You are on page 1of 18

1.

ใครมีอำนำจออกกฎกระทรวงโดยอำศัยอำนำจตำมพระรำชบัญญัตวิ ธิ ี
ปฏิบัตริ ำชกำรทำงปกครองฯ1
1. ค.ร.ม. 2. นำยกรัฐมนตรี
3. รัฐมนตรีวำ่ กำรกระทรวงยุตธิ รรม 4. ปลัดสำนักนำยกรัฐมนตรี
2. กรณีใดทีส่ ่วนรำชกำรไม่ต้องปฏิบัตติ ำมกฎหมำยวิธีปฏิบัตริ ำชกำรทำง
ปกครอง2
1. นำยกรัฐมนตรีอนุมัตยิ กเว้นให้ไม่ต้องปฏิบัตติ ำม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติ
รำชกำรทำงปกครองฯ เป็ นรำยกรณี
2. คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ตรำ พ.ร.บ. ยกเว้นให้ไม่ต้องปฏิบัตติ ำม
พ.ร.บ.วิธีปฏิบัตริ ำชกำรทำงปกครองฯ
3. เป็ นเรื่องทีม่ ีกฎหมำยอืน่ กำหนดหลักเกณฑ์อันมีหลักประกันควำม
เป็ นธรรมและมำตรฐำนไม่ต่ำกว่ำ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัตริ ำชกำรทำงปกครองฯ
4. ถูกทุกข้อ
3. บุคคลใดไม่ต้องปฏิบัตติ ำม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัตริ ำชกำรทำงปกครองฯ3
1. สมำชิกสภำผู้แทนรำษฎร เสนอเปิ ดประชุมรัฐสภำ
2. คณะกรรมกำร ก.ก.ต. กำหนดวันเลือกตัง้ ซ่อม
์ ระภิกษุ
3. มหำเถรสมำคม เลื่อนสมณศักดิพ
4. ถูกทุกข้อ

1 2. นายกรัฐมนตรี

2 3. เป็ นเรือ่ งที่มีกฎหมายอื่นกาหนดหลักเกณฑ์อนั มีหลักประกันความเป็ นธรรมและมาตรฐานไม่ต่ากว่า พ.ร.บ.วิธีปฏิบตั ิราชการทาง

ปกครองฯ
3 4. ถูกทุกข้อ
4. กิจกรรมใดต้องปฏิบัตติ ำม พ.ร.บ. วิธีปฏิบัติรำชกำรทำงปกครองฯ4
1. กำรเพิกถอนประกันตัวจำเลย
2. กำรวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์
3. กำรใช้มำตรกำรคว่ำบำตรทำงกำรทูต
4. กำรพิพำกษำคดีแพ่งทีม่ ที ุนทรัพย์ต่ำกว่ำ 2 แสนบำท
5. ข้อใดมิใช่ “กฎ”5
1. ข้อบัญญัตเิ ทศบำลว่ำด้วยกำรเก็บค่ำธรรมเนียมตลำด
2. พระรำชกฤษฎีกำว่ำด้วยกำรบริหำรกิจกำรบ้ำนเมืองทีด่ ี
3. กฎกระทรวงว่ำด้วยกำรกำหนดกลุ่มภำรกิจในกระทรวง
4. กระบวนกำรสอบสวนควำมผิดทำงวินัยของข้ำรำชกำร
6. ข้อใดเป็ นวิธีปฏิบัตริ ำชกำรทำงปกครอง6
1. กำรออกคำสั่งทำงปกครองของเจ้ำหน้ำที่
2. กำรทีเ่ จ้ำหน้ำทีเ่ สนอร่ำงกฎกระทรวงตำมขัน้ ตอนของกระบวนกำร
ออกกฎกระทรวง
3. กำรสืบสวนควำมผิดวินัยร้ำยแรงของคณะกรรมกำรรวบรวม
ข้อเท็จจริงเบือ้ งต้นรำยควำมผิดวินัยร้ำยแรง กรม ก.
4. ถูกทุกข้อ

4 2. การวินิจฉัยเรือ่ งร้องทุกข์

5 4. กระบวนการสอบสวนความผิดทางวินยั ของข้าราชการ

6 4. ถูกทุกข้อ
7. ข้อใดมิใช่ กำรพิจำรณำทำงปกครอง7
1. กำรออกคำสั่งทำงปกครองของเจ้ำหน้ำที่
2. กำรทีเ่ จ้ำหน้ำทีเ่ สนอร่ำงกฎกระทรวงตำมขัน้ ตอนของกระบวนกำร
ออกกฎกระทรวง
3. กำรสืบสวนควำมผิดวินัยร้ำยแรงของคณะกรรมกำรรวบรวม
ข้อเท็จจริงเบือ้ งต้นรำยควำมผิดวินัยร้ำยแรง กรม ก.
4. กำรตัง้ คณะกรรมกำรกำหนดรำยละเอียดคุณลักษณะเฉพำะรำย
โครงกำรจัดซือ้ จัดจ้ำงของส่วนรำชกำร
8. ข้อใดเป็ นลักษณะของกำรออกคำสั่งทำงปกครอง8
ิ ำกษำออกคำสั่งเกีย่ วกับคดี
1. ผู้พพ
2. คณะกรรมกำรกฤษฎีกำออกควำมเห็นเพือ่ เสนอ ค.ร.ม.
่ จิ ำรณำผลงำนของเจ้ำหน้ำที่
3. ผู้บังคับบัญชำของเจ้ำหน้ำทีพ
4. ไม่มีข้อใดถูก
9. ข้อใด คือ หลักเกณฑ์ในกำรพิจำรณำว่ำคำสั่งใดเป็ นคำสั่งทำง
ปกครอง9
1. อำนำจตำมกฎหมำยของเจ้ำหน้ำทีผ่ ู้ออกคำสั่ง
2. ผลกระทบต่อสิทธิหรือหน้ำทีข่ องบุคคล
3. มีผลกระทบเฉพำะผู้รับคำสั่ง

7 2. การที่เจ้าหน้าที่เสนอร่างกฎกระทรวงตามขัน้ ตอนของกระบวนการออกกฎกระทรวง

8 4. ไม่มีขอ้ ใดถูก

9 4. ถูกทุกข้อ
4. ถูกทุกข้อ

10. ข้อใดมิใช่คำสั่งทำงปกครอง10
1. คำสั่งสลำยกำรชุมนุม
2. สัญญำณไฟจรำจร
3. ประกำศสถำนกำรณ์โรคระบำดฉุกเฉิน
4. กำรจดทะเบียนสมรส
11. ข้อใดมิใช่ คำสั่งทำงปกครอง11
1. กำรลดขัน้ เงินเดือนข้ำรำชกำร
2. กำรสั่งให้ข้ำรำชกำรไปปฏิบัตงิ ำนนอกพืน้ ที่
3. กำรเพิกถอนสิทธิเบิกค่ำเช่ำบ้ำนของข้ำรำชกำร
4. กำรลงโทษทำงวินัยข้ำรำชกำร
12. ข้อใดมิใช่คำสั่งทำงปกครอง12
1. กำรสั่งให้ข้ำรำชกำรย้ำยโต๊ะทำงำน
2. กำรสั่งให้ข้ำรำชกำรไปงำนวันเกิด ส.ส.
3. กำรแจ้งข่ำวกำรไล่ข้ำรำชกำรออกให้ทุกคนในหน่วยงำนทรำบ
4. ทุกข้อไม่ใช่คำสั่งทำงปกครอง

10 3. ประกาศสถานการณ์โรคระบาดฉุกเฉิน

11 2. การสั่งให้ขา้ ราชการไปปฏิบตั ิงานนอกพืน้ ที่

12 4. ทุกข้อไม่ใช่คาสั่งทางปกครอง
13. ประกำศของทำงรำชกำรจะมีผลใช้บังคับเมื่อใด13
1. ผู้มีอำนำจลงลำยมือชือ่
2. ผู้รักษำกำรตำมพระรำชบัญญัตลิ งรำยมือชือ่
3. ประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ
4. เผยแพร่ประกำศให้ประชำชนรับทรำบ
14. ข้อใดมิใช่คู่กรณี14
1. ผู้คัดค้ำนคำขอ
2. ผู้ยนื่ คำขอ
3. ผู้จะอยู่ในบังคับของคำสั่งทำงปกครอง
4. ไม่มีข้อใดถูก
15. ข้อใดมิใช่หลักเกณฑ์ในกำรพิจำรณำว่ำผู้ใดจะเป็ น “คู่กรณี” ในเรื่อง
ใด ได้หรือไม่15
1. ขอบเขตของสิทธิทถี่ ูกกระทบกระเทือน
2. เป็ นผู้มีควำมสำมำรถตำมกฎหมำย
3. กำรมำปรำกฏตัวต่อหน้ำเจ้ำหน้ำที่
4. ถูกทกข้อ

13 3. ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

14 4. ไม่มีขอ้ ใดถูก

15 3. การมาปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าหน้าที่
16. กรณีทเี่ จ้ำหน้ำทีอ่ อกคำสั่งทำงปกครองโดยชอบด้วยกฎหมำย ผู้ทยี่ ัง
ไม่ได้รับผลกระทบต่อสิทธิจะเข้ำมำเป็ นคูก่ รณีได้หรือไม่16
1. ไม่ได้ เพรำะ สิทธิของตนยังไม่กระทบกระเทือน
2. ได้ หำกมีควำมเป็ นไปได้ทสี่ ิทธิของตนจะถูกกระทบกระเทือน
3. ไม่ได้ เพรำะ เจ้ำหน้ำทีอ่ อกคำสั่งทำงปกครองโดยชอบด้วยกฎหมำย
4. ได้ หำกไม่ มี ก รณี อื่ น ที่ ส ำมำรถหลี ก เลี่ ย งมิ ใ ห้ สิ ท ธิ ข องตนถู ก
กระทบกระเทือนได้
17. บุคคลใดไม่สำมำรถเป็ นประธำนและกรรมกำรผู้ทรงคุณวุฒขิ อง
คณะกรรมกำรวิธีปฏิบัตริ ำชกำรทำงปกครองได้17
1. นำยสิระ เจนน่ะจ๊ะ เป็ นทนำยควำม
2. นำยประยุทธ พุธโอชำ เป็ นสมำชิกวุฒสิ ภำ
3. นำยประวิตร วงแหวนรอบนอก เป็ นอำจำรย์คณะสังคมศำสตร์
4. นำยไพบูล ดอกทำนตะวัน เป็ นอธิบดีกรมกำรปกครอง
18. บุคคลใดเป็ นประธำนคณะกรรมกำรวิธีปฏิบัตริ ำชกำรทำงปกครอง18
1. บุคคลทีน่ ำยกฯ แต่งตัง้
2. บุคคลที่ ค.ร.ม. แต่งตัง้
3. ปลัดสำนักนำยกรัฐมนตรี

16 4. ได้ หากไม่มีกรณีอื่นที่สามารถหลีกเลี่ยงมิให้สิทธิของตนถูกกระทบกระเทือนได้

17 2. นายประยุทธ พุธโอชา เป็ นสมาชิกวุฒิสภา

18 2. บุคคลที่ ค.ร.ม. แต่งตัง้


4. ปลัดกระทรวงมหำดไทย

19. ผู้ใดเป็ นเลขำนุกำรคณะกรรมวิธีปฏิบัตฯิ 19


1. เลขำธิกำรคณะรัฐมนตรี
2. ข้ำรำชกำรของสำนักงำนเลขำธิกำรนำยกรัฐมนตรี
3. เลขำธิกำรคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
4. ข้ำรำชกำรของสำนักงำนเลขำธิกำรคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
20. ส่วนรำชกำรใดไม่มีบุคลำกรดำรงตำแหน่งในกรรมกำรโดยตำแหน่ง
ในคณะกรรมกำรวิธีปฏิบัตริ ำชกำรฯ20
1. กระทรวงมหำดไทย 2. สำนักนำยกรัฐมนตรี
3. กระทรวงศึกษำธิกำร 4. ไม่มีข้อใดถูก
21. ข้อใดมิใช่อำนำจหน้ำทีข่ องคณะกรรมกำรวิธีปฏิบัตริ ำชกำรทำง
ปกครอง21
1. ให้คำปรึกษำข้ำรำชกำรเกี่ยวกับกำรปฏิบัตติ ำม พ.ร.บ. นี้
2. ออกประกำศโดยอำศัยอำนำจตำม พ.ร.บ. นี้
3. เสนอแนะในกำรตรำ พ.ร.ฎ.
4. เรียกเจ้ำหน้ำทีห่ รือบุคคลอืน่ มำชีแ้ จง

19 4. ข้าราชการของสานักงานเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา

20 3. กระทรวงศึกษาธิการ

21 2. ออกประกาศโดยอาศัยอานาจตาม พ.ร.บ. นี ้
22. นำย ก. เป็ นข้ำรำชกำรทีก่ ำลังจะพิจำรณำออกใบอนุญำตให้นำงสำว
ข. กรณีใดทีน่ ำย ก. จะพิจำรณำทำงปกครองต่อไม่ได้22
1. นำย ก. เป็ นลูกจ้ำงนำงสำว ข.
2. นำย ก. จดทะเบียนสมรสกับนำง ข. แต่เลิกและแยกกันอยู่นำนเกิน
5 ปี แล้ว
3. นำย ก. เคยเป็ นตัวแทนให้นำงสำว ข. ก่อนนำย ก. จะรับรำชกำร
4. นำย ก. เป็ นลูกของนำงสำว ข.

23. ข้อใดไม่ถอื ว่ำกระทบต่อควำมเป็ นกลำงของเจ้ำหน้ำที23
1. เจ้ำหน้ำทีเ่ ป็ นบุตรนอกสมรสของคูก่ รณี
2. เจ้ำหน้ำทีเ่ ป็ นลูกบุญธรรมของคูก่ รณี
3. เจ้ำหน้ำทีเ่ ป็ นพีค่ นละแม่กับคู่กรณี
4. เจ้ำหน้ำทีป่ ล่อยเงินกู้ให้คู่กรณี
24. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับตัวแทนร่วม24
1. คู่กรณีทุกคนไม่จำต้องระบุรำยชือ่ ผู้ทจี่ ะเป็ นตัวแทนร่วม
2. ต้องให้พจิ ำรณำและแต่งตัง้ ของเจ้ำหน้ำที่
3. กำรแต่งตัง้ เสร็จสมบูรณ์ในขัน้ ตอนกำรยืน่ คำขอของคู่กรณี
4. เกิดขึน้ เฉพำะกรณีทมี่ ีคู่กรณีเกิน 50 คน

22 1. นาย ก. เป็ นลูกจ้างนางสาว ข.

23 2. เจ้าหน้าที่เป็ นลูกบุญธรรมของคูก่ รณี

24 3. การแต่งตัง้ เสร็จสมบูรณ์ในขัน้ ตอนการยื่นคาขอของคูก่ รณี


25. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับกำรแจ้งคำสั่งทำงปกครองตำม พ.ร.บ. นี25

1. ไม่มกี ำรกำหนดรูปแบบตำยตัว
2. หำกแจ้งเป็ นหนังสือต้องมีเนือ้ หำตำมหลักเกณฑ์ขนั้ ต่ำของ พ.ร.บ.นี้
3. มีสำระสำคัญอยูท่ ก่ี ำรสื่อสำรควำมหมำย
4. ถูกทุกข้อ
26. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับกำรใช้ภำษำ ในกำรยืน่ เอกสำรทีจ่ ะใช้พจิ ำรณำ
ทำงปกครอง26
1. ต้องจัดทำเอกสำรเป็ นภำษำไทยเท่ำนั้น
2. กำรยืน่ เอกสำรภำษำต่ำงประเทศ เจ้ำหน้ำทีไ่ ม่สำมำรถใช้ดุลยพินิจ
ในกำรรับเอกสำรภำษำต่ำงประเทศ
3. กำรรับรองควำมถูกต้องของคำแปลให้เป็ นไปตำมทีก่ ำหนดใน
กฎกระทรวง
4. ถูกทุกข้อ
27. ข้อใดไม่จำเป็ นต้องมีในคำสั่งทำงปกครอง27
1. วัน เดือน ปี ทีท่ ำคำสั่ง
2. ชือ่ และตำแหน่งเจ้ำหน้ำทีท่ ที่ ำคำสั่ง

25 4. ถูกทุกข้อ

26 3. การรับรองความถูกต้องของคาแปลให้เป็ นไปตามที่กาหนดในกฎกระทรวง

27 3. ชื่อสังกัดหน่วยงานของเจ้าหน้าที่ที่ทาคาสั่ง
3. ชือ่ สังกัดหน่วยงำนของเจ้ำหน้ำทีท่ ที่ ำคำสั่ง
4. ลำยมือชือ่ เจ้ำหน้ำทีท่ ที่ ำคำสั่ง

28. หำกผู้บังคับบัญชำออกคำสั่งทำงปกครองด้วยวำจำ ผู้ใต้บังคับบัญชำ


ทีร่ ับคำสั่งสำมำรถร้องขอให้ผู้บังคับบัญชำยืนยันเป็ นหนังสือภำยในกี่วัน28
1. 7 วัน นับแต่ได้รับคำสั่ง
2. 7 วัน นับแต่ได้ปฏิบัตติ ำมคำสั่ง
3. 15 วัน นับแต่ได้รับคำสั่ง
4. 15 วัน นับแต่ได้ปฏิบัตติ ำมคำสั่ง
29. หำกท่ำนไม่พอใจคำสั่งไล่ออก สำมำรถอุทธรณ์ได้ภำยในกี่วัน29
1. 7 วัน นับแต่ได้รับคำสั่ง
2. 7 วัน นับแต่ได้ปฏิบัตติ ำมคำสั่ง
3. 15 วัน นับแต่ได้รับคำสั่ง
4. 15 วัน นับแต่ได้ปฏิบัตติ ำมคำสั่ง

30. ข้อใดมิใช่หลักประกันควำมเป็ นธรรมตำม พ.ร.บ. นี30
1. สิทธิของคูก่ รณีทจี่ ะมีทปี่ รึกษำ
2. สิทธิขอตรวจดูต้นร่ำงคำวินิจฉัย
3. สิทธิโต้แย้งและแสดงพยำนหลักฐำน

28 1. 7 วัน นับแต่ได้รบั คาสั่ง

29 3. 15 วัน นับแต่ได้รบั คาสั่ง

30 2. สิทธิขอตรวจดูตน้ ร่างคาวินิจฉัย
4. สิทธิในกำรตัง้ ตัวแทนในกำรพิจำรณำทำงปกครอง

31. กำรอุทธรณ์คำสั่งทำงปกครองผู้อุทธรณ์ต้องยืน่ อุทธรณ์ต่อใคร31


1. เจ้ำหน้ำทีต่ ำมทีก่ ฎหมำยกำหนด
2. เจ้ำหน้ำทีผ่ ู้ทำคำสั่งทำงปกครอง
3. ผู้บังคับบัญชำของเจ้ำหน้ำทีผ่ ู้ทำคำสั่งทำงปกครอง
4. หน่วยงำนของรัฐต้นสังกัดของเจ้ำหน้ำทีผ่ ู้ทำคำสั่งทำงปกครอง
32. เจ้ำหน้ำทีผ่ ู้มีอำนำจพิจำรณำอุทธรณ์ต้องพิจำรณำอุทธรณ์ให้แล้ว
เสร็จภำยและแจ้งผลอุทธรณ์ภำยในกี่วันนับแต่วันได้รับอุทธรณ์32
1. 15 วัน 2. 15 วันทำกำร
3. 30 วัน 4. 30 วันทำกำร
33. หำกเจ้ ำ หน้ ำ ที่ ต้ อ งกำรเพิ ก ถอนใบอนุ ญ ำตเปิ ดสถำนบั น เทิ ง
เจ้ำหน้ำทีจ่ ะต้องทำภำยในกี่วันนับแต่ทไี่ ด้รู้เหตุแห่งกำรเพิกถอน33
1. 15 2. 30 3. 60 4. 90
34. คำสั่ง อนุ ญำตให้ประกอบธุ รกิจสถำนบันเทิงที่ออกโดยมิชอบด้วย
กฎหมำย หำกภำยหลั ง เจ้ ำ หน้ ำ ที่ เ พิ ก ถอนค ำสั่ ง ดั ง กล่ ำ วแล้ ว ผู้ ไ ด้ รั บ

31 2. เจ้าหน้าที่ผทู้ าคาสั่งทางปกครอง

32 3. 30 วัน

33 4. 90
ผลกระทบจำกกำรเพิ ก ถอนจะมี สิ ท ธิ ไ ด้ รั บ ค่ ำ ทดแทนควำมเสี ย หำย
ในกรณีใด34
1. มีควำมเชือ่ โดยสุจริตในควำมคงอยู่ของคำสั่ง
2. ไม่มีส่วนในควำมผิดพลำด บกพร่อง ของคำสั่ง
3. ร้องขอค่ำทดแทนภำยใน 180 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งให้ทรำบถึง
กำรเพิกถอน
4. ถูกทุกข้อ
35. ระยะเวลำขั้นต่ำที่เจ้ำหน้ำที่จะระบุในหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้มีหน้ำที่
ต้องนำเงินมำชำระตำมคำสั่งทำงปกครอง คือ กี่วัน35
1. 7 2. 15 3. 30 4. 90
36. กรณี ผู้ รั บ ค ำสั่ ง ทำงปกครองไม่ ย อมน ำเงิน มำช ำระตำมค ำสั่ ง ทำง
ปกครองตำมวั น เวลำที่เ จ้ ำ หน้ ำ ที่ ก ำหนด ข้ อ ใด คือ มำตรกำรบั ง คั บ ทำง
ปกครองทีเ่ จ้ำหน้ำทีพ่ งึ กระทำได้36
1. ยึดทรัพย์สิน 2. อำยัดทรัพย์สิน
3. ขำยทอดตลำดทรัพย์สิน 4. ถูกทุกข้อ
37. อำยุควำมในกำรยึดอำยัดทรัพย์สินให้ปฏิบัตติ ำมกฎหมำยใด37
1. ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์
2. ประมวลกฎหมำยวิธีพจิ ำรณำควำมแพ่ง

34 4. ถูกทุกข้อ

35 1. 7
36 4. ถูกทุกข้อ

37 2. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
3. พระรำชบัญญัตกิ ำรบังคับคดี
4. กฎกระทรวงว่ำด้วยกำรบังคับคดี
38. ค ำสั่ ง ทำงปกครองที่บั ง คั บ ให้ น ำย ก. ย้ ำ ยโรงเรื อ นและสั ม ภำระ
ออกไปจำกพืน้ ที่สำธำรณะภำยในวันที่ 1 ม.ค. 65 หำกล่วงเลยวันดังกล่ำว
แล้วนำย ก. ยังคงไม่ย้ำยออกไป เจ้ำหน้ำทีจ่ ะใช้มำตรกำรบังคับอย่ำงไรได้บ้ำง

ข้อใดเป็ นกำรกระทำทีส่ อดคล้องกับ พ.ร.บ. นี38



1. เข้ำจัดกำรแทน โดยให้นำย ก. ชดใช้ค่ำใช้จ่ำยและเงินเพิม่ รำยวันใน
อัตรำร้อยละ 35
2. ให้นำย ก. ชำระค่ำปรับบังคับกำรจำนวน 60,000 บำท ต่อวัน
3. เข้ำยึดอำยัดทรัพย์สินของนำย ก. มำขำยทอดตลำด
4. ไม่มีข้อใดถูก
39. ข้อใดเป็ นกำรแจ้งคำสั่งทำงปกครองทีถ่ ูกต้อง39
1. กำรแจ้งด้วยวำจำ
2. กรณีทรี่ ู้ตัวผู้รับแต่ไม่รู้ภมู ิลำเนำให้ประกำศทำงหนังสือพิมพ์
3. กรณีท่ีรู้ตัวผู้รับและรู้ ภูมิลำเนำแต่ผู้รับมีจำนวนเกิน 100 คน ให้
ประกำศทำงหนังสือพิมพ์
4. ถูกทุกข้อ

38 4. ไม่มีขอ้ ใดถูก

39 4. ถูกทุกข้อ
40. ข้อใดไม่จำต้องพิจำรณำหำกต้องกำรใช้วธิ ีแจ้งคำสั่งทำงปกครองโดย
เครื่องโทรสำร40
1. จำนวนของผู้รับคำสั่งทำงปกครอง
2. หลักฐำนกำรส่งจำกหน่วยงำนผู้จัดบริกำรโทรคมนำคม
3. เหตุจำเป็ นเร่งด่วน
4. ไม่มีข้อใดถูก

41. กรณี ท่ีเจ้ำ หน้ ำ ที่มีคำสั่ ง ให้รื้อ ถอนสิ่ ง ปลู ก สร้ ำ งออกจำกที่ดิน โดย
ประกำศแจ้งทำงหนังสือพิมพ์ ผู้รับคำสั่งจะต้องเริ่มปฏิบัตติ ำมคำสั่งตัง้ แต่วันใด41
1. ทันทีทไ่ี ด้อ่ำนคำสั่งดังกล่ำวในหนังสือพิมพ์
2. ล่วงพ้น 15 วัน นับแต่วันทีไ่ ด้อ่ำนคำสั่งดังกล่ำวหนังสือพิมพ์
3. ทันทีทปี่ ระกำศคำสั่งดังกล่ำวตีพมิ พ์ในหนังสือพิมพ์
4. ล่วงพ้น 15 วัน นับแต่วันทีล่ งประกำศคำสั่งดังกล่ำวในหนังสือพิมพ์
42. ประเด็ น ใดที่ เ จ้ ำ หน้ ำ ที่ ต้ อ งพิ จ ำรณำก่ อ นเพิ ก ถอนค ำสั่ ง ทำง
ปกครอง42
1. มีผู้อุทธรณ์หรือไม่
2. ล่วงเลยระยะเวลำอุทธรณ์แล้วหรือไม่
3. เป็ นคำสั่งทำงปกครองทีม่ ีลักษณะเป็ นกำรให้ประโยชน์หรือไม่

40 จานวนของผูร้ บั คาสั่งทางปกครอง

41 4. ล่วงพ้น 15 วัน นับแต่วนั ที่ลงประกาศคาสั่งดังกล่าวในหนังสือพิมพ์

42 3. เป็ นคาสั่งทางปกครองที่มีลกั ษณะเป็ นการให้ประโยชน์หรือไม่


4. ถูกทุกข้อ
43. กำรเพิกถอนคำสั่งทำงปกครองจะต้องคำนึงถึงสิ่งใด43
1. ข้อเท็จจริง 2. ข้อกฎหมำย
3. ควำมเชือ่ โดยสุจริตของผู้รับประโยชน์ 4. ถูกทุกข้อ

44. กำรพิจำรณำอุทธรณ์แตกต่ำงกับกำรเพิกถอนในประเด็นใด44
1. กำรพิจำรณำปั ญหำข้อเท็จจริง ข้อกฎหมำย และควำมเหมำะสม
2. ระยะเวลำในกำรยืน่ คำร้องของคู่กรณี
3. เปลี่ยนแปลงผลของคำสั่งทำงปกครองไปในทำงลดภำระ เพิม่ ภำระ
4. เจ้ำหน้ำทีผ่ ู้มีอำนำจพิจำรณำ
45. กรณีที่เจ้ำหน้ำที่ออกโฉนดให้นำย ก. แต่ภำยหลังจำกนั้น เจ้ำหน้ำที่
เพิ่งรู้ว่ำนำย ก. ใช้แผนที่รังวัดแนวเขตปลอมในกำรยื่นขอโฉนด เจ้ำหน้ำที่ไม่
สำมำรถเพิกถอนโฉนดในลักษณะใดได้45
1. เพิกถอนโฉนดทัง้ หมด 2. เพิกถอนโฉนดบำงส่วน
3. เพิกถอนโฉนดย้อนหลัง 4. ไม่มีข้อใดถูก
46. ผู้ใดมีอำนำจสั่งให้ทุเลำกำรบังคับตำมผลของคำสั่งทำงปกครอง46

43 4. ถูกทุกข้อ

44 2. ระยะเวลาในการยื่นคาร้องของคู่กรณี

45 4. ไม่มีขอ้ ใดถูก

46 4. ถูกทุกข้อ
1. เจ้ำหน้ำทีผ่ ู้ทำคำสั่ง
2. ผู้มีอำนำจพิจำรณำอุทธรณ์
3. ผู้มีอำนำจวินิจฉัยควำมถูกต้องของคำสั่งทำงปกครอง
4. ถูกทุกข้อ

47. อบต. ออกใบอนุ ญำตให้ค้ำขำยบริเวณทำงเท้ำ ต่อมำเมื่อได้นำยก


อบต. คนใหม่ นำยกฯ ได้เปลี่ยนนโยบำย โดยออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุ ญำต
ทัง้ หมด กรณีดังกล่ำวนำยกฯ ทำสำมำรถเพิกถอนใบอนุญำตได้หรือไม่ เพรำะ
เหตุใด47
1. ได้ เพรำะ ควำมเสียหำยมูลค่ำไม่สูง
2. ไม่ได้ เพรำะ เป็ นนโยบำยทำงกำรเมืองไม่มีผลผูกพันกำรออกคำสั่ง
ทำงปกครองทีผ่ ่ำนมำ
3. ได้ เพรำะ เจ้ ำ หน้ ำ ที่ ส ำมำรถพิ จ ำรณำเพิ ก ถอนได้ ต ำมควำม
เหมำะสมต่ำงๆ
4. ไม่ได้ เพรำะ คำสั่งอนุญำตเป็ นคำสั่งทีช่ อบด้วยกฎหมำยมำแต่แรก
48. คำสั่งทำงปกครองใด ทีค่ ู่กรณีสำมำรถฟ้ องคดีต่อศำลปกครองได้เลย
โดยไม่จำต้องอุทธรณ์ต่อเจ้ำหน้ำทีผ่ ู้ทำคำสั่งนั้นก่อน48
1. เป็ นคำสั่งทำงปกครองทีอ่ อกโดยรัฐมนตรี

47 3. ได้ เพราะ เจ้าหน้าที่สามารถพิจารณาเพิกถอนได้ตามความเหมาะสมต่างๆ

48 1. เป็ นคาสั่งทางปกครองที่ออกโดยรัฐมนตรี (หรือคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท)


2. เป็ นคำสั่งทำงปกครองทีไ่ ม่มีกำรแจ้งสิทธิและระยะเวลำอุทธรณ์
3. เป็ นคำสั่งทำงปกครองทีไ่ ม่ปรำกฏข้อเท็จจริงและข้อกฎหมำย
4. ถูกทุกข้อ

49. ข้อใดมิใช่วัตถุประสงค์ของกำรวำงระเบียบกำหนดหลักเกณฑ์และ
วิธีกำรสำหรับกำรพิจำรณำทำงปกครอง49
1. ควำมประหยัดของประชำชน
2. ควำมสะดวกของประชำชน
3. ป้ องกันกำรทุจริตของเจ้ำหน้ำทีร่ ัฐ
4. ควำมมีประสิทธิภำพในกำรดำเนินงำนของรัฐ
50. ข้อใดสำมำรถทุเลำคำสั่งทำงปกครองได้50
1. กำรอุทธรณ์
2. กำรขอให้พจิ ำรณำใหม่
3. กำรขอทุเลำมำตรกำรบังคับทำงปกครอง
4. ไม่มีข้อใดถูก

49 3. ป้องกันการทุจริตของเจ้าหน้าที่รฐั

50 4. ไม่มีขอ้ ใดถูก
ข้อใดเป็ นคำสั่งทำงปกครอง
1. สัญญำณไฟจรำจร
2. ประกำศรับสมัครสอบบรรจุข้ำรำชกำร (ภำค ข.) ของส่วนรำชกำร
3. ประกำศห้ำมเข้ำพืน้ ที่
4. ถูกทุกข้อ
เฉลย 4.
Bonus
ข้อใดมิใช่คำสั่งทำงปกครอง
1. ประกำศกำหนดสมัยประชุมสภำท้องถิน่ ครั้งที่ 1
2. ประกำศยกเลิกกำรจัดซือ้ จัดจ้ำงรถยนต์ของกรม ก.
3. ประกำศของคณะกรรมกำรกลำง อบต. ให้ผู้ไม่ได้เข้ำสอบสำยบริหำร
กลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมในระหว่ำงรอประกำศหลักเกณฑ์ใหม่
4. ประกำศกำหนดเขตพืน้ ทีก่ ำรศึกษำของ สพฐ.
เฉลย 4
คำสั่งทำงปกครอง และ คำสั่งทำงปกครองทั่วไป มีจุดเหมือนกันตรงไหน
1. กำรใช้สิทธิรับฟั งข้อเท็จจริงของคู่กรณี
2. อำนำจหน้ำทีต่ ำมกฎหมำยของผู้ออกคำสั่ง
3. กำรระบุเหตุผลในคำสั่ง
4. กำรใช้สิทธิอุทธรณ์ของคู่กรณี
เฉลย 2

You might also like