Professional Documents
Culture Documents
Computer Programming
Computer Programming
ขอ
สภาวิศวกร | Council of engineers
กร
วิชา : Computer Programming
ิ ว
าวศ
เนือหาวิชา : 1 : ความรู ้พืนฐานทางด ้านคอมพิวเตอร์
สภ
ข ้อที 1 :
หน่วยเก็บความจําทีติดต่อกับ CPU ได ้เร็วทีสุดคืออะไร
1 : CD-ROM
2 : HARD DISK
3 : SDRAM
4 : REGISTER
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 2 :
ลําดับขันตอนการทํางานของคอมพิวเตอร์มอ
ี ย่างไร
1 : เริม คํานวณ ประกาศชนิดตัวแปร รับข ้อมูล แสดงคําตอบ จบ
2 : เริม ประกาศชนิดตัวแปร รับข ้อมูล คํานวณ แสดงคําตอบ จบ
3 : เริม รับข ้อมูล ประกาศชนิดตัวแปร คํานวณ แสดงคําตอบ จบ
4 : เริม รับข ้อมูล ประกาศชนิดตัวแปร แสดงคําตอบ คํานวณ จบ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 3 :
ข ้อใดต่อไปนีคือคุณบัต ิ Portable ของการเขียนโปรแกรม
1 : สามารถเขียนโปรแกรมได ้สันทีสุด
2 : สามารถเขียนโปรแกรมให ้ประมวลผลได ้เร็วทีสุด
3 : สามารถเขียนโปรแกรมเพือทํางานข ้ามเครือข่ายได ้
4 : สามารถย ้ายโปรแกรมไปทํางานยังเครืองคอมพิวเตอร์ตา่ งระบบได ้
5 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 4 :
อะไรคือคุณสมบัตข
ิ องหน่วยความจําประเภท ROM (Read Only Memory)
1 : สามารถอ่าน และเขียนได ้
2 : สามารถอ่านได ้อย่างเดียว
3 : สามารถเขียนได ้อย่างเดียว
4 : ไม่สามารถอ่านและเขียนได ้
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
ข ้อที 5 :
สท
อะไรคือคุณสมบัตข
ิ อง หน่วยความจําประเภท RAM (Random Access Memory)
ิ
1 : สามารถอ่าน และเขียนได ้
วน
2 : สามารถอ่านได ้อย่างเดียว
3 : สามารถเขียนได ้อย่างเดียว
4 : ไม่สามารถอ่านและเขียนได ้
สง
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 1/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
กร
ข ้อที 6 :
ิ ว
ข ้อมูล1 MB มีขนาดตรงกับข ้อใด
าวศ
1 : 1024 Byte
2 : 1000000 Byte
3 : 1048576 Byte
สภ
4 : 1024000 Byte
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 7 :
ข ้อมูล 1 GB มีขนาดตรงกับข ้อใด
หมายเหตุ เครืองหมาย ^ หมายถึงการยกกําลัง เช่น 4^2 KB หมายถึง 4 ยกกําลัง 2 KiloByte
1 : 10^3 KB
2 : 1024 KB
3 : 2^10 KB
4 : 2^20 KB
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 8 :
ทําไมคอมพิวเตอร์จงึ ใช ้เลขฐานสองในการเก็บข ้อมูล
1 : คอมพิวเตอร์มรี ะดับ Voltage แค่ 2 ระดับ
2 : คอมพิวเตอร์ประกอบด ้วยวงจรอิเล็กทรอนิกส์ซงมีึ ลก ั ษณะการทํางาน 2 โหมด เหมือนสวิทซ์ เปิ ด - ปิ ด
3 : การใช ้เลขเพียงแค่ 2 เลขในการเก็บข ้อมูลทําให ้คนสามารถติดต่อกับคอมพิวเตอร์ได ้ง่ายขึน
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 9 :
ข ้อใดไม่ใช่หน่วยความจําคอมพิวเตอร์
1 : Random-access memory
2 : Read-only memory
3 : Harddisk
4 : Basic input/output system (BIOS)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 10 :
คอมพิวเตอร์ประเภทใดมีประสิทธิภาพในการทํางานสูงสุด
1 : คอมพิวเตอร์พกพา
2 : เซิรฟ
์ เวอร์คอมพิวเตอร์
3 : ซูเปอร์คอมพิวเตอร์
4 : ไมโครคอมพิวเตอร์
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สท
ิ
ข ้อที 11 :
วน
ข ้อใดคือส่วนประกอบหลักของคอมพิวเตอร์
1 : หน่วยรับข ้อมูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจําหลัก หน่วยเก็บข ้อมูลสํารอง และหน่วยแสดงผล
สง
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 2/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
4 : หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจําหลัก หน่วยเก็บข ้อมูลสํารอง และหน่วยแสดงผล
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 12 :
จงพิจารณาว่าข ้อความใดกล่าวถูกต ้องสําหรับการทํางานของคําสังต่อไปนี
double d = 9.9;
int i = 2;
สภ
i = (int)d;
1 : ชนิดของข ้อมูลตัวแปร d มีการเปลียนแปลง
2 : ค่าทีจัดเก็บในตัวแปร d มีการเปลียนแปลง
3 : ค่าทีจัดเก็บในตัวแปร i มีการเปลียนแปลง
4 : ค่าทีจัดเก็บในตัวแปร i และ d มีการเปลียนแปลง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 13 :
คําสังใดทีทําการเปลียนแปลงค่าทีจัดเก็บในตัวแปร x
1 : x +=3;
2 : y=x+3;
3 : x *=1;
4 : x /=1;
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 14 :
ข ้อใดคือหน ้าทีของ Compiler
1 : ช่วยติดต่อกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
2 : ช่วยแก ้ไขรหัสคําสังโปรแกรมให ้ถูกต ้อง
3 : ช่วยจัดสรรทรัพยากรภายในระบบคอมพิวเตอร์ให ้กับโปรแกรมต่าง ๆ
4 : ช่วยแปลคําสังภาษาโปรแกรมต่าง ๆ ให ้คอมพิวเตอร์เข ้าใจและทํางานได ้
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 15 :
ข ้อใดต่อไปนีคือความหมายของโปรแกรม
1 : ชุดคําสังเพือทําให ้คอมพิวเตอร์ปฏิบต
ั งิ าน
2 : สัญลักษณ์ทสื ี อความหมายให ้เครืองคอมพิวเตอร์และคนสามารถสือสารกันได ้โดยผ่านกรรมวิธท
ี กํ
ี าหนดขึน
3 : ชุดของเลขฐานสองอาทิ 01101011 ทีคอมพิวเตอร์เข ้าใจ
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 16 :
เครืองคอมพิวเตอร์ในยุคที 2 ใช ้เทคโนโลยีใด
1 : ทรานซิสเตอร์ (Transistors)
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สง
ข ้อที 17 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 3/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
การประมวลคําสังในลักษณะการทํางานแบบสายท่อ (pipelining) สอดคล ้องกับข ้อใด
1 : การประมวลผลแบบแถวลําดับ (Array processing)
กร
2 : การประมวลผลแบบขนาน (Parallel processing)
3 : สถาปั ตยกรรม Von Neumann
4 : ระบบหลายตัวประมวลผล (Multiprocessing)
ิ ว
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สภ
ข ้อที 18 :
ข ้อใดเป็ นความแตกต่างระหว่าง Compiler และ Interpreter ทีถูกต ้อง
1 : Compiler ทําหน ้าทีแปลภาษาคอมพิวเตอร์ทล ี ะบรรทัด แต่ Interpreter จะแปลภาษาทังโปรแกรม
2 : Compiler แปลได ้เฉพาะภาษาเครือง แต่ Interpreter จะแปลได ้ทุกภาษา
3 : Compiler จะทําการแปลภาษาคอมพิวเตอร์ทงโปรแกรม
ั แต่ Interpreter จะแปลภาษาคอมพิวเตอร์บรรทัดต่อ
บรรทัด
4 : ในการ Debug โปรแกรม ควรใช ้ Compiler ในการแปลมากกว่า Interpreter เพราะจะหาข ้อผิดพลาดได ้ง่ายกว่า
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 19 :
หลังจากทีทําการเขียนโปรแกรมจนเสร็จเรียบร ้อยแล ้ว จะต ้องคัดลอกไฟล์ใดหากต ้องการนํ าโปรแกรมไปให ้ผู ้อืนใช ้งาน
1 : Executable File
2 : Source File
3 : Object File
4 : Library File
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 20 :
ข ้อใดทีไม่ใช่สว่ นประกอบของคอมพิวเตอร์
1 : คียบ
์ อร์ด
2 : เมาท์
3 : จอภาพ
4 : กล่องเก็บซอล์ฟแวร์
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 21 :
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ใดทีมีลก
ั ษณะคล ้ายโปรแกรมภาษาเครือง
1 : COBAL
2 : C
3 : C++
4 : ASSEMBLY
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 22 :
ธิ
1 : หน่วยอินพุท
ิ
2 : หน่วยเอาท์พทุ
3 : หน่วยความจําข ้อมูล
วน
4 : หน่วยประมวลผลกลาง
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 4/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 23 :
การแปลภาษาเครืองทีละลําดับหมายถึง
กร
1 : Translator
2 : Result
ิ ว
3 : Interpreter
าวศ
4 : Complier
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สภ
ข ้อที 24 :
โฟลว์ชาร์ทตามรูปข ้างล่างนีหมายถึง
1 : ขบวนการประมวลผล
2 : อินพุท เอาท์พท
ุ
3 : จุดเชือมต่อภายในหน ้าเดียวกัน
4 : การตัดสินใจ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 25 :
ข ้อใดไม่ใช่หน่วยเก็บข ้อมูลทีสามารถแก ้ไขได ้
1 : RAM
2 : ROM
3 : Harddisk
4 : CompactFlash
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 26 :
ข ้อใดไม่ใช่สว่ นประกอบภายใน CPU ของไมโครคอมพิวเตอร์
1 : Cache memory
2 : ALU (Arithmetic Logic Unit)
3 : Harddisk
4 : Program Counter Register (PC)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 27 :
ระบบปฏิบต ิ าร (Operating Systems) ตัวใดไม่ได ้ถูกพัฒนาสําหรับเครืองพีซ ี
ั ก
วน
1 : Unix
2 : Linux
สง
3 : Windows XP
4 : Symbian
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 5/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
กร
ิ ว
ข ้อที 28 :
าวศ
จาก pseudocode:
a=0;
for i=1 to 10
a=a+3;
สภ
end
show_the_value_of(a);
ผลลัพธ์ทได ี ้คืออะไร
1 : 0
2 : 1
3 : 27
4 : 30
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 29 :
จาก pseudocode: a=receive_input_from_user();
if a>5 and a<10 then
if a=8 then
a=a+9;
else
a=a+10;
end
else
if a=0 then
a=a-10;
end
end
ถ ้า run pseudocode ดังกล่าว 3 ครัง โดยกําหนดให ้ input จาก user คือ 10, 3, 7 ตามลําดับ ผลลัพธ์ของค่า a ทีได ้ใน
แต่ละรอบคือ:
1 : 0 0 70
2 : 18 -7 0
3 : 9 10 -3
4 : 10 3 17
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 30 :
ข ้อใดบรรยายคุณลักษณะของ Random Access Memory (RAM) ทีใช ้ในเครืองคอมพิวเตอร์ได ้เหมาะสมทีสุด
1 : ขนาดทีใช ้งานในเครืองคอมพิวเตอร์ทวไปแบบตั
ั งโต๊ะคือ 40 Gbyte
2 : ราคาถูกทีสุดเมือเทียบกับราคาของหน่วยความจําชนิดอืน
3 : ความเร็วในการทํางานช ้ามากเมือเทียบกับการทํางานของหน่วยความจําชนิดอืน
4 : ข ้อมูลทีเก็บจะสูญหายเมือปิ ดเครือง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
ข ้อที 31 :
สท
ไวรัสคอมพิวเตอร์คอ
ื อะไร
ิ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 6/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
กร
ข ้อที 32 :
ิ ว
ข ้อใดผิด
าวศ
1 : ฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์คอ ื สิงทีจับตัองได ้ เช่นหน่วยประมวลผล
2 : ฮาร์ดดิกส์เป็ นฮาร์ดแวร์ชนิดหนึง
3 : ฮาร์ดแวร์ทขาดไม่
ี ได ้คือตัวแปลโปรแกรม
สภ
4 : หน่วยความจําเป้ นฮาร์ดแวร์ทสํ ี าคัญ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 33 :
ื operating systems
ข ้อใดไม่ใช่ชอ
1 : Windows 2000
2 : Windows Office
3 : Windows XP
4 : Linux
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 34 :
ึ
ข ้อใดไม่ใช่ชอภาษาคอมพิ
วเตอร์
1 : Intel
2 : JAVA
3 : Basic
4 : C
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 35 :
จงบอกว่าอุปกรณ์ใดต่อไปนี เป็ นอุปกรณ์ประเภท standard output
1 : printer
2 : monitor
3 : diskette
4 : Key board
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 36 :
จงบอกว่าอุปกรณ์ใดต่อไปนี เป็ นอุปกรณ์ประเภท standard input
1 : printer
2 : monitor
3 : diskette
4 : Keyboard
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 37 :
ข ้อใดไม่เกียวข ้องกับการเขียนโฟลว์ชาร์ต
วน
3 : การระบุภาษาทีจะใช ้เขียนโปรแกรม
4 : การระบุตวั แปรทีจะใช ้ในการคํานวณ
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 7/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
กร
ิ ว
ข ้อที 38 :
าวศ
ข ้อใดไม่ใช่ตวั อย่างของอุปกรณ์ input
1 : Keyboard
2 : Mouse
สภ
3 : Monitor
4 : Scanner
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 39 :
ค่าเลขฐาน 16 ต่อไปนี คือ 123 จะมีคา่ เท่ากับเลขฐานสองเท่าใด
1 : 0010 0010 0011
2 : 0001 0001 0010
3 : 0010 0010 0010
4 : 0001 0010 0011
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 40 :
อุปกรณ์ใดไม่สามารถนํ ามาใช ้เป็ นหน่วยความจําหลัก(main memory)ของคอมพิวเตอร์
1 : RAM
2 : ROM
3 : PROM
4 : Flash Memory
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 41 :
คอมพิวเตอร์ 32 บิต คือ คอมพิวเตอร์ทมี
ี
1 : หน่วยความจําขนาด 32 บิต
2 : บัสข ้อมูล(data bus) ขนาด 32 บิต
3 : บัสแอดเดรส(address bus) ขนาด 32 บิต
4 : รีจส
ิ เตอร์(register) ขนาด 32 บิต
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 42 :
การนํ าคอมพิวเตอร์ไปใช ้ในการประมวลผลในข ้อใดไม่น่าเป็ นไปได ้
1 : คํานวณหาค่าสูงสุดของการรับนํ าหนักของสะพาน
2 : หาระยะทางทีสันทีสดุ จากเมืองหนึงไปยังอีกเมืองหนึง
3 : พยากรณ์อากาศ
4 : พยากรณ์การเกิดแผ่นดินไหว
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สท
ิ
ข ้อที 43 :
วน
พอร์ตอนุกรมแตกต่างจากพอร์ตขนานอย่างไร
1 : พอร์ตอนุกรมสามารถรับส่งข ้อมูลได ้ แต่พอร์ตขนานส่งข ้อมูลได ้อย่างเดียว
สง
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 8/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
3 : พอร์ตอนุกรม ส่งข ้อมูลโดยผ่านระบบปฏิบตั กิ าร พอร์ตขนาน สามารถเขียนโปรแกรมติดต่อได ้โดยตรง
4 : พอร์ตอนุกรม ส่งข ้อมูลได ้คราวละหนึงไบต์ พอร์ตขนานส่งข ้อมูลได ้คราวละหลายๆ ไบต์
5:
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ ว
ข ้อที 44 : าวศ
MO (Magneto-Optical) disk เป็ นหน่วยความจําทีมีพนฐานบนเทคโนโลยี
ื ใด
สภ
1 : เทคโนโลยีสารกึงตัวนํ า
2 : เทคโนโลยีแสง
3 : เทคโนโลยีแม่เหล็ก
4 : ข ้อ ข. และค. รวมกันเป็ นคําตอบทีถูกต ้อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 45 :
Unicode คืออะไร
1 : มาตรฐานชุดคําสังทีใช ้ในซีพย
ี ู
2 : มาตรฐานรหัสแทนข ้อมูลทีใช ้ในการเก็บและคํานวณของคอมพิวเตอร์
3 : มาตรฐานอุตสาหกรรมสําหรับการออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์
4 : มาตรฐานรหัสใช ้ในการแสดงตัวอักษรหรือข ้อความ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 46 :
ข ้อใด ไม่ใช่ องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
1 : ฮาร์ดแวร์ ชินส่วนต่างๆ ทีประกอบกันเป็ นตัวเครือง
2 : ซอฟต์แวร์ โปรแกรมต่างๆ ทีจะให ้คอมพิวเตอร์ทํางาน
3 : ข ้อมูล ตัวเลขต่างๆ ทีเก็บอยูภ
่ ายในเครือง
4 : สมชายทีต ้องใช ้คอมพิวเตอร์เก็บข ้อมูลสัตว์ในฟาร์ม
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 47 :
ข ้อใดจัดเป็ นหน่วยความจําหลักในระบบคอมพิวเตอร์
1 : RAM
2 : CD-ROM
3 : Floppy Disk
4 : Hard Disk
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 48 :
หากต ้องการให ้ประสิทธิภาพของการทํางานของไดร์ฟมีประสิทธิภาพทีสูง คํากล่าวในข ้อใดถูกต ้องทีสุด
1 : จะต ้องมีความเร็วเฉลียในการเข ้าถึงข ้อมูลทีสูง และ ความเร็วในการถ่ายโอนข ้อมูลทีตํา
2 : จะต ้องมีความเร็วเฉลียในการเข ้าถึงข ้อมูลทีสูง และ ความเร็วในการถ่ายโอนข ้อมูลทีสูง
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วน
สง
ข ้อที 49 :
พืนทีทีเล็กทีสุดในการอ่าน หรือ เขียนข ้อมูลลงไปในแผ่นดิสก์ หรือ ฮาร์ดดิสก์เรียกว่าอะไร
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 9/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
1 : ไบต์ (Byte)
2 : บิต (Bit)
3 : เซกเตอร์(Sector)
กร
4 : แทร็ก (Track)
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 50 :
าวศ
สภ
เวลาในการเคลือนทีของหัวอ่านไปยังตําแหน่งทีต ้องการอ่านเขียนข ้อมูล เรียกว่า
1 : Header Move Time
2 : Maximum Move Time
3 : Minimum Access Time
4 : Maximum Access Time
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 51 :
ความสามารถของระบบปฏิบต ิ ารทีสามารถใช ้งานโปรแกรมหลายๆ ตัวพร ้อมกันได ้เรียกว่า
ั ก
1 : Multitasking
2 : Object Linking
3 : Object Embedding
4 : Multi User
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 52 :
ข ้อใดกล่าวถึงคําว่า Hierarchical File System ได ้ถูกต ้องทีสุด
1 : การเก็บรวบรวมข ้อมูลว่าโปรแกรมใดใช ้อุปกรณ์ตวั ใดอยู่
2 : โครงสร ้างการทําเมนูเพือใช ้งานในโปรแกรมต่างๆ
3 : ระบบทีใช ้สําหรับการใช ้ข ้อมูลร่วมกันในโปรแกรมต่างๆ
4 : โครงสร ้างการจัดเก็บไฟล์ข ้อมูลทีมีโครงสร ้างแบบระดับชัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 53 :
่ ใดใช ้สร ้างคําสังลัดในการสังงานคอมพิวเตอร์
แป้ นพิมพ์กลุม
1 : คียอ ์ ก ั ขระ
2 : คียต ์ วั เลข
3 : คียฟ ั
์ ั งก์ชน
4 : คียเ์ คลือนย ้ายตัวอักษร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 54 :
หน่วยวัดความละเอียดในการพิมพ์ของเครืองพิมพ์มห
ี น่วยเป็ น
1 : Dot Pitch
ธิ
2 : PPM
สท
3 : DPI
4 : bps
ิ
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ข ้อที 55 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 10/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
พอร์ท(Port)ชนิดใดของคอมพิวเตอร์สามารถรองรับการเชือมต่อแบบPnP(Plug and Play)
1 : COM1
กร
2 : COM2
3 : USB
4 : ISA
ิ ว
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สภ
ข ้อที 56 :
หน่วยใดไม่ใช่หน่วยวัดการทํางานของคอมพิวเตอร์
1 : MIPS
2 : MFLOPS
3 : VUP
4 : IPS
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 57 :
หน่วยของข ้อมูลในคอมพิวเตอร์ทเล็
ี กทีสุดคืออะไร?
1 : Bit
2 : Byte
3 : Field
4 : Record
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 58 :
มาตรฐานรหัสใดทีนิยมใช ้กันมากในปั จจุบน
ั
1 : EBCDIC
2 : ASCII
3 : BCD
4 : UCB
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 59 :
อุปกรณ์ใดต่อไปนีมีการจัดเก็บและเข ้าถึงข ้อมูลแบบลําดับ
1 : Floppy Disk
2 : Hard Disk
3 : CDROM
4 : Tape
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 60 :
ระบบเครือข่ายใดมีขนาดใหญ่ทสุ
ี ด
ธิ
1 : MAN
สท
2 : LAN
ิ
3 : WAN
4 : ไม่มข
ี ้อถูก
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 11/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 61 :
ความหมายของคําว่าขันตอนวิธ ี (Algorithm) คือข ้อใด
กร
1 : การทําความเข ้าใจกับปั ญหาทีเกิดขึน
2 : การหาวิธแ
ี ก ้ปั ญหา
ิ ว
3 : การอธิบายลําดับขันตอนการทํางานเป็ นข ้อๆตังแต่ขนตอนแรกถึ
ั งขันตอนสุดท ้าย
าวศ
4 : การทดสอบวิธแ ี ก ้ปั ญหา
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สภ
ข ้อที 62 :
เมือเปรียบเทียบกับร่างกายมนุษย์ ส่วนใดของคอมพิวเตอร์ททํ
ี าหน ้าทีเปรียบเทียบได ้กับการทํางานของสมอง
1 : CPU + RAM
2 : CPU + Harddisk
3 : RAM + Harddisk
4 : OS + RAM
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 63 :
ิ
อุปกรณ์ชนใดที
สามารถทําหน ้าทีเป็ นได ้ทัง Input และ Output
1 : Keyboard, Scanner
2 : Printer, Floppy Disk
3 : Harddisk, Touch Screen
4 : Touch Pad, Monitor
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 64 :
ข ้อใดไม่ใช่ OS (ระบบปฏิบต
ั ก
ิ ารของคอมพิวเตอร์)
1 : Opera
2 : Linux
3 : DOS
4 : Unix
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 65 :
คอมพิวเตอร์ตงโต๊
ั ะจัดเป็ นคอมพิวเตอร์ประเภทใด
1 : Mini Computer
2 : Super Computer
3 : Micro Computer
4 : Analog Computer
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
ข ้อที 66 :
สท
1 : หน่วยความจําหลัก
2 : หน่วยความจําสํารอง
วน
3 : หน่วยความจําถาวร
4 : หน่วยความจําชัวคราว
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 12/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 67 :
ข ้อใดคือรูปแบบข ้อข ้อมูลทีสามารถนํ าเข ้าสูร่ ะบบสารสนเทศ
กร
1 : ภาพนิง
2 : ภาพเคลือนไหว
ิ ว
3 : เสียง
าวศ
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
ข ้อที 68 :
ข ้อใดกล่าวผิดเกียวกับ Pseudo code และ flow chart
1 : Pseudo code และ flow chart ถูกสร ้างขึนเพือจัดรูปแบบความคิดในการเขียนโปรแกรมให ้เป็ นระบบ
2 : Pseudo code จําเป็ นจะต ้องถูกแปลงเป็ น flow chart ก่อนเป็ นคําสังของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
3 : การเขียน Flow chart จะเน ้นการใช ้สัญลักษณ์เพือให ้อ่านเข ้าใจได ้
4 : ผิดทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 69 :
ข ้อใดไม่ใช่หน ้าทีของ OS (Operating System)
1 : แบ่งปั นทรัพยากรและเนือหาในหน่วยความจําให ้แต่ละโปรแกรม
2 : โหลดโปรแกรมขึนมาทํางาน
3 : อ่านและเขียนข ้อมูลจากไฟล์
4 : ใช ้ประสานงานการติดต่อกับผู ้ใช ้งาน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 70 :
เครือข่ายอินเตอร์เน็ ตใช ้ครังแรกทีประเทศใด
1 : อังกฤษ
2 : ไทย
3 : ญีปุ่ น
4 : สหรัฐอเมริกา
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 71 :
คอมพิวเตอร์มบ
ี ทบาทกับการศึกษาอย่างไร
1 : นํ ามาประยุกต์ใช ้ในกิจกรรมการเรียนการสอน เช่น ทําสือต่างๆ
2 : จัดทําประวัตน ิ ักเรียน ประวัตค ิ รูอาจารย์
3 : ใช ้เป็ นแหล่งเรียนรู ้ เช่นการค ้นคว ้าจากอินเทอร์เน็ ต
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
ข ้อที 72 :
สท
1 : หน่วยประมวลผล
2 : หน่วยรับข ้อมูล
วน
3 : หน่วยความจํา
4 : หน่วยแสดงผล
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 13/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 73 :
ุ ใด ใช ้วงจรไอซี (Integrated Circuit) เป็ นหลัก
คอมพิวเตอร์ยค
กร
1 : คอมพิวเตอร์ยค
ุ แรก
2 : คอมพิวเตอร์ยคุ ที 2
ิ ว
3 : คอมพิวเตอร์ยค ุ ที 3
าวศ
4 : คอมพิวเตอร์ยค ุ ในยุคปั จจุบน
ั
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สภ
ข ้อที 74 :
ข ้อใดเป็ นอุปกรณ์รับข ้อมูลเบืองต ้น
1 : จอภาพ
2 : คียบ
์ อร์ด
3 : เครืองพิมพ์
4 : กล่องใส่ดสิ ก์
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 75 :
อุปกรณ์ทช่ ี วยในการสํารองไฟฟ้ าเวลาไฟดับหรือไฟตก เรียกว่าอะไร
1 : Power Supply
2 : Monitor
3 : UPS
4 : Case
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 76 :
หน่วยความจําในข ้อใด มีความจุมากทีสุด
1 : SDRAM
2 : Hard Disk
3 : CD-ROM Disk
4 : Floppy Disk
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 77 :
อุปกรณ์ในข ้อใด ถือว่าเป็ นอุปกรณ์ตอ
่ พ่วง
1 : เมาส์
2 : คียบ
์ อร์ด
3 : เครืองพิมพ์
4 : สายไฟ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
ข ้อที 78 :
สท
1 : ซอฟต์แวร์
2 : ฮาร์ดแวร์
วน
3 : พีเพิลแวร์
4 : ระเบียบวิธปี ฏิบต
ั ิ
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 14/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 79 :
ผลลัพธ์ของนิพจน์ 1 + 4 / 2 คือข ้อใด
กร
1 : 2.5
2 : 3
ิ ว
3 : 2
าวศ
4 : 3.5
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สภ
ข ้อที 80 :
จงหาคําตอบของ 2 + 3 * 4 - 1
1 : 11
2 : 13
3 : 15
4 : 19
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 81 :
ในการเขียนโปรแกรมเพือใช ้ในการหาระยะขจัดของวัตถุทตกลงสู
ี พ ่ นจากสู
ื ตร s = 0.5 * g * t^2 ควรมีการสร ้างค่าคงทีกี
ตัวในโปรแกรม
1 : 1
2 : 2
3 : 3
4 : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 82 :
ถ ้าในมหาวิทยาลัยกําหนดให ้นักศึกษาเรียนได ้ไม่เกิน 8 ปี ในการเขียนโปรแกรมเพือทําการหาค่าเฉลียของจํานวน
นักศึกษาในแต่ละชันปี (โดยเขียนให ้สันทีสุดและใช ้ตัวแปรและค่าคงทีน ้อยทีสุด) จะต ้องใช ้ตัวแปรและค่าคงทีประเภทใด
บ ้าง ประเภทละกีตัวจึงจะเหมาะสมทีสุด
1 : Integer 2 ตัว, Real 1 ตัว, ค่าคงที 1 ตัว
2 : Integer 1 ตัว, Real 2 ตัว, ค่าคงที 1 ตัว
3 : Integer 2 ตัว, Real 2 ตัว, ค่าคงที 2 ตัว
4 : Integer 1 ตัว, Real 1 ตัว, ค่าคงที 2 ตัว
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 83 :
Assignment Statement ใช ้ในการทําอะไร
1 : กําหนดค่าให ้กับตัวแปร
2 : เปรียบเทียบค่าของ expression
3 : สร ้าง Array
4 : วนลูป
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 84 :
วน
2 : Oracle
3 : Apache
4 : WinAmp
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 15/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
กร
ิ ว
ข ้อที 85 :
าวศ
ถ ้าเครืองคอมพิวเตอร์ของท่านทํางานช ้าลงอย่างมากเมือเปรียบเทียบกับการทํางานของเครืองเมือเพิงซือมาใหม่ ท่านคิด
ว่าควรใช ้ Tool ใดในการแก ้ไขปั ญหานี
1 : Norton SystemWork
สภ
2 : McAfee Internet Security
3 : MS Office Tools
4 : Adobe Acrobat
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 86 :
ข ้อใดคือมาตรฐานของระบบเครือข่ายท ้องถินทีนิยมใช ้กันมากทีสุดในปั จจุบน
ั
1 : IEEE 802.3
2 : IEEE 802.4
3 : IEEE 802.5
4 : IEEE 802.6
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 87 :
คอมพิวเตอร์ไม่เหมาะกับงานประเภทใด
1 : งานทีต ้องการความถูกต ้องสูง
2 : งานทีมีปริมาณมาก
3 : งานทีต ้องการความรวดเร็วมาก
4 : งานทีมีเงือนไขการตัดสินใจไม่แน่นอน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 88 :
หน่วยวัดความจุใด มีคา่ เท่ากับ 1024 Byte
1 : Megabyte
2 : Kilobyte
3 : Gigabyte
4 : Terabyte
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 89 :
สมาชิกทีเล็กทีสุด หรือค่าทีน ้อยทีสุด ซึงแทนได ้เพียงค่าศูนย์ หรือค่าหนึงเท่านัน เรียกว่า
1 : Bit
2 : Byte
3 : Word
4 : Character
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สท
ิ
วน
ข ้อที 90 :
ภาษาสังงานใดทีคล ้ายภาษาเครืองมากทีสุด
สง
1 : Fortran Language
2 : NGV Language
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 16/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
3 : Cobol Language
4 : Assembly Language
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ิ ว
ข ้อที 91 :
าวศ
ข ้อใดเป็ นขันตอนการเขียนโปรแกรมทีถูกต ้องทีสุด
สภ
1 : การทดสอบโปรแกรม, การเขียนโปรแกรม, การเขียนผังงาน, การวิเคราะห์งาน
2 : การเขียนโปรแกรม, การทดสอบโปรแกรม, การวิเคราะห์งาน, การเขียนผังงาน
3 : การวิเคราะห์งาน, การเขียนผังงาน, การเขียนโปรแกรม, การทดสอบโปรแกรม
4 : การวิเคราะห์งาน, การเขียนโปรแกรม, การเขียนผังงาน, การทดสอบโปรแกรม
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 92 :
คอมพิวเตอร์สามารถรับรู ้คําพูดของมนุษย์ โดยไม่คํานึงว่าใครเป็ นผู ้พูดเราเรียกว่า
1 : Voice Computer
2 : Voice Technology
3 : Special Computer
4 : Voice Recognition
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 93 :
ข ้อใดเป็ นภาษาคอมพิวเตอร์
1 : BASIC , POWERPOINT
2 : BASIC , COBOL
3 : COBOL , EXCEL
4 : COBOL , POWERPOINT
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 94 :
การบริการโอนย ้ายข ้อมูลได ้แก่บริการใด
1 : FTP
2 : IBM
3 : PPP
4 : GPD
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 95 :
ถ ้าต ้องการเก็บข ้อมูลค่าตัวเลข 7.82 ต ้องใช ้ตัวแปรประเภทใด
ธิ
1 : integer
2 : char
สท
3 : float
ิ
4 : bit
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ข ้อที 96 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 17/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ผลลัพธ์ของการกระทํา int * float จะให ้ผลลัพธ์ เป็ นชนิดข ้อมูลแบบใด
1 : char
กร
2 : int
3 : float
4 : double
ิ ว
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สภ
ข ้อที 97 :
ถ ้าข ้อมูลมีคา่ 3.54 ถ ้าเก็บค่าในตัวแปร int จะให ้ค่าผลลัพธ์เป็ นอย่างไร
1 : 3.54
2 : 3.5
3 : 3
4 : 0
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 98 :
ข ้อใดต่อไปนีถูกต ้อง
1 : 4 bits = 1 byte
2 : 8 bits = 1 byte
3 : 1000 bytes = 1 kilobyte (KB)
4 : 1000 KB = 1 megabyte (MB)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 99 :
16.07 ควรกําหนดเป็ นข ้อมูลชนิดใด
1 : อักขระ
2 : ข ้อความ
3 : จํานวนเต็ม
4 : จํานวนทศนิยม
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 100 :
ช ้อมูลชนิดตัวอักษร 1 ตัว มีความกว ้างกีบิต
1 : 7 บิต
2 : 8 บิต
3 : 9 บิต
4 : 16 บิต
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 101 :
ธิ
double y = 3;
ิ
int z = 2;
วน
x++;
y = y / z;
z = (int)y;
สง
x - 1;
1 : x=9 y=1 z=2
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 18/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
2 : x=9 y=1.5 z=1
3 : x=8 y=1 z=2
4 : x=8 y=1.5 z=1
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ ว
าวศ
ข ้อที 102 :
ถ ้าเราต ้องการเก็บค่าของเลขจํานวนเต็มบวกซึงมีคา่ ตังแต่ 1 ถึง 32767 เก็บไว ้ทีตัวแปร n เราควรกําหนดอย่างไร?
สภ
1 : int n;
2 : signed int n;
3 : unsigned int n;
4 : unsigned char n;
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 103 :
การประกาศตัวแปรต่อไปนี ข ้อใดใช ้เนือทีในหน่วยความจํามากทีสุด?
1 : char str[13] = “California”;
2 : char grade, school[ ] = “SUT KORAT”;
3 : int x, y, z[5];
4 : float average, gpa, mean;
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 104 :
กําหนดให ้ char ch = ’A’; ผลของการใช ้คําสัง printf ในข ้อใดกล่าวถูก? (รหัส ASCII ของ A = 65)
1 : printf(”%c %c”, ch, 65); ผลทีแสดงออกทีจอภาพคือ A 65
2 : printf(”%d %c”, ch, 65); ผลทีแสดงออกทีจอภาพคือ A 65
3 : printf(”%c %d”, 65, 65); ผลทีแสดงออกทีจอภาพคือ A A
4 : printf(”%d %d”, 65, ch); ผลทีแสดงออกทีจอภาพคือ 65 65
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 105 :
ในการประกาศตัวแปร char str[ ] = ”I love \”ABC\”.”;
str จะถูกกําหนดขนาดในหน่วยความจําเท่าไร?
1 : 12 bytes
2 : 13 bytes
3 : 14 bytes
4 : 15 bytes
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 106 :
ชือตัวแปรใดต่อไปนีไม่สามารถนํ าไปใช ้ในการประกาศตัวแปรในภาษาโปรแกรมทัว ๆ ไปได ้
1 : report_99
ธิ
2 : food
3 : general
สท
4 : 7sumurai
ิ
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สง
ข ้อที 107 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 19/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ถ ้าต ้องการให ้ตัวแปร x เก็บค่า -123456
จะต ้องประกาศให ้ตัวแปร x เป็ นชนิดอะไร
กร
1 : unsigned long
2 : int
3 : unsigned int
ิ ว
4 : long
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
ข ้อที 108 :
ต ้องประกาศตัวแปรเป็ นชนิดอะไร
จึงจะเก็บค่า 12345 ได ้อย่างประหยัดหน่วยความจําทีสุด
1 : double
2 : int
3 : long
4 : float
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 109 :
ข ้อใดคือความหมายของตัวแปรท ้องถิน (Local Variable) และตัวแปรภายนอก (Global Variable)
1 : Local Variable คือตัวแปรทีกําหนดภายในฟั งก์ชนั หรือลูปของโปรแกรม Global Variable คือตัวแปรทีกําหนด
ภายนอกโปรแกรมหลัก
2 : Local Variable คือตัวแปรทีมองเห็นเฉพาะในฟั งก์ชนั หรือในลูปโปรแกรม Global Variable คือตัวแปรทีสามารถ
มองเห็นได ้ทุกแห่งในโปรแกรม
3 : Local Variable คือตัวแปรทีเปลียนแปลงค่าได ้ Global Variable คือตัวแปรทีไม่สามารถเปลียนแปลงค่าได ้
4 : ถูกเฉพาะข ้อ 1 และ 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 110 :
คอมพิวเตอร์จัดเก็บข ้อมูลทุกชนิดในรูปแบบใด
1 : เลขฐานสอง
2 : เลขฐานสิบหก
3 : เลขฐานสิบ
4 : เลขฐานสิบแปด
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 111 :
เราควรระบุชนิดของตัวแปรให ้สอดคล ้องกับช่วงการเก็บข ้อมูลทีเป็ นไปได ้ เหตุผลข ้อใดสําคัญทีสุด
1 : เพือความรวดเร็วในการคํานวณ
2 : เพือให ้สามารถเก็บข ้อมูลทุกตัวได ้ถูกต ้อง
3 : เพือรักษาความปลอดภัยของข ้อมูล
4 : เพือให ้หน่วยประมวลผลทํางานง่ายขึน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
สท
ข ้อที 112 :
ิ
1 : n-1 บิต
2 : n-2 บิต
สง
3 : n บิต
4 : n+1 บิต
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 20/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
กร
ข ้อที 113 :
ิ ว
int ใช ้ระบุถงึ ตัวแปรประเภทใด
าวศ
1 : ตัวอักขระ
2 : ชุดข ้อความ
3 : ตัวเลขจํานวนเต็ม
สภ
4 : เลขฐาน 16
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 114 :
float ใช ้ระบุชนิดตัวแปรประเภทใด
1 : เลขฐาน 16
2 : ชุดข ้อความ
3 : ตัวเลขจํานวนเต็ม
4 : ตัวเลขจํานวนจริง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 115 :
จงแปลงเลข 4286 เป็ นเลขฐานสอง
1 : 01100010001110
2 : 01100101001110
3 : 01000110110110
4 : 01000010111110
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 116 :
ในการเขียนโปรแกรมภาษา C,C++ คําตอบข ้อใดเป็ นข ้อมูลของเลขฐาน 16
1 : 120X
2 : 0X14
3 : 013
4 : 31H
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 117 :
ข ้อมูลในลักษณะใดทีถูกต ้องทีสุดต่อไปนีเป็ นข ้อมูลทีเรียกว่า อะเรย์
1 : เป็ นข ้อมูลเลขจํานวนจริง
2 : เป็ นข ้อมูลเลขจํานวนเต็ม
3 : เป็ นข ้อมูลชนิดข ้อความ
4 : เป็ นข ้อมูลชนิดเดียวกันหลายข ้อมูลทีใช ้ชือตัวแปรตัวเดียวกัน
5 : เป็ นข ้อมูลทีไม่สามารถนํ ามาคํานวณได ้
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สท
ิ
ข ้อที 118 :
วน
1 : float
2 : double
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 21/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
3 : int
4 : long double
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ิ ว
าวศ
ข ้อที 119 :
ตัวแปรชนิดใดทีใช ้พืนทีหน่วยความจําน ้อยทีสุด
สภ
1 : char
2 : int
3 : float
4 : double
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 120 :
ตัวแปรชนิดใดทีใช ้พืนทีในหน่วยความจําขนาด 4 bytes
1 : char
2 : ussigned char
3 : int
4 : float
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 121 :
ข ้อใดถือว่าถูกต ้องในการตังชือตัวแปร
1 : @@AA
2 : #aa
3 : !aa
4 : aa_
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 122 :
ข ้อใดเป็ นคําตอบทีถูกต ้องสําหรับการกําหนดค่าตัวแปร
1 : char[2] name ="abcde";
2 : char{2} name = "abcde";
3 : char[6] name ="abcde";
4 : char{6} name = "abcde";
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 123 :
รหัสบังคับการพิมพ์ใดในโปรแกรมภาษา C ทีใช ้สําหรับการพิมพ์เลขจํานวนเต็มทีไม่มเี ครืองหมาย
1 : %c
2 : %e
3 : %f
ธิ
4 : %u
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ิ
วน
ข ้อที 124 :
สง
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 22/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
2 : \t
3 : \v
4 : \r
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ิ ว
าวศ
ข ้อที 125 :
x เป็ นข ้อมูลชนิด Real
สภ
y เป็ นข ้อมูลชนิด Integer
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 126 :
ตัวแปร X ในข ้อใดสามารถกําหนดชนิดตัวแปรประเภท int
1 : x = 3000000000
2 : X = 35.01
3 : x = 300 + 20*3
4 : x = 3.1416 * 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 127 :
ตัวแปรชนิดใดเหมาะสมทีสุด สําหรับเก็บค่าเฉลีย
1 : integer
2 : character
3 : string
4 : float
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 128 :
ต ้องการประกาศตัวแปรเพือเก็บข ้อมูลชนิดตัวอักขระตัวเดียวควรประกาศตัวแปรเป็ นชนิดข ้อมูลใดต่อไปนี
1 : char
2 : string
3 : real
4 : integer
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 129 :
ถ ้าให ้
ธิ
a=5
สท
b=3
ิ
c=true
d=(a>b) xor c
วน
d มีเท่ากับข ้อใด
1 : a>b
สง
2 : a<>b
3 : not c
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 23/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
4 : ถูกทังคําตอบที 1 และ 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 130 :
จาก program Q3 เป็ นการแปลงอุณหภูม ิ จาก °C (ตังแต่ 0°C ถึง 100°C) เป็ น °F เมือต ้องการทําให ้โปรแกรมนีสมบูรณ์
บรรทัดที 6 ควรเติมอะไร
สภ
program Q3
1 Program Q3;
2 uses wincrt;
3 var i:integer;
4 c, f: real;
5
6 Procedure CalF(....................., b: real);
7 begin
8 a:= (b*9/5)+32;
9 end;
10Begin
11 writeln('C to F');
12 for i:= 0 to 100 do
13 begin
14 c:= .............;
15 ........................;
16 writeln(C:5:1, F:8:1);
17 end;
18end.
1 : a: integer
2 : a: real
3 : var a: integer
4 : var a:real
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 131 :
หากกําหนดตัวแปรดังนี x,y เป็ นชนิดจํานวนเต็ม z เป็ นชนิดจํานวนจริง c เป็ นชนิดอักขระ ข ้อใดเป็ นนิพจน์(expression)ที
ไม่ถกู ต ้อง
1 : x+y/z
2 : -z
3 : x*x*y
4 : z+c
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 132 :
ถ ้าท่านต ้องเขียนโปรแกรมเพือหาผลคูณของเมตริกซ์ ตัวแปรทีใช ้เก็บข ้อมูลเมตริกซ์ทเหมาะสมมากที
ี สุดควรเป็ นประเภท
ใด
1 : จํานวนเต็ม
2 : ประเภทโครงสร ้าง(record หรือ structure)
ธิ
3 : อาเรย์ 2 มิต ิ
สท
4 : พอยน์เตอร์(pointer)
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วน
สง
ข ้อที 133 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 24/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
หากกําหนดตัวแปรสามตัวดังนีคือ char a,b,c; หาก b มีคา่ เท่ากับ 100 และ c มีคา่ เท่ากับ 100 แล ้ว a=b*c; จะให ้ผลอ
ย่างไร
กร
1 : a จะเก็บค่า 10000
2 : a จะเก็บค่า -10000
3 : a จะเก็บค่า 255 ซึงเป็ นค่าทีสูงทีสุดเท่าทีตัวแปรชนิด char เก็บค่าได ้
ิ ว
4 : เกิดความผิดพลาดในการจัดเก็บค่าลงใน a ซึงอาจส่งผลต่อการทํางานของโปรแกรมโดยรวมได ้
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
ข ้อที 134 :
ข ้อมูลของนํ าหนักคนจัดเป็ นข ้อมูลประเภทใด
1 : Real
2 : Integer
3 : Alphabet
4 : Boolean
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 135 :
ข ้อมูลประเภท Date ควรจัดอยูใ่ นข ้อมูลประเภทใด
1 : Real
2 : Integer
3 : Boolean
4 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 136 :
ั ทีรับข ้อมูลทีละตัวอักขระ
ข ้อใดคือฟั งก์ชน
1 : printf();
2 : chart();
3 : clrscr();
4 : getchar();
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 137 :
ข ้อใดคือรหัสควบคุมรูปแบบสําหรับการแสดงผลตัวเลขจํานวนเต็ม
1 : %c
2 : %f
3 : %d
4 : %s
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 138 :
ธิ
1 : 0123
ิ
2 : 0x174
3 : 55.5555
วน
4 : -2345
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 25/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 139 :
ข ้อใดต่อไปนีคือคําสังรับข ้อมูล
กร
1 : scanf()
2 : printf()
ิ ว
3 : getinfo()
าวศ
4 : putchar()
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
ข ้อที 140 :
ข ้อใดคือหลักการตังชือตัวแปรในโปรแกรมภาษาซี
1 : ต ้องขึนต ้นด ้วยตัวเลข
2 : ภายในชือต ้องใช ้สัญลักษณ์ #
3 : ความหมายของชือไม่ควรเกิน 64 ตัว
4 : ภายในชือไม่มเี ว ้นวรรค
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 141 :
ข ้อมูลทีมี 0x นํ าหน ้า เป็ นตัวเลขแบบใด
1 : ข ้อมูลชนิดเลขฐานแปด
2 : ข ้อมูลชนิดทศนิยม
3 : ข ้อมูลชนิดจํานวนเต็ม
4 : ข ้อมูลชนิดเลขฐานสิบหก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 142 :
การตังชือในข ้อใดถูกต ้องในโปรแกรมภาษาซี
1 : com-puter
2 : 8number
3 : right#
4 : class_room
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 143 :
การตังชือในข ้อใดถูกต ้องในโปรแกรมภาษาซี
1 : 007bond
2 : james_bond
3 : jason born
4 : jamesbond%
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 144 :
ธิ
ข ้อใดต่อไปนีคือคําสังแสดงผลทีละอักขระ
สท
1 : printf()
ิ
2 : scanf()
3 : getchar()
วน
4 : putchar()
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 26/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 145 :
ั ใดเป็ นการแสดงผลออกทางหน ้าจอ
ฟั งก์ชน
กร
1 : printf()
2 : scanf()
ิ ว
3 : gets()
าวศ
4 : fopen()
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
ข ้อที 146 :
ั ใดเป็ นการรับข ้อมูลเป็ นข ้อความ
ฟั งก์ชน
1 : printf()
2 : fgetpos()
3 : switch()
4 : gets()
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
เนือหาวิชา : 3 : กระบวนการทางคณิตศาสตร์และตรรกศาสตร์
ข ้อที 147 :
จงเขียนสมการทางคอมพิวตอร์จากสมการทางคณิตศาสตร์ทกํ
ี าหนดมาให ้
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 148 :
กําหนดให ้ตัวแปรทุกตัวเป็ นชนิดจํานวนเต็ม
ถ ้า a = 100 ; b = 200 ; c = 50 ; d = 2 ;
a/c/d*b + b /(a+c) + a/d*c*b/1000 ; มีคา่ เท่าไร
1 : 701
2 : 700
3 : 501
4 : 702
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 149 :
ให ้ตัวแปรทุกตัวเป็ นชนิดจํานวนเต็ม
จงหาค่าของ x,a, และ b หลังจากส่วนของโปรแกรมข ้างล่างนีทํางานเสร็จ
x = 0; a = -2; b = 5;
ธิ
x = x + a; a = a + b; b = b - 6;
สท
x = b + a; a = a + 1; b = b + 1;
ิ
x = b + a; a = a + 1; b = b + 1;
x = b + a; a = a + 1; b = b + 1;
วน
1 : x=0, a = -2, b = 5
2 : x = 4, a = 6, b = 2
สง
3 : x = 6, a =6, b = 2
4 : x = 6, a = 5, b = 1
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 27/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
กร
ิ ว
ข ้อที 150 :
าวศ
ให ้ a และ b เป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม
ถ ้า a = 5, b = 2 ผลลัพธ์ของ a / b มีคา่ เท่าใด
1 : 2
สภ
2 : 2.5
3 : 1
4 : 0.5
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 151 :
ให ้ a และ b เป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม และ % คือ modulus operator
ถ ้า a = 5, b = 2 ผลลัพธ์ของ a % b มีคา่ เท่าใด
1 : 2
2 : 2.5
3 : 1
4 : 0.5
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 152 :
ข ้อใดให ้ผลลัพธ์เท่ากับ (a+b/c-d)*e
1 : ((a+b)/c-d)*e
2 : (a+b)/c-d*e
3 : a+b/c*e-d*e
4 : (a*e+b*e/c-d*e)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 153 :
-(-15+(2*4-2))+((6+3)*5+7)/4 มีคา่ เท่าใด
1 : 23
2 : 22
3 : 21
4 : 20
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 154 :
ข ้อใดต่อไปนีผิด
1 : (a AND b) เป็ นจริง ก็ตอ ่ เมือทัง a และ b มีคา่ เป็ นจริง
2 : (NOT a) เป็ นเท็จ ก็ตอ่ เมือ a มีคา่ เป็ นจริง
3 : (a OR b) เป็ นเท็จ ก็ตอ่ เมือทัง a และ b มีคา่ เป็ นเท็จ
ธิ
4 : NOT (a AND b) เป็ นจริง ก็ตอ ่ เมือ a หรือ b มีคา่ เป็ นเท็จ
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ิ
วน
ข ้อที 155 :
สง
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 28/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
2 : NOT(Y*X == Y)
3 : Z <= (Y*Y –1)
4 : X*Z => Z/X
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ิ ว
ข ้อที 156 : าวศ
กําหนดให ้ A=1, B=2, C=3, D=4 เงือนไขใดต่อไปนี ได ้ค่าตรรกะเป็ นเท็จ
สภ
1 : (A*B+C > C-B) && (A*D/B <= B)
2 : (A+B*C < B-C) || ((C+D)*A == A+B*C)
3 : (B/A <= D/C) || ((A+C) == (D*A)) && (C/B < A/D)
4 : (A < B) && (C < D) && (A > B) || (D==2*B)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 157 :
ให ้ตัวแปร wet, cold, และ windy เป็ นตัวแปรทีเก็บค่าจริงเท็จได ้
ถ ้า wet=true , cold=false, windy=false
(cold AND (NOT wet)) OR NOT(windy OR cold) มีคา่ ความจริงคืออะไร
1 : จริง
2 : เท็จ
3 : ไม่สามารถสรุปได ้
4 : ประโยคทีเขียนหาค่าทางตรรกะไม่ได ้
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 158 :
ี ้ในข ้อนีมีคณ
ภาษาคอมพิวเตอร์ทใช ุ สมบัตด
ิ งั นี
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 159 :
ให ้ y เป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม และ % คือ modulus operator
ข ้อใดเป็ นค่าของ y เมือ y = 1 – 5 / 3 + 9 % 4;
1 : 0
2 : 1
ธิ
3 : -1
4 : 2
สท
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
วน
สง
ข ้อที 160 :
หลังจากส่วนของโปรแกรมข ้างล่างนีทํางานเสร็จ answer มีคา่ เท่าใด (% คือ modulus operator)
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 29/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
int a = 1, b = 2, c = 3:
double f = 1.75, g = 1.0, h = 5
double answer;
กร
answer = a + g – b * f – c % b – h * 2;
1 : -11.6
ิ ว
2 : -12.5
าวศ
3 : -13.1
4 : 12.0
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 161 :
กําหนดให ้
1. fmod(x,y) คืนค่าเศษหลังจุดทศนิยมของผลหาร x/y
2. floor(x) คืนค่าจํานวนเต็มทีได ้จากการปั ดเศษหลังจุดทศนิยมของค่าในตัวแปร x ทิงไป
1 : 1.00
2 : 19.75
3 : 0.75
4 : 1.75
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 162 :
ให ้ตัวแปรทุกตัวเป็ นชนิดจํานวนเต็ม
หลังจากส่วนของโปรแกรมข ้างล่างนีทํางานเสร็จ x1 และ x2 มีคา่ เท่าใด?
x2 = 1;
x4 = 5;
x2 = (x4 + x2 % 2 - 3);
x4 = x2;
x3 = x4;
x1 = x3;
1 : x1 = 5, x2 = 5
2 : x1 = 3, x2 = 1
3 : x1 = 1, x2 = 5
4 : x1 = 3, x2 = 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 163 :
ให ้ตัวแปรทุกตัวเป็ นชนิดจํานวนเต็ม
หลังจากส่วนของโปรแกรมข ้างล่างนีทํางานเสร็จ ตัวแปร ans มีคา่ เท่าใด
x2 = 1;
x4 = 5;
x2 = (x4 + x2 % 2 - 3);
x4 = x2;
x3 = x4;
ธิ
x1 = x3;
ans = x4 + x3 + x3 + x2 + x1;
สท
1 : 18
ิ
2 : 17
วน
3 : 16
4 : 15
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 30/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 164 :
กําหนดให ้
กร
int x, y = 7, z = 5;
x = ((++y) + (z--)) % 10;
ิ ว
าวศ
เมือส่วนของโปรแกรมข ้างบนนีทํางานแล ้ว ค่าของ x คืออะไร?
1 : 0
2 : 1
สภ
3 : 2
4 : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 165 :
if(raining)
if(window_open)
puts("Close the window");
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 166 :
ั หาค่ารากทีสองของ Y จงหาค่าของนิพจน์ตอ
กําหนดให ้ sqrt(Y) คือฟั งก์ชน ่ ไปนี เมือให ้ค่าตัวแปร M = -3 N = 5 X =
-3.57 Y = 4.78
1. sqrt(Y) < N
2. (X > 0) OR (Y > 0)
3. (NOT((M > N) AND (X < Y))) OR ((M <= N) AND (X > X))
1 : 1. เท็จ 2. จริง 3. จริง
2 : 1. จริง 2. จริง 3. จริง
3 : 1. เท็จ 2. เท็จ 3. จริง
4 : 1. จริง 2. จริง 3. เท็จ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 167 :
กําหนดค่าของตัวแปรจํานวนเต็มต่อไปนี
count = 16, num = 4;
และค่าของตัวแปรจํานวนจริงต่อไปนี
value = 31.0, many = 2.0;
เมือกระทําตามคําสังต่อไปนี
value = (value - count)*(count - num)/many + num/many;
ตัวแปร value มีคา่ เท่าไร
ธิ
1 : 91
สท
2 : 92
3 : 101
ิ
4 : 102
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 31/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 168 :
กําหนดตัวแปร Value = 50; เมือกระทําการ bit-wise XOR (exclusive or) ด ้วยตัวแปร Value เอง จะมีผลอย่างไรกับ
กร
ค่าตัวแปร Value
1 : ตัวแปร Value จะมีคา่ เท่ากับ 0
ิ ว
2 : ตัวแปร Value จะมีคา่ เท่ากับ 1
าวศ
3 : ตัวแปร Value จะมีคา่ เท่ากับ 50
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูกต ้อง
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 169 :
ข ้อใดคือความแตกต่างระหว่าง Bitwise Operator และ Logical Operator
1 : Bitwise Operator จะกระทําตรรกกับบิตข ้อมูลของตัวแปร แต่ Logical Opeator จะกระทําตรรกกับค่าข ้อมูลของ
ตัวแปร
2 : Bitwise Operator จะกระทําตรรกกับตัวแปรชนิดจํานวนเต็ม แต่ Logical Operator จะกระทําตรรกกับตัวแปรชนิด
ใด ๆ ก็ได ้
3 : Bitwise Operator จะกระทําตรรกกับตัวแปรชนิดใด ๆ ก็ได ้ แต่ Logical Operator จะกระทําตรรกกับตัวแปรชนิด
จํานวนเต็ม
4 : Bitwise Operator และ Logical Operator เป็ นเพียงชือเรียกของ Compiler แต่ละภาษาเท่านัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 170 :
กําหนดให ้ % แทน modulus operator
ถ ้า 22 % x มีคา่ เท่ากับ 4;
x มีคา่ เท่าไร
1 : 2
2 : 4
3 : 6
4 : 8
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 171 :
ข ้อใดมีคา่ จริงเสมอ
1 : P and P
2 : P or P
3 : not(P) and P
4 : not(P) or P
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 172 :
ั f มีลก
กําหนดให ้ฟั งก์ชน ั ษณะดังนี
เงือนไขที 1 f(n) = f(n-1)+f(n-2) เมือ n เป็ นจํานวนเต็ม, n ≥ 2
ธิ
1 : 0
ิ
2 : 11
วน
3 : 21
4 : 31
สง
5 : นับไม่ถ ้วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 32/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
กร
ข ้อที 173 :
ั g มีคณ
กําหนดให ้ฟั งก์ชน ุ สมบัตด
ิ งั นี
g(0) = 1
ิ ว
g(n) = 2g(n-1) เมือ n > 0
าวศ
จงหาค่า g(n)
1 : g(n) = 2n
2 : g(n) = n*n
สภ
3 : g(n) = 2 ยกกําลัง n
4 : g(n) = 2 ยกกําลัง (n+1)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 174 :
โอเปอเรเตอร์ ++ หมายถึงการกระทําในลักษณะใด
1 : เพิมค่าตัวแปรทีละหนึง
2 : การหารค่าตัวแปร
3 : การยกกําลังของตัวแปร
4 : การหารแบบปั ดส่วน
5 : การบวกแบบทวีคณ ู
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 175 :
3+4*6/2+1 มีคา่ เท่ากับ
1 : 9
2 : 11
3 : 14
4 : 16
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 176 :
ข ้อใดเป็ นจริงเมือ q=10,r=5,s=10
1 : q<=(s/r)
2 : (s*r) <=q
3 : (q-r) == (s-q+r)
4 : (q) < (r-s)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 177 :
จงหานิพจน์ทสมมู
ี ลกับ NOT( A OR B OR C)
1 : NOT ( (NOT A) AND (NOT B) AND (NOT C) )
2 : NOT ( A AND B AND C )
3 : ( NOT A ) AND (NOT B) AND (NOT C)
4 : A AND B AND C
ธิ
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ิ
วน
ข ้อที 178 :
สง
ฟุตบอลไทยจะชนะเมือมีเงือนใขต่อไปนืครบถ ้วน
1. นักฟุตบอลสมบูรณ์
2. ฝนต ้องไม่ตก
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 33/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
3. แข่งในเมึองไทย
3. แต่ถ ้าศูนย์หน ้าป่ วยอาจแพ ้ได ้
กร
ให ้ A แทน นักฟุตบอลสมบูรณ์ B แทน ฝนไม่ตก C แทน แข่งในเมึองไทย D แทน ศูนย์หน ้าป่ วย
จงเขียนประโยคข ้างบนเป็ นนิพจน์ บูลลีน
ิ ว
1 : A AND B AND C AND D
าวศ
2 : A AND B OR C AND D
3 : A AND B AND C OR D
4 : A AND B AND C AND (NOT D)
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 179 :
(1 + 2 * 3 - 4) มีคา่ เท่าใด
1 : -3
2 : 1
3 : 3
4 : 5
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 180 :
ให ้ a และ b เป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม และ % แทน modulus operator
อยากทราบว่า a และ b มีคา่ เท่าใด ทีทําให ้
a % b มีคา่ เท่ากับ 1
b % a มีคา่ เท่ากับ 2
1 : a = 5 และ b = 4
2 : a = 4 และ b = 5
3 : a = 3 และ b = 2
4 : a = 2 และ b = 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 181 :
3 + 5 * 5 -1 มีคา่ เท่าใด
1 : 23
2 : 27
3 : 49
4 : 625
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 182 :
ถ ้าให ้ตัวแปร wet, cold, windy มีคา่ ความจริงดังนี
wet=true, cold=false, windy=false
เครืองหมาย && คือ and , เครืองหมาย || คือ or, เครืองหมาย ! คือ not
1 : จริง
สท
2 : เท็จ
3 : นิพจน์ทเขี
ี ยนเป็ นนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ทผิ
ี ด
ิ
4 : ไม่สามารถหาได ้
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 34/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 183 :
ข ้อใดถูกต ้อง
กร
1 : (x > 0) จะเป็ นจริง เมือ x เป็ น 0
2 : (x >= 0) จะเป็ นจริง เมือ x ไม่เท่ากับ 0
ิ ว
3 : (x <= 0) จะเป็ นเท็จ เมือ x เป็ นจํานวนบวก
าวศ
4 : (x < 0) จะเป็ นเท็จ เมือ x เป็ นจํานวนลบ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สภ
ข ้อที 184 :
ให ้ %แทน modulus operator และมีลําดับการทํางานจากซ ้ายไปขวา
(203 % 10 % 9 % 7 % 5) มีคา่ เท่าใด
1 : 0
2 : 1
3 : 2
4 : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 185 :
ให ้ % แทน modulus operator
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 186 :
กําหนดให ้ a,b,c เป็ นตัวแปรชนิดจํานวนเต็ม ซึงมีคา่ ดังนี
a=10,b=20,c=30
จงหาค่าของนิพจน์ a + b * c / a + 10
1 : 70
2 : 80
3 : 100
4 : 120
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 187 :
ให ้ && แทน AND, || แทน OR
operator ใดทํางานก่อนเป็ นอันดับแรก ในการหาค่าของนิพจน์ตรรกศาสตร์ข ้างล่างนี
3 : &&
4 : ||
ิ
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สง
ข ้อที 188 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 35/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
x = 1 + 2 + 3 + 4 + 5;
x = x + x;
x = x + x;
กร
x = x + x;
ิ ว
เมือส่วนของโปรแกรมข ้างบนนีทํางานเสร็จ x มีคา่ เท่าใด
าวศ
1 : 120
2 : 100
3 : 80
สภ
4 : 60
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 189 :
กําหนดให ้
1. ~ คือการกระทํา one-complement (หรือเรียกอีกอย่างว่า bit-wise not)
2. & คือการกระทํา bit-wise and
3. ! คือการกระทํา logical not
4. ผลของการกระทํา logical operation มีคา่ ได ้เพียงสองค่าเท่านันคือ 1 (จริง) และ 0 (เท็จ)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 190 :
สมมติวา่ มีการต่อเครืองคอมพิวเตอร์เข ้ากับระบบภายนอก ซึงเมือมีการอ่านข ้อมูลเข ้ามาทางพอร์ตขนาด 8 บิต แล ้ว 4 บิต
บน จะเป็ น ค่าข ้อมูลจากแหล่งทีหนึง และ 4 บิตล่าง เป็ นค่าข ้อมูลจากแหล่งทีสอง หากเราต ้องการตรวจสอบว่า ค่าข ้อมูล
จากแหล่งทีหนึง เป็ นค่าใดนัน เราจะต ้องใช ้นิพจน์ใดเพือหาค่าดังกล่าว สมมติวา่ ข ้อมูลได ้ถูกนํ ามาพักไว ้ในตัวแปร x ก่อน
ทีจะส่งเข ้านิพจน์ เพือทําการหาคําตอบ
1 : x>>4
2 : x/16
3 : x-64
4 : x%64
5 : ไม่สามารถหาได ้ ต ้องออกแบบให ้มีการรับค่าแยกพอร์ตกันเท่านัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 191 :
ให ้ตัวแปรทุกตัวเป็ นตัวแปรจํานวนจริง
โดยที X1 = 1, X2 = 2, X3 = 3, X4 = 4
อยากทราบว่า X1 / X2 * X3 / X4 มีคา่ เท่าใด
1 : 0.417
2 : 0.375
3 : 0.667
4 : 0.867
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สท
ิ
ข ้อที 192 :
วน
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 36/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
2 : 200 / 5 / 2 + 10 / 3
3 : 1 + 77 / 7 * 2
4 : 23 / 3 * 3
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ิ ว
ข ้อที 193 : าวศ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 194 :
กําหนดให ้ m เป็ นตัวแปรชนิดจํานวนเต็ม
ข ้อใดเป็ นการตรวจสอบค่าของตัวแปร m ทีต่างจากข ้ออืน
1 : NOT((m < 1) AND (m > 12))
2 : (m < 13) AND (m > 0)
3 : NOT(NOT(1 <= m) OR NOT(m <= 12))
4 : (1 <= m) AND (m => 12)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 195 :
ให ้ n เป็ นตัวแปรแบบจํานวนเต็ม และ % แทน modulus operator
จะทําอย่างไรจึงจะได ้ตัวเลขสองตัว ณ ตําแหน่งหลักพันและหลักร ้อยของจํานวนเต็มในตัวแปร n (เช่นถ ้า n = 12345 สิง
ทีต ้องการคือ 23)
1 : (n / 1000) % 100
2 : (n % 1000) / 100
3 : (n % 10000) / 100
4 : (n % 10000) / 1000
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 196 :
ให ้ C คือตัวแปรจํานวนจริงทีแทนอุณหภูมเิ ป็ นองศาเชลเชียส
ข ้อใดข ้างล่างนีไม่แทนการแปลงอุณหภมิใน C ให ้เป็ นองศาฟาเรนไฮต์เพือเก็บใส่ตวั แปร F
หมายเหตุ : 0 องศาเซลเซียสเทียบได ้กับ 32 องศาฟาเรนไฮต์ และ 100 องศาเซลเซียสเทียบได ้กับ 212 องศา
ธิ
ฟาเรนไฮต์
สท
1 : F = C * 180/100 + 32
ิ
2 : F = 32 + 1.8 * C
3 : F = 1.8C + 32
วน
4 : F = 9 * C / 5 + 32
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 37/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 197 :
ให ้ % แทน modulus operator
กร
((201 % (11 % 8)) % (9 % 5)) มีคา่ เท่าใด
1 : 0
ิ ว
2 : 1
าวศ
3 : 2
4 : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
ข ้อที 198 :
ให ้ m คือตัวแปรจํานวนเต็ม
ข ้อใดทีไม่ใช่นพ
ิ จน์ทแทนการทดสอบ
ี 1 <= m <= 12
1 : ! ((m < 1) && (m > 12))
2 : ! ( (m < 1) || (m >= 13) )
3 : ! ( ! (1 <= m) || ! (m <= 12) )
4 : (1 <= m) && (m >= 12)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 199 :
ให ้ n คือตัวแปรจํานวนเต็ม
ข ้อใดให ้ค่าจริง ก็ตอ
่ เมือ n เก็บค่าทีเป็ นจํานวนคี
1 : (n == 1) || (n == 3) || (n == 5) || (n == 7) || (n == 9)
2 : (n / 10 == 1)
3 : (n / 2 == 1)
4 : (n % 2 == 1)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 200 :
ให ้ n เป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม
ข ้อใดให ้ค่าจริงเมือ n มีคา่ ตังแต่ 13 ถึง 22
1 : (13 < n) && (n < 22)
2 : ! ((n > 22) || (n < 13))
3 : (12 < n) || (n < 23)
4 : (n - (22 - 13 + 1) > 0)
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 201 :
ให ้ n เป็ นตัวแปรจํานวนเต็มทีเก็บรหัสไปรษณียท ี ขนาด 5 หลักทีใช ้กันอยูใ่ นปั จจุบน
์ มี ั (เช่น 10600 แถวคลองสาน 10300
แถวปทุมวัน กรุงเทพฯ)
ถ ้าเป็ นรหัสไปรษณียข
์ องจังหวัดประจวบคีรข
ี น
ั ธ์ จะขึนต ้นด ้วย 77 เช่น 77000 คืออําเภอเมือง 77130 คืออําเภอทับสะแก
1 : (n % 77 == 0)
2 : (n % 100 == 77)
สท
3 : (n / 1000 == 77)
ิ
4 : (n / 77 == 0)
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ข ้อที 202 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 38/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ั ทีคืนจํานวนจริงทีสุม
ให ้ random() เป็ นฟั งก์ชน ่ จากค่าในช่วง [0, 1) คือตังแต่ 0 ไปจนถึงเกือบ ๆ 1 (ไม่รวม 1)
่ ค่าจํานวนเต็มในช่วง [a, b] คือตังแต่ a จนถึง b (a และ b เป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม โดยที a < b)
ข ้อใดเป็ นการสุม
ั คืนจํานวนเต็มทีได ้จากการปั ดเศษหลังจุดทศนิยมของ x ออกหมด)
(กําหนดให ้ floor(x) เป็ นฟั งก์ชน
กร
1 : floor(random() * (b - a + 1))
2 : floor(a + random() * b)
ิ ว
3 : a + floor((b - a) * random())
าวศ
4 : a + floor((b - a + 1) * random())
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
ข ้อที 203 :
ให ้ a เป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม
สมมติวา่ a เก็บจํานวนตังแต่ 0 ถึง 99 ข ้อใดข ้างล่างนีทําให ้ b มีคา่ เป็ นจํานวนทีเขียนสลับหลักสิบกับหลักหน่วยของ a
(เช่น a เก็บ 21 จะได ้ b เก็บค่า 12 เป็ นต ้น)
1 : b = a / 10 + (a % 10)
2 : b = (a % 10) * 100 + (a % 10)
3 : b = 10 * (a % 1) + (a % 10)
4 : b = 10 * (a % 10) + (a / 10)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 204 :
ให ้ตัวแปรทุกตัวเป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม
a = 2, b = 4, c = 8, d = 16;
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 205 :
ให ้ตัวแปรทุกตัวเป็ นตัวแปรจํานวนเต็ม
a = 2, b = 4, c = 8, d = 16
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 206 :
ให ้ a เป็ นตัวแปรจํานวนจริง, && แทนการ AND, || แทนการ OR
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 39/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 207 :
ให ้ a เป็ นตัวแปรจํานวนจริง, && แทนการ AND, || แทนการ OR
กร
ข ้อใดให ้ผลเป็ นจริงตลอด ไม่ขนกั
ึ บค่าทีเก็บใน a
ิ ว
1 : (12 < a) && (a < 23)
าวศ
2 : (12 < a) || (a < 23)
3 : (a < 12) && (a > 23)
4 : (a < 12) || (a < 23)
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 208 :
เส ้นตรงเส ้นหนึงผ่านจุด (x1, y1) และ (x2, y2) บนระนาบสองมิต ิ
ี านวณหา slope ของเส ้นตรงเส ้นนี
ข ้อใดเป็ นนิพจน์ทคํ
1 : y1 - y2 / x1 - x2
2 : y2 - y1 / x2 - x1
3 : (y1 - y2) / x1 - x2
4 : (y1 - y2) / (x1 - x2)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 209 :
ให ้ (x1, y1) และ (x2, y2) เป็ นจุดสองจุดบนระนาบสองมิต ิ
ั ทีคืนค่ารากทีสองของ d
และ sqrt(d) คือฟั งก์ชน
ข ้อใดคือนิพจน์ทคํ
ี านวณหาระยะห่างทีสันสุดระหว่างจุดสองจุดนี
1 : sqrt((x1-x2)*(x1-x2)+(y1-y2)*(y1-y2))
2 : sqrt((x1-x2)*(x2-x1)+(y1-y2)*(y2-y1))
3 : sqrt((x2-x1)*(x1-x2)+(y2-y1)*(y1-y2))
4 : sqrt((y1-y2)*(y2-y1)+(x1-x2)*(x2-x1))
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 210 :
ให ้ n คือตัวแปรจํานวนเต็ม
ข ้อใดให ้ค่าจริง ก็ตอ
่ เมือ n เก็บค่าทีเป็ นจํานวนคู่
1 : (n == 0) || (n == 2) || (n == 4) || (n == 6) || (n == 8)
2 : (n / 10 == 0)
3 : (n % 2 == 0)
4 : (n / 2 == 0)
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 211 :
ให ้ n คือตัวแปรจํานวนเต็ม
ข ้อใดให ้ค่าจริง ก็ตอ
่ เมือ n เก็บค่าทีเป็ นจํานวนคู่
1 : (n%10 == 0) || (n%10 == 2) || (n%10 == 4) || (n%10 == 6) || (n%10 == 8)
2 : (n/10 == 0) || (n/10 == 2) || (n/10 == 4) || (n/10 == 6) || (n/10 == 8)
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
วน
สง
ข ้อที 212 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 40/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ให ้ n คือตัวแปรจํานวนเต็ม
ข ้อใดให ้ค่าจริง ก็ตอ
่ เมือ n เก็บค่าทีเป็ นจํานวนคู่
กร
1 : (2*n/2 == n)
2 : (n/2*2 == n)
3 : (n/10*10 == n)
ิ ว
4 : (10*n/10 == n)
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สภ
ข ้อที 213 :
ให ้ n คือตัวแปรจํานวนเต็ม
ข ้อใดให ้ค่าจริง ก็ตอ
่ เมือ n เก็บค่าทีเป็ นจํานวนคี
1 : (n/2*2 == n+1)
2 : ((n+1)/2*2 == n)
3 : ((n-1)/2*2 == n)
4 : (n/2*2 == n - 1)
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 214 :
วันสงกรานต์ตรงกับวันอะไร สามารถคํานวณได ้ดังนี
1. เปลียน ปี พ.ศ. เป็ น ค.ศ.
2. นํ าสองหลักทางขวาของปี ค.ศ คูณด ้วย 1.2 แล ้วบวกด ้วย 11
3. นํ าผลในข ้อ 2 ปั ดเศษหลังจุดทศนิยมทิง (ใช ้ฟั งก์ชน
ั floor) แล ้วหารด ้วย 7
4. เศษของการหาร 7 ถ ้าเป็ น 0 คืออาทิตย์ 1 คือจันทร์, ..., 6 คือเสาร์
การคํานวณนีใช ้ได ้ตังแต่ปี 2543 ไปประมาณร ้อยปี
ถ ้า y เก็บปี พ.ศ. ข ้อใดคํานวณผลในข ้อ 4
1 : floor(11 + (((year - 543) / 100) * 1.2)) % 7
2 : floor((((year - 543) % 100) * 1.2) + 11) % 7
3 : floor((((year - 543) / 100) * 1.2) + 11) / 7
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 215 :
ั ทีคืนจํานวนจริงทีสุม
ให ้ random() เป็ นฟั งก์ชน ่ จากค่าในช่วง [0, 1) คือตังแต่ 0 ไปจนถึงเกือบ ๆ 1 (ไม่รวม 1)
่ ั คืนจํานวนเต็มทีได ้จากการปั ดเศษหลัง
ข ้อใดเป็ นการสุมค่าจํานวนเต็มตังแต่ 0 จนถึง 50 (กําหนดให ้ floor(x) เป็ นฟั งก์ชน
จุดทศนิยมของ x ออกหมด)
1 : floor( 50*random() )
2 : floor( 50*random() ) % 50
3 : floor( 51*random() ) % 100
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 216 :
ั ทีคืนจํานวนจริงทีสุม
ให ้ random() เป็ นฟั งก์ชน ่ จากค่าในช่วง [0, 1) คือตังแต่ 0 ไปจนถึงเกือบ ๆ 1 (ไม่รวม 1)
่ ค่าจํานวนเต็มในช่วง [-10, 10] คือตังแต่ -10 จนถึง 10
ข ้อใดเป็ นการสุม
ธิ
3 : floor(20 * random()) % 20 - 10
วน
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 41/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 217 :
กําหนดให ้ a = 5, b = 3 , c = 2 , d = 0.5 ถ ้า s = a*b+c; s =
กร
1 : 15
2 : 16
ิ ว
3 : 17
าวศ
4 : 18
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สภ
ข ้อที 218 :
กําหนดให ้ a = 5, b = 3 , c = 2 , d = 0.5 ถ ้า t = b+c*b; t =
1 : 8
2 : 9
3 : 10
4 : 12
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 219 :
กําหนดให ้ a = 5, b = 3 , c = 2 , d = 0.5 ถ ้า v = a*a+b*b+c*c; v =
1 : 36
2 : 28
3 : 38
4 : 48
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 220 :
กําหนดให ้ a = 5, b = 3 , c = 2 , d = 0.5 ถ ้า x = a%5; x =
1 : 0
2 : 2
3 : 4
4 : 6
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 221 :
กําหนดให ้ a = 5, b = 3 , c = 2 , d = 0.5 ถ ้า y = a/c; y =
1 : 1.5
2 : 2
3 : 2.5
4 : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 222 :
ธิ
1 : 0
ิ
2 : 10
3 : 11
วน
4 : 12
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 42/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 223 :
การดําเนินการโดยใช ้เครืองหมาย && จะให ้ผลลัพธ์เป็ นอย่างไร เมือ i = 2 และ j = 5 ในการดําเนินการ (i>3) && (j>4)
กร
1 : เป็ นจริง
2 : เป็ นเท็จ
ิ ว
3 : เป็ นบวกเสมอ
าวศ
4 : เท่ากับหนึง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สภ
ข ้อที 224 :
value1 , value2 ทีแสดงโดยชุดคําสังต่อไปนีมีคา่ เท่าใด
n = 20;
value1 = n++;
value2 = ++n;
printf(“%d , %d ”,value1,value2);
1 : 20 , 21
2 : 21 , 20
3 : 21 , 21
4 : 20 , 22
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
เนือหาวิชา : 4 : การทํางานแบบลําดับ
ข ้อที 225 :
ถ ้าให ้ x = 5; y = 7; z = 12;
และ k = (x + y) * z + y;
จงหาค่าของ k
1 : 74
2 : 128
3 : 151
4 : 96
5 : 47
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 226 :
สมการ z เท่ากับ x กําลังสอง บวก y กําลังสอง เขียนเป็ นนิพจน์ในภาษาคอมพิวเตอร์ได ้อย่างไร
1 : z = x2 + y2;
2 : z = x * x + y * y;
3 : z = x * 2 + y * 2;
4 : z = x ** 2 + y ** 2;
5 : z = xx + yy;
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สท
ิ
ข ้อที 227 :
วน
1 : x= 27
2 : x = 19
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 43/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
3 : x= 17
4 : ไม่สามารถระบุคา่ ได ้
5 : ถูกทุกข ้อ
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ ว
ข ้อที 228 :าวศ
กําหนดให ้โปรแกรมมีชดุ คําสังคือ
สภ
i=0
i=i+1
j=1
j=i+j
เมือคอมพิวเตอร์ทําโปรแกรมนีจนจบ ผลลัพธ์จากการทํางานคือข ้อใด
1 : i มีคา่ 0
2 : j มีคา่ 0
3 : j มีคา่ 1
4 : j มีคา่ 2
5 : j มีคา่ 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 229 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี
เริมต ้น
รับค่า x และ y
นํ าค่า x + y ใส่ลงใน a
นํ าค่า x – y ใส่ลงใน b
แสดงค่าผลคูณของ a กับ b
จบ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 230 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี
เริมต ้น
รับค่า x, y และ z
นํ าค่าทีมากทีสุดของ x, y, z ไปใส่ไว ้ใน a
นํ าค่าทีน ้อยทีสุดของ x, y, z ไปใส่ไว ้ใน c
นํ าค่าเฉลียของ x, y, z ไปใส่ไว ้ใน b
จบ
1 : a <b<c
สท
2 : a >b>c
ิ
3 : a <= b <= c
4 : a >= b >= c
วน
5 : a >= b <= c
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 44/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 231 :
ข ้อใดได ้ผลลัพธ์บนหน ้าจอเหมือนกับคําสังต่อไปนี int a = 50; PRINTtoSCREEN(a+200);
กร
1 : int a = 350; PRINTtoSCREEN(a); a = a - 100;
2 : PRINTtoSCREEN(a); int a = 50; a = a * 5;
ิ ว
3 : PRINTtoSCREEN(a); a = a - 100; int a = 350;
าวศ
4 : a = a * 5; int a = 50; PRINTtoSCREEN(a);
5 : int a = 50; a = a * 5; PRINTtoSCREEN(a);
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 5
ข ้อที 232 :
ถ ้า x, y และ z มีคา่ เป็ น 18, 12 และ 4 ตามลําดับ ข ้อใดต่อไปนีเป็ นค่าถูกต ้อง เมือมีการทํางานเป็ นดังโปรแกรม x = x –
y; y = y – x; z = x * y / z;
1 : x = 9;
2 : y = 12;
3 : z = 18;
4 : x = 2/3 ของ z;
5 : y = 1/3 ของ z;
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 233 :
เมือ x, y และ z มีคา่ เป็ น 100, 13 และ 91 ตามลําดับ และมีการทํางานดังโปรแกรม
1: z = z / y;
2: y = y + z;
3: x = x * z / y;
ข ้อใดถูกต ้อง
1 : x มีคา่ เท่ากับ 25
2 : z มีคา่ เท่ากับ 8
3 : y มีคา่ เท่ากับ 21
4 : ถ ้าต ้องการให ้ x มีคา่ เท่ากับ 12 จะต ้องเปลียนคําสังในบรรทัดที 3 เป็ น (x+z)/y
5 : ถ ้าต ้องการให ้ x มีคา่ เท่ากับ 25 จะต ้องเพิมคําสัง z = z-2;ก่อนหน ้าบรรทัดที 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 5
ข ้อที 234 :
ค่า X จากโปรแกรมนีคืออะไร
X=3
Y=X+1
X=Y+2
END
1 : 6
2 : 5
3 : 7
4 : 4
5 : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ธิ
สท
ข ้อที 235 :
ิ
ค่า X จากโปรแกรมนีคืออะไร
X=X+2
วน
X=0
X=X+1
สง
END
1:0
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 45/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
2 : 1
3 : 2
4 : 3
กร
5 : 4
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
าวศ
ข ้อที 236 :
สภ
ค่า X จากโปรแกรมนีคืออะไร
Y = 11
X=Y
Y=Y+3
END
1 : 0
2 : 3
3 : 11
4 : 14
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 237 :
จากโปรแกรมภาษา C จงหาค่าของตัวแปร Newcount และ Count เมือโปรแกรมสินสุดการทํางาน
--------------------------------------------------
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 238 :
จากโปรแกรม ภาษา C ต่อไปนี จงหาค่าของตัวแปร Newcount และ Count เมือโปรแกรมหยุดทํางาน
------------------------------------------
int Newcount=0, Count=1;
Newcount = Count++;
Count = 3+Newcount++;
Newcount = ++Count;
1 : 4,5
2 : 4,6
3 : 5,5
4 : 5,6
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 239 :
ธิ
x = 10
สท
y=5
ิ
x=y
y=x
วน
หลังจากโปรแกรมทํางานครบทังสีบรรทัด ข ้อใดผิด
1 : ตัวแปร x จะมีคา่ เท่ากับ 5
สง
2 : x - y จะมีคา่ เท่ากับ 5
3 : y จะมีคา่ เท่าเดิม
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 46/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
4 : ไม่มข
ี ้อใดผิด
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 240 :
ถ ้า b = 10 และ c = 5 ผลการทํางานหลังจากบรรทัดที 2 แล ้ว a จะมีคา่ เท่าใด
บรรทัดที 1 b = b + c ;
บรรทัดที 2 a = b - 5 ;
สภ
1 : 5
2 : 20
3 : 25
4 : 15
5 : 10
คําตอบทีถูกต ้อง : 5
ข ้อที 241 :
ถ ้า b = 5 และ c = 8 ผลการทํางานหลังจากบรรทัดที 3 แล ้ว a จะมีคา่ เท่าใด
บรรทัดที 1 b = b * 2;
บรรทัดที 2 c = c + b ;
บรรทัดที 3 a = b * c;
1 : 40
2 : 65
3 : 80
4 : 180
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 242 :
ถ ้า b = 10 และ c = 5 ผลการทํางานหลังจากบรรทัดที 4 แล ้ว c จะมีคา่ เท่าใด
บรรทัดที 1 b = b + c;
บรรทัดที 2 a = b - 5;
บรรทัดที 3 b = a -c;
บรรทัดที 4 c = b + a;
1 : -10
2 : 5
3 : 10
4 : 15
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 243 :
ลําดับคําสังในข ้อใดต่อไปนีให ้ผลลัพธ์เป็ นการสลับค่าของตัวแปร x กับ ตัวแปร y
1 : x=y; y=x;
2 : x=x+y; y=x-y; x=y-x;
3 : x=x-y; y=y+x; x=x+y;
4 : x=x+y; y=x-y; x=x-y;
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สท
ิ
ข ้อที 244 :
วน
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 47/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
กร
ิ ว
าวศ
สภ
1 : 12
2 : 13
3 : 15
4 : 18
5 : 20
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 245 :
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 246 :
1 : บรรทัด 04 กับ 05
2 : บรรทัด 05 กับ 06
ธิ
3 : บรรทัด 06 กับ 07
4 : บรรทัด 07 กับ 08
สท
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วน
สง
ข ้อที 247 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 48/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
โครงสร ้างแบบใดมีลกั ษณะการทํางานการวนรอบเพือทํางานซําจะเริมต ้นจากการทํางานตามคําสังของ do ก่อน หนึงรอบ
แล ้วจึงเริมตรวจสอบ เงือนไขทีคําสัง while
กร
1 : for
2 : if-else
3 : while
ิ ว
4 : do-while
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
สภ
ข ้อที 248 :
คําสังใดเป็ นการขึนบรรทัดใหม่
1 : \m
2 : \n
3 : \o
4 : \p
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 249 :
จากโปรแกรม main() { int a,b,c,d; printf(“Enter three number ”); scanf(“%d%d%d”,&a,&b,&c); d =c; if(a>d)
d = a; if(b > d) d = b; printf(“value of D = %.2f”,); } เป็ นโปรแกรมใด
1 : เป็ นโปรแกรมหาค่าผลรวม
2 : เป็ นโปรแกรมหาค่าเฉลีย
3 : เป็ นโปรแกรมหาค่ามากทีสุด
4 : เป็ นโปรแกรมหาค่าน ้อยทีสุด
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 250 :
สัญลักษณ์ดงั รูปหมายถึงสัญลักษณ์ในผังงานข ้อใด
1 : กิจกรรมประมวลผล
2 : จุดเริมต ้น หรือจุดสุดท ้ายของกิจกรรม
3 : การตัดสินใจหรือเปรียบเทียบ
4 : แฟ้ มข ้อมูล
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 251 :
สัญลักษณ์ดงั รูปหมายถึงสัญลักษณ์ในผังงานข ้อใด
1 : การแสดงผลข ้อมูลทางจอภาพ
2 : การรับข ้อมูล และแสดงข ้อมูล
3 : เส ้นแสดงทิศทางของกิจกรรม
4 : การตัดสินใจหรือเปรียบเทียบ
ธิ
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ิ
วน
ข ้อที 252 :
ข ้อใดคือสัญลักษณ์ของผังงานการตัดสินใจหรือเปรียบเทียบ
สง
1 : รูปสีเหลียมคางหมู
2 : รูปสีเหลียมขนมเปี ยกปูน
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 49/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
3 : รูปสีเหลียมจตุรัส
4 : รูปวงกลม
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ ว
าวศ
เนือหาวิชา : 5 : การทํางานแบบเลือก
สภ
ข ้อที 253 :
จงหาผลลัพธ์จากขันตอนดังต่อไปนี
ขันที 1 เริมการทํางาน
ให ้ตัวแปร x , y เป็ น integer
ขันที 2 ให ้ตัวแปร x =20 ; y =25 ;
ขันที 3 ให ้ตัวแปร x = x + 10 ; y =25 ;
ขันที 4 ให ้ตัวแปร x น ้อยกว่า y ให ้ ตัวแปร = x + 20
มิฉะนันแล ้ว ให ้ตัวแปร x = x- 5 ;
ขันที 5 พิมพ์คา่ ตัวแปร x และตัวแปร y
ขันที 6 จบการทํางาน
1 : x= 30 ; y = 25:
2 : x= 40 ; y = 25:
3 : x= 50 ; y = 25:
4 : x= 25 ; y = 25:
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 254 :
จงหาผลลัพธ์จากขันตอนดังต่อไปนี
ขันที 1 เริมการทํางาน
ให ้ตัวแปร x , y เป็ น integer
ขันที 2 ให ้ตัวแปร x = 10 ; y =40 ;
ขันที 3 ให ้ตัวแปร x = x + 2 ; y = y - 5 ;
ขันที 4 ให ้ตัวแปร x = x + 2 ; y = y - 5 ;
ขันที 5 ให ้ตัวแปร x = x + 2 ; y = y - 5 ;
ขันที 6 พิมพ์คา่ x,y จบ
1 : ( x = 16 ; y = 25 ;)
2 : ( x = 14 ; y = 30 ;)
3 : ( x = 12 ; y = 35 ;)
4 : ( x = 10 ; y = 40 ;)
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 255 :
ถ ้า A = 20 เงือนไขดังต่อไปนีให ้ผลลัพธ์อะไร
ธิ
สท
ิ
วน
1 : B=0
สง
2 : B=10
3 : B=20
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 50/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
4 : B=30
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ ว
ข ้อที 256 :
าวศ
ถ ้า A = 5 เงือนไขดังต่อไปนีให ้ผลลัพธ์อะไร
สภ
1 : B=0
2 : B=10
3 : B=20
4 : B=30
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 257 :
ถ ้า A = 8 เงือนไขดังต่อไปนีให ้ผลลัพธ์อะไร
1 : B=0
2 : B=10
3 : B=20
4 : B=30
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
สท
ข ้อที 258 :
ิ
วน
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 51/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
จาก Flow chart ทีกําหนด ถ ้าหลังจาก RUN โปรแกรม แล ้วค่า y =15+0.2x ถามว่าค่า x มีโอกาส เป็ นเท่าไร
กร
ิ ว
าวศ
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 259 :
จาก Flow chart ทีกําหนด จงหาค่า y
เมือ ครังที 1 ให ้ x= 79 , ครังที 2 ให ้ x= 15 ;
ธิ
สท
ิ
วน
1 : 30.8 , 32.5
สง
2 : 17.9, 32.5
3 : 17.9, 30.8
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 52/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
4 : 30.8, 17.9
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 260 :
ผังงานต่อไปนีเป็ นผังงานของข ้อใด
สภ
1 : if....then....else
2 : if .. then
3 : for loop
4 : ไม่มข ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 261 :
ผังงานต่อไปนีเป็ นผังงานของข ้อใด
ธิ
สท
ิ
วน
สง
1 : if....then....else
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 53/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
2 : while do ......
3 : if.. then
4 : ไม่มข ี ้อใดถูก
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ ว
ข ้อที 262 :าวศ
ผังงานต่อไปนีเป็ นผังงานของข ้อใด
สภ
1 : if....then....else
2 : while do ......
3 : do.... while
4 : ไม่มข ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 263 :
จากคําสังต่อไปนีเมือทํางานจนจบ X มีคา่ เท่าไร เมือ a = 100
if (a >= 1000)
X = 1;
else if (a < 10)
X=2;
else if (a > 100)
X = 3;
else
X = 4;
1 : 0
2 : 1
ธิ
3 : 2
สท
4 : 3
5 : 4
ิ
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 5
สง
ข ้อที 264 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 54/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
แสดงค่าในตัวแปร x ทีเกิดจากผลการทํางานของโปรแกรมนี
int x=50;
if (x > 50)
กร
x=x+10;
else if (x < 30)
ิ ว
x=x+20;
าวศ
else x=x+30;
x=x+10;
1 : 90
สภ
2 : 80
3 : 70
4 : 60
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 265 :
จาก algorithm ต่อไปนี เมือสินสุดการทํางาน x,y,z จะมีคา่ เป็ นเท่าใด เครืองหมาย ! คือ not operator
-----------------------------------------------------------------------------
1: int x=6, y = 1, z = 2;
2: if (!x) {
3: x = y + 1;
4: z = x - y;
5: } else
6: y = x - z;
1 : x=6, y=1, z=2
2 : x=6, y=4, z=2
3 : x=2, y=1, z=1
4 : x=2, y=4, z=1
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 266 :
จากโปรแกรมทีให ้ ถ ้ากําหนดค่าให ้อาเรย์ x ดังนี 0, 4, 10, 1,3
โดยเริมตังแต่ index 0 ถึง 4 เมือโปรแกรมทํางานจบแล ้ว ans มีคา่ เท่ากับเท่าใด
กรณีภาษา C ans = x[0];
for (i=1; i<=4; i++)
{
if (ans ans = x[i];
} หรือ ในภาษา pascal ans := x[0];
for i:=1 to 4 do
begin
if (ans ans := x[i];
end
1 : 0
2 : 4
3 : 10
4 : 1
5 : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
ข ้อที 267 :
สท
else
ans = 0;
สง
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 55/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
2 : 2
3 : 3
4 : 4
กร
5 : 5
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 5
ข ้อที 268 :
าวศ
สภ
ข ้อใดมีความหมายเช่นเดียวกันกับ a += (n1 >= n2) ? n1 : n2;
1 : if (n1 < n2) a += n2; else a += n1;
2 : if (n1 >= n2) a = n1; else a = n2;
3 : if (n2 < n1) a = a + n2; else a = a + n1;
4 : if (n2 > n1) a = n2; else a = n1;
5 : มีคําตอบทีถูกมากกว่า 1 ข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 269 :
จากการใช ้ if (a <= b) c = a; else c = b; ข ้อใดกล่าวถูก?
1 : c จะมีคา่ เท่ากับ a ก็ตอ
่ เมือค่าของ a มากกว่าค่าของ b
2 : c จะมีคา่ เท่ากับ b ก็ตอ่ เมือค่าของ a เท่ากับค่าของ b
3 : ค่าของ c จะไม่มากกว่าค่าของ b เสมอ
4 : ค่าของ c จะมากกว่าค่าของ a ก็ตอ ่ เมือค่าของ a มากกว่า b
5 : มีคําตอบทีถูกมากกว่า 1 ข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 270 :
ในการใช ้ if statement เพือเช็คดูวา่ ค่าของ n เป็ นเลขคี ซึงอยูใ่ นช่วงตังแต่ 10 – 30
หรือไม่นัน เราต ้องใช ้คําสังอย่างไร? หมายเหตุ == คือเปรียบเทียบเท่ากับ
!= ไม่เท่ากับ
|| OR
&& AND
/ div
% mod
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 271 :
กําหนดตัวแปร n เป็ น integer
ถ ้าต ้องการเช็คว่าตัวแปร n เก็บเลขทีลงท ้ายด ้วย 3
(เช่น 3, 13, 23, 33, ...) เราต ้องใช ้คําสัง if อย่างไร?
หมายเหตุ % คือ mod , / คือ div , == เปรียบเทียบเท่ากับ
ธิ
1 : if((n % 3) == 0)
สท
2 : if((n / 3) == 0)
ิ
3 : if((n % 10) == 3)
4 : if((n / 10) == 3)
วน
5 : มีคําตอบทีถูกมากกว่า 1 ข ้อ
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 56/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 272 :
กําหนด constant ชือ MAXNUM มีคา่ 20 ตัวแปร integer number มีคา่ 30; if (number > MAXNUM) number =
กร
MAXNUM; PRINT_TO_SCREEN(number); จากโปรแกรมด ้านบน number ทีได ้จะมีคา่ อย่างไร
1 : number = 0
ิ ว
2 : number = 20
าวศ
3 : number = 30
4 : number = 40
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูกต ้อง
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 273 :
แสดงผลการทํางานของคําสังต่อไปนี โดยกําหนดการป้ อนค่า
1. N= 5
2. N= 2
IF (N < 5) THEN
IF (N == 4) THEN PRINT "Hello."
ELSE IF (N == 3) THEN PRINT "Goodbye."
PRINT "Siam"
1 : 1. Siam 2. Goodbye
2 : 1. Hello 2. Goodbye
3 : 1. Siam 2. Siam
4 : 1. Hello 2. Goodbye
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 274 :
ให ้เครืองหมาย && คือ and operator
1 : 0
2 : 1
3 : 2
4 : 3
5 : ผิดทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 275 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี
ธิ
สท
เริมต ้น
รับค่า x และ y
ิ
จบ
1 : x มีคา่ 3
2 : y มีคา่ 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 57/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
3 : y มีคา่ 5
4 : y มีคา่ 0
5 : y มีคา่ -1
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ิ ว
ข ้อที 276 :าวศ
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี
สภ
เริมต ้น
รับค่า x และ y และ z
ถ ้า x > y แล ้ว z = 0
มิฉะนัน z = 1
จบ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 277 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี
เริมต ้น
รับค่า x และ y และ z
ถ ้า (x + y) > z แล ้ว z = x + y
มิฉะนัน ถ ้า z = 0 แล ้ว z = y – x
จบ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 278 :
ข ้อใดสมมูลกับประโยค if (x <= 80 and x > 49)
1 : if (x = 80 and x > 49)
2 : if (49 < x <= 80)
3 : if (x < 80 or x > 50)
4 : if (not (x > 80 or x < 50))
5 : if (not (x > 80 and x < 50))
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 279 :
วน
2 : 3 + 8 >= 15 or 5 <= 3
3 : 3 - 4 <= 10 and 3 > 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 58/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
4 : 14 / 7 < 1 or not (9 < 4)
5 : not (100 > 80 and 10 < 50)
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ิ ว
าวศ
ข ้อที 280 :
if (วันนีฝนตก หรือ เป็ นวันหยุด) then ฉั นจะไปออกกําลังกาย
else ฉั นจะไปซือของ
สภ
สมมุตวิ า่ "วันนีเป็ นวันทํางาน แต่วา่ ฝนตก"
ข ้อใดคือผลลัพธ์ทถู ี กต ้อง
1 : ฉั นจะไปออกกําลังกาย
2 : ฉั นจะไปซือของ
3 : ฉั นจะไปออกกําลังกาย และ ฉั นจะไปซือของ
4 : ฉั นจะไปออกกําลังกาย แต่ ฉั นจะไม่ไปซือของ
5 : ฉั นจะไม่ไปออกกําลังกาย และ ฉั นจะไปซือของ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 281 :
A B เป็ น เงือนไข X เป็ น ตัวแปร
X=0
IF A THEN
BEGIN
IF B THEN X = 1 ELSE X = 2
END
ELSE X = 3
STOP
ถ ้า A จริง B เท็จ เมือโปรแกรมหยุด X มีคา่ เท่าไร
1 : 0
2 : 1
3 : 2
4 : 3
5 : ไม่ทราบค่า
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 282 :
A B เป็ น เงือนไข X เป็ น ตัวแปร
X=0
IF A THEN
BEGIN
IF B THEN X = 1 ELSE X = 2
END
ELSE X = 3
STOP
ถ ้า A เท็จ B จริง เมือโปรแกรมหยุด X มีคา่ เท่าไร
1 : 0
2 : 1
3 : 2
ธิ
4 : 3
สท
5 : ไม่ทราบค่า
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
วน
สง
ข ้อที 283 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 59/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
num = -1
if (num < 0) then (num = num + 1)
กร
num มีคา่ เท่าไร หลังการทํางานของโปรแกรมนี
1 : -1
ิ ว
2 : 0
าวศ
3 : 1
4 : 2
5 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกต ้อง
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 284 :
answer = 10
if (a > 10) then answer = answer * 2
if (a < 5) then answer = answer - 1
else if (a > 7) then answer = answer + 1
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 285 :
ข ้อ 3 ดูโจทย์จากรูปภาพประกอบคําถาม
1 : -9
2 : 9
3 : 21
ธิ
4 : -21
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ิ
วน
ข ้อที 286 :
สง
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 60/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
2 : monitor
3 : diskette
4 : Key board
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ ว
าวศ
ข ้อที 287 :
ข ้อ 3 ดูโจทย์จากรูปภาพประกอบคําถาม
สภ
1 : -9
2 : 9
3 : 21
4 : -21
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 288 :
ข ้อ 4 ดูโจทย์จากรูปภาพประกอบคําถาม
1 : -9
2 : 9
3 : 21
4 : -21
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สท
ิ
วน
ข ้อที 289 :
ต ้องการเขียนโปรแกรมเพือคํานวณหาค่าเสือรวมเมือราคาเสือเป็ นดังนี
สง
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 61/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
น ้อยกว่า 30 ตัวราคาตัวละ 200 บาท
น ้อยกว่า 50 ตัวราคาตัวละ 150 บาท
ควรเลือกใช ้คําสังใดต่อไปนี
กร
1 : if....then
2 : if....then.....else
ิ ว
3 : if...then...else if... (หรือ nested if)
าวศ
4 : for
5 : while
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 290 :
ให ้ V เป็ นตัวแปรชนิดจํานวนจริงมีคา่ 2.5
if V > 2.0 then
begin
M := 3.0 * V;
end
else
begin
M := 0.0;
end;
V :=M;
หลังจากคําสังข ้างต ้นถูกกระทําแล ้ว ค่า V เป็ นเท่าไร หมายเหตุ begin...end ก็คอ
ื {..} และ := ก็คอ
ื = ในภาษา C
1 : 0.0
2 : 2.5
3 : 7.5
4 : 10
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 291 :
ิ J ได ้อย่างไร
จาก flowchart ข ้างล่างนี การทํางานจะมาถึงกล่อง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
สท
เนือหาวิชา : 6 : การทํางานแบบวงวน
ิ
วน
ข ้อที 292 :
จงเขียนผลตอบสนองของโปรแกรมดังต่อไปนี
สง
#include
int main(void){
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 62/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
function(5);
}
void function(int i){
กร
printf("%d ", i);
if(i==0) return;
ิ ว
else function(i-1);
าวศ
}
1 : 0 1 2 3 45
2 : 5 4 3 2 1
สภ
3 : 1 2 3 4 5
4 : 5 4 3 2 10
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 293 :
จาก Flow chart ทีกําหนด จงหาค่า val , n และวนรอบกีครัง หลังจากจบโปรแกรม ให ้ค่า y=0 ,x = 1 , k=2 ,b=9
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 294 :
ถ ้า A = 4 และ B = 2เมือออกจากวงรอบ(loop) ผลลัพธ์จะเป็ นอะไร
ธิ
สท
ิ
วน
1 : B=8
2 : B= 16
3 : B=32
สง
4 : B=64
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 63/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
กร
ิ ว
ข ้อที 295 :
าวศ
ถ ้า A = 1 และ B = 2เมือออกจากวงรอบ(loop) ผลลัพธ์จะเป็ นอะไร
สภ
1 : B=0
2 : B=2
3 : B=4
4 : B=6
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 296 :
ถ ้า A = 5 และ B = 1เมือออกจากวงรอบ(loop) ผลลัพธ์จะเป็ นอะไร
1 : B=7
2 : B=9
3 : B=11
4 : B=13
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 297 :
วน
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 64/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ถ ้า A = 1 และ B = 2เมือออกจากวงรอบ(loop) ผลลัพธ์จะเป็ นอะไร
กร
ิ ว
าวศ
สภ
1 : B=0
2 : B=2
3 : B=4
4 : B=8
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 298 :
ความแตกต่างระหว่างการทํางานของคําสัง While และ Do-While คืออะไร
1 : คําสัง While ทําคําสังก่อนแล ้วจึงตรวจสอบเงือนไข ส่วนคําสัง Do-While ตรวจสอบเงือนไขก่อนถ ้าเป็ นจริงจึงทํา
คําสังทีต ้องการ
2 : คําสัง While ทําคําสังก่อนแล ้วจึงตรวจสอบเงือนไข ส่วนคําสัง Do-While ตรวจสอบเงือนไขก่อนถ ้าเป็ นเท็จจึงทํา
คําสังทีต ้องการ
3 : คําสัง While ตรวจสอบเงือนไขก่อนถ ้าเป็ นจริงจึงทําคําสังทีต ้องการ ส่วนคําสัง Do-While ทําคําสังก่อนแล ้วจึง
ตรวจสอบเงือนไข
4 : คําสัง While ตรวจสอบเงือนไขก่อนถ ้าเป็ นเท็จจึงทําคําสังทีต ้องการ ส่วนคําสัง Do-While ทําคําสังก่อนแล ้วจึง
ตรวจสอบเงือนไข
5 : ทังสองคําสังทํางานเป็ นวงวนเหมือนกันไม่แตกต่างกัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 299 :
จากคําสังต่อไปนี ค่า n[3][3] มีคา่ เท่ากับเท่าใด
for (i=0; i<3; i++) {
for (j=0; j<3; j++) {
n[j][i] = i;
}
}
1 : 0
2 : 1
3 : 2
4 : 3
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
สท
ข ้อที 300 :
ิ
---------------------------------------------------
x=5
y=1
สง
while (x > 0) {
x=x-1
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 65/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
y=y*x
print(y)
}
กร
1 : 0
2 : 4
ิ ว
3 : 10
าวศ
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
ข ้อที 301 :
จาก algorithm ด ้านล่าง จงเลือกคําตอบทีถูกทีสุด
-----------------------------------------------------------------------------
i=1 และ j=0
for (i = 1; i <= 4; i = i+1) {
if ((i - 1) / 2 == 0){
print(i)
j = i+1;
}
}
1 : โปรแกรมนีพิมพ์คา่ i ทังหมด 5 ครัง
2 : ค่า i ค่าสุดท ้ายคือ 4
3 : ค่า j สุดท ้าย คือ 2
4 : ค่า j สุดท ้าย คือ 6
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 302 :
จาก algorithm ด ้านล่าง่ โปรแกรมจะทํางานวน loop ทังหมดกีรอบ
--------------------------------------------------------------------------
กําหนด x=0, y = 1, z = 5
while(x < 6) {
y=z+x
if (y < 11) {
x=y+x
}
}
1 : 1
2 : 2
3 : 3
4 : 5
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 303 :
ข ้อใดต่อไปนีได ้ค่าตัวแปร sum เท่ากับโปรแกรมต่อไปนี
sum = 0;
for(i=1; i<=100; i++)
{
sum = sum +i;
}
ธิ
สท
1 : sum = 0;
j = 0;
ิ
{
j = i+1;
sum = sum +j;
สง
}
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 66/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
2 : sum = 0;
j = 0;
for(i=1;i<100;i++)
กร
{
j = i+1;
ิ ว
sum = sum +j;
าวศ
}
3 : sum = 0;
for(i=1;i<100;i++)
{
สภ
sum = sum +i;
}
4 : sum = 0;
for(i=0;i<=99;i++)
{
sum = sum +i;
}
5 : sum = 0;
for(i=0;i<100;i++)
{
sum = sum +i;
}
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 304 :
โปรแกรมทีให ้มีการทํางานวนรอบทังหมดกีรอบ และแต่ละรอบ a มีคา่ เท่ากับเท่าไร
int a=10;
while (a >= 1)
{
a = a - 2;
}
1 : 10 รอบ แต่ละรอบ a มีคา่ เท่ากับ 1,2,3,4,5,6,7,8,9 และ 10
2 : 10 รอบ แต่ละรอบ a มีคา่ เท่ากับ 10,9,8,7,6,5,4,3,2 และ 1
3 : 5 รอบ แต่ละรอบ a มีคา่ เท่ากับ 9,7,5,3 และ 1
4 : 5 รอบ แต่ละรอบ a มีคา่ เท่ากับ 10,8,6,4 และ 2
5 : 5 รอบ แต่ละรอบ a มีคา่ เท่ากับ 2,4,6,8 และ 10
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 305 :
กําหนดให ้
int i;
for (i = 1;i < 10; i++){
if ( i > 7 ) continue;
if ( i == 5 ) break;
printf(”KORAT”);
}
สตริง KORAT จะถูกพิมพ์ทงหมดกี
ั ครัง?
1 : 10
2 : 6
3 : 4
4 : 5
ธิ
5 : 7
สท
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วน
ข ้อที 306 :
สง
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 67/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
2 : ทํางานวนซําตามทีกําหนดค่าตัวแปรในโปรแกรม
3 : ทํางานวนซําตามทีกําหนดในโปรแกรมโดยมีจดุ สินสุด
4 : ทํางานวนซําตามทีกําหนดในโปรแกรมโดยไม่มจ ี ด
ุ สินสุด
กร
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูกต ้อง
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 307 :
าวศ
สภ
i = 0;
for (j = -2; j < 3; j++) {
i = j + i++;
} ค่า i จะมีคา่ เท่าไร
1 : 2
2 : 4
3 : 6
4 : -6
5 : -4
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 308 :
j = k = 0;
do {
j += k;
k += 2;
} while (k < 20);
อยากทราบว่าค่า j มีคา่ เท่าไร
1 : 50
2 : 60
3 : 70
4 : 80
5 : 90
คําตอบทีถูกต ้อง : 5
ข ้อที 309 :
Recursive Function มีความหมายว่าอย่างไร
1 : ั ทีทํางานแบบไม่รู ้จบ
คือฟั งก์ชน
2 : คือฟั งก์ชนั ทีมีการเรียกจากภายในฟั งก์ชน
ั เอง
3 : คือฟั งก์ชน ั ทีมีเงือนไขจึงจะออกจากโปรแกรมได ้
4 : คือฟั งก์ชน ั สําหรับทํางานในโปรแกรมระบบเท่านัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 310 :
Nested Loops มีความหมายอย่างไร
1 : คือ Loop ทีโปรแกรมวนไม่รู ้จบ
2 : คือ Loop ทีมีคําสังประเภทเดียวกันซ ้อนอยู่
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
วน
สง
ข ้อที 311 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 68/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
เริมต ้น
x=1
ทําซํา
กร
x=x+1
จนกระทัง x > 5
ิ ว
จบ
:
าวศ
ถ ้าคอมพิวเตอร์ทําโปรแกรมนีจนจบ แล ้วทําให ้ข ้อใดเป็ นจริง
1 x มีคา่ 1
สภ
2 : x มีคา่ 5
3 : x มีคา่ 6
4 : x มีคา่ 7
5 : x มีคา่ 8
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 312 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี
เริมต ้นโปรแกรม
รับค่า x และ y
ทําซํา
ถ ้า x > y แล ้ว
{ แสดงค่า x ; x = x – 1 ; }
จนกระทัง x = y
จบโปรแกรม
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 313 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี
BEGIN
sum = 0 ;
FOR count = 1 to n
{ sum = sum + 1 ; write(sum) ; }
END
ถ ้าคอมพิวเตอร์ทําโปรแกรมนีจนจบ แล ้วจะมีการแสดงค่าอะไร
1 : 0 1 2 3 4 ไปจนถึง n
2 : 1 2 3 4 ไปจนถึง n
3 : 0 1 3 4 7 ไปจนถึง n + (n + 1)
4 : 1 3 4 7 ไปจนถึง n + (n + 1)
5 : 1 3 5 7 ไปจนถึง n
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สท
ิ
ข ้อที 314 :
วน
2 : จุดสินสุดการทํางาน
3 : ค่าเริมต ้นของการทํางาน
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 69/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
4 : นิพจน์ทวไปที
ั ไม่เรียกซํา
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 315 :
ในการหาค่าของ n ตัวแรกทีทําให ้ผลบวกของอนุกรม 1 + 2 +3 +..+ n > 15 เป็ นจริง ถ ้าตรวจสอบเงือนไข ผลบวก >
15 ในการออกจากวงวนหลังจากทีทําการบวกสะสมค่าของพจน์ โปรแกรมนีจะวนอยูใ่ นวงวนกีเทียว
สภ
1 : 5 เทียว
2 : 6 เทียว
3 : 7 เทียว
4 : 8 เทียว
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 316 :
จาก psuedocode:
a=0;
while a<20
show a on a screen;
a=a+1
a=0; end ผลลัพธ์คา่ a หลังจาก run เสร็จแล ้วคือ
1 : 0
2 : 20
3 : 19
4 : ไมมีคําตอบทีถูกเนืองจากโปรแกรมไม่สมบูรณ์
5 : ไม่มค
ี ําตอบทีถูกเนืองจากโปรแกรมทํางานไม่หยุด
คําตอบทีถูกต ้อง : 5
ข ้อที 317 :
พิจารณาโปรแกรมต่อไปนี
S=0
X=0
WHILE X < N
BEGIN
S=S+2
X=X+1
END
STOP
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
ข ้อที 318 :
สท
1S=0
วน
2X=1
3 WHILE X < N
สง
BEGIN
4S=S+X
5X=X+1
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 70/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
END
STOP
กร
1 : 1
2 : 2
3 : 3
ิ ว
4 : 4
าวศ
5 : 5
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สภ
ข ้อที 319 :
ให ้ N เป็ น เลขคู่ มากกว่า 0
ขณะทีโปรแกรมทํางานอยู่ X กับ Y มีคา่ ตรงกันพร ้อนกันได ้หรือไม่ ค่าใด
X=0
Y=N
WHILE X < N
BEGIN
X=X+1
Y=Y-1
END
STOP
1 : ไม่มวี น
ั ตรงกัน
2 : 0
3 : N
4 : N/2
5 : N/2 + 1
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 320 :
x=0
for count = 1 to 3
x = x + count
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 321 :
value = -1
while (value < 3)
if (value < 0) then (value = value + 1)
1 : -1
สท
2 : 0
3 : 2
ิ
4 : 4
วน
5 : ไม่มค
ี ําตอบ เนืองจากโปรแกรมไม่หยุดทํางาน
คําตอบทีถูกต ้อง : 5
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 71/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 322 :
จงหาค่าเงือนไขทีเพือให ้ algorithm ได ้ผลลัพธ์ตอ
่ ไปนี
12345678
กร
-------------------------------------
count = 1
ิ ว
while ( ___________ ) {
าวศ
Show count
Show " "
count = count + 1
สภ
}
1 : count <=9
2 : count !=9
3 : count+1<=8
4 : count+1 < 10
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 323 :
ถ ้าต ้องการวนรับอายุของผู ้ใช ้จนกว่าจะใส่คา่ ทีมากกว่าศูนย์ น่าจะตรวจสอบเงือนไขก่อนหรือหลังจากรับค่าอายุเก็บไว ้ใน
ตัวแปร
1 : ก่อน
2 : หลัง
3 : กลาง
4 : ก่อนหรือกลาง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 324 :
คําสังเทียมต่อไปนีสอดคล ้องกับผลลัพธ์ในข ้อใด Set A = 1 Set R = 0.2 FOR I = 1 to N do A = A*(1+R)
1 : A = (1+R)^N
2 : A = A*(1+R)
3 : A = (1+R)*N
4 : A = (1+R)(1+R)
5 : A = A*(1+R)*N
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 325 :
ชุดคําสังเทียม DO X = X + 1; WHILE (X < 10); เทียบเท่ากับคําสังในข ้อใด
1 : FOR N=1 TO 10 X=X+1; END FOR
2 : WHILE (X<10) DO X=X+1; END WHILE
3 : LOOP X=X+1; IF (X>=10) EXIT; END LOOP
4 : REPEAT X=X+1; UNTIL (X<10);
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 326 :
ธิ
สท
ิ
วน
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 72/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
กร
ิ ว
าวศ
สภ
1:
2:
3:
4:
5:
คําตอบทีถูกต ้อง : 5
ข ้อที 327 :
1 : หาผลรวม
2 : หาค่าเฉลีย
3 : หาค่าเบียงเบนมาตรฐาน
4 : หาค่ามัธยฐาน
ธิ
สท
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ิ
วน
ข ้อที 328 :
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 73/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
กําหนดให ้ == คือ operator ในการตรวจสอบความเท่ากันของข ้อมูล
กร
ิ ว
าวศ
สภ
1 : หาค่ามากสุด
2 : นับจํานวนตัวทีมาก
3 : หาว่ามีคา่ ใน data ทีมีคา่ เท่ากับ x หรือไม่
4 : นับจํานวนตัวใน data ทีมีคา่ เท่ากับ x
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 5
ข ้อที 329 :
1 : 8
2 : 9
3 : 10
4 : 11
5 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 330 :
ข ้อใดผิดสําหรับส่วนโปรแกรมทีต ้องการวนรับตัวอักษรไปเรือย ๆ จนกว่าจะกด q โดยทีมีการประกาศตัวแปรให ้ใช ้ดังนี
char check=’w’;
1 : while(check!=”q”) { printf(“Enter one char : ”); check=getch( ); }
2 : while(check!=113) { printf(“Enter one char : ”); check=getch( ); }
3 : do { printf(“Enter one char : ”); check=getch( ); } while(check!=‘q’);
4 : for(i=0;check!=‘q’;i++) { check=getche(); }
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 331 :
จากส่วนของโปรแกรมดังต่อไปนี ผลลัพธ์ i และ j จะเป็ นจะมีคา่ เท่าใดเมือสินสุดการทําวนรอบ j =0; for (i =0; i < 10 ;
i = i+2) j = j+5;
ธิ
1 : i = 10 j = 50
สท
2 : i = 10 j = 25
ิ
3 : i = 12 j = 50
4 : i = 12 j = 25
วน
5 : ไม่มข
ี ้อถูกต ้อง
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 74/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 332 :
จากส่วนของโปรแกรมดังต่อไปนี ผลลัพธ์ i และ j จะเป็ นจะมีคา่ เท่าใดเมือสินสุดการทําวนรอบ j =2; for (i =0; i < 10 ;
กร
i = i+2) j = j*2;
1 : i = 10 j =32
ิ ว
2 : i = 10 j = 64
าวศ
3 : i = 12 j = 32
4 : i = 12 j =64
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
สภ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 333 :
จากส่วนของโปรแกรมดังต่อไปนี ผลลัพธ์ i และ j จะเป็ นจะมีคา่ เท่าใดเมือสินสุดการทําวนรอบ j =0; for (i =1; i < 10 ;
i = i*2) j = j+2;
1 : i = 10 j = 10
2 : i = 10 j = 8
3 : i = 16 j = 10
4 : i = 16 j = 8
5 :
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 334 :
จากส่วนของโปรแกรมดังต่อไปนี ผลลัพธ์ i และ j จะเป็ นจะมีคา่ เท่าใดเมือสินสุดการทําวนรอบ j =1; for (i =1; i < 10 ;
i = i*2) j = j*2;
1 : i = 8j=8
2 : i = 16 j = 8
3 : i = 16 j = 32
4 : i = 8 j = 16
5 : i = 16 j = 16
คําตอบทีถูกต ้อง : 5
ข ้อที 335 :
1:
ธิ
สท
ิ
วน
2:
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 75/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
กร
ิ ว
าวศ
3:
สภ
4:
5:
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 336 :
จากส่วนของโปรแกรมดังต่อไปนี ผลลัพธ์ i และ j จะเป็ นจะมีคา่ เท่าใดเมือสินสุดการทําวนรอบ j =0; for (i =1; i < 10 ;
i = i*3) j = j+2;
1 : i = 12 j = 8
2 : i = 27 j = 8
3 : i = 12 j =6
4 : i =27 j =6
5 : i =27 j=10
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 337 :
จากส่วนของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะเกิดการทํางานในวงวน (loop) กีครัง j = 10; do { j = j-1; } while (j >0);
1 : 7
2 : 8
3 : 9
4 : 10
5 : 11
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 338 :
จากส่วนของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะเกิดการทํางานในวงวน (loop) กีครัง j =10; do { j = j-2; } while (j >0);
1 : 3
2 : 5
ธิ
3 : 7
สท
4 : 9
ิ
5 : 10
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สง
ข ้อที 339 :
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 76/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
จากส่วนของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะเกิดการทํางานในวงวน (loop) กีครัง j = 10; do { j = j/2; } while (j >0);
1 : 4
กร
2 : 5
3 : 6
4 : 7
ิ ว
5 : 8
าวศ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สภ
ข ้อที 340 :
จากส่วนของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะเกิดการทํางานในวงวน (loop) กีครัง j = 10; while (j >=0) { j = j -1; }
1 : 8
2 : 9
3 : 10
4 : 11
5 : 12
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 341 :
จากส่วนของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะเกิดการทํางานในวงวน (loop) กีครัง j = 10; while (j >=0) { j = j -2; }
1 : 4
2 : 5
3 : 6
4 : 7
5 : 8
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 342 :
จากส่วนของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะเกิดการทํางานในวงวน (loop) กีครัง j = 10; while (j >=0) { j = j - 3 ; }
1 : 3
2 : 4
3 : 5
4 : 6
5 : 7
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 343 :
จากส่วนของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะเกิดแสดงข ้อความ "Test" กีครัง for (i =0 ; i < 10 ; i++) { printf ("Test\n"); }
1 : 9
2 : 10
3 : 11
4 : 12
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 344 :
วน
จากส่วนของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะแสดงข ้อความ "Test" กีครัง for (i =0 ;i<= 10 ; i++) { printf ("Test\n"); }
1 : 9
สง
2 : 10
3 : 11
4 : 12
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 77/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 345 :
จากส่วนของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะแสดงข ้อความ "Test" กีครัง for (i = 1 ;i< 10 ; i++) { printf ("Test\n"); }
1 : 8
สภ
2 : 9
3 : 10
4 : 11
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 346 :
จากส่วนของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะแสดงข ้อความ "Test" กีครัง for (i =1 ;i<= 10 ; i++) { printf ("Test\n"); }
1 : 8
2 : 9
3 : 10
4 : 11
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 347 :
จากส่วนของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะแสดงข ้อความ "Test" กีครัง for (i =0 ;i< 10 ; i=i+2) { printf ("Test\n"); }
1 : 4
2 : 5
3 : 6
4 : 7
5 : 8
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 348 :
จากส่วนของโปรแกรม ดังต่อไปนี จะแสดงข ้อความ "Test" กีครัง for (i =1 ;i< 10 ; i=i*2) { printf ("Test\n"); }
1 : 2
2 : 3
3 : 4
4 : 5
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 349 :
ธิ
สท
ิ
วน
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 78/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
กร
ิ ว
าวศ
สภ
1 : a=4b=8
2 : a=4b=7
3 : a =5 b= 8
4 : a =5 b= 7
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 350 :
1 : a = 5 b =6
2 : a = 5 b =7
3 : a=4b=6
4 : a = 4 b =7
5 : ไม่มข
ี ้อถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 351 :
ในการเขียนโปรแกรมเพือใช ้ในการคูณ matrix ขนาด m x n จํานวน 2 matrix จะต ้องใช ้การวนลูปกีชันในการแก ้ปั ญหานี
1 : 4 ชัน
2 : 2 ชัน
3 : 1 ชัน
4 : 3 ชัน
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 352 :
วน
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 79/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
4 : 2 ชัน และเกิดการเปรียบเทียบ 45 ครัง
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
กร
ิ ว
าวศ
ข ้อที 353 :
ถ ้า ส่วน for(x = 2; x <20; x+=3) อยูใ่ นโปรแกรมทีแสดงค่า x ทุกค่าจนจบโปรแกรม ค่าของ x ในข ้อใดไม่ถก
ู ต ้อง
1 : 8
สภ
2 : 14
3 : 17
4 : 18
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 354 :
สัญลักษณ์ดงั รูป หมายถึงสัญลักษณ์ในผังงานข ้อใด
1 : การรับหรือแสดงผลโดยไม่ระบุอป ุ กรณ์
2 : การแสดงผลทางจอภาพ
3 : การแสดงผลข ้อมูลเป็ นเอกสาร เช่นแสดงผลทางเครืองพิมพ์
4 : จุดเริมต ้น หรือจุดสุดท ้ายของกิจกรรม
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 355 :
โปรแกรมทีแสดง x = 2; while(x<=100) x++; ให ้ผลลัพธ์อย่างไร
1 : โปรแกรมแสดง 1-100
2 : โปรแกรมแสดงเลขคูต
่ งแต่
ั 2-100
3 : โปรแกรมแสดงเลขตังแต่ 2-100
4 : โปรแกรมแสดงเลขคีตังแต่ 2-100
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 356 :
กําหนด a[] = {7,3,2,5,6}; ความหมายของ a[3] จะมีคา่ เท่าใด
1 : 7
2 : 3
3 : 2
4 : 5
5 : 6
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
ข ้อที 357 :
สท
ข ้อใดถูกต ้องทีสุด
ิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 80/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 358 :
ข ้อความ “Hello-World” ต ้องใช ้ตัวแปรอะเรย์ชนิด char จํานวนกีตําแหน่ง
กร
1 : 9
2 : 10
ิ ว
3 : 11
าวศ
4 : 12
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สภ
ข ้อที 359 :
จาก Flow chart ทีกําหนดหลังจบโปรแกรมจงหาค่า matrix และหาค่าวนรอบจุด A , B ,C,E จุดละกีรอบ เมือตําแหน่ง
Array เริมที a[1][1] ,b[1][1] ให ้ค่า n= 1,m=2 ,x=1,y=3
1 : C[2][3]={ 12 , -10 ,35 ,5 ,9,14} วนรอบจุด A = 2 รอบ ,จุด B =2 รอบ,จุด C=2 รอบ ,จุด E =6 รอบ
2 : C[2][3]={ 12 , -13 ,35 ,5 ,9,13} วนรอบจุด A = 2 รอบ ,จุด B =2 รอบ,จุด C=3 รอบ ,จุด E = 7 รอบ
3 : C[2][3]={ 12 , -7 ,35 ,5 ,9,14} วนรอบจุด A = 2 รอบ ,จุด B =2 รอบ,จุด C=2 รอบ ,จุด E =7 รอบ
4 : C[2][3]={ 12 , -13 ,35 ,5 ,9,14} วนรอบจุด A = 2 รอบ ,จุด B =2 รอบ,จุด C=2 รอบ ,จุด E =6 รอบ
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 360 :
ธิ
สท
ิ
วน
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 81/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
รหัสเทียม(pseudocode) ต่อไปนีตรงกับการทํางานในข ้อใด
กร
ิ ว
าวศ
สภ
1 : การเรียงตัวเลขจากน ้อยไปหามาก
2 : การเรียงตัวเลขจากมากไปหาน ้อย
3 : การหาผลรวมตัวเลขในอาร์เรย์ B โดยใช ้อาร์เรย์ A และ C ช่วย
4 : การหาผลรวมตัวเลขในอาร์เรย์ C โดยใช ้อาร์เรย์ A และ B ช่วย
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 361 :
จากรหัสเทียม(pseudocode)ทีกําหนดให ้ หากมีการเปลียนบรรทัดที 7 เป็ น for j = 1 to length[A] จะเกิดผลตรงกับข ้อ
ใด
ธิ
สท
ิ
3 : การเรียงตัวเลขจากมากไปหาน ้อย
4 : การเรียงตัวเลขจากน ้อยไปหามาก
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 82/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 362 :
ั X ต่อไปนี
กําหนดรหัสเทียม(pseudocode)ของฟั งก์ชน
กร
ิ ว
าวศ
สภ
1 : 1
2 : 3
3 : 5
4 : 7
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 363 :
ั X ต่อไปนี
กําหนดรหัสเทียม(pseudocode) ของฟั งก์ชน
ธิ
สท
ิ
1 : 2
วน
2 : 4
3 : 6
สง
4 : 8
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 83/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
กร
ข ้อที 364 :
ั X ต่อไปนี
กําหนดรหัสเทียม(pseudocode) ของฟั งก์ชน
ิ ว
าวศ
สภ
1 : 1
2 : 2
3 : 3
4 : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 365 :
ธิ
สท
ิ
วน
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 84/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
กําหนดรหัสเทียม(pseudocode) ของโปรแกรม Y ซึงมีการเรียกใช ้งานฟั งก์ชน
ั X ดังต่อไปนี
กร
ิ ว
าวศ
สภ
1 : 12
2 : 8
3 : 7
4 : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 366 :
ธิ
สท
ิ
วน
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 85/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
กําหนดรหัสเทียม(pseudocode) โปรแกรม Y ซึงมีการเรียกใช ้งานฟั งก์ชน
ั X ดังต่อไปนี
กร
ิ ว
าวศ
สภ
1 : 1
2 : 10
3 : 9
4 : 21
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 367 :
คําสังใดมักนิยมใช ้ในการนํ าข ้อมูลเข ้าไปเก็บและแสดงผลข ้อมูลในตัวแปรชุด
1 : loop
2 : while
3 : do-while
4 : for
5 : do-until
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 368 :
จากคําสังต่อไปนีเมือทําจนจบคําสัง ข ้อความทีเก็บในC[ ] คืออะไร
str[ ] = “Hello World”;
ธิ
i = 0;
for (k=10; k>=0; k--){
สท
C[k] = str[i];
ิ
i = i + 1;
}
วน
1 : Hello World
2 : World
สง
3 : dlroW olleH
4 : dlroW
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 86/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
กร
ิ ว
ข ้อที 369 :
าวศ
้จาก algorithm ด ้านล่างนี จงหา ค่าของตัวแปร what ทีพิมพ์ออกมา
----------------------------------------------------------------------
score = {1, 4, 8, 5, 6, 2}
what = score[0]
สภ
FOR (index=0; index < 6; index=index+1) {
if ( score[index] > what ) {
what = score[index];
}
}
print(what)
1 : 1
2 : 8
3 : 6
4 : 2
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 370 :
ค่าทีเก็บในตัวแปรชุด a[ ][ ] หลังจากการทํางานของโปรแกรมคือข ้อใด
int a[3][4];
int i,j;
for(i=0; i<3; i++)
for(j=0; j<4; j++)
a[i][j] = i*j;
1 :000 0
0 000
0 123
2 :000 0
0 123
0 236
3 :000 0
0 123
0 146
4 :000 0
0 123
0 246
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 371 :
กําหนดให ้ int data[6][5][4];
ถ ้าต ้องการให ้ตัวแปรตัวที 20 เก็บค่า 100 เราต ้องใช ้คําสังอย่างไร?
1 : data[0][4][3] = 100;
2 : data[1][4][3] = 100;
3 : data[1][3][3] = 100;
4 : data[0][3][3] = 100;
ธิ
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
สท
ิ
วน
ข ้อที 372 :
ถ ้า y = { 1, 9, 2, 6, 7 };
สง
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 87/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
2:9
3:2
4:6
กร
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ิ ว
ข ้อที 373 :าวศ
ถ ้า y[3][3] = {{7, 4, 5}, {6, 1, 8}, {2, 3, 4}};
สภ
y[2][1] มีคา่ เท่าไร
1 : 1
2 : 3
3 : 4
4 : 6
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 374 :
int function_x(int x[] int len) { int temp = x[0]; for(int i=1; i
1 : เรียงค่าน ้อยไปหาค่ามาก
2 : เรียงค่ามากไปหาค่าน ้อย
3 : ค ้นหาค่าทีน ้อยทีสุด
4 : ค ้นหาค่าทีมากทีสุด
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 375 :
จากโปรแกรมด ้านล่าง ค่าของ x[7] และ d[7] จะมีคา่ เท่าใด int x[8] = 0; int d[8] = 0; int k; for(k=1;k<8;k++) {
x[k] = (2*k-1); d[k] = d[k-1] + x[k]; }
1 : 9, 25
2 : 11, 36
3 : 13, 49
4 : 15, 64
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 376 :
กําหนดให ้ตัวแปร x และ y เป็ นแถวลําดับ (array) ทีมี 1 มิตแ ิ ละมีคา่ ดังนี
x[n] = y[n]
โดยที n เป็ นเลขจํานวนเต็ม ถ ้า n มีคา่ 3 และ y[3] มีคา่ 4 แล ้ว x[3] จะมีคา่ เท่าใด
1 : 1
2 : 2
3 : 3
4 : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 377 :
ธิ
ถ ้ามีการประกาศตัวแปรอาร์เรย์ของ float โดย float y[10][10]; อาร์เรย์ y มีขนาดเป็ นกี byte (กําหนดให ้ float มีขนาด
สท
เท่ากับ 4 byte)
ิ
1 : 200
วน
2 : 242
3 : 400
4 : 484
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 88/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 378 :
กร
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี
ิ ว
เริมต ้นโปรแกรม
าวศ
รับค่า i
ทําซํา โดยให ้ count = 1 ถึง i
x[i] = i + 1
จบทําซํา
สภ
จบโปรแกรม
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 379 :
กําหนดให ้โปรแกรมมีขนตอนการทํ
ั างานดังนี
เริมต ้นโปรแกรม
i=8;
x[1] = 1 ; x[2] = 1 ;
ทําซําโดยให ้ count = 3 ถึง i
x[i] = x[i – 1] + x[i - 2]
จบทําซํา
จบโปรแกรม
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 380 :
จาก char fruit [5] [20] = {“apple”, “banana”, “cherry”, “orange”, “strawberry”}; ข ้อใดคือค่าของ fruit [3] [0]
1 : ‘a’
2 : ‘c’
3 : ‘b’
4 : ‘o’
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 381 :
ถ ้า int num[5] = {8,12,20,5,40}; ข ้อใดเป็ นคําตอบของ y เมือ int y = num[1]*num[3]–num[4];
ธิ
1 : num[0]
สท
2 : num[1]
3 : num[2]
ิ
4 : num[3]
วน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 89/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 382 :
จาก pseudocode:
กร
a: array of 2*10;
b: array of 5*2;
ิ ว
for a_x=1 to 2
าวศ
b(a_x,a_x)=a_x;
for a_y=1 to 10;
a(a_x,a_y)=a_x*a_y;
end
สภ
end
c=a(5,2)+b(2,2);
ผลลัพธ์ของ c คือ
1 : 1
2 : 2
3 : 12
4 : 7
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 383 :
ให ้ A[1..N] เป็ น อะเรย์ หนึงมิต ิ ขนาด N
โปรแกรมต่อไปนีทําอะไร
M = A[1]
FOR K =2 TO N
IF M < A[K] THEN M = A[K]
END
1 : หาค่า MAX A[1..N]
2 : หาค่า MIN A[1..N]
3 : หาว่า มีคา่ ใดน ้อยกว่า M หรือไม่
4 : หาว่า มีคา่ ใดมากกว่า M หรือไม่
คําตอบทีถูกต ้อง : 1
ข ้อที 384 :
ให ้ A[1..N] เป็ น อะเรย์ หนึงมิต ิ ขนาด N
A[1]=1 A[2]=2 ... A[N]=N
เมือโปรแกรมจบ A[5] มีคา่ เท่าไร
FOR K = 2 TO N
A[K] = A[K-1] + A[K]
END
1 : 5
2 : 9
3 : 11
4 : 15
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
ข ้อที 385 :
ให ้ B[1..N, 1..N] เป็ น อะเรย์ 2 มิต ิ ขนาด N x N
สท
FOR J = 1 TO N
วน
FOR K = 1 TO J
B[J,K] = B[J,K] + 1
สง
END
1:N
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 90/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
2 : 2N
3 : NxN
4 : N(N+1)/2
กร
5 : ผิดทุกข ้อ
ิ ว
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 386 :
าวศ
สภ
จากโปรแกรม ตัวแปร a รับค่าได ้มากทีสุดกีค่า
1 : 30
2 : 60
3 : 90
4 : 120
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ข ้อที 387 :
กําหนดให ้
a = {3,5,7,2};
b = {1,9,9,1};
จงหาค่าของ b[a[3]] + a[b[3]]
1 : 10
2 : 12
3 : 14
4 : 16
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 388 :
ต่อไปนีข ้อใดต ้องใช ้ตัวแปรเป็ นอาเรย์ 2 มิต ิ
วน
1 : เพือเก็บคะแนนของนักเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ 100 คน
2 : เพือเก็บคะแนนนักเรียน 5 วิชา
สง
3 : เพือเก็บปริมาณนํ าฝนแต่ละเดือนในช่วง 10 ปี
4 : เพือเก็บจํานวนนักเรียนของโรงเรียน 100 โรง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 91/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
กร
ิ ว
ข ้อที 389 :
าวศ
ดูโจทย์จากรูปภาพประกอบคําถาม
สภ
1 : 10
2 : 20
3 : 30
4 : 60
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 390 :
ธิ
สท
ิ
วน
สง
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 92/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ดูโจทย์จากรูปภาพประกอบคําถาม
กร
ิ ว
าวศ
สภ
1 : read(a[i,j])
2 : read(a[j,i])
3 : write(a[Sun,5])
4 : write(a[Thurs,5])
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 391 :
n=6
ธิ
สท
1 : [7,6,5,4,3,2,1]
ิ
2 : [1,1,1,1,1,1,1]
วน
3 : [7,7,7,7,7,7,7]
4 : [1,2,3,4,5,6,7]
สง
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 93/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
ข ้อที 392 :
ถ ้าต ้องการทําการประกาศตัวแปร A เพือเก็บข ้อมูลเมตริกซ์ทมี
ี ขนาด 4 X 4 ควรประกาศตัวแปรอย่างไร
กร
1 : A : Array [1..4] of Integer ;
2 : A : Array [1..4, 1..4 ] of Integer ;
ิ ว
3 : A : Array [1..4, 1..4, 1..4, 1..4] of Integer ;
าวศ
4 : ไม่มข
ี ้อใดถูก
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
สภ
ข ้อที 393 :
ถ ้า Array 1 มิต ิ ชือ A มีขนาด 8 ช่องข ้อมูล แล ้วต ้องการเก็บค่า 20 ไว ้ในตําแหน่ง(Index)ที 5 จะต ้องเขียนคําสังอย่างไร
1 : A[8] := 20;
2 : A[5] := 20 ;
3 : Readln( A[5] )
4 : For i := 1 to 8 Do Readln( A[i] ) ;
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
ข ้อที 394 :
Var A : Array [0..10] of integer; B : Array [1..10] of real; C : Array [1..2,-1..3,1..3,0..3] of integer; ถ ้าต ้องการ
เขียนคําสังในการกําหนดให ้ Array B มีคา่ เป็ น 0 ทังหมด จะต ้องเขียนคําสังอย่างไร
1 : B[1..10] := 0;
2 : B := 0;
3 : For i := 1 to 10 do B[i] := 0;
4 : ถูกทุกข ้อ
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 395 :
Var A : Array [0..10] of integer; B : Array [1..10] of real; C : Array [1..2,-1..3,1..3,0..3] of integer; ตัวแปร C
เป็ นตัวแปร Array แบบกีมิต ิ (Dimension) และสมาชิก (Element) ทังหมดกีจํานวน
1 : 4 มิต ิ , 54 จํานวน
2 : 4 มิต ิ , 96 จํานวน
3 : 4 มิต ิ , 120 จํานวน
4 : 2x2 มิต ิ , 96 จํานวน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 396 :
จากโจทย์ตอ ่ ไปนี For i := 1 to 5 Do For j := 1 to 3 Do Readln (X[i,j]) ; มีการรับข ้อมูลเข ้าไปไว ้ในตัวแปร X กี
จํานวน ?
1 : 3
2 : 5
3 : 8
4 : 15
คําตอบทีถูกต ้อง : 4
ธิ
สท
ิ
ข ้อที 397 :
วน
ถ ้าต ้องการนํ าค่า 16 นํ าไปเก็บไว ้ในตัวแปร Array ชือ X ลําดับที 5 จะต ้องเขียนคําสังอย่างไร
1 : X : Array[ 5 , 16] of Integer ;
สง
2 : X[ 5 ] := 16 ;
3 : X[ 16 ] := 5 ;
4 : 16 = X[ 5 ] ;
ขอ
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 94/95
16/4/2563 สภาวิศวกร
ขอ
คําตอบทีถูกต ้อง : 2
กร
ิ ว
ข ้อที 398 :
าวศ
จากโจทย์ตอ ่ ไปนี B := A[ i,j,k ] ; จงบอกมิต(ิ Dimension )ของตัวแปร A
1 : 1
2 : 2
สภ
3 : 3
4 : 4
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
ข ้อที 399 :
จากการประกาศ Array ต่อไปนี A : Array[’A’..’F’,’5’..’7’] of Real ; Array A มีเนือทีในการเก็บข ้อมูลเลขจํานวนจริง
สูงสุดเท่าใด
1 : 1จํานวน
2 : 9จํานวน
3 : 18จํานวน
4 : 20จํานวน
คําตอบทีถูกต ้อง : 3
สภาวิศวกร 487/1 ซอย รามคําแหง 39 (เทพลีลา 1) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 สายด่วน 1303
โทรสาร 02-935-6695
@ สงวนลิขสิทธิ 2555 สภาวิศวกร : ติดต่อสภาวิศวกร | Contact
203.170.248.248/memexam/main/app4011.php?aSubj=10&aMajid=0&aDb=0 95/95