1.

ข้ อใดมีทงอั
ั ้ กษรควบและอักษรนำ
ก.เกรงกลัว ข.อย่าโกรธ ค.กลอนแปด ง.หลากหลาย
2.ข้ อใดไม่มีอกั ษรนำ
ก.อย่าหมายพึง่ ผู้ใดให้ เขาหยัน ข.ทรัพย์ในดินสินในน้ำออกคล่ำไป
ค.อย่าหยามเหยียดพาลหาว่างานต่ำ ง.แหลมทองของไทยพร้ อมจะช่วยอำนวยเอย
3.ข้ อใดมีอกั ษรนำมากที่สดุ
ก.หนังสือเล่มนี ้ฉันอ่านหมดแล้ ว ข.เจ้ าหมาสบายตัวเมื่อได้ อาบน้ำถูสบู่
ค.หมอนัดหมายคนไข้ ให้ มาพบใหม่ในสัปดาห์หน้ า
ง.ภูเขาในยามเช้ ามักมีหมอกปกคลุมหนาแน่นดูแล้ วงดงามมาก
4.ข้ อใดมีคำควบกล้ำไม่แท้
ก.ทรัพย์สนิ ข.ไขว่คว้ า ค.ครอบครอง ง.ครอบครัว
5.ข้ อใดแสดงให้ เห็นความผูกพันระหว่างแม่กบั ลูกมากที่สดุ
ก.นางกอดจูบลูบหลังแล้ วสัง่ สอน อำนวยพรพลายน้ อยละห้ อยไห้
ข.แล้ วนัง่ นึกตรึกตราน้ำตาย้ อย รำคาญคอยสริยาจะคลาไคล
ค.สะอื ้นอันพั
้ นผูกถึงลูกชาย จนพลัดพรายเพราะผัวเป็ นตัวมาร
ง.นางครวญคร่ำร่ำว่าน้ำตาตก เหมือนหนึง่ อกพพองเป็ นหนองผี
6.ข้ อใดอ่านออกเสียงเหมือนคำว่า ”ภัณฑ์”
ก.สิทธิ์ ฤทธิ์ ข. จันทร์ จันทน์ ค.ถัณฐ์ กรรณ ง.พันธุ์ พรรณ
7.ข้ อใดอ่านไม่ถกู ต้ อง
ก.อุตริ อ่านว่า อุด-ตริ ข.โศกศัลย์ อ่านว่า โสก-สัน
ค.วิญญาณ์ อ่านว่า วิน-ยาน ง.กายสิทธิ์ อ่านว่า กา-ยะ-สิด
8.” ความ___ เป็ นวาจาอัน____” ครวเติมคำใดลงในช่องว่าง
ก.สัตว์ ศักสิท ข.สัตว์ ศักดิ์ศิทธิ์ ค.สัตย์ ศักดิ์สทิ ธิ์ ง.สัตย์ ศักดิ์สทิ ธ์
9.คำในข้ อใดมีจำนวนพยางค์ตา่ งจากข้ ออื่น
ก.พิพิธภัณฑ์ ข.วัฒนธรรม ค.มัธยมศึกษา ง.สถาปั ตยกรรม
10.” ที่ระเบียงของวัดมีภาพฝา____ผนัง” ควรเติมคำลงในช่องว่าง
ก.จิตรกรรม ข.ประติมากรรม ค.หัตถกรรม ง.สถาปั ตยกรรม
11.” สถาปนา” มีความหมายว่าอย่างไร
ก.ตังขึ
้ ้น ข.รื อ้ ถอน ค.ซ่อมแซม ง.เปลี่ยนแปลง
12.” วัตถุโบราณ”มีความหมายตรงกับข้ อใด
ก.สิง่ ของเก่าแก่ ข.สถานที่สำคัญ ค.สถานที่เก่าแก่
ง.สิง่ ของราคาแพง
13.ข้ อใดเรี ยงลำดับก่อนเสภาได้ ถกู ต้ อง
๑ คนอื่นสักหมืนแสนไม่แม้ นเหมือน ๒ แม่รักลูกลูกก็ร้ ูอยูว่ ่ารัก
๓ จะจากเรื อนร้ างแม่ไม่แต่ตวั ๔ จะกินนอนวอนว่าเมตตาเตือน
ก. ๑ ๒ ๓ ๔ ข. ๒ ๑ ๔ ๓ ค. ๓ ๔ ๒ ๑ ง. ๔ ๓ ๑ ๒
14.สำนวนใดมีความหมายไม่สมั พันธ์กบั พวก
ก.เข็นครกขึ ้นภูเขา ข.ฝนทัง่ ให้ เป็ นเข็ม ค.งมเข็มในมหาสมุทร
ง.รู้ไว้ ใช่วา่ ใส่บา่ แบกหาม
15.ข้ อใดควรเป็ นหัวข้ อในการเขียนเรื่ องตามจินตนาการ
ก.ยาเสพติดให้ โทษ ข.ครอบครัวของฉัน ค.ชีวิตบนดาวอังคาร
ง.ชีวิตไทยในต่างแดน
16.ข้ อใดเป็ นประโยคชนิดเดียวกับ” ห้ ามจับปลาในฤดูวางไข่”
ก.หยุดเดี๋ยวนี ้นะ ข.ไม่มีใครเชื่อเขาเลย ค.ใครหยิบหนังสือของผมไป
ง.ฉันอยากไปเที่ยวสวนสัตว์
17.ประโยคในข้ อใดต่างจากพวก
ก.เธอชอบกินขนมอะไร ข.ทำไมเธอถึงไม่ไปโรงเรี ยน
ค.ฉันไม่ได้ เป็ นไข้ หวัดหรอกนะ ง.เพราะเหตุใดเธอจึงทำตัวเช่นนี ้
18.ข้ อใดเป็ นกริยาวลี
ก.คัดลายมือเก่งมาก ข.แสงอาทิตย์อทัยจากฟ้า
ค.แมลงปี กกว้ างเสียงใส ง.กว้ างใหญ่ไพศาลตระกาลตา
19.ข้ อใดเป็ นสรรพนามวลี
ก.จดน้ำที่หลัง่ ริน ข.ข้ าพเจ้ าทังหลาย
้ ค.แสงจันทราจากฟ้า
ง.วิ่งเร็วจังเลย
20.ข้ อใดเป็ นประโยคสามส่วน
ก.น้ องว่ายน้ำเก่งมาก ข.ลูกแมวกระโดดสูง ค.น้ องร้ องไห้
ง.คุณแม่ทำอาหารญี่ปนุ่
21.ข้ อใดเป็ นประโยคสองส่วน
ก.น้ องร้ องไห้ เสียงดัง ข.น้ องของฉันชอบกินก๋วยเตี๋ยวเรื อ
ค.เขาเตะฟุตบอล ง.พี่ทำการบ้ านวิชาภาษาไทย
22.ข้ อใดมีตวั สะกดตรงกับข้ อความ” แมวลายร้ องเหมียว” ตามลำดับ
ก.ชายเลยรำวง ข.กระต่ายสีขาว ค.สาวสวยน่องเขา
ง.ดาวส่องแสงสว่าง
23.คำในข้ อใดอยูใ่ นมาตราแม่ ก กาทุกคำ
ก.ราคา นับเลข ข.เสื ้อผ้ า หิวข้ าว ค.ลำไย กระเป๋ า
ง.รองเท้ า บ้ านเรื อน
24.คำกริยาในข้ อใดเป็ นคำกริยาชนิดเดียวกัน
ก.ทำ ว่ายน้ำ ข.ตะโกน เท่า ค.กำลัง เคย
ง.เหนื่อย เป็ น
25.” ต๋อมกำลังทำกับข้ าวสำหรับมื ้อเย็นนี ้”คำว่ากำลังเป็ นคำกริยาชนิดใด
ก.อกรรมกริยา ข.สกรรมกริยา ค.วิกรรตถกริยา
ง.กริยานุเคราะห์