Professional Documents
Culture Documents
เรื่อง
การพัฒนาระบบจัดการข้อมูลการปฏิบตั ิงานของบุคลากร
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
DEVELOPMENT AN OPERATION MANAGEMENT PERSONAL SYSTEM OF
ูมิ
FACULTY OF SCIENCE AND TECHNOLOGY, RMUTSB
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
โดย
นางพงษ์ญาดา เกาะเรียนไชย
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
พ.ศ. 2556
บทคัดย่อ
การพัฒนาระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(DEVELOPMENT AN OPERATION MANAGEMENT PERSONAL SYSTEM OF FACULTY OF
SCIENCE AND TECHNOLOGY, RMUTSB) มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความรวดเร็ว
ในการคํานวณสถิติวันลาของบุคลากรของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
ราชมงคลสุวรรณภูมิ อีกทั้งยังช่วยในการจัดเก็บข้อมูลบุคลากร ข้อมูลการฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัย
หรือดูงาน เพื่อใช้เป็นแฟ้มประวัติประกอบการพิจารณาของผู้บังคับบัญชา
การดําเนินงานพัฒนาระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี มหาวิ ท ยาลั ย เทคโนโลยี ร าชมงคลสุ ว รรณภู มิ ผู้ พั ฒ นาได้ ทํ า การศึ ก ษาขั้ น ตอนการ
ดําเนินงานโดยการรวบรวมข้ อมู ลด้ วยการสัมภาษณ์ สืบค้ นจากเอกสาร และศึกษาระเบี ยบทาง
ราชการและระเบียบของมหาวิทยาลัย แล้วนํามาวิเคราะห์โดยใช้หลักการของวงจรการพัฒนาระบบ
7 ขั้นตอน เพื่อพัฒนาระบบให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด หลังจากการพัฒนาระบบ
เสร็จสิ้น ผู้พัฒนาได้สร้างเครื่องมือทดสอบประสิทธิภาพของระบบ และทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง ซึ่ง
ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ 2 ท่าน และผู้ใช้ 3 ท่าน จากการนําแบบสอบถามมาวิเคราะห์ทางสถิติโดยใช้
ูมิ
ระเบียบวิธีทางสถิติ สามารถสรุปผลการทดสอบประสิทธิภาพของระบบจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับระบบ
ร.ส พ.
ณภ
พบว่า ระบบสามารถทํางานได้ตามต้องการในเกณฑ์เฉลี่ยอยู่ในระดับดี
มท สว
ุวรร
ข
กิตติกรรมประกาศ
การวิ จั ย ครั้ งนี้ ผู้ วิจั ย ได้ รั บ ทุ น สนั บ สนุ น จากมหาวิ ท ยาลั ย เทคโนโลยี ร าชมงคลสุ วรรณภู มิ
ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2556
ผู้วิจัยขอขอบพระคุณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ผู้สนับสนุนทุนวิจัย ผู้บริหาร
คณาจารย์ และนักศึกษา ซึ่งเป็นบุคคลที่มีส่วนช่วยทําให้งานวิจัยสําเร็จลุล่วงด้วยดี
คุณค่าและประโยชน์จากงานวิจัยเล่มนี้ ขอมอบแด่มารดา บิดา ครู อาจารย์ และผู้มีพระคุณ
ทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือด้วยดีตลอดมา
นางพงษ์ญาดา เกาะเรียนไชย
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
ค
สารบัญ
หน้า
บทคัดย่อ ข
กิตติกรรมประกาศ ค
สารบัญตาราง ฉ
สารบัญภาพ ซ
บทที่ 1. บทนํา 1
1.1 ความเป็นมาและความสําคัญของปัญหา 1
1.2 วัตถุประสงค์ 1
1.3 ขอบเขต 2
1.4 เครื่องมือที่ใช้ 2
1.5 ขั้นตอนการดําเนินงาน 2
1.6 การทดสอบและหาประสิทธิภาพ 3
1.7 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 3
บทที่ 2. ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
ูมิ 4
ร.ส พ.
ณภ
2.1 วงจรการพัฒนาระบบ (System Development Life Cycle : SDLC) 4
มท สว
Management System)
2.4 แผนภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล (Entity Relationship 16
Diagram : ER Diagram)
2.5 พจนานุกรมข้อมูล (Data Dictionary) 19
2.6 ภาษาโปรแกรม 19
2.7 การประเมินประสิทธิภาพของระบบ 22
บทที่ 3. ขั้นตอนการดําเนินงาน 23
3.1 การกําหนดปัญหา 23
3.2 การวิเคราะห์ระบบ 24
3.3 การออกแบบระบบ 24
3.4 การพัฒนาระบบ 58
3.5 การทดสอบระบบ 58
3.6 การติดตั้งระบบ 60
3.7 การบํารุงรักษาระบบ 60
บทที่ 4. ผลการทดสอบ 61
4.1 การทดสอบประสิทธิภาพระบบ โดยผู้พัฒนา 61
ง
สารบัญ (ต่อ)
หน้า
4.2 การทดสอบประสิทธิภาพระบบ โดยผู้เชี่ยวชาญ 65
4.3 การทดสอบประสิทธิภาพระบบ โดยผู้ใช้ 67
บทที่ 5. สรุปผล 71
5.1 สรุปผลการดําเนินงาน 71
5.2 ข้อเสนอแนะ 72
เอกสารอ้างอิง 73
ภาคผนวก ก รายนามผู้ทดสอบระบบ 74
ภาคผนวก ข แบบสอบถาม 77
ประวัติผู้วิจัย 88
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
จ
สารบัญตาราง
ตารางที่ หน้า
2-1 แสดงชื่อสัญลักษณ์และความหมายของ Yourdon และ Gane & Sarson 9
2-2 แสดงชื่อสัญลักษณ์และความหมายของ Chen และ Crow’s Foot 17
3-1 แสดง Boundaries, Data และ Process ที่เกี่ยวข้องกับระบบ 26
3-2 แสดงแฟ้มข้อมูลการเข้าใช้ระบบ (Login) 38
3-3 แสดงแฟ้มข้อมูลบุคลากร (Personnel) 39
3-4 แสดงแฟ้มข้อมูลตําแหน่งในสายงาน (Position) 40
3-5 แสดงแฟ้มข้อมูลตําแหน่งทางการบริหาร (Organize Position) 40
3-6 แสดงแฟ้มข้อมูลศูนย์พนื้ ที่ (Center of University) 40
3-7 แสดงแฟ้มข้อมูลหน่วยงานภายในสังกัด (Team) 40
3-8 แสดงแฟ้มข้อมูลสถาบันที่จบการศึกษาสูงสุด (University Graduated) 41
3-9 แสดงแฟ้มข้อมูลการลาป่วย (Sick) 41
3-10 แสดงแฟ้มข้อมูลการลากิจส่วนตัว (Business) 41
ูมิ
3-11 แสดงแฟ้มข้อมูลการลาพักผ่อน (Vacation) 41
ร.ส พ.
ณภ
3-12 แสดงแฟ้มข้อมูลการลาไปศึกษา ฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัย หรือดูงาน (Training) 42
มท สว
3-15 แสดงเกณฑ์การให้คะแนนการประเมินประสิทธิภาพ 60
4-1 แสดงผลการวิเคราะห์การตรวจสอบการเข้าใช้งานระบบ 61
4-2 แสดงผลการวิเคราะห์การจัดการข้อมูลบุคลากร 61
4-3 แสดงผลการวิเคราะห์การจัดการข้อมูลการลาป่วย 62
4-4 แสดงผลการวิเคราะห์การจัดการข้อมูลการลากิจส่วนตัว 63
4-5 แสดงผลการวิเคราะห์การจัดการข้อมูลการลาไปศึกษา ฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัย หรือดูงาน 64
4-6 แสดงผลการวิเคราะห์การจัดการข้อมูลการลาพักผ่อน 64
4-7 แสดงผลการวิเคราะห์การจัดการข้อมูลการลาคลอดบุตร 64
4-8 แสดงผลการวิเคราะห์การจัดการข้อมูลการลาอุปสมบท 64
4-9 แสดงผลการวิเคราะห์การจัดการข้อมูลการลาไปประกอบพิธีฮัจย์ 65
4-10 แสดงเกณฑ์การให้คะแนนการประเมินประสิทธิภาพระบบ 65
4-11 แสดงผลการประเมินระบบของผู้เชี่ยวชาญ ด้านการทํางานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ 66
4-12 แสดงผลการประเมินระบบของผู้เชี่ยวชาญ ด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ 66
4-13 แสดงผลการประเมินระบบของผู้เชี่ยวชาญ ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล 67
ในระบบ
4-14 แสดงผลการประเมินระบบของผู้ใช้ ด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ 68
ฉ
สารบัญตาราง (ต่อ)
ตารางที่ หน้า
4-15 แสดงผลการประเมินระบบของผู้ใช้ ด้านการทํางานได้ตามฟังก์ชั่นงานของระบบ 68
4-16 แสดงผลการประเมินระบบของผู้ใช้ ด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ 69
4-17 แสดงผลการประเมินระบบของผู้ใช้ ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ 70
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
ช
สารบัญภาพ
ภาพที่ หน้า
2-1 แผนภาพ DFD ที่ถูกต้อง 10
2-2 Process Decomposition Diagram ที่แสดงถึงกระบวนการต่างๆ ใน DFD แต่ละระดับ 11
2-3 แผนภาพบริบทของระบบบริหารงานร้านบ้านกล้วยไม้ 12
2-4 แผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 1 ของระบบงานลงทะเบียนเรียนและประเมินผล 13
2-5 แผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 2 แสดงขั้นตอนการลงทะเทียนประวัตินักศึกษา 14
2-6 ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง (One-to-One Relationship) 18
2-7 ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม (One-to-Many Relationship) 18
2-8 ความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม (Many-to-Many Relationship) 19
2-9 แผนภาพแสดงแอตตริบวิ ต์ของเอ็นติตี้ลูกค้า 19
3-1 แผนภาพบริบท (Context Diagram) ของระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของ 25
บุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
3-2 Process Hierarchy Chat ของระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากร 27
ูมิ
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
ร.ส พ.
ณภ
3-3 แผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 1 (Data Flow Diagram Level 1) 29
มท สว
ซ
สารบัญภาพ (ต่อ)
ภาพที่ หน้า
3-19 หน้าจอจัดการข้อมูลบุคลากร 44
3-20 หน้าจอข้อมูลบุคลากร แสดงข้อมูลส่วนตัว 45
3-21 หน้าจอข้อมูลบุคลากร แสดงข้อมูลการศึกษา 45
3-22 หน้าจอข้อมูลบุคลากร แสดงข้อมูลการทํางาน 46
3-23 หน้าจอข้อมูลการปฏิบัติงาน 46
3-24 หน้าจอจัดการข้อมูลการลาป่วย 47
3-25 หน้าจอการจัดการข้อมูลการลากิจส่วนตัว 47
3-26 หน้าจอการจัดการข้อมูลการลาพักผ่อน 48
3-27 หน้าจอการจัดการข้อมูลการฝึกอบรม 48
3-28 หน้าจอการจัดการข้อมูลการดูงาน 49
3-29 หน้าจอการจัดการข้อมูลการปฏิบัติการวิจัย 49
3-30 หน้าจอการจัดการข้อมูลการลาศึกษาต่อ 50
3-31
ูมิ
หน้าจอการจัดการข้อมูลการลาคลอดบุตร 50
ร.ส พ.
ณภ
3-32 หน้าจอการเลือกข้อมูลการลาอุปสมบท 51
มท สว
3-33 หน้าจอการเลือกข้อมูลการลาไปประกอบพิธีฮัจย์ 51
3-34 หน้าจอแสดงผลลัพธ์การค้นหาชื่อและนามสกุลของบุคลากร 52
ุวรร
ฌ
บทที่ 1
บทนํา
1.1 ความเป็นมาและความสําคัญของปัญหา
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังกัดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ หน่วยงาน
ย่อยของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แบ่งออกเป็น 5 หน่วยงาน คือ สํานักงานคณบดี, สาขาวิชา
คณิตศาสตร์, สาขาวิชาวิทยาศาสตร์, สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ และสาขาวิชาพลศึกษาและ
นันทนาการ โดยมีเจ้าหน้าที่ทําหน้าที่ประสานงานระหว่างศูนย์พื้นที่ และมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบดูแล
ข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรและจัดการเอกสารการลาในแต่ละศูนย์พื้นที่ ให้เป็นไปตามระเบียบ
สํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ ปีพุทธศักราช 2555 เมื่อบุคลากรต้องการลาหรือ
ไปปฏิ บั ติ ร าชการนอกสถานที่ จะต้ อ งยื่ น แบบฟอร์ ม การลาให้ แ ก่ ผู้ บั ง คั บ บั ญ ชาชั้ น ต้ น เมื่ อ
ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นอนุมัติแล้ว จะทําการส่งแบบฟอร์มการลาให้กับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เพื่อให้
เจ้าหน้าที่เสนอให้กับคณบดีและ/หรืออธิการบดีลงนามอนุมัติตามระเบียบการลาแต่ละประเภท หาก
ูมิ
ร.ส พ.
ได้รับการอนุมัติ เจ้าหน้าที่จะบันทึกข้อมูลลงในสมุดบันทึกประวัติการลา เพื่อนําข้อมูลการลามาจัดทํา
ณภ
สถิติและนําสถิติการลาไปใช้ในการคํานวณฐานเงินเดือนประจําปีของบุคลากร
มท สว
จากขั้นตอนการปฏิบัติดังกล่าวทําให้เกิดความยุ่งยากและอาจเกิดข้อผิดพลาดได้โดยง่ายเมื่อทํา
ุวรร
การสรุปสถิติการลา เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะต้องนําข้อมูลการลาของบุคลากรแต่ละท่านจากสมุด
บันทึกประวัติการลา ไปทําการจัดเก็บและคํานวณในโปรแกรมกระดาษคํานวณอีกครั้ง แล้วนําข้อมูล
สถิติการลาส่งไปยังส่วนงานที่รับผิดชอบในการคํานวณฐานเงินเดือนประจําปีและการเลื่อนเงินเดือน
ซึ่งการลาแต่ละประเภทจะมีผลต่อการคํานวณตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน ปีพุทธศักราช
2552 การเก็บรักษาข้อมูลระบบงานบุคลากรจะต้องมีการจัดเก็บประวัติของบุคลากร ประวัติการลา
ตามประเภทต่างๆ หากมีการนําเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงานก็จะช่วยให้การบริหารและการ
ดําเนินงานในระดับผู้ปฏิบัติการมีประสิทธิภาพมากขึ้น (วันดี รอดทอง,2550) ผู้วิจัยจึงมีแนวคิด
พัฒนาระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทํางานในส่วนของการจัดการข้อมูลบุคลากร
ข้ อ มู ล การลา การสรุ ป สถิ ติ ก ารลา และช่ ว ยเพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพการปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ ใ ห้ กั บ เจ้ า หน้ า ที่
ผู้รับผิดชอบ
1.2 วัตถุประสงค์
1.2.1 เพื่ อ พั ฒ นาระบบจั ด การข้ อ มู ล การปฏิ บั ติ ง านของบุ ค ลากรคณะวิ ท ยาศาสตร์ แ ละ
เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
1.2.2 เพื่อดําเนินการหาประสิทธิภาพของระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2
1.3 ขอบเขต
เป็นการดําเนินการพัฒนาระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรสังกัดคณะวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี โดยดําเนินการพัฒนาให้สามารถจัดเก็บข้อมูลให้ฐานข้อมูล และดําเนินการเก็บข้อมูล
การทดสอบระบบจากเจ้าหน้าที่ผู้ใช้งาน เพื่อหาประสิทธิภาพของระบบ
1.4 เครื่องมือที่ใช้
1.4.1 ด้านฮาร์ดแวร์ (Hardware) เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer)
1.4.1.1 หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) Intel(R) Core(TM) i5 CPU M460 2.53 GHz.
1.4.1.2 การ์ดจอ (Display Card) ATI Mobility Radeon HD 5470
1.4.1.3 หน่วยความจําหลัก (Ram) DDR2 4 GB
1.4.1.4 หน่วยความจําสํารอง (Hard disk) 500 GB
1.4.1.5 แป้นพิมพ์ (Keyboard), เมาส์ (Mouse)
1.4.1.6 เครื่องพิมพ์ (Printer)
1.4.2 ด้านซอฟต์แวร์ (Software)
1.4.2.1 โปรแกรมการจัดการฐานข้อมูล Microsoft SQL Server 2005
ูมิ
1.4.2.2 โปรแกรมการพัฒนาแอพพลิเคชั่น Microsoft Visual Studio 2008
ร.ส พ.
ณภ
1.4.3 ด้านภาษาโปรแกรม (Program Language)
มท สว
1.5 ขั้นตอนการดําเนินงาน
การพั ฒนาระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดําเนินการตามขั้นตอนของวงจรการพัฒนาระบบ (System Development Life Cycle : SDLC)
7 ขั้นตอน ดังนี้
1.5.1 การกําหนดปัญหา ทําการรวบรวมข้อมูลความต้องการของผู้ใช้ และปัญหาจากการใช้งาน
ระบบงานเดิม
1.5.2 วิเคราะห์ระบบ นําข้อมูลที่รวบรวมมาทําการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการพัฒนาระบบใหม่
1.5.3 ออกแบบระบบ ใช้เครื่องมือสําหรับการพัฒนาระบบ ได้แก่ Data Flow Diagram, ER Diagram
และ Data Dictionary ในการออกแบบพื้นฐานการทํางานของระบบ
1.5.4 พัฒนาระบบ ดําเนินการพัฒนาระบบด้วยโปรแกรม Microsoft Visual Studio 2008
และจัดการฐานข้อมูลด้วยโปรแกรม Microsoft SQL Server 2005
1.5.5 ทดสอบระบบ ทดสอบการใช้ งานระบบโดยผู้วิ จั ย และผู้ เชี่ยวชาญด้า นระบบ เพื่ อ หา
ข้อผิดพลาดของระบบ ก่อนให้ผู้ใช้ได้ทดลองใช้งาน
1.5.6 ติดตั้งระบบ เป็นการนําระบบใหม่ที่ได้พัฒนาขึ้นและระบบงานเก่ามาใช้งานไปพร้อมกัน
ในช่ ว งระยะเวลาหนึ่ ง จนกระทั่ ง ระบบงานใหม่ สามารถทํ างานทดแทนระบบงานเก่ าได้ อย่ างมี
ประสิทธิภาพ
3
1.6 การทดสอบและหาประสิทธิภาพ
การทดสอบเพื่ อ หาประสิ ท ธิ ภ าพของระบบจั ด การข้ อ มู ล การปฏิ บั ติ ง านของบุ ค ลากรคณะ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดําเนินการทดสอบการทํางานของระบบด้วยวิธี Black Box Testing โดย
การประเมินผลจากแบบสอบถามเกี่ยวกับหัวข้อต่อไปนี้
1.6.1 Functional Requirement Test ทําการทดสอบว่าระบบสามารถพัฒนาได้ตามความต้องการ
ของผู้ใช้หรือไม่ โดยทดสอบการติดต่อระหว่างระบบกับผู้ใช้
1.6.2 Functional Test เป็นการทดสอบความสามารถในการทํางานของระบบว่ามีความถูกต้องและ
มีประสิทธิภาพ สามารถทํางานได้ตามหน้าที่ (Function) หรือไม่
1.6.3 Usability Test ทดสอบผู้ใช้ว่าระบบสามารถใช้งานได้อย่างง่าย และเป็นที่พึงพอใจกับระบบ
หรือไม่
1.6.4 Security Test เป็นการทดสอบระบบว่ามีประสิทธิภาพในการตรวจสอบการเข้าใช้ระบบ
ได้ดีหรือไม่
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
1.7 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
มท สว
1.7.1 ได้ระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรสังกัดคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
1.7.2 ระบบจั ด การข้ อ มู ล การปฏิ บั ติ ง านของบุ ค ลากรช่ ว ยให้ ก ารดํ า เนิ น งานด้ า นสถิ ติ ก าร
ุวรร
ปฏิบัติงานของบุคลากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความถูกต้องมากขึ้น
บทที่ 2
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
การพัฒนาระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ผู้วิจัยได้ทําการศึกษาทฤษฎีและเอกสารที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การพัฒนาระบบดําเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ และตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ดังต่อไปนี้
2.1 วงจรการพัฒนาระบบ (System Development Life Cycle : SDLC)
2.2 แผนภาพกระแสข้อมูล (Data Flow Diagram)
2.3 ระบบฐานข้อมูลและระบบจัดการฐานข้อมูล (Database System & Database Management
System : DBMS)
2.4 แผนภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล (Entity Relationship Diagram)
2.5 พจนานุกรมข้อมูล (Data Dictionary)
2.6 ภาษาโปรแกรม
ูมิ
ร.ส พ.
2.7 การประเมินประสิทธิภาพของระบบ
ณภ
มท สว
ูมิ
จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อวิธีการทํางานของผู้ใช้ระบบหรือไม่ อย่างไร และมีความพึงพอใจกับระบบ
ร.ส พ.
ณภ
ใหม่ ใ นระดั บ ใด นอกจากนี้ จ ะต้ อ งพิ จ ารณาว่ า บุ ค ลากรที่ จ ะพั ฒ นาและติ ด ตั้ ง ระบบมี ค วามรู้
มท สว
ูมิ
2.1.3.3 ประมาณต้นทุน-กําไร ในการดําเนินงานระบบใหม่
ร.ส พ.
ณภ
2.1.3.4 คําอธิบายวิธีการทํางานและอธิบายปัญหาของระบบที่ละเอียดขึ้นกว่าที่จะอธิบาย
มท สว
ไว้ในขั้นตอนการกําหนดปัญหา
จากข้อมูลความต้องการต่างๆ ของผู้ใช้และผู้บริหาร ก็จะใช้เป็นแนวทางในการกําหนด
ุวรร
วัตถุประสงค์ของระบบใหม่ต่อไป และในขั้นตอนนี้ผู้บริหารจะทําการพิจารณาว่ามีความเป็นไปได้ตาม
วัตถุประสงค์ที่วางไว้หรือไม่ ถ้ามีความเป็นไปได้ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้จึงเริ่มดําเนินการขั้นตอน
ถัดไป
2.1.4 การออกแบบระบบ (System Design)
การออกแบบระบบ จะเป็นการเสนอระบบใหม่ โดยที่นักออกแบบระบบจะดําเนินการ
ออกแบบระบบใหม่หรือเปลี่ยนแปลงโปรแกรมเดิมที่มีอยู่ ออกแบบฐานข้อมูลใหม่หรือเปลี่ยนแปลง
ฐานข้อมูลเดิมที่มีอยู่ ออกแบบรายละเอียดเกี่ยวกับการทํางานของผู้ใช้ และจะต้องเลือกอุปกรณ์ที่ใช้
ในการติดตั้งระบบ
การออกแบบระบบ จะเริ่มดําเนินการโดยนําแนวทางที่ได้ศึกษาไว้ในขั้นตอนการศึกษา
ความเป็นไปได้มาพิจารณาในรายละเอียดที่เสนอกระบวนการทํางานของระบบใหม่เฉพาะขั้นตอน
หลัก หรือเปลี่ยนแปลงการทํางานบางอย่างของระบบเดิม กําหนดข้อมูลเข้าและข้อมูลออก งานที่
จําเป็นต้องทํา ส่วนใดจะต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทํางานและส่วนใดที่ยังคงทํางานด้วยมือได้ และการ
คํานวณค่าใช้จ่ายที่จะต้องใช้ในโครงการใหม่ด้วย จึงควรเลือกแนวทางที่เหมาะสมให้มากที่สุดแล้วเริ่ม
ดําเนินการออกแบบรายละเอียด
ผลลัพธ์ที่ได้จากขั้นตอนนี้คือ การนําเสนอเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
คุณสมบัติของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ดังกล่าวที่นํามาใช้กับระบบใหม่ การเตรียมฐานข้อมูล
7
ูมิ
2.1.6 การติดตั้งระบบ (System Implementation)
ร.ส พ.
ณภ
การติดตั้งระบบ จะเป็นการนําส่วนประกอบต่างๆ ที่ได้สร้างไว้ในขั้นตอนของการพัฒนา
มท สว
สามารถป้องกันความเสียหายจากการทํางานที่ผิดพลาดของระบบใหม่ได้ แต่ก็เป็นวิธีที่เสียค่าใช้จ่าย
มาก และผู้ใช้งานก็ไม่ชอบการทํางานซ้ําๆ ในขณะเดียวกัน
2.1.6.2 ปรับเปลี่ยน (Conversion) ไปใช้ระบบใหม่โดยหยุดการทํางานระบบเก่า วิธีนี้มี
ความเสี่ยงสูงมากต่อการเกิดความเสียหาย ถ้าระบบใหม่เกิดทํางานผิดพลาดขึ้น และความผิดพลาด
นั้นเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะผู้ใช้ยังไม่ชินกับการทํางานกับระบบใหม่
นอกจากนี้จะต้องมีการฝึกอบรมผู้ใช้งานให้มีความเข้าใจ สามารถใช้งานระบบและทํางาน
ได้โดยไม่มีข้อผิดพลาดหรือปัญหาใดๆ การเขียนขั้นตอนการปฏิบัติ กําหนดการในการติดตั้งว่างาน
ไหนควรทําเมื่อไหร่ ใช้เวลาเท่าใด การสร้างศูนย์ควบคุมการทํางาน กําหนดบุคคลหรืกลุ่มบุคคลที่
รับผิดชอบ การกําหนดผู้มีอํานาจในการเปลี่ยนแปลงที่จําเป็นต้องกระทํากับระบบใหม่ และการเขียน
รายงานแจ้งให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ทราบ
2.1.7 การบํารุงรักษาระบบ (System Maintenance)
การบํารุงรักษาระบบเป็นขั้นตอนสุดท้ายของวงจรการพัฒนาระบบ ซึ่งกิตติ และพนิดา
(2546: 49) กล่าวไว้ว่า หลังจากระบบใหม่ได้เริ่มดําเนินการ ผู้ใช้ระบบอาจจะพบกับปัญหาที่เกิดขึ้น
เนื่องจากความไม่คุ้นเคยกับระบบใหม่ และค้นพบวิธีการแก้ไขปัญหานั้นเพื่อให้ตรงกับความต้องการ
ของผู้ใช้เอง ดังนั้นนักวิเคราะห์ระบบและโปรแกรมเมอร์จะต้องคอยแก้ไขและเปลี่ยนแปลงระบบที่
พัฒนาขึ้นจนกว่าจะเป็นที่พอใจของผู้ใช้ระบบมากที่สุด ปัญหาที่ผู้ใช้ระบบพบระหว่างการดําเนินงาน
8
นั้นเป็นผลดีทําให้ระบบใหม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากผู้ใช้ระบบเป็นผู้ที่เข้าใจในการทํางานทางธุรกิจ
เป็นอย่างดี
เริ่มจากการมีการเข้าใช้ระบบใหม่ที่ได้ติดตั้งแล้วในระยะแรก ผู้ใช้จะพบปัญหาที่เกิดขึ้น
ซึ่งอาจจะมีการทําการบันทึกปัญหาเหล่านี้ไว้ เพื่อส่งให้กับนักวิเคราะห์ระบบและโปรแกรมเมอร์ทํา
การแก้ไขต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และแก้ไขระบบที่เพิ่งมีการติดตั้งใช้
งานในระยะเริ่มต้น โดยนักวิเคราะห์ระบบจะทําการพิจารณาถึงปัญหาเหล่านั้นเพื่อหาแนวทางแก้ไข
ต่อไป
ูมิ
ขั้นตอนที่ 1 ศึกษารูปแบบการทํางานทางฟิสิคัล (Physical) ของระบบงานเดิม
ร.ส พ.
ณภ
ขั้นตอนที่ 2 วิเคราะห์เพื่อให้ได้มาซึ่งแบบจําลองทางลอจิคัล (Logical) ของระบบงานเดิม
มท สว
ขั้นตอนที่ 4 พัฒนาระบบงานใหม่ในรูปแบบของแบบจําลองฟิสิคัล
2.2.1 วัตถุประสงค์ของแผนภาพกระแสข้อมูล
2.2.1.1 เป็ น แผนภาพที่ ส รุ ป รวมข้ อ มู ล ทั้ ง หมดที่ ไ ด้ จ ากการวิ เ คราะห์ ใ นลั ก ษณะของ
รูปแบบที่เป็นโครงสร้าง
2.2.1.2 เป็นข้อตกลงรวมกันระหว่างนักวิเคราะห์ระบบกับผู้ใช้งาน
2.2.1.3 เป็นแผนภาพที่ใช้ในการพัฒนาต่อในขั้นตอนของการออกแบบระบบ
2.2.1.4 เป็นแผนภาพที่ใช้ในการอ้างอิง หรือเพื่อใช้ในการพัฒนาต่อในอนาคต
2.2.1.5 ทราบที่มาที่ไปของข้อมูลที่ไหลไปในกระบวนการต่างๆ (Data and Process)
2.2.2 สัญลักษณ์ที่ใช้ในแผนภาพกระแสข้อมูล
สัญลักษณ์ในการเขียนแผนภาพกระแสข้อมูล ที่นิยมใช้กันในปัจจุบันมาจาก 2 องค์กร ได้แก่
ชุดสัญลักษณ์มาตรฐานที่พัฒนาโดย Gane and Sarson (1979) และชุดสัญลักษณ์มาตรฐานที่พัฒนา
โดย DeMarco and Yourdon (DeMarco, 1979; Yourdon and Constantine, 1979) โดยแต่ละ
ชุดสัญลักษณ์มาตรฐานอธิบายโดยใช้สัญลักษณ์ 4 สัญลักษณ์ (กิตติ และพนิดา, 2546: 150)
9
Data store
แหล่งข้อมูล สามารถเป็นได้ทั้งไฟล์ข้อมูล และ
ฐานข้อมูล (File or Database)
External entity
ปัจจัยหรือสภาพแวดล้อมที่มีต่อระบบ
Data flow
เส้นทางการไหลของข้อมูล แสดงทิศทางของ
ูมิ
ร.ส พ.
ข้ อ มู ล จากขั้ น ตอนการทํ า งานหนึ่ ง ไปยั ง อี ก
ณภ
ขั้นตอนหนึ่ง
มท สว
2.2.3 กฎเกณฑ์การเขียนแผนภาพกระแสข้อมูล
เนื่องจากสัญลักษณ์การเขียนแผนภาพกระแสข้อมูล ประกอบด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ ซึ่ง
สัญลักษณ์แต่ละอย่างต่างก็มีความหมายในตัวเอง ดังนั้นการออกแบบแผนของกระแสข้อมูลจึงต้องมี
กฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อแสดงถึงความถูกต้องในการเขียนแผนภาพ โดยสัญลักษณ์ของแผนภาพไม่สามารถ
เชื่อมติดต่อกันได้ทุกสัญลักษณ์ (โอภาส, 2546: 58) ดังภาพที่ 2-1
10
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
ภาพที่ 2-1 แผนภาพ DFD ที่ถูกต้อง
มท สว
2.2.4 ขั้นตอนการเขียนแผนภาพกระแสข้อมูล
หลังจากที่ได้ทราบถึงสัญลักษณ์และกฎเกณฑ์การสร้างแผนภาพกระแสข้อมูลในเบื้องต้น
แล้ว การเขียนแผนภาพกระแสข้อมูล อย่างมี หลั กการ ยังประกอบด้วยขั้ นตอนสําคัญ ดั งต่อไปนี้
(โอภาส เอี่ยมสิรวิ งศ์, 2548: 173-175)
2.2.4.1 วิเ คราะห์ ใ ห้ ได้ ว่ า ระบบควรประกอบด้ ว ยเอ็ ก ซ์ เ ทอร์ น อลเอ็ น ติ ตี้ (External
Entity) อะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นบุคคล หน่วยงาน หรือระบบงานต่างๆ
2.2.4.2 ดํ า เนิ น การเขี ย นแผนภาพที่ แ สดงถึ ง สภาพแวดล้ อ มโดยรวมของระบบ หรื อ
เรียกว่า คอนเท็กซ์ไดอะแกรม (Context Diagram)
2.2.4.3 วิเคราะห์ข้อมูลในระบบว่า ควรมีข้อมูล (Data store) อะไรบ้าง
2.2.4.4 วิเคราะห์กระบวนการหรือโปรเซสในระบบว่า ควรมีโปรเซสหลักๆ อะไรบ้าง
ประกอบด้วยโปรเซสย่อยอะไรบ้าง โดยอาจทําเป็น Process Decomposition Diagram ดังภาพที่ 2-2
11
ูมิ
ร.ส พ.
2.2.4.5 ดําเนินการเขียนแผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 1 และอาจจะมีระดับที่ 2 ในกรณี
ณภ
ที่จําเป็นต้องขยายรายละเอียด ส่วนแผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 3 นั้น ถ้าหากจําเป็นต้องแตกย่อย
มท สว
อีกก็สามารถกระทําได้
2.2.4.6 ทําการตรวจสอบความสมดุล (Balancing) ของแผนภาพ และทําการปรับแก้
ุวรร
(Redraw) จนกระทั่งได้แผนภาพกระแสข้อมูลที่สมบูรณ์และถูกต้อง
2.2.4.7 ในการสร้างแผนภาพกระแสข้อมูล อาจใช้เครื่องมือช่วยวาดอย่างโปรแกรม Visio
หรือใช้โปรแกรม CASE Tools ก็ได้
2.2.5 แผนภาพบริบท (Level 0 : Context Diagram)
แผนภาพกระแสข้ อมูลระดับสูงสุด เรียกว่า คอนเท็กซ์ไดอะแกรม หรือเรียกว่า DFD
Level 0 โดยแผนภาพดังกล่าวจะมีเพียงหนึ่งโปรเซสที่เป็นชื่อระบบงาน และมีดาต้าโฟลว์ (Data flow)
เชื่อมต่อระหว่างโปรเซสกับเอ็กซ์เทอร์นอลเอ็นติตี้ โดยไม่มีดาต้าสโตร์ (Data store) จุดประสงค์ของ
คอนเท็ ก ซ์ ไ ดอะแกรมนี้ ก็ เ พื่ อ แสดงแวดล้ อ มของระบบ เพื่ อ ให้ เ ห็ น ว่ า ระบบมี ก ารตอบโต้ กั บ
เอ็กซ์เทอร์นอลเอ็นติตี้ใดบ้าง ส่วนรายละเอียดภายในระบบงานว่ามีกระบวนการหรือโปรเซสย่อย
(Sub process) ใดบ้างนั้น ก็จะแสดงอยู่ในแผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 1 ต่อไป ดังภาพที่ 2-3
12
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
(ที่มา : http://learninganalysis.blogspot.com/2010/08/context-diagram.html)
ูมิ
ร.ส พ.
ภาพที่ 2-4 แผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 1 ของระบบงานลงทะเบียนเรียนและประเมินผล
ณภ
(ที่มา : http://i46.servimg.com/u/f46/13/06/54/92/cr_dfd11.gif)
มท สว
ุวรร
2.2.7 แผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 2 (Data Flow Diagram Level 2)
โอภาส (2548: 184) กล่าวว่า แผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 2 จะแสดงถึงโปรเซสย่อยของ
แผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 1 ซึ่งโดยปกติแผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 1 ส่วนใหญ่สามารถแตก
โปรเซสออกเป็นส่วนย่อยๆ ต่อไปได้อีก เพื่อแสดงถึงกระบวนการทํางานของระบบในรายละเอียด
กล่ า วคื อ แผนภาพกระแสข้ อ มู ล ระดั บ ที่ 2 นั้ น จะทํ า การแตกฟั ง ก์ ชั น การทํ า งานในโปรเซสของ
แผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 1 ออกเป็นส่วนๆ ซึ่งกระบวนการแตกฟังก์ชันนี้เรียกว่า Functional
Decomposition และหากโปรเซสได้แตกกระจายออกมาเป็นแผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 2 แล้ว
ไม่สามารถแตกย่อยต่อไปได้อีก (Functional Primitive) กระบวนการแตกฟังก์ชันก็จะหยุดที่ระดับที่ 2
ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อความต้องการแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม หากแผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 2 ยังคง
สามารถแตกฟังก์ชันเป็นกระบวนการย่อยต่อไปได้อีก กล่าวคือ ยังไม่ใช่เป็น Functional Primitive
นั่นหมายถึง จําเป็นต้องแตกกระจายเป็นระดับที่ 3 ต่อไป แผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 2 จะแสดง
ตัวอย่างดังภาพที่ 2-5
14
ูมิ
ร.ส พ.
กิตติ และพนิดา (2551: 144) กล่าวไว้ว่า ความสมดุลของแผนภาพ (Balancing DFD) หมายถึง
ณภ
ความสมดุลของแผนภาพกระแสข้อมูลที่จะต้องมี Input Data Flow ที่เข้าสู่ระบบและ Output Data
มท สว
การป้องกันมิให้ผู้ไม่มีสิทธิ์ใช้งานเข้ามาละเมิดข้อมูลในฐานข้อมูลที่เป็นศูนย์กลางได้ รวมถึงการสํารอง
ข้อมูลและการกู้คืนข้อมูล ในกรณีข้อมูลเกิดความเสียหาย เป็นต้น
ส่วนประกอบด้านสภาพแวดล้อมของระบบจัดการฐานข้อมูล (Components of the DBMS
Environment) ประกอบไปด้วย
2.3.2.1 ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รอบข้าง
(Peripherals) โดยตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จะนํามาพิจารณาก็คือหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) และ
หน่วยความจําหลัก หน่วยประมวลผลกลางจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเร็วในการประมวลผล ในขณะที่
หน่วยความจําหลักในเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้เป็นพื้นที่สําหรับจัดเก็บข้อมูลและโปรแกรมต่างๆ ที่นํามา
ประมวลผลร่วมกับฐานข้อมูลนั้น นอกจากนี้ยังมีหน่วยความจําสํารองที่ใช้จัดเก็บข้อมูลต่างๆ ใน
ฐานข้อมูล ซึ่งจําเป็นต้องคํานึงถึงขนาดความจุที่จะนํามาใช้เพื่อการจัดเก็บข้อมูลเหล่านั้นด้วย
2.3.2.2 ซอฟต์แวร์ (Software) ประกอบด้วยโปรแกรมต่างๆ เช่น ระบบปฏิบัติการ (Operation
System) เป็นโปรแกรมระบบที่ใช้สําหรับควบคุมการทํางานของคอมพิวเตอร์ รวมถึงการจัดสรร
ทรัพยากรในระบบให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล (DBMS Software) และ
โปรแกรมประยุกต์และโปรแกรมยูทิลิตี้ต่างๆ (Applications Programs and Utilities Software)
ในที่นี้หมายถึงโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อนํามาใช้โต้ตอบกับฐานข้อมูล
ูมิ
2.3.2.3 ข้อมูล (Data) ถือเป็นส่วนสําคัญของข้อมูล โดยเปรียบเสมือนกันสะพานที่เชื่อมโยง
ร.ส พ.
ณภ
ระหว่างส่วนประกอบของเครื่องจักร (Machine) และมนุษย์ (Human) เข้าด้วยกัน สําหรับข้อมูลที่บันทึก
มท สว
อยู่ในฐานข้อมูลนั้น จะได้รับการออกแบบเพื่อการจัดเก็บจากนักออกแบบฐานข้อมูลอย่างมีระเบียบ
แบบแผน
ุวรร
ูมิ
กิตติ และพนิดา (2546: 200) ได้ให้ความหมายและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแผนภาพแสดงความสัมพันธ์
ร.ส พ.
ณภ
ระหว่างข้อมูลไว้ว่า การสร้างแผนภาพจําลองข้อมูลและกระบวนการดําเนินงานของระบบนั้นมีบทบาท
มท สว
สําคัญในการพัฒนาระบบ เนื่องจากสามารถแสดงโครงสร้างของข้อมูลและการทํางานภายในระบบ
ชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้ทั้งนักวิเคราะห์ระบบและผู้ใช้งานเกิดความเข้าใจในการทํางานของระบบอย่าง
ุวรร
ถูกต้อง แบบจําลองข้อมูลที่สร้างขึ้นในขั้นตอนการวิเคราะห์ความต้องการของระบบนี้ยังเรียกว่าเป็น
“การออกแบบฐานข้อมูลในระดับแนวความคิด (Conceptual Database Design)” ของขั้นตอนการออกแบบ
(Design Phase) ในกิจกรรมการออกแบบฐานข้อมูลซึ่งจะนํา Conceptual Data Model ที่ได้จาก
กิจกรรมย่อยนี้ไปทําการปรับปรุงและออกแบบฐานข้อมูลในระดับ Logical และ Physical ต่อไป ใน
ที่นี้เพื่อความสะดวกจะเรียก Conceptual Data Model ว่า “Data Model”
แบบจําลองข้อมูล (Data Model) หมายถึง การจําลองข้อมูลที่เกิดขึ้นทั้งหมดในระบบพร้อมทั้ง
จําลองความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลที่เกิดขึ้นนั้นโดยใช้แผนภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล
(Entity Relationship Diagram : ER Diagram)
แผนภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล หมายถึง แผนภาพที่ใช้เป็นเครื่องมือสําหรับจําลองข้อมูล
ซึ่งประกอบไปด้วย Entity (แทนกลุ่มของข้อมูลที่เป็นเรื่องเดียวกันหรือเกี่ยวข้องกัน) และความสัมพันธ์
ระหว่างข้อมูล (Relationship) ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในระบบ
2.4.1 สัญลักษณ์ที่ใช้ใน ER Diagram
สัญลักษณ์ที่ใช้ในแผนภาพ ER Diagram ที่ใช้ในการจําลองแบบข้อมูลมีหลายรูปแบบ แต่
ที่นิยมใช้มีอยู่ 2 รูปแบบ คือ Chen Model และ Crow’s Foot Model (กิตติ และพนิดา, 2546: 201-202)
โดยในการเขียน ER Diagram นี้ ผู้วิจัยจะเลือกใช้แบบ Chen Model เป็นหลัก
17
Relationship Line
เส้นเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง Entity
Relationship
ใช้ในการแสดงความสัมพันธ์ระหว่ าง Entity
- ในส่วนของ Crow’s Foot Model จะใช้ตัวอักษร
เขียนแสดงความสัมพันธ์
Attribute
ใช้แสดง Attribute ของ Entity
ูมิ
Entity name
ร.ส พ.
ณภ
Attribute 1
มท สว
Attribute 2
ุวรร
…
ใช้แสดงคีย์หลัก (Identifier)
Entity name
Identifier Identifier
Attribute 1
…
Weak Entity
ูมิ
ระหว่างเอ็นติตี้หนึ่งไปมีความสัมพันธ์กับอีกเอ็นติตี้หนึ่งเพียงหนึ่งรายการเท่านั้น ยกตัวอย่างดังภาพที่ 2-6
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
2.6 ภาษาโปรแกรม
2.6.1 SQL (Structure Query Language)
2.6.1.1 ความเป็นมาของ SQL
โอภาส (2551: 272) กล่าวไว้ว่า SQL จัดเป็นภาษามาตรฐานบนระบบฐานข้อมูล
เชิงสัมพันธ์ ซึ่งเป็นภาษาที่สามารถนําไปใช้งานได้ในคอมพิวเตอร์หลายระดับด้วยกัน SQL ถูกพัฒนาขึ้นจาก
แนวคิดทางคณิตศาสตร์ คือ Relational Algebra และ Relational Calculus ซึ่งเป็นไปตามแนวคิด
20
ูมิ
สําหรับ Visual Basic ในปีพุทธศักราช 2552 คือ Visual Basic 2008 ซึ่งออกมาในปี
ร.ส พ.
ณภ
พุทธศักราช 2551 ได้เพิ่มความสามารถในการเขียนโปรแกรมติดต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต การ
มท สว
ใช้ง่ายและสะดวกขึ้นกว่าเดิม
Visual Studio 2008 เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการพัฒนาโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ
Windows เนื่องจากเป็นภาษาที่ใช้เทคโนโลยีในลักษณะ Visualize โดยสามารถทําการวาดฟอร์มใน
โปรแกรม เพื่ อ สร้ า งจอภาพที่ ใ ช้ ติ ด ต่ อ กั บ ผู้ ใ ช้ ไ ด้ รวมทั้ ง การใช้ เ ทคนิ ค การเขี ย นโปรแกรมแบบ
Even-driven เป็นการเขียนโปรแกรมเพื่อกําหนดขั้นตอนในการทํางานให้กับคอนโทรล (Control)
ต่างๆ ที่สร้างขึ้นตามเหตุการณ์ต่างๆ ประกอบกับภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรมเป็นภาษา Basic ซึ่งเป็นภาษา
คอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
2.6.2.1 หลักการเขียนโปรแกรมด้วย Visual Basic
การเขียนโปรแกรมด้วย Visual Basic เป็นการเขียนโปรแกรมที่ตอบสนองเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้น (Event Driven Programming) โดยการเขียนคําสั่งกําหนดให้โปรแกรมทํางานในสิ่งที่ต้องการ
ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ผู้ใช้กดคีย์บอร์ด (Keyboard), กดปุ่มเลือกเมนู (Menu) ตามแนวคิดการ
เขียนโปรแกรมแบบ OOP จะมองแต่ละส่วนของโปรแกรมเป็นอ็อบเจ็กต์ (Object) โดยอ็อบเจ็กต์แต่ละ
ตัวจะมีคุณสมบัติ (Property) เป็นของตัวเอง ซึ่งแต่ละคุณสมบัติสามารถกําหนดค่าได้ เช่น สีของ
โปรแกรม สีของเมนู ในการพัฒนาโปรแกรมสามารถกําหนดคุณสมบัติ (Property) ได้ 2 แบบ คือ
กําหนดที่ Property Window ตอนออกแบบโปรแกรม และกําหนดขณะที่แอพพลิเคชั่นเริ่มทํางานไป
แล้ว โดยกําหนดค่าไว้ใน Code Editor
22
2.7 การประเมินประสิทธิภาพของระบบ
วันดี รอดทอง (2550) ดําเนินการพัฒนาระบบงานบุคลากรโรงพยาบาลหันคา โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อทําให้ระบบจัดการเก็บข้อมูลของบุคลากรในโรงพยาบาลหันคา เป็นไปอย่างมีระบบ
รวดเร็วและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ระบบได้ การทดสอบการประเมินประสิทธิภาพ
ของระบบแบ่งการประเมิน 4 ด้านได้แก่ ด้าน Function Requirement Test, Function Test,
ูมิ
Usability Test และ Security Test สถิติที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพได้แก่ค่าเฉลี่ยและส่วน
ร.ส พ.
ณภ
เบี่ยงเบนมาตรฐาน
มท สว
ุวรร
บทที่ 3
ขั้นตอนการดําเนินงาน
การพัฒนาระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ได้ดําเนินการพัฒนาระบบตามขั้นตอนของวงจรพัฒนา
ระบบ (System Development Life Cycle : SDLC) ต่อไปนี้
3.1 การกําหนดปัญหา
3.2 การวิเคราะห์ระบบ
3.3 การออกแบบระบบ
3.4 การพัฒนาระบบ
3.5 การทดสอบระบบ
3.6 การติดตั้งระบบ
3.7 การบํารุงรักษาระบบ
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
3.1 การกําหนดปัญหา
ผู้วิจัยได้ดําเนินการรวบรวมข้อมูลการทํางานของระบบงานเดิม จากเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบใน
ุวรร
3.2 การวิเคราะห์ระบบ
เมื่อทราบขั้นตอนการดําเนินงานและปัญหาที่เกิดขึ้นในการทํางานของเจ้าหน้าที่ จากขั้นตอนการ
กําหนดปัญหา และทําการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องแล้ว ทําให้ได้แนวทางในการพัฒนาระบบจัดการ
ข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
สุวรรณภูมิ โดยใช้การจัดการฐานข้อมูลดําเนินการจัดเก็บรายละเอียดของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับระบบ
คือ ข้อมูลบุคลากร, ข้อมูลการลา, ข้อมูลการฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัย หรือดูงาน และข้อมูลผู้ใช้งาน
ระบบ ซึ่งผู้ใช้สามารถดําเนินการเพิ่ม ลบ และแก้ไขข้อมูลต่างๆ ได้ จากหน้าจอของโปรแกรม อีกทั้ง
ยังสามารถออกรายงานประวัติบุคลากร, ประวัติการลาของบุคลากร, ประวัติการฝึกอบรม ปฏิบัติการ
วิจัย หรือดูงาน ตามเงื่อนไขต่างๆ นอกเหนือจากการคํานวณและออกรายงานสถิติการลาประจําเดือน,
ประจําปีงบประมาณได้
3.3 การออกแบบระบบ
ูมิ
เมื่อทราบถึงปัญหาของระบบงานเดิม และได้ทําการวิเคราะห์ระบบงานใหม่ ให้สามารถออกแบบ
ร.ส พ.
ณภ
ระบบงานใหม่ที่มีการจัดการข้อมูลที่ดียิ่งขึ้น สามารถประมวลผลข้อมูลให้อยู่ในรูปของสารสนเทศที่
มท สว
สามารถนํ า ไปใช้ ป ระโยชน์ ใ นการสนั บ สนุ น การทํ า งานในแต่ ล ะหน้า ที่ ผู้ วิจั ยจึ ง ทํา การออกแบบ
โครงสร้างของระบบใหม่ที่จะดําเนินการพัฒนา ซึ่งมีรายละเอียดในส่วนต่างๆ ดังนี้
ุวรร
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
เมื่อกําหนดกระบวนการที่เกี่ยวข้องในระบบแล้ว ผู้วิจัยจึงดําเนินการรวมกลุ่มโปรเซสเข้า
ด้วยกันเพื่อสะดวกต่อการจัดภาพกระแสข้อมูลในระดับย่อยๆ โดยอาจทําในรูปของ Process Hierarchy
ูมิ
ร.ส พ.
Chat ดังภาพที่ 3-2
ณภ
มท สว
ุวรร
มท สว
ร.ส พ.
ุวรร
ณภ
ูมิ
ภาพที่ 3-2 Process Hierarchy Chat ของระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
27
28
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
มท สว
ร.ส พ.
ุวรร
ณภ
ูมิ
ภาพที่ 3-3 แผนภาพกระแสข้อมูลระดับที่ 1 (Data Flow Diagram Level 1)
29
30
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
มท สว
ร.ส พ.
ุวรร
ณภ
ูมิ
ภาพที่ 3-10 แบบจําลองความสัมพันธ์ของข้อมูลการปฏิบัติงาน
36
37
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ูมิ
ร.ส พ.
Per_photo ที่เก็บรูปภาพบุคลากร varchar(255) - - -
ณภ
Per_degree ระดับการศึกษาสูงสุด char(1) - - -
มท สว
1 = ต่ํากว่าปริญญาตรี
2 = ปริญญาตรี
ุวรร
3 = ปริญญาโท
4 = ปริญญาเอก
Per_credentials วุฒิการศึกษาที่จบ varchar(100) - - -
Per_major สาขาวิชาที่จบ varchar(100) - - -
Uni_id สถาบันที่จบการศึกษา int - Yes University
Graduated
Per_rateNo เลขที่อัตรา varchar(10) - - -
Per_line ประเภทบุคลากร char(1) - - -
1 = ข้าราชการ
2 = พนักงาน
มหาวิทยาลัย
3 = พนักงานราชการ
4 = ลูกจ้างประจํา
5 = ลูกจ้างชั่วคราว
Per_level ระดับ varchar(3) - - -
Pos_id ตําแหน่งในสายงาน int - Yes Position
Org_id ตําแหน่งทางการบริหาร int - Yes Organize Position
40
ูมิ
ร.ส พ.
Pos_name ชื่อตําแหน่งในสายงาน varchar(35) - - -
ณภ
มท สว
ูมิ
ร.ส พ.
ตารางที่ 3-10 แสดงแฟ้มข้อมูลการลากิจส่วนตัว (Business)
ณภ
Attribute Description Type PK FK Reference
มท สว
ูมิ
ร.ส พ.
Tra_location สถานที่ไป varchar(100) - - -
ณภ
Tra_booster หน่วยงานที่จัด/ชื่อทุน varchar(100) - - -
มท สว
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
3.3.4 การออกแบบสิ่งนําเข้า (Input Design)
มท สว
ูมิ
ร.ส พ.
ภาพที่ 3-18 หน้าจอหลัก
ณภ
มท สว
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
ภาพที่ 3-20 หน้าจอข้อมูลบุคลากร แสดงข้อมูลส่วนตัว
มท สว
ุวรร
3.3.4.5 หน้ า จอข้ อ มู ล การปฏิ บั ติ ง าน เป็ น หน้ า จอการทํ า งานสํ า หรั บ ค้ น หาข้ อ มู ล การ
ปฏิบัติงาน เพื่อดําเนินการจัดการข้อมูลแต่ละประเภท และเรียกใช้เมนูการจัดการข้อมูลการลาต่างๆ
ูมิ
ร.ส พ.
ดังภาพที่ 3-23
ณภ
มท สว
ุวรร
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
ูมิ
ร.ส พ.
ภาพที่ 3-32 หน้าจอจัดการข้อมูลการลาอุปสมบท
ณภ
มท สว
ุวรร
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
3.3.4.10 หน้ า จอการจั ด การข้ อ มู ล ระบบ เป็ น หน้ า จอการทํ า งานสํ า หรั บ ดํ า เนิ น การ
จัดการข้อมูลพื้นฐานของระบบ ดังภาพที่ 3-36
53
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
ภาพที่ 3-36 หน้าจอการจัดการข้อมูลพื้นฐานของระบบ
มท สว
ุวรร
3.3.4.11 หน้าจอการแก้ไขรหัสผ่าน เป็นหน้าจอการทํางานสําหรับดําเนินการจัดการ
แก้ไขรหัสผ่านในการเข้าใช้งานระบบ ดังภาพที่ 3-37
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
ภาพที่ 3-39 รายงานสถิติการลาของบุคลากร ประจําปีงบประมาณ
มท สว
ุวรร
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
ภาพที่ 3-42 รายงานประวัติการฝึกอบรม ดูงาน และปฏิบัติการวิจัย ประจําปีงบประมาณ
มท สว
ุวรร
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
ภาพที่ 3-44 รายงานประวัติการฝึกอบรม ดูงาน และปฏิบัติการวิจัย รายบุคคล
มท สว
ุวรร
3.4 การพัฒนาระบบ
การพัฒนาระบบจัดการข้ อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เมื่อทําการออกแบบระบบเสร็จสิ้นแล้ว จึงดําเนินการ
จัดการฐานข้อมูลของระบบ ด้วยโปรแกรม Microsoft SQL Server 2005 และออกแบบส่วนติดต่อ
ผู้ใช้และฟังก์ชันการทํางาน ด้วยโปรแกรม Microsoft Visual Studio 2008
ูมิ
3.5.4.1 ค่าเฉลี่ย (Mean) อาจเรียกว่า ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Arithmetic mean) ซึ่งหาค่า
ร.ส พ.
ณภ
ได้โดยการนําข้อมูลทุกค่ามารวมกันแล้วหารด้วยจํานวนข้อมูลทั้งหมด (พิชิต, 2551: 267) ดังสูตร
มท สว
∑
สูตร =
ุวรร
ดีมาก = 5 คะแนน
ดี = 4 คะแนน
พอใช้ = 3 คะแนน
น้อย = 2 คะแนน
น้อยมาก = 1 คะแนน
เกณฑ์ ป ระเมิ น ผลเกี่ ย วกั บ ประสิ ท ธิ ภ าพของระบบจั ด การข้ อ มู ล การปฏิ บั ติ ง านของ
บุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
ูมิ
ร.ส พ.
4.50 – 5.00 ดีมาก ความสามารถในการรองรับการทํางานของระบบมีประสิทธิภาพดีมาก
ณภ
มท สว
3.6 การติดตั้งระบบ
เมื่อทดสอบระบบจนกระทั่งผู้ใช้งานยอมรับ และเข้าใจขั้นตอนการทํางานของระบบแล้ว จึง
ดําเนินการติดตั้ง โดยระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จะใช้การติดตั้งแบบขนาน (Parallel Installation) ซึ่ง
ระบบงานที่ผู้วิจัยได้จัดทําขึ้นและระบบงานเก่าจะถูกนํามาใช้งานไปพร้อมกัน ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
จนกระทั่งระบบงานใหม่สามารถทํางานทดแทนระบบงานเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจะยกเลิกการ
ใช้งานระบบงานเดิม
3.7 การบํารุงรักษาระบบ
ในขั้นตอนนี้ผู้วิจัยได้จัดทําคู่มือการใช้งานระบบ เพื่อให้ผู้ใช้ระบบได้ทําการศึกษาและทําความ
เข้าใจในตัวระบบมากขึ้น และจัดอบรมการใช้งานให้กับผู้ใช้ รวมทั้งดําเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพ
ของระบบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และรองรับการทํางานอื่นๆ มากขึ้น
บทที่ 4
ผลการทดสอบ
กระบวนการทดสอบระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมินี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิภาพ
ของระบบและความพึงพอใจของผู้ใช้ ซึ่งผู้วิจัยใช้วิธีการทดสอบระบบแบบแบล็คบ็อกซ์ (Black Box
Testing) โดยแบ่งการทดสอบได้ดังต่อไปนี้
4.1 การทดสอบประสิทธิภาพระบบ โดยผู้วิจัย
4.2 การทดสอบประสิทธิภาพระบบ โดยผู้เชี่ยวชาญ
4.3 การทดสอบประสิทธิภาพระบบ โดยผู้ใช้
ูมิ
ร.ส พ.
Data) ซึ่งข้อมูลบางชนิดมีความถูกต้อง (Valid) และบางชนิดไม่ถูกต้อง (Invalid) หรือเป็นค่าว่าง
ณภ
(Null) ให้ระบบทําการประมวลผล (Process) และแสดงผลลัพธ์ (Output) เพื่อเป็นการตรวจสอบ
มท สว
ข้อผิดพลาดของระบบ
ุวรร
ผู้วิจัยได้ออกแบบตารางสําหรับบันทึกผลการทดสอบ โดยแบ่งเป็นการทดสอบดังนี้
ูมิ
ร.ส พ.
17. ไม่ป้อนตําแหน่งในสายงาน
ณภ
18. ไม่ป้อนตําแหน่งทางการบริหาร
มท สว
19. ไม่ป้อนหน่วยงานที่สังกัด
ุวรร
20. ไม่ป้อนศูนย์พื้นที่ที่ปฏิบัติงาน
21. ไม่ป้อนวันที่บรรจุงาน
22. ไม่ป้อนสถานะการทํางาน
2. ป้อนข้อมูลไม่ครบถ้วน
ุวรร
3. ไม่ป้อนข้อมูลชื่อ-สกุล ผู้ลา
4. ไม่ป้อนรายละเอียดการลา
5. ไม่ป้อนชื่อหน่วยงานที่จัด/ทุนสนับสนุน
6. ไม่ป้อนสถานที่
7. ไม่ป้อนวันที่เริ่มการลา
8. ไม่ป้อนวันที่สิ้นสุดการลา
9. ไม่ป้อนจํานวนวันลา
10. ไม่ป้อนจํานวนเดือนที่ลา
11. ไม่ป้อนจํานวนปีที่ลา
64
2. ป้อนข้อมูลไม่ครบถ้วน
ุวรร
3. ไม่ป้อนข้อมูลชื่อ-สกุล ผู้ลา
4. ไม่ป้อนวันที่เริ่มการลา
5. ไม่ป้อนวันที่สิ้นสุดการลา
6. ไม่ป้อนจํานวนวันลา
7. ไม่ป้อนชื่อ-สกุล บุคคลที่สามารถติดต่อได้ระหว่างการลา
8. ไม่ป้อนเบอร์โทรศัพท์
ูมิ
ร.ส พ.
5. ไม่ป้อนวันที่สิ้นสุดการลา
ณภ
6. ไม่ป้อนจํานวนวันลา
มท สว
ุวรร
การประเมินประสิทธิภาพของระบบโดยผู้เชี่ยวชาญและผู้ใช้ในแต่ละด้าน จะกําหนดเกณฑ์การ
ให้คะแนนเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ จากค่าเฉลี่ยในแต่ละหัวข้อของแบบประเมิน ออกเป็น 5 ระดับ
ูมิ
ร.ส พ.
9. ความครอบคลุมของโปรแกรมที่พัฒนากับระบบงานจริง 3.00 1.41 ปานกลาง
ณภ
10. การป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น 2.50 0.71 ปานกลาง
มท สว
ูมิ
ร.ส พ.
การประเมินระบบด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test) เป็น
ณภ
การประเมินประสิทธิภาพของระบบในด้านการตรวจสอบการเข้าใช้งาน
มท สว
ในระบบ
ประสิทธิภาพ
รายการประเมิน
ഥ
࢞ S.D. การแปลความ
1. การกําหนดชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่านในการตรวจสอบผู้เข้าใช้ระบบ 4.00 0.00 ดี
2. การตรวจสอบสิทธิ์ก่อนการใช้งานของผู้ใช้ระบบในระดับต่างๆ 3.50 0.71 ดี
3. การควบคุมให้ใช้งานตามสิทธิ์ผู้ใช้ได้อย่างถูกต้อง 4.00 0.00 ดี
รวม 3.83 0.24 ดี
ูมิ
ร.ส พ.
7. ความสามารถของระบบในด้านการจัดการรายงานสถิติการลา 4.67 0.58 ดีมาก
ณภ
8. ความสามารถของระบบในด้านการจัดการในส่วนการแจ้งเตือน 3.67 0.58 ดี
มท สว
ูมิ
ร.ส พ.
ระบบในส่วนของการออกแบบหน้าจอ และวิธีการใช้งาน
ณภ
มท สว
รายการประเมิน
ഥ
࢞ S.D. การแปลความ
1. ความง่ายต่อการใช้งานของระบบ 4.33 0.58 ดี
2. ความเหมาะสมในการเลือกใช้ชนิดตัวอักษรบนจอภาพ 3.67 0.58 ดี
3. ความเหมาะสมในการใช้ขนาดของตัวอักษรบนจอภาพ 4.00 0.00 ดี
4. ความเหมาะสมในการใช้สขี องตัวอักษรและรูปภาพ 4.00 0.00 ดี
5. ความเหมาะสมในการใช้ขอ้ ความเพื่ออธิบายสื่อความหมาย 4.00 0.00 ดี
6. ความเหมาะสมในการใช้สญ ั ลักษณ์หรือรูปภาพในการสื่อ 4.00 1.00 ดี
ความหมาย
7. ความเป็นมาตรฐานเดียวกันในการออกแบบหน้าจอ 4.33 0.58 ดี
8. ความเหมาะสมในการปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกับผู้ใช้ 4.33 0.58 ดี
9. ความเหมาะสมในการวางตําแหน่งของส่วนประกอบบนจอภาพ 4.33 0.58 ดี
10. คําศัพท์ที่ผู้ใช้มีความคุ้นเคยและสามารถปฏิบัติตามได้โดยง่าย 4.67 0.58 ดีมาก
รวม 4.17 0.45 ดี
70
ูมิ
ร.ส พ.
จากผลการวิเคราะห์ระบบด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test)
ณภ
โดยผู้ ใ ช้ พบว่ า มี ค่ า เฉลี่ ย เท่ า กั บ 4.33 และส่ ว นเบี่ ย งเบนมาตรฐานมี ค่ า เท่ า กั บ 0.58 ซึ่ ง ผล
มท สว
การประเมินประสิทธิภาพอยู่ในระดับดี
ุวรร
บทที่ 5
สรุปผล
ระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เป็นระบบที่ดําเนินการเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลการปฏิบัติงาน และ
การจัดการข้อมูลบุคลากร เพื่อคํานวณสถิติการลาประจําปี และจัดทําประวัติการฝึกอบรม ดูงาน และ
ปฏิ บั ติ ก ารวิ จั ย ของบุ ค ลากร เพื่ อ เป็ น ส่ ว นเสริ ม ประกอบในการประเมิ น บุ ค ลากร การทดสอบ
ประสิทธิภาพของระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ แบ่งการทดสอบออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ การทดสอบระบบ
โดยผู้วิจัย จากการใช้ข้อมูลที่ถูกสมมติขึ้น การทดสอบระบบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนโปรแกรม
จํานวน 1 ท่าน ผู้เชี่ยวชาญด้านงานบุคลากร จํานวน 1 ท่าน และการทดสอบระบบโดยผู้ใช้ จํานวน 3 ท่าน
5.1 สรุปผลการดําเนินงาน
ูมิ
ร.ส พ.
5.1.1 การประเมินประสิทธิภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ
ณภ
มท สว
ค่าเท่ากับ 0.78
5.1.1.2 การประเมินข้อมูลด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ (Usability Test) อยู่ในเกณฑ์
การประเมินประสิทธิภาพในระดับดี มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.35 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานมีค่าเท่ากับ
0.64
5.1.1.3 การประเมินข้อมูลด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test)
อยู่ในเกณฑ์การประเมินประสิทธิภาพในระดับดี มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.83 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานมี
ค่าเท่ากับ 0.24
5.1.2 การประเมินประสิทธิภาพโดยผู้ใช้
5.1.2.1 การประเมินข้อมูลด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ (Functional Requirement
Test) อยู่ในเกณฑ์การประเมินประสิทธิภาพในระดับดี มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.00 และส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐานมีค่าเท่ากับ 0.34
5.1.2.2 การประเมินข้อมูลด้านการทํางานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ (Functional Test)
อยู่ในเกณฑ์การประเมินประสิทธิภาพในระดับดี มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.27 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานมี
ค่าเท่ากับ 0.56
72
5.2 ข้อเสนอแนะ
การพัฒนาระบบจัดการข้อมูลการปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ที่ผู้วิจัยได้ทําการพัฒนาเสร็จสิ้นแล้วนั้น สามารถช่วย
สนับสนุนการทํางานได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ระบบยังสามารถนําไปพัฒนาต่อได้ โดยการเพิ่มเติมฟังก์ชัน
ูมิ
การทํางาน อาทิเช่น การจัดเก็บข้อมูลการไปราชการ เพื่อใช้ในการประกอบการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน
ร.ส พ.
ณภ
การจั ด เก็ บ ข้ อ มู ล การลาให้ ค รบทุ ก ประเภทตามระเบี ย บสํ า นั ก นายกรั ฐ มนตรี ว่ าด้ ว ยการลาของ
มท สว
ทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการมากยิ่งขึ้น
73
เอกสารอ้างอิง
รายนามผู้ทดสอบระบบ
ุวรร
75
รายนามผูเ้ ชี่ยวชาญ
1. นางสาวยุวดี สูนพยานนท์
ระดับการศึกษา บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการทั่วไป
ตําแหน่ง บุคลากร
สถานที่ทํางาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์วาสุกรี
ถ19 ถนนอู่ ท อง ตํ า บลท่ า วาสุ ก รี อํ า เภอพระนครศรี อ ยุ ธ ยา
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000
2. นายวรุต ไกรทัศน์
ระดับการศึกษา วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
ตําแหน่ง System Engineer
สถานที่ทํางาน บริษัท เอ็นเอ็มบี-มินีแบ ไทย จํากัด
18 หมู่ 3 ถนนสายเอเชีย กิโลเมตรที่ 72 ตําบลธนู อําเภออุทัย
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13210
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
76
รายนามผู้ใช้ระบบ
1. นางสาวรัสรา พลอยอิ่ม
ระดับการศึกษา บริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการทั่วไป
ตําแหน่ง เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป (ด้านบุคลากร)
สถานที่ทํางาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์หันตรา
60 หมู่ 3 ถนนสายเอเชีย (กรุงเทพฯ-นครสวรรค์) ตําบลหันตรา
อําเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000
2. นางพงษ์ญาดา เกาะเรียนไชย
ระดับการศึกษา บริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการทั่วไป
ตําแหน่ง นักวิชาการศึกษา (ด้านกิจการนักศึกษา)
สถานที่ทํางาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์หันตรา
60 หมู่ 3 ถนนสายเอเชีย (กรุงเทพฯ-นครสวรรค์) ตําบลหันตรา
อําเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000
3. นางสาวสุจิรา มากประมูล
ระดับการศึกษา
ูมิ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
ร.ส พ.
ณภ
ตําแหน่ง เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป
มท สว
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
ภาคผนวก ข
มท สว
แบบประเมินประสิทธิภาพ
ุวรร
78
แบบประเมินประสิทธิภาพระบบ สําหรับผู้เชี่ยวชาญ
ระบบจัดการข้อมูลการปฏิบตั ิงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
DEVELOPMENT AN OPERATION MANAGEMENT PERSONAL SYSTEM
OF FACULTY OF SCIENCE AND TECHNOLOGY, RMUTSB
คําชี้แจง
แบบประเมิ น ประสิ ท ธิ ภ าพระบบชุ ด นี้ จั ด ทํ า ขึ้ น เพื่ อ ใช้ ป ระเมิ น ประสิ ท ธิ ภ าพการใช้ ง าน
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินหาประสิทธิภาพของ “ระบบจัดการข้อมูลการ
ปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (DEVELOPMENT AN OPERATION
MANAGEMENT PERSONAL SYSTEM OF FACULTY OF SCIENCE AND TECHNOLOGY,
RMUTSB)” ที่ได้พัฒนาขึ้น ซึ่งแบบประเมินนี้แบ่งออกเป็น 2 ตอน ประกอบด้วย
ตอนที่ 1 ข้อมูลความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพที่มีต่อระบบ
ตอนที่ 2 ข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ
ในฐานะที่ท่านเป็นผู้หนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานและเทคนิคการพัฒนาระบบ
ขอได้โปรดพิจารณาและกรุณาตอบคําถามให้ครบถ้วนทุกข้อตามความเป็นจริง เพราะคําตอบของท่าน
ูมิ
ร.ส พ.
จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาโปรแกรมในครั้งนี้ เพื่อที่ผู้พัฒนาจะได้นําข้อมูลไปวิเคราะห์
ณภ
และประเมินประสิทธิภาพของระบบฯ ต่อไป
มท สว
ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งที่ท่านได้กรุณาให้ความร่วมมือในการตอบแบบประเมินในครั้งนี้
ุวรร
79
ตอนที่ 1
แบบประเมินประสิทธิภาพของระบบ สําหรับผู้เชี่ยวชาญ
คําชี้แจง
1. แบบประเมินประสิทธิภาพตอนที่ 1 นี้ เป็นการสอบถามข้อมูลความคิดเห็นของผู้ตอบแบบ
ประเมินภายหลังจากที่ได้ทดลองใช้ระบบที่พัฒนาขึ้น ซึ่งแบบประเมินประสิทธิภาพแบ่ง
ออกเป็น 3 ด้านคือ
1.1 ด้านการทํางานได้ตามฟังก์ชันของระบบ (Functional Test)
1.2 ด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ (Usability Test)
1.3 ด้านการักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test)
2. ในการตอบแบบประเมินตอนที่ 1 นี้ ขอความกรุณาให้ท่านดําเนินการดังนี้
ให้ทําเครื่องหมาย ลงในช่องแบบประเมินที่ตรงกับระดับความคิดเห็นของท่าน
มากที่สุด โดยระดับตัวเลขของประสิทธิภาพแต่ละด้านมีความหมายดังนี้
5 หมายถึง ประสิทธิภาพในระดับมากที่สุด
4 หมายถึง ประสิทธิภาพในระดับมาก
ูมิ
ร.ส พ.
3 หมายถึง ประสิทธิภาพในระดับปานกลาง
ณภ
2 หมายถึง ประสิทธิภาพในระดับน้อย
มท สว
1 หมายถึง ประสิทธิภาพในระดับน้อยที่สุด
ุวรร
ตัวอย่างการประเมิน
ระดับประสิทธิภาพ
รายการประเมิน
5 4 3 2 1
การออกแบบหน้าจอมีความเป็นมาตรฐานเดียวกัน
80
ูมิ
ร.ส พ.
แบบประเมินประสิทธิภาพในด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ (Usability Test)
ณภ
ระดับประสิทธิภาพ
มท สว
รายการประเมิน
5 4 3 2 1
ุวรร
1. ความง่ายต่อการใช้งานของระบบ
2. ความเหมาะสมในการเลือกใช้ชนิดตัวอักษรบนจอภาพ
3. ความเหมาะสมในการเลือกใช้สีของตัวอักษรบนจอภาพ
4. ความเหมาะสมในการใช้สีของตัวอักษรและรูปภาพ
5. ความเหมาะสมในการใช้ข้อความเพื่ออธิบายสื่อความหมาย
6. ความเหมาะสมในการใช้สัญญาลักษณ์หรือรูปภาพในการสื่อ
ความหมาย
7. ความเป็นมาตรฐานเดียวกันในการออกแบบหน้าจอภาพ
8. ความเหมาะสมในการปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกับผู้ใช้
9. ความเหมาะสมในการวางตํ า แหน่ ง ของส่ ว นประกอบบน
จอภาพ
10. คํ า ศั พ ท์ ที่ ผู้ ใ ช้ มี ค วามคุ้ น เคยและสามารถปฏิ บั ติ ต ามได้
โดยง่าย
81
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ุวรร
82
ตอนที่ 2
ข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ
คําชี้แจง
โปรดแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาระบบ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ลงชื่อ.............................................................
ุวรร
(.............................................................)
ผู้เชี่ยวชาญ
83
แบบประเมินประสิทธิภาพของระบบ สําหรับผู้ใช้ระบบ
ระบบจัดการข้อมูลการปฏิบตั ิงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
DEVELOPMENT AN OPERATION MANAGEMENT PERSONAL SYSTEM
OF FACULTY OF SCIENCE AND TECHNOLOGY, RMUTSB
คําชี้แจง
แบบประเมิ น ประสิ ท ธิ ภ าพระบบชุ ด นี้ จั ด ทํ า ขึ้ น เพื่ อ ใช้ ป ระเมิ น ประสิ ท ธิ ภ าพการใช้ ง าน
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินหาประสิทธิภาพของ “ระบบจัดการข้อมูลการ
ปฏิบัติงานของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (DEVELOPMENT AN OPERATION
MANAGEMENT PERSONAL SYSTEM OF FACULTY OF SCIENCE AND TECHNOLOGY,
RMUTSB)” ที่ได้พัฒนาขึ้น ซึ่งแบบประเมินนี้แบ่งออกเป็น 2 ตอน ประกอบด้วย
ตอนที่ 1 ข้อมูลความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพที่มีต่อระบบ
ตอนที่ 2 ข้อเสนอแนะของผู้ใช้ระบบ
ในฐานะที่ท่านเป็นผู้หนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ขอได้โปรดพิจารณาและกรุณา
ูมิ
ร.ส พ.
ตอบคําถามให้ครบถ้วนทุกข้อตามความเป็นจริง เพราะคําตอบของท่านจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อ
ณภ
การพัฒนาโปรแกรมในครั้งนี้ เพื่อที่ผู้พัฒนาจะได้นําข้อมูลไปวิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพของ
มท สว
ระบบฯ ต่อไป
ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งที่ท่านได้กรุณาให้ความร่วมมือในการตอบแบบประเมินในครั้งนี้
ุวรร
84
ตอนที่ 1
แบบประเมินประสิทธิภาพของระบบ สําหรับผู้ใช้ระบบ
คําชี้แจง
1. แบบสอบถามความคิดเห็นตอนที่ 1 นี้ เป็นการสอบถามข้อมูลความคิ ดเห็นของผู้ตอบ
แบบสอบถามภายหลังจากที่ได้ทดลองใช้ระบบที่พัฒนาขึ้น ซึ่งแบบสอบถามแบ่งออกเป็น
4 ด้านคือ
1.1 ด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ (Functional Requirement Test)
1.2 ด้านการทํางานได้ตามฟังก์ชันของระบบ (Functional Test)
1.3 ด้านความง่ายต่อการใช้งานระบบ (Usability Test)
1.4 ด้านการักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test)
2. ในการตอบแบบสอบถามตอนที่ 1 นี้ ขอความกรุณาให้ท่านดําเนินการดังนี้
ให้ทําเครื่องหมาย ลงในช่องแบบสอบถามที่ตรงกับระดับความคิดเห็นของท่าน
มากที่สุด โดยระดับตัวเลขของประสิทธิภาพแต่ละด้านมีความหมายดังนี้
5 หมายถึง ประสิทธิภาพในระดับมากที่สุด
ูมิ
ร.ส พ.
4 หมายถึง ประสิทธิภาพในระดับมาก
ณภ
3 หมายถึง ประสิทธิภาพในระดับปานกลาง
มท สว
2 หมายถึง ประสิทธิภาพในระดับน้อย
ุวรร
1 หมายถึง ประสิทธิภาพในระดับน้อยที่สุด
ตัวอย่างการประเมิน
ระดับประสิทธิภาพ
รายการประเมิน 5 4 3 2 1
การออกแบบหน้าจอมีความเป็นมาตรฐานเดียวกัน
85
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
แบบประเมินประสิทธิภาพในด้านการทํางานได้ตามฟังก์ชันของระบบ (Functional Test)
มท สว
ระดับประสิทธิภาพ
รายการประเมิน
5 4 3 2 1
ุวรร
1. ความถูกต้องในการจัดเก็บข้อมูลนําเข้า
2. ความถูกต้องในการสืบค้นข้อมูล
3. ความถูกต้องในการปรับปรุงแก้ไขข้อมูล
4. ความถูกต้องในการคืนค่าข้อมูล
5. ความถูกต้องของผลลัพธ์ที่ได้จาการประมวลผลในโปรแกรม
6. ความถูกต้องของผลลัพธ์ในรูปแบบรายงาน
7. ความรวดเร็วในการประมวลผลของระบบ
8. ความน่าเชื่อถือได้ของระบบ
9. ความครอบคลุมของโปรแกรมที่พัฒนากับระบบงานจริง
10. การป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้
86
ูมิ
ร.ส พ.
แบบประเมินประสิทธิภาพในด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ (Security Test)
ณภ
มท สว
ระดับประสิทธิภาพ
รายการประเมิน
5 4 3 2 1
ุวรร
1. การกําหนดรหัสผู้ใช้ และรหัสผ่านในการตรวจสอบผู้เข้าใช้งาน
ระบบ
2. การตรวจสอบสิทธิ์ก่อนการใช้งานของผู้ใช้ระบบในระดับต่างๆ
3. การควบคุมให้ใช้งานตามสิทธิ์ผู้ใช้ได้อย่างถูกต้อง
87
ตอนที่ 2
ข้อเสนอแนะของผู้ใช้ระบบ
คําชี้แจง
โปรดแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาระบบ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
ูมิ
ร.ส พ.
ณภ
มท สว
ลงชื่อ.............................................................
ุวรร
(.............................................................)
ผู้ใช้ระบบ
88
ประวัติผู้วิจยั
ูมิ
ร.ส พ.
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
ณภ
มท สว
ุวรร