เริ่ มจากหนังสือเรี ยนจีนเบื ้องต้ นเล่ม 1

เอาเบื ้องต้ นให้ พอเข้ าใจพินอิน เข้ าใจแกรมม่าง่ายๆ จำศัพท์เบสิกได้ บ้ างนิดหน่อยก็เริ่ มไปท่องยุทธภพได้ แล้ วค่ะ

ท่องยุทธภพสำหรับเราก็คือ
การเรี ยนรู้ คำศัพท์และรู ปประโยคผ่านการดูหนังจีน อ่านสเตตัสดารา ดูเนื อ้ เพลง จำคำพูดของเพื่อนมา หรื ออะไร
ก็ได้ ที่เราสนใจค่ะ
เน้ นว่าต้ องเป็ นสิ่งที่เราสนใจด้ วยนะ ไม่ง ัน้ จะไม่มีแรงท่องศัพท์ค่ะ

เราจะก๊ อปเอาวลี คำศัพท์ หรื อประโยคพวกนั ้นไว้ แล้ วคีย์ลงในแอพ Anki ค่ะ
แอพนี ฟ้ รี และดีมาก มันจะสร้ างFlash card จากคำที่เราคีย์ เข้ าไป ทีนี เ้ ราก็จะได้ ทบทวนคำศัพท์เรื่ อยๆ พิเศษตรง
ที่ anki มีระบบที่จะช่วยให้ เราจำได้ ดีขึ ้นค่ะ สนใจหาดูในยูทูปหรื อถามเราได้ ค่ะ

เมื่อก่อนเราเคยท้ อกับการนั่งคัดจีนเลยเรี ยนเองไม่ถึงไหน คิกจะลักไก่จ ำแต่พินอินก็ไปได้ ไม่ไกลค่ะ เพราะภาษาจีน

มีคำที่ออกเสียงเหมือนกันแต่คนละตัวอักษร คนละความหมายเพียบเลย เลยใช้ วิธี ท่องแบบดูรู ปเอาแบบนี ไ้ ปได้ เร็ ว
มากค่ะ อารมณ์ ดีๆค่อยมานั่งคัด
ส่วนหนังสือแกรมม่าจีนถ้ ามีไว้ ก็ดีค่ะ ไปเจอรู ปประโยคที่ไม่เข้ าใจหรื อสงสัยก็เปิ ดดู

ต้ าเจียห่าว !! สวัสดีคะ่  นี่คือรี วิวเเรกในกระทู้พนั ทิปของข้ าพเจ้ า 

เนื่องจากก่อนหน้ านี ้ ฉันไม่มีพื ้นฐานภาษาจีนเลยสักนิดเลยอยากจะมาแชร์ ประสบการณ์การเรี ยนภาษาจีนที่เริ่ มจากศูนย์
สูก่ ารทดสอบ HSK3 และ HSK4 ในระยะเวลา 4 เดือน โดยฉันเรี ยนภาษาจีนเพียง 63 ชัว่ โมง (นับๆวันเรี ยนเท่ากับเรี ยนไป
ทังสิ
้ ้น ประมาณ 2 เดือน 6 วันเท่านันเอ๊ ้ ง ) หวังว่าเรื่ องราวของฉันจะมีประโยชน์กบั หลายๆคนที่กำลังอยากจะเริ่ มต้ นเรี ยน
จนถึงการสอบวัดภาษาในระดับต่างๆนะคะ
หลายๆคนอาจจะมีข้อสงสัยหรื อมีคำถามมากมาย สามารถถามมาได้ นะคะ ฉันอยากให้ ทกุ คนลองเปิ ดใจอ่านเรื่ องราวของ
ของฉันคนนี ้ซักหน่อย เผื่อได้ เเง่มมุ ประหลาดๆกลับไปใช้ กบั การสอบของตัวเองได้
ก่อนหน้ านี ้ที่ฉนั ตัดสินใจเรี ยนก็มีการค้ นกระทู้ในพันทิปเหมือนกันค่ะ  
เรี ยนกี่ปี จะสอบผ่าน เรี ยน 1 ปี  จะมีโอกาสสอบผ่านไหม 
บางคนมีโอกาสอยู่จีน ต้ องสอบผ่านได้ ง่ายสิ เพราะ สภาพเเวดล้ อมมันเอื ้ออำนวย
ภาษาทุกภาษามีความยาก เเละง่ายไม่เหมือนกัน
ฉันจะไม่ขายฝั นว่าภาษาจีนมันง่าย
และจะไม่ดบั ฝั นว่ามันยาก
เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เรารักมัน มันก็จะง่ายและสนุกสำหรับเราเสมอ
แต่หากเราเบื่อหรื อท้ อกับมันเมื่อไหร่  นัน่ เเหล่ะ ความบันเทิงเกิดเลย 
ทรมาณเหมือนเราวิ่งขึ ้นเขา วิ่งเท่าไหร่ก็ไม่เห็นยอดเขาเสียที (เธอเห็นท้ องฟ้าบ้ างไหม เห็นระดับภาษาจีนของฉันหรื อเปล่า) 
ดังนันถ้
้ าเด็กหลังห้ องอย่างฉัน ความฉลาดปานกลาง สามารถทำได้  ทุกคนก็ต้องทำได้ คะ่  
ชีวิตฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้ องกับภาษาจีนเลย นอกจากเชื ้อจีนที่ไหลเวียนอยู่ในตัว กับตาตี่ๆคูน่ งึ
ฉันก็เป็ นคนหนึง่ ที่มีวิถีชีวิตห่างไกลจากคำว่าจีนมากค่ะ เรี ยนป.ตรี  กฎหมาย (ไทย) อยู่เมืองไทย (ไม่เคยไปจีนหรื อเเลก
เปลี่ยนใดๆ)
ดูละครไทย ฟั งเพลงไทย (ฉันจาพาเธอลอย ล่องไปให้ อาวากาดด)
เห็นไหมคะฉันเริ่ มจากศูนย์จริ งๆ แต่อาจจะเป็ นศูนย์จดุ หนึง่ เพราะอ่านหว่ออ้ ายหนี่ออก ฮ่าๆ ขอให้ ทกุ คนมีกำลังใจ สู้ตอ่ ไป 

เพราะสำหรับคนที่เริ่ มจากศูนย์  พวกเราต้ องรู้ตวั นะคะว่าความรู้น้อยกว่าคนที่เรี ยนมาเยอะ หรื อใช้ เวลายาวนาน 

สำหรับคนที่มีเป้าหมายที่จะสอบอย่างเร่งด่วน ต้ องประเมิณตัวเองก่อน เหมือนเราอยู่จดุ สตาร์ ทและคนอื่นอยู่ครึ่งทาง กลา
งทาง ใกล้ เส้ นชัย
ดังนันพวกเราจึ
้ งต้ องฝึ กฝน ขยัน อดทน ลงมือทำมากกว่าคนอื่นเขาและที่สำคัญอย่าหาข้ ออ้ างมาบัน่ ทอนให้ ตวั เองไม่
ประสบความสำเร็จค่ะ
4 เดือนฉันทำได้  พวกคุณก็ต้องทำได้ เหมือนกันค่ะ  ไม่มีอะไรที่เป็ นไปไม่ได้

คำถาม   คำศัพท์ตงเยอะ ไวยากรณ์
ั้ ก็เยอะ เรี ยนทุกวันหรื อเปล่า ?
ฉัน เรี ยนเเค่ครัง้ ละ 1 ชัว่ โมง อาทิตย์ประมาณ 2 วันแต่ถ้าใกล้ สอบอาจจะเรี ยนครัง้ ละ 1.30 - 2 ชัว่ โมง อาทิตย์ 3 หรื อ 6 วั
น
ตามความเร่งด่วน (สูงสุดคือ 6 วัน ในช่วง 1 อาทิตย์ก่อนสอบระดับ 4)

คำถาม  แล้ วเรี ยนอย่างไรคะ ? เรี ยนที่ไหนคะ ?

ฉันได้ รับการ์ ดอัญเชิญ (จากน้ องที่ได้ ทนุ เเนะนำเพื่อนของเขามา) เป็ นบัณฑิตจากรัว้ ม.ช.(ที่ได้ รับทุนไปต่อโทด้ านการสอนที่
เทียนจิน) มาสอนตัวต่อตัวค่ะ (ที่ตดั สินใจเรี ยนตัวต่อตัวเพราะรู้วา่ เวลาน้ อย ความจำไม่คอ่ ยดีเหมือนเด็กๆเท่าไหร่ เลือก
เวลาเองได้ (เพราะงานเข้ าบ่อย) สามารถจี ้ในจุดที่สงสัยได้ เรี ยนเนื ้อหาได้ เร็วไม่ต้องรอคนอื่น และครูสามารถสอนโดยวิธี
การที่เหมาะกับเรา)
วิธีการเรี ยนคือฉันเรี ยนผ่านวีเเชทค่ะ เพราะน้ องอยู่จีนเเละฉันอยู่ไทย น้ องจะวางแผนการสอนโดยมองว่าเป้าหมายของฉัน
คืออะไร (สอบเพื่อนขอทุน) ควรเรี ยนหนังสือเล่มไหน (ฉันได้ เล่มเขียว) เรามีระยะเวลาเท่าไหร่ (4 เดือน) และให้ เราซื ้อ
หนังสือตามที่เขาเเนะนำ 1 เล่ม ส่งการบ้ านโดยการถ่ายรูปส่งในวีแชท
 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซอ่ นไว้

หนังสือที่ครูหยิบมาสอนฉันคือ หนังสือ 汉语会话 301 句 (Conversational Chinese 301)ของ Peking University

Press มี 2 เล่ม (และทุกวันนี ้ยังเรี ยนเล่ม 2 ไม่จบเลยค่ะ T^T เพราะสอบผ่านเเล้ วครูขี ้เกียจสอน งานล้ นตัว) 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซอ่ นไว้
คุณครูเคยบอกว่าหนังสือเล่มแรกจะครอบคลุมระดับ 2 เเละเล่มสองจะครอบคลุมราวๆระดับ 3 ค่ะ ข้ อดีของหนังสือเล่มนี ้
คือไปได้ เร็ว (เวลามันน้ อย) ใช้ ได้ จริ ง (ที่ครูเลือกสอนเพราะจะได้ พดู สนทนากับคนจีนได้ ง่ายๆ ไม่อดตายเวลาได้ ทนุ หรื อไป
อยู่ที่จีน เรี ยนเพื่อใช้ อย่างเเท้ ทรู  ดังนันไวยากรณ์
้ ฉนั จเรี ยน คือเรี ยนจากรู ปประโยคสนทนาในหนังสือ) ข้ อเสียคือคำศัพท์ไม่
แน่นเท่าเล่มอื่น (ต้ องท่องเพิ่มจากคำศัพท์ HSK เเละไวยากรณ์อาจจะไม่แน่นเท่าด้ วยเช่นกัน( ฉันอาศัยเรี ยนจากข้ อสอบ
เก่าเพิ่มเติม) 

คำถาม ถ้ าไม่มีพื ้นฐานต้ องเริ่ มจากตรงไหนคะ?

สำหรับฉันตัวอักษรจีนมีลกั ษณะเหมือนรูปภาพ แต่ละรูปภาพจะมีความหมายเเละการออกเสียงที่แตกต่างกัน
เเละ คำพ้ องเสียงก็เยอะสุดๆ ดังนัน บางครั
้ ง้ ต่อให้ จำรูปภาพได้ เราก็อาจจะออกเสียงไม่ถกู ต้ อง(บางทีอา่ นไม่ออกเลยด้ วย
ซ้ำ)
เราจึงต้ องเริ่ มเรี ยน Pinyin ในการออกเสียงภาษาจีนค่ะ 

ฉันเริ่ มเรี ยนพินอินเป็ นอันดับเเรก เริ่ มตังเเต่

้ การท่องเปอเพอเมอเฟอ บลาบลาบลาบลา จนเริ่ มอ่านออกจากนันก็ ้ เรี ยนตาม
บทเรี ยน จำตัวอักษรเป็ นมโนภาพแล้ วก็ออกเสียงตามพินอินที่เราเรี ยน เช่น 大 (ต้ า) แปลว่าใหญ่ ฉันก็จะจำว่า ตัวนี ้ 大 
ออกเสียงว่าแบบนี ้ เเปลว่าเเบบนี ้ เขียนพินอินเเบบนี ้ หลายๆคนอาจจะสงสัย ถ้ าเราไม่จำตัวจีนได้ ไหม เราจำเเต่พินอินได้
ไหม สำหรับฉันคือ ไม่ได้ คะ่  เพราะไปอยู่จีนไม่ได้ มีพินอินกำกับในทุกตัวอักษร และ อย่างที่บอกว่าคำพ้ องมันเยอะมากเกิน
ไป  คุณจะรู้ ได้ อย่างไรว่ามันคือคำว่าอะไร ตัวไหนในภาษาจีน ถ้ าคุณมีเป้าหมายในการสอบวัดระดับภาษาเพื่อใช้ ในการ
ทำงาน หรื อเรี ยนต่อ(เเบบอิฉนั ) คุณต้ องจำตัวจีนค่ะ เพราะในการสอบ HSK3 , HSK4 หรื อ + + ไม่มีพินอินให้ คณ ุ เเล้ วนะ
คะ (แต่สามมีพินอินในข้ อเขียนเพียง 5 ข้ อค่ะ จำไม่ได้  อ่านไม่ออก สอบไม่ผ่านเเน่ๆค่ะ) 
การเรี ยนพินอินของฉันคือ ฉันเรี ยนการอ่านพินอิน 1 ชัว่ โมง เรี ยนกฎการออกเสียง 1 ชัว่ โมงกับคุณครู  ที่เหลือคือ ฝึ กเอง ท่
องเอง ท่องทุกเช้ าตอนอาบน้ำ(ท่องทุกวันจนเริ่ มคล่อง ถ้ าเราท่องจนคล่องมันจะง่ายเวลาออกเสียง หรื อการกระดกลิ ้นค่ะ) 
สำหรับฉันการออกเสียงสำคัญมาก ถ้ าใครเรี ยนได้ ก็หาครูสอนเถอะนะคะในตรงนี  ้ แต่ถ้าใครตังใจเรี้ ยนเองสื่อโซเชียลมี
เดียร์ สมัยนี ้ใช้ ประโยชน์ได้ มาก มีครูสอนใน Youtube เยอะเเยะเลยค่ะ ส่วนฉันเลยเปิ ด YouTube ค้ นหาเพลงจีนเเบบที่มีพิ
นอิน (เพลงในแอปติ๊กต๊ อกน่ารักๆก็มีเยอะ) ฉันก็แหกปากร้ องตามทุกวัน (ขนาดครูยงั ถามเลยว่าทำไมฉันอ่านพินอินได้ ไว
ขึ ้นกว่าเดิมมาก) 

หลังจากนัน ฉั ้ นก็เรี ยนในบทสนทนาในหนังสือเล่มนันเเหล่

้ ะค่ะ  เริ่ มจากการอ่านตัวจีน (โชคดีที่อา่ นพินอินไม่คล่องก็เลยจำ
เสียงทับรูปภาพและไม่คอ่ ยมองพินอินในหนังสือ ข้ อดีคือมันทำให้ เราจำตัวจีนได้ เร็วขึ ้นมากๆ อย่าพยายามพึง่ พินอินมาก
เกินไปเราจะจำตัวอักษรได้ ช้าลงเพราะมันแต่จำพินอิน) จากนันฉั ้ นก็ทำการบ้ าน เตรี ยมบทเรี ยนล่วงหน้ า (เพื่อเวลาครูสอน
จะได้ เข้ าใจมากขึ ้น ไม่เสียเวลา) ท่องศัพท์ในบทเรี ยน + คำศัพท์ HSK คัดคำศัพท์ เป็ นเรื่ องพื ้นฐานในการเรี ยนหนังสือเลย
ดังนันฉั
้ นจะไม่เล่าถึงความลำเค็ญและคราบน้ำตาในการเรี ยนมากนัก เพราะไม่อยากยืดเยื ้อ เเละข้ อความมันอาจจะยาว
มากกว่าหมื่นอักษร ใครที่เรี ยนเล่มอื่น หรื อ ศึกษาเองก็สามารถเริ่ มเรี ยนหรื ออ่านตามหนังสือนันๆได้
้ นะคะไม่วา่ จะเป็ น
ตำราไหน สิ่งสำคัญในการเรี ยนภาษาทุกภาษาคือ การรู้คำศัพท์ อ่านออก เขียนได้  พูดได้  และ รู้วิธีการใช้ คะ่
เอาล่ะเราเกริ่ นกันมาพอสมควรเเล้ วฉันจะขอลงข้ อมูลเกี่ยวกับ การสอบ HSK 2 3 4 ที่ฉนั เคยสอบ หรื อทำข้ อสอบ รวมทัง้
วิธีในการฟั ง อ่าน ท่องศัพท์ เตรี ยมตัวในการสอบ ในคอมเมนท์ตอ่ ไปนะคะฉันขอเกริ่ นช่วงเวลาในการเรี ยนก่อนนะคะ ( เผื่
อจะสร้ างกำลังใจให้ คนเพิ่งเรี ยน)
ฉันเริ่ มเรี ยน วันที่ 9 ก.ย.
เรี ยนเดือนแรก ลองสอบระดับ 2 ปรากฎว่าผ่านค่ะ (ทดสอบจากการทำข้ อสอบจับเวลาเสมือนจริ ง) หลังจากนัน้
เรี ยน ได้ อีก 1 เดือน(ต.ค.)  ก็ลองสอบระดับ 3 ผลสอบคือ ผ่าน (สอบรอบเดือน เดือน พ.ย.)
เรี ยนอีก 1 เดือน(ธ.ค.) สอบระดับ 4 ผลสอบคือ ผ่าน (สอบรอบเดือน ม.ค.)

สาเหตุที่ฉนั เรี ยนภาษาจีน เเละมุ่งเน้ นในการสอบเป็ นสำคัญ เพราะจุดมุ่งหมายของฉันคือ ต้ องการสอบวัดระดับ HSK4 ให้
ผ่านเพื่อขอยื่นทุนภาษาต่อ ในระดับ HSK 5 เพื่อใช้ ในการสมัครปริ ญญาโทในประเทศจีนค่ะ (ทุนปริ ญญาโทส่วนใหญ่มกั
จะระบุวา่ ต้ องสอบระดับ 5 ให้ ผ่าน เเละบางมหาวิทยาลัยมีการกำหนดคุณสมบัติในการสอบว่าต้ องเอาคะแนนรวมทังหมด ้
ไม่ต่ำกว่าเท่าไหร่ในการยื่นด้ วย ผู้ลงทุนในความฝั นควรศึกษาข้ อมูลก่อนวางเเผนนะคะ)

การเรี ยนที่ดีคือเราต้ องรู้เป้าหมายของตัวเองนะคะ อย่างฉันตังเป ้ ้ าหมายชัดเจนต้ องฝ่ าฟั นค่ะ

ฉันกำหนดวันสอบอย่างแน่นอน ว่าจะสอบรอบไหน
ฉันโหลดแอปใน Ipad [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซอ่ นไว้ เพื่อนับถอยหลังเวลาที่จะสอบค่ะ โดยต้ องท่องคำศัพท์ทงหมด ั้
ให้ เสร็จก่อน 1 อาทิตย์ก่อนสอบ (เวลาอาทิตย์สดุ ท้ ายนันเอามาทำข้
้ อสอบเก่า พักผ่อน ทบทวน)
ฉันคัดคำศัพท์ทกุ วันค่ะ
ในเวลาว่างฉันจะนัง่ ฟั งเพลงจีน ดูซีรี่ส์จีน หรื อ การ์ ตนู จีน รายการจีน เป็ นการคลายเครี ยด (จะพักผ่อนทังที
้ ควรพักผ่อนให้
มีประโยชน์ จริ งไหมคะ) ฟั งให้ ชินหูมนั จะช่วยเพิ่มพูนทักษะการฟั ง

ข้ างบนฉันได้ พดู ถึงวิธีการอ่านพินอินไปแล้ วนะคะ ฉันจะไม่พดู ซ้ำฉันจะขอข้ ามมาถึงวิธีที่ฉนั ท่องจำคำศัพท์ในภาษาจีน

แล้ วกันค่ะ

วิธีการท่องจำคำศัพท์ภาษาจีน

HSK หรื อ [ Hanyu (ภาษาจีน) Shuiping (ระดับ)  Kaoshi (การสอบ) ]  

หมายถึงการสอบวัดระดับภาษาจีนของเรานี่เเหล่ะค่ะ
ในการสอบนันจะมี
้ การกำหนดตัวคำศัพท์ที่ใช้ ในการสอบไว้ เป็ นขันบั ้ นได
ให้ เราเลือกจับจ่ายใช้ สอย เรี ยนรู้ ตามระดับที่เราต้ องการสอบได้ เลยค่ะ โดย คลังคำศัพท์

ระดับ 1 มีตวั อักษรภาษาจีนที่ต้องจำและควรรู้ทงหมด

ั้ 150 คำ
ระดับ 2 มีตวั อักษรภาษาจีนที่ต้องจำและควรรู้ทงหมด
ั้ 150 คำ
ระดับ 3 มีตวั อักษรภาษาจีนที่ต้องจำและควรรู้ทงหมด
ั้ 300 คำ
ระดับ 4 มีตวั อักษรภาษาจีนที่ต้องจำและควรรู้ทงหมด  600
ั้ คำ

ซึง่ มันจะทบกันไปเรื่ อยๆ ค่ะ ก็คือ ถ้ าเราจะสอบระดับ 3 เราต้ องรู้คำศัพท์ระดับ 1 กับระดับ 2 รวมกัน 300 คำ และท่องเพิ่ม
กับคำศัพท์ ระดับ 3 อีก 300 คำ เป็ น 600 คำ เช่นเดียวกับระดับ 4 ที่ต้องรู้คำศัพท์ทงหมด
ั้ 1200 คำค่ะโอ้ โห พอดูเเล้ ว
เหมือนจะเยอะนะคะ เเต่ถ้าเราวางเเผนการท่องศัพท์ดีๆ มันไม่ยากเกินความสามารถหรอกค่ะ ตอนฉันเริ่ มวางเเผนเตรี ยม
ตัวสอบฉันก็จะเอาเวลาสอบมาหารกับวันที่เหลือ เพื่อที่จะได้ ร้ ูวา่ ในแต่ละวัน ฉันจำเป็ นต้ องท่องวันละกี่ตวั เพื่อให้ ทนั สอบ
เมื่อได้ จำนวณที่แน่นอนแล้ วฉันก็เริ่ มท่องจำคำศัพท์ตามระดับค่ะ

เริ่ มจากระดับ 1 150 คำให้ หมดก่อน (มันดีตรงหนังสือที่ฉนั เรี ยนส่วนใหญ่ครอบคลุมระดับ 1 ไว้ เยอะมากค่ะ ท่องเพิ่มเพียง
ไม่กี่คำก็ครบแล้ ว) ถ้ าเราท่องวันละ 20 ตัว อาทิตย์เเรกก็ครบแล้ วนะคะ จากนันฉั ้ นก็โหลดโปรเเกรม HSK Word (ตาม
ระดับ) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซอ่ นไว้ มานัง่ ทำเล่นๆก่อนนอนวันละบทสองบท เเล้ วแต่สะดวกค่ะ ทำผิดหนึง่ ตัวก็เริ่ ม
ใหม่ มันช่วยให้ จำได้ ดีมากขึ ้น (บอกเเล้ วว่าจะพักก็พกั ให้ มีประโยชน์ 555) เมื่อจำได้ เกิน 90% ก็ทอ่ งและคัด คำศัพท์ระดับ
ต่อไป

คำศัพท์ระดับ 2 ต่อค่ะฉันใช้ เวลาทังหมดราวๆ

้ 2 - 3 อาทิตย์ในการจดจำคำศัพท์ ท่อง 20 ตัวเหมือนเดิม  แล้ วก็ลองทำ
ข้ อสอบ ก็ทำข้ อสอบระดับ 2 ผ่านแล้ วค่ะ (เย้ ๆ) เทคนิคของฉันคือคัดไปเรื่ อยๆเเบบไม่มีหยุดยัง้ (กระซิกๆ ปาดน้ำตา กัด
ผ้ า)  

เมื่อถึงคำศัพท์ระดับ 3 มันคือความยากขันกว่้ าในความซับซ้ อนของคำ ฉันจึงพยายามหาวิธีที่จะท่องจำคำศัพท์ให้ ง่ายๆ

จนไปเจอ เว็บไซต์แห่งหนึง่ (ขอบคุณผู้สนับสนุนความรู้ ทีมงาน เจ้ าของเพจ เจ้ าของโรงเรี ยนเป็ นอย่างยิ่งนะคะ) เขาได้ จดั
เรี ยงรูปเเบบการท่องจำไว้ เป็ นหมวดหมู่เเล้ ว ตามลักษณะของคำ สำหรับฉันเหมือนโชคช่วยค่ะ เพราะมันง่ายกว่าจำตาม
ตัวอักษรเเบบพจนานุกรม (อันนันฉั ้ นพยายามเเล้ วจำไม่ได้ จริ งๆ) สามารถดูลิงค์ได้ นะคะ

HSK3
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซอ่ นไว้
HSK4
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซอ่ นไว้

ฉันก็เริ่ มท่องตามนี ้เเหล่ะค่ะ ทีละหมวดหมู่ ช่วงระดับ 3 ฉันก็ยงั คงท่องราวๆ 20 ตัวต่อวัน (มีเกเรบ้ างเพราะวันไหนชีวิตยุ่งๆ
อาจจะกลับมาแล้ วสลบเลย) ก่อนนอนก็ ใช้ พยายามใช้ HSK Word (3) มานัง่ ทำเล่นๆทวนคำศัพท์เหมือนเดิม

แต่ด้วยความที่คำศัพท์ระดับ 4 เริ่ มยาก และชีวิตที่ย่งุ เหยิง มันทำให้ ฉนั มีเวลาท่องศัพท์และเรี ยนจากข้ อสอบเพียง 3
อาทิตย์เท่านัน!!!
้
ช่วงนันฉั
้ นท่องศัพท์วนั ละ 50 ถึง 60 คำ (0[]0) เลือดตาแทบกระเด็น แบ่งเวลาท่องเป็ นชัว่ โมงค่ะ เช่น 10 คำเเรกช่วงเช้ า 1
ชัว่ โมง แล้ วก็พกั 15 นาที มีแบ่งเวลาพักทานข้ าว เเล้ วก็ต้องเเบ่งเวลาเรี ยนด้ วย แล้ วก็เเบ่งเวลาในช่วงต่างๆอีกยิบ
ย่อย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซอ่ นไว้  ช่วงนัน้ ร้ องไห้ หนักมาก ปาดน้ำตาเหนื่อยแต่ต้องอดทนค่ะ จำได้ ไม่หมดทุกคำ
หรอกค่ะ อาศัยอ่านผ่านตา แล้ วทำข้ อสอบเก่า
มาถึงเคล็ดลับส่วนบุคคลกันละ ในการคัดตัวอักษรจีน ฉันพยายามจำเป็ นรูปภาพค่ะ แล้ วก็พยายามตังขอสั ้ งเกต เมื่อเรา
ผ่านระดับ 2 ไป เราจะเริ่ มมองออกว่าตัวอักษรบางตัวจะออกเสียงประมาณนี ้ และบางตัวจะประกอบไปด้ วยตัวนี ้บวกตัวนี ้
รวมเป็ นตัวนี ้เพิ่มขึ ้นมา ฉันก็ใช้ วิธีจำเเบบนี ้เเหล่ะค่ะ จับผิดภาพ แยกส่วนหาความแตกต่างหรื อตังชื ้ ่อตลกๆให้ มนั   ยกตัว
ย่างนะคะ คำว่า  大 (ต้ า) 太 (ไท่) เห็นไหมคะมันวาดเหมือนกัน เเค่เเตกต่างตรงมีขีดล่างๆ  หรื อคำว่า 骑 (ฉี) เเปบว่า
ขี่ รูปมันเหมือนคนยืนอยู่บนมอเตอร์ ไซค์หรื อกำลังขี่อะไรอยู่ (อันนี ้ต้ องอาศัยจินตนาการเอาเอง) หรื อเราจะตังชื ้ ่อคำศัพท์
แปลกๆเลยก็ย่อมได้ 希望 (ซีวา่ ง)แปลว่าความหวัง ฉันก็อา่ นปนร้ องเพลงว่า สิหวังว่าจะบ่ถิ่มก๋านนนน สิหวังว่าจะมีกนั
และกัน (เเปลงเนื ้อเลย จากไสว่าสิบถ่ ิ่มก๋าน) 555 เเปลได้ วา่ ก็หวังว่าจะไม่ทิ ้งกัน ดังนัน้ ซีวา่ ง = สิหวัง = ความหวัง
เเหม่เเกทเชื่อมโยงต้ องให้ รางวัลเดอะเบสต์ออฟเชื่อมโยงแก่ฉนั

นอกจากการท่องจำ คัดศัพท์เเล้ วนะคะ เราต้ องหมัน่ ตรวจสอบความรู้ตวั เองให้ บอ่ ยๆ ฉันจะทำประมาณ 2 อาทิตย์ครัง้
หรื อทุกเวลาที่กงั วลว่าจะอ่านหนังสือทันไหม หรื อว่าทุกครัง้ เมื่อจะจำคำศัพท์ในระดับใหม่ หรื อ หลังจำระดับนันหมดแล้
้ ว
ฉันจะเรี ยกว่าเป็ นการ Check list คำศัพท์ในสมองค่ะ โดยการเอาปากกาไฮไลท์คำศัพท์ที่เรารู้หมดแล้ วในพจนานุกรม ซึง่
ฉันใช้ พจนานุกรมเล่มนี ้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซอ่ นไว้  ส่วนระดับ 4 ฉันปริ น้ คำศัพท์อนั นี ้มาค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซอ่ นไว้

มันจะแบ่งออกเป็ น ระดับๆเลยค่ะ เอาปากกามาไฮไลท์คำที่เรารู้เลย แบบนี ้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซอ่ นไว้  อันไหน

ไม่ร้ ูฉนั จะจดพินอินเเละคำแปลไว้ คะ่ ทำประมาณ 3 - 4 ชุด ในหลายๆครัง้ เพื่อที่วา่ เราจะได้ บงั คับสมองให้ เค้ นคำศัพท์
เก่าๆออกมา อันไหนจำไม่ได้ จะได้ ทอ่ งเพิ่มแล้ วร้ องอ๋อ รู้แล้ วฉันลืมจริ งๆ
วิธีการฝึ กฟั ง ของฉันนันฉั้ นเริ่ มจากการดูซีรี่ส์และภาพยนต์จีนหลังหลังเริ่ มเรี ยนพินอินนันเเหล่
้ ะค่ะ ฉันจึงต้ องพยายามฟั ง
ให้ บอ่ ย (เวลามีจำกัด) พยายามสร้ างสิ่งเเวดล้ อมเมืองจีนให้ อยู่ในห้ องของเรา ฉันจึงเริ่ มด้ วยการเริ่ มแปะรูปผู้ชายของฉันไป
ทัว่ ห้ องก่อน ห้ องจะได้ มีเเต่คนจีน (อันนันไม่
้ ใช่แล้ ว 55 ไม่ติ่งไม่ต้องทำตามนะคะ มันคือความสุขส่วนบุคคลค่ะ ) ฉันฟั ง
เพลง ดูละครจีน ซีรี่ส์จีน รายการจีน การ์ ตนู จีน
เสพทุกอย่างที่เป็ นจีน เเละเปิ ดมันทิ ้งไว้ แทบจะตลอดเวลา ต่อให้ กวาดบ้ านถูบ้านก็เปิ ดไว้ ค่ะ เข้ าห้ องน้ำก็เปิ ดไว้ เหมือนกัน
ค่ะ ตอนเรี ยนแรกๆ ดูซีรี่ส์ฟังไม่ออกหรอกค่ะ ฟั งไม่ออกเลย อาศัยอ่านซับเอา
เเต่เมื่อเรารู้คำศัพท์ได้ ระยะหนึง่ (จากการเรี ยนท่องเเละคัด) เวลาเราได้ ยินคำศัพท์ และรู้คำแปล ฉันก็พยายามทวนคำศัพท์
นันหรื
้ อพูดตามคำที่ได้ ยิน

ฉันอาศัยดูซีรี่ส์ ละคร เกมส์โชว์ผา่ นแอป WeTV ซึง่ ตอนดูรายการเกมส์โชว์ฉนั จะปรับความเร็วให้ ลดลงหนึง่ ระดับจนเริ่ มชิน
หูหรื อพอฟั งออกบ้ างว่าเขาพูดคำไหนออกมา(เเม้ จะเเปลไม่ออกเหมือนเดิม) หลังจากนันก็ ้ ปรับเป็ นระดับปรกติคะ่ ฟั งให้
มากๆ  ฟั งบ่อยๆจนฟั งออกเป็ นคำๆว่าเค้ ากำลังออกเสียงอะไรอยู่ (ไม่ร้ ูคำเเปลช่างมันฟั งไปก่อน อย่าท้ อ) เลียนเเบบในการ
พูดประโยคต่างๆบ้ าง หรื อพยายามจำว่าคำนันใช้ ้ ในโอกาสไหน บางทีฉนั ไม่มีเพื่อนก็พดู กับแมวเป็ นภาษาจีน ซึง่ เมวก็ร้อง
เเม้ วเเล้ วเดินหนี 55 (บ้ าไปแล้ ว) การฟั งมันขึ ้นอยู่กบั ความเคยชินและการฝึ กฝน ยิ่งเราฟั งบ่อยเรายิ่งได้ เปรี ยบมันจะฟั งทัน
ฟั งง่าย เวลาทำข้ อสอบถ้ าเราไม่ค้ นุ ชินกับการพูดหรื อการออกเสียงนันๆ ้ เราอาจจะฟั งไม่ทนั ค่ะว่าเขาพูดว่าอะไร หรื ออาจ
จะฟั งทัน แต่อาจจะเป็ นการฟั งแบบผ่านๆเเบบเสียงนกเสียงกา ได้ ยินว่าจิ๊บๆ ๆ เเต่สมองอาจจะไม่ประมวลผล หรื อ
ประมวลผลได้ ช้าจึงไม่ร้ ูวา่ เค้ าหมายถึงอะไร หรื อกำลังพูดอะไรอยู่ ยิง่ ระดับสูงๆยิ่งพูดเร็วขึ ้นมากๆนะคะและคำก็เริ่ มซับ
ซ้ อนมากขึ ้นด้ วย

วิธีการเตรี ยมตัวในการสอบในระดับต่างๆ ของฉัน

ก่อนจะสอบ 1 อาทิตย์ฉนั จะเริ่ มจากการเช็คลิสต์คำศัพท์อีกครัง้ เพื่อหาคำศัพท์ที่จำไม่ได้ ใน 3 วันแรกของอาทิตย์นนั ้ ฉัน

จะท่องมันอย่างจริ งจัง (แต่ละดับ 4 ใช้ เวลาท่องทวนตัง้ 4 วันเพราะหลุดไปเยอะมาก)หลังจากนันก็ ้ ทำข้ อสอบเก่าค่ะ ฉันใช้
เล่มนี ้กับเล่มนี ้ค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซอ่ นไว้ เริ่ มจากการไม่จบั เวลา แล้ วค่อยจับเวลาในชุดที่ 2 ที่ 3 ในเเต่ละพาร์
ทให้ เหมือนสอบจริ ง ข้ อสอบเก่าสำคัญนะคะ คำศัพท์ในข้ อสอบที่เจอบ่อยๆมันจะเวียนๆกันไปเจอซ้ำๆเราจะจำได้ เองว่าอินี่
มันมาอีกเเล้ ว 55 มันจะได้ เปรี ยบกว่าคนที่ไม่เคยทำ (รู้เขารู้เรารบ สอบสิบครัง้ ก็ชนะสิบครัง้ ไม่ผา่ น 1 ครัง้ ครัง้ ต่อไปมันก็
ต้ องผ่านเเหล่ะค่ะ)

ข้ อสอบการฟั ง เเรกๆเราอาจจะฟั งไม่ทนั เนื่องจากความเร็วในการพูดในเเต่ละฉบับมันต่างกัน ดังนันการฟั

้ งข้ อสอบเก่ามัน
จะช่วยให้ หเู ราคุ้นเคยก่อนสอบได้ มากขึ ้นอีกวิธีหนึง่

การอ่านของฉันเวลาฉันทำข้ อสอบเก่าฉันจะอ่านไปเลยค่ะ เเล้ วแปลอัตโนมัติไว้ ในหัวเลยเมื่อจบ เรามาดูคำถามอ่านว่าเขา

ต้ องการอะไร มันจะง่ายมากยิ่งขึ ้นในการกวาดตาหาคำตอบในบทความนันๆ ้ เพราะคำตอบมักจะซ่อนไว้ ในบทความ ดัง
นันการคั
้ ด ท่องจำ เเละเช็คลิสต์คำศัพท์อยู่ประจำมันจะช่วยได้ มากนะคะ โดยเฉพาะพาร์ ทเติมคำศัพท์คะ่

ข้ อสอบการเขียน ฉันทำข้ อสอบเก่าจากนันก็ ้ ดเู ฉลย เช็คข้ อที่ผิด แก้ รูปประโยคให้ ถกู เเละจำรู ปเเบบข้ อผิดพลาดของ
ประโยคที่ผิดไปเลยว่าควรเรี ยงจากอะไรไปอะไรไม่ให้ ผิดซ้ำ ยิ่งตอนเรี ยนครูของฉันมักจะสัง่ ให้ ฉนั คัดบทสนทนาลอกใน
หนังสือลงไป หรื อแต่งบทสนทนาในสถาณการณ์ตา่ ง ๆเขียนการบ้ านที่ (เยอะมาก)มันจะทำให้ เราจดจำ เเละรู้สกึ คุ้นเคยรู ป
ประโยคจนพอที่จะเดาได้ อะไรมาก่อนมาหลัง เมื่อทำบ่อยๆ หรื อ ท่องศัพท์เยอะๆ เราจะพอรู้วา่ อะไรคือ ประธาน กริ ยา
กรรม ให้ หาเป็ นก้ อนๆเเล้ วค่อยๆเรี ยง (สอบคอมสบายใช้ เมาส์ลาก ไม่ต้องเขียนเอง)

การสอบวัดระดับ HSK จะแบ่งการสอบออกเป็ น 3 ทักษะ

คือ ฟั ง อ่าน และ เขียน

ข้ อสอบการฟั ง
ของระดับ 2 จะพูดช้ าๆ 2 ครัง้ (คำศัพท์ไม่คอ่ ยซับซ้ อน) แต่ตอนทำเเรกๆก็ยากค่ะ
ของระดับ 3 จะพูดช้ าๆ 2 ครัง้ (อันนี ้เริ่ มมีการประมวลผลเเล้ ว ให้ เราฟั งที่เขาเล่าก่อน ถอดคำศัพท์ออกมาว่าพูดถึงอะไร
เเละจำคำถามที่เขาถาม และฟั งรอบสองอีกครัง้ เพื่อทวนคำตอบในใจให้ ชวั ร์ ก่อนเลือก)
ของระดับ 4 จะพูดเร็วขึ ้น ยาวขึ ้น เพิ่มช๊ อยส์ เพิม่ ความซับซ้ อนขึ ้น พูดแค่ครัง้ เดียว (ต้ องตังสมาธิ
้ สงู ๆ)
การจะทำข้ อสอบการฟั งให้ ได้ ดีคือ เราต้ องเข้ าใจว่าเขาพูดอะไร หรื อสื่อสารอะไร เขา ทำอะไร (คาดว่า)ที่ไหน ทำอะไรอยู่
เพราะฉะนัน้ เราจำเป็ นต้ องมีคำศัพท์อยู่บ้างเเล้ ว จึงจะทำได้ ไม่อย่างนันภาษาจี
้ นจะเป็ นภาษาเอเลี่ยนที่เราไม่เข้ าใจใน
ทันที (มันพูดอิหยังวะ)

แล้ วก็ฟังอย่างเดียวมันทำข้ อสอบไม่ได้ นะคะ มันต้ องอ่านโจทก์ให้ ออกด้ วย ไม่งนเราก็

ั้ ไม่ร้ ูวา่ เขาถามอะไรอยู่เพราะอ่าน
โจทก์ไม่ออก
(จงคัดจีน จำจีน และทุม่ เทเวลาให้ กบั มันซะ เจ้ าทาสจีนทังหลาย
้ ชีวิตของพวกเราไม่มีทางลัดหรอกนะ)

ข้ อสอบการอ่าน
เราต้ องรู้คำศัพท์ และไวยากรณ์เบื ้องต้ นค่ะ มันช่วยได้ เยอะเลย
ระดับ 2 เป็ นการอ่านง่ายๆ จับคูช่ ิลๆ
ระดับ 3 เริ่ มเป็ นบทความ คำศัพท์ เรี ยงประโยค
ระดับ 4 ทังบทความ(ยาวมาก)
้ คำศัพท์ (เริ่ มยาก) เรี ยงประโยคหลายข้ อมากๆ (ทำไม่ทนั กันเยอะจับเวลาดีๆ)  เรี ยงเเล้ ว
เรี ยงอีก แต่เค้ ามีเคล็ดลับที่เค้ าคิดค้ นขึ ้นในพาร์ ทเรี ยงประโยค นัน่ ก็คือจำคำสันธานให้ ดีๆ อันไหนขึ ้นก่อนขึ ้นหลังมันจะมี
กฎอยู่ บางทีอา่ นไม่ออกทังหมดหรอกนะคะ
้ อ่านคำขึ ้นต้ น(ในบางข้ อ) ก็สามารถเรี ยงเลยค่ะ มันจะประหยัดเวลาได้ มาก
เพราะอย่าลืมว่าเวลาทำข้ อสอบมันจำกัด ส่วนข้ อไหนมีลกั ษณะเป็ นประโยคแบบเรื่ องเดียวกันเป็ นการให้ เหตุผล หรื อต่างๆ
ฉันก็จะอ่านผ่านๆพอให้ ทราบค่ะ พยายามจับผิดว่าอันไหนคือเหตุ อันไหนคือผล อันไหนคือคำนำ เนื ้อเรื่ อง สรุป

พาร์ ทอ่านจุดสำคัญคือต้ องอ่านออก!! อ่านให้ ไว

อ่านคำศัพท์บอ่ ยๆ คัดมันเข้ าไป (ถ้ าเรารู้คำศัพท์เยอะเราจะเก็บคะแนนข้ อคำศัพท์ได้ มาก(หลายๆคนบอกข้ อนี ้ง่ายสุดละ)
ดังนันอยากได้
้ คะแนนดีๆก็ให้ ร้ ูคำศัพท์ระดับ 4 ราว 80% ของทังหมดค่
้ ะ เราจะสามารถทำผ่านได้ เเบบคะแนนสวยๆ (ส่วน
ตัวเจ้ าของกระทู้ ผ่านก็บญ ์
ุ แล้ วค่ะ กราบกรานสิ่งศักดิสิทธ์)
เทคนิคการทำข้ อสอบอ่านในข้ อบทความของฉันคือ อ่านผ่านตาไปเลยค่ะในระดับ 3 ฉันอ่านผ่านตาเเล้ วก็แปลไปเลย ยิ่ง
ระดับ 4 ฉันไม่ร้ ูคำศัพท์เป็ นจำนวนมากโชคดีคือค่อนข้ างรู้คำศัพท์ระดับ 1-3 เยอะเลยสามารถเดาจากบริ บทได้ คำศัพท์
ระดับ 4 ตัวไหนไม่ร้ ูก็จะทับศัพท์ด้วยรูปภาพไปเลย คือไม่สนใจตัวนันไปเลยค่
้ ะ รวบประเด็น และจับประเด็นไปเลยว่า
โจทก์ต้องการอะไร หรื อไม่ก็ทาบคำถาม กับช๊ อยส์ไปเลยว่ามันมีอะไรบ้ างที่อยู่ในบทความข้ างบน (การลงทุนมีความเสี่ยง
ต้ องพึง่ บุญพาวาสนาส่งด้ วยนะคะในการทำอะไรเเบบนี ้ 55 ถ้ าไม่มีอะไรจะเสียจะลองวิธีนี ้ดูก็ได้ คะ่ )

ข้ อสอบการเขียน
ระดับ 2 (เหมือนจะไม่มี)
ระดับ 3 เป็ นการเรี ยงประโยค และเขียนตัวจีนตามพินอิน (ฉันสอบคอมค่ะมันจะง่ายมากเเค่ลากๆ ส่วนคำศัพท์ก็พิมพ์
ตามพินอิน มันจะเด้ งตัวจีน แล้ วก็เลือกตัวที่คิดว่าถูก)
ระดับ 4 เรี ยงประโยค เเต่งประโยค (เป็ นรูปภาพ) ก็เเต่งประธานกริ ยากรรมธรรมดาทัว่ ไปค่ะ ถ้ าทำถูกจะได้ คะแนน ตามข้ อ

สิ่งสำคัญก็คือ จำตัวจีนให้ ได้ อีก จำคำศัพท์ให้ ได้ อีก เพราะให้ มาเเต่รูปถ้ าเราไม่ร้ ูวา่ คำศัพท์ในรูปมีอะไรบ้ าง เราจะตอบไม่
ได้ จริ งไหมคะ ดังนันเน้
้ นย้ำอีกครัง้ ว่า คำศัพท์ ! สำคัญ! มากๆ!
(จงคัดจีน จำจีน และทุม่ เทเวลาให้ กบั มันซะ เจ้ าทาสจีนทังหลาย
้ ชีวิตของพวกเราไม่มีทางลัดหรอกนะ)

สรุปสันๆได้
้ วา่ (เกริ่ นซะยาวเชียว) วิธีการเตรี ยมตัวของเราของเราคือ
วางเเผนการท่องศัพท์ให้ ทนั สอบ
พยายามจำคำศัพท์ให้ มากๆ หมัน่ เช็คลิสคำศัพท์ของตัวเองบ่อยๆ ว่าคำไหนได้ คำไหนขาด ท่องจำคำสันธานให้ ดี
ฟั งภาษาจีนให้ บอ่ ยที่สดุ เท่าที่จะทำได้ ฟั งให้ ค้ นุ หู
ฝึ กทำข้ อสอบเก่าบ่อยๆ ให้ ค้ นุ ชินพร้ อมจับเวลา

ขอให้ ทกุ คนโชคดีในการสอบนะคะ

และหวังว่าเรื่ องราวของฉันจะพอมีประโยชน์บ้าง
ถ้ ามีคำถามก็ อย่างที่บอกไป สามารถสอบถามได้ ตลอดค่ะ ถ้ าว่างสัญญาจะตอบแน่นอน
สุดท้ ายนี ้ ตังเป
้ ้ าหมายให้ ไกล ขอให้ ไปให้ ถึง ขยันอดทน สู้ๆนะคะ

และนี่คือ คะแนนสอบของฉันค่ะ แม้ คะแนนของฉันจะไม่ดีมากกว่าใคร เเต่ฉนั ก็ภมู ใิ จในระยะเวลาที่มีคะ่ จ้ ายเจียน

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซอ่ นไว้
ทำไมต้ องเรี ยนภาษาจีน
ในปั จจุบนั ภาษาจีนมีการใช้ งานในระดับสากลที่เทียบเท่ากับภาษาสากลของโลกอย่างภาษาอังกฤษ จากการส ำรวจ
ในปี 2019 พบว่าภาษาที่มีผ้ ูใช้ งานมากที่สดุ คือ
       1.ภาษาอังกฤษ 1.121 พันล้ านคน
       2.ภาษาจีน  1.107 พันล้ านคน
ซึ่งในอนาคตตัวเลขการเรี ยนภาษาจีนและกลุ่มคนกลุ่มนี จ้ ะเพิ่มสูงขึน้ อีก พอๆ กับเศรษฐกิจของจีนที่อาจแซงหน้ า
แชมป์ เก่าอย่างอเมริ กากลายเป็ นเบอร์ หนึ่งของโลก ภายในปี 2025  ซึ่งไม่เพียงแต่ชาวจีนที่มีจ ำนวนมหาศาลเท่านัน้
ที่ใช้ ภาษาจีน แต่ในเวียดนาม ไต้ หวัน ฮ่องกง ก็ใช้ ภาษาจีนกลางเป็ นภาษากลางในการติดต่อสื่อสาร นอกจากนี ไ้ ม่ว่า
ในปั จจุบนั คุณจะประกอบอาชีพอะไรก็ตาม  ภาษาจีนจะสามารถอัพเงินเดือนให้ กับผู้ที่มีทกั ษะภาษานี ต้ ิดตัวได้ มาก
ถึง 35% 
 
ปั ญหาใหญ่ของผู้เริ่ มเรี ยนภาษาจีน
หลายๆคนไม่ได้ เรี ยนภาษาจีนมาตั ้งแต่เด็กๆ จึงอาจเกิดความกังวลว่า ไม่ร้ ู จะเริ่ มต้ นเรี ยนอย่างไร หรื อบางคนที่เริ่ ม
ต้ นเรี ยนภาษาจีนมาก่อนแล้ ว แต่ไม่ร้ ู ว่าที่เรี ยนมานัน้ ควรต่อยอดอย่างไร หรื อพื ้นฐานแบบนี เ้ รี ยกว่าแน่นพอหรื อไม่ ?
เราเข้ าใจและ รับทราบถึงปั ญหาของผู้เริ่ มต้ นเรี ยนภาษาจีน โดยได้ ท ำการสำรวจและวิเคราะห์แนวการสอน ที่จ ำเป็ น
อย่างยิ่งต่อการสร้ างรากฐานและเริ่ มต้ นเรี ยนภาษาจีน ที่จะทำให้ ผ้ ูเรี ยนสามารถพัฒนาทักษะการเรี ยนโดยเฉพาะ
อย่างยิ่งพื ้นฐานที่สามารถนำไปต่อยอดการเรี ยนภาษาจีนในระดับที่สงู ขึน้ ได้ ต่อไป ได้ เป็ นแผนภาพ “ 12 Steps
Chinese Hack” แผนภาพที่จะคอยนำทางผู้เรี ยน ที่ไม่ว่าจะเป็ นผู้เริ่ มต้ น หรื อมีพื ้นฐานมาบ้ างแล้ ว ให้ พร้ อมที่จะก้ าว
ไปสู่การเป็ นผู้ร้ ู ด้านภาษาจีนโดยแท้ จริ ง
 
12 Steps Chinese Hack คืออะไร
 
12 Steps Chinese Hack หรื อ 十二步骤能用很流利的汉语 คือ แผนภาพการเรี ยนรู้ ภาษาจีนสำหรับ
ผู้เริ่ มต้ น ที่จะแนะนำให้ ต ั ้งแต่คอร์ สที่ควรเริ่ มเรี ยน ไปจนกระทัง่ ถึงการแบ่งและจัดสรรเวลาเรี ยนที่เท่ากันในแต่ละบท
โดยเราได้ ค ัดเลือก 4 คอร์ สเรี ยนจีนที่เหมาะสำหรับผู้เริ่ มต้ นเรี ยนภาษาจีนโดยเฉพาะ   ประกอบไปด้ วย
 
1. คอร์ ส PinYin เน้ นสอนเทคนิคการออกเสียงอย่างคนจีน ให้ ชดั ในทุกๆคำ และวิธีการอ่าน PINYIN ให้ ถูกต้ อง
2. คอร์ ส "Quick Chinese  ภาษาจีนเพื่อการสนทนาเบื ้องต้ น คอร์ สนี ้ เน้ นการสื่อสารภาษาจีน ทั ้ง ฟั ง พูด
อ่าน เขียน ในชีวิตประจำวัน
3. ภาษาจีนระดับต้ น อ้ างอิงการเรี ยนการสอนตามหนังสือภาษาจีนยอดนิยม อันดับ 1 สำหรับคนไทย เรี ยน
ภาษาจีนระดับต้ น พร้ อมต่อยอดความรู้ HSK3 
4. คอร์ ส "HSK3 ผ่านฉลุยกับสุ่ยหลิน " เน้ นเทคนิคในการทำข้ อสอบ HSK 3 อย่างรวดเร็ ว ไม่ต้องแปลทุกคำ กา
รันตี 200 คะแนน 
 
โดยในแผนภาพนี ้เราจะเน้ นให้ ผ้ ูเรี ยนได้ พฒ ั นาศักยภาพของตนเองตามความถนัดและเหมาะสม โดยเริ่ มตั ้งแต่คอร์ ส
ที่ง่ายและเป็ นพื ้นฐานที่สดุ อย่างคอร์ ส Pinyin ไปจนกระทัง่ คอร์ สภาษาจีนระดับกลางตอนนัน้ อย่างคอร์ ส HSK3 
โดยทั ้ง 12 Steps ถูกออกแบบและพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้ านการสอนภาษาจีน ว่าจะสามารถช่วยให้ ผ้ ูเรี ยนสามารถ
แบ่งเวลาเรี ยนได้ เหมาะสม ทั ้งในเรื่ องของเวลาเรี ยนและจำนวนเนื อ้ หานั่นเองค่ะ
 
 
การเรี ยนจีน 12 Steps แต่ละขั ้นเรี ยนอะไรบ้ าง

12 Steps Chinese Hack เป็ นแผนภาพที่รวบรวมเอาขัน้ ตอนการเรี ยนภาษาจีนให้ ได้ ผลสำหรับผู้เริ่ มต้ นและผู้ที่
ต้ องการปูพื ้นฐานภาษาจีนไปจนถึงระดับกลางและระดับสูง ที่มีประสิทธิภาพที่สดุ เริ่ มจาก
 
Step ที่ 1 คอร์ สเรี ยนพินอิน (Pinyin) 
เรี ยนรู้ พินอินตั ้งแต่ต้น เริ่ มจากการฝึ กออกเสียงทุกตัว จนกระทัง่ เจาะลึกเรื่ องพินอินทุกเรื่ อง  
Success เมื่อจบ Step ที่ 1ผู้เรี ยนจะสามารถ ออกเสียงภาษาจีนแบบแม่นเป๊ ะ เจ้ าของภาษาเก็ทแน่นอน
 
Step ที่ 2 คอร์ ส Quick Chinese ภาษาจีนเพื่อการสนทนาเบื ้องต้ น  
บทที่ 1 - 4 การทักทายและการทำความรู้ จกั ผู้เรี ยนจะได้ เรี ยนรู้ หลักการสนทนาภาษาจีนขัน้ พื ้นฐาน เช่นการทักทาย,
การทำความรู้ จกั , การเล่าเรื่ องราวของตนเองและการบอกลาแบบที่คนจีนนิยมใช้
 
Step ที่ 3 คอร์ ส Quick Chinese ภาษาจีนเพื่อการสนทนาเบื ้องต้ น  
บทที่ 5-7 บทสนทนาในชีวิตประจำวันที่ต้องรู้ ผู้เรี ยนจะสามารถเรี ยนรู้ เรื่ องของการขอความช่วยเหลือ , การปฎิเสธ
อย่างสุภาพและการชมอย่างจริ งใจ 
 
Success เมื่อจบStep ที่ 3 ผู้เรี ยนจะสามารถ สอบผ่าน HSK1 และสามารถทักทาย โต้ ตอบกับคนจีนได้ อย่างเป็ น
ธรรมชาติ
 
Step ที่ 4 คอร์ ส ภาษาจีนระดับต้ น 1
บทที่ 1-6 ผู้เรี ยนจะได้ เรี ยนรู้ เรื่ องไวยากรณ์ ข ั ้นต้ นในภาษาจีน ทั ้งการใช้ ค ำขยายคำนาม เทคนิคการใช้ คำที่แสดงถึง
ความเป็ นเจ้ าของ
 
Step ที่ 5 คอร์ ส ภาษาจีนระดับต้ น 1
บทที่ 7-12ผู้เรี ยนจะได้ เรี ยนรู้ เรื่ องเทคนิคการเรี ยงประโยคให้ ถูกหลักไวยากรณ์ ในภาษาจีน และคำลักษณะนามที่ใช้
บ่อย
 
Step ที่ 6 คอร์ ส ภาษาจีนระดับต้ น 1
บทที่ 13-18 ผู้เรี ยนจะได้ เรี ยนรู้ เรื่ องคำศัพท์และการบอกวันเดือนปี ในภาษาจีน การบอกสถานที่และตำแหน่งใกล้ ไกล
ให้ ถูกหลักไวยากรณ์
 
Step ที่ 7 คอร์ ส ภาษาจีนระดับต้ น 1
บทที่ 19-25 ผู้เรี ยนจะได้ เรี ยนรู้ เรื่ องคำศัพท์และการบอกเวลาในภาษาจีน การอ่านหมายเลข และหลักไวยากรณ์ จีน
เรื่ องใช้ คำซ้ำ 
 
Step ที่ 8 คอร์ ส ภาษาจีนระดับต้ น 1
ผู้เรี ยนฝึ กเรื่ องไวยากรณ์ การคัดคำจีนและทบทวนคำศัพท์
 
Success เมื่อจบ Step ที่ 8 ผู้เรี ยนจะสามารถ สอบผ่าน HSK2 ทราบหลักไวยากรณ์ ในภาษาจีนเบื ้องต้ น และ
สามารถแต่งประโยคภาษาจีนได้ ด้วยตนเอง 
 
Step ที่ 9 คอร์ ส HSK3 ผ่านฉลุยกับสุ่ยหลิน
บทที่ 1,2 ตะลุยโจทย์การฟั ง ผู้เรี ยนจะได้ เรี ยนรู้ เทคนิคทั ้งหมดเกี่ยวกับการทำข้ องสอบพาร์ ทการฟั ง ทั ้งการจับจุด
เพื่อตอบแบบไม่ต้องฟั งออกทั ้งหมด หลักการฟั งด้ วย Keyword
 
Step ที่ 10 คอร์ ส HSK3 ผ่านฉลุยกับสุ่ยหลิน
บทที่ 3,4  ไวยากรณ์ จีน ,ตะลุยโจทย์การอ่าน ผู้เรี ยนจะได้ เรี ยนรู้ หลักไวยากรณ์ ที่จ ำเป็ นต้ องใช้ ในการสอบวัดระดับ
HSK3 รวมถึงเทคนิคการทำโจทย์พาร์ ทการอ่าน อ่านไม่หมดก็ท ำข้ อสอบได้ ทนั ที
 
Step ที่ 11 คอร์ ส HSK3 ผ่านฉลุยกับสุ่ยหลิน
บทที่ 5  ตะลุยโจทย์การเขียน ผู้เรี ยนจะได้ เรี ยนรู้ หลักไวยากรณ์ ที่จ ำเป็ นต้ องใช้ ในการสอบการเขียน ทั ้งการเรี ยง
ประโยค และการเขียนเติมคำ
 
Step ที่ 12 คอร์ ส HSK3 ผ่านฉลุยกับสุ่ยหลิน
บทที่ 6,7 ตะลุยข้ อสอบเต็มรู ปแบบ 2 ชุด  ผู้เรี ยนจะได้ ลองทำโจทย์ HSK3 ฉบับเต็ม เพื่อเตรี ยมความพร้ อมสู่การลง
สนาม โดยมีส ุ่ยหลินเหล่าซือคอยบอกเทคนิคและฌแบยละเอียด เพื่อให้ ม ัน่ ใจได้ ว่าผู้เรี ยนจะสามารถทำคะแนน
HSK3 ได้ 200+
 
เมื่อจบทั ้ง 12 Steps  ผู้เรี ยนจะสามารถ สอบผ่าน HSK3 ได้ อย่างแน่นอน

 
ทำไมการใช้ 12 Steps Chinese Hack  จึงทำให้ การเรี ยนภาษาจีนประสบความสำเร็ จ
เพราะการเรี ยนภาษาจีนให้ ได้ ผล หลักสำคัญคือการเรี ยนคือความต่อเนื่องและการฝึ กฝน แผนภาพนี จ้ ะช่วยให้ ผ้ ูเรี ยน
สามารถจัดสรรแบ่งเวลาเรี ยนตามวิถีชีวิตประจำวันในแต่ละบุคคลได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเรี ยนไม่ต่อเนื่อง เพราะ
ในแต่ละ Step เราได้ จดั สรรบทเรี ยนที่ครอบคลุมและมีความเหมาะสมที่สดุ เอาไว้ ให้ แล้ ว โดยผู้เรี ยนสามารถนำระยะ
เวลาที่ต้องการเรี ยน มาจัดสรรเอาเองได้ ตามความถนัด เช่น มีระยะเวลาเรี ยน 12 เดือน ก็สามารถแบ่งเวลาเรี ยนแบบ
ชิลๆ ได้ สเต็ปละเดือน เป็ นต้ น โดยในระหว่างสเต็ปนัน้ ๆ หากเราเรี ยนจบแล้ วก็สามารถทำแบบฝึ กหัด ทบทวนความรู้
หรื อจดจำคำศัพท์ไปด้ วยได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเรี ยนไม่ทนั แถมในแผนภาพยังมีเป้ าหมายให้ เป็ นช่วงๆ เพื่อให้ ผ้ ู
เรี ยนสามารถทบทวนกับตนเองได้ ว่า ตอนนี ้ความสามารถและศักยภาพของเราเป็ นไปตามเป้ าหมายที่ควรจะเป็ นตาม
แผนภาพหรื อไม่ ทำให้ ผ้ ูเรี ยนสามารถทบทวนและพัฒนาทักษะของตัวเองก่อนที่จะก้ าวสู่ข ัน้ ถัดไปได้ นั่นเอง

 
นอกจากนี ้ 12 Steps Chinese Hack ยังได้ มีการใส่กล่องบัตรคำที่มีพิเศษ Exclusive เฉพาะคอร์ ส Chinese Buffet
เท่านั ้น ไปยังแต่ละสเต็ปในแผนภาพ เพื่อให้ ผ้ ูเรี ยนสามารถหยิบบัตรคำออกมาใช้ เรี ยนร่ วมกันได้ อย่างเหมาะสมและ
เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการเรี ยนนั่นเอง บัตรคำศัพท์ดียงั ไง คลิก
เท่านั ้นยังไม่พอ ในแผนภาพยังได้ มีการกำหนดเกณฑ์ในการสอบผ่าน HSK หรื อ 汉语水平考试 ลงใน
แผนภาพแต่ละสเต็ป นั่นคือผู้เรี ยนจะสามารถรู้ ได้ ว่า หากเรี ยนถึงสเต็ปนี แ้ ล้ วจะสามารถสอบผ่าน HSK ใดได้ และอีก
นานเท่าใดจึงจะสอบผ่าน HSK ขั ้นสูงกว่านั่นเอง