Professional Documents
Culture Documents
1
1
ชื่อ........................................................................................................................................ ชัน
้ ม. ๒/........ เลขที่
............
คำชีแ
้ จง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย ในข้อที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
๑. บทเสภาสามัคคีเสวกแต่งด้วยคำ ๘. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ที่มนุษย์เราได้จาก
ประพันธ์ประเภทใด ศิลปะ
ก. โคลงสี่สุภาพ ข. กลอน ก. ทำให้มีความสุขใจ ข. ทำให้มี
สุภาพ ความสุขกาย
ค. กาพย์ยานี ๑๑ ง. กาพย์ ค. ทำให้มีความเจริญหูเจริญตา ง. ช่วย
ฉบัง ๑๖ ทำให้ร่างกายทุกข์
ก. เพื่อความเพลิดเพลินในการชม ช่างสถาปนาถูกทำนอง”
ค. ใช้สงั่ สอนควบคู่กบ
ั หลักคำสอน
๑๒. ข้อใดคือความหมายของคำว่า “เสวก”
ทางพระพุทธศาสนา
ก. เพื่อนฝูง ข. ข้าราชการในราช
ง. ถูกทุกข้อ
สำนัก
๖. “ณ ชาตินน
ั ้ นรชนไม่สนใจ ในกิจ ค. ชาวบ้าน ง. ผู้ที่รักในงานศิลปะ
ศิลปะวิไลละวาดงาม” ๑๓. คำประพันธ์ในข้อใดมีความหมายว่า
คำว่า “วาด” ในคำประพันธ์ข้างต้น ช่างก่อสร้าง
เป็ นศิลปะแขนงใด ก. ช่างประดิษฐ์รัชดาสง่าผ่อง
ก. ศิลปกรรม ข. อีกช่างถมลายลักษณะจำลอง
ข. ประติมากรรม ค. ทัง้ ช่างปั ้ นช่างเขียนเพียรวิชา
ค. สถาปั ตยกรรม ง. อีกช่างสถาปนาถูกทำนอง
ง. จิตรกรรม
๑๔. ข้อใดไม่ใช่วิชาช่างของไทยที่กล่าวไว้
๗. ผู้แต่งเปรียบเทียบผู้ที่ดูถูกวิชาศิลปะ ในบทเสภาสามัคคีเสวก ตอน วิศวกรรมา
กับสิ่งใด ก. ช่างทอง และ ช่างเงิน
ก. คนชั่วร้าย ข. คำป่ า ข. ช่างปั ้ น และ ช่างเขียน
ค. สัตว์ที่มีเขา ง. กบในกะลา ค. ช่างถ่ายรูป และ ช่างแต่งหน้า
ง. ช่างก่อสร้าง และ ช่างถม
๑๕. “แม้ผู้ใดไม่นิยมชมสิ่งงาม ๒๐. คำประพันธ์ในข้อใดเป็ นข้อสรุปหน้
ของา๒
เมื่อถึงยามเศร้าอุราน่าสงสาร ตอน สามัคคีเสวก
เพราะขาดเครื่องระงับดับรำคาญ ก. เหล่าเสวกตกที่กะลาสี
โอสถใดจะสมานซึ่งดวงใจ” ควรคิดถึงหน้าที่นน
ั ้ เป็ นใหญ่
คำประพันธ์ข้างต้นกล่าวถึงใคร รักษาตนเคร่งคงตรงวินัย
ก. ผู้ที่ไม่มีใจรักในศิลปะ สมานใจจงรักพระจักรี
ข. ผู้ที่ไม่เห็นความสำคัญของความ ข. แม้ลูกเรือเชื่อถือผูเ้ ป็ นนาย
สวยงาม ต้องมุ่งหมายช่วยแรงโดยแข็งขัน
ค. ผู้ที่ไม่เคยมีความรู้สึกซาบซึง้ หรือ คอยตัง้ ใจฟั งบังคับกัปปิ ตัน
ประทับใจในสิ่งที่สวยงาม นาวานัน
้ จึ่งจะรอดตลอดทะเล
ง. ผู้ที่มีความคิดว่าศิลปะไม่ใช่เกี่ยวกับ ค. เราช่วยช่างเหมือนอย่างช่วยบ้าน
ความสวยงาม เมือง
ได้ประเทืองเทศไทยอันไพศาล
๑๖. จากข้อที่ ๑๕. ข้อใดคือความหมาย
สมเป็ นเมืองใหญ่โตมโหฬาร
ของคำว่า “โอสถ”
พอไม่อายเพื่อนบ้านจึ่งจะดี
ก. สิ่งที่ใช้แก้ความเศร้า
ง. แต่ชาติใดรุ่งเรืองเมืองสงบ
ข. สิ่งที่มาทำให้น่าสงสาร
ว่างการรบอริพลอันล้นหลาม
ค. คนที่ไม่ช่ น
ื ชมในงานศิลปะ
ย่อมจำนงศิลปาสง่างาม
ง. คนที่ไม่ซาบซึง้ ในงานศิลปะ
เพื่ออร่ามเรืองระยับประดับประดา
ชื่อ........................................................................................................................................ ชัน
้ ม. ๑/........ เลขที่
............
คำชีแ
้ จง ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย ในข้อที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
๑. ใครคือผู้แต่งนิราศภูเขาทอง ๖. อะไรคือจุดประสงค์การเดินทางไป
ก. เจ้าฟ้ ากุ้ง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาของสุนทรภู่
ข. สุนทรภู่ ก. ไปทอดกฐิน
ค. รัชกาลที่ ๒ ข. ไปนมัสการเจดีย์ภูเขาทอง
ง. รัชกาลที่ ๓ ค. ไปหาบิดาที่บวชเป็ นพระ
ง. ตามเสด็จรัชกาลที่ ๓
๒. นิราศเรื่องใดได้รับยกย่องว่าเป็ นนิราศ
เรื่องเอกของสุนทรภู่ ๗. ข้อใดที่กวีกล่าวถึงบุคคลที่ไม่เข้าพวก
ก. นิราศพระบาท กับข้ออื่น
ข. นิราศภูเขาทอง ก. ถึงหน้าแพแลเห็นเรือที่นั่ง
ค. นิราศวัดเจ้าฟ้ า คิดถึงครัง้ ก่อนมาน้ำตาไหล
ง. นิราศธารโศก ข. ถึงบางพลูคิดถึงคู่เมื่ออยู่ครอง
เคยใส่ซองส่งให้ล้วนใบเหลือง
๓. นิราศภูเขาทองแต่งด้วยคำประพันธ์
ค. ถึงบางพลัดเหมือนพี่พลัดมาขัดเคือง
ประเภทใด
ทัง้ พลัดเมืองพลัดสมรมาร้อนรน
ก. โคลงสี่สุภาพ
ง. ถึงอารามนามชื่อวัดดอกไม้
ข. กาพย์ฉบัง ๑๖
คิดถึงไปแนบทรวงดวงสมร
ค. กาพย์ยานี ๑๑
ง. กลอนนิราศ ๘. บุคคลใดเดินทางไปจังหวัด
พระนครศรีอยุธยากับสุนทรภู่
๔. นิราศภูเขาทองขึน
้ ต้นด้วยวรรคใด
ก. พัด
ก. วรรคสดับ
ข. ดาบ
ข. วรรครับ
ค. แสง
ค. วรรครอง ง. พุ่ม
ง. วรรคส่ง
๙. สุนทรภู่เดินทางโดยพาหนะใด
๕. คำว่า “นิราศ” หมายถึงอะไร ก. เรือ
ก. เนิ่นนาน ข. รถยนต์
ข. ไปจาก ค. เกวียน
ค. การเดินทาง ง. เครื่องบิน
ง. ความสนุกสนาน
๑๐. สุนทรภู่ประสบเหตุเรือติดในน้ำวนที่
ใด
ก. วัดเขมาภิรตาราม
ข. วัดประโคนปั ก
ค. วัดราชบุรณราชวรวิหาร
ง. วัดหน้าพระเมรุ
อ่านข้อความต่อไปนีแ
้ ล้วตอบคำถามข้อ ๑๕. ช่วงที่สุนทรภู่ออกเดินทางไปนมัสการ
๑๑ – ๑๓ เจดีย์ภูเขาทองตรงกับเทศกาลอะไร
“เดือนสิบเอ็ดเสร็จธุระ ก. เข้าพรรษา
พระวสา ข. ลอยกระทง
รับกฐินภิญโญโมทนา ค. ออกพรรษา
ชุลีลาลงเรือเหลืออาลัย ง. สงกรานต์
ออกจากวัดทัศนาดูอาวาส
๑๖. “ถึงบางพูดพูดดีเป็ นศรีศักดิ ์
๑๑. เมื
วัด่ อทีตรุ ษาสารทพระพรรษาได้
่กล่ วถึงในข้อความนีห
้ มายถึงวัด มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
ใด แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร
ก. วัดเบญจมราชบพิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา”
ข. วัดราชบุรณราชวรวิหาร คำกลอนบทนีม
้ ีความหมายตรงกับสุภาษิต
ค. วัดอรุณราชวราราม ในข้อใด
ง. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ก. พูดดีเป็ นศรีแก่ปาก
ข. น้ำขึน
้ ให้รีบตัก
๑๒. ข้อความข้างต้นเป็ นคำประพันธ์
ค. พูดไปสองไพเบีย
้ นิง่ เสียตำลึงทอง
ประเภทใด
ง. มะนาวไม่มีน้ำ
ก. กลอนสุภาพ
ข. กลอนนิราศ อ่านข้อความต่อไปนีแ
้ ล้วตอบคำถามข้อ
ค. กลอนกลบท ๑๗ – ๑๙ “ถึงหน้าวังดังหนึ่งใจจะ
ง. กลอนหก ขาด
ก. ๑ บท โอ้ผ่านเกล้าเจ้าประคุณของ
ข. ๒ บท สุนทร
ค. ๓ บท แต่ปางก่อนเคยเฝ้ าทุกเช้า
ง. ๔ บท เย็น
หน้า
๑๘. ข้อความที่อ่านแสดงให้เห็นภาพของผู้ ๒๓. “ถึงสามโคกโศกถวิลถึงปิ่ นเกล้า
แต่งเป็ นอย่างไร พระพุทธเจ้าหลวงบำรุงซึ่งกรุงศรี
ก. ยากจน ประทานนามสามโคกเป็ นเมืองตรี
ข. ไม่มีอาชีพ ชื่อปทุมธานีเพราะมีบัว”
ค. ป่ วยหนัก บทประพันธ์ข้างต้นสามารถถอดบท
ง. ขาดที่พึ่ง ประพันธ์ได้ว่าอย่างไร
ก. ถึงสามโคกก็โศกเศร้าที่จากพ่อแม่มา
๑๙. จากข้อความที่อ่านไม่ปรากฏอะไร
ซึง่ ท่านทัง้ สองได้ตงั ้ ชื่อสามโคกว่าปทุมธานี
ก. ความโศกเศร้าเสียใจ
เพราะตนเคยมาขายบัว
ข. การรำลึกถึงบุคคลที่ตนรัก
ข. ถึงสามโคกก็คิดถึงพระบาทสมเด็จ
ค. การอาลัยจากคนรัก
พระพุทธเลิศหล้านภาลัยซึ่งพระองค์
ง. การคิดถึงความหลัง
ปกครองเมืองกรุงเทพฯ พระองค์ได้
พระราชทานนามเมืองจากสามโคกซึ่งเป็ น
๒๐. สุนทรภู่ไม่ได้เดินทางผ่านที่ใด
หัวเมืองชัน
้ สามเป็ นเมืองปทุมธานีเป็ นเพราะ
ก. เกาะเกร็ด
มีบัวเยอะ
ข. บางพลู
ค. ถึงสามโคกสุนทรภู่คิดถึงคนรักและ
ค. โรงเหล้า
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้
ง. บางทราย
ตัง้ ชื่อให้คนรักว่าปทุมธานี เพราะว่ามีสระบัว
๒๑. “โอ้ปางหลังครัง้ สมเด็จบรมโกศ ง. ถึงสามโคกสุนทรภู่จำได้ว่าพระบาท
มาผูกโบสถ์ก็ได้มาบูชาชื่น สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้ทรง
ชมพระพิมพ์ริมผนังยังยั่งยืน เปลี่ยนชื่อจาก สามโคก มาเป็ น เมืองตรี
ทัง้ แปดหมื่นสี่พันได้วันทา” ปทุมธานี เพราะ มีบัวล้อมเมือง
คำประพันธ์ข้างต้นนีส
้ ุนทรภู่กล่าวเมื่อเดิน
๒๔. บทกลอนในข้อใด เป็ นนิราศภูเขาทอง
ทางถึงวัดใด
บทสุดท้าย
ก. วัดบางพลัด
ก. จงทราบความตามจริงทุกสิ่งนัน
้
ข. วัดประโคนปั ก
อย่านึกนินทาแถลงแหนงไฉน
ค. วัดเขมาภิรตาราม
นักเลงกลอนนอนเปล่าก็เศร้าใจ
ง. วัดสังฆทาน
จึงร่ำไรเรื่องร้างเล่นบ้างเอย
๒๒. “ถึงบางเดื่อโอ้มะเดื่อเหลือประหลาด ข. สิน
้ แผ่นดินขอให้สน
ิ ้ ชีวิตบ้าง
บังเกิดชาติแมงหวี่มีในไส้ อย่ารู้ร้างบงกชบทศรี
เหมือนคนพาลหวานนอกย่อขมใน เหลืออาลัยใจตรมระทมทวี
อุปไมยเหมือนมะเดื่อเหลือระอา” ทุกวันนีก
้ ็ซังตายทรงกายมา
คำกลอนบทนีต
้ รงกับสำนวนตามข้อใด ค. ถึงบางพูดพูดดีเป็ นศรีศักดิ ์
ก. หน้าเลือด มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
ข. หน้าชื่นอกตรม แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร
ค. หน้าเนื้อใจเสือ จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา
ง. หน้าไหว้หลังหลอก ง. ถึงสามโคกโศกถวิลถึงปิ่ นเกล้า
พระพุทธเจ้าหลวงบำรุงซึ่งกรุงศรี
ประทานนามสามโคกเป็ นเมืองตรี
ชื่อปทุมธานีเพราะมีบัว
หน้า
๒๕. ข้อใดสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมในการ ๒๙. “โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา
แต่งกายของคนไทยสมัยก่อน ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็ นน่าอาย”
ก. ตรงหน้าโรงโพงพางเขาวางราย หากใครดื่มสุราที่สุนทรภู่กล่าวถึงจะทำผิด
ข. ทัง้ ผัดหน้าจับเขม่าเหมือนชาวไทย ศีลข้อใด
ค. ไอ้ลำหนึ่งครึ่งท่อนกลอนมันมาก ก. ศีลข้อ ๒
ง. ทัง้ สิ่งของขาวเหลืองเครื่องสำเภา ข. ศีลข้อ ๓
ค. ศีลข้อ ๔
๒๖. ในเรื่องนิราศภูเขาทอง ตามตำนาน
ง. ศีลข้อ ๕
ของวัดประโคนปั กนัน
้ มีสิ่งใด
ก. เสาหิน ๓๐. คำว่า “ดัง” ในข้อใดใช้ในความ
ข. ครกหิน หมายต่างจากข้ออื่น
ค. เสากระโดงเรือ ก. ขอเดชะพระพุทธคุณช่วย
ง. เสาตกน้ำมัน แม้นมอดม้วยกลับชาติวาสนา
อายุยืนหมื่นเท่าเสาศิลา
๒๗. “ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก
อยู่คฟ
ู่ ้ าดินได้ดังใจปอง
สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน ข. งิว้ นรกสิบหกองคุลแ
ี หลม
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป ดังขวากแซมเสีย
้ มแทรกแตกไสว
แต่เมาใจนีป
้ ระจำทุกค่ำคืน” ใครทำชู้คู่ท่านครัน
้ บรรลัย
คำประพันธ์ข้างต้นนีส
้ ุนทรภู่กล่าวเมื่อตอน ก็ต้องไปปี นต้นน่าขนพอง
ที่เดินทางผ่านสถานที่ในข้อใด ค. สายติ่งแกมแซมสลับต้นตับเต่า
ก. บ้านญวน เป็ นเหล่าเหล่าแลรายทัง้ ซ้ายขวา
ข. โรงเบียร์ปทุมธานี กระจับจอกดอกบัวบานผกา
ค. บางจาก ดาษดาดูขาวดังดาวพราย
ง. โรงเหล้าบางยี่ขัน ง. สงัดเสียงคนดังระฆังเงียบ
เย็นยะเยียบยามนอนริมเนินผา
๒๘. เมื่อถึงโรงเหล้า สุนทรภู่ได้สะท้อนให้
เมื่อยามแกนแสนทุเรศเวทนา
เห็นถึงความเชื่อในเรื่องใด
ต้องไสยาอยู่กลางน้ำค้างพราวพราว
ก. ความเชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิด
ข. ความเชื่อเรื่องนรกสวรรค์
ค. ความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์
ง. ความเชื่อเรื่องโหราศาสตร์
หน้า