Professional Documents
Culture Documents
ขาวนาโยน
บทเรียนหนองเลิงเปอย
2 ข้าวนาโยนบทเรียนหนองเลิงเปือย
ขาวนาโยนบทเรียนหนองเลิงเปอย 3
สารบัญ
หน้า
นาโยน คือ อะไร? 1
ท�าไมต้องเลือกท�านาโยน? 2
ตัวช่วย...เพิ่มพลัง 3
วิธีการท�านาโยน 6
ลับเฉพาะ...หนองเลิงเปอย 10
ท�านาโยนแล้ว...ได้อะไร? 16
คิดยังไงกับนาโยน? 18
ขอขอบคุณ...ผู้ใหญ่ใจดี 22
4 ขาวนาโยนบทเรียนหนองเลิงเปอย
ขาวนาโยนบทเรียนหนองเลิงเปอย 5
ท�าไมต้องเลือกท�านาโยน?
สิ่งแรกที่ชาวนาต้องคิดตัดสินใจ
เลือกวิธีท�านาโยน ก็คือ การช่วยลดต้นทุน
การผลิต เมื่อเปรียบเทียบกับการท�านาด�า
แล้ว การท�านาโยนจะช่วยลดต้นทุนการผลิต
เนือ่ งจากใช้ แรงงานน้อยกว่า หรือ ถ้าเปรียบ
เทียบกับนาหว่าน จะสามารถประหยัด ค่า
เมล็ดพันธุ์ข้าว ค่าปุ๋ย ค่ายาก�าจัดศัตรูพืช
การท�านาโยนไม่ยากอย่างทีค่ ดิ เริม่
จากการเพาะกล้านาโยนก็ท�าได้ง่าย เพียงมี
เครือ่ งโรยข้าวช่วยเรา ท�าได้เร็ว ใช้เวลาเพาะ
กล้าไม่นานวันหนึง่ สามารถเตรียมกล้าได้ 5-8
ไร่เพียงใช้แรงงานในครอบครัว 2 คน และเมือ่
ตอนกล้าประมาณ 12-15 วัน ก็สามารถน�า
ไปโยนได้ เวลาโยนกล้าก็ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง
และสิ่งที่ส�าคัญ คือ ช่วยในเรื่องสุขภาพ ไม่
เมื่อย ไม่เจ็บเอว เหมือนการท�านาด�า
ขาวนาโยนบทเรียนหนองเลิงเปอย 7
ตัวช่วย...เพิ่มพลัง
เครือ่ งโรยข้าว บริษัทเอกชนผลิตเครือ่ งโรย
เมล็ดพันธุข์ า้ ว ส�าหรับเพาะกล้านาด�าด้วยเครือ่ งจักร
แต่ก็สามารถปรับใช้กับการเตรียมกล้านาโยนได้
เพียงน�าดินผสมกับปุย๋ หมัก หรือเมล็ดพันธุ์ใส่ลง
ในกระบะ น�าไปวางบนรางเหล็กที่เรียงถาดเพาะ
ไว้ เมื่อเครื่องโรยข้าวเคลื่อนตัว กลไกเฟองจะ
หมุน ท�าให้ดินหรือเมล็ดพันธุ์ตกลงมาด้านล่าง
ที่มีถาดหลุมรองรับอยู่
เชื้อราไตรโคเดอม่า
ชือ่ วิทยาศาสตร์ Trichoderma Har- อม่า ใช้เชื้อราในช่วงที่มีแดดอ่อน
zianum เป็นเชื้อราชั้นสูง เจริญได้ ในตอนเย็น เก็บรักษาเชือ้ ราในทีร่ ม่
ดีในดิน ซากของสิง่ มีชวี ิต และวัสดุ อุณหภูมปิ กติ เก็บได้ประมาณ 15 วัน
อินทรีย์ เชือ้ ราจะสร้างเส้นใยพันรัด หรือเก็บรักษาในที่เย็น 7-10 องศา
แล้วแทงเข้าสูภ่ ายในเส้นใยโรคพืช จน เซลเซียส เก็บได้นาน 30-45 วัน
ตาย นอกจากนี้ ยังช่วยแย่งอาหาร
และช่วยละลายแร่ธาตุในดินให้อยู่
ในรูปที่เป็นประโยชน์ต่อพืช
เชื้อราบิวเวอเรีย หรือเชื้อราขาว
ชื่อวิทยาศาสตร์ Beauveria bas-
siana เป็นเชื้อราเข้าท�าลายแมลง
โดยสปอร์ที่ตกบนผิวหนังล�าตัว
แมลง เมื่อสภาพแวดล้อมเหมาะ
สม สปอร์จะงอกเป็นเส้นใยแทง
ทะลุผนังล�าตัวแมลงเข้าสู่เนื้อเยื่อ
ของแมลงโดยอาศัยน�้าย่อยต่างๆ
งอกเข้าสู่ช่องว่างล�าตัวแมลง จะ
ใช้ อ าหารและของเหลวภายใน
แมลงในการเจริญเติบโต แมลง
ที่ถูกท�าลายจะตัวแห้งและตายใน
ที่สุด วิธีการใช้ น�าเชื้อราผสม
น�้า 5 ลิตร คนให้สปอร์หลุดจาก
แหล่งอาหาร กรองด้วยผ้าขาว
บาง น�าสปอร์ผสมกับน�้ายาจับใบ
15 ลิตร คนให้เข้ากัน น�าไปพ่นใน
แปลง ข้อแนะน�า ฉีดพ่นเชื้อรา
ในตอนเย็นที่มีความชื้นสูง
10 ขาวนาโยนบทเรียนหนองเลิงเปอย
วิธีการท�านาโยน
การอนุบาลกล้า
7. โรยเมล็ดพันธุ์ข้าวลงในถาดเพาะ จ�านวน
2-3 เมล็ดต่อหลุม
8. โรยดินละเอียดกลบเมล็ดข้าวให้ระดับดิน
เสมอปากหลุม
9. น�าถาดเมล็ดพันธุข์ า้ วไปวางไว้แปลงเพาะ
ที่เตรียมไว้
10. คลุมถาดเพาะด้วยกระสอบปานหรือ
วัสดุอื่นๆ (เช่น ผ้าแสลนสีด�า) เพื่อป้องกัน
เมล็ดกระเด็นออกขณะรดน�า้ หรือเมือ่ ฝนตก
11. รดน�า้ เช้าและเย็น (สังเกตให้ดนิ มีความชืน้
เสมอ) เมื่อครบ 3 วัน ยกวัสดุคลุมขึ้นสูง อีก
3 วัน น�าวัสดุคลุมออก
12. เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 12-15 วัน
หรือมีความสูงประมาณ 12-15 เซนติเมตร
จึงน�าไปโยน
12 ขาวนาโยนบทเรียนหนองเลิงเปอย
การโยนกล้า-การดูแลรักษา
1. เตรียมแปลง ไถดะ ไถคราด ท�าเทือกให้เรียบ
เสมอ ใส่ปยุ๋ คอกรองพืน้ ขังน�า้ ในแปลงเล็กน้อย
2. โยนกล้าข้าวลงในแปลง เมื่อต้นข้าวตั้งตัว
ขังน�้าเข้าความสูงของน�้าไม่ท่วมต้นข้าว ฉีด
พ่นไตรโคเดอม่า
3. เมือ่ ต้นข้าวอายุ 30 วัน ใส่ปยุ๋ น�า้ หมัก ฉีดพ่น
ไตรโคเดอม่า รักษาระดับน�า้ ในแปลง ดูแลรักษา
ความสะอาดภายในแปลง ก�าจัดวัชพืชต่างๆ
4. เมื่อต้นข้าวแตกกอ ฉีดพ่นไตรโคเดอม่า
และฮอร์โมนไข่ หากพบแมลงศัตรูพืช ให้ฉีด
พ่นด้วยบิวเวอเรียในตอนเย็น
ขาวนาโยนบทเรียนหนองเลิงเปอย 13
ลับเฉพาะ...หนองเลิงเปือย
การทดลองท�ำนาโยนมาตลอด 1 ปี เรา
สังเกตและพบเห็นสิ่งต่างๆ มากมาย ขอสรุปสิ่งที่ได้
เรียนรู้ง่ายๆ ดังนี้
การท�ำนาโยน เหมาะสมกับพื้นที่ที่สามารถ
บริหารจัดการน�้ำได้ดี เพราะการท�ำนาโยนต้องใช้น�้ำ
หล่อเลีย้ งในแปลงข้าวสม�ำ่ เสมอ เพือ่ ควบคุมไม่ให้วชั พืช
เกิดขึ้น หากท�ำในพื้นที่ที่มีน�้ำน้อย ผลผลิตจะไม่ดีเท่า
ที่ควร
ดินหนองเลิงเปือย หรือดินในพื้นที่ภาค
อีสาน ส่วนใหญ่เป็นดินทราย มีองค์ประกอบหลักเป็น
ซิลิกา เมื่อปลูกข้าวในพื้นที่นี้ ข้าวจะมีลักษณะเฉพาะ
มีรสชาติทดี่ ี กลิน่ หอม (หอมติดกระเป๋าเลย) อร่อย ไม่
เหมือนปลูกในภาคอื่น ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
การเตรียมดิน
การเตรียมดินส�ำหรับเพาะกล้า ขั้นตอน
การเตรียมดินส�ำหรับเพาะกล้าถือเป็นขัน้ ตอนทีส่ ำ� คัญ
มาก ลักษณะดินทีเ่ หมาะสมคือ ดินโพน หรือ ดินทาม
หรือ ดินเหนียวปนร่วน การทีด่ นิ มีลกั ษณะเหนียวเล็ก
น้อย ท�ำให้ดินยึดเกาะกับรากได้ดี เวลาโยน ตุ้มกล้า
จะมีน�้ำหนัก สามารถก�ำหนดทิศทางการโยนได้ง่าย
และกล้าจะตั้งตัวได้เร็วเมื่อสัมผัสกับพื้นดินในแปลง
ข้าวนาโยนบทเรียนหนองเลิงเปือย 15
อัตราส่วนระหว่าง ดินโพน/ดินทาม/ดิน
เหนียวปนร่วน : ปุ๋ยคอก คือ 2:1
การคัดขนาดเม็ดดินก็มีความส�ำคัญไม่แพ้
กัน เม็ดดินที่ดีควรมีขนาดเท่าๆ กัน การร่อนดินรอง
ก้นหลุมหน้าแรกก็จะดี
การเตรียมดินในแปลงนา แปลงที่จะท�ำนา
ต้องมีการพักดินก่อน ป้องกันการเกิดโรคข้าวที่มากับ
ดินที่ได้ใช้ประโยชน์มาก่อน การเตรียมดินในแปลงนา
เริ่มด้วยการไถกลบตอฟาง หรือเศษวัชพืช การใส่ปุ๋ย
คอกรองพืน้ จะช่วยเพิม่ ความอุดมสมบูรณ์ของดิน ช่วย
ลดปริมาณการใส่ปุ๋ยในระหว่างต้นข้าวเจริญเติบโตได้
การขังน�้ำก็ส�ำคัญเช่นกัน ควรขังน�้ำในแปลงเล็กน้อย
ท�ำการไถคราด กวาดดินให้เรียบเสมอ
การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ จะช่วยแยกเมล็ด
พันธุข์ า้ วที่ไม่สมบูรณ์ออก ท�ำให้อตั ราการงอกของข้าว
มีมากกว่า โดยน�ำเมล็ดข้าวใส่ลงในน�้ำเกลือที่มีความ
เข้มข้นสูง (ท�ำให้ ไข่เป็ดลอย) เมล็ดข้าวที่ไม่สมบูรณ์
จะลอย เมล็ดที่สมบูรณ์จะจมลงด้านล่าง แล้วน�ำไป
ล้างน�้ำสะอาด ล้างความเค็มจากน�้ำเกลือออก
การกระตุ้นข้าวให้งอก ใช้วิธีการทั่วไปด้วย
การน�ำเมล็ดข้าวแช่ในน�้ำ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง แล้วน�ำ
ผึง่ ลมบนเสือ่ หรือมุง้ เขียว เมล็ดข้าวจะได้แห้งทัว่ ถึงกัน
จ�ำนวนเมล็ดพันธุข์ า้ วภายในหลุม จ�ำนวนเมล็ดพันธุข์ า้ ว
มีผลต่อจ�ำนวนผลผลิตข้าวทีจ่ ะเกิดขึน้ ยกตัวอย่างง่ายๆ
16 ข้าวนาโยนบทเรียนหนองเลิงเปือย
คือ หากเปรียบเทียบจ�ำนวนเมล็ดพันธุ์ข้าวต่อหนึ่ง
หลุม เสมือนจ�ำนวนประชากรของประเทศ ประเทศ
ที่มีประชากรมาก การแก่งแย่งทรัพยากรต่างๆ ก็มี
จ�ำนวนมาก ประชากรก็ไม่ค่อยสมบูรณ์ เหมือนกัน
หากมีจ�ำนวนกล้าข้าวในหนึ่งหลุมมากเกินไป กล้าข้าว
ก็จะแย่งอาหารกัน ต้นกล้าจะลีบ เล็ก เมื่อน�ำไปโยน
ในแปลงนา ต้นกล้าภายในหลุมนั้นจะแตกกอน้อย
ผลผลิตข้าวก็จะน้อยตาม จ�ำนวนที่แนะน�ำคือ 2-3
เมล็ดต่อหลุม เพราะเราพบว่าต้นข้าวที่แตกกอจาก
ต้นหลัก จะให้ผลผลิตของข้าวมากกว่า
แปลงเพาะกล้า ต้องเป็นพืน้ ทีท่ มี่ คี วามเรียบ
สม�่ำเสมอ แสงแดดส่องถึง พื้นที่ที่เรียบจะท�ำให้กล้า
ข้าวแต่ละหลุมได้รบั น�ำ้ เท่ากัน การงอกจะเกิดขึน้ พร้อมๆ
กันและสูงไร่เรี่ยกัน ท�ำให้ง่ายต่อการดูแลและจัดการ
ต้นกล้า
การดูแลกล้า ในความเข้าใจพืน้ ฐาน คือ ควร
รดน�้ำกล้าข้าววันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น แต่ในความ
จริงแล้วควรดูจากดินว่ามีความชืน้ มากน้อยแค่ไหน ใน
วันที่อากาศร้อนมาก การรดน�ำ้ เพียงแค่ 2 ครั้ง อาจไม่
เพียงพอ
การย้ายกล้า ก่อนจะย้ายกล้าออกจากแปลง
ควรรดน้าให้ดนิ มีความชืน้ ก่อน เมือ่ จะถอนกล้าตอนโยน
จะทาให้กล้าหลุดออกจากหลุม ดินไม่แตก รากไม่ขาด
หลังจากย้ายกล้าออกจากแปลงเพาะแล้ว ควรโยนกล้า
ให้เสร็จภายใน 2 ชั่วโมง เพราะจะทาให้กล้าข้าวเหี่ยว
ข้าวนาโยนบทเรียนหนองเลิงเปือย 17
การโยนกล้าข้าว ขอแนะน�ำวิธีการโยนกล้า
3 วิธี ได้แก่ (1) การโยนแบบจิ้มหรือประณีต (2) การ
โยนแบบปาลูกดอก และ (3) การโยนแบบมั่ว เป็นการ
ขยุ้ม และเหวี่ยงออกจากตัว วิธีที่ 1 ถึง 3 ใช้เวลาใน
การโยนจากมากไปน้อย โดยทั้ง 3 วิธี ให้ผลผลิตข้าว
ไม่แตกต่างกัน สามารถเลือกโยนได้ตามใจชอบ
การโยนกล้าข้าวในแปลงนาที่เป็นทรายจัด
ต้องรีบโยนกล้า เพราะดินจะแห้งเร็วมาก เมื่อดินแห้ง
กล้าที่โยนไปจะไม่ตดิ กับดิน ต้องเข้าไปซ่อมด้วยการด�ำ
และในวันทีม่ ฝี นตก ลมแรง ไม่ควรโยนกล้า กล้าที่โยน
จะปลิวไปตามลม และลอยไปตามน�ำ้ กล้าจะไม่ตดิ กับ
ดินเมือ่ โยนไปเจอกับดินทีแ่ ข็งมากๆ แต่ถา้ หลีกเลีย่ งไม่
ได้ ก็จะต้องเข้าไปซ่อมแซมในจุดที่มีปัญหา
การดูแลรักษา ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน
เพียงแค่ควบคุมระดับน�้ำภายในแปลงให้เหมาะสมกับ
ความสูงของต้น หมัน่ ก�ำจัดวัชพืช ฉีดพ่นไตรโคเดอม่าใน
ตอนเย็น จ�ำนวน 3 ครัง้ (ในช่วงแรก, ช่วงแตกกอ, หลัง
แตกกอ 15 วัน) ฉีดพ่นฮอร์โมนไข่ในตอนเช้า จ�ำนวน
3 ครั้ง (ช่วงแตกกอ, ช่วงก�ำลังตั้งท้อง, ช่วงเกสรร่วง)
ฉีดพ่นบิวเวอเรียในตอนเย็นกรณีที่มีแมลงศัตรูพืชเข้า
ท�ำลาย และอาจใช้ปุ๋ยน�้ำหมักและปุ๋ยอื่นๆ เพิ่มเติมได้
18 ขาวนาโยนบทเรียนหนองเลิงเปอย
ท�ำนาโยนแล้ว...ได้อะไร?
หากจะถามว่าได้อะไรจากการท�ำนาโยนใน
ครัง้ นีน้ นั่ หรอ? เราก็ตอบได้ ไม่เต็มปากหรอกนะว่า เรา
ได้อะไร เท่าไหร่ เพราะเราเริ่มทดลองท�ำได้ปีเดียวเอง
แต่เพียง 1 ปี ที่เราทา สิ่งที่เราได้รับจริงๆ
คือ ต้นทุนการผลิตเราลดลง แต่ก่อนที่เราท�ำนาเรามี
ต้นทุนต่อไร่สูงถึง 3,000 บาท แต่พอเราเปลี่ยนมาท�ำ
นาโยน เราไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมีในการก�ำจัดศัตรู
พืช ต้นทุนเราเหลือเพียง 1,500 บาท ลดลงมาเกือบ
เท่าตัวเลยนะ แถมยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัว
ด้วยนะ นี่แหละคือสิ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนที่สุดเลยนะ
ตอนนี้
ไม่เพียงเท่านี้ การท�ำนาโยนยังช่วยให้เรา
ก�ำหนดทิศทางการใช้แรงงานได้ หมายถึงว่า เราสามารถ
ค�ำนวณล่วงหน้าได้วา่ เรามีนาทีต่ อ้ งท�ำกี่ไร่ จะท�ำให้เสร็จ
ภายในกี่วัน และจะต้องใช้คนกี่คนโยนกล้า หากเรา
ต้องการให้เสร็จเร็ว เราก็ต้องใช้คนโยนกล้ามาก แต่
หากเราไม่รีบร้อนท�ำให้เสร็จเร็วขนาดนั้น เราก็ใช้คน
โยนกล้าน้อยลง ประหยัดแรงงานกว่านาด�ำเยอะ โดย
เฉลี่ยแล้วคน 1 คน สามารถโยนกล้าได้ 1 ไร่ต่อวัน ขึ้น
อยู่กับวิธีการโยนและความประณีตของแต่ละคนด้วย
20 ข้าวนาโยนบทเรียนหนองเลิงเปือย
คิดยังไงกับนาโยน?
แม่กุหลาบ ภูเกษม
“…แต่กอ่ นทีอ่ าจารยยงั ไม่เขามา เห็นดูเขาอยู่
ในทีวหี รือว่าไปดูงาน ก็คดิ อยากทํา เพราะคิด
ว่ามันประหยัดเมล็ดพันธุ และเราก็ไม่ค่อยมี
แรงงาน จะประหยัดแรงงานดวย ประหยัด
ตนทุน คือ อยากทําอยูแ่ ลว เพราะว่าไปอบรม
ก็ไปดูเฉยๆ ว่าเออ ทําอย่างนีน้ ะ แต่เขาไม่พา
เราลงมือทําไง มันเลยไม่รูหลักการว่าจะทํา
ยังไง แค่ฟงเฉยๆ รูสึกว่าดีมากๆ เลย คือ
ความฝนเราเปนจริงไง แต่กอ่ นนี้ไปดูวา่ เออ
เขาทํานาโยน เขาทําอย่างนี้นะ แค่เขาบอก
เฉยๆ เราก็…อืม ถาเราไม่ลงมือทํา มันไม่รใู ช่
ไหมอาจารย เราตองลงมือทําดวย เหมือน
ทํากับขาวนี่แหละ ถาเออ ของเขาทําอร่อย
สูตรมาอย่างงี้ๆ เราทําก็ไม่อร่อยเหมือนเขา
ตม เราตองไปทํากับเขาดวย มันถึงรู พอ
อาจารยเขามาก็เลยเปน ฝนเราเปนจริง …ได
ทําแลว รูสึกดีมากเลยค่ะ ชอบมากดวย…”
22 ขาวนาโยนบทเรียนหนองเลิงเปอย