Professional Documents
Culture Documents
การซ่อมบารุงรักษาคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ในเบื้องต้น
ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
ส่วนประกอบภายนอกของคอมพิวเตอร์ มีดังนี้
๑) Monitor ใช้แสดงผลทั้งข้อความ ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว จอภาพในปัจจุบัน ส่วนมากใช้จอ
แบบหลอดภาพ (CRT) และจอแบบผลึกเหลว
๒) Computer case เก็บอุปกรณ์หลักของคอมพิวเตอร์ เช่น CPU, Disk Drive, Hard Disk ฯลฯ
๓) Keyboard ใช้พิมพ์คาสั่ง หรือป้อนข้อมูล มีลักษณะคล้ายแป้นพิมพ์ดีด แต่มีปุ่มพิมพ์มากกว่า
๔) Mouse ใช้ชี้ตาแหน่งบนจอภาพ เพื่อสั่งให้คอมพิวเตอร์ทางาน เช่นเดียวกันกับการป้อนคาสั่งทาง
คีย์บอร์ด
๕) Printer อุปกรณ์แสดงผลข้อมูลออกมาทางกระดาษ
๖) Scanner อุปกรณ์นาเข้าข้อมูลที่เป็นรูปภาพหรือข้อความมาสแกน แล้วจัดเก็บไว้เป็นไฟล์ภาพ
เพื่อนาไปใช้งานต่อไป
ส่วนประกอบภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย
๑) เมนบอร์ด (Matherboard) คือแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์หลักของคอมพิวเตอร์อุปกรณ์
อิเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้นของคอมพิวเตอร์ จะต้องเชื่อมเข้ากับเมนบอร์ด เมนบอร์ดจะมี Chipset ที่เป็นตัวควบคุม
การส่งผ่านข้อมูลจากอุปกรณ์หนึ่งไปยังอีกตัวหนึ่ง หากอยากรู้ว่าคอมพิวเตอร์หรือเมนบอร์ดที่ใช้อยู่มี
อุปกรณ์ Onboard อะไรแถมมาด้วยให้ดูที่ด้านท้ายเคสซึ่งจะมีพอร์ตสาหรับต่อเมาส์ และคีย์บอร์ด ถ้าหาก
เมนบอร์ดมีอุปกรณ์ Onboard อื่นให้มาด้วยก็จะมีพอร์ตสาหรับอุปกรณ์นั้น เช่น พอร์ต Modem, Lan, VGA,
Sound คือถ้าพบมีพอร์ตดังกล่าวอยู่ท้ายเคสก็ให้เสียบใช้งานได้ทันที
๒) หน่วยประมวลผลกลาง (CPU-Central Processing Unit) เป็นอุปกรณ์หลักของคอมพิวเตอร์ ทา
หน้าที่คานวณ ประมวลผลและควบคุมอุปกรณ์อื่นๆ ประกอบด้วย ๓ หน่วยคือ หน่วยความจาหลัก หน่วย
คณิตศาสตร์หรือหน่วยคานวณ และหน่วยควบคุม
๓) หน่วยความจาแรม (RAM-Random Access Memory) เป็นหน่วยความจาหลักที่ใช้พักข้อมูล
ชั่วคราวระหว่างอุปกรณ์บันทึกข้อมูลต่างๆกับหน่วยประมวลผลกลาง เมื่อปิดเครื่อง ข้อมูลที่อยู่ในแรมจะ
หายไป
๔) หน่วยความจารอม (ROM-Read Only Memory) เป็นหน่วยความจาถาวรที่ใช้บันทึกข้อมูลของ
อุปกรณ์ที่ตดิ ตั้งบนเมนบอร์ด เช่น ขนาดและประเภทของฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ ขนาดของแรม หน่วยประมวลผลที่ใช้
การติดตั้งซีดีรอม เป็นต้น และใช้เก็บคาสั่งที่มักใช้บ่อยๆ เช่น คาสั่งเริ่มต้นการทางานของคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่
บันทึกในรอม จะยังคงอยู่แม้จะปิดเครื่อง มักจะเป็นข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก
๕) ช่องเสียบอุปกรณ์เพิ่มเติม (Expansion Slot) เรียกกันทั่วไปว่า “สล๊อต” ทาหน้าที่ให้การ์ดขยาย
เสียบเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างการ์ดขยายกับเมนบอร์ด
๖) การ์ดขยาย (Expansion Card) เป็นอุปกรณ์คล้ายบัตร หรือ การ์ดขนาดใหญ่จึงเรียกว่า การ์ด
ขยาย ทาหน้าที่เฉพาะด้าน เช่น การ์ดแสดงผล การ์ดเสียง
๗) จานบันทึกข้อมูลแบบแข็ง (Hard Disk) เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลหลักของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทา
หน้าที่ในการจัดเก็บข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น ระบบปฏิบัติการ (OS), โปรแกรมต่างๆ, ข้อมูลไฟล์ภาพ,
ไฟล์เสียง เป็นต้น มีลักษณะเป็นฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแม่เหล็ก ชนิดของฮาร์ดดิสก์ ตามการเชื่อมต่อ แบ่ง
๒
การบารุงรักษาคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
การบารุงรักษาคอมพิวเตอร์เบื้องต้น แบ่งออกเป็นหลักๆ ได้ ๓ อย่าง คือ
๑) Hardware หรือพวกอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ภายใน และภายนอกเครื่องคอมพิวเตอร์
๒) Software หมายถึง โปรแกรมหรือชุดคาสั่ง ที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อใหเครื่องคอมพิวเตอรทางานตาม
คาสั่งรวมทั้งการสั่งงานและควบคุมการทางานของสวนฮารดแวร ซอฟตแวรสาหรับเครื่องคอมพิวเตอร์
สามารถแบงออกไดเปน ดังนี้
๓) บุคลากร (Peopleware) หมายถึง บุคลากรในงานดานคอมพิวเตอรซึ่งมีความรูเกี่ยวกับ
คอมพิวเตอรและสามารถใชงาน หรือสั่งงานคอมพิวเตอรได้
บุคลากร หรือผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ มีส่วนสาคัญในการดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ให้มีอายุการใช้งานที่
ยาวนาน และมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้ควรอ่านหน้าจอที่ขึ้นแจ้งเตือนมา อ่านก่อนคลิก ว่าจะต้องทาอะไรบ้าง
ภาษาอังกฤษถ้าแปลไม่ได้จริงๆ ปัจจุบันมีโปรแกรมแปลหลายแบบ เมื่อแปลแล้วอาจไม่ตรงแต่ก็พอจะเดาๆ ได้
แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ควรจะถามจากผู้รู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ และนอกจากนั้นอารมณ์ก็มีส่วนสาคัญ ไม่
ควรมีอารมณ์ประเภทเปิดไม่ทันใจ หรือค้าง ก็เคาะคีย์บอร์ดแรงๆ กระแทกเมาส์แรงๆ ดับเบิ้ลคลิกถี่ๆ มันไม่ได้
ช่วยให้เครื่องทางานได้เร็วขึ้น แต่กลับช้ามากขึ้น ถึงขั้นเครื่องค้างไปเลย และผู้ใช้ควรกระทาการต่างๆกับ
คอมพิวเตอร์โดยมีความรู้ เช่นการเสียบอุปกรณ์ในช่องเสียบ การใช้งานโปรแกรมต่างๆ และพฤติกรรมการใช้
งานเว็บไซต์ที่เหมาะสม ถ้าบุคลากรมีปัญหาไม่เข้าใจความหมายของหน้าจอที่ขึ้นแจ้งเตือนมา สามารถ
สอบถามผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ของสาขาฯ ได้แก่ นางสาวสุธิดา คงผล และนายสมเกียรติ แซ่โค้ว
๖
การบารุงรักษา Hardware
การบารุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ จาเป็นต้องใช้วัสดุที่มีคุณภาพและได้รับ
การออกแบบมาสาหรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ ได้แก่ น้ายาทาความสะอาดส่วนภายนอกของเครื่อง
คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ น้ายาทาความสะอาดจอภาพ ชุดน้ายาทาความสะอาด DVD Drive ผ้า
นุ่ม/ฟองน้า/ผ้าสักหลาด/คัดตอนบลัด ไม้ปัดฝุ่นชนิดดีสามารถดูดฝุ่นได้ เครื่องดูดฝุ่นสาหรับคอมพิวเตอร์
สเปรย์สาหรับทาความสะอาดส่วนเชื่อมต่างๆ แอลกอฮอล์ น้ามันหล่อลื่น แปรงปัดฝุ่น
๑) การบารุงรักษาตัวเครื่องคอมพิวเตอร์
๑.๑) ทาความสะอาดภายนอกตัวเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างสม่าเสมอ โดยใช้ผ้าสักหลาดหรือผ้านุ่ม
สาหรับเช็คฝุ่นละออง ชุบน้ายาทาความสะอาด หรือชุบน้าบิดให้แห้ง
๑.๒) ตรวจดูช่องระบายอากาศ ถ้ามีฝุ่นละอองควรเช็คออกด้วย หรือเป่าฝุ่นออก
๑.๓) ทาความสะอาดภายในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยด้วยการเป่าฝุ่นออก โดยช่างผู้เชี่ยวชาญได้แก่
นางสาวสุธิดา คงผล และนายสมเกียรติ แซ่โค้ว และควรดาเนินการทุกๆ ๓ เดือน
๑.๔) ไม่ควรเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้นานๆ โดยไม่ได้ใช้ ถึงแม้คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆ จะมีระบบ
ประหยัดพลังงานในระหว่างที่เปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้โดยไม่ใช้งานก็ตาม
๑.๕) อย่าปิดเปิดเครื่องบ่อยโดยไม่จาเป็น
๒) การบารุงรักษาจอภาพ
๒.๑) ทาความสะอาดตัวจอภาพโดยใช้ผ้าสักหลาดหรือผ้านุ่มสาหรับเช็คฝุ่นละออง ใช้น้ายาสาหรับ
ทาความสะอาดจอภาพ ฉีดลงบนผ้านุ่มแล้วนาไปเช็คจอภาพ ห้ามใช้น้าเช็คจอภาพ
๒.๒) เมื่อต้องการใช้งานคอมพิวเตอร์ ให้เปิดสวิตซ์ไฟจอภาพก่อนที่จะเปิดสวิตซ์ไฟที่ตัวเครื่อง
๒.๓) ปรับความสว่างของจอภาพให้เหมาะสมกับสภาพของห้องทางาน เพราะถ้าสว่างมากเกินไป
ย่อมทาให้จอภาพอายุสั้นลง
๒.๔) อย่าเปิดฝาหลัง MONITOR ซ่อมเอง เพราะจะเป็นอันตรายจากกระแสไฟฟ้าแรงสูง
๒.๕) เมื่อมีการเปิดจอภาพทิ้งไว้นานๆ ควรจะมีการเรียกโปรแกรมถนอมจอภาพ (Screen Sever)
ขึ้นมาทางานเพื่อยืดอายุการใช้งานของจอภาพ อย่าให้วัตถุหรือน้าไปกระทบหน้าจอคอมพิวเตอร์
๓) การบารุงรักษาเมาส์
๓.๑) ทาความสะอาดตัวเมาส์โดยใช้ผ้าสักหลาดหรือผ้านุ่มสาหรับเช็ดฝุ่นละออง
๓.๒) การทาความสะอาดภายในตัวเมาส์ มีวิธี ดังนี้
-ถอดสายที่เชื่อมต่อระหว่างเมาส์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ออก
-กลับเมาส์ด้านล่างขึ้นมาด้านบนและหมุนสลักที่ปิดแผ่นคลุมลูกกลิ้งออกเพื่อนาลูกกลิ้งสาหรับ
เมาส์ ออกจากกลักลูกกลิ้ง
-ใช้ผ้าเปียกชุบน้าสบู่เพื่อนามาทาความสะอาดลูกกลิ้ง
-เช็ดลูกกลิ้งของเมาส์ให้แห้งด้วยผ้านุ่ม
-ใช้ผ้านุ่มทาความสะอาดภายในกลักของลูกกลิ้ง กาจัดฝุ่นออกจากภายในกลักลูกกลิ้ง
-ทาความสะอาดลูกเลื่อนของเมาส์ที่อยู่ภายในกลักเมาส์โดยใช้ผ้าสะอาด หลังจากนั้นเช็ดฝุ่น
และคราบน้ามันออกจากลูกเลื่อนดังกล่าว
-นาเอาลูกกลิ้งใส่ลงไปในกลักลูกกลิ้งเหมือนเดิม พร้อมทั้งปิดฝาของกลักลูกกลิ้ง
-ใส่สายที่เชื่อมต่อระหว่างเมาส์เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์เหมือนเดิม
-เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และตรวจสอบการทางานของเมาส์
๗
๔) การบารุงรักษาคีย์บอร์ด
๔.๑) ถอดสายที่เชื่อมต่อระหว่างคีย์บอร์ดและเครื่องคอมพิวเตอร์
๔.๒) ใช้ผ้าสักหลาดหรือผ้านุ่มเช็ดฝุ่นละออง เช็ดฝุ่นออกจากตัวคีย์บอร์ด และปุ่มต่างๆ บนคีย์บอร์ด
๔.๓) คว่าคีย์บอร์ดบนพื้นที่นุ่มแล้วเคาะเบาๆ เพื่อให้ผงชิ้นเล็กๆ ที่อาจตกลงไปในคีย์บอร์ดหลุด
ออกมา
๔.๔) ใส่สายที่เชื่อมต่อระหว่างคีย์บอร์ดเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์เหมือนเดิม
๔.๕) เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และตรวจสอบการทางานของคีย์บอร์ด
๕) การบารุงรักษา DVD-ROM Drive และแผ่น CD/VCD/DVD
๕.๑) ใช้แผ่น DVD สาหรับล้างหัวอ่าน DVD-ROM Drive ทาความสะอาดหัวอ่าน DVD เป็นประจา
ทุกๆ เดือน โดยใส่แผ่น DVD สาหรับล้างหัวอ่านไปในช่อง DVD-ROM Drive แล้วรอสักครู่ จนไฟที่ DVD-
ROM Drive ติด และดับลง
๕.๒) ใช้ผ้านุ่มเช็ดแผ่น CD/VCD/DVD ในกรณีที่เห็นว่าแผ่นมีฝุ่นจับอยู่ และห้ามขูดขีดแผ่น รวมทั้ง
ไม่ควรติดสติ๊กเกอร์บนแผ่นด้วย
๕.๓) อย่าเก็บแผ่น CD/VCD/DVD หรือใช้งานในสถานที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว
หรือสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงอาจเป็นสาเหตุให้แผ่นเสียหายได้
๖) การบารุงรักษาเครื่องพิมพ์ชนิด Dot Matrix
๖.๑) ทาความสะอาดเครื่องพิมพ์ โดยดูดฝุ่น เศษกระดาษที่ติดอยู่ในเครื่องพิมพ์ทุกเดือน หรือใช้
แปรงขนนุ่มปัดฝุ่นเศษกระดาษออกจากเครื่องพิมพ์
๖.๒) ทาความสะอาดภายนอกตัวเครื่องพิมพ์ โดยใช้ผ้านุ่มหรือฟองน้าชุบน้ายาทาความสะอาด
เช็ดถูส่วนที่เป็นพลาสติก
๖.๓) ก่อนพิมพ์ทุกครั้งควรปรับความแรงของหัวเข็มให้พอเหมาะกับความหนาของกระดาษ
๖.๔) ระหว่างพิมพ์ควรระวังหัวพิมพ์จะติดกระดาษ ควรจัดกระดาษที่เหมาะสมกับเครื่องพิมพ์นั้น
๖.๕) อย่าถอด หรือเสียบสายเชื่อมต่อระหว่างเครื่องพิมพ์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ในขณะที่
เครื่องพิมพ์ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์กาลังทางานอยู่
๖.๖) ไม่ควรพิมพ์กระดาษติดต่อกันนานเกินไปเพราะอาจทาให้หัวอ่านร้อนมากทาให้เครื่องชะงัก
หยุดพิมพ์ได้
๖.๗) เมื่อเลิกพิมพ์งานควรนากระดาษออกจากถาดกระดาษ และช่องนากระดาษ
๗) การบารุงรักษาเครื่องพิมพ์ชนิด Laser และ InkJet
๗.๑) ทาความสะอาดภายนอกตัวเครื่องพิมพ์ โดยใช้ผ้านุ่มหรือฟองน้าชุบน้ายาทาความสะอาด
เครื่องใช้สานักงานเช็ดถูส่วนที่เป็นพลาสติก
๗.๒) ใช้กระดาษที่เหมาะสมกับเครื่องพิมพ์ โดยไม่ควรใช้กระดาษที่หนาเกินไปจะทาให้กระดาษติด
เครื่องพิมพ์ได้
๗.๒) ควรกรีดกระดาษทุกครั้งก่อนจะใส่ลงในช่องใส่กระดาษ ระวังอย่าให้กระดาษติดกัน เพราะ
อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทาให้กระดาษติดในตัวเครื่องพิมพ์ได้
๘) การทาความสะอาดเครื่องสแกนเนอร์ (Scanner)
๘.๑) ใช้ผ้าสักหลาดหรือผ้านุ่มเช็ดฝุ่นละออง ทาความสะอาด
๘.๒) ส่วนที่เป็นกระจกให้ใช้ผ้าสักหลาดเช็ดทาความสะอาด
๘
๕) จะปรากฏหน้าต่างแสดงโปรแกรมกาลังประมวลผลและปล่อยให้โปรแกรมทางานไปจนกว่าจะ
เสร็จสิ้น เมื่อเสร็จสิ้นก็จะกลับสู่หน้าต่าง Properties ก็ให้คลิกปุ่ม OK เพื่อออกจากหน้าจอการทางานนี้ เป็นอัน
เสร็จสิ้น
๓) เข้าสู่หน้าจอหลักของโปรแกรม CCleaner
โปรแกรมจะทาการแสกนไฟล์ขยะที่ซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆในเครื่องของเราทั้งหมดออกมาเป็นรายชื่อไฟล์
รวมถึงแจ้งขนาดของไฟล์ขยะ
๕) จากนั้นคลิก Run Cleaner ปรากฏหน้าต่าง Process เลือกถูกในช่อง แล้วคลิก OK และให้เรารอ
สักครู่ (โปรแกรมกาลังทาการลบข้อมูลขยะอยู่)
๑๓
๔) สามารถทาการ Analyze disk ก่อนทาการ Defragment disk โดยคลิกที่ปุ่ม Analyze disk เมื่อ
ประมวลผลเสร็จก็คลิกที่ปุ่ม Defragment disk และปล่อยให้โปรแกรมทางานไปจนกว่าจะเสร็จสิ้น
มัลแวร์/ไวรัส ในเครื่องคอมพิวเตอร์
มัลแวร์ (Malware) ย่อมาจากคาว่า Malicious Software สถาบันคอมพิวเตอร์จะอธิบายคา
ว่ามัลแวร์ว่าคือโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อประสงค์ร้ายต่อเครื่องคอมพิวเตอร์และเพื่อมาล้วงข้อมูลสาคัญไป
จากผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ โดยมัลแวร์ที่เรารู้จักกันดีก็คือ ไวรัส (Virus) เวิร์ม (Worm) โทรจัน (Trojan Horse)
สปายแวร์ (Spyware) คีย์ล๊อกเกอร์ (Key Logger) คุ้กกี้ (Cookie) และการ Malicious Mobile Code
(MMC) ทีอ่ าศัยช่องโหว่ของโปรแกรมบราวเซอร์ ถ้าเกิดมัลแวร์เหล่านี้ได้เข้ามาอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์จะ
เกิดผลกระทบมากมาย สิ่งที่เห็นได้ชัดเมื่อมัลแวร์มาอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็คือการทางานของเครื่อง
คอมพิวเตอร์จะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด และมีการส่งข้อมูลผ่านอีเมล์แบบที่ผู้ใช้งานไม่รู้ โดยมัลแวร์จะพยายาม
ซ่อนตัวอยู่ในรีจิสทรีของระบบปฏิบัติการณ์ (Operating system) เมื่อเราถูกคุกคามโดยมัลแวร์ เราควรที่จะ
หาโปรแกรมป้องกันไวรัสมากาจัดมัลแวร์เหล่านี้ให้ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งโปรแกรมป้องกันเหล่านี้จะ
ช่วยป้องกันและกาจัดและตรวจสอบมัลแวร์อยู่ตลอดเวลา
มัลแวร์มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น ๖ ชนิดด้วยกันคือ
๑) ไวรัส (Virus) เป็นโปรแกรมที่ติดต่อจากไฟล์หนึ่งไปสู่อีกไฟล์หนึ่งได้ และสามารถส่งผ่านไฟล์ด้วย
การแนบไวรัสไปกับไฟล์ที่เราส่งไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งได้ โดยไวรัสจะทาการทาลายทั้งฮาร์แวร์
และซอฟแวร์ในเครื่องพร้อมกับไฟล์ที่ไวรัสแฝงตัวเองเพื่อแพร่กระจายไปสู่เครื่องอื่นๆด้วย
๒) เวิร์ม (Worm) สามารถที่จะแพร่ขยายตัวเองโดยที่ไม่ต้องมีโปรแกรมอื่นในการแพร่กระจายก็ได้
เช่นกัน เป้าหมายของเวิร์มจะจ้องทาลายระบบเครือข่าย และขยายการแพร่กระจายไปยังคอมพิวเตอร์ตัวอื่นๆ
โดยการส่งอีเมล์หรือช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการ
๑๖
๒) เมื่อมาถึงหน้าต่างขอโปรแกมให้คลิกที่ปุ่ม Scan
๑๗
๓) โปรแกรมก็จะทาการสแกน แล้วรอสักครู่..
๔) เมื่อทาการสแกนเสร็จก็จะมีหน้าต่างแจ้งให้เราว่า การสแกนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
-กรณีไม่พบมัลแวร์หน้าจะแสดงผลตามภาพ แล้วให้คลิกที่ View report > แล้วคลิกที่ Close
๑๘
๕) เสร็จสิ้นขั้นตอนการติดตั้ง
* ข้อแนะนา ก่อนทาการติดตั้ง Antivirus Program ให้ทาการ Backup ข้อมูลของเครื่อง
คอมพิวเตอร์ให้เรียบร้อยก่อน*
๒๑
การซ่อมแซมคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
กระบวนการแก้ปัญหาของคอมพิวเตอร์
กระบวนการแก้ปัญหาของคอมพิวเตอร์ มีดังนี้
๑) ตรวจสอบอาการเสียหรือความผิดปกติของเครื่อง
๒) ตรวจสอบในเบื้องต้น โดยเริ่มจากจุดง่ายๆ ไปหายาก
๓) ตรวจเช็คอุปกรณ์ที่คาดว่าจะเสียทีละอย่าง
๔) ลองซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่สารอง
๕) ตรวจเช็คดูว่าหายหรือไม่ ถ้าไม่หายย้อนกลับไปดาเนินการข้อ ๓
๖) เสร็จสิ้นกระบวนการแก้ปัญหา
ปัญหาคอมพิวเตอร์ สาเหตุและการแก้ปัญหา
ตัวอย่างปัญหา สาเหตุ และการแก้ปัญหาอาการเสียของคอมพิวเตอร์ที่พบบ่อยๆ มีดังนี้
๑) เปิดคอมพิวเตอร์ไม่ได้ อาจเกิดขึ้นได้สาเหตุ ดังนี้
สาเหตุ: ไม่ได้ต่อคอมพิวเตอร์ลงเต้าเสียบที่ด้านหลัง
การแก้ปัญหา: ตรวจดูให้แน่ใจว่าสายไฟนั้นเสียบอยู่ที่เต้าเสียบไปบนฝาผนัง และไฟ AC บนฝาผนังที่
ลงสายกราวนด์ของคอมพิวเตอร์อย่างแน่นหนา
สาเหตุ: คอมพิวเตอร์อาจอยูในโหมด Sleep
การแก้ปัญหา: ตรวจสอบว่าปุ่ม เปิดเครื่องด่วน นั้นสว่างอยู่ และมีไฟสีเหลืองอาพัน ถ้าเป็นเช่นนั้น ให้
กดปุ่มดังกล่าวเพื่อออกจากโหมด Sleep
สาเหตุ: คอมพิวเตอร์โมดูลหน่วยความจาผิดชนิด
การแก้ปัญหา: การใช้โมดูลหน่วยความจาอื่นอาจมีผลทาให้การเริ่มระบบยากขึ้นเมื่อคุณอัปเกรด
เครื่องคอมพิวเตอร์ คุณจะต้องใช้หน่วยความจา EDO ๖๐ นาโนวินาที
๒) การทางานของฮาร์ดไดรฟ์ช้าลง
สาเหตุ: ไฟล์ข้อมูลที่เก็บอยู่บนฮาร์ดดิสก์ อาจอยู่กระจัดกระจาย
การแก้ปัญหา: ตรวจสอบส่วนของข้อมูลที่หายไปโดยการรันโปรแกรม Disk Defragmenter
๓) ไฟแสดงการทางานของฮาร์ดไดรฟ์สว่างแต่ไม่กระพริบ
สาเหตุ: ไฟล์ข้อมูลที่เก็บอยู่บนฮาร์ดดิสก์ของคุณ อาจจะเสียหาย
การแก้ปัญหา: ตรวจสอบส่วนของข้อมูลที่หายไปโดยการรันโปรแกรม Disk Defragmenter
๔) คอมพิวเตอร์ไม่สามารถอ่านแผ่นซีดีได้
สาเหตุ: ไม่ได้วางซีดีในไดรฟ์ในตาแหน่งที่ถูกต้อง
การแก้ปัญหา: ถ้าคุณมีซีดีไดรฟ์แบบโหลดด้วยถาด ให้กดปุ่มนาแผ่นซีดีออก แล้วค่อยๆ กดแผ่นซีดีลง
ในตาแหน่ง ที่เหมาะสมจากนั้นโหลดแผ่นเข้าไปใหม่
สาเหตุ: ระบบไม่รู้จักซีดีไดรฟ์
การแก้ปัญหา: ปิดคอมพิวเตอร์ แล้วคอยอย่างน้อย ๓๐ วินาที จากนั้นเปิดคอมพิวเตอร์ ขึ้นมาใหม่อีก
ครั้ง
สาเหตุ: แผ่นซีดีสกปรก
การแก้ปัญหา: ทาความสะอาดแผ่นซีดีด้วยชุดทาความสะอาด
๕) หน้าจอว่างเปล่า
สาเหตุ: สายเคเบิลที่ต่อเชื่อมจอภาพเข้ากับ คอมพิวเตอร์นั้นหลวมยังหรือไม่ได้เสียบสายจอภาพ
๒๒
แนวทางในการวิเคราะห์ปัญหาเกิดจากเมนบอร์ดมีดังนี้
-ตรวจสอบการเชื่อมต่อของขั้วต่อต่างๆ บนเมนบอร์ดและอุปกรณ์ต่างๆ ให้แน่นและถูกต้อง เช่นขั้วต่อ
สายแพกับฮาร์ดดิสก์, ขั้วต่อสายไฟจากเพาเวอร์ซัพพลายกับกับเมนบอร์ด เป็นต้น
-ตรวจสอบการติดตั้งของอุปกรณ์ต่างๆ บนเมนบอร์ดให้ถูกต้อง เช่น แรม หรือการ์ดต่างๆ บน
เมนบอร์ดให้แน่น
-ตรวจสอบการระบายความร้อนบนอุปกรณ์เมนบอร์ดเช่น พัดลมชิพเซ็ท พัดลมพาวเวอร์ซัพพลาย
หรือพัดลมเสริมตัวอื่นๆ ว่ายังทางานอยู่ดีหรือไม่
-ตรวจสอบการเซ็ตจัมเปอร์และดิปสวิตซ์บนเมนบอร์ดว่ากาหนดค่าต่างๆ ถูกต้องหรือไม่ ส่วนมาก
มักจะเป็นเมนบอร์ดรุ่นเก่าๆ
-ตรวจสอบการกาหนดค่าในไบออสว่ามีการกาหนดค่าถูกต้องและเหมาะสมหรือไม่
-ตรวจสอบถ่านแบตเตอรี่บนเมนบอร์ดว่าหมดแล้วหรือยังถ้าหมดให้เปลี่ยนถ่านใหม่ หากเมนบอร์ด
ถามหาพาสเวิร์ดแล้วจาไม่ได้ให้ทาการเคลียร์ไบออสโดยถอดจัมเปอร์ไปเสียบที่ขา Clear Bios (ดูคู่มือ
เมนบอร์ดประกอบ) หรือจะถอดถ่านแบตเตอรี่ออกมาทิ้งไว้สักพักแล้วใส่เข่าไปใหม่ก็ได้
-ตรวจสอบอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่นามาติดตั้งว่าเข้ากันได้กับเมนบอร์ดหรือไม่ บางครั้งหากผู้ใช้ซื้อ
อุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ มาเมนบอร์ดตัวเดิมจะไม่สามารถรองรับได้ ให้ทาการอัพเดทไบออสเพื่อให้เมนบอร์ดมี
ประสิทธิภาพมากขึ้นสามารถรู้จักกับอุปกรณ์ ใหม่ๆ ได้
หากได้ทาการตรวจสอบขั้นตอนเหล่านี้แล้วยังไม่พบปัญหาก็อาจเป็นไปได้ว่า เมนบอร์ดเสีย ให้เช็คดูว่า
มีกระแสไฟลัดวงจร หรือเมนบอร์ดช๊อตหรือไม่ โดยตรวจสอบแท่นรองน็อตหรือมีวัตถุแปลกปลอมอย่างอื่นที่
สามารถนาไฟฟ้าได้แอบแฝงอยู่บนเมนบอร์ดหรือไม่ ซึ่งปัญหาที่พบบ่อยที่สุดคือ เมื่อผู้ใช้ได้ติดตั้งเมนบอร์ดแล้ว
ลืมน๊อตตกค้างอยู่บนเมนบอร์ดเมื่อมีกระแสไฟจ่ายเข้ามาก็อาจทาให้เมนบอร์ดพังได้ เพราะน๊อตตัวเล็ก ๆ จะ
เป็นตัวนากระแสไฟได้เป็นอย่างดี สรุปคือการที่จะรู้ว่าเมนบอร์ดเสียเปล่าต้องมีการทดสอบคือนาเมนบอร์ดตัว
ใหม่มาทดสอบ
๑๕) ฮาร์ดดิสก์บูตไม่ขึ้น
จริงแล้วสาเหตุที่ฮาร์ดดิสก์บูตไม่ขึ้นนั้นหลายครั้งมักเกิดจากความผิดพลาดทางด้านซอฟต์แวร์ ส่วน
สาเหตุทางด้านฮาร์ดแวร์นั้นส่วนใหญ่มักเกิดจากฮาร์ดดิสก์มีแบดเซ็กเตอร์เป็นจานวนมาก หรือเกิดแบดเซ็กเต
อร์บริเวณพื้นที่ที่เก็บข้อมูลสาคัญของฮาร์ดดิสก์จึงทาให้ฮาร์ดดิสก์ไม่สามารถบูตขึ้นมาได้ โดยจะแสดงอาการ
เงียบไปเฉยๆ หลังจากที่บูตเครื่องขึ้นมาแล้ว หรืออาจฟ้องขึ้นมาว่า No Boot Device หรือ Disk Boot
failure Please insert system disk and please anykey to continue
สาหรับวิธีแก้ไขนั้น ให้เราทาการตรวจสอบแบดเซ็กเตอร์โดยอาจบูตเครื่องขึ้นมาด้วยแผ่นบูตแล้วใช้
คาสั่ง Scandisk หรือโปรแกรม Norton Disk Doctor เวอร์ชั่นดอสตรวจสอบแบ็ดเซ็กเตอร์และซ่อมแซม
ดูก่อน หากมีแบดเซ็กเตอร์มากก็อาจไม่หาย หนทางสุดท้ายคือทา Fdisk แบ่งพาร์ทิชั่นใหม่แล้วพยายามกัน
ส่วนที่เป็นแบดเซ็กเตอร์ออกไป
บางครั้งสาเหตุที่ฮาร์ดดิสก์บูตไม่ขึ้น นิ่งเงียบไปเฉยๆ อาจเกิดจากแผ่น PCB (แผ่นวงจรด้านล่างของ
ฮาร์ดดิสก์) เกิดการช็อต วิธีแก้ไขคือให้นาฮาร์ดดิสก์รุ่นเดียวกัน สเป็คเหมือนกันมาถอดเปลี่ยนแผ่น PCB ก็จะ
ทาให้ฮาร์ดดิสก์ตัวที่ช็อตกลับมาทางานได้เหมือนเดิม
หากต้องการกู้ข้อมูลที่สาคัญกลับมาไม่ควรใช้คาสั่ง Fdisk เด็ดขาดเพราะจะทาให้ข้อมูลที่อยู่ภายใน
ฮาร์ดดิสก์ให้เกลี้ยงไปหมด ในที่นี้แนะนาให้ใช้โปรแกรม Spinrite ในการกู้ข้อมูลสาคัญๆซึ่งโปรแกรมนี้เป็น
โปรแกรมที่ถูกสร้างมาเพื่อกู้ข้อมูลภายในฮาร์ดดิสก์โดยเฉพาะ
๒๕
๑๖) ปัญหาที่เกิดจากซีพียู
ซีพียูเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตค่อนข้างสูงภายในมีรายละเอียดซับซ้อนโดยจะมี
ทรานซิสเตอร์ตัวเล็กๆ อยู่รวมกันนับล้านๆ ตัวทาให้หากมีปัญหาที่เกิดจากซีพียูแล้วโอกาสที่จะซ่อมแซม
กลับคืนให้เป็นเหมือนเดิมนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ช่างคอมพิวเตอร์เมื่อพบสาเหตุอาการเสียที่เกิดจากซีพียูแล้วก็
ต้องเปลี่ยนตัวใหม่สถานเดียว ปัญหาที่เกิดขึ้นกับซีพียูส่วนใหญ่แล้วจะมีเพียง ๒ อาการที่พบได้บ่อยๆ อาการ
แรกคือ ทาให้เครื่องแฮงค์เป็นประจา และอาการที่สองคือวูบหายไปเฉยๆ โดยที่ทุกอย่างปกติ เช่นมีไฟเข้า พัด
ลมหมุน แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นบนหน้าจอ สาเหตุส่วนใหญ่มักจะเกิดจากซีพียูมีความร้อนมากเกินไปจนเมื่อถึง
จุดๆ หนึ่งก็เดี้ยงไปแบบไม่บอกไม่กล่าวเลย สาหรับวิธีแก้ปัญหาก็คือต้องส่งเคลมสถานเดียว
๑๗) RAM
อาการของ RAM หายไปดื้อๆ จะเกิดกับการใช้เมนบอร์ดรุ่นที่มี VGA on board ที่จริงก็ไม่ได้หายไป
ไหนหรอก เพียงแต่ส่วนหนึ่งของ RAM จะถูกนาไปใช้กับ VGA และขนาดที่จะโดนนาไปใช้ก็อาจจะเป็น ๒M, ๔
M, ๘M ไปจนถึง ๑๒๘M ก็ได้ขึ้นอยู่กับการตั้งใน BIOS
๑๘) ปัญหาไดรว์ซีดีรอม
ปัญหานี้มักจะไม่เกิดกับไดรว์ซีดีรอมตัวใหม่ๆ แต่ส่วนใหญ่จะเกิดกับไดรว์ซีดีรอมที่มีการใช้งานมานาน
แล้ว หรือประมาณ ๑ ปีขึ้นไป และสาเหตุที่เห็นกันบ่อยก็คือหัวอ่านสกปรก ส่วนใหญ่จะเป็นพวกฝุ่น เข้าไปกับ
แผ่นซีดี แล้วเราก็นามันเข้าไปอ่านในไดรว์ ฝุ่นก็เลยเข้าไปติดที่หัวอ่าน พอสะสมมากๆ เข้าก็เลยทาให้เกิด
อาการดังกล่าว อ่านแผ่นไม่ได้บ้างละ หาแผ่นไม่เจอบ้างละ วิธีการแก้ไขก็คือทาความสะอาดหัวอ่าน โดยใช้
แผ่นซีดีที่ไว้สาหรับทาความสะอาดหัวอ่าน
การสารองข้อมูล (Backup)
การ Backup คือการที่เราได้ Copy ข้อมูลที่สาคัญขึ้นมาอีก ๑ ชุด โดยทาการจัดเก็บแยก
จากชุดแรก เช่น ข้อมูลชุดแรกอยู่ในคอมพิวเตอร์ ดังนั้นการ Backup ข้อมูลหรือสารองเอาไว้อีก ๑
ชุด โดยทาการจัดเก็บแยกจากชุดแรก
ระบบนี้เป็นที่นิยมสาหรับองค์กรมากด้วยการเชื่อมต่อเครือข่าย และสามารถใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์
จานวนมากๆได้ในเวลาเดียวกัน ราคาพอประมาณหากไม่ได้เป็นแบบไร้สาย ข้อดีคือ การสารองอัตโนมัติ แบบ
ไร้สายสามารถใช้ได้บนโทรศัพท์ และแท็บแล็ต ข้อเสียคือ ราคาค่อนข้างสูง การติดตั้งมีความซับซ้อน
๕) Cloud Storage
วิธีนี้ใช้สาหรับการเก็บงานเอกสารเป็นวิธีดั้งเดิมสุดๆ ราคาไม่แพงและสามารถทาได้โดยไม่ต้องใช้
ผู้เชี่ยวชาญ แต่ถ้าต้องใช้เป็นประจาอาจจะต้องลาบากกันหน่อย ข้อดีคือ ไม่กินเนื้อที่ในเครื่องคอมพิวเตอร์
แฮกเกอร์ไม่มีวันเข้าถึง ข้อเสียคือ ใช้ได้กับเอกสารเท่านั้น จัดการลาบาก ใช้กระดาษเยอะ
การสารองข้อมูลด้วย System Image
การสารองข้อมูลด้วย System Image มีขั้นตอนดังนี้
๑) เปิดหน้าต่าง Control panel ปรับมุมมองเป็นแบบ Category ตามด้วยการเลือกเมนู System
and Security
๘) หลังจากโปรแกรมทาสาเนาระบบของ
ท่านเสร็จ จะ แสดงข้อความ “The backup
completed successfully” ตามรูป ให้ท่านคลิกปุ่ม Close
ตัวอย่างเลือกเก็บข้อมูลในระบบเครือข่าย
๓๑
ในกรณีที่ต้องการให้ระบบทาการสารองข้อมูลหลักจากตั้งค่าเสร็จไม่ต้องรอเวลาตามค่าดีฟอลต์ของ
วินโดวส์ ก็ทาได้โดยคลิกที่ Run now (คาสั่งนี้จะปรากฏออกมาหลังคลิก Turn on)
๓๒
การถอดและประกอบคอมพิวเตอร์
๑) เครื่องมือสาหรับประกอบคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย
-ไขควง ชนิดต่างๆ แบบแบน/แบบแฉก
-ไฟฉายเล็ก ๆ สาหรับส่องอ่านค่าต่างๆบนบอร์ด
-คีมปากจิ้งจก
-บล็อกตัวเล็กๆ สาหรับ สกรูหกเหลี่ยม
Drive_screw Board_screw
๓๔
Case_screw Jumper
๒) ขั้นตอนของประกอบเครื่อง
ขั้นตอนการประกอบเครื่อง มีดังนี้
๒.๑) กาหนดค่าความเร็วของ CPU (Jumper & Dip-Switch)
DIP-Switch มีลักษณะเป็นพลาสติกสี่เหลี่ยมที่ประกอบด้วยสวิทช์ขนาดเล็กที่วางเรียงกันอยู่ในแนว
เดียวกัน เราจะใช้เปิด-ปิด สวิทช์สาหรับกาหนดค่าต่างๆ
๒.๔) ติดตั้งเมนบอร์ดเข้ากับเคส
๒.๕) ติดตั้งไดร์ฟซีดีรอม
๓๕
๗) ต่อสายสัญญาณต่างๆ เข้ากับแผงหน้าเครื่องและไดร์ฟต่างๆ
๘) ติดตั้งการ์ดจอ, การ์ดเสียงและการ์ดอื่นๆ
๙) เชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก
๓๖