยาบาลนั้น ๆ
ข้อ 5 ผู้ รั บ อนุ ญ าตให้ ป ระกอบกิ จ การสถานพยาบาล ต้ อ งแสดงรายละเอี ย ดถึ ง สิ ท ธิ
ของผู้ป่วยที่พึงได้รับจากผู้ประกอบวิชาชีพไว้ ดังต่อไปนี้
5.1 ผู้ ป่ ว ยทุ ก คนมี สิ ท ธิ ขั้ น พื้ น ฐานที่ จ ะได้ รั บ การรั ก ษาพยาบาลและการดู แ ล
ด้านสุขภาพตามมาตรฐานวิชาชีพจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติตามที่บัญญัติ
ไว้ในรัฐธรรมนูญ
5.2 ผู้ป่วยที่ขอรับการรักษาพยาบาลมีสิทธิได้รับทราบข้อมูลที่เป็นจริงและเพียงพอ
เกี่ยวกับการเจ็บป่วย การตรวจ การรักษา ผลดีและผลเสียจากการตรวจ การรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพ
ด้านสุขภาพ ด้วยภาษาที่ผู้ป่วยสามารถเข้าใจได้ง่าย เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเลือกตัดสินใจในการยินยอม
หรือไม่ยินยอมให้ผู้ประกอบวิชาชีพ ด้านสุขภาพปฏิบัติต่อตน เว้นแต่ในกรณี ฉุกเฉินอันจําเป็นเร่งด่วน
และเป็นอันตรายต่อชีวิต
5.3 ผู้ ป่ ว ยที่ อ ยู่ ในภาวะเสี่ ย งอั น ตรายถึ ง ชี วิ ต มี สิ ท ธิ ได้ รั บ การช่ ว ยเหลื อ รี บ ด่ ว น
จากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยทันทีตามความจําเป็นแก่กรณี โดยไม่ต้องคํานึงว่าผู้ป่วยจะร้องขอ
ความช่วยเหลือหรือไม่
5.4 ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับทราบชื่อ สกุล และวิชาชีพของผู้ให้การรักษาพยาบาลแก่ตน
5.5 ผู้ป่วยมีสิทธิที่ขอความเห็นจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพอื่นที่มิได้เป็นผู้ให้
การรั ก ษาพยาบาลแก่ ต น และมี สิ ท ธิ ในการขอเปลี่ ย นผู้ ป ระกอบวิ ช าชี พ ด้ า นสุ ข ภาพหรื อ เปลี่ ย น
สถานพยาบาลได้ ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสิทธิการรักษาของผู้ป่วยที่มีอยู่
ในเวชระเบียนเมื่อร้องขอตามขั้นตอนของสถานพยาบาลนั้น ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิ
หรือข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลของผู้อื่น
5.9 บิดา มารดา หรือผู้แทนโดยชอบธรรม อาจใช้สิทธิแทนผู้ป่วยที่เป็นเด็กอายุ
ยังไม่เกินสิบแปดปีบริบูรณ์ ผู้บกพร่องทางกายหรือจิต ซึ่งไม่สามารถใช้สิทธิด้วยตนเองได้
ข้อ 6 ให้ผู้รับอนุญาตซึ่งได้รับใบอนุญ าตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลอยู่ในวันก่อนที่
ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับต้องดําเนินการให้เป็นไปตามประกาศนี้ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ประกาศฉบับนี้
มีผลใช้บังคับ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
โดยพระราชบั ญ ญั ติ สถานพยาบาล (ฉบั บ ที่ ๔) พ.ศ. 2559 ได้ ก าหนดให้ ผู้ รั บอนุ ญ าตให้ ประกอบกิ จการ
สถานพยาบาลต้องแสดงอัตราค่ารักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์ การบริการทางการแพทย์ หรือการบริการอื่น
ของสถานพยาบาล และสิทธิของผู้ป่วย ไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานพยาบาลนั้น หากไม่กระทาจะมีโทษ
ตามที่มาตรา 59 ระบุไว้ คือ ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ประกอบกับมาตรา 33 วรรคสอง ผู้รับอนุญาตจะเรียกเก็บ
หรือยินยอมให้ มีการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ หรือค่าบริการอื่น
เกิ นอั ตราที่ ได้ แสดงไว้ มิ ได้ และต้ องให้ บ ริ การแก่ ผู้ ป่ วยตามสิ ทธิ ที่ ได้ แสดงไว้ ห ากกรณี มี การฝ่ าฝื นเรี ยกเก็ บ
ค่ารักษาพยาบาลหรือค่าบริการอื่ นเกินอัตราที่แสดงไว้จะมีโทษตามที่มาตรา 62 กาหนดไว้ คือ ต้องระวางโทษ
จาคุก ไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจาทั้งปรับ
ดังนั้ น เพื่ อให้ ส ถานพยาบาลจั ดทาบั ญ ชีค่าบริการต่างๆ ของสถานพยาบาลให้ ครอบคลุ ม
การบริการที่มี และเป็ น ไปในแนวทางเดี ย วกัน โดยแยกเป็ นหมวดหมู่ เพื่ อให้ เกิดความชั ดเจนแก่ผู้ บริโภค
และสถานพยาบาลจะมีการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลได้ตามรายการที่ปรากฏในบัญชีที่แสดงไว้ และเก็บได้
ไม่เกินอัตราที่แสดงไว้ในบัญชีเท่านั้น รายละเอียดดังนี้
4.1 ค่ารั กษาพยาบาล ยาและเวชภั ณ ฑ์ ค่ าบริก ารทางการแพทย์ (Drugs and Medical
Supplies, Hospital Medical Expenses) หมายถึ ง บริ ก ารของสถานพยาบาลด้ ว ยการใช้ เทคโนโลยี
เครื่องมือ อุปกรณ์ ยา และเวชภัณฑ์ โดยบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อการตรวจ วินิจฉัย ป้องกัน
บาบัด บรรเทา รักษาโรค และบริบาลผู้ป่วย บริการทางการแพทย์ประกอบด้วยบัญชีบริการ ดังนี้
ก. ค่ายาและสารอาหารทางหลอดเลือด (Drugs & Parenteral Nutrition)
1. จัดทาบัญชียาตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 ยาแผนปัจจุบัน-ยาอันตราย (Modern Medicines-Dangerous Drugs)
1.2 ยาแผนปัจจุบัน-ยาควบคุมพิเศษ (Modern Medicines-Specially Controlled Drugs)
1.3 วัตถุออกฤทธิ์ (Psychotropic Drugs)
1.4 วัตถุเสพติด (Narcotic Drugs)
1.5 ยาแผนปัจจุบันบรรจุเสร็จ (Non-dangerous, Non-specially Controlled Drugs)
1.6 ยาสามัญประจาบ้าน (OTC)
1.7 ยาสมุนไพร (Traditional-Herbal Medicines)
1.8 ชีววัตถุ (Biological Products)
1.9 สารอาหารทางหลอดเลือด (Parenteral Nutrition)
1.10 ยาอื่น (Drugs-Others)
2. จั ดท าบั ญ ชี บ ริ การในระดั บ หน่ วยรายการตามมาตรฐานระบบ Thai Medicines
Terminology (TMT) โดยสานักพัฒนามาตรฐานระบบข้อมูลสุขภาพไทย (สมสท.) ส่วนงานมาตรฐานและบริการ
สารสนเทศระบบบริการสาธารณสุข (สมสส.) ในสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)
1.2 Medical Supplies-2 (บั ญชี เวชภั ณฑ์ 2) หมายถึ ง เวชภั ณฑ์ คงทนใช้ ภายนอก
ร่างกาย
1.3 Medical Supplies-3 (บั ญ ชี เวชภั ณ ฑ์ 3) หมายถึ ง เวชภั ณ ฑ์ คงทนใช้ ภ ายใน
ร่างกาย
1.4 Medical Supplies-Others (บัญชีเวชภัณฑ์อื่น)
2. จัดกลุ่มรายการย่อยและหน่วยรายการของบัญชีเวชภัณฑ์ ตามลักษณะการใช้งาน
หรือกลไกการทางาน หรือเทคโนโลยี หรือเนื้อเยื่อ-อวัยวะที่ทาการรักษา
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 เวชภั ณ ฑ์ ให้ รวมการจัด ซื้อ จั ดหา การขนส่ ง การเก็บ รักษาที่ได้มาตรฐาน
การใช้สถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ วัสดุภัณฑ์ ระบบสารสนเทศ และการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน
บริการของบุคลากรที่จาเป็นในขั้นตอนการเตรียม การปลอดเชื้อ การจัด การบรรจุ การส่งมอบ และการให้
ข้อมูลคาแนะนาแก่ผู้ป่วยเพื่อการใช้ที่ถูกต้องเหมาะสม หรือพร้อมที่แพทย์จะใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วย
ได้ รวมถึงการบันทึก และรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
3.2 เวชภั ณ ฑ์ ที่ ต้ อ งอาศั ย การออกแบบ การปรั บ แต่ ง และฝึ ก สอนการใช้ งาน
โดยบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่ใช่แพทย์ (อาทิ นักกายอุปกรณ์) ให้รวมบริการของบุคลากรเหล่านั้นไว้ด้วย
ค. ค่าบริการจัดหาโลหิตและส่วนประกอบของโลหิต (Blood & Blood Components)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Whole Blood
1.2 Packed Red Cell
1.3 Red Cell Products-Others
1.4 Platelet Concentrate
1.5 Platelet Products-Others
1.6 Granulocyte Concentrate
1.7 Granulocyte Products-Others
1.8 Fresh Frozen Plasma
1.9 Cryoprecipitate
1.10 Cryopoor Plasma
1.11 Plasma Products-Others
1.12 Plasma Derivatives
1.13 Blood & Blood Components-Others
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
1.1 จัดกลุ่มรายการ และกลุ่มรายการย่อยของบริการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ
ตามเทคนิคการตรวจวิเคราะห์ หรือเทคโนโลยีทางห้องปฏิบัติการ
1.2 จั ดท าบั ญชี บริ การในระดั บหน่ วยรายการตามมาตรฐานระบบ Thai Medical
Laboratory Terminology โดย สานักพัฒนามาตรฐานระบบข้อมูลสุขภาพไทย (สมสท.) ส่วนงานมาตรฐาน
และบริการสารสนเทศระบบบริการสาธารณสุข (สมสส.) ในสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)
2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
บริ ก ารตรวจวิ นิ จ ฉั ย ทางห้ อ งปฏิ บั ติ ก าร รวมถึ งการใช้ ส ถานที่ เครื่ อ งมื อ วัส ดุ
อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ที่จาเป็น ระบบสารสนเทศห้องปฏิบัติการ บริการของนักเทคนิคการแพทย์ และบุคลากร
ในส่ ว นของห้ อ งปฏิ บั ติ ก ารตลอดจนงานบริ ห ารจั ด การเพื่ อ ให้ เกิ ด บริ ก ารดั ง กล่ า ว ตั้ ง แต่ ก ารเก็ บ
การส่ง การรักษา การเตรียม และการตรวจตัวอย่างจากร่างกาย จนถึงการบันทึกและรายงานผล
จ. ค่าตรวจวินิจฉัยทางพยาธิวิทยา (Pathology)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Surgical Pathology
1.2 Histopathology
1.3 Molecular Pathology
1.4 Cellular Imaging
1.5 Cytopathology
1.6 Cytogenetic
1.7 Forensic-Postmortem Pathology
1.8 Anatomic Pathology-Telepathology
1.9 Others
2. จัดกลุ่ มรายการย่ อยและหน่ วยรายการของบริการตรวจวินิ จฉัย ทางพยาธิวิทยา
ตามประเภทของเทคโนโลยี เทคนิคทางพยาธิวิทยา และอวัยวะที่ทาการตรวจ
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริการตรวจวินิ จ ฉัย ทางพยาธิวิทยา รวมถึงการใช้ส ถานที่ เครื่องมื อ วัส ดุ
อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ที่จาเป็น ระบบสารสนเทศวิเคราะห์และจัดการทางพยาธิวิทยา บริการของพนั กงานเทคนิ ค
พยาธิวิทยา และบุ คลากรในส่วนของห้องปฏิบัติการ ตลอดจนงานบริหารจัดการเพื่อให้ เกิดบริการดังกล่าว
ตั้งแต่ ก ารเก็บ การส่ ง การรั ก ษา การเตรี ย ม และการตรวจตั ว อย่ างเนื้ อ เยื่ อจากร่ างกายจนถึงการบั น ทึ ก
และรายงานผล
1.4 Mammography
1.5 Computed Tomography (CT)
1.6 Magnetic Resonance Imaging (MRI)
1.7 Ultrasound Imaging (US)
1.8 Diagnostic Radiology-Teleradiology
1.9 Diagnostic Radiology-Others
2. จั ด กลุ่ ม รายการย่ อย และหน่ ว ยรายการของบริ การตรวจวินิ จ ฉัย ทางรังสี วิท ยา
ตามประเภทของเทคโนโลยีเทคนิคทางรังสีวิทยา-ภาพการแพทย์ และอวัยวะที่ทาการตรวจ
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริ ก ารตรวจวิ นิ จ ฉั ย ทางรั ง สี วิ ท ยา รวมถึ งการใช้ ส ถานที่ เครื่ อ งมื อ วั ส ดุ
อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ที่จาเป็น ระบบสารสนเทศวิเคราะห์ประมวลบันทึกผลที่เกี่ยวข้อง บริการของนักรังสีเทคนิค
และบุ คลากรในส่ วนงานที่ให้ บ ริการตลอดจนงานบริหารจัดการเพื่อให้ เกิดบริการดังกล่ าว ตั้งแต่การรับตัว
การเตรียมตัว และการดูแลผู้ป่วยหลังบริการ จนถึงการบันทึกและรายงานผล
3.2 บริการตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยาที่ระบุใช้สารทึบแสง หรือสารกัมมันตรังสี
หรือสารอื่นใดในการตรวจ ให้รวมสารเหล่านั้นในบริการด้วย
3.3 บริ ก ารตรวจวิ นิ จ ฉั ย ทางรั ง สี วิ ท ยาแบบโทรเวชกรรม ให้ ร วมบริ ก าร
ด้านสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการตรวจดังกล่าวไว้แล้ว
3.4 บริการตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา ไม่รวม บริการของรังสีแพทย์
ช. ค่าบริการรังสีร่วมรักษา (Interventional Radiology)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Vascular Intervention (Endovascular Procedures)
1.2 Non-vascular Intervention (Image-guided Procedures)
1.3 Interventional Radiology-Others
2. จัดกลุ่ มรายการย่ อย และหน่ วยรายการของบริการรังสีร่วมรักษา ตามประเภท
ของเทคโนโลยีเทคนิคทางภาพการแพทย์ที่ใช้ (อาทิ Fluoroscopy, Ultrasound, CT) และอวัยวะที่ทาการ
ตรวจรักษา
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริการรังสีร่วมรักษา รวมถึง การใช้สถานที่ เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ เวชภัณฑ์
ที่จาเป็น ระบบสารสนเทศวิเคราะห์ ประมวล บันทึกผลที่เกี่ยวข้อง บริการของนักรังสีเทคนิค และบุคลากรอื่น
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
1.2 Internal Radiation
1.3 Radiotherapy-Others
2. จั ด กลุ่ ม รายการย่ อ ย และหน่ ว ยรายการของบริ ก ารรั ง สี รั ก ษา ตามประเภท
ของเทคโนโลยีเทคนิครังสีรักษาที่ใช้ และอวัยวะที่ทาการตรวจรักษา
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริการรังสี รักษา รวมถึงการใช้ส ถานที่ เครื่องมือ วัส ดุ อุป กรณ์ เวชภั ณ ฑ์
ที่จาเป็ น ระบบสารสนเทศวิเคราะห์ ว างแผนรังสี รักษา บริการของนั กรังสีเทคนิ ค นั กฟิสิ กส์ และบุ คลากร
ในส่วนงานที่ให้บริการตลอดจนงานบริหารจัดการเพื่อให้เกิดบริการดังกล่าว ตั้งแต่การรับตัว การเตรียมตัว
และการดูแลผู้ป่วยหลังบริการ จนถึงการบันทึกและรายงานผล
3.2 บริ ก ารรั ง สี รั ก ษาที่ ต้ อ งใช้ ส ารกั มมั น ตรั ง สี หรื อ สารอื่ น ใดร่ ว มด้ ว ย
ให้รวมสารเหล่านั้นในบริการด้วย
3.3 บริการรังสีรักษา ไม่รวม บริการของรังสีแพทย์
ฌ. ค่าบริการเวชศาสตร์นิวเคลียร์ (Nuclear Medicine)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Nuclear Medicine-Diagnostic
1.2 Nuclear Medicine-Therapeutic (Systemic Radiation)
1.3 Nuclear Medicine-Others
2. จั ด กลุ่ ม รายการย่ อ ย และหน่ ว ยรายการของบริ ก ารเวชศาสตร์ นิ ว เคลี ย ร์
ตามประเภทของเทคโนโลยีเทคนิคเวชศาสตร์นิวเคลียร์ที่ใช้ และอวัยวะที่ทาการตรวจรักษา
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริการเวชศาสตร์นิวเคลียร์ รวมถึง การใช้สถานที่ เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์
เวชภัณฑ์ที่จาเป็น ระบบสารสนเทศเพื่อวิเคราะห์ ประมวล บันทึกผลที่เกี่ยวข้อง บริการของนักรังสีเทคนิค
และบุคลากรในส่วนงานที่เกี่ยวข้องตรง ตลอดจนงานบริหารจัดการเพื่อให้เกิดบริการดังกล่าว ตั้งแต่การรับตัว
การเตรียมตัว การรักษา และการดูแลผู้ป่วยหลังเสร็จสิ้นบริการ จนถึงการบันทึก และรายงานผล
3.2 บริการเวชศาสตร์นิวเคลียร์ รวมการใช้สารกัมมันตรังสี หรือสารอื่นใดเพื่อการ
ให้บริการดังกล่าว
3.3 บริการตรวจวินิจฉัยทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์แบบโทรเวชกรรม ให้รวมบริการ
ด้านสารสนเทศ และการสื่อสารเพื่อการตรวจดังกล่าวไว้แล้ว
3.4 บริ ก ารตรวจวิ นิ จ ฉั ย ทางรั ง สี วิ ท ยา ไม่ ร วมบริ ก ารของแพทย์ เวชศาสตร์
นิวเคลียร์
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ที่ได้รับอนุญาต
ฏ. ค่าห้องผ่าตัดและห้องคลอด (Operating Room & Delivery Room Services)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 ห้องผ่าตัด (Operating Room)
1.2 ห้องคลอด (Delivery Room)
1.3 ห้องผ่าตัดเล็ก หรือห้องหัตถการ (Minor Surgery Operating Room)
1.4 ค่าห้องหรือค่าเตียงที่ใช้ในการสังเกตอาการหรืออื่นๆ (Recovery room)
2. จั ด กลุ่ ม รายการย่ อ ย และหน่ ว ยรายการของบริ ก ารห้ อ งผ่ าตั ด และห้ อ งคลอด
ตามประเภทของเทคโนโลยีเฉพาะทาง หรือสาขาเฉพาะทางของแพทย์
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริก ารห้ อ งผ่ าตั ด และห้ อ งคลอด รวมถึ งการใช้ ห้ อ ง เตี ย ง สาธารณู ป โภค
ระบบสารสนเทศสนับสนุนการผ่าตัด หรือการคลอด หรือช่วยดูแลผู้ป่วยระหว่างการรักษาพยาบาลดังกล่าว
บริ ก ารของพยาบาล ผดุ งครรภ์ และบุ ค ลากรที่ เกี่ ย วข้ อ งโดยตรงเพื่ อ ให้ ส ามารถดู แ ลผู้ ป่ ว ยรั บ การผ่ าตั ด
หรือคลอดบุตรได้ตามมาตรฐาน ตั้งแต่ขั้นตอนเตรียมการ การผ่าตัด การทาหัตถการ ตลอดจนงานบริหารจัดการ
งานปลอดเชื้ อ งานปรับ ตั้ ง งานดู แ ลทั่ ว ไป เพื่ อ ให้ เกิ ดบริก ารดังกล่ าวจนถึงการบั น ทึ ก และรายงานข้ อ มู ล
ที่เกี่ยวข้อง
3.2 บริการห้องผ่าตัดเล็ก หรือห้องทาหัตถการ ต้องไม่ใช่การใช้ห้องตรวจผู้ป่วย
ห้องสังเกตอาการ หรือเตียงตรวจในห้องฉุกเฉินในการทาหัตถการข้างเตียง (Bed-Side) หรือการใช้ห้องตรวจ
โดยวิธีพิ เศษที่ ก าหนดให้ รวมอยู่ในบริก ารตรวจวินิ จ ฉัยโดยวิธีพิ เศษ (อาทิ บริก ารการตรวจโดยกล้ อ งส่ อ ง
กระเพาะอาหาร) หรือการใช้ห้องเพื่อการตรวจรักษาด้วยเครื่องมือแพทย์ที่กาหนดให้รวมอยู่ในบริการเครื่องมือ
แพทย์
3.3 บริ ก ารห้ อ งผ่ า ตั ด ต้ อ งสอดคล้ อ งประเภท และศั ก ยภาพสถานพยาบาล
ที่ได้รับอนุญาต
3.4 บริ ก ารห้ อ งผ่ า ตั ด และห้ อ งคลอด ก าหนดหน่ ว ยของบริ ก ารต่ อ ช่ ว งเวลา
ของการใช้บริการจริงหรือต่อการผ่าตัด หรือต่อหัตถการจนเสร็จสิ้น
ฐ. ค่าบริการทางทันตกรรม (Dental Services)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Dental Preventive Services
1.2 Dental Surgery
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
(Medication Therapy Management Service)
1.4 บริการบริ บ าลทางเภสั ช กรรมผู้ ป่ ว ยใน (Inpatient Pharmaceutical Care
Service)
1.5 บริการทางเภสัชกรรมเตรียมยาพิเศษ ได้แก่ ยาปลอดเชื้อ เคมีบาบัด และสารอาหาร
ทางหลอดเลือด (Special Drug Preparation (Aseptic-Chemotherapy Drug & Parenteral Nutrition)
1.6 ค่าบริการทางเภสัชกรรมอื่นๆ (Other Pharmaceutical Services)
2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
2.1 บริ การทางการเภสั ช กรรม หมายถึง บริการของเภสั ช กรรม และบุ คลากร
สนับสนุนโดยตรง ที่ครอบคลุมกระบวนการจัดยาตามใบสั่งแพทย์ตั้งแต่ การตรวจสอบความถูกต้องของใบสั่งยา
ตรวจสอบอันตรกิริยาของยา (Drug Interaction) และปัญหาจากการใช้ยาของผู้ป่วย แก้ไข และป้องกันปัญหา
จากการใช้ยาตามใบสั่งยา ตรวจสอบความถูกต้องของรายการยาที่จัดตามใบสั่งยา ไปจนถึงการส่งมอบ
2.2 ยาพร้อมคาแนะนาให้แก่ผู้ป่วยตามมาตรฐานสภาเภสัชกรรม โดยรวมการใช้
สถานที่อุปกรณ์ และระบบสารสนเทศทางเภสัชกรรมที่จาเป็น
2.3 บริการทางเภสัชกรรมผู้ป่วยนอก กาหนดหน่วยของบริการเป็น ต่อใบสั่งยา
2.4 บริการทางเภสัชกรรมผู้ป่วยใน กาหนดหน่วยของบริการเป็น ต่อใบสั่งยา
2.5 บริการบริหารการใช้ยาผู้ป่วยความเสี่ยงสูง กาหนดหน่วยของบริการเป็นต่อครั้ง
การปรึกษา
2.6 บริการบริบาลทางเภสั ชกรรมผู้ป่ วยใน กาหนดหน่ วยของบริการเป็น ต่อวัน
(24 ชั่วโมง) ของการรับตัวไว้เป็นผู้ป่วยใน
2.7 บริการทางเภสัชกรรมเตรียมยา กาหนดหน่วยบริการเป็น ต่อชนิด ต่อครั้ง
ณ. ค่าบริการกายภาพบาบัด (Physical Therapy Services)
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 Manual Therapy
1.2 Exercise Therapy
1.3 Gait Training
1.4 Traction
1.5 Hot-Cold Pack
1.6 Short Wave Diathermy
1.7 Ultrasound
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
1. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 บริการแก้ไขการได้ยิน และการทรงตัว
1.2 บริการแก้ไขการพูด และการกลืน
1.3 บริการแก้ไขความผิดปกติของการสื่อความหมายอื่นๆ
2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
2.1 บริการแก้ไขความผิดปกติการสื่อความหมาย รวมถึง การใช้สถานที่ เครื่องมือ
อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ที่จาเป็น และระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน บริการของนักแก้ไขความผิดปกติการสื่อ
ความหมาย และบุคลากรสนับสนุนอื่นที่จาเป็น เพื่อให้เกิดบริการที่ได้มาตรฐาน
2.2 บริการแก้ไขความผิดปกติการสื่อความหมาย ไม่รวมบริการของแพทย์ผู้สั่งการ
รักษาด้วยการแก้ไขความผิดปกติการสื่อความหมาย
ท. ค่าบริการเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก (Cardio-thoracic Technology Services)
ให้รวมอยู่ในบริการทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจรักษาโรคหัวใจและทรวงอก
ธ. ค่าบริการกายอุปกรณ์ (Prosthetic and Orthotic Services)
๑. จัดทาบัญชีบริการตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
๑.๑ Prosthetic Service
๑.๒ Orthotic Service
๑.๓ Pedorthic Service
๑.๔ Mobility Aid Service
๒. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
๒.๑ บริการกายอุปกรณ์ รวมถึง การใช้สถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ เวชภัณ ฑ์
ที่จาเป็น และระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนบริการของนักกายอุปกรณ์ และบุคลากรสนับสนุนอื่น
ที่จาเป็น เพื่อให้เกิดบริการที่ได้มาตรฐาน
๒.๒ บริการกายอุปกรณ์ ไม่รวมบริการของแพทย์ผู้สั่งการรักษาด้วยกายอุปกรณ์
น. ค่าบริการทัศนมาตรศาสตร์ (Optometry)
บ. ค่าบริการแพทย์แผนไทย (Traditional Thai Medicine Services)
ป. ค่าบริการแพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine Services)
ผ. ค่าบริการไคโรแพรคติก (Chiropractic Services)
ฝ. ค่าบริการชุดเหมาจ่ายการรักษาพยาบาล (Packaged Medical Services)
1.7 ชุ ดบริ การหั ตถการทางรั งสี ร่ วมรั กษา (Physician Interventional Radiology
Packages)
1.8 ชุดบริการผ่าตัดโดยแพทย์ (Physician Surgical Packages)
1.9 ชุดบริการรักษาพยาบาลทางสูติกรรมโดยแพทย์ (Physician Maternity Care
Packages)
1.10 ชุดบริการตรวจสุขภาพ เสริมสุขภาพและป้องกันโรค (Checkup-Wellness-
Preventive Care Packages)
1.11 ชุดบริการรักษาพยาบาลอื่น (Packaged Medical Services-Others)
2. จัดกลุ่มรายการย่อย และหน่วยรายการของบริการชุดเหมาจ่ายการรักษาพยาบาล
ตามประเภทของเทคโนโลยีการตรวจ หรือการรักษา อิงสาขาทางการแพทย์ หรืออวัยวะที่ทาการตรวจรักษา
3. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
3.1 บริการชุดเหมาจ่ายการรักษาพยาบาล ให้ รวมถึงการใช้สถานที่ ห้ องตรวจ
รักษา โครงสร้างพื้นฐานที่ได้มาตรฐาน เครื่องมือ อุปกรณ์ เวชภัณ ฑ์ วัส ดุภัณฑ์ ระบบสารสนเทศที่จาเป็น
วิชาชีพและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการบริหารจัดการ ตั้งแต่ขั้นเตรียมการ ขั้นปฏิบัติการและหลังเสร็จสิ้น
บริการ จนถึงการบันทึก และรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
3.2 บริการชุดเหมาจ่ายการรักษาพยาบาล ต้องรวมบริการหลั กที่ ชุดเหมาจ่าย
นั้นระบุ และหากเป็นชุดบริการของแพทย์ อาจจะรวมหรือไม่รวมบริการของแพทย์ แต่ทั้งนี้ต้องแจ้งให้ผู้ป่วย
ทราบก่อน
3.3 บริก ารชุ ด เหมาจ่ ายการรั ก ษาพยาบาลที่ ต้ อ งรั บ ตั ว ผู้ ป่ ว ยไว้ เป็ น ผู้ ป่ ว ยใน
ของสถานพยาบาล ต้องรวมจานวนวันที่ผู้ป่วยที่ต้องพักรักษาตัวจริงตามความจาเป็นทางการแพทย์
พ. ค่าบริการทางการแพทย์อื่น (Other Medical Services)
ฟ. ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตรวจรักษาทั่วไป (Physician Evaluation & Management
Services)
ภ. ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทาศัลยกรรมและหัตถการ (Physician Surgery & Procedure)
ม. ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม วิสัญญีแพทย์ (Physician Anesthesiology Services)
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
1.2 ห้องพักผู้ป่วยในกึ่งวิกฤต (Step-down Care Inpatient Room)
1.3 ห้องพักผู้ป่วยในวิกฤต (Intensive Care Inpatient Room)
1.4 ห้องพักผู้ป่วยในแบบแยกเพื่อป้องกันการแพร่หรือการติดเชื้อ (Isolation
Inpatient Room)
จั ด หน่ ว ยรายการของบั ญ ชี บ ริ ก ารห้ อ งผู้ ป่ ว ยใน ตามจ านวนเตี ย งต่ อ ห้ อ ง
และจานวนพยาบาลต่อเตียง
2. ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
2.1 บริการห้องพักผู้ป่วยใน รวมถึงเตียง สาธารณูปโภค และอุปกรณ์มาตรฐาน
เพื่อการบริบาลผู้ป่วยที่สอดคล้องกับประเภทของห้องพัก ตลอดจนห้องน้า เครื่องใช้ สิ่งอานวยความสะดวก
ที่ จ าเป็ น ส าหรับ การพั ก รั กษาตัว ในสถานพยาบาล และบริ ก ารของบุ ค ลากรที่ ดู แ ลให้ ห้ อ งพั กอยู่ ในสภาพ
ถูกสุขลักษณะตามมาตรฐานสถานพยาบาลและพร้อมใช้
ข. ค่าห้องพักสังเกตอาการ (Observe Room)
จัดทาบัญชีบริการห้องพักสังเกตอาการเพียงบัญชีเดียว คือ Observe Room
จัดทาหน่วยรายการตามจานวนเตียงต่อห้องพักสังเกตอาการ
ข้อกาหนดมาตรฐานบัญชีบริการ
1. บริการห้องพักสังเกตอาการ รวมถึงเตียง สาธารณูปโภค และอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อการ
สังเกตอาการของผู้ป่วย ตลอดจนห้องน้า เครื่องใช้ สิ่งอานวยความสะดวกที่จาเป็นและบริการของบุคลากรที่ดูแล
ให้ ห้ องพั กอยู่ ในสภาพถู กสุ ขลั กษณะตามมาตรฐานสถานพยาบาลและพร้ อมใช้ บริ การห้ องพั กสั งเกตอาการ
ต้องไม่ใช่การใช้เตียงตรวจในห้องฉุกเฉิน หรือในห้องตรวจผู้ป่วยนอก
2. บริการห้องพักสังเกตอาการ กาหนดหน่วยของบริการเป็นต่อชั่วโมง แต่ไม่เกิน 6
ชั่วโมง
ค. ค่าอาหารผู้ป่วยใน (Inpatient Foods)
1. จัดทาบัญชีบริการอาหารผู้ป่วยใน ตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 อาหารผู้ ป่ ว ยในมาตรฐาน (Standard Inpatient Food) หมายถึ ง อาหาร
ประจาวันที่สถานพยาบาลจัดให้แก่ผู้ป่วยเองเป็นมาตรฐาน
ของสถานพยาบาล รวมถึ งอุ ปกรณ์ เครื่ องใช้ ที่ จ าเป็ น ตลอดจนการบริ หารจั ดการ และบุ คลากรที่ เกี่ ยวข้ อง
ในการให้บริการอาหารแก่ผู้ป่วย
2.2 บริการอาหารผู้ป่วยใน กาหนดหน่วยของบริการเป็น ต่อมื้อ หรือต่อวัน
ง. ค่าอาหารเพื่อวัตถุประสงค์อื่น (Special Purpose Nutrition) หมายถึง บริการอาหาร
ส าหรั บ บุ คคลที่ มีวัตถุ ป ระสงค์ในการบริ โภคอาหารเป็ น พิ เศษ อาทิ อาหารส าหรับ ผู้ ที่ ต้ องการลดน้าหนั ก
หรืออาหารเพื่อการดูแลสุขภาพ
โครงสร้างมาตรฐานบัญชีบริการ สถานพยาบาลสามารถกาหนดได้ตามความเหมาะสม
จ. ค่าผลิ ต ภั ณ ฑ์ เสริ ม อาหาร (Dietary Supplement Products) หมายถึ ง ผลิ ต ภั ณ ฑ์
ที่ขึ้น ทะเบี ย นเป็ น ผลิ ต ภัณ ฑ์ เสริม อาหารโดยส านั กงานคณะกรรมการอาหารและยา ใช้บ ริโภคนอกเหนื อ
จากอาหารตามปกติ โดยมีความมุ่งหมายเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ อาทิ น้ามันปลาแคปซูล และใยอาหารอัดเม็ด
ฉ. ค่าพาหนะเดินทางสาหรับผู้ป่วย (Patient Transport Services)
1. จัดทาบัญชีบริการพาหนะเดินทางสาหรับผู้ป่วยตามกลุ่มรายการ และหน่วยรายการ
มาตรฐาน ดังนี้
1.1 รถพ ยาบ าลฉุ ก เฉิ น ระดั บ สู ง (Ambulance-Advanced Life Support)
หมายถึ ง รถพยาบาลฉุ ก เฉิ น ที่ ได้ ม าตรฐานระดั บ สู ง ทั้ ง โครงสร้ า งรถ อุ ป กรณ์ ช่ ว ยชี วิ ต เครื่ อ งมื อ ยา
และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ สามารถรองรับการตรวจรักษาพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตโดยแพทย์สาขาเวชศาสตร์
ฉุก เฉิ น หรื อ แพทย์ เฉพาะทางสาขาที่ ส อดคล้ อ งภาวะวิก ฤตของผู้ ป่ ว ยได้ เต็ ม ที่ และนั ก ปฏิ บั ติก ารฉุ กเฉิ น
การแพทย์ (Paramedic)
1.2 รถพยาบาลฉุ ก เฉิ น ระดั บ มาตรฐาน (Ambulance-Basic Life Support)
หมายถึง รถพยาบาลฉุกเฉิน ที่ได้มาตรฐาน ทั้งโครงสร้างรถ อุปกรณ์ ช่วยชีวิต เครื่องมือ ยา และเวชภัณ ฑ์
ทางการแพทย์ ร องรั บ การตรวจรั ก ษาพยาบาลผู้ ป่ ว ยวิก ฤตโดยพนั ก งานฉุก เฉิ น การแพทย์ และพยาบาล
เวชศาสตร์ฉุกเฉิน
1.3 พาหนะพยาบาลฉุ ก เฉิ น เฉพาะ (Ambulance-Others) หมายถึ ง พาหนะ
พยาบาลฉุกเฉินที่ออกแบบสาหรับสถานการณ์ หรือภารกิจฉุกเฉินเฉพาะ
1.4 พาหนะรั บ ส่ ง ผู้ ป่ ว ยทุ พ ลภาพ (Disabled Patient Transport) หมายถึ ง
พาหนะที่มีอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานรองรับการเดินทางของผู้ป่วยทุพลภาพที่ไม่อยู่ในภาวะฉุกเฉิน
จั ด ท ากลุ่ มรายการย่ อ ย และหน่ ว ยรายการตามประเภทพาหนะ ศั กยภาพการ
ช่วยชีวิต การตรวจรักษาและการบริบาลผู้ป่วยระหว่างเดินทาง
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ของผู้ป่วย
2.5 บริการพาหนะเดิน ทางผู้ ป่ ว ย ก าหนดหน่ ว ยของบริก ารเป็ น ต่ อ ระยะทางจริ ง
หรือเขตพื้นที่ของการเดินทาง
ช. ค่าบริการเก็บรักษาศพ (Mortuary Services)
โครงสร้างมาตรฐานบัญชีบริการ สถานพยาบาลสามารถกาหนดได้ตามความเหมาะสม
ซ. ค่าบริการอื่นๆ ของสถานพยาบาล (Other Hospital Services) หมายถึง บริการอื่นๆ
ที่มิได้เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโดยตรง
1. โครงสร้างมาตรฐานบัญชีบริการ อาจจัดทาบัญชีบริการอื่นๆ ของสถานพยาบาล
ตามกลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1.1 บริการอาหารและเครื่องดื่มทั่วไป (General Food and Beverage Services)
1.2 บริการซักรีด (Laundry Services)
1.3 บริการด้านตัดแต่งผม (Hair Dressing Services)
1.4 บริการด้านการสื่ อสารรวมถึงการเชื่อมต่ออิน เตอร์เน็ ท (Communication
Services)
1.5 บริการรถรับส่งผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการทั่วไป (General Transport Services)
1.6 บริการอื่นๆ (Other Hospital Services-Miscellaneous)
ฌ. ค่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ (Other Non-Medical Hospital Products)
โครงสร้างมาตรฐานบัญชีบริการ อาจจัดทาบัญชีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของสถานพยาบาลตาม
กลุ่มรายการมาตรฐาน ดังนี้
1. ของใช้ทั่วไป และของที่ระลึก (Amenities, Gifts and Souvenirs)
2. ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยส่วนบุคคล (Personal Care Products)
3. ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสาเร็จรูป (Food & Beverage Products)
4. ผลิตภัณฑ์ทั่วไปอื่น (Other Non-Medical Hospital Products-Miscellaneous)
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธกี ารและเงื่อนไขการกําหนดเครื่องมือ เครื่องใช้
ยาและเวชภัณฑ์หรือยานพาหนะที่จําเป็นประจําคลินกิ การประกอบโรคศิลปะ
และเพียงพอ
อาศัยอํานาจตามความในข้อ ๔ (๗) แห่ ง กฎกระทรวงกํ า หนดชนิ ด และจํ า นวนเครื่ อ งมื อ
เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์หรือยานพาหนะที่จําเป็นประจําสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งออกตาม
ความในพระราชบัญ ญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ปลั ดกระทรวงสาธารณสุขในฐานะผู้ อนุญาต
โดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาลจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้ เ รี ย กว่ า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข เรื่ อ ง หลั ก เกณฑ์ วิ ธี ก าร
และเงื่อนไข การกําหนดเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์หรือยานพาหนะที่จําเป็นประจําคลินิก
การประกอบโรคศิลปะ”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ คลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขากิจกรรมบําบัด ต้องจัดให้มี
๓.๑ เครื่องใช้ทั่วไป
๓.๑.๑ เตียง หรือเบาะสําหรับตรวจร่างกายในท่านอน
๓.๑.๒ โต๊ะพร้อมเก้าอี้สําหรับซักประวัติหรือให้คําปรึกษาผู้มารับบริการ
๓.๑.๓ ตู้เก็บอุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ๆ เป็นสัดส่วน
๓.๑.๔ โต๊ะหรือชั้น สําหรับวางอุปกรณ์ เครื่องมือใช้ต่าง ๆ
๓.๑.๕ เครื่องมือ อุปกรณ์สําหรับควบคุมการติดเชื้อ
๓.๑.๖ เครื่องวัดความดันโลหิต
๓.๑.๗ เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายสําหรับเด็กหรือผู้ใหญ่
๓.๑.๘ ไม้กดลิ้น ไฟฉาย
๓.๑.๙ เครื่องชั่งน้ําหนัก
๓.๑.๑๐ ที่วัดความสูงและสายวัด
๓.๑.๑๑ ชุดปฐมพยาบาล
๓.๒ หากมีการให้บริการสําหรับผู้รับบริการเด็กและวัยรุ่น ต้องจัดให้มีเครื่องมือ
อุปกรณ์ทางกิจกรรมบําบัด ดังนี้
๓.๒.๑ การให้บริการเพื่อการตรวจประเมิน สําหรับผู้รับบริการเด็กและวัยรุ่น
มีดังนี้
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ช) แบบทดสอบความคิดความเข้าใจ (Cognitive Function Tests)
ซ) แบบทดสอบพัฒนาการ (Developmental Tests)
ฌ) แบบทดสอบสภาวะจิ ต ใจอารมณ์ แ ละสั ง คม (Psychological
and Psychosocial Tests)
ญ) แบบทดสอบการดูแลตนเองและกิจวัตรประจําวัน (ADL Tests)
ฎ) แบบบันทึกประวัติการทํากิจกรรมการดําเนินชีวิต (Occupational
History)
ฏ) แบบประเมินทักษะการเขียน (Hand Writing Skill Test)
ฐ) แบบประเมิ น ด้ า นพั ฒ นาการและการเรี ย นรู้ ใ นเด็ ก (Child
Developmental and Learning Assessment)
ฑ) แบบทดสอบกระบวนการประมวลผลการรับความรู้สึก (Sensory
ProcessingTest)
๓.๒.๒ การให้บริการเพื่อการส่งเสริม ป้องกัน บําบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพ
สําหรับผู้รับบริการเด็กและวัยรุ่น มีดงั นี้
ก) ชุดอุปกรณ์ช่วยในการทํากิจวัตรประจําวัน (Assistive Devices)
เช่น ที่คาดมืออเนกประสงค์ (Universal Cuff) อุปกรณ์ช่วยในการเขียนหนังสือ
ข) ชุดอุปกรณ์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก
ค) ชุดอุปกรณ์ฝึกกิจวัตรประจําวันและทักษะการดําเนินชีวิต
ง) ชุดอุปกรณ์ฝึกการรับรู้ความรู้สึกและความคิดความเข้าใจ
จ) ชุดอุปกรณ์ฝึกทักษะการเขียนและการทํางานของมือ
ฉ) เบาะฟองน้ําชนิดหนาและแน่นบุผนัง โดยมีความหนา ๒ - ๔ นิ้ว
และมีความสูง ๘๐ - ๑๒๐ เซนติเมตร
ช) เบาะฟองน้ํา ชนิ ด หนาและแน่ น โดยมี ค วามหนา ๒ - ๔ นิ้ ว
รองพื้นห้องให้เต็มพื้นที่
๓.๓ หากมี ก ารให้ บ ริ ก าร สํ า หรั บ ผู้ ใ หญ่ ห รื อ ผู้ สู ง อายุ ต้ อ งจั ด ให้ มี เ ครื่ อ งมื อ
อุปกรณ์ทางกิจกรรมบําบัด ดังนี้
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๔.๑.๕ เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายสําหรับเด็ก หรือผู้ใหญ่
๔.๑.๖ ไม้กดลิ้น ไฟฉาย
๔.๑.๗ เครื่องชั่งน้ําหนัก
๔.๑.๘ ที่วัดความสูง หรือสายวัด
๔.๑.๙ ชุดปฐมพยาบาล
๔.๒ เครื่องมือการตรวจและการแก้ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย ที่ต้องจัดให้มี
ดังนี้
๔.๒.๑ หากมีการบริการการแก้ไขการพูด ต้องจัดให้มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์
ดังนี้
ก) กระจกเงาขนาดเหมาะสมกับการให้บริการ
ข) ถุงมือ
ค) ผ้าก๊อส
ง) แบบประเมินการได้ยิน ภาษา การพูด หรือการกลืน
จ) สื่อ อุปกรณ์ที่ใช้ในการกระตุ้น แก้ไข และฟื้นฟูการได้ยิน ภาษา
การพูด หรือการกลืน
๔.๒.๒ หากมีการบริการการแก้ไขการได้ยิน ต้องจัดให้มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์
ดังนี้
ก) กระจกเงาขนาดเหมาะสมกับการให้บริการ
ข) ถุงมือ
ค) ผ้าก๊อส
ง) แบบประเมินการได้ยิน ภาษา การพูด หรือการกลืน
จ) สื่อ อุปกรณ์ที่ใช้ในการกระตุ้น แก้ไข และฟื้นฟูการได้ยิน ภาษา
การพูด หรือการกลืน
ฉ) ตู้ตรวจการได้ยิน (เสียงรบกวนภายใน ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
ANSI S๓.๖-๒๐๐๔)
ช) เครื่องตรวจการได้ยิน (Audiometer)
๕.๑.๔ เครื่องวัดความดันโลหิต
๕.๑.๕ หูฟัง
๕.๑.๖ เครื่องชั่งน้ําหนัก
๕.๑.๗ เครื่องวัดความสูง
๕.๑.๘ ชุดปฐมพยาบาล
๕.๒ เครื่องมือตรวจประเมินและติดตามทางเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ในการให้บริการ
ภายใต้คําสั่งของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
๕.๒.๑ หากมีการให้บริการในระบบหัว ใจต้องจัด ให้มีเครื่อ งมือ อย่างน้อ ย
๑ รายการ ดังต่อไปนี้
ก) เครื่องบันทึกความดันโลหิตชนิดต่อเนื่อง
ข) เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
ค) เครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านผนังทรวงอก
ง) เครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจชนิดติดตัว
๕.๒.๒ หากมี ก ารให้ บ ริ ก ารในระบบปอดต้ อ งจั ด ให้ มี เ ครื่ อ งมื อ อย่ า งน้ อ ย
๑ รายการ ดังต่อไปนี้
ก) เครื่องวัดการทํางานของปอด
ข) เครื่องวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด
๕.๒.๓ หากมี ก ารให้ บ ริ ก ารในระบบหลอดเลื อ ด ต้ อ งจั ด ให้ มี เ ครื่ อ งมื อ
อย่างน้อย ๑ รายการ ดังต่อไปนี้
ก) เครื่องวัดสมรรถภาพหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
ข) เครื่องวัดความหนาตัวของหลอดเลือด
ข้อ ๖ คลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขารังสีเทคนิค ต้องจัดให้มี
๖.๑ เครื่องใช้ทั่วไป
๖.๑.๑ โต๊ะพร้อมเก้าอี้สําหรับซักประวัติหรือให้คําปรึกษาผู้มารับบริการ
๖.๑.๒ ตู้เก็บอุปกรณ์ เครื่องมือทางรังสีเทคนิค เป็นสัดส่วน
๖.๑.๓ โต๊ะ หรือชั้นสําหรับวางอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๖.๒ เครื่องมือ อุปกรณ์ ในการตรวจวินิจฉัยและรักษา
๖.๒.๑ อุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากรังสีสําหรับผู้ป่วย
ก) เสื้อตะกั่ว และ Thyroid Shield
ข) ฉากกั้นรังสี (หากมีการบริการด้านรังสี)
๖.๒.๒ ตู้ส่องฟิล์มหรือจอแสดงผลภาพถ่ายทางรังสีระบบดิจิทัล
๖.๒.๓ เครื่องมือทางสาขารังสีตามที่จัดให้มบี ริการ
๖.๓.๔ เครื่องวัดรังสีประจําบุคคลสําหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน
๖.๒.๕ เครื่องมือวัดความหนาผู้ป่วย
ข้อ ๗ คลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิก ต้องจัดให้มี
๗.๑ เครื่องใช้ทั่วไป
๗.๑.๑ โต๊ะพร้อมเก้าอี้สําหรับการให้บริการทางจิตวิทยาคลินิก
๗.๑.๒ โต๊ะ หรือชั้นสําหรับวางอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้
๗.๑.๓ มี ตู้ เ ก็ บ อุ ป กรณ์ เครื่ อ งมื อ การตรวจวิ นิ จ ฉั ย ทางจิ ต วิ ท ยาคลิ นิ ก
เป็นสัดส่วนและมิดชิดมีกุญแจปิดล็อคและควบคุมการใช้งานโดยผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิก
๗.๒ เครื่ อ งมื อ การตรวจวิ นิ จ ฉั ย ทางจิ ต วิ ท ยาคลิ นิ ก ตามประเภทการให้ บ ริ ก าร
และตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กําหนดเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางจิตวิทยาคลินิก พ.ศ. ๒๕๔๙
ได้แก่
๗.๒.๑ ชุดทดสอบเชาวน์ปัญญา (อย่างน้อย ๑ รายการ) ได้แก่ The Wechsler
Intelligence Scales, The Stanford-Binet Intelligence Scales
๗.๒.๒ ชุดทดสอบบุคลิกภาพ (อย่างน้อย ๑ รายการ) ได้แก่ Hermann
Rorschach Psycho-Diagnostics, Thematic Apperception Test, Children’s Apperception
Test, Minnesota Multiphasic Personality Inventory
๗.๒.๓ ชุ ด ทดสอบประสาทจิ ต วิ ท ยา (อย่ า งน้ อ ย ๑ รายการ) ได้ แ ก่
Bender Visual Motor Gestalt Test, Stroop Color Word Test, Wisconsin Card Sorting
Test, Wechsler Memory Scale, Halstead Reitan Neuropsychological Test Battery
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๘.๒.๔ สว่านไฟฟ้า
๘.๒.๕ เครื่องขัดหรือเครื่องกัด เพื่อขัด ตัด แต่ง ชิ้นงานด้านกายอุปกรณ์
๘.๒.๖ เครื่องดูดฝุ่น
๘.๒.๗ ปากกาจับชิ้นงาน
๘.๒.๘ อุปกรณ์สาํ หรับดัดโลหะ
๘.๒.๙ เครื่องตัดเฝือก
๘.๒.๑๐ ตู้เก็บเครื่องมือ
๘.๒.๑๑ ลูกดิ่งหรืออุปกรณ์สําหรับจัดแนว
๘.๒.๑๒ ตู้สําหรับเก็บสารเคมี พร้อมป้ายระบุชัดเจน
๘.๒.๑๓ อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยจากการใช้เครื่อง เช่น แว่นตาป้องกัน
ฝุ่น อุปกรณ์ป้องกันเสียง หน้ากากอนามัย
๘.๓ หากมีการบริการห้องปฏิบัติการผลิตกายอุปกรณ์ ต้องมีเครื่องมือ ดังนี้
๘.๓.๑ มี ส ถานที่ แ ละห้ อ งปฏิ บั ติ ก ารผลิ ต ที่ มี ร ะบบการป้ อ งกั น เสี ย งจาก
เครื่องจักร เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
๘.๓.๒ เครื่องดูดอากาศ เพื่อกําจัดกลิ่นจากสารเคมี
๘.๓.๓ เครื่องกําจัดฝุ่น
๘.๓.๔ เครื่องขึ้นรูปอุปกรณ์
๘.๓.๕ เครื่องขัดหรือเครื่องกัด เพื่อขัด ตัด แต่ง ชิ้นงานด้านกายอุปกรณ์
๘.๓.๖ ตู้อบความร้อน
๘.๓.๗ โต๊ะปฏิบัติงาน พร้อมเก้าอี้
๘.๓.๘ อุ ป กรณ์ พื้ น ฐานสํ า หรั บ ปรั บ แก้ ไ ขอุ ป กรณ์ เช่ น ชุ ด ไขควง ค้ อ น
ตะไบ ชุดประแจหกเหลี่ยม เครื่องตัดโลหะ
๘.๓.๙ สว่านไฟฟ้า
๘.๓.๑๐ ปากกาจับชิ้นงาน
๘.๓.๑๑ อุปกรณ์สําหรับดัดโลหะ
๘.๓.๑๒ เครื่องตัดเฝือก
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
๑ 桂枝 กุ้ยจือ ขจัดลมหนาว
๒ 防风 ฝางเฟิง ขจัดลมหนาว
๓ 桑叶 ซางเย่ กระจายลมร้อน
๔ 菊花 จฺวี๋ฮฺวา กระจายลมร้อน
๕ 柴胡 ฉายหู กระจายลมร้อน
๖ 葛根 เก่อเกิน กระจายลมร้อน
๗ 知母 จือหมู่ ขจัดความร้อน
๘ 牛膝 หนิวชี ปรับการไหลเวียนเลือด
๙ 大黄 ต้าหวง ขับระบาย
๑๐ 桑寄生 ซางจี้เซิง ขับลมชื้น
๑๑ 茯苓 ฝูหลิง ขับน้ําขจัดความชื้น
๑๒ 泽泻 เจ๋อเซี่ย ขับน้ําขจัดความชื้น
๑๓ 陈皮 เฉินผี ปรับการไหลเวียนชี่
๑๔ 木香 มูเ่ ซียง ปรับการไหลเวียนชี่
๑๕ 山楂 ซานจา ย่อยอาหาร
๑๖ 半夏 ป้านเซี่ย สลายเสมหะ
๑๗ 川芎 ชวนซฺยง ปรับการไหลเวียนเลือด
๑๘ 丹参 ตันเซิน ปรับการไหลเวียนเลือด
๑๙ 天麻 เทียนหมา สงบตับระงับลม
๒๐ 党参 ตั่งเซิน บํารุงชี่
๒๑ 黄芪 หวงฉี บํารุงชี่
๒๒ 白术 ป๋ายจู๋ บํารุงชี่
๒๓ 山药 ซานย่าว บํารุงชี่
๒๔ 甘草 กานฉ่าว ยาบํารุงชี่
๒๕ 大枣 ต้าจ่าว ยาบํารุงชี่
ª√–°“»°√–∑√«ß “∏“√≥ ÿ¢
©∫—∫∑’Ë ¯ (æ.». ÚıÙı)
‡√◊ËÕß ¡“µ√∞“π°“√ àßµàÕºŸâªÉ«¬
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
‚¥¬∑’ˇªìπ°“√ ¡§«√°”Àπ¥°“√ àßµàÕºŸâªÉ«¬„À⇪ìπ‰ªÕ¬à“ß¡’¡“µ√∞“π·≈–
‡æ◊ËÕª√–‚¬™πå „π°“√§ÿ⡧√ÕߺŸâªÉ«¬„ÀâæâπÕ—πµ√“¬·≈–¡’§«“¡ª≈Õ¥¿—¬
Õ“»—¬Õ”π“®µ“¡§«“¡„π¡“µ√“ ˆ ·≈–¡“µ√“ Òı ·Ààßæ√–√“™∫—≠≠—µ‘
∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙÒ Õ—π‡ªìπæ√–√“™∫—≠≠—µ‘∑’Ë¡’∫∑∫—≠≠—µ‘∫“ߪ√–°“√
‡°’¬Ë «°—∫°“√®”°—¥ ‘∑∏‘·≈–‡ √’¿“æ¢Õß∫ÿ§§≈ ´÷ßË ¡“µ√“ Ú˘ ª√–°Õ∫°—∫¡“µ√“ ı
¢Õß√—∞∏√√¡πŸ≠·Ààß√“™Õ“≥“®—°√‰∑¬ ∫—≠≠—µ„‘ Àâ°√–∑”‰¥â ‚¥¬Õ“»—¬Õ”π“®µ“¡∫∑∫—≠≠—µ‘
·Ààß°ÆÀ¡“¬ √—∞¡πµ√’«à“°“√°√–∑√«ß “∏“√≥ ÿ¢‚¥¬§”·π–π”¢Õߧ≥–°√√¡°“√
∂“π欓∫“≈ÕÕ°ª√–°“»‰«â ¥—ßµàÕ‰ªπ’È
¢âÕ Ò „πª√–°“»π’È
ç ∂“π欓∫“≈é À¡“¬§«“¡«à“ ∂“π欓∫“≈ª√–‡¿∑∑’√Ë ∫— ºŸªâ «É ¬‰«â§“â ߧ◊π
ç°“√ àßµàÕºŸâªÉ«¬é À¡“¬§«“¡«à“ °“√‡§≈◊ËÕπ¬â“¬ºŸâªÉ«¬®“° ∂“π∑’ËÀπ÷Ëß
‡æ◊ËÕ‰ª√—∫°“√√—°…“µàÕ¬—ßÕ’° ∂“π∑’ËÀπ÷Ëß‚¥¬ ∂“π欓∫“≈‡ªìπºŸâπ” àß
笓πæ“Àπ–é À¡“¬§«“¡«à “ ¬“πæ“Àπ–¢Õß ∂“π欓∫“≈À√◊ Õ ∑’Ë
∂“π欓∫“≈«à“®â“ßÀ√◊Õ®—¥À“¡“‡æ◊ÕË „™â„π°“√¢π àߺŸªâ «É ¬‰¡à«“à ®–‡ªìπ°“√¢π àß‚¥¬∑“ß∫°
∑“ßπÈ” À√◊Õ∑“ßÕ“°“»
¢âÕ Ú ºŸâ√—∫Õπÿ≠“µ·≈–ºŸâ¥”‡π‘π°“√ ∂“π欓∫“≈µâÕß àßµàÕºŸâªÉ«¬¥â«¬
¬“πæ“Àπ–·≈–«‘∏’°“√∑’ˇÀ¡“– ¡ª≈Õ¥¿—¬‚¥¬§”π÷ß∂÷ß‚√§ Õ“°“√ ·≈–§«“¡√ÿπ·√ß
¢Õß‚√§
¢âÕ Ù °“√ àßµàÕºŸâªÉ«¬∑’ˬ—ß¡’¿“«–Õ“°“√¢Õß‚√§∑’˵âÕßÕ¬Ÿà„𧫓¡¥Ÿ·≈
¢ÕߺŸâª√–°Õ∫«‘™“™’殓° ∂“π欓∫“≈µâÕß°√–∑”‚¥¬ ∂“π欓∫“≈
¢âÕ ı ºŸâ√—∫Õπÿ≠“µ·≈–ºŸâ¥”‡π‘π°“√ ∂“π欓∫“≈µâÕß®—¥„Àâ¡’ºŸâª√–°Õ∫
«‘™“™’æÀ√◊Õ∫ÿ§≈“°√∑’¡Ë §’ «“¡ “¡“√∂„π°“√¥Ÿ·≈ºŸªâ «É ¬∑’‡Ë À¡“– ¡°—∫‚√§·≈–§«“¡√ÿπ·√ß
¢Õß‚√§‰ªæ√âÕ¡°—∫ºŸâªÉ«¬ ‡æ◊ËÕ„À⺟âªÉ«¬¡’§«“¡ª≈Õ¥¿—¬„π√–À«à“ß°“√ àßµàÕ
¢âÕ ˆ ¬“πæ“Àπ–„π°“√‡§≈◊ËÕπ¬â“¬ºŸâªÉ«¬µ“¡¢âÕ Ù µâÕß¡’≈—°…≥–¥—ßπ’È
ˆ.Ò ¡’‡ª≈π—Ëß·≈–πÕπ ”À√—∫„™â‡§≈◊ËÕπ¬â“¬ºŸâªÉ«¬
ˆ.Ú ¡’Õªÿ °√≥å™«à ¬™’æ∑’®Ë ”‡ªì𠇙àπ ™ÿ¥„ à∑Õà À“¬„®, ™ÿ¥„Àâ “√≈–≈“¬
∑“ß‚≈À‘µ, ™ÿ¥™à«¬À“¬„®, ‡§√◊ËÕߥŸ¥‡ ¡À–, ™ÿ¥„ÀâÕÕ°´‘‡®π, ‡§√◊ËÕß«—¥§«“¡¥—π
‚≈À‘µ·≈–ÀŸøíß, ‡«™¿—≥±å·≈–‡§√◊ËÕß¡◊Õ·æ∑¬å∑’Ë®”‡ªì𠇪ìπµâπ
ˆ.Û ¡’Õÿª°√≥å ◊ËÕ “√°—∫ ∂“π欓∫“≈√–À«à“ß°“√‡¥‘π∑“ß
ˆ.Ù ¡’¢π“¥æ◊Èπ∑’ˇ撬ßæÕ ”À√—∫ºŸâªÉ«¬·≈–∫ÿ§≈“°√∑’Ë®–°√–∑”
À—µ∂°“√‰¥â ‚¥¬ –¥«°æÕ§«√
ˆ.ı ¬“πæ“Àπ–®–µâÕß¡’≈—°…≥–·≈–‰¥â√—∫Õπÿ≠“µµ“¡ª√–°“»
·≈–¢âÕ°”Àπ¥¢Õß ”π—°ß“πµ”√«®·Ààß™“µ‘
ˆ.ˆ ¬“πæ“Àπ–µâÕß¡’§«“¡¡—πË §ß·¢Áß·√ß·≈–¡’§«“¡ –¥«° ∫“¬
µàÕºŸâªÉ«¬„π°“√‡¥‘π∑“ß ‰¡à∑”„Àâ ‚√§À√◊ÕÕ“°“√√ÿπ·√ß¡“°¢÷Èπ
ˆ.˜ ¬“πæ“À𖉥â√—∫°“√∫”√ÿß√—°…“‡À¡“– ¡°—∫°“√„™âß“π‰¥â
Õ¬à“ߪ≈Õ¥¿—¬ ·≈–¡’°“√§«∫§ÿ¡°“√µ‘¥‡™◊ÈÕ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ºŸªâ «É ¬‚¥¬∑—π∑’ ·≈–µâÕ߉¥â√∫— °“√√—°…“∑’‡Ë À¡“– ¡‚¥¬‡√Á«®–ªØ‘‡ ∏°“√√—∫ºŸªâ «É ¬¡‘‰¥â
¢âÕ ¯ ºŸâªÉ«¬À√◊Õ≠“µ‘¡’ ‘∑∏‘‡≈◊Õ° ∂“π欓∫“≈À√◊Õ ∂“π∑’Ë∑’˵âÕß°“√„Àâ
∂“π欓∫“≈π” àß√«¡∑—Èß«‘∏’°“√π” àß ‡«âπ·µà‡ªìπ°“√‡°‘π¢’¥§«“¡ “¡“√∂¢Õß
∂“π欓∫“≈∑’Ëπ” àßÀ√◊Õ°“√π” àߢÕß ∂“π欓∫“≈π—ÈπÕ“®‡ªìπÕ—πµ√“¬µàÕºŸâªÉ«¬
„Àâ ∂“π欓∫“≈ºŸâ àß “¡“√∂‡≈◊Õ° ∂“π∑’ËÕ◊Ëπ√«¡∑—Èß«‘∏’°“√π” àß∑’ˇÀ¡“– ¡‰¥â
¢âÕ ˘ ºŸ√â ∫— Õπÿ≠“µ·≈–ºŸ¥â ”‡π‘π°“√ ∂“π欓∫“≈µâÕß®—¥„Àâ¡°’ “√„Àâ¢Õâ ¡Ÿ≈
·°àºŸâªÉ«¬À√◊Õ≠“µ‘‡°’ˬ«°—∫‡Àµÿº≈·≈–§«“¡®”‡ªìπ„π°“√ àßµàÕ
¢âÕ Ò ª√–°“»π’È„Àâ „™â∫—ߧ—∫‡¡◊ËÕæâπ°”Àπ¥À° ‘∫«—ππ—∫·µà«—π∂—¥®“°«—π
ª√–°“»„π√“™°‘®®“πÿ‡∫°…“‡ªìπµâπ‰ª
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง มาตรฐานการบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินของสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๕๗
โดยที่เป็นการสมควรกําหนดให้การบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินของสถานพยาบาลเป็นไปอย่าง
มีมาตรฐานและเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้ป่วยฉุกเฉินให้เป็นไปตามหลักการการปฏิบัติการฉุกเฉิน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
นอกจากวรรคหนึ่งแล้ว สถานพยาบาลต้องกระทําการใด ๆ อันจะมีผลเป็นการควบคุม ระงับ
หรือบรรเทาผลร้ายจากอันตรายและความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นได้อย่างทันท่วงทีตามสมควรแก่กรณี
ข้อ ๕ การตรวจคัดแยกระดับความฉุกเฉินของผู้ป่วยตามข้อ ๔ (๑) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
ดังต่อไปนี้
(๑) ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ได้แก่ บุคคลซึ่งได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยกะทันหันซึ่งมีภาวะ
คุกคามต่อชีวิต ซึ่งหากไม่ได้รับปฏิบัติการแพทย์ทันทีเพื่อแก้ไขระบบการหายใจ ระบบไหลเวียนเลือด
หรือระบบประสาทแล้ว ผู้ป่วยจะมีโอกาสเสียชีวิตได้สูง หรือทําให้การบาดเจ็บหรืออาการป่วยของผู้ป่วย
ฉุกเฉินนั้น รุนแรงขึ้นหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้อย่างฉับไว
ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีแดง” สําหรับผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต
(๒) ผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน ได้แก่ บุคคลที่ได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยซึ่งมีภาวะเฉียบพลันมาก
หรือเจ็บปวดรุนแรงอันจําเป็นต้องได้รับปฏิบัติการแพทย์อย่างรีบด่วน มิฉะนั้น จะทําให้การบาดเจ็บหรือ
อาการป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นรุนแรงขึ้นหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น ซึ่งส่งผลให้เสียชีวิตหรือพิการ
ในระยะต่อมาได้
ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีเหลือง” สําหรับผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน
(๓) ผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง ได้แก่ บุคคลซึ่งได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยซึ่งมีภาวะเฉียบพลัน
ไม่รุนแรง อาจรอรับปฏิบัติการแพทย์ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งหรือเดินทางไปรับบริการสาธารณสุขด้วย
ตนเองได้ แต่จําเป็นต้องใช้ทรัพยากรและหากปล่อยไว้เกินเวลาอันสมควรแล้วจะทําให้การบาดเจ็บหรือ
อาการป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นรุนแรงขึ้นหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้
ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีเขียว” สําหรับผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง
ข้อ ๖ ในกรณีที่ผู้ประกอบวิชาชีพให้การรับรองว่าการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินจะเป็นประโยชน์
ต่อการป้องกันการเสียชีวิตหรือการรุนแรงขึ้นของการเจ็บป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้น หรือเกินขีดความสามารถ
ตามนัยแห่งข้อ ๔ (๒) ให้สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนดําเนินการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน
ตามมาตรฐานการส่งต่อผู้ป่วยที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกําหนด และให้สถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับ
ผู้ ป่ ว ยไว้ ค้ า งคื น ดํ า เนิ น การส่ ง ต่ อ ผู้ ป่ ว ยฉุ ก เฉิ น ตามมาตรฐานการส่ ง ต่ อ ผู้ ป่ ว ยที่ ก ระทรวงสาธารณสุ ข
ประกาศกําหนดโดยอนุโลม
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ เป็นไปตามลักษณะของสถานพยาบาลและมาตรฐานวิชาชีพ
(๔.๒) มีระบบรถรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน ต้องได้รับอนุญาตให้ใช้งานจากสํานักงานตํารวจแห่งชาติ
และต้องจัดให้มี
(ก) ไฟสัญญาณฉุกเฉินสีน้ําเงินติดตั้งบนหลังคารถ
(ข) เปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
(ค) ชุดอุปกรณ์ ยา เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ในการช่วยฟื้นคืนชีพประจํารถ
(ง) เครื่องดูดเสมหะ ออกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยหายใจ
(จ) ชุดห้ามเลือด เย็บแผลและทําแผล
(๔.๓) จัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ประจําแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินตลอดเวลาทําการอย่างน้อยหนึ่งคน
ข้อ ๑๐ ในกรณีที่ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตผู้ใดเป็นผู้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมาย
ว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือกฎหมายว่าด้วยประกันสังคมหรือกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน
หรื อ จากส่ ว นราชการ หรือ องค์ก รปกครองส่ ว นท้ อ งถิ่ น หรื อ รัฐ วิ ส าหกิ จ หรือ หน่ว ยงานอื่ น ของรั ฐ
และเมื่อผู้นั้นไปรับบริการจากสถานพยาบาลเมื่อใดแล้ว ให้สถานพยาบาลแจ้งการเข้ารับบริการและให้
เรียกเก็บค่าใช้จ่าย ด้านการรักษาพยาบาลตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่สํานักงาน หรือหน่วยงาน
ต้นสังกัด หรือกองทุนที่ผู้ป่วยพึงมีสิทธิด้านการรักษาพยาบาลนั้น หรือจากหน่วยงานตามนโยบายรัฐบาล
แล้วแต่กรณีประกาศกําหนด
ข้อ ๑๑ นอกจากมาตรฐานการบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินของสถานพยาบาลตามที่กําหนด
ในประกาศนี้ ให้ถือปฏิบัติโดยอนุโลมตามมาตรฐานการให้บริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินตามกฎหมาย
ว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉินและมาตรฐานการให้บริการสาธารณสุขกรณีอุบัติเหตุหรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน
ตามกฎหมาย ว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์
และสาธารณสุขด้วยแล้วแต่กรณี
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง มาตรฐานการให้บริการการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในสถานพยาบาล
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคําแนะนําของคณะกรรมการสถานพยาบาลออกประกาศกําหนด
มาตรฐานการให้บริการการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในสถานพยาบาลไว้ ดังต่อนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๔๓) เรื่อง มาตรฐาน
การให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในสถานพยาบาล
ข้อ ๒ ในประกาศฉบับนี้
“การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis)” หมายความถึง การรักษาผู้ป่วยโดยวิธีการ
กรองของเสีย หรือสารพิษจากเลือดโดยให้เลือดจากหลอดเลือดของผู้ป่ว ยผ่านเข้าไปในท่อฝอย ซึ่งมี
เป็น จํานวนมากในตัว กรองเลือด (Dialyser) เพื่อให้ของเสีย หรือสารพิษในเลือดซึมผ่านผนังท่อฝอย
ออกไปในน้ํายาที่หล่ออยู่รอบนอกของท่อฝอยในตัวกรองเลือด
ข้อ ๓ ผู้ รั บ อนุ ญ าตและผู้ ดํ า เนิ น การสถานพยาบาล จะต้ อ งรั บ ผิ ด ชอบหรื อ จั ด ให้ มี
ผู้ประกอบวิชาชีพเป็นผู้รับผิดชอบในการให้บริการการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ดังนี้
(๑) ผู้ประกอบวิชาชีพ เวชกรรมที่ได้รับวุฒิบัต รหรือหนังสืออนุมัติจากแพทยสภา ในสาขา
อายุรศาสตร์โรคไต หรือสาขากุมารเวชศาสตร์โรคไต หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ได้ผ่านการอบรม
การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมจากสถาบันที่คณะกรรมการสถานพยาบาลรับรอง
(๒) ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้นหนึ่ง ที่ได้ผ่านการอบรมการฟอกเลือด
ด้ ว ยเครื่ อ งไตเที ย มจากสถาบั น ที่ ค ณะกรรมการสถานพยาบาลรั บ รอง โดยมี สั ด ส่ ว นไม่ น้ อ ยกว่ า
๑ คน ต่อผู้ป่วยที่รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ๔ คน ในแต่ละช่วงเวลาและมีพยาบาลวิชาชีพ
เป็นผู้ช่วยปฏิบัติงานร่วมด้วยในสัดส่วนเดียวกัน
นอกจากผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการสถานพยาบาลต้องจัด ให้มีบุค ลากรตามวรรคหนึ่งแล้ว
ควรจัดให้มีนักโภชนาการ นักจิตวิทยา เพื่อให้คําแนะนํา ปรึกษาในการดูแลผู้ป่วย
ข้อ ๔ ผู้ประกอบวิชาชีพ ตามข้อ ๓ (๑) และข้อ ๓ (๒) จะต้องเป็นผู้ดูแลและรักษา
ผู้ป่วยและดําเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ ในการให้บริการการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ให้เป็นไปตาม
หลักวิชาการและข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
ข้อ ๕ ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการสถานพยาบาลที่จะให้บริการการฟอกเลือดด้วยเครื่อง
ไตเทียม จะต้องจัดให้มีสถานที่ สิ่งแวดล้อม และสิ่งอํานวยความสะดวก ดังต่อไปนี้
(๓) จัดให้มีบริการตรวจทางห้องปฏิบัติการชันสูตรที่ได้มาตรฐานและสามารถทําการตรวจวิเคราะห์
ผลการชันสูตรได้เท่าที่จําเป็นเป็นอย่างน้อย
ข้อ ๖ ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการสถานพยาบาลที่จะให้บริการการฟอกเลือด ด้วยเครื่องไตเทียม
ต้องจัดให้มีเครื่องมือและอุปกรณ์ในจํานวนที่เพียงพอ ดังนี้
(๑) เครื่องไตเทียมที่ได้มาตรฐาน พร้อมทั้งหนังสือคู่มือประจําเครื่อง เกณฑ์การทําความสะอาด
และการทะนุบาํ รุงเครื่อง โดยถ้าเป็นฉบับภาษาอังกฤษ ต้องมีฉบับภาษาไทยด้วย
(๒) ระบบทําน้ําบริสุท ธิ์ที่ได้มาตรฐาน (Water Treatment System) เช่น Reverse
Osmosis, Deionizer พร้อมเกณฑ์การทําความสะอาดระบบน้ําและควบคุมคุณ ภาพของน้ําบริสุท ธิ์
อยู่ตลอดเวลา
(๓) ตัวกรองเลือด ในกรณีที่จะนําตัวกรองเลือดมาใช้ซ้ํา (Dialyzer Reprocessing) จะต้อง
มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด
(๔) เครื่องมือและยาในการปฏิบัติการกู้ชีพ อย่างน้อยจะต้องมี
(ก) อุปกรณ์ในการปฏิบัติการกู้ชีพ ที่พ ร้อมจะใช้งาน ได้แ ก่ Self inflating bag
(Ambu bag), Laryngoscope, Endotracheal tube ขนาดต่าง ๆ, Oral Airway
(ข) ยาสําหรับช่วยชีวิตฉุกเฉิน ได้แก่ Adrenalin injection, Sodium Bicarbonate
injection, Calcium Chloride/Gluconate injection, Glucose
(ค) ออกซิเจนพร้อมอุปกรณ์ในการให้ออกซิเจนแก่ผู้ป่วย
(ง) เครื่องดูดเสมหะ
(จ) รถเข็นสําหรับกู้ชีพฉุกเฉิน
ข้อ ๗ ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนิน การสถานพยาบาลต้องจัด ให้มีระบบควบคุมการติด เชื้ อ
ดังนี้
(๑) ห้องให้บริการฟอกเลือด ต้องเป็นเขตกึ่งปลอดเชื้อ
(๒) การใช้และปฏิบัติงานในเขตห้องบริการฟอกเลือดถูกต้องตามหลักการมาตรฐานการควบคุม
การติดเชื้อ
(๓) มาตรฐานการดูแลทําความสะอาดห้อง อุปกรณ์ เครื่องใช้และสิ่งอํานวยความสะดวก
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
กรณีฉุกเฉินซึ่งผู้ป่ว ยไม่อยู่ในภาวะที่จะให้ความยินยอมได้ หากเมื่อผู้ป่วยพร้อมให้ดําเนินการ
ตามวรรคหนึ่ง
ข้อ ๑๐ กรณีสถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่ว ยไว้ค้างคืน ต้องมีระบบในการเคลื่อนย้าย
และส่งต่อผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน พร้อมที่จะนําส่งผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
ที่มีบริการการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมตามที่ได้มีข้อตกลงกันไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
ข้อ ๑๑ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบั บ นี้ ใ ห้ใ ช้ บั ง คั บ ตั้ง แต่ วั น ถัด จากวั น ประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ให้ผู้รับอนุญาตและผู้ดําเนินการสถานพยาบาล ซึ่งให้บริการการฟอกเลือด
ด้วยเครื่องไตเทียมอยู่ก่อนวันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ ดําเนินการให้ถูกต้องภายในสามร้อยหกสิบห้าวัน
นับแต่วันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บงั คับ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง กําหนดผู้ดําเนินการของสถานพยาบาลประเภทสหคลินิก
โดยที่เป็นการสมควรกําหนดบุคคลที่เป็นผู้ดําเนินการของสถานพยาบาลประเภทสหคลินิก
อาศั ย อํ า นาจตามความในข้ อ ๒ แห่ ง กฎกระทรวงกํ า หนดลั ก ษณะของสถานพยาบาล
และลั ก ษณะการให้ บ ริ ก ารของสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่ ง ออกตามความในพระราชบั ญ ญั ติ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไข ในการเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ซึ่งเป็นผู้แทนสภาวิชาชีพอื่นตามมาตรา ๗ (๑) ในคณะกรรมการสถานพยาบาล
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อให้การดําเนินการ
เป็นไปตามกฎหมาย
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
และมาตรา ๗ (๑) แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่ ง แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดย
พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล (ฉบั บ ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวงสาธารณสุ ข
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และ
เงื่ อ นไข ในการเลื อ กกรรมการผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ซึ่ ง เป็ น ผู้ แ ทนสภาวิ ช าชี พ อื่ น ตามมาตรา ๗ (๑)
ในคณะกรรมการสถานพยาบาล”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ การเลื อ กกรรมการผู้ท รงคุ ณ วุ ฒิซึ่ ง เป็ น ผู้ แ ทนสภาวิ ชาชี พ อื่ น ตามมาตรา ๗ (๑)
ซึ่งได้แก่ ผู้แทนสภากายภาพบําบัด สภาเทคนิคการแพทย์ และสภาการแพทย์แผนไทย ให้ดําเนินการ
ดังนี้
(๑) ให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพมีหนังสือแจ้งให้นายกสภากายภาพบําบัด นายกสภา
เทคนิคการแพทย์ และนายกสภาการแพทย์แผนไทย ดําเนินการเสนอรายชื่อบุคคลของแต่ละวิชาชีพ
ไปให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพภายในระยะเวลาที่กําหนด หากพ้นกําหนด ถือว่าหมดสิทธิ
ในการเสนอชื่อเพื่อเลือกกรรมการในครั้งนี้
การเสนอรายชื่อตามวรรคหนึ่ง ให้เสนอรายชื่อได้สภาวิชาชีพละไม่เกินหนึ่งคน พร้อมทั้งประวัติ
โดยบุคคลดังกล่าวต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพภายใต้การควบคุมของสภาวิชาชีพนั้น
(๒) ให้สํานักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพจัดทํา
บัญชีรายชื่อตามที่สภาวิชาชีพแต่ละวิชาชีพได้เสนอรายชื่อ
(๓) ให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพมีหนังสือเชิญบุคคลตาม (๒) มาประชุมด้วยตนเอง
เพื่อให้คัดเลือกกันเองให้เหลือจํานวนสองคน
(๔) ให้ อ ธิ บ ดี ก รมสนั บ สนุ น บริ ก ารสุ ข ภาพ ทํ า หน้ า ที่ ป ระธานในการประชุ ม อํ า นวยการ
การเลือกผู้แทนสภาวิชาชีพตาม (๓) และอาจแต่งตั้งข้าราชการในกรมสนับสนุนบริการสุขภาพทําหน้าที่
เป็นเลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการด้วยก็ได้
(๗) กรณี ที่ มี ผู้ ไ ด้ รั บ การเลื อ กตั้ ง แต่ ส องคนขึ้ น ไป ให้ ผู้ ซึ่ง ได้ ค ะแนนสู ง สุ ด และได้ ค ะแนน
รองลงมาเรี ย งตามลํา ดั บเป็ น ผู้ซึ่ ง ได้ รั บ การคัด เลื อกให้เป็ น กรรมการผู้ท รงคุ ณ วุ ฒิ ในคณะกรรมการ
สถานพยาบาล และหากได้คะแนนเท่ากันให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพดําเนินการตัดสินโดย
วิธีการจับสลากเพื่อเรียงตามลําดับที่ โดยให้ผู้ได้รับเลือกลําดับที่ ๑ และ ๒ เป็นผู้ได้รับการคัดเลือก
ให้เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถานพยาบาล
ข้อ ๔ ในกรณีที่ดําเนินการตามข้อ ๓ แล้ว และคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ไม่ครบสองคน
ให้ดําเนินการ ดังนี้
(๑) กรณีที่มีสภาวิชาชีพ เสนอชื่อไม่ถึงสองสภาวิชาชีพ ให้ดําเนินการตามข้อ ๓ เพื่อคัดเลือก
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มให้ครบจํานวน
(๒) กรณีที่มีสภาวิชาชีพเสนอชื่อมาตั้งแต่สองสภาวิชาชีพขึ้นไป แต่มาประชุมไม่ถึงสองสภาวิชาชีพ
ให้ดําเนินการตามข้อ ๓ (๓) (๔) (๕) และ (๖) จากรายชื่อตามข้อ ๓ (๒) ที่ยังไม่ถูกคัดเลือกโดยอนุโลม
ข้อ ๕ ให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเสนอรายชื่อบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกตามข้อ ๓
พร้อมทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ตามมาตรา ๗ (๑)
ข้อ ๖ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๗ (๑) พ้นจากตําแหน่งก่อนวาระ และ
จําเป็นต้องแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตามมาตรา ๙ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล
พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ให้ดําเนินการ
ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขที่กําหนด ในประกาศนี้โดยอนุโลม
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไข ในการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่น
ตามมาตรา ๗ (๒) ในคณะกรรมการสถานพยาบาล
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ เพื่อให้การดําเนินการ
เป็นไปตามกฎหมาย
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
และมาตรา ๗ (๒) แห่ ง พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่ ง แก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม โดย
พระราชบั ญ ญั ติ ส ถานพยาบาล (ฉบั บ ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวงสาธารณสุ ข
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และ
เงื่อนไข ในการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่น ตามมาตรา ๗ (๒) ในคณะกรรมการสถานพยาบาล”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
“คณะผู้สรรหา” หมายความว่า คณะผู้สรรหาบุคคลเพื่อเสนอให้รัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นกรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิอื่นตามมาตรา ๗ (๒) แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และฉบับแก้ไข
เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
ข้อ ๔ ให้มีคณะผู้สรรหาคณะหนึ่งประกอบด้วย อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพหรือ
ผู้ที่อธิบดีมอบหมาย เป็นประธาน ผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้แทนกลุ่มสถาบัน
แพทยศาสตร์ แ ห่ ง ประเทศไทย และผู้ อํ า นวยการสํ า นั ก สถานพยาบาลและการประกอบโรคศิ ล ปะ
เป็นเลขานุการ
ข้อ ๕ ให้ ค ณะผู้ ส รรหาตามข้ อ ๔ ดํ า เนิ น การคั ด เลื อ กและเสนอบุ ค คลผู้ ส มควรได้ รั บ
การแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่นตามที่กําหนดในมาตรา ๗ (๒) ไม่เกินสามเท่าของที่กําหนด
ในแต่ละด้าน ดังนี้
(๑) ผู้ดําเนินการสถานพยาบาลจํานวนไม่เกินหกคน
(๒) คณบดีคณะแพทยศาสตร์ในสถาบันอุดมศึกษาจํานวนไม่เกินสามคน
(๓) ผู้แทนสมาคมโรงพยาบาลเอกชนจํานวนไม่เกินสามคน
(๔) ผู้แทนองค์กรเอกชนที่ดําเนินกิจกรรมทางด้านการคุ้มครองผู้บริโภคจํานวนไม่เกินสามคน
(๔) ผู้แทนองค์กรเอกชนที่ดําเนินกิจกรรมทางด้านการคุ้มครองผู้บริโภคจํานวนหนึ่งคน
ข้อ ๗ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่นตามมาตรา ๗ (๒) พ้นจากตําแหน่งก่อนวาระ
ตามมาตรา ๙ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ และจําเป็นต้องแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ด้านเดียวกันแทน ให้คณะผู้สรรหาดําเนินการคัดเลือกบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเดียวกันแทน ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขตามประกาศนี้โดยอนุโลม
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและค่าใช้จา่ ยในการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล
พ.ศ. 2562
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เงื่อนไขและค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล พ.ศ. 2562”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข
และค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล
ข้อ ๔ ในประกาศนี้
“โฆษณาหรือประกาศ” หมายความว่า การกระทาไม่ว่าโดยวิธีใด ๆ ให้ประชาชน เห็น
ได้ยิน หรือทราบ ข้อความ เสียง หรือภาพ เพื่อประโยชน์ทางการค้าของสถานพยาบาล
“คาขอ” หมายความว่า คาขออนุมัติการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล
“หนังสืออนุมัต”ิ หมายความว่า หนังสืออนุมัติการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล
หมวด 1
การโฆษณาหรือประกาศเกีย่ วกับสถานพยาบาล
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ข้อ ๘ การโฆษณาหรื อ ประกาศเกี่ ย วกั บ สถานพยาบาล นอกเหนื อ จากข้ อ ๕ ข้ อ ๖
และข้อ ๗ ผู้ใดประสงค์จะโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการ
สถานพยาบาล หรือผู้รับอนุญาต ยื่นคาขอต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยข้อความ เสียงหรือภาพ ที่ใช้ในการ
โฆษณาหรือประกาศ เอกสาร หลักฐานและค่าใช้จ่ายตามที่ระบุไว้ในแบบคาขอท้ายประกาศนี้ และ
ชาระค่าธรรมเนียมตามประกาศนี้
กรณีที่ข้อความโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลได้ทาขึ้นเป็นภาษาต่างประเทศ
โดยให้ผู้ขอรับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล หรือผู้รับอนุญาต จัดทาคาแปลเป็นภาษาไทย
โดยมีคารับรองของผู้แปล ส่งให้ผู้อนุญาตเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย
ข้อ ๙ เมื่อผู้อนุญาตได้รับคาขอพร้อมด้วยเอกสาร หลักฐาน และค่าใช้จ่าย ถูกต้องครบถ้วนแล้ว
ให้ผู้อนุญาตพิจารณาการโฆษณาหรือ ประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล และมีคาสั่งอนุมัติ หรือไม่อนุมัติ
การโฆษณาหรือประกาศเกี่ย วกับสถานพยาบาลดัง กล่า ว ภายในสามสิบวัน นั บแต่วันที่ไ ด้รับคาขอ
พร้อมเอกสาร และหลักฐานดังกล่าวถูกต้องครบถ้วน ในกรณีที่มีเหตุผลหรือความจาเป็นที่ไม่อาจพิจารณา
ให้แล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว อาจขยายระยะเวลาการพิจารณาออกไปได้อีกไม่เ กินสามสิบวัน
แต่ต้องมีหนังสือแจ้งเหตุผลหรือความจาเป็นนั้นให้ผู้ยื่นคาขอทราบก่อนครบกาหนดระยะเวลาดังกล่าว
ในกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการพิจารณาโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล ตามวรรคหนึ่ง
ผู้อนุญาตอาจขอความเห็นจากอนุกรรมการที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการสถานพยาบาล เพื่อประกอบการ
พิจารณาได้
ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคาสั่งอนุมัติ อนุมัติโดยมีเงื่อนไข หรือไม่อนุมัติการโฆษณาหรือประกาศ
เกี่ยวกับสถานพยาบาลให้ผู้อนุญาตแจ้งให้ผู้ยื่นคาขอทราบ ทั้งนี้ กรณีผู้อนุญ าตมีคาสั่งไม่อนุมัติให้แจ้ง
และมิได้เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการสถานพยาบาล ผู้รับบริการต้องเป็นผู้รับประโยชน์โดยตรง
จากส่วนลดนั้น
(๔) กรณีการให้ส่วนลดค่าบริการหรือค่ารักษาพยาบาล หาก
(ก) เป็ น กรณี ก ารให้ ส่ ว นลดเพื่ อ การอนุ เ คราะห์ บุ ค คลด้ อ ยโอกาสหรื อ ตามแผนงาน
ของกระทรวงสาธารณสุขหรือที่กระทรวงสาธารณสุขรับรอง หรือ
(ข) เป็นกรณีการให้ส่วนลดต่อสมาชิกกลุ่มบุคคลหรือสถาบันหรือองค์กรโดยเป็นการประกาศ
หรือแจ้งให้ทราบเฉพาะกลุ่มนั้น ๆ ทั้งนี้ จะต้องกาหนดประเภทของบริการให้ชัดเจนและกาหนดวันเริ่มต้น
และสิ้นสุดของระยะเวลาที่ให้ส่วนลดให้ชัดเจน โดยการให้ส่วนลดต้องไม่เกิน ๑ ปี
(๕) กรณีการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จะต้องระบุเงื่อนไขและรายละเอียดของสิทธิประโยชน์
ต่าง ๆ ให้ชัดเจนและจะต้องกาหนดวันเริ่มต้นและสิ้นสุดของระยะเวลาที่ให้สิทธิประโยชน์นั้น ๆ
(6) กรณีการโฆษณาหรือประกาศว่าในสถานพยาบาลมีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยา เวชภัณฑ์
อุปกรณ์ทางการแพทย์ จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ถูกต้องก่อนยื่นคาขอและให้นา
หลักฐานการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาแสดงต่อผู้อนุญาต
ข้อ 1๑ กรณี ผู้ อ นุ ญ าตมี ค าสั่ ง ไม่ อ นุ มั ติ ก ารโฆษณาหรื อ ประกาศเกี่ ย วกั บ สถานพยาบาล
ให้ผู้ยื่นคาขอมีสิทธิอุทธรณ์ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
ข้อ 1๒ หนังสืออนุมัติการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลให้ เป็น ไปตามแบบ
ท้ายประกาศนี้ โดยผู้อนุญาตจะกาหนดระยะเวลาหรือเงื่อนไขในหนังสืออนุมัติไว้ด้วยก็ได้
ข้อ ๑๓ ผู้ได้รับอนุมัติการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล ต้องปฏิบัติให้ถูกต้อง
ตามเงื่อนไขที่ปรากฏในหนั งสืออนุมัติโ ฆษณาหรื อประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล รวมถึงเอกสาร
ข้อความโฆษณา ภาพ และเสียงแนบท้ายหนังสืออนุมัติโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
การพิจารณาออกใบแทนหนังสืออนุมัติ ให้ผู้อนุญาตออกหนังสืออนุมัติใหม่ตามหนังสืออนุมัติเดิม
โดยให้กากับคาว่า “ใบแทน” ไว้ที่มุมบนด้านซ้าย และระบุวัน เดือน ปี ที่ออกใบแทนหนังสืออนุมัติ
ไว้ด้วย
หมวด ๔
ค่าใช้จ่าย
เขียนที่ ………………………………………………..
วันที่ …….. เดือน ….……………. พ.ศ. ….…..
1. ข้าพเจ้า
1.1 ชื่อ .....................................................................................................................................
เลขประจําตัวประชาชน สัญชาติ .................... อายุ .............. ปี
1.2 นิติบุคคล ..........................................................................................................................
โดย (1) ........................................................... เลขประจําตัวประชาชน
(2) .......................................................... เลขประจําตัวประชาชน
เป็นนิติบุคคลประเภท ........................................ จดทะเบียนเมื่อ ............................. เลขทะเบียน ...................
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
1.3 มี บ้าน สํานักงาน ตั้งอยู่เลขที่ ............... หมู่ที่ ............ ซอย/ตรอก ..................
ถนน ........................................... ตําบล/แขวง ............................................ อําเภอ/เขต ...................................
จังหวัด ................................................. รหัสไปรษณีย์ ............................... โทรศัพท์ .........................................
โทรสาร .................................................. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ .......................................................................
2. ขอยื่นคําขออนุมัติโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล
2.1 ชือ่ สถานพยาบาลและเลขที่ใบอนุญาต .................................................................................
...........................................................................................................................................................................
ชื่อผู้ประกอบการสถานพยาบาล ............................................................................................
ชือ่ ผู้ดําเนินการสถานพยาบาล ...............................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2.2 ขอโฆษณาหรือประกาศทาง
หนังสือพิมพ์ แผ่นพับ วารสาร/หนังสือ วิทยุโทรทัศน์ สื่ออินเตอร์เน็ต
รูปลอก โปสเตอร์ เครื่องขยายเสียง วีดีทศั น์ ........................
นิตยสาร แผ่นป้าย วิทยุกระจายเสียง ภาพยนตร์ สื่ออื่นๆ ...........
3. เอกสารประกอบการขอโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลมีดงั นี้
สําเนาใบอนุญ าตให้ป ระกอบกิจ การสถานพยาบาล หรือหลักฐานการยื่นขออนุญ าตประกอบกิจการ
สถานพยาบาล
สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนผู้ยื่นคําขอ
ข้อความ /เสียงโฆษณา/ภาพโฆษณา (พร้อมสําเนาคู่ฉบับ)
หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีนิติบุคคล)
หนังสือมอบอํานาจ (ถ้ามี)
สําเนาบัตรประจําตัวประชาชนผู้มอบอํานาจ (กรณีมีการมอบอํานาจ)
คําแปลภาษาต่างประเทศ ที่ได้รับการรับรองจากผู้แปลภาษา
เอกสารอ้างอิง (ถ้ามี)
กําหนด
หนังสืออนุมัติเลขที่ ............................
หนังสืออนุมัติฉบับนี้ให้ไว้แก่
……………………………………………………………………..
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เพื่ อแสดงว่ า เป็ น ผู้ ไ ด้ รั บ อนุ มั ติ ใ ห้ โฆษ ณ าห รื อ ป ระกาศเกี่ ย วกั บ สถาน พ ยาบ าล
ลักษณะสถานพยาบาล .................................................................... จํานวนเตียง .......................................เตียง
สถานพยาบาลชื่อ .................................................................................................................................................
ตั้งอยู่เลขที่ ................................... หมู่ที่ ................................. ซอย/ตรอก .........................................................
ถนน ..................................... ตําบล/แขวง ...................................... อําเภอ/เขต ...............................................
จังหวัด ..................................................... วัน/เวลาที่เปิดทําการ ........................................................................
โฆษณาทางสื่อ ......................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ตามเลขรับคําขออนุมัติให้โฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลประเภทที่ ................................................
วันที่ ......................................................................................................................................................................
อนุ มัติให้ โฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลได้ตามเอกสารข้อความโฆษณาหรือ
ประกาศที่แนบท้ายหนังสืออนุมัตินี้ จํานวน ........................................... หน้า โดยมีเงื่อนไขตามรายละเอียด
ด้านหลังของหนังสืออนุมัตินี้
ให้ไว้ ณ วันที่
ผู้อนุญาต
เงื่อนไขการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล มีดังนี้
1. อนุมัติเฉพาะข้อความและภาพทีไ่ ม่ได้ขีดฆ่า
2. ข้อความและภาพที่โฆษณาหรือประกาศต้องตรงตามที่ได้รับอนุมัติ ถ้าโฆษณาหรือประกาศแตกต่างไปจากนี้
ถือว่าข้อความและภาพโฆษณาหรือประกาศทั้งหมดไม่ได้รับอนุมัติ
3. ให้แสดงข้อความเลขที่หนังสืออนุมัติโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลในสื่อที่ได้รับอนุมัติ
4. เงื่อนไขอื่นๆ ตามที่กําหนดไว้ในเอกสารข้อความโฆษณาหรือประกาศ (ถ้ามี)
5. ผู้อนุญาตสงวนสิทธิ์ที่จะระงับการโฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาลนี้ได้ หากมีการฝ่าฝืนมาตรา 38
แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4)
พ.ศ. 2559 ทัง้ นี้ ตามมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541
ใบคําขอรับใบแทนหนังสืออนุมัติโฆษณาหรือประกาศเกีย่ วกับสถานพยาบาล
เขียนที่ .....................................................
วันที่ ....... เดือน ...................... พ.ศ. ..............
1. ข้าพเจ้า
1.1 ข้าพเจ้า ....................................................................................................................
เลขประจําตัวประชาชน อายุ .................. ปี สัญชาติ ...............................
1.2 นิ ติ บุ ค คล .......................................................................................................................
โดย (1) ............................................................ เลขประจําตัวประชาชน
(2) ............................................................ เลขประจําตัวประชาชน
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
สานัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
๑ ประกาศนี้เรียกว่ากา“ประกาศกรมสนั
สานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สนุนบริการสุขภาพ เรืก่อา ง มาตรฐานรถ
ปฏิบัติการชันสูตร”
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สานัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
๒ ประกาศฉบับนี้ใกห้าใช้บังคับตั้งแต่สวานั
ันถักงานคณะกรรมการกฤษฎี
ดจากวันประกาศในราชกิ
กา จจานุเบกษา
๑
เป็นต้นไป
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ข้อ ๓ ในประกาศฉบับนี้
สานั“รถปฏิ
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
บัติการชันสูตร ”กาหมายความว่าสานั กงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยานพาหนะส าหรับปฏิบัตกิกาารชันสูตร โดย
ให้บริการด้านเทคนิคการแพทยประกอบด้วยการเก็บสิ่งสงตรวจการตรวจวิเคราะหและรายงานผล
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นักงข้อ ๔ มาตรฐานบริการปฏิบัติการชันสูตรดังนี้
(๑) มาตรฐานโครงสร้างรถปฏิบัติการชันสูตร
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก(ก)า ให้มีขนาด เครื สานั่องอุ ปกรณ์ และส่วนควบเป็กานไปตามประกาศกรมการขนส่
กงานคณะกรรมการกฤษฎี งทางบก กา
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กาหนด
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ข) เคาน์เตอร์ปฏิบัติงกานมีา ความเหมาะสม
สานัก
(ค) มีการแสดงป้ายชื่อสถานพยาบาล และสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นรถปฏิบัติการ
ชันสูตรที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
กรณีมีการเก็บตัวอย่กาางที่ต้องใช้ห้องน้สานั
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี าจะต้ องมีห้องน้าสาหรับเก็กบาตัวอย่าง
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
(๒) มาตรฐานการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในรถปฏิบัติการชันสูตรตองให้มีที่ซักประวัติที่
จัดทําเวชระเบียนผูรับบริการ และพื้นที่ใหบริการตองมีความเหมาะสมตอการใหบริการ และการ
เคลื่อนย้ายผู้รับบริการ
(๓) มาตรฐานอุปกรณภายในรถปฏิบัติการชันสูตร
(ก) ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ (ตามมาตรฐานที่มีแหล่งข้อมูลอ้างอิงทางวิชาการ)
(ข) มีพัดลมระบายอากาศ (ตามมาตรฐานที่มีแหล่งข้อมูลอ้างอิงทางวิชาการ)
(ค) มีระบบไฟฟ้าต้องจัดให้มีระบบไฟฟ้าสารองที่มีกาลังเพียงพอสาหรับอุปกรณที่
จาเป็นและติดตั้งไฟแสงสว่างฉุกเฉินตามจุดที่จาเป็น
(ง) มีระบบนํ้าสําหรับให้บริการปฏิบัติการชันสูตร
๑
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕/ตอนพิเศษ ๑๗ ง/หน้า ๒๓/๒๔ มกราคม ๒๕๖๑
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีประกาศ
กา ณ วันที่ ๒๖
สานักธังานคณะกรรมการกฤษฎี
นวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ กา
ประนอม คาเที่ยง
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
อธิบดีกรมสนับสนุนกบริ
า การสุขภาพส
ขอ ๒๑ ประกาศฉบับนี้ใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อ ๓ ในประกาศฉบับนี้
สานั“รถทั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา ายานพาหนะส
นตกรรม” หมายความว่ สานักาหรั
งานคณะกรรมการกฤษฎี กา
บให้บริการทันตกรรม
ขอ ๔ มาตรฐานการใหบริการโดยรถทันตกรรมดังนี้
สานั(๑) มาตรฐานโครงสร้างรถทั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นตกรรม สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ก) ให้มีขนาด เครื่องอุปกรณ์ และส่วนควบเป็นไปตามประกาศกรมการขนส่งทางบก
กําหนด
(ข) มีการแสดงป้ายชื่อสถานพยาบาลและสัญลักษณที่บงบอกวาเปนรถทันตกรรมที่
สามารถมองเห็นไดชัดเจน
(๒) มาตรฐานการจัดพื้นที่ใชสอยภายรถทันตกรรมตองจัดใหมีที่ซักประวัติ ที�จัดทํา
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เวชระเบียนบริการพื้นที่ใหบริการตองมีความเหมาะสมตอการใหบริการและการเคลื่อนยายผูรับบริการ
สานั(๓) มาตรฐานอุปกรณ์ภายในรถทั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา นตกรรม สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ก) ติดตั�งเครื�องปรับอากาศ (ตามมาตรฐานที�มีแหลงขอมูลอางอิงทางวิชาการ)
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (ข) มีพัดลมระบายอากาศ (ตามมาตรฐานที�มีแหลงขอมูลอางอิงทางวิชาการ)
(ค) มีระบบไฟฟ้าและจัดใหมีเครื่องกําเนิดไฟฟาสํารองที่มีกําลังเพียงพอสําหรับ
อุปกรณ์ที่จาเป็น และติดตั้งไฟแสงสว่างฉุกกเฉิานตามจุดที่จาเป็
ส านั ก งานคณะกรรมการกฤษฎี สานัน
(ง) มีระบบนํ้าสาหรับใหบริการทันตกรรมและบบการกาจัดนํ้าทิ้งที�เหมาะสม
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(จ) มีภาชนะรองรับขยะติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ
(ฉ) มีอ่างล้างมือชนิดทีกา่ไม่ใช้มือเปิด- ปิสดานัพร้กงานคณะกรรมการกฤษฎี
านคณะกรรมการกฤษฎี อมน้ายาทาความสะอาด กา
(ช) หลักฐานแสดงการเตรียมความพรอมใชของอุปกรณเครื่องมือ เครื่องใชตาง ๆ
ของรถทันตกรรม กา
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
๑
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕/ตอนพิเศษ ๑๗ ง/หน้า ๒๑/๒๔ มกราคม ๒๕๖๑
ัช่กวงานคณะกรรมการกฤษฎี
ยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินอย่กาางน้อย ได้แก่ ยาฉี
สานัดกอะดรี
งานคณะกรรมการกฤษฎี
นารีน ยาฉีดสเตียกรอยด์
า ยาแก้แพ้สานั กลูกโงานคณะกรรมการกฤษฎี
คส ยาอมใต้ลิ้น กา
เพื่อขยายหลอดเลือดและเซตให้สารน้าทางหลอดเลือดดา
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
๑ ประกาศนี้เรียกว่ากา“ประกาศกรมสนั
สานักบงานคณะกรรมการกฤษฎี
สนุนบริการสุขภาพ เรืก่อาง มาตรฐานรถ
เอกซเรยเคลื่อนที่"
สานัข้กองานคณะกรรมการกฤษฎี
๒ ประกาศฉบับนี้ใกห้าใช้บังคับตั้งแต่สวานั
ัน กถังานคณะกรรมการกฤษฎี
ดจากวันประกาศในราชกิ
กา จจานุเบกษา
๑
เป็นต้นไป
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ข้อ ๓ ในประกาศฉบับนี้
สานั“รถเอกซเรย์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี กา
เคลื่อนที”่ หมายความว่ สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
า ยานพาหนะส กา
าหรับให้บริการตรวจวิ นิจฉัยด้วย
เครื่องเอกซเรย์
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขอ ๔ มาตรฐานการตรวจวินิจฉัยดวยเครื่องเอกซเรยดังนี้
(๑) มาตรฐานโครงสร้างรถเอกซเรย์
(ก) ให้มีขนาด เครื
กา สานั่อกงอุงานคณะกรรมการกฤษฎี
ปกรณ์ และส่วนควบเป็
กา นไปตามประกาศกรมการขนส่ งทางบก กา
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
กาหนด
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี
(ข) ผนังโดยรอบห้องทีก่ใาห้บริการเอกซเรย์
สานักตงานคณะกรรมการกฤษฎี
้องระบุด้วยตะกั่วป้องกักานรังสี หรือวัสดุอื่น
ที่มีคุณสมบัติเทียบเทาในการป้องกันรังสีไดตามมาตรฐานของกรมวิทยาศาสตรการแพทย แตทั้งนี้ ตองมี
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความปลอดภัยทางรังสีต่อบุคคลอันเนื่องมาจากการรั่วของรังสี
(ค) มีการแสดงป้ายชืก่อาสถานพยาบาลสานั
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี และสั ญลักษณ์ที่บ่งบอกว่ากาเป็นรถเอกซเรย์
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
เคลื่อนที่ที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎี (๒)กมาตรฐานการจั
า สดานั
พื้นกงานคณะกรรมการกฤษฎี
ที่ใช้สอยภายในรถเอกซเรย์ กา
(ก) ต้องจัดให้มีที่ซักประวัติ ที่จัดทาเวชระเบียนผู้รับบริก าร พื้นที่ให้บริการ ต้องมี
ส านั ก งานคณะกรรมการกฤษฎี
ความเหมาะสมต่อการให้บริการ และการเคลื กา ่อนย้ายผู้รับบริ
สานักการงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ข) มีพื้นที่สาหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า
สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) มาตรฐานอุปกรณ์ภายในรถเอกซเรย์
(ก) ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ (ตามมาตรฐานที่มีแหลงขอมูลอางอิงทางวิชาการ)
(ข) มีพัดลมระบายอากาศ (ตามมาตรฐานที่มีแหลงขอมูลอางอิงทางวิชาการ)
๑
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕/ตอนพิเศษ ๑๗ ง/หน้า ๑๙/๒๔ มกราคม ๒๕๖๑
√–‡∫’¬∫°√–∑√«ß “∏“√≥ ÿ¢
«à“¥â«¬À≈—°‡°≥±å ·≈–«‘∏’°“√„π°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫
µ“¡æ√–√“™∫—≠≠—µ‘ ∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙÒ
æ.». ÚıÙˆ
ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข
æ.». ÚıÙˆ
¢âÕ Ú √–‡∫’¬∫π’„È Àâ„™â∫ß— §—∫µ—ßÈ ·µà«π— ∂—¥®“°«—πª√–°“»„π√“™°‘®®“πÿ‡∫°…“
‡ªìπµâπ‰ª
¢âÕ Û „π√–‡∫’¬∫π’È
秫“¡º‘¥é À¡“¬§«“¡«à“ §«“¡º‘¥∑’¡Ë ‚’ ∑…ª√—∫ ∂“π‡¥’¬« À√◊Õ∑’¡Ë ‚’ ∑…®”§ÿ°
‰¡à‡°‘πÀπ÷Ëߪﵓ¡æ√–√“™∫—≠≠—µ‘ ∂“π欓∫“≈ æ.». ÚıÙÒ
纟âµâÕßÀ“é À¡“¬§«“¡«à“ ºŸâ∑’Ë∂Ÿ°°≈à“«À“«à“°√–∑”§«“¡º‘¥µ“¡√–‡∫’¬∫π’È
∂“π∑’Ë°√–∑”§«“¡º‘¥·≈–·®âß„ÀâºâŸµâÕßÀ“∑√“∫«à“§«“¡º‘¥∑’ˇ°‘¥¢÷Èπ‡ªì𧫓¡º‘¥∑’Ë
“¡“√∂‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫‰¥â ∂⓺Ÿµâ Õâ ßÀ“„Àâ°“√√—∫ “√¿“æ·≈–¬‘π¬Õ¡„À⇪√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫
„Àâ∫—π∑÷°§”„Àâ°“√¢ÕߺŸâµâÕßÀ“·≈–∫—π∑÷°°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫‰«âµ“¡·∫∫ §ª.Ú ·≈–
§ª.Ù ∑⓬√–‡∫’¬∫π’È
‡¡◊Ë◊ÕºâŸâµâÕßÀ“‰¥â‡ ’¬§à“ª√—∫µ“¡∑’ˇª√’¬∫‡∑’¬∫¿“¬„π “¡ ‘∫«—ππ—∫·µà«—π∑’Ë¡’
°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫„Àâ∂Õ◊ «à“§¥’‡≈‘°°—π ·≈– ‘∑∏‘𔧥’Õ“≠“¡“øÑÕ߬àÕ¡‡ªìπÕ—π√–ß—∫‰ª
µ“¡ª√–¡«≈°ÆÀ¡“¬«‘∏’æ‘®“√≥“§«“¡Õ“≠“
∂⓺Ÿµâ Õâ ßÀ“„Àâ°“√ªØ‘‡ ∏À√◊Õ‰¡à¬π‘ ¬Õ¡„À⇪√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫ „Àâ∫π— ∑÷°§”„Àâ°“√
‰«âµ“¡·∫∫ §ª.Û ∑⓬√–‡∫’¬∫π’È
¢âÕ ˜ „Àâ§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’∑”°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫ 纟µâ Õâ ßÀ“é
µ“¡∑’ˇÀÁπ ¡§«√ ∑—Èßπ’È‚¥¬§”π÷ß∂÷ߧ«“¡Àπ—°‡∫“·ÀàߢâÕÀ“·≈–惵‘°“√≥å·Ààß
°“√°√–∑”§«“¡º‘¥
¢âÕ ¯ „𧥒‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫∑’Ë¡’¢Õß°≈“ß´÷Ëßæπ—°ß“π‡®â“Àπâ“∑’ˉ¥â¬÷¥À√◊Õ
ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข
Õ“¬—¥∫√√¥“¢Õß°≈“ß∑’‡Ë °’¬Ë «°—∫°“√°√–∑”§«“¡º‘¥ °àÕπ∑’®Ë –∑”°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫
„Àâ§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’ Õ∫∂“¡ºŸâµâÕßÀ“·≈–‡®â“¢Õß∑√—æ¬å ‘π¢Õß°≈“ß«à“
µ°≈߬‘π¬Õ¡¬°¢Õß°≈“ß„Àâµ°‡ªìπ¢Õß·ºàπ¥‘πÀ√◊Õ‰¡à ∂⓺Ÿµâ Õâ ßÀ“·≈–‡®â“¢Õß∑√—æ¬å π‘
¢Õß°≈“߬‘π¬Õ¡¬°¢Õß°≈“ß„Àâµ°‡ªìπ¢Õß·ºàπ¥‘π„Àâ§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’
∑”À≈—°∞“π‡ªìπÀπ—ß ◊Õ„À⺵Ÿâ Õâ ßÀ“·≈–‡®â“¢Õß∑√—æ¬å π‘ ¢Õß°≈“ß≈ßπ“¡„À⧫“¡¬‘π¬Õ¡
‰«â¥â«¬
„Àâæπ—°ß“π‡®â“Àπâ“∑’Ë∫—π∑÷°√“¬≈–‡Õ’¬¥°“√™”√–‡ß‘πæ√âÕ¡‡≈¢∑’˧¥’„π∫—π∑÷°
°“√™”√–‡ß‘π∑⓬∫—π∑÷°°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫µ“¡·∫∫ §ª.Ù ∑⓬√–‡∫’¬∫π’È
¢âÕ ÒÒ „Àâæπ—°ß“π‡®â“Àπâ“∑’Ë∫—π∑÷°ª√–«—µ‘ºŸâµâÕßÀ“µ“¡·∫∫ §ª.ı ∑⓬
√–‡∫’¬∫π’Ȫ–Àπâ“ ”π«π§¥’ ·≈–„À⇰Á∫ ”π«π§¥’∑’ˉ¥â∑”°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫·≈â«
‰«â‡ªìπ√–¬–‡«≈“ Õߪïπ∫— ·µà«π— ∑’¡Ë °’ “√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫ ‡¡◊ÕË §√∫°”Àπ¥„À⥔‡π‘π°“√
∑”≈“¬
¢âÕ ÒÚ „Àâ§≥–°√√¡°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫§¥’¥”‡π‘π°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫¿“¬„π
°”Àπ¥Õ“¬ÿ§«“¡‚¥¬¡‘™—°™â“ ‡¡◊ËÕ∑”°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫·≈⫇ √Á® „À⇠πÕ√“¬ß“π
º≈°“√‡ª√’¬∫‡∑’¬∫ª√—∫µàÕ§≥–°√√¡°“√ ∂“π欓∫“≈‡æ◊ËÕ∑√“∫
ระเบียบกระทรวงสาธารณสุข
พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง
กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข
และระเบียบกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง
กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข
และระเบียบกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๕๙
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
และระเบียบกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ที่ปรึกษา :
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
นายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
นางจันฑนา จินดาถาวรกิจ ผู้อ�ำนวยการกองกฎหมาย
คณะด�ำเนินการ :
นายบุญเลิศ เตียวสุวรรณ นิติกรช�ำนาญการพิเศษ
นางสาวศิริพร รุ่งรัตน์ธวัชชัย นิติกรปฏิบัติการ
นายจักราวุธ จันทานี นิติกร
นางสาวณหทัย สุขเสนา นิติกร
นางสาวเจนจิรา แก้วม่วงพะเนา ปฏิบัติงานด้านกฎหมาย
กองกฎหมาย
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
พฤษภาคม ๒๕๖๓
พระราชบัญญัติ
l พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ ๓
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
กฎกระทรวง
l กฎกระทรวงก�ำหนดค่าธรรมเนียมและการช�ำระค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับ ๒๑
การประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐
l กฎกระทรวงก�ำหนดบริการอื่นในกิจการสปา พ.ศ. ๒๕๖๐ ๒๕
l กฎกระทรวงการอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการ ๒๘
เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐
l กฎกระทรวงการอนุญาตเป็นผู้ด�ำเนินการในสถานประกอบการ ๓๔
เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐
l กฎกระทรวงการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการ ๓๙
เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐
l กฎกระทรวงก�ำหนดมาตรฐานด้านสถานที่ ความปลอดภัย ๔๓
และการให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปา
และกิจการนวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมความงาม พ.ศ. ๒๕๖๐
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
l ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ๕๑
เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
l ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์ ๑๑๕
การรับรองวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่ผู้ด�ำเนินการหรือผู้ให้บริการ
ได้รับจากสถาบันการศึกษาหน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ พ.ศ. ๒๕๕๙
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
l ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์ ๑๒๓
การรับรองวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่ผู้ด�ำเนินการหรือผู้ให้บริการ
ได้รับจากสถาบันการศึกษาหน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒
l ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เรื่อง หลักเกณฑ์ ๑๒๔
การทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถของผู้ด�ำเนินการ พ.ศ. ๒๕๕๙
l ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เรื่อง หลักสูตร ๑๒๘
ด้านการบริการเพื่อสุขภาพอื่น ๆ เพิ่มเติม
พระราชบัญญัติ
สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
พ.ศ. ๒๕๕๙
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๐ มีนำคม พ.ศ. ๒๕๕๙
เป็นปีที่ ๗๑ ในรัชกำลปัจจุบัน
พระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมรำชโองกำรโปรดเกล้ำฯ
ให้ประกำศว่ำ
โดยที่เป็นกำรสมควรมีกฎหมำยว่ำด้วยสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
จึงทรงพระกรุณำโปรดเกล้ำฯ ให้ตรำพระรำชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม
ของสภำนิติบัญญัติแห่งชำติ ดังต่อไปนี้
มำตรำ ๓ ในพระรำชบัญญัตินี้
“สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ” หมำยควำมว่ำ สถำนที่ที่ตั้งขึ้นเพื่อดำเนินกิจกำร
ดังต่อไปนี้
(๑) กิจกำรสปำ อันได้แก่ บริกำรที่เกี่ยวกับกำรดูแลและเสริมสร้ำงสุขภำพโดยวิธีกำร
บำบัดด้วยน้ำและกำรนวดร่ำงกำยเป็นหลัก ประกอบกับบริกำรอื่นตำมที่กำหนดในกฎกระทรวงอีก
อย่ำงน้อยสำมอย่ำง เว้นแต่เป็นกำรดำเนินกำรในสถำนพยำบำลตำมกฎหมำยว่ำด้วยสถำนพยำบำล
หรือกำรอำบน้ำ นวด หรืออบตัวที่เป็นกำรให้บริกำรในสถำนอำบน้ำ นวด หรืออบตัวตำมกฎหมำยว่ ำ
ด้วยสถำนบริกำร
(๒) กิจกำรนวดเพื่อสุขภำพหรือเพื่อเสริมควำมงำม เว้นแต่กำรนวดเพื่อสุขภำพหรือ
เพื่ อ เสริม ควำมงำมในสถำนพยำบำลตำมกฎหมำยว่ ำด้ ว ยสถำนพยำบำล หรือ ในหน่ ว ยบริก ำร
สำธำรณสุขของหน่วยงำนของรัฐ หรือกำรนวดที่เป็นกำรให้บริกำรในสถำนอำบน้ำ นวด หรืออบตัว
ตำมกฎหมำยว่ำด้วยสถำนบริกำร
(๓) กิจกำรอื่นตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง
๑
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๓/ตอนที่ ๓๐ ก/หน้ำ ๑๐/๓๑ มีนำคม ๒๕๕๙
พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓
“ผู้อนุญำต” หมำยควำมว่ำ อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมำย
พระราชบัญญัติ
มำตรำ ๔ ให้รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงสำธำรณสุขรักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตินี้
และให้มีอำนำจแต่งตั้งพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ ออกกฎกระทรวงกำหนดค่ำธรรมเนียมไม่เกินอัตรำท้ำย
พระรำชบั ญ ญั ติ นี้ ลดหรื อ ยกเว้ น ค่ ำ ธรรมเนี ย ม และก ำหนดกิ จ กำรอื่ นเพื่ อ ปฏิ บั ติ ก ำรตำม
พระรำชบัญญัตินี้
กำรกำหนดค่ำธรรมเนี ย มตำมวรรคหนึ่ ง อำจกำหนดให้ แตกต่ำงกันโดยคำนึงถึง
ประเภทและขนำดของสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพที่กำหนดไว้ในใบอนุญำตด้วยก็ได้
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำแล้วให้ใช้บังคับได้
หมวด ๑
คณะกรรมกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
พระราชบัญญัติ
เมื่ อ ครบก ำหนดตำมวำระในวรรคหนึ่ ง หำกยั ง มิ ไ ด้ มี ก ำรแต่ ง ตั้ ง กรรมกำร
ผู้ทรงคุณ วุฒิ ขึ้นใหม่ ให้กรรมกำรผู้ ทรงคุณ วุฒิ ซึ่งพ้นจำกตำแหน่งตำมวำระนั้นอยู่ในตำแหน่งเพื่อ
ดำเนินงำนต่อไปจนกว่ำกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ำรับหน้ำที่
กรรมกำรผู้ทรงคุณ วุฒิ ซึ่งพ้นจำกตำแหน่งตำมวำระอำจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะ
ดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวำระไม่ได้
ของจำนวนกรรมกำรทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม
ในกำรประชุมคณะกรรมกำร ถ้ำประธำนกรรมกำรไม่มำประชุมหรือไม่อำจปฏิบัติ
หน้ำที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมกำรคนหนึ่งเป็นประธำนในที่ประชุม
กำรวินิจฉัยชี้ขำดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้ำงมำก กรรมกำรคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งใน
กำรลงคะแนน ถ้ำคะแนนเสีย งเท่ำกัน ให้ป ระธำนในที่ป ระชุม ออกเสีย งเพิ่ม ขึ้น อีกเสีย งหนึ่งเป็น
เสียงชี้ขำด
หมวด ๒
ใบอนุญำตและกำรขึ้นทะเบียน
พระราชบัญญัติ
และยังไม่พ้นกำหนดสองปีนับถึงวันยื่นคำขอรับใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อ
สุขภำพ
ในกรณี ที่นิติบุคคลเป็นผู้ขอรับ ใบอนุ ญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อ
สุขภำพ ผู้มีอำนำจจัดกำรแทนนิติบุคคลนั้นต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ ำมตำมควำมใน
วรรคหนึ่ง
มำตรำ ๑๔ ใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพให้มีอำยุห้ำปี
นับแต่วันที่ออกใบอนุญำต
กำรขอต่ออำยุใบอนุญำต ให้ผู้รับอนุญำตยื่นคำขอก่อนวันที่ใบอนุญำตสิ้นอำยุ และ
เมื่อได้ยื่นคำขอดังกล่ำวแล้ว ให้ผู้ยื่นคำขอประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพนั้นต่อไปได้
จนกว่ำจะได้รับแจ้งคำสั่งไม่ต่ออำยุใบอนุญำตจำกผู้อนุญำต
กำรขอต่ออำยุใบอนุญ ำตและกำรให้ต่ออำยุใบอนุญ ำต ให้ เป็ น ไปตำมหลั กเกณฑ์
วิธีกำร และเงื่อนไข ตลอดจนชำระค่ำธรรมเนียมตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง
มำตรำ ๑๖ ใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพสิ้นสุดลง
เมื่อผู้รับอนุญำต
(๑) ตำย เว้นแต่ได้ดำเนินกำรตำมที่บัญญัติไว้ในมำตรำ ๑๘ หรือสิ้นสุดควำมเป็นนิติ
บุคคล
(๒) เลิกประกอบกิจกำรตำมมำตรำ ๑๙
(๓) ถูก เพิ ก ถอนใบอนุ ญ ำตประกอบกิจ กำรสถำนประกอบกำรเพื่ อ สุ ข ภำพตำม
มำตรำ ๑๕ วรรคสำม หรือมำตรำ ๓๒ (๑) (๒) หรือ (๓) หรือวรรคสำม
มำตรำ ๑๗ กำรโอนใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพให้แก่
บุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ำมตำมมำตรำ ๑๓ ให้กระทำได้เมื่อได้รับอนุญำตจำก
ผู้อนุญำต
กำรขอโอนใบอนุญำตและกำรอนุญำต ให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไข
ที่กำหนดในกฎกระทรวง
ประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพต่อไป ให้ผู้จัดกำรมรดกหรือทำยำทซึ่งมีคุณสมบัติและ
ไม่มีลักษณะต้องห้ ำมตำมมำตรำ ๑๓ หรือในกรณีที่มีทำยำทหลำยคนให้ทำยำทด้วยกันนั้นตกลงตั้ง
ทำยำทคนหนึ่งซึ่งมีคุณ สมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ ำมตำมมำตรำ ๑๓ ยื่นคำขอต่อผู้อนุญ ำตเพื่ อ
ขอรับโอนใบอนุญำตภำยในเก้ำสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับอนุญำตตำย ถ้ำมิได้ยื่นคำขอภำยในระยะเวลำ
ดังกล่ำว ให้ถือว่ำใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพนั้นสิ้นสุดลง
ในระหว่ำงระยะเวลำตำมวรรคหนึ่ง ให้ ผู้จัดกำรมรดกหรือทำยำทซึ่งเป็นผู้ ยื่นคำ
ขอรั บ โอนใบอนุ ญ ำตเข้ำประกอบกิ จ กำรสถำนประกอบกำรเพื่ อ สุ ขภำพ โดยมี ห น้ ำที่ แ ละควำม
รับผิดชอบเสมือนผู้รับอนุญำต ทั้งนี้ จนกว่ำผู้อนุญำตจะมีคำสั่งไม่อนุญำต
ถ้ำผลกำรตรวจสอบปรำกฏว่ำผู้ยื่นคำขอมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ำมตำม
มำตรำ ๑๓ ให้ผู้อนุญำตมีคำสั่งอนุญำตแก่ผู้ยื่นคำขอ
กำรขอรับ โอนและกำรอนุญ ำต ให้ เป็ น ไปตำมหลั กเกณฑ์ วิธีก ำร และเงื่อ นไขที่
กำหนดในกฎกระทรวง
มำตรำ ๒๐ ผู้ใดประสงค์จะปฏิบัติหน้ำที่เป็นผู้ดำเนินกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อ
สุขภำพ ต้องได้รับใบอนุญำตเป็นผู้ดำเนินกำรจำกผู้อนุญำต
กำรขอรั บ ใบอนุ ญ ำต กำรออกใบอนุ ญ ำต แบบใบอนุ ญ ำต กำรออกใบแทน
ใบอนุญำต และกำรชำระค่ำธรรมเนียมใบอนุญำต ให้เป็นไปตำมแบบ หลักเกณฑ์ วิธีกำร และเงื่อนไข
ที่กำหนดในกฎกระทรวง
มำตรำ ๒๑ ผู้ขอรับใบอนุญำตเป็นผู้ดำเนินกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ำม ดังต่อไปนี้
ก. คุณสมบัติ
(๑) มีอำยุไม่ต่ำกว่ำยี่สิบปีบริบูรณ์
(๒) ได้รับวุฒิ บัตรหรือประกำศนียบัตรด้ำนกำรบริกำรเพื่อสุขภำพที่ได้รับกำร
รับรองจำกกรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพ
(๓) ผ่ำนกำรทดสอบและประเมินควำมรู้ควำมสำมำรถจำกกรมสนับสนุนบริกำร
สุขภำพ
ข. ลักษณะต้องห้ำม
(๑) เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ควำมสำมำรถ หรือคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถ
(๒) เป็นผู้เคยต้องคำพิพำกษำถึงที่สุดว่ำเป็นผู้กระทำผิดในควำมผิดเกี่ยวกับเพศ
หรือควำมผิดเกี่ยวกับทรัพย์ตำมประมวลกฎหมำยอำญำ ควำมผิดตำมกฎหมำยเกี่ยวกับยำเสพติด
พระราชบัญญัติ
ว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรค้ำประเวณี
(๓) เป็ น ผู้ เจ็ บ ป่ วยด้วยโรคติดต่ออัน เป็ น ที่ รังเกีย จแก่สังคม โรคพิษสุ รำเรื้อรั ง
หรือติดยำเสพติดให้โทษ
(๔) เป็นผู้อยู่ในระหว่ำงถูกสั่งพักใช้ใบอนุญำตเป็นผู้ดำเนินกำร
(๕) เป็นผู้เคยถูกเพิกถอนใบอนุญำตเป็นผู้ดำเนินกำร และยังไม่พ้นกำหนดหนึ่งปี
นับถึงวันยื่นคำขอรับใบอนุญำตเป็นผู้ดำเนินกำร
มำตรำ ๒๒ ผู้ใดประสงค์จะปฏิบัติหน้ำที่เป็นผู้ให้บริกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อ
สุขภำพ ให้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริกำรต่อผู้อนุญำต
กำรขึ้ น ทะเบี ย นตำมวรรคหนึ่ ง ให้ เป็ น ไปตำมหลั กเกณฑ์ วิธี กำร และเงื่อ นไขที่
กำหนดในกฎกระทรวง
มำตรำ ๒๓ ผู้ ขอขึ้น ทะเบี ย นเป็ น ผู้ ให้ บ ริก ำร ต้ องมี คุ ณ สมบั ติ และไม่มี ลั กษณะ
ต้องห้ำม ดังต่อไปนี้
ก. คุณสมบัติ
(๑) มีอำยุไม่ต่ำกว่ำสิบแปดปีบริบูรณ์
(๒) ได้รับ วุฒิ บั ตรหรือประกำศนีย บัตรด้ำนกำรบริกำรเพื่อสุขภำพที่ได้รับ กำร
รับรองจำกกรมสนับสนุนบริกำรสุขภำพ
ข. ลักษณะต้องห้ำม
(๑) เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ควำมสำมำรถ หรือคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถ
(๒)๒ (ยกเลิก)
(๓) เป็ น ผู้ เจ็ บ ป่ วยด้วยโรคติดต่ออัน เป็ น ที่รังเกีย จแก่สังคม โรคพิษสุ รำเรื้อรั ง
หรือติดยำเสพติดให้โทษ
หมวด ๓
หน้ำที่ของผู้รับอนุญำตและผู้ดำเนินกำร
๒
มำตรำ ๒๓ ข. (๒) ยกเลิกโดยพระรำชบัญญัติสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
๒๕๖๒
ประกอบกำรเพื่อสุขภำพแต่ละประเภท ให้เป็นไปตำมที่กำหนดในกฎกระทรวง
พระราชบัญญัติ
(๑) จัดทำคู่มือปฏิบัติงำนส ำหรับบริกำรหรือคู่มื อกำรใช้อุปกรณ์ ผลิ ตภัณฑ์ และ
เครื่องมือเครื่องใช้ต่ำง ๆ และพัฒนำผู้ให้บริกำรให้สำมำรถให้บริกำรได้ตำมคู่มือที่จัดทำขึ้น
(๒) ควบคุมดูแลกำรบริกำร อุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ต่ำง ๆ ให้ได้
มำตรฐำน ถูกสุขลักษณะ และใช้ได้อย่ำงปลอดภัย
(๓) สอบถำมและบั น ทึ ก ข้ อ มู ล สุ ข ภำพพื้ น ฐำน และคั ด กรองผู้ รั บ บริ ก ำรเพื่ อ
จัดบริกำรที่เหมำะสมแก่สุขภำพของผู้รับบริกำร
(๔) ควบคุมดูแลผู้ให้บริกำรให้ปฏิบัติตำมคู่มือกำรปฏิบัติงำนอย่ำงเคร่งครัด และ
ควบคุมดูแลมิให้ผู้ให้บริกำรออกไปให้บริกำรนอกสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพในเวลำทำงำน
(๕) จัดให้มีมำตรกำรดูแลควำมปลอดภัยในกำรทำงำน และป้องกันมิให้ผู้รับบริกำร
ผู้ให้บริกำร และบุคคลซึ่งทำงำนในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพถูกล่วงละเมิดทำงเพศ
นอกจำกหน้ำที่ที่กำหนดไว้ในวรรคหนึ่ง ให้ผู้ดำเนินกำรมีหน้ำที่ตำมมำตรำ ๒๘ (๙)
(๑๐) (๑๑) (๑๒) และ (๑๓) ด้วย
หมวด ๔
กำรพักใช้ใบอนุญำต กำรเพิกถอนใบอนุญำต
และกำรลบชื่อออกจำกทะเบียน
เมื่อผู้ดำเนินกำรได้ปฏิบัติให้ถูกต้องแล้ว ให้ผู้อนุญำตสั่งเพิกถอนคำสั่งพักใช้ใบอนุญำตนั้น
ผู้ ด ำเนิ น กำรซึ่ ง ถู ก สั่ งพั ก ใช้ ใบอนุ ญ ำตต้ อ งหยุ ด ปฏิ บั ติ ห น้ ำ ที่ ต ำมที่ ถู ก สั่ ง พั ก ใช้
ใบอนุญำต
มำตรำ ๓๓ ในกรณี ที่ ป รำกฏว่ ำ ผู้ ให้ บ ริ ก ำรผู้ ใดขำดคุ ณ สมบั ติ ห รื อ มี ลั ก ษณะ
ต้องห้ำมตำมที่กำหนดในมำตรำ ๒๓ ให้ผู้อนุญำตลบชื่อผู้ให้บริกำรนั้นออกจำกทะเบียน
หมวด ๕
พนักงำนเจ้ำหน้ำที่
พระราชบัญญัติ
สุขภำพในปริมำณพอสมควรเพื่อเป็นตัวอย่ำงในกำรตรวจสอบหรือวิเครำะห์
(๓) ยึดหรืออำยัดอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ต่ำง ๆ ตลอดจนภำชนะ
บรรจุ หีบห่อ ฉลำกและเอกสำรกำกับ และเอกสำรหรือวัตถุอื่นใดที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ำจะเกี่ยวข้อง
กับกำรกระทำควำมผิด
(๔) มีหนังสือเรียกให้บุคคลที่เกี่ยวข้อ งมำให้ถ้อยคำ หรือส่งเอกสำรหรือหลักฐำนที่
จำเป็นเพื่อประกอบกำรพิจำรณำของพนักงำนเจ้ำหน้ำที่
ให้ผู้รับอนุญำต ผู้ดำเนินกำร ผู้ให้บริกำร หรือบุคคลซึ่งเป็นพนักงำนหรือลูกจ้ำงของ
สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพนั้นอำนวยควำมสะดวกตำมสมควร
มำตรำ ๓๖ ในกำรปฏิ บั ติ ห น้ ำที่ พนั ก งำนเจ้ ำหน้ ำ ที่ ต้ อ งแสดงบั ต รประจ ำตั ว
พนักงำนเจ้ำหน้ำที่ต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง
บัตรประจำตัวพนักงำนเจ้ำหน้ำที่ให้เป็นไปตำมแบบที่อธิบดีประกำศกำหนด
หมวด ๖
กำรอุทธรณ์
วันที่ครบกำหนดระยะเวลำดังกล่ำว
คำวินิจฉัยของปลัดกระทรวงให้เป็นที่สุด
หมวด ๗
บทกำหนดโทษ
พระราชบัญญัติ
มำตรำ ๔๙ ผู้ประกอบกิจกำร ผู้ดำเนินกำร และผู้ให้บริกำรในสถำนที่เพื่อสุขภำพ
หรือเพื่อเสริมสวยที่ได้รับกำรรับ รองตำมประกำศกระทรวงสำธำรณสุข เรื่อง กำหนดสถำนที่เพื่อ
สุขภำพหรือเพื่อเสริมสวย มำตรฐำนของสถำนที่ กำรบริกำร ผู้ให้ บริกำร หลักเกณฑ์ และวิธีกำร
ตรวจสอบเพื่อกำรรับรองให้เป็นไปตำมมำตรฐำนสำหรับสถำนที่เพื่อสุขภำพหรือเพื่อเสริมสวยตำม
พระรำชบัญญัติสถำนบริกำร พ.ศ. ๒๕๐๙ พ.ศ. ๒๕๕๑ อยู่ในวันก่อนวันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญำตประกอบกิจกำร คำขอรับใบอนุญำตเป็นผู้ดำเนินกำร หรือคำขอขึ้นทะเบียน
เป็นผู้ให้บริกำรต่อผู้อนุญำตภำยในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระรำชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และเมื่อ
ยื่นคำขอรับใบอนุญำตหรือคำขอขึ้นทะเบียนแล้ว ให้ประกอบกิจกำร ดำเนินกำร หรือให้บริกำรต่อไป
ได้จนกว่ำจะได้รับแจ้งคำสั่งไม่ออกใบอนุญำตหรือไม่รับขึ้นทะเบียนจำกผู้อนุญำต แล้วแต่กรณี
ผู้รับสนองพระบรมรำชโองกำร
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชำ
นำยกรัฐมนตรี
พระราชบัญญัติ
สุขภำพเป็นกิจกำรด้ำนบริกำรที่ สร้ำงงำนและรำยได้แก่ประเทศเป็นจำนวนมำก และเป็นกิจกำรที่
ได้รับควำมเชื่อมั่นจำกผู้รับบริกำรทั้งชำวไทยและชำวต่ำงประเทศมำยำวนำน จึงมีผู้ประกอบกิจกำร
สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพเพิ่มมำกขึ้นในแต่ละปี แต่ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมำยกำกับดูแลกำรดำเนิน
กิจกำรนี้เป็นกำรเฉพำะ ผู้ประกอบกิจกำร ผู้ดำเนินกำร และผู้ให้บริกำรจำนวนมำกขำดควำมรู้และ
ทักษะในกำรประกอบกิจกำร และกำรให้บริกำรของสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพส่วนใหญ่ไม่ได้
มำตรฐำน และส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภำพ ร่ำงกำย หรือจิตใจของผู้รับบริกำร ประกอบกับมีผู้ใช้
คำว่ำสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ เพื่อประกอบกิจกำรแฝงอย่ำงอื่นอันส่งผลกระทบต่อควำมเชื่อมั่น
ของผู้รับบริกำรชำวไทยและชำวต่ำงประเทศที่มีต่อกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ สมควรมี
กฎหมำยที่กำกับดูแลกำรประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพขึ้นเป็นกำรเฉพำะ เพื่อให้กำร
ดำเนินกิจกำรดังกล่ำวเป็นไปอย่ำงมีมำตรฐำนอันเป็นกำรส่งเสริมสุขภำพของประชำชน และคุ้มครอง
ผู้บริโภค จึงจำเป็นต้องตรำพระรำชบัญญัตินี้
๓
รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม ๑๓๖/ตอนที่ ๕๐ ก/หน้ำ ๒๐๘/๑๖ เมษำยน ๒๕๖๒
กฎกระทรวง
กฎกระทรวง
กําหนดค่าธรรมเนียมและการชําระค่าธรรมเนียม
เกี่ยวกับการประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๖๐
(ค) พื้นที่การให้บริการเกินสองร้อยตารางเมตร
แต่ไม่เกินสี่ร้อยตารางเมตร ฉบับละ ๓,๐๐๐ บาท
(ง) พื้นที่การให้บริการเกินสี่ร้อยตารางเมตร ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท
(๓) ใบอนุญาตเป็นผู้ดําเนินการ ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
กฎกระทรวง
(๔) การต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ครั้งละเท่ากับค่าธรรมเนียม
ใบอนุญาตตาม (๑) หรือ (๒)
(๕) ใบแทนใบอนุญาตตาม (๑) (๒) หรือ (๓) ฉบับละ ๓๐๐ บาท
(๖) การเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาต
ตาม (๑) (๒) หรือ (๓) ครั้งละ ๓๐๐ บาท
(๗) ค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพรายปี
สําหรับสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ตาม (๑) ปีละ ๑,๐๐๐ บาท
(๘) ค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพรายปี
สําหรับสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ตาม (๒) ปีละ ๕๐๐ บาท
ข้อ ๒ การคํ า นวณพื้ น ที่ ก ารให้ บ ริ ก ารของสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพตามข้ อ ๑
ให้คํานวณตามแบบแปลนแผนผังแสดงพื้นที่การให้บริการของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ได้ยื่นไว้
พร้อมกับคําขอรับใบอนุญาตหรือคําขอต่ออายุใบอนุญาต แล้วแต่กรณี
ข้อ ๓ ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพชําระค่าธรรมเนียม
การประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพรายปีในปีแรก พร้อมกับการชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต
และให้ถือว่าวันที่ชําระค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นวันครบกําหนดชําระค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพรายปีในปีต่อ ๆ ไปตลอดระยะเวลาที่ยังประกอบกิจการอยู่
เมื่อผู้อนุญาตได้รับชําระค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่งถูกต้องและครบถ้วนแล้ว ให้ผู้อนุญาตออก
หลักฐานการชําระค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้รับอนุญาตตามแบบที่อธิบดีประกาศกําหนดภายในสามวันนับแต่
วันที่ได้รับชําระค่าธรรมเนียมดังกล่าว
ข้อ ๔ ผู้ รั บ อนุ ญ าตต้ อ งแสดงหลั ก ฐานการชํ า ระค่ า ธรรมเนี ย มการประกอบกิ จ การ
สถานประกอบการเพื่อ สุ ข ภาพรายปีไ ว้ ใ นที่เปิ ด เผยและมองเห็ น ได้ ชั ด เจน ณ สถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพนั้น
กฎกระทรวง
การยื่ น คํ า ขอตามวรรคหนึ่ ง ผู้ ยื่ น คํ า ขออาจยื่ น คํ า ขอผ่ า นระบบอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ก็ ไ ด้ ทั้ ง นี้
ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกําหนด
คํ า ขอชํ า ระค่ า ธรรมเนี ย มตามวรรคหนึ่ ง ให้ เ ป็ น ไปตามแบบที่ อ ธิ บ ดี กํ า หนดโดยประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษา
กฎกระทรวง
กฎกระทรวง
กําหนดบริการอื่นในกิจการสปา
พ.ศ. ๒๕๖๐
(๑๙) การอบซาวน่า
(๒๐) การอบไอน้ํา
(๒๑) การอาบด้วยทรายร้อน
(๒๒) ชิบอล
(๒๓) ไทเก็ก
กฎกระทรวง
(๒๔) ไทชิ
(๒๕) พิลาทิส
(๒๖) ฟิตบอล
(๒๗) โยคะ
(๒๘) ฤาษีดัดตน
(๒๙) แอโรบิก
กฎกระทรวง
จึงจําเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
กฎกระทรวง
การอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๖๐
ข้อ ๕ เมื่ อ ได้ รั บ คํ า ขอรั บ ใบอนุ ญ าตแล้ ว ให้ ผู้ อ นุ ญ าตออกใบรั บ คํ า ขอให้ แ ก่ ผู้ ข อ
รับใบอนุญาตไว้เป็นหลักฐาน
ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคําขอรับใบอนุญาต หากผู้อนุญาตเห็นว่าคําขอรับใบอนุญาต
หรื อ เอกสารหรื อ หลั ก ฐานที่ ยื่ น พร้ อ มกั บ คํ า ขอรั บ ใบอนุ ญ าตในเรื่ อ งใดไม่ ถู ก ต้ อ งหรื อ ไม่ ค รบถ้ ว น
กฎกระทรวง
ให้ ผู้อ นุ ญ าตมีห นัง สื อ แจ้ งให้ผู้ ข อรั บใบอนุ ญาตทราบพร้ อ มด้ วยเหตุ ผ ลเพื่อ แก้ ไขให้ แล้ ว เสร็จ ภายใน
สามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือนั้น
ในกรณี ที่ ผู้ ข อรั บ ใบอนุ ญ าตไม่ แ ก้ ไ ขเพิ่ ม เติ ม คํ า ขอรั บ ใบอนุ ญ าตหรื อ ไม่ จั ด ส่ ง เอกสารหรื อ
หลักฐานให้ถูกต้องและครบถ้วนภายในระยะเวลาตามวรรคสอง ให้ถือว่าผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ประสงค์
จะให้ดําเนินการต่อไป และให้ผู้อนุญาตจําหน่ายเรื่องออกจากสารบบ
ข้อ ๖ ในกรณีที่คําขอรับใบอนุญาตและเอกสารและหลักฐานถูกต้องและครบถ้วนแล้ว
ให้ ผู้ อ นุ ญ าตพิ จ ารณาคํ าขอ โดยผู้ อ นุ ญ าตจะมี คํ าสั่ ง อนุ ญ าตได้ ต่ อ เมื่ อ ปรากฏว่ าผู้ ข อรั บ ใบอนุ ญ าต
มี คุ ณ สมบั ติ แ ละไม่ มี ลั ก ษณะต้ อ งห้ า มตามมาตรา ๑๓ และสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพเป็ น ไป
ตามมาตรฐานที่กําหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในมาตรา ๒๖
ผู้ อ นุ ญ าตต้ อ งแจ้ ง ผลการพิ จ ารณาไปยั ง ผู้ ข อรั บ ใบอนุ ญ าตทราบภายในหกสิ บ วั น นั บ แต่
วันที่ได้รับคําขอพร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานดังกล่าวครบถ้วน ในกรณีที่มีเหตุผลหรือความจําเป็น
ไม่อาจพิจารณาให้แล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว อาจขยายระยะเวลาการพิจารณาออกไปได้อีก
ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินสามสิบวัน แต่ต้องมีหนังสือแจ้งเหตุผลหรือความจําเป็นนั้นให้ผู้ยื่นคําขอ
ทราบก่อนครบกําหนดระยะเวลาดังกล่าว
ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคําสั่งไม่อนุญาต ให้ผู้อนุญาตมีหนังสือแจ้งให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบ
พร้อมด้วยเหตุผลและสิทธิอุทธรณ์ ทั้งนี้ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีคําสั่งไม่อนุญาต
ข้อ ๗ ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคําสั่งอนุญาต ให้มีหนังสือแจ้งผู้ขอรับใบอนุญาตทราบ และ
ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตมาชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งดังกล่าว
เมื่อผู้ขอรับใบอนุญาตได้ชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตแล้ว ให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตให้ตามแบบ
ที่กําหนดไว้ท้ายกฎกระทรวงนี้ ทั้งนี้ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับชําระค่าธรรมเนียม
ในกรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตภายในระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง
ให้ถือว่าผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ประสงค์จะรับใบอนุญาต และให้ผู้อนุญาตจําหน่ายเรื่องออกจากสารบบ
เพื่ออํานวยความสะดวกแก่ผู้ขอรับใบอนุญาต ผู้อนุญาตจะแจ้งให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบ
ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปพร้อมกับหนังสือแจ้งตามวรรคหนึ่งด้วยก็ได้
หมวด ๒
การขอต่ออายุใบอนุญาต และการให้ต่ออายุใบอนุญาต
ข้อ ๘ ผู้ รั บ อนุ ญ าตที่ ป ระสงค์ จ ะขอต่ อ อายุ ใ บอนุ ญ าต ให้ ยื่ น คํ า ขอต่ อ อายุ ใ บอนุ ญ าต
ต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอต่ออายุใบอนุญาตภายในเก้าสิบวัน
กฎกระทรวง
ก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ
ให้นําความในข้อ ๕ ข้อ ๖ และข้อ ๗ มาใช้บังคับแก่การพิจารณาคําขอต่ออายุใบอนุญาต
และการอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตโดยอนุโลม
ข้อ ๙ ในกรณีที่ความปรากฏต่อผู้อนุญาตไม่ว่าโดยทางใด ๆ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ตามข้อ ๘ ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กําหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในมาตรา ๒๖ ผู้อนุญาต
มีหน้าที่แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ยื่นคําขอดําเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามมาตรฐานภายในระยะเวลาที่กําหนด
หากผู้ยื่นคําขอไม่ดําเนินการแก้ไขภายในกําหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้ผู้อนุญาตพิจารณาสั่งไม่อนุญาต
ให้ต่ออายุใบอนุญาต
หมวด ๓
การขอโอนใบอนุญาต การขอรับโอนใบอนุญาต และการอนุญาต
ข้อ ๑๐ ผู้รับอนุญาตซึ่งประสงค์จะโอนใบอนุญาตให้แก่บุคคลอื่นให้ยื่นคําขอโอนใบอนุญาต
ต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอโอนใบอนุญาต
ให้นําความในข้อ ๕ และข้อ ๖ วรรคสาม มาใช้บังคับแก่การพิจารณาคําขอโอนใบอนุญาต
โดยอนุโลม
ุ สมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ ให้ผู้อนุญาต
ในกรณีที่ผู้รับโอนใบอนุญาตมีคณ
มีคําสั่งอนุญาตและมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาไปยังผู้ยื่นคําขอภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคําขอ
พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานดังกล่าวครบถ้วน
ให้ ผู้ อ นุ ญ าตออกใบอนุ ญ าตให้ แ ก่ ผู้ รั บ โอนใบอนุ ญ าตโดยมี ร ะยะเวลาและเงื่ อ นไข
ตามใบอนุญาตเดิม และให้กํากับคําว่า “โอนใบอนุญาต” พร้อมชื่อผู้โอนไว้ที่มุมบนด้านซ้าย และ
ระบุวัน เดือน ปี ที่ออกใบอนุญาตดังกล่าวไว้ด้วย สําหรับใบอนุญาตเดิมให้ประทับตรายกเลิกการใช้
ด้วยอักษรสีแดง
ข้อ ๑๑ ในกรณีที่ ผู้รั บอนุ ญาตถึง แก่ ความตาย หากผู้ จัด การมรดกหรือ ทายาทประสงค์
จะประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อ สุขภาพต่อไป ให้ยื่นคําขอรับโอนใบอนุญาตต่อ ผู้อ นุญาต
พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอรับโอนใบอนุญาตภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่
ผู้รับอนุญาตตาย
กฎกระทรวง
ข้อ ๑๒ ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหาย ถูกทําลาย หรือชํารุดในสาระสําคัญ ให้ผู้รับอนุญาต
ยื่นคําขอรับใบแทนใบอนุญาตต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอ
รับ ใบแทนใบอนุญ าต ภายในสามสิ บวั นนั บแต่ วัน ที่ ได้ ทราบถึ งการสู ญหาย ถู ก ทําลาย หรื อ ชํารุ ด
ในสาระสําคัญดังกล่าว รวมทั้งให้ส่งคืนใบอนุญาตฉบับเดิมที่ชํารุดหรือยื่นหลักฐานการแจ้งความกรณี
สูญหายหรือถูกทําลาย
ให้นําความในข้อ ๕ และข้อ ๗ มาใช้แก่การออกใบแทนใบอนุญาตด้วยโดยอนุโลม ทั้งนี้
ในการออกใบแทนใบอนุญาต ให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตใหม่ตามใบอนุญาตเดิม โดยให้กํากับคําว่า
“ใบแทน” ไว้ที่มุมบนด้านซ้าย และระบุวัน เดือน ปี ที่ออกใบแทนใบอนุญาตไว้ด้วย
หมวด ๕
การเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาต
กระทรวงสาธารณสุข
ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
........................................
ใบอนุญาตเลขที่ .............. (ใบอนุญาตเดิมเลขที่ ..............)
ใบอนุญาตฉบับนี้ให้ไว้เพื่อแสดงว่า
.......................................................................................
(...............................................)
ผู้อนุญาต
กฎกระทรวง
ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและแบบใบอนุญาต เป็นไปตามแบบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่ อนไขที่กําหนด
ในกฎกระทรวง จึงจําเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
กฎกระทรวง
การอนุญาตเป็นผู้ดําเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๖๐
ข้อ ๔ ในกรณีที่คําขอรับใบอนุญาตและเอกสารและหลักฐานถูกต้องและครบถ้วนแล้ว
ให้ ผู้ อ นุ ญ าตพิ จ ารณาคํ าขอ โดยผู้ อ นุ ญ าตจะมี คํ าสั่ ง อนุ ญ าตได้ ต่ อ เมื่ อ ปรากฏว่ าผู้ ข อรั บ ใบอนุ ญ าต
มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๑
ผู้อนุญาตต้องแจ้งผลการพิจารณาไปยังผู้ขอรับใบอนุญาตทราบภายในหกสิบวันนับแต่วันที่
กฎกระทรวง
ได้รับคําขอพร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานดังกล่าวครบถ้วน ในกรณีที่มีเหตุผลหรือความจําเป็นที่ไม่อาจ
พิจารณาให้แล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว อาจขยายระยะเวลาการพิจารณาออกไปได้อีกไม่เกิน
สองครั้ง ครั้งละไม่เกินสามสิบวัน แต่ต้องมีหนังสือแจ้งเหตุผลหรือความจําเป็นนั้นให้ผู้ยื่นคําขอทราบ
ก่อนครบกําหนดระยะเวลาดังกล่าว
ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคําสั่งไม่อนุญาต ให้ผู้อนุญาตมีหนังสือแจ้งให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบ
พร้อมด้วยเหตุผลและสิทธิอุทธรณ์ ทั้งนี้ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีคําสั่งไม่อนุญาต
ข้อ ๕ ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคําสั่งอนุญาต ให้มีหนังสือแจ้งผู้ขอรับใบอนุญาตทราบและ
ให้ ผู้ ข อรั บ ใบอนุ ญ าตมาชํา ระค่ า ธรรมเนี ย มใบอนุญ าตภายในหกสิ บ วั น นั บแต่ วั น ที่ ไ ด้ รั บ หนั ง สื อ แจ้ ง
ดัง กล่ าว เมื่ อ ผู้ ขอรั บ ใบอนุ ญ าตได้ชํ า ระค่ า ธรรมเนี ยมใบอนุ ญ าตแล้ ว ให้ ผู้ อ นุญ าตออกใบอนุ ญ าต
ให้ตามแบบที่กําหนดไว้ท้ายกฎกระทรวงนี้ ทั้งนี้ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รบั ชําระค่าธรรมเนียม
ในกรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ชําระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตภายในระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง
ให้ถือว่าผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ประสงค์จะรับใบอนุญาต และให้ผู้อนุญาตจําหน่ายเรื่องออกจากสารบบ
เพื่ออํานวยความสะดวกแก่ผู้ขอรับใบอนุญาต ผู้อนุญาตจะแจ้งให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบ
ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปพร้อมกับหนังสือแจ้งตามวรรคหนึ่งด้วยก็ได้
ข้อ ๖ ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหาย ถูกทําลาย หรือชํารุดในสาระสําคัญ ให้ผู้ดําเนินการ
ยื่นคําขอรับใบแทนใบอนุญาตต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอ
รับใบแทนใบอนุญาต ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับทราบถึงการสูญหาย ถูกทําลาย หรือชํารุด
ในสาระสําคัญดังกล่าว รวมทั้งให้ส่งคืนใบอนุญาตฉบับเดิมที่ชํารุดหรือยื่นหลักฐานการแจ้งความกรณี
สูญหายหรือถูกทําลาย
ให้นําความในข้อ ๓ และข้อ ๕ มาใช้แก่การออกใบแทนใบอนุญาตด้วยโดยอนุโลม ทั้งนี้
ในการออกใบแทนใบอนุญาต ให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตใหม่ตามใบอนุญาตเดิม โดยให้กํากับคําว่า
“ใบแทน” ไว้ที่มุมบนด้านซ้าย และระบุวัน เดือน ปี ที่ออกใบแทนใบอนุญาตไว้ด้วย
ข้อ ๗ ผู้ดําเนินการซึ่งประสงค์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาต ให้ยื่นคําขอ
เปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการดังกล่าวต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบ
คําขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาต
แก้ไขรายการในใบอนุญาต ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ ๙ การยื่นคําขอตามกฎกระทรวงนี้ ให้ยื่น ณ สถานที่ ดังต่อไปนี้
(๑) ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
(๒) ในจังหวัดอื่น ให้ยื่น ณ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด
(๓) สถานที่ อื่ น ตามที่ อ ธิ บ ดี กํ า หนดโดยประกาศในราชกิ จ จานุ เ บกษา โดยคํ า นึ ง ถึ ง
การอํานวยความสะดวกและการลดภาระแก่ผู้ยนื่ คําขอ
การยื่ น คํ า ขอตามวรรคหนึ่ ง ผู้ ยื่ น คํ า ขออาจยื่ น คํ า ขอผ่ า นระบบอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ก็ ไ ด้ ทั้ ง นี้
ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกําหนด
กฎกระทรวง
ใบอนุญาตเป็นผู้ดําเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ประเภท..................................................................
ใบอนุญาตเลขที่ …………….
ใบอนุญาตฉบับนี้ให้ไว้เพื่อแสดงว่า
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
(……………………………….........)
ผู้อนุญาต
ติดรูปถ่าย
ขนาด
๕x๖
เซนติเมตร
กฎกระทรวง
กฎกระทรวง
การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๖๐
ผู้อนุญาตต้องแจ้งผลการพิจารณาไปยังผู้ขอขึ้นทะเบียนทราบภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้
รับคําขอพร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานดังกล่าวครบถ้วน ในกรณีที่มีเหตุผลหรือความจําเป็นที่ไม่อาจ
พิจารณาให้แล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว อาจขยายระยะเวลาการพิจารณาออกไปได้อีกไม่เกินสองครั้ง
ครั้งละไม่เกิ นสามสิบวัน แต่ต้ องมีห นังสือ แจ้งเหตุผ ลหรือความจําเป็นนั้ นให้ผู้ข อขึ้นทะเบีย นทราบ
กฎกระทรวง
ก่อนครบกําหนดระยะเวลาดังกล่าว
ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคําสั่งไม่รับขึ้นทะเบียน ให้ผู้อนุญาตมีหนังสือแจ้งให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนทราบ
พร้อมด้วยเหตุผลและสิทธิอุทธรณ์ ทั้งนี้ ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีคําสั่งไม่รับขึ้นทะเบียน
ข้อ ๕ ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคําสั่งรับขึ้นทะเบียน ให้มีหนังสือแจ้งผู้ขอขึ้นทะเบียนมารับ
ใบรับรองภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งดังกล่าว แต่หากผู้ขอขึ้นทะเบียนไม่มารับใบรับรอง
ภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าผู้ขอขึ้นทะเบียนไม่ประสงค์จะขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการ และ
ให้ผู้อนุญาตจําหน่ายเรื่องออกจากสารบบ
ข้อ ๖ ในกรณีที่ใบรับรองสูญหาย ถูกทําลาย หรือชํารุดในสาระสําคัญ ให้ผู้ให้บริการ
ยื่นคําขอรับใบแทนใบรับรองต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอรับ
ใบแทนใบรับรอง ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้ทราบถึงการสูญหาย ถูกทําลาย หรือชํารุดในสาระสําคัญ
ดังกล่าว รวมทั้งให้ส่ งคื น ใบรับ รองฉบั บเดิ มที่ ชํารุ ด หรือยื่ น หลักฐานการแจ้ งความกรณี สูญหายหรื อ
ถูกทําลาย
ให้นําความในข้อ ๓ และข้อ ๕ มาใช้แก่การออกใบแทนใบรับรองด้วยโดยอนุโลม ทั้งนี้
ในการออกใบแทนใบรับ รอง ให้ผู้ อ นุ ญ าตออกใบรับรองใหม่ต ามใบรับรองเดิม โดยให้กํ ากั บคํ าว่ า
“ใบแทน” ไว้ที่มุมบนด้านซ้าย และระบุวัน เดือน ปี ที่ออกใบแทนใบรับรองไว้ด้วย
ข้อ ๗ ผู้ให้บริการที่ประสงค์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว ให้ยื่นคําขอ
เปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการดังกล่าวต่อผู้อนุญาต พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคําขอ
เปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการ
ให้นําความในข้อ ๓ และข้อ ๕ มาใช้แก่การเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ด้วย
โดยอนุโลม ทั้งนี้ ในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการที่ได้ขึ้นทะเบียน ให้ผู้อนุญาตออกใบรับรองใหม่
โดยมีสาระสําคัญตามใบรับรองเดิม และให้ประทับตรายกเลิกการใช้ใบรับรองเดิมด้วยอักษรสีแดง
ข้อ ๘ คําขอขึ้นทะเบียน ใบรับคําขอ ใบรับรอง คําขอรับใบแทนใบรับรอง และคําขอ
เปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการที่ขึ้นทะเบียน ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ ๙ การยื่นคําขอตามกฎกระทรวงนี้ ให้ยื่น ณ สถานที่ ดังต่อไปนี้
กฎกระทรวง
การยื่ น คํ า ขอตามวรรคหนึ่ ง ผู้ ยื่ น คํ า ขออาจยื่ น คํ า ขอผ่ า นระบบอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ก็ ไ ด้ ทั้ ง นี้
ตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกําหนด
กฎกระทรวง
กฎกระทรวง
กําหนดมาตรฐานด้านสถานที่ ความปลอดภัย และการให้บริการ
ในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปา และกิจการนวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมความงาม
พ.ศ. ๒๕๖๐
(๗) มีระบบการควบคุมพาหะนําโรคตามหลักสุขาภิบาล
(๘) มีการจัดบริเวณสถานที่ที่ให้บริการที่เหมาะสม โดยในกรณีที่เป็นสถานที่ที่ให้บริการ
เฉพาะบุคคลต้องไม่มีลักษณะมิดชิดหรือลับตาจนเกินไป
(๙) มีการตกแต่งสถานที่ที่เหมาะสม และต้องไม่มีลักษณะที่ทําให้เสื่อมเสียศีลธรรม หรือ
ขัดต่อวัฒนธรรมและประเพณีอันดี
กฎกระทรวง
กฎกระทรวง
และการใช้อุปกรณ์นั้นเป็นอย่างดี เป็นผู้รับผิดชอบและมีหน้าที่คอยตรวจตราดูแลการให้บริการและ
การใช้อุปกรณ์ดังกล่าวทั้งในขณะใช้งานและหลังจากการใช้งาน
(๒) มีนาฬิกาที่สามารถมองเห็นและอ่านเวลาได้โดยง่ายและชัดเจนจากบริเวณที่ผู้รับบริการ
กําลังใช้บริการอยู่
(๓) มีระบบฉุกเฉินซึ่งสามารถหยุดการทํางานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติในทันที
ที่ เ กิ ด ภาวะซึ่ ง อาจเป็ น อั น ตรายต่ อ ผู้ รั บ บริ ก าร และการเข้ า ถึ ง เพื่ อ ใช้ ร ะบบฉุ ก เฉิ น นั้ น ต้ อ งสามารถ
กระทําได้โดยง่ายและสะดวกในเวลาที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
(๔) มีเครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติหรือเครื่องตั้งเวลา แล้วแต่กรณี
เพื่อให้พนักงานผู้รับผิดชอบอุปกรณ์สามารถปรับและควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในสภาวะที่ปลอดภัยสําหรับ
ผู้รับบริการได้ตลอดเวลา
ข้อ ๖ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปาต้องดําเนินการตามหลักเกณฑ์
ดังต่อไปนี้
(๑) มีระบบคัดกรองผู้รับบริการที่อาจมีความเสี่ยงต่อการเข้าใช้บริการในบางกรณี โดยห้าม
สตรีมีครรภ์ ผู้ใช้ยาบางประเภทที่อาจเกิดปัญหาได้เมื่อเข้าไปใช้อุปกรณ์บางชนิด ผู้ซึ่งดื่มสุราหรือ
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มาก่อนเข้าใช้บริการ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ป่วยโรคหัวใจ
เข้าใช้อุปกรณ์หรือบริการที่เสี่ยงต่อภาวะนั้น
(๒) ต้ อ งดู แ ลและควบคุ ม คุ ณ ภาพน้ํ า ที่ ใ ช้ สํ า หรั บ การให้ บ ริ ก ารให้ มี คุ ณ สมบั ติ ท างเคมี
ที่มีความปลอดภัยและไม่เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค
ข้อ ๗ สถานประกอบการเพื่อ สุขภาพประเภทกิจการนวดเพื่อสุขภาพหรือกิจการนวด
เพื่อเสริมความงามต้องระมัดระวังมิให้ผู้รับบริการที่มีความเสี่ยงจากอายุหรือภาวะโรคประจําตัวมาใช้บริการ
อันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
หมวด ๓
มาตรฐานด้านการให้บริการ
(๑) การให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพต้องไม่ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการประกอบ
โรคศิ ลปะ กฎหมายเกี่ ยวกับการประกอบวิ ชาชี พ ทางการแพทย์ แ ละสาธารณสุ ข กฎหมายว่ าด้ ว ย
สถานบริการหรือกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
(๒) ต้องแสดงรายการการให้บริการและอัตราค่าบริการไว้ในที่เปิดเผยและมองเห็นได้ง่าย
หรือสามารถตรวจสอบได้ ณ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
กฎกระทรวง
(๓) ต้องไม่จัดให้มีบริการอื่นใดที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการในสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ
(๔) ต้อ งกํ า หนดให้มี เ ครื่ อ งแบบสํา หรั บ ผู้ ให้ บ ริ การ โดยเป็น เครื่ อ งแบบที่รั ด กุ ม สุ ภ าพ
สะอาดเรียบร้อยและสะดวกต่อการปฏิบัติงาน และต้องมีป้ายชื่อผู้ให้บริการติดไว้ที่บริเวณหน้าอก
(๕) มีการกําหนดเวลาเปิดและปิดของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ชัดเจนและแน่นอน
โดยสามารถกําหนดเวลาเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ นาฬิกา และให้บริการได้ไม่เกินเวลา
๒๔.๐๐ นาฬิกา
ข้อ ๙ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปาต้องมีการจัดทําทะเบียนประวัติ
ผู้รับบริการไว้เป็นหลักฐานตามแบบที่อธิบดีประกาศกําหนด
กฎกระทรวง
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการ
ตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๕๙ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙”
ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดํารงตําแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่
เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙
(๑) สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
(ก) ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
(ข) รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข
(ค) ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข
(ง) สาธารณสุขนิเทศก์
(๒) กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
(ก) อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
(ข) รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
(ค) ผู ้ อํ า นวยการสํ า นั ก บริ ห าร ผู ้ อํ า นวยการสํ า นั ก สถานพยาบาล และการ
ประกอบโรคศิ ล ปะ ผู้ อํ า นวยการกองกฎหมาย ผู้ อํ า นวยการกองสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
ผู้อํานวยการกองสุขภาพระหว่างประเทศ ผู้อํานวยการกองวิศวกรรมการแพทย์ ผู้อํานวยการกองแบบแผน
ผู้อํานวยการกองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน และผู้อํานวยการกองสุขศึกษา
(ง) ข้าราชการพลเรือนหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดํารงตําแหน่งไม่ต่ํากว่าข้าราชการพลเรือน
สามั ญ ระดับ ปฏิ บั ติ ก ารหรื อ เทีย บเท่ า ในตํ า แหน่ ง นายแพทย์ ทั น ตแพทย์ เภสั ช กร นิ ติ กร วิ ศวกร
นักวิชาการสาธารณสุข นักทะเบียนวิชาชีพ นักจัดการงานทั่วไปและนักวิเคราะห์นโยบายและแผน ที่ปฏิบัติงานใน
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพหรือสํานักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กองกฎหมาย กองสถาน
ประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ กองสุ ข ภาพระหว่ า งประเทศ กองวิ ศ วกรรมการแพทย์ กองแบบแผน
กองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน และกองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ข้อ ๔ ให้ข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดํารงตําแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่
เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ ทั้งนี้ เฉพาะในเขตท้องที่
ที่มีอํานาจหน้าที่ดูแลและรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เรื่อง แบบบัตรประจําตัวพนักงานเจ้าหน้าที่
ตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ก่อนวันยื่นคําขอมีบัตรประจําตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นรูปถ่ายครึ่งตัว ขนาด ๒.๕ × ๓ เซนติเมตร หน้าตรง
แต่งเครื่องแบบปกติ หรือเครื่องแบบที่ตนสังกัด ไม่สวมหมวก และไม่สวมแว่นตาดํา
ข้อ ๕ ให้ อ ธิ บ ดี ก รมสนั บ สนุ น บริ ก ารสุ ข ภาพหรื อ ผู้ ซึ่ ง อธิ บ ดี ก รมสนั บ สนุ น บริ ก ารสุ ข ภาพ
มอบหมายเป็นผู้ออกบัตรประจําตัวพนักงานเจ้าหน้าที่
ข้อ ๖ บัตรประจําตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ใช้ได้ตามระยะเวลาที่กําหนดไว้ในบัตร แต่ต้องไม่เกินห้าปี
นับแต่วันออกบัตรหรือเมื่อพ้นตําแหน่งที่ได้รับแต่งตั้ง
(ด้านหน้า)
วันออกบัตร....../........./......... บัตรหมดอำยุ......./........./..........
๘.๕ ซม.
(ด้านหลัง)
เลขที่.........................................................
รูปถ่ำยขนำด ชื่อ.............................................................
๒.๕ x ๓ ซม.
ไม่เกิน ๖ เดือน ตำแหน่ง......................................................
หน้ ำตรงไม่สวมหมวก สังกัด..........................................................
๕.๕ ซม.
พนักงำนเจ้ ำหน้ ำที่ตำมพระรำชบัญญัติ
สถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ พ.ศ. ๒๕๕๙
....................... ............................
ลำยมือชื่อ ตำแหน่ง ............................
ผู้ออกบัตร
๘.๕ ซม.
ตรำครุฑหรือตรำกระทรวงสำธำรณสุข
แล้ วแต่กรณี
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เรื่อง หลักเกณฑ์การใช้ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กํากับไว้ท้ายชื่ออักษรภาษาไทยด้วยก็ได้
(๒) ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพจะต้องไม่ใช้คําหรือข้อความที่มีลักษณะชักชวนหรือโอ้อวด
เกินความจริง หรือทําให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าสถานที่ดังกล่าวว่ามีการบําบัดรักษาโรค
(๓) ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพต้องไม่สื่อความหมายในทางลามก อนาจาร หรือขัดต่อความสงบ
เรียบร้อย ขนบธรรมเนียม ศีลธรรมอันดีงาม
(๔) ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่สื่อความหมายหรืออ้างอิงสถาบันพระมหากษัตริย์จะกระทํามิได้
เว้นแต่ได้รับพระบรมราชานุญาตหรือพระราชานุญาต
ข้อ ๔ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกันจะต้องมีชื่อที่ไม่ซ้ํากัน เว้นแต่
กรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพใหม่ และผู้ได้รับใบอนุญาต
ให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเดิมเป็นบุคคลหรือนิติบุคคลเดียวกันหรือมีหนังสือยินยอม
จากผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเดิมให้ใช้ชื่อซ้ํากันได้ แต่ต้องมีตัวอักษร
หรือหมายเลขเรียงลําดับหรือที่ตั้งสถานที่ต่อท้ายชื่อ
ข้อ ๕ ผู้รับอนุญาตต้องแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ได้รับอนุญาต
ในที่เปิดเผย ณ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพนั้นอย่างน้อยหนึ่งป้าย ดังต่อไปนี้
(๑) ให้ จั ด ทํา เป็ น แผ่ น ป้ า ยแสดงชื่ อ สถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพเป็ น ตั ว อั ก ษรไทย
กรณี ใ ช้ ภ าษาต่ า งประเทศด้ วยขนาดตั วอั กษรต้ องเล็ กกว่ าอั กษรไทย โดยระบุ ประเภทกิ จการของ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพไว้ในแผ่นป้ายชื่อดังกล่าวด้วย
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เรื่อง สถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ต้องมีผู้ดําเนินการ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
วิศิษฎ์ ตั้งนภากร
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการในการเปรียบเทียบ
ตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๕๙
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เปรียบเทียบโดยไม่ชักช้า
ถ้าผู้ต้องหาให้การปฏิเสธหรือไม่ยินยอมให้เปรียบเทียบ ให้บันทึกคําให้การไว้ตามแบบ สป. ๓
ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๗ ในการเปรี ย บเที ย บปรั บ ให้ ผู้ อ นุ ญ าตทํ า การเปรี ย บเที ย บปรั บ ผู้ ก ระทํ า ความผิ ด
ตามอัตราในบัญชีท้ายประกาศนี้ หรือในอัตราตามที่เห็นสมควรตามที่กฎหมายกําหนด โดยให้คํานึงถึง
จํานวนครั้งของการกระทําความผิดความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งการกระทําความผิด ทั้งนี้
อาจไม่เป็นไปตามอัตราในบัญชีท้ายประกาศนี้ก็ได้
ข้อ ๘ ในกรณีที่ผู้อนุญาตเห็นว่าควรดําเนินคดีกับผู้ต้องหา หรือ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
หรือไม่ให้ความยินยอมให้เปรียบเทียบ หรือไม่ชําระค่าปรับภายในเวลาที่กําหนด หรือผู้ต้องหากระทํา
ความผิดเดิมซ้ําสําหรับความผิดที่มีโทษจําคุก ให้ผู้อนุญาตส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดําเนินคดีต่อไป
ข้อ ๙ การรับเงิน การเก็บรักษาเงินและการนําเงินค่าปรับที่ทําการเปรียบเทียบปรับส่งคลัง
(๑) ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบนําส่งชําระเงินให้ผู้ต้องหาไปชําระเงิน
ค่าปรับที่กลุ่มคลัง กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และให้เจ้าหน้าที่กลุ่มคลังออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้ต้องหา
โดยระบุรายละเอียดในใบเสร็จให้มีข้อความแสดงว่าเป็นใบเสร็จรับเงินค่าเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙
(๒) ในเขตจังหวัด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบนําส่งชําระเงินให้ผู้ต้องหาไปชําระเงินค่าปรับ
ที่สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดนั้น ๆ และให้ออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้ต้องหา โดยระบุรายละเอียดในใบเสร็จ
ให้มีข้อความแสดงว่าเป็นใบเสร็จรับเงินค่าเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๕๙
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
..............................................................................................................................................................................
และตรวจสอบหลั ก ฐานทางทะเบี ย นแล้ ว ปรากฏว่ า สถานที่ ดั ง กล่ า วได้ รั บ อนุ ญ าตให้ ป ระกอบกิ จ การ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ โดยมี ........................................................................................ เป็นผู้รับอนุญาต
และ ............................................................................................................................. ..... เป็นผู้ดาเนินการ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ โดยพบว่ากระทาความผิดตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. 2559 มาตรา ....................................................... ฐานความผิด ..............................................................
.............................................................................................................................................................................
ซึ่งความผิดดังกล่าวเป็นความผิดที่สามารถเปรียบเทียบได้
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ/สานักงานสาธารณสุขจังหวัด จึงขอให้ ......................................
ไปพบคณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบ ณ...............................................................................................
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ ............ เดือน ..................................... พ.ศ. ............. ในวันเวลาราชการ
เพื่ อ ด าเนิ น การเปรีย บเที ย บให้ เป็ น ไปตามกฎหมาย หากไม่ ไปพบภายในวัน และเวลาที่ ก าหนดไว้ ข้ างต้ น
ทางราชการจะส่งเรื่องให้ พ นักงานสอบสวนดาเนิ นคดีตามพระราชบั ญ ญั ติส ถานประกอบการเพื่ อสุขภาพ
พ.ศ. 2559 ต่อไป
อนึ่ง เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเปรียบเทียบของท่านขอได้โปรดไปพบคณะกรรมการ
กลั่นกรองเปรียบเทียบ ในวันที่ .......... เดือน ...................... พ.ศ. ......... เวลา ............. น. ถึง ............. น. ด้วย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดไปพบคณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบตามวัน เวลา และสถานที่
ดังกล่าวข้างต้น ต่อไปด้วย จะเป็นพระคุณ
ขอแสดงความนับถือ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ลงชื่อ ........................................................ กรรมการ
(....................................................)
.....................................
(.............................................)
ผู้อนุญาต
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
มาตรา .................. ข้อหากระทาผิดฐาน .............................................................................................................
มีบทลงโทษตามมาตรา ................ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน ............... หรือปรับไม่เกิน ......................... บาท
ซึ่งผู้ มีอานาจเปรีย บเทียบได้พิจารณาและมีคาสั่งให้ทาการเปรียบเทียบปรับ ได้ และให้ ทาการเปรียบเที ย บ
ปรับเป็นเงิน จานวน ................................ บาท (.....................................................) นั้น
ข้าพเจ้า .......................................................................... ได้รับทราบข้อกล่าวหาข้างต้น
แล้วแต่ไม่ยินยอมให้ผู้มีอานาจเปรียบเทียบทาการเปรียบเทียบ เพราะ
ข้าพเจ้าไม่ได้กระทาผิด
จานวนค่าปรับสูง
เหตุอื่น ๆ (โปรดระบุ) .............................................................................................
คณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบได้อ่านให้ผู้ต้องหาฟังแล้ว รับรองว่าถูกต้องและเป็นไป
ตามวัตถุประสงค์ของผู้ต้องหา จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสาคัญต่อหน้าคณะกรรมการกลั่นกรองเปรียบเทียบ
บันทึกการชาระเงิน
ใบเสร็จรับเงินเล่มที่ ...................... เลขที่ ........................
วันที่ .............. เดือน ................................... พ.ศ. ...........
จานวนเงินค่าปรับ ............................................. บาท
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
2. วัน เวลา และ เหตุ เกิ ดเมื่ อ วัน ที่ ................. เดื อน .................................. พ.ศ. ................... ............
สถานที่เกิดเหตุ สถานที่เกิดเหตุ ......................................................................................................................
................................................................................................................................................
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ฐาน ......................................................................................................................... ..................................
และได้รับคาสั่งให้ทาการเปรียบเทียบปรับผู้กระทาความผิด ตามมาตรา ...........................................................
เป็นเงิน ............................................. บาท (................................................................. ) นั้น
จึงขอส่งตัวผู้กระทาความผิดตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2560
ดังกล่าว เพื่อชาระค่าปรับตามฐานความผิดและจานวนเงินดังกล่าวข้างต้น
จึงเรียนมาเพื่อโปรดดาเนินการต่อไปด้วย จะเป็นพระคุณ
ลงชื่อ ………………………………………..
พนักงานเจ้าหน้าที่
๗๔
บัญชีอัตราค่าปรับตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559
กรณีที่มีโทษจาคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท
ใช้ชื่อหรือคำแสดงชื่อในธุรกิจว่ำ “สถำน
3 ประกอบกำรเพื่อสุขภำพ”“กิจกำรสปำ”
1. นิยำมคำว่ำ “นวดเพื่อสุขภำพหรือเพื่อเสริมควำมงำม” 41 ปรับไม่เกิน 40,000 บำท 20,000 30,000 40,000
“สถำน หรือกิจกำรอื่นตำมที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออก
ประกอบกำร ตำมควำมใน (๓) ของบทนิยำมคำว่ำ “สถำน
เพื่อสุขภำพ” ประกอบกำรเพื่อสุขภำพ” ในมำตรำ ๓ หรือ
คำอื่นใดที่มีควำมหมำยเช่นเดียวกันในประกำร
ที่อำจทำให้ประชำชนเข้ำใจว่ำเป็นสถำน
ประกอบกำรเพื่อสุขภำพโดยมิได้เป็นผู้รับอนุญำต
2. 20 ด ำเนิ น กำรในสถำนประกอบกำรเพื่ อ สุ ข ภำพ 43 ปรับไม่เกิน 20,000 บำท 10,000 15,000 20,000
โด ย ไม่ ได้ รั บ ใบ อ นุ ญ ำ ต เป็ น ผู้ ด ำเนิ น ก ำ ร
๗๕
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
๗๖
ข้อหำควำมผิด ระวำงโทษ อัตรำค่ำปรับกำหนดให้เปรียบเทียบ (บำท)
ลำดับที่ ครั้งที่ 3
มำตรำ ฐำนควำมผิด มำตรำ อัตรำโทษ ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งต่อไป
(อัตรำสูงสุดที่
กฎหมำยกำหนดไว้)
กรณีผู้ดาเนินการไม่ปฏิบัติตามหน้าที่
- ไม่ ค วบคุ ม ดู แ ลมิ ให้ มี ก ำรลั ก ลอบหรื อ มี ก ำรค้ ำ
5. 29 วรรคสอง ประเวณีหรือมีกำรกระทำบริกำรที่ขัดต่อกฎหมำย 45 ปรับไม่เกิน 30,000 บำท 15,000 22,500 30,000
ควำมสงบเรี ย บร้ อ ย และศี ล ธรรมอั น ดี ในสถำน
ประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
- ไม่ควบคุมดูแลมิให้ ห รือยินยอมหรือปล่ อยปละ
๗๗
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
๗๘
ข้อหำควำมผิด ระวำงโทษ อัตรำค่ำปรับกำหนดให้เปรียบเทียบ (บำท)
ลำดับที่ ครั้งที่ 3
มำตรำ ฐำนควำมผิด มำตรำ อัตรำโทษ ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งต่อไป
(อัตรำสูงสุดที่
กฎหมำยกำหนดไว้)
- ไม่ควบคุมดูแลมิให้ ห รือยิ น ยอมหรือปล่ อยปละ
ละเลยให้มีกำรกระทำควำมผิดเกี่ยวกับยำเสพติด
ในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
- ไม่ควบคุมดูแลมิให้ ห รือยิ น ยอมหรือปล่ อยปละ
ละเลยให้ ผู้มีอำกำรมึน เมำจนประพฤติตนวุ่น วำย
หรื อ ครองสติ ไม่ ได้ เข้ ำ ไปในสถำนประกอบกำร
เพื่อสุขภำพระหว่ำงเวลำทำกำร
- ไม่ควบคุมดูแลมิให้ ห รือยิ น ยอมหรือปล่ อยปละ
ละเลยให้มีกำรนำอำวุธเข้ำไปในสถำนประกอบกำร
เพื่อสุขภำพ
ไม่ อ ำนวยควำมสะดวกแก่ พ นั ก งำนเจ้ ำ หน้ ำ ที่
5. 35 วรรคสอง ใน ก ำร ป ฏิ บั ติ ห น้ ำที่ ต ำม พ ระ รำช บั ญ ญั ติ 46 ปรับไม่เกิน 10,000 บำท 5,000 7,500 10,000
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เรื่อง การกําหนดแบบตามกฎกระทรวงซึ่งออกตาม
พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
พ.ศ. ๒๕๕๙
อาศัยอํานาจตามความในข้อ ๓ แห่งกฎกระทรวงการอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๘ แห่งกฎกระทรวงการอนุญาตเป็นผู้ดําเนินการ ในสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๘ แห่งกฎกระทรวงการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการ ในสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๓ วรรคสอง ข้อ ๕ วรรคสาม แห่งกฎกระทรวงกําหนดค่าธรรมเนียมและ
การชําระค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๖๐ และข้อ ๙
แห่งกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานด้านสถานที่ ความปลอดภัย และการให้บริการในสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพประเภทกิจการสปาและกิจการนวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมความงาม พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งออก
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ตามความในพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เรื่อง การกําหนดแบบ
ตามกฎกระทรวงซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙”
ข้อ ๒ ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ แบบคําขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้เป็นไป
ตามแบบ สพส. ๑ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๔ แบบใบรับคําขออนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้เป็นไป
ตามแบบ สพส. ๒ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๕ แบบคํ า ขอต่ อ อายุ ใ บอนุ ญ าตประกอบกิ จ การสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
ให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๓ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๖ แบบคําขอโอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้เป็นไป
ตามแบบ สพส. ๔ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๗ แบบคํ า ขอรั บ โอนใบอนุ ญ าตประกอบกิ จ การสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
กรณีผู้รับอนุญาตถึงแก่ความตาย ให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๕ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๘ แบบคํ า ขอรั บ ใบแทนใบอนุ ญ าตประกอบกิ จ การสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
ให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๖ ท้ายประกาศนี้
ข้อ ๙ แบบคําขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพให้เป็นไปตามแบบ สพส. ๗ ท้ายประกาศนี้
คำขอรับใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เขียนที่ ………………………………………………..
……………………………..………………..
วันที่ …….. เดือน ….……………. พ.ศ. ….…..
๑. ข้าพเจ้า
๑.๑ ชื่อ ………………………………………………………………………………………………………………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
สัญชาติ ………………….. อายุ …… ปี ซึ่งเป็นผู้ยื่นคาขอ/ผู้รับมอบอานาจ (กรณีเป็นผู้รับมอบอานาจต้องแนบใบมอบอานาจด้วย)
๑.๒ นิตบิ ุคคล………..……………….…………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………………………………………………………………………………..………………..………………….…………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
(๒) ……………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (3) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
เป็นผู้มีอานาจลงชื่อแทนนิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาต เป็นนิติบุคคลประเภท ………………………..…………….……….
จดทะเบียนเมื่อ…………………………….………...……..…..เลขทะเบียน …….……………………………………….……………….
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ตาบล/แขวง …………….……………………. อาเภอ/เขต ………………..……………จังหวัด ……………………………….
รหัสไปรษณีย…์ …………………โทรศัพท์ ……………...........…..……….โทรสาร…………..………………………………………
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์…………………….......................................................................................………………………
ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ........................................
5. ข้ า พเจ้ า ขอรั บ รองว่ า เป็ น ผู้ มี คุ ณ สมบั ติ แ ละไม่ มี ลั ก ษณ ะต้ อ งห้ า มตาม มาตรา 13
แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559
6. ข้ าพเจ้ าได้ ด าเนิ น การให้ สถานประกอบการเพื่ อสุ ขภาพเป็ นไปตามมาตรฐานที่ ก าหนดใน
กฎกระทรวงซึ่งออกตามมาตรา 26 ครบถ้วนทุกประการแล้ว
7. มีผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการต่อผู้อนุญาต
จานวน…..…….. คน ดังมีรายชื่อตามบัญชีแนบท้าย
8. ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณา จานวน ......... ฉบับ ดังนี้
(1) แผนที่ แ สดงบริ เวณที่ ตั้ ง สถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ พร้ อ มบรรยายสถานที่ ตั้ ง
โดยสังเขป จานวน 1 ฉบับ
(2) แบบแปลน หรือแผนผังการให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จานวน 1 ชุด
(3) กรณียื่นคาขอในนามนิติบุคคลให้แนบสาเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริคนธ์สนธิ
พร้อ มบัญ ชีผู ้ถ ือ หุ ้น วัต ถุป ระสงค์แ ละผู ้ม ีอ านาจลงชื ่อ แทนนิต ิบ ุค คล (ตามที ่ก าหนดในกฎกระทรวง)
จานวน 1 ฉบับ
ลงชื่อ………….………..……………………………….ผู้ยื่นคาขอ/ผู้รับมอบอานาจ
(……………….…………….………………………)
แบบใบรับคำขออนุญำต
ประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพือ่ สุขภำพ
ชื่อผู้ขออนุญาต .....................................................................................................................................................
สถานที่ชื่อ ............................................................................................................................................................
ประเภทกิจการที่ยื่นคาขอ กิจการสปา กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ………
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ประเภทของการยื่นคาขอ
คาขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
คาขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
คาขอโอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
คาขอรับโอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพกรณี
ผู้รับอนุญาตถึงแก่ความตาย
คาขอรับใบแทนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ค าขอเป ลี่ ย น แป ลงแก้ ไ ขรายการใน ใบ อนุ ญ าตป ระกอบ กิ จ การ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ผลกำรตรวจสอบคำขออนุญำต
เอกสารครบถ้วน ถูกต้อง
ประเภท กิจการสปา
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ เลขที่รับ……………………………….
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม วันที่…………………………………
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน ลงชื่อ………………………ผู้รับคาขอ
กฎกระทรวง ………………………
คำขอต่ออำยุใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
เขียนที่ ………………………………………………..
……………………………..………………..
วันที่ ….….. เดือน ….……………. พ.ศ. ….…..
๑. ข้าพเจ้า
๑.๑ ชื่อ ………………………………………………………………………………………………………………..
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
สัญชาติ …………………..… อายุ …… ปี ซึ่งเป็นผู้ยื่นคาขอ/ผูร้ ับมอบอานาจ (กรณีเป็นผู้รับมอบอานาจต้องแนบใบมอบอานาจด้วย)
๑.๒ นิตบิ ุคคล………..……………….…………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………………………………………………………………………………..………………..………………….…………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (๒) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (3) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
เป็นผู้มีอานาจลงชื่อแทนนิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาต เป็นนิติบุคคลประเภท ………………………..…………….……….
จดทะเบียนเมื่อ…………………………….………...……..…..เลขทะเบียน …….……………………………………….……………….
2. ข้าพเจ้าได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ตามใบอนุญาตเลขที่ .................................................................
เป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม
กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
3. ข้าพเจ้าขอยื่นคาขอต่ออายุใบอนุญาตสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญั ติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 เพื่อขอต่ออายุใบอนุญ าตประกอบกิจการสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ ตามข้อ 2
4. ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณา จานวน ......... ฉบับ ดังนี้
(1) ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (เดิม)
(2) กรณี ที่ ห ลั ก ฐานและเอกสารที่ ยื่ น ไว้ในการขออนุ ญ าตมี ก ารแก้ ไข หรือ เปลี่ ย นแปลง
ผู้ยื่นคาขอต้องยื่นหลักฐานและเอกสารที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงด้วย
(3) สาเนาบัตรประจาตัวประชาชนของผู้ประกอบการ ผู้ดาเนินการและผู้ให้บริการทุกคน
คนละ 1 ฉบับ
(4) สาเนาทะเบียนบ้านของผู้ประกอบการ
(5) ใบรับรองแพทย์ของผู้ประกอบการ 1 ฉบับ (ออกให้ไม่เกินหกเดือนนับถึงวันยื่น)
(6) แบบแปลนเพิ่มเติม (กรณีมีการปรับ/ลดพื้นที่)
(7) เอกสารอื่นๆ (ระบุ).....................................................................................................
ลงชื่อ………….………………………..….……….ผู้ยื่นคาขอ/ผู้รับมอบอานาจ
(……….……………….…..……………………)
คำขอโอนใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
เขียนที่ ………………………………………………..
……………………………..………………..
วันที่ …….. เดือน ….……………. พ.ศ. ….…..
๑. ข้าพเจ้า (ผู้โอน)
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
2. ข้าพเจ้าได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ตามใบอนุญาตเลขที่ .................................................................
เป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
3. ข้าพเจ้ามีความประสงค์ขอโอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ดังกล่าวข้างต้น ให้แก่
๑.๑ ชื่อ ………………………………………………………………………………………………………………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
สัญชาติ ………………………..……..… อายุ …………………… ปี
๑.๒ นิติบุคคล………..……………….…………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………………………………………………………………………………..………………..………………….…………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
(๒) …………………………..…………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (3) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
เป็นผู้มีอานาจลงชื่อแทนนิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาต เป็นนิติบุคคลประเภท ………………………..…………….……….
จดทะเบียนเมื่อ…………………………….………...……..…..เลขทะเบียน …….……………………………………….……………….
ลงชื่อ………….………………………………………….ผู้โอน
(……….…………….………….……………………)
ลงชื่อ………….………………………………………….ผู้รับโอน
(……….…………….………….……………………)
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ประเภท กิจการสปา
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ เลขที่รับ……………………………….
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม วันที่…………………………………
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน ลงชื่อ………………………ผู้รับคาขอ
กฎกระทรวง ………………………
คำขอรับโอนใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
กรณีผู้รบั อนุญำตถึงแก่ควำมตำย
เขียนที่ ………………………………………………..
……………………………..………………..
วันที่ …….. เดือน ….……………. พ.ศ. ….…..
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
๑.๑ ชื่อ ………………………………………………………………………………………………………………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
สัญชาติ ………………………..……..… อายุ …………………… ปี
๑.๒ นิตบิ ุคคล………..……………….…………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………………………………………………………………………………..………………..………………….…………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
(๒) …………………..…………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (3) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
เป็นผู้มีอานาจลงชื่อแทนนิติบุคคลผูข้ อรับใบอนุญาต เป็นนิติบุคคลประเภท ………………………..…………….……….
จดทะเบียนเมื่อ…………………………….………...……..…..เลขทะเบียน …….……………………………………….……………….
2. มีความประสงค์ขอประกอบกิจการของ......................................................................................
ผู้ รับ อนุ ญ าตซึ่ ง ถึ งแก่ ค วามตาย ตามใบอนุ ญ าตเลขที่ ....................................... เป็ น สถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
เอกสารที่เป็นหลักฐานการเป็นทายาทของผู้รับอนุญาต
ส าเนาหนั ง สื อ รั บ รองหรื อ หลั ก ฐานการเป็ น นิ ติ บุ ค คล ซึ่ ง แสดงรายการเกี่ ย วกั บ ชื่ อ
วัตถุประสงค์ ที่ตั้งสานักงาน และผู้มีอานาจลงนามผูกพันนิติบุคคลที่เป็นปัจจุบัน
เอกสารแสดงความเป็ น เจ้ าของอาคาร สถานที่ ที่ ตั้ งสถานประกอบการเพื่ อ สุ ข ภาพ
หรือหนังสือแสดงความยินยอมของเจ้าของอาคารหรือสถานที่ที่ตั้งสถานประกอบการ
เพื่ อสุ ข ภ าพ ห รื อ ห ลั ก ฐาน การแสดงกรรม สิ ท ธิ์ ข องอาคารห รื อ สถาน ที่ ตั้ ง
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ในกรณีที่ผู้ยื่นคาขอไม่ใช่เจ้าของอาคารหรือสถานที่ตั้ง
จานวน 1 ฉบับ
เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) .................................................
4. ข้ า พเจ้ า ขอรั บ รองว่ า เป็ น ผู้ มี คุ ณ สมบั ติ แ ละไม่ มี ลั ก ษณะต้ อ งห้ า มตามมาตรา 13 แห่ ง
พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559
ลงชื่อ………….………………………………………….ผู้ยื่นคาขอ
(……….…………….………….……………………)
คำขอรับใบแทนใบอนุญำตประกอบกิจกำรสถำนประกอบกำรเพือ่ สุขภำพ
เขียนที่ ………………………………………………..
……………………………..………………..
วันที่ …….. เดือน ….……………. พ.ศ. ….…..
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
๑. ข้าพเจ้า
๑.๑ ชื่อ ………………………………………………………………………………………………………………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
สัญชาติ ………………………..……..… อายุ …………………… ปี
๑.๒ นิตบิ ุคคล………..……………….…………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………………………………………………………………………………..………………..………………….…………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
(๒) ………..……………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (3) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
เป็นผู้มีอานาจลงชื่อแทนนิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาต เป็นนิติบุคคลประเภท ………………………..…………….……….
จดทะเบียนเมื่อ…………………………….………...……..…..เลขทะเบียน …….……………………………………….……………….
2. ข้าพเจ้าได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ตามใบอนุญาตเลขที่ .................................................................
เป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา กิจการนวดเพื่อสุขภาพ
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
3. ข้าพเจ้ามีความประสงค์ขอใบแทนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
เนื่องจาก
สูญหาย
ถูกทาลาย
ชารุดในสาระสาคัญ ................................................ วันที่ ..............................................
4. พร้อมกับคาขอนี้ ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่างๆ มาด้วย จานวน ............... ฉบับ คือ
ใบแจ้งความว่าใบอนุญาตสูญหายของสถานีตารวจแห่งท้องที่ที่ใบอนุญาตนั้นสูญหาย
(กรณีใบอนุญาตสูญหาย)
ใบอนุญาตที่ถูกทาลาย หรือชารุดบางส่วน (กรณีใบอนุญาตถูกทาลายหรือชารุด)
สาเนาบัตรประจาตัวประชาชน
สาเนาทะเบียนบ้าน
เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) .................................................
ลงชื่อ………….………………………………………….ผู้ยื่นคาขอ
(……….…………….………….……………………)
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
๑. ข้าพเจ้า
๑.๑ ชื่อ ………………………………………………………………………………………………………………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
สัญชาติ ………………………..……..… อายุ …………………… ปี
๑.๒ นิตบิ ุคคล………..……………….…………………………….……………………………………………….
โดย (๑) ……………………………………………………………………………………………..………………..………………….…………..
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (๒) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (3) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………….….
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
เป็นผู้มีอานาจลงชื่อแทนนิติบุคคลผู้ขอรับใบอนุญาต เป็นนิติบุคคลประเภท ………………………..…………….……….
จดทะเบียนเมื่อ…………………………….………...……..…..เลขทะเบียน …….……………………………………….……………….
2. ข้าพเจ้าได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ตามใบอนุญาตเลขที่ .................................................................
เป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา กิจการนวดเพื่อสุขภาพ
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง
3. ข้าพเจ้ามีความประสงค์ขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการในใบอนุญ าตประกอบกิจการสถาน
ประกอบการเพื่อสุขภาพ ดังต่อไปนี้
การเปลี่ยนชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
โดยใช้ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นภาษาไทย ว่า
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ภาษาต่างประเทศ (ถ้ามี) ว่า
…………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………
อื่นๆ…………………………………………………………………………………………….………………………..
…………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………
4. พร้อมกับคาขอนี้ ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่างๆ มาด้วย จานวน ............... ฉบับ คือ
ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
เอกสารที่เป็นหลักฐานเกี่ยวข้องกับการขอเปลี่ยนแปลงรายการ
เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) .................................................
ลงชื่อ………………….………………………………….ผู้ยื่นคาขอ
(………….……...…………….………………………)
ประเภท กิจการสปา
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ
เลขที่รับ ..........................
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม
วันที่รับ ...........................
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน
ลงชื่อ ...................ผู้รับคาขอ
กฎกระทรวง ………………………
คำขอรับใบอนุญำตเป็นผูด้ ำเนินกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
เขียนที่ .....................................................
วันที่ ....... เดือน ...................... พ.ศ. ..............
1. ข้าพเจ้า ...................................................... เลขประจาตัวประชาชน
อายุ ............ ปี สัญชาติ ......................... อยู่บ้านเลขที่ ................ หมู่ที่ .................. ซอย / ตรอก ....................
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ถนน ............................... ตาบล / แขวง ................................ อาเภอ / เขต ......................................................
จังหวัด ............................ รหัสไปรษณีย์ .............................. โทรศัพท์ .............................. โทรสาร ..................
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ......................................ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อนื่ ......................................
เป็นผู้สอบผ่านการประเมินความรู้ความสามารถผู้ดาเนินการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จากกรมสนับสนุน
บริการสุขภาพ ปี ................
ขอรับใบอนุญาตเป็นผูด้ าเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ..................................
2. พร้อมกับคาขอนี้ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มาด้วย จานวน ............... ฉบับ คือ
ส าเนาวุ ฒิ บั ต รหรื อ ประกาศนี ย บั ต รหลั ก สู ต รผู้ ด าเนิ น การที่ ได้ รั บ การรั บ รองจากกรม
สนับสนุนบริการสุขภาพ
รูปถ่าย ขนาด 5x6 เซนติเมตร จานวน 2 รูป ถ่ายไว้ไม่เกินหกเดือน
สาเนาบัตรประจาตัวประชาชน
สาเนาทะเบียนบ้าน
ใบรับรองแพทย์ (ออกให้ให้เกินหกเดือนนับถึงวันยื่น)
หลั ก ฐานการเป็ น ผู้ ส อบผ่ า นการประเมิ น ความรู้ ค วามสามารถผู้ ด าเนิ น การสถาน
ประกอบการเพื่อสุขภาพ จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
หลักฐานอื่นๆ (ถ้ามี) เช่น ใบสาคัญการเปลี่ยนชื่อ – สกุล ทะเบียนสมรส เป็นต้น
3.ข้าพเจ้าขอรับรองว่าเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กาหนดไว้ในมาตรา 21
แห่งพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559
(ลายมือชื่อ) ............................................. ผู้ย่นื คาขอ
( ............................................)
สำหรับเจ้ำหน้ำที่
ใบอนุญาตผู้ดาเนินการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เลขที่ ...............
แบบใบรับคำขออนุญำต
เป็นผู้ดำเนินกำรในสถำนประกอบกำรเพือ่ สุขภำพ
ชื่อผู้ขออนุญาต .................................................................................................................................................
ประเภทกิจการ กิจการสปา
กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ……………………………………..
ประเภทของการยื่นคาขอ
คาขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ดาเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ผลกำรตรวจสอบคำขออนุญำต
เอกสารครบถ้วน ถูกต้อง
ประเภท กิจการสปา
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ เลขที่รับ ..........................
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม วันที่รับ ...........................
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน ลงชื่อ ...................ผู้รับคาขอ
กฎกระทรวง ………………………
เขียนที่ .....................................................
วันที่ ....... เดือน ...................... พ.ศ. ..............
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
อายุ ............ ปี สัญชาติ ..................... ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ดาเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง .........................................
ตามใบอนุญาตที่ ............................................ ออกให้ ณ วันที่ ........... เดือน ............................. พ.ศ. ..............
2. มีความประสงค์ขอใบแทนใบอนุญาต เนื่องจาก
สูญหาย
ถูกทาลาย
ชารุดในสาระสาคัญ.................................................... วันที่ .................................................
3. พร้อมกับคาขอนี้ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มาด้วย จานวน ............... ฉบับ คือ
รูปถ่าย ขนาด 5x6 เซนติเมตร จานวน 2 รูป ถ่ายไว้ไม่เกินหกเดือน
สาเนาบัตรประจาตัวประชาชน
สาเนาทะเบียนบ้าน
ใบแจ้ งความว่ าใบอนุ ญ าตสู ญ หายของสถานี ต ารวจแห่ งท้ อ งที่ ที่ ใบอนุ ญ าตนั้ น สู ญ หาย
(กรณีใบอนุญาตสูญหาย)
ใบอนุญาตเป็นผูด้ าเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (กรณีชารุด)
เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) .................................................
(ลายมือชื่อ) ............................................
( ............................................) ผู้รับอนุญาต
ประเภท กิจการสปา
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ เลขที่รับ ..........................
กิจการนวดเพือ่ เสริมความงาม วันที่รับ ...........................
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน ลงชื่อ ...................ผู้รับคาขอ
กฎกระทรวง ………………………
คำขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขรำยกำรในใบอนุญำตเป็นผูด้ ำเนินกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
เขียนที่ .....................................................
วันที่ ....... เดือน ...................... พ.ศ. ..............
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
(ลายมือชื่อ) .............................................ผู้ยื่นคาขอ
( ............................................)
ประเภท กิจการสปา
เลขที่รับ ..........................
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ
วันที่รับ ...........................
กิจการนวดเพื่อเสริมวามงาม
ลงชื่อ ...................ผู้รับคาขอ
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน
กฎกระทรวง ………………………
คำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
เขียนที่.............................................
วันที่.............เดือน............................................พ.ศ. ............
1. ข้าพเจ้า ชื่อ .............................................................................................................................
หมายเลขประจ าตั ว ประชาชนเลขที่ สั ญ ชาติ ..........................
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
อยู่บ้านเลขที่ ................ หมู่ที่ .................. ซอย / ตรอก ............................... ถนน ............................................
ตาบล / แขวง ................................ อาเภอ / เขต ......................................................จังหวัด ............................
รหัสไปรษณีย์ ................................... โทรศัพท์ .............................. โทรสาร ................................................
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ...................................... ช่องทางการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ..............................
2. มีความประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภท
กิจการสปา นวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อเสริมความงาม กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ......
3. พร้อมกับคาขอนี้ ข้าพเจ้าได้แนบหลักฐานต่างๆ มาด้วย คือ
รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 1 นิ้ว ซึ่งถ่ายมาแล้วไม่เกินหกเดือน จานวน 2 รูป
สาเนาบัตรประจาตัวประชาชน
สาเนาทะเบียนบ้าน
สาเนาวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพที่ได้รับการรับรอง
จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ใบรับรองแพทย์ (ออกให้ไม่เกินหกเดือนนับถึงวันยื่น)
หลักฐานอื่นๆ (ถ้ามี) เช่น ใบสาคัญการเปลี่ยนชื่อ – สกุล เป็นต้น
4. ต้องคาพิพากษา
ไม่เคยต้องคาพิพากษา
เคยต้องคาพิพากษาหรือคาสั่งศาลให้ลงโทษถึงที่สุดในความผิดฐาน ..............................................
พ้นโทษเมื่อ ................................................................................................................................................
5. ข้าพเจ้าขอรับรองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559
ลายมือชือ่ .......................................................ผู้ยื่นคาขอ
(.....................................................)
แบบใบรับคำขอขึ้นทะเบียน
เป็นผู้ให้บริกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
ชื่อผู้ขอขึ้นทะเบียน ..............................................................................................................................................
ประเภทกิจการ กิจการสปา นวดเพื่อสุขภาพ
นวดเพื่อเสริมความงาม กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ……
ประเภทของการยื่นคาขอ
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
คาขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
คาขอรับใบแทนใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการ
เพื่อสุขภาพ
ค าขอเปลี่ ย นแปลงแก้ ไขรายการใบรั บ รองการขึ้ น ทะเบี ย นเป็ น ผู้ ให้ บ ริ ก าร
ในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ผลกำรตรวจสอบคำขอขึ้นทะเบียน
เอกสารครบถ้วน ถูกต้อง
กระทรวงสาธารณสุข
ใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ใบรับรองเลขที่ ……………….
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ใบรับรองฉบับนี้ให้ไว้เพื่อแสดงว่า
....................................................................................
ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามพระราชบัญญัติ
สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 โดยได้รับวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรด้านการบริการ
หลักสูตร ............................................................................................................................................................
ลงชื่อ .....................................................
ผู้อนุญาต
รูปถ่าย
ขนาด 1 นิ ้ว
คำขอรับใบแทนใบรับรองกำรขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
เขียนที่ ...........................................
วันที่ .......... เดือน ................... ปี ......................
1. ข้าพเจ้า ชื่อ ...........................................................................................................................................
เลขประจาตัวประชาชน อายุ ............ ปี สัญชาติ .........................
บ้ า นเลขที่ ................ หมู่ ท่ี .................. ซอย / ตรอก ............................... ถนน ...............................
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ลงชื่อ................................................................. ผู้ยื่นคาขอ
(.................................................................)
เลขที่รับ ..........................
ประเภท กิจการสปา
วันที่รับ ...........................
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ
ลงชื่อ ...................ผู้รับคาขอ
กิจการนวดเพื่อเสริมวามงาม
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน
กฎกระทรวง ………………………
คำขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขรำยกำรในใบรับรองกำรขึ้นทะเบียน
เป็นผู้ให้บริกำรในสถำนประกอบกำรเพื่อสุขภำพ
เขียนที่ .....................................................
วันที่ ....... เดือน ...................... พ.ศ. ..............
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
1. ข้าพเจ้า ชื่อ ..........................................................................................................................................
เลขประจาตัวประชาชน อายุ .................. ปี สัญชาติ .................................
ได้รับใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ประเภท กิจการสปา นวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อเสริมความงาม
กิจการอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง .........................................
ตามใบรับรองที่ ............................................ ออกให้ ณ วันที่ ........... เดือน ............................. พ.ศ. ..............
2. มีความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบรับรอง ดังต่อไปนี้
การเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล ของผูใ้ ห้บริการ เป็น ................................................................
อื่นๆ
3. พร้อมกับคาขอนี้ข้าพเจ้าได้แนบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มาด้วย จานวน ............... ฉบับ คือ
ใบรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
เอกสารที่เป็นหลักฐานเกี่ยวข้องกับการขอเปลี่ยนแปลง เช่น ใบสาคัญการเปลี่ยนชื่อ สกุล
เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) .................................................
(ลายมือชื่อ) .............................................ผู้ยื่นคาขอ
( ............................................)
(1) ใบอนุญาตสถานประกอบการ
ประเภท กิจการสปา
กิจการนวดเพื่อสุขภาพ เลขที่รับ ..........................
กิจการนวดเพื่อเสริมความงาม วันที่รับ ...........................
กิจการอื่นตามที่กาหนดใน ลงชื่อ ...................ผู้รับคาขอ
(2) ใบอนุญาตผู้ดาเนินการ
กฎกระทรวง ……………………… แบบคำขอชำระค่ำธรรมเนียม
ตำมพระรำชบัญญัตสิ ถำนประกอบกำรเพือ่ สุขภำพ พ.ศ. 2559
เขียนที่...............................................................................
วันที.่ .......... เดือน..................................... พ.ศ. .............................…
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
1. ข้าพเจ้า
1.1 ชื่อ...................................................................................................................................................................
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
สัญชาติ...............................อายุ..........ปี ซึ่งเป็นผู้ยื่นคาขอ/ผู้รับมอบอานาจ (กรณีเป็นผู้รับมอบอานาจต้องแนบใบมอบอานาจด้วย)
1.2 นิติบุคคล...........................................................................................................................................
โดย (1) ................................................................................................................................................................
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
(2) ........................................................................................................................................................................
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
และ (3) ..................................................................................................................................................................
บัตรประจาตัวประชาชน หรือใบสาคัญประจาตัวคนต่างด้าวเลขที่
เป็นผู้มีอานาจลงชื่อแทนนิติบุคคลผู้ขอชาระค่าธรรมเนียม เป็นนิติบุคคลประเภท..............................................
จดทะเบียนเมื่อ......................................................เลขทะเบียน.................................................................................
2. ข้อมูลใบอนุญาต (แล้วแต่กรณี)
(1) ข้าพเจ้าได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามพระราชบัญญัติสถาน
ประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ตามใบอนุญาตเลขที.่ ..........................................................................................
ขนาดพื้นที่การให้บริการของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ...............................................ตารางเมตร
ค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นเงิน..............บาท
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ประจาปี...........เป็นเงิน...............บาท
ลงชื่อ.....................................................ผู้ยื่นคาขอ/ผู้รับมอบอานาจ
(....................................................)
กรม/สสจ.
เลขที่รับคาขอ .......................... ออกให้ ณ ที่ ......................................
วันที.่ .......... เดือน....................... พ.ศ.....
หลักฐานการชาระค่าธรรมเนียม
ออกให้แก่ ชื่อ .............................................................................................................
ประเภทกิจการ สปา นวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อเสริมความงาม
1. ใบอนุญาต/ต่ออายุประกอบกิจการสปา ใบอนุญาต/ต่ออายุประกอบกิจการนวด
สาหรับพื้นที่การให้บริการ เพื่อสุขภาพสาหรับพื้นที่การให้บริการ
ไม่เกิน 100 ตร.ม. ฉบับละ 1,000 บ. ไม่เกิน 100 ตร.ม. ฉบับละ 500 บ.
ไม่เกิน 200 ตร.ม. ฉบับละ 3,000 บ. ไม่เกิน 200 ตร.ม. ฉบับละ 1,500 บ.
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ไม่เกิน 400 ตร.ม. ฉบับละ 6,000 บ. ไม่เกิน 400 ตร.ม. ฉบับละ 3,000 บ.
เกิน 400 ตร.ม.ฉบับละ 10,000 บ. เกิน 400 ตร.ม. ฉบับละ 5,000 บ.
ใบอนุญาต/ต่ออายุประกอบกิจการนวด
เพื่อเสริมความงามสาหรับพื้นที่การให้บริการ
ไม่เกิน 100 ตร.ม. ฉบับละ 500 บ.
ไม่เกิน 200 ตร.ม. ฉบับละ 1,500 บ.
ไม่เกิน 400 ตร.ม. ฉบับละ 3,000 บ.
เกิน 400 ตร.ม. ฉบับละ 5,000 บ.
หลักฐานการชาระค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการรายปี
ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
เป็นจานวนเงิน ..............- ตัวเลข -......................... (...........- ตัวอักษร-........................)
๑๑๐
แบบทะเบียนประวัติผู้รบั บริการ
ในสถานประกอบการเพือ่ สุขภาพ (ประเภทกิจการสปา)
ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป
ชื่อสถานประกอบการ...............................................................................................ใบอนุญาตเลขที่...................................สถานที่ตง้ั ..............................................................
หมู่..............................ถนน...............................................ตาบล/แขวง……………………………………….อาเภอ/เขต.................................จังหวัด...................................................
ประเภทของการให้บริการ
1. ............................................................................................
2. ............................................................................................
3. ............................................................................................
ข้อ ๓ ในประกาศนี้
“สถาบันการศึกษา” หมายความว่า สถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่
ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย
“หน่วยงาน” หมายความว่า หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่จัดตั้งขึ้น ตาม
กฎหมาย
“องค์กร” หมายความว่า องค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
“คณะอนุกรรมการ” หมายความว่า คณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการแต่งตั้งให้
ปฏิบัติการตามประกาศนี้
“อธิบดี” หมายความว่า อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ข้อ ๔ ในกรณีที่มีปัญหาตามประกาศนี้ให้คณะกรรมการเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
หมวด ๑
การรับรองวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตร
๑
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๓/ตอนพิเศษ ๓๐๔ ง/หน้า ๕/๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๙
หมวด ๒
สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ
หมวด ๓
หลักสูตร
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
หมวด ๔
การรับรองหลักสูตร
ข้อ ๑๒ สถาบั น การศึ ก ษา หน่ ว ยงาน หรือองค์ ก รต่ าง ๆ ที่ ป ระสงค์ ขอรับ รอง
หลักสูตรจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะต้องยื่นคำขอรับรองหลักสูตร พร้อมด้วยเอกสารและ
หลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอรับรองที่กำหนดท้ายประกาศนี้
๒
ข้อ ๑๑ (๖) แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เรื่อง
หลัก เกณฑ์ ก ารรับ รองวุฒิ บั ต รหรื อประกาศนี ยบั ต รที่ ผู้ ด ำเนิ น การหรือ ผู้ให้ บ ริก ารได้ รับ จากสถาบั น การศึ กษา
หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑
หมวด ๖
บทเฉพาะกาล
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ความรู้ตามหลักสูตรของสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือ องค์กรต่าง ๆ ของภาครัฐ (หลักสูตร ๖๐
ชั่ ว โมงขึ้ น ไป) แต่ ยั ง ไม่ ได้ รั บ การรั บ รองจากคณะกรรมการตรวจและประเมิ น มาตรฐานสถาน
ประกอบการกลางก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่กรม
สนั บ สนุ น บริ ก ารสุ ข ภาพให้ ก ารรั บ รองตามประกาศนี้ แต่ ทั้ ง นี้ ใ ห้ บุ ค คลที่ ไ ด้ รั บ วุ ฒิ บั ต รหรื อ
ประกาศนียบัตรดังกล่าวยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการต่อผู้อนุญาตภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน
นับแต่วันที่ประกาศนี้มีผลบังคับใช้
1. ชื่อ-สกุลผู้ขอ/หรือนิตบิ ุคคล/บุคคลที่ได้รับมอบหมาย………………………..………………………………
...................................................................................................................................................
2. ชื่อสถาบันการศึกษา/หน่วยงาน/องค์กร …………………………………………………………………………
...............................................................................................................................................
ชื่อภาษาอังกฤษ (ถ้ามี)...............................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
3. สถานที่ตั้ง...................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
4. หมายเลขโทรศัพท์ .......................................... หมายเลขโทรสาร...............................................
E-mail........................................................................................................................................
5. ประเภทสถาบันการศึกษา/หน่วยงาน/องค์กรต่างๆ ที่ขอรับรองหลักสูตร
หน่วยงานราชการ ต้นสังกัด..........................................................................................
สถาบันการศึกษาภาครัฐ
สถาบันการศึกษาภาคเอกชนที่ได้รับอนุมัติหลักสูตรจากกระทรวงศึกษาธิการ
องค์กรต่างๆ
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
เรื่อง หลักเกณฑ์การรับรองวุฒบิ ัตรหรือประกาศนียบัตรที่ผู้ดาเนินการหรือผู้ให้บริการได้รบั จาก
สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
เรื่อง หลักเกณฑ์การทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถของผู้ดําเนินการ
พ.ศ. ๒๕๕๙
ข้อ ๖ ให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพดําเนินการจัดสอบและประเมินความรู้ความสามารถ
อย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง กําหนดการสอบ วัน เวลา สถานที่สอบและการปฏิบัติในการสอบ ให้เป็นไป
ตามหลักเกณฑ์ วิธกี ารและเงื่อนไขที่คณะอนุกรรมการประกาศกําหนด
ข้อ ๗ ให้ ผู้ ส มั ค รสอบ ยื่ น คํ า ขอรั บ การทดสอบและประเมิ น ความรู้ ค วามสามารถ
ของผู้ดําเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พร้อมด้วยเอกสาร หลักฐานต่าง ๆ ตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะอนุกรรมการประกาศกําหนด
หมวด ๓
การทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถ
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
ข้อ ๘ การทดสอบและประเมิ น ความรู้ ค วามสามารถของผู้ สมั ค รสอบ ลัก ษณะข้ อ สอบ
เป็นแบบปรนัย
ข้อ ๙ หลักเกณฑ์การออกข้อสอบ เนื้อหาของข้อสอบและการดําเนินการออกข้อสอบเพื่อใช้
ทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถของผู้สมัครสอบ ให้เป็นไปตามที่คณะอนุกรรมการกําหนด
หมวด ๔
ผลการทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถ
ข้อ ๑๐ ผู้ ส มั ค รสอบต้ อ งได้ ค ะแนนสอบไม่ ต่ํ า กว่ าร้ อ ยละ ๖๐ ของคะแนนสอบทั้ ง หมด
จึงจะเป็นผู้ผ่านการทดสอบความรู้ความสามารถเป็นผู้ดําเนินการ
ข้อ ๑๓ บุคคลที่ผ่านการประเมินความรู้ความสามารถตามที่คณะกรรมการตรวจและประเมิน
มาตรฐานสถานประกอบการกลางกําหนดและให้การรับรองก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่า
เป็นผู้สอบผ่านการทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถของผู้ดําเนินการตามประกาศนี้ และให้มีสิทธิ
ยื่นคําขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ดําเนินการต่อผู้อนุญาตภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันที่ประกาศนี้
มีผลบังคับใช้
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
3. ข้าพเจ้าขอรับรองว่า เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กําหนดไว้ในประกาศข้อ 5
ต้องรับรองสําเนาถูกต้องเอกสารทุกฉบับที่เป็นสําเนาภาพถ่ายจึงจะถือว่าเอกสารสมบูรณ์
หากเอกสารทีแ่ นบไม่ครบ จะไม่พิจารณารับสมัคร
สถานทีท่ ตี่ ้องการสอบจังหวัด............................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................................................ผู้สมัคร
(..................................................................................)
ประกาศคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ
เรื่อง หลักสูตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพ อื่น ๆ เพิ่มเติม
พร้อมด้วยกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง
กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประกาศกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข
และระเบียบกระทรวงที่เกี่ยวข้อง