Professional Documents
Culture Documents
หนวยการเรียนรูท ี่ 2 : การเมืองการปกครอง
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 : การเมืองการปกครอง
รัฐธรรมนูญ (Constitution) คือ กฎหมายที่บอกลักษณะหรือรูปแบบการบริหารประเทศว่าบริหารอย่างไร ใครเป็นผู้มีอํานาจสูงสุด
และใช้อํานาจอย่างไร ประชาชนในประเทศมีสิทธิและหน้าที่อย่างไรบ้าง รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายที่กําหนดระเบียบแห่งอํานาจสูงสุดในรัฐ
เช่น กําหนดระบอบการปกครอง กําหนดรูปแบบและการใช้อํานาจอธิปไตย กําหนดสิทธิและหน้าที่ของประชาชน แนวนโยบายแห่งรัฐ
เป็นต้น
รัฐธรรมนูญ (Constitution) เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับที่ขัดหรือแย้งต่อ
รัฐธรรมนูญ บทบัญญัตินั้นจะใช้ไม่ได้
รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันของไทย รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
เป็นรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับที่ 20
จัดร่างโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ในระหว่าง พ.ศ. 2557–2560 ภายหลังการรัฐประหารในประเทศโดยคณะรักษาความสงบ
แห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ของไทยที่ผ่านการลงประชามติ
โดยรัฐธรรมนูญฉบับนีส้ มเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงลงพระปรมาภิไธย เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.
2560 ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสติ กรุงเทพมหานคร
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นผูร้ ับสนองพระราชโองการ
หลังจากการประกาศใช้แล้ว รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีการแก้ไขเพิม่ เติม (ฉบับที่ 1 ) พ.ศ. 2564 โดยแก้ไขประเด็น บัตรเลือกตั้ง ส.ส. 2
ใบ และแบ่งจํานวน ส.ส.ใหม่
16 หมวด 279 มาตรา
หน้า 2
หนวยการเรียนรูท ี่ 2 : การเมืองการปกครอง
หน้า 3
หนวยการเรียนรูท ี่ 2 : การเมืองการปกครอง
1. หลักการและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
1. จัดระเบียบและสร้างความเข้มแข็งแก่การปกครองประเทศขึ้นใหม่
2. เพิ่มประสิทธิภาพของศาลและองค์กรอิสระ
3. มุ่งคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
4. กําหนดให้รัฐมีหน้าที่ต่อประชาชน
5. ขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ
6. วางแนวทางแก้ไขวิกฤตการณ์ของประเทศ
7. สร้างกลไกการปฏิรูปประเทศและลดความขัดแย้ง
2. โครงสร้างและสาระสําคัญของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
หมวดที่ ชื่อหมวด สาระสําคัญ
1 บททั่วไป บทบัญญัติที่เป็นบททั่วไปที่แสดงถึงรูปแบบและการปกครองของรัฐ การแบ่งแยกอํานาจและการใช้อํานาจนั้น
รวมถึงการรับรองถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาคของบุคคลย่อมได้รับความ
คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญนี้ มาตราที่สําคัญ เช่น
- มาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้
- มาตรา 2 ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
- มาตรา 3 อํานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริยผ์ ู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อํานาจนั้นทาง
รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
2 พระมหากษัตริย์ บทบัญญัติในหมวดนี้กําหนดขึ้นเพือ่ รองรับพระราชอํานาจของพระมหากษัตริย์ ในการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
3 สิทธิและ หมวดนี้บัญญัติขึ้นเพื่อรองรับแนวคิดที่ว่ามนุษย์ควรได้รับความคุม้ ครองจากรัฐเพื่อที่จะสามารถรักษาศักดิ์ศรี
เสรีภาพของ ความเป็นมนุษย์ไว้ได้ โดยห้ามมิให้รัฐใช้อํานาจทางนิติบัญญัติออกกฎหมายเพื่อลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของ
ปวงชนชาวไทย ประชาชนโดยไม่มเี หตุอันสมควร หรือเกินจําเป็น
4 หน้าที่ของปวง กําหนดให้ประชาชนมีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติในฐานะประชาชนชาวไทย
ชนชาวไทย
ใบงานเรือ่ งสาระสําคัญของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทยฉบับปจจุบนั
คําสั่ง : ตอบคําถามให้ถูกต้องว่าสาระสําคัญในรัฐธรรมนูญต่อไปนี้ ปรากฏในหมวดใดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
1. กําหนดให้ประชาชนมีหน้าที่ต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ เช่น บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นต้น
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
2. บัญญัติเกี่ยวกับการปฏิบตั ิหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนโดยตรงซึ่งประชาชนและชุมชนมีสิทธิในการติดตาม เร่งรัด ให้รัฐ
ดําเนินการ หน้าที่ของรัฐตามที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ เช่น รัฐต้องดูแลให้มีการปฏิบตั ิตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รัฐต้อง
ดําเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนถึงการศึกษาภาคบังคับ
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
3. ว่าด้วยเรื่องของอํานาจตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ที่พนักงานอัยการมีอิสระในการพิจารณาสั่งคดีและปฏิบตั ิหน้าที่ให้เป็นไปโดยรวดเร็ว เที่ยง
ธรรม ปราศจากอคติทั้งปวง
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
4. กําหนดให้องค์กรอิสระเป็นองค์กรที่จัดตั้งขี้นโดยมีความอิสระในหน้าที่ การปฏิบัติ หน้าที่และการใช้อํานาจขององค์กรอิสระต้องเป็นไปโดย
สุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ และปราศจากอคติทั้งปวงในการใช้ดุลยพินิจ ประกอบด้วย 5 องค์กร ได้แก่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการ
แผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
5. บัญญัติเกีย่ วกับหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เช่น การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐจะกระทําไม่ได้
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
6. สาระสําคัญ คือ ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นประมุข อํานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริยผ์ ู้ทรงเป็นประมุข ทรงใช้อํานาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
7. กล่าวถึงสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทยในด้านต่างๆ เช่น สิทธิเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย เสรีภาพในการนับถือศาสนา เป็นต้น
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
8. บัญญัติเกีย่ วกับการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี โดยกําหนดให้มีนายกรัฐมนตรี 1 คน และรัฐมนตรีอื่นอีกไม่เกิน 35 คน ประกอบเป็น
คณะรัฐมนตรีเพื่อปฏิบตั ิหน้าที่และใช้อํานาจบริหารด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ เปิดเผย รอบคอบ และระมัดระวัง
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
9. ได้จัดหมวดศาลรัฐธรรมนูญไว้โดยเฉพาะ เนื่องจากต้องทําหน้าที่ตีความบทบัญญัติที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น
ผูกพันกับทุกองค์กร โดยได้กําหนดจํานวนตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่มา คุณสมบัติ การคัดเลือกและสรรหาเพื่อแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งตุลาการ
ศาลรัฐธรรมนูญ การปฏิบัติหน้าที่ วาระการดํารงตําแหน่ง และการพ้นจากตําแหน่ง
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
10. กล่าวถึงพระราชฐานะและพระราชอํานาจของพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ทรงเป็นพุทธมามกะ ทรงเป็น
อัครศาสนูปถัมภก ทรงเป็นประมุขของชาติไทยที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ทรงแต่งตั้งประธานองคมนตรีและองคมนตรี
ทรงแต่งตั้งผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ และทรงแต่งตั้งพระรัชทายาทตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
11. กําหนดให้รัฐสภาประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วยสมาชิกจํานวน 500 คน แบ่ง
ออกเป็น 2 แบบ คือ สมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งจํานวน 400 คน และสมาชิกที่มาจากบัญชีรายชื่อ จํานวน 100 คน ส่วนสมาชิกวุฒิสภา
ประกอบด้วยสมาชิกจํานวน 200 คน ได้มาจากการเลือกกันเองของบุคคลตามที่กฎหมายกําหนด
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
หน้า 7
หนวยการเรียนรูท ี่ 2 : การเมืองการปกครอง
12. บัญญัติให้ศาลประกอบด้วย ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง และศาลทหาร ซึ่งศาลดังกล่าวจัดเป็นศาลพิพากษาคดีทั่วไป ซึ่งการพิจารณาคดี
พิพากษาของศาลต้องดําเนินไปตามตัวบทกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ มีความยุติธรรมตามหลักนิติธรรมและนิติศาสตร์
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
13. บัญญัติเกี่ยวกับการจัดการปกครองส่วนท้องถิ่นตามหลักการกระจายอํานาจจากส่วนกลาง โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่และอํานาจ
ดูแล และจัดทําบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
14. ว่าด้วยการไม่รับผลประโยชน์ใดๆ ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา รวมถึงรัฐมนตรี โดยกําหนดแนวทางการปฏิบัตติ นที่แสดงถึง
การไม่รับผลประโยชน์ตอบแทนใดๆ
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
15. บทบัญญัติที่กําหนดแนวทางให้รัฐดําเนินการตรากฎหมายและกําหนดนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยให้รัฐจัดให้มี “ยุทธศาสตร์
ชาติ” เป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาธิบาล เช่น รัฐพึงจัดระบบการบริหารงานในกระบวนการยุติธรรมทุกด้าน
ให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยสะดวกและรวดเร็ว
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
16. กําหนดให้มีการปฏิรูปประเทศเพื่อบรรลุเป้าหมายในด้านต่างๆ เช่น ประเทศชาติมคี วามสงบเรียบร้อย มีความสามัคคีปรองดอง มีการพัฒนา
อย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สังคมมีความสงบสุข เป็นธรรม และมีโอกาสอันทัดเทียมกันเพื่อขจัดความเหลื่อมล้ํา
ประชาชนมีความสุข มีคณ ุ ภาพชีวิตที่ดี
ตอบ หมวด..................................................................................................................................................................................
-------------------------------------------------------------------
หน้า 8
หนวยการเรียนรูท ี่ 2 : การเมืองการปกครอง
แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องอํานาจอธิปไตย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
คําชี้แจง : ให้นักเรียนพิจารณารายละเอียดที่กําหนดให้ในแต่ละข้อ แล้วพิจารณาว่ารายละเอียดดังกล่าวเกี่ยวข้องกับอํานาจ
อธิปไตยฝ่ายใด โดยให้ทําเครื่องหมาย ✓ ในช่องดังกล่าว
ข้อที่ รายละเอียด ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ
1 คณะรัฐมนตรี
2 ศาล
3 เป็นอํานาจหน้าที่ของรัฐสภา
4 วุฒิสภา
5 ประสานงานกับกระทรวงต่าง ๆ ให้มีความสอดคล้องไป
ในทางเดียวกัน
6 พิจารณาพิพากษาคดีที่เป็นข้อพิพาท
7 กําหนดนโยบายและบริหารราชการแผ่นดิน
8 แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ตรากฎหมาย และให้ความเห็น
ในกิจการที่สําคัญ
9 วางนโยบายเพื่อการพัฒนาประเทศตามที่ได้หาเสียงไว้กับ
ประชาชน
10 สภาผู้แทนราษฎร
11 พิจารณากลั่นกรองกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติ
12 ตัดสินคดีความตามหลักกฎหมายเพื่อดํารงความยุติธรรม
13 ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลตามที่ได้
แถลงไว้ต่อรัฐสภา
14 ให้ความเห็นชอบในกิจกรรมสําคัญของประเทศตามที่
รัฐธรรมนูญกําหนด เช่น การตั้งผู้สําเร็จราชการแทน
พระองค์ การสืบราชสมบัติ การให้ความเห็นในการ
ประกาศสงคราม เป็นต้น
15 ควบคุมข้าราชการประจําในสังกัดกระทรวง ทบวง กรม
ให้นํานโยบายไปปฏิบัติให้บังเกิดผล
16 ออกมติต่าง ๆ เพื่อให้กระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ ถือ
ปฏิบัติ
17 ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี 1 คน และคณะรัฐมนตรี
อีกไม่เกิน 35 คน
18 ประสานงานกับกระทรวงต่าง ๆ ให้มีความสอดคล้องไป
ในทางเดียวกัน
19 อํานวยความยุติธรรมแก่ประชาชนในชาติ
20 ผู้พิพากษา
หน้า 9
หนวยการเรียนรูท ี่ 2 : การเมืองการปกครอง
3. อํานาจอธิปไตย
มาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้
มาตรา 2 ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
มาตรา 3 อํานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริยผ์ ู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อํานาจนั้นทาง รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และ
ศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
หน้า 10
หนวยการเรียนรูท ี่ 2 : การเมืองการปกครอง
กก
กก
"
!
& " & &ก
&
ก
ก ก 35 #
ก $
*((0 . (ก 0&
# ) 0
)
$
()
&(
กระทรวงของไทย
หน้า 11
หนวยการเรียนรูท ี่ 2 : การเมืองการปกครอง
1. ฝ่ายนิติบัญญัติ (ฝ่ายรัฐสภา) 2. ฝ่ายบริหาร
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สภาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) คณะรัฐมนตรี (ครม.)
500 คน ตามบทเฉพาะกาล = 250 คน คณะรัฐมนตรีประกอบด้วยบุคคลไม่เกิน 36 คน
จํานวน หลัง 5 ปี (หลังวุฒิสมาชิกตามบทเฉพาะกาลหมดวาระ) - นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรี 1 คน
= 200 คน - รัฐมนตรีอื่นนอกจากนายกรัฐมนตรีอีกไม่เกิน 35 คน
ที่มา 1. การเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจํานวน 400 คน สว. ตามบทเฉพาะกาล - ในสถานการณ์การเมืองปกติ เมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไปแล้ว พรรคการเมืองทีม่ ีจํานวน ส.ส. มาก
2. สมาชิกซึ่งมาจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง ที่สุดจะได้เป็นแกนนําในการจัดตั้งรัฐบาล
6 คน + 194 คน + 50 คน = 250 คน
ที่มาของนายกรัฐมนตรี
จํานวน 100 คน
1. นายกรัฐมนตรีต้องแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบ โดยสภา
ผู้แทนราษฎรจะพิจารณาจากบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่รัฐธรรมนูญ
กําหนด และเป็นผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ที่พรรคการเมืองมีมติเสนอชื่อให้สภา
ผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 3 รายชื่อ ซึ่งพรรค
การเมืองแจ้งไว้ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งในการสมัครรับเลือกตั้งทั่วไป เฉพาะจากบัญชี
รายชื่อของพรรคการเมืองที่มีสมาชิกได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่น้อยกว่าร้อย
ละ 5 ของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มอี ยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
2. การเสนอชื่อผู้สมควรได้รับการการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
สว. ชุดปกติ ให้ความเห็นชอบนั้น ต้องมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจํานวนสมาชิกทั้งหมด
สมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกกันเองของบุคคลซึ่งมี เท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะ 3. มติของสภาผู้แทนราษฎรที่เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องกระทําโดย
การลงคะแนนโดยเปิดเผย และมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่
หรือประโยชน์ร่วมกัน หรือทํางานหรือเคยทํางานด้าน
มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
ต่างๆ ที่หลากหลายของสังคม ในแต่ละกลุ่มอาชีพ โดย 4. ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทูลเกล้าฯ เพื่อให้ K. ทรงลงพระปรมาภิไธย ในการแต่งตั้งนายกฯ
ในการแบ่งกลุ่มต้องแบ่งในลักษณะที่ทําให้ประชาชน (ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ)
ซึ่งมีสิทธิสมัครรับเลือกทุกคนสามารถอยู่ในกลุ่มใดกลุ่ม นายกฯ เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่ทูลเกล้าฯ เสนอ
หนึ่งได้ ก่อนเข้ารับหน้าที่ นายกฯ และรัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์
คณะรัฐมนตรีที่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดิน ต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาซึ่งสอดคล้องกับ
หน้าที่ของรัฐ แนวนโยบายแห่งรัฐ และยุทธศาสตร์แห่งชาติ โดยไม่มีการลงมติความไว้วางใจ
ภายใน 15 วัน
ในการบริหารราชการแผ่นดิน คณะรัฐมนตรีต้องดําเนินการตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
กฎหมาย และนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา และต้องรับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฎรในหน้าที่
ของตน รวมทั้งต้องรับผิดชอบร่วมกันต่อรัฐสภาในนโยบายทัว่ ไปของคณะรัฐมนตรี
หน้า 12
หนวยการเรียนรูท ี่ 2 : การเมืองการปกครอง
1. ฝ่ายนิติบัญญัติ (รัฐสภา) 2. ฝ่ายบริหาร
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สภาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) คณะรัฐมนตรี (ค.ร.ม.)
เสนอกฎหมาย การให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะดํารงตําแหน่งสําคัญ เช่น กําหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน และบริหารให้เป็นไปตามนโยบายที่
อํานาจ การให้ความเห็นชอบผู้ดํารงตําแหน่ง ตําแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตําแหน่งในองค์กรอิสระ ได้หาเสียงไว้กับประชาชน
หน้าที่ นายกรัฐมนตรี ควบคุมข้าราชการประจําให้นํานโยบายไปปฏิบัติให้บังเกิดผล ประสานงานกับ
การพิจารณาและกลั่นกรองกฎหมาย เช่น การให้ความเห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ, ร่างพระราชบัญญัติ กระทรวงต่างๆ ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันและสอดคล้องกัน
ประกอบรัฐธรรมนูญ, ร่างพระราชบัญญัติ, การพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติพระราชกําหนด --> บัญญัติกฎหมาย รักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อย เพื่อให้ประชาชนปลอดภัยในชีวิต
และยกเลิกกฎหมายเพื่อใช้เป็นแนวทางและเครื่องมือในการบริหารกิจการต่างๆ ของประเทศ และเป็นมาตรฐานในการ ทรัพย์สิน และให้มีการดําเนินชีวิตโดยปกติสุข
ปฏิบัติตนของประชาชนในประเทศ --> ควบคุมการตรากฎหมาย ออกมติต่างๆ เพื่อให้กระทรวง กรมต่างๆ ถือปฏิบัติ
การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน เสนอกฎหมาย พระราชบัญญัติ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
การตั้งคณะกรรมาธิการ – การเลือกบุคคลผูเ้ ป็นสมาชิกหรือมิได้เป็นสมาชิกตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญ หรือ ออกพระราชกําหนด พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง
คณะกรรมาธิการร่วมกัน เพื่อกระทํากิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใด ๆ และรายงานให้สภา
ทราบตามระยะเวลาที่สภากําหนด
การให้ความเห็นชอบในกิจการที่สาํ คัญในการปกครองประเทศ
การถอดถอนผูด้ ํารงตําแหน่งทางการเมือง
วาระ อายุของสภาผู้แทนราษฎรมีกําหนดคราวละ 4 ปี วุฒิสภามีกําหนดคราวละ 5 ปีนับแต่วันประกาศผลการ - คราวละ 4 ปี
นับแต่วันเลือกตั้ง เลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการ
ดํารงตําแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างทีอ่ ยู่ปฏิบัติหน้าที่
ต่อไปหลังพ้นจากตําแหน่ง
หน้า 13
หนวยการเรียนรูท ี่ 2 : การเมืองการปกครอง
3. ฝ่ายตุลาการ
1. ศาลรัฐธรรมนูญ 2. ศาลยุติธรรม 3. ศาลปกครอง 4. ศาลทหาร
วินิจฉัยประเด็นปัญหาเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ มีอํานาจพิจารณาคดีทั้งปวง ยกเว้นคดีที่รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย พิพากษาคดีที่เป็นข้อพิพาทระหว่างภายใน เขตอํานาจของศาลทหาร :
1. การสิ้นสุดของสมาชิกภาพของ บัญญัติให้อยู่ในอํานาจของศาลอื่น ซึ่งระบบศาลยุติธรรม แบ่ง ราชการหรือราชการกับเอกชน เกีย่ วกับการปฏิบตั ิ พิพากษาเฉพาะคดีอาญาทหารและ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิก ออกเป็น 3 ชั้น คือ หน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติ หรือที่เรียกว่า “คดี คดีที่มีลักษณะพิเศษทางอาญา เช่น
วุฒิสภา 1. ศาลชั้นต้น เป็นศาลที่รับพิจารณาคดีในเบื้องต้น ทั้งคดีแพ่ง ปกครอง” ซึ่งได้แก่คดีดังต่อไปนี้ คดีที่ทหารตกเป็นจําเลย คดีที่
2. ขอบเขตอํานาจหน้าที่ระหว่างรัฐสภา คดีอาญา และคดีพิเศษอื่นๆ 1. คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครอง เกิดขึ้นในภาวะสงคราม หรือ
คณะรัฐมนตรี หรือองค์กรตามรัฐธรรมนูญ - ศาลแพ่ง - ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทําการโดยไม่ชอบด้วย ประกาศกฎอัยการศึก
นอกเหนือจากศาล - ศาลแพ่งธนบุรี - ศาลอาญา กม. ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎ คําสัง่ ฯลฯ
3. ร่างพระราชบัญญัติทมี่ ีข้อความขัดแย้งกับ - ศาลอาญากรุงเทพใต้ - ศาลอาญาธนบุรี 2. คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครอง
รัฐธรรมนูญหรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตาม - ศาลจังหวัด - ศาลแขวง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่ กม.
บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ - ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ กําหนด
4. บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่จะบังคับคดีใด - ศาลชํานัญพิเศษ ได้แก่ ศาลแรงงาน/ศาลภาษีอากร/ศาล 3. คดีพิพาทเกี่ยวกับการทําละเมิดหรือความรับ
คดีหนึ่งที่ยังมิได้รับการวินจิ ฉัยจากศาล ทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ/ศาลล้มละลาย ผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครอง
รัฐธรรมนูญว่าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ /ศาลเยาวชนและครอบครัว 4. คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง
หรือไม่ 2. ศาลชั้นอุทธรณ์ เป็นศาลที่มีอาํ นาจพิจารณาพิพากษาคดีทฝี่ ่าย 5. คดีที่กฎหมายให้หน่วยงานทางปกครองหรือ
5. วินิจฉัยและมีคําสั่งยุบพรรคการเมือง โจทก์หรือจําเลยอุทธรณ์คําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลชั้นต้น เจ้าหน้าที่ของรัฐฟ้องคดีต่อศาลเพือ่ บังคับให้
ตามที่กฎหมายกําหนด 3. ศาลฎีกา เป็นศาลสูงสุด มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีที่ฝา่ ย บุคคลต้องกระทําหรือละเว้นกระทํา
มีอยู่แห่งเดียวที่กรุงเทพมหานคร โจทก์หรือจําเลยขอฎีกาคําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลอุทธรณ์ 6. คดีพิพาทเกี่ยวกับเรื่องที่มีกฎหมายกําหนดให้
คําพิพากษาในชั้นนี้ถือว่าสิ้นสุด มีศาลเดียว ตั้งอยู่ใน อยู่ในเขตอํานาจศาลปกครอง
กรุงเทพมหานคร
แผนกพิเศษในศาลฎีกา
แผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
แผนกคดีเลือกตั้ง
ฯลฯ
หน้า 14
หนวยการเรียนรูท ี่ 2 : การเมืองการปกครอง
ใบงานเรื่องขอบเขตอํานาจศาลไทย
คําชี้แจง : ให้นักเรียนพิจารณาข้อพิพาทที่กําหนดให้ แล้วพิจารณาว่าข้อพิพาทดังกล่าวอยู่ในขอบเขตอํานาจของศาลใด โดยให้นักเรียนทํา
เครื่องหมาย ✓ ในช่องที่ตรงกับชื่อศาลที่รับผิดชอบให้ถูกต้อง
ข้อที่ เหตุการณ์ที่เป็นข้อพิพาท ศาลใดมีอํานาจในการพิจารณาตัดสินคดีที่เป็นข้อพิพาท
ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลทหาร
1 นายเอกแอบนําผลงานเพลงของนายโทไปขายในเว็บไซต์
2 นายดําทําร้ายร่างกายนายขาว
3 กรุงเทพมหานครไม่ดูแลสะพานลอยให้ดี ทําให้เกิดเศษปูนตก
ลงมาหล่นใส่ศีรษะนายเอี้ยงที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้น
4 นายพระจันทร์ ส.ส.พรรคไทยรักถิน่ ถูกตั้งข้อสงสัยว่าขาด
คุณสมบัติการเป็น ส.ส. เพราะมีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท
ด้านสื่อสารมวลชน
5 นายช่อนขับรถประมาทไปชนท้ายรถของนายดุก แล้วไม่
ชดเชยค่าซ่อมรถให้กับนายดุก
6 ข้าราชการครูทําโทษทางวินัยกับนักเรียน ทําให้นักเรียนคน
ดังกล่าวเป็นลมหมดสติ ต้องเข้ารับการรักษาตัวใน
โรงพยาบาล
7 นางสวยต้องการยื่นเรื่องให้ศาลวินจิ ฉัยว่ากฎหมายที่บังคับ
การเปลีย่ นนามสกุลไปใช้นามสกุลของสามีหลังการแต่งงาน
ขัดกับรัฐธรรมนูญที่บญั ญัติว่าด้วยความเสมอภาคระหว่าง
ชายกับหญิง
8 พรรครวมพลังถิ่นไทยถูกตัดสินยุบพรรค เพราะกระทําการ
อันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
9 บริษัทรับเหมาก่อสร้างทางรถไฟสายใต้ ฟ้องร้องเรื่องที่การ
รถไฟแห่งประเทศไทยในการจ่ายค่าดําเนินการก่อสร้างให้กับ
บริษัทล่าช้าจนได้รับความเสียหาย
10 นางหงส์ต้องการฟ้องหย่านายไก่ซงึ่ เป็นสามี
11 พลทหาร ก. ไม่พอใจจ่า ข. ที่สั่งให้ตนวิดพื้นกลางแดด จึงนํา
สมัครพรรคพวกไปแอบรุมทําร้ายจ่า ข. จนได้รับบาดเจ็บ
12 นางสาวกี้คุยโทรศัพท์ขณะที่กําลังขับรถ
13 นายกล้วย ข้าราชการกรมทีด่ ิน ออกโฉนดที่ดินผิดพลาด ทํา
ให้ที่ดินของยายหน่อไม้ มีขนาดเล็กลงกว่าความเป็นจริง
14 พลทหารรุ่งไม่พอใจที่นางสาวทุเรียน ไปมีแฟนใหม่ จึงทําร้าย
ร่างกายนางสาวทุเรียนกับแฟนใหม่จนเสียโฉม
หน้า 15
หนวยการเรียนรูท ี่ 2 : การเมืองการปกครอง
4. การถ่วงดุลอํานาจอธิปไตยในระบอบการปกครองประชาธิปไตยแบบรัฐสภาของไทย
การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศไทย ได้กําหนดหลักการอํานาจอธิปไตยเป็นอํานาจสูงสุดในการปกครองประเทศ โดยประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของอํานาจอธิปไตย และ
แบ่งการใช้อํานาจออกเป็น 3 ฝ่าย คือฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ โดยทั้ง 3 ฝ่ายที่กล่าวมาข้างต้น ต่างมีสถานะที่เท่าเทียมกันตามรัฐธรรมนูญและมีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของตน แต่โดยหลักการแล้วต้อง
สามารถควบคุมตรวจสอบซึ่งกันและกันได้ ทั้งนี้เพราะองค์กรอํานาจทั้ง 3 ฝ่าย มิได้แบ่งแยกออกจากกันโดยเด็ดขาด หากแต่มีความสัมพันธ์ในเชิง “การถ่วงดุลอํานาจ” หรือ “การคานอํานาจ” กัน เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครอง
สิทธิเสรีภาพของประชาชน ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีอํานาจใดอํานาจหนึ่ง มีอํานาจเหนือกว่าอีกอํานาจหนึ่งอย่างเด็ดขาด หรือไม่มีอํานาจใดอํานาจเดียวที่รับภาระหน้าที่ของรัฐทั้งหมด
การถ่วงดุลอํานาจของฝ่ายนิติบญ ั ญัติ (รัฐสภา) การถ่วงดุลอํานาจของฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ
1. การถ่วงดุลอํานาจฝ่ายบริหาร (คณะรัฐมนตรี) 1. การถ่วงดุลอํานาจฝ่ายนิติบัญญัติ การถ่วงดุลอํานาจระหว่างอํานาจตุลาการกับอํานาจนิติ
1) สภาผู้แทนราษฎรมีอํานาจเลือกนายกรัฐมนตรี โดยการยุบสภา ในกรณีทสี่ ภาผู้แทนราษฎรขัดแย้งกับ บัญญัติและอํานาจบริหาร
2) คณะรัฐมนตรีต้องแถลงนโยบายก่อนเข้าบริหารราชการ คณะรัฐมนตรีอย่างรุนแรง เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นว่าสมาชิก 1. ศาลรัฐธรรมนูญ ถ่วงดุลอํานาจกับฝ่ายนิติบัญญัติโดยวินิจฉัย
แผ่ น ดิ น จั ด เป็ น การแถลงเพื่ อ ทราบ ซึ่ ง สมาชิ ก รั ฐ สภา ส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎรมีพฤติกรรมไม่เหมาะไม่ เรื่องต่อไปนี้
สามารถอภิปรายหรือท้วงติงได้ ควร และคณะรัฐมนตรีต้องการเปลี่ยนแปลง การสิ้นสุดของสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ
3) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภามีสิทธิตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากเหตุผลทางการเมือง สมาชิกวุฒิสภา
กระทู้ถามรัฐมนตรี รัฐมนตรีมสี ิทธิที่จะไม่ตอบ เมื่อเห็นว่า อย่างใดอย่างหนึ่ง --> นําไปสู่การคืนอํานาจให้กับ ขอบเขตอํานาจหน้าที่ระหว่างรัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือองค์กร
ยังไม่ควรเปิดเผยเพราะเกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยหรือ ประชาชนในการเลือกตั้ง ส.ส. และฝ่ายบริหารชุดใหม่ ตามรัฐธรรมนูญ
ประโยชน์สําคัญของประเทศ ร่างพระราชบัญญัติที่มีข้อความขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือตรา
4) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีสิทธิเข้าเสนอญัตติอภิปรายไม่ ขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี ส่วนสมาชิกวุฒิสภา บทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่
อาจขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติได้ วินิจฉัยและมีคําสั่งยุบพรรคการเมืองตามที่กฎหมายกําหนด
5) วุฒิสภามีอํานาจถอดถอนนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่ 2. ศาลปกครอง ถ่วงดุลอํานาจกับฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร
ทุจริตออกจากตําแหน่ง มีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีที่เป็นข้อพิพาทระหว่างภายในราชการ
6) รัฐสภามีอํานาจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ 2. การถ่วงดุลอํานาจฝ่ายตุลาการ หรื อ ราชการกั บ เอกชน เกี่ ย วกั บ การปฏิบั ติหน้ าที่ ตามที่กฎหมาย
รายจ่ายประจําปีที่คณะรัฐมนตรีเสนอ เนื่องจากฝ่ายตุลาการมีหน้าที่ไต่สวนคดีความต่างๆ ด้วย บัญญัติ
7) การอนุมัติร่างพระราชบัญญัติ หรือพระราชกําหนด ความเป็นกลางและเป็นไปตามตัวบทกฎหมาย และมีกระบวนการ 3. ศาลยุ ติ ธ รรม มี อํ า นาจพิ จารณาและวิ นิ จฉัย คดีเกี่ ยวกับการ
8) รั ฐ สภามี อํ า นาจตั้ ง คณะกรรมาธิ ก ารเพื่ อ กระทํ า กิ จการ ตรวจสอบกันเองภายในของคณะกรรมการตุลาการ เลื อ กตั้ ง และการเพิ ก ถอนสิ ท ธิ เ ลื อ กตั้ ง และมี ก ารจั ด ตั้ ง ศาลฎีกา
พิ จ ารณาสอบหาข้ อ เท็ จ จริ ง ในกรณี ที่ อ าจสงสั ย ได้ ว่ า แผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองในกรณีการร่ํารวย
ฝ่ายรัฐบาลใช้อํานาจหน้าที่โดยมิชอบ ผิดปกติ, การใช้อํานาจหน้าที่ในทางทุจริต และคดีที่เกี่ยวกับการยื่น
บัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
หน้า 16
หนวยการเรียนรูท ี่ 2 : การเมืองการปกครอง
การถ่วงดุลอํานาจของฝ่ายนิติบญ
ั ญัติ (รัฐสภา) การถ่วงดุลอํานาจของฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ
2. การถ่วงดุลฝ่ายตุลาการ
โดยกระบวนการควบคุมและอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจําปี
ซึ่ ง ร่ า งพระราชบั ญ ญั ติ ง บประมาณรายจ่ า ยประจํ า ปี ร่ า ง
พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม และร่างพระราชบัญญัติ
โอนงบประมาณรายจ่ายต้องผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร
และต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา
การปกครองโดยกฎหมายกับระบอบประชาธิปไตย และการแบ่งแยกอํานาจ
ตรวจสอบว่าฝ่ายบริหารใช้
การปกครองโดยกฎหมาย อํานาจโดยชอบด้วยกฎหมาย
หรือไม่ ศาลปกครอง
ตรวจสอบกฎหมายว่าขัด
รัฐธรรมนูญหรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญ
ผู้แทนราษฎร
ประชาชน ประชาชนละเมิดกฎหมายหรือ
ละเมิดสิทธิของกันและกัน ศาลยุติธรรม
4. การปฏิบัติตนตามรัฐธรรมนูญ
หมวด 4 : หน้าที่ของปวงชนชาวไทย
1. พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2. ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติ และสาธารณสมบัติ
ของแผ่นดินรวมทั้งให้ความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
3. ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
4. เข้ารับการศึกษาอบรมในการศึกษาภาคบังคับ
5. รับราชการทหารตามที่กฎหมายบัญญัติ
6. เคารพและไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และไม่กระทําการใดที่อาจ
ก่อให้เกิดความแตกแยกหรือเกลียดชังในสังคม
7. ไปใช้สิทธิเลือกตั้งหรือลงประชามติอย่างอิสระโดยคํานึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของ
ประเทศเป็นสําคัญ
8. ร่วมมือและสนับสนุนการอนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ
ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งมรดกทางวัฒนธรรม
9. เสียภาษีอากรตามที่กฎหมายบัญญัติ
10. ไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ
หน้า 22
หนวยการเรียนรูท ี่ 2 : การเมืองการปกครอง
ใบงานเรื่องการปฏิบัติตนตามรัฐธรรมนูญ
คําสั่ง : ให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับสิทธิ เสรีภาพ และหน้าที่ของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน แล้วพิจารณาว่าสถานการณ์ที่
กําหนดให้ตรงกับหลักสิทธิ หรือเสรีภาพ หรือหน้าที่ โดยให้นักเรียนทําเครื่องหมาย ในช่องที่นักเรียนคิดว่าสอดคล้องกัน
--------------------------------------จบหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ------------------------------------