Unit 1c Grammar in use

By T.Chatlada Thampatya
I work as a teacher. Present simple

I’m working now. Present continuous

 Present simple
ตารางเวลา (timetable)
สิ่งที่เกิดขึ้นถาวร (permanent)
ความเป็นจริง (fact)
นิสัยและกิจวัตรประจาวัน (habit/routine)
บอกลักษณะ อาชีพ อายุ สุขภาพ และข้อมูล
ต่างๆ
แสดงความต้องการและแบ่งปันความคิดเห็น
Present continuous
แผนการที่กาหนดไว้แน่นอนแล้วในอนาคต
(a fixed future arrangement)
การกระทาที่ดาเนินอยูใ่ นช่วงทีพ่ ูด
(an action happening around the time)
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วคราว
(a temporary situation)
เหตุการณ์ที่กาลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด
(an action happening now)
เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันสั้น
 d
f c
e
b
a
g
 รูปประโยค Present simple Present continuous
ประโยคบอกเล่า • S + V (s/es) • She runs. • S + V. to be + V.ing
• S + V. to be + N • She is my sister. My sister is playing violin now.
• S + V. to be + adj. • She is beautiful.

ประโยคคาถาม • V. to do + S + V.inf + ? • Does she run? • V. to be + S + V.ing + ?

• V. to be + S + N + ? • Is she your sister? Is your sister playing violin now?
• V. to be + S + adj. + ? • Is she beautiful?

ประโยคปฏิเสธ • S + V. to do + not + V.inf • She does not run. • S + V. to be + not + V.ing

• S + V. to be + not + N • She is not my sister. My sister is not playing violin now.
• S + V. to be + not + adj. • She is not beautiful.
 Part of Speech
1. Noun (n.) คำนำม คือ คำที่ใช้เรียกแทน คน สัตว์ สิ่งของ สถำนที่ เช่น dog, Peter
• ทำหน้ำที่เป็นประธำน (S = Subject) และกรรม (O = Object) ได้

2. Pronoun คำสรรพนำม คือ คำที่ใช้แทนคำนำม เช่น he, she, it

• ทำหน้ำที่เป็นประธำน (S = Subject) และกรรม (O = Object) ได้

3. Verb (v.) คำกริยำ คือ

• คำที่แสดงกำรกระทำ เช่น run = Action Verb
• คำที่บอกสภำวะ เช่น He is sick. = Stative verb หรือ Linking Verb
• V. to be = be, is, am, are, was, were
• V. to have = has, have, had
 Part of Speech
Stative verb หรือ Linking Verb
คากริยาแสดงสภาวะที่เกี่ยวกับประสาทสัมผัส, การรับรู้หรือความเข้าใจ, ความรู้สึกและอารมณ์
1. ประสาทสัมผัส (verbs of the senses)
เช่น appear, feel, hear, look, see, seem, smell, sound, taste, etc.
ตัวอย่าง She seems really worried.
2. การรับรู้/ความเข้าใจ (verbs of perception)
เช่น believe, forget, know, realise, remember, understand, etc.
ตัวอย่าง I believe what he says.
3. ความรู้สึกและอารมณ์ (verbs which express feelings and emotions)
เช่น desire, detest, enjoy, hate, like, love, prefer, want, etc.
ตัวอย่าง Jane hates eating spicy food.
อื่นๆ be, belong, contain, cost, fit, have, include, keep, matter, need, owe, own, want, weigh, wish, etc.
ตัวอย่าง This house belongs to a very rich man.
 Part of Speech
Stative verb หรือ Linking Verb ที่พบบ่อยๆ
get go grow become
(แสดงการกลายสภาพ)

look seem sound appear

ดู ดูเหมือน ฟังดู ดูเหมือน

taste turn feel smell

มีรส เปลี่ยนสภาพ รู้สึก มีกลิ่น

keep remain stay

(ยังคง...)
 Part of Speech
Stative verb บางคาสามารถนามาใช้ในรูป continuous ได้ แต่จะมีความหมายเปลี่ยนไป เช่น
V Present simple
THINK • I think he’s a very good actor.
ฉันเชื่อว่าเขาเป็นนักแสดงที่ดี
HAVE • She has hundreds of books.
เธอมีหนังสือร้อยกว่าเล่ม (เป็นเจ้าของ)
Present continuous
• We are thinking about moving to a new house.
พวกเรากาลังพิจารณาจะย้ายเข้าบ้านใหม่
• Everyone is having a great time at the party.
ทุกคนมีช่วงเวลาที่ดีที่งานเลี้ยง (ประสบการณ์)
• He is having a bath.
เขากาลังอาบน้า
• They are having lunch.
พวกเขากาลังทานอาหารกลางวัน
 Part of Speech
Stative verb บางคาสามารถนามาใช้ในรูป continuous ได้ แต่จะมีความหมายเปลี่ยนไป เช่น
V Present simple
SEE • You can see my house from up
here.
เธอสามารถเห็นบ้านฉันได้จากบนนี้
• I see what he means.
ฉันเข้าใจว่าเขาหมายความว่าอะไร
TASTE • This pie tastes delicious.
พายชิ้นนี้มีรสชาติอร่อย
Present continuous
• I’m seeing the dentist this evening.
ฉันจะไปพบหมอฟันเย็นนี้
• I’m seeing him.
ฉันคบหากับเขา
• Ann is tasting the soup to see if it’s spicy
enough.
แอนกาลังชิมซุปเพื่อดูว่ามันเผ็ดพอหรือยัง
 Part of Speech
Stative verb บางคาสามารถนามาใช้ในรูป continuous ได้ แต่จะมีความหมายเปลี่ยนไป เช่น
V Present simple Present continuous
SMELL • His perfume smells very good. • He is smelling the flowers.
น้าหอมของเขามีกลิ่นหอมมาก เขากาลังดมกลิ่นดอกไม้
APPEAR • She appears to know where she’s • He is appearing in the Romeo & Juliet
going. เขากาลังแสดงละครเรือ่ งโรมิโอกับจูเลียต
เธอดูเหมือนจะรู้ว่าเธอกาลังไปที่ไหน
FIT • The skirt fits her perfectly. • John is fitting a new lock on the front
กระโปรงพอดีตัวกับเธอดีมาก door.
• จอห์นกาลังติดตั้งตัวล็อกตัวใหม่ที่ประตูหน้า
 Part of Speech
4. Adverb (adv.) คำกริยำวิเศษณ์ คือ
4.1 คำทีใช้ขยำยคำกริยำ เช่น She dances sexily.
4.2 คำที่ใช้ขยำย Adverb เช่น She dances extremely sexily.
4.3 คำที่ใช้ขยำย Adjective เช่น She is extremely sexy.
4.4 คำที่ใช้ขยำยประโยค เช่น Definitely, she becomes a dancer.
5. Adjective (adj.) คำคุณศัพท์ คือ
5.1 คำทีใ่ ช้ขยำยคำนำมว่ำมีลักษณะอย่ำงไร เช่น He has got blond hair.
5.2 คำที่ใช้บอกสภำพ, สภำวะ เช่น He is sick.
• ตำแหน่ง Adjective
1. อยู่หน้ำคำนำม เช่น He has got blond hair.
2. อยู่หลัง V. to be เช่น He is sick.
3. อยู่หลัง Linking Verbs เช่น He seems sick.
 Part of Speech

6. Conjunction (conj.) คำสันธำน คือ คำที่ใช้เชื่อมคำ วลี หรือประโยคเข้ำด้วยกัน

เช่น and, or

7. Preposition (prep.) คำบุพบท คือคำที่ใช้แสดงควำมสัมพันธ์กันของคำหรือวลีในประโยค

เช่น in, on ,at

8. Interjection (Int.) คำอุทำน คือคำที่ใช้แสดงควำมตื่นเต้น ตกใจ เจ็บปวด ควำมโกรธ

เช่น Oh!, Wow!
 ข้อมูล; สุขภาพ
looks
is seeing แผนการที่กาหนดไว้
ถามความต้องการ แน่นอนแล้วในอนาคต
Does he want
ถาม บอกข้อมูล
ข้อมูล has (got)
are you สถานการณ์ที่
เกิดขึ้นช่วงนี้
ถาม is not Anna coming
my train leaves
ข้อมูล;
อาชีพ ตารางเวลา is getting แผนการที่กาหนดไว้
does James do แน่นอนแล้วในอนาคต

ถาม He works does the brain weigh?

ข้อมูล ถาม fact
Do you like
am looking it uses
สถานการณ์
ที่เกิดขึ้น fact
ช่วงนี้
Adverbs of Frequency
100%

80%

60%
40%

20%
0%
 ตัวอย่างประโยค ความถี่ใน 7 วัน
• I always go to bed before 11pm. 7 days/7 days 100%

• I usually have cereal for 5 days/7 days 80%

breakfast.
• I often surf the Internet. 4 days/7 days 60%
• I sometimes drink coffee 3 days/7 days 40%
• I rarely drink milk. 1 day/7 days 20%
• I seldom read the newspaper.
• I never swim in the sea. 0 day/7 days 0%
D

E
A

B
C
 Question words
https://www.tinytap.com/activities/g1wt9/play/wh-questions
 Question words
Question words การใช้ ตัวอย่าง
What • ถามถึงสิ่งของ • What is on the table?
• ข้อมูล อะไรอยู่บนโต๊ะ
• What is your name?
คุณชื่ออะไร

Where ถามถึงสถานที่ • Where is your book?

หนังสือของคุณอยู่ที่ไหน
When ถามถึงเวลา • When is school over?
เลิกเรียนเมื่อไหร่
 Question words

Question words การใช้ ตัวอย่าง

Why ถามถึงเหตุผล • Why are you late?
ทาไมคุณถึงมาสาย
Which ถามเพื่อให้เลือก • Which is your apple?
แอปเปิลของคุณลูกไหน
Who ถามถึงบุคคล • Who is that boy?
เด็กผู้ชายคนนั้นเป็นใคร
 Question words
Question words การใช้ ตัวอย่าง
How much • ถามถึงปริมาณกับ • How much juice left in the jar?
คานามนับไม่ได้ มีน้าผลไม้เหลืออยู่ในเหยือกเท่าไหร่
• ถามถึงราคา • How much is the camera?
กล้องถ่ายรูปราคาเท่าไหร่
How long • ถามถึงระยะเวลา • How long have you been here?
• ถามถึงความยาวของ คุณอยู่ที่นี่มานานเท่าไหร่แล้ว
สิ่งของ • How long is this ruler?
ไม้บรรทัดแท่งนี้ยาวเท่าไหร่
How often ถามถึงความถี่ How often does he see her?
เขาเจอเธอบ่อยแค่ไหน
 like his father.

does Peter

is never
 Phrasal verbs

กริยาวลี (phrasal verbs หรือ two-word verbs)

นิยมใช้กันมากในภาษาอังกฤษ ทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน โดยเมื่อใช้ verb ร่วมกับ
particle (ส่วนประกอบ ได้แก่ adverb, preposition) จะทาให้เกิดคาใหม่ ที่มีความหมาย
เปลี่ยนไปจากเดิม
 Phrasal verbs
Phrasal verbs; get ความหมาย ตัวอย่าง

• get back • ได้คืน, ได้รับกลับมา • She’s happy because she’s got her old
job back.
เธอมีความสุขเพราะเธอได้งานเดิมของเธอคืนมา

• get back (to sth) • กลับสู่ (หัวข้อเดิม, • I'll contact you again when I get back to
สภาพเดิม) the office.
ฉันจะติดต่อคุณอีกครั้งเมื่อฉันกลับออฟฟิศ
• get up • ตื่นนอน • I got up at five o'clock this morning!
เมื่อเช้าฉันตื่นนอนตอนตี 5
 Phrasal verbs
Phrasal verbs; get ความหมาย ตัวอย่าง

• get over • หายจาก • He took 3 months to get over the shock

of being in the car accident.
เขาใช้เวลาสามเดือนกว่าจะหายจากอาการช็อก
จากการประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
• get on (with sb) • เป็นมิตรกับ, เข้ากันได้ • She's never really got on with her sister.
เธอไม่เคยเข้ากับพี่สาวของเธอได้เลย
• get off • ถอดออก • Why don't you get those wet clothes off?
ทาไมคุณไม่ถอดเสื้อเปียกๆนั่นออกล่ะ

• ลงจากรถ • I tripped as I got off the bus.

ฉันสะดุดล้มตอนลงจากรถ
 Phrasal verbs

over
on
got
back
HOMEWORK
Thank you