แบบทดสอบเรื่อง ขุนช้างขุนแผน

1. ข้อใดไม่มีสำนวนไทย
ก. เหมือนแมลงวันว่อนเคล้าที่เน่าชัว่
ข. ดอกมะเดื่อหรือจะเจือดอกพะยอม
ค. สองมือปิดขาเหมือนท่าเปรต
ง. ดังทองคำทำเลีย่ มปากกะลา
มาเกลือกลั้วปทุมมาลย์ที่หวานหอม
ว่านักแม่จักตรอมระกำใจ
ใครมาเทศน์เอาผ้ากูไปไหน
หน้าตาดำเหมือนมินหม้อมอม

2. “ครานั้นจึงโฉมเจ้าวันทอง เศร้าหมองด้วยลูกเป็นหนักหนา
พ่อพลายงามทรามสวาดิของแม่อา แม่โศกาเกือบเจียนจะบรรลัย
ใช่จะอิ่มเอิบอาบด้วยเงินทอง มิใช่ของตัวทำมาแต่ไหน
ทั้งผู้คนช้างม้าแลข้าไท ไม่รักใคร่เหมือนกับพ่อพลายงาม
ทุกวันนี้ใช่แม่จะผาสุก มีแต่ทุกข์ใจเจ็บดังเหน็บหนาม
ต้องจำจนทนกรรมที่ติดตาม จะขืนความคิดไปก็ใช่ที”
คำประพันธ์นนี้ างวันทองต้องการบอกให้รู้อะไร
ก. บอกถึงความวิตกกังวล ข. รำพันถึงความทุกข์ใจ ค. ให้คำแนะนำ ง. แสดงความท้อใจ

3. ข้อใดมีน้ำเสียงเชิงตัดพ้อ
ก. มีธุระสิ่งไรในใจเจ้า
ข. เมื่อพ่อเจ้ากลับมาแต่เชียงใหม่
ค. เล่าความบอกผัวด้วยกลัวภัย
ง. มาอยู่ไยกับอ้ายหินชาติ
พ่อจงเล่าแก่แม่แล้วกลับบ้าน
ไม่เพ็ดทูลสิง่ ไรแต่สักอย่าง
ประหลาดใจน้องฝันพรัน่ อุรา
แสนอุบาทว์ใจจิตริษยา

4. “พี่ผิดจริงแล้วเจ้าวันทอง เหมือนลืมน่องหลงเลือนทำเชือนเฉย” ข้อความนี้ใครสำนึกผิดในเรื่องใด

ก. ขุนช้างสำนึกผิด ในเรื่องที่หึงหวงนางวันทองมากเกินไป
ข. ขุนช้างสำนึกผิด ในเรื่องไม่ดูแลนงวันทองให้ดี จนถูกพลายงามมาลักตัวไป
ค. ขุนแผนสำนึกผิด ในเรื่องที่มีภรรยาหลายคน
ง. ขุนแผนสำนึกผิด ในเรื่องที่ไม่ได้ทลู ขอนางวันทองคืนจากขุนช้าง หลังจากรบชนะเจ้าเชียงใหม่

5. “เจ้าเป็นถึงหัวหมื่นมหาดเล็ก มิใช่เด็ดดอกจงฟังคำแม่ว่า
จงเร่งไปคิดกับบิดา ฟ้องหากราบทูลพระทรงธรรม์”
คำประพันธ์นนี้ างวันทองต้องการบอกอะไรให้พลายงาม
ก. ดุด่าว่ากล่าว ข. พร่ำสอน ค. เตือนสติ ง. ชักชวน
6. ข้อใดไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้นางวันทองถูกประหารชีวิต
ก. นางวันทองเป็นเมียขุนแผนแล้วยังยอมเป็นเมียขุนช้างอีก
ข. พระพันวษาทรงพระพิโรธนางวันทองทีไ่ ม่ตัดสินใจให้เด็ดขาด
ค. ขุนแผนไม่ได้เพ็ดทูลของนางวันทองคืนจากขุนช้าง
ง. จมื่นไวยไปลักแม่มาในยามค่ำคืน

7. ข้อใดไม่มีภาพสะท้อนทางวัฒนธรรม
ก. ถ้ารักน้องป้องปิดให้มิดอาย
ข. พระจันทรจรแจ่มกระจ่างดี
ค. ไปเพ็ดทูลเสียให้ทูลกระหม่อมแจ้ง
ง. หญิงเดียวชายครองเป็นสองมิตร
ฉันกลับกลายแล้วหม่อมจงฟาดฟัน
พระพายพัดมาลีตรลบไป
น้องจะแต่งบายศรีไว้เชิญขวัญ
ถ้ามิปลิดเสียให้เปลื้องไม่ตามใจ

8. การกระทำของขุนช้างที่ฉุดนางวันทองซึ่งเป็นภรรยาของขุนแผนมาเป็นภรรยาตนนั้น ถือว่าผิดศีลข้อใด
ก. ข้อ 1. ปาณาติปาตา เวรมณี ข. ข้อ 2. อทินนาทานา เวรมณี
ค. ข้อ 3. กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี ง. ข้อ 4. มุสาวาทา เวรมณี

9. “ พลางเรียกหาข้าไทอยูว่ ้าวุ่น อีอุ่นอีอิ่มอีฉิมอีสอน

อีมีอีมาอีสาคร นิ่งนอนไยหวามาหากู”
คำประพันธ์นี้ขุนช้างเรียกคนใช้ทั้งหมดกี่คน
ก. 6 คน ข. 7 คน ค. 8 คน ง. 9 คน

10. พี่ผิดพี่ก็มาลุแก่โทษ จะคุมโกรธคุมแค้นไปถึงไหน

ความรักพี่ยังรักระงมใจ อย่าตัดไมตรีตรึงให้ตรอมตาย” คำประพันธ์นี้ใช้โวหารข้อใด
ก. เสาวรจนี ข. นารีปราโมทย์ ค. พิโรธวาทัง ง. สัลลาปังคพิสัย

11. “คิดคะนึงตะลึงตะลานอก ดังตัวตกพระสุเมรุภูผา” คำประพันธ์ขา้ งต้น มีลักษณะดีเด่นอย่างไร

ก. มีการใช้โวหารภาพพจน์
ค. ใช้การบรรยายให้เห็นภาพ
12. ข้อใดไม่มีอุปมาโวหาร
ก. หญิงเดียวชายครองเป็นสองมิตร
ข. คราวนั้นเมื่อตามไปกลางป่า
ค. ชนะความงามหน้าดังเทียนชัย
ง. เจ้าพลายงามตามรับเอากลับมา
ข. มีการเล่นสัมผัส
ง. ทุกข้อที่กล่าวมา
ถ้ามิปลิดเสียให้เปลืองไม่ตามใจ
หน้าดำเหมือนหนึ่งทามินหม้อไหม้
เขาฉุดไปเหมือนลงทะเลลึก
ทีนี้หน้าจะดำเป็นน้ำหมึก

13. คำประพันธ์ในข้อใดไม่เข้าลักษณะ พิโรธวาทัง

 ก. ไม่มีอาญาสิทธิค์ ิดดึงโดน
เลี้ยงมึงไม่ได้อ้ายใจร้าย
ข. ถ้าฉวยเกิดฆ่าฟันกันล้มตาย
อีวันทองกูให้อ้ายแผนไป
ค. ฉุดมันขึ้นช้างอ้างถึงกู
ชอบตบให้สลบลงกับที่
ง. จะรักชู้ชังผัวมึงกลัวอาย
ตามใจกูจะให้ดังวาจา
เที่ยวทำใจคะนองจองหองครัน
ชอบแต่เฆีย่ นสองหวายตลอดหลัง
อันตรายไพร่เมืองก็เคืองกู
อ้ายช้างบังอาจใจทำจูล่ ู่
ตะคอกขู่อีวันทองให้ตกใจ
เฆี่ยนตีเสียให้ยับไม่นบั ได้
จะอยู่ด้วยลูกชายก็ไม่ว่า
แต่นี้เบื้องหน้าขาดเด็ดไป

14. จากข้อ 13 ข้อใดแสดงถึงการวางอำนาจของขุนช้างชัดเจนที่สุด

ก. ข้อ ก ข. ข้อ ข ค.ข้อ ค ง. ข้อ ง
15. ข้อใดคือเหตุผลที่วันทองต้องถูกลงพระอาญารุนแรงถึงขั้น
“อกเอาขวานผ่าอย่าปรานี อย่าให้มีโลหิตติดตีนกู
เอาใบตองรองไว้ให้หมากิน ตกดินจะอัปรีย์กาลีอยู่”
ก. ว่าหญิงชั่วผัวยังคราวละคนเดียว หาตอมกันเกลียวเหมือนมึงไม่
ข. กูเลี้ยงมึงให้ถึงเป็นหัวหมื่น คนอื่นรู้ว่าแม่ก็ขายหน้า
ค. ที่รูปรวยสวยสมมีถมไป มึงตัดใจเสียเถิดอีคนนี้
ง. รูปงามนามเพราะน้อยไปหรือ ใจไม่ซื่อสมศักดิ์เท่าเส้นผม

16. เรื่องขุนช้างขุนแผนมีเนื้อหาสาระที่คนชอบเพราะเหตุผลใดเป็นสำคัญ
ก. เรื่องที่มีหลายรส หลายอารมณ์ ข. เรื่องที่ไม่เป็นไปตามใจหวัง
ค. เรื่องที่ไม่สมหวังของตัวละคร ง. เรื่องที่สะท้อนชีวิตของคนสมัยก่อน
17. ข้อใดไม่แสดงอาการเคลื่อนไหว
ก. ย่างท้าวก้าวไปในทันที มิได้มีใครทักแต่สักคน
ข.โอ้แม่เจ้าประคุณของลูกเอ๋ย ไม่ควรเลยจะพรากจากคุณพ่อ
ค. ชมพลางย่างเยื้องชำเลืองมา เปิดมุ้งเห็นหน้าแม่วันทอง
ง. พลางนั่งลงนอบนบอภิวันท์ สะอื้นอั้นอกแค้นน้ำตาคลอ
18. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์
ก. ดูเวลาปลอดห่วงทักทิน ข. เสกขมิ้นว่านยาเข้าทาตัว
ค. เงียบสัตว์จัตุบททวิบาท ง. ลงยันต์ราชะเอาปะอก
19. “อึดอัดฮึดฮัดด้วยขัดใจ” คำประพันธ์ที่ยกมานี้ มีลักษณะเด่นในเรื่องใด
ก. ความล้มเหลว ข. การเล่นอักษร ค. การเล่นคำ ง. การเล่นสัมผัส
20. “ขุนช้างเห็นข้าไม่มาใกล้ ขัดใจลุกขึ้นทั้งแก้ผ้า
แหงนเถ่อเป้อปังยืนจังกา ย่างท้าวก้าวมาไมรู้ตัว” คำที่ขีดเส้นใต้หมายถึงข้อใด
ก. มองดู ข. นิ่งเฉย ค. ค้างอยู่ ง. เดินด้วยอาการไ
21.เหตุใดขุนช้างจึงถวายฏีกา*
ก. ต้องการได้นางวันทองมาครอบครอง
ข. ต้องการเพิ่มเบี้ยหวัดใจอาชีพราชการ
ค. ต้องการเอาความดีเข้าตัว
ง. เรียกร้องความสนใจ
26.เมื่อขุนช้างถวายฎีกาต่อสมเด็จพระพันวษา ทำไมต้องถูกเฆี่ยนถึง 30 ครั้ง
ก. ขุนช้างละเมิดกฎหมายในการรักษาความปลอดภัยแก่พระมหากษัตริย์
ข. ขุนช้างสร้างความรำคาญในการเสด็จประพาส
ค. ขุนช้างไม่รู้จักกาลเทศะความเหมาะสม
ง. ขุนช้างชอบฟ้องร้องเรื่องไร้สาระ

22.พฤติกรรมใดของใครเกิดจากการใช้อารมณ์เหนือ 27.คำว่า “ถวายฎีกา” หมายความว่าอะไร*

เหตุผล*
ก. ขุนช้าง ข. ขุนแผน
ค. จมื่นไวย ง. นางวันทอง
23.ข้อใดไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้นางวันทองถูกประหารชีวิต*
ก. ขุนช้างถวายฏีกา
ข. นางวันทองเป็นเมียขุนแผนแล้วยังยอมเป็นเมียขุนช้าง
อีก
ค. จมื่นไวยไปลักแม่มาในยอมค่ำคืน
ง. ขุนแผนไม่ได้เพ็ดทูลของนางวันทองคืนจากขุนช้าง
23.การกระทำของขุนช้างที่ฉุดนางวันทองซึ่งเป็นภรรยา
ของขุนแผนมาเป็นภรรยาตนนัน้ ถือว่าผิดศีลข้อใด*
ก. ยื่นคำร้องทุกข์ต่อหน่วยงานรัฐ
ข. ราษฎรยื่นคำร้องทุกข์ถวายพระเจ้าแผ่นดิน
ค. ยืนคำร้องทุกข์ต่อศาลเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
ง. แจ้งความแก่หน่วยงานรัฐให้ดำเนินคดีกับบุคคลใด บุคคลหนึ่งเป็นกรณีพิเศษ
28.คำที่ขีดเส้นใต้ในข้อใด หมายถึง จมื่นไวย*
ก. วันนั้นแพ้กูเมื่อดำน้ำ ก็กริ้วซ้ำจะฆ่าให้เป็นผี
ข. เอาเถิดเป็นไรก็เป็นไป ไม่เอากลับมาได้มิใช่กู
ค. แล้วกลับความถามข้างวันทองพลัน เออเมือ่ มันฉุดคร่าพามึงไป
ง. ฉุดมันขึ้นช้างอ้างถึงกู ตะคอกขู่อีวันทองให้ตกใจ

ก. ปาณาติปาตา เวรมณี 29.กูก็ชั่วมัวรักแต่สองนาง ละวางให้วันทองน้องโศกศัลย์ เมื่อตีได้เชียงใหม่ก็โปรดครัน

ข.อทินนาทานา เวรมณี จะเพ็ดทูลคราวนั้นก็คล่องใจ คำว่า “สองนาง” ในบทประพันธ์ขา้ งต้นหมายถึงใคร*
ค.กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี ก. นางลาวทอง กับ นางสายทอง
ง.มุสาวาทา เวรมณี ข. นางศรีมาลา กับ นางสร้อยฟ้า
24.เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนขุนช้างถวายฎีกา ผู้ ค. นางลาวทอง กับ นางสร้อยฟ้า
แต่งคือ* ง. นางลาวทอง กับ นางแก้วกิริยา
ก. รัชกาลที่ 2
ข. รัชกาลที่ 3 30.ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับเสภาเรื่อง ขุนข้างขุนแผน ตอน ขุนช้างถวายฎีกา*
ค. สุนทรภู่ ก. เป็นตอนที่นิยมนำไปใช้แสดง “เสภารำ” มากที่สุด
ง. ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง ข. เนื้อหาตอนนี้มีที่มาจากพงศาวดารคำให้การชาวกรุงเก่า
ค. เป็นหนึ่งใน 8 ตอนทีไ่ ด้รับยกย่องจากสมาคมวรรณคดีว่าแต่งได้ดีเยี่ยม
ง. เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธ-เลิศหล้านภาลัย

25.ขุนช้างเป็นลูกของนางเทพทองกับใคร 31.เมียคนใดที่ไม่ได้อยู่ร่วมกับขุนแผน
ก.ขุนไกร ก.นางลาวทอง
ข.ขุนศรีวิชัย ข.นางสายทอง
ค.พันศรโยธา ค.นางวันทอง
ง.พันบุตรศรีเทพ ง.นางแก้วกิริยา
32.เพราะเหตุใดนางบัวคลี่จึงถูกขุนแผนฆ่าตาย 36.ภายหลังขุนแผนได้เลื่อนยศเป็นอะไร
ก.ต้องการสมบัติ ก. ขุนแผนแสนสะท้าน
ข. ต้องการคาถาอาคม ข.จมื่นไวยวรนาถ
ค.เชื่อพ่อและรักพ่อมากกว่า ค.พระศรีเสาวรักษ์
ง.หมดรักขุนแผน ง. พระสุรินทร์ฤาไชย

33. ในการทำกุมารทองต้องนำไปย่างไฟที่ใด 37.ตอนที่พลายชุมพลปลอมตัวเป็นมอญใช้ชื่อว่าอะไร

ก.ในโบสถ์ ก.มังรายกะยอชวา
ข.กลางป่า ข. สมิงมัตรา
ค.ใต้ถนุ บ้าน ค.สมิงพระราม
ง.ในป่าช้า ง.มังสามเกียด

34.ลูกของขุนแผนที่เกิดจากนางแก้วกิริยาคือใคร 38.ทำไมพลายงามได้เลื่อนยศเป็นจมื่ยไวยวรนาถ
ก.พลายงาม ก.รบชนะที่เชียงใหม่
ข.พลายเพชร ข.ประจบเก่ง
ค.พลายยง ค.ปราบโจรผู้ร้าย
ง.พลายชุมพล ง.ช่วยเหลือชาวบ้าน

35.นางสร้อยฟ้าให้ใครทำเสน่ห์ยาแฝด
ก.ชื่อเดิมเป็นกาลกิณี
ข.ไม่สบายมาก
ค.แม่ต้องการให้เปลี่ยน
ง. มีผู้ใหญ่ทัก