Professional Documents
Culture Documents
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารงานของบัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
นางสาวสุวรรณี ปุญสิริ
สารนิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
ปีการศึกษา 2560
ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารงานของบัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
นางสาวสุวรรณี ปุญสิริ
สารนิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
ปีการศึกษา 2560
ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
ชื่อ :** นางสาวสุวรรณี ปุญสิริ
ชื่อสารนิพนธ์ :** ระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารงานของบัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
สาขาวิชา :** สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
:** ภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
:** มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
ที่ปรึกษาสารนิพนธ์**:** ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มาลีรัตน์ โสดานิล
ปีการศึกษา :** 2560
บทคัดย่อ
สารนิพนธ์นี้จัดทําขึ้นเพื่อพัฒนาระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารงานในฝ่ายวิชาการ
ของบั ณ ฑิ ต วิ ท ยาลั ย มหาวิ ท ยาลั ย ราชภั ฏ สวนสุนันทาโดยใช้ข้อมูลในด้านการวิจัย สถานภาพ
ของนั ก ศึ ก ษา และข้อมูลนักศึกษา ในแต่ละสาขาวิชา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555- 2559 ระบบสนับสนุน
การตัดสินใจที่พัฒนาขึ้นใช้โปรแกรมธุรกิจอัจฉริยะไมโครซอฟพาวเวอร์บีไอในการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้
และนําเสนอรายงานในรูปแบบแดชบอร์ดสามารถดูรายงานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้ เพื่อให้ฝ่ า ย
บริ ห ารดู ข้ อ มู ล ในภาพรวมทั้ง นี้ไ ด้ทํา การประเมิน ความพึงพอใจของผู้ใช้งานจํานวน 10 คน มีผล
ความพึงพอใจด้านความสามารถของระบบสนับสนุนการตัดสินใจ ด้านความถูกต้องของระบบและด้าน
การใช้งานของระบบโดยภาพรวมอยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.07 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ
0.64)
คําสําคัญ**:**คลังข้อมูลธุรกิจอัจฉริยะะบบสนับสนุนการตัดสินใจแดชบอร์ด
__________________________________________________อาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์หลัก
ข
Name :**Miss Suwannee Punsiri
Master Project Title :**Decision Support System in the Administration of Graduate School,
**Suan Sunandha Rajabhat University
Major Field :**Information Technology
**Department of Information Technology
**Faculty of Information Technology
**King Mongkut’s University of Technology North Bangkok
Master Project Advisor* :**Assistant Professor Dr.Maleerat Sodanil
Academic Year :**2017
Abstract
The purpose of this research is to develop a decision support system in the
Administration of Graduate School,Suan Sunandha Rajabhat University. The system
was developed based-on the information of research, student status and information
details of each branch between year 2013 and 2016.The decision support system is
developed using business intelligence Microsoft Power BI in the design of the user
interface. It presented in the form of the dashboard that can be viewed the overall
report of management information.The system is evaluated by ten people in terms
of user satisfaction and accuracy. The result of user satisfaction is equal 4.07 for
mean and 0.64 for standard deviation.
(Total 58 pages)
___________________________________________________________________Advisor
ค
กิตติกรรมประกาศ
สารนิ พ นธ์ ฉ บั บ นี้ สํ าเร็ จ ลุ ล่ วงไปได้ ด้ ว ยความช่ วยเหลื อ อย่ างดี ยิ่ งจากผู้ ช่ ว ยศาสตราจารย์
ดร.มาลี รั ต น์ โสดานิ ล ประธานกรรมการที่ ป รึ ก ษาสารนิ พ นธ์ ซึ่ ง ได้ เสี ย สละเวลาให้ คํ า ปรึ ก ษา
เสนอแนะแนวทางในการทําวิจัยมาโดยตลอด และทุนการศึกษาที่ได้รับจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ
สวนสุนัน ทา จึง ขอขอบพระคุณ ที่ไ ด้ใ ห้ทุน การศึก ษามา ณ ที่นี้ด้ว ย ผู้วิจัย ขอขอบพระคุณ ใน
ความกรุณาเป็นอย่างยิ่ง
ขอขอบคุณเพื่อน ๆ สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศที่ช่วยเหลือเป็นกําลังใจ อํานวยความสะดวก
ในการเรียน และแนะนําช่วยเหลือปรับปรุงสารนิพนธ์เป็นอย่างยิ่ง
ประโยชน์ แ ละคุ ณ ค่ า อั น เกิ ด จากงานวิ จั ย นี้ ผู้ วิ จั ย ขอน้ อ มบู ช าพระคุ ณ ของคุ ณ พ่ อ
คุณแม่ผู้ให้ชีวิตและแสงสว่างแห่งปัญญา ตลอดจนบูรพาจารย์ทุกท่านที่ได้ให้การอบรมสั่งสอนมา
สุวรรณี ปุญสิริ
ง
สารบัญ
หน้า
บทคัดย่อภาษาไทย ข
บทคัดย่อภาษาอังกฤษ ค
กิตติกรรมประกาศ ง
สารบัญ จ
สารบัญตาราง ช
สารบัญภาพ ซ
บทที่*1**บทนํา 1
1.1**ความเป็นมาและความสําคัญของปัญหา 1
1.2**วัตถุประสงค์ของการวิจัย 2
1.3**ขอบเขตของการวิจัย 3
1.4**คําจํากัดความในการวิจัย 3
1.5**ประโยชน์ที่ได้รับ 3
บทที่*2**เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 4
2.1**แนวคิด ทฤษฎีเกี่ยวกับระบบธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence) 4
2.2**คลังข้อมูล (Data Warehouse) 14
2.3**การประมวลผลข้อมูลเชิงวิเคราะห์ (Online Analytical Processing: OLAP) 19
2.4**ไมโครซอฟท์พาวเวอร์บีไอ 20
2.6 แนวคิด ทฤษฎีเกี่ยวกับการตัดสินใจ 24
2.5**งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 33
บทที่*3**วิธีการดําเนินงานวิจัย 35
3.1**การศึกษาและรวบรวบข้อมูลระบบ 35
3.2**การออกแบบระบบ 37
3.3 การพัฒนาระบบ 41
3.4**การทดสอบระบบ 41
3.5**การประเมินระบบ 41
บทที่*4**ผลการวิจัย 44
4.1**ผลการพัฒนาระบบ 44
4.2**ผลการประเมิน 49
บทที่*5**สรุปผลการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 50
5.1**สรุปผลการวิจัย 50
5.2 อภิปรายผล 51
5.3**ข้อเสนอแนะ 52
จ
สารบัญ (ต่อ)
หน้า
บรรณานุกรม 53
ภาคผนวก ก แบบประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้งานระบบ 55
ประวัติผู้จัดทําสารนิพนธ์ 58
ฉ
สารบัญตาราง
ตารางที่ หน้า
3-1 รายชื่อตารางที่นํามาดึงข้อมูลเพื่อสร้างคลังข้อมูล 37
3-2 ตารางการเผยแพร่งานวิจัย 38
3-3 ตารางสถานะนักศึกษา 38
3-4 ตารางสาขาวิชา 38
3-5 ตารางหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา 38
3-6 ตารางระดับการศึกษา 38
3-7 ตารางอาชีพของนักศึกษา 39
3-8 ตารางนักศึกษา 39
3-9 ตารางนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา 39
3-10 เกณฑ์การประเมินความพึงพอใจของระบบ 42
3-11 เกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อระบบ 42
4-1 ผลการประเมินความพึงพอใจผู้ใช้งาน 49
ช
สารบัญภาพ
ภาพที่ หน้า
2-1 การจัดกลุ่มของเทคโนโลยีและแนวคิดเกี่ยวกับ BI ไว้เป็น 5 กลุม่ ใหญ่ ๆ
จัดหา จัดเก็บ วิเคราะห์ นําเสนอ ประสานงาน 6
2-2 Business Intelligence Model 10
2-3 Data Integration Model 11
2-4 Drill - Down and Slice-and-Dice 12
2-5 ขั้นตอนพื้นฐานการทํา Data Acquisition 13
2-6 ขั้นตอนการทําธุรกิจอัจฉริยะด้วยพาวเวอร์บีไอ 22
2-7 สถาปัตยกรรมพาวเวอร์บีไอ 23
3-1 ระบบงานเดิมของฝ่ายวิชาการ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา 36
3-2 ระบบงานใหม่ของฝ่ายวิชาการ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา 36
3-3 ความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล 40
3-4 การออกแบบคลังข้อมูลระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารงาน
ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ในรูปแบบเกล็ดหิมะ 40
3-5 ภาพหน้าจอแสดงผลลัพธ์ (A) แสดงชื่อรายงาน (B) แสดงกราฟประเภทต่าง ๆ 41
4-1 ภาพรวมของรายงานในด้านจํานวนนักศึกษา สถานภาพนักศึกษา การเผยแพร่งานวิจัย
และการเปรียบเทียบจํานวนนักศึกษาและจํานวนผู้สําเร็จการศึกษา 44
4-2 รายงานจํานวนนักศึกษาปี 2555-2559 45
4-3 รายงานจํานวนนักศึกษาสถานภาพต่าง ๆ ของนักศึกษา ปี 2555-2559 46
4-4 รายงานการเผยแพร่งานวิจัย ปี 2555 – 2559 46
4-5 รายงานจํานวนนักศึกษารับเข้ากับจํานวนนักศึกษาที่สําเร็จการศึกษา ปี 2555 - 2559 47
4-6 การแสดงรายงานบนอุปกรณ์พีซี 48
4-7 การแสดงรายงานบนโทรศัพท์มือถือ 48
ซ
บทที่ 1
บทนํา
1.1 ความเป็นมาและความสําคัญของปัญหา
ท่ามกลางการแข่งขันของธุรกิจที่มีความเข้มข้นในปัจจุบัน ปัจจัยสําคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจประสบ
ความสําเร็จได้ ประการแรกคือ เรื่อง “ข้อมูล” ที่ใครเร็วกว่าย่อมได้เปรียบ ดังนั้นในยุคแห่งข้อมูล
ข่าวสารเช่นนี้ ธุรกิจต่าง ๆ จึงจําเป็นต้องหาเครื่องมือที่ทําให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องมีทั้งความถูกต้อง
และรวดเร็ ว มาช่ ว ยเพื่ อ สามารถนํ า ข้ อ มู ล จากหลาย ๆ ด้ า นมาผสมผสานและวิ เคราะห์ เพื่ อ ใช้
ประกอบการตัดสินใจหรือวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และทันต่อเหตุการณ์ แต่ในยุคนี้
แค่ข้อมูลอย่างเดียวไม่เพียงพอ ปัจจัยที่สําคัญอีกประการคือเรื่อง “การควบคุม” เพื่อให้ธุรกิจสามารถ
ดําเนินไปตามทิศทางของแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะทําให้ธุรกิจสามารถสร้าง
ความได้เปรียบเหนือคู่แข่งขันได้อย่างแท้จริง (สุภาภรณ์, 2551)
ในปัจจุบันหลายองค์กรต่าง ๆ มักประสบปัญหาในการนําข้อมูลที่มีอยู่อย่างมหาศาลมาเปลี่ยน
ให้ เ ป็ น สารสนเทศที่ มี คุ ณ ค่ า ต่ อ องค์กร การนํา ระบบสารสนเทศที่สมบูรณ์แบบมาสนับสนุน
การดําเนินงานจะช่วยจัดการสายงานทุกสายงานขององค์กรให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
มีป ระสิ ท ธิภ าพ และถู ก ต้ องแม่ น ยํ า เพื่ อ ใช้ป ระกอบการตัด สิ น ใจในการดํ าเนิ น ธุร กิจ ขององค์ ก ร
ตลอดจนองค์กรธุรกิจต่าง ๆ (วิจิตรา, 2553)
การใช้ข้อ มูล ที่สํา คัญ อย่า งหนึ่ง สํา หรับ การดํา เนิ น ธุร กิ จ ในทุ ก วัน นี้ คือ การเรีย กใช้ข้อ มู ล
เพื่อการตัดสินใจ โดยจําเป็นต้องทําได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นฐานข้อมูลประจําวัน
จึงไม่เหมาะสมกับการเรียกใช้ข้อมูล ในลัก ษณะนี้ด้วยสาเหตุจากการคิวรี่เพื่อการตัดสิน ใจ มัก จะ
เป็นการคิวรีแบบเฉพาะกิจ ผู้เรียกใช้จําเป็นต้องมีความรู้ทางด้านเทคนิค การคิวรี่ต้องใช้คําสั่งที่ซับซ้อน
ซึ่งอาจจะทําให้ประสิทธิภาพของระบบต่ําลงมากหรือไม่อาจจะคาดการณ์ได้ ทําให้ไม่เหมาะกับการทํา
การวิ เคราะห์ แ บบออนไลน์ การเก็ บ ข้ อ มู ล ในระบบฐานข้อ มูล ประจํ า วัน ไม่ไ ด้ม ีก ารเก็บ ข้อ มูล
ย้อนหลัง แต่ในบางครั้งการตัดสินใจจําเป็นต้องใช้ข้อมูลที่ผ่านมา เพื่อช่วยในการคาดคะเนแนวโน้ม
ที่จะเป็นไปได้ในอนาคต (วิจิตรา, 2553)
Business Intelligence (BI) คือ ซอฟต์แวร์ที่นําข้อมูลที่มีอยู่เพื่อจัดทํารายงานในรูปแบบต่าง ๆ
ที่เหมาะสมกับมุมมองในการวิเคราะห์ แสดงความสัมพันธ์ และทํานายผลลัพธ์์ของแนวโน้มที่อาจ
เกิดขึ้นได้ ตรงตามความต้ อ งการขององค์กร เพื่อประโยชน์ในการวางแผนกลยุทธ์ด้านต่าง ๆ ซึ่งมี
การกําหนดไว้ดังนี้ “BI คือ เซ็ ต ของโพรเซสและโครงสร้า งข้อ มูล ที่ถูกนํามาใช้ เพื่อช่วยในการทํา
ความเข้าใจสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของบริษัท เพื่อช่วยสนับสนุนการวิเคราะห์และการสร้างแผนกลยุทธ์
ขององค์กร ทั้งยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยใช้ประกอบการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ สําหรับผู้บริหาร” (สุภาภรณ์ ,
2551)
2
1.2 วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.2.1 เพื ่ อ พั ฒ น าระบ บ ส นั บ สนุ น การตัด สิน ใจในการบริห ารงานในฝ่ ายวิชาการของ
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
1.2.2 เพื่ อ ป ร ะ เมิ น ค ว าม พึ ง พ อ ใ จ ข อ งผู้ ใ ช้ ง า น ร ะ บ บ ส นั บ ส นุ น ก า ร ตั ด สิ น ใ จ
ในการบริหารงานในฝ่ายวิชาการของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
3
1.3 ขอบเขตของการวิจัย
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารงานของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ซึ่งมีขอบเขตการวิจัยดังนี้
1.3.1 ข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์ โดยทําการรวบรวมข้อมูลของฝ่ายวิชาการ บัณฑิตวิทยาลัย
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ถึงปี พ.ศ. 2559
1.3.2 การพั ฒ นาระบบสนั บ สนุ น การตั ด สิ น ใจในการบริ ห ารงานของบั ณ ฑิ ต วิ ท ยาลั ย
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาแสดงผลข้อมูลในรูปแบบธุรกิจอัจฉริยะในรูปแบบรายงาน โดยมี
ระบบจัดการฐานข้อมูล คือ Microsoft SQL Server 2017 และชุดเครื่องมือสําหรับพัฒนาโปรแกรม
Microsoft Visual Studio 2015 และ Microsoft Power BI ในการออกรายงาน
1.4 คําจํากัดความในการวิจัย
การตัดสินใจ หมายถึง การเลือกปฏิบัติหรืองดเว้นการปฏิบัติ หรือการเลือกทางดําเนินการที่
เห็นว่าดีที่สุดทางใดทางหนึ่ง จากทางเลือกหลาย ๆ ทางเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ต้องการหรือ
การวินิจฉัยสั่งการคือการชั่งใจ ไตร่ตรองและตัดสินใจเลือกทางดําเนินงานที่เห็นว่าดีที่สุดทางใดทางหนึ่ง
จากหลาย ๆ ทางเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ต้องการ (ศิริพร, 2540)
ผู้บริหาร หมายถึง ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในงานบริหาร และดํารงตําแหน่งระดับสูง ซึ่งมีอํานาจหน้าที่
ในการตัดสินใจในองค์กร เช่น หัวหน้าสํานักงาน รองคณบดี คณบดี เป็นต้น (วรัญญู, 2556)
ธุ ร กิ จ อั จ ฉริ ย ะ หมายถึง ระบบหรือกลุ่มซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาสําหรับเป็นเครื่องมือใน
การวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้เก็บรวบรวมไว้ในคลังข้อมูล เพื่อสนับสนุนการวางแผน การตัดสินใจ และการบริหารงาน
ของผู้บริหาร ผ่านการประมวลผลออนไลน์เชิงวิเคราะห์ ทําให้องค์กรสามารถคาดการณ์พยากรณ์
ความต้องการได้อย่างถูกต้องแม่นยํา ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทํางานขององค์กรเพิ่มสูงขึ้น (วรัญญู,
2556)
Power BI หมายถึง ชุดของเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ (ฺBusiness Analytics Tool)
และสร้างรายงานได้ Power BI Dashboard ช่วยให้มุมมอง 360 องศา ให้กับผู้ใช้งานเพื่อประกอบ
การตัดสินใจแบบรวมศูนย์ สามารถอัพเดตได้อย่างทันที และสามารถดูได้จากทุก ๆ อุปกรณ์
1.5 ประโยชน์ที่ได้รับ
1.5.1 ผู้บริหารสามารถนําข้อมูลมาวิเคราะห์ในการบริหารงานเพื่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรได้
1.5.2 ผู้บริหารสามารถดูรายงานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้
บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
การวิจัยเรื่องระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารงานของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย
ราชภัฏสวนสุนันทา ในครั้งนี้ผู้วิจัยได้ทําการศึกษา แนวคิด ทฤษฎี และผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
2.1 แนวคิด ทฤษฎีเกี่ยวกับระบบธุรกิจอัจฉริยะ (Business Intelligence)
2.2 คลังข้อมูล (Data Warehouse)
2.3 การประมวลผลข้อมูลเชิงวิเคราะห์ (Online Analytical Processing: OLAP)
2.4 ไมโครซอฟท์พาวเวอร์บีไอ
2.5 แนวคิด ทฤษฎีเกี่ยวกับการตัดสินใจ
2.5 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
2.1.2 ระบบจัดเก็บข้อมูล
เทคโนโลยีหลักในส่วนของการจัดเก็บข้อมูลสําหรับระบบธุรกิจอัจฉริยะ คือ คลังข้อมูล ซึ่งโดยกว้าง ๆ
แล้ ว ก็ คื อ ฐานข้ อ มู ล ขนาดใหญ่ ที่เก็บรวบรวมข้อมูลไว้ในลักษณะที่เอื้อต่อการนําข้อมูลไปใช้ใน
การสนับสนุนการตัดสินใจลักษณะสําคัญที่ทําให้คลังข้อมูลแตกต่างจากระบบการจัดการฐานข้อมูล
แบบสัมพันธ์ที่ใช้กันอยู่ในระบบประมวลผลรายการทั่วไปประกอบด้วย (พิพัฒน์, 2560)
2.1.2.1 การจัดเก็บข้อมูลแบบการแบ่งโครงสร้างตามเนื้อหา ในคลังข้อมูลจะจัดเก็บ
ข้อมูลตาม "เรื่อง" ที่จะใช้ในการตัดสินใจ ในขณะที่ฐานข้อมูลทั่วไป จะเก็บข้อมูลตามลักษณะธุรกรรม
หรือรายการเปลี่ยนแปลงหลักของระบบงานนั้น ๆ
2.1.2.2 ผสานข้อมูลจากหลายแหล่ง เนื่องจากต้องการตอบสนองการตัดสินใจ ซึ่งมัก
ต้องใช้ข้อมูลมากกว่าหนึ่งชนิด ดังนั้นคลังข้อมูลจึงจําเป็นต้องมีความสามารถในการรวบรวมข้อมูลจาก
หลาย ๆ แห่งเข้าด้วยกัน แต่ระบบฐานข้อมูลอื่นจะรับข้อมูลจากส่วนรับเข้าของระบบงานเท่านั้น
2.1.2.3 เก็บข้อมูลในอดีตไว้ด้วย ในคลังข้อมูลจะเก็บข้อมูลแบบที่เรียกว่าการเปลี่ยนแปลง
คุ ณ สมบั ติ ไปตามเวลาคื อ มี เวลาเป็ น ตั ว แปรสํ า คั ญ อย่ างหนึ่ งเสมอ ดั งนั้ น ช่ วงเวลาของข้ อ มู ล ใน
คลังข้อมูลจึงยาวนานเป็นปี ๆ หรืออาจจะถึงสิบปี เพื่อการวิเคราะห์แนวโน้มในอดีต ส่วนฐานข้อมูล
ทั่วไปจะเก็บ "สถานะ" ล่าสุดไว้เท่านั้น หรือถ้าจะเก็บก็เพียงแค่ วันที่ปัจจุบัน หรือเดือนปัจจุบันเท่านั้น
2.1.2.4 ข้อ มู ล มี ก ารเปลี่ ย นแปลงน้ อ ย ข้ อ มู ล ที่ ถู ก เก็ บ ไว้ ในคลังข้อมูลมักจะมี
การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยมากมักเป็นการเพิ่มข้อมูลใหม่เข้าไปมากกว่า แต่ในส่วน
ของฐานข้อมูลระบบงาน ข้อมูลจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทั้งเพิ่ม ลบ หรือแก้ไข เพื่อให้สะท้อน
สภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน
2.1.2.5 คลังข้อมู ล จั ด เป็ น องค์ ป ระกอบสําคัญ อย่างยิ่ง แต่โดยตัวของมันเองก็มี
รายละเอียด เทคโนโลยีและเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจานวนมาก จนบางครั้งเราอาจจะมองว่า
คลังข้อมูลอาจจะแยกออกไปเป็นอีกสาขาหนึ่งโดยเฉพาะได้เลยทีเดียว
2.1.3 ส่วนวิเคราะห์ข้อมูล
หลังจากจัดหาและจัดเก็บข้อมูลแล้ว องค์ประกอบสําคัญอีกส่วนของระบบธุรกิจอัจฉริยะ คือ
ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งถือเป็นการ "เพิ่มคุณค่าให้กับข้อมูล" ที่จัดหาและเก็บรวบรวม
มาได้ การวิเคราะห์ข้อมูล มีวัตถุประสงค์เพื่อดึงเอาสาระสําคัญของข้อมูลเหล่านั้น และสามารถสร้าง
ข้อสรุปที่มีประโยชน์ได้ การวิเคราะห์ข้อมูลสามารถทําได้ตั้งแต่การคํานวณอย่างง่าย ๆ เช่น บวกลบ
คูณหาร หาผลรวม หาค่าเฉลี่ย ขึ้ น ไปจนถึง การคํา นวณที่ซับ ซ้อ นขึ้น อย่างเช่น การทําแบบจําลอง
เพื่อพยากรณ์ค่าในอนาคต หรืออาจจะก้าวหน้าไปจนถึง ขั้นสังเคราะห์หาความสัมพันธ์ของตัวแปร
ต่าง ๆ ตามสมมติฐานที่กําหนด ตัวอย่างเช่น การทําเหมืองข้อมูล เป็นต้น เทคโนโลยีที่ในการวิเคราะห์
และเพิ่มคุณค่าให้กับข้อมูล อาจอยู่ได้ในหลายรูปแบบ อาทิ เป็นความสามารถส่วนหนึ่งในฐานข้อมูล
เช่น ฟังก์ชันวิเคราะห์ของระบบจัดการฐานข้อมูลเป็นความสามารถประการหนึ่ง ในส่วนติดต่อกับผู้ใช้
เช่น การสร้ า งฟั ง ก์ ชั น แบบกํา หนดเอง บนเครื่องมือเรียกค้นข้อมูลแบบกําหนดบนเอ็กเซล เป็นต้น
เป็นแอปพลิเคชั่น หรือเป็นเครื่องมือแยกต่างหากออกมา โดยมีความสามารถในการอ่านข้อมูลจาก
คลังข้อมูลโดยตรง อาทิเช่น เครื่องมือการทําเหมืองข้อมูลต่าง ๆ (สุภาภรณ์, 2551)
8
2.1.4 ส่วนนําเสนอข้อมูล
ส่วนนําเสนอข้อมูลเป็นองค์ประกอบที่ ทําหน้าที่ติดต่อกับผู้ใช้ โดยการแปลงข้อมูลให้อยู่ใน
รูปแบบที่ผู้ใช้สามารถเข้าใจได้ง่าย สร้างมุมมองและความเข้าใจใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น และจัดการโต้ตอบ
กับผู้ใช้ โดยการรับคําสั่งเพิ่มเติม ในระหว่างที่ผู้ใช้กําลังดูข้อมูลถ้าเราแบ่งประเภทของส่วนนําเสนอ
ข้อมูล ตามวิธีการติดตั้งและเรียกใช้งาน จะแบ่งเป็นประเภทดังนี้ (พิพัฒน์, 2560)
ไคลเอ็นท์ เบส (Client base) เป็นโปรแกรมที่ติดตั้งอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้กําลังใช้
งานอยู่โปรแกรมลักษณะนี้มักจะมีความสามารถสูง ทํางานได้รวดเร็ว แต่ก็มีความยุ่งยากในการจัดการ
เพราะต้องมีการติดตั้ง อัพเกรด และแก้ปัญหา จะมีการเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง
ธิน ไคลเอ็นท์ (Thin-Client) เป็นเครื่องมือที่ไม่ต้องการการติดตั้งลงบนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้
หรือ หากจะมี บ้ างก็ อ าจจะเพี ย งเล็ก น้ อ ยเท่ านั้ น เช่ น ผู้ ใช้ เพี ย งแต่ ต้ อ งมี เว็บ เบราว์เซอร์เท่ านั้ น ก็
สามารถใช้งานได้แล้ว ข้อดีคือ สะดวกต่อการจัดการกับโปรแกรม เพราะตัวโปรแกรมส่วนใหญ่ทํางาน
อยู่บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ การอัพเกรด หรือแก้บั๊ก ก็ทําได้ง่าย และยังสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้ง่ายกว่า
แต่ก็มีข้อจํากัดที่ผู้ใช้จําเป็นจะต้องเชื่อมต่ออยู่บนเครือข่ายเกือบตลอดเวลาที่ใช้งาน และโดยมาก
มักจะมีความสามารถที่จํากัดกว่าโปรแกรมแบบไคลเอ็นท์ เบสและมักจะทํางานได้ช้ากว่าด้วย
ระบบฝังตัว (Embedded) โปรแกรมหรือเครื่องมือประเภทนี้อาจจะไม่ได้มีลักษณะเฉพาะที่
ผู้ใช้สามารถรับรู้ได้ว่ากําลังใช้เครื่องมือ ในการนําเสนอข้อมูลอยู่ เพราะมัน "ฝังตัว" อยู่ในโปรแกรมอื่น
ตัวอย่างที่เห็นได้ง่าย คือการสร้างเอกสารจําพวกเวิร์ด หรือพาวเวอร์พ้อยโดยที่มีการดึงข้อมูลมาจาก
เอ็กเซล หรือฐานข้อมูล แล้วสร้างลิงค์เชื่อมโยงไว้ เมื่อใดที่ข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงไปตารางหรือกราฟ
ที่ปรากฏอยู่บนเอกสาร ก็จ ะเปลี่ ย นแปลงตามไปด้ ว ย ส่ ว นนํา เสนอเหล่ า นี้ บางทีก็ถูกเรียกว่า
การประมวลผลเชิงวิเคราะห์แบบออนไลน์ หรือ เครื่องมือระบบธุรกิจอัจฉริยะ บ่อยครั้งที่คําเหล่านี้ถูก
ใช้ในความหมายที่สื่อถึงเฉพาะส่วนนําเสนอข้อมูลเท่านั้น
2.1.5 ส่วนประสานงาน
นอกเหนือจากองค์ประกอบหลัก ๆ ที่ประกอบกันเป็นเส้นทางเดินข้อมูล จากการจัดหาจัดเก็บ
วิเคราะห์ และนําเสนอแล้ว ยังมีเทคโนโลยี หลักการและแนวคิดอื่น ๆ ที่มีส่วนสําคัญต่อความสําเร็จ
ของการนําระบบธุรกิจอัจฉริยะมาใช้ เรียกองค์ประกอบเหล่านี้ว่า "ส่วนประสานงาน" ที่เรียกอย่างนี้
เพราะองค์ ป ระกอบพวกนี้ ทําหน้าที่ประสานและเชื่อมโยงการทํางานของแต่ละส่วนเข้าด้วยกัน
หากขาดองค์ประกอบเหล่านี้แล้ว เครื่องมือและระบบแต่ละส่วน ก็จะทํางานไม่สัมพันธ์กัน หรือมี
ประสิทธิภาพที่ด้อยลงมาก ตัวอย่างบางแบบของส่วนประสานงาน เช่น (สุภาภรณ์, 2551)
การจัดการกระบวนการการทํางาน (Process Management) เป็นเหมือนวาทยกร ผู้ควบคุม
วงออเครสตราให้เล่นประสานเสียงกันได้ เช่น อาจจะสั่งให้โปรแกรมส่วนวิเคราะห์สร้างรายงานฉบับใหม่
ก็ต่อเมื่อ ถึงวันเวลาที่กําหนด และมีเงื่อนไขว่า ผลการโหลดข้อมูลล่าสุดเข้าไปในคลังข้อมูลทํ าได้
ถูกต้องเรียบร้อยแล้วเท่านั้น ถ้าเกิดข้อผิดพลาดขึ้น อาจจะต้องส่งอีเมล์หรือ SMS ไปแจ้งผู้ควบคุม
ระบบ และขณะเดี ยวกัน ก็อาจจะสื่อสารให้ ผู้ใช้ ท ราบว่ารายงานยังไม่เรีย บร้อยโดยผ่านทางส่วน
นําเสนอไปพร้อมกันด้วย
9
2.1.6 กระบวนการในการจัดทําระบบธุรกิจอัจฉริยะ
กระบวนการในการจั ด ทํ า ระบบธุ ร กิ จ อั จ ฉริ ย ะเริ่ ม ต้ น ที่ ก ารกํ า หนดแหล่ ง ข้ อ มู ล (Data
Sources) ที่ จ ะนํ า มาเข้ า สู่ ค ลั ง ข้ อ มู ล โดยแหล่ ง ข้ อ มู ล สามารถแบ่ ง ออกได้ เป็ น 2 ประเภท คื อ
แหล่งข้อมูลภายใน (Internal Data Sources) และแหล่งข้อมูลภายนอก (External Data Sources)
แหล่ งข้ อมู ล ภายใน ได้ แ ก่ ข้ อมู ล การดําเนิ น งาน (Operation Transaction) ข้ อ มู ล อดีต (Legacy
Data) เป็ น ต้ น แหล่ ง ข้ อ มู ล ภายนอก ได้ แ ก่ ข้ อ มู ล สถิ ติ จ ากสถาบั น ต่ า ง ๆ ข้ อ มู ล ของโครงการ
สารสนเทศอื่น ๆ บทวิเคราะห์และบทความเชิงวิชาการต่าง ๆ ซึ่งในการกําหนดแหล่งข้อมูลจําเป็น
10
จะต้องคํานึงถึงผลลัพธ์ที่ต้องการ เพื่อที่ว่าข้อมูลที่นําเข้ามาใช้งานจะสามารถสอดคล้องกับผลลัพธ์ที่
ต้องการ (สุภาภรณ์, 2551)
เมื่อมีการกําหนดแหล่งข้อมูลที่แน่ชัด ขั้นตอนถัดไปคือการออกแบบคลังข้อมูล เพราะว่า
ระบบธุรกิจอัจฉริยะจําเป็นต้องอาศัยแหล่งข้อมูลจากคลังข้อมูลเป็นหลัก ซึ่งการออกแบบคลังข้อมูลมี
อยู่ด้วยกัน 3 แบบ เช่น คลังข้อมูลแบบดาว คลังข้อมูลแบบเกล็ดหิมะ ดังนั้นระบบธุรกิจอัจฉริยะส่วนใหญ่
จะนิยมใช้คลังข้อมูลแบบดาวเป็นฐานข้อมูล
ขั้นตอนถัดไปการคัดเลือก ปรับเปลี่ยนข้อมูลให้อยู่ในภาพที่เหมาะสมและสอดคล้องกับรูปแบบ
ของคลังข้อมูลที่ได้ออกแบบไว้ เพื่อนําข้อมูลเข้าสู่คลังข้อมูลโดยกระบวนการดึงข้อมูลจากแหล่งข้อมูล
ต่าง ๆ เข้าสู่คลังข้อมูล (Extract, Transform, Load)
ขั้ น ตอนต่ อ มาก็ คื อ การจั ด ทํา ข้ อ มู ล ที่จัดเก็บในคลังข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบลูกบาศก์หลายมิติ
ซึ่งเป็นรูปแบบการทําให้ข้อมูลเกิดมิติขึ้นในหลาย ๆ ด้านก่อนจะนําไปสร้างเป็นรายงานในรูปแบบต่าง ๆ
โดยอาศัยเครื่องมือที่ช่วยในการคิวรีข้อมูล เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การออกรายงาน การจัดการส่วนควบคุม
เป็นต้น
กระบวนการตามหลักกการของระบบธุรกิจอัจฉริยะดังกล่าวเกิดขึ้นจากการทํางานประกอบกัน
ของโปรแกรมประยุกต์หลาย ๆ โปรแกรมที่ทําหน้าที่ต่างกัน โดยเริ่มจากกระบวนการ ETL ที่ทําการดึง
ข้อมูลเข้าคลังข้อมูล โดยส่วนมากจะดึงข้อมูลมาจากหลายแหล่ง เช่น จากระบบข้อมูลบุคลากร ระบบ
การลงทะเบียน หรือมาจากระบบ SAP ขององค์กร เพื่อเตรียมข้อมูลให้เหมาะสมกับการท า Online
Analytical Processing (OLAP) เป้าหมายของระบบธุรกิจอัจฉริยะ คือการน าข้อมูลมากมายมาใช้
ประโยชน์นั่นเอง
11
2.1.7 ปัจจัยหลักที่ทําให้การทําระบบธุรกิจอัจฉริยะมีประสิทธิภาพ
การที่ จ ะทํา ให้ ร ะบบธุ ร กิ จ อัจฉริยะมีประสิทธิภาพนั้น จะประกอบไปด้วย 2 ปัจจัยหลัก คือ
(พิพัฒน์, 2560)
2.1.7.1 เค รื อ ข่ า ยอิ น เต อ ร์ เ น็ ต ซึ่ งครอบคลุ ม ทั้ ง อิ น ทราเน็ ต เอกซ์ ท ราเน็ ต และ
อินเตอร์เน็ต ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดาย
2.1.7.1 การประมวลผลข้อมูลเชิงวิเคราะห์ (OLAP) ซึ่งถูกจัดเก็บอยู่ในรูปแบบที่ง่ายต่อ
การใช้งานทําให้ผู้ใช้งานสามารถเรียกดูรายงานได้ตามต้องการ โดยใช้วิธีการเจาะลึก พลิกแพลง และ
กรองข้อมูลได้
2.1.8 เครื่องมือที่ใช้ในระบบธุรกิจอัจฉริยะ
เครื่องมือที่ใช้ในระบบธุรกิจอัจฉริยะมี 4 ประเภทด้วยกัน คือ (พิพัฒน์, 2560)
2.1.8.1 รายงาน (Reporting Tools) การแสดงรายงาน โดยดึงข้อมูลในคลังข้อมูลมา
แสดง
2.1.8.2 การวิเคราะห์ (Analysis Tools) การวิเคราะห์ข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบหลายมิติ
ซึ่งจะทําให้รายงานสามารถเจาะลึกและพลิกแพลงได้
2.1.8.3 การพยากรณ์ (Forecasting Tools) เป็ น เครื่ อ งมื อ ที่ ช่ ว ยในการทดสอบ
สมมติฐาน โดยอาศัยหลักการทางคณิตศาสตร์มาช่วยในการคํานวณ เช่น การจําลองเหตุการณ์
2.1.8.4 การหาความสัมพันธ์ (Mining Tools) เป็นเครื่องมือที่ใช้หาความสัมพันธ์ของ
ข้อมูลที่เก็บอยู่ในคลังข้อมูล เช่น การวิเคราะห์ความเสี่ยง การวิเคราะห์ลูกค้า
12
ผู้ใช้สามารถเข้าถึงดาต้ามาร์ทได้โดยผ่านการใช้งานอินเทอร์เฟซช่วยสนับสนุนการตัดสินใจ ซึ่ง
มี ฟั งก์ ชั่ น มากมายให้ เลื อ กใช้ โดย 2 ฟั งก์ ชั น ที่ สํ าคั ญ คื อ เครื่ อ งมื อ ในการสื บ ค้ น ข้ อ มู ล และการ
วิเคราะห์ข้อมู ลหรือที่ เรียกว่าการประมวลผลข้อมูลเชิงวิเคราะห์ สําหรับการสืบค้นข้อมูลนั้นผู้ใช้
สามารถเลื อ กที่ จ ะรั บ ผลลั พ ธ์ อ อกมาในรู ป แบบของรายงานก็ ได้ และยั ง สามารถปรั บ เปลี่ ย น
พารามิเตอร์ และระดับความละเอียดของข้อมูลที่ต้องการจะดูได้อีกด้วย ส่วนการประมวลผลข้อมูล
เชิงวิเคราะห์นั้นอาจจะแสดงผลออกมาในรูปแบบของตารางหรือกราฟ โดยผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยน
คุ ณ สมบั ติ ข องแกนกราฟได้ เช่ น รวมหลาย ๆ พารามิ เตอร์ ไว้ ใ นแกนเดี ย วกั น และยั ง สามารถ
ปรับเปลี่ยนระดับความละเอียดของข้อมูลได้ด้วย ทั้ง 2 ฟังก์ชันนี้จะแสดงผลลัพธ์แก่ผู้ใช้ในลักษณะ
ของกราฟิกและพวกมันยังสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมืออื่น ๆ ที่มีความสามารถในการแสดงผลที่ดีกว่า
ได้
2.2.4.2.4 กําหนดแอตทริบิวต์ที่จําเป็นในแฟคเทเบิ้ลโดยแอตทริบิวต์หลักใน
แฟคเทเบิ้ลจะมาจากคีย์หลักในแต่ละไดเมนชันเทเบิ้ล นอกจากนี้แล้ว ยังสามารถมีแอตทริบิวต์ที่
จําเป็นอื่น ๆ ประกอบอยู่ด้วย เช่น แอตทริบิวต์ที่ได้จากการคํานวณค่าเบื้องต้นที่จําเป็นสําหรับการคง
อยู่ของแอตทริบิวต์อื่นในแฟคเทเบิ้ลเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า measure การกําหนดแอตทริบิวต์นี้ไม่ควร
จะเลือกแอตทริบิวต์ที่คํานวณไม่ได้ เช่น เป็นตัวหนังสือ หรือไม่ใช่ตัวเลข เป็นต้น และไม่ควรเลือกแอ
ตทริบิวต์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของแฟคเทเบิ้ลที่เราสนใจด้วย
2.2.4.2.5 จัดเก็บค่าการคํานวณเบื้องต้นในแฟคเทเบิ้ล คือ การจัดเก็บที่ได้
จากการคํานวณให้เป็นแอตทริบิวต์ในแฟคเทเบิ้ลถึงแม้ว่าจะสามารถหาค่าได้จากแอตทริบิวต์อื่น ๆ ก็
ตาม ทั้งนี้เพื่อให้การสอบถามมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถทํางานด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น เนื่องจาก
ไม่ต้องคํานวณค่าใหม่ทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะเกิดความซํ้าซ้อนของข้อมูลในการจัดเก็บบ้างก็ตาม
2.2.4.2.6 เขีย นคําอธิบ ายไดเมนชัน เทเบิ้ ล ทั้ งนี้ ก็เพื่ อให้ ผู้ใช้สามารถใช้ งาน
ดาต้ามาร์ทได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะเกิดความเข้าใจอย่างดีในส่วนต่าง ๆ
2.2.4.2.7 กําหนดระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลในฐานข้อมูล โดยอาจจะเป็น
การจัดเก็บเพียงช่วงระยะเวลา 1-2 ปี หรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการขององค์กร เนื่องจาก
องค์กรแต่ละประเภทมีความต้องการในการจัดเก็บข้อมูลต่างช่วงเวลากัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความจําเป็น
หรื อ ข้ อ กํ าหนดในการดํ า เนิ น ธุ ร กิ จ มี ข้ อ สั งเกตอยู่ 2 ประการที่ น่ า สนใจและสํ า คั ญ สํ าหรั บ การ
ออกแบบแอตทริบิวต์ในเรื่องของการจัดเก็บข้อมูล ดังนี้
ก) ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไว้นานเกินไปมักเกิดปัญหาการอ่าน หรือแปล
ข้อมูลนั้น ๆ จากแฟ้มหรือเทปเก่า
ข) เมื่อมีการนํารูปแบบเก่าของไดเมนชันเทเบิ้ลมาใช้อาจเกิดปัญหา
การเปลี่ยนแปลงของไดเมนชันอย่างช้า ๆ ได้
2.2.4.2.8 การติดตามปั ญ หาการเปลี่ยนแปลงของไดเมนชันอย่างช้า ๆ คือ
การเปลี่ ยนเอาแอตทริบิ วต์ของไดเมนชั น เทเบิ้ ล เก่ ามาใช้ แ ล้ วส่งผลกระทบต่ อข้ อมู ล ปั จจุบั น ของ
dimension table โดยสามารถแบ่งประเภทของปัญหาที่เกิดได้ 3 ประเภท ดังนี้
ก) เกิดการเขียนทับข้อมูลใหม่โดยข้อมูลเก่า
ข) เกิดเรคอร์ดใหม่ ๆ ขึ้นในไดเมนชัน
ค) เกิดเรคอร์ดที่มีท้งั ค่าเก่าและใหม่ปนกันไป
2.2.4.2.9 กําหนดคิวรี่ เป็นการออกแบบด้านกายภาพเพื่อให้ ผู้ใช้เกิดความ
สะดวกในการใช้งานและสามารถทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อดําเนินการทั้ง 9 ขั้นตอนสําหรับ
แต่ละดาต้ามาร์ทเสร็จแล้ว จึงจะนําทั้งหมดมารวมกันเป็นภาพของคลังข้อมูลขององค์กรต่อไป
2.2.4.3 การแปลงข้อมูลเข้าสู่ดาต้ามาร์ท
เมื่อเราออกแบบฐานข้อมูลสําหรับแต่ละดาต้ามาร์ทเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่สําคัญยิ่งก็คือการ
นําข้อมูลจากแหล่งข้อมูลไปแปลงให้อยู่ในแพลตฟอร์มของฐานข้อมูลที่ได้ออกแบบไว้ นั่นก็คือการ
แปลงข้ อมู ล (ETL) นั่ นเอง โดยที่ คุณ ภาพของการแปลงข้ อมู ล เป็ นสิ่งสําคัญ มากสําหรับ การสร้าง
คลังข้อมูล จะแตกต่างกันไปตามคลังข้อมูลที่แต่ละองค์กรต้องการ โดยที่การแปลงข้อมูลหมายรวม
ตั้งแต่การวิเคราะห์แหล่งข้อมูล กําหนดการส่งข้อมูลรวบรวมหรือสร้างข้อมูลภายนอก วางแผนและ
19
สร้างรูทีนของการแปลงข้อมูล และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้สามารถสรุปเป็นขั้นตอนได้
ดังนี้
2.2.4.3.1 วิเคราะห์แหล่งข้อมูล เช่น ปริมาณของข้อมูล จํานวนและชนิดของ
การเข้าถึงแหล่งข้อมูล แพลตฟอร์มและภาษาโปรแกรมที่ใช้ เป็นต้น
2.2.4.3.2 ย้ายข้อมูลที่ต้องการ
2.4 ไมโครซอฟท์พาวเวอร์บีไอ
พาวเวอร์บีไอ (ถกลวรรณ, 2559) คือ บริการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจบนระบบคลาวด์ ที่ทําให้
ผู้ ใ ช้ ง านมองเห็ น ภาพและวิ เคราะห์ ข้ อ มู ล ได้ อ ย่ า งรวดเร็ ว มี จุ ด เด่ น คื อ ความสามารถในการ
ประมวลผลคิ ว รี่ ด้ ว ยภาษาธรรมชาติ แ ละมี ตั ว เลื อ กของการแสดงผลรายงานอย่ างหลากหลาย
สนับสนุนการใช้งานในรูปแบบโมบายแอปพลิเคชัน (mobile application), เวปแอปพลิเคชัน (web
application) และส่วนเสริม (Adds-in) ที่ สนับสนุ นการใช้งานบนไมโครซอฟท์ Excel รวมถึงการ
ทํางานร่วมกับออฟฟิต 365 ที่เป็นบริการไมโครซอฟท์ออฟฟิตในรูปแบบคลาวด์ (Microsoft Office
on the cloud) ที่เรียกว่าพาวเวอร์บีไอ สําหรับออฟฟิต 365 (PowerBI for Office 365) ให้บริการ
มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2014 และเริ่มใช้งานจริงในเดือนกรกฎาคม 2015 ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
21
2.5.1 ความหมายของการตัดสินใจ
จากการศึกษาแนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวกับการตัดสินใจ พบว่ามีผู้ให้ความหมายของการตัดสินใจไว้
หลายประการได้แก่
วิชัย (2535 : 185) ให้ความหมายของการตัดสินใจว่า หมายถึงการเลือกทางเลือกที่มีอยู่หลาย
ๆ ทางเลือก โดยอาศัยทางเลือกที่ดีที่สุดเพียงทางเลือกเดียวที่สามารถตอบสนองเป้าหมาย หรือความ
ต้องการของผู้เลือกได้
กรองแก้ว (2537 : 147) ได้ให้ความหมายของการตัดสินใจว่า หมายถึง การเลือกสิ่งหนึ่งหรือ
หลาย ๆ สิ่ง หรือเลือกที่จะปฏิบัติทางใดทางหนึ่งจากหลาย ๆ ทางที่มีอยู่ และวิธีการที่เลือกนั้นย่อม
ได้รับการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าถูกต้องเหมาะสมหรือดีที่สุด และตรงกับเป้าหมายขององค์การ
ด้วย
กวี (2539 : 61) ให้ความหมายของการตัดสินใจว่า หมายถึง การพิจารณาทางเลือกที่ดีที่สุด
จากทางเลือกหลาย ๆ ทาง ผู้นําต้องตัดสินใจด้วยหลักเหตุผลเพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ซึ่ง
การตัดสินใจดังกล่าวจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ดังนั้น กล่าวโดยสรุป การตัดสินใจ หมายถึง การพิจารณาโดยใช้ข้อมูล หลักการและเหตุผล
วิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนในการหาทางเลือกที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด จากหลาย ๆ ทางเลือกที่สามารถ
ตอบสนองเป้าหมายของหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพ
2.5.2 องค์ประกอบการตัดสินใจ
2.5.2.1 ตัวผู้ตัดสินใจ โดยผู้ตัดสินใจมีความสามารถในการประเมินคุณค่า ประโยชน์
หรือความสําคัญของทางเลือกแต่ละอย่าง
2.5.2.2 ทางเลือก ผู้ตัดสินใจจะเผชิญกับทางเลือกจํานวนหนึ่ง ซึ่งถ้าไม่มีทางเลือกก็ไม่
ต้องเลือก
2.5.2.3 ผลของทางเลือกในอดีต จะขึ้นอยู่กับการเลือก ซึ่งการเลือกแต่ละอย่างแตกต่าง
กันและไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
2.5.3 ประเภทของการตัดสินใจ
วิชัย (2535 : 185 - 186) ได้แบ่งประเภทของการตัดสินใจไว้3 ประเภท ตามสถานการณ์ ที่
เกิดขึ้น คือ
2.5.3.1 การตัดสินใจภายใต้สถานการณ์ที่แน่นอน เป็นการตัดสินใจที่อยู่บนพื้นฐานของ
ผลลัพธ์ที่คาดหมายไว้แล้ว โดยเกิดขึ้นได้เมื่อผู้ตัดสินใจมีข้อมูลเพียงพอและทราบถึงผลของการเลือก
แต่ ล ะทางเลื อ กอย่ างแน่ น อน ในสถานการณ์ เช่ น นี้ ผู้ ตั ด สิ น ใจจะพยายามเลื อ กทางเลื อ กที่ ให้ ผ ล
ประโยชน์สูงสุด
2.5.3.2 การตัดสินใจภายใต้สถานการณ์ที่เสี่ยง คือ การตัดสินใจที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ
ผลลัพธ์ที่แน่นอนน้อยกว่าการตัดสินใจภายใต้สถานการณ์ที่แน่นอน แต่ยังพอคาดคะเนความเป็นไปได้
อยู่บ้าง ทั้งนี้ผู้ตัดสินใจทราบถึงผลลัพธ์ของทางเลือกต่าง ๆ ที่ใช้ในการตัดสินใจ แต่โอกาสที่จะเกิด
ทางเลือกแตกต่างกัน อันเนื่องมาจากปัจจัยบางอย่างที่ไม่แน่นอน
2.5.3.3 การตั ดสิ น ใจภายใต้ส ถานการณ์ ที่ ไม่ แ น่ น อน เป็ น การตั ดสิ น ใจที่ ไม่ ส ามารถ
คาดการณ์ผลลัพธ์หรือความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้นได้เลย หรือกล่าวได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่มืดแปดด้าน
26
ทั้งนี้ เพราะผู้ตัดสินใจในสถานการณ์นี้จะไม่มีโอกาสทราบความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
และมีตัวแปรอื่นที่ควบคุมไม่ได้อยู่ด้วย ดังนั้นการตัดสินใจในสถานการณ์เช่นนี้ จึงไม่อาจเลือกโดยใช้
ทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดได้ ผู้ตัดสินใจต้องใช้ดุลพินิจและวิจารณญาณช่วยในการตัดสินใจ
อย่างมาก
2.5.4 ขั้นตอนการตัดสินใจ
วิชัย (2535 : 187 - 188) ได้แบ่งขั้นตอนการตัดสินใจออกเป็น7 ขั้นตอน ดังนี้
2.5.4.1 การตระหนั ก ในปั ญ หา (Problem Recognition) ขั้ น ตอนนี้ เป็ น ขั้ น ตอนที่ มี
ความสําคัญต่อการตัดสินใจ เพราะถ้าไม่มีการยอมรับว่าเกิดปัญหาขึ้นในหน่วยงาน การตัดสินใจก็คง
ไม่เกิดขึ้น ดังนั้นผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพจึงควรค้นหาปัญหา และตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้ก่อน
คนอื่น การค้นหา และรับรู้ว่าองค์การมีปัญหาย่อมยังประโยชน์ให้ผู้บริหารสามารถหาหนทางแก้ไข
ปัญหาต่าง ๆ ได้ ก่อนปัญหาจะรุนแรงขึ้นถึงขั้นวิกฤต คําว่า “ปัญหา” หมายถึง สภาพเหตุการณ์ที่
เกิดขึ้น หรือมีแนวโน้มที่จะเกิดซึ่งไม่ตรงกับความต้องการ โดยอาจพิจารณาได้จาก เหตุการณ์ต่อไปนี้
2.5.4.1.1 ผลงานปั จ จุ บั น ลดลงจากเดิ ม ทั้ งในแง่คุ ณ ภาพและปริม าณ เช่ น
ผลงานของปีนี้ลดลงจากปีที่แล้ว แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น บริการด้อยคุณภาพมากขึ้น อัตราการลาออก
การโอนย้ายของข้าราชการในหน่วยงานสูงกว่าปีที่ผ่านมา เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะชี้ให้ผู้บริหารทราบว่า
เริ่มมีปัญหาเกิดขึ้นในหน่วยงานหรือองค์การ
2.5.4.1.2 ผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เช่น ผลตอบแทนการลงทุนไม่เป็นไป
ตามเป้าหมาย การใช้จ่ายเงินงบประมาณที่กําหนดไว้ กําไรต่ํากว่าที่คาด เป็นต้น
2.5.4.1.3 ผู้ปฏิ บัติงานไม่พ อใจการบริห ารงาน โดยเห็ นได้จากการร้องเรียน
การร้องทุกข์การเขียนบัตรสนเท่ห์ การประท้วงในลักษณะการเฉื่อยงาน การขาดงาน การลาออก การ
โอนย้ายไปทํางานที่อื่น การเรียกร้องของสหภาพแรงงาน สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาเตือนให้ผู้บริหารให้
ความสนใจ โดยควรสืบเสาะสาเหตุแห่งความไม่พอใจ ซึ่งอาจเป็นการไม่พอใจ การเล่นพรรคเล่นพวก
การเลื่อนตําแหน่งที่ไม่เป็นธรรม และอื่น ๆ เพื่อหาทางแก้ไขอย่างใดอย่างหนึ่ง
2.5.4.2 การระบุ แ ละวิ เ คราะห์ ส าเหตุ ข องปั ญ หา (Identifying and Analyzing
Problem) ในการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องนั้น ผู้บริหารองค์การต้องพยายามแยกแยะปัญหาและ
ค้นหาสาเหตุของปัญหานั้นให้ได้ ปัญหาหนึ่งอาจมีสาเหตุหลายอย่าง ผู้บริหารจึงต้องมีประสบการณ์
และความสามารถในการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาด้วย และต้องไม่หลงเอาพฤติกรรมที่แสดงออกมา
เป็นปัญหา เช่น การมีผู้ขาดงาน ลาออกมาก ผู้บริหารอาจคิดว่าการลาออกเป็นปัญหาจึงแก้ไขโดยการ
จ้างคนงานเพิ่ม หรือมาตรการลงโทษผู้ขาดงาน ซึ่งทางแก้ไขปัญหาเช่นนี้อาจไม่ถูกทาง เพราะสาเหตุที่
แท้จริงอาจอยู่ที่ผู้ปฏิบัติงานขาดขวัญและกาลังใจในการทางานก็ได้ การวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา
จะเริ่มโดยการระบุสภาพและขอบเขตของปัญหาก่อน ซึ่งทําได้โดยการตอบคําถามต่อไปนี้ อะไรคือสิ่ง
ที่เกิดขึ้น เป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เกิดขึ้นที่ไหน ทราบได้อย่างไร มีผลเสียหายอย่างใดมากน้อยแค่ไหน
ขอบเขตของปัญหากว้างขวางเพียงใด มีผลกระทบต่ออะไรบ้าง เมื่อได้ระบุสภาพและขอบเขตของ
ปัญหาแล้ว ก็เป็นการค้นหาเหตุแห่งปัญหาโดย
2.5.4.2.1 พิจารณาว่ามีปัจจัยด้านบุคคล วิธีการ หรือสภาพแวดล้อมใดบ้าง ที่
ทําให้เกิดปัญหานั้นขึ้นทั้งโดยตรงและโดยอ้อม
27
2.5.4.7.1 ติดตามดูว่าการดําเนินการตัดสินใจได้เป็นไปตามขั้นตอนที่กําหนดไว้
หรือไม่กล่าวคือ ได้มีการวิเคราะห์และกําหนดปัญหาอย่างรอบคอบ มีการรวบรวมข้อมูลข่าวสารได้
ทันท่วงที
2.5.4.7.2 ผู้ที่นําการตัดสินใจไปปฏิบัติ ได้ยอมรับการตัดสินใจและปฏิบัติด้วย
ความเต็มใจหรือไม่ การตัดสินใจนั้นสามารถปฏิบัติได้ภายในขอบเขตและทรัพยากรที่มีอยู่หรือไม่
2.5.4.7.3 ผลของการปฏิบัติเป็นไปตามที่คาดไว้หรือไม่ โดยถ้าสามารถแก้ไข
ปัญหาได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ก็ถือว่าการตัดสินใจนั้นมีประสิทธิภาพ แต่ถ้ามีการเบี่ยงเบนไม่ตรง
ตามที่คาดการณ์ ก็อาจต้องมีการทบทวนการตัดสินใจใหม่อีกครั้ง ข้อสังเกตในการติดตามผลก็คือ ถ้า
หากสถานการณ์เปลี่ยนไป ผลของการดําเนินการอาจเปลี่ยนไปด้วย โดยเฉพาะถ้าสถานการณ์ในการ
ตั ด สิ น ใจแตกต่ า งมากกั บ สถานการณ์ ใ นตอนดํ า เนิ น การ การติ ด ตามผลจึ ง ต้ อ งสะท้ อ นถึ ง การ
เปลี่ยนแปลงนี้และมีการปรับการตัดสินใจให้ถูกต้องเหมาะสมด้วย
2.5.5 ขั้นตอนการตัดสินใจ
ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจ
2.5.5.1 การรั บ รู้ ก ารตั ด สิ น ใจ การรั บ รู้ (Perception) จะมี อิ ท ธิ พ ลในการกํ า หนด
พฤติกรรมการตัดสินใจของบุคคลให้แตกต่างกันไป โดยเฉพาะจะมีอิทธิพลในสถานการณ์การตัดสินใจ
ที่ไม่แน่นอน ข้อมูลในการตัดสินใจไม่พอเพียง และยังมีบทบาทสําคัญเมื่อจะต้องตัดสินใจเลือกทางที่
ไม่มี ข้อแตกต่างมากนัก การรับรู้เป็ นกระบวนการทางจิตวิทยา ซึ่งรับสิ่งกระตุ้น (Stimulus) ผ่าน
อวั ย วะรั บ ความรู้ สึ ก เช่ น ตา หู จมู ก ลิ้ น ผิ ว หนั ง และไปสู่ ส มองซึ่ ง ประกอบด้ ว ยความจํ า
ประสบการณ์ ในอดีต ทัศนคติ และความรู้สึก บุคคลแต่ละคนจะรับรู้สิ่งต่าง ๆ แตกต่างกันออกไป
ปัจจัยที่กําหนดความสามารถในการรับรู้ ได้แก่ ความคุ้นเคยกับตัวกระตุ้น ซึ่งก็คือ ประสบการณ์ใน
เรื่องต่าง ๆ รวมทั้งบุคลิกภาพ พื้นเพวัฒนธรรม และลักษณะทางกายภาพของแต่ละบุคคล ดังนั้น
บุคคลจะเลือกรับรู้สิ่งที่เขาอยากจะรับรู้ ซึ่งขึ้นอยู่กับพื้นฐานของแต่ละบุคคล เช่น นักจิตวิทยาศึกษา
วิชาการบริหารในแง่การศึกษาพฤติกรรมของแต่ละคน เป็นต้น ลักษณะของการรับรู้จะมีผลต่อการ
ตัดสินใจประสบการณ์ ที่แตกต่างกันทําให้แต่ละคนมีการตระหนักในปัญหา การระบุและวิเคราะห์
ปั ญ หา การแสวงหาข้ อมู ล ข่ าวสาร รวมทั้ งการตี ค วาม การประเมิ น ทางเลือ กและตั ด สิน ใจเลื อ ก
ทางเลื อ กที่ แ ตกต่ างกั น ออกไป การรับ รู้นั้ น อาจมี ก ารบิ ด เบื อ นได้ ซึ่ งจะมี ผ ลให้ ก ารตั ด สิ น ใจขาด
ประสิทธิภาพได้การบิดเบือนการรับรู้มี 4 ชนิด คือ
2.5.5.1.1 การบิดเบียนแบบ สเตอรไทร์ (Stereotype) เป็นการบิดเบือนที่มา
จากประสบการณ์บางอย่างแล้วเหมาว่าคงเป็นอย่างนั้นไปหมด เช่น เห็นว่าผู้ชายเป็นนักบริหารที่
ดีกว่าผู้หญิง เห็นว่าคนมีอายุมากขาดความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งอาจเป็นจริงในบางคน แต่ไมเป็นจริงเสมอ
ไปทั้งหมด
2.5.5.1.2 การบิ ดเบื อ นแบบ เฮล บั บ เฟก (Halo Buffect) เป็ น การประเมิ น
ลั ก ษณะบุ ค คลจากประสบการณ์ ที่ เคยประทั บ ใจ เช่ น เห็ น คนมาทํ า งานสม่ํ าเสมอว่า เป็ น ฉลาด
รับผิดชอบ มองคนที่ไม่ค่อยมาทํางานว่าไม่ดี เกิดเป็นอคติและเป็นการปิดบังข้อเท็จจริง ทําให้อาจมี
การตัดสินใจที่ผิดพลาด
30
2.5 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
2.5.1 งานวิจัยที่เกี่ยวข้องด้านธุรกิจอัจฉริยะ
ภัทรศรี วอนขอพร (2555) ได้ทําการวิจัยเรื่อง ธุรกิจอัจฉริยะสําหรับสนับสนุนการตัดสินใจใน
การบริหารการเบิกจ่ายวัสดุของธุรกิจเดินเรือทะเล เป็นงานวิจัยเพื่อนําเสนอการพัฒนาธุรกิจอัจฉริยะ
ในการตรวจสอบ และอนุมัติการเบิกจ่ายวัสดุอุปกรณ์ของบริษัท เพื่อออกรายงานสําหรับผู้บริหารใน
การเรียกดูสรุป และการออกรายงานสําหรับฝ่ายจัดซื้อ เป็นต้น นอกจากนี้ข้อมูลจากคลังข้อมูลได้
นํามาใช้ในการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ในการเบิกวัสดุ เพื่อช่วยใน การพิจารณาถึงวัสดุที่มักจะเบิก
ไปด้วยกัน เพื่อใช้แนะนําผู้เบิก เป็นการป้องกันการลืมเบิก และการพยากรณ์การเบิกวัสดุเพื่อช่วย
คาดการณ์แนวโน้มของการเบิกวัสดุในอนาคตโดยออกแบบโครงสร้างแบบดาว นอกจากนี้ วิจิตรา
พัชรกําจายกุล (2558) ยังได้เสนอ การพัฒ นาระบบธุรกิจอัจฉริยะเพื่อการวางแผนการขายสินค้า
สําหรับบริษัทผู้จัดจําหน่าย ได้นําเสนอการพัฒนาระบบเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจและการวางแผน
ด้านการขายของผู้บริหาร โดยใช้ระบบธุรกิจอัจฉริยะ โดยใช้กรณีศึกษาจากฐานข้อมูลการจําหน่าย
สินค้าขนาดใหญ่ North Wind Relation Database ที่ใช้หลักการออกแบบโครงสร้างการเก็บข้อมูล
โครงสร้างแบบดาวในการวัด ประสิทธิภาพจํานวนสินค้าที่ขายได้และผลรวมของยอดขายในรายเดือน
หรือปี เพื่อการวางแผนการขายสินค้าและเอกภพ บุญเพ็ง (2553) ได้ทําการวิจัย การบูรณาการข้อมูล
เชิงพื้นที่กบระบบธุรกิจอัจฉริยะ เป็นงานวิจัยเพื่อนําเสนอการพัฒนาระบบคลังข้อมูล สําหรับการ
ประเมินผลการจัดการศึกษาของประเทศโดยใช้ระบบธุรกิจอัจฉริยะเป็นเครื่องมือในการพัฒนาระบบ
โดยผู้บริหารต้องการวิเคราะห์ข้อมูลในหลายมิติและในขณะเดียวกันก็ต้องการให้แสดงผลข้อมูลบน
แผนที่ด้วย เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการวิเคราะห์และวางแผนการพัฒนาระบบต่อยอดจากระบบ
ธุรกิจอัจฉริยะ โดยออกแบบโครงสร้างแบบกาแลคซี่ ซึ่งเป็นระบบที่บูรณาการข้อมูลเชิงพื้นที่กับระบบ
ธุรกิจอัจฉริยะ เพื่อรวมความสามารถเข้าด้วยกัน เพื่อให้ผู้ใช้งานข้อมูลสามารถเรียกดูรายงานเชิง
วิเคราะห์ในหลายมิติและแสดงแผนที่ได้ นอกจากนี้ วัฒนพงศ์ โพธิ์พึ่ง (2550) ได้ทําการวิจัยเรื่อง การ
พัฒนาระบบเพื่อวิเคราะห์ความผิดปกติของรายการทางธุรกิจ ได้นําเสนอการพัฒนาและออกแบบ
ระบบในการวิเคราะห์ความผิดปกติด้านกระบวนการตรวจสอบความผิดปกติของแต่ละรายการบัญชี
ธนาคาร และในด้านการจัดการความเสี่ยง เพื่อติดตามพฤติกรรมการทํางานของพนักงานที่ทํารายการ
34
การศึกษาเรื่องระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารงานของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย
ราชภัฏสวนสุนันทา ในบทนี้จะประกอบด้วยขั้นตอนการศึกษาระบบงานเดิมจากฐานข้อมูลของบัณฑิต
วิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เพื่อนํามาวิเคราะห์หาแนวทางด้วยการนําเอาระบบมาช่วย
ในการตัดสินใจ โดยนําระบบธุรกิจอัจฉริยะเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการวิเคราะห์ข้อมูลในการ
พยากรณ์สถานการณ์ในอนาคต เพื่อการวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพทําให้เกิดข้อผิดพลาด
น้อยที่สุด เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดและทําการเสนออกมาในรูปแบบรายงาน เพื่อใช้ในการตัดสินใจ
โดยแบ่งขั้นตอนการดําเนินการวิจัยดังนี้
3.1**การศึกษาและรวบรวมข้อมูลระบบ
3.1.1 การวิเคราะห์ระบบงานเดิม
จากการศึกษาระบบงานเดิม พบว่าองค์กรยังขาดการนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการ
จัดการข้อมูล วิธีการที่จะช่วยแก้ปัญหานั่นคือการที่ต้องรวบรวมข้อมูลไว้ให้มีมาตรฐานเดียวกันและ
สามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยง่าย เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจด้านการวางแผน ในการศึกษาเอกสารของ
แต่ละฝ่ายงานที่เกี่ยวข้อง ผู้วิจัยพบว่าข้อมูลของหน่วยงานมักจะถูกจัดเก็บอยู่ในรูปแบบมาตรฐาน
ข้อมูลสําหรับประจําวัน ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาและมีการเลือกเก็บข้อมูลเป็น
แบบล่ าสุ ด เสมอ โดยไม่ มี ก ารเก็ บ ข้ อ มู ล เป็ น แบบสรุป หากผู้ บ ริ ห ารต้ อ งการรายงานต่ าง ๆ เช่ น
รายงานงบประมาณ รายงานจํานวนนักศึกษา รายงานการรับสมัครผู้บริหารจะทําการขอรายงานมาที่
เจ้าหน้าที่แต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่การเงิน เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป นักวิชาการศึกษา
ซึ่ งเจ้ าหน้ าที่ แ ต่ ล ะคนนั้ น ต้ อ งไปสรุป จากไฟล์ ที่ ต นมี เพื่ อ นํ า เสนอผู้ บ ริห าร ซึ่ งหากไม่ พ บข้ อ มู ล ที่
ผู้บริหารต้องการก็ต้องขอความช่วยเหลือไปยังกองงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากการจัดเก็บเอกสารที่มี
ปริมาณมากทําให้ใช้เวลานานในการจัดหา และยังสิ้นเปลืองทรัพยากร เสียพื้นที่ในการจัดเก็บเอกสาร
และเสียเวลาในการปฏิบัติงานนั้น ๆ ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลออกมาแล้วนั้นจะต้องนํามาสรุปในโปรแกรม
ไมโครซอฟต์เอกซ์เซล และนํามาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงนําเสนอให้ผู้บริหาร
รับทราบในรูปแบบรายงานสรุปของแต่ละฝ่ายงาน ซึ่งยังไม่เอื้ออํานวยต่อการนําไปใช้ในการวางแผน
เพื่อตัดสินใจได้
36
3.1.2 การวิเคราะห์ออกแบบระบบใหม่
จากการศึกษาและค้นคว้าข้อมูล ทําการศึกษาทฤษฎีต่าง ๆ ที่จะนํามาพัฒนาระบบเพื่อให้
สอดคล้องต่อความต้องการของผู้ใช้ จึงได้ทําการวิเคราะห์และออกแบบคลังข้อมูล เพื่อจัดทําเป็น
ระบบธุรกิจอัจฉริยะ เพื่อให้ผู้บริหารสามารถแจ้งความต้องการรายงานให้กับเจ้าหน้าที่ในส่วนงานที่
เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถเรียกดูรายงานจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ทันที และยังสามารถดูรายงานได้ทุกที่
ทุกเวลาเมื่อผู้บริหารต้องการ ซึ่งในระบบได้สร้างคลังข้อมูลที่ได้สร้างความสัมพันธ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยสามารถนํ ารายงานที่ ได้จ ากระบบไปทํ าการวิเคราะห์ ตามที่ ต้ องการ สามารถลดเวลาในการ
ปฏิบัติงานได้ และทําให้เกิดประสิทธิภาพในการะบวนการทําขององค์กรต่อไป
3.2 การออกแบบระบบ
เป็นการออกแบบระบบที่มีความเกี่ยวข้องกัน โดยศึกษาโครงสร้างข้อมูลของฝ่ายงานวิชาการ
ได้แก่ งานรับสมัครนักศึกษา งานวิจัย งานประกันคุณภาพ ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏ
สวนสุนันทา รวมถึงความต้องการของผู้ใช้งานและปัญหาที่พบ โดยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อใช้จัดเก็บลง
คลังข้อมูลของระบบธุรกิจอัจฉริยะ และพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบของรายงานแบบหลายมิติ โดยแบ่ง
ขั้นตอนการออกแบบระบบ ได้ดังนี้
จากการวิเคราะห์กระบวนการทํางานของบัณฑิตวิทยาลัยฝ่ายวิชาการ พบว่ามีข้อมูลที่สัมพันธ์
กันในหลายตาราง และเมื่อตรวจสอบข้อมูลในแต่ละตารางที่เกี่ยวข้องกันแล้วมีความจําเป็นต่อการ
วิเคราะห์ ซึ่งสามารถสรุปตารางข้อมูลที่ใช้การวิเคราะห์ได้ดังตารางที่ 3-1
จากรายชื่อตารางที่อยู่ในคลังข้อมูลสามารถที่จะนํามาเขียนเป็นความสัมพันธ์ของข้อมูลใน
ระบบได้ โดยใช้แผนภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล ดังแสดงในภาพที่ 3-3
40
ภาพที่ 3-4**การออกแบบคลังข้อมูลระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารงาน
ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ในรูปแบบเกล็ดหิมะ
41
3.3 การพัฒนาระบบ
การในการพัฒนาระบบนี้ ในขั้นตอนนี้เป็นการสร้างฐานข้อมูลตามแบบจําลองข้อมูล โดยนํามา
แปลงให้อยู่ในรูปแบบของคลังข้อมูล (Data Warehouse) ได้ใช้รูปแบบโครงสร้างแบบเกล็ดหิ ม ะ
(Snowflake Schema) และใช้โปรแกรมในการจัดการคลังข้อมูลด้วย Microsoft SQL Server 2017
ส่ ว นการสร้ า ง Cube และ Dimension ใช้ โปรแกรม Microsoft SQL Server Analysis Services
ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูล และประมวลผลออกมาในรูปแบบรายงานด้วยธุรกิจอัจฉริยะ (Business
Intelligence) ผู้วิจัยเลือกใช้เครื่องมือ Microsoft Power BI เป็นชุดเครื่องมือสําหรับออกรายงาน
นอกจากนี้ยังมีการออกแบบหน้าจอเป็นกราฟเส้น กราฟแท่ง แผนภูมิวงกลม ตารางข้อมูล
เพื่อให้ง่ายต่อการเห็นรายงานในหลายรูปแบบ
B B
B B
3.4 การทดสอบระบบ
การทดสอบระบบ ผู้ จั ด ทํ า ได้ ทํ า การทดสอบการทํ า งานของระบบโดยรวมทั้ ง หมดว่ า มี
กระบวนการทํางานถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้หรือไม่ และเป็นการทดสอบที่อาจจะเกิด
ขึ้นกับระบบ หลังจากนั้นได้ทําการให้ผู้ใช้งาน จํานวน 10 ท่าน ได้ทําการทดลองการใช้ระบบเพื่อ
ประเมิ น ความพึ งพอใจ ซึ่ งมี ผ ลความพึ งพอใจอยู่ ในระดี บ ดี (ค่ า เฉลี่ ย เท่ า กั บ 4.07 และค่ าส่ ว น
เบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.64)
3.4 การประเมินระบบ
3.4.1 การประเมินความพึงพอใจของระบบ
3.4.1.1 ลักษณะของแบบสอบถาม
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินความพึงพอใจ แบ่งออก 2 ส่วนดังนี้
ส่วนที่ 1 ข้อคําถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของผู้ประเมิน ได้แก่ ชื่อ นามสกุลผู้ประเมิน ตําแหน่งผู้
ประเมิน ระดับการศึกษาผู้ประเมิน
42
ส่วนที่ 2 ข้อคําถามเกี่ยวกับความพึงพอใจต่อการใช้งาน
3.4.1.2 ด้านการประเมินความพึงพอใจต่อระบบโดยการให้คะแนนตั้งแต่ 1 – 5 ความหมาย
ของคะแนนการประเมิน ดังแสดงในตารางที่ 3-10
(3-1)
43
เมื่อกําหนดให้
x ** คือ ค่าเฉลี่ยรวมของหัวข้อที่ประเมิน
∑x คือ ผลรวมของหัวข้อที่ประเมินที่ได้จากผู้ประเมิน
คือ จํานวนผู้ประเมินทั้งหมดที่ประเมินงานวิจัย
(3-2)
เมื่อกําหนดให้
S. D.** คือ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
∑x คือ ค่าที่ได้จากการประเมิน
X คือ ค่าเฉลี่ยรวมของหัวข้อที่ประเมิน
N คือ จํานวนผู้ประเมินทั้งหมดที่ประเมินงานวิจัย
บทที่ 4
ผลการวิจัย
สารนิพนธ์นี้ได้ดําเนินการออกแบบระบบสนับสนุนการตัดสินใจ เพื่อใช้รายงานข้อมูลเชิง
วิเคราะห์แบบหลายมิติ (Multi-dimension Data Analysis) โดยใช้กรณีศึกษาจากข้อมูลจากบัณฑิต
วิ ท ยาลั ย มหาวิ ท ยาลั ย ราชภั ฏ สวนสุ นั น ทา โดยแบ่ ง ผลการดํ า เนิ น งานออกเป็ น 2 ส่ ว น ซึ่ ง มี
รายละเอียดดังนี้
4.1 ผลการพัฒนาระบบ
4.2 ผลการประเมิน
4.1.1 กราฟแสดงผลการวิเคราะห์
แสดงให้เห็นถึงการนําระบบ Business Intelligence ด้วย Program Power BI มาวิเคราะห์
เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจได้ดังนี้
4.1.1.1 จํานวนนักศึกษาเมื่อเปรียบเทียบตามสาขาวิชาตั้งปี 2555- 2559 โดยนําผลรวม
ของจํานวนนักศึกษาของแต่สาขาวิชามาจําแนกตามกลุ่ม โดยแสดงรูปแบบเป็นแผนภูมิดังนี้
4.1.1.4 จํานวนนักศึกษาเมื่อรับเข้าเปรียบเทียบกับจํานวนนักศึกษาที่สําเร็จการศึกษา
โดยเปรียบเทียบตามสาขาวิชาตั้งปี 2555 - 2559 โดยนําผลรวมของจํานวนนักศึกษาของแต่สาขาวิชา
มาจําแนกตามกลุ่ม โดยแสดงรูปแบบเป็นแผนภูมิดังนี้
จากภาพที่ 4-5 ภาพรวมการเปรี ย บจํ า นวนนั ก ศึ ก ษารั บ เข้ า กั บ จํ า นวนนั ก ศึ ก ษาที่ สํ า เร็ จ
การศึกษา แสดงให้เห็นถึงการเปรียบเทียบนักศึกษาใหม่กับนักศึกษาที่สําเร็จการศึกษาโดยรวมในแต่
ละหลักสูตร เพื่อนําข้อมูลมาวางแผนผลักดันให้นักศึกษาสําเร็จการศึกษาตามแผนที่ศึกษา
48
4.1.1.5 ผลของการแสดงรายงานบนอุปกรณ์พีซีและโทรศัพท์แสดงดังภาพ 4-6 และ 4-7
ผลการประเมินความพึงพอใจของระบบได้ทําการทดสอบการใช้งานจริงจากแบบสอบถามของ
กลุ่มผู้ใช้งาน 10 คน และแบ่งการประเมินออกเป็น 3 ด้าน คือ ด้านความสามารถของระบบสนับสนุน
การตัดสินใจ ด้านความถูกต้องของระบบ และด้านการใช้งานของระบบ ผลการประเมินความพึงพอใจ
ของระบบโดยผู้ใช้งานดังที่กล่าวมาข้างต้นสรุปได้ว่า ผู้ใช้งานมีความพึงพอใจโดยรวมโดยมีค่าเฉลี่ย
เท่ากับ 4.07 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.64 ซึ่งแสดงว่าผู้ใช้งานมีการยอมรับและมีความพึง
พอใจในการใช้งานอยู่ในระดับดี
บทที่ 5
สรุปผลการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
5.1 สรุปผลการวิจัย
จากการนํ าระบบธุรกิ จอั จฉริ ยะมาประยุ กต์ ใช้ ในการสนั บสนุ นการตั ดสิ นใจ ของบั ณฑิ ตวิ ทยาลั ย
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดยนําข้อมูลในฝ่ายวิชาการมาจัดทําเป็นคลังข้อมูล และประยุกต์
เป็นธุรกิจอัจฉริยะ เพื่อใช้สนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร เป็นผลทําให้การทํางานในฝ่ายวิชาการ
เป็นไปอย่างมีระบบมากขึ้น ผู้บริหารสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวก และสามารถนําไปวิเคราะห์
และบริ ห ารจั ด การการทํ างานได้ อ ย่ างมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ พร้อ มทั้ งยั งลดขั้ น ตอนในการทํ างานของ
บุ ค ลากรที่ จ ะต้ อ งจั ด ทํ า รายงานเสนอแก่ ผู้ บ ริ ห ารลงได้ ด้ ว ย ทํ า ให้ ก ารรายงานต่ อ ผู้ บ ริ ห าร
ถู ก ต้ อ งแม่ น ยํ า รวดเร็ ว ผู้ บ ริ ห ารสามารถที่ จ ะใช้ โปรแกรมในการเลื อ กข้ อ มู ล ที่ ต้ อ งการขึ้ น มา
วิ เคราะห์ ไ ด้ ด้ ว ยตนเอง เนื่ อ งจากเป็ น การใช้ โปรแกรมที่ ใ ช้ ง านง่ า ย คื อ Microsoft Power BI
จึงไม่จําเป็นต้องรอให้บุคลากรฝ่ายต่าง ๆ รวบรวมข้อมูล และจัดทําเป็นรายงานที่ยุ่งยากอีกต่อไป
จึงทําให้เกิดผลที่น่าพอใจโดยสามารถสร้างรายงานที่จะนําเสนอผู้บริหารเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจได้
หลากหลายรูปแบบ
การทดสอบความพึงพอใจของผู้ใช้งานได้ใช้ข้อมูลของฝ่ายวิชาการ บัณฑิตวิทยาลัย ตั้งแต่ปี
พ.ศ. 2555 ถึงปี พ.ศ. 2559 โดยเลือกเฉพาะข้อมูลด้านนักศึกษา การเผยแพร่งานวิจัย และสถานภาพ
ของนักศึกษา ทั้งนี้ได้ทดสอบความพึงพอใจของระบบโดยผู้ใช้งานจํานวน 10 คน ผลการทดสอบ
ความพึงพอใจโดยรวมพบว่าอยู่ในระดับดี ( x = 4.07, S.D. = 0.64) โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ
51
ด้านความถูกต้องของระบบ ( x = 4.20, S.D. = 0.68) รองลงมาคือ ด้านความสามารถของระบบ
สนับสนุนการตัดสินใจ ( x = 4.10, S.D. = 0.61) และด้านการใช้งานของระบบ ( x = 3.90, S.D. =
0.63) ตามลําดับ
5.2 อภิปรายผล
ผลการศึ ก ษา เรื่ อ ง “ระบบสนั บ สนุ น การตั ด สิ น ใจในการบริห ารงานของบั ณ ฑิ ต วิ ท ยาลั ย
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา” มีประเด็นสําคัญที่นํามาอภิปรายผลการวิจัยดังนี้ ในมุมมองของการ
จัดทําคลังข้อมูลเพื่อรองรับข้อมูลหลายมิติ ซึ่งผลการประเมินการใช้ระบบจากผู้ใช้งานจํานวน 10 คน
พบว่า ผู้ใช้งานมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับดี แสดงว่าระบบสามารถเป็นแนวทางในแก้ปัญหา
ระบบงานเดิมได้และลดระยะเวลาการทํางานได้ การประยุกต์ใช้ธุรกิจอัจฉริยะในการช่วยสนับสนุน
การตัดสินใจนับว่าสามารถแก้ปัญหาระบบงานเดิมในการเรียกดูรายงานต่าง ๆ ได้อย่างดี ส่งผลให้
สามารถดําเนินงานได้รวดเร็วขึ้น มีความถูกต้อง ทันต่อเหตุการณ์ อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนที่เกิด
จากความเสียหายต่าง ๆ ลงได้ ซึ่งผลที่ได้รับนับได้ว่ามีประโยชน์อย่างยิ่ง ส่งผลให้การดําเนินงานมี
ความคล่องตัวขึ้น ผู้บริหารมีค วามพึงพอใจมากยิ่งขึ้น ทํ าให้ การบริหารงานเป็นไปในแนวทางที่ดี
สอดคล้องกับ ชนากานต์ (2556) ได้กล่าวถึงคุณสมบัติของคลังข้อมูลไว้ว่า คลังข้อมูลที่ออกแบบมานั้น
ก็เพื่อมุ่งเน้นในการจัดเก็บโครงสร้างเนื้อหา ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ
ทั้งนี้ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากหัวข้อในธุรกิจประเภทนั้น ๆ ได้ โดยแบ่งข้อมูลหรือสรุปรวมข้อมูล
มาวิเคราะห์ตามความต้องการได้ต ลอดเวลาและทั น การณ์ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของ
ผู้บริหารในการเรียกดูข้อมูลที่มีการนําเสนอข้อมูลหลายมิติ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้
อย่ างรวดเร็ว ส่ วนในด้ านมุ ม มองของธุร กิ จอั จฉริย ะ จากแนวคิ ด ที่ ว่าธุร กิ จ อั จ ฉริย ะเป็ น ระบบที่
รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งภายในและภายนอกองค์กรเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ขององค์กรให้ทําการ
ตัดสินใจได้ดีขึ้น ผลการใช้ธุรกิจอัจฉริยะทําให้การดําเนินงานขององค์กรทําได้ดีขึ้น ผลที่ได้คือ ผู้บริหาร
ทราบถึ ง ข้ อ มู ล เชิ ง ลึ ก และความหลากหลายของรายงานจากระบบสามารถวิเคราะห์ข้อมูลโดยการ
ดริลล์ดาวน์ และโรลล์อัป เช่น 1) รายงานการวิเคราะห์จํานวนนักศึกษาในแต่ละสาขาวิชา 2) รายงาน
การวิเคราะห์สถานภาพนักศึกษาในแต่ละสาขาวิชา 3) รายงานการวิเคราะห์การเผยแพร่งานวิจัยใน
แต่ละสาขาวิชา และ 4) รายงานการวิเคราะห์การเปรียบเทียบจํานวนนักศึกษาและจํานวนผู้สําเร็จ
การศึกษา นอกจากนี้ระดับความพึงพอใจของผู้ใช้งานต่อระบบการสนับสนุนการตัดสินใจโดยนําธุรกิจ
อัจฉริยะมาประยุกต์ใช้ยังสอดคล้องกับแนวคิดของ ศรีสมรัก (2550) ที่กล่าวว่าความพึงพอใจของ
ผู้ใช้งานระบบสารสนเทศเป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถสะท้อนคุณภาพของระบบสารสนเทศออกมาได้ ถ้า
ผู้ใช้งานมีความพึงพอใจและแสดงออกให้เห็นถึงการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในทางตรงกัน
ข้ามถ้าผู้ใช้งานไม่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ ความพึงพอใจของผู้ใช้งานรายนั้นจะ
ลดลง โดยผลการวิจัยในครั้งนี้ทําให้ทราบว่าผู้ใช้งานมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับดี
52
5.3 ข้อเสนอแนะ
ข้อมูลส่วนใหญ่ที่นํามาใช้ในสารนิพนธ์นี้เป็นข้อมูลในฝ่ายวิชาการเพียงเท่านั้น ทําให้ยังไม่มี
ข้อมูลครอบคลุมในฝ่ายอื่น อาจทําให้การจัดทํารายงานยังไม่ครบทุกฝ่าย ทั้งนี้ควรนําข้อมูลในฝ่ายต่าง ๆ
มาวิเคราะห์ให้คลอบคลุมทั้งหน่วยงาน เพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์ต่อองค์กรต่อไป
53
บรรณานุกรม
ภาษาไทย
กรองแก้ว อยู่สุข. พฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2537.
กวี วงศ์พุฒ. ภาวะผูน้ ํา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ศูนย์ส่งเสริมวิชาชีพบัญชี, 2539.
กําธร ศรีอุดม. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจสําหรับผู้ใช้บริการเว็บเซอร์วิสการท่องเที่ยวโดยใช้
ต้นไม้การตัดสินใจ. ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น,
2554.
ชนากานต์ เหลี่ยมโลก. คลังข้อมูลเพื่อวิเคราะห์การส่งออกสินค้า. ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี,
2556.
ดลฤดี ระพิสุวรรณ และศักดิ์ชาย ตั้งวรรณวิทย์. ระบบธุรกิจอัจฉริยะเพื่อวางแผนการขายสําหรับอุตสาหกรรม
อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ . สารนิ พ นธ์ วิ ท ยาศาสตรมหาบั ณ ฑิ ต ภาควิ ช าเทคโนโลยี ส ารสนเทศ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 2560.
ถกลวรรณ อุ ดมศรี. ข่ าวกรองธุ รกิ จอัจ ฉริยะผ่ านอุ ป กรณ์ โมบายบนระบบคลาวด์ กรณี ศึ กษา
ไมโครซอฟท์พาวเวอร์บีไอ. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยบูรพา, 2559.
บํารุง สังข์ขาว. ความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวด้านปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกเข้ามาท่องเที่ยว
ในอําเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน. ปัญหาพิเศษรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา
การจัดการภาครัฐและภาคเอกชน วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา, 2554.
พิพัฒน์ เกียรติ์กมลรัตน์. ระบบธุ ร กิ จ อั จ ฉริ ย ะเพื่อสนับสนุนงานขายของผู้บริหาร กรณีศึกษา
กลุ่มธุรกิจค้าปลีก. สารนิ พ นธ์ วิ ท ยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2560.
พูลศักดิ์ หลาบสีดา. การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการงานบริการของสายงานเทคโนโลยี
และสารสนเทศภายในบริษัท: กรณีศึกษา บริษัทประกนภัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร.
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2559.
ภัทรศรี วอนขอพร และสมชาย เล็กเจริญ. ธุรกิจอัจฉริยะสําหรับสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหาร
การเบิกจ่ายวัสดุของธุรกิจเดินเรือทะเล. สารนิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
มหาวิทยาลัยรังสิต, 2555.
วรัญญู ยาระณะ. การพัฒนาคลังข้อมูลการผลิตอาหารพร้อมรับประทานแช่แข็งโดยใช้เพนทาโฮ.
วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,
2556.
วัฒ นพงศ์ โพธิ์พึ่ง. การพั ฒ นาระบบเพื่ อวิเคราะห์ความผิดปกติ ของรายการธุรกิจ กรณี ศึกษา:
รายการทางบั ญ ชี ธ นาคาร. สารนิ พ นธ์ วิ ท ยาศาสตรมหาบั ณ ฑิ ต ภาควิ ช าเทคโนโลยี
สารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 2550.
54
ภาษาอั ง กฤษ
Gartner. Gartner Predicts Three Big Data Trends for Business Intelligence. from
http://www.forbes.com/sites/gartnergroup/2015/02/12/gartner-predicts-three-
big-datatrends-for-business-intelligence/, 2015.
Gounder, M. S., Iyer, V. V., & Al Mazyad, A. A survey on business intelligence tools for
university dashboard development. In Big Data and Smart City ( ICBDSC) ,
2016 3rd MEC International Conference on (pp. 1-7). IEEE, 2016.
Marinheiro, A., & Bernardino, J. Analysis of open source Business Intelligence suites. In
Information Systems and Technologies ( CISTI) , 2013 8th Iberian
Conference on (pp. 1-7). IEEE, 2013.
Wikipedia. Business Intelligence. from
https://en.wikipedia.org/wiki/Business_intelligence, 2011.
55
ภาคผนวก ก
แบบประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้งานระบบ
56
แบบประเมินความคิดเห็น
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารงานของบัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
โดย
นางสาวสุวรรณี ปุญสิริ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มาลีรัตน์ โสดานิล
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
คําชี้แจง
1. แบบประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้งานระบบ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความพึงพอใจของ
ผู้ใช้งานที่มีต่อการทํางานของระบบ
2. แบบประเมินความพึงพอใจ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
ส่วนที่ 1 ข้อคําถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของผู้ประเมิน ได้แก่ ชื่อ นามสกุลผู้ประเมิน
ตําแหน่งผู้ประเมิน ระดับการศึกษาผู้ประเมิน
ส่วนที่ 2 ข้อคําถามเกี่ยวกับความพึงพอใจของผู้ใช้งานระบบ
ส่วนที่ 3 ข้อเสนอแนะ
3. แบบประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้งานระบบ ประกอบด้วย ส่วนขอแบบสอบถามและส่วน
ของระดับคุณภาพ ขอความกรุณาให้ท่านทําเครื่องหมาย (√) ลงในช่องระดับคุณภาพ โดยเกณฑ์การ
ให้คะแนนมีดังนี้
5 หมายถึง ความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
4 หมายถึง ความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
3 หมายถึง ความพึงพอใจอยู่ในระดับกลาง
2 หมายถึง ความพึงพอใจอยู่ในระดับน้อย
1 หมายถึง ความพึงพอใจอยู่ในระดับน้อยที่สุด
57
ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปขอผู้ประเมิน
ผู้ประเมินชื่อ...........................................................นามสกุล............................................................
ตําแหน่ง...........................................................................................................................................
สถานที่ทํางาน..................................................................................................................................
ระดับการศึกษา
ปริญญาตรี ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
ปริญญาโท ปริญญาเอก
ส่วนที่ 2 การประเมินความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
ระดับคุณภาพ
รายการประเมิน
5 4 3 2 1
1. ด้านความสามารถของระบบการสนับสนุนการตัดสินใจ
1.1 มีการจัดหมวดหมู่การใช้งานได้อย่างชัดเจน
1.2 มีเมนูการใช้งานง่าย ไม่ซบั ซ้อน
1.3 การเข้าถึงระบบทําได้ง่าย รวดเร็ว
1.4 ระบบมีการแสดงผลข้อมูลที่รวดเร็ว
2. ด้านความถูกต้องของระบบ
2.1 ข้อมูลในระบบครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้งาน
2.2 ข้อมูลในระบบมีความถูกต้อง ชัดเจน น่าเชื่อถือ
2.3 ระบบแสดงข้อมูลได้อย่างเหมาะสม ครบถ้วน
2.4 รายงานผลในระบบฯ สามารถนําไปเป็นข้อมูลการตัดสินใจ
ของผู้บริหารได้
3. ด้านการใช้งานของระบบ
3.1 ระบบแสดงข้อมูลได้อย่างเหมาะสม ครบถ้วน
3.2 ระบบสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้ดี
3.3 ระบบสามารถช่วยอํานวยความสะดวกในการปฏิบัติงานได้ดีขึ้น
3.4 ระบบสามารถช่วยลดระยะเวลาการปฏิบัติงานให้เร็วขึ้นได้
ส่วนที่ 3 ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ขอขอบพระคุณที่สละเวลาอันมีค่าของท่านในครั้งนี้
คณะผู้จัดทําสารนิพนธ์
58
ประวัติผู้วิจยั
ประวัติ
ประวัติส่วนตัว เกิดวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2526 ที่จังหวัดสมุทรสงคราม
ประวัติการศึกษา สํา เร็ จ การศึ ก ษาระดั บ ปริ ญ ญาตรี หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชา
อุตสาหรรมท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา*
ประวัติการทํางาน ปัจจุบันทํางานที่บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ตําแหน่ง
นักวิชาการศึกษา