Professional Documents
Culture Documents
ความหมายของคอมพิวเตอร์
คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์
ปั จจุบนั นี้ คนส่ วนใหญ่นิยมนาคอมพิวเตอร์ มาใช้งานต่าง ๆ มากมาย ซึ่ งผูใ้ ช้ส่วนใหญ่มกั จะคิดว่า
คอมพิวเตอร์ เป็ นเครื่ องมือที่สามารถทางานได้สารพัด แต่ผูท้ ี่มีความรู ้ทางคอมพิวเตอร์ จะทราบว่า งานที่
เหมาะกับการนาคอมพิวเตอร์ มาใช้อย่างยิ่งคือการสร้ าง สารสนเทศ ซึ่ งสารสนเทศเหล่านั้นสามารถนามา
พิม พ์ออกทางเครื่ องพิม พ์ ส่ ง ผ่านเครื อข่ า ยคอมพิ วเตอร์ หรื อจัดเก็ บไว้ใช้ใ นอนาคตก็ ไ ด้ เนื่ องจาก
คอมพิวเตอร์ จะมีคุณสมบัติต่าง ๆ คือ
4.เก็บข้ อมูลจานวนมาก ๆ ได้ (store massive amounts of information) ไมโครคอมพิวเตอร์ ในปั จจุบนั จะ
มีที่เก็บข้อมูลสารองที่มีความสู งมากกว่าหนึ่ งพันล้านตัวอักษร และสาหรับระบบคอมพิวเตอร์ ขนาดใหญ่จะ
สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าหนึ่งล้าน ๆ ตัวอักษร
ขั้นตอนการทางานที่สาคัญของคอมพิวเตอร์ 4 ขั้นตอน
ส่ วนประกอบของคอมพิวเตอร์ (PC)
1.จอภาพ (Monitor)
2.เคส (Case)
เคสเป็ นโครงที่ใช้สาหรั บใส่ อุปกรณ์ ภายในต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน อุ ปกรณ์ ที่มกั จะใส่ ไว้ในเคสก็เป็ นพวก
เมนบอร์ ด(Mainboard) แรม (RAM) การ์ ดจอ(VGA Card) ฮาร์ ดดิสก์(Hard Disk Drive) พาวเวอซัพพลาย
(Power Supply) เป็ นต้น มีหลายแบบ หลายสี ให้เลือกใช้ตามความพึงพอใจของผูใ้ ช้
4.คีย์บอร์ ด (Keyboard
ทาหน้า ที่ รับข้อมูล จากผูใ้ ช้ โดยจะประกอบไปด้วยแป้ นพิ มพ์ที่ มี ปุ่มต่ างๆมากมาย ทั้งปุ่ มตัวอัก ษร
(Typewriter keys) ตัวเลข (Numeric keypad) ปุ่ มพิเศษ (Special-purpose keys) ปุ่ มควบคุมอื่นๆ (Control
keys) หรื อปุ่ มฟังก์ชนั่ ต่างๆFunction keys) สาหรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ตอ้ งใช้การพิมพ์เป็ นหลัก
5.เมาส์ (Mouse)
ทาหน้าที่รับข้อมูลจากผูใ้ ช้ โดยจะใช้การเลื่ อนเมาส์ เพื่อบังคับตัวชี้ ตาแหน่ง(Pointer) บนหน้าจอ แล้วใช้การ
กดปุ่ มบนตัวเมาส์เพื่อสั่งให้ทางานอะไรบนหน้าจอที่จุดนั้นๆได้
ทาหน้าที่ เป็ นตัวควบคุ ม อุ ป กรณ์ ท้ งั หมดในเครื่ องคอมพิ วเตอร์ โดยอุปกรณ์ ทุ ก ตัวจะต้องเชื่ อมต่อกับ
เมนบอร์ ดนี้ มีลกั ษณะเป็ นแผ่นวงจรขนาดใหญ่ โดยบนแผ่นวงจรนั้นจะมีช่องสาหรับนาอุปกรณ์ต่างๆมา
เสี ยบไว้ที่เรี ยกว่า ซ็อคเก็ต(Socket) ซึ่ งแต่ละอุปกรณ์ก็จะมี socket เฉพาะของอุปกรณ์น้ นั ๆ
7.ซีพียู (CPU)
ซี พียูคือโปรเซสเซอร์ ( Processor) หรื อเรี ยกอีกชื่ อหนึ่ งว่า หน่ วยประมวลผลกลาง หรื อ ซิ พ(Chip) เป็ น
อุ ปกรณ์ ที่สาคัญมากที่ สุดเพราะมี หน้าที่ ประมวลผลข้อมู ล ที่ ผูใ้ ช้ป้อนเข้ามาหรื อโปรแกรมที่ ผูใ้ ช้งานส่ ง
ข้อมูลเข้ามาเป็ นชุดคาสั่ง ซีพียู ประกอบด้วยส่ วนหลัก 2 ส่ วนดังนี้
9.แรม (RAM)
เป็ นอุปกรณ์ที่มีมาก่อนคอมพิวเตอร์ เสี ยอีก ฟล็อปปี้ ดิสก์ ยุคแรกๆมีขนาดตั้งแต่ 8 นิ้ว 5.25 นิ้ว จนปั จจุบนั อยู่
ที่ 3.5 นิ้ว มีความจาอยูท่ ี่ไม่กี่ร้อยกิโลไบต์จนถึง 2.88 เมกกะไบต์ ปั จจุบนั คอมพิวเตอร์ รุ่นใหม่น้ นั แทบจะไม่
มี Floppy Disk Drive อีกแล้ว เนื่ องจากแผ่น ฟล็อปปี้ ดิสก์ นั้นจุความจาได้นอ้ ย แถมยังพังง่าย ปั จจุบนั ถูก
ทดแทนด้วย Flash Drive เสี ยมากกว่า
13. เน็ตเวิร์คการ์ ด (Lan card)
เน็ตเวิร์คการ์ ดหรื อการ์ ดแลน เป็ นตัวเชื่ อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ และเครื อข่าย โดยส่ วนใหญ่จะเรี ยกว่า
NIC (Network Interface Card) โดยจะท าการแปลงข้อมู ล เป็ นสั ญญาณไฟฟ้ า ที่ ส ามารถส่ ง ไปตาม
สายสัญญาณได้ ซึ่ งก็จะมีความเร็ วในการส่ งข้อมูลหลายระดับตั้งแต่ 10 Mbps, 100Mbps หรื อ 1000Mbps ซึ่ ง
การ์ ดบางรุ่ นก็สามารถเลื อกระดับความเร็ วในการทางานได้ ปั จจุบนั เมนบอร์ ดส่ วนใหญ่มกั จะมีชิพที่เป็ น
ช่องเน็ตเวิร์คการ์ ดในตัวอยูแ่ ล้ว ทาให้ เน็ตเวิร์คการ์ ด นั้นไม่ค่อยมีเห็นใช้กนั แล้ว
ประเภทของเครื่ องคอมพิวเตอร์
1.ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (supercomputer)
จากคุณสมบัติของซู เปอร์ คอมพิวเตอร์ ที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นได้วา่ ผูใ้ ช้ควรนาซู เปอร์ คอมพิวเตอร์ ไปใช้
ในการคานวณมากๆ เช่น งานด้านกราฟิ ก หรื อการคานวณทางด้านวิทยาศาสตร์ เป็ นต้น
2.เมนเฟรม (Mainframe)
เครื่ องเมนเฟรมเป็ นเครื่ องที่ได้รับความนิ ยมใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ทวั่ ๆไป จัดเป็ นเครื่ องที่มีประสิ ทธิ ภาพ
รองลงมาจากซู เปอร์ คอมพิวเตอร์ ซึ่ งในช่วงปลาย ค.ศ. 1950 บริ ษทั IBM จัดเป็ นบริ ษทั ยักษ์ใหญ่ในวงการ
อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ โดยเกิดจากการมีส่วนแบ่งตลาดในการขายเครื่ องระดับเมนเฟรมถึง 2 ใน 3 ของ
ผูใ้ ช้เครื่ องเมนเฟรมทั้งหมด เครื่ องเมนเฟรมจะเป็ นเครื่ องที่มีขนาดใหญ่ ต้องอยูใ่ นห้องที่ได้รับการอุณหภูมิ
และปราศจากฝุ่ นละอองเช่นเดียวกับซู เปอร์ คอมพิวเตอร์
3.มินิคอมพิวเตอร์ (Minicomputer)
เริ่ มพัฒนาขึ้นใน ค.ศ. 1960 ต่อมาจากบริ ษทั Digital Equipment Corporation หรื อ DEC ได้ประกาศตัว
มินิคอมพิวเตอร์ DEC POP-8 (Programmed Data Processor) ในปี ค.ศ. 1965 ซึ่ งได้รับความนิยมจากบริ ษทั
หรื อองค์กรที่มีขนาดกลาง เพราะมีราคาถูกกว่าเมนเฟรมมาก เครื่ องมินิคอมพิวเตอร์ จะใช้หลักการของมัลติ
โปรแกรมมิงเช่นเดี ยวกับเมนเฟรม โดยจะสามารถรองรับผูใ้ ช้ได้ประมาณ 200 คนพร้ อม ๆ กัน แต่สิ่งที่
แตกต่างระหว่างเครื่ องเมนเฟรมและเครื่ องมินิคอมพิวเตอร์ ก็คือความเร็ วในการทางาน เนื่ องจาก เครื่ อง
มินิคอมพิวเตอร์ จะทางานได้ชา้ กว่าการควบคุมผูใ้ ช้งานต่าง ๆ การะทาได้ในจานวนที่นอ้ ยกว่า รวมทั้งสื่ อที่
เก็บข้อมูลต่าง ๆ มีความจุไม่สูงเท่าเมนเฟรม ดังนั้นเครื่ องมินิคอมพิวเตอร์ จึงจัดได้วา่ มินิคอมพิวเตอร์ เป็ น
ขนาดกลาง
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
คื อ ลัก ษณะทางกายของเครื่ อ งคอมพิ ว เตอร์ ซึ่ งหมายถึ ง ตัว เครื่ อ งคอมพิ ว เตอร์ และ อุ ป กรณ์ ร อบ
ข้าง (peripheral) ที่เกี่ยวข้อง เช่น ฮาร์ ดดิสก์ เครื่ องพิมพ์ เป็ นต้น ฮาร์ดแวร์ประกอบด้วย
-หน่วยความจาหลัก
หน่ วยรั บข้อมู ล จะเป็ นอุ ปกรณ์ ที่ใช้สาหรั บข้อมู ลต่าง ๆ เข้าสู่ คอมพิวเตอร์ จากนั้น หน่ วยประมวลผล
กลาง จะนาไปประมวลผล และแสดงผลลัพธ์ที่ได้ออกมากให้ผใู ้ ช้รับทราบทาง หน่วยแสดงผลลัพธ์
ซอฟต์แวร์ในระบบไมโครคอมพิวเตอร์
3.บุคลากร (Peopleware)
เครื่ องคอมพิวเตอร์ โดยมากต้อ งใช้บุคลากรสั่งให้เครื่ องทางาน เรี ยกบุคลากรเหล่านี้ ว่า ผูใ้ ช้ หรื อ ยูเซอร์
(user) แต่ก็มีบางชนิ ดที่สามารถทางานได้เองโดยไม่ตอ้ งใช้ผคู ้ วบคุม อย่างไรก็ตาม คอมพิวเตอร์ ก็ยงั คงต้อง
ถูกออกแบบหรื อดูแลรักษาโดยมนุษย์เสมอ
ผูใ้ ช้คอมพิวเตอร์ (computer user) แบ่งได้เป็ นหลายระดับ เพราะผูใ้ ช้คอมพิวเตอร์ บางส่ วนก็ทางานพื้นฐาน
ของคอมพิวเตอร์ เท่านั้น แต่บางส่ วนก็พยายามศึกษาโปรแกรมประยุกต์ในขั้นที่สูงขึ้น ทาให้มีความชานาญ
ในการใช้โปรแกรมประยุกต์ต่าง ๆ นิยมเรี ยกกลุ่มนี้วา่ เพาเวอร์ยสู เซอร์ (power user)
-การพัฒ นาและบ ารุ ง รั ก ษาระบบทางฮาร์ ด แวร์ เช่ น เจ้า หน้า ที่ ค วบคุ ม การท างานระบบคอมพิ ว เตอร์
(Computer Operator) เป็ นต้น
-การบริ ห ารในหน่ ว ยประมวลผลข้อ มู ล เช่ น ผูบ้ ริ ห ารศู น ย์ป ระมวลผลข้อ มู ล ด้ว ยคอมพิ ว เตอร์ (EDP
Manager) เป็ นต้น
4.ข้ อมูลและสารสนเทศ (Data / Information)
ในการท างานต่ า ง ๆ จะต้องมี ข ้อมู ล เกิ ดขึ้ นตลอดเวลา ข้อมู ล ที่ เกี่ ย วข้องกับ งานที่ ถู ก เก็ บ รวบรวมมา
ประมวลผล เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เป็ นประโยชน์ต่อผูใ้ ช้ ซึ้ งในปั จจุบนั มีการนาเอาระบบคอมพิวเตอร์ มา
เป็ นข้อมูลในการดัดแปลงข้อมูลให้ได้ประสิ ทธิ ภาพโดยแตกต่างๆระหว่างข้อมูล และ สารสนเทศ คือ
5.กระบวนการทางาน (Procedure)
1. จอภาพแสดงข้อความเตรี ยมพร้อมที่จะทางาน
2. สอดบัตร และพิมพ์รหัสผูใ้ ช้
3. เลือกรายการ
4. ใส่ จานวนเงินที่ตอ้ งการ
5. รับเงิน
6. รับใบบันทึกรายการ และบัตร