You are on page 1of 37

1

แบบทดสอบภาคความรู้ความสามารถทัว่ ไป (ภาค ก.)


iTest ข้ อสอบ ภาค ก. (ก.พ.) ระดับ ป.ตรี – ป.โท
ชุดที่ 5/2563

จานวน 100 ข้ อ เวลา 3 ชั่วโมง


แบบทดสอบประกอบด้ วยข้ อสอบ 3 วิชา
1.วิชาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ 60 ข้ อ (ข้ อ 1- 60)
- การคิดวิเคราะห์เชิงปริมาณ ข้อ 1-20
- การคิดวิเคราะห์เชิงนามธรรม ข้อ 21-40
- การคิดวิเคราะห์เชิงภาษา ข้อ 41-60
2.วิชาภาษาอังกฤษ 25 ข้ อ (ข้ อ 61 - 85)
3.วิชาความรู้และลั กษณะการเป็ นข้ าราชการทีด่ ี (ข้ อ 86 – 100)

คาสั่ ง จงเลื อ กคาตอบจากตั วเลื อ ก 1)- 4) มารเติ มลงในช่ อ งว่ า ง เพื่ อ ให้ ไ ด้ อ นุ ก รมที่ มีความสั มพั น ธ์
ต่อเนื่องกันอย่างสมเหตุสมผลมากที่สุ ด
1. 218 225 75 84 28 39 …...
1. 11 2. 13
3. 17 4. 23
2. 0 7 8 15 30 53 ……
1. 76 2. 82
3. 87 4. 98
3. 4 1 3 16 40 ………
1. 115 2. 118
3. 121 4. 127
4. 30 30 60 45 35 20 ……
1. 11 2. 15
3. 17 4. 21
5. 4 3 5 12 20 37 ......
1. 57 2. 65
3. 69 4. 73
2

คาสั่ ง จงเลือกคาตอบที่ถูกต้ องที่ สุดจากตัวเลื อก 1) – 4)

6. เลขจานวนเต็ม 2 จานวนรวมกันได้ 80 และทาให้ผลคูณของเลข 2 จานวนนี้มีค่าสูงสุดคือเท่าไร


1. 40 และ 40 2. 60 และ 20
3. 55 และ 25 4. 45 และ35

7. แม่ค้าติตราคาสินค้าไว้ 200 บาท แต่ถ้าลูกค้าสนใจติดต่อ ซื้อ จะลดให้ 20% ดังนั้นลูกค้าจะต้องจ่ายเงิน


เท่าใด
1. 140 บาท 2. 160 บาท
3. 180 บาท 4. 190 บาท
8. เมื่อ 7 ปีก่อน สมศรีอายุ 15 ปี อีก 8 ปีข้างหน้า สมศรีจะอายุเท่าใด
1. 23 ปี 2. 27 ปี
2. 28 ปี 3. 30 ปี
9. 20% ของนักเรียนชายเท่ากับ 10% ของนักเรียนหญิง ถ้านักเรียนชายมี 200 คน อยากทราบว่านักเรียนหญิง
มีกี่คน
1. 400 คน 2. 420 คน
3. 460 คน 4. 480 คน
10. 9 * 2 = 22
2 * 6 = 16
1 * 8 = ?
1. 10 2. 14
3. 16 4. 18
3

การเปรียบเทียบข้ อมูล
คาสั่ ง ให้พิจารณาเปรียบเทียบข้อมู ลระหว่างสดมภ์ ก. กับสตมนท์ ข. โดยใช้สดมภ์ ค. ประกอบการ
พิจารณา แล้วเลือกตอบดังนี้

หลั กในการทาตอบ
ตอบ 1. ถ้าค่าในสดมภ์ ก. มากกว่าค่าในสดมภ์ ข.
ตอบ 2. ถ้าค่าในสดมภ์ ข. มากกว่าค่าในสดมภ์ ก.
ตอบ 3 ถ้าค่าในสดมภ์ ก. เท่ากับค่าในสดมภ์ ข.
ตอบ 4. ถ้าไม่สามารถสรุปได้ ว่าค่ าในสดมภ์ ก. หรือในสดมภ์ ข. มีค่ามากกว่ากัน

ข้ อ สดมภ์ ก สดมภ์ ข สดมภ์ ค


11

12 √ √ และ เป็นจานวนเต็ม
13

14

15 ของ
4

คาสั่ ง : จงพิจารณาตารางข้อมูลต่อ ไปนี้ แล้วตอบคาถามที่ 16-20

ตัวอย่ าง จงใช้ข้อมูลต่อไปนี้ตอบคาถามข้อ 1-5


แผนภูมิแสดงจานวนไข่ไก่ที่เก็บในฟาร์ มได้ในแต่ละวัน
วันจันทร์
วันอังคาร
วันพุธ
วันพฤหัสบดี
วันศุกร์
วันเสาร์
วันอาทิตย์
กาหนดให้ แทนไปไก่ 10 ฟอง
16. วันใดเก็บไข่ไก่ได้มากที่สุ ด
1. วันจันทร์ 2. วันพุธ
3. วันศุกร์ 4. วันอาทิตย์
17. วันพุธเก็บไข้ไม่ได้มากกว่าวันเสาร์ กี่ฟอง
1. 5 2. 5
3. 10 4. 15
18. วันที่เก็บไข่ให้ได้มากที่สุ ดกั บน้อ ยที่ สุดต่างกันอยู่ กี่ฟอง
1. 15 2. 20
3. 25 4. 30
19. ถ้าขายไข่ไก่ฟองละ 4 บาท อยากทราบว่าวันเสาร์และวันอาทิ ตย์ขายไข่ไก่ ได้เงินทั้งหมดกี่บาท
1. 350 2. 380
3. 400 4. 120
20. อยากทราบว่าทั้งสัปดาห์เก็บไข่ใส่ไ ด้ทั้งหมดกี่ฟอง
1. 355 2. 360
3. 365 4. 370
5

คาสั่ ง จงเลือกคู่ของคาจากตัวเลือ ก 1) – 4) ที่มีความสัมพันธ์กัน โดยให้ความสอดคล้ องกับคาคู่แรกมากที่ สุ ด


21. หมวก : รองเท้า
1. ถุงเท้า : เท้า 2. โต๊ะ : พื้นดิน
3. ดินสอ : ยางลบ 4. กันสาด : ขั้นบันได
22. ขด : งอ
1. ชู : ยืด 2. นั่ง : ยืน
3. กอด : ผลัก 4. โหน : กระโดด
23. ปักษ์ : รายเดือน
1. คืบ : ศอก 2. วัน : กิโลเมตร
3. สัปดาห์ : วินาที 4. เดือน : สิ้นเดือน
24. กระดาษ : ปลิว
1. ที่ดิน : ภูเขา 2. ต้นไม้ : โค่น
3. น้าตก : ปลา 4. ดอกไม้ : บาน
25. เส้น : จุด
1. เมฆ : ฝน 2. ขีด : วาด
3. ลูกเป็ด : ไก่ 4. ลูกเห็บ : พายุ

การสรุปความจากภาษา
คาสั่ ง ในแต่ละข้อจะประกอบด้วยเงื่อนไขหรื อข้ อ มู ล ที่กาหนดให้ และข้อสรูปเป็นคู่ ๆ จากเงี่ยนไขนั้นให้
ศึกษาเงื่อนไขที่กาหนดให้ก่อน แล้วจึงอาศัยความรู้ที่ได้ จากเงื่อนไขดังกล่าวมาใช้พิจารณาข้ อสรุปทั้งสอง
ของแต่ละข้อ แล้วทาตอบลงในกระดาษคาตอบ โดยยึดหลักในการทาตอบดังนี้

หลั กในการทาตอบ
ตอบ 1. ถ้าข้อสรุปทั้งสองเป็นจริงตามเงื่อนไข
ตอบ 2. ถ้าข้อสรุปทั้งสองไม่เป็น จริงตามเงื่อนไข
ตอบ 3. ถ้าข้อมูลสรุปทั้งสองไม่แน่ชัด คือดูจากเลื่อนไขแล้วไม่สามารถสรุ ปได้ ว่า จริงหรือ ไม่จริง
ตอบ 4. ถ้าข้อสรุปทั้ งสองมี ข้อสรุ ปใดข้อสรุ ปหนึ่ง ที่เป็นจริงหรือไม่ จริง หรือไม่แน่ชัดซึง่ ไม่ซ้ ากั บอึ กข้ อสรุ ป
หนึ่ง
6

เงื่อนไขสาหรับข้อ 26 - 30
- ทุกคนที่เรียนรัฐศาสตร์ได้เป็น ปลั ดอาเภอ
- ผู้ที่เรียนรัฐศาสตร์ทุกคนจบมาจากมหาวิ ทยาลัย
- ผู้ที่จบจากมหาวิ ทยาลั ยทุ กคนชอบรั บประทานผลไม้
- ปลัดอาเภอทุกคนชอบเล่นกีฬา วินัยเป็นปลัดอาเภอ
- ญาติของวินัยทุกคนชอบรับประทานผลไม้
- มาลี ญาติของวินัยเป็นครูอยู่เชียงใหม่
- อุดม ญาติของวินัยเป็นปลัดอาเภอและจบรัฐ ศาสตร์
- เพื่อนของวินัยทุกคนเป็นหมอ
- หมอทุกคนต้องเรียนทางด้านการแพทย์
- ทุกคนที่เป็นหมอทางานที่โรงพยาบาล
- ส้มโอจบทางด้านการแพทย์และทางานอยู่โ รงพยาบาล

26. ข้อสรุปที่ 1 มาลีชอบรับประทานผลไม้


ข้อสรุปที่ 2 ส้มโอเป็นหมอ
1. ข้อสรุปทั้งสองข้อเป็นจริง
2. ข้อสรุปทั้งสองข้อไม่เ ป็นจริง
3. ข้อสรุปทั้งสองข้อไม่ สามารถสรุ ปได้แน่ชัด
4. ข้อสรุปข้อใดข้อหนึ่งเป็นจริงหรือไม่เป็น จริงหรื อไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดซึ่งไม่ซ้ากับอีก ข้อ
หนึ่ง

27. ข้อสรุปที่ 1 เพื่อนของวินัยทางานที่โรงพยาบาล


ข้อสรุปที่ 2 อุดมเป็นหมอ
1. ข้อสรุปทั้งสองข้อเป็นจริง
2. ข้อสรุปทั้งสองข้อไม่เ ป็นจริง
3. ข้อสรุปทั้งสองข้อไม่ สามารถสรุ ปได้แน่ชัด
4. ข้อสรุปข้อใดข้อหนึ่งเป็นจริงหรือไม่เป็น จริงหรื อไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดซึ่งไม่ซ้ากับอีก ข้อ
หนึ่ง
7

28. ข้อสรุปที่ 1 วินัยเรียนจบต้านการแพทย์


ข้อสรุปที่ 2 มาลีเป็นหมอ
1. ข้อสรุปทั้งสองข้อเป็นจริง
2. ข้อสรุปทั้งสองข้อไม่เ ป็นจริง
3. ข้อสรุปทั้งสองข้อไม่ สามารถสรุ ปได้แน่ชัด
4. ข้อสรุปข้อใดข้อหนึ่งเป็นจริงหรือไม่เป็น จริงหรื อไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดซึ่งไม่ซ้ากับอีก ข้อ
หนึ่ง
29. ข้อสรุปที่ 1 ผู้ที่เรียนรัฐศาสตร์ทุกคนชอบรั บประทานผลไม้
ข้อสรุปที่ 2 อุตมชอบเล่นกีฬา
1. ข้อสรุปทั้งสองข้อเป็นจริง
2. ข้อสรุปทั้งสองข้อไม่เ ป็นจริง
3. ข้อสรุปทั้งสองข้อไม่ สามารถสรุ ปได้แน่ชัด
4. ข้อสรุปข้อใดข้อหนึ่งเป็นจริงหรือไม่เป็น จริงหรื อไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดซึ่งไม่ซ้ากับอีก ข้อ
หนึ่ง
30. ข้อสรุปที่ 1 ญาติของวินัยทุกคนจบมาจากมหาวิ ทยาลัย
ข้อสรุปที่ 2 สมโอชอบเล่นกีฬา
1. ข้อสรุปทั้งสองข้อเป็นจริง
2. ข้อสรุปทั้งสองข้อไม่เ ป็นจริง
3. ข้อสรุปทั้งสองข้อไม่ สามารถสรุ ปได้แน่ชัด
4. ข้อสรุปข้อใดข้อหนึ่งเป็นจริงหรือไม่เป็น จริงหรื อไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดซึ่งไม่ซ้ากับอีก ข้อ
หนึ่ง

การสรุปความจากสั ญลั กษณ์


คาสั่ง ข้อสอบจะประกอบด้ วยเงื่อนไข และข้อสรุปซึ่งอยู่ในรูปของตัวอักษรและเครื่ องหมายต่างๆ
ดังต่อไปนี้
หมายถึง เท่ากับ หมายถึง ไม่เท่ากับซึ่งอาจจะมากกว่าหรื อน้อยกว่า
> หมายถึง มากว่า หมายถึง ไม่มากกว่าซึ่งอาจจะเท่า กับหรื อน้อยกว่า
< หมายถึง น้อยกว่า หมายถึง ไม่น้อยกว่าซึ่งอาจจะเท่ากันหรือ มากกว่า
หมายถึง มากกว่าหรือเท่ากับ หมายถึง น้อยกว่าหรือเท่ากับ
ให้ศึกษาทาความเข้าใจกับเงื่อนไขที่กาหนดให้ และอาศัยความรู้ที่ได้จากเงื่อนไขดังกล่ าวมาพิ จารณาข้อ สรุ ป
ทั้งสองของแต่ละข้อ แล้วทาตอบในกระดาษคาตอบโดยยึ ดหลั กในการทาตอบดังนี้
8

หลั กในการทาตอบ
ตอบ 1. ถ้าข้อสรุปทั้งสองถูกหรือเป็น จริงตามเงื่อนไข
ตอบ 2. ถ้าข้อสรุปทั้งสองผิดหรือ ไม่เป็นจริง ตามเงื่อนไข
ตอบ 3. ถ้าข้อสรุปทั้งสองไม่ส ามารถสรุ ปได้ แน่ชัดว่า ถูกหรื อผิ ดตามเงื่อนไข
ตอบ 4. ถ้าข้อสรุปทั้งสองมีข้อสรุ ปใดข้ อสรุปหนึ่ง ที่เป็นจริงหรือไม่จริงหรือไม่แน่ชัด ซึ่งไม่ซ้ากับอีก
ข้อสรุปหนึ่ง

ตัวอย่างที่ 1 ถ้า
และ (ทุกตัวอัก ษรมีค่ามากกว่ าศูนย์)

ข้อสรุปที่
ข้อสรุ ปที่
ข้อสรุปที่
ข้อสรุปที่
ข้อสรุปที่
ข้อสรุปที่
ข้อสรุปที่
ข้อสรุปที่
ข้อสรุปที่
ข้อสรุปที่

การสรุปเหตุผลเชิงตรรกะ
คาสั่ ง ข้อสอบจะประกอบด้ วยส่ วนสาคัญ 2 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 ถือเงื่อนไขหรือข้อมูลที่ กาหนดให้ และส่วนที่ 2 คือข้อสรุป ให้ศึกษาเงื่อนไขที่
กาหนดให้
แล้วจึงอาศัย ความรู้เฉพาะที่ได้จากข้อ มูล มาใช้พิจารณาว่ า ข้อสรุปใดสอดคล้องกั บข้ อความข้างต้น
หรือข้อสรุปใดไม่สอดคล้ องกับข้อ ความข้างต้น
9

36.ถ้าแฟนพลอยรวย พลอยจะแต่งงานด้วยทันที พลอยยังไม่แต่งงาน ฉะนั้น


1. แฟนพลอยไม่รวย 2.พลอยยังไม่มีแฟน
3. พลอยยังไม่อยากแต่งงาน 4. ไม่สามารถสรุปได้
37. ถ้ามีดบาด ฉันจะไปโรงพยาบาล วันนี้ฉันจะไปโรงพยาบาล ฉะนั้น
1. ฉันไม่โดนมีดบาด 2. ฉันมีดบาด
3. ฉันป่วย 4. ไม่สามารถสรุปได้
38. ถ้าสบู่มีกลิ่นหอม ถุงเท้ามีกลิ่นเหม็น เมื่อซักถุงเท้าด้วยสบู่ ฉะนั้น
1. ถุงเท้ามีกลิ่นหอม 2. ถุงเท้ามีกลิ่นเหม็น
3. ถุงเท้าสะอาดและมีกลิ่นหอม 4. ไม่สามารถสรุปได้
39. พระต้องห่มผ้าเหลือง วิชัยเป็นพระ ฉะนั้น
1. วิชัยถือศีล 2. วิชัยห่มผ้าเหลือง
3. วิชัยเป็นคนพุทธ 4. ไม่สามารถสรุปได้
40. ฉันไปโรงเรียน พี่ไปโรงพยาบาล พ่อไปทางาน แม่ ไปขายของ ฉะนั้นใครอยู่บ้าน
1. ไม่มีคนอยู่บ้าน 2. คนใช้
3. ปู่ ย่า 4. ไม่สามารถสรุปได

จงพิจารณาคาหรือกลุ่ มคาทีข่ ีดเส้ นใต้ และมีหมายเลข (1) - (3) กากับอยู่แล้ วเลื อกตอน ดังนี้
ตอบ 1 ถ้าคาหรือกลุ่มที่มีดเส้นใต้ ทั้ง 3 กลุ่ม ใช้ได้รัดกุมและถูกต้องตามหลักภาษา
ตอบ 2 ถ้าคาหรือกลุ่มคาที่ขีดเส้นใต้เฉพาะกลุ่ ม (1) และกลุ่ม (2) ใช้ได้รัดกุมและถูกต้องตามหลั กภาษา
ตอบ 3 ถ้าคาหรือกลุ่มที่ยึดเส้นใต้เฉพาะกลุ่ ม (1) และกลุ่ม (3) ใช้ได้รัดกุมและถูกต้องตามหลักภาษา
ตอบ 4 ถ้าคาหรือกลุ่มคาที่ขีดเส้นใต้เฉพาะกลุ่ ม (2) และกลุ่ม (3) ใช้ได้รัดกุมและถูกต้องตามหลั กภาษา

41. ประเทศไทยเคยปกครองด้ วยระบบสมบู รณาญาสิทธิ ราชย์ พระมหากษัตริย์มีอานาจสิ ทธิ์


(1) (2)
เด็ดขาดในการปกครองแผ่นดินและพลเมื องโดยอิ สระ
(3)
42. คนส่วนใหญ่ใช้ยาอย่างผิดวิธี ทาให้ส่งผลเสียต่อการรักษา บางครั้งผู้ใช้ยาก็ล่วงเลยที่จะอ่าน
(1) (2) (3)
ฉลากยา ซึ่งการอ่านฉลาก เป็นสิ่งที่ควรทาอย่างยิ่ง
10

43. ผู้ที่มีชื่อในหมายถูกฟ้องเป็น จาเลยต่ อศาล หากได้รับหมายเรียกและสาเนาคาฟ้องแล้ ว มีหน้าที่


(1) (2)
ต้องทาคาให้การยื่นกับศาลภายในกาหนด 15 วัน
(3)
44. อูลานบาตอร์เป็นศูนย์กลางของการเดิน ทาง มีบริการรถไฟและรถโดยสารทางไกล อีกทั้ง
(1) (2)
ยังมีถนนที่เชื่อมต่อไปยัง พื้นที่อื่นๆ ของมองโกเลียและประเทศใกล้เคียงอี กด้ วย
(3)
45. เนื่องจากผู้คนในชุมชนมีอาชีพและรายได้ที่เหมาะสม ก็จะมี การจัดการพัฒนาชุมชนซึ่งส่งผลดี
(1) (2) (3)
ต่อสิ่งแวดล้อม
จงตอบคาถามต่ อไปนี้ให้ ถูกต้ อง
46. จงเรียงลาดับข้อความต่อไปนี้
(1) หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย ซึ่งมีความสัมพันธ์กัน มายาวนาน
(2) แต่เมียนมาได้ดาเนินการสานสัมพันธ์ กับนานาประเทศอย่างต่ อเนื่อง
(3) แม้เมียนมาจะประสบปัญหาทางการเมืองและปัญหาชนกลุ่ มน้ อยในประเทศ
(4) โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
1. (3) (4) (2) (1) 2. (3) (2) (4) (1)
3. (4) (3) (2) (1) 4. (1) (2) (3) (4)
47. ข้อความใดเป็นลาดับที่ 3
1. เนื่องจากทรัพยากรที่จาเป็นต่อการยังชีพจะมีอยู่ อย่างจากัด
2. ส่งผลให้เกิดความขาดแคลนขึ้น และย้ายถิ่นออกไปเพื่อทามาหาเลี้ยงชีพ
3. ขนาดของประชากรเป็นปัจจัยสาคัญที่ ทาให้เกิดการย้า ยถิ่น
4. เมื่อจานวนประชากรเพิ่มขึ้น แต่ทรัพยากรที่มีอัตราต่ากว่า การเพิ่ มของประชากร
48. ข้อความใดเป็นลาดับที่ 2
1. ภาษากลาง ทาหน้าที่เป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อ สารภายในประเทศ
2. สาหรับใช้สนทนาในกลุ่มชาติพันธุ์หรือท้องถิ่นนั้นๆ
3. ในสังคมไทยนั้น ภาษาที่ทาหน้าที่นี้ ได้แก่ ภาษาไทยมาตรฐาน
4. นอกจากนั้น ภาษาประจาภาคต่างๆ ก็ทาหน้าที่เป็นภาษากลาง
11

49. ข้อความใดเป็นลาดับที่ 4
1. และต้องจัดสรรเงินเพื่อการรักษาพยาบาลในอนาคตด้วย
2. ที่ต้องมีการจัดสรรไว้เป็น อันดั บแรก ให้เพียงพอในชีวิตประจาวัน
3. ความต้องการทางกายภาพอันได้แก่ อาหาร น้า เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค
4. ความต้องการเหล่านี้นับเป็นรายจ่า ยสาคัญของครอบครั ว
50. จงเรียงลาดับข้อความต่อไปนี้
(1) จึงควรเผยแพร่ความรู้ที่มีอ ยู่แก่ ผู้อื่นบ้ าง
(2) ทุกคนพึงสานึกไว้ว่าเราเป็นทรัพยากรอันมี ค่าของชาติ
(3) ซึ่งถือได้ว่าเป็นการทาประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศชาติ
(4) เราได้เสียเวลาในการศึกษาหาความรู้ มาเป็นเวลานานหลายปี
1. (4) (2) (3) (1) 2. (4) (1) (2) (3)
3. (2) (4) (1) (3) 4. (2) (3) (1) (4)

51. ข้อใดคือสาระสาคัญของข้อ ความต่อไปนี้


‚ถ้าภาษาไม่ถูกต้อง เมื่อมีการสนทนากันก็อาจทาให้เกิดความไม่เข้าใจกันหรือ ไม่เป็นไป ตามที่ผู้พูดจะสื่อ
ความหมาย และถ้าการสื่อสารไม่เข้าใจตรงกัน เรื่องที่ควรจะทาให้เรียบร้อยลุล่ วงไป ก็จะทาไม่สาเร็จ
จริยธรรมและศิลปะทั้งหลายก็จะเสื่อ มโทรม ความเที่ยงธรรมก็จะโอนเอน เมื่อความเที่ยงธรรมโอนเอน
ประชาชนก็จะวุ่นวาย เนื่องจากจะเอาอะไรเป็นที่พึ่งพาไม่ได้ เพราะเมื่อคาพูดไม่ถูกต้องก็จะถื อเอาอะไร
ถูกต้องไม่ได้ เรื่องการใช้ภาษาให้ถูกต้องทั้ง เป็นเรื่องสาคัญกว่าสิ่งใด...”

1. การสื่อสารให้ตรงกับความคิ ด
2. การใช้ภาษาให้ถูกต้อง
3. ภาษาทาให้จริยธรรมเสื่อมโทรม
4. ภาษามีผลต่อการทางานให้สาเร็จ
52. สาระสาคัญของข้อความต่อ ไปนี้ จัดอยู่ในหัวข้ อใด
‚สายตาเป็นเครื่องมือสื่อสารทางความคิ ดที่ สาคัญ ที่สุ ดอย่างหนึ่งของมนุษย์ เมื่อใดก็ตามที่ผู้พูด
หลบสายตาไปจากผู้ฟัง ก็เท่ากับว่าได้โยนเครื่องมื อสื่อ สารที่สาคัญที่ สุดทั้งไปอย่างน่าเสีย ดาย"

1. การสื่อสาร 2. การตอบโต้
3. การสื่อความคิด 4. การสบตา
12

53. ข้อใดสรุปความสาคั ญของข้อ ความต่อ ไปนี้ไ ด้ถู กต้ อง


‚จากการวิจัยพบว่า คู่รักทั้งหลายแม้จะเจอปัญหาชีวิตหนั กหนาแค่ไหนก็จะไม่ร้างรากันแต่หากมี
การดูหมิ่นกันเมื่อใด จานวนกว่าร้อยละ 90 ของชีวิตคู่จะเลิกรากันในเวลาต่อมา ส่วนที่ยังชี้หนกันอยู่
ระดับความสัมพันธ์ก็จะลดลง การสร้างสรรค์สิ่งดีงามสูญหาย เสน่ห์และความสุขเหือดแห้งไป‛

1. ปัญหาชีวิตไม่สามารถทาให้คู่รั กเลิกรากันได้
2. การดูหมิ่นเป็นปัญหาสาคัญที่ทาให้คู่รักเลิ กรากัน
3. การดูหมิ่นทาให้ความสั มพันธ์ล ดระดั บลง
4. การเลิกราของคู่รักทาให้ชีวิตไม่ มีความสุ ข

54. จากข้อความต่อ ไปนี้ผู้เขี ยนมีจุดประสงค์อย่ างไร


‚ในห้องจัดแสดงผลงานศิลปะ ต้องมีเครื่องดับเพลิงพร้อมใช้งาน และบุคลากรต้องพร้อมที่จะใช้
เครื่องดับเพลิง ที่สาคัญมีระบบป้องกันภัยเมื่ อ มีความผิ ดปกติ ของวงจรไฟฟ้า ไม่ควรมีการสูบบุหรี่ หรือมี
ก๊าซที่ติดไฟง่ายอยู่ในห้องดังกล่าว"

1. สั่งสอน 2. ชี้แจง
3. แนะนา 4. ตักเตือน
55. ข้อใดตีความข้อความต่ อไปนี้ไ ม่ถู กต้ อง
"ทุกสิ่งที่สื่อโทรทัศน์เข้าไปจั บจะถู กเปลี่ ยนให้เป็นการแสดงทางธุร กิจไปหมด แม้แต่ข่าวสาร
เหตุการณ์บ้านเมืองและการเมือง ผลประโยชน์เพื่อตลาดมวลชนมาเป็นอัน ดับหนึ่งแต่ความซื่อ สัตย์ต่อ
ผู้รับสารกลับเป็นเพียงอันดับรอง วงการข่าวกลายเป็นเรื่องบันเทิง ความบันเทิงมาเหนือกว่าการให้ข้อ มู ล
ข่าวสารอย่างท่วมท้น‛

1. สื่อโทรทัศน์ให้ความบันเทิง มาเหนือกว่าการให้ข่าวสาร
2. สื่อโทรทัศน์ถูกเปลี่ยนให้เป็นการแสดงทางธุร กิจ
3. สื่อโทรทัศน์มุ่งหวังแต่ผลประโยชน์เป็นอัน ดับแรก
4. สื่อโทรทัศน์ไม่ซื่อสั ตย์แ ละหลอกลวงผู้รั บสาร
13

อ่านข้อความต่อไปนี้แ ล้วตอบคาถามข้ อ 56 – 57
‚สัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าก็ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนไม่น้อยไปกว่ า กั น ในอดี ตอุ ณ หภู มิของ
โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ ฝูงสัตว์จึงมีเวลาในการปรับตัวและค่อยๆ อพยพย้ า ยถิ่ น ไปสู่ ที่ใ หม่ ใ ห้ แต่
เมื่ออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างในปัจจุบัน จะทาให้ ฝู ง สั ตว์ ปรั บตั วตามไม่ ทัน อี ก ทั้ ง การรุ ก
ล้าพื้นที่ป่าของมนุษย์ก็เหมือนปิดล้อมทางออกของสัตว์ไปด้ วยเมื่ อ โลกร้ อ นขึ้ น จนป่ า แห่ ง นี้ ไ ม่ เ หมาะแก่
การดารงชี วิตสั ตว์ ป่า เหล่ า นี้ ก็ ไ ม่ ส ามารถอพยพย้ า ยถิ่ น ไปได้ เพราะพื้ น ที่ ร อบๆ ถู ก ใช้ เ ป็ น พื้ น ที่ ทา
การเกษตรไปหมดแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ สัตว์ป่า จะเข้ า มาแย่ ง ซึ่ ง อาหารและแย่ ง ชิ ง การใช้ ทรั พ ยากรกั บ
มนุษย์ในบริเวณใกล้เคียงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

56. ข้อความต่อไปนี้ก ล่าวถึงเรื่องใด


1. ผลกระทบต่อสัตว์ ป่าจากภาวะโลกร้ อน
2. ผลกระทบต่อป่าไม้ จากภาวะโลกร้ อน
3. ผลกระทบต่อมนุษย์ จากภาวะโลกร้อน
4. ผลกระทบต่อการเกษตรจากภาวะโลกร้ อน
57. จากข้อความดังกล่า ว ข้อใดไม่ใช่ผลกระทบข้างเคียงที่เกิดจากภาวะโลกร้อน
1. อุณหภูมิของโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
2. โลกร้อนขึ้นสัตว์ป่าจึงต้ องอพยพย้า ยถิ่นไปสู่ ที่ใหม่
3. สัตว์ป่านั้นไม่สามารถอพยพย้า ยถิ่นไปได้
4. สัตว์ป่าปรับตัวไม่ ทันกั บอุณหภู มิที่เปลี่ ยนแปลงอย่างรวดเร็ ว
58. ข้อใดสรุปใจความสาคัญของข้อ ความต่อ ไปนี้ไ ด้ถู กต้ อง
“กว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกอาศั ย อยู่ ใ นเมื อ ง โดยแทบจะไม่ ไ ด้ เ ห็ น หรื อ สั มผั ส โลก
ธรรมชาติ ดังนั้นเราจึงต้องช่วยกันโน้มน้าวคนที่อาศัยอยู่ในเมืองให้ เ ข้ า ใจว่ า โลกที่ แ ท้ จริ ง ก็ คือ โลก
ที่มีชีวิต โดยพวกเขาและชีวิตในเมืองเป็นส่ วนหนึ่ ง ของธรรมชาติ แ ละต้ อ งพึ่ ง พาอาศั ย มั น ในการ
ดารงอยู่”
1. ประชากรโลกส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมือง
2. ประชากรในเมืองไม่ได้สัมผัส โลกธรรมชาติ
3. เราต้องเข้าใจว่าโลกที่แท้จริงก็ คือโลกที่ มีชีวิต
4. ในการดารงชีวิตอยู่ต้องพึ่งพาอาศัยธรรมชาติ
14

59. ข้อความต่อไปนี้ มุ่งกล่ าวถึงเรื่ องใดเป็นสาคัญ


“ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เป็ น ระยะที่ ต้อ งระวั ง ภั ย จากพม่ า
ข้าศึก จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้ า งวั ง เจ้ า นายและบ้ า นเรื อ นเสนาบดี เพื่ อ รั ก ษาการณ์ อ ยู่ ร ายรอบ
พระบรมมหาราชวัง ราษฎรทั่วไปตั้งบ้านเรือนกระจายอยู่ร อบพระนคร บริ เ วณแม่ น้ าเจ้ า พระยาฝั่ ง
ตะวันออก คือ พระนคร และฝั่งตะวันตก คือ ธนบุรี รวมทั้งริมคลองแยกจากแม่ น้ าเจ้ า พระยาเข้ า ไป
ในฝั่งธนบุรีซึ่งมีอยู่หลายสาย”
1. การป้องกันข้าศึก 2. ทาเลที่ตั้ง
3. การเมืองการปกครอง 4. การสถาปนาราชธานี

60. ข้อความต่อไปนี้ มีความหมายตรงกั บข้ อใด


“ใ น ปั จ จุ บั น ผู้ แ ต่ ง ห นั ง สื อ ช อบเปลี่ ย น วิ ธี เ รี ย บเ รี ย ง ภ าษาไทยไปตามประ โยค
ภาษาต่างประเทศ ด้วยคิดว่าสานวนภาษาแบบนั้นเป็นเครื่องหมายแสดงความรุ่ ง เรื อ ง และเป็ น การ
เปลี่ยนแปลงเพื่อทาให้เกิดการยอมรั บจากคนในสังคมยุ คใหม่ ”
1. ผู้แต่งหนังสือสมัยใหม่ไม่ใส่ใจการใช้ภาษาไทยให้ถู กต้ อง
2. ผู้แต่งหนังสือสมัยใหม่ใช้ภาษาไทยเพื่อแสดงถึงความรุ่งเรือง
3. ผู้แต่งหนังสือสมัยใหม่เขียนตามสานวนต่างประเทศเพื่อให้เกิดการยอมรับ
4. ผู้แต่งหนังสือสมัยใหม่มักไม่ไ ด้รั บการยอมรับจากสังคมปั จจุบัน
15

แบบทดสอบวิชาภาษาอังกฤษ
iTest ข้ อสอบ ภาค ก. (ก.พ.) ระดับ ป.ตรี – ป.โท
ชุดที่ 5/2563

Instruction : Choose the correct answer


Complete the dialogue given below. (1-2)
Situation : At home.
Nid : Noi, turn off the television, please.
Noi : 61
Nid : I said turn off the television, please.
Noi : 62 . I didn’t hear you.
61. 1. Good 2. What ?
3. How ? 4. Why ?
62. 1. Thank you. 2. Your welcome
3. Oh, sorry. 4. No, of course not.
Complete the dialogue given below 63-64
Situation : At the train station
Sunny : Excuse me. 63
Aree : Certainty. Turn right at the next comer.
Sunny : 64
Aree : You’re welcome.
63. 1. Can you tell me the way to the Shopping mall ?
2. Would you mind telling me about the Shopping mall ?
3. Could you tell me more information ?
4. May I help you ?
64. 1. Thank you very much. 2. All right.
3. Never mind. 4. Okay.
16

65. It’s rather hot, and the air condition is closed. You say ‚…‛ to your boyfriend.
1. Open
2. Let the air condition open.
3. Can you open the window now ?
4. Would you open the air condition, please ?
66. Which word is synonym of Neat ?
1. tidy 2. dirty
3. filthy 4. Lucky

67. Which two pairs of words are synonym ?


1. fat – thin 2. amazing - fantastic
3. big – small 4. good – better
68. Which is antonym of excited ?
1. calm 2. down
3. interesting 4. marriage
69 Which two pairs of words are antonym ?
1. interested - interesting
2. ask - question
3. funny - serious
4. angry - mad
70. Which is antonym of general ?
1. special 2. other
3. another 4. different
Fill in the blank with the correct answer. 71-75
71. I can’t play game because I ... my homework yet.
1. not finish 2. have not finished
3. did not finish 4. does not finish
72. After I … the homework, I played game.
1. finished 2. have finished
3. finish 4. has been finished
17

73. Yesterday, I found my wallet which I ... on the table.


1. leaving 2. left
3. was leave 4. have left
74. Flights between Bangkok and America ... twenty minutes shorter, thanks to recent cost cutting
route changes by major airlines.
1. will now be
2. will be
3. has been extended
4. are being cancelled
75. Tom : What are you going to do with your old car ?
Tim : Nothing! ... is too expensive.
1. That I want to do
2. What I want to do
3. If what I want to do
4. What do I want to do

Instruction : Choose the correct answer. 76-85


Using the Fruit and Vegetable Diet as a Detox
The fruit and vegetable diet can mean a few different things. One option is to eat
only fruit and vegetables as a way to detox as a way to start your weight loss. By cleansing
your body, you’ll be giving your weight loss. You’ll cleanse your body of toxins and help to rid
of unhealthy eating. But be warned - this kind of diet isn’t easy and you should see a doctor
before you get started!
If you want a more long term diet plan then opt to simply include a greater number of
fruits and vegetables in your everyday diet. Aside from the fruits and vegetables, you should
make sure that the rest of your diet remains balanced.
The Benefits of a Fruit and Vegetable Diet
There are a number of good thing of eating more fruits and veg in your diet. For a
start, they are very high in fiber. In turn this can helping to control blood glucose levels,
keeping your digestive system running smoothly, reducing the risk of some cancers and
18

reducing cholesterol levels.


Fruit and vegetables have a huge number of vitamins and minerals that we want for
our body. These help to prevent many diseases and health conditions and keep us as healthy as
possible.
How can we Eating ?
As part of a standard diet, you should be getting at least five portions of fruit and veg
every day - and these should come from a wide range of different sources. Eating them fresh
means you will get the greatest benefit, though you can incorporate dried fruits into your diet if
it helps. Remember the general rule - the more colorful the vegetables on your plate, the more
healthy your meal is.
So starting a fruit and vegetable diet is certainly a good resolution to make for the new
life. If you cannot find fresh fruit and veg, you can drinking smoothies and making soups.

76. What is the main idea of this passage ?


1. How to diet.
2. Using the Fruit and Vegetable Diet as A New Year Detox.
3. How to make weight loss resolution ?
4. How to start diet.
77. What is the advantage of eat only fruit and vegetables as a way to detox ?
1. You’ll be giving your weight loss efforts a head start.
2. You’ll cleanse your body of toxins and help to rid yourself of unhealthy eating habits.
3. It help to rid yourself of unhealthy eating habits.
4. ‘1’, ‘2’ and ‘3’ are correct.
78 According to this passage, which aren’t a number of benefit of more fruits and veg in your diet ?
1. Can impact your health by helping to control blood glucose levels.
2. Can make your face shine bright.
3. Keeping your digestive system running smoothly.
4. Reducing the risk of some cancers and reducing cholesterol levels.
19

79. Why fruit and vegetable can help to prevent a whole range of diseases ?
1. Fruit and vegetables also contain a huge number of glucoses and carbohydrates.
2. Fruit and vegetables also contain a huge number of glucoses and minerals.
3. Fruit and vegetables also contain a huge number of vitamins and minerals.
4. Fruit and vegetables also contain a huge number of vitamins and carbohydrates.
80. How many portions of fruit and veg does we have to get every day ?
1. Three portions 2. Four portions
3. Five portions 4. Six portions
81. How can we get the greatest benefit form fruit and vegetable ?
1. We should eat them fresh.
2. We should eat them after freeze dry.
3. We should eat them after boiled.
4. We should eat them after meal.
82. According to passage, what is the general rule (last paragraph) ?
1. Increase fruit in your meal.
2. Starts diet by fruit and veg as soon as possible.
3. If you want to lose weight you have to eat heathy.
4. The more colorful the vegetables on your plate.
83. What should you do if you can’t find fresh fruit and veg ?
1. Don’t eat.
2. Try to find at another place.
3. Try to make things easier by drinking smoothies and making soups.
4. None of above are correct.

84. Which word has same meaning as ‚huge‛ ?


1. small 2. Large
3. least 4. Last
85. What is the type of essay ?
1. Narrative 2. Advertising
3. Descriptive 4. Story Line
20

แนวข้ อสอบเจตนคติและจรรยาของข้ าราชการ


86. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ต้องมีอายุไม่ต่ากว่าเท่าใด
1. 35 ปี 2. 40 ปี
3. 45 ปี 4. 50 ปี
87. นอกจากการพ้นจากตาแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณ วุ ฒิ พ้ น จากตาแหน่ ง เมื่ อ ก.ม.จ. มี มติ ใ ห้ อ อก
จากตาแหน่ง ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าเท่าใดของจานวนกรรมการเท่า ที่ มีอยู่
1. หนึ่งในสาม 2. สองในสาม
3. สามในสี่ 4. กึ่งหนึ่ง
88. ข้อใดไม่ใช่สาเหตุที่ทาให้ ก.ม.จ. มีมติให้กรรมการผู้ทรงคุณ วุฒิพ้นจากตาแหน่ง
1. ประมาทเลินเล่อ 2. บกพร่องต่อหน้าที่
3. มีความประพฤติเสื่อ มเสีย 4. หย่อนความสามารถ
89. ในกรณี ที่ก รรมการผู้ ทรงคุ ณ วุ ฒิ พ้ น จากตาแหน่ ง ก่ อ นวาระหรื อ ในกรณี ที่น ายกรั ฐ มนตรี แ ต่ ง ตั้ ง
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเ พิ่ มขึ้ น ในระหว่ า งที่ ก รรมการผู้ ทรงคุ ณ วุ ฒิ ซึ่ ง แต่ ง ตั้ ง ไว้ แ ล้ วยั ง มี วาระอยู่ ใ น
ตาแหน่ง ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนตาแหน่งที่ ว่างหรือเป็ น กรรมการผู้ ทรงคุ ณ วุ ฒิ เ พิ่ มขึ้ น อยู่ ใ นตาแหน่ ง
เท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทนหรือผู้ซึ่งแต่งตั้งไว้แ ล้ ว เว้ น แต่ วาระที่ เ หลื อ อยู่ ไ ม่ ถึ ง กี่ วัน จะไม่
แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณ วุฒิแ ทนก็ไ ด้
1. 90 วัน 2. 120 วัน
3. 180 วัน 4. 200 วัน
90. ให้ ก.ม.จ. จัดให้มีการทบทวนมาตรฐานทางจริยธรรมตามมาตรา 5 ทุกกี่ปี
1. 5 ปี 2. 6 ปี
3. 7 ปี 4. 3 ปี
แนวข้ อสอบพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่ นดิน
91. ส่วนราชการใดต่อไปนี้มีอานาจหน้า ที่เกี่ย วกั บราชการทางการเมื อง
1. สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
2. สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
3. สานักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
4. สานักนายกรัฐมนตรี
92. ข้อใดต่อไปนี้ทาหน้าที่เป็นที่ปรึ กษาผู้ว่า ราชการจังหวั ดในการบริหารราชการแผ่น ดินในจังหวัดนั้น
1. อัยการจังหวัด 2. ปลัดจังหวัด
3. คณะกรมการจังหวัด 4. หัวหน้าส่วนราชการประจาจังหวัด
21

93. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้ อง
1. ก.ธ.จ. ทาหน้าที่สอดส่องและเสนอแนะการปฏิบัติภารกิ จของหน่วยงานของรัฐในจังหวั ด
2. ก.ธ.จ. มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
3. ก.ธ.จ. คือ คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด
4. ก.ธ.จ. ประกอบด้วยผู้แทนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่ไม่ ไ ด้ ดารงตาแหน่ ง ผู้ บริ ห ารและผู้ แ ทนภาคธุ ร กิ จ
เอกชน
94. การยกเว้น จากัด หรือตัดทอน อานาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวั ด กระทาโดยตราเป็น
1. พระราชบัญญัติ 2. พระราชกฤษฎีกา
3. พระราชกาหนด 4. ข้อบังคับ
95. บุคคลใดเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534
1. นายกรัฐมนตรี
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
3. ปลัดสานักนายกรัฐมนตรี
4. รัฐมนตรีประจาสานักนายกรัฐ มนตรี

แนวข้ อสอบพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติ ราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 (แก้ ไขเพิม่ เติม พ.ศ.2562)


96. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกั บการพิจารณาทางปกครอง
1. การพิจารณาทางปกครอง เจ้าหน้าที่จะต้องพิจารณาตามคาขอหรื อพยานหลั กฐานของคู่ก รณีเท่านั้น
2. การพิจารณาทางปกครอง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบข้ อ เท็ จจริ ง หรื อ แสวงหาพยานหลั ก ฐาน
เพิ่มเติมได้ ต้องผูกพันอยู่กับคาขอหรือพยานหลักฐานของคู่ กรณีเ ท่านั้น
3. การพิจารณาทางปกครอง เจ้าหน้ า ที่ ส ามารถแสวงหาพยานหลั ก ฐานทุ ก อย่ า งที่ เ กี่ ย วข้ อ งได้ และ
ขอให้ผู้ครอบครองเอกสารส่งเอกสารที่เกี่ย วข้องได้
4. ถูกเฉพาะข้อ 1 และ 2
97. การบังคับคดีตามคาสั่งทางปกครองที่กาหนดให้กระทาหรื อ ละเว้ น กระทา ถ้ า ผู้ อ ยู่ ใ นบั ง คั บของคาสั่ ง
ทางปกครองฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตาม เจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการบังคับทางปกครองได้อ ย่างไร
1. เจ้าหน้าที่เข้าดาเนินการด้วยตนเองหรือมอบหมายให้บุคคลอื่นกระทาการแทน
2. ให้มีการชาระค่าปรับบังคับการตามจานวนที่ ส มควรแก่เหตุแต่ ต้องไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน
3. ต้องให้เจ้าพนัก งานปกครองหรื อ เจ้ า พนั ก งานตารวจดาเนิ น การบั ง คั บให้ เ ป็ น ไปตามคาสั่ ง ทาง
ปกครอง
4. ถูกเฉพาะข้อ 1 และ 2
22

98. ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุ ด
1. คาสั่งทางปกครองต้องทาเป็นหนังสือเท่านั้น
2. คาสั่งทางปกครองอาจทาเป็นหนังสือหรือวาจาก็ไ ด้
3. คาสั่งทางปกครองอาจทาเป็นหนังสือหรือวาจาหรื อโดยการสื่ อความหมายในรูปแบบอื่นก็ ได้
4. คาสั่งทางปกครองอาจทาเป็นหนังสือหรือวาจาหรือโดยการสื่อความหมายในรู ปแบบอื่ น ก็ ไ ด้ แต่ ต้อ ง
มีข้อความ หรือความหมายที่ชัดเจนเพียงพอที่จะเข้าใจได้

99. การออกคาสั่งทางปกครองเป็นหนังสือในเรื่องใด หากมิได้มีกฎหมายหรื อ กฎก าหนดระยะเวลาในการ


ออกคาสั่งทางปกครองในเรื่องนั้นไว้เป็นประการอื่ น เจ้ า หน้ า ที่ จะต้ อ งออกคาสั่ ง ทางปกครองนั้ น ให้
แล้วเสร็จ ภายในกาหนดกี่วัน
1. 15 วัน 2. 30 วัน
3. 45 วัน 4. 60 วัน
100. การออกคาสั่งทางปกครองโดยยังไม่มีผู้ยื่นคาขอในกรณีที่เจ้าหน้าที่จะดาเนินการเองไม่ ไ ด้ น อกจากจะมี
ผู้ยื่นคาขอต่อมาในภายหลังได้มีการยื่นคาขอเช่นนั้นแล้ว คาสั่งทางปกครองที่ อ อกไปแล้ วมี ผ ลเป็ น เช่ น
ไร
1. สมบูรณ์ 2. ไม่สมบูรณ์
3. ตกเป็นโมฆะ 4. ตกเป็นโมฆียะ
23

เฉลยแบบทดสอบภาคความรู้ความสามารถทัว่ ไป (ภาค ก.)


iTest ข้ อสอบ ภาค ก. (ก.พ.) ระดับ ป.ตรี – ป.โท
ชุดที่ 5/2563

ข้อ 1. ตอบ 2.
แนวคิด 218 225 75 84 28 39 13
+7 3 +9 3 +11  3
ข้อ 2. ตอบ 4.
แนวคิด 0 7 8 15 30 53 98
0+7+8 7+8+15 8+15+30 15+30+53
ข้อ 3. ตอบ 2.
แนวคิด 4 1 3 16 40 118
(4  1 3)  2 (1  3 16)  2 (3  16  40)  2
ข้อ 4. ตอบ 1.
แนวคิด 30 30 60 45 35 20 11
(30  30) 1 (30  60)  2 (60  45)  3 (45  35)  4 (35  20)  5
ข้อ 5. ตอบ 3.
แนวคิด 4 3 5 12 20 37 69
4+3+5 3+5+12 5+12+20 12+20+37
ข้อ 6. ตอบ 1.
เมื่อนาตัวเลขแต่ละคู่มาคู ณกัน 40 40  1,600 ซึ่งมีค่ามากกว่าข้ออื่น
ข้อ 7. ตอบ 2.
ถ้าลูกค้าสนใจติดต่อซื้อ จะลดให้ 20%
ราคา 100 บาท ขาย 80 บาท
80
ราคา 200 บาท ขาย  200  160 บาท
100
ข้อ 8. ตอบ 4.
เมื่อ 7 ปีก่อน สมศรีอายุ 15 ปี แสดงว่าปัจจุบัน สมศรีอายุ 15 + 7 = 22 ปี
อีก 8 ปีข้างหน้า สมศรีจะอายุ 22 + 8 = 30 ปี
24

ข้อ 9. ตอบ 1.
20
20% ของนักเรียนชาย คิดเป็น  200  40 คน
100
20% ของนักเรียนชายเท่ากับ 10% ของนักเรียนหญิง
ดังนั้น 10% ของนักเรียนหญิง คือ 40 คน
ถ้า 10 ส่วน มีนักเรียนหญิง 40 คน
40
ถ้า 100 ส่วน มีนักเรียนหญิง 100  400 คน
100
ดังนั้น มีนักเรียนหญิง 400 คน
ข้อ 10. ตอบ 4. (น + ล)  2
a 2  a a (a  1)
ข้อ 11. พิจารณา สดมภ์ ก จะได้   a 1
a a
พิจารณา สดมภ์ ข จะได้ b + 1
ไม่ทราบค่าของ a และ b
ดังนั้น ไม่สามารถสรุปได้ ว่าสดมภ์ใดมากกว่า กัน
ดังนั้น ตอบข้อ 4 ไม่สามารถสรุปได้ว่า ค่าในสดมภ์ ก หรือค่าในสดมภ์ ข มีค่ามากกว่ากัน
ข้อ 12. เมื่อกาหนด x = 4 และ y = 9
จะได้สดมภ์ ก เท่ากับ 4 + 1 = 2 + 1 = 3
จะได้สดมภ์ ข เท่ากับ 1 + 9 = 1 + 3 = 4
 สดมภ์ ก < สดมภ์ ข
แต่ถ้ากาหนด x = 9 และ y = 4
จะได้สดมภ์ ก เท่ากับ 9 + 1 = 3 + 1 = 4
จะได้สดมภ์ ข เท่ากับ 1 + 4 = 1 + 2 = 3
 สดมภ์ ก > สดมภ์ ข
ดังนั้น ตอบข้อ 4 ไม่สามารถสรุปได้ว่า ค่าในสดมภ์ ก หรือค่าในสดมภ์ ข มีค่ามากกว่ากัน
ข้อ 13. พิจารณา สดมภ์ ก จะได้ 0.33
1
พิจารณา สดมภ์ ข จะได้  0.333 ...
3
เนื่องจาก 0.333... สามารถอนุมานได้ว่าเป็น 0.333
ซึ่งมีค่ามากกว่า 0.330
ดังนั้น ตอบข้อ 2 ค่าในสดมภ์ ข มากกว่าค่าในสดมภ์ ก
25

a
ข้อ 14. จากสดมภ์ ค จะได้ 3
6
a > 18
3a > 54
ดังนั้น ตอบข้อ 1 ค่าในสดมภ์ ก มากว่าค่าในสดมภ์ ข
20
ข้อ 15. พิจารณา สดมภ์ ก จะได้  270  54
100
พิจารณา สดมภ์ ข จะได้ 2z3 เมื่อ z = 3 จะได้ 2  3  3 3  54
ดังนั้น ตอบข้อ 3 ค่าสดมภ์ ก เท่ากับค่าในสดมภ์ ข

ข้อ 16. วิธีทา วั น จั น ทร์ มีรู ปภาพไข่ ไ ก่ มากที่ สุ ด ดั ง นั้ น วั น จั น ทร์ เ ก็ บไข่ ไ ก่ ไ ด้ มากที่ สุ ด ซึ่ ง คาตอบที่
ถูกต้องคือ
ข้อ 1

ข้อ 17. วิธีทา วันพุธมีรูปไข่ไก่ 5 รูปกับอีกครึ่งรูป


ดังนั้นเก็บไข่ไก่ได้ (510)  5  55 ฟอง
วันเสาร์มีรูปไข่ไก่ 4 รูป ดังนั้นเก็บไข่ไก่ได้ 4 10  40 ฟอง
ดังนั้น วันพุธเก็บไข่ไก่ได้มากกว่ าวันเสาร์ 55 – 40 = 15 ฟอง
ซึ่งคาตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ 4
ข้อ 18. วิธีทา วันที่เก็บไข่ไก่ได้มากที่ สุดคือ วันจันทร์ 70 ฟอง
วันที่เก็บไข่ไก่ได้น้อยที่ สุดคือ วันพฤหัส บดี กับวันเสาร์ 40 ฟอง
ดังนั้น วันที่เก็บไข่ไก่ได้ มากที่สุ ดกั บน้อยที่สุ ดต่างกันอยู่
70 – 40 = 30 ฟอง ซึ่งคาตอบที่ถูกต้องคื อ ข้อ 4
ข้อ 19. วิธีทา วันเสาร์และวันอาทิตย์เก็บไข่ไก่ รวมกันได้ (9 10)  5  95 ฟอง
ดังนั้น ถ้าขายไข่ไก่ฟองละ 4 บาท จะได้เงินทั้งหมด
4  95  380 บาท ซึ่งคาตอบที่ถูกต้องคื อ ข้อ 2
ข้อ 20. วิธีทา ทั้งสัปดาห์เก็บไข่ไก่ได้ ทั้งหมด 37 10  370 ฟอง
ซึ่งคาตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ 4

ข้อ 21. ตอบ 4.


เพราะ หมวกอยู่ส่วนบน รองเท้าอยู่ข้างล่าง เช่นเดียวกับกันสาดและขั้นบันได
26

ข้อ 22. ตอบ 1


เพราะ ขด งอ มีลักษณะเช่นเดียวกัน จึงคู่กับชูและยึดที่มีลักษณะเหมือนกัน

ข้อ 23. ตอบ 1


เพราะ ปักษ์ก็คือครึ่งเดือน คืบก็คือครึ่งของศอก

ข้อ 24. ตอบ 2


เพราะ กระดาษปลิว แสดงว่าหลุดออกไปจากสิ่งเดิ ม จึงคู่กับต้นไม้ที่ถูก โค่น

ข้อ 25. ตอบ 1


เพราะ เส้นเมื่อแตกออกจะได้เป็นจุดต่อๆ กันในแนวเส้นตรงเดี ย วกั น เมฆมี จา นวนมากก็ จะได้ ฝ น
ตกลงมา

26. ตอบ 4
เพราะมาลี ญาติของวินัยเป็นครูอยู่เชียงใหม่ ญาติของวินัยทุกคนชอบรั บประทานผลไม้ ดั ง นั้ น มาลี
ชอบรับประทานผลไม้
หมอทุกคนทางานที่ โ รงพยาบาล แต่ ทางานที่ โ รงพยาบาลไม่ จาเป็ น ต้ อ งเป็ น หมอ ดั ง นั้ น ส้ มโอ
อาจจะเป็นหมอหรือไม่ก็ไ ด้

27. ตอบ 4
เพราะเพื่อนของวินัยทุกคนเป็นหมอทุกคนที่เป็นหมอทางานที่ โรงพยาบาล
ดังนั้น เพื่อนของวินัยทางานที่โรงพยาบาล
อุดม ญาติของวินัยเป็นปลัดอาเภอและจบรัฐศาสตร์ ดังนั้น อุดมไม่ได้เป็นหมอ

28. ตอบ 2
เพราะวินัยเป็นปลัดอาเภอทุกคนที่เรียนรัฐศาสตร์ไ ด้เป็น ปลั ดอาเภอ
ดังนั้น วินัยไม่ได้เรียนจบด้านการแพทย์ มาลี ญาติของวินัยเป็นครูอยู่เชียงใหม่
ดังนั้น มาลีไม่ได้เป็นหมอ
27

29 ตอบ 1
เพราะผู้ ที่เ รี ย นรั ฐ ศาสตร์ ทุก คนจบมาจากมห าวิ ทยาลั ย ผู้ ที่จบจากมหาวิ ท ยาลั ย ทุ ก คนชอบ
รับประทานผลไม้ ดังนั้น ผู้ที่เรียนรัฐศาสตร์ ทุก คนชอบรั บประทานผลไม้ ปลั ดอ า เภอทุ ก คนชอบ
เล่นกีฬา วินัยเป็นปลัดอาเภอ อุดม ญาติของวินั ย เป็ น ปลั ด อ าเภอและจบรั ฐ ศาสตร์ ดั ง นั้ น
อุดม ชอบเล่นกีฬา

30. ตอบ 3
เพราะญาติของวินัยทุกคนชอบรับประทานผลไม้ ผู้ ที่จบจากมหาวิ ทยาลั ย ทุ ก คน ชอบรั บประทาน
ผลไม้ แต่ญาติของวินัยทุกคนอาจจะจบจากมหาวิทยาลั ยหรือ ไม่ก็ได้
ส้มโอจบทางด้านการแพทย์ และทางานอยู่โรงพยาบาล ส้มโออาจจะชอบเล่นกีฬา หรือไม่ก็ได้

ข้ อ 31 ข้อสรุปทั้งสองถูก หรือเป็นจริงตามเงื่อนไขที่กาหนด
พิจารณาข้ อสรุปที่ 1 : 2R < 6W
จาก E < 3w
R < 3W จาก R = E
2R < 6W เอา 2 คูณทั้งสองข้าง
ดังนั้น ข้ อสรุปที่ 1 ถูกต้ อง
พิจารณาข้ อสรุปที่ 2 : E < 2F
จาก R < 2F
E < 2F จาก R = E
ดังนั้น ข้ อสรุปที่ 2 ถูกต้ อง
สรุปจึง ตอบข้ อ 1 ถ้ าข้ อสรุปทั้งสองเป็ นจริงตามเงื่อนไขทีก่ าหนด
ข้ อ 32 พิจารณาข้ อสรุปที่ 1 : Q = 3W
จาก 4W < 0
3W <Q จาก 3W < 4W
ดังนั้น ข้ อสรุปที่ 1 ผิด
พิจารณาข้ อสรุปที่ 2 : E>Q
เนื่องจาก Q> 4W > 3W > E
ดังนั้น ข้ อสรุปที่ 2 ผิด
สรุปจึง ตอบข้ อ 2 ข้ อสรุปทั้งสองผิดหรือไม่ เป็ นจริงตามเงื่อนไขทีก่ าหนด
28

ข้ อ 33 พิจารณาข้ อสรุปที่ 1 : P = R
เนื่องจาก R < 3W และ P < 3W
ดังนั้น ข้ อสรุปที่ 1 ไม่ สามารถสรุปได้
พิจารณาข้ อสรุปที่ 2 : Q < 2F
จาก Q  R < 2F
เนื่องจาก Q  R แสดงว่า Q > R และ Q < R
ถ้า Q < R จะได้ Q < 2F
ถ้า Q > R ก็ไม่สามารถสรุปได้ ว่า Q < 2F หรือไม่
ดังนั้น ข้ อสรุปที่ 2 ไม่ สามารถสรุปได้
สรุปจึง ตอบข้ อ 3 ข้ อสรุปทั้งสองไม่ สามารถสรุปได้ แน่ ชัดว่ าถูก หรือผิดตามเงื่อนไข

ข้ อ 34 พิจารณาข้ อสรุปที่ 1 : 3w = E
จาก E < 3W จะได้ว่า E = 3w และ E < 3W
ดังนั้น ข้ อสรุปที่ 1 ไม่ สามารถสรุปได้
P
พิจารณาข้ อสรุปที่ 2 : 4W >
3
จาก 3W > P
4
(3W) > 4 P
3 3

เนื่องจาก 4
P> P จะได้ 4W > P
3 3 3
ดังนั้น ข้ อสรุปที่ 2 ถูกต้ อง
สรุปจึง ตอบข้ อ 4 ข้ อสรุปทั้งสองมีข้อสรุปใดข้ อสรุปหนึ่งถูกต้ อง เป็ นจริง หรื อ ผิ ด หรื อ ไม่ ส ามารถ
ตัดสิ นได้ เพียงข้ อเดียว
ข้ อ 35 พิจารณาข้ อสรุปที่ 1 : E < 2P
จาก E < 3W > P
จะได้ 2P < 6W และ E < 6W
ดังนั้น ข้ อสรุปที่ 1 ไม่ สามารถสรุปได้
พิจารณาข้ อสรุปที่ 2 : Q > R
จาก Q  R จะได้ Q > R และ Q < R
ดังนั้น ข้ อสรุปที่ 2 ไม่ สามารถสรุปได้
สรุปจึง ตอบข้ อ 3 ถ้ าข้ อสรุปทั้งสองไม่ สามารถสรุปได้ แน่ ชัดว่ าถูก หรือผิดตามเงื่อนไข
29

36. ตอบข้ อ 1 เพราะ ‚แฟนรวย‛ เป็นเหตุ ส่วน ‚แต่งงานด้วยทันที" เป็น ผล


สรุปว่ า พลอยยังไม่ แต่ งงาน (ตรงข้ ามผล) ฉะนั้น แฟนพลอยไม่ รวย (ตรงข้ ามเหตุ )
37. ตอบข้ อ 4 เพราะ ‚มีดบาด‛ เป็นเหตุ ส่วน ‚ไปโรงพยาบาล‛ เป็นผล
สรุป วันนี้ฉันไปโรงพยาบาล (ผล) ฉะนั้นไม่สามารถสรุปได้
38. ตอบข้ อ 4 เพราะ ทั้งเหตุและผลไม่เกี่ยวข้องกัน ทาให้ไม่สามารถสรุปได้
39. ตอบข้ อ 2 เพราะ ‚พระ‛ เป็นเหตุ ส่วน ‚ห่มผ้าเหลือง‛ เป็นผล
สรุป วิชัยเป็นพระ (เหตุ) ฉะนั้นวิชัยห่มผ้าเหลือง (ผล)
40. ตอบข้ อ 4 เพราะ โจทย์ไม่ได้ระบุว่า บ้านนี้มีกี่คน

41. ตอบข้ อ 4 เพราะ ข้อ 1 ใช้คาผิด คาว่า “ระบบ” ควรเปลี่ยนเป็น “ระบอบ”


 ระบบ หมายถึ ง สิ่ ง ที่ ประกอบขึ้ น มาจากองค์ ประกอบย่ อ ย ที่ จะต้ อ งมี ความสั มพั น ธ์
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กาหนดไว้
 ระบอบ หมายถึง แบบอย่างหรือธรรมเนียม หรืออาจหมายถึง ระเบียบการปกครอง
ดังนั้น ใช้ว่า “ระบอบสมบูรณาญาสิ ทธิราชย์ ” จึงถูกต้อง
42. ตอบข้ อ 2 เพราะ ข้อ 3 ใช้คาผิด
 “ล่วงเลย” ควรเปลี่ยนเป็น “ละเลย”
 ล่วงเลย หมายถึง ผ่านพ้น เช่น ไม่ควรปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปโดยเปล่า ประโยชน์
 ละเลย หมายถึง ไม่เอาใจใส่ เพิกเฉย
ดังนั้น ใช้ว่า “ผู้ใช้ยาก็ล ะเลยที่จะอ่านฉลากยา” จึงถูกต้อง
43. ตอบข้ อ 2 เพราะ ข้อ 3 ใช้คาผิด โดยควรเปลี่ยนคาบุพบท “กับ” เป็น “ต่อ”
 กับ ใช้เมื่อประธานที่ทากริยาเดียวกัน เช่น เขาไปดูหนังกับฉัน เสือต่อสู้กับกระทิง
 ต่ อ เน้ น ความเป็ น เฉพาะและการกระทาต่ อ หน้ า เช่ น ยื่ น คาร้ อ งต่ อ ศาลให้ ก ารต่ อ
เจ้าหน้าที่
ดังนั้น ใช้ว่า “ต้องทาคาที่ให้การยื่นต่ อศาลภายในกาหนด 15 วัน” จึงถูกต้อง
44. ตอบข้ อ 1 เพราะ ใช้คาถูกต้องทั้งหมด
45. ตอบข้ อ 4 เพราะ ข้อ 1 ใช้คาผิด
 ควรเปลี่ยนคาขึ้นต้น “เนื่องจาก” เป็น “เมื่อ”
 เนื่องจาก จะใช้ไนประโยคที่เป็นเหตุเป็นผล มักใช้คู่กับ “ทาให้ ” , “จึง”
ดังนั้นใช้คาว่า “เมื่อ” จึงเหมาะสมกว่า “เมื่อผู้คนในชุมชนมีอาชีพ และรายได้ ที่เ หมาะสม ก็
จะมีการพัฒนาชุมชนซึ่งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้ อ ม”
30

46. ตอบข้ อ 2 เพราะ สามารถเรียงได้ ดังนี้ -> (3) (2) (4) (1)
“(3) แม้เมียนมาจะประสบปัญหาทางการเมืองและปั ญ หาชนกลุ่ มน้ อ ยในประเทศ ( 2) แต่
เมียนมาได้ดาเนินการสานสัมพันธ์กับนานาประเทศอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง ( 4) โดยเฉพาะอย่ า งยิ่ ง
ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (1) หนึ่ ง ในนั้ น คื อ ประเทศไทยซึ่ ง มี
ความสัมพันธ์ กันมายาวนาน”
คาว่า “แม้” มักจะใช้ขึ้นต้นย่อหน้าของข้อความ ส่ วนคาว่ า “แต่ , โดยเฉพาะอย่ า งยิ่ ง , หนึ่ ง
ใน นั้น” มักจะสอดแทรกในข้อ ความเพื่อ ทาหน้าที่เชื่อ มข้ อความ
47. ตอบข้ อ 4 เพราะ เมื่อเรียงบทความแล้วจะได้เ ป็นข้อ ความลาดั บที่ 3
“(3) ขนาดของประชากรเป็นปัจจัยสาคัญที่ทาให้เกิดการย้ า ยถิ่ น ( 1) เนื่ อ งจากทรั พ ยากรที่
จาเป็นต่อการยังชีพจะมีอยู่อย่างจากัด (4) เมื่อจานวนประชากรเพิม่ ขึ้น แต่ ทรัพยากรมี
อัตราต่ากว่ าการเพิม่ ของประชากร (2) ส่งผลให้เกิดความขาดแคลนขึ้น และย้ายถิ่นออกไป
เพื่อทามาหาเลี้ยงชีพ”
48. ตอบข้ อ 3 เพราะ เมื่อเรียงบทความแล้วจะได้เ ป็นข้อ ความลาดั บที่ 2
“(1) ภาษากลางทาหน้าที่เป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสารภายในประเทศ (3) ในสั ง คมไทย
นั้น ภาษาทีท่ าหน้ าทีน่ ี้ ได้ แก่ ภาษาไทยมาตรฐาน (4) นอกจากนั้ น ภาษาประจาภาคต่ า งๆ
ก็ทาหน้าที่เป็นภาษากลาง (2) สาหรับใช้สนทนาในกลุ่มชาติพันธุ์ท้องถิ่นนั้นๆ”
49. ตอบข้ อ 1 เพราะ เมื่อเรียงบทความแล้วจะได้เ ป็น ข้อ ความลาดั บที่ 4
“(3) ความต้องการทางกายภาพอันได้แ ก่ อาหาร น้ า เครื่ อ งนุ่ ง ห่ ม ยารั ก ษาโรค ( 4) ความ
ต้องการเหล่านี้นับเป็นรายจ่ายสาคัญ ของครอบครั ว ( 2) ที่ ต้อ งมี ก ารจั ดสรรไว้ เ ป็ น อั น ดั บ
แรก ให้เพียงพอในชีวิตประจาวัน (1) และต้ องสรรจัดเงินเพือ่ การรักษาพยาบาลในอนาคตด้ วย”
50. ตอบข้ อ 3 เพราะ สามารถเรียงได้ดังนี้ -> (2) (4) (1) (3)
“(2) ทุกคนพึงสานึกไว้ว่าเป็นทรัพยากรอันมีค่าของชาติ (4) เราได้ เ สี ย เวลาในการศึ ก ษาหา
ความรู้มาเป็นเวลานานหลายปี (1) จึงควรเผยแพร่ความรู้ที่มีอยู่แก่ผู้อื่น (3) ซึ่ ง ถื อ ว่ า เป็ น การ
ทาประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศชาติบ้าง” คาว่ า “จึ ง , ถื อ ได้ ว่า ” มั ก จะสอดแทรกใน
ข้อความเพื่อทาหน้าที่เชื่อมข้ อความ
51. ตอบข้ อ 2 เพราะ สาระสาคัญ การใช้ภาษาให้ถูกต้อง สังเกตได้จาก
“ถ้ าภาษาไม่ ถูกต้ อง เมื่อมีการสนทนากันก็อาจทาให้เกิดความไม่เข้าใจกัน ...”
“เพราะเมื่อคาพูดไม่ ถูกต้ อง ก็จะถือเอาอะไรถูกต้องไม่ได้ เรื่องการใช้ ภาษาให้ ถู ก ต้ อ งจึ ง เป็ น
เรื่องสาคัญกว่าสิ่งใดๆ...”
31

52. ตอบข้ อ 4 เพราะ สาระสาคัญคือ การสบตา สังเกตได้จากบทความ


“สายตาเป็นเครื่องมือสื่อสารทางความคิด (ของผู้พูด)...”
“...ผู้พดู หลบสายตาไปจากผู้ฟัง ก็เท่ากับว่าได้โยนเครื่องมือสื่ อสารที่ สาคัญ ที่สุ ดทิ้งไป”

53. ตอบข้ อ 2 เพราะ สรุปข้อความได้ดี การดูหมิ่นเป็ น ปั ญ หาส าคั ญ ที่ ทาให้ คู่รั ก เลิ ก รากั น สั ง เกตได้ จาก
บทความ
“หากมีการดูหมิ่นกันเมื่อใด จานวนกว่ าร้ อยละ 90 ของชีวิตคู่จะเลิกรากันในเวลาต่อมา”
ดังนั้น การดูหมิ่นจึงเป็นปัญหาสาคัญที่ทาให้คู่รักเลิ กรากัน
54. ตอบข้ อ 3 เพราะ มีจุดประสงค์คือ “แนะน า” หมายถึ ง ชี้ แ จงให้ ทาหรื อ ปฏิ บัติ สั ง เกตได้ จากคาว่ า
“ต้อง มี...ไม่ควร...” ซึ่งเป็นคาพูดเชิงแนะนาให้ปฏิบัติตาม
55. ตอบข้ อ 4 เพราะ สังเกตได้จากบทความ “...แต่ความซื่อสัตย์ ต่อ ผู้ รั บสาร กลั บเป็ น เพี ย งอั น ดั บรอง...”
ไม่ได้กล่าวว่า ไม่ ซื่อสั ตย์ หรือหลอกลวง แต่ตีความได้ ว่า ความซื่ อ สั ตย์ ต่อ ผู้ รั บสารนั้ น เป็ น
เพียงอันดับรองลงมา
56. ตอบข้ อ 1 เพราะ สังเกตได้จากบทความ “สั ตว์ ที่อาศัยอยู่ในป่าก็ได้ รับผลกระทบจากภาวะโลกร้ อ นไม่
น้อยไปกว่ากัน”
และ “เมื่ออุณหภูมิทเี่ ปลี่ ยนแปลงอย่ างรวดเร็ว อย่างในปัจจุบัน จะทาให้ฝูงสั ตว์ ปรับตัว
ตามไม่ ทนั ” มีการกล่าวถึงผลกระทบต่ อสั ตว์ ป่าจากภาวะโลกร้อนเป็นหลั ก
57. ตอบข้ อ 3 เพราะ สังเกตได้จากบทความ “สัตว์ป่าเหล่านี้ก็ไ ม่ ส ามารถอพยพย้ า ยถิ่ น ไปได้ เ พราะพื้น ที่
รอบๆ ถูกใช้ เป็ นพืน้ ทีท่ าการเกษตรไปหมดแล้ ว ” สาเหตุที่สั ตว์ ไ ม่ ส ามารถอพยพย้ า ยถิ่ น ไป
ได้เป็นเพราะฝีมือมนุษย์รุกล้าพื้นที่ ป่าไปทาการเกษตรไม่ไ ด้เกิดจากภาวะโลกร้ อน
58. ตอบข้ อ 4 เพราะ สังเกตได้จากบทความ “...โดยพวกเขาและชีวิตในเมื อ งเป็ น ส่ วนหนึ่ ง ของธรรมชาติ
และต้องพึง่ พาอาศัยมันในการดารงอยู่” ส่วนท้ า ยของย่ อ หน้ า นี้ เ ป็ น ใจความส าคั ญ “มั น ”
ใน ข้อความดังกล่าว หมายถึง “ธรรมชาติ”
59. ตอบข้ อ 2 เพราะ สังเกตได้จากบทความ “สร้างวั ง เจ้ า นาย...อยู่ ร ายรอบพระบรมมหาราชวั ง ราษฎร
ทัว่ ไปตั้งบ้ านเรือนกระจายอยู่รอบพระนคร...” ซึ่งเป็นการบอกตาแหน่งทาเลที่ตั้งเป็นหลัก
60. ตอบข้ อ 3 เพราะ สังเกตได้จากบทความ “ในปัจจุบันผู้แต่งหนังสือชอบเปลี่ ยนวิ ธี เ รี ย บเรี ย งภาษาไทย
ไปตามประโยคภาษาต่ างประเทศ คิดว่าสานวนภาษาแบบนั้ น เป็ น เครื่ อ งหมายแสดงความ
รุ่งเรือง และเป็ นการเปลี่ ยนแปลงเพือ่ ทาให้ เกิดการยอมรับจากคนในสั งคมยุคใหม่ ”
61. ตอบข้ อ 2 เพราะ เป็นการถามย้าอีกครั้งหนึ่งว่า อะไรนะ? เนื่ อ งจากประโยคแรกต้ อ งการบอกให้ ปิด
โทรทัศน์
32

62. ตอบข้ อ 3 เพราะ เป็นประโยคของการขอโทษที่ไ ม่ ได้ยิน ที่อี กฝ่า ยพูดมาว่า ให้ปิดโทรทัศน์


63. ตอบข้ อ 1 เพราะ ต้องตอบเกี่ยวกับการสอบถามเส้ น ทาง เนื่ อ งจากคาตอบนั้ น เป็ น การบอกเส้ น ทาง
ดังนั้นคาถามจึงต้องถามถึงเส้นทาง
64. ตอบข้ อ 1 เพราะ เป็ น การแสดงความขอบคุ ณ ที่ สุ ภ าพ เนื่ อ งจากคู่ ส นทนาได้ บอกทางให้ กั บตน
เรียบร้อย แล้ว
65. ตอบข้ อ 4 เพราะ คุณร้อนแล้วแอร์ปิดอยู่ ต้องขอให้เพื่อนช่วยเปิดให้ และการใช้ would เป็นการ
ขอร้องที่สุภาพที่สุด
66. ตอบข้ อ 1 เพราะ tidy แปลว่า เรียบร้อย เช่นเดียวกับ neat
67. ตอบข้ อ 2 เพราะ amazing – fantastic แปลว่า น่าตื่นตาตื่นใจ เช่นเดียวกัน
68. ตอบข้ อ 1 เพราะ calm แปลว่า สงบ ตรงกันข้ามกับ excited แปลว่า รู้สึกตื่นเต้น
69. ตอบข้ อ 3 เพราะ funny – serious แปลว่า สนุกสนาน ตรงข้ามกับ เครียด ตามลาดับ
70. ตอบข้ อ 1 เพราะ general แปลว่า ทั่วไป ตรงข้ามกับ special แปลว่า พิเศษ, เฉพาะ
71. ตอบข้ อ 2 เพราะ รูปประโยคที่ถูกต้องคื อ Present Perfect Tense มีหลักการเขียนคือ Subject +
have/has + V.3
72. ตอบข้ อ 1 เพราะ เป็นรูปอดีต เนื่องจาก มีคาว่ า after ที่ แ ปลว่ า หลั ง จาก น าหน้ า จึ ง ทาให้ รู้ ว่า เป็ น รู ป
อดีต
73. ตอบข้ อ 2 เพราะ เป็นรูปอดีต เนื่องจากมี คาว่ า yesterday ที่ แ ปลว่ า เมื่ อ วาน ขึ้ น ต้ น ประโยคจึ ง ทาให้
กลายเป็นรูปอดีตทั้งประโยค
74. ตอบข้ อ 1 เพราะ จากรูปประโยค ต้องเป็นเหตุการณ์ที่คาดเดาว่าจะเกิ ดขึ้นอย่างแน่นอนควรเติ ม
ข้อความ will now be
75. ตอบข้ อ 1 เพราะ เป็นการขยายความเกี่ยวกับสิ่งของ ให้ใช้ that ขึ้นต้นประโยคที่จะมาขยาย

76. ตอบข้ อ 2 เพราะ เป็นใจความสาคัญของบทความ คือ การใช้ผลไม้และผักในการลดน้าหนักเป็น


ทางเลือกใหม่ใน พ.ศ. นี้
77. ตอบข้ อ 4 เพราะ ทั้ ง 3 ข้ อ เป็ น ข้ อ ดี ของการใช้ ผ ลไม้ แ ละผั ก ในการลดน้ าหนั ก ที่ ถู ก กล่ า วถึ ง ใน
บทความ ทั้งหมด
78. ตอบข้ อ 2 เพราะ ผลไม้ แ ละผั ก ทาให้ ห น้ า ตาสดใส ไม่ ใ ช่ ห นึ่ ง ในคุ ณ ประโยชน์ ที่ถู ก กล่ า วถึ ง ใน
บทความนี้
79. ตอบข้ อ 3 เพราะ ผลไม้และผักมีวิตามินและแร่ธาตุ จึงทาให้ช่วยในการป้องกันการเกิ ดโรคต่ า งๆ ดั ง ที่
กล่าวในบทความข้างต้น
80. ตอบข้ อ 3 เพราะ ผลไม้และผัก 5 สี ต้องรับประทานให้ครบทุกวัน
33

81. ตอบข้ อ 1 เพราะ เราจะได้รับสารอาหารครบจากผั กและผลไม้ ที่รั บประทานแบบสดใหม่


82. ตอบข้ อ 4 เพราะ ถ้าต้องการให้น้าหนักลด ต้องเพิ่มผักและผลไม้เข้าไปในมื้อ อาหารของคุ ณ
83. ตอบข้ อ 3 เพราะ ใช้ ก ารดื่ มน้ าผลไม้ ห รื อ ต้ มซุ ปแทนการรั บประทานผั ก ผลไม้ ที่ส ดใหม่ หากไม่
สามารถ หาผลไม้สดใหม่ได้
84. ตอบข้ อ 2 เพราะ large แปลว่า ใหญ่โต มากมาย เช่นเดียวกับ huge
85. ตอบข้ อ 3 เพราะ การเขียนของผู้เขียนนั้น เป็นการบรรยาย โดยไม่ มีก ารใส่ ความคิ ดเห็ น ของผู้ เ ขี ย น
หรือ ชวนเชื่อ
86. ตอบ 3. 45 ปี
(พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 มาตรา 9)
87. ตอบ 4. กึ่งหนึ่ง
(พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 มาตรา 11(4)
88. ตอบ 1.ประมาทเลินเล่อ
(พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 มาตรา 11(4)
89. ตอบ 3. 180 วัน
(พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 มาตรา 12)
90. ตอบ 1.5 ปี
(พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 มาตรา 15)
91. ตอบ 2. สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
มาตรา 13 สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มี อ านาจหน้ า ที่ เ กี่ ย วกั บราชการทางการเมื อ ง มี เ ลขาธิ ก าร
นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ ...
92. ตอบ 3. คณะกรมการจังหวัด (มาตรา 53)
มาตรา 53 ในจังหวัดหนึ่งให้มีคณะกรมการจังหวัดทาหน้าที่เป็น ที่ ปรึ ก ษาของผู้ ว่า ราชการจั ง หวั ด :
ในการบริ ห ารราช การแผ่ น ดิ น ในจั ง หวั ด นั้ น กั บ ปฏิ บั ติห น้ า ที่ อื่ น ตามที่ ก ฎหม ายห รื อ ม ติ ของ
คณะรัฐมนตรีกาหนด
93. ตอบ 2. ก.ธ.จ.มีผู้ว่าราชการจังหวั ดเป็น ประธาน (มาตรา 55/1)
มาตรา 55/1 ในจังหวัดหนึ่งนอกจากกรุงเทพมหานคร ให้มีคณะกรรมการธรรมาภิ บาลจั ง หวั ดคณะ
หนึ่ง เรียก โดยย่อว่า “ก.ธ.จ.” ทาหน้าที่สอดส่องและเสนอแนะการปฏิบัติภ ารกิ จของหน่ วยงานของรั ฐ
ในจังหวัด ให้ใช้วิธีการ บริหารกิจการบ้า นเมื อ งที่ ดิน และเป็ น ไปตามหลั ก การที่ ก าหนดไว้ ในมาตรา
3/1
ก.ธ.จ. ประกอบด้วยผู้ตรวจราชการส านั ก นายกรั ฐ มนตรี ซึ่ ง มี เ ขตอ านาจในจั ง หวั ดเป็ น ประธาน
ผู้แทนภาค ประชาสังคม ผู้แทนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่ไม่ได้ดารงตาแหน่งผู้ บริ ห ารและผู้ แ ทนภาคธุ ร กิ จ
เอกชน
34

94. ตอบ 1. พระราชบัญญัติ


มาตรา 58 การยกเว้น จากัด หรือตัดทอน อานาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวั ดในการบริ ห ารราชการ
ใน จังหวัด หรือให้ข้าราชการของส่วนราชการใดมี อ านาจหน้ า ที่ ในการบริ ห ารราชการส่ วนภู มิ ภ าค
เช่นเดียวกับผู้ว่าราชการ จังหวัดจะกระทาได้โดยตราเป็นพระราชบัญญัติ
95. ตอบ 1. นายกรัฐมนตรี (มาตรา 6)
96. ตอบ 3. การพิจารณาทางปกครอง เจ้าหน้าที่สามารถแสวงหาพยานหลักฐานทุ ก อย่ า งที่ เ กี่ ย วข้ อ งได้ และ
ขอให้ผู้ครอบครองเอกสารส่งเอกสารที่เกี่ย วข้องได้ (มาตรา 28, 29)
97. ตอบ 4. ถูกเฉพาะข้อ 1 และ 2
มาตรา 63/21 คาสั่งทางปกครองที่กาหนดให้กระทาหรือละเว้นกระทา ถ้า ผู้ อ ยู่ ในบั ง คั บของคาสั่ ง ทา
ปกครอง ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิ บัติตาม เจ้ า หน้ า ที่ อ าจใช้ ม าตรการบั ง คั บทางปกครองอย่ า งหนึ่ ง อย่ า งใด
ดังต่อไปนี้
(1) เจ้าหน้าที่เข้าดาเนินการด้ วยตนเองหรื อ มอบหมายให้ บุคคลอื่ น กระทาการแทน โดยผู้ อ ยู่ ใน
บังคับของ คาสั่งทางปกครองจะต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายและเงินเพิ่มรายวันในอั ตราร้ อ ยละยี่ สิ บห้ า ต่ อ ปี ของ
ค่าใช้จ่ายดังกล่าวแก่ หน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่นั้นสังกัด
(2) ให้มีการชาระค่าปรับบังคับการตามจานวนที่ สมควรแก่เหตุแต่ ต้องไม่เกินห้าหมื่นบาทต่อ วัน
98. ตอบ 4. คาสั่งทางปกครองอาจทาเป็นหนังสือหรือวาจาหรื อ โดยการสื่ อ ความหมายในรู ปแบบอื่ น ก็ ไ ด้
แต่ต้องมีข้อความ หรือความหมายที่ชัดเจนเพียงพอที่ จะเข้าใจได้ (มาตรา 34)
99. ตอบ 2. 30 วัน
มาตรา 39/1 การออกคาสั่งทางปกครองเป็นหนังสือในเรื่อ งใด หากมิ ไ ด้ มี ก ฎหมายหรื อ กฎก าหนด
ระยะเวลา ในการออกคาสั่งทางปกครองในเรื่ อ งนั้ น ไว้ เ ป็ น ประการอื่ น ให้ เ จ้ า หน้ า ที่ อ อกคาสั่ ง ทาง
ปกครองนั้ น ให้ แ ล้ วเสร็ จภายใน สามสิ บวั น นั บแต่ วัน ที่ เ จ้ า หน้ า ที่ ไ ด้ รั บคาขอและเอกสารถู ก ต้ อ ง
ครบถ้วน
100. ตอบ 1. สมบูรณ์
มาตรา 41 คาสั่งทางปกครองที่ออกโดยการฝ่าฝืน หรื อ ไม่ ปฏิ บัติตามหลั ก เกณฑ์ ดัง ต่ อ ไปนี้ ไม่ เ ป็ น
เหตุให้ คาสั่งทางปกครองนั้นไม่สมบูรณ์
(1) การออกคาสั่งทางปกครองโดยยั ง ไม่ มี ผู้ ยื่ น คาขอในกรณี ที่เ จ้ า หน้ า ที่ จะดาเนิ น การเองไม่ ไ ด้
นอกจากจะมีผู้ยื่นคาขอ ถ้าต่อมาในภายหลังได้มีการยื่นคาขอเช่นนั้นแล้ว
(2) คาสั่งทางปกครองที่ ต้อ งจั ดให้ มี เ หตุ ผ ลตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ ง ถ้ า ได้ มี ก ารจั ดให้ มี เ หตุ ผ ล
ดังกล่าวในภายหลัง
(3) การรับฟั ง คู่ ก รณี ที่จาเป็ น ต้ อ งกระทาได้ ดาเนิ น การมาโดยไม่ ส มบู ร ณ์ ถ้ า ได้ มี ก ารรั บฟั ง ให้
สมบูรณ์ในภายหลัง
35

(4) คาสั่งทางปกครองที่ต้องให้ เ จ้ า หน้ า ที่ อื่ น ให้ ความเห็ น ชอบก่ อ น ถ้ า เจ้ า หน้ า ที่ นั้ น ได้ ให้ ความ
เห็นชอบในภายหลัง
เมื่อมีการดาเนินการตามวรรคหนึ่ง (1) (2) (3) หรือ (4) แล้ว และเจ้าหน้าที่ผู้มีคาสั่งทางปกครองประสงค์
ให้ผล เป็นไปตามคาสั่งเดิมให้เจ้าหน้าที่ผู้นั้นบันทึกข้ อเท็จจริงและความประสงค์ ของตนไว้ ในหรือ

You might also like