You are on page 1of 3217

ตอนที่ 1301 พบอสูรนอยอีกครั้ง

“สมกับแดนวิญญาณจริงๆ ในแดนมนุษยมีเพียงตำนานของ ‘เห็ดแกนเงินรอง’


คาดไมถึงวาจะมีอยูจริงๆ ในโลกนี้ วากันวาหากกินของสิ่งนี้เขาไป จะทำใหผิวมี
เกล็ดสีเงินกอนออกมาชั้นหนึ่ง ใชกันมีดทวนน้ำไฟโดยเฉพาะ มินาละอสูรปศาจ
เหลานี้ถึงไดพยายามถึงเพียงนี้ แตพลังการปองกันของมันก็ยังหางชั้นกับคาถาวัชระ
อยูอีกมาก เปนแคของไมมีคาสำหรับขาเทานั้น! ทวาขายใหกับผูฝกตนระดับกลาง
จะต อ งได ร ั บ การสนใจเป น อย า งมากแน ” หานลี ่ เ อ ย พึ ม พำสองสามประโยค
พลิกฝามือ ในมือมีพลั่วหยกสีเขียวมรกตขนาดเทาฝามือปรากฏขึ้น
เขาคอมตัวลง ถอนเห็ดวิญญาณสีเงินออกมาจากพื้นดิน หลังจากนั้นก็ชื่นชมมัน
อยูชั่วครู แลวหยิบกลองหยกออกมา ใสมันลงไป
สมุนไพร วัตถุดิบตางๆ ที่หายสาบสูญไปแลวในแดนมนุษย หลังจากที่หานลี่เขา
มาในสุสานตะวันคลอย ก็เก็บรวบรวมมาไดไมนอย
แตนาเสียดายที่ระดับของหานลี่ในตอนนี้ นอกจากสองสามชนิดที่ใชไดแลว ชนิดอื่น
อยางเห็ดแกนเงินรองก็ไมมีผลตอเขามากนัก
คิดดูแลวก็เปนเรื่องที่ปกติมาก ของที่มีประโยชนตอผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
จริงๆ เดาวาคงไมมีทางที่มนุษยและปศาจธรรมดาๆ จะเขามาตามหาได สวนสิ่งที่มี
เฉพาะในสุสานตะวันคลอยก็มีอยูนอยมาก งอกขึ้นในสถานที่ลึกลับ จำตองตามหาราว
กับการงมเข็มในมหาสมุทร
ดังนั้นโดยปกติ แล วในสุสานตะวั น คล อยจึ งมีผู บำเพ็ญ เพี ยรระดั บเทพแปลง
ปรากฏตัวขึ้นนอยมาก ปกติแลวมากสุดก็เปนปศาจอสูรแปลงกายระดับแปดของ
เผาปศาจและผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดของเผามนุษย
ถาหากออกนอกสามเขตเจ็ดแดนปศาจแลว ในยุทธภพที่ปาเถื่อนไรขอบเขตแดนฟาถึง
จะมีสมบัติมหัศจรรยอยูจำนวนนับไมถวน จำนวนของสมุนไพรมหัศจรรยประเภท
ต า งๆ ก็ ม ี ม ากจนไม ว  า ผู  ใ ดก็ ไ ม อ าจแยกแยะได แม ก ระทั ่ ง ทำให ค นธรรมดามี
รากวิญญาณฟาดิน ผูบำเพ็ญเพียรระดับต่ำบรรลุระดับไดภายในคืนเดียว
แตถึงแมว าสมุ นไพรนี้ จะทำใหท ุ กคนรู สึ กละโมบ แตหากพลั งยุทธ ไม อยู  ใ น
ระดับกอกำเนิด ก็อยูในเขตแดนของเผามนุษยและเผาปศาจอยางวางายจะดีกวา
เพราะว า ในยุ ท ธภพป าเถื ่ อน ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รที ่ ม ี ค วามสามารถเที ย บเทากับ
ระดับเทพแปลงระดับหลอมสุญตานั้น มีอยูทั่วไป ภัยธรรมชาติที่นาเหลือเชื่อจึงยิ่งทำ
ใหผูคนตกตะลึงจนอาปากคาง
ผูที่บรรลุระดับกอกำเนิดก็พูดไดวามีกำลังความสามารถที่จะเขาไปในดินแดน
ป า เถื ่ อนได ส ว นจะหาสมุ นไพรที ่ พ อใจพบหรื อไม ก็ ต  องดู ว าสนาและฝ ม ื อของ
แตละคนแลว
ทวาหลังจากที่บรรลุระดับกอกำเนิดแลว ความเร็วในการฝกฝนก็จะเชื่องชาลง
เปนอยางมาก
หากไมไปตามหาของที่มีประโยชนตอตนเองขางนอก กวาครึ่งก็ติดอยูในระดับนี้
ไมคืบหนา สุดทายก็หมดสิ้นอายุขัย ไมก็ตองดับอนาถจากเคราะหสวรรคที่เวียนเขา
มาอยางรวดเร็ว
ดังนั้นทุกปมนุษยและปศาจผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงจำนวนมากจึงตองออกไปจาก
สามเขตเจ็ดแดน เขาไปยังยุทธภพปาเถื่อน ไมวาพวกเขาจะหาของที่ตนเองตองการได
เพียงพอหรือไม แตผูที่กลับมาได กลับมีไมถึงหนึ่งในสาม
การสูญเสียไมเรียกวาไมหนักหนาได! นี่จึงทำใหชนชั้นสูงของมนุษยและปศาจทั้ง
สองเผาจนปญญา!
แตเพื่อรักษาระดับจำนวนชนชั้นสูงของเผาเอาไว พวกเขาจึงจำใจตองอนุญาตให
เรื่องนี้เกิดขึ้น
หานลี่เองก็รูเกี่ยวกับเรื่องนี้ และรูสึกสนอกสนใจยุทธภัณฑโบราณที่ปาเถื่อนนอก
เขตเปนอยางมาก หากไมใชเพราะตอนนี้เขายังไมมีลมปราณ ไมแนวาก็อาจจะออกไป
ดูสักรอบก็ได
ตอนนี้หานลี่พลันบิดขี้เกียจ ทันใดนั้นก็เดินออกไปจากในบริเวณนั้น
แตในตอนนั้นเอง ดานขางพุมไมพลันมีเสียงดังขึ้น ฉับพลันนั้นเงาสีเหลืองสายหนึ่ง
พลันเปลงแสงสวางวาบ แลวปรากฏขึ้นหางออกไปสิบกวาจั้ง เผยเงารางเล็กๆ ออกมา
“เอ!”
หานลี่พลันตกใจจนสะดุงโหยง แตเมื่อมองเห็นใบหนาที่แทจริงของเงาสีเหลือง
กลับเผยสีหนาตกตะลึงระคนดีใจออกมา
คาดไมถึงวาจะเปนอสูรนอยที่เคยทำใหเขาตรัสรูในทันที!
อสูรตัวนี้มาปรากฏตัวตรงนี้ตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู และยิ่งไปกวานั้นยังมีสีหนา
ตื่นตระหนก ขนลุกชัน ทาทางเหมือนหมาจนตรอก
หลังจากที่หานลี่ทั้งตกตะลึงและดีใจแลว ในใจก็อดที่จะรูสึกสงสัยขึ้นมาไมได
อสูรนอยมองเห็นหานลี่ ก็ดูเหมือนวาจะจำเขาไดและตกตะลึงไปเชนกัน
แตทันใดนั้นอสูรตัวนั้นก็เคลื่อนไหว พุงไปอีกดานราวกับลูกธนูทันที ไมคิดจะ
สนใจหานลี่เลยสักนิด
กวาหานลี่จะไดพบกับอสูรตัวนี้นั้นยอมไมใชเรื่องงาย ดังนั้นจึงไมยอมปลอยใหอีก
ฝายหนีไปไดงายๆ สะบัดแขนเสื้ออยางไมตองคิด ชั่วขณะนั้นเชือกสีเงินสายหนึ่ง
พลันพุงออกไป หมายจะพันรัดรางของอสูรตัวนอยเอาไวราวกับอสรพิษเงินตัวหนึ่ง
อสูรตัวนอยเห็นเชนนั้น พลันรูสึกโกรธเกรี้ยว แตภายใตความจนปญญานั้ น
รางกายก็ทำไดเพียงขยับไปมาอยูกลางอากาศเทานั้น ฉับพลันนั้นพลันกลายเปน
เงาลวงตา ทำใหอสรพิษเงินกระโจนเขาไปหาความวางเปลา
เชนนั้น รางของอสูรนอยก็ชะงักไปเล็กนอยอยางอดไมได แตชวงเวลาที่เสียไปนั้น
รอบๆ พลันมีลำแสงสี ขาวสวา งวาบ กระบี่เลมเล็ก สี ขาวเลม หนึ ่งพุ ง ออกมาจาก
กลางอากาศ พลิ้วไหวเล็ กน อย พลันกลายเป นสายรุ  งสี ข าวสายหนึ่ ง ปรากฏขึ้ น
เบื้องหนาอสูรตัวนอยที่คิดจะหนีไป
ภายใตลำแสงสีขาว กระบี่เลมเล็กพลันกลายเปนคนตัวเล็กขนาดสองสามชุน
สวมชุดสีขาว ใบหนาซีดขาวเปนอยางมาก ดูความแตกตางของเพศไมออก แตจอง
เขม็งไปยังอสูรตัวนอยตัวนั้นดวยความเย็นชาไมไดปริปากใดๆ
จะวาไปแลวก็แปลก อสูรนอยเห็นคนตัวเล็ก ชั่วขณะนั้นก็บิดรางกายดวยความ
ชาญฉลาด ทันใดนั้นแขนขาทั้งสี่ก็ตกลงสูพื้น ในเวลาเดียวกันก็คลานอยูบนพื้นดิน
เบื้องหนา ขนบนแผนหลังตางลุกชัน ทาทางเตรียมพรอมโจมตีศัตรู
“เผาวิญญาณ!”
หานลี่เห็นคนตัวเล็ก กลับรองอุทานดวยเสียงแหบแหงออกมา ทันใดนั้นรางกายก็
พลิ้วไหวอยางไมตองคิด กลายเปนเงาลวงตาสายหนึ่ง พุงไปดานหลัง
เผาตางๆ ที่เปนศัตรูกับเผามนุษยนั้น หานลี่ที่มาอยูในแดนวิญญาณไดยี่สิบกวาปแลว
ตางรูจักเปนอยางดี
เผาวิญญาณที่กลายรางเปนมนุษยได คือเผาวิญญาณที่อยูในระดับแมทัพวิญญาณ
ไมวากำลังหรือความสามารถก็ไมไดดอยไปกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงของ
เผามนุษยเลย
หากหานลี่ไมตกอยูในสภาวะไรซึ่งลมปราณ ไมแนวาจะอาจจะอยากมองความ
เปลี่ยนแปลงอยูขางๆ เงียบๆ แตภายใตสถานการณเชนนี้ แนนอนวาจึงทำไดเพียงหนี
ไปไดไกลเทาไหรก็เทานั้น
การเคลื่อนไหวของหานลี่ คนตัวเล็กสีขาวจึงเลื่อนสายตามา แลวมองไปในทันที
ในเวลาเดียวกันจิตสัมผัสกลุมหนึ่งก็กวาดผานไป
หลังจากที่พบวาคนผูนั้นคือผูฝกตนของเผามนุษย มนุษยตัวเล็กก็แคนเสียงอยาง
เย็นชาขึ้นจมูกอยางดูแคลน นิ้วทั้งหากางออก รายไปทางหานลี่สองสามครั้ง
หลังจากเสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้น เสนไหมบางๆ สีขาวหาสายก็เปลงแสงสวางวาบ
แลวพุงออกไป เมื่อพลิ้วไหวครั้งหนึ่งก็สลายหายไป
“กระบี่เสนไหม”
หานลี่รูวาเสนไหมบางๆ นั้นคืออะไร พลันใจหายวาบ หลังจากที่ใชมือหนึ่งตะปบ
ไปดานหลัง ทวนยาวๆ สีดำก็ปรากฏขึ้นในมือ
หลั ง จากที ่ เ ขาตะโกนออกมาด ว ยเสี ย งอั น ดั ง ก็ ใ ส ก ำลั ง ทั ้ ง หมดไปในทวน
สะบัดดามทวนไปเบื้องหนาทันที
ท า มกลางเสี ย งกรี ด ร องประหลาดๆ ลำแสงสี ด ำกลุ  ม หนึ ่ ง พลั น ระเบิ ด ออก
ตานทานอยูเบื้องหนาของหานลี่ แทบจะในเวลาเดียวกัน เสนไหมกระบี่หาสายก็
ปรากฏขึ้นเบื้องหนาหานลี่ ปะทะเขากับลำแสงสีดำอยางพอดิบพอดี
ดูเหมือนลำแสงสีดำขนาดใหญ เมื่อปะทะกับกระบี่เสนไหมก็เกิดเสียงระเบิดดัง
ขึ้นเปนระลอกๆ ทามกลางลำแสงสีขาว ลำแสงสีดำพลันถูกฉีกขาดอยางงายดาย
ทันใดนั้นทวนยาวทั้งเลมก็แตกออกเปนเสี่ยงๆ ราวกับดินโคลน
ชั่วพริบตาก็เหลือเพียงครึ่งทอน!
กระบี่เสนไหมหาสายพุงหาหานลี่พลางเปลงแสงสวางวาบ
หานลี่รองวาแยแลวอยูในใจ มือหนึ่งโบกสะบัด ทวนครึ่งดามกลายเปนลำแสง
สีดำสายหนึ่งพุงออกไป ในเวลาเดียวกันปากก็รองตะโกนออกมา เกราะสงครามสีเทา
ที่สวมอยูพลันเปลงแสงสวางจา กลายเปนหมอกสีเทากลุมหนึ่ง ตานกระบี่เสนไหม
เอาไวในระยะประชิด
จากนั้นสองมือของเขาพลันกำหมัดแนน รอบกายมีลำแสงสีทองเจิดจาระเบิดออกมา
ชั่วพริบตาพลันคาถาวัชระขั้นที่เจ็ดจนถึงระดับสูงสุด
เสียงแหวกอากาศดัง “สวบๆ” ดังขึ้น
แขนทั้งสองขางของหานลี่เลือนรางเล็กนอย กำปนทั้งสองโจมตีออกไปดวยความ
รวดเร็วที่นาเหลือเชื่อ ราวกับวาฉีดอากาศออกอยางไรอยางนั้น กำปนสีทองสองกลุม
ทะลักออกมาพรอมเสียงวายุกรีดรอง
เมื่อทวนครึ่งดามสัมผัสกับเสนไหม ลำแสงสีขาวพลันเปลงประกายกลายเปนสิบ
กวาสวน
เสนไหมบางๆ สับลงไปยังมานหมอก
กำปนสีทองสองกลุมจมหายไปที่เมฆดานหลังอยางไรรองรอย
ชั่วขณะนั้นเสียงแหลมๆ จากการสีกันของธาตุทองก็ระเบิดออกมาจากมานหมอก
ชั่วพริบตามานหมอกสีเทาก็ขยายใหญขึ้น แตกลับกักกระบี่เสนไหมทั้งหาเอาไวไดใน
คราวเดียว
หานลี่ถือโอกาสนี้พลิ้วไหวรางกายไปสองสามครั้งราวกับภูตผี ชั่วพริบตาก็หนี
ออกมาไดในระยะยี่สิบกวาจั้ง สุดทายก็หมุนวนพวยพุงขึ้นไปกลางอากาศ คนหายไป
ทามกลางพุมไมอยางไรรองรอย
ครานี้ เมฆสีเทาถึงไดระเบิด ออก กลายเปนแผน นิร นามดุจ เล็ บมื อแผ น หนึ่ ง
พุงออกไปทั้งสี่ทิศ
กระบี่เสนไหมหาสายถึงไดเปลงแสงสวางวาบแลวเผยตัวออกมา
คนตัวเล็กสีขาวที่อยูกลางอากาศพลันตกตะลึง ทันใดนั้นจิตสังหารพลันฉายวาบ
ผ า นบนใบหน า ขณะกำลั ง จะเคลื ่ อนไหว อสู ร น อยที ่ อยู  ตรงข ามก็ ก ลอกตาไปมา
ฉับพลันนั้นรางกายพลันรางเลือน กลายเปนเงาลวงยี่สิบกวาตัวที่เหมือนกันอยางไร
อยางนั้น ในเวลาเดียวกันก็พุงหนีไปทั่วทุกสารทิศ
“จะหนีไปไหน!”
ชั่วขณะนั้นมนุษยตัวนอยก็ไมสนใจหานลี่ หลังจากที่ปากพลันตะโกนออกไปดวย
ความโกรธเกรี้ยว รางกายก็หมุนควางอยูกลางอากาศ ไอกระบี่สีขาวจำนวนนับไมถวน
พลันพุงออกมา ตรงไปหาเงาอสูรที่กระจายตัวออกไปรอบๆ ดาน ครานั้นไอเย็นเยียบ
อันกดดันของไอกระบี่พลันพัวพันสลับตัดไปกลางอากาศต่ำๆ ทาทางนาตกใจ
ผลคือนอกจากรางของอสูรนอยตั วหนึ่งที่ บิดตัว แลวหลบหนีไ ปจากไอกระบี่
สองสามสายแลว เงาอสูรที่เหลือก็ถูกสับออกเปนชิ้นๆ
มนุษยตัวเล็กดูเหมือนวาจะอยากจับเปนอสูรนอย ชูมือขึ้นชี้นิ้วออกไป ชั่ว
ขณะนั้นไอกระบี่พลันสลายหายไป สวนตนเองก็หัวเราะอยางเย็นชาออกมา รางกาย
พุงขึ้นไป กลายเปนสายรุงสีเงินสายหนึ่งพุงตามอสูรนอยไป
อสูรนอยดูเหมือนวา จะเสี ยเปรีย บคนของเผา วิญ ญาณไม น อย จึงไมกล า หั น
กลับมาตั้งรับ จึงถือโอกาสนี้ กลายเปนเงาสีเหลืองกลุมหนึ่งพุงหนีออกไปยังจุดที่ไกล
ออกไป
ความเร็วเชนนี้แทบจะเหนือกวาหานลี่หลายเทาตัว
มนุษยตัวเล็กสีขาวตองจับอสูรตัวนี้ใหได หลังจากที่กระบี่เลมเล็กหมุนวนรอบหนึ่ง ใน
เวลาเดียวกันก็ไลลาตามไป ความเร็วไมไดดอยไปกวาอสูรนอยเลย
ชั่วขณะนั้นอสูรตัวหนึ่ง กระบี่เลมหนึ่ง ก็หายวับไปอยางไรรองรอยในชั่วพริบตา
ไมรูวาผานไปนานเทาไหร ดานหลังตนไมยักษใกลๆ ก็มีเงารางคนพลิ้ว ไหว
คาดไมถึงวาหานลี่จะปรากฏตัวขึ้นตรงนั้น
ถึงแมวายางกาวควันตาขายของหานลี่จะมหัศจรรย แตความเร็วก็ไมอาจหลบ
หลีกการไลลาของเผาวิญญาณได จึงเสี่ยงใชคาถากั้นดวงตา แอบซอนตัวอยูแถวๆ นี้
อสูรตัวเล็กตัวนั้นจะตองถือโอกาสหนีไป และคนของเผาวิญญาณผูนั้นจะตองไม
สนใจตัวเอง แลวไลตามไปทันที
แนนอนวาหากไมเปนไปตามที่คาดการณแลวอีกฝายไลตามมาสังหารละก็ ไขมุก
ทลายเซียนที่กำอยูในมือทั้งสองเม็ดของเขา ก็คงจะตองใชโจมตีอยางไมเกรงใจแลว
เมื่อเห็นวาทุกอยางเปนไปตามที่คาดการณ เผาวิญญาณผูนั้นรับหนาที่ใหมาไล
ตามอสูรนอยตัวนั้นโดยเฉพาะ จึงไมสนใจผูฝกตนเล็กๆ คนหนึ่งอยางเขา
หานลี่มองทิศทางที่กระบี่เลมเล็กบินไป สีหนาเครงขรึมดุจสายธาร ในเวลา
เดียวกันในใจก็รูสึกไมปลอดภัยที่คนของเผาวิญญาณระดับแมทัพวิญญาณมาปรากฏ
ตัวในที่แหงนี้
หรือวามีเรื่องอะไรที่ตนเองไมรูเกิดขึ้น
เขาอดที่จะพึมพำในใจไมได
ตอนที่ 1302 ชื่อเหยียน
หลังจากที่รางของหานลี่พลิ้วไหวสองสามครั้งก็กลับมาอยูในสถานที่เดิมที่ประมือกัน
หลังจากกวาดสายตามองไปบนอาวุธที่ แตกเปนชิ้ นๆ บนพื้น ในใจก็อดที่จะรู สึ ก
เสียดายเปนอยางมากขึ้นมาไมได
ตอนที่หลอมของสองสิ่งนี้ เขาทุมเทแรงกายแรงใจไปเปนจำนวนมาก หากไมใช
เพราะบังเอิญพบกับเผาวิญญาณในระดับแมทัพวิญญาณ คงไมถูกทำลายลงอยาง
งายดายเชนนี้แน
ทวาที่หลอมศาสตรายุทธขึ้นมา ก็เพื่อเอาไวใชรักษาชีวิต เขาจึงไมรูสึกเสียใจอะไร
หานลี่ไมกลาอยูที่นี่นานนัก ทันใดนั้นจึงคิดจะหนีไปดานตรงขามกับที่อสูรนอย
และกระบี่นอยพุงไป
แตเขายังไมไดสืบฝเทาออกไป ฉับพลันนั้นเหนือศีรษะขึ้นไปสิบกวาจั้งก็มีเสียง
ของบุรุษดังขึ้น
“ไมเลว ไมเลว! คิดไมถึงวาจะเอาชีวิตรอดมาไดภายใตเปลือกตาของเจาเด็กหัวกวง
ดูแลวเจาคงไมใชผูฝกตนธรรมดา มีภูมิหลังอยูบางสินะ”
หานลี่ไดยินแลวพลันหนากระตุก สีหนาซีดขาว ชั่วขณะนั้นรางกายพลันแข็งคาง
แทบจะในเวลาเดียวกัน ลำแสงวิญญาณสองสามสายพลันเปลงแสงสวางวาบขึ้น
กลางอากาศ คนตัวเล็กขนาดสองสามชุนอีกสามคนปรากฏขึ้น
หนึ่งในนั้นสวมชุดคลุมยาวสีดำเขียว ดวงตาทั้งสองคมกริบเปนพิเศษ ดูเหมือนจะ
ปรบมือพรอมกับหัวเราะเสียงดัง แตเมื่อเหลือบตามามองหานลี่นั้น สายตากลับเย็นชา
อยางหาที่เปรียบ ไมมีรอยยิ้มเลยแมแตนอย
ใตฝาเทาของเขาเหยียบอยูบนมานหมอกสีโลหิตกลุมหนึ่ง
ทั้งสองคนที่อยูดานขางแบงออกเปนชายรางกายกำยำเรือนกายเปลงแสงสีแดง
เจิดจา กับสตรีหนาตาเย็นชาคนหนึ่ง บนเรือนรางมีมานหมอกเย็นเยียบสีขาวโพลน
หอหุมอยูชั้นหนึ่ง
คาดไมถึงวาจะเปนคนของเผาวิญญาณสามคน
หานลี่สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง ฝนกดความตกตะลึงเอาไว นิ้วทั้งสิบที่
กำไขมุกทลายเซียนสองเม็ดเอาไวแนนแตเดิมพลันผอนคลายลงในทันที
หนึ่งตอสาม ถึงแมวาจะใชไขมุกทลายเซียน ก็ไมอาจทำใหทั้งสามบาดเจ็บไดในเวลา
เดียวกัน แตเมื่อทั้งสามปรากฏตัวแลวก็ไมไดลงมือในทันที ดูแลวเขาคงมีโอกาสรอด
ไมจำเปนตองเปนฝายลงมือดิ้นรน
ใบหนาของหานลี่เยือกเย็นขึ้น จองเขม็งไปยังคนตัวเล็กทั้งสามที่อยูบนทองฟา
“อรหันตซวี่เทียน เอาคนนี้ก็แลวกัน! คนผูนี้คือผูฝกตนระดับสูง นาจะรูตำแหนง
ของหุบเขาหุนตุน ประกอบกับบนรางของเขาไมมีลมปราณอยูเลย นาจะเปนลูกมือที่
เหมาะสมที่สุด” ชายรางกายกำยำที่มีลำแสงสีแดงเปลงประกายเจิดจา พิจารณา
หานลีอ่ ยางละเอียดสองแวบ แลวหันไปเอยกับบุรุษที่เทาเหยียบอยูบนเมฆสีโลหิตดวย
ความนอบนอม
“ออ งั้นก็เอาเขาก็แลวกัน” บุรุษที่อยูบนเมฆสีโลหิตมีหนาตาธรรมดาๆ พยักหนา
อยางราบเรียบ
ชายรางกายกำยำไดยินวาบุรุษเห็นดวย พลันรูสึกดีอกดีใจ ทันใดนั้นก็ฉีกยิ้มใหหานลี่
อยางโหดเหี้ยม รางกายหมุนติ้ว กลายเปนอสรพิษเพลิงขนาดสองสามฉื่อตัวหนึ่ง
พุงลงมาดานลาง
หานลี่พลันรูสึกตกตะลึง หรือวาจะเขาใจผิด อีกฝายคิดจะลงมือสังหาร
ความคิดเคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว แนนอนวาเขาไมมีทางยืนนิ่งรอความตายแน ทันใด
นั้นพลันตัดสินใจ บนรางมีลำแสงสีทองเจิดจา โคจรคาถาวัชระทั้งหมดบนเรือนราง
ในเวลาเดียวกันมือทั้งสองก็ขยับ ไขมุกทลายเซียนทั้งสองเม็ดถูกบวงสรวงอยาง
ไมสนใจใดๆ
ในตอนนั้นเอง บุรุษบนเมฆโลหิตเห็นหานลี่คิดจะลงมือ มุมปากพลันหยักขึ้น ชูนิ้วขึ้น
ดูเหมือนจะชี้มาทางหานลี่อยางชาๆ
เหนือศีรษะมีเสียง “สวบๆ” ดังขึ้น ฉับพลันนั้นหานลี่พลันรูสึกวาอากาศรอบดาน
บีบรัด จากนั้นพลังมหาศาลไรรูปรางก็เขามาประชิดตัว กดเขาลงกับพื้น
หานลี่รองวาแยแลวอยูในใจ ภายใตพลังมหาศาลเชนนี้ โยนไขมุกทลายเซียน
ออกไป เกรงวาแมแตตนเองก็ถูกมวนเขาไปในพลังแรงบีบดวย
ภายใตความจนปญญา เขากระตุนเคล็ดวิชาคาถาวัชระ พลังเทวาในรางระเบิดออก
คาดไมถึงจะตานทานพลังมหาศาลเอาไว
แตพลังกลุมนี้ก็ยิ่งใหญเกินไปจริงๆ ภายใตความตกตะลึงของพลังเทวา ถึงแมวา
จะไมไดถูกกดเอาไวบนพื้น แตเสียง “สวบ” ก็ดังขึ้น หานลี่ดูเหมือนเสาเข็มอยางไร
อยางนั้น รางทั้งรางจมลงไปใตดินครึ่งหนึ่ง ดินเหนียวอยูตรงโคนขา
ในเวลาเดียวกันหานลี่ก็รูสึกเพียงวารางกายสะเพรา คาดไมถึงวาจะไมอาจขยับตัว
ไดเลยแมแตนอย
“เอ” บุรุษบนเมฆโลหิตเห็นฉากนั้น กลับตกตะลึงไปเล็กนอย ดูเหมือนวาจะรูสึก
ประหลาดใจกับพลังเทวาที่นาตกตะลึงของหานลี่
หานลี่ก็ทั้งตกตะลึงทั้งโกรธเกรี้ ยวเช นกั น อีกฝายแคชี้นิ้ว คาดไมถึงวาจะมี
พลังมหาศาลเชนนี้ นี่ไมใชพลังที่ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงคนหนึ่งจะมีได
หรือวาคนผูนี้อยูในระดับวิญญาณทมิฬของเผาวิญญาณ?
ลำแสงสีแดงสวางวาบ อสรพิษเพลิงขนาดจิ๋วมาอยูเบื้องหนาหานลี่ ถือโอกาสที่
เขาเบิกตาไมอาจขยับตัวได กระโจนลงมาดานลางอยางไมลังเลอีก คาดไมถึงวาจม
หายเขาไปในหัวของหานลี่ แลวหายวับไป
หานลี่ตะโกนออกมาดวยความคับแคน ใบหนาบิดเบี้ยว ราวกับวาเจ็บปวดเปน
อยางมาก
เมื่อเห็นฉากนี้ บุรุษบนเมฆโลหิตกลับหัวเราะออกมาเบาๆ หดนิ้วที่ยื่นออกมาชาๆ
ชั่วขณะนั้นพลังมหาศาลบนรางของหานลี่หายวับไป รางกายสั่นเทา ชั่วครูก็ถูกดึง
ออกมาจากพื้นดินสองสามจั้ง
แตจากนั้นลำแสงสีทองอันแสบตาพลันระเบิดออกจากเรือนราง สองมือกำแนน โจมตี
ไปยังตนโสมสวรรคยักษที่อยูในปาแถวนั้นอยางบาคลั่งไมหยุดราวกับสายลมที่บาคลั่ง
ทุกแหงที่พัดผานไป ตนไมทั้งหมดตางเกิดเสียงอึกทึกขึ้น ทยอยกันถูกกำปนสับ
ออกเปนสองสวนจากตรงกลางลำตน
นาตื่นตะลึงเปนพิเศษ!
ในตอนแรกบุรุษที่อยูบนเมฆโลหิตยังแคฉีกยิ้มไมปริปากใดๆ แตเมื่อหานลี่ยังโจมตี
อยางบาคลั่งในบริเวณรอบเปนเวลาหนึ่งมื้ออาหาร ไมมีทาทีจะหยุดพักเลยสักนิด
รอยยิ้มตรงมุมปากของบุรุษก็อดที่จะหุบลงมิได แววตาเปลงประกายสงสัยออกมา
“อรหันตซวี่เทียน! ชื่อเหยียนจะไมเปนอะไรใชไหมเจาคะ?” สตรีผูที่ดานขาง
รูสึกกังวลใจขึ้นมาเล็กๆ
“นาจะไมเปนอไร รางเดิมของชื่อเหยียนคือไขมุกกลืนเพลิงเม็ดหนึ่ง กลืน
ความคิดของผูฝกตนคนหนึ่งนั้นเปนเรื่องที่งายดายนัก และยิ่งไปกวานั้นพลังชีวิตเดิม
ของไขมุกเพลิง ก็ไมไดออนแอ” บุรุษที่อยูบนเมฆโลหิตขบคิดเล็กนอยแลว สั่น
ศีรษะ
เมื่อไดยินบุรุษเอยเชนนี้ สตรีเผาวิญญาณก็รูสึกปลอดภัยขึ้น
เสียงอึกทึกในปาที่อยูไกลออกไปพลันหยุดลง!
ใบหนาของสตรีเผยสีหนายินดีออกมา แตบุรุษกลับหรี่ตาทั้งสองขางลงตาม
ความรูสึก
หลังจากผานไปชั่วครู หานลี่ก็เดินออกมาจากสวนลึกของปา
แตแคเขาในครานี้มีสีหนาไรความรูสึก ดวงตาทั้งสองขางเฉื่อยชาไปเล็กนอย
“ชื่อเหยียน เจารูสึกอยางไรบาง?” บุรุษจองเขม็งไปยังหานลี่ชั่วครู แลวถึงไดเอย
ถามดวยดวงตาที่เปลงประกาย
“ไมเลว รางของเผามนุษยรางนี้มีประโยชนอันนาอัศจรรย แตแคจิตสัมผัสของอีก
ฝายแข็งแกรงกวาคนธรรมดา ดังนั้นจึงเสียแรงไปมาก” ‘หานลี่’ บิดคอไปมา ปากก็
เอยเสียงเดิมของชายรางกายกำยำเผาวิญญาณออกมา
“อืม เชนนั้นขาก็วางใจ ผูฝกตนผูนี้ไมคอยธรรมดา ขายังกลัววาจะผิดพลาด
เกิดอะไรขึ้นกับเจาซะอีก” บุรุษที่อยูดานบนหัวเราะออกมา
“ไมคอยธรรมดาตรงไหน! ก็แคมีกำลังเหนือกวาผูฝกตนธรรมดาๆ เทานั้นมิใชหรือ?
อรหั นต ซ วี ่ เ ที ย น ข า หาตำแหน ง ของหุ บ เขาหุ  น ตุ  น พบแล ว อยู  ห  า งจากพวกเรา
คอนขางไกล จะไปตอนนี้เลยหรือไม” ‘หานลี่’ ดูเหมือนวาจะไมคอยใสใจนัก
“ไมรีบรอน หัวกวงไลตามอสูรกิเลนมิคาทนกลายพันธุไป ไมนานก็คงกลั บมา
รอสักประเดี๋ยว” บุรุษเอยอยางราบเรียบ
เมื่อไดยินอีกฝายกลาวเชนนี้ ‘หานลี่’ พลันพยักหนา ทันใดนั้นก็ยืนอยูบนพื้นดิน
ไมไดกลาวอะไรอีก
หลังจากผานไปครึ่งชั่วยาม ไกลออกไปก็มีเสียงแหวกผานอากาศดังขึ้น สายรุงสีขาว
สายหนึ่งพุงออกไป ชั่วพริบตาก็มาอยูเบื้องหนาคนเหลานั้น
ลำแสงหมนแสงลง สายรุงสีขาวหมนแสงลง เผยคนตัวเล็กสีขาวออกมา มือหนึ่ง
ถือโซลำแสงสีเขียวเสนหนึ่งเอาไว อสูรนอยที่ถูกรัดเอาไวแนนหนาอีกตัว ลอยตามหลัง
เขามาติดๆ
“เอ เผ า มนุ ษ ย … ” คนตั ว เล็ ก สี ข าวเห็ น ‘หานลี ่ ’ ก็ อ ดที ่ จ ะตกตะลึ ง ไม ไ ด
เผยสีหนาประหลาดใจออกมา
“ไมตองกังวล จิตสัมผัสของมนุษยผูนั้นชื่อเหยียนกลืนกินไปแลว ตอนนี้ ถู ก
ชื่อเหยียนควบคุมอยู” บุรุษเอยปากอธิบาย
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง งั้นก็ดี ขาไมไดเอาวงแหวนอสูรวิญญาณมาดวย ไมสะดวก
ที่จะพาอสูรกิเลนมิคาทนไปดวยได เจาเอาใหไปดูแทนขาก็แลวกัน” คนตัวเล็กสีขาว
ถึงบางออ แตทันใดนั้นก็เอยเชนนี้กับ ‘หานลี่’ ที่อยูดานลางดวยความดีอกดีใจทันที
จากนั้นก็สะบัดโซลำแสงในมือ ชั่วขณะนั้นอสูรนอยพรอมกับโซก็พุงลงไปดานลาง
‘หานลี่’ ไมไดเอยอะไร มือยักษคลายออก ควาอสูรนอยเอาไวไดอยางงายดาย
จากนั้นแหวนวิญญาณบนมือก็เปลงประกาย อสูรนอยหายวับไปอยางไรรองรอยทันที
“เอาละ ชื่อเหยียนเจารูตำแหนงของหุบเขาหุนตุน ก็เปนฝายนำทางเถิด พวกเรา
มีเวลาไมมากนัก ไมอาจลาชาไดอีก นี่เปนโอกาสดีที่เผาเราจะชิงโลหิตเทวากลับคืนมา
มิเชนนั้น ปกติแลวเผาเบญจธาตุวิญญาณไมมีทางยอมมอบโลหิตเทวาใหพวกเราแน
มีโลหิตเทวาหยดนี้ พวกเราก็มีเผามนุษยเพิ่มขึ้นอีกกลุมแลว ดังนั้นตองทำภารกิจให
สำเร็จ หามผิดพลาด หัวกวงเจาไปรวมตัวกับคนของเผาเบญจธาตุวิญญาณ รายงาน
พวกเขา วาพวกเราจะไปหุบเขาหุนตุน ชื่อเหยียนรอจนถึงหุบเขาหุนตุนแลว เจาก็
ปะปนเขาไปอยูในเผามนุษย แลวดูสถานการณ” ซวี่เทียนออกคำสั่งอยางใจเย็น
“ขอรับ” ‘หานลี่’ ตอบรับอยางราบเรียบ คนอื่นๆ ก็พยักหนาอยางเครง ขรึม
เชนกัน
“เยี่ยมมาก ออกเดินทาง”
บุรุษที่อยูบนเมฆโลหิตออกคำสั่ง กลุมคนจึงออกจากที่นั่นในทันที หายวับไปใน
สวนลึกของผืนปา
……
หกวันตอมา เงารางของหานลี่มาปรากฏตั วบนภู เขาเล็กๆ ลูกหนึ่งดา นนอก
หุบเขาหุนตุน ผูที่อยูกับเขายังมีผูบำเพ็ญเพียรและผูฝกตนที่ดูทาทางไมธรรมดาอีก
เจ็ดแปดคน
พวกเขาลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมหรือไมก็ผูฝกตนระดับสูง
คนเหลานี้ลวนมีสีหนาเครงขรึมขณะมองไปยังทางเขาหุบเขาหุนตุนที่อยู ไกล
ออกไป ตางนิ่งเงียบไมพูดไมจา
“พี่ซุน อาวุโสหวงเหลียงและพวกประมุขหลานจะมาปรากฏตัววันนี้ เพื่อประมือ
กับคนของเผาวิญญาณดวยตนเองหรือ?” ชายวัยกลางคนสวมชุดสีเทาคนหนึ่งเอย
ปากถามชายชราผมบาง ที่ในมือถือพัดใบลานอยูเลมหนึ่ง
“ไมผิดแน ขาไดรับสาสนกระบี่บินมาจากคนขางกายของประมุขหลาน ถึงไดมาที่นี่
นอกจากพวกเราแลว ยังมีคนอื่นๆ รออยูรอบๆ สงครามครั้งนี้ ดูเหมือนวาเหลาอาวุโส
จะต องได ข องสิ ่ ง นั ้ นมา เพื ่ อมิ ใ ห เ ผ า ป ศ าจถื อโอกาสชิ ง ไป ดั ง นั ้ น จึ ง ต องการให
พวกเจาชวย” ชายชราแซซุนเอยอยางมั่นใจเต็มเปยม
“ในเมื่ออาวุโสหวงเหลียงและประมุขหลานออกคำสั่งดวยตนเอง พวกเราก็ไมมี
อะไรจะพูดแลว ทวาเหตุใดพี่หานและพี่หลี่ถึงยอมเขารวมกลางคันจนมาถึงครานี้”
ชายชรามองหานลี่และนักปราชญหนาขาวอีกคนหนึ่งแวบหนึ่ง แลวเอยถามพรอม
หัวเราะนอยๆ
“เดิมทีขานอยเขามาในสุสานตะวันคลอยเพื่อจะพัฒนาพลังยุทธ สงครามของผูที่
อยูในระดับหลอมรวมขึ้นไป จะไปพลาดไดอยางไร หลังจากมองดูแลว ก็เกิดแรง
บันดาลใจขึ้น ยิ่งไปกวานั้น พวกประมุขหลานยังมอบรางวัลหนักๆ ให” หานลี่เอยดวย
สีหนาราบเรียบ
คำตอบของนักปราชญอีกคนหนึ่งก็ไมตางกันเทาใดนัก
ชายชราไดยินแลวพลันพยักหนา ไมไดสงสัยอะไรอีก ถึงอยางไรเสียที่คนสวนใหญ
เสี่ยงอันตรายเขามาที่นี่ ก็มีเหตุผลที่ไมแตกตางกันนัก
ในตอนนั้นเอง ฉับพลันนั้นดานขางของหุ บเขาหุ นตุนก็มีเสีย งกรีดรองยาวๆ
ดังเสียดฟาดังขึ้น
ทันใดนั้นไอปศาจจำนวนนับไมถวนก็ทะลักออกมา ฉับพลันนั้นก็ผสมเขาดวยกัน
กลายเปนหมอกปศาจสีเทาขาวเปนหยอมๆ หอหุมทองฟากวาครึ่งเอาไว
ครานั้นใตกอนเมฆพลันมีเสียงคำรามของอสูร วายุหมุนวนบังเกิดขึ้น!
ตอนที่ 1303 สามเผารวมตัว
ไอปศาจที่นาตกตะลึงขนาดนี้ปรากฏขึ้น แนนอนวาตรงไปยังทางเขาของหุบเขาหุนตุน
นี่จึงทำใหหานลี่และพวกเผามนุษยที่แอบซุมอยูรอบๆ อดที่จะพากันตกตะลึงไมได
ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รอยู  ร ั ก ษาการณ ท ี ่ น ี ่ ม านานแล ว ก อนหน า นี ้ ไ ม น านก็ ไ ด เ ห็ น
เผาวิญญาณสองคนในหุบเขาสังหารเผาปศาจ แมกระทั่งยังสังหารปศาจ ผู
บำเพ็ญเพียรระดับสูงอยางระดับแปลงกายไปสองสามคน พละกำลังชางหางชั้นกับ
เผาปศาจเปนอยางมาก
ครานี้จูๆ เผาปศาจกลับสำแดงกำลังการโจมตีที่แข็งแกรงออก หรือวากองหนุน
มาถึงแลว?
ในขณะที่เผามนุษยกำลังซอนตัวอยูนั้น ทุกคนตางพากันตื่นตระหนกไปหมด
ทางดานหุบเขาหุนตุน ฉับพลันนั้นพลันมีเสียงอึกทึกดังมา จากนั้นทางเขาหุบเขาก็มี
ฝุนทรายปลิววอน จากนั้นบนพื้นและกลางอากาศสูงขึ้นไปก็มีสิ่งของจำนวนมาก
ทะลักออกมาพรอมกัน
บนทองฟาทอดยาวไปสองสามจั้งลวนวิหคไมสีเขียว บนพื้นตางมีมนุษยหินยักษ
สูงหกเจ็ดจั้งทะลักออกมา
นอกจากหุนเชิดวิหคไมเหลานั้นที่เปนสีเขียวมรกตแลว ทุกตัวลวนมีชีวิตชีวา
เหมือนของจริงๆ รูปรางออนชอย มองจากที่ไกลๆ ก็ทำใหผูคนไมอาจแยกแยะไดวา
เปนของจริงหรือปลอม
สวนมนุษยหินยักษที่รางกายตันหนานั้น นอกจากดวงตาสีขาวจางๆ คูหนึ่งบน
ใบหนาขนาดยักษแลว ก็ไมมีสิ่งอื่นอีก กอนหินที่รวมตัวกันเปนมนุษยยักษนั้นก็ถูก
สรางมาจากขาวของเครื่องใชตางๆ
เมื่อหุนเชิดไมและหินจำนวนมากปรากฏตัว ทำใหมนุษยที่ไมเคยเห็นสงคราม
ระหว า งป ศ าจและวิญ ญาณในครั้ ง ที่แ ลว พากั น สู ด ลมหายใจเย็ น ยะเยือกเขาไป
เฮือกหนึ่ง
หานลี่เห็นหุนเชิดจำนวนมากจากที่ไกลๆ แลว ก็อดที่จะหนาเปลี่ยนสีมิได
ในตอนนั้นเอง หงสไมเขียวมรกตตัวหนึ่งและมนุษยหินสีเทาขาวตัวหนึ่ง ก็เดิน
ออกมาเปนแนวหนาในเวลาเดียวกัน
ฉับพลันนั้นเหนือหัวของหงสไมพลันมีลำแสงวิญญาณเปลงแสงเจิดจา ลำแสง
สีเขียวกลุมหนึ่งปรากฏขึ้น เผยรางสตรีสวมชุดกระโปรงสีเขียวขนาดตัวสูงสองสาม
ฉื่อออกมา สวนมนุษยหินยักษนั้นพลันยื่นมืออันใหญโตออกมา บนมือมีผูเฒาที่
ขนาดตัวไมตางกันนักปรากฏตัวขึ้นเชนกัน ในมือถือไมเทาหินสีขาวเอาไว พิจารณา
ไอปศาจที่นาตกตะลึงตรงขามดวยสีหนาเย็นชา
“สหายเสี่ยวอยูหรือไม ออกมาตอบคำถามซิ” ผูเฒาพลันเอยปาก เปลงเสียงที่
เหมือนกับระฆังเหงงหงางดังออกมา ทำใหมนุษยและปศาจที่อยูในระยะสิบกวาลี้
ไดยินอยางชัดเจน
ไอปศาจสีเทาขาวที่อยูตรงขามพลันหมุนวน เสียงเพรียกอันไพเราะของหงสพลัน
ดังขึ้น จากนั้นลูกบอลเพลิงสีดำกลุมหนึ่งก็พุงออกมาจากดานใน หลังจากหมุนวน
หนึ่งรอบ ก็กลายเปนสตรีสวมชุดชาววังที่มีจิตสังหารฉาบอยูบนใบหนา
“หวงสื อกง เจ า เรี ย กเข า มาทำไม หรื ออยากให ข  า ออกจากหุ บ เขาหุ  นตุ  น ”
ริมฝปากสีแดงของสตรีสวมชุดชาววังขยับ เอยคำพูดที่ไมมีมารยาทออกมา
“ใหออกจากหุบเขาหุนตุน? สหายชางกลาพูดเสียจริง ไมทราบวาสิบกวาวันกอน
ผูใดใหพวกเราพายแพ จนเกือบจะรักษาชีวิตนอยๆ เอาไวไมได กะอีแคผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลงขั้นตน ตานทานระดับกลางอยางพวกเราสองคนไดอยางไร ที่แนะนำ
ใหเจากลับไปก็เพราะไมอยากใหมนุษยและปศาจผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้น ถือโอกาสนี้
ฉวยโอกาสไปก็เทานั้น” สตรีวัยแรกแยมที่อยูทามกลางลำแสงสีเขียวมรกตเอยเชนนี้
ออกมา น้ำเสียงไพเราะเสนาะหู นาหลงใหลเปนอยางมาก
“ออ แมหญิงเสี่ยวพวกเจาไมเห็นขาอยูในสายตา เชนนั้นขานอยจะทำอยางไร”
ไอปศาจที่อยูดานหลังหมุนวน ปศาจผูบำเพ็ญเพียรคนหนึ่งบินออกมา
คนผูนี้มีรูปรางผอมบาง หัวไหลมีแมลงเมาบินเปลงแสงวิบวับไปมาไมหยุดตัวหนึ่ง
นั่นก็คือ ชายหนุมแซหวนหนาตาหมดจดผูนั้น
หวงสือกงและเทียนอิงเผาวิญญาณทั้งสอง เห็นชายหนุมก็พลันตกตะลึงจนหนาถอดสี
หวงสือกงยิ่งหนากระตุกพลางเอยดวยเสียงแหบแหงวา
“หวนชังชี่ คาดไมถึงวาเจาจะอยูที่นี่?”
“จุ  ๆ เจ า สองคนต า งรู  จ ั ก ตาเฒ า สงครามในตอนนั ้ น ข า ยั ง ไม บ รรลุ ร ะดั บ
หลอมสุญตาก็สามารถเอาชนะเจาสองคนไดแลว ครานี้ผานมาหมื่นปแลว ขาบรรลุราง
เบญจธาตุแลว แตพวกเจายังเปนแคแมทัพวิญญาณจิ๊บจอยสองคน ดูแลว เผา
วิญญาณนอกจากจะมีอายุขัยที่ยืนยาวแลว ศักยภาพก็ไมอาจเทียบกับเผามนุษยและ
ปศาจสองเผาของพวกเราได เดาวาอีกไมนานก็คงจะเปนเหมือนกับเผาที่ออนแอเผา
อื่นๆ คอยๆ สูญพันธุไปในแดนวิญญาณ เชนนั้นมิสูยอมศิโรราบใหพวกเรากอนจะ
ดีกวาหรือ เผาวิญญาณของเจามีประโยชนตอทั้งสองเผาของพวกเรามาก ไมมีทาง
ปลอยใหพวกเจาสูญพันธุแน” ชายหนุมแซหวนเอยอยางราบเรียบ
“หึ สหายหวนบังอาจหนัก ถึงแมวาเผาวิญญาณของพวกเราจะไมแข็งแกรง แตก็
อยูในแดนวิญญาณจนมาถึงทุกวันนี้ แนนอนวายอมมีเหตุผล เจาก็เปนแคอาวุโสเล็กๆ
คนหนึ่งในเผาปศาจ มีสิทธิ์อะไรมาวิจารณการสูญพันธุของเผาขา นายทานไมกลัววา
ลมพัดแรงจนตัดลิ้นตัวเองหรือ” หวงสือกงไดยินหวงสือกงวิจารณเผาวิญญาณเชนนี้
ก็รูสึกโกรธแคน ความหวาดกลัวแตเดิมมลายหายไปอยางไมรูตัว
“ขานอยไมมีสิทธิ์ไปวิจารณเรื่องของเผาเจา แตคำพูดเหลานี้เปนคำพูดที่อาวุโสใหญ
ของเผาขาพูดกัน ขานอยแคนำมาถายทอดใหฟ งอยางไมตกหลนสั กคำเทานั ้ น”
ชายหนุมไมไดโกรธเกรี้ยว กลับหัวฮาๆ ออกมายกใหญ
“นายทานอยาเพอฝนไปเลย พวกเรามีอรหันตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อยูสองสามทาน
ไมมีทางยอมศิโรราบใหเผาใดแน” เทียนอิงที่อยูในลำแสงสีเขียวมรกตตอบกลับอยาง
เย็นชา
“ในเมื่อเปนเชนนั้น ผูแซหวนจะพูดอะไรได สหายหวงเหลียง ประมุขหลาน
พวกเจาเองก็ปรากฏตัวเถิด ตาเฒารูวาพวกเจามาถึงที่นี่ตั้งแตเมื่อวานแลว หรือวายัง
คิดจะนั่งรอฉวยโอกาสอยูจริงๆ?” หลังจากที่ชายหนุมแซหวนหัวเราะออกมาอยาง
เย็นชาแลว ฉับพลันนั้นพลันหันหนาไป ตะโกนไปยังอากาศวางเปลาอีกดานหนึ่งดวย
สีหนาแปลกประหลาด
ประโยคนี้แนนอนวาทำใหเผาวิญญาณทั้งสองที่อยู ณ ที่นั่น รวมทั้งเผามนุษยที่
ซอนตัวอยูรอบๆ พากันตกตะลึง
หมอกลำแสงสีขาวออนเปลงแสงสวางจา รอนลงมาราวกับผาคลุมหนาที่ไรรูปราง
ชั้นหนึ่ง ฉับพลันนั้นกลางอากาศพลันมีเรือหยกยักษยาวสามสิบจั้ง กวางสี่สิบหาสิบจั้ง
ลำหนึ่งปรากฏขึ้น ทั้งลำเปนสีขาวโพลน ลอยอยูตรงนั้นอยางเงียบเชียบ
บนเรือหยกมีคุณชายหวงเหลียงและพวกผูบำเพ็ญเพียรยืนอยู
ทานประมุขหลานและพวกมีสีหนาตกตะลึง เห็นไดชัดวารูสึกประหลาดใจที่
ตัวเองและพวกเผยรองรอยออกไปไดอยางไร
“แมลงเมาเพลิงลวงตา ที่แทผูที่แอบฟงพวกเราสนทนากันตั้งแตเมืองตะวันคลอย
ก็คือ ผีเฒาอยางเจา!” คุณชายหวงเหลียงหลิงกวาดสายตาไปที่หัวไหลของชายหนุม
แลวมีสีหนาเครงขรึมดุจสายธาร
“พี่หวงเหลียงเพิ่งจะรูหรือ ขาคิดวาสหายรูเรื่องตั้งนานแลวเสียอีก” ชายหนุม
เบะปากเล็กนอย
“หนูเฒาอยางเจา เอาแตหลบอยูในรังหนูเพราะเคราะหสวรรค ไมยอมออกมา
ขางนอก ตอนนี้เหตุใหถึงมาอยูที่นี่ ไมกลัววาจะเตรียมตัวไมพรอมแลวไมอาจผาน
เคราะหสวรรคไปไดหรือ?” คุณชายหวงเหลียงหลิงดูเหมือนวาจะคุนเคยกับชายหนุม
แซหวนเปนอยางดี จึงเอยอยางยิ้มเยาะเล็กๆ ออกมา
“เฮอ! หากตาเฒามั่นใจวาจะผานเคราะหสวรรคสามพันปครั้งไดจริงๆ จะมีใจ
ออกมาที่นี่ไดอยางไร ผูแซหวนติดอยูในระดับหลอมสุญตาขั้นตนมานับหมื่นปแลว
เคราะหสวรรคครั้งหนึ่งตองเสียแรงเปนอยางมาก ไมมั่นใจวาจะผานครั้งตอไปไดเลย
สักนิด แนนอนวาไมสูออกมา หาวาสนาอื่นจะดีกวา สหายหวงเหลียง เจาเพิ่งบรรลุ
ระดับหลอมสุญตาไดไมนาน เพิ่งผานเคราะหสวรรคไปแคครั้งเดียว จึงไมเคยขบคิด
เรื่องนี้” ปศาจผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาขั้นกลางผูนี้ถอนหายใจยาวๆ ออกมา
พลางเอยเชนนี้ออกมา
เมื่อไดยินอีกฝายเอยเรื่องเคราะหสวรรค คุณชายหวงเหลียงก็หนาเปลี่ยนสี
สีหนาเปลี่ยนเปนดูไมได
เคราะหสวรรคครั้งแรกเกรงวาเขาจะยังคงจดจำไดเปนอยางดี ความนากลัวของมัน
ทำใหเขาในตอนนี้ยังรูสึกสั่นสะทาน
“หึ เจาตองตามหาวิธีทะลวงจุดคอขวด ไปแดนปาเถื่อนไมดีกวาหรือ จะวิ่งมาที่
เผามนุษยทำไม ผูเฒานอยอยางเจาจะหาขออาง ก็ตองหาสิ่งที่ทำใหคนอื่นยอมเชื่อ”
คุณชายหวงเหลียงหลิงขยับริมฝปากเบาๆ แตไมไดออกเสียง คาดไมถึงวาจะถายทอด
เสียงออกมา
“สหายหวง ครั้งนี้อยามาโทษขาก็แลวกัน ขามาปรากฏตัวที่เมืองตะวันคลอย
แตเดิมก็เพราะอยากเชิญสหายใหไปที่แดนปา เถื่ อนอีกสัก ครั้ง แตแคมีเรื่องของ
เผาวิญญาณเขามาพอดี ตาเฒาในฐานะที่เปนอาวุโสของเผาหยกชวด แนนอนวาจึง
ตองจำใจสอดมือเขายุง” ชายหนุมหัวเราะจุๆ ออกมา ถายทอดเสียงกลับไปเชนกัน
“มาชวนไปแดนปาเถื่อน?” คุณชายหวงเหลียงหลิงพลันตกตะลึง
“ใช แ ล ว ถึ ง แม ว  า มนุ ษ ย แ ละป ศ าจอย า งพวกเราจะแตกต า งกั น แต ก ลั บ มี
ความสามารถเกื้อหนุนกัน หากรวมมือกัน จะตองปลอดภัยมากในแดนปาเถื่อนแน
สองสามพันกอนเจาและขาก็เคยรวมมือกันครั้งหนึ่ง และยิ่งไปกวานั้นยังไดประโยชน
กลับมาไมนอยไมใชหรือ ตาเฒาไวใจสหายหวงเหลียงเปนอยางมาก หากเปนคนอื่น
ตอใหเปนอาวุโสคนอื่นๆ ในเผาเดียวกัน ตาเฒาก็ไมกลารวมทางดวย เคราะหสวรรค
ครั้งที่สองของสหายจะใกลเขามาแลวสินะ หากไมถือโอกาสนี้ไปหาสมบัติที่ใชผาน
เคราะหสวรรค ก็ไมรูวาเจาจะมีความมั่นใจแคไหนในการผานเคราะหสวรรคครั้งตอไป
ถึงแมวาพลังยุทธของเจายังคงเดิม แตอานุภาพของเคราะหสวรรคมันจะรายแรงขึ้น
เรื่อยๆ” ชายหนุมตอบกลับอยางเยือกเย็น
“พี่หวนถามเชนนี้ ผูแซหวงก็ไมกลัวที่จะวากันตามความจริงแลว เคราะหสวรรค
ครั ้ ง ที ่ ส อง จากสถานการณ ข องข า ในตอนนี ้ มี ค วามมั ่ น ใจแค ค รึ ่ ง เดี ย วเท า นั้ น
เคราะหสวรรคครั้งที่แลว ขาสูญเสียสมบัติไปจำนวนไมนอย” คุณชายหวงเหลียงหลิง
ยืนอยูบนเรือยกพลางขบคิดไปชั่วครู แลวถึงไดตอบกลับมาอยางเชื่องชา
“นั่นแหละ ความหวังในเคราะหสวรรคครั้งตอไปของตาเฒา กลับไมมีแมแต
หนึ่งในสีส่ วนดวยซ้ำ เปนอยางไร สหายจะยอมไปแดนปาเถื่อนกับขาอีกรอบหรือไม”
ชายหนุมถายทอดเสียงออกมาอยางเครงขรึม
คุณชายหวงเหลียงหลิงไดยินอีกฝายเรียนเชิญอยางเปนทางการ สีหนาจึงบัดเดี๋ยว
เครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใส หลังจากผานไปชั่วครู ถึงไดขมวดคิ้วแลวเอยถามวา
“ในเมื่อเจาอยากรวมมือกับขาเขาไปในยุทธภพปาเถื่อน เรื่องของเผาวิญญาณจะ
จัดการอยางไร”
“เรื่องนั้นไมยาก เจากับขารวมมือกัน จับเปนเผาวิญญาณเหลานี้ไป แลวตามหา
กบฏของเผาวิญญาณผูนั้นใหไดแลวคอยวากัน สวนของที่อยูบนตัวของเขา หากมี
สองสามชิ้น ทั้งสองเผาของพวกเราก็เอามาแบงกันอยางเทาเทียมก็ไดแลว ถาหากมี
แค ช ิ ้ นเดี ย ว เจ า กั บ ข า ก็ ม าประลองกั น ผู  ช นะก็ เอาของสิ ่ ง นั ้ น ไปเป น อย า งไร?”
ชายหนุมแซหวนดูเหมือนวาจะมีแผนการนี้อยูในใจตั้งนานแลว จึงเอยขึ้นอยางไมลังเล
เลยสักนิด
“ผีเฒาอยางเจาชางเจาแผนการจริงๆ เจาบรรลุระดับหลอมสุญตาเร็วกวา ขา
หลายพันป ขาจะไดเปรียบเจาไดอยางไร” คุณชายหวงเหลียงหลิงสั่นศีรษะอยางไม
ลังเลเลยแมแตนอย
“งั้นพี่หวงวาอยางไร?” ชายหนุมกลับไมไดรูสึกประหลาดใจ กลับยอนถามอยาง
ราบเรียบ
“ถึงครานั้นก็ดูวาเปนของอะไรแลวคอยวากัน อีกประการหนึ่งคือตองยอมมอบ
ของที่ราคาไมตางกันมาก ถึงจะเอาของสิ่งนั้นไปได ” คุณชายหวงเหลียงหลิงลู บ
เคราแพะ พลางเอยเชนนั้นออกมา
“ไมมีปญหา จากคำพูดของสหาย คือใหทั้งสองเผาของพวกเราลงมือ จัดการ
เผาวิญญาณสองคนนั้ นก อนแลวคอยวากัน ” ชายหนุมแซหวนมีสีหนาโหดเหี ้ ย ม
ฉายแวบผาน แลวเอยขอเสนอแฝงลงไป
“หึๆ เยี่ยม! ตกลงตามนี้” คุณชายหวงเหลียงหลิงพยักหนา จากนั้นก็หันหนาไป
ถายทอดเสียงอธิบายกับประมุขหลานและพวกสองสามประโยค
คนอื่นๆ เห็นวาการนั่งรอเก็บเกี่ยวผลประโยชนจากผูอื่นถูกเปดโปง เผาปศาจเอง
ก็มีปศาจผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาคนหนึ่งปรากฏตัว แนนอนวาจึงทำไดเพียง
ตอบตกลงดวยความจนปญญา
เชนนั้น ประมุขหลานจึงถูมือทั้งสองไปมาโดยไมปริปากใดๆ จากนั้นพลันชูมือขึ้น
ชั่วขณะนั้นลูกบอลเพลิงขนาดยักษสีฟาพลันพุงขึ้นไปบนทองฟา แลวระเบิด ออก
กลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นทามกลางปารกชัฏที่อยูไกลออกไป พลันมีลำแสงหลากสีสันเปลง
ประกาย ลำแสงหลีกหนีพุงออกมาเปนสายๆ มนุษยผูบำเพ็ญเพียรและผูฝกตนที่
ควบคุมอาวุธเหาะเหินทยอยกันปรากฏตัวออกมา
ตอนที่ 1304 ความสามารถปรากฏ
ทามกลางเสียงออกคำสั่งของคุณชายหวงเหลียงหลิง ทางดานเผามนุษยที่รูวาทั้ง
สองเผาจะรวมมือกันตอกรกับเผาวิญญาณกอนนั้น ถึงแมวาจะรูสึกตกตะลึง แตผูที่มา
อยูในจุดนี้ไดลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรและผูฝกตนที่ไมธรรมดา แนนอนวาจึงไมได
คัดคานอะไร
ชั่วขณะนั้นไอปศาจทางดานนั้นพลันหมุนวน ปศาจอสูรหนาตาโหดเหี้ยมฝูงใหญ
และปศาจผูบำเพ็ญเพียรสิบกวาคน พลันปรากฏขึ้นตามลำดับ
ทางฝงมนุษยสมบัติอาคมตางๆ ก็ทยอยกันถูกสำแดงออกมา ไอวิญญาณพุงขึ้นไป
บนทองฟา กลายเปนหมอกลำแสง
สตรีผูสวมชุดกระโปรงสี เ ขีย วที ่อยู ตรงข ามและหวงสื อกงเห็ นชายหนุ ม และ
คุณชายหวงเหลียงหลิงแอบซุบซิบอะไรกันอยู ก็รูวาสถานการณไมดีแลว ตอนนี้เห็น
กองกำลังนี้อีก จะยังไมรูวามนุษยและปศาจรวมมือกันไดอยางไร
ทั้งสองมองสบตากันแวบหนึ่งดวยสีหนาอมทุกข ฉับพลันนั้นก็เดินกลับไปโดยไม
ปริปากใดๆ
วิหคไมและมนุษยหินยักษที่อยูดานหลังของพวกเขาก็แยกตัวกลับไปยังปาก
หุบเขาอยางรวดเร็วเชนกัน
คาดไมถึงวาเผาวิญญาณจะยอมลาถอยไปไมเขาสู
ครานี้ คนของเผามนุษยและเผาปศาจตางพากันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็คิดวา
เผาวิญญาณเห็นวาไมอาจตานทานกำลังได จึงเตรียมถอนทัพ
ทันใดนั้นขวัญกำลังก็เพิ่มขึ้น มานลำแสงไอปศาจหมุนวนไลตามไปอยางไมลังเล
เลยแมแตนอย ชั่วครูก็มวนเอาหุนเชิดไมและศิลาที่รั้งทายรอยกวาตัว เขา ไปจน
แตกละเอียด ชั่วพริบตามนุษยและปศาจสวนหนึ่งก็พุงเขาไปในหุบเขา
คาดไมถึงวาจะไมอาจตานทานไดเลยสักนิด!
ชายหนุมแซหวนและคุณชายหวงเหลียงหลิงเห็นฉากนั้น ก็อดที่จะเผยสีหนาตก
ตะลึงระคนสงสัยออกมาไมได
ตอนนั ้ น พวกเขาเคยเห็ น การต อ สู  ร ะหว า งคนของเผ า วิ ญ ญาณด ว ยตั ว เอง
ความหวาดกลัวที่มีตอเผาวิญญาณยังฝงลึกอยูในใจ
คาดไมถึงวาเผาวิญญาณสองคนที่อยูเบื้องหนาจะถอยออกไป นี่ไมคอยปกตินัก
“ไมได ใหพวกเขารีบหยุดเร็วเขา มันผิดปกติ!” ชายหนุมแซหวนมีสีหนาเครงขรึม
หันหนาไปเอยกับคุณชายหวงเหลียงหลิงดวยความรวดเร็ว
“ผิดปกติจริงๆ!” คุณชายหวงเหลียงหลิงพยักหนา สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง
แลวเปลงเสียงรองยาวๆ ออกมา เรียกผูที่อยูเบื้องหนา
แตในตอนนั้นเอง ดานบนของปากหุบเขา ก็มีลำแสงสีโลหิตปรากฏขึ้น จากนั้น
เสียงฟาผาพลันดังขึ้น รวมตัวกันเปนดอกบัวโลหิตขนาดยี่สิบจั้งดอกหนึ่ง
กลีบดอกบัวเปนสีแดงสดราวกับโลหิต กลิ่นคาวเลือดโชยมา หมุนควางอยูกลาง
ทองฟาอยางรวดเร็ว
“แยแลว นั่นมันวิญญาณทมิฬซวี่เทียน!”
ชายหนุมแซหวนเห็นดอกบัวโลหิต ก็รองอุทานออกมาดวยเสียงแหบแหง
ถึงแมวาคุณชายหวงเหลียงหลิงจะไมเคยเห็นดอกบัวโลหิตดอกบัว แตชื่อเสียง
ของแปดวิญญาณทมิฬของเผาอาวุธวิญญาณ แนนอนวาเคยไดยินมากอน และพากัน
ตกตะลึงเชนกัน
แตยังไมรอใหทั้งสองลงมือชวยเหลือ ดอกบัวสีโลหิตก็กลายเปนบอโลหิตสาดขึ้น
ไปบนทองฟาสายหนึ่ง ตกลงมาจากทองฟา
ทุกแหงที่หยาดโลหิตกวาดผานไป ไมวามนุษยปศาจตางก็ถูกทำลาย กลายเปน
ควันสีเขียวแลวหายวับไปอยางไรรองรอย
ไมวาจะเปนไอปศาจที่หอหุมรางกายอยู หรือวาจะเปนสมบัติปองกันตัว ลวนไม
อาจตานทานหยาดโลหิตไดเลยสักนิด
ชั่วพริบตา เผามนุษยและเผาปศาจทั้งสองจึงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งที่ยังไมไดเขามา
ในหุบเขา คนที่โชคดียังไมตายลวนมีสีหนาซีดขาว เห็นหยาดโลหิตเปนเหมือนอสรพิษ
ไมรอใหคุณชายหวงเหลียงหลิงรองเรียก ก็ทยอยกันถอยกลับไป
หลังจากที่บอโลหิตบอนั้นกลืนกินคนและปศาจไปจำนวนมาก ก็ดูเหมือนวาจะยังไม
พอใจ มวนวนแลวพุงออกมาจากปากหุบเขา ไลตามมนุษยและปศาจที่หนีออกมาไป
ครานี้ชายหนุมแซหวนและคุณชายหวงเหลียงหลิงไหนเลยจะนั่งนิ่งไมสนใจได
ทันใดนั้นพลันลงมือดวยความโกรธเกรี้ยว
ชายหนุมอาปากออก วายุปศาจสีเทากระโจนออกมา หลังจากหมุนวนรอบหนึ่งก็
กลายเปนอสรพิษวายุสีเทาชุดหนึ่ง พุงไปยังบอโลหิต
คุณชายหวงเหลียงหลิงแคนเสียงหึดวยความเย็นชา สะบัดแขนเสื้อ ชั่วขณะนั้น
กระจกแปดเหลี่ยมสีเหลืองทองก็ปรากฏขึ้นที่หนาอก สองมือพลันรายอาคม หลังจาก
เสียง “ฟู” ดังขึ้น เสาลำแสงสีทองขนาดหนาเทาปากชามสายหนึ่งก็ถูกพนออกมา
เสียงอึกทึก “ตูมๆ” ดังขึ้น!
มังกรวายุและเสาลำแสงโจมตีไปยังบอโลหิต เปลงเสียงระเบิดที่นาตกตะลึง
ออกมา ในที่สุดก็ยับยั้งหยาดโลหิตเอาไว ทำใหมันไมอาจคืบหนามาได
“ฮาๆ คิดไมถึงวาสถานที่ที่รกรางเชนนี้ จะพบกับผูที่อยูในระดับเดียวกันอยาง
พวกเจาทั้งสองเผาได ผูแซซวี่ชางเสียมารยาทแลวจริง”
บอโลหิตไหลกลับไป ผนึกรวมตัวกันจนกลายเปนดอกบัวโลหิตดอกหนึ่ง เงาราง
คนเปลงแสงสวางวาบ บุรุษเผาวิญญาณสวมชุดคลุมยาวสีดำเขียวยืนอยูบนนั้น ดวงตา
ทั้งสองเฉียบแหลมเปนพิเศษ
นั่นก็คือ ซวี่เทียนของเผาอาวุธวิญญาณ
เมื่อเห็นอีกฝายเก็บเคล็ดวิชาไป ชายหนุมแซหวนและซวี่เทียนก็มองสบตากัน
แวบหนึ่ง แลวหยุดสำแดงอิทธิฤทธิ์ลงชั่วคราว
ชั่วขณะนั้นวายุสีเทาและเสาลำแสงสีทองพลันสลายหายไป แตทั้งสองมองสีหนา
ของซวี่เทียน กลับไมคอยดีเทาไหรนัก
“ซวี่เทียน เจาอยูในระดับวิญญาณทมิฬคิดไมถึงวาจะกลาลงมือกับชนรุนหลัง
อยางไมสนใจอะไรเชนนี้ ไมกลัววาพวกเราจะทำกับเผาวิญญาณของพวกเจาเชนกัน
หรือ?” คุณชายหวงเหลียงหลิงกวาดสายตาไป เมื่อเห็นคนของเผามนุษยเหลือเพียง
รอยกวาคนที่หนีกลับมา แมกระทั่งยังเสียผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดสองคนที่ตาม
เขาออกมาไป ก็อดที่จะดาทอดวยความโกรธเกรี้ยวออกมาไมได
“พวกจิ๊บจอยระดับต่ำกวาระดับกอกำเนิด สังหารก็สังหารไปสิ หรือวาเผามนุษย
ของพวกเจาคิดวาเพราะเรื่องเล็กแคนี้ จะกอสงครามใหญกับเผาเรา ยิ่งไปกวานั้นสอง
คนกอนนั้น ก็คิดจะใชกำลังรังแกผูที่ออนแอกวามิใชหรือ!” ซวี่เทียนกลับไมสนใจเลย
สักนิด
แทบจะในเวลาเดียวกัน ดานหลังเขามีลำแสงเปลงประกาย มีคนตัวเล็กๆ ปรากฏขึ้น
อยางตอเนื่อง เถี่ยเริ่น หัวกวง และพวกก็เปนหนึ่งในนั้น
เมื่อเห็นคนของเผาวิญญาณจำนวนมาก ชายหนุมแซหวนและคุณชายหวงเหลียงหลิง
ก็พลันตกตะลึงในใจ อดที่จะขบคิดถึงปญหาการแพหรือชนะหลังจากลงมือไปแลว
ไมได
ผานไปชั่วครู ทั้งสองถึงไดผอนคลายลง
ถึงแมวากอนหนานี้ไมนาน พวกเขาจะสูญเสียลูกมือไปไมนอย แตหากทั้งสองเผา
รวมมือกันก็ยังคงไดเปรียบกวาเล็กนอย
คุณชายหวงเหลียงหลิงหัวเราะอยางเย็นชาออก คิดจะเอยปากกลาวอะไรนั้น
ชายหนุ  ม ที ่ อ ยู  ด  า นข า งก็ ก ลอกตาไปแล ว แล ว กลั บ ร อ งอุ ท านออกมาพร อมกั บ
หนาเปลี่ยนสี
“ไมถูกสิ คนของเผาเบญจธาตุวิญญาณขาดคนของเผาวารีไป พวกเขากำลังถวงเวลา”
เมื่อไดยินชายหนุมแซหวนกลาวเชนนี้ คุณชายหวงเหลียงหลิงก็ไดสติกลับมา
โบกมือดวยสีหนาเขียวคล้ำ หนาอกมีลำแสงสวางวาบ เสาลำแสงสีทองถูกพน
ออกมาเปนสายๆ อีกครั้ง ชายหนุมแซหวนเองก็กระตุน เคล็ดวิชาออกมาเช น กั น
ปลอยวายุปศาจออกมาอีกครั้ง
สวนปศาจผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นที่อยูดานหลัง เผามนุษยก็ทยอยกันเขามาโจมตี
โดยมีสตรีสวมชุดชาววังและพวกประมุขหลานเปนผูนำ
เผาวิญญาณที่อยูตรงขามเองก็ไมมีความหวาดกลัวแมแตนอย
เพลิงลำแสง ไอกระบี่ตัดสลับกันไปมา มนุษยหินและวิหคไมสีเขียวเหลานั้นทะลัก
ออกมาจากหุบเขาอีกครั้ง
วิหคไมกระพือปก ลูกธนูสีเขียวพุงออกมา ภายใตการชูมือทั้งสองของมนุษยหินยักษ
ลูกบอลลำแสงสีเหลืองขนาดเทาถังเก็บน้ำก็ยังคงทุบไปทางฝงตรงขาม
ชั่วขณะนั้นทั้งสองฝงตางก็สูรบกันอยางดุเดือด
ครานี้ดอกบัวสีโลหิตที่อยูตรงขามพลันกลายเปนบอโลหิตหนาๆ อีกครั้ง พุงตรง
ไปกลางอากาศ
คุณชายหวงเหลียงหลิงและชายหนุมแซหวนเองก็หมุนตัวลอยขึ้นไปกลางอากาศ
เชนกัน พลางกระตุนความสามารถของตัวเองตามติดไปอยางไมลดละ
วากันตามระดับพลังยุทธ ทั้งสามตางก็ไมแตกตางกันนัก
แตซวี่เทียนผูซึ่งอยูในระดับวิญญาณทมิฬนั้นมีชีวิตอยูในแดนวิญญาณมาตั้งไมรู
กี่หมื่นปแลว ไมวาประสบการณการต อสู หรื อวาพลั งความสามารถ ก็เหนือกว า
คุณชายหวงเหลียงหลิงและพวกทั้งสองมากกวาขั้นหนึ่ง
หากสูกันหนึ่งตอหนึ่ง มนุษยและปศาจทั้งสองก็จำตองพายแพอยางไมตองสงสัย
แต ท ั ้ ง สองคนกลั บ รู  เ รื ่ อ งนี ้ ด ี ดั ง นั ้ น แค ล งมื อ ก็ ล งมื อ พร อ มกั น อย า งรู  กั น
เมื่อรวมมือกันกลับเหนือกวาซวี่เทียน
ครานี้กลางอากาศมีทั้ง บอโลหิต วายุเทา ลำแสงสีทองพัวพันเขาดวยกัน ผืนดิน
ดานลางมีเสียงระเบิดของเพลิงลำแสง มานลำแสงดังอยางตอเนื่องกันไมอยู
สายรุงสีฟาสายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบ กระบี่ลำแสงขนาดยักษเลมหนึ่งปรากฏ
ออกมา สับลงไป ตานทานมนุษยหินยักษสิบกวาตัวเอาไวเบื้องหนา ตางถูกฟนจน
แหลกสลายไปทามกลางลำแสงสีฟา
ฝงเผาวิญญาณมีเพลิงลำแสงปะทุขึ้นมา มือยักษสีแดงสดขางหนึ่งปรากฏขึ้น
ตะปบไปทางฝงเผามนุษยและปศาจ ทันใดนั้นผูบำเพ็ญเพียรสองสามคนที่หลบไมทัน
ก็ถูกควาเอาไว สลายหายไปกลายเถาธุลีทามกลางมือยักษสีแดง
เผามนุษยเห็นเชนนั้น ก็โกรธเกรี้ยวเปนอยางมาก สองมือของเขาพลันรายอาคม
รางกายขยายใหญขึ้น กลายเปนคนยักษสูงสิบกวาจั้ง โบกกำปนเหล็กในมือที่เปลงแสง
สีดำมะเมื่อม พลางทุบลงไปยังฝงตรงขามอยางรุนแรง
นั่นก็คือชายรางใหญแซจิ้นที่เปนผูฝกตนระดับสุดยอด พลันสำแดงเคล็ด วิชา
หลอมรางลับออกมา รางกายขยายใหญขึ้น โจมตีออกไปอยางไมเกรงใจเลยสักนิด
กำปนวายุทะลักออกมาจากกำปนราวกับอสรพิษยักษสีดำหลายกลุม ทุกแหงที่
กำปนวายุกวาดผานไป เสียงแหวกอากาศแหลมสูงจะดังขึ้น ไมวาเผาวิญญาณหรือ
หุนเชิดไมศิลา ตางก็จำใจตองลาถอยไปสามสวน ไมกลาปะทะตรงๆ เลยสักนิด
แตเสียงตะโกนดังลั่นก็ดังออกมาจากเผาวิญญาณเชนกัน เงารางคนสีเงินสายหนึ่ง
ขยายใหญขึ้น
เงารางคนสีเงินที่ใหญกวาคนยักษสีดำเทาตัว ปรากฏขึ้นตรงฝงเผาวิญญาณ
นั่นก็คือ คนของเผาวิญญาณทองนามวาเถี่ยเริ่น
ภายใตพื้นดินที่สั่นไหว เงารางคนสีเงินก็สาวเทาออกไปสองสามกาว ไปอยูเบื้อง
หนาคนยักษสีดำ กำปนสีเงินระยิบระยับทั้งสองโจมตีออกไป
คนยักษสีดำเองก็ไมยอมแสดงความออนแอ สะบัดกำปนมาทางนี้เชนกัน
เสี ย ง “เปรี ้ ย งๆ” จากฟ า ที ่ผ า กลางวัน แสกๆ ดั ง ขึ ้ น ชั ่ ว ขณะนั ้ น พลัน ดังขึ้น
มนุษยและปศาจที่อยูใกลๆ ไดยินเสียงนั้นตางก็หูอื้อตาลาย ภายใตความตกตะลึง
จะพากันออกหางจากการตอสูของคนยักษ ครานี้เผาวิญญาณและปศาจ ผู
บำเพ็ญเพียรที่เหลือตางก็ทยอยกันสำแดงความสามารถออกมา
ฉับพลันนั้นหงสเพลิงสีดำตัวหนึ่งก็บินออกมาจากฝูงอสูรปศาจ เปลวเพลิงสีดำ
มวนวนพุงลงไป ชั่วครูก็ทำใหวิหคไมรอยกวาตัวที่อยูกลางอากาศกลายเปนเถาถาน
จากนั้นรางของหงสสีดำพลันพลิ้วไหว หายไปจากกลางอากาศ แตครูตอมา
ท า มกลางเสี ย งเพรี ย กของหงส หงส ต ั ว นี ้ ก ็ ป รากฏตั ว ตรงทางเข า หุ บ เขาหุ  น ตุ น
เปลวเพลิงสีดำหมุนวนพลางพุงลงไป กลายเปนสตรีสวมชุดชาววัง
ปศาจผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงของเผาหงสกาฬผูนี้เปลงแสงสีดำสวางวาบ
หนีเขาไปในหุบเขาโดยไมแมแตจะหันกลับมา
“แยแลว!” ประมุขหลานเห็นฉากนี้ พลันรูสึกรอนรนขึ้นมา
เขาสูดลมหายใจเขาไปเฮือกหนึ่ง กระบี่บินสีฟาเจ็ดเลมที่โคจรอยูเบื้องหน า
พันกลายเปนไอกระบี ่ร อยสายสั บ ไปยั งฝู งมนุษ ยห ิ นที่ เ ขา มาล อมตั วเองอย า งไม
เสียดายพลังลมปราณ เปดทางหนีออกมาสายหนึ่ง แลวกลายเปนสายรุงสีฟาสายหนึ่ง
พุงไปยังหุบเขาหุนตุนเชนกัน
มนุษยและเผาปศาจคนอื่นๆ ที่อยูรอบๆ เจ็ดแปดคนพบโอกาสงามๆ นี้ ก็ถือ
โอกาสนี้ควบคุมลำแสงหลีกหนีตามเขาไปในหุบเขาติดๆ
คนสุดทายที่เขาไปในหุบเขา กลับเปนชายหนุมที่มีลำแสงสีแดงสายหนึ่งหอหุม
รางเอาไว คาดไมถึงวาจะเปนหานลี่
ไมรูเพราะเหตุใด เขาที่แตเดิมไมมีพลังลมปราณเลยแมแตนอย กลับควบคุมไอ
วิญญาณเพลิงที่หนาแนน และเปลงแสงสวางวาบพุงเขาไปในหุบเขาดวยความรวดเร็ว
ราวกับวาลมปราณในรางฟนฟูกลับมาแลวอยางไรอยางนั้น
เมื่อหานลี่เขามาในหุบเขา ก็พบวาเหตุหุบเขาแหงนี้ถึงถูกเรียกวาหุบเขาหุนตุนทันที
ในหุบเขาไมวาจะเปนทองฟาหรือพื้นดิน ภูเขา คาดไมถึงวาจะเต็มไปดวยสีเทาตุนๆ
ราวกับมีผาสีเทาชั้นหนึ่งที่ไมอาจเช็ดออกไดปกคลุมไปทั่วทั้งหุบเขาอยางไรอยางนั้น
ลำแสงหลีกหนีของหานลี่หยุดลงทันที เขามองไปยังมนุษยผูบำเพ็ญเพียรและ
ปศาจผูบำเพ็ญเพียรสองสามคนที่พุงเขาไปยังสวนลึกของหุบเขาเบื้องหนา สองตาหรี่
ลงเล็กนอย สองมือพลันรายอาคม อาปากออก พนลูกบอลเพลิงสีเงินลูกหนึ่งออกมา
เสี ย งเพรี ย กของวิ ห คอั น ไพเราะดั ง ออกมาจากลู ก บอลเพลิ ง หลั ง จากเสี ย ง
“เปาะ” ดังขึ้น เปลวเพลิงก็ขยายใหญขึ้น กลายเปนวิหคเพลิงขนาดสองสามฉื่ อ
บินวนโคจรลอมรอบรางของหานลี่เอาไว
ตอนที่ 1305 ยันตหายตัว
“ควรจะเรียกชื่อเหยียน หรือวาควรจะเรียกเจาวาเพลิงจันทราเที่ยงแท คิดดูแลว
ถึงอยางไรเสียกอนหนาก็ผสมกับเพลิงอาทิตยบริสุทธิ์ไปแลว ชวงนี้ยังดูดซับชื่อเหยียน
ผูที่นี่ที่มาจากเผาวิญญาณไปอีก ก็ควรเรียกเจาวาเพลิงกลืนวิญญาณสวรรคสินะ โชคดี
ที่ตอนที่อยูในแดนมนุษย ขาไดทำใหเพลิงตาขายสีมวงกลายเปนเพลิงจันทราเที่ยงแท
เลยทำใหอานุภาพเพิ่มขึ้น มิเชนนั้นก็เกือบจะเพลี่ยงพล้ำใหเขาไปแลว” หานลี่มอง
วิหคเพลิงสีเงินเบื้องหนา ใบหนาเผยสีหนาประหลาดๆ ออกมาขณะพึมพำ
ที่แทหลังจากที่หานลี่ถูกชื่อเหยียนจากเผาวิญญาณรุกรานรางกาย ก็ไมไดถูกกลืน
กินจิตสัมผัส แตชั่วพริบตาที่อสรพิษเพลิงของเผาวิญญาณทะลวงเขาไปในรางกาย
เปนเพราะพลังวิญญาณเพลิงที่เต็มเปยม ลมปราณในรางเหือดแหง จึงไปกระตุน
เพลิงจันทราเที่ยงแทที่ซอนอยูในรางชั่วคราวทันที
เปนเพราะเดิมทีเพลิงชนิดนี้ก็มีคุณสมบัติในการกลืนกินเปลวเพลิงทั้งปวง ทันใด
นั้นไมจำเปนตองใหหานลี่กระตุน ก็ยืนอยูกับอสรพิษเพลิงทันที
หากเปนวิหคเพลิงตัวนี้ละก็ จากพลังของชื่อเหยียนที่ไมตางอะไรกับผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลงมากนัก แนนอนวาจึงไมอาจเปนคูมือกันได แตเผาวิญญาณผูนั้น
กลับคิดไมถึงวา เดิมทีหานลี่เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง ประกอบที่ฝกฝน
คาถาขับเคลื่อน จิตสัมผัสจึงแข็งแกรงกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นกลาง
ขั้นหนึ่ง เขาเปนแคแมทัพวิญญาณขั้นตนคนหนึ่ง ตอใหมีพลังในการกลืนกิน แตเขาไป
อยูในรางของหานลี่ ก็เปนเหมือนแพะเขาปากเสือเทานั้น
ตอนที่ชื่อเหยียนกำลังตอสูกับวิหคเพลิงจันทราอยางไมยากที่จะแยกแยะ หานลี่ก็
กระตุนจิตสัมผัสทันที ชั่วครูก็ร ัด จิ ตสั มผั สของเขาเอาไว จากนั้นก็ใ ห วิ ห คเพลิ ง
จันทรากลืนกินเขาไปจนเกลี้ยง แมกระทั่งรางกาย ไขมุกสมบัติชื่อเหยียนสีแดงเพลิง
เม็ดหนึ่ง ก็ยังถูกหลอมเขาไปในรางของวิหคเพลิง
นี่คือความหมายที่แทจริงของคำวากลืนกิน ไมเพียงเดิมทีอีกฝายก็มีพลังในการดูด
ซับวิญญาณเพลิง แมแตความทรงจำของอีกฝายก็ยังถูกวิหคเพลิงดูดซับมา จน
เกลี้ยง ชั่วพริบตาก็กลายเปนเพลิงสวรรคชื่อเหยียนในตอนนี้
หลังจากนั้นหานลี่ถึงไดกลืนกินเสร็จสิ้น ควบคุมวิหคเพลิงเลียนแบบน้ำเสียงและ
กลิ่นอายของชื่อเหยียนไปคุยกับคนของเผาวิญญาณคนอื่นๆ ทันที
แน น อนว า เพราะวิ ห คเพลิ ง จั น ทราถู ก หลอมไป หานลี ่ จ ึ ง รู  เ ป า หมายของ
เผาวิญญาณที่มาสุสานตะวันคลอย การดำรงอยูของกบฏเผาวิญญาณและโลหิตเทวา
ชั่วขณะนั้นเขาทั้งตกตะลึงระคนดีใจ
กบฏเผาวิญญาณอะไรนั่น เขาไมสนใจเลยสักนิด แตสิ่งที่เรียกวาโลหิตเทวาของ
เผาวิญญาณนั้นกลับมีที่มาที่ไปยิ่งใหญ
หลังจากที่วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิญญาณจบชีวิตแลวสลายหายไป ในรางก็
สรางของเหลวลึกลับออกมาชนิดหนึ่ง
ขอแคหยดโลหิตนี้ลงไปในสัตววิญญาณฟาดิน ก็จะทำใหพวกเขามีสติปญญา พัฒนา
มาเปนเผาวิญญาณระดับต่ำ
แนนอนการกำเนิดเผาวิญญาณ ไมไดอาศัยแคขั้นตอนนี้ กวาครึ่งลวนเปนสัตวที่
เบิกเนตรเองแลวกลายเปนเผาวิญญาณ
แตเชนนั้น ของที่ถูกเรียกวาโลหิตเทวา ก็ยังคงเปนสิ่งสำคัญที่สุดในการรักษา
ระดับจำนวนสมาชิกของเผาวิญญาณ เปนสมบัติลับที่อยากเก็บสะสมเอาไวมากที่สุด
และครั้งนี้ ไมรูวาอะไรเผาอาวุธวิญญาณถึงไดถือโอกาสที่รักษาการณโลหิตเทวา
ขโมยของสิ่งนี้มาขวดหนึ่ง และทันใดนั้นก็ติดตอกับเผามนุษย อยากจะแลกกับอะไร
สักอยางของเผามนุษย
หากเปนเชนนั้นละก็ ถึงแมวาหานลี่จะรูสึกประหลาดใจ แตก็ไมคอยสนใจนัก
สิ่งที่ทำใหเขาสนใจก็คือ โลหิตเทวานี้นอกจากจะมีผลทำใหกลายเปนเผาวิ ญญาณ
ระดับต่ำแลว ยังมีประโยชนตอผูบำเพ็ญเพียรและผูฝกตนเผามนุษยเปนอยางมาก
ผูบำเพ็ญเพียรสามารถนำโลหิตเทวานี้มาปรุงยาที่ชื่อวา ‘ลูกกลอนโลหิตตะวัน’ ได
หลังจากกินเขาไปแลว จะมีผลในการฝกฝนของผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขึ้นไป
เปนเวลารอยป สวนสำหรับผูฝกตนนั้น ใชโลหิตนี้ละเลงไปทั่วเรือนรางแลวจะทำให
ฝกฝนเคล็ดวิชาลับโบราณที่เรียกวาอาภรณสงครามผลึกโลหิตของผูฝกตนได
วากันวาหากฝกฝนเคล็ดวิชานี้สำเร็จ อานุภาพจะเพิ่มขึ้นจนแมกระทั่งเหนือกวา
คาถาวัชระตางๆ และเคล็ดวิชาตางๆ สามารถตานทานการโจมตีใดๆ ของ ผู
บำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาไดในเวลาสั้นๆ โดยไมไดรับอันตรายใดๆ
แนนอนวาหากอาภรณสงครามพังไป ก็จะสลายตัวออก เปนเคล็ดวิชาลับที่ใชแลว
หมดไป
นอกจากนี้แลว หากผูฝกตนระดับสูงกินโลหิตเทวานี้เขาไป ก็สามารถทิ่มแทงจิตสัมผัส
มีโอกาสทะลวงจุดคอขวดไดหลายสวน และพัฒนาระดับได
แนนอนวาสัตวเผาประหลาดตางๆ ยอมยอมเสี่ยงอันตรายครั้งนี้
ผูฝกตนยิ่งระดับต่ำก็ยิ่งมีจิตสัมผัสออนแอ หลังจากกินไปแลวก็อาจจะถูกแวงกัด
จนตายได คิดจะอาศัยโลหิตทลายจุดคอขวด ผูฝกตนทั่วๆ ไปก็จะตองหา ‘ลูกกลอน
จิตสวรรค’ ที่สามารถเพิ่มจิตสัมผัสไดอยางรวดเร็ว ถึงจะกินโลหิตนี้ลงไปได
แตตอใหเปนเชนนี้ อันตรายก็ยังมีไมนอย
หลังจากที่หานลี่ไดขาวคราวมาจากความทรงจำของชื่อเหยียน ก็รูสึกดีใจเปน
อยางมาก
ครานี้เขามีจิตสัมผัสอยูในระดับเทพแปลง เคล็ดวิชาของผูฝกตนที่ฝกฝนนั้น
โลหิตเทวาก็มีประโยชนตอเขาพอดี
หานลี่เชื่อมั่นในความสามารถในการเรียนรูของตนวาจะตองฝกฝนคาถาวัชระขั้น
สุดทายไดแน แตเวลาจะมากหรือนอย กลับไมแนใจนัก
สวนเคราะหสวรรคเล็กๆ นั้นกลับไมรูวาจะฟาดลงมาเมื่อใด แนนอนวาเขาจึงควร
ฟนฟูพลังลมปราณใหเร็วที่สุดจะดีกวา อีกสิ่งที่ทำใหเขาไมไดขบคิดมากนัก ก็ตัดสินใจ
จะจับปลาในน้ำขุน[1]นั้น กลับเปนเพราะตอนนี้เขากลับมาใชลมปราณไดชั่วคราว
ถึงแมวาจะมีลมปราณแคหกเจ็ดสวน แตจากพลังลมปราณที่แข็งแกรงของเขา
ในตอนนี้ ก็แทบจะไมตางอะไรกับผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงทั่วๆ ไปแลว
ที่แทหลังจากที่วิหคเพลิงจันทรากลืนกินชื่อเหยียนลงไป พลังวิญญาณธาตุเพลิงที่
บริสุทธิ์ในราง ก็ถูกวิหคตัวนี้ดูดซับไวชั่วคราว
หานลี่ในครานี้ อาศัยพลั งลมปราณที่แผ ออกมาจากในรา ง จึงสามารถนำมั น
ออกมาใชได
แตแคลมปราณนี้ไมใชสิ่งที่หานลี่ฝกฝน สูญเสียไปเทาใดก็เทานั้น ไมมีทางเพิ่มพูนได
เปนเพราะพลังเพลิงวิญญาณ ตอนที่เขากระตุนพลังลมปราณจึงไมอาจโคจรมันได
ตามใจสั่ง ทวาอาศัยแคความสามารถพิเศษและสมบัติที่ยอดเยี่ยมของเขา ก็เพียง
พอที่จะเยยหยันผูบำเพ็ญเพียรที่อยูในระดับเดียวกันแลว
และยิ่งไปนั้นถึงแมจะไมใชพลังวิญญาณเพลิงเหลานี้ มันก็จะคอยๆ สลายหายไป
ตามกาลเวลา เดาวาหนึ่งเดือนผานไป เขาก็จะกลับมาเปนคนธรรมดาอีกครั้ง
หานลี่ไมอยากเสียโอกาสงามๆ ที่หาไดยากไป จึงตัดสินใจวาจะเสี่ยงเขาไปแยงชิง
โลหิตเทวาดู
เขาอาศัยกลิ่นอายของชื่อเหยียน ปดบังเสวียนเทียนผูซึ่งอยูในระดับวิญญาณทมิฬ
เมื่อมาถึงหุบเขาหุนตุน ก็ปะปนอยูในเผามนุษยตามคำสั่งของเขา
ผลคือในที่สุดตอนนี้ก็ถือโอกาสเขามาในหุบเขาหุนตุนได ตั้งแตนี้ไป เขาจำตอง
เดินทางเพียงตามหาโอกาสงามๆ เพียงลำพัง
ครานี้ หานลี่ชี้ไปที่วิหคเพลิงกลืนวิญญาณเบื้องหนาเบาๆ
ชั่วขณะนั้นวิหคเพลิงสีเงินพลันสยายปกทั้งสองขางออก พุงตรงไปยังกำแพงหิน
อีกดาน หลังจากเสียงไพเราะดังขึ้น ก็จมหายเขาไปในกำแพงอยางไรรองรอย
สวนหานลี่เองมือหนึ่งพลันพลิกฝามือ ชั่วขณะนั้นหวางนิ้วพลันมียันตวิเศษสีทอง
ปรากฏขึ้นใบหนึ่ง
ตบไปบนราง ลำแสงสีเหลืองสวางจาทั่วเรือนราง
สองมือของเขาพลันรายอาคม รางกายพลันพลิ้วไหว หมายจะใชเคล็ดวิชาลี้ธรณี
จมลงไปใตดิน
แตสิ่งที่ทำใหหานลี่ประหลาดใจก็เกิดขึ้น
เมื่อสองเทาจมลงไปใตดินไดสองสามฉื่อ ก็หยุดชะงักและไมอาจลงไปลึกกวานี้ไดอีก
ใตดินดูเหมือนวาจะมีพลังแรงดานประหลาด ที่ทำใหเขาไมอาจจมลงไปใตดินได
หานลี่พลันใจหายวาบ
ดูแลวหุบเขาหุนตุนนี้ชางแปลกประหลาดจริงๆ ตองระวังใหมากแลว
เขาขบคิดเชนนั้น หลังจากที่ลังเลเล็กนอย ก็ควักยันตสีมวงแผนหนึ่งออกมาจาก
กำไลเก็บของ ดานบนมีอักขระสีเงินแสงระยิบระยับ คาดไมถึงวาจะเปนอักษรลูกออด
สีเงินที่คนในแดนวิญญาณนอยคนนักจะรูจัก
นั่นก็คือสิ่งที่หานลี่อานมาจากหนากระดาษฉี กขาดของคัมภีร หยกซุม ประตู
ทองคำที่จิตแยกของอสูรเทียนหลานมอบให ประกอบกับความรูของตัวเอง หลังจาก
ลมเหลวตอนที ่ อยูใ นแดนมนุษ ย ไ ปสองสามครั้ ง ก็หลอมยั นต ว ิญ ญาณครึ ่ งเซี ย น
แผนหนึ่งขึ้นมาได
ถึงแมวายันตวิเศษ ‘ยันตหายตัว’ แผนนี้จะเปนยันตอำพรางกายชนิดหนึ่งที่
เขี ย นง า ยที ่ ส ุ ด ในบรรดายั น ต ว ิ เ ศษสองสามชนิ ด ที ่ บ ั น ทึ ก ไว ใ นคั ม ภี ร  ท ี ่ ฉ ี ก ขาด
แตวัตถุดิบทั้งหมดที่ใชเขียนก็หายากในแดนมนุษยเชนกัน
หลังจากที่หานลี่ทดสอบมาหลายครั้ง ถึงไดพอฝนหาวัตถุดิบสวนหนึ่งมาแทนที่
แลวถึงไดหลอมยันตกึ่งสมบูรณแผนนี้ขึ้นมา
เปนเพราะมันล้ำคาเกินไป และยิ่งไปกวานั้นยันตเปนยันตที่ใชไดครั้งเดียว เขาจึง
ไมเคยทดสอบ
ครานี้หานลี่คิดจะจับปลาในน้ำขุนกับแผนโลหิตเทวา เคล็ดวิชาอำพรางกายอื่นๆ
เกรงวาคงไมอาจปดบังผูที่อยูในระดับเดียวกัน แนนอนวาจึงคิดถึงยันตแผนนี้
หลังจากที่หานลี่หยิบยันตขึ้นมาแลว ก็ไมไดลังเล โบกมือเบาๆ เบื้องหนา ทันใดนั้น
พลันคลายมือออก
ยันตสีมวงพลันระเบิด ออก อักษรลูกออดสีเ งิ นที ่เ ปล งแสงสี เ งิ นระยิบ ระยั บ
สองสามตัวปรากฏขึ้น บินโคจรลอมรอบหานลี่เอาไว
ทั น ใดนั ้ น พลั น มี เ สี ย ง “พรึ ่ บ ” ดั ง ขึ ้ น ตั ว อั ก ษรกลายเป น กลุ  ม หมอกสี เ งิ น
ชั่วพริบตาก็จมหายเขาไปในรางของหานลี่
หลังจากผานไปชั่วครูหมอกสีเงินพลันกระจายออก ที่เดิมไรซึ่งผูคน
ครานี้ทางเขาหุบเขามีเสียงแหวกอากาศดังขึ้น มองออกไปไกลๆ ก็เห็นลำแสง
หลีกหนีสองสามสายพุงเขามาในหุบเขา และกำลังพุงมาทางนี้
ชั่วพริบตาพวกเขาก็แฉลบผานจุดที่หานลี่เพิ่งจะลองหนไป เปลงแสงสวางวาบ
แลวพุงเขาไปในสวนลึกของหุบเขา
หานลี่พลันรูสึกดีใจ!
ครานี้เขายืนอยูที่เดิมไมขยับแมแตกาวเดียว คาดไมถึงวามนุษยและปศาจเหลานี้
จะไมรูสึกถึงการดำรงอยูของเขาเลยสักนิด
เขามองเห็นอยางชัดเจนวาภิกษุสงฆรูปหนึ่งในนั้น คือผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
คนหนึ่ง
ทวาสถานการณของเขาในตอนนี้ชางแปลกประหลาดจริงๆ
รางทั้งรางดูเหมือนหมอกที่โปรงใส รางกายดูเหมือนจะไรรูปราง แคลมพัดก็ดู
เหมือนจะปลิวไปได
หานลี่เองก็ลองทดสอบ พบวาไมวาจะเปนเคล็ดวิชาลับที่สิ้นเปลืองพลังลมปราณ
หรือสมบัติตางๆ ก็ไมอาจใชได
นี่จึงทำใหเขารูสึกเสียดายเล็กๆ
ทวาก็ไมเปนไร
ขอแคปดบังผูที่อยูในระดับเดียวกันได เขาก็พอใจแลว
ถึ ง อย า งไรเสี ย ‘ยั นต ห ายตั ว ’ ที ่ ม ี ว ั ต ถุ ด ิ บ จำกั ด แผ น นี ้ ความจริ ง แล ว ก็ ยั ง
ไมสมบูรณแบบ มีความสามารถขนาดนี้ ก็นับวาเกินความคาดหมายแลว รอจนเขา
เรียนรูทุกสิ่งในหนากระดาษ แลวหลอมยันตของจริงขึ้นมา ก็จะหลีกเลี่ยงชองโหวนี้ได
เมื่อนึกถึงวาในหนากระดาษยังมียันตวิเศษที่มีความมหัศจรรยอีกสองสามชนิด
หานลี่ก็อดที่จะรูสึกกระตือรือรนขึ้นมาไมได
แตทุกอยางลวนตองใหเขาฟนฟูพลังลมปราณไดอยางราบรื่น และผานเคราะห
สวรรคครั้งแรกในแดนวิญญาณไปกอน ถึงจะขบคิดได ดังนั้นหานลี่จึงดึงจิตสัมผัส
กลับมาอยางรวดเร็ว กระตุนรางกาย บินไปยังดานในของหุบเขา
หุบเขาหุนตุนไมนับวาใหญนัก มีความกวางเพียงรอยกวาจั้งเทานั้น
บึงลำแสงแผดเผาอยูตรงใจกลางของหุบเขา รอบๆ ดานลวนถูกหมอกหนาๆ
สีเทาปกคลุมเอาไว
ถึงแมวาหานลี่จะรูตำแหนงของบึงแหงนี้อยูกอนแลว แตเพื่อไมใหเผยรองรอย
ของตนเอง จึงไมกลาแผจิตสัมผัสออกไปตรวจสอบ
ผลคือรอจนเบื้องหนาของเขาเปลงประกาย ปรากฏตัวใกลๆ กับบึงน้ำขนาดหนึ่งลี้
ริ ม บึ ง มี ม นุ ษ ย แ ละป ศ าจระดั บ สู ง สิ บ กว า คนล อมอยู  พลางแบ ง ออกเป น สองฝ ง
ยืนคุมเชิงกันอยู
ฝงเผามนุษยแนนอนวาเปนประมุขหลานและภิกษุสงฆที่มีสีหนาเครงขรึม ทางฝง
เผาปศาจแนนอนวาเปนสตรีสวมชุดชาววังของเผาหงสดำผูนั้น รวมทั้งชายหนุม
รางกายผอมดำพี่นองแฝดสามที่หนาตาเหมือนกันทุกระเบียบนิ้ว

[1] จับปลาในน้ำขุน หมายถึง ฉวยโอกาสในยามที่โกลาหล


ตอนที่ 1306 บึงลำแสงแผดเผา
หานลี่เห็นฉากนั้น หลังจากกวาดสายตาไปแวบหนึ่ง ก็ตกลงบนใจกลางของผิวน้ำ
บึ ง น้ ำ นอกจากจะสะอาดสะอา นแล ว ก็ ด ู ธ รรมดามาก ดู ไ ม ออกว า มี จ ุดใดที่
มหัศจรรย
ขณะที่หานลี่กำลังรูสึกประหลาดใจนั้น ประมุขหลานก็พิจารณาชายชรารูปราง
ผอมดำแปลกหนาสามคนที่อยูตรงขามขึ้นๆ ลงๆ แลวพลันเอยถามวา
“ไดยินวาเผาหมาปาจันทราสีเงินมีปศาจหมาปากลายพันธุสามหัวอยูต นหนึ่ง
ภายใตการชวยเหลื อของผูที ่ม ีค วามสามารถในเผ า จึงทำใหหัวทั ้ งสามฝ กฝนวิ ธี
แยกรางออกเปนสามราง ทุกรางจะมีพลังยุทธอยูในระดับกอกำเนิด หากรางแยกทั้ง
สามรวมมือกัน ก็พอจะตานทานผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงคนหนึ่งได หรือวาคือ
พวกเจา!”
ชายหนุมรูปรางผอมดำทั้งสามไดยินคำพูดของประมุขหลานตางก็พากันหัวเราะ
ทันใดนั้นคนคนหนึ่งก็เอยปากตอบกลับมาวา
“คิดไมถึงวาชื่อเสียงของพวกเรา จะดังมาจนถึงที่นี่ ใชแลวพวกเราคือหมาปา
จันทราสามหัวตัวนั้น และพวกเราก็ไดยินชื่อเสียงอันยิ่งใหญของประมุขมานานแลว
เชนนั้นมาลองแลกเปลี่ยนกันหนอยเปนอยางไร?”
“หึ ตอนนี้จะเทาไมมีเวลามาทำเรื่องเหลานี้หรอก สหายเสี่ยวเจาวิ่งเขา ไปใน
หุบเขาเพียงลำพัง มีแผนการอยางไร?” ประมุขหลานไมไดสนใจคำยั่วยุของชายหนุม
รูปรางผอมดำ กลับเอยถามสตรีแทน
“มี แ ผนการอย า งไร? ก อนหน า นี ้ ท  า นอาวุ โสหวนไม ไ ด บ อกหรื อ ว า คนของ
เผาวิญญาณกำลังจะจับคนที่เขาไปในบึงน้ำ แนนอนวาตองมายับยั้งพวกเขาอยูแลว”
สตรีผูสวมชุดชาววังหัวเราะอยางแผวเบาออกมา
“งั้นหรือ สหายเสี่ยวตั้งใจขนาดนี้ เยี่ยม เชิญสหายเขาไปเถิด ผูแซหลานจะนำ
คนอื่นๆ คอยรักษาการณอยูดานนอกบึงน้ำ คอยขวางคนของเผาวิญญาณเอาไวเปน
อยางไร?” ประมุขหลานจองสตรีผูนั้นเขม็งอยูชั่วครู แลวเหลือบมองบึงน้ำแวบหนึ่ง
พลางเอยขึ้นพรอมกับหัวเราะหึๆ
สตรีผูสวมชุดชาววังพลันตกตะลึง แตหลังจากที่กวาดสายตาไปบนเรือนรางของ
ภิกษุที่อยูดานขางรวมทั้งผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดสองสามคน แลวก็หัวเราะ
แผวเบาออกมา
“สหายไมมา ขาก็อาจจะนำคนเขาไป! แตในเมื่อพี่หลานมาแลว แนนอนวาโอกาส
ก็ควรจะเปนของพี่หลาน สหายคงไมคิดจะใหสตรีผูออนแอคนหนึ่งเขาไปใตบึงนั้น
หรอกกระมัง อีกอยางไดยินมาวาพี่หลานมีเขาหยกแรดกันน้ำ มหัศจรรยอยางหาที่
เปรียบ ไมแนวาอาจจะมีประโยชนกับการเขาไปในบึงลำแสงแผดเผาก็ได”
“ใหขาไป ก็ได เจาก็พาคนอื่นๆ ออกจากหุบเขาหุนตุนไปซะ ตาเฒาจะลงไป”
ประมุขหลานมีสีหนาเครงขรึม น้ำเสียงเปลี่ยนเปนแข็งกระดางอยางหาที่เปรียบมิได
สตรีผูสวมชุดชาววังไดยินประมุขหลายเอยอยางไมเกรงใจเลยสักนิด พลันหนา
เปลี่ยนสี หลังจากแคนเสียงดวยความเย็นชาแลว ก็ไมไดเอยอะไรอีก
แนนอนวาคนอื่นๆ ก็เหมือนกับทั้งสองคน ไมมีทางถอยออกไปตอนนี้จริงๆ
ประมุขหลายกลับขยับริมฝปากถายทอดเสียงสนทนาอะไรสักอยางกับชายชรา
สายตามองไปยังสตรีที่อยูตรงขาม แลวคอยๆ เผยแววตาไมเปนมิตรออกมา
ตรงขามนอกจากสตรีและชายหนุมรูปรางผอมดำสามคนแลว ก็มีเพียงปศาจ
ผูบำเพ็ญเพียรแปลงกายอีกสามคน
สวนนอกจากประมุขหลานและภิกษุแลว ก็ยังคงมีผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด
ของเผามนุษยอีกเจ็ดแปดคน เห็นไดชัดวานาจะเปนฝายไดเปรียบ
จนถึงครานี้ก็ยังไมมีคนมา เห็นไดชัดวาคนอื่นๆ ก็ถูกคนของเผาวิญญาณขวาง
เอาไว ภายในระยะเวลาสั้นๆ ทั้งสองฝายคงไมอาจมีกองหนุนมาเพิ่มไดงายๆ
ขอแคชิงสมบัติไดกอน สัญญาที่กลาววาแบงกันอยางยุติธรรม ก็ไมมีผูใดเคารพแลว
เปนเพราะผูใดตางก็รูดีวา สัญญากอนหนานี้ เปนแคขั้นบันไดที่ทั้งสองฝายไม
อยากโดนฉีกหนาเทานั้น
สตรีผูสวมชุดชาววังพบทาทีกระตือรือรนของเผามนุษย คิ้วดำพลันขมวดแนน
ใช เคล็ ด วิ ชาลับเตื อนคนของตนเอง และยิ ่ ง ไปกว า นั้ น มือเรีย วยัง สะบั ดแขนเสื้อ
ของเชนเดียวกันตกลงมาที่ใจกลางฝามือ
บรรยากาศตึงเครียดอยางหาที่เปรียบมิได ทั้งสองฝายพรอมจะลงมือไดทุกเมื่อ!
ฉับพลันนั้นพื้นดินรอบๆ บึงน้ำพลันสั่นคลอน แตเดิมผิวน้ำที่เงียบสงงบ ก็มี
รอยแยกปรากฏขึ้น จากนั้นเสนไหมลำแสงสีขาวนวลจำนวนมากก็พุงออกมาจาก
ผิวน้ำอยางไมมีทิศทาง บางก็พุงขึ้นไปบนทองฟา บางกลับพุงไปหามนุษยและปศาจที่
อยูขางบึง
ศิลารอบๆ ถูกเสนไหมลำแสงโจมตี ทะลุออกเปนรูขนาดใหญราวกับรังผึ้งทันที
หลังจากที่ทั้งสองเผาตกตะลึงแลว ก็ทยอยกันสำแดงความสามารถ บางก็ปลอย
สมบัติออกมาตานทานกับเสนไหมลำแสง
ในตอนนั้นเองใตน้ำในบึงที่แตเดิมสะอาดสะอานก็มีลำแสงที่เจิดจาจนแสบตาชั้นหนึ่ง
ปรากฏขึ้น ราวกับวาใตนั้นมีดวงอาทิตยดวงหนึ่งปรากฏขึ้น คอยๆ ลอยขึ้นมาจาก
ใตน้ำ ในเวลาเดียวกันน้ำในบึงพลันหมุนวน คาดไมถึงวาจะแผอุณหภูมิที่รอนแผดเผา
ยากจะตานทานออกมา ราวกับวาบึงทั้งบึงอยูทามกลางลำแสงสีขาวที่เดือดพลาน
“เกิดอะไรขึ้น หรือวาเผาวิญญาณที่อยูใตน้ำทำเรื่องบาๆ?” หานลี่ที่แอบซอนตัว
อยูกลางอากาศ แอบมองทุกอยางที่ดานหลัง พลันถูกเสนไหมลำแสงเหลานั้นบีบจน
วุนวายมือไมพันกันเชนกัน จากนั้นเมื่อเห็นความแปลกประหลาดในบึงน้ำ ก็อดที่
จะตกตะลึงมิได
ไมใชแคเขา สตรีและประมุขหลานก็เอยพึมพำกับตนเองไมหยุดเชนกัน
“ไมสิ ลำแสงแผดเผาไมไดซอนตัวอยูไดแคในน้ำหรือ? เหตุใดถึงออกจากผิวน้ำ
หรือวา…” ประมุขหลานเห็นไดชัดวาคุนเคยกับบึงน้ำแหงนี้มากกวาผูใด จึงเอยอะไร
สักอยางออกมาดวยเสียงแหบแหง
แตยังไมรอใหเขาเอยจบ เสาลำแสงสีขาวขนาดเทาถังเก็บน้ำสิบกวาใบก็พุงแหวก
อากาศออกมา เมื่อออกจากผิวน้ำ เสาลำแสงก็หักเลี้ยว ตรงไปยังมนุษยและปศาจที่
อยูรอบๆ ดวยความเร็วที่นาตกตะลึง แทบจะมาถึงในชั่วแวบเดียว
การลอบโจมตี ท ี ่ ไ ม อ าจคาดการณ ไ ด ทำให ท ั ้ ง สองเผ า ที ่ ไ ม ท ั น ได ร ะวั ง ตั ว
เสียเปรียบทันที
นอกจากสตรีรวมทั้งประมุขหลานที่มีพลังยุทธสูงสงสองสามคน เห็นทาไมดี
จึงสำแดงเคล็ดวิชาลับหลีกหนีไปแลว และนอกจากชายหนุมรูปรางผอมดำทั้งสามคน
ที ่ ไ ม ร ู  ว  า สำแดงเคล็ ด วิ ชาอะไรแล ว พริ บ ตาที ่ เ สาลำแสงเข า มาประชิ ด ตั ว ปศาจ
ผูบำเพ็ญเพียรแปลงกายและผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดก็สลายหายไปอยา งไร
รองรอย แมแตรองรอยสักนิดก็ไมเหลือ เคล็ดวิชาปองกันตัวหรือวาสมบัติปองกันตัว
ของพวกเขา ก็ยังไมไดสำแดงอานุภาพออกมาเลยสักนิด
เมื่อเห็นฉากนั้น สตรีผูสวมชุดชาววังและพวกจะตกตะลึงแคไหนไมตองคิดก็รูแลว
แตยังไมรอใหพวกเขาเขาใจวาเกิดอะไรขึ้นที่ใตน้ำ เสียงอึกทึกก็ดังขึ้น เสาสีเหลือง
หาตนผุดขึ้นมาจากบึงนำทั้งสี่ทิศ ทุกตนลวนสลักตัวอักษรเลือนๆ เอาไว
ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดเผามนุษยที่มีมากที่สุด แนนอนวาก็ตองดับอนาถ
ไปเมื่อครูไมนอย
คนเหลานี้สวนใหญลวนเปนคนสนิทและลูกศิษยของประมุขหลาน จึงทำใหเขา
โกรธเกรี้ยวอยางสุดๆ ตอนนี้เห็นเสาประหลาดเหลานี้ผุดขึ้นมาจากใตดิน จะไมรูได
อยางไรวาเรื่องเมื่อครูเกิดจากสิ่งเหลานี้ ปากก็รองตะโกนออกมาดวยเสียงอันดังทันที
“ปศาจฝงใดกัน คาดไมถึงวาจะกลาลงมืออยางโหดเ**ยมเชนนี้”
ทั นใดนั ้ นเขาพลั นลู บหน า ปากตนเอง ชั ่ ว ขณะนั ้น เสีย ง “พรึ ่ บ ” พลั น ดั งขึ้น
กระบี่เลมเล็กสีฟาหาเลมติดพลันพุงออกไป พลิ้วไหวเล็กนอย แลวทยอยกันกลายเปน
กระบี่ยักษขนาดสองสามจั้ง
“สังหาร” ประมุขหลานพนคำพูดที่เครงขรึมออกมา
กระบี่ทั้งหาเลมเปลงแสงสวางวาบ กลายเปนสายรุงหาสายพุงออกไปหาเสา
สีเหลืองทั้งหาตน ผลคือลอมโคนเสาเอาไวอยางรวดเร็วหลายชั้น
หลังจากเสียง “ปงๆ” ดังสนั่นขึ้น เสาก็ถูกสับออกเปนสองสวน ผิวของเสาเหลือ
รอยกระบี่ตื้นๆ เปนวงๆ เอาไว
รูมานตาของประมุขหลานพลันหดเล็กลง รายอาคม เรียกกระบี่ยักษหาเลม
กลับมาอยางรวดเร็ว
ในตอนนั้นเอง รอยกระบี่บนผิวเสาพลันพนของเหลวสีเขียวเปนกลุมๆ ออกมา
กลิ่นคาวประหลาดๆ โชยมา
ประมุขหลานใหกระบี่ยักษโคจรอยูเหนือศีรษะไมหยุด สายตากวาดไปที่เสา
สีเหลืองทั้งหาตน ใบหนาอดที่จะกระตุกขึ้นมาสองสามครั้งไมได
อานุภาพของกระบี่บินสองสามเลมของเขา แนนอนวามีเพียงเขาเทานั้นที่รูดี
ปกติแลวไมตองพูดถึงเสาตนหนึ่ง ตอใหเปนภูเขาขนาดยอม ก็สามารถสับออกได
อยางงายดาย
แต จ ะว า ไปแล ว เสาเหล า นี ้ ก ็ ป ระหลาดไปหน อ ยจริ ง ๆ ผิ ว ของมั น ดู แ ล ว มี
ความยืดหยุน ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตอยางไรอยางนั้น
เมื่อเห็นวาประมุขหลายลงมือไมไดผล สตรีผูสวมชุดชาววังที่อยูกลางอากาศ
ก็เผยสีหนาตกตะลึงระคนลังเลออกมา
เสียงหึ่งๆ ต่ำๆ ดังแววมาจากใตน้ำ ราวกับวากำลังมีคนครางงึมงำอยู เหมือนถูก
ปลุกขึ้นมาอยางไรอยางนั้น
จากนั้นเสียงประหลาดๆ พลันดังขึ้น เสาหาเสาพลันหยุดชะงักไมขยับเขยื้ อน
แตใตผิวน้ำกลับมีลูกบอลลำแสงขนาดยักษเสนผาศูนยกลางสิบจั้งพุงออกมาลูกหนึ่ง
ลูกบอลลูกนี้เปลงแสงสีขาวระยิบระยับ ใจกลางของมันกลับมีลูกบอลกลมๆ
สีทองเรืองรองขนาดเทาศีรษะอยูลูกหนึ่ง
“ผลึกตะวันคลอย”
เหลือบเห็นลูกบอลลำแสง ภิกษุที่อยูดานหลังประมุขหลานก็รองอุทานออกมา
ดวยเสียงแหบแหง แตประโยคนี้เพิ่งจะหลุดปากไป ทันใดนั้นเขาก็รูสึกเสียใจใน
ภายหลัง รางกายกระโดดออกไปอยางไมตองคิด กลายเปนสายรุงสีขาวสายหนึ่งพุง
ออกไปแยงสมบัติชิ้นนั้น
ไดยินคำวา “ผลึกตะวันคลอย” สตรีและชายหนุมรูปรางผอมดำสามคนพลัน
ตกตะลึง ทันใดนั้นก็เผยความดีอกดีใจออกมาอยางบาคลั่ง
หลังจากไดยินเสียงอันไพเราะ รางของสตรีก็หมุนติ้วๆ กลายเปนหงสเพลิงสีดำ
กลุมหนึ่งพุงออกไปยังสิ่งนั้น ชายหนุมรูปรางดำผอมสามคนก็รวมรางกันกับราง
ตรงกลาง กลายเปนลำแสงสีเงินหนาๆ สายหนึ่งไลตามไปติดๆ
ไมรูวาเพราะสาเหตุใด ประมุขหลานถึงไดมีทาทีลังเลไมไดลงมือ
หานลี่ที่ซอนตัวอยูกลางอากาศ แววตาเปลงประกายสองสามครั้งและไมไดลงมือใดๆ
เปาหมายของเขานั้นงายมาก มีเพียงโลหิตเทวาเทานั้น ของอื่นๆ ตอใหล้ำคา
ขนาดไหน ก็ไมมีทางเสี่ยงลงมือ แลวเปดเผยรองรอยของตัวเอง
การเคลื่อนไหวของสตรีและปศาจผูบำเพ็ญเพียร เห็นไดชัดวาชากวาภิกษุสงฆไป
กาวหนึ่ง
ภิกษุสงฆที่กลายเปนสายรุงสีขาวเห็นวาจะกระโจนเขาไปในลำแสงสีขาวแลว
ก็หมายจะมวนเอา ‘ผลึกตะวันคลอย’ ไป
ในชั่วพริบตานั้น ความเปลี่ยนแปลงพลันบังเกิดขึ้น
พลังแรงกดมหาศาลที่ไรรูปรางปรากฏขึ้นรอบๆ ลูกบอลลำแสง ทำใหรางกาย
ของภิกษุแข็งคาง
ยังไมรอให เ ขาควบคุมลมปราณมาต านทาน บนอาภรณก็ป รากฏคาถาสี เ งิ น
ประหลาดๆ ขึ้น รางกายของภิกษุสงฆสั่ นเทา ถูกดูดเขาไปในบึง นำ แลวหายไป
อยางไรรองรอย
เหลือเพียงลูกบอลลำแสงที่ลอยนิ่งอยูกลางอากาศ
ในเวลาเดียวกั นสตรี และชายหนุ มรา งกายผอมดำสามคนที ่พุ งมาเช น กั น นั้ น
พลันตกใจจนสะดุงโหยง หมุนโคจรลำแสงหลีกหนีพุงกลับไปอยางรีบรอน กลับมายัง
ริมบึงน้ำภายในอึดใจ ถึงไดใชสายตาตกตะลึงมองไปยังบึงน้ำอีกครั้ง
ครานี้ประมุขที่อยูดานขา งกลั บดู เหมือนวา จะมองอะไรออก ใบหนากระตุ ก
เปลี่ยนเปนดูไมได
ในตอนนั้นเอง เสียงอึกทึกพลันดังมาจากอีกฝงของบึงนำ จากนั้นเสาสีเหลืองที่
เหมือนกันอีกหาตนก็ผุดขึ้นมา จากนั้นราวกับเสียงคำรามของฟาผาอยางไรอยางนั้น
ดังออกมาจากบึงน้ำ และยิ่งไปกวานั้นยังดังขึ้นเรื่อยๆ และเหมือนขึ้นเรื่อยๆ
บึงน้ำและเสาสีเหลืองสีเสาสั่นคลอนอยางหนักทามกลางเสียงคำราม
ประมุขหลานพลันหันกาย กลายเปนสายรุงสีฟาสายหนึ่งพุงไปยังปากทางเขาของ
หุบเขา เปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง แลวสลายหายไปทามกลางมานหมอกหนาๆ
การเคลื่อนไหวของเขา ทำใหหานลี่และสตรีผูสวมชุดชาววังพากันตกตะลึง แตแค
หานลี่ขมวดคิ้วเพียงเล็กนอย รางกายก็เริ่มลอยพลิ้วขึ้นไปกลางอากาศ
สตรีผูสวมชุดชาววังและชายรูปรางผอมดำสามคนมองสบตากันแวบหนึ่ง สีหนา
เครงขรึมยังอยูที่เดิมมิไดจากไป
ผลคือ น้ำในบึงเริ่มหมุนวนอยางรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็กลายเปนคลื่นยักษ
แทบจะในเวลาเดียวกัน เสาทั้งสิบตนก็หดงอลงไปครึ่งตน จากนั้นก็ดันขึ้ น ไป
ดานบนพรอมกัน ชั่วครูก็ยืดสูงขึ้นไปสิบกวาจั้ง แทบจะในเวลาเดียกวัน พื้นดินก็
แยกออก โคลนตมหมุนวน สิ่งของขนาดยักษสองกอนถูกพนออกมาจากดินทั้งสองฝง
ของบึงน้ำ
หานลี่ที่ลอยอยูกลางอากาศ เหลือบตาลงไปมองเห็นพอดี
หลังจากที่เห็นใบหนาที่แทจริงของสิ่งของทั้งสอง ชั่วขณะนั้นเขาพลันตกตะลึง
จนตาคาง
ตอนที่ 1307 มนุษยยักษโบราณ
เขาที่อยูในภาวะไดเปรียบพบวาสองฝงของบึงน้ำมีสิ่งของขนาดยักษปรากฏขึ้น
คาดไมถึงวาจะเปนมือยักษสีเหลืองออนสองมือ เสาสิบตนนั้นเปนแคนิ้วหนาๆ ทั้งสอง
บนมือเทานั้น ตอนนี้มือคูนั้นกำลังยื่นออกมาจากพื้นดินอยางเชื่องชา
บึ ง ลำแสงแผดเผาสามสิบ สี่ สิ บ จั ้ง นั ้ น ไม ร ู  ว  า น้ ำในบึ ง สลายหายไปตอนไหน
กลายเปนหลุมลึก กนบึงมีลำแสงประหลาดๆ สวางวาบ เผยใหเห็นดวงตาขนาดใหญ
ถึงสองจั้งดวงหนึ่ง ดวงตานี้คอยๆ กะพริบตาสองสามครั้ง แลวเปลงแสงเย็นเยียบ
ออกมา
เมื่อเห็นฉากนั้น หานลี่ผูซึ่งมีปฏิภาณไหวพริบ พลันนึกถึงเผาที่มีชื่อเสียงใน
แดนวิญญาณทันที
สีหนาพลันกระตุก และซีดขาวเล็กนอย
เขาเรงความเร็วขึ้นสองสามเทา พุงขึ้นไปบนทองฟาอยางไมตองขบคิด
แตแคหลังจากที่ใชยันตหายตัวแลว ก็ไมอาจบินไดอยางรวดเร็วนัก
ถึงแมวาสตรีผูสวมชุดชาววังและชายหนุมรูปรางผอมดำของเผาหมาปาสีเงินจะ
มองเห็นทุกอยาง แตก็สัมผัสไดถึงความอันตรายเชนกัน
สตรีแคนเสียงอยางเย็นชาออกมา อาปากออกพนผาไหมสีแดงสดผืนหนึ่งออกมา
จากราง ชูมือขึ้นอีกครั้ง ลำแสงสีเขียวขนาดสองสามจั้งพุงออกไปราวกับมังกรอสรพิษ
บินวนเริงระบำเปนวงกลม คาดไมถึงวาจะเปนมีดบินสีเขียวที่พิเศษมากเลมหนึ่ง
ผ า ไหมหมุ น ติ ้ ว ๆ อยู  เ หนื อ ศี ร ษะ กลายเป น ม า นลำแสงสี แ ดงผื น หนึ่ ง
หอหุมรางกายของสตรีผูนั้นเอาไวขางใน
สวนชายหนุมทั้งสามนั้นสองมือพลันรายอาคมพรอมกับ บนรางเปลงลำแสงสีเงิน
จางๆ ออกมา เมื ่ อลำแสงสามกลุ  ม สั ม ผั ส กั บ ร า งแล ว ก็ ก ลายเป น ลู ก บอลสี เ งิ น
ขนาดใหญ ปกคลุมรางของเขาเอาไวเชนกัน
เมื่อทำการปองกันตัวเรียบรอยแลว ปศาจผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงทั้งสี่ก็สำแดง
ความสามารถออกมาอีก
พื้นดินใกลๆ กับใจกลางของบึงสั่นคลอนราวกับฟาจะถลมลงมา ในเวลาเดียวกัน
พื้นดินก็แยกตัวออก
ดวงตาขนาดยักษตรงกนบึงกะพริบปริบๆ ผลึกตะวันคลอยที่แตเดิมลอยอยูเหนือ
บึงน้ำพลันตกลงมา เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปในดวงตา
จากนั้นสิ่งของขนาดใหญที่เหมือนกับภูเขาก็คอยๆ ลุกขึ้นนั่งบนพื้น
หานลี่เหลือบมองทุกอยางจากดานบนไดอยางชัดเจน
สิ่งของยักษสูงสองสามจั้ง รางกายกวาครึ่งเต็มไปดวยดินโคลนสีเทาเหลือง แขนทั้ง
สองชูขึ้นไปบนทองฟา คาดไมถึงวาจะเปนสัตวเทพมนุษยยักษขนาดใหญที่ยากจะเชื่อ
หากไมใชเพราะหานลี่เคยเห็นปศาจเทพระดับสุดยอดอยางราหูและวิหคมัจฉา
ทะยานฟามากอน เกรงวาคงยากที่จะเชื่อวาในโลกนี้จะมีสิ่งมหึมาขนาดนี้ดำรงอยู
ตรงเอวของมนุษยยักษมีหนังอสูรพันอยู ศีรษะที่เหมือนกับยอดเขาคาดไมถึงวา
ตรงหนาผากจะเวาลงไป และตรงที่เวาลงไปลึกที่สดุ ก็มีดวงตาขนาดใหญดวงหนึ่ง
คาดไมถึงวาดวงตาเพียงดวงเดียวของมนุษยยักษจะเวาลงไป กลายเปนแองน้ำ
ขนาดใหญ
นอกจากนี้ มนุษยยักษยังมีจมูกแบนๆ ที่อัปลักษณ ปากบางยาวฉีกไปถึงแกม
เมื่อริมฝปากขยับ ก็เผยเขี้ยวแหลมคมสีขาวโพลนออกมา
มนุษยยักษยังไมไดยืนขึ้นอยางสมบูรณ แครางกายทอนบนก็ลุกขึ้นนั่งบนพื้น สวน
กายทอนรางยังคงจมอยูใตดิน
ดวงตาเพียงดวงเดียวของมันจองเขม็งไปยังสตรีผูสวมชุดชาววังและปศาจทั้งสี่
เบื้องหนาราบกับมดแมลง ใบหนาไรซึ่งความรูสึก
“เปนไปไมได มนุษยยักษโบราณ! รีบหนีเร็วเขา เจาสิ่งนี้ พวกเราไมอาจตอกรได”
สตรีผูสวมชุดชาววังเห็นหนาตาของมนุษยยักษตาเดียวอยางชัดเจน ก็รองอุทาน
ออกมาดวยเสียงแหบแหง
ในที ่ ส ุ ด นางก็ ร ู  ว  า เหตุ ใ ดประมุ ข หลานถึ ง ได ห นี ไ ปโดยไม แ ม แ ต จ ะถาม
สารทุกขสุกดิบของภิกษุสงฆ เห็นไดชัดวาเขาดูสถานการณออกไปกอนแลว
สตรีผูนั้นไมลังเลอีก สองมือพลันรายอาคม ลำแสงสีแดงบนเรือนรางโคจรหมุนวน
เสียง “ปง” ดังสนั่นขึ้น หลังจากที่ลำแสงซึ่งหอหุมรางกายอยูแตกละเอียด สตรีที่
อยูดานในก็หายไปอยางไรรองรอย
แตครูตอมา หางออกไปหาสิบหกสิบจั้งลำแสงสีแดงพลันเปลงแสงสวางวาบ
กลางอากาศ รางอรชรออนแอนของสตรีผูนั้นปรากฏขึ้น
ชายหนุมรูปรางผอมดำสามคนเห็นมนุษยยักษก็พากันตกตะลึง เมื่อเห็นวาสตรี
ผูนั้นหนีไป ถึงไดไดสติรายอาคมขึ้นพรอมกับ และคิดจะสำแดงเคล็ดวิชาหลีกหนีหนี
ออกไปใหไกลจากดวงดาวโชคราย
แตในตอนนั้ นเอง มนุษยตาเดีย วก็ อา ปากออก ลำคอเปลงเสีย งประหลาดๆ
ออกมาพลางสูดลมหายใจเขา
ชั่วขณะนั้ นพายุพลันพัด เข ามา ชายหนุมรูปร างผอมดำสามคนรู สึ ก เพี ย งว า
พลังมหาศาลมาดึงฉุดลำแสงสีเงินที่หอหุมรางเอาไว แลวดึงขึ้นไปกลางอากาศ
ทั ้ ง สามคนพากั นตกตะลึ ง และคิ ด จะร า ยอาคมต า นทาน แต แ ม แ ต ส ตรี แ ละ
ประมุขหลานผู ซึ ่ง เป นผู บ ำเพ็ญ เพียรระดั บ เทพแปลงยัง ต องวิ่ งหนี แลวพวกเขา
ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดสามคนจะตอกรอยางงายๆ ไดอยางไร
ปศาจผูบำเพ็ญเพียรทั้งสามคนรวมรางเขาดวยกัน ถูกดูดลงมาที่พื้นดิน เขาไปใน
ปากบอโลหิตของมนุษยยักษ
ครานี้ปศาจผูบำเพ็ญเพียรทั้งสามถึงไดตกตะลึงระคนหวาดกลัวขึ้นมาจริงๆ
ชายหนุมหนึ่งในนั้นหมุนตัวอยูกลางอากาศ กลายเปนหมาปายักษสีเงินขนาด
สองสามจั้ง
หมาป า ตั ว นี ้ แ ค ห อนด ว ยเสี ย งแหลมๆ กลางอากาศ ชายหนุ  ม อี ก สองคนก็
กลายเปนเงาหมาปาสายหนึ่งอยางไมลังเล กระโจนเขาไปในรางของหมาปายักษ
ชั่วขณะนั้นดวงตาของหมาปาทั้งสองขางพลันเปลงแสงสีเขียวและแดงสวางวาบ
ปรากฏหัวหมาปาสองสีสีเขียวและแดงเล็กออกมาหัวหนึ่ง
หัวหมาปาทั้งสองอาปากออกเปลงเสียงรองยาวๆ พรอมกัน ทันใดนั้นมานลำแสง
สีเงินแดงก็ถูกพนออกมาจากปากของหมาปา ชั่วพริบตาก็เขาไปในลำแสงสีเงินที่
หอหุมราง
ถึงแมวาจะไมไดทำใหรางกายหยุดลง แตความเร็วก็หยุดชะงักเปนเชื่องชาทันที
ภายใตสถานการณที่รีบรอนนี้ ในที่สุดปศาจตนนี้ก็รวมกันเปนหนึ่ง กลับมาเปน
รางหมาปาปศาจสามหัวเหมือนเดิม
หานลี่ที่อำพรางกายอยูกลางอากาศเห็นฉากนั้น กลับใจเตน ชั่วขณะนั้นในหัว
พลันมีเงารางงดงามปรากฏออกมา แตหลังจากถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งแลว
ก็สลัดเงารางนั้นทิ้งไป เพงความสนใจไปที่สถานการณดานลางอีกครั้ง
ในเมื่อบึงน้ำคือมนุษยยักษตาเดียว งั้นก็ไมไดหมายความวากบฏเผาวิญญาณผูนั้น
ถูกมนุษยยักษกลืนกินลงไปแลวหรือ
และจากที่เขารูมา เผามนุษยยักษโบราณเปนเผาที่มีสติปญญาต่ำตอย ชอบกิน
เนื้อของเผาอื่นๆ ไมอาจแยกแยะวาอะไรคือโลหิตเทวาได ขวดโลหิตเทวา กวาครึ่ง
คงอยูในรางของมนุษยยักษ
นี่ชางยุงยากจริงๆ
ตอใหมนุษยยักษโบราณเปนสิ่งที่อยูในระดับที่ต่ำที่สุด แตหลังจากโตเต็มวัยแลวก็
มีความสามารถอยูในระดับหลอมสุญตา มนุษยยักษที่มีพรสวรรคหนอย แมกระทั่ง
เทียบไดกับสิ่งมีชีวิตระดับหลอมรางขึ้นไป
แมกระทั่งในตำนานยังมีมนุษยยักษพันตา ที่สามารถตานทานกับวิญญาณฟาดิน
มังกรเที่ยงแท หงสสวรรคได
หานลี่พึมพำอยูในใจ แตจะใหเขาลาถอยไป ก็รูสึกเสียดายเปนอยางมาก
ครานี้ หมาปาสีเงินสามหัวก็พนสมบัติสองสามชิ้นออกมาอยางตอเนื่อง โจมตีไป
ยังแรงกด และคิดจะหนี
แตแคอาปากออก เสียง “สวบ” ก็ดังขึ้น ถูกอักขระสีเงินที่ปรากฏขึ้นมวนเขาไป
ถูกมนุษยยักษดูดเขาไปในปาก ไมอาจสำแดงอานุภาพอะไรได
เชนนั้น หมาปาสีเงินสามหัวก็ทำไดเพียงใชพลังลมปราณในรางประคับประคองเอาไว
รางกายก็ยังคงถูกดูดเขาไปในปากของมมนุษยยักษ
ถึ ง แม ว  า หมาป า ยั ก ษ จ ะพยายามพ น ลำแสงสามสี ออกมา แต ก ็ ย ั ง คงไม อาจ
ขัดขวางไดเลยสักนิด แตเชนนั้นคนยักษก็ยังรูสึกหมดความอดทน ฉับพลันนั้นมือยักษ
ขางหนึ่งพลันชูขึ้น ควาหมาปาปศาจสามหัวเอวไวราวกับตบแมลงวันอยางไรอยางนั้น
เงาสีดำผืนใหญลดระดับลงมาจากทองฟา ชั่วครูก็หอหุมปศาจหมาปาเอาไว ยังไม
ทันไดตะปบลงไปจริงๆ ลำแสงที่หอหุมรางของหมาปาปศาจก็ถูกฝามือวายุตบลงมา
จนสั่นคลอน ราวกับจะสลายหายไปไดทุกที่
ถู ก ฝ า มื อที ่ น า กลั ว ตะปบเอาไว เกรงว า ต อให ร  า งกายของเขาแข็ ง แกร ง ดุ จ
เหล็กกลา ก็ตองถูกทับจนกลายเปนเนื้อแบนๆ
แตเมื่อหมาปาถูกพลังมหาศาลดูดเอาไว จึงไมอาจหลบเลี่ยงหลีกออกจากการ
ตะปบลงมาครั้งนี้ได
หมาปายักษอดที่จะเผยสีหนาสิ้นหวังออกมาไมได!
เห็ นเพี ย งมื อยั ก ษ ข นาดเท า หอคอยกำลั ง ตะปบลงมาที ่ ห มาป า ยั ก ษ ส ามหั ว
ความเปลี่ยนแปลงที่นาประหลาดก็ปรากฏขึ้น
ฉับพลันนั้นลำแสงสีเหลืองที่อยูใกลๆ กับหมาปายักษพลันเปลงแสงสวางวาบ
เงารางคนทีผ่ อมบางคนหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ กำปนทั้งสองโจมตีออกไปโดยไม
เปลงคำพูดใดๆ
นั่นก็คือ อาวุโสเผาหยกชวดผูนั้น หวนเทียนชี่
มือยักษของเขาโจมตีไปกลางอากาศ อีกมือหนึ่งกลับตรงไปหาหมาปาปศาจ
สามหัวที่อยูทามกลางลำแสงสามสี
บนกำปนทั้งสองมีลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบ ลำแสงสีเหลืองทั้งสอง
ปรากฏขึ้นพลางพุงออกมา
เสียง “ปงๆ” ดังขึ้น
กำปนลำแสงขางหนึ่งปะทะกับฝามือยักษ ทำใหเขาหยุดชะงัก ทันใดนั้นก็ถูก
พลังมหาศาลทับจนแหลกสลาย
กำปนอีกกำปนหนึ่งโจมตีไปยังเปลวเพลิงลำแสงที่ปกปองรางของปศาจหมาปา
และถูกโจมตีจนกระเด็นออกไปราวกับลูกธนู คาดไมถึงวาจะหนีออกจากแรงดูดของ
ปากมนุษยยักษโบราณได
ครานี้ฝามือของมนุษยยักษพลันกดลงมา ชายหนุมกลับรางกายพลิ้วไหว หายวับไป
จากที่เดิมราวกับภูตผี
แต ท ั นใดนั ้ นชายหนุ  ม ก็ ป รากฏตั ว ห างออกไปยี ่ ส ิ บ จั ้ ง คาดไม ถ ึ ง ว า วิ ่ ง มาถึง
เบื้องหนาปศ าจหมาป าที่ถ ูก โจมตีจ นกระเด็ นออกมา และชี้ไปทางปศาจหมาป า
สามหัวที่พุงเขามาเล็กนอย
ลำแสงสีเขียวผนึกรวมตัวกันกลางอากาศ กลายเปนกระจกสีเขียวขนาดยักษ
ที่สดใสแวววาว
รางของปศาจหมาปากระโจนเขาไปในกระจก หลังจากนั้นพลันมีระลอกคลื่นเปนชั้นๆ
ปรากฏออกมา แลวถูกดีดกลับไปอยางชาๆ
“ขอบพระคุณทานอาวุโสหวนที่ชวยชีวิต!” หมาปาสามหัวสั่นศีรษะดวยความมึนงง
เล็กนอย ปศาจหมาปาเผาหมาปาสีเงินตัวนั้นเอยขอบคุณอยางตอเนื่องดวยความ
ตกตะลึงระคนดีใจ
มันยังคงปลอดภัยไรซึ่งอันตราย
เขาถอยออกไปอีกดาน ไมอาจตอกรกับสิ่งนี้ได คิดไมถึงวาที่นี่จะมีมนุษยยักษโบราณ
ดูแลวคงจะหลับอยูในหุบเขานี้มากอนที่สามเขตแดนจะกอตั้งขึ้น มิเชนนั้นคงไมอาจ
เขามาในนี้ได
อากาศรอบๆ มีลำแสงสีขาวสวางวาบ บุรุษผูสวมชุดสีขาวคนหนึ่งเองก็ปรากฏขึ้น
พรอมกับเอามือสองมือไพลหลัง นั่นก็คือคุณชายหวงเหลียงหลิง ดวงตาทั้งสองขาง
ของเขาหรี่ลงเล็กนอยขณะจองสิ่งมหึมาที่อยูไกลออกไป สีหนาเครงขรึมมา
“หึ นั่นมันแนนอนอยูแลว! รางของมนุษยยักษโบราณ ตอใหผูที่ปกปกทางเขา
ของทั้งสามเขตอยูตาลาย ก็ไมอาจปลอยใหเจายักษนี้เขามาในเขตแดนของทั้งสองเผา
ของพวกเรา ทวาโชคดีที่มนุษยยักษนี้เปนมนุษยของเผาตาเดียว และยิ่งไปกวานั้น
นาจะไดรับบาดเจ็บหนัก ดังนั้นถึงไดนอนหลับอยูในหุบเขาไมยอมตื่น เจากับขา
รวมมือกันยอมเสียปราณแทไปนิดหนอย ก็เพียงพอจะสังหารมันแลว” ชายหนุม
แซหวนกลับเอยดวยสีหนาที่เต็มไปดวยจิตสังหาร
“งั้นจะแบงของกันอยางไร? ขาไดยินวาตัวของมนุษยยักษมีผลึกตะวันคลอยกอนใหญ
อยูกอนหนึ่งอยู เปนวัตถุดิบที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการหลอมสมบัติตะวันวิญญาณ”
คุณชายหวงเหลียงขมวดคิ้วเล็กนอย
“ขาไมสนใจของที่เจากบฏเผาวิญญาณนั้นนำมาดวย เอาผลึกตะวันคลอยกอนนั้น
ก็ แ ล ว กั น” ชายหนุ  ม แซ ห วนดู เ หมื อนว า จะขบคิ ดมานานแล ว เอ ย อย า งไม ลังเล
แมแตนอย
“เยี่ยม ตกลงตามนั้น พวกเจาก็ระวังหนอย ถึงแมวาเผาวิญญาณเหลานั้นจะยอม
ลาถอยไปชั่วคราว แตก็อยาใหพวกมันกลับมาได” คุณชายหวงเหลียงหลิงหันหนาไป
เอยกับเงารางคนที่ปรากฏตัวไกลออกไปดวยความเยือกเย็น
หานลี่ที่อยูกลางอากาศไดยินคำพูดนี้ ก็อดที่จะมองไปตามเสียงไมได
คาดไมถึงวาประมุขหลานและพวกสตรีสวมชุดชาววังจะกลับมา และยังมีมนุษยปศาจ
คนอื่นๆ อยูดวย แตกลับไมเห็นเงารางของคนของเผาวิญญาณเลยสักคน
ตอนที่ 1308 สงครามของมนุษยยักษ
สงครามนอกหุบเขากอนหนา ถึงซวี่เทียนจะมีความเกรียงไกรก็ตาม แตกลับคิด
ไมถึงวา เคล็ดวิชาของคุณชายหวงเหลียงหลิงและชายหนุมแซหวนจะสอดประสานกัน
เมื่อประมือกันไปสักพัก ก็ดูเหมือนวาจะเผชิญหนากับผูบำเพ็ญเพียรที่บรรลุระดับ
หลอมสุญตาคนหนึ่งอยางไรอยางนั้น
ซวี่เทียนพลันตกตะลึงยกใหญ หลังจากรูวาไมมีทางชนะ ก็ไมลังเลอีกตอไป
หลังจากตะโกนเรียกหนึ่งครั้ง ก็พาคนของเผาวิญญาณคนอื่นๆ ถอนทัพหนีไป
อยางไมลังเล
มิเชนนั้น ชายหนุมแซหวนและคุณชายหวงเหลียงหลิงก็ไมมีทางมาถึงในหุบเขาไดทัน
ครานี้มนุษยยักษตาเดียวที่รางครึ่งรางยังคงอยูในพื้นดินมองเห็นคนจำนวนมาก
ขนาดนี้ ก็ดูเหมือนวาจะเชื่อมโยงกับอะไรได แววตาเปลงประกายโหดเหี้ยม ชูหัวขึ้น
ทันใดนั้นพลันเปลงเสียงคำรามราวกับอสนีฟาดลงมา จากนั้นก็กมหนาลงอีกครั้ง
ดวงตาดวงเดียวเปลงแสงสีขาวเจิดจาออกมา จากนั้นเสนไหมสีขาวจำนวนนับไมถวน
ก็ทะลักออกมา หอหุมรางของหวนเทียนชี่และคุณชายหวงเหลียงหลิงที่อยูไม ไ กล
เอาไว
“หึ คิดไมถึงวาจะหลอมผลึกตะวันคลอยนั้นจนหมด แตเสนไหมเพลิงเหลานี้คิด
จะทำรายพวกเรา ฝนไปเถิด” คุณชายหวงเหลียงหลิงแคนเสียงอยางเย็นชาออกมา
พลางพึมพำกับตนเองสองสามประโยค ทันใดนั้นก็สะบัดแขนเสื้อ สมบัติที่เหมือนกับ
กระจกแปดเหลี่ยมปรากฏขึ้นอีกครั้ง เปลงแสงสวางจาแลวขยายใหญขึ้นจนมีขนาด
เทาคน ตานทานอยูเบื้องหนา
เสนไหมสีขาวเหลานั้นพุงไปถึงกระจก ชั่วขณะนั้นกระจกพลันเปลงแสงเจิดจา
ออกมา เสนไหมลำแสงคอยๆ พุงกลับมา พุงไปยังรางอันใหญโตของมนุษยยัก ษ
แตเมื่อเสนไหมเหลานี้สัมผัสกับราง ก็ทยอยกันจมหายเขาไปในรางไมอาจทำอันตราย
มนุษยยักษไดเลยแมแตนอย
ชายหนุมแซหวนที่อยูดานขางก็ใชกระจกยักษพลังปราณเบื้องหนาโจมตีเสนไหม
ลำแสงสีขาวยอนกลับไปเชนกัน
มนุ ษ ย ย ั ก ษ เ ห็ น การโจมตี ข องตนไม ไ ด ผ ล ปากก็ ร  อ งคำรามต่ ำ ๆ ออกมา
ชั่วพริบตาพลันหยุดพนเสนไหมลำแสงในแววตา นิ้วทั้งหาบนมือหนึ่งแยกออกจากกัน
ราวกับพัดใบลานขนาดยักษ กวาดไปทางคุณชายหวงเหลียงหลิงและพวกทั้งสอง
ยังไมทันไดปะทะกับทั้งสอง พายุกลุมหนึ่งก็มวนออกไป
คุณชายหวงเหลีย งหลิง มีสี ห นา เคร งขรึม อาปากออก พนพัดกระดาษสี ข าว
ออกมาจากปาก
ยังไมทันไดสัมผัสกับทั้งสอง พายุเฮอริเคนกลุมหนึ่งก็มวนเขามา
เขาควาพัดกระดาษเลมนั้นไว แลวโบกไปทางมือยักษที่กดลงมาแรง
ชั่วพริบตานั้นพายุสีขาวกลุมหนึ่งพลันพุงขึ้นไป ปะทะกับพายุเฮอรริเคนที่หมุน
เขามาพอดี ทำใหพายุเฮอรริเคนไมอาจเขาใกลทั้งสองไดเลยสักนิด
มองเห็นมือยักษกวาดเขามา ชายหนุมแซหวนกลับถูมือทั้งสองขางเขาดวยกัน
ลำแสงไฟฟาสีเทาสายหนึ่งปรากฏขึ้น
ลำแสงไฟฟานั้นเปลี่ยนรูปรางระหวางอยูตรงกลางฝามือทั้งสอง กลายเปนมีดยาว
สีเทาที่ไมสะดุดตาเลมหนึ่ง
มีดเลมนี้ดูแลวบางยาวและแหลมคม สีดำสนิทหมนหมอง ไมสะดุดตาเลยสักนิด
แทบจะในเวลาเดียวกัน ปากของชายหนุมก็บริกรรมคาถา ใบหนางดงามมีขน
สีเหลืองปรากฏขึ้น ดวงตาทั้งสองเองก็เปลี่ยนเปนสีเขียวมรกต
หลังจากตะโกนออกมาครั้งหนึ่ง แรงที่กดลงมาหาชายหนุมก็ระเบิดออกกลางอากาศ
มีดยาวในมือแคโบกสะบัดเบาๆ เสนสีเทาก็สับออกมา
เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น เสนสีเทาขยายใหญขึ้นเปนสองสามจั้ง หลังจากเปลงแสง
สวางวาบก็จมหายไปในหัวแมมือของฝามือยักษ
เสนสีเทาแหลมคมเปนอยางมาก มือยักษแคสั่นไหว หัวแมมือก็ตกลงมาอยาง
เงียบเชียบ
มนุษยยักษเปลงเสียงรองครวญครางออกมา หดมือกลับไปตามจิตสำนึก ดวงตาบน
หนาผากเบิกออกเปนทรงกลม และพนเสนไหมโลหิตหนาๆ ออกมาเปนสายๆ
มันจองเขม็งไปยังชายหนุมแซหวนแนน ใบหนาอัปลักษณเริ่มมีสีหนาโกรธเกรี้ยว
ปรากฏขึ้น
หลังจากที่ชายหนุมสับมีดเลมนั้นลงไป มีดยาวสีเทาก็เปลงแสงสวางวาบแลว
สลายหายไป ในเวลาเดียวกันสีหนาก็ซีดขาว
ราวกับวามีดเลมนี้ทำใหเขาสูญเสียปราณแทไปจำนวนมาก
“ระมัดระวังดวยสหาย มีดของสหายเลมนี้ดูเหมือนวาจะไปทำใหมันโกรธเขา
จากนี ้ เ กรงว า คงเอาจริ ง แล ว ไม ร ู  ว  า อาการบาดเจ็ บ ของมั น ฟ น ฟูไ ปถึ ง ไหนแลว
หากหายเปนปลิดทิ้งแลว ก็คงจัดการยากหนอยแลว” คุณชายหวงเหลียงหลิงใช
พัดกระดาษในมือโจมตีพายุเฮอรริเคนลูกนั้นจนสลายหายไป แลวพลันเขม็ง ไปยัง
ดวงตาสีแดงก่ำของมนุษยยักษ พลางเอยขึ้นอยางแชมชา
“จุดนี้ไมตองใหเจาพูด ตาเฒาก็รู เมื่อครูแคลองทดสอบพลังยุทธที่แทจริงของมัน
เทานั้น? ถูกขาฟนทิ้งไดอยางงายปานนี้ ดูแลวคงเปนเพียงมนุษยยักษธรรมดาๆ
ตนหนึ่ง เจากับขา ก็สู  ได โดยไม ต องกั ง วลแล ว ” ชายหนุมแซ ห วนจ องเขม็ ง ไปยั ง
มนุษยยักษที่ดึงฝามือกลับไป แลวเอยอยางราบเรียบ
แตยังไมรอใหเขาเอยจบ บาดแผลบนฝามือยักษ ก็มีลำแสงสีเขียวชั้นหนึ่งสวางวาบ
ทามกลางลำแสงสีเขียว เสนไหมโลหิตและเนื้อจำนวนนับไมถวนพุงออกมาอยาง
บาคลั่ง ชั่วพริบตานิ้วหัวแมมืออันใหมก็ปรากฏขึ้น
จากนั้นนิ้วหัวแมมือก็ขยับสองสามครั้ง ดูแลวไมมีปญหาเลยสักนิด
ชายหนุมแซหวนพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็สูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง
“รางกายอมตะ!” คุณชายหวงเหลียงหลิงเองก็หดรูมานตาลงพลางเอยพึมพำ
ครานี้แขนทั้งสองขางของมนุษยพลันตบไปที่พื้นทั้งสองดาน เสียง “ปง” ดังสนั่นขึ้น
หุบเขาหุนตุนทั้งหุบเขาพลันสั่นคลอน
รางของมนุษยยักษยืดสูงขึ้นหลายเทา ในที่สุดทั้งรางก็ยืนขึ้นจากพื้นดิน
ทำใหคุณชายหวงเหลียงหลิงและปศาจทั้งสองมีสีหนาดูไมได เมื่อมนุษยยักษยืนขึ้น
มือหนึ่งก็ควากระบองหินสีดำสนิทที่จมอยูในโคลนใตรางขึ้นมาในทันที
กระบองนี้ใหญโตมโหฬารเปนอยางมาก ความยาวเทียบไดกับสวนสูงครึ่งหนึ่ง
ของมนุษยยักษ สวนผิวของมันนั้นมีลำแสงสีเขียวเปนเสนๆ หอหุมอยู กระบองหินนั้น
สรางขึ้นจากทรายวิญญาณนิลในตำนาน
น้ำหนักของวัตถุดิบที่ล้ำคาเชนนี้เทียบกับเหล็กกลาแลว ก็ยังหนักกวาเทาหนึ่ง
หากอาวุธที่นากลัวนี้ทุบลงมา ตอใหไมใชสมบัติวิญญาณ เกรงวาระดับหลอมสุญตาก็มี
ไมกี่คนที่กลารับกับของสิ่งนี้ตรงๆ
“คาดไมถึงวาจะมีอาวุธ ดูแลวคงยุงยากแลวจริงๆ ไมลงแรงเต็มที่ ก็คงไมไดแลว”
ใบหนาของคุณชายหวงเหลียงหลิงกระตุกเล็กนอย
“ไมตองใหสหายกลาว ผูแซหวนก็รูดี ลงมือเถิด ไมอาจปลอยใหมันออกจากที่นี่ได”
ชายหนุมแซหวนเอยดวยใบหนาไรความรูสึก จากนั้นก็อาปากออกรองเสียงต่ำๆ
ออกมา
แทบจะในทันที มานลำแสงหลากสีพลันเปลงประกาย แมลงเมาบินขนาดเทา
กำปนปรากฏขึ้น
นั่นก็คือ แมลงวิญญาณของหวนเทียนชี่ แมลงเมาเพลิงลวงตารางโตเต็มวัย!
แมลงเมาบินตัวนี้รางกายสั่นเทา ชั่วพริบตาก็ขยายใหญขึ้นทามกลางมานลำแสง
สีสันสดใส ชั่วครูก็มีขนาดประมาณสองสามจั้ง
สวนรางของชายหนุมนั้นแคกมลงต่ำเล็กนอย ขนอสูรสีเหลืองยาวสองสามชุน
พลันงอกออกมาจากราง ในเวลาเดียวกันรางก็ขยายใหญขึ้น ปากและจมูก เริ่ม
โหดเหี้ยมดุจอสูร
ชั่วพริบตา เขาก็กลายเปนครึ่งอสูรครึ่งปศาจ
คุณชายหวงเหลียงหลิงที่อยูดานขางพลันนั่งสมาธิ มือหนึ่งตบไปที่สวนหัวของกะโหลก
มานลำแสงสีเหลืองกลุมหนึ่งทะลักออกมาจากเหนือศีรษะ รองทารกวิญญาณขนาด
ครึ่งฉื่อเอาไว
ใบหนาของทารกวิญญาณผูนั้นเหมือนกับคุณชายหวงเหลียงหลิงไมมีผิดเพี้ยน
รางกายสวมเกราะสงครามสีเงินแวววาวชิ้นหนึ่ง มือหนึ่งถือกระบี่เลมเล็กสีเขียวเอาไว
อีกมือควาตราประทับหยกสีขาวเอาไว
รางทั้งรางของทารกแทบจะเหมือนมนุษยทุกระเบียบนิ้ว ไมมีความรูสึกเหมือน
ภาพลวงตาใดๆ
ทารกวิ ญ ญาณเบิ ก ตาทั ้ ง สองข า งขึ ้ น ชู ม ื อ หนึ ่ ง ขึ ้ น โยนตราประทั บ ขึ ้ น ไป
ขยายใหญจนมีขนาดประมาณสองสามหมู สับลงไปยังศีรษะของมนุษยยักษอยาง
รุนแรงทามกลางลำแสงหมื่นสาย
หวนเทียนชี่ที่กลายเปนครึ่งปศาจกลายเปนลำแสงไหลเวียนไปมาสายหนึ่ งพุง
ออกไป ในเวลาเดียวกันแขนทั้งสองที่มีกรงเล็บก็ตะปบไปกลางอากาศกลายเป น
กรงเล็บลวงตาเลือนรางอยูกลางอากาศ
กรงเล็บลำแสงแวววาวราวกับของจริงปรากฏขึ้น เสียงฉีกขาดของหวงเวลาดังขึ้น
ตรงไปสับรางของมนุษยยักษเต็มไปหมด จากนั้นปศาจตนนี้ก็กลายเปนลำแสงหลีกหนี
เปลงแสงสวางวาบ คาดไมถึงวาจะละลายหายเขาไปในกรงเล็บลำแสง แลวหายวับไป
อยางแปลกประหลาด
มนุษยยักษคำรามดวยความโกรธแคนไมหยุด ดวงตาเริ่มปลอยเสาลำแสงสีแดง
เปนสายๆ ออกมา ในเวลาเดี ยวกั นมื อหนึ่ งที ่ ถื อกระบองหิ น เอาไว ก็โจมตี ไ ปยั ง
ตราประทับที่กำลังหลนลงมายังศีรษะอยางแรง
อีกมือหนึ่งพลันตะปบไปกลางอากาศบนพื้น ดูดโคลนตมขนาดใหญเขามาในมือ
ลำแสงสีเหลืองเปลงแสงสวางวาบ แลวกลายเปนหินศิลาขนาดเสนผาศูนยกลาง
สองสามจั้ง จากนั้นพลันโบกมื อ ศิลายักษพรอมกับ เสีย งกรี ดรอง ถูกขวางไปยั ง
คุณชายหวงเหลียงหลิงที่อยูตรงขาม
ครานั้นกรงเล็บลำแสงและเสาลำแสงสีโลหิตพลันสัมผัสกัน จากนั้นพลันเกิดเสียง
ระเบิดดังขึ้นอยางตอเนื่อง หลังจากที่เสียงสั่นสะเทือนดังขึ้น กระบองเหล็กก็ทับไปบน
ตราประทับยักษ…
สงครามใหญเริ่มขึ้นอยางเปนทางการแลว!
หานลี่หลบอยูกลางอากาศมองสงครามของหนึ่งคนหนึ่งปศาจและมนุษยยักษ
พลางขมวดคิ้วมุน
คูควรกับที่เปนสงครามของผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาและมนุษยยักษโบราณใน
ตำนานจริงๆ ภายใตจิตสัมผัสของเขา การเคลื่อนไหวทั้งสามนั้นลวนทำใหไอวิญญาณ
ฟาดินสั่นคลอนไมหยุด
โดยเฉพาะหลังจากที่ทารกวิญญาณของคุณชายหวงเหลียงหลิง ออกจากร า ง
ทารกวิญญาณโบกสะบัดตราประทับ ทุกการโจมตีลวนดูดซับไอวิญญาณในบริเวณ
รอบเข า มา ทำให อานุภ าพของมั นแทบจะเพิ ่ม ขึ้ น กว าครึ่ ง มิ เช น นั ้น ถึ งแมวาจะ
ตราประทั บ จะมี ค วามสามารถที ่ น า ตกตะลึ ง ก็ ไ ม อาจรั บ การโจมตี จ ากกระบอง
หินยักษสองสามครั้งได
ชายหนุมครึ่งปศาจที่ทำใหรางกายของตนเองกลายเปนลำแสงแวววาวสายหนึ่ง
รางกายกะพริบวาบ ราวกับคลื่นยักษขนาดใหญ บางครั้งก็ดูดซับไอวิญญาณในบริเวณ
รอบมาเปนระยะๆ
สวนมนุษยยักษตาเดียวนั้น ปากใหญๆ หุบลงอยางไมใสใจ แลวพนไอวิญญาณ
จำนวนมากออกมาตามจิตสำนึก
มันพนไอวิญญาณจำนวนมากกวาคุณชายหวงเหลียงหลิงและพวกทั้งสองออกมา
แตระดับความบริสุทธิ์นั้น กลับไมอาจเทียบมนุษยและปศาจทั้งสองได
หานลี่ไดดูการตอสูของผูที่อยูในระดับหลอมสุญตาในระยะประชิดเปนครั้งแรก
แนนอนวาจึงผสมเขาไปกับการฝกฝนของตัวเองโดยไมรูตัว
ผลคือ คาดไมถึงวาจะไดรับประโยชนครั้งใหญ
ในตอนที่หานลี่ กำลั งชมอยา งตั ้ง อกตั ้ง ใจนั ้น ฉับพลันนั้นพลั นหน าเปลี ่ ย นสี
หันหนาไป มองไปยังกลางอากาศอีกดาน
ถึงแมวาตรงนั ้นจะไมมี อะไร จิตสัมผัสของเขาไม อาจสัมผัส อะไรได แตจาก
เนตรวิ ญ ญาณที ่ ผ  า นการล า งด ว ยของเหลววิ ญ ญาณมาหลายครั ้ ง ก็ ย ั ง มองเห็ น
อะไรรางๆ มองเห็นเงารางจางๆ รางหนึ่งยืนอยูตรงนั้น และกำลังชมการตอสูดานลาง
เชนกัน
“ซวี่เทียน!” ถึงแมวาเนตรวิญญาณของหานลี่จะไมอาจมองทุกอยางไดอยาง
ชั ด เจน แต ห ลบอยู ท ี ่ น ี ่ ด  ว ยความอดทน โดยไม ถ ู ก ค น พบ ก็ ด ู เ หมื อ นว า จะมี
เผาวิญญาณผูนี้เพียงผูเดียวแลว
หานลี่เอยพึมพำกับตัวเองดวยความยินดีอยางเงียบๆ
สำหรับเขาแลว สภาพการณยิ่งวุนวาย ถึงจะยิ่งมีโอกาสงามๆ ใหควาเอาไว
ในตอนที่หานลี่จองเขม็งไปยังเงาโปรงใสโดยไมปริปากใดๆ นั้น เงารางนั้นก็
เคลื่อนไหว ฉับพลันนั้นพลันเงยหนาขึ้น คาดไมถึงวาจะมองมายังตำแหนงที่หานลี่อยู
แวบหนึ่ง
หานลี่พลันใจหายวาบ
โชคดีที่เงานั้นกมหนาลงทันที ไมรูวามันพบการดำรงอยูของหานลี่จริงๆ หรือวา
แคมองมาทางนี้ดวยความบังเอิญเทานั้น
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง สีหนาบัดเดี๋ยวเครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใส
สงครามตอจากนี้ ดำเนินตอไปอีกครึ่งวัน ภายใตการทำลายลางของมนุษยยักษ
และผูที่อยูในระดับหลอมสุญตาทั้งสอง ทั้งหุบเขาหุนตุนก็เปลี่ยนเปนอีกแหง ไมเพียง
พื้นดินจะเปนรู ทุกแหงลวนมีหลุมขนาดสองสามลี้ ไอหมอกสีเทาที่แตเดิมอยูใน
หุบเขา ก็ถูกไอวิญญาณที่นาตกตะลึงทั้งสามกวาดหายไปจนเกลี้ยง
และยิ ่ ง ไปกว า นั ้ น เป น เพราะทั ้ ง สามกวนไอวิ ญ ญาณฟ า ดิ น อากาศรอบๆ
จึงบัดเดี๋ยวมีเมฆครึ้ม มีฝนฟาคะนอง บัดเดี๋ยวสดใส แสงแดดเจิดจา บัดเดี๋ยวมีลมพายุ
ปนหิมะ พายุดุจใบมีดพัดวน บัดเดี๋ยวมีลูกเห็บเต็มทองฟา โคลนหินโปรยปรายดุจฝน
นอกจากสตรีผูสวมชุดชาววังและเหลาผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงที่สามารถ
มองดูสงครามจากที่ไกลๆ ไดแลว คนที่เหลือก็ถอยออกจากหุบเขาหุนตุน เพราะกลัว
วาจะถูกดึงเขาไป แลวเอาชีวิตนอยๆ ไปสังเวย
ดูแลวมนุษยยักษตาเดียวนั้นโหดเหี้ยมเปนอยางมาก การโจมตีอยางกระบองหิน
และอื่นๆ ก็โถมเขามาอยางไมหยุดพัก แตหานลี่กลับดูออกวาคุณชายหวงเหลียงหลิง
และพวกทั้งสองตั้งใจสูตอไป ถึงแมวามนุษยยักษผูนี้จะมีไ อวิ ญญาณฟ าดิ น คอย
ทดแทนพละกำลัง ครานี้ก็ยังคงไมถึงจุดสูงสุด ไมวากระบองหินที่ปดปายหรือวา
หินยักษที่พุงออกมา ความเร็วก็ไมเหมือนตอนแรก คงจะตองพายแพในไมชาก็เร็ว
ดั ง คาด ชายหนุ  ม แซ ห วนใช ก รงเล็ บ ที ่ แ หลมคมของครึ ่ ง ป ศ าจ ถื อโอกาสที่
มนุษยยักษถูกคุณชายหวงเหลียงหลิงโจมตีลอเอาไว สับลงมาที่ขอเทาของมนุษยยักษ
อีกครั้ง ถึงแมวามนุษยยักษจะเจ็บปวดจนตองรองคำรามออกมา แตบาดแผลกลับมี
ลำแสงสีเขียวมรกตปรากฏขึ้น รางกายพลันงอกออกมาใหม
ชั่วขณะนั้นคุณชายหวงเหลียงหลิงรวมทั้งหวนเทียนชี่ตางก็ดวงตาเปลงประกาย
รูวาในที่สุดสงครามครั้งนี้ก็มาถึงจุดจบแลว
ตอนที่ 1309 การชวงชิงโลหิตเทวา
ทารกวิญญาณของคุณชายหวงเหลียงหลิงเปลงแสงสีเหลืองสวางวาบ กระบี่เลมเล็ก
สีเขียวในมือบินออกไปโดยอัตโนมัติ
ลำแสงสีเขียวเปลงแสงสวางวาบ กระบี่เลมเล็กกลายเปนอสูรวิญญาณประหลาด
ที่มีหัวเปนอินทรีตัวเปนมา มีปกขนนกสีเขียวงอกออกมา อาปากออกแลวกระโจนไป
หามนุษยยักษอยางโหดเหี้ยม จากนั้นเขาพลันชี้ไปยังตราประทับสีขาวที่หมุนติ้วๆ
อยูกลางอากาศอยางเครงขรึม
หลังจากที่ตราประทับทำการโจมตีแลว ก็สั่นคลอนแตไมไดรอนลงมา กลับหมุนควาง
อยางรวดเร็วไมหยุด กลายเปนเงาลวงตาสีขาวโพลนกลุมหนึ่ง
ชั ่ ว ขณะนั ้ น กลางอากาศใกล ๆ พลั น มี ห มอกลำแสงหลากสี ส ั น เป น เส น ๆ
จำนวนนั บ ไม ถ  ว นปรากฏขึ ้ น พุ  ง ไปรวมกั น กั บ ตราประทั บ ทำให ร ู ป ร า งของมั น
ขยายใหญขึ้นอยางรวดเร็ว แทบจะในชั่วอึดใจ ตราประทับที่ใหญกวาเดิมสองสามเทา
หอหุมทองฟากวาครึ่งเอาไว ทาทางนาตกตะลึง
ลำแสงหลีกหนีของหวนเทียนฉีหมนแสงลง รางกายหยุดลงหางจากมนุษยยักษไป
ยี ่ ส ิ บ สามสิ บ จั้ ง จากนั ้ นพลั นชู แ ขนทั้ ง สองข างขึ ้น ในเวลาเดี ย วกั น ลำแสงไฟฟา
สีเทาสองกลุมพลันปรากฏขึ้น จากนั้นก็ผนึกรวมกันจนเกิดเสียงฟาคำรามขึ้น
มีดยักษสีเทาขนาดยาวสองสามจั้งสายหนึ่งพลันปรากฏขึ้น!
ถึงแมจะดูเหมือนมีความสามารถเชนเดียวกัน แตอานุภาพของมีดเลมนี้ก็เห็นได
ชัดวาเทียบกับมีดยาวกอนหนาไมได
รูมานตาของครึ่งปศาจหวนเทียนฉีจองเขม็งไปยังมนุษยยักษดวยความเย็นชาแวบหนึ่ง
ฉับพลันนั้นพลันชูมือขึ้นกวักเรียกแมลงเมายักษที่ลอยนิ่งอยูกลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นแมลงเมานี้พลันสยายปกทั้งสองขางออกมา กลายเปนลำแสงหลากสี
สายหนึ่งพุงลงไป สุดทายก็จมหายเขาไปในมีดยักษ
จากนั้นมีดยักษก็เปลงลำแสงเย็นยะเยือกออกมา สองแขนของเขาถือมีดเอาไว
พลางสับลงไปตรงเอวของมนุษยยักษอยางแชมชา เสนไหมบางๆ สีสันสดใสสายหนึ่ง
เปลงแสงสวางวาบแลวสับออกไปอยางตอเนื่อง ถึงแมวามนุษยยักษจะมีสติปญญา
ไมสูงนัก แตภายใตการโจมตีของคุณชายหวงเหลียงหลิงและพวกทั้งสองคน ก็รับรูได
ถึงความอันตราย
มันเงยหนาขึ้นรองคำรามเสียงดังยาวๆ กับทองฟา ดวงตาขางเดียวเปลงลำแสง
สีขาวสวางวาบ ลูกบอลกลมๆ สีขาวแวววาวลูกหนึ่งพลันพุงออกมา กลายเปนลำแสง
สีขาวกลุมหนึ่ง ตานทานอสูรประหลาดหัวเปน อินทรีตั วเป นมาที่ กระโจนเข า มา
อยางพอดิบพอดี
จากนั้นลำแสงสีโลหิตพลันปรากฏขึ้น ลำแสงระยิบระยับที่ดูเสมือนจริงพลันพุง
ออกมาจากรูมานตา พัวพันเขากับเสนไหมบางๆ สีสันหลากสีที่สับเปนแนวขวางลง
อยางพอดิบพอดี
ฉากที่นาตกตะลึงพลันปรากฏขึ้น!
หลังจากที่สัมผัสกับเสนไหมสองเสนที่ไขวกันเปนรูปกากบาทแลว ลำแสงหลากสีสันที่
พัวพันเขาดวยกันพลันเปลงแสงสวางวาบ แตตั้งแตตนจนจบขั้นตอนทั้งหมดล วน
เกิดขึ้นอยางเงียบเชียบ ครานั้นตางฝายตางไมยอมออนขอใหกัน
เผชิญหนากับตราประทับสีขาวที่อยูเหนือศีรษะ รางของมนุษยยักษพลันหมุนควาง
หลังจากที่กระบองหินสรางภาพลวงตาเหมือนกับภูเขาขนาดยอมออกมา ก็พาพายุ
โหมกระหน่ำมาดวย พุงตรงไปหาคุณชายหวงเหลียงหลิงที่โถมตัวเขามา
จากนั้นสองแขนของมันพลันกำหมัด เสนโลหิตขนาดๆ ราวกับไสเดือนปูดออกมา
บนผิวหนัง โจมตีไปยังตราประทับที่อยูกลางอากาศอยางแรง
มั นอาศั ย แค พ ลั ง เทวา กำป  นเปลื อยเปล า โจมตีไ ปยั ง ตราประทั บ ที ่ ตกลงมา
เหนือหัวศีรษะ
เสียงดังสนั่นราวกับพื้นดินแยกแตกออกจากดังขึ้น ภายใตการสั่นคลอนของตรา
ประทับพลันเปลงลำแสงราวกับแสงอาทิตยออกมา ทำใหหานลี่ที่จับจองทุกอยางอยู
บนทองฟา อดที่จะหรี่ตาทั้งสองลงไมได แลวหลับตาลง
ทันใดนั้นพลันสัมผัสไดถึงไอคลื่นที่ปะทุขึ้นไปบนทองฟามวนเขามา หลังจากที่
ไอวิญญาณรอบๆ สาดซัดมา รางของหานลี่พลันพลิ้วไหว ถูกมวนเขาไปขางใน
หานลี่พลันรูสึกตกตะลึง โคจรลมปราณในรางอยางไมตองขบคิด รางกายนิ่งคาง
ไมขยับเขยื้อน
เมื่อเขาเบิกตาทั้งสองขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่มองไปดานลาง คนกลับตะลึงงัน
เปนเพราะเห็นเพียงดานลางมีเมฆสีเหลืองกลุมหนึ่งปรากฏออกมาตอนไหนก็ไมรู
ปกคลุมการตอสูของทั้งสามฝายเอาไวขางใน
หานลี่ลังเลเล็กนอย แลวแผจิตสัมผัสออกไปอยางเชื่องชา แทรกเขาไปในหมูเมฆ
ดานในมีเสียงคำรามดวยความโกรธเกรี้ยวของมนุษยยักษตาเดียวดังออกมา
และมีเสียงหัวเราะอยางบาคลั่งของปศาจผูบำเพ็ญเพียรแซหวน บางครั้งก็ผสมไปดวย
เสียงระเบิดเปนระลอกๆ เมฆสีเหลืองพลันหมุนวนไมแนนอน มีเสียงคำรามยาวๆ
แทรกขึ้นแววๆ
ตั้งแตตนจนจบคุณชายหวงเหลียงหลิงผูนั้นไมไดเปลงเสียงใดๆ ออกมา ไมรูวาอยู
ในชวงสำคัญของการสำแดงความสามารถ จนไมอาจแยกจิตได หรือวามีไผในอก[1]
ดูแคลนจนไมอยากกลาวอะไรอีก
หานลี ่ พ ลั น ใจเต น มองไปทางเงาดำๆ ที ่ ซ  อ นตั ว อยู  ต รงนั ้ น ผลคื อ ทำให
หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
เงาสีดำ ที่ดูเหมือนจะเปนซวี่เทียน คาดไมถึงวาจะหายไปตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู
หานลี่แววตาเปลงประกายสวางวาบ เหลือบมองไปยังเมฆสีเหลืองที่ดำคล้ำแวบหนึ่ง
ใบหนาเผยสีหนามีแผนการออกมา
เสียงรองอันนาอนาถผานกอนเมฆพลันเปลงออกมาจากเมฆสีเหลือง จากนั้น
เสียง “ตุบ” พลันดังขึ้น อะไรสักอยางหนักๆ ตกลงสูพื้น ทำใหพื้นดินสั่นคลอนไป
สองสามครั้ง
จากนั้นเสียงทุกอยางดานในพลันหยุดชะงักลง!
แววตาของหานลี่ฉายแววประหลาดใจ สองมือพลันรายอาคม รางทั้งรางตกลงสู
พื้นดานลางอยางเงียบเชียบ
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ฉับพลันนั้นในหมูเมฆสีเหลืองพลันมีเสียงหัวเราะดวย
ความพึงพอใจของหวนเทียนฉีดังขึ้น
“โชคดีที่เจาบื้อนี้มีสติปญญาไมสูงนัก มิเชนนั้นพวกเราคงไมอาจจัดการมันได
อยางรวดเร็วเชนนี้ กบฏเผาวิญญาณคงถูกกินไปแลว ขาจะผารางของมัน ดูวากบฏ
เผาวิญญาณเอาสิ่งใดมากันแน คาดไมถึงวาจะวิ่งมาไกลเปนหมื่นลี้อยางไมเสียดาย
อะไรเชนนี้”
“ออ คงตองรบกวนพี่หวนแลว ผลึกตะวันคลอยกอนนั้นถู กขา กดเอาไว แ ล ว
อีกเดี๋ยวคงมอบใหสหาย” จากนั้นในเมฆพลันมีเสียงของคุณชายหวงเหลียงหลิงดังขึ้น
ในที่สุดเมฆสีเหลืองก็คอยๆ สลายออกไป เผยทุกอยางในหมูเมฆออกมา
เห็นเพียงมนุษยยักษตาเดียวนอนอยูกลางบอเลือดสีเขียว เนื้อตัวเต็มไปด วย
รองรอยบาดแผล แขนขางหนึ่งและขาขางหนึ่งตกลงขางรางกาย ดูเหมือนวาจะถูก
อะไรตัดฉับออกไป
หัวของมนุษยยักษแหลกละเอียด เหลือเพียงครึ่งเดียวเทานั้น
ทรวงอกของมนุษ ยม ีรู ข นาดสองสามจั ้ง ปรากฏขึ ้ นรู หนึ่ ง ดานในไหม เกรี ย ม
ราวกับวาถูกสมบัติอาทิตยอะไรสักอยาง โจมตีจนหัวใจหายไป
เดาวาการโจมตีนี้ ถึงไดเปนการโจมตีที่คราชีวิตของมนุษยไป
หวนเทียนฉีปลดรางครึ่งปศาจออกไปแลว ฟนฟูกลับมาเปนมนุษยเหมือนเดิม
นอกจากนี้หนาตายังซีดขาวเล็กนอย และไมไดมีทาทีไดรับบาดเจ็บใดๆ
เขาในครานี้กำลังออกคำสั่งใหกระบี่บินสีขาวสับลงไปตรงทรวงอกขนาดมหึมา
ของมนุษยยักษ
สวนอีกดานของซากศพ คุณชายหวงเหลียงหลิงกำลังใชมือหนึ่งควงลูกบอลผลึกสีขาว
ลูกหนึ่งเลนอยู ใบหนาประดับไปดวยรอยยิ้มจางๆ
ลูกบอลผลึกนั่นคือผลึกตะวั นคล อยที่ ขนาดไมเล็ก ก อนหนา แตแคครานี ้ ถู ก
คุณชายหวงเหลียงหลิงใชเคล็ดวิชาอะไรสักอยาง เปลี่ยนใหมีขนาดเล็กจิ๋ว
“ตอนนั้นพวกเราก็เคยสังหารมนุษยยักษสองหนาตัวหนึ่งในดินแดนปาเถื่อน
ตัวนั้นดูเหมือนวาจะจัดการไดยากกวาตอนนี้เปนอยางมาก จะวาไปแลวมนุษยยักษ
โบราณชนิดนี้ อยาไปยั่วโมโหมันจะดีกวา พวกมันไมเหมือนกับอสูรโบราณรวมทั้ง
อสูรวิญญาณฟาดินชนิดอื่น แคมีรางกายใหญโต แตกลับไมอาจใชประโยชนอะไรได
เสียแรงตั้งมากมายสังหารมัน ก็มีแตตองเสียแรงเปลาเทานั้น”
หวนเทียนฉีถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ควบคุมมีดบินอยางใจลอยไปพลาง
เอยปากพูดไปพลาง
“นั่นมันแนนอนอยูแลว ในยุทธภพปาเถื่อน ภายใตสถานการณปกติแลว พวกเรา
จะเห็นมนุษยยักษเหลานี้จากที่ไกลๆ เทานั้น ทวาจะบอกวารางของมนุษยยักษไมมี
ประโยชนอะไรเลย มันก็ไมแน จำราชันยหมาปาเทียนขุยหนึ่งในเจ็ดราชันยปศาจได
หรือไม เขาเคยสังหารมนุษยยักษเจ็ดหัวตนหนึ่ง ผลคือเจอพุทธเกษตรหมื่นแสงทอง
มากอนหนึ่ง แลวถึงไดมีโอกาสนำมาหลอมเปนหอคอยปศาจหมื่นแสงทอง กลายเปน
สัญลักษณเผาหมาปา” คุณชายหวงเหลียงหลิงกลับสั่นศีรษะ
“นั่นมันก็ใช มนุษยยักษโบราณชอบกินทุกอยาง หากมีวาสนา บางครั้งในรางของ
มันก็อาจจะมีของดีๆ ก็ได ทวาอัตรานี้มันก็นอยไปหนอยกระมัง ผูใดจะยอมสูกับ
มนุ ษ ย ย ั ก ษ ค นหนึ ่ ง ในแดนป า เถื ่ อน เพี ย งเพื ่ อประโยชน อั น น อยนิ ด โดยเฉพาะ
ปกติแลวมนุษยยักษโบราณชอบอยูรวมกันเปนฝูง หรือวาเจาหรือไปแลววาหลังจาก
ที ่ ส ั ง หารมนุ ษ ย ย ั ก ษ ส องหน า ไปแล ว พวกเราถู ก มนุ ษ ย ย ั ก ษ อี ก สามตั ว ไล ล  าจน
สุดหลาฟาเขียว” หวนเทียนฉีไดยินแลว ก็อดที่จะหัวเราะอยางขมขื่นออกมาไมได
คุณชายหวงเหลียงหลิงยอนนึกไปถึงเรื่องในอดีตแลวก็อดที่จะหัวเราะแหงๆ
ออกมาไมได แลวไมไดกลาวอะไรตอ
เสียงฟวดังขึ้น มีดบินของหวนเทียนฉีสับลงไปตามตำแหนงตางๆ ของมนุษยยักษ
ชั่วขณะนั้นตรงใจกลางพลั นมี ของหลนลงมา ของอื่นๆ ลวนเปนสีดำสนิทไร แ สง
มี เ พี ย งชามหยกสี ฟ าอ อนและขวดเล็ ก ๆ สี แ ดงสดขวดหนึ ่ง ที ่ย ั ง คงเปล ง แสงเปน
ประกายอยูตรงนั้น
ชามหยกมีลำแสงสีฟาปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง หอหุมขวดนอยๆ เอาไวดานในอยาง
พอดิบพอดี
“นาจะอันนี้แหละ”
หวนเทียนฉีกวาดสายตาไป หลังจากผานไปชั่วครูก็จำไดวาชามหยกสีฟานั่นคือ
รางเดิมของเผาสมบัติวิญญาณ แตบนชามหยกใบนั้นไรซึ่งพลังชีวิตไปแลว เห็นไดชัด
วาเผาวิญญาณผูนั้นเพลี่ยงพล้ำไปแลว
ถึงแมวาตัวจะเพลี่ยงพล้ำไป แตก็ยังปกปองของสิ่งนั้นเอาไว แปดในสิบสวนคง
เปนของที่พวกเขาตามหา
เมื่อหวนเทียนฉีควาขวดเล็กๆ นั้นมาดวยสีหนายินดี คุณชายหวงเหลียงหลิงที่อยูไกล
ออกไปก็หนาเปลี่ยนสีพลางตะโกนวา
“ระวัง!”
หวนเทียนฉีอยูในระดับใด แทบจะในเวลาเดียวกันที่คุณชายหวงเหลีย งหลิ ง
รองเตือน จิตสัมผัสก็สัมผัสไดถึงลำแสงเย็นเยียบที่กำลังอำพรางตัวและลอบโจมตีมา
จากดานหลัง
ภายใตความตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวของเขา จึงใชเทาหนึ่งกระทืบลงไปบนพื้น
อยางไมตองขบคิด รางทั้งรางดีดตัวพุงขึ้นไปกลางอากาศราวกับคันธนู
ลำแสงสีโลหิตสายหนึ่งแทบจะแฉลบผานสองเทาของเขาไปกลายเปนลำแสง
สวางวาบ จากนั้นเงารางคนขนาดสองสามฉื่อก็เปลงแสงสวางวาบปรากฏขึ้นใกลๆ
รางกายพลิ้วไหว ควาขวดเล็กๆ ขวดนั้นเอาไว
“บังอาจ!” คุณชายหวงเหลียงหลิงตะโกนออกมาดวยความโกรธเกรี้ยว นิ้วทั้งสิบ
รายไปทางเงารางคนผูนั้นอยางรวดเร็ว เสียงแหวกอากาศดังขึ้น ไอกระบี่สีเหลือง
สิบกวาสายพลันมวนวนพุงออกไป แตเห็นไดชัดวาสายไปแลวกาวหนึ่ง
หลังจากที่เงารางคนเปลงเสียงหัวเราะดวยความลำพองใจออกมา ก็ดูดขวดเล็ก
ขวดนั้นเขามาในมือ จากนั้นรางกายพลันพลิ้วไหว กลายเปนเมฆโลหิตกลุมหนึ่งพุงหนี
ขึ้นไปบนทองฟา
“ซวี่เทียน ที่แทก็เจานี่เอง? เจาจะไปไหน” หวนเทียนฉีที่ถูกสับลงมาตรงชวงเอว
หมุนวนกลางอากาศต่ำๆ มองเห็นคนที่ลอบโจมตีตนเองอยางชัดเจนพอดี ทันใดนั้น
พลันรูสึกโกรธเกรี้ยวขึ้นมา
กระตุนจิตสัมผัส เมฆโลหิตกลางอากาศพลันปรากฏระลอกคลื่น แมลงเมายักษ
ขนาดสองสามจั้งตัวหนึ่งปรากฏขึ้น
ดวงตาปศาจสีเขียวมรกตเปลงประกาย กระพือปกทั้งสองขางไปทางดานลางโดย
ไมปริปากใดๆ
หมอกเจ็ดสีกลุมหนึ่งพลันหอหุมเมฆโลหิตเอาไว
เมฆโลหิตเคารพยำเกรงหมอกสีสันสดใสเปนอยางมาก มันหยุดชะงักไมกลารับตรงๆ
คิดจะออมหนีไปอีกทาง
แตลังเลอยูเล็กนอย ภายใตการกระตุนของคุณชายหวงเหลียงหลิง ไอกระบี่สีเหลือง
สิบกวาสายก็พุงมาอยูเบื้องหนาอยางดุดัน สวนเขาเองพลันกลายเปนสายรุงสีเหลือง
สายหนึ่งพุงเขามา
ซวี่เทียนที่อยูในเมฆโลหิต อดที่จะใจหายวาบขึ้นมาไมได
ในตอนนั้นเอง ฉับพลันนั้นขางหูของเขาก็มีเสียงคุนเคยดังขึ้น
“อรหันตซวี่เทียน เอาโลหิตเทวามาใหขา ขาจะใชเคล็ดวิชาอำพรางชิงสมบัติชิ้นนี้
ไปกอน” เมื่อไดยินเสียง ซวี่เทียนพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็ดีอกดีใจขึ้นมา
ผูที่ซอนตัวอยูอีกดาน คือชื่อเหยียนดังคาด
ถึงแมวากอนหนานี้จะเปนเพราะซวี่เทียนมีพรสวรรคบางอยาง จึงทำใหมองเห็น
รองรอยของเผาเดียวกันเล็กๆ แตก็ไดแตพึมพำในใจ ไมกลามั่นใจอะไร
ตอนนี้ไดยินเสียงที่คุนเคย วิญญาณทมิฬผูนี้จึงไมลังเลอีก
มือหนึ่งสะบัดไปทางไอกระบี่ อีกมือหนึ่งมีลำแสงวิญญาณปรากฏขึ้น ขวดเล็กๆ
ปรากฏขึ้น
เขาสะบัดขอมือ ขวดเล็กสีโลหิตพุงไปกลางอากาศตรงที่เสียงนั้นดังมา

[1] มีไผในอก หมายถึง เตรียมพรอมในใจมาอยูแลว จึงมีจิตใจสงบเยือกเย็น


ตอนที่ 1310 สงครามระดับหลอมสุญตาขั้นตน
เห็นเพียงเมฆโลหิตหมุนวน ชั่วพริบตาก็รวมตัวกันกลายเปนดอกบัวโลหิตดอกหนึ่ง
ขณะที่หมุนควางก็ดูดเอากระบี่ลำแสงสิบกวาสายเขาไป
สวนขวดเล็กนั้นเมื่อพุงออกมาไดสิบกวาจั้ง ก็เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไป
จากกลางอากาศ
ฉากนี้ทำใหหวนเทียนฉีที่พุงมาพลันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็อาปากออกดวย
ความโกรธแคน พนพายุปศาจสีเทาตุนๆ ออกมา ขณะที่ฝุนทรายกำลังปลิววอน
ก็มวนไปทางจุดที่หานลี่อำพรางกายซอนอยู
ถึงแมวาปศาจตนนี้จะไมอาจมองเห็นเงารางของหานลี่ แตจากประสบการณใน
การตอสูนั้น แคมองปราดเดียวก็รูวามีคนสำแดงเคล็ดวิชาอำพรางตัวหลบอยูดานขาง
แลวถึงไดเก็บขวดเล็กขวดนั้นไป
หานลี่เห็นวายุอันบาคลั่งโจมตีมา พลันหนาเปลี่ยนสี
ในสถานการณที่เขาอำพรางกายอยูนั้น ก็ไมอาจหลบหนีอาณาเขตของวายุพนได
เมื่อถูกพายุปศาจมวนเขาไปขางใน ความสามารถของยันตหายตัวก็ถูกทำลายไป
ในทันที
ชั่วพริบตา ซวี่เทียนที่อยูดานขางกลับมีสีหนาเครงขรึม มือหนึ่งรายอาคมชี้ไปทาง
วายุปศาจดวยสีหนาเครงขรึม
เสียง “สวบ” ดังขึ้น เสียง กระบี่ลำแสงสีโลหิตสายหนึ่งพุงออกมาจากฝามือ
ของซวี่เทียนราวกับพุงมาจากสวรรค เปลงแสงสวางวาบ คาดไมถึงวาจะฟนเขาที่ตรง
ของวายุปศาจ และสับลงมาที่หวนเทียนฉี
หวนเทียนฉีพลันตกตะลึง มือหนึ่งตะปบออกไปกลางอากาศอยางรีบรอน
กรงเล็บปศาจสีเทากรงเล็บหนึ่งปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ จากนั้นพลันตะปบไปที่
ลำแสงโลหิต ลำแสงสีเทาแดงสองสีพัวพันเขาดวยกัน คาดไมถึงวาครานั้นตางฝายตาง
ก็ไมยอมออนขอใหกัน
หานลี่เห็นแลวพลันรูสึกดีอกดีใจ ทันใดนั้นพลันพุงขึ้นไปบนบนฟา ภายใตการ
อำพรางกาย แตในตอนนั้นเอง ฉับพลันนั้นหานลี่พลันไดยินเสียงแคนเสียงดวยความ
เย็นชาดังออกมาจากดานหลัง
“จะหนีไปไหน!”
จากนั้น เขาพลันสัมผัสไดวากลางอากาศมีลำแสงสีเหลืองสวางวาบ ตราประทับ
หยกสีขาวอันหนึ่งปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ พลิ้วไหวเล็กนอยแลวขยายใหญจนมีขนาด
สิบจั้งเศษ พอทุบลงมา ก็หอหุมรางของหานลี่เอาไวอยางพอดิบพอดี
การโจมตีนี้รวดเร็วดุจสายฟา แมแตซวี่เทียนเองก็ลงมือชวยไมทัน ปากจึงรอน
อุทานดวยเสียงต่ำๆ ออกมา หานลี่ที่เคยเห็นอานุภาพของตราประทับหยกมาแลววา
แม แ ต ก ระบองหิ น ที ่ ม ี ข นาดเล็ ก กว า มนุ ษ ย ย ั ก ษ ต าเดี ย วครึ ่ ง หนึ ่ ง ยั ง ไม อาจรั บ
อานุภาพไหว ตนเองจะไปรับการโจมตีอยางงายๆ ไดอยางไร
เขาหนาเปลี่ยนสีไปสองสามครั้ง ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
เห็นเพียงดานลางของตราประทับหยกที่แตเดิมดูเหมือนวาจะไรผูคน มีลำแสงสีเงิน
สวางวาบ เผยเงารางของหานลี่ออกมา
เขาตบไปที่สวนบนของหัวกะโหลกตนเอง ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งที่หอหุมเตาใบเล็กๆ
เอาไวพลันปรากฏขึ้น จากนั้นฝาเตาพลันเปดออก เสียงไพเราะดังออกมาจากในเตา
จากนั้นเสนไหมสีเขียวจำนวนนับไมถวนก็พุงออกมา เกี่ยวกระหวัดกันจนเกิดเปน
แสงระยิบรับ ชั่วพริบตาก็กลายเปนตาขายลำแสงผืนหนึ่ง โผเขาไปหาตราประทับที่
ลดระดับลงมาอยูเหนือศีรษะอยางพอดิบพอดี
เสียงระเบิด “ปงๆ” ดังขึ้น ตราประทับหยกนั้นไมธรรมดาดังคาด เมื่อสัมผัสกับ
ตาขายสีเขียวก็แหลกออกเปนเสี่ยงๆ ทวาถึงอยางไรเสียเตานภาสูญก็เปนสมบัติ
สะท า นฟ า พ นเส นไหมลำแสงออกมา ยั ง คงทำให ต ราประทั บ ที ่ ล ดระดั บ ลงมา
หยุดชะงัก
ถือโอกาสนี้ หานลี่พลันใชสองมือรายคาถา ดานหลังพลันมีเสียงฟาผาดังขึ้น
ปกขนนกสีเขียวขาวพลันปรากฏขึ้น จากนั้นรางกายพลันบิดเบี้ยว กลายเปนเสนไหม
สีขาวสายหนึ่ง หายไปพรอมกับเตาเล็กๆ เหนือศีรษะ
เมื่อตราประทับทุบตาขายสีเขียวจนแหลก แนนอนวาจึงรอนลงมาจากอากาศ
ครานี้ประจุไฟฟาสีเขียวพลันเปลงแสงสวางวาบโดยหางออกไปสามสิบจั้งเศษ
รางของหานลี่พลันเผยออกมาอยางเงียบเชียบ
“เจาควบคุมสมบัติเหลานี้ไดอยางไร เจาไมใชชื่อเหยียน!”
ฉับพลันนั้นกลางเมฆโลหิตพลันมีเสียงไมยากจะเชื่อของซวี่เทียนดังขึ้น ทันใดนั้น
เมฆโลหิตพลันหมุนวน เงารางคนสูงสองสามชุนพลันปรากฏขึ้นบนเมฆ มองมาทาง
หานลี่ดวยสีหนาที่เต็มไปดวยความตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว นั่นก็คือ วิญญาณ
ทมิฬซวี่เทียน
“เจาไมใชคนของเผาวิญญาณ ผูบำเพ็ญเพียรเผามนุษย!” ดานหลังของหานลี่
พลั น มี ล ำแสงเปล ง ประกายสว า งวาบ เงาร า งของคุ ณ ชายหวงเหลี ย งหลิ ง พลั น
ปรากฏออกมา สีหนาเต็มไปดวยความตกตะลึง
หวนเทียนฉีถือโอกาสควบคุมกรงเล็บปศาจ ตะปบไปยังกระบี่ลำแสงสีโลหิต
ในเวลาเดีย วกั นตนเองพลั นเปล ง แสงสวา งวาบสองสามครั้ ง ปรากฏขึ้น ด านข า ง
คุณชายหวงเหลียงหลิง พลางพิจารณาหานลีด่ วยความตกตะลึงระคนสงสัยเชนกัน
ระดับหลอมสุญตาทั้งสามคนที่อยูตรงขามตางพากันตกตะลึง หานลี่กลับไมคิดจะพูด
ใหมากความ แคใชสองมือรายอาคมแลวอาปากออก พนโลหิตสดๆ ออกมานอกราง
ชั่วครูหมอกโลหิตหนาๆ พลันกลืนกินรางเขาเขาไป
“คิดจะหนี!” ซวี่เทียนเห็นฉากนี้ มองปราดเดียวก็รูวานี้คือเคล็ดวิชาหลีกหนีขั้นสูง
จึงเอยขึ้นดวยความโกรธเกรี้ยว
จากนั้นเมฆโลหิตดานลางพลันเคลื่อนไหว หมายจะกระโจนเขามา
“เหอะ เหตุใดสหายซวี่เทียนตองรอนใจขนาดนั้น ผูแซหวนแคอยากแลกเปลี่ยน
กับดอกบัวโลหิตของเขาอีกสักหนอยเทานั้น พี่หวงเหลียงในเมื่อเปนผูบำเพ็ญเพียร
เผามนุษย เชนนั้นผูนั้นก็มอบใหเจา” ชั่วพริบตาหวนเทียนฉีที่กลายเปนครึ่งปศาจ
พลันรางกายพลิ้วไหว กลายเปนลำแสงสายหนึ่งกระโจนเขาไปหาซวี่เทียน ในเวลา
เดียวกันปากก็เปลงเสียงเครงขรึมออกมา
“วางใจ แคผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงคนหนึ่ง ตอใหมีสมบัติวิญญาณชิ้นหนึ่ง
ก็ไมมีทางหนีรอดเงื้อมมือของขาได” คุณชายหวงเหลียงหลิงจองเขม็งไปยังหานลี่ดวย
ดวงตาที่ไมกะพริบ พลางเอยอยางราบเรียบ
คิดไมถึงวาเขามองปราดเดียวก็รูวาเตานภาสูญของหานลี่คือ สมบัติวิญญาณ
คุณชายหวงเหลียงหลิงเปลงคำพูดออกมา อาปากออก พนกระบี่เลมเล็กสีเขียว
สายหนึ ่ ง ออกมาราวกั บ มั ง กรอสรพิ ษ แค พ ลิ ้ ว ไหว ก็ ม าถึ ง กลางอากาศเหนื อ
หมอกโลหิต แลวสับลงมาอยางไมปรานี
“เครง” เสียงดังขึ้น ลำแสงสีทองสายหนึ่งพุงออกมาจากหมอกโลหิตเชนกัน
ถึงแมวาจะถูกสับออก แตก็โจมตีไปยังสายรุงสีเขียวที่ตานทานไว
เผยกระบี่บินสีทองความยาวสองสามฉื่อออกมา
คุณชายหวงเหลียงหลิงพลันหัวเราะอยางเย็นชาออกมา มือหนึ่งชี้ไปยังสายรุงสีเขียว
สายรุงสีเขียวกระโจนลงมา พัวพันกับไอกระบี่สีทองทันที ลำแสงเปลงประกาย
เจิดจาบดบังลำแสงสีทองจนหมนแสงลง จากนั้นสายรุงสีเขียวพลันหมุนควางอยู
กลางอากาศ กลายเปนกรงลอกระบี่สีเขียวขนาดสองสามจั้ง หมุนวนอยางรวดเร็ว
หมายจะสับกระบี่บินที่อยูตรงกลางใหเปนชิ้นๆ
เสียงเสียดสีของธาตุทองที่แสบแกวหูดังขึ้น กระบี่บินสีทองหมนแสงลงจนแทบจะ
เหลือเพียงเสนไหมเล็กๆ แตภายใตกรงลอกระบี่ที่สับลงมาอยางบาคลั่ง ก็ปลอดภัย
ไรความเสียหายอยางคาดไมถึง
กลับเปนกระบี่บินเลมนี้ที่ถูกสายรุงสีเขียวพัวพัน และทำใหมันไมอาจลดระดับลงได
เสียงรองอุทานวา “เอ” ของคุณชายหวงเหลียงหลิ งดัง ขึ้ น หนาเปลี่ยนสี ไ ป
เล็กนอย
ถึงแมวากระบี่บินเลมนี้ของเขาจะไมไดหลอมมาจากวัตถุดิบอัศจรรยอะไร แตก็
เปนสิ่งเขาทุมเทเวลาตอนที่บรรลุระดับขั้นตนหลอมขึ้น และยิ่งไปกวานั้นเมื่อผานการ
ฝกฝนมาหลายพันป อานุภาพของมันก็ไมไดดอยไปกวาสมบัติวิญญาณธรรมดาๆ แลว
แตครานี้กลับไมอาจสับกระบี่บินของผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงคนหนึ่งใหหักได
ชางนาเหลือเชื่อจริงๆ
คุณชายหวงเหลียงหลิงพลันตกตะลึง แตใบหนาก็ยังคงไรความรูสึก สองมือ
พลั นร า ยคาถาอย า งรวดเร็ ว สายรุ  ง สี เ ขี ย วสายนั ้ น เปล ง เสี ย งร องอั น ไพเราะขึ้ น
สรางภาพลวงตาของลำแสงสีเขียวออกมาเปนสามสิบหกสาย พุงลงมาหาหมอกโลหิต
ทาทางเหมือนตองการสับหานลี่เปนชิ้นๆ
แตสิ่งที่คุณชายหวงเหลียงหลิงคิดไมถึงก็คือ หานลี่ที่อยูทามกลางหมอกโลหิต
แค ย ั ก ไหล แผ นหลั ง ก็ ม ี ก ระบี ่ ส ี ท องเล ม เล็ ก ยี ่ ส ิ บ กว า เล ม ปรากฏขึ ้ น กลายเป น
กระบี่ลำแสงสีทองเปนสายๆ ตานทานลำแสงสีเขียวเหลานั้นเอาไว ทำใหพวกมัน
ไมอาจรอนลงมาได
ครานี้หมอกโลหิตพลันหมุนวนอยางบาคลั่ง หานลี่พลันบริกรรมคาถา นิ้วทั้งสิบ
รายคาถาไปมาไมหยุด ทาทางเหมือนกำลังจะสำแดงความสามารถเสร็จแลว
คุณชายหวงเหลียงหลิงเห็นฉากนั้น พลันมีสีหนาตกตะลึงยิ่งกวาเดิม แตทันใดนั้น
แววตาพลันเปลงประกายเย็นเยียบ รางกายเปลงลำแสงสีเหลืองออกมา รางทั้งราง
หายวับไป
หานลี่สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง ฉับพลันนั้นหวางคิ้วพลันมีรอยโลหิตสายหนึ่ง
เปลงแสงสวางวาบ ดวงตาสีดำสนิทขางหนึ่งปรากฏขึ้น พนเสาลำแสงสีดำบางๆ
สายหนึ่งออกมา เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไป
กลางอากาศหางออกไปสิบจั้งเศษมีเสียงดังสนั่นขึ้น หลังจากที่ลำแสงสีเหลืองและ
ลำแสงสีดำเปลงแสงเจิดจาแลว เงารางของคุณชายหวงเหลียงหลิงก็เปลงแสงสวาง
วาบและปรากฏขึ้น ยิ่งไปกวานั้นยังรองอุทานออกมาดวยเสียงแหบแหงในทันใดวา
“เนตรดับสูญ! คาดไมถึงวาเจาจะมีสมบัติชิ้นนี้!”
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาผูนี้มีสีหนาเครงขรึม แตหลังจากที่ตกตะลึงแลว
ก็ไมโกรธแตกลับรูสึกยินดี
เขาชูมือหนึ่งขึ้น ตะปบไปกลางอากาศอยางชาๆ
เสียงแหวกอากาศดัง “ฟว” ระเบิดออกที่เหนือศีรษะของหานลี่ ใกลๆ กันมีพายุ
ปรากฏขึ้นเสนไหมลำแสงจำนวนนับไมถวนปรากฏขึ้น ชั่วพริบตาก็รวมตัวกั นเปน
กลุมกอน ขวานหยกที่ดูเหมือนหยกแกะสลักความยาวสองสามจั้งปรากฏขึ้น
คุณชายหวงเหลียงหลิงเกร็งนิ้วทั้งหาจนเรียงชิดติดกัน มือหนึ่งโบกสะบัดไป
ดานลาง ปากก็พนคำวา “ฟน” ออกมาเบาๆ
ขวานหยกหาสีพลันสั่นคลอน คอยๆ สับลงมา ยังไมทันไดสัมผัสกับหมอกโลหิต
ตัวมีดดานลางก็เปลงเสียงฟารองที่ทุมต่ำออกมา
ลำแสงไฟฟาสีเขียวเปนกลุมๆ เปลงแสงสวางวาบ ในเวลาเดียวกันอากาศรอบๆ ก็
บิดเบี้ยว เห็นไดชัดวาขวานเลมนี้มีอานุภาพที่นาเหลือเชื่อ!
แนนอนวาหานลี่ที่หลับตาอยูทามกลางหมอกโลหิต ก็มองเห็นฉากนี้ แลวพลัน
หนาเปลี่ยนสี
เขาอาปากออกโดยไมตองคิด พนภูเขาเล็กสีดำมะเมื่อมลูกหนึ่งออกมาจากปาก
พลิ้วไหวเล็กนอย ปลอยวงแหวนลำแสงสีเทาเปนวงๆ ออกมา จะวาไปแลวก็แปลก
ทุกแหงที่วงแหวนลำแสงกวาดผานไปนั้น กระบี่บินสีทองเหลานั้นจะไมมีแรงตานทาน
กระบี่ลำแสงสีเขียว ตางเปลงเสียงรองคำรามออกมา สั่นไหวนอยๆ อยางไมมั่นคง
ราวกับวาอานุภาพลดลงเปนอยางมาก
แตเห็นไดชัดวาขวานหยกขนาดยักษเลมนั้นไมใชสิ่งที่กระบี่ลำแสงสีเขียวเหลานี้
จะเทียบเทียมได หลังจากถูกคลื่นวงแหวนกวาดผานไป ก็แคสั่นไหวเล็กนอยแลวสับวง
แหวนลำแสงสองสามวงที่อยูเบื้องหนาไดอยางงายดาย ไมมีผลกระทบตอการสับลงมา
เลยสักนิด
หานลี่พลันรูสึกรอนรน กระตุนจิตสัมผัส ภูเขาลูกนอยที่อยูด านหลังระเบิ ด
วงแหวนลำแสงออกมาสิบกวาวง แลวพลันรวมตัวเขาดวยกัน กลายเปนวงแหวน
ลำแสงหนาๆ จนไร ท ี ่ เ ปรี ย บ สั ่ น คลอนครั ้ ง หนึ ่ ง แล ว หายวั บ ไป แต ค รู  ต  อ มา
กลับปรากฏตัวใกลๆ กับขวานหยก ลอมรอบขวานหยกเอาไวภายใตสถานการณ
เรงดวน
ตัวขวานหยกเปลงลำแสงหาสีออกมาจนกะพริบระยิบระยับ หยุดชะงักกลาง
อากาศอยางไมทันตั้งตัว คาดไมถึงวาจะดูเหมือนสูญเสียการควบคุมอยางไรอยางนั้น
คุณชายหวงเหลียงหลิงที่อยูไกลออกไปพลันตกตะลึง แตปากก็รองตะโกนออกมา
เบาๆ อยางไมตองคิด สองมือรายคาถาออกมาสองสามคาถาอยางตอเนื่อง
ชั่วขณะนั้นขวานหยกพลันเปลงเสียงฟาคำรามขึ้น ประจุไฟฟาสีเขียวระเบิด
ออกเปนสายๆ หลังจากที่สับลงมาอยางแรง ในที่สุดก็สับวงแหวนลำแสงสีเทาออกเปน
เสี่ยงๆ
แคชวงเวลาที่ลาชานี้ รางของหานลี่ที่อยูในหมอกโลหิตพลันรางเลือน รางทั้งราง
กลายเป น ลำแสงสี โ ลหิ ต สายหนึ ่ ง พุ  ง ออกจากหมอกโลหิ ต สั ่ น คลอนเล็ ก น อ ย
แลวปรากฏตัวหางออกไปสองสามรอยจั้งอยางนาเหลือเชื่อ กลายเปนจุดสีดำ
สวนกระบี่บิ นเหลา นั ้ นและภู เ ขาเล็ กๆ สีดำ ก็สลายหายไปจากกลางอากาศ
เชนกัน
นี่คือ ‘เงาอัสนีหลีกหนี’ เคล็ดวิชาหลีกหนีที่ใชรักษาชีวิตของหานลี่ จากพลังยุทธ
ระดั บ เทพแปลงและกายเนื ้ อ ที ่ แ ข็ ง แกร ง ของเขาในตอนนี ้ เคล็ ด วิ ช านี ้ จ ึ ง ยิ ่ ง มี
ประสิทธิภาพนาเหลือเชื่อมากกวาเดิม หลังจากกะพริบวาบสองสามครั้ง ลำแสง
หลีกหนีก็หายลับไปจากขอบฟาอยางไรรองรอย
ครานี้ไมใชแคคุณชายหวงเหลียงหลิง แมแตซวี่เทียนและหวนเทียนฉีที่กำลังตอ
กันอยูซึ่งอยูไกลออกไปยังอดที่จะตกตะลึงไมได แตทันใดนั้นทั้งสามก็ตะโกนออกมา
และรายอาคมแทบจะในเวลาเดียวกัน กลายเปนสายรุงความยาวสิบกวาจั้งสามสาย
ไลตามไปเปนขบวน
หลังจากที่เปลงประกายสวางวาบสองสามครั้ง ก็หายวับไปที่ปลายฟา ดูจากความเร็ว
ของลำแสงหลีกหนีแลวดูเหมือนวาจะไมไดดอยไปกวาเงาหลีกหนีโลหิตเทาใดนัก
ตอนที่ 1311 อานุภาพของการกลืนวิญญาณ
จากความเร็วของเงาโลหิต ชั่วอึดใจหานลี่ก็มาถึงปากทางเขาหุบเขาแลว
จากพลังยุทธของเขาในครานี้ แตเดิมเปนเพราะเคล็ดวิชาหลีกหนีก็มีอานุภาพ
นาอัศจรรยแลว ตอนที่อยูในระดับหลอมรวมและระดับกอกำเนิดนั้นไมอาจควบคุม
ทิศทางและความเร็วของมันได หลังจากอยูในระดับเทพแปลงก็แกปญหาตรงนี้ไดไป
โดยปริยาย ดังนั้นหานลี่จึงบินออกมารอยลี้ในพริบตา และแผจิตสัมผัสออกไปใน
เวลาเดียวกันไปพลาง
ผลคือพบวาสลัดคุณชายหวงเหลียงหลิงและพวกทั้งสามที่กลายเปนลำแสงหลีกไปได
ไมไกลเทาไหรนัก ยังคงไลตามมาดานหลังอยางไมลดละ ในใจจึงรูสึกใจหายวาบไมได
ในเมื่อเผชิญหนากับผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา หานลี่ก็ไมไดคิดวาจะอาศัย
แคเงาอัสนีหลีกหนีเพียงอยางเดียวก็สามารถสลัดอีกฝายทิ้งไดอยางงายดายอยูแลว
เขาที่อยูในลำแสงโลหิต พลิกฝามือมือหนึ ่ง ไขมุกกลมๆ ที่มีลวดลายลึก ลั บ
สองเม็ดสีแดงและดำปรากฏขึ้น โยนออกไปดานหลังอยางไมลังเลเลยแมแตนอย
ทันใดนั้นมือทั้งสองพลันรายอาคม ปากก็บริกรรมคาถาออกมา
ครานี้ ลำแสงโลหิตที่เขาควบคุมอยูพลันเปลงแสงสวางวาบแลวแฉลบผานทางเขา
ของหุบเขาหุนตุนไป
สามคนที่ตามมาอยูดานหลังเองก็เขาใกลตรงนั้นเชนกัน
ไข ม ุ ก กลมๆ ทั ้ ง สองเม็ ด หมุน ติ ้ วๆ หลั ง จากเปล ง เสี ย งร องหึ่ ง ๆ ออกมาแลว
เสียงระเบิดดังสะเทือนฟาสะเทือนดินก็ดังขึ้น
ดวงอาทิตยสีแดงและดำที่มีเสนผาศูนยกลางสิบจั้งปรากฏขึ้นกลางอากาศ
ไอคลื่นที่มองเห็นไดดวยตาเนื้อแผออกมาจากทั้งสี่ดาน ชั่วพริบตาก็กลายเปน
พายุเฮอรริเคนที่บาคลั่ง กวาดเอาทุกอยางในรัศมีสองสามลี้เขาไปขางใน
ทั้งสามคนที่ไลตามหานลี่มาติดๆ จากลมปราณของซวี่เทียนที่ลึกล้ำที่สุด จึงเขา
ใกลมากที่สุด ประกอบกระตุนเคล็ดวิชาลับเพิ่มความเร็วใหลำแสงหลีกหนี
ชั่วครูก็ถูกมวนเขาไปในพายุเฮอรริเคน
แตคุณชายหวงเหลียงหลิงและพวกที่อยูดานหลังสองคน เปนเพราะอยูคอนขางไกล
ชั่วขณะนั้นจึงเปลี่ยนทิศทางของลำแสงหลีกหนี ออมพายุเฮอรริเคนไปคนละทาง
อยางหวุดหวิด
แตเชนนั้น หนึ่งคนหนึ่งปศาจก็ย ังไมลืมที่จะถื อโอกาสนี้ เห็ นซวี ่เทีย นตกบ อ
เลยโยนกอนหินซ้ำ[1]ดวย
หวนเทียนฉีพลันสะบัดแขนเสื้อ พายุปศาจสีเทากลุมหนึ่งหมุนวนพุงออกมา
สวนคุณชายหวงเหลียงหลิงพลันชูมือขึ้นไปทางพายุเฮอรริเคน ชั่วขณะนั้นเสาลำแสง
สีเหลืองพลันเปลงแสงสวางวาบแลวพุงออกไป
การโจมตีของทั้งสองจมหายเขาไปในพายุเฮอรริเคน ชั่วขณะนั้นเสียงระเบิดดัง
กัมปนาทพลันดังขึ้น ดานในมีเสียงตะโกนดวยความตกตะลึงระคนโกรธแคนของ
ซวี่เทียนดังออกมา
ดูแลวคงเสียเปรียบไมนอย และก็ไมอาจหนีออกมาไดในทันที
หลั ง จากที ่ ห นึ ่ ง คนหนึ ่ ง ป ศ าจมองสบตากั น ยิ ้ ม ๆ แล ว ลำแสงหลี ก หนี พ ลั น
เปลงประกาย มาอยูเหนือทางเขาหุบเขา
ครานี้หานลี่ที่กลายเปนลำแสงหลีกหนี เปนเพราะมีไขมุกทลายเซียนคอยขวางกั้นอยู
จึงกลายเปนจุดเลือนๆ อยูที่ขอบฟาแลว
ทั ้ ง สองกลั บไมสนใจเลยสั ก นิ ด ตอนที ่ ค ิ ด จะสำแดงเคล็ด วิชาลับ ตามไปดวย
ความเชื่อมั่นอันเต็มเปยมนั้น ฉับพลันนั้นกำแพงหินขางหนึ่งของปากทางเขาหุบเขาก็
มีเสียง “ฟู” ดังขึ้นสองครั้ง
ทามกลางลำแสงทะมึนทึบ พลันมีเสาเพลิงสีเงินสองสายพนออกมา ตรงเขาไปหา
ทั้งสองคน
เปนเพราะปากทางเขาไมกวางนัก ประกอบกับเสาเพลิงมีความเร็วที่นาตกตะลึง
เปลวเพลิงสีเงินจึงมาอยูเบื้องหนาของพวกเขาไดในชั่วพริบตา
คุณชายหวงเหลียงหลิงพลันตกตะลึง มือหนึ่งสับออกไปกลางอากาศอยางไมตอง
ขบคิด ไอกระบี่สีทองสายหนึ่งสับออกไป คิดจะผาเสาเพลิงนั้นออก
แตเมื่อไอกระบี่สัมผัสกับเปลวสีเงิน คาดไมถึงวาจะเกิดเสียง “พรึ่บ” พลันเผาไหม
โดยอัตโนมัติ ชั่วพริบตาก็ถูกเปลวเพลิงสีเงินหลอมจนหายวับไป
เสาเพลิงสีเงินเปลงแสงเจิดจา กระโจนเขามาอยางดุดันยิ่งกวาเดิม ยังไมทันถึงตัว
อุณหภูมิที่รอนฉาก็ทำใหผูบำเพ็ญเพียรเผามนุษยผูนี้รูสึกคอแหงผาก
คุณชายหวงเหลียงหลิงเห็นเชนนั้น กลับหนาเปลี่ยนสีไปยกใหญ ปากก็รองอุทาน
ดวยน้ำเสียงแหบแหงออกมาวา
“เพลิงทลายกระดูก”
จากนั้นสองมือก็รายอาคมราวกับเห็นงูพิษ รางกายหายวับไปจากที่เดิม เสาเพลิงสีเงิน
มวนวนขึ้นไปกลางอากาศ
หวนเทียนฉีที่อยูอีกดานก็ตกอยูในสถานการณที่ไมตางกันนัก
หลังจากที่เขาเปาวายุปศาจออกมาในหอบเดียว ก็ถูกเปลวเพลิงสีเงินกลืนกินไป
จนเกลี้ยงเชนกัน รางของเขาพลิ้วไหวไปอีกสองสามครั้งดวยความตกตะลึง พาเงาราง
ที่ไมสมบูรณพลิ้วไหวตามไปเปนสายสองสามตำแหนง แลวถึงไดหลุดพนการไลลาของ
เปลวเพลิงสีเงิน
“ไมสิ ไมใชเพลิงทลายกระดูก! ถึงแมวาเพลิงกระดูกจะเปนสีเงิน แตเต็มไปดวย
กลิ่นอายชั่วรายเชนนี้มีเพียงบรรพชนกระดูกเทานั้นที่ควบคุมได ไมมีทางถายทอดให
ผูอื่นได” เมื่อหวนเทียนฉีมาอยูดานขางคุณชายหวงเหลียงหลิง กลับเอยแยงดวย
สีหนาดูไมได
เสาเพลิงสีเงินสองกลุมที่อยูตรงขามกลับผนึกรวมกัน กลายเปนลูกบอลเพลิงยักษ
ขนาดเสนผาศูนยกลางสองสามจั้ง จากนั้นลูกบอลเพลิงก็หดเล็กลง เผยรางของ
วิหคเพลิงสีเงินตัวหนึ่งที่สงางามออกมา
“เพลิงวิญญาณ”
เมื่อเห็นฉากนี้ หนึ่งคนหนึ่งปศาจเห็นวิหคเพลิงกลับตะลึงงัน
แตวิหคเพลิงสีเงินแคมองเขาดวยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง สองปกสยายออกเบาๆ
ลำแสงสีเงินเปลงแสงสวางวาบ ลูกบอลเพลิงขนาดเทากำปนจำนวนนับไมถวน
ปรากฏขึ้นใกลๆ หลังจากเสียงไพเราะดังขึ้น ลูกบอลเพลิงก็สั่นคลอนแลวพุงออกไป
หอหุมทั้งสองมนุษยและปศาจสองคนเอาไวในระยะการโจมตี
คุ ณ ชายหวงเหลี ย งหลิ ง ได ย ิ นว า ไม ใ ช เ พลิ ง ทลายกระดู ก ชั ่ ว ขณะนั ้ นก็ ร ู  สึ ก
ผอนคลายลงไปกวาครึ่ง หลังจากที่เห็นลูกบอลเพลิงเหลานี้อีกครั้ง ก็แคนเสียงดวย
ความเย็นชาออกมา ชูมือขึ้น ชั่วขณะนั้นกระจกแปดเหลี่ยมบานหนึ่งพลันขยายใหญ
ขึ้นและปรากฏขึ้นเบื้องหนา
หวนเทียนฉีที่อยูอีกดานหนึ่งพลันพลิกฝามือ ลำแสงไฟฟาสีเทาปรากฏขึ้นในมือ
อีกครั้ง
ถึงแมวาทั้งสองจะยังไมเห็นหนาตาที่แทจริงของเปลวเพลิงสีเงิน แตกลับไมไดมี
เจตนาจะดูแคลน จึงคิดจะตอกรกับมันดวยพลังเต็มอัตรา
แตในตอนนั้นเอง ลูกบอลเพลิงพลันพุงออกไปทั่วทองฟา เปลงแสงสีเงินออกมา
ฉั บ พลั นนั ้ น พลั นสั ่ นคลอนแล ว สลายหายไป หากไม ใ ช เ พราะอุ ณ หภู ม ิ ท ี ่ สู ง ปรี๊ ด
เต็มทองฟายังคงอยูใกลๆ ลูกบอลเพลิงเหลานี้ก็ดูเหมือนวาจะไมมาปรากฏตัวเชนนี้
คุณชายหวงเหลียงหลิงพลันตกตะลึง อดที่จะหรี่ตาทั้งสองขางลงมองวิหคเพลิง
สีเงินตัวนั้นไมได
ผลคือเมื่อเหลือบตามองไป ก็ไดยินเสียง “ปง” ดังขึ้นเบาๆ
คาดไมถึงวาวิหคเพลิงจะระเบิดตัวเองออกโดยอัตโนมัติ เปลวเพลิงสีเงินแตกกระจาย
ไปรอบๆ ดานราวกับลูกบอลเพลิงอยางไรอยางนั้น แลวหายวับไปจากกลางอากาศ
คุณชายหวงเหลียงหลิงมีสีหนาเครงเครียด หันหนาไปมองหวนเทียนฉีแวบหนึ่ง
ชายชราเผาหยกแรดก็มีสีหนาไมตางกัน คอนขางเขียวคล้ำเล็กๆ
“ถึงแมวา เพลิงชนิด นี ้จะไมใชเพลิ งทลายกระดู ก แตเกรงวาก็ค งไมธรรมดา
ผูบำเพ็ญเพียรเผามนุษยผูนั้นมีประวัติความเปนมาอยางไร ไมนาจะไรชื่อเสีย งใน
เผามนุษยกระมัง!” หวนเทียนฉีเอยถามดวยเสียงเย็นชา และเผยความสงสัยลึกๆ
ออกมา
“ไมรูจัก นาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรจากอีกสองแดน ถึงอยางไรเสียในแดนเทียนหยวน
ขาก็เพิ่งเคยพบเปนครั้งแรก ทวาหากเขาคิดวาแคลูกไมเล็กๆ เหลานี้จะหนีการควบคุม
ของพวกเราได ก็คงจะโอหังเกินไปหนอยแลว ถึงแมวาจะทำสัญลักษณไวบนรางของ
เขาไมทัน แตจากจิตสัมผัสที่แข็งแกรงของพวกเรา ผูบำเพ็ญเพียรระดับ เทพแปลง
คนหนึ่งอยูในสุสานตะวันคลอย ขอแคไมหนีไปไกลเกินหมื่นลี้ ก็ไมมีทางหลบพนจิต
สัมผัสของพวกเราได” คุณชายหวงเหลียงหลิงพลันสั่นศีรษะดวยสีหนาเครงขรึม
ทันใดนั้นก็เหลือบมองไปนอกหุบเขาแวบหนึ่ง แลวหัวเราะอยางเย็นชาออกมา
ครานี้ลำแสงหลีกหนีของหานลี่ไดหายวับไปจากขอบฟาแลว
หวนเทียนฉีไดยินแลวพลันพยักหนา เอยคำพูดเห็นดวยออกมา
ดังนั้นจากนี้ทั้งสองพลันหลับตาลง คอยๆ แผจิตสัมผัสออกไปอยางชาๆ
แตผานไปชั่วครู สีหนาของทั้งสองก็เปลี่ยนเปนสดใส ดูเหมือนจะตกตะลึงระคนสงสัย
และรูสึกไมยากจะเชื่อ
“เปนไปไดอยางไร กลิ่นอายลมปราณของคนผูนั้นหายไปแลว รองรอยสักนิดก็ไมมี”
คุณชายหวงเหลียงหลิงพลันเบิกตาทั้งสองขางขึ้น ใบหนาเต็มไปดวยสีหนาตกตะลึง
“ขาหาคนผูนั้นไมเจอ ภายใตสถานการณเชนนี้ หากอีกฝายไมไดมีพลังยุทธ
เหนือกวาขา คนผูนั้นก็คงสำแดงเคล็ดวิชาลับเฉพาะอะไรสักอยาง ที่สามารถเก็บ
กลิ่นอายจนแมแตจิตสัมผัสของพวกเราก็ไมอาจตามหาไดเลยสักนิด มิเชนนั้น เกรงวา
เขาคงเพลี่ยงพล้ำไปแลว ในระยะเวลาสั้นๆ ไมมีทางสลายกลิ่นอายไดรวดเร็วขนาดนี้”
หวนเทียนฉีเอยพึมพำ
“คงเปนเหตุผลที่สอง! อยาลืมละ กอนหนานี้คงผูนี้เคยซอนตัวอยูใกลๆ แตพวกเรา
กลับสัมผัสไมไดเลยสักนิด ดูแลวคนผูนี้คงจะเชี่ยวชาญในการอำพรางกายจริ งๆ”
คุณชายหวงเหลียงหลิงพลันขมวดคิ้วเปนปม
“ยุงยากใหญแลว! มีความสามารถระดับนี้ เราก็ไมมีทางตามหาเขาไดมิใชหรือ”
หวนเทียนฉีอดที่จะมุมปากกระตุกไมได
“นั่นก็ไมแน ขายังมีโอกาส คนผูนั้นซอนตัวแลว จะตองไมอาจสำแดงเคล็ดวิชา
หลีกหนีแบบกอนหนานี้แลวหนีไปไกลๆ ไดแน ในระยะสองสามพันลี้ ขอแคพวกเรา
ส ง คนไปควบคุ ม ดิ นแดนแถวๆ นี ้ ไ ว ยิ ่ ง ไปกว า นั ้ น ใช เ คล็ ด วิ ช าพั น แมลงเม า ของ
แมลงเมาลวงตาเจาชวยตามหา ขาไมเชื่อวาเขาจะซอนตัวอยูได”
คุณชายหวงเหลียงหลิงแววตาเปลงประกายเย็นเยียบ กลับคิดวิธีออกขึ้นมา
“เคล็ดวิชาพันแมลงเมา! นี่มันสูญเสียปราณแทของแมลงเมาเพลิงลวงตาไปหนอย
ชางเถิด ใชเคล็ดวิชานี้เพื่อสิ่งนั้น ก็นาจะคุมคา ทวา ผลึกตะวันคลอยกอนนั ้น…”
หวนเทียนฉีพยัก หนา อยา งไม เต็มใจนัก และพลันเอยถึ งสมบั ติที ่อยู ใ นเมื องของ
คุณชายหวงเหลียงหลิงขึ้นมา
“หึๆ ขอแคตามของของเผาวิญญาณคืนมาได ขานอยจะมอบผลึกตะวันคลอยให
ตอใหตามกลับมาไมได ขานอยก็จะแบงผลึกนี้กับพี่หวนครึ่งหนึ่ง”
คุณชายหวงเหลียงหลิงดูเหมือนวาจะตัดสินใจไวตั้งนานแลว จึงตอบกลับอยาง
ไมลังเลเลยแมแตนอย
“เยี่ยม มีคำสัญญาของสหาย ขาก็จะ…”
หวนเทียนฉีหัวเราะนอยๆ ออกมา ตอนที่กำลังจะเอยอะไรนั้น ดานหลังของ
ทั้งสองคนก็มีเสียงกรีดรองยาวๆ ดังขึ้น จากนั้นพลันดังสนั่นราวกับแผ นดิ น ไหว
คลื่นพลังวิญญาณที่นาตกตะลึงกลุมหนึ่งปะทุขึ้นไปบนฟาจากทางดานหลัง
หนึ่งคนหนึ่งปศาจพลันใจหายวาบ ทันใดนั้นก็หันกลับไปมอง
เห็นเพียงพายุเฮอรริเคนดานหลังซึ่งอยูไมไกลนักหายวับไป แตที่เดิมกลับมี
ดอกบัวโลหิตขนาดสิบจั้งเศษดอกหนึ่งหมุนติ้วๆ อยู ตรงใจกลางของดอกบัว ซวี่เทียน
กำลังมองมาทางทั้งสองดวยสีหนาเครงขรึม แววตาเปลงประกายโหดเหี้ยม
เห็นไดชัดวาคนผูนี้รูวาเมื่อครูทั้งสองไมชวยและกลับซ้ำเติมเขา
“สหายซวี ่ เ ที ย น เจ า ยั ง คิ ด จะลงมื อ กั บ พวกเราสองคนอี ก หรื อ ไม ? เจ า คน
หลอกลวงนั้นเปนพวกของเจา แตไมทราบวาไปแอบอยูที่ไหน พวกเราสามคนลาชาไป
เดี๋ยวเดียว คนผูนั้นก็หนีไปแลว” หวนเทียนฉีกลับไรซึ่งสีหนาหวาดกลัว แลวเอย
อยางราบเรียบออกมา
“หึ เรื่องนี้ขาจะไมถือสา วันขางหนาหากมีโอกาส ขานอยจะตองจัดการเจา
ทั้งสองแน” ซวี่เทียนมองไปรอบๆ แวบหนึ่ง เมื่อไมพบเงารางของหานลี่ ถึงไดถลึงตา
ใสทั้งสองแวบหนึ่ง แลวเอยอยางเย็นชาออกมา
จากนั้น กลีบดอกบัวโลหิตใตฝาเทาของเขาพลันหุบเขาหากัน
ดอกบัวที่มีซวี่เทียนโดยสารอยูเปลงเสียงรองยาวๆ ออกมาแลวพุงออกไปนอกหุบเขา
ไมนานนัก ก็หายไปอยางไรรองรอย
คุณชายหวงเหลียงหลิงและพวกทั้งสองไมสนใจคำพูดขมขูของระดับวิญญาณทมิฬ
เผาวิญญาณเลยสักนิด
ไมตองพูดถึงวาที่นี่เปนที่มั่นของเผามนุษยและปศาจ เผาวิญญาณไมอาจอยูไดนานนัก
ตอใหตอกรกับอีกฝายจริงๆ พวกเราสองคนรวมมือกันก็เปนฝายไดเปรียบอยูแลว
ดังนั้นหลังจากที่ทั้งสองปรึกษากันอีกนิดชั่วครู ก็แยกยายกันไป
พวกเขาเตรียมเรียกกำลังคนมาปดผนึกพื้นที่แถวนี้ในระยะสองสามพันลี้ จะตอง
ตามหาเจาเด็กที่จับปลาในน้ำขุน[2]ไปใหได!
[1] ตกบอแถมโยนกอนหินซ้ำ หมายถึง เห็นคนตกอยูในอันตรายแทนที่จะชวย
กลับซ้ำเติม

[2] จับปลาในน้ำขุน หมายถึง ฉวยโอกาสในยามโกลาหลเพื่อหาผลประโยชนใส


ตัวเอง
ตอนที่ 1312 เคราะหสวรรคบังเกิด
ครานี้หานลี่อยูหางจากตีนภูเขาไปมากกวาสองพันลี้ หนาตาเปลี่ยนไป กลายเปน
ชายวัยกลางคนมีหนวดยาวสามจุด รางเตี้ยลงสองสามชุน
บนรางของเขาในครานี้ไรซึ่งไอวิญญาณ กลายเปนผูฝกตนคนธรรมดาอี ก ครั้ง
และยิ่งไปกวานั้นดวงตาทั้งสองยังปดสนิทกำลังนั่งสมาธิอยูบนกอนหินสีเขียวกอนหนึ่ง
ใบหนาไรซึ่งความรูสึก
ผานไปชั่วครู ฉับพลันนั้นหานลี่ ก็ เบิ กตาทั้ งสองขางขึ้ น มุมปากหยักรอยยิ้ ม
เอยพึมพำหนึ่งประโยควา
“ในที่สุดก็สลายไอวิญญาณเพลิงจุดสุดทายในรางกายออกแลว นอกเสียจากวา
พวกเขาจะมาตามหาเอง มิเชนนั้นก็ไมอาจแยกแยะไดแลว”
ทวาถึงแมจะเปนเชนนั้น หานลี่ก็ไมไดคิดจะจากไปในตอนนี้
ครานี้กำลังอยูในเวลาที่เปนที่สนใจ ถึงแมวาเขาจะเปลี่ยนรูปรางหนาตาและ
กลิ่นอายแลว แตก็ไมกลาเสี่ยงอันตรายใดๆ ดังนั้นเขาจึงเหยียบไปบนกอนหินสีเขียว
ตบเทาไปสองสามครั้งแลวบินขึ้นไปบนภูเขา
หลังจากนั้นไมนาน เขาก็มาถึงหนาผาที่มีเถาวัลยและพุมไมจำนวนนับไมถวน
ปกคลุมไวอยางแนนหนา
หานลี่มองพิจารณาไปรอบๆ แลวพยักหนาอยางพึงพอใจ ทันใดนั้นพลันสูดลม
หายใจเขาลึกๆ สองมือเปลงแสงสีทองสวางวาบ โจมตีไปยังกำแพงหินเบื้องหนา
อยางตอเนื่อง หลังจากที่เสียง “ปงๆ” ดังขึ้นอยางตอเนื่อง ถ้ำหินขนาดสองสามจั้ง
พลันปรากฏขึ้น
รางกายของเขาพลันพลิ้วไหว คนหายวับไปขางใน
จากนั ้ น เขาพลั น พลิ ก ฝ า มื อ และโจมตี ไ ปยั ง เพดานถ้ ำ ตรงทางเข า ครั ้ ง หนึ่ ง
ชั่วขณะนั้นหินแตกละเอียดพลันรวงลงมากองหนึ่ง ปดตายปากทางเขาถ้ำเอาไว
ถ้ำจึงเปลี่ยนเปนดำสนิท
หานลี่กลับไมสนใจเลยสักนิด พลิกฝามือ ศิลาลำแสงจันทราสีเตรียมเอาไวนาน
แลวพลันปรากฏขึ้นในมือ
เขาควาศิลากอนนั้นมาตบไปที่เพดานถ้ำเบาๆ ชั่วขณะนั้นศิลาลำแสงจันทราจึง
ถูกฝงไวบนเพดานดวยพลังอันมหาศาล ภายใตลำแสงเรืองรองที่เปลงประกายออกมา
ชั่วขณะนั้นในถ้ำหินจึงเปลี่ยนเปนชัดเจนขึ้นกวาครึ่ง
หานลี่หาที่ที่สะอาดแหงหนึ่งแลวนั่งลง แหวนวิญญาณบนมือเปลงแสงสวางวาบ
ควักขวดเล็กๆ สีแดงออกมาจากกำไลเก็บของ พิจารณามันดวยแววตาที่เปลงประกาย
ขวดใบนี้นอกจากจะแผลำแสงสีโลหิตออกมาไมหยุดแลว ทุกอยางก็ดูปกติมาก
เมื่อลูบลงไปบนวัสดุก็เรียบลื่นมาก เหมือนเครื่องเคลือบธรรมดาๆ
หานลี่ใชนิ้วลูบไลไปบนขวดเล็กๆ เบา พลางเอยพึมพำอยูในใจ ในเวลาเดียวกัน
ในหัวก็อดที่จะมีความทรงจำทั้งหมดของโลหิตเทวาของเผาวิญญาณ
หลังจากผานไปชั่วครู เขาพลันขมวดคิ้ว ควักบาตรกลมๆ สีเขียวมรกตขนาด
เทาฝามือออกมาจากกำไลเก็บของ แลวถึงไดเปดฝาของขวดเล็กๆ สีแดงโลหิตออกมา
หยดลงไปที่บาตรกลมๆ เบาๆ
ปากขวดมีลำแสงสีมวงโคจรอยู ผานไปเกือบครึ่งวันถึงจะมีของเหลวสีมวงเขม
หยดออกมาอยางชาๆ เมื่อทุกหยดหยดลงไปบนตัวบาตรกลมๆ ก็แตกกระจายออก
ในทันที คาดไมถึงวาจะไมอาจผสานกับบาตรได
ดวงตาทั้งสองขางของหานลี่หรี่ลงพลางพิจารณาอยางละเอียด แลวถึงไดยื่นนิ้วชี้
ออกมา ชี้ไปยังของเหลวสีมวงหยดหนึ่งเบาๆ ผลคือชั่ววินาทีที่นิ้วของเขาดูเหมือนจะ
แตะไดแตก็ไมใชนั้น ของเหลวสีมวงกระโดดขึ้นไปโดยอัตโนมัติ ชั่วครูก็หอหุมปลายนิ้ว
ของเขาเอาไว หมายจะรุกรานเขามาอยางไรอยางนั้น แตหานลี่พลันขมวดคิ้ว บนนิ้วมี
ลำแสงสีทองเปลงแสงสวางวาบ คิดจะสลัดของเหลวสีมวงออกจากผิวหนัง จากนั้นก็
สะบัดแขนเสื้อเบาๆ ของเหลวตกลงสูบาตรกลมๆ อีกครั้ง
“ไมเลว คือโลหิตเทวาของเผาวิญญาณจริงๆ” แววตาของหานลี่ฉายแววตื่นเตนดีใจ
จากนั้นเขาก็เทขวดเล็กที่บรรจุของเหลวสีมวงลงไปอีกครั้ง จากนั้นก็เก็บเขาไปใน
กำไลเก็บของอยางระมัดระวัง สวนตัวเองก็นั่งสมาธิอยูภายในถ้ำ
ถึงแมวาตอนนี้เขาจะยังไมมีพลังลมปราณ แตพลังในการอดอาหารกลับไม ได
ลดลงเลยสักนิด จึงไมจำเปนตองกินหรือดื่มอะไร
หลังจากนั้นไมนาน จิตสัมผัสสายแลวสายเลาก็กวาดผานภูเขาที่หานลี่อยูไป
และจึงกวาดผานหานลี่ที่ไมมีไอวิญญาณเลยสักนิดไป ไมสนใจการดำรงอยูของเลย
สักนิด
สองสามวันแรก จิตสัมผัสเหลานี้ก็มาตรวจสอบอยางชุกชุม แทบจะกวาดผาน
วันละสิบกวาครึ่ง หลังจากผานไปครึ่งเดือน ก็เปลี่ยนเปนวันละสองสามครั้ง ผานไป
อีกสองเดือน ก็กวาดผานเพียงวันละครั้ง และยิ่งไปกวานั้นจิตสัมผัสที่ใชยังแข็งแกรง
ไมเทาตอนแรก เห็นไดชัดวาเปลี่ยนคนตรวจสอบแลว
แตหานลี่ก็ยังคงซอนอยูในถ้ำหินไมยอมออกมาดวยสีหนาราบเรียบ
ประเดี๋ยวก็ผานไปครึ่งป ไมมีจิตสัมผัสกวาดเขามาตรวจสอบอีก
หานลี่สัมผัสไดถึงความเปลี่ยนในถ้ำ จึงรูสึกดีอกดีใจขึ้นมา
แตหลังจากผานไปอี กสองสามเดื อน ถึงไดเบิกตาทั้งสองขางขึ้ น โจมตีไปยั ง
กองหินที่แหลกละเอียดตรงทางเขาถ้ำ คนคอยๆ เดินออกมา
เขามองทุกอยางที่อยูรอบๆ หลังจากที่ไมมีอะไรเปลี่ยนแปลงแลว ทันใดนั้นก็
สะบัดแขนเสื้อพรอมกับหัวเราะหึๆ สาวเทายาวๆ ลงมาจากภูเขาอยางรวดเร็วราว
กับดาวตก ไมนานรางของเขาก็หายวับไปทามกลางภูเขา
หนึ่งปผานไปในเมืองเล็กๆ แหงหนึ่งใกลกับเมืองตะวันคลอย ชายหนุมผูฝกตน
แปลกหนาคนหนึ่งก็มาถึง หลังจากที่เขาซื้อของไปจำนวนหนึ่งแลว ก็หายไปอยาง
ไรรองรอย
สุ ด ท า ยเป น เพราะตามของกลั บ มาไม ไ ด ดั ง นั ้ น เรื ่ อ งโลหิ ต เทวาจึ ง ค อ ยๆ
แพรงพรายออกไป
ประกอบกับมีคำรับรองของผูบำเพ็ญเพียรและผูฝกตนที่เคยเขารวมสงครามของ
ทั้งสามเผาในตอนนั้น เรื่องนี้จึงเขยายุทธภพไปสองสามป
ภายใตสถานการณที่ผูมีฝมือระดับหลอมสุญตาอยางคุณชายหวงเหลียงหลิงและ
พวกลงมือ ยังถูกผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงคนหนึ่งชิงไป แนนอนวาจึงทำให
ทุกคนอดชื่นชมวาสุดยอดไมหยุด
คุณชายหวงเหลียงหลิงก็ยังคงไมยินยอม หลังจากกลับมายังเมืองตะวันคลอย ก็ยังคง
สืบหาเรื่องนี้ตออีกสองสามป อยากสืบหาฐานะของผูบำเพ็ญเพียรที่แยงชิงสมบัติไป
ผลคือทำใหเขาจนปญญาอยางสุดๆ คนที่ชิงสมบัติไปเผยความสามารถออกมา
ไมกี่ชนิด ทุกชนิดลวนไมธรรมดา แตกลับดูเหมือนผูที่กระโดดออกมาจากกอนหิน
อยางไรอยางนั้น คาดไมถึงวาจะไมมีเบาะแสเลยสักนิด
หลังจากที่ผานไปหนึ่งถึงสองป คุณชายหวงเหลียงหลิงก็ออกจากเมืองตะวันคลอย
นั ด แนะกั บ หวนเที ย นฉี ใ ห ไ ปที ่ แ ดนป า เถื ่ อน แล ว ลื ม เรื ่ องนี ้ ไ ป เรื ่ องโลหิ ต เทวา
คอยๆ หายไป
สองสามป ผ  า นไป บนภู เ ขายั ก ษ ส ู ง สง า และสวยงามที ่ ห  า งไกลจากผู ค นนั้ น
กลางอากาศที่มืดสนิทราวกับน้ำหมึก เงารางคนคนหนึ่งกำลังนั่งสมาธิอยางเงียบๆ
อยูตรงนั้น ลำแสงสีทองเปลงประกายเรืองรองบนรางไมหยุด
ดานขางเงารางคนกลับมีขวดเล็กๆ สีโลหิตวางนอนอยูบนพื้นปรากฏขึ้น ราวกับ
ดานในวางเปลา
เงารางคนที่นั่งสมาธิกลับไมขยับ หากไมใชเพราะทรวงอกเคลื่อนไหวเบาๆ ก็ดู
เหมือนเครื่องปนดินเผาอยางไรอยางนั้น…
เวลารอยกวาปสำหรับคนธรรมดาในแดนวิญญาณ นั่นหมายความวาครึ่งชีวิตของ
เขาไดผานไป แตสำหรับผูบำเพ็ญเพียรที่มีพลังยุทธสูงสงแลว กลับเปนแคเวลาเพียง
พริบตาเทานั้น
หลังจากผานไปรอยกวาป บนภูเขายักษยังคงเหมือนเดิม แตกลับมีทหารมาสวม
อาวุธครบมือขี่หมาปายักษฝูงหนึ่ง กำลังอารักขารถอสูรที่วิจิตรงดงามสองสามคัน
คอยๆ เคลื่อนผานตีนเขาไป
รถอสูรหนึ่งในนั้นมีคนนั่งอยูสามคน เปนชายชราผมสีดอกเลาคนหนึ่ง เด็กผูชาย
อายุหกเจ็ดขวบทาทางซื่อๆ รวมทั้งเด็กหญิงอันบอบบางที่อายุไมตางกัน
บนหนาผากของชายชรานั้นเต็มไปดวยริ้วรอย แตผิวตรงคอกลับอิ่มเอิบเปนมัน
วาวราวกับเด็กหนุม สองแขนที่โผลพนออกมาจากแขนเสื้อ กลับดูรวงโรยราวกับ
เถาวัลยที่แกชรา
แตสิ่งที่นาแปลกก็คือ เล็บที่ยาวออกมาจากนิ้วทั้งสิบของชายชราไมเพียงจะมี
ความยาวสองสามชุ  น ดู แ ล ว แหลมคมเปนพิ เ ศษ ยิ ่ ง ไปกว า นั ้ น ยั ง มีล ำแสงสีแดง
เปลงประกาย แสดงใหเห็นถึงความลึกลับ
เด็กชายหนุมตรงขา มเองก็ จ องเล็บที่เ ปล งแสงสี แดงดวยดวงตาที่ ไม ก ะพริ บ
ทาทางสนอกสนใจเปนอยางมาก
ชายชราเองก็ไมไดมีทาทีจะซอนเล็บบนนิ้วมือเลยสักนิด แคมองเด็กชายด วย
แววตาอมยิ้มไมไดกลาวอะไรออกมา
ฉับพลันนั้นนอกหนาตางก็มีเสียงกีบเทาดังขึ้น จากนั้นเสียงของบุรุษพลันดัง
ออกมาจากดานนอกรถอสูร
“รายงานทานอาวุโสเพลิง คนที่สงไปเปดทางดานหนากลับมาแลว ฝูงอสูรและ
อสูรปศาจที่อยูในรัศมีพันลี้ของภูเขาเทียมฟาถูกสังหารจนเกลี้ยงแลวขอรับ”
“อื ม ไม เ ลว เช นนั ้ น กองกำลั ง ของข า ก็ เ ป ด เส น ทางการค าใหม อี ก สายแลว
ในระยะเวลาสิบกวาปนี้ คงไมมีปญหาอะไร” ชายชราชักสีหนา ชูมือขึ้น เปดผามาน
ออกชาๆ
เห็นเพียงทหารมาวัยกลางคนรางกายกำยำคนหนึ่งขี่อยูบนหมาปายักษกลายพันธุ
ขนสีขาวหิมะตัวหนึ่ง กำลังขี่เรียบอยูดานขางรถอสูรดวยสีหนานอบนอม
“ทวา เจามั่นใจวาบนภูเขานี้ไมเหลือปศาจอสูรแลวจริงๆ หรือ หากมีปศาจอสูรที่
เชี่ยวชาญในการอำพรางกาย ไมพบไอปศาจ ก็เปนเรื่องปกติ” ชายชรามองทหารมา
แวบหนึ่ง น้ำเสียงเปลี่ยนเปลงเครงขรึม
“เรื ่ อ งนี ้ น  า จะไม ม ี ท างเป น ไปได นอกจากไอป ศ าจแล ว ชนรุ  น หลั ง ก็ เ ชิ ญ
ปรมาจารยสองสามทานมาแผจิตสัมผัสตรวจสองภูเขาลูกนี้โดยเฉพาะ ไมมีปศาจอสูร
ดำรงอยูในภูเขาจริงๆ” ทหารมาหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย แตทันใดนั้นก็ตอบกลับ
อยางมั่นใจ
“อืม เชนนั้น ดูแลวคงไมมีปญหาจริงๆ ถึงแมวาผูบำเพ็ญเพียรสองสามคนที่เชิญ
มานั ้ นจะเป นแคผู  บ ำเพ็ ญ เพี ยรระดับ หลอมรวม แต ภ ู เ ขาลู ก นี้ ค งไม มี ป ศ าจอสูร
ระดับสูงอาศัยอยูหรอก เอาอยางนั้นก็แลวกัน เดินหนาตอ” ชายชราพยักหนาดวย
ความพึงพอใจ จากนั้นพลันเอยปากชื่นชมประโยคหนึ่ง แลวลดมือที่เปดผามานลง
แตในตอนนั้นพลันเกิดเรื่องประหลาดขึ้นกลางอากาศ
เสียงสั่นสะเทือนราวกับแผนดินไหวดังมาจากจุดที่ไกลออกไป จากนั้น เสียง
สั่นสะเทือนก็ดังขึ้นอยางตอเนื่องเปนสายๆ บรรยากาศรอบๆ มีเมฆสีดำปกคลุม เสียง
กรีดรองดังมาเปนระลอก ทองฟาทั้งหมดเปลี่ยนเปนสีดำทะมึน
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมด เกิดขึ้นแคในชั่วพริบตา แมกระทั่งชายชราก็ไมทันได
ปดผามานใหกลับมาประสานกันดังเดิม
“นั่นคืออะไร…” ทหารมาวัยกลางคนที่อยูนอกรถอสูรกวาดสายตาไป มองไปยัง
สวนยอดของภูเขายักษที่สูงเทียมเมฆ แลวรองอุทานออกมาดวยเสียงแหบแหง
ชายชราพลันขมวดคิ้ว ชูมือขึ้นเคาะไปที่รถอสูรดัง “กอกๆ”
รถอสูรหยุดชะงัก แลวหยุดลงในทันใด
ชายชราผลักประตูรถ เดินลงจากรถอสูร ปรากฏขึ้นบนพื้นราบนอกรถ จากนั้น
ก็มองไปยังยอดเขายักษที่อยูกลางอากาศเชนกัน
ผลคือชั่วขณะนั้นพลันหนาเปลี่ยนสี
“เคราะหสวรรค นี่คือ เคราะหสวรรคของผูบำเพ็ญเพียร! แปลกจัง ดูเหมือนจะ
เปนเคราะหสวรรคที่ไมเล็กเลย แตก็ไมเหมือนกับเคราะหสวรรคใหญ” ชายชรามอง
ไปยังปรากฏการณที่มีอสรพิษไฟฟาเริงระบำอยูเหนือยอดเขาดวยสีหนาตกตะลึง
ระคนสงสัย และตะลึงงันไปเล็กนอย
เห็นเพียงยอดเขายักษที่อยูไกลออกไป เปลี่ยนเปนเหมือนกนเตาสีดำมะเมื่อม
ประจุ ไ ฟฟ า สี ท องและเงิ นเป นสายๆ เปล ง ประกายวิ บ วั บ กลางกลุ  ม เมฆไม ห ยุ ด
เสียงอึกทึกดังทุมต่ำสงออกมา ทำใหเมฆสีดำที่อยูต่ำนอย เกิดพายุเฮอรริเคนสีขาวขึ้น
โจมตีไปยังยอดเขาไมหยุด ทำใหพื้นภูเขาแตกเปนริ้วๆ ตนไมหักโคน
ครานี้ขบวนรถทั้งหมดพลันหยุดลง ทหารมาเหลานั้นเองก็มองไปยังฉากที่ทั้งชีวิต
ก็ไมอาจจะไดเห็นดวยความตกตะลึงจนตาคาง
รถอสูรอีกสองสามคันกลับมีคนบินออกมา หลังจากหมุนโคจรรอบหนึ่ง ก็ทยอยกัน
บินไปหาชายชรา
ตอนที่ 1313 เคราะหอสนีสองสี
“อาวุโสเพลิง นี่คือเคราะหสวรรคของอาวุโสใดสักทาน ทานดูออกหรือไมวาคือ
เคราะหสวรรคประเภทใด ดูเหมือนวาจะไมใชเคราะหสวรรคเล็ก หรือวามีอาวุโส
ระดับหลอมสุญตาซอนตัวอยูในภูเขาลูกนี้” ชายหนุมสวมชุดสีเหลืองหนาตาหลอเหลา
ดูเหมือนวาจะเปนผูนำของคนกลุมนั้น เมื่อนำทัพรอนลงมาอยูเบื้องหนาชายชรา
ก็เอยถามดวยสีหนานอบนอม แตในคำพูดยังแฝงความตื่นเตนดีใจเอาไว
นั่นก็ไมนาแปลกใจ เพราะในแดนวิญญาณนั้น ไมอาจพบผูบำเพ็ญเพียรระดับ
หลอมสุญตาขึ้นไปไดงายๆ
“ไม ใ ช เ คราะห ส วรรค ใ หญ เคราะห ส วรรค ใ หญ ข  า เคยเห็ น มาแล ว ครั ้ ง หนึ่ ง
อัสนีสวรรคที่ฟาดลงมาลวนเปนสีมวงทอง อานุภาพรุนแรงมากกวาที่นี่หลายเทา”
ชายชราสั่นศีรษะ ปฏิเสธอยางมั่นใจเปนอยางมาก
“แตเคราะหสวรรคเล็กไมใชสีทองเงิน นาจะเปนอัสนีสวรรคสีเขียวถึงจะถูก พวกเรา
เคยเห็นอาวุโสของสำนักผานเคราะหสวรรคมาแลวสองสามครั้ง ไมมีทางผิดแน”
ชายหนุมสวมชุดสีเหลืองมีสีหนาแปลกประหลาดใจขณะเอย
“เคราะหสวรรคครั้งนี้ดูแลวรุนแรงกวาเคราะหสวรรคเล็กมากนัก แตก็ไมอาจเปน
เคราะหสวรรคของปศาจอสูรแปลงกายได เคราะหสวรรคของปศาจอสูรแปลงกาย
จะเปนอสนีสีเงินขาว” ชายชรามีสีหนาเครงขรึม ดูเหมือนวาจะตัดสินไดยาก
เมื่อเห็นอาวุโสเพลิงไมคอยแนใจนัก ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมสองสามคนก็
อดที่จะเผยสีหนาผิดหวังออกมาไมได
ตอนนี้พายุเฮอรริเคนยิ่งลูกใหญขึ้นเรื่อยๆ ในรัศมีสองสามรอยลี้ของหุบเขายักษ
เกิดพายุโหมกระหน่ำ ในเวลาเดียวกันเมฆสีดำก็กดลงมา ทำใหคนธรรมดาไมอาจ
แมกระทั่งทรงตัวยืนอยูบนพื้นราบไหว
เชนนัน้ อาวุโสเพลิงจึงขบคิดเล็กนอย แลวออกคำสั่งใหขบวนรถทั้งหมดตั้งขบวน
เป นวงกลม รอให เ คราะห ส วรรค ข องผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รนิ รนามผู น ี ้ เ สร็จ สิ ้ น ลงกอน
แลวคอยออกเดินทางตอ
กลางอากาศมี เสีย งฟ าผา ดั ง ขึ้ น อยา งต อเนื ่ อง จากนั้นประจุไฟฟาสีทองเงิ น
ก็ระเบิดออก ทามกลางเมฆสีดำทะมึนที่หมุนวน ประจุไฟฟาเปนสายๆ ฟาดลงมาจาก
ทองฟา ตอนแรกยังเปนสายๆ แตชั่วพริบตาก็หนาแนน ราวกับพายุฝนโปรยปราย
ลงมา
ฉากที่แปลกประหลาดปรากฏขึ้น ประจุไฟฟาสีเงินโจมตีไปยังยอดเขาแลวคอยๆ
ระเบิดออก กลายเปนลำแสงสีเงินที่เจิดจาจนแสบตา ตัดยอดเขายักษออกอยาง
งายดายทอนใหญ
เมื่อประจุไฟฟาสีทองเหลานั้นสัมผัสกับยอดเขา ก็จมหายไปอยางไรรองรอย
ราวกับไมมีอะไรอยูในนั้นอยางไรอยางนั้น
ทันใดนั้นกลางภูเขาพลันมีเสียงฟาผาดังขึ้น เสียงระเบิดอันอึกทึกดูเหมือนวาจะ
รุนแรงกวาอสนีสวรรคบนยอดเขาหลายสวน
ฉากนี ้ ท ำให อาวุ โสเพลิ ง ที ่ ม องเคราะห ส วรรค อยู  ใ นจุ ด ที ่ ไ กลออกไปรวมทั้ ง
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมสองสามคนพากันตกตะลึง ประจุไฟฟาสีทองเหลานี้คือ
อัสนีสวรรคประเภทใดกันแน ภูเขาลูกนั้นไมอาจตานทานไดเลยสักนิด คิดไมถึงวา
ผูที่รับเคราะหสวรรคจะมีสภาพเปนเยี่ยงไร สถานการณเชนนี้ ดูเหมือนวาจะมีแต
อสนีสวรรคสีมวงทองของเคราะหสวรรคใหญถึงจะมีเชนนี้ได
หรือวาจะเปนเคราะหสวรรคที่ไมเคยเกิดขึ้นมากอน?
ในตอนที่ทุกคนกำลังพึมพำอยูในใจนั้น ลำแสงสีเขียวอันเจิดจากลุมหนึ่ง ก็พุง
ออกมา พลิ้วไหวเล็กนอยแลวปรากฏขึ้นกลางอากาศใกลๆ กับสันเขา ดานในมีเงาราง
คนปรากฏอยู
อาวุโสเพลิงและพวกเห็นเชนนั้น แนนอนวาตางก็รูวาเงารางคนในลำแสงสีเขียวนั่นคือ
ผูบำเพ็ญเพียรผูยิ่งใหญที่กำลังจะขามผานเคราะหสวรรค
แตแคไมรูวาคนผูนี้ถูกอสนีสวรรคสีทองเหลานั้นบีบจนไมอาจหลบซอนอยูในสันเขา
และทำไดเพียงหนีออกมาขางนอก หรือวารูสึกวาพื้นที่กวางใหญ จะตอกรกับอานุภาพ
ของเคราะหสวรรคไดดีกวา
ชั ่ ว ขณะนั ้ น ประจุ ไ ฟฟ า สี ท องและเงิ น สองสี ท ี ่ เ ดิ ม ที ผ  า ลงมาที ่ ภ ู เ ขายั ก ษ
พลันเปลี่ยนทิศทางราวกับมีสติปญญา ไลตามไปโจมตีลำแสงสีเขียวไปติดๆ
เสียงกรีดรองดังออกมาจากลำแสงสีเขียว จากนั้นเหนือศีรษะของเงารางคนก็มี
ลำแสงสีเขียวเปลงประกาย เตายักษใบหนึ่งปรากฏขึ้น พลิ้วไหวแลวเปดฝาออก
เสนไหมสีเขียวจำนวนมากพุงออกมา เริงระบำเต็มทั่วทองฟา คาดไมถึงวาจะกลบ
ทองฟากวาครึ่งเอาไว
ทุกแหงที่ลำแสงสีเขียวพุงผานไป ก็จะกวาดเอาประจุไฟฟาสีเงินเหลานั้นเขาไปใน
เตายักษ แตประจุไฟฟาสีทองเหลานั้นกลับดูเหมือนไรรูปราง ทะลุผานเสนไหมสีเขียว
ไปอยางไมเกรงใจ สับลงมาที่เงารางมนุษยตรงๆ
“เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม!” เงารางมนุษยในลำแสงสีเขียวดูเหมือนวาตกตะลึง แตกลับ
หัวเราะออกมาแทนที่จะโกรธเกรี้ยว
ฉับพลันเงารางมนุษยพลันถูมือทั้งสองเขาดวยกัน ชูขึ้นกลางอากาศอีกครั้ง เสียงฟาผา
ดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองหนาเทาปากชามสองสายเปลงแสงสวางวาบ ทันใดนั้นพลัน
พุงหนีออกไป กลายเปนตาขายไฟฟาขนาดยักษผืนหนึ่งปรากฏขึ้นที่เหนือศีรษะ
ชั่วพริบตาประจุไฟฟาสีทองสองสีที่ไมเหมือนกันพลันปรากฏขึ้นและเกี่ยวกระหวัด
กันไว เสียงปงๆ ทยอยกันระเบิดออก จากนั้นก็มลายหายไป ประจุไฟฟาสีทองจำนวน
นับไมถวนพลันเคลื่อนไหว ทำใหเงารางคนที่อยูกลางอากาศสวยสดงดงามมาก
อาวุโสเพลิงและพวกเห็นฉากนี้ พลันตะลึงงัน
แนนอนวาในแดนวิญญาณนั้นมีเคล็ดวิชาธาตุทองอยูไมนอย แตอัสนีไฟฟาธรรมดาๆ
ปะทะกับอัสนีสวรรค ไมเพียงจะไมอาจตานทานได กลับจะถูกอสนีสวรรคดูดเขาไปใน
ชั่วพริบตา ทำใหเจาของถูกแวงกัดโดยอัตโนมัติ
ผูบำเพ็ญเพียรที่ขามผานเคราะหสวรรคเบื้องหนา ไมเพียงจะฝกฝนเคล็ดวิชาธาตุอัสนี
ที่คลายคลึงกับอสนีของเคราะหสวรรค และยิ่งไปกวานั้นยังกลาใชอสนีไฟฟาตานทาน
กับอสนีสวรรค ชางเปนสิ่งที่ไมเคยไดยินมากอนเลยวาผูใดจะกลาทำ
ทวา เมฆสีดำที่อยูกลางอากาศก็มีประจุไฟฟาสีทองและเงินสองสีปรากฏขึ้น
ราวกั บ ไม ม ี ท ี ่ ส ิ ้ นสุ ด หลั ง จากผ า นไปหนึ ่ ง ก า นธู ป ไม เ พี ย งจะไม ม ี ท  า ที จ ะหยุ ด
กลับยิ่งหนาขึ้นเรื่อยๆ
ประจุไฟฟาที่แตเดิมมีความหนาประมาณหัวแมมือ คอยๆ ใหญขึ้นจนมีขนาดเทาแขน
ครานี้เงารางคนที่อยูในลำแสงสีเขียวพลันหนาเปลี่ยนสี เปนเพราะเตายักษเหนือหัว
ที่ดูดซับประจุไฟฟาสีเงินไปจะมีขอจำกัด เสนไหมสีเขียวที่พนออกมาไมเพียงจะเล็กลง
เรื่อยๆ ยิ่งไปกวานั้นความเร็วในการทำลายประจุไฟฟาสีเงินจึงเริ่มลดลง
เชนนั้น ประจุไฟฟาสีเงินจำนวนมากจึงถือโอกาสนี้รอนลงมาถึงตาขายสีทองเบื้องลาง
ตาขายไฟฟาที่แตเดิมก็มีทาทีกินแรงอยูแลว พลันเผยทาทียืนหยัดไมไหวออกมา
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมสองสามคนพลันมองสบตากัน ชายหนุมสวมชุดสี
เหลืองที่เปนผูนำจึงเอยขึ้นวา
“ดีไมใชเคราะหสวรรคเล็กๆ ธรรมดาแน ตอใหเปนเคราะหสวรรคของผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลง เกรงวาก็คงไมนากลัวขนาดนี้!”
“ไมใช ดูเหมือนวาขาจะเคยไดยินเคราะหสวรรคเชนนี้มากอน…” หลังจากที่
อาวุโสเพลิงเห็นอานุภาพเคราะหสวรรคแลว กลับเอยเชนนี้ออกมา
“อาวุโสเพลิงพูดจริงหรือ?” ชายหนุมสวมชุดสีเหลืองไดยิน พลันมองไปอยางรอนรน
“ใช เคยไดยินมาครั้งหนึ่ง แตแคมันนานมากแลว จึงจำไมคอยได” ชายชราเผย
สีหนาขบคิดอยางหนักออกมา
ถึงอยางไรเสียเขาก็ไมใชผูบำเพ็ญเพียร อายุมากขนาดนี้ ความทรงจำที่ไมคอย
สำคัญจึงเริ่มเลือนราง
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมเหลานั้นพลันรูสึกรอนใจ แตอาวุโสเพลิงผูน้ันเปน
ผูฝกตนที่มีกำลังเทียบไดกับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด พวกเขาจึงไมกลาเรงเรา
อะไร
“แยแลว อาวุโสผูนั้นดูเหมือนจะรับไมไหวแลว” ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวม
คนหนึ่งมองไปบนทองฟาตรงจุดที่ไกลออกไป แลวรองอุทานออกมาดวยน้ำเสียง
แหบแหง
คนอื่นไดยิน ตางก็พากันตกตะลึง แมแตอาวุโสเพลิงก็ยังหยุดขบคิดตามจิตสำนึก
แลวเงยหนาขึ้นมอง
เห็นเพียงอสนีสีทองเงินที่ตกลงมาจากเมฆสีดำเริ่มเปลี่ยนรูป ประจุไฟฟาหายวับไป
กลายเปนลูกอัสนีขนาดยักษเทาศีรษะ ลำแสงสีทองเงินฝากสลับกันราวกับวาเทพธิดา
ที่โปรยปรายบุปผาลงมาบนพื้นดิน เห็นไดชัดวาลูกอัสนีชนิดนี้มีอานุภาพมากกวา
ประจุไฟฟากอนหนา หลังจากที่ฟาดลงมา ในที่สุดก็เตายักษก็ไมอาจตานทานได
มันเปลงเสียงรองโหยหวนออกมาจาก นั้นก็ไมไดพนลำเสนไหมสีเขียวออกมาอีก
กลับรองคร่ำครวญและหดเล็กลง จนมีขนาดเทากำปน จากนั้นก็เปลงแสงสวางวาบ
และพุงลงมา จมหายเขาไปในเงารางของมนุษยที่อยูดานลาง
เห็นไดชัดวาสมบัติชิ้นนี้ไดรับความเสียหายไปไมนอย
เชนนั้น ถึงแมวาเงารางคนที่อยูดานลางจะยังคงมีประจุไฟฟาสีทองจำนวนมาก
พนออกมาจากมือ แตตาขายไฟฟาก็ยังรับไมไหว
ในที่สุดตาขายยักษก็เริ่มแตกออกเปนเสี่ยงๆ ดวยการโจมตีที่บาคลั่งของลูกอัสนีสองสี
ในตอนที่ทุกคนตางคิดวาผูบำเพ็ญเพียรที่กำลังจะขามผานเพราะสวรรคครั้งนี้
ตองจบชีวิตลง เงารางคนสายนั้นก็แคนเสียงอยางเย็นชาออกมา ฉับพลันนั้นพลันลูบ
ไปที่ทายทอยของตัวเอง ลำแสงสีเทาผืนใหญทะลักออกมาจากทายทอย จากนั้น
พลันอาปากออก พนภูเขาขนาดสองสามชุนสีดำมะเมื่อมออกมา
ลำแสงสีเทากวาดผานลูกอัสนีที่อยูใกลๆ ไป ฉากที่นาตกตะลึงพลันปรากฏขึ้น
ไมวาจะเปนลูกอัสนีสีใด เมื่อถูกลำแสงนี้กวาดผานไป ลวนหยุดชะงักและหยุดตก
ลงมาดานลางในทันที จากนั้นก็หมุนติ้วๆ แลวปรากฏขึ้นกลางหมอกสีเทา ราวกับวามี
พลังไรรูปรางกลุมหนึ่งรองพวกมันเอาไวพรอมกัน
ลำแสงสีเทาดูเหมือนวาจะมีอานุภาพตอกรกับแคลูกอัสนีและไมสามารถทำอะไรไดอีก
แตเมื่อลูกอัสนีหลนลงมาจากกลางอากาศ ขอแคตกใสลำแสงสีเทา ตางก็ตกอยูใน
จุดจบเดียวกัน
ถึงแมวาลำแสงผืนนี้จะสูงสามสิบจั้ง แตชั่วพริบตาก็มีลูกอัสนีสองสีอยูเต็มไปหมด
ดูแลวคงใกลจะเต็มเขาเต็มทีแลว ไมอาจบรรจุไดอีก
ในตอนนั้นเอง เงารางคนพลันรายอาคม ภูเขานอยๆ ขนาดสองสามชุนเบื้องหนา
พลันขยายใหญขึ้นในชั่วพริบตา จนมีขนาดสิบจั้งเศษ
ทันใดนั้นรางคนพลันชูมือขึ้นชี้ไปที่ภูเขา ในเวลาเดียวกันบริกรรมคาถาที่ลึกลับ
ออกมา
ยอดเขาลูกนั้นมีไอวิญญาณหมุนวนโคจรอยู วงแหวนสีเทาเปนกลุมๆ แผออกมา
จากยอดเขา ชั่วครูก็กวาดผานลูกอัสนีทั้งหมดที่ลอยอยูกลางอากาศไป
ฉากที่ยากจะเชื่อพลันปรากฏ
เริ่มแรกหลังจากที ่ก วาดผ านไปสองสามวง ลูกอัสนีเหลานั ้น แคพลันสั่ นไหว
ไมไดเกิดปฏิกิริยาใดๆ แตลำแสงสีเทาที่แตเดิมแผออกมาจากทายทอยของเงารางคน
กลับกระเพื่อมราวกับผิวน้ำ คาดไมถึงวาเริ่มบิดเบี้ยว
ภายใต ป ฏิ ก ิ ร ิ ย าของพลั ง ทั ้ ง สองกลุ  ม ในที ่ ส ุ ด ลู ก อั ส นี ก ็ ไ ม อาจมั ่ น คงอยู  ไ ด
เมื ่ อลำแสงสี เ ทาบิด เบี ้ ย วอยา งรุ นแรง ลู ก อั ส นี ท ั ้ ง สองสี ก ็ สู ญ เสีย สมดุ ล สั ่ นไหว
แลวชนกันเองโดยอัตโนมัติ ระเบิดออกเปนลำแสงสีทองเงินที่นาตกตะลึง ประจุไฟฟา
จำนวนนับไมถวนพุงออกมาทั่วทุกสารทิศ
แตเมื่อลำแสงสีเทาเริ่มสั่นคลอน ประจุไฟฟาเหลานั้นก็ดูเหมือนวาจะถูกควบคุม
พุงลงมาหายอดเขาสีดำมะเมื่อม จากนั้นก็เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายไป
เชนนั้น เงารางคนพลันทำเชนเดิมไมหยุด ใชลำแสงสีเทาทำใหลูกอัสนีที่ลดระดับ
ลงมากลายเปนประจุไฟฟาสีทองและเงิน จากนั้นก็ดูดเขาไปในภูเขาลูกเล็ก
ดูจากทาทางของเขาแลวนั้นเปนการกระทำที่งายดายมากไมเปลืองแรงเลยสักนิด
แตเงารางคนกลับรองโอดครวญวาซวยแลวอยูในใจ
ตอใหลำแสงเทวาดูดปราณของเขาจะมีพลังที่นาเหลือเชื่อ แตหากอาศัยพลังของ
ภูเขาดูดปราณทำเชนนี้กับอสนีสวรรคจำนวนมาก ก็ทำใหลมปราณของเขาหายไป
อยางนาตกตะลึง
เงารางคนผูนั้นนั่นก็คือหานลี่ผูที่ซอนตัวอยูในภูเขามารอยกวาป
ครานั้นเขาไมเพียงจะฝกฝนคาถาวัชระสำเร็จแลว ยิ่งไปกวานั้นทารกวิญญาณ
ระดับหลอมละลายไป ก็อาศัยพลังของสมุนไพรผนึกกลับมาอีกครั้งอยางรวดเร็ ว
แตเขากลับคิดไมถึงเลยวา วันที่ผนึกทารกวิญญาณของตนเองกลับมาอีกครั้งจะเปน
วันที่เคราะหสวรรคฟาดลงมา
หานลี่จึงทำไดเพียงทำใจดีสูเสือรับมือไปอยางคาดไมถึงเทานั้น
ตอนที่ 1314 สำเภาลานทองกับผูพิทกั ษสวรรค
หลังจากที่เกิดลูกบอลอสนีข ึ้นอยา งต อเนื่ องสิ บกวาลูก ชั่วพริบตาลมปราณ
ก็สลายหายไปกวาครึ่ง เคราะหอสนีบนทองฟายังไมมีทาทีจะหยุดพักเลยสักนิด
หานลี่มีสีหนาซีดขาวเล็กๆ
ถึงแมวาเขาจะมีความสามารถเกรียงไกร แตสิ่งที่สามารถตานทานเคราะหสวรรค
ไดนั้นมีอยูแคไมกี่ชนิด ตัวอยางเชนเพลิงกลืนวิญญาณที่แปลงเปนวิหคเพลิง ตั้งแตที่
เคราะหสวรรคเริ่มขึ้น ก็กลายเปนทารกวิญญาณที่หลอมขึ้นใหมในราง ซึ่งไมอาจขับ
ออกมาได
สัตวเทพอยางมารทั้งหาและวิญญาณครวญ ก็หวาดกลัวเคราะหสวรรคเชนกัน
ทาทางไมมีประโยชนนัก
สวนสมบัติอาคมอยางไมแปดวิญญาณและยันตหกเกราะสวรรคนั้น ก็ถูกทำลาย
ไปตั ้ ง แต ต อนที ่ อ ยู  ใ นห ว งมิ ต ิ เ วลาแล ว มิ เ ช น นั ้ น คงเป น เครื ่ อ งมื อ ที ่ ป  อ งกั น
เคราะหสวรรคไดไมเลวนัก
วิธีการที่เหลือในครานี้ก็เหลืออยูแคสองสามชนิด ลวนเปนขั้นตอนลับที่เตรียม
เอาไวใชรักษาชีวิต แตตอนนี้ไมใชคงไมไดแลว ทวาเหตุใดเคราะหสวรรคเล็ กของ
แดนวิญญาณถึงไดรุ นแรงขนาดนี้ หากนากลัวขนาดนี้ละ ก็ ผูบำเพ็ญเพียรระดั บ
เทพแปลงที่เหลือจะขามผานเคราะหสวรรคไดอยางไร เขาไมเชื่อวาคนเหลานั้นจะ
รายกาจกวาเขาทุกคน จะตองมีวิธีแกปญหากับเคราะหสวรรคที่ดีแน
เขาพลันรูสึกกลัดกลุม ในเวลาเดียวกันก็รูสึกเสียดายวาเหตุใดถึงไมสืบหาขอมูล
เกี่ยวกับเคราะหสวรรคเล็กใหดีเสียกอน
แนนอนวา หานลี่ นั้ นไมร ู ว า เคราะหสวรรคที ่ต ัว เองกำลั งเผชิ ญ นั ้ นกลั บ เลย
ขอบเขตของเคราะหสวรรคเล็กแลว
นั่นก็เปนเพราะในตัวเขามีความสามารถเหนือชั้นและมีสมบัติระดับสุดยอดอยาง
เตานภาสู ญ และภู เ ขาดู ด ปราณ หากเปลี ่ ย นเป น ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ เทพแปลง
ธรรมดาๆ คงไมอาจตานทานไดตั้งแตประจุอสนีที่ฟาดลงมาลูกแรก และกลายเปน
เถาถานไปนานแลว
ครานี ้ เ ขาพลั นสู ด ลมหายใจเข า ลึ ก ๆ เฮื อกหนึ ่ ง ลำแสงสี โลหิ ต บนเรื อนร าง
เปลงแสงสวางวาบ ดูเหมือนวาจะมีอะไรสักอยางออกมาจากเรือนราง
ในตอนนั้นเอง หางจากเคราะหสวรรคของหานลี่ไปสองสามลี้ กลางอากาศพลันมี
ระลอกคลื่นปรากฏขึ้น ลำแสงสวางจา เขตอาคมลำแสงสีขาวนวลกลุมหนึ่งปรากฏขึ้น
จากกลางอากาศ
เขตอาคมลำแสงนี ้ ม ี ข นาดสิ บ จั ้ ง เศษ ในเขตอาคมมี อ ั ก ขระลอยพลิ ้ ว อยู
พลางเปลงแสงสวางวาบเจิดจา
ถึงแมวาหานลี่จะพุงความสนใจกวาครึ่งไปกับการตานทานเคราะหสวรรค แตเมื่อ
ฉากที่แปลกประหลาดนี้ปรากฏขึ้น แนนอนวาก็ไมอาจปดบังจิตสัมผัสได
ใจหายวาบ ลำแสงสีโลหิตที่เพิ่งจะปรากฏขึ้นบนรางของเขาเปลงแสงสวางวาบ
แลวหายวับไป ในเวลาเดียวก็ใชลำแสงเทวาของภูเขาดูดปราณตานทานลูกอั ส นี
ตอไปพลาง หันไปมองดวยความเย็นชาไปพลาง
มินาละหานลี่รอบคอบขนาดนี้ ตอนนี้อยูในชวงสำคัญของเคราะหสวรรค รอบๆ
เกิดสิ่งประหลาดที่ไมเคยไดยินมากอน แนนอนวาจึงตองระวังตัว
ทวาเขตอาคมลำแสงนี้ ดูอยางไรก็คุนตาหนัก คาดไมถึงวาจะเหมือนกับ...
หานลี่กวาดจิตสัมผัสไปที่เขตอาคม แลวพลันรูสึกกังขาใจ
เขตอาคมลำแสงสีขาวนวลเปลงเสียงหึ่งๆ ออกมา จากนั้นลำแสงสีขาวพลันสวางจา
สำเภาสีทองสี่เหลี่ยมลำหนึ่งปรากฏขึ้นทามกลางเขตอาคมลำแสงอยางนาเหลือเชื่อ
สำเภาทองลำนี้ดูเหมือนสรางมาจากทองคำบริสุทธิ์ วิจิตรงดงามตา แตทั้งลำกลับ
เต็มไปดวยตัวอักษรสีเงินจางๆ เมื่อหานลี่เห็นตัวอักษรนี้ชัดเจน ชั่วขณะนั้นพลันหนา
เปลี่ยนสี
“ตัวอักษรลูกออดสีเงิน!” คาดไมถึงวาจะเปนตัวอักษรวิญญาณของแดนเซียน!
สำเภาสีทองขนาดหาหกจั้ง บนพื้นผิวลวนแกะสลักไปดวยตัวอักษรวิญญาณ
และเขตอาคมลำแสงขนาดยักษนั่นก็เปนเขตอาคมที่สามารถสงตัวจากกลางอากาศได
หานลี่พลันตื่นตะลึง
สิ่งที่ทำใหเขาตกตะลึงมากยิ่งขึ้นก็คือ ใจกลางของสำเภาทอง มีลำแสงหอหุม
สีเหลืองลักษณะเปนครึ่งวงกลมอยู กำแพงหอหุมนั้นหนาเปนพิเศษ ถึงแมวาจะเปน
จิตสัมผัสที่แข็งแกรงของเขา ก็ยังไมอาจแทรกเขาไปไดเลยสักนิด
หลังจากที่สำเภาทองเผยออกมา เขตอาคมลำแสงสงตัวดานลางก็แตกออกเปน
เสี่ยงๆ แทบจะในเวลาเดียวกัน ลำแสงหอหุมสีเหลืองตรงใจกลางของสำเภาทองพลัน
มลายหายไป เผยรางของผูบำเพ็ญเพียรที่สวมเกราะสงครามสีทองสองคนออกมา
คนหนึ่งอายุคอนขางมาก ทาทางอายุหาสิบหกสิบป ไวเคราแพะ อีกคนหนึ่ง
อายุสามสิบกวาป ใบหนาขาวผองไรหนวดเครา
เกราะสีทองของผูบำเพ็ญเพียรทั้งสองตางมีตัวอักษรลูกออดสีเงินสลักอยู บางครั้ง
ก็มีอักขระจางๆ ลอยพลิ้วไหววนเวียนอยู ทำใหผูคนที่มองเห็นรูวาเกราะทั้งสองชิ้นนี้
ล้ำคาขนาดไหน
หลังจากที่เขากวาดจิตสัมผัสไปที่อีกฝาย ลำแสงเทวาดูดปราณบนหัวของหานลี่
พลันสั่นคลอน คาดไมถึงวาจะเกือบสลายหายไป
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา! และยิ่งไปกวานั้นหนึ่งในนั้นยังเปนผูบำเพ็ญเพียร
ระดับหลอมสุญตาขั้นกลาง!
สิ่งมีชีวิตระดับนี้ มาปรากฏตัวที่นี่ไดอยางไร แถมยังเปนตอนที่ตนเองกำลั ง
ขามผานเคราะหสวรรคพอดี หรือวามาหาตนเอง?
หานลี่จองเขม็งไปยังทั้งสองคน สีหนาดูไมไดเล็กนอย
ผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดสีเหลืองและพวกที่อยูไกลออกไป ก็มองเห็นสำเภาทองและ
ผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดเกราะสีทองสองคนที่ปรากฏตัวเชนกัน ผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้น
ตางรูสึกงุนงงไมรูวาเกิดเรื่องอะไรขึ้น แตเมื่ออาวุโสเพลิงเห็นทุกอยาง กลับหนา
เปลี่ยนสีราวกับเห็นผี และรองอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหงวา
“สำเภาลานทอง ผูพิทักษสวรรค!” น้ำเสียงของอาวุโสเพลิงแหลมสูงขึ้น
“ผูพิทักษสวรรค! อาวุโสของเมืองเทวะสวรรค?” ผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดสีเหลืองไดยิน
พลันหนาขาวซีด ใบหนาเต็มไปดวยสีหนาไมอยากจะเชื่อ
“ไมผิดแน ขานึกออกแลว นี่คือ เคราะหสวรรคเล็ก แตคนผูนี้เปนผูบำเพ็ญเพียร
จากแดนลางที่หาไดยาก และยังไมเคยกินยาทลายสิ่งโสมในไขกระดูก ดังนั้นจึงดึงดูด
เคราะหอสนีสองสีที่รุนแรง ผูพิทักษสวรรคเหลานี้คงสัมผัสไดถึงเคราะหสวรรค ถึงได
ส ง ตั ว มาช ว ย ทว า แปลกจั ง เหตุ ใ ดผู  พ ิ ท ั ก ษ ส วรรค ถ ึ ง ได บ ั ง เอิ ญ ผ า นมาทางนี้ ”
อาวุโสเพลิงมองสำเภาทอง พลางเอยพึมพำอยางงงงวย
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีเหลืองและพวกที่กำลังตกตะลึงเมื่อเห็นผูพิทักษสวรรค
ตางก็ไมไดตอบอะไร
ดูเหมือนวาทุกอยางจะเปนคำยืนยันคำพูดของอาวุโสเพลิง
ผู  บำเพ็ญ เพี ยรระดับหลอมสุญ ตาสองคนพลั น ปรากฏตั วขึ ้น บนสำเภาสีทอง
มองไปทางหานลี่ที่กำลังผานเคราะหสวรรคและลูกอัสนีที่หมุนวนอยูกลางอากาศ
เห็นเขายังคงตานทานไหว ทั้งสองพลันเผยสีหนาประหลาดใจออกมา
แต ท ั นใดนั้ นคนหนึ ่ งพลันชูม ือขึ ้น ยั น ต ส ี ม ว งแผ น หนึ ่ง พุ ง ออกมาจากฝามือ
หลังจากที่ปลอยยันตแผนนั้นออกมา ทามกลางเสียงฟาผา พลันมีมนุษยยักษลำแสง
อสนีสีมวงหอหุมรางกายสูงสิบจั้งปรากฏขึ้น
สองมือของมนุษยลำแสงกำลังกอดอก กายทอนบนเปลือยเปลา เต็มไปดวย
กลิ่นอายความบาคลั่ง แตหนาตากลับรางเลือน สัมผัสไดเพียงวาเปนชายรางใหญ
มีหนวดมังกรคนหนึ่ง
ผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดเกราะสีทองอีกคนหนึ่งเองก็โยนยันตวิเศษสีเขียวทอง
สองแผนออกมา
หลังจากที่ยันตทั้งสองแผนหลุดออกจากมือ ทามกลางลำแสงที่อึกทึก ก็กลายเปน
กรวยสีเขียวและคอนสีทองขนาดใหญเปนจั้ง
ทั้งสองสิ่งตางถูกลำแสงสีเขียวและประจุไฟฟาอัสนีสีทองหอหุมเอาไว แผแรงกด
ที่นาตกตะลึงออกมา มองปราดเดียวก็รูวาไมใชของธรรมดา
ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รที ่ ส วมชุ ด เกราะสี ท องคนหนึ ่ ง ร า ยอาคมออกไปเป น สายๆ
ดวยสีหนาเครงขรึม จมหายเขาไปในรางของมนุษยลำแสงที่อยูกลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นสองมือของมนุษยลำแสงยักษพลันตะปบไปทางกรวยสีเขียวและคอนสีทอง
ยันตวิเศษสองแผนที่กลายเปนอาวุธ กลายเปนลำแสงสองสายพุงเขาไปในมื อของ
มนุษยยักษทันที และคืนรางเดิมอีกครั้ง
ครานี้ผูบำเพ็ญเพียรอีกคนพลันรายคาถาอันไพเราะออกมา ดูเหมือนวาจะรวมมือ
กับสหายรวมวิถีอีกครั้ง
มนุษยยักษชูคอขึ้นเปลงเสียงรองราวกับมังกรออกมา ทันใดนั้นพลันชูมือขึ้น
ปลอยกรวยสีเขียวโจมตีไปตรงตำแหนงที่หานลี่อยู อีกมือหนึ่งกลับชูคอนสีทองขึ้นและ
โจมตีไปดานหลังของกรวยอยางรุนแรง
เสี ย ง “ป ง ” ดั ง สนั ่ นขึ ้ น ร า งของมนุ ษ ย ย ั ก ษ ม ี ป ระจุ ไ ฟฟ า สี ม  ว งปรากฏขึ้ น
คอนสีทองและกรวยสีเขียวเองก็เปลงแสงเจิดจาออกมา หลังจากที่เสียงฟาผาดัง
สะเทือนเลื่อนลั่นปรากฏขึ้น ประจุไฟฟาสีมวงเขียวทองสามสีทะลักออกมาจากปลาย
แหลมของกรวย ตอนแรกนั้นบอบบางดุจเสนไหม แตชั่วพริบตาก็เปลี่ยนเปนหนาและ
ยาว ขยายใหญขึ้นสองสามเทา ชั่วครูก็มีความกวางประมาณสองสามจั้ง อันยักษ
ยาวรอยจั้ง ราวกับมังกรเที่ยงแทสามสีตัวหนึ่งกำลังขดตัวมวนอยูกลางอากาศ ลำแสง
เจิดจาจนแสบตากะพริบวาบไปคอนฟา
ในตอนที่ทุกคนกำลังตกตะลึงจนตาคาง ประจุไฟฟายักษก็สวางวาบแลวหายวับไป ชั่ว
ครูก็ปรากฏขึ้นเหนือหัวของหานลี่
เสียง “เปรี้ยง” ของฟาผาดังขึ้น ลำแสงสามสีเปลงแสงสวางวาบ ทำใหหานลี่ที่อยู
ดานลางจิตใจหนักอึ้ง แมแตลมหายใจก็ถี่กระชั้นขึ้น
แตทันใดนั้นเขาก็รูสึกผอนคลายลงไปเปลาะหนึ่ง
เพราะวาประจุไฟฟาขนาดยักษนั้นขดตัวเล็กนอย แลวทะลวงเขาไปในเมฆสีดำที่
อยูกลางอากาศ
ทันใดนั้นเสียงครืนครันก็ดังขึ้น ลำแสงตางๆ เปลงแสงสวางวาบกลางกลุมเมฆไมหยุด
ชั่วขณะนั้นลูกบอลอสนีที่แตเดิมรวงลงมาพลันบางตาลง
เห็นฉากนี้หานลี่จะไมรูไดอยางไรวาทั้งสองคนกำลังลงมือชวยใหตนเองขาม
เคราะหสวรรค ถึงแมวาจะรูสึกประหลาดใจ แตก็ไมปฏิเสธเรื่องดีๆ เชนนี้
ทันใดนั้นรางกายของเขาก็หนักขึ้น รางทั้งรางลดระดับลงสูดานลางอยางไมทันรูตัว
เคราะห เ มฆาในครานี ้ ใ ห ค วามรู  ส ึ ก ที ่ อั น ตรายมากต อเขา ถื อโอกาสนี ้ อ อก
หางหนอยจะดีกวา
เปนดังที่เขาคิดไว!
ขณะที่เขากำลังดึงระยะหางออกจากเคราะหเมฆา มังกรไฟฟายักษในเมฆาก็
เปลงแสงสวางวาบขึ้นอีกครั้ง รางทั้งรางแตกออกเปนเสี่ยงๆ ประจุไฟฟาสามสีจำนวน
นับไมถวนแตกกระจายออก เสียงฟาผาดังสนั่นหู ชั่วพริบตาเคราะหเมฆาที่ดูเหมือน
หนามากพลันเบาบางลง หลังจากผานไปแคชั่วอึดใจ แสงอาทิตยก็ลอดผานเมฆสีดำ
ทมิฬออกมา
เคราะหสวรรคเล็กครั้งนี้ถูกทลายออก
หานลี่ไมไดคลี่ยิ้มเบิกบานดวยเหตุนี้ หลังจากเก็บลำแสงเทวะดูดปราณและ
ภูเขาดูดปราณแลว ก็มองไปอีกดานดวยสีหนาราบเรียบ
ไกลออกไปสำเภาสีทองลำนั้นกำลังบินเขามาอยางไมรีบรอน มองเห็นใบหนาของ
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมเกราะสีทองสองคนไดอยางชัดเจน
หานลี่ขมวดคิ้วเล็กนอย รูสึกอยูลึกๆ วากำลังจะมีเรื่องยุงยากอะไรสักอยางเขามา
แตเขาก็ยังยืนอยูที่เดิมไมขยับเขยื้อน แครออยางสงบนิ่งเทานั้น
สำเภาสีทองลำนั้นดูเหมือนวาเชื่องชามาก แคชั่วอึดใจก็มาอยูเบื้องหนาของหานลี่
อยางเงียบเชียบ ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดเกราะสีทองสองคนพิจารณาหานลี่อยาง
ละเอียด
“ผูบำเพ็ญเพียรที่บรรลุขึ้นมาจากแดนลาง? แปลกจริง ระดับเทพแปลงขั้นตน
ขึ้นมายังแดนนี้ไดอยางไร ทวาไมเปนไร ในเมื่อถูกพวกเราพบเขาแลว ก็ถือวาเจาโชคดี
ไปกับพวกเราเถิด” ในที่สุดผูบำเพ็ญเพียรหนาขาวผองอายุสามสิบกวาป ก็เอยปากขึ้น
น้ำเสียงไมไดเย็นชาและไมไดเปนมิตร
“หมายความวาอยางไร ตองไปที่ใดหรือ?” หานลี่ไดยินอีกฝายเอยถึงฐานะใน
แดนลางของตนเอง ก็อดที่จะตกตะลึง แตก็ยังเอยถามอยางเชื่องชา
“หมายความวาอยางไร? ตอนที่เจาบินขึ้นมา คงเกิดปญหาอะไรเขาสินะ ในเมื่อ
ไม ไ ด ม าปรากฏตั ว ที ่ แ ท นเหาะเหิ น จึ ง ไม ไ ด ไ ปเกณฑ ก ำลั ง ที ่ เ มื อ งเทวะสวรรค
แนนอนวาตอนที่บินขึ้นมาคงพบกับการระเบิดของหวงมิติเวลา ถูกมวนเขาไปแลว
สงมาที่แดนมนุษย” ผูบำเพ็ญเพียรหนาขาวหยักมุมปากขึ้น เอยอยางราบเรียบ
“แทนเหาะเหิน!” หานลี่ไดยินก็รูสึกสับสน เผยสีหนางงงวยออกมา
“ใช แดนวิญญาณของพวกเราติดตอกับแดนลางมานับพันปแลว ทุกคนที่มาจาก
แดนลางจะมีแทนเหาะเหินคอยรับไวโดยเฉพาะ ปกติแลวผูบำเพ็ญเพียรที่บรรลุขึ้นมา
ในแดนวิญญาณ เมื่อปรากฏตัวที่แดนวิญญาณจะถูกเมืองเทวะสวรรครับเอาไว ผูที่
เหมือนกับนายทาน คือประสบอุบัติเหตุตอนที่บินขึ้นมา จึงไปตกที่อื่น ถึงแมจะมี
นอยมาก แตก็ไมใชวาไมเคยเกิดขึ้นมากอน ทวาคนเหลานี้เปนเพราะไมไดกินยา
ทลายสิ่งโสม โดยทั่วไปจึงเพลี่ยงพล้ำใหกับเคราะหอสนีสองสีในครั้งแรก นายทาน
บังเอิญมาพบกับพวกเราที่มาทำธุระที่นี่พอดี แนนอนวาจึงนับวาเจาโชคดีแลว ”
ผูบำเพ็ญเพียรอีกคนที่อายุคอนขางมาก กลับเอยอธิบายพรอมกับหัวเราะเบาๆ
ตอนที่ 1315 ผูพิทักษยมโลกนิล
“เจาไมเคยกินยาทลายสิ่งโสม เพื่อลางกลิ่นอายในแดนลาง เคราะหสวรรคเล็ก
สามรอยปมีครั้งหนึ่งจึงเปนเคราะหอสนีสองสี ตอใหเจามีความสามารถขนาดไหน
ก็ไมมีทางตานทานได ครั้งนี้พวกเราจะชวยเจาสลายเคราะหสวรรค แตดวยเหตุนี้
เคราะหสวรรคครั้งตอไปของเจาจะขึ้นในอีกรอยกวาป ขอแคกินยาทลายสิ่งโสม
ป ล ะเม็ ด ก็ จ ะทำให ก ลิ ่ น อายของเจ า กลมกลื น กั บ แดนวิ ญ ญาณของพวกเรา
เคราะหอสนีสองสีถึงจะไมเกิดขึ้น ในเมืองเทวะสวรรคของพวกเรา จะมอบยาทลาย
สิ่งโสมใหผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาปละเม็ด เคราะหสวรรคสองสีครั้งตอไปจะรายกาจ
กวาครั้งนี้สามเทา” ผูบำเพ็ญเพียรที่อายุมากหนอยเอยถามขึ้นอีกครั้ง
“ทานอาวุโสหมายความวา ขานอยตองอยูในเมืองเทวะสวรรคตลอดชีวิต” หานลี่
แววตาเปลงประกายสองสามครั้งขณะเอยถาม
“แนนอนวาไมใช ขอแคกินยาทลายสิ่งโสมครบสามรอยป ก็จะชะลางกลิ่นอาย
และออกจากเมืองเทวะสวรรคได” ผูบำเพ็ญเพียรหนาขาวเอยอยางราบเรียบ
“เมืองเทวะสวรรคเปนสถานที่ที่ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาอยางพวกเราไปรวมตัวกัน
ไม ม ี ท างมอบยาทลายสิ ่ ง โสมให ฟ รี ๆ หรอกกระมั ง คงต อ งให พ วกเราทำอะไร
แลกเปลี่ยน” หานลี่ไมยอมพูดวกไปวนมาอีก เอยถามปญหาที่สำคัญที่สุดทันที
“สหายชาญฉลาดดังคาด ถึงแมวายาทลายสิ่งโสมจะมีประโยชนแคกับผูบำเพ็ญเพียร
ที่บินขึ้นมาอยางพวกเจา แตวัตถุดิบทั้งหมดที่ใชก็หายากเปนอยางมาก มีวัตถุดิบ
จำนวนไม น อยที ่ ม ี แ ต ใ นแดนป า เถื ่ อน หากอยากได ย าลู ก กลอนเหล า นี ้ จ ำตองมี
ขอแลกเปลี่ยน ทวา เรื่องนี้ไปถึงเมืองเทวะสวรรคกอนแลวคอยอธิบายใหเจาฟง
ตอนนี้สหายขึ้นสำเภามากอนเถิด แนนอนวาหากปฏิเสธ เราสองคนก็จะไมบ ัง คับ
แตผลลัพธจะเปนอยางไร สหายก็นาจะรูดีสินะ” ผูบำเพ็ญเพียรที่อายุคอนขางมาก
ลูบไปที่เคราแพะของตนเอง แลวเอยพรอมกับหัวเราะนอยๆ ออกมา
หานลี่ไดฟงพลันหนาเปลี่ยนสี
เขาขบคิดอยูชั่วครู เงยหนาขึ้นมองทองฟาในระยะหมื่นลี้ที่ไรกลุมเมฆ แลวมอง
สำเภาทองประหลาดๆ ใตฝาเทาของทั้งสอง ฉับพลันนั้นรางกายพลันพลิ้วไหว คนขึ้น
ไปบนสำเภา
ผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดเกราะสีทองสองคนเห็นสถานการณนั้น พลันหัวเราะนอยๆ
ออกมา ไมไดรูสึกประหลาดใจเลยสักนิด ไมวาผูใดเห็นความนากลัวของเคราะห
อสนี ส องสี ก็ ม ี ห นทางรอดเพี ย งหนทางเดี ย วเท า นั ้ น และยิ ่ ง ไปกว า นั ้ น คนที ่ อ ยู
เบื้องหนาเปนแคผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นตน ตานทานกับเคราะหอสนีสองสี
ไดจนถึงตอนที่พวกเขามาปรากฏตัว ก็เปนเรื่องที่เหนือความคาดหมายแลว
เมื่อมาอยูบนสำเภาทอง หานลี่พลันกวาดสายตาออกไป แลวถึงไดพบวาใจกลาง
ของสำเภา มีเขตอาคมเล็กๆ สลักอยู
ขณะที่เขากำลังตรึกตรองนั้น ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดเกราะสีทองสองคนก็ชิง
ลวงหนากาวเขาไปกอนและเรียกหานลี่
หานลี่ลังเลเล็กนอย และเดินเขาไปขางในเชนกัน
ผลคือผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดเกราะสีทองสองคนตางรายอาคมออกไปคนละสาย
ชั ่ ว ขณะนั ้ นเขตอาคมใต ฝ  า เท า ก็ เ กิ ด เสี ย งกึ ก ๆ ขึ ้ น ลำแสงหนาๆ ชั ้ น หนึ ่ ง พลั น
ปรากฏขึ้น ชั่วครูก็หอหุมทั้งสามเอาไวขางใน
จากนั้นผูบำเพ็ญเพียรที่อายุมากนอยพลันพลิกฝามือ จานกลมๆ สีทองเรืองรอง
จานหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ บนจานมีตัวอักษรลูกออดสีเงินสองสามตัวสลักเอาไวเชนกัน
คนผูนี้ใชมือหนึ่งตบไปบนจาน
ชั่วขณะนั้นจานใบนั้นพลันเปลงแสงสีทองเจิดจา ในเวลาเดียวกันตัวอักษรสีเงิน
สองสามตัวก็เปลงแสงสีเงินระยิบระยับออกมา
แทบจะในเวลาเดียวกัน สำเภาสีทองพลันสั่นคลอน ฉับพลันนั้นกนสำเภาพลันมี
ลำแสงสีขาวโพลนทะลักออกมา ลำแสงเหลานี้ลอมรอบใตสำเภาทองเอาไว แ ละ
หมุนวน คาดไมถึงวาจะผนึกรวมกันเปนเขตอาคมสีขาวเหมือนที่หานลี่เคยเห็นแลว
ครั้งหนึ่ง
หลังจากที่เขตอาคมทั้งหมดเปลงแสงออกมา สำเภาสีทองก็สั่นคลอนเล็กนอย
แลวสลายหายไป
เขตอาคมแตกออกเปนเสี่ยงๆ แลวสลายหายไป
อาวุโสเพลิงและผู บำเพ็ญ เพี ยรระดับ หลอมรวมสองสามคนที ่อยู ไ กลออกไป
จับตามองทุกอยางอยูตลอด แตตั้งแตที่ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดเกราะสีทองปรากฏ
ตัวขึ้น คนเหลานี้กลับหมดความสนใจที่จะสนทนากันทันที กลับไมกลาแมแตจะ
หายใจแรงๆ หลังจากที่สำเภาสีทองหายวับไป คนเหลานั้นถึงไดผอนลมหายใจออกมา
เฮือกหนึ่ง หลังจากมองสบตากันแวบหนึ่ง ตางก็มองเห็นแววตาวาโชคดีจากใบหนา
ของอีกฝาย
“อาวุ โ สเพลิ ง ดู เ หมื อ นว า ผู  พ ิ ท ั ก ษ ส วรรค จ ะไม ไ ด น  า กลั ว อย า งในตำนาน
ตำนานไมใชความจริงใชหรือไม”
ชายหนุมสวมชุดคลุมสีเหลืองลังเลเล็กนอย แลวเอยถามออกมา
“พวกเจาจะรูอะไร! ในสามเขตเจ็ดแดน เมืองเดียวที่ไมสวามิภักดิ์ตอสามฮองเต
และเจ็ดราชันยปศาจ ก็คือเมืองเทวะสวรรค ผูพิทักษสวรรคที่สวมชุดเกราะสีทองคือ
ชนชั้นที่สูงมากของเมืองเทวะสวรรค ทุกคนลวนสามารถเขาออกเมืองตางๆ ไดอยาง
อิสระ ไมไดรับขอจำกัดในอำนาจ และยิ่งไปกวานั้นยังสามารถสังหารคนนอกเผาที่กอ
ความวุนวายใหกับเผามนุษยและปศาจทั้งสองเผาไดอยางเปดเผย อำนาจที่ยิ่งใหญนี้
แมแตสามฮองเตยังหวาดกลัว และยิ่งไปกวานั้นหากอยูนอกสงคราม แมแตในนาม
ของสามฮองเตและปศาจทั้งเจ็ดก็ยังตองฟงคำสั่งโยกยายของอาวุโสเมือง เท
วะสวรรค” หลังจากที่อาวุโสเพลิงลังเลเล็กนอย ก็ยอมเผยขาวลับที่ตนเองรูออกมา
“มีเรื่องเชนนี้ดวยหรือ ขาแคเคยไดยินทานอาจารยเอยถึงเมืองเทวะสวรรคและยิ่งไป
กวานั้นยังกำชับวาหามไปลวงเกิน ดูเหมือนวาเมื่อนานมาแลว เมืองเทวะสวรรคจะ
เคยกำจัดสำนักผูบำเพ็ญเพียรตางๆ ไปนับรอยสำนักภายในระยะเวลาเดือนเดียว
แตสาเหตุที่เปนรูปธรรมนั้น กลับไมมีผูใดรู สามฮองเตก็แสรงทำเปนไมรูเรื่องนี้”
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดสีเหลืองถลึงตากลมๆ ทั้งสอง หลังจากผานไปชั่วครู แลวถึงได
เอยเชนนี้ออกมา
“ใชเลย ขาวลือเกี่ยวกับเมืองเทวะสวรรค พวกเรารูมาไมมากนัก แตปกติแลว
ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รของเมื อ งนี ้ จ ะมาปรากฏตั ว ที ่ เ ขตแดนของเผ า มนุ ษ ย แ ละป ศ าจ
เพื่อตอกรกับศัตรูนอกเผาโดยเฉพาะ และยิ่งไปกวานั้นถึงแมวาจะปรากฏในอาณาเขต
ของทั้งสองเผ า ก็มีเพียงผู พิท ักษส วมชุด เกราะสีท องเทา นั ้ น ” อาวุโสเพลิ ง พลั น
ขมวดคิ้ว
เมื่อไดฟงบทสนทนาของทั้งสอง ถึงแมวาผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมสองสามคน
ดานขางจะรูเรื่องของผูพิทักษสวรรค แตก็ไมเหมือนทั้งสองคนนี้ที่รูเรื่องราวอยาง
ละเอียด จึงมองสบตากันดวยสีหนาตกตะลึง
ครานี้สำเภาทองที่หานลี่อยูกลับมาปรากฏในเขตอาคมสงตัวลับของเมืองนิรนาม
แหงหนึ่ง
ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รที ่ ส วมชุ ด เกราะสี ท องคนหนึ ่ ง กระโดดลงมาจากสำเภาทอง
หลังจากที่เปลี่ยนศิลาวิญญาณที่เปลงแสงเรืองรองสองสามเม็ดบนเขตอาคมสงตัวแลว
ก็กลับไปยังสำเภาทองแลวรายอาคมอีกครั้ง กระตุนเขตอาคม
หานลี ่ ม องผลึ ก เหล า นั ้ น แล ว พลั น ใจเต น ผลึ ก เหล า นี ้ ค าดไม ถ ึ ง ว า จะเป น
ศิ ล าระดั บ สู ง ที ่ ม ี ม ู ล ค า เป น อย า งมาก ความคิ ด ของเขาเคลื ่ อนไหวสองสามครั้ ง
สำเภาทองก็ถูกลำแสงสีขาวกลืนกิน แลวสงตัวออกมาอีกครั้ง
ครานี้สถานที่ที่มาปรากฏคือถ้ำใตดินแหงหนึ่ง ใตสำเภาทองมีสิ่งที่เหมื อนกับ
เขตอาคมสงตัวอยูอีกแหงหนึ่ง
ทำการเปลี่ยนศิลาวิญญาณเชนกัน และสงตัวออกไปเชนกัน สำเภาทองพลัน
สลายหายไปอีกครั้ง
ภายใตการจับจองดวยความเย็นชาของหานลี่ สำเภาทองพลันสงตัวอยางตอเนื่อง
ไปยี่สิบกวาครั้ง
ตอนนั้นที่หานลี่สงตัวมายังมหาสมุทรดาวคลั่ง ก็ใชศิลาวิญญาณระดับกลาง
แคครั้งเดียวเทานั้น และยิ่งไปกวานั้นครั้งเดียวก็สงตัวจากเทียนหนานมาถึงมหาสมุทร
ดาวคลั่ง แตเขตอาคมสงตัวที่สำเภาทองใชนั้น กลับตองใชศิลาวิญญาณระดับสูง
และสงตัวตั้งหลายครั้ง ระยะทางในการสงตัว หานลี่ก็ไมอาจจินตนาการได
หลังจากเสียง “ฟว” ดังขึ้น สำเภาทองก็สงตัวออกมาอีกครั้ง และมาปรากฏตัวใน
เขตอาคมอีกครั้ง
แตครั้งนี้ หานลี่กวาดสายตาไป พลันใจหายวาบ ชั่วขณะนั้นในที่สุดตัวเองก็มาอยู
ในเมืองที่เรียกวาเมืองเทวะสวรรค
เปนเพราะครั้งนี้เขตอาคมสงตัวสรางขึ้นบนแทนสูงที่ดูเหมือนแทนบวงสรวง
แทนสูงขึ้นไปสิบจั้งเศษ คาดไมถึงวาจะมีผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดเกราะสงครามสีดำสี่คน
ยืนอยูตรงนั้น
รูปแบบของเกราะสงครามสีดำเหลานี้ ดูเหมือนจะหยาบกวาเกราะสงครามสีทอง
ของผูบำเพ็ญเพียรทั้งสองที่อยูขางหานลี่เล็กนอย แตผิวของมันก็มีตัวอักษรสีเงินสลัก
อยูเชนกัน
ที ่ น ี ่ เ ป น สถานที ่ ท ี ่ ม ี ค วามกว า งร อ ยจั ้ ง มี ป ระตู ว ิ ห ารยั ก ษ ส ู ง สิ บ จั ้ ง เศษ
และนอกจากแทนบูชาแลว รอบๆ ดานก็วางเปลา ไมมีสิ่งของใดๆ
ชั่วพริบตาที่สำเภาทองปรากฏขึ้น ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดเกราะสีดำสี่คนก็เผย
สีหนาระแวดระวังออกมา เมื่อเห็นผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดเกราะสีทองแลว ทั้งสี่คนก็มี
สีหนาผอนคลายลง แตทันใดนั้นรางกายเคลื่อนไหวลอยขึ้นไปบนแทนหิน
หนึ่งในนั้นเปนชายรางใหญที่มีดวงตาสีเขียวมรกต ขาทั้งสองเหยียบอยูบนยอด
ของแทนหิน แลวสืบฝเทาเขามาสองสามกาว พลางคารวะผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุด
เกราะสีทองสองคนอยางนอบนอม
“คารวะทานผูพิทักษ!”
แววตาของหานลีก่ วาดไปบนเรือนรางของทั้งสองสามคน แววตาพลันเคลื่อนไหว
ทั้งสี่คนลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด คนหนึ่งอยูในระดับกอกำเนิดขั้นปลาย
คนหนึ่งขั้นกลาง สองคนอยูในขั้นตน
“ลุกขึ้นเถิด ผูนี้คือผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาใหม ขาจำไดวากลุมของพวกเจาดูเหมือน
จะขาดผูพิทักษยมโลกนิลไป หึๆ ไมแนวาเขาอาจจะกลายเปนหัวหนาของพวกเจา
พาเขาไปพักในวิ หารวิญ ญาณเหิ นสั ก คื นเถิ ด เราสองคนจะไปรายงานภารกิ จ กั บ
ทานอาวุโส แลวคอยไปพบกับ เขาอีก ครั้ง ” ผูบำเพ็ญเพียรสวมชุด เกราะสี ท องที่
คอนขางมีอายุออกคำสั่งอยางราบเรียบ
“ขอรับ!”
ชายรางใหญคนนี้มองออกวาหานลี่คือผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงตั้งนานแลว
ตอนนี้ไดยินเชนนี้ ก็ไมไดตกตะลึง แคคอมตัวใหหานลี่เล็กนอย ปากก็เอยตอบรับ
“เจาตามพวกเขาไปพักผอนสัก คืน กอน มีอะไร คอยคุยกันพรุงนี้ก็แลว กั น”
ผูบำเพ็ญเพียรหนาขาวเอยกับหานลี่
หานลี่พลันพยักหนา และไมไดมีความเห็นตางอะไร
ดังนั้นทันทีที่ทั้งสามเดินลงจากแทนสูงๆ ก็ตรงไปที่ประตูวิหาร หานลี่สังเกตเห็นวา
ผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดเกราะสีดำทั้งสี่คนนั้นมีเพียงชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตซึ่ง
เปนผูนำที่ตามพวกเขามาติดๆ สวนที่เหลืออีกสามคนยังเฝาอยูใตแท นบูชาสู ง ๆ
เชนเดิม
ดูแลวเขตอาคมสงตัวและสำเภาทองจะเปนสิ่งที่สำคัญของที่นี่มาก คาดไมถึงวา
จะตองใชผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดสี่คนรอยรักษาการณไว
เมื่อออกจากประตูวิหาร เบื้องหนาก็มีทางเดินขนาดยักษกวางสี่หาจั้งปรากฏขึ้น
สองฝงที่เดินไปลวนเปนกำแพงหินสีเขียวเทา แตทุกระยะของกำแพงหินเหลานี้
จะมีตัวอักษรลูกออดสีเงินสลักอยู ทำใหกำแพงหินทั้งหมดดูลึกลับเปนอยางมาก
ทางเดินเสนนี้เปนทางโคง และคอยๆ ลาดลงไปใตดินเรื่อยๆ
เมื่อเห็นฉากนี้ หานลี่พลันขมวดคิ้ว แตก็ไมทันไดขบคิดอะไรใหละเอียดนัก
ผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดเกราะสีทองสองคนเดินขึ้นไปดานบนในทันใด ชายรางใหญ
สวมชุดเกราะสีดำผูนั้นกลับพาเขาลงไปดานลาง
ทางเดินขนาดนั้น ทุกๆ สองสามรอยจั้ง จะมีประตูวิหารที่เหมือนกับที่ที่หานลี่
เดินออกมาปรากฏขึ้น ประตูบางบานก็ปดสนิท บางบานก็เปดอาอยู
บานที่เปดอาอยู แนนอนวาสามารถมองเห็นทุกอยางที่อยูดานในไดอยางชัดเจน
ดานในกวาครึ่งลวนเปนแทนบูชาสูงๆ เขตอาคมสงตัวและสำเภาทอง มีผูบำเพ็ญเพียร
ระดับกอกำเนิดสองสามคนคอยรักษาการณอยู อีกครึ่งนั้นวางเปลา ไมมีอะไรวางอยู
สวนประตูที่ปดสนิทเหลานั้น ถึงแมวาหานลี่จะใชจิตสัมผัสกวาดออกไป แตกลับ
ไมอาจทะลวงผานกำแพงหินลึกลับที่มีตัวอักษรลูกออดที่สลักอยางซับซอนไปได
บนทางดินบางครั้งก็พบกับผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ที่เดินผานมา ดานในสวนใหญ
ลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดที่สวมชุดเกราะสีดำ แตก็พบกับผูบำเพ็ญเพียร
ที่สวมชุดเกราะสีเขียวเขมอยูสามสี่คน ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดเกราะสีเขียวเหลานี้
ลวนมีพลังยุทธระดับเทพแปลง เห็นไดชัดวาคือสิ่งที่เรียกวา ‘ผูพิทักษยมโลกนิล’
เมื่อผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้เห็นหานลี่เปนคนนอก ถึงแมวาจะพิจารณาเขาดวย
ความประหลาดใจแวบหนึ่ง แตกลับไมมีใครเขามาซักถามอะไร และยิ่งไปกวา นั้น
ทุกคนยังมีทาทีรีบรอน ราวกับผานการฝกอบรมมากอน
หานลี่เห็นฉากนี้พลันขมวดคิ้วในใจ
ตอนที่ 1316 ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมากับเมืองเทวะสวรรค
หลังจากที่เดินลงไปไดเกือบพันจั้ง เบื้องหนาของหานลี่พลันเปลงแสงเจิดจา
หองโถงยักษเกื อบพันจั้ง ปรากฏขึ้ น ในหองโถงมีผูพิทักษ เกราะอยู เกือบร อ ยคน
กำลังเดินผานไปดวยความรีบรอน ทาทางงวนอยูกับงาน
รอบๆ หองโถงมีประตูทางออกที่เหมือนกับประตูที่เขาอยูสิบกวาประตู มีผูคน
เดินเขาๆ ออกๆ อยูขวักไขว
หานลี่มีสีหนาตกตะลึงฉายแวบผานไป เมื่อเดินมาถึงหองโถงก็อดที่จะเงยหนาขึ้น
มองตามความรูสึกไมได ผลคือทำใหตกตะลึง
เมื่อมองสิ่งที่เรียกวาหองโถงนั้น กลับมองไมเห็นเพดาน คาดไมถึงวาจะเปนสิ่งที่
เหมือนกระบองกลมๆ ขนาดใหญ ราวกับหอคอยยักษกลางอากาศอยางไรอยางนั้น
สวนที่พวกเขาเพิ่งออกมา ก็นาจะเปนแคกำแพงชั้นลอยของหอคอยนี้เทานั้น
หอคอยศิลาขนาดยักษเชนนี้ หานลี่เพิ่งเคยเห็นเปนครั้งแรก พอตื่นตะลึงอยูชั่วครู
ถึงไดสติฟนฟูสีหนากลับมาเปนปกติ
ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตที่เปนผูนำทาง ไมแปลกใจกับทาทางตกตะลึง
ของหานลี่เลยสักนิด และไมไดมีเจตนาจะเรงเรา เมื่อหานลี่กมหนาลงอีกครั้ง ถึงไดพา
หานลี่เดินออกมาประตูตรงเขาไปที่หองโถง
เมื่อหานลี่เดินออกมาจากหองโถง หลังจากมองไปยังจุดที่ไกลออกไปแวบหนึ่ง
พลันใจเตนตึกตัก แลวพลันตกตะลึงขึ้นอีกครั้ง เห็นเพียงทุกจุดที่กวาดสายตาไป
ไกลออกไปมีหอคอยยักษที่สูงเทียมเมฆสี เขีย ว เรียงรายกันอยูอยางหนาแน นถึ ง
รอยหอคอย และสวนรากของหอคอยยักษเหลานี้ลวนมีศาลาลอมเอาไวติดๆ กันจน
ไมรูวามีกี่ศาลา ที่สูงหนอยก็มีความสูงถึงพันจั้ง เตี้ยหนอยก็มีความสูงประมาณ
รอยจั้งเศษ สิ่งปลูกสรางทุกแหงดูเหมือนวาจะสรางใหญกวาปกติสองสามเทา
นี่จะไมทำใหหานลี่มองดวยความตกตะลึงจนอาปากคางไดอยางไร
ครานี้ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดเกราะซึ่งเดินออกมาจากหองโถงเชนกัน ก็ทยอยกัน
กลายเปนลำแสงหลีกหนีบินไปยังสิ่งปลูกสรางดานลางหอคอย หลังจากที่ชายรางใหญ
ตาสีเขียวมรกตรองเรียกคำหนึ่ง ก็พาหานลี่พุงลงไปดานลาง ตรงไปยังวิหารพันจั้งที่อยู
ไมไกลนัก
ศาลาแหงนี้มีทั้งหมดสิบชั้น ทุกชั้นมีทางเขาหนึ่งทาง และประตูที่อยูตรงกลางนั้น
มีประตูที่มีความสูงประมาณสามพันจั้ง แขวนแผนปายสีเงินที่มีตัวอักษรตัวใหญๆ
เขียนเอาไววา ‘วิหารเหินวิญญาณ’
ตอนที่ชายรางใหญพาหานลี่บินเขาไปในชั้นสี่ของวิหาร เมื่อเขาไปขางในก็เปน
หองโถงขนาดเล็ก รอบๆ ดานมีทางเดินหกเจ็ดสายทอดตรงไปหาที่อื่น
ในหองโถงมีผูบำเพ็ญเพียรสวมอาภรณหลากหลายสองสามคนกำลังรวมตัวกัน
สนทนาอะไรกันสักอยางอยูตรงนั้น
หานลี่กวาดสายตาไป ก็รูวาคนเหลานี้คือผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นตน
เหมือนกันกับเขา
ตอนที่หานลี่และชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตเดินเขาไป คนเหลานี้ก็พบ
พวกเขาทันที ทันใดนั้นรูมานตาก็หดเล็กลง หันมามองพรอมกัน
“เอ นี่ไมใชหลานจัวหรือ? อันใด ผูนี้คือสหายรวมวิถีที่มาใหมหรือ?” ชายชรา
ที่ผมเต็มไปดวยสีขาว สีหนาซีดเซียวเอยถามยิ้มๆ
ชายรางใหญดวงตาสี เ ขี ยวมรกตคื อผู บำเพ็ ญเพียรระดั บก อกำเนิ ดขั้ น ปลาย
คนผูจึงไมกลาดูแคลนนัก
“ที่แทก็ทานอาวุโสหลี่วนี่เอง อาวุโสผูนี้คือผูที่ทานผูพิทักษสวรรคพามาจากนอกเขต
ไมใชผูบำเพ็ญเพียรที่พัฒนาระดับขั้นในเมืองของเรา” ชายรางใหญดวงตาสีเขียว
มรกตเขามาในวิหาร แตทันใดนั้นสีหนาเครงขรึมแตเดิมก็หายวับไป คาดไมถึงวาจะดู
เหมือนเปลี่ยนเปนคนละคน อธิบายใหชายชราฟงดวยความเกรงใจเปนพิเศษ
หานลี่พลันมีสีหนาประหลาดใจฉายแวบผานไป
“พามาจากนอกเขต หรือวาคือผูบำเพ็ญเพียรที่แทนเหินวิญญาณพามา?”
“บินขึ้นมาจากแดนไหนหรือ?”
“เอ เหตุใดถึงเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นตน ผูที่บินขึ้นมารุนแรกไมไดกลาว
เอาไวหรือวาผูที่ขึ้นมาจะตองมีพลังยุทธระดับเทพแปลงขั้นปลาย?”
……
ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นตนสองสามคนไดยินคำนี้ ก็พากันเกิดเสี ยง
อื้ออึงขึ้น ตางกวาดสายตามามองหานลี่ดวยความประหลาดใจ
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา แคประสานกำปนใหคนเหลานั้น ไมไดกลาวอะไร
แตก็แอบพึมพำในใจไมหยุดเชนกัน
หรือวาคนเหลานี้เปนผูที่บินขึ้นมาจากแดนลางแดนอื่น แตดูแลวก็ไมคอยเหมือนนัก
แตถาหากเปนผูบำเพ็ญเพียรจากแดนวิญญาณ จะมาปรากฏตัวที่นี่ไดอยางไร
เมื่อไดยินคำวา ‘วิหารเหินวิญญาณ’ ก็คงเกี่ยวของกับผูที่บินขึ้นมา
หลังจากที่ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตทักทายปราศรัยกับคนอื่นๆ แลว ก็ตอบ
กลับอยางครุมเครืออีกสองสามประโยค แลวพาหานลี่เดินเขาไปในทางเดินสายหนึ่ง
และหาหองสองสามหองที่เรียงตอกันเปนหองชุดมาชุดหนึ่ง
หองสองสามห องนี้ เรีย งต อกั น ราวกับจวนขนาดเล็ก แห งหนึ่ ง ไมเพีย งจะมี
หองลับที่ใชฝกบำเพ็ญเพียรโดยเฉพาะ ยังมีหองสำหรับปรุงยาและหองหลอมอาวุธอยู
ดวย ยิ่งไปกวานั้นหองสองสามหลังนี้ยังถูกเขตอาคมพิเศษชุดหนึ่งผนึกเอาไว มีเพียง
เจาของหองที่ใชแผนปายเขตอาคมถึงจะเปดเขาออกได
หานลี่เห็นแลวพลันรูสึกพึงพอใจเปนอยางมาก และพยักหนาทันที
ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตเห็นเชนนั้น ก็เอยขอตองหามของสถานที่แหงนี้
มาสองสามขอ แลวทิ้งแผนปายตองหามเอาไวให พลางกลาววาตนเองมีธุระและ
ขอตัวลาในทันที
นี ่ จ ึ ง ทำให แ ผนการที ่ ห านลี ่ ค ิ ด จะทำความรู  จ ั ก กั บ อี ก ฝ า ย เพื ่ อ จะถามถึ ง
สถานการณของเมืองเทวะสวรรคอยางละเอียดนั้นลมเหลว
ครานี้เขานั่งอยูบนเกาอี้ไมในหองรับแขก หลังพิงพนัก มือหนึ่งควงแผนปายตองหาม
สีเงินระยิบระยับในมือเลน ในใจกลับขบคิดถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นหลังเคราะหอสนี
ตามแผนเดิมของเขา เมื่อผานสิ่งที่เรียกวาเคราะหสวรรคเล็กไปแลว แนนอนวา
ตองหาที่ลับที่มีไอวิญญาณยอดเยี่ยมสั กแหงหนึ่ งเพื่ อฝก บำเพ็ ญเพียร พัฒนาถึง
ระดับหลอมสุญตาจนมีหนทางนิรันดรแลวคอยวากัน
แตสิ่งที่คิดไมถึงก็คือ ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาคาดไมถึงวาจะนำ ‘กลิ่นอายแดน
ประหลาด’ มาดวย เคราะหสวรรคเล็กถึงไดนากลัวขนาดนี้
กอนหนานี้ไมนานตอใหเขาสามารถขามผานเคราะหอสนีสองสีครั้งแรกไดจริงๆ
แตครั้งตอไปก็ไมอาจตานทานไดอยูดี เขาถึงไดตามทั้งสองคนมาที่เมืองเทวะสวรรค
อยางแทบไมตองขบคิด
แตเมื่อมาถึงที่นี่จริงๆ ทุกอยางของที่นี่ก็ดูเหมือนวาจะไมไดแตกตางกับเมืองของ
ผูบำเพ็ญเพียรเทาใดนัก และไมรูวาเกิดเรื่องอะไรขึ้น นี่จึงทำใหเขาไมมั่นใจอะไรเลย
สิ่งเดียวที่เขารูก็คือ ในเมืองเทวะสวรรคแหงนี้ดูเหมือนวาจะมีผูบำเพ็ญเพียรที่บิน
ขึ้นมาจากแดนลางไมนอย
หานลี่ขบคิดไปพลาง รูสึกนั่งไมติดไปพลาง
เขาขบคิดอยางเงียบๆ วาจะถือโอกาสนี้ออกไปสอบถามเรื่องเมืองเทวะสวรรค
รวมทั้งสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรที่ขึ้นมาอยางเขาตองทำขางนอกดีหรือไม
ในตอนที่หานลี่กำลังใจเตนพลางคิดจะลงมือนั้น ฉับพลันนั้นดานประตูผนึกก็มี
เสียงของชายชราดังขึ้น
“สหายที่อยูขางใน ตาเฒาหลิ่วเหอเตา ขอคุยกับสหายหนอยไดหรือไม”
หานลี่ไดยินแลวพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็หัวเราะเบาๆ ออกมา
ดูแลวไมตองใหเขาออกไปหา ก็มีคนเขามาตีสนิทเอง
“ที่แทก็เปนสหายหลี่วที่มาเยี่ยมเยียนนี่เอง ผูแซหานชางโชคดีเหลือเกิน!” หานลี่
ตอบกลับ จากนั้นก็โบกแผนปายในมือไปที่ประตูบานใหญเบาๆ
ลำแสงสี เ งิ นทะลั ก ออกมา หลั ง จากประตู ด ั ง ครื ด คราดแล ว ก็ เ ป ด ออกโดย
อัตโนมัติ
ผูบำเพ็ญเพียรที่ยืนอยูดานนอกประตูมีใบหนาซีดขาวและผมขาวโพลน นั่นก็คือ
ชายชราที่เคยพบกันหนากันครึ่งหนึ่งที่หองโถง
“ที่แทสหายก็แซหานนี่เอง ที่ผูแซหลี่วผลีผลามเขามารบกวน หวังวาสหายจะไม
ถือสา” ใบหนาของชายชราประดับไปดวยรอยยิ้ม พลางเอยอยางเกรงใจ
“ฮาๆ ขานอยจะคิดเชนนั้นไดอยางไร ตอใหพี่หลี่วไมมา ผูแซหานก็คิด จะไป
เยี ่ ย มเยี ย นเหล าสหายอยู ดี !” หานลี ่ ค ื อใคร คนธรรมดาจากแดนมนุ ษย ที ่ฝกฝน
ทีละกาวๆ จนมาถึงครานี้ทักษะในการเขาสังคมจึงเหนือกวาชายชราแซหลี่วที่ อยู
เบื้องหนา ทันใดนั้นก็เอยดวยสีหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม
เชนนั้น ทั้งสองคนแคพูดคุยกันสองสามประโยค ก็ดูเหมือนสหายที่สนิทสนมกัน
มานานนม
“เมื่อครูไดยินหลานจัวกลาววาสหายคือผูที่ผูพิทักษสวรรคมากลับมาในเมื อง
เชนนั้นสหายก็คงเปนผูบำเพ็ญเพียรจากแดนลางที่เพิ่งบินขึ้นมาจากแดนเรา ไมทราบ
วาสหายมาจากแดนใดหรือ” ชายชราแซหลี่วเอยไปพลาง เปลี่ยนหัวขอสนทนา
พลางซักถามไปพลาง
“แดนใด? เรื่องนี้...ขานอยเองก็ไมรูวาแดนวิญญาณมีคำเรียกแดนลางที่มากมาย
ขนาดนี ้ จึ ง ไม ร ู  ว า จะตอบว าอย างไร เช น นี ้ ก ็ แ ล ว กัน หลั ง จากที ่ผ ู แ ซ ห านเขาใจ
เรื่องราวแลว จะบอกสหายอีกทีเปนอยางไร?” หานลี่แววตาเปลงประกาย พลางตอบ
กลับแลวหัวเราะเบาๆ
เขาไมมีทางแพรงพรายเรื่องของตนเองงายๆ แน ถึงอยางไรเสียในแดนมนุษย เขา
ก็เกี่ยวของกับผูยิ่งใหญในแดนวิญญาณ ไมวาจะเปนรางที่แทจริงของอสูรเทียนหลาน
หรือวาราชันยหมาปาเทียนขุยที่อิ๋นเยวกลาว ตางก็ไมใชสิ่งที่เขาในตอนนี้จะหาเรื่องได
“เรื่องนี้ตาเฒาเลอะเลือนเอง สหายเพิ่งมาถึงแดนวิญญาณไดไมนาน คงยังไม
เขาใจเรื่องราวตางๆ ในแดนนี้สินะ ทวาผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมารุนแรกอยางสหาย
ทุกคนลวนมีศักยภาพที่นาตกตะลึง พัฒนาระดับขึ้นไปเปนระดับหลอมสุญตาไดเร็ว
กวาลูกหลานผูที่บินขึ้นมาและผูบำเพ็ญเพียรดั้งเดิมอยางพวกเรามาก เหลาอาวุโสจึง
ใหความสำคัญมาก กวาครึ่งแลวสหายไมจำเปนตองผานการประเมิน ก็ไดรับตำแหนง
ผูพิทักษยมโลกนิลแลว” ชายชราแซหลี่วหัวเราะฮาๆ ขึ้นมา
“ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมารุนแรก? พี่หลี่วอธิบายใหขานอยฟงไดหรือไม” แววตา
ของหานลี่ฉายแววประหลาดใจ พลางเอยถามตรงๆ พรอมกับหุบยิ้ม
“นี่ไมใชความลับอะไร แนนอนวาบอกได ความจริงแลวขอแคพี่หานอยูที่เมืองนี้
ไปอีกสักระยะ ก็จะรูเรื่องราวทั้งหมดแลว” ชายชราแซหลี่วหัวเราะหึๆ ขณะเอย
“ความจริงแลวผูที่เรียกวาผูที่บินขึ้นมารุนแรก ก็คือผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
เหมือนพี่หานที่บินขึ้นจากแดนวิญญาณขึ้นมาหาแดนเรา ในตัวของพวกทานยังมี
กลิ่นอายประหลาดที่เขมขนอยู ถึงแมวาจะกลิ่นยาทลายสิ่งโสมปละเม็ดทุกป ก็ตองใช
เวลาสามรอยปเต็มถึงจะชะลางใหสะอาดได สวนลูกหลานรุนหลังของผูที่บินขึ้น
มารรุนแรก ในสองสามรุนแรกยังมีกลิ่นอายประหลาดอยูสวนหนึ่ง ขอแคบรรลุระดับ
กอกำเนิด ก็จะตองเผชิญกับเคราะหอสนีสองสีเชนกัน เหมือนกับขา เปนลูกหลาน
รุนที่สองของผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมารุนแรก หลังจากที่บรรลุระดับกอกำเนิดแลว
ก็จำตองกลับไปยังเมืองเทวะสวรรคในทันที แลวกินยาทลายสิ่งโสมเพื่อระงับกลิ่นอาย
ประหลาดเอาไว มิเชนนั้นก็มีแตตองตายเพียงเทานั้น ขอแคลางกลิ่นอายประหลาด
ไปได ถึงจะออกจากเมืองเทวะสวรรคได นับจากผูบำเพ็ญเพียรรุนแรก ลูกหลานใน
รุนที่หาขึ้นไป จะไมมีกลิ่นอายประหลาดหลงเหลืออยูแลว ลวนกลายเปนเหมือน
ผูบำเพ็ญเพียรดั้งเดิม” ชายชราหนาเขียวเอยอธิบาย
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ทวาพี่หลี่วเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงแลว คิดดู
แลวคงถูกชำระกลิ่นอายไปนานแลวสินะ แลวเหตุใดถึงยังอยูที่นี่” หานลี่กะพริบตา
พลางเอยถาม
“พี่หานมองปราดเดียวก็รูปญหาจริงๆ ใชแลว ถึงแมวาพวกเราจะลางกลิ่นอาย
ประหลาดบนรางไปแล ว แตผูที่ยอมไปจากเมื องเทวะสวรรคท ี่ ขารู จั กก็มี อยู  แ ค
ไมกี่คน ไมใชแคผูที่บินขึ้นมารุนแรกและพวกเรา ตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรที่มาจาก
สามเขตเจ็ดแดน ก็ยังไมยอมออกจากเมืองเทวะสวรรคงายๆ” ชายชราแซหลิ่วตอบ
กลับหัวเราะคิกคัก
“ออ ผูแซหานรูสึกสนใจแลวสินะ หวังวาสหายหลี่วจะชี้แนะได” หานลี่เอยถาม
ดวยใบหนาเปอนยิ้ม
“งายมาก หากอยูในเมืองเทวะสวรรค ความเร็วในการฝกฝนจะเร็วกวาที่อื่น
เทาตัว และยิ่งไปกวานั้นของในสามเขตเจ็ดแดนลวนมีในเมืองเทวะสวรรค แตของที่
สามเขตเจ็ดแดนไมมี เมืองสวรรคของพวกเรานั้นมี พี่หานคงเขาใจความหมายของ
ขานอยแลวสินะ” ชายชรามองหานลี่ พลางเอยอยางมีเลศนัย
ตอนที่ 1317 จาวอูกุย
“อันใด หรือวาที่นี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีไอวิญญาณหนาแนน!” ชั่วขณะนั้นหานลี่
พลันรูสึกกระปรี้กระเปรา
“หึๆ เมืองของเรามีแดนศั กดิ ์สิทธิ์ อยูส องสามแหง แมกระทั่งไมดอยไปกว า
เมืองหลักสองสามแหงของสามฮองเต แตนี่เปนเพียงสิ่งเดียวเทานั้น สิ่งที่สำคัญที่สุด
ก็ ค ื อ เมื อ งของเราไม เ พี ย งมี ว ั ต ถุ ด ิ บ ต า งๆ ที ่ ม าจากสามเขตเจ็ ด แดน ยั ง เป น
ทางเขาออกแดนปา เถื่ อนเพีย งหนึ่ ง เดีย วของทั้งสองเผา มนุษยและป ศาจ ดังนั้ น
ชนชั้นสูงที่เขาออกแดนปาเถื่อน จึงตองผานเมืองของเรา เชนนั้น จึงมีวัตถุดบิ ล้ำคาที่
นำออกมาจากแดนปาเถื่อนอยูนับไมถวน ผูบำเพ็ญเพียรกวาครึ่งตางขายสิ่งที่ไดมาให
บางก็แลกมาเปนของที่ตนเองตองการ แมกระทั่งสมุนไพรที่สามารถเพิ่มระดั บ ได
ในคืนเดียว ก็ไมใชวาจะไมมีขาย แตแคราคาของมันนั้นสูงเสียจนพวกเราไดแตมอง
แตไมอาจแตะตองได”
เอยมาถึงตรงนี้ ชายชราพลันหยุดชะงัก แตจากนั้นก็เอยขึ้นอีกกวา
“นอกจากนี้ สาเหตุสำคัญที่ผูบำเพ็ญเพียรของเมืองเราก็ไมยอมออกจากที่นี่ ก็คือ
ทุกๆ สิบปผูบำเพ็ญเพียรของเมืองเทวะสวรรคจะมีโอกาสไดฟงอาวุโสคนหนึ่งบรรยาย
กฎฟาดิน และสามารถซักถามปญหาในการฝกฝนของตนเอง อาวุโสเหลานี้ลวนเปน
ผูบำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย คนของนอกแดนไหนเลยจะมีโอกาสอยางพวกเรา
หึๆ ดังนั้นปกติแลวผูบำเพ็ญเพียรที่เขามาในเมืองของเรา ก็มีเพียงไมกี่คนที่ยอม
จากไป”
“มีขอดีมากมายขนาดนี้! แตเมืองของเรายังตองใหผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงคอย
รักษาการณอยูมากมายขนาดนี้ นาจะมีอะไรพิเศษสินะ!” หลังจากที่หานลี่ฟ ง จบ
ก็รูสึกดีใจ แตทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วมุน
“เมืองของเรานอกจากผูบำเพ็ญเพียรแลวยังมีปศาจผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงที่คอย
รั ก ษาการณ เอาไว ต ลอดป พวกเขายึ ด ครองอี ก ด า นของเมื องเทวะสวรรค เ อาไว
และนอกจากนี้ ยังมีอสูรปศาจและผูฝกตนจำนวนมาก ผูที่อยูในระดับต่ำ กวาครึ่ง
ลวนเปนผูที่เมืองเราเลี้ยงดูอยู อีกครึ่งหนึ่งใหสามเขตเจ็ดแดนจัดการ ประกอบกับ
อาวุโสผูบำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย สิบ กว าคน เมืองของเราจึงมี กำลั งที ่ นา
ตกตะลึง แนนอนวาตางพุงเปาไปที่พวกนอกเผาของแดนปาเถื่อนและสิ่งมีชีวิตระดับ
วิญญาณเที่ยงแท เหลาอาวุโสไดวางเขตอาคมเซียนระดับสุดยอดที่ลึกลับมากเอาไว
ในอดีตตอนที่พวกนอกเผารุกรานเผามนุษยและปศาจของพวกเรานั้น ก็ทำไดเพียงเขา
มารุกรานจากทางเขาของเมืองเราเพียงทางเดียวเทานั้น ถาหากไมรักษาการณดวย
กำลังจำนวนมาก ก็จะถูกเผาประหลาดเหลานั้นทำลายลางสองเผาของพวกเราแน
ไดยินวาหากทำสงครามกับคนนอกเผาจริงๆ สองเผาที่อยูในเมืองคงถูกทำลายลางไป
กวาครึ่งไดอยางงายดาย” ชายชราแซหลิ่วเอยดวยสีหนาเครงขรึม
“ถูกทำลายลางไปกวาครึ่ง!” หานลี่ไดยินคำนี้ ก็หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
“พี่หานไมจำเปนตองตกตะลึงหรือกังวลเกินไปนัก ชวงเวลาที่พวกนอกเผาจะ
บุกรุกเขามานั้นนานหนอยก็กินเวลานับแสนป สั้นหนอยก็กินเวลาหกเจ็ดหมื่นป
ระยะเวลาที่ยาวนานเชนนี้ สหายจะกังวลไปทำไม ถาหากโชครายพบกับการรุกราน
ของพวกนอกเผา ก็มีเพียงตองสูจนตัวตายเทานั้น ผูพิทักษสวรรคที่หนีไปกลางคัน
ล ว นถู ก ทั ้ ง สองเผ า ไล ส ั ง หาร ในเมื ่ อ อยากได ค วามสะดวกในเมื อ ง ก็ ต  อ งลอง
เสี่ยงอันตรายสักหนอย แนนอนวาเปนสิ่งที่ควรทำ ทวาเมืองครั้งที่แลวที่เมืองเทวะ
ถูกเผาประหลาดรุกราน เปนเรื่องที่เกิดขึ้นสามหมื่นปกอน โดยพื้นฐานแลวภายใน
ระยะเวลาหนึ่งถึงสองแสนป เจาและขาไมจำเปนตองกังวลอะไร” ชายชราแซหลิ่วเอย
พรอมกับหัวเราะเบาๆ
“เชนนี้นี่เอง กลาวเชนนั้น ขานอยถูกคนพามาที่เมืองเทวะสวรรค ก็เพราะโชคดีสินะ”
หานลี่ลูบใตคาง ทาทางมีแผนการ
“นั่นมันแนนอนอยูแลว ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมารุนแรกเปนเพราะบรรลุระดับ
หลอมสุญตามากกวาลูกหลานและผูบำเพ็ญเพียรพื้นเมืองของแดนวิญญาณอยาง
พวกเราเปนจำนวนมาก ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาทุกคน ทานอาวุโสจึงใหความสำคัญ
เปนอยางมาก ไมมีทางละทิ้งงายๆ และยิ่งไปกวานั้นไมรูเพราะเหตุใด ชวงนี้แทนหิน
วิญญาณรับผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาไดนอยลง วากันวาอาวุโสสองสามทาน ยอมสง
จิตแยกลงไปแดนลา งอยา งไมเสี ยดาย เมื่อตามหาสาเหตุ ข องมัน แตดูเหมือนว า
จะไมสำเร็จ พี่หานเองก็มาจากแดนลาง คงเคยพบความผิดปกติอะไรสินะ?” ฉับพลัน
นั้นชายชราพลันเอยถามขึ้น
“ไมมี แดนมนุษยที่ขานอยอยูนั้นปกติมาก!” หานลี่ไดฟงคำนี้ ชั่วขณะนั้นก็นึกถึง
เรื่องมารโบราณ ในใจพลันรูสึกใจหายวาบ แตกลับตอบกลับดวยสีหนาราบเรียบ
“งั้นก็นาเสียดายแลว ถาหากพี่หานเสนออะไรได คงจะไดรับรางวัลใหญแน
ทวาชวงนี้ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา ก็ไมมีเบาะแสอะไรเลยเชนกัน แคไดยินมาวา
สองสามปกอน ดูเหมือนวาจะทางเผาปศาจจะไดรับขาวอะไรมา ดังนั้นอาวุโสคง
ไมซักถามอะไรพี่หานหรอก” ชายชราหนาเขียวกลับไมไดรูสึกวาคำตอบของหานลี่มี
อะไรที่ผิดปกติ กลับเอยอยางเสียดายขึ้นแทน
หานลี่ไดฟง ก็หัวเราะนอยๆ ทันใดนั้นก็ถามยอนกลับวา
“ใชแลว ผูพิทักษยมโลกนิลที่พี่หลี่วพูดเมื่อครู หมายถึงอะไร คือสหายสวมเกราะสีนิล
ที่ขานอยพบเมื่อครูหรือ?”
“ใชแลว คือสหายรวมวิถีที่สวมเกราะสงครามยมโลกนิลเหลานั้น ผูพิทักษยมโลกนิล
ในเมืองเทวะสวรรค ของพวกเราคือผูท ี่ อยู ในระดั บ กลาง เชน ผูแซหลิ่ว อย า งข า
สามารถควบคุมลูกนองผูพิทักษเหล็กทมิฬไดแคสิบคนเทานั้น ผูพิทักษยมโลกนิล
จำตองใหผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงเปนผูรับหนาที่ แตผูบำเพ็ญเพียรระดับ
เทพแปลงกลับไมไดจำเปนตองเปนผูพิทักษยมโลกนิล ความแตกตางของมัน พี่หาน
นาจะเขาใจสินะ” ชายชราเอยเชนนี้ออกมา
“เรื่องนี้ ผูแซหานก็พอรูอยูเล็กนอย สหายระดับเทพแปลงบางพวก เกรงวาจะไม
เชี่ยวชาญในการสูรบหรือมีหนาที่อื่นสินะ” หานลี่เอยอยางเขาใจออกมา
“สหายเขาใจก็ดีแลว จะวาไปแลวหนาที่ของผูพิทักษเมืองเทวะสวรรคอยาง
พวกเราแบงออกเปนสองประเภท ประเภทแรกคือทุกๆ ชวงเวลาจะตองมาเขาเวร
ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน เวลาอื่นก็แลวแตตนเองจะจัดการ ผูพิทักษนั้นตองจาย
ศิลาวิญญาณเปนจำนวนที่ไมแนนอนในแตละป แนนอนวาจึงขัดสนเรื่องเงินเปน
อยางมาก แตดีตรงที่ปกติแลวไมคอยมีอันตราย อีกประเภทหนึ่งคืออาวุโสที่คอยรับ
ภารกิจลับโดยเฉพาะ ทุกภารกิจที่ทำสำเร็จ จะไดรับประโยชนตางๆ ไมเพียงแค
ศิลาวิญญาณ แมกระทั่งมีทั้งยาลูกกลอนหรือสมบัติล้ำคาตางๆ แนนอนวาภารกิจ
เหลานี้เปนภารกิจที่เสี่ยงอันตรายมาก ยิ่งไปกวานั้นกวาครึ่งลวนเกี่ยวของกับแดน
ปาเถื่อนหรือวาเผาประหลาด ทำใหผูคนจำใจตองทำภารกิจอยางรอบคอบ แตทุกครั้ง
ที่ทำสำเร็จ ก็เพียงพอที่จะไมตองเขาเวรไปยี่สิบสามสิบปหรือแมกระทั่งรอยปแลว
จะไดฝกฝนไดอยางสบายใจ แนนอนวาไมใชวาหนาที่ทั้งสองจะไมเคยเปลี่ยนแปลง
มันสามารถเปลี่ยนแปลงไดตลอดเวลา” ชายชราอธิบายใหหานลี่ฟงอยางชัดเจน
“ขอบพระคุณพี่หลี่วที่ชี้แนะ” หานลี่มีสีหนาราบเรียบ แตปากก็เอยขอบคุณ
ออกมา
ชายหนุมหนาเขียวหัวเราะฮาๆ พลางโบกมือ จากนั้นก็พูดคุยกับหานลี่อีกชั่วครู
ในที่สุดก็ขอตัวกลาวลา
สงชายชราออกนอกประตูไป หลังจากที่มองเห็นเขาออกไปแลว หานลี่ถึงได
หุบยิ้มแลวกลับเขาไปในหอง และเดินเขาไปนั่งสมาธิในหองลับ
เปลือกตาทั้งสองขางประกบเขาหากันเบาๆ รางทั้งรางราวกับตกอยูในภวังค
อีกดาน หลังจากที่ชายชราหนาเขียวเดินออกมาที่ทางเดินแลว ผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลงอีกสองสามคนก็รออยูตรงนั้น
เมื่อเห็นชายชราเดินออกมา ก็เขามาลอมในทันใด
“เปนอยางไรบาง พี่หลี่วไดขาวอะไรมาจากปากคนผูนั้นบาง?”
“ขาว? คนผูนั้นเข มงวดมาก นอกจากยอมรั บ วา ตนเองคื อผู ที ่บ ิ นขึ้ น มาจาก
แดนลางแลว เรื่องอื่นก็ไมยอมแพรงพรายออกมาเลย ขากลับตองไปตอบคำถามของ
เขาดวย” ชายชราสั่นศีรษะ ทาทางจนปญญา
“เหอๆ พี่หลี่วไปหาถึงที่ เชนนี้ คนที่เพิ่งมาถึ ง แดนวิ ญ ญาณ แนนอนวา ต อง
ระมัดระวังตัวอยูแลว ทวา พวกเราก็ไมไดมีเจตนาอื่นอยูแลว แคอยากรูจักกับเขา
เทานั้น ถึงอยางไรเสียปกติแล วผูที่ บินขึ้ นมาก็มี ศักยภาพในการพัฒนาระดั บ ขั้ น
ไมนอย…”
ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงสองสามคน ปรึกษากันไปมา ราวกับวาไมมีเจตนาราย
กับหานลี่จริงๆ
ชายชราแซหลี่วกลับเอาแตหัวเราะผสมโรงไมไดเอยอะไรออกมา
เชาวันที่สอง หานลี่กำลังนั่งสมาธิอยูในหองลับไมขยับเขยื้อน ฉับพลันนั้นพลัน
หนาเปลี่ยนสี เบิกตาทั้งสองขางขึ้น
ทันใดนั้นเขาพลันหยัดกายลุกขึ้นเดินออกจากหองลับ มาถึงหองรับแขก
มือถือแผนปายตองหามเอาไว โบกไปมาใหประตูเปดออก
นอกประตูมีผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดสีขาวอยูคนหนึ่ง กำลังยืนอยูตรงหนาดวย
สีหนาราบเรียบ
“คารวะทานอาวุโส!” หานลี่ไมกลาดูแคลน สองมือประสานกำปนทำความเคารพ
คนผูนี้คือผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดเกราะสีทองหนาขาวที่ไมมีหนวดเคราผูนั้น แตแค
เขาในครานี้เปลี่ยนชุดเปนชุดนักปราชญ จิตสังหารบนรางลดลงไปสามสวน มีทาทีละ
ทางโลกมากขึ้น
“สหายหานไมจำเปนตองเกรงใจขนาดนั้น ขาเองก็เพิ่งมาถึง พอดีพี่หลี่มีธุระ
วั นนี ้ จ ึ ง มี เ พี ย งข า ที ่ ม าพบสหาย ชื ่ อของข า คื อ จ า วอู  ก ุ ย ” ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดับ
หลอมสุญตาแซจาวผูนี้ มีทาทางเปนมิตรมากกวาเมื่อวานมาก
หานลี่ตกตะลึงไปเล็กนอย แตหลังจากรีบรอนเรียกวา ‘อาวุโสจาว’ แลว ก็ใหอีก
ฝายเขามาในหอง แลวนั่งอยูเปนเพื่อนแขก
“มีเวลาครึ่งวัน เจาจำตองเรียนรูเรื่องของเมืองเทวะสวรรค ขาจะยอใหเหลือสั้นๆ
เจาคือผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา และยืนหยัดอยูในเคราะหอสนีสองสีไดนานขนาดนี้
คิดดูแลวคงมีความสามารถไมออนแอ ดังนั้นฐานะผูพิทักษยมโลกนิล ขาไดชวยเจา
ยื่นคำรองไปแลว สวนแผนปายฐานะนี่ เจาเก็บเอาไวใหดี ถึงเวลาไปรับตำแหนง
ธาตุไฟหยางที่สามของกลุมที่หาสิบหกก็พอแลว เมื่อวานตอนที่อยูในวิหารสงตัว
เจาไดพบกับกลุมเล็กๆ สี่คนพวกนั้นแลว” จาวอูกุยนั่งลง ก็พลิกฝามือ แผนหยก
สีเขียวแผนหนึ่งปรากฏขึ้น แลวสงมาให
“ขานอยเพิ่งมาถึง ยังไมคอยรูอะไรมากนัก ตอนนี้ยังไดรับตำแหนงผูพิทักษ
ยมโลกนิลไมกะทันหันไปหนอยหรื อ!” หานลี่ไมไดยื่นมื อไปรับ แผ นหยกในทั นที
ใบหนาเผยสีหนาลังเลออกมาเล็กนอยขณะเอย
“หึๆ สหายหานไมจำเปนถอมตนเกินไปนัก ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาทุกคน
เมื่อมาถึงเมืองตางก็ไดรับหนาที่ผูพิทักษยมโลกนิลทั้งนั้น และยิ่งไปกวานั้นยังทำงาน
ได เหมาะสมกับตำแหนง เปนอยา งมาก ส ว นเรื ่ องของเมืองเรา สหายอยู  ไปสักป
ก็คงคุนเคยไปเอง” จาวอูกุยหัวเราะคิกคักขณะเอย
“ในเมื่อทานอาวุโสกลาวเชนนี้ ชนรุนหลังก็จะไมปฏิเสธอีก” หานลี่แววตาเปลง
ประกายสองสามครั้ง ในที่สุดก็รับแผนหยกมา แลวพิจารณาไปตามอำเภอใจแวบหนึ่ง
เห็นเพียงดานหนึ่งของแผนหยกสลักตัวอักษรลูกออดสีเงินเอาไว อีกดานหนึ่งมี
ตัวอักษรสีทองจางๆ สลักวา ‘ธาตุไฟหยางที่สามกลุมที่หาสิบหก’ เอาไว
เมื่อเห็นวาหานลี่รับแผนหยกไปแลว จาวอูกุยก็พยักหนาดวยความพึงพอใจ
จากนั้นก็เริ่มอธิบายความรูทั่วไปในเมืองเทวะสวรรคใหหานลี่ฟง
บางเรื่องอาวุโสแซหลี่วก็เคยเอยถึงแลวเมื่อวาน บางก็เปนสิ่งที่หานลี่เพิ่ง เคย
ไดยินเปนครั้งแรก แนนอนวาจึงตั้งใจฟงอยางสุดๆ
“เอาละ สิ่งที่ขาควรพูดก็ไดพูดไปหมดแลว ที่นี่คือที่พักชั่วคราวของผูบำเพ็ญเพียร
ที่บินขึ้นมา ไมเหมาะที่จะอยูอาศัยในระยะยาว ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขึ้นไป
ทุกคนในเมืองเทวะสวรรคลวนมีจวนพำนักของตนเอง ทวา จวนจะดีหรือไมรวม
ทั้งเล็กหรือใหญ ตองอาศัยสิ่งที่ตนเองหาไดมาแลว สวนการจัดการเรื่องราวตางๆ นั้น
เจาไปถามที ่ห อวิ หารหยกก็ ไดแลว นี่คือแผนที่ ของเมื องเรา เจาอานใหละเอี ย ด
สักหนอย เพราะวาเจาเปนผูที่เขามาใหม เดือนแรกจึงไมจำเปนตองภารกิจใดๆ
แตหลังจากนี้หนึ่ งเดื อนเจาตองรับ ตำแหนงและรับ เกราะยมโลกนิลของตนเอง”
จาวอูกุยควักคัมภีรหยกสีขาวออกมาจากกำไลเก็บของ มอบใหหานลี่ แลวหยัดกายลุก
ขึ้นพลางกลาวลา
แนนอนวาหานลี่ก็เอยขอบคุณอีกครั้งอยางนอบนอม และสงคนผูนี้ออกจากหอง
ตอนที่ 1318 หอวิหารหยก
หลังจากที่หันกายเดินออกจากหอง หานลี่ก็หยิบคัมภีรขึ้นมา แตะตรงหนาผากเบาๆ
ชั่วพริบตาความคิดก็จมอยูในนั้น
หลังจากผานไปเพียงชั่วครู เขาพลันหนาเปลี่ยนสี
“เมืองเทวะสวรรคกวางใหญขนาดนี้ ดูจากพื้นที่แลวไมดอยไปกวาเมืองหลักของ
เผามนุษยทั้งสามอยางเหมืองเทียนหยวนเลย” หลังจากที่หานลี่ดึงจิตสัมผัสออกมา
ก็มีสีหนาเขียวคล้ำสลับกับสดใส
มือหนึ่งลูบไปที่คัมภีรในมือชั่วครู เขาเก็บมันเขาไปแลวออกจากหองอยางไมรีบรอน
ไมวาอยางไรเขาก็ตองไปที่หอวิหารหยกเพื่อกำหนดจวนของตัวเองใหแนนอน
เสี ย ก อนแล ว ค อยว า กั น แต ฟ  ง จากคำพู ด ของจ า วอู  ก ุ ย แล ว เรื ่ องนี ้ ด ู เ หมื อ นจะ
ยุงยากหนอย
เขาพลันรูสึกสนอกสนใจขึ้นมา
หลังจากที่ตามหาตำแหนงของหอวิหารหยกจากในแผนที่ที่เพิ่งจำมาแลว ทันใดนั้นเขา
ก็กลายเปนลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไปจากวิหารเหินวิญญาณ
แฉลบผานหอคอยยักษสิบกวาแหงไป หานลี่เพงมองไปยังผูบำเพ็ญเพียรตางๆ
ที่บังเอิญพบกันระหวางทางอยูเงียบๆ
ก็พบวาผูบำเพ็ญเพียรที่สวมเกราะสงครามที่หลากหลาย ดูเหมือนวาจะพบแคใน
บริเวณใกลๆ กับหอคอยยักษเทานั้น หลังจากหางออกมาแลว ผูบำเพ็ญเพียรที่พบ
ลวนแตงกายเหมือนกับผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ ของที่อื่นในแดนวิญญาณ ไมรูวา
คนเหลานั้นถอดเกราะสงครามออก หรือวาแตเดิมก็เปนผูบำเพ็ญเพียรจากภายนอกที่
ไมใชผูบำเพ็ญเพียรจากเมืองเทวะสวรรค
ทวามีจุดนึงที่ยืนยันได ก็คือปกติแลวการเขาออกหอคอยยักษจำตองใชสวม
เกราะสงคราม ยิ่งไปกวานั้นหานลี่ยังพบวาผูสวมเกราะตรงรากของหอคอยยักษ
สองสามชั้น กลับเปนผูฝกตนที่สวมชุดเกราะสีเหลืองและขาวสองสี ในบรรดาผูฝกตน
ที่สวมชุดสีเหลืองมีพลังยุทธอยูแคระดับขั้นกลางเทานั้น สวนผูฝกตนที่สวมชุดเกราะ
สีขาวลวนเปนผูฝกตนขั้นสูง
จำนวนที่พวกเขาเขาออก เห็นไดชัดวามากกวาผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดเกราะสีดำ
และเขียวในชั้นบนของหอคอยยักษเปนอยางมาก
เมื่อมองจนมาถึงตรงนี้ หานลี่ก็เขาใจแลว
ดูแลวกำลังรบของเมืองเทวะสวรรคก็คือผูสวมชุดเกราะจำนวนนับไมถวนที่อาศัย
อยูในหอคอยยักษ และยิ่งไปกวานั้นยังแบงกำลังรบเปนชุดเกราะสีเหลือง ขาว ดำ
เขียว ทองออกอยางชัดเจน
นี่เปนการแบงระดับที่งายและชัดเจนมาก!
หานลี่กวาดสายตาไปที่หอคอยและผูสวมชุดเกราะสองสามแวบ แลวไมไดสนใจ
พลางพุงไปยังเปาหมายของตนเองตอ
บินมาไดครึ่งชั่วยาม หลังจากมองเห็นกำแพงเมืองยักษที่สูงใหญเปนพิเศษอยู
ไกลๆ แลว ลำแสงหลีกหนีของหานลี่ก็ลดต่ำลง รอนลงมาอยูเบื้องหนาศาลาสามชั้น
สีเทาแหงหนึ่ง
อยามองวาศาลาแหงนี้ไมใหญ และไมสะดุดตาเลยสักนิด แตผูบำเพ็ญเพียรที่เดิน
เขาออกกลับมีไมนอยเลย
แคหานลี่หลุดฝเทาลง พิจารณารอบๆ ก็มีผูบำเพ็ญเพียรเจ็ดแปดคนกลายเปน
ลำแสงหลีกเปนสายๆ พุงหายเขาไปในประตู
แผนปายที่อยูบนประตูใหญของศาลา เขียนตัวอักษรโบราณหวัดๆ เอาไววา
‘หอวิหารหยก’
หานลี่หรี่ตามองแผนปายนี้อยูชั่วครู แลวถึงไดสืบฝเทากาวเขาไปในศาลาอยาง
แชมชา
ชั้นหนึ่งของศาลาเปนหองโถงใหญขนาดยี่สิบสามสิบจั้ง ดานในมีผูบำเพ็ญเพียร
ยี่สิบกวาคนยืนอยู กำลังมองไปยังหนาจอขนาดใหญที่เปลงแสงสีเขียวออกมาซึ่งถูก
แขวนอยูบนเพดานหองโถง
บนจอมีแผนที่ขนาดความสูงสองจั้งยาวสิบกวาจั้งปกอยู ดานบนมีจุดลำแสงสีเงิน
ดู เ หมื อ นว า มี ต ั ว เลขจำนวนมากกะพริ บ ระยิ บ ระยั บ ไม ห ยุ ด ตรงหน า หน า จอมี
ชายวัยกลางคนสวมชุดสีเขียวใบหนาเรียวยาวกำลังยืนอยูตรงนั้นดวยใบหนาที่ประดับ
ไปดวยรอยยิ้ม
หานลี่กวาดจิตสัมผัสไป ก็พบวาคนเหลานั้นเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด
ชายวัยกลางคนสวมชุดสีเขียวคือ ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
ฉับพลันนั้นก็มีชายชรารางกายผายผอมคนหนึ่งกาวไปขางหนา คารวะชายวัยกลางคน
ชุดเขียวอยางนอบนอม แลวมอบแผนปายเหล็กที่เปลงแสงสีดำและกำไลเก็บของให
ชายวัยกลางคนดวยมือทั้งสองมือ
ชายวัยกลางคนมองแผนปายเหล็กแวบหนึ่ง ตรวจสอบกำไลเก็บของแวบหนึ่ง
แลวพลันพยักหนาพลิกฝามือ กำไลเก็บของสลายหายไป กลับคืนแผนปายเหล็กให
ชายชรา
ชายชราผูนั้นรูสึกกระปรี้กระเปราขึ้นมาในทันที มือหนึ่งควาไปที่แผนเหล็กแลว
เดินเขาไปที่หนาจอ โบกสะบัดไปทางแผนที่ยักษเบาๆ ชั่วขณะนั้นพลันมีเสนไหมสีดำ
พนออกมา ชั่วครูก็จมหายเขาไปในแผนที่ตรงจุดลำแสงสีเงินที่เขียนวา ‘สอง’ ลำแสง
ดวงนี้พลิ้วไหวเล็กนอย ชั่วพริบตาตัวเล็กจาก ‘สอง’ ก็เปลี่ยนเปน ‘สาม’
จากนั้นชายชราก็ถอยออกไปทันที
ผานไปเปนเวลาหนึ่งกาน้ำชา ก็มีคนสิบกวาคนเดินเขามา บางก็ถือสิ่งของ บางก็
คือศิลาวิญญาณสงใหชายวัยกลางคนสวมชุดสีเขียว ชายวัยกลางคนผูนั้นพยักหนา
เสียเปนสวนใหญ ทำใหพวกเขากวาครึ่งทำสัญลักษณไวบนแผนที่ได แตก็สายหนา
ใหกับสิ่งของที่คนสองคนนำมามอบให ทำใหสองคนนั้นถอยออกมาอยางหนามอย
คอตก
หานลี่นั่นพบวา แผนที่ยักษก็คือชีพจรวิญญาณสองสามแหงที่เมืองเทวะสวรรคจัดการ
ดูแลอยู จุดที่ลำแสงสีเขียวบนแผนที่ยิ่งเขม ตัวเลขก็ยิ่งมาก ยิ่งใหญ มีจุดที่ลำแสง
เกือบจะเปนสีเขียวมรกตอยูสองสามจุด ดานบนมีตัวเลยที่สวยงามอยูสิบสองตัว
เมื่อเห็นฉากนี้ หานลี่พลันลูบใตคาง ในที่สุดก็เขาใจคำพูดของจาวอูกุยขึ้ นมา
สองสามสวนแลว
“ทานอาวุโส ทานก็ตามหาชีพจรวิญญาณที่เหมาะสมอยูสินะ อยากสรางจวนหรือ?”
ฉับพลันนั้นขางกายของหานลี่ก็มีเสียงไพเราะดังขึ้น
หานลี่มีสีไมเปลี่ยนแปลง แตก็หันไปมองอยางชาๆ
เห็ นเพี ย งสตรี ผู ง ดงามงามหุ น ดี ค นหนึ ่ งกำลั งยืน อยา งนอบนอมอยู ด า นขาง
พลังยุทธของสตรีผูนี้ต่ำตอยอยางสุดๆ อยูในระดับสรางปราณเทานั้น แตหลังจาก
มองเห็นชุดสาวใชบนเรือนรางของอีกฝาย ก็ไมไดรูสึกแปลกใจอะไร
“ใชแลว ขาอยากหาที่ที่เหมาะสม แตภูเขาวิญญาณแหงนี้ ขาไมคอยพอใจนัก”
หานลี่ตอบกลับดวยสีหนาราบเรียบ
“ทานอาวุโสคือผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงสินะ ชั้นหนึ่งเปนแคสถานที่ของ
ผูพิทักษเหล็กทมิฬ ทานอาวุโสควรไปที่ชั้นสองเจาคะ” สตรีผูนี้เอยพรอมรอยยิ้มหวาน
หยดยอย
“เจารูไดอยางไรวาขาคือผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง จากพลังยุทธของเจาแลว
นาจะดูระดับของขาไมออก” หานลี่ใจหายวาบ ดวงตาฉายแววเย็นเยียบ
“ทานอาวุโสไมตองตกใจ ถึงแมวาชนรุนหลังจะมีพลังยุทธต่ำตอย แตมีจาน
กดวิ ญ ญาณโดยเฉพาะอยู  ขอแค ท  า นอาวุ โ สไม ป  ด บั ง กลิ ่ น อาย ก็ ม องออกได ”
สตรีผิวขาวหมดจดพลันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็ชูมือขึ้น ขอมือเผยจานอาคมขนาด
เทาฝามือออกมา ดานบนมีอักขระสีเงินเปลงแสงระยิบระยับ นั่นคือตัวอักษรลูกออด
สีเงินเชนกัน
หานลี่มองจานอาคมนี้ แลวพลันรูสึกปวดหัว
ไม ร ู  ว  า อาวุ โสท า นไหนของเผ า มนุ ษ ย ได ค ั ม ภี ร  ว ิ ห ารหยกทองเกี ่ ย วกั บ การ
หลอมอาวุธไป ถึงไดเรียนรูมาจนถึงขั้นนี้ คาดไมถึงวาทุกแหงในเมืองเทวะสวรรคจะใช
ประโยชนจากมันไดแลว
เชนนั้น สิ่งที่เขารูทั่วๆ ไปในโลกภายนอก ดูแลวคงถูกที่นี่มองจนทะลุปรุโปรงแลว
จำตองเรียนรูอยางลึกซึ้งถึงจะได
มิเชนนั้นหากถูกคนทำรายเขา ก็ยังไมรูวาปญหาอยูตรงไหน!
แนนอนวาหานลี่ไมยอมเผยสีหนาประหลาดใจอะไรออกมา แคพยักหนาใหสตรีผูนี้
แลวเดินขึ้นบันไดที่ดานขางตามอีกฝายไปที่ชั้นสอง
ชั้นสองเล็กกวาชั้นหนึ่งมากนัก แตบรรยากาศรอบๆ นั้นงดงามเปนอยางมาก
ถึงแมจะมีหนาจอแผนที่ขนาดไมเล็กติดตั้งอยูเชนกัน แตก็มีแคเกาอี้วางเรียงอยู
แบงออกเปนสองฝง มีคนสี่หาคนกำลังนั่งเงียบๆ อยูตรงนั้น พลางพิจารณาแผนที่
บนหนาจออยางละเอียด
ชายรางใหญสวมชุดสีมวงหนาเหลี่ยมคนหนึ่งนั่งอยางเกียจครานอยูขางจอ
หานลี่แผจิตสัมผัสไปที่ชายรางใหญ หนาพลันเปลี่ยนสีไปเล็กนอย คาดไมถึงวาจะ
เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาขั้นตนคนหนึ่ง สวนพวกที่ศึกษาแผนที่อยูนั้น
แนนอนวาเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงเหมือนกับเขา ดานหลังของทุกคนลวนมี
สตรีผิวพรรณขาวผองแตงกายเหมือนสาวใชของหอวิหารหยกคนหนึ่งยืนอยู ทุกคน
ลวนมีพลังยุทธอยูในระดับสรางปราณ หนาตางดงามดุจบุปผา
หานลี่สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง คำนับชายรางใหญสวมชุดสีมวงที่อยูไกล
ออกไป แลวนั่งลงตรงเกาอี้ตัวหนึ่งที่สตรีผิวขาวนวลผูนั้นพาไป
สตรีผูนั้นเหมือนกับสาวใชคนอื่นๆ คือยืนอยูดานหลังหานลี่อยางนอบนอมโดย
ไมไดปริปากใดๆ
หลังจากที่หานลี่กวาดสายตาไปบนเรือนรางของคนที่เหลือแลว ก็มองไปยังแผนที่
ที่เกือบจะเปนสีเขียวมรกต
ลวนเปนชีพจรวิญญาณสองสามแหงของเมืองเทวะสวรรคเชนกัน แตเห็นไดชัดวา
ตัวเลขสีเงินบนแผนที่เล็กกวาแผนที่ที่ชั้นแรกมาก ยิ่งไปกวานั้นตัวเล็กสวนใหญยังเปน
แคเลข ‘หนึ่ง’ และ ‘สอง’ เลขที่มากที่สุดก็แคเขต ‘สี่’ เทานั้น และมีเพียงแหงเดียว
ชั่วขณะนั้นหานลี่พลันขบคิด แตหลังจากผานไปชั่วครู ฉับพลันนั้นก็กวักมือเรียก
สาวใชที่อยูดานหลัง ออกคำสั่งอยางราบเรียบวา
“ขาไมคอยคุนเคยกับที่นี่ เจาอธิบายสถานที่ในแผนที่ใหฟงไดหรือไม!”
“เจาคะ ทานอาวุโสแผนที่แผนนี้ประกอบไปดวยภูเขาชีพจรวิญญาณที่เมือง
เทวะสวรรคดูแลอยูสามแหง ตรงกลางนั้นคือ ‘ภูเขาวารีมรกต’ เปนจุดที่มีไอวิญญาณ
เพียงพอมากที่สุด และเปนจุดที่อาวุโสระดับเทพแปลงอาศัยอยูมากที่สุด ยิ่งไปกวานั้น
ยังมีสมุนไพรจำเพาะอยูสองสามชนิด ครั้งนี้ อาวุโสระดับเทพแปลงสองคนที่อยูใน
ภูเขาขามผานเคราะหสวรรคไปไมได และเพลี่ยงพล้ำไป คนหนึ่งหมดอายุขัย แลว
แนนอนวาจึงละสังขารไป ดังนั้นตามกฎแลว จึงตองเรียกคืนชีพจรวิญญาณที่พวกเขา
อาศัยอยูคืนมา ดังนั้นจึงมีผูที่แยงชิงกันมากที่สุด นอกจากนี้ ‘ภูเขาทำนองสวรรค’
ก็ เ ป น รองลงมานิ ด หน อ ย แต ช ี พ จรวิ ญ ญาณที ่ เ หมาะสมกั บ ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
ระดั บเทพแปลงอยา งท านอาวุ โสนั ้ น มี อยู ไ มน  อย แต แ น น อนว า ไม อาจเทียบกับ
‘ภูเขาวารีมรกต’ ได สวน ‘ภูเขาขลุยหยก’ ลูกสุดทายนั้น เดิมทีก็เปนแดนวิญญาณที่
ผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดใชฝกฝน รอบๆ ยังแบงใหอาวุโสระดับเทพแปลงใช
ดั ง นั ้ น ไอวิ ญ ญาณของภู เ ขาชี พ จรวิ ญ ญาณลู ก นี ้ จ ึ ง ไม ค  อ ยเพี ย งพอนั ก สำหรั บ
ทานอาวุโส แตจวนบนภูเขาลูกนี้มีไมมากนัก อาวุโสมีพื้นที่ใหใชกวางใหญ สามารถใช
พื้นที่ไดถึงหมื่นลี้” สตรีผิวขาวนวลนั้นเปนงานเปนอยางมาก เสียงเล็กๆ อธิบายให
หานลี่ฟงอยางละเอียด
“เชนนี้นี่เอง!” หานลี่พยักหนาอยางชาๆ สายตาเปลงประกายอยูบนหนาจอไมหยุด
สตรีผิวขาวนวลกลับไปยืนดานหลังเหมือนเดิมอยางรูหนาที่ แตสายตาก็ยังอดที่
จะมองไปยังเรือนรางของหานลี่สองแวบไมได
บุรุษที่อยูเบื้ องหน าดู แล วมี อายุประมาณยี ่สิ บปเ ศษ แตคาดไมถึงวาจะเป น
ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง ถึงแมวานางจะเคยพบผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
มามากมายในหอวิหารหยก แตก็ยังคงอดที่จะรูสึกสนใจชายหนุมเบื้องหนาไมได
ฉับพลันนั้นเจาอวนที่แตงกายเปนเจาหนาที่ซึ่งนั่งอยูก็สาวเทากาวเขามา ชูกลอง
ผาไหมพรอมกับแผนหยกสีเขียวขึ้น สงใหชายรางใหญสวมชุดสีมวงที่อยูเบื้องหนา
อยางนอบนอม จากนั้นก็เอยปากวา
“กอนหนานี้ไมนานชนรุนหลังไดเห็ดเซียนเงินอายุสี่พันปมาตนหนึ่ง ทานอาวุโสดูเถิด
วามีคุณสมบัติพอจะเลือกสถานที่วิญญาณไดหรือไม”
“เห็ดเซียนเงินอายุสี่พันป นับวาหาไมงาย ใหขาดูกอนคอยวากัน” ชายรางใหญ
สวมชุ ด สี เ งิ นเอ ย อย า งราบเรี ย บ ชู ม ื อขึ ้ น รั บ แผ น ป า ยหยกและกล อ งผ า ไหมไป
พลางเปดฝาออก
เมื่อเปดฝาออก ลำแสงสีเงินจางๆ พลันทะลักออกมา กลิ่นหอมของสมุนไพรที่ทำ
ใหกระปรี้กระเปราพลันโชยออกมา
ถึงแมวาหานลี่จะเปนผูที่เคยเห็นสมุนไพรมามากมาย เมื่อไดกลิ่นนี้ก็จำใจตอง
ยอมรับวามันเปนสมุนไพรที่หายาก
“อื ม อายุ ส ี ่ พ ั นป ด ู เ หมื อนว า จะยั ง ขาดอยู  อีก สองสามร อยป ทว า ก็ ใ กล แ ลว
ครั้งนี้ นับวาเจามีคุณสมบัติพอ” ชายรางใหญสวมชุดสีมวงหรี่ตาทั้งสองขางลงพลาง
จองเขม็งไปยังสมุนไพรในกลองผาไหมอยูนาน แลวถึงไดมีทาทีพอถูไถไดออกมา
ตอนที่ 1319 ชวงชิงที่อยู
เจาอวนไดยินคำพูดของชายรางใหญ พลันลอบถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง หลังจาก
ที่เอยขอบคุณดวยใบหนาเปอนยิ้มแลว ก็ใชหยกทำสัญลักษณเลข ‘สี่’ ลงบนลำแสง
ชั่วขณะนั้นเลข ‘สี่’ ก็กลายเปนเสนไหมสีเขียวจมหายไป พลิ้วไหวแลวกลายเปน
เขต ‘หา’
คนผู  ต  า งก็ เ ห็นความสำคัญ ของ ‘ภู เ ขาวารีม รกต’ ที ่ เ ป น ที ่ ที ่ มี พลั ง วิญญาณ
ยอดเยี่ยมที่สุดเชนกัน ถึงไดตัดสินใจพนันดูสักตั้ง
มองเห็นจุดที่เจาอวนเลือก ผูบำเพ็ญเพียรที่นั่งอยูดานขางที่เหลือ ตางก็หนา
เปลี่ยนสี ผูที่เดิมทีมีความคิดเหมือนกัน ชั่วขณะนั้นพลันลมเลิกความคิดเดิม
เพราะเจาคือผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นปลาย อาศัยแคพลังยุทธ ก็กด
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ที่อยูที่นี่ไดแลว
หลังจากที่เจาอวนเลือกสถานที่เสร็จ ก็กลับไปยังตำแหนงของตัวเองอยางเงียบๆ
ดูเหมือนวาจะอยากดูการเลือกของผูอื่นดวย
แตเปนเพราะการเลือกของเขา กลับทำใหผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือตัดสินใจได มีอีก
สองคนเดินออกมา แลวพากันเลือกจุดตางๆ ของภูเขาทำนองสวรรค หนึ่งในนั้นมีคน
อยูอยูแลว อีกแหงกลับวางเปลาไรผูคน
หลังจากที่สองคนนี้เลือกเสร็จแลว กลับเดินลงไปในทันใด
ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือกลับขมวดคิ้ว เห็นไดชัดวายังไมตัดสินใจ
ครานี้ หานลี่พลันยืนขึ้นจากเกาอี้ เดินตรงไปหาชายชุดสีมวง
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ พลันตกตะลึงไปเล็กนอย
ถึงอยางไรเสียเห็นชัดๆ วาหานลี่เพิ่งจะมาไดไมนาน แตกลับตัดสินใจไดอยาง
รวดเร็วขนาดนี้ แนนอนวาตองทำใหพวกเขารูสึกประหลาดใจ
หานลี่ใชมือหนึ่งสะบัดไปที่กำไลเก็บของเบาๆ กลองหยกสีขาวออนกลองหนึ่ง
ปรากฏขึ้นในมือ หัวเราะนอยๆ แลวสงใหชายรางใหญพรอมกับปายหยกของตัวเอง
ชายรางใหญชุดสีมวงกลับไมไดรับกลองหยกในทันใด หลังจากที่กวาดสายตาไป
บนเรือนรางของหานลี่แลว กลับเอยอยางราบเรียบวา
“ไดยินวาในเมืองมีผูบำเพ็ญเพียรแซหานบินขึ้นมาใหม หรือวาจะเปนเจา?”
“ทานอาวุโสชางมีหูตากวางไกล ชนรุนหลังเองขอรับ” หานลี่ใจหายวาบ แตกลับ
ตอบกลับดวยสีหนาไมเผยความประหลาดใจใดๆ ออกมา
“ในเมื ่ อเป นเช นนั ้ น สหายหานก็ ค งจะเลื อกจวนเป น ครั ้ ง แรก เช น นั ้ นล ะ ก็
ไมจำเปนตองมอบอะไรใหหรอก เลือกสถานที่ไดเลย” ชายรางใหญสวมชุดสีมวงสงยิ้ม
ที่หาไดยากใหหานลี่
“ขอบพระคุ ณ ท า นอาวุ โ สที ่ ช ี ้ แ นะ!” หานลี ่ พ ลั น ตะลึ ง แต ท ั น ใดนั ้ น ก็ เ ก็ บ
กลองหยกกลับมาพรอมฉีกยิ้มเบิกบาน
ไดยินวาหานลี่คือ ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาใหม ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือตางก็มอง
หานลี่ดวยความตกตะลึง สายตาเผยสีหนาประหลาดใจออกมา
ดูแลวผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา เปนสิ่งที่ไมธรรมดาของเมืองเทวะสวรรคจริงๆ
ชั่วพริบตาชายรางใหญชุดสีมวงก็ตรวจสอบปายหยกของหานลี่เสร็จ พยักหนา
แลวมอบใหเขา
หานลี่เองก็ไมไดลังเล โบกปายหยกของตัวเองไปตรงจุดที่ไมมีสัญลักษณเลย
สักนิดบนจอเบาๆ
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพลันพนออกมา ตัวเลข ‘หนึ่ง’ ปรากฏขึ้นตรงนั้น
ผูที่จับจองการกระทำของหานลี่อยูเห็นตำแหนงที่เขาเลือก ก็พากันเกิดเสียงอื้ออึงขึ้น
เพราะจุดที่หานลี่เลือก นั่นก็คือสถานที่แหงหนึ่งบนภูเขาขลุยหยกที่มีไอวิ ญ ญาณ
แยที่สุด
ตองเขาใจวาจากพลังยุทธระดับเทพแปลงขั้นตนของหานลี่ เลือกภูเขาชีพจรวิญญาณ
ก็ไมใชเรื่องแปลกอะไร แตจุดอื่นบนภูเขาชีพจรวิญญาณลูกนี้ก็ไมมีคนอยูชัดๆ หานลี่
กลับเลือกจุดที่ไมสะดุดตาที่สุด ไอวิญญาณเบาบางที่สุด นี่จะไมทำใหคนเหลานี้
กลัดกลุมไดอยางไร
ประโยชนเพียงอยางเดียวของที่อยูก็คือการทดแทนไอวิญญาณที่ขาดหายไป
เขตอื่นๆ ลวนกวางใหญ มีพื้นที่ถึงสองหมื่นลี้ ใหญกวาที่อื่นๆ ของภูเขาชีพจรวิญญาณ
เปนเทาตัว
ทวาไมวาผูใดตางก็รูวา ที่อยูจะดีหรือไมขึ้นอยูกับไอวิญญาณ มิเชนนั้นตอใหที่นั่น
จะกว า งใหญ ข นาดไหน สมุ นไพรและเหมื องแร ต  องขาดแคลนมาก ส ว นการฝ ก
บำเพ็ญเพียรนั้น แนนอนวายิ่งไมเปนผลดี
“เจาจะเลือกที่นี่สรางจวนจริงๆ หรือ หลังจากเลือกแลว ไมสามารถเปลี่ยนไดงายๆ
ในเวลารอยป” ผูที่สวมชุดสีมวงพลันรูสึกประหลาดใจเชนกัน เหลือบมองจุดนั้นบนจอ
ชั่วครู แลวขมวดคิ้วพลางเอยขึ้น
“ชนรุนหลังเพิ่งมาถึงแดนวิญญาณ จึงแคเลือกที่ลงหลักปกฐานไปกอนเทานั้น
ไมไดอยากแยงชิงอะไรกับสหายทาไหน ถึงแมวาที่นี่จะแยไปหนอย แตก็นาจะไมมี
ผูคนแยงชิงกัน” หานลี่ตอบกลับอยางราบเรียบ
“ในเมื่อคิดเชนนั้น ก็แลวแตเจาก็แลวกัน ถึงอยางไรเสียก็ทำสัญลักษณเอาไวแลว
ไมวาผูใดก็ไมอาจเปลี่ยนแปลงได” ชายรางใหญสวมชุดสีมวงไดยินคำพูดของหานลี่
ก็พิจารณาหานลี่รอบหนึ่งดวยความประหลาดใจ แลวถึงไดโบกมือไปมาขณะเอย
น้ำเสียงกลับมาเปนเกียจครานดังเดิม
หลั ง จากที ่ ห านลี ่ ป ระสานกำป น คารวะอย า งไม ใ ส ใ จแล ว ก็ ก ลั บ ไปยั ง ที ่เดิม
แลวตัดสินใจวาจะนั่งดูอยูอีกชั่วครู
มีผูบำเพ็ญเพียรอีกคนหนึ่งยืนขึ้น และเดินตรงไปหาชายรางใหญดวยทาทีพรอม
จะเลือกที่อยู
แตในตอนนั้นเอง ฉับพลันนั้นที่บันไดก็มีเสียงดังขึ้น คนคนหนึ่งเดินขึ้นมาชั้นสอง
โดยไมมีสาวใชคอยนำทางให
ผูบำเพ็ญเพียรที่อยูชั้นสองเห็นคนผูนี้ ตางทยอยกันมีเผยสีหนาตกตะลึงออกมา
มีเพียงเจาอวนที่พลังยุทธสูงที่สุดที่เห็นคนผูนี้แลวกลับดวงตาเปลงประกายพลางเอย
ทักทายวา
“ที่แทก็สหายเวิงนี่เอง เหตุใดถึงอยากมาชวงชิงที่อยูกันละ!”
คนที่ขึ้นมาคาดไม ถ ึง วา จะเป นชายรา งใหญสวมชุดสีฟ า บนหัวสวมรัด เกล า
คิ้วทั้งสองขางโคงตก แววตาเปลงประกายเย็นชา ใหความรูสึกดุรายนากลัว
“หึๆ พี่จินสามารถเปลี่ยนจวนได ผูแซเวิงก็ตองมาอยูแลว” ชายรางใหญกวาด
สายตาไปบนเรือนรางของเจาอวน แลวเอยพรอมกับหัวเราะบางๆ ออกมา
คนผูนี้คือผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นกลาง แตเมื่อเผชิญหนากับระดับ
ขั้นปลายอยางเจาอวน กลับมีทาทีสนิทสนมเหมือนอยูในขั้นเดียวกัน นี่จึงทำให
หานลี่ใจเตน อดที่จะพิจารณาคนผูนั้นสองแวบไมได
ถึงอยางไรเสียพวกเขาที่ฝกฝนกันจนมาถึงขั้นนี้ ทุกๆ ระดับขั้นลวนหมาถึงระดับ
ความแตกตางที่หางชั้นกันมาก แนนอนวาผูที่มีความสามารถเหนือชั้น รางเปนสมบัติ
อาคมและฝกฝนเพลิงกลืนวิญญาณ ลำแสงเทวะดูดปราณตางๆ อยางเขานั้นเปน
ขอยกเวนในขอยกเวน
ทาทีที่ผูที่สวมชุดสีฟาปฏิบัติกับผูบำเพ็ญเพียรระดับขั้นปลาย ดูแลวนาจะพึ่งพาได
“นองเวิงลอเลนแลว จวนของเจาในตอนนี้ ครอบครองพื้นที่ชั้นหนึ่งเอาไว เหตุใด
จะตองเปลี่ยนอีก” เจาอวนลูบใตคางหนาๆ แววตาเผยแววสงสัยออกมา
“หึๆ ชวงนี้ขานอยฝกฝนเคล็ดวิชาลับใหมชนิดหนึ่ง ไมคอยสนใจไอวิญญาณมากนัก
แตตองการอาณาบริเวณที่กวางสักหนอย มิเชนนั้นตอนฝกฝนจะยุงยาก มีเพียงตอง
เปลี่ยนที่อยูชั่วคราว” ชายรางใหญสวมชุดสีฟาหัวเราะฮาๆ แลวตอบกลับอยาง
คลุมเครือ
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง!” เจาอวนแซจินเอยดวยสีหนานึกขึ้นได แตเขาจะเชื่อจริงๆ
หรือไม แนนอนวาก็มีแตสวรรคเทานั้นที่รู
หานลี่ไดยินบทสนทนาของชายรางใหญ กลับขมวดคิ้วมุน แตทันใดนั้นก็ทำเปน
เหมือนไมมีอะไรเกิดขึ้น
ชายรางใหญสวมชุดสีฟาสาวเทาเขาไปหาชายรางใหญสวมชุดสีมวง เมื่อมาอยู
ตรงหนาก็ประสานมือเขาดวยกัน แลวเอยทักทายอยางนอบนอม
“คารวะทานอาจารยอาเจียว ทานอาจารยไหววานใหชนรุนหลังมาทักทายทาน
อาจารยอาขอรับ”
“ทักทาย? นิสัยนารังเกียจอยางผูเฒาหมิง ไหนเลยจะกลาวเชนนี้ ทวา อาจารย
ของเจาหลบเคราะหสวรรคมาไดหกครั้งแลว เกรงวาเคราะหสวรรคครั้งที่เจ็ด คงยาก
ที่หลบพน” ชายรางใหญสวมชุดสีมวงกลับเอยพรอมกับหัวเราะอยางเย็นชาออกมา
ไดฟงคำพูดของชายรางใหญสวมชุดสีมวง ชายรางใหญคิ้วโคงงอก็เผยสีหนาขัดเขิน
ออกมา แตทันใดนั้นก็ตอบกลับอยางซื่อๆ วา
“ท า นอาจารย ก ัก ตนบำเพ็ญ เพี ยรไม ยอมออกมาสองรอยป แลว เพื ่ อ เตรียม
บวงสรวงสมบัติวิญญาณชิ้นหนึ่ง ใชตานทานเคราะหสวรรคครั้งตอไป
“สมบัติวิญญาณ! ดูแลวอาจารยของเจาคงดวงดีไมเลว สมบัติวิญญาณครั้งที่แลว
ก็ใชตานทานกับเคราะหสวรรคจนพังทลาย ครานี้ยังรวบรวมวัตถุดิบมาใชหลอมขึ้น
อีกชิ้นไดทัน เชนนั้น อาจารยของเจาก็ไมใชวาจะไมมีโอกาสผานเคราะหสวรรค
เอาละ ครั้งนี้ขารับหนาที่มาดูแลพอดี จึงไมอยากพูดอะไรใหมากความ เจารีบเลือก
ที่อยูมาเถิด” ชายรางใหญสวมชุดสีมวงพลันมีสีหนาเครงขรึม ทาทางไมอยากพูดอะไร
มาก
“ขอรับ!” ชายรางใหญคิ้วโคงเอยตอบรับ สายตาถึงไดกวาดไปบนแผนที่บน
หนาจอ เมื่อสายตาตกไปที่จุดที่ปรากฏตัวเลขแลว ก็มีสีหนาเครงขรึมขึ้น
“ภูเขาขลุยหยกรกรานขนาดนี้ เหตุใดถึงมีคนเลือก พี่จิน เมื่อครูทานอยูที่นี่
รูหรือไมวาผูใดเปนคนเลือกที่นี่” ชายรางใหญแซเวิงกลับไมเอยถามชายรา งใหญ
ชุดสีมวง กลับหันกลับมาเอยถามเจาอวนแซจิน ในเวลาเดียวกันมือก็ชี้ไปยั งจอที่
วางเปลา ชั่วขณะนั้นจุดลำแสงสีขาวสายหนึ่งก็ตกไปที่ตรงนั้น
เจาอวนเห็นจุดที่ลำแสงนั้นตกลงไป ชั่วขณะนั้นใบหนาพลันปรากฏสีหนาแปลก
ประหลาดออกมา และมองมาทางหานลี่แวบหนึ่งตามความรูสึก
เมื ่ อเห็ นสี ห นา ของเจ าอ ว น ชายร า งใหญ สวมชุ ดสีฟ า จะไม เ ขา ใจได อยางไร
ทันใดนั้นก็คอยๆ หันกายมา พิจารณาหานลี่อยางละเอียด
“เจ า คื อคนที่ เ ลือกที ่นี ่!” คนผู  น ี ้ มองปราดมาเห็ น พลั ง ยุ ทธ ข องหานลี ่อยูแค
ระดับขั้นตน ก็อดที่จะเผยสีหนาหยิ่งยโสออกมาแลวเอยอยางเย็นชาไมได
“สหายก็สนใจที่นี่หรื อ” หานลี่เงียบกริ บไปชั ่ว ครู แลวถึงไดตอบกลั บ อย า ง
ราบเรียบ
“หึ เคล็ดวิชาลับที่ข าฝ กฝน มีเพียงที่นี่ที่เ หมาะสมกับ ข าที่ส ุด หากเจารู  ตั ว
ก็ยอมออกไปซะ มิเชนนั้นหากแยงชิงกันขึ้นมา อยามาโทษวาผูแซเวิงไมปรานี ”
ชายรางใหญคิ้วโคงงอเอยอยางเครงขรึม เผยเจตนาคุกคามออกมาอยางไมตองสงสัย
หานลี่พลันรูสึกหมดคำพูด
เพื่อหลีกเลี่ยงการตอสูกับผูอื่น เขาจงใจเลือกที่ที่มีไอวิญญาณเบาบาง เพื่อจะได
ลดการก อป ญ หาความยุ ง ยาก ถึ ง อย า งไรเสี ย เขาก็ สนใจแต ก ารฝ ก บำเพ็ ญ เพียร
ไมอยากผูกความแคนอะไรกับใคร จนไปรบกวนหนทางที่เขาใฝฝน
แตสิ่งที่คิดไมถึงก็คือ อยูเงียบๆ ขนาดนี้ยังถูกคนมาหาเรื่องถึงที่ นี่เปนเรื่องที่
เยาะเยยจริงๆ สำหรับหานลี่
รูมานตาของเขามีลำแสงสีฟาสวางวาบ สายตาเหลือบไปมองคนอื่นๆ อยางรวดเร็ว
เห็นเพียงชายรางใหญสวมชุดสีมวงนั่งลงบนเกาอี้อยางเงียบๆ หนังตาไมไดเผยอ
ขึ้นมาเลยแมแตนอย ทาทีเหมือนไมคิดจะซักถามเรื่องนี้ สวนผูบำเพ็ญเพียรคนที่เหลือ
กลับมองมาทางหานลี่ดวยสายตาที่มีความสุขบนความทุกขของคนอื่น
“ทานอาวุโส ถาหากขาทิ้งสถานที่ที่เลือก จะเลือกที่ใหมไดหรือไม” หานลี่เอย
ถามชายรางใหญสวมชุดสีมวงอยางราบเรียบ
“ไมได จำนวนของที่อยูแตเดิมก็ไมพออยูแลว ทุกคนมีโอกาสแยงชิงเพียงครั้งเดียว
ถาหากพายแพ ก็มีเพียงตองรออีกรอยปถึงจะชิงที่ที่วางใหมได!” ชายรางใหญสวมชุด
สีมวงเอยดวยสีหนาไรความรูสึก ไมมีเจตนาผอนผันแมแตนอย
เมื่อไดยินคำนี้ หานลี่พลันถอนหายใจออกมาเบาๆ เฮือกหนึ่ง
รอสรางจวนในอีกรอยป นี่เปนสิ่งที่เขาผูซึ่งจำเปนตองเรงการเจริญเติบโตของ
สมุนไพรเพื่อปรุงยารอไมไหว
และในตอนนั้นเอง ชายรางใหญคิ้วโคงก็เอยพรอมกับหัวเราะอยางเย็นชาวา
“ตอใหอีกรอยป ก็ดีกวาการเอาชนะผูที่หางชั้นกันขั้นหนึ่ง ถาหากสหายไมฟง
คำพูดของขา หึๆ…”
หานลี่ไดฟงคำพูดของอีกฝาย ก็ขมวดคิ้ว ไมโกรธแตกลับหัวเราะออกมา
“ขานอยไมจำเปนตองตอบรับเงื่อนไขของนายทาน ขาวา สหายไปหาที่อื่นฝกฝนเถิด
ผูแซหานไมอยากทำใหพี่เวิงไดรับบาดเจ็บ หากขานอยพลั้งมือไป…”
หานลี ่ เ อ ย อย า งราบเรีย บ ถึ ง แม ว  า คำพูด สุ ด ท ายจะพูด ออกมาแค ค รึ ่ ง เดียว
แตไมวาผูใดก็ฟงออกวาเขาพูดกระทบกระเทียบ
ทุกคนตางหนาเปลี่ยนสีเปนประหลาดใจ และตกตะลึงมาก
ตอนที่ 1320 ความยุงยาก
จากพลังยุทธระดับขั้นตนและทาทีออนแอกอนหนาของหานลี่ จูๆ ก็เอยเชนนี้ออกมา
แนนอนวาตองทุกใหทุกคนตกใจ
แมแตชายรางใหญสวมชุดสีมวงที่มีสีหนาไรความรูสึกมาตลอด ก็ยังมองมาทาง
หานลี่ดวยความประหลาดใจ
ชายรางใหญคิ้วโคงไดยินคำพูดนี้ ก็มีจิตสังหารฉายแวบผานใบหนา
“บั ง อาจ! พลั ง ยุ ทธ ต ่ำ กว าข า ยั ง กล า มาพู ดเช น นี้ ก ับ ข าอี ก ข า ไม เ คยพบมา
สองสามรอยปแลว ในเมื่อกลาวเชนนี้ สงครามแยงชิงอีกสามวันใหหลัง เจากับขา
ไมจำเปนตองปรานีอะไรกัน” ชายรางใหญเอยอยางโหดเหี้ยม
“เชนนั้นขานอยคงตองขอคำแนะนำกับนายทานดวย ผูแซหานขอตัวลา” หานลี่
กลับตอบกลับอยางราบเรียบ ทันใดนั้นก็คอมตัวใหชายรางใหญสวมชุดสีมวงเล็กนอย
แลวออกไปจากชั้นสอง
ชายรางใหญคิ้วโคงมองเงาแผนหลังของหานลี่ดวยสีหนาเครงขรึมดุจสายธาร
ไมนานนักกลางอากาศสูงใกลๆ กับหอวิหารหยกที่ไรผูคน เงารางของเจาอวนจิน
และชายรางใหญคิ้วโคงพลันปรากฏขึ้น กำลังใชเคล็ดวิชาถายทอดเสียงพูดคุยอะไรกัน
สักอยางอยู
“นองเวิง เจาจะแยงชิงที่นั่นไปทำไม เมื่อครูไมสะดวกพูด ตอนนี้คงบอกพี่ได แลว
สินะ” เจาอวนจินเอยถามพรอมกับหัวเราคิกคักทาทีเปนมิตร
“นองมิไดพูดปด เพื่อฝกฝนเคล็ดวิชาลับชนิดหนึ่งจริงๆ ถึงไดจำใจเปลี่ยนจวน
ของตนเอง มิเชนนั้น ขานอยคงไมเลอะเลือน ไปตามหาสถานที่ที่มีไอวิญญาณเบาบาง
เชนนี้หรอก” ชายรางใหญคิ้วโคงตอบกลับพลางถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
เจาอวนแซจินไดยินคำพูดของอีกฝาย ใบหนาที่เต็มไปดวยไขมันก็กระเพื่อมเล็กนอย
หลังจากหัวเราะหึๆ ออกมา ก็มีสีหนาไมเชื่อถือ
ชายรางใหญคิ้วโคงพลันรูสึกปวดหัว แตใบหนากลับไมเผยสีหนาใดๆ ออกมา
และเผยทาทีวาเจาไมเชื่อขาก็จนปญญาออกมา
“ชางเถิด ไมวานองเวิงจะมีจุดประสงคใด ในเมื่อไมยอมบอกกลาว คิดดูแลวก็คง
มีเหตุผลของตนเอง ทวา เจาคิดจะตอสูกับเจาเด็กแซหานอยางไมปรานีจริงๆ หรือ?”
เจาอวนแซจินกลอกตาทั้งสองขางไปมา แลวเปลี่ยนหัวขอบทสนทนา
“ทำไม สหายจินมีตนกำเนิดเดียวกันกับคนผูนั้นหรือ?” ชายรางใหญคิ้วโคงมี
สีหนาเครงขรึมไปเล็กนอย ทาทางไมพอใจ
“ข า จะมี ค วามสัม พันธก ั บ คนผู น ั ้น ได อย างไร แต น  องคงไม รู สิน ะ คนผู  นี้คือ
ผูบำเพ็ญเพียรที่เพิ่งบินขึ้นมาที่เมืองเทวะสวรรคของพวกเรา” เจาอวนแซจินเอยเตือน
ชายรางใหญคิ้วโคงหนึ่งประโยค
“ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา! แลวยังไง? ทุกๆ สองสามรอยปเมืองเทวะสวรรคของ
พวกเราก็จะมีผูบำเพ็ญเพียรบินขึ้นมาเพิ่มคนหนึ่ง หรือวาพี่จินคิดวาขาไมใชคูตอสูกับ
ผูบำเพ็ญเพียรขั้นตนคนหนึ่ง? ขาวาคนผูนั้นคิดวาตนเองยิ่งใหญเชนนี้ นาจะครองโลก
ที่ดานลางเสียจนเคยชิน ในแดนวิญญาณของพวกเรายังคิดวาตนเองเปนผูที่แข็งแกรง
อีก” ชายรางใหญคิ้วโคงหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย แตหลังจากที่ขบคิด ก็หัวเราะอยาง
เย็นชาอยางไมสนใจ
“ฮาๆ พลังยุทธของคนผูนี้แนนอนวาไมคูควรใหเอยถึง จากความสามารถของ
สหายเวิง แมแตผูแซจินก็ไมกลากลาววาเอาชนะได ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
คนหนึ ่ ง ต อให ม ี ค วามสามารถเหนื อชั้ น ขนาดไหน ก็ ไ ม อาจเป น คู  ม ื อกั บ สหายได
แตผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาในเมืองจะไดรับการคุมครองในระยะสั้น เจาสั่งสอน
เล็กนอยนั้นพอได ทางที่ดีที่สุดอยาไปทำใหอีกฝายบาดเจ็บถึงชีวิต มิเชนนั้นถึงแมวา
จะมีทานอาวุโสหมิง หากเจาพวกนั้นรูเขา ก็ตองเกิดปญหาแน” เจาอวนจินเอย
แนะนำดวยทาทีหวังดี
“ในเมื่อคนผูนั้นโอหังขนาดนี้ แนนอนวาขาก็ตองสั่งสอนสักหนอย สวนจะปลิดชีวิต
ของเขาจริงๆ หรือไมนั้น ก็ตองดูอีกที” แววตาของชายรางใหญคิ้วโคงเปลงประกาย
เย็นเยียบ แตปากก็ตอบกลับอยางแผวเบา
“ในเมื่อพี่เวิงกลาวเชนนี้ พี่ก็จะไมพูดอะไรแลว สามวันใหหลัง ขาก็จะสูกับอีก
สี่คนเชนกัน ยังไมรูวาจะสมปรารถนาหรือไม” เจาอวนจินทำหนานิ่วคิ้วขมวด
“พี่จินอยาถอมตนเกินไปนัก ขาไดยินมาวา ชวงนี้พี่จินไดสมบัติโบราณมาชิ้นหนึ่ง
ที่มีความสามารถนาเหลือเชื่อ อานุภาพไมดอยไปกวาสมบัติวิญญาณ” ฉับพลันนั้น
ชายรางใหญคิ้วโคงเผยรอยยิ้มแปลกประหลาดออกมา
เจ า อ ว นจิ น ได ย ิ น คำพู ด นี ้ พลั น หน า เปลี ่ ย นสี แต ท ั น ใดนั ้ น ก็ ม ี ส ี ห น า ไม
สะทกสะทาน
“คิดไมถึงวานองเวิงจะรูเรื่องนี้ดวย สองสามวันกอนพี่ไดสมบัติมาชิ้นหนึ่งจริงๆ
แตหากกลาววาอานุภาพของมันไมดอยไปกวาสมบัติวิญญาณนั้น มันคงเกินไปหนอย
แคมีประสิทธิภาพปองกันตัวที่ดีมากเทานั้น” เจาอวนจินโบกมือเปนพัลวัน
“งั้นหรือ?” ชายรางใหญคิ้วโคงเผยทาทีอมยิ้มออกมา
จากนั้นทั้งสองคนก็แอบซุบซิบพูดคุยกันอีกชั่วครู เจาอวนจินจึงไดกลายเปน
ลำแสงสีแดงสายหนึ่ง แลวจากไปแลว
มองไปยังลำแสงหลีกหนีที่หายวับไปที่ขอบฟา ชายรางใหญแซเวิงพลันมีสีหนา
โหดเหี้ยม แคนเสียงในลำคอเบาๆ
“หึ คาดไมถึงวาคิดจะยุขา ใหขาผูกความแคนกับผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา
เขาชางมีแผนเลิศล้ำจริงๆ” เขาดูราวกับเอยพึมพำกับตนเอง
“เจาอวนจินรูจักเจาไมนอย ในเมื่อระแคะระคายใจแลว วันขางหนาจำตอง
ระมัดระวังใหดี ไมจำเปนตองกลัดกลุมเรื่องเขา แตทานอาจารยของเขานั้นโหดเหี้ยม
เกินไป ขาเองก็ไมอยากหาเรื่ อง” เสียงของบุรุษอีก คนหนึ่ งดั งมาที ่เ หนือหั ว ของ
ชายรางใหญคิ้วโคง
จากนั้นลำแสงดานพลันเปลงแสงสวางวาบ มังกรวารีสีเขียวมรกตราวกับหยกแข็ง
ขนาดสองสามฉื่อปรากฏกายขึ้น
“ทานอาจารยโปรดวางใจ ขอแคชิงที่นั่นมาได ศิษยจะปดผนึกที่นั่นทั้งหมดทันที
นอกเสียจากวาเขาจะรูอะไรมาจริงๆ มิเชนนั้นก็ไมอาจทำอะไรได” ชายรางใหญ
คิ้วโคงเห็นมังกรวารีสีเขียวมรกต ก็ทำความเคารพแลวเอยอยางนอบนอมในทันที
“อืม เจาลงมือเองขาก็คอนขางวางใจ แตเรื่องนี้นั้นสำคัญมาก หากไมใชเพราะขา
กำลังบวงสรวงสมบัติวิญญาณอยูในชวงเวลาสำคัญ คงไมมีทางแคสงรางแยกออกมา
หวังวาเจาจะไมทำใหอาจารยผิดหวัง” มังกรวารีสีเขียวมรกตพยักหนา แลวเอยอยาง
คนแกที่หงุดหงิด
“ศิษยจะไมทำใหทานอาจารยผิดหวังขอรับ” ชายรางใหญคิ้วโคงแทบจะทุบอก
เอยรับประกัน แตทันใดนั้นก็เผยสีหนาลังเลออกมาแลวเอยถามวา
“ทวา ขาวลือเปนความจริงหรือไม ไอวิญญาณที่นั่นไมเทาไหร ดูเหมือนวาจะไม
อาจเปนที่ละสังขารครั้งสุดทายของคนผูนั้นได”
“แนนอนวาขาไมอาจรับประกันไดเปนความจริงหรือไม แตจากฐานะของคนผูนั้น
เกรงวาคงจะมีความเปนไปได และคุมคาพอที่จะใหขาสืบหา ขอแคเปนความจริง พวก
เราก็จะไดสมบัติล้ำคาและเคล็ดวิชาของคนผูนั้น ไมเพียงเคราะหสวรรคของอาจารย
จะไรความกังวล แมแตกระทั่งมีความหวังวาเจาจะบรรลุระดับหลอมสุญตา การตอสู
อี ก สามวั น เจ า มี เ พี ย งต องชนะ ห า มพ า ยแพ หากอี ก ฝ า ยร า ยกาจมาก เจ า ก็ ไ ม
จำเปนตองปรานี ฆามันซะ ถึงแมวาวันขางหนาอาจจะเกิดความยุงยาก แตเทียบกับ
สมบัติล้ำคาแลว ก็ไมมีคาอะไร” เสียงของมังกรวารีสีเขียวมรกตเย็นชาขึ้น
“ศิษยเขาใจแลวขอรับ” ชายรางใหญคิ้วโคงใจหายวาบ แตก็ตอบรับในทันใด
“ทวา ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาทุกคนลว นเชี่ย วชาญในการต อสู จึงไมอาจ
ประมาทได ถึงแมวาคนผูนั้นจะเปนแคผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นตน แตเพื่อ
ความปลอดภัย ขาจะใหเจายืมใช ‘กระดิ่งพันวิญญาณ’ ของขาชั่วคราว มีเวลา
บวงสรวงสามวัน ก็เพียงพอจะทำใหเจาควบคุมสมบัติชิ้นนี้ไดชั่วคราวแลว เชนนั้น
จะได ไ ม ท ำพลาด” หลั ง จากที ่ ม ั ง กรวารี สี เ ขี ย วมรกตเงี ยบขรึ มไป ก็ อ า ปากออก
พนไอทมิฬออกมากลุมหนึ่ง ดานในมีกระดิ่งสีดำขนาดสองสามชุนอยู ผิวของมันมี
ไอ สีดำลอมรอบอยู มีอักขระตางๆ สลักเอาไวเต็มไปหมด
เมื่อไดยินคำพูดของมังกรวารี ชายรางใหญก็เอยขอบคุณอยางดีอกดีใจ จากนั้นพลัน
สะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีฟากลุมหนึ่งพุงออกมา มวนเอากระดิ่งนั้นเขาไปในแขนเสื้อ
จากนั้นมังกรวารีสีเขียวมรกตก็มีทาทีพึงพอใจ หลังจากที่ออกคำสั่งอีกสองสาม
ประโยค ก็ ก ลายเป น ลำแสงสี ม รกตสายหนึ ่ ง จมเข า ไปในแขนเสื ้ อ อี ก ข า งของ
ชายรางใหญคิ้วโคง
ชายรางใหญคิ้วโคงถึงไดหันกาย กลายเปนลำแสงสีฟาพุงไปอีกดาน
แนนอนวาหานลี่ไมรูเรื่องทุกอยางนี้ และคิดไมถึงวาจะมีคนคิดสังหารเขา
หลังจากออกจากหอวิหารหยก เขาก็ไมไดกลับไปยังวิหารเหินวิญญาณในทันที
แตกลับบินไปในเมืองตามในแผนที่อยูครึ่งคอนวัน สุดทายก็ลอยอยูกลางอากาศหาง
ออกไปหมื่นลี้ มองไปยังเมืองที่อยูดานลางจากดานบน กำลังขบคิดอะไรสักอยาง
พรอมขมวดคิ้วมุน
จะวาไปแลว สิ่งที่เรียกวาเมืองเทวะสวรรคนี้เรียกวาแควนเทวะสวรรคจะถูกกวา
พื ้ น ที ่ ท ั ้ ง หมดที ่ เ มื อ งจั ด การดู แ ล แทบจะเที ย บกั บ แคว น เล็ ก ๆ แคว น หนึ ่ ง ของ
แดนมนุษย แตในความเปนจริงเมืองเทวะสวรรคนั้นกลับไมไดใหญโตนัก มีพื้นที่แค
สองสามหมื่นลี้ ใชกำแพงเมืองขนาดยักษมาลอมเอาไวเทานั้น
ภู ม ิ ป ระเทศของเมื องนี ้ มี ก ำแพงเมื องถู ก สร า งขึ ้ น ตามลำดั บ ทั ้ ง สองฝ  ง ถู ก
หมอกหนาๆ ที่เกิดจากเขตอาคมเซียนยักษครอบคลุมเอาไว ตอใหเปนสิ่งมีชีวิตระดับ
วิญญาณเที่ยงแทก็ไมอาจบุกเขามาได สวนกำแพงเมืองที่ติดกับแดนปาเถื่อนนั้นมี
ความยาวแครอยกวาลี้ บนกำแพงเมืองสูงสองสามจั้งมีการสลักอาคมเอาไว มองไกลๆ
ดูเหมือนกำแพงยักษสูงค้ำฟา ทำใหผูคนหวาดกลัว
นอกกำแพงยักษที่ไมยาวเทาไหรนัก มีมนุษยและปศาจสองเผาจำนวนมากคอย
เฝายามอยูในบริเวณนั้น และยิ่งไปกวานั้นตรงขามกับที่นั่นยังมีเขตอาคมตองหาม
ตางๆ ที่เปดใชงานเกือบทั้งวันทั้งคืนอยางไมยอมหยุดพัก
ดานหลังกำแพงมีหอคอยยักษของกองทัพมนุษยและปศาจทั้งสองเผานับแสนคน
คอยรักษาการณอยูในระยะยาว การปองกันที่เขมงวดเชนนี้ ถึงไดรักษา เมือง
เทวะสวรรคจนมาถึงทุกวันนี้ได และไมเคยถูกเผาประหลาดลอบโจมตีสำเร็จ
เทียบกันแลว กำแพงเมืองอีกดานของเมืองสี่เหลี่ยมคางหมู กลับไมไดเขมงวดนัก
แตทอดตัวยาวไปนับพันลี้ เผามนุษยและปศาจของสามเขตเจ็ดแดนที่เขาออก ก็มีอยู
จำนวนมาก คนเหลานี้สวนใหญลวนคิดจะบุกเขาไปในแดนปาเถื่อน สวนนอยที่มาซื้อ
ของในเมืองเทวะสวรรค เชนนั้น จึงทำใหที่นั่นคึกคักเปนอยางมาก
หลังจากที่เมืองเทวะสวรรคเหนือความคาดหมายแลว ภูเขาชีพจรวิญญาณที่
ทอดตัวเรียงตอกัน บางครั้งก็มีหมูบานเล็กๆ ของคนธรรมดาขั้นอยู แตก็ไมมีเมืองของ
ผูบำเพ็ญเพียรที่สองอยางแนนอน
หมูบานของคนธรรมดาเหลานี้ประการหนึ่งก็มอบทรัพยากรที่จำเปนในการ
ดำรงชีวิตใหกับเมืองเทวะสวรรค อีกประการหนึ่งก็คือสงมอบผูบ ำเพ็ญเพียรระดับต่ำ
และผูฝกตนให แนนอนวาแบงใหเผาปศาจดวย จึงมีฝูงอสูรและอสูรปศาจระดับต่ำ
อาศัยอยูจำนวนมาก และทดแทนพวกระดับต่ำใหกับเผาปศาจในเมืองเทวะสวรรค
จำนวนมากเชนกัน
ถึงแมจะกลาววาเผามนุษยและปศาจตั้งหลักปกฐานในแดนวิญญาณ และจำใจ
รวมมือกัน สงคนมารักษาการณเมืองเทวะสวรรค แตถึงอยางไรเสียมนุษยและปศาจก็
แตกตางกัน เพื่อไมใหทั้งสองเผาเกิดการปะทะกันในเมือง ทั้งเมืองเทวะสวรรคจึงใช
มานลำแสงขนาดยักษกั้นทั้งสองออกเปนสองฝง และใหทั้งสองเผาปกครองตนเอง
สวนพื้นที่นอกเมือง ก็ใชเสนกั้นที่ไรรูปรางแตตางฝายตางรูดีกั้นเอาไว และ
ตางฝายตางปกครองฝงของตนเอง
ที่เดียวที่เผามนุษยและปศาจใชรวมกันได ก็มีเพียงหอคอยเกาๆ ยาวๆ ตรง
ใจกลางเมือง
หอคอยนี้ไมเพียงกวางใหญกวาหอคอยยักษอื่นๆ หลายเทา ในเวลาเดียวกันยัง
เปนกำลังรบสุดทายของเมืองเทวะสวรรค เปนสถานที่ที่อาวุโสของทั้งสองเผาที่ฝกฝน
จนถึงระดับผสานอินทรียสิบกวาคนใชปรึกษาเรื่องราวตางๆ และตัดสินเรื่องราวตางๆ
อีกดวย
ดังนั้นหอคอยหอนี้ จึงเปนสถานที่ที่ลึกลับอยางสุดๆ ในสายตาของคนที่อยูใน
เมืองเทวะสวรรค
ตอนที่ 1321 อสูรกิเลนมิคาทน
ตำแหนงที่หานลี่อยู อยูหางจากหอคอยโบราณไปประมาณยี่สิบลี้
เขามองหอคอยศิลาสีเขียวที่สูงเทียมฟาอยูไกลๆ แววตาเปลงประกายระยิบระยับ
ไมหยุด
จากที่เขารูมาหอคอยแหงนี้ไมวาจะเวลาไหน เผามนุษยและเผาปศาจตางก็จะสง
อาวุโสระดับผสานอินทรียคนหนึ่งมานั่งรักษาการณ
คิดๆ ดูแลว หานลี่ก็รูสึกซึ้งใจจริงๆ
ตอนที่อยูในแดนวิญญาณตอนแรกนัน้ ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมเหลานี้ลวน
เปนมังกรเทวาไปมาไรรองรอย คนทั่วไปไหนเลยจะพบไดงายๆ และหลังจากที่มาถึง
เมืองเทวะสวรรค แมแตผูบำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรียก็ยังอยูใกลๆ ยิ่งไปกวานั้น
วันขางหนายังมีโอกาสขอใหเขาชี้แนะอีก
ดูแลวการอยูที่นี่กอนที่จะชำระกลิ่นอายประหลาดบนรางหมด ก็เปนเรื่องที่ไมเลว
หานลี ่ ข บคิ ด อย า งเงี ย บๆ ส ว นเรื ่ อ งการแย ง ชิ ง ที ่ อ ยู  ก ั บ บุ ร ุ ษ คิ ้ ว โค ง ผู  น้ั น
จากความสามารถของเขาที่ประมื อได แม กระทั่งผูบำเพ็ญ เพียรระดับ หลอมศู นย
แนนอนวาจึงไมไดสนใจอะไรนัก
หลังจากมองไปชั่วครู บนรางของหานลี่ก็เปลงแสงสีเขียวสวางวาบ กลายเปน
สายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงกลับไปยังวิหารเหินวิญญาณ
กลับไปยังหองของตัวเอง หานลี่เปดใชเขตอาคมตองหามในทันที หลังจากรูสึกวา
ไมมีปญหาอะไรแลว ถึงไดเดินเขาไปในหองลับแลวนั่งลงทำสมาธิ ถึงแมจะบอกวาอีก
สามวั น ให ห ลั ง เขาจะมั ่ น ใจในการต อ สู  เ ป น อย า งมาก แต แ น น อนว า ก็ ไ ม ม ี ท าง
ไมเตรียมการกอนแนนอน
ทวากอนหนานั้น เขายังตองจัดการปญหาเล็กๆ กอน
หานลี่สะบัดแขนเสื้อ อีกมือหนึ่งมีแหวนกลมๆ สีเงินขนาดจิ๋วปรากฏขึ้น ของสิ่งนี้
ดูแลววิจิตรงดงามมาก แตก็เบาหวิวอยางหาที่เปรียบ คาดไมถึงวาจะดูกลวงๆ
นี่คือแหวนอสูรวิญญาณที่มีชื่อเสียงเทียบเทากับกำไลเก็บของ ดานในถูกแบง
ออกเปนสองสามหอง สามารถเก็บอสูรวิญญาณและแมลงวิญญาณไดในเวลาเดียวกัน
หลั ง จากที ่ห านลี ่ออกมาจากสุส านตะวั น คลอย ก็ ไ ด เ ก็ บ แมลงกลื น วิญญาณ
อสูรวิญญาณครวญและพวกกลับมาไวขางในแลว สวนยามเก็บอสูรวิญญาณใบเดิม
แนนอนวาก็ทิ้งไปแลว
ครานี้เขาใชมือหนึ่งปดไปทางวงแหวน ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเหลืองขนาดเทากำปน
พลันพุงออกมาจากดานใน ทันใดนั้นก็ขยายใหญขึ้น กลายเปนอสูรนอยที่ถูกเชือก
สีเขียวรัดเอาไว ขนาดตัวประมาณสองสามฉื่อ
นั่นก็คืออสูรกิเลนมิคาทนกลายพันธุที่ถูกเผาวิญญาณจับเปนตัวนั้น ในสุสาน
ตะวันคลอย
จากความทรงจำของชื่อเหยียน หานลี่นั้นรูแลววา อสูรตัวนี้ดูเหมือนกับมิคาทน
ธรรมดาๆ ทุกระเบียบนิ้ว แตความจริงแลวคืออสูรปศาจที่มีเลือดเนื้อของ กิเลน
ผสมอยู ประกอบกับอสูรนอยตัวนี้เปนอสูรกิเลนมิคาทนกลายพันธุ ดังนั้นยังไมทันโต
เต็มวัย พละกำลังก็เหนือกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดแลว
ครั้นเมื่อหานลี่ฟนฟูพลังยุทธกลับมานั้น แนนอนวาจึงอยากสยบอสูรตัวนี้ แตอสูรตัวนี้
ดุรายมาก และยิ่งไปกวานั้นยังมีสติปญญาแลว ทาทางยอมตายดีกวายอมศิโรราบ
ภายใต ค วามจนป ญ ญา หานลี ่ จ ึ ง ทำได เ พี ย งปล อ ยมั น ออกมาจากแหวน
อสูรวิญญาณ คิดจะใชเวลาสักระยะ ขจัดนิสัยดุรายของมันกอนแลวคอยวากัน
ครานี้อสูรตัวนี้ถูกเขากักมาเปนเวลายี่สิบป ในที่สุดก็ทนไมไหว สองสามวันกอน
มันไดสงขาวมาวายอมจำนนใหเขาจากในแหวนอสูร
แตเปนเพราะหานลี่กำลังขามผานเคราะหสวรรคและเรื่องราวตางๆ จึงไมมีเวลา
มาสนใจเรื่องนี้
ครานี้มีเวลาสามวันจึงเพียงพอที่จะสยบมัน
ตั้งแตที่อสูรนอยปรากฏตัวออกมาจากแหวนอสูรวิญญาณ ก็เปลงเสียงรองแหบ
แหงและเจ็บปวดใสหานลี่ทันที ดวงตาสีเขียวมรกตคูนั้นเผยแววตาวิงวอนราวกับ
มนุษยออกมา ประกอบกับขนาดตัวเล็กๆ ราวกับแมวตัวใหญของมัน จึงเผยความ
นาเอ็นดูเปนอยางมากออกมา
“ตอนนี้ตองลงอาคมบนรางของเจา หากเจาเบิกความสามารถแลว ขาจะกำจัด
พันธนาการใหเจา และยิ่งไปกวานั้นจะมอบประโยชนใหแกเจา มิเชนนั้นจะถูกขากัก
ไปอีกรอยป” หานลี่ไมเกรงใจเอยอยางคุกคามออกมาทันที
ถึงแมวาอสูรนอยจะมีสติปญญาไมสูงสงนัก แตเห็นไดชัดวาเขาใจคำพูดของหานลี่
รางกายสั่นเทา ทำไดเพียงพยักหนาพรอมกับขนที่ตั้งชัน
หานลี่ยิ้มนอยๆ มือหนึ่งพลิกฝามือ ในมือปรากฏเข็มสีเงินบางๆ สิบกวาเลม
ชูมือขึ้นอีกครั้ง เข็มสีเงินทั้งหมดเปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปในรางของ
อสูรนอย
ทันใดนั้นหานลี่ก็หยิบยันตสีแดงสดออกมา อาปากออก พนโลหิตบริสุทธิ์ลงไปบนนั้น
จากนั้นก็ใชนิ้วคีบยันตโบกสะบัดเบาๆ
เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น ยันตวิเศษกลายเปนหมอกสีโลหิตกลุมหนึ่ง รวมตัวกันอยู
ตรงนั้นไมสลายตัวออก
หานลี่พลันบริกรรมคาถา จากนั้นมือหนึ่งก็ตบไปที่หนาผากของตนเอง ลำแสงสีเขียว
เปลงแสงสวางวาบ ทารกวิญญาณขนาดสองสามชุ นคนหนึ่ งปรากฏขึ้ นพร อมกั บ
เหยียบเตาใบเล็กๆ เอาไว
เมื่อทารกวิญญาณปรากฏตัว ก็อาปากออก พนลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งออกมา
เมื่อหมอกโลหิตเห็นลำแสงสีเขียว ก็กระโจนเขามาในทันที ชั่วพริบตาที่ทั้งสอง
รวมรางกัน ก็กลายเปนเปลวเพลิงลำแสงสีเขียวแดง ครานี้สองมือของทารกวิญญาณ
พลันรายอาคม ปลอยอาคมสองสามสายออกไปโจมตีเปลวเพลิงลำแสงอยางตอเนื่อง
เปลวเพลิงลำแสงดูดซับคาถาเหลานั้นเอาไว ฉับพลันนั้นพลันสั่นคลอน ทันใดนั้น
ก็หมุนวนอยางรุนแรง กลายเปนหนาผีขนาดเทากำปนหนาหนึ่ง
ดูโหดเหี้ยมเปนอยางมาก
มือนอยๆ ของทารกวิญญาณชี้ไปที่อสูรนอยเบาๆ!
หนาผียิงฟน หันกายไปราวกับมีชีวิตอยางไรอยางนั้น เปลงเสียงกรีดรองขณะ
กระโจนเขาไปในหัวของอสูรนอย แลวหายวับไป
อสูรนอยรองคำรามออกมา ตาเหลือกแลวลมลงกับพื้นในทันที พลันหลับใหล
ไมไดสติ ในเวลาเดียวกันบนเรือนรางก็มีลำแสงประหลาดสีเขียวและแดงชั้นหนึ่ง
ปรากฏขึ้น กะพริบระยิบระยับไมหยุด
เมื่อเห็นฉากนี้ หานลี ่พลันเผยสี หนาพึงพอใจออกมา มือหนึ่งตะปบอากาศที่
วางเปลาไปทางรางของอสูรนอย หลังจากเสียงอึกทึกดัง “ปง” ดังขึ้น เชือกสีเขียวที่
รัดอยูบนรางของอสูรนอย ก็แตกออกเปนชุนๆ หายวับไป
จากนั้นหานลี่ก็ไมสนใจอสูรนอย สองมือวางลงบนตัก เริ่มหลับตาทำสมาธิ
เวลาที่เหลือ หานลี่ไมยอมออกจากหองลับเลยแมแตกาวเดียว เวลาสามวันจึง
ผานไปในชั่วพริบตา
เช า ตรู  ว ั นที ่ ส ี ่ ลำแสงสี เ พลิ ง สายหนึ ่ ง บิ น เข า มาในห องรั บ แขกโดยไม ส นใจ
เขตอาคมที่ดานนอกประตู จากนั้นก็พลิ้วไหวเล็กนอยแลวพุงตรงไปยังหองลับ
แตเมื่อเพลิงลำแสงนี้พุงมาอยูตรงประตูหองลับ ประตูกลับมีหมอกสีขาวจางๆ
ชั้นหนึ่งปรากฏขึ้น ตานทานเพลิงลำแสงเอาไวดานนอก เพลิงลำแสงหมุนวนอยูนอก
ประตูสองสามรอบ แลวทดลองอีกครั้ง หลังจากไมอาจทะลวงเขาไปได ชั่วขณะนั้นก็
เปลงเสียงรองหึ่งๆ ออกมา
ฉับพลันนั้นประตูหองลับพลันเปลงแสงสีเขียวสวางวาบ เงารางคนสายหนึ่ ง
ปรากฏขึ้นจากดานในประตูอยางมหัศจรรย ชูมือขึ้น ควาเพลิงลำแสงนั้นเอาไวในมือ
นั่นก็คือ หานลี่ที่กักตนบำเพ็ญเพียรไปสามวัน
เขาในครานี้มีสีหนาราบเรียบ บนหัวไหลมีอสูรนอยรูปรางเหมือนแมวปาหมอบ
เกาะอยู เขาแผจิตสัมผัสเขาไปในลูกบอลเพลิงอยางไมรีบรอน
นั่นก็คือยันตถายทอดเสียงเรื่องชวงชิงที่อยูที่หอวิหารหยกสงมา
“วิหารกวางอู”
หานลี่พึมพำ ถูมือทั้งสองเขาดวยกัน ลูกบอลเพลิงหายวับไป
จากนั้นก็สืบฝเทาออกมาจากประตูใหญ
สองชั่วยามผานไป กลางอากาศของวิหารขนาดยักษแหงหนึ่งมีลานกวางอยูลานหนึ่ง
หานลี ่ ล อยตั ว พร อ มอาภรณ ท ี ่ ป ลิ ว ไสวอยู  ใ นม า นลำแสงขนาดยั ก ษ ส ี ข าวโพลน
นอกม า นลำแสงมี ช ายร า งใหญ ห น า บากสวมชุ ด เกราะสี ท องอยู  ค นหนึ ่ ง สองมื อ
ไพลหลังยืนอยูตรงนั้น สีหนาเย็นชามาก
เวลาคอยๆ ไหลผานไป หานลี่นิ่งงันรออยูตรงนั้นอยางไมไหวติง แมแตชายรางใหญ
สวมชุ ด เกราะสี ท องยั ง เผยสี ห น า หมดความอดทนออกมา บางครั ้ ง ก็ ม องไปที่
ดวงอาทิตยที่แผดเผาทั้งเจ็ดบนทองฟา ดูเหมือนวาจะกำลังคำนวณเวลาอยู
ฉับพลันนั้นลำแสงพลันสวางวาบที่ขอบฟา ลำแสงหลีกหนีสีฟาสายหนึ่งพุงเขามา
ชั่วพริบตาก็มาอยูแถวๆ มานลำแสง ลำแสงหมนแสงลงเผยรางของผูบำเพ็ญเพียร
คนหนึ่งออกมา
“ทานอาวุโสโปรดใหอภัยดวย! ชนรุนหลังหลอมสมบัติอาคมอยู ถึงไดมาชาไปหนอย
ชนรุนหลังไมไดพลาดเวลาการตอสูไปสินะ” เขาคารวะผูบำเพ็ญเพียรที่สวม ชุด
เกราะสีทอง เอยดวยใบหนารูสึกผิด
คนผูนั้นนั่นก็คือชายรางใหญแซเวิงผูนั้น
“หึ! มาชาอีกชั่วครู ก็จะถูกตัดคุณสมบัติในการประลองออกแลว นับวาเจาโชคดี
ที่มาทันในหวงสุดทาย เขามาเถิด” ผูบำเพ็ญเพียรหนาบากสวมชุดเกราะสีทองกวาด
สายตาไปที่ชายรางใหญคิ้วโคง แลวเอยอยางใจรอน
ทั น ใดนั ้ น สองมื อ ของเขาพลั น ร า ยอาคม โจมตี อ าคมสี ท องสายหนึ ่ ง ไปยั ง
มานลำแสงสีขาว ชั่วขณะนั้นมานลำแสงพลันเปลงแสงเจิดจา เสียงอึกทึกดัง ขึ้ น
เบื้องหนาของชายรางใหญแซเวิงมีทางเดินขนาดความกวางสองสามจั้งปรากฏขึ้น
“ขอบพระคุณทานอาวุโส”
ชายรางใหญแซเวิงพลันดีใจ รางกายพลิ้วไหว กลายเปนลำแสงหลีกหนีสีฟา
พุงเขาไปในมานลำแสง
เมื่อเขามามาปรากฏตัวเผชิญหนากับหานลี่อีกครั้ง ก็กวาดสายตาไปบนเรือนราง
ของหานลี่แวบหนึ่ง ใบหนาบิดเบี้ยวเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยมออกมา
“เยี่ยมมาก! เจามาจริงๆ ดูแลวเจาคงโอหังไมนอย คาดไมถึงวาอยูแคระดับตนก็
ยังกลามาสูกับขา” ชายรางใหญคิ้วโคงเอยอยางเครงขรึม
หานลี่ไดฟงมุมปากพลันหยักยิ้มนอยๆ ฉีกยิ้มจางๆ อยางเกียจคราน ดูเหมือนวา
จะขี้เกียจแมกระทั่งจะตอปากตอคำกับอีกฝาย
ชายรางใหญคิ้วโคงเห็นเชนนั้น ชั่วขณะนั้นพลันเกิดโทสะ แตเดิมที่กดระงับ
จิตสังหารเอาไว ชั่วขณะนั้นพลันพุงสูงขึ้น
“พวกเจาฟงใหดี การชวงชิงที่อยูไมมีขอจำกัด ขอแคอยาออกจากอาณาเขต
ไมวาวิธีไหนก็ใชไดทั้งนั้น และนอกเสียจากวาอีกฝายจะเอยปากขอยอมแพ มิเชนนั้น
ขาก็จะไมลงมือยังยั้ง ถาหากยอมรับวากำลังมีไมพอ ก็ถือโอกาสนี้ยอมแพเสียเถิด
ถึงแมวาการเพลี่ยงพล้ำเพราะแยงชิงที่อยูจะมีไมมากนัก แตการบาดเจ็บหนักเพราะ
แยงชิงกันนั้น เปนเรื่องปกติ หากไมมีอะไรแลว จากนี้ก็เริ่มได” ผูบำเพ็ญเพี ย ร
หนาบากเอยคำพูดที่พูดเปนกิจวัตรออกมาดวยสีหนาราบเรียบ
หานลี่และชายรางใหญแซเวิงมองสบตากันจากจุดที่ไกลออกไป โดยไมปริปากใดๆ
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดเกราะสีทองพยักหนา ปากก็เปลงคำวา “เริ่มได” ออกมา
ชั่วพริบตา หานลี่และชายรางใหญก็ลงมือพรอมกัน
เผชิ ญ หน า กับผู บำเพ็ ญ เพี ยรระดั บ เทพแปลงขั ้น ปลายคนหนึ ่ง ที ่ ลงมื อ อยาง
ไมเกรงใจ แนนอนวาหานลี่ไมมีทางดูแคลนเลยแมแตนอย สะบัดแขนเสื้อกระบี่ขนาด
สองสามชุนทั้งเจ็ดสิบสองเลมทะลักออกมา เปลงแสงสีทองสวางวาบแลวกลายเปน
ดอกบัวสีทองหมุนโคจรอยูบนเรือนรางของเขา
ในเวลาเดี ย วกั น เขาพลั นอ า ปากออก เตาใบเล็ ก ถู ก พ น ออกมา ทั น ใดนั ้ น ก็
เปลงแสงสวางจากลายเปนเตายักษความสูงสองสามจั้ง เปลงเสียงหึ่งๆ ออกมา
นั่นก็คือ เตานภาสูญ!
ชายรางใหญคิ้วโคงที่อยูตรงขามกลับรายอาคม ลำแสงสีฟาทะลักออกมาจากราง
จุดลำแสงสีฟาเหลานี้มีขนาดเทาเมล็ดขาว แตก็ทะลักออกมาไมหยุด ชั่วพริบตาก็
เต็มไปหมด แทบจะหอหุมรางของเขาทั้งหมดเอาไว
จากนั้นชายรางใหญพลันตะปบมือหนึ่งไปกลางอากาศ ลำแสงสีเงินที่เจิดจาจน
แสบตาเปลงแสงสวางวาบ ในมือมีกรงลอสีเงินปรากฏขึ้น ขนาดเทาฝามือ แตดูโบราณ
เปนพิเศษ และยิ่งไปกวานั้นผิวของกรงลอสีเงินยังสลักคาถาเอาไวเปนชั้นๆ แคมอง
ก็รูแลววาไมธรรมดา
โยนกรงลอสีเงินขึ้นไปกลางอากาศ กลายเปนกลุมลำแสงสีเงินหมุนควางอยูกลาง
อากาศไมหยุด และยิ่งไปกวานั้นเมื่อเสียงบริกรรมคาถาดังขึ้น ก็เริ่มขยายใหญขึ้น
ชั่วครูกรงลอสีเงินก็มีขนาดสามถึงสี่จั้ง ราวกับพระอาทิตยสีเงินกลุมหนึ่งลอย
พลิ้วไหวอยูเหนือศีรษะของชายรางใหญคิ้วโคง
คนผูนี้สำแดงอานุภาพเสร็จ ก็มองไปยังฝายตรงขาม ใบหนาอดที่จะเผยสีหนา
ตกตะลึงนอยๆ ออกมาไมได
กระบี่บินสีทองทั้งเจ็ดสิบสองเลมนั้นยังพอวา แตเมื่อเห็นเตายักษที่เปลงเสียงหึ่งๆ
ออกมาไมหยุด ก็อดที่จะใจหายวาบไมได!
ตอนที่ 1322 กระดิ่งพันวิญญาณ
ถึ ง แม จ ะอาศั ย รู ป ลั ก ษณ ภ ายนอกของสมบั ต ิ ก็ ไ ม อาจคาดคะเนระดั บ และ
ความสามารถของมันได แตโดยทั่วไปแลวสมบัติที่มีรูปลักษณพิเศษอยาง ‘เตา’
‘ตะเกียง’ ‘กระจก’ ลวนมีความสามารถเฉพาะตัวที่ทำใหผูคนไมอาจตานทานได
หลั ง จากที ่ เ ตานภาสู ญ ถู ก กระตุ  น แรงกดดั น ที ่ แ ผ ออกมาก็ เ หนื อกว า สมบัติ
ธรรมดาๆ ทำใหชายรางใหญคิ้วโคงพลันรูสึกระวังตัวมากขึ้น และรูสึกวาการตอสู
ครั้งนี้ดูเหมือนจะไมงายดายแลว
เมื่อขบคิดเชนนี้ ชายรางใหญคิ้วโคงกลับชิงลงมือกอนอยางไมลังเลเลยสักนิด
สองมือของเขาพลันรายอาคม ลำแสงสีฟารอบกายพลันหมนแสงลง คาดไมถึงวา
จะกลายเปนเม็ดทรายสีฟาเปนเม็ดๆ พุงขึ้นไปบนทองฟา ทันใดนั้นเม็ดทรายเหลานี้ก็
เลือนรางไป เริ่มแบงตัวจากหนึ่งเปนสิบ จากสิบเปนรอย ชั่วพริบตา เมฆทรายหนาๆ
ก็ปกคลุมทองฟากลายเปนมานลำแสงกวาครึ่งเอาไว ในเวลาเดียวกัน กรงลอสีเงิน
ขนาดยักษที่อยูในเมฆทรายก็เลือนหายไป
เสียงตะโกนดังขึ้น เมฆทรายเปลงแสงสีฟาเขมสวางวาบ กดลงมาหาหานลี่อยาง
ดำทะมึน พริบตาที่เม็ดทรายเสียดสีกัน เกิดเปนเสียงฟาผาดังออกมา
หานลี่เห็นฉากนั้นสองตาพลันหรี่ลง ไมเห็นวาเขาเคลื่อนไหวใดๆ ดอกบัวสีทอง
ทั้งสี่ทิศพลันหมุนควาง แลวพุงขึ้นไปบนทองฟาอยางไมยอมแสดงความอ อ นแอ
ออกมา
เห็นเงาดอกบัวพลิ้วไหว ลำแสงสีทองนับหมื่นสาย อำนาจคุกคามของดอกบัว
สีทองไมไดดอยไปกวาเมฆทรายสีฟาเลย
ผลคือเมื่อเมฆทรายและดอกบัวสีทองสัมผัสกัน เห็นเพียงกลีบดอกบัวสั่นกระพือ
ชั่วพริบตาเงาดอกบัวพลันขยายใหญขึ้นสองสามเทา
เมื่อดอกบัวสีทองทุกดอกขยายใหญขึ้นสองสามจั้ง ก็หมุนวนอยูกลางอากาศไมหยุด
กลีบดอกทุกกลีบดูเหมือนใบมีดที่แหลมคม พริบตาที่หมุนวนก็ปลอยเมฆทรายออกมา
ทำใหเม็ดสายปลิววอนไปทั่วทุกสารทิศ ระเบิดออกเปนเสียงดังสนั่นขึ้น
คาดไม ถึ ง ว าดอกบั วสีทองเจ็ดสิบ สองดอกจะตา นทานทรายสี ฟา ที ่ดู เ หมือน
ภูเขาไทซานกดทับลงมาได
ชายรางใหญคิ้วโคงที่อยูตรงขามเห็นเชนนั้น แววตาพลันฉายแววตกตะลึงออกมา
แตทันใดนั้นก็หัวเราะออกมาดวยความเย็นชาแลวพลันรายอาคมกระตุนอยูภายในใจ
เมฆทรายที่แตเดิมหมุนวน ฉับพลันนั้นพลันมีลำแสงสีเงินเปลงประกาย กรงลอสีเงิน
ขาดยักษเปลงแสงสวางวาบกลางเมฆทราย หมุนควางพลางสับลงมา ชั่วพริบตาก็โถม
เขามาโจมตีกับดอกบัวสีทองดอกหนึ่งอยางพอดิบพอดี
มุมปากของชายรางใหญคิ้วโคงเผยรอยยิ้มโหดหี้ยมออกมา
กรงล อสี ท องของเขา ใช ว ั ต ถุ ด ิ บ หายากในแดนป า เถื ่ อน ‘ทรายหลากทอง’
บวงสรวงขึ ้ น แหลมคมอย า งหาที ่ เ ปรี ย บมิ ไ ด ความแหลมคมของสมบั ต ิ ก รงล อ
เหนือกวากระบี่บินหรือมีดบินเปนอยางมาก หลังจากที่หลอมสมบัติเสร็จแลว ไมรูวา
เขาสับสมบัติกระบี่บินของศัตรูไปเทาไหรแลว
ถึงแมวากระบี่บินสีทองของอีกฝายจะดูแลวมีความสามารถ แตเมื่อกรงลอสับ
ลงมาอยางคาดไมถึง ก็นาจะสับขาดอยางแนนอน
“เครงๆ” เสียงสับลงมาดังขึ้นอยางตอเนื่อง ลำแสงสีทองและเงินพลันสลับพัวพัน
เขาดวยกัน ระเบิดลำแสงที่นาตกตะลึงออกมา ครานั้นสมบัติทั้งสองพลันยืนกรานตอ
กันอยางไมยอมออนขอใหกัน
ชายรางใหญคิ้วโคงพลันหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
แตทันใดนั้นกลีบดอกบัวสีทองพลันขยายใหญขึ้น ชั่วครูก็ปกคลุมกลุมสีเงินเขาไป
ขางใน
ทันใดนั้นลำแสงสีเงินก็เปลงเสียงรองโอดครวญออกมา แหลกละเอียดเปนหลายสวน
เงาดอกบัวพลันหายวับไป
ชายรางใหญคิ้วโคงที่อยูไกลออกไปยังไมทันไดสติฟนคืนมาจากการตกตะลึง
หานลี่กลับชี้ไปที่เตายักษอยางเงียบเชียบ ชั่วขณะนั้นฝาเตาพลันบินพุงออกไป ในเตา
มีเสียงหึ่งๆ ดังขึ้น ลำแสงสีเขียวจำนวนนับไมถวนพุงออกมาจากดานใน แฉลบผานเงา
ดอกบัวสีทองไป หอหุมทรายสีฟาเอาไวเต็มทองฟา มวนกลับเขามาในเตา
การกระทำนี้ของหานลี่รวดเร็วดุจสายฟา รอจนชายรางใหญคิ้วโคงไดสติขึ้น
มาแลว ทรายสีฟาสวนหนึ่งก็ถูกดูดเขาไปในเตาแลว ชั่วครูก็ตัดขาดการเชื่อมโยงกับ
เจาของ
“สมบัติวิญญาณ!” ชายรางใหญคิ้วโคงรองอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหง
ทรายสี ฟ า เหลา นี ้ แ ละกรงลอสี ทองนั ้ น ไม เ หมื อนกั น เป น สมบั ต ิ อาคมที ่ เขา
บวงสรวงขึ้นมากับมือ
นอกจากสมบัติวิญญาณแลว สมบัติธรรมดาๆ จะจัดการไดอยางไร หากถูกเอาไปหมด
ก็ เ พี ย งพอที ่ จ ะทำลายการฝ ก บำเพ็ ญ เพี ย รอย า งหนั ก ของเขาไปร อยกว า ป แ ล ว
เขาอาปากออกอยางไมตองคิด พนโลหิตขนาดเทากำปนกลุมหนึ่งออกมาเบื้องหนา
นิ้วชี้ขยับ นิ้วที่อาบไปดวยโลหิตของหงสบินวาดอักขระสีเลือดออกไป จากนั้นก็
พลิกฝามือตบออกไป!
ยันตแผนนี้เปลงเสียง “พรึ่บ” พุงออกมา เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไป
แตครูตอมา พลันปรากฏขึ้นเบื้องหนาหานลี่หางออกไปสองสามจั้ง พลิ้วไหวเล็กนอย
กลายเปนหนาผีสีเขียวขนาดยักษมีเขี้ยวงอก มีเขาคูงอกออกมาบนศีรษะ แลวกระโจน
เขามา
ดูแลวชายรางใหญคิ้วโคงคงคิดคำนวณเสร็จแลว คิดจะเก็บสมบัติของอีกฝายไปโดยที่
อีกฝายไมทันตั้งตัว จากนั้นเขาพลันเก็บเมฆทรายไปในทันที ใชจิตสัมผัสออกไปตอกร
กับหานลี่
หานลี่รายอาคมอยางเงียบๆ ควบคุมเตานภาสูญใหเก็บทรายสีฟาเขาไป
เห็นหัวผี ปรากฏขึ ้ น กระโจนเขามาอยา งโหดเ** ยม เลิกคิ้วขึ ้ น อาปากออก
ประจุไฟฟาสีทองสายหนึ่งพลันพุงออกมา โจมตีไปยังหนาผีดวยความตกตะลึง
หลังจากที่เสียงฟาผาดังขึ้น หัวผีพลันเปลงเสียง “กึกๆ” ออกมาทามกลางประจุ
ไฟฟาสีทองบางๆ แลวสลายหายไปกลายเปนควัน
เสียงฟาผาดังขึ้น ถึงแมวาจะเปนรางแยกของบรรพชนแดนมารโบราณก็ยังไมกลา
รับการโจมตีตรงๆ ถึงแมจะไมรูวาหัวผีนิรนามหัวนี้คือรางแยกของมารปศาจฝงใด
แตขณะที่ไมทันระวังตัว แนนอนวาจึงถูกโจมตีจนสลายหายไป
ชายรางใหญคิ้วโคงพลันตกตะลึง แตทันใดนั้นพลันนึกอะไรขึ้นมาได สีหนาดูไมได
เปนอยางมาก
ครานี้หมอกสีเขียวของเตานภาสูญไดจัดการเมฆทรายกลางอากาศไปกวาครึ่ง
เสียงแคนเสียงอยางเย็นชาจนเสียดแทงกระดูกพลันดังขึ้น ชายรางใหญคิ้วโคง
เลิกคิ้วขึ้น สองมือรายอาคมประหลาดๆ ออกมา ในเวลาเดียวกันปากก็เปลงเสียง
สวดมนต ข องศาสนาพุ ท ธดั ง ขึ ้ น จากนั ้ น ก็ ช ี ้ ไ ปที ่ ฝ   ง ตรงข า มด ว ยความเคร ง ขรึม
อยางชาๆ
เดิมที่เม็ดทรายที่ถูกลำแสงสีเขียวและดอกบัวสีทองโจมตีจนหมุนควางพลัน
หยุดชะงัก จากนั้นเม็ดทรายทั้งหมดพลันหมุนโคจรรอบตัวเอง ขยายขนาดใหญขึ้น
ทามกลางลำแสงสีฟา
ชั่วพริบตาเม็ดทรายที่แตเดิมมีขนาดเทาเมล็ดขาวก็กลายเปนหินหลอมเหลวสีฟา
ขนาดเทาศีรษะ เปลงประกายระยิบระยับ เปลงแสงสีฟาสวยงามออกมา
ทันใดนั้น ผลึกหินเหลานี้ก็พุงลงมาดานลางดอกบัวสีทองที่แตเดิมหมุนรอบตัวเองอยู
ในที่สุดก็หยุดชะงักทามกลางเสียงอึกทึก สวนลำแสงสีเขียวที่พนออกมาจากเตา
นภาสูญนั้นก็ไมอาจมวนเอาหินหลอมเหลวเหลานี้กลับมาไดเลยสักนิด
หานลี่เห็นสถานการณเชนนี้พลันตกตะลึง กวาดสายตาไปฝงตรงขาม
ชายรางใหญคิ้วโคงพลันมีลำแสงรอบกายสวางขึ้นเจิดจา มวยผมปลิวไสว และยิ่ง
ไปกวานั้นปากและจมูกพลันมีลำแสงสีขาวเปลงแสงสวางวาบ เห็นไดชัดวาใชพลังของ
ปราณแท
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม มือหนึ่งลูบไปที่เหนือศีรษะ ชั่วพริบตาหมอกสีเทาพลันพุง
ขึ้นไปเต็มทองฟากวาดไปกลางอากาศ ชั่วพริบตาผลึกหินสีฟาที่เดิมทีมีขนาดใหญ
ดุ จ ภู เ ขาพลั นเบาหวิ ว ไร ร ู ป ร า ง ฉั บ พลั น นั ้ น พลั น สั ่ น คลอน ทยอยกั น กลายเป น
เม็ดทรายดังเดิม
ลำแสงสีเทามวนเขามาอยางรวดเร็ว ชั่วขณะนั้นพลันกวาดเมฆทรายกลางอากาศ
ไปจนเกลี้ยง จนไมเหลืออะไรเลย
“เอ” ฉากนี้ทำใหชายรางใหญคิ้วโคงที่อยูตรงขามอดที่จะหนาเขียวคล้ำไมได
คอยๆ คลายมือ แมแตผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดเกราะสีทองที่มองการตอสูอยูดานนอก
ม า นลำแสงด ว ยสี ห น า ไร ค วามรู  สึ ก ก็ ยั ง เผยสี ห น า ตกตะลึ ง ออกมาเป น ครั ้งแรก
และรองอุทานออกมา
เห็นไดชัดวาความสามารถลำแสงเทวะดูดปราณของหานลี่ ทำใหผูบำเพ็ญเพียร
ระดับหลอมสุญตาผูนี้รูสึกสนใจเชนกัน
“นี่มันความสามารถอะไรกัน คาดไมถึงวาจะเอา ‘ทรายผลึกสีฟา’ ที่อยูกลาง
อากาศของขาไปได” ชายรางใหญคิ้วโคงถลึงตาใสหานลี่ แลวเอยถามอยางโหดเหี้ยม
“สหายคิดวาขานอยจะบอกหรือ?” หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา ทาทางไมทุกขรอน
ในสายตาของเขาอีกฝายแคอาศัยพลังยุทธที่เหนือกวาตนเอง ถึงไดอวดดีเชนนี้
หากไมใชเพราะยังไมแนใจวาคนผูนี้มีภูมิหลังอยางไร อีกฝายดูเหมือนวาจะมีอาจารย
เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาอยู คนหนึ ่ง ภายใตความหวาดกลัวของเขา
จึงไมไดมีความคิดที่จะสังหาร มิเชนนั้นคงระเบิดความโกรธและโจมตีกลับไปนานแลว
ไมมีทางใหโอกาสอีกฝายไดหายใจแน
แนนอนวานี้เปนเพราะหานลี่มั่นใจในความสามารถของตนเอง
ความสามารถของเขาอยา งลำแสงเทวะดูดปราณ เพลิงกลืนวิญญาณรวมทั้ ง
เขตอาคมมหากระบี่ทองคำ เมื่อเผชิญหนากับผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นปลาย
ก็ไมจำเปนตองหวาดกลัว
ชายรางใหญคิ้วโคงที่อยูตรงขามพลันมีสีหนาเครงขรึมสลับกับสดใส เห็นไดชัดวา
ความสามารถของหานลี่เหนือกวาที่เขาคิดเอาไว ทวาเมื่อคิดถึงของที่เกี่ยวของกับ
แดนวิญญาณ มุมปากของเขาก็กระตุก สีหนากาวราวฉายวาบผานบนใบหนา ฉับพลัน
นั้นพลันพลิกฝามือทั้งสอง
มื อหนึ ่ ง มี แ ผ นป า ยโลหะสี เ หลื องขนาดเท า ฝ า มื อ ปรากฏขึ ้ น มี ห มอกสี ข าว
ลอมรอบอยูดานบน จนทำใหผูคนมองเห็นหนาตาที่แทจริงของมันไมชัดเจน อีกมือ
หนึ ่ ง มี ย ั นตว ิ เศษสีเงิ นจางๆ แผ นหนึ ่ ง ปรากฏขึ้ น อั ก ขระสี เงิ น ด านบนเปลงแสง
สวางวาบ คาดไมถึงวาจะสลักอักษรลูกออดสีเงินเอาไวจำนวนมาก
เมื่อเห็นของสองสิ่งนี้ รูมานตาของหานลี่พลันหดเล็กลง ทันใดนั้นมือหนึ่งพลัน
รายอาคม ดอกบัวสีทองที่แตเดิมลอยโคจรอยูเหนือศีรษะ พลันสั่นคลอนและมา
รวมตัวกันอยูตรงกลางในเวลาเดียวกัน ชั่วพริบตาดอกบัวทั้งเจ็ดสิบสองดอกพลัน
รวมตั ว กั น กลายเป น ดอกบั ว ยั ก ษ ข นาดเส น ผ า ศู น ย ก ลางสิ บ จั ้ ง ทั น ใดนั ้ นพลั น
เปลงเสียงและลอยไปฝงตรงขาม
สวนหมอกลำแสงสีเทาที่แผออกมาเหนือศีรษะกลับมวนวนพุงลงไป กลายเปน
มานลำแสงสีเทาชั้นหนึ่ง ชั่วครูก็ปกปองหานลี่เอาไวอยางแนนหนา
ครานี้ชายรางใหญคิ้วโคงพลันชูมือทั้งสองขึ้น ชั่วขณะนั้นแผนปายโลหิตแผนนั้น
พลันเปลงเสียงหึ่งๆ พรอมลอยขึ้น แผนปายโลหิตเปลงลำแสงสีขาวออกมา เงาลวงตา
สายหนึ่งพุงออกมาจากดานบน และขยายใหญขึ้นในทันใด
ชายรางยักษสูงสองจั้งรางกายเปลือยเปลาคนหนึ่งพลันปรากฏขึ้น
ชายรางใหญมีสองมือที่เปลือยเปลา ผิวสีเขียวมรกตแวววาว ดวงตาทั้งสองมี
ลำแสงวิญญาณเคลื่อนคลอยไปมา คาดไมถึงวาจะเปน หุ นเชิดรางมนุษยต ั ว หนึ่ ง
สวนยันตวิเศษสีเงินสายนั้นพลันเปลงเสียง “พรึ่บๆ” ออก กลายเปนหมอกสีเงินขนาด
สองสามฉื่อ
หมอกสีเงินรวมตัวกันแลวพลันเปลี่ยนรูปราง ทันใดนั้นพลันมีหมาปายักษลวงตา
สีดำปรากฏขึ้น ดวงตาของหมาปาเปนสีเขียวมรกต จองเขม็งมายังหานลี่ที่อยูตรงขาม
ดวยสีหนาไรความรูสึก
หลังจากที่สำแดงของสองสิ่งนี้ออกไป ชายรางใหญคิ้วโคงก็ยังไมยอมหยุดพัก
หลังจากสูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง ใบหนาพลันมีสีแดงสดดุจโลหิต มือหนึ่ง
มือหนึ่งตบไปที่หนาผากของตัวเอง ลำแสงสีฟาสวางวาบขึ้นที่เหนือหัว ทารกวิญญาณ
สีฟาปรากฏขึ้น สองมือกอดระฆังสีดำขนาดสองสามชุนเอาไวดวยสีหนาโหดเหี้ยม
“กระดิ่งพันวิญญาณ! หรือวาตัวประหลาดเฒาหมิงผูนั้นเลอะเลือนไปแลว เหตุใด
ถึงใหลูกศิษยของตนเองยืมสมบัติล้ำคาเชนนี้” ผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดเกราะที่อยูนอก
มานลำแสงเห็นหุนเชิดและหมาปายักษสีดำเบื้องหนาก็ยังไมมีปฏิกิริยาใดๆ แตเมื่อ
เห็นทารกวิญญาณสีฟาที่สองมือถือแผนกระดิ่งเอาไว ก็พลันขมวดคิ้ว ฉับพลันนั้น
ใบหนาพลันเอยปากดวยสีหนาเครงขรึม
“ทานอาวุโส! ขานอยยืมสมบัติชิ้นนี้มาจากทานอาจารยชั่วคราว และไมไดผิดกฎใดๆ”
ทารกวิญญาณสีฟาหัวเราะหึๆ ออกมา เปลงเสียงเล็กๆ ราวกับทารกออกมา
“หึ แนนอนวาการตอสูชิงที่อยูนั้นไมมีกฎเกณฑ แตถึงแมวากระดิ่งพันวิญญาณ
จะรายกาจ แตเจาตองอาศัยเคล็ดวิชาลับถึงจะพอฝนควบคุมสมบัติชิ้นนี้ได แมวาจะ
ชนะการตอสู หลังจากนี้ไอวิญญาณดั้งเดิมก็จะเสียหายนัก เพียงเพราะที่อยูแคนี้
ถึ ง กั บต องทำเช นนี ้ เ ลยหรื อ?” ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รสวมชุ ด เกราะสี ท องค อ นปะหลั บ
ปะเหลือกให พลางเอยอยางเย็นชา
“ขอบพระคุณทานอาวุโสที่ชวยเตือนสติ ชนรุนหลังขบคิดดีแลว” ทารกวิญญาณ
เบะปากขณะเอย ทันใดนั้นเมื่อเห็นดอกบัวสีทองขนาดยักษลอยขึ้นไปเหนือศีรษะ
ทันใดนั้นก็โยนกระดิ่งสีดำในมือออกไปอยางไมตองคิด
แทบจะในเวลาเดียวกัน หุนเชิดสีเขียวมรกตพลันยกขาขึ้น สาวเทายาวๆ เขาไป
หาหานลี่ ทุกยางกาวที่อยูกลางอากาศ ยันตรอบกายพลันเปลงแสงสวางวาบ รางกาย
ขยายใหญขึ้นสองสามฉื่อ
เมื่อตรงมาไดครึ่งทาง หุนเชิดนี้ก็มีตัวใหญกวาเดิมสองสามเทา
หมาปายักษสีดำพลันพลิ้วกาย กลายเปนหมอกสีดำกลุมหนึ่ง แลวหายวับไปจากที่เดิม
ตอนที่ 1323 อานุภาพของผสานอินทรีย
กระดิ่งสีดำถูกสำแดงขึ้นไปกลางอากาศ ชั่วขณะนั้นพลันพลิ้วไหวและเปลงเสียง
รองอันไพเราะออกมา
เมื่อเสียงนี้เขามาในโสตประสาทหู ชั่วขณะนั้นหานลี่พลันรูสึกเพียงวาจิตสัมผัส
เกิดเสียง “หงาง” ดังสนั่นขึ้น ทันใดนั้นรางทั้งรางราวกับถูกไฟช็อตอยางไรอยางนั้น
สั่นเทาสองสามครั้งจนเกือบจะรวงลงจากทองฟา
หานลี่พลันตกตะลึง โคจรคาถาขับเคลื่อนในรางโดยอัตโนมัติ ความเย็นเยียบปะทุ
ขึ้นมาในหัวและหมุนวนโคจรรอบหนึ่ง
หลังจากที่สีหนาซีดขาวไปสองสามครั้ง รางกายของเขาก็ฟนฟูกลับมาเปนปกติ
“สมบัติวิญญาณจริงๆ ดวย สมบัติธรรมดาๆ จะมีอานุภาพเชนนี้ไดอยางไร!”
ความรู  ส ึ ก หวาดกลั ว ฉายแวบผ า นจิ ต ใจของหานลี ่ ไ ป แต ท ั น ใดนั ้ น ก็ ร ู  ส ึ ก โมโห
และโจมตีกลับไปในทันที
เห็นเพียงมือหนึ่งของเขาพลันรายอาคม จิตสัมผัสผนึกรวมตัวกันเปนกอนในหัว
และปลอยออกไปหาฝงตรงขามอีกครั้ง
ชายรางใหญคิ้วโคงที่ฝนกระตุนระฆังพันวิญญาณใหทำการโจมตีจิตวิ ญญาณ
มองเห็นรางกายของหานลี่สั่นเทาอยูไกลๆ ราวกับไมมีอะไรเกิดขึ้น ในใจกลับรูสึก
ตกตะลึงมากกวาหานลี่
ถึงแมวาการโจมตีจิตวิญญาณจะไมใชความสามารถที่รายกาจที่สุดของระฆัง
พันวิญญาณ แตนำมาตอกรกับศัตรูที่อยูในระดับเดียวกัน กลับไดผลเปนอยางมาก
และตานทานไดยากสุดๆ
เขาพลันกัดฟน ขณะที่กระตุนตออยางไมเสียดายลมปราณนั้น จิตสัมผัสกลับรูสึก
เจ็บปวดราวกับถูกฉีกขาดอยางไรอยางนั้น เหมือนกับถูกกรวยแหลมๆ แทงหนึ่ง
แทงเขาไปในสมอง
นาเสียดายเขาไมไดมีจิตสัมผัสที่แข็งแกรงเทาหานลี่ หลังจากถูก ‘หนามทิ่มแทงจิต’
โจมตีจุดที่ออนแอแลว ปากก็เปลงเสียงรองโอดครวญออกมา ทันใดนั้นสองมือพลัน
กำหมัดเขาหากัน รางทั้งรางคอมตัวลงราวกับกุง
ชั่วพริบตาทารกวิญญาณก็จมหายเขาไปในราง
ชั่วพริบตาเขาก็สู ญ เสี ยการควบคุม กั บ กระดิ่ งพั น วิ ญ ญาณที ่อยู ก ลางอากาศ
หานลี่เห็นฉากนั้น แววตาพลันเปลงประกายเย็นเยียบ พุงไปหาหุนเชิดมนุษยยักษที่อยู
ตรงหนาตัวเองอยางไมแมแตจะมอง และชี้ไปยังดอกบัวยักษสีทองที่อยูพลิ้วไหวอยู
กลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นหลังจากดอกบัวสีทองขนาดยักษหมุนโคจรกลางอากาศรอบหนึ่งทุบ
ลงมาที ่ ด  า นล า งอย า งรุ น แรง คาดไม ถ ึ ง ว า ดู ด ระฆั ง สี ด ำเข า ไปข า งในดอกบั ว
แลวเปลงแสงสีทองเจิดจาออกมา
ในเวลาเดียวกันดอกบัวสีทองก็ยับยั้งการแผคลุมลงมาของระฆังพันวิญญาณได
อยางนาอัศจรรย หุนเชิดสีเขียวมรกตขยายใหญขึ้นจนมีความสูงหกเจ็ดจัง และพุงเขา
มาอยูเบื้องหนาของหานลี่ ชูกำปนยักษขางหนึ่งขึ้นพลางทุบลงมาอยางรุนแรง
หลั ง จากที ่ เ สี ยง “ป ง ” ดั ง สนั ่ น ขึ ้ น กำป  น ของหุ  น เชิ ด พลั น ถูก เตานภาสูญที่
กลายเปนเตายักษตานทานเอาไว
แตเตายักษพลันเปลงเสียงรองคำรามออกมา รางกายหดเล็กลงกวาครึ่ง
คาดไมถึงวาหุนเชิดตัวนี้จะมีความสามารถที่นาตกตะลึง และรายกาจเปนพิเศษ
สวนกลีบดอกบัวที่หมุนวนอยูในดอกบัวยักษสีทอง ก็เปลงเสียงคร่ำครวญออกมา
เปนระลอกๆ
ทันใดนั้นระฆังสีดำขนาดสองสามจั้งก็มาปรากฏขึ้นตรงใจกลางดอกบัวสีท อง
อาศัยการตัดดวยความรวดเร็วของกลีบดอกบัว กลับไมไดรับบาดเจ็บเลยสักนิดราวกับ
ไรรูปราง
ในเวลาเดียวกันเสนไหมสีดำที่แผออกมาจากระฆังสีดำโดยอัตโนมัติ พลันรัด
ดอกบัวสีทองเอาไว
กลีบดอกบัวหมุนวน ชั่วครูก็หยุดชะงัก
หานลี่รองอุทานออกมาเบาๆ ครั้นเมื่อกำลังรีบรอนกระตุนสมบัติอาคมอีกครั้งนั้น
ดานหลังหางออกไปสองสามจั้งพลันมีลำแสงสีดำเปลงแสงสวางวาบ หมาปายักษสีดำ
ปรากฏขึ้นตรงนั้นราวกับวิญญาณแหงยมโลก ทันใดนั้นพลันกายเปนเงาลวงตาจางๆ
สายหนึ่งกระโจนออกมา
เมื่อกรงเล็บที่แหลมคมของอสูรตัวนี้สัมผัสกับลำแสงเทวะดูดปราณที่กลายเปน
มานลำแสงสีเทา คาดไมถึงวาจะทะลวงเขามาอยางไรซึ่งการตานทานเลยสักนิด
ถึงแมวาลำแสงเทวะดูดปราณของหานลี่จะรายกาจ แตเมื่อเผชิญหนากับของที่
ไมเกี่ยวของกับพลังเบญจธาตุแลว กลับมีกำลังไมพอ ไมอาจตานทานไดเลยสักนิด
ในตอนที่แววตาสีเขียวมรกตของหมาปายักษเปลงแสงสวางวาบ
ลอบโจมตีสำเร็จนั้น กำปนสีทองเรืองรองสองขางก็ปรากฏขึ้นเบื้องหนากรงเล็บ
ที่แหลมคม แลวโจมตีเขามาอยางไมเกรงใจเลยสักนิด
หลังจากเสียง “ปง” “ปง” ดังขึ้นสองครั้ง เมื่อกรงเล็บหมาปาสัมผัสกับกำปนสีทอง
คาดไมถึงวาจะถูบดจนแหลกละเอียด
ทันใดนั้นหมาปาตัวนั้นก็เปลงเสียงรองอยางนาอนาถใจออกมา รางกายพุงออกไป
ราวกับประสบกับพลังมหาศาล
และในตอนนั้นเอง หานลี่ที่แตเดิมหันหลังให กลับหันกายกลับมาตอนไหนก็ไมรู
และยิ ่ ง ไปกว า นั ้ น รอบกายพลั น มี ล ำแสงสี ท องเรื อ งรอง ราวกั บ รู ป หล อ ของ
พระพุทธเจาอยางไรอยางนั้น
มองไปยังหมาปาสีดำที่บินออกมา หานลี่มีสีหนาเย็นเยียบ รางกายเลือนรางไป
เล็กนอย แลวพาเงาที่ไมสมบูรณพุงออกไป ครูตอมา ก็มาปรากฏตัวเหนือหัวหมาปา
สีดำที่บินออกมาอยางแปลกประหลาด
หลังจากฟนฟูพลังลมปราณแลว คาดไมถึงวาหานลี่ก็จะสำแดงยางกาวควันตาขาย
ออกมากลางอากาศ
ถึงแมวายางกาวนี้จะเร็วไมเทาปกวายุอัสนี และดอยกวาเกาวายุกระหน่ำเปน
เทาตัว แตภายใตการควบคุมดวยกายเนื้อของหานลี่ การพลิ้วไหวไปมาในอาณาเขต
ใกลๆ ก็มหัศจรรยเปนอยางมาก
หมาปายักษสีดำตัวนั้นเห็นหานลี่ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ กลับเกิดความกระหายขึ้น
อาปากออก พนลูกบอลลำแสงสีดำออกมา โจมตีไปยังหานลี่ที่อยูไกลแคคืบ
หลังจากเสียง “ตูม” ดังขึ้น มือสีทองขางหนึ่งของหานลี่พลันโบกสะบัดไปตาม
อำเภอใจ แลวโจมตีไปยังลูกบอลลำแสงสีดำราวกับตบแมลงวัน
ในเวลาเดียวกันพลันใสลมปราณเขาในดวงตาทั้งสองขาง ชั่วพริบตาสวนลึกใน
แววตาพลันมีลำแสงสีฟาพุงออกมา ชั่วครูก็มองเห็นทั้งเรือนรางของหมาปาอยางทะลุ
ปรุโปรง
รางกายของหานลี่พลิ้วไหวดวยสีหนาไรความรูสึก แลวมาปรากฏขึ้นที่หนาของ
หมาปายักษ
สองแขนชูขึ้น แขนสีทองสองขางเปลงแสงเปรี๊ยะๆ ราวกับสายฟา ขางหนึ่งควา
หั ว ของหมาป า ยั ก ษ เ อาไว อี ก ข า งหนึ ่ ง จั บ ขาข า งหนึ ่ ง เอาไว ชั ่ ว พริ บ ตาก็ ท ำให
หมาปายักษไมอาจขยับตัวไดราวกับเหล็กกลาอยางไรอยางนั้น!
ปากรองตะโกนออกมา ในเวลาเดียวกันมือทั้งสองพลันออกแรง!
จากพลังที่ไมธรรมดาของหานลี่ในครานี้ ไมตองพูดถึงแคมารที่ผสานอินทรียขึ้น
จากวิญญาณปศาจอสูร แมแตอสูรปศาจหัวเปนทองแดงแขนเปนเหล็กกลาที่แทจริง
ตัวหนึ่ง ก็ยังถูกฉีกออกเปนสองสวนในทันที
ผลคือหัวอันใหญโตของหมาปายักษถูกหานลี่เด็กออกในทีเดียว
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น
หัวหมาปายักษออกหางจากตั วหมาปา รางกายเปลงแสงสีดำเจิดจา ออกมา
กลายเปนหมอกสีดำเปนหยอมๆ หมุนวนกลางอากาศอยางรุนแรงแลวสลายหายไป
หัวหมาปาตัวนั้นกลับแยกเขี้ยวยิงฟนอยูทามกลางมือสีทองไมหยุด ยังคงมีชีวิตอยู
หานลี ่ ห ั ว เราะอย า งเย็ น ชาออกมา อี ก มื อ หนึ ่ ง ตะปบออกไปกลางอากาศ
เปลวเพลิงสีเงินกลุมหนึ่งปรากฏขึ้น เปลงแสงสวางวาบแลวกลายเปนวิหคเพลิงสีเงิน
ตัวหนึ่ง
ปากเปลงเสียงไพเราะออกมา วิหคเพลิงสีเงินเปลงแสงสวางวาบแลวพุงเขาไปหา
หัวหมาปาทันที
หลังจากเสียง “ปง” ดังขึ้น ทามกลางเสียงรองอยางนาอนาถของหัวหมาปา
ชั่วพริบตาเปลวเพลิงสีเงินก็หอหุมมันเอาไวขางใน แลวกลายเปนหมอกสีดำกลุมหนึ่ง
จากนั้นเปลวเพลิงสีเงินก็หมุนวนกลางอากาศ กลืนกินหมอกสีดำทั้งหมดไปจนเกลี้ยง
กลายเปนวิหคเพลิงสีเงินปรากฏขึ้นอีกครั้ง
วิหคตัวนี้อาปากออก พนยันตวิเศษสีเงินแผนหนึ่งออกมา ถูกหานลี่ควาเอาไว
อยางรวดเร็ว
เมื่อเพงพินิจมองแลว นั่นก็คือยันตแผนที่ชายรางใหญคิ้วโคงสำแดงออกมากอนหนา
แตแคลำแสงดานบนมันหมนแสงลง ดูเหมือนจะสูญเสียพลังไปกวาครึ่ง
ปากของวิหคเพลิงพนเปลวเพลิงสีเงินออกมา หมุนโคจรลอมรอบหานลี่ ดูเหมือน
จะตื่นเตนเปนพิเศษ
หานลี่เลือนสายตาไป หลังจากที่รางกายรางเลือนอีกครั้ง ชั่วครูก็มาปรากฏตัว
หางจากหัวหุนเชิดสีเขียวมรกตไปสิบจั้งเศษ
หุนเชิดนี้ถูกเตานภาสูญปดทางเอาไว กำลังใชกำปนโจมตีไปยังเตายักษไมหยุด
ถึงแมวาทุกครั้งที่เตาใบนี้ถูกโจมตีจะกระเด็นออกไปสองสามจั้ง ในเวลาเดียวกัน
ยังหดเล็กลงดวย แตสมบัติชิ้นนี้เคยแมกระทั่งตานทานการโจมตีของรางแยกบรรพชน
มารโบราณได แนนอนวาจึงไมอาจถูกโจมตีใหแตกสลายไปอยางงายดาย ทันใดนั้น
พลันพลิ้วไหวแลวปรากฏขึ้นที่เดิมดวยขนาดที่ใหญขึ้นอีกครั้ง
จะวาไปแลว หุนเชิดนี้ยังไมมีสติปญญา สวนชายรางใหญคิ้วโคงก็ยังไมไดสติ
กลับมาจากความเจ็บปวด แนนอนวาจึงทำไดเพียงโจมตีไปยังเตายักษอยางโงเขลา
ไมรูจักเปลี่ยนวิธีการ
หานลี่นั้นกลับไมเขาใจเคล็ดวิชาหุนเชิดของแดนวิญญาณ แตเคล็ดวิชาหุนที่เทพ
ขับเคลื่อนทิ้งไวในคัมภีรสมบัติของเทพขับเคลื่อนก็เปนเคล็ดวิชาลับที่ไมเปนรองใน
แดนมนุษยแลว
ถึงแมวาหุนเชิดสีเขียวมรกตตัวนี้จะนับไดวาแข็งแกรงมาก แตภายใตการกวาด
สายตาที่มีลำแสงสีฟาอยูขางในไป ชั่วพริบตาก็มองเห็นจุดออนของมัน
ซอนยันตสีเงินในมือเขาไปในหนาอก สาวเทายาวๆ ไปขางหนา คนเปลงแสง
สีทองสวางวาบแลวมาอยูดานหลังของหุนเชิดยักษ
เสียงตะโกนและกำปนที่โจมตีออกไปของหานลี่ไลตามซี่โครงของหุนเชิดไปอยาง
ตอเนื่องราวกับประทัด
กำปนสีทองยังไมทันไดโจมตีไปยังหุนเชิด แตวายุที่กำปนพัดพาไป กลับวาดเปน
รอยแตกสีขาวสายหนึ่ง ราวกับรอยฉีกขาดกลางอากาศอยางไรอยางนั้น
เสียง “ปง” ดังสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้น ถึงแมวารางกายของหุนเชิดสีเขียวมรกต
จะแข็งแกรงอยางหาที่เปรียบมิได แตภายใตการโจมตีดวยแรงมหาศาล ซี่โครงพลัน
เปนรอยกำปนยักษลึกไปลงสองสามชุน ในเวลาเดียวกันรางกายก็หมอบฟุบ ลงไป
คาดไมถึงวาจะถูกพลังมหาศาลของหานลี่โจมตีจนฟุบลงไปกับพื้นดิน
ทันใดนั้นหานลี่พลันไมยั้งมือเลยสักนิด กำปนทั้งสองโจมตีออกไปราวกับหาฝน
ทุกการโจมตีลวนพุงเปาไปที่จุดๆ เดิม
ชั่วพริบตาหลังจากเสียง “ปง” ดังขึ้น ซี่โครงของหุนเชิดก็แตกออก เผยรูสีดำ
ออกมา
ฉับพลันนั้นกำปนของหานลี่พลันหยุดลง แตทันใดนั้นสองมือก็ถูกันไปมาโดยไม
แมแตจะมอง ชั่วขณะนั้นลำแสงสีทองสายหนึ่งพลันเปลงแสงสวางวาบแลวพุงออกไป
จมหายเขาไปในรางของหุนเชิดอยางพอดิบพอดี
ชั่วขณะนั้นในรางของหุนเชิดพลันเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น ทันใดนั้นเรือนรางพลัน
เปลงแสงสีเขียวออกมา รางกายหดเล็กลง ชั่วพริบตาก็เล็กลงจนมีขนาดสองสามฉื่อ
และแนนิ่งอยูบนพื้น
จากการลอบโจมตีของหมาปาสีดำ จนถึงตอนที่หานลี่สวนกลับดวยการสังหาร
หมาปายักษ ทำลายหุนเชิด ดูแลวเหมือนใชเวลานานมาก แตความจริงแลวกลับเปน
เวลาแคชั่วอึดใจเทานั้น
ครานี้ในที่สดุ ชายรางใหญคิ้วโคงที่ถูกหานลี่โจมตีดวยหนามทิ่มแทงจิตวิญญาณก็
ฟนฟูจากอาการบาดเจ็บในจิตสัมผัสแลว พลันมองเห็นฉากสุดทายที่รางของหานลี่
เปลงแสงสีทองออกมา และโจมตีหุนเชิดจนพังทลายพอดี
“บรรลุคาถาวัชระ เจาเปนผูฝกตนระดับสุดยอดดวย!” ครานั้นเขาพลันรองอุทาน
ออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหง ใบหนาเต็มไปดวยสีหนาไมอยากจะเชื่อ
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดเกราะสีทองหนาบากดานนอกมานลำแสง ถึงแมจะไมได
เอยปากพูดอะไรอีก แตสีหนาตกตะลึงกลับเผยออกมาอยางไมตองสงสัย
“สหายเวิง จะสูกันตอหรือ?” หานลี่ไมไดตอบคำถามของอีกฝาย กลับเอยถาม
ดวยความเยือกเย็น
ชายรางใหญแซเวิงมีสีหนาดูไมได!
“ถึงแมวาเจาจะเปนทั้งผูบำเพ็ญเพียรและผูฝกตน ความสามารถเหนือกวาที่ขา
จินตนาการไว แตคิดวาตัวเองจะชนะในการตอสูครั้งนี้หรือ จากนี้ขาจะไมเสียดาย
เวลาในการฝกบำเพ็ญเพียรอยางหนักรอยป ใหเจาไดเรียนรูอานุภาพที่แทจริงของ
กระดิ่งพันวิญญาณ!” ชายรางใหญแซเวิงรูสึกโกรธเกรี้ยว เงยหนาขึ้นมองแวบหนึ่ง
ใชดอกบัวสีทองรองเงากระดิ่งสีดำเอาไวอยางงายดาย แลวเอยอยางโหดเหี้ยมออกมา
ทันใดนั้นชายรางใหญพลันบริกรรมคาถา เหนือหัวมีหมอกสีฟาเปลงแสงสวางวาบ
ทารกวิญญาณปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ทารกวิญญาณตนนี้มีสีหนาเครงขรึม สองมือพลันรายอาคม มือหนึ่งชูขึ้นกลางอากาศ
สิ่งที่ดูเหมือนเสาลำแสงสีฟาสายหนึ่งพุงออกมา โจมตีไปยังระฆังสีดำอยางพอดิบพอดี
ในเวลาเดียวก็เปลงเสียงบริกรรมคาถาที่ลึกลับออกมา
เงาระฆังสีดำพลันสั่นคลอน ทันใดนั้นลำแสงสีดำสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
นั่นก็คือ รางเดิมของระฆังพันวิญญาณ
ระฆังนี้หมุนวนอยางชาๆ ทำใหเสาลำแสงสีฟากลายเปนจุดลำแสง ดูดเขาไปใน
รางกาย
ชายรางใหญคิ้วโคงที่อยูดานลางถือโอกาสนี้ดีดนิ้วไปทางระฆังสีดำ
เสียง “กริ๊ง” ดังขึ้น ดูเหมือนจะเปนเสียงที่ดังขึ้นทั่วๆ ไป
กลางมานลำแสงพลันมีคลื่นหมุนวนอยางรุนแรง ทันใดนั้นรอยแยกสีดำบางๆ
สายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศอยางไมมีเคาลางมากอน
ตอนที่ 1324 ชิงที่อยูสำเร็จ
ทารกวิญญาณของชายรางใหญคิ้วโคงเห็นรูสีดำปรากฏขึ้น ก็ดีดนิ้วไปทางกระดิ่ง
สีดำหาหกครั้ง
ทุกครั้งที่ดีดออกไป สีหนาของเขาจะซีดขาวไปสวนหนึ่ง รอยแยกสีดำสายนั้น
ขยายใหญขึ้นในชั่วพริบตา
หลังจากที่กระดิ่งดังขึ้นอีก รอยแยกสีดำก็ขยายออกเปนรูครึ่งวงกลม ดานในมีไอสีดำ
ปกคลุมอยูเต็มไปหมด วายุทมิฬโหมกระหน่ำ มองไมเห็นอะไรเลยสักนิด
“ฮิๆ!” เสียงหัวเราะประหลาดๆ ดังมาจากดานใน
รูมานตาของหานลี่หดเล็กลง ลำแสงสีทองเปลงประกายบนเรือนราง ในเวลาเดียวกัน
ลำแสงเทวะดูดปราณพลันขยายใหญกวาครึ่ง ปกคลุมตนเองเอาไวอยางแนนหนา
เมื่อเผชิญหนากับสมบัติระดับศาสตรายุทธ เขาก็ไมกลาดูแคลนเชนกัน
ในตอนนั้นเองฉากที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้น
ฉับพลันนั้นรอบกายของหานลี่ก็มีเสนไหมสีดำปรากฏขึ้น ลอมรอบรางกายของเขา
เอาไว แตกลับไมมีทาทีจะโจมตีเลยสักนิด
หานลี่พลันตกตะลึง ยังไมทันไดเขาใจวาคือเคล็ดวิชาใด ฉับพลันนั้นเสนไหมสีดำ
ก็ผนึกรวมตัวกัน กลายเปนเขตอาคมลำแสงสีดำ กักหานลี่เอาไวขางใน
“แยแลว!”
หานลี่พลันตกตะลึง ลำแสงสีทองเปลงแสงสวางวาบขึ้นบนราง กวาดตามองไป
ทางเขตอาคม
แตเห็นไดชัดวาสายไปแลว
เขตอาคมสีดำเปลงแสงสวางวาบ หลังจากที่หานลี่โคจรอยูบนทองฟารอบหนึ่ง
รางทั้งรางรวมทั้งหมอยักษและดอกบัวสีทองก็สลายหายไปพรอมกัน
ครูตอมา รางกายของเขาก็ซวนเซ คนมาปรากฏตัวกลางอากาศประหลาดที่มี
ลำแสงสีดำปกคลุมอยู เงาสีดำสี่สายทับถมกันเปนชั้นๆ เสียงกรีดรองคร่ำครวญดังขึ้น
หานลี่เห็นฉากนั้นพลันตกตะลึง แตทันใดนั้นมุมปากพลันหยักขึ้น คาดไมถึงวาจะ
ไมตกตะลึงแตกลับหัวเราะออกมา
ชั่วขณะนั้นทามกลางเสียงระฆัง ทางเขาของรอยแยกก็ผสานเขาหากัน เปลงแสง
สวางวาบครั้งสุดทายแลวกลายเปนเสนไหมสีดำจางๆ ความยาวสิบจั้งเศษสายหนึ่ง
ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
ทันใดนั้นทารกวิญญาณพลันเปลงประกาย กลับคืนรางเดิม
รางของชายรางใหญคิ้วโคงเบิกตาทั้งสองขางขึ้น ใบหนาเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยม
ออกมา
รอยแยกสีดำนั้นเปนสิ่งระฆังพันวิญญาณฉีกหวงเวลาออกมา ถึงแมจะเรียกวา
‘พั น วิ ญ ญาณ’ แต ว ิ ญ ญาณทมิ ฬ ต า งๆ ที ่ อ ยู  ด  า นใน ถึ ง มี ไ ม ถ ึ ง หมื ่ น เดื อ นก็ ค ง
แปดพันดวง และยิ่งไปกวานั้นวิญญาณทมิฬทั้งหมดตางก็มาจากการรวบรวมวิญญาณ
บริสุทธิ์ของอสูรปศาจพิเศษที่ดุรายตั้งแตยังมีชีวิตอยู ประกอบกับการบวงสรวงดวย
วิธีการลับๆ ระดับความดุรายจึงไมตางอะไรจากตอนที่พวกมันมีชีวิตอยู
สวนวิญญาณหลักดวงหนึ่งในระฆังพันวิญญาณ กอนตายก็เปนอสูรวิญญาณฟาดิน
ระดับเทพแปลงขั้นกลางอยูแลว ภายใตความประจวบเหมาะ ถึงไดถูกอาจารยของเขา
บวงสรวงเปนจิตวิญญาณหลักของสมบัติชิ้นนี้
ภายใตการสอดประสานรับกันของจิตวิญญาณหลักและจิตวิญญาณทมิฬอื ่นๆ
ความสามารถจึงเพิ่มขึ้นหลายเทา และยิ่งไปกวานั้นหวงเวลานี้ก็มีเขตตองหามที่
พิ เ ศษมาก ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รที ่ ถ ู ก ดู ด เข า ไป ขอแค ไ ม ใ ช ร  า งของจิ ต วิ ญ ญาณทมิ ฬ
ลมปราณในรางจะถูกจำกัดไปไมนอย
ดังนั้นตอใหผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นปลายถูกกักเอาไว กวาครึ่งก็คงโชคราย
มากกวาโชคดี
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดเกราะสีทองซึ่งอยูนอกมานลำแสงมองไปยังเสนไหมสีดำ
กลางอากาศ แววตาพลันเปลงประกาย แตก็ไมไดเคลื่อนไหวใดๆ
ชายรางใหญคิ้วโคงพลันนั่งสมาธิอยูกลางอากาศไปเสียเลย รอใหวิญญาณรายในหวง
เวลาวิญญาณทมิฬกลางอากาศกลืนกินหานลี่อยางเงียบๆ และจะไดจบการตอสูครั้งนี้
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งกาน้ำชาเต็มๆ ระฆังสีดำบนทองฟาก็สั่นคลอนอยาง
รุนแรง ลำแสงสีดำประหลาดๆ เปนชัน้ ๆ ปรากฏขึ้น ในเวลาเดียวกันดานในพลันเปลง
เสียงหึ่งๆ ออกมา เดี๋ยวยาวเดี๋ยวสั้น เห็นไดชัดวาแปลกประหลาดเปนอยางมาก
ถึงแมวาชายรางใหญคิ้วโคงและสมบัตินี้จะไมอาจเชื่อมโยงจิตใจกันได แตเมื่อเกิด
เหตุการณประหลาดเชนนี้จะไมรูไดอยางไร แตก็รูสึกงุนงงเชนกัน ไมรูวาเกิดเรื่องอะไร
ขึ้นกันแน
ระฆังสีดำเปลงเสียงรองคร่ำครวญออกมา เงาลวงตายักษที่แตเดิมแผออกมาดาน
นอกพลันแตกออกเปนเสี่ยงๆ ทันใดนั้นก็กลายเปนเสนไหมสีดำจมกลับเขาไปในตัว
ระฆังพันวิญญาณ ชั่วพริบตา ก็หายไปอยางไรรองรอย
“เปนไปไมได คาดไมถึงวาจิตวิญญาณหลักจะถูกทำลาย” ในที่สุดชายรางใหญคิ้วโคง
ก็เขาใจแลววาเกิดอะไรขึ้น และพลันตกตะลึงเปนอยางมาก
ในตอนนั้นเอง เหนือศีรษะของเขาพลันมีลำแสงสีดำสายหนึ่งพุงทะลวงออกมา
อยางเงียบเชียบ รูขนาดเทากำปนรูหนึ่งปรากฏขึ้น
ลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบ ลำแสงหลีกหนีสีเขียวสายหนึ่งพุงออกมาจากรู
กะพริบวาบแลวกลายเปนเงารางคนสายหนึ่งปรากฏขึ้นตรงนั้น
ชายร า งใหญ ค ิ้ ว โค ง เองก็ เป น ผู  บ ำเพ็ญ เพี ยรระดั บ เทพแปลงขั ้ น กลาง เขาดู
เหมือนวาจะสัมผัสอะไรได จึงเงยหนาขึ้นมอง
แตการเลานั้นแสนยาวนาน ความจริงแลวเกิดขึ้นอยางรวดเร็วมาก เงารางคนแคขยับ
ก็หายไปจากที่เดิม ครูตอมา หลังจากเงาลวงตาปรากฏขึ้นอยางตอเนื่อง เงารางคนก็
มาปรากฏที่แผนหลังของชายรางใหญคิ้วโคง
ตะโกนออกมาคำหนึ่ง ชายรางใหญหูอื้อ จากนั้นวายุโหมกระหน่ำพลันพัดเขามา
กำปนสีทองขางหนึ่งโจมตีออกไป
“เหวอ”
ชายรางใหญคิ้วโคงพลิ้วไหวกายดวยความตกตะลึง รางกายแตกออกเปนเสี่ยงๆ
ราวกั บ กระจก ชั ่ ว ครู  ก ็ ก ลายเป น เงาลวงตาเจ็ ด แปดสาย พุ  ง หนี อ อกไปรอบๆ
ดานพรอมกัน
“หึ! คิดจะหนี!”
แนนอนวาเงารางคนนี้ก็คือหานลี่ เขาแคนเสียงในลำคอดวยความเย็นชา กำปนที่
สำแดงออกไปเริ ่ ม เลื อนราง คาดไม ถ ึ ง ว า จะกลายเป น เงากำป  น เจ็ ด แปดหมั ด ที่
เหมือนกันทุกระเบียบนิ้ว ภายใตเสียง “สวบๆ” เงากำปนทุกหมัดโจมตีไปกลางลำตัว
อยางแมนยำ
พวกมันตางเปลงเสียงรองแลวสลายหายไปในทันที!
มีเพียงรางเดิมของชายรางใหญที่มีโลเล็กๆ สีเงินปรากฏขึ้น ตานทานกำปนสีทอง
เอาไวอยางพอดิบพอดี
เสียง “ปง” ดังขึ้น โลลำแสงสีเงินหยุดชะงักกำปนไปเพียงเล็กนอย ชั่วพริบตาก็
แตกกระจาย
กำปนสีทองโจมตีไปยังกึ่งกลางลำตัวของชายรางใหญอยางไมลังเลเลยสักนิด
ชั่วพริบตาที่สัมผัสกัน รางของชายรางใหญมีเกราะสีเขียวชั้นหนึ่งปรากฏขึ้น
ขณะที่เสียงดังสนั่นขึ้น ลำแสงสีทองและลำแสงสีเขียวพลันเกี่ยวกระหวัดเขาหากัน
กำปนโจมตีไปยังเกราะสงครามอยางรุนแรง
ลำแสงสีเขียวสั่นคลอนอยางหนัก กำปนโจมตีลึกเขาไปสองสามชุน สวนชายรางใหญ
คิ้วโคงก็รองโอดครวญออกมา รางทั้งรางกระเด็นลอยไป
หานลี่กลับใจหายวาบ เขารูดีวากำปนของตัวเองมีพลังมหาศาลแฝงอยู ถูกเกราะ
สีเขียวแลวพลันไถลผานไปกวาครึ่งราวกับปลาไหล มีพลังโจมตีแคครึ่งเดียวที่โจมตีไป
ยังเกราะสงครามนั้นจริงๆ
มิเชนนั้นกำปนนี้ก็เพียงพอจะทะลวงเกราะสงครามชิ้นนี้ แลวทำใหชายรางใหญ
คิ้วโคงไดรับบาดเจ็บหนักคาที่แลว
ชั่วพริบตาที่ถูกระฆังพันวิญญาณดูดเขาไปกลางอากาศวิญญาณทมิฬ ในที่สุดหานลี่
ก็สัมผัสไดถึงจิตสังหารของอีกฝาย ครานี้จึงลงมืออยางไมปรานี
ครานี้กำปนยังไมประสบผลสำเร็จ ถึงแมวาจะรูสึกประหลาดใจ แตรางกายของ
เขาก็พลิ้วไหวในทันที คนมาปรากฏเหนือชายรางใหญคิ้วโคงอยางลึกลับ มือหนึ่ง
ตะปบออกไปกลางอากาศ กระบี่ยาวสีทองความยาวสองสามชุนเลมหนึ่งพลันปรากฏ
ขึ้นในมือ สั่นคลอนเบาๆ แลวสับลงมา
ในตอนนั้นเอง ชายรางใหญแซเวิงพลันตะโกนออกมาดวยเสียงที่แหบแหง
“อยาลงมือ ขายอมแพ!”
หานลี่ไดยินคำนี้ มุมปากพลันกระตุก แตกระบี่ยาวที่อยูในมือกลับสับลงมา
ราวกับมองไมเห็น ชั่วขณะนั้นไอกระบี่สีทองพลันพุงลงไปดานลาง ทาทางไมปรานีเลย
แมแตนอย
จากความแหลมคมของกระบี ่ ไ ผ เ ขี ย วตั ว ต อ เมฆา ถึ ง แม ว  า อี ก ฝ า ยจะมี
เกราะยมโลกนิลคุมกันอยู ก็ตองถูกผาออกเปนสองสวน
อากาศรอบๆ เกิดเปนคลื่นขึ้น ลำแสงสีเหลืองพุงออกมา เปลงแสงสวางวาบแลว
พันรอบรางของชายรางใหญคิ้วโคงเอาไว พลิ้วไหวครัง้ หนึ่ง แลวหายวับไป
ถึงแมวาไอกระบี่สีทองจะไมเชื่องชา แตก็ยังสับลงมากลางอากาศ
หานลี่หนาเปลี่ยนสี แววตากวาดไปรอบๆ เห็นเพียงกลางอากาศสูงขึ้นไปยี่สิบจั้ง
ลำแสงสีเหลืองกลุมหนึ่งระเบิดออกมา เงารางคนสองสายปรากฏขึ้นทามกลางลำแสง
สีเหลือง
นั่นก็คือผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดเกราะสีทองหนาบากและชายรางใหญแซเวิงผูนั้น
ผูบำเพ็ญเพียรหนาบากมีสีหนาไรความรูสึก สวนชายรางใหญแซเวิงกลับมีสีหนา
ซี ด ขาว เกราะสงครามตรงหน าผากมี โลหิ ตอาบยอมอยู  มองมาทางหานลี่ อยาง
เคียดแคน
ดูแลวภายใตการโจมตีของหานลี่ ถึงแมวาเกราะยมโลกนิลจะกำจัดพลังกวาครึ่ง
ออกไป แตสุดทายเขาก็ยังช้ำในและกระอักโลหิตสดๆ ออกมา เกราะสงครามบน
ตัวเขาเปนรอยกำปนอยางเห็นไดชัด
หานลี ่ ก วาดสายตาผ า นชายร า งใหญ แ ซ เ วิ ง ไป สี ห น า ไม แ ปลกใจเลยสั ก นิ ด
หลังจากที่กระบี่ยาวในมือพลิ้วไหวแลวหายวับไป ก็คารวะใหผูบำเพ็ญเพียรที่สวม
ชุดเกราะสีทอง
“ขอบพระคุณทานอาวุโสที่ลงมือ มิเชนนั้นชนรุนหลังคงเกือบจะยั้งมือเอาไวไมทัน
และทำรายสหายเวิงแลว!” หานลี่เอยอยางเครงขรึม
เมื่อไดฟงคำพูดของหานลี่ ชายรางใหญแซเวิงพลันมีสีหนาแดงก่ำ จนเกือบจะ
กระอักโลหิตออกมาอีกรอบ
เมื่อครูหานลี่ยั้งมือไมทันที่ไหนกัน เห็นไดชัดวาเกิดจิตสังหาร คิดจะใชกระบี่
สังหารเขา
ผูบำเพ็ญเพียรหนาบากไดยินคำพูดนี้ พลันมีสีหนาประหลาดใจฉายแวบผ าน
แววตาเผยทาทางอมยิ้มออกมา แตก็เอยอยางราบเรียบ
“การยับยั้งมือไมทันในการตอสูลวนเปนเรื่องปกติ ไมเปนไร การตอสูชิงที่อยูครั้งนี้
สหายเวิงเปนฝายยอมแพเอง ผูชนะก็คือ สหายหาน ที่นั่นเปนของสหายหานแลว
เจาสองคนมีขอโตแยงหรือไม!”
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา แนนอนวาไมไดโตแยงอะไร
ชายรางใหญแซเวิงกลับมีสีหนาไมยินยอม แตมุมปากขยับเล็กนอย ในที่สุดก็ไมได
เอยอะไรออกมา
เห็นทั้งสองไมไดกลาวอะไรอีก ผูบำเพ็ญเพียรหนาบากพลันพยักหนา ยื่นมือ
ออกไปหาหานลี่แลวออกคำสั่งวา
“เจารับแผนปายยมโลกนิลไป!”
หานลี่ไดยิน ก็พลิกฝามืออยางไมลังเลเลยแมแตนอย แผนปายหยกสีเขียวแผนนั้น
เปลงแสงสวางวาบแลวปรากฏขึ้นในมือ จากนั้นก็โยนใหอีกฝาย
ผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดเกราะสีทองพลันกวักมือ ควาแผนหยกเอาไวกลางอากาศ
ในเวลาเดียวกันอีกมือก็เตรียมผลึกศิลาสีเขียวมรกตขนาดเทาหัวแมมือเอาไว ตบไปที่
แผนปายหยก ชั่วขณะนั้นก็หายวับไปอยางไรรองรอย
“เอาละ แผนปายที่อยูเขาไปในแผนปายยมโลกนิลของเจาแลว นอกเสียจากวา
วันขางหนาเจาเปนฝายอยางยายจากที่นี่เอง มิเชนนั้นก็ไมมีคุณสมบัติพอจะเขารวม
การแยงชิงที่อยูในอีกรอยปใหหลังอีก ตอนนี้เจาสองคนไปไดแลว การตอสูครั้งตอไป
ใกลจะเริ่มขึ้นแลว”
ผูบำเพ็ญเพียรหนาบากคืนแผนปายหยกใหหานลี่ แลวโบกมือใหทั้งสองคนจากไป
ในทันที ครานี้มานลำแสงสี ขาวรอบๆ พลันเปดออกเป นทางเดิ นสายหนึ ่ งตั ้ ง แต
เมื่อไหรก็ไมรู
หานลี่เองก็ไมกลาวใหมากความ หลังจากประสานกำปนแลว ก็กลายเปนสายรุง
สีเขียวสายหนึ่ง พุงตรงไปยังทางเดิน เปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง แลวหายวับไป
ผูบำเพ็ญเพียรแซเวิงมีสีหนาเครงขรึมไมปริปากใดๆออกมา กลายเปนลำแสงหลีกหนี
สีเหลืองพุงออกไปจากมานลำแสงเชนกัน แตเมื่อลำแสงรอบๆ หมนแสงลงก็ปรากฏ
ตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากมองไปยังทิศทางที่หานลี่จากไปดวยความเย็นชาแลว ถึงได
กระทืบฝาเทากลายเปนลำแสงสีเหลืองกลุมหนึ่งพุงไปยังทิศทางที่อยูตรงขาม
แมวาคนผูนี้จะไดรับบาดเจ็บภายใน แตความเร็วกลับไมไดเชื่องชา ชวงเวลาหนึ่ง
มื้ออาหารก็มาปรากฏตัวกลางอากาศในสถานที่ที่ไมคุนเคย ลำแสงหลีกนีหมนแสงลง
แลวหยุดลงในฉับพลัน
“เหตุใดกลิ่นอายของเจา ถึง ไดยุ งเหยิง เชน นี้! หรือวาเจาชิงที่อยูมาลม เหลว
และยังไดรับบาดเจ็บ?” เสียงเย็นชาที่คุนเคยดังออกมา จากนั้นอากาศรอบๆ ก็มี
ลำแสงสีเขียวมรกตเปลงแสงสวางวาบ มังกรวารีสีเขียวมรกตขนาดสองสามฉื่อตัวนั้น
ปรากฏขึ้น หลังจากพิจารณาชายรางใหญสองแวบแลว ก็เอยถามดวยสีหนาเย็นชา
ตอนที่ 1325 จวนพำนัก
“คนผูนั้นมีความสามารถยากที่จะหยั่งรู งานที่ศิษยไดรับมอบหมาย ไดพายแพให
มันจริงๆ สุดทายหากไมใชเพราะผูพิทักษสวรรคที่อยูดานขางลงมือ ศิษยก็เกือบจะถูก
อีกฝายฟนจนคราชีวิตไปแลว” เมื่อเห็นมังกรวารีสีเขียวมรกต ชายรางใหญแซเวิงพลัน
กมหนาลง สองมือประสานกันขณะยืนอยูดานขาง
“อีกฝายเปนแคผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นตน เดิมทีความสามารถของเจา
ก็ไมนอย แลวยังใหเจายืมระฆังพันวิญญาณ เหตุใดถึงแพ? เจากลายเปนคนไมมี
ประโยชนแลวหรือ!” มังกรวารีสีเขียวมรกตมีแววตาเครงขรึมขึ้น
“ศิษยพยายามสุดความสามารถแลว คนผูนั้นไมเพียงจะมีความสามารถที่ลึกล้ำ
อยูหลายชนิด และมีหมอสมบัติวิญญาณหนึ่งหมอ ใชแลว คนผูนี้ยังเปนผูฝกตนที่
ฝกฝนคาถาวัชระสำเร็จคนหนึ่ง” ชายรางใหญคิ้วโคงมีเหงื่อเม็ดเปงโผลขึ้น มาบน
ใบหนา แลวเอยปากอธิบายแทนตนเอง
“มีสมบัติวิญญาณ? ฝกฝนคาถาวัชระเสร็จแลว?” ฟงจากคำพูดของชายรางใหญ
แซเวิงแลว เสียงของมังกรวารีพลันประหลาดใจไปเล็กนอย
“ใชขอรับ ศิษยพูดความจริง ไมโกหกเลยสักนิด” ชายรางใหญคิ้วโคง ได ยิ น
มังกรวารีมีทาทีสนใจ แลวพลันรูสึกผอนคลายลง
แววตาของมังกรวารีสีเขียวมรกตเปลงประกายครุนคิด ฉับพลันนั้นกรงเล็บขางหนึ่งที่
อยูใตรางพลันตะปบไปที่ชายรางใหญแซเวิง
หลังจากที่เสียง “สวบ” ดังขึ้น ลำแสงสีดำที่หอหุมระฆังพันวิญญาณเอาไวพลัน
พุงออกมาจากรางของชายรางใหญ หลังจากหมุนวนโคจรรอบหนึ่ง ก็ตกลงในมือของ
มังกรวารี
มันกมหนาลงพิจารณาอยางละเอียดรอบหนึ่ง หลังจากผานไปชั่วครู แววตาถึงได
เครงขรึมขึ้น
ชายรางใหญแซเวิงเห็นเชนนั้น พลันรูสึกจิตใจหนักอึ้งขึ้นมาอีกครั้ง
“เชนนั้น คนผูนั้นก็เปนทั้งผูฝกตนและผูบำเพ็ญเพียรแลว หึๆ ผูบำเพ็ญเพียร
เชนนี้ในอดีตเคยแพรหลายอยูคราหนึ่ง แตครานี้กลับมีอยูเพียงไมกี่คน ไมตองคิดมาก
ลมปราณและเคล็ดวิชาฝกตนไมวาชนิดใด ก็ตองพากเพียรอยางหนักถึงจะสำเร็จได
หากฝกทั้งสองพรอมกัน ถึงแมวาจะนำหนาผูบำเพ็ญเพียรในระดับเดียวกัน แตเมื่อ
ฝกฝนจนถึงขั้นที่ล้ำลึก พลังยุทธก็จะดอยกวาผูบำเพ็ญเพียรธรรมดา และยิ่งไปกวานั้น
เคล็ดวิชาการฝกตนจำเปนตองมีพรสวรรค จากที่ขารูมาตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบัน
ผูฝกตนผูบำเพ็ญเพียรที่ประสบความสำเร็จ บรรลุระดับผสานอินทรียก็มีเพียงฮองเต
เทียนหยวนและพวกไมกี่คนเทานั้น คนเหลานี้ไมเปนผูฝกตนที่บรรลุแลวถึงกลายเปน
ผูบำเพ็ญเพียร ก็เปนผูที่กลืนสมบัติฟาดินลงไป ทำใหรางกายแข็งแกรงเปนอยางมาก
มิเชนนั้นหากเดินสายนี้ก็เปนการตัดหนทางการฝกบำเพ็ญเพียรของตนเองเทานั้น”
มังกรวารีสีเขียวมรกตเลยพรอมกับรอยยิ้มเย็นชา
“คนผูนี้ฝกฝนคาถาวัชระสำเร็จแลว หรือวายังมีเคล็ดวิชาผูฝกตนอะไรที่สามารถ
ฝกฝนรางกายตอไดอีก” ชายรางใหญคิ้วโคงเอยถามดวยความตกตะลึง
“ฝกฝนคาถาวัชระสำเร็จนั่นก็เปนเคล็ดวิชาผูฝกตนระดับสูงที่สุดของคนธรรมดาแลว
ถาหากจะฝกฝนรางกายตอ วิธีที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็มีเพียงตามหาเคล็ดวิชามารของ
แดนมารโบราณและเคล็ดวิชาของเผาปศาจมาฝกฝนเทานั้น ทวา ทั้งสองลวนเปน
เคล็ดวิชาของเผาประหลาด มีอันตรายไมนอย อีกฝายทำใหลมปราณและกายเนื้อ
ฝกฝนจนมาถึงขั้นนี้ไดในเวลาเดียวกัน ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นกลางคนหนึ่ง
อย า งเจ า ไม ใ ช ค ู  ม ื อ ของเขา ก็ ไ ม ใ ช เ รื ่ อ งที ่ แ ปลกอะไร แต ถ ึ ง แม จ ะเป น เช น นั้ น
เขาทำลายระฆังพันวิญญาณของขาไดอยางไร และยิ่งไปกวานั้นไมเพียงจะทำลาย
จิตวิญญาณหลักในระฆัง แมแตจิตวิญญาณที่โหดเหี้ยมอื่นๆ ก็ยังหายไปหดเจ็ดสวน”
เสียงของมังกรวารีเย็นเยียบขึ้น
“ศิษยไมรูวาเขาทำไดอยางไร ขาดูดเขาเขามาในระฆัง แตคนผูนั้นก็ทลายอาคม
ออกมาไดในเวลาไมนาน สวนสถานการณที่เปนรูปธรรมนั้น ศิษยไมไดเห็นดวยตา
ของตัวเอง” ชายชราแซเวิงอธิบายอยางรอนรน
“หึ ถึงแมวาระฆังพันวิญญาณจะเทียบกับมวนหมื่นวิญญาณโกลาหลไมได แตก็
เพียงพอที่จะกักผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นปลายคนหนึ่งได ดูแลวคนผูน้ไี มพก
สมบัติมหัศจรรยที่สามารถควบคุมวิญญาณทมิฬมาดวย ก็คงฝกฝนความสามารถที่
เกี่ยวกับแสงอาทิตยและวัชระ ชางเถิด สมบัติชิ้นนี้มากสุดก็แคไปจับวิญญาณบริสทุ ธิ์
ของอสูรที่โหดเหี้ยมมาใหม ก็บวงสรวงอานุภาพกลับคืนมาไดแลว แตสมบัติของคน
ผูนี้ กลับไมอาจปลอยไปงายๆ” มังกรวารีชองเขม็งไปยังชายรางใหญช่ัวครู แลวถึงได
แคนเสียงอยางเย็นชาพลางถอนสายตากลับมา
“ขอบพระคุณความเมตตาของทานอาจารย แตตอนนี้ที่อยูเปนของเจาเด็กนั่นแลว
หากถู ก เขาวางเขตอาคมไปรอบๆ พวกเราจะไปหาสมบั ต ิ ท ี ่ น ั ่ น เกรงว า คงไม
สะดวกแลว” รางใหญพลันรูสึกดีใจ แตจากนั้นก็เอยถามดวยความลังเลออกมา
“นี่มันยุงยากเกินไปหนอยแลว แตที่นั่นกวางใหญขนาดนี้ ในเวลาสั้นๆ คงไมอาจ
วางเขตอาคมที่ซับซอนอะไรได และไมใชวาจะไมมีทางแกไข เจาไปที่กักตนของขา
กอน เอาปายแทนตัวของขามา ไปหาสหายสนิทของขากงหยางตู สมบัติมหัศจรรย
อำพราง ‘ธงตบตาหาสี’ ของเขาเป นสมบัติ เ บญจธาตุ มีความสามารถล อ งหนที่
น า เหลื อ เชื ่ อ ไปยื ม มา จากนั ้ น พวกเราก็ โ อกาสเหมาะๆ แอบเข า หาสมบั ติ
เช นนั ้ น หากต องติ ด หนี ้ บ ุ ญ คุ ณ มารเฒ า กงซุ น เกรงว า วั น ข า งหน า คงไม ด ี น ั ก ”
มังกรวารีสีเขียวมรกตเอยอยางไมสบอารมณ
ชายรางใหญแซเวิงไมกลาเอยอะไรตอ ทำไดเพียงยืนพยักหนาหงึกหงักอยูที่เดิม
ดวยทาทีนอบนอม
ในเวลาเดียวกันหานี่กำลังบินออกมาจากกำแพงเมืองยักษสูงยี่สิบจั้งของเมือง
เทวะสวรรค กำลังบินไปยังที่ราบนอกเมือง
การตอสูจบลง เขาเองก็ไม ได กลั บไปยั งวิหารวิญ ญาณอีก และตรงไปยังที ่ ที่
ตนเองเลือก
จากความสามารถของตนเอง แนนอนวาภายในอึดใจ ระยะทางที่หางออกไปหมื่นลี้
ใชเวลาแคสามสี่วัน ก็มาอยูตรงหนาภูเขายักษสีเขียวขจีอยางปลอดภัย
นี่คือที่ที่เรียกวา ภูเขาขลุยหยก
ลำแสงหมนแสงลง หานลี่ปรากฏตัวขึ้นบนยอดเขาแหงหนึ่งที่ขอบของเทือกเขาแหงนี้
กวาดสายตาไปยังเทือกเขายักษที่กวางหลายแสนลี้ พลางหรี่ตาทั้งสองลง
ถึงแมวาหอวิหารหยกจะเปนหอที่แยที่สุดในเทือกเขาแหงนี้ แตแบงใหผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลงได ไอวิญญาณก็ตองหนาแนนไมธรรมดา แตกตางกับแดนศักดิ์สิทธิ์ใน
แดนมนุษยเปนอยางมาก
มองอยูชั่วครู หานลี่พยักหนาดวยความพึงพอใจ ลำแสงหลีกหนีเปลงประกาย
กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงเขาไปในภูเขา
ไมนานนักเขาก็บินออกมาไดแสนลี้
ถึงแมวาจะบินอยูกลางอากาศดวยความเร็วสูง แตเมื่อหานลี่กวาดสายตาไปรอบๆ
ทุกอยางในรัศมีหมื่นลี้ก็อยูในการควบคุมของเขา
ระหวางทาง เขาพบเขตอาคมตองหามที่วางอยูสี่หาแหง เห็นไดชัดวาจวนพำนัก
ของผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ อยูที่นี่
หานลี่ไมไดสนใจเพื่อนบานเทาใดนัก กลับกระตุนลำแสงหลีกหนี แฉลบผานไป
หลังจากที่หานลี่บินไปไดเกือบครึ่งเทือกเขา ในที่สุดก็มาถึงที่อยูของตัวเองตามใน
แผนที่
เทือกเขาที่กวางสองหมื่นกวาลี้ทอดยาวจนสุดลูกหูลูกตา และยิ่งไปกวานั้นที่นี่
นอกจากมีเขาคนเดียวแลว ก็ไมมีผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นอีก
หานลี่พลันรูสึกดีอกดีใจ และสรางจวนพำนักอยางไมรีบรอนในทันที สวนตนก็
ควบคุมลำแสงหลีกหนี วนรอบอาณาเขตที่ทำสัญลักษณเอาไว ออมวนรอบหนึ่งอยาง
ไมรีบรอน และยิ่งไปกวานั้นในทุกชวงระยะ ก็จะโยนธงสีขาวโพลนดามหนึ่งลงไปจาก
กลางอากาศ แลวจมหายเขาไปใตดินอยางไรรองรอย
ธงเหลานี้เปนแคยุทธภัณฑระดับต่ำที่สุด นอกจากมีประโยชนจากภาพลวงตา
เพียงเล็กนอย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือใชบอกผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ที่อยูรอบๆ วาที่นี่มี
เจาของแลว ทำใหพวกเขาไมเขามาที่นี่งายๆ
จากนั้นหานลีพ่ ลันเที่ยวเลนในนั้นเงียบๆ
หลังจากผานไปครึ่งวัน เขาก็พบวาในนี้มีเหมืองแรขนาดเล็กอยูสองสามแหงรวมทั้ง
แปลงสมุนไพรที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอยูสองสามจุด แตก็เหลือเพียงครึ่งหนึ่งเทานั้น
แนนอนวา เหมืองแรและสมุนไพรวิญญาณเหลานี้เปนมีคุณภาพต่ำและคอนขาง
ธรรมดา เดาวาผูบำเพ็ญเพียรที่อาศัยอยูกอนหนานี้ คงขี้เกียจจะเสียเวลาไปเด็ด
หานลี่ไมมีทางมองสิ่งนี้เขาตาเชนกัน แตเมื่อมีของดีหลายๆ อยาง ก็นับวาเปน
เรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง
หลังจากตรวจสอบทุกจุดไปรอบหนึ่งแลว สุดทายหานลี่พลันหยุดอยูกลางอากาศ
ตรงใจกลางของที่อยูดวยสีหนาขบคิด
ประหลาดจริงๆ เขาไมพบอะไรที่พิเศษที่นี่ ชายรางใหญคิ้วโคงพูดนั้นสูรบกับเขา
แทบตาย หรือวาเพียงเพื่อความสะดวกในการฝกฝนเคล็ดวิชาลับจริงๆ
หานลี่แววตาเปลงประกายสองสามครั้ง แลวสั่นศีรษะในทันที
จากท า ทางหั ว เสี ย หลั ง จากที ่ อี ก ฝ า ยพ า ยแพ แ ล ว ก็ ค งไม ง  า ยดายขนาดนั้ น
และยิ่งไปกวานั้นหากพูดถึงแดนวิญญาณ ก็ไมไดมีที่นี่ที่เดียว เหตุใดตองมาแยงชิง
กับเขา แมกระทั่งคิดจะสังหารเขา
ดูแลววันขางหนาหากมีโอกาสละก็ คงตองตรวจสอบอยางละเอียดอีกรอบหนึ่ง
มิเชนนั้นหากเขาไมคิดอะไรเลย ก็ไมมีทางฝกบำเพ็ญเพียรไดอยางสบายใจได
เมื่อตัดสินใจ ทันใดนั้นหานลี่พลันเริ่มขบคิดเรื่องสรางจวนพำนัก
ถึงแมวาที่ นี่ย ัง ค อนข างใหญ แตแนนอนว าก็ม ีจุ ดที ่ไ อวิ ญญาณหนาแน น อยู
สองสามจุด
หานลี่พิจารณาอยางละเอียดรอบหนึ่ง สุดทายพลันตัดสินใจ ทันใดนั้นลำแสงหลีก
หนีก็พุงไปยังจุดที่ตนเองเลือก
หลังจากนั้นไมนาน หานลี่ก็มาปรากฏตรงกลางระหวางภูเขายักษสองลูกที่มี
ไอหมอกหาสีอยูหนาแนน
ที่นี่ดูเหมือนวาจะเปนบึงขนาดยักษ ตะกอนที่อยูใตดินทะลักออกมาเปนกาซพิษ
ไมหยุด มีความสูงประมาณรอยจั้งเศษ และยิ่งไปกวานั้นยังมีพิษประหลาด แมแต
ผูบำเพ็ญเพียรที่สูดเขาไปอยางไมไดตั้งใจ ก็จะยุงยากเปนอยางมาก
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ไมรูวาไอหมอกนี้มีสวนผสมประหลาดอะไรอยู คาดไมถึงวา
จะทำใหจิตสัมผัสของเขาถูกจำกัด ไมมีทางตรวจสอบลึกลงไปได
กอนหนานี้ไมนานตอนที่หานลี่สำรวจที่นี่ อาศัยความสามารถเนตรวิญญาณ หลังจาก
แทรกเขาไปไดสองสามลี้ ก็พบหุบเขาหินธรรมชาติข นาดกลางแหง หนึ่ ง อยู ร างๆ
เชื่อมตอกับภูเขายักษทั้งสองลูกอยู
สถานที่ลึกลับเชนนั้น แนนอนวาเปนจุดที่ดีที่สุดที่จะใชเปนทางเขาจวนพำนักของ
หานลี่
หานลี่บินเขาไปในหุบเขาหินที่มีกาซพิษ และพบกำแพงหินที่ไมสะดุดตาแหงหนึ่ง มีถ้ำ
อยูถ้ำหนึ่ง จากนั้นก็ปลอยกระบี่บินทั้งหมดออกมา ขุดทางเดินยาวๆ สองสายที่ทะลุ
ถึงกันขึ้นมาอยางงายดาย
คาดไมถึงวาเขาจะตัดสินใจ สรางจวนสองแหงขึ้นกลางภูเขายักษพรอมกัน
จวนหนึ่งใชตบตาผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ อีกจวนหนึ่งถึงจะเปนที่ฝกฝนที่แทจริง
ใชเลี้ยงอสูรวิญญาณแมลงและปลูกสมุนไพร
สวนจวนเทียนจี เปนเพราะขนาดเล็ กเกิ นไป แนนอนวาจึง ไม จำเป นต องนำ
ออกมาใช
เมื่อสรางจวนพำนักเสร็จแลว หานลี่ก็เคลื่อนยายสมุนไพรตางๆ ที่พกมาจาก
แดนมนุษยไปไวในสวนสมุนไพรทันที ปลอยแมลงกลืนทองที่เลี้ยงดูมาโดยตลอดเขาไป
ในหองแมลง หลังจากผานการเลี้ยงดูมาหลายป แมลงกลืนทองเหลานี้จึงมีขนาดที่นา
ตกตะลึง ดุรายเปนอยางมาก เห็นไดชัดวาหางชั้นจากระยะโตเต็มวัยไมไกลแลว
สวนอสูรเกล็ดมิคาทนตัวนั้น หานลี่เองก็เตรียมรังอสูรที่เหมาะสมเอาไวใหมัน
โดยเฉพาะ เพื่อจะโยนมันเขาไปขางใน ใหมันฝกฝนดวยตนเอง
แตแคเมื่อหานลี่เดินไปที่หองอสูรที่วางเปลาซึ่งวางเขตอาคมเอาไว ชั่วขณะนั้น
พลันมีสีหนาเครงขรึม สะบัดแหวนอสูรวิญญาณบนมือไปทางหองอสูรหองนั้นเบาๆ
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีดำพลันพุงออกไป ของสีดำขนาดสองสามตั้งพลันปรากฏขึ้ น
กลางหองหิน
ตอนที่ 1326 ผลไมลึกลับ
เปนรูปทรงกลม ราวกับรังไหมเปลงแสงสีดำมะเมื่อมออกมา แตผิวของรังไหม
กลับมีลายภูตผีสีแดงโลหิตปรากฏขึ้น
บนหัวผีมีเขาเดี่ยวๆ งอกออกมา มีสามตา ทาทางดุราย
แน นอนว า รั ง ไหมนี ้ ค ื อภาพลวงตาที ่ อสู ร วิ ญ ญาณครวญสร างขึ ้ น ตอนนั ้ นที่
อสู ร วิ ญ ญาณครวญพั ฒ นาระดั บ ขึ ้ น ครั ้ ง หนึ ่ ง ก็ จ ะสร า งรั ง ไหมสี ด ำเช น นี ้ ข ึ ้ น มา
บนรังไหมจะมีลวดลายหนาผี เหมือนกับลายบนแผนหลังของอสูรวิญญาณอยางไร
อยางนั้น
หานลี่เห็นรังไหมนี้แลวลูบใตคางไปมา แววตาเผยความยินดีออกมา
วันที่ตอสูกันวันนั้น เขาถูกดูดเขาไปกลางอากาศของวิญญาณทมิฬ ชั่วครูก็สัมผัส
ไดถึงไอทมิฬที่หนาแนนอยูเต็มทองฟา ทันใดนั้นวิญญาณดุรายจำนวนนับไมถวนพลัน
รวมตัวกันแลวปรากฏกายขึ้น ภายใตการชักนำของราชันยภูตผูยิ่งใหญ พลันกระโจน
เขามา
เมื่อเห็นฉากนี้ แนนอนวาหานลี่พลันอัญเชิญอสูรวิญญาณครวญออกมาอยางไม
ลังเลเลยแมแตนอย
จากความสามารถที่นาเหลือเชื่ออยางการกลืนกินจิตวิญญาณตามสัญชาตญาณของ
อสูรตัวนี้ แนนอนวาหลังจากที่พนหมอกลำแสงออกมาจากจมูกแลว วิญญาณทมิฬ
ธรรมดาๆ ลวนไรซึ่งแรงตานทานและถูกกลืนลงไปในทอง มีเพียงราชันยภูตผีที่รับมือ
ยาก คาดไมถึงวาจะฝกฝนจนรางกายเปนเหมือนสารัตถะ ครานั้นหมอกลำแสงของ
อสูรวิญญาณครวญจึงไมอาจเขยารางกายของอีกฝายได
แตเมื่อหานลี่ใชปกวายุอัสนี หนีมาซอนอยูหลังภูตผีแลว หลังจากโจมตีดวยอัสนี
เทวาป ด เป า ภยั นตรายออกไปสายหนึ ่ ง และทำให ม ั น ไดร ั บ บาดเจ็ บ แล ว ผลก็ ไ ม
เหมือนกันแลว
ขณะที่ภูตตนนี้ไดรับบาดเจ็บ ก็ไมอาจใชเคล็ดวิชาลับผนึกจิตวิญญาณบริสุทธิ์ไดอีก
สุดทายก็ถูกอสูรวิญญาณครวญถือโอกาสนี้ดูดเขาไประหวางการตอสูของหานลี่
สู บ วิ ญ ญาณชั ่ ว ร า ยจำนวนมากที ่ อยู  ก ลางอากาศลงไปในท อ ง สุ ด ท า ยก็ สู ด
ราชันยผีที่ระดับเทียบเคียงกับผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงคนหนึ่งลงไป แตเดิม
อสูรวิญญาณครวญก็ติดอยูในจุดคอขวดอยูแลว ฉับพลันนั้นจึงทะลวงจุดคอขวดทันที
กลายเปนรังไหมสีดำรังหนึ่ง
โชคดีที่หานลี่เคยเห็นสถานการณการพัฒนาระดับแบบเดียวกันมาแลวครั้งหนึ่ง
ดังนั้นจึงรูสึกตกตะลึงระคนดีใจ แตก็ไมไดรอนรน
เขาสังหารวิญญาณดุรายจนเกลี้ยงอยางไมสนใจ ใชเนตรวิญญาณมองลอดผาน
ทะลุอากาศ แลวพารังไหมรังนี้หนีออกมา
ตอนนี้หานลี่แคยายอสูรวิ ญญาณครวญที่ กลายเปนรั งไหมเขาไปในห องอสู ร
แลวรอการพัฒนาระดับอีกครั้งอยางเงียบๆ ก็พอแลว
หลังจากที่หานลี่มองลึกเขาไปในของสิ่งนี้แวบหนึ่งแลว ถึงไดออกมาจากหองหองนั้น
แลวเดินวนรอบสวนสมุนไพรไปรอบหนึ่ง
ตนไมวิญญาณอยางโสมวิญญาณสลับฟนปลา ผลเกล็ดมังกรและอีกหลายอยาง
ลวนหายากในแดนวิญญาณเชนกัน ดังนั้นหานลี่จึงระมัดระวังเปนอยางมาก
สิ่งเดียวที่ไมอยูก็คือ เถาวัลยเซียนทมิฬที่เขาตั้งใจเลี้ยงดูรากนั้น
ครั ้ นเมื ่ อมั นออกดอกออกผลในแดนมนุ ษ ย หลั ง จากที ่ ห านลี ่ เ ก็ บ ผลไปแล ว
รากออนก็แหงเฉา สลายหายไป
สิ่งที่นาเหลือเชื่อยิ่งกวาก็คือ รากของเถาวัลยเซียนที่ตัดออกมาสองสามทอนกอน
หนานี้ ก็แหงเหี่ยวเชนกัน
ทำใหความคิดที่จะใชประโยชนจากรากเซียนนี้สูญสลายไป
หานลี่เชื่อวาไมเพียงรากวิญญาณเซียนทมิฬในมือเขาที่สลายหายไปจนหมด
รากวิญญาณเซียนทมิฬอีกสองสามทอนในมือของเขาก็คงหายไปเชนกัน
ดูแลวกฎของฟาดินในยุทธภพนี้ แตเดิมก็เปนเอกลักษณไมเหมือนใคร
ไมมีทางมีรากวิญญาณเซียนทมิฬสองอันที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วได และไมมี
ทางที่กฎของฟาดินที่คลายคลึงกันปรากฏขึ้นในแดนใดๆ ได
ถึ ง แม จ ะเป น ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รที ่ ม ี ค วามสามารถระดั บ เทพแปลง และระดั บ
หลอมสุญตาของแดนวิญญาณ สิ่งที่ทำไดก็เปนแคการคลอยตามกฎใชปราณแทฟาดิน
จากแดนลางเทานั้น หากกลาววาเปนผูควบคุมกฎ เดาวานั่นตองเปนผูที่กำลังจะผาน
เคราะหสวรรคในระดับมหายาน ถึงจะมีโอกาสไดสัมผัสกับเรื่องนี้
ไมก็ผูที่แข็งแกรงระดับวิญญาณเที่ยงแท ถึงจะควบคุมได!
เห็นไดชัดวานี่คือสมบัติวิญญาณทมิฬเหนือชั้นที่ดำรงอยู
เมื่อนึกถึงเวลาที่ตัวเองสูญเสียไปสองสามรอยป ในที่สุดก็ไดสมบัติวิญญาณทมิฬมา
หานลี่ก็อดที่จะรูสึกคึกคะนองไมได
หลังจากที่เขาไดสมบัติอัศจรรยมา เปนเพราะปญหาการบรรลุระดับขั้นและ
การสูญเสียลมปราณไปจนหมดนั้น เขาจึงไมมีเวลามาขบคิดถึงของสิ่งนี้อยางละเอียด
ตอนนี้ยังหางจากระยะเวลาในการกลับไปรายงานตัวที่เมืองเทวะสวรรคอยูระยะหนึ่ง
เพียงพอที่จะใหเขานำผลของเถาวัลยเซียนทมิฬไปศึกษาเพิ่มสักหนอย
ดังนั้นหลังจากที่เขาวางเขตอาคมที่จำเปนดานนอกหมดแลว หานลี่ก็เดินเขาไป
ในหองลับ นั่งขัดสมาธิลงบนฟูกสีเขียว
พลิกฝามือ กลองสีขาวบริสุทธิ์ราวกับหยกตัดพลันปรากฏขึ้นในมือ
ผิวของกลองหยกกลองนี้ มียันตวิเศษเจ็ดแปดแผนแปะอยูเต็มไปหมด เปลง
ลำแสงวิญญาณหลากสีสันออกมา
หลังจากที่หานลี่ลังเลเล็กนอยพลันฉีกยันตออก แลวเปดฝากลองออกอยางชาๆ
ของที่มีความยาวสองสามชุนเปลงแสงสีขาวจางๆ พลันปรากฏขึ้นในกลอง
เขายื่นมือหนึ่งออกไปหยิบของในกลองหยกออกมา พิจารณาอยางละเอียดอยู
เบื้องหนา และใชนิ้วลูบคลำไปสองสามครั้ง
ของสิ่งนี้เปนรูปทรงกลมยาวๆ แบนๆ ผิวเรียบลื่นอยางหาที่เปรียบ เปลงแสง
สีเหลืองจางๆ แตปลายดานหนึ่งทูเล็กนอย อีกดานหนึ่งเรียบราวกับถูกตัดดวยมีด
ดูเหมือนวาจะเปนกระบองไมรูปทรงกลมแบนอันหนึ่ง
แตทั้งหมดมีความยาวแคครึ่งฉื่อเทานั้น!
สวนผิวดานหนึ่งของกระบองดามนี้ มีลวดลายที่ไมรูจักสีเขียวเขมจนเกือบดำ
ดูเหมือนทองแตก็ไมใชทอง ดูเหมือนไมแตก็ไมใชแม ลูบไปแลวรูสึกยืดหยุนได และมี
ความรูสึกอบอุน
กระบองไมประหลาดๆ ดามนี้ คือผลที่หานลี่เด็ดมาจากเถาวัลยเซียนทมิฬ
หุนเชิดรางมนุษยที่รับหนาที่ดูแลกลาววาตอนแรกผลนี้ไมไดมีรูปรางเชนนี้ แต
เปนผลทรงกลมสีขาว แตหลังจากที่ใชของเหลวสีเขียวกระตุนอยูหลายป ก็เติบโตขึ้น
ดวยเหตุใดก็มิอาจรูได
นี่จึงทำใหตอนแรกที่หานลี่เห็นของประหลาดสิ่งนี้พลันรูสึกหมดคำพูด
ตอนที่เพิ่งไดของสิ่งนี้มา เขาขยับมันไปมาเล็กนอย ถึงแมจะเปนแคระยะเวลาสั้นๆ
แตความประหลาดของสิ่งนี้ก็ทำใหเขาชื่นชมวานาอัศจรรยได ทวา ครานั้นเปนเพราะ
รีบรอนบินขึ้นมาแดนเบื้องบน เขาจึงไมไดศึกษาอยางละเอียด
ภายใตความครุนคิด หานลี่พลันใชมือหนึ่งถือสิ่งนี้เอาไว อีกมือหนึ่งยื่นนิ้วชี้
ออกมา ปลายนิ้วมีลำสีเขียวเปลงประกาย ชี้ไปที่ผิวของ ‘กระบอง’
ลำแสงวิ ญ ญาณสี เ ขี ย วสั ่ น คลอน ราวกั บ ปะทะกั บ เขตอาคมอะไรสั ก อย า ง
เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น ไมมีทางแทรกเขาไปในผิวของมันไดเลยสักนิด
หานลี่พลันขมวดคิ้ว ใบหนามีสีหนาเปนเชนนี้นี่เองปรากฏขึ้น
ของวิญญาณทมิฬนี้ขับไลลมปราณตั้งแตแรกแลว ไมวาจะเปนลมปราณชนิดใดก็
ไมอาจใสลงไปได
หลั ง จากที ่ ห านลี ่ ข บคิ ด อยู ช ั่ ว ครู พลั น เลิ ก คิ ้ ว แล ว คว า ของสิ ่ ง นี ้ เ อาไว ในมือ
ชั่วพริบตาพลันเปลงแสงสีทองเรืองรอง นิ้วทั้งหาออกแรงกำแนน
ฉากที่แปลกประหลาดพลันปรากฏขึ้น นิ้วทั้งหาของหานลี่เปลี่ยนรูปทรงของเจา
สิ่งนั้นไดอยางงายดาย นิ้วทั้งหาบุมลึกลงไป ราวกับแปงอยางไรอยางนั้น
แตครั้นเมื่อหานลี่คลายนิ้วทั้งหาออก ‘กระบองนอย’ ในมือก็ฟนฟูกลับมาเปน
ดังเดิม
ความยืดหยุนของมันไมอาจพูดวาไมนาตกตะลึงได
หานลี ่ ก ระตุ ก มุ มปาก ฉั บพลั นนั ้ น พลัน อ า ปากออก พ น เส น ไหมสี ทองบางๆ
สายหนึ่งออกมา ลอมรอบมือของหานลี่เอาไว แลวกลับเขาไปในปาก
ผิวของ ‘กระบอง’ ไมมีรอยเลยแมแตนอย เหมือนกับวากระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆา
ที่กลายเปนเสนไหมกระบี่ เปนแคภาพลวงตาสายหนึ่ง
ครานี้หานลี่หนากระตุกไปเล็กนอย แตก็รายนิ้วอยางไมลังเลเลย หลังจากเสียงฟาผา
ดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองสายหนึ่งก็สับลงมาที่ ‘กระบอง’
หลังจากที่เสียง “เปรี้ยง” ดังขึ้นเบาๆ ประจุไฟฟากลับดีดตัวออก โจมตีไปยังมุมหนึ่ง
ของหองลับจนระเบิดออก
เสียงฟารองทำใหหองหินทั้งหองสั่นคลอนเบาๆ
หานลี่ขมวดคิ้ว แตอีกมือหนึ่งก็ตะปบออกไปกลางอากาศอยางเงียบเชียบ
เสียง “ปง” ดังขึ้น ลูกบอลเพลิงสีเงินขนาดเทาไขไกปรากฏขึ้นในมือ
หานลี่โยน ‘กระบอง’ เขาไปในลูกบอลเพลิงอยางไมลังเลเลยแมแตนอย
ทำใหเรื่องที่หานลี่กลัดกลุมปรากฏขึ้นอีกครั้ง!
เมื่อ ‘กระบอง’ พุงไปหาลูกบอลเพลิง ลูกบอลเพลิงที่แผดเผาพลันเกิดเสียงอึกทึก
และกลายเปนเปลวเพลิงสีเงินสาดออกไปทั่วทุกสารทิศ แลวผนึกรวมตัวกันอีกครั้ง
หางออกไปสองสามจั้ง กลายเปนวิหคเพลิงกลืนวิญญาณตัวนั้น
เห็นเพียงเมื่อวิหคเพลิงตัวนั้นปรากฏกาย ก็จองไปยังของวิญญาณทมิฬเขม็ง เผยแวว
ตาหวาดกลัวออกมา ปากก็เปลงเสียงรองอยางรอนรน ทาทางหวาดกลัวเปนอยางมาก
หนาผากหานลี่ยนขึ้น มือหนึ่งตะปบออกไป ดูด ‘กระบอง’ เขามาในมืออีกครั้ง
เพลิงกลืนวิญญาณประกอบกันจากพลังหยินหยาง ทำใหกลายเปนเพลิงหยินหยาง
ขั้นสุด คาดไมถึงวามีทาทางกลัวเจา ‘ทอนไม’ ดามนี้ ชางเปนสิ่งที่เขาคิดไมถึงเลย
จริงๆ
หรือวาความสามารถของวิญญาณทมิฬจะเหนือกวาที่เขาจินตนาการเอาไว?
จากนั้นหานลี่พลันโจมตีดวยเปลวเพลิงรอนแรง ไอเย็นยะเยือก และมีดวายุตางๆ
อยางไมเกรงใจ แตลวนไดผลลัพธเหมือนกัน ‘กระบอง’ ไมดามนี้ดูเหมือนกับมีด
หั่นเนื้อ ไมมีปฏิกิริยาตอบสนองเลยสักนิด
แมกระทั่งหานลี่จงใจปลอยแมลงกลืนทองออกมาจากหองแมลง
ผลคือแมลงกลืนทองที่กินทุกอยาง กลับบินออกมาดวยความลนลาน ไมมีทาทีจะ
กลืนกินของสิ่งนี้เลยแมแตนอย เหมือนกับวิหคเพลิงกลืนวิญญาณอยางไรอยางนั้น
จากนั้นหานลี่พลันใชการโจมตีดวยเนตรวิญญาณทลาย แตก็ไมไดผลเชนกัน
ถึงแมวาหานลี่จะมีความสามารถไมนอย ครานี้ก็ทำไดเพียงเกาหัวดวยความตกตะลึง
จากนั้นเขาพลันบรรจุลมปราณเขาไปในดวงตาทั้งสองอยางไมยินยอม รูมานตามี
ลำแสงสีฟาเขมพุงออกมา คิดจะอาศัยเนตรวิญญาณมองทะลุผานขางใน
สิ่งที่อยูนอกเหนือความคาดหมายก็คือดวงตาทั้งสองมองผานไปได มองเห็น
ลำแสงสีขาวบริสุทธิ์ขนาดเทาเมล็ดถั่วเหลืองดานใน เปลงประกายจางๆ ดูเหมือน
ออนแอมาก
หานลี่เห็นเนตรวิญญาณไดผล พลันรูสึกตะลึงงัน ตรวจสอบสถานการณดานในตอ
แตก็ไมพบความผิดปกติอะไร
ภายใต ค วามไม ย ิ นยอมสิ บ กว า วั น ต อมา หานลี ่ ก ็ ค ิ ด หาวิ ธ ี จ ะจั ด การกั บ ผล
วิญญาณทมิฬโดยตลอด สองสามวันสุดทายยังยอมแมกระทั่งวางเขตอาคมเล็กๆ
ที่ลึกลับสองสามอยางลงในหองลับ คิดจะอาศัยพลังของเขตอาคมดูวาบวงสรวงมันได
หรือไม
แนนอนวาไมไดผลเลยสักนิด
เมื่อถึงคืนสุดทาย หานลี่พลันใชมือหนึ่งลูบไปที่ผลวิญญาณทมิฬ สีหนาวิตกกังวล
พลันหายไป มีสีหนาราบเรียบลง ดูแลวของอัศจรรยเชนนี้ หากไมมีวาสนาก็คงเปนแค
สิ่งของที่เปลาประโยชนในมือเขา
ทวาเมื่อผานการฝกฝนโดยไมมีพลังและความรอนใจมานาน ระดับจิตใจของเขา
จึงเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่งอยางไมรูตัว
ชวงที่ผานมาเขากลับไมไดอะไรเลย ทวาพรุงนี้จะตองกลับไปยังเมืองเทวะสวรรคแลว
เมื ่ อ ขบคิ ด เช น นั ้ น จิ ต สั ม ผั ส ของหานลี ่ พ ลั น ปลอดโปร ง สายตากวาดผ า น
ผลวิญญาณทมิฬในมือไป ตกลงบนลายสีเขียวเขมที่เดิมทีไมไดสนใจนั้น
ฉับพลันนั้นแววตาของหานลี่พลันเปลงประกาย เผยสีหนาแปลกประหลาดออกมา ดู
เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได แลวมีทาทีเหลือเชื่อ
สีและลวดลายเหลานี้คาดไมถึงวาจะทำใหเขานึกถึงของสิ่งหนึ่ง
เมื่อขบคิด อยา งละเอียด ถึงแมวาลวดลายบนผิ ว และสี ข องอีกชิ้ นหนึ ่ง จะไม
เหมือนกับผลวิญญาณทมิฬทั้งหมด แตกลับคลายคลึงกันถึงเจ็ดแปดสวน
เหตุใดเขาถึงไมไดเคยนึกถึงของสิ่งนี้เลย!
ตอนที่ 1327 มวนหมื่นวิญญาณโกลาหล
ฉับพลันนั้นหานลี่พลันใชมือหนึ่งตะปบไปที่กำไลเก็บของ ชั่วขณะนั้นสิ่งที่ดู
เหมือนถุงหนังธรรมดาๆ พลันปรากฏขึ้นในมือ
เทปากถุงออก ขวดสีเขียวปรากฏขึ้น ถูกเขาควาเอาไว
นั่นก็คือขวดเล็กลึกลับขวดนั้น
หานลี่นำขวดเล็ก และผลวิ ญญาณทมิ ฬเข าใกลกั น ชั่วขณะนั้นพลันหรี่ ต าลง
เล็กนอย ถึงแมวาทั้งสองอยางจะมีขนาดไมเทากัน แตลวดลายสีเขียวเขมที่ปรากฏ
บนพื้นผิว ชางคลายคลึงกันจริงๆ
หรือวาทั้งสองเกี่ยวของกัน ขวดเล็กลึกลับสรางขึ้นมาจากผลวิญญาณมหัศจรรยหรือ?
เมื่อคิดถึงความสามารถที่นาเหลือเชื่อของขวดเล็ก หานลี่พลันรูสึกใจเตนระรัว
เขายิ่งคิดก็ยิ่งรูสึกวาเปนไปได
ถึงแมวาวัตถุดิบของขวดเล็กและผลวิญญาณทมิฬจะไมเหมือนกัน แตลวนเปน
วัตถุดิบที่เขาทำอยางไรก็ไมมีทางเขาใจมาจนถึงทุกวันนี้เชนกัน หากกลาววามันเปน
ของวิญญาณทมิฬอีกชนิด ก็ยังพอจะอธิบายได
ชั่งน้ำหนักของที่อยูในมือเบาๆ หานลี่พนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ในที่สุด
สายตาก็ตกลงบนขวด ฉับพลันนั้นเขาพลันวางผลวิญญาณทมิฬลงบนพื้น มือทั้งสอง
ออกแรงบิด เปดฝาขวดเล็กลึกลับออก
ของเหลวสีเขียวมรกตหยดหนึ่งถูกหยดลงบน ‘ทอนไม’ อยางเงียบเชียบ
ฉากที่ทำใหหานลี่ดีอกดีใจพลันปรากฏขึ้น
ของเปลวสีเขียวเปลงแสงจมหายเขาไปในผลวิญญาณทมิฬอยางไรรองรอย
แววตาทั้งสองของหานลี่พลันเปลงประกาย มองทะลุเขาไปดานในผลวิญญาณอีกครั้ง
เห็นเพียงเมื่อของเหลวสีเขียวหยดนั้นจมหายไป ก็ถูกดูดเขาไปในจุดลำแสงสีขาว
ที่อยูตรงใจกลาง หลังจากผานไปชั่วครูจุดลำแสงก็ขยายใหญขึ้นสวนหนึ่ง
หานลี่เห็นฉากนั้นพลันใจเตน หลังจากตรวจสอบอยูชั่วครูอีกครั้ง เห็นลำแสงสีขาว
ไมมีความเปลี่ยนแปลง ในที่สุดลำแสงสีฟาในแววตาก็หายวับไป
เขากมหนาลงขบคิด ดูแลวสิ่งที่มีผลตอผลวิญญาณทมิฬคงมีแตของเหลวลึกลับแลว
ถึงแมวาจะไมมีประโยชนใดๆ กับลำแสงสีขาว แตหากอยากศึกษาตอ ดูเหมือนวาก็มี
เพียงตองนำของเหลวสีเขียวหยดลงไปบนมันกอนแลวคอยวากัน
เมื่อขบคิดซ้ำไปซ้ำมาอยูชั่วครู หานลี่ก็เก็บขวดเล็กและผลวิญญาณทมิฬเขาไป
อยางระมัดระวัง
หากมีโอกาสในวันขางหนาจะตองใชของเหลวสีเขียวหยดลงไปบนผลวิญญาณแน
หานลี่นั้นไมรูวา ในเวลาเดียวกันที่ของเหลวสีเขียวซึมเขาไปในลำแสงสีขาวใน
ผลวิญญาณทมิฬ ในเขตแดนเทียนหลิงเผามนุษยที่หางจากเมืองเทวะสวรรคไปไมรู
กี่ลานลี้ กลางอากาศตรงใจกลางเกาะเล็กๆ ที่สูงขึน้ ไปหมื่นลี้ หยกที่มีความสูงรอยจั้ง
มีอักขระสีทองและเงินสลักอยูเต็มไปหมด ฉับพลันนั้นพลันเปลงลำแสงสีทองออกมา
ในเวลาเดียวกันก็เปลงเสียงรองออกมาเปนระยะๆ น้ำเสียงสูงแหลม ดังไปทั่วทั้งเกาะ
ผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดสีเขียวสองคนที่นั่งสมาธิอยูใตหยก พลันเบิกตาทั้ งสอง
ขางขึ้นดวยความตกตะลึง
“ลำแสงสีทอง! หรือวาสมบัติสะทานฟาถือกำเนิดขึ้น” หนึ่งในนั้นเอยขึ้นดวย
ความตกตะลึงระคนดีใจ
อีกคนหนึ่งไมไดเอยอะไรออกมา แตสองตาพลันมองไปยังหยกกอนนั้น แลวเผยสีหนา
ดีอกดีใจออกมา
ทันใดนั้นจุดตางๆ ของเกาะลอยฟาที่มีขนาดไมถึงรอยลี้ก็มีสายรุงสิบกวาสายบิน
ออกมา ตรงมายังหยกพรอมกัน
แทบจะในชั่วพริบตา ใตหยกก็มีผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดสีเขียวอีกสิบกวาคนยืนอยูเต็ม
ไปหมด มองไปยังกอนหยกที่เปลงแสงสีทองเรืองรอย ทุกคนตางมีสีหนาตื่นเตนดีใจ
หลังจากผานไปชั่วครู ลำแสงสีทองบนหยกก็คอยๆ ออนแสงลง แตผูบำเพ็ญเพียร
สิบกวาคนที่อยูดานลาง กลับมีสีหนาตึงเครียดขึ้นมาพรอมกัน ลวนจองเขม็ ง ไปที่
กอนหยกดวยดวงตาที่ไมกะพริบ เหมือนวากลัวจะพลาดอะไรไปอยางไรอยางนั้น
อักขระสีทองที่แตเดิมเรียงแถวอยูบนสวนยอดของกอนหยกตั้งแตแถวที่สามลงมา
พลันเลือนหายไปพรอมกัน จากนั้นพลันพลิ้วไหว คาดไมถึงวาจะยายลงมาดานลาง
พรอมกัน แถวที่สามวางเปลา กลับมีตัวอักษรสีทองประหลาดๆ แถวหนึ่งปรากฏขึ้น
ผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดที่มองกอนหยกอยูดานลางดวยความตื่นเตน พลันมีสีหนา
แข็งคางขึ้นมาพรอมกัน ทุกคนตางจองเขม็งไปยังตัวอักษรสีทองแถวที่สาม ทุกคนมี
แววตาแข็งทื่อ เหมือนวาไรซึ่งปฏิกิริยาตอบสนองไปในชั่วครู
“ของวิ ญ ญาณทมิ ฬ คาดไม ถ ึ ง ว า ของวิ ญ ญาณทมิ ฬ จะถื อ กำเนิ ด ขึ ้ น แล ว
‘กระบี่วิญญาณทมิฬสับวิญญาณ’ ที่เพิ่งปรากฏตัวยังจัดอยูในอันดับสาม! สวรรค
หรือวาแดนวิญ ญาณจะมี เทพเซี ย นลงมาจุต ิอีก ครั ้ง ” ไมรูวาผานไปนานเท า ไหร
ชายชราสวมชุดสีเขียวที่มีสีหนาซีดเซียว พลันเอยพึมพำอยางไมรูสึกตัว
ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือก็ดูเหมือนจะไดสติจากภวังค แตทุกคนไมมีสีหนาซีดขาวก็
เผยสีหนาหวาดกลัวออกมา คาดไมถึงวาจะไมมีผูใดเอยปากพูดอะไร
ในที่สุดกอนหยกที่มีแสงสีทองปกคลุมอยู ก็ฟนฟูกลับมาเปนปกติ
มองเหนือกอนหยกขึ้นไปสองสามจั้ง เห็นแผนปายสีเงินยาวสิบกวาจั้งแผนหนึ่ง
ดานบนใชตัวอักษรโบราณสีทองเขียนเอาไววา ‘มวนหมื่นวิญญาณโกลาหล’
ไมนานนัก สายรุงเปนสายๆ ก็บินออกจากเกาะ ตรงไปยังสามเขตเจ็ดแดน
แทบจะในเวลาเดียวกัน เขตตองหามของเผาประหลาดที่คอนขางใหญในดินแดน
ปาเถื่อนของแดนวิญญาณ แผนหยกที่คลายคลึงกันหยกกอนนั้น ปรากฏตัวอักษรของ
เผาตางๆ ที่ไมเหมือนกันขึ้น ตางเผยขาวที่เหมือนกันออกมา สรางความตกตะลึง
ใหกับชนชั้นสูงตางๆ ของแตละเผาเปนอยางมาก
หลังจากนั้นไมนาน ชนชั้นสูงของเผาพันธุตางๆ ในแดนมนุษยและปศาจก็เกิด
ความโกลาหลขึ้น คำสั่งตางๆ ถูกถายทอดออกไปยังที่ตางๆ ดวยทักษะพิเศษ
ครานี้แดนวิญญาณดูเหมือนแตเดิมอยางไรอยางนั้น แตทามกลางความลับๆ ลอๆ
กลับมีลมทะลักออกมา เผาตางๆ ลวนเพิ่มความระมัดระวังและเพิ่มกำลังของตนเอง
อยางลับๆ
แนนอนวาสิ่งเหลานี้ลวนเปนสิ่งที่เกิดขึ้นในภายหลัง
ครานี้หานลี่ผูซึ่งเปนผูรายกลับกักตนนั่งสมาธิอยูอยางไมรูเรื่อง เตรียมตัวรอฟาสาง
แลวจะออกจากจวนพำนักกลับไปยังเมืองเทวะสวรรค
เวลาค อ ยๆ ไหลผ า นไป มองเห็ น ด า นนอกจวนมี แ สงอาทิ ต ย ส าดเข า มา
หานลี่พลันสัมผัสได เบิกตาทั้งสองขางขึ้น เผยสีหนาตกตะลึงระคนดีใจออกมา
เขาหยัดกายขึ้นอยางไมลังเล ผลักประตูหองลับออก แลวตรงไปยังหองอสูร
เมื่อหานลี่ยืนอยูดานนอกหองหิน หลังจากมองทะลุผานหนาตางขนาดไมใหญไปแลว
รางทั้งรางก็นิ่งงัน
เห็นเพียงยอดของรังไหมสีดำ พังทลายจนเปนรูขนาดเทาศีรษะ ดานในวางเปลา
สวนเพดานของหองหิน คาดไมถึงวาจะมีเมฆสีดำราวกับน้ำหมึกกลุมหนึ่งลอยอยู
เปลงแสงสีดำมะเมื่อมออกมา ดูลี้ลับเปนอยางมาก
นับวาหานลี่ไมใชคนธรรมดา ถึงแมวาสถานการณเบื้องหนาจะทำใหเขาตกตะลึง
แตพลันขมวดคิ้ว แลวรายอาคมสายหนึ่งโจมตีไปยังประตูหองหิน
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเขียวพลันเปลงประกายขึ้นบนประตูหิน เขตอาคมไรรูปราง
ชั้นหนึ่งพลันสลายออก
ประตูหินคอยๆ เลื่อนขึ้น
หานลีส่ ืบฝเทายาวๆ เขาไป
เมฆสีดำขนาดสองสามจั้งกลางหองหิน ทำเหมือนมองไมเห็นการกระทำของหานลี่
ยังคงลอยนิ่งอยูกลางอากาศ
หานลี่จองเขม็งไปยังกลางอากาศ สองมือพลันรายอาคม อาปากออก ชั่วขณะนั้น
ไขมุกกลมๆ สีเทาดำเม็ดหนึ่งพลันถูกพนออกมา
คาดไมถึงวาจะเปนไขมุกเพรียกวิญญาณที่ถูกหลอมทิ้งไปนานแลวเม็ดนั้น
หานลี่บริกรรมคาถา นิ้วชี้ไปยังไขมุกเพรียกวิญญาณ
ไขมุกเม็ดนี้เปลงแสงสีเขียวเปนประกาย ผิวของมันกะพริบระยิบระยับสราง
ภาพลวงตาขึ้นไมหยุด
ในที่สุดเมฆสีดำที่อยูกลางอากาศในหองหินก็เปลี่ยนไป รอบกายเกิดพายุนิรนามขึ้น
ทำใหเมฆกอนนั้นหมุนควางไปรอบหนึ่ง ผนึกรวมตัวกันที่ใจกลาง ในเวลาเดียวกัน
ประจุไฟฟาสีดำพลันเปลงประกายเปรี๊ยะๆ บนเมฆสีดำ เกิดเปนเสียงผารองคำรามขึ้น
ไขมุกกลมๆ เปลงเสียงหึ่งๆ อยูเบื้องหนาหานลี่ และแผลำแสงสีเขียวที่เจิดจาจน
บาดตาออกมา
หานลี่พลันหนาเปลี่ยนสี เขาสัมผัสไดอยูลึกๆ วา มีทาทีขัดขืนอยูเล็กๆ สงออกมา
จากกอนเมฆสีดำ คิดจะตอตานการเรียกของไขมุกเพรียกวิญญาณอยางไรอยางนั้น
วิญญาณครวญที่พ ัฒ นาระดั บ แล ว คิดจะหนีออกจากการควบคุ ม เหมื อ นกั บ
ตะขาบเกล็ดน้ำคางหกปกในตอนแรก
ตอนนี้หานลี่ฟนฟูพลังยุทธกลับมาแลว แนนอนวาจึงไมมีทางปลอยใหเรื่องนี้เกิดขึ้น
ทันใดนั้นพลันผนึกลมปราณทั้งราง นิ้วทั้งสิบรายอาคมสีสันตางๆ ออกไปเปนสายๆ
ราวกับกรงลอ จมหายเขาไปในไขมุกเพรียกวิญญาณ
หลังจากที่ไขมุกเปลงเสียงรองคร่ำครวญออกมา ลำแสงสีเขียวที่แตเดิม เปลง
แสงเจิดจาก็คอยๆ หมนแสงลง
ครานี้ในที่สุดเมฆที่รวมตัวกันอยูกลางอากาศก็เปลงเสียงฟาฟาดขึ้น ประจุไฟฟา
สีดำจำนวนนับไมถวนกลายเปนเงาสีดำสายหนึ่ง และหลังจากพลิ้วไหวและรอนลง
มาแลว ก็ตกลงเบื้องหนาของหานลี่หางออกไปแคไมกี่คืบ จองเขม็งมายังไขมุกสีเทาดำ
ที่หมุนวนอยางเชื่องชาเม็ดนั้น ดวงตาทั้งสองเปลงแสงสีโลหิตไมหยุด
หานลี่ใจเตน แตหลังจากที่มองเห็นหนาตาของเงาสีดำชัดเจนแลว ใบหนากลับมี
สีหนาประหลาดใจปรากฏขึ้น มีทั้งตกตะลึงทั้งประหลาดใจ และยังมีทาทีหัวเราะ
ก็ไมไดรองไหก็ไมออก
เงารางที่อยูเบื้องหนาคาดไมถึงวาจะเปน ‘หานลี่’ อีกคนหนึ่งที่สวมชุดคลุมยาวสีดำ
นอกจากสีของอาภรณบนรางที่ไมเหมือนกันแลว หนาตารูปราง แมกระทั่งรูปแบบ
ของอาภรณก็ยังเหมือนกับหานลี่ทุกระเบียบนิ้ว
หลังจากที่เห็นหานลี่มีสีหนาเชนนี้ ‘หานลี่’ อีกคนหนึ่งเผยสีหนาที่เหมือนกันออกมา
ทำใหเขารูสึกเหมือนกำลังสองกระจกอยูอยางไรอยางนั้น
แววตาของหานลี่เปลงประกายประหลาดใจ หลังจากผานไปชั่วครู พลันขมวดคิ้ว
ปากถึงไดเอยหยั่งเชิงออกมาวา
“เจาคือ วิญญาณครวญ!”
หานลี่ที่สวมชุดสีดำตรงขามไดยินพลันหนาเปลี่ยนสี ทันใดนั้นพลันเปลี่ยนเปน
หนาบูดบึ้ง ในเวลาเดียวกันพลันเบะปากแลวตอบกลับวา
“นาย...ทาน ขา...ขาคือ...วิญญาณครวญ!”
น้ ำ เสี ย งอู  อ ี ้ หยาบๆ แต ใ นคำพู ด กลั บ ดู เ หมื อ นเสี ย งของเด็ ก ทารกหั ด พู ด
คำพูดไมชัดเจน
ถึงแมวาจะผานการเชื่อมโยงของไขมุกวิญญาณครวญ หานลี่พลันมั่นใจฐานะของ
อีกฝาย แตหลังจากไดยินคำพูดของอสูรตัวนี้ ในใจก็ยังรูสึกตกตะลึง
“เจาคือวิญญาณแปลงกาย แลวยังเรียนวิชาแปลงลักษณดวย” เขาอดไมไหวเอย
ถามขึ้น
เมื่อไดยินคำพูดของหานลี่ หานลี่ที่สวมชุดสีดำพลันอาปากออก ทาทีเหมือนไมรูวา
จะพูดอะไรดี
หานลี่พลันตกตะลึง ทันใดนั้นความคิดพลันเคลื่อนไหว แลวหัวเราะอยางขมขื่น
ออกมา
เขารูสึกสับสนจริงๆ ตอใหอสูรวิญญาณครวญเบิกเนตรแลว จะรูเรื่องทั้งหมด
ทันทีไดอยางไร และยังตองใหเขาบรรจุเรื่องตางๆ ลงไปในหัวของเขาถึงจะรูวาควร
ตอบกลับอยางไร
เรื ่ องนี ้ ถ า หากปลอยให ผู บำเพ็ ญเพี ยรคนอื ่น ๆ ทำ บางที อาจจะยากหนอย
แตสำหรับเขาแลว กลับเปนเรื่องที่งายดายเปนอยางมาก
หานลี่ลูบไปที่หนาผาก ชั่วขณะนั้นลำแสงสีดำพลันเปลงประกาย ทารกวิญญาณ
ขนาดสองสามชุนสีดำพลันปรากฏขึ้น
นั่นก็คือทารกวิญญาณที่สองที่หานลี่ฝกฝนในตอนแรก
ตอนแรกที่หานลี่ฟนฟูระดับพลังกลับมานั้น ก็ไดถือโอกาสผนึกทารกวิญญาณตัวนี้
กลับคืนมาอีกครั้ง ทวาทารกวิญญาณนี้ยังคงมีพลังอยูในระดับกอกำเนิด จึงไมมี
ประโยชนในการตอสู ข องหานลี่ ใ นตอนนี ้มากนัก แตใชเปน หุ นเชิ ด คอยจัด การ
จวนพำนักก็มีประโยชนเปนอยางมาก
ตอนนี้รางของทารกวิญญาณพลันพลิ้วไหว กระโจนเขาไปในรางของ ‘หานลี่’
ที่สวมชุดสีดำซึ่งอยูตรงขาม
‘หานลี่’ ที่สวมชุดสีดำที่อยูตรงขามมีลำแสงสีดำเปลงประกาย ใบหนาเผยสีหนา
เจ็บปวดออกมา
ตอนที่ 1328 ผูใตบังคับบัญชา
หานลี ่ ค วบคุ ม ทารกวิ ญ ญาณที ่ ส อง ค อ ยๆ แทรกความรู  ต  า งๆ เข า ไปให
อสูรวิญญาณครวญ
นี่เปนเพราะหานลี่มีทารกวิญญาณที่สอง และยิ่งไปกวานั้นเดิมทีอสูรวิญญาณครวญก็
ถูกควบคุมไว มิเชนนั้นหากเปลี่ยนเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงคนหนึ่ง ตอใหมี
เคล็ดวิชาลับ ก็ไมกลาถายทอดใหงายๆ เชนนี้
หลังจากเวลาผานไปหนึ่งมื้ออาหาร ‘หานลี่’ ผูสวมชุดสีดำที่แตเดิมมีแววตา
เหมอลอยก็คอยๆ มีประกายขึ้น แววตาเปลงประกายระยิบระยับ ดูเหมือนจะเขาใจ
อะไรมากขึ้นในชั่วพริบตา
หานลี่คลายมือออก แลวกวักมือเรียกไปฝงตรงขาม
เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น ทารกวิญญาณที่สองบินออกมาจากรางของอสูรวิญญาณครวญ
ลำแสงวิญญาณบนรางหมนแสงลง ทาทางสูญเสียปราณแทไปไมนอย
หลังจากที่ทารกวิญญาณพลิ้วไหว ก็กลับมาในรางของหานลี่อยางไรรองรอย
“ตอนนี้เขาใจคำถามที่ขาถามแลวสินะ” เขาเอยถามอีกครั้งอยางแชมชา
อสูรวิญญาณครวญกะพริบตาปริบๆ ชั่วครูถึงไดตอบกลับอยางเชื่องชาวา
“ขาแปลงกายเลียนแบบนายทาน แตยังมีเคล็ดวิชาแปลงกายอื่นดวย”
ถึงแมวาจะรูอะไรหลายอยาง แตวิญญาณครวญก็ยังคงเปนเหมือนเด็กทารกดังเดิม
จึงไมมีทางพูดหลอกลวง
และยิ่งไปกวานั้นเปนเพราะถูกหานลี่บมเพาะมานาน นอกจากตอนแรกที่ขัดขืนแลว
หลังจากที่มันมีสติปญญาแลว มันก็ไมมีจิตใจขัดขืนหานลี่อีก และเผยความนอบนอม
ออกมามากกวาเดิม
สาเหตุที่อสูรตัวนี้พัฒนาระดับขั้นแลวกลายเปนหานลี่ ก็เพราะมีองคประกอบ
หลายอยาง
เปนเพราะการเชื่อมโยงผานไขมุกเพรียกวิญญาณ หานลี่จึงสัมผัสไดถึงจิตใจและ
การเคลื่อนไหวของอสูรวิญญาณครวญ หลังจากเผยรอยยิ้มออกมา พลันอาปากออก
สูบไขมุกเพรียกวิญญาณที่กลายเปนควันสีดำเขามาในปาก
“เคล็ดวิชาแปลงกาย ทำใหขาดูซิ?” ภายใตความรูสึกสนอกสนใจของหานลี่
แนนอนวาจึงอยากเรียนรูความสามารถของวิญญาณครวญสักหนอย
หานลี่ชุดดำพยักหนา ปากพลันเปลงเสียงออกมา ฉับพลันนั้นมือทั้งสองพลัน
ฉีกเสื้อผาสีดำออก มีขนยาวๆ แข็งๆ งอกมา ในเวลาเดียวกันรางกายก็ขยายใหญขึ้น
ชั่วพริบตาก็กลายเปนวานรยักษสีดำสูงสองจั้ง
หานลี่พลันขมวดคิ้ว
นี่คือ สิ่งที่เรียกวาเคล็ดวิชาแปลงกาย ไมใชรางเดิมของอสูรวิญญาณครวญเดิมหรือ!
หานลี่รูสึกผิดหวัง ฉับพลันนั้นวานรยักษพลันแคนเสียงขึ้นจมูก รอบดานเกิด
วายุทมิฬขึ้น ประจุไฟฟาสีดำจำนวนนับไมถวนเปลงแสงสวางวาบ
รางของวานรยักษขยายใหญขึ้นอีกครั้ง!
ขนเริ่มเปลี่ยนเปนสี หนาผากคอยๆ มีเขาหงิกงอออกมาสามเขา ตรงหวางคิ้ว
ปูดโปนขึ้น หลังจากปริแตกออก ดวงตาปศาจสีโลหิตดวงหนึ่งพลันปรากฏขึ้น ในเวลา
เดียวกันใบหนาพลันยืดยาว เผยเขี้ยวโคงๆ ออกมา
คาดไมถึงวามันจะกลายเปนภูตผีตัวหนึ่งที่มีรูปรางเหมือนภาพวาดที่แผนหลังของ
มันในตอนแรก แตแคดูแลวดุรายมาก รางกายสูงหกเจ็ดจั้ง ชั่วครูก็คับเต็มหองหิน
สิ่งที่ทำใหหานลี่ตกตะลึงยิ่งกวาเดิมก็คือ แผนหลังของวิญญาณครวญที่วางเปลา
มีกระดูกแหลมๆ สีดำยาวสองสามจั้งสามท อนงอกออกมา ดานบนมีไอวิ ญ ญาณ
หอหุมอยู ไอทมิฬที่ใหความรูสึกคุกคามพลันแผออกมา
หานลี่จำไดอยางชัดเจน ลวดลายภูตผีไมมีของสิ่งนี้ ทวาหรือเปนเพราะวันนั้นที่
กลืนกินราชันยภูตผีระดับแปลงกายลงไป สองมือของมันสามารถสรางภาพลวงตาที่
เหมือนหนามกระดูกขึ้นมา หรือวาจะเกี่ยวของกัน
ขณะที่หานลี่กำลังขบคิดอยางหนัก อสูรวิญญาณครวญที่กลายเปนภูตผีก็พลิ้วกาย
กลายเปนเมฆสีดำอีกครั้ง หดเล็กลงจนกลายเปนวานรสีดำขนาดเล็ก กระโดดขึ้นมา
คาดไมถึงวาจะวิ่งมาถึงดานขางรังไหมสีดำ ฉีกรังไหมนั้นออก แลวโยนเขาปากกัดกิน
หานลี่เห็นเชนนั้นพลันตะลึงงัน ทันใดนั้นก็ฉีกยิ้มนอยๆ ออกมา
ไมนานนัก เปลือกรังไหมขนาดยักษก็เขาไปอยูในทองของวานรยักษ จากนั้นก็
เปลงเสียงคำรามดวยความดีอกดีใจออกมา ชั่วครูก็ปนกลับมาอยูบนไหลของหานลี่
ทาทางสนิทสนมเปนพิเศษ
หานลี่ยกมือหนึ่งขึ้นลูบหัวที่ปกคลุมไปดวยเสนขนของวิญญาณครวญ หัวเราะนอยๆ
แลวเก็บมันเขาไปในแหวนอสูรวิญญาณ
หลังจากทุกทำอยางเสร็จสิ้น เขาก็มองไปยังฝูงแมลงกลืนวิญญาณในหองแมลงที่
อยู  ใ กล ๆ เขามองแมลงยั ก ษ ท ี ่ ม ี ค วามยาวครึ ่ ง ฉื ่ อ แววตาอดที ่ จ ะเปล ง ประกาย
ระยิบระยับไมได
ฉับพลันนั้นพลันชูมือขึ้น ลำแสงสีเขียวในมือเปลงประกาย ขวดเล็กๆ สีเขียวมรกต
ปรากฏขึ้น
เขามองไปที่ขวดใบนั้นชั่วครู ใชนิ้วลูบไปบนขวดไมไดเอยอะไรออกมา
จะวาไปแลว หลังจากที่มาอยูในแดนวิญญาณ ขวดเล็กๆ ลึกลับก็มีประโยชนมาก
ขึ ้ น เป นอย า งมาก แต เ ดิ ม เจ็ ด วั นถึ ง จะมี ข องเหลวเพิ ่ มขึ ้ น หนึ ่ ง หยด แต พ อมาถึง
แดนวิญญาณก็เปลี่ยนเปนสามวัน
สิ่งที่ทำใหหานลี่รูสึกประหลาดใจก็คือ การเปลี่ยนเปนของเหลวในยามค่ำ คืน
ในแดนวิญญาณนั้นออนแอลงเปนอยางมาก
ความระยิบระยับเมื่อดูดลำแสงจันทราเขาไป ก็กลายเปนแคลำแสงสีขาวจางๆ
บนขวดเล็กๆ เทานั้น หากไมเขามาตรวจสอบใกลๆ ในระยะสองสามจั้ง ก็ไมพบ
ความคิดปกติใดๆ ได ตอใหเปนผูที่ตามีแวว กวาครึ่งก็คงแคเอาขวดเล็กๆ ทำเปน
ยุทธภัณฑระดับต่ำเทานั้น
เรื่องนี้เปนสิ่ งที่ หานลี่พบเขาตอนที่ฟ นฟูพลั งยุท ธกลับมาและคิดจะกระตุ น
การเจริญเติบโตของสมุนไพรวิญญาณ
แทบจะไม ต  องเดา หานลี ่ ก ็ ร ู  ว  า กว า ครึ ่ ง คงเป น เพราะดวงจั น ทร เ จ็ ด ดวงใน
แดนวิญญาณ รวมทั้งไอวิญญาณที่หนาแนนมากกวาแดนมนุษย
แนนอนวานี่เปนเรื่องดีสำหรับหานลี่!
ไมเพียงจะทำใหระยะเวลาในการกระตุนสมุนไพรสั้นลงกวาครึ่ง ยิ่งไปกวานั้นยัง
เก็บซอนไดปลอดภัยมากขึ้น แมกระทั่งตอนที่ออกมาขางนอก แลวนำขวดเล็กนี้
ออกมาใช ก็ไมตองกลัววาจะถูกคนอื่นพบเขาอะไรงายๆ
หานลี่ขบคิดอยางเงี ยบๆ ชั่วครู เก็บขวดเล็กเขา ไป เก็บแมลงกลืนทองและ
อสูรเกล็ดมิคาทนเขาไปในกำไลเก็บของ แลวหันกายเดินออกไปจากจวนพำนัก
ภายใตสถานการณที่รูวาที่อยูถูกคนคิดหมาย และอาจจะมีเรื่องประหลาดๆ เกิดขึ้น
เขาจึงไมเก็บของสำคัญไวในจวน
ชั่วครู สายรุงสีเขียวสายหนึ่งก็พุงออกมาจากกาซพิษหาสี เปลงแสงสวางวาบแลว
ตรงไปยังเมืองเทวะสวรรค
สองสามวันตอมา ลำแสงหลีกหนีก็แฉลบผานกำแพงเมืองที่สูงยี่สิบสามสิ บจั้ง
เขาไปในเขตของเมืองเทวะสวรรค
การมาครั้งนี้หานลี่กลายเปนมาแกที่รูทางแลว จึงมาถึงหอคอยยักษสีเขียวที่
สงเขาเขามาในวันนั้นอยางรวดเร็ว
ผูบำเพ็ญเพียรที่เขาออกหอคอยยักษในครานี้ มีไมมากนัก หานลี่จึงเดินเขาไป
อยางเงียบๆ
ตามที่จาวอูกุยกลาว เขาไมไดรีบไปในสถานที่ที่เรียกวาที่รายงานตัว แตไปยัง
สถานที่ที่มีนามวา ‘วิหารเกราะสวรรค’ รับ ‘เกราะยมโลกนิล’ มาชุดหนึ่ง
อานุภาพของเกราะสงครามนี้ หานลี่มีประสบการณมาจากชายรางใหญแซเวิงแลว
หลังจากรับมาจึงสวมลงบนรางอยางไมเกรงใจ แลวตรงไปยังตำแหนงที่สามของ
ธาตุไฟหยาง
ดึ ง ผู  พ ิ ท ั ก ษ เ หล็ ก ทมิ ฬที ่ อยู  ใ นหอคอยมาถามหาสถานที่ ข องตำแหน ง ที ่ สาม
กองกำลังที่หาสิบหก
หานลี่เดินเขาไปในทางเดินทันที แลวตรงขึ้นไปชั้นบน
หลังจากเดินผานไปเจ็ดแปดชั้น ในที่สุดก็มาหยุดอยูเบื้องหนาประตูวิหารที่ดูธรรมดาๆ
บานหนึ่ง ดานบนประตู มีตัวอักษรโบราณเขียนเอาไววา ‘ธาตุไฟหยางลำดับที่สาม
กองที่หาสิบหก’
หานลี่มองไปยังลำแสงวิญญาณของเขตอาคมสีขาวโพลนบนประตู พลิกฝามือ
ดวยสีหนาราบเรียบ
ชั่วขณะนั้นปายหยกสีเขียวพลันปรากฏขึ้นบนมือ
มื อหนึ ่ ง ถื อแผ นหยกโบกสะบั ด ไปตรงประตู เ บาๆ พ น ลำแสงสี เขี ย วออกมา
ชั่วพริบตาลำแสงสีขาวบนประตูก็หายไป
อีกมือหนึ่งผลักประตูออกไปอยางสบายๆ ประตูจึงถูกเปดออกอยางงายดาย
เขาเดินเขาไปอยางเงียบๆ
ด า นในคื อ ห อ งโถงที ่ ไ ม ไ ม ไ ด ก ว า งขวางนั ก ในห อ งมี โ ต ะ และเก า อี ้ ว างอยู
สองฝงของหองโถงมีทางเดินสายหนึ่ง ดูเหมือนวาจะตรงไปที่ไหนสักแหง
ในหองโถงในครานี้ มีผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดเกราะสีดำกำลังนั่งอยูติดกันสองคน
กำลังพูดคุยอะไรกันดวยเสียงแผวเบาราวกับกระซิบ
เมื่อเห็นหานลี่เดินเขาไป ทั้งสองคนก็อดที่จะมองไปดวยความตกตะลึงไมได
หานลี่กวาดสายตาไปบนเรือนรางของคนทั้งสองแลวขมวดคิ้วเล็ก
บังเอิญจริงๆ!
หนึ่งในนั้นคือชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตแซจัวที่พาตนเองมาที่วิหารเหินวิญญาณ
เมื่อคนผูนี้มองเห็นใบหนาของหานลี่ชัดเจน พลันเผยสีหนาตกตะลึงออกมา
แตทันใดนั้นก็ไดสติหยัดกายลุกขึ้นคารวะหานลี่อยางรอนรน
“ที่แทก็ทานอาวุโสหานนี่เอง หรือวาทานอาวุโสคือผูนำคนใหมของกองเรา”
ชายรางใหญนั้นมีปฏิภาณไหวพริบเฉียบแหลมเปนพิเศษ
“ใชแลว ผูแซหานถูกใหมารับตำแหนงผูนำของกองที่หาสิบหก วันขางหนาหวังวา
เหลาสหายจะคอยชวยเหลือดวย” หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา โยนแผนปายหยกใน
มือออกไป
ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตพลันใจหายวาบ รับแผนปายหยกมาพิจารณา
อยางละเอียด แลวสงคืนกลับไปดวยมือทั้งสองมืออยางเครงขรึม
“จัวชงจากกองกำลังที่หาสิบหก คารวะทานหัวหนา!”
“ตงกัวเฟงคารวะทานหัวหนา” ชายรางใหญอายุสามสิบกวาปรางกายผายผอม
อีกคนหนึ่ ง เห็นวาฐานะของหานลี่ ไดรั บ การยื น ยั น ก็รีบรอนคารวะด วยใบหน า
ที่เปลี่ยนสี
หานลี่โบกมือ นี่จึงทำใหทั้งสองคนหยัดกายลุกขึ้น หลังจากกวาดตาไปรอบๆ แลว
ก็เอยถามอยางราบเรียบวา
“ที่นี่มีแคสองคนหรือ?”
“รายงานทานอาวุโส นอกจากอาวุโสหมาและเซียนสวี่ที่ยังไมมา สหายที่เหลือก็
นั่งสมาธิอยูในหองทำสมาธิขอรับ ชนรุนหลังอยูที่นี่ ก็เพราะรอเบื้องบนออกคำสั่งให
ลาดตระเวนครั้งตอไป ใหชนรุนหลังเรียกพวกเขาออกมาหรือไมขอรับ?” ชายรางใหญ
ดวงตาสีเขียวมรกตเอยขึ้น
“ไมตองหรอก ขารอดวยจะดีกวา ขาเพิ่งมาถึงเมืองเทวะสวรรค ยังไมคอยเขาใจ
อะไรนัก จะไดใหเจาแนะนำสถานการณของกองกำลังของเจาใหขาฟงพอดี” หานลี่
เอยพรอมรอยยิ้มราบเรียบ
“ทานอาวุโสรับสั่ง ชนรุนหลังยอมตองพูดความจริง” เมื่อไดฟงหานลี่กลาวเชนนี้
ชายร า งใหญ ด วงตาสี เ ขี ย วมรกตพลั น ตะลึ ง งั น ไปเล็ ก น อ ย แล ว ตอบกลั บ อย า ง
ตรงไปตรงมา
เวลาต อมา คนผู  นี ้ พ ลั นแนะนำสถานการณ ค ร า วๆ ของสมาชิ ก ในกองกำลัง
แลวเอยถึงภารกิจลาดตระเวนที่กองกำลังที่หาสิบหกควบคุมใหหานลี่หานลี่ฟง
ครั้นเมื่อหานลี่ฟงดวยสีหนาราบเรียบนั้น ฉับพลันนั้นลำแสงสีทองสายหนึ่ง ก็
เปลงแสงสวางวาบบินเขามาจากดานนอกประตู ตรงมาหาทั้งสามคน
เมื่อเห็นลำแสงสีทอง จัวชงและตงกัวเฟงก็มองสบตากันแวบหนึ่ง และไมได
เคลื่อนไหวใดๆ หานลี่กลับตะปบมือออกไปกลางอากาศอยางสบายๆ
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีทองพลันกลายเปนกระบี่เลมเล็กสีทองเลมหนึ่งรอนลงมาในมือ
ดานบนมีคัมภีรสีแดงออนมวนหนึ่งสอดอยู
ยังไมรอใหหานลี่หยิบคัมภีรม วนนั้ น ประตูก็ถูกคนผลักเขามาจากดา นนอก
ในเวลาเดียวกันเสียงบุรุษอันออนโยนก็ดังขึ้น
“หึๆ เมื่อครูมีคัมภีรกระบี่ทองสื่อสารมาจากเบื้องบน เชนนั้นอาตมาก็ไมไดมาสาย...เอ
ทานคือ…” เมื่อนักพรตหนาตาสงางามคนหนึ่งเดินเขามา ก็มองเห็นหานลี่ที่สวม
ชุดเกราะยมโลกนิลทันที จึงอดที่จะตกตะลึงไมได
“พี่หมา นี่คืออาวุโสหานที่เพิ่งมาใหม และไดรับหนาที่ใหเปนหัวหนาของกอง
กำลังเรา” จัวชงรองทักนักพรตอยางรอนรน แลวรายงานฐานะของหานลี่
“ทานอาวุโสหาน...ชนรุนหลังคารวะทานอาวุโส!” ถึงแมวานักพรตจะมีสีหนา
ตกตะลึงฉายแวบผานไป แตทันใดนั้นก็เดินเขามาสองสามกาวตามสัญชาตญาณ
แลวคารวะหานลี่อยางนอบนอม
“สหายหมามิตองมีพิธีรีตองหรอก สหายฝกฝนจนถึงระดับกอกำเนิดขั้นปลายแลว
อี ก ก า วเดี ย วก็ อยู ใ นระดับ เทพแปลงแล ว ช า งเป น เรื ่ องที ่น  า ยิ น ดี จ ริ ง ๆ!” หานลี่
พิจารณานักพรตอยางละเอียดแวบหนึ่ง แลวเอยดวยรอยยิ้มเบิกบาน
ตอนที่ 1329 บึงรุงอรุณ
“ท า นอาวุ โสหานลี ่ ช  า งตามี แ ววจริ ง ๆ แต ก  า วสุ ด ท า ยนั ้ น ชนรุ  น หลั ง ติ ด มา
หลายรอยปแลว ไมรูวาในชีวิตนี้จะสมปรารถนาหรือไม” นักพรตหัวเราะอยางขมขื่น
ออกมาสองสามครั้ง
หานลี่ฉีกยิ้มบางๆ ไมไดกลาวอะไรอีก ชูมือขึ้นดึงคัมภีรสีแดงออกมาจากกระบี่
เลมเล็กสีทอง จากนั้นก็แผจิตสัมผัสเขาไป พิจารณาอยางละเอียด
คนที่เหลืออีกสามคนเองก็รออยูดานขางอยางซื่อๆ
หลังจากผานไปชั่วครู หานลี่ก็ดึงจิตสัมผัสกลับมาจากคัมภีร ปากก็พนชื่อสถานที่
ออกมา
“บึงรุงอรุณ!”
“อะไรนะ เปนที่นั่นไดอยางไร!” ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตไดยินชื่อสถานที่นี้
พลันรองอุทานออกมาดวยเสียงแหบแหง นักพรตและตงกัวเฟงเองก็หนาเปลี่ยนไป
ยกใหญเชนกัน
“อันใด ที่นี่มีปญหาอะไรหรือ?” หานลี่ขมวดคิ้ว เอยถามอยางเชื่องชา
“ไมไดมีแคปญหา! ที่นั่นคือสถานที่ที่เผาประหลาดเหลานั้นเขามาไดงายที่สุด
ทุกปจะตองมีสหายรวมวิถีของเราเพลี่ยงพล้ำที่นั่น เปนสถานที่ที่อันตรายมาก”
ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตพนลมหายใจออกมาแรงๆ เฮือกหนึ่ง แลวเอยอยาง
เครงขรึม
“แลวพวกเราตองไปลาดตระเวนที่นั่นหรือ?” หานลี่รูสึกประหลาดใจ แตทันใดนั้นก็
เอยถามดวยดวงตาที่เปลงประกาย
“มันก็ไมใช บึงรุงอรุณนั้นกวางใหญมาก ถึงแมวาพวกเราจะบินดวยลำแสง
หลีกหนีอยางไมหยุดพั กรอบหนึ ่ง ก็ยังตองใชเวลาครึ่ งเดื อน โดยปกติแลว จะมี
สี่กองกำลัง ที่แบงกันไปลาดตระเวนที่นั่น” ครั้งนี้นักพรตพลันเอยปากอธิบายเปน
ครั้งแรก
“ในเมื ่ อ ไม ใ ช ก องกำลั ง กองกำลั ง เดี ย ว งั ้ น ก็ ไ ม จ ำเป น ต อ งโอดครวญอะไร
ระวังหนอยก็พอแลว” หานลี่ขมวดคิ้ว แลวเอยอยางราบเรียบ
“ทานอาวุโสหานไมรูอะไร สองปกอน อาวุโสซวนกวงหัวหนาของกองกำลังที่สิบสอง
ถูกคนของเผาเงาลอบโจมตีที่บึงรุงอรุณแลวเพลี่ยงพล้ำไป วิถีอีกสองคนที่รวมทางไป
ดวยก็จบชีวิตลงเชนกัน และอาวุโสซวนกวงก็เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
ขั้นกลางแลว” ตงกัวเฟงกลับเผยสีหนาหวาดกลัวออกมาขณะเอย
“ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นกลาง! มีเรื่องเชนนี้ดวย!” ในที่สุดหานลี่ก็หนา
เปลี่ยนสี
ในตอนนั้นเอง ทางเดินทั้งสองฝงก็มีเสียงฝเทาดังขึ้น คนสองสามคนเดินออกมา
บุรุษหาสตรีหนึ่ง เปนชายชราสองคน ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนทาทางเปน
สามีภรรยากันคูหนึ่ง และยังมีชายรางใหญรางกายกำยำใบหนาเต็มไปดวยลำแสง
สีแดงที่ดูเหมือนอายุสิบหาสิบหกปอีกคนหนึ่ง
เห็นไดชัดวาคนเหลานี้ลวนเปนสมาชิกที่เหลือซึ่งนั่งสมาธิอยูในหองทำสมาธิ
แตแคไมรูว าใช วิ ธีใ ดถึง ไดร ู วา คัม ภีร กระบี่ท องถูกสง เขา มาพร อมกั น แลวถึ ง ได
ทยอยกันเดินออกมา
เมื่อคนเหลานี้เห็นหานลี่แนนอนวาลวนพากันตะลึงงัน แตหลังจากที่ชายรางใหญ
ดวงตาสีเขียวมรกตแนะนำแลว ก็ทยอยกันเขามาทำความเคารพ
แนนอนวาหานลี่ก็คารวะกลับดวยสีหนายิ้มแยมเบิกบานใจ
แตหลังจากกวาดจิตสัมผัสไปเงียบๆ แลว ก็มองหนุมนอยที่บอกวาตัวเองแซอิ๋งอีก
แวบหนึ่ง
คนผูนี้มีพลังยุทธเทากับนักพรตแซหมา ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตอยางไร
อยางนั้น ลวนอยูในระดับกอกำเนิดขั้นปลาย
ผูที่พลังยุทธออนแอที่สุด กลับเปนชายชราทั้งสองคน
ทวา เมื่อคนเหลานั้นรูวาสถานที่ลาดตระเวนครั้งตอไปคือ ‘บอรุงอรุณ’ สีหนาดู
ไมไดเชนกัน
“เอาละ ถูกจัดใหทำงานที่นี่ พวกเราก็ไมมีทางเปลี่ยนแปลงคำสั่งได สองสามป
หลังจากนี้ก็มีแตตองระวังหนอยแลว พวกเราจะออกเดินทางพรุงนี้ ทุกคนไปเตรียมตัว
เถิด” หานลี่ไมไดเอยอะไรใหมากความ หลังจากออกคำสั่งสองสามประโยค ก็เดินเขา
ไปในทางเดินดวยตนเอง
เขาหาหองทำสมาธิที่ไมมีเจาของมาหองหนึ่ง แลวไมยอมออกมาอีก
ทาทางเหมือนไมสนใจของหานลี่ แนนอนวาทำใหเหลาผูบำเพ็ญเพียรลวนมอง
สบตากันไปมา
สุดทายสายตาก็อดที่จะตกไปบนเรือนรางของชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตไมได
“พี่จัว ทานบอกอาวุโสหานวาบึงรุงอรุณคือ แดนอันตรายหรือไม!” ชายหนุม
แซอิ๋งเอยถามหนึ่งประโยค
“บอกแลว แตทานอาวุโสหานดูเหมือนจะไมฟงเทาใดนัก” ชายรางใหญดวงตา
สีเขียวมรกตถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“ตอใหฟง แลวอยางไร คำสั่งคือสิ่งที่ทานอาวุโสรับมา พวกเรากลาขัดขืนหรือ”
สตรีจากสามีภรรยาคูนั้นเอยอยางจนปญญา
“ไมใชขัดขืนคำสั่ง แตอยางนอยที่สุดหากทานอาวุโสรูวาอันตรายแลว ก็นาจะ
รอบคอบมากขึ้นหนอย หากพบกับเผาประหลาดที่แข็งแกรง อยางนอยที่สุดก็ตองเปน
ผูพิทักษยมโลกนิลที่พอจะเปนคูตอสูได” นักพรตแซหมาลูบเครายาวๆ ทาทีกังวล
“ทุกคนไมตองกังวล! ถึงแมวาบึงรุงอรุณจะอันตราย แตปกอนเพิ่งมีคนพบคนของ
เผาเงา นั่นมันบังเอิญมาก แลวพวกเราจะพบกับเผาประหลาดอื่นๆ ที่ลอบโจมตีอยู
อีกหรือ บึงรุงอรุณเปนเขตอันตรายระดับหนึ่ง การลาดตระเวนของพวกเราครั้ งนี้
จะตองไดรับความดีความชอบไมนอย และยิ่งไปกวานั้นวันขางหนาก็จะมีวันพักผอน
ยาวหนอย แคทนสักสองสามป วันขางหนาเดาวาคงไมจัดใหพวกเราไปที่อันตราย
อีกแลว ทุกคนทำตามที่ทานอาวุโสหานบอก ไปเตรียมตัวเถิด” ชายรางใหญดวงตา
สีเขียวมรกตมีแววตาครุนคิด แลวเอยอยางที่ครุนคิดไว
คนอื่นๆ ไดฟง ก็ไมไดมีวิธีที่ดีกวา จึงทำไดเพียงแยกยายกันไปดวยความจนปญญา
สวนหานลี่ในครานั้นกำลังนั่งสมาธิอยูบนฟูกภายในหองลับ สองมือรายอาคม
บนเรือนรางมีลำแสงสีทองเปลงประกายระยิบระยับ ราวกับวากำลังอยูในสมาธิ
แตตรงทายทอยของเขา กลับมีลำแสงสีทองเปนสายๆ กะพริบระยิบระยับอยู เผยให
เห็นถึงความลึกลับเปนอยางมาก
หนึ่งวันผานไปในพริบตา
ครั้นเมื่อหานลี่เบิกตาขึ้น เดินออกมาจากหองลับ แลวกลับมายังหองโถงอีกครั้ง
ก็เห็นเหลาชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตและพวกรออยูตั้งนานแลว เมื่อเห็นหานลี่
ปรากฏตัว ก็ทยอยกันมาทำความเคารพ
หานลี่โบกมือ กวาดสายตาไป ตกอยูบนรางของสตรีผูบำเพ็ญเพียรที่มีหนาตา
งดงามคนหนึ่ง
สตรีผูนี้อายุนอยมาก ทาทางเหมือนมีอายุยี่สิบปเศษ แตใบหนากลับขาวผ อง
ดุจหยกตัด ใกลเคียงกับหยกใสอยางไรอยางนั้น ดวงตาคูนั้นเปลงประกายราวกับ
ดวงดาวทอแสง
หานลี่มองไปปราดเดียว พลันรูสึกคุนเคยอยาแปลกประหลาด ราวกับเคยพบที่
ไหนสักแหงอยางไรอยางนั้น
แววตาของหานลีพ่ ลันฉายแววประหลาดใจ
“ทานอาวุโส ผูนี้คือเซียนสวี่! ใชแลวเซียนสวี่คือลูกหลานของผูบำเพ็ญเพียรที่
บินขึ้นมา” นักพรตแซหมาแนะนำพรอมใบหนาเปอนยิ้ม
“ลูกหลานของผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา!” หานลี่ใจเตน แตกลับแคพยักหนาดวย
สีหนาราบเรียบ
สตรีผูบำเพ็ญเพียรดูเหมือนวาจะมีนิสัยเย็นชา หลังจากทักทายตามมารยาทหนึ่ง
ประโยคแลว ก็ไมไดปริปากใดๆ อีก
“คนมาครบแลว ออกเดินทางเถิด”
หานลี่ไมไดลังเลอะไร ออกคำสั่งใหกลุมคนเดินออกจากวิหารหิน ตรงไปยังวิหาร
สงตัวที่อยูใกลๆ แหงหนึ่ง
วิหารหินแหงนี้นอกจากจะมีผูบำเพ็ญเพียรกลุมหนึ่งคอยเขาเวรอยูแลว ถึงแมวา
จะมี ส ำเภาสี ทองจอดอยู แต เ ป นเพราะอยู  ใ กล ก ั บ จุ ด ส ง ตัว จึ ง ไม จ ำเป นต องใช
ยุทธภัณฑวิญญาณนี้
หลังจากที่หานลี่สงแผนปายแสดงฐานะให คนกลุมหนึ่งรอ สามสี่คนเขาไปอยูใน
เขตอาคมสงตัว ผลคือเมื่อลำแสงสีขาวเปลงประกาย คนทั้งสิบคนลวนถูกสงตัวออก
จากเมืองเทวะสวรรค ปรากฏตัวขึ้นในสถานที่ที่ไมคุนเคย
หานลี่และชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตและพวกถูกสงตัวออกมา หลังจากหาย
จากอาการวิงเวียนแลว ก็กวาดตาไปดานลางแลวอดที่จะขมวดคิ้วเล็กนอยไมได
นี่คือหองหินที่ดูไมใหญโตนักแหงหนึ่ง ใตฝาเทาคือเขตอาคมสงตัวทางเดียว
กำแพงรอบๆ มีอักขระตางๆ เปลงแสงระยิบระยับ ทาทางถูกเขตอาคมปกคลุมเอาไว
ทั้งหมด
นักพรตแซหมาและพวกที่ถูกสงตัวออกมากอนตางอยูรอบๆ เขตอาคมสงตัว
ทาทางกำลังรอพวกเขาอยู
หานลี่เดินออกจากเขตอาคมสงตัวอยางไมรีบรอน และสาวเทาไปที่ประตู หิน
ควักแผนหยกสีเขียวออกมาโบกที่ประตู
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเขียวพลันพุงออกไป หลังจากอักขระบนประตูหินพลิ้วไหว
เล็กนอยก็ทยอยกั นเป ดออก เผยทางเดินความกวา งสองสามจั้ งสายหนึ่ ง ออกมา
ทอดตั ว ลงไปดา นล าง หานลี ่ ไ ม ไ ดป ริป ากใดๆ ลำแสงสี เ ขี ยวเปล ง แสงสว างวาบ
กลายเปนสายรุงสายหนึ่งลวงหนาไปกอน
ผูใตบังคับบัญชาอีกสิบคนดานหลัง พลันสำแดงเคล็ดวิชาหลีกหนีไลตามไปติดๆ
เมื่อคนสุดทายออกจากหองหินไดไมนาน ประตูหินก็เปลงแสงสวางวาบเล็กนอย
แลวคอยๆ ปดลงอีกครั้ง
เมื่อหานลี่ออกมาจากทางเดิน ก็มาปรากฏตัวกลางอากาศเหนือภูเขาเล็กๆ แหงหนึ่ง
เมื่อปรากฏตัวก็กวาดตามองไปรอบๆ
จุดที่พวกเขาอยู ดูเหมือนวาจะเปนเนินเขาที่รกรางมาก มองไปทางดานหลังในระยะ
รอยลี้ ทามกลางลำแสงสีขาวโพลนพลันมองเห็นกำแพงเมืองขนาดใหญไดอยางชัดเจน
บนกำแพงมีอักขระตางๆ ลอยพลิ้วอยู ถึงแมวาจะอยูไกลมาก แตก็ยังคงมองเห็น
ลำแสงวิญญาณที่กะพริบวาบอยู
หานลี่พิจารณากำแพงเมืองอยูนาน แววตาเปลงประกายสองสามครั้ง
จากที่เขารูมาก ตรงขามของเมืองเทวะสวรรคคือกำแพงเมืองขนาดยักษของ
แดนปาเถื่อน ไมมี ‘ประตูเมือง’ ไมวาจะเปนมนุษยหรือปศาจทั้งสองเผาจะเขาออก
ตางก็ตองอาศัยการสงตัวจากในเมืองถึงจะออกไปได
เชนนั้น ทามกลางเขตอาคมตางๆ ที่ประสานกัน เมืองเทวะสวรรคจึงไมถูกคน
ของเผาประหลาดฉวยโอกาสได
ทวาสถานที่ที่หานลี่ตองลาดตระเวนนั้นไมใชที่นี่ หันหนาไปมองอีกทาง
มองไปทางดานนั้นแวบหนึ่ง ลวนเปนเนินเขานอยใหญ สีเขียวขจี ลวนเงียบสงบ
มองไมออกวาคือ แดนปาเถื่อนในตำนานเลยสักนิด
แตตามในแผนที่บึงรุงอรุณนั้นอยูหางจากที่นี่ไปหมื่นลี้ เพราะที่นั่นมีภูมิประเทศที่
คอนขางพิเศษ สามารถปกปดจิตสัมผัสที่กวาดออกไปได ดังนั้นจึงมีเผาประหลาด
ลอบโจมตีอยูบอยๆ คอยติดตามสถานการณของเมืองเทวะสวรรคอยางใกลชิด
เมืองเทวะสวรรคจึงจำใจตองสงผูบำเพ็ญเพียรออกไปเปนกลุมๆ เพื่อลาดตระเวน
อยู  ท ี ่ นั ่ น บ อยๆ แต เ ผ า ประหลาดที ่ ถ ู ก ส ง มาดู เ มื อ งเทวะสวรรค ล ว นเป นผู  ท ี ่ มี
ความสามารถไมนอย โดยเฉพาะผูที่เชี่ยวชาญในเคล็ดวิชาพรางตัว ขณะที่กำลังโจมตี
กลับไป ดวยเหตุนี้แนนอนวาเผามนุษยลวนเพลี่ยงพล้ำอยูในบึงรุงอรุณอยูบอยๆ
ดังนั้นที่นี่ของเมืองเทวะสวรรค จึงถูกเมืองเทวะสวรรคแบงออกเปนสถานที่ที่
อันตรายอันดับหนึ่งรวมกับสถานที่อื่นๆ เปนสถานที่ที่ผูบำเพ็ญเพียรไมอยากมา
ลาดตระเวนที่สุด
แตตอนนี้กองกำลังของหานลี่ถูกกำหนดใหมาลาดตระเวนที่นี่ สองสามปหลังจากนี้
แนนอนวาตองเสี่ยงอันตรายเปนอยางมาก
หานลี่ขบคิดอยูเงียบๆ ในใจ หันหนาไปมองผูบำเพ็ญเพียรที่อยูดานหลัง ปากก็พน
คำวา ‘ไป’ ออกมาเบาๆ
ลำแสงสิบกวาสายเปลงแสงสวางวาบพุงออกไป ตรงไปยังขอบฟา
ระยะทางหมื่นกวาลี้สำหรับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดขึ้นไปแลว แนนอนวา
ไมนับวานานอะไร ไมนานนัก หานลี่ก็มองเห็นเปาหมายอยูลิบๆ
สิ่งที่เขามาในครรลองสายตานั้นเปนเสนสีเขียวสายหนึ่ง
เมื่อเขาไปใกลหนอยก็มองเห็นไดอยางชัดเจน เสนสีเขียวอะไรนั่น คือหมอกสีเขียว
ผืนใหญ มองเห็นตนไมและภูเขาดานในอยูรางๆ
ลำแสงหลีกหนีหยุดชะงักไปเล็กนอย มือหนึ่งพลิกฝามือ ชั่วขณะนั้นจานอาคม
ลักษณะพิเศษก็ปรากฏขึ้นในมือ
หานลี่ชี้นิ้วไปเบาๆ จานอาคมเปลงแสงสีแดงออกมาชั้นหนึ่ง ครานี้ผูบำเพ็ญเพียร
ที ่ เ หลื อที ่ อยู  ใ นลำแสงหลี ก หนี ด  า นหลั ง ก็ ท ยอยกั น หยิ บ จานอาคมที ่ เ หมื อนกั น
ทุกระเบียบนิ้วออกมา ทำเชนเดียวกัน
ของสิ่งนี้มีนามวาจานอาคมประหลาด คือยุทธภัณฑที่ผูลาดตระเวนทุกคนตองใช
สามารถสัมผัสเผาประหลาดไดในระยะใกลๆ แตแคโดยปกติแลวจานใบนี้จะบอกได
แคทิศทาง และยิ่งไปกวานั้นถาพบกับเผาประหลาดที่มีความสามารถลึกล้ำ อาจจะมี
ผลไมแมนยำ
แตเมื่อบวงสรวงจานนี้ ภายใตสถานการณปกติก็ปลอดภัยเปนอยางมาก
ดังนั้นเมื่อหานลี่และพวกหยิบยุทธภัณฑชิ้นนี้ออกมา ก็ลดความเร็วของลำแสงหลีกหนี
เข า ไปในหมอกอย า งระมั ด ระวั ง หลั ง จากนั ้ น ไม น าน กลุ  ม คนก็ ห ายวั บ ไปอย า ง
ไรรอ งรอย
ตอนที่ 1330 อสูรยักษและคนประหลาด
บึงรุงอรุณนาเหลือเชื่อกวาสถานที่ที่เหลือเปนอยางมาก!
ไมรูวาเพราะสาเหตุใด เมื่อเขามาในบึง หานลี่และพวกไมเพียงจะไมอาจแผ
จิตสัมผัสออกไปนอกรางกายไดเกิดรอยจั้ง ยิ่งไปกวานั้นหมอกดานในยังหนาแนนขึ้น
เรื่อยๆ ทำใหผูคนปองกันอยางไรก็ปองกันไมหมด
สิ่งที่ทำใหปวดหัวที่สุดก็คือแมลงประหลาดที่ถูกเรียกวา ‘แมลงหยก’ ซึ่งอยูใตดินเลน
ที่เปยกชื้น
แมลงเหลานี้ลวนมีแขนขาเปนขอตอเหมือนตะขาบอยางไรอยางนั้น ผิวของมัน
มีปากเรียวๆ จำนวนนับไมถวน พนหมอกพิษออกมาได คาดไมถึงวาจะสามารถ
กัดกรอนและกลืนกินลำแสงวิญญาณของผูบำเพ็ญเพียรได
ถาหากมีแคตัวสองตั ว แนนอนวาคงไมอยูใ นสายตาของชายรา งใหญด วงตา
สีเขียวมรกตและเหลาพวกผูบำเพ็ญเพียร แมลงประหลาดชนิดนี้เปนแมลงที่อยูเปนฝูง
หลังจากกระโจนออกมาจากดินเลนแลว ลวนเคลื่อนไหวเปนทางยาวขนาดสองสามจั้ง
มีอยูทั้งหมดยี่สิบสามสิบสาย และยังมีพลังในการบินต่ำๆ อีกดวย
แนนอนวาหลังจากที่ทำใหฝูงแมลงตกใจแลว ก็ทำใหกลุมคนยุงจนมือไมพันกัน
แนนอนวาถาหากไมไดรับภารกิจใหมาลาดตระเวน พวกเขาคงบินผานเหนือบอน้ำไป
ก็ไมตองกลัว ‘แมลงหยก’ เหลานี้ แตการลาดตระเวนนั้น ลวนตองตามหารองรอย
ของเผาประหลาด ไมอาจบินสูงได จึงทำไดเพียงบินอยูกลางอากาศต่ำๆ เทานั้น
เชนนั้น การลอบโจมตีของแมลงหยกจึงเปนเรื่องที่เกิดขึ้นไดบอยๆ อยางไมอาจ
ปองกันได
แมกระทั่งมีครั้งหนึ่งที่พวกเขาไปรบกวนฝูงแมลงหยกฝูงใหญ ชั่วครูก็ทะลัก
ออกมาจากใตบึงมากถึงสามสี่รอยตัว
หากไมใชเพราะหานลี่ปลอยลำแสงเทวะดูดปราณออกมา กักแมลงประหลาด
เอาไวกลางอากาศในชั่วพริบตา จากนั้นก็ใชเพลิงวิญญาณเผาจนเกลี้ยงในคราเดียว
กลุมของพวกเรา ก็ยังเสียเปรียบมากจริงๆ
ทวาก็เปนเพราะวาการลงมือของหานลี่ในครั้งนี้ ทำใหผูใตบังคับบัญชาที่แตเดิม
ระแคะระคายความสามารถของหานลี่อยูเล็กๆ มองหานลี่ดวยสายตาเชื่อมั่นมากกวา
เดิมหลายสวน
แนนอนวาในบึงรุงอรุณนั้น นอกจากแมลงหยกแลว ก็ยังมีอันตรายอื่นๆ เปน
อยางมาก
มีอสูรประหลาดชนิดหนึ่งที่เรียกวาอสูรหัวเงิน ชอบซอนตัวอยูในปาลึกในบึงรุงอรุณ
สามารถมองขามการสังหารทั้งหมดไป และสามารถแยกรางไดอยางอิสระ ทำใหหานลี่
รูสึกวารับมือยากเปนอยางมาก
โชคดีที่อสูรชนิดนี้เคลื่อนไหวคอนขางชา และยิ่งไปกวานั้นยังมันยังมีอาณาเขต
ขอแควิ่งออกมาจากอาณาเขตของมัน มันก็จะไมไลตามตอแลว
ดังนั้นความอันตรายของมันจึงไมนากลัวเทาแมลงหยก
แตเชนนั้น แคเขาไปไดไมนาน ก็ทำใหหานลี่และพวกสัมผัสไดแลววาเหตุใดบอรุงอรุณ
ถึงถูกเรียกวาเขตลาดตระเวนระดับหนึ่ง แทบจะในครานั้นทุกคนตางก็รักษาระดับ
ความระวังตัวเอาไว มิเชนนั้นหากไมทันระวัง ก็จะเสียเปรียบไปไมนอย
แตสุดทายก็ไมพบรองรอยของเผาประหลาด
ครานี้ นักพรตแซหมาและพวกพลันรูสึกผอนคลายลงอยางไมรูตัว
บรรยากาศเครงเครียดในกลุมก็ผอนคลายลงอยางไมรูตัว
วันนี้ กลุมคนและพวกตางถือ ‘จานอาคมประหลาด’ บินไปดวยครึ่งคอนวัน
ถึงแมวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับสูง แตก็รูสึกออนเพลียเล็กๆ ถึงอยางไรเสียครานี้ก็
ตองตั้งสมาธิอยูกับการลาดตระเวน จึงเปลืองแรงไปไมนอย
ครานี้เบื้องหนามีบึงน้ำบริสุทธิ์ขนาดรอยจั้งเศษปรากฏขึ้น ริมบึงมีกอนกรวดเล็กๆ
อยูกองหนึ่ง ดานบนมีไมไผสีเขียวมรกตสูงๆ เรียงตัวกันอยูแถวหนึ่ง สายลมพัดออนๆ
ทำใหที่นี่งดงามดุจภาพจิตรกรรมอยางไรอยางนั้น
พวกเขาลวนอดที่จะรูสึกตื่นเตนไมได
หลังจากที่ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตและคนอื่นๆ มองสบตากันแวบหนึ่ง
ทันใดนั้นลำแสงหลี ก หนี ก็ เ ปลง แสงสว างวาบพลางเขาใกล หานลี ่ แลวเอย อย า ง
นอบนอมวา
“ทานอาวุโสหาน ที่นี่ไมเลวนัก พวกเราพักผอนที่นี่ไดหรือไม อีกเดี๋ยวค อย
ลาดตระเวนตอ”
“อืม ได ระวังหนอย ตรวจดูอีกซิวามีอะไรผิดปกติหรือไม” หานลี่ไมไดปฏิเสธ
แคออกคำสั่งอยางราบเรียบ
ระหวางทาง หานลี่ออกคำสั่งนอยมาก และรับฟงขอคิดเห็นของชายรา งใหญ
ดวงตาสีเขียวมรกตและพวกอยูดวยครึ่งทาง
นี่จึงทำใหหานลี่และคนอื่นๆ คุนเคยกันเปนอยางมากอยางไมรูตัว
“นั่นมันแนนอนอยูแลว!” ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตมีใบหนาที่ประดับไป
ดวยรอยยิ้ม กวักมือเรียกคนอื่นๆ ที่อยูดานหลัง
ดังนั้นชายชราทั้งสองและสามีภรรยาคูหนึ่ง ก็แยกกันบินไปรอบๆ รอบหนึ่ง
จานอาคมประหลาดในมือไมมีปฏิกิริยาตอบสนองเลยสักนิด ทั้งกลุมถึงไดร อนลง
บนกองหินอยางวางใจ
พวกเขาไมอยากรั้งรออยูที่นี่นานนัก ดังนั้นจึงทยอยกันหาที่สะอาดๆ ใหตัวเอง
แลวนั่งสมาธิลงทันที เพื่อฟนฟูจิตสัมผัสใหรวดเร็วที่สุด!
หานลี่ในฐานะผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง ประกอบกับที่เคยฝกฝนคาถาขับเคลื่อน
การลาดตระเวนครั้งนี้จึงไมไดรูสึกวาลำบากอะไร ดังนั้นจึงไมไดนั่งสมาธิเหมือนคนอื่น
แตเดินไปรอบๆ บึงน้ำพลางพิจารณาอยางเงียบๆ
บึงน้ำไมลึกนัก ผิวน้ำสะอาดใสจนมองเห็นได มองแคปราดเดียวก็เห็นกนบึง
ในน้ำมีปลาตัวเล็กๆ สีเงินขนาดเทานิ้วมือชนิดหนึ่งแหวกวายอยู ทาทางไมมีพิษมีภัย
เมื่อเห็นทิวทัศนเชนนี้ หานลี่พลันขมวดคิ้วเหนื่อย เงยหนาขึ้นกวาดตามองไปรอบๆ
แวบหนึ่งตามความรูสึก แววตากวาดไปยังตนไผสีเขียวมรกตสิบกวาตนที่อยูรอบๆ
รอบๆ มีเสียงวายุพัดผานเบาๆ แลวก็ไมมีเสียงใดๆ อีกเห็นไดชัดวาเงียบสงบเปน
อยางมาก
ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตและพวกอีกสิบคนบางก็นั่งอยูริมบึง บางก็นั่งอยู
ใตตนไผสีเขียวมรกต ลวนนิ่งงันไมไหวติง
หานลี่กวาดสายตาเหลือบตามองผิวน้ำที่นิ่งสงบเหมือนกับกระจกอยางไรอยางนั้น
แวบหนึ่ง หลังจากขบคิดเล็กนอยรูมานตาพลันหดเล็กลง แตทันใดนั้นก็ฟนฟูกลับมา
เปนปกติ
เขาหันกายไปอยางชาๆ สาวเทาออกไป ดูเหมือนวาจะอยากตรงไปทางปา ไผ
สีเขียวมรกตเหลานั้น
แตไมมีใครเห็นวาชั่วพริบตาที่หานลี่หันกายไปนั้น นิ้วทั้งสิบที่หดอยูในแขนเสื้อ
พลันรายคาถา ลำแสงสีแดงสวางวาบ เสนไหมสีแดงออนๆ สิลสายเปลงแสงสวางจา
แลวจมหายเขาไปในกองหินอยางไรรองรอย
ทั้งหมดเกิดขึ้นอยางเงียบเชียบไมเผยรองรอยออกมาเลยสักนิด
หานลี่เดินเขามาก็ใกลกับตนไผสีเขียวมรกตอยางเงียบเชียบ และหยุดฝเทาลง
หนาตนไผตนหนึ่ง ใชสายตาราบเรียบจองเขม็งไป
การเคลื่อนไหวของเขา ชางแปลกประหลาดจริงๆ
ทำใหชายหนุมแซอิ๋งผูนั้นและสตรีผูบำเพ็ญเพียรแซสวี่ที่นั่งสมาธิอยูใกลๆ อดที่จะ
เบิกตาทั้งสองขางขึ้น แลวมองไปทางนั้นแวบหนึ่งดวยความประหลาดใจไมได
หานลี่กลับทำเปนมองไมเห็นสายตาของทั้งสองคน หลังจากผานไปชั่วครู แววตา
ก็ฉายแสงเย็นเยียบ อาปากออกพนลำแสงสีทองสายหนึ่งออกมา สับลงไปมันตนไผ
ดวยความรวดเร็วดุจสายฟา
ไดยินเพียงเสียง “ฉับ” เบาๆตองไผสีเขียวขนาดหนาเทาปากชามตนนั้นถูกสับ
ออกจากตรงกลาง
“เอ!” ชายหนุมแซอิ๋งพลันตะลึงงัน
ดวงตาคูงามของเซียนสวี่พลันเบิกกวางเชนกัน
แตยังไมรอใหทั้งสองคนมีความคิดอื่น ฉากที่นาเหลือเชื่อฉากตอไป ก็ทำให
ทั้งสองตกตะลึงในทันใด
ตนไผสีเขียวที่เหลือเพียงครึ่งหนึ่งพนของเหลวสีเขียวเขมออกมา กลิ่นลอยโชยมา
พุงสูงขึ้นไปสองสามฉื่อ
สิ ่ ง ทำให ต กตะลึ ง ยิ ่ ง กว า ก็ ค ื อ แทบจะในเวลาเดี ย วกั น นั ้ น พื ้ น ดิ น ทั ้ ง หมด
พลันสั่นคลอน เสียงคำรามดวยความเจ็บปวดดังออกมาจากใตดิน ขณะที่ตนไผสี
เขียวมรกตตนอื่นกำลังสั่นคลอนอยูนั้น ก็กลายเปนหนวดสีเขียวขนาดใหญราวกับ
หนวดปลาหมึกพุงเขามาหาตะปบหานลี่อยางแรง
แตจากความสามารถของหานลี่จะยอมใหมันทำสำเร็จไดอยางไร รางกายพลิ้วไหว
เล็กนอย หายวับไปจากที่เดิม ครูตอมาก็มาปรากฏตัวเหนือบึงน้ำ สายตามองไปยัง
หนวดที่กำลังโบกสะบัดอยางบาคลั่งดวยความเย็นชา
ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตและพวกที่แตเดิมนั่งสมาธิอยูใกลๆ ก็ถูกรบกวน
จากสมาธิตั้งนานแลว เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงที่นาตกตะลึงนี้ แนนอนวาตางก็
ทยอยกันพุงขึ้นไปบนฟาดวยความตกใจ ทันใดนั้นพลันปลอยสมบัติอาคมกระบี่บิน
หลายเลมออกมาดวยความรอนรน พลางสับลงไปที่หนวดเหลานั้นอยางรุนแรง
พวกเขาเห็นกระบี่ของหานลี่สับเจาสิ่งนั้นขาด แนนอนวาก็รูสึกวาไมไดนากลัวอะไร
แตสิ่งที่ทำใหพวกเขาคิดไมถึงก็คือ เมื่อกระบี่เหลานี้สับลงมาที่หนวดปลาหมึกก็มี
เสียงกระทบกันของธาตุทองประหลาดๆดังขึ้น ถูกดีดกลับมาอยางงายดาย
หลังจากที่ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตและพวกตกตะลึงแลวก็คิดจะใชสมบัติอื่นๆ
เขาโจมตีนั้น กองหินสีเทาขาวที่อยูริมบึงพลันเปลี่ยนเปนสีดำสนิท จากนั้นกองหิน
เหลานั้นก็บิดเบี้ยวกลายเปนเกล็ดสีมวงดำขนาดเทาศีรษะ คาดไมถึงวาพวกมันจะเปน
สวนหัวของอสูรโบราณขนาดยักษ
อสูรยักษรางกลมมองไมเห็นปากและจมูก แตแผนหลังของมันมีหนวดความยาว
สิ บ จั ้ ง เศษงอกออกมา มั นหมอบติ ด อยู  ก ั บ บึ ง น้ ำ แท จ ริ ง แล ว ตน ไผ สี เ ขี ยวมรกต
สิบกวาตนนั้นคือหนวดบนแผนหลังของมัน
เมื่อครูหานลี่และเพื่อนแคพักผอนอยูบนหลังของอสูรตนนี้เทานั้น แตแคไมรูวา
อสูรตนนี้มีความสามารถใดไมเพียงจะสามารถเก็บซอนกลิ่นอายจากทุกคน แมกระทั่ง
จานอาคมประหลาดก็ยังสัมผัสไมไดเลยสักนิด
“ลงมือ” หานลี่ลอยอยูเหนือผิวน้ำปากก็ออกคำสั่งดวยเสียงทุมต่ำออกมา
ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตและพวกพลันใจหายวาบ ทันใดนั้นก็ทยอยกันควัก
อาวุธชนิดอื่นออกมา ครานั้นลำแสงหลากสีสันพลันมวนเขามาหาอสูรยักษที่อยูใตดิน
อสูรโบราณกลับไมมีทาทีคิดจะหนี หนวดที่อยูบนแผนหลังตวัดอยางรวดเร็ว
กลายเปนเงาลำแสงสีเขียวตานทานอยูบนเรือนรางของตนเอง
เมื่อทั้งสองฝายปะทะกันเสียงอึกทึกพลันดังขึ้น ความแหลมคมของหนวดนั้น
ไมดอยไปกวาสมบัติทั่วๆ ไปไมวาจะเปนสมบัติใดที่โจมตีไปหามันก็จะถูกกวาดกลับมา
อยางไมเกรงใจ ไมอาจเขาใกลมันไดเลยสักนิด
ชายหนุมแซอิ๋งเห็นเชนนั้นปากก็แคนเสียงดวยความเย็นชาออกมา สองมือราย
คาถาและชูขึ้นอีกครั้ง ในมือพลันมีลำแสงสีแดงเหลืองสองสีปรากฏขึ้นแลวพนออกมา
ในทันใด กลายเปนเพลิงอัสนีขนาดเทากำปนจำนวนนับไมถวน โจมตีลงมาดานลาง
ประดุ จ ห า ฝน ส ว นเซี ย นสวี ่ พ ลั นมี ลำแสงเย็ น เยี ย บสี เ งิ น เปล ง แสงเจิ ด จ า ขึ ้นบน
เรือนรางหลังจากกะพริบวาบสองสามครั้งลำแสงอัสนีธาตุน้ำแข็งจำนวนนับไมถวนก็
พุงลงไปเชนกัน
เพลิงอัสนีสองชนิดเกี่ยวกระหวัดรัดกัน ดูนาสะพรึงกลัวมาก เสียงฟาผาเสียดแทง
แกวหูดังขึ้น ลำแสงอัสนีเจิดจากลืนกินอสูรยักษไปกวาครึ่ง
คนที่เหลือเห็นเชนนั้นตางก็อดที่จะเผยรอยยิ้มออกมามิได
ครานี้ หานลี่ไมไดลงมือ แคมองการตอสูของผูใตบังคับบัญชาดวยสีหนาเรียบเฉย
“หึ!” เสียงแคนเสียงอยางเย็นชาขึ้นจมูกดังออกมาจากเพลิงอัสนี
จากนั้นวายุประหลาดพลันพุงลงไปดานลาง
วายุลูกนี้รุนแรงมาก จากลูกขนาดยอมแตเมื่อพัดวนไปสองสามครั้งก็กลายเปน
วายุขนาดมหึมาพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา เพียงมวนตัวก็กลืนเพลิงอัสนีที่อยูดานลางไป
จนหมด
เมื่อทุกคนไดยินเสียงคร่ำครวญจากในวายุ วายุที่บาคลั่งและเพลิงอัสนีก็หายไป
พรอมกันราวกับใชชีวิตแลกตอกัน
ชายหนุมแซอิ๋งและสตรีผูบำเพ็ญเพียรแซสวี่อดที่จะหนาเปลี่ยนสีมิได ชายรางใหญ
และพวกตางก็ตกตะลึงในใจเชนกัน
อสู ร ยั ก ษ ท ี ่ อยู  ด  า นล า งพลั น ปรากฏตั ว ขึ ้ น อี ก ครั ้ ง แต แ ค ค รั ้ ง นี ้ บ นร า งของ
อสูรโบราณมีคนประหลาดคนหนึ่งปรากฏขึ้นมา
คนประหลาดมีผิวสีเขียวออน นอกจากกายทอนลางที่สวมชุดหนังอสูรนิรนามก็
ไมมีอาภรณใดๆ ปกปดกาย บนศีรษะก็ไมมีเสนผมเลยสักเสน มีปากและจมูกแต
ดวงตาทั้งสองไมปรากฏความรูสึกใดทำใหผูคนมองไปแลวอดที่จะรูสึกสั่นสะทานไมได
สิ่งที่ประหลาดยิ่งกวาก็คือแขนทั้งสองขางของคนประหลาดกอดอกอยูแตตั้งแต
ชวงขาลงไปจมอยูในรางของอสูรยักษราวกับวาเปนรางเดียวกัน
ตอนที่ 1331 มนุษยอสูรเถื่อน
“มนุ ษ ย อ สู ร เถื ่ อ น! รี บ สั ง หารมั น ซะ อย า ให ม ั น สำแดงความสามารถของ
มนุษยอสูรรวมราง” เมื่อเห็นทาทางของคนประหลาด นักพรตแซหมาก็รองอุทาน
ออกมาดวยเสียงแหบแหงราวกับเห็นงูอยางไรอยางนั้น
เมื่อไดยินคำวา ‘มนุษยอสูรเถื่อน’ ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตและพวกตางก็
เผยสีหนาตื่นตะลึงออกมา
ชั่วขณะนั้นเขาก็สำแดงสมบัติโบราณที่หายากตางๆ เชน ‘ไม’ ‘ตราประทับ’ ‘ธง’
และอื่นๆ ออกไปอยางไมตองคิด กลายเปนลำแสงหลากสีสันพุงออกมาพรอมกัน
ลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบ ชั่วครูก็หอหุมคนประหลาดและอสูรยักษที่อยู
ดานลางเอาไว
ดูแลวผูใตบังคับบัญชาเหลานี้ของหานลี่ จะรูสึกหวาดกลัวมนุษยอสูรเถื่อนของ
เผาประหลาดนี้จริงๆ
แตสิ่งที่ทำใหชายรางใหญและพวกกลัดกลุมก็คือ หานลี่ไมมีทาทีที่จะลงมือ
หลังจากเปดโปงภาพลวงตาของมนุษยอสูรเถื่อนแลว เขาก็แคยืนเอามือไพลหลัง
ลอยตัวอยูดานขาง ทาทางเหมือนมอบทุกอยางใหพวกเขาจัดการ
ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตและพวกมันรูสึกกลัดกลุม แตการโจมตีกลับของ
คนประหลาดที่อยูดานลาง ก็ทำใหพวกเขาไมมีโอกาสจะซักถามอะไรหานลี่
เห็นเพียงมนุษยประหลาดเปลงเสียงหัวเราะออกมา หัวไหลสั่นไหว พายุสีเหลือง
กลุมนั้นปรากฏขึ้นอีกครั้ง เมื่อมวนเขามา อสูรประหลาดที่อยูดานลางก็เปล งแสง
สีเขียวมรกตออกมาเชนกัน คาดไมถึงวาจะมีสิ่งที่เหมือนหนวดหนวดหลายสิบสาย
งอกออกมาจากราง
หนวดเหลานี้ตวัดเบาๆ ก็กลายเปนเงาลำแสงสีเขียว โจมตีไปหาพายุกลางอากาศ
ไมวาจะเปนการโจมตีจากธาตุใดๆ เชนลำแสงอัสนี เปลวเพลิงรอนแรงหรื อ
ไอกระบี่ลำแสงที่ตัดสลับผาน กัน เมื่อสัมผัสกับพายุก็เหมือนกับโคลนที่จมหายไปใน
มหาสมุทร เมื่อโจมตีเขากับเงาลำแสงสีเขียวก็ถูกดีดกลับมา
ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตและพวกยุงจนมือไมพันกันและไมไดสนใจสิ่งอื่น
ในตอนที่หานลี่ยืนดูอยูขางๆ นั้น ผูใดจะคิดวาปลานอยสีเงินในบึงน้ำจะรวมตัว
กันกลายเปนลำแสงสีเงินสองกลุม แลวกลายเปนดวงตาสีเงินสองดวง
แทบจะในชั่วพริบตาเดียวนั้นผิวน้ำที่ดูเงียบสงบก็เผยรูขนาดความยาวาสองสามจั้งที่
โปรงใสออกมา ดานในเต็มไปดวยเขี้ยวแวววาวประดุจใบมีดน้ำแข็ง
คาดไมถึงวาบึงน้ำนี้จะเปนสัตวประหลาดนิรนามรางกายโปรงใสตัวหนึ่ง
ครานี้อสูรยักษรางกายโปรงใสพลันเคลื่อนไหว กระโจนขึ้นไปหาหานลี่ที่อยู
กลางอากาศ มันไมเพียงมีร า งกายโปรง ใส การเคลื่อนไหวยั ง เงีย บเชีย บ ราวกั บ
ไรรูปรางอยางไรอยางไร
หานลี่กลับยังคงมองสถานการณการตอสูอยางเงียบๆ อยูอีกดาน ไมไหวติงเลยสักนิด
ราวกับไมพบความผิดปกติที่ดานลาง
ชั่วพริบตาอสูรยักษโปรงใสก็อยูหางจากหานลี่ไปแคสองสามจั้ง ดวงตาสีเงิน
ฉายแววโหดเหี้ยมเปลงประกาย อาปากออกหมายจะงับหานลี่
แผนหลังของหานลี่มีลำแสงสีเทาสวางจา ลำแสงเทวะดูดปราณกวาดออกไป
กลายเปนเสนไหมบางๆ จำนวนนับไมถวนพุงออกไปดานลาง
อสูรยักษพลันตกตะลึง คิดจะหลบหลีกแตก็สายไปเสียแลว!
เสียงเหมือนฝนตกกระทบรั้วดังขึ้น ลำแสงสีเทาแฉลบผานอสูรยักษไป ทันใดนั้นก็
ลอมรอบเอาไวรัดตึงรางกายอสูรตนนี้ไปกวาครึ่ง
รางกายของหานลี่รางเลือน หานลี่พลันหันหนามาเผชิญกับอสูรยักษที่อยูตรงขาม
ราวกับภูตผี อาปากออกโดยไมพูด อะไร พนภูเขาสีดำขนาดย อมลูก หนึ ่ง ออกมา
จากปาก
ภูเขาลูกนี้หมุนควางอยูกลางอากาศแลวขยายใหญขึ้นสองสามเทา กลายเปนยอดเขา
ความสูงรอยจั้งเศษ อสูรยักษรางกายโปรงใสพลันปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ
อสูรยักษเห็นสถานการณเชนนั้น ไหนเลยจะไมรูวาแยแลว ทันใดนั้นรางกายพลัน
สั่นเทาอยางรุนแรง ทาทางอยากจะหลุดพนจากพัน ธนาการ นาเสียดายที่เดิ ม ที
อสูรตนนี้ก็เปนอสูรประหลาดธาตุน้ำ อยูในหนึ่งของหาธาตุ ไหนเลยจะหลุดพนจาก
พันธนาการของลำแสงเทวะดูดปราณไดงายๆ เห็นเพียงเสนไหมลำแสงสีเทาเปลงแสง
กะพริบวาบ รัดอสูรตนนั้นแนนขึ้นอีกหลายสวน
ปากของหานลี่พลันบริกรรมคาถา
หลังจากเสียงหึ่งๆ ดังขึ้น ยอดเขายักษก็ตกลงมา แนนอนวาเมื่อสัมผัสกันก็กดทับ
อสูรยักษจนจมดิน
เสียง ‘ตูม’ ดังสนั่นขึ้น
ยอดเขาทับรางของอสูรยักษเอาไวกวาครึ่ง กดแนนลงกับพื้นดิน ทำใหมันไมอาจ
ขยับตัวไดเลยสักนิด
หานลี่ถึงไดพิจารณาอสูรตอนนั้นดวยสีหนาไรความรูสึกสองแวบ
คาดไมถึงวามนุษยประหลาดสีเขียวที่ประมือกับชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกต
และพวกอยูเห็นอสูรยักษโปรงใสถูกกักเอาไว ก็เปลงเสียงรองตะโกนออกมาดวย
ความรอนรน
มนุษยประหลาดไมควบคุมวายุ เหนื อศีรษะให โรมรั น กั บชายรา งใหญด วงตา
สีเขียวมรกตและพวกอีก แตมือหนึ่งพลันตบไปที่อสูรยักษดานลาง รางกายจมลึกเขา
ไปอยางรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็หายไปในรางของอสูรยักษอยางไรรองรอย
“แยแลวเขาตองการรวมราง รีบยับยั้งเร็วเขา” ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกต
เห็นหานลี่จัดการอสูรประหลาดอีกตัวหนึ่งดวยสีหนาไรความรูสึก ในใจพลันนึกดีใจ
แตทันใดนั้นเมื่อเห็นวาคนตลาดสีเขียวก็มีสีหนาตึงเครียดขึ้นมาในทันที
ชายหนุมแซอิ๋งและพวกไดยินเชนนั้นตางก็ตะลึงงัน รีบรอนบรรจุลมปราณเขาไป
ในสมบัติอาคมของตนเอง ทำใหพวกมันมีอานุภาพเพิ่มมากขึ้นในชั่วพริบตา
แคชั่วครูวายุสีเหลืองที่ไรการควบคุมก็ถูกโจมตีจนแตกสลายออก แตแคชวงเวลา
ที ่ ล  า ช า ไปนั ้น ร า งของอสู ร ยั ก ษ ที ่ อยู ด  านล า งก็เ ปล ง แสงสี เ ขี ยวมรกตสว างวาบ
รางกายเวานูนเปลี่ยนรูปราง
เริ่มแรกคือสองเทา สองมือ สุดทายรางกายก็คอยๆ ยืดสูงขึ้น จากนั้นหัวโลนๆ
ก็ ป รากฏขึ ้ น ภายใต ก ารควบคุ ม อสู ร ยั ก ษ ข องคนประหลาด พลั น กลายเป น
มนุษยยักษรางกายสีดำมะเมื่อม สูงยี่สิบสามสิบจั้ง รอบกายมีเกล็ดสีมวงดำ ดวงตา
สีเขียวมรกตเหี้ยมโหดราวกับโคมไฟ
เมื่อมันปรากฏกาย กำปนใหญยักษทั้งสองก็โจมตีออกไปหาลำแสงที่อยูกลางอากาศ
กำปนนั้นเปลงแสงสีมวงและดำสลับไปมาไมหยุด
เสียง “ปงๆ” ดังขึ้นสองครั้ง สมบัติอาคมสิบกวาชิ้นที่กลายเปนมานลำแสงอยู
กลางอากาศ พลันถูกกำปนโจมตีจนพังทลายออกเปนเสี่ยงๆ สมบัติอาคมกวาครึ่ง
เปลงเสียงคร่ำครวญออกมา พุงขึ้นไปกลางอากาศพรอมกันพลันหลบหลีกอก
มีเพียงเซียนสวี่ผูนั้นที่เลิกคิ้วดำขลับขึ้น หลังจากแคนเสียงอยางเย็นชา ก็ชี้ไปที่
กระบี่บินสีขาวราวกับหิมะของตนเอง
ชั่วขณะนั้นกระบี่บินพลันเปล งเสี ยงรองยาวๆ กลายเปนกระบี่น้ำแข็ง ความ
ยาวสองสามจั้ง พลิ้วไหวอยูที่เดิมแลวสลายหายไป
ครู  ต  อมา เหนื อหั ว ของมนุ ษ ย ย ั ก ษ ส ู ง ขึ ้ น ไปเจ็ ด แปดจั ้ ง กระบี ่ น้ ำ แข็ ง เปล ง
แสงสวางวาบแลวพุงออกไปกลางอากาศ พลางสับลงมาอยางแรง
สตรีผูนี้คิดจะสังหารศัตรูที่รวมรางกับมนุษยอสูร
แตสตรีผูบำเพ็ญเพียรผูนี้คิดไมถึงวา ถึงแมมนุษยยักษจะรางกายใหญโตอยาง
หาที่เปรียบ แตการเคลื่อนไหวกลับไมเชื่องชาเลยสักนิด เมื่อเห็นกระบี่น้ำแข็งสับลงไป
มันก็อาปากออก เปลงเสียงรองดุจของหงสสีเหลืองออกมา ชั่วครูก็เปากระบี่เลมนั้น
จนกระจายออก ไมอาจตกลงมาไดเลยสักนิด จากนั้นมือยักษสีดำมวงพลันตะปบลงมา
ดวยความรวดเร็วดุจสายฟา ควากระบี่น้ำแข็งเอาไวแนน
หนาของมนุษยยักษเผยสีหนาโหดเหี้ยมออกมา อีกมือหนึ่งกุมตัวกระบี่เ อาไว
มองจากสีหนาของมันแลวคือคิดจะทำลายกระบี่บินเลมนี้
เมื่อเห็นฉากนั้น ใบหนาของเซียนสวี่พลันซีดเผือด
กระบี ่ เ ล ม นี ้ ค ื อ สมบั ต ิ อ าคมประจำกายของนาง หากได ร ั บ ความเสี ย หาย
ภายใตการเชื่อมโยงจิตใจกัน นางก็คงไมไดดีไปกวากันเทาใดนัก
สตรีผูนั้นพยายามรายอาคมกระบี่อยางสุดชีวิต คิดจะดึงกระบี่บินกลับมา
แตแมวากระบี่น้ำแข็งจะเปลงไอเย็นเยียบสีขาวบริสุทธิ์ออกมา และยิ่งไปกวานั้น
เรือยกายยังสั่นเทาไมหยุด แตมนุษยยักษที่อยูในมือยักษ ก็ไมอาจดิ้นรนออกจาก
พันธนาการได
มองเห็นมนุษยยักษสูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง สองแขนออกแรง อากาศใน
บริเวณรอบกลับเกิดคลื่นวายุขึ้น เบื้องหนามนุษยยักษในระยะใกลแคคืบ ลำแสงสีดำ
ขนาดหนาเท า ปากชามสายหนึ่ ง เปลง แสงสว า งวาบพลางพ น ออกมา โจมตี ไ ปยัง
หนาอกของมนุษยยักษ
จะว า ไปแล ว ก็ แ ปลก เที ย บกั บ ร า งของมนุ ษ ย ย ั ก ษ แ ล ว ลำแสงสี ด ำเส นบาง
กลับโจมตีจนมันโซซัดโซเซ ถอยรนออกไปหลายกาว
ชั่วพริบตาที่พนเสาลำแสงสีดำออกมา วิหคเพลิงสีเงินตัวหนึ่งพุงออกมาจาก
จุดเดียวกัน ขนาดเทากำปน สองปกสยายออก กระโจนเขาหามนุษยยักษ อยาง
ไมเกรงใจเลยสักนิด จะวาไปแลวก็แปลก มนุษยยักษที่ดูนาเกรงขาม เห็น
วิหคเพลิงสีเงิน ดวงตาสีเขียวมรกตพลันหดเล็กลง ใบหนาเผยสีหนาครั่นครามออกมา
เมื่อยืนไดอยางมั่นคง ก็หันหัวเดินไปอีกทางอยางไมลังเล
แตมนุษยยักษเพิ่งจะออกเดินไดสองกาว พื้นดินรอบๆ ก็เปลงเสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้น
เส น ไหมสี แ ดงสิ บ กว า สายพุ  ง ออกมา หลั ง จากล อ มรอบเท า ยั ก ษ ส องข า งของ
มนุษยยักษ ลำแสงสีแดงก็กลายเปนเชื่อสีเพลิงหนาๆ รัดเทาทั้งสองของมนุษยยักษ
เขาดวยกัน
ทำใหมันไมอาจเดินไปดานหนาได!
ภายใตความตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวของมนุษยยักษ มือทั้งสองพลันตะปบไป
หาเชือกเพลิง หมายจะฉีกทึ้งออก แตในครานั้น วิหคเพลิงสีเงินที่อยูดานหลังกลับไม
ปลอยโอกาสให ลำแสงเปลงประกาย กลายเปนเปลวเพลิงสีเงินกลุมหนึ่งกระโจนมาที่
แผนหลังของมนุษยยักษ เสียงอึกทึกดังขึ้น เปลวเพลิงสีเงินถูกทำใหกลายเปนเหมือน
กระทะน้ำมันแผขยายออกไป เพลิงลำแสงที่กระโจนเขามา ทำใหมนุษยยักษไมได
สนใจเชื อกเพลิ ง อี ก ร องคร่ ำ ครวญออกมาอย า งต อเนื ่ อง ทั น ใดนั ้ นก็ ป รากฏขึ้ น
รอบกาย วายุสีเหลืองกลุมหนึ่งมวนไปหาเปลวเพลิงสีเงิน คิดจะกำจัดเพลิงนั้นใหหมด
แตฉากที่ทำใหคนตกตะลึงพลันปรากฏขึ้น เมื่อวายุสีเหลืองและเปลวเพลิงสีเงิน
สัมผัสกัน ไมเพียงจะไมไดมวนเอาเพลิงทมิฬเขาไป กลับถูกแผดเผา แคชั่วอึดใจ
มนุษยยักษที่สูงราวกับยอดเขา ก็จมหายเขาไปในเพลิงลำแสง
เสียงรองคร่ำครวญดังขึ้นในเพลิงลำแสงไมหยุด รางอันใหญโตของมนุษยยักษ
สั่นเทาไปสองสามครั้ง ในที่สุดก็ลมตึงลงกับพื้น
ชั่วพริบตาซากก็ถูกเปลวเพลิงสีเงินกลืนกินไปจนเกลี้ยง และไมเหลือรองรอยอยู
บนโลกนี้อีก
เสาลำแสงสีดำปรากฏขึ้นดวย ตั้งแตที่มนุษยยักษถูกเปลวเพลิงสีเงินแผดเผาจนหายไป
เกิดขึ้นในชวงเวลาสั้นๆ เทานั้น แตกลับทำใหชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตและ
พวกที่อยูกลางอากาศตกตะลึงจนตาคาง
ถึงแมวาเพลิงกลืนวิญญาณของหานลี่จะเคยใชสังหารฝูงแมลงหยกมาแลวครั้งหนึ่ง
แตครานั้นยังไมไดเผยความนากลัวขนาดนี้ออกมา ครานี้กลับทำใหมนุษยอสูรเถื่อน
ที่ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตและพวกไมอาจรับมือได ถูกสังหารดวยเพลิงนี้ไป
อย า งง า ยดาย จะไม ท ำให ผ ู  ใ ต บั ง คั บ บั ญ ชาของหานลี ่ ม ี ส ี ห น า ที ่ เ ต็ ม ไปด ว ย
ความเหลือเชื่อราวกับฝนไปไดอยางไร
ครานี้รางของหานลี่พลันพลิ้วไหว ปรากฏตัวเหนือเปลวเพลิงสีเงิน ชูมือขึ้นกวักไป
ดานลางอยางสบายๆ
ชั่วพริบตาที่เปลวเพลิงสีเงินผนึกรวมตัวกันเปนกลุมนั้น ก็กลายเปนวิหคเพลิงตัวหนึ่ง
บินกลับมา ทันใดนั้นเชือกเพลิงสิบกวาสายก็กลายเปนเสนไหมสีแดง ถูกหานลี่สะบัด
แขนเสื้อเก็บกลับเขามา
“พวกเจาเก็บอสูรเถื่อนตัวนั้นไว รอไปถึงในเมืองคอยมอบใหศาลาวิ ญ ญาณ
ประหลาด” หานลี่กวาดสายตาไปยั งอสูรยั กษอี กตั วที่ อยู ใตภ ูเ ขาเทวะดูด ปราณ
แลวออกคำสั่งอยางราบเรียบ
“ขอรับ ชนรุนหลังจะไปเดี๋ยวนี้!” ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตใจหายวาบ
ปากพลันตอบรับอยางรีบรอน พลิกฝามือมือหนึ่ง ในมือมีน้ำเตาสีขาวโพลนปรากฏขึ้น
พลิ้วไหวเล็กนอยและพุงออกไป
ผิวของน้ำเตามีตัวอักษรลูกออดสีเงินสลักอยูจำนวนมาก และเปนยุทธภัณฑท่ใี ช
กักเผาประหลาดโดยเฉพาะ
ไมวาจะเปนเผาประหลาดชนิดใด มีความสามารถชนิดใด ขอแคไมใชร ะดั บ
วิ ญ ญาณเที ่ ย งแท ล ว นต อ งถู ก ดู ด เข า ไปข า งใน แน น อนว า นั ้ น ต อ งอยู  ภ ายใต
สถานการณที่เผาประหลาดไรซึ่งแรงตานทาน ไมขยับเขยื้อน ไมอาจตานทานได
ตอนที่ 1332 เมืองเทวะสวรรค
ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตเห็นภูเขาดูดปราณตกลงมาใกลๆ น้ำเตาในมือ
พลิ้วไหวเบาๆ ลงไปหาอสูรยักษโปรงแสง
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเงินพลันพุงออกมาจากน้ำเตา วนลอมรอบฐานของภูเขายักษ
รอบหนึ่ง แลวกลายเปนตัวอักษรสีเงินขนาดใหญสองสามตัว เปลงแสงสวางวาบแลว
จมหายเขาไปในรางของอสูรยักษ
อสูรยักษโปรงแสงเปลงแสงสีเงินออกมาจากเรือนราง ทันใดนั้นรางกายพลันหดเล็กลง
ชั่วครูก็มีขนาดเทากำปน
สิ่งที่นาตกตะลึงก็คือ ภูเขาเทวะดูดปราณหดเล็กลงตามอสูรยักษ มันยอขนาด
เหลือเล็กลงเชนกัน ไมปลอยโอกาสใหอสูรนอยหนีไปไดงายๆ
น้ำเตาพลันพนลำแสงสีเงินออกมา หอหุมอสูรยักษที่หดเล็กลงเอาไวขางใน
ในเวลาเดียวกันนั้น หานลี่พลันชี้นิ้วไปยังจุดที่ไกลออกไป ภูเขาขนาดยอมสีดำ
พลันพุงขึ้นไป อสูรยักษกลายเปนลำแสงสีขาวกลุมหนึ่งถูกดูดเขาไปในน้ำเตาทันที
ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตปดฝาน้ำเตาอยางรีบรอน ในเวลาเดียวกันก็นำ
ยันตวิเศษสีทองออกมาแปะไว
เขาถึงไดผอนคลายลง
คนอื่นๆ ก็เก็บสมบัติอาคมกลับมาและรอนลงไปบนพื้นเชนกัน แตเมื่อเผชิญหนา
กับหานลี่ ใบหนาตางก็เผยสีหนานอบนอมเปนอยางมากออกมา
ผูที่มีประสบการณมากมายเห็นหานลี่ลงมือเมื่อครู ไมวาผูใดก็รูวาความสามารถ
ของทานหัวหนาคนใหมลึกล้ำยากจะคาดเดา ไมใชผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
ธรรมดาๆ อยางแนนอน
นี่จึงทำใหพวกเขาดีอกดีใจในเวลาเดียวกัน อดที่จะรูสึกหวาดกลัวหานลี่ขึ้นมาจริงๆ
อยางไมรูตัว
“พักอีกเดี๋ยว คอยเดินทางตอ”
หานลี่สะบัดแขนเสื้อเก็บภูเขาดูดปราณเขามา แลวเอยกับทุกคนหนึ่งประโยค
ทันใดนั้นก็เดินไปดานขางตามลำพัง นั่งขัดสมาธิแลวหลับตาลง
คนอื่นๆ ก็ไมมีทาทีโตแยง ทยอยกันแยกตัวออกไปพักผอนอีกครั้ง และเริ่มฟนฟู
พลังลมปราณที่สูญเสียไป
แตเซียนสวี่ผูนั้นกลับยืนนิ่งอยูที่เดิมไมไหวติง
นางลั ง เลเล็ ก น อย ฉั บพลั นนั ้ น พลั น เดิ น ไปหาหานลี ่ คารวะอย า งนอบน อ ม
ปากก็เอยออกมาอยางแผวเบาวา
“ขอบพระคุณทานอาวุโสที่ลงมือชวยเหลือเมื่อครู มิเชนนั้นกระบี่ผลึกน้ำแข็งของ
ชนรุนหลังคงถูกทำลายไปแลวจริงๆ”
“กระบี่ผลึกน้ำแข็ง! กระบี่บินของเจาสรางมาจากหยกทมิฬหมื่นปสินะ!” หานลี่
ลืมตาทั้งสองขางขึ้น พิจารณาสตรีผูนั้นแวบหนึ่ง แลวเอยถามอยางราบเรียบ
“ทานอาวุโสดวงตาหลักแหลมนัก กระบี่บินของชนรุนหลังใชหยกทมิฬหลอมไป
กวาครึ่ง!” เซียนสวี่ใจหายวาบเอยยอมรับ
“ในเมื่อใชกระบี่เย็นเยียบ เคล็ดวิชาของเจาคงจะเปนธาตุน้ำ เชนนั้นขาขอพูดถึงคน
คนหนึ่ง ไมทราบวาเจารูจักหรือไม?” หานลี่แววตาเปลงประกายสองสามครั้ง แลวเอย
อยางแชมชา
“ทานอาวุโสโปรดชี้แนะเถิด!” เซียนสวี่พลันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็เอยตอบรับ
“มี ผ ู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รโบราณคนหนึ ่ ง นามว า เซี ย นวิ ญ ญาณน้ ำ แข็ ง ฝ ก ฝนเคล็ ด วิ ช า
เย็นเยียบ และยิ่งไปกวานั้นยังเปนผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา ไมทราบวาสหายรูจัก
คนผูนี้หรือไม” หานลี่จองเขม็งไปยังดวงตาเปลงประกายของอีกฝาย มุมปากขยับ
เล็กนอยถายทอดเสียงมา
วันนั้นครั้นเมื่อเขาพบสตรีผูนี้ ก็รูสึกวาคุนตา ตอมาเมื่อพิจารณาอยางละเอียด
ถึงไดพบวา แววตาของสตรีผู  นี ้ เหมื อนกั บผูท ี่ เ หลาผู บำเพ็ ญเพีย รของวั งดาราใน
แดนมนุษยเรียกขานวาเปนผูกอตั้งวิหารนภาสูญปรมาจารยเซียนวิญญาณน้ำแข็ง
อยางไมมีผิดเพี้ยน
ถึ ง แม ว  า จะแค แ ววตา แต ด วงตาของเซี ย นวิ ญ ญาณน้ ำ แข็ ง นั ้ น สุ ก สกาวมาก
ราวกับดวงดาวที่เปลงประกาย ทำใหผูคนยากที่จะลืมเลือน เขาจึงจดจำไดขึ้นใจ
ตอนนี้เห็นสตรีผูนี้มีความสามารถธาตุน้ำแข็ง และยิ่งไปกวานั้นสมบัติอาคมยัง
สรางมาจากหยกทมิฬ จึงลองเอยถามดวยความหวังดู
“เซียนวิญญาณน้ำแข็ง! นั่นคือบรรพบุรุษของตระกูลสวี่ของพวกเรา ทานอาวุโส
รูไดอยางไร หรือวาทานอาวุโสมาจากแดนเดียวกับทานบรรพชน!” เซียนสวี่พลันรูสึก
ประหลาดใจ แลวถายทอดเสียงกลับมาดวยความตกตะลึง
“หึๆ ไมนับวารูจัก แตผูแซหานมีวันนี้ได ก็เพราะสิ่งที่บรรพบุรุษของเจาหลงเหลือ
ไว อืม...เหตุใดสหายสวี่ถึงไมใชหยกทมิฬหมื่นปหลอมกระบี่บินใหหมด มิเชนนั้น
อานุภาพของมันอยางนอยก็นาจะเพิ่มขึ้นอีกกวาครึ่ง”
หานลี่อธิบายดวยรอยยิ้มจางๆ ทาทางไมอยากพูดมากและเปลี่ยนหัวขอบท
สนทนาทันที
“ทานอาวุโสลอเลนแลว ถึงแมวาหยกทมิฬหมื่นปจะไมอาจเทียบกับวัตถุดิบ
ระดับสุดยอดของแดนปาเถื่อนได แตหากตองรวบรวมวัตถุดิบจำนวนมากขนาดนั้น
ก็ยุงยากมาก ครานี้กระบี่บินมีหยกทมิฬผสมอยูมากขนาดนี้ ก็เปนสิ่งที่ชนรุนหลัง
กวานซื้อมาอยา งไมเสียดายเงิ นแลว เจาคะ” เซียนสวี่รูสึกตกตะลึ งที่ หานลี่ร ู  จั ก
บรรพบุรุษของตนเอง แตปากกลับตอบคำถามอยางซื่อๆ
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ผูแซหานมีหยกทมิฬหมื่นปอยูนิดหนอยพอดี เพียงพอจะ
ใหหลอมกระบี่บินนี้ขึ้นใหม ในเมื่อเซียนสวี่และเซียนวิญญาณน้ำแข็งมีความสัมพันธ
ทางสายเลือดกัน มอบใหสหายถือเปนน้ำใจคืนใหก็แลวกัน!” หานลี่ขบคิดเล็กนอย
แลวเอยเชนนี้ออกมา จากนั้นมือหนึ่งก็ปดไปบนกำไลเก็บของ ลำแสงสีขาวสวางวาบ
กลองหยกขนาดสองสามฉื่อปรากฏขึ้นในมือ สงมาให
“ขอบพระคุณทานอาวุโส!” ใบหนาของสตรีผูบำเพ็ญเพียรเผยสีหนาตกตะลึง
ระคนดีใจออกมา ปากก็รีบรอนเอยขอบคุณ และรับกลองหยกมาเปดฝาออก
สตรีผูนี้พลันสูดลมหายใจเย็นเยียบเขาไปเฮือกหนึ่ง
ในกลองหยกมีผลึกศิลาสีขาวขนาดเทากำปนสี่กอนเปลงแสงสีขาวเย็นยะเยือกออกมา
หยกทมิฬเหลานี้ไมเพียงพอใหนางหลอมกระบี่บินใหมอีกครั้ง วัตถุดิบที่เหลือยัง
พอใหหลอมสมบัติอาคมหยกทมิฬอีกชิ้นได
สตรีผูนี้แววตาเปลงประกายรอนแรง หลังจากเก็บกลองหยกเขาไปแลว ก็คารวะ
หานลี่อยางนอบนอมอีกครั้ง!
หานลี่โบกมือ ทาทางไมใสใจ หลับตาทั้งสองขางลงอีกครั้ง
ไม ว  า จะเป นเตานภาสู ญ เปลวเพลิ ง เหมั น ต แ ละอื ่ น ๆ แทบจะเกี ่ ย วข อ งกั บ
เซียนวิญญาณน้ำแข็ง ในเมื่อตอนนั้นเขาไดรับประโยชนมาโดยบังเอิญ ตอนนี้ชวย
ชนรุนหลังของอีกฝาย ตัดบุญคุณไป เมื่อเคราะหมารแวงกัดอีกครั้ง จิตใจจะไดมั่นคง
ขึ้นอีกระดับหนึ่ง
เซียนสวี่ไดรับสมบัติล้ำคาไป แนนอนวาจึงผละออกไปโดยไมรบกวนหานลี่อีก
อยางรูหนาที่
ชายร า งใหญ ด วงตาสี เ ขี ย วมรกตและพวกที ่ อ ยู  ไ กลออกไป ก็ ม องเห็ น การ
เคลื่อนไหวของหานลี่และสตรีผูนี้
เห็นหานลี่มอบกลองหยกกลองหนึ่งให สตรีผูนี้ก็มีทาทางดีใจเปนอยางมาก
แตกตางจากทาทีเย็นชาของนางเปนอยางมาก จึงพากันรูสึกสนอกสนใจ แตแนนอน
วาก็ไมมีผูใดโงเขลาพอจะไปซักถามตรงๆ
หลังจากที่พักผอนไปไดสองสามชั่วยาม หานลี่ก็ออกคำสั่งวา ‘ออกเดินทาง’ ทุกคนจึง
เริ่มเดินทางอีกครั้ง
ระหวางทางตอจากนี้ไมพบเผาประหลาดใดๆ อีก หลังจากที่ทุกคนลาดตระเวน
เสร็จแลว สุดทายก็รอใหสำเภาทองมารับตามจุดที่กำหนดไว
ทุกคนแบงออกเปนสองกลุม นั่งอยูบนสำเภาวิญญาณ สงกลับไปยังเมืองเทวะสวรรค
เป นเพราะพบคนของเผ า ประหลาด และปราบมนุ ษ ย อสู ร เถื ่ อ นตั ว หนึ ่ ง ได
หลังจากที่หานลี่และพวกนำอสูรยักษโปรงใสไปมอบให ‘ศาลาวิญญาณประหลาด’
ก็ไดรับของกำนัลมาไมนอย
ตามกฎแลว หลังจากลาดตระเวนหนึ่งครั้งจะตองไดพักผอนครึ่งป และหลังจาก
ลาดตระเวนสิบปจบลง พื้นที่ในการลาดตระเวนถึงจะเปลี่ยนแปลงไป
ส ว นหานลี ่ น ั ้ น เป น เพราะเป น ผู  น ำในกลุ  ม ลาดตระเวนครั ้ ง แรก จึ ง ได รั บ
‘ยาลูกกลอนทลายสิ่งโสม’ มาเม็ดหนึ่ง และกินไปในทันที
จากนั้นกลุมคนเล็กๆ ก็แยกยายออกจากวิหาร ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกต
และพวกกลาวลาหานลี่ และแยกยายกันไป
สตรีผูบำเพ็ญเพียรแซสวี่กลาวลาหานลี่ ฉับพลันนั้นพลันเอยขาวคราวที่ทำใหหานลี่
สนใจออกมาวา
“ทานอาวุโส สองวันจากนี้ เมืองของเราจะเปดการประมูลขายของจากแดนปาเถื่อน
ที่สามปมีครั้งหนึ่งขึ้น ทานอาวุโสอยากเขารวมหรือไม!”
“ของจากแดนปาเถื่อน! อันใด สหายสวี่สนใจเหมือนกันหรือ!” หานลี่เลิกคิ้ว
ถามยอนกลับ
“ทานอาวุโสลอเลนแลว ผูที่เขารวมการประมูลได อยางนอยที่สุดก็ตองเปน
ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ เทพแปลงอย า งท า นอาวุ โ ส ข า เป น แค ผ ู  บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
ระดับกอกำเนิดเล็กๆ คนหนึ่ง จะมีคุณสมบัติพอใหเขารวมการประมูลไดอยา งไร
ยิ ่ ง ไปกว า นั ้ น ของจากแดนป า เถื ่ อนแทบจะทุ ก ชิ ้ น ล ว นเป น ของที ่ ม ี ร าคาสู ง ลิ บ
และไมใชสิ่งชนรุนหลังจะกลาใฝฝนได แตทานอาวุโสนาจะลองไปเสี่ยงโชคสักหนอย”
สตรีผูบำเพ็ญเพียรหัวเราะอยางขมขื่นพลางเอยเชนนี้ออกมา
“ขอบคุณสหายที่บอกกลาว บางทีผูแซหานอาจจะไปเปดประสบการณสักหนอย”
หานลี่เอยอยางราบเรียบ
สตรีแซสวี่เห็นเจตนาของตนเองถูกหานลี่รับเอาไว ทันใดนั้นก็ไมไดเอยอะไรอีก
กลาวลาและจากไปอยางนอบนอม
หานลี่มองเงาแผนหลังของสตรีผูนี้ ดวงตาอดที่จะหรี่ลงอยางไมใสใจไมได
ความจริงแลวตอใหสตรีผูนี้ไมเอยถึงเรื่องงานประมูล เขาก็ไมไดคิดจะออกจาก
เมืองในทันที
หลั ง จากมาถึ ง แดนวิ ญ ญาณ เขายั ง ไม ไ ด ร วบรวมสูต รปรุ ง ยาและสมุนไพรที่
เหมาะสมเลย เดิมทีคิดวาหลังจากลาดตระเวนครั้งนี้เสร็จ จะเริ่มลงมือ ในเมื่อตอนนี้
มีงานประมูลของแดนปาเถื่อน เชนนั้นก็จะไดไปหาความรูสึกหนอยพอดี
ถึงอยางไรเสียตำนานของตางๆ ของแดนปาเถื่อนที่นาเหลือเชื่อนั้นเขาไดยินมา
เนิ่นนานแลว
เมื่อขบคิดเชนนั้น หานลี่ก็ออกจากหอคอยยักษศิลาสีเขียวไปอยางไมรีบร อน
กลายเปนลำแสงหลีกหนีสายหนึ่ง พุงไปยังตำแหนงบนแผนที่ในทันใด
แนนอนวายานรานคาของเมืองเทวะสวรรคมีพื้นที่ยิ่งใหญ วัตถุดิบล้ำคาทั้งหมด
ของสามเขตเจ็ ด แดนที ่ น ี ่ น  า จะมี ท ั ้ ง หมด ประกอบกั บ ที ่ บ างครั ้ ง ก็ ม ี ข องจาก
แดนปาเถื่อนโผลออกมา ก็ยิ่งทำใหบรรยากาศครึกครื้นเปนอยางยิ่ง
ไมวาผูพิทักษของเมืองเทวะสวรรคหรือวาคนที่มาจากภายนอก ลวนเขาออก
อยางไมขาดสาย
สิ่งที่ทำใหผูคนตกตะลึงและถอนหายใจก็คือ มานลำแสงยักษที่แบงเผามนุษยและ
เผาปศาจออกจากกัน ทำใหยานรานคาอยูตรงกลางอยางพอดิบพอดี แบงยานรานคา
ออกเปนสองสวน
แตตรงใจกลางของยานรานคานั้นมีวิหารยักษตั้งอยูหลังหนึ่ง เปนเขตที่เชื่อมตอ
กับทั้งสองเผา จึงทำใหเผามนุษยและปศาจสามารถแลกเปลี่ยนวัตถุดิบหรือของจาก
แดนปาเถื่อนไดอยางอิสระ
ถึงอยางไรเสียของเหลานี้ก็มีประโยชนตอเผาปศาจหรือเผามนุษยไมมากนัก
แตอาจจะมีประโยชนมากกับอีกเผาหนึ่ง
สวนงานประมูลนั้นก็จัดกินพื้นที่วิหารสวนหนึ่งไป
หานลี ่ ก ลายเป น ลำแสงหลี ก หนี ร อ นลงบนถนนสายหนึ ่ ง บนย า นร า นค า
มองรานสมุนไพรที่อยูใกลๆ ทันใดนั้นก็เดินเขาไปอยางสบายๆ
“ทานอาวุโสผูนี้ ทานกำลังหาอะไรอยู! ถึงแมวารานของเราจะคอนขา งเล็ ก
แตสมุนไพรตางๆ ก็มีอยูอยางครบครัน” รานสมุนไพรไมนับวาใหญนัก มีแคเถาแก
วัยกลางพลังยุทธระดับหลอมรวมและเด็กรับใชระดับสรางปราณสองคนคอยดู แล
แขกอยู
ดังนั้นเมื่อเห็นหานลี่ผูซึ่งเปนผูพิทักษยมโลกนิลคนหนึ่งเดินเขามา เถาแกผูนั้นจึง
เขามาตอนรับดวยตนเองพรอมรอยยิ้มเบิกบานทันใด
“มีสูตรปรุงยาหรือสมุนไพรที่มีประโยชนในการพัฒนาระดับของผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลงหรือไม!” หานลี่เองก็เอยถามตรงๆ อยางไมเกรงใจ
“ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง? สูตรปรุงยามีอยูสองชนิด แตวัตถุดิบที่จำเปน
คอนขางล้ำคา รานของเราไมอาจรวบรวมมาใหครบได” เถาแกไดยินก็รูวาธุรกิจใหญ
มาแลว จึงรูสึกสดชื่นเปนอยางมาก
“อื ม เอาสู ต รปรุ ง ยาออกมาให ข  า ดู ก  อ น” หานลี ่ ข มวดคิ ้ ว ทั น ใดนั ้ น ก็ เ อ ย
อยางราบเรียบ
“ขอรับ ทานอาวุโสโปรดรอสักครู ชนรุนหลังจะไปนำมา” เถาแกเอยอยางนอบนอม
จากนั้นก็ออกคำสั่งกับเด็กรับใช มารินชาและปรนนิบัติหานลี่ สวนตัวเองก็เขาไปที่
ดานหลังราน
ตอนที่ 1333 เมือกคางคกและสูตรปรุงยาหยกพิสุทธิ์
เขานั่งอยูบนเกาอี้ไมโบราณตัวหนึ่ง ลิ้มรสชาวิญญาณที่เด็กรับใชคนหนึ่งเอามาเสิรฟ
หลังจากผานไปชวยครู เถาแกวัยกลางคนก็เดินกำไลเก็บของดวยมือทั้งสองมือออกมา
จากดานใน
เมื ่ อ มาอยู  เ บื ้ อ งหน า ของหานลี ่ เขาพลั น ใช ม ื อ หนึ ่ ง ป ด ไปที ่ ก ำไลเก็ บ ของ
หยิ บ คั ม ภี ร ส ีข าวและฟา ออกมา จากนั ้ น ก็ น ำกลองผา ไหมและขวดรูป ทรงตางๆ
วางกองอยูขางโตะ
จากนั้นก็ยืนประสานมือรออยางนอบนอม
หานลี่กวาดสายตาไป มือหนึ่งตะปบออกไป ดูดคัมภีรทั้งสองมวนเขามาในมือ
แลวแผจิตสัมผัสเขาไปขางในอยางงายดาย
“เมือกคางคก สูตรปรุงยาหยกพิสุทธิ์!” หานลี่พึมพำกับตนเอง ขมวดคิ้วเล็กนอย
แลวดึงจิตสัมผัสกลับมา
สูตรปรุงยาหยกพิสุทธิ์ยังพอวา วัตถุดิบทั้งหมดที่ใชลวนเปนสมุนไพรล้ำคาที่เคย
ได ย ิ นและไม เ คยได ย ิ น มาก อ น แต ก ว า ครึ ่ ง ล ว นต อ งมี อ ายุ ส ามพั น ป เหนื อ กว า
สมุนไพรธรรมดาๆ ของแดนมนุษยเปนอยางมาก สวนเมือกคางคกนั้นก็ยิ่งทำใหผูคน
ตกตะลึงยิ่งกวาเดิม วัตถุดิบสำคัญที่สุดนั้น คาดไมถึงวาจะเปนโลหิตของอสูรโบราณ
คางคกตามรกตที่มีถิ่นกำเนิดในแดนปาเถื่อน สวนวัตถุดิบเสริมของเมือกวิญญาณนั้น
ก็ธรรมดาเปนอยางมาก ทวาหากกลาววาสมุนไพรสองชนิดนี้มีประโยชนตอ ผู
บำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง แตสูตรปรุงยาหยกพิสุทธิ์นั้นมีประโยชนตอ ผู
บำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นตน แตประสิทธิภาพจะลดลงเมื่อใชกับ ผู
บำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นกลาง สวนเมือกคางคกนั้นมีคุณสมบัติที่ แข็งแกรง
มาก เหมาะใหผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นปลายกิน หากระดับ ขั้นกลางกิน
เขาไป จะอันตรายเปนอยางมากเพราะฤทธิ์ยาที่แรงเกินไป
หานลี่หลับตาลง พิจารณาประสิทธิภาพ วิธีปรุงยา สวนผสมอยางละเอียดในหัว
รอบหนึ่ง แลวถึงไดเบิกตาทั้งสองขางขึ้น เริ่มตรวจสอบสมุนไพรในกลองผาไหมและ
ขวดตางๆ เหลานั้น
เหมือนดังที่เถาแกวัยกลางคนกลาวดังคาด วัตถุดิบที่ยาลูกกลอนสองชนิดนี้
ตองการยังขาดอยูอีกกวาครึ่ง โดยเฉพาะโลหิตของคางคกตามรกต คิดไมถึงวาจะไมมี
เลยสักนิด
“วัตถุดิบทั้งหมดที่ขาดอยู รานคาอื่นๆ ก็ไมอาจรวบรวมมาไดใชหรือไม ในเมื่อ
โลหิตของคางคกตามมรกตคืออสูรโบราณของแดนปาเถื่อนก็นาจะหามาไมไดงายๆ
สินะ” หานลี่ลูบใตคาง แลวเอยถามเถาแกวัยกลางคน
“รายงานทานอาวุโส วัตถุดิบทั้งหมดของยาลูกกลอนหยกพิสุทธิ์ ไมไดตองการ
สมุ นไพรที ่ ม ี อายุ ต ามกำหนดไปซะที เ ดี ย ว ต อให อายุ น  อยหน อยก็ ป รุ ง ได แ ต แ ค
ประสิทธิภาพจะนอยลงเทานั้น ดังนั้นขอแคทานอาวุโสมีศิลาวิญญาณพอ ก็
มีความหวังวาจะรวบรวมครบอยูมากแลว แตวาโลหิตคางคกตามรกตที่ตองการมา
ปรุงเมือกคางคกนั้น กลับหายากเปนอยางมาก ถึงแมวาบางครั้งจะมีคนนำออกมาขาย
แตก็จะถูกผูคนแยงซื้อไปในทันใด เปนหนึ่งในวัตถุดิบที่รานคาตางๆ พากันแยงชิง
หากท า นอาวุ โสอยากได ส ิ ่ ง นี ้ มั น คงไม ง  า ย ทว า อี ก เดี ๋ ย วจะมี ง านประมู ล จั ด ขึ้ น
โดยปกติแลวจะมีการนำเอาโลหิตชนิดนี้ออกมาขาย ทานอาวุโสลองไปเสี่ยงดวงดูเถิด
ขอรับ” เถาแกตอบกลับอยางซื่อๆ
“เชนนี้นี่เอง ของเหลานี้ขาตองการทั้งหมด” หานลี่ขบคิดเล็กนอย แลวพยักหนา
ขณะเอย
“ขอบพระคุณทานอาวุโสที่อุปถัมภ ชนรุนหลังจะคำนวณราคาใหทานอาวุ โส!
สูตรปรุงยาสองแผน หนึ่งแสนศิลาวิญญาณ เห็ดหลินจือทองพันปสามดอก ราคา....”
เถาแกพลันรูสึกดีอกดีใจ เอยอยางรีบรอน แลวเริ่มบอกราคาของสิ่งของที่อยูบนโตะ
หานลี่หรี่ตาลงขณะฟง ใบหนาไมเผยสีหนาประหลาดใจออกมา
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งกาน้ำชา หานลี่ก็เดินออกมาจากรานสมุนไพรอยาง
เงียบๆ แตเดินไปไดไมไกลนัก ก็เขาไปยังรานสมุนไพรอีกรานหนึ่ง
เชนนี้ เขาเขาๆ ออกๆ รานสมุนไพรใกลๆ ไมหยุด แทบจะเขาไปสำรวจรานคา
สมุนไพรทั้งหมดที่มีอยูบนถนน
ผลคือหานลี่รวบรวมสูตรปรุงยาที่มีประสิทธิภาพเชนกันจากรานอื่นๆ มาได
เจ็ดแปดชนิด แตวัตถุดิบที่ตองการกวาครึ่ง ลวนหาไดยากยิ่งกวาโลหิตคางคกตามรกต
ทำใหหานลี่จำใจตองละทิ้งเรื่องนี้เอาไวกอนชั่วคราว หากอยากรวบรวมวัตถุดิบ
ทั้งหมดตามสูตรปรุงยาเหลานี้ หานลี่กลับไมกลารวบรวมอยางโจงแจงได
และสิ่งที่เขารวบรวมนั้น กลับไมใชวัตถุดิบที่มีราคาสูงลิบ แตเปนเมล็ดของ
สมุนไพรวิญญาณหรือวาตนออนของมัน
เชนนั้นหานลี่ก็ไมจำเปนตองเสียเงินจำนวนมากถึงจะรวบรวมวัตถุดิบมาไดครบ
ตามจำนวนแลว
เชนนี้ไมตองพูดถึงสูตรปรุงยาอื่นๆ แคเขากลับไปยันจวนแลวกระตุนสมุนไพร
วิญญาณสักรอบ ก็สามารถปรุงยาจากสูตรปรุงยาหยกพิสุทธิ์ไดแลว
เดาวาตองทดสอบสักสองสามครั้ง ถึงจะปรุงยาสำเร็จได
แตหานลี่มีขวดเล็ ก อยู ในมือ สามารถทดลองปรุงยาเหลา นี้ ได อยา งไม จ ำกั ด
จึงไมกังวลใจเรื่องนี้เลยสักนิด
สวนเมือกคางคกนั้น สำหรับเขาแลวก็เปนสิ่งที่สำคัญเชนกัน
ดูแลวการประมูลในครั้งนี้ เขาจะตองเขารวมใหได
หานลี่พึมพำในใจ
ทวากอนที่จะเขารวมการประมูล เขาไดใชศิลาวิญญาณซื้อของไปรอบหนึ่งแลว
จึงมีไมพออีก จำตองขายของทิ้งเพื่อแลกมาเปนศิลาวิญญาณกอน
ในแดนวิญญาณจำนวนของศิลาวิญญาณนั้นเฟอมาก ทำใหราคาของสิ่งตา งๆ
สูงกวาในแดนมนุษยหลายเทา แนนอนวาถึงแมวาจะมีศิลาจำนวนมากในแดนมนุษย
ก็ไมอาจซื้อสูตรปรุงยาระดับเทพแปลงและวัตถุดิบที่ใชในการปรุงยาได หานลี่เชื่อวา
ขอแคมีสูตรปรุงยาเพียงพอ ก็สามารถบรรลุระดับขั้นไดในระยะเวลาสั้นๆ อยางไมมี
ปญหา
เมื่อขบคิดเชนนั้น คนกลับเดินเขาไปยังมุมถนนที่ไรผูคนอยางเงียบเชียบ
เขามองไปรอบๆ ในครานั้นไมมีคนสนใจ ทันใดนั้นรางกายพลันมีเสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น
ใบหนาและรางกายเปลี่ยนไป ชั่วครูก็กลายเปนชายรางใหญหนาสีมวง
จากนั้นหานลี่ก็เดินออกมาอยางสงาผาเผย เดินเขาไปในรานคาที่คอนขางใหญซึ่ง
แขวนปายเอาไววา ‘ศาลาคืนชีพ’
ยานรานคาในแดนวิญญาณ สมุนไพรพันปธรรมดาๆ ไมไดหายากเหมือนในแดนมนุษย
แต เ มื ่ อหานลี ่ ห ยิ บ สมุ นไพรอายุ เ จ็ ด แปดพั น ป ออกมา ก็ ย ั ง คงทำให ศ าลาคื นชี พ
ควักศิลาวิ ญญาณจำนวนมากออกมาแลกเปลี่ ยนกับ สมุ น ไพรสองสามต น นี ้ อย า ง
ไมลังเลเลยสักนิด
หานลี่หยิบศิลาวิญญาณออกมาออกจากรานไปอยางไมลังเล ไมรั้งรออยูแถวนี้เลย
แมแตนอย เพื่อไมใหถูกคนจับจอง
หานลี่ไมไดออกจากยานรานคา แตเดินไปบนถนนสายอื่น เริ่มสอดสองอาวุธ
สมบัติอาคมรวมทั้งวัตถุดิบในการหลอมสมบัติอาคมและยันตวิเศษที่หายากจาก
รานอื่นๆ
ผลคือเขาไดเปดโลกทัศนเปนอยางมาก
เห็นไดชัดวาเปนเพราะวัตถุดิบล้ำคาตางๆ ในแดนวิญญาณมีอยูอยางครบครัน
ทำใหอาวุธและสมบัติเหลานี้ ไมวาคุณสมบัติหรืออานุภาพก็เหนือกวาสมบัติระดับ
เดียวกันในแดนมนุษย แมกระทั่งบางรานคาก็ยังมีของลอกเลียนแบบสมบัติอัศจรรย
ออกมาขาย
สวนยันตวิเศษเหลานั้นยิ่งมีอยูมากมาย ทำใหหานลี่ตาลาย ไมใชสิ่งที่แดนมนุษย
จะเทียบเทียมได และในบรรดายันตวิเศษเหลานั้น ยังมียันตวิเศษที่เขียนดวยตัวอักษร
ลูกออดสีเงินอยูสองสามชนิด
ยั นต ว ิ เ ศษชนิ ด นี ้ ล  ว นเป นตั ว ช ว ยเสริ ม ในการป องกั น ไม พ บยั น ต ก ารโจมตี
และยิ่งไปกวานั้นจำนวนยังมีอยูเพียงหร็อมแหร็ม ราคานาตกตะลึง แตหนึ่งในนั้นยังมี
ยันตที่สลักเงารางมนุษยสีเงินออนเอาไว ซึ่งทำใหหานลี่รูสึกสนใจเปนอยางมาก
เขาสอบถามกับเถาแกรานไปนิดหนอย ถึงไดรูวานี่คือยันตลับตัวอักษรลูกออดสีเงิน
ที่เรียกวา ‘ยันตหุนเชิด’
ยันตชนิดนี้สามารถเรียกหุนเชิดเงาที่ถูกผนึกไวขางในออกมาได ความสามารถ
และอานุภาพของหุนเชิดนั้นไมธรรมดา มีพลังยุทธเทากับผูใชยันต
แตไดยินวายันตหุนเชิดที่ยอดเยี่ยมที่สุดนั้น ทำไดแมกระทั่งลอกเลียนแบบเคล็ดวิชา
และพลังยุทธของผูใชยันต ชางเปนยันตที่มีประโยชนจริงๆ
หลังจากอานจบ หานลี่พลันใจเตน อดที่จะนึกถึงคัมภีรหนากระดาษชำรุดของ
ตนเองไมได
การเขียนยันตที่บันทึกอยูในนั้น มีวิธีการเขียนยันตหุนเชิดอยูชนิดหนึ่งเชนกัน
แตแคไมเคยศึกษาอยางละเอียด ราคาขายยันตลูกออดสีเงินก็นาตกตะลึง เขาตอง
กลับไปศึกษาอยางละเอียดดูสักหนอยแลว
เมื่อขบคิดเชนนั้น หานลี่พลันเลือกรานยันตวิเศษมาสองราน ซื้อวัตถุดิบในการ
เขียนยันตลูกออดสีเงินมาจนครบจำนวน
หลังจากจัดการทุกอยางเสร็จสิ้น เขาถึงไดตรงไปยังที่หมายของการเดินทางครั้งนี้
อย า งเงี ย บๆ วิ ห ารศิ ล าขนาดยั ก ษ ต รงจุ ด ที ่ เ ชื ่ อ มโยงกั บ เผ า มนุ ษ ย แ ละป ศ าจ
‘วิหารทมิฬ’
ถึงแมวาอีกสองวันงานประมูลถึงจะเริ่มขึ้น แตเขากลับอยากไปดูวาฝงเผาปศาจ
มีอะไรดีๆ มาแลกเปลี่ยนหรือไม
ถึ ง อย า งไรเสี ยแตไ หนแตไ รมาคนของเผ าป ศาจก็ ไ ม เข าร ว มงานประมูลของ
เผามนุษย แตไปยังใจกลางของวิหารทมิฬเพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของที่ตนเองตองการกับ
เผามนุษยโดยตรง
เพื ่ อไม ใ ห ก ารแลกเปลี ่ ย นในวิ ห ารเกิ ด การปะทะกั น ดั ง นั ้ น ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย ร
เผามนุษยที่อยากเขาไปแลกของ จะตองพกแผนปายหยกขนาดเทาฝามือไว
ขอแคพกหยกติดตัว ก็จะมีลำแสงสีขาวกลุมหนึ่งหอหุมรางเอาไว และจำกัดพลังยุทธ
ของผู  ท ี ่ พกเอาไวชั ่ ว คราว ประกอบกั บ เขตอาคมต องห า มของวิ ห ารทมิ ฬ ขอแค
ผูบำเพ็ญเพียรทั่วๆ ไปใชพลังลมปราณ ไมเพียงจะไมอาจสำแดงความสามารถของตน
ออกมาได ยังจะถูกส ง ออกจากวิ หารศิ ลาภายในพริบ ตา ไมอาจเข ามาได ใหม ใ น
ระยะเวลาสั้นๆ
สวนเผาปศาจนั้นตองพกยันตสีดำเอาไว กลายเปนเมฆปศาจอำพรางหนาตากลุมหนึ่ง
นอกจากนี้แลว ในเวลาเดียวกันในวิหารยังมีผูพิทักษทองระดับหลอมสุญตาสี่คน
ของเผามนุษยและปศาจ ผูพิทักษยมโลกนิลสิบคนคอยเขาเวรกันตามลำดับ แบงเปน
เผามนุษยและปศาจคนละครึ่ง
พลังที่แข็งแกรงเชนนี้ โดยทั่วไปแลว จึงไมอาจเกิดเรื่องที่คาดไมถึงขึ้นได
เมื่อหานลี่จายเงินที่ดานนอกวิหารเสร็จแลว นำแผนปายหยกมาจากผูคุมกันมา
แขวนที่เอวแลว พลันมีลำแสงสีขาวหอหุมรางกาย เดินผานทางเดินยาวไป ตรงไปยัง
ประตูบานใหญ
ผลคือเบื้องหนาพลันมีหองโถงความกวางสองสามรอยจั้งปรากฏขึ้น อีกดานหนึ่ง
คือประตูวิ ห ารอี ก บานที่ เ หมื อนกั นทุ กระเบีย บนิ ้ ว มีทางเดินทอดตั วยาวออกไป
อีกสายหนึ่ง
ในวิหารยักษแหงนี้ มีมนุษยและปศาจที่ถูกลำแสงสีขาวและไอสีดำหอหุมรางอยู
รอยกวาคน แตมีจำนวนหมอกสีขาวที่มากกวา
สามสิบกวาคนในนั้นกำลังนั่งสมาธิอยูทั้งสองดานของหองโถง เบื้องหนามีของ
วางเรียงอยูสองสามชิ้น ลวนเงียบกริบไมปริปากใดๆ
คนอื่นๆ กวาครึ่งยืนอยูดานหนาของเหลานั้น บางก็พิจารณาของอยางละเอียด บางก็
ถายทอดเสียงคุยอะไรกับเจาของแผงอยางเงียบๆ ยังมีบางคนที่เดินไปมาในหองโถง
บางครั้งก็หยุดพูดคุยสองสามประโยค แลวพากันหลบไปสนทนาอยูมุมหอง
หานลี่ยืนอยูที่เดิม พิจารณารอบๆ สาวเทาไปยังแผงใกลๆ โดยไมพูดอะไร
เจาของแผงนั้นหลบอยูในหมอกสีเงินเชนกัน ทาทางเปนผูบำเพ็ญเพียรของเผามนุษย
แผงเบื้องหนาเขามีของประหลาดๆ สองชิ้นวางอยู
อันหนึ่งสีเขียวออน ดูเหมือนกิ่งกานของพืช อีกอันหนึ่งกลับเปนผลึกศิลาสีแดงโลหิต
ขนาดเทากำปนเปลงประกายระยิบระยับ
ตอนที่ 1334 ไมอัสนีสวรรค
หานลี่พิจารณาสิ่งของบนแผงดวยความสนใจสองแวบ กวาดจิตสัมผัสผานไปเบาๆ
กิ่งไมนั้น มีไอวิญญาณไมแฝงอยูบางเบามาก แตกลับเต็มไปดวยพลังของ ธาตุ
อสนีที่แข็งแกรง คาดไมถึงจะดูเหมือนวาถูกสรางขึ้นจากอสนี ทำใหเขารูสึกประหลาด
ใจมาก!
ของสิ่งนี้ทำใหเขานึกถึงไมไผอัสนีสวรรคในตอนนั้น
ทวาถึงแมวาพลังธาตุอสนีจะเทียบกับไมไผอสนีทองหมื่นปไมได โดยทั่วไปแลว
อสนีเทวาปดเปาภยันตรายลวนตองถูกเก็บไวอยางแนนหนา
สวนผลึกศิลาสีโลหิตอีกกอนหนึ่ง มีไอโลหิตลอยมาปะทะจมูก ดูเหมือนจะเปน
แกนอสูรของอสูรประเภทใดสักชนิด จึงไมอาจแยกแยะประวัติความเปนมาได
หานลี่รูสึกสนใจกิ่งไมกิ่งนี้อยูเล็กนอย แตหลังจากมองดูอยูชั่วครู ก็ยังจากไป
อยางเงียบๆ ตรงไปยังแผงอื่นๆ
แผงตอมาผูขายคือเผาปศาจ เบื้องหนามีแรศิลาสีดำมะเมื่อมขนาดเกือบเทาศีรษะ
ไอเย็นเยียบบีบรัดหัวใจ
เชนนั้น หานลี่พลันกาวเทาอยางแชมชา เดินผานแผงขายของไปทีละแผงๆ
พบของที่ไมรูจักหรือสนใจ ก็จะชะงักฝเทา แลวพิจารณาอยางละเอียด
แตตั้งแตตนจนจบ เขานั้นไมไดเอยปากพูดเลยสักคำ ทาทางเหมือนมองไมเห็น
เจาของแผงเหลานั้น
หานลี่เดินวนดูแผงทั้งหมดรอบหนึ่งอยางรวดเร็ว ในใจพลันรูสึกผิดหวังเล็กๆ
ถึงแมวาของบนแผงจะเปนของที่ล้ำคา แตกลับไมมีสิ่งที่ทำใหเขาสนใจไดจริงๆ
ถึงแมวาสองสามชิ้นจะมาจากแดนปาเถื่อน แตก็เปนของที่หายากมาก มี
ประโยชนแคกลุมคนพิเศษเทานั้น
หานลี ่ ก วาดตาไปรอบๆ ตอนที ่ ก ำลั ง ลั ง เลว า จะออกจากวิ ห ารทมิ ฬหรื อ ไม
ฉับพลันนั้นที่แผนหลังก็มีเสียงฝเทาดังขึ้น มีคนเดินเขามาหาตัวเอง
ลำแสงสีขาวบนรางเปลงประกายเล็กนอย หานลี่หันหลังไปดวยความประหลาดใจ
ผูที่เดินเขามาหยุดฝเทาลง ดูเหมือนวาจะประหลาดใจเล็กนอยกับปฏิกิริยาตอบสนอง
ที่รวดเร็วของหานลี่
นั่นคือคนของเผาปศาจที่มีไอสีดำหอหุมเรือนกายอยู รางกายดูเหมือนจะบอบบาง
เปนอยางมาก พิจารณาหานลี่ขึ้นลงอยางละเอียด
แตแคทั้งสองลวนมีเคล็ดวิชาลับปกคลุมอยู นอกจากเงารางที่เลือนรางแล ว
แนนอนวาก็มองไมเห็นอะไรอีก
“นายทานมีอะไรหรือ?” หานลี่เอยปากกอนดวยสีหนาราบเรียบ
“สหายหาของที่เหมาะสมไมพบสินะ?” เผาปศาจในไอสีดำเอยถามพรอมกับ
หัวเราะนอยๆ ออกมา น้ำเสียงไพเราะเสนาะหู เปนเพศหญิง
“ใชแลว ที่นี่ไมมีอะไรที่ขาสนใจจริงๆ ที่สหายถามมีเจตนาใดหรือ?” หานลี่ยอนถาม
“ดูแลวนายทานคงจะมาที่วิหารทมิฬเปนครั้งแรก ความจริงแลวสิ่งของที่สองเผา
ของพวกเราจะแลกเปลี ่ ย นกั น นอกจากของที ่ ว างอยู  บ นแผงแล ว ของดี จ ริ ง ๆ
ลวนเอาไวแลกเปลี่ยนกันสวนตัว” สตรีผูนี้เอยอยางไมรีบรอน
“เหตุใดตองทำเชนนี้! หากเอาออกมาเปดเผย ไมหาคนซื้อที่เหมาะสมไดมากกวา
หรือ” หานลี่ขมวดคิ้ว
“สหายไมรูหรือแกลงไมรูกันแน เอาของดีจริงๆ ออกมาแลกเปลี่ยนนั้น ถึงแมจะมี
หยกลำแสงและธงเมฆคอยปกปดใบหนาที่ แทจริ งอยู แตก็ยังคงถูกผู คนจำได ไ ด
อยางงายดาย ยิ่งไปกวานั้นของบางอยางเดิมทีก็เปนของรอนอยูแลว ไมเหมาะจะ
เปดเผยใหผู อื่ นรู มากนั ก เอาละ พลามมามากพอแลว เจาจะแลกของหรื อ ไม ?”
สตรีเผาปศาจดูเหมือนวาจะหมดความอดทนแลว น้ำเสียงจึงเย็นชาขึ้นสามสวน
“ขอแคสหายมีของดีจริงๆ ขานอยยอมยินดีแลกเปลี่ยน ทวา เหตุใดสหายตองมา
หาขานอย” หานลี่ตกปากรับคำ แตทันใดนั้นก็เอยถามขึ้น
“ยากอะไร นายทานทาทางพิจารณาสิ่ ง ของของทุก แผงอย างละเอียดเช น นี้
แคดูก็รูแลววาเปนผูที่เพิ่งเขามาในเมืองเทวะสวรรค ถึงแมวาจะถูกจำกัดพลังยุทธไว
แตหากพิจารณาอยางละเอียด ก็ดูออกวาสหายคือผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
เปนคนที่เหมาะสมกับการแลกเปลี่ยนของขา และยิ่งไปกวานั้น นายทานก็ไมใช
คนแรกที่ขาตามหา บอกมาซิวามีอะไรที่ เหมาะสมกั บเผ าป ศาจของพวกเราบ า ง
ส ว นข า นั ้ น นอกจากของของตนเองแล ว ยั ง มี ข องที ่ ค นในเผ า เดี ย วกั น ฝากมาก
แลกเปลี่ยนอยูจำนวนมาก ดังนั้นสหายมีของดี ก็เอาออกมาเถิด” สตรีเผาปศาจ
ไมใสใจเลยสักนิด พลางเอยอยางตรงไปตรงมา
“สิ่งที่เหมาะสมกับเผาทาน แนนอนวามีอยูแลว แตของของสหาย ควรจะบอกให
ขานอยรูกอนสักหนอยหรือไม”
“หึ ของในมือขามีทั้งสมุนไพรวิญญาณ วัตถุดิบ สมบัติอาคมและสมบัติโบราณที่
เผามนุษยของพวกเจาตองการ เจาอยากไดอะไร?” สตรีเผาปศาจหัวเราะอยางเย็นชา
ออกมา
“สมบัติอะไรนั่น ขานอยไมตองการ วัตถุดิบก็สนใจเล็กนอย สหายมี โลหิต
วิญญาณของอสูรคางคกหรือไม ขานอยตองการมันจริงๆ” หานลี่แววตาเปลงประกาย
สองสามครั้ง แลวเอยถามออกมา
“โลหิตคางคก หึๆ สหายชางเลือกเสียจริง เมือกคางคกไมไดมีประโยชน แ ค
เผามนุษยของพวกเจา มันมีประโยชนตอเผาปศาจของเราเป นอยางมากเช น กั น
ผูใดจะเอาออกมาแลกเปลี่ยนที่วิหารทมิฬได” สตรีเผาปศาจไดยินแลวพลันตะลึงงัน
แตทันใดนั้นก็สั่นศีรษะระรัว
“ถาหากเปนเชนนั้นละก็ ของตอไปมี สมุนไพรธาตุทองเหลืองอายุหาพันปขึ้นไป…”
หานลี่ไมสนใจคำเยาะเยยของสตรีผูนี้เลยสักนิด ทันใดนั้นก็เอยวัตถุดิบในการปรุงยา
ทั้งหมดที่ขาดไปออกมา
สตรีเผาปศาจไดยินสองสามชนิดแรก สีหนาในไอสีดำก็เริ่มดูไมได รอจนหานลี่พูดจบ
หลังจากผานไปชั่วครูถึงไดเอยอยางไมสบอารมณวา
“เพอเจอ วัตถุดิบปรุงยาที่นำไปเพิ่มพลังยุทธได ลวนตองไปตามหาในปาเถื่อนถึง
จะมี ห วั ง เผ า ป ศ าจอย า งพวกเราก็ ข าดแคลนมากเช น กั น ถึ ง แม จ ะมี ก ็ ไ ม ม ี ท าง
นำออกมาแลกเปลี่ยนกับมนุษยอยางพวกเจา”
“สหายอยาเพิ่งใจรอน ขานอยไมตองการสมุน ไพรแบบโตเต็ม วัย เมล็ดของ
สมุนไพรเหลานี้หรือวาตนกลา ขานอยก็ยอมซื้อเชนกัน” หานลี่ไดยินแลวกลับไมได
รูสึกผิดหวัง กลับเอยอยางไมรีบรอนออกมา
“ถ า หากเป นเช นนั ้ นล ะ ก็ ก็ ไ ม ใ ช ว  า จะหาซื ้ อไม ไ ด แต ก ็ ย ุ  ง ยากมากเช น กั น
ตอนนี้ขาไมมี” สตรีเผาปศาจลังเลเล็กนอย และไมไดปฏิเสธในทันที
“ขอแครวบรวมของเหลานี้มาได ขานอยจะมาแลกเปลี่ยนกับสหายที่นี่” หานลี่
พลันรูสึกดีอกดีใจ
“อืม เรื่องนี้ขาจะลองดูเทานั้น ถึงอยางไรเสียสมุนไพรในแดนปาเถื่อน ถึงแมวา
เมล็ดและตนกลาจะหายากเปนอยางมาก ไมคอยมีคนนำออกมาขาย ทวา หากขา
หาไดจริงๆ นายทานคิดจะแลกกับอะไร แลกเปลี่ยนกับขา หากเปนศิลาวิ ญ ญาณ
สหายก็อยาทำเลย ถึงแมจะเปนศิลาวิญญาณระดับสูง ขานอยก็ไมไดขาดแคลนมัน”
สตรีเผาปศาจเอยอยางเยอหยิ่ง
หานลี่ไดยินพลันมีสีหนาราบเรียบ แตมุมปากกลับขยับเล็กนอย ถายทอดเสียง
ออกไปสองสามคำ
“อะไร นายทานมีสมุนไพรหมื่นปจริงๆ หรือ!” รางของสตรีในไอสีดำพลันพลิ้วไหว
น้ำเสียงเปลี่ยนเปนตกตะลึงระคนดีใจ
“ขอแคสหายหาของที่ขานอยตองการได แนนอนวาขานอยมีสมุนไพรระดับนั้นแน”
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา
“มีสมุนไพรระดับนั้น เจาไมเอามาปรุงยาเอง เหตุใดตองเอามาแลกเปลี่ยนกับ
ของของขา” หลังจากที่สตรีเผาปศาจตกตะลึงระคนดีใจแลว ก็รูสึกสงสัยขึ้นมา
“เรื่องของขานอย สหายไมตองถามมาก หากรูสึกวาเหมาะสม ก็ไปรวบรวมของที่
ขานอยตองการมา ครั้งหนาที่ขานอยมาที่นี่ หวังวาจะเปนการแลกเปลี่ยนกับสหาย
สมุนไพรวิญญาณตนนี้ ถือวาเปนของมัดจำจากขานอย” หานลี่เอยดวยน้ำเสีย ง
เครงขรึม ทันใดนั้นมือหนึ่งก็โบกไปที่กำไลเก็บของ มือหนึ่งพลิกฝามือ กลองไมขนาด
ความยาวครึ่งฉื่อปรากฏขึ้นในมือ จากนั้นก็โยนออกไปอยางสบายๆ
สตรีเผาปศาจในไอสีดำพลันตะลึงงัน ควากลองไมเอาไวตามความรูสึก ใบหนา
เครงขรึมสลับกับสดใส เปดฝากลองไมออกเล็กนอย แลวแผจิตสัมผัสเขาไปขางใน
อยางรวดเร็ว
รองอุทานออกมาเบาๆ สตรีผูนั้นพิจารณาของในกลองอยางละเอียดอยูนาน
แลวถึงปดฝากลองไมลง แตทันใดนั้นก็มีสีหนาเครงขรึม
“นายคิ ด จะเอาของสิ ่ ง นี ้ ม าเป นมั ด จำ! ไม ก ลั ว ว า ข า น อยจะเอาของไปแล ว
ไมกลับมาหรือ” สตรีเผาปศาจเอยอยางเย็นชา
“สมุนไพรวิญญาณสามพันปตนหนึ่งเทานั้น! ประการแรกเพราะเชื่อมั่นวาฐานะ
ของสหายคงไม ท ำเรื ่ อ งเช น นี ้ ประการที ่ ส องก็ เ พื ่ อ รั บ ประกั น ว า ข า น อ ยอยาก
แลกเปลี่ยนกับสหายด วยใจจริ ง ขอแคสหายหาของมาได สมุนไพรที่ขาตกลงไว
ไมมีทางกลืนคำพูดแน” หานลี่ตอบกลับอยางราบเรียบ
“ดูแลวนายทานคงจะจริงใจอยูหลายสวน ของที่ทานตองการ ไมอาจรวบรวมมาไดใน
ระยะเวลาสั้นๆ ใหเวลาขาสักสองสามป ขาจะชวยเจารวบรวมมาสักสองสามชนิด”
สตรีผูนั้นเองก็ไมเกรงใจ พลิกฝา เก็บกลองไมลงไป เอยอยางมั่นใจ
“เยี่ยม ผูแซหานจะรอขาวดี” หานลี่พลันรูสึกดีใจเชนกัน สองมือพลันประสาน
กำปนเล็กนอย
สำหรับเขาแลว สมุนไพรวิญญาณสองสามพันปนั้นไมใชของหายากอะไร เอามา
แลกกับความเชื่อใจของอีกฝาย ก็ไมใชปญหาอะไร ยิ่งไปกวานั้นหานลี่ก็เชื่อมั่นวา
สมุนไพรวิญญาณหมื่นปที่ตนเองตกลงไป ก็เพียงพอจะทำใหเผาปศาจแปลงกาย
ตั้งใจตามหาของที่ตนเองตองการให
นี่เปนขั้นตอนที่เหมาะสมที่สุดแลวสำหรับผูซึ่งไมอยากทำใหเผามนุษยแตกตื่น
อยางหานลี่
สตรีเผาปศาจพยักหนา หันกายจากไปโดยไมเอยอะไรอีก
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลงมองเงารางอรชรออนแอนที่พลิ้วไหวในไอสีดำ แลวหันกาย
เดินออกไปทางเขา ดูเหมือนวาจะคิดจะออกไปจากหองโถงยักษแลว แตครั้นเมื่อ
เขาเดิ นมาถึ ง แผนของผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รเผ า มนุ ษ ย ค นแรก สายตากวาดไปที ่ ก ิ ่ ง ไม
สีเขียวมรกต ฝเทาก็หยุดชะงักลงตามจิตสำนึก ลังเลเล็กนอย แลวหันกายเดินไป
“ของสิ่งนี้มีที่มาอยางไร สหายอธิบายใหฟงไดหรือไม” หานลี่เดินไปถามเจาของ
แผงอยางงราบเรียบ ในเวลาเดียวกันมือหนึ่งก็ตะปบออกไปกลางอากาศ ชั่วขณะนั้น
กิ่งไมสีเขียวมรกตก็ถูกดูดเขามาในมือ ใชนิ้วลูบไปมา
“ประวัติความเปนมา? ของสิ่งนี้เปนกิ่งไมแหงๆ ที่รวงลงมาจากอัสนีฟาฟาด
จากนั้นก็งอกออกมา กลายเปนไมวิญญาณทอนหนึ่ง สวนประวัติความเปนมาและ
ประโยชนนั้น ขานอยก็ไมแนใจนัก” เสียงของชายชราที่แหบแหงดังออกมาจาก
มานลำแสงสีขาว ดูแลวเจาของแผงคงเปนชายชราคนหนึ่ง
“ไมอัสนีสวรรค ของสิ่งนี้นาสนใจนัก” หานลี่พลิกมือไปมาหลายรอบ ปากก็เอย
พึมพำออกมา
“หึๆ หายากก็หายาก แตบอกอยางไมปดบัง ของสิ่งนี้มีพลังอัสนีแฝงอยูอยาง
เต็มเปยม ทั้งไมอาจหลอมเขาไปในรางได และไมอาจนำมาหลอมยุทธภัณฑได ทำได
เพียงตองดูวาเผาปศาจจะสนใจมันหรือไมเทานั้น อันใด สหายสนใจหรือ!” ชายชรา
เอยพรอมกับหัวเราะหึๆ ออกมา
ตอนที่ 1335 ลวดลายอสนีลึกลับ
“ออ ไมมีอะไรหรอก ขานอยแคฝกฝนพลังอสนีมานิดหนอย จึงสนใจของสิ่งนี้
สหายอยากแลกกับอะไร” หานลี่ควงไมอสนีในมือเลนอยูชั่วครู แลวตอบกลับดวย
สีหนาราบเรียบ
ไดยินหานลี่มีทาทีอยากไดของชิ้นนี้ ชายชราที่อยูในหมอกลำแสงสีขาวพลันตะลึงงัน
พิจารณาหานลี่ขึ้นลงสองแวบ แลวถึงไดเอยดวยน้ำเสียงแหบแหงวา
“ถึงแมวาขานอยจะไมรูวาไมอสนีนี้มีประโยชนอยางไร แตไมวิญญาณที่เกิดจาก
อสนีฟาฟาก มูลคานั้นยากที่จะคาดเดาแน เอาอยางนี้ก็แลวกัน ชวงนี้ตาเฒากำลังปรุง
‘ยาปราณสวรรค’ อยู และกำลังขาดแคลนสมุนไพรอะไรก็ไดที่มีอายุหาพันปอยู
ต นหนึ ่ ง หากสหายมี ส ั ก ต น ก็ เ อาไม ว ิ ญ ญาณนี ้ ไ ปเลย แน นอนว า หากสหายใช
ศิลาวิญญาณระดับสุดยอดหรือวาของอื่นๆ ที่มีมูลคาใกลเคียงกัน ตาเฒาก็ไมปฏิเสธ
เชนกัน”
“นายทานรูไดอยางไรวาขานอยมีสมุนไพรวิญญาณ!” หานลี่ใจหายวาบ ใบหนา
ในมานลำแสงสีขาวเครงขรึมขึ้น
“สหายไมจำเปนตองตกใจ ขานอยเปนยอดอัจฉริยะตั้งแตเด็ก ความไวตอกลิ่นจึง
มากกวาผูอื่นหลายเทา กลองไมที่เจาและสตรีเผาปศาจนำออกมาแลกเปลี่ย นกัน
เมื่อครู มีกลิ่นยาสมุนไพรโชยออกมา ขานอยไดกลิ่นเพียงเล็กนอย นาจะเปนสมุนไพร
อายุสามพันปสินะ เอาสมุนไพรระดับนี้ออกมาไดอยางงายดาย คิดดูแลวอายุหาพัน
ก็คงมี” ชายชราเอยดวยสีหนาเครงขรึม
หานลี่ไดยิน พลันรูสึกหมดคำพูด
เขานั้นเคยไดยินวาสำนักพุทธมีความสามารถเชนนี้มากอน สามารถเพิ่มพลังความ
แข็งแกรงของธาตุทั้งหาได ในตำนานกลาววาจะมีญาณทิพย สายตามองไกลพันลี้
หูทิพยและอื่นๆ จะวาไปแลวเนตรวิญญาณวารีกระจางของเขา ในอีกนัยหนึ่งก็มี
ความสามารถเชนนี้เชนกัน แตแคก็ไมไดอยูในระดับที่นาเหลือเชื่อเหมือนในตำนาน
เทานั้น
หลังจากที่เขาใจเหตุผลแลว หานลี่พลันมีสีหนาผอนคลายลง แลวเอยอยางแชมชาวา
“เชนนี้นี่เอง ในเมื่อสหายตองการสมุนไพร ขานอยก็มีอยูตนหนึ่ง ดูซิวาเหมาะสม
กับสหายหรือไม”
หานลี่ไมมีเจตนาจะตอรองราคาเลยสักนิด ชูมือหนึ่ง ลำแสงสีขาวเปลงแสงสวางวาบ
ขึ้นบนมือ กลองไมสี่เหลี่ยมผืนผากลองหนึ่งปรากฏขึ้น โยนใหอีกฝายเบาๆ
ชายชราพลันตกตะลึงไปเล็กนอย คิดไมถึงวาหานลี่จะตอบรับเงื่อนไขของตัวเองจริงๆ
แน นอนว า จึ ง รั บกล องไม ม าด ว ยความดีอกดี ใ จ เป ด ฝากล องออกเหลื อบตามอง
แวบหนึ่ง แลวปดฝากลองลงอีกครั้งทันที
“ใชแลว สมุนไพรอายุหาพันปจริงๆ เหมาะกับใชปรุงยาของตาเฒา” ตาเฒาเก็บ
กลองไม ดวยทาทีตื่นเตนดีใจ
หานลี่เห็นเชนนั้น พลันหัวเราะนอยๆ ออกมา กิ่งไมในมือพลิ้วไหวเล็ก น อ ย
แลวสลายหายไปเชนกัน จากนั้นก็ประสานมือกันคารวะ แลวหันกายออกเดินไปโดย
ไมไดพูดอะไร
ตอหนาสุนัขจิ้งจอกเหลานี้ ก็ไมจำเปนตองพูดใหมากความ
หานลี่ที่ออกจากวิหารทมิฬ เดินวนรอบยานรานคาอื่นๆ อีกหนึ่งรอบ แตเขาที่มี
สมบัติสะทานฟาและสมุนไพรจำนวนนับไมถวน จะไปสนใจสินคาใหรานเหลา นั้น
ไดอยางไร หลังจากผานไปสองสามชั่วยา ก็กลับมายังหอคอยยักษศิลาเขียว
เมื่อเดินเขามาในหองทำสมาธิของกองกำลังในวิหาร หานลี่พลันชูมือหนึ่ ง ขึ้น
รายอาคมโจมตีไปยังประตูหินของหองทำสมาธิ ชั่วขณะนั้นพลันกระตุนเขตอาคม
ทั้งหมดในหองทำสมาธิ ทาทางไมอยากถูกผูอื่นรบกวน แตเชนนี้ หานลี่ก็ยังไมคอย
วางใจ ชูมือขึ้น เสาลำแสงหลากสีสันสองสามสายพุงออกไป เปลงแสงสวางวาบแลว
หายวับไปในมุมทั้งสี่ของหองทำสมาธิอยางไรรองรอย
สองมือพลันรายอาคม มานลำแสงสีขาวชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นบนกำแพงหิน กลืนกิน
ทุกสิ่งที่มองเห็นไปจนหมด เชนนั้น หานลี่ถึงไดนั่งสมาธิอยูบนฟูกไดอยางวางใจ
มือหนึ่งโบกสะบัด ไมอัสนียาวครึ่งฉื่อปรากฏขึ้นในมือ
ของสิ่งนี้มีขนาดเทาหัวแมมือ สีเขียวมรกต ผิวกลับมีลายเล็กๆ ขดเปนวงปรากฏขึ้น
ทำใหผูคนเห็นแลวตาเปนประกาย
ครานั้นในวิหารทมิฬ เขาไมไดพิจารณาสิ่งนี้อยางละเอียด ตอนนี้ใชนิ้วลูบไปบนกิ่งไม
เบาๆ แลวหลับตาลงในเวลาเดียวกัน
ผิวของไมมีพลังอัสนีลั่นเปรี้ยงปราง แตมีประสิทธิภาพเชนนี้ได ชางเปนเรื่องที่นา
เหลือเชื่อจริงๆ
เมื่อขบคิดเชนนั้น เขาพลันเบิกตาขึ้นอีกครั้ง ลำแสงสีเขียวเปลงแสงสวางวาบขึ้น
บนมือ เริ่มใสพลังลมปราณเขาไปในกิ่งไม
แตเมื่อใสเขาไปเพียงเล็กนอย กิ่งไมก็สั่นคลอนเบาๆ แรงดีดกลุมหนึ่งปรากฏขึ้น
คาดไมถึงวาจะดีดพลังลมปราณเหลานั้นกลับมา
หานลี่พลันรูสึกตกตะลึง ลำแสงสีเขียวในมือคอยๆ เปลงแสงเจิดจาออกมา
กิ่งไมสั่นไหว ลำแสงสีขาวชั้นหนึ่งปรากฏออกมา พัวพันเขากับลำแสงสีเขียวในมือ
ของหานลี่ แตทาทางเหมือนไมอาจผสมรวมกันได
หลังจากผานไปอีกชั่วครู ลำแสงสองสีก็เปลงเสียงรองหึ่งๆ ออกมา
หานลี่พลันขมวดคิ้ว มือหนึ่งพลันโบกสะบัด ลำแสงสีเขียวบนมือหายวับไป
เห็นไดชัดวาหากใสลมปราณเขาไป ก็อาจจะฝนบรรจุลงไปได แตตัวกิ่งไมจะ
ระเบิดตัวเองออกมา จากประสบการณของหานลี่ แนนอนวาไมไดมีวิธีศึกษาเจาสิ่งนี้
เพียงวิธีเดียว
เขาควากิ่งไมเอาไว ทันใดนั้นก็มีเสียงฟารองดังขึ้นอยางตอเนื่อง ประจุไฟฟา
สีทองสายแลวสายเลาปรากฏขึ้น ชั่วพริบตาก็หอหุมกิ่งไมทั้งหมดเอาไว
กิ่งไมนิ่งงันอยูในประจุไฟฟาสีทอง ไมมีความเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด
หานลี่ไมไดเผยสีหนาโศกเศราออกมา หากศึกษาของสิ่งนี้ออกไดอยางงายดาย
เจาของคนกอนคงไมมองมันเปนของไรคา
ฉับพลันนั้นหานลี่พลันโยนกิ่งไมขึ้นไปกลางอากาศ มันหมุนติ้วๆ อยูกลางอากาศทันที
ดีดนิ้วไปทางกิ่งไม ไอกระบี่สีทองสายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบ สับลงมาที่ตรงกลาง
ของกิ่งไม เสียงฟาผาดังสนั่นขึ้น ประจุไฟฟาสีขาวเปลงแสงสวางวาบ กิ่งไมถูกสับ
ออกเปนสองทอนอยางงายดาย พลางรอนลงมาดานลาง
หานลี่ตะปบมือออกไปกลางอากาศอยางไมตองคิด กิ่งไมทั้งสองทอนถูกดูดเขาไป
ในมือทันที
กวาดสายตาไป เห็นเพียงจุดตัดสีเงินขาว
หานลี่แววตาเปลงแสงสีฟาสวางวาบ จองเขม็งไป พบวาตรงจุดสีเงินขาวคาดไม
ถึงวาจะเปนเส นไหมไฟฟ าบางๆ จำนวนนั บไม ถ ว นถักทอเข าดว ยกั น กลายเป น
ลวดลายประหลาดๆ ที่นาเหลือเชื่อ
ชางซับซอนเปนอยางมาก!
ถาหากเขาไมไดมีเนตรวิญญาณอยูกับตัว คงไมอาจมองเห็นความผิดปกติได
ชั่วพริบตา จุดตัดสีเงินก็มีสีเขียวมรกตปรากฏขึ้น ทำใหกิ่งไมทั้งสองกลายเปนกิ่งไม
เดี่ยวๆ สองทอน
ครานี้หานลี่พลันตกตะลึง
ควบคุมประจุไฟฟา และยิ่งไปกวานั้นยังเหมือนอสนีที่กอตัวรวมกันขึ้น เดิมทีก็
เปนหนึ่งในความสามารถที่เขาเชี่ยวชาญอยูแลว แตการบีบอสนีใหบางจนถึงขั้ นนี้
และยิ่งไปกวานั้นยังมีรูปรางนาเหลือเชื่อ ก็เปนเรื่องที่เขาไมเคยคิดมากอนจริงๆ
กลายเปนตาขายไฟฟาที่ซับซอนกวาอสนีเทวาปดเปาภยันตรายที่เขาใชมาก
ขั้นตอนการผนึกกันของลูกบอลไฟฟา ก็ชั้นสูงกวาตั้งไมรูกี่เทา
ขั้นตอนการควบคุมนี้สูงกวาจิตสัมผัสของเขา มิเชนนั้นคงไมอาจทำเชนนี้ได
หานลี่หยิบกิ่งไมทั้งสองทอนขึ้นมา กมหนาลงขบคิด
ฉับพลันนั้นแววตาพลันเปลงประกาย นิ้วหนึ่งวาดออกไปกลางอากาศ
ลำแสงสีทองเปลงแสงสวางวาบ กิ่งไมทอนนั้นถูกสับออกเปนสองทอนทามกลาง
ประจุไฟฟาสีขาวอีกครั้ง แตครานี้หานลี่ที่เตรียมการมานานแลว พลันเคลื่อนไหว
จิตสัมผัส ทอนหนึ่งมาอยูตรงหนาของหานลี่ จุดตัดสีเงินขาวปรากฏอยูตรงหนา
ดวงตาทั้งสองของหานลี่เปลงแสงสีฟา จองเขม็งไปยังจุดตัด ใบหนาเต็มไปดวย
สีหนาเครงขรึม ถึงแมวาจุดตัดจะเปนสีเงินขาวเชนกัน แตลวดลายที่เกิดขึ้นดานบน
กลับไมเหมือนกับครั้งแรกที่เขาเคยเห็น ชั่วครู จุดตัดของกิ่งไมก็ถูกสีเขียวมรกต
ปกคลุมไวชั้นหนึ่ง หานลี่คอยๆ หลุบเปลือกตาทั้งสองขางลง ดูเหมือนจะคิดอะไรออก
ฉับพลันนิ้วทั้งสิบพลันรายไปมาไมหยุด สับกิ่งไมทอนนั้นออก เหลือบตามอง
ลวดลายอสนีใหมแวบหนึ่ง แลวไมสนใจอีก ลวดลายใหมที่ปรากฏขึ้น พินิจดวยสีหนา
เครงขรึม
เชนนั้นชั่วพริบตากิ่งไมครึ่งทอนก็กลายเปนทอนเล็กๆ จำนวนนับไมถวน ตกลงสูพื้น
เมื่อหานลี่เผยสีหนาตกตะลึงออกมา ก็พนกระบี่ลำแสงบางๆ ออกมาอีกครั้ง
เปลี่ยนทิศทาง เริ่มตัดกิ่งไมอีกครึ่งทอนออก ลำแสงสีเงินเปลงประกาย กลายเปน
สองกองเล็กๆ
พิจารณาอยางละเอียดแวบหนึ่งเชนกัน กระบี่เสนไหมสีทองดีดออกมาไมหยุด
ไมอสนีครึ่งทอนกลายเปนชิ้นบางๆ กองหนึ่ง
จุดที่บางที่สุดเหมือนกับกระดาษอยางไรอยางนั้น
เชนนั้น เศษไมอสนีเหลานี้ยังรักษาระดับความมั่นคงเอาไว แฝงพลังอสนีที่นากลัว
เอาไว กลับไมมีทาทีจะระเบิดออกมาเลยสักนิด
ฉับพลันนั้นหานลี่พลันพลิกฝามือ คัมภีรสีขาวปรากฏขึ้นในมือ
เขาใชมือหนึ่งกำคัมภีรนั้นเอาไว ชั่วพริบตาจุดตัดที่ตนเองมองเห็นเมื่อครู เหมือนกับ
ในคัมภีรทุกระเบียบนิ้ว จากนั้นถึงไดถอนหายใจออกมายาวๆ เฮือกหนึ่ง
ถึงแมจากพลังในการจดจำของเขา ชั่วครูก็จำลวดลายอสนีที่ซับซอนได
ฟนฟูจิตสัมผัสกลับมาเล็กนอย หานลี่เริ่มเรียนรูลวดลายอสนีเหลานี้อยางเงียบๆ
ไมมีเหตุผลใดๆ เมื่อเขาเห็นลวดลายอสนีเหลานี้ ทันใดนั้นในใจก็มั่นใจถึงเจ็ดแปดสวน
รูวาลวดลายเหลานี้เปนสิ่งสำคัญของไมอสนี
การนั่งของหานลี่ครั้งนี้ผานไปหนึ่งวันหนึ่งคืน รางทั้งรางเหมือนกับไมแกะสลัก
อยางไรอยางนั้น ไมไหวติง
ฉับพลันเปลือกตาของหานลี่พลันกระตุก นิ้วทั้งสิบพลันรายอาคม เสียงฟารองดังขึ้น!
ประจุไฟฟาสีทองสายแลวสายเลาพุงออกไป จากนั้นชั่วพริบตาก็แตกกระจายออก
กลายเปนเสนไหมบางๆ จำนวนนับไมถวนพุงออกไปรอบๆ ราวกับสายฟา
หานลี่พลันบริกรรมคาถา นิ้วทั้งสิบชี้ไปกลางอากาศไมหยุด
เมื่อสายฟาหยุดชะงัก ฉับพลันนั้นพลันผนึกรวมตัวกันที่ตรงกลาง ทันใดนั้นพลัน
เริ่มแทรกตัวไปกลางอากาศ กลายเปนลวดลายประหลาดๆ เหมือนกับลวดลายอสนีที่
หานลี่จำไดทุกระเบียบนิ้ว
มองเห็นวามันจะเปนรูปเปนราง ผนึกรวมกันเปนสิ่งที่เหมือนกับผาสีทอง ฉับพลัน
นั้นเสียง “ตูม” พลันดังขึ้น ผาทั้งผืนระเบิดออก
ทามกลางเสียงฟาคำรามราวกับไมไผระเบิด พลันสลายหายไป
หานลี่สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง ใบหนาไมเพียงจะไมเผยสีหนาผิดหวัง
แตแววตากลับเผยสีหนาตื่นเตนดีใจออกมา ดังที่เขาคิดไวไมผิด ลวดลายอสนีสีทองที่
กอตัวกันเมื่อครู เห็นไดชัดวาไดมาจากพลังประหลาดของผาสีทอง
สิ่งที่นาเสียดายก็คือ เขายังไมทันไดพิจารณาอยางละเอียด ไฟฟาที่ประสานกัน
กลับเกิดขอผิดพลาด ทำใหละทิ้งทุกอยางไป
หานลี่สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง สองมือพลันรายอาคม ประจุไฟฟาสีทองหนาๆ
สายหนึ่งพุงออกไปอีกครั้ง เสียงคำรามดังขึ้นทามกลางมือทั้งสอง ไมหยุดปริแตกออก
เช น กั น สายฟ า สี ท องจำนวนนั บ ไม ถ  ว นปรากฏขึ ้ น อี ก ครั ้ ง ทอตั ว กั น หนาแน น
มากกวาครั้งที่แลวสองสามเทา
ตอนที่ 1336 คนราย
เชนนั้น ภายใตการกระตุนดวยจิตสัมผัสของหานลี่ ใชเสนไหมไฟฟาถักทอกัน
ตามไม อสนี ก ลางอากาศไม ห ยุ ด จนกลายเป น เหมื อ นลวดลายอสนี ท ี ่ เ หมื อ นกั น
ทุกระเบียบนิ้ว แตการควบคุมที่ยากลำบากเชนนี้ ถึงแมวาหานลี่จะใชจิตสัมผัสที่
แข็งแกรงและเนตรวิญญาณวารีกระจางควบคุม ก็ยังลมเหลวติดตอกันสองสามครั้ง
ทยอยกันระเบิดออก
หลั ง จากผ านไปเจ็ด แปดครั ้ง ในที ่ ส ุ ด ‘ผ า ไหม’ สี ท องเรื องรองก็ป รากฏขึ้น
ลอยพลิ้วอยูกลางอากาศ
ผาไหมขนาดเทาฝามือ ตรงกลางมีลวดลายอสนีที่สะดุดตาสลักเอาไว เปลงแสง
ระยิบระยับ
หานลี ่ เ ห็ นเจ า สิ ่ ง นี ้ ใบหน า พลั น ฉายแววประหลาดใจ ชู ม ื อขึ ้ น กวั ก ออกไป
ชั่วขณะนั้นผาไหมพลันลอยพลิ้วลงมาจากกลางอากาศ และถูกควาเอาไว
ผาไหมผืนนั้นนุมนวลมาก ผิวเรียบลื่น คาดไมถึงวาจะละเอียดกวาเสนไหมของจริง
หลายสวน หากไมใชเนตรวิญญาณกระจาง ก็ไมอาจมองเห็นความผิดปกติได
หานลี่ลูบผาไหมสีทอง แลววิเคราะหมันเล็กนอย แววตาเปลงประกาย ฉับพลันนั้น
พลันโยนของสิ่งนั้นขึ้นไปกลางอากาศ รายอาคมสายหนึ่งโจมตีออกไป
ผาไหมกลายเปนลำแสงสีทองสายหนึ่งบินไปเหนือหัวพลางหมุนติ้วๆ เสียงฟา
คำรามต่ำๆ ดังขึ้น
ผาไหมแตกออกเปนเสี่ยงๆ ทามกลางลำแสงสีทอง ลวดลายอสนีที่ดูเหมือน
ภาพลวงตาพลันปรากฏขึ้น เปนสีทองออนกึ่งโปรงใส ในเวลาเดียวกันพลังแรงกดพลัน
แผออกมาจากลวดลายอสนีพุงขึ้นไปบนทองฟา
นั่นก็คือ พลังลึกลับที่สัมผัสไดกอนหนา
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง จองเขม็งไปยังลวดลายสีทองขนาดเทาศีรษะที่อยู
กลางอากาศดวยใจที่ตื่นเตนเปนพิเศษ
ถึงแมวาเขาจะไมไดใชอาคมกระตุนลวดลายอสนีกลางอากาศ แตพลังลมปราณ
อันแข็งแกรงที่แฝงอยู ก็มากกวาอสนีปดเปาภยันตรายที่กอตัวกันกลายเปนผาไหม
เปนสิบเทา หากกลาวถึงพลังการโจมตี เกรงวาเขตอาคมที่ปกปองหองหินหองนี้
ก็ไมอาจตานรับได
ในใจพลันขบคิดเชนนั้น หานลี่พลันกวักมือเรียกลวดลายกลางอากาศ
เสี ย งฟ า ผ า ดั ง ขึ้ น ลำแสงอสนี เปล ง แสงสวา งวาบกลับ คื น เปน ผา ไหมดังเดิม
และถูกดูดเขาไปในมืออีกครั้ง
จากนั้นหานลี่พลันพนประจุไฟฟาสีทองออกมาอีกครั้ง และใชอสนีเทวาปดเปา
ภยันตรายเริ่มผนึกลวดลายอสนีเปนครั้งที่สอง หลังจากลมเหลวเชนกันไปครั้งหนึ่ง
ลวดลายอสนีอีกอันก็ปรากฏขึ้นเบื้องหนา
ของที่ปรากฏขึ้นครั้งนี้ ไมใชผาไหม แตเปนไขมุกกลมๆ สีทองเรืองรองเม็ดหนึ่ง
ผิวของไขมุกมีลวดลายที่เหมือนกับอัสนีเปลงแสงระยิบระยับ
หานลี่ใชมือหนึ่งตะปบออกไป ใชจิตสัมผัสตรวจสอบทั้งสองสิ่งที่ไมเหมือนกัน
หลังจากผานไปชั่วครู เขาก็นึกอะไรขึ้นมาได อาปากออก พนเปลวเพลิงสีเงินกลุมหนึ่ง
ออกมาจากปาก สองมือพลันรายอาคม ชี้ไปทางเปลวเพลิงลูกนั้น
ชั่วขณะนั้นเสียงเพรียกอันไพเราะพลันดังขึ้น เสียง “ปง” ดังขึ้น เปลวเพลิง
ระเบิดออก สะเก็ดไฟจำนวนนับไมถวนระเบิดออก
ปากของหานลี่พลันบริกรรมคาถา จิตสัมผัสหอหุมเอาไว สะเก็ดไฟสีเงินรวมตัวกันแลว
เปลี่ยนรูปรางกลายเปนเพลิงเสนไหมบางๆ
ฉากที่เหมือนกันปรากฏขึ้น แตเพลิงเสนไหมเหลานี้เพิ่งจะตัดสลับกันไดครึ่งหนึ่ง
แลวระเบิดออกดวยเสียงดังสนั่น กลายเปนลูกบอลเพลิงสีเงินกลุมหนึ่ง
เมื่อเห็นฉากนี้หานลี่พลันเผยทาทางขบคิดออกมา ในเวลาเดียวกันพลันกระตุน
จิตสัมผัส ชั่วขณะนั้นลูกบอลเพลิงสีเงินพลันกลายเปนวิหคเพลิงตัวหนึ่ง สยายปกทั้ง
สองขางออกพลางบินกลับไป กระโจนเขาไปในรางกายของหานลี่อยางไรรองรอย
จากนั้นหานลี่พลันใชลมปราณของตนเองลองผนึกเสนไหมวิญญาณสีเขียวดูสักครั้ง
ผลคือ เหมือนกับเพลิงกลืนวิญญาณ เพิ่งจะสำแดงไดครึ่งหนึ่ง ก็สลายหายไป
หานลี่ไมไดทดสอบตอ แตครุนคิดอยางหนัก
เห็นไดชัดวาพลังลึกลับทั้งสองมีที่มาเดียวกัน แตจุดเล็กๆ กลับไมเหมือนกัน
พลังอสนีในผาไหมบริสุทธิ์และมั่นคง สวนพลังอสนีในไขมุกทองกลับเรารอนพรอม
ลงมือ อันตรายเปนอยางมาก ดูเหมือนวาหากสัมผัสก็จะปะทุทันที
หานลี่ควงสิ่งมีลวดลายอัสนีสองชิ้นเลนไปมา หลังจากพิจารณาอยางละเอียด
ใบหนาถึงไดเผยรอยยิ้มจางๆ ออกมา
ถาหากเขาเดาไมผิด ลวดลายอัสนีชนิดนี้นาจะเปนยันตมหัศจรรยที่เกิดขึ้นตาม
ธรรมชาติชนิดหนึ่ง ลวดลายทุกชนิดลวนมีประสิทธิภาพที่เปนเอกลักษณ เปนสิ่งที่
คลายคลึงกับตัวอักษรลูกออดสีเงิน
ทวาลวดลายเหลานี้มีประสิทธิภาพอยางไร รวมทั้งจะใชไดอยางคุนเคยไดอยางไร
ก็ไมอาจเขาใจไดในระยะเวลาเพียงสั้นๆ
หานลี่เก็บสิ่งที่มีลวดลายอสนีเขาไปในกลองหยก แปะยันตอาคมสองสามแผนลงไป
อยางระมัดระวัง แลวถึงไดเก็บเขาไปในกำไลเก็บของพรอมกับคัมภีรมวนนั้น
เวลาที่เหลือ หานลี่พลันดึงจิตสัมผัสกลับมา หลับตาทั้งสองขาง แลวเขาสูสมาธิ
เพื่อพักผอน
เชาตรูวันที่สาม หานลี่พลันเบิกตาขึ้น เก็บเขตอาคมในหองทำสมาธิ ผลักประตูหิน
เดินออกไป
เมื่อออกจากหองหิน พลันแผจิตสัมผัสออกไปรอบๆ ตามความเคยชินของหานลี่
กวาดจิตสัมผัสไปทั่วทั้งวิหารตามความรูสึก
ผลคือ หูมีเสียงถายทอดเสียงอะไรสักอยางดังขึ้น
ผลคือ เขาเอียงศีรษะ ขมวดคิ้วมุน
แตฝเทากลับตรงไปยังหองโถงใหญโดยไมหยุดเลยสักนิด
ยังไมรอใหเดินจนสุดทางเดิน หานลี่ก็ไดยินเสียงหัวเราะอยางบาคลั่งของบุรุษ
ผูนั้นดังมา
“เซียนสวี่ ยอมแพเถิด เจาไมอาจทำตามสัญญาได ก็ควรจะยอมรับลูกศิษยของขา
ใชหรือไม”
เสียงหัวเราะนี้ไมคุนหูเลยสักนิด ฟงยากราวกับฆองแตก
หานลี่เดินออกจากทางเดินดวยสีหนาเรียบเฉย กวาดสายตาไป ทุกอยางในหองโถง
พลันเขามาอยูในครรลองสายตา เห็นเพียงในหองโถงมีคนสี่คนกำลังดูเหมือนจะยืน
คุมเชิงกันอยู
บุรุษหนึ่งคนและสตรีหนึ่งคนยืนอยูดวยกัน สตรีคนนั้นคือสตรีผูบำเพ็ญเพียรแซสวี่
แตครานี้มีสีหนาซีดขาว สวนอีกคนกลับเปนชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตจัวชง
สีหนาลำบากใจมากเชนกัน
ผูที่อยูตรงขามสองคนกลับเปนชายชุดดำ!
คนหนึ ่ ง คื อ ชายชราใบหน า เรี ย วยาว ดวงตาเป น รู ป สามเหลี ่ ย ม สวมชุ ด
เกราะยมโลกนิล อีกคนหนึ่งคือชายวัยกลางเตี้ยๆ เสนผมสีเหลืองกรอบ ใบหนาเต็มไป
ดวยกระ
ผูที่กำลังหัวเราะนั่นก็คือชายชราดวงตาสามเหลี่ยม!
“ทานอาวุโสหาน!”
เมื่อรางของหานลี่ปรากฏตัวในหองโถง ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตพลัน
เหลือบมองเห็นแลวพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็เขามาคารวะอยางรีบรอนราวกับไดรับ
อภัยโทษ
สตรีผูบำเพ็ญเพียรแซสวี่เห็นหานลี่ ใบหนางดงามก็เผยสีหนาตกตะลึงระคนดีใจ
ออกมา
หานลี่หยุดชะงักฝเทา ชั่วพริบตาก็โคจรจิตสัมผัสไปรอยรอบ แตสีหนากลับ
ไมเปลี่ยนแปลง
“นายทานคือ สหายหานที่มาใหมสินะ!” ชายชราหยุดหัวเราะ พิจารณาหานลี่
ดวยทาทีสนอกสนใจ
ในเวลาเดียวกันหานลี่พลันแผจิตสัมผัสไป ก็พบวาชายชราผูนั้นคาดไมถึงวาจะ
เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นกลางคนหนึ่ง ระดับสูงกวาเขาขั้นหนึ่ง จึงอดที่
จะขมวดคิ้วไมได
“สหายทั้งสองคือใคร เหตุใดถึงมาเอะอะโวยวายที่นี่?” หานลี่เอยถามอยางเย็นชา
เมื่อเห็นทาทางของหานลี่ ชายชราดวงตาสามเหลี่ยมพลันรูสึกโมโห ตัวเองพลัง
ยุทธเหนือกวาอีกฝายชัดๆ คาดไมถึงวาจะเอยเชนนี้กับตน ชางไมรูจักที่ต่ำที่สูงเสียจริง
ทวาชั่วพริบตาคนผูนี้ก็คิดถึงฐานะผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาของหานลี่ ความโกรธ
จึงปะทุขึ้น และฝนระงับมันเอาไว แตกลับเอยดวยรอยยิ้มเสแสรงวา
“ตาเฒาหวงเปา คือ หัวหนากองกำลังที่ยี่สิบเจ็ด แคมีเรื่องคุยกับสหายสวี่เทานั้น
สหายอยายุงเลยจะดีกวา”
“ขาไมมีอะไรตองพูด เรื่องนี้ดูเหมือนจะเปนแคเรื่องของลูกศิษยทาน ทานอาวุโส
ยุงเกี่ยวกับเรื่ องนี้ ไมคิดวาเปนการรัง แกผู น อยหรื อ” สตรีผูบำเพ็ญเพียรแซ ส วี่
เคนเสียงลอดไรฟนขณะเอย
“อันใด เซียนสวี่คิดจะผิดสัญญากับศิษยหรือ? กอนหนานี้เซียนเคยกลาวเอาไววา
ศิ ษ ย ไ ม อาจขอความช ว ยเหลือจากผู อื ่ น ได หากสหายมี ฝ ม ื อ ก็ ไ ปขอให ช  ว ยเถิด
มิ เ ช นนั ้ น ก็ อ ย า ก อ หายนะให ก ั บ ตระกู ล สวี ่ ข องพวกเจ า เลยจะดี ก ว า ” ชายชรา
ตาสามเหลี่ยมมีน้ำเสียงเย็นชา สายตาจองเขม็งไปยังสตรีผูนั้นดุจอสรพิษ
“เรื ่ องของข า เกี ่ ย วอะไรกั บตระกู ลสวี ่ ท า นอาวุโ สอยา นำมาเกี่ ยวข อ งกัน”
สตรีผูบำเพ็ญเพียรแซสวี่แววตาอดที่จะเผยความโกรธเกรี้ยวออกมาไมได
“หึ ๆ ไม เ กี ่ ย วได อย า งไร ตอนแรกที ่ เ จ า กั บ ศิ ษ ย ข  า พนั น กั น ก็ ม ี พ ยานจาก
ตระกูลสวี่ของพวกเจาหลายคน สหายไมยอมรักษาสัญญา ผูแซหวงก็ตองมาหา
พยานเหลานี้” ชายชราหัวเราะฮาๆ ขณะเอย
เซียนสวี่ไดยินเชนนั้น พลันหนาซีดเผือดไปหลายสวน เลื่อนสายตาไป อดที่จะตกลง
บนรางของหานลี่ไมได ถึงแมวาจะไมไดเอยปาก แตสายตาออนวอนก็เผยออกมาอยาง
ไมตองสงสัย
ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตที่อยูดานขางเองก็มีสีหนาจนปญญา
“พนันอะไรกัน?” หานลี่ลูบจมูกเอยถามอยางราบเรียบ
จะวาไปแลวหากสตรีแซสวี่ไมใชชนรุนหลังของเซียนวิญญาณน้ำแข็ง เขายังนึกถึง
บุญคุณตรงจุดนี้ ไมเชนนั้นคงไมเอยถามเชนนี้ออกมา จากฐานะของเขาถามคำถาม
เชนนี้ ก็แทบจะหมายความวาคิดจะสอดมือเขายุงกับเรื่องนี้แลว
ชายชราตาสามเหลี่ยมหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย!
“งายมาก ขานอยขอเซียนสวี่แตงงาน แตเซียนสวี่มั่นใจในกระบี่ผลึกน้ำแข็งของ
ตนเองมาก และเคยสัญญากับขานอยเอาไว ขอแคสมบัติอาคมประจำกาย รับ
การโจมตีจากกระบี่เลมนี้ได ไมถูกแชแข็ง ก็จะยอมตกลงปลงใจกับขา และขานอยก็
ทำได แตเซียนกลับคิดจะเปลี่ยนใจ คาดไมถึงวาจะเอาแตหลบอยูที่นี่” เจาอวนผูนั้น
กลอกตาไปมา หัวเราะหึๆ ออกมาขณะเอย
“มีเรื่องเชนนี้จริงๆ หรือ?” หานลี่เอยถามสตรีแซสวี่อีกครั้งหนึ่ง
“เรื่องนี้เ ป นความจริง แตสมบัติอาคมประจำกายนั้ นถูกทำอะไรสั กอย า งไว
มิเชนนั้นจากระดับขั้นตนของเขา จะรับมือกับการโจมตีของขาไดอยางไร” เซียนสวี่
เอยดวยสีหนาที่โกรธเกรี้ยว และใชสายตาไมยินยอมมองไปทางชายชราแวบหนึ่ง
ถึงแมวาชายชราจะไมไดเอยอะไรออกมา ตาสามเหลี่ยมกลับเผยแววพึงพอใจ
ออกมา
“ไมจะดวยเหตุผลใด ตอนนี้กระบี่ผลึกน้ำแข็งก็ไมอาจผนึกมีดคลื่นมรกตของขานอย
ไดนั้นเปนเรื่องจริง! จุดนี้ เซียนคงยอมรับสินะ” เจาเตี้ยเอยดวยรอยยิ้มเบิกบาน
สตรีแซสวี่มีสีหนาเย็นชาไมไดเอยอะไรออกมา
“เชนนี้นี่เอง! แตขานอยเองก็ไมเชื่อวากระบี่ผลึกน้ำแข็งของสหายสวี่จะไมอาจ
ผนึกสมบัติอาคมของนายทา นได พวกเราลองทดสอบใหม อี กครั ้งตอหนา ข า เถิ ด
ถาหากเปนเชนนั้นจริงๆ ผูแซหานก็จะไมยุงกับเรื่องนี้ หากไมใช ก็เชิญสหายทั้งสอง
กลับไป ที่นี่คือที่มั่นของกองกำลังที่หาสิบหก ไมใชกองกำลังที่ยี่สิบเจ็ด” แววตาของ
หานลี่ฉายแววเย็นเยียบ น้ำเสียงเย็นเยียบ
“ทานอาวุโส ขา…”
“เยี่ยม เชนนั้นแหละ หวังวาสหายหานจะจำพูดของตนเองได”
สตรีแซสวี่ไดยินพลันตกตะลึง คิดจะเอยอะไรสักอยาง แตถูกชายชราตอบรับดวย
ความดีอกดีใจ
เปนเพราะหวาดกลัวฐานะผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาของหานลี่ หากไมจำเปน
เขาก็ไมอยากผูกความแคนดวย
เจาอวนผูนั้นเองก็อาปากออกพนมีดบินสีเขียวออกมาอยางรูจักหนาที มันโคจรไปมา
อยูเบื้องหนา ในเวลาเดียวกันใบหนาก็เผยรอยยิ้มโหดเหี้ยมออกมา
มีดบินเลมนี้เปลงแสงเจิดจาจนแสบตา ดูแลวไมธรรมดาจริงๆ
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง รูมานตามีลำแสงสีฟาเปลงแสงสวางจา มองทะลุผาน
มีดบินนี้เขาไปดานใน
สิ่งที่เรียกวา ‘มีดคลื่นมรกต’ ดานในมีพลังลมปราณที่ไมเหมือนกันสองชนิดผนึก
รวมกันอยู พลังชนิดหนึ่งคอนขางออนแอ อีกชนิดแข็งแกรงมาก!
สมบัติชิ้นนี้ถูกทำอะไรไวจริงๆ
ตอนที่ 1337 ธาตุเย็นเขาแทรก
ทามกลางสายตาของผูคน แมวาสตรีแซสวี่จะรูสึกไมมั่นใจ แตก็ทำไดเพียงสะบัด
แขนเสื้อ ลำแสงสีขาวสายหนึ่งพุงออกมา หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง ก็กลายเปน
กระบี่บินแวววาวเลมหนึ่งปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ
นั่นก็คือกระบี่ผลึกน้ำแข็งสมบัติประจำกายของนาง!
จะวาไปแลว สตรีผูนี้ก็รูสึกจนปญญาเชนกัน
ความจริ ง แล ว ต อให ม ี ด คลื ่ นมรกตถู ก ทำอะไรไว แต ห ากให เ วลานางหลอม
หยกทมิฬหมื่นปเขาไปในกระบี่บินสักหนอย อานุภาพของกระบี่ผลึกน้ำแข็งก็จะ
เพิ่มขึ้น และไมใชวาจะไมมีหวังวาจะแชแข็งมีดเลมนี้ได
ถึงแมวาตอนนี้จะปลอยกระบี่บินออกไป สตรีแซสวี่กลับไมกลาเสี่ยงสับลงไป
บนมีดบินสีเขียวในทันที แตกลับมองมาที่หานลี่แวบหนึ่งดวยความลังเลใจ
หานลี่มองไปทางกระบี่ผลึกน้ำแข็งและมีดบินสีเขียวเลมนั้นแวบหนึ่ง ฉับพลันนั้น
มือหนึ่งพลันตะปบไปทางกระบี่บิน
สตรีแซสวี่รูสึกเพียงวาชั่วครูสมบัติอาคมประจำกายพลันสั่นคลอน จากนั้นเสียง
“สวบ” พลันดังขึ้น คาดไมถึงวาจะหลุดพนการควบคุม ถูกหานลี่ดูดเขามาในมือ
หานลี่ควาไปที่ดามกระบี่ อีกมือหนึ่งรายไปทางตัวกระบี่ เปลงเสียงรองยาวๆ ที่
เหมือนวิหคออกมา
เสียงไพเราะเสนาะหู ราวกับเสียงจากสรวงสวรรคอยางไรอยางนั้น
ชายชราสามตามองเห็นฉากนั้นพลันตกตะลึง ทันใดนั้นมุมปากก็เผยรอยยิ้ ม
เย็นชาออกมา
ถึงแมวาพวกเขาจะมีพลังยุทธถึงขั้นที่สามารถสำแดงเคล็ดวิชาลับออกมาเพิ่ม
ประสิทธิภาพใหกับสมบัติอาคมประจำกายได แตการเพิ่มพลังยุทธใหกับสมบัติอาคม
ของผู  อื ่ น กลั บ ไม ใ ช เ รื ่ องง า ย ถึ ง อย า งไรเสี ย ไม ว  า จะเป น พลั ง ลมปราณ หรื อวา
เคล็ดวิชา ลวนมานำรวมกันไดยาก
ที่เขาเพิ่มพลังยุทธใหกับสมบัติอาคมประจำกายของศิษยในครั้งนี้ ก็เพราะกอนหนานี้
ไมนานไดยันตวิเศษลึกลับมาโดยบังเอิญ ใชเวลาบวงสรวงอยางหนักอยูครึ่งเดื อน
ถึงจะอยูในจุดนี้ได
หานลี่ที่อยูเบื้องหนาเปนแคผูบำเพ็ญเพียรระดับขั้นตนคนหนึ่ง เขาไมเชื่ อวา
อีกฝายจะเพิ่มพลังยุทธใหกับกระบี่บินไดในชั่วพริบตา
และยิ่งไปกวานั้น หากจะแชแข็งมีดคลื่นมรกต ก็มีเพียงตองมีพลังธาตุน้ำแข็ง
เหมือนกันถึงจะทำได นี่เปนขอจำกัดอยูมาก!
ชายชราขบคิดทุกอยางอยางทะลุปรุโปรง แลวถึงไดไมกลัววาหานลี่จะลงมือ
เชนเดียวกัน
“กระบี่ชั้นดี!” หานลี่กลับดูเหมือนวาจะมองความคิดของชายชราอยางทะลุปรุโปรง
มุมปากหยักขึ้นเล็กนอย ทันใดนั้นมือที่กุมดามกระบี่ ฉับพลันนั้นเปลวเพลิงสีเงินพลัน
ระเบิดออก ชั่วพริบตาก็หอหุมกระบี่บินทั้งเลมเอาไวขางใน จากนั้นก็เปลงแสงสวาง
วาบแลวจมหายเขาไปในกระบี่บินอยางไรรองรอย
กระบี่บินที่ แต เ ดิ มกึ่ ง โปร งใส ชั่วพริบตาพลัน เปลี่ ยนสี เ งิ น ขาว ผิวของมั นมี
ลวดลายของวิหคเพลิงสยายปกบินขึ้นสูทองฟาปรากฏขึ้น ดูเสมือนจริง ราวกับถูก
แกะสลักเอาไวตั้งแตแรกอยางไรอยางนั้น
นั่นก็คือหานลี่ใชเพลิงกลืนวิญญาณบรรจุเขาไปบนตัวกระบี่ผลึกน้ำแข็ง จึงเกิด
เปนลวดลายเชนนี้ขึ้น
นี ่ เป นความสามารถที ่น าเหลื อเชื่ อของเพลิง กลื น วิ ญ ญาณที่ มี พลั งลมปราณ
กลืนกินจำนวนมาก เดิมทีก็ถูกสรางขึ้นจากเพลิงจันทราเที่ยงแทและเพลิงอาทิตย
เที ่ ย งแท จึ ง สามารถเปลี ่ ย นให เ ป น พลั ง ธาตุ เ ย็ น หรื อ ธาตุ ร  อ นได ต ามอำเภอใจ
ถึงไดผสมเขาไปในกระบี่บินไดอยางงายดายโดยไมมีความผิดพลาดเกิดขึ้น
เมื่อเห็นฉากนี้ ชายชราตาสามเหลี่ยมกลับเบิกตาขึ้นสองสามสวน รูมานตาหดเล็กลง
คนที่เหลือพากันตกตะลึง
หานลี่ขยับมือ กระบี่บินเปลงเสียง “สวบ” ถูกโยนกลับคืนไป
สตรี แ ซ ส วี ่ ร ี บ ร อนร า ยอาคมใส ก ระบี ่ ด  ว ยความตกตะลึ ง ระคนดี ใ จ ชั่ ว ขณะนั้ น
พลันฟนฟูจากการควบคุมของกระบี่บิน จากนั้นปากพลันบริกรรมคาถา นิ้วทั้งสิบ
รายอาคมอยางตอเนื่อง อาคมเปนสายๆ เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปในตัว
กระบี่บิน ในเวลาเดียวก็บรรจุลมปราณทั้งรางเขาไปในตัวกระบี่
ชั ่ ว ขณะนั ้ นกระบี ่ บ ิ นพลั น เปล ง เสี ย งหึ ่ ง ๆ ออกมา สั ่ น คลอนเล็ ก น อย ผิ ว มี
เปลวเพลิ ง สี เ งิ นชั ้ นหนึ ่ ง ปรากฏขึ ้ น จากนั ้ น พลั น ม ว นวน ชั ่ ว พริ บ ตาก็ ก ลายเปน
วิหคเพลิงสีเงินขนาดสองสามจั้งตัวหนึ่ง
ชั่วพริบตาที่วิหคเพลิงปรากฏตัว บรรยากาศทั้งวิหารพลันลดต่ำลงอยางรวดเร็ว
แมกระทั่งพื้นดินรอบๆ ยังมีน้ำแข็งสีขาวเปนชั้นๆ ปรากฏขึ้น เปลงแสงระยิบระยับ
สตรีแซสวี่เปลงเสียงรองออกมา วิหคเพลิงกระพือปกสองสามครั้ง พุงเขาไปหา
มีดบินสีเขียวที่อยูไมไกลนัก
เห็นกระบี่ผลึกน้ำแข็งถูกหานลี่ทำอะไรสักอยางลงไปเชนกัน อานุภาพเพิ่มขึ้นเปน
อยางมาก ใบหนาของเจาเตี้ยพลันมีสีหนาตื่นตะลึงปรากฏขึ้น แตจนมาถึงครานี้
ก็ทำไดเพียงกัดฟน รายอาคมกระตุนสมบัติอาคมประจำกายของตนเองเชนกัน
มีดบินสีเขี ยวพลั นพลิ ้ว ไหว ทามกลางลำแสงที ่แผ ออกมา พลันหมุนวนแล ว
กลายเปนมังกรวารีสีเขียวเขาเดี่ยวตัวหนึ่ง กระโจนเขามาอยางโหดเหี้ยม
เสียง “ตูม” ดังขึ้น
มังกรสีเขียวและวิหคเพลิงปะทะกัน ลำแสงสีเขียวและเปลวเพลิงสีเงินพัวพันกัน
วิหคเพลิงอาปากออก งับรางของมังกรวารีสีเขียวไปครึ่งหนึ่ง แลวกลืนลงไปจนเกลี้ยง
เจาอวนรองอุทานออกมา กระอักโลหิตสดๆ ออกมา สีหนาตื่นตะลึงไมท ันได
สำแดงอะไรอีก
หลังจากที่วิหคเพลิงมีเสียง “ปง” ดังขึ้น พลันกลายเปนหมอกสีเงิน ปกคลุมมังกรวารี
สีเขียวที่ตัวขาดครึ่งเอาไวทั้งหมด
ลำแสงสีเงินเปลงแสงเจิดจา เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น น้ำแข็งยักษสูงสิบจั้งเศษพลัน
ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
มังกรวารีสีเขียวที่ถูกแชแข็งเปลงเสียงรองคร่ำครวญออกมา รางกายสลายหายไป
กลายเปนมีดบินที่หมนแสงเลมหนึ่ง
ซุยเยวไมไดสังเกตวา ชั่วพริบตาที่กระบี่บินปรากฏตัว ลำแสงสีเงินพลันพุงออกมา
จากหมอกน้ำแข็ง เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปในกระบี่ แลวสลายหายไป
ฉากที่แปลกประหลาดพลันปรากฏขึ้น!
เจาเตี้ยอยูหางกับสมบัติประจำกายของตนเองยี่สิบจั้งเศษแทๆ ในเวลาเดียวกัน
ที่กระบี่บินถูกแชแข็ง เสียง “ตึง” พลันดังขึ้น ลมลงกับพื้นราวกับซากศพ และ
หมดสติไป
เพลิงกลืนวิญญาณมีความสามารถเหนือชั้นขนาดไหน!
ตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาหากถูกเขาโดยไมทันระวังตัว ก็ยังคง
เสียเปรียบไมนอย นับภาษาอะไรกับสมบัติของผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดคนหนึ่ง
ถึงแมวาจะถูกเสริมพลังเขาไป แนนอนวาก็ไมอาจตานรับการโจมตีได
สตรีแซสวี่เห็นฉากนี้ พลันกวักมือเรียกดวยความตกตะลึงระคนดีใจ
ชั่วขณะนั้นหมอกน้ำแข็งสีเงินพลันรวมตัวกัน ชั่วพริบตาก็กลับมาเปนกระบี่บินสีเงิน
และพุงกลับมาในทันใด
ทวาระหวางทางเปลวเพลิงสีเงินกลุมหนึ่งพลันหลุดออกมาจากตัวกระบี่ เปลงแสง
สวางวาบแลวพุงออกไป
ชั่วครูเปลวเพลิงนี้ก็จมหายเขาไปในรางของหานลี่
แทบจะในเวลาเดียวกัน หวงเปาที่อยูดานขางก็ไดสติกลับมาพรอมกับหนาที่
เปลี่ยนสี ทันใดนั้นกายก็พลิ้วไหวดวยความโกรธเกรี้ยว
ครูตอมาคนก็มาปรากฏตัวขางกายลูกศิษยตน สายตามองปราดไปแลวพบวา
เจาเตี้ยที่อยูบ นพื ้นมีน้ำคางสีขาวปรากฏขึ ้นชั ้น หนึ่ง และยิ่งไปกวานั้ นสี หน า ยั ง
เขียวคล้ำ ราวถูกก็แชแข็งจนตายในฉับพลันก็ไมปาน
“ธาตุเย็นเขาแทรก!” หวงเปาเห็นสถานการณเชนนั้น ก็รองอุทานออกมา ใบหนา
เต็มไปดวยความตกตะลึง
แตถึงอยางไรเสียเขาก็เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง ชูแขนขึ้นสะบัดไปทาง
กอนน้ำแข็งยักษอยางไมตองคิด ลำแสงสีแดงสายหนึ่งพุงออกไป ลอมรอบกอนน้ำแข็ง
เอาไวกลางอากาศ
เสียง “ปง” ดังขึ้น เมฆเพลิงกลุมหนึ่งระเบิดออก ชั่วครูก็หอหุมกอนน้ำแข็งเอาไว
อุณหภูมิในวิหารเพิ่มขึ้นทันที ชั่วพริบตากอนน้ำแข็งยักษก็ละลาย ชั่วพริบตา
มีดบินสีเขียวก็กลับมาเปนอิสระ เปลงแสงสวางวาบแลวบินกลับมาในทันที จมหาย
เขาไปในรางของเจาเตี้ย
หานลี่มองฉากนั้น ใบหนากลับไมมีความผิดปกติเลยสักนิด
เพื่อปกปดความสามารถที่แทจริงของเพลิงกลืนวิญญาณ หลังจากที่ลดอานุภาพ
ของมีดบินไป แชแข็งมันจนเปนกอนน้ำแข็งแลวก็ใชความเย็นเยียบของตัวกระบี่ผลึก
น้ำแข็งเดิม มิเชนนั้นจากความสามารถของเพลิงสวรรค ความเย็นเยียบที่สรางขึ้นคง
ไมอาจกำจัดออกไดงายๆ ทวา หานลี่เองก็เผยความรายกาจออกมา จะไดทำใหอีก
ฝายรับรูแลวถอยไป
กอนหนานี้เขาควบคุมพลังเย็นเยียบของเพลิงกลืนวิญญาณ ใสเขาไปในกระบี่บิน
แลวแทรกเขาไปในรางของเจาเตี้ยผานการเชื่อมโยงทางจิตใจ
จะวาไปแลว ความสามารถธาตุเย็นเขาแทรก ก็เปนความสามารถที่หานลี่เพิ่งจะ
สำแดงผานเพลิงกลืนวิญญาณไดไมนานนัก
เขาเคยคนควาขอมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความสามารถชนิดนี้ดูเหมือนจะมีที่มาไมธรรมดา
เหมือนวาจะมีเพียงพลังเย็นเยียบในตำนานของแดนวิญญาณที่ทำได
และประสิทธิภาพของการกระทำเชนนี้ก็ไมนอยเลยจริงๆ
แววตาของหานลี่ที่มองชายชราตาสามเหลี่ยมพลันเปลี่ยนเปนลึกลับยากจะคาดเดา
ชายชราควักขวดยาสีแดงเพลิงขวดหนึ่งออกมายัดใสปากของเจาเตี้ยอยางรวดเร็ว
เห็นสีหนาเขียวคล้ำของเขาคอยๆ หายไป ก็พนลมหายใจออกมา แลวถึงไดมองมา
ทางหานลี่ สีหนาบัดเดี๋ยวเครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใส
“พี่หานมีความสามารถนาตกตะลึง ผูแซหวงละอายใจนักที่สูมิได เรื่องขอแตงงานของ
ศิษยขาก็ชางมันเถิด ขานอยขอตัวลา” หวงเปาขบคิดอยูชั่วครู ในที่สุดก็คารวะหานลี่
ฝนฉีกยิ้มขณะเอย
จากนั้นเขาพลันอุมเจาเตี้ยขึ้นมา แลวเดินออกไปจากวิหาร
หานลี่ใชสายตาสงเขาอยางราบเรียบ และไมไดเอยอะไรอีก แตหลังจากที่เห็น
รางของชายชราหายวับไปจากประตูวิหาร สีหนากลับเครงขรึมขึ้น ไมรอใหสตรีแซสวี่
คิดจะเขามาขอบคุณ ปากก็ชิงเอยอยางเย็นชาวา
“คนผูนี้มีที่มาอยางไร?” สตรีแซสวี่พลันตะลึงงัน ยังไมทันเขาใจวาหานลี่มีเจตนาใด
ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตที่อยูดานขางก็เขาใจทันที จึงรีบรอบเอยตอบกลับวา
“ทานอาวุโสหานโปรดวางใจ ทานอาจารยหวงเปาและศิษยมีตนกำเนิดจากสำนัก
เล็กๆ นามวาหุบเขาทรายหลาก ไมไดมาจากสำนักพรรคใหญๆ และเกาแกอะไร
เขาคือ อาวุโสที่มีพลังยุทธสูงที่สุดในหุบเขาทรายหลาก”
“เช นนี ้ นี ่ เ อง ดู แ ล ว คงไม จ ำเป น ตองรบกวนขา อี ก ! สหายสวี ่ ลงมื อช ว ยเจา
นอกเหนือภารกิจ นี่เปนครั้งแรกและครั้งสุดทาย หากมีเรื่องยุงยากอีก หวังวาเจาจะ
ดูแลตัวเองใหดี เขาใจความหมายของขาสินะ!” ฉับพลันนั้นเขาพลันหันมาเอย กับ
สตรีผูบำเพ็ญเพียร
“ชนรุนหลังเขาใจแลวเจาคะ ครั้งนี้ขอบพระคุณทานอาวุโสมากที่ชวยเหลือ
ครั้งหนาจะไมมีเรื่องเชนนี้เกิดขึ้นอีกแน” สตรีแซสวี่จิตใจหนักอึ้ง แตก็ยังคงเอย
ขอบคุณอยางนอบนอม
หานลี่พยักหนาอยางราบเรียบ คนก็สาวเทายาวๆ ออกไปจากประตู แลวออกไป
จากวิหาร
“เปลวเพลิงสีเงินคือ พลังเย็นเยียบชนิดใดกันแน คาดไมถึงวาจะมีความสามารถ
ธาตุเย็นเขาแทรก แตเปลวเพลิงเย็นเยียบสองสามชนิดในตำนานก็ดูเหมือนวาจะ
ไมอาจทำเชนนี้ได สหายสวี่ ดูเหมือนทานอาวุโสจะดูแลเจาเปนอยางดี พวกเจานาจะ
มีที่มาเดียวกันสินะ รูจักเปลวเพลิงเย็นเยียบเหลานั้นหรือไม?” ชายรางใหญดวงตา
สีเขียวมรกตรอจนหานลี่จากไป ก็หัวเราะอยางขมขื่นออกมาหันหนามาเอ ย ถาม
เซียนแซสวี่
“ทานอาวุโสหานมีความสัมพันธกับบรรพชนของขาจริงๆ แตเปลวเพลิงเย็นเยียบนั้น
ขาก็เพิ่งเคยไดยินเปนครั้งแรก วันนั้นมันกลืนกินมนุษยอสูรเถื่อนที่รวมรางกันเขาไป
มีความสามารถขนาดนี้ไดนั้นไมธรรมดาเลย ทวาผูอาวุโสหานดูเหมือนจะไมชอบใหคน
อื่นซักถามเรื่องตนเอง พี่จัวอยาถามเลยจะดีกวา มิเชนนั้น…” สตรีแซสวี่ถอนหายใจ
ออกมาเบาๆ สุดทายก็เอยถึงเรื่องนี้
ชายรางใหญดวงตาสีเขียวมรกตไดยิน พลันหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย ทันใดนั้น
ก็พยักหนาอยางเห็นดวย
และในตอนนั้นเอง หานลี่ที่กลายเปนสายรุงสีเขียว ก็มุงตรงไปยังเมืองเทวะสวรรค
จากขาวที่เขาไดรับมา งานประมูลนาจะจัดขึ้นในตอนเที่ยง เดินทางตอนนี้ ก็ทันเวลา
พอดี
ตอนที่ 1338 ของประมูลที่คาดไมถึง
ครั้นหานลี่บินมาถึงยานรานคา ก็ใกลยามเที่ยงแลว รอเพียงชั่วครู ก็ใชเคล็ดวิชาลับ
แปลงเปนชายรางใหญหนวดโคง ตรงไปยังวิหารทมิฬ
ตรงประตูมีคนทยอยกันจายศิลาวิญญาณเพื่อแลกกับหยกลำแสงพรางตัวเดินเขา
ไปในวิหาร
คนเหลานี้ลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขึ้นไป
หานลี่มองเห็นแมกระทั่งผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาสองสามคนที่เดินเขาไป
ในทันทีเชนกัน
เขาขบคิดเล็กนอยแลวเดินเขาไปเชนกัน โยนถุงหนังธรรมดาที่บรรลุศิลาวิญญาณ
จนเต็มไปใหผูรักษาประตู
หลังจากที่ผูรักษาประตูกวาดจิตสัมผัสไปที่ถุงหนังบนเรือนรางของหานลี่แลว
ก็มอบหยกแผนหนึ่งให แลวเปดทางออก ในเวลาเดียวกันก็เอยอยางราบเรียบวา
“เขาไปขางใน เดินไปทางซาย!”
หานลี่ไดยินแลวพลันตกตะลึง เดินเขาไปดวยความฉงนเล็กนอย
หลังจากที่เดินเขามาในทางเดิน เขาก็พบวาทางเดินสายตรงสายหนึ่งในครั้งที่แลว
เปลี่ยนเปนคดเคี้ยว และตรงกลางยังแบงออกเปนทางเดินสองสาย เปนสีดำแยก
ออกเปนสองฝง
ราวกับวิหารทมิฬที่เดินเขาไปในครั้งที่แลวไมใชที่เดียวกันกับที่นี่!
ดูแลวเขตอาคมในวิหารคงถูกเปลี่ยนไปแลวรอบหนึ่ง
ทวาผูรักษาประตูไดเตือนไวแลว หานลี่จึงเดินไปตามทางเดินเล็กๆ ดานซายอยาง
ไมลังเลอี ก หลังจากผา นไปชั่ วครู รางกายก็ค อยๆ จมหายเขา ไปในความมื ด มิ ด
สุดทายก็หายลับไป
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งมื้ออาหาร หานลี่ก็มาอยูในหองหินสีดำสนิทเพียงลำพัง
ในหองมีความกวางแคสองสามจั้ ง มีกำแพงสามดาน อีกดานหนึ่ง เปด กว า ง
ในหองนอกจากโตะหยกตัวหนึ่ง เกาอี้ตัวหนึ่ง และจานอาคมสีแดงบนโตะแลว ก็ไมมี
สิ่งอื่นอีก
หองหินเชนนี้มีอยูมากมายตัดสลับอยูกลางอากาศสูงขึ้นไปรอยจั้ง คาดไมถึงวาจะ
มีหองหินลอยอยู
หองโถงยักษทั้งหมดกวางถึงพันจั้ง กวางพอที่จะบรรจุหองหินเกือบพันหองลงไป
ผิวของหองหินเหลานี้มี อัก ขระสีเ ขีย วจางๆ กะพริบวาบอยู ทุกๆ ระยะหาง
จะมีโคมไฟสีเขียวแขวนอยูต่ำๆ ดูลึกลับเปนอยางมาก
หานลี่นั่งลงในหองหิน ใชสายตามองลงไปยังแทนประมูลบนพื้นที่อยูไกลออกไป
พลางชื่นชมวาสุดยอดไมหยุด
ชั่วพริบตาที่เขาเขามาในหองโถง คนก็ถูกเขตอาคมประหลาดตรงทางเขาสงตัวมา
ที่นี่ในทันที สวนเขานั้นเคยลองทดสอบแลว หองหินลอยเหลานี้ไมเพียงลอยตัวอยู
กลางอากาศได ยิ่งไปกวานั้นยังสามารถสกัดกั้นจิตสัมผัสไดดวย ประกบกับลำแสง
อำพรางกายจากหยกที่พกอยู จึงเพียงพอจะรับประกันความลับของผูประมูลได
ดูแลวเจาของงานประมูลคงรูวาผูบำเพ็ญเพียรทุกคนตางรูสึกหวาดกลัว จึงทุมเท
ความคิดกับการรับประกันความลับใหผูประมูลเปนอยางมาก
หานลี่นั่งหลังพิงเกาอี้ หลังจากหลับตาลงทำสมาธิไปไดหนึ่งเคอ ก็มีผูบำเพ็ญเพียร
อีกสองสามรอยคนเดินเขาไปมาในหองโถงยักษ หองหินทั้งหมดดูเหมือนวาจะมี
คนเขาพักไปเจ็ดแปดสวนแลว
หานลี่เบิกตาทั้งสองขึ้นอีกครั้งแลวพนลมหายใจออกมาเบาๆ
ปกติแลวผูที่เขามาในงานประมูลได อยางนอยที่สุดตองเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับ
เทพแปลงขึ้นไป นั่นก็หมายความวางานประมูลเล็กๆ แหงนี้ จะมีผูบำเพ็ญเพียรระดับ
เทพแปลงเกือบพันคนมารวมตัวกันไดอยางงายดาย
หากเปนแดนมนุษย นั่นเปนเรื่องที่ไมแมแตจะกลาคิด
ทวานั่นเปนเพราะอยูในเมืองเทวะสวรรค หากเปนเมืองผูบำเพ็ญเพียรอื่นในสามเขต
นอกจากสามเมืองหลักแลว มิเชนนั้นก็อยาแมแตจะคิด
ฉับพลันนั้นเสียงระฆังดังยาวๆ พลันดังขึ้นสองสามครั้ง ประตูหองโถงที่แตเดิม
เปดออก ก็เปลงเสียงกึกกักออกมา แลวคอยๆ ปดลงอยางแชมชา
ทันใดนั้นกลางอากาศเหนือแทนประมูลก็มีศิลาลำแสงจันทราขนาดเทาศีรษะ
สองสามกอนปรากฏขึ้น เปลงลำแสงสีขาวที่นุมนวลออกมา ทำใหมองเห็นบรรยากาศ
รอบๆ ไดอยางชัดเจน และสะดุดตามาก
สายตาของทุกคนมองไปยังแทนประมูลดานลางตามความรูสึก
เห็นเพียงบนแทนสูงขนาดสิบจั้งเศษ มีเขตอาคมเขตหนึ่งปรากฏขึ้น จากนั้น
ลำแสงสีขาวพลันเปลงแสงสวางวาบ ชายชราชุดขาวคนหนึ่งปรากฏขึ้นบนแทน
เมื่อเห็นคนผูนั้นปรากฏตัว ผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดในหองหินก็เกิดเสียงอื้ออึงขึ้น
บางคนรองอุทานชื่อของชายชราออกมาดวยความตะลึงงัน
“ปรมาจารยชื่อ!”
“เขามาปรากฏตัวที่นี่ไดอยางไร! หรือวางานประมูลนี้…”
เสียงซุบซิบนินทาทยอยกันดังขึ้น
หานลี่ไดยินเสียงอื้ออึงนี้ พลันใจเตน และพิจารณาดวยความสนอกสนใจ
ชายชรามีพลังยุทธแคระดับเทพแปลงขั้นกลาง แตเรือนผมกลับเปนสีเงิน หนาตา
มีเมตตา แววตาเปลงประกาย ทาทางเหมือนนักพรตเทพเซียน ฟงที่คนอื่นถกกันแลว
ผูที่ถูกเรียกวาปรมาจารยนาจะเปนปรมาจารยดานการปรุงยาไมก็ดานเขตอาคม
มีพรสวรรคที่นาตกตะลึง
ครานี้ชายชราชุดขาวพลันกระแอมออกมาเบาๆ ใชเสียงที่ออนโยนเอยวา
“ดู แ ล ว ไม ต  องให ชายชราแนะนำตั ว เหล า สหายกว าครึ ่ ง ก็ร ู จ ัก ผู แ ซ ชื ่อแลว
ความจริงแลวตามนิสัยของขา ไมนาจะมาปรากฏตัวที่นี่ได แตงานประมูลครั้งนี้ มีของ
สองสามอยางที่ขานอยเปนผูชี้ขาด ยิ่งไปกวานั้นขาเองก็สนใจเปนอยางมาก ดังนั้นจึง
อยากเปนเจาภาพในงานประมูล คิดดูแลวเหลาสหายคงไมมีขอคิดเห็นอะไรสินะ!”
“ผูเฒาชื่อลอเลนแลว ปรมาจารยพรรคหลอมยุทธภัณฑอยางทานเปนเจาภาพ
การประมูลเอง เปนสิ่งที่พวกเรารอคอยเปนอยางมาก!”
“ใชแลว ใชแลว! พี่ชื่อชี้ขาดดวยตนเอง คิดดูแลวก็ไมมีของปลอมแน พวกเรายิ่ง
วางใจ”
ชายชราเพิ่งเอยทันใดนั้นก็มีเสียงสนับสนุนเอาใจดังขึ้นเต็มหองโถง
แมผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือในหองจะไมไดเอยอะไรออกมา แตก็ไมมีผูใดคัดคาน
ดูแลวชายชราชุดขาวคงมีชื่อเสียงมากในเมืองเทวะสวรรค
ชายชราชุดขาวเอยปากขึ้นอีกครั้ง
“เพื่อใหทุกคนวางใจ ผูแซชื่อจะบอกเรื่องหนึ่งกับทุกทาน กลองสามกลองในงาน
ประมูลครั้งนี้ เปนของล้ำคากวาที่มีมา เกรงวาจะเปนของหายากที่สองสามรอยปจะ
เห็นสักครั้ง หนึ่งในนั้นคือวัตถุดิบระดับสุดยอดในแดนปาเถื่อน และสมบัติสะทานฟา
ชิ้นหนึ่งตามคัมภีรหมื่นวิญญาณ ชิ้นสุดทายคือเคล็ดวิชาหลักในการฝกบำเพ็ญเพียร
ของอาวุโสระดับผสานอินทรียขั้นปลายคนหนึ่งที่สั่นสะเทือนทั้งเผามนุษยและปศาจ”
ผูบำเพ็ญเพียรทุกคนพลันตกตะลึง แทบจะไมเชื่อสิ่งที่ตนเองไดยิน ทั้งหองโถง
เงียบสงัด
วัตถุดิบระดับแดนปาเถื่อนไมรูวาคือสิ่งใด แตก็ชางเถิด แตสมบัติสะทานฟาใน
คัมภีรหมื่นวิญญาณและเคล็ดวิชาหลักในการฝกบำเพ็ญเพียรของผูบำเพ็ญเพียรระดับ
ผสานอินทรียนั้น เปนของที่ล้ำคาระดับไหน ไมวาชิ้นใดหลุดออกไปภายนอก เกรงวาก็
ทำใหเกิดฝนโลหิตแลว
ทุกคนลวนใจเตน บรรยากาศในหองโถงเปลี่ยนเปนเครงขรึม
“พี่ชื่อ ในเมื่องานประมูลครั้งนี้มีของสำคัญเชนนี้ เหตุใดถึงไมปลอยขาวออกมากอน
ใหพวกเราเตรียมศิลาวิญญาณมามากหนอย หรือวามีความลับอะไร?” ในหองหิน
หองหนึ่งมีเสียงเล็กๆ แหลมๆ เหมือนเด็กทารกดังขึ้น
“สหายวางใจ สาเหตุ ท ี ่ ข องในงานประมู ล นี ้ ถ ู ก ป ด เป น ความลั บ จนถึ ง ครานี้
ก็เพราะเจาของสมบัติทั้งสามสิ่งนี้คือคนคนเดียวกัน และยิ่งไปกวานั้นเขายังเอยถึง
เรื่องการประมูลครั้งนี้ดวยตัวเอง สวนสาเหตุจะเพราะอะไรกันแน ตาเฒาก็ไมรู
งานประมูลจึงไมอาจปฏิเสธได แตตาเฒารับประกันเองวาของเหลานี้เปนของจริง
ไมปลอมแนนอน แนนอนวาเมื่อเทียบกับสมบัติตามรายการในครั้งนี้ งานประมูลครั้งนี้
รีบรอนไปนอย การประมูลสมบัติสามชิ้นสุดทาย อนุญาตใหใชสมบัติล้ำคาอื่นๆ
ค้ำประกันแทนศิลาวิญญาณได แนนอนวาราคาตองต่ำกวาราคาตลาดแน
ราคานั้นคือสิ่งที่ปรมาจารยผูยิ่งใหญทั้งสามคนในยานรานคาและตาเฒารวมกัน
ปรึกษาหารือกันขึ้น สหายทุกทานโปรดวางใจ!” ชายชราชุดขาวดูเหมือนวาจะคาดเดา
วาจะมีคนเอยถามเชนนี้ จึงตอบกลับพรอมรอยยิ้มนอยๆ
ได ย ิ น ชายชราตอบเช น นี ้ ฝู ง ชนผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รพลั น ตกตะลึ ง ไปเล็ ก น อ ย
แตคนสวนใหญลวนรูสึกดีใจ ไมมีผูใดเอยถามอะไรเชนนี้อีก
ชายชราแซชื่อเห็นทุกคนไมมีขอคิดเห็น ทันใดนั้นก็ประกาศใหงานประมูลเริ่มขึ้น
และปรบมือมั้งสองขางเบาๆ
หลังจากเสียง “ปง” ดังขึ้น ทันใดนั้นลำแสงหลีกหนีหลากสีสันหลายสิบสายก็พุง
ออกมาจากแทนประมูล
หลังจากลำแสงหมนแสงลง ดานหลังชายชราก็มีสตรีผูบำเพ็ญเพียรสวมชุดชาววัง
ที่งดงามดุจภาพวาดสิบคนปรากฏขึ้น
ทุกคนลวนมีพลังยุทธระดับหลอมรวมขึ้นไป รางกายอรชรออนแอน ในมือถือ
กลองผาไหมขนาดนอยใหญไมเทากันเอาไว
“ตามระเบียบแลว ยาลูกกลอนและสมบัติตางๆ จะถูกนำมาในตอนแรก จากนั้น
ก็ จ ะเป น ของลั บ เช น เคล็ ด วิ ช าชาและวั ต ถุ ด ิ บ ล้ ำ ค า สุ ด ท า ยก็ จ ะกล อ งประมู ล
ของที่ประมูลชิ ้ นแรกคื อ ‘ยาลูกกลอนเปลี ่ย นใจ’ ที่สามารถเพิ่ มพลั ง ยุท ธ ใ ห กั บ
ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงได สามขวด เสนอราคาที่สามแสนศิลาวิญญาณ ทุกครั้ง
ที่เรียกราคา ตองไมนอยกวาหาหมื่น” ชายชราชุดขาวเอยอยางสดใส จากนั้นก็โบกมือ
ไปดานหลัง
ชั่วขณะนั้นสตรีผ ูส วมชุดชาววัง คนหนึ่ ง ก็เดินนวยนาดมาอยู เ บื้ องหน า ของ
ชายชรา มือเรียวชูขึ้น เปดฝาออกต อหนาทุ กคน ขวดหยกสีเขียวสูงสองสามชุ น
สามขวดปรากฏขึ้น
ชายชราชุดขาวกวักมือไปทางกลองผา ขวดหยกสีเขียวขวดหนึ่งบินออกมา ถูกดูด
เขาไวในมือ
ชายชราเปดฝาออกอยางเคยชิน เทออกครั้งหนึ่ง ยาลูกกลอนสีขาวแวววาวเม็ดหนึ่ง
กลิ้งออกมา
กลิ่นหอมตลบอบอวลแผออกไป!
ทันใดนั้นชายชราชุดขาวพลันใชนิ้วสองนิ้วคีบยาขึ้นมา โบกพลิ้วไปยังฝูงชนที่อยู
เบื้องหนา
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น
ผิวของสมุนไพรแวววาว คาดไมถึงวาจะมีลำแสงสีเขียวและแดงสองสีปรากฏขึ้น
เจิดจาจนแสบตา ราวกับไขมุกขนาดใหญอยางไรอยางนั้น
ในเวลาเดียวกันกลางอากาศพลันตลบอบอวลไปดวยกลิ่นยา และหนาแนนขึ้นเรื่อยๆ
เหนือกวากอนหนาหลายเทา
“ตาเฒาไดนำยาเปลี่ยนใจออกมาแสดงใหทุกคนดูรอบหนึ่งแลว เหลาสหายคงไม
สงสัยอีก จากนี้เริ่มประมูลได!”
“สามแสนหา”
“สี่แสน”
“สี่แสนหา”
ฉับพลันนั้ นบนแท นประมูลพลั นมี ลำแสงสี ม วงเล็ กหนึ่ งใหญ ห นึ ่ง ปรากฏขึ้ น
ขณะที ่ ล ำแสงเหลา นั ้นหมุนติ ้ว ๆ ตั ว เลขศิ ล าวิ ญ ญาณที ่ เ ริ ่ม ประมู ลและตั วเลขที่
ผูบำเพ็ญเพียรเรียกขึ้นมาพลันปรากฏขึ้น
คาดไมถึงวาชิ้นแรกตัวเลขก็พุงสูงในทันที ดูแลวยาลูกกลอนนี้คงมีประโยชนตอ
ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงมากจริงๆ ถึงไดแยงชิงกันเชนนี้
แปลกจริงๆ ถึงแมวาของที่อยูในกลองจะดึงดูดใจ แตผูบำเพ็ญเพียรสวนใหญก็ยัง
ไม ไ ด ค ิ ดว าจะได ม า ไม ส ู  ถ ื อโอกาสที่ พวกที่ ม ือหนัก อยากประมู ลของชิ้ นสุดทาย
ประมูลของที่มีประโยชนตอตนเอง เพื่อจะไดไมเสียเปลาในงานประมูลครั้งนี้จะดีกวา
หลังจากที่หานลี่กลับไปแลว ก็สามารถหลอมยาชำระหยกไดทันที แนนอนวาจึง
ไม เ ข า ร ว มการแย ง ชิ ง นี้ แค ม องยาลู ก กลอนสามขวดที ่ ร าคาพุ  ง ไปถึ ง หกแสน
อยางเงียบๆ และถูกผูบำเพ็ญเพียรคนหนึ่งแยงไป
ครานี้ความรูสึกของเขาและทุกคนนั้นเหมือนกัน กำลังขบคิดถึงของในกลอง
ประมูลทั้งสามชิ้นอยางเงียบๆ
จะวาไปแลว ถึงแมวาหานลี่จะรูสึกสนใจวัตถุดิบแดนปาเถื่อนรวมทั้งสิ่งที่เรียกวา
สมบั ต ิ ส ะท า นฟ า แต ก ็ แ ค ส นใจเท า นั ้ น ไม ไ ด ค ิ ด จะเข า ร ว มประมู ล แต ค ั ม ภี ร
เคล็ดวิชาการฝกบำเพ็ญเพียรของผูบำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรียขั้นปลาย กลับทำ
ใหเขาสนใจเปนอยางมาก
ตอนที่ 1339 งานประมูล
อาคมกระบี ่ ม รกตดั ้ ง เดิ ม ของหานลี ่ ฝ  ก ฝนจนถึ ง ระดั บ ยอดสุ ด แล ว ไม อ าจ
พัฒนาขึ้นไดอีก
ถึงแมวาความสามารถอื่ นๆจะมีอานุภ าพมากแต หลังจากฝ กฝนลำแสงเทวะ
ดูดปราณสำเร็จแลว อานุภาพก็เพิ่มขึ้นตามพลังยุทธ แตความสามารถของเพลิง
กลืนวิญญาณนั้นตองอาศัยการฝกฝนดวยตัวเองถึงจะเพิ่มอานุภาพได ไมอาจเพิ่ม
พลังยุทธเพื่อเพิ่มพลังของมันได
และหากไมมีเคล็ดวิชาที่เหมาะสมในการฝกฝน อาศัยแคการกินยาลูกกลอน
มากเกินไปก็จะทำใหพลังลมปราณแตกซาน
ครานี้หานลี่อยากใหพลังยุทธเพิ่มขึ้นอีกขั้น ตอนนี้ก็มีเพียงสองทางเลือกใหเดินแลว
หนึ่งคือเหมือนกับผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาทั่วไป ไปหาเคล็ดวิชาระดับสูงใหมมาชุดหนึ่ง
เพื่อฝกฝนตอ ทวาการเปลี่ยนไปฝกฝนเคล็ดวิชาที่ไมคุนเคยกะทันหัน ก็จะทำใหเรียนรู
ไดชาลง และยิ่งไปกวานั้นหากไมระดับ ก็อาจจะเปนสาเหตุที่ทำใหปะทะกับเคล็ดวิชา
เดิม สงผลใหตองลงแรงมากแตผลที่ไดกลับไมคุมคา
อีกทางหนึ่งนั้น กลับเปนเสนทางที่ไมคอยมีคนเลือกเดินนัก ซึ่งหานลี่ไปรูมาจาก
การอานประสบการณของผูฝกตนมาจำนวนมาก
นั่นก็คือเปนทั้งผูบำเพ็ญเพียรและผูฝกตน ไปตามหาเคล็ดวิชาระดับสูงที่เกี่ยวของ
กั บ ผู  ฝ  ก ตนของพรรคมารหรื อวา เผ า ปศ าจมาฝ ก ฝน เพราะหากฝก ฝนเคล็ดวิชา
พรรคมารหรือเผาปศาจจนอยูในระดับสูงแลว รางกายก็จะแข็งแกรงขึ้นในเวลา
เดียวกันและสามารถเพิ่มพลังลมปราณไดเชนกัน
ทวาเคล็ดวิชาเหลานี้ไมเพียงจะมีอยูนอยมาก การฝกฝนยังยากเย็นเปนอยางยิ่ง
ถึงแมวาจะมีมนุษยผูบำเพ็ญเพียรที่เลือกทางนี้อยู แตผูที่ทำสำเร็จไดกลับมีอยูแค
ไมกี่คน
สาเหตุก็เพราะรางกายของเผามนุษยไมอาจเทียบกับเผาปศาจหรือมารโบราณได
การฝกฝนรางกายจนแข็งแกรงไดนั้นนอกจากจะเปนยอดอัจฉริยะเหนือคนมิเชนนั้นก็
พัฒนาระดับขึ้นไดยาก
แตหากผูฝกตนคูบำเพ็ญเพียรฝกฝนจนถึงระดับสูงสุด ไมเพียงพละกำลังจะนา
ตกตะลึง แมแตอัตราทะลวงจุดคอขวดก็เหนือกวาผูบำเพ็ญเพียรที่ฝกฝนเคล็ดวิชา
ธรรมดาๆ ในระดับเดียวกัน
นี่จึงทำใหหานลี่ไมรูวาควรจะเลือกทางไหนดี
จะวาไปแลวเขานั้นมีเคล็ดวิชาผูฝกตนคูบำเพ็ญเพียรอยูชุดหนึ่ง นั่นก็คือเคล็ดวิชา
ที่ตอบสนองกับคาถาราชันยกระจางอยาง 'เคล็ดวิชามารแบกฟา' และ 'แผนพราหมณ
ศักดิ์สิทธิ์เที่ยงแท'
หานลี่มั่นใจแลววาเคล็ดวิชาสามชุดนี้เกื้อหนุนกันได
เคล็ดวิชาทั้งสามชนิดนี้ทั้งสามารถแยกกันฝกและมีความสามารถเฉพาะของตนเองได
ยังสามารถทำเปนเคล็ดวิชาหนึ่งชุดเพื่อนำมาคอยๆฝกฝนตามลำดับได
หากแยกกันฝกฝน สองชนิดหลังไมมีพื้นฐานของเคล็ดวิชาชนิดแรก สำแดง
อานุภาพที่แทจริงไดเพียงนอยนิด หากฝกฝนตั้งแตแรกก็จะกลายเปนเคล็ดวิชาของผู
ฝกตนคูบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกรงชุดหนึ่ง ถึงแมวาเคล็ดวิชาชุดนี้จะมีตนกำเนิดมาจาก
เคล็ดวิชามารที่รายกาจของแดนมาร แตหลังจากผานการปรับปรุงโดยสำนักพุทธของ
เผามนุษย พวกมาร และเผาปศาจมาตั้งไมรูกี่รุน แนนอนวาก็ไมเหมือนเดิมแลว ไมได
บรรจุไอมารเที่ยงแทเขาไปในรางเหมือนเดิมอีกแตเปลี่ยนเปนปราณฟาดิน
ถึงแมวาหานลี่จะศึกษาอยางอิสระก็ยังรูสึกวาเคล็ดวิชาทั้งสามชุดนี้ควรนำมา
ฝกฝนอยางตอเนื่องกัน แตความจริงแลวไมเคยมีผูใดฝกฝนเคล็ด วิชาชุดนี้จ ริ ง ๆ
เพราะคาถาราชันยกระจางของสำนักพุทธและเคล็ดวิชามารแบกฟานั้นไดเปลี่ยนเปน
เคล็ดวิชาเดี่ยวแลว สวนแผนพราหมณศักดิ์สิทธิ์เที่ยงแทไดเปลี่ยนเปนเคล็ดวิชาที่
สืบทอดกันมาของราชันยปศาจในแดนมนุษย หากขาดเคล็ดวิชาสองสวนแรกไปคิดดู
แลวก็คงไมเหมือนกันคาถาราชันยกระจางและเคล็ดวิชามารแบกฟา
ดังนั้นหลังจากฝกฝนเคล็ดวิชาชุดนี้สำเร็จแลวจะพบปญหาอะไรก็มีแตสวรรค
เทานั้นที่รู
ทวาไมตองสงสัยเลย เคล็ดวิชาแผนพราหมณศักดิ์สิทธิ์เที่ยงแทจะตองเหนือกวา
เคล็ ด วิ ช าผู  ฝ ก ตนคู  บ ำเพ็ ญ เพีย รแน เขาที ่ ฝ  ก ฝนคาถาราชั น ย ก ระจา ง แค ค วาม
แข็งแกรงของรางกายก็สูกับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิดไดแลว หลังจากฝกฝน
สองเคล็ดวิชาหลัง อานุภาพจะยิ่งใหญแคไหน ไมตองคิดก็รูแลว
หากฝกฝนแคพลังลมปราณหรือการฝกฝนผูฝกตนคูบำเพ็ญเพียร การฝกฝน
ทั้งสองชนิดมีขอดีขอเสียแตกตา งกั น ชนิดแรกพัฒนาไดคอนขางรวดเร็ว ฝกฝน
คอนขางงาย และยิ่งไปกวานั้นยังพึ่งพาได อีกชนิดหนึ่งฝกฝนไดยากมาก และยิ่งไป
กวานั้นยังอันตรายมาก แตหลังจากฝกฝนสำเร็จแลวจะแข็งแกรงมาก ยิ่งไปกวานั้น
อัตราการพัฒนาระดับก็มากกวาชนิดแรกเปนอยางมาก
เชนนั้น หานลี่จึงยังลังเลจนมาถึงครานี้ และยังไมไดตัดสินใจจริงๆ
สวนเคล็ดวิชาระดับสูงในการฝกฝนตามเสนทางธรรมดาที่เขาสนใจมาตลอดนั้น
ก็ยังไมพบที่เหมาะสมในยานรานคาเลย ไมใชวาไมไดลงมือเคล็ดวิชาระดับสูงของ
ระดั บ หลอมสุ ญ ตา แต ห ลั ง จากที ่ ม ี ค วามสามารถของลำแสงเทวะดู ด ปราณและ
เพลิงกลืนวิญญาณแลว เคล็ดวิชาธรรมดาๆ ไมอาจเขาตาของเขาได
ดังนั้นตอนนี้ไดยินวามีเคล็ดวิชาที่บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรียทิ้งเอาไว จึงได
ตื่นเตนเชนนี้ หากเคล็ดวิชานี้เหมาะสมมากจริงๆ ก็ละทิ้งเสนทางที่ไมคอยราบรื่นนัก
ในการเปนผูฝกตนคูบำเพ็ญเพียรไปก็แลวกัน
ขณะที่หานลี่กำลังขบคิดอยางใจลอยนั้น ชายชราแซชื่อบนแทนประมูลก็ปลอย
ประมูลยาลูกกลอนที่มีทั้งราคาสูงสูงและต่ำในมือของสตรีผูสวมชุดชาววังทั้งสิบคนไป
จนหมด
หลังจากที่ยาลูกกลอนทุกชนิดถูกประมูลไป สตรีผูบำเพ็ญเพียรที่ถือกลองผาไหม
ก็เดินนวยนาดกันเอายาลูกกลอนไปสงใหหองลอย จากนั้นพลันเก็บศิลาวิญญาณ
กลับไปยังแทนสูงๆ อีกครั้ง
กว า ครึ ่ ง ในนั ้ นล ว นไม ต า งอะไรกั บ “ยาเปลี ่ ย นใจ” มากนั ก มี ป ระโยชนตอ
ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขึ้นไปเทานั้น ยาลูกกลอนระดับกลางมีเพียงสองชิ้น
สวนยาลูกกลอนที่มีประโยชนตอระดับขั้นปลาย ไมโผลออกมาเลยสักชนิด
นี่ไมใชเรื่องแปลกอะไร!
ถึ ง แม ว  า แดนวิ ญ ญาณจะมี ไ อวิ ญ ญาณและยาลู ก กลอนอยู  อ ย า งครบครั น
แตวัตถุดิบที่จำเปนตอการปรุงยาระดับเทพแปลงขึ้นไป กวาครึ่งยังคงตองไปตามหาใน
แดนปาเถื่อน หากเปนสิ่งที่ปลูกขึ้นเอง ไมตองใชเวลานานเกินไป ก็เลี้ยงยาก
เชนนั้น แนนอนวายาลูกกลอนระดับเทพแปลงขึ้นไปจึงตองหายากเปนอยางมาก
และยิ่งไปกวานั้นยิ่งเปนยาลูกกลอนระดับสูงมากเทาไหร อัตราการปรุงสำเร็จก็
ยิ่งต่ำลง ถึงแมจะมีคนปรุงยาลูกกลอนระดับขั้นปลายสำเร็จ จะมีผูบำเพ็ญเพียร
คนไหนไมเก็บเอาไวกินเอง ผูใดจะยอมตัดใจนำออกมาประมูล
นี ่ เ ป นในสถานการณ ท ี ่ อยู  ใ นเมื องเทวะสวรรค ซ ึ ่ ง มี ว ั ต ถุ ด ิ บ ปรุ ง ยาครบครั น
มิเชนนั้นก็หายาลูกกลอนระดับเทพแปลงขั้นตนยาก ยิ่งไมตองพูดถึงระดับขั้นกลาง
เมื่อประมูลยาลูกกลอนเหลานี้สำเร็จ ชายชราโบกมือเล็กนอย สตรีที่แตเดิมนั้นสองมือ
วางเปลา ก็พลิกฝามือทันที หยิบกลองผาไหมออกมาจากกำไลเก็บของคนละกลอง
เปดฝากลองออก ดานในมีขวดหยกที่รูปรางแตกตางกั นบรรจุอยู  ยังคงเป น
ยาลูกกลอน
แตยาลูกกลอนเหลานี้กลับไมใชสมุนไพรในการเพิ่มพลังยุทธ แตเปนยาแกพิษ
ยารักษาอาการบาดเจ็บอะไรประเภทนั้น
ทันใดนั้นการประมูลพลันจัดขึ้นอีกระลอก
เห็นไดชัดวายากลุมนี้ไมไดรับการตอบรับเทากลุมแรก ถึงแมวาจะถูกประมูลไป
จนเกลี้ยง แตราคากลับต่ำกวายาลูกกลอนกลุมแลกเปนอยางมาก
สำหรับผูบำเพ็ญเพียรทุกคนแลว ยิ่งมียาลูกกลอนเพิ่มพลังยุทธมากเทาไหรก็ยิ่งดี
สวนยาที่ชวยเสริมนั้น ขอแคเตรียมเอาไวใชก็พอแลว แนนอนวาจึงไมไดประมูลกัน
อยางดุเดือด
ทวาเมื่อประมูลยาลูกกลอนกลุมนี้เสร็จ เมื่อสตรีผูบำเพ็ญเพียรทั้งสิงบคนหยิบ
กลองไมที่แปะยันตวิเศษสองแผนเอาไวออกมาจากกำไลเก็บของอีกครั้ง บรรยากาศ
ของหองโถงที่คอนขางเงียบเชียบ ก็กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง
หลังจากที่ยันตวิเศษเหลานี้ถูกฉีกออก สมบัติที่เปลงแสงหลากสีสันก็ปรากฏขึ้น
ตอหนาทุกคน
มีทั้งของที่พบไดบอยๆ อยางกระบี่บินและมีดบิน มีทั้งสมบัติโบราณที่หาไดยาก
อยางตราประทับ แผนปาย กระจกอีกดวย
ชายชราชุดขาวกวักมือเรียกกลองสีเงินจากดานหลัง ชั่วขณะนั้นแผนปายสีเขียวก็
ถูกดูดเขามาอยูในมือ
เห็ น เพี ย งชายชราโยนแผ น ป า ยขึ ้ น ไปกลางอากาศ สองมื อ พลั น ร า ยอาคม
อาคมสายหนึ่งโจมตีเขาไป
หลั ง จากที ่ แ ผ นป า ยหมุ นคว า งรอบหนึ ่ ง แล ว เงาลวงตาสามสายก็ เ ปล ง แสง
สว า งวาบพุ  ง ออกไป กลายเป น งู เ หลื อ มยั ก ษ ค วามยาวห า หกจั ้ ง แบ ง ออกเป น
สีเขียวแดงขาวสามสีขดตัวอยูกลางอากาศในบริเวณนั้น ดูดุรายมาก!
“ปายงูเหลือมพิษ ใชจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของอสูรงูเหลือมโบราณสามตัวเปน
วัตถุดิบหลักในการหลอม สามารถควบคุมจิตวิญญาณใหตอกรกับศัตรูได หาก
งูเหลือมทั้งสามรวมมือกันก็เทียบเทากับมีผูชวยระดับกอกำเนิดสามคน นับวาเปน
สมบัติวิเศษที่หายาก ราคาเปดประมูลสองลาน ทุกครั้งที่เรียกประมูลตองไมต่ำกวา
หนึ่งแสน!” ปากของชายชราชุดขาวรายคำประวัติความเปนมาและความสามารถของ
แผนปายอยางฉะฉาน
“สองลาน!” ถึงแมวาผูชวยระดับกอกำเนิดสามคน ในสายตาของผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลงแลวก็ไมนับวามีคาอะไร แตถาหากอยูในชวงเวลาคับขัน ก็ยังคงพิชิต
ศัตรูไดทันที ครานั้นจึงมีผูบำเพ็ญเพียรเสนอราคาออกไปในทันใด
“สองลานสองแสนหาหมื่น” บรรยากาศเงียบกริบไปชั่วครู อีกคนหนึ่งที่สนใจ
สมบัติชิ้นนี้เชนกัน ก็เริ่มแยงชิง
“สองลานสามแสน”
สมบัติถูกประมูลออกไปชิ้นแลวชิ้นเลา หลังจากเปลี่ยนเปนระลอกที่สอง คาดไมถึงวา
สองชิ้นสุดทายจะเปนสมบัติวิญญาณระดับสุดยอด ชั่วครูราคาก็พุงขึ้นไปอยูในจุดที่
ยากจะเชื่อ
ถึงแมวาจะเปนแคสมบัติวิญญาณระดับต่ำสุด แตแมแตผูบำเพ็ญเพียรระดับ
หลอมสุญตาก็ยังทนไมไหวเสนอราคาออกมาแยงชิง
ทุ ก ครั ้ ง ที ่ ส มบั ต ิ ว ิ ญ ญาณเพิ ่ ม ขึ ้ น มาหนึ ่ ง ชิ ้ น ล ว นอาจจะทำให เ ขามั ่ น ใจใน
เคราะหสวรรคครั้งตอไปมากขึ้นหนึ่งสวน จะวาไปแลวสมบัติทายสุดในงานประมูล
กวาครึ่งลวนเปนสมบัติระดับนี้เทานั้น
ทวาก็มีผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาบางคนที่มองเหตุการณอยูดวยความเย็นชา
ไมไดเสนอราคาออกมา เห็นไดชัดวามาเพื่อสมบัติสามชิ้นสุดทาย
ถึงแมวาจะถูกเรียกวาสมบัติวิญญาณ แตสมบัติวิญญาณธรรมดาๆ จะเทียบกับสมบัติ
สะทานฟาในมวนคัมภีรหมื่นวิญญาณโกลาหลไดอยางไร แตกตางกันเปนอยางมาก
พวกที่มีกำลังซื้อลวนไมมีทางปลอยไปงายๆ แน
ทุกอยางนี้หานลี่ตางไมไดเขารวมอะไร แคนั่งสมาธิอยูภายในหองหิน
แตหลังจากที่ถึงคราวประมูลของวัตถุดิบตางๆ และเคล็ดวิชาลับนั้น เขาถึงได
กระปรี้กระเปรา เริ่มใหความสนใจ
วัตถุดิบล้ำคาและตำราเคล็ดวิชาตางๆ ถูกประมูลออกไปอยางรวดเร็ว
เมื่อชายชราชุดขาวเอยปากวา “โลหิตคางคกวิญญาณ” นั้น ในที่สุดหานลี่ก็มี
สีหนาดีอกดีใจ
จุดประสงคเดิมที่เขาเขารวมการประมูลครั้งนี้ก็เพราะเจาสิ่งนี้แหละ
ทวาเมื่อชายชราชุดขาวตะโกนราคาเปดประมูลที่หนึ่งลานหาแสนแลว หานลี่อดที่จะ
มุมปากกระตุกไมได
นี่คือราคาเปดประมูลที่สูงที่สุดในวัตถุดิบล้ำคาที่ขายออกไปแลว
หานลี่ลังเลเล็กนอย ยังไมทันคิดเสร็จวาตองจายกี่ศิลาวิญญาณ ถึงไดเมือกชนิดนี้
มานั้น หองลอยหองหนึ่งก็มีเสียงตะโกนราคาออกมา ทำใหเขาอดที่จะมีจิตใจหนักอึ้ง
ไมได
“สามลาน!” เสียงเกียจครานเสียงหนึ่ง ดังออกมาจากมุมหนึ่งที่คอนขางหางไกล
ในหองโถง
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นที่คิดจะเรียกราคา ชั่วขณะนั้นพลันหยุดชะงัก และมองไป
ดวยความตกตะลึงเปนตาเดียว
นาเสียดายที่ในหองลอยนั้นมีเขตอาคมอยู แนนอนวาจึงมองไมเห็นอะไร
โลหิตคางคกวิญญาณเปนวัตถุดิบจำเปนในการปรุงเมือกคางคกจริงๆ แตราคา
สามลาน แนนอนวามันสูงกวาขอจำกัดของคนสวนใหญ
ครานี้ทั้งหองโถงพลันเงียบเปนเปาสาก
หานลี ่ เ องก็ ข มวดคิ ้ ว มองไปยั ง แท น ประมู ล ชายชราชุ ด ขาวที ่ ใ นมื อมี ข วด
โลหิตวิญญาณ พลันมีสีหนาบัดเดี๋ยวเครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใส
ตอนที่ 1340 เกล็ดวิญญาณเที่ยงแท
ราคาสามลานนั้นแนนอนวาหานลี่นั้นจายได แตเพียงเพื่อโลหิตคางคกขวดเล็กๆ
กลับไมคุมคาเลย
ตอใหเขามีสมุนไพรวิญญาณที่สามารถนำมาแลกเปนศิลาวิญญาณไดจำนวนมาก
แตจากนิสัยที่รอบคอบของเขานั้นจึงไมมีทางนำสมุนไพรที่หายากอายุสองสามพันป
ออกมาขายจำนวนมากในเวลาใกลเคียงกันแน
มิเชนนั้น หากถูกคนพบเขา คงมีหายนะเขามาอยางไมมีที่สิ้นสุดแน!
ดูทาทีของผูที่เรียกราคาออกมาเมื่อครู ดูเหมือนจำเปนตองใชโลหิตคางคกขวดนั้น
เปนอยางมาก หากเขายอมเรียกราคาสามลานจริงๆ ก็ไมแนวาจะประมูลได กลับจะ
ดึงดูดความสนใจของผูอื่นเสียเปลาๆ
และยิ่งไปกวานั้นสำหรับเขาแลว โลหิตวิญญาณแคนี้พอกับการปรุงเมือกคางคกที่
คุนเคยเพียงครั้งเดียวเทานั้น ไมอาจปรุงยาไดหลายครั้ง หลังจากที่เขาขบคิดอยู
เล็กนอย สุดทายก็ไมไดเรียกราคาออกไปดวยสีหนาเครงขรึม
หานลี่ไมไดเรียกราคาออกไป ไมไดหมายความวาคนอื่นๆ จะยอมละทิ้งของสิ่งนี้
หลังจากเงียบกริบไปชั่วครู ทันใดนั้นก็มีคนสองสามคนเรียกราคาออกมาอยาง
ตอเนื่อง เห็นไดชัดวาคนเหลานี้ลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นปลาย
จำตองใชเมือกคางคกมาทะลวงจุดคอขวด ผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ ไมมีทางยอมจาย
ในราคาที่สูงเชนนี้
ผลคือทามกลางการแยงชิงที่ดุเดือด โลหิตคางคกขวดนี้ก็ถูกคนที่เรียกราคา
คนแรกประมูลไปดวยราคาที่สูงลิบลิ่วถึงสี่ลาน
ราคาที่สูงขนาดนี้ทำใหผูบำเพ็ญเพียรจำนวนไมนอยที่สนใจของสิ่งนี้มองไปทาง
หองหินลอยหองนั้นไมหยุด แลวทยอยกันคาดเดาฐานะของอีกฝาย
แตแนนอนวาก็ไมไดอะไรกลับมา
วัตถุดิบสองสามชิ้นตอมาตางล้ำคาอยางหาที่เปรียบเชนกัน เปนของจำเปนใน
การปรุงยาของผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา ถึงแมวาคนที่เขารวมการประมูล
จะนอยมาก แตราคากลับสูงจนทำใหผูคนตกใจจนพูดไมออก
ผลมหัศจรรยปาเถื่อนหมื่นปสีมวงเม็ดนั้นถูกประมูลออกไปดวยราคาเกือบสิบลาน
ทำใหผูบำเพ็ญเพียรที่เขารวมงานประมูลนี้เปนครั้งแรก พากันตกตะลึงจนตาคาง
แตแควัตถุดิ บยั ง นาตกตะลึง เช น นี้ ถาหากเปนยาลูก กลอนที่ม ีประโยชน ต อ
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา ราคาจะยิ่งไมกลาจินตนาการเลยหรือ
ไมนานนัก วัตถุดิบคัมภีรตางๆ ก็ถูกประมูลไปจนเกลี้ยง ชายชราชุดขาวปรบมือ
สตรีผูบำเพ็ญเพียรสิบคนที่ยืนอยูดานหลังก็ทยอยกันลงไปจากแทนประมูล
แทบจะในเวลาเดียวกัน กลับมีผูบำเพ็ญเพียรสวมอาภรณประหลาดๆ เดินขึ้นมา
อยางเชื่องชาสามคน
ฮูหยินสวมกระโปรงสีเขียวคนหนึ่ง ชายชราใบหนาเต็มไปดวยลำแสงสีแดงคนหนึ่ง
รวมทั้งนักปราชญวัยกลางคนที่หนาตาสงางามคนหนึ่ง
เมื่อเห็นสามคนนี้ ผูบำเพ็ญเพียรในหองโถงพลันเกิดเสียงอื้ออึงขึ้นหานลี่ไดยิน
คำพูดแววๆ วา “ปรมาจารยผูประเมิน” ชั่วขณะนั้นก็เขาใจวาที่แทก็คือปรมาจารย
ผูประเมินที่ยิ่งใหญสามคน ที่ชายชราแซชื่อพูดถึงในตอนแรก
สามคนนี้มีพลังยุทธสูชายชราชุดขาวไมได แคระดับเทพแปลงขั้นตน แตทุกคน
ลวนมีความสามารถไมธรรมดา และยิ่งไปกวานั้นสามารถทำใหผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมด
ในหองโถงเกิดเสียงอื้ออึงได เห็นไดชัดวาไมใชคนธรรมดา
ในตอนที่หานลี่กำลังขบคิดอยูนั้น ชายชราชุดขาวก็มองทั้งสามคนที่อยูบนแทนประมูล
เอยอยางมีมารยาทสองสามประโยค แลวหันกลับมาเอยกับฝูงชนผูบำเพ็ญเพียรวา
“จากนี้จะเป นการประมูลสามสมบั ติที่ล ้ำคาที่ส ุดของงานประมูล ครั้ ง นี ้ แ ล ว
พวกมันถูกแบงอยูกับสหายฉินและพวก อยางแรกเกล็ดกิเลนทมิฬสามชิ้นที่ไดมาจาก
แดนป า เถื ่ อ น พวกนางเคยนำมาหลอมยาลู ก กลอนวารี ท านตะวั น ในตำนาน
และสามารถนำมาเปนวัตถุดิบระดับสุดยอดที่สุดในการหลอมสมบัติธาตุน้ำ หากใช
วัตถุดิบชนิดนี้หลอมสมบัติวิญญาณ มีโอกาสเทียบชั้นกับสมบัติหมื่นวิญญาณโกลาหล
หากนำไปปรุง ยาลู กกลอนวารีทานตะวัน หลังจากกิน เข า ไปเม็ด หนึ ่ง ก็จะทำให
ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นตนพัฒนาขึ้นมาอยูในระดับขั้นกลาง แนนอนวา
ไมวาจะนำมาหลอมอาวุธหรือวานำมาปรุงยาลูกกลอนวารีทานตะวัน ถึงแมวาจะให
ปรมาจารยของพรรคหลอมให อัตราการประสบความสำเร็จก็ไมคอยสูงนัก แตถาหาก
สหายทานใดประมูลของชิ้นนี้ไป และคิดจะหลอมสมบัติละก็ ตาเฒาจะหลอมให
สหายผูนั้นฟรี หึๆ นี่ถึงเปนสัญญาใจกับตาเฒา
ชายชราชุ ดขาวเอ ย คำพู ด ด า นบนออกมารอยยิ ้ มน อยๆ แล ว ถอยกลั บ ไปอยู
ดานหลังทั้งสามคนอยางสบายๆ
ฝูงชนผูบำเพ็ญเพียรในหองลอยไดยินคำวา “เกล็ดกิเลนทมิฬ” นั้น ก็สูดลม
หายใจเย็นเยียบเขาไปเฮือกหนึ่ง มองไปยังปรมาจารยผูประเมินทั้งสามที่อยูบนแทน
ประมูลโดยไมปริปากใด
พวกที่ร่ำรวยเหลานั้น เดิมทีก็มาเพื่อของในรายการเหลานี้อยูแลว จึงดีอกดีใจ
อยางบาคลั่งทันที
ดูแลวการเฝารอของพวกเขาในครั้งนี้ คงทำถูกแลวจริงๆ ไมวาของสองสิ่งเหลานี้
จะเปนอะไร เกล็ดกิเลนทมิฬเหลานี้ก็เพียงพอที่จะทำใหพวกเขาประมูลแลว
ทวากวาครึ่งพวกเขาลวนสนใจยาลูกกลอนวารีทานตะวัน หากนำมาหลอมสมบัติ
เกรงวาคงมีอัตราสำเร็จแคหนึ่งในสิบสวน
และคนกลุมนี้ก็แทบจะเปนผูบำเพ็ญเพียรที่ฝกฝนเคล็ดวิชาธาตุน้ำทั้งหมด
หานลี่ไดยินชื่อของยาลูกกลอนวารีทานตะวันแลว ก็รูสึกใจสั่นระรัวเชนกัน
ยามหัศจรรยที่ทำใหผูบำเพ็ญเพียรเพิ่มระดับขึ้นไดภายในขามคืนเชนนี้ นั่นก็สิ่งที่เขา
ใฝฝนถึง ตอนนี้มีโอกาสที่หาไดยากแลว พวกเขาก็แทบจะตัดสินใจในชั่วพริบตา ไมวา
อยางไรก็ต  องประมูล เกล็ด มิ คาทนทมิ ฬสามชิ้ น นี ้ใ ห ได ตอใหตองเสี่ย งอัน ตราย
ก็คุมคา
หานลี่แววตาเปลงประกาย สีหนาเปลี่ยนเปนตัดสินใจ
ครานี้ฮูหยินวัยกลางคนหนึ่งในปรมาจารยผูประเมินทั้งสามสาวเทามาขางหนา
มื อหนึ ่ ง ป ด ไปบนกำไลเก็ บ ของ กล องหยกแวววาวขนาดสองสามฉื ่ อปรากฏขึ้ น
ดานบนมีอักขระเปลงประกาย แผหมอกลำแสงสีขาวออกมากลุมหนึ่ง แคดูก็รูวาไมใช
ของธรรมดา
สตรีผูนี้ไมตองใหชายชราชุดขาวแนะนำอะไร นิ้วชี้พลันชี้ไปที่กลองหยก
หลังจากเสียง “ปง” ดังขึ้น ฝากลองก็เปดออกโดยอัตโนมัติ จากนั้นเสียง “กึกๆ”
พลันดังขึ้น ลำแสงสีดำสามสายพุงออกมา และพวยพุงขึ้นไปกลางอากาศ
แตฮูหยินวัยกลางคนกลับดูเหมือนวาจะเตรียมการมากอนแลว มือหนึ่งตะปบไป
กลางอากาศอยางสบายๆ
ชั่วขณะนั้นพลังไรรูปรางพลันปรากฏขึ้น ชั่วครูก็หอหุมลำแสงสีดำทั้งสามสายเอาไว
ดึงมันลงมาดานลาง
ลำแสงสีดำสามสายหมุนวนรอบหนึ่งแลวกลายเปนเกล็ดสีดำเขียวขนาดเท า
กำปนเปลงประกายระยิบระยับ ถูกบีบใหรอนลงมา และถูกดูดเขามาในมื อของ
สตรีวัยกลางคน
สตรีผูนั้นเก็บเกล็ดสองเกล็ดลงไปในกลองหยก และใชยันตวิเศษสายหนึ่งผนึก
เอาไวอีกครั้ง ถึงไดใชนิ้วคีบเกล็ดที่เหลืออีกเกล็ดออกมาสำแดงตอหนาทุกคน ปากก็
เอยอยางเอื่อยเฉื่อยวา
“ทุกทานนาจะทราบวา เกล็ดกิเลนนั้นมีธาตุน้ำ เกล็ดที่รอนลงมาคือวัตถุดิบธาตุนำ้ ที่
ระดับสูงที่สุดในยุทธภพ มีประโยชนอยางยิ่งยวดสำหรับสหายที่ใชเคล็ดวิชาธาตุน้ำ
ทวา หากจะทดสอบวาเกล็ดนี้เปนของจริงหรือไม กลับมีแคสองวิธี หนึ่งคือถึงแมวา
เกล็ดจะรอนลงมา แตก็แฝงไวดวยพลังปราณธาตุน้ำที่นาตกตะลึง ถึงแมวาจะไมผา น
การหลอม ตัวมันเองก็เพียงพอที่จะเปนสมบัติวิเศษธาตุน้ำระดับสุดยอดแลว”
สตรีวัยกลางคนเอยจบ ก็ใสลมปราณเขาไปในเกล็ดกลางฝามือ จากนั้นก็พลิ้วไหว
กลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีฟาพลันเปลง แสงเจิดจา ผิวของเกล็ดก็มีด อกบัวลำแสงสี ฟ า
งอกออกมาดอกหนึ่ง มันเปลงแสงเจิดจา งดงามราวกับเพชร
สตรีวัยกลางคนรายอาคม ดอกบัวหมุนควางหนึ่งรอบ ขยายใหญขึ้น จนมีขนาด
เทาศีรษะทามกลางลำแสงสีฟา
กลีบดอกบัวพลิ้วไหว ลำแสงสีฟาจำนวนนับไมถวนพุงออกไปรอบดาน กลิ่นอาย
วารีเขมขน ชั่วพริบตาก็โชยไปทั้งหองโถง
หานลี่ที่อยูกลางหองลอยแววตาเปลงประกาย ชูมือหนึ่งขึ้น นิ้วทั้งหาประกบเขาหากัน
ลำแสงสีฟารอนลงมาในมือ แลวหายไปอยางไรรองรอย
หานลี่หลับตาทั้งสองขางลง สัมผัสไดถึงความเย็นยะเยือก แผจากมือไปรอบ
รางกายอยางรวดเร็ว
ครั้นเมื่อเขาเบิกตาทั้งสองขึ้นอีกครั้ง แววตาก็เต็มไปดวยความพึงพอใจ!
พลังวิญญาณธาตุน้ำที่บริสุทธิ์จริงๆ แผอานุภาพออกมาไดขนาดนี้ ดูแลวคงเปน
เกล็ดกิเลนทมิฬของจริง
ไมใชแคหานลี่หลังจากที่ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือสัมผัสไดพลังลมปราณที่บริสุทธิ์ซึ่ง
แฝงอยูในลำแสงสีฟาแลว ในใจก็เชื่อมั่นไปแลวเจ็ดแปดสวน
ครานี้ฮูหยินวัยกลางคนพลันสะบัดขอมือ ดอกบัวสีฟาที่งอกออกมาบนเกล็ดในมือ
เปลงเสียง “พรึ่บ” ออกมา หายวับไปโดยอัตโนมัติ
ลำแสงสีฟาเต็มหองโถงพลันหายวับไปในชั่วพริบตา
ฮูหยินเอยปากอยางราบเรียบอีกครั้ง
“ในบรรดาเผ า วิ ญ ญาณเที ่ ย งแท น ี ้ เกล็ ด ของกิ เ ลนแข็ ง แกร ง ไม ด  อยไปกว า
มังกรเที่ยงแทที่แข็งแกรงที่สุด ถึงแมวาหลังจากรอนลงมา เกล็ดจะแข็งแกรงนอยลง
กวาครึ่ง แตคิดจะใชการโจมตีธรรมดาๆ ทำลายนั้น ก็ยังคงเปน เรื ่องที ่โง เ ขลา”
ฮูหยินวัยกลางคนเอยเชนนี้ออกมา โยนเกล็ดในมือออกไปกลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีดำกลุมหนึ่งพลันปรากฏขึ้นกลางอากาศ และนิ่งงัน
ในตอนนั้นเอง มือของฮูหยินวัย กลางคนมีล ำแสงสีท องเปลง ประกายเจิ ด จ า
ขวานขนาดสองสามฉื่อปรากฏขึ้น เปลงแสงสีทองเรืองรองดูนาเกรงขาม
ฮูหยินผูนั้นมีสีหนาเครงขรึม ขวานสีทองสั่นไหว กลายเปนลำแสงสีทองสายหนึ่ง
พวยพุงขึ้นไปบนทองฟา สับลงไปยังเกล็ดแผนนั้น
เสียง “ปง”ดังขึ้น ผิวของเกล็ดมีลำแสงสีดำเปลงแสงเจิดจา คาดไมถึงวาจะดูด
ขวานที่แหลมคมกลับมา ไมไดรับความเสียหายเลยสักนิด
ฮูหยินวัยกลางคนไมสนใจเรื่องนี้เลยสักนิด ปากกลับบริกรรมคาถาออกมา
เสาเพลิงสีเขียวสายหนึ่งเปลงเสียงหึ่งๆ พุงขึ้นไปอยูใตเกล็ด ชั่วครูก็มวนเกล็ดเขา
ไปขางในจนมิด
“เพลิงนิลสามสี”
เสียงอุทานสองสามเสียงดังขึ้นกลางหองโถง ทำใหผูบำเพ็ญเพียรจำนวนไมนอย
เผยสีหนาอิจฉาเปนอยางมากออกมา
แตเมื่อฮูหยินผูนั้นรายอาคมอี กครั้ง ทำใหเพลิงชนิดนั้นหายไปแลว เกล็ดที่
เปลงแสงสีเขียวจางๆ อยูกลางอากาศ ก็ยังคงปลอดภัยไมไดรับอันตราย
จากนั้นฮูหยินผูนั้นก็สำแดงการโจมตีดวยอัสนี แชแข็งตางๆ ลวนรุนแรงเปนพิเศษ
แต ก ลั บ ไม ม ี ผ ลต อเกล็ ด ชิ ้ น นั ้ น สุ ด ท า ยฮู ห ยิ น พลั น ใช ส มบั ต ิ ม ารชิ ้ น หนึ ่ ง ปล อ ย
หมอกโลหิ ต กลุ  ม หนึ ่ ง ออกไป หลั ง จากไม อ าจกั ด กร อ นได แ ล ว ในที ่ ส ุ ด ก็ ห ยุ ด
การทดสอบลง
นางชูมือขึ้นกวักเรียกเกล็ดกิเลนกลับเขามาในกลองหยกอีกครั้ง ใชยันตวิเศษ
ผนึกเอาไว จากนั้นมือหนึ่งก็ถือกลองหยกเอาไว ถอยออกไปสองสามกาว แลวยืนนิ่ง
ครานี้ชายชราชุดขาวกลับเดินมาดานหนาเวทีอีกครั้ง หลังจากหัวเราะกับฝูงชนแลว
ก็เอยอยางกระชับวา
“เกล็ดกิเลนทมิฬเที่ยงแทสามแผน เปดประมูลที่สิบหาลาน ทุกการประมูลตอง
ไปนอยกวาหนึ่งลาน เริ่มประมูลได”
“สิบเจ็ดลาน”
“สิบแปดลาน”
“ยี่สิบลาน”
……
ราคาของเกล็ดกิเลน ครั้งแรกก็พุงสูงขึ้นไปหนึ่งถึงสองรอยลาน ทำใหผูบำเพ็ญเพียร
จำนวนนับไมนอยที่มาประมูลสมบัติเปนครั้งแรก พากันหนาเปลี่ยนสี ชั่วพริบตา
ก็ลมเลิกความคิดแยงชิง
ถึงแมวาหานลี่จะมีสีหนาไมเปลี่ยนแปลง แตสายตาพลันเปลงประกายเผยสีหนา
ตกตะลึงออกมาเล็กนอย คิดไมถึงวามาถึงชวงสุดทายของงานประมูลแลว จะ
มีผูบำเพ็ญเพียรอยูมากมายขนาดนี้
ทวาเขาไมไดรีบรอนเรียกราคา แตมองตัวอักษรสองสามตัวที่อยูกลางจานอาคม
ขนาดยักษเหนือแทนบูชาอยางเย็นชา เมมริมฝปากที่แหงผากเล็กนอยเทานั้น
ตอนที่ 1341 ประมูลได
ครานี้สำหรับเกล็ดวิญญาณสามแผนนี้ ศิลาวิญญาณจำนวนนับสิบลานเปนเพียง
ตัวเลขงายๆ เทานั้น ไมวาผูใดก็อยากเพิ่มระดับไดภายในคืนเดียวทั้งนั้น
ถึงอยางไรเสียหลังจากอยูในระดับเทพแปลงแลว ทุกๆ การเพิ่มระดับ ลวนหา
ยากเย็ นอย า งหาที ่ เ ปรี ย บ ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ เทพแปลงกว า ครึ ่ง ต า งติด อยูใน
ระดับขั้นตนชั่วชีวิต
ครานี้ความหวังมาอยูตรงหนา ผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้จึงบาคลั่งอยางไมลังเลเลย
แมแตนอย
แตสิ่งที่ทำใหผูคนบาคลั่งจำใจตองไดสติก็คือ
เมื่อราคาของมันทะลุขึ้นไปถึงยี่สิบหาลาน ผูบำเพ็ญเพียรที่ยังมีกำลังเรียกราคา
ก็เหลืออยูเพียงไมกี่คน
เหลือเพียงสามคนที่กำลังแยงชิงกันจนถึงขั้นสุดทาย
หนึ่งในนั้นคือ ผูบำเพ็ญเพียรที่ประมูลโลหิตคางคกวิญญาณกอนหนานี้ น้ำเสียง
ยังคงเกียจคราน
หนึ่งในสองคนคือ ชายชรา อีกคนหนึ่งมีน้ำเสียงไพเราะเสนาะหู ดูเหมือนวาจะ
เปนชายชราคนหนึ่งและสตรีผูบำเพ็ญเพียรที่เยาววัยคนหนึ่ง
ทั้งสามคนเรียกราคาเพิ่มขึ้นทีละลานอยางตอเนื่อง ชั่วพริบตาก็เกือบสามสิบลานแลว
เมื ่ อเสี ย งของเจ า ของที ่ เ กี ย จคร านเอ ย ราคาสามสิ บ ล า นแล ว เสี ย งของสตรี
ผูบำเพ็ญเพียรและชายชราก็เงียบไป
ดูแลวราคานี้คงเกินกวาที่พวกเขาจะรับไว จึงทำไดเพียงเงียบกริบไปอยางไมเต็มใจ
ผูบำเพ็ญเพียรทุกคนตางจองเขม็งไปยังกลางอากาศเหนือแทนประมูล ตรงนั้นตัว
เลยบนจานอาคมขนาดยักษกำลังเปลี่ยนสีไปมา หลังจากเปลี่ยนเปนสีทองแดงแลว
ก็ถือวาของสิ่งนั้นถูกปดประมูลแลว
“สามสิบเอ็ดลาน” เสียงราบเรียบเสียงหนึ่งเอยปากขึ้น
เสียงที่ไมคุนเคยนี้ทำใหผูบำเพ็ญเพียรทั้งหองโถงพากันตกตะลึง ทันใดนั้นก็รูสึก
ดีอกดีใจบนความทุกขของคนอื่น
ดูแลวถึงแมจะราคาสูงเฉียดฟา เกล็ดวิญญาณก็ยังไมอาจตัดสินไดวาใครควรเปน
เจาของ
สายตาของผูบำเพ็ญเพียรจำนวนไมนอยหดเล็กลง มองไปยังหองลอยอีกหองหนึ่ง
กลางอากาศ
หานลี่ที่อยูในหองกำลังนั่งสมาธิดวยสีหนาราบเรียบ
“สามสิบสองลาน”
เสียงเกียจครานนั้นประหลาดใจอยูเล็กนอย
“สามสิบสามลาน”
หานลี่เรียกราคาอยางไมลังเล
“สามสิบสี่ลาน”
เสียงเกียจครานลังเลไปเล็กนอย แลวถึงไดเอยปากขึ้นอีกครั้ง
“สามสิบหาลาน”
ผูบำเพ็ญเพียรจำนวนไมนอยเริ่มสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่งถึงแม
จะเปนเกล็ดวิญญาณเที่ยงแท ราคาขนาดนี้ก็บาคลั่งเกินไป สมบัติที่จัดอยูในมวน
หมื่นวิญญาณโกลาหล เกรงวาจะมีราคาไมเกินนี้
“สามสิบหาลาน? หึ! สหายชื่อ ขาสงสัยวาสหายผูนี้ไมมีศิลาวิญญาณเยอะขนาดนั้น
จริงๆ แคกอกวนเทานั้น สหายควรตรวจสอบคนผูนี้สักหนอย ดูวาเขาจะจายไดจริง
หรือไม” เจาของเสียงเกียจครานเอยอยางเย็นชาออกมา
“หลังจากจบงานประมูล ตาเฒาจะตรวจสอบเรื่องนี้ดวยตนเอง แตกอนหนานั้น
ขานอยไมมีทางหยุดประมูลได หวังวาสหายทั้งสองจะประมูลกันตอ” ชายชราแซชื่อ
ไมไดเคลื่อนไหว แคเอยพรอมกับหัวเราะจางๆ ออกมา
ถึงแมวาจะไมรูวาสองคนกอนที่เรียกราคาคือใคร เขาก็ไมอยากลวงเกินคนผูนี้งายๆ
“ในเมื่อพี่ชื่อคิดเชนนั้น ขานอยก็จะไมเรียกราคาอีก ดูวาสหายผูนี้จะนำเงิน
สามสิบหาลานออกมาประมูลไดหรือไม” เจาของน้ำเสียงเกียจครานพลันรูสึกโกรธขึ้ง
และอับอาย เอยอยางมีน้ำโห ไมยอมเรียกราคาออกมาจริงๆ
ผลคือรอจนตัวเลขบนจานอาคมเปลี่ยนเปนสีทองแดงแลว ชายชราชุดขาวก็
ประกาศวาเกล็ดวิญญาณเที่ยงแทสามชิ้นเปนของหานลี่ จากนั้นก็เปนฝายนำกลองไม
ของฮูหยินบินตรงขึ้นมายังหองลอยของหานลี่
รางกายหยุดชะงัก ชายชราหยุดอยูหนาหอง
เขาพลิกฝามือโดยไมไดเอยอะไรออกมา แผนปายสีเขียวปรากฏขึ้น
ถูกตัวอักษรหอหุมเอาไวพลางพลิ้วไหวไปทางหองลอย รางกายเคลื่อนไหว เขาไป
ในหอง ฮูหยินที่แตงตัวธรรมดาๆ ผูนั้นก็ตามเขามาติดๆ ดวยสีหนาราบเรียบ
เมื่อเขาไปในหอง ชายชราแซชื่อก็พิจารณาหานลี่ที่อยูในหมอกลำแสงสีขาว
หลังจากหัวเราะนอยๆ แลวถึงไดประสานมือคารวะพลางเอยวา
“ผูแซชื่อนำสมบัติมาสง สหายควรจะนำศิลาวิญญาณออกมาชำระ หากค้ำประกัน
เอาไว ขาและสหายเหอจะไดประเมินราคาใหสหายอยางยุติธรรม หากสหายคิดวา
ถูกกดราคา ตาเฒาก็จะขอเชิญสหายที่เหลือทั้งสองมา”
ชายชราชุดขาวเอยดวยสีหนานอบนอม
“ขานอยจะไมเชื่อสายตาของพี่ชื่อและสหายเหอไดอยางไร สหายทั้งสองประเมิน
ของชิ้นนี้เถิด” แววตาของหานลี่เลื่อนไปบนกลองไมในมือของฮูหยิน สะบัดแขนเสื้อ
หยิบกลองผาไหมขนาดครึ่งฉื่อที่เตรียมเอาไวนานแลวออกมา หัวเราะหึๆ ขณะเอย
จากฐานะของชายชราชุดขาว ไมรูวาเห็นสมบัติวิเศษมากี่ชนิดแลว แครับเขามา
พรอมพยักหนาเล็กนอย เปดฝากลองออก มองไปอยางสบายๆ
กลิ่นบริสุทธิ์โชยออกมา! สายตาของชายชราแคกวาดออกไป รางกายก็สั่นเทา
ไมอาจละสายตาไดเลยสักนิด
“สมุนไพรหมื่นป!”
ชายชราสูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง ในที่สุดก็ถอนสายตาออกจากสิ่งที่อยูในกลอง
และมองหานลี่ดวยสีหนาประหลาดใจ
ฮูหยินไดยินคำวา “สมุนไพรหมื่นป” ก็พลันใจสั่นคลอนเชนกัน ขมวดคิ้วมุน
เดิน เดินออกไปสองกาว มองไปยังกลองหยกเชนกัน
เห็นเพียงทามกลางลำแสงสีขาวนวล สมุนไพรความยาวสองสามชุนสีขาวบริสุทธิ์
ตนหนึ่งนอนนิ่งอยูในกลอง
ผิวของสมุนไพรตนนี้ คาดไมถึงวาจะสิ่งที่เหมือนอักขระลวงตาปรากฏระยิบระยับอยู
“สมุนไพรหมื่นป! รูปรางเหมือนสมุนไพรหมื่นป ทวาจะใชหรือไม ยังตองตัดสิน
อยางละเอียดอีกครั้ง” ฮูหยินจองไปชั่วครู แลวถึงไดเอยออกมาอยางเชื่องชา
“การตัดสินสมุนไพรนั้น ตาเฒาไมสูสหาย ใหสหายตัดสินก็แลวกัน” ชายชรา
ชุดขาวเองก็มีสีหนาราบเรียบ เอยกับฮูหยินดวยความนอบนอมเปนพิเศษ
ฮูหยินพลันพยักหนา เก็บกลองผาไหมในมือ พลิกฝามืออีกครั้ง ฉับพลันนั้นในมือ
พลันมีสมุนไพรสีเขียวความยาวสองสามฉื่อ บนผิวมีตัวอักษรประหลาดๆ ราวกับ
แผนเกลียวมวนวนอยูสิบสองรอบปรากฏขึ้น
แววตาเปลงประกายสวางวาบ ฮูหยินชูนิ้วขึ้นชี้ไปทางสมุนไพรในกลองหยกอยางชาๆ
ผลคือเมื่อสัมผัสกับลำแสงสีขาวนวลของสมุ นไพรในกลองหยก ก็รองพึมพำ
ออกมา ในเวลาเดียวกันตั วอักษรประหลาดบนต นสมุ นไพรก็เ ปลง ประกายอย า ง
ตอเนื่อง
ลำแสงสีเขียวมรกตเปลงแสงเจิดจาจนบาดตา!
ในที่สุดเมื่อลำแสงสีเขียวหมุนวนจนครบสิบสองรอบ ในที่สุดใบหนาราบเรียบของ
ฮูหยินก็เปลี่ยนสี
หลังจากที่นางพิจารณาสมุนไพรในกลองหยกอยางละเอียดอีกครั้งแลว ถึงไดเอย
อยางมั่นใจวา
“สมุ น ไพรหมื ่ น ป จ ริ ง ๆ ยิ ่ ง ไปกว า นั ้ น ยั ง เป น สมุ น ไพรอสรพิ ษ หิ ม ะอายุ
หนึ่งหมื่นหนึ่งพันป สมุนไพรอสรพิษหิมะคือสมุนไพรที่หายาก หลังจากอายุหมื่นป
แลว จะมีราคามากกวาสมุนไพรหมื่นปทั่วไปหลายเทา ขาประเมินวา นาจะมีราคา
ประมาณเจ็ดลาน”
“เจ็ดลาน อืม ประเมินไมตางจากตาเฒานัก สหายคิดวาราคาที่พวกเราประเมินเปน
อยางไร ถาหากเห็นตางโปรดแจงเลย?” ชายชราชุดขาวขบคิดเล็กนอย แลวหันไปเอย
กับหานลี่
“ราคานี้ขาไมมีขอเห็นตาง สหายเก็บของเหลานี้ไปเถิด ของเหลานี้นาจะเพียงพอ
ในการค้ำประกันราคาที่ประมูลทั้งหมด” ขอมือของหานลี่เปลงแสงสีเขียวสวางวาบ
หยิบกลองหยกสี่กลองออกมาอยาตอเนื่อง พลางโยนไปใหฝงตรงขาม
ชายชราชุดขาวโบกสะบัดมือหนึ่ง ดูดกลองหยกเหลานั้นเขามาในมือ จากนั้นก็
เปดฝาออก
ครั้งนี้ ชายชราที่พยายามรักษาความเยือกเย็นเอาไว แตหางตากลับกระตุก และ
รูสึกใจเตนระรัวไมหยุด
“ลวนเปนสมุนไพรหมื่นป?” เขาเงยหนาขึ้น น้ำเสียงแหบแหงเล็กนอย
“อันใดรานของทานไมรับสมุนไพรชนิดนี้หรือ?” หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา
“สหายลอเลนแลว” ชายชราชุดขาวหัวเราะยกใหญ สายตาที่มองไปทางหานลี่
ลวนปกปดความประหลาดใจเอาไวไมมิด
ฮูหยินรูสึกเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่ง
นางคำนวณราคาสมุนไพรในกลองหยกอีกครั้ง
ผลคือสีหนาเต็มไปดวยความไมอยากจะเชื่อ
สมุนไพรวิญญาณหมื่นปตนหนึ่ง แนนอนวาล้ำคาเทาเกล็ดวิญญาณเที่ยงแทสมบัติ
ระดับสุดยอดไมได แตหากพูดถึงประโยชนและความตองการนั้นมีมากมาย เปน
วัตถุดิบเสริมในการปรุงยาลูกกลอนระดับเทพแปลงทั้งหมด แทบจะสิ่งที่ ขาด
แคลนไมไดของผูบำเพ็ญเพียรระดับสูง
ประกอบกับที่ของสิ่งนี้ล้ำคามาก แทบจะเปนสิ่งนิยมที่สุดในยานรานคารองจาก
ศิลาวิญญาณ บางทีของอยางอื่น รานคาเหลานั้นอาจจะปฏิเสธ แตสมุนไพรวิญญาณ
หมื่นปไมมีรานไหนปฏิเสธแน
“ในเมื่อสหายมั่นใจแลว สมุนไพรเหลานี้นั้นไมใชปญหา เกล็ดวิญญาณเที่ยงแท
สามชิ ้ นเป นของสหาย สหายโปรดตั ว สอบดว ย” ชายชราชุ ดขาวแววตาฉายแวว
ประหลาดใจ หยิบกลองผาไหมออกมาอีกครั้ง พลางสงใหหานลี่ดวยใบหนาที่ประดับ
ไปดวยรอยยิ้ม
“งั้นขานอยไมเกรงใจแลว อืม…ไมเลว สิ่งนี้ไมมีปญหา” หานลี่ตะปบออกไป
กลางอากาศ ชั่วขณะนั้นกลองผาไหมพลันถูกดูดเขาไปในหมอกสีเงิน หลังจากกมหนา
ลงตรวจสอบเล็กนอย ก็พยักหนาดวยความพึงพอใจ
ถึงแมวาชายชราชุดขาวจะรูสึกประหลาดใจวาหานลี่มีสมุนไพรหมื่นปมากมาย
ขนาดนี ้ ไ ด อย า งไร แต ก ็ ไ ม ไ ด เ อ ย อะไรให มากความ ทั น ใดนั ้ น พลั น เก็ บ สมุนไพร
วิญญาณไป พาฮูหยินบินออกจากหองลอย กลับไปยังแทนประมูล
ผูบำเพ็ญเพียรที่อยูดานนอกรออยูเพียงหนึ่งมื้ออาหาร จากนิสัยที่นั่งสมาธิไมขยับ
เขยื้อนเปนเวลาสองสามเดือนของพวกเรา จุดนี้จึงไมถึงวาลาชาอะไร
แตเมื่อเห็นชายชราแซชื่อและพวกสองคนบินออกมาแลว ทันใดนั้นก็กวาดสายตาไป
ตางอยากรูวาเกล็ดวิญญาณเที่ยงแทนั้นถูกแลกเปลี่ยนไปหรือยัง
“เหลาสหายไมจำเปนตองกังวล ของไดถูกแลกเปลี่ยนอยางราบรื่นแลว จากนี้
เริ่มประมูลชิ้นตอไปได ของสิ่งนี้คือสมบัติวิญญาณในมวนคัมภีรหมื่นวิญญาณโกลาหล
มูลคาของมันนั้นเหนือกวาเกล็ดวิญญาณเที่ยงแท นี่คือสมบัติสะทานฟา ‘ขวาน
มหาสมุทร’ เปดประมูลยี่สิบลาน!” ชายชราชุดขาวไมไดเอยอะไรเกี่ยวกับ หานลี่
ปากก็ประกาศการประมูลชิ้นตอไป
ชายชราที่ใบหนาเต็มไปดวยลำแสงสีแดงผูนั้นเดินออกมาในทันใด และยิ่งไปกวานั้น
ยังหยิบขวานสั้นๆ ที่มีลำแสงสีฟาเปลงประกายออกมาจากกำไลเก็บของ
ฝู ง ชนผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รในห องโถงต า งรู  ส ึ ก ตื ่ น เต น กั บ ของสิ ่ ง นี ้ ไ ม น  อยเช นกั น
เมื่อชายชราสำแดงความสามารถที่นาเหลือเชื่อของขวานสั้นออกมา ทันใดนั้นก็มีผูคน
เริ่มแยงชิงกัน
หานลี่ในครานี้กลับใชมือหนึ่งคีบเกล็ดสีเขียวดำออกมาเกล็ดหนึ่ง พินิจมอง
ดูเหมือนวาจะไมสนใจสมบัติสะทานฟาดานนอกเลยสักนิด
ผลคือขวานสั้นถูกผูบำเพ็ญเพียรแปลกหนาคนหนึ่งประมูลไปดวยราคาสามสิบหาลาน
ในที่สุดของประมูลชิ้นสุดทายในงานประมูลก็เริ่มขึ้น
ตอนที่ 1342 ตระกูลวิญญาณเที่ยงแท
“สินคาที่จัดประมูลชิ้นตอไป คือเคล็ดวิชาหลักในการฝกบำเพ็ญเพียรของอาวุโส
ระดับผสานอินทรียขั้นปลายที่มีชื่อเสียงเลื่องลือทั้งเผามนุษยและเผาปศาจ บางที
ชื ่ อ ของท า นอาวุ โ สผู  น ี ้ ส หายจำนวนมากอาจจะไม ร ู  จ ั ก แต ค วามสามารถของ
‘เข็มสวรรคสังหารจิต’ หึๆ เกรงวากวาครึ่งของสหายในที่นี้นาจะเคยไดยินมาบางสินะ
ความสามารถนี้เคยสำแดงอิทธิฤทธิ์ในการตอสูกับเผาประหลาด และเคยถายทอด
การฝกฝนออกมาหลายฉบับ แมกระทั่งทางฝงปศาจก็มีคนเคยฝกฝนเคล็ดวิชาลับนี้
เช น กั น ส ว นเคล็ ด วิ ช านี ้ เ ป น หนึ ่ ง ในพลานุ ภ าพของเคล็ ด วิ ช าชุ ด นี ้ นั ่ น ก็ คื อ
‘คุณชายเบญจธาตุ’ ในอดีตเคยสรางเคล็ดวิชาฉบับแรกสุดดวยมือของตนเอง ดังนั้น
มูลคาของมันก็คงไมตองใหตาเฒาพูดมาก สิ่งสำคัญที่สุดของเคล็ดวิชาชุดนี้ไมไดอยูที่นี่
แตเปนหลังจากฝกฝนสำเร็จแลว จะมีลมปราณหาธาตุ ประกอบกับสามารถเปลี่ยน
รูปรางหนาตาไดชวั่ คราวอานุภาพลึกล้ำยากจะคาดเดา เงื่อนไขในการฝกฝนเคล็ดวิชา
ชุดนี้นั้นทารุณมาก ประการแรกผูที่เริ่มฝกฝนตองเปนผูที่มีพลังยุทธไมสูงเกินไปและ
ไมต่ำเกินไป มีเพียงสหายระดับกอกำเนิดและระดับเทพแปลงที่สามารถขบคิดวาจะ
ฝกฝนหรือไม ผูที่ฝกฝนจำเปนตองมีรากวิญญาณหาธาตุ มิฉะนั้นก็สำเร็จยาก แนนอน
วาการฝกฝนเคล็ดวิชานี้ยังมีเงื่อนไขที่ทารุณอยางอื่นอีก แตกลับไมใชวาจะเอาชนะ
ไมได ตาเฒาจะไมอธิบายอะไรแลว เคล็ดวิชาชุดนี้ไมไดมีปญหาอะไร ตอนที่ซื้อขาย
กันนั้นเจาภาพงานประมูลก็ไดตรวจสอบดวยตนเองแลว ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ตองเตือน
เหลาสหาย เคล็ดวิชาชุดนี้มีพลานุภาพไมนอย แตผูบำเพ็ญเพียรในอดีตที่เคยฝกฝน
เคล็ดวิชาชุดนี้ มีเพียงคุณชายเบญจธาตุที่บรรลุระดับผสานอินทรีย สวนคนที่เหลือนั้น
ก็ไมรูวาไมเหมาะที่จะฝกฝนหรือไมเขาใจเคล็ดวิชานี้ กวาครึ่งลวนติดอยูในระดับ
เทพแปลงแมแตระดับหลอมสุ ญตาก็มี อยู เพีย งไมกี ่ค น แนนอนวานั่น เป น เพราะ
ผูที่ฝกฝนเหลานั้นมีวาสนาไมถึง มิเชนนั้นคุณชายเบญจธาตุจะอาศัยเคล็ดวิชานี้บรรลุ
ระดับผสานอินทรียขั้นปลายไดอยางไร เอาละขอดีขอเสียของ ‘เคล็ดวิชาจันทราตะวัน
ระดับสุดยอด’ ผูแซชื่อก็ไดชี้แจงแถลงไขใหเหลาสหายแลว สหายที่สนใจเริ่มเรียก
ราคาไดเลย ราคาเปดประมูลอยูที่ยี่สิบลาน
ทุกครั้งที่เรียกราคาจะตองไมต่ำกวาหนึ่งลาน เริ่มประมูลได” หลังจากที่ชายชรา
ชุดขาวอธิบายอยางสบายๆ แลว นักปราชญวัยกลางคนที่สงางามคนสุดทาย ก็หยิบ
กลองไมออกมาจากกำไลเก็บ ของออกมาพร อมกับรอยยิ้ม ดานในมีคัมภีรส ี ท อง
เรืองรองบรรจุอยูมวนหนึ่ง เห็นไดชัดวาเปนคัมภีรที่ใชจดบันทึกเคล็ดวิชานี้
‘เข็มสวรรคสังหารจิต’ นั้นมีชื่อเสียงไมนอยจริงๆ ผูบำเพ็ญเพียรจำนวนไมนอยที่
อยูในหองลอยก็เผยแววตาสนอกสนใจและสีหนาตื่นเตนออกมา
สวนเงื่อนไขในการฝกฝนนั้นผูบำเพ็ญเพียร ณ ที่นั้นกลับไมสนใจ
ถึงอยางไรเสียเดิมทีงานประมูลนี้ก็มีเพียงผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงเทานั้นที่
สามารถเข า ร ว มได ส ว นรากวิ ญ ญาณห า ธาตุ ท ี ่ เ ป น สิ ่ ง สำคั ญ ในการบรรลุ ร ะดั บ
หลอมสุญตานั้น ตอใหไมไดเปนเงื่อนไขของเคล็ดวิชานี้ กวาครึ่งของผูบำเพ็ญเพียร
ณ ที่นั้นตางก็เพิ่มเติมใหมีพลังทั้งหาธาตุอยูแลว แนนอนวาหนึ่งในนั้นจะมีผูฝกฝน
สำเร็จไดกี่คน ก็มีแตสวรรคเทานั้นที่รู
ทวาชายชราชุดขาวไดพูดถึงการฝกฝนที่ยากลำบากของเคล็ดวิชาชุดนี้ไ ปแลว
มีคนจำนวนไมนอยที่เลิกสนใจเคล็ดวิชานี้ไป เพราะคำพูดที่อธิบายการฝกฝน
หนึ่งในนั้นก็มีหานลี่รวมอยูดวย!
ถึงแมวา ‘คาถาจันทราตะวันระดับสุดยอด’ จะดูเหมือนเปนเคล็ดวิชาที่ไมธรรมดา
แตฝกฝนไดยากจึงทำใหเขาเลิกสนใจ
ถาหากอาศัยแคความสามารถขอเคล็ดวิชานี้ อานุภาพของเคล็ดวิชาผูฝกตนคู
บำเพ็ญเพียรชุดนั้นของเขาก็ไมมีทางเปนรอง
และยิ่งไปกวานั้นราคาเปดประมูลยี่สิบลานก็ทำใหเขาขมวดคิ้วเชนกัน และ
ลมเลิกความคิดที่จะแยงชิงเคล็ดวิชาชุดนี้ไป
ทวาผูที่มั่นใจวาตัวเองมีพรสวรรคเหนือชั้นและยังคงสนใจเคล็ดวิชาชุดนี้ก็มีอยูไมนอย
ราคายี่สิบลานก็ไมอาจระงับของคนเหลานี้ได
แตผานไปแคสองระลอก ฉับพลันนั้นก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้นวา
“สี่สิบลาน!”
ราคานี้ทำใหทุกคนตกตะลึงจนตาคาง
ผูที่เรียกราคานั่นก็คือเจาของเสียงผูเกียจครานผูซึ่งแยงชิงเกล็ดวิญญาณเที่ยงแท
กับหานลี่
ราคาที่สูงเชนนี้ ไมเพียงจะทำใหผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงเหลานั้นตกตะลึง
จนตาคาง แมแตผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาที่สนใจก็ยังปดปากฉับเชนกัน
แตทุกคนกลับกำลังขบคิดวาคนผู นี้คื อใครกั นแน คาดไมถึงวาจะมีตระกูล ที่
นาเหลือเชื่อเชนนี้อยู ศิลาวิญญาณจำนวนมากขนาดนี้ เกรงวาเพียงพอจะทำให
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาคนหนึ่งลมละลายได
หานลี่เองก็พึมพำอยูในใจเชนกัน แตไมใชเรื่องของตนเองจึงไมไดคิดอะไรมากนัก
ในเมื่อเคล็ดวิชาก็ถูกประมูลออกไปแลว งานประมูลครั้งนี้จึงสิ้นสุดลง
ชั่วพริบตาที่ชายชราชุดขาวนี้ประกาศวางานประมูลสิ้นสุดลง เขตอาคมในหองลอย
พลันทำงาน หานลี่ถูกสงออกมากลางอากาศทามกลางลำแสงสีขาว คาดไมถึงวาจะมา
ปรากฏตัวอยูบนทางเดินนอกหองโถงของงานประมูล
ทางเดินทั้งสายมีลำแสงวิญญาณสวางวาบอยางตอเนื่อง ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ
ถูกสงออกมาอยางตอเนื่องเชนกัน
แตบนเรือนรางของทุกคนตางมีลำแสงสีเงินกะพริบระยิบระยับ จึงไมอาจคาดเดา
ฐานะของผูใดได
หานลี่เองก็ไมไดสนใจผูอื่น สาวเทายาวๆ เดินตรงไปที่ประตูวิหารทมิฬ
ในเมื่องานประมูลสิ ้นสุ ดลงแล ว เขาก็ไมไดคิดที ่จะกลั บไปที่ ห อคอยศิ ล าอี ก
แตเตรียมออกจากเมืองเทวะสวรรคกลับไปยังจวนพำนักของตัวเอง
ยังเหลือเวลาที่จะตองไปเขาเวรอีกครึ่งป เขาจึงถือโอกาสนี้รีบกลับไปเร งการ
เจริญเติบโตของสมุนไพร ปรุงยาชำระหยกนั่นใหไดกอนแลวคอยวากันมีสมุน ไพร
อยางไมจำกัดเชนนี้ การฝกฝนของเขาในชวงนี้อยางนอยที่สุดก็ไมจำเปนตองกลุมใจ
เรื่องสมุนไพรใดๆ
สวนเกล็ดวิญญาณเที่ยงแทของกิเลนทมิฬสามชิ้นนั้นเขาไมคิดจะปรุงอยางลวกๆ
แตคิดจะใชเวลาศึกษาสักระยะหนึ่งเพื่อดูวาจะมีวิธีใดที่จะสามารถรับประกันไดวา จะ
ปรุงยา ‘ยาลูกกลอนวารีทานตะวัน’ ไดสำเร็จ
สมุนไพรระดับเหนือชั้นเชนนี้จะเปนที่พึ่งในการทะลวงจุดคอขวดในอนาคตของ
เขาจึงไมมีทางหลอมอยางสะเพราได
ครั้นเมื่อหานลี่เดินออกจากวิหารทมิฬแฉลบผานกำแพงเมืองที่สูงใหญไปอยาง
เหมอลอย ตรงไปยังแดนปาเถื่อนที่อยูไกลออกไปนั้น ในหองลับที่มีเขตอาคมแนนหนา
หองหนึ่งในวิหารทมิฬจะมีคนสองคนกำลังปรึกษาอะไรกันอยู
หนึ่งในนั้นมีดวงหนาเมตตาปรานีสวมชุดสีขาวแตสองมือกับประสานกันอยาง
นอบนอม
นั่นก็คือชายชราแซชื่อผูนั้น
บนเกาอี้หินตัวหนึ่งที่อยูเบื้องหนาชายชรานั้น มีชายหนุมสวมชุดสีมวงที่มีรูปโฉม
งดงามนั่งอยางสงาผาเผยอยู
มุมปากของเขามีไฝโลหิตสีสด อยูเม็ดหนึ่ง ชางสะดุดตายิ่งนัก
ชายชราแซชื่อกำลังเอยดวยทาทีนอบนอมวา
“คุ ณ ชายโปรดวางใจถึ ง แม ว  า คนผู  น ั ้ น จะใช เ คล็ ด วิ ช าลั บ อำพรางหน า เดิ ม
ของตนเอง แต ภ ายใต เ นตรวิ ญ ญาณลำแสงสี ม  ว งของตาเฒ า ก็ ไ ม อ าจปกป ด ได
ผูที่ประมูลคาถาจันทราตะวันระดับสุดยอดไป นั้นคือสตรีผูบำเพ็ญเพียรคนหนึ่ง
แตใบหนากลับดูเหมือนจะไมเหมือนกับสตรีสองสามคนที่คุณชายมอบให นางชาง
อัปลักษณเปนอยางมาก”
ปรมาจารย ห ลอมอาวุ ธ ที ่ ม ี ช ื ่ อเสี ย งยิ ่ ง ใหญ ข องเมื อ งเทวะสวรรค ผู  ซ ึ ่ ง เป น
ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงคาดไมถึงวาเมื่ออยูตอหนาชายหนุมผูนี้กลับมีทาที
ออนนอมถอมตน ถาหากผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นในเมืองมาเห็นเขาเกรงวาคงตาถลน
ชายหนุมที่มีไฝสีโลหิตไดยินคำพูดของชายชรามุมปากพลันกระตุกเล็กนอยแลว
พลันหัวเราะออกมา
“ผูเฒาชื่อไมตองสงสัยเลย ในเมื่อเปนสตรีผูบำเพ็ญเพียรและยังยอมแลกเปลี่ยน
เคล็ดวิชานั้นกับศิลาวิญญาณจำนวนมากขนาดนี้ในคราเดียว ฐานะไมจำเปนตองเดา
หากไมใชตระกูลเยี่ยหรือตระกูลกู สองตระกูลนี้เหมือนกับตระกูลหลงของพวกเรา
ลวนเปนตระกูลวิญญาณเที่ยงแทที่สืบทอดกันมาตั้งแตสมัยโบราณ โลหิตวิญญาณ
เที่ยงแทที่ถายทอดกันมาในตระกูลมีเพียงสตรีเทานั้นที่สามารถถายทอดตอไปได
รานประมูลในสามเขตเจ็ดแดนที่ตระกูลหลงของพวกเราไมไดควบคุมอยู พวกเขากลับ
ควบคุมเหมืองแรศิลาวิญญาณระดับสูงของเผามนุษยเอาไวจำนวนมาก แคสองตระกูล
นี้มีเผามนุษยไมมาก แมกระทั่งยังไมยอมออกมาเคลื่อนไหวภายนอก ดังนั้นพันธุกรรม
โลหิตวิญญาณเที่ยงแทจึงไมเคยแพรงพรายออกมาภายนอก
บรรพชนของตระกู ล หนึ ่ ง ยั ง เลี ้ ย งดู ค รึ ่ ง ป ศ าจของเผ า หงส ส วรรค เ อาไว
เผามังกรเที่ยงแทอยางตระกูลหลงของพวกเรา ก็เปนหนึ่งในชีพจรวิญญาณเที่ยงแทที่
แข็งแกรงที่สุด ดูแลวครั้งนี้พวกเราคงพนั นถู กแล ว ลูกศิษยของตระกูลวิญ ญาณ
เที่ยงแทเหลานั้นตางปดบังฐานะและหลบฝกฝนอยูในเมืองเทวะสวรรคมาระยะหนึ่ง
แลวดังคาด” ชายหนุมไฝโลหิตเอยอยางเชื่อมั่น
“คุณชายชางมีญาณทิพยเสียจริง! นี่เปนเพราะคาถาจันทราตะวันระดับสุด ยอดมี
ความสำคัญกับคนของเผาหงสสวรรคเปนอยางมาก ถึงอยางไรเสียมีเพียงเคล็ดวิชา
ระดับสุดยอดที่ปรับพลังเบญจธาตุใหสมดุลชนิดนี้ ที่จะกระตุนโลหิตของหงสสวรรคได
สตรีผูนี้รูจักเคล็ดวิชานี้ ก็คงถูกกับดักในสมัยโบราณเลนงานเขาแลว” ชายชราชุดขาว
เอยแลวหัวเราะคิกคักออกมา
“หึๆ! ความฉลาดของบรรพชนไมใชสิ่งที่ชนรุนหลังอยางพวกเราจะเทียบเทียมได
ครั้งนี้ หากไมใชเพราะโลหิตมังกรเที่ยงแทในรางของขาเหนือกวาคนรุนกอน ในที่สุด
ก็ไขปริศนาขอนี้ได ตัวประหลาดเฒาเหลานั้นในตระกูล คงไมสนับสนุนการกระทำ
ของขาแน ครั้งนี้ เพื่อไมใหเปาหมายเกิดความสงสัย แมแตเกล็ดกิเลนทมิฬและ
สมบัติขวานมหาสมุทรของสะสมของขา ตางก็ถูกประมูล ออกไปหมด และยัง ได
ขาวอยางลับๆ วา ตางหลุดไปอยูในมือของตระกูลวิญญาณเที่ยงแท มิเชนนั้นการ
เคลื่อนไหวก็คงไมราบรื่นเชนนี้ โชคดีที่ราคาที่ขายออกไปไมต่ำนัก และยิ่งไปกวานั้น
ยังเปลี่ยนเปนสมุนไพรหมื่นปหาตน ก็ไมนับวาเสียเปรียบนัก ผูบำเพ็ญเพียรที่ประมูล
เกล็ดวิญญาณเที่ยงแทไปนั้น เจารูประวัติความเปนมาของเขาหรือไม?” ฉับพลันนั้น
ชายหนุมไฝโลหิตพลันเอยถามเชนนั้นออกมา
“คุณชายก็รู ตาเฒาฝกฝนเนตรวิญญาณลำแสงสีมวง ทั้งชีวิตใชไดเพียงสามครั้ง
เทานั้น ครั้งสุดทายที่เหลือจะกลาใชกับคนอื่นไดอยางไร จึงทำไดเพียงรูสึกวาคนผูนี้
ไมใชผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา แคผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงคนหนึ่ง
เทานั้น แตสมุนไพรวิญญาณในตัวเขา เกรงวาจะไมไดมีแคหาตน หรือคนผูนี้จะเปน
คนของตระกูลหมิ่นที่เชี่ยวชาญในการปลูกสมุนไพร
ถึงแมวาลูกหลานของตระกูลหมิ่นจะไมใชวิญญาณเที่ยงแทที่แข็งแกรงอะไร
แตในดานการปลูกสมุนไพร กลับเปนโดดเดนในเผามนุษยมาก” ชายชราขบคิ ด
เล็กนอย แลวถึงไดตอบกลับดวยความสงสัย
“ตระกูลหมิ่น ก็อาจจะเปนไปได ถาหากเปนคนของตระกูลนี้ ก็ชางเถิด ตระกูลหมิ่น
คือตระกูลใตอาณัติของเผาวิญญาณเที่ยงแทที่ถูกชี้แนะโดยฮองเตเทียนเมี่ย วหลิง
ตอนนี้พวกเราไมอาจลวงเกินได” ชายหนุมขมวดคิ้ว แลวเอยอยางเชื่องชา
“คุณชายเฉียบแหลมมาก ถึงแมวาตระกูลของพวกเราจะไมหวาดกลัวสามฮองเต
แตเพื่อสมุนไพรแคนี้ คงไมมีทางสรางศัตรูงายๆ” ชายชราพยักหนาอยางตอเนื่อง
“ครั้งนี้ใชความสามารถของเนตรลำแสงสีมวง ทำใหพลังยุทธของเจาเสียหาย
ไปไมนอย หลังจากจบเรื่องนี้แลว กลับไปขาจะทำพิธีบวงสรวงโลหิตใหเจา ชวยให
พลังยุทธของเจาเพิ่มขึ้นอีกขั้น” ชายหนุมไฝโลหิตดูเหมือนจะคิดอะไรได ฉับพลันนั้น
พลันเอยกับชายชราดวยรอยยิ้มเบิกบาน
“ขอบพระคุณความชวยเหลือของคุณชาย!” ชายชราแซชื่อไดยิน พลันคารวะ
อยางรีบรอนดวยความดีอกดีใจ
ชายหนุมไฝแดงพยักหนาดวยความพึงพอใจ ทันใดนั้นก็ขบคิดอีกครั้ง ไมรูวากำลัง
ขบคิดเรื่องอะไรอยู
หลังจากผานสองสามวัน ในตอนที่หานลี่ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีเขาใกลเทือกเขาที่
จวนพำนักตั้งอยูนั้น ณ หนองน้ำที่อยูหางจากจวนพำนักของเขาไปพันลี้เศษ มีคน
สองคนกำลังยืนคุมเชิงกันดวยสีหนาเครงเครียด
ตอนที่ 1343 อรหันตพันสมบัติและไขมุกหมื่นมังกร
“พี่จิน เจาตามผูแซจินมาที่นี่อยางเงียบๆ มีเจตนาใด หรือวาผูแซเวิงไปลวงเกิน
อะไรสหายเขา?” ผูพูดคือชายรางใหญคิ้วโคงที่เคยแยงชิงที่อยูกับหานลี่ ผูที่คุมเชิงอยู
กับเขากลับเปนเจาอวนแซจินที่ปรากฏตัวขึ้นในวิหารหยกเชนกัน
แตแคทาทีที่สนิทสนมแตเดิมของทั้งสองในครานี้กลับไมถูกกันทาทางเหมือนจะ
ลงมือสูรบกัน
“นองเวิงพูดอะไรอยางนั้น ผูแซจินแคบังเอิญผานทางมาเทานั้น เห็นนองทาน
รั้งรออยูที่นี่จึงอยากเขามาทักทายเทานั้น” เจาอวนแซจินกลับมีทาทีใสซื่อ
“บังเอิญ? ทักทาย? พี่จินคิดวาขานอยโงเขลาหรือ ผูใดจะมาในที่รกรางแบบนี้
โดยไมมีเหตุผล ทักทายจะตองใชเคล็ดวิชาอำพรางตามขานอยมานับแสนลี้หรือ?”
ชายรางใหญคิ้วโคงเอยอยางเย็นชา
“ฮาๆ เรื่องนี้ผูแซจินก็ประหลาดใจเปนอยางมาก นองเวิงไมฝกฝนอยูในจวนของ
ตนเองแตวิ่งมาทำอะไรที่นี่ หากขาจำไมผิดละก็ที่นี่คือที่ ที่นองเวิงพยายามแยงชิงมา
อยางสุดชีวิตมิใชหรือ” เจาอวนแซจินหรี่ตาเล็กๆ ลงสีหนาฉายแววเจาเลห
“หึ ขาจะไปที่ไหนแลวมันตองอธิบายใหพี่จินทราบดวยหรือ?” ชายรางใหญ
คิ้วโคงหนาเปลี่ยนสีเปนเครงขรึมขึ้น
“เหตุใดนองเวิงจึงตองโกรธเกรี้ยวดวย ที่นี่มีเจาของแลว พี่ก็กลัววานองจะทำ
อะไรบุมบามแลวไปหาเรื่องอะไรที่จัดการไดยากเลยถึงไดตามมาที่นี่ นองเวิงอยากมา
หาอะไรที่นี่ลองบอกพี่มาสิ ใหผูแซจินชวยอีกแรงเปนอยางไร” เจาอวนแซจินหัวเราะ
ฮาๆ ทาทางเหมือนอยากเอยถามวาเกิดอะไรขึ้นกันแน
ชายรางใหญคิ้วโคงแคนเสียงหึในลำคอไมไดกลาวอะไรอีก แตดวงตากลับฉาย
แววโหดเหี้ยม
ฉับพลันนั้นแผนหลังของเจาอวนแซจินพลันมีลำแสงสีเขียวมรกตเปลงแสงสวางวาบ
เสนไหมสีเขียวบางๆ ปรากฏขึ้น สั่นคลอนเล็กนอยกลายเปนตาขายสีเขียวมรกต
ผืนหนึ่งแผลงมา
ขั้นตอนทุกอยางเปนไปอยางเงียบเชียบราวกับภูตผีก็ไมปาน
เจาอวนแซจินดูเหมือนจะไมรูสึกตัว ยังคงฉีกยิ้มอยางเสแสรงใหกับชายรางใหญคิ้วโคง
ชายรางใหญไมมีสีหนาประหลาดใจเลยสักนิด แตในใจพลันรูสึกดีอกดีใจหดมือ
เขาไปในแขนเสื้อ มีดบินสีฟาแวววาวปรากฏขึ้น รอใหอีกฝายถูกตาขายเสนไหมกักตัว
แลวจะสำแดงมีดบินออกไปฟนทิ้งในทันที
แตเมื่อเห็นตาขายเสนไหมแผลงมาหางจากศีรษะเจาอวนแซจินไมกี่ฉื่อ ฉากที่นา
ตกตะลึงพลันปรากฏขึ้น
เสียง “ปง” ดังขึ้น ลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบออกมาจากมวยผมของ
เจาอวนแซจิน ลำแสงสีทองมวนออกมาผนึกเขาหากันเล็กนอยกลายเปนมือยักษ
สีทองขางหนึ่งรองเสนไหมสีเขียวเอาไว
ลำแสงสีทองและลำแสงสีเขียวโรมรันกันเปลงเสียง “เปรี๊ยะๆ” ประหลาดๆ
ออกมา
“มารเฒาจิน นั่นเจาหรือ?”
“ตัวประหลาดเฒาหมิงเจาลงมือเองดังคาด”
เสียงที่ไมเหมือนกันสองเสียงดังออกมาจากลำแสงสีเขียวและลำแสงสีทองแตแค
น้ำเสียงหนึ่งประหลาดใจเล็กนอย อีกเสียงกลับคิดเอาไวอยูแลว
ทันใดนั้นกลางอากาศพลันมีมือยักษสีทองและตาขายเสนไหมสีเขียวพุงแยกตัว
ออกไปพรอมกัน ลำแสงหมนแสงลง คาดไมถึงวาจะกลายเปนอสรพิษนอย สี
เขียวมรกตตัวหนึ่งและมนุษยนอยความสูงครึ่งฉื่อคนหนึ่ง
อสรพิษนอยนั้นยังพอวานั่นก็คือรางแยกของปรมาจารยของชายรางใหญคิ้วโคง
สวนมนุษยนอยความสูงครึ่งฉื่อกลับสวมชุดสีทองแผนหลังสะพายดาบไมกระจิริดอยู
เลมหนึ่ง ใบหนาเลือนราง มองไมชัดเจนเลยสักนิด จึงทำไดเพียงสัมผัสไดรางๆ วาอายุ
ไมนอย
“เคล็ดวิชาแยกจิต! ตัวประหลาดเฒาหมิงเจาหนีเคราะหสวรรคโดยการแยกจิต
ออกมาแลวไมกลัววาจะสูญสลายหรือ เคราะหสวรรคครั้งนี้ไมอาจผานไปไดสินะ”
อสรพิษนอยสีเขียวมรกตจองเขม็งไปยังมนุษยนอยที่อยูตรงขามพลางเอยอยางเย็นชา
“หึๆ จุดนี้ไมจำเปนตองใหสหายหมิงมากังวล อรหันตพันสมบัติในตอนนั้นมี
ชื่อเสียงขนาดไหน สมบัติที่พกอยูมีอานุภาพเขยาทั้งสองเผามาหลายหมื่นป ขอแค
ไดมาสักสองสามชิ้นเคราะหสวรรคครั้งตอไปก็ไมตองกังวลแลว พี่เองก็สงรางแยกมา
ที่นี่ไมใชหรือ?” มนุษยนอยหัวเราะดวยเสียงทุมต่ำออกมาพลางเอยอยางไมสนใจ
“‘เจารูเรื่อง ‘อรหันตพันสมบัติ’ ไดอยางไร?” มังกรอสรพิษสีเขียวมรกตพลันตก
ตะลึงตะโกนออกมาดวยน้ำเสียงโหดเหี้ยม
ครานี้เจาอวนแซจินและชายรางใหญคิ้วโคงกลับยืนนิ่งอยูที่เดิม สีหนานอบนอม
ไมกลาสอดเลยสักนิด
“ขานอยรูไดอยางไรสหายไมจำเปนตองรู ทวาสหายหมิงโปรดวางใจ ผูที่รูเรื่องนี้
มีแคเจากับขาเทานั้น คนที่สามไมมีทางรูแน มิสูเจากับขามารวมมือกันลาสมบัติเปน
อยางไร?” มนุษยนอยหัวเราะหึๆ เอยอยางแนะนำออกมา
“ลาสมบัติดวยกัน? หากเจารูเบาะแสจริงๆ จะตองรวมมืออะไร?” อสรพิษสีเขียว
มรกตหัวเราะอยางเย็นชาออกมา
“แนนอน ผูแซจินลงมือผานศิษย ขาวที่ไดมาจึงไมชัดเจน แตขอแคพี่หมิงรู ก็
พอแลว” มนุษยเอยอยางราบเรียบ
“เจากำลังขูเข็ญขา!” น้ำเสียงของมังกรอสรพิษมรกตเย็นเยียบขึ้น
“ผูแซจินจะกลาทำเรื่องเชนนั้นไดอยางไร ขานอยพูดถึงความรวมมือ แนนอนวา
ตองมีของที่จะชวยสหายตามหาสมบัติ ถึงคราที่หาสมบัติเจากับขาก็แบงกันอยาง
ยุติธรรมโดยไมมีการบาดเจ็บไมใชเรื่องที่ดีหรือ” มนุษยนอยสั่นศีรษะแลวโบกมืออยาง
ตอเนื่อง
“เจา...เอ มีคนมา!” ขณะที่มังกรอสรพิษมรกตกำลังโกรธเกรี้ยวและคิดกำลังจะเอย
อะไรนั้น พลันหนาเปลี่ยนสีเงยหนาขึ้นมองไปบนทองฟา
ไมใชแคมังกรอสรพิษมรกต มนุษยนอยสีทองผูนั้นก็เหลือบมองไปทางเดียวกัน
ดวยดวงตาที่เปลงประกาย สีหนาเครงขรึมขึ้นเชนกัน
“ดูแลวเจาของที่นี่คงกลับมาแลว นับเวลาก็พอสมควรแลว หากสหายจะรวมมือ
ตองรีบตัดสินใจ มิเชนนั้นหาแพรงพรายออกไป ทำใหตัวประหลาดเฒาของเมือง
เทวะสวรรครูเขา เกรงวาเจากับขาคงควาน้ำเหลว ตามกฎของเมืองเทวะสวรรค
ปกติแลวเจาของที่พบสมบัติในที่ตัวเอง ลวนตองตกเปนของเจาของที่” น้ำเสียง
ไมสนใจของมนุษยนอยสีทองเปลี่ยนเปนเครงขรึม
มังกรอสรพิษมรกตแววตาเปลงประกายสองสามครั้ง ถอนหายใจออกมายาวๆ
เฮือกหนึ่ง แลวถึงไดเอยอยางจนปญญาออกมา
“ตกลง เรื ่ องร ว มมื อผู แ ซห มิ ง ตกลงชั ่ วคราว แต แ บ ง กั น อย างยุ ติ ธ รรมไมได
เงื่อนไขในการรวมมือ เจากับขาคอยหาที่ถกกันอยางละเอียด ที่นี่ไมอาจรั้งรอไดแลว
ไดยินศิษยกลาววา ถึงแมคนผูนี้จะเปนแคผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง แตจิตสัมผัส
กลับไมออนแอ อยาใหเขาพบพวกเราเด็ดขาด”
“ฮาๆ มีคำรับรองของสหายก็พอแลว! พวกเราไปกันเถิด”
มนุษยนองสีทองพยักหนาดวยความพึงพอใจ มือหนึ่งตะปบออกไปกลางอากาศ
ในมือมีรมสีมวงคันหนึ่งปรากฏขึ้น
พลิ้วไหวเล็ กน อย รมคันนอยกลายเป นลำแสงสีท อง ชั่วครูก็ห อหุ มรา งของ
เจาอวนแซจินไปดวย จากนั้นพลันเปลงแสงสวางวาบ ทั้งสองคนหายวับไป
“รมเฟงมวง! คาดไมถึงวามารเฒาจินจะพกแมกระทั่งสมบัติระดับนี้มาดวย ดูแลว
คงเตรียมตัวมาแลว! พวกเราไปกันเถิด” อสรพิษนอยสีเขียวมรกตเห็นรมสีมวงพลัน
ตกตะลึง ในใจพลันตะโกนเรียกชายรางใหญคิ้วโคงดวยความกลัดกลุม แลวอาปาก
พนธงหาสีดามหนึ่งออกมา
ธงดามนั้นหมุนติ้วๆ กลายเปนเมฆหาสี หลังจากมวนทั้งสองไปแลว ก็จมหายเขา
ไปใตดินอยางไรรองรอย
ที่นี่จึงเงียบสงับ ราวกับไมเคยมีคนมาตั้งแตแรก
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งมื้ออาหาร ลำแสงสีเขียวสายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบจาก
จุดที่ไกลออกไปแลวพุงเขามา ในลำแสงหลีกหนีมีชายหนุมหนาตาธรรมดาๆ คนหนึ่ง
นั่นก็คือหานลี่
ครั ้ น เมื ่ อ ลำแสงสี เ ขี ย วบิ น มาอยู  เ หนื อ หนองน้ ำ ก็ ห ยุ ด ชะงั ก เล็ ก น อ ยแล ว
บินลอมรอบอยูกลางอากาศสองสามรอบ จากนั้นลำแสงพลันหมนแสงลง รางของ
หานลี่ลอยอยูกลางอากาศต่ำๆ หลังจากกวาดสายตาไปรอบๆ ใบหนาพลันเผยสีหนา
ตกตะลึงระคนสงสัยออกมา
เขาสัมผัสไดรางๆ วาที่นี่ดูเหมือนวาจะคลื่นลมปราณการตอสูเล็กๆ เกิดขึ้น ถึงแม
จะเบาบางมาก และหายวับไปในพริบตา แตก็ไมผิดแน
มนุ ษ ย น อยและมั ง กรอสรพิ ษ มรกตที ่ ย ื น คุ ม เชิ ง กั น เมื ่ อครู  ถึ ง แม ว  า จะเป น
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา แตถึงอยางไรเสียคนหนึ่งก็เปนจิตแยก คนหนึ่งก็เปน
ร า งแยก ส ว นหานลี ่ ท ี ่ ฝ  ก ฝนคาถาขั บ เคลื ่ อ นมาแล ว จิ ต สั ม ผั ส จึ ง แข็ ง แกร ง กว า
ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ เทพแปลง ต่ ำ กว า ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ หลอมสุ ญ ตาขั ้ นตน
แคขั้นหนึ่ง
ดังนั้นถึงแมพวกเขาจะเคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว กลับยังถูกหานลี่สัมผัสความผิดปกติ
ตรงนั้นได นี่ถึงไดเพิ่มความเร็วขึ้นหลายเทาทันที แตดูแลวคงสายไปกาวหนึ่ง
หานลี่แผจิตสัมผัสออกไปในระยะสองสามรอยลี้เพื่อตรวจสอบอยางละเอียดรอบหนึ่ง
แตกลับไมพบอะไรเลย
ชั่วขณะนั้นเขาพลันมีสีหนาเครงขรึมขึ้น
ขบคิดอะไรอยูกลางอากาศอยูนาน ฉับพลันนั้นหานลี่พลันหัวเราะอยางเย็นชา
ออกมา ลำแสงสี เขีย วรอบกายพลั น เปล ง แสงเจิ ด จ า ฉั บ พลั น นั ้ น พลัน กลายเปน
สายรุงสีเขียวสายหนึ่ง ตรงไปยังจวนของตนเอง
ครานี้มังกรอสรพิษมรกตและมนุษยนอยสีทองที่หนีมาไดหมื่นลี้แลว จึงไมรูวา
ตัวเองเผยรองรอยเอาไว กำลังรวมตัวกันอยูบนเทือกเขาที่ไรผูคน เริ่มปรึกษาเรื่องการ
รวมมือกัน
ทางหานลี ่ ท ี ่ ก ลั บ มายั ง จวนพำนั ก ทั น ใดนั้ น ก็ เป ด เขตอาคมรอบๆ หลั ง จาก
เก็บของเรียบรอย ก็เดินเขาไปในหองหลอมยุทธภัณฑในจวน
การเขาไปครั้งนี้ใชเวลาสามวันสามคืน เมื่อออกมาจากดานในอีกครั้ง จานอาคม
ประหลาดแปดเหลี่ยมปรากฏขึ้นในมือ ลำแสงสีเงินเปลงแสงระยิบระยับ ในกำไล
เก็บของมีไขมุกหลากสีขนาดเทาเมล็ดจำนวนนับไมถวนขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
ผิวของไขมุกเหลานี้เกลี้ยงเกลา บนผิวมีตัวอักษรสีเงินสองสามตัวสลักอยู นั่นก็คือ
ตัวอักษรลูกออดสีเงินอักขระของแดนเซียน
ของเหลานี้คือสิ่งที่หานลี่เรียนรูมาจากวิชายันตบนหนากระดาษที่ชำรุดวิหารหยกทอง
ในแดนมนุษย ยันตชนิดหนึ่งประกอบกับการพัฒนา จึงเกิดเปนยุทธภัณฑพิเศษอยาง
‘ไขมุกหมื่นมังกร’
ถึงแมวายุทธภัณฑชนิดนี้จะหลอมขึ้นไดไมยาก และยิ่งไปกวานั้นยังไมมีพลังการ
โจมตีหรือพลังการปองกัน แตหลังจากผนึกรวมกันกับวิชายันตในคัมภีร กลับสามารถ
ควบคุมไขมุกทุกเม็ดในอาณาบริเวณยี่สิบลี้ได ขอแคในอาณาเขตมีคลื่นไอวิญญาณ
ถึงแมวาจะอยูไกลกันเปนลานลี้ หานลี่ก็จะพบตำแหนงของอีกฝายผานจานอาคม
เหลานี้ได
แนนอนวาการควบคุมนี้ ไมไดแคนำไขมุกไปฝงไวใตดินแลวจะควบคุมทุกอยางได
มันไมเพียงจำตองวางจานอาคมเขาไปในเขตอาคมพิเศษ ตำแหนงของไขมุก
หมื่นมังกรเหลานี้จำตองอยูตรงกลางของจานอาคม และตอบสนองกัน จนกลายเปน
เขตอาคมขนาดใหญที่ซับซอน
ขนาดของเขตอาคมนี้ แนนอนวาตองดุวาหานลี่ฝงไขมุกเอาไวเทาไหร
โดยปกติแลว หากอยากควบคุมพื้นที่ทั้งหมดนี้ แคศิลาวิญญาณที่สูญเสียไป
ก็ไมใชสิ่งที่คนธรรมดาจะเสียไป
ถึงแมวาจากตัวของหานลี่ หากควบคุมเขตอาคมนี้ไมหยุด ไมเกินสองสามป ก็
อาจจะทำใหศิลาวิญญาณของหานลี่หมดเกลี้ยง
ตอนที่ 1344 ชุดคลุมอสนีถือกำเนิด
หานลี่เองยังเคยรูสึกสนใจเขตอาคมของเมืองเทวะสวรรคและเขตอาคมลูกออดสีเงิน
ถึ ง แม จ ะพบวา มี อยู สองสามชนิ ดที ่ค ล ายคลึง กับ ไขม ุก หมื ่น มัง กรที ่ต นเองศึกษา
แตไมไดลึกลับขนาดนั้นแน
นอกเสียจากจะเปนผูบำเพ็ญเพียรที่มีจิตสัมผัสแข็งแกรงกวาเขาสองสามเทา
มาสำรวจที่นี่ มิเชนนั้นถึงแมวาจะอยูในการควบคุม ก็ไมมีทางพบความผิดปกติแน
ดังนั้นถึงแมวายุทธภัณฑชนิดนี้จะหลอมขึ้นไดอยางงายดาย แตกลับมีความพิเศษ
เฉพาะตัวอยู แนนอนวาหลอมงายนั้นเปนเพียงคำพูดเทานั้น หากไมใชผูเชี่ยวชาญ
การเขียนยันตแบบในหนากระดาษที่ฉีกขาด ก็ไมมีทางหลอมยุทธภัณฑชนิดนี้ได
กอนหนานี้ที่อยูในแดนมนุษย หานลี่เองก็เคยอยากหลอมขึ้นสักชุด
แตวัตถุดิบหลักชนิดหนึ่งไดหายสาบสูญไปจากแดนมนุษยแลว จึงทำไดเพียงแค
คิดแตทำไมไดเทานั้น
ตอนนั้นในยานรานคาของเมืองตะวันคลอย เขาไดพบกับวัตถุดิบหลักชนิดหนึ่ง
ดวยความบังเอิญและยิ่งไปกวานั้นยังไมคอยแพงนัก ครานั้นจึงถือโอกาสซื้อวัตถุดิบ
ทั้งหมดที่ใชหลอมไขมุกเม็ดนี้มาดวยใจที่เตนระรัว
ดูจากตอนนี้แลว การกระทำนี้คงเปนการกระทำที่ถูกแลว
ในเมื่อเขารูวามีคนมาทำลับๆ ลอๆ ในที่ของเขา แนนอนวาจึงไมอาจนิ่งเฉยได
ไมวาจะจัดการอยางไร แตตองจับตาดูอีกฝายเอาไวกอน
หานลี ่ ก ลายเป นสายรุ  ง สี เ ขี ย วสายหนึ ่ ง พุ  ง ออกไปจากจวน และหยิ บ ไข มุ ก
หมื ่ นมั ง กรจำนวนนั บ ไม ถ  ว นออกมาจากกำไลเก็ บ ของและฝ ง ลงไปใต ด ิ นโดยใช
จวนพำนักเปนจุดศูนยกลาง
จากความเร็วของเขา หลังจากผานไปแคครึ่งวัน พื้นที่สองในสามก็แทบจะถูกเขา
ลงอาคมเอาไวอยางเงียบเชียบ จากนั้นหานลี่พลันกลับมายังจวนดวยสีหนาราบเรียบ
วางเขตอาคมประหลาดๆ ลงในห องโถงในจวน วางจานอาคมแปดเหลี ่ ย มลงไป
ตรงใจกลางอาคม
จากนั้นเขาพลันฝงศิลาวิญญาณระดับสูงยี่สิบกอนลงไปในเขตอาคมทั้งสี่ด าน
รายอาคมสองสามสายโจมตีเขาไปอยางตอเนื่อง กระตุนเขตอาคมทั้งเขตนั้น
หลังจากเสียงหึ่งๆ ต่ำๆ ดังขึ้น เขตอาคมทั้งเขตก็เปลงแสงสีขาวสวางจา จากนั้น
จานอาคมแปดเหลี่ยมพลันมีมานลำแสงสีเงินชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นทามกลางลำแสงสีขาว
ที่เปลงประกายระยิบระยับ ดานบนมานลำแสง ลำแสงสีขาวกะพริบระยิบระยับ
ไมหยุด แทบจะปกคลุมไปทั่วทั้งมานลำแสง
หานลี่กวาดสายตาไปบนมานลำแสง แลวพยักหนาดวยความพึงพอใจ ทันใดนั้นก็
เดินตรงไปยังหองลับ
ถึงแมจะไมรูวาผูที่บุกเขามาในที่ของเขาคื อใคร แตกวาครึ่งคงเกี่ยวข องกั บ
ชายรางใหญคิ้วโคงที่แยงชิงที่อยูกับเขาผูนั้น หากยังไมมีขอมูลที่เพียงพอ เขาจะไมมี
ทางทำอะไรโงๆ แน คอยดูอยูขางๆ จะดีกวา!
ตอนนี ้ เ ขาเตรี ย มเรี ย นรู  ล ายอสนี ล ึ ก ลั บ ก อนจะดี ก ว า แล ว จะได ห ลอมยั นต
ตัวอักษรลูกออดสีเงินบนคัมภีรหยกซุมประตูทองคำไปดวยในเวลาเดียวกัน แนนอน
ว า ช ว งเวลานี ้ ยั ง ต องเร ง การเจริ ญ เติ บ โตของสมุ น ไพร และหลอมยาลู ก กลอน
หยกพิสุทธิ์ในเวลาเดียวกัน
หานลี่เขาไปในหองลับ พลิกฝามือประตูบานใหญปดลง กาวสองสามกาวมาอยู
ตรงกลาง นั่งสมาธิลงบนฟูก มือหนึ่งปดไปบนกำไลเก็บของ ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเขียว
พลันเปลงประกาย คัมภีรมวนหนึ่ง ผาไหมสีทองผืนหนึ่งและไขมุกเม็ดหนึ่งพลัน
ปรากฏขึ้น
หานลี่แผจิตสัมผัสเขาไปในมวนคัมภีร ดูลวดลายอสนีทั้งหมดอีกครั้ง แลวถึงได
ลูบไปบนผาไหมสีทอง หลังจากขบคิดอยางละเอียด ฉับพลันนั้นพลันโยนผาไหมขึ้นไป
กลางอากาศแลวพลันหมุนติ้วๆ
จากนั้นหานลี่พลันอาปากออกอยางไมตองคิด ชั่วขณะนั้นพลันพนลูกบอลเพลิง
สีแดงสดออกมา โจมตีไปยังตัวอักษรสีทอง
ผลคือลำแสงพลันเปลงประกาย ‘ลูกบอลเพลิง’ เปลงเสียงพรึ่บออกมาแลวหายวับไป
ผาไหมสีทองไมมีทาทีไดรับความเสียดายเลยแมแตนอย
หานลี่พลันขมวดคิ้ว นิ้วชี้ไปที่ผาไหมอีกครั้ง กรวยน้ำแข็งแวววาวกรวยหนึ่งพุง
ออกมา
ผลคือ หานลี่พลันมีสีหนาตกตะลึง หรือวาลวดลายอสนีกอนนี้ไมกลัวพลังเบญจธาตุ
เมื่อขบคิดเชนนั้น นิ้วทั้งสิบของหานลี่พลันรายคาถาออกไปอีกครั้ง ไอกระบี่
สีทองสายหนึ่งพลันพุงออกมา
หลังจากเสียงดังขึ้นเบาๆ ผาไหมก็ถูกสับออกเปนสองสวน กลายเปนเสนไหมบางๆ
สีทองจำนวนนับไมถวน พุงออกมาแลวระเบิดออก และหายวับไป
หานลี่พลันขมวดคิ้ว พยักหนาแลวสายหัวอีกครั้ง
เขาหันหนาไป แลวศึกษาไขมุกสีทองในมืออีกครั้ง
ไขมุกนี้มีพลังอสนีแฝงอยู ดูเหมือนวาจะระเบิดออกมา
หลั ง จากผ า นไปครึ ่ ง ชั ่ ว ยาม ในห องลั บ พลั น มี เ สี ย งสะเทื อนเลื ่ อนลั ่ นดั ง ขึ้ น
กำแพงหองลับที่เดิมทีถูกหอหุมอยูพลันแตกออกเปนเสี่ยงๆ ทันใดนั้นประจุไฟฟา
สี ท องขนาดเท า ปากชามเป นสายๆ พลั น ทะลั ก ออกมา ลำแสงสี ท องสลั บ พัวพัน
เขาดวยกัน ราวกับอสนีพิษสีทองจำนวนนับไมถวนที่เริงระบำอยางบาคลั่ง
ในตอนนั้นเอง ใจกลางของลำแสงสีทองพลันมีเสียงไพเราะดังขึ้น ทันใดนั้นภูเขา
สีดำขนาดยอมพลันปรากฏขึ้นตรงใจกลาง จากนั้นภูเขาพลันเปลงแสงระยิบระยับ
แหวนลำแสงสีเทาปรากฏขึ้นเปนชั้นๆ
ขณะที่ลำแสงสีเทากำลังหมุนวน ประจุไฟฟาสีทองที่เต็มทองฟาก็ถูกกวาดไปจนเกลี้ยง
ถูกผนึกรวมกันกลายเปนอสรพิษไฟฟาสีทองตัวหนึ่งทามกลางลำแสงเทวะดูดปราณ
อสรพิษไฟฟาตัวนี้สะบัดหัวสะบัดหาง ดิ้นรนตอสูไมหยุด ดูเหมือนอยากจะคิดหนี
ออกมา
ดานลางภูเขานอยนอกจากหานลี่ที่นั่งสมาธิอยูในรัศมีสองสามจั้งแลว พื้นที่ที่
เหลือที่วางเปลากลับมีรูขนาดยักษลึกหาถึงหกจั้งปรากฏขึ้น
หานลี่ดูเสาหินตนหนึ่งที่โดดเดี่ยวอยูใจกลางหลุมยักษ ดูแปลกประหลาดมาก
หานลี่เงยหนาขึ้นมองภูเขานอยและอสรพิษสีทองบนทองฟา กวาดสายตามอง
สถานการณรอบๆ อีกครั้ง ใบหนาเผยสีหนาดีอกดีใจออกมา
“อานุภาพของไขมุกลวดลายอสนีมากกวาอสนีเทวาปดเปาภยันตรายเปนสิบเทา
ถาหากเมื่อครูไมไดใชลำแสงเทวาปดเปาภยันตรายปกปองรางเอาไว เกรงวาแมแต
ตนเองก็คงถูกมวนเขาไปในพลานุภาพของไขมุกอสนี หากผนึกเพิ่มไดสักสองสามลูก
แลวยังจะใชสมบัติอาคมอะไรอีก แคใชไขมุกนี้ก็สังหารคูตอสูในระดับเดียวกันไดอยาง
งายดายแลว” หานลี่ขบคิดอยางรวดเร็ว
ทวาอัตราการประสบหลอมสำเร็จของไขมุกอสนีชนิดนี้ไมคอยสูงนัก ถึงแมวาเขา
จะมีอสนีเทวาปดเปาภยันตราย ก็ไมอาจผนึกไขมุกชนิดนี้ไดในครั้งเดียว ทวาเมื่อพูด
ถึงพลังของอสนีไฟฟา ก็ดูเหมือนวาเขาจะไมไดมีแคอสนีเทวาปดเปาภยันตราย...
หานลี่ใจเตน อาปากออก พนลำแสงสีเขียวออกมาจากปาก
เตาเล็กๆ โบราณในลำแสงสีเขียวนั่นก็คือ เตานภาสูญ
หานลี่เองก็ไมลังเล มือหนึ่งลูบไปที่เหนือศีรษะ พนลำแสงสีเทาออกมากลุมหนึ่ง
เชนกัน ชั่วครูก็ดึงอสรพิษไฟฟาที่พันรัดภูเขานอยลงมาดานลาง
ภายใตเขตอาคมที่รุนแรงทั้งสอง ชั่วขณะนั้นอสรพิษไฟฟาสีทองก็ตกลงมาอยาง
ไมอาจขัดขืนได
หานลี่ใชนิ้วชี้ไปที่เตาใบเล็กเบื้องหนาอีกครั้ง
ชั่วขณะนั้นเสียงหึ่งๆ พลันดังขึ้น ฝาเตาบินออกมา ลำแสงสีเทาฝนกดอสรพิษไฟฟา
เขาไปในเตา จากนั้นก็สลายหายไป
หานลี่กวักมือเรียกภูเขานอยกลางอากาศอีกครั้ง แลวเก็บเขาไปในรางกาย
สวนเตานภาสูญนั้นเขากลับไมไดรีบรอนเก็บเขาไป แตใหลอยโคจรอยูเหนือศีรษะ
หานลี่มองสถานการณข องหมาปาที ่อยูร อบๆ พลันขมวดคิ้ว ชูมือขึ้นปล อย
หุนเชิดวานรยักษสูงสองจั้งตัวหนึ่งออกไป แฝงจิตสัมผัสสวนหนึ่งเอาไว หลังจากออก
คำสั่งใหซอมแซมแลว ก็เดินตรงไปยังหองลับโดยไมแมแตจะหันหัวกลับมา
หลังจากที่เตานภาสูญลอยอยูอยางเงียบๆ ไมออกหางเลยแมแตครึ่งกาวแลว
จนมาถึงหองลับหองใหม หานลี่เพิ่งจะนั่งสมาธิลงอีกครั้ง ก็กวักมือไปทางเตาใบเล็ก
หลังจากเสียง “สวบ” ดังขึ้น เตานภาสูญก็บินไปอยูเบื้องหนาของเขา เขารายคาถา
เชื่อมโยงกับสมบัติอาคมอยูในใจ เตาใบเล็กเปลงแสงสีเขียวออกมา ขยายขนาดขึ้น
เปนสิบเทาจนมีขนาดประมาณสองสามจั้ง เสียง “เครง” ดังขึ้น นิ้วของหานลี่พลัน
รายคาถาไปทางเตาใบเล็ก
ในเตามีเสียงฟาผาดังขึ้น ลำแสงสีเงินขนาดเทาศีรษะกลุมหนึ่ง เปลงแสงเจิดจา
พลางพุงออกมา
ในเตายังคงมีเสียงตึงตังไมหยุด ดูเหมือนวาดานในจะมีอสนีอยูมากกวา
นี่คือประสบการณจากการผานเคราะหอสนีในครั้งแรกของหานลี่ ฝนเจ็บอสนีสีทอง
และเงิน อานุภาพของอสนีเหลานี้ไมดอยไปกวาอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย และยิ่งไป
กวานั้นจำนวนยิ่งมาก เชนนั้น ก็เพียงพอจะใหหานลี่ทดลองหลอมของลายอสนีแลว
หานลี่สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง นิ้วทั้งสิบรายไปทางกลุมอัสนีไมหยุด
จิตสัมผัสขนาดใหญราวกับกระแสน้ำหอหุมเอาไว
ชั่วขณะนั้นทามกลางเสียงตึงตังของอสนีสีเงินพลันกลายเปนเสนไหมสีเงินจำนวนนับ
ไมถวน…เวลาคอยๆ ไหลผานไป ชั่วพริบตาหานลี่ก็กักตนอยูในหองลับนานครึ่งเดือน
วันนี้จานอาคมแปดเหลี่ยมที่ถูกครอบคลุมเอาไวในหองโถงหองหนึ่งพลันเปลง
เสียงรองอันไพเราะออกมา มานลำแสงสีเงินที่พนออกมาก็เปลงแสงสีเงินออกมาใน
เวลาเดียวกัน
ประตูหองลับที่ปดสนิทอยูตลอดเปดออกในทันที สายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกมา
หลังจากเปลงแสงสวางวาบ ก็ปรากฏขึ้นกลางหองโถง
ลำแสงหมนแสงลง หานลี่ที่สวมชุดคลุมยาวสีเงินปรากฏกายขึ้น
เสื้อผาดูธรรมดาๆ แตอักขระยันตสีทองและเงินสองสีที่เปลงประกายระยิบระยับ
ทั่วเรือนรางนั้นสวยงามจริงๆ
หานลี่พลิกฝามือดวยสีหนาราบเรียบ ในมือมีชุดคลุมยาวสีเขียวอีกชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้น
สะบัดไปบนราง ชั่วขณะนั้นพลันปกปดชุดคลุมสีเงินเอาไวจนมิด
จากนั้นเขาพลันสาวเทากาวเขาไปสองสามกาว เดินเขาไปในเขตอาคม ดวงตาทั้งสอง
เปลงประกายจองเขม็งไปยังมานลำแสงสีเงินกลางอากาศ
เห็นเพียงมุมหนึ่งของมานลำแสงสีเงิน มีจุดลำแสงหลากสีสันปรากฏขึ้นทั้งสี่ดา น
กำลังเคลื่อนยายมาอยูตรงใจกลางของมานสีเงิน
หานลี่แววตาเปลงประกายสวางวาบ แตก็จับจองไปที่มานสีเงินโดยไมปริปากใดๆ
แตจากนั้นหลังจากที่ลำแสงทั้งสี่เขาใกลจวนพำนักของเขามากขึ้นเรื่อยๆ ก็อดที่จะมี
สีหนาเครงขรึมมิได
หลังจากไปหนึ่งชั่วยามเต็มๆ ลำแสงทั้งสี่พลันอยูหางจากจวนพำนักของเขาไป
สองสามพันลี้ ฉับพลันนั้นพลันหยุดลง จากนั้นทั้งสี่พลันกระจาย เริ่มลอยไปลอยมา
แถวนั้น วนเวียนไปมาไมแนนอน
เมื่อเห็นฉากนั้น หานลี่พลันลูบใตคาง ในที่สุดก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง
ฉับพลันนั้นเขาพลันสะบัดแขนเสื้อ แมลงกลืนทองขนาดเทากำปนพุงออกมา
หลังจากโคจรอยูตรงเพดานหองโถงแลว แลวบินออกมาจากประตูหองโถงพรอมเสียง
หวีดหวิว แลวพลันหายวับไปอยางไรรองรอย
หลังจากที่หานลี ่ม องลึกลงไปในมา นลำแสงแล ว ก็ออกไปจากหองโถงอย า ง
ไมสนใจแลวเขาไปในหองลับ
เขาถอดชุดสีเขียวออกจากเรือนราง เผยชุดคลุมยาวลึกลับสีทองเงินออกมาอีกครั้ง
หานลี่ใชนิ้วลูบไปที่มุมของชุด เผยรอยยิ้มออกมา
ชุดคลุมอสนีชุดนี้ หานลี่ใชลายอสนีที่มี แทบจะใชอสนีสวรรคในเตานภาสูญไปจน
หมด ถึงจะหลอมขึ้นได
ชุ ด คลุ ม นี ้ ใ ช ก ารผนึ ก จากลายอสนี ส ิ บ กว า ชนิ ด ขอแค ก ระตุ  นมั น พร อ มกั น
ความมหัศจรรยก็ยอดเยี่ยมแลว เพียงพอที่จะใชเปนเครื่องมือสังหารชิ้นใหมของเขา
สวนไขมุกของลายอสนีนั้น เขาก็หลอมขึ้นมาทีเดียวสิบเม็ดเชนกัน หากสำแดง
ออกไป เกรงวาผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาก็ทำไดเพียงถอยออกไปสามฉื่อ
เชนนั้นหานลี่พลันแข็งแกรงขึ้นเปนอยางมากในชั่วขามคืน
ขบคิดอยางเงียบเชียบ หานลี่สวมชุดคลุมสีเขียวเขาไปอีกครั้ง จากนั้นมือหนึ่ง
พลันปดไปที่กำไลขอมือ เผยแผนหยกสีขาวนวลขนาดเทาฝามือออกมา
ของสิ่งนี้คือ หนากระดาษที่ฉีกขาดของคัมภีรหยกซุมประตูทองคำ
ตอนที่ 1345 ตรวจสอบ
แมวาวิชายันตที่บันทึกอยูในหนากระดาษจะไมครบถวน แตก็บันทึกวิธีการ
เขียนยันตอยางครบถวนเอาไวสี่วิธี
‘ยันตชำระพิสุทธิ์’ ที่เคยใชในอดีต ‘ยันตเกาวังสวรรค’ ที่เรียนรูมาจากการหลอม
ไขมุกหมื่นมังกร รวมทั้งยันตเงาหุนเชิดอยาง ‘ยันตเกราะเอก’
ยันตชนิดสุดทาย กลับเปนโจมตีชนิดเดียวในบันทึกของหนากระดาษนั่น ก็ คือ
‘ยันตขวานสวรรค’
ยั นต ช ำระพิ ส ุ ท ธิ์ ย ั ง พอว า จากความรู  ท ั ้ ง หมดของร า งแยกอสู ร เที ย นหลาน
หานลี่จึงเรียนรูไปแลวเจ็ดแปดสวน ถึงแมวาอัตราการประสบความสำเร็จจะต่ำ
แตขอแคยอมเสียวัตถุดิบในการหลอมจำนวนมาก ก็ยังพอหลอมขึ้นได
ยันตเกาวังสวรรคนั้นเดิมทีก็เปนยันตที่ตระกูลเซียนใชกักศัตรูชนิดหนึ่ง เขาเรียนรู
ไปไดแคครึ่งหนึ่งเทานั้น จึงทำไดเพียงอาศัยความรูในการหลอมยุทธภัณฑงายๆ
อยางการหลอมไขมุกหมื่นมังกร
สวนยันตสองชนิดสุดทายอยางยันตเกราะเอกและยันตขวานสวรรคนั้น กลับไมมี
ขอมูลมากอนเลย
ทวาครั้นเมื่อหานลี่หาขอมูลของยันตเงาหุนเชิดชนิดอื่นในเมืองเทวะสวรรคนั้น
กลับบังเอิญไดเรียนรูสิ่งสำคัญของยันตเกราะเอกมาแทน อาศัยความรูของหุนเชิดที่
ไมไดออนแอของเขา วันขางหนาคอยศึกษาอยางละเอียด ก็ไมใชวาจะเรียนรูอะไร
ไมได
ขอเพียงแตยันตขวานสวรรคชนิดสุดทาย เปนยันตโจมตีธาตุทอง
ในบันทึกไดกลาวเอาไววาตอนที่ควบคุมยันตชนิดนี้ จะสามารถสรางภาพลวงตา
มี ด ขวานสวรรค ใ นแดนเซี ย นออกมาได อานุ ภ าพเพี ย งพอจะฉี ก ผื น ดิ น และ
แหวกมหาสมุทร แตยันตชนิดนี้นั้นลึกลับเปนอยางมาก
หานลี่มีความรูแคระดับเทพแปลง กลับจนปญญา ไมมีทางเขาใจได
หานลี่ใชมือหนึ่งลูบไปที่คัมภีร ในใจขบคิดอยางเงียบๆ
ผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงในเมืองเทวะสวรรคจำนวนนับไมถวน มีผูที่มีพลังปราณ
มากกวาเขาไมนอย เพื่อเปนการปกปองตนเอง แนนอนวาควรมีวิธีการรักษาชีวิต
เอาไวมากเทาไหรก็ยิ่งดี
แตนาเสียดายที่กวาครึ่งของยันตสี่ชนิดนี้ ลวนไมใชสิ่งที่เขาในตอนนี้จะเขียนขึ้นได
ทวาแคหลอมยันตชำระพิสุทธิ์ได ก็สามารถหลบซอนจากหูตาของผูบำเพ็ญเพียร
ระดับหลอมสุญตาไดแลว ถาหากหลอมไดอีกสักแผนสองสามแผน จะตองมีประโยชน
เปนอยางมากในโอกาสพิเศษแน
ยันตที่เหลือก็ไมจำเปนตองรีบรอน วันขางหนาคอยศึกษาอยางละเอียดก็ไดแลว
หานลี่ขบคิดเชนนี้ พลันสะบัดขอมือ ลำแสงสีเขียวในกำไลเก็บของแผออกมา
มวนไปที่ผืนดิน
ผลคือหลังจากลำแสงหมนแสงลง ชั่วขณะนั้นพื้นดินรอบๆ ก็มีกลองหยกและ
ผาไหมขนาดนอยใหญไมเทากันปรากฏขึ้น และยังมีขวดรูปแบบตางๆ อยูดวย
หานลี่ใชมือหนึ่งตะปบออกไปกลางอากาศทางพื้นดิน ชั่วขณะนั้นกลองผาไหม
พลันบินเขามา
เปดฝากลองออก ดานในคาดไมถึงวาจะมีหนังอสูรนิรนามสีแดงออนแผนหนึ่ง
ปรากฏขึ ้ น แต ผ ิ ว ของมั นกลับ เปลง แสงระยิบ ระยับ แค ม องก็ ร ู  แ ล วว าไม ใชหนัง
อสูรปศาจธรรมดา
หานลี่โยนหนังอสูรแผนหนึ่งขึ้นไปเหนือศีรษะโดยไมแมแตจะมอง จากนั้นก็
อาปากออก
หลังจากเสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งก็หอหุมหนังอสูรแผนนี้เอาไว
สองมื อพลั นร า ยอาคม ชั ่ ว พริ บ ตาลำแสงสี เ ขี ย วก็ เ ปลี ่ ย นสี คาดไม ถ ึ ง ว า จะ
กลายเปนเปลวเพลิงสีแดงสดที่แผดเผา
ฉากที่นาตกตะลึงพลันปรากฏขึ้น
เปลวเพลิงสีแดงที่อยูทามกลางเปลวเพลิงสีแดง กลายเปนเถาถานในทันที กลับมี
ลำแสงเจิดจาบาดตาปรากฏขึ้น ผิวของมันคอยๆ เปลงแสงแวววาวมากขึ้นเรื่อยๆ
ครานี้หานลี่ชี้นี้ไปที่กลองหยกสองสามกลองอีกครั้ง
กลองเหลานี้เปดออกโดยอัตโนมัติ ผงหลากสีสันจำนวนนับไมถวนบินออกมาจาก
ดานใน เปลงแสงสวางวาบแลวทยอยกันจมหายเขาไปในเปลวเพลิง
ชั่วขณะนั้นเสียง “เปรี๊ยะๆ” พลันดังขึ้น ผงเหลานี้กลายเปนลำแสงหลากสีสัน
เกาะอยูบนหนังอสูร
ผิวของหนังอสูรที่โปรงใสเปลงแสงระยิบระยับงดงามทันที
นิ้วทั้งสิบของหานลี่รายอาคมไมหยุด สองตากลับปดลงดวยสีหนาเรียบเฉย
ครานั้นในหองลับนอกจากเสียงระเบิดของประกายไฟที่ดังออกมาเปนครั้งคราวแลว
ก็ไมมีเสียงใดอีก
เชนนั้น เวลาสองเดือนจึงผานไปในชั่วพริบตา
ครานี้แทบจะทุกสองสามเดือน จะตองมีการสั่นสะเทือนดังออกมาจากหองลับ
หลังจากที่ดังอยางตอเนื่องสิบกวาครั้งแลว ถึงไดเงียบไป
ผานไปครึ่งเดือน ประตูหองลับก็ถูกเปดออก
หานลี่ขมวดคิ้วขณะเดินออกมาจากดานใน จากนั้นกลับตรงไปยังหองโถงโดย
ไมหยุดชะงักฝเทาแมแตกาวเดียว
เขตอาคมในหองโถงยังคงเปลงแสงระยิบระยับ ขอบทั้งแปดที่พนมานลำแสง
สีเงินออกมา กลับหมนหมองลงไปสองสามสวน สะเก็ดไฟดานบนก็เลือนรางไมชัดเจน
หานลี่มองปราดเดียวก็เปลี่ยนศิลาวิญญาณระดับสูงชุดใหมใหกับเขตอาคมทั้ง
สี่ดานอยางไมลังเล จากนั้นคอยกระตุนเขตอาคมอีกครั้ง
จานอาคมแปดเหลี่ยมเปลงแสงสีเงินเจิดจา มานลำแสงสีเงินชัดเจนขึ้นทันตา
สายตาของหานลี่กวาดไปที่มานลำแสง สีหนากลับเครงขรึมสลับกับสดใสไมแนนอน
เห็นเพียงจุดลำแสงสี่จุดที่ตอนดูตอนแรกอยูหางจากกันนั้น ครานี้กลับมารวมตัวกัน
และยิ่งไปกวานั้นยังอยูหางจากจวนของเขาไปแคสี่หารอยลี้
สวนสาเหตุที่เขาออกมาจากหองลับ ประการแรกก็คือในที่สุดก็เขียนยันตชำระพิสทุ ธิ์
ได แ ล ว ประการที ่ สองก็ ค ือ แมลงกลื นทองที ่ สง ออกไปตรวจตราคนสองสามคน
หายไปอยางไรรองรอย ไมรูวาถูกจับตัวไว หรือวาถูกอีกฝายกำจัดทิ้งไปแลว
จากการเชื่อมโยงกับทารกที่สองที่รับหนาที่เรงการเจริญเติบโตสมุนไพรในจวน
ทำใหหานลี่รูวาจุดเหลานี้หมายถึงผูบำเพ็ญเพียร และหยุดอยูที่นี่มาสองสามวันแลว
หรือวาพวกเขาหาเปาหมายพบแลว
ความคิดของหานลี่แลนผานไปมาอยูในหัวอยางรวดเร็ว ฉับพลันนั้นพลันนั่งสมาธิ
ลงตรงหนามานลำแสง มองมานลำแสงสีเงินเงียบๆ โดยไมปริปากใดๆ
หลังจากผานไปสามวัน จุดเหลานั้นก็ยังหยุดอยูที่เดิม ไมมีเจตนาจะแยกยายหรือ
เคลื่อนยายเลยสักนิด
เชาตรูวันที่สี่ หานลี่ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แลวหยัดกายยืนขึ้น
ดูแลวตนเองไมไปดูสักหนอยคงไมไดแลว
ไมวาพวกเขาจะมีเปาหมายอะไรกันแน แตหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นในที่ของตนเอง
เขาที่หลบอยูแตในจวน ก็อาจจะเกิดหายนะได
ถึงอยางไรเสียหางออกไปสองสามรอยลี้ สำหรับผูบำเพ็ญเพียรเชนพวกเขาแลว
ก็แทบจะไปถึงไดในชั่วพริบตา
คนเหลานี้วนเวียนไปมาใกลๆ ขนาดนี้ จะใหเขาฝกฝนตออยางวางใจไดอยางไร
ไมสูไปตรวจตราเองสักหนอยจะดีกวาหรือ
แนนอนวา ถาหากมี ประโยชน จริ งๆ และสามารถจับปลาในน้ ำขุ น[1]ได ล ะก็
เขาก็ไมรังเกียจที่จะทำ
ตั้งแตที่เขาเขามาในแดนวิญญาณ และยิ่งไปกวานั้นหลังจากประมือกับผูบำเพ็ญเพียร
ระดับหลอมสุญตา ก็รูสึกวาหากบังเอิญเจอกับผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาตอให
ไมใชศัตรู ก็หนีไดอยางไมมีปญหา
โดยเฉพาะเขาที่เพิ่งหลอมชุดอสนีและไขมุกลายอสนีได และยังหลอมยันตชำระพิสุทธิ์
สำเร็จ ก็ทำใหความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกสองสามสวน
ภายใตการเฝาดูของไขมุกหมื่นมังกรของเขา ทั้งสี่คนยังคงไมรูตัว และไมอาจมี
ผูบำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรียอยูดวยได
เชนนั้น ความหวาดกลัวในใจเขาจึงลดลงไปหลายสวน
หลังจากที่คำนวณเสร็จแลว ทันใดนั้นรอบกายของหานลี่ก็เปลงแสงสีเขียวออกมา
กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่ง พุงจากหองโถงออกนอกจวนไป
หลังจากออกมาจากจวนพำนัก ลำแสงหลีกหนีก็หมุนวนรอบหนึ่ง ปากของหานลี่
บริกรรมคาถา สีคอยๆ ออนลง สุดทายก็โปรงใส
เคล็ดวิชาอำพรางตัวชนิดนี้ ถึงแมจะสูยันตชำระพิสุทธิ์ที่ทำใหหายตัวไปไมได
แตหากไมแผจิตสัมผัสมาตรวจสอบอยางละเอียด ก็ไมอาจพบตัวไดงายๆ เชนกัน
นำมาใชในการเคลื่อนตัวอยางรวดเร็ว กลับใชไดอยางเหลือเฟอ
ครูตอมา หานลี่ก็ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีตรงไปยังจุดของบันทึกมานลำแสงที่
ห า งออกไปสองสามรอยลี ้ จากความเร็ ว ของหานลี ่ใ นตอนนี้ ด ว ยอั ต ราการ
เคลื่อนที่เต็มอัตรา ชั่วครูก็มาถึงแลว แตถึงแมวาหานลี่จะจงใจลดระดับความเร็วลง
บิ น อย า งช า ๆ ด ว ยความปลอดภั ย เอาไว ก  อน ใช เ วลาแค ห นึ ่ ง กาน้ ำ ชาก็ เ ข า ใกล
บริเวณนั้นแลว
หางจากเปาหมายไมไกลนัก หานลี่รอนลงอยางเงียบๆ ลำแสงวิญญาณรอบกาย
เปลงแสงระยิบระยับกลายเปนสีเหลืองเขม จากนั้นก็จมหายเขาไปใตดิน
เขาเปลี่ยนไปใชเคล็ดวิชาลี้ธรณีมุงไปตอ
ระหวางทางที่เขาออกเดินทาง สองมือของหานลี่พลันรายอาคม เก็บกลิ่นอาย
รอบกายไดอยางไรรองรอย
แตหลังจากเคลื่อนไหวใตดินไปไดสิบลี้เศษ ฉับพลันนั้นลำแสงหลีกหนีของหานลี่
ก็หยุดลง หลังจากหรี่ตาทั้งสองขางลงเล็กนอย ปากก็บริกรรมคาถาอะไรสักอยางโดย
ไรสุมเสียงออกมา
หินสีดำๆ จากรอบๆ จุดประกายลำแสงสีทอง จากนั้นแมลงกลืนทองหลายตัว
ก็พุงออกมา หลังจากกะพริบวาบก็จมหายเขาไปในแขนเสื้อของหานลี่
เก็บแมลงกลืนทองที่แฝงไวดวยจิตสัมผัสของตนเองเขาไป แววตาของหานลี่
เปลงประกายระยิบระยับ ใบหนาเผยสีหนาประหลาดใจออกมา
“พวกเขากำลังหาอะไรอยูดังคาด ทวาของอยูที่นี่ ชางเปนสิ่งที่ผูคนคิดไมถึงจริงๆ ทวา
ในเมื่อคนเหลานี้พบการดำรงอยูของแมลงกลืนทอง และยังสังหารหนึ่งในนั้นไป ดูแลว
คงมีผูที่อยูในระดับหลอมสุญตาอยูดวยจริงๆ” หานลี่เอยพึมพำ กมหนาลงขบคิดอยาง
ละเอียด
ฉับพลันนั้นมือหนึ่งของเขาก็โบกไปที่กำไลเก็บของ ชั่วขณะนั้นลำแสงวิญญาณ
พลันสวางวาบ ยันตวิเศษสีมวงใบหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ
ผิวของยันตแผนนี้เปลงแสงระยิบระยับราวกับถูกชุบดวยทอง มีอักขระสีเงินบางๆ
เปลงแสงระยิบระยับเต็มไปหมด
ไมเหมือนกับยันตครั้งที่แลว ยันตชำระพิสุทธิ์แผนนี้ไมวาวัตถุดิบหรือวิธีการหลอม
ก็ทำขึ้นตามวิธีบนคัมภีรหนากระดาษที่ฉีกขาด อานุภาพเหนือกวายันตกึ่งสำเร็จรูป
ครั้งที่แลวเปนอยางมาก
หานลี่ไมมั่นใจวาหากเขาใกลมากกวานี้จะไมถูกผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา
พบเขา ดังนั้นถึงแมจะรูสึกเสียดาย แตก็ตัดสินใจใชยันตที่เพิ่งออกมาจากเตาทำให
ตนเองหายตัวไป เขาไปใกลกวานี้เพื่อยืนยันฐานะและพลังยุทธของทั้งสี่คนกอนแลว
คอยวากัน
ถึงแมวายันตวิเศษชนิดนี้จะล้ำคา แตมันเกี่ยวของกับความปลอดภัยของตนเอง
แนนอนวาหานลี่จึงไมเสียดายอะไร
และยิ่งไปกวานั้นยันตชำระพิสุทธิ์แผนนี้ไมเหมือนกับครั้งที่แลว ไมเพียงจะมีพลัง
เพิ่มขึ้นเปนอยางมาก ยิ่งไปกวานั้นหากยังใชประสิทธิภาพของมันไมหมด ก็สามารถ
นำกลับมาใชใหมได
ยันตสีมวงระเบิดออก อักขระสีเงินเปลงแสงสีเงินระยิบระยับสองสามตัวพลัน
ปรากฏขึ้น เริงระบำลอมรอบหานลี่เอาไว
หานลี่รายอาคมสองสามสายโจมตีไปดวยสีหนาเครงขรึม
หลังจากเสียง “ตูม” ดังขึ้นเบาๆ อักขระก็กลายเปนหมอกสีเงิน ชั่วพริบตาก็
หอหุมรางของหานลี่เอาไว
หลังจากผานไปชั่วครูหมอกสีเงินก็สลายออก ตรงที่เดิมวางเปลาไรผูคน
ร า งของหานลี ่ ห ายไป แทบจะในชั ่ ว พริ บ ตาก็ สั มผั สไดถ ึ ง ความแตกต า งของ
ยันตชำระพิสุทธิ์กอนหนา
เขาในครานี้คิดไมถึงวาจะสามารถใชสมบัติอาคมประจำกายและพลังลมปราณ
จำนวนมากได แนนอนวามันเปนการโอนยาย แตหากเขาใชสมบัติอาคมหรือเคล็ดวิชา
ที่รายกาจอะไรจริงๆ เกรงวาอานุภาพของยันตคงจะถูกกำจัดออกไปโดยอัตโนมัติ
แตเชนนั้น หานลี่ก็พึงพอใจเปนอยางมาก อยางนอยที่สุดในสถานการณที่หายตัว
เขาก็สามารถอาศัยจุดนี้ชิงลงมือโจมตีกอน ดังนั้น เขาจึงรายคาถา รางกายพุงตรงไป
ดานหนาอยางรวดเร็วในทันที
ผลคือหลังจากที่พุงตรงไปไดสองสามลี้ รางของหานลี่กลับเริ่มลอยขึ้นไปดานบน

[1] จับปลาในน้ำขุน หมายถึง ฉวยโอกาสในยามที่โกลาหลหาผลประโยชนใสตัวเอง


ตอนที่ 1346 หวงเวลาประหลาด
เมื ่ อ หานลี ่ ป รากฏขึ ้ น บนพื ้ น ดิ น อย า งเงี ย บเชี ย บ ก็ ก วาดสายตาไปรอบๆ
และพบวาตัวเองอยูบนเนินเขาหัวโลนลูกหนึ่ง
ตองเขาใจวาที่นี่คือ ภูเขาวิญญาณ เกิดเหตุการณอยางสมุนไพรไมเจริญงอกงาม
ก็เปนเรื่องที่แปลกไปหนอย
ตอนแรกที่หานลี่สำรวจที่นี่จากกลางอากาศ แนนอนวาก็พบความผิดปกตินี้
และเคยบินลงมาดูและตรวจสอบรอบๆ ดวยความแปลกใจรอบหนึ่ง
แตตอนนั้นกลับไมพบความผิดปกติอะไร และเขาเองก็กำลังยุงอยูกับการสราง
จวนพำนัก จึงไมไดรั้งรออยูนานนัก และแคคิดวาภูเขาลูกนี้มีไอวิญญาณบางเบาโดย
กำเนิดเทานั้น
ถึงแมวาเรื่องเชนนี้จะมีอัตราการเกิดขึ้นที่ต่ำมากในภูเขาวิญญาณ แตก็ไมใชวา
ไมเคยเกิดขึ้นมากอน นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกสงสัยอยูเล็กนอย เดิมทีก็คิดวาหากตนเอง
มีเวลาวางจะมาตรวจสอบที่นี่อยางละเอียดดูสักรอบ
ครานี้เห็นคนเหลานี้วนเวียนอยูที่นี่ไมไปไหน ที่นี่คงมีสิ่งผิดปกติแน ครั้นเมื่อหานลี่
ขมวดคิ้วพลางยอนนึกถึงขาวคราวที่ไดมาจากจิตสัมผัส ทันใดนั้นรางกายก็เคลื่อนไหว
แลวบินไปยังยอดเขา
จากรางกายที่ลองหนของเขาจึงดูเหมือนไรรูปรางอยางไรอยางนั้น ชั่วครูก็มาถึง
ยอดเขา และลอยอยูกลางอากาศต่ำๆ ไมขยับเขยื้อน
กวาดสายตาไปดานลาง สิ่งที่เขามาในครรลองสายตามีแคภูเขาลูกหนึ่งเทานั้น
ดูเหมือนจะเหมือนกับครั้งที่มากอนหนาอยางไมมีผิดเพี้ยน และไมมีสิ่งผิดปกติใดๆ
แตหานลี่กลับขมวดคิ้ว หลังจากแผจิตสัมผัสลงดานลาง ก็ไมพบความผิดปกติอะไร
เขาขบคิดเล็กนอย ฉับพลันนั้นสองมือพลันรายอาคม ทันใดนั้นลมปราณรอบกาย
ก็ไหลเขาไปที่ดวงตาทั้งสองขาง
ชั่วขณะนั้นสวนลึกของนัยนตาพลันมีลำแสงสีฟาสวางวาบ ความสามารถเนตร
วิญญาณวารีกระจางถูกกระตุนจนถึงขีดสุด ครานี้สิ่งที่ปกติแลวมองดวยตาเนื้อไมเห็น
พลันปรากฏสูสายตาของหานลี่ในทันใด
ครานี้จึงพบอยางรวดเร็ว
ทั้งสี่ดานของภูเขามีเสาลำแสงแปดเสาผุดขึ้นมาจากพื้นดิน กลายเปนเขตอาคม
สี่เหลี่ยมแปลกประหลาดเขตหนึ่ง หอหุมภูเขาทั้งลูกเอาไว
แตไมรูวาเสาลำแสงเหลานี้สรางมาจากสมบัติชิ้นใด ไมเพียงจะไรสีไรรูปราง
แมแตไอวิญญาณสักนิดก็ไมมี
มินาละเขามีจิตสัมผัสที่แข็งแกรงขนาดนี้ ยังไมอาจสัมผัสได
ดูแลวเขตอาคมชั่วคราวนี้คงเปนสิ่งที่ทั้งสี่คนสรางขึ้น หากไมใชเพราะหานลี่กำลัง
จับตาดูพวกเขาอยู คงไมอาจตามรอยจนมาถึงที่นี่และพบเขตอาคมนี้ได
ทวาถึงแมวาจะซอนเขตอาคมเหลานี้ได แตประสิทธิภาพหลักของมันคือการอำพราง
ไมมีอานุภาพในการปองกัน
จากความสามารถดานเขตอาคมของหานลี่ หลังจากเห็นขอบเขตของมั นแลว
สองมือจึงรายอาคมอยางไมเกรงใจ รางกายจมลงไปดานลางอยางไมหวาดกลัว
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น
หลังจากที่เขตอาคมจางๆ และรางที่ลองหนของหานลี่สัมผัสกัน คาดไมถึงวาจะ
ไมมีปฏิกิริยาตอบสนองเลยสักนิด ทำใหเขาทะลุผานเขตอาคมเขามาไดอยางงายดาย
และจมหายเขาไปในภูเขาลูกนั้น
เห็นไดชัดวาหลังจากที่รางของหานลี่ลองหนแลว ก็ไมสนใจเขตอาคมธรรมดาๆ อีก
เมื่อหานลี่ลงมาใตดินไดยี่สิบจั้งเศษ ดานลางมีลำแสงสีฟาปรากฏขึ้น มีขนาดแค
เทาศีรษะ แตกลับหมุนติ้วๆ ไมหยุด ดานในมีคลื่นเจ็ดสีอยูรางๆ
หานลี่ใจหายวาบ รางกายหยุดชะงัก คิดจะตรวจสอบดูกอน แลวคอยเขาไปใกลๆ
แตเรื่องที่หานลี่คาดไมถึงพลันปรากฏขึ้น
ชั่วพริบตาที่รางของหานลี่หยุดลง คลื่นในลำแสงสีฟาก็ดูเหมือนวาจะสัมผัสอะไรได
ทั น ใดนั ้ นลำแสงพลั นเปล ง ประกาย พ น ลำแสงเจ็ ด สี ออกมา หลั ง จากสว า งวาบ
ก็มวนกลืนรางลองหนของเขาเขาไปดานในราวกับสายฟา
“เหวอ”
ไมทันไดตั้งตัว ถึงแมวาหานลี่จะตกตะลึง หลังจากดิ้นรนเล็กนอย รอบกายก็มี
พลังมหาศาลปรากฏขึ้น ครานั้นจึงไมอาจดิ้นรนออกมาได
ผลคือไมรอใหเขาไดสำแดงฝมือที่รายกาจ สภาพแวดลอมรอบๆ ก็รางเลือน
เขามาปรากฏตัวในสถานที่ที่ไมคุนเคยในชั่วพริบตา
แทบจะในเวลาเดียวกัน รางลองหนก็ถูกทำลายลง เผยรางกายออกมาโดยไมรูตัว
ในเวลาเดียวหนาอกของเขาก็มีลำแสงสีมวงเปลงแสงสวางวาบ ยันตสีมวงแผนหนึ่ง
ปรากฏขึ้น
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม มือหนึ่งตะปบออกไปอยางไมตองคิด ควายันตแผนนั้นไวในมือ
สองมือประกบเขาหากัน ลำแสงวิญญาณเปลงประกาย ยันตชำระพิสุทธิ์สลายหายไป
เบื้องหนาหางจากเขาไปไมไกลนัก มีคนอีกสองคนยืนอยูทั้งซายและขวา
เมื่อสองคนเห็นหานลี่ปรากฏตัวขึ้นอยางไมมีเคาลางมากอน ก็สะดุงโหยง ทันทีที่
เห็นใบหนาของหานลี่ชัดเจน หนึ่งในนั้นก็รองอุทานออกมาดวยเสียงแหบแหงวา
“เจา เจาพบที่นี่ไดอยางไร”
คนผูนี้ก็คือ ชายรางใหญคิ้วโคงผูนั้น
อีกคนหนึ่งมีรางกายอวนตุตะ สีหนาบัดเดี๋ยวเครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใส กลับเปน
เจาอวนจิน
แนนอนวาหานลี่ไมรูวา เมื่อครูหากไมใชเพราะเขาใชยันตชำระพิสุทธิ์อยาง
ระมัดระวัง ลองหนไว ชั่วพริบตาที่ถูกลำแสงเจ็ดสีมวนเขาไปเมื่อครู ตอใหเขาฝกฝน
คาถาวัชระสำเร็จแลว ก็ตองกระอักเลือดออกมาสองสามระลอกและสูญเสียปราณแท
เปนแนแท
ลำแสงเจ็ดสีนี้ดูเหมือนลำแสงวิญญาณของสำนักพุทธอยางไรอยางนั้น แตกลับมีที่มา
อีกแบบ ผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ หากถูกมวนเขาไป ไมเพียงจะไมอาจใชลมปราณได
ภายใตพลังที่มหาศาล จะยิ่งถูกบีบจนกลายเปนซอสเนื้อ
เพื่อทลายเขตอาคมนี้ และฝนเขามา ปรมาจารยของชายรางใหญคิ้วโคงและพวก
ก็จำใจตองใชเวลาสามวันสามคืน ถึงจะอาศัยลมปราณและสมบัติ เขามาในหวงเวลา
นี้ได
หานลี่เห็นทั้งสองคน กลับรูสึกผอนคลายลง
ในเมื่อไมมีผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาอยูที่นี่ ตอใหทั้งสองคนรวมมือกัน
เขาก็มั่นใจวาจะตอกรได ดังนั้นถึงแมวาวิชาการอำพรางจะถูกทำลาย เขากลับหัวเราะ
ฮาๆ และเอยดวยสีหนาราบเรียบ
“ขาก็วาใครวางเขตอาคมเอาไวดานนอก ที่แทก็สหายทั้งสองนี่เอง สหายทั้งสอง
มาทำอะไรที่นี่หรือ? หากผูแซหานจำไมผิดละก็ หนึ่งในกฎของเมืองเทวะสวรรค คือ
คนนอกหามเขามาในเขตของคนอื่น หากไมธุระอะไร ก็ควรมาทักทายเจาของที่ให
ไดรับอนุญาตกอน มิเชนนั้นหากถูกรายงานผูพิทักษ และถูกสืบสวนวาเปนความจริง
จะถูกโบยดวยแสพิษ”
เอยจนถึงสองสามประโยคสุดทาย น้ำเสียงของหานลี่พลันโหดเหี้ยม ไมมีแววเปนมิตร
ชายรางใหญคิ้วโคงและเจาอวนจินไดยินคำวาโบยดวยแสพิษ ถึงแมวาจะเปน
ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง สีหนาก็อดที่จะเปลี่ยนไปเล็กนอยไมได
แตเจาอวนจินกลับกลอกตาไปมาเล็กนอย แลวเอยพรอมกับใบหนาที่ประดับไป
ดวยรอยยิ้ม
“สหายหานอยาเพิ่งเขาใจผิด ขาและนองเวิงแคผานทางมาเทานั้น กลับคิดไมถึง
วาตอนที่มาหยุดพักที่ภูเขาลูกนี้ จะไปถูกเขตอาคมอะไรก็ไมรูเขา แลวถูกสงตัวมาที่นี่
เราสองคนก็ไมเขาใจเชนกัน”
“ออ พี่จินกลาวเชนนี้ ขานอยจะเชื่อหรือ? ใชแลว หากผูแซหานพูดไมผิดละก็
ที่นี่นาจะมีสหายอีกสองคนสินะ” หานลี่เอาสองมือไพลหลัง ใบหนาเผยสีหนาอมยิ้ม
ออกมา
ครานี้ เขาตรวจสอบรอบๆ ทั้งหมดนี่แลวรอบหนึ่ง
คาดไมถึงวาเขาจะอยูในหวงมิติเวลาที่ลึกลับแหงหนึ่ง
หวงเวลานี้สูงรองจั้ง กวางสองสามลี้ ไมถือวากวางเกินไปนัก แตไมวาจะทองฟา
หรือวารอบๆ ก็มีลำแสงเจ็ดสีเปลงประกาย
สิ่งที่ทำใหผูคนยิ่งตกตะลึงก็คือ บนทองฟาของหวงเวลานี้ มีลำแสงขนาดยักษที่ดู
เหมือนพระอาทิตยเจ็ดดวงลอยอยู ลำแสงสีขาวนวล ทำใหผูคนรูสึกลึกลับ
สวนใจกลางของลำแสงทั้งเจ็ดนั้น มีประตูลำแสงเจ็ดสีอยูบานหนึ่ง ดานในเต็มไป
ดวยมานลำแสง ดูเลือนราง
ฟงคำพูดกอนหนา ชายรางใหญคิ้วโคงและเจาอวนจินพลันตะลึงงัน เมื่อเห็นหานลี่
กวาดสายตาไปที่ประตูลำแสง หลังจากมองสบตากันแวบหนึ่ง สีหนาพลันเครงขรึมขึ้น
“เจารูจำนวนของพวกเราไดอยางไร?” น้ำเสียงของเจาอวนจินเย็นชาอยางหาที่เปรียบ
ใบหนาของชายรางใหญมีจิตสังหารปรากฏขึ้น
“อันใด ทั้งสองทานคิดจะลงมือหรือ?”
“ลืมบอกสหายทั้งสองไป กอนออกมา ขาไดทิ้งยันตถายทอดเสียงของเอาไว
สองสามแผน และไดวางเขตอาคมเอาไว ขอแคขานอยเกิดเรื่อง ยันตถายทอดเสียง
เหลานี้ก็จะไปปรากฏตรงหนาสหายสนิทสองสามคนรวมทั้งอาวุโสจาวอูกุย คิดดูแลว
การบุกเขามาในที่ของผูอื่นอยางไมมีเหตุผล และโจมตีเพื่อนรวมงานอยางไมมีเหตุผล
คงทำใหผูพิทักษสนใจแน นี่เปนความผิดครั้งใหญ ตองถูกลงโทษดวยภูเขามีดน้ำแข็ง
และยิ่งไปกวานั้นตอใหสหายทั้งสองรวมมือกัน คิดวาจะสังหารขานอยไดงั้นหรือ?”
หานลี่ไมเพียงไมโกรธ แตกลับเอยพรอมกับหัวเราะเบาๆ
“เจารูจักผูพิทักษสวรรคจาว?” ชายรางใหญคิ้วโคงใจหายวาบ แตทันใดนั้นก็เผย
สีหนาสงสัยออกมา
เจาอวนจินไดยินคำนี้ พลันรูสึกตกตะลึงเชนกัน
“ขานอยคือคนที่อาวุโสจาวพาเขามาในเมืองเทวะสวรรคดวยตนเอง ทั้งสองคิดวา
ขานอยรูจักหรือไมละ?” หานลี่ตอบกลับอยางราบเรียบ ทาทางเหมือนจัดเตรียมทุก
อยางเอาไวเรียบรอยแลว
ชั่วขณะนั้นสีหนาของหานลี่ จึงทำใหชายรางใหญคิ้วโคงและเจาอวนจินมอง
สบตากัน
“หึ ในเมื่อเจารูวาที่นี่ไมไดมีแคเราสองคน บอกเจาไปก็ไมเสียหาย ที่นี่นอกจาก
พวกเราสองคนแลว อาจารยของพวกเราก็อยูที่นี่ และเขาไปในเขตอาคมที่ลึ ก ขึ้น
อีกชั้นแลว พวกเราสองคนไดรับคำสั่งใหคอยรักษาการณที่นี่ เจาเปนแคผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลงตัวคนเดียว ยังคิดจะขัดขวางหรือ? กฎของเมืองเทวะสวรรคเหลานั้น
เวลาสำคัญถึงจะนับวาเปนกฎ หากไมสำคัญ ใครจะไปลวงเกินผูบำเพ็ญเพียรระดับ
หลอมสุญตาสองคนพรอมกัน เพียงเพราะชีวิตของผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงเพียง
คนเดียว ตอใหเจารูจักกับอาวุโสจาวอูกุย คิดดูแลวก็คงรูจักเพียงผิวเผินเทานั้ น”
หลังจากที่ชายรางใหญคิ้วโคงเงียบขรึมไป ก็เอยเชนนี้ออกมา
“งั้นหรือ? สหายเวิงลองพนันดูไหม ทวา กอนที่ขานอยเขามา ก็เดาไวอยูแลววา
สหายตองอยูที่นี่ ดังนั้นจึงเอยชื่อสหายลงไปในยันตถายทอดเสียงแลว คิดดูแลวจาก
พลังลมปราณที่แข็งแกรงของสหาย คงไมกลัววิชาคนวิญญาณของเหลาผูพิทักษสินะ”
หานลี่หัวเราะหึๆ ทาทางไมใสใจ
หากคนเหลานี้ไมกลัวผูพิทักษสวรรคของเมืองเทวะสวรรคจริงๆ จะแยงชิงที่อยู
อยางยากลำบาก และแอบเขามาที่นี่อยางลับๆ ลอๆ ทำไม
หานลี่เอยเชนนี้ออกมา ใบหนาของชายรางใหญคิ้วโคงพลันเปลี่ยนเปนดูไมได
เจาอวนจินเองก็ตกตะลึง
ไมตองสงสัย เมื่อเกี่ยวโยงกับชายรางใหญคิ้วโคง เขาก็ไมมีทางหนีพน
เรื่องบางเรื่องทำอยางลับๆ อยางไรก็ไมมีปญหา แตหากถูกคนจับได และถูก
เปดเผยออกมา ก็เปนการทาทายอำนาจของผูพิทักษสวรรคและเหลาอาวุโสแลว
“ฮาๆ ขาไดยินวาสหายมีความสามารถไมธรรมดา อนาคตยังอีกยาวไกล คิดดู
แลวคงไมคิดจะทำเรื่องที่ทำใหพวกเราตองบาดเจ็บทั้งสองฝายหรอกกระมัง ทวา
พูดกันตามตรง! ทีน่ ี่ขาและนองเวิงไมใชผูตนคิด หากพี่หานมีเงื่อนไขอะไร รอใหอาวุโส
ของพวกเราออกมาแล ว เสนอเองเป น อย า งไร?” เจ า อ ว นจิ น ถู ม ื อ ทั ้ ง สองไปมา
ดวงตาทั้งสองหรี่ลงเปนเสนตรงขณะเอย
“อันใด สหายทั้งสองคิดวาขานอยไมกลารออยูที่นี่หรือ? ก็ดี ผูแซหานอยากรูฝมือ
ของอาวุโสทั้งสองพอดี จะรออยูที่นี่ก็แลวกัน” หานลี่เอยพรอมรอยยิ้มจางๆ ทันใดนั้น
รางกายก็พลิ้วไหว คนก็มาปรากฏตัวที่มุมหนึ่งของหวงเวลา จากนั้นก็นั่งสมาธิลง
คาดไมถึงวาเขาจะมีทาทีคิดจะรอใหผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาอีกสองคน
ออกมาจริงๆ
ตอนที่ 1347 โครงกระดูกมนุษยมารหยก
ชายรางใหญคิ้วโคงและเจาอว นจิน เห็ นทาทีของหานลี่ แนนอนวาพลันรู สึ ก
ประหลาดใจ ทั้งสองขยับริมฝปากถายทอดเสียงออกมาสองสามประโยค ทันใดนั้นก็
เดินไปที่อีกมุมหนึ่งโดยไมเอยอะไร แลวนั่งสมาธิลงเชนกัน
ทั้งสองคิดอยางงายๆ ในเมื่อพวกเขาไมมั่นใจวาจะจับหานลี่ได อีกฝายก็ไมไดมี
ทาทีจะบุกเขาไปในประตูลำแสง ทั้งสองจึงถือวาหลักเตรียมตัวไวกอน โยนเรื่อง
ปวดหัวใหเหลาอาวุโสจัดการ จะไดลดความยุงยาก และหาเรื่องใสตัวลง
เชนนั้น ทั้งหวงเวลาจึงเงียบสงัด ทั้งสามบางก็นั่งสมาธิ บางก็จับจองไปที่ประตู
ลำแสงไมพูดไมจา
แนนอนวาชายรางใหญคิ้วโคงเองก็ไมรูวา หานลี่ในครานี้ กำลังหัวเราะก็ไมได
รองไหก็ไมออกเชนกัน
ยันตถายทอดเสียงและเขตอาคมที่เขาพูดถึงนั้น แนนอนวาเปนเรื่องเหลวไหลทั้งนั้น
ตามแผนเดิมของเขา หากสองสามคนนี้มาตามหาสมบัติจริงๆ ตนเองก็จะอาศัย
อานุภาพของยันตชำระพิสุทธิ์ จับปลาในน้ำขุน[1]โดยที่ไมมีผูใดรู หากอีกฝายคือ
ผูบำเพ็ญเพียรที่มีพลังยุทธรายกาจ ก็แคจับตาดูอยางเงียบๆ เทานั้น
แตกลับคิดไมถึงวา เพิ่งจะเขาใกลที่นี่ หลังจากถูกลำแสงประหลาดมวนเขามา
เขาไมเพียงจะทะลุเขามาในหวงเวลานี้ และแมแตความสามารถในการอำพรางตัวก็ยัง
ถูกทำลายออก
เชนนั้น เขาจึงทำไดเพียงเผชิญหนากับผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้แลว
โชคดีที่กอนหนานี้เขาไดขบคิดเงื่อนไขที่จะทำใหอีกฝายลูบหนาปะจมูก[2]เอาไวแลว
ภายใตความจนปญญา จึงทำไดเพียงเอยสิ่งที่พูดไปออกมา ทำใหชายรางใหญคิ้วโคง
และพวกตกตะลึง
แนนอนวานั่นไมใชเพราะหานลี่คิดวาตนเองไมใชคูตอสูของทั้งสอง
ถึงแมวาชายรางใหญคิ้วโคงและเจาอวนจินจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
ขั้นกลาง และขั้นปลาย แตอาศัยความสามารถอันเหนือชั้นและฝมือของเขาในตอนนี้
สำแดงความสามารถอัสนีอยางเต็มกำลัง อยางนอยที่สุดก็มั่นใจไดแปดในสิบสวนวา
จะสังหารทั้งสองคนไดในทันที
การลงมือสังหารนั้นแนนอนวาเปนเรื่องงาย แตผลลัพธของการสังหารอยาง
ไม ย ั ้ ง คิ ด นั ้ น เกรงว า คงเป น การสร า งความบาดหมางกั บ ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ
หลอมสุญตาทั้งสองที่อยูในประตูลำแสง
ถึงแมวาเขาจะไมไดรูสึกดีกับการบุกเขามาในที่ของเขา แตก็ไมอยากสรางศัตรู
ผูยิ่งใหญสองคนจริงๆ
และยิ่งไปกวานั้นหากเขาสังหารชายรางใหญคิ้วโคงและพวกทั้งสองไปอยาง
งายๆ จริงๆ แตถูกกักอยูใ นหวงเวลาลึกลั บแห งนี ้ หากไมอาจออกไปได และถูก
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาสองคนพบเขา เกรงวาผูที่โชครายคงกลายเป น
เขาแทน
เชนนั้นไมสูคิดหาแผนหนีกอน รอลาถอยอยางปลอดภัย แลวคอยตัดสินใจวาจะ
ทำอะไรตอไปก็ยังไมสาย
เมื่อหานลี่ตัดสินใจเปนที่เรียบรอย ถึงแมวาจะหลับตาทั้งสองขางลง แตจิตสัมผัส
ที่แข็งแกรงกับกลายเปนจิตดวงเล็กๆ จำนวนนับไมถวน พุงออกไปทั่วทุกสารทิศ
จิ ต สั ม ผั ส ของหานลี ่ ต รวจสอบทุ ก ซอกทุ ก มุ ม อย า งไม ห วาดกลั ว แน นอนว า
เจาอวนจินและพวกทั้งสองไมมีทางสัมผัสไมได แตทั้งสองไมเพียงจะไมไดเอยปาก
หามปราม กลับหัวเราะอยางเย็นชาในใจเทานั้น
ผลคือเมื่อจิตสัมผัสดวงเล็กๆ ของหานลี่สัมผัสเขากับลำแสงเจ็ดสีบนกำแพง
ก็จมหายไปอยางไรรองรอยราวกับโคลนที่จมลงในมหาสมุทร แมกระทั่งเกิดเปน
แรงดูดมหาศาล ที่ทำใหจิตสัมผัสหลักของหานลี่ถูกเขยาจนสั่นคลอนสองสามครั้ง
จนเกือบจะหลุดออกจากราง
หานลี่พลันตะลึงงัน โคจรคาถาขับเคลื่อนอยางรวดเร็ว แลวถึงไดสลัดแรงดูดนั้น
ทิ้งไปได แตหานลี่ก็เบิกตาทั้งสองขางขึ้นดวยเหตุนี้ จองเขม็งไปยังลำแสงบนแพงที่อยู
ใกลๆ สีหนาบัดเดี๋ยวเครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใส
แนนอนวาชายรางใหญคิ้วโคงและพวกทั้งสองที่เผยสีหนาดีอกดีใจบนความทุกข
ของคนอื่นออกมานั้นถูกเขามองเห็น
ดูแลวความแปลกประหลาดของกำแพงหวงเวลานี้ ทั้งสองคงรูอยูแกใจตั้งนานแลว
จึงจงใจปลอยใหเขาเสียเปรียบ
ถึงแมวาหานลี่จะรูสึกโกรธเกรี้ยว แตกลับมีสีหนาปกติในทันใด ในเวลาเดียวกันก็
ขบคิดหาแผนการอื่นอยางเงียบๆ
นาเสียดาย ‘ธงวิญญาณแดง’ สมบัติหวงเวลาที่หลอมขึ้นในตอนแรก ถูกวายุ
ในหวงเวลาทำลายลงไป มิเชนนั้นคงมีประโยชนในการกำจัดกำแพงหวงเวลาแน
แนนอนวานอกจากธงวิญญาณแดงแลว เนตรทำลายลางก็มีผลในการฉีกทิ้งหวงเวลานี้
เชนกัน ทวาที่นี่ดูลึกลับมาก เนตรทำลายลางจะโจมตีไดจริงๆ หรือไม ก็เปนเรื่องที่
พูดยากแลว
หานลี่ขบคิดอยูในใจอยางรวดเร็ว ชั่วครูก็มีอีกแผนหนึ่ง
ในเมื่อจิตสัมผัสไมอาจแทรกเขาไปในกำแพงได เชนนั้นก็ลองใชเนตรวิญญาณวารี
กระจางหาทางออกดูก็แลวกัน
ทันใดนั้นเขาก็บรรจุลมปราณไปที่ดวงตา รูมานตาเปลงแสงสีฟาเจิดจาออกมา…
เวลาผานไปหนึ่งวันหนึ่งคืน หานลี่ที่อยูมุมหนึ่ง หลับตาลงอีกครั้ง ทาทางเหมือน
จมเขาสูภวังคแหงสมาธิ ดูแลวการคาดเดากอนหนา คงไมไดทำใหเขาหาทางออกที่
เหมาะสมเจอ
สวนลำแสงเจ็ดที่อยูในประตูลำแสงก็ยังคงเหมือนเกา ไมมีการเคลื่อนไหวเลยสักนิด
ชายรางใหญคิ้วโคงและเจาอวนจินจองเขม็งไปยังกลางอากาศ สีหนาเริ่มเครงขรึม
แน น อนว า ทั ้ ง สองคนไม ล ื ม ที ่ จ ะใช ส ายตาระมั ด ระวั ง กวาดมาทางหานลี ่ เ ป น
บางครั้งคราว
“นานขนาดนี้ อาวุโสทั้งสองยังไมออกมา คงไมไดเกิดอะไรในนั้นหรอกนะ?”
หานลี่ไมไดลืมตา แตกลับเอยเชนนี้ออกมา
“เรื่องนี้สหายหานโปรดวางใจ หากเกิดเรื่องกับทานอาจารย พวกเราสองคนตอง
ไดขาวแน อันใด พี่หานรอสองวัน หรือวาจะทนไมไหวแลว” ชายรางใหญคิ้วโคงไดยิน
หานลี่เอยปาก ก็ใจหายวาบ แตปากก็ยังเอยอยางไมยอมสำแดงความออนแอออกมา
“อาวุโสทั้งสองไมเปนไรก็ดีแลว เวลาแคนี้ ขานอยยัง…”
หานลี่ฉีกยิ้ม ตอนที่คิดจะเอยอะไรอีกนั้น ฉับพลันนั้นลำแสงสีขาวนวลเจ็ดดวง
ที่อยูกลางอากาศ ก็เริ่มเปลงเสียงรองระงม ทันใดนั้นก็แผแรงกดดันออกมา เปลงแสง
สวางจา
ครานี้ไมเพียงชายรางใหญคิ้วโคงและพวกทั้งสองที่ตกตะลึง หานลี่เองก็ลืมตาขึ้น
ดวงตาทั้งสองหรี่ลงขณะมองไป ความแปลกประหลาดเพิ่งจะแคเริ่มตนเทานั้น!
ทันใดนั้นเสียงก็ดังระงม ลำแสงเจ็ดดวงที่หมุนโคจรอยูขยายใหญขึ้น ชั่วพริบตา
ก็มีขนาดเทาศีรษะ กลายเปนลอรถขนาดยักษ และเริ่มกะพริบระยิบระยับอยาง
รุนแรง
รอบๆ ลำแสงทั้งเจ็ดมีคลื่นน้ำเปนชั้นๆ ปรากฏขึ้น แฉลบผานไปที่ประตูลำแสงที่
อยูตรงกลางไปอยางพอดิบพอดี
พริบตานั้นประตูลำแสงก็ดูเหมือนจะถูกแรงกดที่ไรรูปราง ทำใหบิดเบี้ยวอยางหนัก
“แยแลว” เจาอวนจินเห็นฉากนั้น ก็รองตะโกนออกมาดวยหนาที่เปลี่ยนสี ชั่วครู
ก็กระโดดโหยง
ชายรางใหญคิ้วโคงพลันมีสีหนาตกตะลึงเชนกัน
สวนหานลี่กลับมีสีหนาทะมึนทึบอยางหาที่เปรียบ
เพราะวาครานี้ไมเพียงลำแสงกลางอากาศจะเปลี่ยนแปลง แมแตพื้นดินและ
กำแพงรอบๆ ก็ยังสั่นคลอนอยางหนัก ลำแสงเจ็ดสีเหลานี้ปรากฏรองรอยปริแตก
นั่นหมายความวา หวงเวลากำลังจะพังทลาย
เรื่องนี้เกี่ยวของกับชีวิตนอยๆ ของตนเอง หานลี่จึงยืนขึ้นโดยไมไดปริปากใดๆ
มือหนึ่งลูบไปที่ศีรษะ ฉับพลันนั้นลำแสงสีเทาเปนชั้นๆ พลันปรากฏขึ้นที่หนาอก
จากนั้นมือหนึ่งพลันพลิกฝามือ ลำแสงสีทองเปลงแสงเจิดจา ไขมุกกลมๆ สีทอง
แวววาวสามเม็ดพลันปรากฏขึ้น
นั่นก็คือ ไขมุกลายอสนีสามเม็ดที่เพิ่งหลอมไดไมนาน
ครานี้แมวาชายรางใหญคิ้วโคงและเจาอวนจินจะทยอยกันพนสมบัติอาคมออกมา
สองสามชิ้น แตพวกเขาที่เคยเห็นความลึกลับของหวงเวลาแหงนี้ กลับไมมั่นใจวาจะ
ทลายหวงเวลานี้แลวหนีออกมาไดจริงๆ สีหนาจึงเผยความหวาดกลัวออกมา
แนนอนวาหานลี่ไมสนความเป นตายของทั้งสอง สูดลมหายใจเขาเฮือกหนึ่ ง
คิดจะใชเนตรทำลายลางที่หวางคิ้ว จากนั้นก็ประสานกับลำแสงเทวะดูดปราณและ
พลังของไขมุกลายอสนี ทลายหวงเวลาออกไป
แตในตอนนั้นเอง ฉับพลันนั้นเสียงกึกกักก็ดังขึ้นจากประตูลำแสงที่อยูกลางอากาศ
หานลี่ตะลึงงัน การเคลื่อนไหวในมือพลันหยุดชะงัก
จากนั้นลำแสงเจ็ดแสงที่ประตูลำแสงพลันเปลงแสงสวางวาบ คาดไมถึงวาจะมี
ลำแสงสีเขียวอันเจิดจาสายหนึ่งและลำแสงสีทองสายหนึ่งพุงออกมาจากตรงกลาง
ลำแสงหลีกหนีทั้งสองสายหมุนวนกลางอากาศราวกับสายรุง เมื่อลำแสงหมนแสง
ลงก็เผยรางอสรพิษนอยสีเขียวมรกตและมนุษยนอยสีทองขนาดความสูงสองสามฉื่อ
ออกมา
เห็ น เพี ย งมั ง กรวารี ส ี เ ขี ย วมรกตไม เ พี ย งเขาคู  บ นศี ร ษะถู ก ตั ด ไปข า งหนึ่ ง
เกล็ ด บนร า งยั ง น อ ยลงไปเป น อย า งมาก ส ว นมนุ ษ ย น  อ ยสี ท องนั ้ น ผมเผ า
กระเจิดกระเจิง ชุดคลุมสีทองบนรางขาดไปกวาครึ่ง
คาดไมถึงวาทั้งสองคนจะมีทาทีตกอยูในที่นั่งลำบาก
“รี บ หนี เ ร็ ว ที ่ นี ่ ไ ม ใช ที ่ล ะสั ง ขารของอรหั น ต พัน สมบั ติ แต เ ป น ที ่ คุ มขั งของ
‘โครงกระดูกมนุษยมารหยก’ พวกเราไปโดนเขตอาคมของผูบำเพ็ญเพียรโบราณเขา
มารตนนั้นหลุดจากพันธนาการแลว หวงเวลานี้จะพังทลายในทันที เอ เจาคือใคร?”
มนุษยนอยสีทองตะโกนดวยความกระวนกระวาย ทันใดนั้นก็พบวาลำแสงสี เทาที่
กะพริบอยูบนศีรษะไมหยุดคือหานลี่ จึงอดที่จะตกตะลึงไมได
“ทานปู เขาคือเจาเด็กแซหาน เขา…” เจาอวนจินเห็นทั้งสองคนออกมาก็พลันดีใจ
ริมฝปากขยับเล็กน อยถายทอดเสียงไปหามัง กรวารีสี เขียวมรกตและมนุษย น  อย
อยางรวดเร็ว อธิบายประวัติความเปนมาของหานลี่เล็กนอย
“เจาของที่นี่!” มังกรวารีสีเขียวมรกตไดยินชัดเจน ชั่วขณะนั้นแววตาโหดเหี้ยม
พลันเปลงประกาย เกิดจิตสังหารขึ้นทันที
“พี ่ ห มิ ง เจ า จะทำอะไร พวกเราจะหนี ไ ม ท ั น อยู  แ ล ว จะเสี ย เวลาอะไรอี ก !
หากพวกเราตายอยู  ท ี ่ น ี ่ มั นก็ ไ ด ไ ม ค ุ  ม เสี ย ยิ ่ ง ไปกว า นั ้ น เจ า อย า ลื ม นะ เขาคื อ
ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รที ่ บ ิ น ขึ ้ น มา พวกเราไม เ ลอะเลื อ นจนไปหาเรื ่ อ งเขาหรอกนะ”
มนุษยนอยสีทองฟงจบ ถึงแมวาจะมีสีหนาประหลาดใจฉายแวบผานเชนกัน แตทันใด
นั้นก็ถายทอดเสียงไปหามังกรวารี
“ก็ดี พวกเรารวมมือกันออกไปจากที่นี่กอน ขอแคพวกเราไมไดลงมือดวยตนเอง
ต อให จ  า วอู  ก ุ ย และคนอื ่ น มาหาเรื ่ อง พวกเราก็ ไ ม ก ลั ว หากห ว งเวลาพั ง ทลาย
ใหเจานั้นและโครงกระดูกมนุษยมารหยกตายอยูที่นี่ก็แลวกัน นาเสียดายที่พวกเรา
เปนแคจิตแยก มิเชนนั้นจะกลัวมารตนนี้ทำไม พวกเราไปกันเถิด” มังกรวารี สี
เขียวมรกตลังเลเล็กนอย ทันใดนั้นก็คลายจิตสังหาร แลวเอยอยางชาญฉลาด
“ถูกตอง รีบลงมือ หวงเวลานี้จะยืนหยัดไมไหวแลว!”
มนุษยนอยสีทองรูสึกผอนคลายลง ไมอยากใหจิตแยกของตนเองไดรับบาดเจ็บ
และเพลี่ยงพล้ำลงที่นี่ ทันใดนั้นสองมือของเขาพลันรายอาคม ปากพลันบริกรรมคาถา
ชั่วขณะนั้นกระบี่ไมที่หลังก็สั่นเทา พวยพุงขึ้นไปกลางอากาศ กลายเปนกระบี่ลำแสง
ยักษความยาวสองสามจั้ง
มังกรวารีสีเขียวมรกตเองก็รองคำรามออกมาเชนกัน รางกายหมุนกลิ้ง คาดไมถึง
วาจะประสานกับวายุอสนี กลายเปนมังกรวารียักษขนาดความยาวสิบจั้งเศษ บนหัวมี
เขาหงิกงอสีเขียวงอกออกมาเขาหนึ่ง ดานบนเปลงแสงอสนีสีมวงวิบวับไมหยุด ดูแลว
นาเกรงขามเปนอยางมาก
ถึงแมจะไมรูวาเมื่อครูคนเหลานั้นพูดคุยอะไรกัน แตเมื่อเห็นกระบี่ยักษและมังกรวารี
สำแดงความสามารถที่นาตกตะลึงออกมา หานลี่ก็ใจหายวาบ
ครานี้ลำแสงบนกำแพงรอบๆ เริ่มพังทลายลงแลว ผิวของกำแพงเริ่มเปลงเสียง
อึกทึกออกมา บิดเบี้ยวจนถึงขีดสุด

[1] จับปลาในน้ำขุน หมายถึง ฉวยโอกาสในยามที่โกลาหลหาประโยชนใสตัว

[2] ลูบหนาปะจมูก หมายถึง ทำอะไรเด็ดขาดจริงจังลงไปไมได เพราะเกรงวาจะ


ไปกระทบกระเทือนพวกพองของตน
ตอนที่ 1348 ระเบิดวายุหวงเวลา
มังกรวารียักษรางกายสั่นเทา สะบัดหัวสะบัดหางอาปากออก พนเสาลำแสง
สีเขียวกลุมหนึ่งออกมา เขาขางเดียวบนหัวมีประจุไฟฟาสีมวงขนาดความหนาเทา
ปากชามสายหนึ่งปรากฏขึ้น ชั่วครูก็รวมตัวเขากับเสาลำแสง โจมตีไปยังกำแพงที่อยู
ตรงขามอยางบาคลั่ง
แทบจะในเวลาเดียวกัน มือหนึ่งของมนุษยนอยสีทองก็ลูบไปที่หนาผาก พริบตานั้น
เสาลำแสงสีทองสายหนึ่งก็พุงขึ้นไป จมหายเขาไปในกระบี่ยักษเหนือหัว
กระบี่ลำแสงเปล งเสีย งร องหึ ่ง ๆ ออกมา ไมเพียงจะขยายใหญ ขึ้ น หลายเท า
ยังเปลงแสงสีทองเจิดจาออกมา ราวกับพระอาทิตยอยางไรอยางนั้น
หลังจากที่มนุษยนอยปลอยเสาลำแสงสายนั้นออกมา รางสูงสองสามฉื่อก็หดเล็กลง
จากนั้นกลับไมสนใจรางกาย สองมือพลันรายอาคม
กระบี่ยักษกลายเปนสายรุงสีทองสายหนึ่ง สับลงไปที่เสาลำแสงสีเขียวติดๆ
เปาหมายคือ กำแพงเชนเดียวกัน
เสียงอึกทึกดังขึ้น ลำแสงสีเขียวและทองระเบิดออก พัวพันเขาดวยกัน คาดไมถึง
วาจะกลายเปนลูกบอลลำแสงยักษขนาดสองสามจั้งที่ลึกลับลูกหนึ่ง ผิวของมันมี
ประจุไฟฟาสีมวงจำนวนนับไมถวนกะพริบวาบไมหยุด
ลูกบอลลำแสงนี้ไมรูวามีความสามารถอะไร คาดไมถึงวาจะจมหายเขาไปใน
กำแพงในขณะที่ทั้งสองควบคุมมันพรอมกัน ฉีกกำแพงของหวงเวลาออกดวยความ
ทรงอานุภาพที่ไมอาจตานทานได แลวจมหายเขาไปกวาครึ่ง
มังกรวารีและมนุษยนอยสีทองพลันรูสึกดีอกดีใจในเวลาเดียวกัน!
มังกรวารีรองเรียกชายรางใหญคิ้วโคง รางกายพลิ้วไหวแลวหดเล็กลงเชนเดิม
กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งมวนเอาชายรางใหญคิ้วโคง พุงออกไปหาลูกบอล
ลำแสงยักษ
ทามกลางลำแสงหลีกหนี เขาพลันหันไปมองหานลี่ดวยความเย็นชาแวบหนึ่ง
ครานี้ หานลี่กลับยืนตะลึงมองทุกอยางอยูไกลออกไป สวนตัวเองกลับไมไ ด
เคลื่อนไหว
ใบหน า ของมั ง กรวารี เ ผยสี ห น า เหมื อ นมองคนตายออกมา ทั น ใดนั ้ น ปากก็
เปลงเสียงรองคำรามออกมา เปลงแสงสวางวาบแลวหนีออกมาจากลูกบอลลำแสง
มันไมกลัววาหานลี่จะถือโอกาสนี้หลบหนี
ในเวลาเดียวกันลูกบอลลำแสงนี้พลันผสมเขากับพลังปราณแทของมนุษยนอย
หากไมใชเพราะทั้งสองลงมือดวยตนเอง คงไมอาจทะลวงผานทางเดินนี้ได
มนุษยนอยสีทองเห็นมังกรวารีลวงหนาไปกอน ทันใดนั้นก็กลายเปนลำแสงสีทอง
โดยไมพูดอะไร มวนเอาเจาอวนจินเขาไป เปลงแสงสวางวาบแลวมาอยูเบื้องหนา
กำแพง คิดจะหนีไปเชนกัน
แตในตอนนั้นเอง ลูกบอลลำแสงที่อยูใกลๆ พลันมีเสียงฟารองดังสนั่นขึ้น จากนั้น
คลื่นวิญญาณพลันปรากฏขึ้น เงารางคนมีปกคูหนึ่งที่แผนหลังปรากฏขึ้น จากนั้น
คนผูนั้นพลันสะบัดหัวไหล ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเทาพลันหอหุมลำแสงสีทองเอาไว
มนุษยนอยรูสึกเพียงวาพลันแรงดูดปรากฏขึ้นกลางอากาศ ภายใตการไมระวัง
คาดไมถึงวาคนผูนี้จะตามลำแสงสีทองมาในระยะประชิด และเสียงพูดอันราบเรียบ
พลันดังขึ้น
“ในเมื่อทานอาวุโสมีแผนการหลบหนี คิดดูแลวคงไมรังเกียจที่จะพาชนรุนหลังไป
ดวยกระมัง”
ไดยินเสียงนี้แลว นั่นก็คือหานลี่
มนุ ษ ย น อยสี ท องพลั นตะลึ ง งั น สายตากวาดไปยั ง จุ ด ที ่ ห านลี ่ ย ืน อยู  แ ตเดิม
เห็นเพียงตรงนั้นยังมี ‘หานลี่’ อีกคนหนึ่งยืนอยูชัดๆ
‘หานลี่’ ผูนี้เห็นมนุษยนอยมองมา ก็อาปากออกเปลงเสียงหัวเราะ รางกายสลาย
หายไป ชั่วพริบตาก็กลายเปนยันตสีเขียวมรกต พลิ้วไหวเล็กนอยแลวหายไปจาก
กลางอากาศ
คาดไมถึงวาหานลี่จะบมเพาะยันตแปลงวิญญาณจนมาถึงครานี้
ที่แทหานลี่เห็นผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาทั้งสองคนจะทำลายกำแพง
ทันใดนั้นก็เคลื่อนไหว คาดไมถึงวาจะใชยันตแปลงวิญญาณสรางรางตัวแทนขึ้นมา
สวนตัวเองก็ใชปกวายุอสนีหนีขึ้นมากลางอากาศ ชั่วครูก็เคลื่อนยายมาอยูใกลๆ
กับลูกบอลลำแสง
และเปนเพราะหานลี่บมเพาะยันตแปลงวิญญาณมาหลายรอยป ประกอบกับที่ตนเอง
ก็มีความสามารถในการแปลงกาย ภายในระยะเวลากระชั้นนี้ มังกรวารีสีเขียวมรกต
และมนุษยนอยสีทองจึงไมพบรองรอย
ผลคือถูกหานลี่ถือโอกาสนี้ ใชลำแสงเทวะดูดปราณติดเขากับลำแสงหลีกหนีของ
มนุษยนอยสีทองราวกับกอเอี๊ยะ ตามไปไมหางแมแตกาวเดียว
“ชนรุนหลัง รนหาที่ตายหรือ?”
มนุษยนอยสีทองคือผูใด ถึงแมวาจะตกใจที่ตนเองมองพลาด แตก็เขาใจวาหานลี่เลน
ละครตบตา ทั น ใดนั ้ น ลำแสงหลี ก หนี พ ลั น หยุ ด ชะงั ก ส ง เสี ย งตกตะลึ ง ระคน
โกรธเกรี้ยวออกมา
ทันใดนั้นลำแสงสีทองก็เปลงแสงสีทองนับหมื่นสายออกมา มวนไปทางหานลี่
อยางไมเกรงใจ
ผลคือลำแสงสีทองที่ทอตัวเต็มทองฟาสัมผัสกับลำแสงสีเทา ก็เปลงเสียงระเบิดดัง
“ตูม” ออกมา หลังจากสั่นเทาเล็กนอย ก็ไมสามารถพัดลำแสงสีเทาออกไปได
ครานี้ มนุษยนอยสีทองพลันใจหายวาบ
“หึๆ หากทาอาวุโสมาเอง ชนรุนหลังนั้นไมอาจตานทานลมปราณของทานไดอยูแลว
ตอนนี้เปนแคจิต แยก ทานอาวุโสสลัดลำแสงเทวะดูด ปราณของชนรุ น หลัง ไปใน
ชั่วระยะเวลาสั้นๆ ไมไดหรอก ทานอาวุโสจะยอมประมือกับชนรุนหลังนานขนาดนั้น
หรือ?” หานลี่กลับเปลงเสียงหัวเราะอยางแผวเบาออกมาจากลำแสงสีเทา
“เจาบังอาจขมขูตาเฒา!”
มนุษยนอยสีทองไดยินพลันรูสึกโกรธเกรี้ยว คิดจะสำแดงความสามารถอื่นๆ
แตในตอนนั้นเอง ฉับพลันนั้นกลางอากาศก็มีเสียงกรีดรองแหลมๆ ดังขึ้น หานลี่
ที่อยูทามกลางลำแสงเทวาดูดปราณไดยินเสียงนี้ รางกายก็รอนฉา โลหิตรอบกาย
เดือดพลาน ทะลักออกมาจากรางกายในเวลาเดียวกัน
แต ห านลี ่ ท ี ่ เ พิ ่ ง จะฝ ก ฝนคาถาวั ช ระสำเร็ จ ผิ ว หนั ง แข็ ง แกร ง ไม ด  อยไปกว า
ยุทธภัณฑระดับสุดยอด จึงแครายอาคมอยางรวดเร็ว แนนอนวาไมไดมีอุปสรรคใดๆ
มนุษยนอยไดยินเสียงกรีดรองนี้ รางกายพลันพลิ้วไหว หนาเปลี่ยนสี ถึงแมวา
เจาอวนจินที่อยูใตรา งจะถู กลำแสงสีทองปกป องอยู แตในเวลาเดียวกันที่ไ ด ยิ น
เสียงกรีดรอง ใบหนาเต็มไปดวยสีโลหิต รางกายรวงลงไปจากกลางอากาศ
“วิชาอัสสุชลโลหิต”
มนุษยนอยรองตะโกนออกมาดวยความตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว มือหนึ่งตบ
ออกไปกลางอากาศเบื้องหนา ชั่วขณะนั้นเสาลำแสงสีทองพลันพุงออกมาจากมือ
แทรกเขาไปในรางของเจาอวนจิน ทำใหรางของเขาสั่นคลอน ในที่สุดใบหนาสีโลหิต
ก็หายวับไป
ประตูลำแสงที่บิดเบี้ยวอยูกลางอากาศ มีกรงเล็บโครงกระดูกขนาดยักษยื่นออกมา
คาดไมถึงวาจะกางประตูออกอีกครั้ง
กรงเล็บนี้แวววาวดุจหยกตัด แตก็แผพลังแรงกดดันออกมา เสียงกรีดรองแหลมๆ นั้น
ดังออกมาจากประตูลำแสงบานนั้น
“ดูแลวโครงกระดูกมนุษยมารหยกคงจะออกมาแลว หากอาวุโสผูนั้นออกไปกอน
เพื่อกำจัดมารทิ้ง คงไมสนใจวาทานอาวุ โสยัง อยู ในนี้ และคงกำจัดทางเดินนี ้ ทิ้ ง
พวกเราก็ ต  องเป นอาหารของมารแล ว ท า นอาวุ โสไม ก ั ง วลเรื ่ องนี ้ ห รื อ ?” หานลี่
กดความตกตะลึงเอาไว แลวกลับเอยอยางเย็นชาออกมา
มนุษยนอยสีทองเห็นกรงเล็บโครงกระดูกปรากฏตัว สีหนาพลันดูไมได เมื่อไดยินคำนี้
อีกครั้ง มุมปากก็กระตุก ชั่วขณะนั้นพลันเงียบขรึมไมพูดไมจา
จากความรูจักใจคนของมารเฒาหมิง หากหนีออกไปสายไป เกรงวามารเฒาผูนั้น
คงทำเรื่องที่โหดเหี้ยมเชนนี้แน
ครานี้กรงเล็บโครงกระดูกอีกขางพลันยื่นออกมาจากประตูลำแสงที่อยูกลางอากาศ
กรงเล็บยักษทั้งสองตะปบไปที่ทั้งสองดานของประตูลำแสง มีเสียงกรีดรองแหลมสูง
ดังมาจากประตูลำแสงไมหยุด แตกลับเปนเสียงคำรามอันอึกทึก
ทาทางมารจะกระโจนออกมาในทันใด
“เยี ่ ย ม เจ า เด็ ก น อย! นั บ ว า เจ า เดิ ม พั น ชนะ ตาเฒ า จะพาเจ า ออกไปด วย!”
ตัวประหลาดเฒาจินผูนี้คือ อาวุโสที่เจาเลหเพทุบายคนหนึ่ง ความคิดเคลื่อนไหว
เล็กนอย ก็ตอบตกลงอยางไมลังเลเลยสักนิด
หานลี่ไดยินคำนี้ ในใจพลันรูสึกดีอกดีใจเชนกัน
ทันใดนั้นลำแสงเทวะดูดปราณที่แนบสนิทกับลำแสงสีทองก็ผอนคลายลงสามสวน
มนุษยนอยรายอาคมกระตุน ลำแสงสีทองเปลงแสงเจิดจาขึ้น ชั่วครูก็หอหุมลำแสง
สีเทาเอาไวกวาครึ่ง จากนั้นก็หาหานลี่พุงไปยังลูกบอลลำแสงยักษ
หานลี่แคใชลำแสงเทวะดูดปราณหอหุมรางของตนเองเอาไว ปลอยใหมนุษยนอย
สำแดงฝมือ
เมื่อจมหายเขาไปในลูกบอลลำแสง หานลี่ก็รูสึกเพียงวารอบดานสวางวาบ ทันใดนั้นก็
รูสึกวิงเวียนศีรษะ คนมาปรากฏตัวกลางอากาศเหนือภูเขาหิน
กลางอากาศใกลๆ กันนั้น มีลูกบอลลำแสงขนาดยักษลอยอยู
แตแคลูกบอลลำแสงนี้ดูเหมือนถูกสลักเขากับอากาศครึ่งหนึ่งอยางไรอยางนั้น
เผยออกมาแคครึ่งหนึ่ง
มังกรวารีสีเขียวมรกตและชายรางใหญคิ้วโคงก็อยูไมไกลนัก เมื่อเห็นหานลี่หนี
ออกมาได ชั่วขณะนั้นก็มองมาดวยความตกตะลึง
หานลี่สะบัดปกที่แผนหลังออกมาอยางไมตองคิด ชั่วพริบตาก็กลายเปนประจุไฟฟา
สีเขียวขาวสายหนึ่งหายวับไปจากที่เดิม
ครูตอมาเขากลับมาปรากฏตัวอีกแหงหางออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง
ไมรูเพราะเหตุใด มนุษยนอยสีทองที่อยูใกลๆ ถึงไดไมมีทาทีขัดขวาง
ปลอยใหเขาหนีไปอยางงายดาย
มังกรวารีนอยสีเขียวมรกตจองมองฉากนั้นอยางเย็นชา แววตาฉายแววโหดเหี้ยม
คิดจะลงมือ
แตในตอนนั้นเอง ฉับพลันนั้นใจกลางของลูกบอลลำแสงขนาดยักษ ก็มีคลื่นที่ทำ
ใหผูคนรูขนลุกซูแผออกมา ทันใดนั้นกลางอากาศก็ดูเหมือนจะมีเสียงกรีดรองราวกับ
คลื่นสึนามิ ทองฟากวาครึ่งดูเหมือนถูกบีบยนจนเหมือนกระดาษขาว และยิ่งไป
กวานั้นยังคอยๆ กลายเปนกอน
“แยแลว!”
“ระเบิดวายุหวงเวลา!”
เมื่อเห็นฉากนี้ คนเหลานั้นรวมทั้งหานลี่พลันรองอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหง
ทันใดนั้นพวกเขาก็ไมสนใจเรื่องอื่นอีก ตางสำแดงอาคมของตนเอง กลายเปนสายรุง
พุงออกไปคนละทิศละทาง
ถึงแมวาเคล็ดวิชาเคลื่อนยายจะยอดเยี่ยมขนาดไหน แตขณะที่ระเบิดวายุหวงเวลา
กำลังเกิดขึ้น แลวหนีไปกลางอากาศ ก็เปนการรนหาที่ตายเทานั้น!
โชคดีที่พวกเขาลวนมีพลังยุทธไมธรรมดา ถึงแมจะใชเคล็ดวิชาหลีกหนีธรรมดาๆ
แตหลังจากกะพริบวาบสองสามครั้ง ก็มาปรากฏหางออกไปสองสามรอยจั้ง
เสียงอึกทึกดังขึ้น จุดที่พวกเขายืนอยูที่เดิมทองฟาบิดเบี้ยว ฉับพลันนั้นเสนไหม
สีดำจำนวนนับไมถวนก็ปรากฏขึ้น แลวแผขยายออก
ชั่วพริบตาก็ทำใหอากาศในระยะรอยจั้งเศษ เกิดความผิดปกติขึ้น
จากนั้นเสียงรองพลันดังขึ้น เสนไหมสีดำระเบิดออกและขยายใหญขึ้นในทันที
ลำแสงสีขาวทะลักออกมาจากดานในราวกับของเหลวก็ไมปาน
ฉากอั นแปลกประหลาดพลั นปรากฏขึ้ น เมื ่ อลำแสงสี ขาวเหล า นี้ ป รากฏขึ้น
กลางอากาศ ก็ เ หมื อนกั บ วายุ โ หมกระหน่ ำ เกิ ด ขึ ้ น อย า งไรอย า งนั ้ น กลายเป น
พายุเฮอรริเคนพัดทุกอยางในบริเวณรอบๆ เขาไปดานใน พายุเหลานี้ดูเหมือนปศาจที่
กลืนกินทุกอยาง ไมวาสิ่งใดจมลงไป ไมถูกฉีกออกเปนเสี่ยงๆ ก็เปลงเสียง “สวบ”
แลวสลายหายไปอยางไรรองรอย เสียงกรีดรองอันอึกทึกราวกับปศาจมารพลันดัง
ออกมาจากพายุเฮอรริเคน
หานลี่ที่อยูบนยอดเขาหางออกไปสิบกวาลี้ มองเห็นพายุเฮอรริเคนประหลาดๆ
อยูที่ปลายฟา ใบหนาไรซึ่งความรูสึก
ระเบิ ด วายุ ห  ว งเวลานี ้ สู  ห  ว งเวลาที่ เ ขาผ า นมาสองสามครั ้ ง ไม ไ ดเ ลยสักนิด
แตหานลี่ก็ไมอยากถูกกลืนเขาไป
ต อ งเข า ใจว า ตอนแรกที ่ ข  า มผ า นระเบิ ด วายุ ห  ว งเวลามาได น ั ้ น ต อ งอาศั ย
พรสวรรคดานหวงเวลาของหงสน้ำแข็ง ตอใหเปนเชนนั้น รางกายดุจสมบัติอาคมของ
เขาก็ถูกทำลายไปเจ็ดแปดสวน จนเกือบจะเพลี่ยงพล้ำ มองเห็นระเบิดวายุหวงเวลา
ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนดูเหมือนวาจะไมอาจหยุดยั้งไดในระยะเวลาสั้นๆ
หลังจากที่ความคิดของหานลี่เคลื่อนคลอยไปสองสามครั้ง ฉับพลันนั้นลำแสง
หลีกหนีก็พุงออกไป ไมสนใจพวกมังกรวารีสีเขียวมรกตและมนุษยนอยสีทองอีก พลาง
ตรงไปยังจวนพำนักของตนเอง
ตอนที่ 1349 มือกระดูก
ทางดานที่เหลืออยางมังกรวารีสีเขียวมรกต ยอมสัมผัสการเคลื่อนไหวของหานลี่ได
ฉับพลันนั้นจึงเอยปากถามชายรางใหญคิ้วโคงที่อยูดานขางสองสามประโยค
ชายรางใหญมีสีหนาขมขื่น เอยอธิบายอยางรอนรน
หลังจากที่มังกรวารีสีเขียวมรกตฟงจบ สีหนาพลันเครงขรึมขึ้น
ในตอนนั ้ นเอง ลำแสงสี ท องพลั น อ อมมาจากอี ก ด า น หลั ง จากกะพริ บ วาบ
สองสามครั้งก็มาอยูเบื้องหนาของมังกรวารีสีเขียวมรกต เมื่อลำแสงหมนแสงลง
รางของเจาอวนจินพลันปรากฏขึ้น เหนือศีรษะของเขา มีมนุษยนอยสีทองสีหนา
ราบเรียบลอยอยู
“พี่หมิงจะปลอยเจาเด็กนั้นไปจริงๆ หรือ? หากเขาเอาเรื่องลาสมบัติของพวกเรา
ไปรายงานตอผูพิทักษ จะยุงยากไปหนอยหนา” หลังจากที่มนุษยนอยกวาดสายตาไป
บนเรือนรางของมังกรวารีสีเขียวมรกตแลวก็เอยขึ้น
“สหายจิ นกล า วว า ยุ  ง ยากไปหน อยเท า นั ้ น ข า จะหาเรื ่ องยุ  ง ยากเพิ ่ ม ทำไม!
เรื่องตามหาสมบัติในที่ของคนอื่นนั้น หากไมถูกผูพิทักษมาพบดวยตนเอง ก็ไมใช
เรื่องใหญอะไรนัก เรื่องนี้กอนหนานี้ก็ไมมีผูใดลวงรู แตชื่อเสียงของอรหันตพันสมบัติ
นั้นยิ่งใหญเกินไป ขานอยไมอยากแพรงพรายออกไป ตอนนี้ไมไดสมบัติอะไร ก็ยิ่ง
แลวใหญ ตาเฒาไมอยากลวงเกินผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาโดยไมมีผลประโยชน
ขัดแยงอะไรกัน และยิ่งไปกวานั้นฟงจากคำพูด ของศิษยแล ว ดูเหมือนวาคนผู  นี้
จะรู  จ ั ก กั บ จ า วอู  ก ุ ย ผู  พ ิ ท ั ก ษ จ  า วนั ้ น ก็ ไ ม ไ ด ม ี อ ะไรหรอก แต อ าจารย ข องเขา
‘อรหันตเหลยหลั ว’ นั้น หึๆ หากพี่จิน อยากหาเรื่ องเจา เด็ก นั่ น ขาก็พอจะช ว ย
สหายไดอีกแรง” หลังจากที่มังกรวารีสีเขียวมรกตเงียบขรึมไปชั่วครูแลว ก็เอยขึ้น
อยางเย็นชา
“ขาและเจาเด็กนั่นไมมีความแคนตอกัน จะสรางความยุงยากทำไม ในเมื่อที่นี่
ไมมีสมบัติ เชนนั้นตาเฒาก็ขอตัวลาก อน วันหนาคงจะมารบกวนสหายสัก ครั ้ ง ”
มนุษยนอยสีทองกลอกตาไปมา แลวกลับตอบกลับพรอมกับหัวเราะออกมา
จากนั ้ นสองมื อของเขาพลั นประสานกำป  น กลายเป น ลำแสงสี ทองม ว นเอา
เจ า อ ว นจิ นเข าไป พุ  ง ตรงไปยั ง ขอบฟ า คาดไม ถ ึ ง วา ไม แ ม แ ต จ ะมองระเบิดวายุ
หวงเวลาเลยสักนิด
“หึ ตาเฒานั้นโดนเจาเด็กนั่นลอบทำรายกลางอากาศเขาแลว จึงจำใจตองเอา
เจาเด็กนั่นมาดวย ครานี้ยังจะคิดยืมมือคนอื่น สรางความยุงยากใหขา แผนดีจริงๆ
แตตาเฒาไมไดมีความแคนอะไรกับเจาเด็กนั่น จะทำใหเจาสมหวังไดอยางไร ศิษยเอย
พวกเราไปกันเถิด ในเมื่อที่นี่มีระเบิดวายุหวงเวลาเกิดขึ้น แนนอนวาตองเปนที่สนใจ
ของผูพิทักษ ถึงแมจะบอกว าคงไม มาถึ งเร็ว ขนาดนั ้น แตก็อาจจะมีผู พิทั ก ษ อยู
แถวๆ นี้ หากพบกับพวกเขาเขามันจะยุงยาก ครั้งนี้ ไมเพียงจะไมไดสมบัติ กลับทำให
จิตแยกของขาเสียหายไปไมนอย ซวยจริงๆ!” มังกรวารีสีเขียวมรกตเห็นลำแสงสีทอง
สลายหายไป ถึงแลวแคนเสียงหึออกมา แลวดูเหมือนจะเอยพึมพำกับตัวเอง
จากนั้นมังกรวารีพลันยืดตัวออกยาว กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงไปอีกดาน
ชายรางใหญคิ้วโคงเองก็กลายเปนลำแสงสีฟาสายหนึ่งไลตามไปติดๆ
เมื่อลำแสงหลีกหนีสองสายหายไปจากขอบฟาในพริบตา ระเบิดวายุหวงเวลาที่
อยูใกลๆ ก็มีเสียงระเบิดตูมตามดังขึ้น โดยไมมีเสียงอื่นอีก
ครานี้หานลี่อยูในหองโถงของจวนตนเองแลว กำลังจองเขม็งไปที่มานลำแสงสีเงิน
เบื้องหนาพรอมกับกอดอกหลวมๆ
ทามกลางการเฝาดูของไขมุกหมื่นมังกร ก็พบวาผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา
สองคนออกไปจากที ่ อ ยู  ข องเขาแล ว จริ ง ๆ เขาจึ ง ถอนหายใจออกมาเฮื อ กหนึ่ ง
อยางเงียบๆ
กลางมานลำแสงสีเงินในตอนนี้ ยังมีจุดลำแสงสีเหลืองเขมขนาดใหญก ะพริบ
ระยิบระยับไมหยุด
นั่นก็คือ ระเบิดวายุหวงเวลาที่ไขมุกหมื่นมังกรสัมผัสได
หานลี่และพวกมารเฒาหมิงนั้นไมเหมือนกัน คนเหลานี้สามารถสะบัดกนไปได
อยางไมตองกังวล แตเขาจำตองเฝาดูระเบิดวายุลูกนี้ เพื่อไมใหเกิดเรื่องอะไรขึ้น
จนมาทำลายที่อยูของตนเอง
โชคดี ท ี ่ เขามี ประสบการณ ใ นห ว งเวลามาแล ว การที ่ ห  ว งเวลาพั ง ทลายจน
กอใหเกิดระเบิดวายุนั้นแบบนี้นั้น โดยทั่วไปแลวจะใชเวลาไมนานนัก
ดังคาด ลำแสงสีเหลืองบนมานลำแสงยังปรากฏตอไปอีกประมาณหนึ่งชั่วยาม
ลำแสงก็เริ่มหมนแสงลง
หลังจากผานไปอีกหนึ่งเคอ ก็หายวับไป
เมื่อเห็นฉากนี้ หานลี่พลันพนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง นับวาผอนคลายลง
ดังนั้นหลังจากที่กวาดสายตาไปที่มานลำแสงแวบหนึ่ง แลวคิดจะเก็บเขตอาคมที่
ทำให ส ู ญ เสี ย ศิ ล าวิ ญ ญาณจำนวนมากนี ้ น ั ้ น ฉั บ พลั น นั ้ น ร า งกายพลั น สั ่ น เทา
หนาเปลี่ยนสีไปยกใหญ
เห็นเพียงตรงตำแหนงที่ลำแสงสีเหลืองหายไป มีลำแสงสีเทาปรากฏขึ้นแทน
ลำแสงนี้เล็กกวาลำแสงสีเหลืองเปนอยางมาก ดูแลวออนแรงอยางสุดๆ ราวกับวา
จะดับลงไดทุกเมื่อ แตเชนนั้น เมื่อลำแสงสีเทาปรากฏขึ้น ก็เคลื่อนยายเปลี่ยนทิศทาง
ไปทางอื่นทันที
หานลี่รูสึกจิตใจหนักอึ้ง ความคิดโคจรอยางรวดเร็ว ไมอาจนั่งเฉยๆ อยูที่นี่ไดอีก
หรือวาจิตวิญญาณที่ไมสมบูรณสวนหนึ่งของมารตนนั้นหนีออกมาจากระเบิด
วายุหวงเวลาได? ถึงแมวาจะไมแนใจนักวาอะไรที่เรียกวาโครงกระดูกมนุษยมารหยก
แตในเมื่อสามารถทำใหผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาหลบหนีได ก็แสดงใหเห็นถึง
ความนากลัวแลว ถาหากยังรั้งรออยูใกลๆ ละก็ เขาก็ไมอาจอยูอยางสงบสุขได
โชคดีที่ดูจากหนาจอ สิ่งที่หนีออกมาไดนั้นมีพลังต่ำมาก นาจะไดรับบาดเจ็บหนัก
ตอนนี้นาจะสังหารมันไดไมยาก
หานลี่ตัดสินใจในทันที เขาไมไดพูดมาก ทันใดนั้นรางกายพลันพลิ้วไหวกลายเปน
ลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกจากจวน ตรงไปยังตำแหนงของระเบิดวายุหวงเวลา
หลังจากผานไปชั่วครู เขาก็มาปรากฏตัวกลางอากาศตรงตำแหนงของระเบิด
วายุหวงเวลา
ระเบิดวายุหวงเวลาไมอยูแลวดังคาด สิ่งที่หายไปดวย ยังมีภูเขาหินหัวโลนลูกนั้น
และทิ้งหลุมยักษขนาดเสนผาศูนยกลางรอยจั้งเศษเอาไวบนพื้น
หานลี่ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีบนวนรอบหลุมนั่นสองรอบ ไมพบความผิดปกติ
เลยสักนิด
เขาขมวดคิ้วหยุดลำแสงหลีกหนี ลอยอยูกลางอากาศ หลับตาลงในเวลาเดียวกัน
จิตสัมผัสที่แข็งแกรงไมดอยไปกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาแผออกไปทั้งสี่ทิศ
ชั่วขณะนั้นจิตสัมผัสสวนเล็กๆ ก็ครอบคลุมในรัศมีวงกลมพันกวาลี้ ตรวจสอบทุกสิ่ง
ทุกระเบียบนิ้ว
หลังจากผานไปเพียงชั่วครู หานลี่ก็รองวา “เอ” ออกมาเบาๆ ฉับพลันนั้นพลัน
เบิกตาขึ้น แตใบหนากลับเต็มไปดวยสีหนาประหลาดใจ
หลังจากที่เขาขบคิดเล็กนอย ปากก็เปลงเสียงกรีดรองยาวๆ ออกมา ฉับพลันนั้นพลัน
แผลำแสงสีเขียวออกไป กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่ง พุงตรงไปยังทิศทางหนึ่ง
สายรุ  ง สี เ ขี ย วแหวกผ า นอากาศไปได แ ค ส ามร อ ยกว า ลี ้ ก็ ห ยุ ด ชะงั ก อยู
กลางอากาศเหนือผืนปารกชัฏ
ลำแสงหมนแสงลง หานลี่ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศต่ำๆ พรอมกับสองมือที่
ไพลหลังอยู สองตาเปลงแสงสีฟาสวางวาบขณะมองไปดานลาง
ฉับพลันนั้นเขาพลันแคนเสียงอยางเย็นชาออกมา มือหนึ่งตะปบไปยังอากาศ
ดานลาง
เสียง “ปง” ดังขึ้น มือลำแสงสีเขียวขางหนึ่ง ปรากฏขึ้นดานลาง และตะปบไปที่
ดานหนึ่งของปาน
มือลำแสงเปลงเสียงรองกึกๆ ออกมา มีขนาดแคสองสามจั้ง แตกลับมีพลานุภาพ
ที่นาตกตะลึงในปาดานลางเปนรัศมีวงกลมสิบกวาจั้ง!
เสียง “สวบ” ดังขึ้น กลับดูเหมือนเตรียมตัวไวนานแลว อีกมือหนึ่งยื่นออกไป
อยางรวดเร็ว นิ้วทั้งหารายรำไปทางลำแสงสีเทา
เสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้น เสนไหมสีแดงหาสายเปลงแสงสวางวาบพุงออกไปจากปลายนิ้ว
เปลงแสงสวางวาบอีกครั้งแลวสลายหายไปจากกลางอากาศ
ครูตอมาเสนไหมสีแดงก็เปลงแสงสีแดงประหลาดๆ สวางวาบ ชั่วครูก็รัดรึง
ลำแสงสีเทาเอาไวอยางแนนหนา
ลำแสงสี เ ทาหดตั ว เดี ๋ ย วเล็ ก เดี ๋ ย วใหญ ไ ม แ น น อน แม แ ต ล ำแสงก็ ก ะพริ บ
ระยิบระยับ ดูเหมือนตองการดิ้นรนใหหลุดพน
แตสองมือของหานลี่กลับรายอาคม กระตุนเสนไหมวิญญาณเพลิงทั้งหา
เสนไหมเพลิงทั้งหาเปลงเสียง “ฟู” ออกมา เปลวเพลิงสีแดงสดความสูงสองสามฉื่อ
ทะลักออกมา หอหุมลำแสงสีเทาเอาไวขางใน
เสียงกรีดรองคำรามดังออกมาจากลำแสงสีเทา ลำแสงสีเทาดูเหมือนจะออนแรง
เปนอยางมาก คาดไมถึงวาจะถูกเปลวเพลิงสีแดงสดกำจัดไปจนเกลี้ยง และเผยของ
สีขาวบริสุทธิ์ราวกับหยกตัดออกมา
หานลีเ่ ลิกคิ้วมือหนึ่งกวักเรียกดวยสีหนาไรความรูสึก
ชั่วขณะนั้นเปลวเพลิงบนผิวของมันพลันหมนแสงลง พุงสูงขึ้นไป
นิ้วทั้งหาของหานลี่กำแนน ดูดของสิ่งนั้นเขามาในมือ
คาดไมถึงวาจะเปนโครงกระดูกมือสีขาวสะอาด ผิวของมันมีอักขระสีทองกะพริบ
อยูรางๆ
เขามองปราดเดียวก็รูวา มือนี้คือ กรงเล็บมารของโครงกระดูกมนุษยมารหยก
แตแคตอนนี้ขนาดเล็กจนไมตางอะไรกับคนธรรมดา
แววตาเปล ง ประกายสองสามครั้ ง หานลี ่ พ ลิก กรงเล็ บ กระดูก ดูส องสามครั้ง
ในเวลาเดี ย วกั นก็ ใ ช เ นตรวิ ญ ญาณวารี ก ระจ า งและจิ ต สั ม ผั ส กวาดผ า นบนโครง
กระดูกมือโครงนี้
ผลลัพธคือ ใจสั่นสะทาน
กวาดจิตสัมผัสไป เห็นไดชัดวากรงเล็บโครงกระดูกนี้คือ สมบัติชิ้นหนึ่ง และยิ่งไป
กวานั้นยังดูเหมือนวาจะมีอานุภาพไมนอย แตหลังจากใชเนตรวิญญาณตรวจสอบ
กลับทำใหรูวามือขางนี้คือ กระดูกมือของมนุษยขางหนึ่ง
ของสิ่งนี้กลับเปนสมบัติวิเศษที่หลอมขึ้นจากโครงกระดูกมนุษย
ลำแสงสีเทาที่ติดอยูกับสมบัติชิ้นนี้เมื่อครู กลับเปนจิตวิญญาณของสมบัติชิ้นนี้
ครานี้เปลวเพลิงหายไปแลว จึงถูกกำจัดลงอยางงายดาย
ครานี้ก็เปนของที่ไรคาชิ้นหนึ่งเทานั้น!
แตทุกอยางนี้เปนแคสิ่งจำเปนเทานั้น สิ่งที่สำคัญก็คือ นิ้วมือของโครงกระดูก
มีปายหยกสีขาวนวลขนาดสองสามชุนฝงอยู
ดานบนเปลงแสงสีเงินเรืองๆ สลักตัวอักษรเล็กๆ เอาไวจำนวนมาก ทุกตัวลวน
เปลงแสงสีเงินเรืองๆ คาดไมถึงวาจะเปนตัวอักษรลูกออดสีเงิน
หานลี่แคมองไปสอบแวบ ก็สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง ปากพลันเอยพึมพำ
ออกมา
“คัมภีรหยกซุมประตูทองคำ”
คั ม ภี ร  นี ้ ค าดไม ถ ึ ง ว า จะเป นคั ม ภี ร  ห ยกซุ  ม ประตู ท องคำทั ้ ง เจ็ ด สิ บ สองหน า
และยิ่งไปกวานั้นยังเปนมวนที่สมบูรณ
ถึงแมวาจะมองแคสองสามแวบ แตบันทึกที่อยูบนนั้นก็ดูเหมือนวาจะเปนวิชาการ
หลอมอาวุธ
หานลี่ไดสมบัติชิ้นนี้มาดวยความบังเอิญ ถึงแมวาใบหนายังรักษาความเยือกเย็น
เอาไวได แตในใจนั้นดีใจขนาดไหนไมตองคิดก็รูแลว
แตตอนนี้ไมใชเวลาที่จะมาขบคิดถึงคัมภีรนี้อยางละเอียด
ทันใดนั้นมือของหานลี่พันเปลงแสงระยิบระยับ แปะยันตวิเศษลงไปบนกรงเล็บ
โครงกระดูกสองสามสาย จากนั้นก็หยิบกลองหยกออกมาใสลงไปอยางระมัดระวัง
แลวขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนี กลับจวนพำนักทันที
หานลี่กลับไมรูวา โชคดีที่เขาดำเนินการอยางเด็ดขาดไมลังเล!
ในตอนที่เขากลับมาถึงจวนไดไมนานนัก กลางอากาศจุดที่มีระเบิดวายุหวงเวลา
เกิดขึ้น ก็มีเขตอาคมลำแสงปรากฏขึ้น จากนั้นเขตอาคมลำแสงก็เปลงแสงสีขาว
เจิดจา สำเภาสีทองเรืองรองลำหนึ่งถูกสงออกมา
บนสำเภาลำนี้มีผูพิทักษสวรรคสวมชุดเกราะสีทองสองคนบินออกมาอยางชาๆ
คนหนึ่งเครายาวคิ้วหนา สวมผาโพกหัว คนหนึ่งรางกายอรชรออนแอนราวกับรูปวาด
คาดไมถึงวาจะเปนบุรุษวัยกลางคนคนหนึ่งและสตรีผูบำเพ็ญเพียรที่งดงามคนหนึ่ง
“จานฟาดินบอกวาตำแหนงนี้ไมผิดแน มีคลื่นหวงเวลาหลงเหลืออยู แตดูแลวคง
มีอาณาเขตไมนอย อาจจะระเบิดขึ้นดวยความบังเอิญกระมัง” สตรีกวาดสายตาไป
ปากเรียวเล็กพนคำพูดราบเรียบออกมา
“อืม ไมใชระเบิดวายุหวงเวลาที่รุนแรงจริงๆ ดูแลวคงจะเกิดแคระยะเวลาสั้นๆ
มิเชนนั้นคงไมทำลายไปแคภูเขาเล็กๆ ลูกหนึ่ง” บุรุษเครายาวใชจิตสัมผัสตรวจสอบ
ทุกอยางในบริเวณรอบๆ รอบหนึง่ แลวเอยกับสตรีผูบำเพ็ญเพียรไปดวยอยางแผวเบา
ตอนที่ 1350 คาถารอยชีพจรหลอมสมบัติ
“ทวากอนหนานี้หวงเวลานี้มั่นคงเปนอยางมาก ไมมีทาทีจะระเบิดเลยสักนิด
เหตุใดจูๆ ถึงมาระเบิดที่นี่ ผูบำเพ็ญเพียรที่อาศัยอยูแถวนี้คือผูใด?”
สตรีผูบำเพ็ญเพียรขมวดคิ้วดำขลับ แลวเอยถามขึ้น
“นี่มันแปลกตรงไหน! คลื่นวิญญาณของหวงเวลา แตเดิมก็ยากที่จะคาดเดาอยูแลว
ถึงแมวาจานฟาดินจะมหัศจรรยมาก แตก็ไมอาจคาดเดาได เรื่องนี้ไมใชเรื่องที่หายาก
อะไร สวนที่นี่ ดูเหมือนวาจะถูกแบงใหผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงใช เจาของที่นี่
นาจะเปนผูพิทักษยมโลกนิล” บุรุษลูบเคราขณะเอยตอบกลับอยางราบเรียบ
“จานฟาดินไมพบรองรอยของเผาประหลาด ดูแลวคงไมมีเผาประหลาดแอบเขา
มาที่นี่ เชนนั้นก็เรียกผูพิทักษยมโลกนิลที่อยูแถวนี้มาซักถามใหละเอียดเถิด ดูวาเขารู
เรื่องระเบิดวายุ ห ว งเวลาหรื อไม?” สตรีผูบำเพ็ญเพียรชู มื อขึ้ นสำแดงจานอาคม
เปลงแสงระยิบระยับออกไป หลังจากรายอาคมรอบหนึ่ง ถึงไดเสนอขึ้นพร อมกับ
ขมวดคิ้ว
“เหตุใดตองยุงยากขนาดนั้น! หากไมใชเพราะเผาวิญญาณแอบเขามา ตอ
ใหระเบิดวายุหวงเวลานี้มีความผิดปกติ ก็ไมเกี่ยวอะไรกับพวกเรา อยาลืมละ พวก
เราไมไดวางขนาดนั้น ยังมีอีกเรื่องตองไปตรวจสอบ ที่นั่นเปนสถานที่ที่จานอาคมฟา
ดินคาดการณวาอาจจะมีระเบิดวายุหวงเวลาเกิดขึ้น” ผูบำเพ็ญเพียรเครายาวกลับสั่น
ศีรษะ สีหนาเครงขรึมขึ้น
“พี่หมาพูดมีเหตุผล นองหญิงดื้อรั้นไปหนอยเอง พวกเราไปกันเถิด” สตรี
ผูบำเพ็ญเพียรลังเลเล็กนอย ดูเหมือนจะนึกอะไรออก แลวเอยอยางเห็นดวยพรอมกับ
หัวเราะเบาๆ
ดูเหมือนวานักพรตเครายาวจะพอใจกับคำตอบของสตรีผูบำเพ็ญเพียรเปนอยางมาก
ทันใดนั้นพลันพยักหนาลง กลายเปนสายรุงสีเหลืองบินลวงหนากลับไปยังสำเภาทอง
สตรีผูบำเพ็ญเพียรกวาดสายตาไปรอบๆ รอบหนึ่ง และไมไดคิดจะรั้งรออยูที่นี่อีก
พลางกลับไปยังสำเภาเชนกัน
หลังจากผานไปชั่วครูสำเภาทองพลันสั่นไหวในเขตอาคมลำแสง แลวหายวับไป
เขตอาคมสงตัวลำแสงที่อยูดานลางก็หายวับไปเชนกัน
หานลี่ที่อยูในจวนพำนักกลับไมรูวา ภายในระยะเวลาสั้นๆ นี้จะมีผูพิทักษระดับ
หลอมสุญตาสองคนมาตรวจสอบที่นี่ไปรอบหนึ่ง แมกระทั่งเรื่องที่จะเรียกเขามา
ซักถามก็ไมเกิดขึ้น แลวพลันจากไปอยางรีบรอน
แตเพื่อความรอบคอบ เมื่อเขากลับมายังจวนพำนักก็ปดเขตอาคม ทำใหไขมุก
หมื่นมังกรทั้งหมดที่คอยตรวจตราอยูหยุดทำงานลงชั่วคราว เพื่อไมใหถูกชนชั้นสูง
มองเห็นอะไรเขา จากนั้นเขาก็เขาไปในหองลับ เริ่มศึกษามือกระดูกที่ไดมาใหม
ถึงแมวามือกระดูกนั้นจะไมเหมือนใคร ดูเหมือนจะใชวิธีการหลอมอาวุธที่ไมเคย
เห็นมากอนหลอมขึ้น แตหานลี่กลับไมคอยสนใจเรื่องนี้นัก
เขาอาปากออกอยา งไม ลั ง เล พนกระบี่ส ีท องความยาวสองสามชุ น เล ม หนึ่ ง
ออกมา กระบี่เลมนี้สั่นคลอนเบาๆ กลายเปนเสนไหมสีทองบางๆ สายหนึ่งพุงออม
ผานมือกระดูกไปอยางรวดเร็ว นิ้วทั้งหาของกระดูกถูกสับออกเปนสองสวนอยาง
เงียบเชียบ
แผนหยกความยาวสองสามชุนปรากฏออกมา และยิ่งไปกวานั้นสั่นคลอนเล็กนอย
ก็บินขึ้นไปบนทองฟาอยางชาญฉลาด
หานลี่กลับคาดเดาเอาไวอยูแลว เขากลับพลิกฝามือ เขตอาคมไรรูปรางกลุมหนึ่ง
ปรากฏขึ้นจากกลางอากาศ ชั่วครูก็พันรัดแผนปายหยกเอาไวไมอาจดีดตัวออกไดเลย
แมแตนอย
ตะปบแผนปายหยกสีขาวนวลเขามาอยูในมือ แววตาของหานลี่เปลงประกายเริ่ม
พิจารณาดูอยางละเอียด
อักขระสีเงินเล็กๆ บนแผนหยก บันทึกวิธีการหลอมอาวุธที่เขาเคยสัมผัสมาแลว
ครั้งหนึ่งเอาไว ดานในไดอธิบายถึงสิ่งที่สามารถโคนลมความรูดานการหลอมอาวุธที่
ผานมาของหานลี่ไปกวาครึ่ง ชั่วครูก็ดึงดูดความสนใจของเขาเปนอยางมาก
แตแคตัวอักษรลูกออดสีเงินนี้ไมเหมือนกับตัวอักษรโบราณ หากไมใชเพราะเขา
เคยเรียนรูหนากระดาษที่ฉีกขาดมาอยางหนัก ตัวอักษรที่เพิ่งรูจักชนิดนี้ เกรงวาคง
ไมอาจเขาใจไดเลยสักนิด
แตเชนนั้น หานลี่ก็ศึกษาคัมภีรหยกที่ไดมาใหมภายในอึดใจเดียว สามวันสามคืน
ถึงจะเขาใจสิ่งที่อยูในบันทึกอยางคราวๆ เทานั้น
ในนั้นนอกจากแนะนำการหลอมอาวุธอยางชัดเจนแลว เนื้อหาที่สำคัญที่สุดก็คือ
บันทึกความสามารถของคาถาชนิดหนึ่งที่เรียกวา “คาถารอยชีพจรหลอมสมบัติ”
คาดไมถึงวาความสามารถนี้จะใชชีพจรกระดูกกายเนื้อเปนพื้นฐาน ฝกฝนสวนตางๆ
ของรางกายจนกลายเปนเคล็ดวิชาลับที่นาเหลือเชื่อของสมบัติอาคมที่แตกตางกัน
หากไมใชเพราะกอนหนานี้หานลี่เ คยอานเคล็ดวิชาหลอมยุทธภั ณฑมาก อน
แคอานคาถานี้ คงคิดวาเรื่องนี้เปนแคเรื่องไรสาระเทานั้น
แตการอธิบายวิธีการหลอมอาวุธใหมตอนแรก กลับทำใหเขาถึงบางออ อดที่จะ
รูสึกเชื่อขึ้นมามากกวาครึ่งไมได และยิ่งไปกวานั้นเห็นไดชัดวามือกระดูกที่เขาไดมา
นาจะเปนสิ่งที่ฝกฝนเคล็ดวิชานี้โดยเฉพาะ มิเชนนั้นมือกระดูกขางหนึ่งจะหนีออกมา
จากระเบิดวายุหว งเวลาไดเองไดอยางไร
ตามที่ในคัมภีรไดอธิบายเอาไว ผูที่ฝกฝนความสามารถนี้ทั้งสามารถทำใหรางกาย
กลายเปนสมบัติไดในทีเดียว และยังสามารถคอยๆ ฝกฝนได แตไมวาจะชนิดไหน
สุดทายสิ่งที่ตามหาลวนเปนการฝกฝนรางกายใหสำเร็จ เขาใกลระดับที่ใกลเคียงกับ
เทพเจา รางกายวัชระที่ไมพังทลายของสำนักพุทธ
หลั ง จากที ่ ฝ  ก ฝนเคล็ ด วิ ช าลั บ สำเร็ จ ไม ว  า พลั ง ลมปราณจะเป น อย า งไร
อาศัยเพียงกายเนื้อ ชูมือขึ้นก็มีความสามารถเขยาโลกไดแลว รางกายใกลเคียงกับ
คำวาอมตะ
ถึงแมวาในคัมภีรนี้จะอธิ บายการฝกฝนเคล็ดวิชาใหสำเร็จ เอาไวอยางง า ยๆ
และมีเพียงไมกี่คำพูดเทานั้น หานลี่ก็ยังมองเห็นความลับที่เผยออกมา ตัวเองพลัน
สูดลมหายใจเย็นเยียบเขา ไปเฮือกหนึ่ ง ตอใหในนั้นกลาวอยา งเกิ นจริง ไปหน อย
แตความรายกาจของความสามารถนี้ไมตองคิดก็รูแลว
แน น อนว า วิ ธ ี ก ารฝ ก ฝนจนทำให ร  า งกายกลายเป น สมบั ต ิ น ั ้ น มี เ งื ่ อ นไข
ความแข็งแกรงทางรางกายของผูบำเพ็ญเพียรที่ฝกฝนอันนาเหลือเชื่อ
หากฝกฝนคาถานี้ จากหานลี่ที่ฝกฝนคาถาวัชระสำเร็จแลวก็ยังพอฝกฝนไดแคใน
ขั้นตนเทานั้น วันขางหนาหากตองฝกฝนสวนตางๆ ของรางกายตอ จนสามารถใช
ความสามารถตางๆ ในคัมภีรนั้น กลับจำตองทำใหก ายเนื้ อค อยๆ แข็งแกร ง ขึ้ น
ทีละกาวๆ ขึ้นไปเทานั้น
มิเชนนั้นหากกายเนื้อรับผลจากการฝกฝนไมไหว รางกายของผูฝกฝนจะระเบิดออก
แลวจบชีวิตลง
ถึงอยางไรเสียการฝกฝนรางกายใหเปนดั่งสมบัติตางๆ เดิมทีก็เปนเรื่องที่นา
เหลือเชื่ออยูแลว แทบจะเปนเรื่องที่อัศจรรย
เขาใชมือหนึ่งลูบไปบนแผนปายหยก ขบคิดอยูนานโดยไมไดปริปากใดๆ
"ดูแลวคงไมจำเปนตองตามหาเคล็ดวิชาอื่นแลว จำตองเลือกฝกเคล็ดวิชาผูฝกตน
คูบำเพ็ญเพียรแลว” หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งพลางเอยพึมพำกับตัวเอง
เมื่อคาถารอยชีพจรหลอมสมบัติปรากฏขึ้น ก็กลายเปนฟางเสนสุดทายที่กดอยู
บนรางของเขา
ทำใหสุดทายแลวเขาที่เดิมทีลังเลวาจะเลือกเคล็ดวิชานี้หรือไม จำตองตัดสินใจ
วางแผนจะฝก ฝนเคล็ ดวิชาผูฝ  กตนคู บ ำเพ็ ญเพียรที่ ถ ูก มนุษย และป ศาจสองเผ า
พัฒนาขึ้นรวมกัน
ฉับพลันนั้นเขาพลันเก็บคัมภีรในมือลงไป แปะยันตตองหามเสร็จแลวก็เก็บลงไป
ในกำไลเก็บของอีกครั้ง พลิกฝามือควักคัมภีรหยกสีแดงออนมวนหนึ่งออกมา
เคล็ดวิชามารค้ำฟาที่หานลี่ไดมาหลังจากออกมาปากของผูเฒาเครางามแลว
ก็คัดลอกทั้งหมดลงในคัมภีรนี้ เพื่อไมใหลืมคาถาอะไรไปเมื่อเวลาผานไปนานเขา
“ในเมื่อเคล็ดวิชานี้แบงออกเปนสามสวน และยังแบงออกอยางพิเศษขนาดนี้
เรียกมันวาเคล็ดวิชาพระพรหมมารก็แลวกัน”
หานลี ่ ก วาดสายตาไปบนคั ม ภี ร  เอ ย พึ ม พำด ว ยเสี ย งแผ ว เบา แตะคั ม ภี ร  ไ ป
ตรงหนาผาก หลับตาทั้งสองขางลง ตั้งใจเรียนรูเคล็ดวิชานี้อยางจริงจัง
ครั้งที่แลวตอนที่เขาอยูในหอคอยศิลาของเมืองเทวะสวรรค ก็เคยลองฝกฝนเคล็ดวิชา
ชนิดนี้มาเล็กนอย แตไมไดใชยาลูกกลอนชวยเสริม ประสิทธิภาพจึงไมเทาไหรนัก
สวนสองสามเดือนตอมา หานลี่ใชเวลาสวนใหญกับการอยูในหองลับ ระหวางนั้น
ยังหาเวลานิดหนอย ออกมากระตุนการเจริญเติบโตของสมุนไพรสวนหนึ่ง และเริ่ม
ปรุงยาชำระพิสุทธิ์
ยาลู ก กลอนนี ้ ค ู  ค วรกั บ ยาลู ก กลอนระดั บ เทพแปลง หลั ง จากที ่ ห านลี ่ ใ ช ย า
สมุนไพรจำนวนมาก ก็ยังคงปรุงขึ้นมาไดแคสองสามขวดเทานั้น
แตหานลี่กลับไมคอยสนใจสถานการณเชนนี้นัก
สำหรับเขาแลว ยิ่งปรุงหลายครั้งก็ยิ่งคุนเคยมากยิ ่งขึ้น ขอแคเขามีเวลาพอ
อัตราการประสบความสำเร็จก็จะเพิ่มขึ้นแลว
การปรุงยาในครานี้ เพียงพอจะทำใหเขาฝกฝนในชวงนี้ไดแลว
แนนอนวาในเวลาเดียวกันที่ฝกฝนเคล็ดวิชามารค้ำฟา หานลี่ก็หาเวลาวางฝกฝน
‘คาถารอยชีพจรหลอมสมบัติ’ ไปดวย
เชนนั้นเวลาพักผอนทั้งหมดจึงผานไปในชั่วพริบตา
ในระหวางนั้นก็ไมมีผูใดเขามารบกวนการฝกฝนของหานลี่อีก ดูแลวหากไมมี
ผลประโยชนหรือเสียประโยชน พวกมารเฒาหมิงและตัวประหลาดเฒาจินก็ คงจะ
ขี้เกียจมาสนใจเขาอีก
แนนอนวาหานลี่รูสึกเบิกบานใจกับเรื่องนี้เปนอยางมาก
ดังนั้นเมื่อเหลืออีกสองสามวันจะครบครึ่งป สายรุงสีเขียวสายหนึ่งก็พุงออกมา
จากไอหมอกที่ งดงาม ลอยโคจรอยูใ กลๆ แลวถึงได แหวกอากาศพุง ไปทางเมื อง
เทวะสวรรค
หลังจากที่เขาเขารวมภารกิจตรวจตราอีกสองสามเดือนแลว ถึงจะมีเวลากลับมา
ยังจวนพำนักอีกครั้ง เพื่อฝกฝนตอ
หลังจากนั้นสามเดือนหานลี่ก็กลับมาอีกครั้งโดยไมไดรับความเสียหายเลยแมแตนอย
เมื่อกลับมาถึงจวนพำนักก็เขาไปในหองลับในทันที กักตนบำเพ็ญเพียรอีกครั้ง
หลังจากครบเวลาครึ่งปอีกครั้ง ถึงไดจากไป
เชนนั้น เวลาจึงคอยๆ ผานไป ชั่วพริบตาก็ผานมาหกสิบปแลว
ชวงเวลาแคนี้ไมพอใหพูดถึงสำหรับผูบำเพ็ญเพียร แตในชวงเวลานั้น แดน
วิญญาณกลับเกิดคลื่นใตน้ำขึ้น ชนชั้นสูงของเผาตางๆ แทบจะมารวมตัวประชุมกัน
บอยๆ ราวกับวากำลังเตรียมการอะไรสักอยาง ผูที่มีปฏิภาณไหวพริบดีของเผาตางๆ
แทบจะสัมผัสไดถึงอันตรายที่ยิ่ง ใหญก อนเกิดพายุ และทยอยกันเริ่มเตรียมการ
ปองกันดวยตนเองอยางเงียบๆ
ตรงเขตแดนระหวางเผามนุษยและเผาตางๆ แนนอนวาเมืองเทวะสวรรคก็สัมผัส
ไดถึงความเปลี่ยนแปลง อยางนอยที่สุดขณะที่ผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นออกลาดตระเวน
ภายนอก ก็ยังสัมผัสไดถึงความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ
วันนี้ กลางอากาศเหนือบึงรุงอรุณ ผูบำเพ็ญเพียรกลุมหนึ่งบินไปมาอยูกลาง
อากาศต่ำๆ อยางชาๆ
ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ยรสิบ คนลว นสวมเกราะสงครามสีด ำมะเมื ่อม ชายชราเคราสั้น
คนหนึ่งที่อยูตรงกลาง สวมชุดเกราะโบราณสีเขียว กลับเปนผูพิทักษยมโลกนิลระดับ
เทพแปลงที่เปนผูนำ
ไมวาผูพิทักษเหล็กทมิฬสิบคนนั้นหรือวาชายชราผูเปนผูนำ ลวนมีสีหนาเครงขรึม
มือถือจานอาคมประหลาดเอาไว ในเวลาเดียวกันสายตาก็กวาดไปรอบๆ ดานลาง
ไมหยุด ราวกับวาดานลางจะมีสิ่งที่นากลัวกระโจนขึ้นมาไดทุกเมื่ออยางไรอยางนั้น
ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รกลุ  มนี ้ ไ ม ม ีผ ู ใ ดกล า วอะไรเลยสัก คน หลั ง จากบิ น ไปมาอยาง
ระแวดระวังหนึ่งชั่วยาม ฉับพลันนั้นจานอาคมในมือของผูพิทักษเหล็กทมิฬคนหนึ่งก็
เปลงเสียงรองหึ่งๆ ออกมา ถึงแมวาเสียงจะไมดังนัก แตก็ยังทำใหทุกคนพากันมองไป
ดวยสีหนาที่เปลี่ยนสี
“เหตุใดถึงมีเผาประหลาดปรากฏตัวขึ้นอีกแลว นี่มันบอยเกินไปหนอยกระมัง!
เผาประหลาดเหลานี้เลนบานอะไรกัน เหตุใดถึงพยายามแอบเขามาที่ชายแดนของ
พวกเราราวกับไมสนใจชีวิตของสายลับอยางไรอยางนั้น ครั้งที่แลวกลุมของพวกเราก็
เพิ่งจะเสียสมาชิกไปสองคน” ชายรางใหญที่ดูโหดเหี้ยมคนหนึ่ง มองเห็นจานวิญญาณ
ประหลาดในมือของสหายรวมวิถีเปลงแสงสีขาวออกมา ก็ทนไมไหวเอยปากกนดา
ออกมา
“หึ นี่ยังดีนะ ไดยินวาครึ่งปกอนกองกำลังที่สี่พบเผาถ้ำสูญที่หายาก ผลคือ
ทั้งหมดแมแตอาวุโสผูนำกลุม ยังลมตายไปกวาครึ่ง” สตรีผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคน
อีกคนหนึ่งกลับเอยอยางเย็นชาออกมา สีหนาเครงขรึมเชนกัน
ตอนที่ 1351 เงามรกต
“ในเมื่อจานวิญญาณประหลาดรายงานแลว ไมไปตรวจสอบ หลังจากที่พวกเรา
กลั บ ไปคงได ร ั บ โทษหนั ก เช น กั น สายลั บ เผ า ประหลาดส ว นใหญ ล  ว นไม ไ ด มี
พลังแข็งแกรงมากนัก ทุกคนแคระวังหนอย ก็นาจะจัดการเจาสายลับนั่นไดอยาง
ราบรื่นแลว” ชายชราที่สวมชุดเกราะสีนิล ขมวดคิ้วขณะออกคำสั่ง
เมื่อไดยินชายชราระดับเทพแปลงเอยปากแลว ผูพิทักษเหล็กทมิฬที่เหลือตางก็
ทำไดเพียงปดปากไมพูดอะไร ทั้งที่ใจจริงมิไดยินยอม
จากนั้นเมื่อไดยินคำสั่งของชายชราอีกครั้ง กลุมคนก็แบงออกเปนสองสามกลุม
เขาไปใกลจุดที่จานวิญญาณรองเตือน
กลุมผูบำเพ็ญเพียรเปลี่ยนทิศทาง หลังจากบินไปไดยี่สิบสามสิบลี้ ฉับพลันนั้นก็มี
กองหินระเกะระกะปรากฏขึ้นกลางอากาศ
กองหินนี้ดูแลวธรรมดาเปนอยางมาก แตใกลๆ กับกองหินกลับมีบึงน้ำที่มีไอสีมวง
ทะลักออกมา
“ดูแลวคงเปนที่นี่แหละ อยาใหมันหนีไปได” ชายชรามองจานวิญญาณประหลาด
ในมือ พยักหนาอยางมั่นใจ แลวโบกมือออกคำสั่ง
ชั ่ ว ขณะนั ้ นผู  พ ิ ท ั ก ษ เ หล็ ก ทมิ ฬสิ บ กว า คนที ่ อยู  ด  า นหลั ง ก็ ไ ม ไ ด ก ล า วอะไร
ทยอยกันพนสมบัติอาคมออกมาปกปองราง จากนั้นถึงไดทยอยกันแผจิตสัมผัสลงไป
ดานลาง
หลังจากที่ผานไปเปนเวลาหนึ่งกาน้ำชา ผูบำเพ็ญเพียรทุกคนรวมทั้งชายชราตาง
ก็หนาเปลี่ยนสี
“ระยะใกลเชนนี้ คาดไมถึงวาจิตสัมผัสจะตรวจสอบไมได! ดูแลวมีเพียงตองลงไป
ตรวจสอบเองแลว สหายฉิน!” ชายชราสูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง ฉับพลันนัน้ ก็
หันหนาไปเอยเรียกชายวัยกลางคนตาตี่คนหนึ่ง
“ทานผูนำโปรดวางใจ ขารูวาตองทำอยางไร” ชายวัยกลางคนผูนั้นตอบกลับดวย
ความเฉียบแหลม ทันใดนั้นมือหนึ่งก็ตบไปที่กำไลเก็บของตรงขอมือ ในมือมีสิ่งของ
ประหลาดราวกับไขมุกกลมๆ สีดำปรากฏขึ้นกองหนึ่ง
เขาชูมือขึ้น ไขมุกกลมๆ เหลานี้กลิ้งลงไปดานลาง ในเวลาเดียวกันปากพลัน
บริกรรมคาถา
เสี ย งเปรี ้ ย งปร า งดั ง ขึ ้ น หลั ง จากผิ ว ของไข ม ุ ก กลมๆ เปล ง แสงสี ฟ  า ออกมา
พลันขยายใหญขึ้น กลายเปนตัวตอเหล็กที่มีประจุไฟฟารอบกาย ทุกตัวมีขนาดเทา
กำปน สีดำสนิท ปกทั้งสองเปลงเสียงหึ่งๆ ออกมา
คนที่เหลือตางลอยนิ่งอยูกลางอากาศ มีเพียงชายวัยกลางคนตาตี่ที่นั่งสมาธิลง
อยางชาๆ สองมือพลันรายอาคม ตัวตอเหล็กรอยกวาตัวรอนลงสูพื้นดิน จนหางจาก
พื้นดินเพียงสิบกวาจั้ง แลวแตกฮือออกพุงไปทั่วทุกสารทิศ
ดูแลวผูบำเพ็ญเพียรที่ออกลาดตระเวนกลุมนี้คงไดรับบทเรียนจากผูที่มากอน
มานานแลว จึงไมมีทางรอนลงไปบนพื้นเพื่อตอสูกับสายลับเผาประหลาดในสภาพ
ภูมิประเทศที่ซับซอนงายๆ
มิเชนนั้นจากวิธีการประหลาดตางๆ อันคาดการณไมไดของเผาประหลาด ตอให
พวกเขาสังหารอีกฝายได ตนเองก็ไมตองบาดเจ็บลมตายเชนกัน
เชนนั้น แนนอนวาจึงไมสูควบคุมหุนเชิดลงไปตรวจสอบจะดีกวา
แต ต ั ว ต อเหล็ ก เหล า นั ้ น เพิ ่ ง จะแยกตั ว ออกจากกั น ได ไ ม น าน จานวิ ญ ญาณ
ประหลาดในมือของทุกคนก็สั่นเทา และเปลงเสียงกรีดรองแหลมสูงออกมาในเวลา
เดียวกัน แมกระทั่งจานวิญญาณประหลาดบางอันยังระเบิดลำแสงวิญญาณเจิดจา
ออกมา ดูแลวนาตกตะลึงเปนอยางยิ่ง
“แยแลว เผาประหลาดเขาใกลพวกเราแลว อยูในระยะรอยจั้งแลวยังไม หยุด
เคลื่อนเขามาใกลอีก” ชายรางใหญหนาตาโหดเ**ยมผูนั้น เห็นจานอาคมเกิดความ
เปลี่ยนแปลงขึ้น ชั่วขณะนั้นก็รองตะโกนออกมา
ไมใชแคเขา คนที่เหลือเห็นความเปลี่ยนแปลงของจานอาคมในมือก็เกิดความ
วุนวายขึ้น ลวนกวาดสายตามองไปรอบๆ ดวยดวงตาที่เบิกโพลง
แตในรัศมีรอยจั้ง รอบๆ ดานทั้งบนและลางลวนวางเปลา ไมมีสิ่งใดอยูเลยสักนิด
“สำแดงความสามารถ รีบทำลายเคล็ดวิชาอำพรางตนของมัน หากถูกเขาประชิดตัว
จะซวยไปใหญ” ชายชรารองตะโกนออกมา ทำใหผูใตบังคับบัญชารูสึกแสบแกวหู
ทันใดนั้นมือหนึ่งก็ชิงพลิกฝามือ ในมือมีกระจกทองแดงปรากฏขึ้น
ชายชราโยนกระจกทองแดงขึ ้ น ไปเหนื อ ศี ร ษะ ชั ่ ว ขณะนั ้ น พลั น กลายเป น
พระจันทรทรงกลด ผิวของมันเปลงแสงสวางวาบ พนเสาลำแสงสีเขียวขนาดเทาปาก
ชามสายหนึ่งออกมา และภายใตการหมุนวนของพระจันทร เสาลำแสงก็กวาดไป
ทั่วทุกทิศในเวลาเดียวกัน แตจุดที่ลำแสงสีเขียวกวาดผานไปลวนไมพบความผิดปกติ
เลยสักนิด
ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือตางก็ทยอยกันสำแดงสมบัติทำลายการอำพรางตัวอยาง
ธงอาคมออกมา ทุกแหงที่ลำแสงวิ ญ ญาณกวาดผ า นไป ก็ไมพบอะไรเช นกั น แต
จานวิญญาณประหลาดในมือของทุกคนกลับสงเสียงกรีดรองที่แหลมสูงขึ้นเรื่ อยๆ
ออกมา นั่นหมายความวาเผาประหลาดเขามาใกลแคคืบแลว
ครานี้ทุกคนตางมีสีหนาตกตะลึงระคนลนลาน ชายชรามีสีหนาขาวซีดไปเล็กนอย
ภายใตสถานการณเชนนี้ยังไมถูกทุกคนพบ ไมตองสงสัยเลย สายลับ เผา
ประหลาดผูนี้หรือสองสามคนผูนี้ที่กำลังเขาใกลพวกเขา จะตองเปนเผาประหลาดที่
รับมือยากที่สุดสองสามชนิดในตำนานแน ดูจากทาทางแลวไมเพียงจะไมไดคิดหนี
กลับคิดจะเขามาสังหารพวกเขา
“วางเขตอาคมลำแสงเบญจธาตุ! สมบัติปองกันธรรมดาๆ ไมอาจตานทานพวกมันได”
แทบจะถูกบี บ ออกมาจากลำคอและตา ชายชราสวมชุดเกราะสี เ ขี ย วร องตะโกน
ออกมา
ทันใดนั้นเขาก็ไมสนใจกระจกทองแดงที่เหนือหัวของตนเอง พลิกฝามือ ในมือมี
สมบัติที่เหมือนกับคันธนูสีแดงปรากฏออกมาคันหนึ่ง โยนออกไปกลางอากาศ ชั่วครูก็
กลายเปนลำแสงสีแดงกลุมหนึ่ง กะพริบวาบระยิบระยับ
ผูพิทักษเหล็กทมิฬที่เหลือไดรับการรองเตือนของชายชราก็ถึงบางออ ทยอยกัน
ลูบไปยังสมบัติตางๆ บนราง และหมายจะสำแดงออกมากลางอากาศพรอมกัน
แตครานี้เพิ่งจะตัดสินใจ ก็สายไปเสียแลว
เสียงปงๆ ดังขึ้น จานวิญญาณประหลาดในมือของผูพิทักษเหล็กทมิฬสามคน
ระเบิดออกพรอมกัน
จากนั้นใตเทาของทั้งสามคน ก็มีเงาลวงตาจางๆ สองสามสายปรากฏขึ้น
เมื่อเงาสองสามสายนี้ปรากฏขึ้น รางกายก็พลิ้วไหว รางยืดยาวขึ้นพลางกระโจน
เขาไปหาผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้น
“เหวอ”
ในที่สุดผูพิทักษเหล็กทมิฬทั้งสามก็พบเงาสีเทาเหลานั้น ปากจึงอดที่จะรองอุทาน
ออกมาไมได แตสมบัติที่ปกปองรางและลำแสงวิ ญญาณที่ป กปองรางนั้ นไม อาจ
ตานทานไดเลยสักนิด ชั่วครูเงาสีเทาสองสามสายก็แทรกเขามาในรางกาย
ชั่วขณะนั้นคนเหลานั้นก็เปลงเสียงรองที่เจ็บปวดออก รางกายรวงลงสูพื้นดิน
พรอมกับมือที่กุมศีรษะ คาดไมถึงวาจะมีทาทางไมรูวาเปนหรือตาย
“หุนเชิดเงา คนของเผาเงา รีบสำแดงความสามารถและสมบัติธาตุอัสนีเร็วเขา”
เมื่อเห็นเงาสีดำสองสามสาย ชายชราหนาเปลี่ยนสีพลางรองตะโกนออกมาดวยความ
ลนลาน
จากนั้นเขาพลันอาปากออกในทันที พนกระบี่บินสีเงินขาวออกมาเลมหนึ่ง
เมื่อกระบี่เลมนี้ออกมาจากปาก ก็กลายเปนประจุไฟฟาสีเงินขาวสายหนึ่งหอหุม
รางของชายชราเอาไวขางใน
ดานหลังของชายชรามีเงาสีเทาสายหนึ่งปรากฏขึ้นพลางกระโจนเขามา หลังจาก
เสียงอัสนีฟาดลงมา ก็ถูกประจุไฟฟาดีดออกไปสองสามจั้งในทันที ทาทางไมอาจเขา
มาประชิดรางไดเลยสักนิด
เผาเงาที่มีเชื่อเสียงยิ่งใหญ ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นที่ไมไดรับอันตรายตางก็ไมไดไม
คุนเคยเทาใดนัก แตนอกจากทั้งสองคนที่ปลอยสมบัติธาตุอสนีออกมาพรอมกันแลว
คนที่เหลือรางกายก็รูสึกเย็นเยียบ รองอุทานวาซวยแลวออกมาในใจ
ธาตุอสนีลวนเปนธาตุที่หาไดยาก พวกเขาจะมีสมบัติธาตุนี้ทุกคนไดอยางไร
สวนเผาเงานั้นยิ่งเปนเผาประหลาดในเผาประหลาดชนิดหนึ่ง นอกจากสมบัติธาตุอสนี
และเคล็ดวิชาพิเศษที่สามารถควบคุมมันไดแลว เคล็ดวิชาความสามารถที่เหลื อก็
ไมมีผลเทาใดนัก
ชั่วพริบตาที่ลังเลไป ใตฝาเทาของคนเหลานี้ก็มีเงาสีเทาที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้ว
ปรากฏขึ้น
ครานี้ผูพิทักษเหล็กทมิฬพลันมองสบตากันแวบหนึ่งดวยความตกใจ รองตะโกน
ออกมา กลายเปนสายรุงสองสามสายพุงตรงไปทั่วทุกสารทิศ คิดจะสลัดเงาสีเทาใต
ฝาเทาออก
แตเงาสีเทาเหลานี้ดูเหมือนกับเปนเงาของผูบำเพ็ญเพียรอยางไรอยางนั้น คาดไม
ถึงวาจะกลายเปนลำแสงสีเทาไลตามไปดุจเงาตามตัว ไมมีทาทีจะหยุดตามเลยสักนิด
ชั่วพริบตาลำแสงหลีกหนีของเหลาผูบำเพ็ญเพียรและหุนเชิดเงาเหลานั้นก็หนีออกไป
ยี่สิบสามสิบจั้ง ที่เดิมจึงเหลือเพียงชายชราเกราะสีเขียวและผูพิทักษเหล็กทมิฬอีก
สองคนที่มีสมบัติธาตุอสนีปกปองราง
ทวาครานี้เบื้องหนาของพวกชายชราเริ่มมีเงาสีเทาอื่นๆ ปรากฏขึ้นอยางตอเนื่อง
ปรากฏขึ้นเจ็ดแปดสายในคราเดียว กระโจนเขามาหาเขาสามคนไมหยุด แตลวนถูก
สมบัติธาตุอสนีของพวกเขาตานทานไวดานนอกทามกลางเสียงฟาผา
แตเงาสีเทาเหลานี้ดูเหมือนวาจะไมรูจักความเจ็บปวด ยังคงปรากฏขึ้นใหมไมหยุด
ชายชราเกราะสีนิลสูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง ครานี้เขาไมสนความเปนตาย
ของผู  ใ ต บ ั ง คั บ บั ญ ชาอี ก ส ว นข อ มื อ ของตนเองพลั น เปล ง แสงสี แ ดงออกมา
ยันตนิรนามปกหนึ่งปรากฏขึ้น
“เดรัจฉาน รนหาที่ตาย!”
ชายชรามองไปแวบหนึ่งดวยความอำมหิต กระโจนเขามาหาเงาสีเทาสายหนึ่งอีกครั้ง
สีหนาโหดเหี้ยมฉายแววสวางวาบ หลังจากเสียงครืนๆ ดังขึ้น ยันตในมือก็กลายเปน
ประจุไฟฟาสีฟาสิบกวาสายพนออก ตัดสลับกันโจมตีไปยังเงาสีเทาสายนั้น
เสียงฟารองดังอึกทึก ประจุไฟฟาทั้งหมดระเบิดออก เงาสีเทาสายนั้นเปลงเสียงรอง
ครืนๆ ออกมา ผิวของรางกายถู กตาขายไฟฟาชั้ น หนึ ่ง โจมตี อยู จนเริ่มพังทลาย
ออกเปนชั้นๆ
ชายชราเห็นเชนนั้น พลันรูสึกดีอกดีใจ ดูแลวการเสียเงินกอนใหญไปครั้งที่แลว
เพื่อซื้อยันตอสนี คงมีประโยชนแลวจริงๆ
ทันใดนั้นเขาพลันพลิกฝามือ ยันตอสนีอีกตั้งหนึ่งปรากฏขึ้น กระตุนเล็กนอย
ประจุไฟฟาสีฟาสิบกวาสายโจมตีออกไปอยางบาคลั่ง
ประจุไฟฟาเบื้องหนาเองก็โจมตีไปยังเงาสีเทาที่อยูใกลๆ สายนั้น เสียงแคนเสียง
อยางเย็นชากลับดังออกมาจากรอบๆ ดาน
แทบจะในเวลาเดียวกัน เงาสีเทาเบื้องหนาพลันมีมือสีเขียวปรากฏขึ้น นิ้วทั้งหา
ขยับเล็กนอย ตะปบประจุไฟฟาสองสายนั้นเขามาอยูในมือไดอยางไรก็ไมรู
หลั ง จากเสี ย งปริ แ ตกดั ง ขึ ้ น ประจุ ไ ฟฟ า ที ่ อยู  ใ นมื อพลั น สลายหายไปอย า ง
ไรรอ งรอย
“เงามรกต!”
เมื่อเห็นมือยักษนี้ รูมานตาของชายชราพลันหดเล็กลง รองเสียงหลงออกมาราว
กับเสียงครวญคราง
“พวกเจาตองตายทั้งหมด!”
เสียงเย็นชาไรซึ่งความรูสึกดังออกมาจากมือสีเขียว ทันใดนั้นมือพลันสั่นคลอน
คาดไมถึงวาจะบิดเบี้ยว กลายเปนเงาลำแสงสีเขียว
เงาลำแสงนี้หากมองผานๆ ก็คือมนุษย แตตรงหัวกลับแปลกประหลาด แทบจะ
เปนใหญกวามนุษยทั่วไปสองสามเทา ใบหนามีลำแสงสีเขียวเปลงแสงสวางวาบ
มีดวงตาสีแดงสดคูหนึ่ง ดูแลวแปลกประหลาดเปนอยางมาก
มองเห็นวาเปนเผาเงาระดับสูงตามที่ตนเองคาดเดาไว ชายชราเกราะสีเขียวก็
มุมปากกระตุ สีหนาเขียวคล้ำไปเล็กนอย
ถึงแมจะบอกวาพลังของอสนีสามารถควบคุมเผาเงาสวนใหญได แตสิ่งมีชีวิต
เงามรกตที่อยูในระดับไมตางอะไรกับผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงนั้น กลับมีพลัง
ตานทานอสนี เมื่อผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงและเงามรกตประมือกัน ก็แทบจะทำ
ใหมนุษยผูบำเพ็ญเพียรพายแพไดรับบาดเจ็บหรือเพลี่ยงพล้ำลมตายได และยิ่งไปกวา
นั้นจากพลังของเงามรกตที่สามารถควบคุมหุนเชิดเงาไดจำนวนมากขนาดนี้ เกรงวา
เงามรกตคงอยูในระดับสูงแลว
นี่จะไมทำใหชายชรามีจิตใจหนักอึ้งไดอยางไร
ครานี้ ขอบฟาที่อยูไกลออกไปพลันมีเสียงระเบิดดังขึ้น เห็นไดชัดวาผูพิทั กษ
เหล็กทมิฬคนอื่นๆ นั้นถูกหุนเชิดเงาเหลานั้นไลตามทันแลว ทำใหมนุษย ผู
บำเพ็ญเพียรเหลานั้นทยอยกันตกอยูในการตอสูที่หนักหนวง
เงามรกตกลับไมสนใจชายชราที่กำลังตะลึงงันอยูเบื้องหนา สาวเทาไปขางหนา
โดยไมปริปากใดๆ รางกายมาอยูเบื้องหนาหางจากชายชราไปสองสามจั้งภายใน
พริบตา จากนั้นพลันชูมือหนึ่งขึ้น ตะปบประจุไฟฟาหนาๆ ที่หอหุมรางกายของ
ชายชราเอาไวอยางโหดเหี้ยม
คาดไมถึงวาเขาคิดจะตะปบสมบัติอาคมปกปองรางของชายชราออก!
ชายชราตกใจจนสะดุงโหยง แตการเคลื่อนไหวของอีกฝายรวดเร็วเกินไป ไมทัน
ไดปองกันเลยสักนิด จึงทำไดเพียงตะโกนออกมา ใสลมปราณทั้งรางไปที่ สมบัติ
ปองกันตัว
ประจุไฟฟาสีเงินเบื้องหนาเปลงเสียงรองหึ่งๆ ออกมา ชั่วครูก็หนาขึ้นสามสวน
เงามรกตเห็นเชนนั้น แววตาสีโลหิตกลับฉายแววเหยียดหยามออกมา มือที่ตะปบ
ออกมาไมหยุดเลยสักนิด คาดไมถึงวาจะตะปบประจุไฟฟาหนาๆ มาอยูในมือไดจริงๆ
เสียงระเบิดดังขึ้น ประจุไฟฟาหนาๆ ที่อยูในมือสีเขียวระเบิดออกระลอกหนึ่ง
สุดทายก็กลายเปนกระบี่เลมเล็กที่มีประจุไฟฟาแผอยูทั่วตัวกระบี่
กระบี่เลมเล็กเปลงแสงระยิบระยับ ตัวกระบี่สั่นคลอน กลับทำไดเพียงดิ้นรนอยู
ในมือสีเขียวไมหยุด ไมอาจหลุดพนจากพันธนาการได
ชายชราชุดเกราะสีเขียวมีสีหนาตกตะลึงไรสีเลือด
เงามรกตหัวเราะประหลาดๆ ออกมา รางกายเคลื่อนไหวอีกครั้ง ดูเหมือนวาจะ
ลงมืออีกครั้งในทันใด
แตในตอนนั้นเอง ฉับพลันนั้นชายชราที่อยูกลางอากาศพลันมีเสียงฟารองดังขึ้น
จากนั้นลำแสงสีเขียวขาวสายหนึ่ง ก็เ ปลง แสงสวางวาบ ปรากฏเงารางคนมีป  ก ที่
แผนหลังขึ้นกลางอากาศ
เมื่อเงารางคนผูนี้ปรากฏตัว สองมือพลันตะปบลงไปดานลางโดยไมปริปากใดๆ
ตอนที่ 1352 ความฉงนของเผาประหลาด
นิ ้ ว ทั ้ ง ห า ร า ยคาถาเบาๆ พ นประจุ ไ ฟฟ า สี ทองห า สายออกมา อี ก มื อหนึ ่ ง มี
ลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบ ผาไหมสี่เหลี่ยมผืนหนึ่งหอหุมลงมา ผิวของมันมี
อักขระโบราณปรากฏขึ้น ดูแลวลึกลับเปนอยางมาก
เงามรกตเห็นสถานการณเชนนี้ แมวาจะตกตะลึง แตกลับไมไดตื่นตะลึง และ
ลนลานนัก กลับแคยักไหล แผนหลังมีเงาสีเทาอีกสองสายพุงออกมา เปลงแสงสวาง
วาบแลวแยกออกพุงไปหาประจุไฟฟาสีทองและผาไหมผืนนั้น
สวนเงามรกตเองก็รางกายบิดเบี้ยว ดูเหมือนวาหมายจะถอยกลับไปชั่วคราว
เงารางคนติดปกที่อยูเหนือหัวแคนเสียงหึที่เย็นเยียบจนถึงกระดูกออกมา
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น!
เงามรกตได ย ิ น เสี ย งแค น เสี ย งนั ้ น ร า งกายพลั น สั ่ น เทา การถอยกลั บ พลั น
หยุดชะงัก คาดไมถึงวาจะตกตะลึงงันอยูที่เดิม
เสียงอึกทึกดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองหาสายและหุนเชิดเงาสายหนึ่งปะทะเขา
ดวยกัน
ผลคือเมื่อสัมผัสเพียงเล็กนอย เงาสีเทาก็ละลายออกเปนชั้นๆ ทามกลางลำแสงสีทอง
หมอกสีเทาเปนกลุมๆ พวยพุงขึ้นไปในชั่วพริบตา
ในเวลาเดียวกัน อักขระประลหาดๆ สีเงินอีกดานของผาไหมพลันเปลงแสงเจิดจา
ฉับพลันนั้นพลันระเบิดออก กลายเปนเสนไหมสีเงินบางๆ นับหมื่นเสน ชั่วครูก็หอหุม
เงาสีเทาเอาไว แลวรัดแนนขึ้น แลวกลับมาเปนผาไหมดังเดิม หอหุมหุนเชิดเอาไวขาง
ในแนน
ผิ ว ของผ า ไหมมี เ สี ย งอสนี ฟ  าฟาดดั ง ขึ ้ น ประจุ ไ ฟฟ า จำนวนนั บ ไม ถ  ว นแลน
เปรี๊ยะๆ หุนเชิดเงาไมอาจดิ้นรนออกจากพันธนาการได
ครานี้ ปกที่แผนหลังของเงารางมนุษยพลัน กระพือ กลายเปนเสนไหมสี เ งิ น
สายหนึ่งหายวับไปจากที่เดิม
ครูตอมา เสนไหมสีเงินกลับปรากฏขึ้นเหนือเงามรกต และไมเห็นเขาใชสมบัติ
อาคมใดๆ แคยื่นมือขางหนึ่งออกมาตบไปที่ดานลาง
ฝามือขางนี้แวววาวเปนพิเศษ ทันใดนั้นนิ้วทั้งหาพลันเปลงแสงสวางวาบ ในเวลา
เดียวกันพลันมีแหวนกระดูกหลากสีสันหาอันปรากฏขึ้น
แหวนกระดูกเหลานี้มีสีขาวบริสุทธิ์ดุจหยก ผิวของมันสลักหัวกะโหลกที่วิจิตร
งดงามขนาดเทาเมล็ดถั่วเอาไว เมื่อลูกตาของหัวกะโหลกนั้นเคลื่อนไหว ก็อาปากออก
พร อมกั นราวกั บ ฟ  นคื นชี พ อย า งไรอย า งนั ้ น พ น ไอเย็ น เยี ย บหลากสี ส ั น ออกมา
ตัดสลับกัน กลายเปนเปลวเพลิงลำแสงหาสีที่งดงาม
เงามรกตเพิ่งจะไดสติมาจากเสียงแคนเสียง ยังไมโกรธเกรี้ยวและสำแดงอะไรออกมา
ก็รูสึกวาเบื้องหนาเจิดจาจนแสบตา ถูกเปลวเพลิงลำแสงหาสีมวนเขาไปขางใน
รอบกายแข็งคาง การเคลื่อนไหวทั้งหมดเปลี่ยนเปนเชื่องชาลง
ครานี้เงามรกตพลันตะลึงงัน
แตเขาเองก็เปนชนชั้นสูงของเผาเงา เปลงเสียงกรีดรองสูงๆ อยางไมตองคิด
รางสีเขียวมรกตระเบิดออก กลายเปนเสนไหมสีเขียวจำนวนนับไมถวนพุงตรงไป
ทั่วทุกสารทิศ คิดจะดิ้นใหหลุดพนจากพันธนาการของเปลวเพลิงลำแสงหาสี
เงารางคนที่อยูกลางอากาศดูเหมือนวาจะคาดเดาการเคลื่อนไหวของเงามรกต
เอาไวตั้งนานแลว อีกมือหนึ่งจึงกดไปที่ดานลางเชนกัน
ทามกลางลำแสงวิญญาณที่สวางวาบ หลังมือพลันมีลวดลายภูเขาขนาดยอมสีดำ
ปรากฏขึ้น แตหลังจากที่สัมผัสกัน ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเทาพลันทะลักออกมาจาก
ใจกลางฝามือเปนวงๆ
ทุกแหงที่หมอกสีเทากวาดผานไป เสนไหมสีเขียวราวกับพบกับดาวโชคร า ย
ตางถูกกวาดเขาไป ชั่วพริบตาก็ถูกทำใหแตกออกเปนเสี่ยงๆ กลายเปนหมอกสีเขียว
เปนกลุมๆ อีกครั้ง
หมอกเหล า นี ้ ด ู เ หมื อนจะถู ก พลัง แรงกดที ่ไ ร รู ป ร า ง ถู ก จั บ รวมกั น เป นก อน
กลายเปนเงาลำแสงสีเขียวอีกครั้ง
ครานี้ดวงตาของเงาลำแสงเปนสีแดงสด เต็มไปดวยแววตาตื่นตะลึง
แตเขากลับดูเหมือนถูกภูเขากดทับเอาไว ตนที่มีความสามารถยิ่งใหญ กลับไม
อาจสำแดงออกมาไดเลยสักนิด
เสียง “สวบๆ” ดังขึ้นสองสามครั้ง ลำแสงหลากสีสันเปนสายๆ พุงออกมาจากมือ
ของเงารางมนุษยติดปก คาดไมถึงวามียันตวิเศษแปะอยูบนรางเงามรกตอยางตอเนื่อง
เงามรกตรางกายพลิ้วไหว ชั่วขณะนั้นลำแสงสีโลหิตในแววตาพลันหมนแสงลงจน
ไรแสง
จากนั้นฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น
ภายใตการจองจำของยั นต วิ เศษ รางของเงามรกตพลั นหดเล็ก ลง สุดทา ยก็
กลายเปนลูกบอลกลมๆ สีเขียวขนาดเทากำปน เปลงแสงสวางวาบอันออนแรง
เงามนุษยไมแปลกใจกับสิ่งนี้เลยสักนิด เก็บพลังทั้งสองมือลง มือหนึ่งตะปบ
ออกไปกลางอากาศอีกครั้ง
ลูกบอลกลมๆ แหวกอากาศขึ้นไปทันที ถูกคนผูนี้ดูดเขามาในมืออยางงายดาย
จากนั้นคนผูนี้ถึงไดหันหนามา มองไปยังชายชราสวมชุดเกราะสีเขียวที่ก ำลัง
ตกตะลึงจนตาถลนดวยรอยยิ้มพริ้มพราย
“สหายเยว ผูแซหานลงมือชาไปหนอย ไมเปนอะไรสินะ?”
“พี่หานพูดอะไรกัน! หากสหายไมลงมือชวย เกรงวาตาเฒาคงยุงยากแลว ไดยิน
ชื่อเสียงของพี่หานมานาน ครานี้ไดพบชางสมคำร่ำลือจริงๆ! แมแตเผาเงาระดับสูงก็
ยังไมใชคูตอสูของพี่หาน” ในที่สุดชายชราก็ฟนฟูสีหนากลับมาเปนปกติ หลังจากที่
เก็บกระบี่บินเบื้องหนาไปแลว ก็ประสานมือคารวะเงารางคนที่อยูเหนือหัวดวยใบหนา
ที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม
เงารางคนที่มีปกคูอยูที่แผนหลังซึ่งอยูกลางอากาศ ชายหนุมผูซึ่งสวมชุดเกราะ
สีเขียวอีกคนหนึ่ง
นั่นก็คือหานลี่!
ทวาเขาในครานี้พัฒนาระดับพลังยุทธจากระดับเทพแปลงขั้นตนมาอยูในระดับ
ขั้นกลางแลว
หานลี่ไดยินชายชรากลาวเชนนี้ก็หัวเราะนอยๆ ออกมา
“พี่เยวพูดเกินไปแลว นั่นก็เปนเพราะความสามารถของขาเหมาะกับการจัด
คนของเผาเงาพอดีเทานั้น หากเปลี่ยนเปนเผาอื่น ผูแซหานคงไมอาจจัดการไดอยาง
งายดายเชนนี้”
“ฮาๆ สหายหานถอมตนเกินไปแลว ผูใดจะไมรูบางวา กลุมที่สหายเปนผูนำเปน
กลุมเดียวที่ไมเสียผูใตบังคับบัญชาไปในรอบหลายสีปมานี้ และยิ่งไปกวานั้นไดยินวา
สองสามปกอน พี่หานไดสังหารและจั บเป นสายลั บ เผา ประหลาดอยู ไมน อย จุๆ
แคคุณงามความดีเดียว ผูแซเยวก็เยินยอไมทันแลว” ชายชราหัวเราะอยางขมขื่น
ออกมา แลวพยักหนาอยางตอเนื่อง
“สหายชมเกินไปแลว สหายคนอื่นไมเปนไรสินะ!” หานลี่ฉีกยิ้มอยางราบเรียบ
หลังจากมองไปรอบๆ ก็เอยถามขึ้น
“คงไมเปนไรหรอก ในเมื่อเผาเงานั่นถูกกักอยู หุนเชิดเงาที่กักพวกเขาอยูคงถูก
ทำลายไปพรอมกัน ตอใหลูกนองของขาถูกสิงราง แตก็คงเพียงชั่วครู มากสุดก็คง
สูญเสียปราณแทไปเล็กนอย ไมเปนอะไรมากหรอก ทวาพี่หานมาปรากฏตัวที่นี่ได
อยางไร ลูกนองของสหายละ?” ชายชรารูจักวางตัวเปนอยางมาก เมื่อเห็นวาหานลี่ไม
อยากพูดถึงเรื่องกอนหนานัก ก็เปลี่ยนหัวขอบทสนทนาในทันที
“หึๆ เรื่องนี้เปนเพียงความบังเอิญเทานั้ น ขาเพิ่งไดจานวิญญาณประหลาด
ระดับสูงมาใหม อาณาเขตที่รองเตือนจึงกวางหนอย และพากองกำลังมาอยูไมไกล
จากที ่ นี ่ พ อดี จึ ง ลองมาดู ส ั ก หน อ ย ส ว นผู  ใ ต บ ั ง คั บ บั ญ ชานั ้ น ข า ไม ไ ด เ รี ย กให
พวกเขามา ยังรออยูที่เดิม”
หานลี่หยิบกลองหยกในกำไลเก็บของออกมา เก็บลูกบอลกลมๆ ในมือลงไปพลาง
แลวตอบกลับอยางราบเรียบไปพลาง
“เชนนี้นี่เอง ดูแลวตาเฒาคงโชคดีในโชครายจริงๆ!” ชายชราเอยดวยเสียงซาบซึ้ง
ครานี้ ผูพิทักษเหล็กทมิฬที่อยูใกลๆ สองคนก็เขามาคารวะหานลี่เชนกัน และเอย
ขอบคุณที่หานลี่ชวยชีวิตเอาไว
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ก็บินกลับมาจากทั้งพื้นและขอบฟา เมื่อมาอยูตรงหนา
หานลี่ก็เอยขอบคุณดวยความซาบซึ้งใจเชนกัน
หานลี่ตอบรับอยางราบเรียบสองประโยค แลวเอยขอตัวลา กลายเปนสายรุงสีเขียว
สายหนึ่งพุงแหวกอากาศไป
“ไดยินวาทานอาวุโสหานเพิ่งจะมาถึงเมืองเทวะสวรรค มีพลังยุทธแคระดับ
เทพแปลงขั้นตน แตความสามารถกับไมดอยไปกวาระดับขั้นกลาง สิบปกอนยังบรรลุ
ระดับขั้นกลาง ความสามารถยิ่งไมลึกล้ำยากจะคาดเดาหรือ” ชายรางใหญหนาตา
โหดเหี้ยมผูนั้น รอจนลำแสงหลีกหนีของหานลี่สลายหายไปที่ขอบฟาแลว ก็เอยพึมพำ
ออกมา
“ไมใชแคนี้ ไดยินวาทานอาวุโสผูนี้รับภารกิจลาดตระเวนมาแคไมกี่สิบป ก็สังหาร
ชนชั้นสูงของเผาประหลาดไปมากกวาเจ็ดแปดคนแลว ไหนเลยที่ผูพิทักษยมโลกนิลจะ
เทียบเทียมได มินาละผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา ตางลวนเปนผูที่นากลัว” ผูพิทักษ
เหล็กทมิฬอีกคนหนึ่งก็เอยอยางชื่นชมออกมา
“หึ ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมามีความสามารถในการตอสูมากกวาพวกเราขั้นหนึ่งก็จริง
แตเกรงวาทานอาวุโสหานก็คงเปนตัวประหลาดในเหลาผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ ้นมา
เชนกัน” สตรีผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนผูนั้นกลับเอยอยางเย็นชาออกมา
คำนี้ทำใหผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือพากันตกตะลึงไปเล็กนอย
ชายชราชุดเกราะสีเขียวมองไปยังทิศทางที่หานลี่หายวับไป มือกลับลูบเคราพลาง
ขบคิดเงียบๆ ชั่วครูเขาถึงไดโบกมือ พากลุมของเขาจากไป
หางออกไปสองสามรอยลี้ บนเนินเขาแหงหนึ่ง สายรุงสีเขียวพุงแหวกอากาศมา
จากจุดที่ไกลออกไป เมื่อลำแสงหลีกหนีหยุดชะงัก รางของหานลี่ก็รอนลงมา
แทบจะในเวลาเดียวกัน ก็มีลำแสงหลีกหนีบินออกมาจากเนินเขานั้นสิบกวาสาย
ชั่วพริบตา บุรุษสตรีสวมชุดเกราะสีดำสิบคนก็ปรากฏตัวเบื้องหนาหานลี่
“ทานหัวหนา”
“ทานอาวุโสหาน”
……
คำเรียกแตกตางกันสองสามอยาง ถูกเปลงออกมาจากปากของผูบำเพ็ญเพียร
ทั้งสิบคน ทุกคนลวนยืนเอามือประสานกันอยูกลางอากาศ
ยี่สิบกวาปผานไป พวกของชายรางใหญดวงตาสีมรกตและเซียนสวี่ยังอยูอยาง
ปลอดภัย แตแคในครานี้ ทาทีนอบนอมของพวกเขาที่มีตอหานลี่นั้นเห็นไดชัดวามา
จากใจจริง ไมมีสีหนาไมพอใจใดๆ อีก
คิดดูแลวนี่ก็เปนเรื่องปกติ!
ไมวาผูใดที่รับภารกิจเดียวกัน เขตแดนที่ตรวจตราเดียวกันหรือกลุมยอยอีกสามกลุม
ภายในระยะเวลายี่สิบกวาปนี้ก็มีคนบาดเจ็บลมตายขึ้น แมกระทั่งกลุมเล็กๆ บางกลุม
ยังแทบจะตองเปลีย่ นสมาชิกไปกวาครึ่ง สวนกลุมเล็กๆ ของตนเองนั้นถึงแมวาจะพบ
กับอันตราย แตกลับถูกคนผูเบื้องหนาจัดการไปอยางสบายๆ จึงพากันนับถือหัวหนา
ผูนี้ในใจอยางสุดๆ
แนนอนวาภายใตการนำของหานลี่ จัวชงและพวกตางก็ไดรับรางวัลไม น อย
แนนอนวาจึงไรซึ่งความไมพอใจ
“ไปกันเถิด เผาประหลาดอยางเงามรกตนั่น ก็ไดกำจัดไปแลว” หลังจากที่หานลี่
พยักหนา ก็เอยอยางราบเรียบ
“เงามรกต! ฮาๆ เจาผูนั้นชางโชครายเสียจริง ลำแสงเทวะดูดปราณของหัวหนา
กักเผาเงาไดมากที่สุด ไมตองพูดถึงเงามรกต เกรงวาระดับสูงยิ่งกวาอยางเงาชาด
หัวหนาก็ยังสูไดสินะ” ผูบำเพ็ญเพียรที่ดูยังเด็ก หัวเราะคิกคักขณะเอย
“หึ เงาชาดคือสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสูญเองก็ตอกรไดยาก ผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลงคนหนึ่งจะตอกรไดอยางไร เอาละ ออกเดินทางกันเถิด ตรวจสอบพื้น
ที่สุดทายแลว พวกเราก็จะไดพักผอนเต็มๆ อีกครึ่งป ครั้งที่แลวเพิ่งจะพบชนชั้นสูง
อยางเผาถ้ำสูญ ครั้งนี้แมแตเผาเงาระดับสูงก็ยังปรากฏขึ้นแลว สถานการณไมคอย
ปกติจริงๆ!” หานลี่แคนเสียงหึ แววตาเปลงประกายขณะเอย
“ใชแลว หลายสิบปมานี้เหตุการณไมปกติเลย! จะวาไปแลวตอใหบึงรุงอรุณ
มันจะมีสายลับ เผา ประหลาดแอบเขามา แตก็ไมน าจะชุกชุม ขนาดนี้ แมกระทั่ ง
ชนชัน้ สูงเหลานั้น ยังแอบเขามาในบึงน้ำอยางตอเนื่องโดยไมเสียดายชีวิต ขาไดยินวา
ทางเผ า ป ศ าจที ่ ร ั บ หน า ที ่ ด ู แ ลทะเลทรายเถ า ธุ ล ี เ องก็ พ บสายลั บ เผ า ประหลาด
จำนวนมาก เผาปศาจแปลงกายที่ตรวจตราทางนั้นก็เพลี่ยงพล้ำไปจำนวนมากเชนกัน
หรือวาเผาประหลาดสนใจเผามนุษยและปศาจของพวกเราแลวจริงๆ จึงอยากจะยึด
เมืองเทวะสวรรค?” นักพรตแซหมาหนากระตุก เอยดวยสีหนาเครงขรึม
เมื่อไดยินคำพูดของนักพรต ฝูงชนผูบำเพ็ญเพียรพลันหนาเปลี่ยนสี หุบยิ้มลง
“คงไมหรอกกระมัง เผาประหลาดเพิ่งจะโจมตีเมืองไปแคสามหมื่นปเทานั้น
ปกติแลวหกถึงเจ็ดหมื่นปถึงจะโจมตีครั้งหนึ่งมิใชหรือ?” เซียนสวี่ยังคงมีใบหนางดงาม
ดังเกา คิ้วเรียวขมวดมุนขณะเอยถาม
ตอนที่ 1353 วิหารสวรรค
“ถึงแมวาปกติแลวหลังจากสงคราม เผาตางๆ จะตองใชเวลาหกหมื่นถึงหนึ่งแสนปถึง
จะทำสงครามไดอีกครั้ง แตถาหากประสบกับความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ เผาตางๆ
ก็ ย อมสู ญ เสี ย ปราณแท เ พื ่ อให ห ลุ ด พ น จากสงคราม ก็ ไ ม ใ ช เ รื ่ องที ่ เ ป น ไปไม ไ ด
สงครามรอยเผาพันธุเมื่อหาแสนปกอน ก็เพิ่งผานมาแสนป พวกเราถูกเผาประหลาด
รวมมือกันผลัดกั นโจมตีไ ปมากกวาหาครั ้ง จนแทบจะทำใหสองเผาของพวกเรา
สูญเสียปราณแทไปจนหมด จนเกือบจะถูกลางเผาพันธุ หลังจากผานมาอีกแสนป
ถึงไดฟนฟูความเจริญรุงเรืองขึ้นมาอีกครั้ง แนนอนวาเผาประหลาดเหลานั้นก็ไมได
ดีไปกวากันเทาใดนัก มีเผาสองเผาที่ถูกลบชื่อไป” นักพรตแซหมาเอยดวยสีหนา
เครงขรึม
“สงครามรอยเผา? สหายลอเลนแลวกระมัง! สงครามนี้กินอาณาบริเวณไปกวาครึ่ง
ของแดนวิญญาณ จะปะทุงายๆ ไดอยางไร และยิ่งไปกวานั้นยังบังเอิญมาประสบกับ
พวกเราอี ก ” ชายร า งใหญ ด วงตาสี เ ขี ย วมรกตสู ด ลมหายใจเย็ น ยะเยื อ กเข า ไป
เฮือกหนึ่ง ดวงตาทั้งสองเบิกโพลงจนเปนวงกลม
“สหายหมาคำนี้ชางเขยาขวัญเสียจริง หากตองปะทะสงครามในระดับเดียวกับ
สงครามรอยเผาจริงๆ ตอใหพวกเรามีมากกวาสิบชีวิต ก็ยากที่จะรอด สงครามในปนั้น
วากันวาคนธรรมดายังพอวา แตผูบำเพ็ญเพียรอยางพวกเรานั้นกลับบาดเจ็บลมตาย
กันไปเกือบเกาสวน” เซียนสวี่เองพลันสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง
“ใช ใช เรื่องนี้จะเปนไปได…”
คนที่เหลือไดยินคำวา ‘สงครามรอยเผา’ แลว ก็หนาเขียวคล้ำ ดูเหมือนว า
นักพรตแซหมาจะเอยถึงเรื่องที่นากลัวมาก ทำใหพวกเขารักษาความเยือกเย็นเอาไว
ไมไดอีกตอไป
“เอาละ แคชวงนี้มีสายลับเผาประหลาดมากหนอยเทานั้น จะเกิดสงครามรอยเผา
ไดอยางไร อยาพูดถึงเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นเพียงนอยนิดเลย ตอใหเกิดขึ้นจริงๆ
พวกเราก็รับมือได พวกเราควรจะทำภารกิจตรวจตราตรงหนาใหเสร็จกอนถึงจะเปน
เรื่องแรก เรื่องอื่นนั้นตองใหทานอาวุโสเปนผูจัดการ” หานลี่กลับมีสีหนาราบเรียบ
ตั ้ ง แต ต  นจนจบ และออกคำสั ่ ง อย า งราบเรี ย บ ร า งกายเคลื ่ อนไหวบิ น ล ว งหน า
นำไปกอน
นักพรตแซหมาเห็นเชนนั้น แนนอนวาก็ไมอยากพูดคุยอะไรอีก แลวทยอยกัน
ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีตามไป
คนกลุมนั้นจึงหายวับไปจากขอบฟาในชั่วพริบตา
สองสามวันตอมา พวกของหานลี่ก็นั่งอยูบนสำเภาทองกลับมายังหอคอยยักษ
ของเมืองเทวะสวรรคอีกครั้ง
คนอื่นๆ ลวนพักผอนอยูในวิหาร เขานั้นกลับออกจากเขตตองคายมาตามลำพัง
เดินขึ้นบันไดไปยังสวนยอดของหอคอย
ผลคือเดินมาไดสิบกวาชั้น หลังจากผานประตูใหญที่มีการรักษาความปลอดภัย
อันแนนหนามาสองสามบาน หานลี่ก็มาปรากฏตัวในหองโถงที่ดูธรรมดาๆ หองหนึ่ง
กำแพงทั้งสี่ดานของหองโถงมีเขตอาคมลำแสงกะพริบระยิบระยับ แคมองก็รูแลววา
มีเขตอาคมที่รายกาจอยูตั้งไมรูกี่ชั้น
ภายในหองโถงนอกจากโตะหินตัวหนึ่งและชายวัยกลางคนสวมชุดสีขาวที่นั่ง
สมาธิอยูขางๆ โตะหินแลว ก็ไมมีผูใดอีก
เมื่อหานลี่เดินเขามาในหองโถง ชายวัยกลางคนที่แตเดิมหลับตานั่งสมาธิอยูก็คอยๆ
ลืมตาขึ้น เมื่อเห็นหานลี่กลับไมมีสีหนาตื่นตะลึง และเอยอยางราบเรียบวา
“ที่แทก็หลานหานนี่เอง การลาดตระเวนครั้งนี้ไดอะไรมาละ ครั้งนี้สงพยานเปนๆ
หรือวาศพ เผาใดละ?”
ชายวัยกลางคนดูเหมือนวาจะคุนเคยกับหานลี่เปนอยางมาก
“รายงานท า นอาวุ โ ส ครั ้ ง นี ้ ช นรุ  น หลั ง จั บ สายลั บ เผ า เงามาได ต นหนึ ่ ง ”
เมื่อเผชิญหนากับชายวัยกลางคนหานลี่กลับไมกลาเสียมารยาท หลังจากทำความ
เคารพแลว ก็พลิกฝามือ หยิบกลองหยกออกมา วางลงบนโตะหินดวยมือทั้งสองมือ
“เผาเงา! จุๆ นี่เปนสายลับเผาประหลาดที่จับเปนมาไดนอยมาก ใหขาดูกอนแลว
คอยวากัน” ชายวัยกลางคนสวมชุดสีขาวไดยินคำพูดของหานลี่ พลันหนาเปลี่ยนสี
ในที่สุดก็มีทาทีสนอกสนใจ
เขาใชมือหนึ่งรายคาถา ตบไปที่โตะหินเบื้องหนา
โตะหินที่แตเดิมดูธรรมดาๆ พลันเปลงแสงสีขาวเจิดจา เขตอาคมขนาดเล็กความกวาง
สองสามจั้งปรากฏขึ้น กลองหยกใบนั้นอยูตรงใจกลางของเขตอาคมอยางพอดิบพอดี
ลำแสงสีเงินชั้นหนึ่งปรากฏขึ้น หอหุมกลองหยกเอาไวขางใน
แตการเคลื่อนไหวของชายวัยกลางคนสวมชุดสีขาวนั้นดูเหมือนวาจะไมไ ดรับ
ผลกระทบจากลำแสงนี้เลยสักนิด สะบัดแขนเสื้อไปที่กลองหยกเบาๆ ฝากลองเปด
ออกโดยอัตโนมัติ เผยลูกบอลกลมๆ สีเขียวที่เปลงแสงระยิบระยับขางในออกมา
“เงามรกต! นี่คือเผาเงาระดับสูงที่พบเห็นไดยาก แถมยังจับเปนมาได หลานเอย
ครั้งนี้คุณงามความดี ครั้ งนี ้ไมนอยเลยจริงๆ!” ชายวัยกลางคนสวมชุดสีข าวมอง
ลูกบอลกลมๆ ปราดเดียวก็รูประวัติความเปนมาของมัน ในที่สุดก็หนาเปลี่ยนสี
“ท า นอาวุ โสชมเกิ นไปแล ว ! ได ย ิ น ว า หลั ง จากนี ้ อี ก ครั ้ ง เดื อน อาวุ โสสิ ง ที ่มี
ตนกำเนิดจากกระจกวิญญาณสวรรคจะมาสอนวิชายันตในวิหารสวรรค ไมทราบวา
เปนเรื่องจริงหรือไม” หานลี่ถอมตนสองประโยค ฉับพลันนั้นก็เอยถามเชนนี้ออกมา
“ใชแลว การสอนในวิหารสวรรคครั้งนี้ อาวุโสสิงรับหนาที่เปนผูสอน ถึงแมจะไมรู
วาคือวิชายันตจริงๆ หรือไม แตเดิมทีอาวุโสสิงนั้นก็มีชื่อเสียงดานวิชายันตไปทั่ว ทั้ง
สามเขต อันใด หลานหานสนใจหรือ” ชายวัยกลางคนสวมชุดสีขาวเอยอยางรู สึก
ประหลาดใจเล็กนอย
“ชวงนี้ชนรุนหลังกำลังศึกษาการเขียนยันตอยู จึงไดประสบการณมาเล็กนอย
กำลังอยากหาผูชวยชี้แนะ” หานลี่เองก็ไมมีเจตนาปดบัง เอยอยางตรงไปตรงมา
ออกมา
“หากศึกษาวิชาการเขียนยันตอยางละเอียด ตอนที่ตอกรกับศัตรูก็มีประโยชน
อยางไมมีที่สิ้นสุด แตถึงอยางไรเสียวิชานี้ก็เปนวิชาสนับสนุน ไมมีประโยชนมากนักตอ
การเพิ่มพลังยุทธ ตั้งแตที่หลานหานบินขึ้นมา ก็สามารถพัฒนามาอยูในระดับกลางได
ในระยะเวลาสั้นๆ การพัฒนาที่รวดเร็วเชนนี้ก็หาไดยากนักในบรรดาผูบำเพ็ญเพียรที่
บินมาดวยกันอยางพวกเรา เห็นไดชัดวามีคุณสมบัติเหนือชั้น ทวา หลานอยาแบง
ความสนใจไปที่เรื่องอื่นเลย มิเชนนั้นเกรงวาจะเดินทางผิด” ชายวัยกลางคนพลัน
ขมวดคิ้ว คาดไมถึงวาจะเอยแนะนำดวยน้ำเสียงที่ผอนคลาย
ฟงจากคำพูดของเขา คาดไมถึงวา เขาจะเป นผู บำเพ็ ญเพียรที ่บิน ขึ ้นมาจาก
แดนดานลางเชนกัน
“ขอบพระคุณความหวังดีของทานอาวุโส ชนรุนหลังจะจำใหขึ้นใจ แตการสอน
ของทานอาวุโสสิงในครั้งนี้ ชนรุนหลังไมอยากพลาดไป ไมทราบวาคุณงามความดีที่
ชนรุนหลังสะสมมาในตอนนี้ มีคุณสมบัติพอจะเขารวมฟงบรรยายหรือไม”
หานลี่เอยขอบคุณอยางใจจริง แตก็ยังคงมีทาทางไมยอมแพ
“ในเมื่อหลานมุงมั่นเชนนี้ ขาเองก็ไมอยากพูดมาก จากคุณงามความดีที่เจาได
รับมากอนหนาสองสามครั้ง ประกอบกับที่จับเงามรกตไดในครั้งนี้ เขาวิหารสวรรคได
สบายๆ หึๆ การบรรยายของอาวุโสในทุกๆ สิบป ดูเหมือนวาเจาจะไมเคยพลาดเลย
สักครั้ง นี่คงทำใหเจาตองลำบากใจแลว เอาละ ขาจะนำคุณงามความดีของเจาออกมา
เรียงลำดับกัน จากนั้นก็เอาจุดนี้ไปรับคำเชิญที่หอคุณงามความดีก็ไดแลว” ชายวัย
กลางคนชุดขาวไมไดหามปรามอะไรตอ กลับใชมือหนึ่งหยิบแผนหยกที่หนาอกออกมา
ดานในสลักสัญลักษณอะไรสักอยางเอาไว แลวโยนใหกับหานลี่
หานลี่รับกลองหยกมาดวยความดีใจ คารวะใหชายวัยกลางคนเล็กนอย แลวถอย
ออกไปจากหองโถง
ชายวั ย กลางคนรอจนหานลี ่ อ อกไปจากประตู ห  อ งโถงแล ว พลั น สั ่ น ศี ร ษะ
แลวพยักหนา จากนั้นหลังจากปดกลองหยกบนโตะลงอีกครั้ง สองมือพลันรายอาคม
ชี้ไปที่โตะหยกเบื้องหนา
ชั่วขณะนั้นเขตอาคมบนโตะพลันเปลงแสงเจิดจา กลองหยกหายวับไปอยาง
ไรรองรอยทามกลางลำแสงสีขาว
ในตอนที่ชายวัยกลางคนชุดขาวทำใหเงามรกตกลายเปนไขมุกกลมๆ สงไปยัง
คุ ก กั ก ขั ง นั ้ น หานลี ่ ก ลั บ บิ น ออกมาจากหอคอยหิ น ตรงไปยั ง ย า นร า นค า ของ
เมืองเทวะสวรรคแลว
หลังจากผานไปสองสามชั่วยาม หานลี่ก็มาอยูเบื้องหนาวิหารทมิฬกลางยานรานคา
พลางรอนลำแสงหลีกหนีลงมา
เขาจายศิลาวิญญาณกอนหนึ่ง รับแผนปายลำแสงอำพรางมา แลวเดินเขาไปใน
วิ ห ารอย า งทระนงองอาจ ผ า นทางเดิ น ยาวๆ หานลี ่ ป รากฏตั ว ในห อ งโถงยั ก ษ
ท า มกลางลำแสงสี เ งิ น ด า นในเต็ ม ไปด ว ยมนุ ษ ย แ ละป ศ าจทั ้ ง สองเผ า ที ่ อ ยาก
แลกเปลี่ยนสิ่งของกัน
ทามกลางลำแสงสีเงินและไอสีดำที่กะพริบระยิบระยับ มีประมาณสามถึงสี่รอยคน
รอบดานของหองโถงมีแผงขายของเรียงรายอยูยี่สิบสามสิบแผง หลังจากที่หานลี่
กวาดสายตาผานไป สายตาก็หยุดลงบนเสาหินตนนึ่ง ตรงนั้นเผาปศาจที่มีไอสีดำ
หอหุมอยูคนหนึ่ง กำลังยืนเงียบๆ อยูตรงนั้น
หานลี่สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง แลวสาวเทายาวๆ กาวเขามา
“ในที่สุดสหายก็มาแลว หลังจากการแลกเปลี่ยนครั้งที่แลว ขานึกวาสหายจะ
กักตนบำเพ็ญเพียรในทันที อยางนอยที่สุดยี่สิบสามสิบปก็คงจะไมไดพบกัน” ไมรอให
หานลี่เดินเขามา ขางหูก็มีเสียงหัวเราะแผวเบาดังขึ้น น้ำเสียงไพเราะเสนาะหู แตก็มี
ทาทีดีใจเปนอยางมาก
“ที่ขามาในครั้งนี้ ก็เพื่อเสี่ยงดวงเทานั้น คิดไมถึงวาสหายเหยียนจะอยูที่นี่จริงๆ
ดูแลวสหายคงรูสึกวาเหตุการณชวงนี้ผิดปกติ อยากทำใหการแลกเปลี่ยนของพวกเรา
สองคนสิ้นสุดโดยเร็วสินะ” หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา ถายทอดเสียงไปเชนกัน สวน
คนก็เดินมาอยูเบื้องหนาไอสีดำ
“ผิดปกติอะไร?” สตรีที่อยูในไอสีดำขบคิดเล็กนอย น้ำเสียงเปลี่ยนเปนเย็นชา
“เหตุใดสหายตองแสรงทำเปนไมรูดวย แคดูก็รูแลววาจำนวนของเผามนุษยและปศาจ
ของพวกเราที่มาปรากฏในหองโถงนี้นอยกวาแตกอนหลายเทา นั่นไมไดหมายถึง
ผิดปกติหรือ?” หานลี่ตอบกลับอยางราบเรียบ น้ำเสียงไมใสใจสตรีผูนี้เลยสักนิด
เหมือนเดิม
“เจาพูดเชนนี้ หรือวาไดขาวอะไรมา?” สตรีเอยถามดวยแววตาฉายแววเย็นชา
“เรื่องอื่นขาไมรู แตผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงเคลื่อนไหวอยางชุกชุม และยิ่งไปกวานั้น
เขตที ่ พ วกเราดู แ ล ยั ง มี ส ายลั บ เผ า ประหลาดปรากฏตั ว ขึ ้ น มากกว า แต ก  อ นถึ ง
หาหกเทา ทางเจาเปนอยางไร” หานลี่ถามกลับอยางเยือกเย็น
“ไมตางกันนัก! พวกผูเฒาเหลานั้นก็ปรากฏตัวกันบอยๆ ยิ่งไปกวานั้นในเมองยังมี
พวกหนาใหมปรากฏตัวขึ้นจำนวนมาก ทุกคนลวนมีพลังยุทธไมต่ำตอย ดูเหมือนวาจะ
เปนผูที่ไดรับเลือกมาใหมจากเจ็ดแดน” หลังจากที่สตรีลังเลเล็กนอย ถึงไดตอบ
กลับมาอยางซื่อๆ
“เขาใจแลว ดูแลวพวกเราคงไมไดคิดไปเองหรอก มีเรื่องเชนนี้เกิดขึ้นจริงๆ
เจาคิดวาอัตราที่เผาประหลาดจะโจมตีเมืองมีเทาไหร” คาดไมถึงวาหานลี่จะเอยถาม
เชนนี้ออกมา
“อยางนอยที่สุดก็นาจะสักสามสวน มิเชนนั้น ในเมืองคงไมมีความเปลี่ยนแปลง
เชนนี้” สตรีตอบกลับอยางเครงขรึม
“สามสวน ก็สูงมากแลว” หานลี่พนลมหายใจยาวๆ ออกมา แลวเอยพึมพำกับตัวเอง
“ใช แ ล ว ดั ง นั ้ นข า จึ ง คิ ด ว า หลั ง จากแลกเปลี ่ ย นครั ้ ง สุ ด ท า ยกั บ เจ า เสร็จสิ้น
จะไมมาปรากฏตัวที่นี่อีก หากสหายอยากรักษาชีวิตละก็ ทางที่ดีที่สุดก็รีบออกไป
จากเมืองนี้ซะ มิเชนนั้นหากเผาประหลาดโจมตีเมือง พวกที่อยูในระดับเดียวกันกับเรา
ก็ยากที่จะหลบหนีเคราะหครั้งนี้ไปได” สตรีเอยอยางราบเรียบ
“สหายนั้นพูดงาย ในฐานะที่เปนผูบำเพ็ญเพียรของเมืองนี้ ไหนเลยจะออกไปงาย
ขนาดนั้น และยิ่งไปกวานั้นในทุกๆ ปพวกเรายังตอง…” หานลี่หัวเราะอยางขมขื่น
ออกมา ตอนที่เอยสองประโยคสุดทายกลับนึกอะไรขึ้นมาได จากนั้นก็หยุดชะงัก
คำพูดเอาไว
“หึๆ ออกจากเมืองตอนนี้นั้นยากจริงๆ เจากับขานั้นอยูคนละเผา ขาจึงไมมีกำลัง
โชคดีที่ตอใหสงครามปะทุขึ้น อยางนอยที่สุดก็ตองใชเวลาอีกสองสามป สหายมีเวลา
หาหนทาง เอาละ แลกเปลี่ยนขาวกันพอสมควรแลว เจาเริ่มแลกเปลี่ยนของเถิด”
สตรีหัวเราะนอยๆ ออกมา น้ำเสียงเครงขรึมขึ้น
ตอนที่ 1354 การชุมนุม
หานลี่ไดยินสตรีผูนี้กลาวเชนนี้ ก็ไมไดมีเจตนาคัดคาน แตแคเอยถามอยาง
ราบเรียบวา
“ครั้งนี้เซียนหาเมล็ดสมุนไพรไดเทาไหร ครั้งที่แลวสหายเหยียนหาไดแคสองสามชนิด
ถึงแมวาจะคอนขางหายาก แตก็มีประโยชนไมมากนัก”
“สหายโปรดวางใจ ครั้งนี้เมล็ดชนิดอื่นนั้นไมตองพูดถึง สมุนไพรที่สหายอยากได
ข า ได ร วบรวมมาให ส หายจนเกื อ บครบแล ว ความจริ ง แล ว หากไม ใ ช เ พราะ
สงครามใหญนั้นใกลเขามา ขาคงไมตองเสียคาตอบแทนตั้งมากมายเพื่อเมล็ดสมุนไพร
เหลานี้ ตอนนี้อยาสนใจสิ่งอื่นเลย วาแตสมุนไพรหมื่นปที่สหายนำมาใหในครั้งนี้
ไมทราบวามีจำนวนเพียงพอหรือไม” สตรีที่อยูในไอสีดำฉีกยิ้มเบิกบาน
“สหายและขานอยแลกเปลี่ยนกันมาสองสามครั้งแลว มีครั้งไหนที่ขาน อยนำ
สมุนไพรมาใหไมครบบาง?” หานลี่หัวเราะอยางแปลกประหลาด แลวกลับยอนถาม
“นั ่ นมั นก็ ใ ช ทว า เมล็ ด ในครั ้ง นี ้ ลว นเป น ของที่ ห ายาก ราคาไม ด อยไปกวา
สมุนไพรหมื่นปของสหายแน แตแคสมุนไพรหมื่นปนั้นเปนสิ่งที่มีราคาแตหาไมได
มิเชนนั้นขาคงไมยอมนำออกมาแลกกับสหายแน” สตรีผูนี้หัวเราะคิกคัก ทันใดนั้น
พลันพลิกฝามือ กลองไมสีเขียวมรกตปรากฏขึ้นในมือ และโยนมาให
บนกลองไม มี ลวดลายโบราณสลั ก อยู และยังมีอั ก ขระเปล ง แสงระยิ บ ระยั บ
เห็นไดชัดวาไมใชของธรรมดา
หานลี่สูบกลองไมเขามาในมือดวยสีหนาเครงขรึม และไมไดเปดฝากลองออก
ดวงฉายแววสีฟาเปลงประกาย สายตามองทะลุผานฝากลองไป ในเวลาเดียวกั น
จิตสัมผัสที่แข็งแกรงก็แทรกเขาไป ตรวจสอบอยางละเอียด
ครานี้หานลี่ใชมือหนึ่งถือกลองไมเอาไว ยืนอยูที่เดิมไมขยับเขยื้อน
สตรีที่อยูในไอสีดำไมแปลกใจกับทาทางของหานลี่เลยแมแตนอย และไมไดเรงเรา
อะไร แตใชสายตาที่เปลงประกายจองเขม็งมายังหานลี่โดยไมปริปากใดๆ ดูเหมือนวา
อยากมองผานลำแสงสีเงินชั้นนั้น และมองเห็นใบหนาที่แทจริงของหานลี่ใหชัดเจน
หลังจากผานไปชั่วครู สตรีผูนั้นพลันถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ชักสายตากลับไป
หากกลาววาคนผูนี้ไมประหลาดใจ แนนอนก็เปนเรื่องโกหก ผูที่นำสมุนไพรวิญญาณ
อายุหลายหมื่นปออกมาได ฐานะตองไมธรรมดา
ตามการคาดเดาของสตรีผูนี้ กวาครึ่งอีกฝายคงเปนผูที่อยูในตระกูลที่ลึกลับที่สุด
สองสามตระกูลของเผามนุษย โดยเฉพาะตระกูลหมิ่นที่มีชื่อเสียงในการปลูกสมุนไพร
ยิ่งมีความเปนไปไดมากที่สุด
แตอีกฝายนั้นรอบคอบจริงๆ จากการสอบถามในเวลาที่พบกันมาสองสามครั้ง
ไมเพียงจะไมรูที่มาของอีกฝาย กลับไมทันระวังทำใหอีกฝายรูแซของตนเองอีกดวย
นี่จึงทำใหสตรีผูนี้ขัดเคืองเปนอยางมากอยูระยะหนึ่ง!
ถึงแมวาอีกฝายจะไมสามารถตามหาประวัติความเปนมาไดโดยมีเพียงแคชื่อ แตก็ทำ
ใหสตรีผูนี้เลิกลมความคิดที่จะซักถาม และไมเอยถึงฐานะของทั้งสองฝายอีก
เพื่อจะไดไมเผลอแพรงพรายเรื่องของตนเองออกมาอีก
ทวาเมื่อสตรีผูนี้คิดถึงการแลกเปลี่ยนที่ผานมากับอีกฝาย สมุนไพรหมื่นปท่ี
แลกเปลี่ยนมาเหลานี้ ก็อดที่จะตื่นเตนไมได
ถึงแมวานางจะมีตนกำเนิดที่คอนขางพิเศษ และถือวาเปนตระกูลที่มีตำแหนงใน
เหลาอาวุโส แตสมุนไพรจำนวนมากขนาดนี้ ถึงแมวาจะมีศิลาวิญญาณอยูมากมาย
แตปกติแลวก็ไมมีหวังที่จะรวบรวมได
ขอแคการแลกเปลีย่ นครั้งนี้สำเร็จ สมุนไพรเหลานี้ก็เพียงพอที่จะทำใหนางเชิญคนมา
ปรุงยาที่จำเปนสองสามชนิด ใชทลายจุดคอขวดแลว
แนนอนวานางเองก็รูสึกสงสัยเรื่องที่หานลี่รวบรวมเมล็ดสมุนไพรวิญญาณไป
เชนกัน ขอแคอีกฝายมอบสมุนไพรที่นางตอการให แนนอนวานางก็ขี้เกียจจะไป
ซักถามหาเหตุผล
ในตอนที่สตรีเผาปศาจผูนี้กำลังจิตใจไมอยูกับเนื้อกับตัวนั้น หานลี่ที่อยูตรงขามก็
ตรวจสอบของในกลองเสร็จแลว และพยักหนาดวยความพึงพอใจ
“ไมเลว กวาครึ่งลวนเปนเมล็ดที่ขาเคยเอยถึงจริงๆ นี่คือสมุนไพรที่เจาควรไดรับ
เจาตรวจสอบดูสักหนอยเถิด!”
ขณะเอยเขาก็กวักกลองหยกออกมาสองสามกลอง และสงใหอีกฝายทีละกลองๆ
สตรีไมกลาประมาท หลังจากรับไปแลวก็พิจารณาอยางละเอียดรอบหนึ่งเชนกัน
“ไม เ ลว คื อสมุ น ไพรอายุ ป ระมาณหมื ่ น ป จ ริ ง ๆ ครั ้ ง นี ้ เ ป น การแลกเปลี ่ ย น
ครั้งสุดทายของเจากับขาในระยะนี้ แตหากสหายรอดพนจากภัยพิบัติที่จะมาถึงได
วันขางหนาก็อาจจะมีโอกาสไดรวมมือกั นอี กครั้ง” หลังจากที่สตรีเผาปศาจเก็ บ
สมุนไพรลงไปแลว ก็หัวเราะหึๆ ขณะเอย
“หวังวาจะเปนเชนนั้นกระมัง ในเมื่อแลกของกันแลว ขานอยก็อยากดูสักหนอย
วาสหายคนอื่นมีของดีอะไรหรือไม ภายใตสถานการณเชนนี้ นาจะมีสมบัติล้ำคาถูกนำ
ออกมาขายถึงจะถูก” หานลี่กลับกวาดสายตาไปบนแผงขายของรอบๆ แลวเอยอยาง
มีแผนการ
“สหายชางรอบคอบเสียจริง เมื่อครูที่ขามองดู มีสมบัติล้ำคาจำนวนไมนอย
ปรากฏตัวขึ้นจริงๆ แตขายังมีธุระดวน คงไมไดอยูเปนเพื่อนสหายแลว” สตรีกลาวลา
ในทันใด
“เชิญทานเซียนตามสบาย!” หานลี่ทำความเคารพดวยสีหนาราบเรียบ
สตรีที่อยูในไอสีดำเองก็ไมไดชักชา หันกายตรงไปยังทางเขาของเผาปศาจในทันที
หลังจากที่หานลี่รอใหสตรีผูนี้ออกไปจากหองโถงแลว ก็หยักมุมปากขึ้น อดที่จะ
เผยรอยยิ้มนอยๆ ออกมาไมได
เดิมทียาชำระพิสุทธิ์มีผลกับแคระดับเทพแปลงขั้นตนเทานั้น ครานี้หลังจาก
แลกเปลี่ยนกับสตรีผูนี้มาสองสามครั้ง ในที่สุดเขาก็รวบรวมสมุนไพรที่มีประโยชนตอ
ระดับเทพแปลงขั้นกลางได ดูแลวภายในระยะเวลาสั้นๆ ก็ไมจำเปนตองกังวลเรื่อง
สมุนไพรแลว
หลังจากที่ตัดเรื่องที่กังวลออกไปไดแลว หานลี่ก็รูสึกผอนคลายลง ตรงไปยังแผง
ของเผามนุษยที่อยูใกลๆ แลวเดินเขาไปอยางเงียบเชียบ
หลังจากวนดูรอบหนึ่ง หานลี่กลับขมวดคิ้วเล็กนอย
ถึงแมวาแผงขายของจะมีไมนอย สมบัติที่ผูบำเพ็ญเพียรทั้งสองเผานำออกมาก็
มากมายกวาแตกอนมาก
แตจากสายตาของเขาในตอนนี้ แนนอนวาสมบัติหรือวัตถุดิบตางๆ จึงไมเขาตางายๆ
สวนคัมภีรเคล็ดวิชาลับตางๆ ที่เขาสนใจที่สุด กลับมีคนนำออกมาขายนอยมาก ตอให
มีอยูสองสามชนิดก็ไมใชสิ่งที่เขาสนใจ
สั่นศีรษะสองสามครั้ง เขาไมรั้งรออยูที่นี่อีก พลางเดินออกไปจากหองโถงอยางแชมชา
เมื่อออกจากวิหารทมิฬ หานลี่ก็ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนี ตรงไปยังหอคอยศิลาที่
ซึ่งเปนที่พักของตนเอง
ครึ่งเดือนผานไป ในวันที่ทานอาวุโสมาสอนที่วิหารสวรรค เขาก็ไมมีทางพลาดแน
และยิ่งไปกวานั้นถึงแมวาจะไมมีเรื่องนี้ เขาก็ยังมีเรื่องหนึ่งที่ตองจัดการ และไมมี
ทางออกจากเมืองเทวะสวรรคในทันที
เมื่อหานลี่กลับมาถึงหอคอยศิลา ก็นำแผนปายหยกที่บันทึกคุณงามความดีของ
ตนเองออกมา หลังจากแลกกับปายเชิญในวิหารแลว ก็กลับไปยังที่พักของกลุมตนเอง
และหาหองทำสมาธิมาหองหนึ่งเพื่อนั่งพักผอน
สามวันตอมา สายรุงสีเขียวสายหนึ่งพลันออกไปจากหอคอยศิลาอยางรีบรอน
ขณะมุงตรงไปยังนอกเมือง
ครึ่งวันตอมา สายรุงสีเขียวสายหนึ่งพลันมาปรากฏที่กลางอากาศเหนือหุบเขาที่
อยูนอกเมือง หุบเขาแหงนี้มีสีเขียวขจี แตดูแลวนอกจากทัศนียภาพที่งดงามแลว
ก็ไมมีสิ่งใดที่สะดุดตา
แตสายรุงสีเขียวกลับหมุนวนรอบหนึ่ง แลวรอนลงบนหุบเขา
เมื่อลำแสงหมนแสงลง รางของหานลี่ก็ปรากฏอยูหนากำแพงหินที่สูงสามสิบจั้งเศษ
มองไปทางซายทีขวาที หลังจากไมพบความผิดปกติใดๆ ก็สะบัดแขนเสื้อ ยันตสีทอง
สายหนึ่งพุงออกมา จมหายเขาไปในกำแพงสีเทาอยางไรรองรอย
จากนั้นหานลี่พลันรออยูที่หนากำแพงหินเงียบๆ โดยไมพูดอะไร
ชั่วครูฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น
ผิวของกำแพงหินมีลำแสงสีเทาปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง เบื้องหนาของหานลี่มีทางเดิน
สูงสองจั้งสายหนึ่งปรากฏขึ้น
ทางเดินนี้เปนรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส เปลงแสงระยิบระยับเบาๆ
หานลี่ฉีกยิ้มบางๆ พลางสาวเทาเขาไป
ทางเดินสายนี้ยาวประมาณสี่สิบหาสิบจั้ง สุดปลายทางมีประตูหยกสีขาวที่มี
ลำแสงสีขาวหอหุมอยูขวางเอาไว
สองมือของหานลี่พลันรายคาถาอยางไมลังเล หลังจากปากบริกรรมคาถาแลว
มานลำแสงเบื้องหนาสั่นคลอนแลวแยกออก
เขาถึงไดเดินเขาไปอยางเงียบเชียบ
ดานหลังประตูเปนหองโถงขนาดสามสิบจั้ง นอกจากเกาอี้หินยี่สิบกวาตัวและโตะหิน
ขนาดยักษที่อยูตรงกลางแลว ก็ไมมีสิ่งอื่นอีก
และบนเกาอี้หินเหลานี้มีผูบำเพ็ญเพียรนั่งอยูแลวแปดเกาคน หนึ่งในนั้นมีทั้ง
บุ ร ุ ษ และสตรี สวมอาภรณ แ ตกต า งกั น แต พ ลั ง ยุ ท ธ ข องทุ ก คนล ว นอยู  ใ นระดั บ
เทพแปลงขึ้นไป
ผูบำเพ็ญเพียรเหลานี้เห็นหานลี่เดินเขามา ทันใดนั้นก็มีคนสองสามคนรองเรียก
ดวยใบหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม
“พี่หานก็มาแลว!”
“ครั้งนี้สหายมาไวเชียวนะ”
“ไดยินวาครั้งนี้พี่หานจับเงามรกตตนหนึ่งได จุๆ ชางเปนหนาเปนตาให กั บ
ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาอยางพวกเราจริงๆ!”
หานลี่คารวะตอบดวยใบหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม แลวถึงไดหาเกาอี้หินตัวหนึ่งนั่ง
ลงที่มุมของหองโถง ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ที่ไมไดสงเสียงทัก บางก็มีสีหนาราบเรียบ
บางก็มีสีหนาไรความรูสึก และบางก็ไมมองมาทางหานลี่เลยสักแวบ
หานลี่ไมสนใจคนเหลานี้เลยสักนิด กลับหลับตาทำสมาธิ
ในตอนที่หานลี่นั่งลงไดไมนาน ก็มีผูบำเพ็ญเพียรเขามาในหองโถงแหงนี้อยางตอเนื่อง
และมีคนรูจักเอยทักทายเชนกัน
หลั ง จากที ่ ผ  า นไปอี ก สองชั ่ ว ยาม ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รที ่ อยู  ใ นห องโถงก็ ม ี ม ากถึ ง
สิบหาสิบหกคนแลว และไมมีผูบำเพ็ญเพียรเขามาเพิ่มอีกสักระยะหนึ่ง แตกลับไมมี
ผูใดเอยอะไรอีก กลับนั่งสมาธิอยูบนที่นั่งเงียบๆ
หลังจากผานไปอีกชั่วครู ฉับพลันนั้นในหองโถงก็มีเสียงบุรุษเรียบๆ ดังขึ้น
“ดูแลวผูที่มาไดก็มากันหมด ยังมีสหายอีกสองสามคนที่มีภารกิจติดตัว จึงไมอาจ
มารวมชุมนุมไดตรงเวลา พี่จาว พวกเราเริ่มกันเถิด”
“อืม มากันพอสมควรแลวจริงๆ เอาตามที่พี่เหวินกลาวเถิด!”
เสียงนี้ดูคุนหูเล็กนอย หานลี่จึงลืมตาทั้งสองขางขึ้นดวยใจที่เตนระรัว
ครานี้มีชายวัยกลางคนสองคนเดินเคียงไหลกันเขามาจากดานนอกประตู คนหนึ่ง
สวมชุดคลุมสีขาวพร อมรอยยิ้ มจางๆ อีกคนหนึ่ ง มีใ บหนา ขาวผ องไร ห นวดเครา
สีหนาไรความรูสึก
คาดไมถึงวาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรแซเหวินผูซึ่งมอบแผนปายคุณงามความดีใหเขา
ที่เพิ่งพบไดไมนานผูนั้น รวมทั้งจาวอูกุย
เมื่อเห็นผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาทั้งสองคน ทุกคนในหองโถงก็เกิดเสียง
อื้ออึงขึ้น เห็นไดวาชัดกวาครึ่งของทุกคนที่นี่รูจักสองคนนี้
“เอาละ แตเดิมผูที่รับหนาที่จัดการชุมนุมใหกับผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาใหมคือ
สหายฟน เปนเพราะมีธุระติดพัน จึงเปลี่ยนใหพวกเราสองคนมาดูแลแทน ไม
มีขอคิดเห็นอะไรสินะ” จาวอูกุยกวาดสายตาไป แลวเอยอยางราบเรียบ
ผูบำเพ็ญเพียรทุกคนพลันใจหายวาบ ลวนไมไดเอยอะไรออกมา
ชายวัยกลางคนเห็นเชนนั้น กลับฉีกยิ้มแลวเอยดวยสีหนาเบิกบานวา
“แตเดิมมีเพียงสหายจาวดูแลที่นี่ก็พอแลว แตชวงนี้อยูในสถานการณพิเศษ มีเรื่องที่
คอนขางสำคัญที่ตองใหเหลาสหายปรึกษากันสักหนอย ดังนั้นผูแซเหวินจึงมาดวย”
“สถานการณพิเศษ ทานอาวุโสเหวินหมายถึงเรื่องที่เผาประหลาดอาจจะมาโจมตี
เมืองใชหรือไม?” ชายชราหนาแดงจมูกแดง เอยปากถามขึ้นในทันที
เมื่อไดยินชายชราถามเชนนี้ คนอื่นๆ ก็พากันใจหายวาบ สายตาจองเขม็งไปยัง
ผูบำเพ็ญเพียรแซเหวินและจาวอูกุย
“จุ  ๆ เรื ่ องนี ้ ไ ว ค  อยว า กั นที ห ลั ง ตามปกติ แ ล ว ก อนการแลกเปลี ่ ย นสิ ่ ง ของ
และแลกเปลี่ยนประสบการณนั้น หากมีปญหาอะไรในการฝกบำเพ็ญเพียร เราสองคน
จะชวยชี้แนะให ทวาก็เหมือนกับสหายฟน จำตองเอาของมีคามาแลกเปลี่ยน สุดทาย
หากพวกเจามั่นใจวาขาวอะไรที่สำคัญตองรายงาน ก็นำมารายงานเราสองคน ขอแคมี
ประโยชน ยากำจัดสิ่งโสมและสมุนไพรตางๆ นั้นไมมีขาดแนนอน” จาวอูกุยเอย
อยางเย็นชา
ตอนที่ 1355 ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา
ฟงคำพูดของจาวอูกุยจบ ผูบำเพ็ญเพียรทุกคนก็ไมมีผูใดมีความเห็นที่แตกตางอะไร
ดังนั้นหลังจากที่จาวอูกุยและผูบำเพ็ญเพียรแซเหวินมองสบตากันแวบหนึ่งแลว
ก็เดินไปอยูดานขางโตะหินที่อยูตรงใจกลาง
ผูบำเพ็ญเพียรสองสามคนที่อยูในบริเวณนั้นหยัดกายลุกขึ้นในทันใด เวนที่เอาไว
ใหผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาทั้งสองสามคนสองสามที่
ทั้งสองคนพยักหนา แลวนั่งลงบนเกาอี้หินสองตัว
เชนนั้น ภายใตการนั่งบัญชาการของผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาสองคน
การแลกเปลี่ยนตอจากนี้จึงดำเนินไปอยางราบรื่น
หานลี่เองก็ใชหยกทมิฬหมื่นปแลกทักษะการเขียนยันตวิเศษที่หายากมาสองสามชนิด
ทักษะการเขียนยันตของเขาในตอนนี้ กำลังอยูในจุดสำคัญ ถึงแมวายันตวิเศษ
เหลานี้จะไมใชยันตตัวอักษรลูกออดสีเงิน แตก็นับวาคอนขางพิเศษ และภายใตการ
ตั้งใจศึกษา ไมแนวาอาจจะชี้แนะเขาได
เมื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของกันเสร็จ ทุกคนก็เริ่มแลกเปลี่ยนประสบการณในการฝก
บำเพ็ญเพียรตอกัน บางก็แลกเปลี่ยนประสบการณในการฝกฝนเคล็ดวิชาลับกัน
แนนอนวาคนสวนใหญตางอธิบายอยางงายๆ หรือคลุมเครือ ถึงแมวาจะมีคนเอย
อยางละเอียด แตเมื่อเอยถึงจุดสำคัญ กลับจงใจหยุดพูดถึง ผูที่สนใจเรื่องนี้จริงๆ
ก็ไมไดรีบรอน หลังจากถายทอดเสียงหากันเล็กนอย ทั้งสองตางก็ใชสมบัติไมก็ใช
ประสบการณในการฝกบำเพ็ญเพียรแลกเปลี่ยนกันไปมา
ผูบำเพ็ญเพียรแซเหวินและพวกเองก็แสรงทำเปนมองไมเห็นสิ่งนี้
ชวงนี้หานลี่กำลังศึกษาวิชาการเขียนยันตอยู จึงบอกเลาประสบการณการเขียนยันต
ไปอยางคราวๆ
แตเห็นไดชัดวาผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาในหองโถงนั้นมีผูที่สนใจวิชาการเขียน
ยันตไมมากนัก แนนอนวาจึงไมไดสนใจการอธิบายของหานลี่มากนัก
กลับเปนผูบำเพ็ญเพียรแซเหวินและจาวอูกุยที่ไดฟงเรื่องยันตลูกออดสีเงินของ
หานลี่แลว ใบหนาพลันฉายแววตกตะลึงออกมา
ถึงแมวาผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงจะรูจักตัวอักษรลูกออดสีเงินอยูไมนอย แตของสิ่งนี้
หากไมมีคนคอยอธิบายใหตัวตอตัว การเปดประตูแหงความเขาใจเพื่อศึกษาวิชาการ
เขียนยันตนี้ก็เปนเรื่องที่ยากแสนยาก
เมื่อทุกคนบอกเลากันครบแลว ทันใดนั้นก็มีคนทนไมไหวเอยถามจาวอูกุยและ
ผูบำเพ็ญเพียรแซเหวินถึงจุดที่ยากในการฝกบำเพ็ญเพียร
แตปญหาเหลานั้น ผูบำเพ็ญเพียรแซเหวินก็แคตอบกลับไปเพียงไมกี่ประโยค
เทานั้น หัวขอบางขอกลับไดแตฉีกยิ้มไมปริปาก สวนจาวอูกุยนั้นกลับถายทอดเสียงไป
หาผูที่ตั้งคำถามสองสามประโยค
ผูที่ตั้งคำถามไมวาจะพยักหนาหรือสั่นศีรษะ แตลวนพากันนั่งลงอีกครั้ง ไมไดเอย
อะไรอีก
ผูบำเพ็ญเพียรที่เพิ่งบินขึ้นมาใหมเหลานี้ แทบจะพบกับความยากลำบากใน
การบำเพ็ ญ เพี ย รที ่ ม ากบ า งน อ ยบ า งแตกต า งกั น ไป ดั ง นั ้ น นอกจากหานลี ่ แ ล ว
ทุ ก คนต า งก็ ไ ม ยอมละทิ้ งโอกาสที ่ห าไดย ากนี้ ส ว นเคล็ ด วิ ชาพระพรหมมารของ
ผูฝกตนคูบำเพ็ญเพียรที่หานลี่กำลังฝกฝนนั้ น ถึงแมวาจะมีจุดที่ไมเขาใจในการ
บำเพ็ญเพียรเชนกัน แตเคล็ดวิชานี้ไมมีผูใดเคยฝกฝนมากอน แนนอนวาเขาจึงขี้เกียจ
จะไปซักถามอะไร แคนั่งฟงอยูดานขางอยางเงียบๆ เทานั้น
หลังจากผานไปหนึ่งชั่วยามเต็มๆ ทุกคนถึงไดซักถามกันคนละหนึ่งรอบ และมีคน
รายงานขาวเฉพาะกับจาวอูกุยและพวกเพื่อแลกเปลี่ยนสมุนไพรและยาวิเศษ
เชนนั้น ตามกฎเกณฑของการชุมนุมแลว ขั้นตอนทุกอยางจึงดำเนินการอยาง
เสร็จสิ้นไปแลวรอบหนึ่ง
ครานี้หลังจากที่ผูบำเพ็ญเพียรแซเหวินกระแอมออกมาเบาๆ หนึ่งครั้ง ก็ทยอยกันหยัด
กายลุกขึ้นแลวเอยวา
“เอาล ะ ในเมื ่ อจั ด การทุ ก อย า งเสร็ จ แล ว พวกเราสองคนก็ จ ะนำคำสั ่ ง ของ
ทานอาวุโสเหลยหลัวมาถายทอดให พวกเจาโปรดฟงใหดี”
เมื่อไดยินคำพูดนี้ของผูบำเพ็ญเพียรแซเหวิน หานลี่และพวกตางก็ใจหายวาบ
สีหนาเครงขรึมขึ้น
อาวุโสที่มีชื่อเสียงของเผามนุษยแหงเมืองเทวะสวรรคมีอยูหาคน อรหันตเหลยหลัว
และปรมาจารยจินเยวก็เปนหนึ่งในนั้น
ทั้งสองคือผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรางที่มีความสามารถลึกล้ำยากจะคาดเดา
และเปนผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา แตปรมาจารยจินเยวนั้นไมสนใจเรื่องภายนอก
มักจะกักตนบำเพ็ญเพียรเปนเวลานาน แนนอนวาอรหันตเหลยหลัวจึงกลายเปน
หัวหนาของเหลาผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาในเมืองเทวะสวรรค มีตำแหนงสูงสงให
สายตาของผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดที่บินขึ้นมา ไมมีผูใดเทียบเทียมได
ทวา ตั้งแตที่หานลี่มาถึงเมืองเทวะสวรรคกลับไมเคยพบสองคนนี้มากอน เคยไดยิน
ชื่อเสียงในการบรรยายที่วิหารสวรรคมาสองสามครั้ง และเคยเห็นแคอาวุโสที่เหลือ
ทั้งสามคนมาทำการบรรยาย
“จากการแยกแยะขาวที่ทานอาวุโสเหลยหลัวไดรับการรายงานมาไมนานมานี้
ในที่สุดก็ไดมั่นใจวา ภายในสิบป เมืองเทวะสวรรคมีโอกาสที่จะถูกเผาประหลาดโจมตี
ไปเมืองมากกวาหกสวน มีความเปนไปไดมากกวาสองสวนที่จะตองเผชิญหนา กับ
กองทัพเผาประหลาดที่รวมมือกันมากกวาสามเผา ถึงแมวาจะเล็กนอย แตความ
เปนไปไดที่จะระเบิดสงครามรอยเผาอีกครั้ง ก็ไมอาจลบทิ้งไปได” จาวอูกุยมีน้ำเสียง
เย็นชาเปนพิเศษ ดังกอนอยูภายในหองโถง
ถึงแมวาผูคนในหองโถงจะคาดเดาคำพูดของจาวอูกุยเอาไวแลว แตก็ยังรูสึกจิตใจ
หนักอึ้งตามคำพูดของเขา เมื่อไดยินคำวาสงครามรอยเผา คนกวาครึ่งก็พากันมีสีหนา
ซีดขาว
แมคนเหลา นี้ จะเป นผู ที ่เพิ่ ง บิ น ขึ ้ นมาถึง แดนวิ ญ ญาณไดร อยป แตเรื่องเล า
เกี่ยวกับสงครามรอยเผาในอดีต แนนอนวาไมมีทางไมคุนเคย
นี่เกือบจะทำใหมนุษยและปศาจทั้งสองเผาถูกลางเผาพันธุ
วากันวาการตอสูครั้งนี้ ตั้งแตตนจนจบ ใชเวลาตอเนื่องยาวนานไปถึงหมื ่นป
มันโหดรายแคไหนแคคิดก็รูแลว
หานลี่ที่นั่งอยูมุมหองและไมคอยปริปากใดๆ พลันพนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
แลวเผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา ดูแลวความรายแรงของสภานการณ จะมากกวาที่
เขาคาดการณเอาไวมาก ตองคิดหาวิธีเอาตัวรอดแลว มิเชนนั้นหากระเบิดสงครามกับ
เผาปศาจจริง ไมตองพูดถึงผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงจิ๊บจอยคนหนึ่งเลย เกรงวา
แมแตอาวุโสระดับหลอมรางก็อาจจะตองเพลี่ยงพล้ำ
“ทานอาวุโสทั้งสองนำขาวเหลานี้มาบอกพวกเราที่มีพลังยุทธต่ำตอย ก็นาจะมี
จุดประสงคสินะขอรับ มิเชนนั้นความลับเชนนี้ คงไมนำออกมาแพรงพรายงายๆ”
บุรุษเทาเปลาคนหนึ่งยืนขึ้นทำความเคารพ แลวเอยถามอยางนอบนอมวา
“เหล า สหายสามารถฝ ก บำเพ็ ญ เพี ย รอย า งหนั ก จนมาถึ ง ระดั บ นี ้ ไ ด ใ น
สภาพแวดลอมที่มีไอวิญญาณบางเบา และเสี่ยงอันตรายบินขึ้นมายังแดนวิญญาณนั้น
สติปญญาลวนไมธรรมดา เชนนั้นขาจะพูดตรงๆ ก็แลวกัน! ชวงนี้ผูบำเพ็ญเพียรที่
บินขึ้นมายังเมืองเทวะสวรรคอยางพวกเราตางตองรับหนาที่เปนผูพิทักษยมโลกนิล
ที่ดูเหมือนจะไดรับความสำคัญ แตความจริงแลวหากมีเรื่องอันตราย ทานอาวุโสจะสง
พวกเราไปจัดการกอนเปนอันดับแรก ผลคือถึงแมวาทุกๆ สองสามปจะมีสหายรวมวิถี
บินขึ้นมาเพิ่ม แตที่ผานมาจำนวนของผู บำเพ็ญ เพียรระดั บสูงที่ เพลี่ ยงพล้ ำ ของ
เมื องเทวะสวรรค นั ้ น มี ม ากเสี ย ยิ ่ ง กว า ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รที ่ บ ิ น ขึ ้ น มาอย า งพวกเรา
และความจริงแลวจำนวนของผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาอยางพวกเรา ก็มีไมถึงหนึ่งใน
สิบสวนของผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงเลยดวยซ้ำ ผูบำเพ็ญเพียรทองถิ่นเหลานี้ สวนใหญ
กลับรับภารกิจที่คอนขางปลอดภัยเทานั้น ที่ผานมาที่อยูในเมืองเทวะสวรรค ทุกคนคง
สัมผัสไดสินะ สหายบางคนยังถูกสง ไปทำภารกิจที่ เสี่ย งอันตรายถึ งสองสามครั้ ง
เหล า สหายคงไมร ู สิ นะ ภายใต ก ารปฏิบ ั ต ิเ ชน นี ้ เป น ผลมาจากผู บ ำเพ็ ญ เพียรที่
บินขึ้นมาอยางพวกเรารวมตัวกันกับทานอาวุโสเหลยหลัวตอสูแยงชิงมาอยางหนัก
วากันวากอนที่ปรมาจารยจินเยวและทานอาวุโสเหลยหลัวจะไดเขาไปเปนอาวุ โส
ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รที ่ บ ิ นขึ ้ นมาอย า งพวกเรานั ้ น ตกอยู  ใ นสภาวะที ่ เ ลวร า ยยิ ่ ง กว า นี้
ระหวางการผลัดเปลี่ยนกันเขาเวร ก็มักจะมีผูเพลี่ยงพล้ำไปกวาครึ่ง” จาวอูกุยเอยตอ
อยางเย็นชา
ผูที่อยูในหองโถงตางมีสีหนาไมปกติ
สิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรแซเหวินพูดทั้งหมด พวกเขาตางรูสึกกันไดมากบางนอยบาง
แมกระทั่งชวงปที่ผานมา ยังมีคนที่ไดเห็นกับตาตัวเองวา ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา
คนอื่นไดเพลี่ยงพล้ำไปขณะที่ปฏิบัติภารกิจที่อันตราย
มิเชนนั้น ผูที่มาเขารวมการชุมนุมในหองโถงนี้คงมีมากกวานี้อีกสองสามคนแลว
หานลี่มีสีหนาไรความรูสึก
เมื่อเขาเขามาเปนผูพิทักษยมโลกนิล ก็ถูกสงออกไปยังเขตอันตรายอยางบึงรุงอรุณ
สวนหัวหนากลุมที่เหลืออีกสามกลุมที่ชวยกันผลัดเปลี่ยนเวรตรวจตราที่บึงรุงอรุณนั้น
นอกจากผูบำเพ็ญเพียรทองถิ่นคนหนึ่งแลว ที่เหลืออีกสองคนก็เปนผูบำเพ็ญเพียรที่
บินขึ้นมาเชนกัน
จุดนี้แนนอนวาเขารูสึกสงสัยมาตั้งนานแลว
ดังนั้นถึงไดตอบตกลงหลังจากที่จาวอูกุยมาหาและเชิญชวนใหเขาเขารวมสิ่งที่
เรียกวาการชุมนุมถึงที่
จากการไดสัมผัสกับคนอื่นๆ แนนอนวาเขานั้นดูออกวาผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นตาง
รูสึกหวาดกลัวผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา มิเชนนั้นตัวประหลาดเฒาหมิงและพวกที่เขา
มาลาสมบัติในที่ของเขาลมเหลว คงไมจากไปเชนนั้นแน
มีผูที่เปนที่พึ่งมาหาถึงที่ แนนอนวาเขาจึงไมปฏิเสธ
หลังจากที่เขารวมการชุมนุม ก็ไมไดมีเรื่องอะไรมาหาอีก และไมไดภารกิจอะไรที่
สงมาใหกลุมเล็กๆ อยางเขาอีก แนนอนวานั่นเปนเพราะการตรวจตราบึงรุ ง อรุณ
เดิมทีก็เปนภารกิจที่อันตรายมากอยูแลว
“ที่นำขาวมาบอกกับพวกเจาในครั้งนี้ ความจริงแลวทานอาวุโสเหลยหลัวอยาก
หาโอกาสรักษาปราณแทของผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมากอนที่หายนะจะเริ่มขึ้น”
ผูบำเพ็ญเพียรแซเหวินเอยปากอยางราบเรียบ
“ความหมายของทานอาวุโส หรือวาทานอาวุโสเหลยหลัวมีวิธีใหพวกเราหนีออก
จากเมืองเทวะสวรรค เพื่อหลบเลี่ยงสงครามครั้งนี้!” สตรีสวมชุดชาววังสีเขียวคนหนึ่ง
ใบหนาสวมผาคลุมหนาเอยถามดวยอารามดีใจ
“หึ การโจมตีเมืองของเผาประหลาด เกี่ยวของกับความเปนตายของเผามนุษย
อย า งพวกเรา ต อ ให พ วกเราและผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รอื ่ น ๆ มี ข  อ ขั ด แย ง กั น แค ไ หน
ในการตานทานเผาประหลาดนั้นก็ไมอาจละทิ้งหนาที่ได หากบังอาจออกจากเมือง
เทวะสวรรค หลบหนีจากหนาที่โดยไมมเหตุผล ไมตองใหผูพิทักษมาตามหาพวกเจา
พวกขาจะลงมือสังหารพวกเจาดวยตนเอง” จาวอูกุยแววตาเปลงประกายเย็นเยียบ
เอยอยางโหดเหี้ยมออกมา
ผูที่อยูในหองโถงไดยินคำนี้ตางพากันหนาเปลี่ยนสี และรูสึกตกตะลึงระคนสงสัย
ไมแนนอน
“เชนนั้นเหลาทานอาวุโสมีเจตนาใดกันแน?” สตรีสวมชุดชาววังนั้นกลาหาญไมนอย
หลังจากลังเลเล็กนอยก็ยังคงซักถามตอ
“หึๆ เหลาสหายอยาเขาใจผิด ความหมายของทานอาวุโสเหลยหลัวคือ การรับหนาที่
ตอกรกับศัตรูนั้นแนนอนวาปฏิเสธไมได แตก็ไมหวังใหผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาอยาง
พวกเราตองดับสูญเพราะเหตุนี้ ดังนั้นหลังจากที่ปรึกษากับพวกเราแลว ในที่สุดก็คิด
หาวิธีที่จะรักษาปราณแททั้งหมดเอาไวได แตวิธีนี้อันตรายมาก ถึงไดสงพวกเรามา
บอกเลากับเหลาสหาย ใหเหลาสหายเลือกไดอยางอิสระวาจะเขารวมแผนนี้หรือไม”
ผูบำเพ็ญเพียรแซเหวินหัวเราะนอยๆ ออกมาขณะเอย
แนนอนวาจึงเกิดเสียงอื้ออึงขึ้น คนสวนใหญอดที่จะมองสบตากันไปมาไมได
หานลี่ขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็หรี่ตาทั้งสองขางลง
“ใหพวกเราเลือกอะไรกันแน ทานอาวุโสทั้งสองพูดมาตรงๆ เถิด” คนผูหนึ่งเอย
ถามอยางแชมชา
“งายมาก ชวงนี้ทานอาวุโสเหลยหลัวจะประกาศภารกิจที่คอนขางใชเวลานาน
แตมีผลตอบแทนหนักออกมา ภารกิจเหลานี้อันตรายมาก ผูบำเพ็ญเพียรทองถิ่น
เหลานั้นคงไมมีทางรับภารกิจนี้ แตหลังจากที่เหลาสหายทำภารกิจสำเร็จ ก็นับวาได
คุณงามความดีครั้งใหญ จะสามารถถอนตัวออกไดอยางสงาผาเผย หากสงครามใหญ
ไมไดปะทุ พวกเจาก็กลับไปยังเมืองเทวะสวรรค หากสงครามปะทุจริงๆ พวกเจามี
พลั ง ยุ ท ธ ไ ม พ อ ก็ จ ะได อ อกห า งจากสงคราม และสามารถรั ก ษาปราณแท ข อง
ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาอยางพวกเราเอาไวได หึๆ บอกไวกอนนะ! นี่ตองดูว า
พวกเจาจะตัดสินใจอยางไร ถึงอยางไรเสียจะเกิดสงครามที่เผาประหลาดโจมตีเมือง
หรือไม ก็เปนเรื่องที่พูด ยาก สวนภารกิจนี้ กลับมีโอกาสที่จะเพลี่ย งพล้ำได เ ป น
อยางมาก หากไมอยากเสี่ยงใดๆ อยากออกจากเมืองเทวะสวรรค ก็เปนเรื่องที่เพอฝน
เทานั้น” จาวอูกุยเอยพรอมรอยยิ้มเย็นชา
ตอนที่ 1356 แมลงวิญญาณโตเต็มวัย
เมื่อไดฟงคำพูดของจาวอูกุยและพวกจบ ผูบำเพ็ญเพียรที่อยูในหองโถงทั้งหมด
ตางก็สูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง ทันใดนั้นพลันมีสีหนาแตกตางกัน
อัตราการเพลี่ยงพล้ำครึ่งหนึ่ง ภารกิจนี้มันเสี่ยงเกินไปหนอย และถาอยูในเมือง
ก็มีอัตราแคหกสวนที่เผาประหลาดจะรุกรานเขามา แตหากแคเผาประหลาดรุกราน
เขามา คนจำนวนไมนอยก็ยังคงเชื่อมั่นวาจะผานหายนะครั้งนี้ไปได
ภายใตการขบคิดเชนนี้ จากนั้นภารกิจนี้ก็ดูเหมือนวาจะเสี่ยงเกินไปหนอย
แนนอนวาการรักษาชีวิตของแตละคนนั้น แนนอนวาไมอาจวางแผนอยางงายๆ ได
ทุกคนตางมีไตรตรองของตัวเอง
ครานี้ในหองโถงจึงเงียบกริบ
“เหลาสหายไมจำเปนตองตัดสินใจในทันที ภารกิจเหลานี้จะประกาศออกมา
อยางตอเนื่องในระยะนี้ และยิ่งไปกวานั้นดวยเงื่อนไขพิเศษ ขอแครับภารกิจนี้ ผูที่มี
ภารกิจก็สามารถวางภารกิจเดิมได ดังนั้นถึงแมวาสหายจะมีหนาที่อยูแลว ก็
ไมจำเปนตองกังวล” ผูบำเพ็ญเพียรแซเหวินเอยสมทบอีกสองสามประโยค
“ทานอาวุโสเหวิน ตอใหพวกเราทำภารกิจสำเร็จ แตจะแกปญหาเรื่องยาชำระสิ่งโสม
อยางไร หากไมมียาชำระสิ่งโสม ตอใหพวกเราจะทำภารกิจสำเร็จ ก็ตองเพลี่ยงพล้ำ
ดวยเคราะหสวรรคสองสีอยูดี”
หานลี่เอยปากถามขึ้นเปนครั้งแรก
“ที่แทก็หลานหานนี่เอง จุดนี้ไมจำเปนตองกังวล ใหพวกเจาจัดการกับภารกิจที่
อันตรายขนาดนี้ เดิมทีก็เปนการเทหมดหนาตักอยูแลว แนนอนวากอนออกเดินทาง
จะรวบรวมยาชำระสิ่งโสมที่จำเปนใหกับพวกเจา แตตรงกันขามก็คือ ยาลูกกลอน
เหล า นี ้ จ ะถู ก ลงอาคมเอาไว นอกเสี ย จากว า เจ า จะทำภารกิ จ สำเร็ จ มิ เ ช น นั้ น
ยาชำระสิ่งโสมเหลานี้จะทำลายตัวเองลงโดยอัตโนมัติ เหลาสหายอยาคิดอยางบาๆ
โดยการละทิ้งภารกิจนี้กลางคัน และหนีไปตามลำพังเด็ดขาด มิเชนนั้นผลที่ตามมาจะ
เปนอยางไร พวกเจาก็นาจะรูดี” จาวอูกุยเอยตออยางราบเรียบ
“เชนนี้นี่เอง ขอบพระคุณทานอาวุโสที่คลายความสงสัยใหขอรับ” หานลี่พยักหนา
นัง่ ลงอีกครั้งดวยสีหนาราบเรียบ
คนหลายคนในหองโถงไดยินคำพูดของจาวอูกุย ก็ไมไดสีหนาประหลาดใจ แตในใจ
พลันหัวเราะขมขื่นออกมาพรอมกันอยางมิไดนัดหมาย
ความคิดฉวยโอกาสแตเดิมของคนเหลานี้ หายไปเปนปลิดทิ้ง
“สิ่งที่ควรพูด พวกเราสองคนก็ไดบอกกับเหลาสหายไปหมดแลว ภารกิจแรกที่จะ
ประกาศ จะเริ่มขึ้นในอีกครึ่งเดือน หากอยากรับภารกิจเหลานี้ ก็ควรเตรียมตัวเอาไว
ใหดี ถึงแมวาภารกิจจะเปนสิ่งที่ทานอาวุโสเหลยหลัวประกาศออกมาเพื่อพวกเจา
เปนพิเศษ แตหากมีผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นรับไป ก็เปนเรื่องที่ทำอะไรไมได เอาละ
การชุมนุมสิ้นสุดลงแคนี้ ทุกคนกลับไปขบคิดขอดีและขอเสียเอาเองเถิด” ผู
บำเพ็ญเพียรแซเหวินออกคำสั่งดวยรอยยิ้มเปนครั้งสุดทาย แลวประกาศให การ
ชุมนุมสิ้นสุดลง
ทันใดนั้นเขาและจาวอูกุยก็ยืนขึ้ นตามลำดับ และสาวเทายาวๆ ออกไปจาก
หองโถงกอน
หลังจากนั้นผูที่อยูในหองโถงตางก็ตกอยูในความเงียบสงัดชั่วครู และมีคนเดิน
ออกไปอยางตอเนื่อง คนสวนใหญลวนขมวดคิ้วมุน ทาทางกำลังขบคิด
หานลี่ไมไดรีบรอนออกไป แตนั่งนิ่งอยูที่เดิม กำลังขบคิดอะไรอยูอยางมีแผนการ
หลังจากผานไปชั่วครู คนในหองโถงก็เหลือเพียงไมกี่คน
“อันใด พี่หานสนใจภารกิจเหลานี้หรือ” ฉับพลันนั้นก็มีคนเดินเขามา เอยกับหานลี่
พรอมกับยิ้มนอยๆ
หานลี่หนาเปลี่ยนสี หลังจากมองเห็นคนผูนั้นแลว ถึงไดตอบกลับดวยรอยยิ้มจางๆ วา
“ที่แทก็เซียนซวนนี่เอง ขานอยสนใจอยูเล็กนอย ที่เหลาอาวุโสคิดทางเลือกให
พวกเรานั้น นับวาเปนการรักษาชีวิตที่ไมเลว แตแคเสี่ยงไปหนอย”
คนผูนี้คาดไมถึงวาจะเปนสตรีผูบำเพ็ญเพียรที่สวมชุดชาววังสีเขียวผูนั้น พลังยุทธ
อยูในระดับเทพแปลงขั้นกลาง
หานลี่เคยพบหนาสตรีผูนี้มากอนแลวสองสามครั้งในงานชุมนุม และเคยพูดคุย
กันนิดหนอย นับไดวารูจักกัน
“ไดยินวาภารกิจลาดตระเวนกอนหนานี้ไมนาน พี่หานจับเงามรกตตนหนึ่งได
โดยลำพัง ดูแลวความสามารถของพี่หานเกรงวาคงจะเหนือกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับ
เทพแปลงขั้นกลางธรรมดาๆ หากสหายยอมรับภารกิจละก็ นาจะประสบความสำเร็จ
ไดมากกวาสหายคนอื่น เชนนั้น เจากับขารวมมือกันรับสักภารกิจเปนอยางไร?”
สตรีแซซวนเอยดวยรอยยิ้มเบิกบาน
ถึงแมวานางจะมีผาคลุมหนาคลุมอยู แตจากผิวและดวงตางดงามที่เผยออกมา
แนนอนวาสตรีผูนี้หญิงงามแหงยุคคนหนึ่ง
หานลี่ไดยินคำนี้พลันรูสึกประหลาดใจ แตหลังจากที่จองเขม็งไปยังใบหนาของ
สตรีผูนี้ แลวถึงไดสั่นศีรษะเบาๆ
“สหายชมเกินไปแลว ขานอยเพิ่งจะบรรลุระดับขั้นมาเปนขั้นกลางไดไมนาน
จะไปเทียบกับเหลา เซีย นไดอยา งไร สวนจะรับภารกิจหรื อไม ผูแซหานยังไม ไ ด
ตัดสินใจ ตัดสินใจตอนนี ้มั นเร็ว เกิ นไป” น้ำเสียงของหานลี ่มี มารยาทเป นพิ เ ศษ
แตกลับเผยเจตนาปฏิเสธอยางนุมนวลออกมา
สตรีแซซวนไดฟงคำตอบของหานลี่ แววตาพลันฉายแววผิดหวัง แตก็ไมไดรบเราตอ
หลังจากคุยเลนอีกสองสามประโยค ก็ขอตัวกลาวลา
หลังจากที่เงาแผนหลังของสตรีผูนี้หายไปจากประตูหองโถงแลว หานลี่ถึงไดชัก
สายตากลับมา ขบคิดกับตนเองอยางเงียบๆ
ถึ ง แม ว  า สตรี ผ ู  นี ้ จ ะมี พ ลั ง ยุ ท ธ ไ ม ต ่ ำ ต อย ฝ ก ฝนวรยุ ท ธ ช นิ ด หนึ ่ ง ที ่ เ รี ย กว า
‘สามพันนกกระเต็น’ วากันวารายกาจมาก แตวาแตไหนแตไรมาเขามักจะทำอะไร
ตามลำพังจนชินเสียแลว ประกอบกับที่มีสมบัติวิเศษที่ไมอยากใหคนนอกรูงายๆ
ตอใหรับภารกิจเหลานี้จริงๆ ก็คงไมคิดจะรวมมืออะไรกับใคร และยิ่งไปกวานั้น
ครานี้เขายังมีเรื่องสำคัญอยูเรื่องหนึ่ง เกรงวาตอใหพรุงนี้เกิดสงครามเผาประหลาด
โจมตีเมือง เขาก็ไมอาจออกไปไดในทันที
ในที่สุดแมลงกลืนทองที่ถูกเขาเลี้ยงดูเอาไวดวยหญาสีรุง ก็เริ่มจะเปลี่ยนเปน
โตเต็มวัยเมื่อสองสามปกอน และถูกเขาใชเคล็ดวิชาลับในการเรงการเจริญเติบโตที่
ไดมาจากสตรีศักดิ์สิทธิ์เทียนหลาน เรงการเจริญเติบโตไปครั้งหนึ่ง
ภายในระยะเวลาสั้นๆ สองสามเดือน หรือยาวหนอยก็สองสามป แมลงวิญญาณ
เหลานี้นาจะโตเต็มวัยไดแลว เขาจะยอมหยุดการเจริญเติบโตแลวออกไป ทำใหการ
พัฒนาระดับลมเหลวงายๆ ไดอยางไร
หานลี่รูสึกยุงเหยิง ถอนหายใจออกมาเบาๆ เฮือกหนึ่ง ในที่สุดก็หยัดกายลุกขึ้นจากไป
สายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงขึ้นไปเหนือหุบเขา แลวพุงตรงไปยังเมือง
การบรรยายที่วิหารสวรรคในสิบวันใหหลังนี้ เขาไมอยากพลาดไป
หลังจากกลับมาถึงหอคอยศิลาฐานที่มั่น หานลี่ก็เขาไปในหองทำสมาธิแลวเปด
เขตอาคม นั่งสมาธิลงบนฟูกภายในหองเงียบๆ
พลิกฝามือ ในมือมีขวดหยกสีเหลืองขวดหนึ่งปรากฏขึ้น เทยาลูกกลอนสีเขียว
ขนาดเทาหัวแมมือเม็ดหนึ่งออกมา กรอกเขาปากอยางไมตองคิด
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเขียวจางๆ ชั้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนรางของเขา
แววตาของหานลี่เปลงประกาย ยื่นแขนของตนเองออกมา นิ้วทั้งสิบกางออก
เล็กนอย แลวหลับตาทั้งสองขางลง
เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้นเบาๆ หนาผากของหานลี่มีลำแสงเปลงประกาย ทารกความ
สูงสองชุนปรากฏขึ้น
ทารกเหยียบอยูบนหมอใบเล็ก รอบกายมีกระบี่เลมเล็กราวกับเข็มสีทองยี่สิบเลม
โคจรลอมรอบอยู ดูแลวนาเกรงขามไมธรรมดา
ทารกผูนี้กมหนาลงมองไปยังแขนทั้งสองที่ยื่นออกมาจากรางที่อยูดานลาง กะพริบตา
ที่แยกตาดำและขาวออกจากกันอยางชัดเจน มุมปากเผยรอยยิ้มบริสุทธิ์ออกมา
อาปากออก พนลูกบอลเพลิงสีเงินออกมา เปลงแสงสวางวาบแลวโจมตีไปยังฝามือ
ชั่วขณะนั้นเสียงระเบิด “ปง” พลันดังขึ้น เปลวเพลิงสีเงินหอหุมฝามือของเขาเอาไว
ขางใน
ฉากที่แปลกประหลาดพลันปรากฏขึ้น!
ฝามือที่เดิมดูธรรมดาๆ พลันมีลำแสงสีดำเปลงแสงสวางวาบ ชั่วขณะนั้นในเวลา
เดียวกันนิ้วทั้งหาพลันมีแหวนสีขาววงหนึ่งปรากฏขึ้น แหวนทุกวงมีหัวกะโหลกที่ดู
เสมือนจริงสลักอยู
หัวกะโหลกเหลานี้หนาตาบิดเบี้ยวทามกลางเปลวเพลิงสีเงิน ราวกับวาฟนคืนชีพ
ขึ้นมาอยางไรอยางนั้น ทยอยกันเผยสีหนาที่แตกตางกันออกมา บางก็ดูเหมื อนมี
ความสุขอยางสุดๆ บางก็ดูเหมือนเจ็บปวดเปนอยางมาก และยังมีทาทางนิ่งงันอีกดวย
แตไมวาจะมีหนาตาอยางไร เปลวเพลิงสีเงินบนแหวนเหลานี้ก็มีภาพลวงตา
กะพริบระยิบระยับไมหยุด และสิ่งที่นาเหลือเชื่อก็คือ ตามการเปลี่ยนแปลงของแหวน
ฝามือมีเสียงกรีดรองดังเบาสลับกันไปมา และยิ่งไปกวานั้นผิวยังคอยๆ เปลี่ยนเปน
สีขาวนวล ราวกับวาไมใชกายเนื้อ แตเปนหยกงามสีขาวอยางไรอยางนั้น
ทารกเอียงศีรษะอาปากออกอีกครั้ง พนลูกบอลเพลิงกลุมหนึ่งออกมา โจมตีไปยัง
ฝามืออีกขางหนึ่ง
หลังจากที่ลำแสงสีเงินเปลงแสงเจิดจา เปลวเพลิงประหลาดก็หอหุมแขนขางนั้นเอาไว
แตสิ่งที่ทำใหผูคนไมอยากจะเชื่อก็คือ ฝามือในเปลวเพลิงสีเงินนี้ไมเหมือนกับ
สีขาวบริสุทธิ์อีกขาง แตเปลี่ยนเปนสีดำสนิท และหลังจากที่เผาไหมไดชั่วครู ใจกลาง
ฝามือก็มีลวดลายภูเขาลูกเล็กที่เหมือนกับหลังฝาปรากฏขึ้น กะพริบแสงสีเทาลึกลับ
ระยิบระยับ
ในตอนที ่ ฝ  า มื อทั ้ ง สองมี ป รากฏการณ ท ี ่ น  า อั ศ จรรย เ กิ ด ขึ ้ น ทารกที ่ เ คยพน
เปลวเพลิงสีเงินออกมาก็พลิ้วไหว คาดไมถึงวาจะหายวับไปตรงหนาหากของหานลี่
แทบจะในเวลาเดียวกัน กายเนื้อของหานลี่พลันเปลี่ยนไปทามกลางลำแสงสีเขียว
ฉั บ พลั นนั ้ น พลั นกลายเป นลำแสงสี ท อง แผ น หลั ง มี เ งามนุ ษ ย ล วงตาสี ท องอ อน
สายหนึ่งปรากฏขึ้น
ถึงแมวาเงานี้จะเลือนราง แตดูแลวคาดไมถึงวาจะมีหัวสามหัว แขนหกขางใน
เวลาเดียวกัน
สวนขอมือและแกมที่เปลือยเปลาของหานลี่ ก็มีอักขระสีทองแดงสี่เหลี่ยมปรากฏขึ้น
โคจรอยูบนผิวของหานลี่ไปมาไมหยุด มองจากที่ไกลๆ นั้นดูเหมือนเกล็ดสีทองอยางไร
อยางนั้น
ทำใหหานลี่ที่อยูในลำแสงสีทอง ดูลึกลับราวกับพระพุทธเจาอยางไรอยางนั้น
……
สิบกวาวันตอมา หานลี่เดินออกมาจากหองกักตนดวยสีหนาเรียบเฉย เขารวมการ
บรรยายในวิหารสวรรคตอเนื่องสามวันสามคืน แลวออกจากเมืองเทวะสวรรคไปดวย
ความรูสึกพึงพอใจ กลับไปจวนพำนักของตนเอง
และในตอนที่หานลี่กลับมายังจวนพำนักไดแคไมกี่เดือน อาวุโสของเมืองเทวะสวรรคก็
ประกาศประหลาดที่ดูแลวอันตรายมาก แตมีรางวัลหนักออกมาดังคาด ภารกิจเหลานี้
ลวนเกี่ยวของกับเผาประหลาดตางๆ แตตองการผูรับภารกิจในระดับเทพแปลงขึ้นไป
ชั่วขณะนั้นจึงเกิดความวุนวายในเมืองขึ้น
แตเปนเพราะภารกิจเหลานี้มีโอกาสเพลี่ยงพล้ำมากเกินไป ผูที่ไปรับภารกิจ
แนนอนวาจึงนอยแสนนอย
และในตอนนั้นเอง ก็มีแขกที่ไมไดรับเชิญสองสามคนมาปรากฏตัวในที่อยูของหานลี่
และมาเยี่ยมเยียนเจาของอยางเขา
ภายในจวนคนเหลานี้พูดคุยเรื่องสายลับกับเขาอยูเกือบครึ่งวัน แลวถึงไดจากไป
เหลือเพียงหานลี่ที่มีสีหนาบัดเดี๋ยวเครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใส หลังจากขบคิดอยูภายใน
หองลับอยูสองสามวัน ในที่สุดก็ตัดสินใจ
หลังจากนั้นสี่เดือน แมลงกลืนทองกวาครึ่งก็โตเต็มวัยแลว ในที่สุดแมลงวิญญาณ
มากกวาหกถึงเจ็ดพันตัวก็โตเต็มวัยอยางไมอยากจะเชื่อ
หานลี่จึงเก็บแมลงวิญญาณและขาวของในจวนในทันใด หลังจากรับภารกิจลับใน
แดนลับของเมืองเทวะสวรรคแลว หานลี่ก็หายไปจากเมือง
จากนั้นไมนานกลุมเดิมที่หานลี่เคยอยูก็ไดรับคำสั่งจากเบื้องบน ใหเปลี่ยนหัวหนา
ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงคนใหม
ผูบำเพ็ญเพียรที่หายตัวไปอยางฉับพลันเชนหานลี่นั้น กลับมีอยูไมนอยในเมือง
เทวะสวรรค ทั้งพวกผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นไป และผูบำเพ็ญเพียรสันโดษธรรมดาๆ
และยังมีลูกศิษยลับของตระกูลลึกลับตางๆ
จุดเดียวที่เหมือนกันของคนเหลานี้ คือลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
และยิ่งไปกวานั้นในบรรดาของผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงแลวก็ดูเหมือนจะเปน
ผูที่โดดเดนอีกดวย
ตอนที่ 1357 ภารกิจ
กลางฝาสีแดงสดที่เต็มไปดวยตนไมประหลาดรูปรางบิดเบี้ยว มีบุรุษและสตรีวัยเยาว
หาคน กำลังยืนเผชิญหนากันหางออกไปคนละสองสามจั้งโดยไมไดปริปากใดๆ ในที่
ลับของปา
คนหนึ ่ ง คื อบุ ร ุ ษอายุส ามสิบ ป เ ศษ สวมชุ ด ผ าไหม คิ ้ ว ทั ้ ง สองเป น สี ข าวหิมะ
ดวงตาเปลงประกายราวกับสายฟา
คนหนึ่งคือสตรีสวมกระโปรงสีดำ รางกายอรชรออนแอน คิ้วดำยาวมาจรดปอยผม
ใบหนามีจิตสังหารเคลือบอยู
ชายหนุมสวมชุดสีมวงอายุประมาณสิบเจ็บสิบแปดป มุมปากมีไฝสีแดง ดูสงาและ
หลอเหลา ใบหนาประดับไปดวยรอยยิ้มจางๆ
สตรีสวมชุดสีขาวคนหนึ่ง อายุสิบหกสิบเจ็ดป หนาตางดงาม แฝงความไรเดียงสา
เอาไว บุรุษคนสุดทายอายุยี่สิบสามป สวมชุดสีเขียว หนาตาไรความรูสึก นั่นก็คือ
หานลี่ที่จากเมืองเทวะสวรรคมาไดไมนาน
ทั้งหาคนดูแลวออนเยาวขนาดนี้ แตพลังยุทธลวนอยูในระดับเทพแปลงขึ้นไป
ยิ่งไปกวานั้นนอกจากหานลี่และสตรีสวมชุดชาวที่อายุออนเยาวที่สุดแลวซึ่งมีพลังยุทธ
อยูในขั้นกลางแลว ที่เหลืออีกสามคนก็อยูในระดับเทพแปลงขั้นปลาย
ทวาสตรีที่สวมชุดดำหนึ่งในนั้น นั่นก็คือ สตรีแซเสี่ยวของเผาหงสทมิฬที่ปรากฏ
ตัวหลังจากที่หานลี่ผานคลื่นอสูรมา
สตรีผูนี้มองมายังหานลี่ดวยใบหนาเย็นชา ถึงแมวาจะปริปาก แตสายตากลับเต็มไป
ดวยความตกตะลึงระคนสงสัย
“คิดไมถึงเลยวา เผามนุษยอยางพวกเจาจะสงผูบำเพ็ญเพียรมาสามคน มีสองคน
อยูในระดับขั้นกลาง หรือวาเผาของเจาจงใจผลักภาระในครั้งนี้?” บุรุษสวมชุดผาไหม
ดวงตาสีเขียวราวกับหิมะเอยปากอยางเย็นชา ถึงแมวาเสียงจะไมดังนัก แตกลับดัง
กึกกองในหูของทุกคนอยางชัดเจน
เมื่อไดยินคำพูดของชายหนุมดวงตาสีขาว ชายหนุมไฝสีแดงพลันเลิกคิ้ว หุบยิ้ม
บนใบหนา หานลี่กลับเปลือกตาไมกระตุก แคกมหนาลงควงคัมภีรสีขาวนวลในมือเลน
สวนหญิงสาวผูสวมชุดสีขาวผูนั้น กลับกลอกตาดำขลับไปมา แลวแคหัว เราะ
ออกมาเทานั้น
คาดไมถึงวาทั้งสามจะไมไดปฏิเสธ
เมื่อเห็นพวกของหานลี่มีสีหนาเชนนี้ บุรุษคิ้วขาวก็รูสึกโกรธ ใบหนาฉายแวว
โหดเหี้ยม และไมไดกลาวอะไรอีก สตรีแซเสี่ยวกลับเอยปากขึ้นวา
“ภารกิจครั้งนี้อาจเกี่ยวของกับเมืองเทวะสวรรค แมกระทั่งเกี่ยวกับ ความ
ปลอดภัยของทั้งสองเผาของพวกเรา ถาหากพวกเราไมยอมรวมมือดวย ไมตองพูดถึง
วาจะทำภารกิจสำเร็จไหมเลย จะไปถึงที่ทำภารกิจหรือไมก็เปนเรื่องที่พูดยาก อยาลืม
ละ แครีบไปก็ตองใชเวลาครึ่งป ในเมื่อเผาของเจาสงสหายมาสามคน คิดดูแลวทั้งสาม
คนคงไมธรรมดา แตจากนี้ตองรวมทางกันเปนเวลานาน พวกเราก็นาจะแนะนำตัวกัน
สักหนอย ขานอยเสี่ยวหง มาจากเผาหงสทมิฬ ผูนี้คือสหายหลี่จาก เผาอินทรี
ทมิฬ”
สตรีผูนี้มีทาทีไมไดเยอหยิ่งและไมไดหงอกลัว
ชายหนุมไฝแดงไดยินคำนี้ พลันกลอกตาไปมา เอยปากพรอมกับหัวเราะนอยๆ วา
“ขานอยหลงตง ดูจากพลังเพลิงของเซียน คิดดูแลวนาจะฝกฝนเปลวเพลิงประจำกาย
ของเผาหงสทมิฬจนถึงระดับสูงแลวสินะ”
“นายทานคือคนของตระกูลหลง!” หญิงสาวไดยินชื่อของชายหนุม กลับหนา
เปลี่ยนสีไปเล็กนอย
“คิดไมถึงวาเซียนจะรูจักตระกูลหลงของขา” ชายหนุมไฝแดงอาปากเผยไรฟน
สีขาวสะอาดออกมา เอยปากพรอมกับกลั้วหัวเราะ
“ขาชื่อเยี่ยอิ่ง” หญิงสาวชุดขาวหัวเราะเบาๆ ขณะเอย น้ำเสียงไพเราะดุจนกขมิ้น
“หานลี่!” หานลี่พนคำพูดสงประโยคออกมา แลวปดปากฉับในทันใด
“หานลี่? เจาจริงๆ ดวย มินาละวันนั้นคาดไมถึงวาทานจะมีสมบัติวิเศษอยาง
ไขมุกทลายเซียนอยูดวย เดิมทีเจาคือผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงดังคาด เชนนั้น เคล็ดวิชา
ที่เจาฝกฝนก็คือ ผูฝกตนคูบำเพ็ญเพียรสินะ” เสี่ยวหงมองหานลี่ น้ำเสียงกลับเย็นชา
เมื่อไดยินคำวาผูฝกตนคูบำเพ็ญเพียร ชายหนุมแซหลงและชายหนุมคิ้วขาวก็พา
กันตกตะลึง หญิงสาวชุดขาวเองก็ตกตะลึง
“หากเรียกวาฝกตนคูบำเพ็ญเพียร ก็นับวาใชกระมัง ไมเจอกันนาน ไตเออรเปน
อยางไรบาง” หานลี่ไมไดมีสีหนาประหลาดใจ แคถามกลับหนึ่งประโยค
“ที ่ ไ ต เ อ อร ม ากับ ข า ในวันนั ้ น ถื อเป น เรื ่ องที ่ ช าญฉลาด ครานี ้ น างฝ กฝนได
อยางรวดเร็ว และผนึกจิตวิญ ญาณทองไดแลว ถึงแมจะไลตามเจาและขาไม ทั น
แตก็เปนเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอีกไมชาก็เร็วเทานั้น” ไดยินคำวาไตเออร หญิงสาวกลับ
เงียบขรึม แลวถึงไดตอบกลับอยางเย็นชา
“งั้นหรือ ในเมื่อไมเปนไร ผูแซหานก็วางใจ” หานลี่ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“อันใด พี่หญิงเสี่ยวรูจักพี่หานหรือ?” หญิงสาวนามวาเยี่ยอิ่งกวาดสายตาไป
บนเรือนรางของหานลี่ แลวหัวเราะคิกคักขณะเอยถาม
“รูจัก? หึๆ! นับวาเปนสหายเกากระมัง!” สตรีหัวเราะอยางเย็นชา
ครานี้ ชายหนุมไฝแดงเองก็มองมาทางนี้แวบหนึ่ง แลวดูเหมือนจะมองมาทาง
หานลี่และเสี่ยวหง สายตากลับหยุดชะงักอยูบนรางของหญิงสาว แลวทันใดนั้นก็เลื่อน
สายตาออกราวกับไมสนใจ
นัยนตาของคนผูนี้ฉายแววละโมบ แตกลับไมมีผูใดสังเกตเห็น
“ถึงแมวาที่นี่จะยังไมใชสวนลึกของแดนปาเถื่อน แตทุกทานสามารถมารวมตัวกันที่นี่
ตามลำพังได นั่นหมายความวาความสามารถของทุกทานไมออนแอ แตระยะทาง
หลังจากนี้ ไมไดผอนคลายเหมือนที่ผานมา หากพวกเราหาคนไมรวมมือกัน เกรงวา
คงไปถึ ง ป า ใบดำอย า งปลอดภั ย ได ย าก อั น ตรายที ่ พ บระหว า งทาง น า กลั ว กว า
กอนหนาหลายเทา” หลังจากลังเลเล็กนอย เสี่ยวหงก็เอยเตือน
เมื่อไดยินคำวาปาหินดำ ที่เหลือทั้งสี่คนก็หนาเปลี่ยนสี และชักสีหนาเล็กนอย
“ภารกิจครั้งนี้ความจริงแลวเปนแคไปลาดตระเวนเผาพฤกษาวิญญาณ รวบรวม
ขาวสารและสถานการณจากสายลับที่พวกเราสงเขาไปในเผานั้นกลับมาก็พอแลวใช
หรือไม? ฟงดูแลว ดูเหมือนจะไมยากนัก” หญิงสาวเอยถามดวยรอยยิ้ม
“นั่นมันพูดยาก ยากหรือไมตองดูดวงของพวกเรา หากทุกอยางราบรื่น บางทีก็
อาจจะงายกวาภารกิจอื่นมากนัก แตถาหากพบกับความยุงยากเขา ก็อาจจะถูก
เผาพฤกษาในระดับเงินขึ้นไปพบเขา พวกเราอาจจะตองเพลี่ยงพล้ำทั้งหมดก็เ ปน
เรื่องปกติ แตภารกิจครั้งนี้มีความสำคัญตอเผาทั้งสองของพวกเราจริงๆ อันตราย
ครั้งนี้จำเปนตองลองเสี่ยงดู” ชายหนุมไฝแดงกลับถอนหายใจออกมา แลวเอยพึมพำ
“ในเมื่ อสำคั ญ เช นนี ้ เหตุ ใ ดเบื ้ องบนถึ ง ส ง ระดั บ เทพแปลงอย า งพวกเรามา
เรียกระดับหลอมสุญตาสักคนไป จะไมเหมาะสมกวาหรือ” ชายหนุมคิ้วขาวขมวดคิ้ว
แลวเอยถามดวยความสงสัย
“หึๆ นายทานถามเชนนี้ ดูแลวผูที่รับภารกิจของเผาของทานคงเปนเซียนเสี่ยวสินะ”
ชายหนุมแซหลงไมไดตอบคำถามตรงๆ กลับใชสีหนาอมยิ้มมองไปยังหญิงสาวที่
สวมชุดกระโปรงสีดำ
“ในเมื่อพี่หลงรูเรื่องนี้แลว ดูแลวเผามนุษยคงจะใหนายทานเปนผูนำสินะ”
หญิงสาวไมไดตกตะลึงแมแตนอย กลับเอยอยางราบเรียบออกมา
“ใชแลว ขานอยรูมานิดหนอย” ไฝแดงที่มุมปากของหลงตงกระตุก และไมได
ปฏิเสธเรื่องนี้
หญิงสาวแซเยี่ยไดฟงพลันแบะปาก แตทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได แลวหันหนา
ไปมองหานลี่แวบหนึ่ง
หานลี่กลับมีสีหนาไรความรูสึก ดูเหมือนจะไมไดยินบทสนทนาของชายหนุม
ไฝแดงและหญิงสาวอยางไรอยางนั้น นี่จึงทำใหหญิงสาวเผยสีหนาตกตะลึงออกมา
“ครั้งนี้แคสงผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงอยางพวกเรามา ก็เปนเพราะปาหินดำถูก
เผาพฤกษาวิญญาณใชตาขายนิทราพฤกษาสวรรคหอหุมเอาไว หากระดับเทพแปลง
ขึ้นไปเขามา จะถูกพบรองรอยในทันที” เสี่ยวหงกลับหันหนามาอธิบายใหชายหนุม
คิ้วขาวฟง
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ทวาสหายหลงนั้นก็ชางเถิด สองคนนี้มีพลังยุทธอยูแค
ระดับเทพแปลงขั้นกลาง พลังยุทธไมนอยไปหนอยหรือ” ชายหนุมคิ้วขาวพยักหนา
กลับหรี่ตาทั้งสองขางลงมองไปยังหานลี่และเยี่ยอิ่ง พลางเอยอยางไมเกรงใจ
“พี่หลี่วางใจเถิด ที่เหลาอาวุโสสงสหายหานและแมหญิงเยี่ยมาดวยกัน แนนอน
วาตองมั่นใจในตัวเขาทั้งสองคนเปนอยางมาก ไมมีทางทำใหทั้งสองผิดหวังแน จุดนี้
ขานอยรับประกันได” หลงตงหัวเราะ
“ในเมื่อสหายรับประกันเชนนี้ งั้นก็ชางเถิด แตหากพวกเขาเปนตัวถวงระหวางทาง
ก็อยามาโทษวาขาไมชวยก็แลวกัน” ชายหนุมคิ้วขาวเอยอยางเครงขรึม
“หึ นายทานก็ระดับสูงกวาขาแคขั้นเดียวเทานั้น พูดเหมือนตัวเองเปนผูบำเพ็ญเพียร
ระดับหลอมสุญตาก็ไมปาน” ชายหนุมคิ้วขาวมีทาทีดูแคลนหลายครั้ง ในที่สุดก็ทำให
หญิงสาวชุดขาวมีสีหนาเครงขรึม
“พลังยุทธมาถึงระดับอยางพวกเรา ระดับขั้นหางกันแคขั้นเดียว ความสามารถก็
ตางกันมากกวาครึ่งแลว” ชายหนุมคิ้วขาวหัวเราะอยางเย็นชา ตอบกลับอยางเยอหยิ่ง
สตรีสวมชุดขาวรูสกึ โมโหเล็กๆ และตอนที่คิดจะเอยอะไรอีกนั้น หานลี่กลับสอด
ขึ้นมาวา
“ในเมื่อพี่หลงและเซียนเสี่ยวรูวาภารกิจนี้สูงกวาระดับของพวกเรา ก็แนะนำ
สถานการณ อย า งละเอี ย ดให พ วกเราฟ ง ก็ แ ล ว กั น ตอนที ่ ร ั บ ภารกิ จ ผู  แ ซ ห านรู
สถานการณมาแคคราวๆ เทานั้น และคิดไมถึงวาจะตองการผูรวมภารกิจจำนวนมาก
ขนาดนี้ หากรูเชนนี้ ขานอยก็ไมรับภารกิจนี้” หานลี่เอยดวยสีหนาไรความรูสึก
ในใจกลับรูสึกไมพอใจขึ้นมา
ตอนที่อยูในเมืองเทวะสวรรคและรูวาภารกิจนี้ตองการคนจำนวนมาก เขาก็รูสึก
ผิดปกติแลว ตอนนั้นยังคิดจะถอย แตกลับถูกเบื้องบนบอกวาภารกิจครั้งนี้สำคัญมาก
ในเมื่อรับภารกิ จนี้ ไปแลว ก็ตองรูสถานการณ ครา วๆ ของภารกิจ หากถอยหลั ง
ก็จะถูกริบคุณสมบัติในการรับภารกิจอื่นๆ และหามออกจากเมืองเทวะสวรรคเปน
เวลาสิบป
เชนนั้นในขณะที่ในใจมีเรื่องสำคัญ ตองออกจากเมืองเทวะสวรรคในระยะเวลา
สองสามปนี้ จึงจำใจตองมาที่นี่อยางทำใจดีสูเสือ
ผลคือ เขาเสียเวลาสองสามเดือนไปกั บการมาถึงจุ ดรวมตัว ผูที่พบนั้นไมใ ช
ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา แตเปนผูบำเพ็ญเพียรทองถิ่นและเผาปศาจ จึงทำไดเพียง
หัวเราะอยางขมขื่นอยูในใจเทานั้น
ดูแลวระดับความอันตรายและซับซอนของภารกิจนี้ คงจะเหนือกวาที่เขาคิดไวมาก
จาวอูกุยและพวกไมไดพูดหรือวา ภารกิจเหลานี้ปกติแลวจะใหผูบำเพ็ญเพียรที่
บินขึ้นมาอยางพวกเรารับภารกิจ หรือวารับภารกิจผิดเขาแลว?
แตกอนออกเดินทาง เขาไดรับยาชำระสิ่งโสมมาอยางเพียงพอแลวอยางแนนอน
และไดรับอนุญาตวาหากทำภารกิจเสร็จสิ้น ก็สามารถออกจากเมืองเทวะสวรรคได
จุดนี้เหมือนกับที่จาวอูกุยและพวกพูดเอาไวทั้งหมด
หานลี่จึงรูสึกตกตะลึงระคนสงสัยในจุดนี้เล็กนอย
“รายละเอียดของภารกิจนี้ ระหวางทางขานอยจะอธิบายใหพี่หานและ แม
หญิงเยี่ยฟงอยางละเอียด ระยะเวลาของภารกิจนี้ไมไดนานขนาดนั้น พวกเรารีบออก
เดินทางกอนแลวคอยวากันเถิด” หลงตงหัวเราะนอยๆ ออกมา กลับเอยเชนนี้ออกมา
“พี่หลงพูดมีเหตุผล เวลาของพวกเรากระชั้นเขามาแลว รีบลงมือเถิด ขาเองก็จะ
รายงานขอมูลไประหวางทาง” เสี่ยวหงเองก็เอยอยางเห็นดวย
ชายหนุมคิ้วขาวและเยี่ยอิ่งไดยิน กลับไมไดมีเจตนาคัดคาน
หานลี่ขบคิดเล็กนอย แลวพยักหนาอยางเชื่องชา
“เอาละ ระหวางทางมีเวลาใหซักถามอยางละเอียดอยูแลว”
“ในเมื่อเปนเชนนี้ เพื่อความปลอดภัย เหลาสหายมานั่งสำเภาเมฆาวิญญาณเถิด
ประการแรกทุกคนจะไดไมตองสูญเสียพลังลมปราณ แคเสียศิลาวิญญาณนิดหนอย
เทานั้น ประการที่สองสำเภาลำนี้เชี่ยวชาญในการอำพรางตัว ขาเองก็ลดความยุงยาก
ในการเดินทางลงเปนอยางมาก” ชายหนุมไฝแดงเอยแนะนำดวยสีหนาเบิกบาน
ดูเหมือนวาจะกระตือรือรนเปนอยางมาก
ตอนที่ 1358 คลื่นใตน้ำ
ลำแสงสีขาวจางๆ กลุมหนึ่งพวยพุงขึ้นมาจากปา ดานในมีสำเภายาวยี่สิบจั้งเศษรางๆ
อยูลำหนึ่ง
สำเภาลำนี้แบงออกเปนสองชั้น ตัวสำเภาเปนสีขาวบริสุทธิ์ราวกับหลอมขึ้นจาก
หยกงาม ผิวของสำเภาสลักลวดลายโบราณที่ดูเหมือนเมฆหมอกเอาไว ตัวอักษรสีทอง
และเงินสองสีเปลงแสงระยิบระยับ เห็นไดชัดวานาเกรงขามไมธรรมดา
สำเภาหยกสั่นคลอนฉับพลันนั้นตัวอักษรสีทองและเงินพลันระเบิดออก ชั่วครูก็
กลายเปนเมฆสีขาวผืนหนึ่งหอหุมสำเภาลำนั้นเอาไวขางใน กลายเปนเมฆกอนยักษที่
ดูธรรมดาสามัญกอนหนึ่ง จากนั้นเมฆกอนยักษพลันหมุนโคจรรอบหนึ่ง แลวพุง
ออกไปอยางเงียบเชียบ
ฉากที่แปลกประหลาดพลันปรากฏขึ้น!
เมฆกอนนั้นดูบางเบา ดูเหมือนจะบินอยางเชื่องชา แตชั่วพริบตาก็อยูหางออกไป
รอยกวาจั้ง เหมือนวาความเร็วจะไมตางอะไรกับผู บำเพ็ญ เพียรระดับเทพแปลง
เทาใดนัก
“ไมเลว คูควรกับตระกูลหลงที่เปนผูควบคุมงานประมูล แมแตสำเภาวิญญาณที่
เหมาะสมกับการเดินทางระยะไกลก็ยังมี ถึงแมวาสำเภาเมฆาวิญญาณจะไมนับวา
หายากอะไรนัก แตความเร็วขนาดนี้ เกรงวาคงเปนของระดับสุดยอดสินะ”
เสี่ยวหงยืนอยูบนหัวเรือ กวาดตามองทุกอยาง แลวเอยชื่นชมออกมาดวยสีหนา
พึงพอใจ
“หึ ๆ เซี ย นเสี ่ ย วชมเกิ น ไปแล ว เผ า ของข า เป น หนึ ่ ง ในเจ็ ด เผ า มหาป ศ าจ
สมบัติอะไรบ างที่ ไมเ คยพบเห็ น สำเภาวิญญาณลำนี้ แคม ีค วามเร็วพอไดเท า นั้ น
ทวาที่วางของสำเภาลำนี้นับวากวางใหญจริงๆ มีหองทำสมาธิอยูสิบกวาหอง นอกจาก
ตองใหคนคนหนึ่งมาคอยตรวจตราภายนอกแลว คนที่เหลือก็สามารถพักผอนในหอง
ทำสมาธิได หากทุกอยางราบรื่นละก็ เวลาครึ่งปก็ไมถือวานานนักสำหรับพวกเรา
บางทุกฝกฝนเพียงครั้งหนึ่งก็ผานไปแลว” หลงตงเอยอยางมีมารยาท
“เชนนั้นก็ดี พวกเราเขาเวรคนละสิบวัน สวนที่เหลือก็ตามอัธยาศัย กอนอื่นเลือก
หองทำสมาธิของตนเองกอนเถิด” สตรีพยักหนา
เมื่อไดฟงคำพูดของทั้งสองคน แนนอนวาหานลี่และพวกไมไดมีทาทีคัดคาน
ฉับพลันนั้นทุกคนก็เลือกห องที่ต นเองพอใจมาหนึ ่งห อง แนนอนวาในเมื่ อเป นที่
พักผอนของตนเอง จึงพากันวางเขตอาคมลงในหอง เพื่อมิใหถูกผูอื่นแอบดูอะไร
จากนั้นทั้งหาคนก็ปรึกษากันอีกเล็กนอย แลวเริ่มจัดลำดับการเขาเวร
จะวาไปแลวก็บังเอิญมาก หานลี่ถูกจัดอยูในลำดับสุดทายพอดี และกวาจะถึงเวรเขา
ก็ยังเหลือเวลาอีกสี่สิบวัน
รอจนจัดแจงทุกอยางเรียบรอยแลว หานลี่ก็ไมไดพูดคุยกับคนอื่นอีก ตรงเขาไป
ในหองทำสมาธิของตนเอง แลวเปดเขตอาคม
สตรีชุดดำและพวกเองก็ไมตางกันมากนัก
นอกจากหลงตงที่เขาเวรแลว ผูที่เหลือก็เขามาในหองของตนเองในทันใด
หลงตงเห็นสถานการณเชนนั้น มุมปากก็กระตุกเล็กนอย แลวมาอยูที่หัวเรืออีกครั้ง
พลิกฝามือมือหนึ่ง ฟูกสีเขียวมรกตปรากฏขึ้น
วางลงบนพื้น เขานั่งขัดสมาธิอยูบนนั้น
“หึ ครึ่งป...อยากใหถึ ง ไวๆ จัง” ชายหนุมไฝแดงริ มฝป ากขยั บสองสามครั้ ง
ใชเสียงที่แผวเบาเอยพึมพำกับตนเอง แลวหลับตาลงอยางชาๆ แตรอยยิ้มประหลาดๆ
บนใบหนากลับประดับอยูนานไมคลายไป
หองทำสมาธิในสำเภาหยกหองหนึ่งมีขนาดสองสามจั้ง เสี่ยวหงและชายหนุมคิ้วขาว
นั่งสมาธิหันหนาเขาหากันอยูบนเกาอี้ไมตัวหนึ่ง
“อันใด เจาหมายถึงแมหนูที่ชื่อเยี่ยอิ่งคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเผาหงสสวรรค
และเปนศิษยของตระกูลวิญญาณเที่ยงแทหรือ” ชายหนุมคิ้วขาวดูเหมือนวาไดยินสตรี
เอยเรื่องที่นาตกใจออกมา สีหนาตะลึงพรึงเพริด
“เหตุใดสหายหลี่ตองตกใจขนาดนั้น? เผาอินทรีทมิฬของพวกเราก็นับวา เปน
เผาวิหคสวรรคที่หายาก ขาไมเชื่อวาจะสัมผัสโลหิตเผาหงสสวรรคบนตัวแมหนูนั่น
ไมได สวนเผาหงสทมิฬของพวกเรานั้นถึงแมวาจะเปนเผาปลีกยอยของเผา หงส
แตเลือดบริสุทธิ์ของเผาหงสสวรรคนั้น ยังไมอาจเทียบเทียมกับแมหนูนั่นได ทวา
โลหิตหงสส วรรคท ี่ส ัม ผัส ได บ นตั ว ของสตรีผ ู นั ้ น กลับไมต องสงสั ย เลย ไมมีท าง
ผิดพลาดแน” เสี่ยวหงเอยอยางเครงขรึม
“เชนนี้นี่เอง! ขาก็วาเหตุใดที่พบสตรีผูนี้ ถึงรูสึกจิตใจกระสับกระสาย รูสึก
หวาดกลัวอยูหลายสวน ตอนที่อยูในปา ขาก็นึกวารูสึกไปเองเสียอีก แต
เซียนเสี่ยวกลาวเชนนี้กับผูแซหลี่ หรือวามีแผนอะไรงั้นหรือ?” ชายหนุมคิ้วขาว พน
ลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ใบหนากลับเผยสีหนาแปลกประหลาดออกมา
“ไมมีอะไร หากสตรีผูนั้นมีโลหิตวิญญาณเที่ยงแทเผาอื่นก็วาไปอยาง แตดันเปน
โลหิตของหงสสวรรคที่เลื่องชื่อวาเปนราชันยหมื่นวิหค นั่นหมายถึงอะไร พี่หลี่คง
เขาใจสินะ” สตรีฉีกยิ้มเบิกบาน แตดวงตาคูนั้นกลับเย็นชา
“หึ ขาตองเขาใจความหมายของเจาอยูแลว แตอยาลืมภารกิจที่อาวุโสในเผา
มอบใหและความสำคัญของภารกิจครั้งนี้ที่มีตอเผาปศาจของพวกเราละ หากลมเหลว
ดวยเรื่องสวนตัว ตอใหพวกเราสองคนไดโลหิตของหงสสวรรค ก็ไมมีโอกาสไดใช”
ชายหนุมคิ้วขาวขบคิดเล็กนอย แลวถึงไดฉีกยิ้มเย็นชาออกมา
“จุๆ! นองหญิงพูดตอนไหนวาจะลงมือกอนถึงที่หมาย แนนอนวาตองทำภารกิจครั้งนี้
ใหสำเร็จกอน แตหลังจากสำเร็จแลว พวกเราคอยลงมือก็ไมสาย” เสี่ยวหงเอยพรอม
ฉีกยิ้มบางๆ
“ลงมื อหลั ง เสร็ จ ภารกิ จ ? อื ม หากไม ก ระทบต อภารกิ จ ก็ ไ ม ใ ช ว  า จะไม ไ ด
แตสองคนที่เหลือจะลงมือชวยนางหรือไม ตอใหไดโลหิตของเผาหงสสวรรคมาจริงๆ
เราสองคนจะแบงกันอยางไร โลหิตนี้ไมอาจแบงออกเปนสองสวนได” ชายหนุม
คิ้วขาวดวงตาเปลงประกาย ขบคิดเล็กนอยแลวสั่นศีรษะ
“ถึงแมวาโลหิตของเผาหงสสวรรคจะมีประโยชนตอพวกเจาเชนกัน แตจะมี
ประโยชนตอเผาหงสทมิฬของพวกเรามากกวา เอาอยางนี้ก็แลวกัน ขอแคพี่หลี่ชวยขา
นำโลหิ ต วิ ญ ญาณมา ข า ยอมใช ย าลู ก กลอนไฟกั ล ป ส ามเม็ ด เป น การตอบแทน
สวนคนที่เหลื อทั ้งสอง ขาจะหาวิธีสลัดพวกเขาออก และยิ่งไปกวา นั้ น ปา หิ น ดำ
อันตรายขนาดไหน พวกเราจะกลับมาไดอยางปลอดภัยหรือไมก็เปนเรื่องที่พูดยาก”
สตรีกัดฟนเล็กนอย และเอยเงื่อนไขที่นาตกตะลึงออกมา
“ยาลูกกลอนไฟกัลปสามเม็ด พูดจริงหรือ?” ชายหนุมคิ้วขาวพลันชะงักงัน ทันใดนั้น
พลันรูสึกดีอกดีใจขึ้นมา
“นองหญิงนับวามีหนามีตาในเผาหงสทมิฬ ถึงแมวายาลูกกลอนไฟกัลปสามเม็ด
จะมี ม ู ล ค า สู ง มากในโลกภายนอก แต ภ ายใต ก ารสะสมมาหลายป ข องน อ งหญิ ง
ก็หลอมขึ้นมาไดสามเม็ด แตเดิมคิดจะนำมาใชกับการทะลวงระดับหลอมสุญ ตา”
สตรีผูนั้นหัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“ตกลงตามนั้น ขอแคภารกิจสำเร็จ ระหวางทางกลับขาจะชวยเจาอีกแรง ทวา
โลหิตวิญญาณเที่ยงแทนั้นไมไดเอามาไดงายๆ โดยเฉพาะโลหิตของตระกูลวิญญาณ
เที่ยงแทที่สืบทอดกันมาตั้งไมรูกี่รุน มันแทบจะผสมเขากับรางของคนเผานั้ นแลว
ยิ่งยากเขาไปใหญ” ชายหนุมคิ้วขาวนึกอะไรขึ้นมาได พลางขมวดคิ้วขณะเอย
“วางใจ บางทีเผาหงสทมิฬของพวกเราอาจจะจนปญญากับโลหิตเที่ยงแทชนิดอื่น
แตการแยกโลหิตของเผาหงสสวรรคนั้น ขาศึกษามาเนิ่นนานแลว อยางนอยที่สุดขาก็
มั่นใจอยูเจ็ดแปดสวน” สตรีผูนั้นเอยอยางเยอหยิ่ง
“เซียนมั่นใจขนาดนี้ เชนนั้นก็ดี” ชายหนุมคิ้วขาวไดยินคำนี้ ถึงไดพยักหนาดวย
ความพึงพอใจ
……
อีกหองหนึ่ง หญิงสาวสวมชุดสีขาวเยี่ยอิ่งกำลังใชสองมือรายอาคม ดวงตาทั้งสอง
ป ด สนิ ท ขณะนั ่ ง สมาธิ อ ยู  บ นเตี ย งหยก ด า นหลั ง ศี ร ษะมี ล ำแสงสี เ ขี ย วขนาด
เสนผาศูนยกลางสอสงามฉื่อลอยออยอิ่งอยู
หากพิจารณาอยางละเอียด ลำแสงนี้ไมเพียงจะเปนทรงกลมที่แปลกประหลาด
ตรงขอบยังมีเปลวเพลิงสีขาวความสูงสองสามฉื่อกะพริบระยิบระยับอยู และตรงกลาง
ลำแสงคาดไมถึงวาจะมีเงารางคนลวงตาสายหนึ่งนั่งสมาธิอยูในนั้น
เงาลวงตานี ้รู ปร างคลายคลึง กั บ หญิ งสาวผู  นี ้ แตแคตัวเล็ก กว าสองสามเท า
แตก็หลับตาทั้งสองขางลงเชนกัน ฝามือกำลังรายอาคม
ไมรูเพราะเหตุใด ฉับพลันนั้นสตรีผูนั้นพลันมุมปากกระตุก เผยรอยยิ้มเยาะเยย
ออกมารางๆ แทบจะในเวลาเดียวกันนัน้ ใบหนาของเงาลวงตาในลำแสงก็เผยสีหนาที่
เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วออกมา ราวกับวาทั้งสองคือ คนเดียวกันอยางไรอยางนั้น
สถานการณเชนนี้ ชางแปลกประหลาดเปนอยางยิ่ง
หานลี่เดินไปเดินมาอยูในหองทำสมาธิของตนเอง สีหนาไรความรูสึก แตแววตา
พลันเปลงประกาย ดูเหมือนวาจะนึกอะไรขึ้นมาได
ที่มุมหองทำสมาธิ บนโตะหยกตัวหนึ่งกลับมีของสองสิ่งวางอยู
อันหนึ่งคือ เสือดาวขนาดเทาแมวปา มีขาสี่ขา กำลังหมอบอยูตรงนั้น ทาทาง
เกียจคราน
บนหัวที่มีขนปุกปุยของเสือดาว มีวานรขนาดจิ๋วสูงสองสามชุนนั่งอยู ขนสีดำ
เปล ง ประกายมั นวาว ดวงตาทั ้ ง สองจ องเขม็ ง มายั ง หานลี ่ ท า ทางกระตื อรื อรน
เต็มเปยม
ฉับพลันนั้นหานลี่พลันชะงักฝเทา พลิกฝามือ ขวดเล็กๆ ขวดหนึ่งและคัมภีรสีขาวนวล
พลันปรากฏขึ้น
บนขวดมีลวดลายโบราณ สลักตัวอักษรโบราณเอาไว เมื่อพิจารณาอยางงละเอียดนั่น
ก็คือคำวา ‘ยาลูกกลอนชำระสิ่งโสม’
หานลี่ใชนิ้วลูบไปบนขวดนั้นชั่วครู หลังจากถอนหายใจออกมาเบาๆ ลำแสงพลัน
เปลงประกาย ขวดยาหายวับไป เหลือเพียงคัมภีรมวนนั้น
คัมภีรนั่นก็คือสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรลึกลับที่มาเยี่ยมเยียนทิ้งเอาไว กอนที่เขาจะออก
จากเมืองเทวะสวรรค
หานลี่ควงคั มภีร เล น อยูช ั่ วครู ฉับพลันนั้ นพลั น เอาคัม ภีร แ ตะไปที่ ห น า ผาก
แผจิตสัมผัสเขาไป
คาดไมถึงวาในคัมภีรจะมีแผนที่อันกวางใหญอยู แตแผนที่แผนนี้กลับดูเหมือน
ขาดไปครึ่งหนึ่ง ฝงที่ขาดไปของแผนที่ มีลำแสงสีทองจางๆ กะพริบวาบอยู
ถึงแมจะอานไปมากกวาหนึ่งรอบ หานลี่ก็ยังทนไมไหวตองพิจารณาอยางละเอียด
อีกครั้ง ดูเหมือนวาจะหาอะไรพบอยางไรอยางนั้น
……
ไมรูวาอยูหางจากเมืองเทวะสวรรคไปกี่หมื่นลี้ ภายในหองลับใตดินที่ลึกลับแหงหนึ่ง
ภิกษุรูปหนึ่งและนักพรตรูปหนึ่งกำลังนั่งเผชิญหนากันลอมโตะหินสีเขียวที่ดูธรรมดาๆ
ตัวหนึ่งเอาไว
นักพรตอายุประมาณสี่ยสิบกวาป คิ้วหนาตาโต ใบหนาสีทองออน
ภิกษุกลับเปนภิกษุชราที่มีหนวดยาวครึ่งฉื่อสีขาว ผิวมีรอยยนเปนชั้นๆ ดวงตาทั้ง
สองขางหรี่ลงเปนเสนบางๆ ดูเหมือนวาแกชราจนไมอาจแมแตจะเบิกตาใหกวางได
“นับเวลาดูแลว คนของเผาตางๆ ที่สงไปก็นาจะไปรวมตัวกันและอยูระหวางทาง
แลวกระมัง” ภิกษุชราเอยอยางออนแรง
“อืม พอสมควรแลว ขาไมคอยเขาใจเลย เหตุใดหลังจากที่พี่จินเยวออกจาก
การกักตน กลับเปลี่ยนแผนอยางฉับพลัน ตองใหชนรุนหลังเหลานั้นไปยังดินแดนของ
เผาประหลาดใหได คนเหลานั้นลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรที่เพิ่งบินขึ้นมา และมีชื่อเสียง
โดดเดน ผูอื่นไมรู เจาก็นาจะรู การไปนำขาวกลับมาจากเผาประหลาดดูเหมือนจะงาย
แตความเปนจริงแลวอันตรายมาก สวนเผาปศาจนั้นก็ทำเปนสงคนมารวมมือกับเรา
แตความจริงแลวอาจจะมีแผนการอื่นก็ได” หลังจากที่นักพรตตอบกลับหนึ่งประโยค
กลับเผยสีหนาสงสัยออกมา
“ครั้งนี้เหตุใดเผาตางๆ จึงเคลื่อนไหว เจาก็นาจะรูดีสินะ” ภิกษุชราไมไดตอบ
คำถามของนักพรตตรงๆ แตกลับยอนถามขึ้นมา
“จุดนี้อาตมาจะไมรูไดอยางไร ก็เพราะสมบัติในคัมภีรหมื่นวิญญาณโกลาหล
อยางทมิฬสวรรคชิ้นนั้นที่ปรากฏตัวขึ้นใหมไมใชหรือ และยิ่งไปกวานั้นยังจัดอยูใน
หนึ่งในสามของสมบัติทมิฬสวรรค วากันวาเรียกวา ‘กระบี่ทมิฬสวรรคสับวิญญาณ’!”
นั ก พรตได ฟ  ง คำถามของภิ ก ษุ ช รา พลั น ใจหายวาบ สี ห น า อดที ่ จ ะเคร ง ขรึ ม ขึ้ น
หลายสวนมิได
ตอนที่ 1359 เงาสีมวงกับฮองเตเซิ่ง
“ใชแลว เดิมทีสองสามหมื่นปใหหลังถึงจะมีการโจมตีเมืองเกิดขึ้น แมกระทั่ง
อาจจะมีสงครามรอยเผาในตำนานปะทุขึ้น ลวนเปนเพราะเหตุนี้” ภิกษุชราเอยพึมพำ
“เหตุใดพี่จินเยวตองออมคอมดวย เรื่องเหลานี้ขานั้นรูอยูแลว แตเกี่ยวอันใดกับ
เรื่องที่เราปรึกษากันเมื่อครู ตอนนี้ที่เผาตางๆ กำลังหวาดกลัว ก็เพราะกลัวถูกโยงเขา
ไปในเรื่องนี้มิใชหรือ?” นักพรตยังคงมีทาทีไมเขาใจ
“กลัวถูกโยงเขาไป? หึๆ ในเมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นแลว มีเผาใดบางที่หลบเลี่ย งได
ว า กั นว า ตามธรรมเนี ย มในอดี ต หากสมบั ต ิ ท มิ ฬสวรรค ป รากฏขึ ้ น จะก อให เ กิ ด
ฝนโลหิตและพายุโหมกระหน่ำที่แทจริงขึ้น และเผาสุดทายที่ไดสมบัติชิ้นนี้ไป ก็ตอง
อาศัยการเซนไหวบูชาใหสมบัติชนิดนี้ หาผูที่อยูในระดับวิญญาณเที่ยงแทมาปกปอง
เปนผูพิทักษประจำเผาของตนเอง ดังนั้นจึงกลายเปนเผาที่แข็งแกรงในแดนวิญญาณ
ระดั บ วิ ญ ญาณเที ่ ย งแท เ หล า นี ้ อาจจะต อ งแข ง ขั น กั บ เซี ย นในแดนเทพเซี ย น
แนนอนวากอนที่วิญญาณเที่ยงแทอันแข็งแกรงจะปรากฏตัว เผาที่ไดสมบัติชนิดนี้ไปก็
ตองมีพลังที่จะรักษาสมบัติชิ้นนี้เอาไว มิเชนนั้นก็ไรประโยชน หากเผาที่ไดสมบัติชิ้นนี้
ไปกอนคอนขางออนแอ บางครั้งก็จะรีบสงมอบสมบัติชิ้นนี้ใหเผาอื่นที่แข็งแกรงรักษา
เอาไว ด  ว ยความลนลาน บ า งก็ โยนทิ ้ ง ไว ใ นแดนป า เถื ่ อนอั น แสนไกล เพื ่ อไม ใ ห
ถูกทำลายลางเผาพันธุ” ภิกษุชราเอยอยางสนใจแตเรื่องของตนเอง
นักพรตยังคงไมเขาใจ แตครานี้กลับไมไดเอยปากตัดบทภิกษุชรา
หลังจากที่ภิกษุหยุดชะงักเล็กนอย ทันใดนั้นก็เอยขึ้นอีกวา
“ตามหลักการแลวสมบัติทมิฬสวรรคถือกำเนิดในเผาใด เดิมทีก็เปนสิ่งที่สองเผา
อยางพวกเรายากจะคาดเดาแลว แตครั้งนี้ในเผาปศาจมีผูที่อยูในระดับผสานอินทรีย
ซึ่งมีความสามารถในการทำนาย รูตัววาไมมีหวังที่จะขามผานดานเคราะหในครั้งนี้
ไปได จึงยอมกระตุนศักยภาพ ใชลมปราณทั้งชีวิตทำนายเบาะแสของสมบัติชิ ้นนี้
ผลคือในตำราสำแดงวากระบี่ทมิฬสวรรคสับวิญญาณอยูที่ปลายสุดทิศตะวั นตก
เฉียงเหนือของแผนดินเฟงหยวน ถึงแมวาแผนดินเฟงหยวนจะเปนแผนดินที่เล็กที่สุด
ในสามแผนดิน แตเปนที่ที่มีเผาตางๆ อาศัยอยูมากกวาแผนดินอื่น ที่ปลายสุดของ
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือมีเผาอยางเผามนุษย เผาปศาจ เผาวิญญาณ เผาพฤกษา
เผายักษา เผาเงาตางๆ อยูหกถึงเจ็ดเผา นั่นหมายความวาสมบัติทมิฬสวรรคที่ถือ
กำเนิดขึ้นใหม อาจจะถือกำเนิดในเผามนุษยของพวกเรา ครานี้ขาวนี้มีแคเผามนุษย
และปศาจเทานั้นที่รู แตคิดดูแลวคงปดไดอีกไมนาน ถึงอยางไรเสียในบรรดาคนของ
สองเผ า อย า งพวกเราก็ ต  อ งมี ส ายลั บ ของเผ า อื ่ น แฝงตั ว อยู  แ ล ว ในยุ ท ธภพนี ้ มี
กำแพงใดบางที่ไมมีชองลม หากเผาประหลาดอื่นๆ รูเขา ผลที่ตามมาจะเปนอยางไร
เจาก็นาจะรูดีสินะ”
ครั้นเมื่อภิกษุชราเอยจนมาถึงประโยคสุดทาย สีหนาก็ประดับไปดวยรอยยิ้มขมขื่น
“อะไรนะ คาดไมถึงวาจะมีเรื่องเชนนี้ดวย เชนนั้นก็หมายความวา หากเผามนุษย
ของเราไมระวังก็อาจจะถูกทำลายลางเผาพันธุได” นักพรตมีสีหนาเขียวคล้ำ
“ตามตำนานภายในระยะเวลาหนึ่งหากที่ใดมีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกรงถูกสังหาร
จำนวนมาก ก็จะสามารถเรียกสมบัติทมิฬสวรรคมาที่นั่นได ดวยวิธีการบวงสรวง
ที่ลึกลับ จากกำลังของเผาตางๆ อยางเรา เผาที่แข็งแกรงเหลานั้นก็ไมรังเกียจที่จะ
สังหารพวกเราทิ้งเพื่อบวงสรวงหรอก สงครามรอยเผาครั้งที่แลว ไมไดมี ‘โล
แปลงสวรรค’ ที่ติดหนึ่งในสี่ของทุกวันนี้ปรากฏขึ้น และถูกเจาของเดิมของมันสังหาร
เผาตางๆ ที่หนีเตลิดเปดเปงมานับหมื่นปในสามแผนดินใหญไปเจ็ดแปดสวน และเผา
เล็กอันออนแอที่ถูกสังหารเหลานั้น ก็แทบจะกลายเปนผูถูกบวงสรวงโลหิต และยิ่งไป
กวานั้นไมวาสมบัตินี้จะอยูในมือของเผาใด
ขอแคเผาตางๆ ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือรูตำแหนงของสมบัติชิ้นนี้ เพื่อหนีจากการ
บวงสรวงโลหิต ก็จะระเบิดสงครามขึ้นในทันที เพื่อใหเผาอื่นๆ ถูกบวงสรวงโลหิต”
ภิกษุถอนหายใจออกมาขณะเอย
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง...พวกเจาใหผูบำเพ็ญเพียรที่เพิ่งบินขึ้นมาสองสามคนออก
จากเมืองเทวะสวรรค ไปยังแดนของเผาประหลาด หรือวาสงสัยวา…” ฉับพลันนั้น
นักพรตพลันถึงบางออ
“ใช! สมบัติทมิฬสวรรคเปนสมบัติระดับใด เปนสมบัติเหนือชั้นที่มีพลังในการ
พลิกแผนดิน แตก็ไมไดหมายความวาจะตองเปนของของเผาวิญญาณของพวกเรา
แตอาจจะเปนสมบัติทมิฬสวรรคที่เอาขึ้นมาจากแดนลาง ถึงแมวาความเปน ไปได
จะนอย แตผูบำเพ็ญเพียรที่มีจุดนาสงสัยซึ่งบินขึ้นมาในรอบรอยปนี้ ลวนถูกข า
ตอนออกไปจากเมืองเทวะสวรรค ไปรับภารกิจที่อันตรายที่สุดที่เผาประหลาดแลว
ไมวาภารกิจจะสำเร็จหรือไม สุดทายพวกเขาก็ตองพบวาตนเองไมมีทางกลับมาใน
เมืองเทวะสวรรคไดในระยะเวลาอันสั้น แนนอนวาผูบำเพ็ญเพียรทองถิ่นที่นาสงสัยก็
ถูกสลัดออกไปจากเมืองเทวะสวรรคเชนกัน ถูกสงออกไปยังแดนปาเถื่อนดวยเหตุผล
ตางๆ นอกจากคนกลุมนี้แลว ผูที่มีพรสวรรคเหนือชั้น มีพลังที่นาตกตะลึงกลุมหนึ่ง
ก็จะถูกโยกยายไปในแดนปาเถื่อน ผลดีของการกระทำเชนนี้ หากพวกเขาคนหนึ่งมี
กระบี่ทมิฬสวรรคสับวิญญาณอยู ก็จะทำใหภัยพิบัติเคลื่อนยายไปได หากขานอยอยู
ในสงคราม แลวทั้งสองเผาเกิดเพลี่ยงพล้ำไปจริงๆ คนกลุมนี้ก็อาจจะเปนความหวังใน
การสืบทอดเผาทั้งสองของพวกเราอีกครั้ง” ภิกษุเอยอยางเครงขรึม
“เหตุใดตองยุงยากเชนนั้น หากอยากตรวจสอบวาสมบัติทมิฬสวรรคอยูในมือ
คนเหลานั้นหรือไม พวกเราก็…”
“ใชเคล็ดวิชาลับกระชากจิตวิญญาณ แลวตรวจสอบสินะ แตการหาวากระบี่
ทมิฬสวรรคสับวิญญาณอยูในมือของผูใดแลวจะมีอะไรดีขึ้นมา? ของสิ่งนั้นมัน คือ
เผื อ กร อ น! เจ า รั บ ประกั น ได ห รื อ ว า ในผู  พ ิ ท ั ก ษ ห รื อ แม ก ระทั ่ ง อาวุ โ สจะไม มี
เผาประหลาดแฝงตัวอยู หากขาวแพรงพรายออกไป ไมเพียงเผามนุษยของพวกเราจะ
ตกเปนเปาภายในระยะเวลาอั นสั้ น แมกระทั่งเผาปศาจก็อาจจะยกเลิก การเป น
พันธมิตรกับเราเพื่อปกปองตนเอง ถึงครานั้นเผามนุษยของพวกเราก็ตองสูญพันธุ
อยางไมตองสงสัย”
“พวกเราไมใชเผาที่แข็งแกรงอะไร ไมมีทางถือสมบัติระดับนั้นเอาไวจนถึงคราที่
ระดั บ วิ ญ ญาณเที ่ ย งแท ม าหาเรื ่ องได แม ก ระทั ่ ง คิ ด จะมอบสมบั ต ิ ช ิ้ น นี ้ ใ ห เ ผาที่
แข็งแกรงปกปอง เดาวาเผาเงาก็คงไมปลอยโอกาสนี้ไปเชนกัน กลับแสรงทำเปน
เลอะเลือน ตอกรกับสงครามที่กำลังจะปะทุกอนจะดีกวา ในขณะที่ยังไมแนใ จวา
สมบั ต ิ ท มิ ฬสวรรค อยู  ใ นมื อของผู  ใ ด การโจมตี พ วกเรา ก็ อาจจะเกิ ด ขึ ้ น แค จ าก
เผ า พฤกษาและเผา เงารว มมื อกั น เทา นั้ น จากเผ า มนุ ษย แ ละปศ าจที ่อยู ในเมือง
เทวะสวรรคของพวกเรา ลวนสามารถตานทานได เผาวิญญาณและเผายักษาก็กำลัง
คึ ก คั ก หลั ง จากรู  ข  า วนี ้ คงจะต อ สู  อ ย า งหนั ก หน ว งขึ ้ น ร า ยแรงสุ ด เผ า ต า งๆ
ของพวกเราก็ จ ะสู ญ เสี ย คนไปจำนวนมาก และอาจจะเข า เงื ่ อนไขการบวงสรวง
สมบัติทมิฬสวรรค ไมวาสมบัติชิ้นนี้จะอยูในมือของเผาใด ขอแคสมบัติชิ้นนี้ถูกเรียก
ถึงครานั้นพวกเราก็ตองรับมือกับหายนะครั้งนี้ แตกอนที่เผาที่แข็งแกรงเหลานั้นจะมา
สื บ หากั บ พวกเรา ก็ ต ั ด สิ นแพ ช นะก อ นจะดี ก ว า เดาว า สงครามครั ้ ง นี ้ น า จะไม
เหมือนกับครั้งกอนที่ดำเนินตอไปเปนรอยป หากเปดสงครามไมมีทางรูผลไดใน
ระยะเวลาเพียงไมกี่ปแน ระดับความอนาถคงมากกวาในอดีต”
“หึๆ ผูควบคุมของเผาอื่น กวาครึ่งก็คิดไมตางกัน มิเชนนั้นเจาเคยไดยินว า
คนของเผาไหนตั้งใจหากระบี่ทมิฬสวรรคสับวิญญาณหรือไมละ ลวนแตเตรียมพรอม
รับสงครามเทานั้น” ภิกษุชราเอยออกมาอยางไมรอนรน
“ขาวนี้เจารูม าได อยา งไร เหตุใดกอนหนา นี ้ข า ถึ ง ไมเ คยไดข า วเลย หรือว า
ทานอาวุโสเจตนาปดบังขา” ฟงจบ นักพรตก็แววตาเปลงประกายตะลึงงันอยูนาน
แลวถึงไดเอยถามอยางไมสบอารมณขึ้น
“งายมาก หลังจากที่รูวาฐานะของนายทานมีปญหา ถึงไดทำเชนนี้ ไมทราบวา
ควรจะเรียกเจาวาอรหันตเหลยหลัวตอ หรือวาควรจะเรียกเจาวาอรหันตเงาสีมวง”
ภิกษุชราแววตาเปลงประกาย ฉับพลันนั้นน้ำเสียงก็เย็นเยียบอยางไมมีเคาลางมากอน
“เงาสีมวงอะไรกัน ปรมาจารยจินเยวหมายถึงอะไร?” นักพรตไมประหลาดใจ
เลยสักนิด กลับขมวดคิ้ว
“หึๆ ดูเหมือนจะถึงเวลาอันสมควรแลว นาจะกำเริบแลวสินะ” ภิกษุชราไมสนใจ
นักพรต กลับกวาดสายตาไป ตกไปบนเชิงเทียนแข็งๆ ที่อยูมุมหอง ดานบนมีธูปหอม
ถูกจุดอยู และเผาไหมไปกวาครึ่งแลว
“ถึ ง เวลาอะไร? ไม ส ิ กลิ ่ นนี ้ … ” นั ก พรตแววตาเปล ง ประกายสี ม  ว ง สี ห น า
เปลี่ยนไป แทบจะในเวลาเดียวกัน บนรางของนักพรตพลันมีเงาสีมวงสายหนึ่ง บิน
ออกไป กระโจนไปหาภิกษุชราที่อยูตรงขาม
ภิกษุชราที่นั่งอยูตรงขามไมเคลื่อนไหว สะบัดแขนเสื้อไปฝงตรงขาม
เสียงอึกทึกดังขึ้น ลำแสงสีทองเปลงแสงสวางวาบ ภาษาสันสกฤตปรากฏขึ้น
เงาสีมวงดูเหมือนจะถูกสิ่งมหึมาโจมตีจนกระเด็นออกไป กระแทกเขากับกำแพง
ของหองลับ ทันใดนั้นก็สั่นคลอนแลวหดเล็กลง ไมอาจเคลื่อนไหวไดอีก
ในครานั้นกำแพงพลันเปลงแสงสีเขียวออกมา บาตรหยกสีเขียวปรากฏขึ้น คว่ำลง
แลวพนลำแสงสีเขียวออกมา ชั่วพริบตาก็ดูดเงาสีมวงเขาไปขางใน
“ใช แ ล ว ธู ป สี ่ จ ิ ต มี ผ ลในการควบคุ ม เผ า เงาสมคำร่ ำ ลื อ แม แ ต เ งาสี ม  ว งผู นี้
ยังไมอาจตานทานได” บนกำแพงมีลำแสงสีขาวสวางวาบ นักปราชญวัยกลางคน
ผูสงางามคนหนึ่งปรากฏขึ้น สวมชุดสีขาว เคลื่อนไหวอยางใจเย็น
“พี ่ เ ที ย นหยวน! ต องขอบคุ ณ เจ า ที ่ ใ ห ย ื ม ธู ป จิ ต วิ ญ ญาณ มิ เ ช น นั ้ น คงกำจั ด
มารผจญไดยากจริงๆ” ภิกษุชราเห็นนักปราชญ ก็หยัดกายลุกขึ้น สองมือประสานกัน
คารวะในทันที
“ปรมาจารยจินเยวไมตองมีมารยาทขนาดนั้น ขาเองโชคดีที่ฝกเพิ่งฝกวรยุทธใหม
สำเร็จ ถึงไดพบวาอรหันตเหลยหลัวถูกเงาสีมวงสิงอยู นาเสียดายอรหันตเหลยหลัว
เปนนักพรตที่ชาญฉลาดในยุทธภพ คาดไมถึงวาจะมีจุดจบเชนนี้” นักปราชญกลับ
เลื่อนสายตาไปทางนักพรตที่ยังนั่งอยูบนเกาอี้ แลวถอนหายใจออกมา
ชั่วพริบตาที่เงาสีมวงออกจากรางของนักพรตผูนี้ ก็ดูเหมือนวาจะถูกกระชาก
จิตวิญญาณออกไปหมด กายเนื้อเปลี่ยนเปนผอมแหง ไรซึ่งไอชีวิต
ภิกษุเองก็ทองคาถาเบาๆ ใบหนาเผยสีหนาโศกเศราเสียใจออกมา ทันใดนั้นนิ้ว
พลันรายรำ เปลวเพลิงสีทองพุงออกมา
ชั่วขณะนั้นกายเนื้อของนักพรตพลันหายไปทามกลางเปลวเพลิงสีทอง
“ตามหลักการแลว ถึงแมวาเงาสีมวงจะแข็งแกรงไมดอยไปกวาผูบำเพ็ญเพียร
ระดับผสานอินทรียอยางพวกเรา แตจากความสามารถของสหายเฒาเหลยหลัวแลว
ถึงอยางไรเสียก็ไมอาจสิงอยูในรางที่เพลี่ยงพล้ำไปแลวอยางเงียบๆ ได ความเปนไปได
เพี ย งอย า งเดี ยวก็ คื อ ร อยป ก  อนที ่ส หายเฒ าวิ ่ง ไปที ่ แ ดนป าเถื ่ อน จึ ง ถู ก จั ดการ
อยางเงียบๆ เงาสีมวงนี้ชางเจาเลหเพทุบายนัก กลับมาถึงเมืองแลวยังไมเผยพิรุธใดๆ
ออกมาเปนเวลาหลายป หากไมใชเพราะฮองเตเซิ่งมองออก เกรงวาพวกเราก็ยังคง
งมโขงกันอยู ชวงที่ผานมาเจามารผจญนี่กำลังรวบรวมผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา
บอกวาเปนการปกปองคุมครอง แตเกรงวาคงมีเจตนาไมดี” ภิกษุชราพลันถอนหายใจ
ชายวัยกลางคนคาดไมถึงวาจะเปนเจาของเขตแดนเทียนหยวนที่มีชื่อเสียงอยาง
‘ฮองเตเทียนหยวนเซิ่ง’
“ทวาชวงที่ผานมาเหลาสหายเกาแกก็ถือหางผูบำเพ็ญเพียรทองถิ่นจริงๆ มินาละ
เจาพวกที่บินขึ้นมาถึงไดโกรธแคน” ฮองเตเทียนหยวนเซิ่งกลับฉีกยิ้มอยางออนโยน
ราวกับสายลมแหงฤดูใบไมผลิ
“นั่นก็เพราะตาเฒาเอาแตกักตนบำเพ็ญเพียร จนละเลยเรื่องนี้ ทวาตอนนี้ศัตรูมา
อยูเบื้องหนาแลว คงไมอาจสนใจเรื่องเล็กๆ เรื่องนี้ไดชั่วคราว เงาสีมวงยึดครองราง
ของสหายเหลยหลั ว มาหลายป และไม ร ู  ว  า ส ง ข า วกลั บ ไปเท า ไหร แ ล ว จะต อง
เปลี่ยนแปลงการปองกันของเมืองเทวะสวรรคและเขตอาคมมากกวาครึ่งถึงจะได”
ภิกษุมีสีหนาเครงขรึมขึ้น
ตอนที่ 1360 พิณวิญญาณประหลาด
“เรื่องนี้สำคัญมาก จำตองใหทานอาวุโสปรึกษากันอยางละเอียด เงาสีมวงตนนี้
รู  เ รื ่ องราวไปไม น อย ปรมาจารย จ ิ น เย ว  ต  อ งสอบปากคำให ล ะเอี ย ดสั ก หน อ ย”
นักปราชญวัยกลางคนพยั กหนา ขยับฝามือ คาดไมถึงวาจะโยนบาตรหยกในมื อ
ออกไป
“ขอบพระคุณฮองเตเซิ่ง! แคนาเสียดายที่คนที่เผาตางๆ สงมา เกรงวาจะโชคราย
มากกวาโชคดี” ภิกษุชรารับบาตรหยกเอาไว แลวเผยสีหนาเสียดายออกมา
“เพื่อไมใหเปนการแหวกหญาใหงูตื่น ตอนแรกก็คงไมอาจปดบังเรื่องนี้ได จึงทำ
ไดเพียงโยกยายผูใตบังคับบัญชาเทานั้น เดาวาเผาสีมวงก็คงจะลงมือกับลูกนองของ
พวกเรากลางทาง จึ ง ทำได เ พี ย งหวั ง ว า พวกเขาจะโชคดี หนี ออกมาได แต ส ิ ่ ง ที่
ปรมาจารยกลาวเมื ่ อครู เ ป นความจริ ง หรื อ ผูบำเพ็ญเพียรที่ บิ น ขึ้ นมาช วงร อ ยป
ที่ผานมา อาจจะมีกระบี่ทมิฬสวรรคสับวิญญาณจริงหรือ?” ฮองเตเทียนหยวนเซิ่ง
พลันถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แลวเอยถามเชนนี้ออกมา
“จะเปนไปไดไดอยางไร คำพูดเมื่อครูเปนความจริงแคเจ็ดสวนเทานั้น หากของ
ทมิฬสวรรคกำเนิดขึ้นในแดน กอนจะมีการกระตุน ก็อาจจะถูกพาไปแดนอื่นจริงๆ
แตจุดนี้ หากสมบัติชิ้นนี้ออกจากแดนไป ก็จะสูญเสียสติปญญา และไมมีทางเปนของ
ทมิฬสวรรคที่มีสติปญญาได ไมมีประโยชนมากนัก และยิ่งไมอาจจัดอยูในคัมภีร
หมื่นวิญญาณโกลาหลได ที่กอนหนากลาวเชนนี้ ก็แคอยากยื้อเวลาเทานั้น” ภิกษุ
ฉีกยิ้มจางๆ
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ปรมาจารยคูควรกับที่เปนผูที่ศึกษาเรื่องสมบัติทมิฬสวรรคมา
มากที่สุดจริงๆ” นักปราชญวัยกลางคนหัวเราะนอยๆ ออกมา มองไมออกวาเชื่อ
คำพูดของภิกษุชราจริงๆ หรือไม
……
แนนอนวาหานลี่นั้นไมรูวา ภารกิจของตนเองจะเปลี่ยนแปลงไปมามากขนาดนี้
ครานี้เขาและคนที่เหลืออีกสี่คนกำลังเปดฉากสังหารอสูรโบราณวิหคประหลาดอยู
ทามกลางเมฆสีขาว
วิหคประหลาดเหลานี้มีขนาดตัวประมาณสองสามจั้ง แตบนแผนหลังมีปกสี่ปก
รางกายดูเหมือนวาจะใหญกวาคางคาวสองถึงสามเทา แตหัวของมันนั้นคิดไมถึงวาจะ
เหมือนกับแพะภูเขา เขาที่หงิกงอทั้งสองชี้ไปทางดานหลัง ขณะที่อาปาก พลันมีเขี้ยว
แหลมคมโผลออกมาเต็มปาก ดูนากลัวเปนอยางยิ่ง
วิหคประหลาดประมาณสองสามรอยตัว กระพือปกทั้งสี่ วายุประหลาดสีเทาเปน
สายๆ ปรากฏขึ้นกลางอากาศ และยังมีประจุไฟฟาขนาดหนาเทาปากชามพุงออกมา
อยางตอเนื่อง อานุภาพไมดอยไปกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรวมเลย และยิ่งไป
กวานั้นใตรางของวิหคประหลาดเหลานั้นยังมีกรงเล็บเหล็กสีดำงอกออกมาคูห นึ่ง
นาครั่นครามมากหากเขาไปประชิด
หากผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ เทพแปลงธรรมดาๆ คนหนึ ่ ง ต อ งเผชิ ญ หน า กั บ
อสูรโบราณวิหคประหลาดเพียงลำพัง เกรงวาคงปวดหัวไปเล็กนอย เพื่อลดความ
ยุงยาก ไมแนวาอาจจะหลบไปกอนก็เปนได
สวนและหานลี่และพวกทั้งหานั้นทั้งมีลูกศิษยสายตรงของตระกูลวิญญาณเที่ยงแท
และยังมีปศาจผูบำเพ็ญเพียรระดับแปลงกายของเจ็ดมหาเผาปศาจ ประกอบตัว
ประหลาดอย า งหานลี ่ เมื ่ อเผชิ ญ หน า กั บ การโจมตี ที ่บ  า คลั ่ ง ของวิห คประหลาด
และในเวลาเดียวกันยังมีสำเภายักษเมฆาวิญญาณปกปองอยู จึงเกิดการสังหารหมู
ดานเดียวไดอยางสบายๆ
สองมือของชายหนุมไฝแดงพลันรายอาคม ควบคุมสายรุงสีขาวยาวสิบจั้งเศษสองสาย
หอหุมอาณาบริเวณเบื้องหนาเอวไวในระยะรอยจั้งเศษ ไมรูวาสายรุงสีขาวนี้เปนอาวุธ
ที่นากลัวชนิดใด ทุกแหงที่ลำแสงวิญญาณกวาดผานไป ไมวาวายุที่บาคลั่งหรื อวา
สายฟาตางถูกเขาสับออก ทุกครั้งที่กะพริบ จะตองมีวิหคประหลาดตัวหรือสองตัว
ถูกสับออก
สตรีชุดดำกลับอยูทามกลางเปลวเพลิงสีดำที่แผดเผา ไมเห็นวาสตรีผูสำแดง
ความสามารถใดๆ ออกมา แคลอยอยูกลางอากาศเงียบๆ แตไมวาพายุเฮอรริเคนหรือ
วาสายฟาโจมตีไปบนรางของเขา ก็จะจมหายไปราวกับโคลนที่จมลงสูมหาสมุทรไมมี
ผลเลยสักนิด สวนวิหคประหลาดนั้นเมื่อกระโจนเขามา ถูกเปลวเพลิงสีดำยอมรางแม
เพียงนิด ก็จะถูกเผาจนกลายเปนเถาถานในทันที
ถึงแมวาวิหคเหลานี้จะดุรายมาก แตเมื่อถูกสังหารไปสิบกวาตัวอยางตอเนื่อง
ก็ไมกลาเขามาประชิดอีก
ชายหนุ  ม คิ ้ ว ขาวกลั บ มี ท  า ที แ ตกต า ง คาดไม ถ ึ ง ว า จะไม ไ ด อาศั ย สมบั ต ิ ใ ดๆ
กระโจนเขาไปหาฝูงวิหคประหลาด แผนหลังของเขามีปกสีดำมันมะเมื่อมคู  ห นึ่ ง
ปรากฏขึ้น แขนทั้งสองขางหนาขึ้น กลายเปนครึ่งคนครึ่งปศาจ
รางกายของเขากะพริบวาบ เห็นเพียงเงาสีดำกอนหนึ่งพุงตัดผานฝูงวิห คไป
ทุกแหงที่มันพุงไป รางของวิหคประหลาดจะแยกออกเปนชิ้นๆ ฝนโลหิตจำนวนนับ
ไมถวนสาดกระเซ็นลงมา กลิ่นคาวคละคลุงไปหมด
สวนหานลี่กลับแสดงสีหนาราบเรียบ แคปลอยกระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆาทั้งหมด
ออกมา เห็นเพียงลำแสงสีทองยาวสองสามฉื่อบินลอมรอบรางของเขาเอาไว ไมเพียง
จะตานทานการโจมตีของวิหคประหลาดเอาไว แตยิ่งทำใหวิหคประหลาดที่อยูใกลราง
ถูกสับออกเปนสองสวน
ทวาผูที่มีสีหนาผอนคลายที่สุด กลับเปนหญิงสาวชุดขาวเยี่ยอิ่ง
สตรีผูนี้กอดพิณหยกสีเขียวมรกตคันนั้นเอาไว นิ้วที่ออนนุมราวกับกานตนหอมทั้ง
สิบดีดสายพิณเบาๆ วงแหวนลำแสงสีเหลืองเขมปรากฏออกเปนชั้นๆ วิหค
ประหลาดที่อยูรอบ ถูกวงแหวนลำแสงเหลานั้นกวาดเขาไป ผิวก็จะถูกลำแสง สี
เทาขาวหอหุมเอาไวเปนชั้นๆ จากนั้นก็จะรวงลงสูพื้นโดยไมอาจขยับตัวได ทยอยกัน
กลายเปนเพียงผงธุลีรวงลงสูพื้น
คาดไมถึงวาพิณคันนี้จะมีความสามารถในการแปลงหินที่หายากอยางสุดๆ
ถึงแมวาทั้งหาคนจะไมไดสำแดงความสามารถที่รายกาจที่สุดของตนเองออกมา
แตการลงมือครั้งนี้ใชเวลาไมถึงหนึ่งกาน้ำชา วิหคประหลาดสองสามรอยตัวก็ถูก
สังหารจนเกลี้ยง
จากนั้นคนเหลานี้จึงเก็บวรยุทธกลับไป กลายเปนสายรุงเปนสายๆ จมหายเขาไป
ในสำเภาวิญญาณที่กลายเปนเมฆกอนยักษแลวหมนแสงลง ทั้งหาคนรอนลงบนหัว
ของสำเภาหยก
“วิ ห คประหลาดเหล า นี ้ ม ี ท ี ่ ม าอย า งไร คาดไม ถ ึ ง ว า จะมองทะลุ ผ  า นสำเภา
เมฆาวิญญาณของขาได ชางนาแปลกใจนัก” หลงตงกวาดสายตาไปทางคนอื่นๆ แลว
ถอนหายใจออกมาขณะเอย
“วิหคประหลาดชนิดนี้ขาไมเคยไดยินมากอน ทวาแดนปาเถื่อนกวางใหญไพศาล
ขนาดนี้ อสูรโบราณที่ไมเคยเห็นก็มีเยอะแยะ พวกเราไมเคยเห็นก็ไมใชเรื่องแปลก
อันใด จนถึงตอนนี้สำเภาเมฆาวิญญาณเพิ่งจะถูกมองออกเปนครั้งแรก ขาก็รูสึก
แปลกใจแลว” เสี่ยวหงกลับเอยอยางราบเรียบ
“นั่นก็หมายความวา ตอนนี้พวกเราเขามาในสวนลึกของแดนปาเถื่อนแลว ระยะทาง
ตอจากนี้ คงตองพบความยุ งยากไมน อยแน ถึงแมวาวิหคประหลาดเหล านี ้ จ ะมี
จำนวนไมนอย แตก็นับวาตอกรไดงายมาก หากพบกับอสูรโบราณที่แข็งแกรงกวานี้
เกรงวาพวกเราคงตองละทิ้งสำเภาวิญญาณลำนี้แลว” ชายหนุมคิ้วขาวกลับเลิกคิ้ว
ทั้งสองขึ้นขณะเอย
“นั่นมันแนนอนอยูแลว หากพบกับพวกปาเถื่อนในตำนานอยางมนุษยยักษรอยตา
พวกเราก็ ไ ม อ าจต อกรได แน นอนว า ต อ งรั ก ษาชี ว ิ ต ไว ก  อ น พี ่ ห านจากนี ้ ถ ึ ง ตา
สหายเขาเวรพอดี เกรงวาคงตองลำบากเจาแลว” หลงตงหันหนาไปเอยกับหานลี่ดวย
รอยยิ้มจางๆ
หานลี่พยักหนาดวยสีหนาราบเรียบ ไมไดเอยอะไรออกมา
หลังจากที่หญิงสาวชุดขาวฉีกยิ้มเบิกบานแลว ฉับพลันนั้นสตรีชุดดำก็เอยถามขึ้น
“พี่หญิงเสี่ยว กอนหนานี้ที่เจาสำแดงพรสวรรคของเผาหงสดำออกมา คงเปนไฟกัลป
ในตำนานสินะ! เปลวเพลิงนี้มีอานุภาพนาตกใจดังคาด สมคำร่ำลือจริงๆ!”
เสี่ยวหงไดยินหญิงสาวถามเชนนี้ พลันตกตะลึง หลังจากที่คิ้วดำขลับขมวดมุนแลว
ถึงไดเผยสีหนาประหลาดใจออกมาขณะตอบกลับวา
“ใชแลว เพลิงชนิดนี้คือไฟกัลปที่ขาฝกฝน ไมมีคาพอใหพูดถึงหรอก แตพิณในมือ
ของสหายเยี่ยกลับทำใหขานึกถึงสมบัติในตำนานชิ้นหนึ่ง วากันวาสองสามหมื่นปกอน
ในแดนเทียนหลิงมีอาวุโสระดับผสานอินทรียทานหนึ่งหลอมสมบัติสะทานฟานามวา
‘พิณวิญญาณประหลาด’ ขึ้นมาได จัดอยูในคัมภีรหมื่นวิญญาณโกลาหล สามารถ
แปลงหิน หลอมทองคำ แชแข็งไดสามอยางพรอมกัน สมบัติที่สหายเยี่ยใชกอนหนานี้
ไมทราบวาเกี่ยวของกับสมบัติวิญญาณชิ้นนั้นหรือไม?”
“ฮิๆ คิดไมถึงวาพี่หญิงเสี่ยวจะรูจักสมบัติของเผามนุษยอยางพวกเราอยางถองแท
เชนนี้ ถึงแมวาพิณที่อยูในมือขาจะไมใชพิณวิญญาณประหลาดในตำนานคัน นั้ น
แต ก ็ เ ป นสมบั ต ิ โบราณที ่ ล อกเลี ย นแบบขึ ้ น มี ค วามสามารถแค แ ปลงหิ นเทานั้น
อานุภาพไมอาจเทียบกับของแทได” หญิงสาวตอบกลับพรอมหัวเราะคิกคัก
“เชนนี้นี่เอง! ตอใหเปนเชนนี้ สมบัติชิ้นนี้ก็เพียงพอจะเทียบกับสมบัติวิญญาณแลว
ถึงอยางไรเสียความสามารถที่หายากอยางการแปลงหิน ก็เหนือชั้นนัก” หญิงสาวเอย
อยางไมคิดเชนนั้น
เมื่อไดยินสตรีทั้งสองเหมือนจะพูดคุยกันอยางมีลับลมคมใน หลงตงก็เผยสีหนา
อมยิ้มออกมา แตฉับพลันนั้นก็ดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได จึงเอยถามหานลี่วา
“สหายหาน กระบี่บินของเจาชางมีเอกลักษณนัก และยังมีทั้งหมดเจ็ดสิบสองเลม
ยิ่งไปกวานั้นยังดูเหมือนเปนชุดเดียวกัน อานุภาพไมธรรมดา นี่ทำใหขานึกถึงอาวุโส
ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาในอดีต ถึงแมวาตอนนั้นคนผูนั้นจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับ
หลอมสุญตาขั้นปลาย แตอาศัยเขตอาคมกระบี่บินเจ็ดสิบเลม ตอกรกับผูบำเพ็ญเพียร
ระดับผสานอินทรียไดอยางไมตกเปนรอง ตอนนั้นถือวาสรางความฮือฮามาก ทวา
กระบี่ลำแสงของอาวุโสผูนี้เปนสีเขียว ไมเหมือนกับกระบี่บินของพี่หาน ไมทราบวา
กระบี่บินของสหายหานคือ เขตอาคมกระบี่หรือไม”
หลงตงดูเหมือนวาจะสนใจกระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆาที่หานลี่เพิ่งสำแดงออกมาเมื่อครู
เปนอยางมาก
“ออ มีเรื่องเชนนี้ดวย ไมทราบวาทานอาวุโสผูนี้มีแซวาอะไร สำแดงเขตอาคม
กระบี่ประเภทใดหรือ ขานอยฝกฝนกระบี่บินมาจำนวนมาก แตก็รูแคการนำจำนวน
เข า ต อ กรกั บ ศั ต รู เ ท า นั ้ น ไหนเลยจะเข า ใจเขตอาคมกระบี ่ ” หานลี ่ ไ ด ย ิ นแล ว
พลันใจเตน แตกลับตอบกลับดวยสีหนาราบเรียบ
“ออ คนที่สหายหลงพูดถึง ขาเองก็เคยไดยินมาบาง วากันวาอาวุโสที่มีนามวา
‘ชิงหยวนจื่อ’ คือผูวิเศษคนหนึ่ง ถึงแมจะไมรูวาเขาสำแดงเขตอาคมกระบี่ชนิดใด
แตวากันวาเคล็ดวิชาที่เขาฝกฝนเปนสิ่งที่เขาคิดคนขึ้นเอง ทวาสิ่งที่นาเสียดายก็คือ
วากันวาอาวุโสผูนี้เขาไปในแดนปาเถื่อนและหายตัวไปเมื่อนานมากแลว มิเชนนั้นจาก
ความชาญฉลาดของทานอาวุโส เกรงวาคงบรรลุระดับผสานอินทรียได” สตรีที่สวม
ชุดขาวกลับหัวเราะออกมาแลวชิงเอยตอ
หลงตงเองก็ไมมีไดน้ำโห แคหัวเราะออกมาเทานั้น
หานลี่ไดยินคำนี้กลับเงียบไปชั่วครู ไมวาจากชื่อและสมบัติ หรือเคล็ดวิชาที่สรางเอง
ชิงหยวนจื่อผูนี้ ดูแลวคงจะเปนอาวุโสจากแดนลางที่สรางคาถากระบี่ไผเขียวมรกต
ผูนั้น คาดไมถึงวาจะรูเบาะแสของคนผูนี้จากปากของทั้งสอง และเปนสิ่งที่ทำใหเขา
ประหลาดใจจริงๆ สิ่งที่นาเสียดายก็คือ เขาเลือกหนทางผูฝกตนคูบำเพ็ญเพียรไปแลว
มิเชนนั้นจากคาถากระบี่ไผเขียวมรกตดังเดิมที่เขาฝกฝน การคิดหาวิธีใหเคล็ดวิชาที่
ชิงหยวนจื่อผูนั้นถายทอดเอาไว ถึงจะเปนหนทางที่ถูกตอง
เมื ่ อ ขบคิ ด เช น นี ้ หานลี ่ ก ลั บ คารวะคนอื ่ น ๆ ด ว ยสี ห น า ราบเรี ย บเล็ ก น อย
แล ว กลายเปนลำแสงหลีก หนีส ายหนึ ่ง บิ น ขึ ้ น ไปยั ง จุด ที่ สูง ที ่ส ุด ของสำเภาหยก
จากนั้นก็นั่งสมาธิลงอยางไมสนใจสิ่งอื่น
เมื่อเห็นหานลี่มีทาทีไมอยากพูดคุยตอ หลังจากที่เสี่ยวหงและชายหนุมไฝแดง
มองสบตากันแวบหนึ่งแลว ทันใดนั้นก็เปลงเสียงหัวเราะออกมาแลวแยกยายกัน
ออกไป บางก็กลับไปนั่งสมาธิฝกบำเพ็ญเพียรตอในหองทำสมาธิของตนเอง บางก็ไป
คุยเรื่องอื่นกันตรงที่อื่น
ตอนที่ 1361 เตาอสนี
ถึงแมวาดวงตาของหานลี่จะปดสนิทอยู แตแนนอนวาไมมีเขาสูสมาธิอะไรไดจริงๆ
แตกำลังขบคิดเรื่องเคล็ดวิชาที่ยังไมเขาใจในหัวซ้ำไปซ้ำมาไปพลาง แผจิตสัมผัสของ
ตัวเองสวนหนึ่งไปพลาง ครานี้กำลังสังเกตการณรอบๆ สำเภาวิญญาณ เพื่อไมให
อสูรโบราณอะไรมาลงมือทำการโจมตีสำเภาวิญญาณอีก
เจ็ดแปดวันตอมา ภายใตการอำพรางตัวของสำเภาวิญญาณ ถึงแมวาระหวางทาง
จะพบอสูรวิหคประเภทอื่นๆ อยูกลางอากาศ แตกลับผานมาไดอยางไมมีอันตราย
เห็นไดชัดวาฝูงอสูรเหลานี้ไมเหมือนกันวิหคประหลาดสี่ปกที่พบฝูงแรก ที่มีพลังในการ
มองทะลุผานเขตอาคมของสำเภาเมฆาวิญญาณ
เชนนั้น ชั่วครูก็ถึงวันเขาเวรวันที่เกาของหานลี่ เปนเวลาเที่ยงวัน เมื่อเขาหยัดกาย
ลุกขึ้นนำศิลาวิญญาณไปเปลี่ยนบนสำเภาวิญญาณ และกำลังคิดจะกลับไปนั่งสมาธิ
ตรงที่เดิมนั้น กลับชะงักฝเทา ฉับพลันนั้นพลันหันศีรษะ เผยสีหนาตื่นตะลึงออกมา
ขณะมองไปทางเบื้องหนาของสำเภาวิญญาณ
“จะเปนไปไดไดอยางไร ที่นี่จะมีของสิ่งนี้ไดอยางไร” หานลี่ดูเหมือนจะสัมผัส
อะไรได สี ห น า เปลี ่ ย นเป นดู ไ ม ไ ด พลางเอ ย พึ ม พำกั บ ตั ว เอง ฉั บ พลั น นั ้ นปากก็
เปลงเสียงรองยาวๆ ออกมา
ถึงแมวาเสียงจะไมดังนัก แตก็เพียงพอจะทำใหคนที่เหลือทั้งสี่ที่อยูในหองทำ
สมาธิไดสติ
ชั่วครูลำแสงหลีกหนีสองสามสายก็พุงออกมาจากสำเภา เปลงแสงสวางวาบแลว
มาปรากฏตัวขางกายหานลี่
“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดพี่หานถึงเรียกพวกเราออกมา หรือวามีอันตรายเกิดขึ้น?”
“นี่คืออะไร หรือวาคือ…”
เมื่อสตรีและหลงตงปรากฏตัวขึ้น ก็เอยปากตามลำดับ แตแคคำพูดของเสี่ยวหงนั้น
เต็มไปดวยขอสงสัย สวนหลงตงกลับพบอะไรในทันที ชั่วครูพลันตะลึงงัน
ชายหนุมคิ้วขาวและสตรีเองก็แผจิตสัมผัสของตนเองออกไปเชนกัน
“นั่นคืออะไร หรือวาคือจิตวิญญาณเที่ยงแท” ชายหนุมรองอุทานออกมาดวย
เสียงแหบแหง
ถึงแมวาสตรีชุดขาวจะไมไดเอยอะไร แตก็เผยสีหนาตกตะลึงพรึงเพริดออกมา
หานลี่ในครานี้กลับสงบเยือกเย็นลงแลว กลางอากาศหางออกไปสองสามรอยลี้
เขาสัมผัสไดถึงเงาสีดำขนาดใหญกำลังอำพรางตัวลอยอยูกลางอากาศ
รอบๆ ของเงาสีดำมีเมฆสีดำหมุนวน มีสายฟากะพริบวาบและรองคำราม ภายใต
เมฆสีดำ พายุเฮอรริเคนสีเทาจำนวนนับไมถวนกำลังพัดวนอยูบนพื้นดิน ราวกลับ
เสายักษค้ำฟาตนหนึ่ง เชื่อมโยงทองฟาและพื้นดินเขาดวยกัน บางครั้งในเมฆก็มีรางที่
มีเกล็ดสีเทาอยูทั่วรางปรากออกมา จึงทำไดเพียงทำใหผูคนตกตะลึงพรึงเพริด กลับไม
อาจคาดเดาฐานะที่แทจริงของเงาสีดำเงานั้นได
ทวาหากมองไกลๆ จะมองเห็นเปนเงาสีดำกลมๆ ขนาดใหญโตและนาเกรงขาม
เชนนี้ ดูเหมือนวาจะคลายคลึงกับจิตวิญญาณเที่ยงแทที่มีรางกายใหญโตดุจภูเขาใน
ตำนาน
มินาละทุกคนในสำเภาหยกเห็นเขา จึงทยอยกันหนาเปลี่ยนสี
ในตอนที่ทุกคนกำลังตะลึงอยูนั้น ขอบฟาตรงจุดที่ไกลออกไปก็มีเสียงคำราม
เหมือนกับเสียงกระทิงคำรามดังขึ้น ทันใดนั้นเสียงตึงตังก็ดังขึ้น ราวกับวาอสนียักษ
จำนวนนับไมถวนกำลังระเบิดอยูไกลออกไป ถึงแมวาจะอยูหางกันขนาดนี้ เสียงอสนี
เหลานี้ก็ยังคงดังขึ้นอยางตอเนื่อง และชัดเจน
“นี่ไมใชจิตวิญญาณเที่ยงแท แตเปนอสูรโบราณ ‘เตาอสนี’ เตาตัวนี้คือหนึ่งใน
เผ า ที ่ม ีข นาดใหญท ี่ สุด ในอสู รโบราณปา เถื่ อน แต ป กติ แ ล วรา งกายจะแคดูดซับ
พลังอัสนี ไมมีทางโจมตีสิ่งมีชีวิตอื่นกอน แนนอนวาหากไปยั่วโมโหมัน มันก็จะเปนสิ่ง
ที่นากลัวที่สุด อยางนอยที่สุดก็ตองเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรียถึงจะตอกร
กั บ มั น ได ” หญิ ง สาวสวมชุ ด สี ข าวได ย ิ น เสี ย งคำรามประหลาดๆ กลั บ มี ส ี ห น า
ผอนคลายลง ถอนหายใจยาวๆ ออกมาขณะเอย
“เตาอสนี? คืออสูรโบราณที่กำเนิดในอสนีสวรรคในตำนาน ขาเคยไดยินพวกที่
ตัวใหญแตไรพิษภัยนี้ขอแคมีพลังอสนี รางกายก็จะขยายใหญขึ้นไดเรื่อยๆ เปนอสูร
ฟาดินที่อัศจรรยที่สุด วากันวาเผามนุษยในเขตแดนเสวียนอูมี ‘ชานหลิง’ คือเตายักษ
ที่มีพลังทานเมืองอยู อาจจะเปนเตาอสนีตัวหนึ่ง ถึงแมวาตัวที่อยูเบื้องหนาจะตัว
ไมเล็ก แตเทียบกันแลวกลับเล็กมาก” สตรีชุดดำไดยินวาไมใชจิตวิญญาณเที่ยงแท
ก็รูสึกผอนคลายลง สงเสียงจุๆ พลางเอยชื่นชม
“ชานหลิงใชเตาอสนีหรือไม พวกเราก็ไมแนใจนัก หากเปนเชนนั้นจริงๆ เกรงวา
เตาอสนีที่อยูเบื้องหนาคงไมอาจใหญเทาหนึ่งในหมื่นสวนของเตายักษชานหลิงได ทวา
ตอใหเปนเชนนั้น หากพวกเราทำใหอสูรตนนี้โมโห ก็ไมอาจรักษาชีวิตไวไดเชนกัน
รีบหลบอสูรตนนี้ไปจะดีกวา!” ฉับพลันนั้นหลงตงพลันฉีกยิ้มขณะเอย
“นั่นมันก็ใช ความจริงแลวถือวาพวกเรามีวาสนาไมนอย ปกติแลวเตาอสนีจะมุด
อยูใตดิน ไมคอยออกมาปรากฏตัวบนพื้น คนทั่วไปไมมีทางพบเห็นไดงายๆ ปกติแลว
หากมันขึ้นมาบนพื้นดิน ลวนเปนเพราะ...แยแลว ในเมื่อเตาตัวนี้มาปรากฏขึน้ บนพื้น
ที่นี่จะตองมีระเบิดอสนีที่นากลัวเกิดขึ้นแน พี่หลงรีบขับสำเภาวิญญาณออกจากที่นี่
เร็ ว เข า ” เสี ่ ย วหงพลั นพยั ก หน า แต ฉ ั บ พลั น นั ้ น ก็ น ึ ก ถึ ง อะไรที ่ น  า กลั ว สั ก อยาง
หนาพลันขาวซีด แลวรองอุทานออกมาดวยความลนลาน
“ระเบิดอสนี?” เมื่อไดยินทุกคน ณ ที่นั่นรวมทั้งหานลี่ก็พากันหนาเปลี่ยนสี
หลงตงรางกายพลิ้วไหวพรอมสีหนาที่เขียวคล้ำ พลางหายวับไปจากที่เดิม ชั่วครู
กลับมาปรากฏตัวบนหัวเรือที่หางออกไปสิบจั้งเศษ ในเวลาเดียวกันมือหนึ่งพลัน
พลิกฝามือ ในมือมียุทธภัณฑเหมือนแผนปายปรากฏขึ้น
เห็นเพียงสองมือของนางลูบไปบนแผนปาย พริบตานั้นเมฆสีขาวรอบๆ หายวับไป
จากนั้นสำเภาวิญญาณก็หยุดชะงัก เปลี่ยนทิศทางพุงออกไป ความเร็วเพิ่มขึ้นกวาครึ่ง
กลายเปนสายรุงสีขาวสายหนึ่งพุงไปยังขอบฟา
แตสำเภาวิญญาณยังออกไปไดแคยี่สิบสามสิบลี้ เงาสีดำกลางอากาศไกลออกไป
ก็มีลำแสงสีฟาเรืองรองชั้นหนึ่งปรากฏขึ้น จากนั้นลำแสงผืนนั้นก็ดูเหมือนวาจะถูก
อะไรกระตุนเขาสักอยาง มันแผออกมารอบๆ ความเร็วของมันทำใหผูคนตกใจจนพูด
ไมออก
แคชั่วอึดใจทุกคนที่อยูบนสำเภา ก็มองเห็นเสนสีฟาสายหนึ่งที่ขอบฟาดวยตาเนื้อ
และไดยินเสียงตูมตามดังมา ลำแสงอสนีจำนวนนับไมถวนเปลงแสงสวางวาบ ราวกับ
วากรงเล็บของมารปศาจจำนวนนับไมถวนกระโจนออกมา
“ไดยินวาหากเตาอสนีปรากฏตัว ระเบิดอสนีก็ไลตามมา เรื่องนี้เปนความจริงดังคาด
เหลาสหายรีบมาชวยขาอีกแรงเร็วเขา” ชายหนุมไฝแดงเห็นความลำแสงของลำแสง
สีฟา กลับสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง ตะโกนดวยเสียงอันดัง
ความจริงแลวไมตองใหเขาพูดเหลาชายหนุมคิ้วขาวและสตรีก็มองเห็นลำแสง
สีฟาที่เขามาประชิดอยางรวดเร็วอยูแลว สีหนาจึงไมไดดีเทาใดนัก
แทบจะไม ต องคิ ด สองมื อของทั ้ ง สองพลัน ร า ยอาคม ร า งกายพลัน มี ลำแสง
วิญญาณสีตางๆ ทะลักออกมา หมุนวนโคจรอยางไมมีระเบียบแบบแผน แลวใสไปที่
สำเภาหยกซึ่งอยูใตฝาเทา
การเคลื่อนไหวของหานลี่และสตรีชุดขาวก็ไมไดเชื่องชานัก แตทันใดนั้นก็ทำ
เชนเดียวกัน
ชั่วขณะนั้นก็บรรจุพลังลมปราณหากลุมเขาไปในสำเภาเมฆาวิญญาณ!
เมื่อทุกคนรวมมือกันแนนอนวากอนหนาจึงไมอาจเทียบได หลังจากที่สำเภาใต
ฝาเทาเปนเสียงรองคำรามต่ำๆ ออกมา ฉับพลันนั้นพลันสั่นคลอน ลำแสงดานนอก
สำเภาเริ่มรางเลือน
ภายใตความเร็วถึงขีดสุด สำเภาวิญญาณกลายเปนสายรุงสีขาวแลวกลายเปน
เงาลวงราวกับดาวตกสายหนึ่ง แคพลิ้วไหวเล็กนอย ก็พุงไปสุดขอบฟา
ทวาความเร็วเชนนี้ เสนไหมสีฟาที่อยูดานหลังสำเภาวิ ญญาณก็ดู เหมื อ นว า
ความเร็วจะไมตางอะไรกับสำเภาวิญญาณนัก จึงไลตามมาอยูดานหลังติดๆ
นี่จึงทำใหเหลาหลงตงและพวกตะลึงงัน แลวถึงไดรูความนากลัวของระเบิดอสนี
ในตำนาน ชางสมคำร่ำลือจริงๆ
แตโชคดีที่ทุกคนรวมมือกัน จึงกระตุนความเร็วของสำเภาวิญญาณใหอยู ใ น
จุดสูงสุด หากเปลี่ยนเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงธรรมดาๆ ที่ไมเชี่ยวชาญดาน
ความเร็ว เกรงวาคงไมอาจหลบหนีได
แนนอนวาหานลี่และพวกลวนไมใชผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงธรรมดาๆ
ทุกคนตางมีเคล็ดวิชาลับในการรักษาชีว ิตตนเอง อาศัยแคการกระตุนเคล็ดวิ ช า
หลีกหนีลับ ก็ไมแนวาจะชากวาสำเภาวิญญาณเบื้องหนานี้เทาใดนัก แตผลของการ
กระทำเช น นี ้ แน น อนว า ทุ ก คนต า งได ร ั บ ผลที ่ ต ามมา ไม ส ู ญ เสี ย ปราณแท ไ ป
โลหิตบริสุทธิ์ก็ไดรับความเสียหายหนัก
ในสถานที่ที่อันตรายทุกยางกาวอยางแดนปาเถื่อนนี้ ผูใดก็ไมกลาเสี่ยงอันตราย
ทำเชนนี้ ดังนั้นครั้งนี้หานลี่และพวกจึงควบคุมสำเภาวิญญาณอยางรวมแรงรวมใจกัน
ทำใหสำเภาวิญญาณบินหนีออกมาในระยะสองสามหมื่นลี้ในอึดใจเดียว
ในที่สุดลำแสงสีฟาดานหลังก็หายวับไป ไมไดยินเสียงอัสนีฟาฟาดเลยสักนิด
ทุกคนถึงไดรูสึกผอนคลายลง หลังจากที่ลำแสงวิญญาณหมนแสงลงแลว ก็ทยอยกัน
เก็บพลังลมปราณ
สำเภาวิญญาณถึงไดลดความเร็วลง
“อันตรายจริงๆ ครั้งนี้โชคดีที่เซียนเสี่ยวมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็ว มิเชนนั้น
หากชาไปเพียงนิด พวกเราคงถูกมวนเขาไปในระเบิดอสนี ถึงแมวาอาจจะไม เพลี่ยง
พล้ำในนั้น แตก็ยากที่หนีออกมาไดอยางครบสามสิบสอง” ในที่สุดสีหนาของ หลงตง
ก็ฟนฟูกลับมาเปนปกติ พลางเอยกับสตรีดวยรอยยิ้มจางๆ
“ขาเองก็โชคดี ถึงแมวาเตาอสนีจะมีชื่อเสียงไมนอย แตก็รูเรื่องของโลกภายนอก
ไมมากจริงๆ เผาของนองหญิงนอยเคยมีอาวุ โสผูหนึ่ง สังหารเตาอสนีตัวหนึ่งได
โดยลำพัง ดังนั้นจึงรูอะไรมานิดหนอย ปกติแลวเตาอสนีจะซอนตัวอยูใตดิน มักจะไม
ยอมขึ้นมาบนดินงายๆ มีเพียงรูสึกถึงแรงระเบิดอสนีจากที่ใดสักแหง ถึงจะปรากฏตัว
ออกมาดูดซับพลังอสนี แตจะวาไปแลวเตาอสนีโตเต็มวัยจะมีใหกำเนิด ไขมุก
มหัศจรรยสองเม็ดในราง เม็ดหนึ่งดึงดูดอสนี เม็ดหนึ่งปองกันอสนี มีอานุภาพมาก วา
กันวาลึกลับมาก ถึงแมวาผูที่มีไมมีรากวิญญาณอสนีไดไขมุกเม็ดนี้ไป ก็
สามารถควบคุมพลังอสนีไดอยางงายดาย ตอนนั้นที่อาวุโสผูนี้สังหารเตาอสนีตัวนั้น
เปนแคลูกเตา ดังนั้นจึงยังไมมีไขมุกอัศจรรยสองเม็ด ทวากระดองของเตาอสนีนั้น
แฝงไปดวยพลังอสนีที่นาตกใจ คือวัตถุดิบระดับสุดยอดที่ใชหลอมสมบัติธาตุ อสนี
หากผูบำเพ็ญเพียรที่มีความสามารถเกรียงไกรพบกับเตาชนิดนี้ เกรงวาคงดีใจจน
บาคลั่ง” เสี่ยวหงกลับหัวเราะอยางขมขื่นออกมาสองสามครั้ง
“อาวุโสของเผาทานสังหารอสูรอัศจรรยฟาดินไดเพียงลำพัง จะตองเปนหนึ่งใน
เหลาอาวุโสของเผาทานแน แตสำหรับระดับเทพแปลงอยางพวกเรา กลับเปนเรื่องที่
เพอฝน ครั้งนี้ฟาดเคราะหมาได ก็นับวาโชคดีมากแลว” ชายหนุมคิ้วขาวกลับเบะปาก
ดูเหมือนวาจะยังคงหวาดกลัวกับเรื่องที่พบเตาอสนีและเรื่องระเบิดอสนีอยู
“ใชแลว! ถึงแมวาเตาอสนีจะมีรางกายเปนสมบัติ หากพลังยุทธไมอยูในระดับ
ผสานอินทรียก็อยาคิดเรื่องบาๆ เลย และยิ่งไปกวานั้นหลังจากระเบิดอสนีจบลง
อสูรตัวนี้ก็จะมุดลงไปใตดินอีกครั้ง และหายไปอยางไรรองรอย ไปกันเถิด หวังวา
ระยะทางตอจากนี้จะราบรื่นสักหนอยนะ” หลงตงพยักหนา แตน้ำเสียงเครงขรึมขึ้น
เมื่อเขาสูสวนลึกของแดนปาเถื่อนในระยะเวลาสั้นๆ เพียงสิบกวาวันก็พบกับอสูร
ประหลาดที่สามารถสังหารพวกเขาได ทำใหพวกเขาอดที่จะรูสึกจิตใจหนักอึ้งไมได
หลังจากที่คนอื่นๆ หันซายหันขวาไปรอบหนึ่งแลว เห็นไดชัดวาไมอยากอยูคุยกัน
ที่นี่ตอ หลังจากเอยอยางสบายๆ อีกสองประโยค ก็ทยอยกันกลับไปยังหองทำสมาธิ
ของตนเอง
หานลี่กลับยังคงยืนนิ่งอยูที่เดิม ตั้งแตตนจนจบ เขาเอาแตเงียบขรึมไมไดพูดอะไร
ออกมาเลยสักคำ
แตหลังจากที่ทุกคนออกไปจากหัวเรือแลว เขาก็เงยหนาขึ้นมองไปยังทิศทางที่
เกิดระเบิดอสนี สายตาเปลงประกายไมรูวากำลังคิดอะไรอยู หลังจากผานไปชั่วครู
เขาถึงไดถ อนหายใจออกมาเฮื อกหนึ่ ง อยา งเสี ยดาย กลับไปยั งจุดที่ส ูงที่ส ุ ด ของ
สำเภาหยก แลวนั่งสมาธิลงอีกครั้ง
ตอนที่ 1362 สองฮองเตปรากฏตัว
หานลี่และพวกคิดไมถึงวา หลังจากที่สำเภาวิญญาณที่พวกเขาขับเคลื่อนออกไป
ห า งจากระเบิ ด อสนี ไ ด ไ ม ไ กลนั ก กลุ  ม เมฆสี ด ำที ่ พ ั น รอบร า งเต า อสนี ก ็ ห ายไป
เผยหนาตาที่แทจริงออกมา
ไมตองพูดถึงวาเตาตัวนี้มีรางกายใหญโตมโหฬาร กระดองเตาขนาดยักษสีเทาเขม
แตเปลงแสงเจิดจาสีทองออกมา ดูเหมือนเกลี้ยงเกลาอยางหาที่เปรียบมิได
สิ่งที่นาแปลกยิ่งกวาก็คือ นอกจากแขนขาทั้งสี่ของเตาตัวนี้แลว กลับมองไมเห็น
หัวหรือหาง ดูแลวคงกำลังหดอยูในกระดอง ไมไดโผลออกมา
ครานี้ระเบิดอสนีระเบิดจนหมดแลว ทองฟาทั้งหมดถูกลำแสงสีฟาอาบยอมเอาไว
จากทองฟาที่สดใสมีประจุไฟฟาสีฟาขนาดนอยใหญไม เทากั นจำนวนนับ ไม ถ  ว น
ตกลงมาราวกับหาฝน เล็กนอยก็มีขนาดแคสองสามฉื่อ ใหญหนอยก็มีความยาวถึง
สิบจั้งเศษ ลวนตกลงมาบนพื้นอยางนาครั่นคราม เสียงอสนีฟาฟาดกลืนกินทองฟาไป
ทั้งหมด
จากรางกายที่ใหญโตของเตาอสนี แนนอนวาจึงรับประจุไฟฟาจำนวนนับไมถวนเอาไว
แต เ มื ่ อประจุ ไ ฟฟ าทั ้ง หมดสั มผั สกั บรา งของเต าตัว นั ้น กลั บ จมหายเขา ไปอยาง
ไรรองรอยราวกับโคลนที่จมลงไปในมหาสมุทร
สิ ่ ง ที ่ น าประหลาดใจยิ่ ง กวา ก็ค ื อ ผิ ว ของเต า ตัว นี ้ มี ลำแสงสี ข าวแผอ อกเปน
ระลอกๆ ประจุไฟฟาที่ตกลงรอบๆ กลับถูกดูดเขาไปขางในราวกับถูกพลังแมเหล็ก
ดูดเขาไป ลวนเปลี่ยนทิศพุงไปยังแผนหลังของเตาตัวนั้น เชนนี้ ประจุไฟฟากวาครึ่งที่
ปรากฏขึ้นในระเบิดอสนี จึงถูกเตาตัวนี้ดูเขาไปในรางกายจนหมดเตาตัวนี้วาดแขนขา
ทั้งสี่ไปมาอยางชาๆ กลับดูเหมือนวาพอใจมากที่อยูในระเบิดอสนี
ฉับพลันนั้นแขนขาทั้งสี่ของเตายักษก็หยุดชะงัก ชั่วครูก็หดเขาไปในกระดองเตา
อยางไมรูสาเหตุ
แทบจะในเวลาเดียวกัน ทองฟารอบๆพลันเกิดระลอกคลื่นขึ้น ลำแสงหลากสีสัน
พุงออกมาจากทองฟาที่วางเปลา หลังจากที่ลำแสงหมนแสงลง วิหคกระดูกขนาดยักษ
แผสีสันหลากสีพลันปรากฏขึ้น
ถึงแมวาวิหคกระดูกตัวนี้จะมีขนาดแคสิบจั้งเศษ แตความนาเกรงขามที่แผมา
จากเรือนรางของมัน ก็ไมดอยไปกวาเตายักษที่ดูดซับอัสนีทามกลางระเบิดอสนีเลย
แมแตนอย สิ่งที่นาตกตะลึงยิ่งกวาก็คือ สวนหัวของวิหคกระดูกนี้มีเงารางคนสองสาย
ยืนอยู
คนหนึ่งสูงสองจั้งแผลำแสงสีดำออกมาจากเรือนกาย อีกคนหนึ่งรางกายธรรมดา
กลับถูกเมฆสีเขียวออนกลุมหนึ่งหอหุมเอาไวจนไมอาจมองเห็นใบหนาไดชัดเจน
“ไมเลว ไมเลว คิดไมถึงวาจะถูกสงตัวมาที่นี่ และยังมาเจอกับเหยื่อที่โอชะขนาดนี้
มารยักษสิบหัวที่ขาอยากหลอม ยังขาดวัตถุดิบอยูนิดหนอยพอดี เตาอสนีตัวนี้ก็
พอจะใชได” เงารางคนหนึ่งในนั้นมองไปยังเตายักษ แลวเอยพึมพำกับตัวเองขึ้นมา
“พี่เทียนเมี่ยว ของระดับนี้เปนวาสนาของผูพบเห็น มารสิบหัวของเจาใชแค
โครงกระดูกของมัน ขาชวยเจาสังหารเตาตัวนี้ แตไขมุกอสนีสองเม็ดในรางเตาอสนี
ขานอยจะรับไว” เงารางคนอีกคนหนึ่งไดยินกลับเอยพรอมฉีกยิ้ม
“หึ พี่เสวียนอูชางเจาแผนการนัก สิ่งที่ล้ำคาที่สุดในรางของเตาตัวนี้ก็คือไขมุกอสนี
ทั้งสองเม็ด สหายเอยปากก็จะเอาทั้งสองเม็ด ไมคิดวาเกินไปหนอยหรือ?” เงารางคน
ในไอสีเขียวแคนเสียงออกมา ดูเหมือนวาจะไมคอยพอใจนัก
“หึๆ ถึงแมวาไขมุกอสนีจะยอดเยี่ยม แตไมคอยมีประโยชนตอเจาและขามากนัก
ที่ขาตองการมันเพราะมีเปาหมายอื่น ไมเชนนั้น ขาเอาแขนของจิตวิญญาณเที่ยงแท
กิเลน แลกกับไขมุกอสนีสองเม็ดเปนอยางไร?” มนุษยรางสูงใหญดูเหมือนวาจะไม
อยากโตเถียงกับอีกฝายนัก จึงเสนอเงื่อนไขออกมา
“มีเปาหมายอื่น? ออ ขาเกือบลืมไป ชานหลิงตัวนั้นของพี่เสวียนอู ก็คือเตาอสนี
พี่เสวียนอูอยากนำไขมุกอัสนีสองเม็ดไปเพิ่มอายุขัยใหอสูรตัวนั้นสินะ” เงารางคนใน
ไอสีเขียวเอยอยางถึงบางออ
“สหายรูแลวก็ดี! อายุขัยของชานหลิงยืนยาวมาก มีประโยชนตอเผามนุษยเปน
อยางมาก มันสามารถนำมาใช ต า นทานกั บ ครึ ่ง จิ ตวิ ญญาณเที่ ย งแท ได หากเกิ ด
สงครามทำลายลางเผาพันธุขึ้นมาจริงๆ ก็เปนตัวชวยอีกแรงของขาได พี่เทียนเมี่ยวคง
ไมปฏิเสธเรื่องนี้หรอกกระมัง” เงารางสูงใหญตอบกลับอยางราบเรียบ
“ในเมื่อมีประโยชนตอพี่เสวียนอูจริงๆ นองก็จะทำตัวเปนคนเลว ตกลงตามนี้
ทวาพวกเราตองรีบลงมือหนอย อยาพลาดเรื่องใหญไป การเดินทางของพวกเราครั้งนี้
ไมใชการรวบรวมสมบัติฟาดิน แตเพราะมีเรื่องสำคัญอื่นอยู จะตองไปฐานที่มั่นของ
เผาประหลาดที่เขาใกลเมืองเทวะสวรรคเหลานั้นใหได” หลังจากเงารางคนในไอ
สีเขียวขบคิดอยูนาน ถึงไดตอบกลับอยางเห็นดวย
“ฮาๆ หามพลาดเรื่องใหญเด็ดขาด เจากับขารวมมือกัน บวกกับหุนเชิดที่หลอมขึ้น
จากโครงกระดูกหงสโบราณ สังหารเตาอสนีโตเต็มวัยตัวหนึ่ง คงใชเวลาไมเทาไหร”
เงารางคนสูงใหญหัวเราะอยางบาคลั่ง ทันใดนั้นรางกายพลันพลิ้วไหว คาดไมถึงวาจะ
พวยพุงขึ้นไปบนทองฟา กำมือทั้งสองทะลวงเขาไปในระเบิดอสนี
ชั่วครูเสียงตึงตังพลันดังขึ้นจากในระเบิดอสนี เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นดังมาก
ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรนคำรามของอสูรดังมาเชนกัน
เงารางคนในไอสีเขียวที่เหยียบอยูบนหงสกระดูก พลันสั่นศีรษะและถอนหายใจ
ออกมา ดูเหมือนวาจะจนปญญากับอารมณขี้โมโหของสหายรวมวิถีเชนกัน แตทันใด
นั้นสองมือพลันรายอาคม รางของหงสกระดูกใตฝาเทาขยายใหญขึ้นทันที ชั่วพริบตาก็
กลายเปนขนาดยักษประมาณรอยจั้งเศษ ภายใตการเรงเราของเงารางมนุษยที่อยู
บนศีรษะ หงสกระดูกพลันกระโจนเขาไปในระเบิดอสนี
ชั่วขณะนั้นเสียงคำรามของอสูรในประจุไฟฟาสีฟาที่อยูไกลออกไปพลันโกรธเกรี้ยวขึ้น
เรื่อยๆ แมกระทั่งมีเสียงรองคร่ำครวญดวยความหวาดกลัวอยูสองสามสวน
……
อีกดาน หานลี่และพวกกำลังขับเคลื่อนสำเภาวิญญาณ เรงรุดไปขางหนาอยางไม
หยุดพักเลยสักนิด
ไมรูวาถูกชายหนุมไฝแดงพูดจี้จุดจริงๆ หรือไม สองสามเดือนตอจากนั้น ถึงแมวา
ความเร็วของสำเภาเมฆาวิญญาณจะไมเชื่องชา และยิ่งไปกวานั้นเคล็ดวิชาลวงตายัง
จัดอยูในชั้นสูง แตก็ยังคงพบกับอันตรายบอยๆ อยูสองสามครั้ง
ตั ว อย า งเช น ครั ้ ง หนึ ่ ง ถู ก วายุ ป ระหลาดสี แ ดงสดมว นเข า ไป และที ่ เ รี ยกวา
วายุประหลาด คาดไมถึงวาจะเปนแมลงตัวเล็กสีแดงสดขนาดเทาเมล็ดขาวสารจำนวน
นับไมถวน
หากไม ใ ช เ พราะทุ ก คนร ว มมื อ กั น ด ว ยอารามตกใจ หลบหนี อ อกมาจาก
วายุประหลาดไดในทันใด เกรงวาสำเภานี้คงถูกแมลงประหลาดกลืนกินไปจนเกลี้ยง
ในชั่วพริบตา
เรื่องนี้ผานไปไดไมนานนัก สำเภาที่กำลังบินอยูก็มีระลอกคลื่นปรากฏขึ้นเบื้องหนา
วิหคประหลาดสองหัวความยาวรอยจั้งบินแหวกผานอากาศมา
วิหคตัวนี้มีสีเหลืองทอง รอบกายแผไอวิญญาณที่นาตกตะลึงออกมา แคมองก็รูวา
นากลัวไมตางอะไรกับเตาอสนี นี่จึงทำใหจิตใจของทุกคนแลนมาจุกที่ลำคอ
ไมรูวาวิหคตัวนี้ไมพบสำเภาวิญญาณจริงๆ หรือวาเทียบกับขนาดรางกายตนเอง
แลวก็ไมสนใจราวกับมดแมลงตัวหนึ่ง หลังจากที่มันกระพือปกมหึมาสองสามครั้ง
ก็บินออกไปเอง
หลังจากที่พวกของหานลี่ผอนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่งแลว ก็มองสบตากันแลว
หัวเราะอยางขมขื่นออกมา
หลังจากที่ทุกคนบนสำเภาสัมผัสไดถึงความนากลัวของแดนปาเถื่อนแลว แนนอน
วาก็ไมมีผูใดกลาฝกฝนเคล็ดวิชาอะไรอีก ถึงแมวาตัวจะอยูในหองทำสมาธิ ทุกคนก็ยัง
รักษาระดับความตื่นตัวเอาไว
การกระทำเชนนี้ไมใชสิ่งที่ผิดพลาดดังคาด อันตรายที่พบตอจากนี้ ลวนอาศัย
ความใสใจของทุกคน ถึงไดผานมาได
แตสุดทายวันที่ความโชคดีหมดลงก็มาถึง
วันนี้ครั้นเมื่อชายหนุมคิ้วขาวเขาเวรอยูดานนอก หานลี่ก็กำลังเรียนรูวิชายันตอยู
ภายในหองทำสมาธิ ฉับพลันนั้นก็ไดยินเสีย งกูร องเตือนดั งออกมาจากดา นนอก
ทั น ใดนั ้ น ก็ ห ยั ด กายลุ ก ขึ ้ น ด ว ยหน า ที ่ เ ปลี ่ ย นสิ แต ย ั ง ไม ท ั น ได เ คลื ่ อ นไหวใดๆ
สำเภายักษทั้งลำก็สั่นคลอน รางกายเซถลา จนเกือบจะไมอาจยืนใหมั่นอยูบนพื้นได
หานลี่รูสึกตะลึงงัน จากนั้นก็สั่นเทาอยางหนักไมหยุด ทันใดนั้นลำแสงสีขาวก็
กะพริบวาบอยูที่กำแพงทั้งสี่ดาน คาดไมถึงวาจะเริ่มแตกออกเปนเสี่ยงๆ
เขามีสีหนาเครงขรึม สะบัดแขนเสื้อไปทางเพดานของหองทำสมาธิ ชั่วขณะนั้น
สายรุงสีทองสายหนึ่งพลันพุงแหวกอากาศขึ้นไป ชั่วครูก็ทะลุผานเพดานของหองทำ
สมาธิออกไปจนเปนรูขนาดใหญ
ร า งกายของหานลี ่ พ ลิ ้ ว ไหว กลายเป น สายรุ  ง สี เ ขี ย วสายหนึ ่ ง พุ  ง ออกมา
กะพริบวาบสองสามแลวก็ปรากฏตัวหางจากสำเภาหยกไปยี่สิบจั้งเศษ แลวถึงหัน
กลับมามองอยางละเอียด
เห็นเพียงในครานี้ ยังมีลำแสงหลีกหนีอื่นๆ บินออกมาจากสำเภาอยางรวดเร็ว นั่นก็
คือหลงตงและพวกที่เห็นทาไมดีแลวจึงละทิ้งสำเภาวิญญาณหนีออกมา
ชั่วพริบตาที่ทุกคนหนีออกมาหมดแลว ก็ไดยินเสียงตูมดังขึ้น ฉากสำเภาวิญญาณ
ระเบิดทามกลางลำแสงสีขาวปรากฏขึ้น ชั่วพริบตาวายุอันบาระห่ำก็พัดมาหาทุกคน
ทุ ก คนล ว นเป น ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ เทพแปลง แน น อนว า จึ ง ไม ห วาดกลั ว
วายุวิญญาณเหลานี้ ตางลองหนลอยอยูที่เดิมไมขยับเขยื้อน แคจองเขม็งไปยังจุดที่
สำเภาวิญญาณระเบิดออก
นอกจากชายหนุมคิ้วขาวที่เขาเวรอยูแลว คนอื่นๆ ก็ยังไมรูวาเกิดอะไรขึ้น คาดไม
ถึงวาสำเภาเมฆาวิญญาณจะถูกทำลาย
แตเมื่อทุกคนกวาดจิตสัมผัสไปอีกครั้ง คาดไมถึงวาจะไมพบอะไรเลย
เชนนี้ทุกคนจึงรูสึกตกตะลึงระคนสงสัย
“พี่หลี่ ผูใดโจมตีพวกเรา!” เสี่ยวหงเอยปากถามอยางรวดเร็ว
“พวกเจามองไปดานลางเถิด!” ชายหนุมคิ้วขาวกลับมีสีหนาเครงขรึม เอยตอบ
อยางเย็นชา
เมื่อไดยินคำนี้ หลังจากที่หานลี่และพวกตกตะลึงแลว จิตสัมผัสก็กวาดลงไป
ดานลางทันที
ผลคือหลังจากที่มองเห็นสถานการณดานลางอยางชัดเจนแลว สตรีและพวกก็
รองอุทานออกมาเบาๆ หานลี่กลับยนหัวคิ้ว
เห็นเพียงชีพจรภูเขาที่ทอดยาวไปจนสุดลูกหูลูกตาดานลาง พวกเขาอยูระหวาง
กลางภูเขายักษสองลูกอยางพอดิบพอดี
และในสถานที่ที่ดูลึกลับเปนพิเศษนี้ กลางตนไมขนาดยักษหลากสีสัน มีที่วาง
แปลกประหลาดปรากฏขึ้น และตรงใจกลางของพื้นที่นี้ก็มีตนหญายักษสีมว งเขม
สูงสามสิบถึงสี่สิบจั้งอยูตนหนึ่ง ใบหญาแตละใบตั้งตรงราวกับกระบี่ยักษ รอบดานมี
หนามที่ดูแหลมคมจำนวนนับไมถวน
สองฝงของตนหญายักษเหลานี้ มีสิ่งมหึมายืนเผชิญหนากันอยู
กิ้งกายักษตัวหนึ่งยาวหาสิบหกสิบจั้ง เรือนกายเปนสีเขียวมรกต แผนหลังมี
จุ ด กระดำกระด า งขนาดเท า เหรี ย ญจำนวนนั บ ไม ถ  ว น บนศี ร ษะขนาดใหญ มี
เขาประหลาดสีแดงโลหิตสองเขาที่ดูเหมือนปะการังงอกออกมา
อีกตัวหนึ่งกลับเปนมนุษยยั กษแดนปาเถื ่อนสู งสามสิบจั้ง หนาตาโหดเหี้ ย ม
เรือนผมสีเหลือง แถมยังแบกกระบองไมสีดำเอาไวบนบา แตครั้นมองไปยังบนรางของ
มนุษยยักษ ทุกคนตางสูดลมหายใจเย็นเยียบเขาไปเฮือกหนึ่ง
ผิวบนรางกายและแขนขาทั้งสี่ของมนุษยยักษนั้นมีลูกตาสีเงินขาวนอยใหญ
แตกตางกันจำนวนนับไมถวนปรากฏอยู ทุกดวงฉายแววเย็นชาออกมา
ทวาไมวามนุษยยักษหรือวากิ้งกายักษตัวนั้นตางก็มองกันดวยความเปนปฏิปกษ
สายตามองไปยังตนหญายักษที่อยูตรงกลาง
เชนนั้น หานลี่จึงใจเตนขณะแผจิตสัมผัสไปตรวจสอบตนหญายักษเหลานั้นอยาง
ละเอียด
ผลคือครูตอมา หานลี่พลันหนาเปลี่ยนสี
ภายในใบหญาที่เหมือนกับคมกระบี่นั้น คาดไมถึงวาจะมีผลเจียงกั่ว (เบอรรี)
สีมวงที่ดูเหมือนองุนอยูพวงหนึ่ง
ผลเจียงกั่วเหลานี้มีขนาดเทากำปน รูปทรงกลมมน ดูเหมือนวาจะเต็มไปดวยใสวาว
แผกลิ่นหอมประหลาดๆ ที่เยายวนออกมา เมื่อจิตสัมผัสกวาดไปดานในผลเจียงกั่ว
ทุกผลตางมีแกนที่เหมือนกับมังกรนอยของจริงอยูในนั้น ทุกตัวลวนโปรงใสแวววาว
แนบเนียนเสมือนจริงสุดๆ
มังกรนอยเหลานี้ไมมีสัญญาณชีพใดๆ แตไอวิญญาณบริสุทธิ์ที่แผออกมา ถึงแมวา
หานลี่จะแคกวาดจิตสัมผัสไป ก็ยังสัมผัสถึงความเย็นสบายเปนอยางยิ่งได
ตอนที่ 1363 ผลเห็ดมังกร
“ผลเห็ดมังกร!” ในเวลาเดียวกันที่ในหัวของหานลี่มีคำนี้ผุดขึ้นมา หญิงสาวชุดขาว
ก็ชิงรองตะโกนขึ้นมากอน
พวกของหล ง ตงและสตรี เ องก็ ม ี ส ี ห น า ตกตะลึ ง ระคนดี ใ จ เห็ น ได ช ั ด ว า รู  จัก
สมุนไพรวิญญาณชนิดนี้
“นี่คือวัตถุดิบหลักที่ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาถึงจะใชปรุง ‘ยาลูกกลอน
มังกรทะยาน’ ได สามหมื่นปถึงจะออกผลครั้งหนึ่ง ตอใหกินดิบๆ ก็สามารถเพิ่มพลัง
การฝกวรยุทธไปไดหกสิบป ที่นี่คาดไมถึงวาจะมีอยูตนหนึ่ง ดูจากทาทางแลวเพิ่งจะ
โตเต็มวัยไดไมนาน หากพวกเราไดมาคงโชคดีมาก” สตรีพึมพำกับตัวเองดวยดวงตาที่
เปลงประกาย
สตรีชุดขาวและหลงตงแววตาเปลงประกายวิบวับ เห็นไดชัดวาสนอกสนใจเปน
อยางมาก
วัตถุดิบหลั กในการปรุ งยาลู ก กลอนระดั บ หลอมสุ ญตามี ค วามหมายอย า งไร
เกรงวาผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาทั่วๆ ไปคงไมมีโอกาสไดพบ ปกติแลวใน
งานประมูลยิ่งไมตองพูดถึงวาจะมีคนนำสมุนไพรวิญญาณถาดินมาประมูลแน มากสุด
ก็คงแลกเปลี่ยนกันระหวางผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงเทานั้น มิเชนนั้นโลหิตคางคก
วิญญาณที่ใชปรุงยาของระดับเทพแปลงขั้นปลายในวันนั้น คงไมมีคนแยงประมูลกัน
อยางบาคลั่งเชนนั้น
ประสิทธิภาพของยาสมุนไพรระดับเทพแปลงและระดับหลอมสุญตานั้น ถึงแมวา
จะดูเหมือนวาแตกตางกันเพียงขั้นหนึ่ง แตทั้งสองกลับแตกตางกันเปนอยางมาก
หากมีผูบำเพ็ญเพียรเอาผลเห็ดมังกรวาไวตรงหนาและไปตามหาผูบำเพ็ญเพียร
ระดั บหลอมสุ ญ ตา อี ก ฝ า ยคงเอายาลู ก กลอนระดั บ เทพแปลงกองโตมาแลกกั บ
สมุนไพรวิญญาณชนิดนี้ดวยความยินดีแน
ถึงอยางไรเสียแมนวาในแดนปาเถื่อนจะมีสมุนไพรฟาดินจำนวนมาก แตสมุนไพร
ที่มีประโยชนตอระดับเทพแปลงก็ยังคงมีอยูนอยมาก ทุกตนที่พบจำเปนตองมีวาสนา
เทานั้น
และหากสมุ นไพรเหล านี ้ป รากฏตัว หรือโตเต็ มวั ยเขา ก็ จ ะดึ ง ดู ดสิ ่ง มีชีวิตที่
แข็งแกรงจำนวนมาก ไมอาจคงอยูในระยะยาวได
หานลี่และพวกไมไดเขามาในสวนลึกของแดนปาเถื่อนเพื่อตามหาวัตถุดิบล้ำคา
แต อ ยู  แ ค ไ ม ก ี ่ เ ดื อ น ก็ พ บกั บ เต า อสนี ถ ื อ กำเนิ ด จากนั ้ น ก็ พ บกั บ ผลเห็ ด มั ง กร
โอกาสเชนนี้นับวาเปนโชคหนาชั้นแลว มีผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงมากมายที่อาศัยอยูใน
แดนปาเถื่อนหลายสิบป ก็ยังไมไดไดอะไรเลย
“ลงไปดูสถานการณดานลางใหชัดแจงกอนเถิด!” ชายหนุมคิ้วขาวกลับแคนเสียง
อยางเย็นชาออกมาขณะเอย
“มนุษยยักษคือมนุษยยักษเผาพันตาของมนุษยยักษแดนปาเถื่อน ทวาดวงตาบน
รางของเขาลวนเปนสีเงินขาว เห็นไดชัดวายังไมโตเต็มวัย สวนกิ้งกาตัวนั้นแมวาจะดู
ไมสะดุดตา แตในเมื่อทำใหม นุษยย ักษพั นตาหวาดกลั ว ได ข นาดนี้ เห็นไดช ั ด ว า
ไมธรรมดา สัตวประหลาดทั้งสองตัวไมวาตัวไหนก็เกรงวาจะมีพละกำลังอยูในระดับ
หลอมสุญตาขั้นตน” หานลี่พิจารณาตัวประหลาดสองตัวที่อยูดานลางชั่วครู แลวเอย
อยางเชื่องชาออกมา
ครั้นเมื่อเขาอยูในเมืองเทวะสวรรค ก็ไดซื้อตำราที่เกี่ยวกับแดนปาเถื่อนมาจาก
ยานรานคา เพื่อเตรียมใชเขาไปในแดนปาเถื่อนในวันขางหนา ดังนั้นมองปราดเดียวก็
รูจักเผามนุษยยักษที่อยูดานลาง และทำการตัดสินอยางเยือกเย็น
ไดฟงคำพูดของหานลี่ จากตนกำเนิดของสตรีและหลงตงที่ลึกล้ำไมธรรมดา
แตเมื่ออยูตอหนาสิ่งที่พันปจะพบสักครั้ง ทุกคนจะไปละทิ้งงายๆ ไดอยางไร หลังจาก
มองสบตากันแวบหนึ่ง ก็อดที่จะเผยสีหนาเครงขรึมขึ้นไมได
ในตอนนั้นเอง เสียงหึ่งๆ ก็ดังมาจากจุดที่ไกลออกไป หานลี่และพวกจึงมองไป
ดวยความตกตะลึง
เห็นเพียงตรงขอบฟาที่มีเสียงดังนั้น มีแมลงยักษรูปรางเหมือนรังไหมยักษยาว
สองสามจั้งอยูเจ็ดแปดรัง รอบกายแผลำแสงหลากสีสันออกมา กำลังบินพุงมาทาง
พวกเขาอยางรวดเร็ว
ดูแลวไมไดมีทาทีเปนมิตร
หานลี่ขมวดคิ้ว แตหลังจากที่แผจิตสัมผัสไป ก็มีสีหนาปกติในทันใด
แมลงยักษเหลานี้ดูแลวนากลัว กลิ่นอายบนเรือนรางไมไดแข็งแกรงนัก ไมไดสราง
ความนายำเกรงใหพวกเขามากนัก หลงตงและพวกที่อยูดานขางก็เห็นแมลงเหลานี้
เชนกัน ตางเตรียมตัวรอใหแมลงเหลานั้นเขามาใกล แลวจะจัดการสังหารแมลงยักษ
เหลานั้นทิ้งทั้งหมด
แตฉากที่ทำใหพวกเขาตกใจจนสะดุงโหยงก็ปรากฏขึ้น
แมลงยักษเหลานี้อยูหางจากพวกเขาไปประมาณรอยจั้ง ก็ผานตรงจุดที่กิ้งกายักษ
อยูพอดี ฉับพลันนั้นกิ้งกาพลันอาปากออก ดูเหมือนวาจะพนอะไรสวางวาบออกมา
แมลงยั ก ษ ต ั ว หนึ ่ ง ที ่ ด ู น า เกรงขามเปล ง แสงสว า งวาบ แล ว หายวั บ ไปอย า ง
ไรรอ งรอย
ชั่วขณะนั้นฝูงแมลงเหลานี้ก็เกิดความวุนวายขึ้น ตัวที่เหลือตางหมุนวนโคจรอยูที่เดิม
ในเวลาเดียวกันปากก็เปลงเสียงรองแหลมๆ ดวยความโมโหออกมา
แตการเคลื่อนไหวนี้กลับไมมีประโยชนเลยสักนิด ครูตอมา แมลงยักษตัวหนึ่งก็
หายไปอยางไมมีเคาลางมากอน
เมื่อเห็นฉากนี้ พวกของหลงตงและสตรีก็ใจหายวาบ
หานลี่หรี่ตาลง รูมานตามีลำแสงสีฟาสวางวาบ
ชั ่ ว พริ บ ตาที ่ แมลงยั ก ษ สลายหายไป อาศั ย ความสามารถของเนตรวิญญาณ
ในที่สุดเขาก็มองเห็นทุกอยางอยางชัดแจง
สิ ่ ง ที ่ เรีย กว าหายไป คาดไม ถ ึ ง ว าจะเป น ลิ้ น ยาวๆ ที ่ เ กื อบโปร ง ใสของกิ้งกา
ทะลวงผานทองของแมลงยักษดวยความเร็วที่นาเหลือเชื่อ จากนั้นก็มวนมันลงไปใน
ปากของกิ้ งกายักษท ี่ด า นลา ง แตแคลิ้นยาวๆ ดีดออกมาดวยความเร็วที ่ย ากจะ
เหลือเชื่อ นี่จึงทำใหผูคนที่พบเห็นรูสึกวาแมลงยักษหายไปจากกลางอากาศ
ชั่วพริบตาแมลงยักษที่เหลือก็ถูกกิ้งกากลืนลงไปในทอง จากนั้นอสูรตัวนี้ก็หมอบนิ่งอยู
บนพื้นไมขยับเขยื้อน
แตเมื่อสายตาของหานลี่เหลือบไปมองอสูรตัวนั้น แนนอนวาก็ตะลึงงันไปเล็กนอย
“อาจจะเปนอสูรโบราณกลายพันธุ มิเชนนั้นการโจมตีของมันคงไมนาตกตะลึง
เชนนี้ ดูแลววิหคเมฆาวิญญาณคงถูกอสูรตัวนี้ใชลิ้นโจมตีจนสลายไป” ไมรูวาหลงตง
ใชเคล็ดวิชาอะไร คาดไมถึงวาจะมองเห็นการโจมตีดวยลิ้นยืดยาวของกิ้งกายักษ
หลังจากสูดลมหายใจเขาไปเฮือกหนึ่ง ก็เอยอยางเครงขรึมออกมา
“ทวาพวกเราอยูที่ นี่ เหตุใดกิ้งกา นั ่น ถึ งไม โจมตีพวกเรา แตกลับกลืนแมลง
เหลานั้นลงไป” หญิงสาวชุดขาวเอียงศีรษะ ราวกับวาไมเขาใจ
“ใครจะไปรูละ? บางทีอสูรตนนี้อาจจะคิดวาพวกเราตัวเล็กเกินไป จึงไมสนใจก็ได
หรือแมลงยักษเหลานั้นอาจจะเปนของชอบของมันก็ได” สตรีตอบกลับดวยรอยยิ้ม
จางๆ
หญิงสาวสวมชุดสีขาวหนาเปลี่ยนสี ดูเหมือนวาจะรูสึกวามีความเปนไปไดหลายสวน
“อยาไรสาระนัก เกรงวาทุกคนคงไมอยากละทิ้งผลเห็ดมังกรสินะ ในเมื่อมีโชค
ขนาดนี้มาอยูตรงหนา ตอใหขานอยตัวคนเดียวก็ไมมีทางละทิ้งแน” ชายหนุมคิ้วขาว
จองเขม็งไปยังพวงเจียงกั่วในกอหญาพวงนั้น แววตาฉายแวบละโมบขณะเอย
“ทั้งสองที่อยูดานลางตางมีพละกำลังระดับหลอมสุญตา พี่หลี่ชางอาจหาญไมนอย”
หญิงสาวชุดขาวกลับหัวเราะคิกคักขณะเอย
“หึ หากอยูแคระดับหลอมสุญตาตนหนึ่ง ขาก็อาจจะหนี ในเมื่อมีสองตัวอยูที่นี่
ก็พูดยากแลว” ชายหนุมคิ้วขาวไมโกรธขึ้ง แตกลับเอยอยางเย็นชาออกมา
“ออ ความหมายของพี่หลี่คือ…” หญิงสาวมีปฏิกิริยาตอบสนองในทันที
“ใชแลว! ถึงแมอสูรโบราณกลายพันธุตัวนี้จะรับมือยากก็ตาม เจามนุษยยักษพันตา
ที่ยังไมโตเต็มวัยก็ไมธรรมดา เมื่อทั้งสองสูกัน กวาครึ่งคงบาดเจ็บหนักทั้งสองฝาย
หรือไมก็อาจจะตายกันไปขาง ครานั้นหากคอยลงมือ แนนอนวาก็มีความหวังแลว”
หลงตงกลับหัวเราะหึๆ ขณะเอย
“รอจนพวกมันลงมือ เชนนั้นตองรอนานเทาไหร บางทีสิบวันหรือครึ่งเดือน
พวกมันก็ยังไมลงมือนะ!” สตรีกลับสั่นศีรษะ
“นั่นมันยุงยากไปหนอยแลว! พวกเราเองก็มีภารกิจอยูกับตัว ไมอาจอยูที่นี่ได
นานนั ก ” หล ง ตงกวาดสายตาไปบนเรื อนร า งของสตรี แล ว พยั ก หน า ด ว ยสี หนา
ราบเรียบ
“ตอใหภารกิจจะรีบรอนขนาดไหน เวลาแคนี้พวกเราก็พอเสียได ตองเอาผล
เห็ดมังกรมาใหได! เสียเวลาแคนี้จะเปนอะไรกัน” ชายหนุมคิ้วขาวกลับมีทาทาง
เหมื อ นต อ งเอาผลวิ ญ ญาณด า นล า งมาให ไ ด “ พู ด อย า งนั ้ น ไม ไ ด ! ต อ ให ร ะดั บ
หลอมสุญตาทั้งสองไดรับบาดเจ็บหนักจริงๆ แตหากพวกมันสูสุดชีวิต พวกเราก็ไมอาจ
รับมือไดงายๆ ไมแนวาอาจจะมีสหายตองเพลี่ยงพล้ำดวยเหตุนี้ จากความเห็นของขา
อยาตอความยาวสาวความยืดเลย รีบไปกันเถิด”
ถึงแมวาหลงตงจะอยากไดผลเห็ดมังกรมาก แตเทียบกับอีกเรื่องที่อยูในใจนั้นก็ไม
นับวามีคาอะไร แนนอนวาจึงไมยอมเสี่ยงอันตราย กอเรื่องอะไรขึ้นอีก ดังนั้นถึงได
ระงับความละโมบในใจ แลวเอยปากเชนนี้ออกมา
“ก็มีเหตุผล ขาคิดดูแลวก็รูสึกวาหากพวกเราชิงสมบัติมานั่นไมใชเรื่องที่ ชาญ
ฉลาดอะไร อยาลืมละ เผามนุษยยักษชอบอยูกันเปนฝูง ผลวิญญาณที่สุกงอม มนุษย
ยักษและกิ้งกาตัวนี้ยืนกรานใสกัน ไมแนวาจะกำลังรอทัพเสริมของมนุษยยักษ ก็ได
กิ้งกาตัวนั้นก็ไมไดลงมือกอน นาจะมีแผนอื่น หากพวกเราตอไปแลวไมทันระวัง ก็
อาจจะตองดึงตนเองเขาไปดวยได” สตรีคิ้วดำขลับขมวดคิ้วพลางวิเคราะหเล็กนอย
แลวคัดคานการลงมือ
“ไมวาพวกเจาจะพูดอะไร ขาจะตองไดผลวิญญาณดานลางนี้มาใหได” หญิงสาว
ชุ ด ขาวฟ ง คำพู ด ของหล ง ตงและสตรี คาดไม ถ ึ ง ว า ริ ม ฝ ป ากสี แ ดงจะขยั บ ยื น อยู
ฝงเดียวกับชายหนุมคิ้วขาว
เมื่อเอยคำนี้ออกมา ไมเพียงหญิงสาวและหลงตงที่ตกตะลึง ชายหนุมคิ้วขาวก็
รูสึกประหลาดใจมากเชนกัน
ทวาเชนนี้ สองคนเห็นดวย อีกสองคนไมเห็นดวย ภายใตการยืนกรานใสกัน
หานลี่พนลมหายใจออกมาในใจ ไมสนใจสายตาของทั้งสี่ มือหนึ่งลูบไปที่ใตคาง
จมสูภวังคแหงความครุนคิด
“เพื ่ อ ผลวิ ญ ญาณเหล า นี ้ เสี ่ ย งอั น ตรายหน อ ยก็ ถ ื อ ว า คุ  ม แต เ หมื อ นกั บ ที่
เซี ย นเสี ่ ย วพู ด พวกเราไม อาจเสี ย เวลาอยู  ท ี ่ น ี ่ น านนั ก ต อให พ วกมั น ไม ม ี ผ ู  ช วย
ผลวิญญาณก็อาจจะดึงดูดสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกรงตนอื่นมา จำเปนตองลงมือภายใน
สามวันถึงจะคอนขางปลอดภัย” หานลี่เอยอยางราบเรียบออกมา
คนที่เหลืออีกสี่คนจึงอดที่จะมองสบตากันไมได
“ตองลงมือภายในสามวัน มันเปนไปไมไดกระมัง” เสี่ยวหงมองลึกเขาไปใน
แววตาของหานลีแ่ วบหนึ่ง แลวสั่นศีรษะอยางเชื่องชา
ถึงแมวาชายหนุมคิ้วขาวและหญิงสาวจะไมไดเอยอะไร แตเห็นไดชัดวารูสึกวา
เปนไปไมคอยได
“ใหพวกเขาตอสูกันเอง ภายในระยะเวลาสั้นๆ นั้นเปนไปไมคอยได แตหาก
พวกเราคอยหาหนทางอื่นอยูดานขาง ก็ไมใชวาจะไมมีโอกาสสำเร็จ ตัวอยางเชน
ดึงความสนใจของพวกมัน หรือวาทำใหพวกมันโกรธ” หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา
“ความหมายของพี่หานคือ…” หลงตงชักสีหนา ไมเขาใจความหายของหานลี่
“แนนอน หากทำเชนนั้น ก็ไมจำเปนตองรอนานนัก” ชายหนุมคิ้วขาวพลันรูสึกยินดี
“ดึงความสนใจไปนั้นไมใชเรื่องงายนัก แตหากทำใหพวกมันโกรธเกรี้ยว และให
พวกมันฆากันเอง ก็ไมใชเรื่องยากอะไร” หญิงสาวชุดขาวฉีกยิ้มเบิกบานออกมา
“หากไมมีอันตรายอะไร ขาก็ตกลง” สตรีกวาดดวงตาคูนั้นไปบนใบหนาของหานลี่
เปลี่ยนความคิดอยางมีแผนการ
หลงตงกลับขบคิดไปชั่วครู แลวถึงไดฝนพยักหนา
“เอาละ ในเมื่อเหลาสหายตัดสินใจวาจะลงมือแลว ผูแซหลงก็ไมอาจวางตัวออก
หางได แตแผนการตองใชไดจริง!”
ตอนที่ 1364 ยุยง
“เรื่องนี้สหายหลงโปรดวางใจ ชีวิตนอยๆ ของขานั้นล้ำคามาก ไมมีทางทำอะไรที่
เสี่ยงแน” ชายหนุมคิ้วขาวหัวเราะหึๆ
“เหลาสหายตัดสินใจอยางไร” หลงตงเอยถาม
“พวกเราก็ ล  องหนแยกกั นเป น สองฝ  ง ลอบโจมตี ก ิ ้ ง ก า และมนุ ษ ย ย ั ก ษ ท ี ่ อยู
ดานลาง ใหพวกมันเขาใจผิดคิดวาอีกฝายโจมตี ก็ไดแลวมิใชหรือ” ชายหนุมคิ้วขาวดู
เหมือนวาจะเคยครุนคิดถึงเหตุการณดานลางมาแลว จึงเอยออกมาอยางไมตองคิด
“พูดงาย แตไมรูวาเจาสองตัวดานลางมีจิตสัมผัสแข็งแกรงขนาดไหน หากการ
ลองหนถูกมองออก สหายที่ลงมือจะไมตกอยูในอั นตรายหรื อ มันเสี่ยงไปหน อย
กระมัง!” สตรีครุนคิดเล็กนอยแลวสั่นศีรษะ
“หากพูดถึงเคล็ดวิชาลองหน นองหญิงมี ‘ยันตวางเปลา’ อยูสองแผน ขอแค
กระตุนมันเต็มอัตรา โดยปกติแลวผูบำเพ็ญเพียรที่อยูระดับต่ำกวาระดับหลอมสุญตา
ไมมีทางมองออกไดงายๆ นองหญิงเอาออกมาชวยสนับสนุนได” หญิงสาวชุดขาว
เมมริมฝปากขณะเอยพรอมกับหัวเราะเบาๆ
“ยันตวางเปลา นั่นคือยันตลูกออดสีเงินชนิดหนึ่ง มีประโยชนในการตอกรกับเจา
สองตัวนี้อย างแน นอน เริ่มแรกพวกเราไมจำเป นต องใชรา งจริ งลงมื อ ขาน อยมี
‘หุ  นเชิ ดมัง กรเงิ นวารี ’ อยู  ส องตั ว ทุ ก ตั ว ลว นเที ยบเท ากั บ ผู บ ำเพ็ญ เพี ยรระดับ
กอกำเนิด เอายันตแปะไวบนรางของหุนเชิด ใหพวกมันลงมือก็ไดแลว เชนนั้นจะยิ่ง
ปลอดภัยขึ้นหนอย” หลงตงหนาเปลี่ยนสีขณะเอยดวยรอยยิ้มยินดี
“วิธีนี้เยี่ยมมาก ตอใหหุนเชิดนั้นไมไดผล พวกเราก็แบงออกเปนสองกลุม สี่คนตัว
ลอพวกมันเอาไว จากนั้นก็ใหสหายคนหนึ่งที่เคล็ดวิชาหลีกหนีวองไวแอบอยูขางๆ
คอยลงมือเด็ดผลวิญญาณไปในเวลาที่เหมาะสม ขอแคไดผลวิญญาณมา ทุกคนก็จะ
สำแดงเคล็ดวิชาลับหนีไปในทันที บางทีเจาสองตัวนี้อาจจะมีกำลังเทาผูบำเพ็ญเพียร
ระดับหลอมสุญตา แตหากพวกเราจะหนีละก็ พวกมันคงไมอาจขวางกั้นได แคสหายที่
ลงมือหยิบผลวิญญาณ จำตองมีความรวดเร็ว มิเชนนั้นจากความเร็วในการแลบลิ้น
ของกิ้งกากลายพันธุ ก็อันตรายเปนอยางยิ่ง” เสี่ยวหงกลอกตาไปมา แลวเอยเชนนี้
ออกมา
“เซียนเสี่ยวกลาวมีเหตุผล แตแคผูที่ลงมือชิงผลวิญญาณจะเสี่ยงมาก และยิ่งไป
กวานั้นพวกเราจะมั่นใจไดอยางไรวาเขาจะไมเอาผลวิญญาณหนีไป มิเชนนั้นวิธีนี้ก็ไม
มีทางใชได” ชายหนุมคิ้วขาวแววตาเปลงประกายเย็นชา
“จัดการยากจริงๆ ไมทราบวาสหายทานใดยอมเปนคนลงมือคนสุดทายบาง
หลังจากเอาสมบัติไปแลว พวกเราจะตองกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง แนนอนวาสหาย
ผูนี้ก็ตองหาวิธีทำใหพวกเราวางใจดวยเชนกัน” หญิงสาวชุดขาวเอยอยางราบเรียบ
เมื่อไดฟงคำพูดของหญิงสาว คนที่เหลืออีกสี่คนก็เผยสีหนาประหลาดๆ ออกมา
เหมือนกับที่หญิงสาวกลาวเอาไว ไมวาผูใดจะเปนผูหยิบผลเห็ดมังกรพวงนั้นไป
เกรงวาก็ตองตานทานกับความโกรธเกรี้ยวและขัดขวางของตัวประหลาดทั้งสอง
อันตรายนั้นมากมายขนาดไหนคงไมตองพูดถึง ผูใดจะไวใจใหคนอื่นเอาผลวิญญาณ
ล้ำคาไปคนเดียว
นี่เปนภาวะที่กลืนไมเขาคายไมออก ชางทำใหผูคนตัดสินใจยากจริงๆ
“หากเหลาสหายไมรังเกียจละก็ ขานอยยอมเปนคนลงมือคนสุดทาย” ฉับพลันนั้น
หานลี่พลันเอยพรอมรอยยิ้ม
“สหายหาน เจาเปนแคผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นกลาง ไมรูวาอันตราย
เกินไปหรือ?” หลงตงหางตากระตุกพลันเอยแยง
“ใช พลังยุทธของพี่หานนอยไปนิด” ชายหนุมคิ้วขาวพิจารณาหานลี่สองระลอก
แลวสั่นศีรษะระรัว
“ถึงแมวาผูแซหานจะมีพลังยุทธไมพอ แตในตัวยังมีสมบัติเคลื่อนยายระดับ
สุดยอดที่ใกลเคียงกับสมบัติวิญญาณอยูชิ้นหนึ่ง และยิ่งไปกวานั้นเคล็ดวิชาที่ขานอย
ฝกฝนยังคอนขางพิเศษ มั่นใจวาจะรักษาชีวิตไดแน” หานลี่ฉีกยิ้มนอยๆ ทาทางไมใส
ใจเลยสักนิด
“ออ ในเมื่อพี่หานมั่นใจเชนนี้ ก็ไมมอบใหเจาทำไมไดแลวละ แตพี่หานจะทำให
พวกเรามั่นใจไดอยางไรวาหลังจากที่ไดผลวิญญาณไปแลวจะไมหนีเตลิดไป” หลงตงมี
น้ำเสียงเครงขรึม
“เรื่องนี้ขานอยคิดไมออกจริงๆ แตหากเหลาสหายคิดวาขานอยไมเหมาะสมละก็
เสนอตัวออกมาเองได ถึงอยางไรเสียหนาที่นี้ก็เปนภาระที่หนักมาก ขานอยเองก็
อยางไรก็ได” หานลี่หัวเราะฮาๆ ออกมา เอยพรอมกับอมยิ้ม
เมื่อไดฟงหานลี่ถามเชนนี้ คนที่เหลือก็อดที่จะตกตะลึงไมได
ถึงแมวาทุกคนจะอยากไดสมบัติ แตไมมีผูใดอยากรับหนาที่เปนเหยื่อลอใหกับ
สิ ่ ง มี ช ี ว ิ ต ระดั บ หลอมสุ ญ ตาสองตน หากไม ร ะวั ง ก็ อ าจจะได ร ั บ บาดเจ็ บ หนั ก
หรือแมกระทั่งถึงฆาต
“หากพี่หานยอมใหขาลงอาคมไว นองหญิงก็ไมมีขอคัดคาน” หญิงสาวชุดขาว
เอยอยางตรงไปตรงมา
“ใช ขานอยก็คิดเชนนั้น!” เสี่ยวหงจองเขม็งไปที่หานลี่ชั่วครูแลวเอยออกมาอยาง
เห็นดวย
หลงตงและชายหนุมคิ้วขาวมองสบตากันแวบหนึ่ง แลวไมไดเอยอะไรออกมา
“ลงอาคมในรางของขานอย แนนอนวาได! แตเหลสหายจำตองใหขานอยลง
อาคมเอาไว เช นกั น” เมื ่ อได ย ิ นคำวา ลงอาคม หานลี ่ ก ็ ห นา เปลี ่ย นสี ไ ปเล็ กนอย
แตทันใดนั้นก็เอยพรอมรอยยิ้มเย็นชา
“หึ หากเจาเอาสมบัติมาไมได เกิดอันตรายอะไรขึ้น พวกเราไมซวยไปพรอมกับ
เจาหรือ” ชายหนุมคิ้วขาวไดยินพลันแคนเสียงดวยความเย็นชา
“หึๆ นั่นเปนสิ่งที่ผูแซหานกำลังกังวล” หานลี่ตอบกลับอยางไมเกรงใจ
ความจริงแลวตอใหคนเหลานี้ยอมรับเงื่อนไขจริงๆ แปดในสิบสวนเขาก็ไมไดเห็น
ดวยอยูแลว
อาคมที่ลงเอาไวกับหงสน้ำแข็งกอนหนา ทำใหเกิดผลที่นากลัวอยางลมปราณ
หายไปและทารกวิญญาณถูกทำลาย เขาจึงยังรูสึกหวาดกลัว จะยอมทำพลาดซ้ำงายๆ
ไดอยางไร
ฟงจากคำพูดของหานลี่ หลงตงและพวกก็มองสบตากันดวยรอยยิ้มขมขื่น
“เอาอยางนี้ก็แลวกัน หากนายทานเอาอะไรมาเปนของประกัน พวกเราก็จะเชื่อเจา
อยางเชน เอาสมบัติประจำกายของนายทานมาไวที่พวกเราชั่วคราว แลวถูกลงอาคม
ติ ด ตามเอาไว เช นนั ้ นละก็ พวกเราก็ ไ ม ก ลั ว ว า สหายจะเอาสมบั ต ิ ห นี ไ ปแล ว ”
หญิงสาวชุดขาวกะพริบดวงตาปริบๆ แลวเผยสีหนาเจาเลหออกมาขณะเอย
“สมบัติประจำกาย ลงอาคมติดตาม วิธีเชนนี้ ผูแซหานก็พอรับได ทวาพวกเรา
ตองลงตำแหนงเอาไวใหกันและกัน อีกเดี๋ยวตอนที่ลองหน ขานอยจะไดรูตำแหนงของ
สหายทุกคน หึๆ หากหุนเชิ ดมั ง กรเงิ นวารี ข องพี่ หล ง ได ผล ไมแนวาก็ อาจจะไม
จำเปนตองเสี่ยงอันตราย” หานลี่ขบคิดอยูชั่วครู ถึงไดพยักหนาอยางเชื่องชา
ทำเครื่องหมายเอาไวซึ่งกันและกัน!
พวกของหลงตงและสตรีพลันใจเตน มองสบตากันแวบหนึ่ง ในที่สุดก็พยักหนา
อยางเชื่องชา
ดูแลวคงมีแตวิธีนี้ที่ใชการไดสุดแลว แนนอนวานั่นก็เปนเพราะหานลี่มีพลังยุทธ
อยูแคระดับเทพแปลงขั้นกลาง ดูแลวเปนผูที่ออนแอที่สุด จึงไมกลัววาเขาจะชิงสมบัติ
หนีไปจริงๆ
ทันใดนั้นคนเหลานั้นก็ปรึกษากันอยางละเอียดอีกครั้ง ในที่สุดก็ไดแผนการที่เปน
รูปธรรม
หานลี่อาปากออกพนกระบี่สีทองยาวสองสามชุนออกมาสี่ดาม วนรอบรางของ
ตนเองเอาไว แลวกลายเปนกระบี่เลมเล็กสีทองสี่เลม ทยอยกันรอนลงมาในมือของเขา
ทั้งสี่คน
หลงตงและพวกเองก็ไมเกรงใจ ทันใดนั้นบางก็สำแดงเคล็ดวิชาลับ บางก็แปะ
ยันตวิเศษบนตัว เพื่อลงอาคมบนกระบี่ดามเล็ก ลำแสงสวางวาบแลวเก็บเขาไปใน
กำไลเก็บของของตนเอง จากนั้นทั้งสี่คนก็ทยอยกันมีลำแสงหลากสีสันพนออกมาจาก
หวางนิ้ว เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปในรางของหานลี่
หานลี่ชิงใชจิตสัมผัสตรวจสอบลำแสงเหลานี้อยางละเอียด เมื่อมั่นใจวาเปนแค
ลมปราณที่บริสุทธิ์ไมมีอาคมอื่นผสมแลว ก็ถึงไดปลอยใหพวกมันเขาไปในรางกาย
อยางวางใจ
จากนั้นหานลี่ก็ทำเชนเดียวกัน ปลอยลำแสงสีเขียวสี่ลูกออกมาจมหายเขาไปใน
รางของพวกของหลงตงทั้งสี่คน
เชนนั้นทุกคนจึงรูสึกผอนคลายลง
หลังจากที่มองสบตากันแวบหนึ่งแลว พวกเขาก็สลายตัวออก กลายเปนลำแสง
หลีกหนีพุงออกไปทั่วทุกสารทิศ
หานลี่ที่กลายเปนสายรุงสีเขียวบินออกมารวดเร็วสองสามพันลี้ แลวถึงไดปรากฏตัว
ขึ้นอีกครั้ง เขาลอยอยูกลางอากาศ กวาดตามองไปรอบๆ แลวหลับตาทั้งสองขางลง
เบาๆ แผจิตสัมผัสออกไปอยางชาๆ
รอบๆ ไมมีสิ่งผิดปกติ หลังจากที่ตนเองไมถูกจับจอง เขาก็ลืมตาทั้งสองขาง
สองมือพลันรายอาคม
ชั่วขณะนั้นเสี ยงฟาร องก็ ดั งขึ้ นที่ แผ นหลัง ปกขนนกสี ขาวคู ห นึ ่ง ปรากฏขึ้ น
จากนั้นมือหนึ่งพลันพลิกฝามือ ยันตสีมวงแผนหนึ่งปรากฏขึ้น นั่นก็คือ ‘ยันตหายตัว’
ชิงสมบัติใตจมูกของสิ่งมีชีวิตระดับหลอมสุญตา เขาจึงไมกลาประมาท แนนอนวาจึง
เอายันตวิเศษแผนนี้ออกมา แปะยันตบนราง อักขระสีเงินเปลงแสงสวางวาบในลำแสง
สีมวง หานลี่หายตัวไปตามสายลม
เขาที่ลองหนอยูลอยวนไปมาอยูที่เดิม
ถึงแมวาความเร็วจะไมไดเร็วเทาตอนมา แตก็ไมอาจพูดวาชาได หลังจากผานไปชั่วครู
หานลี่ก็ปรากฏตัวขึ้นที่เดิมอีกครั้ง
กิ้งกายักษตัวนั้นและมนุษยยักษพันตายังคงยืนกรานตอกันไมยอมขยับเขยื้อน
อาศัยแคตาเนื้อ แนนอนวาไมอาจสัมผัสการดำรงอยูของคนอื่นได
ดังนั้นหานลี่พลันพนลมหายใจออกมา ในใจพลันรายคาถา ชั่วขณะนั้นจิตสัมผัส
พลันสัมผัสตำแหนงที่อยูของตนเองได
คนอื่นๆ ก็กลับมายังบริเวณใกลๆ ดังคาด และคอยๆ ลอยตัวอยูกลางอากาศ
เหมือนกับเขา
ทั้งสองคนลอยอยูเหนือกิ้งกายักษ อีกสองคนอยูดานหลังมนุษยยักษพันตา
เคล็ ด วิ ช าอำพรางตั วของคนเหล านั ้น ก็ ไ ม ธ รรมดา ไม อาจสั ม ผั สล อ งลอยได
จากจิตสัมผัสของหานลี่ก็ไมอาจพบเห็นอะไรไดเชนกัน นอกจากนี้หุนเชิดมังกรเงินวารี
ทั้งสองของหลงตง เขาก็ยังไมพบรองรอยเลยสักนิด
ไมรูวายันตวางเปลานั้นมีความมหัศจรรยถึงขั้นนี้ หรือวายังไมถูกสำแดงออกมา
ความคิดของหานลี่เคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว แตดวงตาทั้งสองก็ยังจองไปดานลางตา
ไมกะพริบ
ทุกอยางรอบๆ ลวนเงียบสงัด ความรูสึกประหลาดเหมือนพายุกำลังเขามาปะทุขึ้น
ผานไปเปนเวลาหนึ่งมื้ออาหารก็ยังคงไมมีความเปลี่ยนแปลง
หานลี่มีสีหนาไรความรูสึก แตในใจกลับรูสึกทนไมไหว เหมือนวาเวลาที่นัดกันไว
ใกลจะถึงแลว
ในตอนนั้นเองกิ้งกายักษก็ดูเหมือนวาจะรูสึกไมสบายกรงเล็บยักษ จึงเงยหนาขึ้น
ไปตามความรูสึก แตทันใดนั้นก็รอนลงมาขางลางอีกครั้ง
แตชั่วพริบตาที่กรงเล็บนี้ตะปบลงมา ฉับพลันนั้นกรงเล็บดานลางก็เปล ง แสง
สีเงินสวางวาบ ทันใดนั้นเสนไหมสีเงินก็พุงออกมา โจมตีไปทางมนุษยยักษพันตา
ดูแลวเหมือนวากิ้งกาจะใชกรงเล็บของตนเองโจมตีออกมา
มนุษยยักษใชกระบองยักษที่อยูในมือตานเอาไวดวยความตกตะลึง ทันใดนั้น
ก็ ร  องคำรามออกมาด ว ยความโกรธเกรี ้ย ว เงาสี ด ำเบื ้องหนา เปลง แสงสวางวาบ
พายุพัดเขามา คาดไมถึงวาทำใหเสนไหมสีเงินที่อยูเบื้องหนาหายไปในหอบเดียว
แตแทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ดานลางมนุษยยักษพันตาก็มีของรางๆ เปลงแสง
สวางวาบ ทันใดนั้นเสาลำแสงสีเงินหนาๆ สายหนึ่งก็พนออกมาจากกลางอากาศดวย
ความรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็มาอยูตรงหนาหัวกิ้งกายักษ
กิ้งกากลอกดวงตาสีเขียวเขมทั้งสองขาง เขาคูสีแดงสดบนหัวเปลงแสงสวางวาบ
พนเสาลำแสงสีแดงสายหนึ่งออกมาเชนกัน
หลังจากเสียงระเบิด “ตูม” ดังขึ้น เมื่อเสาลำแสงทั้งสองสายสัมผัสกัน คาดไมถึง
วาจะสลายหายไปราวกับเดินไปสูความตายพรอมกัน แตจากนั้นกิ้งกาก็ชูคอเปลงเสียง
รองคำรามดังสนั่นออกมา แขนขาทั้งสี่ออกแรง รางกายที่แตเดิมหมอบอยูกั บพื้น
ยืนขึ้น
มันอาปากออก เผยเขี้ยวเต็มปากออกมา
ตอนที่ 1365 ชิงผลวิญญาณ
มนุษยยักษที่อยูตรงขามมีสีหนาเหี้ยมโหดฉายแวบผาน มือหนึ่งเคลื่อนไหว
ชั่วขณะนั้นพลันกำกระบองสีดำบนบาเอาไว ลูกตาบนรางเปลงแสงสวางวาบ คาดไม
ถึงวาจะกะพริบตาปริบๆ
เมื่อดวงตาจำนวนมากบนรางเคลื่อนไหวพรอมกัน ไมวาผูใดก็อดที่จะขนพอง
สยองเกลาไมได
หานลี่ที่อยูกลางอากาศเห็นเชนนั้น กลับรูสึกยินดี กั้นลมหายใจ
ขอแคเจาสองตัวที่อยูดานลางลงมือสูกัน แผนของพวกเราก็จะงายขึ้นโดยอัตโนมัติ
เสียง “ปง” ดังขึ้น กิ้งกาอาปากออก เงาสีแดงสดสายหนึ่งพุงออกมา จากนั้น
โคลนใตกรงเล็บยักษก็ระเบิดลำแสงสีเงินออกมา
เงาสีแดงสดหายไป ถูกของประหลาดๆ ทะลุผานออกมาจากดิน แลวรอนลงบนพื้น
หานลี่ใจหายวาบ จองเขม็งไป ถึงพบหุนเชิดสีเงินรางมนุษยหัวเปนมังกรวารี
แตแคหุนเชิดตัวนี้ถูกลิ้นยาวๆ ที่นากลัวของกิ้งกายักษทะลวงผานกึ่งกลางลำตัว
ทันใดนั้นรางกายก็ระเบิดออก กลายเปนกองเศษเหล็กกองหนึ่ง
ดูแลวชั่วพริบตาที่หุนเชิดนี้ลงมือก็คงจะเผยรองรอยออกมา จึงถูกกิ้งกายักษพบ
เขาแลวจึงถูกทำลายทิ้ง
ถึงแมวามนุษยยักษพันตาที่อยูตรงขามจะมีสติปญญาไมสูงนัก แตเมื่อเห็นการ
กระทำเชนนั้นก็ตกตะลึง ทันใดนั้นพลันกลอกลูกตาบนรางไปมา เปลงแสงสวางวาบ
เสนไหมสีดำจำนวนนับไมถวนถูกพนออกมาจากดวงตา
เสียงครืนดังขึ้น หุนเชิดอีกตัวที่อำพรางตัวอยูใตรางยักษถูกเสนไหมสีดำเจ็ดแปด
สายทะลวงผานเชนกัน
ไมรูวาเสนไหมเหลานี้คืออะไร หลังจากนั้นแยกตัวออกเปนทั้งสี่ดานแลว ก็สับ
หุนเชิดสูงสองสามจั้งออกเปนชิ้นๆ ดูเหมือนจะแข็งแกรงจนไมมีสิ่งใดตานทานได
เมื่อเห็นฉากนี้ หานลี่พลันสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง สายตาเปลง
ประกายไมหยุด
ดูแลวความอันตรายในภารกิจนี้คงจะเหนือกวาที่เขาคิดไวมาก ทวาผลเห็ดมังกร
เกี่ยวของกับสมุนไพรระดับหลอมสุญตาในวันขางหนา ตอใหอันตรายมากกวานี้ เขาก็
มีเพียงตองทำใจดีสูเสือเสี่ยงดูอีกครั้งแลว ถึงอยางไรเสียขอแคมีเมล็ดของสมุนไพร
ชนิดนี้ เขาก็สามารถเรงการเจริญเติบโตของมันอยางไรขีดจำกัดได
เมื่อขบคิดเชนนั้น หานลี่ก็เยือกเย็นขึ้นอีกครั้ง
หลังจากมนุษยยักษแคนเสียงขมออกมาจากปาก ก็วางกระบองยักษลงไปบนบา
อีกครั้ง
กิ้งกายักษจองเขม็งไปยังมนุษยยักษแวบหนึ่งดวยใบหนาไรความรูสึก รางกาย
เคลื่อนไหว หมอบลงไปบนพื ้ นดิ นอี กครั้ ง สัตวประหลาดยั กษทั ้งสองตั ว กลั บ มา
ยืนกรานใสกันเหมือนกอนหนาอีกครั้ง
ทวาหานลี่กลับจองไปดานลางเขม็ง ไมกลาแบงจิตไปที่อื่นเลยแมแตนอย
ในเมื่อหุนเชิดไมมีผล ตามแผนเดิมแลวพวกของหลงตงก็นาจะรวมมือกันดึงดูด
ความสนใจของกิ้งกายักษและมนุษยยักษอยูใกลๆ จะไดหาโอกาสใหเขาชิง ผล
วิญญาณไป
เพียงแคสองสามชั่วลมหายใจ หัวของกิ้งกายักษก็มีเสียงพิณอันไพเราะดั ง ขึ้น
จากนั้นวงแหวนสีเ หลื องเปนวงๆ ก็ปรากฏขึ้น พุงไปหากิ้งกายั กษที่ อยู ดา นล า ง
ในเวลาเดียวกันลำแสงสีขาวพลันสวางวาบ ขวานสั้นสีขาวทองสองดามปรากฏขึ้น
หลังจากพลิ้วไหวเล็กนอย มังกรวารีสายรุงสีขาวยักษสองสายพลันสับลงมาจาก
กลางอากาศราวกับออกมาจากน้ำ
แทบจะในเวลาเดียวกัน เงารางคนสองสายปรากฏขึ้นสูงขึ้นไปยี่สิบสามสิบจั้ง นั่นก็คือ
หญิงสาวและหลงตง
ทวาหญิงสาวกำลังใชมือหนึ่งดีดไปบนสมบัติวิญญาณลอกเลียนแบบพิณวิญญาณ
สวนหลงตงกลับควบคุมสมบัติสองชิ้นดวยสีหนาเครงขรึม
อยามองวากิ้งกายักษตัวใหญ แตการเคลื่อนไหวกลับคลองแคลวอยางหาที่เปรียบ
ชั่วพริบตาที่การโจมตีปรากฏขึ้นกลางอากาศ ก็รองคำรามต่ำๆ ออกมาแลวยืนขึ้น
ทันที เขาประหลาดสีแดงบนหัวเปลงแสงสวางวาบ ฉับพลันนั้นสายรุงสีแดงพลันพุง
ออกมา หมุนวนติ้วๆ คาดไมถึงวาจะรองวงแหวนสีเหลืองและสายรุงสีขาวสองสาย
เอาไว
จากนั ้ นแผ นหลั ง ของกิ ้ ง ก า ยั ก ษ พลั น มี ล ำแสงสี เ ขี ยวสวา งวาบ เสี ย ง “ฟ  ว”
แหวกผานอากาศดังขึ้น ขนยาวสองสามฉื่อกลายเปนลำแสงสีเขียวมรกตพุงแหวกผาน
อากาศไป ในเวลาเดียวกันหางยักษพลันกวัดแกวงอยูที่เดิม จึงเหลือเพียงเงารางๆ
ที่หายวับไป
ครูตอมาหางกิ้งกายักษยาวยี่สิบจั้งเศษพลันมาปรากฏตัวดานขางหญิงสาวและ
หลงตงไดอยางไรก็ไมรู กวาดไปอยางรุนแรง ยังไมทันไดกวาดไปจริงๆ พายุโหม
กระหน่ำก็กอตัวขึ้น ชั่วครูก็มวนทั้งสองเขาไปดานใน
กิ้งกายักษคูควรกับที่เปนอสูรโบราณกลายพันธุจริงๆ เมื่อถูกโจมตี ก็โจมตีกลับ
อยางเฉียบแหลมราวกับหาฝน
ถึงแมจะรูวากิ้งกายักษนั้นตอกรยาก หญิงสาวชุดขาวและหลงตงเองก็ใจจนสะดุงโหยง
โชคดีที่ทั้งสองเองก็ไมไดคิดจะตอสูอยางหนักอะไรอยูแลว
ทันใดนั้นหญิงสาวพลันชูมือขึ้น ยันตสีทองแผนหนึ่งพุงออกไป กลายเปนลำแสง
สีทองกลุมหนึ่งหอหุมเอาไว จากนั้นก็พลิ้วไหวแลวหายไปราวกับภูตผี ปรากฏขึ้นอีก
แหงหางออกไปสามสิบจั้งเศษ
หลงตงกลับเปลงเสียงกูรองยาวๆ ออกมา ชั่วครูบนรางพลันมีเกราะสงครามสีเหลือง
ปรากฏขึ้น เกราะสงครามเกราะนี้มีเกล็ดสีทอง ปกคลุมทั้งศีรษะและแขนขาทั้ งสี่
แผนหลังมีปกสัมฤทธิ์ขนาดยักษคูหนึ่ง
ปกทั้งสองกระพือ ชั่วขณะนั้นเงาเปนสายพลันปรากฏขึ้นกลางอากาศ มองไกลๆ
แลวดูเหมือนเงารางคนหลายสายทอตัวเรียงอยูเต็มทองฟา ทาทางนาตกตะลึง
ไมวาจะเปนลำแสงสีเขียวหรือวาหางของกิ้งกายักษ ภายใตเคล็ดวิชาหลีกหนีของ
ทั้งสองคน จึงถูกกวาดออกไปจนเกลี้ยง
ทวาทั้งสองคนที่อยู กลางอากาศกลั บไม กลาหยุดพั กแมชั่ วครู  เพราะวาการ
หมุนโคจรรอบหนึ่งของลำแสงเหลานี้นั้นคาดไมถึงวาจะดูอัศจรรยมาก ไลตามหลัง
ทั้งสองมาติดๆ อยางไมลดละ หลังจากที่หางยักษมีลำแสงประหลาดเปลงประกาย
สวางวาบ คาดไมถึงวาจะกะพริบวาบเรืองๆ พายุเฮอรริเคนไลตามทั้งสองมาติดๆ
อยางไมลดละ
ครานี้กิ้งกายักษและทั้งสองพลันไลตามกันมาอยางไมลดละ
ถึงแมวาความสนใจกวาครึ่งของกิ้งกายักษจะถูกทั้งสองดึงดูดไป แตก็ยังคงใหความ
สนใจทางมนุษยยักษพันตาที่เปนปฏิปกษอยูเล็กนอย กลัววาอีกฝายจะถือโอกาสนี้
แยงผลวิญญาณไป แตเมื่อมองไปก็วางใจไดสองสามสวน
ที่แทมนุษยยักษที่อยูตรงขาม ชั่วพริบตาที่กิ้งกาและคนสองคนที่อยูกลางอากาศ
ลงมือนั้น ก็มีคนอีกสองคนปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศดานหลัง
คนหนึ่งรายอาคมชูมือขึ้นอีกครั้ง ชั่วขณะนั้นลูกเพลิงสีดำพลันทะลักออกมา
อีกมือหนึ่งตะปบไปกลางอากาศอีกดาน กรงเล็บยักษเปลงประกายสีดำขางหนึ่ง
ปรากฏขึ้นเหนือหัว แลวตะปบลงมาอยางรุนแรง
เสียงอึกทึกดังขึ้น ดูเหมือนวามนุษยยักษจะไมมีปฏิกิริยาตอบสนอง ถูกลูกเพลิง
ทั้งหมดโจมตีไปบนราง ในเวลาเดียวกันกรงเล็บยักษสีดำก็ตะปบไปที่หนาผากของ
มนุษยยักษ
สตรีและชายหนุมคิ้วขาวพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็รูสึกยินดี
แตฉากตอจากนั้น ก็ทำใหรอยยิ้มของทั้งสองคนแข็งคาง
ฉั บ พลั นนั ้ น กลางเปลวเพลิ ง สี ดำพลั น มี เ สี ย งคำรามดว ยความโกรธแค นของ
มนุษยยักษดังขึ้ น ทันใดนั้นลูกตาสี เงิน ขาวบนร างพลั น กลอกไปมาอยา งรวดเร็ ว
ชั่วขณะนั้นพลังที่ไรรูปรางพลันปรากฏขึ้น เปลวเพลิงสีดำที่เกาะติดรางทยอยกัน
ถูกลูกตาเหลานั้นดูดเขาไป ชั่วพริบตาก็หายไปจนเกลี้ยง
สวนชายหนุมคิ้วขาวนั้นที่ใชความสามารถสรางกรงเล็บยักษลวงตานั้นกลับไม
อาจทำรายมนุษยไดเลยแมแตปลายกอย มนุษยยักษพันตานั้นดูเหมือนจะไมสนใจ
สิ่งเหลานี้เลยสักนิด แคใชมือหนึ่งพลิกฝามือตบไปเหนือศีรษะ ตบกรงเล็บยักษจน
กลายเปนกลุมควัน
ความสามารถเชนนี้ แนนอนวาทำใหสตรีและชายหนุมคิ้วขาวมีจิตใจหนักอึ้ง
ทวา การโจมตีของพวกเราเห็นไดชัดวาทำใหสัตวประหลาดยักษโกรธเกรี้ยวแลว
ใบหนาของมนุษยยักษเผยสีหนาโหดเหี้ยมออกมา ทามกลางเสียงคำราม ลูกตาสีเงิน
บนรางดูดซับ เปลวเพลิ งสี ดำเขาไป ทันใดนั้นก็ กลอกตาไปมาระหวา งทั้ งสองคน
แลวจองเขม็งไป
ทามกลางลำแสงสีดำสวางวาบ พนลำแสงสีดำออกมา หอหุมทั้งสองเอาไว
หญิงสาวและชายหนุมคิ้วขาวลวนเคยเห็นความรายกาจของเสนไหมสีดำมาเมื่อครู
เมื่อเห็นสถานการณ นี้พลั นหนา เปลี ่ยนสี ไหนเลยจะกลาปลอยใหพ วกมันสั ม ผั ส
กับตัวเอง
ทันใดนั้นคนหนึ่งก็ควักของสิ่งหนึ่งออกมาโยนไปใตราง ชั่วขณะนั้นพลันกลายเปน
กระสวยลำแสงสีเขียว รางกายพลิ้วไหวเขาไปอยูดานใน ทันใดนั้นก็เปลงแสงสวางจา
และพุงออกไป
อีกคนหนึ่งพลันพลิกตัวในทันใด กลายเปนอินทรียักษขนาดสองสามจั้งเรือนกาย
สีมวงดำ สองปกสยายออก เคลื่อนยายหนีไปเชนกัน
เห็นไดชัดวาปศาจทั้งสองตัวนี้คิดจะหลบหลีกและยื้อเวลาตั้งแตแรกแลว ไมคิดจะ
ปะทะกับมนุษยยักษตรงๆ
ครานี้พวกของหลงตงและฮูหยินทั้งสี่พลันใสลมปราณเต็มกำลัง ทะลวงมาเหนือ
กิ้งกายักษและมนุษยย ักษ จากทั้ งสี่ ดา น หลบการโจมตีที่อันตรายของทั้งสองได
อยางนาทึ่ง และบางครั้งก็ถือโอกาสโจมตีกลับ ทำใหอสูรยักษทั้งสองรองคำราม
ออกมาอยางตอเนื่อง
แตถึงแมวากิ้งกายักษและมนุษยยักษจะโจมตีมาไมหยุดราวกับแมลงวัน แตกลับนิ่งงัน
อยูที่เดิม ตนใดก็ไมมีทาทีจะไลตามทั้งสี่คนไป
มิเชนนั้นถึงแม วาทั้ งสี่ค นจะมีเคล็ดวิชาหลีก หนีที ่น าตกตะลึ ง แตก็ไมมีท าง
ยื้อเวลากับสัตวประหลาดระดับหลอมสุญตาไดนานนัก ครานี้ทั้งสี่คนแคประสบ
กับอันตราย ก็เคลื่อนยายหนีออกไปไกลภายในหอบเดียว
เชนนั้นพวกเขาจึงพอลอมโจมตีกิ้งกายักษและมนุษยยักษไมหยุดเทานั้น
แตผลของการกระทำเชนนี้ แนนอนววาก็ทำใหสัตวประหลาดทั้งสองเตนเราๆ
ดวยความโกรธแคน
แตเมื่อทั้งสี่คนโจมตีออกมาอยางไมยั้ งมือ พวกมันกลับไมยอมออกหา งจาก
ผลวิญญาณเลยสักนิด คาดไมถึงวาจะกลายเปนสถานการณที่กลืนไมเขาคายไมออก
เมื่อทั้งสี่คนหนีพน สายตาของกิ้งกายักษและมนุษยยักษที่คอยๆ ตกอยูบนราง
ของทั้งสี่คน ความสนใจที่มีตอวิญญาณจึงเหลือไมถึงสองสวน
ภายใตสถานการณเชนนี้ รางกายของหานลี่กลับรอนลงไปขางลางอยางเงียบเชียบ
จากรางที่กำลังลองหนของเขา ถึงแมวาสัตวประหลาดระดับหลอมสูงสองตัวจะไมอาจ
มองเห็นได นั่นก็เพราะมีที่พึ่งที่ยอดเยี่ยมเชนนี้หานลี่ถึงไดกลารับภารกิจนี้ ถึงแม
จะเชนนั้น หานลี่ก็ยังระมัดระวังเปนอยางมาก ไมกลารอนลงมาในพรวดเดียว
มองเห็นวารางกายอยูหางจากผลเห็ดมังกรพวกนั้นไปแครอยจั้งแปดสิบจั้ง สี่สิบจั้ง
สิบจั้งเศษอยางชาๆ ในใจจึงยิ่งบีบรัดมากขึ้น
ไมตองสงสัยเลย ชั่วพริบตาที่เขาเด็ดผลวิญญาณมา รางกายก็ไมอาจรักษาการ
ลองหนไดอีก ในเวลาเดียวกันนั้นกิ้งกายักษและมนุษยยักษก็พบตนเองในทั นใด
การกระทำตอจากนี้ ก็คือเขาจะปกปองชีวิตตนเองอยางไรแลว
รางกายลองหนหยุดลงใกลกับผลวิญญาณแคคืบ ไมเพียงจะไดกลิ่นสมุนไพรที่
โชยมาออนๆ แมกระทั่งมองเห็นมังกรวารีนอยใตผิวของผลวิญญาณอยางชัดเจน
หานลี่ไมไดรีบรอนลงมือเด็ดผลวิญญาณมา แตใชมือหนึ่งปดไปที่กำไลเก็บของ
ชั่วขณะนั้นในมือพลันมีของสองสามอยางปรากฏขึ้น
หานลี่เมมริมฝปาก ฉับพลันนั้นพลันถูมือทั้งสองเขาดวยกัน แลวชูขึ้นอีกครั้ง ลูกกลมๆ
เปลงแสงสีเงินระยิบระยับสองสามลูกพุงออกไปหาสัตวยักษทั้งสองพรอมกัน
จากนั้นมือหนึ่งก็ตะปบไปที่เบื้องหนาดวยความรวดเร็วดั่งสายฟา ผลวิญญาณสดๆ
พวงนั้นหายไปภายในพริบตา
ทันใดนั้นรางกายของเขาก็เผยออกมา ปกคูนั้นที่แผนหลังสยายออก คนก็พลิ้วไหว
ทามกลางเสียงฟารอง
เสียงคำรามดังสนั่นสองเสียงดังขึ้น เงาสีแดงสายหนึ่งและเสนไหมสีดำจำนวนนับ
ไมถวนพุงออกมาดวยความเร็วที่นาเหลือเชื่อแทบจะในเวลาเดียวกัน ชั่วครูก็ทะลุผาน
รางของหานลี่ไป แตทันใดนั้น ‘หานลี่’ ก็หายตัวไปในพริบตา คาดไมถึงวาจะเปนแค
เงารางๆ เทานั้น
รางเดิมของเขาเคลื่อนยายออกไปกอนแลว
เสียงอึกทึกดังสนั่นขึ้น ลูกไฟฟาขนาดสองสามหมูปรากฏขึ้นทั้งสองดาน ประจุ
ไฟฟาหนาๆ เทาปากชามสองสามสายเปลงแสงกะพริบระยิบระยับไมหยุด แมกระทั่ง
ทำใหรอบๆ เกิดพายุโหมกระหน่ำขึ้น เสียงฟารองดังขึ้นไมหยุด ราวกับวากลืนกิน
ทุกอยางเขาไปขางใน
เสียงดังสนั่นราวกับฟาถลมดินทลายก็ไมปาน!
ตอนที่ 1366 แบงผลวิญญาณ
นั่นก็คือ ไขมุกอสนีที่หานลี่หลอมขึ้น และโยนออกไปทีเดียวสี่เม็ด
หลังจากที่ไขมุกเหลานี้ผานการหลอมขึ้นดวยเคล็ดวิชาลายอสนี ทุกเม็ดก็มีพลัง
การโจมตี เ ทีย บเท ากั บ การโจมตีข องผู บ ำเพ็ ญเพีย รระดับ หลอมสุญ ตาเต็มกำลัง
ประกอบกับพลังอสนีที่มีอยูเดิม ดังนั้นถึงไดมีอานุภาพที่นาสะพรึงเชนนี้
ตอนนี้ดูแลวการกระทำนี้คงจะเปนการกระทำที่ถูกตอง
หากไมไดใชสมบัติเหลานี้ขวางกิ้งกายักษและมนุษยยักษพันตาเอาไว เกรงวา
ถึงแมจะเคลื่อนยายหนีออกมา ครูตอมาก็คงไมอาจสลัดตัวใหหลุดได
เมื่อกิ้งกายักษและมนุษยยักษพันตาเห็นผลวิญญาณถูกคนแยงไป ก็เผยความ
โกรธเกรี้ยวดุจฟาฟาดออกมา แตกลับถูกพลังของไขมุกอสนีขวางเอาไวอยูที่เดิม
เมื่อเห็นอานุภาพที่นากลัวของไขมุกอสนี พวกของหลงตงและสตรีพลันสะดุงโหยง
แตทันใดนั้นก็ทยอยกันสำแดงเคล็ดวิชาหลีกหนีพุงหนีไปดวยความดีใจ ระหวางทาง
ก็สำแดงเคล็ดวิชาอำพรางกายระหวางทาง ทำใหลำแสงหลีกหนีหายวับไป
ที่เดิมนอกจากไขมุกอสนีและเสียงคำรามดังกึกกองดานในแลว ชั่วพริบตาก็ไรซึ่งผูคน
หานลี่กระตุนปกวายุอสนีที่แผนหลังจนถึงขีดสุด หลังจากกะพริบวาบสองสามครั้ง
ก็มาปรากฏตัวที่ขอบฟา
เพื ่ อ ความปลอดภั ย หานลี ่ แ ม ก ระทั ่ ง พ น โลหิ ต บริ ส ุ ท ธิ ์ อ อกมากหยดหนึ่ ง
สำแดงเคล็ดวิชาเงาอสนีหลีกหนี ชั่วพริบตาก็หายวับไปอยางไรรองรอย
เชนนั้นกิ้งกายักษและมนุษยยักษที่ใชพลังชางศาลหนีออกมาจากการขัดขวางไดแลว
เมื ่ อเห็ นว า ทุ ก คนหายไปอย างไร ร องรอยแลว ถึ ง แม ว  า ปากจะกู ร องคำรามดวย
ความโกรธแคน แตกลับไมอาจไลตามหานลี่ไดทัน
สองสามชั ่ ว ยามต อ มาห า งออกไปสองสามหมื ่ น ลี ้ บ นยอดเขาแห ง หนึ่ ง
หลังจากเสียงฟาผาดังขึ้น หานลี่ที่มีประจุไฟฟาสีเขียวขาวลอมรอบอยูก็ปรากฏตัวขึ้น
กลางอากาศ
เขาหันหนาไปกวาดสายตาไปดานหลังแวบหนึ่ง มุมปากเผยรอยยิ้มบางๆ ออกมา
ถึงแมวาการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเสี่ยงไปหนอย และยังตองเสียปราณแทไปเล็กนอย
แตในที่สุดก็ไดผลวิญญาณมาอยูในมือ
แตเพื่อความปลอดภัย หานลี่จึงแผจิตสัมผัสไปรอบๆ ภูเขาหิน หลังจากไมพบ
ความผิดปกติแลว ถึงไดรอนลงมาบนเนินเขา
เขาพลิกฝามือมือหนึ่งหยิบขวดหยกออกมาหนึ่งขวด เทยาลูกกลอนสีแดงสด
ออกมาสองเม็ด แลวกรอกใสปาก
ถึงแมวาเขาจะใชเงาโลหิตหลีกหนีไปเพียงเล็กนอย แตเมื่ออยูในสถานที่ที่อันตราย
ก็กินยาลูกกลอนชดเชยปราณแทที่เสียไปไวจะดีกวา
เมื่อยาลูกกลอนเขาปากไปแลว พลังเย็นที่บริสุทธิ์ก็ไหลเวียนไปตามแนวชีพจรทันที
หานลี่มีสีหนาผอนคลายลง แลวถึงไดขยับมือขางหนึ่งอีกครั้ง กลองหยกที่แวววาว ดุจ
น้ำแข็งปรากฏขึ้นในมือ เปดฝากลองออกเล็กนอย เผยผลสีมวงพวงหนึ่งออกมา ทุก
ลูกมีขนาดเทากำปน ดูสดใหมเปนอยางมาก
เขาพิจารณาผลวิญญาณนั้นดวยดวงตาที่ไมกะพริบ ฉับพลันนั้นพลันใชนิ้วสองนิ้ว
คีบผลวิญญาณขึ้นมาเบาๆ พลางพิเคราะหอยางละเอียด
ชั่วครูเขาถึงไดพนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ไมเลว นี่คือผลเห็ดมังกรของจริง! ผลวิญญาณชนิดนี้ผลที่หลงเหลืออยูไมกี่ชนิดของ
สมุนไพรวิญญาณระดับหลอมสุญตา ประกอบกับการเรงการเจริญเติบโตซ้ำไปซ้ำมา
คือหนึ่งในสมุนไพรวิญญาณที่เขาสนใจมาเนิ่นนานแลว
มิเชนนั้นเขาจะเสี่ยงอันตรายขนาดนี้เพราะอันใด
ครานี ้ ไ ด สมุนไพรวิ ญ ญาณมาอยู ใ นมื อ หานลี ่ พ ลัน หยั กยิ ้ม ที ่ม ุม ปากออกมา
เล็กนอย
ขอแคหาวัตถุดิบอีกอยางที่มีชื่อเรียกวา ‘ยางขี่เมฆ’ เมื่อนำทั้งสองมาผสมกับ
บวกกับสมุนไพรอื่นๆ ก็สามารถหลอมยาลูกกลอนมังกรกระโจนที่ทำใหผูบำเพ็ญเพียร
ระดับหลอมสุญตาน้ำลายไหลไดแลว
หานลี่ขบคิดเชนนั้น สายตาพลันอดที่จะฉายแววตื่นเตนดีใจขึ้นมาไมได
แตในตอนนั้นเองเขาพลันขมวดคิ้ว ฉับพลันนั้นพลันหันไปหนาไปมองขอบฟาอีก
ดานแวบหนึ่ง พริบตานั้นสีหนาก็ฟนฟูกลับมาเปนราบเรียบ
ครูตอมาสายรุงสีขาวสายหนึ่งก็พุงทะยานแหวกอากาศเขามา
หลังจากกะพริบวาบสองสามครั้ง สายรุงสีขาวก็มาอยูเหนือศีรษะของหานลี่
หลังจากหมนแสงลง ก็เผยรางบุรุษหนุมคนหนึ่งออกมา
นั่นก็คือ หลงตง
ครานี้เกราะเกล็ดสีเหลืองบนรางของเขาหายไปแลว แตหลังจากที่สายตากวาด
มายังผลวิญญาณ ก็เผยสีหนายินดีออกมา
“ฮาๆ เคล็ดวิชาหลีกหนีของสหายหานนาทึ่งดังคาด คิดไมถึงวาจะนำมันมาถึงที่นี่
ไดอยางปลอดภัย ใหขานอยดูหนอยซิวาผลชนิดนี้คือ ผลเห็ดมังกรจริงหรือไม”
ปากของชายหนุมไฝแดงเอยขึ้นรางกายพลันพลิ้วไหว แลวรอนลงบนยอดเขา
คิดจะเขามาประชิด
“พี่หลงไมตองรีบรอน รอใหสหายคนอื่นมาแลว คอยดูก็ไมสาย” หานลี่ยิ้มบางๆ
ลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบในมือ กลองหยกหายวับไป
“ออ...สหายหานพูดถูก ผูแซหลงใจรอนไปหนอย” หลงตงไดยินพลันหนาเปลี่ยนสี
สายตาโหดเหี้ยมที ่สัมผัสไดยากฉายแวบผา นไป แตทันใดนั้นก็น ึก อะไรขึ้ นมาได
แลวเอยดวยสีหนาราบเรียบ
ดังนั้นเขาจึงสาวเทากาวออกไปสองสามกาว อยูบนกอนหินหางจากหานลี่ ไป
สิบจั้งเศษแลวนั่งสมาธิลงดวยสีหนาราบเรียบ
หานลี่ยังคงยืนอยูที่เดิม สองมือไพลหลังขณะรอคนอื่นๆ
หลังจากรออีกเปนเวลาหนึ่งมื้ออาหาร ชายหนุมคิ้วขาวและหญิงสาวก็มาพรอมกัน
เมื่อไดยินวาหานลี่ไดผลวิญญาณมาแลวจริงๆ ก็ดีอกดีใจอยางบาคลั่งเชนกัน
ทว า ก อนที ่ ท ุ ก คนจะมาครบ พวกเขาก็ ท ำได เ พี ย งระงั บ ความตื ่ น เต น เอาไว
นั่งสมาธิรอคนสุดทายอยูดานขางเงียบๆ
ผานไปอีกหนึ่งเคอเต็มๆ ทุกคนก็เริ่มเอยพึมพำ ใบหนาของหลงตงเปลี่ยนเปน
เขียวคล้ำเล็กนอย แลวถึงไดเห็นวาบนขอบฟามีลำแสงสีทองกลุมหนึ่งพุงเข า มา
หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง ก็หยุดอยูกลางอากาศเหนือทุกคน
“ขออภัยที่ปลอยใหเหลาสหายรอนาน ครั้นเมื่อนองหญิงผานปาทึบแหง หนึ่ง
ไดบังเอิญพบไมวญ
ิ ญาณมรกตหมื่นปโดยบังเอิญ จึงเสียเวลานิดหนอยถึงไดเด็ดมันมา
พรอมรากได” หญิงสาวชุดขาวหัวเราะคิกคักขณะเอย ทันใดนั้นลำแสงหลีกหนีก็
เปลงประกาย รอนลงมาดานลาง
“ไมวิญญาณมรกตหมื่นป? นั่นคือวัตถุดิบในการหลอมยุทธภัณฑธาตุไมระดับสุดยอด
สหายชางมีบุญวาสนาไมนอย” เสี่ยวหงตะลึงงันไปเล็กนอย
“จุๆ พี่หญิงเสี่ยวลอเลนแลว เทียบกับผลเห็ดมังกรแลว ไมวิญญาณมรกตทอนหนึ่งจะ
มีคาอะไร พี่หานคงไดผลวิญญาณมาแลวสินะ” หญิงสาวชุดขาวหัวเราะอยางแผวเบา
กลอกตาไปมาตกลงบนรางของหานลี่
“ไดมาแลว เหลาสหายลองตรวจสอบกอนก็แลวกัน” หานลี่พยักหนาดวย สี
หนาราบเรียบ มือหนึ่งปดไปที่กำไลเก็บของ กลองหยกปรากฏขึ้นอีกครั้ง และเปดฝาก
ลองออก ใชมือถือเอาไว
กลิ่นหอมออนๆ โชยเขามาปะทะจมูก สายตาของทุกคนหดเล็กลง ตางจองเขม็ง
ไปยั ง ผลวิ ญ ญาณในนั ้ น จิ ต สั ม ผั ส สองสามสายล อมรอบผลวิ ญ ญาณเอาไว พ ลาง
แยกแยะอยางละเอียด
“นาจะไมผิด สมุนไพรวิญญาณนี่เปนของจริง” เสี่ยวหงมีสีหนาดีอกดีใจฉายแวบผาน
แลวเอยตัดสินเปนคนแรก
ชั่วครูคนที่เหลือก็เก็บจิตสัมผัสกลับไป ทยอยกันพยักหนาเผยสีหนาพึงพอใจออกมา
“เอาละ ในเมื่อเปนของจริง พวกเราก็แบงกันเถิด ทวาผลเห็ดมังกรพวงนี้มีหกลูก
ตอใหพวกเราแบงกันคนละลูก ก็ยังเหลืออีกลูกที่ไมรูวาจะแบงอยางไร” หานลี่กวาด
สายตาไปบนกลองหยกแวบหนึ่ง แลวตอบกลับอยางราบเรียบ
เมื่อไดฟงคำพูดของหานลี่ คนอื่นๆ ก็ขมวดคิ้ว
“ผลวิญญาณหกลูกนั้นแบงยากจริงๆ ทวาพักเรื่องนี้ไวกอน แบงใหทุกคนคนละ
ลูกกอนแลวคอยวากันเถิด” ชายหนุมคิ้วขาวกลับทนไมไหวแลว
“พี่หลี่พูดถูก! สหายหาน แบงใหพวกเรากอนเถิด” เสี่ยวหงเองก็หัวเราะคิกคัก
ขณะเอยสนับสนุน
หลงตงและหญิงสาวชุดขาวเองก็ไมมีเจตนาคัดคาน
หานลี่เห็นเชนนั้นพลันฉีกยิ้มจางๆ ออกมา
เขาใชมือหนึ่งถือกลองหยกเอาไว รางกายพลิ้วไหวแลวมาอยูเบื้องหนาปศาจสตรี
เสี่ยวหง ชูสองนิ้วขึ้น เด็ดผลเห็ดมังกรออกมาลูกหนึ่ง คีบเอาไวเบื้องหนาสตรี
สตรีรูสึกดีอกดีใจหยิบกลองไมออกมา คิดจะรับผลนั้นเอาไว
แตหานลี่กลับคีบผลวิญญาณเอาไวแนนไมปลอย แคฉีกยิ้มใหสตรีโดยไมพูดอะไร
อยางมีเลศนัย
สตรีตกตะลึงไปเล็กนอย แตทันใดนั้นก็ถึงบางออ
ทันใดนั้นพลันสะบัดแขนเสื้อ กระบี่เลมเล็กสีทองที่มียันตสองแผนแปะอยูปรากฏ
ขึ้นในมือ ฉีกยันตออกแลวโยนกลับมา
นั่นก็คือ กระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆาของหานลี่!
หานลี่อาปากออกดูดเขาไป กระบี่เลมเล็กกลายเปนลำแสงสีทองสายหนึ่งพุงเขา
ไปในปาก
ในเวลาเดียวกันนิ้วพลันคลายลง ผลวิญญาณเม็ดนั้นคอยๆ รอนลงบนกลองไม
ของสตรี
เสี่ยวหงตรวจสอบผลวิญญาณดวยสีหนาดีใจ หานลี่เองก็พลิ้วกายไปอีกดาน
สงผลวิญญาณอีกเม็ดใหชายหนุมคิ้วขาว
ปศาจผูบำเพ็ญเพียรผูนี้เห็นฉากเมื่อครู ไหนเลยจะไมรูวาตองทำเชนไร ไมรอให
หานลี่เอยปาก ก็กำจัดอาคมบนกระบี่เลมเล็กอีกเลมเชนกัน แลวโยนใหหานลี่
เชนนั้นชั่วพริบตาผลวิญญาณในมือของหานลี่ก็เหลือเพียงสองลูก
หลังจากที่หานลี่เก็บของตัวเองไปลูกหนึ่งแลว ก็วางกลองหยกเอาไวบนพื้นตรง
ของทุกคน สวนตัวเองก็ยืนดูอยูขางๆ ดวยสายตาเย็นชา
สำหรับเขาแลว สมุนไพรวิญญาณชนิดนี้มีลูกหนึ่งก็เพียงพอแลว มีมากไปก็ไมไดมี
ประโยชน อะไรต อเขามากนั ก แต ก ารกระทำอย า งรู  จ ั ก วางตั ว ของเขานั ้ น ทำให
เหลาสตรีตะลึงงัน สายตาที่มองไปยังเขาอดที่จะออนโยนขึ้นเปนอยางมากไมได
“ตอนนี้เหลือผลวิญญาณหนึ่งลูก เชนนั้นพวกเรามาประมูลกันเปนอยางไร? ผูใด
ใหศิลาวิญญาณมากที่สุด ผลวิญญาณก็เปนของผูนั้น สวนศิลาวิญญาณนั้นพวกเราก็
นำมาแบงกันอยาเทาเทียม” หลงตงกระแอมไอออกมาเบาๆ แลวเสนอขึ้น
“หึ แผนนี้ของสหายหลงจะดีไปหนอยกระมัง ผูใดไมรูบางวา ตระกูลหลงของ
พวกเจาร่ำรวยขนาดไหน พวกเราสี่คนรวมกัน เกรงวาศิลาวิญญาณที่พกมาคงยัง
ไมมากเทานายทานคนเดียวกระมัง” ชายหนุมคิ้วขาวแคนเสียงหึออกมา ปฏิเสธดวย
สีหนาเครงขรึม
“ออ เชนนั้นมีความคิดเชนไร?” ชายหนุมไฝแดงเองก็ไมไดโมโห แตกลับเอยถามยิ้มๆ
“ผู  ท ี ่ อ ยากได ผ ลวิ ญ ญาณนี ้ ต อ งเอาของมาแลก ไม ว  า จะเป น ยาลู ก กลอน
หรือวัตถุดิบ ขอแคเอาของที่เพียงพอใหทุกคนแบงกันออกมาได และยิ่งไปกวานั้น
ราคายังไมตางกันมาก ถึงจะเอาผลวิญญาณลูกสุดทายไปได เหลาสหายคิดวาแบบนี้
สมเหตุสมผลหรื อไม?” เสี่ยวหงม ว นปอยผมที ่ ปรกลงมาบนหน าผาก แลวฉี ก ยิ้ ม
ออนหวานขณะเอย
ชายหนุมคิ้วขาวไดยินก็พยักหนาอยางตอเนื่อง
หญิงสาวชุดขาวเอียงหัวขบคิด สายตากลอกไปมาแสดงออกวาเห็นดวย
หานลี่จึงยิ่งไมปฏิเสธ
“คำพูดของเซีย นเสี ่ย วมีเ หตุผล เชนนั้นก็ทำตามคำพู ดของเซีย นก็ แล ว กั น”
ถึงแมวาหลงตงจะไมยินยอม แตเมื่อเห็นที่เหลืออีกสี่คนตางเห็นดวยกับวิธีนี้ ก็ทำได
เพียงตอบตกตะลึงดวยรอยยิ้มฝนๆ
หนึ่งชั่วยามผานไป รถเหาะสีเขียวความยาวสิบจั้งเศษคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
จากนั ้ นก็ ส ั ่ น ไหวกลายเป นลำแสงสี เ ขี ย วสายหนึ ่ ง พุ  ง ออกไป สองสามชั ่ ว อึ ด ใจ
รถเหาะคันนี้ก็ปรากฏหางออกไปสองสามรอยจั้ง กะพริบวาบอีกสองสามครั้ งแลว
หายวับไปอยางไรรองรอย
หานลี่นั่งอยูคอนไปทางทายของรถเหาะ มือหนึ่งควงไมกลมๆ สีเขียวมรกตทอนเล็กๆ
เลนอยู
ไมทอนนี้มีความยาวแคสองสามฉื่อ แตผิวกลับเนียนใส เปลงแสงจางๆ ออกมา
เมื่อพินิจอยางละเอียด ดานในก็มีเสนไหมวิญญาณสีเงินเปลงแสงระยิบระยับอยู
“ไมวิญญาณมรกต เจาสิ่งนี้หากถูกกระตุนเปนเวลานานสักหนอย ก็อาจจะมี
ประโยชนมากจริงๆ” หานลี่ขบคิดอยางสงบ
ตอนที่ 1367 เมืองเล็กๆ
ผลวิญญาณลูกสุดทาย คาดไมถึงวาจะตกอยูในมือของหญิงสาวชุดขาว
หญิงสาวผูนี้ควักวัตถุดิบล้ำคาที่ทำใหทุกคนตกตะลึงออกมา และแบงออกเปน
สี่สวนตามมูลคา ใหทุกคนเลือกตามอำเภอใจ
หญิงสาวลงมืออยางใจกวางเชนนี้ ถึงแมวาหลงตงและสตรีจากเผาหงสดำจะรูตัว
วาไมมีทางเอาวัตถุดิบระดับเดียวกันออกมาได จึงทำไดเพียงยอมมอบผลวิญญาณให
หญิงสาวผูนี้อยางไมเต็มใจ
ไมวิญญาณมรกตหมื่นปทอนเล็กๆ นี้ เปนหนึ่งในวัตถุดิบที่หานลี่เลือก
ไมชนิดนี้เบาหวิว ดุจ ปุ ยนุ น กันน้ำกันไฟ เปนหนึ่งในวัตถุดิ บที ่เ หมาะสมกั บ
การการหลอมเขตอาคมตราประทับ และยิ่งไปกวานั้นหากเพิ่มอายุใหมัน ก็จะมี
พลังปองกันทั้งหาธาตุแนนอน
ดังนั้นโดยทั่วไปแลวไมชนิดนี้จะใชหลอมยุทธภัณฑขนาดใหญ เปนวัตถุดิบที่
ยอดเยี่ยมที่สุดในการหลอมสำเภาวิญญาณ กระสวยเหาะ รถอสูรเปนตน
หานลี่ควงไมวิญญาณเลนในมือชั่วครู แลวเก็บเขาไป จากนั้นก็เงยหนาขึ้นมองไป
รอบๆ แวบหนึ่ง
รถเหาะคันนี้ย ัง คงเป นสิ่ งที ่หล งตงเอาออกมา ถึงแมวาจะสะดวกสบายและ
อำพรางตัวไดไมเทาสำเภาเมฆาวิ ญญาณกอนหนา แตความเร็วในการเหาะกลั บ
เหนือกวาขั้นหนึ่ง
จะวาไปแลว หลังจากที่พบกับอสูรโบราณที่แข็งแกรง ตอใหเขตอาคมอำพราง
ของสำเภาเมฆาวิญญาณก็เกรงวาจะไมไดมีประโยชนมากนัก เชนนั้นไมสูใชรถเหาะที่
คอนขางวองไวจะเหมาะสมกวา
หากพบกับความยุงยากละก็ อาศัยความเร็วของรถคันนี้สลัดออกก็ไดแลว
ครานี้รถเหาะที่อยูกลางอากาศคันนี้พลันกลายเปนเงาสีเขียวจางๆ สายหนึ่ง
พุงไปขางหนาดวยความเร็วที่นาสะพรึง
สวนคนที่เหลือนั้น นอกจากหลงตงที่เปนผูควบคุมรถเหาะแลว ตางก็อยูเงียบๆ
ตามมุมตางๆ ของรถเหาะ
หานลี่ชักสายตากลับมา ฉับพลันนั้นพลันตกอยูบนเรือนรางของหญิงสาวชุดขาวที่
อยูใกลๆ สองตาอดที่จะหรี่ลงไมได
หากกลาวในบรรดากลุมคนกลุมนี้ คนที่เขารูสึกหวาดกลัวและดูไมออกที่สุดก็คือ
หญิงสาวที่ดูแลวมีพลังยุทธธรรมดาๆ เหมือนกับตัวเอง
สตรีผูนี้ดูเหมือนจะอายุยังนอย และยิ่งไปกวานั้นการพูดจายังดูเหมือนเปนคงงายๆ
แตหานลี่ที่ฝกฝนคาถาขับเคลื่อนมาจนถึงระดับสูงสุดแลว ประสาทสัมผัสจึงไวจนอยู
ในขั้นที่นาเหลือเชื่อ และมักจะรูสึกวาสตรีผูนี้เปนผูที่มีพลังแรงกดดันตอเขามากที่สุด
ในบรรดาทั้งสี่คน แมกระทั่งมีทาทีลึกลับมากกวาชายหนุมไฝแดงที่เรียกตัวเองวามา
จากตระกูลวิญญาณเที่ยงแท
ขณะที่หานลี่กำลังขบคิดอยูนั้น หญิงสาวที่กำลังนั่งสมาธิหลับตาอยูมุมหนึ่ง
พลันเบิกตาทั้งสองขางขึ้น ประสานสายตาเขากับหานลี่อยางพอดิบพอดี
หานลี่ใจหายวาบ ยังไมทันไดมีปฏิกิริยาตอบสนอง สตรีกลับเมมปากฉีกยิ้มบางๆ
ออกมา
หานลี่หัวเราะฮาๆ ออกมาอยางขัดเขิน แลวเบือนหนาหนีทันที
เชนนั้นเขาจึงไมไดเห็นแววตาขี้เลนที่ฉายแวบผานแววตาของหญิงสาว
ครึ่งเดือนตอมา การเดินทางของพวกเขาก็นับวาราบรื่นอยางนาแปลกใจ ไมพบความ
ยุงยากเลยสักนิด
นี่จึงทำใหหลงตงและหญิงสาวตางผอนลมหายใจออกมาอยางเงียบๆ เฮือกหนึ่ง
ในใจตางคาดหวังวาหนทางตอจากนี้จะราบรื่นเหมือนที่ผานมา
สองสามวันตอมาทัศนียภาพรอบดานพลันเปลี่ยนไป เบื้องหนามีทะเลทราย
สีเหลืองอรามปรากฏขึ้น วายุรอนระอุพัดโชยมาปะทะใบหนา
“ทะเลทราย หรือวาพวกเรามาถึงเสนทางสวรรคหนานเกิ่นแลว” แววตาของ
ชายหนุมคิ้วขาวฉายแววตื่นตะลึง
“ใชแลว ที่นี่คือทะเลทรายหนานเกิ่น เปนเสนทางที่เชื่อมไปยังเผาพฤกษาได
งายที่สุด” หลงตงน้ำเสียงเครงขรึม
“ไดยินคนพูดถึงที่นี่มาเนิ่นนานแลว หรือวาเหมือนกับในตำนานที่วาไมอาจออม
ผานทะเลทรายผืนนี ้ไ ด? ที่นี่มักจะมี เผ าพฤกษาและเผา เงาเคลื่ อนไหวอยู บ  อยๆ
มันอันตรายไปหนอยกระมัง” สตรีเหลือบตามองไปรอบๆ คิ้วดำขลับขมวดมุน
“เซียนเสี่ยว ถึงแมวาที่นี่จะมีสภาพแวดลอมที่เลวรายไปหนอย แตก็ปลอดภัยวา
อีกสองเสนที่เหลือมาก สวนการออมไปนั้นยิ่งเปนเรื่องที่เปนไปไมได สองฝงของ
ทะเลทรายผืนนี้ ฝงหนึ่งคือภูเขาชีพจรอสูรที่มีชื่อเสียง ดานในมีอสูรโบราณระดับสูง
จำนวนนับไมถวน แมแตผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาเขาไป ก็ยังไปแลวไปลับ
ไปกวาครึ่ง อีกดานกลับเปนหุบเขาตนกำเนิดของมังกรวารี ดานในมีมังกรวารีที่ดรุ าย
ระดับหลอมสุญตาขึ้นไปอาศัยอยูนับรอยตัว ราชันยมังกรระดับหลอมรางก็ดูเหมือนวา
จะมีถึงยี่สิบสามสิบตัว ยิ่งไมตองพูดถึงมังกรวารีที่มีพลังยุทธต่ำกวาหนอยได ไมวา
สองเผาอยางพวกเราหรือวาเผาประหลาด ลวนไมอยากไปยั่วโมโหมังกรวารีที่ดุราย
เหลานั้นงายๆ ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงสองสามคนอยางพวกเรา จะกลาเขาไป
ไดอยางไร
สามเขตนี้กวางใหญมาก จุดที่อยูหางไปหนอยพวกเราตองใชเวลาสองสามป
ถึงจะออมผานไปได ตอนนี้สงครามใหญใกลจะปะทุแลว เมืองเทวะสวรรคไมมีทาง
ปลอยใหเวลาไหลผานไปได” หลงตงหัวเราะอยางขมขื่นขณะอธิบาย
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง ทวาขาก็ไดยินมาวา ทะเลทรายผืนนี้ดูเหมือนวาจะเปน
สถานที่ทดสอบของทั้งสองเผา” หญิงสาวชุดขาวแทรกขึ้น
“กอนออกเดินทาง อาวุโสในเผาเคยกำชับเอาไวแลว” ชายหนุมคิ้วขาวพลันรูสึก
ระมัดระวังขึ้นเชนกัน
“หากเป น เช น นั ้ น จากนี ้ ก ็ อย า นั ่ ง รถเหาะเลย มั น เป น เป า ที ่ ใ หญ ไ ปหน อ ย
สะดุดตาเกินไป พวกเราอำพรางตัวกันดีกวา เดาวาถึงแมวาทุกอยางราบรื่น ก็ตองใช
เวลาสองสามเดือนถึงจะขามผานทะเลทรายไปได” หลงตงขบคิดเล็กนอยแลวเอย
เชนนี้ออกมา
“ตามที่สหายกลาว” สตรีขบคิดหลังจากสบสายตากับชายหนุมคิ้วขาวแวบหนึ่งแลว
ก็ตอบตกลง
“ขานอยก็ไมมีความเห็นใดๆ ทวานั่งรถเหาะมันคอนขางสะดุดตาเกินไปจริงๆ”
หานลี่เองก็เอยออกมายิ้มๆ
มีเพียงหญิงสาวชุดขาวที่เผยทาทีไมยี่หระออกมา
ดังนั้นหลังจากที่ทุกคนตกลงกันแลว ก็ทยอยกันบินออกจากรถเหาะ ทำใหชายหนุม
ไฝโลหิตเก็บยุทธภัณฑ กลุมคนสำแดงการอำพรางกาย แลวเขาไปในทะเลทรายอยาง
ระมัดระวัง
เขาไปในทะเลทรายไดไมนาน หานลี่ก็สัมผัสไดถึงความผิดปกติของทะเลทราย
อุณหภูมิมันสูงเกินไปหนอยจริงๆ มากกวาทะเลทรายอื่นๆ ที่หานลี่เคยพบมากอน
ถึงแมวาเขาจะบินอยูต่ำๆ แตก็ยังคงสัมผัสไดถึงอุณหภูมิรอนฉาที่แผออกมาเปน
ระลอกๆ ราวกับวาตัวไมไดอยูในทะเลทราย แตอยูบนปากปลองภูเขาไฟขนาดยักษ
หานลี่เงยหนาขึ้นมองดวงอาทิตยทั้งเจ็ดที่สาดแสงลงมอง แลวกมหนาลงมอง
พื้นดิน ยื่นมือหนึ่งออกไป ชั่วขณะนั้นกรวยน้ำแข็งพลันพุงลงไป
ผลคือกรวยน้ำแข็งยังไมทันสัมผัสกับพื้นทราย ก็กลายเปนไอสีขาวกลุมหนึ่ง
ทามกลางอุณหภูมิที่รอนระอุแลวหายวับไป
เมื่อเห็นฉากนี้หานลี่พลันพนลมหายใจออกมาเบาๆ
“สหายหานยังไมรูสินะ ใตทะเลทรายหนานเกิ่นเดิมทีเปนปลองภูเขาไฟยักษ!”
ดานขางมีลำแสงสีขาวสวางวาบ หญิงสาวชุดขาวปรากฏกายขึ้นดานขางพลางเอยและ
หัวเราะคิกคัก
“งั้นหรือ? ขานอยไมคอยรูเรื่องเหลานี้จริงๆ” หานลี่ตอบกลับดวยสีหนาเรียบเฉย
“วากันวาตอนนั้นหงสสวรรคธาตุคูวายุดินตัวหนึ่งไดตอสูกับวิญญาณเที่ยงแท
จระเขเพลิงที่อาศัยอยูใตภูเขาไฟตนหนึ่งอยูเดือนกวา และไดอาศัยความสามารถใน
การเรียกลมพายุทรายที่ไมจำกัดกลบภูเขาไฟไปจนหมด จึงไดเกิดเปนทะเลทรายขึ้น”
หญิงสาวดูเหมือนวาจะรูประวัติที่นี่เปนอยางดี จึงเอยออกมาอยางราบเรียบ
“ข า ก็ ว  า เหตุ ใ ดทะเลทรายแห ง นี ้ ถ ึ ง แปลกๆ ที ่ แ ท ก ็ เ ป น เช นนี ้ น ี ่ เ อง! ทว า มี
ความสามารถระดับวิญ ญาณเที่ย งแท ชางยากที่จะเชื่ อจริ งๆ” หานลี่เอยพึ ม พำ
ทั้งเหมือนกับตอบคำถามของหญิงสาว และเหมือนกับรำพันกับตัวเอง
“ใชแลว ตอใหผูบำเพ็ญเพียรเผามนุษยอยางพวกเราฝกฝนจนอยูในระดับเทพเซียน
ก็อาจจะตอสูถึงขั้นนี้ได แตสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกรงระดับวิญญาณเที่ยงแทอยางมังกรเที่ยง
แท แ ละหงส ส วรรค น ั ้ น ก็ ท ำได เ พี ย งแหงนหน า มอง ไม ร ู  ว  า คนคนหนึ ่ ง หากมี
ความสามารถเทาจิตวิญญาณเที่ยงแทจะมีความรูสึกอยางไร!”
หญิงสาวหัวเราะนอยๆ ออกมา คาดไมถึงวาจะเอยเชนนี้ออกมา จากนั้นก็ไมสนใจ
หานลี่อีก ลำแสงหลีกหนีกะพริบวาบแลวพุงไปอยูดานหนา
หานลี่มองเงาแผนหลังของหญิงสาว ใบหนาฉายแววประหลาดใจ แตทันใดนั้น
ก็ฟนฟูสีหนากลับมาเปนปกติ แคเรงรุดเดินทางเทานั้น
สิบกวาวันตอมา หานลี่และพวกกำลังบินต่ำๆ อยางตอเนื่อง ถึงแมวาพลังยุทธ
ของพวกเขาจะอยูในระดับเทพแปลง แตการเดินทางอยางตอเนื่องภายใตอุณหภูมิที่
รอนฉาเชนนี้ ก็ทำใหรูสึกเหนื่อยลาเล็กนอย
“เดินทางอีกครั้งวัน คอยหาที่พักผอนสักหนอย” หลงตงที่บินอยูหนาสุด หันหนา
มาเอยกับทุกคนหนึ่งประโยค
“อืม ตองพักฟนฟูพลังสักหนอยแลว” สตรีพยักหนา ทาทางออนเพลียเชนกัน
“เอ นั่นคืออะไร?” ฉับพลันนั้นดานขางพลันมีเสียงรองอุทานเบาๆ ที่เต็มไปดวย
ความตกตะลึงดังขึ้น
คาดไมถึงวาจะเปนชายหนุมคิ้วขาว
หานลี่ไดยิน ก็มองไปตามความรูสึก
ผลคือ จุดที่ไกลออกไปนั้นวางเปลา ไมมีอะไรเลยสักชิ้น
ภายใตการขมวดคิ้ว แผจิตสัมผัสขนานใหญออกไป ผลคือใบหนาเผยสีหนาแปลก
ประหลาดออกมาในทันที
ครานี้หลงตงและพวกก็แผจิตสัมผัสออกไป สีหนาของทุกคนนั้นก็ไมตางอะไรกับ
หานลี่นัก ตางเผยสีหนาแปลกประหลาดออกมาเชนกัน
“ที่นี่คาดไมถึงวาจะมีเมืองตั้งอยู แลวยังเปนเมืองเผามนุษยของพวกเราอี ก
หรือวาพวกเราตาฝาดไป” น้ำเสียงของหานลี่ประหลาดๆ ไปเล็กนอย
หลังจากที่ทุกคนแผจิตสัมผัสไป หางจากพวกเขาไปแคยี่สิบสามสิบลี้ มีทวีป
สีเขียวขนาดไมเล็กอยูแหงหนึ่ง ในทวีปสีเขียวมีเมืองเล็กๆ กึ่งเมืองกึ่งชนบทอยู
เมืองหนึ่ง ดานในมีมนุษยผูบำเพ็ญเพียรอยูไมนอย
“ที่นี่หางไกลความเจริญ ขนาดนี ้ และยังใกลกับเผาประหลาดเชน นี้ จะไปมี
เผามนุษยของพวกเราไดอยางไร ไมใชวามีอะไรผิดปกติหรอกนะ” สตรีกลอกตาไปมา
ดวยความฉงน
หลงตงไดยินคำนี้พลันขมวดคิ้ว สีหนาบัดเดี๋ยวเครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใสแตก็ไมได
เอยอะไรตอ
“ใหขาใชรางแปลงแอบเขาไปดูกอนแลวคอยวากันก็แลวกัน” ชายหนุมคิ้วขาว
มองไปยังทวีปสีเขียว ฉับพลันนั้นก็เอยเชนนี้ออกมา
จากนั้นชายหนุม ก็ ใชม ือหนึ ่งลูบ ไปที่ท ายทอย เงาลวงตาสายหนึ่ งสวา งวาบ
นกอินทรีตัวเล็กขนาดสองสามฉื่อพุงแหวกอากาศไป เรือนกายเปลงแสงสีดำมะเมือ่ ม
หลังจากหมุนวนรอบหนึ่งก็บินตรงไปยังเมืองเล็กๆ ที่อยูไกลออกไป
ชายหนุมคิ้วขาวหลับตาทั้งสองขางลง เชื่อมโยงจิตสัมผัสกับนกอินทรีตัวเล็ก
เพื่อไมใหเกิดเรื่องที่ไมคาดฝนขึ้น
หลังจากที่สตรีและหลงตงมองสบตากันแวบหนึ่งแลว ก็ดูเหมือนวาจะรูสึกวาควร
จะตรวจสอบกอนจะดีกวา จึงไมไดเอยปากหามปรามการกระทำของชายหนุมคิ้วขาว
หานลี่ชะเงอมองไปทางเมืองเล็กๆ ในใจเกิดความสงสัยขึ้นมาเชนกัน
หญิงสาวชุดขาวเองก็มองไปดวยความสนใจโดยไมพูดอะไรเชนกัน
อินทรีนอยรวดเร็วมาก ไปและกลับใชเวลาเพียงหนึ่งกาน้ำชาเทานั้น
เมื่ออินทรีตัวนี้พลิ้วกายก็จมหายไปที่ศีรษะของชายหนุมคิ้วขาวอีกครั้ง ชายหนุม
เบิกตาทั้งสองขางขึ้น
“ไมผิด ในเมืองเล็กมีเผามนุษยอยางพวกเจาอยู ดานในมีผูบำเพ็ญเพียรระดับสูง
ไมนอย ระดับเทพแปลงมีอยูประมาณเจ็ดแปดคน ระดับหลอมสุญตานั้นมองไมเห็น
จากภายนอก” ชายหนุมคิ้วขาวเอยอยางมั่นใจ
เมื่อไดฟงคนอื่นๆ ก็พลันมีสีหนาประหลาดใจ
“ไมตองสนใจเมือง พวกเราทำตามแผนเดิมก็ไดแลว ไมจำเปนตองทำเรื่องใหยุงยาก”
หานลี่เอยปากอยางราบเรียบ
“เอาอยางนั้นก็แลวกัน เรื่องนี้ชางแปลกประหลาดนั้น ไมแนวาอาจจะเกิดเรื่องใหญ
อะไรขึ้นในทะเลทราย พวกเราไปสอบถามอยางละเอียดแลวคอยเดินทางตอจะดีกวา
จะไดไมบุกเขาไปในอันตรายอะไร” หลงตงกลับสั่นศีรษะขณะเอย
ตอนที่ 1368 เงามารปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
เมื่อไดยินคำพูด ของหล งตง แววตาของหานลี่พลั นฉายแววสดใส แตก็ไ ม ไ ด
เอยอะไรออกมา สตรีและชายหนุมคิ้วขาวมองสบตากันแวบหนึ่ง ดูเหมือนวาจะรูสึก
วามีเหตุผลจึงไมไดเอยคัดคานออกมา
กลับเปนหญิงสาวชุดขาวที่กะพริบดวงตาคูงามปริบๆ ฉับพลันนั้นพลันเอยปากขึ้นวา
“ที่นี่มีผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ปรากฏตัว มันแปลกไปสักหนอย พวกเราเองยัง
เรงเดินทาง อยาหาเรื่องใสตัวเลย”
“ก็ เ พราะแปลก ถึ ง ได ต  อ งไปหาสาเหตุ ที่ ค นเหล า นี ้ ม าปรากฏตั ว ที ่ น ี ่ น ะสิ
อยางมากพวกเราก็ไมตองเขาไปในเมือง แคสอบถามอยูดานนอกก็พอแลว หากเกิด
อะไรขึ้น ก็ไมจำเปนตองหวาดกลัวอะไร เมื่อครูพี่หลี่ไมไดพูดหรือวาในเมืองไมมี
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา เดินทางอีกสองสามวันพวกเราก็จะตองเขาไปใน
เสนทางสวรรคแลว สภาพแวดลอมที่นั่นอันตรายเปนอยางยิ่ง หากมีอะไรที่เราไมรูเกิด
อยูแถวๆ นี้ พวกเราคงจะเพลี่ยงพล้ำอยูในนั้นจริงๆ ตองระวังไวกอน!” หลงตง
หนาเปลี่ยนสี แตเมื่อขบคิดชั่วครู ก็ยังคงสั่นศีรษะ
“จากคำพูดของพี่หลง ก็เปนไปได เอาเชนนี้ก็แลวกัน พวกเราไปดูอยูหางๆ ดูสักรอบ
อยาทำใหผูบำเพ็ญเพียรดานในรูตัว หลังจากไมมีปญหาอะไรแลวจริงๆ คอยปรากฏ
ตัวก็ไมสาย” เสี่ยวหงเอยขอเสนอขึ้น
“เชนนั้นก็ดี จะยิ่งปลอดภัยหนอย” หลงตงดูเหมือนจะคิดวาความคิดของสตรีผูนี้
ไมเลว จึงพยักหนาหงึกหงัก
หานลี่ลูบใตคาง สวนหญิงสาวชุดขาวพลันฉีกยิ้มเบิกบาน ทั้งสองคนไมไดเอยปาก
อะไรอีก
เชนนั้นพวกเขาจึงเปลี่ยนทิศทาง อำพรางลำแสงหลีกหนีอีกครั้ง แลวพุงตรงไปยัง
เมืองเล็กๆ อยางเงียบเชียบ จากพลังยุทธของพวกเขา ถึงแมวาจะลดความเร็ว ใน
การเคลื่อนที่ลงไมนอย แตระยะหางสองสามรอยลี้ ก็ยังคงมาถึงในชั่วพริบตา
ไกลออกไปบนพื้นมีจุดสีเขียวปรากฏขึ้น หลังจากเขาใกลอีกนิด ก็มองเห็นอยาง
ชัดแจง
คาดไมถึงวาจะเปนทวีปสีเขียวที่ขนาดไมเล็กเลย รอบดานไมเพียงจะมีพุมไมเตี้ยๆ
ปลูกอยู ตรงใจกลางยักษมีบึงน้ำรัศมีความกวางสองสามลี้อยูบึงหนึ่ง
ริมบึงน้ำ มีเมืองเล็กๆ ขนาดพื้นที่ไมใหญนักอยูแหงหนึ่ง รอบดานถูกกำแพงหิน
สีขาวสูงสองสามจั้ งลอมเอาไว มีเพียงฝงที่พ วกของหานลี่ อยู ถึ งจะมี ประตูเ มื อง
ขนาดยักษความกวางสิบจั้งเศษอยูบานหนึ่ง ตรงประตูเมืองมีคนสวมชุดสีเหลือง
สิบกวาคนยืนรักษาการณอยู ลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณ
ด า นนอกเมื องใกล ๆ กั บ บึ ง น้ ำ มี ค นธรรมดาที ่ ไ ม ม ี พ ลั ง ลมปราณเลยสั ก นิด
เคลื่อนไหวอยู ดูเหมือนกำลังคอมตัวลงปลูกอะไรสักอยางหนึ่ง
ลําแสงหลีกหนีของหานลี่หยุดชะงัก แลวหยุดลงจากนั้น พลันกวาดจิตสัมผัสไปที่
เมืองเล็กๆ แหงนั้นอยางเงียบเชียบ
หลงตงและพวกที่อยูดานขางเห็นทุกอยางนี้ ตางก็สำแดงเคล็ดวิชาลับของตัวเอง
ออกไปตรวจสอบเชนกัน
“ไมผิด คนเหลานี้คือคนของเผามนุษย ไมวาคนธรรมดาหรือวาผูบำเพ็ญเพียรก็ไม
มีความผิดปกติอะไร ในเมืองยังมีผูบำเพ็ญเพียรอยูไมนอย ระดับเทพแปลงมีมากกวา
เจ็ดแปดคน ระดับหลอมสุญตานั้นไมใชวาไมมี แตเก็บกลิ่นอายอำพรางตนเอาไว
ครานี ้ จ ึ ง ยั ง ไม พ บ” หลั ง จากที่ เ สี ่ ย วหงสำแดงเคล็ ด วิ ช าลั บ ตรวจสอบไปแล ว
ถึงไดถลึงตาเอยดวยความรอบคอบ
“ดูแลวปกติจริง! สหายผูอื่นพบอะไรหรือไม?” แววตาของหลงตงมองไปยังเมืองเล็กๆ
ดวยความฉงนชั่วครู แลวถึงไดเอยซักถามขึ้นมาหนึ่งประโยค
“รอบดานของเมืองแหงนี้ไมมีเขตอาคมเคลื่อนไหวอยู ใกลๆ ก็ดูเหมือนวาจะไมมี
เขตอาคม และยิ่งไปกวานั้นเหลาสหายพบหรือไมวา อุณหภูมิของที่นี่ดูเหมือนวาจะ
เย็นสบายเปนอยางมาก ไมเหมือนที่อื่นที่รอนฉา” ชายหนุมคิ้วขาวเอยขึ้นหลังจากที่
ตรวจสอบเสร็จ
“แปลกจริงๆ! แตในเมื่อดานในมีทวีปสีเขียว ก็เปนเรื่องที่นาเหลือเชื่ออยูแลว
มันหมายถึงอะไร” สตรีเอยอยางขบคิด
“เหตุใดตองยุงยากขนาดนั้น! เหลาสหายเขาไปคุยกันในเมืองก็ไดแลว
เสียงที่ไมคุนเคยดังขึ้นเหนือหัวของทุกคน
หานลี่และพวกพลันตกตะลึง เงารางคนเปลงแสงสวางวาบอยางไมตองขบคิด
ชั่วพริบตาทุกคนก็แตกฮือออก ทยอยกันปรากฏตัวหางออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง จากนั้น
ถึงไดมองขึ้นไปบนฟาอยางระมัดระวัง
เห็นเพียงบนทองฟามีนักพรตชราสวมชุดสีมวงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตั้งแตเมื่อไหร
ก็ไมรู หนาตายิ้มแยมเปนมิตร กำลังมองมาทางพวกเขาอยางใจดี
แตสิ่งที่ทำใหเหลาสตรีใจหายวาบก็คือ นักพรตผูนี้คือผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอม
สุญตาขั้นกลาง โชคดีที่อีกฝายเปนผูบำเพ็ญเพียรเผามนุษย มิเชนนั้นเกรงวาทุกคนคง
แตกกระเจิงในทันที
สายตาของหลงตงที่มองไปยังนักพรตเต็มไปดวยความตะลึงงัน สวนลึกในนัยนตา
ฉายแววผิดหวังออกมาเล็กนอย
“คารวะทานอาวุโส! ไมทราบวาทานอาวุโสคือผูใด เหตุใดถึงมาปรากฏตัวที่นี่?”
เสี่ยวหงสูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง แลวเอยถามดวยความนอบนอม
“ที่แทก็สหายเผาหงสทมิฬ ตาเฒาอรหันตเมฆามวง เมืองแหงนี้เปนเมืองที่เผา
ตาเฒาสรางขึ้น เหลาสหายอาจจะมีขอสงสัย แตที่นี่ไมใชที่ที่จะมาพูดคุยกัน ตามขา
เขาไปในเมืองเปนอยางไร” นักพรตวัยชราฉีกยิ้มนอยๆ มือหนึ่งผายมือออกไปเปนการ
เชื้อเชิญ
“อรหันตเมฆามวง?”
สตรีเห็นอีกฝายมองปราดเดียวก็รูภูมิหลังของตนเอง ก็อดที่จะใจหายวาบไมได
ทันใดนั้นก็มองสบตากับหลงตงแวบหนึง่
ทั้งสองคนรูสึกวาชื่อของคนผูนี้ไมคุนเคยเลย ดูเหมือนจะไมเคยไดยินมาก อน
เมื่ออีกฝายเชื้อเชิญ แนนอนวาจึงเผยสีหนาลังเลออกมา
“เหลาสหายไมจำเปนตองกังวล ตาเฒารักสันโดษ จึงไมคอยมีความสัมพันธ
กับผูใดนั ก ดังนั้นจึง ไม ค อยมี ใครรู จั กชื ่อเสี ยงของตาเฒา เหลาสหายอยากข า ม
เสนทางสวรรคสินะ! เชนนั้นละก็ ยิ่งตองไปฟงตาเฒาดูสักหนอย ชวงนี้เสนทางสวรรค
เกิดเหตุเภทภัยขึ้น หากเหลาสหายเขาไป จะอันตรายมาก” นักพรตชราดูเหมือนจะ
มองความกังวลของเหลาสตรีออก จึงเอยออกมาดวยรอยยิ้มพิมพใจ
เมื่อไดยินอรหันตเมฆามวงกลาวเชนนี้ ถึงแมวาจะไมอาจกำจัดความกังวลของ
พวกของหลงตงไดหมด แตก็รูสึกผอนคลายลงเล็กนอย แตเมื่อไดยินวาเสนทางสวรรค
มีปญหา สีหนาก็เปลี่ยนไปเล็กนอย
“ในเมื่อทานอาวุ โสมี เมตตาเช น นี้ เหลาชนรุนหลังก็ไ มกล าเสี ยมารยาทได ”
ถึงแมวาหลงตงจะเปลี่ยนใจ ไมอยากเขาไปในเมือง แตเมื่อเผชิญหนากับคำเชิญ
ประเภทนี้ของผูบำเพ็ ญเพี ยรระดับ หลอมสุญตา ไมวาอยางไรก็ไมอาจปฏิเ สธได
จึงทำไดเพียงตอบตกลงอยางใจดีสูเสือ
เห็นหลงตงกล าวเช นนี้ หานลี่และพวกก็ ยิ่ ง ไมม ีข  อโต แย ง จึงทำไดเพี ย งทำ
ความเคารพนักพรตชราแลวตางตกลง
รอยยิ้มบนใบหนาของอรหันตเมฆามวงยิ่งดูสนิทสนมมากขึ้นเรื่อยๆ รอนลำแสง
หลีกหนีลงพรอมกับเปลงเสียงหัวเราะเบาๆ แลวพาทุกคนตรงไปยังประตูเมือง
ทุกคนเห็นเชนนั้นก็ไมอาจขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีตามไปได จึงทำไดเพียง
สำแดงเคล็ดวิชาตัวเบาออกมา แลวตามนักพรตชราไป
ระยะทางที่ดูเหมือนไกล แตภายใตการเคลื่อนไหวอยางเชื่องชาแตความจริงแลว
รวดเร็วมากของพวกเขา ก็ทำใหเขามาใกลทวีปสีเขียวไดภายในชั่วครู แมกระทั่ง
เด็กนอยที่เลนกันอยูริมบึง ก็ยังมองเห็นไดอยางชัดเจน
“เหลาสหายเห็นเรื่องนาขันเสียแลว เผาของตาเฒาเพิ่งจะยายมาที่นี่ไดไมนาน
จึ ง ต อ งพาลู ก เด็ ก เล็ ก แดงคนธรรมดาเหล า นี ้ ม าด ว ย ที ่ น ี ่ ไ ม ม ี ส ิ ่ ง อื ่ น จะมี ก ็ แ ต
ผลวิญญาณที่หายากอยูส องสามชนิด เหลาสหายตองลองชิมสัก หน อย” ตาเฒา
อธิบายดวยรอยยิ้ม
หลงตงและสตรีถึงไดรูสึกคลายขอสงสัยลง
ชั่วพริบตานั้นพวกเขาก็เขามาประชิดประตูเมือง ผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณ
ที่รักษาการณอยู คารวะใหทุกคน แลวแยกออกเปนสองแถว เปดทางเดินให
นักพรตสะบัดแขนเสื้อ เดินนำไปกอน
สายตาของพวกของหลงตงกวาดไปบนรางของผูรักษาการณ เห็นพวกเขามีเพียง
สีหนานอบนอม ไมมีสีหนาผิดแผกใดๆ ก็เดินตามไปเชนกัน
หานลี่เองก็เดินผานตรงกลางของผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณสองคนไปอยางชาๆ
ดวยสีหนาราบเรียบ
ทุกอยางดูปกติมาก!
แตในตอนนั้นเอง ฉับพลันนั้นกลางอากาศก็มีเสียงไพเราะดังขึ้น เปลวเพลิงสีเงิน
กลุมหนึ่งพุงออกมา เสียงอึกทึกดังขึ้น โจมตีไปยังผูบำเพ็ญเพียรที่อยูดานขาง
ชั่วพริบตาที่เปลวเพลิงสีเงินขยายใหญขึ้น ชั่วครูก็หอหุมคนผูนั้นเอาไว
สตรีและพวกเห็นเชนนั้นพลันตกตะลึงจนอาปากคาง
“นายทานมีเจตนาใด ตาเฒาตอนรับพวกเจาดวยความยินดี คาดไมถึงวาจะกลา
ลงมือกับชนรุนหลังของอาตมา” นักพรตชราที่เดินอยูหนาสุดตะโกนออกมาดวย
หนาที่เปลี ่ย นสี รางกายพลิ้วไหวสาวเทา ยาวๆ มา คาดไมถึงว าจะมาปรากฏตั ว
ตรงหนาของหานลี่ในชั่วครู ชูมือหนึ่งขึ้น มือยักษยอมไปดวยลำแสงสีแดงตะปบไป
ทางศีรษะของหานลี่
หานลี่ที่เดิมที มีส ีห น าแปลกประหลาด แตหลังจากที ่เ ปลวเพลิ งสี เงิ นห อ หุ ม
ผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณผูนั้นแลว ชั่วพริบตาก็นั้นก็เผยสีหนาถึงบางออขึ้นมา
แตในครานั้น มือยักษลำแสงสีแดงก็หอหุมรางของเขาเอาไวแลว พลังมหาศาลที่
ไรรูปรางรัดรางกายของเขาแนน ราวกับวาแรงกดพันจวินอยางไรอยางนั้น
หากเปนผูบำเพ็ญเพียรธรรมดา ภายใตสถานการณเชนนี้ไมตองพูดถึงการหลบหนี
เกรงว า แม แ ต ป ากก็ ไ ม อาจอ า ออกได แต ห านลี ่ ก ลั บ เป น ผู  ฝ  ก ตนคู  บ ำเพ็ ญ เพียร
ประกอบกับผลเกล็ดมังกร ไขมุกซากสวรรค คาถาชุบกระดูก ถึงแมวาจะไมตองใช
เคล็ดวิชาพราหมณมารเที่ยงแท ความแข็งแกรงของรางกายก็เหนือกวาชายหนุม
คิ้วขาวและเสี่ยวหงหลายเทา
ภายใตสถานการณเชนนี้ พลังมหาศาลสำหรับผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ แลว
เขากลับแคไหลสะทาน รางกายบิดเบี้ยวไปเล็กนอย แลวหายวับไปจากที่เดิม ครูตอมา
คนก็มาปรากฏตัวหางออกไปยี่สิบจั้งเศษ
นั่นก็คือ วิชาเกาวายุแปรปรวน
จากสถานการณรางกายและพลังยุทธของเขาในครานี้ ถึงแมวาจะไมตองใช
ปกวายุอสนี ก็สำแดงวิชานี้ออกมาไดอยางงายดาย
“รีบหนีเร็ว พวกเขาเปนหุนเชิดที่ถูกเผาเงาสิง” หานลี่หนีออกมาได ปากก็รอง
ตะโกนออกมา ทันใดนั้นรางกายก็พลิ้วไหว กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงแหวก
ออกไป
แทบจะในเวลาเดียวกัน ผูบำเพ็ญเพียรที่ถูกเปลวเพลิงหอหุมอยูก็เปลงเสียงรอง
คร่ำครวญดวยความเจ็บปวดออกมา ฉับพลันนั้นเงาสีเทาสายหนึ่งพลันพุงออกมา
จากราง แตเมื่อเงาสัมผัสกับเปลวเพลิงสีเงิน ชั่วพริบตาก็ถูกเผาไหม ถูกกลืนกินไป
จนเกลี้ยง
จากหานลี่ที่พุงออกมาจากเปลวเพลิงสีเงิน จนถึงตอนที่ชายชราลงมือโจมตีกลับ
และถูกเขาหนีออกมาไดนั้นเปนแคชั่วพริบตาเทานัน้
สตรีและพวกของหลงตงพลันรูสึกงุนงง ยังไมทันไดเขาใจวาเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ก็ไดยินเสียงรองเตือนของหานลี่ เมื่อมองเห็นในเปลวเพลิงสีเงินมีหุนเชิดเงาปรากฏขึ้น
ไหนเลยจะไมรูวาเกิดอะไรขึ้น สีหนาพลันซีดเผือด
“ไป!” แทบจะไมตองใหผูใดออกคำสั่ง ทั้งสี่คนมีลำแสงวิญญาณเปลงประกาย
กลายเปนสายรุงพุงแหวกผานอากาศไป
นักพรตชราเห็นหานลี่หนีไปจากเงื้อมมือของตนเองได พลันตะลึงงัน เมื่อเห็นคนอื่นๆ
คิดจะหนี ทันใดนั้นก็แคนเสียงดวยความเย็นชาขึ้นจมูก สะบัดแขนเสื้อลำแสงหลีกหนี
สายหนึ่งพุงออกมา ฉับพลันนั้นเสนไหมสีแดงจำนวนนับไมถวนที่พวยพุงออกมาจาก
แขนเสื้อ พลันรัดลำแสงหลีกหนีเอาไวแนน จากนั้นพลันดึงกลับมา คาดไมถึงวาจะ
ลากลำแสงหลีกหนีกลับมาจากกลางอากาศ
ลำแสงวิ ญ ญาณสลายออก ในเส น ไหมสี แ ดงจำนวนนั บ ไม ถ  ว นมี เ จ า ของ
ลำแสงหลีกหนีที่มีสีหนาตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวปรากฏขึ้น
ตอนที่ 1369 อสูรเซิ่น
คาดไมถึงวาจะเปนชายหนุมคิ้วขาวของเผาปศาจผูนั้น
เขาในครานี้รอบกายเปลงแสงสีดำสวางวาบ พยายามตานทานการบีบรัดของ
เสนไหมสีแดง แตไมรูวาเสนไหมสีแดงเหลา นี้ทำมาจากสิ่ งใด มันเอาแตกะพริ บ
ลำแสงสีดำวิบวับไมหยุด แตไมอาจหนีออกไดเลยสักนิด
นักพรตชราเห็นเชนนั้น ใบหนาพลันเผยสีหนาเหี้ยมโหดออกมาขณะเดินไปยัง
ชายหนุมคิ้วขาว
ในตอนนั ้ น เองพลั นมี เ สี ย งกรี ด ร อ งแหลมๆ สองสามสายดั ง มาจากในเมื อ ง
ลำแสงหลีกหนีหลากสีสันสองสามสายพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา แลวพุงมาทางนี้
เมื่อเห็นฉากนี้ชายหนุมคิ้วขาวมีหรือจะไมรูวาคนของเผาเงามาถึงแลว ใบหนาตกตะลึง
ระคนหวาดผวาฉายแวบผ า นไป ปากก็ เ ปล ง เสี ย งร อ งคำรามดั ง สนั ่ น ออกมา
ลำแสงสีดำบนรางหมุนวนโคจรอยางสุดแรง รางกายขยายใหญขึ้น ในเวลาเดียวกัน
ป ก เหล็ ก สี ด ำสนิ ท คู  ห นึ ่ ง พลั นปรากฏขึ ้ น ที ่ แ ผ น หลั ง สองมื อพลิ ้ ว ไหวกลายเป น
กรงเล็บเหล็กเปลงแสงสีดำมะเมื่อม
เขาเห็นทาไมดีแลวจึงกลายรางเปนครึ่งปศาจในทันที ทาทางพรอมสูสุดชีวิต
สำหรับเผาปศาจแลว สิ่งที่พึ่งพาไดมากที่สุดก็คือรางกายที่แข็งแกรงของตนเอง
ในเมื่อเผา อิ นทรีท มิ ฬเป นหนึ ่ง ในเจ็ ด เผ าป ศาจผู ยิ ่ งใหญ แนนอนว าจึ ง ไม ป ล อย
ไปตามสบาย สะบัดกรงเล็บที่แหลมคม ฉับพลันนั้นลำแสงสีดำความยาวสองสามฉื่อ
พลันพุงออกมาจากปลายเล็บ ตะปบออกทั้งซายและขวา เคล็ดวิชาที่ลำแสงสีดำกรีด
ผานไป เสนไหมสีแดงรอบกายพลันแตกออกเปนเสี่ยงๆ
คาดไมถึงวาลำแสงสีดำเหลานี้จะแหลมคมเปนอยางมาก
ชายหนุมคิ้วขาวเห็นเชนนั้น แนนอนวาจึงรูสึกดีอกดีใจอยางบาคลั่ง
เขาเชื่อมั่นอยางเต็มเปยมวา ขอแคสับเสนไหมสีแดงรอบกายทั้งหมดออกได
ก็สามารถสำแดงเคล็ดวิชาจำเพาะของเผาอินทรีทมิฬหนีไปได แตไมรอใหกรงเล็บ
คูนั้นของเขาโบกสะบัดตอ ฉากตอมากลับทำใหเขาหนาเปลี่ยนสี จนซีดเผือด
เสนไหมสีแดงที่ถูกสับออกเหลานั้นทยอยกันเชื่อมตอกัน แลวกลับมาเปนดังเดิม
อีกครั้ง
นักพรตชราเผยรอยยิ้มเยาะเยยออกมา รางกายเลือนราง ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหนา
ชายหนุมคิ้วขาว จากนั้นเขาพลันใชมือหนึ่งลูบไปที่ทายทอย เงาสีแดงสดสายหนึ่ง
ปรากฏขึ้นอยางชาๆ
“เงาชาด เจาคือ คนของเผาเงาจริงๆ ดวย!” เมื่อเห็นเงาชาด ชายหนุมคิ้วขาว
พลันรูสึกสิ้นหวัง
เงาชาดคือ เผาเงาที่เทียบเทากับผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาในเผามนุษย
ปศาจผูบำเพ็ญเพียรแปลงกายตัวเล็กๆ ตนหนึ่งจะตานทานไดอยางไร
“เจารูแลวก็ดี กายเนื้อของเจาไมเลว ขาจะขอรับไว วางใจ สหายรวมทางของเจา
ไม ม ี ท างหนี ไ ปได แ ม แ ต ค นเดี ยวแน หลั ง จากนั ้ น ไม น านก็ จ ะตามเจ าลงนรกไป”
แววตาของนักพรตชราเปลงแสงสีแดง เปลงเสียงเล็กๆ บาดหูออกมา ทันใดนั้นเหนือ
ศีรษะก็มีเงาสีแดงเปลงแสงสวางวาบ กระโจนเขาหาชายหนุมอยางโหดเหี้ยม
ในเวลาเดียวกันเสนไหมสีแดงที่รัดชายหนุมคิ้วขาวอยูก็ทะลุผานเกราะปองกัน
ลำแสงสีดำของชายหนุม แลวรัดชายหนุมเอาไวอยางแนนหนา ถึงแมวาชายหนุม
จะมีพลังที่ไรขีดจำกัด ครานี้ก็ไมอาจขยับตัวได จึงทำไดเพียงมองเงาชาดกระโจนเขา
มาตาถลน
“เพอเจอ!”
จิตใจของชายหนุมคิ้วขาวหนักอึ้งไปจนตาตุม หลังจากรูวาไมมีทางหลบหลีกได
ชั่วขณะนั้นความบาคลั่งก็ทะลักออกมา ฉับพลันนั้นพลันกัดฟน กัดลิ้นออกไปครึ่งหนึ่ง
แลวอาปากออกพนไขมุกสีดำขนาดเทาหัวแมมือที่ยอมไปดวยโลหิตสีดำออกมา
แทบจะในเวลาเดียวกันที่ไขมุกเม็ดนี้ออกหางจากราง ดวงตาของชายหนุมก็ไรแสง
ผิวรอบกายซูบผอมหดเล็กลง ชั่วพริบตาก็กลายเปนชายชราผมขาวเต็มหัว
ไขมุกเม็ดนี้คือ แกนอสูรที่ชายหนุมคิ้วขาวฝกฝนอยางหนักมาหลายป
ไขมุกกลมๆ แผกลิ่นอายบาคลั่งออกมาขณะอยูทามกลางโลหิตสีดำ หลังจากหดตัว
เล็กลงและขยายตัวออกแลวก็ระเบิดออก
นักพรตชรามีสีหนาตะลึงงัน ไมเพียงเอาชาดเหนือศีรษะจะดีดตัวกลับไปราวกับ
พบงูพิษ ขยับขาทั้งสองรางกายพลิ้วไหวพุงกลับไป
เสียงอึกทึกดังสนั่นขึ้น ลำแสงสีดำขนาดเทากำปนกลุมหนึ่งปรากฏขึ้น หลังจาก
เปลงแสงสวางวาบ ก็ขยายอาณาเขตจนกวางถึงสิบจั้งเศษ แลวยังแผออกไปทั้งสี่ดา น
อยางสุดชีวิต ทันใดนั้นวายุโหมกระหน่ำก็ซัดเขามา ฝุนทรายสีเหลืองที่รวมตัวกันจน
เปนหมอกทรายพวยพุงขึ้นไปบนทองฟากลายเปนมังกรวายุสีเหลืองสองสามตัว
เงาลวงตาพลิ้วไหว รางของนักพรตชราหยุดอยูหางออกไปสิบจั้งเศษ สองตาหรี่ลง
เล็กนอย
ลำแสงสีกำไลตามมาติดๆ ราวกับชนักติดหลัง
นักพรตชรามีสีหนาเครงขรึม ปากก็เปลงเสียงรองประหลาดๆ ที่ยากจะเขาใจออกมา
เสียง “ฟว” ดังแหวกอากาศมา เงาสีแดงขนาดใหญสายหนึ่งดีดออกมาจากใน
บริเวณนั้นโดยไมมีเคาลางมากอน ชั่วครูก็พุงเขาไปในหมอกลำแสงสีดำ จากนั้นพลัน
เปลงแสงสวางวาบแลวหดเล็กลง
ฉากที่นาตกตะลึงปรากฏขึ้น!
มังกรวายุสีเหลืองสลายหายไป ลำแสงสีดำแลวชายหนุมคิ้วขาวหายไปจากที่เดิม
อยางไรรองรอย ราวกับวาไมเคยปรากฏตัวขึ้นมากอน
นักพรตชราถึงไดพนลมหายใจออกมา แตทันใดนั้นก็เผยสีหนาโกรธเกรี้ยวออกมา
ชายหนุมคิ้วขาวที่อยูภายใตเขตอาคม คาดไมถึงวาจะยังสามารถระเบิดแกนอสูร
ออกมาได ชางเหนือความคาดหมายของเขาจริงๆ
แตในตอนนั้นหลังจากที่ลำแสง หลีกหนีหมุนวนรอบหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ
เผยรางของผูบำเพ็ญเพียรชายหญิงแปดคนออกมา
“เกินความคาดหมาย พวกเขาไมติดกับ ดูแลวคงยุงยากหนอย ทวากลิ่นเงาของขา
ที่แผออกไป นาจะยอมไปบนรางของพวกเขา เพียงพอจะอยูไดหนึ่งชั่วยาม ขาจะพา
อสูรเซิ่นไปสังหารเจาผูที่ทำลายเรื่องดีๆ ของขาดวยตนเอง พวกเจาออกเดินทาง
สังหารที่เหลืออีกสามคนทิ้งซะ” นักพรตออกคำสั่งอยางจริงจัง
“ขอรับ ทานอาวุโส!” ผูบำเพ็ญเพียรแปดคนที่อยูกลางอากาศคอมตัวลง ทันใดนั้นก็
กลายเปนลำแสงหลีกหนีสามคลื่น พุงแหวกอากาศออกไปสามทาง
สวนนักพรตชรานั้นก็ไมไดรีบรอนบินออกไปในทันที แตอาปากออก เปลงเสียง
คำรามประหลาดๆ ออกมาไมหยุด สั่นสะเทือนบรรยากาศบริเวณรอบจนทะลุขึ้นไปใน
ชั้นเมฆ
ทันใดนั้นมือหนึ่งของเขาก็กวักไปทางประตูเมืองอีกครั้ง
ชั่วขณะนั้นผูบำเพ็ญเพียรระดับสรางปราณที่รักษาการณที่ประตูเมืองเหลานั้นพลัน
บินออกมาเปนเงาสีเทาสิบกวาสาย ลวนเปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปในราง
สวนผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นก็ลมลงกับพื้น
จากนั้นฉากที่นาเหลือเชื่อก็ปรากฏขึ้น
ลูกเด็กเล็กแดงและคนธรรมดาที่เลนหยอกลอกันที่บึงน้ำพลันสลายหายไปราวกับ
ฟองน้ำทามกลางเสียงคำราม จากนั้นเมืองทั้งเมืองก็สั่นคลอนราวกับเงาสะทอนในน้ำ
ไอสีดำจำนวนนับไมถวนพวยพุงขึ้นไป ไมวาพื้นดินหรือวากำแพงเมือง ชั่วพริบตาก็ถูก
หอหุมดวยไอสีดำ
เสียงกบรองบาดหูดังออกมาจากไอสีดำ
นักพรตชราหยุดสงเสียงคำรามประหลาดๆ สะบัดชุดคลุมยาวไปทางไอสีดำดวย
ใบหนาไรความรูสึก
พายุลูกใหญปรากฏขึ้น ชั่วพริบตาก็มวนไอสีดำเขาไปกลางอากาศ
เบื้องหนามีอสูรประหลาดสองเขาลำตัวยาวสิบจั้งเศษปรากฏขึ้น หัวอสรพิษ
สีทองเงินสองหัว ตัวกบสีเขียวมรกต ลูกตาสีแดงโลหิตสี่ดวงกลอกไปมา ใหความรูสึก
ที่นาขนพองสยองเกลา
เสียง “ฟู” ดังขึ้น หัวอสรพิษสีทองอาปากออก พนโครงกระดูกโครงหนึ่งออกมา
จากดานใน
ชายหนุมคิ้วขาวที่เพิ่งระเบิดแกนอสูรออกมาเมื่อครู คาดไมถึงวาจะถูกอสูรตนนี้
กลืนลงไป
เมื อ งเล็ ก ๆ และผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย ร คนธรรมดาในเมื อ งล ว นเป น ภาพลวงตาที่
อสูรประหลาดสรางขึ้น
นักพรตชรารางกายพลิ้วไหว ชั่วพริบตาก็สลายหายไป แตครูตอมา ก็ปรากฏขึ้น
บนหัวอสรพิษหัวหนึ่ง
“ไป” นักพรตชราออกคำสั่งดวยความเย็นชา
อสูรยักษสองหัวเปลงเสียงรองของกบออกมาพรอมกัน สองเทากระโจนขึ้นไป
กลางอากาศ กลายเปนไอสีดำกลุมหนึ่ง เปลงแสงสวางวาบแลวพุงแหวกอากาศไป
ทิศทางที่เขาไลตามไปนั่นก็คือ จุดที่หานลี่หนีไป
……
สายรุงสีแดงสายหนึ่งพุงออกไปกลางอากาศ ทามกลางลำแสงสีแดง สตรีผูงดงาม
คนหนึ่งกำลังขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีไปดวยสีหนาเครงขรึมดุจสายธาร
ฉับพลันนั้ นสตรี พลั นหน าเปลี่ ย นสี สะบัดแขนเสื้ อ ชั่วขณะนั้ นในมื อพลั นมี
แผนหยกสีเขียวปรากฏขึ้น บนแผนหยักสลักไขมุกกลมๆ สีขาวนวลเอาไว แตตอนนี้
กลับแตกออกเปนเสี่ยงๆ ทาทางเหมือนถูกทำลาย
สตรีสูดลมหายใจเขา ไปลึ กๆ เฮือกหนึ่ ง นิ้วเรียวยาวนิ ้ว หนึ ่ งดีด ไปบนไข มุ ก
ชั่วขณะนั้นหลังจากเสียง “ปง” ดังขึ้น ไขมุกเม็ดนี้ก็กลายเปนผงสีขาวกลุมหนึ่ ง
แลวหายวับไป ทันใดนั้นนางพลันเก็บแผนหยก แผลำแสงสีแดงออกมาทั่วเรือนราง
ความเร็วเพิ่มขึ้นสามสวน
แตหลังจากผานไปครึ่งชั่วยาม นางก็หนาเปลี่ยนสี ฉับพลันนั้นพลันหันหนาไปทาง
ด า นหลั ง เห็ น เพี ย งตรงขอบฟ า ด า นหลั ง มี ล ำแสงวิ ญ ญาณเปล ง แสงสว า งวาบ
เผยใหเห็นลำแสงหลีกหนีที่พุงไลตามกันมาติดๆ
ทั้งสองรวมกันเปนหนึง่ ความเร็วของมันมากกวาสตรีผูนี้กวาครึ่ง
ฮูหยินมีสีหนาเครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใส ดานหลังยิ่งใกลเขามาเรื่อยๆ แววตาเปลง
ประกายเย็นชา คาดไมถึงวาจะหยุดลำแสงหลีกหนีลง แลวลอยตัวอยูกลางอากาศ
ที่เดิม
เชนนั้นหลังจากที่ลำแสงหลีกหนีสองสามดานหลังเปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง
ก็มาปรากฏตัวอยูหางจากสตรีไปยี่สิบสามสิบจั้ง ลำแสงเปลงประกาย กลับเผยราง
ของบุรุษและสตรีออกมา
ทั้งสองคนอายุไมมากนัก บุรุษรูปรางหลอเหลาสูงสงา หญิงสาวมีหนาตางดงาม
ดุจบุปผา และยิ่งไปกวานั้นใบหนาก็ละมายคลายคลึงกัน แตทั้งสองตางมีสีหนา
แข็งทื่อ
ในเมื่อรูวาอีกฝายคือหุนเชิดที่ถูกเผาเงาสิงราง สตรีก็ไมสนใจหนาตาของทั้งสอง
เลยสักนิด แคกวาดมองไปแวบหนึ่งดวยความเย็นชา สองมือพลันรายอาคมอยาง
ไม ล ั ง เล ฉั บ พลั น นั ้ น เปลวเพลิ ง สี ด ำสองกลุ  ม พลั น พุ  ง ออกมาจากแขนเสื้ อ
หลั ง จากเปลี่ ย นรู ป ร า งเล็ ก น อ ย กลายเป น วิ ห คเพลิ ง สองตั ว พุ  ง กระโจนไปหา
ทั้งสองคนที่อยูตรงขาม
บุรุษและสตรีที่อยูตรงขามเห็นเชนกัน ก็แคนเสียงอยางเย็นชาขึ้นจมูกออกมา
ไหลทั้งสองสั่นไหว ชั่วขณะนั้นตรงแผนหลังพลันมีลำแสงสีเทาสองสามสายพุงออกมา
กระโจนเขาไปหาเปลวเพลิงสีดำอยางไมยอมแสดงทาทีออนแอ
เสียงอึกทึกดังขึ้น ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเทาและเปลวเพลิงสีดำพลันตัดสลับกัน
สตรีเลิกคิ้วดำขลับ รางกายพุงไปลงบนพื้นดิน ชั่วขณะนั้นพลันแผลำแสงสีดำ
ออกมาจากรางกาย มันเจิดจาจนแสบตา ทำใหไมอาจสบสายตาได
จากนั้นเสียงวิหครองพลันดังขึ้น วิหคเพลิงขนาดยักษพุงออกมาจากลำแสงสีดำ
หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง ปกทั้งสองก็สยายออกกระโจนไปหาทั้งสองที่อยูตรงขาม
วิหคนี้มีลำตัวสีดำเปนมันวาว บนหัวมีรัดเกลาสีน้ำตาล ดวงตาทั้งสองเปนสีเขียวมรกต
เผยรางหงสสีดำความยาวสามสี่จั้งออกมา
บุรุษและสตรีที่อยูตรงขามเห็นเชนนั้นพลันมีสีหนาตกตะลึง แตหลังจากมอง
สบตากันแวบหนึ่งแลว พลันลูบไปที่เหนือศีรษะ ชั่วขณะนั้นเงาสีเขียวสองสายก็
พุงออกมา กระโจนเขาหาหงสสีดำ
ครานี้ไอวิญญาณเปลงแสงเจิดจา เสียงรองดังระงมไมหยุด
แทบจะในเวลาเดียวกัน อีกแหงหนึ่ง หลงตงถูกผูบำเพ็ญเพียรสองคนไลตามมาเชนกัน
เมื่อเผชิญหนากับผูที่สลัดกายเนื้อไปแลว จึงเผยเงารางสีเขียวสองสายออกมา
เขากลับเผยสีหนายิ้มเยาะออกมา ลำแสงสีเหลืองเปลงแสงสวางวาบ เกราะสัมฤทธิ์
สีเหลืองที่เคยใชมาแลวครั้งหนึ่งปรากฏขึ้น ทันใดนั้นแผนหลังก็มีปกสัมฤทธิ์ขนาด
สองสามจั้งสวางวาบ สองมือถูเขาดวยกัน กระบี่ยาวประหลาดสีแดงสดดุจโลหิต
ปรากฏขึ้นในมือของเขา
กระบี่ยาวสามฉื่อ ตัวเปนมังกรรางเปนหงส เรือนกายมีลำแสงโลหิตไหลเวียน
คาดไมถึงวาจะเหมือนกับกอตัวขึ้นมาจากโลหิตสดๆ
ครานี้ไฝโลหิตตรงมุมปากของหลงตงนั้นแดงสด สีหนาเครงขรึม กระบี่ยาวโบก
สะบัดไปทางเงาสีเขียวสองสายที่กระโจนเขามาเบาๆ
เงียบเชียบไรสุมเสียง!
แตเงาสีเขียวที่อยูตรงขามกลับเปลงเสียงรองคร่ำครวญออกมา ผิวมีเสนไหมสีขาว
จำนวนนับไมถวนปรากฏขึ้น ลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบ เงาสีเขียวสองสาย
แตกออกในชั่วพริบตา
ชายหนุมไฝโลหิตโบกสะบัดกระบี่ยาวในมืออีกครั้ง
เสนไหมสีขาวเปลงแสงสวางวาบอีกครั้ง เจาพวกที่แตกออกทามกลางเสนไหม
ลำแสงสลายหายไปอยางไรรองรอย
ตอนที่ 1370 การตอสูในทะเลทรายที่ดุเดือด
หลงตงที่สังหารเงาสีเขียวสองตัวไปไดอยางดูไมคอยเปลืองแรงนั้น สะบัดกระบี่โลหิต
ในมือเงียบๆ ชั่วขณะนั้นกระบี่เลมนั้นพลันละลายกลายเปนโลหิตบริสุทธิ์สีแดงเขม
ในชั่วพริบตา ยอมฝามือที่กุมกระบี่เอาไวแลวหายวับไป
เขาพนลมหายใจออกมายาวๆ เฮือกหนึ่ง ใบหนาแดงระเรื่อ แตทันใดนั้นก็ซีดขาว
อยางหาที่เปรียบ ราวกับวาสูญเสียโลหิตไปจำนวนมาก
หยิบขวดสีแดงสดออกมาจากกำไลเก็บของอยางรวดเร็ว หลังจากเทยาลูกกลอนสีแดง
เข ม เม็ ด หนึ ่ ง ออกมาแล ว กิ น ลงไปแล ว หล ง ตงก็ ไ ม ก ล า รั ้ ง รออยู  ท ี ่ น ี ่ น านนั ก
ควบคุมลำแสงหลีกหนีพุงแหวกอากาศออกไปในทันที
อีกดานของทะเลทราย หญิงสาวชุดขาวยืนนิ่งอยูบนเนินทราย รอบๆ หางออกไป
สองสามจั้ง มีซากศพที่เย็นเยียบนอนอยูสี่ราง
บนซากศพเหลานี้ไมมีบาดแผลเลยสักนิด กลับนอนนิ่งอยูตรงนั้น ลวนไรซึ่งพลังชีวิต
หญิงสาวใชมือหนึ่งลูบไปบนขวดหยกสีขาวนวล ใบหนาเผยรอยยิ้มหวาน หยด
ยอยออกมา ฉับพลันนั้นรางกายพลันเคลื่อนไหว กลายเปนลำแสงสีทองสายหนึ่งพุง
ขึ้นไปกลางอากาศ หลังจากเปลงแสงสวางวาบ ก็หายจากที่เดิมอยางไรรองรอย
หางออกไปแสนลี้ ฉับพลันนั้นประจุไฟฟาสีเขียวขาวสายหนึ่งพลันกะพริบวาบ
พุงออกมาจากกลางอากาศอยางรวดเร็ว ดานหลังเขาหางออกไปสองสามลี้ ไอสีดำ
กลุมหนึ่งลอยตามมา ดูเหมือนเชื่ องชา แตหลังจากที่ส ำแดงความสามารถอะไร
สักอยางก็ไลตามเขามาติดๆ ได ไมมีทาทีจะถูกสลัดทิ้งไดเลยสักนิด
ทั้งสองที่อยูดานหนาหนึ่งและดานหลังหนึ่งพุงออกไปเปนระยะสองสามรอยลี้ได
ภายในพริ บ ตา ฉั บ พลั นนั ้ นไอสี ด ำด า นหลั ง ก็ ส ั ่ น คลอน ฉั บ พลั น นั ้ น ก็ ห ายวั บ ไป
จากดานหลัง ครูตอมาไอสีดำก็เปลงแสงสวางวาบกลางอากาศหางออกไปสองสามลี้
แลวไลตามไปติดๆ
ทันใดนั้นประจุไฟฟาสีเขียวขาวดานหนาก็ดีดออกไปเชนกัน กลายเปนเสนไหม
สีขาวสายหนึ่งพุงออกไปสองสามลี้ แลวดึงระยะหางออกไปอีกครั้ง
ทั้งสองไลตามกันเชนนี้ไปอยางไมลดละ
ในประจุไฟฟาสีเขียวขาว มีเงารางคนติดปกกะพริบวาบอยูรางๆ นั่นก็คือ หานลี่
เขาในครานี้กำลังขมวดคิ้วมุน แววตาเครงขรึมมาก
กอนหนานี้ไมนาน หลังจากที่เขาพบวาไอสีดำของนักพรตชราไลตามมา ทันใดนั้น
กระตุนพลังของปกวายุอสนีและวิชาเกาวายุแปรปรวนจนถึงขีดสุด
แตไมรูวาไอสีดำกลุมนั ้นคือสิ ่งใด ไมเพียงจะรวดเร็ว และยิ่งไปกวานั้นยั ง มี
ความสามารถเคลื่อนยายในชั่วพริบตาเชนกัน
ทั้งสองไลตามกันมาไกลขนาดนี้ คาดไมถึงวาจะยังไมอาจดึงระยะหางออกมาได
เลยสักนิด
ถึงแมวาทะเลทรายจะยิ่งใหญ แตก็มีเผาประหลาดเคลื่อนไหวอยูบอยๆ ภายใต
การไลตามเชนนี้ หากไปรบกวนเผาประหลาดเผาอื่นเขา คงจะยุงยากเขาไปใหญ
สวนการใชเงาโลหิตหลีกหนีที่ตองสูญเสียปราณแทไปจำนวนมากนัก กอนหนานี้
เขาไดใชไปแลวครึ่งหนึ่ง หากไมถึงตาจน เขาก็ไมยอมสำแดงออกมางายๆ ถึงอยางไร
เสี ย ทะเลทรายผื น นี ้ ก ็ ม ี อ ั น ตรายอยู  ร อบด า น หลั ง จากนี ้ เ ข า ยั ง ต อ งเข า ไปใน
เสนทางสวรรคอีก จึงไมยอมเสียปราณแทของตัวเองมากเกินไปแน
ดูแลวมีเพียงตองสูรบกับคนของเผาเงาที่อยูดานหลังดูสักตั้งแลว
อีกฝายสิงอยูในรางของผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาขั้นกลางได นั่นหมายความวา
อี ก ฝ า ยมี ต ำแหน ง ไม น อยในเผ า เงา กว า ครึ ่ ง คงเป น เงาชาดที ่ ท ั ด เที ย มกั บระดับ
หลอมสุญตา
ระดับสูงขนาดนี้ ถาหากเปนเผาประหลาดคนอื่น หานลี่ก็อาจจะกลัว แตหากเปน
เผาเงา เขาซึ่งเชี่ยวชาญในเคล็ดวิชาที่สามารถกักเผานี้ได จึงมั่นใจในการตอสูครั้ งนี้
อยูบาง และยิ่งไปกวา นั้ นหลั ง จากที ่ เ ขาเขา มาในเมื องเทวะสวรรค สมบัติต า งๆ
และเคล็ดวิชาที่ฝกฝนขึ้นใหมนั้น ก็ยังไมเผยสำแดงออกมาใหใครเห็น มันก็อานุภาพ
ขนาดไหนนั้นตนเองก็ยังไมแนใจ รูเพียงวาอานุภาพนาจะยิ่งใหญมาก นำมาทดสอบ
กับเงาชาดก็นาจะดี
ความคิดเคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว หลังจากที่หานลี่สำแดงการเคลื่อนยายอีกครั้ง
ปกที่แผนหลังพลันกระพือ คนหยุดอยูที่เดิม
เชนนั้นไอสีดำกลุมนี้ไลตามหานลี่มาอยูหางออกไปรอยกวาจั้งภายในพริ บตา
ดูแลวนาจะไมมีเจตนาจะหยุดพัก คิดจะกระโจนเขามาทันที
นั่นก็ไมแปลกเลยสักนิด!
สิ่งที่เผาเงาเชี่ยวชาญมากที่สุดก็คือ การกลืนกินจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของผู  อื่น
และควบคุมกายเนื้อของเผาอื่น ในเวลาเดียวกันก็เอาพลังของกายเนื้อมาไดครึ่งหนึ่ง
ดวย
แตหานลี่จะปลอยใหอีกฝายเขาประชิดตัวไดอยางไร ทันใดนั้นก็ไมพูดไมจา
ถูมือทั้งสองเขาดวยกัน แลวชูขึ้น เสียง “เปรี้ยงๆ” ดังอสนีฟาฟาดดังขึ้น ประจุไฟฟา
สีทองขนาดความหนาเทา ปากชามสายหนึ่งระเบิดออกมาระหวางฝามือ สับลงมาที่
ไอสีดำอยางไมตั้งตัว
เสียงรองอุทานดังขึ้น ไอสีดำเปลงแสงสวางวาบ จมหายเขาไปกลางอากาศ
หานลี ่ แ ค นเสี ย งด ว ยความเย็ น ชา หว า งคิ ้ ว มี ร อยโลหิ ต สายหนึ ่ ง ปรากฏขึ้ น
เนตรทำลายลางปรากฏขึ้นในทันใด และเสนไหมสีดำสายหนึ่งที่พุงออกมา ก็
เปลงแสงสวางวาบแลวหายไปเชนกัน
หลังจากที่เสียงระเบิดอันเสียดแกวหูดังขึ้น กลางอากาศหางออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง
พลันมีเสียงปริแตกดังออกมา นักพรตชราที่อยูทามกลางไอสีดำ รางกายพลิ้วไหวและ
ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ปากรองตะโกนต่ำๆ ออกมาดวยความประหลาดใจ
“เนตรทำลายลาง คาดไมถึงวาเจาจะฝกฝนความสามารถชนิดนี้ดวย!”
หานลี ่ ห ยั ก มุ ม ปากไม ไ ด เ อ ย อะไรออกมา แต ก ลั บ ร า ยอาคมอย า งเงี ย บๆ
ประจุ ไ ฟฟ า สี ท องบิ ด พลิ ้ ว ปรากฏขึ ้ น ด า นหลั ง นั ก พรตชราอย า งคาดไม ถึ ง
เปลงแสงสวางวาบแลวสับลงมาอยางรุนแรง
นักพรตชรารองวาแยแลว ตอนที่คิดจะหลบหลีกในทันใดนั้น หานลี่ที่อยู  ไกล
ออกไปกลับมีลำแสงสีฟาสวางวาบที่ดวงตา พลันสบถปากออกมา
เสี ย งไม ด ั ง นั ก แต เ มื ่ อ กระทบโสตประสาทหู ก ลั บ เหมื อ นกั บ ตี ร ะฆั ง ยั ก ษ
นักพรตชรารูสึกเพียงวาสองหูอื้ออึง ชั่วขณะนั้นในหัวพลันเกิดความเจ็บปวดจาก
การถูกฉีกทึ้ง รางกายอดที่จะหยุดชะงักไมได
หลังจากเสียงฟาผาดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองก็โจมตีไปบนไอสีดำ ลำแสงสีทองบางๆ
จำนวนนั บ ไม ถ  ว นดี ด ตั ว สลั บ กั น ไอสี ด ำพวยพุ  ง ขึ ้ น มา แทบจะในเวลาเดี ย วกั น
เสียงกบรองดังสนั่นที่เต็มไปดวยความเจ็บปวดพลันสงออกมาจากไอสีดำ
ไอสีดำหมุนวนอยางรวดเร็ว ชั่วครูก็รวมตัวกันอยูที่ใตฝาเทาของนักพรตชรา
สร า งภาพลวงตาเป นรู ป ร า งกบที ่ ม ี ห ั ว เป น อสรพิ ษ สองเขาประหลาดๆ ออกมา
ดวงตาสีแดงสดสี่ขางจองเขม็งมายังหานลี่ เต็มไปดวยสีหนาโกรธเกรี้ยว
หานลี่เห็นฉากนี้ก็อดที่จะตกตะลึงไมได
ไอสีดำที่ปกปองรางกายของอีกฝายอยู คาดไมถึงวาจะสรางขึ้นจาก อสูร
ประหลาดตัวนี้ ชางอยูนอกเหนือความคาดหมายจริงๆ
“เยี่ยม เยี่ยมมาก! ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงคนหนึ่งสามารถเขยาจิตสัมผัสของ
ขาได ความสามารถเมื่อครูของเจานาสนใจจริงๆ ไหนลองสำแดงออกมาอีกครั้งซิ!”
นักพรตชราตานการโจมตีอสนีได ชั่วพริบตาที่รางกายกลับมามั่นคงอีกครั้ง ก็จองเขม็ง
ไปยังหานลี่ดวยความเครงขรึม
หานลี่ขมวดคิ้ว ดูแลวการโจมตีดวยอสนีเมื่อครูคงถูกอสูรประหลาดใตฝาเทา
ของเขารับเอาไว มิเชนนั้นจากพลังอสนีที่มีผลตอเผาเงา ตานทานการโจมตีของ
อสนีหลีกหนีจำนวนมากขนาดนี้ ก็ไมมีทางไมเปนอันตรายใดๆ ได
สวนการโจมตีดวยการทิ่มแทงจิตสัมผัสอีกครั้ง เขานั้นไมมีทางโงเขลาทำลงไปแน
การโจมตีชนิดนี้มีผลแคตอนที่โจมตีโดยไมทันตั้งตัวเทานั้น มิเชนนั้นจากจิตสัมผัสที่
แข็งแกรงกวาตนเอง ก็คงไมอาจมีผลอะไรได
หานลี่เองก็ไมไดพูดพร่ำทำเพลง ยกมือหนึ่งขึ้น เผยฝามือสีดำสนิทราวกับน้ำหมึก
ออกมา กดไปกลางอากาศทางนักพรต
ชั่วขณะนั้นเหนือศีรษะของนักพรตชราพลันมีคลื่นพายุปรากฏขึ้น ภูเขานอยๆ
สีดำปรากฏขึ้น
ภูเขาลูกนี้แคหมุนติ้วๆ ชั่วพริบตาก็ขยายใหญขึ้นรอยจั้ง ยอดเขาและตีนเขา
เปลงลำแสงสีเทาออกมา วงแหวนสีเทาเปนชั้นๆ พุงลงมาดานลางอยางรวดเร็ว
นักพรตมีสีหนาโหดเหี้ยม โบกสะบัดแขนเสื้อไปกลางอากาศ เผยมีดความยาวครึ่ง
ฉื่อที่โปรงแสงออกมา
มีดเลมนี้แคโบกสะบัดไปกลางอากาศ มีดลำแสงแวววาวสายหนึ่งก็เปลงแสงสวางวาบ
แลวสับออกมา
เสียง “สวบ” ดังขึ้น ไมรูวามีดเลมเล็กคือสิ่งใด เมื่อมีดลำแสงและวงแหวนสีเทา
สัมผัสกัน ลำแสงสีเทาก็ถูกโจมตีจนกระจายออก สับลงมาที่ตีนเขายักษอยางแรง
เสียง “เครง” ราวกับเสียงระฆังดังสนั่นขึ้น
ยอดเขาไมขยับเขยื้อน มีดลำแสงกลับเปลงแสงสวางวาบแลวหายไป
นักพรตหนาเปลี่ยนสี ยังไมทันไดทำอยางอื่น หานลี่ก็ใชมือที่ขาวบริสุทธิ์ดุจหยก
ยื่นออกไปเชนกัน กางนิ้วทั้งหาออก ปรากฏหัวกะโหลกหาหัวออกมา
ชั ่ ว ขณะนั ้ น รอบด า นของนั ก พรตชราก็ ม ี ห ั ว กะโหลกยั ก ษ ห  า หั ว ปรากฏขึ้ น
อาปากออกพรอมกัน พนเปลวเพลิงเย็นเยียบหากลุม ชั่วครูก็รวมตัวกันกลายเปน
เปลวเพลิงหาสี หอหุมรางของนักพรตชราไปในชั่วพริบตา
เดิมทีนักพรตชรายังคงฉีกยิ้มเย็นชา แตในเวลาเดียวกันที่เปลวเพลิงลำแสงห า สี
มาประชิดตัว ก็หนาเปลี่ยนสี ขางหายมีลำแสงสีแดงระเบิดออกไปหมื่นจั้ง กระบี่
ลำแสงสีแดงสดจำนวนนับไมถวนสับออกมาจากรอบดาน ชั่วพริบตาก็กลายเปน
ดอกบัวยักษสีแดงดอกหนึ่ง
ฉากที่นาตกตะลึงพลันปรากฏขึ้น
ดอกบัวหมุนติ้วๆ เปลวเพลิงหาสีทยอยกันถูกมวนเขาไป ไมอาจออกหางไดเลยสักนิด
หานลี ่ เ ห็ น เช น นั ้ น พลั น มี ส ี ห น า เคร ง ขรึ ม สองมื อ พลั น ร า ยอาคม ชั ่ ว ขณะนั้ น
หัวกะโหลกทั้งหาก็เปลงเสียงรองคำรามออกมา ฉับพลันนั้นรางกายก็ขยายใหญขึ้น
หลายเทา กระโจนเขาไปหาดอกบัวสีแดง
เสียงกรีดรองแหลมสูงดัง “วี๊ดๆ” ดังขึ้น หัวกะโหลกหาหัวกระโจนไปที่ดานขาง
ดอกบั ว สี แ ดง มี ด ลำแสงที ่ เ ปล ง ประกายห า สายพุ  ง ออกมาจากกลางดอกบั ว
หลังจากเปลงแสงสวางวาบ ก็สับหัวกะโหลกทั้งหาออกเปนสองสวนดวยความรวดเร็ว
ดุจสายฟา ทุกแหงที่ลำแสงสีแดงกวาดผานไป เปลวเพลิงหาสีก็จะแตกสลายออก
เงารางของนักพรตชราปรากฏขึ้นอีกครั้งดวยสีหนาราบเรียบ
เสียงรองคร่ำครวญดังขึ้น หัวกะโหลกทั้งหาผนึกตัวรวมกันอีกครั้ง แตปากก็ยังคง
เปลงเสียงรองครวญออกมาไมหยุด ดูเหมือนวาจะหวาดกลัวนักพรตชราเปนอยางมาก
หานลี่พนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง มือหนึ่งชี้ไปที่ภูเขายักษที่อยูไกลออกไปอีกครั้ง
ภูเขายักษสั่นเทาแลวลดระดับลงมา
เมื่อถูกสิ่งของมหึมาทับลงมาเชนนี้ นักพรตชรากลับหนาไมเปลี่ยนสี แคใชปลายเทา
แตะที่อสูรยักษใตราง
หั ว อสรพิ ษ ทั ้ ง สองของอสู ร ยั ก ษ อ า ปากออกพร อ มกั น พ น เงาสี แ ดงหนาๆ
สองสายออกมา โจมตีไปยังฐานของภูเขายักษอยางรุนแรง เสียงปริแตกดังสนั่นขึ้น
ภูเขายักษพลิ้วไหว คาดไมถึงวาจะถูกเงาสีแดงโจมตีจนกระเด็นลอยออกไป
เมื่อเห็นฉากนี้ รูมานตาของหานลี่พลันหดเล็กลง ในที่สุดสีหนาก็เปลี่ยนเปนดูไมได
สิ่งที่เรียกวาเงาสีแดงคือแกนอสรพิษที่พนออกมาจากปากของอสรพิษทั้งสอง
คาดไมถึงวาจะพลังมหาศาลเชนนี้ โจมตีลำแสงเทวะดูดปราณที่กลายเปนยอดเขา
จนกระเด็นไป
หานลี่ตะปบมือทั้งสองลงดวยสีหนาเครงขรึม ภูเขานอยสีดำและหัวกะโหลก
ทั้งหาพลิ้วไหว แลวหายวับไป
ฝ า มื อ ทั ้ ง สองแยกสี ด ำขาวอย า งชั ด เจน ชั ่ ว พริ บ ตาผิ ว ก็ ฟ   น ฟู ก ลั บ มาปกติ
ไมมีความผิดปกติใดๆ
“หึๆ เด็กนอยเอย เจามีสมบัติไมนอยจริงๆ แตจากลมปราณเพียงเล็กนอยของ
เจาตอกรกับขา ก็เปนเรื่องที่โงเขลา ดูแลวเจาก็ไมไดมีอะไรนัก เรียกรางของเจา
ออกมาเถิด” นักพรตชราดูเหมือนวาจะทนไมไหว ไมสนใจการกระทำอื่นของเขา
แตหัวอสรพิษทั้งสองของอสูรยักษที่อยูใตฝาเทาพลันเปลงเสียงรองแหลมๆ ออกมา
คลื่นไรรูปรางแผออกไปทั้งสี่ทิศ ชั่วพริบตาก็แผออกไปเปนระยะสองสามลี้
ลำแสงวิญญาณหลากสีสันเชื่อมตอกันในบริเวณรอบ จากนั้นอสูรประหลาดขนาด
น อยใหญ ไ ม เ ท า กั น จำนวนนั บ ไม ถ  ว นปรากฏตั ว ขึ ้ น กลางอากาศราวกั บ ฟองสบู
ตัวใหญก็มีขนาดเทาภูเขายอมๆ ตัวเล็กหนอยก็มีขนาดสองสามจั้ง หนาตาโหดเหี้ยม
กลิ่นคาวเลือดตลบอบอวล ชั่วครูก็หอหุมรางกายของหานลี่เอาไว และจองเขม็งมา
ดวยแววตาอาฆาต
ตอนที่ 1371 อานุภาพแมลง
“เคล็ดวิชาลวงตา?” หานลี่เห็นฉากนี้พลันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็สะบัดแขนเสื้อ
ทั้งสอง ชั่วขณะนั้นกระบี่เลมเล็กสีทองยี่สิบสามสิบเลมพลันบินออกมาราวกับมัจฉาที่
แหวกวายในสายธาร พลิ้วไหวเล็กนอยแลวทยอยกันกลายเปนกระบี่สีทองความยาว
สองสามฉือ่
เขาร า ยอาคมกระตุ  นกระบี ่ อยู  ใ นใจ กระบี ่ บ ิ น ทุ ก เล ม รางเลื อนไปเล็ ก น อ ย
แบ ง ตั ว ออกเป นกระบี ่ลำแสงสองสามสายที ่ เหมือนกั น ทุก ระเบี ยบนิ ้ว จากนั้นก็
ทยอยกันหมุนวนเริงระบำ
ครานี้ลำแสงสีทองปกคลุมเต็มทองฟา ไอกระบี่ตัดสลับกัน อสูรประหลาดที่อยูใน
ระยะยี่สิบสามสิบจั้งลวนถูกสับออกเปนชิ้นๆ
ซากโลหิตอสูร เสียงคำรามของอสูร ปรากฏขึ้นทั้งซายและขวาของหานลี่
แตหานลี่กลับขมวดคิ้วเพียงเล็กนอย!
ไมวารสสัมผัสที่กระบี่บินสับลงไป หรือวาทุกอยางที่ตัวเองเห็น ลวนเสมือนจริง
อสูรประหลาดเหลานี้ไมเหมือนกับภาพลวงตาเลยสักนิด ทำใหผูคนไมอาจแยกแยะได
วาจอมปลอมอยางไร
เขารูสึกตกตะลึงระคนสงสัยอยูหลายสวน ใบหนาไรซึ่งความรูสึก กระบี่บิน
ทั้งหมดที่กลายเปนกระบี่ลำแสงไมหยุดเลยแมแตนอย ปกปองรางของเขาเอาไวอยาง
แนนหนา
นักพรตชราที่ยืนอยูบนตัวอสูรเซิ่นหางออกไปเห็นเชนนี้ ใบหนาพลันเผยรอยยิ้ม
แปลกประหลาดออกมา
อสูรที่ปรากฏขึ้นรอบดานดูเหมือนจะมีอยางไมสิ้นสุด และกระบี่ลำแสงของหานลี่
ก็แหลมคมอยางหาที่เปรียบ ชั่วพริบตาก็สับอสูรประหลาดไปไดสองสามรอยตัว
ทวาซากอสูรที่จบชีวิตไปเหลานี้ กลับทยอยกันลอยขึ้นกลางอากาศ และไมยอมตกลง
มา เชนนั้นกลอื่นคาวเลือดจึงยิ่งคละคลุงขึ้นเรื่อยๆ แสบจมูกเปนอยางมาก
ชั่วครูเมื่อหานลี่พบความผิดปกติ อสูรเซิ่นใตเทาของนักพรตชรากลับเปลงเสียง
รองออกมา ชั่วพริบตาซากอสูรทั้งหมดพลันกลายเปนหมอกหนาๆ สีดำหมุนวนพุงมา
หาหานลี่
กระบี่ลำแสงสองสามรอยสายเริงระบำไปทั้งสี่ดาน บางครั้งก็แหวกหมอกสีดำออก
แตกลับมีหมอกสีดำพันรัดเอาไว กระบี่บินทั้งหมดชะงักคาง
แทบจะในเวลาเดียวกัน รางขนาดใหญของอสูรเซิ่นพลันพลิ้วไหว กลายเปนไอสีดำ
สายหนึ่งพุงออกไป จมหายเขาไปในหมอกสีดำแลวอำพรางกายไป
ครูตอมาเงาสีแดงยาวๆ สองสามดีดออกมาจากหมอกสีดำโดยไมมีสัญญาณมากอน
หลังจากเปลงแสงสวางวาบ ก็มาปรากฏเบื้องหนาของหานลี่ สายหนึ่งพุงไปหาศีรษะ
ของหานลี่ เสนหนึ่งทะลวงไปทางทรวงอก การเคลื่อนไหวรวดเร็วดุจสายฟา
หากไมใชเพราะหานลี่โคจรพลังยุทธอยูทั่วราง ดวงตาสองขางเปลงแสงสีฟา
ใชความสามารถของเนตรวิญ ญาณวารี กระจา ง อาศัยเพียงจิตสัมผัสก็ ไม อาจจั บ
การโจมตีที่รวดเร็วเชนนี้ไดจริงๆ
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม ไมตองใชสมบัติใดๆ ลำแสงสีทองพลันฉายวาบบนใบหนา
สองมือดูเหมือนชาแตตะปบออกไปอยางรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกันสองมือพลันเปลี่ยนเปนสีทองเรืองรอง ราวกับสรางขึ้นจากทองคำ
อยางไรอยางนั้น
เสียง “ปงๆ” ดังขึ้น มือสีทองสองขางตะปบลิ้นสีแดงสดที่มีกอนเนื้ออยูตรงปลาย
เอาไว พลังมหาศาลกลุมหนึ่งถูกสงมายังทอนแขน
แตหัวไหลของหานลี่แคสั่นไหว ดูเหมือนไมมีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อเห็นฉากนี้ นักพรตชราพลันตะลึงงัน แววตาฉายแววตื่นตะลึง
ตองเขาใจวาอสูรเซิ่นตัวนี้ไมเพียงจะเชี่ยวชาญในการสรางภาพลวงตา เปนผูที่มี
ชื่อเสียงวามีพลังมหาศาลในเผาเงา ยอดเขารอยจั้งที่ถู กลิ้ นทั้ งสองดีด ไปเมื ่ อครู
ก็แสดงใหเห็นถึงพลังมหาศาลของมันแลว
ชายหนุมเผามนุษยที่อยูเบื้องหนาดูแลวไมสะดุดตาเลยสักนิด คาดไมถึงวาจะใช
แคสองมือจับลิ้นคูของอสูรเซิ่นเอาไว แลวยังมีทาทีสบายๆ ชางนาเหลือเชื่อจริงๆ
ทวานักพรตชรากลับไมไดกังวลใจอะไร อสูรเซิ่นไมไดมีแคพละกำลังมหาศาล
ลิ้นทั้งสองตกลงในมือของหานลี่ดังคาด หลังจากที่ไมไดเคลื่อนไหวเลยสัก นิด
ลำแสงสีขาวพลันสวางวาบ ชั่วครูก็สรางภาพลวงตาเปนงูเหลือมยักษสีแดงสดสองตัว
อาปากออกอยางดุดัน ฉับพลันนั้นพลันกระโจนเขามากัดศีรษะของหานลี่
หานลี่แครูสึกวานิ้วทั้งสิบสั่นเทา จุดที่ตะปบลงไปเปลี่ยนเปนเย็นเยียบและเรียบลื่น
อยางหาที่เปรียบ คาดไมถึงวางูเหลือมตัวนี้จะมีทาทีดิ้นรนขัดขืน
ลำแสงสี ฟ  า ในแววตาฉายวาบ สองมื อสี ท องของหานลี ่ พ ลิ ้ ว ไหว กลายเป น
สีดำขาวสองสี จากนั้นฝามือยักษสีดำสนิทพลันมีเงาลวงตารูปภูเขาสีเงินปรากฏขึ้น
ในเวลาเดียวกันนิ้วทั้งหาพลันหนาขึ้นสองสามเทา
เสียง “แควก” ดังขึ้น โลหิตสดๆ กระเซ็นออกมา ฉีกงูเหลือมออกเปนสองสวน
มือหยกยักษที่แวววาวและนิ้วทั้งหาสรางหัวกะโหลกสีขาวขึ้นหาหัว ดีดออกไป
กักไปตรงหัวของงูเหลือม
หัวกะโหลกขบเขี้ยวเคี้ยวฟนกัดออกไปสองสามครั้ง ตัวของงูเหลือมเปลี่ยนเปน
ซูบผอมถูกดูดโลหิตบริสุทธิ์ไปจนหมด
นี่คือผลที่หานลี่นำภูเขาเทวะดูดปราณ หามารใจเดียวและสองมือของตนเอง
หลอมเขาเปนหนึ่ง
การกระทำเชนนี้กลับเปนวรยุทธเฉพาะที่บันทึกเอาไวในคัมภีรรอยชีพจรหลอมสมบัติ
ทำใหแขนกลายเปนสมบัตินั้นตองใชเวลานานมาก แตหากใชสมบัติที่มีทำอีกชนิดหนึ่ง
กลับเปนเรื่องที่ใชเวลาเพียงสั้นๆ
ส ว นผลที ่ เ ขาฝ ก ฝนวิ ช านี ้ ไม เ พี ย งจะอาศั ย พลั ง ของสมบั ต ิ ส องชิ ้ น หลอม
ความสามารถใหแขนทั้งสอง และยิ่งไปกวานั้นตอนที่ตอกรกับศัตรู เมื่อนำแขนทั้งสอง
และพลังของสมบัติทั้งสองผนึกรวมกัน แนนอนวาจึงใชไดอยางชำนาญ อานุภาพ
สูงกวาอาศัยพลังตอกรกับศัตรูเพียงอยางเดียว
หานลี่สังหารลิ้นทั้งสองที่อสูรเซิ่นสรางขึ้นไดอยางคาดไมถึง
นักพรตชราเองก็ไมคิดวาจะไดผลเชนนี้ ภายใตความตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว
ยังไมทันไดทำอะไร ทามกลางไอสีดำก็มีเสียงรองคำรามอันเจ็บปวดของอสูรดังขึ้น
ทันใดนั้นไอสีดำพลันแยกออก อสูรเซิ่นพลิ้วกายกระโจนออกมา แตรางกายกลับราง
เลือนแลวหายวับไปกลางทาง
อสูรตัวนี้มีความสามารถในการอำพรางกาย
หลังจากนั้นชั่วครูรอบดานของหานลี่ก็มีเสียงคำรามของอสูรดังขึ้น ทำใหผูคน
ไมอาจแยกแยะตำแหนงที่แมนยำได
ครั้งนี้ถึงแมวาสองตาของเขาจะมีลำแสงสีฟาไหลเวียนอยู แตก็ยังคงไมอาจมอง
ทะลุไดเลยสักนิด
เมื่อเห็นสถานการณเชนนั้น หานลี่กลับหัวเราะนอยๆ ออกมา
สะบัดแขนเสื้อทั้งสองไปรอบๆ ดาน ชั่วขณะนั้นตรงแขนเสื้อพลันมีเสียงหึ่งๆ ขึ้น
จากนั้นลำแสงสีทองจำนวนนับไมถวนก็ทะลักออกมา
เมื่อลำแสงสีทองเหลานี้พุงออกมา รางกายพลันขยายใหญขึ้นทันที แลวทยอยกัน
กลายเปนแมลงเกราะยักษขนาดครึ่งฉื่อ
นั่นก็คือ สิ่งที่หานลี่เลี้ยงดูมาอยางหนัก ในที่สุดก็โตเต็มวัยอยางแมลงกลืนทอง
แมลงกลืนทองยักษเหลานี้มีมากกวาพันตัว บินอยูรอบๆ เต็มไปหมด
เชนนั้นแคชั่วพริบตา อสูรประหลาดก็ถูกแมลงยักษเต็มทองฟาชนเขาหลายตัว
และปรากฏกายขึ้น
ไมตองใหหานลี่กระตุนแมลงวิญญาณ แมลงกลืนทองทั้งหมดพลันเปลงเสียง
ร อ งออกมาแล ว กระโจนเข า ไป ชั ่ ว พริ บ ตาเมฆสี ท องพลั น กลื น หายเข า ไปใน
ฝูงอสูรประหลาด
อสู ร เซิ ่ น เปล ง เสี ย งร อ งคร่ ำ ครวญออกมา แต ท ั น ใดนั ้ น ก็ ม ี เ สี ย งสวบดั ง ขึ้ น
รางกายอันใหญโตกลายเปนไอสีดำดำกลุมหนึ่งหมุนวนแลวหนีไป
แมลงธรรมดาเจอกับรางกายที่ไรรูปราง แนนอนวาจึงไมรูจะทำอยางไร
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น!
หมอกสี ด ำเปล ง แสงสว า งวาบแล ว บิ น ออกมาจากซอกของแมลงกลื น ทอง
แตแมลงเกราะที่นากลัวเหลานี้ กรงเล็บสองสามกรงเล็บเปลงแสงสีทองสวางวาบ
คาดไมถึงวาจะติดอยูกับหมอกสีดำ จากนั้นก็กมหนาลงแทะอยางไมลังเลเลยสักนิด
แมลงยักษนับพันตัวรุมกันกัดแทะ ถึงแมวาอสูรยักษจะแปลงเปนหมอกสีดำ
อันกวางใหญ แตก็ถูกกักไปหนึ่งในสิบสวนในชั่วพริบตา
ชั่วขณะนั้นเสียงรองอันนาอเนจอนาถพลันดังออกมาจากหมอกสีดำ ไอสีดำหมุนวน
อสรพิษยาวสีทองเงินสิบตัวพุงออกมา ทุกตัวมีความยาวสองสามจั้ง ทุกตัวตางกลืนกิน
แมลงยักษสิบตัวลงไปอยางรวดเร็วราวกับสายฟา
หัวอสรพิษสะบัดออกและเลือนรางอีกครั้ง แมลงสีทองสิบตัวทยอยกันหายวับไป
ในปากของอสรพิษ แตทันใดนั้นปากของอสรพิษทองเงินสิบตัวพลันเปลงเสียงซือๆ
ออกมา แลวทยอยกันลมตึงไปกับพื้น ชั่วพริบตาพลันกลายเปนกลุมหมอกสีดำ
แมลงยักษสีทองบินออกมาจากหมอกสีดำตัวแลวตัวเลา หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง
ก็สิงไปบนรางของมันอีกครั้งแลวกัดกินตอ
แมลงวิญญาณเหลานี้ไมไดรับบาดเจ็บเลยสักนิด
จากนั้นหมอกสีดำพลันกลายเปนอสูรประเภทที่ตอกรกับอสูรแมลงได แตไมวาจะ
กลายเปนชนิดไหนก็ไมอาจทำลายแมลงกลืนทองไดเลยสักนิด กลับลาชาไปเพียง
ชั่วครู หมอกสีดำเหลานี้ถูกฉีกทึ้งไปกวาครึ่ง ความเร็วในการแปลงกายของอสูรจึง
เชื่องชาลงเรื่อยๆ
จากตอนที่หานลี่ปลอยฝูงแมลงออกมา ไปจนถึงตอนที่หมอกสีดำถูกกำจัด ไป
เกิ ด ขึ ้ นแค ช ั ่ ว อึ ด ใจเท า นั ้ น นั ก พรตชราที ่ อยู  ไ กลออกไปตาค า ง จ องเขม็ ง ไปยั ง
แมลงยักษสีทองเหลานั้น ใบหนาคอยๆ เผยสีหนาแปลกประหลาดออกมา
“แมลงกลืนทอง แมลงกลืนทองโตเต็มวัย!” นักพรตชราเอยพึมพำ ฉับพลันนั้นมือหนึ่ง
พลันตบไปที่เหนือศีรษะอยางไมลังเล
ลำแสงสีแดงสวางวาบ เงาสีแดงสายหนึ่งพุงออกมาจากเหนือศีรษะ หมุนวนรอบหนึ่ง
กลายเปนสายรุงที่เจิดจาจนแสบตา หนีไปดานลางรอยจั้งเศษ หลังจากเปลงแสงสวาง
วาบสองสามครั้ง ก็หายไปที่ปลายฟา
สวนรางของนักพรตชราที่อยูที่เดิม พลันกลายเปนซากแหงๆ ซากหนึ่ง ลมพายุบริสุทธิ์
พัดมา ซากปลิวไปตามลมแลวกลายเปนเถาถานกองหนึ่ง
“เอ” หานลี่ที่ยืนอยูที่เดิมไมขยับเขยื้อน เปลงเสียงรองอุทานออกมาเบาๆ จองเขม็ง
ไปยังทิศทางที่สายรุงหายไป ใบหนาบัดเดี๋ยวเครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใส
“คาดไมถึงวาแมแตอสูรประหลาดตัวนี้ยังไมสน หรือวาแมลงกลืนทองโตเต็มวัยมี
ชื่อเสียงยิ่งใหญจริงๆ?”
เมื่อเอยความฉงนจบ หานลี่ก็หันหนาไป มองหมอกสีดำที่ถูกกลืนกินไปเกื อบ
หมดแลว
หานลี่ลูบใตคาง ฉับพลันนั้นพลันชูมือขึ้นกวักออกไป ชั่วขณะนั้นแมลงกลืนทองที่
อยูไกลออกไปพลันบินขึ้น หลังจากหมุนวนรอบหนึ่งถึงไดทยอยกันหดเล็กลงจนมี
ขนาดเท า เมล็ ด ข า ว จากนั ้ น ก็ ท ยอยกั น จมหายเข า ไปในแขนเสื ้ อ ของเขาอย า ง
ไรรอ งรอย
หลังจากทำทุกอยางเสร็จแลว หานลี่ก็หันกายคิดจะบินจากไป แตครานั้นเขา
พลันพลิ้วกายสองสามครั้งดวยหนาที่เปลี่ยนสี หลังจากเซถลาไปก็เกือบจะตกลงสูพื้น
“จะเป น ไปได ไ ด อ ย า งไร ข า จะสู ญ เสี ย จิ ต สั ม ผั ส ไปมากขนาดนี ้ ไ ด อ ย า งไร
จิตวิญญาณดั้งเดิม เกื อบจะบาดเจ็ บ” หานลี่โคจรลมปราณตรวจสอบภายในร า ง
อยางรวดเร็ว สีหนาตกตะลึงและซีดขาวกวาเดิม
จากจิตสัมผัสที่แข็งแกรงไมดอยไปกวาระดับหลอมสุญตาในครานี้สูญเสียไป
เจ็ดแปดสวน จนเกือบจะหมด และขั้นตอนที่เกิดขึ้นอยางเงียบเชียบนี้ คาดไมถึงวา
เขาจะไมรูเรื่องเลยสักนิด
“หรือวาคือ…”
หานลี่คือผูใด นึกถึงการควบคุมแมลงกลืนทองโตเต็มวัยไดในทันที สีหนานึกออก
และดูไมไดอยูหลายสวน
เขาสะบัดแขนเสื้ออีกครั้ง ลำแสงสีทองจุดหนึ่งบินออกมาจากแขนเสื้อ จากนั้นก็
กลายเปนแมลงเกราะยักษ สองปกกระพือออกบินวนคลอเคลียอยูกับเขา
หานลี่แผจิตสัมผัสออกไปตรวจสอบ ชั่วครูรางทั้งรางก็แข็งคางอยูที่เดิม
ในเวลาเดียวกันที่ปลอยแมลงเกราะยักษออกมา จิตสัมผัสของเขาก็สูญเสียไป
อยางชาๆ ถึงแมวาจะดูแลวไมไดนากลัว แตนี่เปนเพียงแมลงกลืนทองตัวเดียวเทานั้น
หากควบคุมแมลงกลืนทองนับรอยนับพันตัวพรอมกัน จะสูญเสียจิตสัมผัสไปมาก
ขนาดไหนไมตองคิดก็รูแลว
จากจิตสัมผัสระดับหลอมสุญตาของเขาในตอนนั้น ไมมีทางควบคุมไดนานแน
สิ่งที่นากลัวยิ่งกวาก็คือ นอกเสียจากวาตัวเองจะสำรวจจิตสัมผัสของตัวเอง มิเชนนั้น
การสูญเสียไอวิญญาณอยางเงียบเชียบนี้ เขาก็ไมอาจสัมผัสไดเลยสักนิด
ตอนที่ 1372 รวมตัว
หานลี่รูสึกกลัดกลุมเล็กนอย เพราะวาความรูสึกชื่นชมหลังจากเห็นอานุภาพของ
แมลงกลืนทองโตเต็มวัยแลวพลันลดลงไปกวาครึ่ง
แมวาเขาจะมีแมลงกลืนทองโตเต็มวัยแปดพันตัว แตหากปลอยออกมามากเกินไป
เกรงวายังไมทันเห็นฝูงแมลงตอกรกับศัตรู ตัวเองก็คงถูกดูดจิตสัมผัสไปจนเกลี้ยงกอน
ทว า สิ ่ ง ที ่ แ ปลกประหลาดก็ ค ื อ ตอนที ่ แ มลงกลื น ทองเหล า นี ้ย ั ง ไม โตเต็มวัย
กลับไมเคยมีทาทีวาจะตองสูญเสียจิตสัมผัสไมหยุด นี่จึงทำใหเขารูสึกไมคอยเขาใจนัก
เขาไมมีทางไมสนใจสถานการณเชนนี้แน อยางนอยที่สุดก็ตองหาสาเหตุ ข อง
จิตสัมผัสที่รั่วไหลออกไปกอน
มิเชนนั้นจะกลาควบคุมแมลงวิญญาณออกมาตอกรกับศัตรูไดอยางไร!
หลังจากที่หานลี่ขบคิดเล็กนอย ก็ชูมือขึ้นกวักเรียกแมลงกลืนทองที่อยูกลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นแมลงตัวนั้นพลันหมุนวน แลวรอนลงตรงใจกลางฝามือทันที แผจิตสัมผัส
สวนเล็กๆ ออกไปลอมรอบแมลงตัวนั้น แตทุกอยางดูปกติ ไมรูสึกผิดปกติอะไร
พนลมหายใจออกมาเบาๆ เขาหรี่ตาทั้งสองตาลงเล็กนอยพลางขบคิด ฉับพลันนั้น
ก็นึกอะไรขึ้นมาได มือหนึ่งโบกสะบัด ชั่วขณะนั้นแมลงตัวนี้พลันบินขึ้นบนทองฟา
อีกครั้ง จิตสัมผัสพันรัดเอาไวบนนั้นอีกครั้ง
ชั่วครูก็หนาเปลี่ยนสี
จิตสัมผัสที่รัดอยูบนรางของแมลงตัวนี้ มันเริ่มออนแรงลง ถูกแมลงยักษดูดเขาไป
ในรางไมหยุด
จนถึงตอนนี้หานลี่ก็เขาใจในที่สุด
สาเหตุที่ตองสูญเสียจิตสัมผัสไปจำนวนมาก คาดไมถึงวาการที่แมลงกลืนทอง
โตเต็มวัยบินไปมา รางกายจะสูญจิตสัมผัสของแมลงวิญญาณไปโดยอัตโนมัติ มินาละ
หลังจากกระตุนแมลงวิญญาณ จิตสัมผัสจึงถูกดูดไปจำนวนมากอยางไมรูตัว หลังจาก
รูสาเหตุที่นากลัวแลว หานลี่พลันขมวดคิ้วมุนขบคิดอยูนาน รูสึกวาเรื่องนี้แกไขไดยาก
ถึงแมวา จะเสี ยจิตสัมผัส ไปแคช ั่ ว คราว ปกติแลวนั่ งสมาธิ ห นึ ่ง วั น หรือนานกว า
นั้นหนอย ก็ฟนฟูกลับมาไดหมด
แตหากอยูในสถานการณการตอสู นั่นเปนอันตรายถึงชีวิตอยางแนนอน
ไมวาจะสำแดงวรยุทธหรือเคล็ดวิชาลับ หรือวาควบคุมสมบัติอาคม ลวนตองใช
จิตสัมผัสจำนวนมากคอยประคับประคอง
ดู แ ล ว ก อนที ่ จ ะแก ไ ขฝู ง แมลงกลื น ทองเหล า นี ้ ไ ด คงทำได เ พี ย งเก็ บ ไว เ ป น
เครื่องมือสังหารชนิดหนึ่งแลว
อาศั ย แค แ มลงตั ว นี ้ ป รากฏตั ว ก็ ท ำให เ งาชาดตนนั ้ น หนี ไ ปด ว ยความกลั ว
แมลงกลืนทองชางโหดรายจริงๆ และมีชื่อเสียงเกรียงไกรในแดนวิญญาณ
การจั ด อั นดั บ แมลงมหั ศ จรรย ข องผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รสายมารแดนมนุ ษ ย ใ นตอนนั้น
ในสายตาของหานลี่ในครานี้กลับไมมีคาใหพูดถึง จากความรูของผูบำเพ็ญเพียร
ระดับต่ำผูนั้น แนนอนวาจะเกิดความผิดพลาดไมนอย การจัดอันดับนี้ไมมีประโยชน
อะไรเลยกับแดนวิญญาณ
แตอานุภาพของแมลงกลืนทองโตเต็มวัย ก็เหนือกวาที่หานลี่คิดเอาไว
เมื่อครุนคิดจบ หานลี่ก็ไมกลารั้งรออยูที่นี่นานอีก หลังจากที่แยกแยะทิศทางแลว
ก็กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงไปยังขอบฟา
หากคนอื่นๆ ไมเพลี่ยงพล้ำละก็ กวาครึ่งคงจะไปรวมตัวกันที่ไหนสักแหงอีกครั้ง
ถึงแมวาสัญลักษณไอวิญญาณในตัวของพวกเขาจะสลายหายไปนานแลว แตการ
เชื่อมโยงอีกแบบที่เชื่อมตอกัน ขอแคอยูหางกันไมมาก ก็สามารถเชื่อมโยงกันได
สิบกวาวันตอมา สายรุงสีเขียวสายหนึ่งก็พุงออกมาจากกลางอากาศในทะเลทราย
เพียงลำพัง
ถึงแมวาเดิมทีสีของลำแสงหลีกหนีจะเปนสีเขียว แตไมรูวาสำแดงเคล็ดวิชาลับอะไร
ทำใหลำแสงหลีกหนีของเขาหมนแสงลง หากไมพิเคราะหอยางละเอียดก็ไมพบเห็น
มันงายๆ
ในลำแสงหลีกหนีนั้นแนนอนวาเปนหานลี่
ในสิบวันนี้ไมมีอะไรเกิดขึ้น และไมเห็นวาคนของเผาเงาจะตามมา
ดูเหมือนวาเงาชาดผูนั้นจะถูกแมลงกลืนทองเขยาขวัญไปแลว
ภายใตความรูสึกปลอดภัยของหานี่ จึงเรงรุดเดินทางมาหนาตั้ง
จิตสัมผัสที่สูญเสียไปแตเดิมฟนฟูกลับมาโดยอัตโนมัติระหวางที่บินมาสองสามวันนี้
ครานี้เขากำลังควงขวดหยกเกลี้ยงเกลาเลนในมือ นั่นก็คือ ขวดยากำจัดสิ่งโสม
ที่สลักตัวอักษรโบราณเอาไว ดานในมียาลูกกลอนกำจัดสิ่งโสมที่ไดมาจาก เมือง
เทวะสวรรคบรรจุอยู นี่เปนหนึ่งในรางวัลที่รับหนาที่เสี่ยงอันตรายในครั้งนี้
นั่นหมายความวาขอแคชวยคนอื่นทำภารกิจใหสำเร็จ เขาก็จะเปนอิสระไดอยาง
เปดเผยแลว
ไมใชแคเขา ผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาที่รับหนาที่เสี่ยงอันตรายทั้งหมดจะไดรับ
ยาลูกกลอนกำจัดสิ่งโสมที่เพียงพอ
แตเพื่อไมใหพวกเขาแอบหนีไประหวางทาง หรือวาไมตั้งใจทำภารกิจ ขวดยา
ทั้งหมดจะถูกลงอาคมที่ซับซอนเอาไว นอกเสียจากวาจะทำภารกิจสำเร็จ มิเชนนั้น
ก็ไมมีทางเปดขวดยาได หากพยายามทำลายมั้ง ขวดใบนี้จะระเบิดออก ทำลาย
ยาลูกกลอนดานในไปจนหมด
ขอแคทำภารกิจสำเร็จ และหลังจากที่พิสูจนดวยวิธีตางๆ แลว ทางนั้นก็จะ
ทลายอาคมออกผานยันตหมื่นลี้
หานลี่ลูบขวดหยกไปมา ชักสีหนา ในมือมีลำแสงสวางวาบ ขวดยาหายวับไป
เห็นเพียงเบื้องหนามีอะไรไมรูปรากฏขึ้น วิหคประหลาดปากยาวรางกายใหญยักษ
ราวกับนกกระเรียนมงกุฎแดงฝูงหนึ่ง ปกขนนกสีเหลืองออน บนหัวมีเนื้องอกสีมวง
เห็นไดชัดวาวิหคยักษเหลานี้พบตำแหนงของหานลี่แลว ปากของมันเปลงเสียง
กรีดรองออกมาสองสามครั้ง แลวเปลี่ยนทิศทางกระโจนออกมา
เห็ นฝู ง วิ ห คนี ้เข ามาใกล ขึ ้นเรื ่ อยๆ หานลี ่ ก ลั บ ถอนหายใจออกมาเฮื อ กหนึ่ง
ลำแสงหลีกหนี เปลง แสงสวางวาบ รางกายหายวับ ไปจากกลางอากาศ ครูตอมา
เขากลับปรากฏตัวตรงกลางวิหคประหลาดสีเหลืองยี่สิบสามสิบตัว
ไมเห็นหานลี่เคลื่อนไหวใดๆ ลำแสงปรากฏขึ้นบนชุด
ลำแสงนี้กะพริบวาบสองสามครั้ง ประจุไฟฟาสีทองและเงินสองสีดีดออกมาจากชุด
หอหุมทุกอยางในระยะรอยจั้งเอาไว
เสี ย งอึ ก ทึ ก ดั ง ขึ ้ น หลั ง จากที ่ ล ำแสงอสนี ส องสี ส ี ท องและเงิ น ตั ด สลั บ กั น
วิหคประหลาดสีเหลืองที่อยูรอบๆ ก็สลายหายไป รอบดานเปลี่ยนเปนวางเปลา
หานลี่กวาดสายตาไปรอบๆ ดวยสีหนาเรียบเฉย รางกายพลิ้วไหวกลายเป น
สายรุงสีขาวพุงแหวกอากาศออกไป
เสาหินสูงใหญที่เหลือเพียงครึ่งหนึ่ง รวมทั้งซากกำแพงหินสูงสองสามจั้งที่ไมไหวติง
ทามกลางพายุที่ บา คลั ่ ง ลวนหมายความว าที่ แ ห ง นี้ คื อซากสิ ่ง ปลูกสรา งนิ ร นาม
แหงหนึ่ง แคดูจากการผุกรอนของมันแลว ก็ไมรูวาอยูมากี่หมื่นปแลว
กำแพงหินที่อยูตรงใจกลางของสิ่งปลูกสราง สตรีชุดดำคนหนึ่งนั่งอยู รอบๆ
มีชายหนุมชุดสีมวงเดินไปเดินมาอยูคนหนึ่ง ทั้งสองมีสีหนาเครงขรึม แตก็ไมปริปาก
ใดๆ
ทั้งสองนั่นก็คือ เสี่ยวหงและหลงตง
ชายหนุมสีหนาราบเรียบ ดูแลวโลหิตบริสุทธิ์จำนวนมากที่สูญ เสียไปเพราะ
ควบคุมกระบี่โลหิตในวันนั้นจะฟนฟูกลับมาภายในระยะเวลาสั้นๆ แลว โดยไมรูวา
เขากินยาลูกกลอนอะไรเขาไป หรือใชเคล็ดวิชาลับอะไรกันแน
มิเชนนั้นดูจากสถานการณในวันนั้น หากเขาตองการฟน ฟูปราณแท อยางนอยที่สุดก็
ตองใชเวลาสองสามป
ชั่วครูสตรีและหลงตงก็สัมผัสอะไรไดพรอมกัน หันหนาไปมองทางขอบฟา
เห็นเพียงเงาสีทองจางๆ สายหนึ่งปรากฏขึ้นอยางเงียบเชียบ แลวพุงเขามาอยาง
เงียบๆ หลังจากเปลงแสงสองสามครั้ง ลำแสงสีทองก็หมนแสงลง หญิงสาวชุดขาว
ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
“พี่หญิงเสี่ยว สหายหลง รอนานแลวสินะ ดูแลวทั้งสองทานคงไมไดรับบาดเจ็บ
อะไรมาก” หญิงสาวหัวเราะคิกคักขณะเอย ดูแลวไมไดรับบาดเจ็บใดๆ
เมื่อไดยินคำพูดของหญิงสาวสตรีก็ฝนฉีกยิ้มออกมา สวนแววตาของหลงตงกลับ
ฉายแววดีใจ
“ขารูอยู แล ววา แมห ญิ ง เยี่ย มี ปฏิภ าณไหวพริบ ว องไว ไมมีทางเป น อะไรแน
สหายอีกสองคนยังไมมา ตอนนั้นพี่หลี่ถูกเผาเงาจับเอาไว เกรงวาคงโชครายมากกวา
โชคดี สวนพี่หานในตอนนี้ยังไมไดติดตอกับพวกเรา เกรงวาคงถูกคนของเผาเงาไลตาม
ทัน และเกิดเรื่องที่คาดไมถึงขึ้นกระมัง” ชายหนุมถอนหายใจขณะเอย
สตรีเมมริมฝปาก แววตาเปลงประกาย แตสุดทายก็ไมไดเอยอะไรออกมา
“พี่หลี่อาจจะถูกจับจริง แตสหายหานนาจะไมเปนอะไรไปงายๆ ลองรออีกสัก
สองสามวันเถิด” หญิงสาวรอนลงมาจากกลางอากาศ ยืนอยูเบื้องหนาคนทั้งสอง
แลวเอยอยางราบเรียบออกมา
“รออีกสองสามวัน? ตอนนี้เปนชวงเวลาที่เสนทางทะเลทรายสวรรคออนแอในรอบป
หากพลาดไป ก็ตองรออีกหลายป มากสุดก็รอไดแคสองวัน” สตรีเอยอยางราบเรียบ
“วันเดียว อืม ก็พอแลว” หญิงสาวชุดขาวไมไดขั ดแยง อะไร เอยปากตอบตกลง
ทั น ใดนั ้ น ก็ ส าวเท า ไปสองสามก า ว คนก็ เ ดิ น ไปยั ง มุ ม หนึ ่ ง ที ่ ค  อ นข า งสะอาด
แลวนั่งสมาธิลงเชนกัน
เวลาคอยๆ ไหลผานไป ครึ่งวันตอมา เสียงหวีดรองก็ดังขึ้นพรอมกันในตัวของ
ทั้งสามคน
ชั่วขณะนั้นทั้งสามคนก็เผยสีหนาตางๆ ออกมา มองไปแวบหนึ่ง หลงตงเอยปากวา
“ขาจะกระตุนตำแหนงของจานก็แลวกัน คาดไมถึงวาสหายหานจะไมเปนอะไร
ชางโชคดีจริงๆ!”
ทันใดนั้นชายหนุมไฝแดงก็สะบัดแขนเสื้อ จานอาคมสีเขียวปรากฏขึ้นในมื อ
มือหนึ่งรายอาคม ปลอยอาคมสีเขียวสายหนึ่งออกไป ชั่วครูก็จมหายไปในจานอาคม
อยางไรรองรอย
จานอาคมเปลงแสงสวา งจา ชายหนุมไฝแดงนำสองมือมาประกบกั น อี ก ครั้ ง
ของสิ่งนั้นหายวับไป
หลังจากทำทุกอยางเสร็จ ชายหนุมก็เอามือไพลหลังยืนอยูที่เดิม
ผลคือสองสามชั่วยามตอมา อีกดานหนึ่งก็มีสายรุงสีเขียวปรากฏขึ้น หลังจาก
กะพริบวาบสองสามครั้ง สายรุงสีเขียวก็มาอยูเบื้องหนาของทั้งสามคน หลังจาก
หมุนวนรอบหนึ่ง ลำแสงสีเขียวก็หมนแสงลง หานลี่ปรากฏตัวขึ้น
“พี่หาน เจาไมเป นไรก็ด ี การติดกับเผ าเงาในครั ้ง นี้ มีคนปลอดภั ยกว า ครึ่ ง
นับวาพวกเราโชคดีไมนอย” หลงตงเอยพรอมรอยยิ้ม
“เหล า สหายล ว นปลอดภั ย ช า งโชคดี จ ริ ง ๆ!” แววตาของหานลี ่ ก วาดไปบน
เรือนรางของทุกคน แลวยิ้มนอยๆ ออกมา
“ในเมื่อพี่หานมาถึงแลว เชนนั้นพวกเราก็พักผอนอีกสักครึ่งวัน จากนั้นคอยออก
เดินทางเถิด เพื่อไมใหถูกคนของเผาเงามาพัวพันอีก” เสี่ยวหงเสนออยางสุขุม
“เซียนเสี่ยวพูดมีเหตุผล ไมอาจอยูที่นี่ไดนานนักจริงๆ” หลงตงพยักหนาอยางตอเนื่อง
หานลี่และหญิงสาวชุดขาวเองก็ไมไดมีขอขัดแยงอะไร
ครึ่งวันตอมา พวกเขาก็ขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีออกไปจากที่นี่ บินตรงไปยัง
ทิศใดทิศหนึ่ง
ครั้งนี้บินไปไดแคหมื่นลี้เศษ เบื้องหนาก็คอยๆ มีวายุบาคลั่งปรากฏขึ้น และยิ่งไป
กว า นั ้ นยั ง รุ นแรงขึ ้ นเรื ่ อยๆ หลั ง จากนั ้ น ไม น านพวกเขาก็ บ ิ น เข า ไปในโลกของ
ทะเลทราย รอบดานลวนเปนสีเหลือง และยิ่งไปกวานั้นพายุตางๆ ยังหมุนวนนำ
ทรายสีเหลืองมาพลันรอบตัวพวกเขาไมหยุด
หากไมใชเพราะพวกเขาปลอยลำแสงวิญญาณออกมาปกปองราง เกรงวาวายุ
สีเหลืองคงพัดพวกเขาใหรวงลงไปจากกลางอากาศแน
หลังจากมุงหนาไปไดพันกวาลี้ ฉับพลันนั้นลำแสงหลีกหนีที่อยูหนาสุดของหลงตง
ก็หยุดชะงัก ทันใดนั้นผูที่อยูดานหลังก็ไดยินเสียงถายทอดเสียงของเขาดังขึ้น
“ถึงแลว เบื้องหนาคือเสนทางสวรรค หึๆ ครั้งนี้หากไมใชเพราะเบื้องบนเตรียม
ไขมุกกำจัดวายุใหพวกเราคนละสองเม็ด เกรงวาผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาก็คง
ไม ก ล า บุ ก เข ามาที่ นี่ ง า ยๆ มี ไ ข ม ุ ก เม็ ดนี ้ ก็ เ พี ย งพอให พวกเราไปและกลั บ อย าง
ปลอดภัยแลว แตทุกคนตองระวังอสรพิษวายุที่อาศัยอยูในนี้ ทวาก็ไมจำเปนต อง
กังวลนัก เสนทางสวรรคกวางใหญถึงเพียงนี้ พวกเราคงไมบังเอิญไปพบเขา”
“เหลาสหายหากไปถึงดานในแลวตองระวังอีกอยาง อาจจะมีอันตรายอยางอื่นเกิดขึ้น
ถึงอยางไรเสียดูเหมือนวาเผาเงาเหลานั้นจะดักซุมรอพวกเราอยูนานแลว ดานในไมแน
ว า อาจจะมี ก ั บ ดั ก อะไรเช นเดี ย วกั น หากพบเรื ่ องอะไรเข า ทุ ก คนก็ ด ู แ ลตั ว เอง
ก็แลวกัน” สตรีเองก็เครงขรึมขึ้น อธิบายอยางเด็ดขาด
ตอนที่ 1373 พฤกษาตาขายนิทรา
หานลี่แสรงทำเปนไมไดยินบทสนทนาของทั้งสอบ แตลำแสงสีฟาพลันสวางวาบ
ขึ้นที่ดวงตา ชั่วขณะนั้นสายตาพลันมองทะลุผานวายุทรายหนาๆ ในบริเวณรอบไปจน
มองเห็นจุดที่ไกลออกไป
หางออกไปรอยลี้เศษ มีนิมิตสวรรคที่นาเหลือเชื่อปรากฏขึ้น
เห็นเพียงตรงขอบฟาที่สูงใหญ ดานบนเปนสีดำดานลางเปนสีเหลือง ตรงกลางมี
เสนสีขาวอยูสายหนึ่ง ยืดยาวออกไปทั้งสองฝง ราวกับไมมีที่สิ้นสุด
แตหางออกไปคอนขางไกล ดังนั้นจึงมองเห็นแคคราวๆ เทานั้น
หานลี่ขมวดคิ้ว ลำแสงวิญญาณหายวับไปในแววตา
ครานี้พวกเขาพลันขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีอีกครั้ง ตรงไปยังนิมิตสวรรค
ชั่วครูพวกของหลงตงและสตรีก็มองเห็นปรากฏการณแปลกประหลาดเชนกัน
ที่แทบนทองฟามีหมอกสีดำหมุนวนอยู ดานลางมีพายุเฮอรริเคนสีเหลืองหมุนวน
จุดที่ทั้งสองสัมผัส กลับมีทางเดินขนาดยักษเปลงแสงสี ขาวสูงร อยจั้ งปรากฏขึ้ น
แยกทั้งสองออกจากกัน ไมวาหมอกสีดำหรือวาพายุเฮอรริเคนตางก็ไหลเขา ไปใน
ทางเดินนั่น เหมือนกับบอลึกที่ไรกนบอ
“นี่คือเสนทางสวรรค ชางนาสนใจจริงๆ!” หญิงสาวชุดขาวมองทางเดินนี้ มุมปาก
เผยรอยยิ้มจางๆ ออกมา
“ไปกันเถิด ตอนนี้เปนชวงเวลาที่ระเบิดทรายออนแอที่สุด หากรออีกสองสามวัน
แคเขาไปตรงทางเขา ก็ตองทุมเทหลายขั้นตอนแลว” หลังจากที่หลงตงพิจารณาเสร็จ
ปากก็เอยอยางเครงขรึมออกมา
ทันใดนั้นเขาพลันพลิกฝามือมือหนึ่ง ไขมุกกลมๆ สีเขียวขนาดเทากำปนปรากฏขึ้น
นิ้วเคลื่อนไหว ไขมุกเม็ดนิ้วหมุนวน แลวหดเล็กลงสองสามเทา
หลงตงอาปากออก คาดไมถึงวาจะดูดไขมุกเม็ดนี้เขาไปในปาก
หานลี่และพวกเห็นเชนนั้น ก็ทยอยกันหยิบไขมุกเหมือนกันออกมา แลวกลืนลง
ทองไปเชนกัน
เรือนรางของทุกคนมีลำแสงโปรงใสปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง พายุกระหน่ำที่เดิมทีกรีดรอง
อยูขางกายสัมผัสกับลำแสงโปรงใสนี้ ก็หายวับไปราวกับโคลนที่จมลงไปในมหาสมุทร
ไขมุกเหลานี้คือไขมุกกันลมที่ชนชั้นสูงของเมืองเทวะสวรรคเตรียมใหพวกเขา
โดยเฉพาะกอนออกเดินทาง
แทบจะไมตองขบคิด ลำแสงหลีกหนีของพวกเขาก็อยูหางจากปรากฏการณบน
ท องฟ า ไปไม ถ ึง พั นจั้ ง ไม ต  องให พวกเขากระตุ น ลำแสงหลี ก หนี พลั ง มหาศาลที่
ไรรูปรางก็ปรากฏขึ้นใกลๆ ลำแสงเรียบๆ สองสามสายเปลงแสงสวางวาบถูกดูดเขาไป
ในทางเดินยักษ
เมื่อหานลี่เขาไปดานใน ก็รูสึกวาแรงดูดผอนกำลังลง คนฟนฟูกลับมาเปนอิสระ
แตสิ่งที่ดาหนาเขามากลับเปนมีดวายุสีขาวจำนวนนับไมถวนเต็มทองฟา ในเวลา
เดียวกันหูทั้งสองก็ไดยินเสียงกรีดรองดังระงม พายุในทางเดินนี้สูงกวาภายนอกเปน
สิบเทา
หากไมใชเพราะรูวาตนเองมีไขมุกกันลมอยูกับตัว เกรงวาเขาคงจะปลอยสมบัติ
อาคมออกมาปกปองรางในทันที
แตเชนนี้ลมปราณที่ตองสูญเสียไป ไมตองคิดก็รูแลว
และในตอนนั้นเอง เมื่อมีดวายุสัมผัสกับลำแสงโปรงใสก็หายวับไป
หานลี่กวาดสายตาไปรอบๆ แตกลับพบวาไมอาจแผจิตสัมผัสออกไปนอกรางกายได
เนตรวิ ญ ญาณวารี ก ระจ า งก็ แ ผ อ อกไปได แ ค ใ นระยะร อ ยจั ้ ง เศษ ส ว นคนอื ่ น ๆ
กลับไมอยูในบริเวณนี้ ลวนหายไปอยางไรรองรอย
ภายใตการขมวดคิ้ว เขาไมไดลังเลอะไร ลำแสงวิญญาณรอบกายระเบิดออก
คนกลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไป เขาไปในพายุเฮอรริเคนแลวหายวับไป
สองสามวันตอมา ทางเขาทางเดินสวรรคก็มีลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบ
และมีลำแสงหลีกหนีสองสามพุงออกมา
เมื่อลำแสงหมนแสงลง ก็เผยรางของผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนสวมชุดผาไหมสองคน
ออกมา
ทั้งสองแต ง กายธรรมดาๆ บนหัวสวมผา โพกหั วสีม ว ง แววตากวาดมองไปรอบๆ
แตเมื่อพิจารณาอยางละเอียด ใบหนาของทั้งสองละมายคลายคลึงกับหลงตงอยู
สี่หาสวน แตคนหนึ่งกลับมีสีหนาซีดขาวผิดปกติ อีกคนหนึ่งกลับเสื้อผาขาดวิ่นไป
กวาครึ่ง ดูเหมือนวาจะเพิ่งผานการตอสูครั้งใหญมา
ทั้งสองคนพิจารณาทางเดินยักษเบื้องหนาอยางระมัดระวัง มุมปากถายทอดเสียง
ออกไป ลำแสงหลีกหนีผสมรวมกันแลวพุงเขาไปขางใน
ไมนานนัก เงาชาดสายหนึ่งก็บินออกมาจากระเบิดทราย แตหลังจากที่อยูใกลกับ
เสนทางสวรรคก็หยุดชะงัก แลวถึงไดรองคำรามดวยความไมพอใจ แลวหมุนวน
สองสามครั้งพลางบินกลับไป
ดังนั้นที่นี่นอกจากเสียงวายุกรีดรองแลว ก็ไมมีเงารางมนุษยอยูอีก
สองสามเดือนตอมา บนยอดเขาสีเขียวมรกต หานลี่กำลังยืนอยูบนกอนหินยักษ
อยูตามลำพัง สายตาเปลงประกายขณะทอดมองไกลออกไป
หางจากภูเขานอยๆ ไปประมาณยี่สิบสามสิบลี้ มีปาขนาดใหญผืนหนึ่งตั้งอยู
ปาผืนนี้ชางลึกลับเสียจริง ไมวาตนไมชนิดใด หรือใบไมตางก็เปนสีเขียวมรกตที่
แตมไปดวยลายสีดำ มองไกลๆ ดูเหมือนปาสีดำเขียวอยางไรอยางนั้น
ที่นี่คือเป าหมายของภารกิ จในครั้ ง นี ้ ของหานลี่ และพวก เขตแดนของกำลั ง
เผาพฤกษา ‘ปาใบดำ’
หลังจากพิจารณาอยางละเอียด หานลี่ถึงไดชักสายตากลับมา ขมวดคิ้วพลางขบคิด
จะวาไปแลวเขาที่ขามผานเสนทางสวรรคมา ถึงแมวาจะใชเวลาคอนขางนาน
แตกลับราบรื่นมาก คาดไมถึงวาจะขามผานเสนทางนี้มาไดโดยไมไดรับอันตรายเลย
แมแตนอย
ทวาสิ่งที่ทำใหเขากลัดกลุมก็คือ ไมรูวาคนที่เหลืออีกสามคนไปผิดทาง หรือวาพบ
อันตรายอะไรเขา เขารออยูแถวๆ ทางเขาอยูสองสามวัน ก็ยังไมอาจติดตอกับผูใดได
ขณะที่กำลังขบคิดอยางละเอียด เขาก็ตัดสินใจวาจะไมรอแลว และจะเขาไปที่นั่น
ตามลำพัง
ระหวางทางเขาพบกับปญหาเล็กๆ แมกระทั่งตองสังหารเผาพฤกษาระดับต่ำที่
บังเอิญพบเขาไปสองสามกลุม ในที่สุดก็มาถึงที่นี่
ตอนที่ออกเดินทาง ชายหนุมไฝแดงและสตรีไดอธิบายรายละเอียดของภารกิจนี้
ใหคนอื่นๆ ฟงอยางซื่อตรงแลว
ดังนั้นหานลี่จึงรูรายละเอียดของภารกิจนี้เปนอยางดี
จากที่พวกเขารู ทั้งสองเผาไดสงคนเขามาสอดแนมในเผาพฤกษา ดูเหมือนวา
ตำแหนงจะไมนอยดวย เปาหมายในภารกิจครั้งนี้ก็คือแอบเขาไปในสว นลึ ก ของ
ปาใบดำ นำขาวที่สายสืบรายงานมากลับมา จากนั้นก็ลองตรวจสอบสถานการณของ
เผาพฤกษาดูสักหนอย ดูวามีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติหรือไม
ภารกิจนี้ดูเหมือนจะงายมาก แตอันตรายสวนแรกคือจะขามแดนปาเถื่อนที่ขวาง
ทั้งสองเผาเอาไวอยางไร สวนหลังคือจะแอบเขาไปในปาใบดำอยางเงียบเชีย บได
อยางไรโดยไมถูกคนของเผาพฤกษาพบเขา
ในบรรดาเผาตางๆ ที่อยูรอบๆ นั้น เผามนุษยคบคากับเผาพฤกษานอยที่สุด
จึงรูสถานการณของปาใบดำเพียงคราวๆ เทานั้น มิเชนนั้นคงไมเสี่ยงอันตรายสง
พวกเขาออกมานำขาวของเผาพฤกษากลับไปในขณะที่สงครามกำลังจะปะทุเชนนี้
หานลี่รออยูที่นี่มานานกวาครึ่งเดือน ก็ยังคงไมเห็นคนอื่นมาที่นี่ และเวลาจำกัด
ในภารกิจครั้งนี้ ก็ใกลเขามาทุกที
คำนวณเวลาที่ตองแอบเขาไป และอาจจะพบกับปญหาแลว เขาก็ไมอาจรอตอไป
ไดจริงๆ
หานลี่ขบคิดอยูนาน แลวเงยหนาขึ้นมองทองฟา
เห็นเพียงดวงอาทิตยสองแสงรำไร ไมนานนัก ทองฟาก็เปลี่ยนเปนมืดดำ
จากขอมูลที่ตนรูมา คนของเผาพฤกษามีประสาทสัมผัสทั้งหาที่แยมาก โดยปกติ
แลวมักจะอาศัยจิตสัมผัสในการตอกรกับศัตรู ดังนั้นผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงที่มอบ
ภารกิจนี้ใหพวกเขาจึงแนะนำวา ใหแอบเขาไปในปาใบดำตอนกลางคืน และซอนตัว
ในกลางวัน จะปลอดภัยกวาหนอย
เมื่อมองไปยังปาที่อยูไกลออกไป ในที่สุดหานลี่ก็ตัดสินใจ ไมสนใจวาคนอื่นวาจะ
มาทันหรือไม จะตองเอายากำจัดสิ่งโสมมาใหได ตอใหเหลือเขาคนเดียว ก็ตองทำใจดี
สูเสือทำภารกิจนี้ใหสำเร็จ
เมื่อตัดสินใจแลว หานลี่ก็นั่งสมาธิลงบนกอนหินยักษ หลับตาทั้งสองขางลง
สองสามชั่วยามตอมา ทองฟาก็มืดสนิท ปาสีดำที่อยูไกลออกไปดูเหมือนอสูรยักษ
ที่หมอบคลานคอยหาโอกาสอยูยามค่ำคืนอยางไรอยางนั้น ชางเงียบเชียบเสียนี่กระไร
หานลี่เบิกตาทั้งสองขางขึ้น ลำแสงที่เกลี้ยงเกลาพุงออกไป แตทันใดนั้นพลัน
เปลงแสงสวางวาบ สายตาหมนแสงลง
สองมือของเขาพลันรายอาคม รางกายรางเลือนไปจากกอนหินยักษราวกับเงาลวงตา
ความจริ ง แล ว หานลี ่ ส ำแดงเคล็ ด วิ ช าอำพรางกายแล ว พุ  ง ขึ ้ น ไปบนท อ งฟ า
ภายใตความมืดที่ปกปด พลันลอยไปทางปาผืนนั้นอยางชาๆ
ระยะทางยี่สิบสามสิบจั้ง ถึงแมวาหานลี่จะพยายามบินอยางชาๆ ก็ยังคงใชเวลา
แคครึ่งชั่วยาม คนก็มาปรากฏตัวที่เขตแดนของปา จากพื้นที่ที่ไรขอบเขตของปาผืนนี้
แนนอนวาจึงไมอาจมีคนของเผาพฤกษาอยูทุกหนแหงได แตหานลี่ก็ไมกลาบินเขาไป
ในอยางเปดเผย เพราะวาปกติแลวคนของเผาพฤกษาจะปลูกตนไมตาขายนิทรา
ภายในอาณาเขตของตนเอง
วากันวาตนไมตนนี้เปนผูพิทักษของเผาพฤกษา มีความสามารถที่นาเหลือเชื่อ
อยางการ ควบคุมอาณาเขตและตนไมอื่นๆ ได
แนนอนวาตนตาขายนิทราทุกตนจะมี อาณาเขตและจำนวนในการควบคุ ม ที่
แตกตางกัน
ตนตาขายนิทราของเผาใบดำ เมืองเทวะสวรรคไดตรวจสอบพลังของมันอยาง
ละเอียดแลว
เปนเพราะตอนนี้ถูกปลูกอยูที่เขตแดนของเผาพฤกษา ดังนั้นอาณาเขตที่ควบคุม
จึงกวางไกล แทบจะครอบคลุ มผื นป าทั ่วทุ กระเบี ยบนิ้ ว สิ่งที่สอดคล องกั น ก็ คื อ
จำนวนของต นไมท ี่ ควบคุม ไดจ ึง มี ไมมากนั ก และยิ่งไปกว านั้ นยัง สัมผัส ได เ พี ย ง
สิ่งมีชีวิตระดับหลอมสุญตาขึ้นไป
แนนอนวาหากมีเผาประหลาดบินเขามาอยางเปดเผย ตอใหตนตาขายนิทราจะไมอาจ
สัมผัสได ก็ไมมีทางหนีจิตสัมผัสของคนเผาพฤกษาได
ดังนั้นหานลี่จึงไมเพียงเก็บกลิ่นอายอยางมิดชิด หลังจากที่เขารอนสองเทาลงบน
พื ้ นแล ว ก็ ก ลายเป นเงาลวงตาสายหนึ ่ง พุ  ง ตรงเข า ไปในผื น ปา พลิ ้ ว ไหวไปตาม
ตนไมใหญๆ ตางๆ แลวหายวับไป
จากความแข็งแกรงของรางกายของหานลี่ ประกอบกับเกาวายุแปรปรวนและยางกาว
ควันตาขาย การเคลื่อนไหวที่ลึกลับภายในปานี้จึงดูเหมือนวาหายไปจากกลางอากาศ
เห็นเพียงเงาสีเขียวรางๆ สายหนึ่ง เดี๋ยวหายวับไปเดี๋ยวปรากฏตัวขึ้น ชั่วพริบตาก็
หายเขาไปในปาลึกรอยกวาลี้
หานลี่ไดยินเสียงวายุกรีดรองขางหูไปพลาง ขบคิดอยางเงียบๆ ไปพลาง
ตามในภารกิจแลว หากทุกอยางราบรื่น ก็นาจะไปถึงเปาหมายไดในอีกสามวัน
ขอแคไดขอมูลมา ภารกิจครั้งนี้ก็นับวาสำเร็จไปแปดเกาสวนแลว สวนการสืบเสาะ
สถานการณของเผาพฤกษานั้นเปนเพียงเรื่องรอง หากพบอะไรเขาก็ดี แตหากไมได
อะไรจริงๆ เดาวาก็คงไมเปนไร
เงาสีเขียวหยุดชะงัก หลังจากพลิ้วไหวอยูกลางอากาศ ก็หายไปจากดา นหลัง
ตนไมยักษตนหนึ่ง
แทบจะในเวลาเดียวกัน เบื้องหนามีเสียงฝเทาหนักอึ้งดังขึ้นอยางตอเนื่อง
ดูเหมือนวาสิ่งมหึมาอะไรสักอยางกำลังมุงหนามาทางนี้
ครานี้หลังจากที่หานลี่อำพรางกายอยูบนตนไมยักษที่มีใบหนาแนนแลว ก็
จองมองสถานการณดานลางเขม็ง
ชั่วครูอสูรยักษสีเขียวสูงสิบจั้งที่ดูเหมือนวานรยักษสองตัว ถือสามงามสัมฤทธิ์ยักษ
เอาไวบนบาคนละอัน ก็เดินแฉลบผานตนไมไปอยางทระนงองอาจ
ตอนที่ 1374 ปาใบดำ
อสูรยักษสองตัวนี้ดูเหมือนวานรยักษสองหัว แตเรือนกายมีขนสีเขียวปกคลุมอยู
และยิ ่ ง ไปกว า นั ้ นยั ง มี ด วงตาสี ด ำสามดวง กลอกไปมาพร อมกั น เห็ น ได ช ั ด ว ามี
ไหวพริบมาก
หานลี่มองอสูรขนยาวทั ้งสองตัว เดินผานไปจากใตต นไมอยางเงียบๆ คอยๆ
หางออกไป รางกายถึงไดพลิ้วไหวมาปรากฏตัวใตตนไมยักษอีกครั้ง
มองทิศทางที่อสูรยักษหายวับไป ใบหนาของเขาเผยสีหนาตกตะลึงระคนสงสัย
ออกมา
เจาสองตัวนี้ดูเหมือนกำลังลาดตระเวน แนนอนวาไมใชเผาพฤกษา แตเหตุใดถึง
มาปรากฏตัวในปาใบดำ ดูจากสามงามสัมฤทธิ์ยักษที่อยูบนบาของพวกมัน เห็นไดชัด
วามีสติปญญาเฉียบแหลม
หรือวาจะเปนเผาประหลาดอีกเผาที่ไมรูจัก
หานลี่ครุนคิด แลวพลันสั่นศีรษะ
จากที่เขารูมา เผาพฤกษาตอตานบุคคลภายนอกมาก โดยปกติแลว ไมมีทาง
ปลอยใหกำลั ง ของเผา ประหลาดเขา มาเคลื่ อนไหวอย างเป ดเผยในอาณาเขตแน
หรือวาคือ อสูรสงครามที่เผาพฤกษาเลี้ยงดูไว?
หานลี่ขบคิดเชนนี้
สิ่งที่เรียกวาอสูรสงคราม ความจริงแลวก็คืออสูรวิญญาณ แคเปลี่ยนคำเรียกเทานั้น
เคล็ดวิชาลับตางๆ ที่ใชในการควบคุมอสูรวิญญาณนั้นไมตางอะไรกับของเผามนุษย
และปศาจมากนัก เผาประหลาดอื่นๆ ก็รูวิธีใชสมุนไพรและการกำราบอสูรโบราณ
ดวยวิธีอื่นๆ ทำใหพวกมันมาเปนของตนเอง
แนนอนวาเผาตางๆ ที่ไมพรสวรรคแตกตางกันนั้น จึงกำราบและควบคุมอสูรตางๆ
ไดเหมือนกัน และไมไดมีวิธีกำราบอสูรโบราณทั้งหมด
อสูรประหลาดสองหัวของเผาเงาที่เขาพบกอนหนานี้ ก็คืออสูรสงครามที่มีพลังไมนอย
ของเผาเงา ทวาอสูรโบราณชนิดนี้คงมีเพียงเผาเงาที่มีวิธีกำราบได
สวนเผาพฤกษานั้น วากันวากอนหนานี้ไมมีอสูรสงคราม หรือวากำราบใหมไดสำเร็จ
หานลี่ขบคิดอยูนานดวยความสงสัยที่มีอยูเต็มทอง สุดทายก็ตัดสินใจวาจะไมขบ
คิดแลว
ในเมื่ออสูรขนยาวทั้งสองตัวเขาใกลเขาขนาดนี้แตก็ยังไมพบเขา เดาวาคงเปน
ประเภทที่มีผิวกายหยาบกราน ไมเพียงพอใหหนากลัว
เมื่อตัดสินใจแลว รางกายของหานลี่ก็พลิ้วไหว กลายเปนเงาลวงตาสายหนึ่งหายวับไป
……
หนึ่งวันผานไป ใตตนไมใหญตนหนึ่ง หานลี่มองอสูรขนยาวแปดตัวที่อยูเบื้องหนา
ดวยสีหนาเครงขรึม
ดูเหมือนว า อสูร วานรยั กษเ หลา นี้ จะไมเ หมื อนกั บสองตัว กอนหน า ไมเพี ย ง
รางกายจะเล็กกวาปกติ ยิ่งไปกวานั้นยังมีเรือนกายสีแดงเพลิง ในมือไมไดถือสามงาม
สัมฤทธิ์เอาไว แตเปนกระบองเขี้ยวหมาปาเปลงแสงสีดำสวางวาบ อสูรยักษแปดตัว
ตางจองมองมาทางหานลี่พรอมกับแยกเขี้ยวคำราม ทาทางดุราย
หานลี่มุมปากกระตุกเล็กนอย
แตเดิมคิดวาอสูรขนยาวเหลานี้นาจะมีปฏิภาณไหวพริบเชื่องชา แตเมื่อครูที่เคลื่อน
ผานอสูรขนยาวกลุมนี้ คาดไมถึงวาจะพบที่ซอนหลังตนไมของเขา แลวลอมวงเขามา
หานลี่มองอสูรประหลาดทั้งแปดตัวที่มีดวงตาที่สามเปลงแสงสีดำระยิบระยับ
แลวพลันขมวดคิ้ว รูสึกประหลาดใจอะไรสักอยาง
ตอนนั้นที่พบกับอสูรขนยาวสีเขียวสองตัว ดวงตาที่สามของพวกมัน ดูเหมือนวา
จะปดสนิทอยู
ครานี ้ อ สู ร ประหลาดสี แ ดงแปดตั ว พลั น เปล ง เสี ย งคำรามทุ  ม ต่ ำ ออกมา
รางกายหมอบลง ในเวลาเดียวกันก็โบกสะบัดกระบองเขี้ยวหมาปาในมืออยางรุนแรง
ผิวของยุทธภัณฑเหลานี้มีลำแสงสีเขียวปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง ในเวลาเดียวกันวายุ
ประหลาดสองสามกลุมก็โถมเขามาหาหานลี่
หานลี่เลิกคิ้วทั้งสองขึ้น ไมไดหลบหลีกใดๆ แคสะบัดแขนเสื้อไปกลางอากาศดวย
สีหนาราบเรียบ
กระบี่เลมเล็กสีทองแปดเลมเปลงแสงสวางวาบแลวปรากฏขึ้น พลิ้วไหวแลว
กลายเปนเสนไหมสีทองแปดสายโอบลอมอสูรขนยาวทั้งแปดตัวเอาไว
หลังจากเสียง “ฉับๆ” ดังขึ้น หัวใหญโตทั้งแปดก็กลิ้งลงมากับพื้นราวกับหั่นผัก
เมื่อเสนไหมลำแสงสีทองแปดสายเปลงแสงสวางวาบแลวคืนรางเปนกระบี่เลมเล็ก
ก็สั่นคลอนอีกครั้งแลวบินกลับไป ซากที่มีโลหิตสดๆ สีเขียวมรกตยอมอยูทั้งแปดพลัน
ลมตึงลงกับพื้น
หานลี่ใชอีกมือหนึ่งสะบัดไปทางซากศพเหลานั้น ลูกบอลเพลิงสีแดงสดแปดลูก
ลอยออกมา โจมตีไปยังซากศพ หลังจากเปลงเสียงฟูๆ สองครั้ง พวกมันก็กลายเปน
เถาถานทามกลางเปลวเพลิงลำแสงสีแดงสด
หลังจากทำทุกอยางเสร็จ หานลี่ถึงไดพลิ้วกายไปดวยสีหนาราบเรียบ จมหายเขา
ไปในปาอีกครั้งพรอมกับเงากลุมหนึ่ง
หานลี่ไมรูเลยวา พอเขาจากไปไดไมนาน บนตนไมยักษที่อยูรอบๆ ตนหนึ่งก็มีลำแสง
สีเขียวสองดวงเปลงแสงสวางวาบ คาดไมถึงวาจะเบิกตาสีเขียวขนาดสองสามฉื่อ
สองขางขึ้น ลูกตาสีเขียวมรกตกลอกไปมาสองครั้งอยางไรความรูสึก แลวจองไปยัง
ทิศทางที่เห็นเงาของหานลี่อยูรางๆ ดวยตาที่ไมกะพริบ
หางจากตรงนั้นไปสองสามหมื่นลี้ บนตนไมที่ไมสะดุดตาตนหนึ่ง มีลูกตาสีเขียว
คูหนึ่งเบิกตาขึ้นเชนกัน
ทิศทางที่ดวงตาสีเขียวมองไป คือผืนที่โลงที่อยูไกลออกไปประมาณรอยจั้งเศษ
บุรุษคนหนึ่งและสตรีคนหนึ่งกำลังยืนเคียงบากันอยูตรงนั้น บุรุษหนึ่งในนั้นสวมชุด
สีมวง สตรีสวมกระโปรงสีดำ เห็นไดชัดวาคือหลงตงและเสี่ยวหง
ทั้งสองคนกำลังถายทอดเสียงอะไรสักอยางไปมา บนพื้นดินรอบๆ มีอสูรขนยาว
สองชนิดสีแดงและเขียวสิบกวาตัวนอนอยู
“พี่หลง เจาพวกนี้ดูเหมือนจะไมไดแข็งแกรงอะไร แตมองทะลุผานเคล็ดวิชา
อำพรางกายของพวกเราไดอยางไร ธงลำแสงลวงตาของขา แมแตผูบำเพ็ญเพียรใน
ระดับเดียวกันก็ไมอาจมองทะลุผานได” สตรีขมวดคิ้วขณะถายทอดเสียงมา
“นาจะเกี่ยวของกับตาที่สามของพวกมัน โดยปกติแลวอสูรปศาจที่มีหลายตา
จะมีความสามารถพิเศษ เชนนั้นพวกเราจึงตองระวังหนอย” หลงตงมีสีหนาตกตะลึง
ระคนสงสัยเชนกัน แตปากกลับเอยเชนนี้ออกมา
“คงจะเปนเชนนั้น พวกเราออกเดินทางกันเถิด จะตองไลตามแมหญิงนั้นใหทัน มิ
เชนนั้น ของสิ่งนั้นคงตกอยูในมือของนาง” สตรีมีสีหนาเครงขรึมขึ้น
“หึ ๆ ! คิ ด ไม ถ ึ ง เลยว า เจ า จะมี แ ผนการนี ้ ก ั บ แม ห ญิ ง นั ่ น ที ่ เ ข า ร ว มภารกิ จ นี้
นาเสียดายที่ของสิ่งนี้เปนเพียงของไรคาสำหรับตระกูลหลงของพวกเรา แตเซียนอยา
ลืมละวาพวกเราตกลงกันไวกอนแลววา ของเปนของเจา คนเปนของขา” หลงตง
หัวเราะอยางแผวเบาออกมา แตกลับเอยอยางขึงขัง
“หึ ถึงแมวาขาจะอยากไดโลหิตของหงสสวรรคเชนกัน แตเทียบกับเรื่องสำคัญใน
เผาแลว ก็รูวาอะไรสำคัญกวาดี” สตรีแคนเสียงในลำคอขณะเอย
“ฮาๆ เชนนั้นก็ดี พวกเราไปกันเถิด!” ชายหนุมไฝโลหิตหัวเราะฮาๆ ออกมา
ทันใดนั้นรางของทั้งสองพลันพลิ้วไหว จมหายเขาไปในปาบริเวณรอบเชนกัน
อีกดานหนึ่ง เงาลวงตาสีขาวที่บางเบาอยางหาที่เปลี่ยนสายหนึ่ง กำลังพุงผาน
ปาเขาไดอยางรวดเร็ว จนนาเหลือเชื่อ…
ตรงเขตตองหามในปาใบดำ จุดที่ลึกลับที่สุด ใตตนไมสีเงินความสูงหกเจ็ดจั้งตนหนึ่ง
เงาร า งคนสี ด ำสองสามสายกำลั ง นั ่ ง สมาธิ อยู  หนึ ่ ง ในนั ้ น เบิ ก ตาทั ้ ง สองข า งขึ้ น
เผยลูกตาสีเขียวมรกตที่พนลำแสงสีทองออกมา ปากก็เปลงเสียงประหลาดๆ สั้นๆ
ออกมาสองสามครั้ง
เงารางคนอื่นๆ ที่อยูรอบๆ พลันลืมตาขึ้น เงารางคนคนหนึ่งที่รางกายสูงใหญกวา
คนอื่น เปลงคำพูดที่เต็มไปดวยอำนาจออกมา ดูเหมือนวากำลังซักถามอะไรอยู
เงารางคนที่ลืมตาทั้งสองขึ้นเปนคนแรกผูนั้น หมอบลงกับพื้นในทันที ตอบกลับ
ดวยความนอบนอมสองสามประโยค
หลังจากที่คนดานหลังไดยิน ก็ออกคำสั่งออกมาดวยน้ำเสียงเครงขรึม
คนอื่นๆ ก็หยัดกายลุกขึ้นในทันใด แยกออกไปยืนตรงลอมตนไมเล็กๆ สีเงิน
เงารางสูงใหญเปลงเสียงตะโกนออกมา มือหนึ่งชี้ไปยังตนไมตนเล็ก ชั่วขณะนั้นลำแสง
สีเขียวสายหนึ่งพลันพุงออกไป เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปในตนไมสีเงิน
ชั่วขณะนั้นตนไมสีเงินพลันสั่นสะเทือนอยางหนัก ดวงตาสีเงินเบิกขึ้นบนตนไม
ในเวลาเดียวกันก็เปลงแสงสวา งวาบพ นเสาลำแสงสี เงิ นหนาเทาปากชามออกไป
สองสามสาย ทุกสายโจมตีไปบนรางของเงารางคนแตละคน
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น
เงารางคนที่ถูกเสาลำแสงโจมตีเหลานี้รางกายเลือนหายวับไป
แนนอนวาหานลี่ที่อยูอีกดานหนึ่งไมรูวารองรอยของตนเองตกอยูในสายตาของ
คนอื่นแลว ยังคงเคลื่อนไหวอยางเงียบๆ อยูภายในปา
หนทางดานหลังชางราบรื่นนัก ระหวางทางนอกจากบังเอิญพบกับอสูรขนยาวที่
อยูตามลำพังสองสามตัวแลว ก็ไมพบคนของเผาพฤกษาเลยสักคน
นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกดีอกดีใจในเวลาเดียวกัน และอดที่จะรูสึกฉงนสงสัยไมได
แตเมื่อขบคิดอีกที พื้นที่ของปาใบดำนั้นกวางใหญขนาดนี้ เวลานี้แคนี้ยังไมพบ
เผาพฤกษาก็ไมใชเรื่องที่แปลกประหลาดอะไร
ภารกิจนี้เกี่ยวของกับยากำจัดสิ่งโสม ตอนนี้เขาเขามาในสวนลึกของปาแลว
แนนอนวาจึงไมอาจถอนตัวกลางคันได
ถึงแมวาจะรูสึกไมสบายใจเล็กนอย หานลี่ก็แคเพิ่มความระมัดระวังขึ้น สองเทา
กลับไมหยุดพักเลยแมเพียงชั่วครู
…...
สองวันตอมา หานลี่พลันหยุดอยูบนกิ่งไมบางๆ กิ่งหนึ่ง รางกายพลิ้วไหวไป
ตามลมราวกับไมมีสสาร สองตากลับจองเขม็งไปยังเนินเขาสูงรอยจั้งที่อยูหางออกไป
ไมไกลนัก
บนยอดเขามีตนไมอยูบางตาเปนพิเศษ นอกจากตนไมโบราณที่มีอายุคอนขางนานอยู
สองสามตน ก็ไมมีตนไมอื่นอีก
หลังจากที่หานลี่ตรวจสอบเนินเขาอยูนาน ถึงไดพลิกฝามือ จานอาคมสามเหลี่ยม
สีดำพลันปรากฏขึ้น
ใจกลางของอาคม ลำแสงสีขาวนวลจุดหนึ่งกะพริบวายไมหยุด
กมหนาลงมองจานอาคมอยูชั่วครู แลวมองเนินเขาที่อยูไกลออกไป มือหนึ่งรายอาคม
ลำแสงสีเขียวสายหนึ่งโจมตีไปยังจานอาคม
ชั่วขณะนั้นจานอาคมพลันเปลงแสงสีดำสวางวาบ จุดลำแสงสีขาวนวลกลุมนั้น
บินออกมา หลังจากหมุนวนโคจรรอบหนึ่ง ชั่วครูก็พนเสนไหมสีขาวบางๆ สายหนึ่ง
ออกมา ตรงไปยังตนไมยักษตนหนึ่งบนเนินเขา
หานลี่เลื่อนสายตาไป
ตนไมตนนี้ดูเหมือนตนไมโบราณที่แหงตายไปครึ่งหนึ่งแลว สูงประมาณสามสิบจั้ง
ดานบนเปนสีดำสนิท ราวกับวาถูกฟาผาอยางไรอยางนั้น ดานลางกลับเปนสีเหลือง
ใกลกับโคนรากเปนสีเขียวออน
หานลี่มองดูอยูชั่วครู ฉับพลันนั้นพลันปดตาทั้งสองขาง แผจิตสัมผัสออกไป
ตรวจสอบในบริเวณรอบๆ อยางละเอียด
ชั่วครูถึงไดเบิกตาทั้งสองขางขึ้น เผยสีหนาวางใจออกมา
รอบดานไมมีคนเลยสักคน และไมมีความผิดปกติอะไร
หานลี่ไมไดเคลื่อนไหวตอ หลังจากที่หรี่ตาทั้งสองขางลงขบคิด พลันสะบัดแขนเสื้อ
ไขมุกกลมๆ สีเงินสองสามเม็ดปรากฏขึ้นในมือ อาปากออกอีกครั้ง หลังจากเสียง
“ฟูๆ” ดังขึ้น พนวิหคเพลิงสีเงินขนาดเทากำปนออกมา
หลังจากที่วิหคเพลิงบินวนรอบรางเขา ก็มีขนาดประมาณสองสามฉื่อ กระโจนเขามาที่
ฝ า มื อ คาดไม ถ ึ ง ว า จะกลื นไขม ุ ก สี เ งิ น สองสามเม็ ดนั ่ นลงไป จากนั ้ น ก็ เ ปล งแสง
สวางวาบ จมหายเขาไปใตดินอยางไรรองรอย
หลังจากทำทุกอยางเสร็จสิ้น หานลี่ก็ใชมือหนึ่งปดที่ไปกำไลเก็บของ ในมือมี
ธงอาคมสีเขียวตั้งหนึ่งปรากฏขึ้น โยนออกไปดานหนาโดยไมปริปาก
ลำแสงสีเขียวเจ็ดแปดสายพุงออกไป จมหายเขาไปในเนินเขาอยางไรรองรอย
สองมือของหานลี่พลันรายอาคม บริกรรมคาถาสองสามครั้ง
ชั่วขณะนั้นลำแสงวิญญาณสีเขียวชั้นหนึ่งพลันปรากฏขึ้นรอบๆ เนินเขา แตทันใดนั้น
หานลี่ก็รายอาคมกระตุน ทันใดนั้นก็เปลงแสงระยิบระยับ แลวหายวับไป
เมื่อเห็นฉากนี้ หานลี่พลันพนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง รางกายหมอบลงบนตนไม
หลังจากกะพริบวาบสองสามครั้ง ก็มาอยูตรงขอบของเนินเขา
ลำแสงสีเขียวเปลงแสงสวางวาบ รางทั้งรางพลันหายวับไปอยางไรรองรอย
ตอนที่ 1375 เผาพฤกษา
มองจากจุดที่ไกลออกไป บนเนินเขาทุกอยางดูปกติมาก ดูเหมือนวาจะไมมีอะไร
เปลี่ยนแปลงเลยสักนิด แตความจริงแลวก็เปนแคภาพลวงตาชั้นหนึ่งเทานั้น
หานลี่เองนั้นยืนอยูบนเนินเขาตั้งนานแลว และยิ่งไปกวานั้นยังยืนอยูดานหนา
ตนไมโบราณที่ใกลเฉาตายตนนั้น
หานลี่มองไปยังตนไม ในหัวคิดถึงเรื่องที่หลงและสตรีกลาวถึงไปมา
จากที่พวกเขากลาว หากเปนไปไดละก็ สายลับของเผามนุษยและปศาจจะมาพบ
กับผูคาบขาวเอง เพื่อจะไดแลกเปลี่ยนเนื้อหาที่ไมสะดวกจดบันทึกลงไป แตหากมัน
อันตรายเกินไป ไมอาจมาไดดวยตนเองละก็ ก็จะทิ้งขาวคราวทั้งหมดเอาไวที่นี่
ครานี้เขากวาดจิตสัมผัสไปรอบๆ ดูแลวคงไมมีใครมาที่นี่ดวยตนเอง เชนนั้น
ภารกิจก็จะงายขึ้นแลว ขอแคเอาของไป ก็ถือวาเขาทำสำเร็จแลว
เมื่อขบคิดในใจเชนนี้ หานลี่ก็ยื่นนิ้วชี้ออกไปอยางไมคิดมากอีก วาดไปกลางอากาศ
ทางตนไมโบราณเบื้องหนา หลังจากเสียง “ฉับ” ดังขึ้น ไอกระบี่สีเขียวสายหนึ่งก็
พุงแหวกอากาศออกไป ตนไมแหงกรอบถูกฟนออกเปนสองสวน
ดานในมีคัมภีรสีขาวนวลปรากฏขึ้น
หานลี่เผยสีหนายินดีออกมา เสียงอึกทึกดังขึ้นกลางอากาศ ลำแสงสีทองสายหนึ่ง
ทะลุผานเคล็ดวิชาลวงตาของหานลี่ ตรงเขาไปหาคัมภีร
หานลี่หนาเปลี่ ยนสี ชูมือขึ้นลำแสงสีเ ขีย วเปล งแสงสวางวาบโดยไมต อ งคิ ด
มือลำแสงขางหนึ่งปรากฏขึ้นบนลำแสงสีทองแลวตะปบลงมาทันที
เสียงหัวเราะอันแผวเบาที่คุนเคย “จุๆ” ดังขึ้น ลำแสงสีทองที่ดูเหมือนเงาลวงตา
ถู ก มื อลำแสงสี เ ขี ย วตะปบเอาไว แต ค ั ม ภี ร  ท ี ่ แ ต เ ดิ ม กำลั ง พุ  ง เข า มาหานลี ่ ก ลั บ
หยุดชะงัก เงาสีขาวจางๆ สายหนึ่งปรากฏขึ้นดานขาง ดูเหมือนวาจะชูมือขึ้นอยาง
สบายๆ ควาคัมภีรมาอยูในมือ
“สหายเยี่ย!” หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง ชั่วพริบตาก็จำใบหนาที่แทจริงของเงา
สีขาวได จึงรองเรียกหญิงสาวชุดขาวนามวาเยี่ยอิ่งออกมา
“พี่หาน ดูแลวการเดินทางคงราบรื่น จึงมาถึงที่นี่ไดอยางสบายๆ” หญิงสาวควง
คัมภีรเลนในมือพลางหัวเราะคิกคักขณะเอย
“หมายความว า อย า งไร หรื อว า เซี ย นเยี ่ ย พบป ญ หาเข า ข า รอพวกเจ า อยูที่
ทางออกทางเดิ นสวรรค ต รงเขตแดนของป า อยู  ต ั ้ ง นาน แต ก ็ ไ ม ไ ด ข า วอะไรเลย
เกิดอะไรขึ้นกับพวกเจา” แววตาของหานลี่ฉายแววสงสัยขณะเอยถาม
“งายมาก ขาและพวกของสหายหลงพบกับอสรพิษวายุฝูงหนึ่งในเสนทางสวรรค
จึงจำใจตองแยกกัน และเพื่อดิ้นใหหลุดจากเจาพวกนั้น จึงทำไดเพียงเปลี่ยนทิศทาง
ระหวางทางยังพบกับปญหาอีกเล็กนอย สหายจึงไมพบกับพวกเรา” หญิงสาวฉีกยิ้ม
เบิกบาน คาดไมถึงวาจะเผยทาทางเปนเอกลักษณออกมา
หานลี่กลับใจหายวาบ รูสึกแปลกๆ จากคำพูดของหญิงสาวผูนี้
เขายังไมทันไดคิดวาจะเอยอะไรตอ ดานขางก็มีลำแสงสีเขียวสวางวาบ ลำแสง
หลี ก หนี ส องสายพุ  ง เข า มา หลั ง จากหม น แสงลง ก็ เ ผยร า งของบุ ร ุ ษ หนึ ่ ง คนและ
สตรีหนึ่งคนออกมา
บุรุษมีหนาหลอเหลา สตรีมีใบหนางดงาม นั่นก็คือหลงตงและสตรี
“เจา!”
“เจาลวงหนามากอกอนดังคาด!”
คำพูดที่ไมเหมือนกันดังออกมาจากปากของทั้งสองคน
เมื่อสตรีเห็นหานลี่มาถึงที่นี่ไดอยางปลอดภัย ก็ประหลาดใจเล็กนอย สวนหลงตง
เมื่อเห็นหญิงสาวชุดขาวกลับเผยสีหนายินดีออกมา
“ที่แทพี่หลงและสหายเสี่ยวก็ไมไดเร็วกวานองหญิง แตชากวาหนอยนี่เอง”
หญิงสาวชุดขาวมองทั้งสองคน แลวเอยอยางราบเรียบ
“ของ แมหญิงเยี่ยไดมาแลว” แววตาของหลงตงกวาดไปยังของที่อยูในมือของ
หญิงสาว แลวเผยทาทีอมยิ้มออกมา
สวนสตรีเมื่อเห็นคัมภีรอยูในมือของหญิงสาวชุดขาวแลว กลับหนาเปลี่ยนสีไป
เล็กนอย
“ใชแลว ขานอยเพิ่งไดของสิ่งนี้มา ความจริงแลว นาจะเปนสหายหานที่มาถึงกอน
นองหญิงแคมากอนทั้งสองทานกาวเดียวเทานั้น” หญิงสาวเปลงเสียงหัวเราะกังวาน
ออกมา แลวเอยอยางราบเรียบ
“พี่หาน ที่นี่มีแคคัมภีรมวนเดียวหรือ?” สตรีขบคิดเล็กนอยแลวเอยถามขึ้น
หานลี่ใจเตน แตยังคงพยักหนาดวยสีหนาราบเรียบ
เมื่อไดยินคำตอบของหานลี่ สตรีก็เงียบขรึม สวนหลงตงกลับมองไปยังหญิงสาว
โดยไมปริปาก สวนหญิงสาวชุดขาวนั้นกลับกมหนาลง แคหัวเราะนอยๆ ขณะควง
คัมภีรในมือเลน
ครานั้น ที่นี่จึงเปลี่ยนเปนเงียบสงัด แตบรรยากาศกลับตึงเครียดขึ้นหลายสวน
ราวกับสัญญาณกอนฟาฝนกระหน่ำ
“นองหญิงเยี่ย คัมภีรมวนนี้ใหขาดูหนอยไดหรือไม สายสืบของเผาพฤกษาที่สงมาใน
ครั้งนี้ มีคนของเผาหงสทมิฬดวย ไมแนวาดานในอาจจะมีอะไรที่คนของเผาขาทิ้ง
เอาไว” สตรีมีสีหนาผอนคลายลง ขณะเอยดวยรอยยิ้มเบิกบาน
“เกรงวาจะไมได ไมปดบังพี่หญิง สายสืบที่สงมายังเผาพฤกษา เปนคนของ
ตระกูลเยี่ยพอดี เชนนั้นใหนองหญิงดูกอน จากนั้นคอยใหพี่หญิงเปนอยางไร?”
หญิงสาวชุดขาวเมมปาก แลวฉีกยิ้มเบิกบาน
ฟงจากคำพูดของหญิงสาว เสี่ยวหงพลันหนาเปลี่ยนสี และไมสามารถฉีกยิ้มตอไป
ไดอีก แววตาเครงขรึมขึ้น
“ในเมื่อไดของมาแลว ก็อยารั้งรออยูที่นีน่ านนักเลย พวกเรารีบออกจากปาผืนนี้
แลวคอยวากันเถิด” หลงตงกลับเอยดวยสีหนาราบเรียบ
“นองหญิงก็คิดเชนนั้น” หญิงสาวชุดขาวเอยตอบปากตกลง
สตรีขยับริมฝปาก แตสุดทายก็ไมไดเอยอะไรออกมา
แนนอนวาหานลี่เองก็ไมมีความเห็นอะไร
หญิงสาวเห็นเชนนั้นจึงฉีกยิ้ม ดวงตาสดใสกลอกไปมา ตอนที่กำลังจะเก็บคัมภีรนั้น
พลันมีเสียงดังขึ้นเบาๆ ตนไมโบราณที่อยูใกลๆ พลันพนลำแสงสีเงินสายหนึ่งออกมา
ความเร็วของมันมาถึงเสื้อของหญิงสาวไดในพริบตา
ถึงแมวาหญิงสาวจะไมไดหันศีรษะไป แตก็แคนเสียงขึ้นจมูก รางกายพลิ้วไหว
รางเลือนหายไปจากที่เดิม
ครูตอมาคนก็มาปรากฏหางออกไปสิบจั้งเศษ แตรางกายยังไมไดเผยออกมา
ใตฝาเทาของนางมีลำแสงสีเงินประหลาดๆ พุงออกมาสายหนึ่ง
ครั้งนี้ในที่สุดหญิงสาวก็หนาเปลี่ยนสี
หั ว ไหล ข องนางพลิ ้ ว ไหว เพี ย งก า วเท า ก็ พ ุ ง ออกไปสองสามจั ้ ง ราวกั บสปริง
ชั่วขณะนั้นก็เปลงแสงสวางวาบแลวโจมตีไปใตฝาเทา
แตในตอนนั้นเอง เสียงแหวกอากาศก็ดังขึ้น
เสนไหมลำแสงโปรงใสจนแทบมองไมเห็นสายหนึ่งพุงออกมาจากใกลๆ เปาหมาย
ไมใชหญิงสาว แตกลับเปนคัมภีรในมือของหญิงสาว
หญิงสาวชุดขาวพลันตะลึงงัน หดมือกลับไปอยางรวดเร็ว แตสุดทายก็สายไปแลว
หลังจากเสียง “ปง” ดังขึ้น คัมภีรก็ระเบิดออก กลายเปนผุยผง หญิงสาวตกตะลึง
ระคนโกรธเกรี้ยว หวางคิ้วเกิดจิตสังหารขึ้น พลิกฝามือตะปบออกไป คาดไมถึงวาจะ
ตะปบเสนไหมโปรงใสเสนนั้นเอาไวในมือ จากนั้นก็กระชากมาหาตัวเองอยางแรง
เสียง “ครืด” ดังขึ้น แมลงยักษรางกายกึ่ งโปร งใสตั วหนึ ่ง ถู กดึ งออกมาจาก
กลางอากาศ
สิ่งที่เหมือนกับแมลงปศาจนี้ ยาวสามสี่ฉื่อ ราวกับรังไหมยักษรังหนึ่ง แตบนแผน
หลังของมันมีปกจักจั่นงอกออกมาคูหนึ่ง พยายามกระพือสุดฤทธิ์ ดูเหมือนกำลัง
พยายามบินขึ้น แตปลายของเสนไหมลำแสงโปรงใสอีกดาน นั่นคือปากของแมลงตัวนี้
เชนนั้นขณะที่ถูกหญิงสาวจับเอาไว แมลงตัวนี้ก็ไมอาจบินขึ้นมาไดเลยสักนิด
ชั่วพริบตาที่คัมภีรถูกทำลาย หานลี่และพวกทั้งสามก็ตกตะลึง
แทบจะในเวลาเดียวกัน ตนไมโบราณสองสามตนที่เหลือก็เปลงแสงสีเขียวออกมา
ทันใดนั้นตนไมโบราณสองสามตนก็ละลายออกราวกับภาพลวงตา ที่เดิมมีเงารางคน
สีเขียวสองสามสายปรากฏขึ้น ราวกับงอกออกมาจากตนไมอยางไรอยางนั้น
“หึๆ คิดไมถึงวา ของจะมาซอนอยูที่นี่ หากไมใชเพราะพวกเจานำทางมา ก็คงหา
ยากจริงๆ เชนนั้น เผาของขาก็จะไมมีภัยพิบัติแลว” เงารางคนสูงใหญคนหนึ่งกวาด
มายังหานลี่และพวก ปากพลันเปลงคำพูดภาษามนุษยแปรงๆ ออกมา
หานลี่มองหนาตาของเงารางคนเหลานั้น รูมานตาพลันหดเล็กลง
คนเหลานี้ดูเหมือนวาจะหนาตาคลายคลึงกับมนุษย แตผิวของทุกคนเปนสีเขียวมรกต
เครื่องหนาทั้งหานอกจากดวงตาสีมวงออนแลว ก็เหมือนกับมนุษยทุกระเบียบนิ้ว
แมกระทั่งสามารถแยกแยะไดวาสองคนในนั้นมีรางกายอรชรออนแอนของเพศหญิง
เงารางคนเหลานี้นั่นก็คือ คนของเผาพฤกษา
สิ่งที่ทำใหหานลี่ตกตะลึงก็คือ คนของเผาพฤกษาสวมเข็มขัดเสนไหมที่เปลงแสง
ระยิบระยับอยู กวาครึ่งลวนเปนเข็มขัดสีสม
เข็มขัดของผูนำที่สูงใหญของเผาพฤกษา คาดไมถึงวาจะยังมีเสนไหมสีเงินผสมอยู
ในเข็มขัดสีเหลืองสม
เมื่อนึกถึงตำนานระดับของเผาพฤกษา จิตใจของหานลี่ก็หนักอึ้ง
“ระดับเงิน เจาคือ พฤกษาวิญญาณระดับเงิน!” เมื่อมองเห็นเข็มขัดที่เอวของ
ชายรางสูงใหญของเผาพฤกษาแลว หญิงสาวก็มีสีหนาดูไมไดอยางสุดๆ อยางไมอาจ
รักษาสีหนาเอาไวได
“ขานอยคือ ปรมาจารยพฤกษาวิญญาณระดับเงิน ในเมื่อเหลาสหายมาที่นี่แลว
ก็อยาไปเลย มาเปนแขกของเผาขากอนเถิด” ชายรางใหญของเผาพฤกษาเอยดวย
สีหนาไรความรูสึก จากนั้นก็พลิกฝามือ
คนของเผาพฤกษาที่สวมเข็มขัดสีสมอยูดานหลังพลันคอมตัวลง สองมือกดลงที่พื้น
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเขียวชั้นหนึ่งพลันทอดตัวไปบนพื้นบนเนินเขาดวยความเร็วที่
นาตกตะลึง
หานลี่และหญิงสาวชุดขาวที่แตเดิมยืนอยูบนพื้น พวยพุงขึ้นไปกลางอากาศอยาง
ไมตองคิด
เสียง “ตึงๆ” อันอึกทึกดังสนั่นขึ้น เขตอาคมลวงตาที่หานลี่วางเอาไวไรซึ่งผล
กลายเปนของไรคาในชั่วพริบตา
เมื่อเคล็ดวิชาลวงตาถูกทำลาย ชั่วขณะนั้นทิศทัศนรอบๆ เนินเขาก็ปรากฏขึ้น
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น!
เห็นเพียงจุดที่ลำแสงสีเขียวเคลื่อนผาน ตนไมรอบๆ ลวนกลายเปนอสูรขนยาวสูงใหญ
ทามกลางลำแสงสีเขียว มือถือมีดรูปแบบตางๆ เอาไว สีขนหลากสีสัน แมกระทั่งมี
พายุปศาจพัดผานแลวพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา
ดูคราวๆ แลว มีมากกวาสองสามพันตัว ทะลักเขามาบนเนินเขาราวกับสายธาร
หลงตงและสตรีเห็นสถานการณเชนนั้น ชั่วขณะนั้นใบหนาพลันซีดขาว
หานลี่กระตุกมุมปาก เผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา มีเพียงหญิงสาวชุดขาวที่มีสีหนา
เครงขรึม แคจองเขม็งไปยังพฤกษาวิญญาณที่มีนามวามูรุย ไมรูวากำลังคิดอะไรอยู
“นี่คืออสูรวานรพฤกษาที่เผาของเราศึกษามาหลายพันป หากพวกเจาเคยอาน
คัมภีรมวนนั้น ก็คงมีอยูในบันทึก แตตอนนี้ หึๆ…” มูรุยมีสีหนาแข็งทื่อแตปากกลับ
เปลงคำพูดเสียดสีออกมา
“ลงมือ!”
เสียงไมคุนเคยดังขึ้น หานลี่และพวกยังไมทันรูวาเกิดอะไรขึ้น หญิงสาวชุดขาวกลับ
อาปากออก พนลำแสงโลหิตสีแดงสดสายหนึ่งออกมา กลายเปนเสนไหมโลหิตสีแดง
สองสามสาย พุงไปหาพฤกษาวิญญาณตนอื่นๆ ยกเวนพฤกษาวิญญาณระดับเงิน
ตอนที่ 1376 หกแขนปรากฏตัวเปนครั้งแรก
พฤกษาวิญญาณสองสามตนพลันตะลึงงัน บางก็เปลงแสงสีเขียวสวางวาบ โลและ
เกราะป องกั นพฤกษาปรากฏขึ ้ น บ า งก็ อ า ปากออกพร อมกั น พ น ลำแสงสี เ ขี ย ว
กลุมหนึ่งออกมา คิดจะตานทานเสนไหมโลหิตเอาไว แตไมรูวาเสนไหมโลหิตเหลานี้
สรางขึ้นจากสิ่งใด มันทะลุผานเครื่องปองกันเหลานั้นไปราวกับเงาลวงตา เปลงแสง
สวางวาบแลวจมหายเขาไปในรางของพฤกษาวิญญาณเหลานั้น
พฤกษาวิญญาณเหลานั้นมีลำแสงสีโลหิตปรากฏขึ้นบนเรือนราง ชั่วพริบตาก็ถูก
เสนไหมโลหิตหอหุมเอาไวเปนตาขาย ครานั้นไมมีทางดิ้นรนหลบหนีได
ในเวลาเดียวกันซากของตนไมโบราณสองสวนที่ถูกหานลี่ใชไอกระบี่ผา ออก
ก็หมุนวนแลวกลายเปนเงาสีทองจางๆ สองสายกระโจนเขาไปหามูรุย
มูรุยแคนเสียงในลำคอ จากนั้นพลันชี้นิ้วไป
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเงินสองสายพลันเปลงแสงสวางวาบ แลวดีดตัวออกโจมตีไป
ยังเงาสีทองอยางพอดิบพอดี
เสียง “ตูมๆ” ดังขึ้น เงาสีทองระเบิดออก จุดลำแสงสีทองจำนวนนับไมถวนพุง
กระจายไปทั่วทั้งสี่ทิศ หอหุมพฤกษาวิญญาณระดับเงินเอาไว
เสียงคำรามดังสนั่นขึ้น รอบดานของมูรุยมีเขตอาคมที่กอตัวขึ้นจากอักขระสีทอง
ปรากฏขึ้น ทามกลางลำแสงวิญญาณพลันหอหุมพฤกษาวิญญาณระดับสูงเอาไวขางใน
มูรุยแววตาเปลงแสงสีมวง สองมือประกบเขาหากัน ในมือมีลำแสงสีเงินที่เจิดจา
จนแสบตาปรากฏขึ้น จากนั้นลำแสงสีเงินจำนวนนับไมถวนก็ระเบิดออกแลวพุงไป
ทั้งสี่ทิศ
เสียงตูมๆ ดังสนั่นขึ้น ลำแสงสีเงินและยัน ตสีท องพั วพั นตัดสลับ กั น ไมรูว า
อักขระสีทองเหลานั้นคือ ความสามารถประหลาดอะไร มันตานทานการโจมตีของ
พฤกษาวิญญาณระดับเงินเอาไว มีเพียงอักขระสวนนอยที่ถูกโจมตีตนสลายออก
ฉากนี้ทำใหพฤกษาวิญญาณระดับสูงอยางมูรุยรูสึกตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว
ไมตองขบคิด ระหวางฝามือสองมือพลันมีลำแสงสีเงินปรากฏขึ้นอีกครั้ง ลำแสงที่
ผนึกตัวรวมกันแคมองก็รูวาเปลงแสงเจิดจากวาครั้งที่แลวหลายสวน
แตครานี้เมื่อเห็นพฤกษาวิญญาณระดับเงินและพฤกษาวิญญาณระดับสูงตนอื่นๆ
ถู ก กั ก เอาไว แม ว  า หานลี ่ แ ละหล ง ตงจะตกใจ แต ไ หนเลยจะนิ ่ ง รอความตายตอ
ทันใดนั้นจึงทยอยกันสำแดงความสามารถปกปองชีวิตออกมาดวยความดีใจ แลวพุง
ออกไปทั้งสี่ทิศทันที
สตรีผูนั้นใชสองมือรายอาคม รางกายหมุนวนพุงลงไปยังพื้นดิน ชั่วพริบตาก็
กลายเปนหงสเพลิงที่งดงามเปนพิเศษ รอบกายมีเปลวเพลิงปศาจสีดำหอหุมอยู
พุงเขาไปหาฝูงวานรพฤกษา ทุกแหงที่บินผานยุทธภัณฑตางๆ ของวานรยักษที่เขามา
ประชิดตัวพลันกลายเปนเถาถาน
ชั่วพริบตาหงสตัวนั้นก็ออกหางมาในระยะรอยจั้งเศษ
ภายใตสีหนาเครงขรึมของหลงตง กลับกลืนยาลูกกลอนหาสีลงไปเม็ดหนึ่ง ทันใดนั้น
ปากพลันบริกรรมคาถา บนรางมีเกราะสงครามติดปกคูหนึ่งปรากฏขึ้นอีกครั้ง
สองปกกระพือ เกราะสงครามมีเงาลวงตามังกรทองหากรงเล็บตัวหนึ่งปรากฏขึ้น
มังกรตัวนี้เปลงเสียงกูรองกับทองฟา จากนั้นก็หมุนวนรอบหนึ่งแลวจมหายเขาไป
ในรางของหลงตง
ทันใดนั้นรางของชายหนุมไฝโลหิตก็เปลงแสงสีทองออกมา กลายเปนสายรุงสีทอง
ยาวสิ บ จั ้ ง เศษพุ  ง ทะยานออกไป ขณะที ่ ล ำแสงสี ท องกะพริ บ วาบมั ง กรสี ท อง
หากรงเล็บก็สะบัดหัวสะบัดหาง ทุกแหงที่ลำแสงสีทองกวาดออกไป สิ่งของที่ตานทาน
อยูเบื้องหนาทั้งหมดตางกลายเปนฝนโลหิตโปรยปรายลงมาทันที
เที ย บกั บ ทั ้ ง สองคนก อ นหน า ที ่ ห นี ไ ปอย า งสะเทื อ นฟ า สะเทื อ นดิ น แล ว
การเคลื่อนไหวของหานลี่กลับเงียบเชียบ แผนหลังมีเสียงฟาผาดังขึ้น ปกขนนก
สีเขียวขาวคูหนึ่งปรากฏขึ้น
จากนั้นเขาพลันอาปากออก พนโลหิตบริสุทธิ์ออกมาสองสามหยด โคจรอยู
ลอมรอบเขา แลวกลายเปนหมอกโลหิตผืนใหญหอหุมเรือนรางเอาไว
ขณะที่หมอกโลหิตหมุนวนสองสามรอบ ก็หดเล็กลง ดานในมีเงาโลหิตสายหนึ่ง
พุงออกมา หลังจากเปลงแสงสวางวาบ ก็ทะลุผานอสูรวานรพฤกษาที่หนาแนนไปราว
กับไรรูปราง ปรากฏขึ้นที่ขอบฟา
หลังจากเปลงแสงสวางวาบอีกครั้ง เงาโลหิตถึงไดหายวับไป
หานลี่สำแดงเงาโลหิตหลีกหนีของระดับเทพแปลงออกมา คาดไมถึงวาจะเร็วกวา
หงสทมิฬและลำแสงสีทองที่หลงตงสรางขึ้นหลายเทา
ทำใหทั้งสองคนที่อยูในลำแสงหลีกหนีมองเห็นอยูไกลๆ แลวอดที่จะตกตะลึงจน
ตาคางไมได
หญิงสาวชุดขาวกลับอยูอีกดาน แคใชมือหนึ่งโบกสะบัดไป มีดสั้นสีแดงเลมหนึ่ง
ปรากฏขึ้นในมือ และไมเห็นวานางจะรายอาคมใดๆ แคโบกสะบัดมีดเลมนั้นไปทางที่
มีอสูรวานรพฤกษาเยอะที่สุดเบาๆ
ชั่วขณะนั้นบรรยากาศรอบๆ ก็สั่นคลอน มีดลำแสงสีแดงสดยาวรอยจั้งเศษพราว
กับเสายักษค้ำฟาพลันปรากฏขึ้นกลางอากาศ และสับลงมาอยางรุนแรง
ทุกแหงที่มดลำแสงสับลงไป อสูรวานรพฤกษาที่ถูกหอหุมเอาไวพลันเกิดความ
โกลาหลขึ้น ทยอยกันรอนรนคิดจะหนีออกหางจากที่เดิม
สิ่งที่นาเหลือเชื่อก็คือ ชั่วพริบตารางทั้งหมดของวานรพฤกษาเพิ่งจะเคลื่อนไหว
รางกายก็สั่นเทาแลวมอดไหมไป ชั่วพริบตาอสูรวานรพฤกษารอยตนก็กลายเปนผุยผง
ทามกลางลำแสงเพลิงสีแดง
เบื้องหนามีทางเดินยาวๆ สายหนึ่งปรากฏขึ้น
มีดลำแสงขนาดยักษยังไมสับลงมา ก็หายวับไปอยางแปลกประหลาด
ในตอนนั้นเองรากของตนไมโบราณที่มีคัมภีรซอนเอาไว พลันมีวิหคเพลิงสีเขียว
ขนาดเทากำปนพุงออกมา เปลงแสงสวางวาบแลวกลายเปนลำแสงสีเขียวจมหายเขา
ไปในรางของหญิงสาว
หญิงสาวชุดขาวเห็นเชนนั้นกลับมีสีหนายินดี สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง
รางกายพลิ้วไหวหายไปจากที่เดิม แตหลังจากกะพริบวาบครั้งหนึ่ง ก็ปรากฏขึ้นตรง
กลางทางเดิน แตเมื่อเคลื่อนไหว คนก็หายวับไป ปรากฏขึ้นตรงปลายทางของทางเดิน
ทันใดนั้นหญิงสาวพลันเงีย บกริ บ กลายเปนสายรุงสีขาวสายหนึ่งพุ งออกไป
ลำแสงกะพริบวาบๆ ชั่วลมหายใจก็หายวับไปจากขอบฟาเชนกัน
เคล็ดวิชาหลีกหนีของสตรีผูนี้ดูเหมือนวาจะไมดอยไปกวาเงาโลหิตหลีกหนีของ
หานลี่เลย
ครานี้มูรุยที่ถูกยันตอาคมสีทองกักเอาไว พลันมีลำแสงสีเงินระเบิดออกมาจากบน
ฝามืออีกครั้ง
ครั้งนี้ลำแสงสีเงินมีอานุภาพมากกวาครั้งที่แลว ภายใตการโจมตีคาดไมถึงวาจะ
ทำลายยันตสีทองไปกวาครึ่ง สวนที่เหลือก็ลอมรอบพฤกษาวิญญาณตนนั้นเอาไว
ไมหยุด
พฤกษาวิญญาณตนนี้มีสีหนาไรความรูสึก แตลำแสงสีมวงพลันเปลงแสงสวางวาบขึ้น
ในแววตา ฉับพลันนั้นพลันเงยหนาขึ้นเปลงเสียงรองแหลมๆ อันไพเราะออกมา
ชั ่ ว ขณะนั ้ น พลั น เกิ ด อื ้ อ อึ ง ขึ ้ น ในบรรดาอสู ร วานรพฤกษาที ่ อ ยู  ใ กล เ คี ย ง
แบงออกเปนสองสามกลุม แลวทยอยกันไลตามพวกของหานลี่ไปอยางรีบรอน
แทบจะในเวลาเดียวกั น ตรงจุดที่ไกลออกไปจุดอื่ นในปาสี ดำ เสียงกรีดร อง
เหมือนกันราวกับกำลังขานรับกันพลันดังขึ้น…
หานลี่ไมไดใชเงาโลหิตหลีกหนีนานนัก หลังจากสลัดเหลาอสูรออกไปโดยไมเห็น
เงาแลว ทันใดนั้นก็เห็นลำแสงโลหิต แลวกลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไป
แตเชนนั้นสีหนาของเขาก็ยังซีดขาวกวาเดิมสองสามสวนอยางเห็นไดชัด
ดูจากทาทางแลว การสำแดงเงาโลหิตหลีกหนีติดตอกันสองครั้ง จะทำใหเขา
สูญเสียปราณแทไป
ทวาเมื่อคิดวาดานหลังอาจจะมีพฤกษาวิญญาณระดับเงินไลตามมา เขาก็ไมกลา
หยอนยานเลยสักนิด นั่นเทากับสิ่งมีชีวิตระดับผสานอินทรียของเผามนุษย ตอใหเขา
มั่นใจในความสามารถของตัวเองขนาดไหน ระดับที่แตกตางกันขนาดนี้ ก็ไมกลา
หวังวาหากประมือกันแลวจะมีโอกาสชนะ ถึงแมวาอีกฝายจะอยูในอันดับที่รองจาก
อันดับเงินตนหนึ่งก็ตาม
ครั้ ง นี ้ ห ากไม ใ ชเ พราะมี ค นแอบลงมื อช ว ย ฉั บ พลั น นั ้ น พลัน ใช เ คล็ ด วิชาลับ
กักพฤกษาวิญญาณระดับเงินเอาไว เกรงวาพวกเขาคงไมมีโอกาสไดหนีแน
แตเห็นไดชัดวายันตเขตอาคมสีทองนั่นไมอาจกักสิ่งมีชีวิตระดับนั้นไดนานนัก
ขณะที่ทุกคนกำลังแยกกันหลบหนี ผูใดก็อาจจะถูกพฤกษาวิญญาณระดับเงินระบุ
เปาได เขาจึงยิ่งไมกลาหยุดพัก!
ถึงแมวาจะไมไดเงาโลหิตหลีกหนีอีก แตหานลี่ที่อยูในลำแสงหลีกหนีสีเขียว
ปกวายุอสนีที่แผนหลังกระพือขึ้นลงไมหยุด ทุกครั้งตางมีลำแสงสวางวาบ ทำให
ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งสวน หลังจากกระพือสิบกวาครั้ง ความเร็วก็ไมตาง
อะไรกับผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา ทวาเชนนั้น หานลี่ก็ยังไมกลาหันหลัง
กลับไป แคกมหนากมตาบึ่งไปดานหนาเทานั้น
เสียง “สวบๆ” แหวกผานอากาศดังขึ้นจากดานลาง ทันใดนั้นวายุสองสามสายก็
พุงออกมาชางแปลกประหลาดหนัก
หานลี่มีสีหนาเครงขรึมลำแสงหลีกหนีหยุดชะงักกลางอากาศ
ลำแสงหลีกหนีสามสายเปลงแสงสวางวาบพลางแฉลบผานไปจากทางดานหลัง
ระยะหางจากตัวเขาไปแคสองสามฉื่อ
หากเมื่อครูหานลี่ไมไดหยุดลำแสงหลีกหนี เกรงวาคงถูกลำแสงสีเขียวสามสาย
ทะลุผานรางไปแลว
ครานี้ลำแสงสีเขียวสามสายพลันหมุนวน กลายเปนคนของเผาพฤกษาสามคน
แตละคนถือหอกไมสีเขียวเอาไว ตานเอาไวเบื้องหนาอยางไรความรูสึก
แววตาของหานลี่กวาดไปที่เอวของทั้งสาม พบวาเอวของพฤกษาวิญญาณสามตนนี้
เปนสีเหลืองออน ทันใดนั้นก็รูสึกผอนคลายลง
นั่นหมายความวาทั้งสามคนมีพลังเทากับผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง แนนอน
วาเขาจึงไมเห็นอยูในสายตา
หานลี่เองก็ไมเห็นวาเขาจะลงมืออะไร ปกวายุอสนีที่แผนหลังกระพือเล็กนอย
กลายเปนประจุไฟฟาสีเขียวขาวสายหนึ่งพุงออกไป
สายฟาฉับไวขนาดไหน แคกะพริบวาบ คนก็มาอยูตรงกลางของพฤกษาวิญญาณ
พฤกษาวิญญาณมีใบหนาไรความรูสึก แตลำแสงสีมวงพลันเปลงแสงสวางวาบใน
แววตาอยางรวดเร็ว คาดไมถึงวาจะควาหอกไมเอาไวอยางไมหวาดกลัว แลวพุงไปที่
ทองสวนลางของหานลี่
หอกไมยังไมทันประชิดตัว ก็ระเบิดลำแสงสีเขียวสองสามสายออกมา ราวกับวา
จะแทงหานลี่ใหเปนพรุนในพริบตา
แวววตาของหานลี่ฉายแววเย็นชา ใบหนาและแขนทั้งสองเปลงแสงสีทองสวางจา
ชั่วพริบตาก็มีเกล็ดสีทองโปรงแสงปรากฏขึ้น ลำแสงสีเขียวเหลานั้นทิ่มแทงเรือนราง
คาดไมถึงวาจะเปลงเสียงเหมือนโลหะทองกระทบกัน ออกมา ลวนถูกดีดกลับมา
ไมมีผลเลยสักนิด
แทบจะในเวลาเดียวกัน หานลี่พลันยื่นแขนขางหนึ่งออกไป คาดไมถึงวาจะควา
หัวหอกที่แหลมคมเอาไว ปลอยใหพฤกษาวิญญาณเบื้องหนาพยายามดึงกลับมา
แตกลับไมเปนขยับเขยื้อน
ใบหนาของพฤกษาวิญญาณมีไอสีเขียวสวางวาบ คลายหอกไมออกอยางไมลังเล
เลยแมแตนอย รางกายพุงออกไปดานหลัง การเคลื่อนไหวรวดเร็วดุจดาวตก ไม
เรียกวาวองไวไมได
แตแขนอีกขางของหานลี่กลับเปลงเสียง “แควกๆ” ออกมาขยายใหญขึ้นสองสามฉือ่
ปรากฏขึ้นตรงทรวงอกของพฤกษาวิญญาณราวกับเคลื่อนยายกาย นิ้วทั้งหาเลือนราง
ราวกับกระบี่ จมหายเขาไปดานใน
เสียงไพเราะดังขึ้น รางกายของไมวิญญาณราวกับกระดาษบางๆ ถูกหานลี่อาศัยกายที่
แข็งแกรงทะลวงผานไป นิ้วทั้งหาทะลุผานแผนพลังของพฤกษาวิญญาณ กลับบีบผลึก
สมบัติที่มีรูปรางเหมือนศิลาสีเหลืองออนเอาไว
ตั้งแตที่หานลี่โจมตีพฤกษาวิญญาณที่อยูตรงกลาง ไปจนถึงตอนที่เขามาโจมตีอยู
เบื้องหนา ทะลวงผานทรวงอกไป เปนเวลาเพียงชั่วพริบตาเทานั้น
นอกจากนี้พฤกษาวิญญาณอีกสองตนที่อยูดานขางเห็นเชนนั้น ปากก็เปลงเสียง
กรีดรองแหลมๆ ออกมา คาดไมถึงวาจะอาปากออก พนลำแสงสีเหลืองกลุมหนึ่ง
ออกมา อีกมือหนึ่งโบกสะบัดหอสีเขียวในมือ กลายเปนเงาลวงตาสองสามสายหอหุม
เรือนรางกวาครึ่งของหานลี่เอาไว
หานลี่หัวเราะอยางเย็นชาออกมา หดมือทั้งสองกลับไป คิดจะเก็บแขนทั้งสองขาง
กลับมาตอกรกับศัตรู
แตสิ่งที่เขาคาดไมถึงพลันปรากฏขึ้น
มือหนึ่งของเขาที่ปกลงไปในรางของพฤกษาวิญญาณและแขนอีกขางหนึ่งที่ควา
หอกไมเอาไว เปลงแสงสีเขียวออกมาในเวลาเดี ยวกั น พลังแรงดูดมหาศาลที ่ น า
เหลือเชื่อปรากฏขึ้น
แขนทั้งสองของเขาสั่นเทา ไมอาจเคลื่อนไหวและดึงออกมาไดเลยสักนิด
และเมื่อไดรับสิ่งนี้ ชั่วพริบตาลำแสงสีเหลืองก็มาปรากฏเบื้องหนา เงาลวงตา
จำนวนนับไมถวนมีลำแสงสีเขียวจำนวนนับไมถวนพุงออกมา แลวแทงลงมา
หานลี ่ ม ี ส ี ห น า ประหลาดใจฉายแวบผ า น ในเวลาเดี ย วกั น มุ ม ปากพลั นขยั บ
ดูเหมือนวาจะเอยอะไรออกมา
ชั่วขณะนั้นบนรางของเขาพลันเปลงแสงสีทองสวางวาบ เงาลวงตาใตซี่โครง
เปลงแสงสวางวาบ แขนสีทองที่เลือนรางสี่ขางปรากฏขึ้นอยางแปลกประหลาด
ตอนที่ 1377 ลาถอย
แขนทั้งสี่พลิ้วไหวเล็กนอย
แขนสีทองขางหนึ่งขยับ ตอยออกไปหนึ่งหมัดลำแสงฟุงกระจายที่เบื้องหนา
แขนสีทองอีกขางวาดไปกลางอากาศ ชั่วขณะนั้นเงากำปนสีทองพลันปรากฏขึ้ น
ตานทานลำแสงสีเขียวที่ทอดตัวเต็มทองฟาเอาไวอยางงายดาย
แทบจะในเวลาเดี ย วกั น แขนสี ท องอี ก สองข า งกลั บ ร า ยนิ ้ ว ทั ้ ง สิ บ ไปทาง
พฤกษาวิญญาณสองตน ไอกระบี่สีทองสิบสายพุงออกไป ชั่วพริบตาก็มาอยูเบื้องหนา
พฤกษาวิญญาณสองตน
พฤกษาวิญญาณสองตนพลันตกตะลึง รางกายมีเกราะไมสีเขียวปรากฏขึ้น อีกมือหนึ่ง
กลับมีโลสีเหลืองปรากฏขึ้น ตานทานกระบี่ลำแสงเอาไวพรอมกัน แตไอกระบี่ลำแสง
สิบสายนั่นสิ่งที่สรางขึ้นจากกระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆาในตัวของหานลี่ เปนอาวุธที่
คมกริบมาก
แคกะพริบวาบ ก็ผาพฤกษาวิญญาณสองตนที่อยูเบื้องหนาออกพรอมกัน
พริบตานั้นรางของพฤกษาวิญญาณสองคนแหลกออกเปนชิ้นๆ
แตหานลี่กลับยังคงไมยอมหยุดยั้ง สองมือลวงตาที่สรางขึ้นรายรำไมหยุด กระบี่ลำแสง
จำนวนมากทะลักออกมา ชั่วพริบตาลำแสงสีทองก็กลืนกินพฤกษาวิญญาณเขา ไป
ชั่วขณะนั้นพลันฝนโลหิตพลันโปรยปรายลงมา
หานลี่ถึงไดสูดลมหายใจอันเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง แขนสองขางที่ถูกดูดเขาไป
พลันสั่นเทา ลำแสงสีทองที่เหมือนระลอกคลื่นปรากฏขึ้นบนแขน
เมื่อรางของพฤกษาวิญญาณและหอกสีเขียวตนที่ดูดแขนทั้งสองของหานลี่สัมผัสกับ
ลำแสงสีทองนี้ ชั่วขณะนั้นพลันสั่นเทาแลวแตกออกเปนเสี่ยงๆ สุดทายก็กลายเปน
ผงสีเขียวกลุมหนึ่ง ปลิวหายไปตามสายลม
หานลี่ดึงมือทั้งสองกลับมา ลำแสงสีทองบนรางหมนแสงลง แขนสีทองอีกสี่ขาง
เปลงแสงสวางวาบเลือนรางแลวหายวับไป
การใช เ คล็ ด วิ ช าพราหมณ ศ ั ก ดิ ์ ส ิ ท ธิ ์ ม ารเที ่ ย งแท ส  ว นที ่ ส องต อกรกั บ ระดั บ
กอกำเนิดสองสามตนนั้นในครั้งนี้ ชางเกินไปหนอยจริงๆ
ทวาพลังยุทธของเคล็ดวิชานี้ยังตื้นเขินไปหนอย ไมอาจแสดงความสามารถอะไร
ไดอยางเต็มที่ จึงยังไมอาจใชกับศัตรูที่แข็งแกรงได ทำไดเพียงพึ่งพาประสิทธิภาพที่
คาดไมถึงของมันเทานั้น
แตหากพลังยุทธของเขาอยูในระดับหลอมสุญตา และฝกฝนจนถึงขั้นที่สามแลว
ภายใตการฝกฝนแบบผูฝกตนคูบำเพ็ญเพียร อานุภาพของเคล็ดวิชามารเที่ยงแท
พราหมณศักดิ์สิทธิ์ตองนาเหลือเชื่ออยางแนนอน ไมมีทางดอยกวาเคล็ดวิชาระดับ
สุดยอดใดๆ
จุดนี้ เขามั่นใจอยูหลายสวน
หานลี่กำลังขบคิด ก็กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงจากไป
ระหวางทางตอจากนี้ หานลี่พบกับคนของเผาพฤกษามาขวางกั้นไวอีกสองสามกลุม
แตคนของเผาพฤกษาเหลานี้ ตางมีพลังยุทธไมสูงนัก สวนใหญจะเปนพฤกษา
วิญญาณระดับกอกำเนิด แมกระทั่งมีพฤกษาวิญญาณระดับต่ำกวาปรากฏตัว
หานลี่จึงแคหลบหลีกพฤกษาวิญญาณเหลานี้ หากไมไหวจริงๆ ก็จะสำแดงอัสนี
ออกมาสังหารอีกฝายซะ ไมยอมเสียเวลากับอีกฝาย
ผลคือ หลังจากบินมาไดครึ่งวัน ในที่สุดหานลี่ก็พบกับปญหา
เบื้องหนาของเขา มีพฤกษาวิญญาณสวมเข็มขัดสีมวงสองคนปรากฏขึ้น คนหนึ่ง
รางกายแข็งแรงกำยำ คนหนึ่งรางกายอรชรออนแอน เห็นไดชัดวาเปนบุรุษหนึ่งคน
และสตรีหนึ่งคน
ด า นหลั ง ของทั ้ ง สองนั ้ น คาดไม ถ ึ ง ว า จะมี อ สู ร วานรพฤกษาขนสี เ งิ น ขาว
ขนาดเจ็ดแปดจั้งสี่ตัวยืนอยู ทุกตัวถือกระบองยักษสีเหลืองเอาไว
แววตาแวววาวของวานรพฤกษาทั้งสี่ตัว กำลังจองเขม็งมายังหานลี่ คาดไมถึงวา
จะดูชางฉลาดมาก ทาทางเหมือนเบิกเนตรแลว ใหความรูสึกที่อันตรายตอหานลี่
ดูเหมือนวาอานุภาพจะไมดอยไปกวาพฤกษาวิญญาณบุรุษและสตรี
พฤกษาวิญญาณระดับมวงสองคน เทากับผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง ไมใชสิ่ง
ที่ตอกรไดงายๆ เชนกัน
ตอนนี ้ ห านลี ่ อยู  ห  า งจากเขตแดนป า ไปไม ถ ึ ง หมื ่ น ลี ้ เขาที ่ อยากออกไปจาก
แดนอันตรายในทันที จึงไมคิดจะตอกรกับพวกนี้อีก ในเวลาเดียวกันที่ถูกขวางเอาไว
จึงมีจิตสังหารปรากฏขึ้น จองเขม็งไปยังทั้งสองคนและวานรสี่ตัว สีหนาเย็นเยียบ
ฉั บ พลั นนั ้ น มือหนึ ่ ง พลั นลู บ ไปที ่ท า ยทอย ลำแสงสี เ ทาปรากฏขึ้ น หลั ง จาก
หมุนวนรอบหนึ่ง ก็กลายเปนวงแหวนลำแสงยักษหนาๆ สายหนึ่ง มีขนาดประมาณ
ยี่สิบสามสิบจั้ง หมุนวนติ้วๆ ชั่วครูก็ดึงดูดสายตาของศัตรูที่อยูเบื้องหนาเอาไว
แทบจะในเวลาเดียวกัน เขาพลันสะบัดมือหนึ่ง กระบี่เลมเล็กทั้งเจ็ดสิบสองเลมบิน
พุงออกมา พลางบินออกไปทั่วทุกสารทิศ
คาดไมถึงวาเขาจะตัดสินใจใชลำแสงเทวะดูดปราณดึงดูดความสนใจของอีกฝาย
จากนั้นก็ใชเขตอาคมมหากระบี่ทองคำ สังหารศัตรูทั้งหมดในรวดเดียว
ในเวลาเดี ย วกั น เสี ่ ย วหงกำลั ง ลอยตั ว อยู  ก ลางอากาศด ว ยสี ห น า เขี ย วคล้ ำ
สองตาจองเขม็งไปยังเงาสีเขียวสองสามกลุมเบื้องหนา
พฤกษาวิญญาณสวมเข็มขัดสีมวงสามคน!
อี ก ด า นหนึ ่ ง หล ง ตงที ่ ก ลายเป น ลำแสงสี ท องไม ไ ด ถ ู ก ขวางเอาไว ด า นหลัง
ลำแสงหลีกหนีของเขามีวานรพฤกษาสีเหลืองทองที่ขนมีสีทองบริสุทธิ์แซมอยู บนบา
แบกขวานยักษสีดำสนิทเอาไว รอบกายมีลำแสงหาสีไหลเวียนไปมาไมหยุด ไลตามเขา
มาดานหลังอยางไมลดละราวกับดาวตก
หลงตงในลำแสงสีทองที่ปลอยมังกรทองหากรงเล็บออกไปแลว แคหันหลังไปมอง
วานรพฤกษาทองอันนากลัวดานหลังแวบหนึ่ง แตกลับไมมเี จตนาจะหยุดประมือดวย
เลยแมแตนอย กลับเรงลำแสงหลีกหนีไมหยุด
หางออกไปรอยจั้งเศษ นั่นคือ เขตแดนของปาใบดำ
……
สายรุงสีขาวสายหนึ่งเปลงเสียงกรีดรองออกมาขณะพุ งแหวกผานอากาศไป
หางออกไปสองสามลี้ ลำแสงสีเงินสายหนึ่งไลตามมาอยางไมลดละ ทั้งสองกะพริบ
แสงวาบๆ ชั่วพริบตาก็หนีออกหางมาเปนพันจั้ง
ถึงแมวาครานั้นสายรุงสีขาวจะไมอาจสลัดลำแสงสีเงินได แตลำแสงสีเงินก็ไมอาจ
ไลตามสายรุงสีขาวมาไดในทันทวงที
เมื่อลำแสงหลีกหนีสองสามแฉลบผานไป พุงออกมาจากเขตแดนปา ก็สลัดปาใบดำทิ้ง
เอาไวเบื้องหลัง
……
รางของหานลี่ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ มองเสนไหมสีทองจำนวนนับไมถ วน
รวมตัวกันในเขตอาคมกระบี่ ในที่สุดหลังจากที่สับวานรพฤกษาขนสีเงินที่ยืนหยัดจน
ตัวสุดทายออกเปนชิ้นๆ ไดอยางงายดายแลว ก็พนลมหายใจออกมา สองมือพลันราย
อาคม พนคำวา “เก็บ” ออกมา
เบื้องหนาที่วางเปลามีกระบี่ลำแสงสีทองรอยกวาสายพวยพุงขึ้นไปกลางอากาศ
ทันใดนั้นก็เปลงเสียงไพเราะออกมา กลับคืนรางเปนกระบี่เลมเล็กสีทองเจ็ดสิบสอง
เลมทามกลางลำแสงสีทองดังเดิม
กระบี่เหลานี้หมุนติ้วๆ อยูกลางอากาศ แลวพุงมาทางหานลี่ทั้งหมด
หานลี่สะบัดแขนเสื้อ ดูดกระบี่เลมเล็กทั้งหมดเขาไป
มองจุดเดิมที่เปนใจกลางของเขตอาคมกระบี่ ที่นั่นยังคงมีหมอกโลหิตจำนวนมาก
กระจายตัวอยูหานลี่แววตาเปลงประกาย
การวางเขตอาคมมหากระบี่ทองคำทัง้ เจ็ดสิบสองเลม มีอานุภาพนากลัวกวาที่เขา
คิดเอาไว ครานั้นพฤกษาวิญญาณระดับมวงสองตนและวานรพฤกษาสีเงินสี่ตัวที่ดู
รับมือยากซึ่งถูกกักอยูในเขตอาคมกระบี่ของเขาดวยความประมาท จึงถูกเสนไหม
กระบี่ที่พุงออกมาจากเขตอาคมกระบี่สังหารจนเกลี้ยงไดอยางงายดาย โดยไมมีแมแต
พลังจะตานทานเลยสักนิด
ดูแลวสิ่งที่หลงตงกลาววา ชิงหยวนจื่อใชพลังยุทธระดับหลอมสุญตากับอานุภาพ
ของเขตอาคมมหากระบี่ตอกรกับผูบำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรียนั้น เกรงวาจะเปน
เรื่องจริง
หานลี่ขบคิดเชนนั้น แตกลับไมไดหยุดพักเลยแมแตเพียงเคอ เก็บกระบี่เขามาในราง
แลวควบคุมลำแสงหลีกหนีพุงออกไปยังเขตแดนอีกครั้ง
หลังจากผานไปครึ่งชั่วยาม หานลี่ก็บินออกมาจากปา
หางจากปาไปไดรอยลี้ หานลี่ก็ควักยันตชำระพิสุทธิ์แผนนั้นออกมาจากอกเสื้อ
แลวแปะไปบนราง
ชั่วขณะนั้นรางกายพลันหายตัวไปจากกลางอากาศ อำพรางกายอยางมิดชิด
เชนนั้นเขาถึงไดผอนคลายลง เปลี่ยนทิศทางบินไปขางหนาตอ
ในตอนที่หางจากเขาไปไดไมนานนัก ปาใบดำที่อยูดานหลังพลันมีลำแสงหลีกหนี
สีเหลืองสองสายไลตามมา หลังจากหมนแสงลง ก็เผยรางของพฤกษาวิญญาณสวม
เข็มขัดสีเหลืองสมสองคนออกมา
คนของเผาพฤกษาทั้งสองคือ เผาพฤกษาระดับเงินที่ตามพวกเขามาตั้งแตแรก และถูก
หญิงสาวชุดขาวสำแดงความสามารถกักหนึ่งในพฤกษาวิญญาณระดับสูงเอาไวคนหนึ่ง
พวกเขาหยุดอยูตรงที่เดิมของหานลี่ บินโคจรอยูรอบหนึ่ง แลวพูดคุยกันดวย
เสียงแผวเบา แตสุดทายก็ไมอาจหารองรอยของหานลี่พบ จึงทำไดเพียงกลับไปอยาง
เศราใจ
หานลี ่ ก ลับไม รู ว  าการกระทำที่ รอบคอบของตนเอง ทำให ต นเองหนีหายนะ
ครั้งใหญมาได
มิเชนนั้นหากถูกพฤกษาวิญญาณระดับสมที่มีพลังระดับหลอมสุญตาสองคนไลตามทัน
ถึงแมวาอาจจะหนีเอาชีวิตรอดได แตก็ไมอาจหนีออกมาไดอยางปลอดภัยแน
หลังจากบินออกมาไดหมื่นลี้เศษ เมื่อมั่นใจวาสลัดคนของเผาพฤกษาไดแลว
สองมือของหานลี่พลันรายอาคม ชั่วขณะนั้นบนรางพลันมีอักขระยันตปรากฏขึ้น
รางกายกลับคืนสูสภาวะเดิม ในเวลาเดียวกันลำแสงวิญญาณกลุมหนึ่งพลันพุงออกมา
จากเรือนราง แลวกลับคืนเปนยันตชำระพิสุทธิ์อีกครั้ง
นิ้วคีบไปบนแผนยันตเบาๆ ยันตแผนนั้นหายวับไป
หลังจากที่ห านลี ่ม องไปรอบๆ ครั้งหนึ่ง แลว ถึงไดรอนลงบนภู เ ขาลู กย อมๆ
ดานลางอยางเงียบเชียบ สีหนาเครงขรึมพลางขบคิดอยางละเอียด
เขาในครานี้รูสึกกลัดกลุมใจเปนอยางมาก
คัมภีรมวนนั้นถูกคนของเผาพฤกษาทำลายไปอยางคาดไมถึง หรือวาภารกิจครั้งนี้
จะล ม เหลวแล ว จริ ง ๆ หากเป น เช น นั ้ น ก็ ไ ม ม ี ท างหายากำจั ด สิ ่ ง โสมให ค รบได
เขามิตองกลับไปยังเมืองเทวะสวรรคอีกครั้งหรือ
ไมสิ! ตอมามีคนลงมือกักคนของเผาพฤกษาระดับเงินเอาไว เห็นไดชัดวาสายลับ
ในเผาพฤกษาที่ทั้งสองสงมาถึงจะถูก หากเปนเชนนั้น คัมภีรมวนนั้นก็อาจจะไมใช
ของจริง ไมแนวาขอมูลที่แทจริงของเผาพฤกษา อาจจะอยูกับคนผูนั้น ขอแคหา
คนผูนั้นพบ ภารกิจก็ยังคงสำเร็จ
หานลี่ขบคิดรอบหนึ่งดวยความรวดเร็วดุจสายฟา และรูสึกวาเรื่องนี้มีแสงสวาง
วางปรากฏขึ้นแลว
ดูแลวตองตามหาหญิงสาวชุดขาวใหพบกอน แลวจะตามหาอยางไร?
หานลี่หนาเปลี่ยนสี มุมปากเผยสีหนาประหลาดๆ ออกมา
ฉับพลันนั้นเขาพลั นสะบัด แขนเสื ้อ เงาลวงตากลุมหนึ่ งพุ ง ออกมา หลังจาก
หมุนวนรอบหนึ่ง ก็กลายเปนมิคาทนสีทองเงินขนาดเทาฝามือหมอบอยูบนพื้น
นั่นก็คืออสูรกิเลนมิคาทนตัวนั้น
อสูรตัวนี้ใชดวงตาสีเขียวที่นารักนาเอ็นดูมองมายังหานลี่ และเปลงเสียงครางเบาๆ
หานลี ่ เ องก็ ไ ม ไ ด ก ล า วอะไร ลำแสงวิ ญ ญาณเปล ง แสงสว า งวาบขึ ้ น บนมื อ
จานอาคมสีเขียวใบหนึ่งปรากฏขึ้น จากนั้นพลันบริกรรมคาถา มือหนึ่งตะปบออกไป
กลางอากาศไปทางจานอาคม
ชั่วขณะนั้นลูกบอลลำแสงสีขาวนวลขนาดเทาเมล็ดถั่วบินออกมาจากจานอาคม
ลอยอยูหางจากจานอาคมไปครึ่งฉื่อ ยังคงเงียบเชียบ
หานลี่เปลงเสียงผิวปากออกมา กวักมือไปทางอสูรนอยอยางสบายๆ
แตอสูรกิเลนมิคาทนกลับหัวเราะคิกคัก ไมไดขยับเขยื้อน เผยทาทีเกียจครานออกมา
หานลี ่ ห มดคำพู ด ระหว า งทางที ่ อยู  ใ นเผ า พฤกษา เขาปล อยอสู ร ตั ว นี ้ แ ละ
อสู ร วิ ญ ญาณครวญให อยู ด ว ยกั น เหตุ ใ ดถึ ง ไดม ีท า ทีเ กี ยจครา นขี้ เ ซาเหมื อนกับ
อสูรวิญญาณครวญไปได
ทวาตอนนี้ไมใชเวลาจะมาคิดเล็กคิดนอยกับอสูรตัวนี้ มือหนึ่งลูบไปที่กำไลเก็บของ ชั่ว
ขณะนั้นขวดสีเขียวมรกตใบหนึ่งพลันปรากฏขึ้นในมือ เทยาลูกกลอนสีแดงสดออกมา
โยนไปทางอสูรตัวนอย
ชั่วขณะนั้นอสูรกิเลนมิคาทนที่เดิมทีดูไมมีพลัง พลันมีชีวิตชีวาขึ้น กระโจนขึ้นไป
กลางอากาศพรอมกับเงาตามตัว กลืนยาลูกกลอนเขาไป จากนั้นก็เปลงเสียงรองคราง
พลางสะบัดหัวสะบัดหางใสหานลี่ ทาทางประจบเอาใจและอยากไดอีก
หานลี่เองก็ไมไดกลาวอะไร มือหนึ่งชี้ไปที่ลำแสงบนจานอาคม
ไมตองใหเขาเอยอะไร ชั่วพริบตาก็บอกเจตนาของตนเองใหอสูรตนนี้ฟงผานจิตสัมผัส
อสูรนอยเคลื่อนไหวอยางไมลังเล ครูตอมาก็มาปรากฏบนจานอาคม มองไปยัง
จุ ด ลำแสงสองสามครั ้ ง หลั ง จากเอี ย งศี ร ษะที ่ ป กคลุ มไปด วยเสน ขนของมันแลว
ก็กลืนลำแสงสีขาวนวลลูกนั้นเขาไปในทอง
ตอนที่ 1378 หงสพฤกษา
ดวงตาสีเขียวมรกตของอสูรกิเลนมิคาทนหลับตาอยูนาน ชั่วครูก็เบิกตาขึ้นอีกครั้ง
รองคำรามเสียงต่ำๆ ไปทางหานลี่
หานลี่เห็นเชนนั้น ใบหนาพลันเผยรอยยิ้มออกมา
ตั ้ ง แต ท ี ่ เ ขากำราบอสู ร ตั ว นี ้ ไ ด ไ ม น าน ก็ พ บว า อสู ร ตั ว นี ้ น อกจากจะมี ก าร
เคลื่อนไหวอันว องไวและรางกายแข็ง แกรง ดุจ เหล็ก กลา แล ว ยังมีความสามารถ
ดมกลิ่นที่นามหัศจรรย
ขอแคอสูรตัวนี้เคยสัมผัส ไมวาของมีชีวิตหรือไม มันก็สามารถมองขามผานการ
อำพรางกาย และหาตำแหนงของอีกฝายในระยะรอยลี้ไดอยางแมนยำ
พรสวรรคในการติดตามเชนนี้ ไมใชแคการอาศัยกลิ่น แตเปนการสัมผัสไดของ
จิตสัมผัสที่นาเหลือเชื่อชนิดหนึ่ง
อยางนอยที่สุดหากหานลี่ไมไดใชยันตชำระพิสุทธิ์ ก็ไมมีทางหลบการตามหาของ
อสูรตัวนี้พบ
ส ว นลำแสงสี ขาวในจานอาคมนั ้ น แน น อนว า เป น การติ ด ต อ กั น และกั น กั บ
หญิงสาวชุดขาวกอนที่จะออกเดินทาง และในจานอาคมอื่นๆ ก็มีไอวิญญาณบริสุทธิ์
ดวงหนึ่งเชนกัน
อสูรนอยมองไปรอบๆ รอบหนึ่ง เอียงศีรษะ ดูเหมือนกำลังขบคิดอะไรอยู แตครู
ตอมาแขนขาทั้งสี่ก็ขยับ กลายเปนเงาลวงตาสีเหลืองออนสายหนึ่งพุงออกไป
หานลี่ไมไดรีบรอนไลตามไป มือหนึ่งพลันรายอาคม ปลอยลำแสงสีเขียวสายหนึ่ง
ออกไป
ผลคือใตดินมีเสียงวิหครองดังขึ้น ฉับพลันนั้นพลันมีเปลวเพลิงสีเงินกลุมหนึ่ง
บินออกมา ดานในมีวิหคเพลิงบินวนโคจรอยูตัวหนึ่ง
นั่นก็คือ วิหคเพลิงกลืนวิญญาณที่หานลี่ปลอยใหแอบอยูใตดินตอนที่อยูในปาใบดำ
ตอมาเพื่อเปนการปองกัน หานลี่ที่กำลังหนีออกมาจากปานั้น ก็ไมไดเก็บเพลิงนี้ไป
โชคดี ท ี ่ เ พลิ ง นี ้ ถ ู ก เขาหลอมอย า งหมดจนแล ว ถึ ง แม ว  า ความเร็ ว ของเขาจะเร็ ว
ขนาดไหน ก็ตามเขามาติดๆ ไดในพริบตา
แนนอนวาวิหคเพลิงตัวนี้ไมใชอสูรวิญญาณที่แทจริง การคงรูปรางเชนนี้จะตอง
สูญเสียพลังลมปราณไปเล็กนอย แตจุดนี้สำหรับหานลี่ในตอนนี้นั้น กลับไมไดใสใจนัก
เมื่อเห็นวิหคเพลิงกลืนวิญญาณไมมีปญหาใดๆ หานลี่ก็พยักหนาดวยความพึงพอใจ
มือหนึ่งชี้ออกไป วิหคเพลิงตัวนี้จมหายเขาไปในพื้นดินอีกครั้ง
ดานในยังคงอันตรายมาก เขาไมมีทางเก็บวิหคเพลิงตัวนี้ไปงายๆ ยังคงปลอยไว
นอกราง เก็บเอาไวเปนแผนสำรอง
หลั ง จากทำทุ ก อย า งเสร็ จ ลำแสงวิ ญ ญาณของหานลี ่ ป รากฏขึ ้ น กลายเป น
สายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไป หลังจากเปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง ก็ไลตาม
อสูรกิเลนมิคาทนไปพลางหายลับไปจากขอบฟา
อสูรนอยพุงไปทางทิศเหนือ หลังจากบินไปไดระยะหนึ่ง ก็เปลี่ยนทิศทาง ไปอีกทาง
จากนั้นหานลี่พลันตกตะลึง แตไมไดเอยอะไรออกมา และกลับเปลี่ยนทิศทาง
แตครูตอมาอสูรกิเลนมิคาทนก็เปลี่ยนทิศทางไปอยางตอเนื่องอีกสองสามครั้ง
นี่จึงทำใหหานลี่มีสีหนาเครงขรึม
ทาทีของอสูรกิเลนมิคาทนแสดงใหเห็นวาหญิงสาวนามวาเยี่ยอิ่งยังคงเคลื่อนไหว
ไมหยุด และยิ่งไปกวานั้นยังดูเหมือนวาจะถูกอะไรไลตามสักอยาง มิเชนนั้น คงไม
เปลี่ยนทิศทางบินอยางบอยครั้งเชนนี้แน
ทวาเขากลับไมไดหวาดกลัวเพราะเหตุนี้
จากความสามารถของเขาในตอนนี้ ขอแคไมตกอยูในการถูกลอมโจมตีอยาง
หนักหนวง หรือถูกศัตรูที่แข็งแกรงมากไลสังหารอยางเต็มกำลัง ก็มั่นใจวาจะรักษา
ชีวิตเอาไวไดหลายสวน
และหญิงสาวผูนี้ยังเกี่ยวของกับยากำจัดสิ่งโสมของตัวเอง เขาจึงยิ่งไมมีทาง
ลาถอยงายๆ
หานลี่ตามอสูรกิเลนมิคาทนไปดวยสีหนาราบเรียบ กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่ง
บินออกไปดวยความเร็วดุจสายฟา
การไลตามครั้งนี้ดำเนินตอไปสามวันสามคืน คาดไมถึงวาหานลี่จะไมอาจไลตาม
หญิงสาวผูนี้ทัน
ทวาเชาตรูวันที่สี่ครั้นเมื่อลำแสงหลีกหนีบินผานผิวน้ำสีฟาครามที่มองไมเห็น
ปลายทางแลว ลำแสงหลีกหนีของอสูรกิเลนมิคาทนเบื้องหนาก็หยุดชะงัก และ
หยุดนิ่งลง
หานลี่รูสึกกระปรี้กระเปรา ลำแสงสีเขียวเปลงแสงสวางวาบ คนก็มาอยูดานขาง
อสูรนอย
อสูรกิเลนมิคาทนหันศีรษะที่มีเสนขนปุกปุยมา คำรามเสียงต่ำๆ ดูเหมือนจะกำลัง
พูดอะไรสักอยาง
หากเปนคนอื่นคงไมรูวาอสูรตัวนี้กำลังพูดอะไร แตหานลี่กลับเอยถามดวยความ
ดีใจวา
“อะไรนะ คนผูนั้นหยุดอยูขางหนาไมไกลนี้ ตรงนั้น! เยี่ยม ขารูแลว เจากลับมาเถิด”
หานลี่ดีดนิ้ว กลิ่นหอมแผออกไป ยาลูกกลอนสีแดงโลหิตเม็ดหนึ่งที่อสูรกิเลนมิคาทน
เคยกินพุงออกไป
อสูรนอยดี อกดีใ จ รางกายพลิ้ว ไหว กลืนยาลูกกลอนลงไปจากกลางอากาศ
แลวอาปากอีกครั้ง พนจุดลำแสงสุดขาวออกมา แลวจมหายเขาไปในแขนเสื้ อของ
หานลี่อยางไรรองรอย
สวนหานลี่นั้นพลันพลิกฝามือ หยิบจานอาคมออกมา เก็บจุดลำแสงสีขาวลงไป
ลำแสงวิญญาณสวางวาบขึ้นในมือ ยันตชำระพิสุทธิ์ปรากฏขึ้นบนมือ
มองยันตที่สีหมนแสงจนแทบจะไมมี หานลี่พลันขมวดคิ้ว ลังเลเล็กนอย พลิกฝามือ
อีกมือหนึ่ง ยันตที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วปรากฏขึ้น
ยันตสีมวงเปลงแสงเปนประกายมากกวายันตแผนแรกมาก
นี่คือยันตชำระพิสุทธิ์อีกสองแผนที่หานลี่ทุมเทแรงกายแรงใจมหาศาลเขียนมันขึ้นเพื่อ
การเดินทางในปาเถื่อนครั้งนี้
แผนกอนนั้นอานุภาพลดไปลงพอสมควรแลว เพื่อความปลอดภัย อาจจะตอง
อันตรายที่คาดไมถึง แนนอนวาหานลี่จึงเขียนยันตขึ้นใหมอีกแผนหนึ่งจะดีกวา
เก็ บ ยั นต แ ผ นแรกที ่ เ สื ่ อมประสิ ท ธิ ภ าพแล ว ลงไป โบกสะบั ด ยั น ต แ ผ น ใหม
ชั่วขณะนั้นอักขระสีเงินพลันเคลื่อนไหว รางกายของหานลี่หายวับไปจากที่เดิม
ทันใดนั้นเขาพลันรายอาคม รางกายพลิ้วไหว บินไปทางจุดที่อสูรกิเลนมิคาทนชี้
ผิวน้ำผืนนี้ไมรูวาเปนทะเลสาบยักษ หรือวาขอบของมหาสมุทร หลังจากบินตรง
ไปไดสองรอยลี้เศษ คาดไมถึงวาจะมองไมเห็นริมฝงเลยสักนิด
ทวากลับมีภูเขานอยที่ไมสะดุดตาปรากฏขึ้น
เกาะแหงนี้กวางประมาณสิบลี้เศษ ดานบนมีตนไมใบหญาขึ้นอยูอยางหนาแนน
ดูเหมือนวาจะไมคอยมีคนมาเยี่ยมเยือนนัก
หานลี่มองไปที่เกาะดานลาง แลวเงยหนาขึ้นมองไปรอบๆ ถึงไดตรงไปยังใจกลางเกาะ
อยางเงียบๆ
จุดที่อสูรกิเลนมิคาทนพูดถึงนาจะเปนเกาะแหงนี้
ใจกลางของเกาะมีแองกระทะที่ไมถือวาใหญนัก ดานในมีกองหินสีเทาขาวนอยใหญ
เรียงรายอยู
ดานบนกอนหินยักษกอนหนึ่ง มีหญิงสาวสวมชุดสีขาวหนาซีดเผือดนั่งขัดสมาธิอยู
เบื้องหนาของนางมีสตรีที่ดูเหมือนคนของเผาพฤกษาคนยืนสงบนิ่งอยูตรงนั้น
หานลี่เห็นฉากนั้น พลันมีสีหนาตกตะลึง รางกายหยุดชะงักอยูกลางอากาศ
ดวงตาทั้งสองขางหรี่ลงพลางพิจารณาสตรีแปลกหนา
สตรี ผ ู  นี ้ม ี สี ผิ ว เหมือนกั บ พฤกษาวิ ญ ญาณอย า งไรอยา งนั ้ น เป น สี เ ขี ย วอ อน
และยิ่งไปกวานั้นตรงเอวยังมีเข็มขัดสีเหลืองสมที่หมายถึงระดับขั้นสวมอยู ราวกับวา
พฤกษาวิญญาณระดับสมที่เทียบไดกับผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา แตเมื่อหานลี่
ขบคิดอยางละเอียด กลับพบจุดที่ไมเหมือนกันกับพฤกษาวิญญาณธรรมดาทั่วไป
สตรี ท ี ่ อยู  ต รงข า มหญิ ง สาวชุ ด ขาวในครานี ้ ม ี ส ี ห น า เคร ง ขรึ ม และตึ ง เครี ย ด
ไมเหมือนกับคนอื่นๆ ในเผาพฤกษาที่มีสีหนาเรียบเฉย และยิ่งไปกวานั้นถึงแมวาเขา
จะไมไดแผจิตสัมผัสออกไปตรวจสอบอยางละเอียด แตพลังวิญญาณเพลิงที่แข็งแกรง
ซึ่งแผออกมาจากรางของสตรีผูนี้ ก็ไมเหมือนกับพลังวิญญาณไมบริสุทธิ์ในรางของ
เผาพฤกษาเหลานั้น
นี่ไมใชพฤกษาวิญญาณ!
ความคิดของหานลี่เคลื่อนไหว ทำการวิเคราะห จากนั้นสายตาพลันเคลื่อนไหว
ตกลงบนรางของหญิงสาวชุดขาว
เขาถึงไดพบวา หญิงสาวชุดขาวนอกจากจะมีสีหนาซีดขาวแลว ตรงทรวงอก
บนชุดขาวมีคราบโลหิตขนาดเทากำปนปรากฏขึ้น ราวกับมีดอกไมโลหิตผลิบาน
ดูสะดุดตาเปนอยางมาก
คาดไมถึงวาหญิงสาวผูนี้จะไดรับบาดเจ็บหนัก
เมื่อเห็นฉากนี้หานลี่พลันรูสึกลังเล ครุนคิดวาจะรปากฎตัวหรือไม
และในตอนนั้นเอง หญิงสาวที่อยูดานลางก็เงยหนาขึ้นฉีกยิ้มเบิกบาน
“ในเมื่อพี่หานมาแลว เหตุใดถึงไมลงมาพักซะหนอยละ”
หานลี่ไดยินแลวพลันตะลึงงัน ทันใดนั้นก็สะดุงโหยง
คิดไมถึงวาสตรีผูนี้จะมองทะลุผานการอำพรางกายของเขาได เปนไปไดอยางไร?
ยันตชำระพิสุทธิ์เมื่อเผชิญหนากับผูบำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรียแลวก็พูดยาก
แตหากเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา กอนหนานี้ก็ไมเคยมีใครมองออกได
หรือวาสตรีผูนี้แกลงพูด? แตดูจากการที่เหลือบมองมาทางตนเองดวยสีหนายิ้มแยม
ก็เห็นไดชัดวารูตำแหนงของตนเอง
นอกเสียจากวาหญิงสาวผูนี้จะมีจิตสัมผัสแข็งแกรงไมดอยไปกวาผูบำเพ็ญเพียร
ระดับผสานอินทรีย ถึงจะมีความสามารถเชนนี้ได!
หานลี่รูสึกตกใจพรอมกับจิตใจที่หนักอึ้ง แตหลังจากขบคิดเล็กนอย ยันตสีเงินบน
รางพลันเปลงแสงสวางวาบ รางกายคอยๆ เผยออกมา จากนั้นเขาก็ใชมือหนึ่ งตบ
ไปบนราง ยันตสีมวงสายหนึ่งบินออกมา หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง ก็รอนลงตรง
ใจกลางฝามือ
“สหายเยี่ย สหายผูนี้คือใคร แนะนำใหขานอยรูจักไดหรือไม!” หานลี่เอยดวย
สีหนาราบเรียบ รางกายรอนลงอยางชาๆ
“ข า จะแนะนำให ผู  นี ้ ค ื อสายลั บ ที ่ ส องเผ า ของพวกเราส ง ไปในเผ า พฤกษา
สหายเยี่ยฉู ดูจากทาทางของสหายหานแลว ดูเหมือนวาจะหนีออกมาจากเผาพฤกษา
ไดอยางสบายๆ” หญิงสาวชุดขาวเอยพรอมกับหัวเราะเบาๆ และพิจารณาหานลี่ขึ้น
ลงดวยความสนใจ เมื่อเห็นวาเขามีทาทีไมไดรับบาดเจ็บ ก็อดที่จะเผยสีหนาตกตะลึง
ออกมาไมได
“เยี่ยฉู? สหายผูนี้คือ เผามนุษยหรือเผาปศาจ?” หานลี่กลับจองไปที่ผิวของสตรีผูนี้
เขม็ง แววตาเปลงประกายขณะเอย
“สหายชางมีสายตาเฉีย บแหลมนั ก ขานอยมีร า งกายเป น มนุษย แตมีโลหิ ต
วิญญาณของเผาหงสพฤกษา นับวาเปนลูกครึ่งปศาจกระมัง” หญิงสาวมองไปยัง
หานลี่อยางราบเรียบแวบหนึ่ง พลางเอยอยางเย็นชา น้ำเสียงแหบแหงเล็กนอย
“หงสพฤกษา? เอ สหายมีพลังยุทธระดับหลอมสุญตา!” หานลี่เพิ่งไดยินชื่อก็ตกตะลึง
แตหลังจากกวาดจิตสัมผัสไปบนรางของหญิงสาวผูนั้น ก็หนาเปลี่ยนสี
“พี่หญิงฉู เกิดในตระกูลเยี่ยของพวกเรา ตอนนั้นมีพลังยุทธระดับหลอมสุญตาขั้นตน
ตอนนี ้ เข า มาสอดแนมอยู  ใ นเผ า พฤกษาหลายป ครานี ้ ฝ  ก ฝนระดั บ หลอมสุญตา
จนสำเร็จแลว อยูหางจากระดับผสานอินทรียแคเสนแดนกั้น” หญิงสาวกลับกลอกตา
ไปมาขณะเอย
“นี่ตองยกความดีความชอบใหเผาพฤกษา มิเชนนั้นขาคงไมอาจฝกฝนจนมาถึง
ขั้นนี้ได แตคิดไมถึงเลยวา ครั้งนี้นายหญิงนอยจะมาดวยตนเอง” เยี่ยฉูเอยอยาง
ถอมตนออกมา มีทาทีนอบนอมขณะเผชิญหนากับหญิงสาว
“เชนนี้นี่เอง ครั้งนี้หากไมใชเพราะทานอาวุโสคอยสนับสนุนอยูดานขาง เกรงวา
พวกเราตองถูกลางบางแลว” เผชิญหนากับสิ่งมีชีวิตที่นากลัวระดับหลอมสุญตา
ขั้นปลาย หานลี่กลับสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง สีหนาเครงขรึมขึ้น
หลายสวน
“ทวาจะวาไปแลว เมื่อครูเปนเพราะถูกไลตามอยางประชิดไปหนอย ขาจึงยัง
ไมไดถามใหละเอียด พี่หญิงฉูเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน เหตุใดพวกเราถึงตกหลุมพราง
ของเผาพฤกษา คนอื่นๆ ละ?” หญิงสาวหุบยิ้มบนใบหนา สีหนาเครงขรึมขึ้น
“ในเผ า พฤกษานอกจากข า แล ว คนอื ่ น ๆ ต า งเพลี ่ ย งพล้ ำ ไปหมดแล ว
ประมาณรอยปกอน ดูเหมือนวาคนของเผาพฤกษาจะไดรับขอมูลและรูวาในเผา
มีสายลับจากสองเผาอยางพวกเราอยู ภายใตการคนหา จึงมีเพียงขาที่มีสายเลือด
หงสพฤกษาที่รอดมาได คนอื่นๆ ตางถูกเปดโปงอยางตอเนื่อง จึงทำไดเพียงหนี
ไปเทานั้น แตผลคือถูกสังหารทิ้งทั้งหมด” หญิงสาวผิวสีเขียวตอบกลับเชนนี้ออกมา
ตอนที่ 1379 ภารกิจสำเร็จ
“สวนสาเหตุที่พวกเจาถูกดักซุม ก็เพราะวาชนชั้นสูงของเผาพฤกษาเปลี่ยนอาณาเขต
การตรวจตราของตนตาขายนิทราที่อยูตรงขอบของปา เกรงวาตั้งแตที่นายหญิงนอย
เขามาในปาก็ถูกตนไมเหลานี้พบเขาแลว โชคดีที่ชนชั้นสูงของเผาพฤกษาไมไดให
ความสำคัญกับปาใบดำนัก จึงสงแคพฤกษาวิญญาณที่มีระดับต่ำกวาขั้นเงินมาดูแล
เทานั้น มิเชนนั้นหากเปนปาเถื่อน ถึงแมวาขาจะคอยรับมืออยูขางใน พวกเจาหนี
ออกมาไดยากแน” หญิงสาวเอยอยางระมัดระวัง
“ที่แทก็เปนเชนนั้นนี่เอง! พี่หญิงฉู พันกวาปที่ผานมากนี้ตองรบกวนพี่แล ว”
หญิงสาวชักสีหนา แลวเอยอยางเชื่องชา
“ไม เป นไร ข า เองที ่ อยู  ใ นเผ า พฤกษาก็ ไ ม ไ ด เ สี ย เปล า และได ค วามลั บ ของ
เผาพฤกษามาไมนอย นับวามีผลงานไปมอบใหเผา ทวาตอนนี้ขาคงถูกเปดโปงแลว
ไมอาจอยูในเผาพฤกษาไดตอ” เยี่ยฉูกลับมีทาทีไมใสใจ
หานลี่ไดยินแลวพลันใจเตน
“เมืองเทวะสวรรคอาจจะมีสงครามปะทุขึ้นในทันที ตอใหไมปะทุ ผูนำตระกูลก็
เตรียมจะเรียกพี่หญิงกลับไปอยูแลว จากพลังยุทธของพี่หญิงในครานี้ แอบอยูใน
เผาพฤกษาตอก็ดูจะไมเหมาะสม” หญิงสาวชุดขาวหัวเราะนอยๆ ออกมา
แตการหัวเราะครั้งนี้ดูเหมือนวาจะกระทบกับอาการบาดเจ็บภายในของหญิงสาวผูนี้
นางกระแอมไอออกมาเบาๆ ทันที สีหนาซีดขาวขึ้นอีกหลายสวน
“นายหญิงนอยเปนอะไรหรือไมเจาคะ เชนนั้นกิน ‘ยาลูกกลอนหงสวิญญาณ’
อีกสักเม็ดเถิด?” เยี่ยฉูเห็นอาหารของหญิงสาว พลันเอยแนะนำดวยสีหนาตึงเครียด
“ไมตอง! ยาลูกกลอนหงสวิญญาณเหลือไมมากแลว ขาจะเก็บเอาไวใชกับเรื่องที่
มีประโยชน” หญิงสาวกลับสั่นศีรษะ
“เหตุใดแมหญิงเยี่ยถึงบาดเจ็บหนักขนาดนี้หรือ?” หานลี่แววตาเปลงประกาย
“ถูกเผาพฤกษาวิญญาณระดับเงินโจมตี เจาคิดวาจะเจ็บหรือไม?” หญิงสาวชุดขาว
เบะปากใหหานลี่ ทาทางไมสบอารมณ
“หากเปนอาการบาดเจ็บภายในทั่วๆ ไป ขานอยก็มียารักษาอยูสองสามชนิด บาง
ทีอาจจะมีประโยชนตออาการบาดเจ็บของสหาย” หานลี่เอยดวยสีหนาราบเรียบ
สะบัดแขนเสื้อ โยนขวดยาลูกกลอนสองสามขวดไป
หญิงสาวชุดขาวเลิกคิ้วงาม มือหนึ่งตะปบออกไปกลางอากาศ ดูดขวดยาเขามาในมือ
เปดฝาออกเอามาจรดที่ปลายจมูก
“‘ยาลูกกลอนเห็ดอัศจรรย’ ‘ยาลูกกลอนรอยปราชญ’ ‘วารียอนวิญญาณ’...
พี่หานชางใจกวางนัก คิดไมถึงวาจะมียาที่มีผลในการรักษาอาการบาดเจ็บที่มหัศจรรย
เชนนี้ ในเมื่อเปนเชนนั้น นองหญิงก็ไมเกรงใจแลว” หญิงสาวดูเหมือนวาจะมีความรู
ในเรื่องยาวิเศษไมนอย ชั่วพริบตาก็เอยชื่อของยาสมุนไพรออกมา สีหนาตกตะลึง
จากฐานะของหญิงสาวผูนี้แนนอนวาตองการยาลูกกลอนเหลานี้อยางครบครันอยูแลว
แตผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงคนหนึ่งหยิบออกมาจำนวนมากไดภายในครั้งเดียว
แนนอนวาเปนเรื่องที่นาเหลือเชื่อไปหนอย
หลั ง จากที ่ ห ญิง สาวกะพริ บ ดวงตาคู ง ามปริ บ ๆ แล ว ก็ ร ั บ ขวดยาลงไปอยาง
ไมเกรงใจเลยสักนิด และกินยาลงไปสองสามเม็ดดวยทาทีเชื่อใจหานลี่
หานลี่รูสึกนับถือการตัดสินใจของสตรีผูนี้อยูหลายสวน
แนนอนวาแปดเกาสวนคงเปนเพราะสตรีผูนี้มีเคล็ดวิชาลับอะไร จึงไมกลัววาใน
ยาลูกกลอนจะมีอะไรผสมอยู
“ใชแลว พี่หานหานองหญิงพบได อย างไร? หากดูไมผิดยันต อำพรางกายเมื ่ อครู
คือยันตลูกออดสีเงินสินะ ไมทราบวามีชื่อเรียกวาอะไรหรือ? ยันตลูกออดสีเงินชั้นสูง
เชนนี้ นองหญิงเพิ่งเคยเห็นเปนครั้งแรก” หลังจากที่หญิงสาวกินยาลูกกลอนลงไป
สีหนาก็ดีขึ้นเปนอยางมาก แตเมื่อกลอกตาไปมา ฉับพลันนั้นพลันเอยปากถามถึง
ยันตชำระพิสุทธิ์
“ขานอยมีประสบการณในการสะกดรอยอยูเล็กนอย สวนยันตชำระพิสุทธิ์นั้น
ข า น อ ยได ม าด ว ยความบั ง เอิ ญ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพด า นการอำพรางที ่ น  า อั ศ จรรย
แมหญิงเยี่ยมองออกไดในปราดเดียว ก็ทำใหขานอยตกตะลึงแลว ไมทราบวาสหาย
มองออกไดอยางไร อานุภาพของยันตชนิดนี้แมแตผูบำเพ็ญ เพียรระดับหลอมสุญตาก็
ยังไมอาจมองออกได” หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา แลวกลับยอนถาม
“เคล็ดวิชาที่นองหญิงฝกฝน มีประสิทธิภาพในเรื่องการมองทะลุผานการอำพรางตน
มองยั นต ของสหายหานออกก็ ไ มใ ช เรื่ องแปลกอะไร พี ่ ห านไม จ ำเป น ต องใสใจ”
หญิงสาวเมมปาก ดูเหมือนวาเอยอยางทีเลนทีจริง
หานลี่ไดฟง แนนอนวาก็ทำไดเพียงหัวเราะอยางขมขื่นออกมา
ถึงแมจะรูวาคำพูดของอีกฝายเปนคำลวง แตก็ไมอาจสักถามอะไรตอไดเชนกัน
“ขาไมเปนไรแลว! พี่หญิงฉูฉี่ ขอมูลของเผาพฤกษา เจานาจะเอามาดวยสินะ
ถือโอกาสที่ไมเปนไร รีบนำคัมภีรไปใหเมืองเทวะสวรรคเถิด จะไดไมเกิดอะไรขึ้นอีก”
หญิงสาวเอยกับเยี่ยฉู
“เจาคะ นายหญิงนอย” หญิงสาวผิวสีเขียวไดฟงก็ตอบรับในทันที
หานลี่มีสีหนาราบเรียบ แตในใจพลันรูสึกดีอกดีใจยกใหญ
ครานี้หญิงสาวชุดขาวไดควักจานอาคมสีเงินออกมาจากยามเก็บของ หญิงสาว
ผิวสีเขียวกลับอาปากออก คัมภีรสีเขียวมรกตพุงออกมาจากริมฝปากบางๆ ของนาง
จานอาคมนั้นหานลี่ก็มีอยูจานหนึ่ง สามารถสงของเล็กๆ กลับไปยังเมืองเทวะสวรรค
ไดหนึ่งครั้ง หลังจากจัดการทุกอยางเสร็จ จานอาคมก็จะพังทลายใชไมไดอีก
ในเมื่อตอนนี้หญิงสาวใชจานอาคมสงตัวของตนเอง แนนอนวาหานลี่ก็ยังไงก็ได
อยูแลว วากันวาอาวุธชิ้นนี้เปนสิ่งที่เหลาปรมาจารยดานการหลอมยุทธภัณฑข อง
เมืองเทวะสวรรคเพิ่งคิดคนขึ้นไดไมนาน มิเชนนั้นหงสพฤกษาครึ่งปศาจตัวนี้มีสกั ชิ้น
ก็ไมจำเปนตองใหหานลี่และพวกวิ่งมาถึงที่นี่แลว
หญิงสาวชูมือขึ้นรายอาคมสีขาวสายหนึ่งไปทางจานอาคม ชั่วขณะนั้นลำแสงสีขาว
พลันเปลงแสงสวางวาบบนจานอาคม
โยนจานอาคมออกไปเบื้องหนา ชั่วครูก็กลายเปนเขตอาคมลำแสงสีขาวนวล
ขนาดสองสามฉื่อ หมุนติ้วๆ อยูกลางอากาศไมหยุด และเปลงเสียงรองคำรามต่ำๆ
ออกมา
“รีบหนอย ถึงแมวาจะเปนเขตอาคมสงตัวขนาดเล็ก แตก็อาจจะดึงดูดคนของ
เผาพฤกษาได” หญิงสาวเอยอยางรีบรอน
เยี่ยฉูเองก็รูเหตุผลนี้ โยนคัมภีรในมือออกไปอยางไมตองคิด ชั่วขณะนั้นของสิ่งนั้น
ก็รอนลงในเขตอาคมลำแสง แลวลอยขึ้นจากกลางอากาศ
หญิงสาวมีสีหนาเครงขรึมพลางรายอาคมอีกครั้ง
ในเขตอาคมมีอักขระสีเงินปรากฏขึ้น หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง คัมภีรพลัน
หายไปพรอมเสียงรอง
จากนั้นลำแสงก็หายวับตามไปในพริบตา เผยจานอาคมสีเงินดังเดิมออกมา
แตครานี้อักขระบนจานอาคมไมเพียงจะพังทลายกลางอากาศ จานอาคมทั้งจาน
ยังเปนรอยแตกเต็มไปหมด ไมอาจใชการไดอีก
หานลี่กลับรูสึกดีใจ มือหนึ่งพลิกฝามือ ในมือมียันตหยกสีเขียวกอนหนึ่งปรากฏขึ้น
สายตาจองเขม็งไปยังมันอยางไมวางตา
กอนออกเดินทาง ชนชั้นสูงของเผาเทวะสวรรคไดมอบยันตหมื่นลี้ใหไวครึ่งกอน!
หญิงสาวเห็นเชนนั้นพลันฉีกยิ้ม หลังจากเก็บจานอาคมพังๆ ลงไปแลว ก็หยิบ
ยันตหมื่นลี้อีกกอนหนึ่งออกมา ดวงตาสดใสดุจสายธารจับจองไป
เยี่ยฉูกลับไมแสดงสีหนาอะไรออกมา แคยืนนิ่งอยูที่เดิม
ครานี้ทั้งสามคนตางเงียบกริบ ที่นั่นพลันตกอยูในความเงียบสงัด
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งกาน้ำชา ยันตหมื่นลี้ในมือของหานลี่และหญิงสาว
พลันเปลงแสงสวางวาบขึ้นพรอมกัน ตางมีอักษรเปนกลุมๆ ปรากฏขึ้น
หานลี่พลันใจเตนระรัว จดจำอักษรบนยันตหยกทุกตัวเอาไวใหขึ้นใจ
เมื่ออักษรที่หนาแนนแทบจะเรียงตัวไปทั้งยันตหยกแลว ลำแสงสีขาวพลันหมนแสงลง
ยันตหยกหมนแสงลงอีกครั้ง
หานลี่ในครานี้กลับมีสีหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม
ของที่เมืองเทวะสวรรคสงมา คือวิธีการทำลายเขตอาคมบนขวดยากำจัดสิ่งโสมดังคาด
เหมือนกับที่ตกลงกันไวกอนหนาไมมีผิดเพี้ยน ดูแลวในเมืองคงจะยอมรับวาพวกเขา
ทำภารกิจสำเร็จแลว ในที่สุดก็เขาก็กลับมาเปนอิสระแลว
ดวยความตื่นเตนดีใจ หานลี่กวาดสายตาไปทางหญิงสาวชุดขาวที่อยูบนกอนหินยักษ
เห็นเพียงหญิงสาวผูนี้ยังคงจองยันตหมื่นลี้ในมือเขม็ง ดูเหมือนวาจะยังอานไมจบ
แตมุมปากของหญิงสาวผูนี้พลันหยักขึ้น เห็นไดชัดวาพึงพอใจในเนื้อหาบนยันตหยก
เปนพิเศษ
หานลี่พลันใจเตน
หญิงสาวผูนี้ไมมีทางตองการยากำจัดสิ่งโสม ไมรูวาผูบำเพ็ญเพียรชนชั้นสูงของ
เมืองเทวะสวรรคตกลงอะไรกับนางไว ถึงทำใหนางยอมเสี่ยงอันตรายขนาดนี้
“เปนอยางไรบาง พี่หานเองก็ไดของที่อยากไดมาแลวสินะ” ในที่สุดหญิงสาวก็
อานเนื้อหาในยันตหยกเสร็จ หลังจากเก็บของในมือแลว ก็เอยกับหานลี่พรอมกับ
หัวเราะคิกคัก
“ใชแลว ไดของที่อยากไดมาแลว” หานลี่ตอบกลับพรอมรอยยิ้มจางๆ
“ในเมื่อเปนเชนนั้น ก็รีบออกจากที่นี่กันเถิด ตอใหสหายมีแผนการอื่น แตก็คงไม
อยากอยูในอาณาเขตของเผาพฤกษาสินะ” หญิงสาวเอยกับหานลี่อยางมีเลศนัย
หานลี่พลันตกตะลึง หลังจากที่มองไปหญิงสาวดวยความลังเลพักหนึ่ง ถึงไดพยักหนา
อยางเชื่องชา
หญิงสาวเห็นหานลี่ต อบตกลง ก็ดูเหมือนวาจะพอใจมาก แลวออกคำสั ่ ง กั บ
หญิงสาวผิวสีเขียวที่อยูดานขาง
หญิงสาวผิวสีเขียวพลันตอบรับ ชูมือขึ้นปลอยสมบัติออกมา
เมื่อของสิ่งนี้ปรากฏขึ้น คิดไมถึงวาจะเปนหุนเชิดวิหคไมสีเหลืองขนาดสองสาม
ฉื่อตัวหนึ่ง
ภายใตการรายอาคมกระตุนของหญิงสาว วิหคหกไมพวยพุงขึ้นไปบนท องฟา
ในเวลาเดียวกันรางกายก็ขยายใหญขึ้นทามกลางลำแสงที่เจิดจา ชั่วพริบตาก็มีขนาด
ยักษประมาณสิบจั้งเศษ
ดูแลวมีชีวิตชีวาเสมือนจริง ดุจมาพันธุดี
หญิงสาวและเยี่ยฉูบินขึ้นไปบนนั้นโดยไมพูดอะไร หานลี่ลังเลเล็กนอยและพุงขึ้น
ไปบนนั้นเชนกัน
เยี่ยฉูผิวปากออกคำสั่ง วิหคไมยักษสยายปกออก ชั่วพริบตาก็กลายเปนลำแสง
สีเหลืองกลุมหนึ่งพุงออกไป
ตั้งแตที่หานลี่พบกับหญิงสาวทั้งสองจนทำภารกิจเสร็จสิ้นและออกจากที่นี่อีกครั้ง
หานลี่และหญิงสาวชุดขาวกลับไมเคยเอยถึงหลงตงและเสี่ยวหงเลย ราวกับวาทั้งสอง
ไมเคยมีตัวตนอยางไรอยางนั้น
หลังจากที่วิหคไมออกจากที่นี่ไดครึ่งวัน สายรุงสีเงินสายหนึ่งพลันพุงมาจากขอบฟา
หลังจากหมุนวนโคจรสองสามรอบก็เปลง แสงสวางวาบและพุงแหวกอากาศ
ออกไปเชนกัน แตดูจากทิศทางที่จากไปแลวนั่นก็คือทิศทางที่วิหคไมบินไป
หนึ่งเดือนตอมาลำแสงสีเหลืองกลุมหนึ่งบินแฉลบผานพื้นที่โลงกวางไป นั่นก็คือ
วิหคไมที่หานลี่และพวกโดยสารอยู
ตั้งแตที่พวกเขาออกเดินทางในวันนั้น เยี่ยฉูก็ขับเคลื่อนวิหคไมเต็มอัตรามุง
ไปขางหนาดวยความเร็วดุจสายฟา ไมกลาหยุดยั้งรอระหวางทางเลยสักนิด
เชนนั้นพวกเขาถึงไดมาถึงที่นี่ไดในระยะเวลาสั้นๆ เบื้องหนาไมไกลนักคือทางเขา
เสนทางสวรรค
หานลี่และหญิงสาวทั้งสองอดที่จะรูสึกผอนคลายไมได
และในตอนนั้นเองเบื้องหนาพลันมีพายุหมุนขนาดใหญปรากฏขึ้น ทันใดนั้น
เมฆครึ้มพลันทอดตัวไปทั่ว เสียงฟารองดังขึ้นเปนระยะๆ ทองฟาเปลี่ยนสีเปนมืดครึ้ม
อยางหาที่เปรียบ เมฆสีดำสนิทราวกับน้ำหมึกหมุนวนเปนเกลียว ปกคลุมไปเกือบ
ครึ่งทองฟา ทามกลางเสียงอึกทึกมีเสียงรองคำรามทุมต่ำดังขึ้นรางๆ
เสียงคำรามนั้นไมดังมากนักแตทุมต่ำเปนพิเศษ และเต็มไปดวยความนายำเกรงที่
อธิบายเปนคำพูดไมถูก หญิงสาวชุดขาวและหญิงสาวผิวสีเขียวไดยินเสียงคำรามนี้
พลันหนาเปลี่ยนสี
“นี่คือ... ” มานตาของหานลี่หดเล็กลง ใบหนาเผยสีหนาลังเลออกมา
และในตอนนั้นเองกลางเมฆครึ้มมีประจุไฟฟาสีเงินขนาดยักษประมาณสองสาม
สายฟาดลงมา ทันใดนั้นทามกลางเสียงดังสนั่นมีหัวขนาดยักษราวกับภูเขายื่นออกมา
จากเมฆหมอก ดวงตาสีทองออนทั้งสองเปลงประกาย จองเขม็งมายังเหลาวิหคไมที่
อยูไกลออกไป
ทามกลางสายตาถมึงทึงหานลี่รูสึกเพียงวาแผนหลังเย็นวาบ ชั่วพริบตาก็แผไปทั่ว
เรือนราง ครานั้นรางกายไมอาจขยับตัวไดเลยแมเพียงนิด
ตอนที่ 1380 จิตวิญญาณของวิญญาณเที่ยงแท
“หัวมังกร หัวมังกรเที่ยงแท ไมมีทางเปนหัวมังกรกิเลนได!” มองหัวขนาดยักษที่
อยูกลางอากาศไกลออกไปหานลี่พลันรูสึกตะลึงพรึงเพริดขึ้นมา
เห็นเพียงหัวขนาดยักษกลางอากาศเหมือนกับหัวมังกรเที่ยงแทในคัมภีรที่เขาเคย
เห็นทุกระเบียบนิ้ว และยิ่งไปกวานั้นหัวมังกรทั้งหัวลวนเปลงประกายสีทอง ราวกับวา
สร า งขึ ้ นจากทองคำบริ ส ุ ท ธิ ์ อย า งไรอย า งนั ้ น เขาสี ท องคู  ห นึ ่ ง บนหั ว เหมื อ นกั บ
ตนไมเล็กๆ สองตนยิ่งเปลงประกายเรืองรอง ทำใหผูคนรูสึกหวาดกลัว
“ไมใชมังกรเที่ยงแท? ถึงแมวากลิ่นอายจะนาเกรงขามดุจมังกรเที่ยงแทจริงๆ
แตลมปราณในรางของเจาสิ่งนี้มากสุดก็ไมตางอะไรกับปศาจผูบำเพ็ญเพียรระดับ
ผสานอิ น ทรี ย  เ ท า ใดนั ก จิ ต วิ ญ ญาณเที ่ ย งแท จ ะมี ล มปราณแค น ี ้ ไ ด อ ย า งไร”
ฉับพลันนั้นเยี่ยฉูพลันตะโกนขึ้นพรอมกับชักสีหนา
“ไมใชจิตวิญญาณเที่ยงแท คาดไมถึงวาจะเผยรางมังกรเที่ยงแทออกมาได งั้นก็คือการ
บีบกระตุนโลหิตมังกรเที่ยงแท ถึงไดสรางจิตวิญญาณของมังกรเที่ยงแทออกมาได”
เมื่อไดยินคำพูดของเยี่ยฉูแววตาของหญิงสาวชุดขาวพลันฉายแววเย็นเยียบแลวเอย
พึมพำออกมา
“โลหิตมังกรเที่ยงแท! จะตองเปนคนของตระกูลหลงแน” เยี่ยฉูขมวดคิ้วดำขลับ
ชั่วขณะนั้นใบหนาพลันมีจิตสังหารฉายแวบผาน
“ใช นาจะเปนเชนนั้น ขารูสึกประหลาดใจตั้งนานแลว พอขาเขารวมภารกิจนี้ได
ไมนาน ตระกูลหลงก็สงคุณชายเขารวมภารกิจนี้ดวย ดูแลวเขาคงจะมาเพราะขา”
หญิงสาวหัวเราะอยางเย็นชา
“คุณชายชงมา? หรือวาเพราะตำนาน…” เยี่ยฉูนึกอะไรขึ้นมาได พลันมีสีหนา
ตกตะลึง
“ตำนานอะไร?” หลังจากที่หานลี่โคจรคาถาขับเคลื่อนในรางแลว ในที่สุดก็ฟนฟู
ความรูสึกตกตะลึงกลับมา แลวเอยถามดวยสีหนาดูไมได
“หึๆ พี่หานรูวาจิตวิญญาณของจิตวิ ญญาณมัง กรเที่ ยงแท นี้ ถู กสรางขึ้ น โดย
คุณชายตระกูลหลง เพื่อเอาโลหิตวิญญาณหงสสวรรคจากขาไป ทวาในเมื่อเขาเลือก
จะลงมือกับนองหญิง แนนอนวาคงไมมีทางปลอยใหใครรอดไปได ตระกูลจิตวิญญาณ
เที่ยงแทของพวกเรามีพันธสัญญากันวา หามแยงชิงโลหิตวิญญาณเที่ยงแทจากกันและ
กัน หากผิดสัญญา จะถูกทุกตระกูลรวมมือกันทำลายลาง คุณชายตระกูลหลงผูนี้ชาง
บังอาจนัก แตก็ไมกลาลงมือกับขาในอาณาเขตของเผามนุษย ถึงไดถือโอกาส ตาม
ขามาที่นี่อยางกะทันหัน แตการกระตุนโลหิตวิญญาณเที่ยงแทนั้น อาศัยแค ผู
บำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงอยางเขาเพียงคนแลวไมมีทางทำได กวาครึ่งคงมี ผู
บำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาคนอื่นๆ ของตระกูลหลงตามเขามาดวย” หญิงสาวชุด
ขาวมองไปยังหัวมังกรยักษที่อยูไกลออกไป แลวเอยอยางราบเรียบออกมา
หานลี่ไดฟงคำนั้น ก็นึกถึงทาทีสนอกสนใจของหลงตงที่มีตอหญิงสาว จึงเชื่อไป
กวาครึ่ง
“หากเปนโลหิตวิญญาณเที่ยงแทธรรมดาๆ ยังพอวา แตตระกูลเยี่ยของพวกเรา
และตระกูลหลงเปนตระกูลจิตวิญญาณเที่ยงแทโบราณ โลหิตวิญญาณแทรกซึมเขาไป
ในเลือดเนื้อของสองตระกูลเรามาไมรูกี่หมื่นปแลว ตามหลักการแลวนาจะไมอาจ
แย ง ชิ ง ได ตระกู ล หล ง น า จะรู  เ รื ่ อ งนี ้ ดี ถ ึ ง จะถู ก ” เยี ่ ย ฉู  ก ลั บ มี ส ี ห น า เคร ง ขรึ ม
แลวฉายแววฉงนสงสัยออกมา
“จุดนี้ขาเองก็ไมมั่นใจนัก ในเมื่อตระกูลหลงกลาวางแผนลงมือ ก็นาจะมีวิธีอะไร
สักอยางถึงจะถูก ทวาถึงแมวาจะมีวิธีอะไรจริงๆ ก็ตองสังหารจิตวิญญาณหงสสวรรค
ของขา อีกเดี๋ยวนองหญิงจะกระตุนโลหิตวิญญาณ ตองใหพี่หญิงฉูคอยชวยเหลือ
พี่หาน คงตองรบกวนเจาใหคอยคุมครองแลว” หญิงสาวชุดขาวมีสีหนาเครงขรึม
“ในเมื่อไมอาจถอนตัวออกได ผูแซหานก็จะพยายามอยางเต็มที่” หานลี่มองไป
ยังเมฆสีดำและหัวมังกรยักษที่อยูใกลเคียงและหัวเราะอยางขมขื่นออกมา
สิ่งที่เรียกวาจิตวิญญาณมังกรเที่ยงแทดูเหมือนวาจะไมเห็นพวกเขาอยูในสายตา
ทาทางไมรีบรอน
“พี่หานเขาใจแลวก็ดี ขาจะวางเขตอาคมกอน แลวกระตุนโลหิตวิญญาณตอกร
กั บ จิ ต วิ ญ ญาณมั ง กรเที ่ ย งแท ด ู ส ั ก ตั ้ ง ดู ว  า พลั ง ของหงส ส วรรค ข องตระกู ล เยี่ ย
อยางพวกเรา หรือโลหิตมังกรเที่ยงแทของตระกูลหลงจะบริสุทธิ์กวากัน” หญิงสาว
เอยดวยสีหนาผอนคลาย
จากนั้นนางพลันใชมือหนึ่งลูบไปที่ยามเก็บของ ชั่วขณะนั้นธงอาคมหนาๆ ตั้งหนึ่ง
พลันปรากฏขึ้น มือพลิ้วไหว ลำแสงยี่สิบสามสิบสายบินออกมา จมหายเขาในพื้นดิน
อยางไรรองรอย
ชั่วพริบตาลำแสงสีมวงชั้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ หลังจากหมุนวนกลางอากาศ
รอบหนึ่ง ครานั้นหานลี่กลับไมอาจมองออกวาเขตอาคมนั้นมีอานุภาพชนิดใดได
ครานี้หญิงสาวนั่งสมาธิลงตรงใจกลางของเขตอาคมดวยทาทีองอาจ จากนั้นพลัน
อาปากออกพนดวงแสงหาสีสันออกมา โคจรลอมรอบเรือนราง
ดวงแสงทุกดวงมีขนาดเทากำปน ดานในมีสมบัติขนาดเล็กรูปทรงตางๆ อยูรางๆ
แบงออกเปน ‘ป’ ‘ขิม’ ‘พิณ’ ‘มีด’ ‘แหวน’
พิณที่อยูในลูกบอลสีเหลืองนั่นคือพิณสะทานวิญญาณที่หานลี่เคยเห็นมาแลวครั้งหนึ่ง
ความนากลัวของมันเขาก็เคยเห็นมาดวยตาของตัวเองแลว เปนสมบัติลอกเลียนแบบ
สมบัติวิญญาณที่หายากชิ้นหนึ่ง
เชนนั้นของสี่ชิ้นที่เหลือนาจะเปนของที่อยูในระดับเดียวกับพิณสะทานวิญญาณ
หากเปนเชนนั้นละก็ ความร่ำรวยของหญิงสาวชุดขาวก็ทำใหผูคนรูสึกทึ่งจริงๆ
ขณะที่หานลี่กำลังขบคิดอยูนั้น หญิงสาวกลับควักขวดหยกสีขาวบริสุทธิ์ออกมา
จากด ว ยสีห น าเครง ขรึ ม เป ด ฝาขวดออก เสี ย งเพรีย กของวิ ห คอั น ไพเราะดังขึ้น
ทันใดนั้น หงสตัวจิ๋วขนาดสองสามชุนก็บินออกมาจากขวด หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง
ก็หมายจะบินออกไป
แตหญิงสาวกลับเผยอปากเล็กๆ ออก พนลำแสงหาสีออกมา หอหุมหงสสีขาวเอาไว
หงสตัวนั้นเปลงแสงสวางวาบทามกลางลำแสง แลวกลายเปนยาลูกกลอนหาสี
เม็ดหนึ่งที่มีกลิ่นหอมโชยมาปะทะจมูก
หญิ ง สาวชี ้ ไ ปที ่ ย าลู ก กลอนเม็ ด นั ้ น ด ว ยใบหน า ไร ค วามรู  ส ึ ก ชั ่ ว ขณะนั้ น
ยาลูกกลอนหาสีพลันบินออกไป ถูกนางกลืนลงไปในทองและหลับตาทั้งสองขางลง
เยี่ยฉูในครานี้รางกายพลิ้วไหวมาปรากฏเหนือรางของหญิงสาว หลังจากนั่งสมาธิ
ลงเชนกันแลว สองมือพลันรายอาคม อาปากออก พนเสาลำแสงสีเหลืองกลุมหนึ่ง
ออกมา เต็มไปดวยกลิ่นอายไมที่บริสุทธิ์ จมหายเขาไปในรางของหญิงสาว
แทบจะในเวลาเดี ย วกั น หญิ ง สาวแผ ล ำแสงวิ ญ ญาณสี เ ขี ย วออกมา บนหั ว
เปลงแสงสวางวาบ ลำแสงสีเขียวเสนผาศูนยกลางสองสามฉื่อปรากฏขึ้น หมุนวนอยู
ตรงนั้น
ลำแสงนี้ไมเพียงจะเปนทรงกลมประหลาดๆ ตรงขอบยังมีเปลวเพลิงสีขาวสูงสอง
สามฉื่อกะพริบวาบอยู ตรงกลางมีเงามนุษยล วงตานั่งสมาธิ อยู ดูจากรูปลัก ษณ
ภายนอกแลวคลายคลึงกับหญิงสาว แคตัวเล็กกวาสองสามเทา แตหลับตาทั้งสองขาง
ลงเชนกัน สองมือพลันรายอาคม
เงาลวงตาหญิงสาวที่อยูในมานหมอกพลันลืมตาขึ้น คาดไมถึงวาจะมีลำแสงหาสี
ไหลเวียนอยู เผยความแปลกประหลาดอยางสุดๆ ออกมา
ครานี้เมฆสีดำที่อยูไกลออกไปอยูหางจากพวกเขาไปไมถึงสองสามลี้แลว และใน
ตอนนั ้ นร า งของหญิง สาวชุด ขาวก็เริ ่ม เปน สีแ ดงคล้ ำ ใบหน า มี ลำแสงโลหิตสดๆ
ปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง และกลายเปนหมอกลำแสงจมหายเขาไปในหมอกลำแสงดานบน
ชั่วขณะนั้นหมอกลำแสงสีเขียวพลันสั่นคลอน ชั่วพริบตาก็เหมือนกับถูกยอมดวย
โลหิตอยางไรอยางนั้น เริ่มเปลี่ยนเปนหยดโลหิตสีแดงสด
เมื่อหญิงสาวที่อยูกลางหมอกลำแสงสัมผัสกับลำแสงโลหิตนี้ ชั่วพริบตาก็ดูดซับ
เขาไปในราง รางกายมีลำแสงวิญญาณหาสีแผออกมาสองสามชุน
จากนั้นโลหิตลำแสงจำนวนมากพลันทะลักออกมา โลหิตวิญญาณหาสีขยายใหญขึ้น
และเริ่มเปลงแสงเจิดจาจนแสบตา
เงาลวงตาสองสามสายกลายเปนพระอาทิตยหาสีกลุมหนึ่ง สีสันเจิดจรัส
ฉับพลันนั้นเสียงเพรียกของวิหคพลันดังสนั่นขึ้น หลังจากหมอกลำแสงหมุนติ้วๆ
แลว ก็จมหายเขาไปในดวงอาทิตยที่อยูตรงกลาง
ทั นใดนั ้ นดวงอาทิ ตยก ็ เ ปลง แสงห าสีสั น ออกมา ชั ่ ว ครู ก ็ก ลายเปน หงสหาสี
สองสามจั้ง หลังจากปากเปลงเสียงรองอันไพเราะออกมา ปกทั้งสองก็สยายออกบินไป
หาเมฆสีดำที่อยูตรงขาม
ระหวางทางหงสตัวนั้นพลันขยายใหญขึ้นไมหยุด แทบจะทุกครั้งที่กระพือปก
รางกายจะขยายใหญขึ้นหนึ่งเทา กระพือปกสองสามครั้ง หงสตัวนั้นก็มีขนาดรอยจั้ง
พลังนาเกรงขามที่ไมดอยไปกวาของมังกรยักษปรากฏขึ้น
ดวงตาสีเงินของหงสยักษจองเขม็งไปยังหัวมังกรที่อยูในเมฆสีดำ รางกายอันใหญโต
ปรากฏขึ้นตรงขามไมไกลนัก
พริบตาที่หงสยักษปรากฏตัวขึ้น หัวมังกรทองพลันหยุดคำราม เผยทาทีพรอมรบ
ออกมา หลังจากสายฟาฟาดลงมาจากเมฆสีดำระลอกหนึ่ง ในที่สุดรางกายสีทอง
ความยาวสองรอยจั้งเศษก็เผยออกมา
คาดไมถึงวารางของมังกรเที่ยงแทจะใหญกวาหงสหาสีหลายเทา
ถึงแมวารางกายจะเล็กกวาคูตอสู แตหงสหลากสีกลับไมหวาดกลัวเลยสัก นิด
กระพือปกทั้งสองขาง
ชั่วขณะนั้นใตปกพลันเกิดพายุหมุนขึ้น เสาวายุขนาดๆ พุงขึ้นไปบนทองฟา และใกลๆ
กับปกอีกขางหนึ่ง กลับมีลำแสงสีขาวสองสามสายปรากฏขึ้น หลังจากเสียง “ปงๆ”
ดังขึ้นอยางตอเนื่อง จุดลำแสงก็กลายเปนเปลวเพลิงสีขาวขยายใหญขึ้น ชั่วพริบตาก็
กลายเปนทะเลเพลิงที่ลุกโชน
เชนนั้นฉากที่นามหัศจรรยพลันปรากฏขึ้น
จากปกทั้งสองขางของหงสหลากสี กลางอากาศมีเสียงกรีดรองโหยหวนดังขึ้น
วายุซัดเขามาเปนระลอก พลังของหงสระเบิดออกมาเต็มทองฟาฝงนี้ อีกดานหนึ่งมี
ทะเลเพลิงหมุนวน เปลวเพลิงสีขาวแทบจะเผาไหมทองฟาฝงนี้ทั้งหมด อุณหภูมิสูงจน
ทำใหมองเห็นอะไรไมชัดเจน
มังกรทองที่อยูตรงขามเห็ นเช นนั้น กลิ่นอายบนรางพลันเปลี่ย นไป ชั่วครูก็
โหดรายขึ้น เมฆสีดำกลางอากาศเกิดเสียงฟารองดังขึ้น ในเวลาเดียวกันสายฟาจำนวน
นับไมถวนฟาดลงจามาจากกอนเมฆ ชั่วพริบตาก็ตัดสลับกันกลายเปนมังกรวารีไฟฟา
สีเงินยาวสิบจั้งเศษ สะบัดหางติดตามอยูขางกายมังกรทองเต็มไปหมด คาดไมถึงวา
มองไปปราดเดียวจะไมอาจคำนวณไดวามีกี่ตัว
หานลี่ที่อยูดานลางเห็นแลวพลันตาถลน ในเวลาเดียวกันกลางอากาศพลันมีเสียง
มังกรรองคำรามดังขึ้น มังกรทองอาปากออก พนเสาลำแสงสีทองออกมา ในเวลา
เดียวกันมังกรไฟฟาสีเงินที่อยูรอบๆ ดานก็กระโจนเขาใสฝงตรงขามทันที หงสหลากสี
ที ่ อ ยู  ก ลางอากาศสะบั ดป ก ทั ้ง สองข างไปเบื้ องหนา ในเวลาเดีย วกั น ชั ่ ว ขณะนั้น
พายุเฮอรริเคนสีเขียวและทะเลเพลิงสีขาวพลันปะทะกัน
เสี ย งดั ง สะเทื อ นเลื ่ อ นลั ่ น ชั ่ ว พริ บ ตาท อ งฟ า ทั ้ ง หมด ก็ เ กิ ด การต อ สู  ข อง
จิตวิญญาณเที่ยงแททั้งสองแลว
หานลี ่ ห รี ่ต ามองอยู ก ลางอากาศ แต ก ลั บ แผ จิ ตสัม ผั สกว าขึ ้น ไว ที ่เ ขตอาคม
เพื่อปองกันไมใหเกิดอะไรขึ้น
ประจุไฟฟาสีเงิน วายุสีเขียว เปลวเพลิงสีขาว สามชนิดพัวพันกันอยูกลางอากาศ
ในนั้นมีรางของมังกรทองและรางอันใหญโตของหงสหาสีกะพริบวาบอยู คาดไมถึงวา
จะเหมื อนกั บ อสู ร ธรรมดาๆ ที ่ ต  อสู  ก ั น ในระยะประชิ ด อย า งไรอย า งนั ้ น แต แ ค
ความสามารถของทั้งสองไมธรรมดา มังกรทองตะปบกรงเล็บออกไป เกิดเปนรอยแยก
สีขาวหาสายกลางอากาศ หงสหลากสีกระพือปกโจมตี อากาศเบื้องหนาพลันบิดเบี้ยว
ระหวางทั้งคูมีเสียงสะเทือนแสบแกวหูดังขึ้นไมหยุด ราวกับวาอาจจะฉีกทิ้ง
ทองฟาไดตลอดเวลา
หานลี่เห็นเชนนี้ พลันรูสึกจิตใจไมสงบราวกับเกิดพายุคลื่นขึ้นในใจ
สิ่งที่เรียกวา ‘จิตวิญญาณของจิตวิญญาณเที่ยงแท’ มีพลังที่สะเทือนฟาสะเทือนดิน
ขนาดนี้ เชนนั้นมังกรเที่ยงแทและหงสสวรรคที่แทจริงจะมีพลังความสามารถทำลาย
ลางโลกขนาดไหนกัน
ดูแลวสิ่งที่ในคัมภีรกลาวเอาไว สิ่งมีชีวิตระดับสุดยอดอยางมังกรเที่ยงแทและ
หงสสวรรคไมหวาดกลัวแดนเทพเซียน ก็อาจจะเปนความจริงอยูหลายสวน
ตอนที่ 1381 กระบี่ผลึกโลหิตมหาภารตะ
หานลี่จองไปกลางอากาศดวยดวงตาที่ไมกะพริบ มังกรทองและหงสหลากสีที่อยู
บนทองฟา กำลังโรมรันกันจนแยกไมออก
เชนนั้นหรือวาจะกลายเปนการตอสูอยางไมหยุดพักสามวันสามคืน?
หานลี่ขบคิดอยางรวดเร็ว ชักสายตาไป พิจารณาหญิงสาวชุดขาวและเยี่ยฉูที่นั่ง
สมาธิอยูในเขตอาคม สีหนาพลันตะลึงงัน
หญิงสาวกำลังหลับตาสองมือรายอาคม บนรางมีลำแสงหาสีโคจรไปมาไมหยุด
ดูไมออกวามีจุดใดที่ผิดปกติเลยสักนิด สวนเยี่ยฉูยังคงพนลำแสงสีเขียวออกมาใสรา ง
ของหญิงสาวไมหยุด แตสีผิวกลับเปลี่ยนไป
ผิวสีเขียวมรกตที่ดูเหมือนพฤกษาวิญญาณในตอนนี้ขาวนวล ราวกับหยกงาม
อยางไรอยางนั้น
หญิ ง สาวผู  นี ้ ก ลายเป นหญิ ง งามคนหนึ ่ ง ใบหน า รู ป ไข ดวงตาสดใสดุ จ หงส
ทาทางมีอายุแคสิบแปดสิบเกาป
เหมือนวาจะรูสึกถึงการจับจองของหานลี่ สตรีผูนั้นชำเลืองมองหานลี่ดวยความ
เย็นชาแวบหนึ่ง สายตาไรซึ่งความรูสึก เย็นชาเปนอยางมาก
สัมผัสไดถึงความโกรธเกรี้ยวของสตรีผูนี้ หานลี่พลันฉีกยิ้มตอบรับ ทันใดนั้นก็หัน
กลับไป
ในตอนนั้นเองกลางอากาศพลันมีเสียง “” ดังขึ้น
หานลี่ใจหายวาบมองไปบนทองฟาอีกครั้ง
เห็นเพียงสถานการณบนทองฟาเปลี่ยนไป พลังพายุเฮอรริเคนกลายเปนลำแสงสีฟา
กลายเปนดอกบัวน้ำแข็งยักษกิ่งโปรงใสผลิบานอยู พลังเย็นยะเยือกที่สามารถแชแข็ง
ทองฟาไดพลันเขาสูการตอสูในพริบตา
เมื่อพลังเย็นเยียบกลุมนี้ปะทะกับเปลวเพลิงสีขาว ก็ดูเหมือนวาจะไมมีพลังขับไลเลย
สักนิด กลับตรงกันขามกับพลังฟาดิน เมื่อชวยเสริมกันและกันแลว อานุภาพก็เพิ่มขึ้น
หลายเทา
ชั่วขณะนั้นลูกไฟสีขาวและดอกบัวน้ำแข็งสีฟาพลันพัวพันสลับกัน ทอดตัวไปครึ่งฟา
กดพลังอสนีใหลาถอยไป
ไมรูวาหงสหลากสีสำแดงเคล็ดวิชาอัศจรรยอะไร หลังจากเปลี่ยนพลังวายุเปน
พลังน้ำแข็งเย็นยะเยือกแลว ก็ไดเปรียบในการตอสูเปนอยางมาก
“เหอๆ เปลี่ยนเบญจธาตุ เปนหนึ่ง! ในที่สุดเจาก็สำแดงคาถาหยินหยางระดับ
สุดยอดออกมาแลว? เยี่ยม เยี่ยมมาก ในที่สุดวันที่ขารอคอยก็มาถึง” มังกรยักษสีทอง
ที่อยูกลางอากาศดูจะสูไมได แตไมเพียงจะไมลนลาน กลับเอยคำพูดของมนุษยที่ฟงดู
อูอี้ออกมา เปลงเสียงหัวเราะออกมา ดูเหมือนวาจะมีความสุขเปนอยางมาก
“เจารูจักเคล็ดวิชานี้?” รางกายของหงสหลากสีแข็งคาง ปากก็เปลงเสียงรองดวย
ความสงสัยออกมา
นั่นก็คือเสียงของหญิงสาวชุดขาว
แตมังกรยักษที่อยูกลางอากาศกลับไมตอบคำพูดของหงสหลากสี กลับอาปาก
เปลงเสียงคำรามกระทบโสตประสาทออกมา ทันใดนั้นฉากที่ทำใหผูคนตกตะลึ งก็
ปรากฏขึ้น
ลำแสงสีทองที่อยูบนรางของมังกรยักษลดลง กลายเปนสีแดงโลหิตสดๆ ทันใดนั้น
มังกรพลันอาปาก พนเสาโลหิตหนาๆ ออกมาตนหนึ่ง
เมื่อเสาโลหิตสัมผัสกับอากาศ ก็หมุนติ้วๆ รวมตัวกันกลายเปนกระบี่ยักษยาว
สิบจั้งเศษ
กระบี่เลมนี้มีตัวเรือนสีแดงโลหิต หัวเปนมังกรตัวเปนหงส กลิ่นคาวโลหิตคละคลุง
ทะลักออกมาจากตัวกระบี่ ทำใหผูคนรูสึกคลื่นเ**ยนเวียนเกลา
“กระบี่ผลึกโลหิตมหาภารตะ คิดไมถึงวาสมบัติชิ้นนี้จะตกอยูในมือของพวกเจา!
หรือวาพวกเจาคิดจะ…” เมื่อเห็นกระบี่เลมนี้คืนรางเดิม หงสหลากสีก็รองอุทานชื่อ
ของมันออกมาดวยความตกใจ แตทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได ทันใดนั้นพลันลนลาน
สยายปกทั้งสองออกแลวบินหนีออกมา
“จะหนีตอนนี้ ก็สายไปแลว!” เสียงเย็นชาดังออกมาจากปากของมังกรยักษ
ทันใดนั้นรางกายก็กระโจนมาขางหนึ่ง ฉับพลันนั้นรางพลันหดเล็กลงสองสามเทา คาด
ไมถึงวาจะกลายเปนลำแสงโลหิตความยาวสองสามจั้ง จมหายเขาไปในตัว กระบี่
โลหิต
ทันใดนั้นกระบี่เลมนี้ก็สับลงมาหาหงสหลากสีที่อยูไกลออกไป
ลำแสงสีโลหิตออนๆ สวางวาบ เงาโลหิตยาวรอยจั้งเศษสายหนึ่งสับผานรางของ
หงสหลากสีอยางรวดเร็ว ทำใหหงสหลากสีตัวนั้นไมทันไดมีปฏิกิริยาตอบสนอง
หลังจากเปลงเสียงรองดวยความโกรธเกรี้ยว รางอันใหญโตของหงสหลากสีที่ดู
เหมือนวาไมไดรับบาดเจ็บ แตเงาลวงตาหงสโลหิตขนาดสองสามฉื่อกลับถูกเงากระบี่
สับแลวพุงออกมาจากรางกาย จากนั้นเงากระบี่สีโลหิตก็พุงไปดานหลังแลวหมุนวน
กลับมา กลายเปนลำแสงสีโลหิตหอหุมเงาลวงตาหงสโลหิตเอาไว พุงไปดานหลังแลว
กลับมาดวยความเร็วดุจสายฟา เปลงแสงสวางวาบแลวกลับมาอยูในกระบี่โลหิต
ลำแสงกระบี่โลหิตเปลงแสงสวางวาบ เปลงเสียงรองหึ่งๆ ต่ำๆ ออกมา
รางของหงสหลากสีเปลงเสียง “กึกๆ” ออกมา ชั่วขณะนั้นพลันกลายเปนลำแสง
วิญญาณสลายหายไปจากกลางอากาศ มีเพียงลำแสงโลหิตสวนเล็กๆ ที่รอนลงมาจาก
ลำแสงวิญญาณ ชั่วพริบตาก็จมหายเขาไปในรางของหญิงสาวที่อยูดานลาง
รางกายของเยี่ยอิ่งสั่นเทา ลืมตาทั้งสองขางขึ้น แตในแววตากลับเต็มไปดวยความ
หวาดกลัวและไมอยากจะเชื่อ
“โลหิตของหงสสวรรค โลหิตของจิ ตวิ ญญาณเที่ ยงแทข องพวกเราถู ก กระบี่
เลมนั้นดูดไปกวาครึ่ง” น้ำเสียงของหญิงสาวแหงผาก ไมอาจรักษาสีหนาราบเรียบ
อยางเดิมเอาไวไดอีกแลว
“นายหญิงนอยไมจำเปนตองตกใจ โลหิตของหงสสวรรคไมใชสิ่งที่จะชิงไปไดงายๆ
ตอนนี้แคถูกกระบี่เลมนั้นกักเอาไวชั่วคราวเทานั้น ถึงแมวาคนของตระกูลหลงจะใช
จิตวิญญาณดั้งเดิมควบคุมโลหิตของมังกรเที่ยงแทใหเขาไปในกระบี่เลมนั้น เพื่อหมาย
จะชิงโลหิตวิญญาณไปจริงๆ แตก็ไมอาจทำสำเร็จไดในทันที ขอแคชิงกระบี่เลมนั้น
กลับมาได พวกเราก็มีโอกาสชิง กลับ คื น มาแล ว แมกระทั่งอาจจะชิ ง โลหิต มั ง กร
เที ่ ย งแท ข องอี ก ฝ า ยมาได อี ก ด ว ย” หลั ง จากนั ้ น เยี ่ ย ฉู  ก ลั บ หยุ ด ลำแสงวิ ญ ญาณ
สายตาเย็นชาขณะเอย
“ใชแลวตอนนี้ขายังสัมผัสไดถึงโลหิตวิญญาณสวนนั้น อีกฝายยังทำไมสำเร็จ พวกเรา
รีบไปชิงกระบี่เลมนั้นมาเถิด พี่หาน ขารูวาเจาไมใชผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
ธรรมดาๆ ครั้งนี้ขอแคชวยขาชิงโลหิตวิญญาณคืนมา ขายอมตกลงวาวันขา งหนา
ตระกูลเยี่ยจะยอมตอบแทนสิ่งที่ทำไดใหเจาเปนการตอบแทนแน” หญิงสาวชุดขวา
ได ฟ  ง คำพู ด ของเยี ่ ย ฉู  ในที ่ ส ุ ด ก็ ฟ   น ฟู ส ี ห น า กลั บ มาเป น นิ ่ ง สงบ ขบคิ ด เล็ ก น อย
กลับหันหนาไปเอยคำสัญญากับหานลี่
เยี่ยฉูไดยินแลวพลันตะลึงงัน สวนหานลี่กลับขมวดคิ้ว เผยทาทีลังเลออกมา
“สหายอยาคิดวาตระกูลหลงจะปล อยเจาไป หากพวกเราพลั้งมือถูกสั ง หาร
เจาก็ไมอาจหนีการไลลาของอีกฝายไดตามลำพังแน และยิ่งไปกวานั้นเมื่อครูเจากับขา
แสดงออกแลววาอยูฝงเดียวกัน ตอใหโชคดีหนีกลับไปในเผามนุษยได แตวันขางหนา
ตระกูลหลงก็ไมมีทางปลอยเจาไปแน มีเพียงตองรับการคุมครองจากตระกูลเยี่ยของ
พวกเรา ถึงจะไมเปนไร” เยี่ยฉูแววตาเปลงประกายขณะเอยดวยสีหนาไรความรูสึก
“ขานอยยัง มีต ัว เลื อกอื่ นอี ก หรื อ” หานลี่ลูบใตคาง เอยดวยทาทีจ นป ญ ญา
เล็กนอย
“เหตุใดพี่หานถึงไดพูดเมื่อฝนใจขนาดนั้น ผูบำเพ็ญเพียรเผามนุษยตั้งไมรูเทาไหร
ที่อยากสานสัมพันธกับตระกูลเยี่ยของพวกเรา” หญิงสาวชุดขาวหัวเราะอยางแผวเบา
ออกมา ทันใดนั้นรางกายก็เคลื่อนไหว กลายเปนลำแสงสีทองกลุมหนึ่งพวยพุงขึ้นไป
บนทองฟา สวนหญิงสาวเยี่ยฉูก็กลายเปนสายรุงสีเขียวไลตามหลังไปติดๆ
หลังจากที่หญิงสาวผูนี้มีลำแสงวิญญาณไหลวนโคจรอยู ผิวก็กลายเปนสีเขียวอีกครั้ง
มองไกลๆ ไมตางอะไรกับพฤกษาวิญญาณเลยสักนิด
หานลี่ที่อยูทามกลางลำแสงสีเขียวก็บินเขาไปหากระบี่โลหิตบนทองฟา
เพราะวามังกรทองและหงสโลหิตสลายหายไป สายฟา เมฆสีดำ ดอกบัวน้ำแข็ง
เปลวเพลิงสีขาวบนทองฟาจึงหายวับไป เผยทองฟาสีครามออกมาอีกครั้ง
หากไมใชเพราะกลางอากาศมีกระบี่โลหิตขนาดยักษที่สะดุดตาลอยอยู การตอสู
กอนหนาก็ดูเหมือนวาจะไมเคยเกิดขึ้นมากอนอยางไรอยางนั้น
หานลี่และพวกตางรูดีวาอีกฝายคงไมมีทางปลอยใหพวกเขาทำสำเร็จไดงายๆ แน
ระหวางที่ทั้งสามพุงออกไป สองฝงของกระบี่โลหิตก็มีไอคลื่นปรากฏขึ้น ทามกลาง
ลำแสงสีเงิน ผูบำเพ็ญเพียรสองคนที่มีใบหนาคลายคลึงกันพลันปรากฏขึ้น
ทั้งสองคนสวมชุดผาไหม สวมผาคาดสีมวงบนศีรษะ มองทั้งสามดวยสีหนาเย็นชา
“หลงอวี่ หลงหลิน! พวกเจาสองคน!” เมื่อเห็นทั้งสองปรากฏตัว ดวงตางดงาม
ของเยี่ยฉูกลับหดเล็กลง ตะโกนชื่อทั้งสองคนออกมา
หญิงสาวชุดขาวใจเตน ลำแสงหลีกหนีที่อยูหางจากกระบี่โลหิตไปรอยจั้ งเศษ
หยุ ด ชะงั ก ลง จากนั ้ นก็ แ ผ จ ิ ต สั ม ผั ส ไปที ่ ผ ู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รวั ย กลางคนทั ้ ง สองด ว ย
ความตกใจ
“อันใด? พี่หญิงฉูรูจักสองคนนั้น”
“พันปกอนขาและทั้งสองคนอยูในระดับหลอมสุญตาขั้นตนเหมือนกัน เคยพบกัน
ในการรวมตัวของตระกูลจิตวิญญาณเที่ยงแทครั้งหนึ่ง สองคนนี้เชี่ยวชาญเคล็ดวิชา
เลี้ยงผีควบคุมมาร ไมใชผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ ตระกูลหลงสงพวกเขามา ดูแลวคง
ตองเอาโลหิตของหงสสวรรคจากนายหญิงนอยไปใหได” เยี่ยฉูเอยดวยสีหนาเครงขรึม
“เคล็ดวิชาเลี้ยงผีควบคุมมาร ตอกรไดยากจริงๆ” หญิงสาวชุดขาวรูสึกจิตใจหนักอึ้ง
“พวกเราพี่นองยังคิดวา ตระกูลเยี่ยสงชนชั้นสูงผูใดไปเปนสายลับในเผาพฤกษา
ที่แทก็เซียนฉูนี่เอง
ตอนนั้นเซียนมีชื่อเสียงเกรียงไกรมาก จูๆ ก็หายตัวไป พวกเรายังรูสึกวาแปลกๆ
ตอนนี้คาดไมถึงวาสหายจะฝกฝนอยูในระดับหลอมสุญตาขั้นปลายแลว เห็นไดชัดวา
เซียนจะตองไดประโยชนในเผาพฤกษาแน” ทั้งสองมองไปบนเรือนรางของเยี่ยฉู
แวบหนึ่ง หนึ่งในนั้นเอยพรอมกับหัวเราะ อีกคนหนึ่งกลับเงียบกริบ แตใบหนาเต็มไป
ดวยความไมเปนมิตร
“สหายทั้งสองฝกฝนแคพันปก็อยูในระดับขั้นกลาง ก็นับวาไวเชนกัน แตครั้งนี้กลับมา
ลงมือกับนายหญิงนอยของพวกเรา ชางโอหังเกินไปหนอยกระมัง” เยี่ยฉูเลิกคิ้ว
พลางเอยอยางไมเกรงใจ
“ฮาๆ นายนอยของตระกูลเราเพิ่งจะฝกฝนเคล็ดวิชาสำเร็จ มีไดทั้งโลหิตวิญญาณ
เที่ยงแทของมังกรและหงส มีหวังที่จะบรรลุระดับผสานอินทรียแลว อีกอยางพูด
เรื่องนี้ไปจะมีประโยชนอะไร” ชายวัยกลางคนที่พูดหัวเราะอยางพึงพอใจออกมา
“คาถาหยินหยางระดับสุดยอดนั้น พวกเจาจงใจขายพวกเราหรือเปลา มิเชนนั้น
ถึงแมวาจะมีกระบี่ผลึกโลหิตมหาภารตะ โลหิตหงสสวรรคจะถูกแยกออกไดงายๆ
ได อย า งไร” หญิ ง สาวชุ ด ขาวแววตาเย็ น เยี ย บ ฉั บ พลั น นั ้ น พลั น เอ ย ถามทั ้ ง สอง
อยางโหดเหี้ยม
เมื่อไดยิน ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลหลงทั้งสองพลันมองสบตากันแวบหนึ่ง แตทันใดนั้น
คนหนึ่งก็หัวเราะออกมา
“หยุดพลามไรสาระไดแลว! มีพี่นองอยางเราอยูที่นี่ ทั้งสองอยาคิดจะรบกวน
คุณชายของเราเลย” ทั้งสองคนไมคิดจะตอบคำถามนี้
“นายนอย ลงมือเถิด พูดไปก็ไมมีประโยชน” เยี่ยฉูแคนเสียงอยางเย็นชาออกมา
ทันใดนั้นรางกายก็เปลงแสงสีเขียวมรกต ลำแสงสีเขียวกระจายออกมาบนเรือนราง
ดานในมีเงาตนไมและพุมไมปรากฏขึ้นรางๆ
สองมือของสตรีผูนี้พลันรายอาคม ชั่วพริบตาลำแสงสีเขียวก็พวยพุงขึ้นไปบนทองฟา
หอหุมทั้งสองคนเอาไว
หล ง ตงและพวกทั ้ ง สองเห็ น เช น นั ้ น ก็ แ ทบจะสะบั ด แขนเสื ้ อ ในเวลาเดี ย ว
สำแดงคัมภีรโบราณสีแดงสดมวนหนึ่งและมวนรูปภาพสีดำสนิทมวนหนึ่งออกมา
คนหนึ่งชูมือหนึ่งขึ้น ชี้ไปที่คัมภีรโลหิตดวยความเครงขรึม
ขณะที่คัมภีรสีโลหิตพลันหมุนวน อักขระสีโลหิตจำนวนนับไมถวนทะลักออกมา
ทั นใดนั ้ นก็ ก ลายเป นเงามารสี แ ดงสดเป น สายๆ เงยหน า อ า ปากออกกั บ ท อ งฟา
ลำแสงสีโลหิตโจมตีไปยังลำแสงสีเขียวดานลาง
ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนอีกคนหนึ่งพลันรายอาคมในใจ มวนภาพสีดำสนิทเปดออก
ไอหมอกดานหมุนวน วายุสีดำกลุมหนึ่งเปลงเสียงหวีดรองออกมา แลวมวนไปทาง
ลำแสงสีเขียวเชนกัน
ภายใตลำแสงโลหิตและวายุสีดำที่พัวพันกัน ตานทานลำแสงสีเขียวที่นากลัว
เอาไวกลางอากาศ ทั้งสองระเบิดออกเกิดเปนเสียงดังสนั่นไมหยุด
หญิงสาวชุดขาวเห็นเชนนั้นพลันมีสีหนาเครงขรึม สองมือพลันพลิกฝามือ มีดสีทอง
เลมหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ ลำแสงสีทองเปลงประกาย อีกมือหนึ่งกลับมีแหวนกลมๆ
สีเขียวมรกตปรากฏขึ้น
สองมือโบกสะบัด ทั้งสองพลันพวยพุงขึ้นไปในอากาศในเวลาเดียวกัน
ตอนที่ 1382 ภูตชาด
ภายใตมีดสีทองที่พลิ้วไหว มีดลำแสงสิบจั้งเศษสายหนึ่งสับลงมาหากระบี่โลหิต
แหวนสีเขียวมรกตชิ้นหนึ่งเปลงเสียงรองครวญออกมา กลายเปนเงาลวงตาขนาดยักษ
สีเขียวสายหนึ่ง พุงเขามาหากระบี่โลหิตเชนกัน
“เพอเจอ!” ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลหลงคนหนึ่งเห็นทาทางของหญิงสาว ก็รอง
ตะโกนออกมา ทันใดนั้นมือหนึ่งพลันตบไปที่หยกสีขาวขางเอว
ของสิ่งนี้กลายเปนลำแสงสีขาวสายหนึ่งพุงขึ้นไปบนทองฟา ทามกลางการหมุนวน
ติ้วๆ ก็กลายเปนมานลำแสงสีขาวชั้นหนึ่งหอหุมกระบี่โลหิตเอาไว
ชั่วขณะนั้นมีดลำแสงและเงาลวงตาพลันโจมตีไปบนมานลำแสง ชั่วขณะนั้น
เสียงดังสนั่นพลันดังขึ้นสองครั้ง มานลำแสงสีขาวพลิ้วไหวอยางรุนแรง อักขระจำนวน
นับไมถวนปรากฏขึ้น แตคาดไมถึงวาจะรับการโจมตีจากสมบัติทั้งสองเต็มๆ
หญิงสาวพลันหนาเปลี่ยนสี ชูมือหนึ่งขึ้นโดยไมไดปริปาก รายอาคมโจมตีไปยัง
มีดสั้นสีทองเลมนั้น ในเวลาเดียวกันปากก็บริกรรมคาถาออกมา
มีดสั้นเปลงแสงสับลงไปที่มานลำแสงสีขาวอีกครั้ง
การโจมตี นี ้ ด ู แ ล ว แผ ว เบา จนดู เ หมื อนไม ม ี พ ลั ง แต ก ลั บ เป น เส น อวบหนา
มีดลำแสงยาวประมาณรอยจั ้ง เศษ ปรากฏขึ้นกลางมา นลำแสง สับลงมาราวกั บ
ใบมีดสวรรค
ใบมีดนี้ยังไมทันตกลงมาจริงๆ อากาศรอบๆ ก็สั่นคลอนเปลงเสียงกรีดรองแหลม
สูงออกมา
ผู  ใ ดก็ ด ู ออกว า มี ล ำแสงนี ้ ส ั บ ลงมาอย า งแน น หนา ม า นลำแสงสี ข าวไม อาจ
ตานทานไดเลยสักนิด
ในตอนนั้นเองผู บำเพ็ญ เพียรตระกูล หล งอีก คนหนึ่ งก็แ ค นเสี ยงอยางเย็ นชา
ออกมา ฉีกแขนเสื้อยาวๆ ของตนเอง เผยรางกายที่ทำใหผูคนขนลุกซูออกมา
รางกายครึ่งทอนที่ดูเหมือนธรรมดาๆ ของคนผูนี้มีหัวภูตผีสีแดงสดขนาดเทา
กำปนอยูเจ็ดแปดหัวกำลังกัดอยูบนรางกายของเขา และเลื้อยขยุกขยิกไปมาไมหยุด
ผูบำเพ็ญเพียรผูนี้เปลงเสียงกรีดรองแหลมสูงออกมา ชั่วขณะนั้นหัวภูตผีสามหัวก็
พลิ้วไหวแลวอาปากออก ทันใดนั้นก็สั่นคลอนแลวหายวับไป
ครูตอมาเหนือมานลำแสงสีขาว ก็มีไอทมิฬสามกลุมระเบิดออกมา
ทามกลางไอสีดำสนิทราวกับน้ำหมึก ผีสีแดงสดสูงหาหกจั้งสามตัวปรากฏขึ้น
ผีดุรายสามตัวมองไปยังมีดลำแสงยักษกลางอากาศ ฉับพลันนั้นสองแขนรายรำ
กลายเปนกระบี่ยาวสีแดงสดสองเลม ถูกภูตผีรายที่อยูตรงกลางจับเอาไว
ทันใดนั้นไอทมิฬก็หมุนวนทยอยกันจมหายเขาไปในภูตผีและกระบี่ยักษสองเลม
ภูตผีอัปลักษณเปลงเสียงกรีดรองลั่นฟาออกมา รางกายขยายใหญขึ้นเจ็ดแปดเทา
จนมีขนาดสามสิบจั้งเศษ จากนั้นก็ชูกระบี่ภูตสีแดงสดที่ใหญกวาสองสามเทาออกมา
พรอมกัน สับไปทางดาบลำแสงกลางอากาศจนกลายเปนรูปกากบาท
ลำแสงสีแดงลำแสงสีทองพัวพันตัดสลับกัน เปลงเสียงอึกทึกดังสนั่นขึ้น!
มีดลำแสงยักษที่อยูดานลางถูกกระบี่ยักษสองเลมยาวสิบจั้งเศษตานเอาไว
ทันใดนั้นก็สั่นเทา มีดลำแสงหายวับไป
ขณะเดียวกันกระบี่ภูตสองเลมและแขนหนาๆ ทั้งสองของภูตดุรายที่ถือกระบี่อยู
ดานลางกลับแตกออกเปนเสี่ยงๆ อยางไมมีเคาลางมากอน กลายเปนหมอกสีแดงแลว
สลายหายไป
ในตอนนั้นเองหลังจากที่เงาลวงตาสายหนึ่งหมุนวนโคจร ก็ทุบลงมาที่ภูตผี
ภูตผีผมแดงที่อยูตรงกลางเห็นเชนนั้นกลับไมลนลาน เห็นหมอกสีแดงหมุนวนมา
อยูเบื้องหนา ก็กลายเปนแขนภูตและกระบี่ยักษสองเลมที่เหมือนกับไมเคยไดรับ
บาดเจ็บมากอนอยางไรอยางนั้น
การโจมตีของเงาลวงตา แนนอนวาถูกกระบี่ยักษสองเลมตานทานเอาไวไดอยาง
งายดาย และโจมตีจนกระเด็นลอยไป
หญิงสาวที่อยูไกลออกไปเห็นเชนนี้ก็มีสีหนาซีดขาว
นางกัดฟนกรอดสะบัดแขนเสื้อ ลำแสงขนาดเทากำปนสีเหลืองแดงขาวสามกลุม
พุงออกไป หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง ‘ป’ ‘ขิม’ ‘พิณ’ สามชิ้นปรากฏขึ้นเปนแถว
นิ้วทั้งสิบของหญิงสาวชี้ไปทางสมบัติทั้งสามชิ้นราวกับลอรถ สมบัติสามชิ้น
เปลงแสงขึ้นพรอมกัน ลำแสงสามชนิดที่ไมเหมือนกันพุงออกมาพรอมกัน และผสม
รวมตัวกันกลางอากาศ กลายเปนลำแสงสามสีกลุมหนึ่งมวนไปทางภูตดุราย
แตเมื่อลำแสงหลากสีบินออกมาไดระยะหนึ่ง เบื้องหนาลำแสงก็มีไอทมิฬสี่กลุม
ระเบิดออก จากนั้นภูตผมแดงสี่ตัวก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
พวกมันอาปากไปทางลำแสงสามสีพรอมกัน พนไอทมิฬสีดำสี่กลุมออกมา ชั่วครู
ก็ตานทานลำแสงสามสีเอาไว และยืนกรานตอกันอยางไมยอมออนขอใหกันหญิงสาว
ตกตะลึง ตอนที่กำลังคิดหาวิธีอื่นนั้น เหนือหัวกลับมีเสียง “สวบ” ดังขึ้น เงาลวงตา
สีแดงสายหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ สองมือโบกสะบัดเล็กนอย ไอกระบี่หนาๆ
สองสายสับลงมาอยางรุนแรง
ภูตสีแดงที่เดิมทีหยุดอยูบนมานลำแสงสีขาวตัวนั้นแหวกอากาศมาตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู
เคลื่อนยายมาอยูเหนือหัวอยางเงียบเชียบ
หญิงสาวรูสึกตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวผสมปนเปกัน รางกายพลิ้วไหว กลายเปน
สายรุงสีทองสายหนึ่งพุงออกไป หลบการโจมตีนี้ไปได ในเวลาเดียวกันมือหนึ่งพลัน
กวั ก ไป ชั ่ ว ขณะนั ้ นมี ด สี ท องและแหวนสี เ ขี ย วที ่ อ ยู  ไ กลออกไปพลั น พุ  ง กลั บ มา
ลอมรอบหัวของภูตผีแลวโจมตีอยางบาคลั่ง
ภูตตัวนี้รายกระบี่ยักษในมือ ปกปองรางกายเอาไวอยางไมแสดงอาการออนแอ
ออกมา
เชนนั้น หญิงสาวชุดขาวจึงอาศัยอานุภาพของสมบัติหาชิ้น ตอสูกับภูตสีแดงเจ็ดตัว
พรอมกัน และไมอาจละความสนใจไปทำอะไรกระบี่ยักษสีโลหิตได
เยี่ยฉูที่อยูอีกดานเองก็ปลอยกระบี่บินสีเขียวเหลืองสองสีสิบกวาเลมออกมา
กลายเปนเงากระบี่เต็มทองฟาตอสูหัวมารผมยุงเหยิงฝูงหนึ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรตระกูล
หลงสองตนเรียกออกมา
หัวมารเหลานี้มีขนาดพอๆ กับศีรษะมนุษย แตไมมีรางกาย ในเวลาเดียวกันเขี้ยว
ที ่ ง อกออกมา ก็ พ  น ไอมารสี ม  ว งออกมา ทำให อ าณาบริ เ วณรอบจั ้ ง กลายเป น
มานหมอกหนาๆ
เยี่ยฉูกลับถูกมวนเขาไปขางใน
เงามารอยูในกาซพิษ หลังจากที่เยี ่ย ฉู เ ปลี ่ย นการโจมตี ไปสองสามชนิ ด แล ว
กลับไมอาจหนีออกมาไดในทันที จึงทำไดเพียงปลอยลำแสงสีเขียวออกมาปกปองราง
และพัวพันกับกาซนั่นไมหยุด
หญิงสาวผูนี้กวาดสายตามาอยางรีบรอน แนนอนวาจึงมองเห็นหญิงสาวชุดขาว
กำลังตกอยูในที่นั่งลำบากเชนกัน ในใจจึงอดที่จะรูสึกหนักอึ้งไมได แตทันใดนั้นก็คิด
อะไรขึ้นมาได คอระหงหันไปอีกดาน ผลคือสิ่งที่เห็นทำใหนางตะลึงงัน
จุดที่นางจับตองไปนั่นก็คือ หานลี่ที่ยังไมลงมือ
เขาในครานี้เอาสองมือไพลหลังลอยอยูกลางอากาศไมขยับเขยื้อน
ทวานั่นไมใชเพราะหานลี่ไมคิดจะลงมือ แตเพราะเบื้องหนาของเขาไมไกลนัก
หญิงสาวชุดดำคนหนึ่งกำลังมองมาดวยทาทีอมยิ้ม
นั่นก็คือ เสี่ยวหงของเผาหงสทมิฬ
หานลี่ดูเหมือนวาจะกำลังหวาดกลัวและไมกลาเสี่ยงลงมือ
“เรื ่ อ งนี ้ เ ป น เรื ่ อ งของเผ า มนุ ษ ย สหายสอดมื อ มายุ  ง กั บ เรื ่ อ งของตระกู ล
จิตวิญญาณเที่ยงแทของพวกเรา หรือวาอยากหาเรื่องใสตัว?” เยี่ยฉูตะโกนไปทาง
หญิงสาวดวยเสียงโหดเหี้ยม
“หากสหายอยากใหขาไมยุงเรื่องนี้ งั้นก็มอบขนหงสสวรรคในมือมาใหขา ขอแคได
ของสิ่งนั้น ขาจะจากไปในทันที” เสี่ยวหงเอยดวยรอยยิ้มหยดยอย
“ขนของหงสสวรรคอะไรกัน ขาจะไปมีไดอยางไร?” เยี่ยฉูหนาเปลี่ยนสีกลับ
ปฏิเสธออกไป
“เหอะๆ สหายลืมไปแลวหรือ สายลับที่สงมายังเผาพฤกษา ก็มีคนของเผาปศาจ
เชนกัน เขาสงขาวกลับมาตั้งหลายปแลว บอกวาเผาพฤกษาซอนขนของหงสสวรรคที่
ใชทำใหหงสสวรรคเกิดใหมเอาไวสามเสน มิเชนนั้นผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาที่
ยิ่งใหญอยางสหาย จะมาซอนตัวอยูที่นี่ดวยตนเองตั้งนานทำไมกัน ตอนนี้แมแต
นายหญิงนอยเยี่ยผูนี้ก็ยังออกโรงดวยตัวเอง คงไดขนของหงสสวรรคมาอยูในมือ
แลวสินะ” สตรีเอยอยางราบเรียบ
เมื่อไดยินคำพูดของเสี่ยวหง เยี่ยฉูและหญิงสาวก็เครงขรึมไมปริปากใดๆสตรี
เปลงเสียงหัวเราะออกมา สายตาตกมาบนเรือนรางของหานลี่อีกครั้ง
“พี่หาน ขารูวาเจามีความสามารถไมธรรมดา แตหากอยากเอาชนะขาก็ไมใชเรื่อง
งาย! มิสูรอไปกอน ใหคนอื่นๆ ตัดสินแพชนะกอนเปนอยางไร?” สตรีผูนี้เอยเชนนี้
ออกมา
แนนอนวาหานลี่เองก็มองเห็นสถานการณที่หญิงสาวที่เหลือตอสูกันตั้งนานแลว
หลังจากเงียบขรึมไปเล็กนอย กลับฉีกยิ้มขึ้นมา
“ข า น อ ยเองก็ ไ ม อ ยากสู  อ ะไรกั บ สหาย แต ห ากรอให น ายน อ ยหล ง ผู  นั้ น
หลอมโลหิตวิญญาณเที่ยงแทสำเร็จ ก็ไมรูวาจะรอดหรือไมแลว เห็นแกความสัมพันธ
ของเรา ผูแซหานขอถามสหายสักหนอย จะถอยหรือไม?”
“ไมมีทางทำตามสั่งแน!” เสี่ยวหงมีสีหนาเครงขรึม น้ำเสียงเย็นเยียบ
“เยี่ยม!” หานลี่สาวเทาออกไป หลังจากนั้นรางกายพลันรางเลือน คาดไมถึงวาจะ
กาวออกไปไกลยี่สิบจั้งเศษตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู ชั่วพริบตาก็อยูหางจากสตรีไปแคสอง
สามจั้ง มือหนึ่งชูขึ้น นิ้วหนึ่งวาดออกไปเปนไอเสนไหมเพลิง ลำแสงสีทอง เปลง
ประกาย เสนไหมสีทองสายหนึ่งมาอยูเบื้องหนาสตรี แลวสับนางออก
การโจมตีในครานี้ดูเหมือนงายดายมาก แตความจริงแลวกลับเปนเพราะหานลี่
อาศัยรางกายที่แข็งแกรง ประสานกับยางกาวควันตาขายและเกาวายุแปรปรวน
ระดับขีดสุด
ถึงแมวาสตรีผูนี้จะเปนปศาจผูบำเพ็ญเพียร แตการเคลื่อนไหวที่ลึกลับและ
การโจมตีที่คาดไมถึงของหานลี่ก็ยังคงทำใหนางตกใจจนสะดุงโหยง
ความเร็วของไอกระบี่ที่กลายเปนเสนไหมสีทองที่ทำใหนางไดทันไดหลบหลี กหรือ
ปองกัน ภายใตอารามตกใจนั้นจึงทำไดเพียงอาปากพนเพลิงสีดำกลุมหนึ่งออกมา
เสียง “ปง” ดังสนั่นขึ้นเปลวเพลิงสีดำแยกออกไอกระบี่ชะงักคาง
หลังจากที่สบโอกาสรางกายของสตรีก็พลิ้วไหว หลังจากที่เสนไหมสีทองเปลงแสง
สวางวาบก็สับลงมาที่ชายกระโปรงของสตรีผูนี้เพียงเล็กนอย สวนนางก็พุงออกไป
เจ็ดแปดจั้งแลว
หลังจากที่สตรีผูนี้ยืนไดอยางมั่นคงอีกครั้ง สายตาที่มองไปทางหานลี่เต็มไปดวย
ความไมอยากจะเชื่อ
ครานี้หานลี่เก็บกระบี่ลำแสงเขาไปแลว มือหนึ่งลูบไปบนศีรษะโดยไมเปลงคำพูดใดๆ
ลำแสงเทวะดูดปราณสีเทาพวยพุงขึ้นไปบนอากาศมวนไปทางสตรีผูนั้นตามจิตสัมผัส
ของเขา
ในเวลาเดียวกันฝามือที่อยูในแขนเสื้อพลันทำสัญลักษณกลางอากาศอยางเงียบเชียบ
ชั่วขณะนั้นหัวกะโหลกสีขาวหาหัวพลันปรากฏขึ้นลอมรอบสตรีผูนั้น ปากทั้งหา
พนเปลวเพลิงเย็นยะเยือกหลากสีสันออกไป ชั่วขณะนั้นก็กลายเปนเปลวเพลิงหาสี
กระโจนออกไป
หลั ง จากทำทุ ก อย า งเสร็ จ สิ ้ นแผ น หลัง ของหานลี ่ ก ็ ม ี เ สี ยงสายฟ า ฟาดดั งขึ้น
ปกวายุอัสนีปรากฏขึ้น ประจุไฟฟาสีเขียวขาวเปลงประกายแลวหายวับไปจากที่เดิม
รอจนเขาเปลงแสงและปรากฏตัวกลางอากาศอีกครั้ง คนกับอยูเหนือศีรษะของ
สตรีแลว สะบัดแขนเสื้อลงไปลำแสงสีทองยี่สิบสามสิบสายพุงลงไป
เมื่อหานลี่ลงมือก็โจมตีอยางรุนแรงราวกับพายุหาฝนก็ไมปาน
สวนเสี่ยวหงนั้นเมื่อหนีออกจากกระบี่เลมนั้นของหานลี่ไดยังไมทันหายตกใจก็
ตกอยูในหวงของความเปนตายทันที แนนอนวาจึงทำใหนางทั้งโกรธทั้งตกตะลึงเปน
อยางมาก
รางของสตรีผูนี้หมุนวนอยูที่เดิมอยางไมตองคิด ชั่วขณะนั้นเปลวเพลิงสีดำพลัน
พุงออกมาจากรางของนางถลาเขาไปหาเปลวเพลิงลำแสงหาสี แลวอาปากออกอีกครั้ง
พนกระจกโบราณสีดำออกมา กระจกพลิ้วไหวอยูเบื้องหนาลำแสงสีดำทะลักออกมา
ตานทานลำแสงสีเทาที่ถลามาเอาไวอยางพอดิบพอดี
สวนกระบี่ลำแสงสีทองยี่สิบสายที่สับลงมาเหนือหัวนั้น สตรีผูนั้นใชมือหนึ่งชูขึ้น
ไปกลางอากาศ เสนไหมสีขาวผืนหนึ่งพุงออกไปกลายเปนตาขายเสนไหมขนาดยักษ
หอหุมรางของนางเอาไว
หานลี่เห็นฉากนี้แววตาพลันฉายแววเย็นยะเยือก รายคาถากระตุนกระบี่ในใจ
คาดไมถึงวาจะกลายเปนกระบี่ลำแสงยี่สิบกวาเลมทามกลางลำแสงสีทองสับลงมา
เต็มทองฟา
เสียง “ชิ้งๆ” ของไอกระบี่ที่ตัดสลับกันดังขึ้นราวกับกำลังจะสับทองฟาไปกวาครึ่ง
หญิงสาวพลันมีสีหนาซีดขาว
ตอนที่ 1383 สยบหงสทมิฬ
แมวาจะตาขายเสนไหมสีขาวจะไมธรรมดา แตภายใตการถูกกระบี่ลำแสงสับลง
มาจำนวนมาก ก็ ส ั ่ นเทาอย า งหนั ก ภายในอึ ด ใจ ลำแสงเปล ง แสงสว า งวาบแล ว
พังทลายลงในทันที
เปลวเพลิงสีดำรอบๆ และเปลวเพลิงหาสีที่อยูรอบๆ ตานทานไดเพียงชั่วครู
ก็หมนแสงลงทามกลางเปลวเพลิงลำแสงที่หมุนวน ทันใดนั้นก็ถูกกลืนกินไปจนหมด
เปลวเพลิงลำแสงหาสีมวนไปทางสตรีผูนั้นอีกครั้ง
สวนลำแสงสีดำจากกระจกโบราณที่อยูเบื้องหนาสตรีผูนั้น เมื่อสัมผัสกับลำแสงสีเทาก็
ระเบิดออกอยางตอเนื่องแลวแตกกระจายออกเปนเสี่ยงๆ ทันที
ลำแสงสีเทากวาดออกไป กระจกที่ถูกกวาดเขาไปหมุนติ้วๆ อับแสงลงทามกลาง
ลำแสงสีเทาราวกับวาสูญเสียจิตวิญญาณไป
ลำแสงเทวะดูดปราณพลันพนลงมาโดยไมมีอะไรมาขวางกั้นเชนกัน
สตรีผูนั้นพลันรูสึกตกตะลึงเปนอยางมาก!
ถึงแมวานางจะรูวาหานลี่มีความสามารถไมธรรมดา แตก็คิดไมถึงวาจะรับมือ
ไดยากถึงขั้นนี้ แคประมือนางก็ไมใชคูตอสูของเขาแลว
กัดฟนกรอด สตรีผูนั้นพุงลงไปที่พื้นอยางไมลังเลอีก ลำแสงวิญญาณเปลงประกาย
เปลวเพลิงสีดำสูงสิบจั้งเศษพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา
หงส ส ี ด ำขนาดสองสามจั ้ ง ที ่ ส ง า งามปรากฏกายขึ ้ น ท า มกลางเปลวเพลิ ง
เปลงเสียงรองแหลมสูงออกมา สยายปกทั้งสองขางออก เบื้องหนาเผยรอยแยกลำแสง
สีขาวสายหนึ่งออกมา
รางของวิหคตัวนี้เปลงแสงสวางวาบ ชั่วครูก็จมหายวับไป
เชนนั้นไมวากระบี่ลำแสงที่เพิ่งจะฟนตาขายเสนไหมจนแหลกละเอียดหรือวา
เปลวหรือวาเพลิงลำแสงหาสีที่อยูรอบๆ และมานลำแสงสีเทาที่อยูสูงขึ้นไปตา งก็
หายวับไปทั้งหมด
“ความสามารถหวงเวลา!” หานลี่กลับแคนเสียงดวยความเย็นชา หวางคิ้วมี
ลำแสงสีดำเปลงประกายสวางวาบ เนตรปศาจดวงที่สามปรากฏขึ้น
ดวงตาดวงนี้เคลื่อนไหว เสนไหมสีดำบางๆ สายหนึ่งพุงออกมา เปลงแสงสวางวาบ
แลวหายวับไปจากกลางอากาศ
ปกที่อยูบนแผนหลังของหานลี่พลันกระพือ หายวับไปทามกลางเสียงฟาคำราม
แต ท ั น ใดนั ้ น ห า งออกไปสามสิ บ จั ้ ง ลำแสงสี เ ขี ย วขาวพลั น เปล ง แสงสว า งจ า
รางของหานลี่ปรากฏขึ้น
แทบจะในเวลาเดียวกันดานลางต่ำลงไปจากหานลี่สองสามจั้ง มีเสียงโครมครามดังขึ้น
ทันใดนั้นพลันมีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น หงสสีดำตัวนั้นเซถลาพรอมปรากฏตัวขึ้น
ดวงตาของหงสตัวนั้นเต็มไปดวยสีหนาตะลึงพรึงเพริด
“เนตรทำลายลาง!” หงสตัวนี้เปลงคำพูดที่ยากจะเหลือเชื่อออกมาจากปาก
แตไมรอใหหงสทมิฬไดตั้งตัวอีกครั้ง เสียงแคนเสียงดวยความเย็นชาจนเสียดแทง
กระดูกพลันดังขึ้นจากเหนือศีรษะ
หงสสีดำไดยินเสียงนี้รางกายพลันสั่นสะทาน จนเกือบจะรวงลงไปสูธรณี
แทบจะในเวลาเดียวกัน หานลี่พลันอาปากออกพนหมอใบเล็กสีเขียวออกมา
หลังจากที่หมอใบนั้นเปลงเสียงรองออกมา ฝาหมอพลันลอยขึ้น เสนไหมสีเขียว
จำนวนนับไมถวนถูกพนออกมาจากในหมอกลายเปนลำแสงสีเขียวหอหุมลงมา
หงสทมิฬรูทั้งรูวาสถานการณไมดีแลว แตปกทั้งสองกลับไมอาจขยับไดราวกับ
หนั ก เป นหมื ่ นชั ่ ง ท า มกลางสี ห น า หวาดผวาก็ ถ ู ก เส น ไหมสี เ ขี ย วรั ด เอาไว อย า ง
แนนหนา
รางกายของหานลี่พลิ้วไหวมาปรากฏตัวดานขางหงสทมิฬอยูแคคืบ สะบัดแขนเสื้อ
มือยักษสีดำสนิทราวกับน้ำหมึกยื่นออกมาดวยความเร็วดุจสายฟา นิ้วทั้งหากางออก
ตะปบคอหอยของหงสทมิฬอยางรุนแรง
ครานี้ในที่สุดหงสทมิฬก็ไดสติฟนคืนมาจากภวังคตกใจจากการโจมตีของหานลี่
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้พลันระเบิดโทสะ ไมเพียงรางกายที่อยูในเสนไหมสีเขียวจะ
พยายามดิ้นรนอยางสุดชีวิต บนผิวพลันมีลำแสงสีดำปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง กำลังลุกโชน
เสนไหมสีเขียวเหลานี้เริ่มละลายทามกลางเปลวเพลิงสีดำทันที
หานลี่เห็นเชนนั้นแววตาพลันเปลงแสงสีฟาสวางวาบ ฉับพลันนั้นมือที่ตะปบคอ
ของหงสทมิฬและแกมพลันมีเกล็ดสีทองชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นพรอมกัน นิ้วทั้งหาออกแรง
บีบเคลน พลังมหาศาลกลุมหนึ่งสงไปที่คอของหงสทมิฬ
ชั่วขณะนั้นหงสทมิฬที่กำลังดิ้นรนพลันรูสึกวาสองตามืดมัวจนเกือบจะหมดสติไป
จากนั้นหานลี่พลันตะโกนออกมาสั่นสะเทือนบรรยากาศบริเวณรอบ ทันใดนั้น
ปกที่แผนหลังพลันสยายออก มือหนึ่งตะปบหงสทมิฬเอาไวแลวกลายเปนดาวตก
ดวงหนึ่งพุงลงไปดานลาง
หงสทมิฬที่ถูกหานลี่ใชพลังมหาศาลบีบเอาไวกำลังตกอยูในอันตราย ครานั้นจึง
ไมมีเรี่ยวแรงที่จะตานทานไดอีก
หลังจากผานไปชั่วครู เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นพลันดังขึ้น ดาวตกกระแทกลงไปบน
พื้นอยางรุนแรง หลุมยักษขนาดสิบจั้งเศษพลันปรากฏขึ้น
ลำแสงสี เขี ย วเปล ง แสงสว า งวาบ ร า งของหานลี ่ ป รากฏขึ ้ น เหนื อหลุ ม ยั ก ษ
ตรงใจกลางของหลุมหงสทมิฬนอนออนแรงอยูที่กนหลุมไมขยับเขยื้อน
ถึงแมวาปศาจสตรีผูนี้จะมีรางเปนวิหคปศาจ แตหลังจากประสบกับการโจมตีที่
หนักหนวงเชนนี้ก็ยังสูญเสียสติสัมปชัญญะไป
หานลี่มองไปยังหงสสีดำดานลางดวยความเย็นชาสองสามแวบ หลังจากแววตา
เปลงประกายสวางวาบคาดไมถึงวาจะไมไดปลอยกระบี่ลำแสงออกมาจบชีวิตของสตรี
ผูนี้ในทันที แคใชมือหนึ่งตะปบออกไปกลางอากาศ
รางของหงสทมิฬเปลงลำแสงสีขาวสวางวาบ กำไลเก็บของวงหนึ่งบินออกมาจากตัว
ถูกหานลี่ดูดเขามาในมือ
นิ้วทั้งหาอีกมือหนึ่งพลันรายอาคม ยันตสองสามแผนพุงออกไป เปลงแสงสวางวาบ
และจมหายเขาไปในรางของหงสทมิฬ พลิกฝามือกดไปกลางอากาศระลอกคลื่ น
ปรากฏขึ้น ภูเขาขนาดยอมสีดำปรากฏขึ้นเหนือหลุมยักษ ลำแสงสีเทาสวางวาบมัน
ขยายใหญขึ้นยี่สิบจั้งแลวกดลงมาอยางเนิบๆ
เสียงอึกทึกดังขึ้น ยอดเขาสีดำกดลงมาที่หงสทมิฬจนมิด
จากความหนักของภูเขาเทวะดูดปราณประกอบกับความอัศจรรยของลำแสง
เทวะดูดปราณ หลังจากถูกภูเขาลูกนี้ทับเอาไว ตอใหหงสทมิฬมีความสามารถมาก
ขนาดไหนก็ไมอาจดิ้นใหหลุดพนจากภูเขาลูกนี้ได
นับวาถูกหานลี่กักเอาไวเปนๆ
ตั ้ ง แต ท ี ่ ห านลี ่ ล งมื อ ไปจนถึ ง การสยบป ศ าจสตรี เ ผ า หงส ท มิ ฬที ่ ม ี พ ลั ง ยุ ท ธ
เหนือกวาเขาขั้นหนึ่งเกิดขึ้นแคเพียงชั่วอึดใจ
สวนที่หานลี่ไมไดลงมือสังหารนั้นไมใชวาหานลี่เสียดายความงามของนาง แตเปน
เพราะมีคนอื่นอยูดวยจึงไมอยากสรางความแคนที่ลบลางไมไดกับเจ็ดเผาปศาจที่มี
อำนาจยิ่งใหญ
เขาไมใชตระกูลเยี่ยและตระกูลหลงที่มีพลังอำนาจอยางตระกูลจิตวิญญาณเที่ยงแท
กักสตรีผูนี้ไวชั่วครูก็เพียงพอแลว
ความจริงแลวเสี่ยวหงมีฐานะเปนปศาจผูบำเพ็ญเพียรสายตรงของเผาหงสทมิฬ
สมบั ต ิ ใ นตั ว และความสามารถจึ ง ไม ไ ด ม ี แ ค เ มื ่ อ ครู  แต ห านลี ่ ล งมื อ ไวเกิ น ไป
ความสามารถรับมือไดยาก ภายใตการคาดคิดไมถึงมันถึงไดถูกสยบไดอยางงายดาย
เชนนี้
มิเชนนั้นหากเผชิ ญ หนา กันจริ งๆ หานลี่ไมใช เครื่ องมื อสั งหารสองสามชนิ ด
ถึงแมวาจะชนะไดแตก็ตองเสียเวลาหลายขั้นตอน
เสียงรองดวยความตกตะลึงวา “เอ” ดังขึ้นมาจากการตอสูที่อยูอีกดาน
หานลี่เงยหนาขึ้น ชั่วขณะนั้นพลันประสานสายตากับสายตาที่ตกตะลึงพรึงเพริด
คูหนึ่ง
นั่นคือผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนของตระกูลหลงที่กระตุนมวนภาพสีดำ เขากำลัง
มองมาทางนี้ดวยความประหลาดใจ เห็นไดชัดวาสถานการณที่หานลี่ซึ่งมีพลังยุทธ
ระดับเทพแปลงขั้นกลางตอกรกับระดับขั้นปลายคนหนึ่งไมกี่ กระบวนทาก็ไ ด รั บ
ชัยชนะ ถูกคนผูนี้สังเกตเห็นเขาใหแลว
ไดยินเสียงอุทานดวยความประหลาดใจของสหายรวมวิถี ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลหลง
อีกคนก็กวาดสายตามาจากไอสีมวงเชนกัน
เห็นหานลี่ลอยอยู กลางอากาศต่ำๆ อยางสงบนิ่ง บนพื้นมียอดเขายั กษ ส ี ด ำ
ปรากฏอยู เสี่ยวหงนอนหายใจรวยรินอยูใตยอดเขาสีดำทาทีออนแรง แววตาของคน
ผูนี้ก็ฉายแววประหลาดใจ แตทันใดนั้นพลันแคนเสียงดวยความเย็นชา ทันใดนั้นมือ
หนึ่งพลันตบไปที่ถุงสีแดงเลือดขางเอว ชั่วขณะนั้นพลันมีเสียงรองดังออกมาจาก
ถุงหนัง ลำแสงโลหิตกลุมหนึ่งพลันพุงขึ้นไปบนทองฟา พลางพุงเขาไปหาหานลี่
การเคลื่อนไหวของตระกูลหลงและพวกทำใหเยี่ยฉูมองเห็นสถานการณ ข อง
หานลี่เชนกัน ภายใตการดีใจนางอาปากออกลำแสงสีเขียวสายหนึ่งปรากฏขึ้นโจมตี
ไลหลังไปยังลำแสงโลหิต ทำใหรางของนางสั่นเทาฉับพลันนั้นกลายเปนหัวกะโหลก
ยักษพลิกตัวกระโจนไปหาสตรีผูนั้นดวยความโหดเหี้ยม คาดไมถึงวาจะลืมเปาหมาย
เดิมไป
หานลี่เห็นเชนนั้นแนนอนวาไมมีทางเสียโอกาสงามๆ ไป แผนหลังมีเสียงฟาฟาดดังขึ้น
รางกายกลายเปนประจุไฟฟาสีเขียวสายหนึ่งพุงออกมา
หลังจากกะพริบวาบอยางตอเนื่องสองสามครั้ง มันก็กะพริบแสงเรืองๆ อยูใกล
กลับกระบี่โลหิตยักษกลางอากาศ
ครานี้กระบี่ผลึกโลหิตมหาภารตะเลมนั้นยังคงเปล งเสียงหึ่งๆ พลางลอยอยู
กลางอากาศ เปลงลำแสงโลหิตระยิบระยับ ถูกมานลำแสงสีขาวชั้นหนึ่งหอหุมเอาไว
อยางแนนหนา
ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลหลงอีกคนหนึ่งขมวดคิ้ว มือหนึ่งปรบไปทางหานลี่ดูเหมือน
แผวเบาแตทามกลางเสียงครืน มือลำแสงสีขาวนวลเปลงประกายระยิบระยับพลัน
ปรากฏขึ้นเหนือหานลี่ ขนาดสองสามจั้งตะปบลงมาดวยความเร็วดุจสายฟา
มือยักษนี้ยังไมทันลดระดับลงมาจริงๆ วายุยักษลูกหนึ่งพลันเปลงเสียงรองออก
มาแลวพัดเขามาอยางรุนแรงจนทำใหผูคนรูสึกหยุดหายใจ
หางตาของหานลี่กระตุกไมรูวาเขาปลอยสมบัติอะไรออกมา แครางกายเปลงแสง
สีทองสองมือกำหมัดโจมตีไปกลางอากาศอยางรุนแรง
ชั่วพริบตาที่กำปนทั้งสองโจมตีออกไปก็กลายเปนลำแสงวิญญาณสีดำขาวสองสี
เปลงแสงเจิดจา
คาดไมถึงวาเขาจะอาศัยกายเนื้อหมายจะโจมตีมือยักษที่ผูบำเพ็ญเพียรระดับ
หลอมสุญตาผนึกขึ้นดวยเคล็ดวิชาลับ
ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลหลงที่อยูไกลออกไปเห็นเชนนั้นพลันรูสึกดีใจ ทันใดนั้นจึง
รายคาถาในใจมือยักษมีลำแสงวิญญาณไหลเวียนโคจรไปมาทันที ชั่วครูก็ขยายใหญ
ขึ้นสามสวน
หลังจากเสียงปะทะกันราวกับเสียงระฆังดัง “แหงงหงาง” ดังขึ้น มือลำแสงสีขาวนวล
ที่มีพลังดุจภูเขาไทซานก็หยุดลง ทันใดนั้นก็มีเสียงราวกับยุทธภัณฑปริแตกดัง ขึ้น
มือลำแสงแตกออกเปนเสี่ยงๆ สุดทายก็กลายเปนสะเก็ดลำแสงหายวับไป
หานลี่ชูกำปนทั้งสองขึ้น ลำแสงสีทองเปลงประกายบนรางระยิบระยับ แตทาทาง
ไมไดรับบาดเจ็บเลยสักนิด
ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลหลงที่แตเดิมยังคงยิ้มเยาะผูนั้นเห็นเชนนี้ ชั่วขณะนั้นพลัน
หนาเปลี่ยนสี
สวนหานลี่เองก็ไมไดนิ่งงันดวยเหตุนี้ สะบัดแขนเสื้อ ชั่วขณะนั้นไขมุกสีเงินสองเม็ด
พลันพุงออกมาจากแขนเสื้อ เปลงแสงสวางวาบและมีขนาดเทาปากชาม หมุนควาง
ไปทางมานลำแสงสีขาว
มองเห็นไขมุกอัสนีปะทะกับมานลำแสงสีขาวแลวเปลงแสงสวางวาบ มานลำแสง
เบื้องหนาพลันหายวับไป
ฉับพลันนั้นผิวน้ำพลันเกิดระลอกคลื่น แขนปศาจสีดำสนิทยื่นออกมา
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเงินพลันโจมตีเขาไปแลวระเบิดออก
เสียงตูมตามดังขึ้นสองครั้ง ประจุไฟฟาสีเงินจำนวนนับไมถวนสลับพัวพั นกัน
ชั่วพริบตาก็ปกคลุมเปนอาณาบริเวณยี่สิบจั้งเศษ ถึงแมวามานลำแสงสีขาวจะถูก
ไขมุกอัสนีโจมตี แตก็สั่นคลอนอยางหนักทามกลางพลานุภาพที่นาตกตะลึง ราวกับจะ
พังทลายไดตลอดเวลา
ประจุไฟฟาครึ่งหนึ่งของไขมุกอัสนีสองเม็ดแหกเอาไวดานบน
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลงไมร อใหพลัง อัสนีที่อยูไ กลสลายหายไป นิ้วทั้งสิ บ
พลันรายอาคมไปทางนั้นไมหยุด
ชั่วขณะนั้นเสียงแหวกอากาศพลันดังขึ้น ไอกระบี่สีทองเปนสายๆ พลันดีดออกมา
อยางแนนหนา สับลงมาที่มานลำแสงสีขาวอยางแรง
จากสถานการณของมานลำแสงไอกระบี่ที่แหลมคมเหลานี้ลวนโจมตีไปที่ดานหลัง
ของเขา ทลายมานลำแสงออกตรงๆ
เสียงคำรามดังขึ้นจากในลำแสงอัสนี ทันใดนั้นเงาสีดำสิบกวาสายพลันเปลงแสง
สวางวาบแลวพุงออกมาจากในนั้น ลวนโจมตีไปยังไอกระบี่อยางแมนยำโดย ไม
ผิดพลาด
ชั่วขณะนั้นลำแสงกระบี่ทั้งหมดพลันออนแสงลง ทยอยกันสั่นเทาและสลายหายไป
จากกลางอากาศ
ตอนที่ 1384 อสูรวิญญาณครวญเปลี่ยนราง
ในที่สุดสายฟาสีเงินก็หายวับไปจากกลางอากาศ เบื้องหนามานลำแสงสีขาว
เผยรางภูตผียักษสีดำเปลงประกายสูงสิบจั้งเศษออกมาตัวหนึ่ง
หัวของภูตตนนี้มีเขาสองขาง เรือนกายมีเกล็ดสีดำราวกับเกราะเกล็ด แผนหลังมีปก
เนื้อขนาดใหญคูหนึ่ง แขนสองขางที่ดูเหมือนเหล็กกลายาวผิดปกติ กำลังหลับอุตุ
อยูบนพื้น เมื่อมองไปยังใบหนาของมัน ถึงแมวาหานลี่จะรูสึกใจหายวาบ แตก็รู
ขนลุกชันเล็กนอย
ใบหนาของภูตตนนี้แบนเรียบ คาดไมถึงวาจะไมมีใบหนา สวนรางกายที่ใหญโต
ของมันนั้นเต็มไปดวยหลุมนับรอยหลุม นอกจากแขนหนาๆ ทั้งสองแลว ก็แทบจะไมมี
อะไรสมบูรณแบบ
เห็นไดชัดวาไขมุกอสนีสองเม็ดและกระบี่ลำแสงที่หานลี่ปลอยออกไปเมื่อครู ลวนถูก
ภูตตนนี้รับเอาไวกวาครึ่ง มิเชนนั้นคงเพียงพอที่จะทำลายมานลำแสงกระบี่โลหิตแลว
ภูตยักษเงยหนาเปลงเสียงกรีดรองแหลมสูงขึ้น ไอทมิฬสีดำจำนวนนับไมถวน
ปรากฏขึ้น ทันใดนั้นก็หมุนวนแลวจมหายเขาไปในราง
รางกายที่แตเดิมไมสมบูรณแบบ พลันก็ไรซึ่งความเสียหายทามกลางไอสีดำ
“ฮาๆ เด็กนอยเอย ลองลิ้มลองความรายกาจของราชันยภูตไรหนาที่ขาเลี้ยงดูมา
พันปหนอยเปนไง ความสามารถของภูตตนนี้ไมไดดอยไปกวาตาเฒาเลย” คำพูดที่
แฝงเจตนารายดังขึ้นที่ขางหูของหานลี่ แววตาเปลงประกายสวางวาบ
“ราชันยภูต?” หากอยูใกลกับหานลี่สักหนอย ก็จะมองเห็นวาหลังจากที่เขาไดยิน
มุมปากก็แสยะยิ้ม เผยสีหนาประหลาดๆ ออกมา
“สหายหานโปรดระวั ง ด ว ย ราชั น ย ภ ู ต ไร ห น า มี ช ื ่ อ เสี ย งมากในแดนภู ต ผี
ความสามารถไม ด อยไปกว า ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ หลอมสุญ ตา” สตรี อี ก คนหนึ่ ง
ถายทอดเสียงออกไปดวยเสียงเหล็กๆ แหลมๆ แตกลับเปนเยี่ยฉูที่กำลังยืนกรานไม
ยอมออนขอใหกันกับสองผูบำเพ็ญเพียรจากตระกูลหลง
นางเห็นหานลี่จัดการกับสตรีเผาหงสดำไดอยางคลองแคลว ชั่วขณะนั้นก็รูสึกมี
ความหวังขึ้นมา
แทบจะในเวลาเดียวกัน หัวของราชันยภูตก็เอียงคอหันมาทางหานลี่ ถึงแมวาจะ
ไมมีดวงตา แตกลับดูเหมือนวายังคงมองมาทางหานลี่
ปากร องคำรามต่ ำ ๆ ออกมา ราชั น ย ภ ู ต ไร ห น า ชู แ ขนยาวๆ ทั ้ ง สองข า งขึ้ น
ชั่วขณะนั้นพายุกอตัวขึ้น ไอทมิฬสีดำแผขยายออกมา ทำใหทองฟาในบริเวณนั้น
กลายเปนสีดำทะมึน ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงกรีดรองจำนวนนับไมถวนดังออกมาจาก
ไอทมิฬ ราวกับเสียงภูตผีกำลังกรีดรองโหยหวนก็ไมปาน
ราชันยภูตไรหนาที่อยูใตไอทมิฬสะบัดแขนมาหานลี่
ไอทมิฬที่อยูกลางอากาศหมุนวนอยางบาคลั่ง ชั่วขณะนั้นกรงเล็บภูตสีดำขนาดใหญ
จนนาเหลือเชื่อประมาณรอยจั้งเศษ ตัวกรงเล็บมีเปลวเพลิงภูตสีเขียว กะพริบ
ระยิบระยับขางหนึ่งตะปบมาหาหานลี่
หานลี่รูสึกเพียงวาบรรยากาศรอบตัวบีบรัด พลังมหาศาลไรรูปรางกลุมหนึ่ง
ปรากฏขึ้น คิดจะกักรางของเขาเอาไว
หากเปนผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ ที่ตกอยูในสภาวะการโดนพลังมหาศาลกดเอาไว
เกรงว า คงยอมจำนนตอความตายไปแลว แต จ ากร า งกายที ่ แ ข็ง แกรง ของหานลี่
กลับดูเหมือนจะไมเห็นคาของการกักตนนี้ หลังจากแคนเสียงอยางเย็นชาครั้งหนึ่ง
มือหนึ่งก็ปดไปทางแหวนอสูรวิญญาณอยางรวดเร็ว
เสียง “สวบ” ดังขึ้น ลำแสงสีดำสายหนึ่งพุงออกไป หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง
ก็รอนลงเบื้องหนาของหานลี่หางออกไปสองสามจั้ง เผยรางวานรนอยสูงครึ่งฉื่อที่มี
เสนขนสีดำเปลงมันปกคลุมตัวหนึ่งออกมา
นั่นก็คือ อสูรวิญญาณครวญ
เมื่อวานรนอยปรากฏตัวขึ้น มันพลันกลอกตาไปมา จมูกใหญๆ สงเสียงฟุดฟดๆ
สองตาเปลงประกาย มือใหญๆ ทุบไปที่หนาอก รางกายเปลงแสงสีดำสวา งวาบ
ขยายขนาดใหญ ข ึ ้ น แค ก ะพริ บ วาบสองสามครั ้ ง ก็ ก ลายเป น วานรยั ก ษ ด ุ ร ายสูง
สามสิบจั้งเศษ
อสูรตัวนี้พุงเขาไปหากรงเล็บภูตที่อยูกลางอากาศอยางไมลังเล แคนเสียงหึเล็กนอย
ลำแสงสีขาวสายหนึ่งพุงออกมาจากจมูกของมัน ตรงไปยังใจกลางกรงเล็บภูตที่กำลัง
โจมตีลงมาอยางพอดิบพอดี
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น
ชั่วพริบตาที่ใจกลางกรงเล็บและลำแสงสีเขียวสัมผัสกัน รูสีดำพลันปรากฏขึ้นทันที
ลำแสงสีเขียวมวนไปรอบๆ สวนอืน่ ๆ ของกรงเล็บภูตสลายออกกลายเปนไอทมิฬสีดำ
สนิทราวกับน้ำหมึก ถูกลำแสงผืนนั้นคอยๆ มวนเขาไปขางใน
ชั่วพริบตากรงเล็บภูตทั้งหมดก็ไดรับความเสียหาย แลวสลายหายไป
ราชันยภูตไรหนาที่อยูไกลออกไปเห็นเชนนั้น ก็ตะปบกรงเล็บอีกขางมาทาง
อสูรวิญญาณครวญโดยไมปริปากใดๆ
ลำแสงสีดำหาสายเปลงแสงสวางวาบพุงเขามาหาวานรยักษราวกับมีดอันแหลม
คมขนาดยักษหาสาย
เสียงแหวกอากาศดังขึ้น กรงเล็บลำแสงมาอยูเบื้องหนารางของวานรยักษ
เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น ลำแสงสีดำหาสายเปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปใน
รางของอสูรวิญญาณครวญ คาดไมถึงวาจะไมมีผลเลยสักนิด
ภูตยักษเห็นเชนนี้ ก็อดที่จะตกตะลึงไมได
วานรยักษกลับแสรงทำเปนไมเปน แคนเสียงออกมาอีกครั้ง ลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพุง
ออกมาจากรูจมูกอีกดาน
ลำแสงสีเขียวสองสายพัวพันโรมรันกันกลางอากาศ กวาดไอทมิฬกลางอากาศไป
จนเกลี้ยงราวกับลมที่หอบใบไมไปในฤดูใบไมรวง จากนั้นก็กลายเปนลำแสงสีเขียวดำ
พุงกลับมา ถูกวานรยักษกลืนลงไป
ใบหนาของวิญญาณครวญเผยสีหนาพึงพอใจออกมา ชั่วพริบตาก็ตองเขม็งไปยัง
ราชันยภูตที่อยูไกลออกไป
ราชันยภูตไรหนาเห็นอสูรวิญญาณครวญทำลายความสามารถของตนเอง ในที่สุด
ก็ไดสติฟนคืนจากภวังค ทันใดนั้นก็เปลงเสียงรองอูอี้ๆ ออกมา เริ่มโกรธเกรี้ยว
ไมเห็นวามันจะเคลื่อนไหวใดๆ รางกายกลับมีเกราะสงครามโบราณปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง
ดานบนมีเปลวเพลิงสีเขียวเปลงประกาย สองมือพลิ้วไหวดานลางมีคอนกระดูกยักษ
คูหนึ่งปรากฏขึ้น
หานลี่จองเขม็งไป พบวาคอนกระดูกคูนี้หลอมขึ้นจากหัวกะโหลกภูตปศาจยักษ
สองหัว ดามหนึ่งเปนสีเหลือง ดามหนึ่งเปนสีดำ ไมรูวามีความสามารถอะไร
วิญญาณครวญกลับไมสนใจเรื่องนี้ กะพริบตาทั้งสองขาง พนลำแสงสีเขียวสองสาย
ออกมาจากจมูกอีกครั้ง มวนไปทางภูตนั้น
เสียง “ปงๆ” ดังขึ้น ราชันยภูตไรหนาสะบัดคอนยักษทั้งสอง ชั่วขณะนั้นลำแสงสีดำ
ผืนหนึ่งพลันปรากฏขึ้นบนคอน คาดไมถึงวาจะสลายการโจมตีของลำแสงสีเขียวออก
คาดไมถึงวาลำแสงเทวะดูดวิญญาณของวิญญาณครวญจะไรประสิทธิภาพเมื่อ
เผชิญหนากับภูตผีตรงขาม
หานลี่มองเห็นฉากนั้นพลันหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
อสูรวิญญาณครวญเผยสีหนาเครงขรึมออกมา เปลงเสียงคำรามทุมต่ำออกมา
รอบดานเกิดวายุทมิฬขึ้น สายฟาจำนวนนับไมถวนปรากฏขึ้น
รางของวานรยักษขยายใหญขึ้นอีกครั้ง เสนขนเริ่มเปลี่ยนเปนสีแดง ตรงหนาฝาก
มีเขาหงิกงอสามเขางอกออกมา หวางคิ้วปูดโปนขึ้น หลังจากมีรอยแตกแยกออก
ดวงตาปศาจสีแดงโลหิตดวงหนึ่งพลันปรากฏขึ้น ในเวลาเดียวกันใบหนาพลันยืดยาว
ออก เผยเขี ้ ย วแหลมคมออกมา แผ น หลั ง มี ก ระดู ก แหลมๆ สี ด ำยาวสองสามจั้ ง
สามแทงงอกออกมา ดานบนมีไอสีดำรัดพันอยู ดูนาเกรงขามมาก
คาดไมถึงวาอสูรวิญญาณครวญจะพัฒนาระดับขึ้น กลายเปนภูตที่โหดรายตัวหนึ่ง
เชนกัน ไอทมิฬบนรางเขมขนมากกวาราชันยภูตที่อยูตรงขามเทาหนึ่ง ดวงตาปศาจที่
อยูตรงหวางคิ้วลืมตาขึ้น เสียงอึกทึกดังขึ้น พนประจุไฟฟาหนาเทาปากชามสายหนึ่ง
ออกมา
คาดไมถึงวาประจุไฟฟาสายนั้นจะมีสีแดงสดดุจโลหิต ชั่วพริบตาก็มาอยูเบื้องหนา
ราชันยภูตผี
ฉากที่ยากจะเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น!
ราชันยภูตไรหนาเห็นประจุไฟฟาสีโลหิต กลับเปลงเสียงคำรามต่ำๆ ดวยความ
หวาดกลั ว ออกมา สองแขนประกบเข าหากั น ที ่ใ จกลาง ในเวลาเดี ย วกั น รางกาย
อันใหญโตก็พุงถลาไปดานหลัง คาดไมถึงวาจะคิดหนีไป
เสียง “ตูมๆ” ดังขึ้น เมื่อคอนกระดูกสีขาวทั้งสองเตาปะทะกับประจุไฟฟาสีโลหิต
ก็กลายเปนควันสีเขียวสองกลุมราวกับพบกับดาวมฤตยูแลวสลายหายไป
คาดไมถึงวาจะประจุไฟฟาสีโลหิตจะไมถูกยับยั้งไว หลังจากระเบิดออก ก็โจมตี
ไปยังเกราะสงครามเปลวเพลิงสีเขียวบนรางของภูตผีไรหนา
เกราะสงครามนี้เหมือนกับคอนกระดูกคูนั้นอยางไรอยางนั้น สลายหายไปอยาง
ไมมีผลในทันที ประจุไฟฟาทะลวงเขาไปที่หนาอกของภูตผี ทันใดนั้นพลันพันรัดเอาไว
รัดภูตตนนั้นแนนราวกับอสรพิษวิญญาณ จากนั้นก็ดึงกลับมา
ภูตยักษเปลงเสียงรองอันนาอนาถออกมา รางกายถูกมวนเขาไปอยางไมยินยอม
และหดเล็กลงทามกลางการถูกตราตรึงอยางรวดเร็ว ชั่วครูก็มาถึงปากที่เปนเหมือน
บอโลหิตขนาดยักษ
ลำแสงสีโลหิตเปลงประกายถูกกลืนลงไปในทองของอสูรวิญญาณครวญ
อสูรวิญญาณครวญอาศัยเพียงแรงเพียงครั้งเดียวก็สามารถกลืนราชันยภูตไรหนา
ลงทองไปไดอยางงายดาย
ครั้งนี้คูผูบำเพ็ญเพียรตระกูลหลง เยี่ยฉูและหญิงสาวชุดขาวพลันตกตะลึงจนตาคาง
นั่นไมใชภูตวิญญาณทมิฬที่ต่ำตอย แตเปนราชันยภูตที่มีระดับเทียบเทากับ
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา? เหตุใดถึงถูกโจมตีราวกับกระดาษแผนหนึ่งอยางไร
อยางนั้น! วานรนอยที่แปลงรางไปสองครั้งนี้คืออสูรวิญญาณอะไรกัน เหตุใดประจุ
ไฟฟาสีโลหิตที่พนออกมาจากดวงตาปศาจถึงไดมีความสามารถเหนือชั้นขนาดนี้?
ทุกคนแทบจะมีความคิดนี้ฉายวาบผานในหัวพรอมกัน
แตไมรอใหพวกเขาไดสติฟนคืนมา รางของหานลี่ก็เปลงแสงสวางวาบ ชั่วพริบตา
ก็เคลื่อนยายมาอยูเหนือมานลำแสงสีขาว
แคสะบัดแขนเสื ้อ กระบี่ลำแสงเจ็ดสิบ สองสายก็ทะลั ก ออกมา ทันใดนั้นลำแสง
วิ ญ ญาณที ่เ ปล ง แสงสวา งวาบก็ รวมตัว กัน กลายเป น กระบี่ ยั ก ษสี ทองยาวสิบจั้ง
เลมหนึ่งในพริบตา
กระบี่ยักษเปลงแสงสวางวาบ สับลงมาที่มานลำแสงอยางรุนแรง
เสียง “แควก” ดังขึ้น ลำแสงสีทองและลำแสงสีขาวเกี่ยวรัดกัน ผิวของมาน
ลำแสงเผยรอยสีขาวบางๆ สายหนึ่งออกมา
“แยแลว!” เห็นไดชัดวาคูบำเพ็ญเพียรตระกูลหลงคิดไมถึงวากระบี่บินเมฆาของ
หานลี่จะเฉียบคมถึงเพียงนี้ เมื่อเห็นสถานการณเชนนั้น ก็รองอุทานดวยน้ำเสียงแหบ
แหงออกมาพรอมกัน
เห็นเพียงมานลำแสงสั่นเทา ทันใดนั้นก็ปริแตกตามรอยแลวพังทลายลง
หานลี่อาศัยเพียงพลังของกระบี่บิน สับมานลำแสงสีขาวที่ถูกเพิ่มพลังเอาไวนานแลว
ลงไปในดาบเดียว
กระบี่ผลึกโลหิตมหาภารตะเผยตัวขึ้นเบื้องหนาหานลี่
หานลี่ไมลังเลเลยแมแตนอย รายอาคมกระบี่ในใจ ชั่วขณะนั้นกระบี่สีทองยักษพลัน
เปลงประกาย หายวับไปจากที่เดิม แตครูตอมาก็สับลงมาที่ตัวกระบี่สีโลหิตอยางแรง
ไดยินเพียงเสียง “ปง” ดังขึ้น ลำแสงสีทองและแดงสองสีเปลงแสงเจิดจาจนแสบตา
กระบี่ยักษสีทองพลิ้วไหวแลวถูกดีดออกมา
หานลี่เห็นสถานการณเชนนี้ ก็อดที่จะขมวดคิ้วไมได
ทันใดนั้นพลันสะบัดแขนเสื้อ ไขมุกอัสนีสีเงินสองสามเม็ดพลันพุงออกมา
กระบี่ยักษสีโลหิตแคพลิ้วไหวทามกลางประจุไฟฟาสีเงินที่พุงออกมา คาดไมถึงวา
จะปลอดภัย
“ฮาๆ เด็กนอย เจารนหาที่ตายสินะ กระบี่ผลึกโลหิตมหาภารตะยังคงเปนหนึ่งใน
สมบั ต ิ ว ิ ญ ญาณโกลาหล อาศั ย แค ฝ  ม ื อของเจ า คิ ด จะทำลายกระบี่ เล ม นี ้ ห รื อ ?”
ผูบำเพ็ญเพียรตระกูลหลงที่แตเดิมกำลังตกตะลึงระคนกังวล กลับเยือกเย็นขึ้ นใน
ครานี้ หนึ่งในนั้นเอยขึ้นดวยรอยยิ้มเย็นยะเยือก
หานลี่หางตากระตุกสองสามครั้ง มองลึกไปที่กระบี่โลหิตสองสามแวบ ฉับพลันนั้น
มือหนึ่งก็ชี้ไปที่กระบี่ยักษสีทอง
เสียงหึ่งๆ ดังขึ้น กระบี่ยักษสั่นคลอน แยกออกทามกลางลำแสงสีทอง กลายเปน
กระบี่เลมเล็กสีทองเจ็ดสิบสองเลมอีกครั้ง
กระบี่เลมเล็กเหลานี้เปลงเสียงรองหึ่งๆ ออกมา ทันใดนั้นก็พลิ้วไหวกลายเปน
กระบี่ลำแสงสีทองสองสามรอยสาย
กระบี ่ ล ำแสงทุ ก สายมี ข นาดประมาณสองสามฉื ่ อ หมุ น โคจรเริ ง ระบำอยู
กลางอากาศ
ทันใดนั้นหานลี่พลันบริกรรมคาถาดวยเสียงแผวเบาออกมา นิ้วทั้งสิบรายอาคม
ไมหยุดราวกับลอรถ อาคมสายแลวสายเลาโจมตีออกไป
ชั่วขณะนั้นกระบี่บินทั้งหมดพลันสั่นเทา กระจายตัวออกกลางอากาศ และพุงไป
รอบดาน
ทามกลางการเปลงแสงสวางวาบ กระบี่ลำแสงสีทองเหลานั้นก็หายวับไป ราวกับ
วาไมเคยปรากฏขึ้นมากอนอยางไรอยางนั้น
คาดไมถึงวาหานลี่จะวางเขตอาคมมหากระบี่ทองคำโดยมีกระบี่ยักษสีโลหิตเปน
ศูนยกลาง คิดจะอาศัยอานุภาพที่นากลัวของกระบี่ยักษ บีบปราณแทของหล งตง
ออกมา แมกระทั่งคิดจะทำลายสมบัติวิญญาณชิ้นนี้ไปเสียเลย
ตอนที่ 1385 เขตอาคมกระบี่และกระบี่โลหิต
วางเขตอาคมกระบี ่ เ สร็ จภายในชั ่ว ครู หานลี ่ ร  า ยอาคมกระตุ น ชั ่ ว ขณะนั้น
พลังแรงกดที่นาตกตะลึงจากทุกสี่ทิศพลันพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา
ทันใดนั้นจากกระบี่ยักษสีโลหิตเปนเสนผาศูนยกลางรอยกวาจั้ง พลันมีเสนไหม
สีทองเปลงประกายปรากฏขึ้นจำนวนนับไมถวน กะพริบระยิบระยับ แลวคอยๆ ขยับ
เขามาใกลจุดศูนยกลาง
คูผูบำเพ็ญเพียรของตระกูลหลง เห็ นสถานการณเช นนี้ ถึงแมจะไมรูประวั ติ
ความเปนมาของเขตอาคมมหากระบี่ทองคำ แตก็ใจหายวาบ
หลังจากที่ทั้งสองคนมองหนา กับ แวบหนึ่ งแลว ฉับพลันนั้นผูบำเพ็ญเพี ย รที่
กระตุ  น คั ม ภี ร  โ ลหิ ต อยู  ใ นมื อ ก็ ร  า ยอาคม คั ม ภี ร  โ ลหิ ต ที ่ อ ยู  ก ลางอากาศพลิ ก
หนากระดาษไปสองสามหนา เสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้นเงามารสีแดงสดสิบสายพุงออกมา
กระโจนไปหาหานลี่
ถึงแมวาพวกเขาจะไมเชื่อวาหานลี่จะทลายกระบี่ยักษสีโลหิตไดจริงๆ แตก็ไม
อยากใหหานลี่โจมตีกระบี่โลหิตไดโดยไมมีอะไรขัดขวาง
เงามารสีแ ดงสดเหลา นั้ นล วนรางเลื อน ร า งกายเปลง แสงสี แ ดงกะพริบวาบ
ทยอยกันปรากฏตัวใกลๆ กับหานลี่ แตหานลี่ที่เตรียมการเอาไวนานแลวแคแคนเสียง
อยางเย็นชาออกมา สองมือถูเขาดวยกัน แลวชูขึ้นอีกครั้ง
หลังจากเสียงฟาผาดังขึ้นอยางตอเนื่อง ประจุไฟฟาสีทองสิบกวาสายก็พุงออกมา
โดยไมคาดคิด เปลงแสงสวางวาบแลวโจมตีไปบนรางของเงาสีแดงเหลานั้น
ลำแสงสี ท องสว า งวาบเงามารกว า ครึ ่ง ถู ก ทำลายไปท ามกลางเสี ย งกรี ดรอง
เหลือเพียงสวนนอยเทานั้น และทยอยกันกรีดรองขณะถอยรนไป
จะวาไปแลวในเมื่อเงามารเหลานี้คือ มารที่มีผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา
ควบคุมอยู เมื่อตอกรกับผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ นั้นลวนมีอานุภาพไมนอย ไมวาจะ
เปนกระบี่ดาบ ไฟน้ำตางก็ไมหวาดกลัว นับไดวาเปนสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ
ต อ กรได ย าก แต ก ลั บ เป น เพราะไอมารที ่ ห นาแน น ปะทะกั บ อสนี เ ทวาป ด เป า
ภยันตรายของหานลี่จึงทำใหถูกกดเอาไว
แนนอนวานั่นเปนเพราะวรยุทธของหานลี่เพิ่มขึ้น เมื่อสำแดงอสนีเทวาปดเปา
ภยันตรายออกไป จึงรายกาจกวาตอนที่อยูในแดนมนุษยหลายเทา มิเชนนั้นจาก
ความสามารถของเงามาร จะไมอาจรับการโจมตีจากอสนีเทวาของหานลี่ที่อยูในระดับ
กอกำเนิดไดอยางไร
เมื่อหานลี่เผยความสามารถออกมา ก็ทำใหคนที่เหลืออีกสี่คนซึ่งกำลังอยูใน
การตอสูตะลึงงัน
แตครั้งนี้ ห านลี่ ไ มร อใหผู บ ำเพ็ ญ เพี ยรตระกูลหล งไดส ำแดงอะไรออกมาอี ก
อสูรวิญญาณครวญที่อยูขางกายแคนเสียงหึขึ้นจมูก ลำแสงสีเขียวพุงออกมาอีกครั้ง
คาดไมถึงวาจะตอบโตภูตอัปลักษณผมแดงเจ็ดตัวที่กำลังตอสูกับสตรีชุดขาวอยู
ถึงแมวาภูตอัปลักษณทั้งเจ็ดจะมีความสามารถไมนอย แตก็ไมอาจเทียบกับ
ราชันยภูตไรหนาได หลังจากถูกลำแสงสีเขียวมวนเขาไป ทันใดนั้นสามตัวก็กลายเปน
หมอกสีแดงถูกมวนกลับเขามาในทองของอสูรวิญญาณครวญทันที อีกสี่ตัวที่เหลือ
กลับเห็นทาไมดี จึงเคลื่อนยายกายหนีไปรอยกวาจั้งในพริบตา ในที่สุดก็นับวาหนีออก
จากหายนะไดครั้งหนึ่ง
เชนนี้หญิงสาวชุดขาวจึงรอดออกมาได
หญิงสาวผูนั้นพลันรูสึกดีใจ สายตามองไปทางกระบี่ยักษสีโลหิตที่ถูกเสนไหม
สีทองจำนวนนับไมถวนตรึงเอาไวและคูบำเพ็ญเพียรดานนั้นแวบหนึ่ง ทันใดนั้นก็
กระตุนสมบัติมหัศจรรยหาชนิดที่โคจรอยูเบื้องหนาอยางไมลังเล เขารวมการตอสู
กับเยี่ยฉู
ถึงแมวาเดิมที่ผูบำเพ็ญเพียรจากตระกูลหลงสองคนรวมมือกันจะพอกักเยี ่ยฉู
เอาไวได แตตอนนี้ ห ญิ งสาวชุ ดขาวใชส มบัต ิทั้ ง หา เข าช วยเหลื อ ลำแสงหา ชนิ ด
เปลงแสงสวางวาบ ชั่วพริบตาก็ผสมเขากับลำแสงวิญญาณสีเขียวที่เยี่ยฉูปลอยออกมา
ชั่วครูหมอกสีมวงก็ปกคลุมไปทั่ว
ครานั้นทั้งสองคนจึงไมสนใจหานลี่อีก ตางปลอยกลองสีแดงและไมเหล็กสีฟา
ออกมา
เห็นเพียงเสียงตึงตังดังขึ้น กลายเปนผึ้งผีสีแดงสดฝูงหนึ่งทามกลางหมอกพิษ
ท า มกลางเสี ย งหึ ่ ง ๆ ก็ ก รู เ ข า ไป ไม เ หล็ ก สี ฟ  า ชิ ้ น นั ้ น หมุ น โคจรอยู  ก ลางอากาศ
ฉับพลันนั้นก็วาดไปกลางอากาศในบริเวณใกลๆ ชั่วครูก็มีมารแปดกรงเล็บที่เหมือน
ปลาหมึ ก ยั ก ษ ต ั ว หนึ ่ ง กระโดดออกมา หนวดขนาดยั ก ษ ท ั ้ ง แปดฟาดไปทาง
พวกของเยี่ยฉูอยางไมเกรงใจเลยสักนิด
เชนนั้นสองผูบำเพ็ญเพียรจากตระกูลหลงถึงไดพอรักษาสถานการณใหมั่นคงได
อสูรวิญญาณครวญที่อยูอีกดานกระตุนลำแสงเทวะวิญญาณ สังหารภูตอัปลักษณ
ทั้งสี่ทิ้ง ทั้งสองฝงไลตามกันอยูกลางอากาศ แตก็ไมอาจลงมือไดทันที
หานลี่เห็นเชนนั้น ถึงไดกระตุนเขตอาคมหมากระบี่ทองคำตออยางวางใจ
ไมมีการรบกวนของผูบำเพ็ญเพียรตระกูลหลง เขาก็ไมเชื่อวาพลังของเขตอาคม
กระบี่จะทำอะไรอาวุธชิ้นหนึ่งไมได
เขาไมสนใจสิ่งอื่น ในที่สุดเขตอาคมมหากระบี่ทองคำก็เผยอานุภาพที่แทจริงออกมา
เสนไหมสีทองเปนผืนใหญเขาใกลกัน สัมผัสเขากับกระบี่โลหิต
เสนไหมสีทองจำนวนนับไมถวนสับลงไปบนกระบี่ยักษคาดไมถึงวาจะเปลงเสียง
รองไมนาฟงราวกับทองคำเสียดสีกันดังออกมา
ตั ว กระบี ่ เ ปล ง แสงระยิ บ ระยั บ ลำแสงสี ท องและลำแสงสี โลหิ ต ตั ด สลั บ กั น
กระบี่ลำแสงเปนสายๆ พุงออกมาจากตัวกระบี่ทั้งสองฝง คาดไมถึงวาจะตานทาน
เสนไหมสีทองเอาไว แตทันใดนั้น เสียงรองยาวๆ ก็ดังออกมาจากตัวกระบี่โลหิต
แลวพุงทะยานขึ้นไปบนทองฟา คิดจะหนีออกจากเขตอาคมกระบี่
ทวากลางอากาศมีเสนไหมสีทองจำนวนมากยิ่งกวาเดิม เมื่อกระบี่ยักษบินขึ้นไปได
สองสามจั้ง ก็ระเบิดลำแสงอันเจิดจาจนแสบตาออกมา ถูกดีดกลับไปที่เดิม
ภายใตความอับจนหนทางนั้น จึงทำไดเพียงตานทานอานุภาพของเขตอาคม
กระบี่ไปอยางยากลำบาก ถึงแมวากระบี่เลมนี้จะมีอานุภาพเป นสมบั ติวิ ญ ญาณ
แตเมื่อไมมีผูควบคุม อาศัยเพียงความสามารถของตนก็ไมอาจตานทานไดนานนัก
หลังจากผานไปเพียงชั่วประเดี๋ยว แสงที่เปลงออกมาจากกระบี่โลหิตก็เริ่มหมนแสงลง
ทามกลางเสนไหมสีทองที่สับลงมาอยางบาคลั่ง และเปลงเสียงรองคร่ำครวญออกมา
เสนไหมสีทองที่ปรากฏขึ้นรอบๆ ของเขตอาคมกระบี่กลับไมมีที่สิ้นสุด และยิ่งไป
กวานั้นเสนไหมกระบี่ยังบางขึ้นเรื่อยๆ เปลงประกายขึ้นเรื่อยๆ เห็นไดชัดวาอานุภาพ
ของเขตอาคมกระบี่มากกวากอนหนาแลว
สี่คนที่อยูไกลออกไปมองเห็นสถานการณนั้น หลังจากที่ตระกูลหลงทั้งสอง ตก
ตะลึงแลว ก็เปลี่ยนเคล็ดวิชาลับสองสามชนิดในการกระตุนภูตอัปลักษณและ หัว
กะโหลก หมายจะยับยั้งการเคลื่อนไหวของหานลี่ แตหญิงสาวชุดขาวและเยี่ยฉูเห็น
เชนนั้นกลับรูสึกดีอกดีใจ สำแดงความสามารถทั้งหมดออกมาอยางไมกั๊กเอาไวอีก
ขัดขวางศัตรูทั้งสองรวมทั้งภูตมารเหลานั้นเอาไวสุดชีวิต
ตองบอกวา การสั งหารสองผู บ ำเพ็ ญ เพี ยรจากตระกูล หลง นั ้ น ยากไปหน อย
สำหรับพวกนาง แตหากขวางอีกฝายเอาไวกลับไมใชเรื่องที่ยากเย็นนัก
ดังนั้นสองผูบำเพ็ญเพียรจากตระกูลหลงจึงโกรธเกรี้ยวดุจฟาผา และทำไดเพียง
รับมือกับศัตรูเบื้องหนาแลวคอยวากัน
ลำแสงจากกระบี่ผลึกโลหิตมหาภารตะถูกเขตอาคมกระบี่ทำลายลงไปพอสมควรแลว
ขางหูของหานลี่มีเสียงฝนระงับโทสะของหลงตงดังขึ้นวา
“พี่หาน เจาคิดจะทำลายแผนของขาจริงๆ หรือ? หากทำลายกระบี่เลมนี้ ตั้งแต
บัดนี้เจาและตระกูลหลงของพวกขาจะอยูรวมโลกกันไมไดอีก เจาคิดวาตระกูลเยี่ยจะ
ปกปองเจาไดนานเทาไหรกนั ?”
หานลี่ไดฟงคำนี้ ก็แครายอาคมกระตุนเขตอาคมกระบี่ ไมสนใจเลยัสกนิด
“หากสหายยอมปลอยขานอยไป ตระกูลเยี่ยเสนอเงื่อนไขอะไรใหเจา ขาจะให
มากกวาเทาหนึ่ง” หลงตงเปลี่ยนน้ำเสียงทันที แลวเอยดวยน้ำเสียงออนวอนขึ้น
หลายสวน
หานลี่หัวเราะหึๆ ออกมา มุมปากเผยรอยยิ้มเย็นชา ยังคงไมมีเจตนาจะหยุดยั้ง
เลยสักนิด
หลงตงเห็นหานลี่ไมสนใจคำพูดของตนเอง ก็ไมถายทอดเสียงมาอีก แตกระบี่โลหิตใน
เขตอาคมกระบี่กลับมีลอยอยูกลางอากาศไมขยับเขยื้อน ปลอยใหเสนไหมสีทอง
จำนวนนับไมถวนสับลงมาไมหยุด
เมื่อลำแสงวิญญาณดวงสุดทายบนตัวกระบี่สลายหายไปแลว ในที่สุดตัวกระบี่
ยักษก็มีรอยบากยาวๆ เปนสายๆ ปรากฏขึ้น ถึงแมวาทุกรอยลึกลงไปไมมากนัก
แต เ ส นไหมกระบี ่ จ ำนวนมากสั บ ลงมาเช น นี ้ ชั ่ ว พริ บ ตากระบี ่ ย ั ก ษ ก ็ ม ี บ าดแผล
เต็มไปหมด ราวกับจะถูกทำลายไดตลอดเวลา
หานลี่เห็นเชนนั้นพลันตกตะลึง แตหลังจากที่แววตาเปลงประกายสองสามครั้งแลว
ก็นึกอะไรขึ้นมาได หนาเปลี่ยนสีขณะตะโกนออกไป ชั่วพริบตารางกายก็กลายเปน
สายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไป ไมสนใจจะควบคุมเขตอาคมกระบี่อีก
แทบจะในชั่วอึดใจนั้น กระบี่โลหิตก็เปลงเสียงรองของหงสออกมา ทันใดนั้น
กระบี่โลหิตก็ระเบิดออกดวยเสียงดังสนั่น
ดวงอาทิตยสีขาวดวงหนึ่งปรากฏขึ้น ดานในมีลำแสงสีขาวจำนวนนับไมถวนพุง
ออกมา
เมื ่ อเส นไหมสี ท องและลำแสงสี ข าวในเขตอาคมกระบี ่ สั ม ผั ส กั น ก็ แ ตกออกเป น
ชุนๆ ในชั่วลมหายใจ ขนาดของดวงอาทิตยก็ขยายใหญขึ้นหลายเทา กินพื้นที่ไป
สองสามรองจั้ง แมแตการตอสูของคูบำเพ็ญเพียรตระกูลหลงและพวกของหญิงสาว
ชุดขาวก็ถูกดึงเขาไปดวย ทำใหทั้งสี่คนตกใจจนสะดุงโหยง
โชคดีที่พวกเขาอยูหางจากกระบี่โลหิตคอนขางไกล จึงเก็บความสามารถไดทัน
ในเวลาเดียวกันก็หนีออกมาจากตรงนั้นในชั่วพริบตา
การระเบิดของสมบัติวิญญาณสะทานฟาระดับสุดยอด เกรงวาหากผูบำเพ็ญเพียร
ระดับผสานอินทรียพบเขา ก็ยังทำไดเพียงถอยหนีออกมาสามฉื่อ
หากไมใชเพราะหานลี่มีปฏิภาณไหวพริบวองไว หนีออกมากาวหนึ่งแลว หากอยู
ในอาณาเขตของการระเบิดแลว ก็คงทำไดเพียงจิตวิญญาณปลิววอนถูกทำลายลง
ครานี้เขาอยูหางจากดวงอาทิตยสีขาวไปสองสามรอยจั้ง มองไปยังจุดที่เกิ ด
การระเบิดดวยสีหนาซีดขาว
ถึงแมวาระหวางทางที่หนีมาเขาจะเก็บกระบี่บินทั้งหมดกลับมาในทันที แตก็ยังคงมี
กระบี่บินสิบกวาเลมที่กลับมาชาไป ถูกระเบิดไปดวย ลวนสูญเสียไอวิญญาณไป
ดูแลวเขาคงตองหลอมใหมอีกครั้งแลว
นี่เปนกระบี ่ไ ผ เ ขี ยวตั วต อเมฆาที ่ใชว ัต ถุ ดิ บที่ หายากจำนวนมากผสมเข า ไป
มิเชนนั้ นกระบี่ บ ินธรรมดาๆ คงไมอาจทำลายไอวิญ ญาณได อย างง ายดายเช น นี้
ตอใหทำลายกระบี่ใหเปนผุยผงก็ยังเปนเรื่องที่เปนไปได
ทวาหานลี่ในครานี้ดวงตาทั้งสองขางเปลงแสงสีฟาสวางวาบ จองเขม็งไปยังเบื้องหนา
สำหรับคนอื่นแลวคงไมอาจมองเห็นพระอาทิตยได แตกลับมองเห็นอยางชัดเจน
ฉับพลันนั้นเขาพลันหนาเปลี่ยนสี ปกที่แผนหลังสยายออก กลายเปนประจุไฟฟาสีขาว
สายหนึ่งหายวับไปจากที่เดิม
แตครูตอมากลางอากาศอีกดาน รางของหานลี่ปรากฏขึ้น ฝามือขาวนวลดุจหยก
ตะปบลงไปกลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นแหวนกระดูกหาวงก็ปรากฏขึ้นที่นิ้วทั้งหา แตเมื่อเปลงแสงสวางวาบ
แลวก็หายวับไป
ปลายนิ้วมีเปลวเพลิงเย็นเยียบหากลุมพนออกมา ทันใดนั้นก็กลายเปนเปลวเพลิง
ลำแสงหาสีหอหุมดานลางเอาไว
เสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้น เงาโลหิตยาวสองสามฉื่อสายหนึ่งปรากฏขึ้นทามกลาง
เปลวเพลิงลำแสง นั่นก็คือ มังกรโลหิตหากรงเล็บสีแดงสด ปากของมันกลับคาบ
หงสโลหิตอีกตัวหนึ่งเอาไวแนน ครึ่งหนึ่งของตัวหงสโลหิตหายไป รางกายที่เหลืออีก
ครั้งอยูในปากโลหิตไมขยับเขยื้อน ราวกับวาไรซึ่งพลังชีวิตแลว
มังกรโลหิตที่อยูทามกลางเปลวเพลิงเย็นยะเยือก สะบัดหัวไปมาดวยทาทีลับๆ ลอๆ
เห็นไดชัดวามาเมื่อครูไดอาศัยการระเบิดตัวเองกำบัง คิดจะถือโอกาสหนีหลบซอน
และหนีไปที่ไหนสักที่ แตมันกลับคิดไมถึงวาหานลี่จะมีความสามารถเนตรวิญญาณ
วารีกระจาง ไมเพียงจะมองเห็นรางของมันไดภายในพริบตา กลับถือโอกาสนี้ปลอย
เปลวเพลิงเย็นเยียบหาสีออกมา กักมันเอาไวขางใน
ครานี ้ ม ั ง กรโลหิ ต ที ่ อ ยู  ใ นเปลวเพลิ ง ห า สี ร า งกายเชื ่ อ งช า ลงสิ บ กว า เท า
การเคลื่อนไหวเปลี่ยนเปนเชื่องชา
ลำแสงเย็นเยียบเปลงประกายสวางวาบที่ดวงตา มือหนึ่งกวักออกไป ชั่วขณะนั้น
เปลวเพลิงหาสีพลันมวนกลับไป ชั่วครูก็หอหุมมังกรโลหิตเอาไวอยางแนนหนา
หานลี่พลันอาปากออก ลำแสงสีเขียวที่หอหุมเตานภาสูญอยูบินออกมา
ร า ยอาคมสะท านฟ ากระตุ น เตาใบเล็ ก ขยายใหญข ึ ้น หลายสว น จนมี ข นาด
สองสามฉื่อ ในเวลาเดียวกั นฝาเตาก็บ ิน ออกมาโดยอัต โนมั ติ พนเสนไหมสีเ ขี ย ว
จำนวนนับไมถวนออกมา มวนไปทางมังกรโลหิตที่อยูดานลาง
ตอนที่ 1386 ขนของหงสสวรรค
“บั ง อาจ?” ตั ว ของมั ง กรโลหิ ต มี เ สี ย งคำรามด ว ยความโกรธเกรี ้ ย วดั ง ขึ้ น
ลำแสงโลหิตสายหนึ่งพุงออกมาจากราง ตรงไปสับเสนไหมสีเขียวออก
ภายใตความจนปญญาของจิตวิญญาณดั้งเดิมของหลงตง คาดไมถึงวาจะทำให
โลหิ ต จิ ต วิ ญ ญาณเที ่ ย งแท ใ นร า งกลายเป น กระบี ่ ล ำแสงสายหนึ ่ ง พุ  ง ออกมา
หมายจะดิ้นรนครั้งสุดทาย
หากเปนการโจมตีธรรมดาๆ ถูกกระบี่ลำแสงสีโลหิตสับออกก็อาจจะไมตกลงไป
แตเตานภาสูญนั้นเดิมทีก็เปนสมบัติสะทานฟาอยูแลว เสนไหมสีเขียวที่แผออกมา
ยิ่งเปนสิ่งที่ไรรูปราง ในดานการแปลงกายก็มหัศจรรยเปนอยางมาก
หานลี ่ แ ค ก ระตุ  น ความคิ ด ชั ่ ว ขณะนั ้ น ลำแสงสี เ ขี ย วก็ เ ปล ง แสงสว า งวาบ
เสนไหมสีเขียวกวาครึ่งหายวับ ไปจากกลางอากาศ สวนที่เหลือพลันผนึกรวมกั น
กลายเปนลำแสงสีเขียวสายหนึ่งและลำแสงสีโลหิตพัวพันกัน
ครูตอมาเหนือมังกรโลหิตขึ้นไปสองสามฉื่อก็มีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น เสนไหมสีเขียว
พุงออกมาจากกลางอากาศ
เสนไหมสีเขียวกระจายตัวออก ชั่วพริบตาก็รัดมังกรโลหิตที่อยูในเปลวเพลิงหาสี
และหงสโลหิตครั้งตัวเอาไวอยางแนนอน ทันใดนั้นก็มวนกลับมา หมายจะเก็บเขาไป
ในเตานภาสูญ
เสียง “กึกกักๆ” ดังขึ้น รางของมังกรโลหิตพยายามดิ้นรนใหออกมาจากลำแสง
สีเขียวอยางสุดชีวิต หลังจากเปลงแสงสวา งวาบ ก็ปรากฏหางออกไปสิบ จั้ ง เศษ
กะพริบวาบอยางตอเนื่องเคลื่อนยายออกมาสามสิบสี่สิบจั้ง
แววตาของหานลี่ฉายแววเย็นเยียบ ฉับพลันนั้นหวางคิ้วพลันมีลำแสงสีดำของ
เนตรทำลายลางสวางวาบ ลำแสงสีดำสายหนึ่งพุงออกมา
หลังจากเปลงเสียงอึกทึกกลางอากาศ ลำแสงสีเขียวที่เคลื่อนยายมาก็ปรากฏขึ้น
พรอมกับเซถลา ดูเหมือนวาลำแสงจะหมนแสงลงไมนอย
แตไมรอใหหานลี่ไดสำแดงอะไรอีก ลำแสงสีเขียวก็กลายเปนลำแสงลวงตาสายหนึ่งพุง
ออกไป กะพริบวาบๆ แลวไปปรากฏที่ขอบฟาแลวพลันหายวับไป
หานลี่ขมวดคิ้ว เนตรปศาจดวงที่สามที่เพิ่งเปลงแสงสีดำสลายหายไป
ถึงแมวาเนตรทำลายลางจะมองทะลุผานความสามารถอำพรางตัวได แต
ระยะหางขนาดนี้ แนนอนวาก็ไมมีพลังพอ
ทามกลางเสนไหมสีเขียวที่หอหุมอยู มังกรโลหิตและหงสโลหิตเปลงเสียง “สวบ”
ออกมา ถูกเตานภาสูญดูดเขาไปดานใน
ฝาเตารอนลงมา ปดฝาเตาลงอีกครั้งอยางแนนหนา
ผูใดก็ไมทันไดสังเกตวาในชั่วพริบตานั้น แขนเสื้อของหานลี่มีเงาสีทองสองดวง
เปลงแสงสวางวาบ บินเขาไปในเตาอยางลับๆ
และในตอนนั ้ น ทั ้ ง สี ่ ค นที ่ ห  า งออกไปสองสามร อ ยจั ้ ง เห็ น ฉากที ่ โ ลหิ ต ของ
จิ ต วิ ญ ญาณเที ่ย งแท ถ ูก หานลี ่เ ก็ บ ไป จิ ต วิ ญ ญาณดั้ ง เดิม ของหล ง ตงหนี เ ตลิดไป
ก็พากันหนาเปลี่ยนสี
สองผูบำเพ็ญเพียรจากตระกูลหลงมองหนากันแวบหนึ่ง ฉับพลันนั้นก็กลายเปน
สายรุงสองสายพุงขึ้นไปบนทองฟา คาดไมถึงวาภูตอัปลักษณและมารเหลานั้นจะตาม
ไปติดๆ โดยไมตองเสียแรงเรียก
ทิศทางที่พวกเขาหนีไป นั่นก็คือ ทางที่จิตวิญญาณดั้งเดิมของหลงตงหนีไป
เยี่ยฉูและหญิงสาวชุดขาวก็ไมไดมีทาทีจะไลตามไปเลยสักนิด ลำแสงหลีกหนีกลับ
พุงมาทางหานลี่แทน
ชั่วครูหญิงสาวทั้งสองก็มาปรากฏตัวหางจากหานลี่ไปสิบจั้งเศษ สายตาของเยี่ยฉู
กวาดไปยังหานลี่และอสูรวิญญาณครวญสูงยี่สิบสามสิบจั้งที่อยูใกลๆ กัน ดวยแววตา
ตกตะลึงอยางปดไมมิด
หญิงสาวชุดขาวเผยรอยยิ้มออกมา แตดวงตาคูนั้นกลับจองเขม็งไปยังเตาสีเขียว
เบื้องหนาของหานลี่อยางไมวางตา
เห็นไดชัดวาเมื่อหญิงสาวทั้งสองเห็นโลหิตของวิญญาณเที่ยงแทตกอยูในมือของหานลี่
ก็ระมัดระวังตัวกับเขาขึ้นหลายสวน
“พี่หาน ครั้งนี้ตองขอบคุณเจาจริงๆ ที่ลงมือชวยเหลือ มิเชนนั้นตระกูลหลงก็
อาจจะทำสำเร็จไปแลว พี่หานวางใจเถิด ขอตกลงกอนหนาของพวกเรายัง คงไม
เปลี่ยนแปลง ไมมีทางปลอยใหพี่หานลงแรงอยางเสียเปลาแน” หญิงสาวชุดขาว
กลอกตาสดใสไปมา ฉับพลันนั้นพลันฉีกยิ้มอยางเยายวน
“ใชแลว จากกำลังของตระกูลเยี่ย คิดดูแลวในเผามนุษยคงไมคอยจะมีผูที่จะชวย
ใหสหายสมปรารถนาไดอยางพวกเรานัก” เยี่ยฉูเอยอยางเชื่องชา แตในคำพูดกับแฝง
เจตนาคุกคามเอาไว
หานลี่มุมปากกระตุกไมไดเอยอะไรออกมา ฉับพลันนั้นมือหนึ่งพลันตบไปที่เตาสีเขียว
เบื้องหนา
เสียงหึ่งๆ ดังออกมาจากเตา ฝาเตาพวยพุงขึ้นไปอีกครั้ง เสนไหมสีเขียวจำนวน
นับไมถวนรัดเอาไวอยางแนนหนา มังกรโลหิตและหงสโลหิตครึ่งรางปรากฏขึ้ นที่
ปากเตา
หญิงสาวเห็นมังกรโลหิตและหงสโลหิต ก็ดวงตาเปลงประกาย หญิงสาวชุดขาวมี
ลำแสงโลหิตเปลงแสงสวางวาบบนใบหนา มีเงาลวงตาหงสโลหิตตัวเล็กๆ เปลงแสง
สวางวาบรางๆ แวบหนึ่ง
หานลี่หัวเราะอยางแผวเบา มือหนึ่งรายไปทางเตาสีเขียว
ชั่วขณะนั้นหงสโลหิตที่มีเสนไหมสีเขียวหอหุมอยูพลันสั่นเทา แตกออกเปนชุนๆ
สิ่งที่หอหุมเอาไวดีดไปทางหญิงสาว
หญิงสาวชุดขาวพลันดีอกดีใจ ปากเปลงเสียงผิวปากหวีดหวิวออกมา หงสโลหิต
ตัวเล็กอีกตัวหนึ่งบินออกมาจากราง ชั่วครูก็ปะทะเขากับหงสโลหิตครึ่งราง
ลำแสงสีโลหิตเปลงแสงสวางวาบ ทั้งสองประสานรางกันอยางไมมีอะไรขัดขวาง
กลายเปนลูกบอลกลมๆ สีแดงโลหิตขนาดสองสามฉื่อลูกหนึ่ง
ลูกบอลนี้เปนสีแดงสด ราวกับวาใชโลหิตบริสุทธิ์ผนึกขึ้นอยางไรอยางนั้น แต
หลังจากที่หมุนติ้วๆ ก็กลายเปนหงสโลหิตขนาดหนึ่งฉื่อ บินวนลอมรอบรางของหญิง
สาวเอาไว
หญิงสาวผูนี้หยักรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก นิ้วเรียวยื่นออกไป ชี้ไปทางหงสโลหิตอยาง
เครงขรึม
หลังจากไดยินเสียงรองอั นไพเราะแลว หงสโลหิตก็สยายปกออก กลายเป น
ลำแสงสีโลหิตสายหนึ่งกระโจนเขาไปในรางของหญิงสาว เปลงแสงสวางวาบแลว
หายวับไป
ทันใดนั้นรางของเยี่ยอิ่งก็ถูกลำแสงสีโลหิตหอหุมเอาไว ในเวลาเดียวกันเงาลวงตา
หงส โลหิ ต ตั ว หนึ ่ ง ก็ ป รากฏขึ ้ นรางๆ ที ่ แ ผ น หลั ง ของนาง มั นเลื อนรางไม ช ั ด เจน
แตสุดทายก็คอยๆ ชัดเจนขึ้น
หลังจากผานไปอีกชั่วครู เงาลวงตาหงสโลหิตก็สลายหายไป หญิงสาวเบิกตาทั้ง
สองขางขึ้น ใบหนาเต็มไปดวยความตื่นเตนยินดี
“โลหิตของหงสเที่ยงแทไมถูกทำลายไปมากนัก เอากลับมาไดถึงเจ็ดแปดสวน
อีกสวนเล็กๆ นาจะถูกโลหิตของมังกรเที่ยงแทกลืนกินเขาไป เกรงวาคงไมอาจแยก
ออกจากกันงา ยๆ โชคดีที่โลหิตเที่ยงแท ตกอยู ใ นมื อของตระกูลเยี่ย ของพวกเรา
พี ่ ห าน โยนโลหิ ต มั ง กรเที ่ ย งแท ม าเถิ ด โลหิ ต เที ่ ย งแท น ี ้ จ ำต อ งเก็ บ เอาไว ใ ห ดี
ยุทธภัณฑทั่วๆ ไป เกรงวาคงไมอาจทำใหโลหิตเที่ยงแทเสียหายได”
หญิงสาวฉีกยิ้มเบิกบานใหหานลี่ ในเวลาเดียวกันมือหนึ่งก็พลิกฝามือ กลางฝามือ
มีขวดน้ำเตาสีมวงทองปรากฏขึ้น ชางวิจิตรงดงามนัก
หานลี่กลับหัวเราะอยางแผวเบาออกมา
“เซียนเยี่ย หากขานอยจำไมผิดละก็ ตอนแรกตกลงกับทั้งสองแควาจะมอบ
โลหิตวิญญาณเที่ยงแทคืนใหเซียน ตอนนี้ก็ไดโลหิตของหงสสวรรคไปแลว จะเอา
โลหิตมังกรเที่ยงแทที่เหลืออีก เซียนจะละโมบเกินไปหรือเปลา” หานลี่เอยอยาง
ราบเรียบ
“สหายหาน หมายความวา อยา งไร? หรือวาเจาคิ ดจะขอสว นแบ งเปน โลหิ ต
จิตวิญญาณเที่ยงแท!” น้ำเสียงของเยี่ยฉูเย็นยะเยือกขึ้น สายตาเปลงประกายเย็นชา
ดุจใบมีด
“ถึงแมวาขานอยจะเปนผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา และรูกฎขอหามของตระกูล
จิตวิญญาณเที ่ย งแท จะไปคิดเรื่ องเพ อเจ อได อยา งไร ตอใหขานอยหลอมโลหิ ต
วิญญาณจริงๆ ก็ตองตกอยูในสภาพที่ถูกทุกตระกูลไลลา” หานลี่กลับสั่นศีรษะและ
หัวเราะนอยๆ ออกมา
“เชนนั้นพี่หานมีเจตนาใด?” ฟงจากคำพูดของหานลี่แลวก็ไมไดคิดจะนำโลหิต
มังกรเที่ยงแทไปใชกับตนเอง หญิงสาวชุดขาวจึงรูสึกผอนคลายลง แลวเอยซักถามตอ
“หึ ๆ ก็ ไ ม ม ี อ ะไรมาก คิ ด ดู แ ล ว โลหิ ต ของมั ง กรเที ่ ย งแท ค งไม ต  า งอะไรกั บ
โลหิ ต หงส ส วรรค อยา งพวกเจา ตระกู ล เยี ่ ย ของพวกเจ า คงต องการมั น มากสินะ
หากผูแซหานนำของสิ่งนี้มอบให ไมทราบวาสหายทั้งสองจะเอาอะไรมากแลกเปลี่ยน
ละ” หานลี่เอยดวยน้ำเสียงเครงขรึม
“คิ ก ๆ ที ่ แ ท พ ี ่ ห านก็ อยากได ผ ลประโยชน เช น นี ้ ก ็ พ ู ด ง า ย ขอแค ย อมมอบ
โลหิตวิญญาณเที่ยงแทให พี่หานก็เสนอมาไดเลย นองหญิงไมมีทางไมตอบรับแน”
หญิงสาวชุดขาวไดยินคำนี้ใบหนาก็ประดับไปดวยรอยยิ้ม
“โลหิตวิญญาณเที่ยงแท นาจะไมใชสิ่งที่ศิลาวิญญาณจะแลกเปลี่ยนได แนนอน
วาหากสหายมีศิลาวิญญาณระดับสุดยอดรอยกอนจริงๆ ก็วาไปอยาง” หานลี่เอย
อยางคราวๆ
“พี่หานลอเลนแลว ตอใหตระกูลเยี่ยของพวกเราจะไมอาจนำศิลาวิญญาณระดับ
สุดยอดมาจำนวนมากขนาดนั้นในครั้งเดียวได แตหากสักสองสามกอน นองหญิงก็ยัง
พอคิดวิธีได” หญิงสาวหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย หันหนาไปสบตากับเยี่ยฉูแวบหนึ่ง
แลวถึงไดฝนยิ้มตอบกลับ
“หากเปนศิลาวิญญาณระดับสองสามกอน ผูแซหานจะรบกวนสหายทั้งสองทำไม
ขานอยทุมเทแรงกายสักหนอยก็ไดมาแลว” หานลี่ตอบกลับดวยสีหนาราบเรียบ
“นายทานอยากไดอะไร พูดมาตามตรงเถิด” เยี่ยฉูดูเหมือนวาจะหมดความอดทน
พลางเอยอยางเย็นชา
“งายมาก ขานอยอยากแลกกับขนของหงสสวรรคเสนหนึ่งในมือของทานอาวุโสเยี่ย”
หลังจากที่แววตาของหานลี่กวาดไปบนเรือนรางของเยี่ยฉูแลว ก็เอยขึ้น
“ขนของหงสสวรรคอะไร? สหายเชื่อคำพูดของสตรีเผาหงสทมิฬจริงๆ หรือ!”
รูมานตาของเยี่ยฉูหดเล็กลง ทันใดนั้นก็เอยอยางราบเรียบออกมา
หญิงสาวชุดขาวไดยินกลับตะลึงงัน
“ทานอาวุโสเยี่ยคิดวาชนรุนหลังจะเชื่อคำพูดงั้นหรือ? หากทั้งสองทานคิดวา
ข า น อยพู ด เรื ่ องไร ส าระ ผู  แ ซ ห านก็ ไ ม ร ั ง เกี ย จที ่ จ ะใช เ คล็ ด วิ ช าค น วิ ญ ญาณกั บ
สหายเสี ่ ย วดู ข า น อยขอแค เ ส น เดี ย วเท า นั ้ น แลกกั บ โลหิ ต มั ง กรเที ่ ย งแท ล  ะ ก็
นาจะเปนสหายทั้งสองไดที่เปรียบมากกวา” หานลี่เอยดวยสีหนาเรียบเฉย
ฟงจากคำพูดของหานลี่แลว เยี่ยฉูพลันขมวดคิ้วดำขลับ สายตากวาดไปยังเยี่ยอิ่ง
หญิงสาวชุดขาวเมมปากสองสามครั้ง แลวถึงไดเอยดวยดวงตาที่เปลงประกาย
ระยิบระยับวา
“สหายอยากไดขนของหงสสวรรคไปทำอะไร? สิ่งนี้มีประโยชนเปนอยางมากต อ
ตระกูลเยี่ยของพวกเราเชนกัน? มิเชนนั้นนองหญิงเอาของสิ่งอื่นแลกเปลี่ยนแทนได
หรือไม? อยางเชนผลเห็ดมังกรสองเม็ดที่พวกเราไดมากอนหนานี้?”
“ขานอยมีสมบัติชิ้นหนึ่ง จำตองใชขนของหงสระดับสุดยอดเสนหนึ่งหลอมขึ้น
อีกครั้งพอดี สวนผลเห็ดมังกรนั้น ถึงแมวาขานอยจะอยากได แตขนของหงสสวรรค
นั้นจำเปนมากกวา ผูแซหานจึงไมอยากไดอยางหลัง” หานลี่เอยดวยสีหนาราบเรียบ
“พี่หานจะแลกกับขนของหงสสวรรคจริงๆ! ไมมีอยางอื่นใหตอรองหรือ?” สองตา
ของเยี่ยอิ่งจับจองไปบนมังกรโลหิตที่อยูเหนือเตาสีเขียวอยูนาน สีหนาบัดเดี๋ยวเครง
ขรึมบัดเดี๋ยวสดใสพลางเอยถามอีกครั้ง
“หึๆ หากสหายทั้งสองมี ‘ยากลูกกลอนความปรารถนาเซียน’ ‘เห็ดวิญญาณเกา
หัวใจ’ ผูแซหานก็ไมรังเกียจที่จะแลก” หานลี่หัวเราะดวยเสียงต่ำๆ ออกมา
“หึ ของระดับสุดยอดขนาดนั้น ขาจะยังตองการโลหิตมังกรเที่ยงแทไปทำอะไร
กิ นเข า ไปแล ว บรรลุระดั บ ผสานอิ น ทรี ย เ ลยก็ ไ ด แ ล ว เยี ่ ย ม ข า ยอมตกลงกับเจา
จะใชขนหงสสวรรคเสนหนึ่งแลกกับของสิ่งนี้” หญิงสาวชุดขาวกัดฟน ในที่สุดก็ตอบ
รับเงื่อนไขของหานลี่
เยี่ยฉูหนาเปลี่ยนสี อาปากออกคิดจะเอยอะไรออกมา แตสุดทายก็ไมไดเอยอะไร
ออกมา หานลี่ไดยินก็รูสึกมีชีวิตชีวาขึ้น
“ฮาๆ การกระทำของแมหญิงเยี่ยเปนสิ่งที่ชาญฉลาดแลว ขอแคใหผูแซหานได
ตรวจสอบขนหงสสักเล็กนอย ขานอยก็จะมอบโลหิตมังกรเที่ยงแทใหทานทั้ งสอง
แนนอนวาสหายทั้งสองคงไมกลัววาผูแซหานจะชิงของไปหรอกนะ” หานลี่เอยดวย
รอยยิ้ม
“พี่หญิงฉู เอาขนหงสเสนหนึ่งใหเขาเถิด” หญิงสาวถอนหายใจออกมา หันหนา
ไปออกคำสั่งกับเยี่ยฉู
“เจาคะ นายหญิงนอย!” เยี่ยฉูลังเลเล็กนอย แตก็เอยตอบรับ มือหนึ่งปดไปที่
กำไลเก็บของ กลองหยกสีแดงเพลิงใบหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ
กลองหยกใบนี้ไมเพียงเปนสีแดงสด ผิวของมันยังมีลวดลายเปลวเพลิงสลักอยู
เมื่อหยิบออกมา คาดไมถึงวาจะมีกลิ่นอายรอนระอุโชยออกมา อุณหภูมิรอบๆ ดาน
เพิ่มสูงขึ้นไมนอย
‘หยกรอน’ หานลี่เห็นกลองหยกใบนี้ กลับมีสีหนาตกตะลึง
ตอนที่ 1387 มือลับ
“พี่หานเองก็รูจักวัตถุดิบของกลองหยกใบนี้ คือกลองรอนหมื่นปที่มีชื่อเสี ยง
เทียบเทากับ หยกทมิ ฬจริ ง ๆ และมีเพียงต องนำวัต ถุ ดิ บที ่ หายากเช น นี ้มาหลอม
ยุทธภัณฑ ถึงจะเก็บไอวิญญาณของขนหงสไมใหแพรงพรายออกไปได” เยี่ยอิ่งเอย
ดวยรอยยิ้มบางๆ อยางมั่นใจอยูหลายสวน
เกรงวามีเพียงตระกูลวิญญาณเที่ยงแทอยางตระกูลเยี่ยอยางพวกเขา ที่จะยอม
เอาวัตถุดิบล้ำคามาทำเปนยุทธภัณฑธรรมดาๆ ชิ้นหนึ่งกระมัง
และในครานั้นหานลี่ก็หัวเราะนอยๆ ออกมา สีหนาราบเรียบ
เยี่ยฉูเปดฝากลองออกดวยสีหนาไรความรูสึก ดานในมีขนนกยาวๆ หาสีอยูสามเสน
ทุกเสนลวนมีความยาวสามฉื่อ เปลงแสงระยิบระยับ
สตรีผูนี้ใชนิ้วชี้ไปที่ขนเสนหนึ่ง
ชั่วขณะนั้นเจาสิ่งนั้นพลันขึ้นจากกลองหยก ลอยพลิ้วไปหาหานลี่
หานลี่เผยสีหนาเครงขรึมออกมา มือหนึ่งตะปบออกไปกลางอากาศทางขนเสน นั้น
เจาสิ่งนั้นถูกดูดเขามาอยูในมือ
จากนั้นเขาก็ใชนิ้วมือลูบไลไป แลวพิจารณาอยางละเอียด
ขนยาวเปลงประกายระยิบระยับ มีอักขระหากะพริบวาบอยูรางๆ ไอวิญญาณ
ทั้งหมดที่แฝงอยูลวนนาตกตะลึง
“ไมเลว คงจะเปนขนของหงสสวรรคจริงๆ” หานลี่พยักหนาดวยความพึงพอใจ
ของวิญญาณฟาดินเชนนี้ เกรงวาตอใหอยากลอกเลียนแบบก็คงทำไมได
จากนี้เขาพลันพลิกฝามือ เผยกลองหยกสีขาวราวกับหิมะออกมา แผไอวิญญาณที่
นาตกตะลึงออกมา คาดไมถึงวาจะเปนกลองหยกที่หลอมขึ้นจากหยกทมิฬหมื่นป
หญิงสาวที่อยูตรงขามเห็นกลองหยกใบนี้แลวพลันตะลึง อดที่จะมองสบตากัน
แวบหนึ่งมิได
หานลี่กลับเก็บขนของหงสสวรรคเสนนั้นลงไปในกลอง ลำแสงสีขาวเปลงประกาย
สวางวาบ กลองหยกหายวับไป
“ในเมื่อเก็บขนหงสไปแลว โลหิตมังกรเที่ยงแทก็ตองเปนของสหายทั้งสอง” หานลี่
กวาดสายตาไปที่หญิงสาวทั้งสองซึ่งอยูตรงขามแวบหนึ่ง มือหนึ่งรายไปทางเตาสีเขียว
หลังจากที่มีเสียง “ฟู” ดังขึ้น เตาก็พนเสนไหมสีเขียวออกมา สลัดโลหิตมังกร
ออกมา
รางของมังกรโลหิตตัวนี้เปลงแสงระยิบระยับ คาดไมถึงวาจะดิ้นรนอยูกลางอากาศ
ทาทางคิดจะหนี
แตหญิงสาวชุดขาวที่อยูตรงขามซึ่งถือน้ำเตาสีมวงทองดวยความยินดีเอาไวนานแลว
ชั่วขณะนั้นเสียงหึ่งๆ พลันดังขึ้น ลำแสงสีฟาผืนหนึ่งถูกพนออกมาจากปากน้ำเตา
ลำแสงสีฟาเปลงประกาย หอหุมมังกรโลหิตเอาไว และดึงมาอยูเบื้องหนาของ
หญิงสาวหางออกไปเพียงไมกี่ฉื่อ
ชั่วขณะนั้นดวงตาทั้งสี่ของหญิงสาวทั้งสองพลันจองเขม็งไปยังมังกรโลหิตดวยดวงตาที่
ไมกะพริบ ชั่วพริบตาจิตสัมผัสก็ทะลุผานรางของมังกรโลหิตไปรอบแลวรอบเลา
“โลหิตมังกรเที่ยงแทจริงๆ!” หลังจากผานไปชั่วครู เยี่ยฉูก็พนลมหายใจออกมาเบาๆ
ในที่สุดก็พยักหนา
หญิงสาวเผยเลยรอยจางๆ ออกมา
สองมือของหญิงสาวผูนี้พลันรายอาคม ลำแสงสีฟามวนกลับมา ทำใหมังกรโลหิต
หดตัวลงสองสามเทา เก็บเขาไปในน้ำเตาสีมวงทอง
“พี่หาน ชางซื่อสัตยจริงๆ เรื่องนี้หลังจากกลับไปยังเมืองเทวะสวรรค สนใจไป
เปนแขกของตระกูลเยี่ยหรือไม พี่หานมีความสามารถไมธรรมดาเชนนี้พวกเราตอง
ปฏิบัติเปนอยางดีอยูแลว” หญิงสาวชุดขาวเก็บน้ำเตาเขาไป แลวสงยิ้มหวานหยดยอย
ใหหานลี่ พลางเอยชักจูงออกมา
“เมืองเทวะสวรรค? ชวงนี้ผูแซหานยังไมคิดจะกลับไป อยากอยูในแดนปาเถื่อนสัก
ระยะหนึ่ง คงยังไมกลับไปในชวงเวลาสั้นๆ นี้” หานลี่กลับเอยอยางไมลังเลเลยสักนิด
คำพูดนี้ของหานลี่ไมไดทำใหหญิงสาวทั้งสองตกใจ หญิงสาวเผยสีหนาเสียดาย
ออกมาแลว ก็ไมไดเอยอะไรอีก
“เชนนั้นก็ชางเถิด ทวาหากพี่หานเปลี่ยนใจ ก็ไปที่ตระกูลเยี่ยไดตลอดเวลา นองหญิง
ยินดีตอนรับ เอาละ พวกเราออกเดินทางกันเถิด จะไดไมถูกคนของเผาพฤกษาไล
ตามมาอี ก สหายของเผ าหงสท มิ ฬนั้ น พี่ ห านคงจะปวดหั ว กั บ การจัด การกับนาง
มอบให น องหญิ ง เถิ ด ” สายตาของเยี ่ ย อิ ่ ง กวาดไปยั ง ยอดเขาสี ด ำที ่ อยู  ด  า นหลัง
แวบหนึ่ง แลวเอยพรอมกับหัวเราะคิกคักออกมา
“เชนนั้นคงตองรบกวนสหายทั้งสองแลว ขานอยไมรูจะจัดการกับสตรีผูนี้อยางไร
จริงๆ” หานลี่ไมใสใจกับคำพูดแรกของหญิงสาวทั้งสอง แตเมื่อไดยินประโยคหลังกลับ
ตอบตกลงอยางไมลังเล
หานลี่ชูมือขึ้นกวักไปทางดานลาง ชั่วขณะนั้นภูเขาสีดำพลันเปลงแสงสีเทาเจิดจา
แลวหดเล็กลง กะพริบวาบสองสามครั้งก็มีขนาดประมาณสองสามจั้ง
หลังจากเสียงอึกทึกดังขึ้น ภูเขาสีดำก็สลายหายไป
ดานลางพลันเผยรางของเสี่ยวหงที่นอนอยูกนหลุมไมขยับเขยื้อน
เยี่ยฉูที่เตรียมการเอาไวดานขางตั้งนานแลว ในเวลาเดียวกันที่ภูเขานอยหายไป
มือหนึ่งก็รายนิ้วทั้งหาไปทางดานลาง
ลำแสงสีเขียวมรกตหาสายเปลงแสงสวางวาบแลวพุงลงไป ชั่วพริบตาก็มาอยู
เหนือหงสทมิฬ
จากนั้นลำแสงสีเขียวมรกตเหลานี้ก็ทยอยกันระเบิดออกดัง “ตูมๆ” กลายเปน
ตาขายเสนไหมสีเขียวหอหุมลงมา หอหุมหงสทมิฬเอาไวขางใน
ทันใดนั้นหญิงสาวผูนี้ก็ใชมือหนึ่งรายอาคม ปากพลันบริกรรมคาถา
ตาข า ยเส นไหมสี เ ขี ย วเปล ง ประกายแล ว หดเล็ ก ลง สิ ่ ง ที ่ น  า เหลื อ เชื ่ อ ก็ คื อ
หงสทมิฬหดลงเล็กตามขนาดของตาขายเสนไหม ชั่วพริบตาก็มีขนาดจิ๋วแคครึ่งฉื่อ
เยี ่ ย ฉู  ห ยุด ร ายคาถา มื อหนึ ่ ง ตะปบออกไป ตาข า ยเส น ไหมสีเ ขี ยวสั ่ นคลอน
กลายเปนลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา
หลังจากที่กลุมลำแสงเปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง ก็จมหายเขาไปในแขนเสื้อ
ของหญิงสาวผูน้แี ลวหายวับไปอยางไรรองรอย
“จากนี้ผูแซหานมีธุระอื่น คงไมไดรวมทางกับสหายทั้งสองแลว” หลังจากที่หานลี่
ฉีกยิ้มแหงๆ ออกมา ก็ประสานมือคารวะ เอยสิ่งที่ทำใหหญิงสาวทั้งสองตะลึ ง งัน
ออกมา
“ตอนนี้ยังไมขามผานเสนทางสวรรคไป ยังคงอยูในอาณาเขตของเผาพฤกษา
สหายรวมทางไปกับพวกเราจะดีกวา” หญิงสาวชุดขาวเอยอยางประหลาดใจเล็กนอย
“ไมละ! ผูแซหานมีธุระจริงๆ ไมสะดวกที่จะรวมทางกับสหายทั้งสองตอ คงตอง
ขอตัวลากอน” หานลี่สั่นศีรษะอยางแนวแน หลังจากคารวะหญิงสาวทั้งสองแลว
ก็เก็บสมบัติและอสูรวิญญาณครวญ กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงแหวกอากาศ
จากไป
ชั่วพริบตาลำแสงหลีกหนีของหานลี่ก็ปรากฏตัวที่ขอบฟา แตทันใดนั้นก็หายวับ
ไปอยางไรรองรอย
เมื่อเห็นหานลี่จากไปแลวจริงๆ หญิงสาวชุดขาวและเยี่ยฉูก็มองสบตากันเล็กนอย
“เขาชาญฉลาดมาก คาดไมถึงวาจะจากไปในทันที? หรือวาเดาออกวาดานนอกมี
คนรอตอนรับพวกเราอยู” หญิงสาวขมวดคิ้วดำขลับ เอยอยางกลัดกลุมออกมา
“อาจจะกระมัง ตอใหไมไดเปนเชนนั้น ก็หมายความวาคนผูนี้ระมัดระวังตัวเปน
อยางมาก ไมยอมเผยโอกาสออกมาเลยแมแตนอย มิเชนนั้นหากมีคนของตระกูลที่สง
มารับ พวกเราก็นาจะจัดการอีกฝายได” เยี่ยฉูแววตาเปลงประกายขณะเอย
“พี่หญิงฉูเมื่อครูทานใชภาษาหุนถายทอดเสียงมาหาขา ไมใหขาลงมือ ทานฝกฝนพิณ
จนเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาขั้ นปลายแล วประกอบกั บขา หรือวายั ง
จัดการคนผูนั้นไมไดหรือ? เชนนั้นก็อาจจะไมตองนำขนของหงสสวรรคมาแลก”
ดูเหมือนวาเรื่องเมื่อครูจะทำใหหญิงสาวชุดขาวรูสึกคับแคนใจเล็กๆ
“หากโจมตีคนผูนั้นใหพายแพขาก็มั่นใจอยูเจ็ดสวน แตหากสังหารหรือวาจับเปน
ขากลับไมมีความมั่นใจแมเพียงครึ่ง นายหญิงนอยเคยเห็นความสามารถของเขาแลว
สินะ ไมเพียงจะจับเปนสตรีปศาจของเผาหงสดำไดในเพียงการประมือกันไมกี่ครั้ง
เขตอาคมกระบี่ที่วางตอนทายสุดก็สามารถทลายสมบัติระดับสมบัติสะทานฟา ได
ยิ่งไปกวานั้นอสูรวิญญาณตัวนั้นของเขายังชั่วรายมาก ราชันยภูตระดับหลอมสุญตา
สูไมไดเลยสักนิด ตอใหขาลงมือ ก็ไมอาจจัดการราชันยภูตไรหนาไดอยางคลองแคลว
ขนาดนั้น ดูจากสถานการณการตอสูเมื่อครู เปนการตอสูที่เยือกเย็นและสบายๆ
เปนอยางมาก จะตองมีเครื่องมือสังหารอื่นแน และยิ่งไปกวานั้นโลหิตเที่ยงแทอยูใน
มื อของอี ก ฝ า ย หากสั ง หารคนผู น ี ้ พวกเราก็ จ ะเสีย เปรี ยบยิ ่ง กวา ต อให ข นของ
หงสสวรรคหายากมากกวานี้ ก็ยังมีโอกาสหาได แตโลหิตของมังกรเที่ยงแท คนทั้งเผา
คงเดาวาคงมีแตตระกูลหลงที่มีได และไมรูวากี่ชั่วอายุคน ถึงจะมีคนอยางหลงตงที่
เปนศิษยสายตรงซึ่งไดรับการถายทอดโลหิตที่บริสุทธิ์เชนนี้มา” เยี่ยฉูเอยอธิบาย
“เรื่องพวกนี้ขาเองก็รู ความสามารถของคนผูนี้และสมบัติของเขานั้นไมธรรมดาจริงๆ
ในเมื่อพี่หญิงฉูไมมั่นใจวาจะลงมือสำเร็จได พวกเราก็ถือวาทำถูกแลว หาก
ทานประมุขรูวาพวกเราไดโลหิตมังกรเที่ยงแทมา ก็คงไมถือโทษเรื่องนี้ โลหิต
มังกรเที่ยงแทเปนเรื่องใหญ ไมคูควรใหพวกเราไปเสี่ยงอันตรายอีก โชคดีที่คน ผู
นั้นรูจักวางตัว ไมไดบีบใหพวกเราลงมือ เอาละพวกเราไปกันเถิด การเคลื่อนไหว เมื่อ
ครูคอนขางอึกทึก อยาดึงดูดคนของเผาพฤกษามาอีกเลย” หญิงสาวชุดขาว เงียบ
ขรึมไปเล็กนอย แลวถึงไดเอยอยางจนปญญาออกมา
เยี่ยฉูพยักหนา สะบัดแขนเสื้อ ปลอยวิหคไมขนาดยักษตัวนั้นออกมาอีกครั้ง
หญิงสาวกลายเปนลำแสงหลีกหนีสองสายขึ้นไปบนรางขอวิหค มันกลายเปน
ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งพุงแหวกอากาศออกไปราวกับดาวตก
แทบจะในเวลาเดียวกัน หานลี่กลับอยูกลางอากาศหางออกไปเปนหมื่นลี้แลว
เขาขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีไปพลาง มุมปากเผยรอยยิ้มประหลาดๆ ไปพลาง
แววตาตื่นเตนดีใจ
ฉับพลันนั้นเขาที่อยูในลำแสงหลีกหนีพลันอาปากออก พนเตานภาสูญออกมาอีกครั้ง
มือหนึ่งถือเตาใบนั้นเอาไว เปดฝาเตาออกเล็กนอย ชั่วขณะนั้นในเตาพลันมี
รอยแยกเล็กๆ เผยออกมา
แววตาของเขาเปลงแสงสีฟาสวางวาบ เงาสีทองสองดวงบินออกมาจากรอยแยก
หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง ก็แยกออกรอนลงบนฝาเตา คาดไมถึงวาจะเปน แมลง
กลืนทองขนาดเทาหัวแมมือสองตัว
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา อาปากออกอีกครั้ง พนไอวิญญาณที่บริสุทธิ์สอง
กลุมออกมาจากปาก หอหุมแมลงกลืนทองสองตัวเอาไว
แมลงกลืนทองสองตัวเปลงแสงสีทองเจิดจา ชั่วครูก็ขยายใหญขึ้นจนมีขนาดครึ่งฉื่อ
เปลี่ยนเปนโหดเหี้ยมเปนอยางมาก
เสียงบริกรรมคาถาต่ำๆ ดังออกมาจากปากของหานลี่ แมลงยักษสองตัวอาปาก
ออกพรอมกัน ลำแสงสีโลหิตเปลงแสงสวางวาบ พนของเหลวสีแดงสดขนาดเทา
หัวแมมือออกมากลางอากาศ
หานลี่แววตาเปลงประกาย อีกมือหนึ่งตะปบออกไป ควาเจาสิ่งที่พนออกมาอยูในมือ
เมื่อเขากางนิ้วทั้งหาออกอีกครั้ง ฝามือพลันมีมังกรโลหิตและหงสโลหิตขนาดจิ๋ว
ปรากฏขึ้น
คาดไมถึงวาหานลี่จะเก็บโลหิตของมังกรเที่ยงแทและหงสสวรรคเอาไวโดยที่ไมมี
ผูใดลวงรู
ถึงแมวาเยี่ยอิ่งและพวกจะระวังตัวมาก แตก็คิดไมถึงวาหานลี่จะมีแมลงกลืนทอง
โตเต็มวัยที่กลืนกินทุกอยางอยู มิเชนนั้นคงไมอาจปลอยใหหานลี่ขโมยโลหิตวิญญาณ
เที่ยงแททั้งสองชนิดไปไดงายๆ
ถึงอยางไรเสียหากโลหิตวิญญาณเที่ยงแทไมไดใชกับเคล็ดวิชาลับหรือสมบัติอะไร
ก็ไมอาจแยกออกจากกันไดงายๆ
หานลี่เหลือบไปมองมังกรโลหิตและหงสโลหิตที่กำลังดิ้นรนอยูในมือ นิ้วทั้งหา
เปลงแสงสีเขียวสวางวาบ รัดทั้งสองเอาไวแนนแลวเผยสีหนาขบคิดออกมา
จะใชโลหิตวิญญาณทั้งสองชนิดนี้อยางไร หานลี่ยังไมไดตัดสินใจ แตจะตองไดใชแน
โลหิตวิญญาณเที่ยงแทนี้ล้ำคาขนาดไหน เกรงวามูลคาคงไมดอยไปกวาสมุนไพรและ
ยาลูกกลอนเซียนในตำนานเปนแน
นาเสียดายที่เขารูเรื่องตระกูลวิญญาณเที่ยงแทและโลหิตวิญญาณเที่ยงแทไมมากนัก
ครานี ้ จ ึ ง ไม อ าจตั ด สิ น อะไรได จึ ง ทำได เ พี ย งเก็ บ ไว ศ ึ ก ษาที ห ลั ง แล ว ค อ ยใช
โลหิตวิญญาณเหลานี้
ฉับพลันนั้นหานลี่พลันหนาเปลี่ยนสี มือหนึ่งพลิกฝามือ หยิบกลองไมสีเงินเปน
ประกายออกมา เก็ บ มั ง กรโลหิ ต และหงส โ ลหิ ต เข า ไป สะบั ด แขนเสื ้ อ อี ก ครั้ ง
แปะยันตสองสามแผนลงไปบนฝากลอง
ลำแสงสีเงินเปลงประกายกลองไมหายวับไป
หลังจากทำทุกอยางเสร็จ หานลี่ถึงไดหันหนากลับ ไปมองดา นหลั งจุดที ่ ไ กล
ออกไป สองตาหรี่ลงตามความรูสึก
ตอนที่ 1388 การตอสูของเผาพฤกษา
ฉับพลันนั้นเขาพลันหนาเปลี่ยนสี เผยสีหนาไมอยากจะเชื่อออกมา
“คาดไมถึงวาจะเปนเจานั่น! จากความเร็วและจิตสัมผัสที่แข็งแกรงของอีกฝาย
ถูกระบุตำแหนงเอาไวแลว ตอใหหนีก็คงไมทัน ยันตชำระพิสุทธิ์ เผชิญหนากับคนผูนี้
เกรงวาก็คงไมมีผล แตกลิ่นอายของอีกฝายออนแอกวาเดิมไมนอย ดูเหมือนจะไดรับ
บาดเจ็บหนัก ตอนนั้นชิงหยวนจื่อใชพลังของเขตอาคมมหากระบี่ทองคำที่มีพลังระดับ
หลอมสุญตาตอกรกับผูบำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย ถึงแมวาพลังยุทธข องขา
จะไมพอ แตตอกรกับเจาผูที่พลังยุทธลดลงเปนอยางมาก หากเตรียมตัวลวงหนาใหดี
ก็นาจะกักอีกฝายเอาไวได และยิ่งไปกวานั้นตนเองก็มีอสนีอื่นๆ อยู ก็ไมใชวาจะ
สูไมได” หานลี่ขบคิดอยางรวดเร็ว รูสึกเสียใจที่แยกกับเยี่ยฉูและหญิงสาวทั้ งสอง
เร็วไปหนอย มิเชนนั้นก็คงไมตองมาประสบกับอันตรายเชนนี้
ทวาถึงอยางไรเสียหานลี่ก็ไมใชคนธรรมดา หลังจากที่ตัดสินใจแลว ทันใดนั้น
ลำแสงสีเขียวก็ปรากฏขึ้นบนรางอยางไมลังเลเลยสักนิด ลำแสงหลีกหนีพุงลงไป
ดานลาง
หลังจากเปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง คนก็มาปรากฏตัวเหนือภูเขาเล็กๆ ลูกหนึ่ง
เขาสะบัดแขนเสื้อโดยไมพูดอะไร ฉับพลันนั้นกระบี่เลมเล็กสีทองเจ็ดสิบสองเลม
ก็ บ ิ น ออกมา จากนั ้ น เขาพลั น ร า ยคาถากระตุ  น กลายเป น กระบี ่ ล ำแสงสี ท อง
หลายรอยสาย ทยอยกันอำพรางตัวไปทั้งสี่ทิศ
เขาวางเขตอาคมมหากระบี่ทองคำลงตรงนั้น
จากนั้นหานลี่ก็ลูบไปที่ทายทอย ลำแสงสีเทาผืนใหญพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา
ลำแสงนั้นสลายตัวออก กลายเปนลำแสงสีเทาชั้นหนึ่งหอหุมเขาเอาไวขางใน ในเวลา
เดี ย วกั นเขาพลันสะบัด แขนเสื้ ออีก ดา น หั ว กะโหลกสี ข าวหา หั ว พลั น ปรากฏขึ้น
ตรงหนา พนเปลวเพลิงเย็นเยียบหาชนิดออกมาพรอมกัน จากนั้นก็หลอมรวมกับ
ลำแสงสีเทาอยูภายนอก กลายเปนเปลวเพลิงหาสีกลุมหนึ่ง
หานลี่ที่อยูในนั้นสองมือพลันรายอาคม เปลวเพลิงลำแสงผนึกรวมกันแลวเปลี ่ยน
รูปราง กลายเปนวงแหวนลำแสงหาสีหนาๆ วงหนึ่ง ลอมรอบเขาเอาไวและโคจรไปมา
ไมหยุด
แทบจะในเวลาเดียวกันแผนหลังของหานลี่พลันมีเสียงฟารองดังขึ้น ปกขนนก
สีเขียวขาวคูหนึ่งพลันปรากฏขึ้น
หลังจากที่ทำทุ ก อยา งเสร็จ หานลี่ถึง ได เ อาสองมื อไหลหลั ง จองเขม็ ง ไปยั ง
กลางอากาศที่ไกลออกไปดวยสีหนาเรียบเฉย
แทบจะในพริ บ ตานั ้ น ไกลออกไปพลั น มี ล ำแสงวิ ญ ญาณเปล ง แสงสวา งวาบ
ลูกบอลลำแสงสีเงินกลุมหนึ่งพุงแหวกอากาศเขามา หลังจากกะพริบวาบสองสามครั้ง
ก็ปรากฏตัวเหนือภูเขาที่หานลี่อยู
ลำแสงหมนแสงลง เผยเงารางคนที่มีลำแสงสีเขียวหอหุมเรือนรางปรากฏขึ้น
ตรงเอวคาดเข็มขัดสีเงินออนเอาไวเสนหนึ่ง
เห็นไดชัดวาเปนพฤกษาวิญญาณระดับสูงอยางระดับเงินผูนั้นที่ปรากฏตัวในเผาใบดำ
รูมานตาของหานลี่หดเล็กลง ชั่วพริบตาก็พิจารณาอีกฝายสิบกวารอบ
ดูจากภายนอก พฤกษาวิญญาณระดับเงินผูนี้ดูเหมือนกับตอนที่อยูในปาใบดำ
ทุกระเบียบนิ้ว แตแรงกดบนรางกลับนอยลงไปกวาครึ่ง ทาทางไดรับบาดเจ็บจริงๆ
หานลี่พนลมหายใจยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่ง ในใจพลันรูสึกผอนคลายลง
หากเขาคิดผิดไป อีกฝายยังคงไมไดรับบาดเจ็บละก็ เขาคงหันหัวหนีเตลิดไปแลว
ไมมีทางรออยูที่นี่แน
ทวาคิดดูแลวพฤกษาวิญญาณระดับเงินผูนี้ไดรับบาดเจ็บหนักก็ไมใชเรื่องที่แปลกอะไร
เยี่ยอิ่งที่กระตุนโลหิตวิญญาณเที่ยงแทกลายเปนจิตวิญญาณของหงสสวรรคนั้น
นากลัวเพียงใด เขาไดเห็นกับตาตัวเองมาแลว ความสามารถเหนือกวา พฤกษา
วิญญาณระดับสูงผูนี้นัก
ตอนที่ไลตามหญิงสาวทั้งสองกอนหนานี้ คงตองตอสูกันยกใหญ ถึงไดตกอยูใน
สภาพเชนนี้
แตคนผูนี้ไดรับบาดเจ็บ หนัก แตก็ยังตามรอยเขาอยางไมลดละจนมาถึง ที ่ นี่
ชางนาเหลือเชื่อจริงๆ
อีกฝายยอมไมสนใจเยี่ยอิ่งและพวก มาเลือกตนเอง กวาครึ่งคงเปนเพราะเคยพบ
กับความยากลำบากมาแลว จึงไมกลาตามทั้งสองไป แตเพื่อไมใหกลับไปมือเปลา
จึงคิดจะเอาตนเองไปชดเชย
ชั่วพริบตาหานลี่ก็ขบคิดถึงสาเหตุที่อีกฝายตามตัวเองมาไดเจ็ดแปดสวน แลวรูสึก
กลัดกลุมในใจ
ดวงตาสีเขียวมรกตคูนั้นของพฤกษาวิญญาณระดับเงินกวาดมาบนเรือนรางของ
หานลี่เชนกัน โบกกำปนโจมตีโดยไมคิดจะปริปากเลยสักนิด
เสียงแหลมๆ แหวกผานอากาศระเบิดขึ้น แทบจะในเวลาเดียวกัน หานลี่พลัน
รูสึกเพียงวาพลังมหาศาลที่ไรรูปรางกระทบกับเครื่องปองกันนอกกาย
วงแหวนลำแสงหาสีสั่นคลอน ทันใดนั้นลำแสงสีเทาที่หอหุมอยูพลันเปลี่ยนรูปราง
รางกายของหานลี่สั่นเทา ถอยหลังรนไปสองสามกาวอยางไมรูตัว สีหนาเขียวคล้ำ
ปรากฏขึ้นอยางตอเนื่องสองสามครั้ง แลวถึงไดฝนยืนใหมั่นคงได
หานลี่หนาเปลี่ยนสี
การโจมตีเมื่อครูของอีกฝายอยางนอยที่สุดก็นาจะมีพลังสองสามหมื่นชั่ง และเปน
เพราะรางกายของเขาแข็งแกรง หากเปนผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ คนอื่น ตอใหมี
พลังยุทธระดับหลอมสุญตา หากไมทันปองกันก็อาจจะไดรับบาดเจ็บได
พฤกษาวิญญาณระดับเงินนากลัวกวาในตำนานดังคาด
“เอ”
เงาสีเขียวที่อยูไกลออกไปพลันเปลงเสียงรองอุทานดวยความประหลาดใจออกมา
ดูเหมือนวาจะประหลาดใจที่หานลี่รับการโจมตีไดอยางงายดายเชนกัน ดูเหมือนจะ
รูสึกวาหานลี่รับมือกับการโจมตีไดอยางไมยากลำบากอยางที่คิดไว หลังจากแคนเสียง
ดวยความเย็นชาแลว ก็สาวเทายาวๆ ออกไปดวยสีหนาไรอารมณ
ลำแสงสีเงินที่แผออกมาจากรางพฤกษาวิญญาณผูนี้กะพริบวาบราวกับภาพลวงตา มา
อยูหางจากหานลี่ไปแคสิบจั้งเศษ ในเวลาเดียวกันเกราะพฤกษาสีเขียวชิ้นหนึ่งก็
ปรากฏขึ้น ผิวของมันเปลงแสงสีเงินระยิบระยับ หนามแหลมที่สั้นยาวไมเทากัน
จำนวนนับไมถวนปรากฏขึ้น ทำใหพฤกษาวิญญาณที่ดูเหมือนธรรมดาๆ เปลี่ยนเปน
โหดเหี้ยม
รูมานตาของหานลี่หดเล็กลง ปกที่แผนหลังกระพือ กลายเปนประจุไฟฟาสีเขียวขาว
สายหนึ่งแลวหายวับไปจากที่เดิม
ครูตอมาคนก็มาปรากฏหางออกไปสามสิบจั้งเศษ เขาพลันใชสองมือรายอาคม
ปากพลันบริกรรมคาถา
พฤกษาวิญญาณไมลังเลเลยแมแตนอย สาวเทายาวๆ เขาไปอีกครั้ง คนเปลงแสง
สวางวาบพุงเขาไปหาหานลี่อีกครั้ง
แตทันใดนั้นเสียง “ฉับ” ก็ดังขึ้น รางของพฤกษาวิญญาณเปลงแสงสวางวาบหาง
ออกไปสิบจั้งเศษ เบื้องหนามีเสนไหมสีทองเปลงประกายเจ็ดแปดสายปรากฏขึ้นอยาง
ไมมีเคาลางมากอน เปลงแสงสวางวาบแลวสับลงมา
พฤกษาวิญญาณตะลึงงัน ลำแสงสีเขียวพลันเปลงแสงสวางวาบบนนิ้วทั้งห า
แลวพลิกฝามือตะปบออกไปอยางไมตองขบคิด
ผลคือไดยินเพียงเสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้น ลำแสงสีเขียวโจมตีไปบนเสนไหมสีทอง
ลำแสงวิญญาณตัดสลับกัน ทั้งสองซัดเขาหากันอยางไมยอมออนขอใหกัน
พฤกษาวิญญาณพลันมีสีหนาประหลาดใจหายแวบผาน นิ้วทั้งหาอีกมือกางออก
ปลอยลำแสงสีเขียวหาสายออกมาคิดจะเขารวมการโจมตี
แตในตอนนั้นเอง ลำแสงสีทองที่อยูรอบๆ พลันเปลงแสงสีทองสวางวาบ เสนไหม
สีทองเปนสายๆ ปรากฏขึ้นอยางตอเนื่อง ทันใดนั้นพลันกะพริบวาบ ปรากฏตัวหาง
จากพฤกษาวิญญาณไปแคคืบ พัวพันเขาดวยกันอีกครั้ง คิดจะสับพฤกษาวิญญาณ
ออกเปนชิ้นๆ
เสนไหมสีทองเหลานี้เปลงแสงสวางวาบอยางรวดเร็ว พฤกษาวิญญาณไมทันได
เขาใจวาเกิดอะไรขึ้น แนนอนวาก็ไมยอมตกอยูในอันตราย รางกายบิดพลิ้ว ดานหลัง
หางออกไปเจ็ดแปดจั้งมีเงาสีเขียวที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วปรากฏขึ้น
เส นไหมที ่ อยู ร อบๆ เปล ง แสงสว า งวาบ สั บ พฤกษาวิ ญ ญาณที ่ อยู ตรงที ่เดิม
ออกเปนชิ้นๆ และทันใดนั้นก็สลายหายไป กลับเปนแคเงาลวงตาสายหนึ่งเทานั้น
ครานี้พฤกษาวิญญาณระดับเงินถึงไดพบวา ไมใชแคเสนไหมสีทองที่อยูเบื้องหนา
จุดที่ไกลออกไปรอบๆ ดานตางมีสิ่งที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วปรากฏขึ้นจำนวนมาก
เสนไหมสีทองเหลานี้เปลงแสงเจิดจา เขามาลอมรอบจุดที่เขายืนอยู
“เขตอาคมกระบี่!” เสียงประหลาดใจหลุดออกมาจากปากของพฤกษาวิญญาณ
แตทันใดนั้นมือของเขาพลันประกบเขาหากัน ใจกลางมีลำแสงสีเงินเจิดจาปรากฏ
ขึ้น แยกมือออกจากกัน ชั่วขณะนั้นเสียงระเบิดพลันดังขึ้น เสนไหมสีเงินจำนวนนับไม
ถวนพุงออกมาจากทั่วทุกสารทิศ โจมตีไปยังเสนไหมกระบี่ที่โผเขามาอยางหนาแนน
เสียง “ตูมๆ” ดังขึ้น เสนไหมสีทองและลำแสงสีเงินพัวพันเขาดวยกัน เกิดเปน
ระเบิดลำแสงสีทองและเงินสองสี
และไมรูวาลำแสงสีเงินเหลา นี้คื อความสามารถชนิ ดใดของพฤกษาวิ ญ ญาณ
คาดไมถึงวาจะโจมตีจนเสนไหมสีทองแหลกออกเปนเสี่ยงๆ ราวกับวามีอานุภาพ
มากกวาเขตอาคมกระบี่อยางไรอยางนั้น
ร า งของพฤกษาวิ ญ ญาณพลิ ้ ว ไหว กลายเป น เงาสี เขี ย วสายหนึ ่ ง พุ  ง ออกมา
คิดจะอาศัยโอกาสนี้หนีออกจากเขตอาคมกระบี่
คูควรกับระดับเงิน พฤกษาวิญญาณเพิ่งจะเคลื่อนไหว ครูตอมาก็มาปรากฏตัว
หางออกไปหาสิบหกสิบจั้ง เมื่อเคลื่อนไหวอีกครั้ง ก็ทะลุผานเขตอาคมกระบี่ออกมา
ไดจริงๆ
แตในตอนนั้นเอง เบื้องหนาพลันมีเสียงฟาผาดังขึ้น หานลี่ที่รอบกายมีประจุไฟฟา
สีเขียวขาวพลันรัดรางอยูปรากฏขึ้นกลางอากาศ ขยับแขนอยางไมเกรงใจ หลังจาก
เสียง “สวบๆ” ดังขึ้น กำปนสีดำและขาวก็พุงแหวกผานอากาศมา อานุภาพนา
ตกใจ
พฤกษาวิญญาณไมทันไดคิดมาก รางกายไมหยุดยั้งเลยสักนิด แตสองแขนพลัน
เคลื่อนไหว ลำแสงสีเขียวสิบสายเปลงแสงสวางวาบพัวพันกัน กลายเปนกรงเล็บ
ลำแสงจำนวนนับไมถวนพุงเขาไปหากำปนเงา
เสียง “ตูมๆ” ดังสนั่นขึ้น กำปนเงาและกรงเล็บลำแสงปะทะกัน เสียงอึกทึก
สั่นโสตประสาทหูพลันดังขึ้น เงารางคนสองสายเซถลาลอยไปดานหลังพรอมกัน
เมื่อพฤกษาวิญญาณกลับมายืนไดอยางมั่นคงดวยความโกรธเกรี้ยวแลว ก็มองไปทาง
เขตอาคมกระบี่อีกครั้ง เสนไหมสีทองบางๆ แตเดิมที่หายวับไปพลันปรากฏขึ้นอีกครั้ง
แลวสับลงมาหาเขาอีกครั้ง
ภายใตความจนปญญา นางจึงทำไดเพียงพลิ้วไหวรางกายถอยออกไปจากที่เดิมอีกครั้ง
แตสายตากลับเต็มไปดวยแววตาอาฆาต
พฤกษาวิญญาณระดับเงินผูนี้รูสึกอยูลึกๆ วา ดูเหมือนวาครานี้ตนเองไมควรจะ
มาไลตามมนุษยผูบำเพ็ญเพียรผูนี้เลย
เหมือนกับคาดการณเอาไวไมผิด เวลาตอมา พฤกษาวิญญาณเรียกความสามารถ
ออกมาอีกสองสามชนิด แตทุกครั้งก็จะถูกเขตอาคมกระบี่ทำลายไป และถูกหานลี่ใช
สมบัติและกำปนคูนั้นโจมตีจนลาถอยไป
และในชวงเวลาที่ลาชานั้น เสนไหมกระบี่ที่หายวับไปก็ทยอยกันมาเหมือนเดิม
กระตุนอานุภาพของเขตอาคมกระบี่อีกครั้ง
จากร า งกายที ่ แ ข็ ง แกร ง และพลั ง มหาศาลของหานลี ่ ใ นตอนนั้ น ถึ ง แม ว า
เผ า พฤกษาวิ ญ ญาณจะมี ร  า งกายแข็ ง แกร ง แต ก ็ ไ ม อ าจสะบั ด หานลี ่ ใ ห ห ลุ ด
และพุงออกจากเขตอาคมกระบี่ได
แนนอนวาพฤกษาวิญญาณที่ไดรับบาดเจ็บหนักผูนี้ มีพลังเพียงแคครึ่งเดียวเทานั้น
มิ เ ช นนั ้ นหากพฤกษาวิ ญ ญาณผู น ี ้ย อมเสีย ปราณแท ที่ไ ด รั บ บาดเจ็ บ หนั กสำแดง
เคล็ดวิชาเฉพาะสักสองสามชนิด หานลี่ก็ไมอาจขัดขวางได
ทวาครานี้พลังเขตอาคมมหากระบี่ทองคำของหานลี่ ทำใหพฤกษาวิญญาณผูนี้
ติดแหง็กอยูในนี้จริงๆ
ครานี้กระบี่เสนไหมจำนวนนับไมถว นในเขตอาคมกระบี่ผสานเขาดวยกับ แววตาของ
พฤกษาวิ ญ ญาณผู  น ี ้ เ ปล ง ประกายสว า งวาบ เห็ น ได ช ั ด ว า รู  ว  า ตนเองตกอยู  ใ น
สถานการณที่แยแลวเชนกัน ฉับพลันนั้นพลันยืนอยูตรงกลางเขตอาคมกระบี่ไมขยับ
เขยื้อนอีก มีแคเกราะพฤกษาบนรางของเขาที่ยังคงมีลำแสงสีเงินไหลเวียนโคจรไปมา
ไมหยุด หนามแหลมๆ ทั้งหมดเปลงเสียงรองครวญต่ำๆ ออกมา และเริ่มสั่นเทาเบาๆ
หานลี่พลันตกตะลึง รางกายเปลงแสงสีเขียวออกมา กระตุนเขตอาคมกระบี่อยาง
รวดเร็วโดยไมตองคิด
และในตอนนั้นเองกลางพฤกษาวิญญาณที่อยูกลางเขตอาคมกระบี่พลันชูคอขึ้น
ปากเปลงเสียงรองแหลมๆ ออกมา เกราะสงครามบนรางของเขาสั่นเทา หนามสีเงิน
ดานบนกลายเปนลูกธนูจำนวนนับไมถวนพุงออกมา
ลำแสงสีเงินสวางวาบ พุงออกมาหนาแนน ราวกับไมมีที่สิ้นสุดอยางไรอยางนั้น
ครานี้กลางเขตอาคมกระบี่ทั้งหมดพลันมีเสียงแหวกอากาศดังขึ้น ทันใดนั้นเสียง
ระเบิดพลันดังขึ้นไมหยุด ลำแสงสีทองและเงินระเบิดออกจนกลืนกินทุกอยางไป
หานลี่มองเห็นฉากนั้นพลันสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง
และในขณะที่ยังไมจบนั้น พฤกษาวิญญาณที่พนหนามสีเงินออกมาไมหยุดนั้น
รางกายก็ขยายใหญขึ้น ผิวเปลี่ยนเปนสีเขียวมรกต ตนไมโบราณสูงประมาณสิบจั้ง
ตนหนึ่งปรากฏขึ้นที่แผนหลังของพฤกษาวิญญาณ กิ่งไมและใบไมงอกออกมาไมหยุด
แผขยายไปทั่วทั้งสี่ทิศ
ตอนที่ 1389 มนุษยตนไมรวมราง
ไมรูวาเงาลวงตาตนไมโบราณเหลานี้สรางขึ้นจากสิ่งใด กิ่งและใบที่ยื่นออกมาลวน
เปนสีเขียวออน หลังจากที่กระบี่เสนไหมสับลงไปแลวพลันมีลำแสงสีเขียวเปลงแสง
สวางวาบไมอาจทำอันตรายไดเลยสักนิด
เขตอาคมมหากระบี่ทองคำที่แตเดิมถูกหนามสีเงินเหลานั้นโจมตีไปทั่วทุกหนแหง
ครานี้ถูกเงาลวงตาตนไมยักษที่ขยายใหญขึ้นไมหยุดกวาดออกมาอยางไรซึ่ง ความ
หวาดกลัว ในที่สุดเสนไหมสีทองก็ไมอาจผนึกรวมตัวกันดังเดิมไดอีก
เขตอาคมนี้จึงถูกทำลายลงไดอยางงายดาย
หานลี่รูสึกจิตใจหนักอึ้ง แตไมรอใหไดสำแดงความสามารถอะไรอีก สิ่งที่เรียกวา
พฤกษาวิญญาณระดับเงินกลับเปลงเสียงหัวเราะอยางเย็นชาและเย็นยะเยือกออกมา
“ไมเลว เขตอาคมกระบี่ของเจาชางแปลกประหลาดนัก แตขาปลอย ตนไม
วิญญาณประจำกายออกมาแลว ขณะที่เปนมนุษยตนไมอยู ตอใหเจามีความสามารถ
ขนาดไหน วันนี้ก็มีเพียงแตตองตายเทานั้น”
เมื่อเอยจบ สองมือของมูรุยพลันรายอาคม รางกายกลายเปนเงาลวงตาสายหนึ่ง
ท า มกลางลำแสงสี เ ขี ย ว เปล ง แสงสว า งวาบแล ว จมหายเข า ไปในเงาลวงตา
ตนไมโบราณดานหลัง คาดไมถึงวาจะรวมรางกัน
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น
เห็นเพียงเงาลวงตาตนไมโบราณปลอยแรงกดที่นาตกตะลึงออกมา ภายใตลำแสง
วิญญาณที่โคจรอยู พลันกลายเปนมนุษยยักษสีเขียวสูงสิบจั้ง
มนุษยยักษผูนี้เหนือหัวไมเพียงจะมีตนไมงอกอยู แขนขาทั้งสี่ยังเปนสีเขียวขจี
ดูเหมือนมนุษยตนไมโบราณอยางไรอยางนั้น บนรลำตนของตนไมยักษ มีใบหนา
ขนาดใหญปรากฏขึ้น นั่นก็คือใบหนาของมูรุย
นี่จึงจะเปนหนาตาที่แทจริงของเผาพฤกษา รางของพฤกษาวิญญาณ!
และในตอนนั้นเองหนามสีเงินที่อยูกลางอากาศพลันหยุดพนออกมา เขตอาคมกระบี่
ทั้งเขตเหลือเพียงรางมนุษยยักษเพียงคนเดียว
หานลี่มองแลวพลันตกตะลึงจนตาคาง แตการเคลื่อนไหวในมือกลับไมลังเลเลยสักนิด
ภายใตการรายอาคมกระตุน เสนไหมสีทองในเขตอาคมที่แตเดิมสลายหายไปพลัน
ปรากฏขึ้นรอบๆ มนุษยยักษ และเปลงแสงสวางวาบพลางสับลงมาพรอมกัน
มนุษยยักษสีเขียวกลับนิ่งงันอยูที่เดิม แคมุมปากเผยรอยยิ้มเยาะออกมาขณะมอง
มายังหานลี่
เปลงเสียงกรีดรองแหลมๆ ราวกับทองคำเสียดสีออกมาระลอกหนึ่ง ทันใดนั้น
ลำแสงสี ท องและลำแสงสี เ ขี ย วพลั น เปล ง แสงสว า งวาบ กระบี ่ เ ส นไหมทั ้ ง หมด
ดีดกลับมา คาดไมถึงวาจะไมอาจทำรายมนุษยยักษสีเขียวไดเลยสักนิด
“หึ ๆ มนุ ษ ย ผ ู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ เทพแปลงจิ ๊ บ จ อ ยคนหนึ ่ ง คิ ด จะทำร า ย
ตนไมวิญญาณประจำกายของพวกเรา ชางเปนเรื่องที่เพอฝนเสียจริง ถึงแมวาการใช
รางของพฤกษาวิญญาณจะต องนอนหลั บลึ กไปอีกร อยป แตความแข็งแกร ง ของ
รางกายนั้น ตอใหเปนสิ่งที่เรียกวาสมบัติสะทานฟาของเผามนุษยอยางพวกเจาก็ไม
อาจทำรายขาไดเลยสักนิด เจายอมมอบชีวิตนอยๆ มาซะจะดีกวา” มนุษยยักษ
หัวเราะอยางเย็นชาออกมา สาวเทายาวๆ ไปกาวหนึ่ง คาดไมถึงวาทำเปนมองไมเห็น
เสนไหมกระบี่สี่สายเลยสั กนิด ชั่วครูก็ขามไปเจ็ ดแปดสิ บจั ้ง เมื่อกาวไปอี ก ก า ว
ก็แทบจะมาอยูหางจากหานลี่ไปแคคืบ
หานลี่หยักยิ้มที่มุมปาก แตพลันกระตุนจิตสัมผัสโดยไมปริปากใด วงแหวนลำแสงหาสี
ที่โคจรอยูรอบกายสั่นเทาแลวหายวับไป ครูตอมาวงแหวนยักษก็เปลงเสียงรองและ
ปรากฏขึ้นที่เอวของมนุษยยักษ
การเคลื่อนไหวของมนุษยยักษสีเขียวที่แตเดิมดูโหดเหี้ยมพลันอืดอาดลง ราวกับชาลง
ไปสิบเทาก็ไมปาน
หานลี่เห็นเชนนั้นพลันรูสึกดีใจ แลวชี้ไปทางจุดที่มนุษยยักษสีเขียวจะเหยียบลง
มาอยางรีบรอน
เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น วิหคเพลิงสีเงินตัวหนึ่งบินออกมาจากพื้นดิน หมุนวนรอบหนึ่ง
แลวอาปากออกพนลำแสงสีเงินสองสามลูกใสมนุษยยักษที่ถูกกักเอาไว ทันใดนั้น
ก็สยายปกออกโดยอัตโนมัติ กระโจนเขามาพรอมกับเปลวเพลิงสีเงินที่ลุกโชน
เสียงฟารอง “เปรี้ยงๆ” ดังขึ้น เมฆอัสนีสีเงินสองสามกลุมปรากฏขึ้นใตฝาเทา
ของมนุษยยักษ ทันใดนั้นก็มีเปลวเพลิงสีเงินที่ปริแตกปรากฏขึ้น ชั่วครูก็กลื นกิน
มนุษยยักษเขาไป
เสียงดังสนั่นขึ้น ชางนาตกตะลึงเปนอยางยิ่ง!
แตหานลี่ที่อยูไกลออกไปกลับหมุนวนรอบหนึ่ง รางกายเปลงลำแสงสีทองและ
เงินออกมาจากแขนเสื้อ เปลงแสงสวางวาบแลวไปอยูเหนือมนุษยยักษ
เมื่อหานลี่รายอาคมชั่วขณะนั้นชุดคลุมพลันแผลำแสงกระจายออกมา ในเวลาเดียวกัน
ก็ขยายใหญขึ้นสองสามเทา
หลังจากที่เสียงฟาผาดังสนั่นขึ้น ลูกบอลอัสนีขนาดเทากำปนสีทองและเงินสองสี
ก็รอนลงมาดานลางราวกับหาฝน
ภายใตการโจมตีที่กระชั้นนี้จุดที่มนุษยยักษสีเขียวอยูพลันกลายเปนทะเลอัสนี
ประจุ ไ ฟฟ า สี ท องเงิ นเปล ง แสงสว า งวาบแล ว มี เ สี ย งระเบิ ด ดั ง ขึ ้ น อย า งต อเนื ่อง
เปลวเพลิงสีเงินเปนลูกๆ กอตัวกันจนกลายเปนลูกไฟตอเนื่องเปนทางยาว
หานลี่ไมมีทางจะหยุดพัก ปากรองตะโกนออกมา เขตอาคมมหากระบี่ทองคำทั้งเขต
หายวับไป กระบี่ลำแสงสีทองสองสามรอยสายปรากฏขึ้นทั่วทุกสารทิศ
สองมือของหานลี่รายอาคมอยางไมลังเลเลยสักนิด พลันรายอาคมกระตุนอยูในใจ
ชั่วขณะนั้นกระบี่ลำแสงทั้งหมดพลันเปลงเสียงรองหึ่งๆ ออกมา จากนั้นพลัน
สั่นคลอนพุงไปที่ตรงกลางทยอยกันจนหายเขาไปในเปลวเพลิงอัสนี
เสียงระเบิดดังขึ้นอยางตอเนื่อง เสียงแหวกอากาศดังขึ้นในเวลาเดียวกัน
หานลี่ถึงไดพลิ้วไหวกายพุงออกไปสิบจั้งเศษ แลวถึงไดหยุดถลันไปพลางมองดู
ดวยความเย็นชา
เขามั่นใจวาตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาขั้นปลาย แตโดนชุดคลุมอัสนี
ไขมุกอัสนี เปลวเพลิงกลืนวิญญาณและกระบี่บินทั้งหมดโจมตีพรอมกัน ก็ไมอาจรับได
สวนผูบำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรียนั้น มีเพียงสวรรคเทานั้นที่รู
หลังจากผานไปสองสามชั่วลมหายใจ ในที่สุดลำแสงเมฆอัสนีก็หมนแสงลงแลว
สลายหายไป รางของมนุษยยักษเผยออกมาอีกครั้ง ราวกับวายืนอยูที่เดิมไม ขยับ
เขยื้อนเลยแมแตกาวเดียว
เมื่อเห็นสถานการณของมนุษยยักษในครานี้ชัดเจน หัวใจของหานลี่ก็รวงลงไปที่ตาตุม
รางของมนุษ ย ยั กษ เ ปล ง ประกายระยิ บระยั บ กลายเปนเหมื อนรู ปแกะสลั ก
สีเขียวมรกตก็ไมปาน สิ่งที่นาเหลือเชื่อยิ่งกวาเดิมก็คือ ผิวของมนุษยยักษเรียบลื่น
เปนพิเศษ คาดไมถึงวาจะไมมีบาดแผลเลยสักรอย การโจมตีที่นาตกตะลึงเมื ่ อครู
ก็ไมอาจทำรายมันไดเลยสักนิด
สวนมือยักษทั้งสองของมนุษยยักษนั้น ไมรูวาจับวงแหวนยักษที่เอวเอาไวตั้งแต
เมื่อไหร นิ้วทั้งสิบออกแรง เสียง “ปง” ดังขึ้น วงแหวนหาสีสลายออกทามกลาง
แรงมหาศาล
เมื่อหลุดจากพันธนาการ มนุษยยักษก็เงยหนาหัวเราะเสียงดัง ยกเทาขางหนึ่งขึ้น
ออกแรงกระทืบไปบนพื้น ลำแสงสีเขียววงหนึ่งแผออกมา ชั่วขณะนั้นเปลวเพลิงสีเงิน
ที ่ ล ุ ก โชนด า นล า งพลั น ถู ก ม ว นเข า ไปข า งใน ลำแสงสี เ ขี ย วเปล ง แสงสว า งวาบ
วิ ห คเพลิ งสีเงินนึ ก รวมตัว กั นก อตั ว ขึ ้ นอี ก ครั้ ง แต ก ลั บ ถู กลำแสงวิญ ญาณลึกลับ
กักเอาไว
เพลิงกลืนวิญญาณที่ดูเหมือนวาจะกลืนกินพลังวิญญาณตางๆ ได คาดไมถึงวาจะ
ไมอาจทำอะไรลำแสงสีเขียวไดเลยสักนิด
สวนกระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆาสีทองทั้งเจ็ดสิบสองเลมนั้น มนุษยยักษสีเขียวกลับ
ไมสนใจเลยสักนิด กระบี่บินทั้งหมดสับลงบนรางของเขา ก็เปลงแสงสีเขียวสวางวาบ
แลวดีดกลับมาโดยอัตโนมัติ
มีกระบี่บินสิบกวาเลมที่สับลงไปสองสามครั้งแลวลำแสงวิญญาณพลันลดลง
เปลงเสียงรองคร่ำครวญออกมา นั่นก็คือกระบี่ผลึกโลหิตมหาภารตะที่ระเบิดตัวเอง
และถูกกำจัดพลังวิญญาณไปไมนอยเหลานั้น
เดิมทีกระบี่บินเหลานี้ก็ไดรับความเสียหายอยูแลว แคถูกหานลี่ฝนกระตุนวางเขต
อาคมกระบี่ ครานี้ถูกพฤกษาวิญญาณที่กลายเปนมนุษยยักษดีดกลับมาอีก จึง
ตานทานไมไหวแลวจริงๆ
หานลี่ยื่นมือกวักออกไปดวยหนาที่เปลี่ยนสี กระบี่บินทั้งหมดเปลงเสียงรอง
คำรามแลวบินกลับมา ระหวางทางก็หดเล็กลงสองสามเทา ทยอยกันจมหายเขาไปใน
แขนเสื้อของเขา
“ตอนนี้รางของขาเปนรางวัชระไรเทียมทาน ตอใหพลังยุทธสูงกวาขาก็ไมอาจ
ทำอะไรขาไดในครานี้ มีฝมืออะไร ก็สำแดงออกมาเถิด ขอแคทำรายขาไดแมเพียงนิด
ขาก็จะปลอยเจาไปสักครั้งไดอยูแลว?” มนุษยยักษเอาสองมือกอดอก ปากเปลงเสียง
หัวเราะบาดหูออกมา ใบหนาเต็มไปดวยความเยอหยิ่ง
หลังจากที่พฤกษาวิญญาณระดับเงินผูนี้เปลี่ยนรางเปนมนุษยยักษ ใบหนาที่แตเดิม
แข็งทื่อ แสดงความสามารถที่นาตกตะลึงสุดๆ ออกมา การโจมตีทั้งหมดของหานลี่
ลวนไมมีผลเลยสักนิด
หานลี่เองก็มีสีหนาตื่นตะลึง
นี ่ ถ ึ ง ได ร ู  ค วามแตกต า งกั น อั น มหาศาลของพฤกษาวิ ญ ญาณระดั บ เงิ นและ
ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
เขาที่ฝกฝนเคล็ดวิชามารพราหมณศักดิ์สิทธิ์เที่ยงแทและคาถารอยชีพจร แนนอน
วายอมรูวาความสามารถของตนเองไมอาจเทียบเทียมไดงายๆ แตความคิดที่วาตนเอง
จะตอกรกับผูที่อยูตรงหนาไดหรือไมนั่น เขาก็ไมมั่นใจสักเทาไหร
ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงนั่นไมใชคูตอสูของเขาเปนแน สวนผูบำเพ็ญเพียร
ระดับหลอมสุญตานั้น ในเมืองเทวะสวรรคกลับไมมีโอกาสไดประมือ
แตการเดินทางครั้งนี้หลังจากที่หานลี่ไดเห็นการตอสูระดับหลอมสุญตาของเยี่ยฉู
และผูบำเพ็ญเพียรตระกูลหลงแลว ก็มั่นใจวาความสามารถของตนเองไมเปนรอง
ราวกับวาไมดอยไปกวาพวกเขา แมกระทั่งหากประจวบเหมาะการจะถูกเคล็ดวิชา
ของตัวเองควบคุมเอาไว พลิกจากแพเปนชนะได
หากรูเชนนี้ละก็ ตอนที่พบกับเงาชาดของเผาเงาในตอนนั้น เขาก็คงไมจำเปนตอง
ใชแมลงกลืนทอง ก็ดูเหมือนวาจะอาศัยรางกายที่แข็งแกรงตอสูได
ครั้งนี้เผชิญหนากับศัตรูที่ยิ่งใหญ และรูตัววาไมอาจสลัดออกจากจิตสัมผัส ของ
พฤกษาวิญญาณได จึงจำใจตองอาศัยความดานเปรียบดานภูมิศาสตรชิงวางเขตอาคม
มหากระบี่ทองคำเอาไวกอน เพื่อเตรียมตอสูอยางสุดชีวิต
มิเชนนั้นเขาคงมีปญหาทางสมอง ถึงไดปะทะกับสิ่งพิเศษระดับนี้
แตเขากลับคิดไมถึงวาพฤกษาวิญญาณระดับเงินที่รางกายไดรับบาดเจ็บหนักจะ
รายกาจกวาที่เขาคิดเอาไว
หลังจากที่สำแดงความสามารถเบื้องหนาแลว คาดไมถึงวาเคล็ดวิชาลับหรือ
สมบัติอะไรก็ไมอาจทำรายได ความเร็ว กำลัง ก็อยูในจุดที่นากลัวมากเชนกัน
ความสามารถชนิดนี้จะอัศจรรยเกินไปหนอยกระมัง! คงมีเพียงวิธีเดียวที่ตองลอง
ทดสอบแลว หากไรผลเชนกันละก็ เขาก็คงทำไดเพียงใชเงาอสนีหลีกหนีเปนระยะๆ
เพื่อดูวาจะระหวางทางจะมีวิธีชวยชีวิตตัวเองหรือไม
ถึงอยางไรเสียเขาก็ไมมีทางยินยอมรอความตายอยูแลว
ความคิดตางๆ ของหานลี่โคจรอยางรวดเร็ว สีหนาตางๆ คอยๆ เลือนหายไปจาก
ใบหนา สายตาเครงขรึมขึ้นอีกครั้ง
เขาไมไดกลาวอะไรมาก ปกวายุอสนีที่แผนหลังกระพือ กะพริบวาบสองสามครั้ง
ชั่วขณะนั้ นป กทั ้ งสองพลั นมี ประจุ ไฟฟ าสี เ ขีย วและขาวเปล งประกาย ทันใดนั้ น
ลูกบอลอัสนีสีเขียวขาวขนาดเทากำปนพลันปรากฏขึ้นอยางหนาแนน ลูกบอลอสนี
เหลานี้เปลงแสงระยิบระยับ เสียงดังเปรี๊ยะๆ
และในตอนนั้นเอง หานลี่พลันใชมือทั้งสองรายอาคมดวยความเครงขรึม
ลำแสงสีเขียวเปลงประกายทั้งสองดาน ฉับพลันนั้นพลันมีเงาสีเขียวที่เหมือนกัน
ทุกระเบียบนิ้วสี่สายปรากฏขึ้น มีปกอยูที่แผนหลัง สองมือพลันรายอาคม
“นาสนใจนัก!” มนุษยยักษสีเขียวเห็นเชนนั้นกลับหัวเราะหึๆ ออกมา สีหนาไมใสใจ
เงาสีเขียวหาสายมีสีหนาเครงขรึม รางกายพลิ้วไหว กลายเปนเสนไหมสีขาว
หาสายพุงออกไป แตระหวางทางกลับพลิ้วไหว เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไปใน
เวลาเดียวกัน
พฤกษาวิญญาณที่กลายเปนมนุษยยักษเปลงเสียงหัวเราะออกมายกใหญ มือหนึ่ง
ปรบไปทางจุดที่ไกลออกไปสองสามจั้ง
เสียง “ตูมๆ” ดังขึ้น ชั่วขณะนั้นบรรยากาศบริเวณรอบราวกับบิดเบี้ยวและ
ระเบิดออก ทันใดนั้นพลันมีรอยแยกสีขาวยาวๆ สิบกวาสายปรากฏขึ้น
เงาสีเขียวสองสามสายพลันเปลงแสงสวางวาบปรากฏขึ้นอยางโซซัดโซเซดานใน
มือยักษแคตะปบออกไป พลังมหาศาลที่ไรรูปรางพลันกวาดออกไป เงาสีเขียว
สองสามสายหายวับไปจากกลางอากาศ
ตอนที่ 1390 เปนอิสระ
เห็นไดชัดวาสิ่งเหลานี้ลวนเปนเงาลวงตาที่หานลี่สำแดงขึ้นเทานั้น
ในเวลาเดียวกันเหนือหัวของมนุษยยักษพลันมีลำแสงสีดำสวางวาบ เงาสีเขียวอีก
สายหนึ ่ ง เปล ง แสงสว า งวาบพลั นปรากฏขึ ้ น แล ว กระโจนลงมาที ่ ด  า นล า งอย าง
เงียบเชียบ
แตพฤกษาวิญญาณที่กลายเปนมนุษยยักษกลับดูเหมือนวาจะคาดคิดเอาไวตั้ง
นานแลว ฉับพลันนั้นพลันชูคอขึ้น พนเสาลำแสงสีเขียวมรกตสายหนึ่งออกมา
เสาลำแสงนี้มีขนาดเทากับถังเก็บน้ำอยางไรอยางนั้น และยิ่งไปกวานั้นยังรวดเร็ว
อยางหาที่เปรียบ ผลคือเงาสีเขียวสายนั้นไมทันไดหลบหลีก ก็ถูกโจมตีเขาเต็มๆ
ชั่วขณะนั้นเสียงรองอันนาอนาถพลันดังขึ้น เงาสีเขียวถูกโจมตีจนกระเด็นออกไป
มนุษยยักษเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา
ในตอนนั้นเองดานหลังของเขาหางออกไปแคคืบพลันมีลำแสงสีมวงเปลง แสง
สวางจา เงารางคนอีกสายหนึ่งปรากฏขึ้นอยางนาเหลือเชื่อ สะบัดแขนเสื้อ ชั่ว
ขณะนั้นลำแสงสีทองสองสามรอยสายพลันพุงออกมา
เงาสีเขียวนั่นก็คือหานลี่
ระยะประชิดเชนนี้ถึงแมวามนุษยยักษจะสัมผัสไดถึง’เงาสีเขียว แตก็ไมทันได
ปองกันเลยสักนิด
ไดยินเพียงเสียง “แปะๆ” ราวกับฝนกระทบรั้ว ลำแสงสีทองเหลานั้นลวนถูก
โจมตีไปอยูดานหลังของมนุษยยักษ
ภายใตความตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวของมนุษยยักษ เสียงคำรามต่ำๆ พลันดังขึ้น
มือยักษสีเขียวอีกขางหนึ่งปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของหานลี่ ตะปบลงมาอยางรุนแรง
หานลี่เองก็ไมไดรีบรอน ปกที่แผนหลังสยายออก เปลงแสงสวางวาบแลวจมหาย
เขาไปกลางอากาศ
แตมนุษยยักษกลับแคนเสียงอยางเย็นชา สองนิ้วที่ตะปบลงมือพลันรายคาถา
ชั่วขณะนั้นเล็บสองทอนพลันสั่นเทาแลวพุงออกไป ทันใดนั้นก็เปลงแสงสวางวาบแลว
หายวับไป
ครูตอมาลำแสงสีเขียวสองสายก็ทะลุผานปกที่แผนหลังของหานลี่ไปอยางรวดเร็ว
เสียงอัสนีที่เพิ่งดังขึ้นพลันหยุดลง
ในที่สุดหานลี ่ ก็ มีส ี ห นา ตกตะลึ ง ตอนที่กำลัง คิด จะเคลื ่ อนไหวบิ น หนี ไ ปนั้ น
กลับสายไปเสียแลว
มือยักษที่อยูกลางอากาศเปลงแสงสวางวาบ เขารูสึกเพียงวาอากาศรอบดานแข็งคาง
กลายเปนเหล็กกลาไรสนิมก็ไมปาน จากพลังมหาศาลของเขา หลังจากที่ลาชาไมได
ดั่งใจแลว ถึงไดฝนหนีออกมาได
แตชวงเวลาที่ลาชาไป มือยักษสีเขียวพลันตะปบไปที่เอวของเขาแนน
คาดไมถึงวาพลังของมนุษยยักษสีเขียวจะไมดอยไปกวาเขา
ทันใดนั้นมนุษยยักษสีเขียวก็ฉีกยิ้มโหดเหี้ยม แววตาเผยความโหดเหี้ยมทารุณ
ออกมา
มันออกแรงที่นิ้วทั้งหา มือยักษที่มีลำแสงสีเขียวไหลโคจรอยูตองการจะบีบหานลี่
ใหกลายเปนชิ้นเนื้อ
หานลี่หนาเปลี่ยนสี ปากพลันบริกรรมคาถาออกมา ลำแสงสีเขียวบนรางไหล
โคจรไปมาไมหยุด รางกายที่อยูทามกลางนิ้วทั้งหาเปลงแสงสวางวาบ รางทั้งราวถูก
บีบราวกับกระดาษ กลายเปนลำแสงจุดเล็กๆ
ลำแสงวิญญาณเหลานี้ผนึกคางอยูกลางอากาศใกลๆ กลายเปนยันตสีเขียวแผนหนึ่ง
มวนพุงไปยังจุดที่ไกลออกไป
มนุษยยักษมีสีหนาแข็งคาง เผยสีหนาคาดไมถึงออกมา
ห า งออกไปยี ่ ส ิ บ สามสิ บ จั ้ ง ระลอกคลื ่ น ก อตั ว ขึ ้ น หานลี่ เ ปล ง แสงสว า งวาบ
พลางปรากฏขึ ้นกลางอากาศ สี ห น า ซี ด ขาวไปเล็ก น อย แต ภ ายใต การกวั กเรียก
ก็เก็บยันตสีเขียวเขามาอยูในมือ
ในวิกฤตอันตรายเมื่อครู คาดไมถึงวาเขาจะสำแดงความสามารถเคราะหแทนตน
ของยันตแปลงวิญญาณ ใชยันตสงตัวเองออกมาอยูที่นี่ในชั่วพริบตา
หลังจากผานการบมเพาะมาหลายป ความสามารถของยันตแปลวิญญาณจึง
เหนือกวาในอดีตเปนอยางมาก
ในตอนนั ้ นเอง เงาร า งคนที ่ ถู ก มนุษ ย ย ั ก ษ พ น เสาลำแสงไปพลั น เคลื ่ อ นไหว
รางกายตกลงใกลๆ กับหานลี่อยางจนตรอก
เสื้อผาอาภรณของเขาเลอะเทอะเปรอะเปอน สีหนาซีดขาวเปนพิเศษ แตกลับ
หันหนาไป ยิ้มใหกับมนุษยยักษที่อยูอีกดาน
คาดไมถึงวาจะเปน ‘หานลี่’ อีกคนหนึ่ง
มนุษยยักษกะพริบตา อดที่จะเผยสีหนาตกตะลึงระคนสงสัยออกมาไมได
แตทันใดนั้นหานลี่ที่ปรากฏตัวขึ้นดานหลัง ก็เปลงแสงสีดำสวางวาบ จากนั้น
รางกายก็หดเล็กลง กลายเปนวานรนอยสีดำเปนประกายสูงครึ่งฉื่อ
คาดไมถึงวาจะเปนอสูรวิญญาณครวญ!
การโจมตี เ มื ่ อครู  ข องหานลี ่ เขาปล อยอสู ร ตนนี ้ ออกมาอย า งไม ม ี ผ ู  ใ ดล ว งรู
และสรางภาพลวงตาของตนเองออกมา ทำการโจมตีขึ้นพรอมกัน
คราที่พฤกษาวิญญาณระดับเงินไมรูจัก คาดไมถึงวาจะถูกดึงดูดความสนใจไป
สวนหานลี่กลับใชยันตชำระพิสุทธิ์หนีออกมาโดยมีอสูรวิญญาณครวญเปนผูคุม ครอง
ไดอยางสมความตั้งใจ
มิเชนนั้นจากจิตสัมผัสที่แข็งแกรงของอีกฝาย หานลี่ก็คงไมมีโอกาสเขาใกล
มนุษยยักษไดมากถึงเพียงนี้
มนุษยยักษสีเขียวรูสึกวามีอะไรผิดปกติ เมื่อนึกถึงลำแสงสีทองที่พุงออกมาจาก
แขนเสื้อของหานลี่ สีหนาก็เครงขรึมพลางตะปบไปที่แผนหลัง
หลังจากที่มนุษยและตนไมรวมรางกันแลว รางของพฤกษาวิญญาณก็แข็งแกรง
แตความรูสึกของกายเนื้อกลับเชื่องชาเปนอยางมาก แตเดิมมันไมเชื่อวาอีกฝายจะ
วิธีการทำใหตนเองไดรับบาดเจ็บไดจริงๆ
ผลคือหลังจากที่มือใหญตะปบผานไป เมื่อมองไปเบื้องหนาพลันมีแมลงเกราะสีทอง
ขนาดสองสามฉื่อสองสามตัวปรากฏขึ้น ไตอยูบนฝามือของเขา
“นี่คืออะไร?”
มนุษยยักษสีเขียวมีสีหนาตกตะลึง ทันใดนั้นก็กำนิ้วทั้งหา แลวคลายออกอีกครั้ง
แมลงสีทองสองสามตัวกลับยังคงปลอดภัย
มันหนาเปลี่ยนสีไปยกใหญ
หานลี ่ ท ี ่ อ ยู  ไ กลออกไปเห็ น เช น นั ้ น กลั บ มี ส ี ห น า โหดเหี ้ ย มฉายแวบผ า น
กระตุนความคิดไปที่เจาสิ่งนั้น
ชั่วขณะนั้นแผนหลังของมนุษยยักษพลันเปลงแสงสีทองสวางวาบ แมลงเกราะยักษ
ขนาดครึ ่ ง ฉื่ อปรากฏขึ ้นตัว แล ว ตั ว เลา ชั ่ ว ครู ก ็ไ ตอยู เ ต็ม ครึ่ ง ตั ว ของมนุ ษยยักษ
แลวกัดกินอยางโหดเหี้ยมพรอมกัน
หานลี่ดูเหมือนจะมีสีหนาไรความรูสึก หัวใจบีบคั้น
ถึงแมวาแมลงกลืนทองจะไดรับขนานนามวาไมมีสิ่งใดที่ไมกลืนกิน แตในคัมภีร
ของแดนมนุ ษ ย แมลงวิ ญ ญาณชนิ ด นี ้ ก ลั บ ไม ถ ู ก กั บ สมบั ต ิ ป ระเภทหยกพฤกษา
และความสามารถในการรวมรางมนุษยและตนไมของเผาพฤกษาวิญญาณเบื้องหนา
ก็ชางแปลกประหลาดจริงๆ ถึงแมวารางกายของอีกฝายจะดูเหมือนตนไมใหญ แตใช
สมบัติประเภท ‘ไม’ หรือไม หานลี่ก็ไมอาจตัดสินได จึงทำไดเพียงลองพนันดูแลว
ผลคื อครู  ต  อมา ปากของมนุ ษ ย ย ั ก ษ พลั น เปล ง เสี ยงร องอั น เจ็บ ปวดออกมา
มือยักษทั้งสองปรบไปทางดานหลังอยางสุดชีวิต แผนหลังของเขามีแมลงเกราะสีทอง
ขนาดยักษก ำลั ง กลื นกิ นเขาไม หยุ ด รางกายแวววาวที่ แต เดิ มดูแ ข็ง แกรง ไม อาจ
ทำลายได ถูกฉีกออกเปนชิ้นๆ อยางไรเรี่ยวแรงในปากของแมลงยักษ
แมลงยั ก ษ ส องสามร อยตัว กั ด กิ น พร อมกั น ถึ ง แม ว  า มนุ ษ ย ย ั ก ษ สี เ ขี ย วจะมี
ความรูสึกเชื่องชา แตก็สัมผัสไดถึงความเจ็บปวดจากการถูกฉีกทึ้ง
หานลี ่ ร ู  ส ึ ก ดี อกดี ใ จ หลั ง จากสะบั ด แขนเสื ้ อเก็ บ อสู ร วิ ญ ญาณครวญไปแล ว
รอบกายก็เปลงแสงสีเขียวสวางวาบ กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงแหวกอากาศ
ออกไป
ถึงแมวาแมลงกลืนทองจะตอกรกับอีกฝายได แตเจาของแมลงวิญญาณอยางเขา
ก็ไมอาจตอสูกับอีกฝายได แนนอนวาควรจะหนีออกไปใหไกลจะดีกวา
“แมลงกลืนทอง แมลงกลืนทองโตเต็มวัย คาดไมถึงวาเจาจะมีแมลงปศาจชนิดนี้!”
มนุษยยักษที่อยูไกลออกไปคำรามออกมาดวยความโกรธเกรี้ยว ดูเหมือนวาจะพบกับ
ฝนรายที่ทำใหเขาหวาดกลัวที่สุดแลว
ทันใดนั้นเสียงระเบิดพลันดังขึ้นไมหยุด ชั่วพริบตาลำแสงสีเขียวเปนสายๆ ก็สวางวาบ
ขึ้นทั่วทองฟาหานลี่เองก็หนีออกไปโดยไมแมแตจะหันหัวกลับมา ชั่วพริบตาก็มาอยูที่
ขอบฟา ลำแสงหลีกหนีเปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง แลวหายวับไปอยางไรรองรอย
ครูตอมาตรงจุดที่ตอสูกันนั้นพลันมีลูกบอลลำแสงยักษพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา
แล ว หนี ไ ปที ่ ข อบฟ า อี ก ด า นเช นกั น ในลำแสงสี เ ขี ย วมี เ งาร า งยั ก ษ ที ่ ไ ม สมบูรณ
ปรากฏอยู
ดานหลังมีเมฆแมลงสีทองกลุมหนึ่งไลตามไปอยางไมลดละ
ทั้งสองไลตามกันไปติดๆ ดูจากทิศทางที่บินไปแลว กลับอยูตรงขามกับหานลี่
อยางพอดิบพอดี
แตไมนานนัก เมฆแมลงสีทองก็เปลงเสียงหึ่งๆ พลางบินกลับมาอีกครั้ง ไมเพียง
รางกายจะหดเล็กลงจนมีขนาดแคสองสามชุน ยิ่งไปกวานั้นฝูงแมลงที่วุนวายกลับ
แยกตัวออกจากกัน
โชคดีที่ความเร็วของแมลงกลืนทองเหลานี้ยังคงไมลดระดับลง เปลงเสียงกรีดรอง
แลวขามผานทองฟาในบริเวณนั้นไปราวกับสายฟา
ภายใตกองหินระเกะระกะหางออกไปพันลี้ หานลี่นั่งสมาธิอยูบนพื้นดวยสีหนาซีดขาว
กำลังขับเคลื่อนฝูงแมลงใหบินมาทางเขาอยางสุดชีวิต
เขาในตอนนี้สูญเสียจิตสัมผัสไปไมนอย
เมื่อหานลี่เห็นฝูงแมลงสีทองรอนลงมาดานลางอยางรวดเร็ว ในที่สุดก็ไมอาจ
ระงับรางกายที่สั่นเทาเอาไวไดอีกพลางฟุบลงกับพื้น ในเวลาเดียวกันสองแขนก็
กอดอกเปลงเสียงผิวปากออกมา น้ำเสียงเจ็บปวดเปนอยางมาก ราวกับวาเจ็บปวดจน
ไมตางอะไรกับการตองจบชีวิตลง
หลังจากผานครึ่งเคอเต็มๆ เขาถึงไดหยุดผิวปาก แลวนั่งสมาธิอีกครั้ง
การควบคุมฝูงแมลงในครั้งนี้ชางอันตรายนัก เกือบจะดูดจิตสัมผัสของเขาไปจนหมด
แตตอใหเป นเชนนั ้น เขาทำใหจิตสัมผัสที่ เขาเก็ บ กลั บมาไดรั บความเสีย หายไป
เล็กนอย
ดูแลวเพื่อความปลอดภัย วันขางหนาหามใหแมลงวิญญาณไลตามศัตรูไปไกลนัก
แตจะวาไปแลว หากไมควบคุมแมลงกลืนทองเหลานี้ไลตามพฤกษาวิญญาณระดับสูง
ที่หนีไปสักระยะหนึ่ง เกรงวาอีกฝายคงจะพบความผิดปกติของเขา แลวไมยอมผละไป
งายๆ แน
แตครานี้พฤกษาวิ ญ ญาณเสีย เปรีย บแมลงกลื นทองไปไม น อย ประกอบการ
บาดเจ็บหนักกอนหนา ตอใหอีกฝายอาจหาญขนาดไหน ก็ไมกลาเปนฝายลงมือกับเขา
กอนถึงจะถูก
หานลี่ลูบไปที่แหวนอสูรวิญญาณที่ใชบรรจุแมลงกลืนทองในแขนเสื้อ พนลมหายใจ
ยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่งขณะขบคิด
ในปาลึกหางออกไปสองสามหมื่นลี้ มูรุยที่กลายเปนมนุษยยักษสีเขียวกำลังนั่ งอยู
ใตตนไมใหญตนหนึ่งเชนกัน แขนของเขาขางหนึ่งและรางกายครึ่งหนึ่งหายไป แตครู
ตอมากลับมีลำแสงสีเขียวจำนวนนับไมถวนบินออกมาจากตนไมใกลๆ แลวทะลักเขา
ไปในรางของเขา
สวนที่ขาดหายไปของมนุษยยักษพลันสมานเขาดวยกันอยางรวดเร็วทันตาเห็น
เวลาหนึ่งกาน้ำชา ลำแสงที่บินออกมาจากตนไมรอบๆ ก็สลายหายไป รางของ
มนุษยยักษฟนฟูกลับมาเปนดังเดิม แตแคเมื่อเขาลืมตาขึ้น สายตากลับหมนแสงลงไป
อยางหาที่เปรียบ
สองมือพลันรายอาคม ฉับพลันนั้นรางกายใหญยักษก็มีเงาลวงตาสายหนึ่งพุงออกมา
พลิ้วไหวเล็กนอย แลวผนึกรวมตัวกันกลายเปนพฤกษาวิญญาณผิวสีเขียวที่มีหนาตา
ซีดขาว
เมื ่ อลำแสงวิ ญ ญาณบนร า งของมนุ ษ ย ย ั ก ษ เ ปล ง แสงสว า งวาบ ก็ ก ลายเป น
ตนไมโบราณตนหนึ่งแลวหายวับไปอีกครั้ง
เมื่อพฤกษาวิญญาณกลับคืนรางเดิม แววตาก็เปลงประกายขณะมองไปยังจุดที่
หานลี่อยูสองแวบ
“คิดไมถึงวาคนผูนี้จะมีแมลงกลืนทอง และยิ่งไปกวานั้นยังมีมากกวาสองสามรอยตัว
ชางรับมือยากเสียจริง หากขาเตรียมพรอมสมบูรณละก็ ก็อาจจะลองเสี่ยงสัง หาร
อีกฝายดู ใหแมลงฝูงนั้นไรซึ่งการควบคุม แตตอนนี้ตัวเองก็บาดเจ็บหนักถึงสองครั้ง
ทำใหตนไมวิญญาณประจำกายไดรับบาดเจ็บ หากปะทะกับฝูงแมลงของอีกฝายอีก
ละก็ เกรงวาจะเพลี่ยงพล้ำไปจริงๆ ดูแลวคงทำไดเพียงผละมือ ปลอยอีกฝายไป” มูรุย
มีสีหนาบัดเดี๋ยวเครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใสอยูชั่วครู แลวถึงไดสั่นศีรษะขณะตัดสินใจ
ฉับพลันนั้นเขาพลันกลายเปนลำแสงสีเงินพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา พุงตรงไปยัง
ปาใบดำ
ไมนานนัก หลังจากหานลี่ที่อยูอีกฝายฟนฟูจิตสัมผัสกลับมาเล็กนอยแลว ก็ไมกลา
รั้งรออยูที่นี่นานนักเชนกัน จึงฝนความเจ็บปวดในหัว กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่ง
พุงแหวกอากาศออกไป
จุกที่เขาไป นั่นก็คือ เสนทางสวรรค!
สองเดือนตอมา ลำแสงหลีกหนีของหานลี่พลันปรากฏเหนือปารกราง หาภูเขารกราง
มาลูกหนึ่ง ลำแสงสีเหลืองเปลงประกายพลางพุงเขาไป
เขาสรางหองลับขนาดสิบจั้งเศษขึ้นมาบนเขาอยางงายๆ หลังจากเก็บกวาดเล็กนอย
ก็กินยาลูกกลอนลงไปสองสามเม็ดอยางไมสนใจสิ่งใดอีก ทันใดนั้นก็หลับตานั่งสมาธิ
ฟนฟูพลัง
หนึ่งเดือนตอมา เมื่อหานลี่ลืมตาขึ้นอีกครั้ง แววตาก็กลับมาเปลงประกายอีกครั้ง
สีหนามีชีวิตชีวาดังเดิม
ตอนที่ 1391 หลอมวายุอสนีครั้งที่สาม
หานลี่ไมไดหยัดกายลุกขึ้นในทันที แตขบคิดอยูภายในหองลับ
หลังจากผานไปไมรูวานานเทาไหร เขาถึงสะบัดแขนเสื้อ วงแหวนกลมๆ สีเขียว
วงหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ
นั่นก็คือ กำไลเก็บของของเสี่ยวหงแหงเผาหงสทมิฬ
วันนั้นถึงแมวาเขาจะไมไดใชภูเขาเทวะดูดปราณทับสตรีผูนั้นใหถึงตาย แตกลับเอา
กำไลเก็บของของนางมาอยางไมเกรงใจ ก็นับวาเขาปรานีซื้อชีวิตเอาไวแลว
ในฐานะปศาจผูบำเพ็ญเพียรสายตรงของเผาหงสทมิฬ หานลี่รูสึกสนใจของที่อยู
ในกำไลเก็บของวงนี้อยูหลายสวน
จิตสัมผัสกวาดเขาไปดานในไดไมนาน หานลี่ก็เผยสีหนายินดีออกมา
ดานในมีสมบัติล้ำคาอยูไมนอย!
ไมตองพูดถึงสิ่งอื่น แควัตถุดิบอสูรปศาจที่กินพื้นที่เกือบครึ่งของกำไลเก็บของ
ก็เปนสิ่งที่หาไดยากในยานรานคาแลว ฐานะหนึ่งในเจ็ดเผาปศาจที่ยิ่งใหญ วัตถุดิบที่
รวบรวมมาได เ หล า นี ้ แน นอนว า หาได ส บายกว า เผ า มนุ ษ ย ห ลายเท า อี ก อย า ง
มุมหนึ่งของกำไลเก็บของมีศิลาวิญญาณระดับสุดยอดเปลงแสงหลากสีสันออกมาอยู
เจ็ดแปดกอน ชางเปนเรื่องนายินดีที่คาดไมถึงจริงๆ
ถึงแมจะบอกวาในแดนวิญญาณ ศิลาวิญญาณระดับสุดยอดจะไมไดหายากเทา
แดนมนุ ษ ย แต ก ็ ไ ม ใ ช ส ิ ่ ง ที ่ จ ะหามาได อย า งง า ยๆ ศิ ล าวิ ญ ญาณระดั บ สุ ด ยอดนี้
ลวนเปนสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงทุกคนเกลียดที่มีนอยแตไมเกลียดที่มีมากแน
โดยเฉพาะผลึกศิลาสีขาวนวลเม็ดหนึ่ง คาดไมถึงวาจะเปนศิลาวิญญาณธาตุวายุที่
หาไดยาก นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกดีใจอยางบาคลั่ง
ตั้งแตที่เขาเขามาในเมืองเทวะสวรรค ก็อยากไดศิลาวิญญาณธาตุวายุสักกอนมา
โดยตลอด แตก็ไมเคยไดมา
นอกจากของเหลานี้แลว ในกำไลเก็บของก็มียุทธภัณฑและสมบัติโบราณอยู
สองสามชิ้น หานลี่กลับไมสนใจ ของเหลานี้แคอานุภาพก็ไมอาจเทียบเคียงกับภูเขา
เทวะดูดปราณและสมบัติสะทานฟาของเขาแลว
เกรงวาแมแตเสี่ยวหงเองก็ไมสนใจของเหลานี้ มิเชนนั้นการตอสูกอนหนาคงเอา
ออกมาตอสูกับศัตรูแลว
แตขวดตางๆ ที่บรรจุยาวิเศษเอาไวในกำไลเก็บของนั้น กลับทำใหหานลี่รู สึก
ประหลาดใจอยูเล็กๆ
เมื่อเขาไดมาอยูในมือ ก็เปดฝาออกแยกแยะ กวาครึ่งลวนเปนยารักษาอาการบาดเจ็บ
มีอยูแคสองสามชนิดที่เปนยาเพิ่มพลังยุทธและสมุนไพรการปรุงยาที่หายาก
ผลเห็ดมังกรเม็ดนั้นก็อยูในกลองไมเหลานี้
แนนอนวาหานลี่ก็ไมเกรงใจที่จะหยิบมันขึ้นมา
ฉับพลันนั้นในมือของหานลี่พลันมีขวดสีเงินประหลาดๆ ที่สลักรูปหงสเพลิงสีแดง
ปรากฏขึ้น
ดานบนมียันตตองหามสีทองเรืองรองแปะอยู ทาทางเครงขรึมเปนอยางยิ่ง
หานลี่เห็นเชนนั้น แนนอนวาพลันรูสึกกระปรี้กระเปรา
ฉีกยันตออกเปดฝาออกมา
เสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้น หานลี่ยังไมทันเห็นของในขวดชัดๆ ก็มียาลูกกลอนสีดำ
ขนาดเทาหัวแมมือสามเม็ดพุงออกมา หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง ก็กลายเปนหงสเพลิง
สีดำขนาดเล็กสามตัว พุงตรงหนีไปยังทิศทางที่แตกตางกัน
“เอ”
หานลี่รองอุทานออกมา แตกลับลูบไปที่ทายทอย ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเทาพลันพุง
ออกมา ชั่วครูก็กวาดหงสนอยสามตัวเขามาอยูขางใน
ชั ่ ว ขณะนั ้ นหงส ท มิ ฬสามตั ว พลั น หมุ นติ ้ ว ๆ สองสามรอบกลางลำแสงสี เทา
ลำแสงเปลงแสงสวางวาบแลวกลายเปนยาลูกกลอนสีดำสนิทสามเม็ดดังเดิม
ลำแสงสีเทามวนกลับมา ยาลูกกลอนสามเม็ดปรากฏขึ้นในมือของหานลี่อยางวางาย
เขายื่นนิ้วสองนิ้วออกไปคีบยาลูกกลอนขึ้นมาเม็ดหนึ่ง และพิจารณาอยูเบื้องหนา
อยางละเอียด
คาดไมถึงวายาลูกกลอนนี้จะแปลงกายบินออกมา ไมใชของธรรมดาเลยแมแตนอย
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม ในเวลาเดียวกันในหัวพลันยอนนึกถึงยาลูกกลอนใน
ตำนานชนิดตางๆ ที่ตนเองรูจัก ดูวามีชนิดไหนที่คลายคลึงกับยาลูกกลอนเบื้องหนา
“ยาเพลิงทมิฬ”
จากรูปรางที่สะดุดตาของยาลูกกลอนทั้งสามเม็ด หลังจากที่แววตาของหานลี่
เปลงประกายสองสามครั้ง ก็แยกแยะออก ทันใดนั้นใบหนาเต็มไปดวยสีหนาดีใจ
อยางบาคลั่ง
ในใตหลานี้มีเพียงหงสทมิฬจากเผาปศาจ ที่จะสามารถใชเพลิงประจำกายปรุงยา
ลูกเพลิงทมิฬขึ้นมาได มิเชนนั้นตอใหเปนปรมาจารยดานการปรุงยา ก็ไมมีทางปรุงยา
ชนิดนี้ได
การปรุงยาชนิดนี้จำเปนตองดูดซับสิ่งลึกลับบางอยางในเพลิงประจำกายของหงสทมิฬ
ดังนั้นถึงแมวาจะเปนผาหงสทมิฬ ก็ไมไดหมายความวาจะปรุงยาชนิดนี้ไดอยาง
ไรขีดจำกัด โดยปกติแลวหลังจากที่หงสทมิฬผูฝกตนระดับเทพแปลงขึ้นไปหลอมเพลิง
ประจำกายไดแลว ถึงจะปรุงยาลูกกลอนเพลิงทมิฬไดพันปหนึ่งเม็ด
จากปศาจผู บ ำเพ็ ญเพีย รระดั บสู งที ่ หายากของเผ าหงสทมิ ฬ ก็เห็นไดช ั ด ว า
ยาลูกกลอนเพลิงทมิฬนี้หายากขนาดไหน สวนสาเหตุที่ยาลูกกลอนชนิดนี้มีชื่อเสียง
เกรียงไกรในเผามนุษยและปศาจนั้น สาเหตุหลักๆ ก็คือยาชนิดนี้เปนหนึ่งในยาที่ชวย
เสริมใหผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงทะลวงจุดคอขวดขึ้นไประดับหลอมสุญตาที่
ยอดเยี่ยมที่สุด
หากกินยาเพลิงทมิฬสามเม็ดเบื้องหนาเขาไป อยางนอยที่สุดก็นาจะทะลวงจุด
คอขวดระดับหลอมสุญตาไดสองสวน
จะไมทำใหหานลี่ดีใจอยางบาคลั่งไดอยางไร
ตรวจสอบยาลูกกลอนทั้งสามเม็ดอยางระมัดระวังอีกครั้ง หลังจากมั่นใจวาคือ
ยาลูกกลอนเพลิงทมิฬอยางไมตองสงสัยแลว หานลี่ก็ฝนระงับความตื่นเตนเอาไว
เก็บขวดยาสีเงินกลับไป ใชยันตวิเศษกักเอาไวอีกครั้ง แลวเก็บลงไปอยางระมัดระวัง
การทะลวงขึ้นไประดับหลอมสุญตา สิ่งสำคัญที่สุดคือตองผนึกพลังเบญจธาตุในราง
จุดนี้หลังจากที่เขามีลำแสงเทวะดูดปราณแลว ก็ไมจำเปนตองกังวลอะไร
สวนยาลูกกลอนเพลิงทมิฬสามเม็ดนั้น แคหายาลูกกลอนและเคล็ดวิชาลับในการ
ทะลวงระดับหลอมสุญตาเพิ่มอีกสักหนอย คิดดูแลวก็นาจะมั่นใจในการทะลวงระดับ
หลอมสุญตาไดมากขึ้นแลว
แตสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือ ทำใหพลังยุทธของตนเองเพิ่มขึ้นจนอยูในระดับ
เทพแปลงขั้นปลายถึงจะได อาศัยยาลูกกลอนจำนวนมาก การทะลวงจุดคอขวดของ
ระดับเทพแปลงขั้นกลาง ก็นาจะเกิดขึ้นไดในเร็วๆ นี้
สิ่งที่ยุงยากก็คือ ยาลูกกลอนเดิมที่มีนั้นมีผลกับระดับเทพแปลงขั้นปลายนอยมาก
มีเพียงยาลูกกลอนระดับสูง ถึงจะสามารถเพิ่มพลังยุทธไดตอ
แตยาลูกกลอนที ่มี ประโยชน ก ับ ผู บ ำเพ็ ญ เพี ยรระดั บ เทพแปลงขั้ น ปลายนั้ น
แนนอนวามีไมมากนัก ชนิดหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ ของเหลวคางคกเที่ยงแท
และครั้งนี้ที่เขายอมเสี่ยงรับภารกิจมาเผาพฤกษา มาปรากฏตัวที่นี่ก็เกี่ยวข องกับ
ของเหลวชนิดนี้
ภายใตการขบคิดของหานลี่ ชั่วขณะนั้นในหัวพลันมีแขนลึกลับที่มาหาถึงที่ตอนที่
เพิ่งจะออกจากเมืองเทวะสวรรคไมนานปรากฏขึ้น สองตาอดที่จะหรี่ลงเล็กๆ ไมได
ถาหากราบรื่นดังที่คนเหลานั้นพูด เขาก็จะไดของเหลวคางคกเที่ยงแทไมนอย
ถึ ง แม ว  า เจ า สิ ่ ง นั ้ น จะไม อาจวางไข ไ ด และไม อาจกิ น ได อย า งไร ข ี ด จำกั ด อย า ง
ยาลูกกลอนชนิดอื่น แตก็เพียงพอที่จะประหยัดเวลาในการฝกบำเพ็ญเพียรแลว
ครุนคิดถึงคำรับปากของคนเหลานั้นอยางละเอียดในใจ หลังจากที่หานลี่คิดวาไม
มีปญหาอะไรแลว ถึงไดพนลมหายใจยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่งแลวโยนเรื่องนี้ทิ้ งไป
มือหนึ่งปดไปที่กำไลเก็บของ หยิบของที่ไดมาในการเดินทางครั้งนี้ออกมา
ขนนกหาสีสีสันแวววาวเสนหนึ่ง
นั่นก็คือ ขนของหงสสวรรคที่ไดมาจากพวกของเยี่ยอิ่ง
หานลี่ใชมือหนึ่งปดไปที่ขนนกเบาๆ ชั่วขณะนั้นลำแสงหาสีพลันเปลงแสงสวางวาบ
แทบจะกลืนกินหองทั้งหองเอาไวขางใน
หานลี่หนาเปลี่ยนสี
คูควรกับขนประจำกายของหงสสวรรคระดับจิตวิญญาณเที่ยงแทจริงๆ แคกลิ่นอายที่
แผออกมา ก็เหนือกวาขนวิหคมัจฉาที่ไดมาในแดนมนุษยแลว
หานลี่จองขนนกในมือเขม็ง แววตาเปลงประกายระยิบระยับ ฉับพลันนั้นพลัน
อาปากออก พนประจุไฟฟาสีเขียวขาวสายหนึ่งออกมา
หลังจากเสียงฟารองต่ำๆ ดังขึ้น ประจุไฟฟาพลันผนึกรวมกันแลวสรางภาพลวงตาขึ้น
กลายเปนขนนกสีเขียวขาวขนาดสองสามชุนคูหนึ่ง
หานลี่ใชมือหนึ่งกวักเรียก ปกวายุอสนีขนาดจิ๋วรอนลงในมือของเขา
สายตากวาดออกไป เขาอดทีจ่ ะขมวดคิ้วมุนขึ้นมาไมได
ปกขนนกนี้มีรูเล็กๆ ปรากฏขึ้นคูหนึ่ง ทาทางเสียหายไปเล็กนอย
นั่นก็คือตอนที่พฤกษาวิญญาณกลายเปนมนุษยยักษ ใชเล็บสองทอนทะลุผาน
จึงเหลือรองรอยความเสียหายเอาไว
ทันใดนั้นหานลี่พลันมีสีหนาผอนคลายลงไมไดสนใจอีก
เขาตัดสินใจแลววาจะหลอมปกวายุอัสนีขึ้นใหม ความเสียหายแคนี้ถึงครานั้นคง
ซอมแซมไดอยางราบรื่น
จากที่รางแยกของอสูรศักดิ์สิทธิ์เทียนหลานกลาว สาเหตุที่ปกวายุอัสนีผสมขนนก
วิ ห คมั จ ฉาเข า ไปแล ว ยั ง ไม อาจกลายเป น สมบั ต ิ ว ิ ญ ญาณได ก็ เ พราะว า ขนของ
วิหคมัจฉามีธาตุวายุผสมอยู จำตองหาศิลาวิญญาณระดับสุดยอดธาตุวายุมาหนึ่งกอน
ถึงจะกระตุนได
นี่คือสาเหตุที่เขาสนใจศิลาวิญญาณระดับสุดยอดธาตุวายุมาตลอด
ตอนนี้เขาไดวัตถุดิบระดับจิตวิญญาณเที่ยงแทอยางขนนกของหงสสวรรคมา
แนนอนวาจึงตองเปลี่ยนแผนการอีกครั้ง
ตองผสมขนนกเสนนี้เขาไปในปกวายุอสนี
ขนนกของหงสสวรรคนั้นไมเหมือนกับขนของวิหคมัจฉา กฎของฟาดินที่แฝงอยู
ในนั้นกลับเปนพลังหวงเวลาที่ทำใหผูคนหวาดกลัว หากนำพลังของขนชนิดนี้ไปหลอม
ในปกวายุอสนีจริงๆ อานุภาพจะมากมายแคไหนไมตองคิดก็รูแลว
ครั้งตอไปหาพบกับศัตรูที่นากลัวอยางพฤกษาวิญญาณสีเงินอีก ก็ไมจำเปนตองสู
อยางสุดตัว ก็หนีออกมาไดแลว
หานลี่เลนขนนกหาสีในมือ พลางขบคิดในใจ
นี่โชคดีที่เขาเคยมีประสบการณการนำขนนกวิหคมัจฉาใสเขาไปในขนของวายุอันสี
มิเชนนั้นก็ไมรูวาจะลงมือหลอมขนหงสนี้อีกครั้งอยางไร
เมื่อตัดสินใจแลว หานลี่ก็หยิบศิลาวิญญาณระดับสุดยอดหกกอนออกมาจาก
กำไลเก็บของ แตละกอนมีธาตุแตกตางกัน ทั้งหากอนสอดคลองกันธาตุทั้งหาพอดี
กอนสุดทายคือศิลาวิญญาณสีขาวธาตุวายุ จากความสามารถของหานลี่ในครานี้
จึงไมจำเปนของหาของธาตุเพลิงธรณีอะไรอีก
อ า ปากออก พ น ลู ก บอลเพลิ ง สี เ งิ น กลุ  ม หนึ ่ ง ออกมา หลั ง จากผนึ ก รวมกั น
ก็กลายเปนเตาเพลิงขนาดยักษที่มีเปลวเพลิงสีเงินคุกรุน
หานลี่โยนปกวายุอัสนีเขาไปในเตาเพลิง แลวชี้ไปที่ศิลาวิญญาณธาตุวายุกอนนั้น
หลังจากเสียง “สวบๆ” ดังขึ้น มันก็จมหายวับเขาไปในเตาเพลิงตามลำดับ
หานลี่ปดแขนเสื้อไปบนพื้น ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเขียวก็เปลงแสงสวางวาบ บนพื้น
มีวัตถุดิบและขวดตางๆ ปรากฏขึ้นกองใหญ
นั่นก็คือวัตถุดิบเสริมที่จำเปนตองใชหลอมปกวายุอัสนีอีกครั้ง
โชคดีที่เขานึกถึงการหลอมปกคูนี้อีกครั้ง จึงเก็บวัตถุดิบที่จำเปนทั้งหมดเอาไว
กอนแลว
หานลี่โยนขวดวารีสีเงินที่ดูเหมือนของเหลวเขาไปในเตาเพลิง ปากพลันบริกรรมคาถา
นิ้วทั้งสิบรายอาคมใสเตาอยางตอเนื่อง…
หลังจากผานไปสิบวันสิบคืน ในหองลับก็มีเสียงหัวเราะยกใหญของหานลี่ดังขึ้น
เห็นเพียงเขายืนอยูตรงใจกลางของหองลับ ในมือถือปกสีสันแวววาวเอาไวคหู นึ่ง
ใบหนาตื่นเตนยินดี
ปกคูนี้มีลำแสงสีเขียวเรืองรอง ลำแสงหาสีถูกหอหุมเอาไวขางใน แตลวนดูโปรง
ใสดุจผลึกวารี กะพริบวาบๆ ในมือของหานลี่ราวกับจะหายไปไดตลอดเวลา
เมื่อครูหานลี่ไดลองทดสอบอานุภาพของปกวายุอัสนีที่พัฒนาเปนสมบัติวิญญาณแลว
ความมหัศจรรยของมัน เหนือกวาที่เขาคิดเอาไว
มินาละไมวาขนของวิหคมัจฉาหรือวาขนของหงสสวรรค ขอแคหลังจากหลอม
เสร็จแลวกระตุนอานุภาพของมันได การหลอมสมบัติวิญญาณสะทานฟาก็ไมใชปญหา
ครานี้เมื่อหลอมของสองสิ่งเขาไปในสมบัติชิ้นเดียวกันแลว แนนอนวาอานุภาพ
ของมันก็ทำใหหานลี่พึงพอใจเปนอยางมาก
ตอนที่ 1392 รวมตัว
โยนปกขนนกสีสันแวววาวในมือขึ้นไปกลางอากาศ หานลี่พนลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่ง
ออกมาแลวกลืนมันลงไปในคำเดียว
ครู  ต  อมาหานลี ่ ก ็ นำกระบี ่ ไ ผ เ ขี ย วตั ว ต อ เมฆาที ่ ไ ด ร ั บ ความเสี ย หายออกมา
เริ่มหลอมขึ้นใหมทีละเลมๆ ฟนฟูพลังวิญญาณของพวกมันอยางชาๆ…
หนึ่งปตอมาเหนือภูเขานิรนามในแดนปาเถื่อนแหงหนึ่ง ลำแสงสีเขียวจางๆ สายหนึ่ง
กะพริบวาบๆ พลางพุงออกไป
ทามกลางลำแสงหลีกหนี ชายหนุมสีหนาซีดขาวคนหนึ่งกำลังเอาสองมือไพล หลัง
นั่นก็คือ หานลี่ที่ออกจากที่ซอนที่ซอนตัวมานานสองสามเดือน
เขาซอมแซมกระบี่บินทั้งหมดเสร็จแลว คาดไมถึงวาจะไมมีเจตนาจะรั้งรออยูที่นี่เลย
สักนิด แตรีบขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีออกไปในทันที
เปนเพราะตัวคนเดีย วหานลี่ จึงระมัดระวั งมาก ถึงแมวาจะบินมานานครึ ่ ง ป
ก็ยังคงปลอดภัย
ภูเขานิรนามแหงนี้ดูแลวไมคอยปกตินัก
ไมวาบนภูเขาหรือดานลางภูเขา ตนไมทั้งหมดตางเตี้ยแคระ มีความสูงแคพุมไม
เทานั้น และยิ่งไปกวานั้นขอแคบินต่ำลงหนอย ก็จะสัมผัสไดถึงความชื้นที่ปะทะเขามา
คาดไมถึงวาบนภูเขาจะมีหนองน้ำนอยใหญเรียงรายอยูทั่วทุกแหงหน หนึ่งในนั้น
ที่ใหญหนอยก็มีขนาดเสนผาศูนยกลางถึงสองสามพันลี้ เล็กหนอยกลับมีขนาดแค
สองสามลี้ ดูเหมือนอุโมงคน้ำอยางไรอยางนั้น
ทวาครั้นเมื่อหานลี่บินอยูเหนือทะเลสาบเหลานี้ ก็ไมกลาประมาทเกินไปนัก
ผูใดจะรูวาในบอน้ำเหลานี้จะมีอสูรโบราณที่รายกาจอะไรซอนอยู หรือมีคนของ
เผาประหลาดอะไรซอนตัวอยู
ตั้งแตที่เขามาในชีพจรภูเขาลุกนี้ เขาก็สังหารอสูรประหลาดที่กระโจนเขามาหา
ลำแสงหลีกหนีของเขาเองไปสิบกวาตัวแลว หนึ่งในนั้นดูเหมือนวาจะเปนอสูรยักษ
ปลาไหลที่อยูในบึง ระดับเกือบเทาระดับเทพแปลง มีความสามารถดานน้ำ ทำใหเขา
ตองเสียเวลาไปรอบหนึ่ง
หลังจากบินตอไปไดอีกครึ่งวัน ทิวทัศนภูเขาเบื้องหนาก็เปลี่ยนไป ยอดเขาตั้งตรงสูง
พันจั้งสองลูกพลันปรากฏขึ้น
เมื่อเห็นยอดเขาทั้งสอง หานลี่กลับแววตาเปลงประกาย เผยสีหนายินดีออกมา
หากพู ด ถึ ง ว ายอดเขาเล็ ก หรื อใหญ ภู เ ขาน อยสองลู ก นี้ ก ็ ไ ม แ ปลกประหลาดเลย
แตภูเขาสองลูกนี้ลูกหนึ่งเปนสีเงินขาว คาดไมถึงวายอดเขากวาครึ่งจะถูกหิมะปกคลุม
เอาไว บรรยากาศรอบๆ เย็นยะเยือก
ยอดเขาอีกลูกหนึ่งเปนสีมวงระยิบระยับ มีตนไมที่ดูเหมือนตนเฟงขึ้นอยูเต็มไปหมด
ใบไมลวนเปลงแสงสีมวงที่พิเศษออกมา
ยอดเขาทั้งสองอยูหางกันแคสิบลี้เศษ และนอกจากตนไมประหลาดสีมว งบน
ภูเขาและหิ มะแล ว ไมวาจะเป นรู ปลั กษณที่ คลา ยคลึง กัน แลว ก็ไมอาจกล า วว า
เหมือนกันไดอีก แตก็คลายคลึงกันแปดเกาสวน
“ในเมื่อที่นี่มียอดเขาสองลูกจริงๆ ดูแลวพวกเขาก็คงไมไดหลอกลวง” หานลี่เอย
พึมพำ ทันใดนั้นลำแสงหลีกหนีพลันเปลงแสงสวางวาบ ตรงไปยังภูเขาน้ำแข็งลูกนั้น
เมื่อเขาใกลภูเขาลูกนั้น พายุก็พัดเขามาหอบหนึ่ง คาดไมถึงวาจะหนาวเหน็บจน
เสียดแทงกระดูก ราวกับมีดเฉือนออกไปอยางไรอยางนั้น
หานลี่หนาเปลี่ยนสี แตรางกายยังมีลำแสงสีเขียวแผออกมาชั้นหนึ่ง จากนั้นก็มุงหนา
ไปตอราวกับไมมีอะไรเกิดขึ้น
ประตูใหญยังไมทันเขาไปในภูเขา ฉับพลันนั้นชั้นหิมะหนาๆ ที่ปกคลุมอยูบนภูเขา
ก็มีสายรุงสองสายพุงออกมา หลังจากเปลงแสงสองสามครั้ง ก็มาอยูหางจาก หานลี่
ไปสามสิบจั้งเศษ
หานลี ่ ต กใจพลางสลายลำแสงหลี ก หนี อ อก เผยร า งกายของตนเองออกมา
ทามกลางลำแสงที่สวางวาบ
“ฮาๆ ที่แทก็สหายหานนี่เอง ขารูอยูแลววาจากความสามารถของสหาย ภารกิจ
แคนี้ตองไมเปนอะไรแน” ลำแสงเบื้องหนาหมนแสงลงเชนกัน เผยรางบุรุษสองคน
ออกมา หนึ่งในนั้นมองหานลี่ปราดหนึ่ง ก็เอยขึ้นดวยใบหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม
คนผูนี้มีสีหนาซีดขาว ราวกับอายุหาสิบหกสิบป นั่นก็คือ ชายชราแซหลี่วที่รูจัก
ในวิหารเหินวิญญาณตอนที่เขามาในเมืองเทวะสวรรคตอนแรก
ส ว นคนข า งกายกลั บ เป น นั ก ปราชญ ท  า ทางป ว ยกระเสาะกระแสะคนหนึ่ ง
ตางมีทาทางอัธยาศัยดีเชนกัน
“ที่แทก็พี่หลี่วและพี่โอวหยางนี่เอง ทั้งสองทานไมไดมากอนขานอยนานหรอกนะ?
ดูแลวภารกิจของทั้งสอง นาจะราบรื่นกวาขานอยมาก” หานลี่หัวเราะหึๆ ไมไดเอยถึง
เรื่องที่ตนเองเกือบจะรักษาชีวิตนอยๆ เอาไวไมอยูจากเผาพฤกษาเลยสักนิด
“ภารกิจของเราสองคนจะเทียบกับสหายหานไดอยางไร ตาเฒาแคตามผูพิทักษทอง
สองสามท า นไปยั ง ฐานที ่ ม ั ่ นของเผ า ประหลาดสองสามแห ง เท า นั ้ น ขอแค ร ะวั ง
ตัวหนอย ก็ไมมีอันตรายมากนักแลว” ชายชราแซหลี่วสั่นศีรษะอยางตอเนื่องขณะเอย
“นอกจากสหายทั้งสองแลว ยังมีสหายคนอื่นมาถึงแลวหรือไม?” หานลี่หัวเราะนอยๆ
แตกลับเปลี่ยนหัวขอบทสนทนา
“แนนอนวามี การเดินทางของพวกเราจำเปนตองใชคนจำนวนไมนอย ถึงแมวา
จะคาดการณเอาไว แล ว วา สหายเกื อบครึ่ งนา จะมาไมท ัน แตตอนนี้ค นที ่ม าถึ ง ก็
เกือบจะครบแลว ขาจะพาพี่หานไปรูจักสักหนอยดีกวา” ชายชราแซหลี่วหยีตา
หัวเราะแผวเบาขณะเอย
“เชนนั้นก็ตองรบกวนสหายแลว” หานลี่ประสานกำปนคารวะ ไมมีเจตนาจะปฏิเสธ
ทันใดนั้นหานลี่ก็กลายเปนลำแสงสีเขียวสายหนึ่งบินไปที่ภูเขานอยแข็งโดยมีทั้ง
สองคนเปนผูนำ
แตเมื่อบินมาไดระยะหนึ่ง ชายชราที่นำทางอยูเบื้องหนาก็ควักแผนหยกออกมา
จากอกเสื้อ โบกไปกลางอากาศเบื้องหนา
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีขาวผืนหนึ่งพลันพุงออกมาจากแผนปาย ทุกแหงที่กวาดไป
ดอกบัวสีขาวพลันปรากฏขึ้น เปลงแสงสวางวาบระยิบระยับ
ชายชราแซหลี่วกระตุ นลำแสงหลี กหนี ลวงหนาเขา ไปในดอกบั วสี ขาวก อน
เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไป
หานลี่แววตาเปลงประกาย ตามนักปราชญไปติดๆ ที่ดานหลัง
คาดไมถึงวาที่นี่จะมีคนวางเขตอาคมลวงตาเอาไวชั้นหนึ่ง กอนหนานี้เขามองไม
ออกในปราดเดียว ดูแลวนาจะมหัศจรรยเปนอยางมาก!
เชนนั้นโดยปกติแลวหากอสูรโบราณเขาใกลบริเวณนี้ ก็ไมอาจพบการเคลื่อนไหว
บนภูเขาได
หลังจากที่ลำแสงหลีกหนีของทั้งสามเปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง ก็หมุนวนโคจร
อยูเหนือยอดเขาสีขาว รอนลงตรงศาลาน้ำแข็งแหงหนึ่ง
รอบๆ มีหองน้ำแข็งรูปทรงแตกตางกันเรียงรายอยู ในศาลามีบุรุษคนหนึ่งและ
สตรีสองคนกำลังสนทนาอะไรกันอยู
บุรุษนั้นคือชายรางใหญสวมชุดสีเทารางกายกำยำ ไวหนวดเคราและจอนผม
ใบหนาเต็มไปดวยองอาจผึ่งผาย
สตรีคนหนึ่งอายุสี่สิบปเศษ หนาตาธรรมดาๆ สวมชุดกระโปรงสีเขียว อีกคนหนึ่ง
กลับดูออนเยาวสวมชุดสีเขียวมรกต สวมผาคลุมหนาเอาไว
หานลี่เห็นหญิงสาวที่สวมผาคลุมหนาแลวพลันตกตะลึง ปากก็รองอุทานออกมาเบาๆ
“เซียนอิ๋ง คิดไมถึงวาสหายจะไดรับเชิญมาดวย ชางบังเอิญจริงๆ” หานลี่รองทัก
สตรีผูนั้น
“ขากลับรูวาสหายตองมาที่นี่ ขานอยนับวาเปนหนึ่งในผูบุกเบิกเรื่องนี้” หญิงสาว
สวมผาคลุมกลับฉีกยิ้มเบิกบานใหหานลี่
สตรีผูนี้คือ ‘เซียนอิ๋ง’ ที่เชิญใหหานลี่ทำภารกิจเดียวกันในงานชุมนุมผูบำเพ็ญเพียรที่
บินขึ้นมา
“ผูบุกเบิก? ชางอยูเหนือความคาดหมายของผูแซหานจริงๆ” หานลี่หัวเราะหึๆ
ออกมา
ตอนนั้นที่คนที่เชิญเขาเขารวม ถึงแมวาจะไมมีสตรีผูนี้ แตคิดดูแลวอีกฝายก็ไ ม
จำเปนตองโกหกหลอกลวงเรื่องนี้ นาจะเปนความจริง
สวนคนที่เปนผูนำในการชุมนุมครั้งนี้ เขาก็ไมไดสนใจนัก
หานลี่กลอกตาไปมา กวาดไปบนเรือนรางของคนที่เหลืออีกสองคน
ใบหนาของทั้งสองคนดูคุนตา เหมือนวาจะเคยพบในงานชุมนุมผูบำเพ็ญเพียรที่บิน
ขึ้นมา แคไมเคยสนทนากับเขาเทานั้น
ทั้งสามคนเองก็มีพลังยุทธระดับเทพแปลงขั้นกลางขึ้นไป โดยเฉพาะฮูหยินผูนั้น
ทาทางเหมือนอยูในระดับเทพแปลงขั้นปลาย
สวนสองคนที่หานลี่ประสานกำปนคารวะใหนั้น
ชายรางใหญและฮูหยินไมกลาดูแคลนหานลี่ จึงคารวะตอบกลับเชนกัน
หญิงสาวที่สวมผาคลุมหนึ่งเชิญใหหานลี่เขาไปในนั่งในศาลาทันที หลังจากที่
หานลี่ขบคิดเล็กนอยแลว กลับสั่นศีรษะพรอมรอยยิ้มวา
“ภารกิจที่ผูแซหานรับไปในครั้งนี้ทำใหขาไดรับบาดเจ็บเล็กนอย แลวยังตองเรง
เดินทางขามวันขามคืนจนสูญเสียพลังปราณไปอีก จึงอยากพักผอนสักหนอย หากขา
จำไมผิดละก็ ดูเหมือนวาจะยังหางจากเวลาที่นัดกันไวอีกครึ่งเดือนสินะ”
“หึๆ เปนเพราะพวกเราสะเพราเอง พี่หานเพิ่งมาแนนอนวาตองพักผอนกอนแลว
ค อยว า กั น ห องเหล า นี ้ ท างซ ายสุ ด สองสามหองไม ม ีเ จ าของ สหายเชิ ญ เลื อกได
ตามสบาย แนนอนวาหากสหายไมพอใจละก็ จะสรางขึ้นเองก็ได” ชายชราแซหลี่ว
ลูบเคราแลวเอยดวยรอยยิ้มเบิกบาน
“เชนนั้นขานอยก็จะไมเกรงใจแลว” หานลี่หัวเราะต่ำๆ ออกมา ไมไดกลาวอะไรนัก
พลางกลาวลาพวกเขาสองสามคน ทันใดนั้นก็เดินไปยังหองน้ำแข็งหองหนึ่ง หลังจาก
เปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง ก็จมหายเขาไปในหองอยางไรรองรอย
คนที่อยูรอบๆ ศาลามองเงาแผนหลังของหานลี่ แลวตกอยูในความเงียบครูหนึ่ง
“พี่หานรีบรอนพักผอนเชนนี้ คงไมไดรับบาดเจ็บหนักกระมัง” ฮูหยินขมวดคิ้ว
แลวเอยปากอยางเชื่องชา
“นาจะไมใช! สีหนาของสหายหานดูดีมาก อาจจะแคเสียลมปราณไปเล็กนอยเทานั้น”
ชายรางใหญชุดสีเทาทที่อยูดานขางกลับสั่นศีรษะ
“นั ่ นก็ ไ ม แ น ความจริ ง แล ว สหายหานเชี ่ย วชาญเคล็ด วิ ชาเก็ บ งำสี ห นามาก
พวกเราดูไมออกก็เปนเรื่องปกติ แตจะวาไปแลวในเมื่อมาถึงตรงเวลา ก็หมายความวา
คนผู  นี ้ ไ ม ธ รรมดา ต อให เ จ็ บ ป ว ยเล็ ก น อย เชื ่ อว า ก็ ค งไม ล อบวางแผนอะไรที ่ มี
ผลกระทบตอพวกเรา สหายหยวนและปรมาจารยจิ้งหยวนที่มากอน ก็ไมไดเขาพักใน
หองเหมือนกันหรือ?” เซียนอิ๋งกลับเชื่อใจหานลี่เปนอยางมาก พลางเอยออกมาอยาง
ราบเรียบ
“เซียนอิ๋งพูดมีเหตุผล! ถึงแมวาสหายหานจะเปนแคผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
ขั้นกลาง แตจากที่ขาคาดการณ ความสามารถนั้นเพียงพอจะติดอันดับหนึ่งในสาม
ในหมูสหายได” นักปราชญทาทางปวยกระเสาะกระแสะผูนั้นกลับเอยดวยรอยยิ้ม
ออกมา
“ที่สหายโอวหยางพูด มันจะเกินไปหนอยกระมัง สหายหานเปนแคผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลงขั้นกลาง จุดนี้ตาเฒาดูไมผิดแน” ฮูหยินไดยินแลวพลันตกตะลึง
และเอยอยางไมเชื่อถือ
“พี่หญิงจาวเอาแตฝกบำเพ็ญเพียรอยางหนักมาหลายปในเมืองเทวะสวรรค
และไมคอยไดเขารวมการชุมนุมของพวกเรา จึงไมรูเรื่องพี่หานก็ไมแปลก สหายหาน
เคยสังหารและจับเปนคนของเผาประหลาดในระดับเดียวกัน ในบรรดาผูบำเพ็ญเพียร
ที่บินขึ้นมาใหมอยางพวกเรานั้น นับวามีชื่อเสียงไมนอย โดยเฉพาะวรยุทธที่เขาฝกฝน
ยิ่งมีประโยชนในการควบคุมเผาเงาเปนอยางมาก จุดนี้คือสาเหตุหลักที่พวกเราเชิญ
เขาเขารวม” หญิงสาวที่มีผาคลุมหนาเอยอยางราบเรียบ
“สหายอิ๋งหมายความวา จะใหคนผูนี้ตอกรกับอสูรแมลงเงาเหลานั้นโดยเฉพาะหรือ”
ฮูหยินถึงบางออ
“ใชแลว พวกเราหมายความวาอยางนั้น มิเชนนั้นละก็ อสูรแมลงเงาเหลานั้นก็รับมือ
ยากมาก หากสูญเสียลมปราณไปมากเพราะเหตุนี้ ทำใหเหยื่อของพวกเราเตลิ ดนี้
จะยิ่งแยไปใหญ” ชายชราแซหลี่วอธิบายพรอมกลั้วหัวเราะ
ฮูหยินแซจาวไดยินก็พยักหนาไมเอยอะไรอีก
ดังนั้นพวกเขาจึงนั่งอยูในศาลาพลางสนทนากันไปมา สวนหานลี่นั้นกลับนั่งสมาธิ
อยูในหองน้ำแข็ง สองตาปดสนิท รางกายไมไหวติง
ตอนที่ 1393 แผนคางคกเที่ยงแท
สิบวันตอมาฉับพลันนั้นดานนอกหองน้ำแข็งพลันมีเสียงรองยาวๆ ที่ไพเราะดังขึ้น
ถึงแมวาน้ำเสียงจะไมดังนัก แตก็เพียงพอจะเขามาปลุกหานลี่ใหตื่นจากภวังค
หานลี่ขมวดคิ้วเบิกตาทั้งสองขางขึ้น แววตาเปลงประกาย หลังจากที่เขาเอียง
ศีรษะขบคิดแลว ก็หยัดกายลุกขึ้นยืนแลวผลักประตูเดินออกไป
เห็นเพียงกลางอากาศเบื้องหนาหองน้ำแข็งนั้นมีวิหารน้ำแข็งกวางรอยจั้งหลัง
หนึ่งปรากฏขึ้นตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู ตัววิหารใชเสาน้ำแข็งหนาๆ สองสามเสาค้ำยันอยู
ถึงแมวา จะดูห ยาบๆ แตภายใตแสงอาทิต ยท ี่ สาดแสงลงมา ก็ดูนาเกรงขามเป น
อยางมาก
ในวิหารมีแทนน้ำแข็งสูงสองสามจั้งอยูแทนหนึ่ง บุรุษและสตรีคูหนึ่งยืนอยูบนนั้น
บุรุษมีเรือนผมสีเงิน กลับมีใบหนาที่ออนเยาวและหลอเหลา สตรีกลับมีเสนผม
สีเขียวเสนบางๆ มวยสูงขึ้นไป รางกายอวบอิ่ม งดงามเปนอยางมาก แขนและเทาที่
เปลือยเปลาออกมาดูราวกับรากบัวอยางไรอยางนั้น ดูเหมือนยอดเขาที่เย็นยะเยือก
ไมแยแสสิ่งใด
ทั้งสองคนนี้คาดไมถึงวาจะมีพลังยุทธระดับหลอมสุญตา บุรุษผมสีเงินยิ่งอยูใน
ระดับขั้นกลาง
เสียงรองแหลมๆ ยาวๆ นั้นดังออกมาจากปากของบุรุษผมสีเงิน
ใตแทนน้ำแข็งมีค นยื นอยู แลวสี่ห าคน แนนอนวาเป นพวกของเซี ยนอิ๋ ง และ
ชายชราแซหลี่ว ผูที่ไดยินเสียงรองยาวๆ ดังเขาไปในหองน้ำแข็ง ไมไดมีหานลี่แตเพียง
ผูเดียว คนอื่นๆ ก็เดินออกมาอยางตอเนื่อง
ชั่วพริบตาทั้งยอดเขาก็มีผูบำเพ็ญเพียรปรากฏขึ้นยี่สิบกวาคน
คนเหลานี้ลวนมีพลังยุทธระดับเทพแปลงขึ้นไป หลังจากไดยินเสียงรองยาวๆ แลว
ก็ทยอยกันตรงไปทางวิหารดวยสีหนาหลากหลาย
หานลี่เองก็เดินรั้งทายตามเขาไปในวิหารดวยสีหนาราบเรียบ
เมื่อทุกคนเขาไปขางใน ทันใดนั้นคนจำนวนไมนอยก็ตรงเขาไปทักทายบุรุษและ
สตรีที่อยูบนแทนน้ำแข็งอยางนอบนอม
“คารวะทานอาวุโสจู ทานอาวุโสชิง!”
“ทานอาวุโสทั้งสองก็มาแลว! ชนรุนหลังขอคารวะทานอาวุโสทั้งสอง!”
หานลี่หาตำแหนงที่ไมสะดุดตามาตำแหนงหนึ่ง คาดไมถึงวาจะยืนนิ่งไมขยับเขยื้อน
ผูที่เชิญเขามาในตอนแรก ก็มีบุรุษและสตรีผูบำเพ็ญเพียรที่มีชื่อเสียงไมนอยใน
เมืองเทวะสวรรคคูนี้
ถึงแมวาจะสนทนากับทั้งสองครั้งแรก แตทั้งสองก็อัธยาศัยดีไมนอย และยิ่งไปกวานั้น
ยังเปนผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมาจากแดนลาง มิเชนนั้นถึงแมวาจะรับปากมากมาย
ขนาดไหน เขาก็จะตอบเรื่องนี้หรือไม ก็เปนเรื่องที่พูดยากจริงๆ
บุรุษแซจูหยุดเปลงเสียงกูรองแหลมๆ ลง และตอบกลับคำทักทายของคนอื่น
พรอมรอยยิ้ม สุดทายก็เอยอยางแจมใสวา
“ทุกคนก็มากันเกือบครบแลว เหลาสหายนั่งลงกอนเถิด พวกเรามาปรึกษากัน
เรื่องจะปราบปรามรังของคางคกเที่ยงแทตาสีมรกตกันอยางไรจะดีกวา”
เมื่อเขาเอยจบหญิงงามที่ยืนอยูขางกายก็ใชมือหนึ่งรายอาคมโจมตีไปที่ดานลาง
ชั่วขณะนั้นสองฝงของวิหารน้ำแข็งพลันเปลงแสงสีขาวสวางจา เกาอี้หยกที่
วิจิตรงดงามปรากฏขึ้นอยางตอเนื่องดวยผลของเขตอาคม
ผูบำเพ็ญเพียรทุกคนเห็นเชนนั้น ก็ทยอยกันนั่งลงตามคำพูด จากนั้นถึงไดมอง
สองสามีภรรยาระดับหลอมสุญตาที่นั่งลงเชนกันบนแทนน้ำแข็ง
บุรุษผมสีเงินกวาดสายตาไปทั้งสองดานแลวถึงเอยพรอมรอยยิ้มออกมา
“ดูแลวเราสองสามีภรรยาคงคาดการณไวไมผิดนัก สหายที่เรียนเชิญมาในตอนแรก
ครานี้มาถึงที่นี่ไดแคสี่สวนเทานั้น สหายคนอื่นๆ มีภารกิจรัดตัว จึงมาไมทัน ไมก็คง
เกิดอะไรขึ้นจนไมอาจมาถึงที่นี่ได ทวาตอใหเปนเชนนั้นขอแคพวกเรารวมมื อกัน
ก็สามารถกำจัดฝูงคางคกเที่ยงแทตาสีเขียวมรกตฝูงนั้นไดอยางราบรื่น ถึงครานั้นสิ่งที่
พวกเราจะได ก็คือเหลาสหายจะไดนำโลหิตคางคกเที่ยงแทมาแบงกัน สวนพวกเรา
สองสามีภรรยาก็จะไดดอกพันใจที่อสูรโบราณฝูงนั้นปกปกไวสักสองสามตน เรื่องนี้
เป นสิ ่ ง ที ่ก ล าวกับสหายเอาไวก อนแล ว คงไม ม ี ข อคิ ดเห็น อะไรสิ น ะ! แน น อนวา
การแบงโลหิตคางคกเที่ยงแทนั้น ตองดูตามความสามารถของเหลาสหายที่สำแดง
ออกมา ไมอาจแบงกันอยางเทาเทียมได หวังวาสหายที่มีความคิดอื่น คงไมคิดวาจะได
ประโยชนโดยไมลงแรงหรอกกระมัง”
ครั้นเมื่อชายหนุมผูงดงามเอยประโยคนี้ออกมา เมื่อถึงสองสามประโยคสุดทาย
รางกายก็แผพลังกดของระดับหลอมสุญตาที่แข็งแกรงออกมา ในเวลาเดียวกันสีหนา
ก็เครงขรึมขึ้น
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ไดยินคำนี้ตางก็นั่งนิ่ง ดูเหมือนวาจะไมมีความคิดเห็น
เกี่ยวกับเรื่องนี้
“เอาล ะ ในเมื ่ อทุ ก ท า นรู  แ ล ว พวกเราก็ ม าหารื อขั ้ น ตอนการลงมื อ กั น เถิ ด
คางคกเที่ยงแทฝูงนี้เปนฝูงที่พวกของเซียนอิ๋งพบเปนพวกแรก ก็ใหสหายอิ๋งอธิบาย
กอนก็แลวกัน” เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ ชายหนุมผูมีใบหนางดงามก็เผยรอยยิ้มพึง
พอใจออกมา แลวหันหนาไปเอยกับสตรีที่สวมผาคลุมหนาซึ่งนั่งอยูดานลาง
“ขอใหทานอาวุโสอายุมั่นขวัญยืน ชนรุนหลังมิกลาบังอาจ”
เซียนอิ๋งฉีกยิ้ม รางอรชรออนแอนยืนขึ้น หลังจากกวาดสายตาไปบนใบหนาของ
ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือแลว ก็เอยดวยสีหนาเครงขรึมวา
“พบรังคางคกเที่ยงแทตาสีเขียวมรกตไดอยางไรนั้น ขาจะไมพูดมาก สิ่งที่บอก
ทุกทานไดก็คือ ฝูงนี้มีคางคกเที่ยงแทอยูเกือบสิบตัว สองตัวเปนคางคกเที่ยงแทโต
เต็มวัยนาจะมีกำลังอยูในระดับหลอมสุญตาขั้นกลาง สวนลูกคางคกที่เหลือตา งมี
พลังยุทธเทากับผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด ฝูงคางคกเที่ยงแทฝูงนี้แอบซอนตัวอยู
ในรังใตดิน ปกติแลวจะไมปรากฏตัว หากอยากสังหารพวกมันละก็ เกรงวาจะยาก
ไมนอย ถึงอยางไรเสียบริเวณรอบๆ รังของมันนั้น ก็ไมสะดวกที่จะใหพวกเราลอมวง
เขาไป”
เอยมาถึงตรงนี้น้ำเสียงของสตรีผูนี้ก็หยุดชะงัก แตทันใดนั้นก็เอยขึ้นวา
“หากมีแคนี้ ความจริงแลวก็ไมจำเปนตองเชิญสหายจำนวนมากมาพรอมกัน
สิ่งสำคัญก็คือ ในบริเวณของรังคางคกเที่ยงแท มีครึ่งอสูรที่รายกาจอยูสองชนิด
ชนิดหนึ่งคือมดโลหิตดำ อีกชนิดหนึ่งคืออสูรแมลงเงา ถึงแมวาอสูรแมลงทั้งสองชนิดนี้
จะมี ข นาดไม ใ หญ อะไร แต ล  ว นเป น สิ ่ ง ที ่ อาศั ย อยู  ก ั น เป น ฝู ง น า จะมี ป ระมาณ
รอยกวาตัว หากอยากกำจัดคางคกเที่ยงแทตาสีเขียวมรกต ก็จำตองกำจัด ครึ่ง
อสูรแมลงทั้งสองชนิดนี้ดวย”
“แมงปองโลหิตดำ?”
“อสูรแมลงเงา”
เมื่อไดฟงคำพูดของหญิงสาวที่สวมผาคลุมหนา ก็เกิดเสียงอื้ออึงขึ้นในบรรดา
ผูบำเพ็ญเพียรสวนใหญที่นั่งอยูทั้งสองฝง บางคนแมกระทั่งทนไมไหวเอยปรึกษาอะไร
กับคนดานขางดวยเสียงแผวเบา
แนนอน! อสูรแมลงสองชนิดนี้มีชื่อเสียงไมนอย หากถูกลอมโจมตี เกรงวาตอใหเปน
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาก็ยังตองตกอยูในอันตราย
หลังจากเอยขบ หญิงสาวสวมผาคลุมหนา ก็พยั กหนา ให กั บชายหนุ มรู ป งาม
แลวนั่งลงที่เดิม
“ไมตองเครียดไป? ในเมื่อขาเชิญเหลาสหายมาแลว แนนอนวาตองมีวิธีจัดการ
ขอแคสหายรวมมือกันเทานั้น” ชายหนุมแซจูเอยดวยความสุขุม
“ทานอาวุโสจู! ไมใชวาพวกเราไมเชื่อคำพูดของทานอาวุโส แตเรื่องนี้ดูแลว
อันตรายมาก ทานอาวุโสอธิบายแผนการใหฟงกอนไดหรือไม” ชายชราสวมงอบ
คนหนึ่งหยัดกายลุกขึ้นโคงใหแทนน้ำแข็งขณะเอย
ชายชราผูนี้คือ หนึ่งในผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นปลายที่มีไมมากนักที่
ดานลางแทนน้ำแข็ง
“ที่แทก็สหายโหยวนี่เอง เชิญสหายนั่งลงกอน ถึงแมวาสหายจะไมเอยถึงเรื่องนี้
ผูแซจูก็จะอธิบายใหทุกทานฟงอยูแลว” ชายหนุมหัวเราะออกมาดวยทาทีไมถือสา
ชายชราไดยินก็ไมไดเอยอะไรอีก แคคารวะอีกครั้งแลวนั่งลง
“ความจริงแลวงายมาก ถึงแมวาครึ่งอสูรสองชนิดนี้จะจัดการยาก แตพวกเรา
สองสามีภรรยาไดรวบรวมธูปไมจันทนมาแลว ธูปชนิดนี้มีพลังในการดึงดูดยุงโลหิตดำ
ที่ไดผลมาก ขอแคจุดอยูไกลออกไปหนอย ก็สามารถลอใหพวกมันออกมาบนพื้นดิน
จากนั้นก็ลงมือกำจัดพวกมันก็ไดแลว สวนอสูรแมลงเงาเหลานั้น ตอกรยากสักหนอย
ทวาพวกเราสองสามีภรรยาไดยืมธงอสนีสวรรคชำระทมิฬชุดหนึ่งมาจากสหายสนิท
ขอแคมีสหายแปดคนถือสมบัติชิ้นนี้เอาไว สรางเขตอาคมวงแหวนอัสนีสวรรคขึ้นมา
ก็ เ พี ย งพอจะกั ก อสู ร แมลงเงาเหล า นี ้ ไ ด แ ล ว นอกจากนี ้ ยั ง เชิ ญ สหายหานและ
เซียนเสี้ยวที่มีเคล็ดวิชาในการกักแมลงเผาเงาโดยเฉพาะมาดวย มีสหายทั้งสองคอย
ชวยเขตอาคมอัสนีนี้ ก็นาจะไมผิดพลาด สวนคนที่เหลือ ก็รวมมือกันตอกรอสู ร
คางคกเที่ยงแทร ว มกันกั บพวกขา เหลาสหายคิดวา อย างไร” ชายหนุมแซจู  เ อ ย
อยางสดใส น้ำเสียงไมดังนัก แตทุกคนก็ไดยินอยางชัดเจน
หานลี่ไดยินอีกฝายเอยชื่อของตัวเอง หลังจากหนาเปลี่ยนสีแลวกวาดสายตาไป
ทั่วหองโถงแลว ฉับพลันนั้นก็ประสานสายตากับสายตาคูหนึ่งที่อยูตรงขาม
หญิงสาววัยเยาวสวมชุดกระโปรงสีเงินขาวคนหนึ่ง อายุประมาณยี่สิบหายี่สิบหกป
หนาตาหมดจด เมื่อเห็นหานลี่มองมาก็สงยิ้มอยางออนโยนมาให
“หรือวานี่คือ ‘เซียนเสี้ยว’? วรยุทธที่นางฝกฝนคือสิ่งใดกัน คาดไมถึงวาจะ
ควบคุ ม อสู ร แมลงเงาได ?” หานลี ่ ย ิ ้ ม รั บ ตามจิ ต สำนึ ก แต ใ นใจกลั บ ขบคิ ด ด ว ย
ความรูสึกฉงนสงสัย
เวลาตอมาก็มีผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ซักถามปญหาขอสงสัยในจุดอื่น
ชายหนุมแซจูตอบคำถามทั้งหมดอยางละเอียดอยางอารมณดี ทำใหผูบำเพ็ญเพียรทุก
คนรูสึกพอใจ
ทวาหานลี่สังเกตเห็นวาตั้งแตตนจนจบ หญิงงดงามที่นั่งอยูขางกายชายหนุมกลับ
ไมเคยเอยปากออกมาเลย แคยืนฉีกยิ้มเงียบๆ อยูตรงนั้น
นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกประหลาดใจเล็กนอย
หากเขาจำไมผิดละก็ วันนั้นตอนที่สองสามีภรรยาพาพวกมาหาเขาที่จ วนนั้น
ดูเหมือนวาจะมีแคชายหนุมรูปงามที่พูด ไมเคยเห็นสตรีผูนี้เอยปาก
หรือวาสตรีผูนี้ฝกฝนวิชาภิกษุชั้นสูงอยางเคล็ดวิชาประหลาดอยางวิช าญาณ
ปดปากอะไรเทือกนี้? มิเชนนั้นตอใหเปนใบแตกำเนิด พลังยุทธมาถึงขั้นนี้อย า ง
พวกเรา แนนอนวาก็สามารถรักษาอาการปวยแตกำเนิดไดภายในพริบตาแลว
หานลี่ขบคิดอยางเงียบๆ
หลังจากผานไปหนึ่งชั่วยาม ไมมีใครซักขอสงสัยอะไร ชายหนุมแซจูก็เริ่มแบง
กำลังคน
จะวาไปแลวผูบำเพ็ญเพียรที่ถูกเชิญมาในครั้งนี้ นอกจากหานลี่และสตรีแซเสี้ยว
ผูซึ่งรับมือกับอสูรแมลงเงาไดแลว ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือจำนวนไมนอย ลวนเปน
ผูบำเพ็ญเพียรที่มีวรยุทธธาตุอสนีที่หายาก เพื่อจะไดแบงธงอสนีสวรรคชำระทมิฬไป
วางเขตอาคมวงแหวนอสนีสวรรค
คนเหลานี้รวมทั้งหานลี่ลวนเปนผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา บางก็เปนลูกหลาน
สายตรงของผูบำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา และไมมีผูบำเพ็ญเพียรสักคนที่เปน ผู
บำเพ็ญเพียรพื้นเมือง ดังนั้นแมวาจะมีจำนวนคนไมนอย แตในที่สุดก็ไมไดมีความเห็น
อะไรกับหนาที่ที่ไดรับมอบหมายนัก
เมื่อจัดเสร็จสิ้น ชายหนุมแซจูและพวกก็ไมไดรั้งรอใหเสียเวลาอีก ออกคำสั่งในทันที
กลุมคนยี่สิบกวาคนจึงบินออกจากภูเขาในทันที กลายเปนลำแสงหลีกหนีพุงออกไปยัง
ทิศตะวันตก
หลังจากบินมาสามวันสามคืน ในที่สุดทุกคนก็มาถึงเบื้องหนาลำธารยักษอยาง
ปลอดภัย
มองลำธารนี้แวบหนึ่ง หมอกหนาทึบลดลงเปนอยางมาก ทำใหทุกคนรูสึกลึกลับ
เปนอยางยิ่ง
ผูบำเพ็ญเพียรทุกคนเห็นเชนนั้น คนจำนวนไมนอยก็อดที่จะขมวดคิ้วไมได
โดยปกติแลวที่ที่ดูแลวผิดปกติในแดนปาเถื่อน ผูบำเพ็ญเพียรกวาครึ่งลวนไม
อยากเขาไปงายๆ ผูใดจะรูวาใตมานหมอกและบึงน้ำแหงนี้มีอสูรโบราณที่รายกาจ
อะไรซอนตัวอยู หากถูกลอบโจมตีจนจบชีวิตลง จะไมเปนการรนหาที่ตายหรือ
ไมตองใหผูกลาวเตือนทุกคนก็ผอนลำแสงหลีกหนีลง แลวหยุดอยูหนามานหมอก
ตอนที่ 1394 ธูปไมจันทนกับมดโลหิตดำ
“เหลาสหายโปรดระวังหนอย ในหมอกมีวิหคประหลาดนรินามอยูชนิ ด หนึ่ ง
โชคดีที่กำลังไมนับวาสูงนัก ขอแคระวังของเหลวที่พวกมันพนออกมา ก็ไมจำเปนตอง
กังวล สวนหมอกน้ำนั้นก็มอบใหพวกเราสองสามีภรรยากำจัดมันทิ้งซะ” ชายหนุม
แซจูที่บินอยูดานหนาสุดพลันเอยขึ้น
จากนั้นก็เห็นชายหนุมผมเงินอาปากออกพนขวดหยกยาวๆ สีขาวนวลใบหนึ่ง
ออกมาจากปากทามกลางสายตาของคนอื่นๆ หมุนติ้วๆ ปากขวดชี้ไปที่หมอกสีขาว
เบื้องหนาอยางพอดิบพอดี
สองมือของชายหนุมพลันรายอาคม ปากบริกรรมคาถา ขวดหยกเปลงแสงสวางจา
เสียง “กึกๆ” ดังขึ้น พนพายุสีเขียวกลุมหนึ่งออกมาจากปากขวด
เมื่อพายุชนิดนี้ถูกพนออกมา ก็ยังคงเปนลำแสงสีเขียวออน แตหลังจากที่พน
ออกไปไดสองสามจั้ง ก็เปลงเสียงคำราม ชั่วพริบตาก็กลกายเปนพายุเฮอรริเคน
ลูกใหญพัดออกไปเบื้องหนา
ชั่วขณะนั้นหมอกบนผิวน้ำพลันหมุนวนอยางรุนแรงแลวทยอยกั นลาถอยไป
ดานหลัง
ทางเดินที่ชัดแจงสายหนึ่งปรากฏขึ้นทามกลางกลุมหมอก
“ไปกันเถิด!”
ชายหนุมแซจูออกคำสั่ง ตนเองและคูรักก็บินลวงหนาเขาไปในทางเดินกอน
ตั้งแตตนจนจบขวดยักษพลันหมุนติ้วๆ อยูเหนือศีรษะของเขา พนพายุที่โหมกระหน่ำ
ออกมาไมหยุด
เมื่อคนอื่นๆ เห็นเชนนั้น พลันรูสึกผอนคลายลง และทยอยกันบินตามเขาไปอยาง
ไมลังเลอีก
เหมือนกับที่ชายหนุมแซจูกลาวเอาไว หลังจากที่บินเขามาในทะเลสาบแคสิบกวาลี้
ทามกลางไอหมอกก็เริ่มมีวิหคสีขาวขนาดสองสามฉื่อบินออกมา ทุกตัวลวนมีปาก
แบนๆ และปกยาวๆ มีกรงเล็บที่แหลมคมสีเขียวมรกตงอกออกมาจากสวนทองคูหนึ่ง
เห็นไดชัดวาวิหคเหลานี้เขามาผูบำเพ็ญเพียรทุกคน เมื่อออกจากมานหมอก
ก็อาปากออก พนธนูสีดำดอกแลวดอกเลาเขาใสทุกคน
ทามกลางเสียงคำรามต่ำๆ นั้น ฝูงชนก็ทยอยกันปลอยสมบัติของตนเองออกมา
บางก็ทำใหกระบี่บินกลายเปนลำแสงขนาดเทาลอรถ บางก็มีโลโบราณปรากฏขึ้น
สองสามดาน…
เมื่อธนูวารีสีดำเหลานี้มาประชิดเขา ก็กลายเปนกลุมควันสีดำแลวสลายหายไป
ไมวากระบี่บินหรือวาสมบัติชิ้นอื่น เมื่อถูกพนออกมา ก็จะมีหลุมตื้นๆ ปรากฏขึ้นเต็ม
ไปหมด
นายของสมบัติเหลานี้พากันหนาเปลี่ยนสี รองตะโกนโหวกเหวกขึ้นมาในทันที
“รีบลงมือสังหารเจาพวกนี้ซะ ของเหลวของพวกมันสามารถกัดกอนสมบัติของ
พวกเราได”
เมื่อไดฟง คนอื่นๆ พลันรูสึกใจหายวาบ ลวนสำแดงความสามารถทั้งหมดออกมา
สายรุงที่นาตกตะลึงสายแลวสายเลาและลำแสงตางๆ พุงเขาไปหาวิหคประหลาด
เหลานั้นพรอมกัน
จุดที่สายรุงกวาดผานไป วิหคประหลาดเหลานั้นพลันกลายเปนฝนโลหิตสาดลงมา
ชั่วพริบตาก็ถูกสังหารไปจนเกลี้ยง
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ ผูคนที่แตเดิมรูสึกหวาดกลัวก็รูสึกผอนคลายลง
ความจริงแลววิหคประหลาดเหลานี้ออนแอดังคาด
แต ค รู  ต  อ มา ท า มกลางเสี ย งกรี ด ร อ งประหลาดในกลุ  ม หมอก ฉั บ พลั น นั้ น
วิหคประหลาดสีขาวที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วฝูงแลวฝูงเลาก็พนธนูวารีสีดำออกมา
ทามกลางความตกตะลึงของฝูงชนผูบำเพ็ญเพียร จึงรีบปลอยสมบัติที่เก็บลงไป
เมื่อครูออกมาอีกครั้งเปนพัลวัน ภายใตการตานทานอีกระลอก ใชความสามารถ
สังหารพวกมันจนเกลี้ยง
แตสถานการณที่เหมือนกันก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เมื่อวิหคประหลาดตัวสุดทาย
กลายเปนฝนโลหิตแลว ก็จะมีเงาวิหคปรากฏขึ้นอยางหนาแนนทามกลางกลุมหมอก
เกิดเสียงโหวกเหวกโวยวายขึ้นทามกลางทุกคน คนจำนวนไมนอยเริ่มเผยสีหนา
ไมสบายใจออกมา
หานลี ่ ข มวดคิ ้ ว กวาดจิ ต สั ม ผั ส ไปในม า นหมอก กลั บ พบว า ในม า นหมอกมี
วิหคประหลาดชนิดนี้เรียงรายอยูเต็มทองฟา และไมรูวามีมากถึงกี่หมื่นตัว
ถึงแมวาหานลี่จะเคยเห็นพายุคลื่นจำนวนมาก แตก็อดที่จะสูดลมหายใจอัน
เย็นยะเยือกเขาไปไมได
“ทุกคนไมตองกลัว! ตอนนี้วิหคประหลาดชนิดนี้แคลองทดสอบการโจมตีเทานั้น
หากการโจมตี ส ิ บ กว า ระลอกก อนหน า นี ้ ไ ม ไ ด ผล พวกมั น จะรู  ว  า รับ มื อยากและ
สลายตัวไปเอง” เบื้องหนามีเสียงอันเครงขรึมของชายหนุมแซจูดังขึ้น
เมื่อไดยินคำนี้คนอื่นๆ พลันถึงบางออ ทันใดนั้นก็เสกสมบัติตางๆ ออกมา โจมตี
ไปที่วิหคสีขาวทั้งหมดจนไมเหลือแมแตตัวเดียว
หลังจากที่โจมตีอยางตอเนื่องไปสิบสามสิบสี่ระลอก ฝูงวิหคที่แตเดิมรวมตัวกัน
อยู  ใ นม า นหมอกก็ เ ปล ง เสี ย งร อ งยาวๆ ออกมา ชั ่ ว ขณะนั ้ น วิ ห คสี ข าวทั ้ ง หมด
พลันกระจายออก บินแตกกระเจิงออกไปจากมานหมอก
เมื ่ อเห็ นสถานการณเ ช นนี้ ทุก ครั้ ง ถึง ใจวางใจขึ ้น จริง ๆ ทั น ใดนั ้ น ก็ รี บบิ นไป
ขางหนาอยางเรงรีบ
ครึ ่ ง วั นต อมาเมฆหมอกรอบกายกลุ  ม คนก็ ส ลายออก เบื ้ องหน า ของทุ ก คน
เปลงประกาย เบื้องหนามีภูเขายักษที่อยูในทะเลสาบปรากฏขึ้น สูงประมาณหมื่นจั้ง
ตีนเขาจมอยูใตทะเลสาบ สวนที่เผยออกมาของภูเขาลูกนี้ลวนเปนภูเขาสีดำเขียว
ดานบนนอกจากตะไครอสนีแลว ทุกแหงก็โลนโกรน
“ที่นี่แหละ! หึๆ กวาจะหาที่นี่เจอเซียนอิ๋งและพวกคงลำบากมาก” หลังจากที่ทุกคน
หยุดลำแสงหลีกหนีลง ชายหนุมแซจูก็มองไปยังภูเขายักษ ปากก็เอยชื่นชมออกมา
“นี่เปนเพราะคราวกอนชนรุนหลังและพวกไดไลตามอสูรประหลาดตัวหนึ่งมา
จึ ง บุ ก เข า มาที ่ น ี ่ ด  ว ยความบั ง เอิ ญ นั บ ว า ดวงของชนรุ  น หลั ง อย า งพวกเราไม
ธรรมดาสินะ” หญิงสาวสวมผาคลุมหนาหัวเราะรวนขณะเอย
“แนนอน หากไมใชความบังเอิญ คงพบสถานที่ลึกลับนี้ไมไดงายๆ ทวาก็เพราะ
เชนนั้น ถึงไดเหลืออสูรคางคกเที่ยงแทฝูงหนึ่งไวใหพวกเรา หากอยูขางนอกละ ก็
เกรงวาคนถูกผูอื่นพบไปแลว ไหนเลยจะเหลือมาถึงมือพวกเราได” ชายหนุมผมสีเงิน
ไดยินพลันหัวเราะฮาๆ แววตาฉายแววตื่นเตนยินดี
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ก็ทยอยกันพยักหนาดวยรอยยิ้ม
“รังของคางคกเที่ย งแท เหลา นั้ น อยูในถ้ำใตภูเขาลู กนี ้ พวกเราทำตามแผน
ดึงดูดมดโลหิตดำเหลานั้นมาสังหารกอนเถิด ทุกคนโปรดระวัง ถึงแมวามดโลหิตดำ
เหลานี้จะมีพละกำลังแคอสูรระดับแปด แตมันสามารถทำลายลำแสงปองกั นและ
โลปองกันชนิดตางๆ ของผูบำเพ็ญเพียรอยางพวกเราได และยิ่งไปกวานั้นในรางของ
มันยังมีพิษโลหิตดำ จากกำลังของพวกเราหากถูกกัด จะตองกินยาถอนพิษทันที
มิเชนนั้นก็อาจจะถึงแกชีวิต เอาละ ทุกคนเตรียมตัวเถิด ขาจะจุดธูปไมจันทนกอน!”
ชายหนุมแซจูออกคำสั่งอีกสองคำ แลวถึงไดพลิกฝามือมือหนึ่ง ในมือมีกระถางธูป
ขนาดเทาฝามือปรากฏขึ้น ดานในมีธูปไมจันทนสีเขียวมรกตความยาวครึ่งฉื่อปกอยู
ดอกหนึ่ง
เมื่อโยนกระถางธูป ขึ้ นไปกลางอากาศ ชั่วขณะนั้นพลันลอยขึ้ นกลางอากาศ
แลวหมุนควางกลางอากาศไมหยุด
ชายหนุมชูมือขึ้นอีกครั้ง ชี้นิ้วไปที่ธูปหอม ลำแสงสีแดงสายหนึ่งพุงแฉลบผานไป
ธูปหอมสีเขียวพลันติดไฟ ควันสีเขียวโชยขึ้นไปบนทองฟา
หานลี่จองเขม็งไปที่ธูปหอม ใบหนาฉายแววแปลกประหลาด
นี่คือ ‘ธูปไมจันทน’ ดูแลวไมสะดุดตาเลยสักนิด และยิ่งไปกวานั้นยังไมมีกลิ่นเลยดวย
จะมีผลตอมดโลหิตดำจริงๆ หรือ?
หานลี่ขบคิดในใจ
ครานี้ไมตองใหใครออกคำสั่งอะไร ทุกคนก็บินแยกยายกันออกไป จากนั้นก็
ทยอยกันสำแดงเคล็ดวิชาอำพรางกาย
หานลี่เองก็กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งทะยานขึ้นไปบนทองฟา เมื่ออยูสูง
รอยจั้งเศษถึงไดหยุดลำแสงหลีกหนีลง คราที่กำลังรายอาคมนั้น ขางกายพลันมีสายรุง
สีขาวเปลงแสงสวางวาบ เงารางคนอรชรออนแอนอีกคนหนึ่งปรากฏขึ้นใกลๆ
หานลี่พลันตะลึงงัน มองปราดไป พบหญิงสาวหนาตาหมดจดคนหนึ่ง คาดไมถึง
วาจะเปน ‘เซียนเสี้ยว’ ผูนั้น
สตรีผูนี้ดูเหมือนวาจะประหลาดใจที่หานลี่มาปรากฏตัวที่นี่เชนกัน แตทันใดนั้นก็
ฉีกยิ้มรับ แลวเอยอยางมีมารยาทวา
“พี่หาน ขามีธงลำแสงลวงตาอยู มีประโยชนในการอำพรางกายที่เยี่ยมยอด มิสูใหขา
สำแดงอำพรางกายของสหายไปดวยกันหรือไม”
“หึๆ ในเมื่อเปนเชนนั้ น เชนนั้นก็ตองรบกวนสหายแลว” หานลี่เอยอย า งมี
มารยาทประโยคหนึ่ง แตก็ไมไดคัดคาน
“เรื ่ องจิ ๊ บ ๆ พี ่ ห านไม จ ำเป นต องเกรงใจหรอก!” สตรี แ ซ เ สี ้ ย วฉี ก ยิ ้ ม น อยๆ
ชูมือหนึ่งขึ้น ธงสีขาวดามหนึ่งบินออกมาก หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง แลวมาอยู
เหนือหัวของทัง้ สอง
ทันใดนั้นสตรีผูนั้นก็รายอาคม หลังจากที่ธงดามเล็กพลิ้วไหวแลว ก็ปลอยลำแสงสี
ขาวนวลออกมา ลำแสงนั้นเจิดจาจนบาดตา ชั่วพริบตาก็หอหุมทั้งสองคนเอาไว ขาง
ใน
ครูตอมาลำแสงสีขาวก็หายวับไป ที่เดิมกลับวางเปลา ไมเห็นรางของหานลี่และ
สตรีแซเสี้ยวเลยสักนิด
หานลี่ยืนนิ่งอยูที่เดิม แตยื่นมือออกไปดูมือที่กำลังลองหนของตนเอง แววตาฉายแวว
สีฟาสวางวาบ แตกลับมองไมเห็นอะไร
เขามีสีหนาประหลาดใจฉายแวบผานไปบนใบหนา พลางเอยชื่นชมหนึ่งประโยควา
“สมบัติของสหายชางอัศจรรยเสียจริง รายกาจกวาสมบัติอำพรางกายธรรมดาๆ
เปนอยางมาก”
“สหายลอเลนแลว ธงลำแสงลวงตานี้มีพลังในการอำพรางกายที่รายกาจมาก
แตขอแคมีคนใชจิตสัมผัสกวาดมา ก็ไมอาจปดบังอะไรได และใชไดแคกับอสูรแมลงที่
มีจิตสัมผัสไมแข็งแกรงเทานั้น” หญิงสาวแซเสี้ยวไดยินกลับฉีกยิ้มบางๆ ออกมา
หานลี่พลันตะลึงงัน ทันใดนั้นพลันแผจิตสัมผัสไปที่สตรีผูนั้น มองเห็นเงารางของ
อีกฝายดังคาด ในใจจึงรูสึกผอนคลายลง และรูสึกเสียดายเล็กๆ
สมบัติของอีกฝายนั้นแมแตเนตรวิญญาณวารีกระจางยังไมอาจมองทะลุผานได
หากแมแตจิตสัมผัสก็สามารถปกปดได ก็คงเปนสิ่งที่ไมธรรมดา
ครานี้คนอื่นๆ ก็อำพรางกายและเก็บกลิ่นอายลมปราณในรางไปพรอมๆ กัน
ครานี้ที่นี่นอกจากธงหอมขนาดไมใหญที่ลอยอยูกลางอากาศแลว ก็ไมมีสิ่งอื่นใดอีก
ธูปไมจันทนดอกนี้มีผลดังคาด ทุกคนเฝารอไดไมนาน หลังจากผานไปเปนเวลา
หนึ่งมื้ออาหาร เบื้องหนาภูเขายักษก็มีเสียงหึ่งๆ ดังขึ้น ทันใดนั้นตรงถ้ำที่ไมสะดุดตา
บนสันเขาก็มีมดบินขนาดยักษติดปกที่แผนหลังฝูงหนึ่งบินออกมา
มดบินเหลานี้มีขนาดตัวประมาณสองสามฉื่อ มีเขี้ยวโคงงอ ประกอบกับปกขนนก
สีเขียวมรกตคูหนึ่งที่แผนหลัง ดูแลวจึงไมตางอะไรกับวิหคตัวหนึ่ง ชางนาตกตะลึง
เสียจริง
เห็นไดชัดวา เปา หมายของมดยั กษ เ หล านี้ ก็ คื อ ธูปหอม เมื่อบิน ออกมาจาก
ภูเขายักษแลวก็เปลงเสียงรองไมหยุดพลางบินตรงเขามา ความเร็วไมเชื่องชาเลย
สักนิด ชั่วครูก็บินมาอยูทามกลางวงลอมของทุกคน
“ลงมือ!” ฉับพลันนั้นใกลกับธูปหอม ก็มีชายหนุมผมสีเงินและหญิงงามปรากฏตัว
ขึ้นพรอมกัน ปากพลันออกคำสั่งอยางเย็นชา
ชั่วขณะนั้นรอบๆ พลันมีลำแสงสวางวาบ ทันใดนั้นสมบัติยี่สิบกวาชิ้นพลันถูก
สำแดงออกมา กลายเปนลำแสงมว นมายั งฝู งมดอย างโหดเหี้ ยม หนึ่งในนั้ น ยั ง มี
ลูกบอลเพลิงประจุไฟฟารวมอยูดวย
ดู แ ล ว ทุ ก คนตางสำแดงความสามารถออกมาจนหมด หมายว า จะต องกำจัด
มดโลหิตดำเหลานี้ใหได
เสียง “ตูมๆ” พลันดังขึ้นอยางตอเนื่อง ฝูงมดทั้งหมดถูกระเบิดหาสีสันกลืนกิน
เขาไป ทันใดนั้นวายุระเบิดรอนเย็นก็ตัดสลับกันและแผออกมาจากใจกลาง แรงกด
ของวายุขนาดยักษ ถึงแมวาผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดจะอยูหางออกมารอยจั้ง ก็ยังอดที่
จะเปลี่ยนสีพลางถอยรนออกมาสองสามกาวไมได
เมื่อลำแสงและวายุที่บาคลั่งหายวับไป ตำแหนงที่มดโลหิตดำเหลานั้นอยูก็วางเปลา
แมแตฝุนควันก็ไมเหลือ
ตอนที่ 1395 อสูรคลื่นทมิฬ
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ ชายหนุมแซจูและหญิงสาวผูงดงามพลันเผยสี หนา
พึงพอใจออกมา กลุมผูบำเพ็ญเพียรที่อยูรอบๆ พลันรูสึกดีอกดีใจเปนอยางมาก
ถึงแมวาจากพลังยุทธของพวกเขาตอกรกับฝูงมดโลหิตดำแลวจะเปนเหมือน
กั บ การฆ า ไก แ ต ใ ช ม ี ด ฆ า วั ว แต ก ารทำภารกิ จ สำเร็ จ อย า งราบรื ่ น ตั ้ ง แต ข ั ้ นแรก
ก็เปนลางบอกเหตุที่ไมเลว
ชายหนุมแซจูยกมือขึ้นกวักไปทางกระถางธูป ธูปไมจันทนสีเขียวมรกตในกระถางธูป
ดับลงโดยไมมีเคาลางมากอน กลายเปนลำแสงสีเหลืองกลุมหนึ่งรอนลงในฝามือ
ของเขา พลิกฝามืออีกครั้งก็หายวับไป แตทันใดนั้นลำแสงก็สวางวาบธงสีเงินชุดหนึ่ง
ปรากฏขึ้นแทน
ธงทุกดานมีความยาวแคสองสามชุน ดานบนมีอักขระสีมวงและลวดลายอัสนีปก
อยูจำนวนมาก ใหความรูสึกที่ลึกลับเปนอยางมาก!
“ครานี้ไมมีมดโลหิตดำมาคุกคามแลว จากนี้พวกเราก็จะเขาไปในรังของอสูร
คางคกเที่ยงแท ธงอัสนีสวรรคชำระทมิฬชุดนี้จะมอบใหเหลาสหายคนละด า มก็
แลวกัน” ชายหนุมผมสีเงินกวาดสายตาไปที่เหลาผูบำเพ็ญเพียรแลวเอยอยางแชมชา
ทันใดนั้นหลังจากที่ทุกคนมองสบตากันแวบหนึ่งก็เหาะมาเบื้องหนารับธงจากมือ
ของเขาไปคนละดาม หนึ่งในนั้นก็มีชายชราแซหลี่วรวมอยูดวย
“เอาล ะ นอกจากสหายจ า วและสวิ น ที ่ จ ะคอยดู ล าดเลาอยู  ด  า นนอกแล ว
คนที่เหลือก็ตามพวกเราเขามาเถิด” ชายหนุมออกคำสั่งกับชายชราคนหนึ่งและ
ชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งเสร็จแลวก็กลายเปนสายรุงสองสายพรอมกับหญิงงามตรง
เขาไปที่ภูเขายักษ
คนอื่นๆ เองก็ไมลังเลควบคุมลำแสงหลีกหนีไปตามๆ กัน
มีเพียงชายชราและชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกชื่อที่มองสบตากันแวบหนึ่ง แลว
หัวเราะอยางขมขื่นออกมา ทันใดนั้นทั้งสองคนก็รายอาคมรางกายหายวับไปอีกครั้ง
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ เองก็ตามสองสามีภรรยาแซจูเขาไปในเนินเขาผานถ้ำที่ดู
เหมือนจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติแหงหนึ่ง
หลังจากผานไปหนึ ่ง กาน้ำชาหานลี่ และพวกก็ป รากฏตัว บนทางเดิ น ใต ด ิ นที่
เปยกชื้นแหงหนึ่ง
ในทางเดินตางเต็มไปดวยหินงอกหินยอย กำแพงรอบดานมีไขมุกวารีแขวนอยู
เต็มไปหมด บนพื้นดินมีตะไครสีเขียวนิรนามหนาสองสามชุนเกาะอยูจนทำใหพื้นลื่น
เปนอยางมาก ทั้งทางเดินทั้งคดเคี้ยวและขรุขระและยังทอดตัวลงไปใตดินไมหยุด
โชคดีที่ทางเดินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินี้กวางพอ จึงทำใหทุกคนบินหางจากพื้น
ไปสองสามฉื่อไดอยางชาๆ ไมถึงกับตองลงไปเดินบนพื้น
หานลี ่ ม องไปด า นล า งไม ห ยุ ด บางครั ้ ง ก็ ม ี แ มลงพิ ษ ขนาดใหญ บ ิ น ออกจาก
รอยแยกตรงมาหาเขา ล ว นถู ก เส น ไหมสี แ ดงที ่ พ ุ  ง ออกมาจากปลายนิ ้ ว ของเขา
ทะลุผานราง แลวกลายเปนผุยผง
ดานขางของเขานั่นคือ เซียนเสี้ยวผูนั้น
สตรีผูนี้มีสีหนาระแวดระวัง รอบกายมีลำแสงสีขาวกะพริบเรืองๆ ชั้นหนึ่ง ไมวา
แมลงพิษชนิดใดจะบินเขามา ก็จะกลายเปนผนึกแวววาวแลวรอนลงบนพื้นเปนกลุมๆ
ไมใชแคหานลี่และสตรีผูนี้ ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลือก็สำแดงความสามารถตางๆ ออกมา
สังหารแมลงพิษใดๆ ที่เขามาประชิดตัวเชนกัน
อยามองวาแมลงเหลานี้มีรูปรางไมสะดุดตา แตผูใดก็ไมกลาปลอยใหพวกมันกัดดู
สักคำ
ถึงอยางไรเสียสิ่งแปลกประหลาดในแดนปาเถื่อนก็มีอยูอยางมากมายจนนับไมถวน
ถึงแมจะเปนแมลงพิษที่ดูธรรมดาๆ แตก็อาจจะทำใหผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงคนหนึ่ง
ติดพิษจนสิ้นชีพได
เรื่องเชนนี้ไมใชวาจะไมเคยเกิดขึ้นมากอน
ผูบำเพ็ญเพียรทุกคนมุงตรงไปขางหนาอยางรวดเร็ว และยิ่งไปกวานั้นในกลุมก็มีคน
เปดปากคุยกันนอยลงเรื่อยๆ สุดทายทั้งกลุมก็ตกอยูในความเงียบสงัด นอกจากเสียง
“ฟูๆ” ของแมลงพิษที่ถูกสังหารแลว ก็ไมมีสุมเสียงใดๆ อีก
ในทางเดินไมถือวามืดมนนัก บางครั้งกำแพงรอบดานก็มีลำแสงเรืองๆ จากหินนิรนาม
สองออกมารำไร ดูคลายกับศิลาลำแสงจันทราที่มนุษยผูบำเพ็ญเพียรชอบใช
เชนนั้นจึงยิ่งเพิ่มความสะดวกใหพวกของหานลี่ที่กำลังตรงไปขางหนา
หลังจากลงไปไดอีกชั่วครู หานลี่ก็หนากระตุก มองไปยังกลุมคนที่อยูเบื้องหนา
อยางมีเลศนัย ดูเหมือนจะพบอะไรเขา
แทบจะในเวลาเดียวกันชายหนุมผมเงินที่อยูหนาสุดพลันขมวดคิ้วมุน ฉับพลันนั้น
ก็หยุดรางกายลงพรอมกับหญิงงาม
จากนั้นขางหูของหานลี่และพวกก็มีเสียงถายทอดเสียงของชายหนุมแซจูดังขึ้น
“ทุ ก คนระวั ง หน อย ข า สั ม ผั ส ได ว  า เบื ้ องหน า มี อสู ร แมลงสองตั ว ปรากฏขึ้ น
กลิ่นอายใกลเคียงกับระดับเทพแปลง กำลังขวางทางพวกเราอยู รอบๆ อาจจะมี
อสูรแมลงชนิดอื่น ขาไมสะดวกที่จะแผจิตสัมผัสออกไปตรวจสอบมากนัก จำตองให
คนลวงหนาไปดูเพื่อยืนยันวาเปนอสูรแมลงชนิดใดกับตาแลวคอยวากัน ระวังหนอย
อยาเพิ่งลงมือ!”
ทุกคนพลันตะลึงงัน แตทันใดนั้นก็มีคนหนึ่งกาวออกมา เอยปากวา
“ใหขานอยไปดูเถิด ขานอยไมมีความสามารถอื่น มีแคเคล็ดวิชาหลีกหนีที่พอ
มั่นใจอยูหลายสวน ไมทราบวาทานอาวุโสจะเชื่อมั่นในตัวขานอยหรือไม”
“หึๆ ที่แทก็พี่โหยวนี่เอง เคล็ดวิชาวายุหลีกหนีของสหายมหัศจรรยเปนอยางมาก
ผูแซจูยังอยากมีเลย” ชั่วขณะที่ชายหนุมผมสีเงินมองเห็นคนผูนั้นอยางชัดแจงแลว
ใบหนาก็ประดับไปดวยรอยยิ้ม
คนผูนี้คือคนชายชราสวมงอบที่เคยเอยถามในวิหารน้ำแข็งกอนที่จะออกเดินทาง
ชายชราไดยินแลวพลันหัวเราะหึๆ ชั่วขณะนั้นขางกายพลันมีลมพายุหัดมาหอบหนึ่ง
คนก็หายวับไป
เปนเคล็ดวิชาวายุหลีกหนีที่อัศจรรยดังคาด
คนอื่นๆ เองก็หยุดรออยูที่เดิม คนจำนวนไมนอยตางรูสึกสนใจอสูรแมลงที่มาขวางอยู
เบื้องหนา
ผานไปแคหนึ่งมื้ออาหาร รางของชายชราก็ปรากฏขึ้นทามกลางสายลมออนๆ
ตรงตำแหนงเดิมที่เขาหายไป หากไมใชเพราะผูบำเพ็ญเพียรทั้งหมดกำลังจับจองอยู
ก็แทบจะคิดวาชายชราไมไดจากไปเลยสักนิด
หลังจากที่ชายชรารอจนรางกายปรากฏตัวทั้งเรือนรางแลว ทันใดนั้นก็คอมตัว
ใหกับชายหนุมแซจูและภรรยาพลางเอยวา
“ผูแซโหยวไปตรวจสอบมาแลว เบื้องหนามีอสูรคลื่นทมิฬสองตัว เกรงวาจะ
รับมือยากไปหนอย”
“อสูรคลื่นทมิฬ!” เมื่อไดยินคำนี้ผูบำเพ็ญเพียรที่อยูในทางเดินพลันเกิดเสียงอื้ออึงขึ้น
คนจำนวนไมนอยเผยสีหนาประหลาดใจออกมา ถึงแมจะเปนชายหนุมแซจูเองก็
ยังอดที่จะขมวดคิ้วไมได
หานลี่มีขอมูลเกี่ยวกับอสูรคลื่นทมิฬปรากฏขึ้นในหัวทันที
อสู ร คลื ่ นทมิ ฬคื อ อสู ร แมลงชนิ ด หนึ ่ ง อสู ร ชนิ ด นี ้ ไ ม ไ ด น  า กลั ว นั ก แต จุดที่
ปรากฏตัวกลับยุงยากมาก
เพราะวาอสูรชนิดนี้ไมไดมีกำลังอื่น แตมีความสามารถดานเคล็ดวิชาหลีกหนีธาตุน้ำ
และอสนี ยิ่งไปกวานั้นยังขี้ขลาด แคลมพัดก็หนีเตลิดไป สิ่งที่นาปวดหัวยิ่งกวาก็คือ
อสูรแมลงตัวนี้ยังมีอีกชื่อนามวา ‘อสูรเสียงกลอง’ เมื่อพบศัตรู รางกายจะเปลง
เสียงรองประหลาดๆ คลายกลองดังขึ้น น้ำเสียงดังกังวาน จนแทบจะกระจายไปใน
ระยะสองสามรอยลี้
ดังนั้นสำนักและผูที่มีความสามารถตางๆ ในเผามนุษยและปศาจจึงนำอสูรชนิดนี้
มาเลี้ยงดูเพื่อใชระวังภัยเสียเลย
หากไมทันไดสังหารมัน จะตองทำใหอสูรแมลงอื่นๆ ในภูเขายักษตกใจแน ถึงครานั้น
จะเกิดอะไรขึ้น ก็มีแตฟาเทานั้นที่รู
“ยุงยากเสียแลว! แมนวาขาจะเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา แต
ความสามารถที่ฝกฝนมาทั้งหมดก็ไมไดเชี่ยวชาญในเคล็ดวิชาการอำพรางตัวเลย ไมวา
จมูกหรือจิตสัมผัสของอสูรคลื่นทมิฬก็ไมธรรมดา เคล็ดวิชาหลีกหนีของพวกเราสอง
สามีภรรยานั้นไมธรรมดา มั่นใจไดวาจะจัดการไดตัวหนึ่ง แตอีกตัวนั้น จำตองใหสหาย
อีกคนหนึ่ งลงมื อจัด การ” ชายหนุมแซ จู ข บคิ ดเล็ ก น อย แลวถึงได เ อ ย กั บทุ ก คน
สุดทายสายตาก็ตกลงบนเรือนรางของชายชราแซโหยว
“ขานอยไมไหวแน จากเคล็ดวิชาวายุหลีกหนีของตาเฒานั้นเขาใกลพวกมันนั้นไม
เปนปญหา แตผิวของอสูรคลื่นทมิฬหนามาก ความสามารถที่ขานอยฝกฝนไมพอที่จะ
สังหารมัน จะเกิดความผิดพลาดเอาได” ชายชราโบกมืออยางตอเนื่อง
ชายหนุ  ม ผมเงิ นเห็นเชนนั ้น พลั น หั ว เราะอยา งขมขื ่ น ออกมา แล ว มองไปที่
ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นปลายคนอื่นๆ
คนเหลานั้นพลันขมวดคิ้ว ลวนไมมีความมั่นใจเทาใดนัก เรื่องที่เกี่ยวข องกับ
แผนการทั ้ ง หมดนั ้ น หากไม ม ั ่ น ใจเต็ ม เป  ย ม ผู  ใ ดก็ ไ ม ก ล า ตอบรั บ ง า ยๆ และ
ผูที่เชี่ยวชาญในเคล็ดวิชาหลีกหนีและสังหารในคนเดียวกัน ก็หายากไปหนอย
ชายหนุมแซจูเห็นเชนนั้น สีหนาก็คอยๆ เครงขรึมขึ้น
แผนที่วางมาหลายป จะพังไมเปนทาเพียงเพราะอสูรแมลงตัวเดียวหรือ?
“หรือวาไมอาจสำแดงเคล็ดวิชาลี้ธรณีออมผานมันไป?” ผูบำเพ็ญเพียรคนหนึ่งเอย
ถามอยางไมเขาใจนัก
“หากออมมันไปไดละก็ ขานอยจะปวดหัวเชนนี้หรือ ไมรูวาภูเขาลูกนี้มีชีพจรศิลา
แมเหล็กยักษอยูตรงไหน เมื่อหลีกหนีเขาไปในภูเขาศิลา พลังลมปราณทั้งหมดก็จะถูก
มันดูดซับไป มีเพียงตองสำแดงเคล็ดวิชาหลีกหนี จึงจะไมเปนไร”
“ชีพจรศิลาแมเหล็ก!” คนจำนวนไมนอยไดยินคำนี้ ตางสูดลมหายใจเย็นยะเยือก
เขาไปเฮือกหนึ่ง แลวหนาเปลี่ยนสี
คนที่เอยถามยิ่งมีสีหนาดูไมไดเปนพิเศษ
“ทานอาวุโสจู หากขานอยจัดการอีกตัวได จะแบงโลหิตคางคกเที่ยงแทใหขาเพิ่ม
อีกสวนหนึ่งหรือไม” เสียงเฉยชาพลันดังขึ้นในเหลาผูบำเพ็ญเพียร
ผูพูดก็คือหานลี่ที่อยูรั้งทายแถว หญิงสาวหนาตาหมดจดที่อยูดานขางไดยิน พลัน
รูสึกตะลึงงัน
“อันใด สหายหานมั่นใจวาจะจัดการอสูรตัวนี้ไดหรือ? หากทำไดละก็ แบงโลหิต
คางคกเที่ยงแทเพิ่มใหสหายอีกสวนหนึ่งก็ไมใชวาจะทำไมได แตหากลมเหลวละก็…”
ชายหนุมแซจูเห็นหานลี่ก็รูสึกประหลาดใจ แลวตอบกลับดวยความคลางแคลงใจ
เล็กนอย
เห็นไดชัดวาเขายังดูถูกที่หานลี่เปนแคผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นกลางคนหนึ่ง
“หึๆ ทานอาวุโปรดวางใจ หากขานอยทำพลาด ทำใหสวนใดเสียหาย ขานอย
ยินดีจะชดใช” หานลี่หัวเราะอยางแผวเบาออกมา
“ดูทาสหายหานคงมีความมั่นใจเปนอยางมาก เยี่ยม อสูรแมลงอีกตัวก็มอบให
สหายก็แลวกัน” ชายหนุมแซจูนั้นเปนผูที่ตัดสินใจเด็ดขาด แคขบคิดเล็กนอยก็
พยักหนาตอบตกลงจริงๆ
กลับเปนผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ที่เริ่มซุบซิบนินทา พิจารณาหานลี่ดวยสีหนา
แตกตางกันไมหยุด บางคนถึงกับปกปดสีหนาระแวงออกมาอยางปดไมมิด
“ทวาเพื่อเปนการปองกัน สหายโหยว ทานเคยอำพรางกายมาแลว คอยชวย
สหายหานอยูดานขางก็แลวกัน!” ชายหนุมแซจูเปลี่ยนน้ำเสียง หันไปเอยกับชายชรา
สวมงอบ
“ขอรับ เรื่องนี้มอบใหตาเฒาเถิด” ครั้งนี้ตาเฒากลับตอบตกลง
ดังนั้นจากนี้ชายหนุมแซจูก็ขยับมุมปากถายทอดเสียงอะไรสักอยางไปหาหญิงงาม
สองมือของหญิงงามผูนั้นพลันรายอาคม ฉับพลันนั้นผิวก็มีลำแสงสีแดงปรากฏขึ้น
เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไปจากที่เดิม
สวนหานลี่กลับควักยันตสีมวงออกมาตบไปที่บนราง ชั่วขณะนั้นอักขระสีเ งิน
พลันลอยหมุนวนแลวหายตัวไปอยางไรรองรอยเชนกัน
ชายชราพลันสำแดงเคล็ดวิชาวายุหลีกหนีพุงตรงไป
ภายใตการนำทางของชายชรา หานลี่และหญิงงามตรงไปไดแคชั่วครูก็มาถึงที่หมาย
เบื้องหนาเปนทางเดินกวางๆ แมลงตัวอวนสีขาวสองตัวกำลังเกาะอยูบนกำแพงหิน
ดานหนึ่ง กำลังกัดแทะตะไครสีเขียวนิรนามชนิดหนึ่ง
ตอนที่ 1396 ความเปลี่ยนแปลงที่นาสะพรึง
แมลงอวนสองตัวนี้มีความยาวสองจั้ง ผิวเปนผลึกสีขาวและยิ่งไปกวานั้นยั งมี
ปุมๆ ราวกับดักแดยักษ แตหนึ่งในนั้นมีหัวที่ไมใหญนัก ดานบนไมเพียงมีตาเล็กๆ
สี แ ดงหกตา ยิ ่ ง ไปกว า นั ้นกำลั ง เคี ้ย วตะไครน ้ ำ ปากที ่ เ ต็ ม ไปด วยเขี ้ย วแหลมอา
ออกเปนบางครั้งคราว คิดไมถึงวาจะใหญโตมาก
หานลี่ที่สำแดงเคล็ดวิชาลวงตาแลว ตอใหผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาก็ไม
อาจพบตัวเขาได แนนอนวาจึงไมกังวลใจวาอสูรแมลงระดับเทพแปลงสองตัวจะพบ
รองรอยของเขา ทันใดนั้นก็ลอยเขาไปอยูเหนืออสูรแมลงตัวหนึ่งอยางทระนงองอาจ
แววตาถึงไดกวาดมองไป
ภายใต เ นตรวิ ญ ญาณวารี ก ระจ า งของเขา ใกล ก ั บ อสู ร คลื ่ น ทมิ ฬอี ก ตั ว หนึ่ ง
เงาสีแดงจางๆ สายหนึ่งยืนอยูตรงนั้น
นั่นก็คือ สตรีผูงดงามที่สำแดงเคล็ดวิชาหลีกหนี
หลังจากที่สตรีผูนี้อยูหางไปอีกสองสามจั้ง ลำแสงสีเขียวอีกสายหนึ่งก็พลิ้วไหว
กลับเปนชายชราแซเวิงที่อาศัยพลังของวายุอำพรางกายไว แตครานี้ทั้งสองลวนมอง
ไปรอบๆ ดวยสีหนาตกตะลึงระคนฉงน ไมอาจสัมผัสไดถึงการดำรงอยูของหานลี่
หานลี่เองก็ไมไดใสใจ หลังจากขยับมุมปาก ก็ถายทอดเสียงออกมาสองสาม
ประโยคเพือ่ ชี้ตำแหนงของตนเอง
แนนอนวาทั้งสองลวนมีสีหนาตกตะลึงเปนอยางมาก แตชายชราที่กลายเปนลำแสง
สีเขียวกลับเปลงแสงสวางวาบมาทางหานลี่ แตก็ไมกลาเขาใกลอสูรแมลงในระยะ
สิบจั้งอยางหานลี่
เห็นไดชัดวาหากเขาใกลเกินไป เขาก็ไมมั่นใจวาจะไมถูกพบตัว
กลับเปนหญิงงามผูนั้นที่คูควรกับการเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา หลังจากที่
ระงับสีหนาตะลึงงันแลว คนก็ถอยมาอยูหางจากอสูรแมลงอีกตัวไปหาหกจั้ง แลวถึง
ไดหยุดลงอยางเงียบเชียบ
ครานั้นทั้งสามคนตางยืนนิ่งไมขยับ มีเพียงเสียง “ซือๆ” ที่อสูรคลืน่ ทมิฬสองตัว
กัดกินตะไครดังออกมา
หานลี่แววตาเปลงประกายเย็นเยียบ มือหนึ่งเปลงแสงสีดำมะเมื่อม ตะปบไปทาง
อสูรแมลงที่อยูดานลางกลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเทาพลันพุ ง ออกมาจากนิ้ วทั้ งหา ภูเขานอยสีดำลุ ก หนึ่ ง
ปรากฏขึ้นทามกลางลำแสงสีเทา แลวตกลงมา
อสูรแมลงที่อยูดานลางพลันตกตะลึง รางกายพลิ้วไหว ชั่วพริบตาก็ขยายใหญขึ้น
จนเปนกอนเนื้อขนาดยักษ รางกายเปลงแสงสีฟาขาวสลับกัน
แตกลับสายไปเสียแลว!
ระยะใกลแคนี้ ลำแสงสีเทาแคสวางวาบ ก็กวาดอสูรแมลงตัวนั้นเขาไปขา งใน
คลื่นทมิฬสองสีบนรางเปลงแสงสวางวาบ ราวกับพบกับดาวมฤตยูและถูกทำลายลาง
ในพริบตา
อสูรแมลงเห็นสถานการณไมดี รางกายกลมๆ ของมันก็สั่นคลอน คลื่นที่ไรรูปราง
กลุมหนึ่งปรากฏขึ้นบนผิว และแผไปรอบๆ ดาน
หานลี่กลับหัวเราะอยางเย็นชาออกมา นิ้วสีดำทั้งหาประกบเขาหากันเบาๆ
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเทาที่อยูดานลางพลันเปลงแสงสวางวาบ หลังจากเสียงกึกๆ ดังขึ้น
ลำแสงสีเทาเจ็ดแปดลูกก็ทยอยกันพุงออกมาจากรางของอสูรตนนั้น เมื่อระลอกคลื่น
ที่ไรรูปรางสัมผัสกับลำแสงสีเทาเหลานั้น ชั่วขณะนั้นแตละชั้นก็คอยๆ บางเบาลง
สุดทายก็สลายหายไปทามกลางลำแสงเทวะดูดปราณ
รางของอสูรคลื่นทมิฬบิดเบี้ยว ยังคิดจะสำแดงความสามารถอะไรตอ แตกลับมี
เงาสีดำปรากฏขึ้นที่เหนือหัว
เสียง “ปง” อันอึกทึกดังขึ้น กลายเปนภูเขาสีดำขนาดประมาณเจ็ดแปดจั้ง ทุบลง
มาที่รางอันอวนกลมของอสูรคลื่นทมิฬ จนมันไมอาจขยับตัวไดเลยแมแตนอย
ทวาอสูรตัวนี้นั้นหนังหนาสมคำร่ำลือจริงๆ ทามกลางพลังมหาศาลขนาดนี้กลับไม
หากดเนื้อใหแหลกได และยังบิดตัวไปมาคิดหนีไมหยุด
แตในตอนนั้นเองหานลี่พลันสะบัดมืออีกครั้ง เปลวเพลิงสีเงินกลุมหนึ่งพุงออกไป
โจมตีไปยังตีนยอดเขาสีดำ
หลังจากเสียงอึกทึกดังขึ้น อสูรแมลงกลายเปนเถาถานทามกลางเปลวเพลิงโดย
ไมอาจดิ้นรนไดอีกทันที
แนนอนวาอานุภาพของเพลิงกลืนวิญญาณไมใชสิ่งที่อสูรแมลงจะตานทานได
ตั้งแตที่หานลี่ลงมือจนถึงตอนที่กำจัดอสูรคลื่นทมิฬตัวนี้นั้นใชเวลาไปเพียงชั่วอึด
ใจเทานั้น
เมื่อเขาจัดการทำอยางเสร็จสิ้น ก็หันหนาไปมองดานหลังแวบหนึ่ง เห็นเพียง
ชายชราแซเวิงที่อยูหางออกไปสองสามจั้ง กำลังมองมาที่เขาดวยสีหนาตื่นตะลึง
เห็นไดชัดวาที่หานลี่กำจัดอสูรคลื่นทมิฬไดอยางงายดายเชนนี้ ทำใหผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลงขั้นปลายตกตะลึง
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา สายตาเหลือบมองไปที่อีกดาน
เห็นเพียงอสูรแมลงอีกตัวหนึ่งกลายเปนสองสวน
หญิงสาวผูงดงามผูนั้นกำลังลอยอยูเหนือรางของอสูรแมลง เบื้องหนามีกระบี่
สีแดงยาวสองสามฉื่อเลมหนึ่งลอยอยู กำลังมองมาทางนี้ดวยสีหนาประหลาดเชนกัน
“พี่โหยวจัดการอสูรแมลงสองตัวนี้ไดแลว รายงานเหลาอาวุโสเถิด” หานลี่คอม
ตัวใหหญิงงาม แลวเอยกับชายชราดวยสีหนาราบเรียบ
“นั่นมันแนนอนอยูแลว! พี่หาน ทานอาวุโสชิงโปรดรอสักประเดี๋ยว” ชายชรา
แซโหยวไมไดเผยสีหนาไมพอใจจากการถูกใชงานออกมา แตกลับตอบรับดวยสีหนาที่
ประดั บ ไปด ว ยรอยยิ ้ม ทั นใดนั ้ นก็ สะบั ด แขนเสื้ อ ยั น ต ถ  า ยทอดเสี ย งพุ ง ออกไป
เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไปจากกลางอากาศ
หลังจากผานไปชั่วครู คนอื่นๆ ก็ไลตามมาทัน
ชายหนุมผมสีเงินเห็นสถานการณเชนนี้ หลังจากฟงชายชราอธิบายขั้นตอนอยาง
ละเอี ย ดอี ก ครั้ ง แล ว ก็ เ ผยสี ห น า พึ ง พอใจออกมา ทั น ใดนั ้ น ก็ เ อ ย ชมหานลี ่ แ ละ
พวก และพาทุกคนเดินทางตออยางไมยอมเสียเวลา
หานลี่เดินรั้งอยูที่ทายแถวอีกครั้ง
แตครั้งนี้สายตาของผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ที่มองมากลับไมเหมือนเดิม แล ว
การสังหารอสูรคลื่นทมิฬ ยังเปนสิ่งที่ผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นปลายเองก็ยัง
ไมมั่นใจวาจะทำได
เซี ย นอิ ๋ ง ที ่ ส วมผ า คลุ ม หน า และสตรี ผ ู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รแซ เ สี ้ ย วผู  ม ี ร  า งกาย
อรชรออนแอนนั้นกลับทนไมไหวแอบลอบมองมาหลายครั้ง
หานลี่แสรงทำเปนไมเห็นเรื่องเหลานี้ และแคเดินตามไปดานหลังอยางเงียบๆ
เทานั้น
เมื่อเดินผานทางเดินไปไดไมนาน หลังจากหักเลี้ยวไปรอบหนึ่ง เบื้องหนาก็มีเสียงธาร
น้ำไหลดังขึ้น ไอน้ำที่หนาแนนและเย็นเยียบโชยมาปะทะกับใบหนา
คาดไมถึงวาเบื้องหนาจะมีธารน้ำใตดินกวางที่ยี่สิบสามสิบจั้งสายหนึ่ง กระแสน้ำ
ที่ไหลวนอยู คาดไมถึงวาจะไหลเชี่ยวเปนอยางมาก
“ทุกทานโปรดระวังใหดี ขามลำธารนี้ไปก็จะเปนรังของอสูรคางคกเที่ยงแท
สถานการณในรังนั้น ขาก็ไดบอกเลากับทุกทานแลววาพวกเราจะรับมือไดอยา ง
งายดาย แตอสูรแมลงเงาเหลานั้นนั้นรับมือยากมาก ตองอาศัยเหลาสหายแลว”
ชายหนุมแซจูมองไปทางลำธาร แลวหันหนาไปเอยกับหานลี่และพวกดวยสีหนา
เครงขรึม
“ทานอาวุโสจูโปรดวางใจ! มีเขตอาคมอสนีสวรรคชำระทมิฬ ประกอบกับพี่หาน
และเซี ย นเสี ้ ย ว แม ว  า อสู ร แมลงเงาจะมี ช ื ่ อเสี ย งแต ก ็ ไ ม อ าจหนี ร อดไปได แ น ”
ผู บ ำเพ็ ญ เพี ย รวั ย กลางคนสวมชุ ด สี เ หลื อ งคนหนึ ่ ง ตบที ่ อ กของตั ว เองเป น การ
รับประกัน
ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ที่ไดรับธงอสนีสวรรคชำระทมิฬไปก็เอยสนับสนุนอยาง
เห็นดวยเชนกัน
หลังจากที่หานลี่และสตรีผ ูบ ำเพ็ ญ เพียรแซเสี้ย วมองสบตากั นแวบหนึ่ ง แล ว
กลับไมไดเอยอะไรออกมา
แตชายหนุมแซจูเห็นเชนนั้น กลับพึงพอใจเปนอยางมาก หลังจากพยักหนาแลว
ก็พาหญิงงามลวงหนาลงไปในลำธาร คนอื่นๆ ทยอยกันตามมาติดๆ
ในเวลาเดียวกัน ดานนอกภูเขายักษ ชายชราและชายวัยกลางคนที่รับหนาที่เฝา
ระวังซึ่งซอนตัวอยูในเมฆสีขาวนั้น ก็กำลังสนทนาอะไรกันอยูสักอยางอยางสบายใจ
“ผูเฒาจาว เจาวาทานอาวุโสจูและพวกนาจะไปถึงรังของคางคกเที่ยงแทแลว
กระมัง จุๆ คางคกเที่ยงแทตาสีเขียวมรกตโตเต็มวัยสองตัว ถึงแมวาจำนวนคนจะมาก
แตโลหิตที่แบงกันก็คงได กันไมน อย โลหิตของลูกอสูรตัวอื่นๆ แมนวาจะไมได มี
ประโยชนอยางตัวที่โตเต็มวัย แตก็มีประสิทธิภาพอยูสวนหนึ่ง ไมไรคาจริงๆ ที่พวกเรา
ลำบากถอมาถึงที่นี่ แตนาเสียดายพวกเราสองคนถูกจัดใหอยูดานนอก เกรงวาจำนวน
ของโลหิตวิญญาณที่แบงให ก็คงนอยสุดกระมัง” ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนสวมชุด
สีฟากนดาชายชราชุดขาวที่อยูดานขาง
“หึๆ สหายสวินไมพอใจ แตอยามองแคขอดีของคนที่เขาไปในรังเลย ไมแนวา
อาจจะมีคนถวายชีวิตไปก็ไดนะ” ชายชราผูนั้นหัวเราะแหงๆ ออกมา ตอบกลับอยาง
ไมใสใจ
“เพลี่ยงพล้ำ? คงไมหรอก! ขาวาพวกของทานอาวุโสจูเตรียมการอยางรัดกุมเชนนี้
นาจะจัดการไดอยางงายดายถึงจะถูก จะมีอันตรายอันใด?” ผูบำเพ็ญเพียร วัย
กลางคนยนคิ้วทาทีไมเชื่อถือ
“ดู แ ล ว สหายสวิ น คงจะเข า มาในส ว นลึ ก ของแดนป า เถื ่ อ นนี ้ เ ป น ครั ้ ง แรก
สหายจำเอาไวใหดีนะ ในแดนปาเถื่อนนั้นไมมีอะไรที่ปลอดภัยเต็มรอย เทียบกับ
พวกเราที่คอยระวังภัยอยูที่นี่ หากมีอสูรโบราณหรือเผาประหลาดระดับเทพแปลง
หรือระดับหลอมสุญตาฝูงใหญพุงออกมาจากเมฆก็อาจจะเปนไปได” ชายชราถอน
หายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แลวเอยออกมาอยางแชมชา
“ฮาๆ...ผูเฒาจาวพูดเกินไปหนอยกระมัง! ที่นี่ลึกลับขนาดนี้จะมีเรื่องเชนนี้เกิดขึ้น
ไดอยางไร…” ผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนไดยิน กลับหัวเราะออกมายกใหญ
ชายชรากลั บ สั ่ นศี ร ษะ ตอนที ่ ย ั ง คิ ด จะเอ ย อะไรอี ก ครั ้ ง ตรงข า มกลั บ มี สิ่ ง
แปลกประหลาดปรากฏขึ้น
ลำแสงเปลงประกายสายหนึ่งปรากฏขึ้นที่คอหอยของผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคน
อยางไมมีเคาลางมากอน เปลงแสงสวางวาบ ชั่วขณะนั้นศีรษะพลันกลิ้งหลุนๆ ลงไป
โลหิตพุงขึ้นไปสองสามฉื่อ
“แยแลว!”
ชายชรากลับมีปฏิกิริยาที่วองไว แทบจะในเวลาเดียวกันที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
รางกายก็พุงออกไป ในเวลาเดียวกันพลันสะบัดแขนเสื้อ โลสีเขียวดานหนึ่งพลันพุง
ออกมา กลายเปนลำแสงหอหุมรางเอาไวชั้นหนึ่ง แลวยังอาปากออก พนสายรุงสีเงิน
อีกสายออกมา โคจรอยูรอบรางกาย
แตทุกอยางลวนไรซึ่งประโยชน!
เหนือศีรษะของชายชราพลันมีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น กรงเล็บยักษสีเขียวดำ
ขนาดสองสามจั ้ ง เปล ง แสงสว างวาบขึ ้น กลางอากาศ ตะปบลงมาราวกั บสายฟา
รวบทั้งชายชราและเกราะปองกันเอาไวในมือและออกแรงบีบ
ชั่วขณะนั้นเสียงกรีดรองอันนาอนาถพลันดังขึ้น ชายชรากลายเปนบอโลหิต คาดไมถึง
วาแมแตทารกวิญญาณก็ไมอาจหนีออกมาได
กลับเปนผูบำเพ็ญเพียรวัยกลางคนไรหัวที่รางกายสั่นเทา ลำแสงสีเขียวกลุม หนึ่ง
พุงออกมา ดานในมีทารกวิญญาณสูงสองชุน สองมือกำลังกอดสมบัติที่มีลั กษณะ
เหมือนลูกธนูเอาไว คิดจะหนีไปดวยสีหนาตื่นตะลึง
แต ท ารกวิ ญ ญาณเพิ ่ ง จะเคลื ่ อนย ายหนี ไ ปได สามสิ บ จั ้ ง เศษ ก็ ม ี ล ำแสงสีดำ
สายหนึ่งพุงออกมา เปลงแสงสวางวาบแลวมวนทารกวิญญาณเขาไปขางใน แลว
พลิ้วไหวหายวับไปอีกครั้ง
ผูบำเพ็ญเพียรชั้นสูงระดับเทพแปลงสองคนถูกสังหารทิ้งไปเสียอยางนั้น
ครูตอมาลำแสงสีดำเขียวสองสีที่พลันเปลงแสงสวางวาบขึ้นใกลๆ ฉับพลันนั้น
กลางอากาศพลันมีเงารางยักษสองรางใหญรางหนึ่งเล็กรางหนึ่งปรากฏขึ้น
ตนหนึ ่ ง สู ง สิ บ จั ้ ง ใบหน า เขี ้ ย วคล้ ำ มี เ ขี ้ ย วงอกออกมา บนหั ว มี เ ขาสองเขา
รางกายใหญโตราวกับภูตผี อีกตนหนึ่งกลับมีความสูงแคสองสามจั้ง แตรางกาย
อรชรออนแอน คาดไมถึงวาจะเปนสตรีหนาตางดงามคนหนึ่ง แตมือหนึ่งกลับถือ
ขวานยักษสีฟาที่สูงกวานางเอาไว ดูแลวแปลกประหลาดเปนอยางมาก
แผนหลังของทั้งสองกลับมีปกเนื้อสีแดงสดอยูคูหนึ่ง ดานบนเปลงอักขระหลาก
สีสันประหลาดๆ ออกมา เปลงแสงสวางวาบดูงดงามมาก
“ไมเลว ทารกของมนุษยผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงเปนของชดเชยชิ้นใหญดังคาด
เจาระเบิดไปเสียเลย มันจะสิ้นเปลืองเกินไปหนอยกระมัง!” หญิงงามผูถือขวานอยู
กำลังลอยอยู เ หนื อศพไร หั วและกวาดสายตาไป แลบลิ้นสีแดงออกมา เอยอย า ง
เสียดายเล็กๆ
“ชวงนี้ขากำลังจะพัฒนา จึงควบคุมพลังไมคอยสะดวกนัก อีกอยางแคทารกวิญาณ
ของมนุษยผูบำเพ็ ญเพี ยรระดั บ เทพแปลงคนหนึ่ งจะมีค าอะไร สิ่งที่พวกเราต อง
ตามหานั้น ตองเปนทารกของผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา ถึงจะเปนของชดเชย
ชิ้นใหญที่แทจริง หากโชคดีไดกินทารกวิญญาณของผูบำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย
พวกเราก็อาจจะพัฒนาจนไปถึงระดับราชันยสามงามราตรีได” ตัวประหลาดหนาตา
อัปลักษณตนนั้นกลับเปลงเสียงอูอี้ๆ ราวกับฟาคำรามออกมา
ตอนที่ 1397 พลานุภาพของการตัดภูเขา
“ผูบำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย ไหนเลยจะกลาววาสังหารก็สังหารไดเลย
อย า งน อยที ่ ส ุ ด เจ า กั บ ข าร ว มมื อกั น ก็ ไ ม อาจเป น คู  ต อสู  ก ับ ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ยรระดับ
ผสานอินทรียคนหนึ่งได เอาละ อยาไรสาระ ตองรีบทำธุระใหเสร็จ ขาไมคิดวาจะมา
พบกับมนุษยผูบำเพ็ญเพียรไวขนาดนี้ ที่นี่นาจะอยูหางจากเมืองเทวะสวรรค ข อง
เผามนุษยไปอยางนอยก็ตองใชเวลาครึ่งป” สตรีวัยดรุณีกลับตัดความคิดเพอฝนของ
สหายรวมทาง แลวยนคิ้วขณะเอย
“นี่จะแปลกอะไร กวาครึ่งคนจะเปนผูบำเพ็ญเพียรที่เผามนุษยสงมาลาสมบัติ
ในเมื่อสัง หารทิ ้ง แลว ภารกิจของเราก็ เสร็ จสมบูร ณ ตอใหมีปลาหลุดรอดแหไป
ก็มอบใหคนที่อยูดานหลังก็แลวกัน พวกเรารับหนาที่แคกำจัดเปาหมายที่ปรากฏตัว
ชั ด เจนเท า นั ้ น ” ภู ต อั ป ลั ก ษณ ก ระพื อ ป ก ครั ้ ง หนึ ่ ง แล ว เอ ย พร อ มกั บ หั ว เราะ
อยางโหดเหี้ยม
“นั่นมันก็ใช พวกเราไปกันเถิด อีกเดี๋ยวกองทัพก็นาจะมาถึงแลว”
หญิ ง สาวผู ง ดงามพยั ก หนา พร อมรอยยิ้ ม บางๆ ทั น ใดนั ้ น ร างกายก็ พลิ ้วไหว
หายวับไปจากที่เดิม สวนภูตอัปลักษณกลับอาปากออก ออกแรงสูด คาดไมถึงวาจะ
ดูดรางไรศีรษะรางนั้นเขาไปในปาก เคี้ยวกรวมๆ สองสามครั้ง แลวกลืนลงไปในทอง
ทั้งหมด จากนั้นปกยักษที่แผหลังก็สยายออก เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไปจาก
กลางอากาศเชนกัน
และจากที่เผาประหลาดสองตนจากไปไดไมนานนัก ฉับพลันนั้นขอบฟาก็มีเสียงกึกๆ
ประหลาดๆ ดังมาก เริ่มจากเบาๆ ทันใดนั้นเสียงพลันดังขึ้นเรื่อยๆ ขอบฟามีจุดสีดำ
ปรากฏขึ้น สองจุด สามจุด...ชั่วพริบตาก็มีจุดสีดำจำนวนนับไมถวน ปรากฏอยูเต็ม
ไปหมด กระจายอยูเต็มทองฟาราวกับฝูงแมลงก็ไมปาน
จุดสีดำเหลานี้มีนับพันนับหมื่นจุด แตทุกจุดลวนมีความเร็ววองไว ชั่วพริบตาก็
เขาใกลภูเขายักษ
ครานี้พลันมองเห็นโฉมหนาที่แทจริงของจุดสีดำไดอยางชัดเจน คาดไมถึงวาจะ
เปนคนติดปดเหมือนกับภูตยักษและสตรีกอนหนานี้ไมมีผิดเพี้ยน ทั้งสองตางเปลือย
ทอนแขนและขา นอกจากจุดตายแลวก็สวมอาภรณนอยชิ้นมาก และเห็นไดชัดวา
จำนวนของภูตยักษมีมากกวาสตรีติดปก ยิ่งไปกวานั้นยังรวมอยูดวยกันพลางสงเสียง
รองคำรามผานภูเขายักษไป
เผาประหลาดติดปกเหลานี้ปรากฏขึ้นบนทองฟาอยางไมมีที่สิ้นสุด บินไปมาอยู
บนทองฟาเปนระลอกๆ ไมหยุด หนึ่งชั่วยามเต็มๆ ขอบฟาก็ยังคงมีจุดสีดำปรากฏขึ้น
อยางตอเนื่อง ราวกับวาไมมีที่สิ้นสุด
หลังจากผานไปอีกชั่วครู เสียงบนทองฟาก็เปลี่ยนไป นอกจากเสียงหึ่งๆ แลวคาด
ไมถึงวาจะมีเสียงฟารองคำรามดังออกมา ทันใดนั้นขอบฟาก็มีสิ่งมหึมาราวกับขุนเขา
ปรากฏขึ้น
เจาสิ่งนี้มีความสูงสองสามพันจั้ง เปนสีเหลืองออน เปนทรงกลมกรวยเหมือนรังผึ้ง
หมุนควางอยูกลางอากาศไมหยุด
เบื้องหนาเจาสิ่งยักษนี้มีอสรพิษบินติดปกเปลงแสงระยิบระยับอยูยี่สิบสามสิบตัว
กำลังเลื้อยลากเจาสิ่งนี้ไปขางหนาอยางชาๆ ดานขางรังผึ้งมีเผาประหลาดติด ปก
สวมชุดเกราะสงครามมือถือมีดยักษเปนกลุมๆ กำลังหอมลอมเจาสิ่งยักษนี้ใหเคลื่อน
ไปขางหนา
ของสิ่งนี้ดูเหมือนหนักอึ้งมาก แตความจริงแลวกลับเคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว คราที่บิน
ผานภูเขายักษที่มีพายุเฮอรริเคนนั้น ก็พัดหมอกวารีที่อยูดานหลังออกไปไมนอย
การเคลื่อนไหวของ ‘รังผึ้ง’ ยักษ กลับทำใหอสูรวิหคสีขาวที่ซอนตัวอยูในมาน
หมอกดานลางโกรธเกรี้ยว ทันใดนั้นฝูงวิหคบินก็บินออกมาจากมานหมอก อาปาก
ออกพนธนูวารีสีดำเปนสายๆ ออกมา
เมื่อเห็นฉากนี้เผาประหลาดสวมชุดเกราะสีเงินเหลานั้นก็ไมไดเกรงใจ แนนอนวา
พลั น โบกมี ด ยั ก ษ ใ นมื อ ไปด า นล า ง ราวกั บ พยั ค ฆ เ ข า ไปในฝู ง แพะก็ ไ ม ป าน
วิหคประหลาดทยอยกันบินหนีเขาไปในหมอกดานลางอีกครั้ง
เผาประหลาดสวมชุดเกราะสีเงินเหลานั้นกลับไมมีเจตนาจะสังหารอะไร แคเก็บ
อาวุธมีดแลวกลับไปกลางอากาศอีกครั้ง ติดตามสิ่งยักษไปตอ
‘รังผึ้ง’ ขนาดยักษหายวับไปจากจุดที่ไกลออกไป
บนขอบฟามีของที่คลายกันอีกอันปรากฏขึ้น แตขนาดใหญกวา ‘รังผึ้ง’ รังที่สอง
และถูกเผาประหลาดฝูงใหญอีกฝูงปกปองเอาไวอยางแนนหนา
เชนนั้นรังผึ้งยักษชนิดนี้ก็ปรากฏขึ้นที่ขอบฟาอยางตอเนื่อง ทุกอันลวนมีขนาดมหึมา
หลังจากบินผานไปไดเกือบรอยอันในที่สุดก็ไมปรากฏขึ้นอีก สิ่งที่มาแทนกลับเปน
ฝูงอสูรโบราณที่มีรูปรางแปลกพิสดาร
บางก็มีสามหัวสองปก บางก็มีหัวเปนมังกรหางเปนวิหค บางก็มีรางกายแค
สองสามฉื่อ แตแผนหลังของอสูรโบราณเหลานี้ รอบๆ ลวนมีเผาประหลาดติดปกคน
หรือสองคนคอยควบคุมและบินไปมาไมหยุดเต็มไปหมดมากกวาสองสามหมื่นตัว
หลังจากอสูรโบราณเหลานั้นบินไปแลว ขอบฟากลับมีกระสวยยาวเปลงประกาย
สีดำปรากฏขึ้น ความยาวยี่สิบสามสิบจั้ง หัวแหลมทั้งสองฝง
กระสวยยาวเหลานี้ไมนับวามากมายนัก แคพันกวาลูก แตความเร็วของมันนั้นแค
กะพริบวาบ ก็มาถึงอีกฝงไดของขอบฟาได
เชนนั้นชั่วครู กระสวยดำเหลานั้นก็สลายหายไปจากบริเวณรอบๆ
ครานั้นขอบฟาเปลี่ยนเปนวางเปลา
แตไมนานนักขอบฟาก็มีลำแสงสวางวาบ จุดสีดำเปนฝูงๆ ปรากฏขึ้น หลังจากบิน
ไปไดชั่วครู มองเห็นใบหนาชัดเจนแลว ก็อดที่จะสูดลมหายใจอันเย็นยะเยือกเขาไป
เฮือกหนึ่งไมได
เห็นเพียงเผาประหลาดติดปกเหลานี้สวนใหญลวนเหมือนคนกอนหนาอยางไร
อยางนั้น บุรุษหนาตาอัปลักษณเชนกัน สตรีใบหนางดงามดุจบุปผา แตตรงกลางของ
ทุกฝูงจะมีเผาประหลาดขนาดยักษสูงยี่สิบสามสิบจั้งสองสามตัวปรากฏขึ้น รางกาย
ใหญกวาพวกเดียวกัน
บนรางของเผาประหลาดเหลานี้จะมีลวดลายโบราณสีทองบางเงินบางปรากฏอยู
บางสวนยังมีแมกระทั่งเขากระดูกแหลมๆ ขนาดสูงยาวไมเทากันปรากฏขึ้นบนใบหนา
ดูแลวนากลัวเปนอยางยิ่ง ทุกตนดูเหมือนภูตผีที่ลงมาจุติอยางไรอยางนั้น
ความเร็วของเผา ประหลาดฝู งนี้สู คนในเผากลุม แรกไมไ ด และยิ่งไปกว า นั้ น
เมื่อบินไปอยูใกลๆ หนึ่งในนั้นฝูงนั้นก็จะบินลงมาในทันที จากนั้นก็แตกกระจายออก
พุงออกไปทั่วทุกทิศทาง เผาประหลาดจำนวนไมนอยจมหายวับไปจากกลางอากาศ
เจายักษสองตนของเผาประหลาดกลับลอยนิ่งอยูกลางอากาศ สีหนาแข็งทื่อ
ตรงกลางของเจายักษทั้งสอง มีภูตอัปลักษณติดปกที่รางกายปกติอีกตนหนึ่ง
สองแขนกอดอกลอยอยูตรงนั้น
คนผูนี้ไมเพียงจะมีปกเนื้อที่มีขนาดใหญกวาเผาประหลาดธรรมดาๆ เทานั้น
ยิ่งไปกวานั้นดวงตายังเปนสีทองออน ผิวสีแดงสด แคมองดูคนอื่นๆ คนหาอยางเย็น
แตครูตอมา ไขมุกสีทองพลันขยับ สายตาตกไปที่ภูเขายักษที่สะดุดตามากเบื้องลาง
ไมนานนัก เผาประหลาดอื่นๆ นับรอยตนก็บินกลับมาทั้งหมด ยืนประสานมือที่
ดานหนาอยูเบื้องหนาเผาประหลาดยักษตนนี้ ทุกตนลวนมีทาทีวานอนสอนงาย
เปนพิเศษ
“มนุษยผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงสองคนที่ทัพแรกพบนั้น อยูแถวๆ นี้ไมผิดแน
ใชหรือไม!” เผาประหลาดดวงตาสีทองเอยถามดวยใบหนาไรความรูสึก
“อรหันตเมิ่งเสียง ขาวที่ไดมาคือที่นี่ไมผิดแน แตในอาณาบริเวณสองสามรอยลี้
นอกจากภูเขาลูกนั้น ก็คนหาไปหมดแลว ไมพบรองรอยของเผาอื่นๆ ดูเหมือนวาภูเขา
ลูกนั้นจะมีชีพจรศิลาแมเหล็กแฝงอยู พวกเราจะไมอาจตรวจสอบอยางละเอียดได”
เผาประหลาดเพศหญิงวัยเยาวตนหนึ่งตอบกลับอยางนอบนอม
“ชีพจรศิลาแมเหล็ก! เชนนั้นไมงายหรือ เปดออกดูก็ไดแลว” เผาประหลาด
ดวงตาสีทองหัวเราะอยา งเย็นชา ทันใดนั้นก็ชูมือขึ้ น ลำแสงสีแดงสดปรากฏขึ้ น
ชั่วพริบตาก็กลายเปนลูกบอลลำแสงสีแดงสดราวโลหิตกลุมหนึ่ง และคอยๆ หดขยาย
กะพริบวาบๆ ไมหยุด
นิ้วทั้งหาประกบกัน เผาประหลาดผูนี้ทำใหลูกบอลลำแสงที่หมุนโคจรออยูในมือ
ลอยพลิ้วขึ้นไปกลางอากาศอีกครั้ง
ลำแสงสีแดงสายหนึ่งพุงออกมาจากมือ และยิ่งไปกวานั้นยังขยายใหญขึ้นในทันที
จนมีขนาดมหึมา กวาครึ่งของทองฟาถูกสะทอนจนเปนสีแดง
เผาประหลาดเผานี้คว่ำฝามือลงดานลาง แลวลอยพลิ้วไปดานลางอีกครั้ง
ชั่วขณะนั้นยอดเขาพลันมีลำแสงสีแดงสายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบ ทันใดนั้น
ทุกอยางเปนดังปกติ
และในตอนนั้นเอง เผาประหลาดยักษขนาดเทาภูเขาลูกยอมๆ สองตนที่อยู
กลางอากาศพลันขยับแขนในมือพรอมกัน แลวทุบลงมาที่ภูเขายักษอยางตอเนื่อง
พลังมหาศาลไรรูปรางแทบจะฉีกชั้นบรรยากาศสองกลุมไดปะทุออกมา แลวผนึก
รวมกั นอี ก ครั ้ ง ด ว ยพลั ง ที ่ พ ลิ ก ภู เ ขาพลิ ก ทะเลได โจมตี ไ ปยั ง ยอดเขาด า นหนึ่ ง
อยางรุนแรง
ฉากที ่ น  า เหลื อ เชื ่ อ พลั น ปรากฏขึ ้ น ภู เ ขายั ก ษ ท ั ้ ง ลู ก เกิ ด เสี ย งอึ ก ทึ ก ขึ้ น
ยอดเขาครึ่งหนึ่งคอยๆ ไถลลงมาราวกับเตาหู
……
หานลี่อยูภายในถ้ำมหึมาถ้ำหนึ่ง รอบกายมีลำแสงสีเทาเปลงแสงระยิบระยับ
หอหุมรางกายเอาไวจนไมมีชองโหวโผลออกมา แตสีหนากลับดูไมได จองเขม็งไปยัง
จุดที่หางออกไปเพียงเจ็ดแปดจั้ง
ตรงนั้นชายรางใหญสวมชุดสีเทาคนหนึ่งที่รางแยกออกเปนสองสวนนอนกอง
จมบอโลหิต ดานขางมีธงเล็กที่มีประจุไฟฟาสีเงินเปลงแสงระยิบระยับอยูดานหนึ่ง
หานลี่รูสึกหนาวสะทาน
ชั่วพริบตาของเมื่อครูพลันมีลำแสงสีแดงสายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบ รอนลงตรง
จุดที่ชายรางใหญลมนอนกองอยูในบอโลหิต ผลคือกลายเปนบอศพสองบอ
เชนนั้นธงอาคมที่เดิมทีถืออยูในมือเพื่อสรางเขตอาคมพลันเสื่อมประสิทธิภาพ
เงาสีแดงทมิฬขนาดเทากำปนฝูงหนึ่งอาศัยจังหวะนี้หนีไปทามกลางลำแสงอัสนีทันที
หลังจากที่ผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ตกตะลึงพรึงเพริดแลว ทันใดนั้นก็เผยสีหนา
ตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวออกมา สตรีผูบำเพ็ญเพียรแซเสี้ยวมือถือมีดหยดสีแดงสด
ดามหนึ่งเองก็ตะลึงงัน ในถ้ำอีกดานที่อยูหางจากพวกเขาไปยี่สิบสามสิบจั้ง มีลำแสง
สวางวาบ เสียงระเบิดดังขึ้นไมหยุด ชายหนุมแซจูกำลังพาผูบำเพ็ญเพียรสิบกวาคน
ที่เหลือ รวมมือกันลอมฝูงอสูรคางคกเที่ยงแทตาสีเขียวมรกตเอาไว
ภายใตความคิดที่โคจรอยางรวดเร็วของหานลี่ ตอนที่คิดจะกระตุนลำแสงเทวะ
ดูดปราณใหดู ดแมลงเงาร อยกว าตัว เข าไปข า งในเพื ่อไม ให เงาสี แดงหนี ไปได นั้น
ฉับพลันนั้นใตฝาเทาพลันสั่นสะเทือน พื้นดินครึ่งหนึ่งของถ้ำพังทลายลง ในเวลา
เดี ย วกั นน้ ำ ที ่ อ ยู  ใ ต ด ิ นภายในถ้ ำ พลั น พวยพุ  ง ขึ ้ น มา คลื ่ น น้ ำ สู ง สิ บ กว า จั ้ ง พลั น
ทะลักออกมา มวนเขามาอยางรุนแรง
ถ้ำทั้งถ้ำเริ่มแตกออกเปนชุนๆ
หานลี่ถึงไดรูวาเกิดเรื่องขึ้นแลว ภายใตความตกตะลึง สองมือพลันรายอาคม
อยางไมต องคิด ลำแสงสีเทาบนรา งขยายใหญ ขึ ้ นสองสามเทา คลื่นวารีกลื น กิ น
รางกายเขาเขาไปภายในชั่วครู...
หลังจากผานไปเวลาหนึ่งกาน้ำชา ลำแสงหลีกหนีสิบกวาสายพลันเปลงแสงสวาง
วาบพุงออกมาจากภูเขายักษที่ยอดเขาเหลือเพียงครึ่งยอด
หลังจากลำแสงหมนแสงลง ชั่วขณะนั้นเงารางคนสิบกวาสายก็ปรากฏขึ้นกลาง
อากาศต่ำๆ หนึ่งในนั้นแนนอนวาเปนพวกของชายหนุมแซจูและหญิงงาม แตหลังจาก
ที่กวาดสายตาไปดานลางแลว ก็พากันหนาถอดสี
เห็ น เพี ย งรอบๆ ด า น มี ค นของเผ า ประหลาดที ่ แ ผ น หลั ง มี ป  ก สองข า งอยู
อยางหนาแนนเกือบรอยคน กำลังจองเขม็งมายังพวกเขาตาเปนมัน
กลิ ่ น อายของทุ ก คน แทบจะดู เ หมื อ นว า ไม ด  อ ยไปกว า ระดั บ เทพแปลง
ระดับหลอมสุญตาขึ้นไปมีอยูมากกวาหกเจ็ดตน
“คนก็ ม ี อยู  ไ ม น อย แต ม ี ม นุ ษ ย ผ ู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดับ หลอมสุ ญ ตาแค สองคน
ขาครานจะลงมือ มอบใหพวกเจาจัดการก็แลวกัน จับเปนไดก็จับเปน ไมแนวาอาจจะ
ซักถามอะไรได” เผาประหลาดดวงตาสีทองผูนั้นมองพลังยุทธของพวกชายหนุมแซจู
ออกในปราดเดียว พลางเอยอยางราบเรียบ
ทันใดนั้นพลันสะบัดปก มันหายวับไปจากที่เดิม ครูตอมาก็มาปรากฏหางออกไป
รอยจั้งเศษ เปลงแสงสวางวาบอีกสองครั้ง แลวหายวับไปจากขอบฟาอยางไรรองรอย
เผาประหลาดที่โจมตีแยกภูเขาหมื่นจั้งตนนี้ คาดไมถึงวาจะถอนกำลังออกไม
สนใจเรื่องนี้เลยจริงๆ
ตอนที่ 1398 ราชันยสามงามราตรี
“เผาสามงามราตรี! เผามนุษยของพวกเราไมเคยประมือกับเผาทานในสงคราม
ทุกทานมารบกวนการลาสมบัติของพวกเราอยางไมเปนธรรม และยิ่งไปกวานั้นยังมา
ลอมพวกเราไว มีเหตุผลอันใดหรือ?” ชายหนุมแซจูมีสีหนาเขียวคล้ำไปเล็กนอย
แตหลังจากที่เห็นหัวหนาของเผาสามงามราตรีซึ่งไมอาจมองพลังยุทธออกไดจากไป
แลว ก็เอยถามขึ้นดวยความรูสึกวาโชคดีเล็กๆ
“ลงมือ!”
สตรีเผาสามงามตรีคนหนึ่งที่มีกลิ่นอายแข็งแกรงที่สุดในบรรดาคนของเผาที่เหลือ
รอยกวาคนไดยิน พลันหัวเราะรวนใหพวกของชายหนุมแซจู แตปากเล็กๆ กลับพน
คำสั่งสังหารที่เย็นเยียบออกมา คาดไมถึงวาจะไมอธิบายเลยสักนิด
ชั่วขณะนั้นบุรุษและสตรีที่อยูรอบๆ พลันสะบัดมีดดาบในมือ แลวทยอยกันปลอย
มีดลำแสงที่หนาเปนพิเศษเปนสายๆ ออกมาจากขวานและใบมีดยักษ
สถานการณเชนนี้เหมือนกับครั้นเมื่อเผามนุษยผูบำเพ็ญเพียรรวมมือกันโจมตีฝูง
มดโลหิตดำกอนหนานี้ก็ไมปาน แตแคผูที่ถูกลอมไวเปลี่ยนเปนฝงมนุษยบางเทานั้น
แมนวาจำนวนคนและพละกำลังจะคอนขางแตกตางกัน แตชายหนุมผมสีเงินก็
ไมไดเหลือทนจนตองโจมตีอยางมดโลหิตดำ ทันใดนั้นคนของเผามนุษยสิบกวาคนก็
ทยอยกันปลอยสมบัติที่แข็งแกรงที่สุดของตัวเองออกมาดวยความลนลาน กลายเปน
ลำแสงหลากสีส ันต านทานเอาไวอ ย างสุด ชี ว ิ ต หนึ ่ ง ในนั ้ น มี ค นสำแดงเคล็ดวิชา
อำพรางกายออกมา ร า งกายพลิ ้ ว ไหวเปล ง แสงสว า งวาบแล ว หายวั บ ไปจาก
กลางอากาศ หมายจะสะบัดกนแนบ
ทามกลางความตกตะลึงระคนโกรธแคนของชายหนุมแซจู เขากลับรางกายพลิ้วไหว
มาอยูขางสตรีผูงดงาม ทั้งสองคนยื่นมือที่กำแนนขางหนึ่งออกมา ชั่วขณะนั้นลำแสง
สี ฟ  า และแดงสองสายก็ เ ปล ง แสงสว า งวาบไม ห ยุ ด ทั น ใดนั ้ น พลั น อ า ปากออก
พนธงเล็กๆ ดามหนึ่งออกมา
เมื่อพนธงเล็กๆ ที่มีอักขระนิรนามหนาแนนตั้งไมรูกี่ชั้นออกจากปากสองดาม
ก็เปลงแสงนับหมื่นสายออกมา ทันใดนั้นทั้งสองก็ประสานเขาดวยกัน กลายเปน
ลำแสงยักษสีแดงฟาชั้นหนึ่ง หอหุมพวกเขาเอาไว
ในตอนนั้นเองมีดลำแสงเหลานั้นก็ตวัดไปกลางอากาศกลายเปนรอยสีขาวเปนสายๆ
เสียง “ตูมๆ” ดังสนั่นขึ้น มีดลำแสงระเบิดออก
ลำแสงที่มนุษยผูบำเพ็ญเพียรสรางขึ้นตานทานเอาไวไดเพียงชั่วครู ก็ถูกมีด
ลำแสงสับทะลุออก แลวถูกกลบไปจนหมด
เสียงรองอันเจ็บปวดรวดราวดังออกมาทามกลางระเบิดอยางตอเนื่อง
แตมีดลำแสงยักษสองสามสายนี้กลับไมไดเขารวมการโจมตี แตฉับพลันนั้นกลับ
เปลี่ยนทิศทางสับลงไปกลางอากาศหางจากใจกลางไปไมไกลนักสองสามที่
หลังจากตวัดผานรอยแยกสีขาวเปนสายๆ ไปแลว ลำแสงสีโลหิตกลางอากาศก็
ทยอยกันทะลักออกมากลางอากาศ รางที่ถูกแบงออกเปนสองสวนสองสามรางรวงดิ่ง
ลงไปหาพสุธา
ผูบำเพ็ญเพียรเหลานั้นที่แตเดิมอำพรางกายอยู ไมอาจหนีรอดจากเงื้อมมือของ
เผาสามงามราตรีเหลานั้นไปได ถูกสับรางออกอยางงายดาย
ครานี้ลำแสงตรงใจกลางคอยๆ หมนแสงลง เผยสถานการณดานในออกมา
เห็นเพียงผูบำเพ็ญเพียรที่แตเดิมมีสิบกวาคน ครานี้เหลือยืนอยูแคหาหกคน
หนึ่งในนั้นมีชายหนุมแซจูและภรรยารวมอยูดวย
คาดไมถึงวาพวกเขาจะอาศัยสมบัติที่แข็งแกรง ตานทานการรวมมือกันโจมตีของ
สามงามราตรีเอาไว สวนคนอื่นๆ นั้น แนนอนวาตางถูกโจมตีจนกลายเปนผุยผง
และไมวาจะเปนธงยักษของชายหนุมและภรรยา หรือวาสมบัติสองสามชิ้นที่ลอย
อยูเบื้องหนาของคนอื่นๆ ครานี้ลวนหมนแสงลง บางก็สำแดงรอยแตกเปนเสนเล็กๆ
ออกมา
เห็นไดชัดวาลวนไดรับความเสียหาย ไมอาจรับการโจมตีตอไปไดอีก
แตหลังจากที่ผูบำเพ็ญเพียรที่ยังเหลืออยูเห็นความนากลัวจากการโจมตีจาก
เหลาสามงามราตรีเมื่อครู ก็ไมอาจยืนนิ่งรอความตายอยูที่เดิมไดอีก
ทันใดนั้นชายหนุมแซจูและหญิงงาม พลันชี้ไปที่ธงยักษสองดามเบื้องหนา
หลังจากที่ธงทั้งสองดามหมุนติ้วๆ แลวก็เปลงแสงเจิดจาขึ้นอีกครั้ง แตทันใดนั้นก็
สั่นคลอนเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น พวกมันระเบิดตัวเองออกพรอมกัน
ชั่วขณะนั้นพายุเฮอรริเคนสีแดงฟาสองกลุมพลันปรากฏขึ้น พวยพุงทะยานขึ้นไป
บนทองฟาในชั่วพริบตา!
ชายหนุมแซจูและหญิงงามรางกายพลิ้วไหวกลายเปนลำแสงสองสายจมหายเขา
ไปในพายุเฮอรริเคน จากนั้นก็กระตุนพายุเฮอรริเคนสองกลุมใหเปนหนึ่งเดียวกัน
กลายเปนสิ่งมหึมาสูงสองสามรอยจั้ง เปลงเสียงคำรามราวกับฟารองออกมาพุงตัด
ทองฟาไปอยางดุดัน
เหลาสามงามราตรีบุรุษและสตรีที่ตานอยูเบื้องหนานั้น แมวาจะมีนิสัยชอบ
ความรุนแรง เห็นความนากลัวของพายุเฮอรริเคน ก็อดที่จะเกิดความโกลาหลขึ้นไมได
มนุษยผูบำเพ็ญเพียรที่เหลืออีกสองสามคนทั้งตกตะลึงระคนดีใจ และถือโอกาสนี้
กลายเปนสายรุงไลตามพายุเฮอรริเคนไปติดๆ เปนสายๆ
เห็นไดชัดวาคนเหลานี้รูดีวา หากไมควาโอกาสรอดชีวิตครั้งสุดทายนี้ ก็
ไมมีหนทางใหรอดแลว
จุดที่พายุเฮอรริเคนสีฟาแดงพุงผานไปบรรยากาศรอบๆ พลันรางเลือนบิดเบี้ยว
เห็นไดชัดถึงพลานุภาพที่นากลัว เมื่อเห็นพายุเฮอรริเคนทะลวงเขาไปในฝูงชนของ
สามงามราตรี ฉับพลันนั้นเงาสีดำขนาดยักษสองสายก็ปรากฏขึ้นเหนือพายุเฮอรริเคน
ยังไมทันที่ผูบำเพ็ญเพียรที่เหลืออยูจะพบวาเกิดอะไรขึ้น เสียง “ตูม” พลันดังขึ้นสี่ครั้ง
พลังมหาศาลไรรูปรางสี่กลุมโจมตีไปยังพายุเฮอรริเคนพรอมกัน
ชั่วขณะนั้นพายุเฮอรริเคนพลันสั่นคลอน ถูกตานทานเอาไวที่เดิม
คาดไมถึงวาสามง ามราตรี ยั กษ สู งหาสิ บหกสิบ จั ้ง สองตนที่ล อยอยู ด า นหลั ง
สามง า มราตรี ต นอื ่ น ๆ จะเปล ง แสงสว า งวาบแล ว มาปรากฏขึ ้ น ทั ้ ง สองฝ  ง ของ
พายุเฮอรริเคน กำปนทั้งสี่ที่ใหญยักษราวกับหองหองหนึ่งโจมตีออกไปพรอมกัน
อาศัยแคแรงมหาศาลก็ตานทานพายุเฮอรริเคนเอาไวได
ชายหนุ  ม แซ จ ู  แ ละหญิ ง งามที ่ อยู ใ นพายุ เ ฮอรร ิ เ คนพลัน ตกตะลึ ง ทั ้ ง สองใส
ลมปราณทั้งหมดลงไปในทันทีอยางไมตองคิด พายุเฮอรริเคนสีฟาแดงหนาแคครึ่งหนึ่ง
พุงออกไปอีกครั้ง
แตสิ่งที่ดูเหมือนภูเขาขนาดยอมทั้งสองที่อยูกลางอากาศ พลันเปลงแสงสีแดง
สวางวาบที่ดวงตา แขนทั้งสี่โบกสะบัด คาดไมถึงวาจะรางเลือนไป
กำปนเงาขนาดยักษสองสามสายปรากฏขึ้นทั้งสองฝงของพายุเฮอรริเคน ครูตอมา
ก็โจมตีไปยังพายุเฮอรริเคนอยางบาคลั่ง
ผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รคนอื ่ นๆ ที ่ อยู  ร อบๆ เห็ น เช น นั ้ น พลั น ตกตะลึ ง ชั ่ ว ขณะนั้ น
ลำแสงหลีกหนีก็เปลี่ยนทิศทาง หมายจะหนีไปจากบริเวณนั้น
แตในตอนนั้นเอง รอบดานพลันมีเสียงแหวกอากาศดังขึ้น มีดลำแสงขนาดยักษ
จำนวนนับไมถวนพลันเปลงเสียงรองครวญออกมา
คนของเผาสามงามราตรีนับรอยตนที่อยูรอบๆ คาดไมถึงวาจะเริ่มโจมตีระลอกที่สอง
ครานี้ไมเพียงผูบำเพ็ญเพียรที่อยูในลำแสงหลีกหนีจะเผยสีหนาสิ้นหวังออกมา
ชายหนุมแซจูและหญิงงามในพายุเฮอรริเคนเองก็หนาถอดสี
เสียงอึกทึกดังสนั่นขึ้น สั่นสะเทือนไปทั้งแผนดิน
……
ในส ว นลึ ก ของใต ด ิ น หานลี ่ ท ี ่ ร อบกายมี ล ำแสงสี เ ทาเปล ง แสงระยิ บ ระยั บ
กำลังหนีไปอยางรวดเร็ว
สิ ่ ง ที ่ น าแปลกก็ ค ื อ รอบกายของเขามี ล ำแสงสี เงิน ปรากฏขึ้ น รอบๆ ไม ห ยุด
ตัดสลับกับลำแสงสีเทาที่หอหุมเรือนรางของเขาไปมาไมหยุด จากนั้นก็เปลงแสง
ระยิบระยับเปนชั้นๆ
หานลี่มีสีหนาเครงขรึมเปนอยางมาก!
ถึงแมวาเมื่อครูเขาจะไมไดตามคนสวนใหญขึ้นไปบนพื้นดิน แตเสียงอันดังสนั่น
เมื่อครู แมวาเขาจะอยูใตดินลึกขนาดนี้ก็ยังสัมผัสไดถึงแรงสั่นสะเทือน เห็นไดชัดถึง
ความนากลัวของระเบิดในครั้งนี้
หรือวาผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ ที่พุงออกไป จะถูกสังหารจนหมดแลว
หานลี่ครุนคิดแลวพลันใจหายวาบ
จะว า ไปแล ว ที ่ ถ ้ ำ ใต ด ิ นพั ง ถล ม ลงมาและระลอกคลื ่ น ยั ก ษ พั ด มาเมื ่ อครู นั้น
คนอื่นๆ ก็ไมกลาสำแดงความสามารถลี้ธรณีหนีไปใตดินเพราะชีพจรศิลาแมเหล็ก
จึงทำไดเพียงพุงออกไปบนพื้นดินจากชองหิน แตเขาที่มีลำแสงเทวะดูดปราณ เดิมทีก็
สามารถควบคุมพลังเบญจธาตุและพลังแมเหล็กจำนวนมากในใตหลาอยูแลว จึงลอง
เสี่ยงหนีไปทางใตดิน
ประกอบกันเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู จิตสัมผัสที่แข็งแกรงของเขาจึงสัมผัสไดถึงการ
ปรากฏตัวของเผาประหลาดที่แข็งแกรงกลางอากาศในทันที ไหนเลยจะกลารั้งรออยู
ที่นี่ตอไป จึงปลอยลำแสงเทวะดูดปราณออกมาอยางไมตองคิด หมายจะหนีไปทาง
ใตดิน
ทวากอนที่จะหนีลงใตดิน คางคกเที่ยงแทดวงตาสีเขียวมรกตกลับพุงออกมาจาก
สวนลึกของถ้ำในสภาพที่มีแผลเต็มตัวฝูงหนึ่ง และมาพบกับหานลี่อยางพอดิบพอดี
มี เ รื ่ อ งดี ๆ เข า มาหาถึ ง ที ่ แน น อนว า เขาจึ ง ไม ม ี ท างปล อ ยไป ทั น ใดนั ้ นจึ ง
สำแดงความสามารถตางๆ ออกมาอยางไมเสียดายลมปราณ แคพบหนาก็สังหาร
คางคกเทีย่ งแทที่เดิมทีก็สูไมไหวเหลานั้นทิ้ง หลังจากเก็บซากมันไปแลว ก็หนีไปใตดิน
ทันที
สวนสมุนไพรดอกพันใจที่ชายหนุมแซจูพูดถึง เขานั้นไมมีเวลาไปตามหาเลยสักนิด
ความรายกาจของชีพจรศิลาแมเหล็กนั้นเหนือกวาที่หานลี่คิดเอาไว แตลำแสง
เทวะดูดปราณของเขาก็ไมธรรมดา อาศัยพลังของภูเขาเทวะดูดปราณก็พอจะคุมครอง
ตนเองได ชดเชยพลังแรงดูดมหาศาลในสวนลึกของใตดินไป
แมนวาเผาประหลาดเหลานี้จะแข็งแกรงมาก แตในอาณาเขตของชีพจรศิลาแมเหล็ก
คิดดูแลวก็ไมกลาแอบตามรอยเขาเขาไปใตดิน
เมื่อขบคิดเชนนั้น หานลี่พลันรูสึกผอนคลายลง
นาเสียดายที่ไมอาจตรวจสอบสถานการณรอบๆ ได เพราะชีพจรศิลาแมเหล็ก
มิเชนนั้นก็คงวางใจมากกวานี้
ในตอนที่ในหัวของหานลี่มีความคิดผุดขึ้นเต็มไปหมดนั้น เขาที่อยูใตดินก็พุงหนี
ไปไดสองสามพันลี้แลว ลำแสงสีเงินรอบดานก็คอยๆ จางลง
หลังจากที่ลำแสงสีเงินสลายหายไป หานลี่ก็เปลี่ยนสีหนา รูสึกวานาจะปลอดภัยแลว
ทันใดนั้นจึงแผจิตสัมผัสขึ้นไปบนพื้น
ดานบนมีสิ่งประหลาดเหมือนกับหุบเขาแหงหนึ่ง สามดานติดกับภูเขา มีทางออก
เพียงดานหนึ่ง ทุกแหงลวนเป นสี เ ขีย วขจี ไมมีสิ่งใด และสัมผัสถึงกลิ่นอายของ
อสูรโบราณที่แข็งแกรงและเผาประหลาดไมได
หลังจากที่หานลี่ตรวจสอบซ้ำอีกสองสามครั้ง ในที่สุดถึงไดวางใจ กลายเปน
สายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงไปบนพื้นดิน
เบื้องหนาเปลงประกาย หลังจากที่ลำแสงหมนแสงลง คนก็มาหยุดอยูกลางอากาศหาง
จากพื้นไปยี่สิบสามสิบจั้ง
แตเมื่อหานลี่กวาดสายตาไป สายตาก็ตกไปที่บริเวณรอบๆ รางทั้งรางหนาวสะทาน
พลันชะงักคาง
เห็นเพียงหางจากตนไมยักษตนหนึ่งไปไดรอยจั้งเศษ มีภูตอัปลักษณรา งกาย
สูงใหญสองตนกำลังยืนเผชิญหนากันอยู
ปกที่แผนหลังของสามงามราตรีสองตนใหญโตเปนพิเศษ รางกายสูงสิบจั้งเศษ
ครานี้กำลังเอียงศีรษะมองมา แววตาประหลาดใจ
แตสิ่งที่ทำใหหานลี่ต กตะลึ ง นั้ นแน น อนวา ไม ใช เพราะเห็ นสามง ามราตรีส องตน
แตเพราะเขาคิดไมถึง วาจะไม อาจสัมผัสไดถึ งกลิ่น อายบนรางของสามงามราตรี
ทั้งสองตน เมื่อกวาดจิตสัมผัสไป ดูเหมือนวายอดของตนไมยักษนั้นจะวางเปลา
นั่นหมายถึงอะไร หานลี่ยอมรูดี
สามงามราตรีสองตนนี้มีพลังยุทธเหนือกวาเขา ไมแนวาอาจจะเปนสิ่งที่เรียกวา
ราชันยสามงามราตรีในเผาสามงามราตรี
เชนนั้นเขาจะไมรูสึกหนาวสะทานจนแมแตลมหายใจยังหยุดชะงักไดอยางไร
ในตอนที่หานลี่รองอุทานอยางขมขื ่น อยูใ นใจ สามงามราตรีสองตนยังไม ไ ด
เคลื ่ อนไหวใดๆ อี ก ด า นหนึ ่ ง ห า งออกไปสองสามร อยจั ้ ง ลำแสงพลั น สว า งวาบ
ลำแสงหลีกหนีหาสีอีกสายหนึ่งพุงออกมาจากใตดิน คาดไมถึงวาจะมีผูบำเพ็ญเพียร
อีกคนหนึ่งปรากฏตัว
หานลี ่ ม องไปตาค า ง เมื ่ อเห็ นคนผู  น ี ้ อย า งชั ด เจน ใบหน า ก็ อดที ่ จ ะฉายแวว
ประหลาดใจไมได
คนผูนี้มีรางกายอรชรออนแอน ใตฝาเทาเหยียบอยูบนสำเภาหยกหาสี นั่นก็คือ
สตรีผูบำเพ็ญเพียรแซเสี้ยว
สตรีผูนี้มองเห็นหานลี่พลันมีสีหนายินดี คิดจะเอยปากทักทาย เมื่อสายตากวาด
ไปมองเห็นสามงามราตรีระดับสูงสองตนที่ยืนนิ่งอยู สีหนาก็เขียวคล้ำไปเล็กนอย
ตอนที่ 1399 ทาส
“แปลกจัง! กลิ่นอายของสองคนนี้เหมือนกับสองคนที่อยูในกลุมมนุษยผูบำเพ็ญเพียร
ที่ขาพบเมื่อไมนานมานี้ เจาพวกนั้นไรประโยชนเสียจริง คาดไมถึงวาเรื่องแคนี้ก็ยัง
จัดการไมได” สามงามราตรีตนหนึ่งมีสีหนาประหลาดใจฉายแวบผานขณะเอย
คิดไมถึงวาสามงามราตรีตนนี้คือ หัวหนาสามงามราตรีที่สับภูเขาไปกอนหนานามวา
‘เมิ่งเสียง’ ไมรูวามาปรากฏตัวที่นี่ไดอยางไร
“ราชันยอมตะ! ใตดินในบริเวณนี้มีชีพจรศิลาแมเหล็ก สองคนนี้มีฝมือหนีมาทาง
ใตดินโดยไมไดรับผลกระทบได ก็ไมอาจโทษลูกนองของทานได” สามงามราตรีอีกตน
หนึ ่ ง กลั บ หั ว เราะหึ ๆ ออกมาขณะเอ ย มองปราดเดี ย วก็ ร ู  ส าเหตุ ท ี ่ ห านลี ่ แ ละ
สตรีแซเสี้ยวหนีออกมาได
“หึ นี่ก็ไมใชเหตุผลที่จะปลอยใหเจาสองคนนี้หนีมา กลับไปขาจะลงโทษพวกมัน
เจาสองคนหนีมาถึงที่นี่ได ก็นับวามีฝมือ ทวาก็ตองหยุดอยูเพียงเทานี้” ราชันย
สามงามราตรีตนแรกแคนเสียงอยางเย็นชา ชูมือหนึ่งขึ้น ชั่วขณะนั้นลำแสง สีโลหิต
ผืนหนึ่งพลันปรากฏขึ้น หมายจะลงมือสังหารทั้งสองคน
หานลี่และสตรีแซเสี้ยวพลันหนาเปลี่ยนสี
แผนหลังของคนผูหนึ่งมีเสียงฟาฟาด คาดไมถึงวาจะหงสเงาหาสีและวิหคเงา
ขนาดยั ก ษ ส ี เ ขี ย วปรากฏขึ ้ น หลั ง จากที ่ ท ั ้ ง สองเปล ง แสงสว า งวาบ ก็ ก ลายเป น
ป ก ขนนกแวววาวคู  ห นึ ่ ง ปรากฏขึ ้ น ที ่ ด  า นหลั ง อี ก คนหนึ ่ ง สำเภาห า สี ใ ต ฝ  า เท า
เปลงเสียงรองคำราม หมุนวนแลวกลายเปนมังกรวารีประหลาดหาหัวยาวสิบจั้งเศษ
ตัวหนึ่ง หัวทั้งหาแยกเขี้ยวเคี้ยวฟน ทาทางดุดัน
“ราชันยอมตะ ชากอน! สองคนนี้ดูเหมือนจะไมใชมนุษยผูบำเพ็ญเพียรธรรมดาๆ
สิ่งที่ปรากฏขึ้นที่แผนหลังของคนผูนั้นดูเหมือนจะเปนเงาเที่ยงแทของหงสสวรรคและ
วิหคมัจฉา ใตฝาเทาของอี กคนหนึ ่ง ก็ด ูเ หมือนวาจะเป นมั ง กรเที่ย งแทแ ปลงร า ง
จิตวิญญาณบริสุทธิ์ของมังกรวารีหาสี ชางนาสนใจจริงๆ!” สามงามราตรีอีกคนหนึ่ง
เห็นหานลี่และสตรีแซเสี้ยวสำแดงความสามารถเมื่อครู กลับดวงตาเปลงประกาย
ฉับพลันนั้นพลันเอยปากตะโกนหามสหาย
“ราชันยวัฏสงสาร เจาหมายความวาอยางไร หรือวาอยากใหขาปลอยพวกมันไป
อีกอยางขานอยไมชอบใหผูอื่นเรียกดวยความเคารพ นายทานเรียกขาดวยแซเถิด”
สามงามราตรีตนแรกยนคิ้ว แมนวาจะสลายลำแสงโลหิตออกตามคำพูด แตกลับหัน
หนามาเผยสีหนาไมพอใจ
“ฮาๆ เรื่องนี้ขาเผลอละเลยเอง อรหันตเมิ่งเสียง เมื่อครูเจากับขาไมได กำลัง
โตเถียงเรื่องนี้กันอยูหรือ ไมสูใชสองคนนี้มาเดิมพันเปนอยางไร?” ผูที่ถูกเรียกวา
‘ราชันยวัฏสงสาร’ หัวเราะฮาๆ ออกมา คาดไมถึงวาจะเปลี่ยนชื่อเรียกของสหายเปน
แซแทนจริงๆ
“เดิมพัน เดิมพันอะไร?” สามงามราตรีนามวา ‘เมิ่งเสียง’ ชักสีหนา เหมือนจะเดา
เจตนาของอีกฝายออก
“งายมาก เอาเรื่องที่เราสองคนโตเถียงกันเมื่อครูมาเปนการเดิมพัน ใครทำสำเร็จกอน
ก็ถือวาเปนฝายชนะเปนอยางไร?” ราชันยวัฏสงสารเบะปาก เผยสีหนาโหดเหี้ยม
ออกมา
“หึ แคผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงสองคน พวกเราแคลงมือก็เอาชีวิตของพวกมัน
ไดแลว จะมาตัดสินผูแพชนะอะไร?” ราชันยอมตะเอยอยางเย็นชาเปนพิเศษ
“สองคนนี ้ ล  ว นไม ใ ชผ ู บ ำเพ็ ญ เพี ยรระดั บ เทพแปลงธรรมดาๆ ยิ ่ ง ไปกว า นั้น
เราสองคนยัง ไมอาจลงมือเองได ไมสูปลอยทาสของพวกเราไปตอกรกั บมั น เป น
อยางไร เชนนั้น คิดดูแลวการตอกรกับเผามนุษยสองคน ก็เพียงพอจะใหเจาและขารู
แลววาผูใดจะเปนฝายชนะ” ราชันยวัฏสงสารกลับเอยอยางมีแผนการ
“ทาส...เยี่ยม ตามที่เจาวา หรือวาขายังตองกลัววาจะแพเจา?” ราชันยอมตะมี
สีหนาบัดเดี๋ยวเครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใสอยูชั่วครู ดูเหมือนจะรูสึกวาการพนันครั้งนี้ไมมี
ปญหาอะไร ในที่สุดก็ตอบตกลงดวยสีหนาเครงขรึม
“ฮาๆ เยี่ยมมาก เจาสองคนไดยินที่พวกขาคุยกันแลว อยาหาวาพวกเรารังแก
พวกเจาเลย ใหโอกาสพวกเจาไดมีรอดชีว ิตครั้ง หนึ่ ง ใหพวกเจาหนีไปกอนพั นลี้
เราสองคนถึงจะปลอยทาสออกไปสังหารพวกเจา แตตองระวังหนอย เจาสองคน
อยาแยกกันเกิดรอยลี้ มิเชนนั้นอยามาโทษวาพวกเราสองคนลงมือเอง” ราชันย
วัฏสงสารพยักหนาดวยรอยยิ้ม จากนั้นก็หันไปเอยกับพวกของหานลี่อยาง เครงขรึม
“พันลี้?” หลังจากที่หานลี่ใชมือหนึ่งลูบไปที่ปกกึ่งโปรงใสบนแผนหลัง สีหนาพลัน
เครงขรึมขึ้น
“ใชแลว แนนอนวาหากภายในระยะเวลาหนึ่งกานธูป พวกเราไมหนีออกไปเกินพันลี้
ขาก็จะสงทาสออกไปเชนกัน อยาคิดวาจะโชคดีละ” ราชันยวัฏสงสารเอยอยาง
ราบเรียบ แตเนื้อหาในคำพูดกลับไรความรูสึกเปนอยางมาก
หานลี่หางตากระตุก เอียงศีรษะเหลือบมองสตรีแซเสี้ยวที่อยูใกลๆ สตรีผูนี้สงยิ้ม
ฝ น ๆ ให สี โ ลหิ ต บนใบหน า ฟ  น ฟู ก ลั บ มาเล็ ก น อ ย แต เ มื ่ อ ประสานกั บ รู ป ร า ง
อรชรออนแอนของนางแลว ก็จึงยิ่งเผยความออนแอออกมา

“ตกลง สหายเสี้ยว พวกเราไปกันเถิด!” หานลี่เงียบขรึมไปชั่วครู ฉับพลันนั้น


ปกที่แผนหลังพลันขยับ ชั่วพริบตาก็กลายเปนเงาลวงตาสายหนึ่งหายวับไปจากที่เดิม
ครู  ต  อมาคนกลั บ มาปรากฏตั ว ในระยะร อยจั ้ ง เปล ง แสงสว า งวาบกลางอากาศ
อยางเงียบๆ ปรากฏตัวขึ้นขางกายสตรีแซเสี้ยว คาดไมถึงวาจะรอนลงมาบนรางของ
มังกรวารียักษหาหัวเชนกัน
ความสามารถเคลื่อนยายในพริบตาของหานลี่ หลังจากที่สามงามราตรีสองคน
มองสบตากั น แวบหนึ ่ ง แล ว แววตาพลั น ฉายแววตกตะลึ ง ออกมา แต ท ั น ใดนั้ น
ก็ทำเหมือนไมมีอะไรเกิดขึ้น
สตรีแซเสี้ยวพลันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็เผยสีหนายินดีออกมา
ในเมื่อทั้งสองถูกตัดสินวาใหหนีไปดวยกัน แนนอนวาหานลี่มีความสามารถ
มากขนาดไหน โอกาสรอดของพวกเขาก็ยิ่งมากขึ้นเทานั้น
ทันใดนั้นสตรีผูนี้ก็ไมไดใหหานลี่เอยปาก เทาเรียวแตะไปบนมังกรวารีประหลาดหาหัว
ใตฝาเทา
หัวทั้งหาของมังกรวารีตนนี้พลันสะบัด กลายเปนลำแสงหาสีหอหุมรางของ
ทั้งสองไวในทันที พุงตรงไกลออกไป ความเร็วนาตกตะลึงเชนกัน หลังจากเปลงแสง
สวางวาบสองสามครั้ง ก็หายวับไปตรงขอบฟา
ราชันยสามงามราตรีสองตนยืนนิ่งอยูที่เดิม แคจองเขม็งไปยังจุดที่ทั้งสองหนีไปอยาง
เย็นชา ดูเหมือนวาจะมั่นใจในสิ่งที่เรียกวา ‘ทาส’ อยางเต็มเปยม
จากความเร็วในการควบคุมลำแสงหลีกหนีหาสีของสตรีแซเสี้ยว ระยะพันกวาลี้
ใชเวลาแคครึ่งเคอก็มาถึงแลว

แตในเมื่อราชันยสามงามราตรีสองคนใหเวลาหนึ่งกานธูป หลังจากที่สตรีผู นี้


บินออกมาไดรอยกวาลี้ ก็ลดระดับความเร็วลงในทันที จากนั้นมือหนึ่งพลันตบไปที่เอว
ดานบนมีแผนหยกสีขาวหิมะบินออกมา กลายเปนลำแสงสีขาวชั้นหนึ่งหอหุมทั้งสอง
เอาไว
“หยกลำแสงสี ข าวถู ก สร า งขึ ้ น จากพลั ง ของอาทิ ต ย เ ที ่ ย งแท ถึ ง แม จ ะเป น
ราชันยสามงามราตรีระดับผสานอินทรียก็ไมอาจใชแคจิตสัมผัสสอดแทรกเขามา
ในนี้ได จากนี้พวกเราก็คุยกันไดอยางวางใจแลว” สตรีแซเสี้ยวอธิบายอยางรวดเร็ว
แตสีหนากลับเผยความโศกเศราออกมา
“มีอะไรตองคุย ครั้งนี้เกรงวาพวกเราคงมีแตตองตายมากกวาอยูแลว” หานลี่
มุมปากกระตุก เผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา
“สหายคิดวาราชันยสามงามราตรีสองตนนั้นมีพลังขนาดไหน?” สตรีแซเสี้ยวกลับ
ดวงตาเปลงประกายสองสามครั้ง ใบหนาเผยสีหนาลังเลออกมาขณะเอยถาม
“ขนาดไหน? อยางนอยที่สุดก็เทียบเทากับผูบำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรียของ
เผามนุษยอยางพวกเรา แมนวาขาจะไมอาจตรวจสอบกำลังที่แทจริงของพวกมันได
แต ข  า ก็ เ คยเผชิ ญ หน า กั บ พฤกษาวิ ญ ญาณระดั บ เงิ น ของเผ า พฤกษามาแล ว
แต ค วามรู  ส ึ ก ที ่ แ ผ ม าถึ ง ข า กลั บ สู  ส ามง า มราตรี ส องตนนั ้ น ไม ไ ด เ ลย เกรงว า
สามงามราตรีทั้งสองคงจะไมใชราชันยสามงามราตรีธรรมดาๆ” หานลี่ตอบกลับอยาง
ขบคิดอยางละเอียด
“ความหมายของสหายคื อ พวกมั น อาจจะเป น มหาราชั น ย ส ามง า มราตรี ?”
สตรีแซเสี้ยวรองอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหง
“ถึงแมจะไมใช เกรงวาก็อาจจะเปนรองแคนั้น” หานลี่ตอบกลับดวยความมั่นใจ
เต็มเปยม แตเชนนั้นสีหนาของสตรีแซเสี้ยวก็ยิ่งดูไมได
“สหายเสี้ยว รูจักทาสที่อีกฝายพูดถึงเรื่องไม ดูเหมือนอีกฝายจะมั่นใจมาก”
หานลี่เอยถามกลับ
“เรื่องนี้นองหญิงเคยไดยินมาจากปรมาจารยในสำนัก วากันวาระดับรับราชันยใน
เผาสามงามราตรีจะเลี้ยงดูครึ่งภูตครึ่งปศาจเอาไว ปกติแลวจะใหกินโลหิตบริสุทธิ์
ของตั ว ราชั น ย เ อง ดั ง นั ้ น พละกำลั ง จึ ง ยิ ่ ง สู ง และแข็ ง แกร ง ขึ ้ น ตามตั ว ของ
ราชันยสามงามราตรี สวนความสามารถนั้นจะอยูในระดับหนึ่งถึงสามสวนของตัว
ราชันยสามงามราตรี อันตรายมาก ดังนั้นหากสามงามราตรีสองตนคือ มหา
ราชันยสามงามราตรีจริงๆ เกรงวาทาสของพวกเขา ก็ไมใชคูตอสูของพวกเรา” สตรี
แซเสี้ยวขบกรามแนน
หานลี่ไดฟงพลันมีสีหนาบัดเดี๋ยวเครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใส
“เรื ่ อ งมาถึ ง ครานี ้ แ ล ว ทางที ่ ด ี ท ี ่ ส ุ ด พวกเราสองคนคงต อ งแลกเปลี ่ ย น
ความสามารถและพละกำลังคราวๆ ตอกันและกันแลว จะไดรวมมือกันไดสะดวกขึ้น”
สตรีแซเสี้ยวเอยดวยเสียงทุมต่ำ
“อันใด เซียนเสี้ยวคิดจะตอกรกับทาสเหลานั้น?” หานลี่ขมวดคิ้วแลวกลับเอยถาม
“ไมโจมตีใหพวกมันลาถอย พวกเราจะหนีรอดไดอยางไร” สตรีแซเสี้ยวไดยินแลว
พลันตกตะลึง
“สหายคงไมคิดจริงจัง กั บแผนของราชัน ยสามงา มราตรีส องตนนั้ นหรอกนะ
หากทาสพวกนั้นสังหารพวกเราไดย ังพอวา หากกลับเปนพวกเราที่สัง หารมั นได
เจาคิดวาพวกเขาจะลงมือเองจริงๆ หรือ? ดูเหมือนวาพวกเขาจะไมเคยสัญ ญากับ
พวกเราวาหากสังหารทาสไดก็จะไวชีวิตของพวกเรานะ” หลังจากที่หานลี่สูดลม
หายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง ก็เอยขึ้นดวยสีหนาเครงขรึม
สตรีแซเสี้ยวไดยินพลันหนาเปลี่ยนสีอีกครั้ง เห็นไดชัดวานางคิดไมถึงเรื่ องนี้
แตทำตามความรูสึกอยางไมอยากคิดมากเทานั้น
“เชนนั้นสหายมีแผนอยางไร?” ดวงตาสดใสของสตรีแซเสี้ยวจองเขม็งไปยังหานลี่
ยอนถามกลับดวยสีหนาเครงขรึม
“ไมมี ตอนนี้มีเพียงตองรอดูสถานการณแลว แตหากทาสนั้นนากลัวอยางที่เจาพูด
พวกเราคงไมอาจตอกรได ตอใหไมประมือแคหนี แตจะหนีการไลลาของราชันย
สามงามราตรีสองตนนั้นอยางไร นอกเสียจากวาพลังยุทธของพวกเราจะเพิ่ม ขึ้ น
หลายเทา บรรลุระดับผสานอินทรียถึงจะเปนไปได หรือไมก็ตองพบเขตอาคมสงตัว
แถวๆ สั ก แห ง แล ว ส ง ตั วออกไปสั กสองสามหมื่ น ลี ้ ถึ ง จะหนี พน ได” หานลี ่เมม
ริมฝปาก ตอบกลับดวยเสียงทุมต่ำ
เมื่อไดยินคำพูดของหานลี่ สตรีแซเสี้ยวกลับมีสีหนาแปลกประหลาดฉายแวบผาน
แตกลับไมไดเอยอะไรออกมา
“ทวาการรวมมือกันตานทานศัตรู ก็เปนวิธีที่ไมมีวิธีใดแลว อยางนอยที่สุดก็รักษา
ชีวิตนอยๆ เอาไวไดสักพัก” หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แลวเอยพึมพำออกมา
สตรีแซเสี้ยวไดยินก็ทำไดเพียงหัวเราะอยางจนปญญาเชนกัน ทันใดนนั้นก็เอย
ปากแนะนำเคล็ดวิชาและความสามารถของสมบัติของตนเอง…
หลังจากผานไปหนึ่งกาน้ำชา หานลี่และพวกก็กดลำแสงหลีกหนี แตยังคงอยูหาง
ออกไปพันลี้
ในตอนนั้นเองจุดที่หางออกไป เสียงรองเหมือนเสียงหมาปาหอนดังขึ้นสองครั้ง
น้ำเสียงแหลมสูงสะทานฟา
ตอนที่ 1400 ซุมกำลัง
สตรี แ ซ เ สี ้ ย วที ่ อยู  ใ นลำแสงห า สี ก ำลั ง ปรึ ก ษาอะไรกั บ หานลี ่ อยู เมื ่ อได ยิ น
เสียงหอนประหลาดๆ ก็มีสีหนาตึงเครียดในทันใด สองมือพลันรายอาคม ชั่วขณะนั้น
ลำแสงห าสี ที่ ห อหุ มพวกเขาเอาไวพ ลัน เปล งแสงสว างวาบ ทำให น างและหานลี่
หายวับไป
ชั่วครูความเร็วก็เพิ่มขึ้นสองถึงสามเทา!
หานลี ่ แ ค ย ื น นิ ่ ง อยู  ท ี ่ เ ดิ ม ไม ข ยั บ เขยื ้ อ น สองตาหรี ่ ล งสั ม ผั ส อะไรสั ก อย า ง
อาศัยสตรีผูนี้พาเขาบินไปขางหนา
แมวาสตรีผูบำเพ็ญเพียรแซเสี้ยวจะเพิ่มความเร็วขึ้นสูงถึงเพียงนี้ แตหลังจากบินไปได
สองสามรอยลี้ เสียงเหาหอนดานหลังก็ยังชัดเจนมาก
แทบจะในเวลาเดียวกัน หานลี่พลันถายทอดเสียงอยางราบเรียบมาวา
“ทั ้ ง สองอยู  ห  า งจากเราไม ถ ึ ง สามร อ ยลี ้ ความเร็ ว มากกว า ตอนนี ้ ม าก
อาศั ย แค ค วามเร็ ว ระดั บ นี ้ ไ ม ม ี ท างยื ด เวลาไปได สถานที ่ ป ระมื อ อยู  ห  า งจาก
ราชันยสามงามราตรีทั้งสองตนมากเทาไหรก็ยิ่งดี ขาจะชวยเจาอีกแรงก็แลวกัน”
หานลี่เอยพลางยักไหล ปกสองขางที่แผนหลังเปลงแสงสวางวาบ ฉับพลันนั้น
ดานบนพลันมีวิหคเงาลวงตาสีเขียวสายหนึ่งบินออกมา ชั่วครูก็จมหายเขาไปในลำแสง
หาสีที่อยูรอบๆ ดาน
ลำแสงหลีกหนีทั้งลูกสั่นเทาอยางหนัก ทันใดนั้นความเร็วของลำแสงหลี กหนี
พลันเพิ่มขึ้นสองสามเทา กลายเปนเงาลวงจางๆ สายหนึ่ง เปลงแสงสวางวาบขณะ
กำลังพุงไปดานหนา
“ขอบพระคุณพี่หานที่ชวยเหลือ!” สตรีแซเสี้ยวเห็นเชนนั้น พลันเอยขอบคุณดวย
ความยินดี
“วิธีการเชนนี้จะสูญเสียลมปราณเปนจำนวนมาก ขาเองก็ไมอาจรักษาระดับได
นานนั ก และยิ ่ ง ไปกว า นั ้ น ก็ ไ ม อาจหนี ไ ปได ไ กลจริ ง ๆ มิ เ ช น นั ้ น เกรงว า ราชั น ย
สามงามราตรีทั้งสองคงลงมือแทรกแซงแลว” หานลี่กลับสั่นศีรษะขณะเอย
“นั ่ น มั น แน น อนอยู  แ ล ว พี ่ ห านเก็ บ ลมปราณไว ต  อ กรกั บ ศั ต รู จ ะดี ก ว า ”
สตรีแซเสี้ยวเองก็พยักหนา
หานลี่ไดฟงแลวพลันหัวเราะอยางขมขื่น และไมไดเอยอะไรออกมา จะวาไปแลว
แมนวาทาสเหลานั้นจะรายกาจขนาดไหน เขายอมสูญเสียจิตสัมผัส ปลอยแมลง
กลื นทองออกมาสองสามร อยตั ว ในคราเดี ย ว บี บ หรื อสั ง หารหนึ ่ ง ในนั ้ น ก็ น  า จะ
ไมใชปญหา แตสิ่งสำคัญก็คือ ทาสเหลานั้นมีสองตน และยิ่งไปกวานั้นยังมีราชันย
สามงามราตรีสองตนคอยเฝามองอยูไกลๆ เขาจะไมกลากระทำการที่เสี่ยงเชนนี้
ไดอยางไร
หลังจากที่มีความชวยเหลือของหานลี่ แมนวาทาสทั้งสองตัวดานหลังจะรวดเร็วมาก
ครานั้นก็ยังไมอาจเขาใกลไดมากนัก
ชั่วพริบตาก็ไลตามกันไปเปนระยะทางสองสามพันลี้
ครั้นเมื่อหานลี่รู สึ กวา หา งกั นพอสมควรแล ว ก็เก็บวิหคเงาลวงตาสี เ ขี ย วไป
แลวหยุดลำแสงหลีกหนีของสตรีแซเสี้ยว
ชั่วครูทั้งสองคนก็ลอยอยูกลางอากาศเงียบๆ จองเขม็งไปยังขอบฟาที่ไกลออกไป
ตาไมกะพริบ
ไกลออกไปมีลำแสงสีเพลิงพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา ทามกลางเสียงรองคำราม
โลหิ ต ขนาดสองสามจั ้ง สองกลุ ม เปล ง แสงสวา งวาบแลว ปรากฏขึ ้น พุ  ง เข าไปหา
ทั้งสองคนราวกับสายฟา
หานลี่เห็นสถานการณเชนนั้น สองมือพลันถูเขาหากันอยางไมตองคิด ชูมือขึ้นอีกครั้ง
หลังจากเสียงฟาผาดังขึ้นสองครั้ง ประจุไฟฟาสีทองหนาเทาปากชามสองสายพลันพุง
ออกมา เปลงแสงสวางวาบพลางโจมตีไปยังเมฆสีโลหิตสองกลุม
เมฆสีโลหิตสองกลุมดูเหมือนจะเปนสิ่งที่ไรรูปราง มันคลองแคลววองไวเปนอยางยิ่ง
แคพลิ้วไหวก็แวบผานประจุไฟฟามา และยังคงพุงเขามาทางหานลี่ตออยางไมหยุดยั้ง
เลยสักนิด!
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม สองมือรายอาคมอยางรวดเร็ว ประจุไฟฟาสีทองสองสาย
พลิ้วไหว หักเลี้ยวและพุงกลับไปหาราวกับอสรพิษ โจมตีไปยังเมฆโลหิตอยางไม
คาดคิดมากอน
หลังจากเสียง “ตูม” ดังขึ้นสองครั้ง ฉากที่ทำใหจิตใจของหานลี่หนักอึ้งปรากฏขึ้น
ประจุไฟฟาสีทองหนาขนาดนั้นโจมตีไปยังเมฆโลหิต กลับจมหายเขาไปขางในราว
โคลนที่จมลงสูมหาสมุทร ไมมีปฏิกิริยาตอบสนองเลยสักนิด
หานลี่หนาเปลี่ยนสี หลังจากที่เมฆโลหิตสองกลุมพลิ้วไหว ก็เปลงแสงสวางวาบ
มาอยูเบื้องหนาหางจากทั้งสองไปสิบจั้งเศษ แมกระทั่งกลิ่นคาวคละคลุงที่โชยออกมา
จากเมฆโลหิตก็ยังไดกลิ่นอยางชัดเจน
สิ่งที่นาแปลกใจก็คือ หานลี่ยืนนิ่งอยูที่เดิมไมไดเคลื่อนไหวใดๆ กลับเปนสตรีแซเสี้ยว
ที่อยูดานขาง ที่แววตาเปลงประกายเย็นเยียบ รายอาคมกระตุนในใจ
เบื้องหนาของสตรีผูนี้และหานลี่มีลำแสงสวางจา หัวมังกรวารีขนาดสองสามจั้ง
สองหัวพุงออกมาจากลำแสง คอยืดยาวออกไป ปากกัดโลหิตสองกลุมไปครึ่งหนึ่ง
เมฆโลหิตที่เหลือเองก็สลายตัวออกจากกัน
เมื่อเห็นฉากนี้สตรีแซเสี้ยวพลันดีใจ ครั้นเมื่อหมายจะหันหนาไปเอยอะไรกับหานลี่นั้น
รูมานตาของหานลี่กลับหดเล็กลง ลำแสงสีฟาเปลงแสงสวางวาบพลางเอยอยาง
เย็นชาวา
“ระวัง เจาสองสิ่งนั้นรวดเร็วมาก อยาถูกพวกมันตบตาเขา”
“อะไรนะ?” สตรีแซเสี้ยวไดยินแลวพลันตะลึงงัน ไลสายตาไปตามหานลี่อยางรีบรอน
ถึงไดพบวาหางจากพวกเขาไปยี่สิบสามสิบจั้ง ตัวประหลาดสีแดงโลหิตสองตัวที่ดู
คลายหมาปาและวานรปรากฏขึ้นตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู
ชั่วพริบตาที่เมฆโลหิตถูกทำลาย ตัวประหลาดสองตัวก็อาศัยความเร็วที่นากลัวของมัน
เปลงแสงสวางวาบหนีออกมาจากเมฆโลหิต
เปนเพราะความเร็วของมันรวดเร็วมาก และยิ่งไปกวานั้นยังเงียบงัน สตรีแซเสี้ยวจึงดู
ไมออกในทันที แตกลับถูกหานลี่ใชเนตรวิญญาณวารีกระจางมองออกไดในปราดเดียว
ตัวประหลาดทั้งสองยืนอยูนิ่งอยูสูงออกไปจากทั้งสองฝง หัววานรตัวหมาปา
ปกคางคาว กายสีแดงสด ปากมีเขี้ยวงอกออกมาเต็มไปหมด บางครั้งก็มีลิ้นของ
อสรพิษแลบออกมา ดวงตาปศาจสีแดงคูหนึ่งกลับฉายแววโหดเหี้ยมและเจาเลห
เพทุบายออกมา มองปราดเดียวก็รูวาคือ ตัวประหลาดที่มีสติปญญาสูงสง
นี่คือสิ่งที่เรียกวาทาส!
แมนวาสตรีแซเสี้ยวจะเคยไดยินมาบาง แตครานี้หลังจากที่ไดเห็นของจริงแลว
ก็ยังขนลุกซู
“อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายของเขาไมมีผลตอพวกมัน ดูแลวหากพวกมันไมไดถูก
หลอมขึ้นดวยของชั่วรายอะไรสักอยาง เดาวาเคล็ดวิชาอาทิตยเที่ยงแท ขจัด
อาถรรพคงไมมีผลกับพวกมันมากนัก มีเพียงตองเผชิญหนาแลว” หานลี่เอย อยาง
ราบเรียบ ฉับพลันนั้นก็ใชมือหนึ่งลูบไปที่ทายทอย
ลำแสงสีเทาเปลงแสงสวางวาบ หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง ก็กลายเปนมานลำแสง
สีเทาชั้นหนึ่งปกป องเรื อนรางของเขาเอาไว ในเวลาเดียวกันภู เขาสีดำลู กหนึ ่ ง ก็
หมุนควางกะพริบวาบเลือนๆ อยูในนั้น นับวามหัศจรรยมาก
หลั ง จากที ่ ส ตรี แ ซ เ สี ้ ย วมี ส ี ห น า เคร ง ขรึ ม ปากก็ บ ริ ก รรมคาถา ชั ่ ว ขณะนั้ น
เบื้องหนาพลันบิดเกลียวหมุนวนอีกครั้ง หัวมังกรวารีอีกสามหัวและมังกรวารีมีหนวด
หาหัวปรากฏขึ้นตามลำดับ รางกายใหญขึ้นกวาเดิมสองสามเทา
ราวกับจิตวิญญาณ หัวหาหัวสะบัดไปทางทาสทั้งสอง เปลงเสียงคำรามต่ำๆ ออกมา
ทาทีคุกคาม
ในตอนนัน้ เองทาสทั้งสองกลับชิงลงมือกอน
ปกคางคาวสีแดงสดที่แผนหลังพลันสะบัด รางทั้งรางพลิ้วไหวกลายเปนเสนไหม
สีโลหิตสายหนึ่งออกไป เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไป
ลำแสงสีโลหิตเปลงแสงสวางวาบ รางทาสปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของพวกของหานลี่
แลวกระโจนลงมาอยางไมลังเลเลยสักนิด
หัวขนาดยักษทั้งหาของมังกรวารีมีหนวดหาหัว พุงเขามาหมายจะกลืนกินอยาง
ไมเกรงใจเลยสักนิด
รางของทาสพลิ้วไหว รางกายหายวับไปราวกับของเหลว
หัวมังกรวารีท้งั หาตางกัดไปกลางอากาศพรอมกัน
มันไมทันไดเขาใจวาเกิดอะไรขึ้น จุดตางๆ ตามรางกายก็มีเสนไหมโลหิตบางๆ
ปรากฏขึ้น และเปลงแสงสวางวาบพลางหายวับไป จากนั้นหัวทั้งหาและรางกาย
ที่ใหญโตของมังกรวารีก็กลายเป นชิ้นๆ อยางไมมีคางลางมากอน และทยอยกัน
สลายหายไป
จิตวิญญาณบริสุทธิ์ของมังกรวารีมีหนวดหาสีนี้ คาดไมถึงวาจะถูกทาสโจมตีจน
สลายหายไป
ลำแสงสีโลหิตสวางวาบขึ้นกลางอากาศ กลางอากาศมีเสนไหมโลหิตจำนวนนับไมถวน
ปรากฏขึ้น และพุงตรงเขามาหอหุมรางขอสตรีแซเสี้ยวเอาไว
หานลี่แคนเสียงอยางเย็นชา เบื้องหนามีลำแสงสีเทาแผออก ชั่วพริบตาก็หอหุมราง
ของสตรีเอาไว ภูเขาสีดำเปลงแสงสวางวาบ เคลื่อนยายมาอยูเหนือศีรษะของสตรีผูนี้
เสนไหมสีโลหิตแผขยายออกไป แหวกผานอากาศจนเกิดเสียงพรึ่บๆ ตัดไปบน
ลำแสงสีเทา และสับออกอยางไมไดรับผลกระทบเลยแมแตนอย ทันใดนั้นเสนไหม
สีโลหิตก็สับภูเขาสีดำออก
แทบจะในเวลาเดียวกันจุดที่หานลี่อยูก็มีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น เงาโลหิตจางๆ
สายหนึ่งปรากฏขึ้น
กรงเล็บแหลมสองกรงยื่นออกมา และตะปบออกไปอยางเงียบเชียบ ไมมีลมพายุเลย
สักนิด
ทามกลางเงาโลหิต ดวงตาเจาเลหคูหนึ่งเปลงแสงสวางวาบ
คาดไมถึงวาทาสอีกตนจะซอนตัวอยูใกลๆ กับหานลี่ตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู ถือโอกาสที่
ถูกทาสอีกตนหนึ่งดึงความสนใจ ทำการลอบโจมตี
จากจิ ต สั ม ผั ส ที ่ แ ข็ ง แกร ง ของหานลี ่ ตอนแรกกลั บ สั ม ผั ส ไม ไ ด เ ลยสั ก นิ ด
แตเมื่อกรงเล็บที่แหลมคมมาปะทะกับลำแสงสีเทาที่หอหุมรางอยู เขาจะหลบหลีก
ก็สายไปเสียแลว
กรงเล็บที่แหลมคมคูนั้นพลิ้วไหวเบาๆ กรงเล็บลำแสงปรากฏขึ้น ชั่วขณะนั้นก็สับ
ลำแสงสีเทาออก จับแผนหลังของหานลี่เอาไวอยางรวดเร็วราวสายฟา
ครานี ้ ใ นที ่ ส ุ ด หานลี ่ ก ็ ส ั ม ผัส ได ถ ึ ง สถานการณ ท ี ่ เ บื ้ องหลั ง ฉั บ พลั น นั ้ นพลัน
รองตะโกนออกมา บนรางมีชุดคลุมสีทองเงินปรากฏขึ้น
เสียงฟาคำรามดังขึ้น ประจุไฟฟาสีทองเงินอันหนาแนนปรากฏขึ้นบนชุด
กรงเล็บที่แหลมคมทั้งสองตะปบลงไป
เสียงตูมพลันดังสนั่นขึ้น!
ทามกลางประจุไฟฟาสีทองเงินสองสีที่ดีดออกมา แขนสีแดงสดพลันมีควันสีเขียว
ทะลักออกมา แตกรงเล็บทั้งสองก็ดูเหมือนใบมีดที่แหลมคมอยางไรอยางนั้น นิ้วทั้งหา
เคลื่อนไหวทะลวงผานสายฟาไป ตะปบแผนหลังของหานลี่เอาไวแนน
แตในตอนนั้นเองฉับพลันนั้นแผนหลังของหานลี่พลันมีแขนสีทองจางๆ สี่แขน
ปรากฏขึ้น โจมตีไปยังกรงเล็บทั้งสอง ไมรูเพราะเหตุใด คาดไมถึงวาจะมาถึงกอน
ตานทานกรงเล็บที่แหลมคมคูหนึ่ง เอาไว และเปลงเสียงรองประหลาดๆ ราวกับ
โลหิตเสียดสีกันดังขึ้น
กรงเล็บเปลงแสงสีโลหิตสวางวาบ แขนสีทองทั้งสี่แตกออกเปนเสี่ยงๆ แตแค
ชั่วระยะเวลาที่ลาชาไป หานลี่พลันบิดกาย กลายเปนเสนไหมสีขาวสายหนึ่งพุงออกมา
เปลงแสงสวางวาบหางออกไปยี่สิบจั้งเศษ เขามาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง จองเขม็งไปยัง
ทาสที่ลอบโจมตีตนเองตนนั้น สีหนาเครงขรึมมาก
ทาสตนนั้นโจมตีไมสำเร็จ ดูเหมือนวาจะรูสึกประหลาดใจไปเล็กนอย ยืนกลอกตา
ไปมาอยูที่เดิมอยางรวดเร็ว
อีกดานหนึ่งสตรีแซเสี้ยวอาศัยภูเขาเทวะดูดปราณของหานลี่ตานทานเสนไหม
โลหิตที่หนาแนนเอาไวได และเคลื่อนยายออกมายี่สิบสามสิบจั้งเศษเชนกัน
เสนไหมโลหิตเหลานี้ผนึกรวมตัวกันที่ตรงกลาง กลายเปนหัววานรรางหมาปาดังเดิม
อีกครั้ง แววตาฉายแววโหดเหี้ยมขณะจองมายังสตรีแซเสี้ยวเชนกัน
เห็นไดชัดวาทาสสองตนนี้แบงเปาหมายกันแลว จึงแยกกันจับจองหานลี่และสตรีผูนี้
“ทำตามแผนเถิด” ฉับพลันนั้นหานลี่พลันเอยกับสตรีผูนั้นหนึ่งประโยค
“ตกลง!” สตรีแซเสี้ยวพยักหนาอยางไมลังเลเลยสักนิด มือหนึ่งพลิกฝามือ ใน
มือมีจานอาคมชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้น อีกมือหนึ่งมีลำแสงสีขาวสวางวาบ ตบไปทาง จาน
อาคมอยางรุนแรง
เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น ฉับพลันนั้นในระยะรอยจั้งเศษโดยมีทาสทั้งสองตนเปน
ศูนยกลางพลันมีธงเล็กๆ หลากสีสันสามสิบหกดามปรากฏขึ้น
เมื่อธงเหลานี้ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ก็มีขนาดแคสองสามชุน แตเมื่อสตรีแซเสี้ยว
รายอาคมกระตุน ชั่วขณะนั้นพลันขยายใหญขึ้นไมหยุด ชั่วพริบตาก็มีขนาดสิบกวาจั้ง
ธงทุกดามมีอักขระลอยวนอยู ทาทางดุดันนาเกรงขาม
และแทบจะในเวลาเดียวกัน หานลี่เองพลันรายอาคม ในธงมีเสนไหมสี ท อง
เปลงแสงระยิบระยับเปนสายๆ ปรากฏขึ้น กะพริบเรืองๆ ลอมทาสทั้งสองเอาไว
ตรงกลางอยางไมเกรงใจ
ตอนที่ 1401 เขตอาคมลำแสง
หานลี่และสตรีผูนี้วางเขตอาคมมหากระบี่ทองคำและเขตอาคมธงนิรนามเอาไว
ตั้งนานแลว
ครานี้เมื่อกระตุน แมไมรูวาเขตอาคมธงเหลานั้นมีคุณสมบัติอยางไร แตอาศัยแค
พลังของเขตอาคมมหากระบี่ทองคำแลวก็กักทาสทั้งสองไวขางในในทันที
ทาสตนหนึ่งเห็นเชนนั้นพลันตะลึงงัน แตทันใดนั้นแววตาพลันฉายแววเย็นเยียบ
แขนขาทั ้ ง สี ่ เคลื ่ อ นไหว กลายเป น เงาโลหิ ต จางๆ สายหนึ ่ ง เปล ง แสงสว า งวาบ
ฝนทะลวงออกมาจากเขตอาคมกระบี่
เห็นไดชัดวาจากความเจาเลหของทาส แนนอนวารูวาหากอยูในนี้ตอคงไมใช
เรื่องที่ดีอะไรแน
เขตอาคมมหากระบี ่ท องคำมี ความอัศ จรรย ถึ ง ขั ้น ไหน แมนวาทาสจะมี ก าร
เคลื่อนไหวที่รวดเร็ว แตขอบของเขตอาคมกระบี่ เสนไหมสีทองสองสามรอยสายพลัน
ปรากฏขึ้น แลวมวนไปขางหนาในเวลาเดียวกัน
เสียง “ตูม” ดังขึ้น กอนโลหิตจำนวนนับไมถวนระเบิดออกมา ทันใดนั้นพลันพลิ้วไหว
ทารกผนึกรวมตัวกันอีกครั้ง
แตไมรอใหตัวประหลาดตัวนี้พุง ออกมาจากเขตอาคมอี กครั้ง รอบดานพลั น
เปลงแสงสีทองสวางจา เสนไหมสีทองหนาๆ ปรากฏขึ้นอีกครั้ง และผนึกเขากับราง
ของมันอยางรวดเร็วดังสายฟาฟาด
ลำแสงสีทองเปลงแสงสวางวาบ สับทาสตนนั้นออกเปนชิ้นเล็กชิน้ นอย
เสียง “ปงๆ” ดังสนั่นขึ้น ชิ้นเนื้อทั้งหมดระเบิดออกโดยอัตโนมัติ และจากรูปราง
ของหมอกโลหิตที่ยังคงมวนวนอยูดานนอกเขตอาคมกระบี่นั้น
มันกลับสับไปที่เสนไหมกระบี่รอบดานไมหยุด ไมสนใจเลยสักนิด
หานลี่ที่อยูดานนอกเห็นเชนนั้น แววตาพลันฉายแววสวางวาบ
กระบี ่ ไ ผ เ ขี ย วตั ว ต อ เมฆาของเขาไม ไ ด ม ี ค วามสามารถแค น ี ้ ทั น ใดนั ้ น จึ ง
กระตุนอาคมกระบี่ในใจ สำแดงความสามารถของกระบี่บินที่อยูรอบๆ
เห็นเพียงเสนไหมกระบี่ที่เดิมเปลงแสงสีทองเรืองรอง สั่นเทาแลวกลายเปนสีขาว
ราวกับหิมะ ไอเย็นเยียบบางๆ ทะลักออกมาจากเสนไหมกระบี่เหลานั้นไมหยุด
เชนนั้นแมนวาหมอกโลหิตนั้นจะไรรูปราง แตเมื่อถูกเสนไหมกระบี่ธาตุเย็นที่
หนาแนนสับออกแลว ชั่วพริบตาตรงผิวก็มีชั้นน้ำแข็งปรากฏขึ้น สุดทายเสียง “แกรก”
ก็ดังขึ้น หมอกโลหิตกลายเปนกอนผลึกน้ำแข็งกอนหนึ่ง ไมอาจเคลื่อนไหวไดเลยสัก
นิด
เสียงฟาผาดัง “เปรี้ยงๆ” ระหวางเสนไหมกระบี่มีประจุไฟฟาบางๆ จำนวนนับไม
ถวนดีดตัวออกมาพรอมกัน ชั่วขณะนั้นทามกลางลำแสงสีทอง น้ำแข็งทั้งกอนพลัน
กลายเปนผุยผง ปลิววอนไปทั่วทุกสารทิศ
หานลี่หยักมุมปากขึ้น อดที่จะเผยรอยยิ้มนอยๆ ออกมาไมได
แตครูตอมารอยยิ้มพลันแข็งคางในชั่วพริบตา
เห็นเพียงผุยผงเหลานั้นมีลำแสงสีโลหิตชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นและทยอยกันหลอมละลาย
กลายเปนสีแดงสดราวกับโลหิต ไมรอใหเสนไหมรอบๆ สับลงมาอีกครั้ง ก็พุงกลับไป
ดานหลังทั้งหมด
จากนั้นใจกลางของเขตอาคมพลันมีลำแสงสีโลหิตสวางวาบ รวมตัวกันกลายเปน
ทาสตนนั้นอีกครั้ง และในตอนนั้นเองแมนวาลำแสงโลหิตบนรางของทาสจะหมนแสง
ลงสวนหนึ่ง แตก็ไมคอยชัดเจนนั้น
แมนวาเขตอาคมมหากระบี่ท องคำจะทำใหตั ว ประหลาดถอยออกไป แตก็ ดู
เหมือนวาจะไมไดทำใหมันบาดเจ็บจริงๆ ได
ความหวาดกลัวในใจของหานลี่พลันเพิ่มพูนขึ้น!
ทันใดนั้นเขาก็ไมไดปริปากใดๆ โคจรลมปราณในรางกายไมหยุด กระตุนพลานุภาพ
ของเขตอาคมกระบี่จนถึงขีดสุด ชั่วขณะนั้นในเขตอาคมกระบี่พลันมีเสนไหมสีทอง
ปรากฏขึ้นเปนชั้นๆ ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ มีเกือบสองสามพันสาย ลวนปรากฏขึ้น
รางๆ ลอมตรงใจกลางเอาไว
ความเร็วมากกวาเดิมเทาหนึ่ง ชั่วครูก็ปดผนึกเอาไว
ถือโอกาสนี้หานลี่เหลือบตาไป เห็นสตรีแซเสี้ยวที่อยูดานนอกเขตอาคมกระบี่
หลับตาทั้งสองขางลงตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู
แตมือหนึ่งกลับถือจานอาคมเอาไว ปากบริกรรมคาถาไมหยุด ไมรูวากำลังแสดง
ความสามารถอะไรอยู คาดไมถึงวาตองใชเวลากระตุนเขตอาคมธงนานขนาดนี้
ธงอาคมสามสิบหกดามนั้นมีอักขระสีเงินจำนวนนับไมถวนโคจรอยู สั่นเทานอยๆ
ไมหยุด
อักขระเหลานั้นลวนเปนตัวอักษรลูกออดสีเงิน!
หานลี่หนาเปลี่ยนสี แตในตอนนั้นเอง ทาสอีกตนหนึ่งในเขตอาคมกระบี่ กลับ
ลงมือแลว
ทาสตนนี้ไมเหมือนกับทาสตนแรก แขนขาทั้งสี่ไมไดขยับเลยสักนิดใน เขต
อาคมกระบี่ แตปกคูที่แผนหลังพลันกระพือ สวนตางๆ ของรางกายมีหนวดสี แดง
โลหิตยี่สิบสามสิบเสนพุงออกมา ทุกเสนมีความยาวสองสามจั้ง บางเบาเปนอยางมาก
ยังไมรอใหหานลี่มองออกวาคือเคล็ดวิชาอะไร เสนไหมสีโลหิตเหลานั้นก็สะบัด
เริงระบำขึ้นพรอมกัน กลายเปนแสเงารางๆ ที่รุนแรงราวกับพายุฝนกระหน่ำกลุมหนึ่ง
หอหุมตนเองเอาไว
มองจากไกลๆ แส เ งาเหล า นี ้ ด ู เ หมื อ นลู ก บอลสี โ ลหิ ต ขนาดยั ก ษ เ ส น หนึ่ ง
และขยายใหญขึ้นดวยความเร็วที่นาตกตะลึง
เชนนั้นชั่วพริบตาลูกบอลโลหิตก็โจมตีไปยังเสนไหมกระบี่ที่ลอมอยูรอบๆ
เสียงเสียดสีอันแสบแก วหูด ังขึ้น ลำแสงสีทองและลำแสงสีโลหิตตัดสลั บ กั น
อานุภาพของเขตอาคมกระบี่ของหานลี่ถูกแสเงาตานทานเอาไวไดอยางคาดไม ถึง
ไมอาจผาออกไดดังเดิม
รูมานตาของหานลี่หดเล็กลง สองมือพลันรายอาคม
เสนไหมสีทองจำนวนนับไมถวนรอบๆ ดาน แผกลิ่นอายเย็นเยียบสีขาวออกมาอีกครั้ง
มวนกระโจนเขาไปหาเงาสีโลหิต
เสียง “ปงๆ” ดังขึ้น หานลี่มีสีหนาดูไมได
เมื่อไอเย็นเยียบสีขาวโพลนสัมผัสกับแสเงาสีโลหิต ก็ถูกพลังมหาศาลกลุมหนึ่งดีด
กลับมา แมนวาหนวดเหลานั้นจะถูกไอเย็นเยียบผนึกเอาไวเปนน้ำแข็ง แตแคขยับ
ก็แตกสลายออกหายวับไปจากไรรองรอย
คาดไมถึงวาไอเย็นเยียบจะไมมีผล
ในตอนนั้นเองบนรางของทาสตนนั้นพลันมีลำแสงสีโลหิตสวางวาบ หนวด
ยี่สิบสามสิบเสนพุงออกมาอีกครั้ง แลวเขารวมการเริงระบำ
ชั่วขณะนั้นลูกบอลโลหิตพลันเปลงเสียงระเบิดปงๆ ออกมา กระบี่เสนไหมที่
แตเดิมยืนกรานอยูกับลูกบอลโลหิต คาดไมถึงวาจะพัวพันเขากับหนวด เริ่มถูกบีบให
ลาถอยไป และยิ่งไปกวานั้นความเร็วยังเร็วขึ้นเรื่อยๆ
สวนทาสอีกตนนั้นดูเหมือนวาจะถูกการเคลื่อนไหวของสหายกระตุนอะไรบางอยาง
หลังจากที่รางกายหมุนวน รางกายก็กลายเปนเงาโลหิตรางๆ กลุมหนึ่ง ทะลวงเขาหา
เสนไหมสีทองอีกดาน
เสนไหมสีโลหิตจำนวนนับไมถวนปรากฏขึ้นบนผิวของเขา หมุนโคจรพรอมกัน
อยางรวดเร็ว
ผลคือฉากที่เหมือนกันพลันปรากฏขึ้น เสนไหมสีทองทยอยกันถูกเงาโลหิตรางๆ
บีบจนตองลาถอยไปเรื่อยๆ ไมอาจตานทานได
หานลี่สูดลมหายใจอันเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง ดูแลวเขตอาคมมหากระบี่ทองคำ
คงไมอาจตอกรกับทาสสองตนนี้ไดแลว
สะบัดแขนเสื้อ ลูกบอลกลมๆ สีทองเงินสิบกวาลูกมวนวนเขามาอยูในมือ
หานลี่ซอนไขมุกอัสนีเอาไวในแขนเสื้อ จองเขม็งไปยังสถานการณในเขตอาคมกระบี่
สีหนาดำคล้ำอยางหาที่เปรียบ
พริบตานั้นเสียงบริกรรมคาถาเบาๆ แตเดิมพลันหยุดชะงัก แลวหยุดลง
หานลี่ดีใจหันหนากลับไปมองอยางรวดเร็ว
เห็นเพียงสตรีแซเสี้ยวกระตุนเขตอาคมเสร็จแลวดังคาด จานอาคมในมือเปลงแสง
สีทองบาดตาออกมา อักขระสีเงินจำนวนนับไมถวนลอมเรือนรางของสตรีผูนี้เอาไว ใน
เวลาเดียวกันทองฟาก็มืดครึ้มตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู รอบๆ มีพายุทะมึนพัด เขามา
แมนจะลูกไมใหญนัก แตเมื่อสัมผัสกันกลับหนาวเย็นจนทิ่มแทงกระดูกราวกับสามารถ
แชแข็งหัวใจไดอยางไรอยางนั้น
การสำแดงของสตรีผูนี้คาดไมถึงวาจะเปนการใชพลังวิญญาณฟาดิน
นอกจากนี้จานอาคมในมือของสตรีแซเสี้ยวยังมีพลังที่แข็งแกรงมากกลุมหนึ่ง
เพิ่มขึ้นมา
พลังที่แข็งแกรงเชนนี้ทำใหหานลี่ใจหายวาบ ความรูสึกประหลาดที่ลึกล้ำยากจะ
คาดเดาตอนที่เผชิญหนากับราชันยสามงามราตรีทั้งสองเมื่อครูจะเปนความจริง
หานลี่ตะลึงงัน จองจานอาคมในมือของสตรีแซเสี้ยว กลับถูกลำแสงที่เจิดจา
จนแสบตาทำใหตาพราเลือน
ไมทันตองคิดมาก แววตาของเขาพลันเปลงแสงสีฟาสวางวาบ สำแดงความสามารถ
ของเนตรวิญญาณวารีกระจางขั้นสุด ชั่วขณะนั้นสถานการณในจานอาคมพลันปรากฏ
ขึ้นอยางชัดเจน
“อักษรจวนทอง”
หานลี่ตะลึงงันรองอุทานดวยน้ำเสียงแหงผากออกมา
ผิวของจานอาคมมีอักษรสีทองปรากฏขึ้น! แมนวาจะไมรูจักสักตัว แตดูจาก
รูปรางของมันและพลังวิญญาณอันนากลัวที่แฝงอยู ก็เห็นไดชัดวาเปนอักษรจวนทอง
ที่ลึกลับกวาอักษรลูกออดสีเงินในตำนาน
อักษรในตำนานชนิดนี้ ตอใหเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงในแดนวิญญาณ ก็รูจัก
เพียงไมกี่คน
ดูเหมือนวาจะสัมผัสไดถึงการจับจองของหานลี่ สตรีแซเสี้ยวฉีกยิ้มเบิกบานใหหานลี่
ฉับพลันนั้นสองมือที่ถือจานอาคมเอาไวพลันชูขึ้นบนทองฟา
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น
จานอาคมที่มีลำแสงสีทองหอหุมอยู หมุนวนติ้วๆ อยูกลางอากาศ ตรงใจกลางมี
ลูกบอลลำแสงสีทองขนาดเทากำปนปรากฏออกมา พลังแรงกดสูงเสียดฟา
ชั่วพริบตาบรรยากาศรอบๆ ก็ดำทะมึน ชั่วครูพายุก็กอตัวขึ้น
สอดคลองกั นธงยักษสามสิ บ หกด ามดา นลา งพลัน เปลง เสีย งรองคำรามของ
มังกรและพยัคฆออกมา จุดลำแสงตางๆ จำนวนนับไมถวนปรากฏขึ้นรอบๆ ทะลักเขา
ไปรวมตัวกันที่ธง
ชั่วพริบตาธงทั้งหมดก็เปลงแสงเจิดจาออกมา ครูตอมาก็สั่นเทา เปลงเสาลำแสง
สามสิบหกสายออกมาพรอมกัน หนาเทาปากชาม เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขา
ไปในเมฆสูงกลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นเมฆสีดำกลางอากาศพลันมีเสียงฟาผาดังขึ้น ทันใดนั้นเขตอาคม
ลำแสงขนาดยักษรอยจั้งเศษก็ปรากฏออกมาจากเมฆสีดำ ใจกลางของเขตอาคม
ลำแสงนั้นตรงกับจานอาคมกลางลำแสงสีทองที่อยูดานลางอยางพอดิบพอดี จากนั้นก็
พนเสนไหมสีทองบางๆ ออกมาสายหนึ่ง จมหายเขาไปในลำแสงสีทองที่พนออกมา
จากจานอาคม ชั ่ ว ขณะนั ้นลูก บอลกลมๆ สี ท องก็ล อยขึ ้น ตรงไปหาใจกลางของ
เขตอาคมลำแสงยักษ
จนถึงครานี้หานลี่พลันตกตะลึงจนอาปากคาง
เขตอาคมธงมีอานุภาพขนาดไหน กอนหนานี้สตรีแซเสี้ยวไมไดบอกอะไรกับเขา
มากนัก แคใหยื้อเวลาใหนางเทานั้ น แตตอนนี้ดูแลวแมวาเขตอาคมนี้จะสำแดง
ความสามารถที่แทจริงออกมาหรือไม แตก็ไมธรรมดาอยางแนนอน อานุภาพ
เหนือกวาเขตอาคมมหากระบี่ทองคำของเขา
ทวาสตรีแซเสี้ยวที่มือถือจานอาคมเอาไวตลอดในครานี้กลับมีเม็ดเหงื่อผุดออกมา
ราวกับเม็ดฝน ใบหนาซีดขาวไรสีโลหิต ทาทางซวนเซเหมือนจะลมลง
ในที ่ ส ุ ด ลู ก บอลลำแสงสี ท องก็ ถ ู ก ดู ด เข า ไปในใจกลางของเขตอาคมลำแสง
ชั่วขณะนั้นก็รวมตัวกันทามกลางเสียงหึ่งๆ เขตอาคมลำแสงที่แตเดิมนาตกตะลึง
อยูแลว เปลงแสงสีขาวสวางวาบ อาณาเขตขยายใหญขึ้นสองสามเทา แทบจะปกคลุม
ทองฟาทั้งผืนเอาไว
พลังแรงกดที่แผออกมาจากเขตอาคมลำแสง ตอใหเปนหานลี่เองรางกายก็ยังพลิ้วไหว
อดที่จะถอยรนออกไปสองสามกาวไมได
ในเวลาเดี ย วกั นราชันย ส ามง ามราตรี สองตนที ่อยู  ห า งออกไปสองสามพันลี้
พลันมองสบตากันดวยความตกตะลึง รางกายพลิ้วไหวโดยไมเอยปากใดๆ ทั้งสองคน
เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไปจากกลางอากาศ
ครานี้ในที่สุดทาสทั้งสองก็รองคำรามขณะพุงออกมาจากเขตอาคมมหากระบี่ทอง
ลำแสงสีโลหิตสวางวาบ กระโจนเขาไปหาพวกของหานลี่
หานลี ่ พ ลั น ตกตะลึ ง ตอนที ่ ก ำลั ง คิ ด จะปล อ ยไข ม ุ ก อั ส นี ใ นมื อ ออกไปนั้ น
เขตอาคมลำแสงกลางอากาศกลั บ พ น เสาลำแสงสี ข าวนวลสองสายออกมา
เปลงแสงสวางวาบแลวโจมตีไปยังรางของทาสทั้งสองตน
ทาสทั้งสองตนที่ดูเหมือนจะแข็งแกรงสงเสียงกึกๆ ออกมา ชั่วครูก็หายวับไปจาก
กลางอากาศอยางไรรองรอย
“เขตอาคมสงตัว”
สายตาของหานลี่อยูในระดับใด มองปราดเดียวก็รูวาทาสทั้งสองไมไดถูกสังหารไป
แตถูกสงตัวไปที่ไหนสักแหงในชั่วพริบตาทามกลางลำแสงสีขาว
สตรีแซเสี้ยวยิ้มอยางพึงพอใจ หันหนาไปคิดจะเอยอะไรกับหานลี่ กลับหนาเปลี่ยนสี
กลายเปนสายรุงสายหนึ่ง พุงตรงไปยังเขตอาคมลำแสงที่อยูกลางอากาศ
แมนวาหานลี่จะรูสึกตกตะลึงระคนสงสัย แตเห็นสถานการณเชนนั้น ในหัวก็มี
ความคิดผุดขึ้นอยางรวดเร็ว กลายเปนสายรุงสีเขียวไลตามสตรีผูนั้นไปอยางไมลังเล
เลยสักนิด
และในตอนนั้นเองกลางอากาศหางออกไปรอยจั้งสองจุดก็มีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น
ฉับพลันนั้นเงารางยักษสองสายก็กระพือปกยักษเปลงแสงสวางวาบ มองเห็นการ
เคลื่อนไหวของพวกของหานลี่เขาพอดี
ทันใดนั้นเสียงคำรามสองเสียงพลันดังขึ้น สามงามราตรีตนหนึ่งควงกำปนเขาโจมตี
สามงามราตรีอีกตนหนึ่งกลับมีลำแสงสีโลหิตเปลงแสงสวางวาบขึ้นในมือ ลำแสง
ขนาดยักษสับออกไป
ตอนที่ 1402 ปศาจหมูกับลูกอสูร
สตรีแซเสี้ยวทะลวงเขาไปในเขตอาคมลำแสงยักษแลว ชั่วขณะนั้นเขตอาคม
ลำแสงทั้งเขตก็เปลงเสียงหึ่งๆ ดังขึ้นสองสามเทา เในเวลาเดียวกันรอบดานเกิดระลอก
คลื่นรุนแรงขึ้น
อากาศภายใต เ ขตอาคมลำแสงยั ก ษ ที ่ ป กคลุ ม อยู  เ ริ ่ มบิ ด เบี ้ย ว เห็ น ได ช ั ดวา
เขตอาคมสงตัวกำลังจะเริ่มแลว
กระบี่บินทั้งหมดที่วางเขตอาคมไวก็ทยอยกันคืนสภาพเปนกระบี่บินเจ็ดสิบสองเลม
ในชั่วพริบตาที่ทาสพุงออกจากเขตอาคมกระบี่ เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับเขาไป
ในราง
แตครานี้เปนเพราะชั้นบรรยากาศที่บิดเบี้ยว หานลี่ที่กลายเปนลำแสงสีเขียวพลัน
หยุดชะงัก ความเร็วอดที่จะชาลงสองสามเทาไมได
หานลี่พลันหนาเปลี่ยนสี ไมทันไดสยายปกวายุอัสนีที่หลอมขึ้นใหมที่แผนหลังออก
การโจมตีของราชันยสามงามราตรีก็มาอยูเบื้องหนา
พลังของกำปนที่มีเสียงรองคำรามตามมาดวย กลายเปนกำปนเงายักษสีเขียวมรกต
โจมตีไปยังเขตอาคมลำแสง หานลี่จึงตกอยูในอานุภาพของมันอยางพอดิบพอดี
หานลี่รูดีวาหากไมรับมือการโจมตีครั้งนี้กอน คงไมอาจหนีไปได ทันใดนั้นจึงสูด
ลมหายใจลึกๆ เขาไปเฮือกหนึ่ง สองมือชูขึ้น ลำแสงสีทองเงินสิบกวาลูกพุงออกมา
ทั นที แล ว ถึ ง สะบั ดป ก ของตนเองที่แ ผ น หลั ง คนก็ เ ปล ง แสงสว างวาบหายวับไป
จากที ่ เ ดิ ม ครู  ต  อมาก็ ป รากฏอยู  ห  า งจากใจกลางของเขตอาคมลำแสงไปแค คื บ
รางกายพลิ้วไหว จมหายเขาไปอยางไมลังเลเลยสักนิด
ครานี้ลำแสงสีโลหิตอีกสายหนึ่งที่ตามมาดานหลังก็เปลงแสงสวางวาบ สับลงไปที่
มุมหนึ่งของเขตอาคมลำแสงขนาดยักษ
ในเวลาเดียวกันลำแสงสีทองเงินเหลานั้นพลันโจมตีไปยังกำปนเงา ทั้งสองระเบิด
ออกพรอมกั น ลำแสงสีโลหิต เปลง แสงสวา งวาบ สับลงไป คาดไมถึง ว าจะทำให
เขตอาคมลำแสงขนาดใหญเปดแยกออก
เสียงสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นอีกเสียงดังขึ้น เมฆอัสนียักษสีทองเงินกลุมหนึ่งปรากฏขึ้น
กวางถึงรอยจั้ง แยกออกมีพายุเฮอรริเคนพวยพุงขึ้นมา
ชั่วพริบตาพายุเฮอรริเคนก็กลืนกินทุกอยางเขาไปขางใน
ขอบของเมฆอัสนีมีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น รางของราชันยสามงามราตรีสองตนปรากฏ
ขึ้นอีกครั้ง เผชิญหนากับการโจมตีที่มีอานุภาพมหาศาลเทียบเทากับผูบำเพ็ญเพียร
ระดับหลอมสุญตาสิบกวาคน แมวาจากความสามารถของพวกเขาแลวจะตองจำใจ
หลบหลีกไปชั่วคราว ทำใหแผนเดิมของพวกเขาที่คิดจะเคลื่ อนยายเขาไปตะปบ
พวกของหานลี่ในเขตอาคมลำแสงถูกขจัดไป
ภายใตการขวางกั้นของเมฆอัสนี ลำแสงสวางวาบพลิ้วไหวทามกลางเขตอาคม
ลำแสงที่อยูกลางอากาศ ทันใดนั้นก็กะพริบวาบสองสามครั้ง เขตอาคมลำแสงทั้งเขต
แตกออกเปนเสี่ยงๆ หายวับไปจากกลางอากาศ
ภายใตการรวมมือของราชันยสามงามราตรีสองตน ชั่วครูก็สลายการโจมตีของ
เมฆอัสนีสีทองเงินออก จากนั้นก็เปลงแสงสวางวาบปรากฏขึ้นดานลางของใจกลาง
เขตอาคมลำแสง
ตรงนั้นมีเพียงจานอาคมสีขาวที่ผิวมีรองรอยปริแตกอยูจานหนึ่ง ลอยอยูตรงนั้น
อยางไรซึ่งไอวิญญาณ
ราชันยสามงามราตรีคนหนึ่งดูดจานอาคมจานนั้นเขามาในมือ พิจารณาอยูนานดวย
สีหนาเครงขรึม จากนั้นก็โยนไปใหราชันยสามงามราตรีอีกคนหนึ่งโดยไมปริปากใดๆ
“ดานในมีไอวิญญาณเที่ยงแทอยูเล็กนอย ดูแลวพวกเราคงดูถูกมนุษยผูบำเพ็ญเพียร
สองคนนั้นไปหนอย คาดไมถึงวาจะมีความสามารถสงตัวเปลาๆ ไปไดไกลขนาดนี้”
ราชันยสามงามราตรีดานหลังมองจานอาคมเสร็จแลว ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“เรื่องนี้แมแตขาก็คิดไมถึง โชคดีที่การโจมตีสุดทายของขา สะเทือนเขตอาคมสงตัว
ของมัน พวกมันจะสงตัวออกไปไดอยางปลอดภัยหรือไมก็เปนเรื่องที่ยากแลว ไมแนวา
ระหวางทางอาจจะตกไปในรอยแยกของมิติเวลาแลวหายสาบสูญไปจากแดนนี้ก็
เปนได” สามงามราตรีนามวาราชันยอมตะ กลับหัวเราะอยางเย็นชาออกมาขณะเอย
“ก็มีเพียงตองคิดเชนนั้น แตไมรูวาทาสของพวกเราสองคนถูกสงตัวไปที่ใด คิดจะ
ตามกลับมาคงยากหนอยจริงๆ” ราชันยวัฏสงสารพลันขมวดคิ้ว หลังจากผานไปชั่วครู
ถึงไดพยักหนาขณะเอย
“ไมมีอะไร ทาสของเจากับขาไมใชสิ่งที่ยังไมเบิกเนตร ขอแคไมไดสงตัวไปแดนอื่น
คงจะหาวิธีกลับมาหาเราสองคนเอง แตวาเรื่องรวมมือกันที่พวกเราเคยคุยกันกอนนะ
จำตองหยิบออกมาใชแลว มิเชนนั้น…”
แมนวาราชันยสามงามราตรีสองคนจะรูสึกประหลาดใจที่หานลี่และพวกหนี
ออกไปได แตก็โยนทิ้งไปอยางรวดเร็ว ทันใดนั้นถึงปรึกษากันเรื่องที่สำคัญยิ่งกวา
หางจากกองทัพเผาสามงามราตรีไปไมรูกี่หมื่นลี้ กลับยังคงตรงไปยังที่ตั้งของ
เมืองเทวะสวรรคของเผามนุษย เคลื่อนไปขางหนาอยางยิ่งใหญ…
หานลี่รูสึกเพียงวาปวดหัวอยางรุนแรง หนามืดวิงเวียน จากความแข็งแกร ง
ของกายเนื ้ อ ของเขาคาดไม ถ ึ ง ว า หลั ง จากส ง ตั ว มาแล ว จะรู  ส ึ ก รุ น แรงเช น นี้
นั ่ นหมายความวา การส ง ตั ว ในชั ่ว พริบ ตาเมื ่ อครู  จะต องเป น การสง ตั ว ที่ ไกลมาก
ครั้งหนึ่งอยางแนนอน
หลังจากที่หลับตาทั้งสองขางอยูชั่วครู หานลี่ถึงไดคอยๆ ลืมตาขึ้นกวาดมองไปรอบๆ
ที่นี่ดูเหมือนวาจะเปนกองหินระเกะระกะกองหนึ่ง ใตดินทุกแหงลวนเปนกอนหิน
กลมๆ ขนาดเล็กใหญไมเทากัน สีเทาขาว
รอบดานไมไกลนักลวนเปนหมอกสีเทา ไมอาจมองออกไปไดไกลนัก
ในหัวยังคงมีเสียงวิ้งๆ ไมรูวาที่นี่มีเขตอาคมอะไร หรือวาเขายังไมหายจากการถูก
สงตัวระยะไกล จึงไมอาจแผจิตสัมผัสออกไปจากรางได
ขมวดคิ้วมุนหานลี่หันศีรษะไปรอบๆ ดาน แววตามีแสงสีฟาเปลงแสงสวางวาบใน
เวลาเดียวกัน
ฉับพลันนั้นหานลี่พลันหนาเปลี่ยนสี สองมือพันรายอาคมกลายเปนสายรุงสีเขียว
สายหนึ่งพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา ทะลวงเขาไปในมานหมอก
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งกาน้ำชา หานลี่ที่เอามือไพลหลังปรากฏตัวขึ้น
ดานขางลำธารเล็ กๆ กวางสองสามจั ้ง มองไปยัง น้ำ ใสๆ ใตฝาเทา ดวงตาหรี ่ ล ง
เล็กนอย
มือหนึ่งตะปบไปดานลาง ชั่วขณะนั้นวารีกลุมเล็กๆ พลันพูดดูดขึ้นมา กลายเปน
ลูกบอลวารีขนาดเทากำปน ลอยพลิ้วอยูบนฝามือ
หานลี่ตรวจสอบอยางละเอียดอยูชั่วครู เมื่อเห็นวาวารีนี้ไมมีปญหาอะไร ถึงไดอา
ปากออก ลูกบอลวารีกลายเปนสายน้ำสายหนึ่งถูกดูดเขาไปในปาก
รสชาติหวานล้ำมาก
หานลี่พยักหนาอยางพึงพอใจ ตอนที่กำลังคิดจะตักน้ำในลำธารขึ้นมาอีก ครั้ง
กลับขมวดคิ้วมุน อีกมือหนึ่งกำหมัดแนนขณะโจมตีไปยังกลางอากาศ
พลังมหาศาลที่ไรรูปรางไลตามไป
เสียง “ตูม” ดังขึ้น หมอกดานหลังหมุนวน พลังมหาศาลราวกับโจมตีเขากับอะไร
สั ก อย า ง ไม เ พี ย งจะมี เ สี ย งถอยร น ฝ เ ท า ไปจะดั ง ขึ ้ น มี เ สี ย งแค น เสี ย งดั ง ขึ ้ น อี ก
สองสามเสียง
รางของหานลี่ลางเลือนไปเล็กนอย คนกลับหัวกลับหางราวกับผี สะบัดแขนไป
ทางหมอกดานหลัง
และไมรูวาเขาสำแดงอาคมอะไร วายุบาคลั่งกลุมหนึ่งทะลักออกมาจากแขนเสื้อ
ชั่วขณะนั้นเบื้องหนาในระยะยี่สิบสามสิบจั้งหมอกสีเทาพลันถูกพัดและกระจายออก
เผยรางของตัวประหลาดสูงสองสามจั้งออกมา
ถึงแมวาหานลี่จะมีความรูมากมาย แตเมื่อเห็นรูปรางของเจาตัวประหลาดชัดเจน
ก็ยังตะลึงงัน
ตัวประหลาดเบื้องหนาแปลกประหลาดเปนอยางยิ่ง ตาเล็กปากยาว หัวเปนหมู
ตัวเปนคน ทอนบนสวมเกราะเตาสีเขียวปกปองรางกายเอาไว
ครานี้แขนขาทั้งสี่ของตัวประหลาดพลันหงายทองชี้ฟา เห็นไดชัดวาถูกกำปนเมื่อครู
ของหานลี่ตอยจมลมหงาย ปากก็เปลงเสียงรองพยายามดิ้นรนไปมาไมหยุด
แตจากกระดองเตาที่โคงนูน แขนขาทั้งสี่สั้นกวาคนปกติครึ่งหนึ่ง กลับไมอาจ
พลิกตัวกลับไดในทันที ทาทางเหมือนตะขาบยักษหงายทองอยางไรอยางนั้น
“ปศาจตะพาบหมู”
ลำแสงวิญญาณบนหานลี่เปลงแสงสวางวาบ ในหัวมีคำประหลาดๆ ปรากฏขึ้น
ตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู ตนเองก็ทนไมไหวหัวเราะเบาๆ ออกมา
กลิ่นอายบนรางของปศาจหมูตนนี้ไมแข็งแกรงนัก และนาจะมีพลังยุทธเทียบเทา
กับมนุษยระดับฝกปราณ
กลิ่นอายที่ออนแอเชนนี้ แนนอนวาหานลี่จึงรูสึกผอนคลายลง แตปศาจหมูที่
คอนขางประหลาดตัวนี้รับการโจมตีดวยพลังมหาศาลเมื่อครูของตนเองไดอยางไร
แววตาเปลงประกาย ตกลงบนกระดองเตาบนรางของปศาจหมู ทรวงอกของ
กระดองเตามีรอยกำปนลึกลงไปสองสามชุน
หานลี่มีสีหนาประหลาดใจฉายแวบผาน มือหนึ่งตะปบไปทางเขากลางอากาศ
ลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบ มือสีเขียวขนาดสองสามจั้งปรากฏขึ้นเหนือ
ปศาจหมู ตะปบไปดานลาง ควาที่ขอบของกระดองเตาเอาไว แลวยกปศาจหมูขึ้น
หานลี่ยังไมไดตรวจสอบกระดองเตาอยางละเอียด ปศาจตะพาบหมูกลับหด
ตั ว อย า งชาญฉลาด ชั ่ ว ครู ก ็ รว งลงมาจากกระดองเต า กลายเป น หมู ป า สี น้ำตาล
กระโจนเขาไปในหมอกแลวหายวับไปอยางไรรองรอย
ชั่วพริบตาในมือจึงเหลือเพียงกระดองเตาที่วางเปลา หลบหนีไปโดยไมทำใหอีก
ฝายรูตัว
หานลี่มุมปากกระตุก รูสึกหมดคำพูดไปเล็กนอย
จากความเร็วในการหลบหนีของปศาจหมู การแกลงทำเปนลุกขึ้นจากพื้นไมไดเมื่อครู
คาดไมถึงวาจะใชเพื่อตบตาศัตรู
ปศาจตะพาบหมูดูเหมือนจะโงเขลา แตกลับเจาเลหเพทุบาย เกรงวาคงจะมี
สติปญหาไมต่ำตอย
ระดับฝกปราณคนหนึ่ง แนนอนวาหานลี่ไมมีทางสนใจมากนัก จึงขี้เกียจจะ
ไลตามไป แคดึงกระดองเตามาไวเบื้องหนา พลิกไปพลิกมาพลางสังเกตอยางละเอียด
ใบหนาคอยๆ เผยสีหนาตกตะลึงออกมา
“ทวากระดองเตายักษอายุสองสามรอยป คาดไมถึงวาจะตานทานกำปนของขาได นี่
คือกระดองเตาชนิดไหน ชางมหัศจรรยนัก” หานลี่เอยพึมพำกับตัวเอง หลังจากลังเล
เล็กนอย ก็เก็บกระดองเตาเขาไปในกำไลเก็บของชั่วคราว
จากนั้นหานลี่ก็ไมไดเสี่ยงไปที่ใดอีก จึงนั่งสมาธิลงขางลำธาร หลับตาทั้งสองขางลง
ลำธารนอยเงียบสงัด แตไอหมอกดานขางกลับเริ่มบางเบาลง ไมรูวาผานไป
นานเทาไหร เมื่อไอหมอกแตกกระจายออก ดานขางลำธารมีอสูรฝูงหนึ่งที่คลายกับ
กวางและคลายกับมารวมตัวกันตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู กำลังแลบลิ้นกินน้ำอยูขางลำธาร
ลูกอสูรสองสามตัวหนึ่งในนั้นมีขนาดสองสามฉื่อ กำลังหยอกลอเลนกันอยูอยางคึกคัก
นั่นเปนเพราะหานลี่เก็บกลิ่นอายเอาไว คาดไมถึงวาจะดูเหมือนกอนหินที่ ไม
ดึงดูดสายตาของอสูรฝูงนี้เลยสักนิด แมกระทั่งมีลูกอสูรตัวหนึ่งกระโดดเขามาหาเขา
ลูกอสูรตัวนี้ดูเหมือนจะสัมผัสอะไรได มันหันกายมาใชดวงตาอันสวยงามสีฟา
ออนจับจองหานลี่ จากนั้นก็วงรอบหานลี่สองสามครั้งดวยความสงสัยใครรู ยื่นหัวที่มี
ขนปุกปุยมาดมหนาของหานลี่ฟุตฟตๆ แลวทนไมไหวยื่นลิ้นสีชมพูออกมาเลีย
ฉับพลันนั้นดวงตาของหานลี่พลันเบิกตาขึ้นอยางไมมีเคาลางมากอน อสูรนอย
กลั บ มี ป ฏิ ภ าณไหวพริ บ ว อ งไวมาก ชั ่ ว ขณะนั ้ น พลั น กระโดดถอยกลั บ ไปด ว ย
ความตกใจ คิดจะหนี แตชั่วพริบตานั้นลำแสงสีเขียวพลันเปลงประกาย ยาลูกกลอน
เม็ดหนึ่งที่มีกลิ่นหอมพุงออกมาจากแขนเสื้อของหานลี่ พุงเขาไปในปากของอสูรนอย
อย า งแม นยำ และยิ ่ ง ไปกว า นั ้ นยั ง กลายเป น กลิ ่ น หอมฟุ  ง ไหลเข า ไปในปากของ
อสูรนอย
ในเวลาเดียวกันเสียงที่ราบเรียบของหานลี่พลันดังขึ้นในหูของอสูรนอย
“ในเมื ่ อ เจ า กั บ ข า มี ว าสนาต อ กั น ยาเบิ ก เนตรเม็ ด นี ้ ม อบให เ จ า ก็ แ ล ว กั น
แตวันขางหนาจะเบิกเนตรไดจริงๆ หรือไม ก็แลวแตบุญวาสนาของเจาแลว”
เสียงนี้กลับทำใหอสูรนอยตกใจจนเปลงเสียงรองคลายๆ แพะออกมา ชั่วขณะนั้น
อสูรโตเต็มวัยตัวอื่นๆ ที่อยูรอบๆ จึงพบการดำรงอยูของหานลี่ ทันใดนั้นจึงเคลื่อนไหว
ทันที ลอมรอบอสูรนอยสองสามตัวเอาไวตรงกลาง จากนั้นก็ใชเขาแหลมๆ บนหัวชี้มา
ทางหานลี่อยางตื่นตระหนก
หานลี ่ ย ั ง คงนิ ่ ง งั นอยู  ท ี ่ เ ดิ ม แค จ  องเขม็ ง ไปยั ง อสู ร น อยตั ว นั ้ น สองครั ้ ง ด ว ย
สีหนาราบเรียบ จากนั้นก็หลับตาลงอีกครั้ง แลวไมสนใจฝูงอสูรฝูงนั้นอีก
ตอนที่ 1403 ริมมหาสมุทร
แมนวาฝูงอสูรจะมองออกวาหานลี่ไมมีเจตนารายอะไร แตก็ยังคงปกปองลูกอสูร
แลวคอยๆ ถอยออกไป หลังจากนั้นไมนาน ฝูงอสูรก็หันหัววิ่งออกไป หายวับไปจาก
หลังเนินเขา
หานลี่นั่งสมาธิที่ริมลำธารตออีกชั่วครู หลังจากที่มานหมอกรอบๆ สลายหายไปแลว
ถึงไดพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา หนีไปทางอากาศสูง
ครานี้ไมวาลมปราณหรือวาจิตสัมผัสของเขาก็ฟนฟูกลับมาหมดแลว จึงลองแผ
จิตสัมผัสออกไปอีกครั้ง กลับพบวาแมจะแผออกไปนอกรางได แตกลับถูกกดเอาไว
อย า งเห็ นได ช ั ด คาดไม ถ ึ ง ว า มากสุ ด จะทำได เ พี ย งจั บ ตาดู ร อบๆ ในระยะเล็ ก ๆ
เพียงสิบกวาลี้ไดเทานั้น
เชนนั้นเขาจึงบินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เอาซะเลย เพื่อจะไดเตรียมใชความสามารถของ
เนตรวิญญาณวารีกระจางตรวจสอบในบริเวณนี้
อยางนอยที่สุดทุกอยางในระยะรอยลี้ก็จะเขามาสูครรลองสายตา
เมื่ออยูสูงขึ้นไปพันจั้ง ดวงตาของหานลี่ก็เปลงแสงสีฟาระยิบระยับ กวาดมองไปรอบๆ
อยางรวดเร็ว
เห็นเพียงทั้งสองฟากฝงทางทิศตะวันออกและตะวันตกยังคงเปนสีขาวโพลน
เหมือนกองหิน สวนทางดานทิศใตหางออกไปสามสิบลี้กลับเปนสีเขียวขจี มองออกไป
ไกลๆ คาดไม ถ ึ ง ว า จะมี เ ทื อกเขาขนาดไม เ ล็ ก อยู  แ ห ง หนึ ่ ง ทางทิ ศ เหนื อกลั บ มี
ไอวิญญาณวารีจำนวนมากทะลักออกมา เหมือนจะมีแมน้ำสายใหญหรือวามหาสมุทร
อยูตรงนั้น
หลังจากลังเลเล็กนอย รอบกายของหานลี่ก็มีลำแสงหลีกหนีปรากฏขึ้น กลายเปน
สายรุงสีเขียวสายหนึ่ง พุงไปยังทิศเหนือ
จากความเร็วในครานี้ของหานลี่ ระยะหางเพียงแคนี้จึงมาถึงไดในพริบตา
ผลคือเบื้องหนามีลำแสงสวางจา มหาสมุทรที่ไรขอบเขตพลันปรากฏขึ้น แตผิวน้ำ
กลับแปลกประหลาดอยูนิดหนอย คาดไมถึงวาจะเปนสีแดงสด ตรงชายหาดมีเตายักษ
ขนาดนอยใหญไมเทากันนับพันตัว กำลังนอนอาบแดดอยูบนพื้นทราย เตายักษที่
ตัวใหญหนึ่งในนั้นมีขนาดสามสี่จั้ง เล็กนอยก็มีขนาดแคสองสามฉื่อ รางของทุกตัว
ลวนฝงอยูในเม็ดทรายครึ่งหนึ่ง ทาทางเกียจคราน
สวนบนผิวน้ำกลับมีวิหคประหลาดสีแดงสดที่มีปากยาวแหลมอยูฝูงหนึ่ง กำลังบิน
วนเวี ย นอยู  ต รงนั ้ น บางครั ้ ง ก็ จ ะมี ต ั ว หรื อสองตั ว โฉบปากและกรงเล็ บ ลงไปใน
มหาสมุทรพลางโฉบปลาทะเลขนาดสองสามฉื่อโยนขึ้นมากลางอากาศ ชั่วขณะนั้น
วิหคประหลาดตัวอื่นก็จะทะลักเขามา ชั่วพริบตาก็จะกัดกินปลาทะเลเหลานั ้นไป
จนเกลี้ยง
หานลี่พิจารณาทุกอยางดวยสีหนาไรความรูสึก หลังจากผานไปชั่วครู ฉับพลันนั้น
ก็ดูเหมือนวาจะนึกอะไรออก จึงมองขึ้นไปบนทองฟา
ยังคงมีดวงอาทิตยที่แผดเผาเจ็ดดวงลอยอยู หานลี่พลันหนาเปลี่ยนสี
ไมรูเพราะเหตุใด เขาถึงไดรูสึกวาลำแสงที่สาดสองลงมาของดวงอาทิตยเหมือน
จะนอยกวากอนหนา มืดหมนลงเปนอยางมาก ดูแลวคอนขางรางเลือน
ดูแลวที่ที่เขาถูกสงตัวมาในครั้งนี้ คงจะหางจากแดนของเผามนุษยมาก มิเชนนั้น
คงไมเกิดเหตุการณที่แมแตพระอาทิตยที่อยูกลางอากาศก็ยังเปลี่ยนแปลงเชนนี้
โชคดีที่จุดนี้หานลี่เดาออกตั้งแตที่ตนเองรูสึกวารางกายผิดปกติหลังจากสงตัวมาแลว
ครานี้จึงไมไดตกตะลึงมากนัก กวาดสายตาไปตกอยูบนฝูงเตาที่อยูดานลาง
บนผืนทรายนอกจากฝูงเตาแลว รอบดานยังมีกระดองเตาที่วางเปลาจำนวนมากเรียง
รายอยูประมาณสองสามพันกระดอง สวนใตผืนทรายนั้นก็ไมรูวามีเรียงรายกันอยู
เทาไหร
หรี่ตาทั้งสองขางลงเล็กนอย หานลี่พลิกฝามือ ในมือมีกระดองเตาสีเขียวขนาด
สองสามจั้งปรากฏขึ้น
หานลี่ใชมือหนึ่งถือกระดองเตาเอาไว เปรียบเทียบกับฝูงเตาดานลาง
ชั่วครูหานลี่ก็เผยสีหนาตะลึงงันออกมา
หากมองผานๆ กระดองเตาดานลางดูเหมือนวาจะคลายคลึงกับในมือของหานลี่
เปนอยางมาก แมกระทั่งใหญกวาสองสามเทา
แตหานลี่กลับมองเห็นจุดที่แตกตางกัน
แมวากระดองเตาในมือจะไมถือวาใหญนัก แตลวดลายทุกเสนลวนแฝงไวดวย
ลายสีเงินจางๆ ลายดานลางของกระดองเตากลับเปนแครอยแตกสีขาวธรรมดาๆ
เทานั้น
หานลี ่ เ อี ย งศี ร ษะครุ  น คิ ด ตะปบไปกลางอากาศตรงกระดองเต า ด า นล า ง
กระดองเตาขนาดสองจั้งกระดองหนึ่งบินขึ้นมา
เสียง “ตูม” ดังสนั่นขึ้น ถูกหานลี่โจมตีไปอยางสบายๆ กระดองเตานี้ระเบิดออก
ในทันที กลายเปนผุยผงสลายไป
เสียงอันดังสนั่นทำใหฝูงเตาเกิดความโกลาหลขึ้น เตายักษจำนวนไมนอยยื่นหัว
สีดำสนิทออกมา มองมาบนทองฟาแวบหนึ่ง
แตพวกมันดูเหมือนจะรูสึกวาหานลี่ไมไดมีทาทีคุกคามอะไร สวนใหญจึงหด
กลับไป ฝูงเตาฟนฟูกลับมาอยูในความสงบอีกครั้ง
“ไมใชกระดองเตาธรรมดาๆ เหลานั้นจริงๆ ดวย! แตกระดองนี้นาจะมาจากที่นี่
ไมผิดแน” หานลี่ไมไดเผยสีหนาสิ้นหวังออกมา กลับเอยพึมพำกับตัวเอง
ลำแสงสีเขียวเปลงแสงสวางวาบ รางของหานลี่รอนลงไปดานลาง ใน
เวลาเดียวกันก็หลับตาทั้งสองขางลง แผจิตสัมผัสอันแข็งแกรงออกไป หอหุมรอบๆ ใน
ระยะสองสามลี้เอาไว เริ่มตามหาอะไรสักอยางอยางละเอียด
ชั่วครูดวงตาของหานลี่เบิกกวางอยางเปนประกาย รางกายก็กลายเปนสายรุงสีเขียว
สายหนึ่งพุงออกไป วนรอบผืนทรายไปมาอยางรวดเร็วสองสามรอบ แตรอบกายกลับ
มีกระดองเตายักษอีกสามกระดองลอยอยูดานหลัง
อันหนึ่งใหญสี่หาจั้ง อีกอันสองสามจั้ง อันสุดทายกลับมีขนาดแคสองสามฉื่อ
ลวดลายบนกระดองเต าทั ้ ง สามเป น สี เงิน เหมือนกั น แค ร ะดั บ สี แ ตกตา งกัน
เล็กนอย
กระดองเตาที่เล็กที่สุด ลายดูเหมือนจะเปนแสงสีเงินที่บริสุทธิ์ ขนาดสองสามจั้ง
เหมือนกับกระดองทีอ่ ยูในมือของหานลี่อยางไรอยางนั้น สวนกระดองเตาที่ใหญท่สี ุด
แคมีลายสีเงินจางๆ ปะปนอยูเทานั้น
กระดองเตาสามชิ้นลวนฝงอยูสวนลึกของใตผืนทรายในบริเวณรอบ หากไมใช
เพราะหานลี่มีจิตสัมผัสทะลวงแทรกผานไป เกรงวาคงไมอาจหาสามกระดองนี้เจอ
ลำแสงหลีกหนีของหานลี่หยุดชะงักอยูกลางอากาศ กลับกวักเรียกกระดองเตา
สองสามกระดองนั้น
ชั่วขณะนั้นเสียงผิวปากพลันดังขึ้น กระดองเตาสามกระดองเรียงตัวอยูเบื้องหนา
เสียง “ปงๆ” ดังขึ้น นิ้วของหานลี่รายไปมา ไอกระบี่สีเขียวสองสามสายพุงแหวก
อากาศไป แยกออกปรากฏเปนรูขนาดตื้นลึกหนาบางไมเทากันบนกระดองเตา
ไอกระบี่ทะลุผานกระดองเตาที่ใหญที่สุดไป แตกลับสรางรอยแคครึ่งฉื่อใหกับ
กระดองเต า ที ่ เ ล็ ก ที ่ ส ุ ด กระดองเต า ขนาดสองสามจั ้ ง พลั น มี ห ลุ ม ลึ ก สามสี ่ ชุ น
ปรากฏขึ้น
หานลี่พยักหนาสะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งพวยพุงออกมา
ชั่วขณะนั้นกระดองเตาทั้งสามพลันหมุนวนทามกลางมานลำแสง ชั่วพริบตาก็หดเล็ก
ลงหลายเทา ถูกหานลี่ดูดเขามาอยูในมือ
ลำแสงในมือเปลงแสงสวางวาบ พวกมันถูกดูดเขาไปในกำไลเก็บของ
และในตอนนั้นเอง ฉับพลันนั้นบนผิวที่ไกลออกไปพลันมีเสียงเพรียกของวิหคดังขึ้น
หานลี่เงยหนาขึ้นไปมองดวยความตกใจ ผลคือทำใหตกตะลึง
เห็นเพียงบนผิวน้ำเบื้องหนามีปศาจยักษความยาวสิบจั้งตนหนึ่งปรากฏขึ้นตั้งแต
เมื่อไหรก็ไมรู กายทอนบนคือบุรุษที่มีผิวหนังสีดำสนิท สองแขนถือสามงามกระดูก
เอาไว หนาตาโหดเหี้ยม แตกายทอนลางกลับเปนเหมือนปลาหมึกยักษตนหนึ่งอยางไร
อยางนั้น หนวดหนาๆ ปรากฏขึ้นรางๆ บนผิวน้ำ
ปศาจที่เหมือนกับปลาหมึกตนนั้นพลันอาปากออก พนลำแสงสีดำมะเมื่อมออกมา
มวนเอาวิหคประหลาดสีแดงสดสองสามรอยตัวเขาไปขางใน และดูดเขาไปในปาก
ทีละตัวๆ ราวกับวากำลังเพลิดเพลินกับอาหารอันโอชะก็ไมปาน
สวนวิหคประหลาดเหลานั้นก็พยายามดิ้นรนอยูทามกลางมานลำแสงอยางสุดฤทธิ์
แตกลับไมอาจดิ้นใหหลุดพนได ชั่วพริบตาก็ถูกกลืนลงไปกวาครึ่ง
สิ่งที่นาแปลกก็คือเตาทะเลที่จับตองสถานการณนี้อยูกลับนอนนิ่งอยูบนผืนทราย
และไมมีทาทางลนลาน สวนปศาจยักษตนนี้เองก็ไมมีทาทีจะแตะตองฝูงเตา
หานลี่รูสึกประหลาดใจไปเล็กนอย แตปศาจเบื้องหนานาจะเปนอสูรปศาจระดับแปด
แนนอนวาจึงไมไดหวาดกลัวอะไร แคยืนดูทุกอยางอยูที่เดิมพรอมกับขมวดคิ้วนอยๆ
คาดคะเนความเปนมาของอีกฝายอยูในใจ
ความจริงแลวในแดนวิญญาณสิ่งที่เรียกวาอสูรปศาจ อสูรโบราณนั้นลวนเปนแค
การแบงแยกอยางคราวๆ เทานั้น
สำหรับเผามนุษยในแดนวิญญาณ โดยทั่วไปแลวอสูรโบราณจะหมายถึงสิ่งมีชวี ิต
ประเภทอสูรที่เกิดและเติบโตในแดนวิญญาณ
อสูรปศาจกวาครึ่งลวนหมายถึงลูกหลานที่สืบพันธุมาจากปศาจผูบำเพ็ญเพียรที่
บินขึ้นมาจากแดนลางจำนวนมากจนกลายเปนเผาอสูรตางๆ หนึ่งในนั้นยังผสมกับ
เผาอสูรโบราณระดับต่ำอื่นๆ ที่ไดรับการยอมรับ
สำหรับอสูรโบราณแลว แมวาสวนใหญจะไมอาจเบิกเนตรได แตไมจำเปนตอง
ฝ ก ฝนอะไรก็ จ ะมี ค วามสามารถติ ด ตั ว หนึ ่ ง หรื อสองสามชนิ ด อยู  แ ล ว พละกำลั ง
แข็งแกรงมาก สวนอสูรปศาจกลับตรงกันขาม ขอแคไมใชอสูรที่ไดรับการถายทอด
อยางพิเศษหรือวาอสูรแมลงที่ไมอาจเบิกเนตรได ปกติแลวลวนสามารถเบิกเนตรได
แตความสามารถจากการฝกฝน ปกติแลวจะดอยกวาความสามารถของอสูรโบราณ
แนนอนวาอสูรโบราณและอสูรปศาจนั้นไมไดเขมงวดตอกันมากนัก อสูรโบราณ
บางเผาที่อยูใกลๆ กับเผามนุษยและเผาปศาจเมื่อเบิกเนตรแลว ก็ใครครวญถึงขอดี
ขอเสีย แลวเปนฝายนำฝูงเขาไปรวมกับเผาปศาจ อสูรโบราณบางชนิดก็ถูกเผาปศาจ
และเผามนุษยใหความสำคัญ และนำพวกมันมาเลี้ยงดู เอาเขาเผา แนนอนวาจากนั้น
พวกมันก็กลายเปนหนึ่งในอสูรปศาจแลว
ดังนั้นหานลี่เห็นปศาจเบื้องหนาไมมีเจตนาประหลาดอะไร จึงแคเอามือสองมือ
ไพลหลังลอยนิ่งอยูกลางอากาศ
หลังจากผานไปชั่วครู ปศาจในมหาสมุทรก็กลืนกินวิหคทะเลเหลานั้นเขาไป
หนวดยักษสะบัดไปทางผิวน้ำดวยความตื่นเตนดีใจ หันหัวมามองเห็นหานลี่ที่อยูใกลๆ
หานลี่ที่กอนหนานี้เก็บกลิ่นอายมาตลอด ประกอบกับที่อสูรปศาจตนนี้กำลังชะลาใจ
จึงไมพบวากลางอากาศใกลๆ มีอีกคนหนึ่งดำรงอยู
แตสถานการณที่ทำใหหานลี่ตกตะลึงพลันปรากฏขึ้น!
ปศาจตนนี้เห็นหานลี่ใบหนาพลันเผยสีหนาตกตะลึงระคนหวาดกลัวออกมา
หลั ง จากเปล ง เสี ย งคำรามต่ ำๆ ออกมาแล ว ร า งกายก็ พลิ้ ว ไหวกลายเป นไอสีดำ
จมหายเขาไปในมหาสมุทร
ทันใดนั้นหมอกสีดำสนิทราวกับน้ำหมึกจำนวนนับไมถวนก็ทะลักออกมาจาก
ใต ม หาสมุ ท ร ชั ่ ว ครู  ก ็ ย อมผิว น้ ำ ในระยะสองสามลี ้เ อาไว จ นกลายเปน สี ดำสนิท
ทำใหผูคนไมอาจมองเห็นสิ่งใดได
หานลี่หางตากระตุก รูมานตาเปลงแสงสีฟาสวางวาบ ชั่วพริบตาสายตาก็ทะลุ
ผานหมอกสีดำไป มองเห็นสถานการณดานลางอยางชัดเจน
ปศาจปลาหมึกยักษตัวนั้นกำลังพยายามหนีไปทางใตมหาสมุทร อยูหางออกไป
สองสามลี้แลว
แคนเสียงหึอยางเย็นชา ปกที่แผนหลังของหานลี่เปลงประกาย หมายจะกระตุน
ป ก วายุ อ ั ส นี ห นี ไ ปจากกลางอากาศ ครั ้ น เมื ่ อ จั บ ป ศ าจตนนี ้ ไ ด ใต ท ะเลกลั บ มี
เสียงคำรามยาวๆ ประหลาดๆ ดังขึ้น เสียงทุมต่ำราวกับฟารองอยางไรอยางนั้น
ทันใดนั้นก็สัมผัสไดถึงไอปศาจที่แข็งแกรงมากกลุมหนึ่งในทองทะเลลึกหาง
ออกไปสิบลี้เศษ เหมือนวาจะแข็งแกรงไมดอยไปกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
หานลี่ไดฟงเสียงคำราม พลันมีสีหนาตะลึงงัน จองเขม็งไปยังเสียงคำรามดวย
ดวงตาที่ไมกะพริบ ใบหนาเผยแววลังเลออกมา
ครูตอมากลิ่นอายปศาจที่แผออกมาก็ผนึกรวมกันกับปศาจปลาหมึก ทันใดนั้นก็
พุงไปใตทะเลลึกอยางไมลังเลเลยสักนิด
หลังจากสะบัดศีรษะ ปกที่เพิ่งปรากฏขึ้นที่แผนหลังของหานลี่พลันหายวับไปอีกครั้ง
แมนวาจะเปนอสูรปศาจระดับเทพแปลง เขาก็ไมหวาดกลัวเลยสักนิด แต
เพิ่งมาถึงแดนประหลาด เขาก็ไมอยากตอสูกับสิ่งมีชีวิตที่อยูในระดับเดียวกัน
หลังจากที่มองไปยังทะเลลึกอีกแวบหนึ่ง ลำแสงหลีกหนีของหานลี่ก็ปรากฏขึ้น
หันหัวพุงไปทางทิศใต หลังจากผานไปชั่วครูหานลี่ที่กลายเปนสายรุงสีเขียวพลัน
ปรากฏขึ้นบนเทือกเขายักษสีเขียวขจีที่กวางไกลจนสุดลูกหูลูกตา
ลำแสงหลีกหนีหมนแสงลงที่ขอบของเทือกเขา รางของหานลี่ปรากฏขึ้น
ตอนที่ 1404 ทะเลหมอกสีดำ
มองจากที่ไกลๆ เทือกเขาเทือกนี้ลวนเต็มไปดวยยอดเขาสูงชัน ติดกันเปนลูกๆ
หนาแนนจนไมรูวามีมากเทาไหร
แมวาจะยังไมไดเขาไป แตกลิ่นอายชั่วรายที่แผออกมาจากในภูเขา ก็ทำใหหานลี่
รูสึกตกตะลึงไปสวนหนึ่ง
ทวาเชนเดียวกันไอวิญญาณในเทือกเขานั้นมีมากกวาดานนอกเปนอยางมาก
แคจุดนี้ก็ไมไดทำใหหานลี่ขบคิดอะไร พลันควบคุมลำแสงหลีกหนีอีกครั้ง เปลงแสง
สวางวาบแลวจมหายเขาไปขางใน
เพื่อไมใหดึงดูดความสนใจ หานลี่ก็กดลำแสงหลีกหนีใหต่ำลง และยิ่งไปกวานั้น
ก็ลดระดับความเร็วลง แฉลบผานเนินเขาทีละลูกๆ ไป
เขาที่อยูในลำแสงหลีกหนีพลันแผจิตสัมผัสเขาไปดานในหอหุมเอาไวในระยะ
สองสามลี้ ในเวลาเดียวกันสองตาก็ตรวจสอบรอบๆ ไมหยุด
แคบินเขาไปในเทือกเขาไดพันกวาลี้ สีหนาตกตะลึงระคนดีใจของหานลี่ก็ไมอาจ
ปกปดไดอีกครั้ง
ภายในเทือกเขาคาดไมถึงวาทุกแหงจะเต็มไปดวยตนไมใบหญา แมนวาสวนใหญ
จะเปนแดนที่อันตราย และยิ่งไปกวานั้นสวนใหญยังเปนสมุนไพรวิญญาณระดับต่ำ
แตจำนวนมากขนาดนี้ ก็ทำใหหานลี่รูสึกดีใจเกินคาด
ถึงอยางไรเสียเขาก็แคพุงผานไปอยางเร็วๆ เทานั้น หากพิจารณาอยางละเอียดแลว
อาจจะไดประโยชนรับผลประโยชนจากเทือกเขาแหงนี้เปนอยางมาก
คิดดูแลวสมุนไพรระดับสูงก็นาจะมีปะปนอยูไมนอย
นอกจากสมุนไพรวิญญาณแลว ฝูงอสูรในภูเขาก็มีอยูจำนวนมากเกินกวาที่หานลี่
คาดคิดเอาไว
แม ก ระทั ่ ง หานลี ่ ก ็ ม องเห็ นฝู ง อสู ร กำลั ง ต อ สู  ก ั น อย า งดุ เ ดื อดด ว ยแววตาที่
ประหลาดใจ
ตอนนั้นเขาบินแฉลบผานระหวางภูเขายักษสองลูกที่คอนขางเปนที่ราบที่โอบลอม
ดวยภูเขา ฉับพลันนั้นเสียงรองของวานรและเสียงคำรามของอสูรชั่วรายพลันดังขึ้น
จากภูเขายักษทั้งสองลูก
จากนั้นกลางภูเขายักษลูกหนึ่งพลันมีวานรยักษขนสีขาวสูงสองจั้งจำนวนมาก
ปรากฏขึ้น ภายใตการนำของวานรยักษรางสีทองเรืองรอง มือถือพวกไมกระบอง
และกระบองหินเอาไว กระโจนเขาไปหาภูเขายักษอีกลูกหนึ่งที่อยูตรงขาม
และกลางภูเขาอีกลูกหนึ่งก็มีอสูรหัววัวตัวเปนสิงโตที่ดูโหดรายกรูกันออกมา
ผูนำกลับเปนอสูรยักษที่รางกายใหญโตกวาพรรคพวกสองสามเทา
ตรงกลางระหว า งทั ้ ง สองเป นพื ้ น ที่ ท ี่ ค  อนข า งราบ กำลั ง ยื น ประจั น หน า กัน
จิตสังหารแผออกอยางไมเกรงใจเลยสักนิด
วานรยั ก ษ เ หล า นั ้ น กระโดดไปมาดุ จ เหาะเหิ น ร า งกายมี พ ลั ง มหาศาล
สวนอสูรโหดเหี้ยมหัววัวนั้นก็มีเขี้ยวและกรงเล็บที่แหลมคม หนังหนา ทั้งสองตางดู
ฟดเหวี่ยงกัน
สิ ่ ง ที ่ ท ำให ห านลี ่ ร ู  ส ึ ก สนใจก็ ค ื อ วานรที ่ เ ป น ผู  น ำและอสู ร โหดร า ยเหล า นี้
ดู เหมื อนว าจะมีบางสว นที ่เบิ ก เนตรแล ว ตนหนึ ่ ง ยิ ง กอนหิน ยัก ษ ในมือ ตนหนึ่ง
พนลำแสงสีเหลือง สวนใหญลวนเปนอสูรปศาจระดับสามและสี่
วานรยักษขนสีทองหนึ่งในนั้นอาศัยความวองไวของรางกายมาเปนขอไดเปรียบ
แตจาฝูงของอสูรโหดเหี้ยมหัววัวเองก็ไมไดแยเทาใดนัก
ดังนั้นหลังจากที่ฝูงอสูรทั้งสองเขนฆากันไดครึ่งชั่วยามจนรูสึกเหนื่อยลา แลว
ในที่สุดจาฝูงทั้งสองก็เปลงเสียงรองคำรามยาวๆ ออกมา หมายความวาหมายจะ
กลับไปยังยอดเขาของตนเอง
แค ร ะหว า งยอดเขานั ้ นมี ซ ากศพจากฝู ง อสู รทั ้ง สองชนิ ด กองอยู  จ ำนวนมาก
ดึงดูดความสนใจของวิหคประหลาดสองหัวที่ดูอัปลักษณ ใหมากัดกินซากศพเหลานี้
หานลี่หลบซอนอยูกลางอากาศสูง มองดูการตอสูของฝูงอสูรอยางออกรสชาติ
เมื่อเห็นวานรยักษเหลานั้นกำลังลาถอย คาดไมถึงวาจะมีวิธีเหมือนกับ การสู  ร บ
อยางไรอยางนั้น เขาพลันใจเตนมีความคิดผุดขึ้นมาในหัว
นอกจากนี ้ แ ล ว ขณะที ่ เ ข า ลึ ก เข า ไปในเทื อ กเขา แน น อนว า หานลี ่ ก ็ พ บว า
อสูรประหลาดประเภทอื่นกำลังหลบซอนตัว อยูใ นเทื อกเขาตางๆ อยางตอเนื ่ อง
บนยอดเขาสองสามลู กที่ มี ไอวิญ ญาณหนาแนน ที ่ส ุด ดู เหมื อนวา จะมี แมกระทั่ง
อสูรปศาจระดับหกและเจ็ดหลบซอนตัวอยู
หานลี่เองก็ขี้เกียจจะไปสนใจสิ่งมีชีวิตที่ไมมีอำนาจคุกคามเพียงพอ จึง
แคขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีบินลึกเขาไปในเทือกเขาไมหยุด
เทือกเขาแหงนี้กวางใหญมากกวาที่หานลี่คิดเอาไว
บินไปไดสองเดือนเต็ม คาดไมถึงวาเขาจะยังบินออกจากเทือกเขาแหงนี้ไมได
นี่จึงทำใหหานลี่รูสึกประหลาดใจ
ขณะที ่ เ ขากำลั ง ลั ง เลว า จะย อ นกลั บ ไปดี ห รื อ ไม กลั บ มี ท ะเลหมอกสี ด ำที่
ไรขอบเขตปรากฏขึ้น ปกคลุมยอดเขายักษจำนวนนับไมถวนเอาไว
หานลี ่ ห ยุ ด ลงห า งจากทะเลหมอกไปสองสามลี ้ อาศั ย ความสามารถของ
เนตรวิ ญ ญาณวารี ก ระจ า ง มองดู ส ถานการณ ใ นทะเลหมอกด ว ยสี ห น า บั ด เดี ๋ยว
เครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใส
เขามองเห็นอยางชัดเจนวาตรงปลายของทะเลหมอกไมมีตนไมใบหญาเลยสักนิด
แมกระทั่งกอนหินดินทรายบนพื้นก็ยังออกเปนสีดำและแตกระแหงเปนอยางมาก
ภายใตสถานการณประหลาดเชนนี้ แนนอนวาหานลี่จึงไม ไดเสี่ ยงบุก เข า ไป
แตตะปบมือไปทางตนไมที่หนาเทาปากชามตนหนึ่งดานลาง
ชั่วขณะนั้นพลันถอนตนไมออกมา ถูกหานลี่ใชมือหนึ่งตะปบลำตนเอาไวในคราเดียว
รอบกายเปลงลำแสงสีทองออกมา แขนขางหนึ่งของหานลี่มีเกล็ดสีทองจำนวน
นับไมถวนปรากฏขึ้น โบกสะบัดอยางรุนแรง
หลังจากที่เสียงแหวกอากาศดัง “สวบ” ดังสนั่นขึ้น ตนไมนอยๆ ็พุงออกไปหา
หมอกสีดำเปนระยะทางสองสามลี้ราวกับลูกธนู
แววตาของหานลี่เปลงแสงสีฟาสวางวาบ จองมองตนไมเล็กตนนั้นโดยไมปริปากใดๆ
ฉากที่ทำใหเขาใจเตนพลันปรากฏขึ้น
ชั่วพริบตาที่ตนไมนอยๆ บินเขาไปในหมอกสีดำ ตนไมทั้งตนก็เปลี่ยนจากสีเหลือง
เปนสีเขียว ชั่วพริบตาก็เหี่ยวเฉากลายเปนผุยผง
หานลี่มีสีหนาดูไมไดเล็กนอย
เขามองไปทางซายทีขวาที หลังจากขบคิดชั่วครู ฉับพลันนั้นก็ควบคุมลำแสงหลีกหนี
ก็บินไปอีกดาน
คาดไมถึงวาเขาจะตัดสินใจบินไลตามขอบของทะเลหมอกไป ดูวาจะเจอทางออก
อะไรหรือไม
หลังจากผานไปครึ่งวัน หานลี่พลันมาปรากฏตัวใกลๆ กับภูเขาขนาดยอมที่อยูติด
กับทะเลหมอก และภูเขาอีกดานดวยสีหนาเครงขรึม
ภูเขาลูกนี้สูงประมาณสองสามรอยจั้ง แตที่อยูตรงขามกับหานลี่กลับแบนราบ
ราวกับวาถูกผูใดใชความสามารถตัดออกอยางไรอยางนั้น
และตรงดานที่เรียบเกลี้ยงของภูเขา มีตัวอักษรสีแดงโลหิตขนาดสองสามจั้ง
สามตัวเขียนอยู
ชวงเวลาที่หานลี่อยูในเมืองเทวะสวรรคนั้นไดเคยศึกษาตัวอักษรโบราณของ
เผ า มนุ ษ ย แ ละเผ า ป ศ าจ รวมทั ้ ง ตั ว อั ก ษรของเผ า ประหลาดมาสองสามชนิ ด
แตตัวอักษรประหลาดทั้งสามตัวนั้น กลับไมจัดอยูในนั้น เห็นไดชัดวานาจะเป น
ตัวอักษรของเผาประหลาดเผาอื่นที่เผามนุษยและเผาปศาจไมเคยคบคาสมาคมดวย
แมนวาจะไมเขาใจความหมายของตัวอักษรเหลานี้ แตตัวอักษรเหลานี้ลวนเปน
เสนขีดดุจดาบ คาดไมถึงวาจะใหความรูสึกถึงจิตสังหารที่รุนแรงตอเขาเปนอยางมาก
เชือ่ วาหากเปนผูบำเพ็ญเพียรที่มีพลังยุทธต่ำตอย แคมองตัวอักษรเหลานี้ ก็นาจะ
ถูกบีบใหลาถอยออกไป ไมอาจมองดูภูเขาดานนี้ไดนานแน
แนนอนวาจากความสามารถของหานลี่ในตอนนี้ แนนอนวาจึงไมไดสนใจจิตสังหารนี้
เมื ่ อมองดู อย า งละเอี ย ดกลั บ พบว า ตั ว อั ก ษรเหล า นี ้ ด ู เ หมื อ นจะเก า แก ม ากแล ว
ภูเขาหินรอบๆ ก็ผุกรอนไปไมนอย แมแตตัวอักษรทั้งสามก็ยังรางเลือนไมชัดเจน
หานลี่ครุนคิดอยูที่เดิมเงียบๆ ชั่วครู เมื่อไลตามทะเลหมอกสีดำไปเบื้องหนาอีกครั้ง
ผลคือหลังจากผานไปสองสามวัน ในที่สุดก็บินออกจากเทือกเขาได
แต ไ ม ร อให เ ขาได ร ู  ส ึ ก ดี ใ จ หลั ง จากมองเห็ น สถานการณ อย า งชั ด เจนแล ว
รางทั้งรางกลับตะลึงงัน
ที่นี่คือทะเลที่ติดกับทะเลทราย ไกลออกไปมีน้ำทะเลสีแดงสดที่กำลังปะทะเขามา
ชะลางหินโสโครกไมหยุด
หานลี่ลูบใตคางยืนอยูกลางอากาศ มองไปยังทะเลผืนนี้โดยไมปริปากใดๆ
หลังจากผานไปชั่วครูฉับพลันนั้นลำแสงหลีกหนีพลันปรากฏขึ้น กลายเปนสายรุง
สายหนึ่งบินกลับไปทางที่บินมา ตรงไปยังอีกดานของทะเลหมอกสีดำ
ครั้งนี้หานลี่ใชกำลังเต็มเหยียด หลังจากผานไปสิบกวาวัน กลับมาปรากฏตัว
บนเนินเขาที่ใกลกับทะเลอีกแหงหนึ่ง
ในที่สุดหานลี่ก็มั่นใจวาตนเองนาจะอยูในเกาะยักษแหงหนึ่ง
เกาะยักษแหงนี้นาจะเปนเกาะที่มีอยูนอยมาก และยิ่งไปกวานั้นเกาะแหงนี้นาจะ
มีรูปทรงยาว ครึ่งหนึ่งคือที่เขาอยู อีกครึ่งหนึ่งกลับเปนที่ที่ทะเลหมอกสีดำปกคลุมอยู
เดิมทีหานลี่ยังคิดจะออมทะเลหมอสีดำไป ดูวาอีกดานของเกาะคืออะไรกันแน
ผลคื อเขาอ อมเกาะแห ง นี ้ ไ ปได ห นึ ่ ง เดื อน คาดไม ถ ึ ง ว า จะไม เ ห็ นปลายทาง
ในเกาะยังคงมีทะเลหมอกสีดำปกคลุม
หานลี่พลันรูสึกตกตะลึง หันหัวกลับไปทางเดิมเอาเสียเลย
ดูแลวเขานาจะอยูในคาบมหาสมุทรยักษ ไมใชเกาะที่โดดเดี่ยวอะไร มิเชนนั้น
เกาะกวางใหญถึงเพียงนี้ คงกลายเปนแผนดินที่เปนเอกเทศแลว
ทวาไมวาที่นี่จะเปนคาบสมุทรหรือวาเกาะ ก็ไมไดมีความแตกตางอะไรสำหรับเขา
นอกจากทะเลหมอกสีดำที่แปลกประหลาดเหลานั้นแลว สถานที่ที่เหลือบนเกาะก็ดู
เหมือนวาจะไมมีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกรงนัก สวนไอวิญญาณที่หนาแนนมากในเทือกเขา
ก็เปนสถานที่ฝกบำเพ็ญเพียรที่ยอดเยี่ยมที่สุดแลว
แตเมื่อหานลี่นึกถึงสิ่งมีชีวิตระดับเดียวกันที่ปรากฏตัวที่ชายหาดแลว คาดไมถึงวา
เกาะที่กวางใหญขนาดนี้จะไมมีปศาจที่แข็งแกรงยึดครองอยู ชางแปลกประหลาด
จริงๆ
และยิ ่ ง ไปว า นั ้ นอสู ร ป ศ าจแปลงกายระดั บ แปดอย า งป ศ าจปลาหมึ ก ตั ว นั้ น
เมื่อเห็นเขาก็หันกายหนีโดยไมสนสิ่งใด ก็ยิ่งทำใหเขารูสึกกังขาในใจ
หานลี ่ ข บคิ ด อยู  น านก็ ไ ม อ าจหาข อ สรุ ป อะไรได แต เ พื ่ อ เป น การป อ งกั น
ควรเตรียมเวลาหาวาใกลๆ นี้มีเกาะอื่นๆ หรือมีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกรงพอจะคุกคามเขา
ไดหรือไมกอนจะดีกวา
ดังนั้นหนึ ่ง เดือนที่ เหลือ หานลี่จึงใชครึ ่ง หนึ่ ง ของเกาะแหง นี ้เ ปน ศู นย ก ลาง
ตรวจสอบผิวน้ำทุกอยางอยางละเอียดในรัศมีแสนกวาลี้
ผลคือ นอกจากเกาะรางสองสามเกาะที่ไมมีมูลคาแลว ก็ไมพบสิ่งใดอีก
กนทะเลรอบๆ มีอสูรทะเลอยูสองสามตัว แตตัวที่แข็งแกรงที่สุดก็ไมตางอะไรกับ
ปศาจปลาหมึกที่เคยพบมากนัก และยังไมเบิกเนตร จึงไมจำเปนตองกังวลอะไร
เชนนั้นหานลี่จึงรูสึกวางใจ กลับไปยังเทือกเขายักษ เตรียมฝกบำเพ็ญเพียรที่นี่
สักระยะแลวคอยวากัน
ภายใตการคัดเลือกอยางละเอียด เขาเลือกภูเขายักษที่มีไอวิญญาณยอดเยี่ยมที่สุด
ขุดเนินเขากวาครึ่งใหกลายเปนถ้ำพำนักขนาดยักษ หลังจากวางเขตอาคมเรียบรอย
ตนเองก็ยายเขาไป
ถ้ ำ พำนั ก ถ้ ำ นี ้ อยู  ใ กล ก ั บขอบของเทื อกเขา ห า งจากทะเลหมอกสี ด ำไปเปน
ระยะทางประมาณสิบกวาวัน แมวาทะเลหมอกจะมีอันตรายอะไรจริงๆ ก็ไมอาจ
สรางผลกระทบอะไรใหเขาไดแน
เพียงพอจะใหเขามีปฏิกิริยาตอบสนองและเตรียมตัวไดทัน
หลังจากที่หานลี่นำสมุนไพรที่พกมาทั้งหมดปลูกลงไปในถ้ำพำนักแลวคนก็เขาไป
ในหองลับทันที เริ่มสาละวนอยูกับงาน
ชั่วขณะนั้นกำไลเก็บของบนขอมือพลันพุงออกมาจากมือ หลังจากหมุนวนอยู
กลางอากาศ ลำแสงสีเขียวก็มวนออกมา ซากคางคกเที่ยงแทดวงตาสีเขียวมรกต
ตัวใหญสองตัวตัวเล็กเจ็ดตัวพลันปรากฏขึ้นบนพื้น แทบจะกินพื้นที่กวาครึ่งของ
หองลับเอาไว
ซากศพทั้งหมดตางมียันตประหลาดๆ หลากสีสันสองสามสายแปะอยู เพื่อไมให
รางของอสูรเนาเปอย และทำใหประสิทธิภาพของโลหิตวิญญาณลดลง
หานลี่สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง ชี้ไปที่กำไลเก็บของอีกครั้ง ขวดหยกสีขาว
บริสุทธิ์ขวดหนึ่งปรากฏขึ้น
อีกมือหนึ่งพลันตะปบไปทางคางคกนอยจากกลางอากาศ ชั่วขณะนั้นคางคกตัวนั้น
พลันลอยขึ้น
รายนิ้วมือไปมาเบาๆ ลำแสงสีเขียวสวางวาบ ชั่วขณะนั้นบนซากของคางคกนอย
พลันมีไอกระบี่สายหนึ่งพุงทะลุผานเปนรูเล็กๆ หลังจากผานไปชั่วครูดานในพลันมี
ของเหลวเหนียวๆ ไหลรินออกมา เปลงแสงระยิบระยับ คาดไมถึงวาจะเปนสีเงินขาว
ตอนที่ 1405 ฝกบำเพ็ญเพียรอยางหนัก
ลำแสงสีขาวเปลงประกาย ขวดหยกปรากฏขึ้นใตรู ชั่วขณะนั้นของเหลวสีเงิน
พลันกลายเปนเสนสีเงินสายหนึ่งไหลเขาสูปากขวด
ฉากที่แปลกประหลาดพลันปรากฏขึ้น!
เมื่อของเหลวสีเงินไหลออกมา รางกายของคางคกนอยก็แหงเหี่ยวหดเล็กลงทันที
ของเหลวสี เ งิ นที่ ไ หลออกมาจากซากศพไม ถ ื อวา มากนัก แค ช ั ่ ว ครู ก ็ไ หลออกมา
จนเกลี้ยง สวนซากศพกลับเล็กลงไปกวาครึ่ง
หานลี่เลิกคิ้วอาปากออก ชั่วขณะนั้นพลันพนลูกบอลเพลิงสีเงินออกมา โจมตีไป
ยังซากศพ
เสียง “ตูมๆ” ดังขึ้น คางคกนอยกลายเปนเถาถานหายวับไป
แตหลังจากที่เปลวเพลิงสีเงินหายวับไป กลางอากาศกลับมีของเหลวขนาดเทา
เมล็ดขาวสารสีเงินแวววาวจำนวนมาก
คาดไม ถ ึ ง ว า หานลี ่ จ ะอาศั ย พลั ง ของพระจั น ทร แ ละอาทิ ต ย เ ที ่ ย งแท ข อง
เพลิงกลืนวิญญาณ หลอมโลหิตที่หลงเหลืออยูในรางของคางคกนอยออกมา
สะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งพุงออกมา
หลังจากลำแสงสีเขียวเปลงแสงสวางวาบ ลำแสงก็ทำใหของเหลวทั้งหมดรวมตัวกัน
กลายเปนกลุมกำปนสีเงิน จากนั้นก็หอหุมเอาไวแลวสงเขาไปในขวดหยด
โลหิตของคางคกเที่ยงแท หานลี่ไมอาจเรงการเจริญเติบโตออกมาได แนนอนวา
จึงไมยอมสิ้นเปลืองไปแมแตหยดเดียว
เชนนั้นหานลี่จึงจัดการเชนเดียวกันกับซากคางคกเที่ยงแทตาสีเขียวมรกตทั้งหมด
รอบหนึ่ง บรรจุโลหิตคางคกเที่ยงแทในตำนานลงไปในขวดหยดสองสามขวด
จากนั้นเขาถึงไดผอนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง นับวาสบายใจแลว
ครานี ้ ไ ด โลหิ ต คางคกเที่ ย งแท มาแล ว เขาก็ ไ ม ไ ด ร ี บ รอนจะหลอมของเหลว
คางคกเที ่ ย งแท แต จ ำต องฝก บำเพ็ ญ เพี ยรให ตนเองขึ ้น ไปอยู ใ นชั ้น ยอดสุดของ
ระดับขั้นกลางกอน เพื่อทะลวงจุดคอขวดแลวคอยวากัน
จะวาไปแลวหนทางที่เขาเลือกการเปนผูฝกตนคูบำเพ็ญเพียร ก็ดูเหมือนวาจะ
ไมผิดจริงๆ
ภายใตสถานการณที่มีรางกายอันแข็งแกรงและมียาสมุนไพรจำนวนมากนั ก
สำหรับผูบำเพ็ญเพียรคนอื่นๆ อาจจะตองใชเวลาสองสามรอยปถึงจะฝกฝนจนไปถึง
ขั้นนั้นได แตบางทีเขาอาจจะใชเวลาแครอยปหรือแมกระทั่งยี่สิบสามสิบปก็นาจะไป
ถึงขั้นนั้นไดอย างงายดาย ปญหาเพียงอยางเดียวก็ค ือ การทะลวงจุดคอขวดนั้ น
เกรงวาจะตองใชเวลามากสักหนอย
ดังนั้นหลังจากที่หานลี่ปลอยหุนเชิดวานรยักษสองสามตัวออกไปแลว ก็ลูบศีรษะ
ปลอยทารกวิญญาณตัวที่สองออกมา ใหเขารับหนาที่ดูแลเรื่องทุกอยางในถ้ำพำนัก
สวนตัวเองก็เขาไปกักตนในหองลับ ตั้งใจฝกบำเพ็ญเพียรอยูดานใน
ภายใต ก ารมี ส มุ นไพรที ่ เ พี ย งพอ ประกอบกั บ กิ น ผลเกล็ ด มั ง กรเข า ไปอย า ง
ตอเนื่อง และมีคาถาดับกระดูกที่นาอัศจรรยคอยชวยเหลือ ลมปราณของหานลี่
จึงหนาขึ้นเรื่อยๆ ความแข็งแกรงก็กายภาพก็เปลี่ยนแปลงขึ้นไปตามเวลา
ชวงเวลานี้นอกจากเขาจะฝกเคล็ดวิชาพราหมณศักดิ์สิทธิ์เที่ยงแทอยางหนักแลว
ยังนำภูเขาเทวะดูดปราณ และหามารใจเดียวออกมาหลอมดวยมือทั้งสองมือ และเริ่ม
หลอมกระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆาทั้งเจ็ดสิบสองเลมตามคาถารอยชีพจรสมบัติ ใหเขาไป
ในจุดอันตรายตามสวนตางๆ ของกระดูก
หากหลอมเคล็ดวิชาสำเร็จจริงๆ ไมตองพูดถึงสิ่งอื่น แคประสานอานุภาพกับ
เคล็ ด วิ ช าพราหมณศ ั ก ดิ ์ สิ ทธิ ์เ ที่ ย งแท พลั ง การป องกั น ที ่แ ข็ ง แกร ง ก็ อยู  ในขั้นที่
นาตกตะลึงแลว เกรงวาตอใหปะทะกับการโจมตีของผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตา
ก็สามารถตานทานไดดวยกายเนื้อเพียงลำพัง
แนนอนวานี่ไมเหมือนกับการหลอมมือทั้งสองมือ กระดูกจุดตางๆ ที่สำคัญของ
รางกายนั้นซับซอนกวามาก ตองเสียเวลานานขนาดไหนไมตองคิดก็รูแลว
ดังนั้นประตูหองลับที่หานลี่พำนักอยู จึงปดสนิทมาโดยตลอด แคทุกๆ สองสามเดือน
ทารกวิญญาณที่ส องจะกลายเป นเงาลวงตากลุ มหนึ่ งพุ งจมหายเขา ไปในกำแพง
เพื่อสงสมุนไพรและผลวิญญาณใหกับหานลี่!
แตละเดือนและปผานพนไป ชั่วพริบตาเวลาหกสิบปก็ผานพนไป
วันนี้บนภูเขาเล็กๆ อีกลูกหนึ่งที่หางจากภูเขายักษที่มีถ้ำพำนักของหานลี่ตั้งอยูไป
สิบวาลี้ ไอปศาจสีดำเหลืองสองกลุมกะพริบเรืองๆ อยูบนยอดเขา ดานในมีเสียงพูด
คุยดังขึ้น ดูเหมือนวาจะมีปศาจอะไรสักอยางพูดคุยอะไรกันสักอยางอยู
ดวงตาสีเงินทั้งสองในไอสีดำพลันกะพริบปริบๆ ไมหยุด ในไอสีเหลืองมีดวงตา
ขางหนึ่งสีแดงสดเปลงประกาย
คาดไมถึงวาปศาจทั้งสองจะมองเขตอาคมลวงตาดานนอกถ้ำพำนักที่าหานลี่วาง
เอาไวกอน จึงมองมาทางเขาไมหยุด ทวาดูเหมือนวาปศาจทั้งสองจะรูสึกหวาดกลัว
ถ้ำพำนักของหานลี่เปนอยางมาก จึงไมไดลงมือในทันใด กลับปรึกษากันอยูไมนาน
ก็แยกยายไป
สามวันตอมา เหนือถ้ำพำนักของหานลี่มีไอปศาจสองสามกลุมรวมตัวกันอยูอีกครั้ง
ครั้งนี้ปศาจเหลานี้ไมอำพรางกายแลว กลับมีพายุปศาจปรากฏขึ้นอยางเปดเผย
บนพื้นดินมีอสูรและแมลงประหลาดนานาชนิดนับพันตัวปรากฏขึ้น รวมตัวกันอยู
ตรงนั้นอยางดุดัน คาดไมถึงวาจะโจมตีถ้ำพำนักของหานลี่อยางเปดเผย
ปศาจสองสามตัวปรากฏขึ้นกลางอากาศ ลวนมีรูปรางประหลาดๆ ตัวหนึ่งคือ
งูเหลือมยักษหลายดอกไมสามหัว หัวทั้งสามใหญหัวหนึ่งเล็กสองหัว ทาทางดุดัน
อีกตัวหนึ่งคือหมูปายักษขนาดเจ็ดจั้ง เขี้ยวยักษคูหนึ่งเปลงแสงสีเงินระยิบระยับ
คาดไมถึงวาจะดูเหมือนสรางขึ้นจากเงินบริสุทธิ์อยางไรอยางนั้น ปศาจสองตัวสุดทาย
กลับคลายคลึงกับจาฝูงปศาจสองตัวที่หานลี่เคยเห็นในการตอสูของฝูงอสูร วานรยักษ
เรือนกายสีทองสู งสองสามจั้ ง มือหนึ่งถือสามงา มยักษสีด ำเอาไว อีกตัวหนึ่ ง คื อ
อสูรประหลาดขนาดจิ๋วหัวเปนวัวตัวเปนสิงโต มีขนาดตัวแคสองสามฉื่อ แตเรือนกาย
เปนสีเขียวมรกต ราวกับรูปปนแกะสลักสีเขียวมรกตอยางไรอยางนั้น
หากหานลี่อยูที่นี่แนนอนวามองปราดเดียวก็รูแลววา ปศาจเหลานี้ลวนเปน
อสูรปศาจระดับหกหรือเจ็ดที่เคยสัมผัสไดในเทือกเขาบริเวณนี้
และในบรรดาอสู ร ป ศ าจเหล า นั ้ น อสู ร หั ว วั ว ที ่ แ ข็ ง แกร ง ที ่ ส ุ ด อยู  ใ นระดั บ
อสูรปศาจระดับเจ็ด อีกกาวเดียวก็จัดอยูในระดับอสูรปศาจแปลงกายแลว
และไมรูวาอสูรปศาจเหลานี้มารวมตัวกันดวยเหตุใด คาดไมถึงวาจะมาโจมตีถ้ำ
พำนักของเขา
แตแมนวาหานลี่จะกักตนอยูจึงไมรูเรื่องที่ภายนอกนั้น แตจากเขตอาคมของ
ผู  บ ำเพ็ ญ เพีย รระดับ เทพแปลงที่ เ ขาวางเอาไว ก็ ไ ม ใ ช ส ิ ่ง ที่ จ ะอาศัย แคพ ลั งของ
อสูรปศาจระดับกลางก็ทำลายลงได
ฝู ง อสู ร และแมลงทั ้ง หมดถูก กระตุ น โดยป ศ าจสองสามตั วที่ อยู ก ลางอากาศ
พยายามทะลวงเขตอาคมลวงตาชั้นนอกสุดเขามาอยางดุดัน และสัมผัสกับเขตอาคม
ปองกันที่หานลี่วางเอาไวทันที
เห็นเพียงเบื้องหนามีลำแสงสีเขียวเจิดจา ทันใดนั้นพายุพลันกอตัวขึ้น หินดินทราย
ปลิววอน หินผาขนาดยักษสองสามรอยกอนปลิววอนทามกลางพายุ หลังจากเกิดเสียง
ตูมๆ ดังสนั่นขึ้น ชั่วขณะนั้นก็ทุบอสูรที่โหดเหี้ยมฝูงหนึ่งจนเละ
ชั่วขณะนั้นฝูงอสูรพลันเกิดความวุนวายขึ้น บางพวกเกิดรูสึกเสียใจในภายหลัง
พลางหนีเตลิดไปเสียเลย
แตปศาจหัววัวที่อยูกลางอากาศเห็นเชนนั้น พลันอาปากออก เปลงเสียงร อง
แหลมๆ ออกมา ฝูงอสูรที่อยูดานลางไดยินพลันแขง ขาออนแรง รางกายสั่นเทา
ปศาจที่เหลืออีกสามตนเองก็ขบเคี้ยวเขี้ยวฟนเชนกัน เปลงเสียงขูคำรามออกมา
ภายใตความจนปญญานั้นฝูงอสูรก็หันหัวกลับ ทำไดเพียงพุงไปหาลำแสงสีเขียวที่
อยูตรงขามอีกครั้งอยางใจดีสูเสือ
ผลคือหลังจากที่เกิดพายุขึ้นอีกครั้ง ดานในก็ไมมีหินยักษบินออกมาอีก กลับเปน
มี ด วายุ ส ี เ ขี ย วจำนวนนั บ ไม ถ  ว นที ่ เ ปล ง เสี ย งร อ งแหลมๆ พุ  ง ผ า นอากาศมา
มันหนาแนนเสียจนไมอาบหลบหลีกได
ชั่วขณะนั ้นอสูร ปศ าจสองสามพั นตัว ก็รองโหยหวน ทยอยกันไมทั น หั น หนี
รางกายก็ถูกสับออกเปนเจ็ดแปดสวน รอจนวายุลูกนั้นหยุดพัดอีกครั้ง อสูรที่ยัง
เหลือรอดอยูก็มีอยูไมถึงสองสามรอยแลว สวนอสูรปาเหลานั้นแมนวาจะ เบิก
เนตรแลว แตก็ตกใจจนขวัญกระเจิง แมกระทั่งยืนนิ่งงันอยูที่เดิม ทยอยกัน ถอย
รนกลับไปอยางควบคุมตัวเองไมได
ปศาจสองสามคนที่อยูเหนือหัวเห็นเชนนั้น ก็อดที่จะมองสบตากันไปมาไมได
ปศาจหัววัวตัวนั้นอาปากออก เปลงเสียงไพเราะของสตรีออกมาอยางชัด เจน
แตกลับไมใชคำพูดของเผามนุษยหรือเผาปศาจใดๆ
ปศาจสามตัวที่เหลือเองก็กำลังสนทนาดวยภาษาเดียวกัน
หลังจากผานไปชั่วครูพวกมันก็ดูเหมือนวาจะปรึกษากันเสร็จแลว ทันใดนั้นอสูรปศาจ
ทั ้ ง สี ่ ต ั ว ก็ ไ ม ส นเหล า อสู ร ที ่ อ อกวิ ่ ง หนี อ ี ก แต ล ะคนพลั น มี ว ายุ ป  ศ าจพั ด ลงมา
แต พ ลั นผนึก รวมตั วกั นระหวา งทาง กลายเป น พายเฮอร ริ เ คนสี ดำ พุ  ง ตรงไปหา
ถ้ำพำนักของหานลี่ที่อยูดานลางอยางรุนแรง
คาดไมถึงวาปศาจเหลานี้หมายจะอาศัยพลังมหาศาลทลายเขตอาคมที่หานลี่วางเอาไว
หากอสูรปศาจเหลานี้มีพลังในระดับแปดขึ้นไป ก็อาจจะเปนไปได แตพลังระดับ
หกและเจ็ ด นั ้ น จะไปทำอะไรเขตอาคมของผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ เทพแปลงของ
หานลี่ได
ทันใดนั้นลำแสงที่อยูเบื้องหนาถ้ำพำนักพลันเปลี่ยนสี กลายเปนหาสี หมุนวน
กระโจนเขามาอยางไมเกรงใจเลยสักนิด
ผลคือเมื่อพายุเฮอรริเคนสีดำปะทะกับลำแสงหาสี ขณะที่พัวพันตัดสลับกันไปมานั้น
ก็ถูกบดจนละเอียดในทันที
ชั่วขณะนั้นพายุเฮอรริเคนพลันกระจายออก ปศาจสี่หัวทยอยกันกระโจนออกมา
ในทันใด และรวมตัวกันกลางอากาศมองไปทางดานลางอีกครั้ง แตละตนลวนเผย
สีหนาตกตะลึงออกมา
แมนวาพวกมันจะไมไดปะทะกับลำแสงหาสีตรงๆ แตกลิ่นอายความนากลัวที่
แฝงอยูในใจ ก็ทำใหปศาจสองสามตนอกสั่นขวัญแขวน
ทันใดนั้นพวกมันก็ปรึกษากันดวยเสียงแผวเบาอีกสองสามประโยค แลว
กลายเปนพายุปศาจสี่กลุม ทยอยกันแยกยายจากไป
หลังจากนั้นเบื้องหนาถ้ำพำนักของหานลี่ไมเพียงจะไมมีปศาจตนใดเฉียดเขาใกล
แมกระทั่งในทุกตารางนิ้วในรัศมีวงกลมรอยลี้ ก็ไมมีแมแตวิหคอสูรตนใดสักตัว…
ตั้งแตตนจนจบประตูถ้ำพำนักของหานลี่ยังคงปดอยู ไมมีทาทีจะเปดออกเลยสักนิด
วันเวลาผานไปอยางรวดเร็ว พริบตาก็ผานไปแลวสามสิบปเศษ
ฉับพลันนั้นเสียงกูรองยาวๆ ดุจมังกรพลันดังออกมาจากประตูหองลับ ทันใดนั้น
เสียงดังสนั่นก็ดังขึ้น ประตูหองลับระเบิดออก
มองจากด า นนอก กลางอากาศในห องลั บ มี ล ำแสงสี ท องเจิ ด จ า อยู  ด วงหนึ่ ง
หานลี่นั่งสมาธิอยูตรงกลาง แผนหลังมีเงาสีทองลวงตาสามหัวหกแขนปรากฏออกมา
เงาลวงตานี้ก็อยูในลำแสงสีทองดวย ใบหนายังคงรางเลือน แตชัดเจนกวากอนหนา
เปนอยางมาก และนั่งขัดสมาธิอยูเหมือนกับหานลี่อยางไรอยางนั้น ในเวลาเดียวกัน
แขนทั้งหกก็รายอาคมไปมา
ฉับพลันนั้นหานลี่และเงาสีทองพลันสั่นเทาพรอมกัน ลวดลายสีทองเปนชั้นๆ ทะลัก
ออกมาจากลำแสง กวาดไปทั่วทั้งกำแพงของหองลับ ชั่วขณะนั้นลำแสงหาสีพลัน
เปลงประกาย หองลับเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ทันใดนั้นลำแสงพลันพลิ้วไหวไปมาไมหยุด
หานลี่ที่อยูในลำแสงสีทองเผยสีหนาเจ็บปวดออกมา เหงื่อเทาเมล็ดขาวผุดขึ้น
เต็มหนาผาก ลำแสงสีทองขนาดยักษสั่นเทาไมหยุด แมแตเงาลวงตาสีทองที่แผนหลัง
ก็ยังสั่นเทาเลือนรางไมชัดเจน
เสียง “ครืน” ดังขึ้น ลำแสงสีทองมีรอยแยกยาวๆ สายหนึ่งปรากฏขึ้นที่ตรงกลาง
ราวกับกระจก และสิ่งที่ไดรับผลกระทบจากมัน ก็คือสามหัวหกแขนสีทอง พลันแตก
ออกเปนเสี่ยงในชั่วพริบตา หายวับไปจากกลางอากาศ
หานลี่กลับถอนหายใจออกมายาวๆ เฮือกหนึ่ง ใบหนาเจ็บปวดสลายหายไป
ทั้งหองลับกลืนคืนสูความเงียบสงบ
หลั ง จากผ า นไปไม ร ู  ว  า นานเท า ไหร ในที ่ ส ุ ด หานลี ่ ก ็ เ บิ ก ตาทั ้ ง สองข า งขึ้ น
แตมุมปากกลับเผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา
ตอนที่ 1406 เผาวิหคสวรรคกับการบวงสรวง
“ทะลวงจุดคอขวดลมเหลวเปนครั้งที่สามแลว ดูแลวแคอาศัยการฝกบำเพ็ญเพียร
อยางหนัก คงไมอาจทะลวงจุดคอขวดไดในระยะเวลาสั้นๆ มีเพียงตองหาหนทาง
อื่นแลว” หานลี่เอยพึมพำกับตัวเอง ทันใดนั้นก็พลิกฝามือ สิ่งที่มีมีลายหงสเพลิงสีดำ
ปรากฎขึ้น
นั่นก็คือ ขวดขวดสีเงินที่บรรจุยาลูกกลอนเพลิงทมิฬเอาไวสามเม็ด
แมนวายาลูกกลอนเพลิงทมิฬจะเลื่องเชื่อวาเปนยาลูกกลอนที่ดีที่สุดในทะลวง
จุดคอขวดของระดับเทพแปลงขั้นปลาย แตจากประสิทธิภาพที่แข็งแกรงของมันแลว
จึงนำมาใชกับผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นกลางได แตแคอานุภาพจะมากเกินไป
สักหนอย หากผูบำเพ็ญเพียรที่มีพลังยุทธไมถึงหรือวากายเนื้อออนแอกินเขาไป
กลับจะทำใหถูกเพลิงหงสทมิฬที่แฝงอยูในตัวยาเผาไหมจนตาย
หานลี่มีกายเปนเพลิงกลืนวิญญาณ ประกอบกับเปนผูฝกตนคูบำเพ็ญเพียร แนนอนวา
จึงไมตองกังวลเรื่องนี้ หลังจากกินเขาไปแลว ก็ชวยใหเขาทะลวงจุดคอขวดได
แตเชนนั้นการพัฒนาขึ้นไปอยูระดับหลอมสูญ หากขาดยาลูกกลอนเพลิงทมิฬไป
เม็ดหนึ่ง อัตราการทะลวงจุดคอขวดก็ลดลงไปไมนอยแลว
ถึงอยางไรเสียยาลูกกลอนเพลิงทมิฬระดับนี้ ก็ไมใชสิ่งที่หาไดงายๆ การทะลวง
จุดคอขวดขั้นกลางของเขา เปนปญหาที่ตองเกิดขึ้นไมชาก็เร็วอยูแลว มีผูบำเพ็ญเพียร
จำนวนนั บ ไม ถ  ว นที ่ ต ิ ด อยู  ใ นระดั บ เทพแปลงขั ้ น กลางไปชั ่ ว ชี ว ิ ต จากจำนวน
ผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสูญที่นอยกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงนั้น ก็ทำให
รูวาการพัฒนาระดับของมันยากขนาดไหน ดังนั้นเมื่อทะลวงจุดคอขวด แนนอนวายิ่ง
มียาลูกกลอนชวยมากเทาไหรก็ยิ่งดีมากเทานั้น
เมื ่ อขบคิ ด ซ้ ำ ๆ ในใจอยู  นาน มุ ม ปากของหานลี ่ ก ็ เ ผยรอยยิ ้ ม ขมขื ่ นออกมา
แลวเก็บขวดยาในมือเขาไปในกำไลเก็บของ
ทวาหานลี่เองก็ไมไดคิดจะกักตนตอ หยัดกายลุกขึ้นเดินไปยังประตูหองลับ
ดานนอกหองลับ ไมรูวาหุนเชิดวานรยักษรออยูตรงนั้นตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู
หานลี่พลันขมวดคิ้ว ไมทันไดพูดอะไร หุนเชิดกลับสาวเทายาวๆ ออกมาขางหนา
สองมือประสานเขาดวยกันสงของที่เหมือนกับไมกระบองสีเหลืองออน ดานบนมี
ลวดลายสีเขียวเขมที่เปนเอกลักษณมาให นั่นก็คือ ผลสวรรคทมิฬ
หานลี่เห็นเจาสิ่งนี้ ก็มีสีหนาเครงขรึมขึ้น
มือหนึ่งตะปบออกไปดูดของสิ่งนั้นเขามาอยูในมือ ในเวลาเดียวกันลำแสงสีฟา
พลันเปลงแสงสวางวาบ เขามาอยูในครรลองสายตาของเขา
ผลคือลำแสงขนาดเทาเมล็ดถั่วเหลืองที่อยูดานในในครานี้มีขนาดเทาหัวมือมือแลว
หานลี่ชั่งน้ำหนักสมบัติชิ้นนั้นในมือ ในใจอดที่จะรูสึกกลัดกลุมขึ้นมาเล็กนอยไมได
ขอมูลของผลสวรรคทมิฬ หานลี่ไดคนควาอยางละเอียดในรานคัมภีรโบราณของ
เมืองเทวะสวรรคมาแลวรอบหนึ่ง
แตสิ่งที่แปลกประหลาดก็คือ ไมวาคัมภีรจะมีเกาแกขนาดไหน ก็ไมเอยถึงสิ่งนี้เลย
สักนิด หากไมใชเพราะเขาเคยไดขอมูลเกี่ยวกับเถาวัลยเซียนทมิฬมาแลวตอนที่อยูใน
แดนมนุษย เกรงวาแมแตผลสวรรคทมิฬคือสิ่งใด ก็คงไมอาจรูได
ทวาถึงแมจะเปนเชนนั้น ในเมื่อผลสวรรคทมิฬมีพลังแหงกฎเกณฑสะสมอยู
แนนอนวาจึงเปนสมบัติขั้นสุดยอด
แนนอนวาหานลี่ไมเคยเปดเผยมากอน
หลังจากที่บรรจุพลังลมปรารเขาไปในผลสวรรคทมิฬแตไรผลอีกครั้ง หานลี่ก็ใช
นิ้วลูบไปบนเจาสิ่งนั้น เผยสีหนาครุนคิดออกมา
สองสามปที่ผานมา เขาแทบจะหยดของเหลวสีเขียวมรกตลึกลับลงไปในผลนี้มา
โดยตลอด นอกจากลำแสงสีขาวที่สวางขึ้นเล็กนอยแลว ก็ไมเห็นวาเจาสิ่งนี้จะมี
ความพิเศษอะไรอีก
แมนไมรูวาใสของเหลวตอไป ผลนี้จะมีประโยชนตอเขาจริงๆ หรือไม แตตอนนี้
ก็มีเพียงตองทำตอไปเทานั้น
หลั ง จากที ่ เ ก็ บ ผลสวรรค ท มิ ฬ เข า ไปอย า งระมั ด ระวั ง แล ว หานลี ่ ก ็ ไ ปดู ใ น
สวนสมุนไพรอีกเล็กนอย
เห็นเพียงในสวนสมุนไพรผลเห็ดมังกรและสมุนไพรอื่นๆ ที่ปลูกไวเริ่มโตเต็มวัยแลว
และยิ่งไปกวานั้นยังถูกหุนเชิดเก็บรวบรวมไวในกำไลเก็บของอีกวงอยูชุดหนึ่ง
แนนอนวาหานลี่พลันรูสึกดีใจ ทันใดนั้นก็ยายผลวิญญาณเหลานี้ไปในกำไลเก็บ
ของที่ตนเองสวมอยู หลังจากทำทุกอยางเสร็จสิ้น หานลี่ก็ใชมือหนึ่งกวักเรียกหุนเชิดที่
อยูอยูขางกายมาโดยตลอด
ชั่วขณะนั้นทารกวิญญาณที่สองพลันบินออกมาจากรางของหุนเชิดวานรยักษ
หลังจากหมุนวนรอบหนึ่งก็จมหายเขาไปในราง
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลงเล็กนอย ดูเหมือนวาจะไดรับขาวสารอะไรสักอยาง
หลังจากผานไปชั่วครู ก็ตบไปที่ทายทอย ปลอยทารกวิญญาณที่สองกลับไปที่หุนเชิด
อีกครั้ง ในเวลาเดียวกันก็หัวเราะอยางเย็นชาออกมา
“เปนแคปศาจระดับกลางสองสามตนยังกลามาหาเรื่องขาถึงที่ ดูแลวคงมีผูชวยแน”
เอยจบหานลี่ก็สาวเทายาวๆ ตรงไปยังหองโถงในถ้ำพำนัก
เขตอาคมขนาดยักษและแทนสูงๆ ราวกับแทนบูชาปรากฎอยูตรงนั้นอยางเงียบๆ
ตรงตาอาคมบนแทนสูงๆ มีจานอาคมแปดเหลี่ยมตั้งอยู!
หานลี่เองก็มิไดพูดมาก ชูมือขึ้นรายอาคมสองสามสายไปทางเขตอาคม
หลังจากเสียงหึ่งๆ ดังขึ้น เขตอาคมทั้งเขตก็เปลงแสงสีขาวสวางจา จากนั้นจานอาคม
แปดเหลี ่ ย มที ่ อยู  ท  า มกลางลำแสงสี ข าวก็ ม ี ม  า นลำแสงสี เ งิ น ชั ้ น หนึ ่ ง ปรากฎขึ้ น
ดานบนมีดวงไฟสีขาวกระพริบระยิบระยับ แทบจะกินพื้นที่ทั้งหมดของมานลำแสงไป
ในเวลาเดียวกันที่หานลี่สรางถ้ำพำนักแหงนี้ คาดไมถึงวาจะวางไขมุกหมื่นมังกร
จำนวนมากไวรอบๆ ถ้ำพำนักในระยะสองสามรอยลี้
ครานี้สายตาของเขากวาดไปบนมานลำแสง และพบจุดลำแสงสีดำสองสามจุดที่
กำลังกระพริบวาบๆ อยูหางออกไปยี่สิบลี้เศษในทันที
สองมือของหานลี่พลันรายอาคม รอบกายเปลงแสงสีเขียวสวางจา กลายเปน
สายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไปจากหองโถง หลังจากกระพริบวาบ ก็สลายหายไป
จากประตูของถ้ำพำนัก
ระยะหางแคนี้จากความเร็วที่นาเหลือเชื่อของหานลี่ ก็แทบจะมาถึงเปาหมายได
ในพริบตา
ตรงนั้นมีมังกรยักษลายดอกไมสามหัวอยูตนหนึ่ง อสูรนอยสีเขียวมรกตหัวเปนวัว
ตัวเปนสิงโตอีกตนหนึ่ง และเงาลำแสงสีเทาจางๆ สายหนึ่งลอยอยูกลางอากาศต่ำๆ
กำลังปรึกษาอะไรกันสักอยางอยู
หลังจากที่หานลี่เปลงแสงสวางจา ปรากฎกายขึ้นกลางอากาศแลว ปศาจสามตน
ที่อยูดานลางก็มิไดมีปฏิกิริยาเชื่องชา กลายเปนวายุปศาจสองกลุม ลำแสงสีเทา
สายหนึ่งแตกฮือไป
แตเมื่อหานลี่แคนเสียงอยางเย็นชา เสนสีแดงสามสายก็พุงออกมาจากแขนเสื้อ
หลังจากเปลงแสงสวางวาบก็หายวับไป มาปรากฏอยูดานหลังวายุปศาจและลำแสง
สีเทา ลำแสงสีแดงสวางจา พันรัดปศาจและลำแสงทั้ งสามเอาไวแ น นจนไม อาจ
ขยับกายไดเลยสักนิด
หานลี่สะบัดแขนเสื้ออีกครั้ง ดึงเสนไหมสีแดงสามสายกลับมา ปศาจทั้งสามถูกดึง
ใหมาอยูเบื้องหนา
อสูรนอยหัววัวและงูเหลือมยักษตางเผยสีหนาหวาดผวาออกมา ปศาจตนเดียวที่
อยูในลำแสงสีเทากลับเอยปากพูดภาษาอะไรสักอยางออกมา
แมนวาสำเนียงจะแปลกประหลาด หานลี่จึงฟงไมออกเลยสักนิด แตฟงจากน้ำเสียง
กลับดูเหมือนวาจะมีเจตนาคุกคาม
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม แตก็ไมไดตอบกลับอะไร แคกวักมือกลางอากาศไปทาง
ปศาจที่อยูในลำแสงสีเทาเทานั้น
ลำแสงหาสีที่งดงามพุงออกไป
ลำแสงสีเทาที่ปกปองปศาจถูกลำแสงหาสีกระทบเขา ก็ละลายออกในชั่วพริบตา
ราวกับหิมะ
สวนตัวของปศาจเองพลันเปลงเสียง “สวบ” ดังขึ้น ถูกหานลี่ดูดเขามาอยูในมือ
นิ้วทั้งหากดไปที่สวนหัวของมัน
เดิ ม ที ป  ศ าจตนนี ้ม ี ข นาดความยาวแค ค รึ ่ง จั ้ง เกล็ ด สี ท องรอบกายเปลง แสง
ระยิบระยับ คาดไมถึง ว าจะเปนปศ าจปลาที ่ม ีแ ขนขาสี่ ข า งงอกออกมาจากท อง
หัวของปศาจปลาตนนี้มีแมกระทั่งใบหนาของมนุษยผูชาย แนนอนวาจึงทำใหผูคน
รูสึกขนลุกซู
หานลี่ไมเคยพบปศาจอะไรมากอน แมนวาปศาจปลาระดับหกเบื้องหนาจะนากลัว แต
แนนอนวาไมมีทางทำใหเขาหนาเปลี่ยนสีใดๆ ได
เห็นเพียงมือที่กดไปบนหัวของปศาจตนนั้นของเขาเปลงแสงสีทองสวางวาบ
ชั่วขณะนั้นปศาจตนนั้นพลันรองครวญครางออกมา รางกายสั่นเทาสองสามครั้ง
แลวรางกายพลันแข็งทื่อเปนลมสลบไป
คาดไมถึงวาหานลี่จะสำแดงเคล็ดวิชาคนวิญญาณ เริ่มคนหาสิ่งที่ตนเองตองการ
ในจิตสัมผัสของปศาจตนนี้
งูเหลือมสามหัวและอสูรนอยหัววัวที่อยูดานขางเห็นสถานการณนี้ พลันตกใจจน
รางกายสั่นเทา แววตาเต็มไปดวยความหวาดกลัว
จากความสามารถของหานลี่ในตอนนี้ การคนวิญญาณอสูรปศาจระดับหกตนหนึ่ง
แนนอนวาจึงเปนเรื่องที่งายดาย แคเวลาเพียงหนึ่งกาน้ำชาก็คนหาทุกสิ่งในหัวของ
ปศาจตนนี้อยางละเอียด
“เผาวิหคสวรรค บวงสรวง องคเปากวง” รอจนตัวหนังสือในประโยคปรากฎขึ้น
ในสมองของหานลี่แลว ก็ทำใหเขาตกตะลึง ทันใดนั้นลำแสงสีทองพลันหมนแสงลง
นิ้วทั้งหาคลายออกในทันที
ชั่วขณะนั้นปศาจปลาพลันตกลงมาจากกลางอากาศ!
และครู  ต  อมาเส นไหมสี แ ดงที ่ ม ั ด ป ศ าจตนนี ้ อยู  พ ลั นขยายใหญ ข ึ ้ น ชั ่ ว ครู  ก็
กลายเปนโซเพลิงหนาๆ เสนหนึ่ง จากนั้นก็หมุนวน เปลวเพลิงสีแดงสดกลุมหนึ่งพลัน
หอหุมปศาจตนนี้เอาไว ชั่วพริบตาก็หายวับไป
โซเพลิงเปลงแสงสวางวาบกลายเปนเสนไหมสีแดงสายหนึ่ง เปลงแสงสวางวาบ
แลวจมหายเขาไปในแขนเสื้อของหานลี่
หานลี่เพิ่งจะหันหนาไป สายตาพลันตกไปอยูบนรางของปศาจที่เหลืออีกสองตน
ใบหนาไรซึ่งความรูสึก
“พวกเจ า ช า งโอหั ง ไม น อย เพี ย งเพื ่ อดอกกระดิ ่ ง พฤกษาถึ ง กั บ วางแผนกั บ
ถ้ำพำนักขา?” หลังจากที่เขาเงียบกริบไปชั่วครู ก็เอยปากออก คาดไมถึงวาจะเอย
ภาษาของเผาประหลาดออกมา
จากการคนวิญญาณไมเพียงจะเขาใจภาษาของเผาประหลาด และยังเขาใจวาเหตุใด
อสูรปศาจระดับกลางเหลานี้ถึงสนใจถ้ำพำนักของตนเองอยูหลายครั้ง
“ไมมีดอกกระดิ่งพฤกษา กลุมผูฝกตนในระดับเดียวกันอยางพวกเราในภูเขาเฮยอิ่นก็
ไมอาจรวบรวมของบวงสรวงได คงถูกเผาวิหคสวรรคขูดรีด และถูกสลายสติปญญา
อีกครั้ง ตอใหรูวา นายทา นมีค วามสามารถขนาดไหน ก็จำใจตองลองดูสั กครั ้ ง ”
อสูรนอยหัววัวเผยสติปญญาที่สูงสงออกมา มันเอยปากตอบเขา
“ดอกกระดิ ่ ง พฤกษา เจ า หมายถึ ง สมุ น ไพรชนิ ด นี ้ ส ิ น ะ!” หานลี ่ ห ั ว เราะหึ ๆ
ออกมา มือหนึ่งพลิกฝามือ ในมือมีดอกเล็กๆ สีมวงดอกหนึ่งปรากฎขึ้น ภายนอกดู
คลายกระดิ่ง กลิ่นหอมโชยออกมาเปนระลอกๆ
“ใชแลวเจาสิ่งนี้แหละ แมนวาเทือกเขาเฮยอิ่นของพวกเราจะมีภูเขาวิญญาณอยู
ไมนอย แตดอกนี้ปรากฎในภูเขาที่ถ้ำพำนักของนายทานตั้งอยู” อสูรนอยหัววัวจอง
เขม็งไปยังของที่อยูในมือของหานลี่อยูนาน แลวถึงไดเอยพรอมกับหัวเราะอยางขมขื่น
“ดอกนี้มีไอวิญญาณอยูไมมากนัก ไมอาจนำไปปรุงยาลูกกลอนอะไรได แตกลับ
จัดอยูในอันดับแรกๆ ในบรรดาของบวงสรวงพันปของพวกเจา ชางแปลกประหลาด
เสียจริง หากไมมีมัน พวกเจาอาจจะถูกเผาวิหคสวรรคลงโทษอยางเฉียบขาด ทวา
พวกเจาเพิ่งจะเจออสูรมังกรทะเลที่เพิ่งจะบรรลุระดับเทพแปลงสักตน ก็คิดวาโจมตี
ถ้ำพำนักของขาได มันโอหังเกินไปหนอยกระมัง จุๆ นำแมลงผลึกกระดูกทองสิบคู
มาเปนรางวัลก็พอจะยอมเสียทุนได
ทวาจากที่ขารูครึ่งผลึกครึ่งแมลงเหลานี้มักจะซอนตัวอยูในหินแรล้ำคาใต ดิน
หายากมาก ต อให พ บหากถู ก จั บ ก็ จ ะตายลงทั น ที กลายเป น ผลึ ก ศิ ล าก อ นหนึ่ ง
พวกเจาจับแมลงผลึกกระดูกทองที่ยังเปนๆ ไดอยางไร” หานลี่ลูบใตคาง หลังจากที่
แววตาเปลงประกาย ดูเหมือนวาจะเอยถามอีกครั้งอยางตามอำเภอใจ
“เรื่องนี้บอกนายทานสักหนอยก็ไมเปนไร ตอนนั้นหลังจากที่ที่นี่ถูกคนของ
เผาวิหคสวรรคพบเขา ในเทือกเขาเฮยอิ่นนั่นก็ไมใชวาจะไมมีผูที่มีพลังยุทธลึกล้ำ
มากกวาพวกเรา แตพวกมันตางถูกสามอาวุโสของเผาวิหคสวรรคจกำจัดไปจนเกลี้ยง
ที่พวกเราที่เหลืออยูไดรับอนุญาตใหฝกบำเพ็ญเพียรตอ แนนอนวาเปนเพราะพวกเรา
มีพรสวรรควิเศษ เมื่อรวมมือกันก็สามารถรวบรวมของบวงสรวงทั้งหมดที่พวกมัน
ตองการได มิเชนนั้นไหนเลยจะมีชีวิตอยูจนมาถึงทุกวันนี้!” ฉับพลันนั้นอสูรนอยหัววัว
พลันเปลงเสียงหัวเราะอยางเย็นชาออกมา
ตอนที่ 1407 แมลงผลึกกระดูกทองกับทรายปะการัง
“พวกเจามีวิธีจับเปนแมลงผลึกกระดูกทอง?” สีหนาของหานลี่ไมเปลี่ยนแปลง
แตชั่วขณะนั้นในใจพลันรูสึกดีใจอยางบาคลั่ง
“ใช แ ล ว พวกเรามาจากเผา อสูรสว าง ขอแค ฝ  ก ฝนจนบรรลุ ก็ ส ามารถแยก
แมลงผลึกนี้ออกจากแรหินจำนวนนับไมถวนไดแลว และยิ่งไปกวานั้นยังมีวิธีทำให
แมลงชนิดนี้ไมกลายเปนผลึกศิลาดวย” อสูรนอยเอยอยางทระนงตน
“เยี่ยม เยี่ยมมาก แตแคจุดนี้ ขา ก็พ อจะปลอยพวกเจาที ่มาหาเรื่ องขา ไปได
ดอกกระดิ่งพฤกษานี้มอบใหพวกเจา!” หานลี่ฉีกยิ้มสีหนาคอยๆ ผอนคลายลง
“มีเรื่องดีๆ เชนนี้ดวย! มีเงื่อนไขอะไรหรือ?” อสูรนอยกลับชาญฉลาด ตอนแรกก็ดีใจ
แตทันใดนั้นกลับมีปฏิกิริยาตอบสนองทันที
“งายมาก พวกเจาตองการดอกกระดิ่งพฤกษาเทาไหร ขาก็จะใหพวกเจาเทานั้น
แตเพื่อเปนการแลกเปลี่ยน ทุกๆ ดอกจะตองเอาแมลงผลึกกระดูกทองมาแลกกับขา
หนึ่งคู? นอกจากนี้ทรายปะการังทองตัวเมียที่พวกเจาใชบวงสรวง ขาก็สนใจเชนกัน
ใชทรายนี้แลกกับดอกกระดิ่งพฤกษาดอกหนึ่งเชนกัน” หานลี่เอยพรอมรอยยิ้มจางๆ
“แมลงผลึกคือของบวงสรวง พวกเรามีไมมากนัก และยิ่งไปกวานั้นยังตองมอบให
ทานเปากวงสิบคู” อสูรนอยหัววัวกลอกตาไปมา ฉับพลันนั้นพลันเอยขึ้นมา
“ทานเปากวง? แคอสูรทะเลที่เพิ่งแปลงกายไดหนึ่งตนเทานั้น ในเมื่อขาอยากได
แมลงวิญญาณชนิดนี้ แนนอนวาก็ตองกำจัดมัน ขาจะใหเวลาพวกเจาเตรียมตัวเจ็ดวัน
จากนี้อีกสามวันใหมาแลกดอกกระดิ่งพฤกษาที่ถ้ำพำนักขา หากไมมาละก็ หึๆ…”
หานลี ่ ห ั ว เราะอย างชั่ ว ร าย สะบั ด แขนเสื ้ อ พายุ อ อนๆ ปรากฎขึ ้ น ในบริ เ วณนั้น
คนก็หายวับไปจากกลางอากาศ
อสูรนอยหัววัวและงูเหลือมยักษสามหัวพลันตะลึงงัน แลวถึงไดพบวาเสนไหม
สีแดงที่แตเดิมรัดพวกมันเอาไวหายไปดวย
อสูรทั้งสองไดรับอิสระ ก็อดที่จะมองสบตากันไมได
หลั ง จากผ า นไปชั ่ ว ครู  ห ั ว ทั ้ ง สามของงู เ หลื อ มยั ก ษ ส ามหั ว ก็ ม องไปรอบๆ
หัวงูเหลือมตรงกลางกระพริบดวงตาสีเขียว เอยกับอสูรนอยดวยเสียงแผวเบาวา
“คนผูนั้นจากไปแลวจริงๆ หรือ?”
อสูรนอยหัววัวไดยินพลันลังเลเล็กนอย แตทันใดนั้นก็อาปากออก พนไขมุกสีเขียว
เม็ดหนึ่งออกมา
หลังจากที่ไขมุกเม็ดนี้หมุนติ้วๆ อยูกลางอากาศ ก็เปลงแสงสีเขียวชั้นหนึ่งออกมา
หอหุมอสูรทั้งสองเอาไวขางใน
“ตอนนี้ไมมีปญหาอะไรแลว หลังจากที่ขาใชแกนอสูรวางเขตอาคมกั้นเสียง
หากคนผูนั้นใชจิตสัมผัสแอบฟงละก็ จะตองถูกขาพบเขาแน” อสูรนอยกระพริบ
ดวงตาสีเขียว แลวเอยเชนนี้ออกมา
อสูรสามหัวไดยินพลันรูสึกผอนคลายลง แตทันใดนั้นก็เอยถามวา
“พวกเราตองแลกดอกกระดิ่งพฤกษาจริงๆ หรือ?”
“สิ่งของบวงสรวงไมใชเรื่องของพวกเราแคสองคน ยังตองไปปรึกษาสหายผูอื่นดวย
แตหากอยากรอดจากการบวงสรวงครั้งนี้ เกรงวาก็มีแตตองทำเชนนี้แลว” อสูรนอย
หัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“แมลงผลึกกระดูกทองและทรายปะการังทองตัวเมียเองก็เปนสิ่งที่หายากมาก
หากเอาออกมาแลก ครั้งตอไปก็ไมมั่นใจวาจะรวบรวมไดอีกครั้งหรือไม” งูเหลือมยักษ
เอยเตือนสติ
“ไมตองสนใจอะไรมาก แมลงผลึกและทรายปะการังทองตัวเมียเปนสิ่งที่หายากยิ่ง
แตขอแคพวกเราเสียเวลาสักหนอย สุดทายก็หาเจอ สวนดอกกระดิ่งพฤกษานั้ น
เผาวิหคสวรรคตองการจำนวนมาก ที่อื่นๆ ก็แหงเหือดไปแลว มีเพียงบนภูเขาที่คนผูนี้
อาศัยอยูถึงจะรวบรวมไดครบจำนวน” อสูรนอยหัววัวเองก็จนปญญาไปเล็กนอย
“เชนนั้นไมสูรอใหคนของเผาวิหคสวรรคฝูงนั้นมารับของบวงสรวง และรายงานเรื่องนี้
กับพวกมัน ใหพวกมันจัดการคนประหลาดผูนี้จะดีกวาหรือ” หลังจากที่งูเหลือม
สามหัวสะบัดหัวไปมา ก็เอยเชนนี้ออกมา
“หึ อยาคิดอะไรบาๆ หรือวาเจาลืมการสั่งสอนในครั้งนั้นไปแลว ตอใหคนของ
เผ า วิ ห คสวรรค ส ั ง หารคนผู  นี ้ แต ก ็ เ อาดอกกระดิ ่ ง พฤกษาบนภู เ ขาไปหมดอยู  ดี
การบวงสรวงที่ควรแลกเปลี่ยน ก็จะลดลงเพราะเหตุนี้ หากบอกความจริงกับพวกมัน
ดอกกระดิ่งพฤกษาก็จะหายไปจากภูเขาเฮยอิ่น พวกเผาวิหคสวรรคจะปลอยพวกเรา
ไวหรือ? สวนการบวงสรวงใหเผาวิหคสวรรคในอดีต ขอแคมีดอกกระดิ่งพฤกษา
เพียงพอ ของอื่นๆ ขาดไปเล็กนอย ก็ไมใชวาจะไมอาจสงรายงานครั้งนี้ได แต
ตรงกันขาม หากจำนวนของดอกกระดิ่งพฤกษาขาดไป วัตถุดิบอื่นๆ ในการบวงสรวง
มีมากขนาดไหน ก็ไมมีผลดีแน ดอกกระดิ่งพฤกษาดูเหมือนวาจะมีความสำคัญตอคน
ของเผาวิหคสวรรคมาก หากไมใชเพราะเผาวิหคสวรรคกวาดกลัวหมอกยมโลหิตทมิฬ
มาก จนไมกลารั้งรออยูที่นี่นานนัก ไมแนวาพวกมันอาจจะสงคนมาอยูอาศัยที่นี่เอง
แลว” อสูรนอยหัววัวเอยอยางเย็นชาออกมา
“แตหากเปนเชนนี้ตอไป ตอใหรับมือกับครั้งนี้ไปได การบวงสรวงครั้งตอไปก็
ไมใชวาพวกเราจะไมอาจรับมือได ถึงครานั้นจุดจบก็ไมเหมือนกันหรือ ตองเขาใจวา
พวกเราลวนถูกเผาวิหคสวรรคลงเครื่องทาสเอาไว หากออกจากที่นี่ในระยะพั นลี้
จะระเบิดตนเองตายในทันที” งูเหลือมยักษสามหัวกลับเอยอยางรอนรนออกมา
“จุ ด นี ้ ข  า รู อยู แ ล ว แต ไ ม จ ำเปน ตองกั ง วลเรื่ องนี้ หรื อว า เจ าลื ม คำสัญญาที่
อรหันตในหมอกยมโลกทมิฬสัญญากับพวกเราไปแลว ขอแคแอบมอบศิลาวิญญาณ
รอยปใหเขาอีกครั้ง เขาก็นาจะบรรลุอรหันตได และสามารถกำจัดเครื่องหมายทาส
ของพวกเราได ถึงครานั้นก็หนีไปไดโดยไมตองกังวลอะไรแลว” อสูรนอยหัววัวเอย
ดวยน้ำเสียงเครงขรึม
“แตทานผูนั้นจะพึ่งไดจริงๆ หรือ อยาลืมละ แมวากอนหนานี้เขาจะเคยเปน
อาวุโสของภูเขาเฮยอิ่น แตหลังจากตอนนั้นที่ เขาหนี เขา ไปในหมอกยมโลกทมิ ฬ
ก็ ก ลื น โครงกระดู ก ภู ต ยั ก ษ โ บราณลงไป จนกลายเป น ครึ ่ ง ภู ต ครึ ่ ง ป ศ าจแล ว
หากถึงครานั้นมันเกิดกลายพันธุอะไรอีก…” งูเหลือมสามหัวกลับลังเล
“อันใด พี่ฮัวกังวลวาคนผูนั้นจะไมรักษาสัญญางั้นหรือ? จุดนี้วางใจเถิด อาวุโสผูนี้
มีตนกำเนิดมาจากเผาอสูรสวาง และมีความแคนกับเผาวิหคสวรรค ไมวาอยางไร
ก็ไมมีทางทำรายพวกเรา อีกอยางพวกเราก็สงศิลาวิญญาณสองสามรอยปไปใหเขา
มันมีประโยชนในการฝกบำเพ็ญเพียรของเขา ครานี้จะบรรลุแลว จะมีทางเลือก
อื่นหรือ?” อสูรนอยสั่นศีรษะอยางตอเนื่อง
“ผูแซฮัวอาจจะกังวลมากไป ทวาในหมอกยมโลหิตทมิฬมีอะไรอยูกันแน คาดไมถึงวา
จะทำใหคนของเผาวิหคสวรรคหวาดกลัวถึงเพียงนี้ อรหันตผูนั้นเคยพิสูจนแลว”
งูเหลือมยักษเอยถามดวยความประหลาดใจเล็กนอย
“เปลา แตในนั้นตองมีตัวประหลาดอะไรแน แมวาความสามารถของอรหั นต
ในตอนนี้จะทำไดเพียงอาศัยอยูที่ขอบของหมอกยมโลกทมิฬ ไหนเลยจะกล าไปที่
ใจกลาง แตหมอกยมโลกทมิฬเหลานี้อยูที่นี่มาเนิ่นนานแลว วากันวาเผาวิหคสวรรคที่
แข็งแกรงที่สุด ก็แทบจะควบคุมเผาวิหคทั้งหมดแลว” อสูรนอยหัวเราะอยางขมขื่น
ออกมาขณะเอย
“นั่นมันก็ใช ไมวาในหมอกยมโลกทมิฬจะมีอะไร ก็ไมเปนผลดีตอพวกเราทั้งนั้น
จากพลังยุทธของพวกเราหากเขาไปในมานหมอก ก็คงถูกดูดเลือดเนื้อไปในครูเดียว
กลายเปนโครงกระดูกแหงกรัง” งูเหลือมยักษสามหัวพยักหนา
ทันใดนั้นหลังจากที่อสูรนอยและงูเหลือมยักษปรึกษากันเสร็จแลว ก็เก็บแกนปศาจ
กลายเปนพายุปศาจสองกลุมบินไป
ในตอนที่อสูรทั้งสองเพิ่งจะจากไปไดไมนาน รอบๆ ก็มีระลอกคลื่นปรากฎขึ้น
เงารางคนสีเขียวจางๆ สายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบขึ้นกลางอากาศ
คาดไมถึงวาจะเปนหานลี่ที่ควรจะออกไปตั้งนานแลว
เขาเงยหนาขึ้นมองอสูรทั้งสองที่หางออกไปแวบหนึ่ง ฉีกยิ้มแปลกประหลาดออกมา
ฉับพลันนั้นมือหนึ่งพลันตะปบไปกลางอากาศตรงที่อสูรสองตนนั้นเคยหยุดอยู
ลำแสงสี ท องเปล ง แสงสว า งวาบ แมลงน อยสี ท องขนาดเท า เล็ บ ปรากฏขึ้ น
เห็นไดชัดวาคือ แมลงกลืนทองที่มีขนาดเล็กลงสิบเทา
แมลงตัวนั้นสยายปกออก บินมาอยูตรงกลางฝามือของหานลี่
หานลี่ชี้นิ้วไปที่แมลงวิญญาณ สวนตัวเองก็หลับตาทั้งสองขางลง ชั่วขณะนั้นก็ดึง
จิตสัมผัสมาจากแมลงกลื นทองที่ อยูใ กลๆ บทสนทนาของอสูร น อยและงู เหลื อม
สามหัวดังสะทอนอยูในใจของเขา
“หมอกยมโลกทมิ ฬ ครึ ่ ง ภู ต ครึ ่ ง ป ศ าจ เครื ่ อ งหมายทาส? น า สนใจดี นี่
หากคนของเผาวิหคสวรรค ไมมีทางอยูบนเกาะนี้ไดนานละก็ ขอแคไมไดอยูในระดับ
หลอมราง ภายในระยะเวลาสั้นๆ ก็ไมจำเปนตองกังวลอะไร คิดไมถึงเลยจริ งๆวา
อสูรปศาจระดับต่ำสองสามตนนี้จะสามารถจับแมลงผลึกกระดูกทองที่เปน ยา
อายุวัฒนะได นี่เปนสิ่งที่แมแตอาวุโสระดับหลอมรางในเมืองเทวะสวรรคเหลานั้นยัง
ไมอาจตามหาได
เมื่อหาสมุนไพรชนิดอื่น ประกอบกับพระธาตุวัชระในรางกายขา ก็สามารถเรียน
วิชาวัชระของสำนักพุทธได และสามารถทำใหเคล็ดวิชามารเที่ยงแทพราหมณศักดิ์ทธิ์
ผนึกรวมกันกลายเปนรางที่แทจริงได หึๆ สวนทรายปะการังทองตัวเมียนั้นก็เปนสิ่งที่
จำเปนมากในตอนนี้ หากนำมันมาบดผสมเขาไปในเลือดเนื้อ ก็เพียงพอจะทำให
กายเนื้อแข็งแกรงขึ้นแลว…” หานลี่เอยพึมพำกับตัวเองสองสามประโยค แลวหัวเราะ
ยินดีออกมา
ชั่วครูหานลี่ก็หยุดหัวเราะ แลวนึกอะไรขึ้นได หลังจากมุมปากกระตุก ฉับพลันนั้น
เงาลวงตาของวิหคยักษและหงสหาสีที่แผนหลังก็เปลงแสงสวางวาบ ปกขนนกแวววาว
คูหนึ่งปรากฎขึ้น
แตแคปกคูนี้ขยับเล็กนอย รางกายของหานลี่ก็เปลงแสงเจิดจาจนแสบตาออกมา
เปลงแสงสวางวาบ รางทั้งรางกลายเปนเสนไหมแวววาวสายหนึ่งพุงออกไป
ชั่วขณะนั้นกลางอากาศพลันมีรอยแยกสีเขียวขาวยาวๆ สายหนึ่งปรากฎขึ้น
ราวกับวากรีดผานกลางอากาศ พุงออกมาตรงไปยังขอบฟา
ครูตอมารอยแยกยาวพลันมีลำแสงสวางวาบ เสนไหมผลึกปรากฎขึ้นตรงนั้น
เปลงแสงสวางวาบอีกครั้ง แลวจมหายเขาไปในขอบฟาอยางไรรองรอย
ขณะที่หานลี่กำลังกระตุนปกวายุอัสนีที่ปลายเปนสมบัติวิญญาณแลวอยูนั้น
ความเร็ ว ก็ ม ากกว า ปกติ ถ ึ ง สองสามเท า แค ส องวั น กว า ๆ ก็ บ ิ น ออกมาจากเกาะ
ปรากฎตัวบนผิวน้ำหางจากเกาะไปสองสามหมื่นลี้
มหาสมุทรผืนนี้มีกลุมปะการังนอยใหญรูปทรงตางๆ เรียงรายอยู ใหญหนอย
มีขนาดเทาเกาะเล็ก เล็กหนอยมีขนาดเทาคนยืนได
หานลี่กอดอกลอยอยูกลางอากาศเหนือกลุมปะการังขนาดสองสามหมู แววตาตเปลง
ประกายแวววาว
ที่นี่คือถ้ำพำนักของผูที่ถูกเรียกวาทานเปากวง ซึ่งเขารูมาจากการใชเคล็ดวิชา
คนวิญญาณ
ทานผูนี้เปนแคอสูรปศาจระดับแปดที่เพิ่งแปลงกายเทานั้น พัดหลงมาจากที่อื่น
เมื่อสองรอยป ก อน และไดกินอสูรทะเลระดั บต่ ำและกลางรอบๆ ไปเจ็ดแปดตั ว
แลวถึงอาศัยอยูที่นี่
พวกอสูรนอยหัววัวที่อยูบนเกาะเคยแลกเปลี่ยนสมุนไพรกับปศาจตนนี้ ถึงได
พยายามสรางความสัมพันธไมตรี ดังนั้นจึงไมอาจโจมตีถ้ำพำนักของหานลี่โดยลำพังได
ถึงไดคิดจะอาศัยแมลงผลึกกระดูกทองมาใชพลังของปศาจตนนี้
แนนอนวาเปนเพราะเหลาอสูรนอยคาดการณพลังยุทธที่แทจริงของหานลี่ผิด
คิดวามากสุดก็คงเปนผูบำเพ็ญเพียรระดับกอกำเนิด ถึงไดทำเชนนี้ มิเชนนั้นคงไมอาจ
ทำเรื่องที่ไมไดรับประโยชนเชนนี้
หานลี่ไมไดชักชานัก มือหนึ่งพลิกฝามือ ยื่นมือสีดำเปลงประกายออกมาจกแขนเสื้อ
กดที่ไปกลุมปะการังดานลางอยางชาๆ
เสี ย ง “ตู ม ๆๆ” ดั ง ขึ ้ น บนฝ า มื อมี เ งาภู เ ขาลวงตาปรากฎขึ ้ น ขยายใหญ ขึ้ น
ทามกลางลำแสงสีเทา กลายเปนของจริงกดลงมาที่ดานลาง
ภายใตการกระตุนดวยพลังลมปราณทั้งหมดของหานลี่ ชั่วครูภูเขาเทวะดุดปราณ
ก็ขยายใหญขึ้นจนมีขนาดพันจั้งเศษ ตรงตีนเขามีลำแสงเทวะดูดปราณแผออกมา
และหมุนวน ปกคลุมผิวน้ำในระยะสองสามหมูเอาไว
ตอนที่ 1408 เนินหิน
ภูเขายักษไมทันไดกระทบกับปะการัง ก็แผดเสียงดังสนั่นขึ้น
ทุกแหงที่ลำแสงสีเทากวาดผานไป หินโสโครกทั้งหมดก็จะทยอยกันสั่นเทาแลว
กลายเป น ผุ ย ผง น้ ำ ทะเลรอบๆ เกิ ด ระลอกคลื ่ น ขึ ้ น ท า มกลางแรงกดมหาศาล
คลื่นยักษสูงรอยจั้งเปนสายๆ กอตัวขึ้น และทะลักออกมาจากทั้งสี่ดาน
หานลี ่ ก  อ เรื ่ อ งใหญ โตเช น นี ้ แน น อนว า ต อ งกระทบกั บ ถ้ ำ พำนั ก ที ่ ซ  อ นอยู
ใตปะการัง
ชั่วครูผิวน้ำในบริเวณรอบก็แยกตัวออก ฉับพลันนั้นก็มีไอปศาจสองกลุมสีแดง
หนึ่งกลุมและสีฟาหนึ่งกลุมบินออกมา ไอปศาจหนึ่งในนั้นมีเสียงกนดาดังขึ้น
“ผูใด กลาสรางความวุนวายหนาถ้ำพำนักของพวกเรา ไมรูวานี่คือที่พักของ
ทานเปากวงหรือ?” หานลี่ไดยินก็ไมไดปริปาก แคใชนิ้วชี้ไปที่ภูเขายักษดานลางอยาง
สบายๆ
ลำแสงสีเทาใตภูเขายักษหมุนวน เปลงแสงสวางวาบคาดไมถึงวาจะมวนเอา
ไอปศาจทั้งสองเขาไปขางใน
หลังจากที่ลำแสงนั้นเปลงแสงสองสามครั้ง ดานในก็มีเสียงกรีดรองสองเสียง
ดั ง ออกมา ป ศ าจที ่ อยู ใ นไอป ศ าจทั ้ ง สองระเบิ ด ออกจากลำแสงสีเทา กลายเป น
ฝนโลหิตแลวหายวับไปอยางไรรองรอย
แคอสูรทะเลระดับหกสองตน หานลี่ขี้เกียจจะไปสนใจพวกมัน
ครูตอมาในที่สุดภูเขายักษก็โจมตีไปยังผิวน้ำ
ชั่วขณะนั้นระลอกคลื่นยักษเสนผาศูนยกลางสองสามลี้กฎปรากำขึ้นทามกลาง
พลังลำแสงเทวะดูดปราณที่บิดเบี้ยว น้ำทะเลรอบดานหมุนวนอยางรวดเร็วราวกับ
ปศาจรายคำราม ชั่วขณะนั้นน้ำทะเลรอบๆ พลันถูกกวนจนกลับหัวกลับหาง
ตรงกนทะเลลึกกุงหอยปูปลาจำนวนนับไมถวนหนีไปรอบทิศทางดวยความลนลาน
หนึ่งในนั้นมีอสูรทะเลนิรนามความยาวไมถึงจั้งสิบกวาตัวรวมอยูดวย
หานลี่กระตุนอานุภาพของภูเขาเทวะดูดปราณอยางตามอำเภอใจ ในที่สุดก็ทำให
ใตผิวน้ำมีเสียงคำรามดวยความโกรธเกรี้ยวดังขึ้น ตรงขอบของระลอกคลื่นมีไอสีดำ
หาสายพุงออกมา ไอสีดำที่เปนผูนำหมุนวน เผยรางของชายรางใหญสูงสงาบนหัวมี
เนื้องอกคนหนึง่ ออกมา สวมเกราะกระดูกสีฟา มือหนึ่งคอนสีดำคูหนึ่งเอาไว
หานลี่เห็นเชนนั้นมุมปากพลันเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา ไมรอใหอีกฝายเอยปาก
กระตุนภูเขาเทวะดูดปราณอีก
ชั่วขณะนั้นภูเขายักษสูงพันจั้งพลันสั่นเทา หายวับไปจากที่เดิม และแทบจะ
ในเวลาเดียวกันนั้น ชายรางใหญสวมชุดเกราะสีฟาก็รูสึกเพียงวาเหนือหัวเปนสีดำ
เงยหนาขึ้นดวยใจที่หายวาบ เห็นเพียงความดำมะเมื่อมเขาสูครรลองสายตา กดทับ
ลงมา ภูเขาเทวะดูดปราณปรากฎขึ้นเหนือหัวของพวกเขา กำลังกดลงมาอยางรุนแรง
ไมรอใหเขาใกลพวกเขา วายุยักษกลุมหนึ่งก็พัดเขามาจนทำใหเขายืนอยางมั่นคง
ไมไหว
ชายรางใหญหนาถอดสี แมกระทั่งไมสนใจมองหานลี่สักแวบ รีบรอนโยนคอน
ในมื อทั ้ ง สองไปทางภู เ ขายั ก ษ หมุ น คว า งไปทางพื ้ น ชั ่ ว ขณะนั ้ น พลั น กลายเปน
มังกรวารีสีฟายาวสิบจั้งเศษตัวหนึ่ง เปลงแสงสวางวาบแลวหนีไป
เสียง “ปงๆ” ดังสนั่นขึ้น แมนวาคอนสีดำทั้งสองจะกลายเปนคอนยักษขนาด
สองสามจั ้ง แต ภ ู เขาน อยทุก ไปที ่ภ ูเขานอยกลับ ไมอาจทำอัน ตรายได เลยสักนิด
หลังจากที่ลำแสงสีเทามวนวนไป คอนทั้งสองก็สูญเสียการควบคุมรวงลงสูพื้น
สวนมังกรวารีตัวนั้นก็ไมอาจหนีไปไหนไดเชนกัน เพิ่งจะบินออกมาไดสามสิบจั้งเศษ
ลำแสงสี เ ทาสายหนึ ่ ง ก็ เ ปล ง แสงสว า งวาบเช น กั น ร า งของมั ง กรสี ฟ  า สั ่ น เทา
ไมอาจเคลื่อนไหวไดเลยสักนิด
ครานี้หานลี่พลันชี้ไปที่ภูเขายักษอีกครั้งดวยใบหนาที่ไรความรูสึก
ภูเขายักษที่อยูกลางอากาศหมุนควาง พลังมหาศาลไรรูปรางกลุมหนึ่งปรากฎขึ้น
ที่ตีนเขาทันที มังกรวารีสีฟาที่อยูในลำแสงสีเทาทำไดเพียงรองคำรามดวยความ
หวาดผวาออกมา ร า งกายถู ก พลัง มหาศาลกดจนกลายเป น ซอสเนื ้ อ เหลื อ เพียง
หัวมังกรวารีขนาดใหญที่ไมเปนอะไร
แมนวารางของมังกรวารีจะแข็งแกรงจัดอยูในอันดับแรกๆ ในอสูรปศาจทั้งหมด
แตมังกรวารีทะเลระดับแปดตัวหนึ่งจะตานทานพลังของภูเขาเทวะสวรรคไดอยางไร
มังกรวารีตัวนี้ไมทันไดมองเห็นใบหนาของหานลี่ใหชัดเจน ก็ถูกทำลายกายเนื้อไป
แต โชคดี ท ี ่ ย ั ง เหลื อจิ ต วิ ญ ญาณดั ้ ง เดิ ม ของหั ว มั ง กรวารี กลั บ ไม ร ู  ว  า สำแดง
ความสามารถอะไร หัวมังกรวารีจึงกลายเปนลำแสงสีฟาเจิดจากลุมหนึ่ง คาดไมถึงวา
จะดิ้นรนหนีออกจากพันธนาการของลำแสงสีเทา และพยายามหนีออกไป
ในตอนนั้นเองวิหคเพลิงสีเงินตัวหนึ่งก็เปลงเสียงคำรามดังสนั่นฟา ความเร็วแค
กระพริบวาบก็มาปะทะกับหัวของมังกรวารี
เสียงกรีดรองอันนาอนาถดังขึ้นอีกครั้ง มังกรวารีสีเขียวตัวหนึ่งหนีออกมาจาก
หัวของมังกรวารี แตเมื่อเปลวเพลิงสีเงินเปลงแสงสวางวาบก็หายวับไป เหลือเพียง
หัวมังกรหัวหนึ่ง ลอยนิ่งอยูกลางอากาศ
แนนอนวานี่เปนเพราะหานลี่คิดจะควบคุมเพลิงกลืนวิญญาณ เก็บรักษาผลลัพธเอาไว
สวนอสูรทะเลในไอสีดำอีกสี่ตัว ชั่วพริบตาที่ภูเขายักษเคลื่อนไหว ก็กลายเปน
หมอกโลหิตโดยไมมีแรงจะตานทานเลยสักนิด แมแตจิตวิญญาณบริสุทธิ์ก็ยังไมอาจ
หลบหลีกไดเลยสักนิด
หานลี่เห็นปศาจทั้งหาถูกสังหารในรวดเดียว ก็กวักมือเรียกพรอมรอยยิ้มจางๆ
หัวมังกรวารีตนนั้นพุงเขามาในทันที ถูกดูดเขามาอยูในมือขางหนึ่ง
นิ้วทั้งหากางออกถือหัวมังกรวารีขนาดยักษเอาไว
หลังจากที่หรี่ตาทั้งสองขางลงพิจารณาเล็กนอย ลำแสงสีขาวพลันเปลงแสงสวางจา
หัวมังกรวารีสลายหายไป ถูกเก็บเขาไปในกำไลเก็บของ
มือสีดำตบไปทางกลางอากาศดานภูเขายักษ หลังจากที่ภูเขาเทวะดูดปราณพันจั้ง
เลือนรางลงก็กลายเปนเงาลวงตา สุดทายก็สลายหายไปจากกลางอากาศ
หานลี่เก็บภูเขายักษสะบัดแขนเสื้อคิดจะหันกายจากไป
แตเมื่อกวาดสายตาไปยังระลอกคลื่นที่ยังไมหายไปดานลาง หลังจากลังเลเล็กนอย ก็
เปลี่ยนความคิด
รอบกายของเขาเปลงแสงสีเขียวออกมา กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงเขา
ไปในระลอกคลื่น
ทุกแหงที่สายรุงสีเขียวกวาดผานไป ผิวน้ำทั้งหมดพลันแยกออกโดยอัตโนมัติ
หลังจากที่ผานไปเพียงชั่วครู ก็ปรากฎดานหนาภูเขานอยใตทะเลใตกลุมปะการัง
หานลี่มองไปยังภูเขาลูกนี้แวบหนึ่ง รายนิ้วไปทางสันเขาของภูเขาลูกนี้ กระบี่ลำแสง
สีทองสายหนึ่งพุงออกไป เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายไปอยางไรรองรอย
หลังจากเสียง “ปง” ดังขึ้น ลำแสงสีทองและฟาสองสีระเบิดออก ทันใดนั้น
ลำแสงสีฟาอีกชั้นหนึ่งพลันปรากฎขึ้น แตหลังจากเปลงแสงสวางวาบก็ระเบิดออกเปน
เสี่ยงๆ
เนินเขามีประตูปะการังสีขาวบานหนึ่งปรากฎขึ้น
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา ในนี้นาจะเปนถ้ำพำนักของทานเปากวง
ไอกระบี่สายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบพุงผานไป
ทันใดนั้นประตูปะการังที่อยูในลำแสงสีทองพลันกลายเปนผุยผง น้ำทะเลดานใน
วางเปลา เผยทางเดินสีเขียวสายหนึ่งออกมา
หานลี่แววตาเปลงประกาย รางกายพลิ้วไหวเดินเขาไป
ทางเดินนี้ทอดตัวยาวมาก มีความยาวเกือบรอยจั้ง
เมื ่ อหานลี ่ ป รากฎตั ว ที ่ ห  องโถงห องหนึ ่ ง ตรงสุ ด ทางเดิ น นั ้ น เบื ้ องหน า กลั บ
เปลงประกาย
เห็นเพียงหองโถงกวางหาสิบหกสิบจั้ง วิจิตรงดงามเปนอยางมาก บนพื้นลวนเปน
หยกงามสีขาวบริสุทธิ์ และยิ่งไปกวานั้นทุกๆ สองสามจั้ง กำแพงทั้งสี่ดานจะมีไขมุก
ราตรีกระจางขนาดเทาหัวแมมือเม็ดหนึ่งฝงอยูพลางเปลงแสงเรืองๆ ตรงเพดานของ
ห อ งโถงมี ป ะการั ง สี แ ดงสดราวกั บ เปลวเพลิ ง แขวนอยู  แผ ค วามอบอุ  น ออกมา
ทำใหความชื้นภายในหองโถงถูกกำจัดไปจนเกลี้ยง หานลี่กวาดสายตามองไปมาดวย
ความประหลาดใจ กลับตกลงตรงเนินหินสีเทาขาวที่มุมหองโถง
สิ่งนี้ดูหยาบๆ ราวกับเปนแคกอนหินธรรมดาๆ หากไมใชเพราะเบื้องหนามีโตะหยกที่
วิจิตรงงามวางอยูตัวหนึ่ง เกรงวาก็คงคิดวามันเปนกอนหินแบนๆ กอนหนึ่งเทานั้น
แตในหองโถงอันโออาขนาดนี้ ของทั้งหมดลวนเปลงแสงระยิบระยับออกมา มีเพียง
เนินหินที่ไมสะดุดตาขนาดนี้ มันแปลกไปหนอยกระมัง
หานลี่เอียงหัวครุนคิด มือหนึ่งตะปบไปทางเกาอี้หิน คิดจะดูดของสิ่งนั้นเขามา
พิจารณาอยางละเอียด
แตฉากที่เกินความคาดหมายพลันปรากฎขึ้น
ภายใตพลังแรงดูดมหาศาลที่เขาสรางขึ้น เกาอี้หินตัวนี้ไมขยับเลยแมแตนอย
หานลี่ใจหายวาบ ขบคิดในใจ เดินไปเบื้องหนาอยางชาๆ ยื่นนิ้วนิ้วหนึ่งลูบไปที่เนินหิน
ความเย็นเยียบกลุมหนึ่งแลนผานนิ้วมือขึ้นมายังทอนแขน หานลี่ไมทันไดดึงนิ้วออก
ความรอนฉาอีกกลุมหนึ่งไลตามมา
หานลี่พลันตะลึงงัน
กดทั ้ ง ฝ า มื อ ไปบนเนิ น หิ น เสี ย เลย รู  ส ี เ พี ย งว า ความเย็ น และร อ นสองขั ้ ว ที่
ไมเหมือนกันสงสลับไปกันมา จากนั้นแขนของเขาก็รูสึกอุนขึ้น ทำใหเขารูสึกสบาย
ใชจิตสัมผัสมองไปที่แขน ก็ไมพบความผิดปกติใดๆ
หานลี่ขมวดคิ้วลำแสงสีทองบนรางเปลงแสงเจิดจา นิ้วทั้งหาออกแรงคิดจะควา
เนินหินสูงสองสามฉื่อเอาไว
แตเห็นเพียงนิ้วทั้งหามีลำแสงสีทองเจิดจา แทบจะบดบังเนินหินทั้งกองเอาไว
แตสิ่งนี้ก็ยังคงไมขยับเลยสักนิดราวกับฝงรากลงไปใตดิน
ในที่สุดหานลี่ก็รูสึกตกตะลึงไปเล็กนอย!
เขาไม ท ั น ต อ งขบคิ ด อี ก มื อ หนึ ่ ง มั น วางไปบนเนิ น หิ น มื อ ทั ้ ง สองมี ล ำแสง
ประหลาดไหลเวียนไปมาพรอมกัน ขางหนึ่งกายเปนสีดำเป นมัน วาว อีกมือหนึ่ ง
กลายเปนสีขาวบริสุทธิ์
แขนทั้งสองขางพลิ้วไหวรางของหานลี่เปลงเสียงระเบิดราวกับไมไผระเบิดดังออกมา
ในเวลาเดียวกันพลังมหาศาลที่นาเหลือเชื่อกลุมหนึ่งพลันทะลักออกมา สงผลไปถึง
เนินหิน
เสียงตูมๆ ดังสนั่นขึ้น ทั้งหองโถงสั่นเทาอยางแรง ในที่สุดเนินหินก็พลิ้วไหว
แตทันใดนั้นก็กลับคืนตำแหนงเดิม แตจากใจกลางของเนินหิน พื้นดินทั้งหองโถงแตก
ออกเปนสายๆ จำนวนนับไมถวน ทันใดนั้นแยกออกคาตาของหานลี่ อิฐหยกรอบๆ
ตางสั่นเทาแตกออกเปนผุยผง เผยพื้นดินหยาบๆ สีดำที่อยูดานลางออกมา
“แกนเหล็กทมิฬ”
หานลี ่ ม องปราดเดี ย วก็ ร ู  ค วามเป น มาของพื ้ น ดิ น สี ด ำ ใบหน า จึ ง เผยสี ห น า
ประหลาดใจออกมา แตทันใดนั้นเขาก็ชักสายตากลับมา จองเขม็งไปยังเนินหินที่
ไมสะดุดตาเบื้องหนาดวยแววตาเปลงประกายอีกครั้ง
เนินหินในครานี้คาดไมถึงวาจะมีครึ่งหนึ่งที่จมหายเขาไปใตดินสีดำ ราวกับวา
ฝงอยูในนั้นตามธรรมชาติ
หานลี่พนลมหายใจยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่ง
สิ่งนี้ไมใชของธรรมดาอยางแนนอน ไมตองพูดถึงสิ่งอื่น แคน้ำหนักของของสิ่งนี้ก็
เปนสิ่งที่เขาไมเคยเห็นมาทั้งชีวิตแลว
ถึงแมวาเมื่อครูเขาจะไมไดใชเคล็ดวิชามารเที่ยงแทพราหมณศักดิ์สิทธิ์ แตแค
ความแข็งแกรงของกายเนื้อและคาถารอยชีพจรหลอมสมบัติ ก็ไมอาจเคลื่อนยาย
เนินหินได เจาสิ่งนี้หนักเปนลานชั่งแน
หากเขาจำไมผิดละก็ วัตถุดิบที่หนักในบรรดาวัตถุดิบล้ำคาทั้งหมด ดูเหมือนวาจะ
เปนทองหนักทมิฬสวรรค ทองหนักทมิฬสวรรคขนาดเทาเล็บมือกอนหนึ่ง ก็เพียงพอ
จะทำใหชายรางใหญรางกายกำยำฟุบหมอบลงกับพื้นแลว
แมนวาจะไมอาจตรวจสอบน้ำหนักของเนินหินใหละเอียดได แตดูจากขนาดของมัน
เกรงวาคงหนั กไมแพท องคำทองคำหนักทมิ ฬสวรรค แมกระทั่งอาจจะหนั ก กว า
เทาหนึ่ง
ความคิดเคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว แตการทดสอบในมือกลับไมมีทาทีจะหยุดเลยสักนิด
เห็นเพียงลำแสงสีทองพลันสวางวาบ ไอกระบี่สายหนึ่งสับลงมา
หลังจากเสียง “สวบ” ดังขึ้น ไอกระบี่บนผิวของเนินหินก็สลายหายไป ไมมีผล
อะไรเลยสักนิด
หานลี่ไมไดรูสึกแปลกใจ ของสิ่งนี้มหัศจรรยเปนอยางมาก หากแมแตไอกระบี่
สายหนึ่งของเขาก็ยังไมอาจตานทานได เกรงวาก็คงทำใหเขาผิดหวังแลว
แตดวยเหตุนี้ความอยากรูอยากเห็นของเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
พลิกฝามือมือหนึ่งกระบี่นอยยาวสองสามชุนเลมหนึ่งปรากฎขึ้น แตเมื่อลำแสงสีทอง
เปลงแสงเจิดจาออกมา กลับกลายเปนกระบี่ยาวสีทองขนาดสองสามฉื่อ
หานลี่ใชมือหนึ่งถือกระบี่ สับลงมาที่เนินหินอยางไมลังเลเลยสักนิด
ตอนที่ 1409 กลายพันธุ
เสียงดังสนั่นยิ่งกวาเดิมดังขึ้น ลำแสงสีทองจำนวนนับไมถวนระเบิดออกมาจาก
เนินหิน
แตหานลี่แคหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย หลังจากที่เก็บกระบี่ยาวในมือ เนินหินก็
ปรากฎขึ้นโดยไมไดรับความเสียหายอีกครั้ง
คาดไมถึงวากระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆาที่แหลมคมเปนพิเศษจะไมอาจทำอันตราย
ของสิ่งนี้ไดเลยสักนิด
แววตาของหานลี่เปลงประกาย สะบัดแขนเสื้อไปทางเนินหิน ลูกบอลเพลิงสีเงิน
กลุมหนึ่งบินออกมา
หลังจากเสียงสวบดังขึ้นเบาๆ เปลวเพลิงสีเงินก็หอหุมเนินหินเอาไว และเปลงเสียง
แปะๆ จากการที่สะเก็ดไฟดีดตัวออกมา
แตเนินหินยังนอนนิ่งอยูตรงนั้น ยังคงไมมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
แตเมื่อหานลี่กวาดจิตสัมผัสไปที่ผิวของเนินหิน ใบหนากลับเผยสีหนายินดีออกมา
เขาเองก็ไมไดไปที่อื่น แตตรงไปนั่งสมาธิลงดานขางเนินหิน สองมือพลันรายอาคม
กระตุนเพลิงกลืนวิญญาณใหหลอมละลายสิ่งนั้นตอ
ตรงกลางระหวางฝามือทั้งสอง พลังลมปราณบริสุทธิ์สีเขียวกลุมหนึ่งใสลงไปใน
เปลวเพลิงสีเงินไมหยุด
เชนนั้นวันเวลาคอยๆ ไหลผานไป ผานไปหนึ่งวันหนึ่งคืน
ฉับพลันนั้นหานลี่ก็รองคำรามต่ำๆ ออกมา เปลวเพลิงสีเงินก็กลับคืนรา งเดิม
กลายเปนวิหคเพลิงตัวหนึ่งบินกลับมา หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง ก็จมหายเขาไปใน
แขนเสื้ออยางไรรองรอย
และในตอนนั้นเองหานลี่พลันยืนขึ้น ไปอยูที่หนาหินอีกครั้ง พลางพิจารณาอยาง
ละเอียด
หากมองผานๆ เนินหินก็ดูเหมือนวาจะเหมือนกั บก อนหนา อยางไรอย า งนั้ น
ไมมีความเปลี่ยนแปลง แตภายใตแววตาสีฟาที่เปลงประกายของหานลี่ ผิวของมัน
มีรอยแตกอยูเล็กนอย แตรอยแตกนั้นแทบจะไมอาจแยกแยะไดดวยตาเนื้อ
จากการคาดเดาของเขา หากตองละลายของสิ่งนี้จริงๆ ไมใชเวลาสักยี่สิบสามสิบป ก็
ไมมีทางเปนไปได
แตหานลี่กลับไมโกรธแตกลับดีใจขึ้นมา!
สำหรับผูที่ฝกบำเพ็ญเพียรอยางพวกเขา เวลายี่สิบสามสิบปนั้นเปนเวลาที่ไมมีคาอะไร
แตของสิ่งนี้กลับพิเศษมาก ตองเปนสมบัติวิเศษชิ้นหนึ่งแน
ไมรูวาทานเปากวงผูนั้นพบเจาสิงนี้ไดอยางไร จากความสามารถของเขาแนนอน
วาคงไมมีทางทำอะไรเนินหินนี้ไดเลยสักนิด กวาครึ่งคงเอาของสิ่งนี้เปนศูนยกลาง เปด
ถ้ำพำนักที่นี่ หมายวาวันขางหนาคอยจัดการกับสมบัติชิ้นนี้
ชั่วพริบตาหานลี่ก็เดาการกระทำในตอนแรกของมังกรวารีสีฟาตัวนั้นไดเจ็ดแปดสวน
ทวาจะพกเจาสิ่งนี้ไปก็ยุงยากจริงๆ
ถึงอยางไรเสียของสิ่งนี้ก็หนักถึงเพียงนี้ เก็บเขาไปในกำไลเก็บของ เกรงวาคงกด
หวงมิติเวลาของชองเก็บของจนระเบิด มีเพียงตองแบกของสิ่งนี้ไปดวยกายเนื้อแลว
สวนเขานั้นตอใหใชเคล็ดวิชามารเที่ยงแทพราหมณศักดิ์สิทธิ์ ครั้งหนึ่งก็รับ
น้ำหนักของมันไดเพียงหนึ่งในสามสวนเทานั้น มิเชนนั้นแมแตลำแสงหลีกหนีก็ไมอาจ
ขับเคลื่อนได
หานลี่มองกอนหินพลางขบคิดอยูนาน
สะบัดแขนเสื้อเสียงหึ่งๆ ดังขึ้น สะเก็ดไฟสีทองสองกลุมบินออกมาจากแขนเสื้อ
หลังจากหมุนวนรอบหนึ่ง ก็กลายเปนแมลงเกราะทองขนาดเทาหัวแมมือสองตัว
นั่นก็คือ แมลงกลืนทองโตเต็มวัย
ปากเปลงเสียงรองแหลมๆ ออกมา แมลงกลืนทองบินออกมาจากเนินหินในทันที
เริ่มบินลงไปดานลางจากทิศทางที่แตกตางกันสองทิศทาง
หานลี่มองการเคลื่อนไหวของแมลงกลืนทองดวยดวงตาที่ไมกะพริบ
แมนวาแมลงกลืนทองจะไดเชื่อวาไมมีสิ่งใดที่ไมกลืนกิน แตเนินหินที่มหัศจรรยเชนนี้
เขาก็ไมมั่นใจนักวาแมลงเหลานี้จะไดผลเชนกัน
แตครูตอมาใจของหานลี่พลันเตนตึกตักและปลิวออกไป
แมนวาแมลงกลืนทองจะกลืนกินอยางเชื่องชา แตหลังจากผานไปชั่วครู รูเล็กๆ
สองรูก็ปรากฎขึ้นบนเนินหิน
กลืนกินเจาสิ่งนี้ไดเชนกันดังคาด
หานลี่รูสึกดีอกดีใจในใจ
แตครูตอมาฉับพลันนั้นแมลงกลืนทองสองตัวก็กะพรือปก เสียง “ตึงๆ” ดังจาก
ดานบนเนินหินลงไปสูดานลาง เสียงของหนักๆ ตกลงสูพื้นดังขึ้น
หานลี่พลันตะลึงงัน
หลังจากผานไปชั่วครูเขาถึงไดยกมือขึ้น ลำแสงสีทองเปลงประกาย ดูดแมลงกลืนทอง
ตัวหนึ่งเขามาอยูในมือ
ผลคืออพบวาแมลงกลืนทองที่เขามาอยูในมือนั้นหนักอึ้ง หนักกวาน้ำหนักของ
แมลงวิญญาณปกติ
หานลี่ยนคิ้ว ปดสีหนาตกตะลึงเอาไวไมมิด
แตโชคดีที่นอกจากแมลงตัวนี้จะหนักเกินไปหนอยแลว ทุกอยางก็ดูปกติม าก
ปกทั้งสองและแขนขายังคงสั่นเทาไมหยุด
หานลี่จับจองแมลงตัวนี้ ขบคิดเล็กนอย แลวเขาใจวาเกิดอะไรขึ้น
เห็นไดชัดถึงความมหัศจรรยของวัตถุดิบของเนินหินนี้ แมนวาแมลงกลืนทองจะ
ไมอาจกำจัดไปไดในทันที ดังนั้นจำนวนที่กลืนกืนไปครั้งหนึ่ง ก็มากกวาขีดจำกัดแลว
ดูแลวคงตองระอีกสักระยะหนึ่ง ถึงจะฟนฟูกลับมาเปนปกติได
หลังจากเขาใจวาเกิดอะไรขึ้นแลว หานลี่ก็เก็บแมลงกลืนทองสองตัวกลับไป แต
ในแขนเสื้อกลับมีแมลงวิญญาณอีกสองตัวบินออกมา
กัดกินเชนกัน หลังจากผานไปชั่วครู แมลงกลืนทองทั้งสองก็ไมอาจรับน้ำหนักของ
ตนเองไวรวงลงสูพื้นเชนกัน ถูกหานลี่เก็บเขาไปอีกครั้ง
แตครั้งตอไปสิ่งที่บินออกมาจากแขนเสื้อกลับเปนดวงไฟสี่ดวง…
หลังจากผานไปครึ่งวัน หลังจากที่แมลงกลืนทองนับพันตัวถูกปลอยออกมาและ
เก็บกับไปตามลำดับแลว ในที่สุดเนินหินเบื้องหนาก็ถูกแมลงกลืนทองกลืนกินลงไป
ประมาณหนึ่งในสิบสวน แตดวยเหตุนี้ก็ทำใหถูกแบงออกเปนสามกอน
มองกอนหินที่มีขนาดพอๆ กับสามกอน หานลี่พลันพยักหนาดวยความพึงพอใจ
สองมื อพลั นร ายอาคม ลำแสงสี ทองเปลง แสงเจิ ดจา บนรา งอี ก ครั ้ ง ในเวลา
เดียวกันลำแสงสีทองที่แผนหลังพลันปรากฎอกอมา ชั่วพริบตาก็กลายเปนเงาลวงตา
สีทองสามหัวหกแขน
สิงอยูกับรางของหานลี่ แขนทั้งสองขางออกแรงอีกครั้ง ในที่สุดก็อุมขึ้นมาไดกอนหนึ่ง
แมนวาจะดูเหมือนภูเขานอยลูกหนึ่งทับรางอยู แตน้ำหนักแคนี้ ก็พอจะใหเขา
สำแดงลำแสงหลีกหนีจากไปไดแลว
มุมปากของหานลี่กระตุก แตกลับวางของในมือลง คนกลับตรวจสอบถ้ำพำนักที่
เหลืออยางละเอียดรอบหนึ่ง ดูวามีอะไรที่ทำใหเขาตกตะลึงระคนดีใจอีกหรือไม
ผลคือนอกจากวัตถุดิบและศิลาวิญญาณที่มีแตในทะเลแลว ก็ไมไดมีของสิ่งใด
ดึงดูดความสนใจของเขาไดอีก
หานลี่เองก็ไมไดสิ้นหวังอะไร หลังจากมวนเอาของทุกอยางมาแลว ก็กลับไปยัง
หองโถง
ครั้งนี้เขานำกอนหินสองกอน แยกกันไปวางไวในสถานที่ลับในถ้ำพำนัก จากนั้น
หลังจากวางเขตอาคมลวงตาซอนพวกมันแลว
จากนั้นเขาก็อุมกอนหินกอนสุดทายบินออกจากประตูของถ้ำพำนัก
เมื่อหานลี่มาปรากฎตัวเหนือมหาสมุทรอีกครั้ง ลำแสงวิญญาณที่แผนหลังพลัน
สวางวาบ เงาลวงตาวิหคสีเขียวและหงสหลากสีพลันเปลงแสงสวางวาบ ปกวายุอัสนี
ปรากฎออกมา
สองปกกระพือออก เขากลายเปนเสนผลึกสายหนึ่งพุงออกไป เปลงแสงสวางวาบ
แลวหายไปจากขอบฟา
ของในมือหนักถึงเพียงนอย แมนวาจะใชความเร็วสูงสุดของปกวายุอัสนี แตหานลี่ก็
ยังคงบินไปไดส องสามชั่ วยาม ก็จำใจตองหยุดฟ นฟูพลังลมปราณ จากนั้นถึ ง ได
เรงเดินทางตอได
หลังจากผานไปสามวัน หานลี่ก็กลับมายังถ้ำพำนักในภูเขาเฮยอิ่นอีกครั้ง วาง
กอนหินนั้นลงในหองลับโดยไมปริปากใดๆ
สองวันที่เหลือหานลี่ก็ไมไดรีบรอนออกจากถ้ำพำนักอีกในทันที แคเริ่มหาวิธีการอื่น
ตรวจสอบกอนหินกอนนั้นอยูภายในหองลับ
ผลคือวัตถุดิบชิ้นนี้แข็งแกรงอยางไรที่เปรียบ ไมวาจะเปนการแชแข็ง การใชอัสนีจูโจม
ไอมารกลืนกินตางก็ไมอาจทำอันตรายมันได สวนการเผาไหมดวยเปลวเพลิงนั้ น
นอกจากเพลิงกลืนวิญญาณแลว เปลวเพลิงอื่นๆ รวมทั้งเพลิงทารกวิญญาณของเขา
ก็ไมอาจละลายกอนหินกอนนี้ไดเลยสักนิด
แนนอนวาเพลิงกลืนวิญญาณมีผลตอกอนหินกอนนี้เพียงเล็กนอยเทานั้น
นี่คือวัตถุดิบในการหลอมสมบัติปองกันตัวระดับสุดยอดที่ยอดเยี่ยมที่สุด แตจาก
น้ำหนักของมัน หากนำไปหลอมสมบัติโจมตีเชนภูเขาเทวะดูดปราณ ก็ดูเหมือนวาจะ
มีอานุภาพที่นาตกตะลึงเชนกัน
หลังจากทดสอบทุกอยางไปรอบหนึ่ง หานลี่ก็ขบคิดเชนนี้ในทันที สวนจะจัดการ
อยางไรนั้น แนนอนวาจำตองขบคิดอยางละเอียดอีกรอบหนึ่ง
แตเมื่อหานลี่ใจเตน ฉับพลันนั้นพลันตรวจสอบแมลงวิญญาณที่กินวัตถุดิบชนิดนี้
เขาไปเดิมทีนอนอยูในแหวนเก็บอสูรวิญญาณเล็กนอย
เขาอดที่จะตะลึงงันไมได
แมลงกลืนทองโตเต็มวัยเกือบพันตัวเขาสูภวังคแหงการหลับลึกตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู
ทาทางเหมือนจะพัฒนาระดับขั้น
แมลงกลืนทองของเขาโตเต็มวัยแลว หากพัฒนาอีกขั้นละก็ ดูเหมือนวาจะมีแต
ตองกลายพันธุแลว
หานลี่พลันรูสึกยินดีเปนอยางยิ่ง
แตเชนนั้นการนำหินวิเศษนี้ไปใชทำอะไร ก็ดูเหมือนจะยากที่จะเปนเรื่องที่เลือกยาก
หลังจากลังเลอยูครึ่งวัน สุดทายหานลี่ก็ตัดสินวาจะรอดูกอนวาแมลงกลืนทอง
เหลานี้พัฒนาแปลงกายเปนสิ่งใด แลวคอยขบคิดเรื่องนี้อีกครั้ง
เวลาสองวันจึงผานไปในชั่วพริบตา
วันที่สามก็คือวันที่หานลี่และพวกอสูรนอยหัววัวนัดกับครบเจ็ดวันพอดี
ผลคือเชาตรูวันนั้น ไมเพียงปศาจทั้งสองที่มาถึงถ้ำพำนักของเขา วานรยักษขนสีทอง
และพวกหมูปายักษก็มาปรากฎตัวเชนกัน
ปศาจเหลานี้มองลำแสงสีเขียวดานนอกถ้ำพำนักของหานลี่ แววตาหวาดกลัว
ลวนยืนรออยางเงียบๆ ไมกลาสงเสียงเอะอะโวยวายเลยสักนิด
รอจนเกือบเที ่ย งวั น ลำแสงสีเขียวที่ถ ูก เหมื อนฟองน้ำ ก็ทยอยกั นสลายออก
เผยประตูหินยักษสูงยี่สิบจั้งเศษออกมา
หลังจากเสียง “ครืน” ดังขึ้น ประตูหินก็เปดออกโดยอัตโนมัติ เผยทางเดินลำแสง
สีขาวนวลสายหนึ่งออกมา
“เขามาเถิด!” เสียงราบเรียบดังขึ้นจากดานในทางเดิน
ปศาจสองสามตนพลันใจหายวาบ แตก็ไมกลาฝาฝนทยอยกันเดินเขาไปในทางเดิน
แนนอนวานอกจากอสูรนอยหัววัวแลว ปศาจที่เหลือก็ตองหดตัวเล็กลงสองสามเทา
ถึงจะเขาประตูหินไปได
หลังจากผานไปชั่วครู ในหองโถงหินที่ดูวิจิตรงดงามในถ้ำพำนัก หานลี่นั่งอยูบน
เก า อี ้ ห ิ นที ่ เ ป นจุ ด ศู นย ก ลาง พิ จ ารณาป ศ าจทั ้ ง สี ่ ต นจากที ่ ส ูง สายตามองไปยั ง
วานรยักษขนสีทองสองแวบ
เสียง “ตึง” ดังขึ้น!
หานลี ่ ไ ม รอใหเหล าป ศ าจเอย ปาก ก็ ส ะบั ด แขนเสื ้อ ของสิ ่ ง หนึ ่ ง บิ นออกมา
รอนลงบนพื้น
เห็นไดชัดวาคือหัวมังกรวารีสีฟาขนาดใหญหัวหนึ่ง
เมื่อเห็นของสิ่งนั้น อสูรนอยและเหลาปศาจพลันตะลึงงัน
“นี่คือหัวของทานเปากวง ครานี้เจาผูนั้นไดตายไปแลว การแลกเปลี่ยนเดิมที่พวกเจา
มีกับมันก็เปลาประโยชนแลว ในเมื่อพวกเจามาตามสัญญา สองสามวันที่ผานมาก็คง
ขบคิดดีแลว นำของมาดวยหรือไม” หานลี่เอยถามดวยน้ำเสียงที่ปฏิเสธไดยาก
มองหั ว มั ง กรวารี ส ี ฟ  า เรื องรองเบื ้ อ งหน า เหล า ป ศ าจมองปราดเดี ย วก็ เ ห็ น
กลิ่นอายของปศาจระดับแปดที่ยังหลงเหลืออยูบนพื้น ทุกตนลวนสั่นสะทาน
“ไหนเลยที่ชนรุนหลังจะมีทางเลือกอื่น! เหลาชนรุนหลังนำของที่ทานอาวุ โส
ต องการมาแลว ขอรับ” อสู ร น อยหั ว วั ว และอสู รที ่ เหลืออี ก สามตนมองสบตากัน
แวบหนึ่ง แลวฝนยิ้มตอบกลับ
“เยี่ยมมากดอกกระดิ่งพฤกษาที่พวกเจาตองการ ขาก็เตรียมเอาไวแลวเชนกัน
ขอแคขาพึงพอใจ ก็มอบใหพวกเจาไดทันที” หานลี่เอยอยางราบเรียบ ทันใดนั้น
มือหนึ่งก็ปดไปที่กำไลเก็บของ
หลังจากที่ลำแสงสีขาวกลุมหนึ่งเปลงแสงสวางวาบ กลองหยกขนาดยักษรูปทรง
สี่เหลี่ยมใบหนึ่งก็ปรากฎขึ้นในมือ
เปดฝากลองออก กลิ่นหอมของดอกไมที่ซึมลึกเขาไปในจิตใจก็โชยมา
ในกลองหยกมีกระดิ่งสีเหลืองทองขนาดเทาหัวแมมือเรียงอยูเต็มไปหมด ทุกดอกลวน
เปลงแสงเรืองๆ มีอยูประมาณรอยดอก
ตอนที่ 1410 ฝกฝนกระดูกทอง
เมื่อพิจารณาอยางละเอียดก็เห็นไดชัดวากระดิ่งเหลานี้แผกลิ่นไอวิญญาณไมที่
หนาแนนออกมา คาดไมถึงวาทุกดอกจะเปนดอกไมสีเหลืองทองที่มีรูปรางเหมือน
กระดิ่ง
ดูสมจริงราวกับกระดิ่งทองแดงก็ไมปาน
“มีดอกกระดิ่งพฤกษาจำนวนมากจริงๆ ดวย แถมยังมีอายุพันปขึ้นไป” เมื่อเห็น
ดอกเหลานี้ วานรยักษพลันเปลงเสียงหึ่งๆ อออกมา สีหนาเต็มไปดวยความตกตะลึง
“ดอกกระดิ่งพฤกษา พวกเจาก็เห็นแลว แมลงผลึกกระดูกทองและทรายปะการังทอง
ตัวเมียละ?” หานลี่หัวเราะดวยเสียงต่ำๆ ขณะเอยถาม
“แคนี้เกรงวาคงไมพอสินะ มีแครอยดอกเทานั้น ตามสัญญาแลวจะแลกกับแมลง
แคสิบคูเทานั้น” อสูรนอยฉายแววตาดีใจอยางบาคลั่ง แตกลับเอยดวยความเยือกเย็น
เปนอยางมาก
หานลี่ฉีกยิ้มนอยๆ โยนกลองหยกในมือไปเบื้องหนา มันลอยอยูกลางอากาศ
อีกมือหนึ่งก็พลิกฝามือ กลองหยกยาวๆ อีกกลองหนึ่งปรากฎขึ้น
ฝากลองเปดออก มีดอกกระดิ่งพฤกษาบรรจุอยูเต็มไปหมดเชนกัน
ชั่วขณะนั้นฉากนี้พลันทำใหปศาจเหลานี้ตกตะลึงจนตาคางจริงๆ
“คงพอแลวสินะ นำแมลงผลึกและทรายปะการังมาเทาไหร ก็เอาออกมาเถิด”
หานลี่จองเขม็งไปยังเหลาปศาจเบื้องหนาแลวเอยอยางราบเรียบ
หลังจากตกตะลึงเสร็จแลว เหลาอสูรปศาจก็ปรึกษากันดวยเสียงทุมต่ำ สุดทาย
อสูรนอยก็ควักสิ่งที่เหมือนผลึกแรวารีขนาดเทากำปนออกมา อสูรปศาจตนอื่นๆ
ก็หยิบน้ำเตาสีดำสนิทขนาดเทาฝามือออกมา
ชั่วพริบตาในหองโถงก็มีผลึกสิบหากอนและน้ำเตาสีดำสามผล
หานลี่ตาเปนประกาย มือหนึ่งตะปบไปทางพื้นโดยไมปริปาก
ชั่วขณะนั้นผลึกกอนหนึ่งพลันดีดออกมา ถูกดูดเขามาอยูในมือ
เขากมหนาลงพิจารณาอยางละเอียด
เห็นเพียงในความแวววาวของกอนผลึกมีแมลงนอยสีขาวนวลคูหนึง่ แชแข็งเอาไว
ขนาดสองชุน นิ่งคางราวกับวากลายเปนหิน
ชั่วพริบตาจิตสัมผัสที่แข็งแกรงก็กลายเปนเสนไหมจำนวนนับไมถวนทะลุผาน
กอนผลึกไป สงผลถึงแมลงนอยตัวหนึ่งที่อยูในนั้น
ชั่วขณะนั้นรางของแมลงนอยพลันเปลงแสงสีขาวนวลชั้นหนึ่ง ขยับเล็กนอย
คาดไมถึงวาจะพนของเหลวสีเหลืองทองออกมาจากปาก และผสมเขาไปในผลึก
ผลึกทั้งกอนพลันเปลี่ยนสี กลายเปนสีทองเรืองรอง
หานลี ่ เ ห็ น เช น นั ้ น พลั น หน า เปลี ่ ย นสี นิ ้ ว ทั ้ ง ห า ที ่ ก ำผลึ ก อยู  พ ลั น ออกแรง
ชั่วขณะนั้นพลังมหาศาลกลุมหนึ่งพลันถูกสงไปที่กอนผลึก
แตผิวของผลึกแคเปลงแสงสีทองเรืองรอง ไรซึ่งความเสียหาย
“เปนแมลงผลึกกระดูกทองจริงๆ!” หานลี่เอยพึมพำ
“ทานอาวุโสโปรดวางใจ ตอใหพวกเราอาจหาญแคไ หน ก็ไมกลาหลอกลวง
ทานอาวุโส” อสูรนอยหัววัวหัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“งั ้ นหรื อ!” หานลี ่ ต อบกลั บอย างไม ค ิด เชน นั ้น วางผลึ ก ลง อี ก มื อหนึ ่ งขยับ
ควาน้ำเตาสีดำมาผลหนึ่ง
ครานี้พลันเทเม็ดทรายสีมวงเหลืองกลุมหนึ่งออกมาจากดานใน ชั่วพริบตาก็
กองสูงขึ้นจากพื้นดินสามฉื่อ
กำมืออยางสบายๆ ในมือมีเม็ดทรายสีมวงทองกำหนึ่งปรากฎขึ้น และหยิบขึ้นมา
อยูตรงหนา
เขาเพงมองอยูนาน เททรายสีมวงทองจากในน้ำเตาสีดำอีกสองผลออกมา
“ไมเลว ทรายปะการังทองตัวเมียเหลานี้ลวนเปนของระดับสุดยอด จากน้ำหนัก
ประกอบกับแมลงผลึกสิบหาคูแลว แมนวาจะยังไมพอเมื่อเทียบกับ ดอก
กระดิ่งพฤกษาสองกลอง แตก็พอสมควร แลกกันเทานี้ก็แลวกัน” หานลี่กวาดสายตา
ไปบนพื้น แลวเอยอยางราบเรียบ
ฟงจากคำพูดของหานลี่ ปศาจทั้งสี่พลันเผยสีหนายินดีออกมา แลวพยักหนาเห็นดวย
หานลี ่ โยนกล องหยกสองใบไป อสู ร น อยและวานรยั ก ษ ข นสี ทองแบ ง กันรับ
ทันใดนั้นก็เก็บเขาไปอยางระมัดระวัง
แทบจะในเวลาเดียวกันหานลี่พลันสะบัดแขนเสื้อกวาดไปทางพื้น หลังจากที่
ลำแสงสีเขียวมวนวน ผลึกศิลาและน้ำเตาตางก็สลายหายไป
“การแลกเปลี ่ ย นครั ้ ง นี ้ ข  า พึ ง พอใจมาก วั น ข า งหน า หากมี แ มลงผลึ ก
ทรายปะการังหรือวาของล้ำคาอื่นๆ ก็เอามาแลกกับของที่ตองการกับขาได ผูแซหาน
ไมไดมีแคดอกกระดิ่งพฤกษา ไมมีทางปลอยใหพวกเจาเสียเปรียบแน พวกเจาไปได
แลว” หานลี่ไมมีเจตนาจะใหปศาจเหลานี้อยูนานนัก หลังจากเอยอยางราบเรียบ
สองสามประโยค ก็ไลแขกทันที
จากพลังแรงกดดั นที่ แ ข็ ง แกร งของหานลี ่ อสูรนอยและเหล าปศ าจก็ไ ม ก ล า
พูดอะไรมาก ทยอยกันถอยออกไปจากถ้ำพำนักของหานลี่อยางนอบนอม และ
ขับเคลื่อนพายุปศาจจากไป
หลังจากที่ทุกคนบินออกไปไดพันกวาลี้ ถึงไดผอนลมหายใจแลวหยุดลง รวมตัว
กันอยูกลางอากาศอีกครั้ง
“ดีเกินไปแลว คิดไมถึงวาครั้งนี้จะไดดอกกระดิ่งพฤกษามามากมายถึงเพียงนี้
และยิ่งไปกวานั้นลวนมีอายุพันปขึ้นไป หากเอาไปมอบทั้งหมด เกรงวาคงไมตองเอา
ของบวงสรวงอื่นๆ ไปแลว คนของเผาวิหคสวรรคเหลานั้นไมมีทางลงโทษพวกเราแน”
หมูปายักษตนนั้นแคนเสียงหึๆ อยางตื่นเตนดีใจ
“อืม ขาก็คิดไมถึงวาคนผูนี้จะเอาดอกวิญญาณจำนวนมากขนาดนี้ออกมาไดจริงๆ
หากขาจำไมผิดละก็ จำนวนของดอกกระดิ่งพฤกษาที่เกิดขึ้นบนภูเขายักษลูกนั้นจะ
ไมไดมากถึงเพียงนี้ หรือวาเมื่อกอนตอนที่ตรวจสอบภูเขาลูกนี้มีสถานที่ลับอื่น ฟงจาก
คำพูดของอีกฝาย ดูเหมือนวาเขายังมีอีกไมนอย” วานรยักษกลับขมวดคิ้วขณะเอย
“คงเปนเชนนั้นกระมัง หากไมใชเพราะคนผูนั้นมีดอกกระดิ่งพฤกษาจำนวนมาก
ก็ ด ู เ หมื อนว า จะเป นไปไม ไ ด คนของเผ า วิ ห คสวรรค เ หล า นั ้ น ให ค วามสำคั ญกับ
ดอกไมชนิดนี้ขนาดนี้ แคคิดก็รูแลววามันล้ำคาขนาดไหน กวาครึ่งดอกชนิดนี้คงมี
ตนกำเนิดในภูเขาเฮยอิ่นของพวกเรากระมัง” งูเหลือมยักษสามหัวกลับกลอกตาไปมา
ขณะเอย
“เอาละไมวาดอกกระดิ่งพฤกษาจะล้ำคาขนาดไหน ก็ไมเกี่ยวอะไรกับพวกเรา
ขอแคพวกเราผานสภาพการณรอยปนี้ได ก็สามารถกำจัดเครื่องหมายทาสแลวไปจาก
ที่นี่ไดแลว แตศิลาวิญญาณระดับสูงที่อรหันตผูนั้นรองขอ พวกเราจำเปนตองพยายาม
หามาใหได มิเชนนั้นหากเกิดขอผิดพลาด การรอคอยนานขนาดนี้ก็จะเสียเปล า”
อสูรนอยขบคิดชั่วครูก็เอยเชนนี้ออกมา
“มี ด อกกระดิ ่ ง พฤกษา เสี ย เวลาอี ก ร อ ยป ก ็ ไ ม ม ี ป  ญ หา แต ส ิ ่ ง สำคั ญ คื อ
ศิ ล าวิ ญ ญาณในมื อของพวกเราไม ม ากนั ก ศิ ล าวิ ญ ญาณระดั บ ต่ ำ แม แ ต พ วกเรา
ก็ ใ ช ก ารไม ไ ด ส ว นศิ ล าวิ ญ ญาณระดั บ กลางนั ้ น ก็ ไ ม มี ป ระโยชน ต  ออรหั น ต ผูนั้น
หากเปนศิลาวิญญาณระดับสูงเหมืองแรศิลาวิญญาณก็ถูกขุดไปจนหมดแลว และยิ่งไป
กวานั้นครั้งนี้อรหันตผูนั้นยังเสนอวา หากพวกเรานำศิลาวิญญาณระดับสุดยอดที่มี
ธาตุแตกตางกันสี่กอนไปให ศิลาวิญญาณระดับสุดยอดนี้ไมตองพูดถึงวาไมเคยปรากฎ
ขึ้นในภูเขาเฮยอิ่นของพวกเรา แมแตสหายรวมวิถีที่ฝกบำเพ็ญเพียรอยูบนเกาะใน
ละแวกนี ้ ก ็ ม ี แ ค ศ ิ ล าวิ ญ ญาณธาตุ น ้ ำ เท า นั ้ น ต อให อยากแลก ก็ ไ ม อาจแลกได ”
วานรยักษขนสีเหลืองเอยดวยเสียงอูอี้ๆ
“แตจากคนผูของอรหันตผูนั้น ศิลาวิญญาณระดับสุดยอดเหลานี้จำเปนตองการ
ทะลวงจุคคอขวดของเขา มิเชนนั้นก็บรรลุไดยาก” หมูปายักษเอยพึมพำ
ครานั้นปศาจทั้งสี่พลันเงียบกริบ
“หากเปนกอนหนานี้ก็พูดยาก แตผูที่มีความสามารถเกรียงไกรที่พบเมื่อครู
เขามาจากที ่ อื ่ น ไม แ น ว  า อาจจะมี ศ ิ ลาวิญ ญาณธาตุ อื ่น ก็ เ ป น ได ” งู เ หลื อมยักษ
สะบัดหัวทั้งสามไปมา หัวตรงกลางคอยๆ เอยปากขึ้น
“นั่นมันเปนสิ่งที่พวกเราคิดไดอยูแลว แตจากพลังยุทธของพวกเราหากนำศิลา
วิญญาณระดับสุดยอดไปแลกกับของสิ่งนั้น เกรงวาคงทำใหอีกฝายสงสัย หาวิธีอื่น
กอนจะดีกวา สุดทายหากไมไดจริงๆ คอยไปแลกกับคนผูนั้นก็แลวกัน” อสูรนอยเอย
อยางรอบคอบ
“มีเหตุผล รอพวกเรารับมือกับทูตของเผาวิหคสวรรคใหเสร็จกอน แลวคอย
ปรึกษากันอีกทีก็แลวกัน” วานรยักษเสนอขึ้น
อสูรตนอื่นๆ ก็ไมมีวิธีที่ดีกวานี้ จึงทยอยกันพยักหนาเห็นดวย
ดังนั้นปศาจทั้งสี่จึงกลายเปนไอปศาจสี่กลุมอีกครั้ง พุงตรงไปยังทิศทางที่แตกตางกัน
ครานี้หานลี่อยูในหองลับ มือหนึ่งเลนผลึกวารีที่หอหุมแมลงผลึกเอาไวกอนหนึ่ง
แววตาเปลงประกายพลางขบคิดอะไรสักอยาง
แมนวาแมลงผลึกกระดูกทองจะมีชื่อเสียงยิ่งใหญ แพรงพรายมานานในเผามนุษย
และเผาปศาจ แตผูที่พบและจับเปนมันไดนั้นกลับมีนอยจนนาเสียดาย
แมแตบางครั้งบังเอิญพบเขาก็แคสองสามคูเทานั้น และมูลคาของทุกคู ก็เพียงพอ
จะทำใหปราณแทของผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงไดรับบาดเจ็บ
ดังนั้นเมื่อหานลี่ไดยินวาอสูรปศาจระดับหกเจ็ดสองสามตนนี้จะเอาแมลงผลึกไปถวาย
ก็ตกตะลึงและดีใจอยาบาคลั่งขนาดไหน ไมตองคิดก็รูแลว
แมลงผลึกมีสรรพคุณมากมาย ไมเพียงสามารถนำมาเปนวัตถุดิบหลักในการปรุงยา
เพิ่มพลังยุทธไดสองสามชนิด และยิ่งไปกวานั้นยังมีผลตอการฝกตนดวย
นำกระดูกทองที่แมลงเหลานี้พนออกมามาทาบนเรือนราง ประกอบกับการเคย
ชำระกระดูก ก็ทำใหรางกายของผูบำเพ็ญเพียรแข็งแกรงขึ้นเทาหนึ่ง แตจากกายที่
แข็งแกรงของหานลี่ในตอนนี้ เดาวาประสิทธิผลของมันคงลดลงเปนอยางมาก
เทียบกันทั้งสองชนิดแลว หานลี่จึงหวังวาจะนำแมลงตัวนี้มาใชคุณสมบัติที่สามใน
สถานที่ที่รกรางที่สุด
นั่นก็คือนำแมลงตัวนี้มาหลอวิชามารเที่ยงแทพราหมณศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง
หลอมรางกายที่แทจริงของเขาออกมา
ความสามารถนี ้ ย ิ ่ ง ใหญ ข นาดไหน และยิ ่ ง ไปกว า นั ้ น ประสานกั บ เคล็ ด วิ ช า
มารเที่ยงแทพราหมณศักดิ์สิทธิ์ ก็เพียงพอจะทำใหมีพลังพอจะพลิกภูเขาคว่ำทะเล
แลว นับวาเปนวิธีการแปลงกายที่พิเศษที่สุด
แนนอนวาความสามารถของการหลอมวัชระที่คลายกับสำนักพุทธนั้นไมใชเคล็ด
วิชาที่ซับซอนอะไร แตสมุนไพรเสริมที่ตองการทั้งหมดนอกจากแมลงผลึกกระดูกทอง
แลว ยังตองการสมุนไพรสองสามชนิดในตำนาน ความหายากของสมุนไพรเหลานี้ลวน
ไมดอยไปกวา แมลงผลึก กระดู กทอง หากอยากรวบรวมให ครบก็ต องเป นป ญ หา
ของวาสนาแลว ไมมีทางสมหวังไดในเวลาอันใกล
หลังจากที่หานลี่จองเขม็งไปผลึกศิลาในมือ ก็ขบคิดอยางเงียบๆ อยูชั่วครู
ฉับพลันนั้นพลันสะบัดขอมือ เบื้องหนามีผลึกศิลาอีกสี่กอนปรากฎขึ้น
การหลอมวิชามารเที่ยงแทพราหมณศักดิ์สิทธิ์ มีแมลงผลึกสิบคูก็นาจะเพียงพอ
ส ว นอี ก ห า คู  ที ่เ หลื อ เขากลั บนำมาเพิ ่ม ความแข็ง แกร ง ของร างกายตนเองอยาง
ไมเกรงใจเลยสักนิด และยิ่งไปกวานั้นยังเตรียมจะอาศัยการนี้ทะลวงจุดคอขวดของ
ระดับเทพแปลงขั้นกลางอีกครั้ง
เดาวาแมวาทุกอยางจะราบรื่น ขั้นตอนนี้ก็ตองดำเนินไปอยางตอเนื่องหาถึงหกป
เมื่อขบคิดเชนนั้นหานลี่ก็ไมไดลังเลเลยสักนิด หยิบผลึกกอนหนึ่งออกมาอยูในมือทันที
ในมือมีพลังสีเขียววบริสุทธิ์ปรากฎขึ้น หลับตาทั้งสองขางลงในเวลาเดียวกัน
แมลงนอยสองตัวในผลึกหินที่แตเดิมไมขยับเขยื้อน ถูกพลังปราณกระตุน ก็สะบัด
สะบัดหางพรอมกัน อาปากออกพนของเหลวสีทองหยุดหนึ่งออกมา
ของเหลวสองหยดทำเหมือนไมเห็นผลึกกอนนั้น ซึมออกมาจากดานในโดยไมมีอะไร
มาขวางกั้น แลวตกลงสูมือของหานลี่ ถูกไอวิญญาณสีเขียวหอหุมเอาไว
ครูตอมาของเหลวสีทองในลำแสงสีเขียวก็ดูเหมือนวาจะถูกทิ่มแทง ชั่วครูก็ระเบิด
ลำแสงสีทองเจิดจาออกมา
ทันใดนั้นลำแสงนี้และไอวิญญาณสีเขียวก็เปลงประกายตัดสลับกัน ไลไปตามแขน
ของเขา ชั่วพริบตาแขนก็ถูกหอหุมเอาไวดวยลำแสงสีทอง
เมื่อลำแสงทั้งหมดหมนแสงลง ผิวของแขนขางนี้ก็ถูกยอมไวดวยสีทอง
หานลี่ใชมือหนึ่งรองแขนสีทองเอาไว ปากพลันบริกรรมคาถา
ลำแสงสีทองบนแขนกระพริบระยิบระยับอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันลำแสงสีขาวนวล
ชั้นหนึ่งก็ปรากฎขึ้นบนแขนสีทอง และไหลเวียนไปมาไมหยุด
หานลี่ปรับลมหายใจใหมั่นคง สีหนาราบเรียบ ใสพลังลมปราณในรางเขาไปใน
วังวนมหัศจรรยยักษ
ตอนที่ 1411 คนของวิหคสวรรค
เวลาหาปจะกลาววายาวนานก็ยาวนาน จะวาแสนสั้นก็แสนสั้น
ชวงเวลานี้หานลี่ไมเพียงนำกระดูกทองที่แมลงผลึกหาคูพนออกมาทาบนเรือนราง
ยังนำทรายปะการังทองตัวเมียบดกับสมุนไพรตางๆ จนกลายเปนน้ำ แลวใสเขาไปใน
รางกายระหวางที่ฝกฝนกายเนื้อ
ผลของการกระทำเช น นี ้ แ น น อนว า แมลงผลึ ก กระดู ก ทองห า คู  ล  ว นหายไป
ทรายปะการังทองตัวเมียในน้ำเตาทั้งสามก็หมดเกลี้ยง
วันหนึ่งครั้นเมื่อหานลี่ลืมตาครึ่งจากภวังคอีกครั้ง ก็เงยหนาขึ้นดูสองมือที่ดู
เหมือนปกติแวบหนึ่ง ใบหนาเผยสีหนาแปลกประหลาดออกมา
“หลอมกระดู ก ทองและทรายปะการั ง ทองตั ว เมี ยไปในร า งไมน  อยแลวแทๆ
กายเนื้อก็แข็งแกรงขึ้นมา แตทำอยางไรก็ไมอาจทลายจุดคอขวดของระดับขั้นกลางที่
เหลือเพียงนิดเดียวได หรือวาจะวาสนาไมถึงจริงๆ”
หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ปดตาทั้งสองขางลงอีกครั้งดวยความกลัดกลุม
ฉับพลันนั้นกำแพงของหองลับพลันเปลงแสงสีเขียวสวางวาบ ทารกวิญญาณที่สอง
กลายเปนลำแสงสีดำกลุมหนึ่งบินเขามา มือเล็กๆ โบกสะบัดไปมาพลางพูดวนๆ ซ้ำๆ
กับหานลี่
หานลี่พลันตะลึงงัน แตทันใดนั้นเมื่อไดยินก็หัวเราะเบาๆ ออกมา
“เกือบลืมเลย คนของเผาวิหคสวรรคเหลานั้นใกลจะมาถึงเกาะแลว ถือโอกาสไป
ชมความสามารถของเผาประหลาดเหลานั้นสักหนอย” เอยกับตัวเอง หยัดกายขึ้นเดิน
ออกจากประตูหองลับ
แมวาสองสามปที่ผานมาเขาจะไมไดออกจากหองลับเลยแมแตกาวเดียว แตกลับ
ออกคำสั่งใหทารกวิญญาณที่สองใชเคล็ดวิชาหุนเชิด ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของ
ปศาจทั้งสี่อยูตลอด ผลคือในที่สุดก็ไดยินวาทูตของเผาวิหคสวรรคจะมาที่เกาะนี้จาก
การพูดคุยของพวกมัน
ในที่สุดครานี้เผาประหลาดเหลานั้นก็มาถึงแลว ปศาจเหลานั้นจึงสงคนออกไปตอนรับ
จะวาไปแลวครั้งที่แลวที่เขาจับทานเปากวงผูนั้น ก็ใชเพลิงกลืนวิญญาณทำลาย
จิ ต วิ ญ ญาณบริ ส ุ ทธิ ์ ข องเขา ทั นใดนั ้ น ก็ ร ู  ส ึ ก เสี ย ใจในภายหลั ง ที ่ล ื มใช เ คล็ดวิ ชา
คนวิญญาณไป ถึงอยางไรเสียก็เปนอสูรปศาจแปลงกายระดับแปดตนหนึ่ง นาจะรูจัก
ในละแวกนี้ไมนอย
แม นว า ก อนหน า นี ้ จ ะใช เ คล็ด วิ ชาคน วิ ญ ญาณกับ ป ศ าจปลาทองตั ว นั ้นแลว
แตปศาจปลาตัวนั้นไมเคยออกหางจากนานน้ำมากนัก จึงไมคอยรูเรื่องอะไรมากนัก รู
แควานานน้ำผืนนี้ถูกเรียกวาทะเลมารแดง สวนเกาะที่หานลี่พำนักอยูนั้นถูกเรียกวา
เกาะเฮยอิ่น เปนแคเกาะครึ่งเกาะเทานั้น
สวนเล็กๆ ของเกาะนี้ที่เขาอาศัยอยูคือเทือกเขาเฮยอิ่น เกาในสิบเกาะลวนถูก
หมอกสีดำปกคลุมเอาไว ทวาโชคดีที่ครึ่งเกาะยังคงเชื่อมติดกับแผนดินเฟง หยวน
เขาไมไดถูกสงตัวไปยังแผนดินที่ไมคุนเคยสองแหงนั้น นี่จึงทำใหานลี่รูสึกผอนคลายลง
ไปเฮือกหนึ่ง
ขอแคยังอยูในแผนดินเฟงหยวน เขาก็มีวิธีกลับไปยังเผามนุษย
นานน้ำรอบๆ ครึ่งเกาะรวมทั้งแผนดินที่ติดอยูกับครึ่งเกาะ ดูเหมือนวาจะเปนแผนดิน
ที่เผาประหลาดมีปดของเปาวิญญาณเหาะเหินควบคุมอยู สวนเผาวิหคสวรรค นั้น
เปนแคหนึ่งในสาขาของเผาวิญญาณเหาะเหินเทานั้น
และยังเปนหนึ่งในสาขาที่คอนขางออนแอในบรรดายี่สิบสามสิบสาขา นี้ก็เพราะอสูร
ปศาจจำนวนไมนอยที่อยูในละแวกของนานน้ำนี้ตางถูกคนของเผาวิญญาณเหาะเหิน
ขับไลจากแผนดินใหญใหมาอยูในมหาสมุทร มิเชนนั้นปศาจปลาตัวนี้คงไมมีทางไมรู
แมแตขาวนี้
นอกจากนี้ปศาจปลาผูนี้ก็ไมไดขาวอะไรที่แมนยำอีก
ทวาในความทรงจำที่ลางเลือนของปศาจปลาผูนี้ นอกจากปกคูหนึ่งที่แผนหลัง
ของเผาวิหคสวรรคแลว ก็สามารถยืมความสามารถแปลงกายเปนวิหคยักษชนิดตางๆ
ไดระหวางตอสู สวนอื่นๆ ก็คลายคลึงกับเผามนุษย
เชนนั้นหานลี่จึงรูสึกสนใจทูตที่จะมารับเครื่องบรรณาการจากเผาวิหคสวรรค
เปนอยางมาก และอยากไปดูดวยตาตัวเองสักครั้ง
หลังจากนั้นไมนานหานลี่ก็กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ
ห า งออกไปสองสามร อยลี ้ ตรงหั ว ไหล ข องเขามี แ มลงเกราะสี เ หลื องความยาว
ครึ่งฉื่อตัวหนึ่งมอบอยู
หานลี ่ ป ล อ ยให ล ำแสงหลี ก หนี พ ุ  ง ไปข า งหน า อย า งอิ ส ระ มื อ หนึ ่ ง ลู บ ไปที่
แมลงกลืนทองที่เพิ่งตื่นไดมานาน
ดู จ ากภายนอกแมลงเกราะนี ้ ไ ม ม ี ค วามเปลี ่ ย นแปลงจากแต ก  อ นเลยสั ก นิ ด
แตทุกตัวกลับดูหนักขึ้น คาดไมถึงวาจะหนักกวาตอนที่กินหินประหลาดนั้นไปเขาไป
สองสามเทา โชคดีที่หลังจากผานการทดสอบ แมลงกลืนทองแปลงกายเหลานี้ก็ฟนฟู
กลับมามีชีวิตชีวาเชนเดิม และยิ่งไปกวานั้นทุกตัวก็มีพลังมหาศาลไรขีดจำกัด
คิดไมถึงวาแมลงกลืนทองตัวหนึ่งจะสามารถกินของหนักเกือบพันชั่งได นี่จึงทำให
หานลี่ทดสอบเสร็จแลวในตอนนั้นตกตะลึงจนอาปากคางอยูนาน
นอกจากสองจุดนี้หานลี่ก็ไมพบวาแมลงกลืนทองนับพันตัวที่พัฒนาระดับขึ้นแลว
มีความพิเศษอะไรอีก ไมรูวาเปนแคการเปลี่ยนแปลง หรือมีการกลายพันธุอื่นๆ
แคเขายังไมพบเทานั้น
หานลี ่ ร ู  ส ึ ก ผิ ด หวั ง เล็ ก น อย ไม ส ามารถตั ด สิ น ใจได ว  า ก อ นหิ น สามก อ นนี ้ มี
ความพิเศษอยางไร
หนึ่งวันตอมา สายรุงสีเขียวก็ปรากฎใกลๆ กับเทือกเขาเตี้ยๆ
หลังจากที่แววตาของเขาเปลงแสงสวางวาบ ฉับพลันนั้นสายรุงสีเขียวก็ทยอยกัน
ลางเลือน สุดทายก็สลายหายไปทามกลางลำแสงหลีกหนี
คาดไมถึงวาหานลี่จะสำแดงความสามารถอำพรางลำแสงหลีกหนีและตนเอง
ไปพรอมกัน ลำแสงหลีกหนีพลันลดความเร็วลงสองสามเทา
หลังจากที่บินผานทะเลสาบไป เบื้องหนาพลันมีภูเขานอยๆ สีเขียวมรกตที่มี
ตนไมสีเขียวสูงสองสามจั้งเรียงรายอยูลูกหนึ่ง ตรงตีนเขามีอสูรหัวเปนวัวตัวเปนสิงโต
นับพันหมื่นตัววิ่งเลนอยู
หานลี่พิจารณาฝูงอสูร ทันใดนั้นก็มองไปที่เนินเขาเล็กๆ
ตรงนั้นมีหมอกสีขาวที่หนาแนนปกคลุมอยู
ดวงตาทั้งสองเปลงแสงสีฟาสวางวาบ ชั่วพริบตาเนตรวิญญาณวารีกระจางก็มอง
ทะลุผานมานหมอก มองเห็นประตูหินสีเขียวออนบานหนึ่งในมานหมอก
นี่คือ ถ้ำพำนักของอสูรนอยหัววัวผูนั้น
หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา รางกายพุงขึ้นไปยังที่สูง หลังจากอยูสูงไปสองสามพันจั้ง
ถึงไดหยุดลำแสงหลีกหนีลง
จากนั้นสองมือพลันรายอาคม อาคมหลากสีสันสองสามสายเปลงแสงสวางวาบ
พลางพุงออกไป
อากาศรอบๆ มีหมอกเปนกลุมๆ ปรากฎขึ้น ชั่วพริบตาก็กลายเปนเมฆสีเทาที่ดู
ธรรมดาๆ กลุมหนึ่ง ปกคลุมรางกายของเขาเอาไว
ครานี้หานลี่ถึงไดยักไหล แมลงกลืนทองยักษตัวนั้นเปลงแสงสีทองเจิดจา ชั่วครูก็
หดเล็กลงจนมีขนาดเทาเมล็ดถั่ว สองปกกระพือบินออกจากหมอกสีเทา ตรงไปยัง
ภูเขาดานลาง
หานลี ่ ม องแมลงตั ว นั ้ น หลั ง จากรอให ม ั น หายวั บ ไปในภู เ ขาแล ว ก็ ล อยอยู
กลางมานหมอกดวยสีหนาราบเรียบ
ผลคือหลังจากผานไปหนึ่งเคอ ที่ขอบฟาก็มีลำแสงสวางวาบ วายุปศาจสองกลุมบิน
เขามารวมทั้งวิหคยักษสีเงินสามตัว
รูมานตาของหานลี่หดลงเล็กนอย สองตาจองเขม็งไปยังวิหคยักษสามตัว
เห็นเพียงวิหคยักษสามตัวมีความยาวสามจั้งเศษ กายภายนอกคลายกับอินทรียักษ
เรื อนกายมี ล ำแสงสี เ งิ นเรื องรอง ราวกั บ ว า ขนทุ ก เส น สร า งขึ ้ น จากเงิ น บริ ส ุ ท ธิ์
อยางไรอยางนั้น ดวงตาสีมวงเขมคูหนึ่งกลอกไปมา แหลมคมเปนอยางมาก
เห็นไดชัดวาวิหคยักษสามตัวลดความเร็วลง แตหลังจากที่มองเห็นภูเขานอยที่
งดงามไกลๆ วิหคทัง้ สามก็กระพือปกออกพรอมกัน ชั่วขณะนั้นประจุไฟฟาสีขาวพลัน
ปรากฎขึ้น จากนั้นก็กลายเปนสายฟาสามสายพุงออกมา
เสียงฟาผาดังขึ้นอยางตอเนื่อง!
ครูตอมาวิหคยักษสามตัวที่มีประจุไฟฟาหอหุมก็ปรากฎตัวเบื้องหนาหมอกสีขาว
หลังจากเก็บปกทั้งสองขาง วิหคยักษสามตัวที่อยูทามกลางลำแสงสีเงินกลายเปน
บุรุษสองคนและสตรีหนึ่งคน คนประหลาดที่มีปกสีเงินที่แผนหลังสามคน
“นี่คือ คนของเผาวิหคสวรรค?” หานลี่พิจารณาอยางละเอียด ใบหนาอดที่จะ
ฉายแววประหลาดใจเล็กนอยไมได
หนาตาของบุรุษชางหลอเหลาองอาจ สตรีหนาตาหมดจนงดงาม นอกจากปกที่
แผนหลังแลว ก็แทบจะไมตางอะไรกับบุรุษและสตรีเผามนุษย
และดู จ ากกลิ ่ น อายของทั ้ ง สาม กลั บ เป น สิ ่ ง มี ช ี ว ิ ต ที ่ ม ี ร ะดั บ เที ย บเท า กั บ
ระดับเทพแปลง
บุรุษเผาวิหคสวรรคหนึ่งในนั้นดูแลวมีอายุสามสิบกวาป นาจะอยูในระดับเทพแปลง
ขั้นกลาง บุรุษและสตรีที่ออนเยาวกวาลวนอยูในระดับเทพแปลงขั้นตน
ทั้งสามตางสวมชุดคลุมยาวสีขาวที่ดูเรียบงาย บุรุษทั้งสองโพกผาสีเงินที่ศีรษะ
สตรีผมยาวประบา
หลังจากรูกำลังของคนของเผาวิหคสวรรคทั้งสาม หานลี่ก็รูสึกผอนคลายลง
ปากพลันบริกรรมคาถาอยางเงียบๆ เก็บกลิ่นอายทั้งหมดเขาไป พายุออนๆ กลุมหนึ่ง
พุงตรงไปดานลาง
แนนอนวาทั้งสามคนไมมีทางสัมผัสสิ่งที่เกิดขึ้นเหนือหัวได แคลอยอยูหนาภูเขานอย
รออยูตรงนั้นเงียบๆ
ผลคือหลังจากที่ผานไปชั่วครู พายุปศาจสองกลุมถึงไดบินมาถึงตรงนั้น
ไอปศาจหมนแสงลง เผยรางหมูปายักษและงูเหลือมรางหัวออกมา
“เชิ ญ อรหั น ต ท ั ้ ง สามเข า ไปข า งในขอรั บ สหายมรกตและสหายทองกำลั ง
ตรวจสอบเครื่องบรรณาการและงานเลี้ยงอยูในถ้ำพำนัก เหลาอรหันตทั้งสามโปรดให
เกียรติเยี่ยมชมดวยเถิด!” เมื่องูเหลือมยักษปรากฎตัว ก็เอยพรอมรอยยิ้มทันที
“ไม ต  อ งวุ  น วายขนาดนี ้ พวกเรารั บ เครื ่ อ งบรรณาการเสร็ จ ก็ จ ะกลั บ เลย”
บุรุษอายุสามสิบกวาปเอยอยางราบเรียบ คนที่เหลือเองก็มีสีหนาไรความรูสึก
จะไปโทษวาพวกเขามีสีหนาเชนนี้ไดอยางไร จากพลังยุทธของปศาจสองตนนี้จะ
ไปอยูในสายตาของคนของเผาวิหคสวรรคทั้งสามไดอยางไร
หากไมใชเพราะเครื่องบรรณาการของเหลาปศาจบนเกาะนั้นสำคัญ พวกเขาก็ไม
คิดจะเอยปากพูดเลยสักนิด
ในตอนนั้นเองหมอกสีขาวเบื้องหนาภูเขาก็สลายออก ประตูสีเขียวทีซ่ อนอยูดา น
ในคอยๆ เปดออก
ทันใดนั้นอสูรนอยหัววัวและวานรยักษขนทองก็เดินออกมาจากดานใน เอยเชิญ
คนของเผาวิหคสวรรคทั้งสามใหเขาไปในถ้ำพำนักดวยความรูสึกผิด ปศาจที่เหลือก็ไล
ตามมาติดๆ
ผูใดก็คิดไมถึงวาชั่วพริบตาที่ประตูถ้ำพำนักปดลงอีกครั้ง พายุจางๆ ที่มองไมคอย
เห็นสายหนึ่งจะพัดเขาไปในประตู
ปศาจทั้งสี่นำคนของวิหคสวรรคทั้งสามเขาไปในหองโถงที่วิจิตรงดงามหองหนึ่ง
อยางรวดเร็ว แมนวาปศาจทั้งสี่จะยังไมไดแปลงกายเปนคน แตคาดไมถึงวาจะมีเกาอี้
ตั้งอยูตรงนั้นสองสามตัว
คนของวิหคสวรรคทั้งสามเองก็ไมเกรงใจนั่งลงตรงตำแหนงหลัก สี่ปศาจยืน
ประสานมืออยูดานขางอยางนอบนอม
“เอาล ะ ไม ต องพู ด พล า มอะไรไร สารแล ว ขอแค พ วกเรามาว า ครั ้ ง นี ้ เ ตรียม
เครื่องบรรณาการมาเหมาะสมหรือไม” บุรุษของเผาวิหคสวรรคที่ดูอายุยี่สิบกวาปเพิ่ง
จะนั่งลง ก็เอยถามขึ้นอยางไมเกรงใจ
“รายงานเหลาอรหันต เครื่องบรรณาการกวาครึ่งถูกจัดเตรียมไวอยางครบครันแลว
แตมีบางอยางที่หมดสิ้นไปจากเกาะของพวกเราแลว จึงไมอาจตามหาได” อสูร
นอยหัววัวใจหายวาบ พลางตอบกลับอยางรีบรอน
“รวบรวมไมครบ? หึ เครื่องบรรณาการไมครบ พวกเจาก็นาจะรูผลที่จะตามมาสินะ
ไมมีเครื่องบรรณาการ พวกเจาจะมีคาอะไรใหอยูบนเกาะนี้ตอ” บุรุษที่อายุมากหนอย
อีกคนหนึ่งไดยิน ก็มีสีหนาเครงขรึม
“ทานอรหันตโปรดระงับความโกรธดวย! แมวาเครื่องบรรณาการจะขาดไปหนอย
แตครั้งนี้พวกเรากลับเตรียมดอกกระดิ่งพฤกษาหาสิบดอกมาเพิ่ม หวังวาเหลาอรหันต
จะใหอภัยสักครั้ง” อสูรนอยใจเย็นวาบ รีบรอนเอยสิ่งที่ตนเองเตรียมเอาไวออกมา
“อะไรนะ เตรียมดอกกระดิ่งพฤกษเพิ่มหาสิบดอก!” คนของวิหคสวรรคสามคน
มองสบตากันแวบหนึ่ง เผยสีหนายินดีออกมา
“พวกเจาคงคิดจะนำมาทดแทนสินะ คิดจะใชดอกกระดิ่งพฤกษาที่อายุไมถึงมา
ตบตาพวกเราสินะ” บุรุษของเผาวิหคสวรรคที่อายุสามสิบกวาปกลับคิดอะไรได
แลวเอยเตือนอยางเหี้ยมโหด
ตอนที่ 1412 เผาแดงสด
“พวกเราจะกลาทำอยางนั้นไดอยางไร ทานอรหันตทั้งสามเชิญตรวจสอบอายุ
ของสมุนไพรวิญญาณดวยตัวเอง” อสูรนอยตกตะลึง แลวเอยตอบอยางรีบรอน
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น วานรยักษขนสีทองก็พลิกฝามือที่มีขนปกคลุมทั้งสอง
ลำแสงสีขาวเปลงแสงสวางวาบที่เบื้องหนา กลองหยกที่มีดอกกระดิ่งพฤกษาบรรจุอยู
เต็มกลองสองกลองปรากฎขึ้นตรงหนา จากนั้นก็สงมาดวยมือทั้งสองมือ
บุ ร ุ ษ ที ่ อายุ น อ ยของเผ า วิ ห คสวรรค ร ั บ กล อ งหยกทั ้ ง สองใบมาดู ด  ว ยความ
เชื่อครึ่งมิเชื่อครึ่ง และเปดฝาพวกมันออก
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีทองพลันเปลงแสงเรืองรอง ในเวลาเดียวกันกลิ่นหอมกรุนก็
โชยมาปะทะจมุก
คนของวิหคสวรรคสามคนพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็รูสึกปติยินดี
“เปนดอกกระดิ่งพฤกษาอายุมากกวาพันปจริงๆ คุณภาพชั้นหนึ่ง” สตรีวัยเยาว
ของเผาวิหคสวรรคหยิบดอกกระดิ่งพฤกษาออกมาดอกหนึ่ง หลังจากพิจารณาอยาง
ละเอียดแลว ก็เอยขึ้นดวยความตื่นเตนดีใจ
“ใชแลว หรือวาครั้งนี้พวกเจานำดอกไมคุณภาพสูงเชนนี้มาได เครื่องบรรณาการ
อื่นก็ลดลงหนอย ลองพูดมาใหขาฟงซิ” คนของวิหคสวรรคอายุสามสิบกวาป เ ก็บ
สีหนาปติยินดี แลวเอยถามดวยสีหนาที่ผอนคลายลง
ปศาจทั้งสี่เห็นเชนนั้นพลันผอนคลายลง รูวาครั้งนี้คงจะผานไปไดดวยดีแลว
ทันใดนั้นพวกมันก็ควักเครื่องบรรณาการแตละชิ้นออกมา ใหคนของวิหคสวรรค
ทั้งสามตรวจสอบอยางละเอียด
“อื ม แมลงผลึ ก กระดู ก ทองและทรายปะการั ง ทองตั ว เมี ย ขาดไปหน อ ย
จำนวนของไมลำแสงสีเขียวมีแคครึ่งหนึ่ง…” บุรุษเผาวิหคสวรรควัยเยาวนับจำนวน
เครื่องบรรณาการที่มีไมครบ
“ก็พอได ของที่ขาดไปไมถือวามากมายนัก ดอกกระดิ่งพฤกษาที่เพิ่มมาก็ พอ
จะชดเชยสวนที่ขาดได ครั้งนี้นับวาพวกเจาสงมอบเครื่องบรรณาการครบ นี่คือรางวัล
ยาสมุนไพรที่ชวยสะกดเครื่องหมายทาสของพวกเจา ครั้งหนาตอนที่พวกเรามาอีก
ครั้ง จำนวนของดอกกระดิ ่งพฤกษายิ ่ง มากเท าไหรก ็ย ิ่ งดีมากเท า นั ้น ” บุรุษเผ า
วิหคสวรรคอายุสามสิบปพยักหนา ในเวลาเดียวกันก็สะบัดแขนเสื้อ ขวดหยกสีเขียว
สี่ขวดบินออกมา ตกลงในฝามือของทั้งสี่คน
ปศาจทั้งสี่ทยอยกันรับขวดนั้นไว ปากก็เอยขอบคุณอยางตอเนื่อง
คนของวิหคสวรรคทั้งสามเก็บเครื่องบรรณาการไป ไมไดมีเจตนาจะรั้งรออยูนานอีก
หยัดกายลุกขึ้นแลวออกจากถ้ำพำนักของอสูรนอยทันที
ปศาจทั้งสี่ไปสงคนของวิหคสวรรคที่ประตุใหญอยางนอบนอม มองดูคนของ
วิหคสวรรคทั้งสามกลายเปนวิหคยักษสามตัวบินจากไปแลว ถึงไดกลับมายังถ้ำพำนัก
ดวยความผอนคลาย แลวปรึกษาเรื่องใหญกันตอ
แนนอนวาปศาจเหลานี้ไมรูวามุมหนึ่งของหองโถง มีแมลงสีทองตัวหนึ่งหมอบอยู
ตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู มันนิ่งงันไมขยับ ราวกับไมมีชีวิตอยางไรอยางนั้น
ในเวลาเดียวกันหานลี่กลับอำพรางกายไลตามวิหคยักษสามตัวไป แววตาเปลง
ประกายไมหยุด
เมื่อครูในถ้ำพำนักของอสูรนอย เขาเห็นสถานการณที่คนของวิหคสวรรคเ ก็บ
เครื ่ องบรรณนาการไปอย า งชั ด เจน เดาว า พวกเขาจะต อ งกลั บ ไปรวมตั ว ที ่ เ ผ า
วิหคสวรรคแน
สิ่งที่เขาตองทำในครานี้ก็คือตามคนของวิหคสวรรคทั้งสามคนไปสักระยะหนึ่ง
หาเสนทางกลับไปยังแผนดินเทียนหยวนที่ปลอดภัย
ถึงอยางไรเสียนานน้ำผืนนี้ก็กวางใหญไพศาลขนาดนี้ ผูใดจะรูวาจะมีอันตราย
อะไรซอนอยูหรือไม หานลี่ไมอยากใหตนเองพุงเขาไปในอาณาเขตของสิ่งมีชีวิตที่
แข็งแกรงอะไรโดยที่ไมรูตัว
และยิ่งไปกวานั้นคนของเผาวิญญาณเหาะเหินเหลานี้ดูแลวก็คลายคลึงกับเผามนุษย
หาที่รวมตัวของคนของเผาวิหคสวรรคพบ จากความสามารถของเขา การแฝงตัวเขา
ไปรวบรวมขาวสารและวัตถุดินสมุนไพรที่ตองการ ก็ไมใชเรื่องยากอะไร
ไมแนวาเผาประหลาดเหลานี้อาจจะมีสมบัติล้ำคายอยางแมลงผลึกกระดู กทอง
อยูไมนอย
ถึงอยางไรเสียเผาประหลาดวิญญาณเหาะเหินและเผามนุษยก็ ไมเหมื อนกั น
ของที ่ เ หมื อ นกั น อาจจะมี ค  า กั บ เผ า มนุ ษ ย แต อาจจะเป น แค ข องธรรมดาของ
เผาวิญญาณเหาะเหิน
เมื่อขบคิดเชนนี้หานลี่ก็รูสึกเรารอน ยิ่งไลตามคนของวิหคสวรรคไปดวยความ
ระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น
จากความสามารถของหานลี่ขอแคทั้งสามคนไมไดออกนอกอาณาเขตจิตสัมผัสเขา
เกินรอยลี้ ก็ไมอาจสลัดเขาทิ้งไดงายๆ
ดังนั้นวิหคสามตนและคนหนึ่งคนก็บินลัดไปตามขอบของครึ่งเกาะไปเรื่อยๆ
เวลาผานไปสองเดือนกวา ในที่สุดหานลี่ก็มองเห็นเสนสีดำสายหนึ่งที่ขอบฟา
ในที่สุดเขาก็มาถึงริมฝงของแผนดินใหญเทียนหยวน
ครานี้วิหคสวรรคทั้งสามคนที่อยูเบื้องหนาพลันบินเขาไปในแผนดินใหญตั้งนานแลว
ริมทะเลที่ติดกับแผนดินใหญมีเนินเขานอยใหญเชื่อมตอกันอยางสลับซับซอน
หานลี่ไมกลาดูแคลนรีบรอนเรงความเร็วตามไปสองสามสวน เขาไปใกลมากกวาครึ่ง
แตในตอนนั้นเองเบื้องหนากลับมีสิ่งแปลกประหลาดปรากฎขึ้น!
เบื ้ อ งหน า คนของวิ ห คสวรรค ท ั ้ ง สามพลั น มี ว ิ ห คยั ก ษ ส องหั ว ตั ว หนึ ่ ง และ
เผาประหลาดมีปกที่แผนหลังเชนกันอีกเจ็ดแปดคนปรากฎขึ้น
เมื่อพวกเขาปรากฎตัวก็ลอมคนของวิหคสวรรคทั้งสามเอาไวทันที ทาทางไมเปนมิตร
หานลี่พลันตกตะลึง แตรางกายก็ไมไดหยุดยั้ง ชั่วครูก็บินออกมาจากที่เกิดเหตุ
กวาสองรอยจั้ง แลวหยุดลำแสงหลีกหนีลงเงียบๆ
เห็ น เพี ย งวิ ห คยั ก ษ ส องหั ว ตั ว นั ้ น โหดเหี ้ ย มเป น อย า งยิ ่ ง ขนาดตั ว สิ บ จั้ ง
หัวหนึ่งคลา ยกั บหั ว เสื อ หัวกลับหนึ ่ง กลั บ คลา ยมั ง กรวารี ขนหาสีสลับกั นอย า ง
แพรวพราว เผยความงดงามออกมา ส ว นคนติ ด ป ก เจ็ ด แปดคนนั ้ น ต า งก็ ม ี ห น า
โหดเหี้ยมเชนกัน ปกที่แผนหลังไมเพียงใหญกวาคนของวิหคสวรรค และยิ่งไปกวานั้น
ขนยังเปลงประกายสีแดงเพลิง
ชั่วพริบตาคนของวิหคสวรรคสามคนก็คืนรางเดิม ยืนเคียงบากันดวยสีหนาเครงขรึม
“เที ย นหมิ ง มี เ จตนาใด? ที่ นี ่ ค ื ออาณาเขตของเผ า วิ ห คสวรรค ข องพวกเรา
เผาแดงสดอยางพวกเจามาปรากฎตัวที่นี่ดวยเหตุอันใด และยังมาขวางทางพวกเราอีก
หรือวาไมกลัวการลงทัณฑสิบประการ?” บุรุษของเผาวิหคสวรรคอายุสามสิบปเศษ
เอยตำหนิชายรางใหญคนหนึ่งที่เขามาลอมไว
ชายรางใหญผูนี้สวมชุดสีแดง รางกายสูงใหญ บนศีรษะไมมีเสนผมสักเสน
“หึๆ ในเมื่อพวกเรามาปรากฎตัวที่นี่ แนนอนวาตองไมกลัวการลงทัณฑ สิบ
ประการอะไรนั้นอยูแลว สงของมาซะดีๆ แลวก็ยอมสยบใหแกเผาแดงสดของ พวก
เรา ไมแนวาอาจจะยอมปลอยพวกเจาไปสักครั้ง” ชายรางใหญหัวเราะหึๆ ออกมา
“ของอะไร?” เฟงเสี้ยวหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย แตทันใดนั้นก็ฟนฟูสีหนากลับมาเปน
ปกติ
“เหตุใดพี่เฟงเสี้ยวตองปดบังดวย แนนอนวาตองเปนดอกกระดิ่งพฤกษาอยูแลว”
ชายรางใหญหัวโลนเอยอยางเหี้ยมเกรียม
“ดอกกระดิ ่ ง พฤกษามี ค  า ขนาดไหน พวกเราสามคนจะพกติ ด ตั ว ได อย า งไร
เทียนหมิง หรือวาสมองของเจาเลอะเลือน” คนของเผาวิหคสวรรคเอยปฏิเสธ
“ไมยอมรับก็ไมเปนไร อีกเดี๋ยวขาก็จะไปคนตัวของพวกเจาเอง ใชแลว ลืมบอก
พวกเจาไป ประมุขที่มีเลือดเนื้อของวิหคมัจฉาคนสุดทายของเผาวิหคสวรรค ข อง
พวกเจา เพลี้ยงพล้ำจากการฝาวงลอมของอสูรเจิงหนิงที่แดนสามหัวเมื่อสี่เดือน
กอนแลว อีกไมชาก็เร็วเผาวิหคสวรรคก็จะถูกลบทิ้งไปจากเผาวิญญาณเหาะเหิน”
ชายรางใหญผูนั้นเอยพรอมกับหัวเราะอยางบาคลั่งออกมา
เมื่อไดฟงคนของวิหคมัจฉาสามตนก็ตกตะลึง
“เหลวไหล ประมุขวิหคมัจฉามีความสามารถขนาดไหน ตอใหไมสามารถสูรบได
แตหากคิดหนีจะถูกอสูรเจิงหนิงสามตัวขวางไวไดอยางไร” บุรุษเผาวิหคสวรรคที่
ออนเยาวมีทาทีไมเชื่อถือ
“หึๆ หากแคอสูรเจิงหนิงนั้นไมอาจขวางประมุขเผาวิหคมัจฉาได แตหากรางกาย
ไดรับบาดเจ็บหนัก ปกทั้งสองถูกทำลายอยางหนัก ก็ไมอาจแปลงกายบินหนีได”
ชายรางใหญหัวโลนสยายปกสีเพลิงออก แลวเอยอยางไมเปนมิตร
“เจาคิดวากลาวเชนนี้ พวกเราจะเชื่อหรือ เหลวไหว ตอใหกลาววาทองฟาจะ
พังทลายลงมา ก็อยาคิดวาพวกเราสามคนจะมอบของใหเจา” บุรุษเผาวิหคสวรรค
อายุสามสิบปเศษ กลับเครงขรึมขึ้น แลวตอบกลับอยางเย็นชา
บุรุษและสตรีวัยเยาวอีกคูหนึ่งเองก็มีลำแสงอัสนีเปลงแสงสวางวาบขึ้นบนราง
ทาทางไมยอมประนีประนอม
ชายรางใหญหัวโลนของเผาแดงสดเห็นเชนนั้น พลันแคนเสียงหึ แววตาเปลง
ประกายโหดเหี้ยมไมหยุด
เขาเองก็เปนผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงขั้นกลาง คนอื่นๆ ลวนมีกำลังในระดับ
เทพแปลงขั้นตน ประกอบกับวิหคยักษสองหัวตนหนึ่ง มองอยางไรกำลังก็เหนือกวา
คนของวิหคสวรรคหลายเทา ทวาหากคนของวิหคสวรรคคิดจะหนี พวกเขากลับ
ไมมั่นใจวาจะจับอีกฝายทั้งหมดได
ถึงอยางไรเสียเผาแดงสดก็ไมไดมีความสามารถดานความเร็ว หากไลตามพวกที่
อยูในระดับเดียวกัน กวาครึ่งก็คงถูกอีกฝายสลัดทิ้ง ทวาในเมื่อชายรางใหญนำกำลัง
มาซุมโจมตีที่นี่ แนนอนวาก็ตองขบคิดถึงจุดนี้แลว
ใบหนาโหดเหี้ยมฉายแววสวางวาบ ชายรางใหญโบกมือมือหนึ่ง
คนของเผาแดงสดที่เหลือพลิกฝามือ ชั่วขณะนั้นในมือพลันมีกระบอกไมไผสั้นๆ
สีฟาปรากฎขึ้นเล็งไปทางดานหลังพรอมกัน
หลังจากเสียงแหวกอากาสดัง “ฟวๆ” ดังขึ้น ลูกบอลลำแสงสีฟาเปนกลุมๆ ก็พุง
ออกมา
“แยแลว นั่นคือ กระบอกกักมาร รีบหนีเร็ว!” บุรุษเผาวิหคสวรรคที่อายุมากกวา
เห็นฉากนี้ก็รองอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหง
สะบัดปกทั้งสองอยางไมตองปริปากใดๆ รางทั้งรางกลายเปนประจุไฟฟาสีเงิน
สายหนึ่งพุงออกไป
คนที่เหลือทั้งสองไดยินก็หนาเปลี่ยนสี หลังจากนั้นก็มีเสียงฟาคำรามไลตามเขา
ไปติดๆ
แตกลับสายไปเสียแลว
ลู ก บอลลำแสงสี ฟ  า สองสามลู ก รอบด า นระเบิ ด ออก กลายเป น ตาข า ยสี ฟ า
ขยายใหญขึ้นไมหยุด
ชั่วพริบตาตาขายเสนไหมทั้งหมดก็ผนึกตอกัน กักทั้งหมดในรัศมีสองสามรอยจั้ง
เอาไว กลายเปนกรงขนาดยักษ
เมื่อกรงยักษปรากฎขึ้น ลำแสงไฟฟาสามสายกลับไมไดหนีออกมาจากตาขาย
ลำแสงไฟฟาหมนแสงลง รางของวิหคสวรรคทั้งสามปรากฎขึ้น แตทุกคนลวนมี
สีหนาซีดขาว
แมนวาจะเปนแคตาขายกักมารระดับต่ำที่สุด แตก็กักพวกเจาไดระยะหนึ่งแน
เฟงเสี้ยวเจาคิดวาจะมีเวลาฉีกตาขายกักมารโดยที่มีพวกเราลอมไวอีกหรือ ยอมใหจับ
เสียแตโดยดี ขาจะแนะนำเจาเปนครั้งสุดทาย หากไมตกลง ก็อยามาโทษวาขาไรความ
ปรานี” ชายรางใหญหัวโลนเห็นตาขายกักมารกักคนของวิหคสวรรคทั้งสามเอาไวได
อยางไมนาเชื่อ ก็เอยอยางยินดีออกมา
“พวกเรารวมมือกัน รีบทลายตาขายกักมารเร็วเขา!” เฟงเสี้ยวกลับไมสนใจ
ชายรางใหญ กลับออกคำสั่ งกับสหายรวมทางอี กสองตนด วยสี ห นา ไรค วามรู  สึ ก
ทันใดนั้น พลันถูมือเขาหากัน ชูขึ้นอีกครั้ง ประจุไฟฟาหนาๆ สองสายพุงออกมา โจมตี
ไปยังตาขายยักษสีฟาเบื้องหนา
สวนบุรุษและสตรีเผาวิหคสวรรควัยเยาวคูนั้นก็อาปากออกโดยไมไดพูด อะไร
พนประจุไฟฟาหนาเทาปากชามสายหนึ่งออกมา เขารวมการโจมตี
ชั่วขณะนั้นเสียงตูมๆ พลันดังสนั่นขึ้น ตาขายเสนไหมลำแสงสีฟาลำแสงสีเงิน
พลันตัดสลับกัน ตาขายกักมารทั้งผืนพลันสั่นเทา
ชายรางใหญหัวโลนเทียนหมิงเห็นเชนนี้ กลับตะโกนออกมาดวยความโกรธเกรี้ยว
ทันที
“ลงมือ อยาใหเหลือแมแตคนเดียว!”
ทันใดนั้นเขาพลันหมุนวนกลางอากาศ ชั่วครูก็กลายเปนวิหคยักษสีแดงยาว
สองสามจั้งตัวหนึ่ง กระพือปกทั้งสองขาง กลายเปนเปลวเพลิง ตรงไปหาคนของ
วิหคสวรรคสามคนที่อยูกลางอากาศ
คนของเผาแดงสดที่เหลือก็ทำเชนเดียวกัน กลายเปนวิหคเพลิงลอมโจมตีเอาไว
เชนนั้นคนของวิหคสวรรคสามคนก็ไมสนใจจะโจมตีตาขายกักมาอีก แคแปลงกายเปน
วิหคสีเงินขนาดยักษ ปากก็พนอัสนีไปโจมตีกับศัตรู
ครานี้เปลวเพลิงที่อยูกลางอากาศพลันหมุนวน เสียงฟาผาดังขึ้น บรรยากาศ
รอบๆ เปลี่ยนเปนรอนฉา
มีเพียงวิหคยักษศองหัวตัวนั้น ที่หยุดการเคลื่อนไหวอยูที่เดิมอยางทระนง
หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ทาทางหัวเราะก็ไมได รองไหก็ไมออก
เขาในครานี้ติดอยูในอาณาเขตของตาขายกักมารเสียแลว
ตอนที่ 1413 เผยตัว
แน นอนว า หานลี ่ พลันรู สึ ก กลั ด กลุ ม เป น อย า งมาก ภายใต ส ถานการณปกติ
จากความสามารถของเขาก็สามารถหนีออกจากตาขายกักมารไดในชั่วพริบตาที่มัน
กำลังกอตัว
แตตอนนั้นเขากำลังอำพรางกาย หากตองใชความสามารถนี้พุงออกจากตาขาย
อยางฉุกละหุก ก็เกรงวาจะเผยกลิ่นอายออกมาในทันที
ดังนั้นขณะที่ลังเลเล็กนอย เขาก็ติดอยูในตาขายแลว
หางตาของหานลี่พลันกระตุก ทำไดเพียงยืนนิ่งอยูที่เดิมอยางจนปญญาชั่วคราว
แตในหัวกลับมีขาวสารทั้งหมดที่เพิ่งไดมาวิ่งกลับไปกลับมา
เห็นไดชัดวาคนของเผาแดงสดเหลานี้นาจะเปนหนึ่งในทั้งเจ็ดสิบสองสาขาของ
เผาวิญญาณเหาะเหิน ไมรูวาพวกเขาไปไดขาววาคนของเผาวิหคสวรรคทั้งสามจะพก
ดอกกระดิ ่ ง พฤกษากลั บ มาจากที ่ ไ หน ดั ง นั ้ น จึ ง มาหมอบซุ  ม รอพวกเขากลั บ มา
และสาเหตุที่คนของเผาแดงสดเหลานี้กลาทำเชนนี้ ดูเหมือนวาจะเปนเพราะผูยิ่งใหญ
ในเผาวิหคสวรรคไดเพลี้ยงพล้ำไปแลว เผาวิหคสวรรคทั้งเผาก็ปกปองชีวิตของตัวเอง
เอาไวไดยาก
แตเชนนั้นเขา แผนเดินของเขาไมเปนการเสียเปลาหรือ หรือวาจะทิ้งเผาวิหคสวรรค
ไปปะปนอยูกับเผาวิญญาณเหาะเหินเผาอื่นแทน
นี่ดูเหมือนจะไมปกติแลว!
ถึงอยางไรเสียมองจากภายนอก นอกจากปกคูนั้นแลว คนของเผาวิหคสวรรค
และและเผามนุษยก็แทบจะไมไดแตกตางอะไรกัน สาขาอืน่ ของเผาวิญญาณเหาะเหิน
เปนอยางไรก็ไมรู แตดูจากทาทางที่โหดเหี้ยมของคนเผาแดงสด เกรงวาคงหาเผาอื่นๆ
ที่ปะปนเขาไปไดงายๆ เหมือนเผาวิหคสวรรคไดยากแลว
หานลี่ขบคิดอยางรวดเร็วในใจ ในเวลาเดียวกันก็มองไปยังการตอสูของวิหคสวรรค
และคนของเผาแดงสดที่แปลงกายแลว
ตรงนั้นเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น ประจุไฟฟาหนาๆ ที่ดูเหมือนงูเหลือมสีเงินจำนวน
นับไมถวนพลันหมุนวนแผดเสียงคำรามอยูทามกลางทะเลเพลิง
วิหคสีเงินสามตัวแทบจะแปลงกายเปนอัสนี ใชทั้งปากและกรงเล็บ ดูองอาจหาวหาญ
เปนอยางมาก แตภายใตการลอมโจมตีของวิหคเพลิงจำนวนมากขนาดนี้ พวกเขาก็
จำตองตกเปนรอง
วิหคเพลิงเหลานี้ไมเพียงจะมีเปลวเพลิงหมุนวนอยูรอบรางกาย ตอใหบางครั้ง
ถูกประจุไฟฟาสีเงินโจมตีทะลุรางกาย เปลวเพลิงก็เปลงแสงสวางวาบ บาดแผลผสาน
กลับคืนเปนดังเดิม ราวกับเปนรางอมตะอยางไรอยางนั้น และยิ่งไปกวานั้นเมื่ อ
วิ ห คสี เงิ นถูก เปลวเพลิง เหลา นี้ ม ว นวนเข าไป ร า งกายก็ เปล ง แสงอั สนี สวางวาบ
ไรซึ่งอันตรายเชนกัน แตลำแสงสีเงินที่แผออกมาจากรางกลับหมนแสงลงสวนหนึ่ง
ระหวางที่พวกมันกำลังตอสูกันอยูกลางอากาศ พลันมีไขมุกกลมๆ สีแดงสดเม็ดหนึ่ง
ปรากฎขึ ้ นตั ้ง แต เ มื ่อไหรก ็ ไ ม รู เปล ง แสงสีแ ดงเพลิง ออกมา ปกคลุ ม ด านลางใน
รัศมียี่สิบสามสิบจั้งเอาไว
“เฟงเสี้ยวถึงแมวาเจาและขาจะอยูในระดับเดียวกัน แตเมื่อมีไขมุกมังกรเพลิง
ของขาชวยเสริม เจาจะเปนคูตอสูของขาไดอยางไร” ระหวางการตอสูวิหคเพลิงยักษ
ที่มีขนาดใหญกวาพวกเดียวกันหลายเทาเปลงเสียงหัวเราะประหลาดๆ ออกมา
แค นเสี ย งเหอะอย า งเย็ นชา กรงเล็ บ ข า งหนึ ่ ง ของวิ ห คเงิ น พลั น ตะปบออก
ชั ่ ว ขณะนั ้ น ลำแสงสี ข าวห า สายพลั น เปล ง แสงสว างวาบพุ ง ไปกลางอากาศดวย
ความรวดเร็ว ครูตอมาก็สับลงมาที่ไขมุกสีแดงอยางแรง
เสียง “ตูม” ดังสนั่นขึ้น ผิวของไขมุกมังกรเพลิงมีลำแสงสีแดงชั้นหนึ่งปรากฎขึ้น
คาดไมถึงวาจะตานทานกรงเล็บหาสีเอาไวไดอยางงายดาย
“ฮาๆ พี่เฟงเสี้ยว เจาอยาคิดวา จะโชคดี เลย ขาไดเชิญให อาวุ โสในเผา ร า ย
เขตอาคมใส ไ ข ม ุ ก มั ง กรเพลิ ง แล ว แค ป รมาจารย ว ิ ญ ญาณเหาะเหิ น ระดั บ สู ง
คนหนึ่งอยา งเจา ไมอาจทำใหไดรั บ บาดเจ็ บ เลยสั กนิด ” วิหคเพลิงยักษหั ว เราะ
อยางบาคลั่ง สองปกกระพือสองสามครั้ง ชั่วขณะนั้นพลันมวนเปลวเพลิงเขาไป
จากนั้นไมวาวิหคสีเงินสามตัวจะขับเคลื่อนลำแสงอัสนีหมายจะหนีออกจากอาณาเขต
ของไขมุกมังกรเพลิงอยางไร ไขมุกเม็ดนี้ก็จะไลตามติดไปราวกับตัวออนแมลงวันที่ฝง
ติดกระดูก ไมอาจสลัดออกไดเลยสักนิด และเปนเพราะแบงความสนใจไป วิหคเงิน
ทั้งสามจึงไดรับบาดเจ็บหนักอยางตอเนื่อง เปลงแสงระยิบระยับ และเริ่มออนแอลง
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ วิหคเพลิงตัวนั้นก็โจมตีเขามาไมหยุดอยางบาคลั่ง
วิหคสีเงินสามตัวจึงทำไดเพียงตานทานอยูในทะเลเพลิงอยางยากลำบากเทานั้น
ชายรางใหญหัวโลนที่กลายเปนวิหคเพลิงเห็นเชนนั้น แววตาพลันเปลงประกาย
เผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา ปากก็เปลงเสียงรองไพเราะออกมา
ในที่สุดวิหคยักษสองหัวก็เคลื่อนไหว
เห็นเพียงปกของมันพลันสยายออก หัวทั้งสองเปลงเสียงรองคำรามต่ำๆ ออกมา
พรอมกัน รางกายอันใหญโตพลิ้วไหวกลายเปนลำแสงหลากสี พุงตรงมวนเขาไปหา
วิหคสีเงินสามตนที่อยูในทะเลเพลิง
เมื่อวิหคสีเงินสามตัวเห็นฉากนั้น ก็เกิดความวุนวายขึ้น หนึ่งในนั้นรองตะโกน
ออกมาวา
“รีบสำแดงเคล็ดวิชาอัสนีหลีกหนีหลบเร็ว! อยาตานทานกับวิหคแดงคำรามตัวนั้น
ตรงๆ”
เมื่อเอยคำนี้ออกไปวิหคสีเงินสามตัวก็กลายเปนประจุไฟฟาสีเงินสามสายพุง
ออกมาจากทะเลเพลิงอยางบาคลั่ง ระหวางทางรางกายก็รับการโจมตีหนักๆ ไปอีก
สองสามครั้ง
เมื่อพวกมันหนีออกจากทะเลเพลิงได ก็เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไปอยาง
ไรรอ งรอย
ลำแสงหลากสีมวนไปกลางอากาศ ชั่วขณะนั้นลำแสงพลันหมนแสงลง วิหคยักษ
สองหัวตัวนั้นปรากฎขึ้นอีกครั้ง หัวยักษสองหัวหันไปทางซายทีขวาทีไมหยุด
ไขมุกมังกรเพลิงที่ อยู กลางอากาศเม็ด นั้ นหมุ นติ้ วๆ อยูกลางอากาศไม ห ยุ ด
ราวกับวาขาดรองรอยของวิหคเงินทั้งสามตัว
วิหคเพลิงสองสามตัวเห็นเชนนั้นพลันตกตะลึง ตัวที่ใหญที่สุดหนึ่งในนั้นพลันหุบปก
คาดไมถึงวาจะกลายเปนมนุษยทามกลางเปลวเพลิงอีกครั้ง
นั่นก็คือ ชายรางใหญหัวโลนนามวาเทียนหมิงผูนั้น
หลังจากที่เขากวาดสายตาไปยังจุดที่ประจุไฟฟาสีเงินสามสายหายไป ก็เปลงเสียง
หัวเราะอยางเย็นชาออกมา
“อยาคิดวาอาศัยการอำพรางตัวของพลังอัสนี แลวขาจะตามหาพวกเจาไมพบ ครั้งนี้
นอกจากอาศัยไขมุกมังกรเพลิงแลว ขาก็ยังนำตอกายสิทธิ์มาดวย ขาเคยแยกแยะ
แกนผลึกของเผาวิหคสวรรคของพวกเจาแลว แมนวาพวกเจาจะฝกฝนเคล็ดวิชา
อัสนีหลีกหนีแลว ก็ไมอาจหนีการไลลาของพวกมันได” เสียงพูดดังขึ้น ชายรางใหญ
หัวโลนอาปากออก พนน้ำเตาสีแดงออกมา
ของสิ่งนี้หมุนติ้วๆ เทปากน้ำเตาลง ฉับพลันนั้นเสียงฟูๆ พลันดังขึ้น พนตอพิษ
สีเหลืองสองสามตัวออกมา ทุกตัวมีขนาดสองสามชุน เปลงลำแสงเรืองๆ ออกมา
ชายรางใหญเปลงเสียงรองประหลาดๆ ออกมา นิ้วชี้ไปทางที่วิหคสีเงินหายวับไป
ชั่วขณะนั้นเสียงหึ่งๆ ของตอวิญญาณสองสามตัวพลันบินออกมา
ชายรางใหญหัวเราะอยางโหดเหี้ยม มือหนึ่งตะปบทางดานหลัง
ชั่วขณะนั้นคนของเผาแดงสดตนอื่นที่กลายเปนวิหคเพลิง พลันสยายปกทั้งสอง
ออกแลวบินออกไป ไลตามหลังตอวิญญาณทุกตัวไป
วิหคยักษสองหัวตัวนั้นก็เขามาใกลอยางชาๆ เชนกัน
ครูตอมารอยยิ้มบนใบหนาของชายรางใหญพลันแข็งคาง
หลังจากที่ต อวิ ญ ญาณสองสามตัว บิ น วนรอบๆ แลว ก็รวมกันตั วที ่แ ห ง หนึ่ ง
ลอมที่เดียวกันเอาไว บินวนขึ้นลงไมหยุด
จะพบคนของวิหคสวรรคคนเดียวไดอยางไร
คนของเผาแดงสดทั้งหมดตางพากันงุนงง
แตชายรางใหญหัวโลนกลับเด็ดขาดมาก ครูตอมาก็มีปฏิกิริยาตอบสนองในทันที
ฉับพลันนั้นพลันอาปากออกพนคำวา “ลงมือ” สองคำออกมา
แตไมรอใหวิหคเพลิงสองสามตัวกระโจนเขามา จุดที่ตัวตอวิญญาณเหลานั้นลอม
อยูพลันมีเสียงถอนหายใจของบุรุษดังขึ้น
ทันใดนั้นลำแสงสีเทาก็เปลงแสงเจิดจา ลำแสงวิญญาณกวาดไปกลางอากาศ ตัว
ตอวิญญาณสองสามตัวถูกกวาดเขาไปขางใน แลวหายวับไปอยางไรรองรอย
วิหคเพลิงสองสตัวพลันตกตะลึง อาปากออกอยางไมตองคิด ชั่วขณะนั้นเสาเพลิง
หนาๆ สองสามกลุมพลันเปลงเสียงรองคำราม ฉากที่แปลกประหลาดพลันปรากฎขึ้น!
เห็นเพียงลำแสงสีเทาเปลงแสงสวางวาบ เสาเพลิงเหลานั้นทยอยกันสลายหายไป
ทามกลางมานลำแสง ชั่วพริบตาก็หายไป
ครานี้วิหคเพลิงเหลานี้พลันตกใจจนสะดุงโหยง ชั่วขณะนั้นรางกายที่เดิมทีโถม
เขามาอยางโหดเหี้ยมพลันหยุดชะงัก ลวนใชสายตาตกตะลึงระคนสงสัยกวาดไปทาง
เงารางของบุรุษไมคุนหนาในลำแสงสีเทา
คนผูนี้สวมชุดคลุมสีเขียว หนาตาธรรมดาๆ ที่แผนหลังมีปกสีขาวคูหนึ่ง คาดไม
ถึงวาจะเปนคนของเผาวิญญาณคนหนึ่ง แตไมใชหนึ่งในสามคนของเผาวิหคสวรรค
กอนหนา
“นายทานคือใคร?” ชายรางใหญหัวโลนพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็รองคำราม
ออกมา รางกายแผกลิ่นอายที่นาตกตะลึงออกมา
“ใคร หรื อว า เจ า ดู ไ ม ออก?” ผู  ท ี ่ ส วมชุ ด สี เ ขี ย วตอบกลั บ ด ว ยรอยยิ ้ ม บางๆ
นั่นก็คือ หานลี่ที่ถูกเผยฐานะออกมาอยางคาดไมถึง
เขามีสีหนาเหมือนราบเรียบ แตในใจกลับวิจารณอยูในใจไมหยุด
คนของเผาประหลาดเหลานี้ต อสู กัน ก็ต อสู ไปสิ เหตุใดถึงดึงเขาเขา ไปเกี ่ ย ว
เขาไมใชคนของวิหคสวรรค เหตุใดตัวตอวิญญาณเหลานั้นถึงไดมาหาเขา
หานลี่เอยพึมพำ รูสึกวาแปดเกาสวนจะเกี่ยวของกับปกวายุอัสนีที่ตนเองพัฒนา
ระดับขึ้นและขนของวิหคมัจฉา
โชคดีที่ในเวลาเดียวกันกับที่เขาปรากฎตัวนั้น ไมเพียงจะทำใหปกวายุอัสนีเปลี่ยนสี
แลวยังสรางภาพลวงตาเปนปกที่เหมือนกับปกของวิหคสวรรคออกมา และไมกลัววา
จะถูกผูใดดูออก
“คนของวิหคสวรรค?” ชายรางใหญหัวโลนกวาดสายตาไปที่ใบหนาของหานลี่
และปกสีขาวที่แผนหลัง ชั่วขณะนั้นจิตสังหารพลันปรากฎขึ้น
หานลี่กลับฉีกยิ้มไมปริปากใดๆ
“ไมวาเจาจะมาปรากฎตัวที่นี่ไดอยางไร แตในเมื่อถูกขาพบแลว ก็มีเพียงแต
ตองตายเทานั้น ฆามัน” ชายรางใหญหัวโลนออกคำสั่งอยางเย็นชา
ชั่วขณะนั้นวิหคเพลิงเหลานั้นที่อยูรอบๆ พลันกรูกันเขามา สองปกและสองกรงเล็บ
โบกสะบัด กรงเล็บลำแสงสิบกวาสายหมุนวนปะปนกันอยูในเปลวเพลิง ตรงเขามา
หานลี่
และในตอนนั้นเองไขมุกมังกรเพลิงพลันเปลงแสงสวางวาบ ชั่วครูก็เคลื่อนยาย
ออกไปยี่สิบจั้งโดยไมรูเพราะเหตุใด มาปราฎเหนือหัวของหานลี่
มานลำแสงสีแดงชั้นหนึ่งหอหุมลงมาในเวลาเดียวกัน
หานลี่พลันขมวดคิ้ว และไมเห็นวาเขาจะเคลื่อนไหวใดๆ แคสะบัดมือสีดำขางหนึ่ง
ลำแสงสีเทาเบื้องหนาขยายขนาดขึ้นหลายเทา กรงเล็บลำแสงและเปลวเพลิงจมเขา
ไปและแข็งคาง ทันใดนั้นลำแสงก็เปลงแสงสวางวาบ แตกออกเปนเสี่ยงๆ หายวับไป
อยางไรรองรอย
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นปกที่แผนหลังของหานลี่พลันมีเสียงฟารองดังขึ้น
รางกายเลือนลางหายวับไปทามกลางลำแสงอัสนีสีทอง ครูตอมาเขากลับมาปรากฎตัว
ที่กลางอากาศดานขางไขมุกกลมๆ สีแดง มือหนึ่งยื่นออกไปอยางรวดเร็วราวกับ
สายฟา คาดไมถึงวาจะตะปบไขมุกกลมๆ เอาไวในมือ
ไขมุกมังกรเพลิงเปลงเสียง “พรึ่บ” ออกมา ไมเพียงจะมีลำแสงสีแดงชั้นหนึ่ง
ทะลักออกมา ยังสรางภาพลวงตางูเหลือมยักษสีแดงสดยาวสองสามจั้งตัวหนึ่งออกมา
อาปากใหญๆ ออกหมายจะงับแขนของหานลี่
เสียง “ปง” ดังขึ้น!
แขนมีลำแสงสีทองสวางวาบ ผิวมีเกล็ดสีทองเล็กๆ ปรากฎขึ้น ยังคงปลอยให
งูเหลือมเพลิงงับมาที่เขา แตกลับไมไดรับบาดเจ็บเลยสักนิดราวกับเหล็กกลาบริสุทธิ์
ออกแรงที่นิ้วทั้งหาที่ควาไขมุกเอาไว หลังจากแผนหลังมีเงาสีทองจางๆ สวางวาบ
ก็เปลงเสียงประหลาดๆ ออกมา
ไมเพียงผิวของไขมุกมังกรเพลิงที่ถูกระเบิดออก แมแตตัวของไขมุกก็ยังแตก
ออกเปนเสี่ยงๆ ภายใตพลังมหาศาลของหานลี่
สองมือถูเขาดวยกันอีกครั้ง ชูสิบนิ้วขึ้น ผงสีชมพูกลุมหนึ่งปลิววอนไปตามแรงลม
ตั้งแตที่หานลี่ทะลายการโจมตีอีกระลอกของพวกเขา จนถึงตอนที่เคลื่อนยายมา
กลางอากาศ อาศัยแคพลังมหาศาลบีบไขมุกมังกรเพลิงจนแตกละเอียด มันเกิดขึ้น
แคชั่วพริบตาเทานั้น
กลุมคนของเผาแดงสดที่อยูดานลางตางมองกันอยางตกตะลึง
“คาดไมถึงวาเจาจะทำลายสมบัติของเผาแดงสดของพวกเรา!” แมนวาชายรางใหญ
หัวโลนจะรูสึกตกตะลึงเชนกัน แตทันใดนั้นก็นึกถึงผลจากการที่ไขมุกมังกรเพลิงถูก
ทำลายขึ้นมา แลวจึงอดที่จะตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวไมได
เขาเปลงเสียงรองแหลมๆ ออกมา รางกายพลิ้วไหว กลายเปนวิหคเพลิงขนาดยักษ
ตัวหนึ่งพุงออกไปอีกครั้ง วิหคยักษสองหัวตัวนั้นกลายเปนลำแสงหลากสีผืนหนึ่ง
มวนวนไป
ตอนที่ 1414 แดงสดลาถอย
หานลี่เห็นฉากนี้พลันมุมปากกระตุก ไมเห็นวาเขาจะใชสมบัติใดๆ ปกที่แผนหลัง
กลับกระพือออก กลายเปนเสนไหมผลึกสายหนึ่งพุงออกไป แตระหวางทางผานพลัน
เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไป
ชายรางใหญที่กลายเปนวิหคเพลิงพลันใจหายวาบ อาปากออกอยางไมตองคิด
พนเปลวเพลิงสีมวงออกมา ปกคลุมเบื้องหนาหางออกไปสิบจั้งเศษ
หากหานลี่แอบเขามาในบริเวณนี้ละก็ จะตองถูกเพลิงนี้มวนเขาไปอยางพอดิบพอดี
แตเหนือกวาที่ชายรางใหญหัวโลนคาดเอาไว หานลี่ไมไดสนใจเขาตั้งแตแรกแลว
หลังจากลำแสงสีขาวเปลงแสงสวางาบ คนก็มาปรากฎตัวเหนือสองหัวของวิหคยักษ
อยามองวาวิหคยักษมีรางกายใหญโต แตปฏิกิริยากลับวองไวอยางหาที่เปรียบ
ชั่วพริบตาที่หานลี่มาปรากฎตัว หัวของมังกรวารีของวิหคตัวนี้ก็ชูขึ้น พน
เสาลำแสงสีฟาออกมา
เสาลำแสงนี้ยังไมทันเขามาประชิดตัว อากาศรอบๆ ก็เปลงเสียง “แกรก” ออกมา
น้ำแข็งเย็นเยียบหนาบางไมเทากั้นทอดตัวยาวมา
คาดไมถึงวาเสาลำแสงนี้เย็นเยียบขนาดนี้ ไมดอยไปกวาเปลวเพลิงน้ำแข็งสวรรค
ของหานลี่ในตอนแรก ราวกับวาแชแข็งไดแมกระทั่งอากาศ เปลงแสงสวางวาบแลวมา
อยูตรงหนาของหานลี่
แววตาของหานลี่ฉายแววตกตะลึง แตเมื่อเผชิญหนากับเสาลำแสงนี้แลวก็ไมมี
ทางหลบหลีกได สะบัดแขนเสื้อ ลำแสงสีเทาปรากฎขึ้นตรงหนา
เมื่อเสาลำแสงสีฟาเขามา ก็แข็งตัวราวกับจมเขาสูน้ำ
และแคพริบตาที่เสียไป ลำแสงหาสีในแขนเสื้อก็เปลงแสงสวางวาบ ยื่นมือที่
ขาวบริสุทธิ์ดุจหยกออกมาก
นิ้วทั้งหาปดไปที่หนาอก หัวกะโหลกหนาตาโหดเหี่ยวหาหัวเปลงแสงสวางวาบ
แลวหายวับไป ทันใดนั้นเปลวเพลิงหาสีก็ทะลักออกมาจากฝามือ ลำแสงเปลงประกาย
ดูเครงขรึมมาก
หลังจากผานการฝกฝนมาหลายป ในที่สุดแขนทั้งสองของหานลี่ก็ฝกฝนคาถา
รอยชีพจรหลอมสมบัติสำเร็จแลว จากนั้นพลันสำแดงฝมืออยางสบายๆ ก็สามารถ
ควบคุมภูเขาเทวะดูดปราณและหามารใจเดียวไดอยางเต็มประสิทธิภาพ แมกระทั่ง
หลังจากผนึกกำลังกับตัวเองแลว ก็ยังเพิ่มขึ้นหลายเทา อานุภาพจะพัฒนาขึ้นตามการ
ฝกฝนของตนเชนกัน
เสียงดังขึ้นเบาๆ ในที่สุดเสาลำแสงสีฟาก็ทำลายการขัดขวางงของลำแสงเทวะ
ดูดปราณไป โจมตีไปยังฝามือหยกขาว
แตผิวของฝามือพลันมีเปลวเพลิงหาสีไหลโคจรอยู เสาลำแสงเย็นเยียบเปลง
แสงสวางวาบแลวหายไปในทันที คาดไมถึงวาจะไมไดรับบาดเจ็บเลยสักนิด
วิหคยักษเห็นเชนนั้น หัวเสืออีกหัวก็ชูขึ้นอยางไมลังเลเลยสักนิด พนคลื่นเสียง
กึ่งโปรงใสออกมา ตรงมาหาหานลี่
“หึ”
หานลี่แคนเสียงอยางเย็นชา รางกายมีลำแสงสีทองสวางจา จากนั้นพลันพลิ้วไหว
รางทั้งรางที่มีลำแสงวิญญาณปกคลุมทะลวงเขาไปในคลื่นเสียง
เสียง “ตูมๆๆ” ดังขึ้น คลื่นเสียงและลำแสงสีทองปะทะกัน ระเบิดออกอย าง
ตอเนื่อง
แต ห านลี ่ก ลั บทำเป นมองไม เ ห็ น ระเบิ ดเหลา นี้ หลั ง จากเปลง แสงสวางวาบ
สองสามครั้ง คนก็ทะลวงคลื่นเสียงมาอยูหนาวิหคยักษ ทุบกำปนทั้งสองลงไป
วิหคยักษเองก็นับวาโหดเหี้ยมมาก รางกายหลบไปอีกทาง กรงเล็บยักษขางหนึ่ง
เปลงแสงเย็นเยียบออกมาตะปบออกไปกลางอากาศ
เสียงแหวกอากาศดังขึ้น รางของหานลี่ลวนถูกกรงเล็บนี้ปกคลุมเอาไว
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม กำปนทั้งสองขางหนึ่งมีลำแสงสีสวางวาบ อีกขางหนึ่งมี
เปลวเพลิงลำแสงหาไหลวนโคจรไมหยุด โจมตีไปยังกรงเล็บยักษอยางไมลังเลเลย
สักนิด
เสียงตูมๆ สองครั้งดังขึ้น!
วิหคยักษเปลงเสียงรองแสบแกวหูออกมา กรงเล็บยักษไมทันไดหุบกรงเล็ บ
ก็แตกออกเปนเสี่ยงๆ ทามกลางลำแสงประหลาด จากนั้นก็กลายเปนหมอกสีโลหิต
จากนั้นเงารางคนพลันเปลงประกาย หานลี่ทะลุออกมาจากหมอกโลหิตดวย
ใบหนาไรความรูสึก
วิหคยักษสองหัวมีแววตาดุรายฉายแววสวางวาบ คาดไมถึงวาจะไมสนกรงเล็บที่
ถูกทำลายของตน ยืดทั้งสองออกมา อาปากที่เปนบอโลหิตทั้งสอง งับลงมาที่หานลี่
อยางรุนแรง
กลิ่นคาวเลือดลอยมาปะทะใบหนา
ชายรางใหญหัวโลนและคนของเผาแดงสดคนอื่นๆ ที่อยูอีกดานเองก็มีปฏิกิริยา
ตอบสนอง ชั่วขณะนั้นพลันโจมตีเขามาดวยความตกตะลึงระคนโกรธแคน
เปลวเพลิงสีมวงกลุมหนึ่งและลูกบอลเพลิงจำนวนนับไมถวนพุงออกมาอยางหนาแนน
แตก็ผนึกรวมกันระหวางทาง กลายเปนทะเลเพลิงสีแดงสดขนาดรอยจั้ง
รางของวิหคเพลิงเหลานั้นพลันเคลื่อนไหว ทยอยกันจมหายเขาไปในเปลวเพลิง
อยางไรรองรอย
ทะเลเพลิ ง พลั นหมุ นวน ชั ่ ว ครู  ก็ ม  ว นเอาคลื ่ น เพลิ ง ขนาดยั ก ษ ส ู ง สิ บ จั ้ ง เศษ
ตรงเขามาหาหานลี่
แต ห านลี ่ ใ นครานี ้ จ ะปล อยโอกาสให พ วกเขาโจมตี ไ ด อย า งไร มื อทั ้ ง สองที่
รายอาคมอยูนานแลว แผนหลังมีรูปสามหัวหกแขนสีทองปรากฎขึ้น แขนทั้งสอง
ลางเลือนเล็กนอย คาดไมถึงวาจะหายวับไป
แทบจะในเวลาเดียวกันวิหคยักษที่อยูดานบนก็เปลงแสงสีทองสวางวาบสองแหง
ชั่วครูกลางอากาศก็มีแขนยักษสองขางปรากฎขึ้น ฝามือขนาดสองสามจั้ง เปนสีทอง
เรืองรอง กำหมัดแลวทุบลงมาดานลาง
หลังจากที่เสียง “ปงๆ” ดังขึ้นสองครั้ง ภายใตความคาดไมถึงกำปนสีทองขนาดยักษ
ทุ บ ลงมาบนร า งของวิ ห คยั ก ษ อย า งแน น หนา คาดไม ถ ึ ง ว า จะทุ บ ป ศ าจตนนี ้ จ น
เซถอยไป ไมอาจยืนไดอยางมั่นคงได
จากนั้นหานลี่ก็ใชมือหนึ่งกดทะเลเพลิงที่พัดเขามาอยางรวดเร็ว
ภูเขายักษสีดำปรากฎขึ้นเบื้องหนา มันหมุนติ้วๆ กลายเปนมานลำแสงขนาดยักษ
ชั้นหนึ่ง หมุนวนไปทางคลื่นเพลิงเบื้องหนา
เสียงอึกทึกดังขึ้น เปลวเพลิงลำแสงสีเทาตัดสลับกัน ครานั้นตางฝายตางยืนกราน
อยางไมยอมออนขอใหกัน
แมนวาลำแสงเทวะดูดปราณจะทำใหพลังเบญจธาตุไรรูปราง แตแนนอนวาก็มี
ขอจำกัด คนของเผาแดงสดจำนวนมากกระตุนพลังของเปลวเพลิงเขามาโจมตี ก็ทำได
เพียงตานทานเอาไวเทานั้น
ทวาเปาหมายของหานลี่เดิมที่ก็ไมไดอยูที่นี่
เขาถือโอกาสงามๆ นี้ หัวไหลสั่นเทา แขนที่เหลือทั้งสี่บนรูปที่แผนหลัง เปลง
แสงสวางวาบแลวหายไปเชนกัน
ในเวลาเดียวกันวิหคยักษก็เปลงแสงสวางวาบขึ้นกลางอากาศ ยื่นแขนยักษสีทอง
อีกสี่แขนออกมา
แขนสีทองเหลานี้ตะปบออกไปกลางอากาศราวกับฉีกขาดอากาศ มือที่เปนดุจเงา
บีบคอทั้งสองของวิหคยักษเอาไว
และวิหคยักษที่เพิ่งจะไดสติจากการถูกโจมตีเห็นสถานการณเชนนี้พลันตกตะลึง
รางกายอันใหญโตพยายามบิดตัวไปมาอยางสุดชีวิต แตปกของมันกลับหนักอึ้งไมอาจ
ขยับตัวไดราวกับมีภูเขายักษทับอยูบนรางก็ไมปาน
คาดไม ถ ึ ง ว า มื อ ยั ก ษ ส ี ท องอี ก สองข า งจะดึ ง ป ก เอาไว ต ั ้ ง แต เ มื ่ อ ไหร ก ็ ไ ม รู
ทำใหครานั้นไมอาจขยับกายไดเลยสักนิด
วิหคยักษสติกระเจิง ยังไมรอใหไดสำแดงวิชาอื่นเพื่อเอาตัวรอด มือยักษสีทองที่
บีบคออยูก็ออกแรงพรอมกัน พลังมหาศาลสี่กลุมทะลักออกมา
รางของวิหคยักษนับวาคอนขางแข็งแกรง แตภายใตพลังมหาศาลนี้ คอก็เปลง
เสียง “กอก” ราวกับกระดาษ ถูกบิดออกเปนสองสวน
ครานี้หานลี่ถึงไดคลายอาคมที่มือทั้งสอง รูปสีทองที่แผนหลังหายไป แขนหกขาง
สีทองเองก็หายวับตามไป
จากนั้นหัวทั้งสองและรางที่ไรหัวพลันตกลงจากกลางอากาศ
หานลี่พลันหางตากระตุกสะบัดแขนเสื้อ ลูกบอลเพลิงสีเงินสามกลุมพุงออกมาในทันที
เปลงแสงสวางวาบแลวโจมตีไปยังรางและหัวของวิหคยักษ
หลังจากเสียง “ฟูๆ” ดังขึ้น
เปลวเพลิงสีเงินพลันขยายใหญขึ้น ชั่วพริบตาก็เผาไหมพวกมันจนเปนเถาถาน
จากนั้นก็ผนึกรวมตัวกันที่ใจกลาง กลายเปนวิหคเพลิงสีเงินตัวหนึ่งบินกลับมา
“ไป!”
เห็นหานลี่ชูมื อขึ ้นก็ส ัง หารวิห คยักษท ี่ม ีก ำลั งแทบจะเทีย บเทา กั บตัว เองได
ชายรางใหญหัวโลนที่สงตัวออกมาจากทะเลเพลิงที่เดือดพลานก็เอยออกมาดวย
ความตกตะลึง
ทันใดนั้นเสียงแหวกอากาศก็ดังขึ้น วิหคเพลิงแปดเกาตัวเปลงแสงสวางวาบพุง
ออกมาจากเปลวเพลิง ลวนบินออกไปกลางอากาศ
ดูแลวในที่สุดชายรางใหญของเผาแดงสดก็เขาใจแลววาคนของตัวเองไมใชคตู อสู
ของหานลี่ ประกอบกับที่มีวิหคสวรรคคนอื่นๆ คอยจับจองอยูดานขาง ทันใดนั้นก็
เตรียมถอยอยางไมลังเล
“เทียนหมิง จะไปตอนนี้ ไมคิดวาสายไปหนอยหรือ!”
กลางอากาศมีเสียงของบุรุษอายุสามสิบกวาปของเผาวิหคสวรรคดังขึ้น จากนั้น
ประจุไฟฟาสีเงินก็เปลงแสงสวางวาบกลางอากาศ วิหคยักษสีเงินสามตัวปรากฎขึ้น
มีทัพเสริมที่คาดไมถึง ในที่สุดคนของวิหคสวรรคที่ซอนตัวอยูดานขางก็ทนไม ไหว
เริ่มลงมือ
มันพนประจุไฟฟาสีเงินจำนวนนับไมถวนออกมา ชั่งพริบตาก็กลายเปนตาขายไฟฟา
ขนาดยักษหอหุมลงมา
ชายรางใหญหัวโลนที่กลายเปนวิหคเพลิงเปลงเสียงรองยาวๆ ออกมา ชั่วขณะนั้น
วิหคตนอื ่นๆ พลันมารวมตัว กั นโดยมี เ ขาเป น ใจกลาง คาดไมถึง วา จะรวมตั ว กั น
กลายเปนวิหคเพลิงขนาดมหึมาความยาวยี่สิบจั้งตัวหนึ่ง
วิหคเพลิงตัวนี้เปลงแสงสีมวงออกมาจากราง หลังจากกระพือปกทั้งสอง ก็ทะลวงผาน
ตาขายไฟฟา
วิหคเพลิงสีเงินสามตัวพลันตกตะลึง ไมกลาปะทะพลางหลบทางให
เปลวเพลิงสีมวงของวิหคเพลิงสีมวงพลันขยายใหญขึ้น กระพริบวาบสองสามครั้ง
ก็หนีออกไปจากตาขายกักมา ปรากฎตัวหางอกไปรอยจั้งเศษ
ความเร็วของเขานับวาทำใหผูคนที่ไดยินลวนตะลึงงัน
หานลี ่ ม องฉากนั ้ นแววตาเปล ง ประกายสว า งวาบ แต ก ลั บ ลอยนิ ่ ง อยู  ท ี ่ เ ดิ ม
ไมมีทาทีจะไลตามไปเลยสักนิด
วิหคเงินสามตัวลังเลเล็กนอย แตก็ไมกลาตามไปเชนกัน
กลับเปนผิวของพวกมันที่มีประจุไฟฟาสีเงินเปนประกาย กลายเปนมนุษยอีกครั้ง
ทามกลางเสียงฟารอง
“ขอบพระคุณนายทานที่ลงมือชวยเหลือ หากไมเชนนั้นพวกเราคงยากที่รอดจาก
เคราะหครั้งนี้ แตพี่หนาตาไมคุนเลย เปนคนของเผาที่หลบซอนตัวอยูนอกมหาสมุทร
หรือ?” บุรุษที่เปนผูนำของเผาวิหคสวรรค เผชิญหนากับหานลี่ผูที่ใชพลังของคน
คนเดียวกดคนของเผาแดงสดกลุมหนึ่งก็ไมกลาดูแคลนเลยแมแตนอย เอยถามพรอม
ประสานกำปนคารวะตั้งแตไกลๆ
“ใชคนของเผาวิหคสวรรคหรือไม ผูแซหานเองก็ไมแนใจ ขามีตนกำเนิดคอนขางพิเศษ
ฝกฝนอยูที่นอกมหาสมุทรตามลำพังมาจนถึงทุกวันนี้ ครั้งนี้แคกลับมายังแผน ดิน
เฟงหยวนครั้งแรกเทานั้น ทวาดูจากรูปลักษณภายนอกแลว ขาคลายกับพวกเจามาก
มิ เ ช น นั ้ น คงไม ล งมื อ ไล ค นของเผ า แดงสดไป” ความคิ ด ของหานลี ่ เ คลื ่ อ นไหว
อยางรวดเร็ว แตปากกลับเอยอยางราบเรียบออกมา
“อาๆ นายทานไมจำเปนตองสงสัย ทานคือ ชนรุนหลังของเผาวิหคสวรรคที่ถูก
ละเลยอยางแนนอน ไมตองพูดถึงรูปลักษณภายนอก แคกลิ่นอายของวิหคสวรรคที่แผ
ออกมาก็เปนของจริงอยางแนนอน และยิ่งไปกวานั้นยังเขมขนขนาดนี้ พี่นาจะเปน
ชนรุนหลังสายตรงของเผาเรา มิเชนนั้นตัวตอวิญญาณเหลานั้นไมมีทางหานายทาน
พบแน” บุรุษของเผาวิหคสวรรคนามวาเฟงเสี้ยวหัวเราะดวยเสียงแหบแหงขณะเอย
“พี่ฝกฝนความสามารถจากนอกมหาสมุทร ขาก็วาเหตุใดถึงไมคอยเหมือนพวกเรา”
สตรีของเผาวิหคสวรรคหนาตางดงามผูน ั้นเอยอยางถึงบางออ
“ใชแลว อยางอื่นยังหลอกลวงได แตกลิ่นอายของวิหคสวรรคไมมีทางผิดแน มิเชนนั้น
เผาเบญจธาตุตางๆ ที่มีรูปลักษณภายนอกเหมือนกับเราคงไมอาจแยกแยะกันได”
บุรุษเผาวิหคสวรรควัยเยาวเองก็เอยออกมาพรอมกลั้วหัวเราะ
หานลี ่ ไ ด ฟ  ง คำพู ด เหล า นี ้ จ บ ก็ ร ู  ส ึ ก ผ อ นคลายลง ดู แ ล ว การหลอมขนของ
วิหคมัจฉาเสนนั้นจะชวยใหเขาปกปดฐานะของตนเองได ครั้งนี้ถือวาไมไดลงมือ
อยางเปลาประโยชน เขาเอยอยางราบเรียบในทันที
“ในเมื่อเหลาสหายมั่นใจขนาดนี้ ดูแลวขาก็นาจะเปนคนของเผาวิหคสวรรคไมผิดแน
แตเมื่อครูขาไดยินคำพูดของคนเผาแดงสด ดูเหมือนวาสถานการณของเผาวิหคสวรรค
ครานี้จะไมคอยดีนัก”
“เรื่องนี้นั้นพูดยาก เทียนหมิงอาจจะแคขูใหตกใจ และอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับ
เผาจริงๆ มิเชนนั้นแมนวาเผาวิหคสวรรคของพวกเราจะเปนเผาที่คอนขางออนแอใน
บรรดาเจ็ดสิบสองสาขาของเผาวิญญาณเหาะเหิน พวกเขาเองก็ไมกลาแอบเขามา
อยางเปดเผยและแยงของไปเชนนี้” เมื่อไดยินคำพูดของหานลี่ เฟงเสี้ยวพลันมีสีหนา
เครงขรึมขึ้นอีกครั้ง
ตอนที่ 1415 แดนศักดิ์สิทธิ์ของวิหคสวรรค
“ไมวาจะจริงหรือไม ทางที่ดีที่สุดพวกเราก็ควรกลับไปยังเผา เผาแดงสดเหลานั้น
ไลลาสังหารพวกเราไดครั้งหนึ่ง ระหวางทางอาจจะเกิดการไลลาสังหารครั้งที่สอง
ก็เปนได จากนี้พวกเราสามคนคงตองพึ่งกำลังพี่แลว!” เมื่อมั่นใจวาหานลี่เปนชาว
วิหคสวรรค เฟงเสี้ยวก็ไมปดบังแผนการของตนเอง เอยขอรองหานลี่ดวยความจริงใจ
คนที่เหลืออีกสองคนใชสายตารอคอยมองมาทางหานลี่
ความสามารถที่หานลี่เพิ่งสำแดงออกมาเมื่อครูชางนาตกตะลึงเปนอยางยิ่ง หากมี
คนในเผาเดียวกันที่มีความสามารถเกรียงไกรคนหนึ่งคอยติดตาม ระยะทางตอจากนี้
ก็ไมตองกังวลอะไรแลว
“ก็ได ในเมื่อขานาจะเปนชาววิหคสววรรค ลงแรงเพื่อเผา ก็เปนเรื่องที่สมควร”
หานลี่ขบคิดเล็กนอย แลวตอบตกลง
นี่คือ โอกาสที่เขาจะแอบปะปนเขาไปในเผาวิหคสวรรค จะปฏิเสธไดอยางไร
“ตองรบกวนพี่หานแลว! หลังจากกลับไป ผูแซเฟงจะรายงานคุณงามความดีของ
ทานกับทานอาวุโส” เมื่อไดยินคำนี้ เฟงเสี้ยวก็เอยขอบคุณอยางตอเนื่อง
ที่เหลืออีกสองคนก็เผยรอยยิ้มยินดีออกมาเชนกัน
เมื่อไดยินคำวา ‘รายงานคุณงามความดี’ หานลี่ก็มีทาทีไมคิดเชนนั้น แตสายตา
กลับกวาดไปพิจารณาตาขายเสนไหมสีฟารอบๆ แลวฉีกยิ้มพลางเอยวา
“ไมควรอยูที่นี่นานนัก พวกเราออกเดินทางกันเถิด ตาขายกักมารนี้ ขาเปน
ผูทลายมันเอง”
เอยจบหานลี่ก็ใชมือหนึ่งชี้ไปที่ตาขายเสนไหมที่อยูไกลออกไป วิหคเพลิงที่แตเดิม
บินวนอยูรอบๆ พลันเปลงเสียงรองอันไพเราะนาฟงออกมา กลายเปนเปลวเพลิงสีเงิน
กลุมหนึ่งพุงออกไป
เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น เมื่อเปลวเพลิงสีเงินสัมผัสกับตาขายเสนไหมสีฟา ก็เกิดเปนรู
ขนาดใหญ จากนั้นเปลวเพลิงสีเงินก็แผขยายออกไปตามตาขายเสนไหมอยางรวดเร็ว!
ตาขายเสนไหมสีฟ า ขนาดใหญ ถู กเผาจนมอดไหมท ามกลางเปลวเพลิ งสี เ งิ น
ภายในชั่วลมหายใจ
สิ่งที่เรียกวาตาขายกักมารเมื่ออยูตรงหนาเพลิงกลืนวิญญาณ คาดไมถึงวาจะ
ไมอาจตานทานการโจมตีไดราวกับกระดาษ
ทั้งสามคนของวิหคสวรรคมองจนตาคาง
พวกเขารูสึกวาตัวเองดูเหมือนวาจะดูถูกความสามารถของคนในเผาคนใหม
ไปหนอยจริงๆ
“เอาละ ไปกันเถิด!”
หานลี่เอยจบสองมือพลันรายอาคม เปลวเพลิงสีเงินที่อยูไกลออกไปผนึกรวมตัว
กันอีกครั้ง สรางภาพลวงตาเปนวิหคเพลิงบินกลับมาอีกครั้ง แลวจมหายเขาไปในราง
ของเขาอยางไรรองรอย
ทันใดนั้นทั้งสี่คนก็รวมเดินทางกัน พุงไปยังขอบฟาที่ไกลออกไป
ไมรูวาเปนเพราะหานลี่รักษารูปลักษณของมนุษยเอาไวหรือเปลา ชาววิหคสวรรค
ทั้งสามจึงไมไดกลายเปนวิหคยักษ แคบินไปขางหนาทามกลางลำแสงสีเงินที่หอหุมตัว
เทานั้น
หานลี่รูสึกสนใจความสามารถในการแปลงกายของคนเผาวิญญาณเหาะเหิน
แตก็ไมไดซักถามเรื่องนี้
แค อ าศั ย ข อ อ า งเล็ ก ๆ ว า ตั ว เองมาจากนอกมหาสมุ ท ร สอบถามเรื ่ อ งของ
เผาวิญญาณเหาะเหินและเผาวิหคสวรรคจำนวนมาก
เรื่องเหลานี้ลวนไมใชความลับอะไร เฟงเสี้ยวและพวกทั้งสามจึงตอบกลับตลอด
เชนนั้นหานลี่ไมเพียงจะเขาใจเผาวิญญาณเหาะเหินและเผาวิหคสวรรคเปนอยางมาก
และยังรูวาบุรุษและสตรีวัวยเยาวของเผาวิหคสวรรคคูนี้เปนพี่นองกัน
คนพี่นามวาไปเสวี่ย คนนองนามวาไปหนิง
แนนอนวาทั้งสามคนเปนชาววิหคสวรรค และเอยถามหานลี่ดวยเจตนาแตไมได
เจตนาเล็กนอย แตลวนถูกหานลี่อางวาตนเองฝกบำเพ็ญเพียรอยางหนัก จึงไมคอยได
พูดคุยกับคนอื่นๆ มาเปนขออางไป
เมื่อเห็นหานลี่ไมอยากเปดเผยเรื่องราวของตนเอง เฟงเสี้ยวและพวกก็ไมได
ซักถามตออยางรูจักวางตัว
สำหรับพวกเขาแลวขอแคอีกฝายเปนชาววิหคสวรรคจริงๆ นั่นก็เพียงพอแลว
จากนั้นเฟงเสี้ยวก็พาหานลี่ขามผานเนินเขาตางๆ บินผานผืนหญาและปาไม
มาสองสามแหง ในที่สุดก็มาถึงหนาเทือกเขายักษที่กวางใหญจนสุดลูกหูลูกตา
และนั้นก็ผานมาหนึ่งเดือนแลว
ระหวางนี้ก็ไมพบชาวเผาแดงสดมาขัดขวางอีก แตกลับพบชาวเผาวิหคสวรรค
ระดับต่ำจำนวนไมนอยเคลื่อนไหวอยู
แตสิ่งที่นาเสียดายก็คือ เหมือนวาคนในเผาเหลานี้จะมีทาทีไมรูเรื่องที่เกิดขึ้นในเผา
เชนนั้นจึงทำใหความรูสึกรอนใจของเฟงเสี้ยวและพวกพลันผอนคลายลงหลายสวน
ดูแลวไมใชคนของเผาแดงสดที่โกหก ก็คงเปนเพราะชนชั้นสูงของเผาวิหคสวรรค
ปดขาวเอาไว นี่จึงไมทำใหในเผาวิหคสวรรคเกิดความวุนวาย ยังคงรักษาความเปน
ระเบียบเรียบรอยเอาไวได
หลังจากที่เขามาในเทือกเขา ระหวางทางก็พบกับชาวเผาวิหคสวรรคจำนวนมาก
หนึ่งในนั้นมีทั้งวิหคยักษแปลงกายบินไปมา และมีทั้งคนที่ใชรูปลักษณของมนุษย
เดินไปบนถนนอยางไมรีบรอน
ขณะที่หานลี่กำลังใหความสนใจนั้นก็พบวาชาวเผาวิหคสวรรคที่พบระหวางทาง
ถึงแมนวาจะมีปกและรูปทรงจะเหมือนกันทุกระเบียบนิ้ว แตสีกลับมีหลากหลายไม
เหมือนกัน
ปกของชาวเผาวิหคสวรรคมีสีเขียวและสีขาวมากที่สุด รองลงมาคือเหมือนกับ
เฟงเสี้ยวและพวกอยางไรอยางนั้นคือมีขนสีเงิน
นอกจากนี้ยังมีสีทองและดำสองสี แตจำนวนของเผาวิหคสวรรคเหลานี้กลับ
นอยมาก ตลอดทางที่หานลี่ผานมา ก็แทบจะเห็นชาววิหคสวรรคสวรรคมีปกสองสีนี้
แคสองสามคน
สีปกที่กลาวถึงสามสีแรกลวนไมมีอะไรพิเศษ แตสองสีหลังนั้นเฟงเสี้ยวกและ
พวกทั้งสามกลับมีทาทีไมเหมือนกัน
เมื่อพบกับผูที่มีปกสีทอง แมนวาพลังยุทธจะต่ำกวาพวกเขา เฟงเสี้ยวและพวกก็
แสดงออกอยางนอบนอมมาก เปนฝายเขาไปทักทายคารวะ แตชาวเผาวิหคสวรรคที่มี
ปกสีดำอีกสองคน เฟงเสี้ยวและพวกกลับมีสีหนาปนปง ทั้งไมเขาไปหา และไมทักทาย
คาดไมถึงวาจะบินผานทั้งสองไปราวกับมองไมเห็น
สวนชาวเผาวิหคสวรรคที่มีปกสีดำสองคนนั้นกลับมีพลังยุทธไมดอยไปกวากลุม
ของเฟงเสี้ยว
หานลี่รูสึกสนใจและรูสึกประหลาดใจ แตก็รูวาเรื่องนี้นาจะเกี่ยวของกับขอหาม
ของเผาวิหคสวรรค ดังนั้นจึงทำเปนนิ่งเฉย ไมมีทาทีจะซักถามเรื่องนี้
ผลคือหลังจากบินเขาไปในเทือกเขาไดสามวันสามคืน ในที่สุดกลุมของพวกเขา
ก็มาพบกับกลุมชาววิหคสวรรคที่ลาดตระเวนอยู
คนกลุ  ม นี ้ บ ิ นเข า มา มี ป ระมาณสามสิ บ กวา คน ทุ ก คนล ว นสวมเกราะสีขาว
มือหนึ่งถือหอกยาวเปลงแสงสีเงินเอาไว ดูจากกลิ่นอายที่แผออกมา พลังยุทธนาจะอยู
ในระดับสรางปราณและหลอมรวม
แตจากภารกิจลาดตระเวนแลว ก็นับวาเปนกลุมที่เปนหัวกะทิ
ชายวั ย กลางคนที ่เ ป นผู นำเห็น กลุ  มของเฟ ง เสี ้ย ว ชั ่ ว ขณะนั ้ น พลั น ดีอ กดีใจ
รีบรอนเขามาคารวะ
“คารวะทานแมทัพเฟงและทานแมทัพไป เหลาอาวุโสมีคำสั่งวาหลังจากที่ทั้งสาม
ทานกลับมาแลวไปไปที่หอหมื่นวิหคทันที เอ อรหันตผูนี้คือ…” หลังจากที่ชาวเผา
วิหคผูนั้นเอยจบแลว สายตาก็ตกมาที่เรือนรางของหานลี่ จึงอดที่จะรูสึกแปลกใจ
เล็กๆ ไมได
“นี่คือพี่หานที่กักตนบำเพ็ญเพียรอยูนอกมหาสมุทรมาตลอด ครั้งนี้จึงพาพี่หาน
จะกลับมายังเผาอีกครั้ง ขอโทษดวย ดูแลวพวกเราสามคนตองไปพบทานอาวุโส
ทานไปพักผอนที่เรือนรับแขกในภูเขาศักดิ์สิทธิ์กอนเถิด จากความสามารถของพี่หาน
เหลาอาวุโสจะตองเรียกพบแน” เฟงเสี้ยวไดฟงวาอาวุโสเผาวิหคสวรรคเรียกพบ
พวกเขา หลังจากหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย ก็เอยกับหานลี่ทันที
“ไมเปนไร ขานอยเพิ่งจะกลับมายังเผาเปนครั้งแรก แตเดิมก็คิดจะเดินดูอะไรตาม
ลำพังอยูแลว พี่เฟงไปจัดการธุระกอนเถิด” หานลี่ตอบกลับอยางไมใสใจเลยสักนิด
“แดนศักดิ์สิทธิ์ของเผาเราใหญโตมาก เกรงวาพี่หานคงตองใชเวลาไมนอยกวา
จะคุนเคย นี่คือแผนปายของขา นอกจากเขตตองหามที่เขาไปไมไดแลว ที่เหลือ
พี่หานก็ใชแผนปายนี้สำรวจดูไดตามสบาย ไมมีใครขัดขวางแน พวกเจาสงคนมานำ
พี่หานไปที่เรือนรับแขกคนหนึ่ง” เฟงเสี้ยวขบคิดเล็กนอย ก็ควักแผนปายไมมาโยนให
หานลี่ และหันกายไปออกคำสั่งกับชายวัยกลางคนเผาวิหคสวรรคดวยสีหนาเครงขรึม
“ขอรับ” เห็นไดชัดวาตำแหนงของเฟงเสี้ยวในเผาวิหคสวรรคนั้นไมต่ำตอยเลย
หัวหนากลุมลาดตระเวนระดับหลอมรวมผูนั้นตอบกลับอยางนอบนอม
“พี่เฟง ชางใสใจจริงๆ!” หานลี่ยิ้มรับ
“ที่ไหนกัน! ความจริงแลวขานอยก็ตอนรับอยางไมเต็มที่แลว หลังจากจัดการธุระเสร็จ
ขาจะพาพี่หานชมเมืองดวยตนเอง” เฟงเสียวกลับตอบกลับดวยทาทีรูสึกผิด
ทันใดนั้นเขาและพี่นองตระกูลไป ก็คารวะหานลี่ แลวรีบรอนกลายเปนวิหคยักษ
สีเงินสามตัวจากไป พุงไปทางดานหนา
“ฮว า อวี ่ เจ า พาอรหั นต ไ ปที ่ เ รื อนรั บ แขก จะต องดู แ ลให ด ี ห า มดู แ คลน!”
รอจนเฟงเสี้ยวจากไปไกลแลว ชายวัยกลางคนเผาวิหคสวรรคผูนั้นก็ชี้ไปยังบุรุษ
เผาวิหคสวรรคอายุประมาณสิบแปดสิบเกาอี้คนหนึ่งในบรรดาลูกนอง แลวออกคำสั่ง
เสียงเขม
บุรุษผูนั้นมีทาทางสงางาม คอมตัวลงตอบรับทันที
หลังจากนั้นชายวัยกลางคนก็ออกคำสั่งอีกสองสามประโยค แลวคารวะหานลี่
พลางนำทัพลาดตระเวนจากไป
หานลี่จึงเขาไปในสวนลึกของเทือกเขาตอโดยมีบุรุษนามวา ฮวาอวี่เปนผูนำทาง
บุรุษเผาวิหคสวรรคผูนี้มีทาทีนอบนอมตอหานลี่เปนอยางมาก นอกจากหานลี่จะ
เอยปากซักถามแลว ก็ไมกลาเปนฝายเอยอะไรออกมากอน
แตจากระดับสรางปราณเล็กๆ อยางเขา ก็ไมอาจรูเรื่องสำคัญอะไรมากนัก ดังนั้น
หานลี่เอยถามแคสองสามคำ ก็ขี้เกียจจะเอยปากถามอีก
หลังจากที่บินตามคนผูนี้ไปสองสามชั่วยาม เบื้องหนาก็มีภูเขานอยสูงต่ำลดหลั่น
กันไปสิบกวาลูกปรากฎขึ้น เรียงรายปดทางเขาเอาไว
กลางอากาศเหนือภูเขาเหลานี้ มีเมฆสีดำปกคลุม สายฟาเปลงแสงสวางวาบ
เสียงฟาคำรามดังขึ้นอยางตอเนื่อง ไมอาจทะลุผานไปไดงายๆ
เมื่อเห็นฉากนี้หานลี่พลันหรี่ตาทั้งสองขางลง
จากความสามารถดานเขตอาคมที่ไมธรรมดาของเขา มองปราดเดียวก็รูวาไมวา
ภูเขานอยเหลานี้หรือเมฆดำทะมึนกลางอากาศนั้นลวนเปนภาพลวงตา ถูกคนวาง
เขตอาคมที่ยอดเยี่ยมเอาไว
ดังคาดหลังจากที่ฮวาอวี่พาหานลี่บินมาหนาภูเขานอยๆ ลูกหนึ่ง ปกทั้งสอง
พลันสยายออก ชั่วขณะนั้นขนนกสีขาวนวลเสนหนึ่งพลันบินออกมาจากราง สวางวาบ
แลวหายวับไปจากกลางอากาศ
เสียง “ปง” ดังขึ้น
ภูเขาทั้งลูกเบื้องหนาของหานลี่บิดเบี้ยวเริ่มลางเลือนราวกับเงาสะทอนในแมน้ำ
หลังจากสั่ นเทาสองสามครั้ ง ภูเขาน อยก็ส ลายหายไปราวกั บฟองสบู เบื้องหน า
มีทางเดินยักษสีขาวโพลนปรากฎขึ้น
ชายหนุมบินเขาไปอยางไมลังเล
หานลี่พลันขมวดคิ้วและกลายเปนสายรุงสีเขียวไลตามไปเชนกัน
ทางเดินนี้ทอดยาวสองสามรอยจั้ง หลังจากที่สายรุงสีเขียวพุงออกมา หานลี่ก็
รูสึกเพียงวาเบื้องหนาเปลงประกายเจิดจา
เมืองขนาดยักษที่ไมอาจมองเห็นปลายทางไดพลันปรากฎขึ้นสูสายตา
เมืองแหงนี้ถูกสรางขึ้นจากภูเขา ทั้งสี่ทิศลวนมีภูเขายักษสีเขียวมรกตสูงประมาณ
หมื่นจั้ง และกำแพงเมืองที่เขามาสูครรลองสายตานั้นก็สรางขึ้นจากอิฐยักษสี ขาว
บริสุทธิ์ ไมถือวาสูงนัก มีขนาดแคยี่สิบจั้งเศษ
ครานี้ประตูเมืองไมไดเปดอยู บนทองฟาถูกลำแสงสีขาวโพลนหนาๆ ชั้นหนึ่ง
ปกคลุมเอาไว แตแคสองสามแหงบนกำแพงเมือง มีเสายักษหลากสีสันสิบกว าตน
ตั้งตระหงานอยู แผลำแสงจางๆ ออกมา
มีชาวเผาวิหคสวรรคจำนวนมากกระพือปกบินผานระหวางเสาขนาดยักษเขาไป
ในเมือง
ตอนที่ 1416 หอคอยผนึกวิญญาณ
“ทานอรหันตโปรดตามขานอยมาขอรับ!” หลังจากที่ชายหนุมชาววิหคสวรรครอ
หานลี่พิจารณาเมืองยักษจากที่ไกลๆ เสร็จแลว ก็เอยตอบอยางนอบนอม
หานลี่พยักหนา ปกทั้งสองที่แผนหลังพลันกระพือ บินตามชายหนุมไปที่เสายักษใกลๆ
ระหวางทางชายหนุมเปนฝายเอยปากอธิบายวา
“ทานอรหันตโปรดระวังดวย อยาออกหางจากเสาสวรรคมากเกินไป มีเพียงใน
บริเวณหาสิบจั้งของเสาเหลานี้ที่ไมไดรับผลกระทบจากเขตตองหามของเมือง สามารถ
เขาออกเมืองศักดิ์สิทธิ์ไป เขตตองหามของเมืองวิหคสรรค มีชื่อเสียงมากในทั้งเจ็ดสิบ
สองสาขา ขอแคมีเขตอาคมนี้ ก็เพียงพอจะตานทานกับศัตรูหลายเทาแลว ในอดีต
กาลเผาของเราเคยผานพนอันตรายมาจากการถูกทำลายลางเผามาแลว หลายครั้ง”
ชายหนุมเอยดวยทาทีที่เต็มไปดวยความถือดี
แมวาหานลี่จะไมเคยตรวจสอบเขตอาคมตองหามของเมืองนี้ แตแคแรงกดอันนา
กลัวที่แผออกมาจากมานลำแสง ก็ทำใหรูวาชายหนุมมิไดหลอกลวง จึงอดที่เหลือบ
มองไปสองแวบไมได
ผลคื อ รู ม  า นตาเปล ง แสงสี ฟ  า สว า งวาบ ภายใต เ นตรวิ ญ ญาณวารี ก ระจ า ง
คาดไมถึงวาจะมองจุดที่ไมธรรมดาออก
กลางอากาศมี ลำแสงสีข าวโพลน คาดไม ถ ึ ง ว าจะมีเ สน ไหมสี เ ขีย วเงิ นสองสี
เปลงแสงเรืองๆ ลอยอยู พวกมันดูเหมือนบางมาก แตพลังวิญญาณที่นากลัวที่สงมา
จากกลางอากาศ กลับออกมาจากเสนไหมลำแสงนั้นกวาครึ่ง
หลังจากที่หานลี่มองลึกเขาไปสองสามแวบ ชายหนุมก็บินออกมาจากเสายักษดานขาง
ชั่วครูทั้งสองก็มาปรากฎตัวในเมืองยักษ
มองปราดเดียวบนถนนในเมืองมีสิ่งปลูกสรางอยูเยอะมาก แตกลับไมเหมือนกับ
เมืองของเผามนุษย
สิ่งที่เรียกวาบานเรือนตางๆ ในเมืองมีลักษณเปนเสากลมๆ หลังคาเปนรูปทรงกรวย
สูงเตี้ยแตกตา งกั นไป สูงหนอยมี ข นาดร อยจั้ ง เศษ เตี้ยหน อยกลั บมี ค วามสู ง แค
สองสามจั้งเทานั้น แตทุกแหงลวนมีประตูและหนาตางเปนรูปพัดครึ่งวงกลม
สิ่งที่ทำใหหานลี่ประหลาดยิ่งกวาก็คือยังมีสิ่งปลูกสรางกวาครึ่งที่สรางขึ้นบน
กำแพงหินดานหนึ่งของเมืองที่อยูไกลออกไป บางก็มีถ้ำที่ดูเหมือนรังผึ้งเรียงรายกันอยู
บนกำแพงภูเขาที่สูงชัน
“ทานอรหันตขอรับเรือนรับรองอยูตางจุดตางๆ ของเมือง ทานอรหันตไปพักใน
เรื อนที ่ ใ กล ท ี ่ ส ุ ด เป นอย า งไร? ที ่ น ั ่ น น า จะยั ง ว า งอยู  ” ชายหนุ  ม เอ ย ขอคำรั บ สั่ ง
อยางนอบนอม
“แลวแต เอาตามที่เจาพูดก็แลวกัน” หานลี่มีทาทีอยางไรก็ได
ชายหนุมตอบรับวา “ขอรับ” แลวพาหานลี่บินต่ำๆ ตรงไปขางหนา นี่จึงทำให
หานลี่ไดชมทัศนียภาพของเมืองไดไมนอย และไดบินสวนกลับบุรุษและสตรีมีปกที่บิน
ไปมาอยูต่ำๆ
หลังจากผานไปครึ่งชั่วยาม พวกเขาก็หยุดลงหนาเหลาสิ่งปลูกสรางที่ดูไมเล็กนอย
แหงหนึ่ง และรอนลงบนไปแทนเวทีหนึ่งในนั้น
ปลายสุดของแทนมีเรือนทรงกลมสามชั้นอยูหลังหนึ่ง
เมื่อทั้งสองรอนลงบนพื้น หญิงสาวที่แผนหลังมีปกขนสีขาวบริสุทธิ์ก็เดินออกมา
จากในเรือนในทันที คารวะใหทั้งสองจากที่ไกลๆ
“ที่แทก็พี่ฮวาอวี่นี่เอง อรหันตผูนี้จะพักที่เรือนรับแขกหรือ?”
“ไป ช ุ  ย นี ่ ค ื อท า นอรหั นตห าน แขกของแม ท ั พ เฟ งเสี้ ย ว เจ า ต องดู แ ลใหดี”
คาดไมถึงวาฮวาอวี่จะรูจักหญิงสาวที่ดูเหมือนสาวใชผูนี้ จึงเอยอยางเครงขรึมขึ้น
“แขกของทานแมทัพเฟงเสี้ยว! ขาจะรับใชทานอรหันตเปนอยางดีอยางแนนอน
เจาคะ” เมื่อไดยินชื่อของเฟงเสี้ยว หญิงสาวหนาตานารักผูนี้ก็ตกตะลึง ทันใดนั้น
ก็ตอบกลับอยางนอบนอม
หานลี่พิจารณาหญิงสาวสองสามแวบ เมื่อเห็นวานางมีกลิ่นอายออนแอ พลังยุทธ
อยูแคระดับฝกปราณ ก็พยักหนาเล็กนอยเดินเขาไปในหองอยางสบายๆ
หลังจากที่หญิงสาวกมหนาลง ก็เดินตามเขามาติดๆ
ฮวาอวี่กลับไมกลาเขาไปในเรือน แครออยูดานนอก
หลังจากผานไปชั่วครูดานในก็มีเสียงราบเรียบของหานลี่เอยออกมาวา
“ไมเลว ขาพึงพอใจมาก พักที่นี่แหละ เจาไปไดแลว”
ชายหนุมรูสึกผอนคลายลง ทันใดนั้นก็เอยคำกลาวลาแลวถึงไดสยายปกทั้งสอง
ออกพลางบินออกไป
บนชั้นสามของเรือนหานลี่กำลังยืนอยูตรงหนาหนาตางครึ่งวงกลม สองตาหรี่ลง
เล็กนอยขณะมองชายหนุ ม ค อยๆ จากไป ดานหลังของเขาหา งออกไปสองสาจั้ ง
หญิงสาวนามวาไปชุยคนหนึ่งยืนเอามือประสานกันอยูดานหลัง
“เมืองศักดิ์สิทธิ์มีชาวเผาอยูเทาไหรหรือ!” ฉับพลันนั้นหานลี่พลันเอยออกมาโดย
ไมแมแตจะหันหัวกลับมา
หญิงสาวพลันตะลึงงัน แตปากกลับตอบกลับไปโดยไมรูตัววา
“เมืองศักดิ์สิทธิ์กวางใหญมาก แมจะไมเคยจัดทำสถิติอยางละเอียด อยางนอยที่สุด
ก็นาจะสามสิบสี่สิบลานคนกระมังเจาคะ”
“สามสิบสี่สิบลาน? จำนวนคนนอยขนาดนั้นเลยหรือ?” หานลี่เอยพึมพำกับ
ตัวเอง ดูเหมือนจะไมคอยเชื่อถือนัก
“ทานอรหันตเขาใจผิดแลว ผูที่สามารถเขามาในเมืองศักดิ์สิทธิ์ไดลวนเปนผูที่
บรรลุแลว สามารถแปลงกายเปนมนุษยไดเทานั้น พวกที่พลังยุทธต่ำหนอยหรือไมอาจ
แปลงกายไดนั้นไมมีคุณสมบัติใหเขามาในเมืองศักดิ์สิทธิ์ แมวาเผาของขาจะเปนสาขา
ที่คอนขางออนแอในเผาวิ ญญาณเหาะเหิ น แตก็มีคนเปนพั นลา นคน” หญิงสาว
อธิบายอยางรีบรอน
“เชนนี้นี่เอง!” หานลี่พลันถึงบางออไปเล็กนอย
“อรหันตทานมาที่เมืองศักดิ์สิทธิ์เปนครั้งแรกหรือ?” หญิงสาวเหลือบมองหานลี่
แวบหนึ่ง หลังจากลังเลเล็กนอย ก็อดไมไหวเอยถามขึ้นหนึ่งประโยค
“อันใด แขกที่มาเมืองศักดิ์สิทธิ์แบบขาเปนครั้งแรกมีอยูมากหรือ?” หานลี่กลับดู
เหมือนจะฟงอะไรออก จึงเอยถามอยางราบเรียบ
“อรหันตลอเลนแลว เดิมทีเรือนรับรองแขกมีคนเขาพักนอยมาก ทวาคนที่เขาพัก
ไมใชคนนอกเผาที่เขามาครั้งแรก ก็เปนคนของเผาอื่นๆ ที่มาทำธุระในเมืองศักดิ์สิทธิ์
ชั่วคราว” หญิงสาวอธิบายอยางระมัดระวัง
“ไม เ ห็ นจะแปลกอะไร ข า กลั บ มายั ง เผ า เป น ครั ้ ง แรก ก อนหน า นี ้ ฝ  ก ตนอยู
นอกมหาสมุทร” หานลี่เอยดวยสีหนาราบเรียบ แตทันใดนั้นก็เอยถามขึ้นวา
“แถวๆ นี้มีรานขายแผนที่เมืองศักดิ์สิทธิ์หรือไม หากมีบอกสถานที่ใหขาหนอย
ขาจำตองซื้อสักชุด”
“ทานอรหันตไมจำเปนตองไปซื้อแผนที่ที่ภายนอก เรือนรับแขกมีแผนที่ที่มีไว
สำหรับแขกโดยเฉพาะ ระดับความละเอียดมากกวาที่ขายอยูภายนอก ขาจะเอามาให
ทานอรหันตชุดหนึ่ง” หญิงสาวเอยอยางนอบนอม
“ออ มีเรื่องดีๆ เชนนี้ดวย เอามาใหขาสักชุดเถิด” หลังจากที่หานลี่ตกตะลึงไป
เล็กนอย ก็ออกคำสั่งอยางไมตองคิด
“เจาคะทานอรหันต” หญิงสาวตอบรับพลันถอยหลังไปสองกาว เดินลงไปชั้นลาง
อยางออนชอยราวกับนกนางแอน
หานลี่ยังคงมองออกไปนอกหนาตางอยูที่เดิม เริ่มขบคิดแผนการของตนเอง
เขาแฝงตั ว อยู  ใ นเผ า วิ ห คสวรรค แ ล ว แต เ ดิ ม ็ ม าเพื ่ อ วั ต ถุ ด ิ บ ที ่ ล ้ ำ ค า ๆ ใน
เผาวิญญาณเหาะเหิน สวนสมบัติอะไรนั้น หานลี่กลับไมอยากคิดมาก แมวาเขาจะ
เห็นการตอสูระหวางเผาเหินวิญญาณแลวรอบหนึ่ง แตก็ดูเหมือนวาเผาประหลาด
ชนิดนี้จะไมคอยชอบใชสมบัติอะไรในการตอสู ไมรูวาไมเชี่ยวชาญดานสมบัติ หรือวา
ชนชั ้ น สู ง ของเผ า เหิ น วิ ญ ญาณไม จ ำเป น ต อ งใช ส มบั ต ิ ธ รรมดาคอยช ว ยเหลื อ
สมบัติวิเศษสองชนิดที่ปรากฎออกมาคือ ‘ตาขายกักมาร’ และ ‘ไขมุกเพลิงมังกร’
และมีคุณสมบัติในการชวยเสริม ทวาเหลานี้ไมเกี่ยวของกับเขา หวังเพียงวาจะหา
วัตถุดิบที่เปนประโยชนตอเขาสักหนอยพบในเผาวิหคสวรรค จะไดคุมคาที่เสี่ยง
เขามาในนี้
สวนเผาวิหคสวรรคและเผาวิญญาณเหาะเหินอื่นๆ จะพบกันหรือไม เขาก็ขี้เกียจ
จะไปสนใจ
ครั้นเมื่อหานลี่ขบคิดอยูเงียบๆ หญิงสาวก็เดินขึ้นมาชั้นบนอีกครั้ง สองมือถือ
กระบอกไมไผขนาดเทาหัวแมมือสีเขียวมรกตเอาไว มีความยาวประมาณสองสามชุน
เปลงแสงระยิบระยับอยู
ในใจพลันรูสึกตกตะลึงไปเล็กนอย แตเขาก็ชูมือขึ้นตวัดไปกลางอากาศดวยสีหนา
ราบเรียบ
เสียง “สวบ” ดังขึ้น ลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไป ถูกเขาดูดเขามา
จากนัน้ เขาพลันโบกมือใหหญิงสาวผูนั้นลงไปกอน
หลังจากที่ไปชุยคารวะอยางเชื่อฟงแลว ก็ลงไปดานลางอยางวางาย
สวนหานลี่พลันใชมือหนึ่งควงกระบอกไมไผเลนในมือ รูสึกสนใจอยูหลายสวน
เมื่อเขาแทรกจิตสัมผัสเขาไป ก็มองเห็นแผนที่ขนาดยักษในกระบอกไมไผอยางชัดเจน
ของชนิดนี้ไมตางอะไรกับคัมภีรนัก
แตไมไผนี้พิเศษมาก หลังจากผานการหลอมมาครั้งหนึ่ง ก็มีผลเหมือนกับคัมภีร
อยางไรอยางนั้น ดูแลวเผาเหินวิญญาณคงไมไดมีฝมือในการหลอมอาวุธที่แยนัก
และมีความเปนลักษณเปนของตน
ทวาหานลี่ก็ดึงจิตสัมผัสออกจากกระบอกไมไผอยางรวดเร็ว และสนใจแคแผนที่
หลั ง จากผ า นไปเป นเวลาหนึ ่ ง มื ้ ออาหาร เขาก็ ถอนหายใจออกมาเฮื อ กหนึ่ง
ดึงจิตสัมผัสออกมาจากกระบอกไมไผ เผยสีหนาขบคิดออกมา
เมืองศักดิ์สิทธิ์นี้เล็กกวาที่เขาคาดการณเอาไว แนนอนวานั่นก็เพราะเทียบกับ
คนจำนวนพันลานคนในเผา ความจริงแลวพื้นที่ของเมืองแหงนี้ยังคงนาตกตะลึง
หากบินจากฝงหนึ่งไปอีกฝงหนึ่ง ยังตองใชเวลาถึงครึ่งวัน
หานลี่ไมสนใจสิ่งปลูกสรางอื่นๆ นัก แตกลับสนใจวิหารการแลกเปลี่ยนชั้นหนึ่ง
ในเมือง
สิ่งที่เรียกวาวิหานรนั้น ตามสัญลักษณในแผนที่นั้นนาจะอยูในภูเขายักษแหงหนึ่ง
ที ่ อยู  ต รงเขตแดนของเมื องยั ก ษ ทั ้ ง สั น เขาล ว นเป น สถานที ่ แ ลกเปลี ่ ย นซื ้ อ ขาย
โดยเฉพาะ นาจะไมแตกตางอะไรกับยานรานคาในเผามนุษยและเผาปศาจ
นอกจากสิ่งปลูกสรางนี้แลว สิ่งเดียวที่หานลี่รูสึกสนใจกลับเปนสถานที่ที่หนึ่ง
เรียกวา ‘วิหารสงวิญญาณ’ ที่นี่เปนสถานที่ฝกบำเพ็ญเพียรของชนชั้นสูงที่ เผา
วิหคสวรรคจัดทำขึ้นโดยเฉพาะ
แนนอนวาในแผนที่ยังมีสัญลักษณเขตตองหามที่สะดุดตาอีกสองสามแหง หานลี่
แคมองไปสองสามแวบ กลับไมมีทาทีสนใจจะตรวจสอบ
หลับตาทั้งสองขางลงจำตำแหนงที่สำคัญๆ ทั้งหมดในแผนที่ใหขึ้นใจ หลังจาก
ย อนระลึ กถึ ง ความทรงจำอี กรอบ ทั น ใดนั ้ น ปก ที ่แ ผน หลั ง ของหานลี่ ก ็เปลงแสง
สวางวาบ ถูกลำแสงสีเขียวหอหุมเอาไว คนเปลงแสงสวางวาบบินออกมาจากหนาตาง
อยางเงียบเชียบ ตรงไปยังสิ่งที่เรียกวาวิหารการแลกเปลี่ยน
เผาวิหคสวรรคดูไมคอยสงบนัก
เขาไมอยากเสียเวลาอยูที่นี่นานถึงสิบวันหรือครึ่งเดือน ทางที่ดีที่สุดรีบรวบรวม
วัตถุดิบ จากนั้นก็สะบัดตูดหนีจะดีกวา เพื่อจะไดไมเขาไปอยูในความยุงยากของ
เผาประหลาด
หานลี่ไมอยากใหตนเองสะดุดตานัก ดังนั้นความเร็วจึงไมคอยสูงนัก แตบินดวย
ระดับที่พอๆ กับชาวเผาวิหคสวรรคคนอื่นๆ
เปนเพราะวิหารแลกเปลี่ยนอยูตรงเขตแดน ดังนั้นหลังจากที่หานลี่บินออกมาได
หนึ่งเคอ ก็เพิ่งจะบินไปไดแคครึ่งทาง และในตอนนั้นเอง ดานขางเบื้องหนาไมไกลนัก
สิ่งปลูกสรางประหลาดๆ รูปทรงเหมือนหอคอยยักษสูงมากพลันปรากฎขึ้น
สิ่งปลูกสรางนี้สูงหกรอยเจ็ดรอยจั้ง รูปทรงมิใชเสาทรงกลมที่พบเห็นไดบอยๆ
แตเปนรูปทรงแปดเหลี่ยม ทุกมุมลวนเรียบเกลี้ยง และยิ่งไปกวานั้นยังมีลวดลาย
สัญลักษณที่พิเศษสลักอยู
สัญลักษณเหลานี้แผไอสีดำจางๆ ออกมา คาดไมถึงวาใหความรูสึกคุนเคยกับหานลี่
สวนยอดหอคอยนั้นมีผลึกประหลาดขนาดสองสามจั้งกอนหนึ่งฝงอยู แผลำแสงเจ็ดสี
ออกมา หอหุมหอคอยหลังนี้เอาไว
ไอสีดำตรงนั้นลวนถูกลำแสงเจ็ดสีกักเอาไวในมานลำแสง ไมอาจหนีออกมาไดเลย
สักนิด
หานลี่มีสีหนาตกตะลึงฉายแวบผาน พลางลูบคางไปมา
หากเขาจำไมผิดละก็ ที่นี่คือเขตตองหามตามสัญลั กษณ บนแผนที ่ข องเมื อง
ดานบนมีคำวา ‘หอคอยผนึกวิญญาณ’ เขียนอยู และไมมีคำอธิบายใดๆ แตไมใช
สถานที่ที่ดีอะไรแน
อาณาบริเวณรอยกวาจั้ง ของมา นลำแสง ไมมีเงารางคนแมแตค นเดียว ไมมี
ชาววิหคสวรรคผูใดกลาบินเขามาใกลเขตนี้
ตอนที่ 1417 บุตรชายวิหคสวรรคและโลหิตวิหคมัจฉาเที่ยงแท
“หมอกยมโลกดำ”
ในหัวของหานลี่มีลำแสงสวางวาบ ในที่สุดก็พบเหตุใดถึงรูสึกคุนเคย
จากหมอกสีดำที่ผสมอยูกับผิวของหอคอยหินนั้น เห็นไดชัดวาคือ หมอก
ประหลาดในทะเลหมอกบนครึ่งเกาะที่เขาอาศัยอยู แตแคที่นี่นั้นบางเบา กวามาก
และดูเหมือนวาจะถูกอะไรสักอยางพันรัดเอาไว
หานลี่รูสึกตกตะลึงไปเล็กนอย แตในเมื่อที่นี่ถูกคนของวิหคสวรรคมองวาเปน
เขตตองหาม แนนอนวาเขาก็ไมมีทางไปยุงเกี่ยวกับอะไรเขา
ทันใดนั้นก็ทำเหมือนคนอื่นๆ คือ บินเอียงเฉไป คิดจะออมผานมันไป
แตเมื่อหานลี่เปลงแสงสวางวาบมาอยูอีกดานของหอคอยยักษหางออกไปสอง
สามรอยจั้ง ฉับพลันนั้นพลังระเบิดที่ทำใหผูคนรูสึกสั่นสะทานก็ระเบิดออกมา
ทำใหเขารูสึกเสียววาบที่แผนหลัง สะดุงตกใจพลันรางกายแข็งคาง
นี่คือ…
หานลี่หยุดลำแสงหลีกหนี หันหนาไปสองตาจองเขม็งไปยังหอคอยยักษ
เห็นเพียงหมอกยมโลกดำหอคอยที่แผออกมาจากหอคอยยักษซึ่งอยูไกลออกไป
เปลี่ยนเปนสีดำเขมราวกับน้ำหมึกตั้งแตเมื่ อไหรก็ ไมรู แมวาลวดลายบนผิวของ
หอคอยจะยังคงเปลงประกายหลากสีสันไมหยุด แตก็ยังไมอาจตานทานไอสีดำที่ทะลัก
ออกมาภายนอกได
แตโชคดีที่สวนยอดของหอคอยนี้แผมานลำแสงเจ็ดสีออกมา หอหุมไอสีดำเอาไว
ให อ ยู  แ ค ใ นอาณาเขตของหอคอยหิ น แต ห ลั ง จากผ า นไปชั ่ ว ครู  ห มอกสี ด ำก็
แพรกระจายไปทั่วทั้งชั้นบรรยากาศในมานลำแสง ทำใหมานลำแสงเจ็ดสีสั่นเทา
ทาทางเหมือนจะถูกทำลายไดตลอดเวลา
ชาวเผาวิหคสวรรคคนอื่นๆ ที่อยูรอบๆ ตางก็ตกตะลึงจนตาคาง ลวนหยุดลง มอง
ไปยังความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับหอคอยผนึกวิญญาณอยูกลางอากาศ
หานลี่รูสึกวาปกของตนเองสั่นเทาและเปลี่ยนเปนรอนฉา ทำใหแผนหลังของเขา
รูสึกเจ็บปวดราวกับถูกแผดเผา
หานลี่หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
แตในตอนนั้นเองในหอคอยพลันมีเสียงรองแหลมสูงยาวๆ ดังขึ้น ชาววิหคสวรรค
ที่อยูรอบๆ นับรอยคนไดยินเสียงนี้ ก็ทยอยกันหลับตาทั้งสองขางลงแลวรวงลงสูพื้น
แมวาหานลี่จะไมไดรับไมไดไหวขนาดนั้น แตเมื่อไดยินเสียงนี้ ก็รูสึกวาวิงเวียน
ในเวลาเดียวกันความรอนของปกที่แผนหลังก็สูญเสียประสิทธิภาพ รางกายสั่นเทา
แตโชคดีที่เขาไมไดอาศัยปกวายุอัสนีถึงไดยังบินอยูกลางอากาศได ทันใดนั้น
รางกายพลันเปลงแสงสีเขียวสวางวาบ รางกลับมามั่นคงดังเดิม แตสายตาที่มองไปยัง
หอคอยยักษ ก็เต็มไปดวยความตื่นตะลึง
เสียง “ตูม” ดังขึ้น ยอดของหอคอยมีลำแสงผลึกศิลาเปลงประกาย ลำแสงแผ
ออกมาจากมานลำแสงเจ็ดสีแผออกมา ในเวลาเดียวกันเสียงบริกรรมคาถาที่ฟงไมได
สรรพก็ดังออกมาจากหอคอย ราวกับวากำลังมีคนรอยคนบริกรรมคาถาขึ้นพรอมกัน
อยางไรอยางนั้น
ชั่วขณะนั้นรางของชาววิหคสวรรคที่แตเดิมกำลังรวงลงสูพื้นพลันเปลงแสงสวางวาบ
ลวนมีลำแสงเจ็ดสีชั้นหนึ่งหอหุมเอาไว รางกายลอยขึ้นอีกครั้ง
แตทันใดนั้นในหอคอยก็มีเสียงรองแหลมๆ ที่โหดเหี้ยมดังขึ้น หลังจากที่ไอสีดำ
ดานในหมุนวน กลางอากาศก็มีเงารางวิหคยักษขนาดสองสามรอยจั้งเศษปรากฎขึ้น
เงาลวงตานี้เปนสีดำออน ปกทั้งสองกระพือ ปกคลุมหคอยกวาครึ่งเอาไว หลังจากที่
เปลงเสียงรองยาวๆ อีกครั้ง หมอกสีดำทั้งหมดก็ขยายใหญขึ้น มานลำแสงเจ็ดสีรอบๆ
บิดเบี้ยวอยางรุนแรงในทันที ทาทางนาเกรงขามเปนอยางมาก
ครั้งนี้คนของวิหคสวรรคคนอื่นๆ ที่มีมานลำแสงเจ็ดสีหอหุมอยูพลันรางกายพลิ้วไหว
และปลอดภัยไรอันตราย แตก็แตกฮือออกหนีกันอุตลุดอยางตื่นกลัว
เดิมทีหานลี่คิดจะบินออกจากบริเวณนี้ดังชาววิหคสวรรค แตชั่วพริบตาที่เงา
วิ ห คยั ก ษ ตั ว นั้ นปรากฎขึ้ น ป ก ที ่ แ ผ น หลัง ของเขาก็ สั ่ น เทา คาดไม ถ ึ ง ว าจะมีเงา
วิหคยักษสีเขียวตัวหนึ่งปรากฎขึ้นเชนกัน มันกูคอรองคำรามเชนเดียวกัน ราวกับวา
ตอบรับวิหคสีดำอยางไรอยางนั้น
แทบจะในเวลาเดี ย วกั น บรรยากาศรอบๆ พลั น ตึ ง เครี ย ด เขารู  ส ึ ก เพี ย งว า
รางกายหนักอึ้งไมอาจขยับตัวไดเลยสักนิด
หานลี่พลันรูสึกตกตะลึง ภายใตลำแสงสีทองที่เจิดจา พลังมหาศาลกลุม หนึ่ง
ทะลักออกมาจากแขนขาทั้งสี่ คิดจะดิ้นรนหนี แตสิ่งที่ทำใหเขารูสึกจิตใจหนักอึ้งก็คือ
ไมวาเขาจะกระตุนพลัง มหาศาลในรางของเขาอยา งไร อากาศรอบๆ ก็ดูเหมื อน
เหล็กกลาบริสุทธิ์อยางไรอยางนั้น ยังคงไมอาจขยับไดแมแตนิ้วเล็กๆ
หานลี่ขบคิดอยางรวดเร็ว คราที่กำลังคิดวาจะเรียกภาพมารเที่ยงแทออกมาออก
แรงเต็มกำลังใหหลุดพนจากพันธนาการดีหรือไม เสียงบริกรรมคาถาในหอคอยยักษ
ก็เปลี่ยนไป ชั่วครูก็สูงขึ้นหลายเทา ในเสียงบริกรรมคาถามีเสียงวาสีอัสนีลั่นเปรี๊ยะๆ
ดังแทรกเขามา จากนั้นอักขระประหลาดๆ ทุกตัว ก็ปรากฎขึ้นลางอากาศรอบๆ
หอคอยยักษ ลวนลอยมาหาวิหคเงาสีดำ
ในเวลาเดียวกันผลึกวารียักษบนยอดหอคอยก็เปลงเสียงดังสนั่น ระเบิดตัวเองออก
ดวงอาทิตยเจ็ดดวงลอยขึ้นอยางแชมชา เปลงแสงนับหมื่นสายออกมา ปกคลุม
วิหคเงาเอาไว
วิหคเงายักษตกอยูใตเขตตองหามอยางอักขระและลำแสงเจ็ดสี ในที่สุดก็เปลง
เสียงรองประหลาดอยางจนปญญาออกมา
อีกดานเงาลวงตาวิหคยักษสีเขียวที่แผนหลังของหานลี่พลันสลายหายไป
เขาพลันผอนคลายลงฟนฟูกลับมาเปนอิสระ แตกลับยังรูสึกตกตะลึงระคนสงสัย
ไมแนนอน
นอกจากนี้เงาลวงตาที่ปรากฎขึ้นบนหอคอยหินเมื่อครูก็เหมือนกับวิหคเงาสีเขียว
ที่แผนหลังของเขาอยางไรอยางนั้น ลวนเปนวิหคมัจฉาในตำนาน หรือวาในหอคอย
แหงนี้มีวิหคมัจฉาถูกผนึกอยู แตจะเปนอยางนั้นไปไดอยางไร?
หานลี ่ ข บคิ ด อย า งตกตะลึ ง ในหั ว มี ค วามคิ ด หลากหลายพลางเดิ น ถอยหลั ง
แตหลังจากกวาดสายตาไปเบื้องหนา พลันหัวเราะอยางขมขื่นออกมา สุดทายรางกาย
ก็หยุดอยูที่เดิมไมขยับเขยื้อน
เพราะวาหลัง จากที่ล ำแสงวิญ ญาณสิ บกว า กลุ ม บิน ออกมาจากหอคอยยั ก ษ
และเปลงแสงกระพริบวาบแลว ก็อยูหางจากเขาไปไมถึงยี่สิบสามสิบจั้ง
ระยะหางแคนี้เพียงพอจะทำใหชาววิหคสวรรคที่อยูในลำแสงวิญญาณมองเห็น
เขาไดอยางชัดเจน หากบินหนีไปในครานี้ละก็ จะแสดงออกถึงพิรุธทันที
ภายใตการขบคิดหานลี่จึงทำไดเพียงดูวาอีกฝายมีเจตนาใดแลวคอยวากัน
เขากวาดมองในลำแสงวิญญาณอยางรวดเร็ว ดานในมีสิ่งมีชีวิตระดับเทพแปลง
ขั้นปลายสองคน ที่เหลือลวนอยูในระดับเทพแปลงขั้นตนและกลาง ภายใตความ
หวาดกลัวของหานลี่ เขาจึงยิ่งไมกลากระทำการอะไรที่สะดุดตาอีก จึงลอยอยูที่เดิม
เงียบๆ
เสียงแหวกผานอากาศดัง “สวบๆ” ดังขึ้น คนทั้งสิบกวาคนกระพือปก ชั่วพริบตา
ก็มาอยูเบื้องหนาหานลี่ ลอมเขาเอาไว
สายตาสิบกวาสายตกอยูที่เรือนรางของเขา
ชายชราชาววิหคสวรรคที่ดูเปนผูนำสองคน คนหนึ่งปกที่แผนหลังเปนสีขาว
อีกคนหนึ่งกลับมีปกสีทองออน
ทั ้ ง สองคนหนึ่ ง มี สี ห นา ออนโยนมีเมตตา อี ก คนหนึ ่ ง สี หน าเข มงวด แต ล  วน
เหมือนกับคนอื่นๆ เมื่อมาอยูตรงหนาก็จองเขม็งมายังหานลี่อยางไมวางตา สายตามี
ลำแสงประหลาดใจฉายแวบผาน
แมวาหานลี่จะไมไดกลัวชาววิหคสวรรคเหลานี้จริงๆ แตอีกฝายมีทาทีเชนนี้
ก็ทำใหเขารูสึกกังขา ทันใดนั้นก็ฝนยิ้มแลวเอยถามวา
“ทุกทานมาลอมขานอยเอาไว มีธุระอันใดหรือ?”
“พี่แซอะไร? หนาตาไมคุนเลย เพิ่งเขามาในเมืองศักดิ์สิทธิ์หรือ?” เหนือความ
คาดหมายของหานลี่ ชายชราปกสีขาวราวกับหิมะผูนั้นเอยปากถามอยางมีมารยาท
“ขานอยแซหาน ฝกตนอยูนอกมหาสมุทรมาโดยตลอด ครานี้ถึงไดเพิ่งเขามาในเมือง”
ความคิดของหานลี่เคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว ปากพลันตอบรับ
อีกฝายยังไมทันเผยเจตนารายออกมา เขาจึงไมคิดวาตองโกหกอะไร
“นอกมหาสมุทร เขาเมืองวันนี้!” คำตอบของหานลี่ทำใหชายชราที่เปนผูนำ
ทั้งสองตะลึงงัน แตหลังจากมองสบตากันแวบหนึ่งแลว สายตาก็เผยสีหนาดีอกดีใจ
ออกมา
“เยี่ยม เยี่ยมมาก ไมวาพี่หานจะมีตนกำเนิดมาจากที่ใด แตสามารถกระตุน
วิหคมัจฉาในหอคอยได ก็หมายความวาในรางมีกลิ่นอายของวิหคสวรรคอยูเต็มเปยม
สามารถรับสมญานามบุตรชายของเผาเรา และสืบทอดโลหิตเที่ยงแทของวิหคมัจฉา
ได” ชายชราอีกคนหนึ่งเอยดวยสีหนาเครงขรึม
“โลหิตวิคมัจฉาเที่ยงแท!” หานลี่ตะลึงงัน
หากเปนกอนหนานี้เขาคงไมคอยเขาใจเรื่องเหลานี้ แตตอนนี้ในกำไลเก็บของมี
โลหิตของมังกรเที่ยงแทและหงสสวรรคอยู จึงรูวาของสิ่งนี้ล้ำคาขนาดไหน
ตอนนี้คาดไมถึงวามีเรื่องดีๆ เขามาหาถึงที่ขนาดนี้ แนนอนวาหานลี่จึงตะลึงพรึงเพริด
ทวาเมื่อคิดดูอีกที หานลี่ก็รูสึกหวาดผวาขึ้นมา
เขาไมใชชาววิหคสวรรคที่แทจริง ไหนเลยจะเปนบุตรชายที่เผา วิห คสวรรค
กลาวถึงได หากตรวจสอบอยางละเอียด เกรงวาก็คงถูกเปดเผยในทันที ถึงครานั้น
ไมตองพูดถึงการถายทอดโลหิตเที่ยงแทอะไร คงตองถูกชาววิหคสวรรคจำนวนนับ
ไมถวนที่โกรธแคนมากไลสังหารไปเสียกอน
“ทั้งสองทานเขาใจผิดแลวแลวกระมัง ขานอยมีตนกำเนิดที่ธรรมดามาก จะไปมี
คุณสมบัติสืบทอดโลหิตเที่ยงแทไดอยางไร สิ่งมหัศจรรยในหอคอยคงจะไมใชสิ่งที่
ขานอยกระตุนขึ้น” หานลี่หัวเราะอยางแหงออกมา แลวสั่นศีรษะปฏิเสธระรัว
“เหตุใดพี่หานตองปฏิเสธดวย เมื่อครูบนรางของเจามีรูปวิญญาณเที่ยงแทปรากฎขึ้น
พวกเราที่อยูในหอคอยมองเห็นอยางชัดเจน ไมมีทางผิดแน พี่หานตามพวกเราไปพบ
ทานอาวุโสเถิด การเปนบุตรชายของเผาเราไดนั้น เปนเรื่องที่ยิ่งใหญมาก” ชาย
ชราขนสีทองผูนั้นไมฟงคำแกตัวของหานลี่ กลับเอยแลวหัวเราะคิกคักออกมา
หานลี่หัวเราะอยางขมขื่นกวาดสายตาไป เห็นชาววิหคสวรรคคนอื่นๆ เผยสีหนา
ตื่นเตนยินดีออกมา เห็นไดชัดวามั่นใจวาเปนเขาแลว
“ขานอยไมใชบุตรชายอะไรนั้นจริงๆ ทุกทานไมเชื่อก็ชางเถิด แตผูแซหานมีธุระ
ตองขอตัวลากอน” หานลี่ตัดสินใจ เอยขอแกตัวอยารวดเร็ว รางกายเลือนหาย
กลายเป นเงาลวงตาจางๆ สายหนึ ่ ง เปล ง แสงสวา งวาบหายไปจากตรงกลางของ
ชาววิหคสวรรคสองคน
ปกที่แผนหลังของเขาพลันขยับคิดจะสำแดงความสามารถหนีไปใหไกล แตใน
ตอนนั้นเองฉับพลันนั้นขางหูพลันมีเสียงราบเรียบของสตรีดังขึ้น
“ชากอน คนเผาประหลาด! เจาคิดจะหนีไปอยางนี้หรือ? หากจะไปก็ตองเอาปก
คูนั้นไวในเผาวิหคสวรรคของพวกเรา” เสียงไมดังนัก และยิ่งไปกวานั้นยังออนโยน
และไพเราะ แตเมื่อหานลี่ไดยินลับทำใหจิตสัมผัสของเขาสั่นคลอนราวกับถูกฟาผา
สีหนาไมสูดี
และในเวลาเดียวกันที่เสียงนั้นถายทอดมา อากาศรอบๆ ก็เกิดระลอกคลื่นขึ้น
เหนือศีรษะของหานลี่หางออกไปสองสามจั้ง เงารางอรชนออนแอนสายหนึ่งเปลงแสง
สวางวาบปรากฎขึ้นอยางเงียบเชียบ คาดไมถึงวาจะเปนสตรีสวมชุดขาวมีปกสีทอง
คนหนึ่ง
หานลี ่ พ ิ น ิ จ มองอย า งละเอี ย ด ชั ่ ว ขณะนั ้ น พลั น สู ด ลมหายใจเย็ น ยะเยื อ ก
เขาไปเฮือกหนึ่ง
หญิงสาวผูนี้มีหนาตาธรรมดาๆ ใบหนามีลำแสงแวววาวชั้นหนึ่งไหลโคจรอยู
กลิ ่ นอายบนร างไมไ ดถ ู ก เป ด เผยออกมา คาดไม ถ ึ ง วา หานลี ่จ ะไมอาจมองระดับ
พลังยุทธของอีกฝายได คาดไมถึงวาจะเปนสิ่งมีชีวิตระดับหลอมรางขั้นกลางขึ้นไป
หางตาของหานลี่พลันกระตุกไปสองสามครั้ง!
“คารวะทานอาวุโส!” ชาววิหคสวรรคระดับเทพแปลงเหลานั้น เห็นหญิงสาวกลับ
มีทาทางนอบนอมมาก ทยอยกันเขามาคารวะยกใหญ
สตรีผูนี้คาดไมถึงวาจะเปนมหาอาวุโสของชาววิหคสวรรค!
หานลี่รูสึกเพียงวาในปากมีแตรสชาติขมเฝอน
“คนผูนี้มอบใหขาจัดการเถิด พวกเจากลับไปเสริมความมั่นคงของผนึกในหอคอย
สยบวิหคมัจฉาตัวนั้นลงอีกครั้ง” หญิงสาวออกคำสั่งอยางราบเรียบ
“ขอรับ!” เห็นไดชัดวาหญิงสาวผูนี้มีความนาเกรงขามมากในสายตาของชา
ววิ ห คสวรรค พวกเขาจึ ง ไม ล ั ง เลเลยสั ก นิ ด ทยอยกั น สยายป ก บิ น กลั บ ไปยั ง
หอคอยยักษ
สายตาของหญิงสาวพลันกลอกไปมา ในที่สุดก็ตกอยูบนรางของหานลี่
ตอนที่ 1418 มหาอาวุโส
“ที ่ นี ่ ไ ม ใ ช ส ถานที ่ ท ี ่ เ หมาะกั บ การพู ด คุ ย ตามข า มาเถิ ด ” หญิ ง สาวแววตา
เปลงประกาย คาดไมถึงวาจะเอยอยางราบเรียบออกมา ทันใดนั้นก็หันกาย บินไปยัง
ทิศทางหนึ่ง
หลังจากที่หานลี่มีสีหนาบัดเดี๋ยวเครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใสแลว ก็ตามไปอยางเชื่อฟง
เมื่อเผชิญหนากับสิ่งที่นากลัระดับหลอมรางขั้นกลาง และยังอยูในเมืองศักดิ์สทิ ธิ์
ของเผ า ประหลาด เขาก็ ไ ม โอกาสให ห นี และดู จ ากทา ทางของอีก ฝา ยแล ว ก็ ไ ม
เหมือนกับจะกลับคำลงมือในทันที มีเพียงตองทำตามคำพูดของอีกฝายกอนเทานั้น
รางของหญิงสาวดูเหมือนจะมีสีหนาราบเรียบไมมีความโกรธขึงเลยสักนิดราวกับวารี
ที่ไหลไปตามสายลม แตความเร็วกลับนาตกตะลึง
หานลี่ใชพลังลมปราณถึงเจ็ดแปดสวนถึงจะไลตามนางทันได ในใจจึงอดที่จะ
ตกตะลึงไมนอย ความคิดสองสามอยางสุดทายผุดขึ้นมาในหัว แลวฝนระงับมันไว
หลังจากบินมาไดเปนเวลาหนึ่งมื้ออาหาร หญิงสาวก็พาหานลี่รอนลงไปหนาเรือน
โดดเดี่ยวที่เปนเสากลมๆ สูงยี่สิบจั้ง
“คารวะท า นมหาอาวุ โ ส!” ทางเข า มี ห ญิ ง สาวหน า ตาหมดจนสองคนของ
เผาวิหคสวรรคเขามาตอนรับ สีหนาเต็มไปดวยความนอบนอม
หญิงสาวปกสีทองแคพยักหนาเล็กนอย แลวเดินเขาไปอยางตามอำเภอใจ
หานลี่ตามหลังนางมาติดๆ เมื่อเขาไปในหอง ก็พบวาที่นี่ดูสรางขึ้นอยางงายๆ
กวาที่เขาคิดเอาไวมาก
ในเรือนนอกจากเกาอี้หินสองสามตัวและโตะหินตัวหนึ่งแลว ทุกแหงก็วางเปลา
หญิงสาวโบกมือไปมา ไลใหสาวใชทั้งสองถอยออกไป จากนั้นก็หันกายมา นั่งลง
บนเกาอี้หินตัวหนึ่ง ปากบางๆ เอยขึ้นวา
“นั่งลงเถิด ขามีเรื่องอยากถามเจาสักหนอย”
“ขานอยจะมีที่นั่งตอหนาทานอาวุโสไดอยางไร ผูแซหานขอฟงดวยความเคารพ
และตั้งใจก็พอขอรับ” หานลี่เอยดวยสีหนาราบเรียบ
“แลวแตเจาก็แลวกัน” หญิงสาวมีทาทีไมใสใจเลยสักนิด
หานลี่จึงยืนตัวตรงแนวอยูที่เดิม
“เจาคือผูบำเพ็ญเพียรของเผามนุษยสินะ?” หลังจากที่หญิงสาวขบคิดเล็กนอย
ก็เอยคำพูดที่ทำใหหานลี่ตกตะลึงออกมา
“ทานอาวุโสเคยไปที่เผามนุษยของพวกเรา?” หานลี่เอยอยางระมัดระวัง
“แนนอนวาเคย ขาเคยแมกระทั่งไปเยี่ยมฮองเตทั้งสามของเผาเจา และรูสึกนับ
ถือเคล็ดวิชาหุนเชิดที่มหัศจรรยของเขาเปน อยางมาก ความจริงแลวไมใชแคข า
ยังมีผูที่แข็งแกรงอีกสองสามคนในเผาวิญญาณเหาะเหินของพวกเราที่เคยไปหา
เผามนุษยของพวกเจา เห็นแกความสัมพันธครั้งนี้ เจามีอะไรสงสัยก็ซักถามมาเถิด
ขาจะบอกทั้งหมด แตเชนกันพอถึงตาที่ขาถาม ก็หวังวาเจาจะไมทำใหขาผิดหวัง
มิเชนนั้นละก็…” คาดไมถึงวาหญิงสาวจะเอยภาษามนุษยที่คุนเคยออกมา
หลังจากหานลี่ไดยินเจตนาอันคุกคามในประโยคสุดทายแลว สีหนาก็อดที่จะ
เปลี่ยนสีไปเล็กนอยไมได แตทันใดนั้นก็มีสีหนาปกติ
“ท า นอาวุ โ สมองฐานะของชนรุ  น หลั ง ออกได อ ย า งไร ไม ต  อ งพู ด ถึ ง สิ ่ ง อื่ น
ชนรุนหลังมั่นใจวาขัดเกลาปกวายุอัสนีจนทั่วถึงแลว ประกอบกับใชเคล็ดวิช าลับ
เปลี่ยนกลิ่นอายของมันใหคลายคลึงกับเผาเจา ขอแคไมพบกับผูที่อยูในระดับเดียวกัน
กั บ ท า นอาวุ โ สตรวจสอบปราณแท ก็ น  า จะไม พ บความผิ ด ปกติ อ ะไร มิ เ ช นนั้ น
ชนรุนหลังจะกลาเขามาในเผาของทานอยางเปดเผยไดอยางไร” หานลี่จองเขม็งไปยัง
หญิงสาวแลวเอยถามดวยน้ำเสียงเครงขรึม
ปญหานี้ทำใหเขารูสึกกลัดกลุมเปนอยางมาก
“การแปลงกายของเจาประสบความสำเร็จจริงๆ แมกระทั่งเขตอาคมป องกัน
เมืองของเมืองศักดิ์สิทธิ์ยังถูกกลิ่นอายวิหคมัจฉาบนตัวของเจาปดบังเอาไว หากไปพบ
กับอาวุโสคนอื่นๆ ในเผา ขอแคไมไดตรวจสอบอยางละเอียด แปดเกาสวนก็ไมอาจ
มองออกได แตขากลับไมเหมือนกัน ในฐานะมหาอาวุโสอยางขานั้นรับหนาที่ดู แล
ยุทธภัณฑศักดิ์สิทธิ์ในเผาโดยเฉพาะ และยุทธภัณฑศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิหคสวรรคของ
พวกเราก็มองภาพลวงตาทั้งหมดของเจาออก และไดกวาดสายตาตรวจสอบปราณแท
ในกายของเจาไปดวย แมนวาเคล็ดวิชาแปลงกายของนายทายจะยอดเยี่ยมขนาดไหน
ก็ไมมีประโยชนอะไรกับขา” หญิงสาวฉีกยิ้มจางๆ ออกมา คาดไมถึงวาบอกความจริง
ออกมา
หานลี่พลันถึงบางออแตทันใดนั้นก็รูสึกกลัดกลุมอยางสุดๆ
“เชนนั้น หากขาไปที่สาขาอื่นในเผาของทาน ก็จะถูกพบตัวอยางงายดายสินะ”
เขาหัวเราะขมขื่นขณะเอย
“ยุทธภัณฑศักดิ์สิทธิ์ในเจ็ดสิบสองสาขาของเผาขา ยุทธภัณฑศักดิ์สิทธิ์ของ
เผาวารียมโลกเองก็มีความสามารถที่คลายคลึงกัน” หญิงสาวไมไดตอบคำถามตรงๆ
แตกลับหยักมุมปากเอยตอบกลับ
หานลี่ไดยินก็เงียบกริบ หลังจากผานไปชั่วครู ถึงไดเอยถามอีกวา
“หอผนึกวิญญาณผนึกสิ่งใดอยู บุตรชายและโลหิตวิหคมัจฉาเที่ยงแทหมายถึง
อะไร?”
“หอผนึกวิญญาณผนึกหมอแหงความมั่งคั่งของเผาเราเอาไว เสียแรงมหาศาลถึง
จะรวบรวมสวนเล็กๆ ของจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์วิหคมัจฉาตัวหนึ่งมาได มีเพียงตอง
อาศัยพลังของจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เผาวิหคสวรรคของพวกเราถึงไดดำรงมาอยูจนถึง
ทุ ก วั นนี ้ ไ ด ส ว นสาเหตุ ท ี ่ เ ป น รู ป ธรรมนั ้ น เจ า ไม จ ำเป น ต องรู  ส ว นบุ ต รชายนั้น
ก็งายมาก นั่นก็คือ สิ่งที่เผาวิญญาณเหาะเหินอยางพวกเราหวังวาจะมีผูที่สืบทอด
โลหิตศักดิ์สิทธิ์ได หากบุตรชายสามารถสืบทอดโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของเผาตางๆ ไดจริงๆ
และผานการทดสอบ ก็จะกลายเปนประมุขของเผา” หญิงสาวเอยอธิบาย
ครั้งนี้หานลี่ไมไดเผยสีหนาประหลาดใจอะไรออกมา
เรื่องเหลานี้ไมตางอะไรจากที่เขาคาดเดามากนัก แมกระทั่งประมุขคืออะไรก็ยัง
ขี้เกียจซักถาม แคพนลมหายใจออกมายาวๆ เทานั้น
“ดู จ ากท าทางแล ว เจ าคงไมม ีค ำถามอื ่น แลว จากนี ้ ค งถึง ตาขาถามบางแลว
สมบัติปกที่แผนหลังของเจา หลอมมาจากวิหคมัจฉาอะไร คาดไมถึงวาจะทำให
จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ดิ้นรนหนีใหพนจากผนึกของหอผนึกวิญญาณ นี่เปนเรื่องที่
เกิดขึ้นนอยมากตั้งแตสรางหอคอยนี้ขึ้นมา” หญิงสาวแววตาเปลงประกาย เอยถาม
อยางตรงไปตรงมา
“ไมมีอะไรหรอก แคหลอมขนนกของวิหคมัจฉาที่เสียหายไปเสนหนึ่งเทานั้น”
หานลี่พลันขมวดคิ้วตอบกลับอยางตรงๆ
“ขนของวิหคมัจฉา? เปนไปไมไดหรอกกระมัง ตอใหเปนขนของวิหคมัจฉาที่ไม
สมบูรณเสนหนึ่ง ก็ไมนาจะทำใหจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์กระสับกระสายถึงเพียงนี้”
หญิงสาวมีทาทีไมเชื่อ
“เรื่องนั้นขาก็ไมรู” หานลี่สั่นศีรษะ รูสึกงุนงนจริงๆ
“เอาปกสมบัติของเจามาใหขาดูซิ!” หญิงสาวขบคิดเล็กนอย ฉับพลันนั้นก็เอย
อยางคราวๆ ออกมา
หานลี่รูสึกจิตใจหนักอึ้ง แตหลังจากที่ประสานสายตาที่แวววาวราวกับถูกเคลือบ
เอาไวแลว ก็ขบคิดเล็กนอยแลวยักไหล ชั่วขณะนั้นลำแสงพลันสวางวาบที่ปกสีขาว
ตรงแผนหลังชั่วครูก็หายวับไปอยางไรรองรอย
แทบจะในเวลาเดียวกันในมือของหานลี่กลับมีปกขนนกยาวสองสามชุนคูห นึ่ง
ปรากฎขึ้น
ชูมือขึ้น คาดไมถึงวาจะสงไปใหจริงๆ
การกระทำเชนนี้ของหานลี่เห็นไดชัดวาทำใหมหาอาวุโสของเผาวิหคสวรรคตกตะลึง
แววตาสดมาของนางมองไปยังใบหนาราบเรียบของหานลี่อยูนาน แลวในที่สุดถึง
ไดรับมาพรอมรอยยิ้ม
หานลี่ไมมีสีหนาแปลกประหลาดเลยสักนิด แตในใจกลับอดที่จะหัวเราะอยาง
ขมขื่นออกมาไมได
หากไม ใ ช เ พราะตรงหน า คื อ สิ ่ ง มี ช ี ว ิ ต ระดั บ หลอมร า งขั ้ น กลางคนหนึ่ ง
ปกวายุอัสนีที ่ถ ูก ขั ดเกลามานานแล ว แมนวาอีกฝายจะขื นใจเอาไป เขาก็มั ่ นใจ
หกเจ็ดสวนวาจะกระตุนความสามารถของสมบัติชิ้นนี้ เรียกมันกลับมาไดภายใน
พริบตา
เขาไมมีทางมอบสมบัติล้ำคาชิ้นนี้ใหอีกฝายแน
หญิงสาวใชมือหนึ่งถือปกวายุอัสนีเอาไว พิจารณาอยางละเอียด ใบหนาเผย
สีหนาแปลกประหลาดออกมา
นางขยับนิ้วโยนปกขนนกในมือออกไป
คาดไมถึงวาจะโยนปกวายุอัสนีกลับคืนมาใหหานลี่
หานลี่พลันรูสึกผอนคลายลง สองมือไมเคลื่อนไหว แตลำแสงสีขาวพลันสวางวาบ
บนปกวายุอัสนี และหายวับไป ครูตอมามันก็มาปรากฏที่แผนหลังของเขาอีก ครั้ง
อยางเงียบเชียบ
เมื่อเห็นฉากนี้หญิงสาวก็ทำเปนทองไมรูรอง ปากเอยอยางเชื่องชาวา
“คิ ด ไม ถ ึ ง ว า สมบั ติ ชิ ้ นนี้ ข องเจา ไมเ พีย งจะมี ข นของวิ ห คมั จ ฉา ยั ง มี ข นของ
หงสสวรรคเสนหนึ่งดวย ขาพอจะเขาใจแลววาเกิดอะไรขึ้น ทวายังอยากรูวาเจาได
ขนของวิหคมัจฉามาไดอยางไร?”
หานลี่ไดยินแลวพลันตกตะลึง แตเรื่องนี้ก็ไมมีอะไรตองปดบัง ทันใดนั้นก็เลาเรื่อง
ที่ไดพบการตอสูขามแดนของวิหคมัจฉากับหลัวโหวอยางละเอียด
หลังจากที่หญิงสาวไดฟงแลว กลับเครงขรึมขึ้น ชั่วครูถึงไดใชสายตาพิจารณา
หานลี่อีกครั้ง ฉับพลันนั้นพลันเอยคำพูดที่ทำใหเขาตะลึงงันขึ้นวา
“พี่หานสนใจเขารวมเผาวิหคสวรรค เปนบุตรชายของเผาเราหรือไม”
หานลี่พลันตะลึงคาง
“ขานอยฟงผิดหรือเปลา ทานอาวุโสจะใหขานอยเขารวมเผาของทาน?” หานลี่
กระพริบตารูสึกวาตนเองฟงผิดหรือเปลา
“ใช แ ล ว ข า คิ ด เช น นั ้ น จริ ง ๆ แต เ รื ่ องนี ้ เ ป น เรื ่ อ งใหญ ม าก ยั ง ต องปรึ ก ษา
รายละเอียดกับอาวุโสทานอื่นๆ กอน!” หญิงสาวตอบกลับดวยสีหนาราบเรียบ
“ขานอยคือ คนของเผามนุษย ไมใชชาววิหคสวรรคที่แทจริง” หานลี่หมดคำพูด
ไปชั่วครู แลวถึงไดเอยเชนนี้ออกมา
“นายทานไมรูสินะ ปกติแลวขนของวิหคมัจฉาและของอื่นๆ ของวิหคมัจฉานั้น
ลวนเปนของล้ำคาที่วิหคมัจฉาที่เพลี้ยงพล้ำทิ้งเอาไว และที่สหายหานหลอมขนของ
วิหคมัจฉา กลับเปนขนวิหคมัจฉาที่หลนลงมาตอนยังเปนๆ ขนเสนนี้มีไอวิญญาณแฝง
อยู  ม ากกว า ขนของวิ ห คมั จ ฉาทั ่ ว ไปหลายเท า และยิ ่ ง ไปกว า นั ้ น ในขนน า จะมี
โลหิ ต บริ ส ุทธิ ์ท ี่ เ จา เองก็ไ มร ู แ ฝงอยู ส ว นเผ า วิ ห คสวรรค ข องเรานั ้ น เดิ ม ทีก ็เปน
ชนรุนหลังของราชันยวิหคมัจฉา ในเมื่อสหายหลอมของวิหคมัจฉาในตัวแลว ก็อาจจะ
มี โลหิ ต ของวิ ห คมั จ ฉาแฝงอยู  จะกล า วว า เป น ชาวเผ า วิ ห คสวรรค ข องพวกเราก็
ไมผิดนัก” หญิงเอยประโยคที่ทำใหหานลี่ตกตะลึงจนตาคางออกมาอยางราบเรียบ
หลังจากผานไปชั่วครูหานลี่ถึงไดไดสติกลับมาจากความตื่นตะลึง หรี่ตาทั้งสอง
ขางลงมองหญิงสาวชั่วครู ฉับพลันนั้นก็หัวเราะนอยๆ ออกมา
“ไดยินวาประมุขคนปจจุบันของเผาวิหคสวรรคเพลี้ยงพล้ำไปแลว และ
ดูเหมือนวาในเผาของทานจะไมมีผูสืบทอดโลหิตวิหคมัจฉาอยูเลย ทั้งเผา วิหค
สวรรคอาจจะถูกกำจัดออกจากเจ็ดสิบสองสาขาของเผาวิญญาณเหาะเหิน ขานอย
ไมไดพูดผิดไปสินะ”
“เจารูเรื่องนี้ไดอยางไร!” ในที่สุดหญิงสาวก็หนาเปลี่ยนสี เงาลวงตาของวิหคยักษ
สีทองตัวหนึ่งปรากฎขึ้นที่แผนหลัง
เงาลวงตานี้แคกระพือปกทั้งสอง ชั่วขณะนั้นหานลี่ก็สัมผัสไดถึงพลังมหาศาลที่
กดทับมาบนหัวไหล รางทั้งรางเกิดเสียงกระดูกลั่นดังกรอบแกรบ
เสียง “ตูม” ดังขึ้น สองเทาของหานลี่จมลงไปบนพื้นศิลาสีเขียวครึ่งฉื่อ
หานลี่หนาซีดเผือด
แตในตอนนั้นเองหญิงสาวพลันขมวดคิ้ว เงาลวงตาของวิหคยักษเปลงแสงสวาง
วาบแลวหายวับไป
“ขาไมรูวานายทานไปเอาขาวนี้มาจากไหน แตหวังวานายทานจะเก็บเรื่องนี้ไว
เปนความลับ ขานอยไมอยากเห็นเมืองศักดิ์สิทธิ์เกิดความวุนวาย นอกจากนี้ยังพูด
ผิ ด ไปเล็ ก น อ ย มี บ ุ ต รชายที ่ ส ามารถสื บ ทอบโลหิ ต จิ ต วิ ญ ญาณศั ก ดิ ์ ส ิ ท ธิ ์ อ ยู
เผาวิหคสวรรคของพวกเรายังซอนเอาไวสองคน แคสองคนนั้นพลังยุทธต่ำเกินไป
ตอใหทำสำเร็จ อัตราการจะผานทดสอบของเผาตางๆ ก็ไมมากนัก ดังนั้นขาถึงได
อยากเชิญสหายใหเขารวมเผาของเรา” ชั่วพริบตาหญิงสาวก็มีสีหนากลับมาเปนปกติ
“ความหมายของทานมหาอาวุโสคือ ใหขาเปนผูดูแลแทนบุตรชายทั้งสองสินะ!”
หานลี่มีปฏิภาณไหวพริบขนาดไหน ขณะที่กลอกตาไปมา ทันใดนั้นก็เดาเจตนาของ
อีกฝายออก แลวหนาเปลี่ยนสีพลางฉีกยิ้ม
ตอนที่ 1419 วิหารการแลกเปลี่ยน
“ใชแลวขาหมายถึงสิ่งนี้ แมนวานายทานจะมีคุณสมบัติเขารวมเผาวิหคสวรรค
ของพวกเรา แตถึงอยางไรเสียก็มีตนกำเนิดมาจากเผามนุษย ตอใหผานการทดสอบ
ไปได ก็ไมอาจรับตำแหนงประมุขของเผาเราได แตสหายหานกลับสามารถใชฐานะ
บุตรชายชวยบุ ตรชายทั้ งสองอี ก แรงใหพ วกเขาผา นการทดสอบ แนนอนว า หาก
ทำเชนนั้นละก็ ขาก็จะไมเอาเปรียบเจา ไมเพียงจะใหเจาดูดซึมโลหิตของวิหคมัจฉา
และยังจะตอบแทนใหจงหนักดวย” หญิงสาวไมไดปฏิเสธ พลางเอยอยางไมรีบรอน
ออกมา
เรื่องดีๆ เชนนี้มาหาถึงที่ หากเปนคนปกติแลวเกรงวาคงตอบรับดวยอารามดีใจทันที
แตหานลี่กลับแววตาเปลงประกาย ไมไดตอบกลับในทันที
หญิงสาวเองก็ไมไดเรงเรา แคนั่งอยูบนเกาอี้พลางมองหานลี่อยางเงียบๆ
หลังงจากผานไปเปนเวลาหนึ่งกาน้ำชา หานลี่ก็เอยปากขึ้นอีกครั้งวา
“เพื่อบุตรชาย แมกระทั่งยอมใหคนนอกอยางขาเขารวมเผาทาน การทดสอบนี้
คงอันตรายไมนอยสินะ ลองอธิบายมาใหขานอยฟงกอน แลวผูแซหานคอยตัดสินใจ
ก็คงไมสาย”
“การทดสอบนี้อันตรายมาก โดยปกติแลว บุตรชายของเผาตางๆ ที่จะเขารวม
จะมีอัตราการเพลี้ยงพล้ำอยูที่หกถึงเจ็ดสวน และปกติแลวพลังยุทธของบุตรชายก็ตอง
อยูในระดับแมทัพวิญญาณเหาะเหิน เทียบเทากับระดับเทพแปลงของเผาเทา ครั้งนี้
เปนเพราะประมุขของเผาเราเกิดอุบัติเหตุเพลี้ยงพล้ำไป บุตรชายทั้งสองก็มพี ลังยุทธ
อยูในระดับแมทัพวิญญาณเหาะเหินขั้นตนเทานั้น ยังไมพรอมเต็มที่ หากเขารวม
การทดสอบ แปดเกาสวนคงไมอาจผานได ความสามารถของนายทานนั้นแมขานอย
จะรูมาไมไดมาก
แตขามผานแผนดินเฟงหยวนกวาครึ่งมาได กำลังก็คงไมธรรมดาอยางแนนอน
แมนวาเนื้อหาในการทดสอบจะอันตราย แตนาจะไมเปนปญหากับสาย” แมนวา
หญิงสาวจะคาดเดาผิดพลาดไปหนอย แตขอ ตัดสินสุดทายก็ไมผิด
“แค ร ะดั บ แม ท ั พ วิ ญ ญาณเหาะเหิ น ?” หานลี ่ ห างตากระจุ ก เอ ย ถามอย า ง
ระมัดระวัง
“นายทานโปรดวางใจ อาวุโสอยางขาไมมีทางหลอกลวง” หญิงสาวหัวเราะนอยๆ
ออกมา
“ขาขอเวลาคิดสักระยะ” ขบคิดเล็กนอย หานลี่ถึงไดตัดสินใจ
“เรื่องนี้เปนเรื่องใหญ ควรจะไตรตรองใหรอบคอบถูกแลว เอาอยางนี้ก็แลวกัน
ขาใหเวลาเจาสามวัน หลังจากนี้สามวันขาจะรอคำตอบของเจาอยูที่นี่ ชวงเวลานี้
สหายก็อยูในเมืองไดอยางอิสระ จะไมมีใครไปรบกวนเจา อีกอยางขาชื่อจินเยว จำชื่อ
ของขาเอาไวใหดี”หญิงสาวเอยอยางราบเรียบ ดูเหมือนวาจะคาดเดาคำตอบของ
หานลี่เอาไวตั้งนานแลว
แนนอนวาหานลี่พลันเอยขอบคุณ จากนั้นก็กลาวลาอยางไมลังเลอีก
เมื่อเห็นหานลี่เดินออกจากประตู รางกายก็พลิ้วไหวหายวับไป จินเยวพลันฉีกยิ้ม
นอยๆ ออกมา ยกมือขึ้นหยิบถวยชาขึ้นมาจากโตะ พลางลิ้มรสชาติมันอึกหนึ่ง
“ทานมหาอาวุโสจะปลอยเขาไปอยางนี้จริงๆ หรือ” กำแพงหินภายในหองหินมี
ลำแสงสีเทาสวางวาบ ฉับพลันนั้นดานในพลันมีวิหคสวรรคอีกสองคนรางกายสูง
คนหนึ่งเตี้ยคนหนึ่งปรากฎขึ้น
“ทำไม เจาจะใหขาจัดการเขาอยางไร?” จินเยวเหลือบตามองชายชราเคราสีแดง
ที่พูดแวบหนึ่ง แลวเอยถามอยางตรงไปตรงมา
“ขนวิหคมัจฉาที่อยูในปกคูนั้น เหตุใดเราตองใหคนเผาประหลาดเขามาเปน
บุตรชาย ไมสูเอาปกนั้นมา แลวเลือกอีกคนมาสืบทอดโลหิตเที่ยงแทจะดีกวาหรือ”
ชายชราเคราแดงรางกายสูงใหญเอยพรอมกับถูมือทั้งสองไปมาเบาๆ
“หากทำเชนนั้นจริงๆ ขาจะตองยุงยากคุยกับคนเผาประหลาดหรือ ไมสังหารเขา
แลวก็ชิงปกมาเลยก็ไดแลว” มุมปากของหญิงสาวเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา ตอบกลับ
อยางไมเกรงใจ
“เช นนั ้ นความหมายของท า นอาวุ โ สคื อ…” สตรี ร  า งกายอรชนอ อนแอ นอี ก
คนหนึ่งเห็นวาชายชราเคราแดงยังคิดจะเอยอะไรอีก ก็รีบรอนกระตุกชายเสื้อของเขา
ชิงเอยกอนอยางนอบนอม
“จากความเขาใจที่มีตอเผามนุษย ขาวาในเผาวิหคสวรรคนั้นไมมีผูใดรูเทาขาแน
เผามนุษยและเผาวิญญาณเหาะเหินของพวกเรานั้นไมเหมือนกัน พวกเขามีกำลังกาย
ที่ธรรมดามาก กวาครึ่งลวนหลอมสมบัติอื่นๆ ใสเขาไปในราง ดังนั้นจึงสามารถ
หลอมสมบัติเหลานั้นไดในระยะเวลายาวนานจนถึงแกน สมบัติเหลานั้นไมใชวาจะไม
อาจแยงชิงได แตหลังจากแยงมาไดแลว รองรอยของเจาของเดิมนั้นไมอาจกำจัด
ได ง  า ยๆ และยิ ่ ง ไปกว า นั ้ นอานุ ภ าพของสมบั ต ิ ก ็ จ ะลดลงเพราะเปลี ่ ย นเจ า นาย
สมบัติปกของคนผูนี้ ขาไดตรวจสอบอยางละเอียดแลว เปนสมบัติประเภทนั้น และขา
ก็ไดขาวมาแลวว า การทดสอบของบุตรชายใกลเ ขามาแล ว พวกเราไมมีเวลามา
แยงสมบัติแลวมอบใหเผาอื่นหลอมมันอีกครั้งแลว” จินเยวขบคิดเล็กนอย และยัง
อธิบายอีกสองสามประโยค
“อยางนี้นี่เอง แตเชนนี้โลหิตศักดิ์สิทธิ์เที่ยงแทจะไมไหลออกไปนอกเผาจริงๆ หรือ
นี่ไมใชเรื่องเล็กๆ เลย” ชายชราเคราแดงยังคงสั่นศีรษะอยางตอเนื่อง
“ทานอาวุโสซวีเลอะเลือนแลว หากครั้งนี้บุตรชายของเผาเราไมผานการทดสอบ
ทั้งชนเผาก็จะถูกสาขาอื่นๆ กำจัดทิ้ง และเทียบกับเรื่องโลหิตเที่ยงแทแลวก็เปนเพียง
เรื่องเล็กเทานั้น อีกอยางเพื่อปองกันไมใหเรื่องนี้เกิดขึ้น ก็ไมมีทางวิธีการอื่นแลว”
หญิงสาวดวงตาเปลงประกายขณะเอย
“หึๆ ทานมหาอาวุโสพูดมีเหตุผล หลังจากที่เผาประหลาดผูนี้ชวยพวกเราผาน
เคราะหรายไปแลว แคระดับแมทัพวิญญาณเหาะเหินคนหนึ่ง ถึงครานั้นจะสังหาร
หรือเก็บไว มันก็ขึ้นอยูกับพวกเราแลว” หลังจากที่หญิงสาวหนาตางดงามวัยกลางคน
ตกตะลึงแลว ทันใดนั้นก็เอยออกมาดวยสีหนาเปอนยิ้ม
“สังหารนั้นเปนไปไมได ตอใหเปนคนของเผาประหลาด หากมีโลหิตวิหคมัจฉา
เที่ยงแทผสมเขาไปแลว ก็นับวาเปนคนของเผาเราครึ่งหนึ่ง พวกเราจะถูกจำกัดดวย
คำสาบานของวิหคสวรรค และยิ่งไปกวานั้นดวยเหตุนี้หากผานภัยพิบัติของเผาใน
ครั้งนี้ไปได เขาก็นับวาเปนผูมีพระคุณตอเผาเรา หากไมมีความจำเปนละ อยา
คราชีวิตของเขาเลย มากสุดก็แคกักบริเวณเขาเอาไว ไมใหออกจากเมืองศักดิ์สิทธิ์อีก”
จินเยวเหลือบตามองหญิงสาวแวบหนึ่ง แลวตอบกลับอยางไรความรูสึก
“เช นนั ้ นก็ ไ ด ต องรายงานเหล า ผู  ร ั ก ษาประตู และส ง คนสะกดรอยตามคน
เผาประหลาดผูนั้น อยาใหเขาหนีออกไปหรือไม” ชายชราเคราะแดงกลับเอยเชนนี้
ออกมา
“ทานอาวุโสซวีไมตองกังวล เมื่อครูขาไดทำอะไรกับปกของเขาไปแลว หากเขา
ออกจากเมือง ขาจะรูไดในทันที” จินเยวกลับเอยอยางไมใสใจ
“ดูแลวเราสองคนคงกังวลมากไป ทานมหาอาวุโสขบคิดไดอยางรอบคอบมาก”
สตรีผูงดงามแววตาเปลงประกายพลางเอยดวยรอยยิ้ม
“กังวลมากหนอยก็ไมเปนไรหรอก ในอาวุโสทั้งหาของเผาเรามีแคพวกเราสามคน
ที ่ อยู  ใ นเผา และเรื ่ องนี ้ก ็ เ กี ่ย วข องกับ ความเป น ตายของเผ าเรา เราสามจำตอง
ปรึกษากันกอนคอยลงมือ มิเชนนั้นขาก็คงไมมีทางถายทอดเสียงเรียกใหพวกเจา
สองคนมาระหวางทาง อาวุโสซวีพวกเจามีขอคิดเห็นอะไรหรือไม” หญิงสาวจองเขม็ง
ไปที่ทั้งสองคน แลวเอยออกมาอยางแชมชา
“ไมมีขอรับ วิธีของทานมหาอาวุโสนั้นปลอดภัยสุดแลวขอรับ” ครั้งนี้หญิงงาม
และชายชราลวนเอยสนับสนุน
หญิงสาวไดยินแลวพลันหยักหนา
ตั้งแตตนจนจบอาวุโสของเผาวิหคสวรรคทั้งสามตางไมเอยถึงเรื่องที่หานลี่จะ
ปฏิเสธเลยสักนิด
นั่นก็ไมแปลก ในสายตาของทานมหาอาวุโสของเผาวิหคสวรรคผูนี้หรือแมวาจะ
เปนในสายตาของชายชราและสตรีผูงดงาม แคเผาประหลาดระดับเทพ
และครานี้หางจากที่หญิงสาวและพวกอยูออกไปสองสามรอยลี้ หานลี่กำลัง
กระพือปกบินอยูกลางอากาศต่ำๆ
ดูจากสีหนาแลวดูปกติมาก กำลังพิจารณาสิ่งปลูกสรางตางๆ ที่อยูดานลา ง
อยางสนอกสนใจ แตในใจกลับมีความคิดตางๆ ผุดขึ้นมาไมหยุด กำลังขบคิด ถึ ง
สถานการณติดกับของตนเอง
การเผยฐานะของตนเองออกมาอยางสับสนในครั้งนี้ สถานการณจึงไมคอยสูดีนัก
จากประสบการณที่เฟองฟูในอดีตของเขา จะไมรูไดอยางไรวาไมวาคำขอของ
หญิงสาวนั้นจะสำเร็จหรือไม จุดจบของเขาก็ไมมีทางดีแน
การปฏิเสธอยางตรงไปตรงมานั้น ไมมีทางเปนไปได
สวนหนีไปในทันทีนั้น คราที่เพิ่งจะออกจากที่พักของหญิงสาว ก็วนเวียนอยูในหัว
ของเขานับครั้งไมถวนแลว
แตหลังจากที่แผจิตสัมผัสไปที่ปกวายุอัสนีที่แผนหลังตามความรูสึกแลว หานลี่ก็ทำได
เพียงหัวเราะอยางขมขื่นออกมาเทานั้น
คาดไมถึงวามหาอาวุโสของเผาวิหคสวรรคผูนี้จะทำเครื่องหมายไวในปกของเขา
อยางเปดเผยเชนนี้ หากอยูในอาณาเขตตำแหนงของเขาจะตกอยูในการควบคุมของ
อีกฝาย
จากพลังยุทธของเขาในตอนนี้ก็ไมใชวาจะไมอาจกำจัดรองรอยนี้ได แตอยางนอย
ที่สุดก็ตองใชเวลาสองสามวันถึงจะทำได และระยะเวลานานขนาดนั้นคงถูกทาน
มหาอาวุโสพบเขาตั้งไมรูกี่รอบแลว
ดูแลววิธีเดียวก็คือ มีเพียงตองชิงเสนอเงื่อนไขที่ทำใหอีกฝายไมกลาลงมือถึงจะได
มิเชนนั้นหากเขายอมเสี่ยงใชลำแสงหลีกหนี ก็ไมมีทางเปนบุตรชายอะไรของ
เผาประหลาดนี่ไดจริงๆ
สวนเงื่อนไขอะไรนั้น ก็ตองดูสถานการณของเผาวิหคสวรรคคราวๆ กอน ถึงจะ
คอยๆ ขบคิดอยางดีๆ ได
โชคดีที่เขาฝกฝนจนมาถึงทุกวันนี้มีประสบการณเสี่ยงตายมานับครั้งไมถวน ครั้งนี้
ตกมาอยูในสถานการณจำทน ก็ไมไดตกตะลึงนัก
หานลี่แคบินไปเรื่อยๆ ขบคิดอยางรวดเร็วราวกับสายฟาไปดวย
ดังนั้นเวลาตอมาหานลี่จึงไปที่เรือนหินสูงใหญที่ดูเหมือนกับหอคัมภีร
หลังจากที่เขาอานหนังสือตำรากวาครึ่งไปหนึ่งวันหนึ่งคืน ถึงไดออกมาดวยสีหนา
เหนื่อยลา
กลับมายังที่พัก หานลี่ปดประตูเรือนรับแขกโดยไมออกมาอีกครั้ง จนถึงเชาตรู
วันที่สาม เขาถึงไดออกมาอีกครั้งดวยสีหนาราบเรียบ ครั้งนี้เปาหมายก็คือวิหาร
การแลกเปลี่ยนที่ิอยากไปตั้งแตแรก
ระหวางทางครั้งนี้ไมพบความยุงยากอะไร
หลังจากที่หานลี่บินมาไดระยะหนึ่ง ในที่สุดก็มาถึงชายแดนของเมืองศักดิ์สิทธิ์
ยืนอยูหนาสิ่งปลูกสรางประหลาดๆ ที่อยูใกลภูเขา
สิ่งปลูกสรางนี้อยูติดกับกำแพงภูเขาที่สูงชันประมาณพันจั้ง และในกำแพงภูเขาก็
มีจัตุรัสขนาดยักษรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผายืนออกมา และมุมหนึ่งของจัตุรัสนั้นก็มี
ประตูหินรูปทรงโคงสูงประมาณรอยจั้งเปดบนอยูกำแพงภูเขา
ทั้งสองฝงของประตูยักษมีผูคุมกันติดอาวุธสิบกวาคนยืนเรียงแถวอยู ตรงกลางมี
วิหคสวรรคจำนวนมากเขาๆ ออกๆ ทาทางคึกคักไมธรรมดา
หานลี ่ แ ค ห รี ่ ต าทั ้ ง สองข า งลงพิ จ ารณาจุ ด ที่ ไ กลออกไป ป ก ที ่ แ ผ น หลั ง ขยั บ
คนที่มีลำแสงสีเขียวหอหุมอยูพลันบินไปขางหนา
ผูคุมกันที่อยูหนาประตูคนหนึ่งกวาดสายตามาบนเรือนรางของหานลี่ แลวพลัน
หนาเปลี่ยนสี รีบรอนกันทำความเคารพหานลี่
หานลี่พยักหนาไปทางนั้นเล็กนอย แลวเปลงแสงสวางวาบบินเขาไปในประตูยักษ
อยางเปดเผย
เบื้องหนาเปลงแสงเจิดจา เปนพื้นที่วางที่กวางใหญมาก
ดานหลังประตูเหมือนมีอีกโลกหนึ่งปรากฎขึ้น
มองทางเดียวยาวๆ ที่มองปราดเดียวก็ไมสุดลูกหูลูกตา ทั้งสองฝงลวนเปนสิ่งปลูก
สรางวิหารสูงใหญเปนชั้นๆ
หากพิจารณาอยางละเอียดสิ่งปลูกสรางเหลานี้แบงออกเปนสิบชั้นเศษ ทุกชั้นมี
ความสูงสามสิบจั้ง และในทุกๆ รอยจั้งของชั้นแตละชั้นจะมีประตูวิหารสูงสิบกวาจั้ง
ปรากฎขึ้น
คนของวิหคสวรรคจำนวนนับไม ถว นบิ นไปบินมาระหวางสิ่ง ปลูกสรางต า งๆ
บินขึ้นบินลง ดูแลวในประตูวิหารคงจะเปนสถานที่แลกเปลี่ยนกันของชาววิหคสวรรค
ตอนที่ 1420 ผลตาขายเขียว
หานลี่เองก็ไมเกรงใจ ทันใดนั้นก็ตามคนของวิหคสวรรคกลุมหนึ่งไปยังประตู
วิหารแถวๆ ชั้นสอง
เก็บปกรางกายพลิ้วไหว หลังจากที่เขาเขาไปในประตูราวกับชาววิหคสวรรค
จริงๆ แลว ขางหูก็เสียงคึกคักดังขึ้น กวาดสายตาไปอีกครั้ง แววตาของหานลี่เปลง
ประกายสวางวาบสองสามครั้ง
ที่นี่เปนจัตุรัสขนาดเล็กมีพื้นที่ประมาณสองสามรอยจั้ง รอบดานเปนรานรวงตางๆ ที่
แตกตางกันไป มีชาววิหคสวรรคสองสามรอยคนกำลังเดินเขาๆ ออกๆ รานรวงตางๆ
ตรงกลางจัตุรัสมีเสาหินสีเขียวสูงสิบจั้งเศษตั้งตระหงานอยูตนหนึ่ง ดานบนมี
ลำแสงระยิบระยับ เหมือนวาจะสลักอะไรอยางสักอยางเลือนๆ เอาไว
ใตเสาหินมีคนสิบกวาคนกำลังเงยหนามองสิ่งที่อยูบนเสา และกำลังปรึกษาอะไร
กันอยูเงียบๆ
หานลี่มองไปยังเสาหิน แลวเดินเขาไปดวยความรูสึกสนใจ
เห็นเพียงผิวของเสาหินแยกออกเปนสองสวน มีอักขระเรียงรายอยูเต็มไปหมด
ครึ่งหนึ่งเปลงแสงสีแดง อีกครึ่งเปนแสงสีเขียวมรกต
หานลี่พิจารณาตัวอักษรทั้งสองชนิดอยางละเอียด ถึงไดพบวาตัวอักษรเหลานี้
คือชื่อ ของสิ่งของ บางก็คุนมาก บางก็ไมเคยไดยินมากอน
ตัวอักษรเหลานี้กระพริบวาบๆ ราวกับวาลอยโคจรหมุนวนบนผิวของเสาหิน
อยางไรอยางนั้น
ตรงตีนของเสาหินกลับมีบุรุษวัยกลางคนที่ดูเหมือนผูดูแลอยูคนหนึ่ง กำลังนั่ง
สมาธิหลับตาทั้งสองขางลงครึ่งหนึ่งอยู
นี่คือ…
หลังจากที่หานลี่กวาดสายตามองตัวอักษรทั้งสองชนิดและใบหนาของบุรุษที่ดานลาง
ก็รูสึกตกตะลึงระคนสงสัย
และในตอนนั้นเองฉับพลันนั้นในฝูงชนดานลางก็มีบุรุษสวมชุดคลุมสีดำเบียด
แทรกตัวออกมาคนหนึ่ง ชูมือขึ้นสงศิลาวิญญาณสองสามกอนใหกับผูดูแลใตเสาหิน
ชายวัยกลางคนปรื อตาทั้ งสองขึ ้นพยั กหน า จากนั้นก็ควัก กระบองสั ้ นสี แ ดง
ดามหนึ่งออกมา สงใหคนผูนี้
ผูที่ปรากฎตัวออกมาหยิบกระบองแดงสะบัดไปทางเสาหินอยางรวดเร็วสองสามครั้ง
แมนวาคนผูนี้จะเคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว แตแววตาของหานลี่พลันเปลงแสงสีฟา
สวางวาบ มองเห็นทุกอยางอยางชัดเจน
จุดที่กระบองสั้นโบกสะบัดมีตัวอักษรสีแดงสองสามตัวปรากฎขึ้น เปลงแสงสวางวาบ
แลวจมหายเขาไปในเสาหินอยางไรรองรอย
หลังจากนั้นชั่วครูตัวอักษรสีแดงสองสามตัวนี้ก็ปรากฎขึ้นที่เดิม
หานลี่เผยสีหนาตกตะลึงออกมา
หลังจากมองดูอยูอีกชั่วครู ก็มีอีกคนหนึ่งเดินออกมา ทวาคนผูนี้กลับไมสนใจ
ผู  ด ู แ ลวั ย กลางคน สยายป ก ทั ้ ง สองข า งออกบิ น ขึ ้ น ไปบนท อ งฟ า สู ง สองสามจั้ ง
ยื่นนิ้วนิ้วหนึ่งออกมาชี้ไปที่ตัวอักษรสีเขียวสองสามตัวบนเสาหิน
ชั่วขณะนั้นตัวอักษรพลันเปลงแสงสีเขียวมรกต จมหายเขาไปในนิ้วมือของคนผูนี้
อยางรวดเร็ว ทำใหรางกายของเขาเปลงแสงออกมา
และชาววิหคสวรรคที่ชี้ตัวอักษรเหลานี้ก็เอียงศีรษะ สองตาหรี่ลงเล็กนอยดู
เหมือนวาจะกำลังรับขาวสารอะไรสักอยาง หลังจากผานไปชั่วครูเขาก็งอนิ้วกลับมา
บินไปทางประตูวิหาร
คนที่เหลือสองสามคนก็ทำตามเขาเชนกัน ไมเขียนตัวหนังสืออะไรลงเสาหิน
ก็บินขึ้นไปบนเสาหินใชนิ้วมือสัมผัสกับอักษรสีแดงเขียวสองสีเหลานั้น
เมื่อดูจนมาถึงตรงนี้หานลี่พลันลูบคางไปมา รูสึกถึงบางออ
เพื่อเปนการยืนยันการคาดเดา เขาพลันสาวเทายาวๆ กาวไปเบื้องหนาอยางไมเกรงใจ
ในเวลาเดียวกันก็ยื่นนิ้วชี้ออกไป ตรงโคนเสามีตัวอักษรสีเขียวแถวหนึ่งปรากฎขึ้น
ตัวอักษรสีเขียวมรกตเหลานั้นเปลงแสงสวางวาบ ความเย็นเยียบทะลุเขามาในสมอง
ในหัวของหานลี่มีขาวสารปรากฎขึ้น
“ขายไมหลอเลี้ยงลำแสงชั้นหนึ่งไมจำกัดจำนวน ราคากอนละสามหมื่นศิลาวิญญาณ
ที ่ ร  า นหมายเลขสามสิ บ เอ็ ดชั ้ นสี ่ว ิ หารหมายเลขหา !” มุ ม ปากของหานลี่กระตุก
รางกายพลิ้วไหว คนก็หันไปที่อีกครึ่งดานของเสาหิน นิ้วชี้ไปที่ตัวอักษรสีแดงอีกครั้ง
ผลคือ ขาวสารที่เหมือนกันปรากฎขึ้นในสมอง
“รับซื้อโครงกระดูกวิหคหางหงสแบบสมบูรณแบบ ราคาตอรองได รานสิบชั้น
เกาสอง!”
หานลี่มีสีหนาแปลกประหลาดเล็กนอย
คิดไมถึงวาชาวเผาวิหคสวรรคเหลานี้จะใชวิธีนี้ในการซื้อขายสิ่งของกัน
เห็นไดชัดวาสิ่งที่มาประกาศบนเสาหินไดนั้น ลวนเปนของที่ตองการอยางเรงดวน
หรือวาของที่คอนขางพิเศษ นับไดวามีความคิดสรางสรรคมาก
เช นนั ้ นขอแค ม ี ค นมาอ า นข า วสารบนเสาหิ น ก็ ส ามารถตรงไปยั ง ร า นที ่ จ ะ
แลกเปลี่ยนแลว นับวาสะดวกจริงๆ
และดูแลววิธีการนี้ก็ไมยาก เหมือนวายานรานคาในเผามนุษยจะเลียนแบบได
เขาขบคิดเชนนั้นหานลี่กลับถอยหลังไปสองสามกาว เริ่มพิจารณาตัวอักษรสีเขียว
ที่ขายของเหลานั้น
เขาคิดจะอานขาวสารบนนี้รอบหนึ่ง ดูวามีสิ่งที่ตนเองสนใจหรือไม
แมนวาของจำนวนไมนอยจะมีชื่อเรียกที่ไมเหมือนกันเพราะความแตกตางของเผา
แตไมรูเพราะเหตุใดของล้ำคาสวนใหญถึงไดมีชื่อเรียกไมตางกันมากนัก โดยเฉพาะ
วัตถุดิบที่มีคาไมนอยในสายตาของทั้งสองเผาลวนมีคำเรียกที่เหมือนกัน
เรื่องนี้จึงทำใหหานลี่ที่เพิ่งพูดภาษาของเผาวิญญาณเหาะเหินได รูสึกประหลาดใจ
อยูนาน
ทวาแมวาเรื่องนี้จะแปลกประหลาดไปหนอย เขาก็ไมมีทางไปซักถามหาสาเหตุแน
ครานี้เขาแคเงยหนาขึ้นมองเสาหินเงียบๆ ไมปริปากใดๆ
สายตาจองเขม็งไป ฉับพลันนั้นหานลี่พลันจองเขม็งไปยังตัวอักษรสีเขียวสองสามตัวที่
ปรากฎขึ้นใหมบนเสาหิน ในใจพลันเกิดความรูสึกรอนรน
“ผลตาขายเขียว! คาดไมถึงวาที่นี่จะมีของสิ่งนี้ขายดวย” หานลี่มีสีหนาแดง
ระเรื่อปรากฎขึ้น แววตาปรากฎดีใจอยางบาคลั่งจนปดไมมิด
ผลชนิดนี้คือ วัตถุดิบหลักในการปรุง ‘ยาลูกกลอนตาขายสวรรค’ ในตำนาน
เปนหนึ่งในสองสามผลวิญญาณที่หานลี่อยากไดมากที่สุด
แม นว า ยาลูก กลอนชนิด นี้ จ ะไมอั ศ จรรย เ ท ากั บ ยาลู ก กลอนเพลิง ทมิ ฬที่แค
สามเม็ ด ก็ ส ามารถเพิ ่ ม อั ต ราการทะลวงจุ ด คอของระดั บ เทพแปลงขั ้ น ปลายได
สองสามส ว น แต ใ นสายตาของผู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ สู ง ส ว นใหญ ห รื อแม ก ระทั่ ง
ตัวประหลาดเฒาระดับหลอมรางขึ้นไป มูลคามันมากกวายาลูกกลอนเพลิงทมิฬ
หากกินยาลูกกลอนตาขายสวรรคเขาไปตามลำพังนั้น ก็จะชวยในการทะลวง
จุดคอขวดของผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงได แตความจริงแลวกลับไมคอยนำ
ยาลูกกลอนชนิดนี้มาใชในการนี้ สวนใหญผูที่ไดยาลูกกลอนชนิดนี้มาจะนำมาผสมกิน
กับยาลูกกลอนชนิดอื่น
นั ่ น เป น เพราะยาลู ก กลอนตาข า ยสวรรค ม ี ป ระสิ ท ธิ ภ าพที ่ ม หั ศ จรรย ม าก
สามารถผสมกับยาลูกกลอนสวนใหญได และไมมีผลขางเคียงใดๆ สิ่งที่นาเหลือเชื่อ
ที่สุดก็คือ หากกินกันยาลูกกลอนอื่นๆ ละก็ จะเพิ่มประสิทธิภาพของยาลูก กลอน
ชนิดอื่นไปสามถึงหาสวน
นั่นก็หมายความวาหากหานลี่กินยาที่สามารถเพิ่มพลังลมปราณไปสิบป แตหาก
กินพรอมกับยาตาขายสวรรค ก็เพิ่มพลังยุทธไปไดสิบสองถึงสิบหาป และยิ่งไปกวานั้น
ประสิทธิของยาชนิดนี้ นอกจากยาลูกกลอนเซียนที่ไมเคยมีใครทดสอบสองสามชนิด
แลว ก็มีประโยชนตอยาลูกกลอนระดับสูงชนิดอื่นๆ ทั้งหมด
เชนนั้นยิ่งยาสมุนไพรในมือของมนุษยผูบำเพ็ญเพียรมีมูลคาสูงและหายากมาก
เทาไหร ก็ยิ่งยากกินพรอมกับยาลูกกลอนตาขายสวรรคมากเทานั้น หากโชคดีละก็
อาจจะทำใหประสิทธิ ภาพของยาเพิ ่ม ขึ้ น สองสามสว น แน น อนว า ล วนเปนฝนที่
สวยงาม
สวนผลของยาตาขายสวรรคนั้น กลับเปนเรื่องที่พูดยากจริงๆ
เคยมีคนกินยาลูกกลอนชนิดนี้ลงไปสี่เม็ด ผลคือทุกเม็ดตางทำใหยาที่กินเขาไป
เพิ่มประสิทธิภาพขึ้น
มีบางคนที่ยอมถังแตกกินเขาไปเจ็ดแปดเม็ด เตรียมจะใชสมบัติทั้งหมดพนันดูสักตั้ง
ผลคือ กลับทำใหคนผูนี้กระอักเลือกและประสิทธิภาพของยาก็ไมไดผลเลยสักเม็ด
แมนวายาลูกกลอนตาขายสวรรคจะมีประสิทธิภารในการชวยเสริมที่นาอัศจรรย
เชนนี้ ตั้งแตที่ยาลูกกลอนชนิดนี้ถือกำเนิดขึ้น ก็ยังคงมีผูบำเพ็ญเพียรจำนวนนับ
ไมถวนคนหามันอยางบาคลั่ง
ในชวงเวลาแคพันกวาปของเผามนุษย ยาตาขายสวรรคลวนถูกขุดไปจนเกลี้ยง
สิ่งที่ทำใหเขากลัดกลุมก็คือ ผลตาขายเขียวที่มีอายุสูงหนอยอยางหาหกพันป
ตนหนึ่งจะมีเพียงผลเดียวเทานั้น และเมื่อเด็ดไปแลวต นไมก็สู ญเสี ยไอวิ ญ ญาณ
กลายเปนเพียงตนไมธรรมดาๆ ตนหนึ่งเทานั้น
ดังนั้นถึง แม ว าสำนั กพรรคใหญๆ และขุมอำนาจใหญ ๆ หมายจะทุม เทปลู ก
สมุนไพรชนิดนี้ขึ้นมาจำนวนมาก แตก็ไดไมคุมเสีย
ดังนั้นในเวลาตอมา จึงมีเพียงคนที่บังเอิญหาผลวิญญาณชนิดเจอสองสามเม็ด
จากแดนปาเถื่อน และเมื่อยาลูกกลอนตาขายสวรรคหนึ่งเม็ดปรากฎขึ้น ก็
ทำใหผูบำเพ็ญเพียรระดับสูงเหลานั้นแยงชิงกัน สวนใหญลวนตกอยูในมือของ ตัว
ประหลาดเฒาระดับหลอมรางขึ้นไป
คราที่หานลี่ไดยินผลวิญญาณชนิดนี้ครั้งแรกในเมืองเทวะสวรรค แนนอนวาก็
รูสึกสนใจ วาดฝนวาจะใชของเหลวสีเขียวเลี้ยงดูผลวิญญาณชนิดนี้จำนวนมาก
แตสิ่งที่นาเสียดายก็คือ ตอใหเมล็ดของผลตาขายเขียว ก็ยังเปนสิ่งที่หายาก
และยิ ่ ง ไปกว า นั ้ น ยั ง ไม อ าจเก็ บ ไว ไ ด น านนั ก ดั ง นั ้ น แม ว  า ในเมื องเทวะสวรรค
จะมี ส ถานที ่ ท ี ่ แ ทบจะรวบรวมสมุ น ไพรวิ ญ ญาณและผลวิ ญ ญาณทั ้ ง หมดใน
สามเขตเจ็ดแดนเอาไว ก็ยังหาเมล็ดของผลวิญญาณไมเจอแมแตเม็ดเดียว
ดังนั้นหานลี่จึงทำไดเพียงมองและทอดถอนใจเทานั้น
ตอนนี้บนเสาหินมีผลวิญญาณชนิดนี้ปรากฎขึ้น จะไมทำใหเขาดีใจอยางบาคลั่ง
จนแทบจะควบคุมตัวเองไมไดไดอยางไร
ครานั้นหานลี่เองก็ไมสนใจจะดูสิ่งอื่นอีก ทันใดนั้นปกที่แผนหลังพลันสยายออก
คนบินขึ้นไปดานบนทันที หลังจากเปลงแสงสวางวาบ ก็มาอยูตรงกลางของเสาหิน
นี้วชี้ไปที่ตัวอักษรคำวาผลตาขายเขียว
ลำแสงสีเขียวมรกตเปลงประกาย ชั่วพริบตาขาวสารก็ทะลักเขามาในหัว
แตหลังจากดูเนื้อหาเสร็จแลวกลับขมวดคิ้ว
“คาดไมถึงวาจะตองตอรองกันตอหนา เกรงวาคงยุงยากหนอยแลว” หานลี่เอยพึมพำ
ใบหนาตื่นเตนดีใจหายวับไปทันที
แตในเมื่อมีหวังวาจะไดผลตาขายเขียว ตอใหยากมากมายแคไหน เขาก็ไมมีทาง
ยอมแพ
ดังนั้นหลังจากที่ขบคิดอยูกลางอากาศชั่วครู หานลี่ก็กลายเปนลำแสงสีเขียวสายหนึ่ง
เปลงแสงสวางวาบบินออกมาจากที่นั่น
เมื่ อออกจากประตู ว ิห าร ก็ บิ น ขึ ้ น ไปกลางอากาศสู ง รวดเดี ยวก็ มาถึง ชั ้นเกา
เขาบินตามทางเดินไปเรื่อยๆ
หลั ง จากผ า นไปชั ่ ว ครู  เ มื่ อหานลี่ ก วาดสายตาไปบนตั ว อั ก ษรสองสามตัวบน
ประตูวิหารแลว ก็บินเขาไปอยางไมลังเลเลยสักนิด
วิหารนี้เหมือนกับวิหารหลังกอนอยางไรอยางนั้น ไมวาขนาดหรือการตกแตงลวน
ถูกคัดลอกกันมาทุกระเบียบนิ้ว
เห็ น ได ช ั ด ว า ชาววิ ห คสวรรค ท ี ่ อ ยู  ท ี ่ น ี ่ บ างตาลงกว า ชั ้ น ล า งๆ มาก มี เ พี ย ง
ยี่สิบสามสิบคนเทานั้น
หลังจากที่หานลี่หรี่ตาลงมองไปทางรานคารอบๆ แววตาพลันเปลงประกาย
ตรงไปยังมุมหนึ่ง ตรงไปยังรานคารานหนึ่งตรงมุมของวิหารอยางรูดีอยูแกใจ
รานคารานนี้แบงออกเปนสองชั้น ในประตูถูกมานลำแสงสีเขียวชั้นหนึ่งปกคลุม
เอาไว สวนประตูทางออกมีแผนปายหยกสีแดงออนแผนหนึ่งแขวนอยู ดานบนมี
ตัวอักษรคำวา ‘ยานหมื่นอัสนี’ เปลงแสงระยิบระยับอยู
หานลี่กวาดสายตาไปบนแผนหยก สีหนาประหลาดใจฉายแวบผาน ทันใดนั้นก็มี
สีหนาราบเรียบ รางกายเปลงแสงสวางวาบ คนก็เขาไปในมานลำแสงในประตูอยาง
ไมลังเลเลยสักนิด
เบื้องหนาเปลงแสงเจิดจา หองที่วางเปลาขนาดสามสิบสี่สิบจั้งปรากฎขึ้นเบื้องหนา
โตะไมเปลงแสงสีดำมะเมื่อมตัวหนึ่ง เกาอี้ไมสีเหลืองออนสองสามตัว และชั้นไมเกาๆ
เจ็ดแปดชั้น ดานบนมีของวางกองอยูอยางระเกะระกะเต็มไปหมด นี่คือ การจัดเรียง
ทั้งหมดของที่นี่
และในหองโถงนอกจากบุรุษวัยกลางคนรางกายผายผอมที่ดูเหมือนเจาของรานยืนอยู
ดานหลังโตะไมแลว ก็มีชาววิหคสวรรคอีกสองคน
หลังจากที่หานลี่กวาดจิตสัมผัสไปบนเรือนรางของทั้งสามแลว ก็อดที่จะหนา
เปลี่ยนสีไปเล็กนอยไมได
ตอนที่ 1421 สามตัวเลือก
ทาทางของแขกทั้งสองเปนคูสองสามีภรรยาคูหนึ่ง กำลังพูดคุยอะไรสักอยางกับ
เจาของราน
ทั้งสองคนหนึ่งมีพลังยุทธระดับหลอมสูญขั้นตน คนหนึ่งระดับหลอมสูญขั้นกลาง
สวนเถาแกผูนั้นคาดไมถึงวาจะเปนสิ่งมีชีวิตที่นากลัวระดับหลอมสูญขั้นปลาย
ผูที่มีพลังยุทธระดับนี้ มาเปดรานคาอะไรพวกนี้ทำไมกัน
หานลี่พลันรูสึกตกตะลึง
บุรุษและสตรีคูนั้นเห็นวามีคนเขามา ก็รูสึกวาไมคุนหนา จึงรูสึกประหลาดใจ
กลับเปนเถาแกเจาของรานรางกายผายผอมผูนั้นที่แคเหลือบตามาและไมสนใจ
หานลี่อีก พลางพูดคุยกับคนที่อยูเบื้องหนาทั้งสองตอดวยทาทีเกียจคราน
“หากหาศิลาดูดวิญญาณไมพบละก็ พวกเจาก็อยาเพอฝนถึงไมเซียนมวงเลย!
สวนศิลาวิญญาณระดับสูงนั้น พวกเจาคิดวาขาขาดแคลนหรือ?” ตาแกหนังเหนียวผูนี้
เอยดวยน้ำเสียงใหญๆ
“พี่อวี้ ใชศิลาดูดวิญญาณมาแลกกับไมเซียนมวง เงื่อนไขนี้มันทารุณเกินไปแลว
เจ า สิ ่ ง นี ้ ม ี อยู  แ ค ใ นหุ บ เหวลึ ก เท า นั ้ น อย า พู ด ถึ ง สองสามี ภ รรยาผู  บ ำเพ็ ญ เพี ยร
ระดับหลอมสูญอยางพวกเราเลย แมแตอาวุโสในเผาก็ไมกลาลงไปลึกขนาดนั้น”
สตรีที่เปยมลนไปดวยเสนหเอยดวยสีหนาไมยินยอม
“ตาเฒาไมสนหรอก เจาคิดวาไมเซียนมวงของตาเฒาไดมาเพราะลมพัดมารึ?
ไมมีศิลาดูดวิญญาณ เรื่องนี้ก็พักเอาไวเถิด” เถาแกรางกายผายผอมกลอกตาไปมา
แลวเอยอยางไมเกรงใจเลยสักนิด
สองสามีภรรยาคูนี้ไดยินเถาแกเอยเชนนั้น แนนอนวาพลันหนาเปลี่ยนสีเปนอยางมาก
แตจากนี้ไมวาทั้งสองจะขอรองอยางไร ชายชราก็ยังเอยอยางเย็นชาอยางไมย อม
ผอนปรน
สุดทายบุรุษและสตรีผูนี้จึงทำไดเพียงจากไปดวยความจนปญญา
ตั้งแตตนจนจบพวกเขาไมไดสนทนากับหานลี่แมแตประโยคเดียว
“เด็กเอย เจามาหาตาเฒามีเรื่องอันใดหรือ?” เถาแกรอจนสองสามีภรรยาคูนั้น
ออกไปจากประตู ก็นั่งลงบนเกาอี้ที่ดานหลังโตะดวยทาทีหงุดหงิด
“ไดยินวาทานอาวุโสขายผลตาขายเขียว เปนเรื่องจริงหรือไม” หานลี่เอยถาม
อยางราบเรียบ
“ผลตาขายเขียว เปนหนึ่งในของที่ล้ำคาที่สุดในรานขา ระดับแมทัพวิญญาณเหาะเหิน
คนหนึ่งคงแลกไมได อยาเสียเวลาขาเลย รีบไปซะ” ชายวัยกลางคนไดยินคำพูดของ
หานลี่พลันตกตะลึง หลังจากพิจารณาหานลี่อยางละเอียดอีกครั้ง กลับแคนเสียง
ขึ้นจมูก แลวเอยปากขับไลหานลี่
“ทานอาวุโสไมพูดถึงเงื่อนไข จะรูไดอยางไรวาชนรุนหลังไมอาจแลกเปลี่ยนของ
ชิ้นนี้ได” หานลี่ฉีกยิ้มบางๆ สองเทาไมขยับไปไหน
“หึ ไมออนไมชอบชอบไมแข็ง!” ชายวัยกลางคนรางกายผายผอมพลันโกรธเกรี้ยว
จากนั้นปกสีเงินที่แผนหลังพลันสะบัดมาทางหานลี่
หลังจากเสียงอึกทึกดังขึ้น ชั่วขณะนั้นพลังมหาศาลที่ไรรูปรางกลุมหนึ่งก็กดมา
ทางหานลี่ แมแตบรรยากาศรอบๆ ก็เกิดเสียงหึ่งๆ ดังขึ้น
หานลี่หางตากระตุกและไมไดหลบหลีกใดๆ แคชูมือขึ้น คาดไมถึงวาจะวาดนิ้ว
ออกไปราวกับกระบี่
ลำแสงสีทองสายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบ พลังมหาศาลกลุมหนึ่งถูกตัดออกเปน
สองสวนอยางงายดาย แฉลบผานหานลี่ไปทั้งสองดาน เกิดเปนเสียงตูมๆ ดังสนั่นขึ้น
“เอ! มินาละถึงมั่นใจนัก ดูแลวคงมีฝมืออยูสองสามสวนจริงๆ” เถาแกรางกาย
ผายผอมรองอุทานออกมาเบาๆ แววตาเปลงประกายอยางรูสึกประหลาดใจเล็กๆ
“ครานี้ชนรุนหลังมีคุณสมบัติพอจะทำการแลกเปลี่ยนกับทานอาวุโสหรือยังขอรับ”
หานลี่กลับเอยถามอีกครั้งดวยสีหนาราบเรียบ
“อืม นับวาเจามีคุณสมบัติเพียงพอก็แลวกัน ทวาอยากไดผลตาขายเขียว เจานี่
ชางไมรูฟาสูงแผนดินต่ำเสียแลว เปนไปไมไดหรอก” เถาแกตอบกลับอยางราบเรียบ
“แม แ ต จ ะแลกเปลี ่ ย นกั บ อะไรก็ ไ ม บ อกชนรุ  น หลั ง แล ว จะรู  ไ ด อ ย า งไรว า
ขานอยจะนำของที่ทานอาวุโสตองการออกมาไมได” หานลี่ตอบกลับพรอมกับอมยิ้ม
“ในเมื่อเขามั่นใจขนาดนี้ ครานี้ตาเฒาไมมีแขกทานอื่น บอกเจาหนอยก็ไมเปนไร
ความหายากของผลตาขายเขียวนั้นไมตองพูดถึง อยากแลกกับของสิ่งนี้ ขาจะให
ตัวเลือกเจาสามขอ ขอแคเจาทำไดขอนึง ผลตาขายเขียวก็จะเปนของเจา” เถาแก
ขบคิดเล็กนอย คาดไมถึงวาจะเปลี่ยนใจพรอมสีหนาที่ผอนคลายลง
“สามตัวเลือก ดูแลวผลตาขายเขียวคงไดมายากจริงๆ มิเชนนั้นทานอาวุโสจะให
ตัวเลือกที่เยอะขนาดนี้มาทำไม” ฟงจากคำพูดของอีกฝาย หานลี่กลับหัวเราะอยาง
ขมขื่นออกมา
“เจารูแลวก็ดี ขอแรกหากเจานำดอกบัวของยมโลกทมิฬหรือวาผลึกโลหิตทมิฬ
ในตำนานออกมาได ขาจะนำผลตาขายเขียวออกมาใหเจาทันทีอยางไมมีขอแม”
หลังจากที่ชายวัยกลางคนรางกายผายผอมหัวเราะอยางเย็นชาออกมา ก็เอยออกมา
อยางราบเรียบ
“สองสิ่งนี้เปนสิ่งที่ร่ำลือกันมา ในโลกนี้มีของชิ้นนี้จริงหรือไม ก็ยังเปนเรื่องที่พูดยาก
ชนรุนหลังไมอาจมีของสองสิ่งนี้ได” หานลี่สั่นศีรษะ
“หึๆ ของที่ร่ำลือกัน” ชายวัยกลางคนไดยินใบหนาก็เผยสีหนายิ้มเยาะออกมา
“แตในเมื่อตัวเลือกที่หนึ่ง เจารูสึกวาเปนไปไมได งั้นตัวเลือกที่สอง ขาจะพูดถึง
ของที่เจาหาไดแน หากในมือของเจามีศิลาวิญญาณระดับสุดยอดหาหกรอยกอน
ตาเฒาก็พอจะขายผลตาขายเขียวใหเจาไดผลหนึ่ง”
“ศิ ล าวิ ญ ญาณระดั บ สุ ด ยอดห า หกร อ ยก อ น ท า นอาวุ โ สเสนอเกิ น ไปแล ว
ศิลาวิญญาณระดับสุดยอดมากขนาดนั้น เดาวาอาวุโสในเผาก็คงเอาออกมาไมได
กระมัง เรื่องนี้ชนรุนหลังทำไมได” หานลี่หนาเปลี่ยนสีไปสองสามครั้ง สีหนาดูไมได
หากอี ก ฝ า ยพู ด ว า ศิ ล าวิ ญ ญาณระดั บ สุ ด ยอดร อ ยกว า ก อน เขาก็ จ ะกั ด ฟ น
ใชสมุนไพรวิญญาณที่สะสมไวจำนวนมากออกมาแลก ไมแนก็อาจจะรวบรวมจน
ครบได แตจำนวนหาหกรอยกอนนั้น เขาจึงยอมแพโดยไมตองคิด
“หึ ของของตาเฒา ตาเฒาคิดวาผลตาขายเขียวคุมคากับศิลาวิญญาณขนาดนี้
แนนอนวาก็ตองเสนอเงื่อนไขเชนนี้” เถาแกกลับเอยอยางไมสนใจเลยสักนิด
หานลี่ไดยินจึงทำไดเพียงหมดคำพูด
“สองทางเลือกแรกเจาไมอาจรับได ตัวเลือกสุดทาย เดาวาเจาก็คงไมอาจรับได
ยังอยากฟงอยูหรือไม?” ชายวัยกลางคนรางกายผายผอมเอยอยางเย็นชา
“ทานอาวุโสลองพูดมาเถิด!” หานลี่เอยดวยสีหนาเครงขรึม
ฟงหานลี่เอยเชนนี้ เถาแกก็เผยสีหนาแปลกประหลาดออกมา หลังจากผานไป
ชั่วครูถึงไดเอยวา
“ทางเลือกสุดทายนั้น ไมใชสิ่งที่ผูใดก็มีคุณสมบัติพอที่จะเลือกได กอนที่ขาจะพูด
ตองถามเจาสักหนอยวาเจามีพลังอัสนีหรือไม?”
“พลังอัสนี?” รูมานตาของหานลี่หดเล็กลง แลวรูสึกประหลาดใจมาก
“ใช หากไมมีความสามารถธาตุอัสนี หรือวามีความรูแคเล็กนอย ตาเฒาก็ไม
จำเปนตองพูดถึงทางเลือกที่สามแลว”
“หากเปนพลังอัสนี ผูแซหานมั่นใจวาควบคุมไดอยูบาง” หานลี่รูสึกประหลาดใจเล็กๆ
แตหลังจากขบคิดแลว ก็ตอบไปตามความเปนจริง
“งั้นหรือ พูดปากเปลา ลองแสดงใหตาเฒาดูสักหนอยสิวาเจามีคุณสมบัติแลว
คอยวากัน” ชายวัยกลางคนรางกายผายผอมกลับไมคิดจะเชื่อหานลี่งายๆ และดวงตา
พลันเปลงประกายขณะเอย
“ไมมีปญหา!” หานลี่เอยปากตอบรับ สองปกที่แผนหลังสะบัดเบาๆ
เสียง “เปรี๊ยะๆ” ของพลังอัสนีพลันดังขึ้น ประจุไฟฟาสีเงินจำนวนนับไมถวน
ปรากฎบนปกทั้งสองขาง จากนั้นก็ตัดสลับกัน ประจุไฟฟาทั้งหมดผนึกรวมตัว กัน
ชั่วพริบตาลูกบอลอัสนีสีเงินสิบกวาลูกก็ปรากฎรอบๆ หานลี่
ทุกลูกมีขนาดเทากำปน กระพริบระยิบระยับสงเสียงเปรี๊ยะๆ ดังขึ้นไมหยุด
แตความนากลัวที่แฝงอยูในลูกบอลอัสนีเหลานี้ ก็ทำใหรูมานตาของชายวัยกลางคน
รางกายผายผอมหดเล็กลง เผยสีหนาตื่นตะลึงระคนดีใจออกมา
“ไม เ ลว เจ า มิ ไ ด โ อ อวดดั ง คาด มี ค วามสามารถด า นอั ส นี ไ ม น  อยเลยจริ ง ๆ
ฟงทางเลือกสุดทายของขาได ความจริงแลวนั้นงายมาก ทางเลือกสุดทายนั้นไมไดให
เจาใชของมาแลกกับผลตาขายเขียว ขอแคเจาชวยขาสยบอสูรวิญญาณธาตุอัสนี
ตัวหนึ่งเทานั้น”
“สยบอสูรวิญญาณ!” หานลี่แววตาฉายแววประหลาดใจเปนอยางมาก
“อันใด เจาคิดวางายหรือ จะบอกอะไรให อสูรวิญญาณตัวนี้คอนขางพิ เ ศษ
แมนวาขาจะจับเปนมันเอาไว แตก็ไมอาจสยบมันได ขาหาคนมาไมนอยแลว แตก็ยัง
ไมมีผูใดชวยขาสยบมันไดจริงๆ และคนจำนวนไมนอยที่มีความสามารถไมพอก็ถูก
อสูรตัวนี้แวงกัดจนไดรับบาดเจ็บ ทวาหากเจามั่นใจในความสามารถอัสนีของเจา
ก็ไมใชวาจะไมมีโอกาส แตบอกเอาไวกอนนะวาถึงครานั้นหากบาดเจ็บหรือลมตาย
ตาเฒาจะไมสนใจใดๆ” ชายวัยกลางคนรางกายผายผอมกลับเอยขึ้นอยางมีเลศนัย
“อสู ร วิ ญ ญาณธาตุ อ ั ส นี ? ท า นอาวุ โ สบอกความจริ ง กั บ ข า มาเถิ ด ว า คื อ
อสูรวิญญาณชนิดใด” หลังจากที่หานลี่ไดฟงจบก็ขมวดคิ้วมุน
“อสู ร วิ ญ ญาณชนิ ด ใด ข า จะยั ง ไม บ อกเจ า เจ า ต องตั ด สิ น ใจจะชว ยข า กอน
แลวขาจะพาเจาไปดูอสูรตัวนั้น ถึงครานั้นเดี๋ยวเจาก็รูเอง” ดวงตาของชายวัยกลางคน
ฉายแววเจาเลห
ฟงจากคำตอบที่คลุมเครือของอีกฝาย หลังจากที่หานลี่ลูบคางไปมา ก็กนดาในใจ
ไมหยุด แตในหัวกลับมีความคิดตางๆ ผุดขึ้นมาอยางรวดเร็ว
คนผูนี้อยูในระดับหลอมสูญขั้นปลาย คาดไมถึงวาจะไมอาจสยบอสูรวิญญาณที่
จับเปนมาตัวหนึ่งได มันคอนขางแปลกๆ แตในเมื่ออีกฝายเผยออกมาวาต องใช
ผูที่เชี่ยวชาญพลังอัสนี ถึงจะชวยได ดูแลวก็ไมเหมือนกับไมมีความจริงใจเทาใดนัก
หานลี่ขบคิดไปชั่วครู ถึงไดเอยปากซักถามอีกครั้ง
“ทานอาวุโสพูดถึงการสยบนั้น หมายถึงแบบใดถึงจะเรียกวาสยบ”
“แนนอนวาตองชวยตาเฒา ใหมันยอมใหขาจับแตโดยดี จากนั้นก็รับขาเปนนาย
อยางเปนทางการ” ชายวัยกลางคนเอยอยางไมลังเลเลยสักนิด
“หากแบบนี้ละก็ ชนรุนหลังยอมชวยทานอาวุโสลองดูสักตั้ง” หานลี่เองก็ไมลังเลอีก
“เยี่ยมมาก! การรับเปนนายอยางเปนทางการ ตาเฒาจำตองเตรียมตัวสักหนอย
หลังจากนี้สี่วัน เจาคอยมาหาขาที่นี่ก็แลวกัน” เถาแกเผยรอยยิ้มออกมาขณะเอย
“หลังจากนี้สี่วัน ขานอยจะมาถึงที่นี่ตรงเวลา ชนรุนหลังขอตัวลากอน” หานลี่ไมได
เอยอะไรออกมา หลังจากประสานกำปนคารวะแลว ก็กลาวลาและออกจากรานไป
มองประตูที่หานลี่จากไปแลว ชายวัยกลางคนรางกายผายผอมก็ยกมือขึ ้ นลูบ
ไปที่เคราแพะ สายตาเผยแววตื่นเตนดีใจออกมา
หลังจากที่หานลี่ออกมาจากราน ก็ไมไดรีบรอนออกจากวิหารการแลกเปลี่ยน
ในทันที แตไปปรากฎตัวที่หนาเสาหินแลกเปลี่ยนขาวสารอีกครั้ง หวังวาจะพบอะไรที่
นาตกตะลึงระคนดีใจยิ่งกวาเดิม…
จวบทองฟาเปลี่ยนสี วิหารการแลกเปลี่ยนกำลังจะปด เงารางของหานลี่ถึงไดบิน
ออกจากประตูยักษดวยความยินดีปรีดา
ครั้งนี้เขาไดกำไรเปนอยางมาก นอกจากจะพบรองรอยของผลตาขายเขียวแลว
ยังพบวัตถุดิบล้ำคาที่ไมอาจพบไดในเผามนุษยสองสามชนิดจากวิหารการแลกเปลี่ยน
ของเผาวิหคสวรรค หนึ่งในนั้นมีทั้งวัตถุดิบหลอมอาวุธ และสมุนไพรวิญญาณ
สมุนไพรตนหนึ่งยังสามารถใชผสมกับแมลงผลึกกระดูกทองเปนสมุนไพรหลัก
อีกชนิดที่ใชหลอมรูปมารเที่ยงแทพรามหณศักดิ์สิทธิ์
นี่ทำใหหานลี่ดีใจเกินคาด
ขอแคเขาหาสมุ นไพรอีกสองชนิด ก็สามารถรวบรวมวัต ถุด ิบทั้ งหมดได ค รบ
และหลอมรูปภาพเที่ยงแทไดแลว
หานลี่ขบคิดในใน รางทั้งรางกลายเปนลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่ง บินไปยังที่พัก
พรุงนี้ก็คือ วันที่สามที่นัดกับมหาอาวุโสของเผาวิหคสวรรคเอาไว
หานลี่ที่อยูในลำแสงหลีกหนี เผยรอยยิ้มที่มุมปากออกมา ราวกับวาลืมเรื่องนี้
ไปแลวอยางไรอยางนั้น
ตอนที่ 1422 พระสารีริกธาตุของวิหคมัจฉาและคำสาบานของวิหคสวรรค
“เจายอมตกลงเขารวมเผาวิหคสวรรคของพวกเราแลว” แววตาสดใสของหญิง
พลันเปลงประกายตองเขม็งมายังใบหนาของหานลี่ พลางเอยอยางเชื่องชา
“หากชนรุนหลังตอบวาไมตกลง เกรงวาคงไมอาจออกจากเผาของทานไดงายๆ สินะ”
หลังจากที่หานลี่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก็เอยตอบอยางตรงๆ
ครานี ้ เ ขาอยู  ใ นหอวิ ห ารของจิ น เย ว  แ ล ว และด า นข า งของสตรี ผ ู  น ี ้ ก ลั บ มี
ชายชราคนหนึ่งและหญิงงามอีกคนหนึ่งนั่งอยูดานขางทั้งสองฝง
อาวุโสระดับหลอมรางขั้นตนของเผาวิหคสวรรคทั้งสองคนที่เพิ่งมาปรากฎตัว
กำลังมองพิจารณาหานลี่ขึ้นๆ ลงๆ ไมหยุด แตสายตากลับเหลือบมองปกวายุอัสนี
บนแผนหลังของเขามากกวา เผยแววตารอนแรงออกมาบนใบหนา
“สหานหานเลือกเชนนี้ชางเปนการกระทำที่ชาญฉลาดจริงๆ ขอแคบุตรชายของ
เผ า ข า สามารถผ า นการทดสอบไปได เผ า ของข า ไม ม ี ท างปฏิ บ ั ต ิ ต  อสหายอย า ง
ไมยุติธรรมแน” หญิงสาวเอยอยางยินดี แตน้ำเสียงยังคงราบเรียบพรอมใบหนา
ดูเหมือนวาจะคาดการณวาหานลี่จะตอบตกลงเอาไวนานแลว
“หากการทดสอบอยูในระดับที่ทานอาวุโสพูด การลงมือชวยครั้งหนึ่ง นับวาเปน
ว า เป นเรื ่ องที ่ ไ ม ไ ด ยากเย็ นอะไร แต เ ช น กั น ข า น อยไม อยากตกอยู ใ นสภาวะถูก
ไลสังหารหลังจบภารกิจแลว ดังนั้นขานอยมีสองเงื่อนไข หวังวาเผาของทานจะ
ยอมรั บปากกั บ ข า น อยก อน เช นนั ้ น ผู  แ ซห านก็ จะได ไ มก ั ง วล และพยายามชวย
บุตรชายของเผาทานอยางเต็มที่” หานลี่พลันหยุดชะงัก แลวเปลี่ยนหัวขอบทสนทนา
“เงื่อนไข? คนเผาประหลาด เจาลองพูดมาใหฟงซิ” ชายชราแซซวีที่อยูดานขาง
ขมวดคิ้วมุนพลางเอยถาม
“ขานอยตองการพระสารีริก ธาตุ ของวิหคมัจ ฉาเม็ดหนึ่ ง รวมทั้งสิทธิในการ
สลักชื่อลงในคำสาบานเลมที่สองของวิหคสวรรค” หานลี่เอยพรอมกลั้วหัวเราะ
“พระสารี ร ิ ก ธาตุ คำสาบานของวิ ห คสวรรค ” เมื ่ อ ได ฟ  ง คำพู ด ของหานลี่
ไมเพียงบุรุษแซซวีและหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่หนาเปลี่ยนสี แมแตหญิงนามวาจินเยว
ก็ยังมีสีหนาตกตะลึงเล็กนอย
“เปนไปไมได! พระสารีริกธาตุของวิหคสวรรคในเผาเรามีแคสิบกวาเม็ดเทานั้น
ทุกเม็ดลวนเปนสมบัติที่มหาอาวุโสรุนตางๆ ทิ้งเอาไวกอนละสังหาร จะใหเจาได
อยางไร สวนคำสาบานของวิหคสวรรค แมวาจะเปนแคเลมที่สอง แตเผาของเราก็มี
แคสามชุด และไมมีที่เหลือใหสลักชื่อเจาลงไปแลว” ชายชราเคราสีแดงมีสีหนา
เครงขรึมขึ้น พลางเอยปฏิเสธ
“ใช ของสองสิ่งนี้ลวนเปนของประจำเผาเรา จึงไมอาจนำมารับปากได นองเอย
ลองเปลี่ยนเงื่อนไขหนอยเปนไง?” หญิงงามที่อยูดานขางถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
แลวเอยชักจูง
หญิงสาวกลับไมไดเอยอะไรออกมา แคแววตาเปลงประกายสวางวาบเท า นั้น
ราวกับวากำลังขบคิดอะไรอยู
“ที่ขานอยตองการพระสารีริกธาตุของวิหคมัจฉานั้น ไมไดตองการเพื่อตัวเอง
หลังจากกินพระสารีริกธาตุเขาไปแลว ชนรุนหลังถึงจะควบคุมพลังของวิหคมัจฉาได
และสามารถแปลงกลายเปนวิหคสวรรค เชนนั้นถึงจะมั่นใจวาจะปลอมเปนบุตรชาย
ของเผาทานได และเพื่อไมใหถูกเผาอื่นมองออก มีพระสารีริกธาตุบวกกับขนและ
โลหิตเที่ยงแทของวิหคมัจฉาที่ขาหลอมเขาไปในรางแลว ก็นาจะมีคุณสมบัติสลักชื่อ
ลงไปในคำสาบานเลมที่สองของเผาวิหคสวรรคแลวกระมัง และมีเพียงตองทำเชนนี้
ขานอยถึงจะเชื่อวาเผาของทานจะไมมีทางลงมือกับขานอยในภายหลัง” หานลี่เอย
อยางราบเรียบ
“เรื่องเหล านี้ เ จ ารู มาได อยา งไร หรือวาคนในเผ า บอกเจ าเป นการสว นตั ว ”
ชายชราแซซวีเอยถามดวยสีหนาเขียวคล้ำไปเล็กนอย
“ไมใช สหายหานอยูในหอแหงสวรรคหนึ่งวัน นาจะหาเรื่องนี้เจอในคัมภีรในนั้น
ขาเกือบลืมไป หลังจากที่เผามนุษยฝกฝนสำเร็จแลว จะมีความสามารถผานตาแลว
ไมมีวันลืม” จินเยวเอยปากอยางราบเรียบ
“ตอใหเปนเชนนี้ ทั้งสองเงื่อนไขพวกเราไมอาจตอบตกลงได” ชายชราสั่นศีรษะ
อยางตอเนื่อง
“เหตุใดไมอาจตกลงได หากเผาทานไมมีบุตรชายในการทดสอบครั้งนี้ นาจะถูก
กำจัดออกจากเจ็ดสิบสองสาขาของเผาเหินวิญญาณ และถูกสาขาที่แข็งแกรงอื่น
กลื นกิ นกระมั ง เมื ่ อเที ย บกั บ เรื ่ อ งนี้ ผู  แ ซ ห านลี ่ ไ ม ค ิ ด ว า เงื ่ อ นไขที ่ เ สนอมามั น
ยากตรงไหน นอกเสียจากทั้งสามทานคิดจะจัดการขานอยตั้งแตแรก” หานลี่เอยอยาง
ราบเรียบ
เมื่อไดฟงคำพูดของหานลี่ อาวุโสซวีและหญิงงามก็มีสีหนาดูไมไดเล็กนอย
“ได ขาตกลง” หลังจากที่เงียบกริบไปชั่วครู หญิงสาวพลันเอยปากสัญญาทันที
“มันจะเปนไปไดไดอยางไร…”
“ทานมหาอาวุโส เรื่องนี้จำตองขบคิดสักหนอย”
ชายชราหญิงงามรีบรอนหามปรามในเวลาเดียวกัน
“ไมตองพูดมาก ดังที่สหายกลาว สองเงื่อนไขนี้เทียบกับการลมสลายของเผาแลว
ก็ไมมีคาอะไร เรื่องนี้ขาเปนคนตัดสินใจเอง” หญิงสาวโบกมือ น้ำเสียงเย็นชา
ผูที่อยูดานขางไดยินคำนี้พลันมองสบตากันแวบหนึ่งดวยความลังเล และยังคงปดปาก
“เงื่อนไขที่เจาเสนอมาทั้งสอง ขายอมตกลง แตเพื่อเปนการปองกันวาเจาจะ
พยายามช ว ยบุ ต รชายทั ้ ง สองให ผ  า นการทดสอบ ข า จะทำสั ญ ญาโลหิ ต กั บ เจ า
อี ก ชุ ด หนึ ่ ง หากหลั ง จากการทดสอบบุ ต รชายของเผ า ข า ไม ป รากฎตั ว ข า จะใช
ฐานะมหาอาวุโสมอบอายุขัยเพื่อทำลายคำสาบานของวิหคสวรรคและสังหารเจาเสีย”
แววตาของหญิงสาวเปลี่ยนเปนเฉียบแหลมดังใบมีด
หานลี่ใจหายวาบ แตใบหนากลับเผยรอยยิ้มออกมาสองสามสวนขณะเอย
“ท า นอาวุ โสโปรดวางใจ หากเป น เพราะข า น อยพยายามไม เ ต็ ม ที ่ จ นทำให
การทดสอบลมเหลว ชนรุนหลังจะยอมใหทานมหาอาวุโสจัดการ อยางไมมีขอแม”
“เจ า รู  เ หตุ ผ ลนี ้ ก็ ด ี กลั บ ไปพั ก ผ อนก อนเถิ ด พรุ  ง นี ้ ห ากข า จั ด การทุ ก อย า ง
เรียบรอยแลว จะสงคนไปรับเจา เพื่อจะไดเริ่มพิธีประกาศรับเจาเขาเผาอยางเปน
ทางการ” หญิงสาวใชน้ำเสียงที่ไมอาจขัดขืนเอยขึ้น
แนนอนวาหานลี่ไมมีขอคิดเห็ นอื ่น ทันใดนั้นหลังจากคารวะสามอาวุโสของ
เผาวิหคสวรรคแลว ก็ขอตัวลา
หลังจากที่มองรางของหานลี่หายวับไปจากประตูแลว ชายชราเคราแดงก็สูดลม
หายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง เอยกับหญิงสาวดวยสีหนาเครงขรึมวา
“ทานมหาอาวุโส ขาไมไดไมเห็นดวยกับการกระทำเชนนี้ พระสารีริกธาตุของ
วิหคมัจฉานั้นก็ชางเถิด แตหลังจากที่สลักชื่อลงไปในมวนคำสาบานของวิหคสวรรค
นอกเสียจากวาเขาจะกลับคำทำผิดกฎใหญๆ สองสามขอในคำสาบานแลว เผาของเรา
ไมวาผูใดก็ไมอาจลงมือกับเขาได เรื่องนี้จะถูกคนภายนอกเอาไปใชประโยชนได
งายมาก และจะนำหายนะมาสูเผาเรา”
“เรื่องนี้ขารูอยูแลว แตทานอาวุโสซวี่ดูเหมือนจะลืมไปเรื่องหนึ่ง คำสาบานของ
วิหคสวรรคใชไดแคกับคนของเผาเราเทานั้น เรื่องคนทรยศเมื่อสามพันปกอน พวกเจา
ลืมไปแลวหรือ” หญิงสาวเผยสีหนาแปลกประหลาดออกมา
“ทานมหาอาวุโสหมายถึง…” หญิงงามเอยอยางรูสำนึก
“สองสามวันกอน ขาเห็นแมทัพวิญญาณเหาะเหินสองสามคนที่เพิ่งกลับมาจาก
การคุ  ม กั น เครื ่ อ งบรรณาการ และรู  เ รื ่ อ งเผ า มนุ ษ ย ผ ู  น ี ้ ตามที ่ พ วกเขาเล า คื อ
อยามองวามนุษยผูบำเพ็ญเพียรผูนี้มีพลังยุทธแคระดับแมทัพวิญญาณเหาะเหิน
แตความจริงแลวกลับมีความสามารถของปรมาจารยวิญญาณระดับขัน้ ตนที่หาไดยาก
เอามาชวยบุตรชายของพวกเราใหผานการทดสอบ ก็ทำใหมั่นใจไดมาก เสียเปรียบ
หนอยก็ไมเปนไร และยิ่งไปกวานั้นหลังจากเรื่องนี้จบลง ขอแคเผาประหลาดผูนี้
ยอมอยู  ใ นเมื องศั ก ดิ ์ ส ิ ท ธิ ์ ข องพวกเรา ไม ไ ปคบค า กั บ คนเผ า อื ่ น ล ะ ก็ พวกเราก็
ไมจำเปนตองใชไมตายสุดทาย แตวาพวกเราตองระวังวาคูอริของเราจะเลนไมซื่อ
ในการทดสอบนี้สักหนอย” หญิงสาวยกมือขึ้นมวนปอยผมที่ปรกมาที่หัวไหล แลวเอย
อยางราบเรียบ
“ทานมหาอาวุโสชางหลักแหลมนัก!” ครั้งนี้ชายชราเคราแดงและหญิงงามพลัน
วางใจแลวจริงๆ
อีกดานเมื่อหานลี่กลับมายังที่พัก กลับพบแขกที่มาเยี่ยมเยียนสองสามคน
นั่นก็คือ ผูที่กลับมายังเมืองพรอมกับเขาอยางเฟงเสี้ยว พี่นองไปเสวี่ย ไปอวี้สามคน
เมื่อทั้งสามคนเห็นหานลี่ พลันมีสีหนากระตือรือรน หลังจากที่เขาพูดคุย เลน
กันไดครึ่งวัน ก็ถึงไดจากไปอยางยินดี
หลังจากที่หานลี่สงทั้งสามคนจากไปที่ประตูแลว ถึงไดหุบยิ้ม ขบคิดเล็กนอย
พลางกลับเขามาในหองแลวปดประตูใหสนิท
เชาตรูวันที่สอง มีชาววิหคสวรรคบุรุษสี่คนและสตรีสี่คนรวมเปนแปดคนมาหาเขาถึงที่
แม ว  า พลั ง ยุ ท ธ จ ะเที ย บเท า กั บ ระดั บ สร า งปราณ แต ท ุ ก คนล ว นยั ง อ อ นเยาว
คุณสมบัติไมธรรมดา
หลังจากที่หานลี่พิจารณาสองสามคนแวบหนึ่งแลวก็ไมไดเอยอะไร ออกจาก
เรือนรับแขกพรอมกับทั้งแปดคน ตรงไปยังสถานที่หนึ่งในเมืองศักดิ์สิทธิ์ทันที
บินตัดเมืองศักดิ์สิทธิ์มาเกือบครึ่งเมือง หลังจากที่ผานไปครึ่งคอนวันแลว หานลี่ก็มา
ปรากฎตัวในสิ่งปลูกสรางประหลาดๆ แหงหนึ่งใที่มุมหนึ่งของเมืองศักดิ์สิทธิ์
สิ่งปลูกสรางนี้อันหนึ่งเหมือนกับสนามกรีฑาขนาดมหึมา เปนรูปทรงกลม รอบดานถูก
กำแพงหินขนาดยักษสูงประมาณรอยจั้งลอมเอาไว กินพื้นที่กวางถึงสองสามลี้
บนกำแพงหินมีรูปสลักหินวิหคนับรอยนับพันตัวตั้งตระหงานอยู ดานบนไมรูวา
ถู ก ร า ยอาคมอะไรเอาไว ทุ ก ตั ว ล ว นมี สี สั น หลากสี เ ปล ง ประกาย กลายเป นมาน
ลำแสงเจ็ดสีชั้นหนึ่งหอหุมจัตุรัสทั้งจัตุรัสเอาไว
ใจกลางของจัตุรัสกลับมีแทนสูงราวกับแทนบวงสรวงแทนหนึ่ง ตางสรางขึ้นจาก
หยกขาวบริสุทธิ์
ครานี้หานลี่อยูบนแทนหยก รอบดานมีวิหคสวรรคสิบกวาคนยืนอยู มีบุรุษและสตรี
ลวนสวมชุดสีขาวและมีพลังยุทธระดับหลอมสูญ
พวกของจินเยวและชายชราแซซวี่ชาววิหคสวรรคทั้งสามคน ยืนอยูเบื้องหนาของ
หานลี่ ดานหลังมีหญิงสาวแตงกายเปนสาวรับใชยืนอยูสองคน ในมือถือจานกลมๆ
สีเงินที่เปลงแสงสีขาวโพลนเอาไว
“สหายหานข า เตรี ย มของให พ วกเจ า เรี ย บร อ ยแล ว และยิ ่ ง ไปกว า นั้ น
กอนการทดสอบ เพื่อใหสหายมีพลังของพระสารีริกาธาตุของวิหคมัจฉาและโลหิตของ
วิหคมัจฉา ขาและอาวุ โสทั้ งสามจะใช ความสามารถมหั ศจรรยช วยเจ าให ห ลอม
เจาสิ่งนี้สำเร็จในระยะเวลาสั้นๆ จากนั้นก็จะถายทอดเคล็ดวิชาแปลงกายของเผา
วิหคสวรรคใหเจา หวังวาสหายหานจะไมทำใหพวกเราเสียใจ” หญิงสาวมีลำแสงผลึก
เปลงแสงสวางวาบขึ้นบนใบหนา สองตามองตรงไปยังหานลี่ขณะเอย
“ทานอาวุโสโปรดวางใจ ในเมื่อขานอยตอบตกลงเหลาอาวุโสแลว ก็จะพยายาม
อยางสุดความสมารถ” หานลี่ตอบกลับดวยสีหนาราบเรียบ
“เยี่ยมมาก เจาผสมโลหิตมัจฉาเที่ยงแทกอน อาวุโสซวีจะรวมมือกระตุนพลังของ
โลหิตวิญญาณ จากนั้นก็จะบีบโลหิตเที่ยงแทและของเหลวโลหิตของเจาเขาดวยกัน
ไมใหแยกจากกันอีก มันจะเจ็บปวดเล็กนอย แตคิดดูแลวสหายนาจะรับไหว จากนั้นก็
กินพระสารีริกธาตุของวิหคมัจฉาลงไป ใหขาเปนคนลงมือชวยเจาหลอมเจาสิ่งนี้เอง
ตอนนั ้ นเจ า ต องระวั ง หน อย อย า ไม ร ะวั ง จนถู ก พลั ง ของวิ ห คมั จ ฉาที ่ แ ฝงอยู  ใ น
พระสารี ริ กธาตุแ ว ง กั ด แล ว ธาตุ ม ารเขา แทรก ถึ ง อย า งไรเสี ยเจ าก็ ไม ใชค นของ
วิหคสวรรคที่แทจริง การกระทำนี้เปนการกระทำที่อันตรายไปหนอย” หญิงสาวเอย
กำชับสองสามประโยค
แนนอนวาหานลี่พลันตอบรับทีละอยางๆ
เมื่อเห็นทาทางซื่อสัตยของหานลี่ หญิงสาวพลันพยักหนาดวยความพึงพอใจ
จากนั้นก็กวักมือไปทางดานหลัง
ชั่วขณะนั้นหนึ่งในสองหญิงรับใชพลันเดินเขามาดวยความนอบนอม และสง
จานสีเงินในมือมาใหหญิงสาว
จินเยวมองจานสีเงินอยางราบเรียบแวบหนึ่ง นิ้วเรียวสีขาวนวลดีดไปทางมานลำแสง
ลำแสงสีขาวเปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไปอยางเงียบเชียบ เผยขวดเล็กๆ
สีเขียวขนาดเทาหัวแมมือออกมา รูปรางเกาแกงดงาม ทั้งไมใชทองและไมใชหยก
หญิงสาวมองขวดใบนี้ บนรางเปลงแสงสีเงินจางๆ ออกมา สีหนาเปลี่ย นเปน
บริสุทธิ์มาก
ชั่วพริบตาที่ขวดเล็กๆ ใบนี้ปรากฎขึ้น ชาววิหคสวรรคคนอื่นๆ ก็คอมตัวลงไปทาง
ขวดเล็กๆ ใบนี้พรอมกันอยางมิไดนัดหมาย สีหนาเต็มไปดวยความนอบนอม
ตอนที่ 1423 โลหิตเที่ยงแทเขาราง
หญิงสาวเอยคำสาปที่ไพเราะออกมา มือหนึ่งชี้ไปที่ขวดเล็กๆ เสนไหมสีเขียว
สายหนึ่งพุงออกมาจากปลายนิ้ว โจมตีไปยังขวดใบเล็ก
ขวดใบเล็กสั่นเทา พวยพุงขึ้นไปกลางอากาศ ตรงไปหาหานลี่
หานลี่เองก็ไมได กลาวอะไร ทันใดนั้นรางกายพลันพลิ้ว ไหว นั่งสมาธิอยู  บ น
แทนบูชาหยก
ในครานั้น ชายชราแซซวี่และหญิงงามพลันชูมือขึ้น ตางมีของวิเศษบินออกมาชิ้นหนึ่ง
อันหนึ่งเปนสีแดงสดดุจ โลหิต อันหนึ่งเปนสีเขีย วมรกต คาดไมถึงวาจะเป น
ดอกบัวโลหิตขนาดเทาฝามือและใบตองสีเขียวมรกต
ดอกบัวสีโลหิตพลันหมุนติ้วๆ จนมีขนาดสองสามจั้ง แผกลิ่นหอมจางๆ ออกมา
สวนใบตองที่อยูทามกลางลำแสงสีเขียวก็ขยายใหญขึ้นจนมีขนาดเทาคนเช นกั น
และมีอักขระสีเขียวประหลาดๆ ปรากฏขึ้น เปลงแสงระยิบระยับเจิดจาจนแสบตา
ไมทันไดมองเห็นวาของสองสิ่งนี้มีประโยชนอยางไร ดอกบัวสีโลหิตดอกนั้ นก็
รอนลงมาจากเหนือศีรษะของเขา
หานลี ่ พ ลั น ตกตะลึ ง รู  ส ึ ก ว า ร า งกายอ อ นยวบ คาดไม ถึ ง ว า ตั ว เองจะถู ก
ดอกบัวโลหิตดอกนั้นรองรับเอาไว ชั่วขณะนั้นระหวางปากและจมูกพลันมีกลิ่นหอม
จางๆ ของดอกบัวโชยมา ทำใหเขารูสึกวิงเวียนศีรษะ
หานลี่เองก็ไมไดลนลาน หลับตาทั้งสองลงขางลงทามกลางดอกบัว ดูเหมือนวา
หลับแตไมไดหลับ แตตั้งแตตนจนจบก็ยังคงรักษาระดับความสุขุมนุมลึกเอาไวใน
กนบึ้งของหัวใจ
ชายชราแซซวี่คำรามเสียงต่ำๆ ออกมา กลีบดอกบัวสีโลหิตประกบเขาที่ใจกลาง
อยางคาดไมถึง
ชั่วพริบตาที่ดอกบัวทั้งหมดหุบลง ก็กลายเปนดอกบัวตัวสีแดงสด
เมื่อเห็นฉากนี้หญิงสาวพลันรายนิ้วทั้งหาไปทางขวดใบเล็กในเวลาเดียวกัน
หลังจากเสียง “ฟูๆ” ดังขึ้น เสนไหมสีเขียวสองสามสายพุงออกมา เปลงแสงสวาง
วาบแลวทยอยกันจมหายเขาไปในขวด
ขวดเล็กๆ ระเบิดลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งออกมา ฝาขวดเปลงแสงสวางวาบแลว
หายวั บ ไป ลำแสงสี เ ขี ย วกลุ  ม หนึ ่ ง พวยพุ  ง ขึ ้ น ไปกลางอากาศ เสี ย งวิ ห คดั ง ขึ้ น
ลำแสงหมนแสงลง กลายเปนวิหคสีเขียวขนาดสองสามชุน ปกทั้งสองสยายออกบิน
ขึ้นไปบนทองฟา
หญิ ง สาวกลั บ เตรี ย มตั ว เอาไว น านแล ว ป ก สี ท องที ่ แ ผ น หลั ง กระพรื อออก
กลางอากาศ ชั่วขณะนั้นปกลำแสงสีทองทั้งสองพลันเปลงประกาย ลำแสงสีทอง
มวนออกมา ชั่วครูก็หอหุมวิหคสีเขียวเอาไวขางใน
วิ ห คตั ว นี ้ ห มุ น ติ ้ ว ๆ ท า มกลางลำแสง กลายเป น ของเหลวสี เ ขี ย วกลุ  ม หนึ่ ง
มีลำแสงสีเงินกระพริบระยิบระยับ
สองมือของหญิงสาวพลันรายอาคม ชี้ไปทางของเหลวสีเขียวกลางอากาศอีกครั้ง
ลำแสงสีทองสั่นเทา จากนั้นก็ห อหุม ของเหลวสีเ ขี ยวเอาไว แล วตกลงมาบน
ดอกบัวตูมดานขาง
หลังจากเสียงอึกทึกดังขึ้น ของเหลวสีเขียวในลำแสงสีโลหิตและลำแสงสีทองพลัน
ตัดสลับพัวพันกัน ชั่วครูก็จมหายเขาไปในดอกบัวสีโลหิตอยางไรรองรอย
ครานี้ชายชราแซซวีที่อยูขางกายพลันรางกายพลิ้วไหว พลันปรากฎตัวที่ดานขาง
ของดอกบัวสีโลหิต ยกมือหนึ่งขึ้น คาดไมถึงวาจะตานทานกลีบดอกบัวดานหนึ่งเอาไว
เสียงครืนดังขึ้น ปกสีเงินที่แผนหลังของชายชราพลันสยายออก ลำแสงสีเงินที่อยู
ในมือพลันพุงเขาไปในดอกบัวสีโลหิต
หญิงงามเองก็ลอยไปอยูที่อีกดานของดอกบัว โลหิตเชนกัน ตรงฝามือกลับมี
ลำแสงสีขาวทะลักออกมา
ชั่วขณะนั้นดอกบัวสีโลหิตทั้งดอดพลันเปลงเสียงรองออกมา ลำแสงสีโลหิตที่ผิว
เปลงแสงสวางวาบไมหยุด
และในตอนนั้นเอง กลางอากาพลันมีใบตองสีเขียวมรกตลอยอยู และรอนลงมา
แตเมื่อสัมผัสกับดอกบัวโลหิตดานลางก็ระเบิดตัวออก ทันใดนั้นเสนไหมสีเขียวเขม
จำนวนนั บไม ถว นก็พุ ง ออกมาจากทั้ ง สี่ ด าน จากนั ้ น ก็ ทยอยกัน จมหายเขาไปใน
ดอกบัวสีโลหิต เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไป
จากนั้นผิวของดอกบัว โลหิ ตพลัน มีลวดลายสี เขี ยวเขมเป นสายๆ ปรากฎขึ้ น
รู ป ทรงประหลาดๆ ครู  ต  อมาลำแสงสี โลหิ ต ก็ ห ม น แสงลง เสี ย งหึ ่ ง ๆ ดั ง ขึ ้ นแล ว
เงียบกริบไป
ชายชราแซ ซวีแ ละหญิ ง งามทำเปน เหมื อนมองไม เห็ น สิ่ ง เหล านั ้น ทยอยกัน
หลับตาทั้งสองขางลง แคใชใจใสเขาไปในลำแสงบริสุทธิ์ในดอกบัวโลหิต
หญิงสาวที่อยูดานขางเห็นฉากนั้นกลับถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แลวยิ้มนอยๆ
พลางเอยพึมพำกับตนเองวา
“คิดไมผิด กลิ่นอายในรางของคนผูนี้เพียงพอที่จะรับโลหิตวิหคมัจฉาเที่ยงแท
ที่สำคัญก็คือ คนประหลาดจะกระตุนโลหิตของวิหคมัจฉาไดแคไหน”
เอยจบหญิงสาวก็กวาดสายตาไปที่ชนชั้นสูงเผาวิหคสวรรคคนอื่นๆ ที่ยืนอยูใกลๆ
แวบหนึ่ง ฉับพลันนั้นก็เอยขึ้นดวยเสียงเย็นชา
“เรื่องนี้พวกเจาไดเห็นกับตาตัวเองแลว คนผูนี้เกี่ยวของกับความเปนตาของเผาเรา
ดังนั้นทุกอยางของคนผูนี้จำเปนตองเก็บความลับ ฐานะของคนผูนี้ตั้งแตบัดนี้ คือ
บุตรชายคนที่สามที่ถูกเผาเราสงออกไปฝกฝนฝกฝนอยางลับๆ ที่นอกมหาสมุทร
พวกเจาจงจำเอาไวใหดี”
“ทานมหาอาวุโสโปรดวางใจ พวกเราไมมีทางแพรงพรายออกไปภายนอกแน”
ชาววิหคสวรรคระดับหลอมสูญเหลานั้นพลันใจหายวาบ ทยอยกันเอยรับประกัน
“ขาเองก็เชื่อวาทุกทานจะไมมีทางทำเรื่องที่สงผลรายตอเผาของเรา หลังจากนี้
สองเดือนขาจะพาบุตรชายที่พวกเจาเลือกไปเขารวมการทดสอบหุบเหวในครั้ง นี้”
หญิงสาวพยักหนาเอยดวยน้ำเสียงที่ผอนคลายลง
“สองเดือน! ทำไมถึงเร็วขนาดนั้น แตเดิมยังเหลือเวลาอีกหนึ่งปมิใชหรือ?” ทันใดนั้น
ก็มีคนรองอุทานดวยเสียงแหบแหงออกมา
“จากที่เผาแดงสด เผาอีกาและเผาอื่นๆ รวมมือกันเสนอใหจัดการทดสอบไวขึ้น
แมนวาในอาวุ โสของเผาเราจะแยง เรื่ องนี้ใ นกระประชุมรวมกั นของเหลา อาวุ โส
แตคนสวนใหญก็ยังเห็นดวย”
“เหตุใดถึงเห็นดวย นาจะมีเหตุผลสินะ” อีกคนหนึ่งไมพอใจขึ้นมา
“มีเหตุผลอยูแลว พวกเขาบอกว าช วงนี ้หุ บ เหวไม ค อยมั่ น คง ทางที่ดีสุ ด คื อ
เลื่อนการทดสอบขึ้นมาเร็วหนอย จะไดไมเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้น จนเกิดเรื่อง
ที่คาดไมถึง” หญิงสาวเอยอยางราบเรียบ
“ปศาจในหุบเขาและเผาวิญญาณเหาะเหินอยางพวกเราเปนศัตรูคูอาฆาตกัน
มันเคยมั่นคงตอนไหนหรื อ แคมุงเป ามาที่สาขาที่ อ อนแออยา งพวกเราเท านั ้ น”
ชาววิหคสวรรคที่เอยรูสึกโกรธเกรี้ยวเปนอยางมาก
“อยาพูดไรสาระอีก ในเมื่ออาวุโสสวนใหญในการประชุมเห็นดวยกับการจัดการ
ทดสอบใหไวขึ้น เผาเราก็มีเพียงแตตองยอมรับเรื่องนี้เทานั้น นอกจากการทดสอบ
แลว ชวงนี้ในเขตการดูแลของเผาเราก็มักจะมีคนของเผาอื่นปรากฎตัวขึ้นอยูบอยๆ
และทำการโจมตีพรอมปลดทรัพยอยางโจงแจง สวนหนึ่งของพวกเจาตองนำทัพ
ออกทั นที สั ง หารเจ าพวกที ่ใ ช ก ลยุ ทธตี ชิ ง ตามไฟ[1]ใหห มดไม ให เ หลื อ สั ่ ง สอน
สาขาอื่นๆ ซะ กอนที่การทดสอบจะจบลงจะไดไมกลามายุงกับเผาเราอีก” ครั้นเมื่อ
หญิงสาวเอยสองสามประโยคสุดทายออกมา น้ำเสียงก็เปลี่ยนเปนเยือกเย็น
“ขอรับ!”
ชาววิหคสวรรคเหลานี้ทยอยกันกมหนาลงตอบรับ
จากนั ้ นหญิ ง สาวพลันเริ ่ มสง มอบภารกิ จ อื ่น ๆ ให ท ุ ก คน ทุ ก คนจึ ง ทยอยกัน
รับคำสั่งและพากันแยกยายไป
ชั ่ ว พริ บ ตาบนแท นบู ช าหยกพลั น ว า งเปล า นอกจากหญิ ง สาวและพวกของ
ชายชราแซซวี่ทั้งสามคนที่กำลังโคจรพลังยุทธอยู รวมทั้งสาวใชที่ยืนอยูดา นหลัง
หญิงสาวแลว ก็ไมมีผูใดอยูบนแทนบูชาอีก
หญิงสาวเลื่อนสายตาไป ตกลงบนดอกบัวสีโลหิตที่อยูดานขางอีกครั้ง
ดอกบัวดอกนี้ขยายใหญขึ้นกวาเดิมกวาครึ่งดวยเพราะมีสิ่งมีชีวิตระดับหลอมราง
สองคนคอยบรรจุลมปราณเขาไปไมหยุด ในเวลาเดียวกันอักขระสีเขียวเขมบนผิวของ
ดอกบัวก็เริ่มเปลงแสงระยิบระยับไมหยุด ราวกับวาฟนคืนชีพอยางไรอยางนั้น
ฉับพลันนั้นหญิงสาวพลันตะปบมือไปกลางอากาศไปทางจานสีเงินที่อยูบนฝามือ
ของสาวใชที่ดานหลัง
เสียงแหวกผานอากาศดังขึ้น!
ไขมุกกลมๆ สีขาวนวลเม็ดหนึ่งพุงออมกาจากจาน ถูกจินเยวตะปบเอาไวในมือ
สตรีผูนี้ใชนิ้วเรียวดังหยกสีเขียวมรกตคีบไขมุกกลมๆ เอาไว วางไวเบื้องหนา
เพงพินิจมองแวบหนึ่ง
นางเผยสีหนาแปลกประหลาดออกมา
“นี่คือ พระสารีริกธาตุของมหาอาวุโสที่ละสังขารไปแลวรุนใด” หญิงสาวเอยปากถาม
“พระสารีริกธาตุของทานมหาอาวุโสรุนที่เกา ตามคำสั่งของทานมหาอาวุโส นี่คือ
พระสารีริกธาตุที่เก็บไวนานที่สุด พลังที่อยูดานในนาจะหายไปเกือบครึ่งแลว” สาวใช
ตอบกลับอยางนอบนอม
“รุนที่เกา! คือมหาอาวุโสหงอวิ๋นที่ประดิษฐพลังตื่นจากจำศีลขึ้นมา สุดทาย
ก็บาคลั่งจนตาย” หญิงสาวเอยดวยหนาที่เปลี่ยนสีไปเล็กนอย
“นี่คือพระสารีริ ก ธาตุข องท านอาวุโสหงอวิ๋ น เปนเพราะทา นอาวุ โสหงอวิ๋ น
ตายอยางแปลกประหลาด พระสารีริกธาตุที่เหลืออยูนอกจากพลังของวิหคมัจฉาแลว
ยังแฝงพลังจิตสัมผัสกอนตายของเขาเอาไวดวย หากดูดซับพวกเขาไปในราง ก็อาจจะ
ทิ้งภัยพิบัติใหผูที่หลอม ดังนั้นพระสารีริกธาตุนี้จึงถูกเก็บเอาไวในหองลับ ผูใดก็ไมกลา
หลอมมันงายๆ หากทานมหาอาวุโสคิดวาไมเหมาะ ขาจะเอาไปเปลี่ยนใหทันที”
สาวใชอธิบายอยางรูสึกไมสบายใจ
“ไมตองหรอก เม็ดนี้ก็ได” หญิงสาวกวาดสายตาไปที่ดอกบัวสีแดงโลหิตแวบหนึ่ง
ดวยสีหนาราบเรียบ
ครานี้อักขระบนผิวของดอกบัวเริ่มบิดเบี้ยวมากขึ้น ดอกบัวโลหิตทั้งดอกเริ่มเวานูน
……
สองวันตอมา กลางอากาศเหนือแทนบูชา
วิหคยักษสีเขียวตนหนึ่งกลายเปนเงาไมสมบูรณสายหนึ่งบินขึ้นลงอยูกลางอากาศ
ผิวของมันมีประจุไฟฟาสีทองและลำแสงสีเขียวปรากฎขึ้น ฉับพลันนั้นรางของมันก็
หยุดชะงักอยูที่เดิมไมขยับเขยื้อน กรงเล็บทั้งสองตะปบออกไปยังกลางอากาศที่ไกล
ออกไป
กรงเล็บลำแสงสีขาวสิบสายพุงออกมา วาดเปนรอยสีขาวจางๆ และยิ่งไปกวานั้นยัง
เปลงแสงสวางวาบแลวหายไป
ปกทั้งสองกระพือไปเบื้องหนาอีกครั้ง ลำแสงสีเขียวเปลงแสงสวางวาบแลวหมุนวน
ไปทางเบื้องหนา ชั่วครูก็กลายเปนมีดวายุขนาดเทาฝามือ หอหุมกลางอากาศใน
รัศมีรอยจั้งเศษเอาไวอยางหนาแนน
เสียง “ตูม” ดังสนั่นขึ้น วิหคสีเขียวพลันอาปากออก พนลูกบอลอัสนีสีทองเปน
กลุมๆ ออกมา ภายใตการปะทะกันก็ทำใหเบื้องหนากลายเปนลำแสงอัสนี
หลังาจกที่เสียงกรีดรองแหลมสูงของวิหคดังขึ้นอีกครั้ง วิหคยักษสีเขียวก็สยายปก
ทั้งสองขางออก คาดไมถึงวาจะหายวับไปทามกลางวายุที่บาคลั่ง
ครูตอมากลางวายุที่บาคลั่งกลางอากาศที่สุงขึ้นยิ่งกวาเดิม รางของวิหคสีเขียว
ปรากฎขึ้นอีกครั้ง แตหมุนวนในลำแสงสีเขียว รางของวิหคขยายใหญขึ้น ชั่วพริบตา
รางกายก็ขยายใหญขึ้นจากขนาดสองสามจั้งเปนขนาดรอยจั้งเศษ สยายปกทั้งสองขาง
ออก ปกคลุมแทนบูชาขนาดใหญดานหลังจนมืดดำ
ทั้งสามคนที่ยืนอยูบนแทนบูชามองรางยักษของวิหคกลางอากาศ หนาเปลี่ยนสี
ไปเล็กนอย
“มหาอาวุโส เจาใหเขากินพระสารีริกธาตุที่เสียหายของมหาอาวุโสรุนที่เกาจริงๆ
หรื อ” ครั ้ นเมื ่ อจิ นเย ว  ม ี ส ี ห น า บั ด เดี ๋ ย วสดใสบั ด เดี ๋ ย วเคร ง ขรึ ม ข า งหู ก ็ ม ี เ สี ย ง
ไมอยากจะเชื่อของชายชราเคราแดงดังขึ้น
“อันใด ทานอาวุโสซวี่สงสัยวาขาใหเผาประหลาดดินยาลูกกลอนชนิดอื่นหรือ”
หญิงสาวมีีสีหนาเครงขรึม พลางเอยตอบอยางเย็นชา
“ผูแซซวีจะบังอาจคิดเชนนั้นไดอยางไร แตแคคนผูนี้ควบคุมเคล็ดวิชาแปลงกาย
ได อ ย า งรวดเร็ ว และยิ ่ ง ไปกว า นั ้ น ยั ง แปลงเป น วิ ห คเที ่ ย งแท เกรงว า ระดั บ
ปรมาจารยวิญญาณก็ยังทำไมไดขนาดนี้ คนผูนี้มีตนกำเนิดในเผามนุษยจริงๆ หรือ”
ชายชรารูสึกฉงนสงสัยขึ้นมา
“เจาชวยเขาผสมโลหิตวิหคมัจฉาดวยตัวเอง คนผูนี้ไมใชคนของเผาวิญญาณเหาะเหิน
ของพวกเรา เจายังไมแนใจอีกหรือ? ทวาความสามารถที่ยิ่งใหญหลังจากที่ คน
ผูนี้แปลงกายนั้น ก็อยูนอกเหนือความคาดหมายของขาจริงๆ อาจจะเปนเพราะวาคน
ผูนี้เคยหลอมขนนกวิหคมัจฉาเสนนั้น โลหิตเที่ยงแทของวิหคมัจฉาที่แฝงอยู คงจะ
เปลี่ยนเปนโครงสรางของเขาตั้งนานแลวกระมัง” หลังจากที่หญิงสาวขบคิดเล็กนอย
ถึงไดหาเหตุผลได
“หากเปนเชนนั้นละก็ ก็พอจะเขาใจได” หญิงงามถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ขณะเอย
ชายชรายังคงมีสีหนาเชื่อครึ่งมิเชื่อครึ่ง เห็นไดชัดวาไมคอยเชื่อถือเหตุผลของ
หญิงสาวนัก
[1] กลยุทธตีชิงตามไฟ หมายถึงหนึ่งในกลศึกสามกก กลยุทธที่มีความหมายถึง
การที่ศัตรูยังอยูในสถานการณที่ออนแอและย่ำแย ควรรีบฉกฉวยโอกาสนำทัพเขา
โจมตีเพื่อใหไดมาซึ่งชัยชนะ หรือมอบหมายใหแมทัพหรือทหารที่มีความเขมแข็งนำ
ทัพเขาโจมตี ซึ่งเปนการฉกฉวยเอาผลประโยชนจากเหตุการณหรือสถานการณที่
ทวีความรุนแรงและยุงเหยิง นำความดีความชอบมาเปนของตน
ตอนที่ 1424 ตื่นจากจำศีลแปลงกายสิบสองครั้ง
จินเยวไมไดเอยอะไรออกมาอีก เพราะวาวิหคยักษที่อยูกลางอากาศหุบปกทั้งสอง
ขางลง รางกายหดเล็กลงทามกลางลำแสงสีเขียว กลับคืนสูขนาดเดิมอยางรวดเร็ว
เสียงเพรียกของวิหคดังออกมาจากปากวิหคยักษ ลำแสงวิญญาณเปลงแสงเจิดจา
บุรุษรางกายทอนบนเปลือยเปลาปรากฎขึ ้น สองมือพลันรายอาคม รอนลงมาที่
แทนหยกทามกลางลำแสงสีเขียว
หญิงสาวหรี่ตาทั้งสองขางลง สายตาตกอยูบนทรวงอกที่เปลือยเปลาของบุรุษ
บนนั้นมีลวดลายวิหคยักษสีเขียวที่แปลกประหลาดตัวนึงปรากฏอยู ดูเสมือนจริง
เปลงแสงระเรื่ออยู
แน น อนว า บุ ร ุ ษ ผู  น ี ้ ก ็ ค ื อ ผู  ท ี ่ ผ สมโลหิ ต วิ ห คมั จ ฉาเข า ไปในร า งและหลอม
พระสารีริกธาตุอยางหานลี่
รูปภาพศักดิ์สิทธิ์! นี่คือสัญลักษณของรางโลหิตศักดิ์สิทธิ์ และยิ่งไปกวานั้นยังถูก
กระตุนทุกสวนแลว และจะปรากฎรูปประหลาดนี้บนรางของบุตรชายกวาครึ่ง
มีรูปภาพนี้อยูกับตัว ตอใหเผาที่เหลือรูวาคนผูนี้ไมใชชาววิหคสวรรคที่แทจริง
เกรงวาก็ไมอาจหาเหตุผลที่ไมใหเขารวมการทดสอบอะไรได
จินเยวถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง หลังจากขบคิดอยางปลอบใจตัวแลวเอง ก็
รูสึกเยือกเย็นขึ้น
กลับเปนชายชราแซซวีและหญิงงามสองคนที่เห็นลวดลายบนหนาอกของหานลี่
แลวรูสึกไมสบายใจเล็กนอย
คาดไมถึงวาคนประหลาดคนหนึ่ง จะมีรูปภาพศักดิ์สิทธิ์เที่ยงแทที่ชนชั้นสูงสวนใหญ
ในเผาจะไมมีปรากฎขึ้นบนราง แนนอนวานี่จึงทำใหพวกเขารูสึกกลัดกลุม
ลำแสงสีทองและเงินเปลงประกายเจิดจา ชุดคลุมยาวสีทองเงินชุดหนึ่งปรากฎขึ้น
บนรางของหานลี่ ทันใดนั้นก็รอนลงมาตรงหนาของทั้งสามคน สองมือประสานกัน
คารวะแลวเอยวา
“ขอบพระคุ ณ ทั ้ ง สามอาวุ โสที ่ ช  ว ยเหลื อ ข า เข า ใจเคล็ ด วิ ช าแปลงกายเป น
วิหคสวรรคอยูเจ็ดแปดสวนแลว มีจุดใดที่ยังไมเพียงพอ หวังวาทานอาวุโสทั้งสาม
จะชวยชี้แนะ”
ทาทางของเขาเผยความซื่อตรงออกมาเปนอยางมาก!
“เคล็ดวิชาแปลงกายของเจาไมเลวแลว พวกเราไมมีอะไรใหชี้แนะ เจากลับไปไดแลว
สองเดือนตอจากนี้ กอนที่ขาจะพาเจาไปเขารวมการทดสอบ ขาจะอัญเชิญมวน
คำสาบานของวิหคสวรรคออกมา ใหเจาสลักชื่อลงไป ชวงเวลานี้ขอแคเจาไมออกไป
จากเมืองศักดิ์สิทธิ์ ก็สามารถใชชีวิตไดอยางอิสระ ใชแลว ตองบอกเจาสักหน อย
แมวาขาจะชวยเจาหลอมพระสารีริกธาตุวิหคมัจฉาไป แตไอทมิฬที่อยูใน พระ
สารีริกธาตุยังไมถูกกำจัดออกไป พวกมันจะซุมซอนอยูในตัวเจา แตจะไมกำเริบใน
เวลาอันสั้น รอจนเจากลับมาจากการทดสอบ พวกเราจะชวยเจากำจัดมันใหเกลี้ยงก็
แลวกัน” หญิงสาวเอยอยางเรียบๆ
หานลี่ไดยินพลันหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย แตชั่วพริบตาก็ฟนฟูกลับมาเปนปกติ
“ทานอาวุโสโปรดวางใจหลังจากนี้สองเดือน ชนรุนหลังจะมาเขารวมการทดสอบ
อยางตรงเวลา”
หญิงสาวพลันพยักหนา
ทันใดนั้นหานลี่ก็คารวะใหทั้งสามคนอีกครั้งอยางรูจักวางตัว แลวกลายเปน
ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งกลาวลาและจากไป
หญิงสาวและพวกทั้งสามคนใชสายตาสงหานลี่จากไปที่ปลายฟาแลว ก็ไมได
สนทนาอะไรกันอีก แตสีหนากลับแปลกประหลาด
จินเยวผูนี้มองไปยังทองฟา ใบหนาไรความรูสึก แตชายชราแซซวีและพวกทั้งสอง
กลับมีสีหนาบัดเดี๋ยวสดใสบัดเดี๋ยวหมองคล้ำ เหมือนวากำลังพิจารณาอะไรสักอยาง
หลังจากผานไปครึ่งวัน หานลี่ก็อยูในหองนอนบนชั้นสูงสุดของเรือนรับแขกแลว
สองตาปดลงพลางนั่งสมาธิอยูบนเตียงไม
สองมือพลันรายอาคม รางกายเปลงแสงสีเขียวระยิบระยับ
ใบหนาเปลี่ยนสีเผยสีหนาเจ็บปวดออกมา เหงื่อกาฬเทาเมล็ดขาวสารผุดขึ้นมา
บนหนาผาก แลวทยอยกันไหลลงสูดานลาง
เสียงถอนหายใจยาวๆ ครั้งหนึ่งดังขึ้น มือที่รายอาคมของหานลี่คลายลง ลืมตาขึ้น
ทามกลางลำแสงสีเขียวที่หมนแสงลง
“น า สนใจดี น ี ้ คิ ด ไม ถ ึ ง ว า อาวุ โ สของเผ า วิ ห คสวรรค น ามว า หงอวิ ๋ น ผู  นั้ น
จะเหลือพลังบริสุทธิ์ที่ดุรายเอาไว หากไมใชเพราะคาถาขับเคลื่อนไมธรรมดาแลว
เกรงวาคงเกิดหายนะไมหยุดหยอนแน โชคดีที่ไมไดเปนอิสระ สามารถกดมันเอาไวได
จากนั ้ น ค อ ยๆ หลอมมั น ที ล ะนิ ด ” หลั ง จากที ่ แ ววตาของหานลี ่ เ ปล ง ประกาย
สองสามครั้ง ก็เอยพึมพำกับตัวเองดวยน้ำเสียงแผวเบาออกมา
ความจริ ง แล ว แม ว  า จะเป น แค จ ิ ต สั ม ผั ส ส ว นหนึ ่ ง ของอี ก ฝ า ย แต ใ นฐานะ
ระดับหลอมรวม พลังจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์กลุมนี้ก็ยังคงทำใหผูคนตกตะลึงได เกรงวา
จำตองใชเวลาสองสามรอยปถึงจะกำจัดใหเกลี้ยงได แตดวยเหตุนี้ ผลจากการหลอม
แลวก็คงตกตะลึงเชนกัน อาจจะทำใหจิตสัมผัสของเขาเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่ง
สวนไอทมิฬที่อยูในพระสารรีริกธาตุ เขากลับไมสนใจเลยสักนิด เคล็ดวิชามารเที่ยงแท
พราหมณศักดิ์สิทธิ์เปนของประเภทนี้อยูแลว
หานลี่ขบคิดอีกเล็กนอย มือหนึ่งปดไปที่ชุดอัสนีบนราง
หลังจากเสียงฟาผาดังขึ้น ชุดคลุมก็กลายเปนประจุไฟฟาสีทองเงินจำนวนนับไมถวน
หดหายเขาไปในราง
กมหนาลงเล็กนอย แนนอนวาจึงมองเห็นลวดลายของวิหคสีเขียวที่อยูบนทรวงอก
“หึ ภาพวิหคสวรรค? นาจะเรียกวาภาพตื่นจากจำศีลสินะ” หานลี่เผยสีห นา
แปลกประหลาดออกมา ฉับพลันนั้นก็ยื่นนิ้วมือออกไป ชี้ไปที่ลวดลายเบาๆ
ฉากที่นาเหลื่อเชื่อพลันปรากฎขึ้น
ลวดลายวิหคสวรรคสีเขียวจางๆ พลันเปลงแสงหาสีออกมา ชั่วครูก็กลายเปน
นกยูงหาสีสยายปกออก จากนนั้นพลันเปลงแสงสีทองสวางจา และกลายเปนลวดลาย
วานรสีทองแหงนหนากูคำรามตัวหนึ่ง สุดทายลำแสงสีขาวก็เปลงแสงสีขาวสวางวาบ
ลวดลายนั้นสลายหายไปอยางไรรองรอย
หากจินเยวและพวกอาวุโสชาววิหคสวรรคทั้งสามเห็นฉากนี้จะตองตกตะลึง
จนตาคางแน
ภาพศักดิ์สิทธิ์เที่ยงแทคื อ ของระดับไหน จะเปลี่ยนไปเปลี่ย นมาได อย า งไร
สุดทายยังสลายหายไปเองดวย?
โดยปกติแลวลวดลายของรูปภาพศักดิ์สิทธิ์เที่ยงแทนั้นหมายความวา หากปรากฎขึ้น
บนราง จะติดตามเจาของไปตลอดชีวิต ไมอาจเปลี่ยนแปลงไดงายๆ
หานลี่จองเขม็งไปยังทรวงอกของตัวเองแลวกลับเผยสีหนาพึงพอใจออกมา
“ตื่นจากจำศีลแปลงกายสิบสองครั้ งเชน นี้ ตอนนี้เขาใจคาถาเพีย งสามชนิ ด
เทานั้น แมนวาจะขาดนกยูงหาสีและโลหิตวานรภูเขายักษไป ไมอาจแปลงกายเปน
สิ่งอื่นได แตความสามารถของมันก็นาตกตะลึงไปหนอยแลว” คาดไมถึงวาเขาจะเอย
พึมพำกับตัวเองออกมา
หลังจากที่หลอมพลังบริสุทธิ์ของหงอวิ๋นชุดนั้นไปแลว ก็ไดเคล็ดวิชามาดวย
ความบังเอิญ ตามทฤษฎีแลวสิ่งที่ทำใหเขาแปลงกายไดสิบสองชนิดนั้น มีพลังมาก
ขนาดไหนไมตองคิดก็รูแลว หากเรียนรูการแปลงกายทั้งสิบสองชนิดใหเชี่ยวชาญได
ทั้งหมด จากการมีความสามารถของวิญญาณเที่ยงแทจำนวนมาก เกรงวาแมแต
เทพบนสวรรคก็ยังตองถอยใหสามกาว
แนนอนวานี่เปนแคความคิดละโมบเทานั้น ถึงแมวาจะฝกฝนคาถาตื่นจากจำศีล
จนถึงระดับสูงที่สุด มากสุดก็มีจิตสัมผัสของวิญญาณเที่ยงแทตางๆ เพียงสวนเล็กๆ
เทานั้น สิ่งที่นาเสียดายก็คือ วิญญาณเที่ยงแทในแดนวิญญาณที่มีชื่อเสียงเกรียงไกร
แม ว  า การแปลงกายทั ้ ง สิ บ สองนั ้ น จะรวมมั ง กรเที ่ ย งแท แ ละหงส สวรรค อยู  ดวย
แตคาถายังถูกซอนอยูในสวนลึกที่สุดของพลังจิตสัมผัสหงสอวิ๋นที่ยังไมไดหลอม
และไมรูวาตองใชเวลาอีกนานเทาไหรถึงจะไดมา มิเชนนั้น ประกอบกับโลหิตของ
มังกรเที่ยงและและหงสสวรรคในมือแลว เขาก็สามารถกลายรางไดอีสองชนิดทันที
หานลี่รูสึกเสียดายเล็กนอย
สวนการแปลงกายเปนวิหคมัจฉานั้นเดิมทีก็เปนพื้นฐานของการแปลงกายจำนวนมาก
อยูแลว เปนการแปลงกายที่เชี่ยวชาญที่สุดของมหาอาวุโสของเผาวิหคสวรรคคนกอน
มิเชนนั้นแมวาเขาจะมีกายเนื้อที่แข็งแกรง ก็ไมอาจสัมผัสกับเคล็ดวิชาแปลงกายเปน
วิหคสวรรคก็สามารถเขาใจมันอยางงายดายได
ทันใดนั้นหานลี่พลันนึกอะไรขึ้นมาได มุมปากเผยรอยยิ้มเยาะเยยออกมา
คราที่อาศัยพลังของจินเยวหลอมพระสารีริกธาตุนั้น ในระยะเวลาอันสั้น แมวา
เขาจะหลอมพลังบริสุทธิ์ไดไมมากนัก แตก็ไดความรูมาเล็กนอย
อาวุโสหงอวิ๋นของเผาหงสสวรรคผูนี้ เปนอัจฉริยะที่สองสามหมื่นปจะมีสักคนหนึ่ง
คาดไมถึงวาจะรูวิธีการนำวิญญาณเที่ยงแทจำนวนมากมารวมรางกัน จากการศึกษา
วิธีการแปลงกายของวิหคสวรรคอยางหนัก และสรางคาถาตื่นจากจำศีลขึ้นมา
แตสิ่งที่นาเสียดายก็คือ แมวาเขาจะอยูในระดับหลอมรางขั้นปลาย และพยายาม
ค นหาโลหิ ต ของจิ ต วิ ญ ญาณเที ่ ย งแท อย า งหนั ก คราเมื ่ อสร า งเคล็ ด วิ ช านี ้ ไ ด ถึ ง
การแปลงกายสิบสองชนิ ด พลังของจิตสัมผัสและกายเนื้ อของเขาก็ ไม อาจรั บ ได
สุดทายก็พบกับการที่โลหิตเที่ยงแทจำนวนมากแวงกัดจนคลุมคลั่งและจบชีวิตลง
สิ ่ ง ที ่ แ ปลกก็ ค ื อก อนที่ ม หาอาวุ โสของเผา วิ ห คสวรรคค นก อนนี ้ จ ะคลุ มคลั่ง
ไดถายทอดคาถาการฝกฝนนี้ใหกับเผาวิหคสวรรคหรือไม
เขารูสึกสงสัยอยูไมนอย
แนนอนวาหานลี่ไมรูวา ตอนนั้นที่หงอวิ๋นผูนี้รับตำแหนงมหาอาวุโส นั่นก็คือ
ชวงเวลาที่เผาวิหคสวรรครุงโรจน เขาคิดวาตนเองเปนอัจฉริยะของยุทธภพ จึงหมาย
จะอาศัยเคล็ดวิชานี้ทำใหทั้งยุทธภพตกตะลึง ดังนั้นจึงรวมเผาวิหคสวรรคทั้งเผาบอก
วาหามแพรงพรายความสามารถนี้ออกไป
ตอนนั้นอาวุโสคนอื่นๆ ในเผาเดียวกันก็รูแควาหงอวิ๋นสรางเคล็ดวิชาชนิดหนึ่งที่
เรียกวาคาถาตื่นจากจำศีลขึ้นมา สวนอื่นก็ไมมีผูใดลวงรู
ผลคื อ เมื ่ อคนผู  นี้ ถ ู ก โลหิต เที ่ย งแท แว ง กัด จนคลุ มคลั่ ง และละสั ง ขารไปนั้น
เนื้อหาของคาถาตื่นจากจำศีลก็ไมมีผูใดลวงรูสักคน
สวนเหตุใดในพระสารีริกธาตุของเขาจึงมีคาถาจำศีลชุดนี้แฝงอยู แนนอนวามี
เพียงสวรรคเทานั้นที่รู
บางทีหลังจากที่มหาอาวุโสหงอวิ๋นผูนี้คลุมคลั่งก็อาจจะทำไปตามความรูสึก
และอาจจะเปนความรูสึกสุดทายกอนที่เขาจะจบชีวิตลง ฉับพลันนั้นจึงจงใจทิ้งคาถานี้
ไวใหเผา
หานลี่ไมไดคิดมากเรื่องนี้ เขาไดคาถาชุดนี้มาอยูในมือ แนนอนวาไมมีทางมอบให
เผาวิหคสวรรคอกี แน
มิเชนนั้นภายใตความดีอกดีใจของเหลาอาวุโสของเผาวิหคสวรรค ความคิดแรกที่
คิดไดนั้นไมใชวาจะขอบคุณเขาอยางไร แตเปนจะสังหารเขาปดปากอยางไรเพื่อไมให
คาถาแพรงพรายออกไปมากกวา
เรื่องหายนะเชนนี้ เขาไมมีทางทำแน
สีหนาของหานลี่เปลี่ยนไปมาไมหยุด เมื่อขบคิดทุกอยางเรียบรอยแลว ก็กระตุก
มุมปาก เผยรอยยิ้มออกมา
จะวาไปแลว การที่เขาผสมโลหิตเที่ยงแทวิหคมัจฉาและพระสารีริกธาตุจนได
คาถาตื่นจากจำศีลมาแทนนั้น ยังมีสิ่งที่ทำใหเขาดีใจจนบาคลั่งอีกอยางดวย
จุดคอขวดของเขา คาดไมถึงวาเมื่อถูกทั้งสองสิ่งกระตุนจะทะลุจุดคอขวดได
เขาในตอนนี้ กลายเปนระดับเทพแปลงขั้นปลายแลว และสำหรับเขาในตอนนี้
ก็ขี้เกียจจะสนใจแลว
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลงขบคิดเล็กนอย มือหนึ่งพลิกฝามือและไดรับสิ่งอื่น
มาแทนแลว และมีวารีคางคกเที่ยงแทคอยชวยเหลือ การฝกฝนตอจากนี้คงเปนทางที่
ไรสิ่งกีดขวางแลว
สวนอาวุโสของเผาวิหคสวรรคทั้งสามนั้นแคตกใจที่เขาควบคุมเคล็ดวิชาการ
แปลงกายได ไมไดกลาวอะไรที่พลังยุทธของเขาเพิ่มขึ้น ไมรูวาไมทันสังเกตุเห็นสิ่งนี้
หรือวาพลังยุทธเพิ่มขึ้นแคนี้ มันเปนแคการกินยาลูกกลอนเขาไปสองสามเม็ดสำหรับ
ระดับหลอมราง
หลังจากกินยาลูกกลอนเขาไป เขาก็หลับตาทำสมาธิอีกครั้ง
เขาที่เพิ่มบรรลุระดับใหม ยังตองทำใหระดับมั่นคงกอน
หลั ง จากนั ้ นหนึ ่ง วัน หานลี ่ ก ็ ออกจากที ่พั ก อย างกระปรี้ ก ระเปร า ตรงไปยัง
วิหารการแลกเปลี่ยน
เขาในตอนนี้ไดนับกับเจาของรานหมื่นอัสนีเอาไว เขาตองการผลตาขายเขียว
แนนอนวาจึงไมมีทางผิดนัด
ระหวางทางเปนไปอยางราบรื่น เมื่อหานลี่ยืนอยูในรานคาชั้นเกาของวิหาร
การแลกเปลี่ยนอีกครั้ง ก็มองไปยังบุรุษรางกายผายผอม สีหนากลับเปลี่ยนเปนดูไมได
“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดคนเหลานี้ถึงมาปรากฎตัวที่นี่ หรือวาเจาไมไดนัดขาแคคนเดียว”
คนผูพูดไมใชหานลี่ แตเปนชายรางใหญสวมชุดเกราะกำยำสีดำที่ใบหนาเต็มไปดวย
หนวดเครา
ครานี้ในรานนอกจากหานลี่แลว ยังมีคนอื่นๆ อีกสามคนปรากฏตัว
ตอนที่ 1425 ภาพเขาพระสุเมรุ
นอกจากเจาของรานรางกายผายผอมแลวและชายรางใหญที่เปนฝายพูดดวย
ความโมโหแลว ยังมีชายหนุมหนาหงานดุจผูหญิงอีกคนหนึ่ง สีหนาไมพอใจเชนกัน
หานลี่กวาดจิตสัมผัสไปอยางเงียบๆ ก็มองออกวาทั้งสองคนลวนมีพลังยุทธอยูใน
ระดับหลอมสูญขั้นตน
“หึ ข า ไม เ คยพู ด ว า จะให ค นคนเดี ย วมาช ว ยข า สยบอสู ร วิ ญ ญาณ หากผู  ใ ด
ไมยินยอมละก็ออกไปซะ ขาจะไมหามปรามเลยสักนิด แตหากอยากไดผลึกใจวารี
เหล็ ก ลำแสงสี ม  ว งและผงตาข า ยเขี ย วต า งๆ ก็ อ ย า หวั ง เลย” ชายวั ย กลางคน
รางกายผายผอมคอนปะหลักปะเหลือก พลางแคนเสียงขณะเอย
ชายหนุมและชายรางใหญไดยิน ก็อดที่จะมองสบตากันไมได หานลี่กลับแค
ขมวดคิ้วมุนยืนอยูที่เดิม
“เอาล ะ สามคนก็ ส ามคนเถิ ด แต ใ นบรรดาพวกเราสามคนหากมี ค นสยบ
อสูรวิญญาณไดกอน คนที่เหลือจะไมไมไดอะไรหรือ” ชายหนุมเอยถามดวยความ
เปนกังวล
“หึ เรื่องนี้วางใจเถิด เดิมทีตาเฒาก็ไมไดคิดวาพวกเจาจะลงมือตามลำพังอยูแลว
ตองใหทั้งสามสำแดงวิชาอัสนีพรอมกัน มิเชนนั้นจากประสบการณกอนหนาของขา
พลังอัสนีของพวกเจา ไมอาจทำสำเร็จโดยลำพังได ขอแคสยบสำเร็จ ขาจะทำตามที่
พวกเราตกลงกันไว” เจาของรายเอยดวยรอยยิ้มเย็นชา
ไดยินวาจะไดสิ่งที่ตัวเองตองการ ชายรางใหญและชายหนุมพลันมีสีหนาผอนคลายลง
ไมมีขอคิดเห็นอื่นอีก
เจ า ของร า นเห็ น เช น นั ้ น พลั น พยั ก หน า ด ว ยความพึ ง พอใจ แต ห ลั ง จาก
กวาดสายตาไปบนเรือนรางของหานลี่แลว ปากกลับเอยจุๆ ออกมา
“พี่หาน ไมเจอกันสองสามวัน ก็บรรลุจากแมทัพวิญญาณขั้นกลางเปนแมทัพวิญญาณ
ขั้นสูงเสียแลว ชางเปนเรื่องที่นาเหลือเชื่อจริงๆ ผูแซอวี๋ขอแสดงความยินดีดวย
เชนนั้นพลังอัสนีก็นาจะเพิ่มขึ้นอีกสองสามสวนสินะ” เขาเอยถามดวยความรูสึกสนใจ
“ชนรุนหลังแคโชคดีเทานั้น พลังอัสนีเพิ่มขึ้นนิดหนอยจริงๆ” หานลี่หัวเราะนอยๆ
ออกมา แลวตอบกลับดวยความจริงครึ่งหนึ่งโกหกครึ่งหนึ่ง
ฟงจากคำพูดของทั้งสองคน ชายรางใหญสวมชุดเกราะสีดำและชายหนุมพลัน
พิจารณาหานลี่สองแวบ ใบหนาเผยสีหนาประหลาดใจเล็กๆ ออกมา
“เยี่ยม ในเมื่อทั้งสามลวนไมมีขอคิดเห็น ก็ตามตาเฒามาเถิด อสูรวิญญาณถูกขา
ขังเอาไวในสถานที่ลับ เจาทั้งสามตามขามาก็พอ” เจาของรานเอย
“ตามไปพี่อวี๋ไปนั้นไมใชปญหา แตกอนที่จะใหพวกเราลงมือ ควรจะใหพวกเรา
ตรวจสอบสิ่งของกอนหรือไม” ชายหนุมหนาหวานกลอกตาไปมา กลับเอยเชนนี้
ออกมา
ชายรางใหญสวมชุดเกราะสีดำไดยินเชนนั้นพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็เอยวา
ใชๆ อยางเห็นดวย ใบหนาเผยสีหนาเห็นดวยออกมา
“อยากดูของ! ไมมีปญหา ขาเตรียมของเอาไวตั้งนานแลว ทั้งสามลองพิจารณาดูเถิด”
เจาของรานดูเหมือนวาจะคาดเดาคำพูดของชายหนุมเอาไวอยูแลว จึงเอยปากออกมา
น้ำเสียงไมโหดรายเหมือนแตกอน กลับทำใหชายหนุมที่เตรียมคำพูดเอาไวมากมาย
พลันตะลึงงัน
เสียง “สวบๆ” ดังขึ้นสามครั้ง กลองไมขนาดนอยใหญสามใบบินออกมา
บุรุษรางกายผายผอมโยนของออกมาอยางคลองแคลว
ชายหนุมและชายรางใหญพลันรูสึกยินดี พากันสะบัดแขนเสื้อ ลำแสงผืนหนึ่ง
พุงออกมามวนเอากลองไมเบื้องหนาเอาไว
หานลี่พลันใจเตนระรัว ยื่นมือออกไปรับกลองที่ลอยมาหาตัวเอง จากนั้นก็เปดฝา
ออกอยางคลองแคลว
กลิ่นหอมสดชื่นของสมุนไพรโชยมา ในกลองไมมีผลเหมือนลูกพีชขนาดเทากำปน
สีเขียวมรกตวางอยู ดานลางยังมีใบไมประหลาดสีแดงออนรองอยูสองใบ หานลี่หรี่ตา
ทั้งสองขางลง ทันใดนั้นก็ยื่นนิ้วชี้ออกไปหมายจะชี้ไปที่ผลผลนั้น
ความจริงแลวไมใชแคหานลี่ คนที่เหลืออีกสองคนก็ยื่นมือออกไปหมายจะหยิบ
ของในกลองออกมาพิจารณาอยางละเอียดเชนกัน
แตในครานั้น เจาของรานที่อยูดานขางพลันเอยปากอยางราบเรียบวา
“ขาวาพวกเจาอยาเอามือไปแตะของในกลองเลย พวกมันถูกลงอาคมเล็กๆ เอาไว
หากเกิดอะไรขึ้น ตอใหทั้งสามถังแตกก็เกรงวาจะไมอาจชดใชได”
ชั่วขณะนั้นมือของหานลี่พลันหยุดชะงักคาง
“พี่อวี๋ หมายความวาอยางไร ใชมือจับไมได จะแยกแยะวาจริงเท็จไดอยางไร”
ชายรางใหญตกใจจนสะดุง และรูสึกหัวเสียเล็กนอย
“แคใชตาเนื้อและจิตสัมผัส จากพลังยุทธของเจาทั้งสามก็นาจะแยกแยะของได
เจ็ดแปดสวนแลว หากอยากตรวจสอบของในกลองจริงๆ รอใหทั้งสามทำภารกิจ
สำเร็จกอนแลวคอยวากันเถิด ขานอยไมอาจมั่นใจไดวาเหลาสหายจะชวยขาสยบอสูร
ได หากลมเหลวก็ไมจำเปนตองแยกแยะดวยมือ จากชื่อเสียงของขาในเผา ทั้งสาม
ทานยังกลัววาขาจะหลอกลวงหรือ?” บุรุษรางกายผายผอมกลับเอยอยางไมใสใจ
“เอาละ พวกเราจะเชื่อเจาสักครั้ง คิดดูแลวพี่อวี๋คงไมมีทางทุบปายของตัวเอง”
สายตาของชายหนุมหนาหวานมองไปที่ของในกลองสองสามครั้ง สีหนาไมแนนอน
สุดทายก็กระทืบเทา โยนกลองไมกลับไปอีกครั้ง
หลังจากที่ชายรางใหญพิจารณาของในมือเสร็จแลว แมนวาจะมีสีหนาลังเล
แตสุดทายก็ยังสงกลองใหอยางอาลัยอาวรณ
หลังจากเก็บกลองไมทั้งสองเสร็จแลว เจาของรานแซอวี๋พลันเผยสีหนาพึงพอใจ
ออกมา ในที่สุดสายตาก็กวาดไปที่อีกดาน
ครานี้หานลี่กำลังจองเขม็งไปยังผลสีเขียวที่อยูในกลองเขม็ง สวนลึกในมานตา
เปลงแสงสีฟาสวางวาบ ใบหนาเต็มไปดวยสีหนาครุนคิด
“อันใด พี่หานคิดวาผลตาขายเขียวนี้มีจุดที่ผิดปกติหรือ?” เจาของรานเห็นสีหนา
ของหานลี่พลันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็เอยถามอยางราบเรียบ
“เปลา” หานลี่สั่นศีรษะ ปดฝากลองไม แลวโยนใหเจาของราน
ชายรางใหญรางกายผายผอมรับกลองไมไป มองลึกเขาไปในนัยนตาของหานลี่
แวบหนึ่ง แลวหาทุกคนออกจากประตูใหญไปโดยไมพูดอะไร
หานลี่และพวกทั้งสามตางก็ไลตามไปติดๆ
ความเร็วของบุรุษรางกายผายผอมนั้นรวดเร็วมาก แตหานลี่และพวกทั้ งสาม
ก็ไมใชคนธรรมดา จึงบินตามเขาออกจากวิหารการแลกเปลี่ยนไดอยางสบายๆ ตรงไป
ยังที่หนึ่งในเมืองศักดิ์สิทธิ์
บินมาไดหนึ่งชั่วยามเต็มๆ ทุกคนก็มาถึงมุมที่รกรางแหงหนึ่งในเมืองศักดิ์สิทธิ์
เห็นไดชัดวาที่นี่มีสิ่งปลูกสรางอยูบางตา มีชาววิหคสวรรคสัญจรไปมาอยูไมมากนัก
เผยใหเห็นถึงความรกรางเปนอยางมาก
เจาของรานพาพวกเขารอนลงหนาสิ่งปลูกสรางที่คอนขางเตี้ยและไมสะดุดตา
หลังหนึ่ง
สิ่งปลูกสรางนี้มีความสูงแคสามสิบจั้งเศษ แบงออกเปนสองชั้น สีเทาตุนๆ
เมื่อสองเทาของบุรุษรางกายผายผอมรอนลงถึงพื้น ประตูบานใหญก็เปดออกโดย
อัตโนมัติ บุรุษอายุยี่สิบปเศษสองคนเดินออกมาจากดานในทันที พลางรีบรอนเขามา
คารวะเจาของราน พลางเอยถามวา
“คารวะทานปรมาจารย!”
“พวกเจาสองคนคอยรักษาการณอยูภายนอก หากไมมีคำสั่งของขา หามผูใดเขาไป
ดานใน” เจาของรานออกคำสั่งดวยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“ขอรับ!” แนนอนวาบุรุษทั้งสองพลันตอบรับอยางไมลังเลเลยแมแตนอย จากนั้น
ก็แยกยายกันไปยืนอยูดานขางประตูใหญทั้งสองดาน
หานลี่พิจารณาทั้งสองคนแวบหนึ่ง มองออกวาทั้งสองมีพลังยุทธระดับหลอมรวม
จึงไมสนใจอีก
เจาของรานรองเรียกคำนึง ก็เดินเขาไปในสิ่งปลูกสราง หลังจากที่ชายหนุมและ
ชายรางใหญลังเลเล็กนอย ก็เดินตามเขาไป
หานลี่จึงเดินตามหลังไปเปนคนสุดทาย
ในหองมีพื้นที่ไมใหญนัก ทุกอยางถูกตกแตงอยางเรียบงาย โตะไมสี่เหลี่ยมสามตัว
รวมทั้งเกาอี้ไมสิบกวาตัวกินพื้นที่กวาครึ่งหอง
สวนกำแพงทั้งสี่ดานของหอง ยังมีภาพวาดโบราณสีออกเหลืองสองสามภาพ
แขวนอยู ภาพวาดเหลานี้ลวนเปนภาพปศาจอสูรและภูเขาลำธารตางๆ ไมแปลกตา
เลยเชนกัน
“พี่อวี๋ อสูรวิญญาณตัวนั้นอยูที่นี่จริงๆ หรือ?” ชายรางใหญกวาดสายตาไป
แลวอดไมไหวเอยถามขึ้น
ที่นี่มีพื้นที่เล็กมาก ไมนาจะกักอสูรวิญญาณอะไรไดจริงๆ มินาละเขาจึงรูสึกเชื่อ
ครึ่งไมเชื่อครึ่ง
“มาถึงที่นี่แลว ขายังจะโกหกพวกเจาอีกหรือ พวกเจาตามขามา” เจาของราน
ถลึงตาใสชายรางใหญแวบหนึ่ง แลวเอยอยางไมเกรงใจ ทันใดนั้นก็สาวเทาไปยัง
กำแพงดานหนึ่งที่ม ีรูป ภาพภู เขาลำธารโบราณแขวนอยู สะบัดแขนเสื้อ ในมือมี
มวนรูปภาพปรากฎขึ้น
สะบัดเบาๆ มวนรูปภาพคลี่ออก คาดไมถึงวาจะเผยรูปภาพที่เหมือนกั บ บน
กำแพงออกมาอยางไรอยางนั้น
เมื่อเห็นฉากนี้ชายรางใหญและหานลี่พลันตกตะลึง ไมทันไดเขาใจวาอีกฝาย
จะทำอะไร หลังจากที่สายตาของชายหนุมหนาหวานกวาดไปที่ม วนรู ปภาพแล ว
กลับหนาเปลี่ยนสีพลางรองอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหงวา
“ภาพเขาพระสุเมรุ คาดไมถึงวาเจาจะมีสมบัติวิเศษของเผาเบญจลำแสง!”
“ภาพเขาพระสุเมรุ? เปนไปไมไดกระมัง สมบัติชนิดนี้ เผาเบญจลำแสงไมไดมีแคเจ็ด
ชุดหรือ? พี่อวี๋ไดมาไดอยางไร” ชายรางใหญตกใจจนสะดุงโหยง รูสึกไมอยากจะเชื่อ
แมวาหานลี่จะรูสึกงุนงง แตเมื่อไดยินคำวา ‘พระสุเมรุ’ กลับอดที่จะใจเตนไมได
พลางมองไปยังภาพวาดบนกำแพงอยางละเอียด
เห็ นเพี ย งม ว นภาพที ่ ส ี อ อกเหลื อง คื อ ภาพภู เขาสี เ ขี ย วเข ม บนภู เขามี สิ่ ง
ปลูกสรางอยูเล็กนอย แตกลับลางเลือน ใหความรูสึกขมุกขมัว
“หึๆ ทั้งสองสายตาเฉียบแหลมมาก นี่คือ ภาพเขาพระสุเมรุ ทวานี่ไมใชหนึ่งใน
เจ็ดชุดที่เผาเบญจลำแสงมองวาเปนสมบัติประจำเผา แตเปนภาพเขาพระสุเมรุที่มี
ขอบกพรองชุดหนึ่งเทานั้น” เจาของรานเอยพรอมรอยยิ้ม
“ของลอกเลียนแบบ?” ชายหนุมและชายรางใหญพลันตะลึงงัน
“ใชแลว เรื่องนี้ แม แต เ ผา เบญจลำแสงก็ มี ค นรู  เพี ย งไม ก ี่ ค น ตอนแรกที ่ เ ผ า
เบญจลำแสงใชกระดูกของนกยูงหาสีหลอมภาพเขาพระสุเมรุนั้นไมใชเจ็ดชุด แตเปน
สิบชุด แตสิ่งที่นา เสียดายก็ คื อ สามชุดในนั้น หลอมออกมาได ไมสมบู รณ ผลคือ
อานุภาพลดลงเปนอยางมาก ดังนั้นสามชุดนี้จึงถูกซอนเอาไวเนิ่นนานแลว และไมเคย
แพรงพรายออกมาภายนอก ดวยเหตุผลตางๆ นี้ตอมาภาพเขาพระสุเมรุทั้งสามชุด
จึงถูกคนในเผาเบญจลำแสงปลอยออกมาภายนอก และตกอยูในมือของคนเผาอื่น
สวนขาไดภาพชุดนี้มาไดอยางไรนั้น พวกเจาสามคนไมจำเปนตองรู” บุรุษรางกาย
ผายผอมเผยสีหนาพึงพอใจออกมา
“ถึ ง แม ว  า จะมี ข  อบกพร อ ง พี ่ อวี ๋ ก ็ ย ั ง ได ข องพระสุ เ มรุ ม า ช า งมี ว าสนานัก”
ชายรางใหญเผยสีหนาชื่นชมแกมอิจฉาออกมาขณะเอย
ชายหนุมหนาหวานมองภาพทั้งสองมวน แววตาอดที่จะเผยแววตาละโมบออกมา
แวบหนึ่งไมได
แมนวาหานลี่จะไมไดเผยสีหนาประหลาดใจออกมา แตในใจก็รูสึกรุมรอนเชนกัน
ของพระสุ เ มรุ เป นหนึ ่ ง ในสมบั ต ิ ท ี ่ เ ขาอยากได ห ลั ง จากมาถึ ง แดนวิ ญ ญาณ
ไมเหมือนกับหวงมิติเวลาพระสุเมรุปลอมที่ใชในรอยแยกของหวงเวลาในแดนมนุษย
นาจะดำรงอยูอยางอิสระและเปนสมบัติหวงเวลาที่แทจริงซึ่งสามารถพกติดตัวไปได
ตลอดเวลา
“เอาละ พวกเราไปกันเถิด อสูรวิญญาณตัวนั้นถูกขาเก็บไวในถ้ำนี้” เจาของราน
หุบยิ้มบนใบหนา สะบัดมวนภาพในมือ
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฎขึ้น
เห็นเพียงบนมวนภาพมีลำแสงหาสีเปลงแสงเจิดจา ทันใดนั้นก็สั่นเทากลายเปน
ลำแสงผืนหนึ่ง ชั่วครูก็จมหายเขาไปในรูปภาพบนกำแพง
เจาของรานบริกรรคมคาถาออกมา ฉับพลันนั้นมือหนึ่งก็ชี้ไปที่รูปภาพ
รูปภาพบนกำแพงเปลงแสงเจิดจา และพนลำแสงผืนใหญออกมา
ภายใตการควบคุมของเจาของราน ลำแสงหาสีพลันมวนเอาทุกคนเขาไปขางใน
หานลี่ลังเลเล็กนอยและเลิกตอตาน ปลอยใหลำแสงหอหุมตนเองเอาไวอยางแนนหนา
แตลำแสงวิญญาณที่ปกปองรางก็ยังคงเพิ่มขึ้นสองสามชั้นอยางเงียบเชียบ
ผลคือหลังจากที่ลำแสงเปลงแสงสวางวาบ พื้นที่ก็วางเปลา ทั้งหมดไมมีคนแมแต
คนเดียว
ตอนที่ 1426 อสูรอัสนี
ลำแสงเจิดจาในแววตาหมนแสงลง หานลี่เบิกตาขึ้นอีกครั้ง กลับพบวาตนเองอยู
บนจัตุรัสหินสีเขียวแหงหนึ่ง
เบื้องหนาไมไกลนักคือเหลาสิ่งปลูกสรางที่สูงใหญไมเทากัน
หานลี่หรี่ตาลงเล็ กน อย รูสึกคุนเคยกับตึกรามบา นช องเหลา นี้ เล็ ก น อย คือ
สิ่งปลูกสรางบนภูเขาที่อยูในภาพเขาพระสุเมรุ
เมื่อมองไปดานลางแวบหนึ่ง เขาพลันพนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ดังคาด เขาในครานี้อยุบนภูเขานอยสีเขียวมรกต กลางอากาศเปนสีฟา มีเพียง
เมฆปุยขาวลอยอยู
เขาอยูในหวงมิติที่เหมือนกับในภาพเขาพระสุเมรุอยางไรอยางนั้น หวงมิติเวลานี้
ดูเหมือนวาจะไมใหญนัก มีขนาดแคสองสามลี้เทานั้น รอบดานถูกกำแพงลำแสงหาสี
ปกคลุมอยู
ไมไกลนักคนอื่นๆ ที่เหลือทั้งสามคนก็มาปรากฎตัวบนพื้นเชนกัน
แตแคไมเหมือนกับชายรางใหญและพวกทั้งสองที่พิจารณาขึ้นลงดวยสี ห น า
ประหลาดใจ เจาของรานพลิ้วไหวรางกายอยางไมลังเล ตรงไปยังสิ่งปลูกสราง
หานลี่และพวกทั้งสามไมกลาดูแคลน พวยพุงขึ้นไปกลางอากาศและบินตามไป
เชนกัน
“พี่อวี๋ หวงเวลาพระสุ เ มรุ นี่ด ู แล ว ไร ข อผิดพลาด ไมมีจุดที่ผิ ดปกติตรงไหน
จุดดางพรอยคืออะไรกันแน” ชายหนุมบินมาอยูใกลๆ กับเจาของราน แลวอดไมไหว
เอยถาม
“หึๆ นายทานคิดวาขาจะบอกหรือ? จุดดางพรอยของภาพพระสุเมรุคืออะไร
ดูเหมือนวาจะไมเ กี่ ยวกั บการแลกเปลี่ย นของพวกเราแม แต น อย” บุรุษรางกาย
ผายผอมคอนปะหลักปะเหลือก พลางเอยออกมาอยางไมเกรงใจ
“เหอๆ พี่อวี๋กังวลเกินไปแลว นองแคสงสัยเทานั้น ไมไดมีเจตนาราย” ชายหนุมไดยิน
สีหนาพลันเปลี่ยนเปนสีแดงสลับขาว แตสุดทายก็เปลงเสียงหัวเราะกลบเกลื่อนไป
เจาของรานแคนเสียงหึ เพราะวาอีกเดี๋ยวจะตองอาศัยพลังของคนผูนี้ จึงไมได
เอยอะไรที่ไมนาฟงอีก แตหลังจากที่กระพริบวาบสองสามครั้ง เขาก็มาปรากฏตัว
บนหอคอยแคหนึ่งที่หางออกไปรอยจั้งเศษ สองมือไพลหลังหยุดอยูตรงนั้น
หอคอยหลังนี้สูงรอยจั้งเศษ แบงออกเปนสามชั้น รูปทรงเกาแกโบราณ ดานลางหนา
ดานบนแหลม
“อสูรนอยถูกขากักเอาไวในหอคอย พวกเจาตามขามา ไปดูอสูรตัวนั้นก อน
แล ว ค อยว า กั น ” บุ ร ุ ษ ร า งกายผ า ยผอมรอให ห านลี ่ แ ละพวกทั ้ ง สามมารุ ม ล อ ม
ก็ออกคำสั่งอยางราบเรียบ ทันใดนั้นก็พารอนลงไป
หลังจากที่หานลี่และพวกทั้งสามคนมองสบตากันแวบหนึ่งแลว ก็บินตามไป
บุรุษรางกายผายผอมไมไดหยุดลงที่ทางเขาชั้นหนึ่ง แตลอยไปที่หนาตางบานหนึ่ง
ของชั้นสอง แลวหยุดลงอีกครั้ง
หานลี่และพวกรูสึกแปลกใจ แตหลังจากผานไปชั่วครูก็มาถึงชั้นสองเชนกัน
พวกเขามองไปในหนาตางบานนั้นแวบหนึ่ง เห็นเพียงมานลำแสงสีเงินผืนหนึ่ง
หอคอยชั้นสองทั้งชั้นถูกอาคมผนึกเอาไว
ชายหนุมหนาหวานแววตาเปลงประกาย ยังไมทันไดเอยปากพูดอะไรอีก ฉับพลันนั้น
เสียง “ตูมๆๆ” ก็ดังขึ้น มานลำแสงเบื้องหนาสั่นไหว แมแตหอคอยก็ยังสัน่ กระเพื่อม
สองสามครั้ง
ทันใดนั้นเสียงฟารองอยางตอเนื่องราวกับพายุฝนกระหน่ำก็ดังออกมาจากมานลำแสง
ครานั้นในโสตประสาทหูของทั้งสี่คนมีแตเสียงฟารอง ไมไดยินเสียงอะไรอีก ราวกับวา
อยูในแดนที่ฟาระเบิดโทสะ ทำใหพวกเขารูสึกมึนงง
“แยแลว”
หานลี่คือ สิ่งมีชีวิตระดับใด ภายใตความตกตะลึงพลันโคจรคาถาขับเคลื่อนในราง
ชั่วพริบตาก็ไดสติขึ้นมาเปนคนแรก
เจาของรานและพวกของชายรางใหญที่เปนผูบ ำเพ็ญเพียรระดับหลอมสูญ ตางก็
สำแดงความสามารถตางๆ ออกมาและไมไดถูกทำอันตรายเชนกัน
แตเชนนั้นชายหนุมหนาหวานและชายรางใหญทั้งสองคนก็หนาซีดขาวไปเชนกัน
“นี่คือ อสูรที่พี่อวี๋ตองการใหกำราบหรือ?” ครั้งนี้ชายรางใหญสวมชุดเกราะสีดำ
พลันเอยถาม สายตาจองเขม็งไปยังที่หนาตาง
“ใชแลว อสูรตัวนี้แหละ เหลาสหายไมตองกังวล มันถูกลงอาคมกักเอาไว หากยัง
ไม ป ล อ ยมั น ออกมา ก็ ไ ม ม ี ท างทำอั น ตรายได ” เจ า ของร า นมี ส ี ห น า สุ ข ุ ม ขึ้ น
สองตากลับฉายแววตื่นเตนดีใจออกมา
ทันใดนั้นก็เห็นบุรุษพลิกฝามือมือหนึ่ง ลำแสงเปลงประกายบนฝามือ มวน
ภาพปรากฎขึ้นกลางฝามือ
นั่นก็คือ มวนภาพเขาพระสุเมรุ
ครั้งนี้เขาไมไดคลี่มวนภาพนี้ออก มือหนึ่งพลันตะปบไปที่มวนภาพ อีกมือหนึ่ง
กลับชี้ไปที่มานลำแสงเบาๆ
สถานที่แปลกประหลาดพลันปรากฎขึ้น! มานลำแสงในหนาตางแตกออกราวกับ
กระจก ทันใดนั้นก็สลายหายไป
เจาของรายขยับปกทั้งสอง พาเงารางคนสายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบแลวหายเขา
ไปในหอคอย
ชายรางใหญและชายหนุมหนาหวานที่ทนไมไหวตั้งนานแลว ก็พากันพลิ้วกาย
ตามไปอยางไมตองคิด
หานลี่ลูบใตคางไปมา ขบคิดชั่วครู แลวถึงไดบินเขาไปในหนาตางอยางชาๆ
เสียง “ตูม” ดังขึ้น ทั้งหอคอยสั่นเทาอีกครั้ง พลังแรงกดธาตุอัสนีกลุ ม หนึ่ ง
โผเขามาราวกับสสาร
หานลี่ที่เพิ่งบินเขามาพลันหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย จนเกือบจะทนไมไหวหมาย
จะพลิ้วกายหลบหลีก
แต ส ุ ด ท า ยก็ ย ั ง คงลอยนิ ่ ง อยู  ก ลางอากาศ แค ใ ช ม  า นลำแสงสี เ ทาเบื ้ องหน า
ตานทานเอาไว
ครานี้เขาถึงไดมองเห็นทุกอยางอยางชัดเจน
ชั้นสองของหอคอยนั้นใหญกวาที่เขาคาดเอาไวมาก
มีพื้นที่ประมาณสองสามรอยจั้ง ทำใหที่นี่ดูเหมือนจัตุรัสขนาดเล็ก ใจกลางกลับมี
เสาสำริดแปดสิบเอ็ดตนตั้งตระหงานอยู ทุกตนเปนสีเหลืองอราม ทั้งตนสลักรูป
อสูรปศาจตางๆ เอาไว
เสาสำริดเหลานี้ลอมพื้นที่ขนาดสามสิบจั้งเศษเอาไว ตัวเสามีประจุไฟฟาสีแดง
เปลงแสงระยิบระยับ เปลงเสียงเปรี๊ยะๆ ออกมา กลายเปนกรงขังขนาดยักษ
ในกรงขังมีหมอกสีดำขนาดสองสามจั้งกลุมหนึ่งหมุนวนอยู ดานในมีเสีย งฟา
คำรามดังขึ้นไมหยุด บางครั้งก็มีประจุไฟฟาสีเงินขาวเปนสายๆ แลบออกมาจาก
หมอกสีดำ แตเมื่อโจมตีไปยังตาขายไฟฟาสีดำ ก็สลายหายไปราวกับดาวตก
“ในนั้นคือ อสูรวิญญาณธาตุไฟตัวนั้นหรือ?” ชายรางใหญเกราะสีดำเห็นหมอก
สีดำที่ไมสะดุดตาเลยสักนิด ก็อดที่จะตกตะลึงไมได
“อันใดพวกเจาดูถูกอสูรตัวนี้หรือ อสูรอัสนีตัวนี้รายกาจมาก ไมใชสิ่งที่พวกเจาจะ
ได ม ากง า ยๆ” เจ า ของร า ยเหลื อ บตามองชายร า งใหญ แ วบหนึ ่ ง แล ว เอ ย ด ว ย
รอยยิ้มเย็นชา
“อสูรอัสนี?” หานลี่พลันขมวดคิ้ว เอยพึมพำกับตัวเอง
“ใช นี่คือชื่อของอสูรตัวนี้ ประวัติของอสูรอัสนีนั้นไมตองพูดถึง แตในใตหลานี้
ก็มีเพียงตัวเดียวเทานั้น ไมมีตัวที่สอง” เจาของรายจองเขม็งไปยังตาขายไฟฟาสีดำ
เขม็ง ใบหนาเผยสีหนาบาระห่ำออกมา
“พูดเกินจริงไปหนอยแลว การโจมตีของอสูรตัวนี้ก็ไมเทาไหรหรอก” ชายหนุม
หน า หวานขมวดคิ ้ ว มองประจุ ไ ฟฟ า สี เ งิ น ที ่ พ  น ออกมาจากม า นหมอกด ว ยทาที
ไมเชื่อถือ
“การโจมตี? อสูรอัสนีตัวนี้ไมทำการโจมตีใดๆ ประจุไฟฟาเหลานี้เปนแคของที่ติด
มาโดยกำเนิดของมันเทานั้น โฉมหนาที่แทจริงและอานุภาพการโจมตีของอสูรอัสนี
ตัวนี้ ขาจะใหพวกเจาไดลิ้มลองเองก็แลวกัน” บุรุษรางกายผายผอมหยักรอยยิ้มดู
แคลนออกมาขณะเอย
ฉับพลันนั้นพลันชูมือขึ้น ลำแสงสีขาวสายหนึ่งพุงออกมจากแขนเสื้อ หลังจาก
หมุนวนหนึ่งรอบ ก็รอนลงบนสวนยอดของเสาสำริดที่หนาที่สุด
เปนอสูรน อยติ ดป กเรื อนกายสี ขาวราวกั บ หิม ะตั ว หนึ่ ง รอบกายเต็ม ไปด ว ย
หนามแหลมๆ ยาวสองสามชุน ราวกับเมนบินอยางไรอยางนั้น
ไมรูวาถูกเจาของรานรายอาคมอะไรลงไป เมื่ออสูรนอยตัวนี้รอนลงบนเสาสำริด
ก็รางกายออนปวกเปยกไมอาจบินไดเลยสักนิด แคหมอบอยูตรงนั้นดวยกายที่สั่นเทา
นอยๆ
“อสูรขนแหลม”
เมื่อเห็นรูปรางของอสูรนอยตัวนี้ ชายรางใหญสวมชุดเกราะสีดำและชายหนุม
หนาหวานก็รูชื่อในเผาวิญญาณเหาะเหินของอสูรตัวนี้ทันที แทบจะไมเชื่อสายตาของ
ตัวเอง
อสูรตัวนี้โหดเหี้ยมมาก แมแตระดับหลอมสูญมาพบเขาก็ยังไมกลาทำการโจมตี
แมนวาจะชอบอยู ร วมกั นเป นฝูง แตแคคิดก็รู ็ ถึ ง ความน า กลั ว ของอสูรตัว นี ้ แ ล ว
แตตอนนี้เมื่ออยูบนเสาสำริด ก็เปลี่ยนทาทีเปนออนแอ ชางทำใหพวกเขาประหลาดใจ
จริงๆ
และเมื่อทุกคนคิดเชนนี้ ฉับพลันนั้นในหมอกสีดำพลันมีมือยักษสีเขียวขางหนึ่งพุง
ออกมา ตะปบไปที่อสูรหนามแหลมอยางแรง นิ้วทั้งหาไมทันไดสัมผัสกับอสูรนอย
ก็มีประจุไฟฟาสีเงินเปนสายๆ ปรากฎขึ้นเสียง “ตูม” ดังขึ้น ดานนอกตาขายไฟฟา
สีดำนอกกายอสูรนอย แมวาจะไมอาจขยับตัวได แตเมื่อมือสีเขียวสัมผัสกับตาขาย
สีดำ ก็ถูกดีดออก
เสี ย งคำรามต่ ำ ๆ ดั ง ออกมาจากม า นหมอก ดู เ หมื อนว า จะเต็ ม ไปด ว ยโทสะ
ฉั บ พลั นนั ้นเสี ยงฟ าผา ก็ ดั ง ขึ้ น ลำแสงสี เงิ น เจิ ดจา ระเบิ ดออกมาจากหมอกสีดำ
จากนั้นลำแสงอัสนีที่หอหุมอะไรสักอยางอยู ก็ขยายใหญขึ้นอยางรวดเร็วทามกลาง
ม า นหมอก ชั ่ ว ครู ในที ่ส ุดหมอกสีด ำก็ ถู ก อัสนี ลำแสงกำจั ดไปจนเกลี ้ย ง ป ศ าจที่
เหมือนกับวิหคตัวหนึ่งปรากฎขึ้นในตาขายไฟฟา
หั ว เป นนกเขาผิ ว สี เขี ย ว มี ป ก ขนนกสี ฟ  า คู  ห นึ ่ ง กายท อนบนเหมื อนมนุ ษ ย
ท อ นล า งเหมื อ นวิ ห ค แขนคู ห นึ ่ ง ถื อ สิ ่ ง ที ่ ม ี ร ู ป ร า งเหมื อ นค อ นและกรวยเอาไว
ดวงตาทั้งสองเปนสีเหลืองทอง เปลงประกายโหดเหี้ยมออกมา
เมื่อเห็นรูปรางของอสูรอัสนีอยางชัดเจน แมแตหานลี่และพวกทั้งสามที่มีความรู
มากมาย ก็ยังอดที่จะสูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่งไมได
ไมรอใหพวกเขาไดสติกลับมาจากการตกตะลึง อสูรอัสนีหัวนกเขาก็เปลงเสียงรอง
คำรามประหลาดๆ ออกมา ทันใดนั้นปากก็มีลำแสงสีขาวสวางวาบ ลูกบอลสีขาว
ขนาดเทากำปนจำนวนนับไมถวนหมุนติ้วๆ ออกมา
แทบจะในเวลาเดียวกัน แผนหลังของอสูรตัวนี้ก็สยายปกออกพรอมกัน ขนนกสีฟา
จำนวนนับไมถวนพุงออกมา เปลงแสงสวางวาบแลวกลายเปนธนูไฟฟาสีฟา ขนาด
ความยาวครึ่งฉื่อ กระโจนมาเบื้องหนาเต็มทองฟา
เสียง “ตูม” ดังขึ้น มือที่ถือคอนและกรวยทั้งสองของอสูรอัสนีพลันปะทะกัน
ประจุไฟฟาสีทองหนาๆ สายหนึ่งพุงออกมาจากปลายแหลมของกรวย ชั่วครู ก็
กลายเปนมังกรวารีไฟฟาสีทอง กระโจนเขามาอยางโหดเหี้ยม
ชั่วพริบตาอสูรอัสนีตัวนี้ก็สำแดงความสามารถธาตุอัสนีที่ไมเหมือนกันออกมา
สามชนิด ดูจากอานุภาพแลวดูเหมือนวาจะไมธรรมดา
หานลี ่ แ ละพวกทั ้ ง สามคนพลั น ตกตะลึ ง ถอยหลั ง ไปก า วหนึ ่ ง ตามจิ ต สำนึ ก
จากการโจมตีดวยความสามารถธาตุอัสนีทั้งสาม ไมวาจะดูอยางไรตาขายไฟฟาสีดำ
บางๆ ผืนนี้ก็ดูเหมือนวาจะไมอาจตานทานไดเลยสักนิด
มีเพียงบุรุษรางกายผายผอมแซอวี๋ที่ยิ้มนอยๆ ยืนนิ่งอยูที่เดิมอยางมีแผนการในใจ
ผลคือ ชั่วพริบตาที่ประจุไฟฟาที่ไมเหมือนกันสามชนิดโจมตีไปยังตาขายไฟฟา
ฉับพลันนั้นเสาสำริดแปดสิบเอ็ดตนก็เปลงเสียงรองออกมา ประจุไฟฟาสีดำบางๆ
แตเดิมหนาขึ้นสองสามเทา
ชั่วขณะนั้นลำแสงไฟฟาเจิดจาจนแสบตาพลันตัดสลับกัน ตาขายไฟฟาสีดำรับ
การโจมตีจากลำแสงสีขาวฟาและทองทั้งสามชนิดของไฟฟาอัสนีเอาไวได
อสูรอัสนีเห็นเชนนั้นปากก็เปลงเสียงรองคำรามดวยความโมโหยิ่งกวาเดิมออกมา
แตดวงตาสีทองสองดวงพลันเปลงประกายจองเขม็งไปยังอสูรหนามแหลมที่อยูบน
เสาสำริด แตไมไดทำการโจมตีอะไรอีก ดูเหมือนวาจะมีสติปญญาแลว
“วางใจเถิด เขตอาคมลำแสงผูกอัสนีนี้ เปนสิ่งที่ขาทุมเทวางเอาไว สามารถกัก
พลังธาตุอัสนีของอสูรตัวนี้ได แมวาอสูรอัสนีตัวนี้จะรายกาจ ก็ไมอาจดิ้นรนใหหลุดพน
ได” บุรุษรางกายผายผอมหัวเราะต่ำๆ ออกมา ฉับพลันนั้นมือหนึ่งพลันโบกไปทาง
อสูรหนามแหลมบนเสาสำริด
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีขาวพลันมวนวนพุงออกมา คาดไมถึงวามวนเอาอสูรนอยที่ไม
อาจตานทานไดสงเขาไปในตาขายไฟฟาสีดำ จนไปอยูหางจากอสูรอัสนีแคคืบ
ตอนที่ 1427 อัสนีเบญจสวรรค
เมื่อเห็นอสูรหนามแหลมอยูตรงหนา อสูรอัสนีพลันอาปากออกอยางไมลังเลเลย
สักนิด กลืนอสูรนอยลงไปในทองภายในคำเดียวโดยไมไดดิ้นรนอะไรเลย จากนั้นก็
คำรามเสียงต่ำๆ ดวยความพึงพอใจออกมา ชั่วพริบตารางกายก็หดเล็กลง ใน
เวลาเดียวกัน พลันพนไอสีดำชั้นหนึ่งออกมารอบๆ กลืนกินรางกายของเขาไป จน
หมด
กลางเขตอาคมทุกอยางฟนฟูกลับมาเปนดังเดิม เหมือนตอนที่หานลี่เห็น
“อสู ร อั ส นี ต ั ว นี ้ ค ื อ อสู ร อะไรกั น แน ข า น อ ยว า ข า เป น ผู  เ ชี ่ ย วชาญในด า น
คำภีรโบราณตางๆ แตก็ไมเคยรูจักอสูรวิญญาณชนิดนี้เลย” ชายหนุมหนาหวาน
เอยปากดวยความตกตะลึงเล็กนอย
“ขานอยไมไดบอกไปแลวหรือ? อสูรตนนี้มีที่มาพิเศษ หวังวาเหลาสหายจะไม
ถามใหมากความ ขอแคชวยขากำราบอสูรตนนี้ก็พอแลว” บุรุษรางกายผายผอม
กวาดสายตาไปที่ชายหนุม แลวเผยเจตนาตักเตือนออกมา
ชายหนุมหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอยแตก็ปดปากไมไดถามอะไรอีกดังคาด
หานลี่เห็นฉากนี้ แววตาพลันเปลงประกายแปลกประหลาดสวางวาบ ฉับพลันนั้น
พลันเอยขึ้นวา
“ที่ทานอาวุโสกลาววาอสูรตนนี้มีอยูเพียงตนเดียวในแดนวิญญาณเมื่อครู ทำให
เขาใจไดวาอสูรตนนี้ไมใชอสูรของแดนวิญญาณใชหรือไม” เจาของรานไดยินแลวพลัน
ตกตะลึงหนาเปลี่ยนสีไปยกใหญ แตทันใดนั้นก็ฝนยิ้มแลวตอบกลับวา
“นองหานพูด จาเหลวไหลอะไร อสูรตนนี้ไมใช อสูร แดนวิญ ญาณ แลวจะมา
ปรากฏตัวที่นี่ไดอยางไร”
ชายรางใหญและชายหนุมฝกบำเพ็ญเพียรจนมาถึงขั้นนี้แนนอนวาตองไมใช
คนธรรมดา มองปราดเดียวก็ดูทาทางปกปดความลับของเจาของรานออก ทั้งสองคน
จึงอดที่จะมองสบตากันแวบหนึ่งดวยความตกตะลึงไมได
“อสูรอัสนีไมใชสิ่งที่อยูในแดนวิญญาณจริงๆ หรือวาคืออสูรวิญญาณวิเศษที่มา
จากแดนลางแดนใดสักแดนหนึ่ง ไมสิ จากความสามารถที่อสูรตนนี้เพิ่งสำแดงออกมา
แทบจะไมดอยไปกวาผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสูญ แดนลางไมมีทางมีอสูรวิญญาณ
ชนิ ด นี ้ ถ ื อ กำเนิ ด ขึ ้ น ได ไม ใ ช แ ดนล า ง เช น นั ้ น ก็ ม ี เ พี ย งแต แ ดนเบื ้ อ งบนแล ว
แดนเทพเซี ย นในตำนาน” ชายหนุ  ม ไม ไ ด ส นใจการกล า วเตื อนของเจ า ของร า น
พลางเอยออกมาทีละคำๆ
ชายรางใหญจองเขม็งไปยังหมอกสีดำในเขตอาคม สองตาคอยๆ เปลงประกาย
“อันใด พวกเจาคิดจริงๆ หรือวาอสูรตัวนี้คือ อสูรจากแดนเทพเซียน?” ครานี้
บุรุษรางกายผายผอมกลับเยือกเย็นขึ้น แคแววตาเผยแววประหลาดใจออกมา
“หรือวาพวกเราเดาผิด ตอใหไมใช พี่อวี๋อยากใหพวกเราชวยสยบอสูร ตั ว นี้
ก็ชวยบอกประวัติความเปนมาของมันสักหนอยเถิด หากพวกเราสามคนเขาใจมันแลว
ก็อาจจะมีประโยชนในภายหลังได หากไมอยากพูดจริงๆ พวกเราสามคนก็จะไมบังคับ
แตก็ทำไดเพียงมองวาอสูรตัวนี้เปนอสูรจากแดนเบื้องบนจริงๆ” ชายหนุมถอนหายใจ
ออกมาเฮือกหนึ่ง
“เจากลาขมขูขา!” เจาของรานมีลำแสงเปลงแสงสวางวาบที่ใบหนา หวางคิ้วมี
จิตสังหารปรากฎขึ้น
“ตอใหพวกเราสามคนรวมมือกัน ก็ไมใชคูตอสูของพี่อวี๋ จะกลาขมขูพี่อวี ๋ ได
อยางไร แตไมวาจะอยางไรก็ตามพี่ของขาก็เปนหนึ่งในอาวุโสที่อายุนอยที่สุดในเผา
พี่อวี๋คงไมทำเรื่องที่ไมชาญฉลาดหรอกกระมัง”
ชายหนุมถูกจิตสังหารของอีกฝายแผมาหา ก็หนาเปลี่ยนสีถอยหลังไปครึ่งกาว
แตทันใดนั้นก็เอยเชนนี้ออกมาดวยสีหนาเยือกเย็น
คาดไมถึงวาชายหนุมหนาหวานจะเปนนองชายของอาวุโสแหงเผาวิหคสวรรค ทำให
หานลี่และชายรางใหญพลันตกตะลึง อดที่จะพิจารณาชายหนุมอีกสองแวบไมได
เจาของรานรางกายผายผอมไดยินเชนนั้น ก็มีสีหนาหวาดกลัวฉายแวบผานไป
บนใบหนา หลังจากที่มีสีหนาบัดเดี๋ยวเครงขรึมบัดเดี๋ยวสงสัยแลวถึงไดเอยอยาง
เย็นชาออกมาวา
“บอกความเป นมาของอสูร ตนนี้ กั บพวกเจาสั กหนอยก็ ไม เ ป น ไร มันก็ไ ม ใ ช
ความลับอะไรนักหรอก พวกเจาจะไดไมคิดอะไรเลอะเทอะ สาเหตุทีม่ ันมีอยูตนเดียว
ในแดนนี้ก็เพราะวา อสูรตนนี้คือสิ่งที่ขาสะสมรวบรวมพลังอัสนีเอาไว หลังจากนั้นก็ใช
เคล็ดวิชาลับหลอหลอมมันถึงไดถือกำเนิดขึ้นจากพลังอัสนี ขาใชเวลาไปเกือบครึ่งชีวิต
ถึงไดสรางขึ้นสำเร็จตนหนึ่ง ในใตหลานี้มีอสูรอัสนีเพียงตนเดียวเทานั้น”
“วิญญาณของพลังอัสนี!” ชั่วขณะนั้นหานลี่และพวกสามคนพลันเบิกตาโพลง
“เป นไปได อย า งไร! ต อให เ ป นในตำนานของเผ าวิ ญ ญาณก็ไ มอาจให กำเนิด
อสูรวิญญาณจากพลังอัสนีได แมวาพี่อวี๋จะมีความสามารถไมธรรมดา แตก็ไมอาจทำ
เรื่องเชนนี้ได” ชายหนุมเปนผูที่ไดสติฟนฟูกลับมาจากความตกตะลึงเปนคนแรกแลว
เผยสีหนาไมเชื่อถือออกมา
หานลี่และชายรางใหญเองก็ขมวดคิ้วแนน
“หึ ห ึ อาศั ย แค ก ารค นคว า ของขา นั้ น แน น อนว า ไม ม ี ทางทำได แต ข  า เคยมี
ประสบการณไปทองยุทธภพของเผาประหลาดอื่นๆ มาสองสามเผา จึงไดเคล็ดวิชาลับ
การเลี้ยงดูอสูรวิญญาณจากแดนเทพเซียนจากชนชั้นสูงของเผาหนึ่งที่ละสังขารไปแลว
มาดวยความบั ง เอิ ญ เคล็ดวิชาลับ การเลี้ ยงดู อสูร นี ้เ ป นวิชาที่ส มบูรณ แบบที ่ สุ ด
ในบั น ทึ ก แล ว ” นอกเหนื อ ความคาดหมายของหานลี ่ แ ละพวกของชายหนุ ม
เจาของรานมีสีหนาเครงขรึมอยูชั่วครู ก็เอยสิ่งที่ทำใหทั้งสามคนตกตะลึงออกมา
“เคล็ดวิชาการเลี้ยงดูอสูรที่สืบทอดกันมาจากแดนเทพเซียน ก็อาจจะเปนไปได
เมื ่ อ ครู  ท ี ่ ศ ิ ษ ย น  อ งล ว งเกิ น ไปหวั ง ว า พี ่ อ วี ๋ จ ะไม ถ ื อ สา” หลั ง จากที ่ แ ววตาของ
ชายหนุมหนาหวานเปลงประกายสองสามครั้ง ก็เปลี่ยนทาทีเปนยิ้มแหยๆ
ชายรางใหญลูบใตคางไปมาและสงเสียงจุๆ ชื่นชมไมหยุดเชนกัน
เจาของรานกลับมีสีหนาที่เต็มไปดวยความไมพอใจ แคแคนเสียงดวยความเย็นชา
เทานั้น
หานลี่ที่อยูดานขางจองเขม็งไปยังอสูรอัสนีที่อยูในเขตอาคม แววตาฉายแวว
สนอกสนใจออกมา
การที่อสูรตัวนี้ถือกำเนิดจากพลังอัสนี แมวาจะไมรูวาเรื่องนี้เปนเรื่องจริงหรือไม
แต ด ู จ ากการที ่ อสู ร ตนนี ้ ค วบคุ ม พลั ง อั ส นี ไ ด อย า งน า ตกตะลึ ง แล ว ต อให ไ ม ไ ด
เปนเชนนั้นก็ยังเปนรางที่มีพลังอัสนีโดยกำเนิด
ทวาแมวาอสูรอัสนีจะมีพลังระดับหลอมสูญแลวยังควบคุมพลังอัสนีไดก็ยัง ไม
คุมคากับที่เจาของรานทุมเทแรงลงไปเพื่อสยบมัน ถึงอยางไรเสียแคของที่นำมาตกลง
กับพวกเขาทั้งสามคนก็มีมูลคาไมนอยไปกวาอสูรวิญญาณระดับหลอมสูญตนนี้แลว
ยิ่งไมตองพูดถึงเวลาและความทุมเทที่เขาเสียไปจากการกระตุนใหอสูรอัสนีตนนี้
ถือกำเนิดขึ้นมา
ดูแลวหากอสูรตนนี้ไมไดมีความสามารถที่รายกาจอยางอื่นที่ยังไมไดสำแดงออกมา
อสูรตนนี้ก็คงจะมีประโยชนอะไรอยางอื่นกับบุรุษรางกายผายผอมผูนี้ ทำใหเขายอม
ทุมเทอยางไมเสียดาย
ความจริงแลวจุดนี้ไมใชแคหานลี่ ชายรางใหญและชายหนุมหนาหวานก็คิด
เชนเดียวกัน
แตขณะที่ทั้งสามคนกำลังมีความคิดแตกตางกันนั้นประกอบกับความหวาดกลัวใน
พลังยุทธของเจาของรานจึงแสรงทำเปนไมรับรูพรอมกัน
อสูรวิญญาณประหลาดระดับหลอมสูญตนหนึ่ง ตอใหประวัติความเปนมาและ
ประโยชนจะนาสงสัยก็ไมคุมคาจะใหพวกเขาไปลวงเกินบุรุษรางกายผายผอมจริงๆ
และยิ่งไปกวานั้น ตอใหหนึ่งในพวกเขาสามคนมีความคิดอะไรก็ไมกลาแพรงพราย
ออกมาเลยสักนิด
“เอาละ สิ่งที่สมควรพูดก็ไดพูดไปแลว จากนี้หามเสียเวลาอีกควรเริ่มได แลว
ขาจะสรางเขตอาคมลวงตากักอสูรตนนี้ไวชั่วคราว จากนั้นพวกเจาก็เขาไปใสพลังอัสนี
ของพวกเจาเขาไปในรางของอสูรตนนี้ก็พอแลว จำไว ตองใสพลังจนกวาขาจะบอกวา
ใหพอ ถึงจะหยุดได มิเชนนั้นอาจจะลมเหลวได” เจาของรานเอยดวยน้ำเสียงที่
ไมสามารถปฏิเสธได
ทั้งนี้หานลี่และพวกทั้งสามจึงไมไดมีความคิดเห็นอะไรลวนเผยสีหนาเห็นดวย
ออกมา
เจาของรานพลันพยักหนา ทันใดนั้นก็สะบัดแขนเสื้อ รูปภาพเขาพระสุเมรุมวนหนึ่ง
ปรากฏขึ้นในมืออีกครั้ง ครั้งนี้เขาโยนของที่อยูในมือขึ้นไปเบื้องหนา ชั่วขณะนั้น
มวนภาพพลันคลี่ออก
ลำแสงหาสีเปลงแสงเจิดจา ภาพเขาพระสุเมรุปรากฏขึ้นตอหนาทุกคนอีกครั้ง
บุรุษรางกายผายผอมบริกรรมคาถา ชี้นิ้วนิ้วหนึ่งไปที่จุดหนึ่งในมวนภาพอยางรวดเร็ว
รูมานตาของหานลี่เปลงแสงสีฟาสวางวาบ ชั่วขณะนั้นทุกอยางพลันชัดเจน
จุดที่บุรุษรางกายผายผอมชี้ไปคือ หอคอยสูงใหญบนภูเขาที่พวกเขาอยู
ครูตอมาภาพเขาพระสุเมรุพลันเปลงแสงสีขาวเจิดจา พนหมอกสีขาวนวลออกมา
ทามกลางกลุมกำแพงสี่ดานของชั้นหนึ่งและสองของหอคอยในภาพพลันกระพริบ
วาบๆ คอยๆ ขยายออกมาจากทั้งสี่ดาน จากนั้นก็สลายหายไป
หานลี่พลันชักสีหนา ยังไมทันไดขบคิดใหละเอียดวาเรื่องนี้คืออะไร ฉับพลันนั้นที่
ใตฝาเทาสั่นเทา หอคอยที่แทจริงพลันสั่นไหวอยางรุนแรง กำแพงทั้งสี่ดานเปลงแสง
สีขาวเจิดจาออกมา จากนั้นก็ลมลงมาราวกับประตูใหญ สุดทายก็สลายหายไปจาก
กลางอากาศ
ชั่วพริบตาพวกของหานลี่และอสูรอัสนีที่อยูในจัตุรัสพลันตกอยูทามกลางทองฟา
สีคราม หอคอยบนพื้นที่อยูดานลางพลันกลายเปนจัตุรัสวางเปลาราวกับแทนบูชา
แทนหนึ่ง
หมอกสีดำที่อยูในเขตอาคมพลันหมุนวน เห็นไดชัดวาอสูรอัสนีที่อยูดานในถูกทำ
ใหตกใจ
หานลี่ลูบคางไปมา ชายหนุมและชายรางใหญมองสบตากันแวบหนึ่ง แลวเผยสีหนา
ประหลาดใจออกมา
ในตอนนั้นเอง เจาของรานพลันคำรามเสียงต่ำๆ ออกมา คาดไมถึงวาจะพน
ลูกธนูโลหิตสายหนึ่งออกมา เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปในมวนภาพ
ชั่วขณะนั้นกลางอากาศพลันมีเสียงฟารองดังขึ้นทามกลางทองฟาที่สดใส ทันใดนั้น
พายุพลันกอตัวขึ้น เมฆทมิฬหมุนวน
ทามกลางเสียงตูมตามที่ดังขึ้นไมหยุด ประจุไฟฟาสีเงินเปนสายๆ พลันปรากฎขึ้น
ทามกลางเมฆสีดำ ราวกับวามารปศาจลงมาจุติอยางไรอยางนั้น ลวนมารวมตัวกัน
กลางอากาศเหนือแทนบูชาที่พวกของหานลี่อยู
ไมรอใหหานลี่และพวกทั้งสามเอยปากซักถาม บุรุษรางกายผายผอมก็เปนฝาย
อธิบายวา
“จากประสบการณการลมเหลวของขาในอดีต อาศัยแคพลังอัสนีของพวกเจา
สามคนเกรงว า จะยั ง ไม พ อ ดั ง นั ้ น ข า จึ ง อั ญ เชิ ญ พลั ง ฟ า ดิ น ที ่ แ ฝงอยู  ใ นภาพ
เขาพระสุเมรุมาดวย ใหพวกมันสรางภาพลวงตาพลังอัสนีมาชวยพวกเจาอีกแรง
หลังจากเสร็จเรื่องนี้ ภาพนี้ก็นาจะถูกทำลายลง ดังนั้นครั้งนี้ตาเฒาถือวาทุมสุดตัวแลว
หวังวาเหลาสหายจะพยายามชวยอยางเต็มที่ ขอแคกำราบอสูรตัวนี้ได ขาไมเพียงจะ
มอบของตามที่พวกเราตกลงกันไวใหพวกเจา ยังจะมอบศิลาวิญญาณจำนวนมากให
พวกเจาดวย” เอยจนมาถึงสองสามประโยคสุดทาย สีหนาของเจาของราน ก็
เปลี่ยนเปนเครงขรึม
หานลี่และพวกทั้งสามคนพลันรูสึกดีอกดีใจ ทยอยกันแสดงออกวาจะพยายาม
อยางเต็มที่ออกมา
บุรุษรางกายผายผอมไดยินแลวพลันพยักหนา จากนั้นปกที่แผนหลังก็สะบัดไปที่
มวนภาพเบื้องหนา ชั่วขณะนั้นลำแสงสีขาวพลันพุงออกมา ชั่วครูก็มวนเอามวนภาพ
เขาพระสุเมรุเขาไปดานใน
หลังจากที่รูปภาพหมุนติ้วๆ ในมานหมอก อักขระประหลาดหลากสีสันจำนวน
นับไมถวนพลันปรากฎขึ้น สุดทายก็เปลงเสียงตูมๆ ออกมา คาดไมถึงวาจะกลายเปน
เสาลำแสงหาสีสายหนึ่ง เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปในเมฆสีดำที่อยูสูงขึ้นไป
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฎขึ้น
หลังจากเมฆสีดำที่อยูกลางอากาศหมุนควางก็เปลงเสียงฟาคำรามราวกับพื้นดิน
แตกแยกดังขึ้น ทันใดนั้นกลางเมฆดำก็มีประจุไฟฟาหาสีหนาเทาปากชามสายหนึ่ง
ปรากฏขึ้น สีสันเจิดจรัสอยางสุดๆ เปลงแสงกระพริบระยิบระยับทามกลางกลุมเมฆ
ไมหยุด ราวกับวางูเหลือมยักษหาสีตัวหนึ่งที่หมุนวนติ้วๆ อยูกลางกลุมเมฆ
“เคราะหสวรรคหาสี?” ชายรางใหญสวมชุดเกราะสีดำเห็นอัสนีหาแสงชั่วครูก็
กระโดดขึ้นดวยความหวาดกลัวราวกับเห็นผีก็ไมปราณอยางไรอยางนั้น
“นายทานโปรดวางใจ นี่ไมใชอัสนีหาสีในเคราะหราชันยวิญญาณเหาะเหินเที่ยงแท
ขาแคยืมพลังปราณจากฟาดินจำลองมันขึ้นเทานั้น อาณุภาพไมเทาหนึ่งในสิบสวนของ
เคราะหอัสนีหาสี เหลาสหายโปรดวางใจ” เจาของรานกับเอยอยางเครงขรึมออกมา
หานลี่และชายหนุมที่แตเดิมเผยสีหนาหวาดกลัวออกมาไดยินคำนี้ก็มีสีหนาผอนคลาย
หานลี่มองไปยังอัสนีหาสีกลางอากาศ แววตายังคงฉายแววตกตะลึงอยูเล็กนอย
อัสนีสวรรคหาสีนี้คื อ เคราะหอัสนีที่มีไ วสำหรับผู บำเพ็ญ เพียรระดับต า เซิ่ ง
ในตำนาน ไมใชสิ่งที่เคราะหอัสนีสีมวงทองของผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรางจะ
เปรียบเทียบได
เกรงวาตอให มีพลานุภาพแค หนึ่ งในสิ บสว น ภายใตการโจมตี ของอัส นี ห  า สี
ผูที่อยูที่นั่นจะตานทานไดจริงๆ หรือไม ผูใดก็มิกลารับประกัน
ครานี ้ บ ุ ร ุ ษ ร า งกายผ ายผอมไม สนใจหานลี ่ แ ละพวกทั ้ง สามแล ว เริ ่ ม สำแดง
เขตอาคมอื่นกระตุนเสาสำริดแปดสิบเอ็ดตนเบื้องหนา
ตอนที่ 1428 กำราบอสูร
หลังจากที่เสาสำริดทั้งหมดเปลงเสียงหึ่งๆ ออกมายอดสุดก็เปลงลำแสงสี ขาว
ออกกมาเปนกลุมๆ สรางภาพลวงตาหัวมังกรที่ดุรายออกมาเปนหัวๆ ทันใดนั้นก็
เคลื่อนไหว ลวนอาปากออก พนประจุไฟฟาสีดำเปนสายๆ ออกมา
เปาหมายคือ หมอกสีดำที่อยูในเขตอาคม
เสียงคำรามต่ำๆ ดังออกมาจากมานหมอก ฉับพลันนั้นลำแสงสีเงินกลุมหนึ่ง
พลันดีดออกมาจากลำแสงสเงิน หลังจากเปลงแสงสวางวาบ อสูรอัสนีก็มาปรากฎตัวที่
มุมหนึ่งของตาขายไฟฟา แตประจุไฟฟาสีดำเหลานั้นดูเหมือนจะล็อคเปาหมายเปน
อสูรตนนี้เอาไวตั้งนานแลว ลวนหักเลี้ยวครั้งหนึ่ง แลวเปลงแสงสวางวาบเชนกันแลว
โจมตีไปยังอสูรอัสนีอีกครั้ง
อสูรอัสนีพลันตกตะลึง ปากพลันเปลงเสียงคำรามต่ำๆ ออกมาดวยความโกรธเกรี้ยว
แตเห็นไดชัดวาหวาดกลัวประจุไฟฟาสีดำเปนอยางมาก สำแดงอัสนีหลีกหนีหนีไปทั่ว
ทุกสารทิศอีกครั้ง
ครานี้เห็นเพียงลำแสงสีเงินกลุมหนึ่งกระพริบวาบๆ ในเขตอาคม บินไปทั้งสี่ทิศ
ราวกับภูตผี สวนดานหลังของเขากลับมีประจุไฟฟาสีดำยี่สิบสามสิบตน ไลตามมา
ติดๆ อยางไมลดละ
ชั่วขณะนั้นเสียงฟารองพลันดังขึ้นในเขตอาคม เจาของรานพลันบริกรรมคาถาขึ้น
กระตุนเขตอาคมอยูที่ดานนอก
ความเร็วในการดีดตัวของประจุไฟฟาสีดำยิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ สุดทายก็สรางภาพลวงตา
เปนเงาเปนสายๆ ขึ้น ราวกับจะปกคลุมลำแสงสีดำที่อยูกลางอากาศทั้งหมดในเขต
อาคมเอาไว
หานลี่มองทุกอยางดวยความตกตะลึงอยูภายนอก
ไมรูวาประจุไฟฟาสีดำเหลานี้คืออัสนีชนิดใด ความเร็วของมันชางนาตกตะลึงจริงๆ
หากเขาถูกกักอยูในเขตอาคมนี้ แมวาจะมีปกวายุอัสนีก็ไมอาจหนีไปไดนานนัก
แมวาอสูรอัสนีตัวนี้จะเชี่ยวชาญในอัสนีหลีกหนี เกรงวาก็ไมอาจยืนหยัดตอไปได
ดังที่เขาคาดการณเอาไวอยางไรอยางนั้น แคชั่วครู อสูรอัสนีที่กลายเปนลำแสงสีเงิน
แคประมาทเล็กนอย ก็ถูกประจุไฟฟาสีดำสองสามสายโจมตีไปที่ราง
หลังจากเสียงโหยหวนดังขึ้น ชั่วขณะนั้นรางของอสูรอัสนีก็สั่นเทาและเปลงแสง
สวางวาบปรากฎขึ้นกลางอากาศ รางกายหยุดชะงัก
เชนนี้ประจุไฟฟาสีดำอื่นๆ จึงโจมตีไปยังรางของอสูรตนนี้ราวกับเข็มขัดสีดำ
จำนวนนับไมถวน
เสียง “ปงๆ” ดังขึ้น เสียงคำรามดวยความโกรธเกรี้ยวดังขึ้นจากปากของอสูรอัสนี
รางกายมีประจุไฟฟาสีแดงขาวฟาทองสี่สีที่ไมเหมือนกันปรากฎขึ้น พยายามตานทาน
การโจมตีจากประจุไฟฟาสีดำเอาไวอยางสุดฤทธิ์
บุรุษรางกายผายผอมที่อยูดานนอกเห็นเชนนั้น แววตาทั้งสองพลันเปลงประกาย
สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่งแลวสาวเทาไปขางหนา มือหนึ่งตบไปที่เสาสำริดตนที่
อยูเบื้องหนา
ชั่วพริบตาพลังวิญญาณสีขาวโพลนเปนกลุมๆ ทะลุผานฝามือนี้ไป ตรงไปยังเสาสำริด
ประจุไฟฟาบางๆ ที่พนออกมาจากปากของหัวมังกร ขยายใหญขึ้นทามกลางเสียง
รองหลายเทา
อีกดานหนึ่งในที่สุดอสูรอัสนีที่ถูกประจุไฟฟาสีดำกักเอาไวก็ตานทานเอาไวไมไหว
ตกลงมาสูพื้น ประจุไฟฟาสี่สีบนรางเริ่มหมนแสงลงจนไรสีสัน
ประจุไฟฟาสีดำเหลานั้นเปลงเสียงสวางจาในชั่วพริบตา คาดไมถึงวาจะสรางภาพ
ลวงตาเปนโซสีดำสนิทเปนสายๆ ชั่วครูก็รัดตรึงอสูรตนนั้นเอาไวแนน ไมอาจขยับกาย
ไดเลยสักนิด
“เอาละ เหลาสหายเขาไปได” บุรุษรางกายผายผอมตะโกนออกมา
ดึงฝามือที่กดไปที่เสาสำริดออก รายอาคมสายหนึ่งเขาไปขางใน
เสาสำริดตนนั้นสั่นเทา ตาขายไฟฟาขนาดยักษแตกออกเปนเสี่ยงๆ สุดทายก็
สลายหายไป
หานลี่และพวกทั้งสามมองสบตากันแวบหนึ่ง ทันใดนั้นก็กลายเปนลำแสงวิญญาณบิน
เขาไปอยางไมลังเล ลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบ ทั้งสามแยกกันไปยืนอยูหาง
จากอสูรอัสนีที่ถูกรัดเอาไวสองสามจั้ง และไมไดเขาใกลอสูรตนนี้มากเกินไปนัก
สวนบุรุษรางกายผายผอมเองนั้นก็เก็บอาคม เปลงแสงสวางวาบแลวมาอยูขางกาย
ของพวกของหานลี่เชนกัน
“ขาจะใชเคล็ดวิชาลับสะกดอัสนีในรางของอสูรตนนี้เอาไว ทั้งสามแคฟงคำสั่ง
ของขา ใสพลังอัสนีเขาไปในรางของอสูรตนนี้ก็พอแลว” เจาของรานไมไดเอยอะไรให
มากความ แคออกคำสั่งอีกครั้งอยางรวดเร็ว
จากนั้นมือหนึ่งพลันพลิกฝามือ ในมือมีกริชสีดำสนิทหาเลมปรากฎขึ้น
ลอยพลิ้วไป ราวกับสรางขึ้นจากไมอยางไรอยางนั้น
“กริชดาวทมิฬ” เมื่อเห็นกริชทั้งหาเลม ชายรางใหญและชายหนุมก็หนาเปลี่ยนสี
หานลี่พลันขมวดคิ้ว ในใจรูสึกประหลาดใจขึ้นมา
แต แ ม ว  า ชายร า งใหญ แ ละชายร า งหนุ  ม จะเผยสี ห น า ประหลาดใจออกมา
แตก็ไมไดเอยซักถามอะไร
สวนเจาของรานก็ไมไดมีใจจะอธิบาย แคชูมือหนึ่งขึ้น
เสียง “สวบๆ” ดังขึ้น ลำแสงสีดำสองสามสายเปลงแสงสวางวาบ กริชทั้งหา
แยกกันปกไปที่แขนขาทั้งสี่และหัวใจของอสูรอัสนี
อสูรอัสนีเปลงเสียงรองคำรามสะเทือนเลื่อนลั่นออกมา รางกายที่อยูในโซสีดำสั่นเทา
จุดที่ถูกกริชปกลงไปไมมีโลหิตสดๆ ไหลออกมาเลยสักนิด
กริชทั้งหาเลมมีลำแสงวิญญาณโคจรอยู ดวงตาของอสูรอัสนีหมนแสงลง สุดทาย
ประจุไฟฟาสี่สีบนรางก็หายไป
เจาของรานเห็นเชนนี้ ก็พนลำแสงสีขาวอีกกลุมหนึ่งออกมา คาดไมถึงวาจะเปน
ผลึกศิลาเพชรสีขาวกอนหนึ่ง มีขนาดแคกำปนเทานั้น
แตผิวสีขาวนวลนั้นเต็มไปดวยพลังแรงกดที่นาตกตะลึง
หานลี่อดที่จะหรี่ตาทั้งสองขางลงไมได
ไมเหมือนกับผูบำเพ็ญเพียรระดับขั้นสูง ชนชั้นสูงของเผาวิญญาณเหาะเหินไมมี
จิตวิญญาณสีทองและทารกวิ ญ ญาณ แตจะฝกฝนสิ่งที่ เรี ยกวา ‘แกนผลึก’ ตาม
ความสำคัญของมันแลว ก็ไมตางอะไรกับจิตวิญญาณสีทองและทารกวิญญาณของ
เผามนุษยนัก
เสียง “แคก” ดังขึ้น กระอักโลหิตสดๆ ออกมา พนไปยังแกนผลึก เจาของรานชี้
ไปที่แกนผลึกอีกครั้ง
ชั่วขณะนั้นผลึกพลันจมลง เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปในหัวของอสูรอัสนี
“ลงมือ” แทบจะในเวลาเดียวกัน บุรุษรางกายผายผอมก็รองตะโกนออกมา
ชายหนุมและพวกก็สำแดงฝมือทันที
เห็นเพียงหานลี่ถูมือทั้งสองเขาดวยกัน ระหวางฝามือมีประจุไฟฟาสีทองเปนสายๆ
ปรากฎขึ้น
สวนชายรางใหญกลับอาปากออก ลำแสงสีขาวและลำแสงอัสนีพลันปรากฎขึ้นลางๆ
ในปาก ปกที่แผนหลังของชายหนุมหนาหวานกลับสะบัดออก ประจุไฟฟาสีเงินเปน
สายๆ ปรากฎขึ้นบนปก
เสียง “เปรี๊ยะๆ” ดังขึ้น เปลงแสงสวางวาบพรอมกัน ประจุไฟฟาทั้งสามชนิดที่ไม
เหมือนกันพลันโจมตีไปยังรางของอสูรอัสนี
ฉากที่แปลกประหลาดพลันปรากฎขึ้น
ไมวาอัสนีเทวาปด เปาภยันตรายของหานลี่ หรือวาประจุไฟฟ าที่ อี กสองคน
ควบคุมอยู เมื่อสัมผัสกับรางของอสูรอัสนี ก็เปลงเสียง “ครืนๆ” ออกมาและถูกกริช
สีดำทั้งหาเลมดูดเขาไป
ทันใดนั้นกริชทั้งหาเลมก็เปลงแสงสีดำเปนชั้นๆ ออกมา กลายเปนประจุไฟฟาสีดำ
เปนสายๆ จมหายเขาไปในรางของอสูรอัสนีอยางเงียบเชียบ
ชายรางใหญและชายหนุมเห็นเชนนั้นพลันตกตะลึง แตประจุไฟฟาในมือกลับ
ทะลักออกไปอยางไมหยุดเลยสักนิด
ชั่วขณะนั้นกริชทั้งหาเลมที่มีลำแสงสีดำปรากฎออกมาพลันเปลงแสงเจิดจาขึ้น
แมกระทั่งตัวกริชยังเริ่มสั่นเทาเบาๆ
หลังจากที่หานลี่มองสถานการณนี้แลวกลับเหลือบตาไปมองเจาของรานที่อยู
ดานขางแวบหนึ่ง
เห็นเพียงบุรุษรางกายผายผอมนั่งสมาธิอยูดานขาง ปดตาทั้งสองขางลง สองมือ
รายอาคมประหลาดๆ ออกมา ดูเหมือนวาจะสำแดงเคล็ดวิชาลับอะไรสักอยางอยู
ลำแสงสีขาวเปลงแสงสวางวาบที่เรือนราง เห็นไดชัดวากำลังกระตุนพลังลมปราณ
รอบกายจนถึงขีดสุด
และไมเห็นความผิดปกติใดๆ หานลี่ถอนสายตากลับมา ไมสนใจอีกฝายชั่วคราว
และตั้งใจควบคุมอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย
และไมรูวารางของอสูรอัสนีนั้นประหลาดหรือวากริชดาวทมิฬนั้นมีจุดอะไรที่พิเศษ
หลังจากเวลาผานไปหนึ่งมื้ออาหาร กริชที่กลืนกินอัสนีจำนวนมากเขาไปแลวก็สั่นเทา
ไมหยุดอยูบนรางของอสูรอัสนี และไมไดมีความผิดปกติอะไรอีก
กลับเปนเจาของรานที่นั่งอยูดานขางเริ่มหนาซีดขาว หนาผากมีเหงื่อเม็ดบางๆ
ปรากฎขึ้นตั้งแต เมื่ อไหร ก็ ไมรู และยิ่งไปกวา นั้ น บนขมับทั ้งสองและลำคอ ยังมี
เสนเลือดปรากฎขึ้นเปนสายๆ ทาทางเหนื่อยลา แมแตลำแสงวิญญาณบนรางก็ยัง
ออนแสงลงสามสวน
ตรงหวางคิ้วของเขามีเงาผลึกหินสีขาวขนาดเทากำปนปรากฎขึ้นตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู
นั่นคือเงาแกนผลึกของเขา กำลังเปลงแสงระยิบระยับไมแนนอน
“ทั้งสามใสพลังอัสนีเขาไปอีก!” หลังจากผานไปชั่วครู ใบหนาของบุรุษที่ไรซึ่งสีเลือด
ก็เปลงเสียงแหบแหงออกมา
เมื่อไดฟงหานลี่และพวกของชายหนุมพลันขมวดคิ้ว
ตองเขาใจวาการที่ใสพลังลงไปไมหยุดเมื่อครู ก็แทบจะกลืนพลังอัสนีของทั้งสามไป
กวาครึ่งแลว หากใสเขาไปอีกละก็ เกรงวาทั้งสามคนคงไมอาจตานทานไดนานนัก
แตเมื่อไดฟงน้ำเสียงที่มั่นใจของเจาของราน พวกเขาก็ไมไดลังเลอีก ทยอยกันทำ
ตามคำพูดของเจาของราน
ชั่วขณะนั้นเสียงอัสนีพลันดังขึ้นยิ่งกวาเดิม ประจุไฟฟาสามสีแทบจะกลื นกิน
อสูรอัสนีทั้งหมดเขาไปดานใน
ภายใตการใสพลังอัสนีเขาไปทั้งหมดของทั้งสาม ชั่วครูในที่สุดกริชทั้งหาเลมที่ปก
อยูบนรางของอสูรอัสนีก็เริ่มเปลี่ยนแปลง
พวกมันดูดซับพลังอัสนีไมหยุด ทั้งเลมเริ่มเปลี่ยนเปนสีแดงราวกับดูดซับโลหิตเขา
ไปก็ไมปาน และยิ่งไปกวานั้นบังคอนๆ เปนสีแดงสด
ครานี้เงาแกนผลึกตรงหวางคิ้วของบุรุษรางกายผายผอมพลันกลายเปนสีโลหิต
เชนกัน และเริ่มหดเล็กลงทีละนิดๆ
เสียงคำรามต่ำๆ ดังขึ้น บุรุษเบิกตาทั้งสองขางออก พนของสิ่งหนึ่งออกมาจากปาก
นั่นคือแผนปายไมสีเขียวมรกต ดานบนมีอักขระที่สลับซับซอนสลักอยูเป นชั้นๆ
ดูลึกลับมาก
เมื่อแผนปายไมปรากฎขึ้น ก็เปลงแสงสวางวาบแลวไปอยูที่ศีรษะของอสูรอัสนี
แลวพลิ้วไหวรอนลงมาดานลาง
เสียง “ครืนๆ” ดังขึ้น เสนไหมสีเขียวบางๆ ทะลักออกมา เปลงแสงสวางวาบแลว
จมหายเขาไปในหัวของอสูรอัสนี
รางของอสูรอัสนีที่ดูเหมือนหลับใหลไปพลันสั่นเทา ทามกลางเสียงหึ่งๆ ของ
แผนปายไม เงาลวงตาของอสูรอัสนีสีเขียวขนาดจิ๋วตัวหนึ่งถูกเสนไหมสีเขียวจำนวน
นับไมถวนหอหุมเอาไว ดึงออกมาจากหัวของอสูรอัสนีครึ่งหนึ่ง
เจาของรานเห็นเชนนั้น ก็เผยสีหนายินดีออกมา นิ้วทั้งสิบเคลื่อนไหวไม หยุด
ในเวลาเดียวกันปากก็รายคาถาอยางไรสุมเสียงออกมา
แผนปายไมเปลงเสียงหึ่งๆ ดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เสนไหมสีเขียวเหลานั้นถูกกระตุน
คาดไมถึงวาจะฝนดึงจิตวิญญาณของอสูรอัสนีตอทีละนิดๆ
ฉับพลันนั้นดวงตาที่ ไร แสงของอสูร อัส นีพลัน เปล งแสงสีทองเจิดจา ผิวของ
รางกายเปลงเสียงฟารองออกมา กริชสีดำทั้งหาเลมที่ปกอยูตามสวนตางๆ ของ
รางกายสั่นคลอนอยางหนัก คาดไมถึงวาจะถูกดันออกมาจากรางแลวครึ่งหนึ่ง
ผิวของมันมีประจุไฟฟาสี่สี่ปรากฎขึ้นอีกครั้ง
เจาของรานพลันตกตะลึง ยังไมทันไดสำแดงอะไร จิตวิญญาณของอสูรอัสนีที่
เมื่อครูถูกดึงออกมาครึ่งหนึ่งพลันเปลงแสงสีเขียวเจิดจาจนแสบตาออกมา คาดไมถึง
วาจะจมหายเขาไปในรางของอสูรอัสนีอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันปากของอสูรอัสนี
ก็เปลงเสียงรองคำรามอยางบาคลั่งออกมา ประจุไฟฟาเปลงแสงสวางจาออกมาจาก
เรือนราง คาดไมถึงวาจะเริ่มดิ้นรนอยางสุดฤทธิ์
“พวกเจายังเพิ่มพลังอัสนีไดอีกหรือไม?” บุรุษรางกายผายผอมรูสึกตกตะลึง
ระคนโกรธขึง พลางรีบรอนเอยถามหานลี่และพวกทั้งสามคน
“ไมไดแลว ถึงขีดจำกัดแลว” ชายหนุมหนาหวานหนาซีดขาวไปเล็กนอย
“ขาเองก็ไมมีแรงจะใสพลังอัสนีมากกวานี้แลว” สถานการณของชายหนุมดีกวาหนอย
แตก็แสดงออกวาไมไหวเชนกัน
หานลี่แคสั่นศีรษะ
“เอาละ มีแตตองเสี่ยงแลว สหายทั้งสามโปรดรักษาระดับพลังอัสนีเอาไว ขาจะ
สำแดงอัสนีเบญจสวรรค เชื่อวาอาศัยแคพลังของอัสนีนี้ก็นาจะมีหวังวาจะสำเร็จ”
เจาของรานรูสึกสิ้นหวังเล็กนอยแตทันใดนั้นก็กัดฟนเอยขึ้น
เมื่อไดยินคำพูดของเจาของราน หานลี่และพวกทั้งสามก็หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
แตสุดทายก็ไมมีผูใดเอยคัดคาน
เจาของรานไมสนใจอสูรอัสนีที่ดิ้นรนขัดขืนอีก หลังจากปกทีแ่ ผนหลังของเขากระพือ
ก็บินขึ้นไปบนทองฟา
ตอนที่ 1429 ไขมุกอัสนี
บินขึ้นไปอยูหางจากเมฆดำไปรอยจั้งเศษ เจาของรานพลันหยุดลง อาออกดวย
สีหนาเครงขรึม พนโลหิตบริสุทธิ์ออกมากลุมหนึ่ง
นิ้วทั้งสิบของเขาชี้ไปที่โลหิตบริสุทธิ์สองสามครั้ง ชั่วขณะนั้นโลหิตพลันกลายเปน
ยันตโลหิตขนาดใหญสองสามแผน บินเขาไปหาประจุไฟฟาทั้งหาสีนั้น
เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไป ยันตโลหิตทั้งหมดจมหายเขาไปในประจุไฟฟาหาสี
ชั่วขณะนั้นประจุไฟฟาก็เปลงเสียงปงๆ ออกมา เมฆสีดำสลายหายไปทามกลาง
ลำแสงอัสนีเบญจสวรรค
ประจุไฟฟาหาสียักษบิดเบี้ยวหมุนวนอยูกลางอากาศ หนาตาหนากลัวเผยออกมา
อยางไมตองสงสัย
เจาของรานเห็นทาทางของอัสนีนี้ก็กลืนน้ำลายเขาไปเฮือกหนึ่ ง แลวกัดฟน
พนโลหิตบริสุทธิ์สองสามกลุมออกมาอีกครั้ง กลายเปนยันตโลหิตจมหายเขาไปใน
อัสนีเบญจสวรรคเชนกัน
การสูญเสียโลหิตบริสุทธิ์จำนวนมากในเวลาเพียงชั่วครูนี้ ทำใหบุรุษรางกาย
ผายผอมที่เดิมทีมีสีหนาซีดขาว ครานี้กลับไรสีโลหิตแลว
แตการกระทำที่เหมือนกับการทุมสุดตัวนี้ ก็ไมไดเสียเปลา
หลังจากที่อัสนีเบญจสวรรคมียันตโลหิตจำนวนมากเปลงแสงสวางวาบแลวพุงเขาไป
ในที่สุดก็สั่นเทาและลดระดับลง ไมเพียงเสียงหึ่งๆ จะเบาลงมาก ลำแสงอัสนียัง
เปลี่ยนยเปนออนโยนลง ผิวของประจุไฟฟามีเสนไหมสีโลหิตเปนสายๆ ปรากฎขึ้น
กระพริบวาบๆ แปลกประหลาดเปนอยางยิ่ง
เจาของรานพลันดีใจ ปากบริกรรมคาถาออกมา สองปกสะบัดไปกลางอากาศ
เสียง “ฟวๆ” ดังขึ้น เสนไหมสีโลหิตจำนวนนับไมถวนพลันพุงออกมาจากปกทั้งสอง
ชั่วครูก็ทะลวงผานประจุไฟฟาหาสี และรวมตัวกับเสนไหมสีโลหิตที่ผิวของมัน
หอหุมอัสนีสวรรคเอาไวขางใน
สองมือของเจาของรานพลันรายอาคม ลำแสงสีขาวเปลงแสงสวางวาบ อาคมเปน
สายๆ บินขึน้ ไปทองฟา
หลังจากที่เสนไหมสีโลหิตในอัสนีเบญจสวรรคเปลงเสียงครืนๆ ออกมา คาดไมถึงวา
จะบิ ด เบี ้ ย วและหดเล็ ก ลง ชั ่ ว พริ บ ตาก็ ก ลายเป น ลู ก บอลอั ส นี ย ั ก ษ ข นาด
เสนผาศูนยกลางสองสามจั้ง
ผิวของมันมีตาขายเสนไหมสีโลหิตทอดตัวอยู เปลวเพลิงลำแสงหาสีไหลวนโคจร
อยูอยางไมแนนอน
บุรุษรางกายผายผอมเห็นฉากนี้ ชั่วขณะนั้นพลันรูสึกปติยินดีขึ้นมา
มือหนึ่งกวักเรียกลูกบอลอัสนี
ลูกบอลอัสนีหาที่นากลัวรอนลงมาดานลางอยางเชื่อฟง
หานลี่และพวกเห็นเชนนี้ ตางก็ตกตะลึงจนอาปากคาง
เจ า ของร า นไม ใ ห โ อกาสหานลี ่ แ ละพวกได ซ ั ก ถาม ร า งกายพลั น พลิ ้ ว ไหว
คนหายวับไปจาที่เดิม
ครูตอมาบนพื้นก็มีระลอกคลื่นปรากฎขึ้น รางของบุรุษรางกายผายผอมเปลง
แสงสวางวาบขึ้นดานขางอสูรอัสนี แลวชูมือทั้งสองขึ้นไปกลางอากาศอยางรวดเร็ว
ชั่วขณะนั้นก็พนเสาลำแสงหนาๆ สองสายออกไป ชั่วครูก็จมหายเขาไปในลูก บอล
อัสนียักษที่อยูหางจากพื้นไปแคยี่สิบสามสิบจั้ง
ชั่วขณะนั้นอัสนีสวรรคนี้พลันสั่นเทาขณะลอยอยูกลางอากาศ
ระยะหางแคไหนหานลี่และพวกทั้งสามจึงสัมผัสไดถึงความนากลัวที่แผออกมา
จากลูกบอลอัสนีหาสีไดอยางชัดเจน ลวนพากันหนาเปลี่ยนสี
โชคดีที่ลูกบอลอัสนีลูกนี้ถูกบุรุษรางกายผายผอมสำแดงความสามารถหยุดมัน
เอาไวกลางอากาศในทันที มิเชนนั้นทั้งสามคนก็อาจจะหยุดการกระทำแลวหนี ไป
ในทันทีอยางไมสนใจก็เปนได
พวกเขาไมอยากเอาชีวิตนอยๆ ของตนเองมาไวในมือของผูอื่น
เจาของรานไมมีเวลามาสนใจความกังขาในใจของหานลี่และพวกทั้งสาม หลังจากที่
ควบคุมลูกบอลอัสนีหาสีไดแลว ปากก็รองตะโกนดังๆ ออกมา
ลูกบอลอัสนีหมุนติ้วๆ ชั่วขณะนั้นเสนไหมสีโลหิตที่ผิวของมันพลันแยกออกเปนรูเล็กๆ
หลังจากเสียงฟารองต่ำๆ ดังขึ้น ประจุไฟฟาหาสีบางๆ พลันพุงออกมา เปาหมายก็คือ
อสูรอัสนีที่อยูดานลาง
ชั่วพริบตาที่ลูกบอลอัสนีหาสีปรากฎขึ้น อสูรอัสนีตัวนั้นก็ดูเหมือนวาจะรูวาแยแลว
จึงพยายามรองคำรามและดิ้นรนอยางสุดฤทธิ์ คาดไมถึงวาจะดิ้นรนจนโซสีดำบนราง
หลุดออกสวนหนึ่ง และลุกขึ้นมานั่ง แตไมรอใหมันไดสำแดงอะไรตอ ประจุไฟฟาหาสี
ก็มีเสียงฟาผาดังขึ้น โจมตีไปยังหนาผากของอสูรตัวนี้อยางพอดิบพอดี
อสูรอัสนีไมทันไดแคนเสียง รางกายก็เหยียดตรงลมลงกับพื้นไปอีกครั้ง
เจาของรานพลันดีอกดีใจ กระตุนลูกบอลอัสนีหาสีเหนือหัวใหเปลงประจุไฟฟา
เปนสายๆ ออกมาไปพลาง ก็สำแดงความสามารถออกมาไปพลาง ทำใหแผนปายไม
สีเขียวมรกตบนหัวของอสูรอัสนีพนเสนไหมสีีเขียวออกมาอีกครั้ง
ครั้งนี้ภายใตประจุไฟฟาหาสีและพลังอัสนีของหานลี่และพวกทั้งสามที่คอย
สนับสนุนอยู  เงาลวงตาอสูร อั ส นี ข นาดจิ ๋ว ก็ ถู กดึง ออกจากรา งอีก ครั ้ งด ว ยความ
ตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว ลอยไปหาแผนปายไมอยางชาๆ
แมนวาจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของอสูรอัสนีจะพยายามดิ้นรน แตพลังอัสนีบนราง
กวาครึ่งลวนถูกกริชสีดำทั้งหาเลมตรึงเอาไว สวนกายเนื้อที่ถูกอัสนีเบญจสวรรคและ
พวกของหานลี ่ ก ดอยู  ก็ ไ ม อาจต า นทานอะไรได อี ก ถู ก แผ นป า ยไม สีเ ขี ยวมรกต
กดลงมาทีละนิ้วๆ
ลำแสงสีเขียวมรกตเปลงแสงสวางวาบขึ้นบนแผนปายไม หลังจากนั้นจิตวิญญาณ
บริสุทธิ์ของอสูรอัสนีพลันไมกลารองคำรามอีก ถูกเสนไหมสีเขียวหอหุมเอาไวพลางดูด
เขาไปในแผนปายไม
นิ้วทั้งสิบบนสองมือของบุรุษรางกายผายผอมรายอาคมอยางรวดเร็ว อาคมสายแลว
สายเลาโจมตีไปยังแผนปายสีเขียวมรกต
ชั่วพริบตาแผนปายพลันเปลงแสงหาหกสีไมแนนอน ผนึกจิตวิญญาณบริสุทธิ์
เอาไวขางใน
บุรุษยื่นมือออกไปกวักเรียกดวยความดีอกดีใจ ชั่วขณะนั้นพลันกลายเปนลำแสง
กลุมหนึ่งถูกดูดเขาไปในมือ
“ฮาๆ ในที่สุดก็ทำสำเร็จแลว” เจาของรานหัวเราะหัวเราะไมหยุดดวยความดีอดีใจ
หานลี่แววตาเปลงประกายสวางวาบ เสียงฟาฟาดในมือเบาลง ประจุไฟฟาสีทอง
หายวับไป
“นี่มันหมายความวาอยางไร พี่อวี๋ไมไดตองการกำราบอสูรตนนี้หรือ หรือวาตอนนี้
กำราบไดแลว” ชายหนุมหนาหวานเก็บวรยุทธ มองไปยังรางของอสูรอัสนีที่แนนิ่งอยู
บนพื้น มองไปยังแผนปายสีเขียวในมือของเจาของราน แลวพลันขมวดคิ้วแนน
คำถามนี้คือ คำถามที่หานลี่และชายรางใหญอยากถามอยูพอดี
“หึๆ ขอแคบีบจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของอสูรตัวนี้ออกมาได การกำราบมันก็เปน
เรื่องที่งายดายแลว จากนี้ก็ไมตองรบกวนสหายทั้งสามแลว” บุรุษรางกายผายผอม
เก็บแผนปายสีเขียวเขาไปในกลองหยกอยางระมัดระวัง แลวหัวเราะฮาๆ ออกมาดวย
สีหนามีความสุข
หานลี่และพวกทั้งสามมองสบตากันแวบหนึ่ง ลวนรูสึกแปลกๆ ทันใดนั้นก็ไมได
เอยอะไรออกมา ใบหนาเผยสีหนาระวังภัยขึ้นมา
“ทั้งสามโปรดวางใจ ในเมื่อชวยขาทำการใหญสำเร็จแลว ขาก็จะไมกลืนคำพูด
ที่เคยตกลงกันไว รับไปเถิด” เมื่อเจาของรานหัวเราะคิกคักและเอยเสร็จ ก็สะบัด
แขนเสื้อ ลำแสงสีขาวกลุมหนึ่งโจมตีมวนวนออกมา
กลองไมสามกลองที่ปรากฎขึ้นกอน พุงตรงมาหาหานลี่และพวกทั้งสาม
แมวาเมื่อครูชายหนุมหนาหวานและชายรางใหญสวมชุดเกราะสีดำจะรูสึกฉงน
แตเมื่อเห็นของที่ตนเองอยากได แนนอนวายอมดีใจเปนอยางมาก จึงไมสนใจสิ่งอื่น
อีกพลางทยอยกันยื่นมือออกไปควากลองไมของตนเอง
แต ห านลี ่ เ ห็ นฉากนี ้ แ ววตาพลั น ฉายแววสี ฟ  า สว า งวาบ ร า งกายหมุ นคว า ง
ชุดคลุมยาวสีท องเงิ นชุด หนึ ่ง บิ นออกมาจากร าง เปลงแสงสวา งวาบแล วหายไป
คาดไมถึงวาหอหุมกลองไมที่บินเขามาเอาไว
จากนั้นสองเทาพลันแตะไปบนพื้น ชั่วครูก็พุงไปดานหลัง
เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของหานลี่ ชายหนุมหนาหวานที่เพิ่งควากลองไมไวในมือ
พลั นตะลึ ง งั น แต ท ั นใดนั ้ นก็ ม ี ป ฏิ ก ิ ร ิ ย าตอบสนอง ร องอุ ท านว า แย แ ล ว ออกมา
แลวโยนของในมือออกไปอีกครั้ง
แตกลับสายไปเสียแลว
เห็นเพียงที่กลองไมมีลำแสงสีขาวพลิ้วไหว หายวับไปราวกับเม็ดทราย เผยไขมุก
ผลึกขนาดเทาหัวแมมือออกมา
“ไขมุกดูดอัสนี!”
ชายหนุมรองอุทานดวยความตกตะลึงออกมา นิ้วมือรายไปมาคิดจะดีดไขมุกเม็ดนั้น
ออกไป
แตเสียงฟาผาพลันดังขึ้น ไขมุกกลมๆ เม็ดนั้นก็ระเบิดออก ลำแสงสีขาวที่เจิดจา
จนแสบตาปรากฎขึ้น
กลางอากาศยังเหลือลูกบอลอัสนีหาสีขนาดเล็กลงกวาครึ่งอยู ชั่วพริบตาที่ลำแสง
สีขาวปรากฎขึ้น ก็กลายเปนประจุไฟฟาสามสีลดระดับสับลงมาจากทองฟา
ความเร็วของมันแคเปลงแสงสวางวาบ ก็ทยอยกันสับลงมาที่เปาหมาย
เสียง “ตูมๆๆ” ดังขึ้นสามครั้ง ชายหนุมและชายรางใหญดานขางที่ประสบกับ
สถานการณเดียวกันพลันถูกประจุไฟฟาหาสีและลำแสงสีขาวตัดสลับกันเปนลำแสง
อันสีหอหุมเอาไว
ภายใตผนึกรวมกันของอานุภาพทั้งสองชนิด ลำแสงอัสนีพลันหมนแสงลง ทั้งสองคนที่
มีควันสีเขียวปรากฎขึ้นบนรางพลันลมตึงลง ไมรูวาเปนหรือตาย
สวนทางดานของหานลี่นั้น ถูกชุดอัสนีหอหุมอยูขณะที่ไขมุกดูดอัสนีระเบิดออก
ลำแสงสีขาวจึงถูกดูดเขาไปจนเกลี้ยง จากนั้นก็เปลงแสงสวางวาบแลวดีดออกมา
ประจุไฟฟาหาสีที่รอนลงจากกลางอากาศพลันหักเลี้ยว กลับโจมตีไปยังพื้นที่หาง
ออกไปสองสามจั้ง
พื้นทั้งผืนพลันสั่นไหว จุดที่ประจุไฟฟาหาสีโจมตีไป พลันหายไปผืนใหญ
หลุมที่มีเสนผาศูนยกลางขนาดสองสามจั้งพลันปรากฎขึ้นบนพื้นดิน
คาดไมถึงวาประจุไฟฟานี้จะโจมตีทะลุผานชั้นผิวดินไปสองชั้น
หานลี่กลับพุงไปที่ขอบหลุมไดอยางพอดิบพอดี รางกายกลันมามั่นคง มองไปยัง
บุรุษรางกายผายผอมดวยสีหนาไรความรูสึก
“เอ” บุรุษหุบยิ้มบนใบหนา เปลงเสียงอุทานดวยความประหลาดใจออกมา
แตทันใดนั้นมุมปากพลันกระตุก เผยรอยยิ้มเยาะออกมา
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง ฉับพลันนั้นพลันกระพือปกอยางไมมีคางลางมากอน
ชั่วพริบตาก็กลายเปนประจุไฟฟาสีเขียวขาวสายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไป
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น กรงเล็บสีเขียวสองกรงเล็บก็แฉลบผานจุดที่หานลี่
ยืนอยูเดิมไป ปลายนิ้วทั้งสิบเปลงแสงอัสนีสีแดงยาวสองสามชุนออกมา
คาดไมถึงวาจะเปนกายเนื้อของอสูรอัสนีที่ถูกโซสีดำลามเอาไวตัวนั้น ไมรูวา
เคลื่อนไหวตั้งแตเมื่อไหร มันหนีมาอยูดานหลังของหานลี่อยางเงียบๆ และลอบโจมตี
จากดานหลังของหานลี่โดยไมมีผูใดรู
เห็นเพียงอสูรอัสสนีในครานี้ดวงตาสีดำทั้งสองเปลงประกาย สติปญญาเต็มเปยม
ไมเหมือนกับกอนหนาเลยสักนิด
เจาของรานเห็นอสูรอัสนีโจมตีไมสำเร็จ ก็เผยสีหนาประหลาดใจออกมา แตพลัน
กลอกตาไปมา รางกายพลิ้วไหวพุงไปดานขางอยางเงียบเชียบ
แตในตอนนั้นเอง เหนือศีรษะของบุรุษพลันมีเสียงฟาผาดังขึ้น ทามกลางลำแสง
อัสนีสีเขียวขาว รางของหานลี่เปลงแสงสวางวาบพลางปรากฎขึ้น สะบัดแขนเสื้อไป
ทางเสาสำริดสองสามตนที่อยูรอบๆ โดยไมไดเอยอะไรออกมา
ลำแสงสีทองเจิดจาสองสามสายเปลงแสงสวางวาบ สับเสาสองสามตนจนเปน
เจ็ดแปดสวน เขตอาคมทั้งเขตถูกหานลี่ทำลายลง
รางของเจาของรานพลันแข็งคาง ชั่วขณะนั้นพลันหยุุดลงแลวถอยรนไป มองมา
ดวยสีหนาเครงขรึม
หานลี่ลอยอยูตัวอยูกลางอากาศสองมือกอดอกโดยไมไดเอยอะไรออกมา
ครานี้ที่แผนหลังของเขามีเสียงอัสนีดังขึ้น อสูรอัสนีเปลงแสงสวางวาบกลางประจุ
ไฟฟาสีสี่ ปรากฎขึ้นดานหลังหานลี่ดวยสีหนาไรความรูสึก โจมตีไปหาเจาของราน
“ข า ไม ส นว า เจ า จะมี แ ผนอะไร แต อ ยากสยบอสู ร อั ส นี ต ั ว นี ้ ก็ ต  อ งสนใจ
จิตวิญญาณบริสุทธิ์ของอสูรอัสนี ขอแคเอาของที่ขาอยากไดมา เรื่องนี้ขาก็ จะทำ
เหมือนไมเคยเห็น” ในที่สุดหานลี่ก็เอยปาก
“เจาเปนแคแมทัพวิญญาณเหาะเหินคนหนึ่ง คิดวามีคุณสมบัติมาตอรองกับขาหรือ?”
บุรุษรางกายผายผอมเอยดวยเสียงเครงขรึม
“หากนายทานอยูในจุดที่มีพลังกำลังสมบูรณ ขานอยก็อาจจะไมมั่นใจ แตทานอาวุโส
เพิ่งจะสำแดงโลหิตบริสุทธิ์ไปอยางไมเสียดายเมื่อครู ตอนนี้พลังยุทธเหลือแคครึ่งหนึ่ง
ก็ถือวาไมเลวแลว หรือวาทานอาวุโสสอวี๋คิดวาอสูรวิญญาณที่ยังไมโตเต็มวัยคนหนึ่ง
จะขวางขาไดจริงๆ” หานลี่เอยอยางไมใสใจ จากนั้นมือหนึ่งก็ปดไปที่ขอมือ
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีดำสายหนึ่งพลันพุงออกมา หมุนวนรอบหนึ่งแลวกลายเปน
วานรนอยปรากฎขึ้นบนพื้น
จากนั้นวานรนอยพลันเอาสองมือทุบอก ชั่วขณะนั้นรางกายพลันขยายใหญขึ้น
ชั่วพริบตาก็มีความสูงยี่สิบสามสิบจั้ง เปนภูตยักษหนาตานากลัว จองเขม็งไปยัง
อสูรอัสนีที่อยูดานหลังเขม็ง
ในเวลาเดียวกัน รางของหานลี่พลันเปลงแสงสีทองสวางวาบ กระบี่เลมเล็กสีทอง
เจ็ดสิบสองเลมพุงออกมาจากเรือนราง ลอมรอบเอาไวแลวหมุนวนไปมาไมแนนอน
ที่แผนหลังมีรูปมารเที่ยงแทพราหมณศักดิ์สิทธิ์สามหัวหกแขนเปลงแสงสีทองเรืองรอง
ปรากฎขึ ้ น สองมื อพลิ ก ฝา มือพรอมกั น มื อหนึ ่ ง มี ภ ู เ ขาสี ดำสนิ ทราวกั บ น้ำหมึก
มาปรากฎขึ้นที่ใจกลาง อีกมือหนึ่งกลับมีหัวกะโหลกขนาดจิ๋วหาหัวสีขาวบริสุทธิ์
ราวกับหยกบินเริงระบำอยูรอบๆ ฝามือ
แผนหลังของดานลี่สยายปกออกอีกครั้ง ดานขางของภาพมารสีทองดา นหนึ่ง
เปลงสีเขียวลอยหมุนวนเปนเกลียว อีกดานหลังเปนลำแสงหาแสงสิบสี วิหคลวงตา
ยักษสีเขียวตัวหนึ่งและหงสลวงตาสวรรคหาสีปรากฎออกมา
สามเคล็ดวิชาปรากฎขึ้นพรอมกัน พลังที่แผออกมาดููงดงาม ไอวิญญาณทะลุขึ้นฟา
จนแทบจะทำใหผูคนไมกลามองสบตาตรงๆ
ตอนที่ 1430 หวาดกลัว
เดิมทีเจาของรานที่มีรอยยิ้มเย็นชาอยูตรงมุมปากพลันหนาเปลี่ยนสีไปยกใหญ
จากพลังยุทธของเขาแนนอนวาพลันสัมผัสไดถึงพลังความแข็งแกรงแฝงอยูใน
ภาพที่แผนหลังและความแหลมคมที่แผออกมาจากสมบัติได สวนภูตอัปลักษณอยาง
อสู ร วิ ญ ญาณครวญแปลงกายนั ้ น ตั ว ใหญ แ ละดู โ หดเหี ้ ย มขนาดนี้ จึ ง ยิ ่ ง ดู แ ล ว
ไมธรรมดา
“เจาคือใคร ศิษยที่โดดเดนในเผาวิหคสวรรค ขาลวนรูจักทั้งหมด แตไมมีเจา”
หลังจากที่บุรุษรางกายผายผอมขบคิดเล็กนอย ก็ตะโกนออกมาดวยเสียงโหดเหี้ยม
“ขาไมใชคนที่สำคัญอะไร สิ่งที่สำคัญก็คือ ขานอยขอแนะนำวาทานอาวุโสคิดเห็น
อยางไร? พลังยุทธของนายทานตกจากระดับหลอมสูญขั้นปลายมาอยูใน ระดับ
ขั้นตน แมวาจะมีไมตายอะไรอีก ขานอยก็มั่นใจวาโจมตีจนเจาพายแพ ไป
ครึ่งหนึ่ง แตแคขานอยไมอยากตองสูจนตายกันไปขาง ขอแคเจายอมมอบของให
ข า น อ ยก็ จ ะหั น กายจากไปในทั น ที ” หานลี ่ ม องไปยั ง เจ า ของร า น แล ว เอ ย
อยางราบเรียบ
บุรุษรางกายผายผอมไดยิน สายตาก็กวาดไปที่เรือนรางของหานลี่ขึ้นๆ ลงๆ
สองสามครั้ง หลังจากลังเลเล็กนอย ก็เผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา
“เยี่ยม เยี่ยมมาก จากความสามารถที่เจาสำแดงออกมา ก็มีคุณสมบัติจะกลาว
เชนนี้จริงๆ แตสิ่งที่นาเสียดายก็คือ แมวาขาจะอยากตอบตกลงกับเจา แตก็ไมมี
ผลตาขายเขียวจะใหเจา กอนหนานี้ของที่ใหพวกเจาดูในกลอง เปนแคเคล็ดวิชาลับ
ของเผาเบญจลำแสงที่สรางภาพลวงตาขึ้นมาเทานั้น กอนหนานี้เจาก็รูสึกสงสั ย
อยูเล็กนอยสินะ” หลังจากที่เจาของรานเลียริมฝปาก ก็เอยถามอยางหยั่งเชิงขึ้นมา
“หึๆ เคล็ดวิลาลับภาพลวงตา! เคล็ดวิชาที่ขาฝกฝนสามารถมองภาพลวงตาออก
แตของที่ขาอยากไดอยูในกลองนั้น แมวาเคล็ดวิชาภาพลวงตาของเจาจะรา ยกาจ
หากไมใชของชิ้นนั้น จะสรางผลตาขายเขียวลวงตาไดอยางแยบยลไดอยางไร” หานลี่
เอยถามอยางมีเลศนัย
“เจาอยากไดเจาสิ่งนั้น?” เจาของรายเผยสีหนาประหลาดใจออกมา
“ใชแลว! เงื่อนไขนี้ไมถือวาเกินไปสินะ” หานลี่ฉีกยิ้มนอยๆ ออกมา
“หากตองการของสิ่งนี้ละก็ แนนอนวาใหเจาได” ครั้งนี้เจาของรานตอบกลับอยาง
ไมตองขบคิด พลิกฝามือมือหนึ่ง กลองไมใบหนึ่งปรากฎขึ้นกลางฝามือ และโยนมา
แววตาของหานลีเ่ ปลงแสงสีฟาสวางวาบ มือหนึ่งตะปบออกไปกลางอากาศ
ลำแสงสีเขียวผืนหนึ่งมวนวนพุงออกไป ชั่วครูก็มวนเอากลองไมมาไวขางใน แลว
หมุนติ้วๆ ลอยอยูเบื้องหนา
หานลี่กวาดจิตสัมผัสไป เผยสีหนายินดีออกมา จากนั้นก็เปดฝากลองออก
กลิ่นยาลอยเขามาปะทะจมูก ในกลองก็คือ ‘ผลตาขายเขียว’ ที่เห็นครั้งแรก
หานลี ่ อ  า ปากออกโดยไม ไ ด พ ู ด อะไร พ น โลหิ ต บริ ส ุ ท ธิ ์ ก ลุ  ม หนึ ่ ง ออกมา
เปลงแสงสวางวาบแลวหายเขาไปในกลองไม
ชั่วขณะนั้นในกลองพลันมีลำแสงหาสีสวางวาบ ผลสีเขียวมรกตหดเล็กลงราวกับ
ฟองสบู ชั่วพริบตาก็กลายเปนผลสีแดงสดขนาดเทาหัวแมมือ
คาดไมถึงวาในกลองจะไมใชผลตาขายเขียว แตเปนเมล็ดเมล็ดหนึ่งเทานั้น
“หลายป ก  อนข า ได ผ ลตาข า ยเขี ย วมาจากการเสี ่ ย งเข า ไปในหุ บ เหวลึ ก ดวย
ความบังเอิญมาครั้งหนึ่ง แตเพื่อกระตุนอสูรอัสนี กอนหนานี้ไมนานก็เพิ่งจะใหมัน
กินเขาไป มิเชนนั้นตอใหมอบผลนี้ใหพี่หานจริงๆ ก็ไมเปนไร เมล็ดของผลนี้ก็มีมูลคา
ไมนอย แตเทียบกับผลตาขายเขียวแลวกลับหางชั้นเปนอยางมาก ผูแซอวี๋เองก็ไมได
ทำให นายท า นเสี ย เปรี ย บอะไร ข า จะชดเชยเป น ศิ ล าวิ ญ ญาณระดั บ สุ ด ยอดอี ก
สองสามกอนเปนอยางไร” หลังจากที่บุรุษกวาดสายตาไปที่ใบหนายินดีของหานลี่
ก็รูสึกผอนคลายลง แลวเอยดวยรอยยิ้ม
จากนั้นเขาพลันสะบัดแขนเสื้อ ถุงหนังสีเขียวใบหนึ่งบินออกมา
หานลี่พลันเลิกคิ้ว ไมไดรับไปในทันใด แตแผนหลังพลันมีลำแสงสีเทาหมุนวน
ชั่วขณะนั้นพลันกวาดถุงใบนั้นเขาไปในลำแสงเทวะดูดปราณ
ถุงหนังหมุนควางอยูทามกลางลำแสงสีเทาไมอาจรอนลงมาดานลางได
“ในเมื่อทานอาวุโสกลาวเชนนี้ ผูแซหานก็ไมเกรงใจแลว” ชั่วพริบตาจิตสัมผัสก็
สัมผัสไดถึงของที่อยูในถุงหนัง หานลี่พลันยิ้มนอยๆ ออกมา
เสียง “สวบ” ดังขึ้น ถุงหนังหายวับไปจากกลางอากาศ จากนั้นก็เก็บเมล็ดใน
กลองเขาไปดวยสีหนาราบเรียบ
เมื่อเห็นความสามารถที่แปลกประหลาดของหานลี่ เจาของรานพลันหนาเปลี่ยนสี
ไปเล็กนอย แตทันดในั้นก็เอยซักถามดวยรอยยิ้มที่ประดับขึ้นบนใบหนาวา
“พี่หานมีความสามารถไมธรรมดาจริงๆ ไมทราบวาพี่หานคิดจะ…”
“ในเมื่อขาไดของที่ตองการแลว จากนี้ก็จะไมซักถามอะไรแค แตหากเปนไปไดละก็
สองคนนี ้ ใ ห ข  า จั ด การก็ แ ล ว กั น ถึ ง อย า งไรเสี ย เขาสองคนก็ ม าที ่ น ี ่ พ ร อมกั บ ข า
หากหายไป ขานอยก็รายงานกับชาววิหคสวรรคคนอื่นๆ ไดยาก และหลังจากเรื่องนี้
จบแลว ทานอาวุโสก็คงจะไมอยูในเมืองศักดิ์สิทธิ์แลวสินะ” หานลี่เอยอยางราบเรียบ
“มอบใหเจา ก็ไมใชวาจะเปนไปไมได ทวาเจาสองคนนี้นิสัยไมคอยดีนัก ครั้งนี้
ไมไดของที่ยากได กลับเสียเปรียบอีก เกรงวาคงไมอาจปลอบขวัญได ไมสูกำจัด
พวกเขาไปเลยจะดีกวาหรือ” เจาของรานไมไดรูสึกประหลาดใจกับคำพูดของหานลี่
แตหัวเราะดวยเสียงต่ำๆ ออกมาแทน
“แมวาขานอยจะอยากทำเชนนั้น แตก็มีธุระอยูกับตัว จำตองอยูในเผาวิหคสวรรค
อีกสักระยะหนึ่ง สวนจะปลอบพวกเขาอยางไรนั้น ขานอยมีวิธี” หานลี่กลับเอย
อยางคลุมเครือออกมา
“ในเมื่อพี่หานกลาวเชนนี้ สองคนนี้ก็ใหเจาจัดการก็แลวกัน” เจาของรานไมได
เอยอะไรมาก คาดไมถึงวาจะเห็นดวยจริงๆ
แทบจะในเวลาเดียวกัน รอบกายของอสูรอัสนีตัวนั้นพลันเปลงแสงสี่สีออกมา
ชั่วครูก็หายไปจากแผนหลังของหานลี่
ครูตอมามันก็มาปรากฎตัวดานหลังเจาของรานทามกลางเสียงฟารอง
“ดูแลวทานอาวุโสคงไมไดคิดจะสยบอสูรตนนี้ตั้งแตแรก แตคิดจะใชอสูรอัสนีตนนี้
สรางรางแยกสินะ” หานลี่มองอสูรอัสนี ฉับพลันนั้นก็เอยถามดวยแววตาที่เปลง
ประกาย
“พี่หานดูออก” เจาของรานหัวเราะฮาๆ ออกมา น้ำเสียงคลุมเครือเปนอยางมาก
หานลี่หยักมุมปากขึ้นตอนที่คิดจะเอยถามอะไรอีกนั้น ฉับพลันนั้นกลางอากาศก็
มีเสียงหึ่งๆ ดังขึ้น เมฆสีดำที่แตเดิมถูกเจาของรานสำแดงความสามารถเรียกออกมา
พลั นถู ก วายุ พ ั ด จนสลายหายไป ท องฟ า ทั ้ ง หมดเปล ง แสงสี เ หลื องอ อ นออกมา
แลวเปลงเสียงรองประหลาดๆ ออกมาในเวลาเดียวกัน
บางจุดกลางอากาศ เริ่มแมกระทั่งบิดเบี้ยวไปเล็กนอย
รูมานตาของหานลี่พลันหดเล็กลง
“พลังปราณฟาดินของเขาพระสุเมรุถูกขาดึงออกมาจนหมดแลว อีกไมนานก็จะ
พังทลายลง พวกเรารีบออกไปกันเถิด” บุรุษรางกายผายผอมมองไปรอบๆ แลวพลัน
ขมวดคิ้ว
“อืม ตองเรียนเชิญทานอาวุโสอวี๋ใหเปดทางแลว” หานลี่เอยปากตอบรับ
“หึๆ พูดดี!” เจาของรานกวาดสายตาไปที่ภาพหงสสวรรคหาสีบนแผนหลังของหานลี่
แลวเอยขึ้นอยางประชด
ทันใดนั้นเขาพลันบริกรรมคาถา ตะปบไปกลางอากาศ
ลำแสงห า สีเ ปลง แสงสว างวาบ ม ว นภาพที ่ เ ดิ มสลายหายไปพลั น ปรากฎขึ้น
ทามกลางลำแสง
มวนภาพนั้นคลี่ออก พนเสาลำแสงสายหนึ่งออกมา
เบื้องหนาทั้งสองคนมีประตูลำแสงความสูงสองสามจั้งปรากฎขึ้น
ดานในเต็มไปดวยลำแสงสีขาว สูงเสียดขึ้นไปยังวิมานสวรรค
หานลี่หนาเปลี่ยนสีหัวไหลพลิ้วไหว ชั่วขณะนั้นที่แผนหลังพลันมีลำแสงสีเทา
สองกลุมบินออกมา มวนเอาชายรางใหญและชายหนุมที่กำลังหลับใหลไมไดสติขึ้นมา
แลวดูดเขามาที่ดานหลัง
วิญญาณครวญที่อยูที่แผนหลังเองก็หดกายเล็กลง ชั่วพริบตาก็กลายเปนวานรสีดำ
ขนาดเทาคน หลังจากเปลงแสงสวางวาบ ก็ตามมาทีดานหลังของหานลี่
“พี่หาน พวกเราไปกันเถิด” ชั่วพริบตาที่หานลี่ดึงชายรางใหญและชายหนุมเขามา
เจาของรานก็มีดวงตาประหลาดใจฉายแววผาน แตสุดทายก็ไมไดทำอะไร แค
รองเรียกคำนึงเทานั้น
ทั้งสองคนเปลงแสงสวางวาบ เดินเขาไปในประตูลำแสงตามลำดับ
เบื้องหนาของหานลี่เปลงประกาย ดานนอกคือ ที่พักของบุรุษรางกายผายผอม
ทุกอยางเงียบสงบมาก และไมมีสิ่งผิดปกติใดๆ
กำแพงที่ดานหลังของทั้งสอง ยังคงเปนภาพแขวนของเขาพระสุเมรุ
หานลี่ถึงไดรูสึกผอนคลายลง
ถึงแมวาจะลง แตจากความสามารถของเขาก็ไมจำเปนตองกวาดกลัวคนผูนี้
แตอีกฝายเองก็ไมใชผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสูญธรรมดาๆ มีเคล็ดวิชาลับอยูกบั ตัว
เขาจึงไมอยากสูกันใหตายไปขางกับอีกฝาย
เสียง “กึกๆ” ดังขึ้น ภาพโบราณบนกำแพงสั่นเทา กลายเปนผุยผงอยางเงียบ
เชียบแลวหายวับไป
หานลี่พลันตกใจ ใบหนาเหยเกเล็กนอย
บุรุษรางกายผายผอมที่อยูดานขางเห็นฉากนี้ก็เผยสีหนาเจ็บปวดออกมา
เห็นไดชัดวารูสึกเสียดายสมบัติเขาพระสุเมรุที่พังทลายลงเปนอยางมาก
“ดูจากทาทางของพี่หานแลว คงจะไมใชผูที่ยากหาเรื่องใสตัว สองคนนี้มอบให
นายทานจัดการก็แลวกัน ผูแซอวี๋ยังมีบาดแผลอยู คงไมสงแลว” เมื่อกลับมาถึงที่พัก
เจาของรานก็เอยคำพูดสงแขกออกมาในทันที
หานลี่ไมไดมีเจตนาจะรั้งรออยูที่นี่อีก จึงคารวะนอยๆ สะบัดแขนเสื้อ เก็บ
อสูรวิญญาณครวญแลวพลิ้วกายเดินออกไปจากประตูใหญ
ดานหลังของเขาลำแสงสีเทาสองกลุมที่หอหุมชายหนาหวานและชายรางใหญ
สวมชุดเกราะสีดำลอยตามเขามาติดๆ
มองจากไกลๆ ก็ดูเหมือนวาทั้งสองคนกำลังบินตามหานลี่มาเองอยางไรอยางนั้น
ชายชรารอจนรางของหานลี่หายจากประตูใหญแลว รอยยิ้มบนใบหนาพลั น
หมนหมองลง
ครานี้ผูใตบังคับบัญชาสองคนที่รักษาการณอยูที่ประตูพลันเดินเขามา แลวยืนอยู
ดานขางอยางนอบนอม
“ทานปรมาจารยจะปลอยสามคนนั้นไปจริงๆ หรือ จะไมเกิดปญหาอะไรใชไหม
ขอรับ” คนหนึ่งเอยถามอยางระมัดระวัง
“หึ จะเกิดปญหาอะไรได? ตอใหอีกเดี๋ยวเขาไปตามคนมา พวกเราก็ไมอยูที่นี่แลว
เก็บของซะ ใชเขตอาคมสงตัวใตดิน พวกเราจะออกไปจากเมืองศักดิ์สิทธิ์ทันที ไมอาจ
อยู  ท ี ่ เ ผ า วิ ห คสวรรค ต  อไปได แ ล ว มี เ พี ย งต องไปเผ า เบญจลำแสง ข า เตรี ย มอี ก
ฐานะหนึ ่ ง ไว ท ี ่ เ ผ า เบญจลำแสงตั ้ ง นานแล ว ผู  ใ ดก็ ไ ม ม ี ท างหาพวกเราพบอี ก ”
เจาของรานออกคำสั่งดวยความเย็นชา
“ขอรั บ ท า นปรมาจารย !” ชาววิ ห คสวรรค ทั ้ง สองไม สงสั ยในคำสั่ ง ของบุรุษ
รางกายผายผอมเลยสักนิด ทันใดนั้นก็ตอบกลับอยางนอบนอม
ครานั้นทั้งสองคนจึงเขาไปที่หองอื่นๆ ที่อยูดานขางอยางรวดเร็ว
บุรุษรางกายผายผอมยืนอยูที่เดิม มองไปยังประตูใบหนาโหดเหี้ยมฉายแวบผานไป
“หากไมไดคิดถึงแผนการใหญ คงไมเสี่ยงอันตรายเชนนี้ จากนิสัยแตกอนของตาเฒา
ไมวาอยางไรก็ไมมีทางเก็บพวกเจาไวแน” เขาเอยพึมพำกับตัวเอง ควักขวดยาออกมา
จากอกเสื้อ กินยาลูกกลอนสีเขียมรกตลงไปสองเม็ด ทันใดนั้นมือหนึ่งก็ลูบไปบน
ใบหนา ในเวลาเดียวกันใบหนาพลันเปลงแสงเจิดจาสีขาวออกมา
หลังจากลำแสงสีขาวหมนแสงลง ที่เดิมก็มีชายวัยกลางคนรางกายผอมสูงสงา
ปรากฎขึ้น
คนผูนี้ไมวาใบหนาหรือวาทาทางก็ไมเหมือนกอนหนาเลยสักนิด ราวกับคนละคน
ก็ไมปาน
เขาสาวเทาไปที่มุมของหองโถง
มือหนึ่งตบไปที่กำแพง ทางเดินทอดยาวลงไปดานลางสายหนึ่งปรากฎขึ้น
ชายวัยกลางคนพลันเดินลงไป
……
ในเวลาเดียวกันหลังจากที่หานลี่พาชายรางใหญและชายหนุมมาใกลๆ กับสิ่งปลูก
สรางแหงหนึ่งแลว ก็กวาดสายตาไป รกรางใชได ไมมีผูคนสัญจรไปมา
แตทันใดนั้นเขาก็เก็บลำแสงเทวะดูดปราณ ทั้งสามคนตกลงบนพื้นอยางไมรูตัวทันที
พิจารณาทั้งสองคน หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งอยางจนปญญา“นับวา
พวกเจาดวงดี หากไมใชเพราะกลัววาจะเกี่ยวโยงมาถึงขา ขาก็ขี้เกียจจะวุนวาย”
เขาพูดไปพลาง มือหนึ่งพลันพลิกฝามือ ในมือมีเข็มสีเงินยี่สิบสามสิบเลมปรากฎขึ้น
เสียงแหวกอากาศดังขึ้น เสนไหมสีเงินยี่สิบสามสิบเลมเปลงแสงสวางวาบแลว
จมหายเขาไปในรางของทั้งสองคน
ตอนที่ 1431 บุตรชายวิหคสวรรค
ไมรูวาผานไปนานเทาไหร หลังจากที่ชายหนุมหนาหวานรูสึกปวดหัวจนจะระเบิดแลว
ก็ไดสติตื่นขึ้นมา
หลังจากที่เขาลืมตาทั้งสองขางขึ้น ก็กระโดดขึ้นมาดวยความระวังภัย สองฝงมี
ชายรางใหญสวมชุดเกราะสีดำและหานลี่ที่ดูเหมือนเพิ่งไดสติเชนกัน
“เกิดอะไรขึ้น! ขานึกออกแลว คิดไมถึงวาสุดทายเจาโจรอวี๋จะไมใหสมบัติกับพวกเรา
กลับใชไขมุกดูดอัสนีลอบทำรายพวกเรา” ทันใดนั้นชายหนุมที่นึกถึงเรื่องกอนที่
จะหมดสติขึ้นได ก็อดที่จะตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวขึ้นมาไมได
สวนชายรางใหญนั้นหลังจากที่สั่นศีรษะแลวยังมีความมึนงงอยูเล็กนอยนั้นพลัน
นั่งสมาธิ ใชจิตสัมผัสตรวจสอบสถานการณภายในทันที
ชั่วครูเขาถึงไดถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“ยังดีที่ถูกทำรายปราณแทไปแคเล็กนอย ไมไดรับบาดเจ็บอะไรนัก”
หานลี่กลับกมหนาลงต่ำไมไดเอยอะไรออกมา แตแววตากลับเปลงประกายไมหยุด
ดูเหมือนวาจะกำลังขบคิดถึงเรื่องกอนหนานี้อยู
“ทั้งสองรูหรือไมวาตอมาเกิดอะไรขึ้น?” ชายหนุมหนาหวานกวาดสายตาไปที่
หานลี่และชายรางใหญแลวก็เอยถามขึ้น
“ไมแนใจ ขาถูกอัสนีหาสีเขามาประชิดตัว แลวจิตวิญญาณก็สั่นคลอนสลบไปทันที”
ชายรางใหญหัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“พี่หาน จำไดวาตอนนั้นดูเหมือนวาเจาจะพบวาเจาโจรอวี๋นั้นเลนแง และไมไดรับ
ไขมุกดูดอัสนีเม็ดนั้น” ฉับพลันนั้นชายหนุมก็เอยถามหานลี่
“ขานอยเปนแคแมทัพวิญญาณคนหนึ่งจะรอดพนไดอยางไร! แมวาขาจะหลบ
อั ส นี เบญจสวรรคไ ด แต จ ากนั ้ นกลับ ถู กอสูรอั สนี ตั ว นั้ น ใช พลั ง อัส นีลอบทำราย
และเปนลมไปเหมือนกับทานทั้งสอง” หานลี่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งขณะเอย
“ถูกอสูรอัสนีลอบทำราย? ก็ใชอสูรตัวนั้นถูกเจาโจรอวี๋ใชแกนผลึกฝงลงไปในราง
จึงถูกเขาควบคุมกายเนื้อของอสูรอัสนีไดชั่วคราว” เมื่อไดยินคำนี้ชายหนุมหนาหวาน
กลับเชื่อไปสองสามสวน
“แปลกจริง ในเมื่อเจาโจรนั้นกลับคำ เหตุใดพวกเราถึงปลอดภัย” ชายรางใหญ
สวมชุดเกราะสีดำกลับเริ่มขบคิดถึงเรื่องประหลาดนี้ขึ้นมา
“นี ่ ม ั นแปลกตรงไหน! กว า ครึ ่ ง เจ า โจรนั ้ น คงเห็ น ว า ทำการใหญ ส ำเร็ จ แล ว
จึ ง เสี ย ดายไม อ ยากมอบของให พ วกเรา ตอนนั ้ น ข า รู  ส ึ ก แปลกๆ แต ก ำราบ
อสูรวิญญาณตัวหนึ่ง คาดไมถึงวาตองใชของที่ล้ำคาขนาดนี้มาแลกเปลี่ยน ดูแลวเขา
คงคิดจะโกงตั้งแตแรกแลว ทั้งที่รานหมื่นอัสนีของคนผูนี้นับวามีชื่อเสียงโดงดังใน
เมืองศักดิ์สิทธิ์แทๆ” ชายหนุมหนาหวานกลับกนดาพรอมกับหนาที่เปลี่ยนสี
“หากแค เ สี ย ดายของล ะก็ ก็ ไ ม จ ำเป น ต องฆา พวกเราจริ ง ๆ ทว า ช ว งเวลาที่
พวกเราหลับไป คนผูนี้คงหนีไปไกลแลวกระมัง” หานลี่พยักหนาขณะเอย
เมื่อไดฟงคำพูดของหานลี่ ชายรางใหญก็มีสีหนาขบคิด เห็นไดชัดวายอมรับ
ความคิดนี้ได
“ไมอาจปลอยใหเจาโจรนั่นหนีไปได ตอนนี้ตองไปที่ที่พักของมัน ตอใหมันหนีไปแลว
ก็อาจจะมีเบาะแสอะไรก็เปนได” ชายหนุมแววตาเปลงประกายเย็นเยียบ เอยอยาง
ไมยินยอม
ชายรางใหญสวมชุดเกราะสีดำลังเลเล็กนอย แลวก็เห็นดวย หานลี่กลับมีแววตา
เปลงประกาย แลวพลันสั่นศีรษะ
“ขานอยมีพลังยุทธต่ำตอย ครั้งนี้รอดชีวิตมาไดก็นับวาโชคดีแลว ไมอยากฝนฝอย
หาตะเข็บอีก ขาขอตัวลาจากอาวุโสทั้งสองกอนขอรับ”
เมื่อไดยินคำพูดของหานลี่ ชายรางใหญและชายหนุมพลันตกตะลึง อดที่จะมอง
สบตากันแวบหนึง่ ไมได
“พี่หาน เจาโจรอวี๋หลอกลวงพวกเราขนาดนี้ เจาทนไหวจริงๆ หรือ ขาวาพี่หาน
มีความสามารถดานอัสนีไมเลว นาจะมีประวัติความเปนมายิ่งใหญสินะ ตอใหเจาโจร
นั้นมีพลังยุทธเหนือกวาพวกเรา แตกอนหนานี้ไดกระชากจิตวิญญาณบริสุทธิ์ข อง
อสูรอัสนีออกมา ก็คงเสียปราณแทไปเยอะ หากพวกเรารวมมือกัน ก็ไมตองหวาดกลัว
เขาแลว หากไมไหวจริงๆ พวกเราสามคนก็ไปรายงานเหลาอาวุโส แมวาเขาจะมี
พลังยุทธแตจะกลาตอกรกับเหลาอาวุโสหรือ?” ชายหนุมกัดฟนกรอกขณะเอยชักจูง
“อาวุโสในเผา ไมจำเปนตองรบกวนพวกเขาหรอก เรื่องนี้พวกเราจัดการกันเองได”
ชายรางใหญสวมชุดเกราะสีดำหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย ขณะเอย
“ชางเถิด ขานอยยังมีธุระอื่นในเมืองศักดิ์สิทธิ์ ครั้งนี้ที่มาปรากฎตัวที่นี่เพียง
เพราะผานทางมาเทานั้น ในเมื่อเรื่องมันเปลี่ยนแปลงไปแลว ก็ไมอยากเสียเวลาอีก
ทานอาวุโสทั้งสอง ชนรุนหลังขอตัวกอน” หานลี่สั่นศีรษะอยางราบเรียบ หลังจาก
คารวะทั้งสองคนแลว ปกที่แผนหลังก็สยายออก คนก็พวยพุงขึ้นไปกลางอากาศ
กลายเปนลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งพุงออกไป
“ไมรูจักแยกแยะผิดถูก ขอแคหาเจาโจรอวี๋นั่นพบ พวกเราสองคนรวมมื อกัน
ก็เพียงพอแลว” ชายหนุมหนาหวานมองไปยังลำแสงหลีกหนีของหานลี่ที่อยูไกล
ออกไป แลวหันหนามาเอยกับชายรางใหญ
“หึๆ แคแมทัพวิญญาณเหาะเหินคนหนึ่ง มีเขาเพิ่มขึ้นมาก็ไมมีคาอะไร ตอให
ขาดเขาไปก็ไมมีคาอยูดี แตคาดไมถึงวาเจาโจรอวี๋จะกลาฉีกสัญญาเชนนี้ เกรงวาคงมี
อะไรซอนอยูอีกแน โอกาสของพวกเราคงมีไมมากนัก” ชายรางใหญสวมชุดเกราะสีดำ
กลับรูสึกกังวลเล็กๆ ขึ้นมา
“ไม ไ ปหาด ว ยตั ว เองสั ก รอบ จะรู  ไ ด อย างไรวา ไมม ี อาจจั บ เจา โจรผู นั ้ นได”
ชายหนุมหนาหวานกลับสั่นนศีรษะระรัว
“คำนี้ ก็มีเหตุผล พวกเราไปกันเถิด” ชายรางใหญสวมชุดเกราะแคนเสียงหึๆ
สองสามครั้งขณะเอย
ทันใดนั้นทั้งสองคนก็ไมสนใจหานลี่ที่หายไป พลันตรงไปยังที่พักของเจาของราน
ครานี ้ ห านลี ่ก ลั บกลับมายัง เรือนรั บ แขกอยา งทระนงองอาจ ท า ทางเหมือน
ลืมเรื่องนี้ไปในชั่วพริบตา
เวลาที่เหลือหานลี่ก็นั่งสมาธิอยูภายในเรือนรับรองโดยไมยอมออกมา กิน
ยาลูกกลอนเขาไปไมหยุด และทำใหระดับเทพแปลงขั้นปลายของตนเองมั่นคง ใน
เวลาเดียวกันเขาก็เรียนรูคาถาตื่นจากจำศีลอยาง ‘การแปลงกายเปนวิหคสวรรค’
อยางหนัก
กอนการทดสอบหนึ่ งวั นก็สามารถเรีย นรู ว ิธ ี การแปลงกลายได อยา งถ องแท
นับวานำไปใชในสนามรบไดจริง
เวลาคอยๆ ผานไป ชั่วพริบตาเวลาสองเดือนก็มาถึง
“ขานอยไปป ไดรับคำสั่งจากทานมหาอาวุโสใหมารับทานอาวุโสไปตามที่นัดขอรับ”
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลงเล็กนอย ทันใดนั้นก็ฟนฟูสีหนากลับมาเปนดังเดิม
รางกายพลิ้วไหว เขาลงจากเตียงราวกับภูตผี
ตั ้ ง แต ท ี ่ ฝ  ก ฝน ‘เคล็ ด วิ ช าการแปลงกายเป น วิ ห ค’ จากคาถาตื ่ น จากจำศี ล
เขาก็รูสึกวารางกายเบายิ่งกวาเดิม วรยุทธเพิ่มกวาเดิมอีกขั้นหนึ่ง
ผลักประตูหองออกไป หานลี่เดินออกจากหองนอน ตรงไปยังหองรับแขก
เมื่อเขามาปรากฎตัวในหองรับแขก ที่นั่นก็มีชายหนุมสวมชุดสีเหลืองคนหนึ่ง
กำลังยืนเอาสองมือไพลหลังกันอยูในหอง
ชายหนุมผูนี้ดูแลวไมคอยหลอเหลานัก แตหนาตาสกลับดใส เมื่อเห็นหานลี่ออกมา ก็
เขามาถามอยางออนโยน
“ทานอาวุโสหานสินะขอรับ ขานอยไดรับคำสั่งจากทานมหาอาวุโส ใหมาเชิญ
พี่หานไป” แมวาชายหนุมจะมีพลังยุทธอยูแคระดับเทพแปลงขั้นตน แตการกระทำ
สงางาม พูดแคไมกี่คำคาดไมถึงวาใหความรูสึกเหมือนสายลมชวนหลงใหล
“ไปป? ดูจากหนาตาของนายทานไมธรรมดา คงเปนหนึ่งในสองบุตรชายสินะ”
หานลี่พิจารณาชายหนุมแวบหนึ่ง ฉับพลันนั้นก็ฉีกยิ้มนอยๆ ออกมา
“ชนรุนหลังนาอับอายนัก ขานอยคือ บุตรชายในเผาที่รูสึกละอายใจกับการไดรับ
ความรักใครเอ็นดูจากเหลาอาวุโสในเผานัก เรื่องของพี่หานนั้น ความจริงแลวขานอย
ไดยินมาจากอาวุดสทั้งสองทานตั้งนานแลว ขานอยตองขอบคุณบุญคุณของพี่หาน
ดวย มิเชนนั้นขานอยไปจนถึงทานอาวุโสเลือดเนื้อขาคงมีอันตรายถึงชีวิต” ไปป
คารวะพรอมยิ้มนอยๆ ขณะเอย
“อาวุโสนอง? เจาหมายถึง…” หานลี่เผยสีหนาประหลาดใจออกมา
“ทานลุงไปเสวี่ย นองไปอี๋” ชายหนุมฉีกยิ้มขณะเอย
“เจาคือหลานชายของพี่ไปเสวี่ย” หลังจากที่หานลี่กวาดสายตาไปที่ปกสีทอง
เรืองรองที่แผนหลังของชายหนุมก็เผยสีหนาประหลาดใจออกมา
“ทานอาวุโสหานไมตองแปลกใจหรอก ชนรุนหลังเพิ่งจะกระตุนโลหิตศักดิ์สิทธิ์
เที่ยงแทวิหคมัจฉาในรางหลังจากโตเต็มวัย ปกถึงไดเปลี่ยนเปนเชนนี้” ดูเหมือนจะ
มองความฉงนสงสัยของหานลี่ออก ไปปจึงอธิบายพรอมกลั้วหัวเราะ
“เชนนี้นี่เอง ดูแลวนายทานคงโชคดีไมนอย” หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา
ทันใดนั้นเขาก็ออกจากหองพักพรอมกับบุตรชายของเผาวิหคสวรรค
หลั ง จากผ านไปสองสามชั ่ ว ยาม หานลี ่ ก ็ ม าปรากฎตัว ในวิห ารโบราณขนาด
มโหฬารที่สรางขึ้นจากศิลาสีขาว ในวิหารดูยิ่งใหญและสงบเงียบ ตรงกลางมีโตะหิน
สีขาวที่ดูเหมือนโตะบูชาวางอยูตัวหนึ่ง สองฝงมีเกาอี้สีขาวหาตัววางเรียงรายอยู
ในวิ ห ารในครานี้ นอกจากจิ นเยว  แ ล ว ชายชราแซซ วี แ ละหญิ ง งามก็ อยูดวย
บนเกาอี้หินมีบุรุษรางกายผายผอมสวมชุดคลุมสีดำเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง
รอบกายของบุรุษผูนี้แผไอสีดำจางๆ ออกมา ใบหนาถูกปกคลุมเอาไวจนมองได
ไมชัดเจน แตแผนหลังของเขามีปกสีดำเปลงประกาย คาดไมถึงวาจะเปนสีดำคูหนึ่ง
บนโตะหินมีกลองสีแดงสดราวกับเพลิงวางอยู ดานบนมีใบไมโบราณสีเขียวมรกต
สองสามแผนแปะตัดสลับกันอยู ลำแสงสีเขียวที่แผออกมาไมเหมือนกับสีของกลองไม
เลยสักนิด
หานลี่ยืนอยูตรงหนาทั้งสี่คนตั้งนานแลว ไปปเองก็มาอยูดานขาง
บรรยากาศในวิหารตึงเครียดมาก แตทุกคนก็เงียบขรึม เหมือนวากำลังใครสักคนอยู
หลั ง จากผ า นไปอี ก ชั ่ ว ครู  ฉั บ พลั น นั ้ น ด า นนอกประตู ก ็ ม ี เ สี ย งฝ เ ท า ดั ง ขึ้ น
สตรีสวมชุดสีเงินมีปกที่แผนหลังคนหนึ่งเดินเขามาในวิหารพรอมกับสายลม
สตรีผูนี้มีใบหนาขาวนวลราวกับหยกตัด แววตาสดใสดุจสายธาร บนรางมีไมมีฝุนเลย
สักนิด
“เหลยหลัน ดูเหมือนวาเจาจะมาสายนะ” จินเยวมองสตรีผูนั้น แลวขมวดคิ้ว
ขณะเอยถาม
“รายงานทานมหาอาวุโส ขาเรียนรูคาถาไดในเฮือกสุดทาย จูๆ ก็เขาใจทั้งหมดได
ถึงไดเสียเวลาหนอย หวังวาเหลาอาวุโสจะไมถือสาเจาคะ” สตรีผูนี้คอมตัวลงใหกับจิน
เยวและพวก ปากก็เปลงเสียงที่คอนขางแหบพราออกมา
“ในเมื่อเรียนรูคาถาไดแลว ก็ชางมันเถิด” จินเยวไดยินคำพูดของสตรีผูนี้ ก็มีสี
หนาผอนคลายลง
สตรีผูนี้เอยคำขอบคุณ และไปยืนอยูดานขาง
“จุ ด ประสงค ที ่ ข า เรี ย กพวกเจา มารวมตัว กั น พวกเจ า ก็ น  า จะรู ก ั น แล วสินะ
การทดสอบที่หุบเหวลึกในครั้งนี้เกี่ยวของกับความเปนตายของเผาเรา ดังนั้นไมวา จะ
อยางไรก็ตาม เจาสองคนจะตองผา นการทดสอบให ไดค นหนึ่ ง สืบทอดตำแหน ง
ประมุ ข ของเผ า เรา แต พ วกเราได ข  า วมาว า เผ า แดงสดที ่ เ ป น ศั ต รู ค ู  แ ค น กั บ
เผาวิหคสวรรคของพวกเรานั้น กลับไมหวังจะปลอยเผาของเราไป กวาครึ่งคงสงคน
เขารวมการทดสอบเพื่อลงมือรอบทำรายพวกเจาเชนกัน ระยะเวลาที่พวกเจาสองคน
เปนบุตรชายของเผานั้นสั้นไปหนอย หากมีบุตรชายของเผาอื่นมาขัดขวาง การ
ทดสอบครั้งนี้คงมีแตตองไปแลวไปลับเทานั้น ดวยเหตุนี้ ขาจึงเชิญใหสหายหานมาเขา
รวมเผาวิหคสวรรคของพวกเรา เปนบุตรชายคนที่สามของเผาเราชั่วคราว ถึงครา
นั้นจะไดชวยพวกเจาอีกแรง” หญิงสาวจองเขม็งไปยังหานลี่และพวกทั้งสามคนขณะ
เอย น้ำเสียงไพเราะดังสะทอนไปมาอยูในวิหาร
ไปปและสตรีที่เพิ่งเขามาในวิหารฟงมาจนถึงตรงนี้ ก็มองไปที่หานลี่แวบหนึ่ง
ชายหนุมมีแววตาออนโยนและเปนมิตร แตสตรีชุดสีเงินกลับมีแววตาสดใสดุจ
สายธาร
หานลี่พลันหัวเราะนอยๆ ออกมา!
ตอนที่ 1432 เผาวิญญาณเหาะเหิน
“สหายหานหลอมขนของวิหคมัจฉาเขาไปเสนหนึ่งดวยตัวเอง ประกอบกับที่
พวกเราชวยเขาผสมโลหิตเที่ยงแทวิหคมัจฉาและพระสารีริกธาตุเขาไป หากบอกวา
เขาเปนวิหคสวรรคอยางพวกเรา เผาอื่นก็ไมอาจพูดอะไรได แตอยาใหเรื่องมากเลย
เรื่องที่เกี่ยวกับสหายหาน พวกเจาสองคนอยาเอาไปแพรงพรายจะดีกวา แคบอกวา
เขาเปนคนของเผาที่ถูกสงออกไปฝกฝนที่ภายนอกก็พอแลว” หญิงสาวเอยกำชับ
“นอมรับคำสั่ง” ครั้งนี้บุรุษและสตรีผูนั้นกมหนาลงตอบรับพรอมกัน
หญิงสาวพยักหนาดวยความพึงพอใจ แลวเอยกับหานลี่อยางเครงขรึมวา
“สหายหาน ขาไดอัญเชิญมวนคำสาบานของวิหคสวรรคออกมาจากหองลับแลว
และยิ่งไปกวานั้นอาวุโสสือก็กลับมาพอดี จึงไดเขารวมการคลายผนึกของมวนคัมภีร
และเตรียมสลักชื่อเจาลงไปในมวนคัมภีร”
ที่เรียกวา ‘ทานอาวุโสสือ’ แนนอนวาก็คือ บุรุษสวมชุดสีดำที่อยูดานขางผูนั้น
“รบกวนเหลาสหายแลว” หานลี่ไมไดเกรงใจ ปากก็เอยตอบรับ สายตาตกไปที่
กลองไมบนโตะ
เมื่อเห็นทาทีของหานลี่ จินเยวก็ใชมือหนึ่งกวักไปที่กลองไม
เสียง “สวบ” ดังขึ้น ของสิ่งนี้ถูกดูดเขาไป ตกลงตรงใจกลางฝามือของหญิงสาว
ครานี้ไมใชแคหานลี่ สายตาของคนที่เหลือก็รวมตัวกันอยูที่นั่น
จินเยวมีสีหนาไมเปลี่ยนแปลง นิ้วเรียวสองสามนิ้วลูบไปบนใบไมสีเขียวมรกต
สองสามใบนั้น
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเ ขีย วพลั นเปลง ประกายเจิดจา ใบไมเหลานั้นถูก นางดึ ง
ออกมาอยางคลองแคลว
เสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้น ไมมีแรงกดจากใบไมสองสามใบนั้น กลองไมสีแดงสดก็มี
ไฟลุกโชน กลายเปนลูกบอลเพลิงสีแดงสดกลุมหนึ่ง
จินเยวใชมือหนึ่งถือเพลิงลูกนั้นเอาไว สะบัดออกราวกับไมมีอะไรเกิดขึ้น
ลำแสงสีเพลิงหมนแสงลง เผยมวนคัมภีรสีแดงสดความยาวครึ่งฉื่อออกมา สองดาน
ของมวนคัมภีรมีหัวผีสีแดงอยูทั้งสองฝง ดูสมจริงราวกับมีชีวิตอยางไรอยางนั้น
ปากพลันบริกรรมคาถา โยนมวนคัมภีรขึ้นไปเบื้องหนา ชั่วขณะนั้นพลันลอยนิ่ง
อยูกลางอากาศต่ำๆ
จากนั้นปกที่แผนหลังของหญิงสาวก็สะบัด ขนนกเสนหนึ่งกลายเปนลำแสงสีทอง
สายหนึ่งพุงออกมา เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปในมวนคัมภีร
“อาวุโสสือ พวกเจาก็ลงมือคลายผนึกเถิด” หญิงสาวสำแดงความสามารถจบ
ก็หันหนาไปเอยกับบุรุษชุดดำ
“เรื่องนี้เกี่ยวของกับความเปนตายของเผาเรา พวกเราจะพยายามอยางเต็มที่”
บุรุษชุดดำฉีกยิ้มนอยๆ ขณะเอย ปกสีดำที่แผนหลังมีลำแสงสีดำสายหนึ่งพุงออกมา
เชนกัน และดูดขนนกสีดำเขาไปในมวนคัมภีร
สวนชายชราแซซวีและหญิงงามนั้นก็ไมรอใหหญิงสาวเอยปากพูดอะไร ก็กระทำ
เชนเดียวกัน ชั่วครูในที่สุดมวนคัมภีรที่ดูดขนนกของอาวุโสเผาวิหคสวรรคทั้งสี่คน
เขาไป ก็เริ่มเปลี่ยนแปลง
ลำแสงสี แ ดงเปล ง ประกายระยิ บ ระยั บ มั น ขยายใหญ ข ึ ้ น หลายเท า ในเวลา
เดียวกันหัวผีทั้งสองฝงที่หลับตาสนิทอยูก็ลืมตาขึ้น เผยดวงตาสีแดงสดราวกับโลหิต
ออกมา อาปากทั้งสองออก ในที่สุดมวนคัมภีรที่ปดผนึกอยูก็คลี่ออก
ในคัมภีรมีลำแสงสีแดงสวางวาบ และมีสัญลักษณขนาดนอยใหญจำนวนนับไมถวน
ปรากฎขึ้นพลางหมุนวนติ้วๆ ไมหยุด
แววตาของหานลี่มีลำแสงสีฟาสวางวาบ เห็นเนื้อหาในคัมภีรอยางชัดเจน
ในลำแสงสีแดงมีตัวอักษรตัวเล็กๆ อยูเต็มไปหมด กวาครึ่งลวนเปนชื่อคน
ตรงยอดของคัมภีร ใชตัวอักษรของเผาวิญญาณเหาะเหินเขียนคำวา ‘คำสาบาน
ของวิหคสวรรค’ เอาไว
จากนั้นก็มีตัวอักษรสีเงินออนที่เปนเนื้อหาของคำสาบานเรียงรายอยู เนื้อหา
เหมือนกับในคัมภีรเผาวิหคสวรรคอยางไรอยางนั้น
ต่ำลงมาถึงจะเปนชื่อของคนสีดำเขียวเปนแถวๆ
หานลี่กวาดจิตสัมผัสเขาไปในมวนคัมภีรอยางระมัดระวัง
ผลคือเมื่อสัมผัสกับลำแสงสีแดง ฉับพลันนั้นก็มีเสียงเพรียกอันไพเราะดังออกมา
จากในมวนคัมภีร ทันใดนั้นลำแสงก็หมุนติ้วๆ เงาวิหคสีเขียวตัวหนึ่งบินออกมาจาก
ในคัมภีร เมื่อบินออกมาก็มีขนาดแคสองสามฉื่อ แตทันใดนั้นก็เเปลงแสงเจิดจา
ออกมา กลายรางเปนมีนาดเทาภูเขา กินพื้นที่กวาครึ่งของวิหาร ปกคลุมหานลี่และ
พวกเอาไว
หานลี่และพวกของไปปพลันตกตะลึง จินเยวและเหลาอาวุโสมีสีหนาราบเรียบ
เหมือนวาจะไมไดพบปรากฎการณที่นาตกตะลึงนี้เปนครั้งแรก
“ถอย”
จินเยวชูมือหนึ่งขึ้น ในมือมีกระจกสำริดสีเขียวปรากฎขึ้น โบกไปทางเงาวิหคตัวนั้น
ชั่วขณะนั้นเงาลวงตาเงานั้นพลันเปลงเสียงรองต่ำๆ ออกมา รางกายปริแตก
ออกเปนชิ้นๆ สุดทายก็กลายเปนลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งจมหายเขาไปในมวนคัมภีร
“เจาใชโลหิตบริสุทธิ์ของตนเอง เซ็นชื่อไปในนั้นเถิด ตองใชชื่อจริงของตนเองนะ
มิเชนนั้นหากถูกคำสาบานแวงกัดละก็ ผูใดก็ไมอาจชวยเจาได” จินเยวเก็บกระจก
สำริด พลางเอยกับหานลี่อยางมีเลศนัย
หานลี่พลันใจหายวาบ ในที่สุดเดิมทีที่มีความคิดอื่นพลันโยนทิ้งไปชั่วคราว
เขาสูดลมหายใจเขาเฮือกหนึ่ง ทันใดนั้นก็สาวเทายาวๆ กาวเขาไป
พนเสนไหมสีทองสายหนึ่งออกมาจากปาก ลำแสงสีทองเปลงแสงสวางวาบตวัด
ไปที่นิ้วชี้จนเกิดเปนบาดแผลเล็กๆ บีบพลังวิญญาณทั้งหมดในราง บีบโลหิตบริสุทธิ์
สีทองหยดหนึ่งออกมาจากบาดแผล
“เอ” อาวุโสแซสือที่นั่งอยูผูนั้น พลันเผยสีหนาประหลาดใจออกมา
“อันใด อาวุโสสือพบจุดที่ผิดปกติหรือ?” ชายชราแซซวีใชนิ้วลูบเคราขณะเอยถาม
“ไมมีอะไร สหายหานนาจะฝกฝนเคล็ดวิชาที่พิเศษอะไร หรืออาจจะเคยกิน
ผลวิเศษเขาไปสินะ มิเชนนั้นโลหิตบริสุทธิ์จะมีสีนี้ไดอยางไร” บุรุษสวมชุดสีดำลังเล
เล็กนอย แลวเอยอยางเชื่องชาออกมา
“นั่นมันก็ใช โลหิตบริสุทธิ์สีทองนั้นหายากจริงๆ แตกวาครึ่งลวนตองมีกายเนื้อใน
ระดับที่แข็งแกรงในระดับหนึ่ง ถึงจะมีความเปลี่ยนแปลงวิเศษนี้ได” ชายชรากวาด
สายตาไปบนเรือนรางของหานลี่ แลวเอยอยางมีความคิด
บุรุษสวมชุดสีดำฉีกยิ้มไมไดเอยอะไรอีก
ครานี้หานลี่มาอยูตรงหนาของมวนคัมภีร ใชนิ้วเขียนชื่อตัวเองลงใบบนคัมภีรตรง
จุดที่วางอยูอยางรวดเร็ว
โลหิตบริสุทธิ์สีทองออนเปอนลงไปในคัมภีร ตัวอักษรจมหายไปทีละตัวๆ ทันที
หลังจากที่เปลงแสงสวางวาบอีกครั้ง ก็กลายเปนตัวอักษรสีดำเขียวปรากฎขึ้นอีกครั้ง
เหี่ยวเฉาไรแสง ราวกับวาเขียนมาหลายปแลวอยางไรอยางนั้น
แทบจะในเวลาเดียวกัน หานลี่พลันสัมผัสไดวาปราณแทเหมือนจะมีอะไรจับตาดูอยู
แตทันใดนั้นก็สลายหายไปอยางไรรองรอย
หานลี่รูสึกตกตะลึง ดูแลวคำสาบานของวิหคสวรรคคงจะมีอะไรแฝงอยูดังคาด
แตยิ่งเปนเชนนั้น เขากลับรูสึกวางใจมากกวาเดิม
มีของสิ่งนี้เปนเครื่องผูกมัด คิดดูแลวเหลาอาวุโสของเผาวิหคสวรรค คงไมขามฝง
แลวรื้อสะพาน[1]งายๆ แน
ไมเอยถึงหานลี่ที่พึมพำอยูในใจไมหยุด จินเยวสตรีผูนั้นรอจนเขาเขียนชื่อเสร็จแลว
ก็ชี้ไปที่มวนคัมภีรทันที
ของสิ่งนี้สั่นเทานอยๆ มวนกลับคืนคืนอยางรวดเร็ว กลายเปนมวนคัมภีรอีกครั้ง
หัวผีทั้งสองขยับ กัดลงไปที่ทั้งสองดานอีกครั้ง
มือหนึ่งกวักมือเรียก หลังจากที่คัมภีรหดเล็กลง ก็บินไปอยูในแขนเสื้อของหญิงสาว
“เอาละ ในเมื่อเสร็จเรียบรอยแลว จากนี้ก็ใหอาวุโสซวีเอยถึงเรื่องการทดสอบ
หุบเหวและสถานที่ที่ตองระวังในนั้นก็แลวกัน พวกเจาจำเอาไวใหดี ไมแนวาอาจจะมี
ประโยคไหน ที่ชวยชีวิตเจาไดในการทดสอบ” หลังจากที่หญิงสาวเก็บคัมภีร แลว
ก็เอยอยางราบเรียบ
“การทดสอบหุบเหว คือการทดสอบที่เผาวิญญาณเหาะเหินทั้งเจ็ดสิบสองสาขา
จะตองจัดขึ้นทุกๆ สามรอยป…” ชายชราแซสือที่อยูดานขางเริ่มเอยอยางแชมชา
หานลี่และพวกทั้งสามคนพลันตั้งใจฟง…
สองสามวั นต อมา วิ ห คยั ก ษ ต ั ว สีข าวราวกั บ หิ มะสองสามตั ว บิ นออกไปจาก
ประตูเมืองศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็บินออกจากเขตอาคม ตรงไปยังที่ใดสักแหง
บนรางของวิหคยักษหนึ่งในนั้นมีหานลี่นั่งอยู
วิหคสีขาวเหลานี้แคกระพือปกก็บินหางออกไปยี่สิบจั้งเศษ หลังจากเปลงแสง
สวางวาบสองสามครั้ง ก็บินมาถึงปลายขอบฟา กลายเปนจุดสีดำสองสามจุด หลังจาก
กระพริบวาบอีกครั้ง ก็หายไปอยางไรรองรอย
สามเดือนตอมา บนยอดเขายักษแหงหนึ่ง
กลางจัตุรัสยักษที่อยูทามกลางสิ่งปลูกสรางสีเขียวมรกต ชาวเผาวิหควิญญาณ
เหาะเหินติดปกรอยกวาคนยืนอยูตรงนั้น ตรงกลางมีวิหคยักษที่เหมือนกับนกกระสา
ตัวหนึ่งและวิหคประหลาดที่มีลวดลายหลากสีตัวหนึ่ง กำลังสำแดงความสามารถ
ตางๆ ตอสูกันอยู
นกกระสาตัวนั้นเคลื่อนไหวอยางรวดเร็วหาที่เปรียบ ตะปบและจิก เปลงเสียง
“แกรกๆ” แหวกอากาศมาไมหยุด แคมองก็รูแลววาแหลมคมมาก
สวนวิหคประหลาดที่มีสีสันแพรวพราวนั้นมีเขางอกออกมาบนศีรษะเขาหนึ่งและ
ปกสี่ปก รอบกายถูกลำแสงกลุมหนึ่งหอหุมเอาไว การโจมตางๆ ของนกกระสาถูก
ตานทานเอาไวไดอยางไมมีอะไรเกิดขึ้น
นกกระสาเห็ นเช นนั ้ นพลั นรู  ส ึ ก โกรธา ฉั บ พลั น นั ้ น พลั น บิ น ไปทางด า นหลั ง
ยี่สิบสามสิบจั้ง จากนั้นสองปกก็สะบัดไปทางวิหคประหลาดอยางแมนยำ
ชั่วขณะนั้นขนนกยาวยี่สิบสามสิบเสนพุงออกมา จากนั้นก็พลิ้วไหวกลางอากาศ
ชั่วครูก็กลายเปนใบมีดแหลมคมยี่สิบสามสิบเลม เปลงแสงสวางวาบแลวปกไปที่
ลำแสงที่อยูตรงขาม
แมวาลำแสงที่งดงามจะมหัศจรรยเปนอยางมาก แตถูกใบมีดแหลมคมจำนวนมาก
โจมตีเขามาพรอมกันเชนนี้ ในที่สุดก็เปลงเสียงรองคำรามออกมาพลางสั่นเทา ทาทาง
เหมือนจะถูกบีบใหแยกออกจากกัน
แตนกกระสาเห็นเชนนั้นพลันรูสึกดีใจ หมายจะสแดงความมีดแหลมเหลานั้นอีกครั้ง
วิ ห คประหลาดที ่ อ ยู  ต รงข า มกลั บ เปล ง เสี ย งร อ งแหลมสู ง ออกมา อ า ปากออก
พายุ ส ี เ หลื อ งทะลั ก ออกมา ทุ ก แห ง ที ่ ก วาดผ า นไปพั ด ใบมี ด แหลมคมเหล า นั้ น
จนกระจัดกระจาย หมุนควางอยูกลางอากาศไมหยุด สูญเสียการควบคุม
นกกระสาพลันตะลึงงัน และอาปากออกในเวลาเดียวกัน พนเสาลำแสงสีขาวนวล
สายหนึ่งออกมา ชั่วพริบตาก็ทะลุผานพายุไปอยูเบื้องหนาวิหคประหลาด
วิหคประหลาดแววตาสีมว งเปลงประกาย เขาสีดำบนหัวเปลงแสงสีแดงสวางวาบ
คาดไม ถ ึ ง ว า จะพ น ลำแสงสี แ ดงสายหนึ ่ ง ออกมา ปะทะเข า กั บ เสาลำแสงอย า ง
พอดิบพอดี
หลังจากเสียงตูมๆ ดังขึ้น ทั้งสองก็กลับคืนสูบานเกา
“พี่สวิน เจามีความสามารถอะไร ก็สำแดงออกมาเถิด หากไมมีแลวละก็ ขานอย
จะลงมือแลว” เสียงบุรุษดังออกมาจากปากของวิหคประหลาด
“หึ เผ า นกอี แ ร ง อย า งพวกเจ า นั ้ น มี ค วามสามารถแค ส องสามชนิ ด เท า นั้ น
จะจัดการขาไดอยางไร” เสียงเย็นชาดังออกมาจากปากของนกกระสาเชนกัน
“เยี่ยม เชนนั้นตองใหนายทานลิ้มรสความสามารถที่ขาเพิ่งฝกฝนสำเร็จสักหนอย
แลว” นกประหลาดเอยอยางไมเกรงใจ
ทันใดนั้นปกทั้งสี่ก็สะบัดออกพรอมกัน คนที่อยูในลำแสงลวงตาพลันกลายเปน
สีเหลือง สูงสองสามจั้ง ทาทางเกาแกและเรียบงาย
“แยแลว!” เมื่อเห็นฉากนี้คนจำนวนไมนอยพลันถอยกรูดไปดวยความตกตะลึง
ในทันที มีเพียงชนชั้นสูงที่มั่นใจในพลังยุทธของตนที่ยังยืนนิ่งอยูที่เดิม
ระฆังสีเหลืองพลิ้วไหวโดยอัตโนมัติ ระเบิดเสียงระฆังออกมา
เมื่อทุกคนไดยินเสียงนี้ ทั้งหัวก็เกิดเสียงเหงงหงาง ไดรับผลกระทบเปนอยางมาก
นกกระสาที่รับอานุภาพกวาครึ่งเอาไว รวงลงมาจากกลางอากาศอยางไมอาจ
ตานทานได
ในเวลาเดี ย วกั นบนเรื อนร า งพลั น เปล ง แสงสี ข าวออกมา ชั ่ ว ครู  ก ็ ก ลายเปน
บุรุษเผาวิญญาณเหาะเหินอายุสามสิบปเศษ สวมชุดสีขาว
ในฝูงชนที่ใกลๆ มีเผาวิญญาณเหาะเหินอีกคนหนึ่งบินออก รับบุรุษผูนั้นเอาไว
จากนั้นก็บินลงสูพื้นอยางนุมนวล
ระฆังสีเหลืองพลิ้วไหว กลายเปนชายหนุมชุดสีดำอีกคนหนึ่ง คารวะไปทางดานลาง
ปากก็เอยคำวา “ขอบคุณที่ออมมือ” อยางราบเรียบออกมา
บุรุษที่กลายเปนนกกระสาผู น ั้ นเพิ ่ง จะไดสติฟ น คื นมา ก็ออกหางจากสหาย
มองไปทางชายหนุมสวมชุดดำที่อยูกลางอากาศดวยสีหนาดูไมได

[1] ขามฝงแลวรื้อสะพาน หมายถึง ไมเหลือทางหนีทีไลไวใหผูอื่น ใชสำหรับคน


แลงน้ำใจ ขาดคุณธรรม ไมมีศีลสัจทรยศหักหลัง
ตอนที่ 1433 ยอดฮองเตหยก
ภายใตการพินิจมองอยางละเอียด บุรุษที่แปลงกายเปนนกกระสากับเผาวิญญาณ
เหาะเหินที่เขามารับเขาไวเมื่อครู หนาตาไมเหมือนกับชาวเผาธรรมดาๆ ใบหนาคลาย
กับเผามนุษย แตหูทั้งสองเรียวแหลม ตรงหนาผากมีตุมนูนๆ สีแดงโปงออกมา
สวนชายหนุมชุดดำที่เมื่อครูแปลงเปนวิหคประหลาดนั้น บนหนาผากมีเขาสีดำเล็กๆ
งอกออกมา มุมปากเผยเขี้ยวยาวสองสามชุนออกมาคูหนึ่ง
ส ว นชาวเผ า วิ ญ ญาณเหาะเหิ น ร อ ยกว า คนที ่ ม ุ ง ดู อ ยู  ส ว นใหญ ล  ว นมี จ ุ ด ที่
ไมเหมือนกับมนุษย บางคนมีจุดที่ไมเหมือนหลายจุด บางคนมีจุดไมเหมือนเพียง
เล็กนอย แตคนเหลานี้ลวนมีปกที่เล็กบางใหญบางที่แผนหลัง ยาวหนอยสั้นหนอย
สีเทาบางสีแดงบางตางๆ มากมาย
คนเหลานี้ลวนเปนชาวเผาวิญญาณเหาะเหิน
“ความสามารถระฆัง สวรรค สยบมารของเผา นกอีแ ร ง มี อานุ ภาพไมธรรมดา
ขาไดรับการชี้แนะแลว” บุรุษที่พายแพเอยอยางไมยินยอม ถอยกลับไปอยูในฝูงชน
รวมกับสหายดวยความแคนใจ
“ยั ง มี ส หายท า นไหนอยากขอคำชี ้ แ นะหรื อ ไม ” ชายหนุ  ม ชุ ด ดำไม ไ ด ใ ส ใ จ
กลับเปลงเสียงทาสูกับฝูงชนที่อยูเบื้องลาง
เผาวิญญาณเหาะเหินที่อยูดานลางเกิดเสียงฮือฮาขึ้น แตครานั้นไมมีผูใดกลา
ออกมาทาสูในทันที
ชายหนุมเห็นเชนนั้นใบหนาก็เผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา ครั้นเมื่อคิดจะเอยอะไรอีกนั้น
ฉับพลันนั้นไกลออกไปก็มีคนตะโกนขึ้นวา
“มาดูเร็วเขา บุตรชายของสามสาขาทางปลายสุดของทิศตกตะวันตก เผา
เบญจลำแสง เผาวิหคสวรรคและเผาแดงสดมาถึงแลว”
เมื่อไดยินหลังจากที่ฝูงชนดานลางพลันตกตะลึงแลว ก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นแลว เสียงพูด
คุยดังขึ้น
คนที่รูสึกประหลาดใจแมกระทั่งหันกายบินออกไปยังจุดที่ไกลออกไป ชั่วพริบตา
คนที่อยูตรงนั้นก็หายไปเกือบครึ่ง
ชายหนุมชุดดำที่อยูกลางาอากาศไดยินคำวาเผาวิหคสวรรค ก็หนาเปลี่ยนสี
ไปเล็กนอย คาดไมถึงวาจะรอนลงมาอยางเงียบเชียบ
ในเวลาเดียวกัน หางจากยอดเขายักษไปรอยลี้เศษ วิหคยักษรูปรางประหลาด
ยี่สิบสามสิบตัวประกอบกับแมงปองบินสีแดงสดความยาวยี่สิบจั้งเศษที่ประกอบขาง
กำลังบินเคียงกันมาที่ยอดเขายักษ
ในบรรดาวิหคยักษเหลานั้น มีตัวที่เปนสีขาวราวกับหิมะอยูสองสามตัว ดานบนมีบุรุษ
และสตรีอยู นั่นก็คือ กลุมคนที่ออกเดินทางมาจากเมืองศักดิ์สิทธิ์ในเผาวิหคสวรรค
หานลี่นั่งอยูบนวิหคยักษหนึ่งในนั้น
ในกลุ  ม ชาววิ หคสวรรค นอกจากสามบุ ตรชายที่ มี หานลี่ เ ปน หนึ่ ง ในนั้นแลว
ยังมีมหาอาวุโสจินเยวและอาวุโสสือที่ลึกลับผูนั้นดวย
ชายชราแซซวีและหญิงงามคอยรักษาการณอยูในเมืองศักดิ์สิทธิ์
ครานี้ผูที่มากับพวกเขายังมีคนที่แตงกายและหนาตาแตกตางกันอีกสองกลุม
กลุมหนึ่งมีผมสีมวงเขม ผิวสีแดงออน อีกกลุมหนึ่งมีปกขนาดเล็กหนอย แตงกาย
งดงาม
ดูจากรูปลักษณภายนอกแลว นั่นก็คือ คนของเผาแดงสดและเผาเบญจลำแสง
ทวาเทียบกับทั้งสองเผาแลว เผาวิหคสวรรคมีคนอยูแคหาคน เห็นไดชัดวามีจำนวน
คนนอยมาก
“อาวุโสจิน ดูแลวอาวุโสอวี้หวงจิ่งนาจะรูวาพวกเรามาถึงแลว แมแตเปลวเพลิง
วิญญาณตอนรับก็ยังปล อยออกมาแลว ” หญิงสาวหนาตาสะสวยแตงกายงดงาม
คนหนึ่งเอยขึ้นพรอมกับรอยยิ้ม
กลางอากาศเหนือยอดเขายักษ เปลวเพลิงยักษหาหกสีปรากฎขึ้น แคหมุนวน
เปลงแสงสวางวาบก็ปกคลุมไปกวาครึ่งของทองฟาจนเปนแสงโชติชวง
ปรากฏการที่นาตกตะลึงเชนนี้ แมนวาจะอยูหางออกไปรอยลี้ กลุมของพวกเขา
ก็ยังคงมองเห็นไดอยางชัดเจน
“สถานการณเชนนี้ พวกเราไมไดเห็นเปนครั้งแรก เวลาผานไปไวจริงๆ ชั่วพริบตา
ก็ผานมาสามรอยปแลว พี่จูมาที่นี่อีกครั้ง รูสึกเชนเดียวกันหรือไม” จินเยวตอบรับ
หันหนาไปเอยถามชายชราผิวแดงเพลิงคำหนึ่ง
“จะมีความคิดเชนนั้นไดอยางไร! นอกเสียจากวาพวกเราจะฝกฝนจนกลายเปน
เทพเซียนได หรือบินขึ้นไปในแดนเทพเซียน มิเชนนั้นหากนอยหนอยก็สองสามพันป
มากหนอยก็สองสามหมื่นป เจากับขาก็ตองกลายเปนผุยผงเทานั้น ความเจริญรุงเรือง
ของเผาตางๆ ก็ตองสลับกันไปมาเหมือนกันหมด เรื่องที่ขาเอยเมื่อสองสามวันกอน
อาวุโสจินคิดเห็นอยางไร?” ชายชราผูนั้นยอนถามกลับดวยสีหนาไรความรูสึก
“ตอนนี้เผาวิหคสวรรคของพวกเราออนแอกวาแตกอนมาก แตเผาของขาสืบทอด
กันจนมาถึงทุก วั นนี้ ก็เปนหนึ่ งในสองสามสาขาที่ม ีประวัติ ศาสตรยาวนานที ่ สุ ด
จะยอมทิ้งการถายทอดของตนเองโยนเขาไปในสาขาอื่นไดอยางไร เรื่องรวมมือกันที่
พี่จูเอยระหวางทาง ขาขบคิดแลวก็ทำไดเพียงตองปฏิเสธแลว” หญิงสาวแววตา
เปลงประกาย ขณะตอบกลับอยางราบเรียบ
“งั้นหรือ? หากขาจำไมผิดละก็ ในอดีตอาวุโสสือของเผาเจาสังกัดอยูที่เผาขนทมิฬ
ดูเหมือนวาจะถูกกลืนกินตอนที่เผาของเจาเจริญรุงเรือง ครานี้เผาของเจาออนแอแลว
การเขาเผาที่แข็งแกรงของพวกเรา และใหตำแหนงบุตรชายหลักกับเผาอื่น ก็เปน
สัจธรรมความถูกตองที่ไมอาจเปลี่ยนแปลงได เหตุใดอาวุโสจินตองเอยอยางจริงจัง
ขนาดนั้น” ชายชราแซจูเอยพรอมกับหัวเราะอยางเย็นชาออกมา
“เรื่องเผาขนทมิฬ จะมาเทียบกับสถานการณนี้ไดอยางไร ตอนแรกเผาขนทมิฬ
ไมใชแคไมมีประมุข ตัวเองยังเผชิญกับแรงกดดันจากศัตรูที่แข็งแกรง และเปนฝายมา
ของเข า ร ว มกั บ เผ า ของข า เอง เผ า ข า ไม เคยบี บ บั ง คั บ เขา” หญิ ง สาวตอบกลั บ
อยางราบเรียบ
“หึ ตอนนั้นที่เกิดเรื่องมันผานมาเนิ่นนานแลว ผูใดจะรูวาเรื่องจริงเปนอยางไร
ในเมื่อเผาของเจาปฏิเสธเจตนาดีของเผาขา ก็มีเพียงตองดูวาบุตรชายของเผาเจา
จะผานการทดสอบหุบเหวหรือไมแลว มิเชนนั้นก็อยามาโทษวาเผาตางๆ ของพวกเรา
จะยื่นขอเสนอในการถอดเผาของเจาออก อยาลืมละ เผาที่สนใจเผาของเจาไมไดมีแค
เผาแดงสดอยางพวกเราเพียงเผาเดียว” ชายชราแซจูหัวเราะหึๆ ออกมาขณะเอย
“พี่จู เผาของเจาคือ หนึ่งในสามเผาที่แข็งแกรงในเจ็ดสิบสองสาขาของพวกเรา
เหตุใดตองทำการบีบคั้นวาจะกลืนกินเผาวิหคสวรรคใหได หรือวาเผาของเจาคิดจะ
กดเผาเกาเยว?” หญิงสาวผูงดงามกลอกตาไปมา แลวฉีกยิ้มหวานหยดขณะเอย
“ฮูหยินชิว เจาอยาพูดจาเหลวไหล อาวุโสอยางขาเคยบอกวาไมเคราะเผาเกาเยว
ตอนไหนกัน” ชายชราแซจูไดยินคำพูดของหญิงสาว ก็หนาเปลี่ยนสีพลางเอยปฏิเสธ
หญิงสาวฉีกยิ้มครั้นเมื่อกำลังคิดจะเอยอะไรอีกนั้น ตรงยอดเขาที่ไกลออกไปกลับ
มีเสียงไพเราะดังขึ้น จากนั้นลำแสงวิญญาณพลันสวางวาบที่ขอบฟา ลำแสงผืนใหญ
หมุนวนเขามา
สองสามคนปดปากฉับไมพูดอะไร กลุมคนทั้งกลุมหยุดลงลำแสงหลีก ลอยอยู
กลางอากาศ
ชั่วพริบตาลำแสงหลากสีส ั นก็ม าถึ งตรงหนาทุก คน หยุดชะงักมี ค นแต ง กาย
หลากหลายเดินออกมาจากในนั้นสิบคน กวาครึ่งลวนมีเรือนผมสีขาว ทาทางออนแอ
เพราะความแกชรา
“คารวะเหลาอาวุโส” จินเยวและชายชราแซจูเห็นคนสิบคนนี้ กลับทยอยกัน
กระโดดออกจากที่นั่ง แลวคารวะทั้งสิบคนอยางนอบนอม
“เหลาสหายไมตองมีพิธีรีตองขนาดนี้ ไมชาก็เร็วพวกเจาก็จะเปนหนึ่งในสมาชิก
ของพวกเรา อาวุโสที่เหลือรอเหลาสหายอยูที่ยอดฮองเตหยก” ฮูหยินชราที่มือหนึ่ง
ค้ำไมเทาเอาไวในเอยขึ้นพรอมกับยิ้มจนตาหยี
“อันใด หรือวาสามเผาอยางพวกเรามาชาที่สุด?” จินเยวใจเตน เอยถามอยางมี
มารยาท
“ไมไดมาชาที่สุด เผาหนาผี เผานกเขาพิษทั้งสองเผาที่อยูทางทิศเหนือสุดมีธุระดวน
ตองรอใหการทดสอบหุบเหวจัดขึ้นแลวถึงจะมาถึง ดังนั้นหลังจากที่พวกเจาทั้งสาม
เผามาถึงแลว ก็เริ่มการประชุมกอนไดเลย” ฮูหยินหัวเราะหึๆ ขณะตอบกลับ
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง” จินเยวไดยินแลวพลันพยักหนา
หานลี่ที่ยืนอยูดานหลัง กวาดสายตาไปยังคนที่ปรากฎตัวขึ้นใหมสิบคน ในใจรูสึก
สั่นสะทาน
สิบคนนี้คาดไมถึงวากวาครึ่งจะมีพลังยุทธระดับหลอมรางขึ้นไป ฮูหยินชราที่ผูนำ
ซึ่งกำลังพูดอยูนั้น แมกระทั่งไมอาจมองพลังยุทธออก อยางนอยที่สุดก็นาจะเทากับ
จินเยว คือเปนสิ่งมีชีวิตที่นากลัวระดับหลอมรางขั้นกลางขึ้นไป
คนเหลานี้คือ อาวุโสในการประชุมในตำนาน
วากันวาเดิมทีคนเหลานี้คือ อาวุโสที่มีชื่อเสียงของเผาตางๆ เมื่ออายุขัยเหลือไมมาก
ก็จะเขารวมชุมนุมผูอาวุโส และตั้งแตนั้นก็จะละทิ้งตำแหนงฐานะเดิมทั้งหมดของเผา
รับหนาที่ดูแลเผาวิญญาณเหาะเหินทั้งหมด
ครานี ้ ช ายชราแซ จ ู  แ ละหญิ ง สาวเองก็ ก  า วขึ ้ น ไปทั ก ทายฮู ห ยิ น ชราสองสาม
ประโยค ทันใดนั้นกลุ ม คนก็ ขั บ เคลื่ อนวิ ห คยักษตรงไปยัง ยอดเขาอี ก ครั ้ ง โดยมี
ทั้งสิบคนเปนผูนำ
ชั่วครูทุกคนก็มาอยูใกลๆ กับยอดเขา เบื้องหนามีสิ่งปลูกสรางที่ยิ่งใหญอยูลางๆ
และกลางอากาศก็มีจุดสีดำเล็กบางใหญบางหมุนโคจรอยู
หานลี่พิจารณาอยางละเอียดถึงไดพบวานั่นคือวิหคยักษหลากชนิดนับรอยนับพัน
ตัวที่กำลังบินไปมาอยูกลางอากาศ หนึ่งในนั้นยังมีแมลงบินติดปกขนาดยักษรวมอยู
ดวย ทาทางนาดุดัน
หางจากยอดเขาไปสองสามลี้ เสียง “ปง” ดังขึ้น สิ่งปลูกสรางบนยอดเขามีสายรุง
เจ็ดสีสายหนึ่งพุงออกมา แคเปลงแสงสวางวาบก็ตัดผานไปในระยะไกลมาอยูตรงหนา
ทุกคน
จากนั้นสะพานโคงขนาดยักษที่วิจิตรงดงามก็ปรากฎขึ้นตอหนาทุกคน
ฮูหยินชราและพวกแคพลิ้วไหวรางกาย ก็มาถึงสะพานกอน จากนั้นฮูหยินชรา
ก็กวักมือเรียกทุกคนดวยรอยยิ้ม
“พวกเขาเองก็ขึ้นไปเถิด” จินเยวออกคำสั่ง และลงจากวิหคยักษ เดินขึ้นไปบน
สะพานตามหลังไปติดๆ
แนนอนวาหญิงสาวและคนของเผาแดงสดเองก็ไมยอมเปนฝายเดินรั้งทาย
หานลี่เหยียบลงไปบนสะพาน รูสึกเพียงวาจุดที่เหยีย บอ อนนุ ม มีแรงดีดสู ง
ราวกับวากำลังเหยียบลงไปบนเบาะรองนั่งก็ไมปาน
ภายใตความรูสึกประหลาดใจ เขาพิจารณาอยางละเอียดอีกสองแวบ คิดจะแผจิต
สัมผัสไปตรวจสอบอยางละเอียด แตฉับพลันนั้นใตฝาเทาพลันสั่นเทา รอบๆ มี
ลำแสงหลากสีกลุมหนึ่งปรากฎขึ้น หอหุมทุกคนเอาไว หลังจากแคเปลง แสง
สวางวาบ ก็พาทุกคนมาอยูที่เชิงสะพานอีกดาน
นาอัศจรรยเปนอยางมาก
ครานี้หานลี่ไมไดสำรวบความแปลกประหลาดของสะพานใตรางแลว เปนเพราะ
ดานลางสะพานมีคนของเผาวิญญาณเหาะเหินสิบกวาคนยืนอยู กำลังจองเขม็งมาที่
กลุมคนของพวกเขา
ดานหลังของพวกเขาลำแสงสีขาวผืนหนึ่งหมุนวนเปนเกลียว วิหารยักษสีเขียว
มรกตหลังหนึ่งปรากฎอยูลางๆ
เบื้องหนาของทุกคนกลับมีคนอยูแคสองคน เปนชายวัยกลางผมสีขาวราวกับหิมะ
จมูกโดงรั้นคนหนึ่ง และชายชราที่ใบหนาเต็มไปดวยริ้วรอยแกมยาวผิดปกติ ลำคอมี
ลายสักยันตสีดำออนอีกคนหนึ่ง
ชายชราเห็นสถานการณเชนนี้พลันหัวเราะหึๆ สะบัดแขนเสื้อเดินมาอยูดานขาง
ของทั้งสองคน คนที่เหลือกลับกลาวเขาไปในฝูงชนแลวหายวับไปอยางไรรองรอย
“เหลาอาวุโสพาบุตรชายมาจากที่ไกลโพน คงจะลำบากนาดู ใหเหลาบุตรชายไป
พักผอนที่วิหารดานขางกอนเถิด เหลาสหายก็ไปสนทนากับพวกเราในวิหารก็แลวกัน
เหลาอาวุโสของเผาตางๆ ก็อยูในวิหาร กำลังคุยเลนกับอาวุโสทานอื่นอยู” ชายชราที่
มีรอยสักที่คอโคงคำนับ แลวเอยพรอมกลั้วหัวเราะ
“อาวุโสหมิงมีมารยาทเกินไปแลว พวกเรารับคำสั่งขอรับ!” ชายชราแซจูของ
เผาแดงสดชิงเอย ตอบกลับดวยใบหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม
แมวาจินเยวและหญิงสาวของเผาเบญจลำแสงจะไมถูกกับเผาแดงสด ครานี้ก็ไมมี
ความคิดเห็นอื่น
ทันใดนั้นก็หันกายมาออกคำสั่งของพวกของหานลี่ แลวทั้งสามก็เดินเขาไปใน
หมอกสีขาวพรอมกับคนเหลานั้น
“บุตรชายทุกคนตามขามาเถิด ขาจะจัดที่พักใหทุกทาน” ไมรูวาหญิงสาวสวมชุด
สีขาวรางกายอรชนออนแอนมาปรากฎตัวเบื้องหนาของพวกหานลี่ทั้งสิบคนตั้งแต
เมื่อไหรก็ไมรู พลางเอยพรอมกับหัวเราะคิกคัก
ตอนที่ 1434 จูอินจื่อ
“ตองรบกวนสหายแลว” แมนวาอีกฝายจะมีพลังยุทธไมสูงนัก บุตรศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่ง
ของเผาแดงสดก็ยังคงเอยอยางไมกลาดูแคลน
เผ า แดงสดมี จ ำนวนคนมากที ่ ส ุ ด ในบรรดาทั ้ ง สามเผ า คาดไม ถ ึ ง ว า จะส ง
บุตรศักดิ์สิทธิ์ออกมาทีเดียวเจ็ดคน อันดับสองคือเผาเบญจลำแสงมีหาคน ที่นอยที่สุด
คื อ เผ า วิ ห คสวรรค แม ว  า จะเพิ ่ ม หานลี ่ เ ข า ไปก็ ม ี เ พี ย งสามคนเท า นั ้ น ภายใต
สถานการณ ท ี ่ เ ผ า วิ ห คสวรรค ไ ม ไ ด เ ก็ บ รั ก ษาอะไรไว เผ า อื ่ น ๆ จะต อ งซ อ น
บุตรศักดิ์สิทธิ์ที่ยังไมไดสงตัวออกมาอีกเปนแน
และยิ่งไปกวานั้นสวนใหญแลวบุตรศักดิ์สิทธิ์ของทั้งสองเผาก็มีพลังยุทธระดับ
เทพแปลงขั้นกลางขึ้นไป เทียบกับไปปและผูมีนามวาเหลยหลันแลว ก็แข็งแกรง
มากกวาเทาหนึ่ง
เห็นไดชัดวาเผาวิหคสวรรคนั้นตกต่ำแลวในบรรดาเผาวิญญาณเหาะเหิน มินาละ
เบื้องบนของเผาวิหคสวรรคจึงพยายามดึงเขาเขาเปนพวกอยางสุดความสามารถ
สาขาที่แข็งแกรงอื่นๆ คิดจะฮุบพวกเขา ก็เปนเรื่องปกติ
แนวความคิดปลาใหญกินปลาเล็กยังคงใชไดในบรรดาเผาตางๆ ของแดนวิญญาณ
หานลี่ขบคิดเชนนั้นก็พาไปป เหลยหลันและคนของเผาเบญจลำแสง เดินเรียงกัน
อยูดานหลังคนของเผาแดงสด
ทั้งสองฝงตางดึงระยะหางออกจากกันโดยอัตโนมัติตามความรูสึก
ในบรรดาบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิหคสวรรคทั้งหมด หานลี่รูสึกสนใจบุรุษคนหนึ่ง
ที่มีหนาตาโหดเหี้ยมเผยกลิ่นอายสังหารออกมามากที่สุด
บุ ต รศั ก ดิ ์ ส ิ ท ธิ ์ ข องเผ า แดงสดคนอื ่ น ๆ ก็ ม ี ผ ู  ท ี ่ พ ลั ง ยุ ท ธ ไ ม ต  า งอะไรกั บ เขา
แตมีเพียงตอนที่พบหนากับคนผูนี้ ที่ทำใหเขารูสึกอันตราย
เมื่อครุนคิดมาถึงครานี้ หานลี่ที่มองไปยังเงาแผนหลังของบุรุษผูนั้นก็อดที่จะ
หรี่ตาทั้งสองขางลงไมได
“อันใด พี่หานสนใจจูอินจื่อผูนั้นหรือ?” สตรีหนาตางดงามอายุยี่สิบปเศษจาก
เผาเบญจลำแสง เอยกับหานลี่ดวยทาทียิ้มๆ
ในบรรดาคนของเผาวิหคสวรรค แมวาหานลี่จะเปนบุตรศักดิ์สิทธิ์เก แตพลังยุทธ
ระดับแมทัพวิญญาณเหาะเหินขั้นสูงนั้นกลับไมใชของปลอม ดังนั้นไมวาบุตรศักดิ์สิทธิ์
ของเผาเบญจลำแสงหรือวาเผาแดงสด ก็มองวาหานลี่เปนผูนำของเผาวิหคสวรรค
ประกอบกับหนาตาที่ไมคุนเคย และยังอยูในฐานะไพลับของเผาวิหคสวรรค
เผาที่เหลือทั้งสองจึงรูสึกสนใจหานลี่เปนอยางมาก
ระหวางทางเปนเพราะเหลาอาวุโสอยางจินเยวอยูขางๆ คนอื่นๆ จึงไมมีโอกาสได
สนทนาอะไรกัน ครานี้เมื่อแยกกับเหลาอาวุโสของเผาแลว สตรีของเผาเบญจลำแสง
ผูนี้จึงเปนฝายชิงเอยปากกอน
แนนอนวานั่นเปนเพราะเผาวิหคสวรรคและเผาเบญจลำแสงมีสัมพันธอันดีตอกัน
บุตรศักดิ์สิทธิ์ของของเผาแดงสดเหลานั้น ไมมีทางเปนฝายเอยถามอะไรขึ้นมา
กอนแน
“ไมมีอะไรหรอก กลิ่นอายสังหารบนรางของพี่จู ผูนี้ ไม ธรรมดา เกรงวาคงมี
ประสบการณในการตอสูไมนอยสินะ” หานลี่ตอบกลับอยางราบเรียบ
“ดูแลวพี่หานคงฝกฝนอยูแตนอกมหาสมุทรจริงๆ จูอินจื่อเปนผูที่มีชื่อเสียงมาก
ในรุนของพวกเรา เขาเคยเขาไปในหุบเหวลึกตามลำพังถึงเจ็ดครั้ง แมวาจะเขาไป
ไมลึกมาก แตกลับสังหารปศาจที่มีชื่อเสียงไปไมนอย มีชื่อเสียงทัดเทียมกับเอาชิงของ
เผาชีเยว และเฟยเยี่ยของเผาหนานหลง วากันวาความสามารถไมดอยไปกวาระดับ
ผู  บ ั ญ ชาการวิ ญ ญาณขั ้ น กลาง” สตรี ข องเผ า เบญจลำแสงฉี ก ยิ ้ ม ขณะตอบกลั บ
ทาทางไมกลัววาจะถูกคนของเผาแดงสดที่อยูดานหนาไดยินเลยสักนิด
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง” หานลี่พยักหนาดวยสีหนาราบเรียบ และไมไดเอยอะไร
ออกมา
เมื่อเห็นทาทีเรียบเฉยของหานลี่ สตรีของเผาเบญจลำแสงผูนั้นก็ยิ่งรูสึกสนอกสนใจ
มากกวาเดิม แตไมรอใหนางไดเอยอะไรอีก คนกลุมนั้นก็ถูกหญิงสาวชุดขาวพาไปหยุด
อยูตรงหนาหอคอยสองสามหลังที่มีความสูงหกถึงเจ็ดชั้น
นางหันกลับมาเอยวา
“พวกทานทั้งสามเผาเลือกที่พักดูสักหลังเถิด อีกเรื่องหนึ่งที่ขาตองเตือนพวกทาน
ในยอดฮองเตหยกนอกจากสนามแขงขันทางทิศตะวันออกแลว สถานที่ที่เหลือก็ไม
อาจลงมือตอสูกันได มิเชนนั้นโทษสถานเบาคือเจ็บปวดภายนอก โทษหนักคือกำจัดวร
ยุทธ
“พวกเราทราบแลว ตองรบกวนแมนางแลว” คนสวนใหญในกลุมไดยินประโยคนี้
พลั นใจหายวาบ บุ ร ุ ษ หน า ตาหล อ เหลาคนหนึ ่ง ของเผา แดงสดเปน ฝา ยเอ ยปาก
ขอบคุณ
“ขามีนามวาเสี่ยวจู มีหนาที่ดูแลเรื่องตางๆ ของพวกทานทั้งสามเผา ทุกทานมีอะไร
ใหรับใชก็เรียกขาไดเลยเจาคะ” หญิงสาวชุดขาวฉีกยิ้มเบิกบาน คารวะไปทางหานลี่
และพวกแลวขอตัวกลาวลา
จากนั้นหานลี่และพวกทุกคนก็ไมไดเอยอะไรอีก ตางเลือกหอคอยที่พักของตนเอง
หานลี่เลือกชั้นสูงสุดในหอคอย ไปปและเหลยหลันแยกกันพักที่สองชั้นถัดลงมา
สองสามเดือนที่ผานมาพวกเขาเดินทางอยางแทบไมไดหยุดพัก แมแตหานลี่เอง
ก็ยังรูสึกเหนื่อยลา นั่งสมาธิลงบนฟูกโดยไมไดกลาวอะไร แลวพลันนั่งสมาธิ
ไม ร ู  ว  า ผ า นไปนานเท า ไหร เมื ่ อเขาเบิ ก ตาขึ ้ น อี ก ครั ้ ง ท องฟ า นอกหน า ต า ง
ก็เปลี่ยนเปนสีมืดครึ้ม
เดินลงจากเตียงอยางแผวเบาแลวพลันบิดขี้เกียจ
เขาเดินลงมายังชั้นลางอยางเงียบๆ
ผลคือในหอคอยชั้นลางไปปยังคงทำสมาธิอยูภายในหองของตน สวนสตรีที่มีนามวา
เหลยหลันนั้นกลับหายตัวไปอยางไรรองรอย
หานลี่รูสึกประหลาดใจเล็กนอย จำไดวากอนออกเดินทาง จินเยวไดกำชับอยู
หลายครั้งวา หามไมใหพวกเขาออกไปขางนอกตามลำพัง เพื่อจะไดไมเปดโอกาส
ใหศัตรู หลังจากที่หานลี่ขบคิดแลวก็รูสึกไมคอยวางใจนัก จึงเดินเอามือไพลหลังออก
จากหอคอย
ทั้งสองคนนี้เกี่ยวของกับความสำเร็จในการทดสอบหุบเหว เขาไมอาจไมซักถามได
“เอ นี่มิใชพี่หานหรือ? ชางบังเอิญเสียจริง!” เมื่อเดินออกมาจากประตูหอคอยได
สองสามกาว ฉับพลันนั้นก็มีเสียงเกียจครานดังขึ้นที่ขางหู
หานลี่แววตาเปนประกาย ทอดสายตาไปตามที่มาของเสียง
เห็นเพียงชายหนุมหนากลมคนหนึ่ง กำลังเดินออกมาจากหอคอยอีกหลังหนึ่ง
นั่นก็คือ หนึ่งในบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาแดงสด แตใบหนากลับเต็มไปดวยรอยยิ้ม
หานลี่มีสีหนาไรความรูสึก แตในใจกลับหัวเราะอยางเย็นชาออกมา
หากอีกฝายบังเอิญมาพบกับตนเองจริง ก็เปนเรื่องที่ซวยมาก กวาครึ่งคงรอเขา
มาปรากฏตัวอยูที่นี่ตั้งนานแลว
แมนจะไมรูวาอีกฝายมีเจตนาใด แตยอมไมใชเรื่องดีแน
หานลี่มองอีกฝายเงียบๆ
“หึๆ เหตุใดพี่หานตองปดกั้นตัวเองดวย ตอนนี้แมวาทั้งสองเผาของพวกเราจะ
ขัดแยงกัน แตกอนที่จะเขาไปในหุบเหวก็ไมจำเปนตองทำตัวเปนปฏิปกษกันขนาดนี้
วั นข า งหน า เผ า ของท า นอาจจะต อ งเข า ร ว มเผ า แดงสด พวกเราก็ จ ะกลายเป น
พี่นองเผาเดียวกัน” ชายหนุมของเผาแดงสดผูนี้เห็นทาทีเย็นชาของหานลี่ ก็ไมไดใสใจ
“หากทั ้ ง สองเผ า รวมกั นจริ ง ๆ ก็ อาจจะเป น ได ” หานลี ่ ห รี ่ ต าทั ้ ง สองข างลง
ฉับพลันนั้นก็แยมยิ้มเบิกบาน
เมื่อเห็นหานลี่เปลี่ยนทาทีอยางรวดเร็วเชนนี้ ก็ทำใหชายหนุมหนากลมตกตะลึง
แตทันใดนั้นก็แยมยิ้มออกมา
“นองสือเทียน เพิ่งเคยมาที่ยอดฮองเตหยกครั้งแรกเชนกัน เจากับขาไปเดินเลน
กันหนอยเปนอยางไร?” บุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาแดงสดผูนี้เอยราวกับเปนสหายสนิท
อยางไรอยางนั้น
“กับเจา?” หานลี่เลิกคิ้ว
“ที่นี่ไมอนุญาตใหตอสูกัน พี่หานยังกลัววาขาจะมีแผนการณหรือ?” สือเทียนเอย
พรอมรอยยิ้ม
“แมวาผูแซหานจะไมกลัววาเจาจะมีแผนการณอะไร แตก็ไมอยากทำความรูจัก
กับใคร” หานลี่มีสีหนาเครงขรึมขึ้น
สื อเที ย นรู  ว  า ตั ว เองถู ก หานลี ่ ห ยอกล อ แววตาโหดเหี ้ ย มก็ ฉ ายแวววาบผาน
ในที่สุดก็หุบรอยยิ้มลง
“พี่หานออกมาเพราะจะตามหาแมหญิงเหลนของเผาทานสินะ” ชายหนุมหนา
กลมเงียบขรึมไปชั่วครู แลวเอยอยางแชมชาออกมา
“หมายความวาอยางไร?” น้ำเสียงของหานลี่เย็นเยียบ
“ไมมีอะไรหรอก กอนหนานี้ขานอยแคเห็นวา แมหญิงเหลยหลันเหมือนจะ
ออกไปกับศิษยพี่หญิงหงซาของเผาขา และดูเหมือนวาจะตรงไปยังสนามแขงขัน
ขาบอกทานสักหนอย พี่หานจะไดไมตองเสียเวลาไปหลายที่” สือเทียนฉีกยิ้มโดยที่
แววตามิไดยิ้มตาม
“เชนนั้น ขานอยก็ตองขอบคุณพี่สือที่เตือนแลว” หานลี่แอบยนคิ้ว แตใบหนา
กลับไรซึ่งความรูสึก หลังจากคารวะเล็กนอย คนก็เดินจากไปไกล
มองเงาแผนหลังของหานลี่ที่หางออกไป แววตาของสือเทียนพลันเปลงประกาย
ทันใดนั้นก็หัวเราะอยางเย็นชาออกมา
“ศิษยนองสือ เจาทำดีมาก” เมื่อรางของหานลี่หายลับไปจากทางเดินเล็ก ๆ
ฉับพลันนั้นดานหลังของหอคอยก็มีเสียงราบเรียบดังขึ้น
จากนั้นเงารางคนก็พลิ้วไหวพุงออกมาจากดานหลังของหอคอย คาดไมถึงวา
จะมีบุรุษรางกายสูงผอมคนหนึ่งกาวออกมา ผิวของเขาคอนขางเขมกวาคนเผาแดงสด
ทั่วไป แววตาเผยจิตสังหารออกมา
“ศิ ษ ย พ ี ่ จ ู  ! เรื ่ อ งเล็ ก ๆ แค น ี ้ ให ค นอื ่ น ทำก็ ย ั ง ได ทว า แม ว  า คนผู  นี ้ จ ะเป น
แมทัพวิญญาณระดับสูง แตศิษยพี่ตองสนใจขนาดนี้ดวยหรือ พวกเรานาจะจัดการเขา
ไดอยางงายดาย” สือเทียนหนาเปลี่ยนสี หันกายกลับไปเอยตอบดวยความนอบนอม
“ศิษยนองสือ เจาพูดผิดแลว หากคนผูนี้คือ คนที่ขาตามหาจริงๆ พวกเจาก็ไมใช
คูตอสูของเขา” จูอินจื่อเอยสิ่งที่ทำใหชายหนุมหนากลมตกตะลึงออกมา
“ศิษยพี่รูจักคนผูนี้ตั้งนานแลว” สือเทียนตะลึงงัน
“ศิษยนองนาจะรูเรื่องที่เทียนหมิงและพวกกลับมาโดยไมไดอะไรเมื่อสองสามเดือน
กอนสินะ” จูอินจื่อถามยอนกลับ
“ตองเคยไดยินอยูแลว ไดยินวาศิษยพี่เทียนหมิงไมเพียงทำภารกิจไมสำเร็จ
กลับเสียวิหคคำรามระดับสูงไปตัวหนึ่งดวย รวมทั้งเสียไขมุกมังกรเพลิงไปเม็ดหนึ่ง”
สือเทียนลังเลเล็กนอย แลวตอบกลับอยางซื่อๆ
“ตอนนั้นผูที่อาศัยกำลัง เพียงคนเดียวก็สามารถทำใหเทีย นหมิ งลาถอยและ
สังหารวิหคคำรามได นาจะเปนบุตรศักดิ์สิทธิ์แซหานผูนี้” จูอินจื่อเลียริมฝปาก
ใบหนาเผยสีหนาประหลาดๆ ออกมา
“จะเปนไปไดอยางไร ศิษยพี่เทียนหมิงคือแมทัพวิญญาณขั้นกลาง คนอื่นๆ ก็มี
พลังยุทธในระดับแมทัพวิญญาณ วิหคคำรามนั่นก็มีความสามารถไมดอยไปกว า
แมทัพวิญญาณขั้นกลาง” สือเทียนหนาเปลี่ยนสี รูสึกยากจะเชื่อไปเล็กนอย
“เทียนหมิงเคยบรรยายรูปรางของคนผูนี้เอาไว ประกอบกับที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ของ
เผาวิหคสวรรคผูนี้เพิ่งจะถูกเรี ยกกลั บมาจากนอกมหาสมุทร ก็นาจะเปนคนผู  น้ี
ไมผิดแน เกรงวาคนผูนี้อยางนอยที่สุดก็นาจะมีพลังยุทธระดับแมทัพวิญญาณขั้นสูง
มิเชนนั้นก็ไมมีทางทำใหเทียนหมิงและพวกรูวาสูไมไดจนลาถอยแน” จูอินจื่ออธิบาย
อยางเครงขรึม
“เชนนี้เผาวิหคสวรรคก็มีไมตายจริงๆ คราวกอนที่ประมุขของพวกเขาเพลี้ยงพล้ำไป
ยังบอกวาในเผาของพวกเขาไมมี บุตรศั กดิ์สิทธิ์ อยู แลว ครั้งนี้ตองถูกเผาแดงสด
ของพวกเรากลืนกินอยางไมตองสงสัย ผลคือมีบุตรศักดิ์สิทธิ์ปรากฎตัวขึ้นถึงสามคน
หนึ่งในนั้นยังเปนแมทัพวิญญาณขั้นสูง ชางเปนเรื่องที่เหนือความคาดหมายเสียจริง”
ชายหนุมหนากลมกระพริบตาปริบๆ แลวเอยอยางเชื่อครึ่งไมเชื่อครึ่ง
“ไมเปนไรหรอก ถึงอยางไรเสียในอดีตเผาวิหคสวรรคก็เปนหนึ่งในเผาที่แข็งแกรง
ในเผาวิญญาณเหาะเหิน เก็บซอนไมตายอะไรที่ผูอื่นไมรูเอาไว ก็ไมใชเรื่องแปลกอะไร
แตครั้งนี้อาวุโสของเผากำชับเอาไวอยางชัดเจนวา จะตองรวมมือกับเผาอื่นกำจัด
เผาแดงสด อยาใหบุตรศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขากลายเปน ประมุขได แมแตคนเดี ย ว
เจาผูที่เรียกวาหานลี่นั้นกวาครึ่งคงเปนผูที่เปนความหวังที่สุดของเผาวิหคสวรรค
ดังนั้นกอนเขาไปในหุบเหวลึก ตองรูความสามารถของเขาใหกระจางกอน แลว
คอยวากัน ขาไมอยากทำอะไรที่ไมมั่นใจ” จูอินจื่อเอยอยางเครงขรึม
“ศิษยพี่พูดมีเหตุผล ครานี้พวกเราไปที่สนามแขงขันกอนเถิด คนผูนั้นจะตองไปแน”
สือเทียนเอยพรอมกับหัวเราะคิกคักออกมา
“นั่นมันแนนอนอยูแลว เดิมทีบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิหคสวรรคก็นอยอยู แลว
หากเขาไมไปดูสักหนอย แลวเกิดอะไรขึ้น เขาก็ตองเกี่ยวของอยูแลว” จูอินจื่อเอย
พรอมกับหัวเราะหึๆ ออกมา
จากนั้นทั้งสองคนก็พวยพุงขึ้นไปบนทองฟา บินไปทางทิศตะวันออก
ตอนที่ 1435 สนามแขงขัน
หานลี ่ เดินอยู บนทางเดิ นหินสี เ ขีย วเล็ ก ๆ สายหนึ ่ ง ชื ่ น ชมทัศ นีย ภาพรอบๆ
ทาทางเออระเหยลอยชาย
เมื่อทอดสายตาออกไป รอบดานกลับไร เ งาผู ค น แตเมื่อเงยหน าขึ้ นก็ พ บว า
มีคนกำลังบินไปบินมาอยูนิดหนอย เดิมทีคนของเผาวิญญาณเหาะเหินนั้นก็คุนเคยกับ
ความสูงอยูแลว ถนนสายเล็กๆ บนพื้นดินนั้นความจริ งแล วก็ เปน แค การตกแต ง
ซะสวนใหญ
ทวาเมื่อหานลี่นึกถึงพลังความแข็งแกรงของเผาวิญญาณเหาะเหินที่มารวมตัวกัน
อยูที่นี่ ก็ถอนหายใจออกมาเงียบๆ เฮือกหนึ่ง
ไมตองพูดถึงสิ่งอื่น แตอาวุโสที่เปนผูนำของทั้งเจ็ดสิบสองสาขาของเผาวิญญาณ
เหาะเหิ น ประกอบกั บ สมาชิ ก อาวุ โ สที ่ เ ข า ร ว มการประชุ ม อี ก ยี ่ ส ิ บ สามสิ บ คน
ความแข็งแกรงของขุมกำลังนี้ก็มากกวาเมืองเทวะสวรรคแลว ถึงอยางไรเสียปกติแลว
เมื อ งเทวะสวรรค ก ็ ม ี อาวุ โสระดั บ หลอมร า งสิ บ กว า คนนั ่ ง บั ญ ชาการอยู  เ ท า นั้ น
แน นอนว า หากตกอยู  ใ นคราสงครามก็ อาจจะรวบรวมเผ า มนุ ษ ย แ ละป ศ าจจน
เกื อบคนร อยคน แต นั ่ นก็ เ ป นพลั ง ของทั ้ ง สองเผ า หากอาศั ย แค เ ผ า มนุ ษ ย ห รื อ
เผาปศาจเพียงอยางเดียวก็ไมอาจเทียบเคียงกับเผาวิญญาณเหาะเหินได
สวนจำนวนของระดับเทพแปลงหรือวาระดับหลอมสูญนั้น เดาวาก็ไมใชส ิ่ งที่
เผามนุษยและปศาจจะเทียบไดเชนกัน
ดูแลวที่เผามนุษยยืนหยัดอยูในแดนวิญญาณมาไดนานขนาดนี้ แลวทำไดเพียง
ปกปองตนเองเทานั้น นับวาออนแอมากในแดนวิญญาณ คงจะเปนเรื่องจริง
เทียบกันแลว แมนวากำลังของเผาวิญญาณเหาะเหินจะไมอาจเทียบกับเผาใหญๆ ใน
ตำนานของแดนวิญญาณได แตก็นาจะพอจัดอยูในอันดับตนๆ ของเผาระดับกลางได
หานลี่ขบคิดอยางเงียบๆ หักเลี้ยวอีกครั้งหนึ่ง เบื้องหนามีศาลาเล็กๆ ปรากฎขึ้น
รอบดานมีทางเดินเล็กๆ สองสามสายทอดตัวไปทางอื่น
บนเกาอี้ไมสองตัวในศาลา มีหญิงสาวชุดขาวสองคนกำลังสนทนาอะไรกันสักอยางอยู
ครั้นเมื่อพวกนางเห็นวามีคนนอกมาปรากฎตัว ก็อดที่จะหยุดหัวเราะ แลวมองมา
เปนตาเดียวไมได
สตรีหนึ่งในนั้นก็คือ ผูที่นำทางใหหานลี่และพวกกอนหนา หญิงสาวรางกาย
อรชนออนแอนที่เรียกตนเองวา ‘เสี่ยวจู’
“ที่แทก็แมหญิ ง เสี่ ยวจู นี่ เ อง ไมทราบวาแมนางเสี ่ย วจู เ ห็ นคนในเผา ของข า
ที ่ ม าด ว ยกั นผ า นมาทางนี ้ ห รื อไม ” ความคิ ด ของหานลี ่ เ คลื ่ อนไหวอย า งรวดเร็ว
เอยถามสตรีผูนี้อยางมีมารยาท
“คุณชายหานหมายถึงพี่เหลยหลันสินะ กอนหนานี้ไมนานขาเห็นนางผานมาทางนี้
ดูเหมือนวาจะตรงไปยังสนามแขงขัน” เสี่ยวจุหยัดกายลุกขึ้น แลวหัวเราะคิกคัก
ขณะตอบกลับ
“สนามแขงขัน? ไปคนเดียวหรือ!” จิตใจของหานลี่หนักอึ้งขณะเอยถามอีกครั้ง
“ไมใช พี่หญิงหงซาของเผาแดงสดพาไป” เสี่ยวจูกระพริบดวงตาคูงามปริบๆ
ฉีกยิ้มอยางมีเลศนัย
“ขอบคุณที่บอก!” มองไมเห็นสีหนาใดๆ บนใบหนาของหานลี่ หลังจากที่ยิ้ม
จางๆ แลว ก็เปลี่ยนทิศทางเดินตามทางเดินเล็กๆ ที่ทอดตัวไปสูสนามแขงขัน
หญิงสาวสวมชุดสีขาวทั้งสองเห็นเชนนั้นก็มองสบตากันแวบหนึ่ง ตางก็มองเห็น
ความประหลาดใจในแววตาของอีกฝาย
บุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิหคสวรรคผูนี้ ไดยินวาสหายถูกศัตรูพาไปยังสถานที่แหงนั้น
ยังระงับโทสะไดขนาดนี้ ชางไมใชคนธรรมดาจริงๆ
แนนอนวาหญิงสาวทั้งสองคนไมรูวา หานลี่ที่ดูเหมือนสงบนิ่งในครานี้ ในใจกลับ
รูสึกโกรธเกรี้ยวอยูหลายสวน
หญิงสาวเผาวิหคสวรรคที่มีนามวาเหลยหลันผูนี้ชางไมรูวาอะไรควรไมควรเอาซะเลย
แมวาจะไมรูวาคนของเผาแดงสดใชวิธีใดลอใหนางไปที่สนามแขงขัน แตเห็นไดชัดวา
ไม ไ ด ม ี เ จตนาดี จะไม ใ ห ม องออกได อ ย า งไร หากอี ก ฝ า ยจงใจทำร า ยนางใน
สนามแขงขัน ความหวังในการผานการทดสอบของเผาวิหคสวรรคจะไมลางเลือนหรือ
เขาจึงไมอาจนิ่งดูดายได
ถึงอยางไรเสียหลังจากที่เขาสลักชื่อลงไปในมวนคำสาบานของวิหคสวรรคแลว
และยังทำสัญญากับจินเยวไปอีก หากไมอาจะทำใหเผาวิหคสวรรคมีประมุขเพิ่มขึ้นได
เขาจะยิ่งยุงยากเขาไปใหญ
เชื่อวาอาวุโสสองสามทานของเผาวิหคสวรรคคงไมสนใจวาเผาของตนจะถูกกลืนกิน
จัดการเขาผูซึ่งเปนคนนอกเผากอนแน
เมื่อขบคิดถึงเงื่อนไขตางๆ ของการทดสอบหุบเหวลึก หานลี่ก็ลอบถอนหายใจ
ออกมาเฮือกหนึ่ง ครั้งนี้เขาไดประโยชนจากในเผาวิหคสวรรคจริงๆ แตก็ถูกดึงเขาไป
ในความยุงยากที่ไมนอยเชนกัน
แมวาวันขางหนาจะชวยใหเผาวิหคสวรรคหลุดพนจากสถานการณนี้ได แตเขาจะ
รอดจากสถานการณนี้อยางไร ก็ยังคงตองขบคิดแผนใหดี
เมื่อขบคิดเชนนี้ฝเทาของหานลี่ก็ยังคงไมรีบรอน แตคนกลับเคลื่อนไหวราวกับวารีไหล
เดินจากฟากหนึ่งของถนนสายเล็กๆ ไปอีกฟากหนึ่ง หลังจากที่พลิ้วไหวสองสามครั้ง
รางกายก็หายวับไปอยางไรรองรอย
สิ่งที่เรียกวาสนามแขงขันนั้นหาเจอไดงายมาก หางจากที่พักของพวกหานลี่ไปไมไกล
ดังที่คิด
หลังจากที่สำแดงความสามารถพันลี้แคคืบ แคชั่วเวลาหนึ่งมื้ออาหารรหานลี่ก็มองเห็น
ลำแสงยักษที่สูงขึ้นไปถึงพันจั้ง และยิ่งไปกวานั้นยังมีเสียงระเบิดอื้ออึงดังแววมา
หานลี่หนาเปลี่ยนสี ความสามารถใตฝาเทาหยุดลง เดินไปดวยความเร็วของฝเทา
ธรรมดาๆ
คนของเผาแดงสดที่มีนามวาสือเทียนผูนั้น ในเมื่อเปนฝายยอมรับวาเหลยหลันไปไหน
ก็นาจะอยากดึงความสนใจของเขา
ขอแคเขาไมปรากฎตัว คิดดูแลวคนของเผาแดงสดก็นาจะไมทำอะไรใหยุงยาก
ในทั น ที และยิ ่ ง ไปกว า นั ้ น ต อ ให อ ี ก ฝ า ยทนไม ไ หวลงมื อ ไปแล ว ตอนนี้ ร ี บ ไปก็
สายไปแลว เขาจึงไมไดรีบรอนอะไร
เมื ่ อ ขบคิ ด เช น นั ้ น แววตาของหานลี ่ ก ็ เ ปล ง แสงสี ฟ  า สว า งวาบ มองไปยั ง
สถานการณในมานลำแสงอยางละเอียด
ที่นั่นดูเหมือนวาจะมีคนกำลังสำแดงความสามารถอยูกลางอากาศ ทาทางกำลัง
ตอสูกัน
ยังดี! คนที่ตอสูกันยังไมไดสำแดงความสามารถกลายพันธุอะไร คนหนึ่งควบคุม
เปลวเพลิงรอนแรง คนหนึ่งพนไอเย็นสีฟาออกมา หนึ่งในนั้นไมใชเหลยหลัน นี่จึงทำ
ใหหานลี่คลายความกังวลไปเปาะหนึ่ง
แตหญิงสาวที่ควบคุมเปลวเพลิงผูนั้น กลับเห็นไดชัดวาเปนบุตรศักดิ์สิทธิ์นามวา
หงซาของเผาแดงสดผูน ั้น
ขณะที่หานลี่กำลังรูสึกประหลาดใจนั้น ฉับพลันนั้นก็สัมผัสไดวามีคนคนหนึ่งใน
ฝูงชนมองมาทางตนเองแววหนึ่ง รูสึกหนาวสะทาน คลายวาจะมีเจตนาไมดี
เขาเปนผูที่มีจิตสัมผัสวองไวขนาดไหน กวาดสายตาไปในทันที หมายจะตามหา
คนผูนั้นใหพบ
แตสิ่งที่ทำใหเขาใจหายวาบก็คือ สายตาคูนั้นเปลงประกายแลวหายวับไปในทันที
เมื่อเขากวาดสายตาไปที่ฝูงชน กลับไมพบอะไรเลย
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม หลังจากที่นิ่งเงียบเล็กนอย ก็ลมเลิกการตามหา และเรงฝเทา
หลังจากผานไปชั่วครูก็เขาใกลสนามแขงขัน
ไมรอใหเขาเดินมาถึงที่ หลังจากที่เปลวเพลิงรอนแรงและไอเย็นเยียบของทั้งสองคน
ปะทะกันกลางอากาศ ชั่วพริบตาก็ตัดสินผูแพชนะไดทันที
ปกขนนกสีฟาคูหนึ่งที่แผนหลังของบุรุษถูกเปลวเพลิงที่ลุกลามขยายวงกวางบีบ
ใหลาถอยไปในชั่วพริบตา จึงจำใจตองขอยอมแพตอสตรีนามวาหงซา แลวรอนลงจาก
กลางอากาศ
“นองหญิงเหลย ขาจัดการคูตอสูแลว หากอยากไดศิลาดาวอัสนี ขอแคชนะขาได
พี่หญิงก็จะมอบใหในทันที ไมมีทางเปลี่ยนใจแน” เดิมทีสตรีผูนี้ก็มีหนาตาไม เลว
เมื่อฉีกยิ้มออนโยน ใบหนาก็เต็มไปดวยเสนหเยายวนใจ
ทำใหบุรุษของเผาวิญญาณเหาะเหินจำนวนไมนอยที่เห็นรูสึกใจเตนตุมๆ ตอมๆ
หานลี่ไดยินคำนี้ก็รองอุทานวาแยแลวออกมา เมื่อคิดจะรองหามจากที่ไกลๆ นั้น
กลับสายไปเสียแลว
ลำแสงสีขาวกลุมหนึ่งเปลงแสงสวางวาบ คาดไมถึงวาจะพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา
เงารางอรชนออนแอนดานในมีปกขนนกสีเงินคูนหึ่ง
ไมใชเหลยหลันผูนั้นแลวจะเปนใครได
หานลี่มีสีหนาเครงขรึมลง
สตรีของเผาแดงสดผูนี้จัดการอีกฝายในพริบตาได ในขณะที่เขามาถึงอยางพอดิบพอดี
และทาประลองเหลยหลันทันที
เห็นไดชัดวามันไมใชเรื่องบังเอิญ ผูที่แอบสังเกตการณเขาเมื่อครู จะตองรายงานวา
ตนเองมาถึงแลวกับสตรีผูนี้แน ถึงไดเริ่มแผนมุงเปามาที่ตนเอง
ทวาหลังจากที่เขาพนลมหายใจออกมาสองสามครั้ง ชั่วพริบตาสีหนาก็ฟนฟู
กลับมาเปนปกติ หลังจากเรงฝเทาติดๆ กันสองสามกาวก็มาอยูดานขางสนามแขงขัน
และหาที่ที่อยูใกลๆ ยืนอยูตรงนั้นไมขยับเขยื้อน
“เจาใชศิลาดาวอัสนีลอขามาที่นี่ นาจะอยากใหขาลงมือสินะ ไมวาเจาจะมีแผนอะไร
ในเมื่อบอกวาขอแคขาชนะเจาก็จะไดศิลาดาวอัสนี ขาก็จะไมปรานี” เหลยหลันเอย
ดวยสีหนาไรความรูสึก
ป ก สี เ งิ นที่ แ ผ นหลัง สยายอก ชั ่ ว ขณะนั้ น ประจุ ไ ฟฟ าสี เ งินเป น สายๆ ก็ แ ล น
เปรี้ยงปราง แผไปทั่วเรือนรางของสตรีผูนี้อยางรวดเร็ว ทำใหนางเปนเหมือนอัสนี
อยางไรอยางนั้น
“จุๆ ขอแคนองหญิงมีฝมือ ขาจะตองมอบศิลาดาวอัสนีใหแน” หงซากลับไมใสใจ
เลยสั ก นิ ด แค เ หลื อบตามามองหานลี ่ แ วบหนึ ่ ง แล ว เอ ย พร อมกั บ หั ว เราะเบาๆ
ออกมาา
แนนอนวาคนของสาขาอื่นๆ ที่อยูดานลางตางรูเรื่องความแคนของเผาแดงสด
และเผาวิหคสวรรค ครานี้จึงเกิดเสียงซุบซิบนินทาขึ้น ลวนโอบกอดความคิดวาจะไดดู
ของดีเอาไว แลวเตรียมจะชื่นชมการตอสูครั้งนี้
เมื่อเห็นหานลี่ยืนกอดอกอยูตรงนั้น ไมมีทาทีจะลงมือหามปราม
หงซาก็เผยรอยยิ้มออกมา ในใจพลันรูสึกรอนใจ
หากหานลี่ไมลงมือหามปรามละก็ แผนที่พวกนางวางกันเอาไวก็ไมอาจนำมาใชได
ดูแลวมีแผนตองใชอีกแผนแลว
สตรีผูนี้ขบคิดอยูในใจ ดังันั้นจึงไมไดลังเลอะไรอีก สองมือพลันรายอาคม รางกาย
เปลงแสงสีแดงออกมา ลูกบอลเพลิงสีแดงสดขนาดเทาปากชามเปนลูกๆ ปรากฎขึ้น
รอบๆ แทบจะสะทอนจนทำใหทองฟากวาครึ่งเปนสีแดง
อุณหภูมิของสนามแขงขันทั้งสนามเพิ่มสูงขึ้น เปลี่ยนเปนรอนฉาและยากที่จะ
รับมือไหว
ผูชมที่มีพลังยุทธต่ำตอยหนอย แมกระทั่งจำใจตองถอยรนออกไปสิบกวากาว
ถึงจะทนกับอุณหภูมิที่รอนฉาได
หานลี่เห็นฉากนี้พลันเลิกคิ้ว แตยังคงยืนนิ่งอยูที่เดิมไมไหวติง
เมื่อเหลยหลันเห็นเชนนั้น กลับกระพือปกทั้งสองโดยไมไดปริปาก แลวพลัน
รายคาถาในใจ
หลังจากเสียงฟารอง “เปรี้ยงๆ” ดังขึ้น ประจุไฟฟาที่พันอยูรอบตัวนางก็ขยายขึ้น
หลายเท า มองไกลๆ ดู เ หมื อนอสรพิ ษ ยั ก ษ ส ี เ งิ น สองสามตั ว รั ด ร า งของนางอยู
แตทันใดนั้นก็กลายเปนเสนไหมสีเงินจำนวนนับไมถวนพุงออกไปฝงตรงขาม
เสนไหมสีเงินเปลงแสงสวางวาบ เสนไหมอัสนีแทบจะทุกสายทะลวงผานลูกบอลเพลิง
ลูกหนึ่ง ชั่วพริบตาเสียงฟาผาก็ดังขึ้นไมหยุด ลูกบอลเพลิงจำนวนนับไมถวนทยอยกัน
ระเบิดออก กลายเปนประกายไฟจำนวนนับไมถวน โปรยปรายลงมาทั่วทั้งสารทิศ
ความสามารถในการควบคุมอัสนีใหกลายเปนเสนไหมนี้ ไมใชแคหานลี่ที่ตกตะลึง
คนของเผาวิญญาณเหาะเหินที่ชมการตอสูอยูดานลางก็เกิดเสียงอื้ออึงขึ้น
หงซาที่อยูตรงขามเองก็มีสีหนาตกตะลึงฉายแวบผาน แตทันใดนั้นก็หัวเราะ
อยางเย็นชาออกมา สะบัดแขนเสื้อ หมอกสีแดงพุงออกมา หมุนวนเริงระบำอยูรอบๆ
ทุ ก แห ง ที ่ ห มอกสี แ ดงพุ ง ผ านไป ประกายไฟเหลา นั้ น จะทยอยกั น กลายเปน
หมอกสีแดง ทะลักไปรวมตัวกันขางกายของหงซา
ชั่วพริบตาเมฆสีเพลิงผืนใหญก็ปรากฎขึ้น กลืนกินรางของหงซาเอาไวขางใน
เมฆสีเพลิงหมุนวนอยางไมแนนอน คลื่นเพลิงทะลักออกมาจากใจกลางเมฆเปน
ระลอกๆ ทั นใดนั ้นเมฆเพลิ ง ก็รวมตั วกั น อยู ที ่ใ จกลาง คาดไม ถ ึ ง ว าจะกลายเปน
ลูกบอลเพลิงขนาดยักษเสนผาศูนยกลางสิบจั้งเศษทามกลางลำแสงสีแดง
ลูกบอลเพลิงนี้หมุนติ้วๆ เปลงเสียงรองหึ่งๆ อันนาหวาดกลัวออกมา ตรงไปยัง
เหลยหลัน
เหลยหลันหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย ชูแขนขึ้นโดยไมไดเอยอะไร ลำแสงสีเงิน
ระเบิดออกมา เสียงฟาผาดังขึ้ น แขนทั้งทอนถูก ประจุ ไฟฟ าสี เงิ นบางๆ จำนวน
นับไมถวนหอหุมเอาไว ลำแสงสีเงินเปลงแสงสวางวาบ รวมตัวกันเปนหนึ่งเดียวกับ
ประจุไฟฟาสีเงิน
เสียงตูมดังสนั่นขึ้น ประจุไฟฟายักษขนาดเทาถังน้ำสายหนึ่งพนออกมาจากแขน
ตรงไปยังลูกบอลเพลิงยักษที่อยูตรงขาม
ตอนที่ 1436 หยั่งเชิง
หลังจากที่เสียงฟาผาดังขึ้น ประจุไฟฟาสีเงินหนาๆ ก็จมหายเขาไปใน ลูก
บอลเพลิงยักษในตอนที่คนกวาครึ่งลวนคิดวาประจุไฟฟาสีเงินจะตองทะลวงผานลูก
บอลเพลิงนั้น อัสนีลูกนี้กลับเปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปในผิวของ ลูก
บอลเพลิงอยางไรรองรอย คาดไมถึงวาจะดูเหมือนวาถูกกลืนกินอยางไรอยางนั้น
เหลยหลันพลันตกตะลึง ลูกบอลเพลิงมาอยูตรงหนาในชั่วครู ทาทางนาตกตะลึง
เปนอยางยิ่ง
หลังจากที่สตรีผูนี้มีสีหนาลังเลเล็กนอย รางกายก็พุงไปทางดานหลัง ปกคูนั้น
หอหุมรางกายของตนเองเอาไว
ชั่วขณะนั้นลำแสงอัสนีเปนชั้นๆ พลันปรากฎขึ้น ทามกลางอัสนีวิหคสีเงินขาวตัวหนึ่ง
พลันปรากฎขึ้น เรือนกายมีประจุไฟฟาสีเงินแลนผาน บนลำคอกลับมีโซประหลาดๆ
คลองอยู ดานบนมีน้ำเตาสูงสองสามชุนเปลงแสงสีทองเรืองรองปรากฎอยู
ตั้งแตตนจนจบสตรีผูนี้จึงตัดสินใจเอาเคล็ดวิชาแปลงกายที่ชำนาญที่สุดออกมา
โจมตีอีกฝาย
เมื่อลูกบอลเพลิงขนาดยักษเห็นวิหคตัวนี้ปรากฎตัว ชั่วขณะนั้นก็หยุดการหมุนตัว
เสียงอึกทึกดังขึ้น ลูกบอลเพลิงเปลี่ยนรูปไปอยางฉับพลัน และกลายเปนวิหคเพลิง
สีแดงสดตัวหนึ่ง
วิ ห คตั ว นี ้ ม ี ข นาดใหญ ม ากกว า วิ ห คตรงข า มหลายเท า แต ว ิ ห คตยั ก ษ ก ลั บ
ไมหวาดกลัวเลยสักนิด หลังจากเสียงไพเราะดังขึ้น รางกายพลันขยายใหญขึ้น ชั่วครู
ก็มีขนาดเล็กกวาวิหคเพลิงเทาหนึ่ง จากนั้นก็พาลำแสงอัสนีจำนวนนับไมถวนกระโจน
ไปยังฝงตรงขามอยางรุนแรง
หงซาที่กลายเปนวิหคเพลิงยิ่งไมหวาดกลัว เปลวเพลิงบนรางลุกโชน กรงเล็บที่
แหลมคมคูหนึ่งชูขึ้นมาจากกลางอากาศ กรงเล็บลำแสงสีแดงสดพุงออกมา
วิหคยักษทั้งสองชูปกทั้งสองขึ้น แทบจะกลบมานลำแสงกลางอากาศไปกวาครึ่ง
และเปนเพราะการตอสูของทั้งสองยิ่งดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ
โลหิตสดๆ ขนนกจึงรวงลงมาเปนครั้งคราว
แตชั่วพริบตาที่หลนมาถึงพื้น ของเหลานั้นก็สลายหายไปอยางไรรองรอย
สิ่งที่อยูนอกเหนือความคาดหมายของทุกคนก็คือ เหลยหลันที่มีพลังยุทธอยูใน
ระดับแมทัพวิญญาณขั้นตนเมื่อแปลงกลายเปนวิหคยักษแลว คาดไมถึงวา จะ
ไมไดเปนรอง กลับยิ่งมีทาทีตอสูที่ดุดันมากขึ้น
ไมวาประจุไฟฟาบนกรงเล็บหรือบนราง คาดไมถึงวาจะคอยๆ เปลี่ยนจากสีเงินขาว
เปนสีมวงออก ดูทาทางอานุภาพของมันจะมากกวาอัสนีสีเงิน
แววตาของหานลี่เปลงแสงสีฟาสวางวาบจองเขม็งไปยังวิหคยักษกลางาอากาศ
มุมปากกลับเผยสีหนาแปลกประหลาดออกมา
คนอื่นไมไดสังเกตจึงคิดวา วิหคยักษที่อยู กลางอากาศสำแดงเคล็ดวิชาอะไร
ออกมาโดยอัตโนมัติ ถึงไดทำใหอานุภาพของประจุไฟฟาสีเงินเพิ่มขึ้น
แต ภ ายใต เ นตรวิ ญ ญาณของเขา กลั บ มองเห็ น อย า งชั ด เจน สิ ่ ง ที ่ เ รี ย กว า
ประจุ ไ ฟฟ า สี ม  ว งไม ไ ด เ กิ ด จากตั ว ของวิ ห คยั ก ษ แต เ กิ ด จากน้ ำ เต า สี ท องขนาด
สองสามชุ  น ตรงคอ บางครั ้ ง ก็ พ  น พลั ง เส น ไหมไฟฟ า สี ม  ว งเป น สายๆ ออกมา
เมื่อเสนไหมไฟฟาเหลานี้สัมผัสกับประจุไฟฟาสีเงินบนตัวของวิหคยักษ ก็ผสมกันแลว
หายไปอยางไรรอ งรอย
มีการเคลื่อนไหวนี้ ประจุไฟฟาสีเงิ นที ่ ปกป องร างของวิห คยักษถ ึ งไดค  อยๆ
กลายเปนสีมวงออน
เสนไหมไฟฟาสีมวงนี้ดูเหมือนวาจะมีประวัติความเปนมาที่ยิ่งใหญ
หงซาที่ตกตะลึ งมาตั ้ง แตต นกลั บ เป นฝ ายถู ก กดจนตกเป นรอง ในใจจึงรู  สึ ก
ตกตะลึงระคนโกรธขึงอยางสุดๆ
แมววานางจะไมรูวาอีกฝายทำไดอยางไร แตเห็นไดชัดวาใชวิธีการที่พิเศษอะไร
บางอยาง มิเชนนั้นอาศัยแคพลังยุทธแลว อีกฝายจะเปนคูตอสูของนางไดอยางไร
ในตอนนั้นเองขางหูของนางพลันมีเสียงบุรุษดังขึ้น เสียงไมดังนัก แตเมื่อสตรีผูนี้
ไดยินกลับรูสึกใจสั่นสะทาน ทันใดนั้นก็โยนความลังเลสุดทายทิ้ งไป กระพือปก
ทั้งสองขาง ใชการสังหารที่ตนเองเตรียมมาเพื่อการทดสอบครั้งนี้เชนกัน
เหนือหัวของวิหคเพลิงมีขนนกยาวๆ เสนหนึ่งพุงออกมา
หลังจากเสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น ขนนกก็กลายเปนวิหคเพลิงอีกตัวหนึ่งที่เหมือนกัน
ทุกระเบียบนิ้ว
อาปากออกอีกครั้ง พนลูกบอลไฟรวมทั้งไขมุกออกมาเปนลูกๆ เรือนกายมีเปลวเพลิง
โหมกระหน่ำขณะกระโจนเขาไปในวงการตอสู
วิหคยักษที่เพิ่งจะไดเ ปรีย บไป ถูกการโจมตีจากวิหคเพลิ งทั้ งสองขนาบข า ง
ก็ทำใหวิหคยักษหนาเปลี่ยนสีไปในทันที เปลงเสียงกูรองดวยความโกรธเกรี้ยวไมหยุด
เปลวเพลิงและประจุไฟฟานี้ตัดสลับโจมตีกันไปมา ทำใหอากาศที่อยูในเปลวเพลิง
ถูกสั่นคลอนจนเกิดเสียงหึ่งๆ ขึ้น อากาศรอบๆ เริ่มบิดเบี้ยวกวัดแกวงไปมา แตก็
ทำใหสถานการณการตอสูของวิหคยักษสีเงินและวิหคเพลิงสองตัวลางเลือนไมชัดเจน
แตไมวาผูใดก็มองออกวา วิหคยักษสีเงินกำลังตกอยูในอันตราย ไมอาจยืนหยัดได
นานหนัก ไมแนวาอาจจะไดรับบาดเจ็บแลวรวงลงสูพื้นในทันทีก็เปนได
ครั้งนี้หานลี่แคมองดูอยางเงียบๆ ชั่วครู ฉับพลันนั้นปกที่แผนหลังก็สยายออก
หลังจากเสียงฟารองที่นาตกตะลึงดังขึ้น ก็กลายเปนประจุไฟฟาสีเขียวขาวสายหนึ่ง
หายวับไปจากที่เดิม
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ทามกลางฝูงชนก็มีเงาสีดำอีกสายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบ
แลวหายวับไปจากที่เดิม
“ปง” เสียงดังขึ้น กระบี่ลำแสงสีทองความยาวสิบจั้งเศษสายหนึ่งปรากฏขึ้น
กลางอากาศ สับลงไปทางเปลวเพลิงและประจุไฟฟาที่กำลังกอดรัดฟดเหวี่ยงกัน
กระบี่ลำแสงยังไมทันไดเขาใกลการตอสู รอยแยกสีขาวบางๆ สายหนึ่งก็ปรากฎขึ้น
เบื้องหนา และระเบิดเสียงกรีดรองแหลมๆ ออกมา
เมื่อเปลวเพลิงและประจุไฟฟาสัมผัสกับรอยแยกสีขาว ก็ทยอยกันสลายหายไป
ราวกับราวกับดินโคลน
วิหคเพลิงสองตัวที่อยูในการตอสูและวิหคยักษสีเงินตัวนั้น รูสึกเพียงวาลำแสง
สีทองสวางพราง ของที่แหลมคมสายหนึ่งมาอยูเหนือหัวของทั้งสาม และสับลงมา
อยางไมปรานีเลยสักนิด
พวกมันไมอาจตานทานได
ภายใตความตะลึงงันของวิหคทั้งสาม จึงไมสนใจการตอสูอะไรอีก ตาง
เก็บความสามารถของตนเองพรอมกับ แลวพุงกลับไปทางดานหลัง
กระบี่ลำแสงยักษสับทั้งสองออกจากตรงกลาง ทิ้งรอยแยกสีขาวสายหนึ่งเอาไวที่เดิม
ทันใดนั้นพลังมหาศาลกลุมหนึ่งก็ระเบิดออกมาจากรอยแยกสีขาว
รอบๆ มีพายุลูกใหญกอตัวขึ้น พลังปราณฟาดินจำนวนมากรวมตัวกันในรอยแยก
สีขาว ราวกับจะสับหวงเวลาออกไปจริงๆ
ผูชมที่อยูดานนอกตางเกิดความโกลาหลขึ้น วิหคยักษเก็บประจุุอัสนีในรางไป
กลายเปนสตรีวัยดุรณีอีกครั้ง แตแคใบหนาเต็มไปดวยความตกตะลึงระคนสงสัย
“เจ า ไม ใ ช ค ู  ต อสู ข องสตรี ผ ู นี ้ ไม จ ำเป น ต องสู  ต ออี ก ” เสี ย งราบเรี ยบดังขึ้น
ที่ดานหลังของเหลยหลัน ราวกับวาอยูใกลแคคืบ
สตรีอาภรณสีเงินหนาเปลี่ยนสีรีบรอนหันกลับไป เห็นเพียงชายหนุมอาภรณ
สีเขียวมายืนอยูดานหลังของนางอยางเงียบเชียบ
นั่นก็คือ หานลี่!
“เมื่อครูนี้พี่หานเปนผูลงมือหรือ!” เหลยหลัยรูสึกตื่นตะลึงไปเล็กนอย
อานุภาพของกระบี่ลำแสงสายนั้น ทำใหสตรีผูนี้คิดวาผูที่ลงมือคือสิ่งมีชีวิตระดับ
ผูบัญชาการวิญญาณทานหนึ่ง
ครานี้กระบี่ลำแสงที่นากลัวสายนั้นสลายหายไปพรอมกับรอยแยกสีขาวที่ปรากฎขึ้น
ไอวิญญาณฟาดินที่รวมตัวกันอยูก็แยกตัวออกจากกันอีกครั้ง ฟนฟูกลับมาเปนดังเดิม
ทวาหานลี่ในครานี้กลับไมไดตอบคำถามสตรีผูนี้ แคใชสองตาจองเขม็งไปยังฝง
ตรงขาม
เหลยหลันพลันตกตะลึงแลวมองตามไป
นางถึงไดพบวาหงซาที่อยูตรงขามก็กลับมาอยูในรางมนุษยแลวเชนกัน และยังเก็บ
รางแยกของตนเองไปแลว กำลังมองมาทางนี้ดวยทาทีอมยิ้ม
ดานหลังของคูตอสูมีชายหนุมอาภรณสีแดงคนหนึ่งปรากฎตัวขึ้นตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู
หนาตาโหดเหี้ยม สีหนาไรความรูสึก
ชายหนุมผูนี้ก็คือ จูอินจื่อ และเปนบุตรศักดิ์สิทธิ์ในบรรดาบุตรศักดิ์สิทธิ์ข อง
เผาแดงสดที่ทำใหนางรูสึกตื่นตัวมากที่สุด
เหลยหลันอดที่จะใจเย็นเยียบไมได
“พี่หาน ไดยินวาทานเอาแตฝกบำเพ็ญเพียรอยูนอกมหาสมุทร เพิ่งจะกลับมายัง
เผาวิหคสวรรคกอนหนานี้ไมนาน ขานอยรูสึกสนใจจริงๆ ขอแลกเปลี่ยนประสบการณ
กับพี่หานไดหรือไม” จูอินจื่อมุมปากกระตุก แลวเอยถาม
กระบี่ที่หานลี่หยิบออกมาเมื่อครูทำใหเขารูสึกจิตใจหนักอึ้ง รูวาการคาดเดาของ
ตัวเองนั้นไมผิดแน อีกฝายมีความสามารถไมธรรมดาจริงๆ แตเพื่อใหรูความสามารถ
ของอีกฝายอยางละเอียด เขาก็ยังคงดำเนินตามแผนขอมาประลองหานลี่ดวยสีหนา
ราบเรียบ
ชื่อเสียงของจูอินจื่อไมใชสิ่งที่หงซาและเหลยหลันจะเทียบเทียมได
เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ ก็ถูกผูชมจำนวนไมนอยจำไดในทันที ทันใดนั้น
เมื ่ อ คนเหล า นี ้ ไ ด ย ิ น จู  อ ิ น จื ่ อ ขอท า ประลองกั บ อี ก คนหนึ ่ ง ก็ พ ลั น รู  ส ึ ก ตกตะลึ ง
ชั่วขณะนั้นทุกคนก็เผยสีหนาตื่นเตนออกมา!
ผูที่มีความสามารถเกรียงไกรประมือกันไมใชสิ่งที่พบเห็นไดบอยๆ หนึ่งในนั้นเปน
ผูที่มีชื่อเสียงมาเนิ่นนาน มีความนาเกรงขามไมนอย อีกคนหนึ่งก็เปนแมทัพวิญญาณ
ระดับสูง ดูแลวพวกเขานาจะไดเปดหูเปดตาแลว
เมื่อไดยินคำพูดของจูอินจื่อ เหลยหลันพลันขมวดคิ้วสีหนาถึงบางออไปเล็กนอย
ดูแลวในที่สุดสตรีผูนี้ก็มองออกแลววาจุดประสงคของอีกฝายดูเหมือนวาจะอยูที่
‘ศิษยพี่หาน!’ ตั้งแตแรก คาดไมถึงวานางจะเปนแคเหยื่อลอเทานั้น
“ประมือกับนายทาน ขานั้นไมสนใจ” หานลี่ฉีกยิ้มแลวเอยอยางหวนๆ
“หึๆ ในเมื่อเขามาในเขตตองหามแลวก็ชวยไมไดแลว พี่หานรับคำทาเถิด”
ชายหนุมชูมือหนึ่งขึ้น ดูเหมือนวาฝามือที่ปกติแลวมีลำแสงสีแดงมีลำแสงระยิบระยับ
จะกลายเปนกรงเล็บที่แหลมคมสีแดงสด เล็บทั้งสิบแหลมคม เปลงแสงแพรวพราว
ดูเหมือนวาแกะสลักมาจากผลึกหินสีแดงสดอยางไรอยางนั้น
หานลี่พลันขมวดคิ้วไมทันไดเอยอะไรอีก กรงเล็บสีแดงของชายหนุมก็ดูเหมือนวา
จะตะปบมาทางหานลี่สบายๆ
“ตูมๆ” เสียงระเบิดดังขึ้น กรงเล็บลำแสงสีแดงสดหาสายเปลงแสงสวางจาแลว
พุงออกมา ลำแสงสีแดงสวางวาบแลวหายวับไปทันที
หานลี่หนาเปลี่ยนสี ฉับพลันนั้นแขนขางหนึ่งพลันผลักออกไปดานหนาเชนกัน
นิ้วสีดำสนิทราวกับน้ำหมึกทั้งหากางออกตานทานอยูเบื้องหนา
ทันใดนั้นเบื้องหนาของหานลี่หางออกไปสิบจั้งเศษพลันมีพายุหมุนอยางรุนแรง
กรงเล็บลำแสงหาสายปรากฏขึ้นอีกครั้ง
หานลี่เห็นกรงเล็บลำแสงสีแดงทั้งหาก็หนาเปลี่ยนสี เมื่อลำแสงสีแดงที่แตเดิม
มี ค วามยาวแค ส องสามชุ  นปรากฏตั ว ขึ ้ น อี ก ครั ้ ง คาดไม ถ ึ ง ว า จะขยายใหญ จ นมี
ขนาดสองสามจั ้ ง และยิ ่ ง ไปกว า นั ้ น ยั ง ดู ด ซั บ พลั ง วิ ญ ญาณรอบๆ เข า ไปไม ห ยุ ด
พลางขยายใหญขึ้นอยางตอเนื่อง
กรงเล็บลำแสงไมทันไดเขาใกล หานลี่สัมผัสไดถึงพลังแรงกดที่หนาตกตะลึง
หากมีพลังยุทธต่ำหนอย เมื่อถูกกรงเล็บลำแสงเหลานี้ปกคลุมเอาไวเกรงวารางกายที่
ถูกยึดไปคงไมอาจขยับตัวไดแมแตปลายกอย
รูสึกตกตะลึง นิ้วสีดำทั้งหาที่ตานทานอยูเบื้องหนาของหานลี่เปลงแสงสวางวาบ
ภูเขาขนาดยอมสีดำสนิทลูกหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ แคกระพริบวาบก็มีขนาด
สิบจั้งเศษ
หลังจากที่ยอดเขาสีดำตานทานอยูเบื้องหนาหานลี่แลว ก็ปกปองเอาไวไดอยางมิดชิด
“ตึงๆ” เสียงอึกทึกดังขึ้น ลำแสงสีแดงสวางวาบ กรงเล็บสีแดงหาสายอยู  บน
ภูเขาขนาดยอม
กลิ่นอายรอนฉาแผออกมาประชิดตัวหานลี่ คาดไมถึงวาจะทำใหหานลี่จะรูสึก
ทุกขทนราวกับอยูในเตาหลอมอยางไรอยางนั้น
แตยอดเขาสีดำกลับนิ่งงันอยูที่เดิมดูเหมือนวาจะไมไดสั่นเทาเลยสักนิด
“เอ” จูอินจื่อที่อยูตรงขามเห็นฉากนี้ก็หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
หานลี่กวาดจิตสัมผัสไปที่ภูเขาดูดปราณเบื้องหนา สีหนากลับเครงขรึม
“ปง” เขาตบไปที่ภูเขาขนาดยอมลูกนั้น
ชั่วขณะนั้นภูเขาลูกนี้พลันหมุนควาง จุดที่ถูกโจมตีเมื่อครูหันมาหาหานลี่
เห็นเพียงผิวของภูเขาขนาดยอมสีดำ มีรอยกรงเล็บหาสายฝงลึกลงไปสองสามชุน
และมีทาทีจะละลายเล็กนอย
แคนเสียงอยางเย็นชา ฝามือสีดำกดลงไปบนยอดเขาอยางรวดเร็วราวกับสายฟา
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น
ผิ ว ของภู เ ขาขนาดย อมมี ล ำแสงสี ด ำไหลโคจรอยู  ทุ ก แห ง ที ่ ไ หลผ า นไปรอย
กรงเล็บที่ละลายเหลานั้นตางฟนฟูกลับมาเปนดังเดิม
“ในเมื่อพี่จูอยากแลกเปลี่ย นประสบการณใ หได ขานอยก็มีเพียงแตต องขอ
คำชี้แนะแลว” หานลี่เอยจบรางกายพลันพลิ้วไหว คนมาปรากฏตัวที่ดานขางภูเขา
จากนั้นเขาพลันกระพือปกทั้งสองขาง เงาวิหคสีเขียวตัวหนึ่งปรากฏขึ้นที่แผนหลัง
ในเวลาเดียวกันหลังจากที่เสียงตูมตามดังขึ้น รอบดานของหานลี่ก็มีเสาวายุ
สีเขียวสี่สายพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา เกิดเสียงกรีดรองดังระงม
ตอนที่ 1437 ผูพิทักษหุบเหว
เงาวิ ห คสี เ ขี ย วจ องเขม็ ง ไปยั ง จู  อิ น จื ่ อที ่ อยู  ไ กลออกไปแวบหนึ ่ ง ป ก ทั ้ ง สอง
โบกสะบัดเบาๆ
ชั่วขณะนั้นเสาวายุสี่สายพลันระเบิดออก วายุใบมีดสีเขียวจำนวนนับไมถวนกอตัวขึ้น
ทามกลางวายุ จากนั้นพลันพุงออกไป
ครานั้นมานลำแสงทั้งหมดพลันมีเสียงแหวกอากาศดัง “ฟวๆ” ลำแสงสีเขียว
จำนวนนับไมถวนทอตัวอยูเต็มทองฟา
จูอินจื่อเห็นหานลี่แคลงมือก็มีอานุภาพนาตกตะลึงถึงเพียงนี้ สีหนาพลันเครงขรึม
แตคนผูนี้มีชื่อเสียงขนาดนี้ในบรรดาบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิญญาณเหาะเหิน
แนนอนวานั่นไมใชเรื่องลอเลน หลังจากสูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง ปกทั้งสอง
พลันขยายใหญขึ้นสองสามเทา ในเวลาเดียวกันพลันกระพือปกอยางแรงสองสามครั้ง
ลำแสงสีแดงเปลงแสงเจิดจา สะเก็ดไฟปรากฏขึ้นรอบๆ อยางหนาแนน
ทันใดนั้นขณะที่ จู อิ นจื ่ อใชส องมือรา ยอาคม กลายเปนลูก ธนูสี แดงเพลิ งจำนวน
นับไมถวนพุงออกไปเชนกัน
อานุภาพนั้นไมดอยไปกวาการโจมตีดวยวายุใบมีดที่อยูตรงขาม
ชั่วพริบตาทองฟาทั้งผืนก็ดูเหมือนวาจะถูกแบงออกเปนสองสวน ครึ่งหนึ่งเต็มไปดวย
ลำแสงเส น ใหม มี ด สี เ ขี ย วกระพริ บ วาบๆ อี ก ครึ ่ ง หนึ ่ ง เป น เปลวเพลิ ง สี แ ดง
เปลงประกายดังกองไฟที่ลุกโชน
ตรงเสนที่ทั้งสองสัมผัสกันนั้น เกิดเสียง “ปงๆ” ดังขึ้น ลำแสงสีเขียวและลำแสงสีแดง
ตัดสลับพัวพันกันแลวทยอยกันระเบิดตัวออก
ครานั้นคาดไมถึงวาทั้งสองจะตกอยูในสถาณการณที่ตางฝายตางไมยอมออนขอใหกัน
ไมอาจตัดสินไดวาฝายใดเปนฝายไดเปรียบ
หานลี ่ ม องเห็ น ฉากนี ้ ใ บหน า พลั น ไร ค วามรู  ส ึ ก แต ส องมื อที ่ ร  า ยอาคมพลั น
เปลี่ยนไป ในแขนเสื้อมีเสียงฟาคำรามดังขึ้น หลังจากที่มีเสียงฟาผาดังขึ้นสองครั้ง
ประจุไฟฟาสีทองขนาดหนาเทาปากชามสองสายพลันพุงตัวดีดออกมาจากแขนเสื้อ
ผนึกตัวกันกลางอากาศ กลายเปนมังกรวารีไฟฟาสีทองที่หนายิ่งกวาเดิมตัวหนึ่ง
มั ง กรวารี ไ ฟฟ า ตั ว นี ้ ส ะบั ด หั ว สะบั ด หางเปล ง แสงสว า งวาบตามความคิ ด ที่
เคลื ่ อนไหวของหานลี ่ แล ว สะบั ด ตั ว พุ  ง ห า งออกไปยี ่ ส ิ บ สามสิ บ จั ้ ง ชั ่ ว พริ บ ตา
ก็มาปรากฏตัวดานหนาจูอินจื่อ กระโจนเขาไปพรอมกับเสียงฟารองดังครืนๆ
ความเร็วของมังกรวารีไฟฟาราวกับเคลื่อนยายที่อยางไรอยางนั้น แมวาจะเปน
จูอินจื่อเองก็ยังตกใจจนสะดุงโหยง
เขาอาปากออกอยางไมตองคิดพนลำแสงสีแดงสายหนึ่งออกมา
คาดไมถึงวาจะเปนไขมุกสีแดงสดเม็ดหนึ่ง
เสียง “ปง” ดังขึ้น ไขมุกกลมๆ และมังกรวารีไฟฟาปะทะกัน ระเบิดลำแสงที่
นาตกตะลึงออกมา ทันใดนั้นไอวิญญาณพลันหมุนวน ชั่วพริบตาก็กลายเปนเสาเพลิง
สูงเสียดฟา มีความกวางประมาณสองสามจั้ง ใจกลางของเปลวเพลิงมีเสนไหมสีทอง
เปนสายๆ เสียงฟารองดังขึ้นอยางตอเนื่อง วายุที่เรารอนกลุมหนึ่งมวนวนไปรอบดาน
ภายใตอานุภาพนี้จูอินจื่อเองก็ถอยรนไปสองสามกาว สายตามองไปยังฝงตรงขาม
ผลคือ ภายใตความตกตะลึงนั้นเขาพลันหนาเปลี่ยนสี
ตรงขามนั้นวางเปลา หานลี่ไมอยูที่เดิมแลว คาดไมถึงวาจะพาเหลยหลันบินรอนลงไป
บนพื้นอยางนุมนวล ทันใดนั้นก็หนีออกจากมานลำแสง
ภายใตความโกรธเกรี้ยวของจูอินจื่อพลันชูมือหนึ่งขึ้นชี้ไปทางหานลี่อยางแมนยำ
เสียง “ฟวๆ” ดังขึ้น เสนไหมสีแดงสายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบพลันพุงออกไป
หานลี่กับจองการเคลื่อนไหวของอีกฝายอยูตั้งนานแลว เขาที่เตรียมการปองกัน
เอาไวตั้งนานแลวพลันเลิกคิ้วขึ้น ยื่นนิ้วชี้ออกไปนิ้วหนึ่ง
ลำแสงสีแดงเปลงแสงสวางวาบมีเสนสีแดงสายหนึ่งพุงออกไปเชนกัน นั่นก็คือเสน
ไหมวิญญาณเพลิง!
“เปรี้ยงๆ” ดังขึ้น
เสนไหมสีแดงสองสายเปลงแสงสวางวาบขึ้นกลางอากาศโจมตีเขาดวยกันอยาง
ไมมีขอผิดพลาด
ผลคือ เสนไหมสีแดงของหานลี่พลันดีดตัวกลับ สวนหนาของเสนไหม สลาย
หายไป เสนไหมสีแดงของจูอินจื่อกลับหายวับไปดวยเหตุนี้
และชั่วเวลาที่ลาชาไปนั้นหานลี่และเหลยหลันพลันเปลงแสงสวางวาบขึ้นสองสามครั้ง
ปรากฏตัวในฝูงชนดานนอกมานลำแสง
คนของเผาวิญญาณเหาะเหินคนอื่นๆ ที่อยูใกลเคียงพลันหลบหลีกไปสองสามกาว
ไมทันไดมีปฏิกิริยาตอบสนองก็มองมาดวยความตกตะลึง
“พี่หาน เจาไมสูแตกลับหนีไมกลัววาจะทำลายชื่อเสียงของเผาเจาหรือ” จูอินจื่อ
เห็นวาไมอาจะยับยั้งหานลี่เอาไวไดก็รองตะโกนออกมาดวยความโกรธา
“เจาและขาลวนรูดีวาหากจะตัดสินแพชนะภายในเวลาอันสั้นนั้น เกรงวาจะ
เปนเรื่องที่เปนไปไมได ขานอยมีภาระสำคัญอยูกับตัวจึงขอหยุดการแลกเปลี่ยนกับพี่จู
แตเพียงเทานี้เถิด” หานลี่หันไปมองจูอินจื่อแวบหนึ่งแลวเอยอยางไมใสใจ
ทันใดนั้นสองปกพลันสยายออกพวยพุงขึ้นไปบนอากาศแลวบินหนีไป
หลังจากที่เหลยหลันมีสีหนาบัดเดี๋ยวเครงขรึมบัดเดี๋ยวสดใสอยูชั่วครู ในที่สุด
ก็ตบฝาเทาบินตามไป
จูอินจื่อที่อยูในมานลำแสงเห็นหานลี่หนีไปซะอยางนั้นก็มีสีหนาเครงขรึม
“ศิษยพี่จู ต องตามพวกเขาไปหรื อไม” หงซาลังเลเล็ ก น อยแลว เอ ย ถามจาก
ดานขาง
“หึ จะตามไปอยางไร? ออกจากสนามแขงขันแลวที่อื่นก็ไมอาจลงมือได ขาคิดไมถึง
เลยวาหลังจากที่ประมือกันแลวคนผูนั้นบอกจะไปก็ไป ทวาแมวา จะประมือกัน
เพี ย งเล็ ก น อย แต อย า งน อยก็ ร ู  ว  า เขาเชี ่ ย วชาญด า นวายุ แ ละอั ส นี นั บ ว า ครั ้ ง นี้
ไมเสียเปลา สมบัติภูเขาของเขาชิ้นนั้นขาเพิ่งเคยเห็นเปนครั้งแรก คาดไมถึงวาจะ
ตานทานกรงเล็บเปลวเพลิงของข าได ยุงยากหนอยละ กลับไปตองหาวิธีทำลาย
มันใหได” จูอินจื่อแคนเสียงอยางเย็นชาขณะเอย
หงซาจึงเอยอยางเห็นดวยดวยความระมัดระวังตัว
ดังนั้นทั้งสองคนจึงรอนลงจากบนฟารวมตัวกับสือเทียนที่ซอนตัวอยูทามกลางฝูงชน
ดานลาง แลวจากไปเชนกัน
จึงเหลือเพี ยงคนของเผา วิ ญ ญาณเหาะเหิ นคนอื่ นๆ ที่ยังคงซุบ ซิ บ นินทากั น
เรื่องการประมือเมื่อครูและการที่หานลี่ถอยไปอยางกะทันหัน
……
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ขาไมไดกำชับเอาไวหรือ วาหากจะออกจากที่พักของเผาหาม
ออกไปคนเดียว? เจายังไปตอสูกับคนของเผาแดงสดที่สนามแขงขัน” จินเยวจองเขม็ง
ไปยั ง หญิ ง สามชุ ด สี เ งิ นที ่ ยื นเอามื อประสานกั น อยู  เ บื ้ องหน า พลั น เอ ย ถามดวย
ความเย็นชา
ครานี้มหาอาวุโสของเผาวิหคสวรรคผูนี้กำลังนั่งอยูในหองโถงชั้นหนึ่งของหอคอย
ของหานลี่ดวยสีหนาเย็นชา
อาวุ โสสื อนั ่ ง อยู  ด า นข า ง แต ส ายตากลั บ เปล ง ประกายมี ส ี ห น า ไม พ อใจเฉก
เชนเดียวกัน
คนที่ถูกตำหนิพลันมีสีหนาซีดขาวเปนอยางมาก
ไปปและหานลี่ลวนยืนอยูคนละฝง ไปปนั้นกมหนางุดไมไดเอยอะไรออกมา
ทาทางไมสบายใจเล็กนอย หานลี่มีสีหนาราบเรียบ
ในตอนที่หานลี่พาเหลยหลันกลับมาไดไมนาน จินเยวและพวกก็ทราบขาวเรื่องนี้
ในทันที จึงรีบรุดมา ตำหนิบุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองอยางหนักรอบหนึ่ง
แมวาเรื่องนี้ผูที่รับผิดชอบจะเปนสตรีนามวาเหลยหลัน แตไปปกลับไมหามปราม
จึงถูกตำหนิเชนกัน
“ทานมหาอาวุโส หงซาของเผาแดงสดผูนั้นบอกวามีศิลาดาวอัสนี หากขาเอามัน
มาไดวันขางหนาก็มั่นใจวาจะมีโอกาสบรรลุระดับผูบัญชาการวิญญาณไดสามสวน
ศิษยถึงไดเลอะเลือน…” ในที่สุดเหลยหลันก็เอยงึมงำออกมา
“ศิลาดาวอัสนี! มินาละเจาถึงไดสนใจถึงเพียงนี้ แตนี่ก็ไมใชเหตุผลที่เจาจะนำ
มาอางได พลังยุทธของเจา เทีย บกับ ความเป นความตายของเผาแลว อะไรสำคั ญ
กวากัน เจาก็นาจะรูดี รูหรือไมวาเพื่อเลี้ยงดูบุตรศักดิ์สิทธิ์อยางพวกเจาสองคนในเผา
ตองใชผลึกศิลาและยาสมุนไพรไปจำนวนนับไมถวนถึงจะทำใหพลังยุทธของพวกเจา
พัฒนามาถึงระดับนี้ ไดใ นเวลาอั นสั้ น มิเชนนั้นแมวา เจาจะมีคุ ณสมบัติ เหนื อชั้ น
ก็ไมอาจพัฒนามาถึงระดับแมทัพวิญญาณได” จินเยวยังคงเอยดวยความโกรธเกรี้ยว
เหลยหลันพลันหมดคำพูด เผยสีหนาละอายใจออกมา
ครั้นเมื่อหญิงสามคิดจะเอยอะไรออกมาอีกนั้น อาวุโสสือที่อยูดานขางก็ฉีกยิ้มบางๆ
พลางเอยปากวา
“เอาละ อาวุโสจินแมวาเหลยหลัน จะบุม บามไปหน อยแต โชคดีที่สหายหาน
ตามไปทัน และไมเกิดเรื่องอะไรขึ้น ใชแลวสหายหานมองเรื่องนี้อยางไร?”
“ไมมีอะไรหรอก เผาแดงสดนาจะสงสัยในตัวขาจึงอยากทดสอบความสามารถดู”
หานลี่หัวเราะนอยขณะเอยตอบกลับ
“หึๆ ไดยินวาสหายหานและจูอินจื่อประมือกันโดยไมตกเปนรองและไมไดพัวพัน
นานนัก ชางเปนการกระทำที่ชาญฉลาดจริงๆ” อาวุโสสือใชน้ำเสียงชื่นชมขณะเอย
“อะไรควรไมควรชนรุนหลังยอมรูดี” หานลี่ฉีกยิ้มขณะเอย
“ตั้งแตวันนี้เป นต นไป พวกเจาสามคนหามออกจากหอคอยแมแตกา วเดี ย ว
แคทำสมาธิรอการทดสอบก็พอแลว เรื่องอื่นมอบใหพวกเราสองคนจัดการก็พอ”
จินเยวออกคำสั่งดวยน้ำเสียงที่ไมอาจปฏิเสธได
“เจาคะ/ขอรับ!” ทั้งนี้ไปปและเหลยหลัน พลันเอยนอมรับพรอมกัน
หานลี่เองก็ประสานมือคารวะโดยไมมีความเห็นอื่น
จะว า ไปแล ว ฐานะของหานลี ่ใ นเผ าวิห คสวรรคใ นครานี ้ค อนข างวิเศษจริงๆ
ในนามเปนบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผา แตความจริงแลวกลับเหมือนตำแหนงแขกผูมีเกียรติ
คนหนึ่ง ประกอบกับที่เผาวิหคสวรรคมีเรื่องขอรองเขาจึงทำใหจินเยวและเหลาอาวุโส
ปฏิบัติตอเขาอยางมีมารยาทมาก
รอจนจินเยวและอาวุโสของเผาวิหคสวรรคจากไปแลว หานลี่และพวกทั้งสาม
ก็กักตนนั่งสมาธิตามคำสั่ง โดยไมออกไปขางนอกอีก
สิบกวาวันใหหลัง จินเยวและเผาอาวุโสของเผากลับไปประชุมที่ยอดฮองเตหยก
ทุกวัน ไมรูวากำลังปรึกษาเรื่องอะไรกันอยู…
สองเดือนตอมา กลางอากาศเหนือเนินดินที่รกรางสีเหลืองมีวิหคยักษและแมลงบิน
จำนวนนับไมถวน บินแฉลบผานไป บนรางของวิหคยักษและแมลงบินเหลานี้ตางมี
เงารางคนติดปกยืนอยูบางนั่งบางปะปนกันไป
นั่นก็คือ กลุมคนเผาวิญญาณเหาะเหินที่ออกเดินทางจากยอดฮองเตหยกไปสู
ทางเขาหุบเหว
หานลี่และคนของวิหคสวรรคชี่อยูบนวิหคยักษสีขาวสองสามตัว โดยมีกองกำลัง
รายลอมอยู
แมวากองกำลังจะยิ่งใหญ แตเมื่อบินมาเปนระยะเวลานานคนที่พูดคุยกันระหวางบิน
จึงมีอยูนอยมาก
หานลี่เองก็นั่งขัดสมาธิอยูบนหลังของวิหคยักษ ใขสายตากวาดมองรอบๆ ดาน
อยางเงียบๆ ทางเขาของหุบเหวนี้อยูหางจากยอดฮองเตหยกกวาที่เขาคิดเอาไวมาก
ฉั บ พลั นนั ้ น คนของเผ า วิ ญ ญาณเหาะเหิ นด า นหน า พลั น เกิ ด เสี ย งอื ้ อ อึ ง ขึ้ น
และเปลงเสียงรองอุทานดวยความตกตะลึงออกมา ความเร็วของกองทัพผอนกำลังลง
หานลี่หนาเปลี่ยนสี กวาดจิตสัมผัสไปเบื้องหนาทันที เห็นเพียงหางจากเขาไป
พันลี้ มีกำแพงยักษปรากฏขึ้นเปนสีเขียวเทาสูงสามรอยสี่รอยจั้ง เมื่อมองไปทั้งสองฝง
ก็ไมอาจมองเห็นปลายทางได
บนกำแพงยักษ ทุกๆ รอยจั้งเศษ จะมีเสาหยกสีขาวบริสุทธิ์ตั้งตระหงานอยู
เสาเหลานี้มีความสูงแคสิบจั้ง แตผิวของมันกลับเปลงแสงสีเขียวระยิบระยับ
ลวนมีอักขระยันตลึกลับสลับเอาไวเปนสายๆ โดยไมรูวามีประโยชนในดานใด
แต ด  า นข า งกำแพงยั ก ษ ก ลั บ มี ห อคอยทรงกลมสู ง ประมาณสามสิ บ สี ่ ส ิ บ จั้ ง
เรี ย งรายอยู  อย า งแน น ขนั ด เมื ่ อกวาดสายตาไปทั ้ ง หมดน า จะมี ส องสามพั น หอ
และเหนือหอคอยเหลานี้มีคนของเผาวิญญาณเหาะเหินจำนวนนับไมถวนลอยตัวอยู
กลางอากาศ ทาทางกำลังรอคอยการมาถึงของพวกเขา
หานลี่และพวกของเผาวิญญาณเหาะเหินคอยๆ บินเขาไปใกลคนเหลานั้น และในที่สุด
ก็หยุดลง
“คารวะเหลาอาวุโส!” บุรุษวัยกลางคนสวมชุดเกราะสงครามสีเขียวคนหนึ่ง
บินออกมาจากฝูงชนแลวประสานมือคารวะคนฝงนี้
“ที่แทผูที่ปฏิบัติหนาที่ในปนี้ก็คือ นองจินเฟงนี่เอง ชางบังเอิญจริงๆ นองจิน
นาจะไดรับขาวที่พวกเราสงมาแลวสินะ” ฝงของหานลี่ก็มีคนสองสามคนบินออกไป
ในทันที
หญิงชรามือหนึ่งถือไมเทาคนหนึ่ง บุรุษวัยกลางคนเรือนผมสีขาวราวกับหิมะคนหนึ่ง
รวมทั้งชายชราที่ใบหนามีรอยสักคนหนึ่ง
นั่นก็คือ สามอาวุโสที่มีอำนาจที่สุดในการประชุมเหลาอาวุโส สวนคนที่พูดกลับ
เปนบุรุษวัยกลางคน
ทั้งสามคนเผชิญหนากับคนสวมชุดเกราะสีเขียวที่บินมาดวยทาทีมีมารยาทเปนพิเศษ
ตอนที่ 1438 เคล็ดวิชาสี่ทมิฬแปลงเกราะ
หานลี่กวาดสายตาไปบนเรือนรางของผูที่สวมชุดเกราะสีเขียว ใจพลันหายวาบ
ผู  ท ี ่ ส วมชุ ด เกราะสี เ ขี ย วนี ้ ม ี พ ลั ง ยุ ท ธ ล ึ ก ล้ ำ ยากจะคาดเดา ไม ด  อ ยไปกว า
สามมหาอาวุโสที่เผยตัวในการประชุมแน มินาละสามคนนี้ถึงไดมีมารยาทกับคนผูนี้
ขนาดนี้
และยิ่งไปกวานั้นหานลี่รูสึกสนใจเกราะสีเขียวบนรางของคนผูนี้จริงๆ รูปรางดู
เหมือนเรียบๆ ผิวเปนสีเทาตุนๆ ธรรมดาๆ และไมมีอักขระเขตอาคมใดๆ แตหลังจาก
ที่หานลี่กวาดจิตสัมผัสไปบนเกราะแลว กลับรูสึกคุนเคยอยางประหลาด หลังจากที่
เหลือบมองไปสองแวบ ฉับพลันนั้นพลันเบิกตากวาง ราวกับวานึกถึงเรื่องที่ นา
เหลือเชื่ออะไรสักอยางได
หากเขารูสึกไมผิดละก็ สิ่งที่เรียกวา ‘เกราะสีเขียว’ นั้นคาดไมถึงวาจะสรางขึ้น
จากไอทมิฬที่หนาแนน มินาละถึงไดคุนเคยกับกลิ่นอายของเกราะเกราะนี้ถึงเพียงนี้
แตไอทมิฬจำนวนมากอยูบนราง ไมเพียงรางกายจะไมเปนไร กลับสามารถบีบออกมา
นอกรางกายสรางเปนรูปรางได
ความสามารถชนิดนี้ชางนาเหลือเชื่อเปนอยางยิ่ง
บนรางของทุกคนลวนสวมเกราะสงครามรูปทรงตางๆ หลากสีสันเอาไว
รูมานตาของหานลี่เปลงแสงสีฟาสวางวาบ ขณะที่พิจารณาอยางละเอียดรูมานตา
พลันอดที่จะหดเล็กลงไมได
เกราะสงครามบนลางของคนเหลานี้คาดไมถึงวาจะเหมือนกับบนรางของผูที่สวม
ชุดเกราะสีเขียว ถูกสรางขึ้นจากไอทมิฬเชนกัน แตแคเปนเพราะพลังยุทธตื้นเขินและ
จำนวนของไอทมิฬแตกตางกัน บางกลับลางเลือน บางกลับกระพริบวาบๆ
มองไอทมิฬตางๆ ที่ไมเหมือนกันของนักรบเกราะแลว หานลี่พลันรูสึกตกตะลึง
เปนอยางมาก ความคิดพลันเคลื่อนคลอยอยางรวดเร็วไมหยุดในเวลาเดียวกัน
และในตอนนั้นเองหลังจากที่ผูที่สวมชุดเกราะสีเขียวพลันกวาดสายตาไปยัง
มหาอาวุโสทั้งสามเสร็จแลว ก็เผยรอยยิ้มออกมา
“สามรอยปเผาของขาถึงจะมีการทดสอบครั้งหนึ่ง ผูแซจินจะประมาทไดอยางไร
ทวาชวงนี้ปศาจในหุบเหวคอนขางกระสับกระสายไมเปนสุข หากชาไปสักปสองป
ไมวาอยางไรผูแซจินก็ไมมีทางเห็นดวยกับการทดสอบนี้”
“ฮาๆ ดังนั้นหลังจากที่พวกเราไดรับขาวจากนองเถี่ยแลว ก็เลื่อนเวลาในการ
ทดสอบให เ ร็ ว ขึ ้ นหน อย ตอนนี ้ ค ลื ่ น ทมิ ฬของหุ บ เหวน า จะยั ง ไม ก  อตั ว กระมั ง ”
ชายชราเอยถามพรอมกับหัวเราะนอยๆ
“ยัง จากปฏิกิริยาของสมบัติที่ใชตรวจสอบแลว แมวาตอนนี้ไอทมิฬจะอันตราย
กวาปกติ แตยังหางจากการระเบิดอีกอยงานอยหนึ่งป แตปศาจทมิฬใตดินอาจจะออก
จากรังชั้นแลว ดังนั้นขาไมอาจรับประกันไดวาในการทดสอบสามชั้นแรก จะมีแค
ปศาจทมิฬระดับแมทัพวิญญาณ อัตราในการบังเอิญประสบกับปศาจหุบเหวระดับสูง
ก็มีมากขึ้นดวย แตระดับราชันยปศาจนั้น ยังไมถึงกับมาปรากฎตัว อันตรายในนั้น
อาวุโสการประชุมอยางพวกเจาคงพิจารณาเองได หากความเสียหายใหญเกินไป
ก็อยามาโทษวาผูแซจินไมตักเตือน” ผูที่สวมชุดเกราะสีเขียวเอยอยางราบเรียบ
“ขอแค ไ ม ม ี ร ะดั บ ราชั น ย ป  ศ าจปรากฎตั ว ก็ ไ ม เป น ไร เริ ่ ม การทดสอบได ”
บุรุษผมขาวเอยอยางไมลังเลเลยสักนิด
“ขาเองก็ไมมีขอคัดคาน หากพลาดโอกาสนี้ไป การทดสอบคงจัดขึ้นภายในรอยปนี้
ไมไดแน สาขาจำนวนนับไมนอยไมมีทางรอนานขนาดนั้นไหว” หลังจากที่หญิงชรา
ขมวดคิ้วแลว ก็เอยออกมาอยางแชมชา
ชายชราที่ใบหนามีรอยสักกลับขบคิดอยูนาน แลวถึงไดถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
พลางพยักหนา
เมื่อเห็นทั้งสามตกลง ผูที่สวมชุดเกราะสีเขียวก็เปลงเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา
ในทันที มือหนึ่งชูขึ้นไปกลางอากาศ ลูกบอลลำแสงสีเขียวขนาดเทากำปนลูกหนึ่งพุง
ออกมา หลังจากเปลงแสงสวางวาบ ก็ปรากฎขึ้นกลางอากาศในระยะสองสามรอยจั้ง
เสียงอึกทึกดังสนั่นขึ้น ลูกบอลลำแสงระเบิดออก มานลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่ง
ขยายใหญขึ้น กลางอากาศมีดวงอาทิตยสีเขียวเสนผาศูนยกลางสองสามจั้งปรากฎขึ้น
พลันเปลงแสงเจิดจา
คนเผ า วิ ญ ญาณเหาะเหิ นที ่ ส วมชุ ด เกราะสงครามที ่ อยู  ด  า นหลั ง เห็ น ฉากนี้
ก็แบงออกเปนสองแถว เปดเปนทางเดินสายหนึ่งที่ตรงกลาง
คนที่มีพลังยุทธแตกตางกันจำนวนมากเชนนี้ แตกลับทำอยางพรอมเพรียงโดย
ไมไดปริปากใดๆ แนนอนวาพลังแรงกดที่ไรรูปรางพลันประทุขึ้นไปบนทองฟา
เมื ่ อเห็ นฉากนี ้ อาวุ โสของสาขาต า งๆ นั ้ น ยั ง พอว า หน า เปลี ่ ย นสี ไ ปเล็ ก น อย
แตทันใดนั้นก็ฟนฟูกลับมาเปนปกติ สวนบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่งเขารวมการทดสอบ
เปนครั้งแรกอยางหานลี่กลับเกิดเสียงวุนวายขึ้น คนสวนใหญตางเผยสีหนาตกตะลึง
ออกมา
สามมหาอาวุโสที่อยูหนาสุดกวักมือไปทางดานหลัง แลวบินออกไปดานหนา
พรอมกัน
ชั่วขณะนั้นกองทัพทั้งหมดพลันเคลื่อนตัวไปดานหนาอีกครั้ง ฝูงชนคอยๆ บินไป
ขางหนาอยางชาๆ
หานลี่นั่งอยูบนวิหคยักษ ดวงตาทั้งสองขางหรี่ลงพลันพิจารณานักรบเกราะทั้งสองฝง
ผลคือ พบวานักรบเกราะเหลานี้สวนใหญลวนมีสีหนาราบเรียบไมปริปากไมแยมยิ้ม
บางครั ้ ง ก็ เ ผยแววตาประหลาดใจออกมา หนึ ่ ง ในนั ้ น ที ่ ม ี พ ลั ง ยุ ท ธ ต ่ ำ หน อ ยก็
อายุยังนอย
ทวาผูที่เรียกวามีพลังยุทธต่ำหนอยอยางนอยที่สุดก็อยูในระดับหลอมรวมขึ้นไป
ในนั้นมีนักรบเกราะที่ระดับเทียบเทากับระดับกอกำเนิดและเทพแปลงอยูเต็มไปหมด
แมกระทั่งผูที่อยูในระดับหลอมสูญอยางระดับผูบัญชาการวิญญาณก็ยังมีอยูไมนอย
หานลี่รูสึกกังขาในใจ
ผูพิทักษหุบเหวที่มาประจำการที่นี่คาดไมถึงวาจะใกลเคียงกับผูบำเพ็ญเพียร
เมืองเทวะสวรรคของเผามนุษยอยางพวกเขา
แตแคจำนวนผูพิทักษของที่นี่นอยกวาเมืองเทวะสวรรค แตระดับที่รายกาจ
กับเปนสิ่งที่เมืองเทวะสวรรคไมอาจเทียบเทียมได ประกอบกับผูที่รกั ษาการณอยูท่นี ี่
มักจะตอสูกับปศาจที่โผลออกมาจากหุบเหว จึงมีประสบการณเฟองฟูมากกวาคนของ
เผาวิญญาณเหาะเหินทั่วไป
และยิ่งไปกวานั้นดูจากรูปรางของสิ่งปลูกสรางที่นี่เห็นไดชัดวาไมใชผูพิทั กษ
ทุกคนที่จะบินออกมาจากที่นั่น
ในตอนที่หานลี่ขบคิดในใจไมหยุดนั้นกลุมคนก็ขามผานฝูงชนไปถึงเบื้องหนา
หอคอยขนาดใหญดานลาง
อาวุ โสแบ ง ออกเป นกลุ  ม ๆ คาดไม ถ ึ ง ว า จะให ล ูก ศิ ษย ทุ ก คนพัก อยู  ชั ่ วคราว
เพื่อฟนฟูพลังลมปราณ จากนั้นเมื่อพลังอยูในระดับสุดยอดในเชาตรูวันถัดไปก็จะเริ่ม
การทดสอบ
คนของเผาวิหคสวรรคตางเขาไปพักในหอคอยเดียวกัน
จินเยวและอาวุโสสือพักอยูที่ชั้นหนึ่ง หานลี่และพวกทั้งสามคนพักกันคนละชั้น
จะไดไมรบกวนการพักผอนของกันและกัน
หานลี่เห็นสถานการณเชนนี้ก็พลันขมวดคิ้วในใจ
ไดพักอยูที่นี่หนึ่งคืนเดิมทีเขานั้นรูสึกยินดีมาก แตครานี้ถูกจินเยวและพวกทั้งสอง
สั่งวาไมใหออกไปไหนและยิ่งไปกวานั้นยังเฝาอยูที่ชั้นหนึ่ง เชนนั้นแผนการที ่ เขา
เพิ่งคิดออกก็คงยุงยากแลว
หานลี่นั่งสมาธิอยูบนเตียง แตไมไดเขาสูหวงสมาธิ สายตาเปลงประกายไมรูวา
กำลังคิดอะไรอยู ไมรูวาผานไปนานเทาไหรเขาดูเหมือนวาจะคิดอะไรขึ้นได ใบหนา
เผยรอยยิ้มแหงเหี่ยวออกมา ทันใดนั้นพลันหยัดกายลุกขึ้นพลางตรงไปยังชั้นหนึ่ง
เมื่อรางของเขามาปรากฏที่หัวบันไดชั้นหนึ่งจินเยวและอาวุโสสือที่นั่งสมาธิ
หลับตาอยูบนเกาอี้ ก็เบิกตาทั้งสองขางขึ้นพรอมกันมองมาดวยแววตาที่เปลงประกาย
หานลี่ใจหายวาบ
“สหายหานเจาไมยอมพักผอนดีๆ มาที่นี่ทำไม หรือวามีเรื่องสำคัญอันใดงั้นหรือ?”
หญิงสาวไมไดเอยอะไร คาดไมถึงวาจะเปนอาวุโสสือที่เอยปากขึ้นมา
“ชนรุนหลังมีเรื่องหนึ่งที่ตองทำอยากออกไปขางนอกสั กหนอย” หานลี่เอ ย
อยางซื่อสัตย
“เรื่องอันใด? ตองออกไปตอนนี้” จินเยวมีทาทีไมพอใจอยูเล็กๆ
การทดสอบใกลเขามาแลวแนนอนวา สตรีผูนี้จึงอยากใหหานลี่นั่งสมาธิอยูใน
หออคอยอยางวางาย ไมอยากใหเขาคิดเรื่องอื่นอีก
“ความจริงแลวก็ไมมีอะไรหรอก! แคชนรุนหลังเห็นไอทมิฬที่รวมตัวกันเป น
เกราะของผูพิทักษหุบเหวแลวรูสึกสนใจมากจึงอยากจะหาคนมาชวยสอนสักหนอย”
หานลี่หัวเราะคาดไมถึงวาจะเอยสิ่งที่อยูในใจออกมาตรงๆ
“เกราะรวมไอทมิฬเจาหมายถึงเคล็ดวิชาสี่ทมิฬแปลงเกราะหรือ? เคล็ดวิชานี้
ตองมีไอทมิฬในรางจำนวนมหาศาลถึงจะมีประโยชน มิเชนนั้นหากไอทมิฬนอยเกินไป
ก็ไมมีอานุภาพอันใด เจาถามถึงเคล็ดวิชานี้ทำไมหรือ?” จินเยวตะลึงงันพลันเอย
ชื่อของเคล็ดวิชาลับนี้ออกมา ในเวลาเดียวกันก็เผยสีหนาประหลาดใจเล็กๆ ออกมา
อาวุโสสือที่อยูดานขางเองก็มีสีหนาแปลกประหลาดเชนกัน
หานลี่ไดยินก็หัวเราะนอยๆ ออกมา มือหนึ่งพลันรายอาคมบนรางเปลงลำแสง
สีทองสวางจา ฉับพลันนั้นกลิ่นอายอันลึกซึ้งกลุมหนึ่งพลันทะลักออกมา ไอทมิฬที่
หนาแนนกลุมหนึ่งผุดออกมาจากสวนลึกของรางกาย
คาดไม ถ ึ ง ว า เขาจะบีบ ไอทมิ ฬ ที ่ใ ช ห ลอมคาถาวัช ระในตอนแรกออกมาจาก
สวนตางๆ ของรางกายอีกครั้ง
เมื่อเห็นไอทมิฬนี้หญิงสาวและอาวุโสสือพลันตกตะลึงไปพรอมกัน
“เจามีไอทมิฬที่เขมขนขนาดนี้ มินาละจึงสนใจเคล็ดวิชาสี่ทมิฬแปลงเกราะ ฮาๆ
ทวาเจาไมจำเปนตองไปถามคนนอกหรอกเคล็ดวิชานี้ไมใชเคล็ดวิชาลับอะไร ตาเฒา
เชี ่ ย วชาญเคล็ ด วิ ช านี ้ ส ามารถถ า ยทอดให เ จ า ได ท ั ้ ง ชุ ด จากไอทมิ ฬจำนวนมาก
ในรางของเจาก็อาจจะนำมาใชในการทดสอบของวันพรุงนี้ได” อาวุโสสือหัว เราะ
ออกมายกใหญ เอยสิ่งที่หานลี่คาดการณเอาไวตั้งแตแรกออกมา
วันนั้นเขาเห็นผูพิทักษหุบเหวธรรมดาจำนวนมากเชี่ยวชาญเคล็ดวิชานี้ ในฐานะ
อาวุโสของเผาอยางจินเยวและพวกทั้งสองก็นาจะรูจักเคล็ดวิชานี้
ครานี้ดูแลวคงไมไดเดาผิด
“อาวุโสสือจะยอมถายทอดเคล็ดวิชาลับนี้ใหจริงๆ หรือ ชนรุนหลัง ซาบซึ้งใจจริงๆ
แต ไ ม ท ราบว า เคล็ ด วิ ช านี ้ ย ากหรื อไม จ ะใช ไ ด ใ นข า มคื น หรื อ ?” หานลี ่ ฝ  นระงั บ
ความตื่นเตนดีใจเอาไวและตอบกลับอยางนอบนอม
“หึๆ ขอแคสหายหานยอมชวยใหเหลยหลันและพวกผานการทดสอบนี่ก็ เ ปน
สิ่งขอบคุณที่ยิ่งใหญสำหรับตาเฒาแลว วางใจเคล็ดวิชานี้ไมไดซับซอนจากพลังยุทธ
ของสหายหานลี่ก็เรียนรูไดสักสองสามขั้นแลว สวนความสามารถขั้นทายๆ จำตองใช
ไอทมิฬมหาศาลเดิมทีเจาก็ไมอาจสำแดงไดอยูแลว” อาวุโส
สือโบกมือเอยอยางไมใสใจ
แนนอนวาหานลี่จึงพยักหนาไมหยุด
จินเยวฟงมาถึงตรงนี้ก็ไมไดมีเจตนาคัดคานกลับหลับตาลงอีกครั้งดวยสีหนาสงบนิ่ง
ดังนั้นก็เห็นวาอาวุโสสือควักกระบอกไมไผขนาดเทานิ้วมือนิ้วหนึ่งออกมาจาก
อกเสื้อถือบนมืออยางเงียบๆ ชั่วครูชูมือขึ้นโยนออกไปและเอยวา
“ขาใสคาถานี้ลงไปในนี้แลว เจาเอากลับไปศึกษาดูเถิด”
“ขอบพระคุณทานอาวุโส!” หานลี่เอยขอบคุณ รับกระบอกไมไผไวแลวถอยกลับขึ้นไป
ยังบันไดดวยความนอบนอม จากนั้นก็กลับไปยังที่พักของตัวเองอยางไมชักชาอีก
นั่งสมาธิอยูบนเตียง หานลี่ใชมือหนึ่งถือกระบอกไมไผแตะไปบนหนาผากของตัวเอง
ดวงตาทั ้ ง สองป ด สนิ ท พลั น แทรกจิ ต สั ม ผั ส เข า ไปในกระบอกไม ไ ผ ชั ่ ว ขณะนั้ น
ตัวอักษรโบราณสีเขียวพลันสะทอนเขาไปในหัวของหานลี่อยางรวดเร็ว
ตั้งแตตนจนจบหานลี่มีสีหนาสงบนิ่งไมเปลี่ยนแปลง
ไมรูวาผานไปนานเทาไหร ฉับพลันนั้นหานลี่พลันดึงกระบอกไม ไผออกจาก
หนาผาก เปลงประกายสวางวาบพลันเก็บเขาไปในกำไลเก็บของ จากนั้นสีหนาพลัน
ผอนคลายลง
เคล็ดวิชาชุดนี้เหมือนที่ทานอาวุโสกลาวเอาไว ดูแลวไมไดซับซอนนัก คืนเดียว
ก็รวบรวมเกราะทมิฬชั้นที่หนึ่งออกมาได
หานลี่ขบคิดในใจสองมือวางไปบนตัก เริ่มเรียนรูคาถานี้
ขั ้ นตอนนี ้ ต ั ้ง แตต นจนจบเขาไม ไ ด ลื มตาขึ ้น เลยแต ไ อทมิฬสี ด ำอ อนชั้ นหนึ่ง
พลันเริ่มปรากฏขึ้น
ไอทมิ ฬ บั ด เดี ๋ ย วหมุ น วนไม แ น น อนบั ด เดี ๋ ย วก็ ส งบนิ ่ ง หลั ง จากนั ้ น ไม นาน
ก็เริ่มหมุนวนรอบตัวเขาอยางรุนแรงกลายเปนพายุสีดำชั้นหนึ่งทำใหรางกายของ
หานลี่เลือนรางแลวคอยๆ จางหายไปเรื่อยๆ
ตอนที่ 1439 รอยเผาแดนวิญญาณ
เชาตรูวันที่สองเมื่อจินเยวและอาวุโสทั้งสองรวมทั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองอยางไปปและ
เหลยหลันอยูที่ชั้นหนึ่งของหอคอยแลว ก็ยืนรออะไรสักอยางอยางเงียบๆ อยูตรงนั้น
อาวุโสสือมีสีหนารอคอยดวยความหวังอยูเล็กๆ สวนบุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองกลับมี
สีหนางุนงง มองไปทางหัวบันไดดวยแววตาที่ฉายแววตกตะลึงระคนสงสัยออกมา
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งมื้ออาหาร เสียงฝเทาก็ดังขึ้นจากดานบน จากนั้น
เงารางคนก็พลิ้วไหว หานลี่มาปรากฎตัวที่หัวบันไดดวยสีหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม
“เปนอยางไร สำเร็จแลวหรือ” อาวุโสสือดวงตาเปลงประกายขณะเอยถาม
“ขอบพระคุณทานอาวุโสที่ถายทอดเคล็ดวิชาให ขาเรียนรูไปไดพอสมควรแลว
นาจะนำออกมาตอกรกับศัตรูได” หานลี่เอยดวยรอยยิ้มนอยๆ
“เยี่ยมมาก อันตรายจากการทดสอบครั้งนี้อาจจะมากกวาในอดีตเปนอยางมาก
แมนวาสหายหานจะมีพลังยุทธอยูในระดับแมทัพวิญญาณขั้นสูง แตระหวางทาง
เกรงวาคงตองพบกับศัตรูที่แข็งแกรงจนไมอาจตานทานไดอะไรสักอยางหนึ่ง ดังนั้น
เมื่อคืนขาและอาวุโสสือจึงปรึกษากันเล็กนอย แลวเตรียมสมบัติประจำเผาชิ้นหนึ่ง
ใหทานยืมใช เชนนั้นหากพบอะไรที่คาดไมถึงเขา ก็จะไดปกปองตนเองได” หญิงสาว
พิจารณาสีหนาของหานลี่อยางละเอียดชั่วครู ฉับพลันนั้นก็เอยออกมา
“สมบัติประจำเผา” หานลี่ตะลึงงัน รูสึกประหลาดใจเปนอยางมาก
“ใชแลว กรรไกรมังกรวารีอัสนีเลมนี้ เจาพกไวเถิด” จินเยวเอยก็สะบัดแขนเสื้อ
ลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งบินออกมา พลิ้วไหวแลวกลายเปนกรรไกรสีเขียวเลมหนึ่ง
หานลี่ยื่นมือออกไปรับตามความรูสึก ควาสมบัติชิ้นนี้เอาไวในมือ แลวพิจารณา
อยางละเอียด
เห็นเพียงกรรไกรเลมนี้มีความยาวครึ่งฉื่อ รูปทรงโบราณ ผิวของมันเปนสีเขียวเขม
แตมีอักขระโบราณสีเงินออนกระจายตัวอยู แคมองก็รูวาไมใชของธรรมดา
“อาวุโสทั้งสองจะใหชนรุนหลังยืมของสิ่งนี้จริงๆ หรือ” หานลี่ใชนิ้วมือลูบไปบน
กรรไกร สัมผัสไดถึงความเย็นยยะเยือกกลุมหนึ่ง แลวจึงเอยถามดวยความดีใจ
“ความจริงแลวสมบัติประจำเผาเรายังมีสมบัติอีกสองสามชิ้นที่เหมาะสมกับ
การใชในหุบเหวยิ่งกวาสิ่งนี้ แตนาเสียดายที่สมบัติเหลานั้นจำตองใชเวลาหลอมมัน
ไมนอย ไมอาจนำมาใชอยางฉุกละหุกได สวนกรรไกรอัสนีสวรรคชิ้นนี้ไมไดยุงยาก
อะไร ขอแค ใ ส พ ลั ง วิ ญ ญาณเข า ไป ก็ ส ามารถอั ญ เชิ ญ ออกมาโจมตี ศ ั ต รู ไ ด แ ล ว
ช า งน า อั ศ จรรย นั ก ! แต ด  ว ยเหตุ นี ้ ก รรไกรเล ม นี ้ จึ ง อาจจะถู ก ศั ต รู ชิ ง ไปได งายๆ
สหายหานตองใชอยางระมัดระวังหนอย” จินเยวกลาวเตือนอยางเครงขรึม
“ขอบพระคุณทานอาวุโสที่มอบสมบัติให ชนรุนหลังจะใชมันอยางระมัดระวัง” รูวาที่
ทั้งสองยอมนำสมบัติล้ำคาออกมาก็เพราะความปลอดภัยของบุตรศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง
หานลี่เองก็ไมไดเกรงใจรับสมบัติชิ้นนั้นมาดวยใบหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม
จินเยวพยักหนาแลวออกคำสั่งกับไปปและเหลยหลันที่อยูดานขาง แตกลับไมไดหยิบ
สิ่งใดออกมา
หานลี่เห็นเชนนั้น ก็ไมไดใสใจอะไร
สมบัติที่ควรมอบใหทั้งสอง เดาวาคงมอบใหกอนที่จะออกจากเมืองศักดิ์สิทธิ์แลว
ครั้งที่แลวในการตอสูของเลหยหลันและเผาแดงสดที่สนามแขงขันนั้น น้ำเตาสีทอง
ที่ใชก็นาจะเปนหนึ่งในนั้น
หลังจากผานไปชั่วครูทั้งหาคนก็ออกจากหอคอย บินขึ้นไปบนทองฟา
บนทองฟามีคนของสาขาอื่นๆ จำนวนไมนอยมารอคอยอยูตรงนานแลว
พวกเขาในครานี้ไมมีใครนั่งอยูบนวิหคยักษหรือแมลงบินอีก ลวนมีปกคูหนึ่ง
ปรากฎขึ้นที่แผนหลังและลอยตัวอยูกลางอากาศ
และยิ่งไปกวานั้นเหลาบุตรศักดิ์สิทธิ์จากสาขาตางๆ ในเผาวิญญาณเหาะเหินก็มา
รวมตัวกันเปนกลุมกอน แยกตัวออกจากเหลาอาวุโส
ทาทางของบุตรศักดิ์สิทธิ์เหลานี้ไมเหมือนกับเมื่อวานเลยสักนิด ทุกคนลวนมี
สีหนาเครงขรึม ไมหยอกลอตอกระซิกกันเหมือนเมื่อวาน
หานลี่แววตาเปลงประกาย ไมไดเอยสนทนากับใครเชนกัน พาอีกสองคนที่เหลือ
บินไปอยูตรงมุมหนึ่งของกลุมดวยความเงียบขรึม แตไมนานนักหานลี่ก็สัมผัสไดวา
มีคนกำลังมองตัวเองอยู จึงหันหนาไปมองแวบหนึ่งดวยใจที่เตนระรัว
หางออกไปรอยจั้งเศษ สตรีที่รางกายผอมเตี้ยเหมือนเด็กผูหญิงคนหนึ่ง กำลังมอง
พิจารณาเขาขึ้นๆ ลงๆ อยู
สตรีผูนี้มีผิวสีดำสนิท แตลำคอกลับมีรอยสักประหลาดๆ สีดำ
เมื่อนางเห็นหานลี่มองมาก็ฉีกยิ้มนอยๆ เผยไรฟนขาวใสเปนพิเศษออกมา
หานลี่กลับใจหายวาบ!
เพราะวาเมื่อเขาแผจิตสัมผัสไป คาดไมถึงวาเด็กหญิงผิวดำจะมีพลังยุทธอยูใน
ระดับแมทัพวิญญาณขั้นสูงคนหนึ่ง และยิ่งไปกวานั้นกลิ่นอายบนตัวยัง แปลก
ประหลาด ทำใหเขารูสึกถูกคุกคามเล็กนอย เหมือนวาฝกฝนความสามารถพิเศษอะไร
สักอยางมา
หานลี่ไมมีสีหนาแปลกประหลาดเลยสักนิด แตมุมปากกลับขยับขึ้นลงสองสามครั้ง
ไปปที่ยืน อยูด านขางซึ่ ง เดิ มที กำลั ง หลั บตาทั ้งสองขา งอยู  ขางหูไดยินเสี ย ง
ถายทอดเสียงของหานลี่ดังขึ้น
เขาลืมตาขึ้นดวยความตกตะลึง จากนั้นก็มองตามสายตาของหานลี่ไปยังเด็กหญิง
รางกายผายผอมคนหนึ่ง แตสีหนากลับซีดขาว หนาเปลี่ยนสีไปยกใหญ แลวรีบกม
หนางุดดวยความรอนรน
“พี่หาน นั่นคือ เอาชิงของเผาชีเยว มีชื่อเสียงมากกวาจูอินจื่อ คืออันดับหนึ่ง
ในรุนของพวกเรา แตนางเปนผูที่มีใจคอโหดเหี้ยม นิสัยแปลกประหลาด เอะอะก็จะ
เอาแตชีวิตคน พี่หานอยาไปลวงเกินจะดีกวา” ขางหูนของหานลี่มีเสียงหวาดผวาของ
ไปปดังขึ้น
หานลี่ขมวดคิ้วมุน อดที่จะพิจารณาวาเหตุใดเด็กผูหญิงคนนี้ถึงมองมาที่ตัวเอง
ไมได แลวพลันรูสึกวามีสายตาเหี้ยมเกรียมอีกคูหนึ่งกวาดมาที่ตนเอง ครั้งนี้ไมไดมี
เจตนาดีแนๆ
หานลี่มีสีหนาเครงขรึมพลางหรี่ตาเหลือบมองไป
ผลคือมองเห็นวาที่อีกมุมหนึ่งของฝูงชน จูอินจื่อกำลังยืนอยูตรงนั้นทามกลาง
เผาแดงสดคนอื่นๆ และกำลังใชสายตาไมเปนมิตรมองมา
หานลี่มองกลับไปแวบหนึ่งดวยความเยือกเย็น แลวชักสายตากลับมาดวยใบหนา
ไรความรูสึก
เผาแดงสดจะตองยึดเผาวิหคสวรรคใหได แนนอนวาตองเลนแผนสกปรกอะไร
กับพวกเขาในการทดสอบแน หานลี่กลับไมไดรูสึกอะไรกั บสิ่ง นี้ เพราะวาหานลี่
และพวกออกมาคอนขางสาย ดังนั้นจึงไมไดรออยูกลางอากาศนานนัก
หลังจากที่ผานไปครึ่งชั่วยาม เมื่อสามมหาอาวุโสของอาวุโสในการประชุมและ
ผูที่สวมชุดเกราะสีเขียวผูนั้นมาปรากฎตัวตรงหนาุทกคนแลว ทั้งกองทัพก็เริ่มเคลื่อน
ไปขางหนาทันที ตรงไปยังกำแพงยักษที่เหมือนกับภูเขาขนาดยอมซึ่งอยูไกลออกไป
ไมรูเพราะเหตุใด ทั้งๆที่เหนือกำแพงนั้นวางเปลา ทั้งกองทัพกลับไมไดบินผาน
กำแพงยักษไป แตหยุดอยูที่หนึ่งใตกำแพงยักษ
เมื ่ อ เห็ น ผู  ท ี ่ ส วมชุ ด เกราะสี เ ขี ย วเดิ น มาอยู  ด  า นหน า สุ ด ของกองทั พ แล ว
บริกรรมคาถาแลว จากนั้นมือหนึ่งก็ชี้ไปที่กำแพง
เสียงอึกทึกดังขึ้น กำแพงยักษที่อยูตรงหนาของทุกคนสั่นเทา คอยๆ มีเขตอาคม
สีเงินออนปรากฎขึ้นทามกลางลำแสงหาสี
ผูที่สวมชุดเกราะสีเขียวเห็นเชนนี้ก็อาปากออกพนแผนไมสีมวงออนออกมา
ในทันที
บนแผนไมมีลำแสงเปลงแสงเจิดจา เสาลำแสงสีมวงสายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบ
แลวพุงออกไป หลังจากกระพริบวาบ ก็จมหายเขาไปในใจกลางของเขตอาคม
ชั ่ ว ขณะนั ้ น เขตอาคมสี เ งิ นพลั น เปล ง เสี ย งกรี ด ร อ งออกมา จากนั ้ น ลำแสง
ประหลาดพลั น หมุ น โคจร เขตอาคมหายวั บ ไปทั น ที แต ด  า นล า งกำแพงยั ก ษ
พลันมีประตูยักษสีเงินปรากฎขึ้นบานหนึ่ง
ประตูบานนี้สูงยี่สิบสามสิบจั้ง แผลำแสงเย็นยะเยือกออกมา เห็นไดชัดวาหนักอึ้ง
อยางหาที่เปรียบ ราวกับวาสรางขึ้นจากเงินบริสุทธิ์อยางไรอยางนั้น
ผูที่สวมชุดเกราะสีเขียวเก็บแผนไมเขาไปโดยไมไดกลาวอะไร สะบัดแขนเสื้อไป
ทางประตูยักษที่อยูไกลออกไป
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีมวงผืนหนึ่งพลันมวนวนพุงออกมา โจมตีไปยังประตูบานยักษ
เสียงตูมดังสนั่นขึ้น ประตูสีเงินคอยๆ ถูกผลักออกทามกลางมานลำแสง
ดานนอกประตูมีพายุทมิฬสีเทาคุนๆ พันเขามาทันที ทุกแหงที่กวาดผานไป
บุตรศักดิ์สิทธิ์เหลานั้นลวนพากันตัวสั่นสะทาน ผิวดูเหมือนถูกคนใชมีดอันแหลมคม
เฉียดผานจนทำใหขนลุกชัน
ชางแปลกประหลาดยิ่งนัก!
แนนอนวาหานลี่เองก็สัมผัสไดถึงความแปลกประหลาดของวายุหอบนี้ แววตาจึง
เปลงประกายสีฟาสวางวาบ
ประตูใหญเปดออก แนนอนวาทั้งกองทัพจึงเดินออกจากประตูหินไปอยางไมลังเลอีก
ชั่วขณะนั้นสถานการณดานหลังของประตูยักษพลันกระจางขึ้น
หานลี่อดที่จะสูดลมหายใจอยางเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่งไมได
ดานหลังประตูไมไกลนักคือ แผนดินสีดำสนิทผืนหนึ่ง
บนพื้นดินไมเพียงจะไมมีตนไมใบหญางอกขึ้นมา ไมวาดินหรือหินก็ลวนเปนสีดำสนิท
มองปราดเดียวไมอาจมองเห็นปลายทางได
และกลางอากาสกลับมีทะเลหมอกสีเทาขาวชั้นหนึ่งปรากฎขึ้น มันหนาแนนเปนพิเศษ
มองไมเห็นขอบฟาเชนกัน ทาทางคงหนาแนนมาก
และรอยแยกของมานหมอกกับพื้นดินนั้นก็มีความสูงแคสามสิบสี่สิบจั้งเทานั้น
เห็นไดชัดวาแคบมาก แตดานในกลับมีเสียงวายุหวีดหวิวประหลาดๆ ดังออกมา
อยางตอเนื่อง ราวกับวาสามารถกลืนกินไดทุกอยางอยางไรอยางนั้น
ทำใหทุกคนเห็นแลวอดที่จะรูสึกอกสั่นขวัญแขวนไมได
“นี่คือ ประตูหุบเหวสินะ ทาทางอันตรายมากดังคาด” หานลี่พึมพำในใจ
“เอาละ มาถึงที่นี่แลว นอกจากบุตรศักดิ์สิทธิ์แลว คนที่เหลือก็ไมจำเปนต อง
กาวเขาไป ประตูของหุบเหวอยูในมานหมอกหางออกไปหมื่นลี้” ฮูหยินชราที่มือหนึ่ง
ค้ำไมเทาเอาไวเอยขึ้น
แมนวาน้ำเสียงจะไมดังนัก แตกลับเขามาในโสตประสาทหูของทุกคนอยางชัดเจน
ฝูงชนที่แตเดิมเกิดเสียงอื้ออึงโกลาหลขึ้นพลันเงียบสงบลงในทันที
“เอาละ ในเมื่อมาถึงครานี้แลว งั้นก็เริ่มประกาศเนื้อหาของการทดสอบกันเถิด
คิดดูแลวทุกคนคงรอไมไหวแลว” บุรุษผมสีขาวที่อยูดานขางหัวเราะหึๆ ออกมา
ฮูหยินชรา มองไปยังบุรุษผมขาวแวบหนึ่ง แลวเอยตอดวยสีหนาราบเรียบวา
“อาวุโสรวมประชุมอยางพวกเราไดปรึกษากับเหลาอาวุโสแลววา เนื้อหาในการ
ทดสอบครั้งนี้จะไมเหมือนกับที่ตองสังหารปศาจทมิฬเหมือนคราวกอนๆ แตจะให
พวกเจาไปนำสมุนไพรวิญญาณอยางผลเปลวยมโลกกลับมาผลหนึ่ง ตอใหพวกเจา
ทำสำเร็จ ผลวิญญาณชนิดนี้ไมเหมือนกับสมุนไพรวิญญาณชนิดอื่น มันจะเกิด ขึ้น
แค ใ นสถานที ่ ท ี ่ ม ี ค วามมื ด และเหม็ น คาวมากที ่ ส ุ ด ผลนี ้ จ ะสุ ก งอกห า ร อยป ค รั้ง
ทุกตนจะมีผลแคผลเดียวเทานั้น ผลเปลวยมโลกที่เจานำมาตองเปนผลที่สุกแลว
เทานั้น ไอทมิฬที่ชั้นหนึ่งนั้นมีไมพอ ไมอาจมีผลชนิดนี้ปรากฎขึ้นได แนนอนว า
หากมีคนไมเชื่ออยากลองพึ่งดวงตามหาดู ก็แลวแตเจา ชั้นที่สองอายยุมีผลเปลวทมิฬ
อยูเล็กนอย แตจะมีอยูจริงๆ หรือไม พวกขาก็ไมอาจรับประกันได สวนชั้นที่สามนั้น
มีผลชนิดนี้อยูอยางแนนอน และยิ่งไปกวานั้นจำนวนยังไมนอย สวนจะทำอยางไรนั้น
แนนอนวาก็แลวแตพวกเจา เวลาในการทดสอบคือสามเดือน หลังจากนี้สามเดือน
ไมวาจะมีคนทำภารกิจสำเร็จกี่คน ขาก็จะเปดประตูบานนี้ออกอีกครั้ง เพื่อมารอรับ
พวกเจ า ได ย ิ นชั ด แล ว ใช ไ หม” น้ ำ เสี ย งของฮู ห ยิ น ชราไม โกรธแต ม ี พ ลั ง อำนาจ
ทุกสิ่งที่พูดลวนเกี่ยวของกับความสำเร็จในการทดสอบ หานลี่ผูซึ่งเปนผูเขารวม
การทดสอบ แนนอนวาจึงตั้งใจฟงเปนอยางมาก ไมกลาละเลยแมแตคำเดียว
“เอาละ ในเมื่อบอกเนื้อหาในการทดสอบใหพวกเจาฟงแลว ตอนนี้ก็ออกเดินทางได
หลังจากนี้สามเดือน ตาเฒาหวังวาจะไดพบเหลาสหายสวนใหญอีกครั้ง คนที่เหลือ
ก็กลับกันเถิด ประตูผนึกมารจะปดลงอีกครั้งแลว” ชายชราที่มีรอยสักออกคำสั่ง
ดวยน้ำเสียงเครงขรึม
จากนั้นพลันสะบัดแขนเสื้อดวยความดีใจ คาดไมถึงวาทันใดนั้นจะเดินไปยัง
ประตูเมืองดานหลัง โดยไมหันกลับมาเลยสักนิด
บุรุษผมขาวและฮูหยินชรามองสบตากันแวบหนึ่ง แลวเดินตามไปติดๆ อยางไมลังเล
จากนั้นอาวุโสในการประชุมที่เหลือก็เดินตามไปอยางเงียบๆ อาวุโสของสาขาตางๆ
เห็นเชนนั้น กวาครึ่งก็มองไปยังบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาตนเองสองสามแวบ แลว
เดินกลับไปเชนกันดวยความกังวลใจ มีเพียงสวนนอยที่ถือโอกาสนี้ถายทอดเสียงมา
อีกสองสามประโยค แลวหันหนาจากไป
ชั ่ ว พริ บ ตากลางอากาศดา นนอกประตู ยั ก ษ ก็ เ หลื อเพีย งบุ ตรศั ก ดิ ์สิ ทธิ์ของ
เผาวิญญาณเหาะเหินสองสามรอยคนที่กำลังยืนมองสบตากันปริบๆ อยูตรงนั้น
ตอนที่ 1440 หุบเหวชั้นที่หนึ่ง
“หึๆ ทุกทานยังคิดอะไรอีก หรือวาอยากรออยูที่นี่จนถึงสามเดือน” ในฝูงชน
มีเสียงหัวเราะดังขึ้น จากนั้นเงารางคนพลันพลิ้วไหว คนก็กลายเปนเงาสีขาวสายหนึ่ง
พุงออกไปยังจุดที่ไกลออกไป
ดานหลังของเขายั งมีค นสองสามคนไลต ามไปติ ดๆ โดยไมเปลงเสียงพู ด ใดๆ
ดูเหมือนวาจะเปนคนของเผาเดียวกัน
เมื ่ อเห็ นคนนำไป ทั นใดนั ้ นคนจำนวนไม น อยในฝู ง ชนก็แ บ ง ออกเป นกลุมๆ
แลวบินไปทางรอยแยกของมานหมอก
ชั่วครูที่เดิมก็เหลือเพียงครึ่งหนึ่ง คนเหลานี้กำลังซุบซิบอะไรกันอยู และถูกคนอื่นๆ
ชิงลวงหนาไปกอนอยางไมใสใจ
หนึ่งในนั้นรวมทั้งหานลี่และพวกของเผาแดงสดดวย
เสียง “ตูมๆ” ดังขึ้น ประตูยักษสีเงินดานหลังคอยๆ ปดลง ผิวของมัน มี
ลำแสงประหลาดหาสีไหลโคจรอยู ประตูบานนี้หายวับไปอยางไรรองรอย
คนที่เหลือจึงเกิดความโกลาหลขึ้น!
“ไปกันเถิด” หลังจากที่หานลี่กวาดสายตาไปยังประตูสีเงินที่หายไปจากกำแพงยักษ
แลวพลันโบกมือ ปกที่แผนหลังกระพือ กลายเปนลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งบินออกไป
ไป ป   แ ละเหลยหลั นก็ ก ลายเปน ลำแสงสี เ งิ น และลำแสงสี ทองไลต ามไปติดๆ
โดยไมไดปริปากใดๆ
เมื่อหานลี่และพวกจากไป สายตาประหลาดๆ สองสามสายก็ตกมาอยูบนรางของ
พวกเขา
หนึ ่ ง ในนั ้ น นอกจากคนของเผ า แดงสดแล ว ยั ง มี บ ุ ต รศั ก ดิ ์ ส ิ ท ธิ์ ข องสาขา
ที่ไมคุนเคยอื่นอีกสองสามสาขา ใชสายตาเย็นเยียบจองเขม็งไปยังมาพวกของหานลี่
ที่คอยๆ เคลื่อนตัวหางออกไป
คนของเผาแดงสดที่รอใหลำแสงหลีก หนี ของหานลี่ หายไปจากมานหมอกได
สักพักแลว ถึงไดออกเดินทางตามคำสั่งที่แผวเบาของจูอินจื่อ
ครานี้ยังมีคนของเผาวิญญาณเหาะเหินที่อยูตรงกำแพงยักษแคสิบกวาสาขา
เทานั้น
หนึ่งในนั้นกวาครึ่งลวนเปนสาขาๆ ตางที่แข็งแกรง แตคนเหลานี้กลับแววตา
เปลงประกายระยิบระยับ บางครั้งก็เหลือบมองไปยังบุตรศักดิ์สิทธิ์ของสาขาที่เหลือ
อีกสองคน
คนหนึ ่ ง คื อ เด็ ก ผู  ห ญิ ง ผิ ว ดำร า งกายผ า ยผอม นั ่ น ก็ ค ื อเอ า ชิ ง ของเผ า ชี เ ย ว
อีกคนหนึ่งกลับเปนชายรางใหญสวมชุดเกราะไมสีดำรางกายสูงใหญมาก
ชายรางใหญอายุประมาณสามสิบปเศษ ดวงตาทั้งสองมีสี่รูมานตา เปลงแสง
แปลกประหลาด แผนหลังสะพายดาบใหญโตเหมือนกับเขาเอาไว เปลงแสงเย็นเยียบ
สีทองออน ของชิ้นใหญขนาดนี้ คาดไมถึงวาจะไมเก็บเอาไวในยามเก็บของ
และไมรูเพราะเหตุใด บุตรศักดิ์สิทธิ์ของสาขาที่แข็งแกรงที่เหลือถึงมองไปยังสองคนนี้
คาดไมถึงวาจะไมมีผูใดคิดจะจากไปงายๆ อีก
หลังจากผานไปอีกชั่วครู เมื่อเห็นวาไมมีผูใดมีทาทีจะขยับนั้น เอาชิงพลันขมวดคิ้ว
ทันใดนั้นก็หัวเราะหึๆ ออกมา แลวพาคนของเผาสิบกวาคนบินจากไป
ชายรางใหญสี่รูมานตาเห็นเชนนั้น แววตาพลันฉายแววเย็นเยียบ สาวเทายาวๆ
กาวออกไป คาดไมถึงวาจะหางออกไปสองสามจั้ง ทาทางไลตามเอาชิงไป บุรุษ
สามคนที่รางกายสูงใหญเหมือนกับอยูเผาเดียวกันกับเขาพลันไลตามไปเงียบๆ
คนอื่นๆ ในเผาวิญญาณเหาะเหินเห็นเอาชิงและชายรางใหญจากไป ก็ทยอยกัน
มีสีหนาผอนคลายลง
แมกระทั่งมีคนจำนวนไมนอยเขยิบเขามาใกลกัน แลวปรึกษาอะไรกันสักอยาง
หลังจากผานไปชั่วครูคนเหลานี้ก็แบงออกเปนสองสามกลุมแลวจากไป ราวกับวา
ตางวางแผนเอาไวเปนอยางดีแลวอยางไรอยางนั้น
เชนนั้นบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิญญาณเหาะเหินสองสามรอยคนจึงจมหายเขาไป
ในแผนดินสีดำเบื้องหนา ลวนหายไปอยางไรรองรอย
รอบดานกำแพงยักษลวนวางเปลา ไรซึ่งผูคน
……
ในเวลาเดียวกันหานลี่และบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิหคสวรรคอยางไปปและเหลนหลัน
กำลังบินอยูบนทองฟาสูงขึ้นไปสิบจั้งเศษ ดานบนมีหมอกสีเทาลอยนิ่งอยู หางจาก
ศีรษะของพวกเขาไปแคยี่สิบจั้งเศษ มองปราดเดียวก็รูวามันทอดตัวอยางไมมีที่สิ้นสุด
ประกอบกับสีเทาตุนๆ ที่ไมมีสีอื่นผสม จึงทำใหผูคนเห็นแลวรูสึกกดดันเปนอยาง
สิ่งที่แปลกยิ่งกวาก็คือ ในหวงเวลาที่คับแคบเชนนี้ กลับมีพายุออนๆ พัดมา
เปนระยะๆ สีเทาเขมดูเย็นยะเยือกเปนอยางมาก
แนนอนวาพายุลูกนี้ไมอาจทำอะไรหานลี่และพวกที่อยูในระดับเทพแปลงได
บนรางของทั้งสามมีลำแสงวิญญาณเปลงแสงระยิบระยับตานทานไดอยางงายดาย
แมวาบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่ออกเดินทางลวงหนาไปจะมีอยูไมนอย แตคนสวนใหญ
ลวนไมไดไปทางเดียวกัน คนจำนวนไมนอยลวนจงใจออมผานไปจากอีกดานหนึ่ง
เพื่อไมใหคนที่ยังไมเขามาในหุบเหวพบกับบุตรศักดิ์สิทธิ์จากสาขาอื่นๆกอน แลว
เกิดการปะทะกันขึ้น
หานลี่เองก็ทำเชนนั้นเชนกัน
หลังจากที่เขาบินออกมาไดรอยลี้เศษ ก็พาไปปและพวกทั้งสองออกหางจาก
ทางเสนทางเดิม ตรงไปยังเสนทางอีกสาย
ระยะหางหมื่นลี้เศษไมนับวาไกลอะไรนักสำหรับบุตรศักดิ์สิทธิ์อยางพวกเขา
แมวาพวกเขาจะจงใจลดระดับความเร็วลง หลังจากผานไปหนึ่งชั่วยามก็ยังคงใกล
เปาหมายแลว
สถานการณ เ บื ้ อ งหน า เปลี ่ ย นไป ทะเลหมอกต่ ำ ๆ กลางอากาศลอยสู ง ขึ้ น
พายุทมิฬหมุนวนมาจากฝงตรงขาม เปลี่ยนสีเปนสีดำเทาอยางฉับพลัน เมื่อพัดมา
ปะทะรางชั่วพริบตาก็รวมตัวกันกลายเปนเกล็ดน้ำแข็งสีดำบางๆ ชั้นหนึ่ง
แนนอนวาพายุสีดำเหลานี้ ยังคงไมอาจทำอะไรพวกของหานลี่ได ทุกคนแคเพิ่ม
ลำแสงที่หอหุมรางขึ้นสองสามสวนเทานั้น
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งมื้ออาหารพวกเขาก็บินออกมาจากพายุประหลาดสีดำ
เหลานั้น เบื้องหนาสวางจา ทั้งสามคนมาปรากฏตัวบนสถานที่ที่นาตกตะลึง
นี่คือหวงเวลาวงกลมที่ไมรูวามีความกวางเทาไหร รอบดานลวนถูกพายุประหลาดสีดำ
หอหุมเอาไว กลางอากาศยังคงมีหมอกสีเทาหนาๆ แตอยูสูงขึ้นไปพันจั้งเศษ และ
กำลังหมุนวน ไมเหมือนกับทะเลหมอกกอนหนาเลยสักนิด
แตทุกอยางนี ้กลับ ไม ไม ใช จุดที่ด ึง ดูด ความสนใจของหานลี ่แ ละพวกทั้ ง สาม
ที่สุดสายตาของพวกเขาลวนมองไปที่จุดจุดหนึ่ง
แผนดินสีดำแตเดิมลวนหายไป คาดไมถึงวาจะหายวับไปอยางไรรองรอย
สิ่งที่มาแทนที่คือ หุบเหวยักษลึกลงไปไมรูเทาไหร ดานในมีหมอกสีดำเทาลอยอยู
เต็มไปหมด และบางครั้งก็มีพายุสีดำอันเย็นยะเยือกพัดออกมา
หานลี ่ ก วาดสายตาไปรอบๆ หลุ ม ยั ก ษ ห ลุ ม นี ้ เ หมื อ นกั บ ห ว งเวลาที ่ ไ ม ร ู  ว า
กวางใหญเทาไหรอยางไรอยางนั้น
พวกเขาสามคนลวนลอยอยูตรงขอบขอบหุบเหวลึก ความกวางของหวงเวลาและ
หุบเหวนั้นแคบเสียราวกับมดอยางไรอยางนั้น
“ดูแลวนี่คงเปนประตูของหุบเหว ลงไปเถิด ทวาตองระวังหนอย แมวาจะไมคิดวา
จะบังเอิญพบปศาจในหุบเหวในทันที แตระวังหนอยก็ไมผิด” หานลี่ไมไดพิจารณา
นานนัก พลางเอยออกมาอยางราบเรียบสองสามประโยค จากนั้นปกที่แผนหลั ง
ก็สะบัด พุงเขาไปในหุบเหว หลังจากที่หมอกสีดำเทาเปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง
ก็หายวับไป
หลังจากที่ไปปและเหลยหลันมีสีหนาเครงขรึมแลว ก็ไมกลาดูแคลนพลางบินตาม
เขาไปติดๆ
หานลี่รอนลงขางลางอยางชาๆ ลำแสงสีเขียวรอบกายเปลงแสงเจิดจา รอบดานมี
ศิลาลำแสงจันทราขนาดเทาฝามือเจ็ดกอนปรากฏขึ้น แผลำแสงสีขาวนวลออกมา
ทำใหทุกอยางในระยะสามสิบจั้งเศษกระจางชัดขึ้น
มองหมอกที่ลอยหมุนวนรอบๆ หานลี่กลับถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งในใจ
เพิ่งเขามาในหุบเหวลึกยังดีหนอย มานหมอกไมถือวาหนานัก แมวาจะไมตองใช
เนตรวิญญาณก็สามารถมองทัศนียภาพตางๆ ไดอยางชัดเจน
แตหลังจากที่เขาลึกลงไปสองสามพันจั้ง มานหมอกก็หนาขึ้นหลายเทา
และหลั ง จากที ่ ไ ปป   แ ละเหลยหลั น ตามหลั ง เขามาติ ดๆ นั ้ น เขาก็ ไ ม ม ี ทางใช
เนตรวิญญาณงายๆ แน ดังนั้นจึงอัญเชิญศิลาลำแสงจันทราเหลานี้ออกมาเสียเลย
เชนนั้นก็สามารถรับมือกับสถานการณเบื้องหนาได
ทวาเหมือนกับที่หานลี่คาดการณเอาไวกอนหนา ประตูของหุบเหวกวางใหญถึงเพียงนี้
พวกเขาเขามาในหุบเหวลึกขนาดนี้กลับยังไมพบปศาจอะไรมาขัดขวางสักตน
แนนอนวานี่เปนเรื่องที่ตอใหรองขอก็ยังไมอาจไดมาสำหรับหานลี่
หลังจากลงไปลึกกวาเดิมตั้งไมรูเทาไหร หมอกดานลางก็จางลง ในเวลาเดียวกัน
บางครั้งก็มีเสียงของพายุทมิฬดังขึ้นเปนครั้งครา
หานลี่และพวกทั้งสามรูสึกกระปรี้กระเปรา ในที่สุดก็รูวามาถึงขั้นหนึ่งของหุบเหวแลว
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งกาน้ำชาหานลี่ก็หรี่ตาทั้งสองขางลง พลางมองลงไป
ดานลาง ทะลุผานมานหมอกบางๆ ไป ในที่สุดก็มองเห็นทิวทัศนที่ไมเหมื อนกั บ
ที่แลวมา
แผนดินสีดำเหลืองปรากฏสูสายตาของหานลี่ พื้นดินมีสีเขียวชอุม มีตนไมขนาดยักษ
ขึ้นอยูอยางหนาแนน แมกระทั่งมีวิหคยักษสีเทารูปรางแปลกประหลาดสองสามตัว
บินวนอยูกลางอากาศต่ำๆ
“นี่คือยุทธภพแหงหุบเหว ดูแลวไมไดพิเศษอะไรนัก” เมื่อหานลี่และพวกทั้งสาม
ออกมาจากมานหมอก ก็ลอยตัวอยูกลางอากาศพลางพิจารณาพื้นดินดานลาง ไปปที่
อยูดานขางทนไมไหว เอยปากพึมพำขึ้น
“แมวาหุบเหวชั้นที่หนึ่งจะถูกไอทมิฬลุกลามตั้งนานแลว แตระดับของมั นยัง
เบาบางที่สุดในเจ็ดชั้น ปกติแลวนอกจากปศาจระดับต่ำที่สุดแลวก็มีอสูรธรรมดาๆ
จำนวนมากอาศั ย อยู  แต แ ค อ สู ร เหล า นี ้ ม ี น ิ ส ั ย บ า ระห่ ำ แปดเก า ส ว นล ว นเป น
อสูรกินเนื้อ บางก็รายกาจไมดอยไปกวาปศาจระดับต่ำ” เหลยหลันดูเหมือนวาจะรูจัก
ที่นี่ไมนอยจึงเอยปากอธิบายขึ้น
หานลี่กับมีสีหนาราบเรียบดูเหมือนวาจะทำเปนมองไมเห็นทุกอยาง แตความจริง
แลวจิตสัมผัสของเขากลับกวาดไปในรัศมีพันลี้เศษในพริบตารอบหนึ่ง และไมพบ
บุตรศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆ หรือสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกรง ดูแลวที่นี่คงจะปลอดภัยแลว
“ลงไปกันเถิด หากขาจำไมผิดละก็ ถาหยุดอยูกลางอากาศเปนเวลานานจะดึงดูด
ความยุงยากเขามา” หานลี่ออกคำสั่งแลวบินลงไปดานลางตามอำเภอใจ เหลยหลัน
และพวกทั้งสองก็ตามหลังเขาไป
เสียงรองประหลาดดังขึ้น วิหคประหลาดสีเทาสองสามตัวที่อยูดานลางดูเหมือน
จะพบรางของทั้งสามคน จึงพุงเขามาอยางไมลังเลในทันที
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง แลวถึงไดมองเห็นรูปรางของวิหคประหลาดเหลานี้
ไดอยางชัดเจน ปากยาวหนาเต็มไปดวยเขี้ยวแหลมคม บนเรือนรางไมมีขนเลยสักเสน
ผิวหนังประหลาดสีเทาตุนๆ บนหัวมีเขาหงิกงอเขาหนึ่ง
หานลี่แคนเสียงต่ำๆ ดีดนิ้วรายอาคมเบาๆ
“ฟวๆ” หลังจากเสียงดังขึ้น กระบี่ลำแสงสีทองสองสามสายก็เปลงแสงสวางวาบ
ชั ่ ว พริ บ ตาก็ ท ะลุ ผ  า นร า งของวิ ห คประหลาดเหล า นั ้ น ไป ฝนโลหิ ต สาดลงมา
วิหคประหลาดทยอยกันรวงสูพื้นดิน
ผลคือเมื่อซากศพตกลงสูผืนปาเสียงรองคำรามดังๆ พลันดังขึ้น จากนั้นพื้นดิน
ดานลางพลันสั่นสะเทือน ดูเหมือนวาจะมีอสูรยักษจำนวนมากแยงชิงอะไรกันอยู
แววตาของหานลี่ฉายแววประหลาดใจ มองไปทางเสียงที่ดังมา แลวบินวนอยูหาง
จากพื้นดินไปรอยจั้งเศษรอบหนึ่ง พาคนที่อยูดานหลังของทั้งสองแยกแยะทิศทาง
แลวบินออกไป
“จากคำพู ด ของบุ ต รศั ก ดิ ์ ส ิ ท ธิ ์ ที่ เ ข า ร ว มการทดสอบก อ นหน า กล า วว า
ทางเขาชั้นหนึ่งถึงชั้นสองนั้นมีอยูมากมาย แตทางเขาที่คอนขางปลอดภัยนั้น กลับมี
อยู  แ ค ส ิ บ กว า แห ง เท า นั ้ น โอกาสที ่ จ ะตามหาผลเปลวยมโลกในชั ้ น หนึ ่ ง พบนั้ น
แทบไมมีเลย พวกเราตรงไปชัน้ สองเถอะ ตอนนี้ทางเขาที่ขาเลือกอยูหางจากพวกเรา
มากที่สุด แมวาจะเสียเวลามากหนอยแตกลับสามารถหลบเลี่ยงคนที่มีเจตนาไมดี
ตอเผาเราที่กำลังซุมโจมตีอยูได” หานลี่บินไปพลางอธิบายอยางราบเรียบไปพลาง
ไปปขมวดคิ้วเล็กนอยดูเหมือนวาจะไมคอยเห็นดวย แตก็ไมไดเอยอะไรออกมา
สวนเหลยหลันกลับมีทาทีอยางไรก็ได
เมื่อเห็นสถานการณเชนนั้นหานลี่พลันฉีกยิ้มไมไดเอยอะไรออกมาอีก
เขาอธิบายใหทั้งสองฟงไมไดหมายความวาตองการจะปรึกษา ในเมื่อเผาวิหคสวรรค
ต อ งการให เ ขาออกแรงปกป อ งบุ ต รศั ก ดิ ์ ส ิ ท ธิ ์ ท ั ้ ง สองให ท ำการทดสอบสำเร็ จ
แนนอนวาทุกอยางจึงตองใหเขาเปนผูนำ
และจากพลังยุทธของเขาก็ไมกลัววาบุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองที่พลังยุทธนอยกวาเขา
จะไมเชื่อฟงคำสั่ง ดังนั้นชวงเวลาตอจากนี้ ทั้งสามคนจึงบินอยูกลางอากาศต่ำๆ
โดยไมไดปริปากอะไร พลางตรงไปยังตำแหนงที่ทางเขาของชั้นสองตั้งอยู
ตอนที่ 1441 แมงมุมตัวตอทมิฬ
วากันวายุทธภพของหุบเหวมีเจ็ดชั้น ชั้นทายๆ กวางกวาชั้นแรกเปนอยางมาก
แตแมวาจะเปนเชนนี้ พื้นที่ของชั้นแรกก็ไมเล็กเทาใดนัก หากพวกของหานลี่ตองการ
จะไปที่ทางเขาชั้นสองตามแผนจริงๆ ก็ตองใชเวลาสี่หาวัน
วันกอนทุกอยางลวนราบรื่น พวกเขาบินไปตามแนวปาลับระหวางทางนอกจาก
พบกับวิหคชั่วรายที่เปนอมตะสองสามฝูงแลว ก็ไมมีอะไรเกิดขึ้น
แตเชาวันที่สองทั้งสามก็รูสึกเพียงวาทองฟาเหนือศีรษะพลันหมนหมองรอบดาน
เปลี่ยนเปนสีเทาขมุกขมัว
หานลี่พลันเงยหนาขึ้นมองดวยความตกตะลึง
ผลคื อพบว า หมอกที่ เ ปล ง แสงเรื องๆ อยู  ก ลางอากาศแตเดิม นั ้น หายไปแลว
และกลางอากาศสูงขึ้นไปหมื่นจั้ง กลับมีกำแพงหินสีดำสนิทปรากฎขึ้น ดานบนมี
หิ น งอกออกมาราวกั บหิ นงอกหินย อย ทุ ก ก อนล ว นแขวนอยู ด  านบน แม ก ระทั่ง
หากมองไกลๆ บางจุดก็ยังมีวัชพืชและเถาวัลยงอกออกมา
คิดไมถึงวาพวกเขาจะบินออกมาจากเขตปองกันของประตูหุบเหวแลว ในที่สุด
ก็เขาสูยุทธภพใตดินชั้นที่หนึ่งอยางเปนทางการ
โชคดีที่บนพื้นดินมีตนไมจำนวนมากเปลงแสงเรืองๆ อยูโดยไมรูวาเปนเพราะอยู
ในเขตทมิ ฬ มาเนิ ่ น นานหรื อ ไม ประกอบกั บ บนพื ้ น ดิ น มี ศ ิ ล าแร ท ี ่ ไ ม ร ู  จ ั ก ชื่ อ
กำลังเปลงแสงเรืองๆ อยูเชนกัน
เชนนั้นยุทธภพใตดินจึงไมนับวาตกอยูในอนธการไปจริงๆ ยังคงมองเห็นสิ่งของ
จำนวนไมนอยที่อยูไกลออกไป แตแคความรูสึกไมเหมือนกับกอนหนา รอบดานนั้น
หนาวเย็นและมืดมนอยางเห็นไดชัด
บางครั้งก็มีหมอกสีดำและวายุเย็นเยียบพัดเขามาเปนระลอกๆ จึงยิ่งทำใหผูคน
รูสึกขนลุกชัน
แตก็ไมนับวาสำคัญที่สุดเมื่อบินเขามาในเขตมืดมนไดไมนาน หานลี่ก็รูสึกวาจิตสัมผัส
ของตนเองถูกกดเอาไว แผออกไปนอกรางกายไดเพียงยี่สิบสามสิบจั้งเทานั้น
นี่คือผลจากที่เขาฝกฝนคาถาขับเคลื่อน จิตสัมผัสจึงเหนือกวาผูบำเพ็ญเพียร
ระดับเทพแปลงทั่วๆ ไป คิดดูแลวไปปและเหลยหลันแผจิตสัมผัสออกมานอกรางได
แคสองสามจั้งก็นับวาไมเลวแลว
เมื ่ อ ขบคิ ด เช น นั ้ น หานลี ่ ก ็ ก วาดจิ ต สั ม ผั ส ไปที ่ ด  า นหลั ง และสั ม ผั ส ได ว า
บุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองมีสีหนาดูไมไดดังคาด
ทวาเรื่องนี้ทั้งสามคนก็ไมไดรูสึกประหลาดใจอะไร
สถานการณที่จิตสัมผัสโดนกดเอาไว อาวุโสของเผาวิหคสวรรคสองสามทาน
ไดเตือนพวกเขาตั้งแตกอนออกเดินทางจากเมืองศักดิ์สิทธิ์แลว
ไมใชแคพวกเขาที่บุกเขามาจากภายนอก แมจะเปนปศาจมืดมนที่อาศัยอยูใน
หุบเหวก็เปนเหมือนกันหมด แตแคปศาจเหลานั้นอาศัยอยูในหุบเหวมาเปนเวลานาน
จึงรูสึกชินชากับสถานการณเชนนี้ตั้งนานแลว สวนเผาวิญญาณเหาะเหินที่เพิ่งเขามา
ที่นี่ครั้งแรกแนนอนวายอมรูสึกไมคุนเคย เคล็ดวิชาตางๆ จึงถูกลดประสิทธิภาพลง
ดวยเหตุนี้
หานลี่กลับไมสนใจสิ่งนี้เลยสักนิด สถานการณที่ถูกกดจิตสัมผัสเอาไวเชนนี้
เขาไม ไ ด เ คยพบเป น ครั ้ ง แรก การต อ สู  ท  า มกลางสถานการณ เ ช น นี้ นั บ ว า มี
ประสบการณมาก
หลังจากบินมาไดสองสามชั่วยาม หานลี่พลันขมวดคิ้วมุน จากนั้นพลัน ยกมือ
หนึ่งขึ้น ชี้นิ้วไปทางศิลาลำแสงจันทราสองสามกอนที่หมุนวนโคจรอยูเบื้องหน า
ชี้ไปกลางอากาศอยางรวดเร็วสองสามครั้ง
เสียง “ปงๆ” ดังขึ้น ศิลาลำแสงจั นทราระเบิ ด ออกโดยอัต โนมัติท ีละก อ นๆ
จนหายวับไป
ลำแสงสีเขียวบนรางของหานลี่หมนแสงลง แลวหยุดเคลื่อนไหว
รอบๆ เปลี่ยนเปนเลือนราง ดูเหมือนวาแมแตวายุทมิฬที่พัดเขามาก็ยังหนาวเหน็บ
ขึ้นหลายสวน
แมวาไปปและพวกทั้งสองจะหยุดลำแสงหลีกหนีลงตามความรูสึก แตก็ยังรูสึกงุนงง
เหลยหลันยิ่งเผยสีหนาประหลาดใจออกมา ครั้นเมื่อคิดจะขยับริมฝปากเอยถาม
อะไรนั้น กลับมีเสียงหึ่งๆ ดังมาจากทั้งสี่ดาน ทันใดนั้นเสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ รอบดาน
มี ล ำแสงสี เ ขี ย วจำนวนนั บ ไม ถ  ว นปรากฎขึ ้ น แล ว ตรงไปเบื ้ อ งหน า ของทั ้ ง สาม
อยางรวดเร็ว
“แมงมุมตัวตอทมิฬ” เหลยหลันพลันตกตะลึง แตทันใดนั้นก็รองอุทานชื่อออกมา
ไปปไดยินพลันหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
“ใชแลวนาจะเปนปศาจตัวตอระดับต่ำ และเปนปศาจระดับต่ำที่รับมือยากที่สุด
ในหุบเหว ปศาจตัวตอนี้ชอบโจมตีทุกอยางที่เคลื่อนไหว” หานลี่กวาดสายตาไปรอบๆ
แลวเอยขึ้นดวยสีหนาราบเรียบ
ความจริงแลวไมตองใหหานลี่อธิบาย เหลยหลันและไปปก็รูจักโฉมหนาที่แทจริง
ของลำแสงสีเขียวเหลานี้
ทามกลางลำแสงสีเขียว สิ่งที่กายทอนบนเหมือนแมงมุม กายทอนลางเหมือน
ตัวตอประหลาดมีพิษขนาดเทาหัวแมมือปรากฎขึ้น รางกายสีเขียวมรกต แตมีลวดลาย
สีเหลืองเปนขดๆ ดูแลวดุรายเปนอยางมาก
ทอดสายตาไปลำแสงจำนวนนั บไมถ ว นเรีย งรายกั นอยูเ ต็ม ไปหมด ทาทางมี
มากกวาหมื่นตัว
จำนวนนาสะพรึงยิ่งนัก!
แมวาไปปและเหลยหลันจะเปนแมทัพวิญญาณขั้นตน ก็ยังมีสีหนาเครงขรึม
นี่ไมไดหมายความวาทั้งสองกลัวปศาจตัวตอจิ๊บจอยเหลานี้ แตจำนวนมากขนาดนี้
ตอใหสังหารทั้งหมด เกรงวาก็ตองเสียพลังยุทธไปสวนหนึ่ง และในครานี้พวกเขา
เพิ่งจะเขามาในชั้นแรกไดไมถึงสองวัน แนนอนวาจึงไมอยากปะทะในครั้งนี้
แตปศาจตัวตอเหลานี้มีทาทีโหดเหี้ยม ดูไมเหมือนวาจะจัดการงายเลยสักนิด
ภายใตความจนปญญาของเหลยหลันและไปป จึงทำไดเพียงเตรียมลงมือเทานั้น
คนหนึ่งสยายปกที่แผนหลังออก ประจุไฟฟาสีเงินบางๆ เริ่มแลนไปมาบนขนนกสีเงิน
อีกคนกลับใชสองมือรายอาคม รอบกายมีลำแสงสีทองออนเปนสายๆ ปรากฎขึ้น
กระพริบเรืองๆ ไมรูวาคือความสามารถใด
หานลี ่ เ หลื อ บตามองทั ้ ง สองคนแวบหนึ ่ ง อ า ปากออกโดยไม ไ ด ก ล า วอะไร
พนลูกบอลเพลิงสีเงินกลุมหนึ่งออกมา
หลังจากเปลงแสงสวางวาบ ลูกบอลเพลิงก็กลายเปนวิหคเพลิงสีเงินขนาดเทากำปน
ตัวหนึ่ง
วิหคเพลิงตัวนี้แคสยายปกทั้งสองออก ก็เกิดเสียงระเบิดดัง “ปง” ขึ้นกลางอากาศ
กลายเปนลูกไฟสีเงินนับรอยดวงปลิววอนไปมา
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฎขึ้น
ลูกไฟสีเงินจมหายเขาไปในลำแสงสีเขียวที่อยูไกลออกไป ลูกไฟสีเงินทั้งหมดพลัน
หมุนควาง ชั่วครูก็กระพริบวาบๆ ราวกับภูตผี พวกที่เขาใกลลำแสงสีเขียวถูกลูกไฟ
สีเงินเปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไปในทันที
ลูกไฟสีเงินนับรอยดวงพลันเริงระบำ ลำแสงสีเขียวจำนวนมากรอบดานไมอาจ
ตานทานได พลางเขาใกลหานลี่และพวกทั้งสามกาวหนึ่ง
ไปปและเหลยหลันเห็นแลวพลันตกตะลึงไปเล็กนอย
ในเมื่อแมงมุมตัวต อทมิ ฬมีชื่ อเสีย งวารัดมื อยากในบรรดาปศาจของหุ บ เหว
แนนอนวายอมไมอาจกำจัดไดงายๆ แมงมุมตัวตอทมิฬเหลานั้นมีตนกำเนิดมาจาก
ไอทมิฬที่รวมตัวกัน การโจมตีธรรมดาๆ จึงสังหารพวกมันไดยาก ตอใหทะลวงรางของ
มันหรือสับรางของมั นออก พวกมันก็สามารถอาศัยไอทมิ ฬฟ นฟูรางกลับ มาเป น
เหมื อ นเดิ ม ได ใ นระยะเวลาอั น สั ้ น นอกเสี ย จากกว า สั ง หารพวกมั น ที เ ดี ย วได
โดยไมเหลือสักตัว
ยุงยากถึงเพีย งนี้ มิ นา ละ ป ศาจตั วต อนี ้ถ ึง ไดมีช ื่ อเสีย งถึ งเพีย งนี้ แนน อนว า
ตัวตอตัวนี้จะมีความสามารถเชนนี้ไดแคในสถานที่ที่มีไอทมิฬหนาแนนเทานั้น หากอยู
บนพื้นดินก็จะสูญเสียพลังนี้ไป
ความจริงแลวไมใชแคแมงมุมตัวตอทมิฬ ปศาจหุบเหวจำนวนไมนอยสวนใหญ
ก็แข็งแกรงเมื่ออยูในหุบเหว แตเมื่อออกจากหุบเหวก็จะออนแอขึ้นในทันที
นี่เปนสาเหตุหลักที่เผาวิญญาณเหาะเหินสามารถปดผนึกทางเขาของหุบเหวได
มิเชนนั้นหากไมมีจุดออนนี้ เผาวิญญาณเหาะเหินก็คงไมสามารถกักพวกมันเอาไวได
อยางงายดายแน
เพลิงกลืนวิญญาณดูแลวบางเบา ไมเหมือนมีอานุภาพอะไร แตความจริงแลว
ลู ก ไฟสี เ งิ น ทุ ก ดวงที ่ ส ั ม ผั ส กั บ แมงมุ ม ตั ว ต อ ทมิ ฬ นั ้ น ล ว นทำให ร  า งของมั น
กลายเปนผุยผง กลืนกินไอทมิฬในรางของมันไปจนหมดเกลี้ยง
ภายใตสถานการณเชนนี้ปศาจแมลงเหลานี้จึงไมอาจฟนฟูรางกลับมาไดอีก
เพลิงกลืนวิญญาณเหลานี้เดิมทีก็มีจิตวิญญาณอยูแลว เขาจึงไมจำเปนตองใช
จิตสัมผัสควบคุม ก็สามารถทำลายศัตรูไดโดยอัตโนมัติ
เชนนั้นหานลี่แคเอาสองมือไพลหลังลอยตัวอยูกลางอากาศอยูชั่วครู แมง
มุมตัวตอทมิฬนับหมื่นตัวก็ถูกเพลิงกลืนวิญญาณกำจัดไปจนเกลี้ยง
จากนั้นเขาพลันกวักมืออยางสงเดช ชั่วขณะนั้นลูกไฟสีเงินทั้งหมดพลันรวมตัวกัน
ที่ตรงกลาง หลังจากเสียงฟูๆ ดังขึ้น ก็กลายเปนวิหคเพลิงขนาดเทากำปนตัวหนึ่ง
อีกครั้ง เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปในรางของหานลี่
“ไปกันเถิด!” หานลี่เอยอยางราบเรียบแลวกลายเปนลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งพุงออกไป
เหลยหลันและไปปฝนระงับความตื่นตะลึงเอาไว แลวบินตามไปอยางเงียบๆ
เชนกัน
ครานี้ไมวาทั้งสองจะถือดีรวมทั้งคิดตอหานลี่อยางไร หลังจากที่หานลี่สำแดง
ความสามารถออกมา ก็มีทาทีไมกลาขัดแยงตอคำสั่งของหานลี่มากแลว
เชนนั้นหลังจากที่ทั้งสามบินผานปารกทึบไปไดหนึ่งวันหนึ่งคืน ในที่สุดก็ออกมา
จากเขตผืนปา
ทัศนียภาพเบื้องหนาพลันเปลี่ยนไป คาดไมถึงวาจะมีทะเลทรายประหลาดๆ
สีเงินเทาปรากฎขึ้น
มองไกลๆ เม็ดทรายเหลานั้นดูเหมือนวาจะเปลงแสงเรืองๆ ออกมา มองปราดเดียว
ก็รูสึกอางวางเปนอยางยิ่ง
“หรือวาขาจำผิดไป ตามแผนที่แลวที่นี่นาจะเปนแมน้ำใตดินถึงจะถูก เหตุใด
ถึงเปนเชนนี้” หานลี่หยุดอยูกลางอากาศ ตอนที่กำลังพลิกจานอาคมไปมาไมหยุดนั้น
ใบหนาก็เผยสีหนาประหลาดใจออกมา
“พี่หาน ทานไมไดจำผิดหรอก ในแผนที่ของพวกเราก็บอกวาที่นี่ควรจะเปนแมน้ำ
เชนกัน” หลังจากที่ไปปและเหลยหลันดูแผนที่ในเวลาเดียวกันแลว ก็เผยสีหนา
ตกตะลึงระคนสงสัยออกมา
“หรือวาที่ผานมาลำธารแหงขอด วารีจึงไหลซึมไปที่ชั้นสองแลว” เหลยหลัน
แววตาเปลงประกายขณะเอย
“ดูจากรองรอยแลวไมนาจะใช ตอใหวารีไหลไปหมด แลวทรายจะมาปรากฎที่นี่
ไดอยางไร” หานลี่กลับสั่นศีรษะ เอยอยางไมเห็นดวย
“พี่หานคิดวาเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่?” ไปปลูบใตคางพลางเอยถามดวยรอยยิ้ม
“ไม ร ู  และไม จ ำเป นต อ งสื บ หา พวกเราแค ต  องรี บ ไป ไม ไ ด ม าศึ ก ษาความ
เปลี ่ ย นแปลงของหุ บ เหว รี บ ไปกั น เถิ ด แต ห ลั ง จากที ่ เ ข า ไปในทะเลทรายต อง
ระวังหนอย” หลังจากที่หานลี่เงียบขรึมไปชั่วครู ก็เอยขึ้นดวยสีหนาเปนปกติ
“นั่นมันก็ใช” ไปปหัวเราะโดยเสียงแหบแหงออกมา
ทันใดนั้นทั้งสามคนก็กายเปนลำแสงสามกลุม บินเขาไปในทะเลทรายสีเงินเบื้องหนา
แมวาปากจะกลาวอยางสบายๆ หลังจากที่ทั้งสามคนเขาไปในทะเลทรายแลว
กลับเพิ่มความเร็วขึ้นสองสามสวนพรอมกันโดยมิไดนัดหมาย หมายอยากจะออกจาก
สถานที่ประหลาดนี้ใหเร็วที่สุด
ครั้งนี้ทั้งสามคนบินรวดเดียวไปสองสามหมื่นลี้ แตในครรลองสายตาก็ยังคงเปน
เม็ดทรายสีเงินเทา ไมมีตนไมใบหญาเลยสักนิด
“นั่นก็คืออะไร?” ฉับพลันนั้นหานลี่พลันหนาเปลี่ยน หลังจากที่แววตาฉายแววสีฟา
สวางจา ฉับพลันนั้นก็หันไปมองดานหนึ่ง
“พี่หาน เกิดเรื่องอะไรขึ้น!” ไปปพลันตกตะลึง อดที่จะเอยถามไมได
“ทางนั้นเหมือนจะเปนทวีปเขียว และยังมีกลิ่นอายโลหิตดวย” หานลี่ตอบกลับ
อยางเครงขรึม
“กลิ ่ นอายโลหิ ต ดู เ หมื อนว า ข า จะได ก ลิ ่ น แล ว เช น กั น มาจากทางนั ้ นแน !”
จมูกของเหลนหลันขยับฟุตฟตๆ แลวเอยปากอยางไมคอยมั่นใจนัก
“คือสิ่งที่อสูรปาของหุบเหวทิ้งไวหรือ?” ไปปลังเลเล็กนอย
“ไมนาจะใช ไอวิญญาณฟาดินตรงนั้นวุนวายมาก นาจะใชความสามารถอะไร
ดึงดูดมา พกวเราไปดูสักหนอยแลวคอยวากันเถิด” เหลยหลันสั่นศีรษะ พลางเอย
เสนอแนะ
ตอนที่ 1442 รอยเผาแดนวิญญาณ
“ดูหนอยก็ดี ไมแนวาอาจจะพบอะไรก็เปนได” หานลี่เอยเห็นดวยอยางราบเรียบ
เมื่อเห็นวาหานลี่ไมมีทาทีปฏิเสธ แมวาไปปจะรูสึกไมยินยอม แตก็ไมไดเอยปาก
แยงอะไร
ดังนั้นทั้งสามคนจึงเปลี่ยนทิศ บินไปยังจุดที่มีกลิ่นอายโลหิตโชยมา
ผลคือบินไปไดสิบลี้เศษ เบื้องหนาพลันมีสีประหลาดๆ ปรากฎขึ้น ทวีปสีเขียว
ขนาดสองสามลี้ปรากฎขึ้น
ชั่วพริบตาทั้งสามก็บินมาอยูเหนือทวีปนั้น
ความจริงแลวสีที่เรียกวาทวีปสีเขียว ดูแลวกลับเปนสีดำเหลือง ในนั้นมีตนไมสูงใหญ
อยูหร็อมแหร็ม สวนใหญลวนเปนพุมไมเตี้ยๆ ที่วัชพืชที่ไมรูจักชื่อ
ตรงใจกลางของทวีปสีเขียวมีบอน้ำขนาดสิบจั้งเศษอยูบอหนึ่ง ดานในกลั บมี
วารีโลหิตสีแดงสดลอยคออยู ขางบึงน้ำมีซากอสูรจากหุบเหวขนาดเล็กใหญไมเทากัน
อยูสิบกวาราง กำลังนอนหมอบคลานอยูบนพื้น และถูกกรวยหินเปนแทงๆ พุงทะลุ
ผานรางไป
โลหิตสดๆ ที่ไหลอกมาจากซากศพเหลานั้น กำลังไหลลงไปสูบึงน้ำโลหิต
ทั้งทวีปสีเขียวมีกลิ่นอายโลหิตลอยตลบอบอวล เหม็นคาวนาสะอิดสะเอียน
“อสูรเหลานี้มาปรากฎตัวที่ทะเลทรายไดอยางไร นาจะปรากฎในผืนปากอนหนา
ถึงจะถูก” หลังจากที่เหลยหลันพิจารณาอยูกลางอากาศแลว พลันรูสึกตกตะลึงขึ้นมา
“เพิ่งจะตายไดไมนานมิเชนนั้นโลหิตคงจะแข็งตัวแลว” หลังจากที่ไปปพิจารณา
อยางละเอียดสองสามแวบ ก็เอยการคาดเดาของตนเองออกมา
หลังจากที่หานลี่พิจารณาสองสามแวบ รางกายพลันเคลื่อนไหว กลายเปนลำแสง
สีเขียวสายหนึ่งบินวนรอบทวีปสีเขียว
หลังจากผานไปชั่วครูเขาถึงไดกลับมายังที่เดิมอีกครั้ง ดวงตาหรี่ลงขณะจองไปยัง
บึงน้ำโลหิตบึงนั้น
“อันใด พี่หานพบอะไรหรือ?” เหลยหลันเอยถามดวยความประหลาดใจ
“อืม พบอะไรนิดหนอยจริงๆ” หานลี่ดูเหมือนจะรำพึงกับตัวเอง แลวสะบัดแขนเสื้อ
ไปบนพื้นดิน
ลำแสงสีทองสายหนึ่งพุงออกไป พลิ้วไหวแลวกลายเปนกระบี่ลำแสงเจ็ดแปดสาย
ทยอยกันจมหายเขาไปในพื้นดินใกลๆ บึงน้ำ
เหลยหลันและไปปกลับตะลึงงัน ยังไมทันไดเขาใจวาเกิดอะไรขึ้น ฉับพลันนั้น
ตรงจุดที่กระบี่ลำแสงทะลุผานไปก็มีเสียงกรีดรองดังขึ้น จากนั้นวารีโลหิตสีดำก็ทะลัก
ออกมาเปนสายๆ ระเบิดออกที่พนื้ ดินรอบๆ ปศาจที่ดูเหมือนวารรีสองสามตัวกระโดด
ออกมา
ทุกตัวมีความสูงประมาณสองสามฉื่อ มีสี่หู มือถือหอกหินหยาบๆ อยูคนละดาม
แตปลายแหลมของมันกลับเปลงแสงสีขาวจางๆ ออกมา
“เอ อสูรวานรอาฆาต! แยแลว ทวีปสีเขียวนี้ถูกสรางขึ้นดวยดอกวิญญาณยักษ”
เมื่อมองเห็นรูปรางของปศาจเหลานี้ชัดเจน ชั่วขณะนั้นไปปกลับนึกอะไรขึ้นมาได
พลางรองอุทานออกมาดวยเสียงอันดัง
“ดอกวิญญาณยักษ!” หานลี่แววตาเปลงประกาย เหลยหลันรองอุทานออกมา
ดวยเสียงแผวเบา
ในตอนนั้นเอง พื้นดินดานลางทั้งสามก็เกิดเสียงอึกทึกขึ้น ทันใดนั้นก็สั่นคลอน
อยางหนัก
และแทบจะในเวลาเดียวกัน วารีโลหิตในบึงน้ำของทวีปสีเขียวก็หมุนวนออกมา
ภายนอก เงาสีแดงสายหนึ่งบินออกมา
แคเปลงแสงสวางวาบ ก็มาอยูเบื้องหนาของหานลี่ กระโจนเขามาอยางโหดเหี้ยม
เหลยหลันและไปปพลันตกตะลึง เงาสีแดงเหลานั้นรวดเร็วเกินไปแลว ตอใหเขา
สองคนคิดจะชวยเหลือ ก็ดูเหมือนวาจะไมทันการณ
แตเมื่อหานลี่เห็นเชนนั้น พลันแคนเสียงหึดวยความเย็นชาออกมา แขนขางหนึ่ง
พลันเลือนราง
“ปง” เสียงดังขึ้น!
แขนหยกสี ข าวบริ ส ุ ท ธิ ์ ข  า งหนึ ่ ง ปรากฏขึ ้ น เบื ้ องหน า อย า งแปลกประหลาด
พลิกฝามือตะปบออกไปอยางรวดเร็วราวกับสายฟา ควาเงาสีแดงนั้นเอาไวแนน
บุตรศักดิ์สิทธิ์ที่อยูดานขางทั้งสองถึงไดมองเห็นอยางชัดแจงวาของสีแดงโลหิต
ราวกับลิ้นยาวๆ หนาเทาแขน ตรงสวนหนามีติ่งเนื้อขนาดเทากำปนพรอมกับหนาม
สีดำยาวสองสามชุนอยูเต็มไปหมด กำลังเคลื่อนไหวไปมาไมหยุด
แตฝามือของหานลี่กลับดูเหมือนไมใชหนวด นิ้วผลึกทั้งหาตะปบบนติ่งเนื้อตรงๆ
ราวกับมองไมเห็นหนามแหลมๆ สีดำเหลานั้น และไมอาจทำอันตรายผิวกายของเขา
ไดเลยสักนิด
และในตอนนั้นเอง ผิวบนนิ้วของหานลี่พลันมีหัวกะโหลกสีขาวหาหัวปรากฎขึ้น
อาปากออกพนเปลวเพลิงหาสีออกมาพรอมกัน ไลตามลิ้นยาวๆ ไป
แทบจะชั่วพริบตานั้นลิ้นก็กลายเปนแทงน้ำแขงหาสียาวๆ แทงหนึ่ง
หานลี่พลิกฝามือตบไปที่ปลายแทงน้ำแข็งอยางไมลังเลเลยสักนิด
ลำแสงสีเขียวแผระลอกคลื ่นออกมา เสียง “เพลง” ดังขึ้น ราวกับเสีย งของ
เครื่องลายครามปริแตก ชั่วพริบแทงน้ำแข็งก็แตกออกเปนเสี่ยงๆ กลายเปนผลึก
ลำแสงสลายหายไปอยางไรรองรอย
เสี ย งคำรามดั ง สนั ่ นของป ศ าจดั ง ออกมาจากใต ด ิ น ดู เ หมื อนว า จะมี ท  า ทาง
เจ็บปวด ลำแสงสีโลหิตในบึงน้ำพลันหมุนวน พริบตาวารีโลหิตก็ไมเหลือสักหยด
ทันใดนั้นเสียง “ครืน” พลันดังขึ้น ทวีปสีเขียวทั้งทวีปแตกออกเปนเสี่ยงๆ สิ่งมหึมา
ปรากฎขึ้นทามกลางรอยแยก
ด า นบนใหญ โ ตอย า งหาที ่ เ ปรี ย บ ด า นล า งเล็ ก บาง คาดไม ถ ึ ง ว า จะเป น
ปศาจดอกไมยักษที่มีขนาดเทากับทวีปสีเขียว
กลีบของปศาจดอกไมนี้เปนสีเงินออนเหมือนกับทะเลทราย แตใจกลางของดอก
กลั บ มี เ ป น สี แ ดงสดราวกั บ โลหิ ต สดๆ คาดไม ถ ึ ง ว า สร า งขึ ้ น จากบึ ง วารี โ ลหิ ต
สวนลิ้นยาวๆ ที่พนออกมาโจมตีหานลี่เมื่อครู จะเปนเกสรดอกไมใหญๆ อันหนึ่ง
ของดอกไมดอกนี้เทานั้น
ไมใชแคนั้น กลีบยักษของดอกปศาจประหลาดนี้ยังมีสิ่งที่เรียกวา ‘อสูรวานรอาฆาต’
ยืนอยูยี่สิบสามสิบตัว แตละตัวลวนมีเขี้ยวแหลมๆ งอกออกมาจากปาก ใน
เวลาเดียวกันในมือยังถือหอกหินชูขึ้นไปบนทองฟา จากนั้นกรวยหินยาว สอง
สามฉื่อยี่สิบสามสิบแทงพลันปรากฎขึ้น พุงตรงเขาไปหานลี่และพวกทั้งสาม
“นี่คือ ดอกวิญญาณยักษ นาสนใจจริงๆ ดอกนี้นาจะจะเปนปศาจระดับกลางสินะ
ชั้นแรกไมไดมีปศาจระดับกลางขึ้นไปอยูนอยมากมิใชหรือ” เมื่อเห็นสถานการณนี้
หานลี่ไมตกตะลึงแตกลับหัวเราะออกมา
ครั้งนี้ไมตองใหเขาลงมือ เหลยหลันและไปปที่อยูดานขางพลันชูมือทั้งสี่ขึ้นพรอมกัน
ประจุไฟฟาสีเงินและเสนไหมสีทองตัดสลับพัวพันเขาดวยกัน แลวโจมตีกรวยหิน
จนแตกละเอียด
“พี่หาน! ปรากฎตัวนอยมาก แตก็ไมไดหมายความวาจะไมปรากฎ และยิ่งไปกวานั้น
เวลาในการทดสอบที่พวกเราเลือกนั้นก็ไมคอยดีจริงๆ เปนชวงเวลากอนที่คลื่นปศาจ
หุบเหวจะปะทุ ปศาจระดับกลางมาปรากฎตัวที่ชั้นหนึ่ง ก็ไมใชเรื่องแปลกอะไร”
เหลยหลันขมวดคิ้วตามความเคยชินแลวเอยอธิบาย
แมวาครั้งนี้จะเผชิญหนากับปศาจระดับกลาง แตจากความยุงยากแลวก็ไมไดตาง
จากแมงมุมตัวตอทมิฬกอนหนานัก ดังนั้นหลังจากที่ตกตะลึงแลวสตรีผูนี้ ก็มีสีหนา
ราบเรียบ
“งั้นหรือ! ไดยินวาน้ำหวานของดอกไมชนิดนี้เปนวัตถุดิบในการปรุงยาชั้นเยี่ยม
ในเมื่อพบแลว พวกเราก็เก็บไปสักหนอยเถิด” หานลี่ฉีกยิ้มอยางเงียบๆ นิ้วทั้งสิบราย
ไปทางดานลาง
เสียง “ฟูๆ” ดังขึ้น กระบี่เลมเล็กสีทองสิบเลมดีดออกมาจากหวางนิ้ว เปลงแสง
สวางวาบแลวกลายเปนสายรุงสีทองสิบสายพุงลงไป
ใจกลางของดอกไมยักษมีเสียงรองคำรามประหลาดๆ ดังขึ้น ทันใดนั้นเงาสีแดง
จำนวนนับไมถวนก็พุงออกมาอยางหนาแนน หมายจะโจมตีกระบี่บินเหลานี้
หากพบกั บคนของเผ า วิ ญ ญาณเหาะเหิ น ธรรมดาๆ เผชิ ญ หน า กั บ การโจมตี
ที่รุนแรงเชนนี้ ก็คงตองปวดหัวยกใหญ แตหานลี่แคมีสีหนาเครงขรึม มือหนึ่งชี้ไปที่
กระบี่บินทั้งหมด
ชั่วขณะนั้นกระบี่บินสิบเลมพลันเปลงแสงสีทองสวางวาบ เมื่อทั้งสองสัมผัสกัน
ก็กลืนเงาสีแดงเหลานั้นเขาไปในกระบี่ลำแสงจนหมด แลวกวนใหเขากันจนแตกเปน
เสี่ยงๆ
ทันใดนั้นลำแสงสีทองพลันพลิ้วไหวอีกครั้ง กลายเปนกระบี่ลำแสงที่เหมือนกันทุก
ระเบียบนิ้วยี่สิบสามสิบเลม รอนลงมาเต็มทองฟา
อสู ร วานรอาฆาตเหล า นั ้ น เห็ น สถานการณ น ี ้ ก ็ ด ู เ หมื อ นว า จะรู  ว  า หายนะ
กำลังประชิดเขามาแลว ปากพลันเปลงเสียงรองแหลมๆ ออกมา ทยอยกันขวา ง
หอกหินในมือออกไป คิดไมถึงวาจะกลายเปนกระบี่ลำแสงสีขาวยี่สิบสามสิบสาย
แมวาหอกหินเหลานี้จะผานการหลอมโดยปศาจเหลานี้มาอยางตื้นเขิน แตจะไป
ตานทานความแหลมคมของกระบี่ไผเขียวตัวตอเมฆาไดอยางไร ทันใดนั้นก็กลายเปน
เศษฝุนหินระเบิดออกทามกลางลำแสงเย็นเยียบ
จากนั ้ นสายรุ ง สี ทองสิ บ กว า สายก็ รัด พั น ฝู งอสูร วานรอาฆาตเอาไว ร า งของ
ปศาจเหลานั้นทยอยกันแยกออกเปนสองสวนแลวลมลงกับพื้น
ในเวลาเดียวกันกระบี่ลำแสงที่เหลือกลับลอมดอกปศาจทั้งดอกแลวสับลงไป
อยางไมเกรงใจเลยสัก นิด ชั่วพริบตาก็สับดอกไมด อกนั้ นจนแหลกออกเป นชิ ้ นๆ
รอนลงสูพื้น ของเหลวสีเขียวขนานใหญไหลลงสูพื้น
ดอกวิญญาณยักษดอกนั้นและแมกระทั่งสหายรวมวิถีอยางอสูรวานรอาฆาต
เหลานั้นตางถูกหานลี่ใชกระบี่บินสับขนสิ้นลมทั้งหมดแมเพียงพบหนา
เหลยหลั นและไปป  ไ ม เ หลือที ่ใ หลงมืออีก ทั ้ ง สองอดที ่จ ะรู สึ ก มองสบตากัน
แวบหนึ่งแลวหัวเราะอยางขมขื่นออกมาไมได
“เอาละ จากนี้ก็ เก็บ น้ำ หวานเหล า นี้ ไ ปกั น เถิด ” หานลี่ใชมื อหนึ ่ งกวั ก เรี ย ก
เก็บกระบี่ลำแสงทั้งหมดเขาไปในแขนเสื้อ แลวเอยอยางราบเรียบ
ทันใดนั้นรางกายของเขาก็พลิ้วไหว รอนลงบนพื้นดินใกลๆ จากนั้นมือหนึ ่ง ก็
พลิกฝามือ ในมือมีขวดเล็กๆ สีเขียวมรกตปรากฎขึ้น สะบัดไปทางใจกลางของดอกไม
ที่ไมสมบูรณดอกนั้น
ชั่วขณะนั้นลำสแงสีเขียวพลันพุงออกไป มวนไปทางใจกลางดอกไม ชั่วขณะนั้น
พลันนำของเหลวสีชมพูออกมา จากนั้นก็มวนวนหดกลับมาบรรจุเขาไปในขวดเล็กๆ
หานลี่แกวงขวดเล็กๆ ไปมา กลิ่นหอมของน้ำหวานลอยมา เขาแยมยิ้มน อยๆ
ลำแสงสีเขียวสวางวาบ ขวดเล็กๆ หายไปอยางไรรองรอย
เหลยหลันและไปปเองก็รอนลงมา และหยิบยุทธภัณฑออกมาเชนกัน พลางเก็บ
น้ำหวานที่เหลือกลับไป
“พวกเราไปกันเถิด” หานลี่เอยอยางราบเรียบ ทันใดนั้นสองปกก็สยายออก
หมุนตัวบินขึ้นไปกลางอากาศอีกครั้ง
ไปปไมไดปริปากใดๆ กลายเปนลำแสงสีทองไลตามไปติดๆ เชนกัน เหลยหลัน
ฉีกยิ้มครั้นเมื่อคิดจะบินขึ้นไปนั้น สายตาพลันกวาดไปที่ดอกวิญญาณยักษ บ นพื้น
แลวพลันใจเตน ดีดนิ้วออกไปอยางไมรูสึกตัว
หลังจากเสียงฟาฟาดดังขึ้น ประจุไฟฟาสีเงินสายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบแลวพุง
ออกไป โจมตีไปยังกิ่งไมสีเหลืองที่ติดอยูกับดอกปศาจใกลๆ ชั่วขณะนั้นกิ่งไมพลันหาย
วับไป
เหลยหลันลงมือเสร็จแลว สองปกก็สยายออกพลางบินขึ้นไป พุงตรงไลตามหานลี่ไป
ชั่วพริบตาเงารางของหานลี่และพวกทั้งสามก็หายวับไปจากขอบฟา ที่นี่จึงไมอาจ
มีเสียงใดๆ ดังขึ้นอีก
หลั ง จากเวลาผ า นไปหนึ ่ ง ชั ่ ว ยามเต็ ม ๆ ฉั บ พลั น นั ้ น พื ้ น ดิ น รอบๆ ก็ ส ั ่ นไหว
จากนั้นเสียงอึกทึกจากรอยแยกพลันดังขึ้น ใตดินมีหนวดสีดำราวกับเสายักษค้ำฟา
สองสามเสนทะลุออกมา จากนั้นดอกไมปศาจสีดำเขมขนาดใหญกวาดอกไมวิญญาณ
ยักษเดิมสองสามเทาก็ปรากฎออกมาจากใตดิน
ดอกไมนี้ดูเหมือนภูเขายักษลูกหนึ่ง เมื่อหนวดสะบัดไปที่พื้นดิน ก็หยุดลงบนพื้น
อยางมั่นคง และในตอนนั้นเอง เสียงรองอุทานเบาๆ ก็ดังออกมาจากในดอกไม
“ผูใดชางบังอาจนัก กลาแตะตองดอกไมวิญญาณที่บวงสรวงอยูที่นี่ หรือวาเปน
พวกหกขา!” เสียงของสตรีระเบิดออกมาดวยความโมโห
มองตามเสียงขึ้นไปใจกลางของดอกไมยักษสีดำ ตรงใจกลางดอกไมมีเกาอี้ ไม
สีเงินตัวหนึ่งตั้งตระหงานอยู บนนั้นมีเงารางอรชนออนแอน ใบหนาลางเลือนมือถือแส
หนังสีเขียวมรกตสายหนึ่งนั่งอยู
“นายทานอยาโกรธเกรี้ยวไปเลย ที่นี่เพิ่งขาดโลหิตไปไดไมนาน คนเหลานั้น
นาจะจากไปไดไมนาน ใหขาไปตรวจสอบแลวคอยวากันเถิดขอรับ” ลำแสงสีเหลือง
สวางจา ฉับพลันนั้นเงารางเตี้ยๆ ที่มีขนปกคลุมพลันปรากฎขึ้นเบื้องหนาเกาอี้สีเงิน
นั่งคุกเขาเอยกับสตรีที่นั่งอยูบนเกาอี้ ดูเหมือนวาจะนอบนอมเปนอยางมาก
“อืม ขาตองดูแลการบวงสรวงตอไป เรื่องนี้มอบใหเจาจัดการก็แลวกัน ไมวา
จะเปนใคร กลาทำรายเรื่องดีๆ ของขา ก็หามปลอยไปแมแตคนเดียว” หญิงสาวเอย
อยางเยือกเย็น เฆี่ยนแสในมือไปกลางอากาศ
หลังจากเสียงรองแหลมๆ ดังขึ้น รอยแยกสีขาวสายหนึ ่งพลั นสว างวาบแล ว
หายวั บ ไป อากาศรอบๆ เกิ ด ระลอกคลื ่ น ขึ ้ น ระลอกหนึ ่ ง ทั น ใดนั ้ น หมอกสี ด ำ
จำนวนนับไมถวนก็ทะลักออกมาจากรอยแยกสีขาว คาดไมถึงวาจะฉีกหวงเวลานี้
ออกไปจริงๆ
ตอนที่ 1443 ปศาจวานร
“ขอรับนายทาน!” เงารางเตี้ยๆ สั่นไหว หัวกมต่ำลงสามสวน
“เจาไปเถิด ขาจะกลับไปยังชั้นสามคนเดียว” สตรีออกคำสั่ง ทันใดนั้นก็ตบเทา
ไปบนดอกไมยักษสีดำ
ชั่วขณะนั้นผิวของดอกไมยักษพลันมีลำแสงสีดำเปลงแสงสวางพราง ผิวของ
รางกายมีเขตอาคมสีเงินขนาดเล็กใหญไมเทากันปรากฎขึ้น ลำแสงสีเงินสวางวาบ
พ น หมอกสี ด ำสนิ ท ออกมาจากใจกลางของเขตอาคม ชั ่ ว พริ บ ตาก็ ก ลายเป น
ทะเลหมอก หอหุมดอกไมยักษเอาไวขางใน
ในไอหมอกมีเสียง “ครืนๆ” ของฟาคำรามดังขึ้น ประจุไฟฟาสีเงินสองสามสาย
เปลงแสงสวางจา ทะเลหมอกสลายออกทามกลางวายุที่โหมกระหน่ำ
ที่เดิมลวนวางเปลา!
ปศาจดอกไมสีดำขนาดยักษที่ติดอยูกับสตรีรางกายอรชนออนแอนหายวับ ไป
อยางไรรองรอย เหลือเอาไวเพียงเงารางที่มีเสนขนปกคลุมนั่งคุกเขาอยูบนพื้น
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งกาน้ำชา เงารางคนเตี้ยๆ ถึงไดหยัดกายลุกขึ้น
แหงนหนาขึ้นอยางชาๆ ภายใตแสงสีเงินจากทะเลทรายที่สะทอนมานั้น ก็เห็นใบหนา
วานรที่มีใบหูสี่หูไดอยางชัดเจน แตดวงตาสีเขียวมรกตคูนั้นกลับมีมานตาเล็ก บาง
แผไอเย็นยะเยือกราวกับอสรพิษออกมาอยางไรอยางนั้น
คาดไมถึงวาจะเปนอสูรวานรอาฆาตตนหนึ่ง แตแคขนของมันออกเปนสีเหลืองเขม
ดูเหมือนวาจะเบิกเนตรแลว ไมตางอะไรกับคนธรรมดาอยางไรอยางนั้น
ปศาจวานรตัวนี้กวาดสายตาไปรอบๆ ฉับพลันนั้นพลันอาปากพนหมอกสีเหลือง
กลุมหนึ่งออกมา หอหุมซากดอกไมวิญญาณยักษเอาไวขางใน
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฎขึ้น!
ทามกลางหมอกสีเขียวซากของดอกไมวิญญาณยักษเริ่มละลายหายไปอยางรวดเร็ว
กลายเปนของเหลวสีเขียวเหนียวๆ ผืนใหญ จากนั้นหมอกพลันหมุนวน มวนเอา
ของเหลวสีเขียวเหลานั้นเขาไปในทองของปศาจวานรอีกครั้ง
จากนั้นวานรตนนั้นพลันหลับตาทั้งสองขางลง จมูกและหูทั้งสี่มีลำแสงสีเขียวเปน
สายๆ ปรากฎขึ้นพรอมกัน กระพริบวาบๆ ขนสีเหลืองทั่วสรรพางคกายกลายเปน
สีเขียวเขม และเปลงแสงเรืองๆ ออกมา
หลั ง จากที่อสู รวานรอาฆาตตัว นี้ น ิ่ งงั น อยู ที ่เ ดิม ไม ไหวติ ง ชั่ วครู  ฉั บ พลันนั้น
ใบหูสองหูในบรรดาสี่หูก็ขยับ แตทันใดนั้นก็เหมือนไมมีอะไรเกิดขึ้น
หลั ง จากนั ้ น ไม น านอี ก ด า นของทะเลทรายก็ ม ี เ สี ย งแหวกอากาศดั ง ขึ้ น
ลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบ ลำแสงสีแดงกลุมหนึ่งพุงผานไป
กลางลำแสงสีแดงมีรางบุรุษอวนจ้ำม่ำคนหนึ่งอยูในนั้น อายุประมาณสามสิบปเศษ
แผนหลังมีปกสีเขียวคูหนึ่ง บนศีรษะมีเขางอกออกมาคูหนึ่ง ดวงตาเล็กๆ คูหนึ่งกำลัง
กลอกไปมาไมหยุด ใบหนาฉายแววเจาเลหเพทุบาย
คาดไมถึงวาจะเปนบุตรศักดิ์สิทธิ์เผาวิญญาณเหาะเหินสาขาอื่น ไมรูวาเหตุใด
ถึงไดเลือกเสนทางเดียวกันกับหานลี่ และมาเพียงลำพัง
แตคนผูนี้ดูเหมือนวาจะมีทาทางระมัดระวังตัวเปนอยางยิ่ง
รูปรางของปศาจวานรในตอนนี้ขางสะดุดตานัก ดวยความรอบคอบของคนผูนี้
จะไมพบมันไดอยางไร
ทันใดนั้นหลังจากรองอุทานออกมา ลำแสงหลีกหนีของเจาอวนก็หยุดลงหางจาก
ปศาจวานรไปยี่สิบสามสิบจั้ง มองไปยังปศาจตนนี้ดวยสีหนาตกตะลึง
แมนวาปศาจวานรจะดูดซากดอกไมวิญญาณยักษที่กลายเปนของเหลวเขาไปใน
รางแลว แตพื้นดินที่แตกละเอียดรอบๆ รองรอยของดอกไมยักษสีดำที่ทะลุขึ้นมาจาก
ใตดินก็ยิ่งนาตกตะลึงมากกวาเดิม
สวนปศาจวานรตัวนี้กลับยืนนิ่งอยูที่นี่เพียงลำพัง ดวงตาทั้งสองขางปดสนิท
ในจมูกและรูหูมีลำแสงเปลงประกายไมหยุด ดูเหมือนวากำลังตัดขาดประสาทสัมผัส
ตอโลกภายนอก
เชนนั้นสถานการณเชนนี้จึงดูเหมือนวาวานรตัวนี้เพิ่งจะตอสูกับอะไรสักอยางไป
และไดรับบาดเจ็บหนักจึงจำใจตองหยุดพักรักษาตัวอยูที่นี่ เลยไมไดระมัดระวังเลย
แมแตนิดเดียว
เห็นไดชัดวาบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิญญาณเหาะเหินที่อยูกลางอากาศขบคิด
เชนนั้น ดวงตาที่มองไปยังปศาจวานรคอยๆ เผยแววตื่นเตนดีใจออกมา
แมวาเปาหมายในการทดสอบครั้งนี้จะไมใชการสังหารปศาจ แตการสังหาร
ปศาจหุบเหวระดับสูงสักตน วัตถุดิบและแกนปศาจที่ได แนนอนวายอมคุมคาไมนอย
เรื่องดีๆ อยางการพลิกฝามือก็ไดประโยชนนั้น แนนอนวายอมไมมีผูใดยอมทิ้งไปงายๆ
บุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิญญาณเหาะเหินที่ไมรูจักความกลาหาญ พลันระมัดระวัง
เปนพิเศษ
เขาไมไดลงมืออยางบุมบาม แตมองสังเกตการณปศาจวานรอยางเงียบๆ อยูไกลๆ
เวลาผานไปหนึ่งมื้ออาหาร ยังคงไมเห็นปศาจมีการเคลื่อนไหวใดๆ เขาถึงไดวางใจ
ในที่สุด
ใบหนาเผยรอยยิ้มโหดเหี้ยมออกมา สองมือถูเขาดวยกัน เปลวเพลิงกลุมหนึ่ง
ทะลั ก ออกมาตรงกลางระหว า งฝ า มื อ ทั ้ ง สอง ทั น ใดนั ้ น เปลวเพลิ ง ก็ เ ปลี ่ ย นไป
กลายเปนทวนเพลิงยาวสองจั้งเลมหนึ่ง
ปลายแหลมของทวนนั้นแหลมคมอยางหาที่เปรียบมิได ตัวทวนเปนสีแดงสด
ถูกเปลวเพลิงรอนแรงชั้นหนึ่งหอหุมเอาไว
ปกทั้งสองขางสยายออกอยางชาๆ บุรุษกลายเปนลำแสงสีแดงสายหนึ่งกระโจน
เขาไปหาปศาจวานรดานลาง
ไมรูวาบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิหคสวรรคผูนี้สำแดงเคล็ดวิชาลับอะไร แมนวา
รางกายจะอวนจ้ำม่ำ แตความเร็วกลับรวดเร็วอยางหาที่เปรียบ ทุกขั้นตอนเกิดขึ้น
อยางเงียบเชียบโดยที่ลมไมกระดิกเลยสักนิด
ชั่วพริบตาลำแสงก็อยูหางจากเหนือหัวของปศาจวานรไปแคสิบจั้งเศษ เมื่อเห็นวา
อสูรวานรอาฆาตตัวนั้นยังคงไมไหวติง
บุรุษเผาวิญญาณเหาะเหินพลันรูสึกดีใจ สะบัดทวนยาวในมือไปอยางไมลังเลอีก
เสียง “สวบ” ดังขึ้น
ทวนยาวกลายเปนลำแสงสีแดงสายหนึ่งขวางออกไป หลังจากเปลงแสงสวางวาบ
ก็ทะลุผานรางของปศาจวานรไป
แตใบหนาที่เพิ่งเผยความยินดีของบุรุษ พลันเปลี่ยนสีไปยกใหญทันที
เพราะวาปศาจวานรที่ถูกทวนเพลิงแทงทะลุผาน กลับหายไปในทันที คาดไมถึง
วาจะเปนแคเงาลวงตาสายหนึ่งเทานั้น
“แยแลว!”
บุรุษเผาวิ ญญาณเหาะเหิ นร องอุทานในใจ สะบัดปกทั้ งสองอย างไมต  องคิ ด
หมายจะหนีไปจากที่เดิมในทันที
แตกลับสายไปเสียแลว!
กลางอากาศหางออกไปแคคืบพลันมีเงาสีเขียวลางๆ ปรากฎขึ้น จากนั้นพลัน
เปลงแสงสวางวาบ กระโจนเขาไปหารางของบุรุษ
เสียง “ปง” ดังขึ้น หมอกสีเขียวกลุมหนึ่งระเบิดออก ชั่วครูก็หอหุมรางของ
บุตรศักดิ์สิทธิ์เผาวิญญาณเหาะเหินเอาไว
เสียงรองอันนาเวทนาพลันดังขึ้น!
รางของบุรุษทำไดเพียงเปลงแสงสี แดงสวางวาบ สลายหายไปราวกับหิม ะที่
ละลายในฤดูใบไมผลิ ลำแสงวิญญาณที่ปกปองรางไมอาจตานทานการกัดกรอนของ
หมอกสีเขียวไดเลยสักนิด หลังจากที่รางทั้งรางบินออกไปไดสิบจั้งเศษ ก็รวงลงจาก
กลางอากาศ กลายเปนของเหลวสีเขียวกองหนึ่ง
ความสามารถของบุตรศักดิ์สิทธิ์ผูนี้ไมทันไดสำแดงออกมาเลยสักนิด
ครานี้ ห มอกสี เ ขี ย วพลั น หมุ น วนผนึ ก รวมตั ว กั น สร า งภาพลวงตากลายเป น
ปศาจวานรตัวนั้นขึ้น
ปศาจตัวนี้มองไปยังของเหลวบนพื้นอยางเย็นชาแวบหนึ่ง อาปากออกดูดเขาไป
ในปากเชนกัน
จะวาไปแลวบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิญญาณเหาะเหินผูนี้ชางตายอยางไรความยุติธรรม
จริงๆ หากอยูบนพื้น จิตสัมผัสอยูในภาวะสมบูรณ ก็ไมมีทางถูกเงาลวงตาสายหนึ่ง
หลอกลวงไดงายๆ แน และยิ่งไมมีทางถูกภาพลวงตาปศาจวานรเขาใกลโดยไมรูสึกได
เชนนี้
และในครานี้หลังจากที่ปศาจวานรเคี้ยวกรวมๆ แลว ก็เอยพึมพำกับตนเองวา
“คิ ด ไม ถึ ง ว า จะเป นคนของเผา วิญ ญาณเหาะเหิน ใกล ถึ ง วั น ทดสอบของคน
บนพื้นดินแลว เชนนั้นที่การบวงสรวงถูกทำลายก็นาจะเปนคนของเผานี้”
ปศาจตนนี้เอยอยางมีหลักการ จมูกทำเสียงฟุตฟตๆ สองสามครั้ง ดวงตาทั้งสอง
เปลงประกายสวางวาบขณะจองไปยังทิศทางที่หานลี่และพวกจากไป
มันหัวเราะอยางโหดเหี้ยม รางกายหมุนควาง กลายเปนหมอกสีเขียวกลุมหนึ่ง
พุงแหวกอากาศไป
ไมนานก็หายลับไปจากขอบฟา
……
“อันใด ใหพวกเราพบเจาสิ่งนี้ไว” เหลยหลันขมวดคิ้วดำขลับ มือเรียวถือแผนหยก
สีขาวเปลงประกายเอาไว พลางเอยถามดวยความฉงนสงสัย
ไปปที่อยูดานขางก็ถือของสิ่งเดียวกัน แววตาฉายแววไมเขาใจออกมาเชนกัน
แผนหยกโปรงใสสองแผนนี้ ผิวของมันสลักอักขระสีเงินจางๆ อยู แคดูก็รูวา
เปนของไมธรรมดา
เมื่อครูอยูๆ หานลี่ก็ควักของสิ่งนี้ออกมาจากราง ใหทั้งสองคนพกติดตัวเอาไวใหดี
“ของสองสิ่งนี้นอกจากมีประสิทธิภาพในการปองกันตัวแลว คุณสมบัติหลักๆ
ก็คือ เก็บซอนกลิ่นอาย และบอกตำแหนงของพวกเรา หากเกิดอะไรขึ้น แลว
จำเปนตองแยกกันหนี ไมแนวาอาจจะไดอาศัยของสิ่งนี้ตามหากันและกัน” หานลี่
กลับเอยอยางราบเรียบออกมา
ยุทธภัณฑแผนปายนามวาปายไรจำกัดสองแผนนี้ เปนสมบัติระดับสูงที่เขาซื้อมา
ในเมืองเทวะสวรรค เหมาะกับการนำมาใชในสถานการณในตอนนี้พอดี
ตอนนี้พวกเขาบินออกมาจากทะเลทรายและอยูบนภูเขาเล็กๆ ลูกหนึ่ง หานลี่ขบคิด
อยางรอบคอบ หลังจากนั้นไมนานก็หยิบของสองสิ่งออกมา
“ขานอยไมชินกับการพกยุทธภัณฑของผูอื่น ขอบพระคุณในความหวังดีของพี่หาน”
เหลยหลันมีสีหนาเครงขรึม พลางเอยปฏิเสธ
ไปปเองก็สั่นศีรษะและหัวเราะเบาๆ ออกมา
หานลี่หัวเราหึๆ ออกมา ไมไดบีบบังคับพวกเขา กลับเก็บแผนหยกสองชิ้นเขาไป
อีกครั้ง
“ในเมื่อสหายทั้งสองไมยอม ก็ชางเถิด แตชั้นแรกก็มีปศ าจระดับกลางปรากฎตัวแลว
ก็ไมไดปลอดภัย เหมื อนที ่พวกเราคิด เอาไว ขานอยมีส มบัติ เ หาะเหิ น อยูชิ ้ นหนึ่ ง
มีความสามารถในการอำพรางตัว การอาศัยพาหนะนี้ในการเดินทาง ก็จะลดปญหา
ไดไมนอย” หานลี่เปลี่ยนขอเสนอ
“สมบัติเหาะเหิน ก็พอใชได” เหลยหลันฉีกยิ้ม
ไปปพลันพยักหนา ไมไดทาทีโตแยงอะไร
หานลี่หัวเราะเบาๆ ออกมา มือหนึ่งปดไปที่กำไลเก็บของ ชั่วขณะนั้นรถเหาะ
สีเหลืองดินดานหนาแคบดานหลังกวางคันหนึ่งพลันปรากฎขึ้นเบื้องหนา
รถวายุคันนี้ด ู เ หมือนวาจะสรา งขึ ้ นจากไม วิ ญ ญาณชนิ ด หนึ่ ง ดูแลวเบาหวิ ว
แตภายนอกดูวิจิตรงดงามมาก เหมือนลงอาคมจำนวนไมนอยเอาไว
ทั้งรถเหาะมีขนาดเจ็ดแปดจั้ง เพียงใหนั่งไดสามคน
รถคันนี้เปนรถที่หานลี่จงใจเก็บรวบรวมมาสองสามครั้ง กอนการเดินออกจาก
เมืองเทวะสวรรค เพื่อจะไดสะดวกใชในสถานการณที่แตกตางกัน
“พี่หานสุภาพเชนนี้ เชนนั้นพวกเราสองคนก็ตองรับไวดวยความเคารพแล ว”
เหลยหลันและไปปมองสบตากันแวบหนึ่ง แลวเอยตอบรับดวยความจริงใจ
หานลี่แววตาเปลงประกาย รางคนพลิ้วไหวมาปรากฎตัวในรถเหาะ
เหลยหลันและพวกทั้งสองเองก็ตามเขามาในรถ
หานลี่ใชมือหนึ่งตบไปที่รถเหาะ คาถาลึกลับสองสามสายจมหายเขาไปในรถ
ชั่วขณะนั้นรถคันนั้นพลันสั่นเทา ลำแสงสีขาวนวลชั้นหนึ่งปรากฎขึ้น หอหุมรถเหาะ
ทั้งคันเอาไวขางใน ลำแสงที่พื้นผิวไหลเวียนไปมา รถเหาะทั้งคันคอยๆ เปลี่ยนเปน
โปรงใส ดานหลังสุดเหลือเพียงเงาสีขาวจางๆ
รถเหาะพุงแหวกอากาศไป
“พี่หาน ในเมื่อมีสมบัติชิ้นนี้ เอามาใชตั้งแตแรกก็ไดแลว” แนนอนวารถเหาะ
เผามนุษยและสมบัติเหาะเหินที่เผาวิญญาณเหาะเหินใชนั้นไมเหมือนกัน หลังจากที่
ไปปพิจารณาอยูในรถรอบหนึ่งแลว ก็เอยถามพรอมกลั้วหัวเราะ
“แมวารถคันนี้จะสะดวกมาก แตก็มีขอบกพรอง” หานลี่เอนตอบกลับอยางเงียบๆ
“ขอบกพรองอันใด?” เหลยหลันเองก็รูสึกอยากรูเล็กๆ
“หึๆ หากอยากควบคุมรถคันนี้โดยสำแดงการอำพรางตัวดวยนั้น มีเพียงตองใช
ศิลาวิญญาณธาตุไมระดับสูงเทานั้น และยิ่งไปกวานั้นยังเปลืองไมนอย นอกจาก
การอำพรางและความเร็ ว ที ่ ไ ม เ ร็ ว แล ว รถคั น นี ้ ก ็ ม ี พ ลั ง ในการป องกั น ที ่ ต ่ ำ มาก
ถูกโจมตีไดอยางงายดาย หากไมรีบบเดินทางหรือไมจำเปน ขานอยก็ไมอยากใชมัน”
หานลี่อธิบายไปอยางสบายๆ
เมื่อไดฟงหานลี่กลาวเชนนี้ ไปปและพวกทั้งสองก็หัวเราะอยางแหบแหงออกมา
ไมไดเอยซักถามอะไรอีก
รถเหาะที่กลายเปนเงาสีขาวราวกับวิญญาณออยางไรอยางนั้น ความเร็วนาตกตะลึง
หลังจากเปลงแสงสวางวาบสองสามครั้ง ก็หายวับไปจากบริเวณรอบ
แนนอนวาหานลี่และพวกทั้งสามไมรูวาหางจากพวกเขาไปไกลแสนไกล หมอกสีเขียว
กลุมหนึ่งหยุดชะงักอยูกลางอากาศ ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามต่ำๆ ดวยความโกรธ
เกรี้ยวดังขึ้นจากดานใน ความเร็วเพิ่มขึ้นกวาครึ่ง พุงไปดานหนาราวกับดาวตก
กลางหุบเขาใกลกับประตูหุบเหวชั้นหนึ่งมากที่สุด มีคนของเผาวิญญาณเหะาเหิน
เจ็ดแปดคนกำลังเคลื่อนตัวไปขางหนา
ผูนำมีผิวสีแดงเขม หนาตาโหดเหี้ยม นั่นก็คือ จูอินจื่อและบุตรศักดิ์สิทธิ ์ข อง
เผาแดงสดคนอื่นๆ
ตอนที่ 1444 ชีพจรภูเขาลึกลับ
หุ บ เขาขนาดใหญ นี ้ ย ิ ่ ง บิ น เข า ไปเรื ่ อยๆ ก็ ย ิ ่ ง ทอดตั ว ลึ ก ลงไปใต ด ิ น เรื ่ อ ยๆ
เบื้องหนาลวนมืดมิด ไมมีลำแสงใดๆ เลยแมแตนอย ราวกับเชื่อมกับน้ำพุทมิฬอยางไร
อยางนั้น
แตดวงตาทั้งสองขางของคนเผาแดงสดพลันเปลงแสงสีแดงที่นาตกตะลึงออกมา
คาดไมถึงวาจะยังมองเห็นทุกอยางทามกลางความมืดมิด ทุกคนลวนมีสีหนาเครงขรึม
หลังจากนั้นไมนานเบื้องหนาทามกลางความมืดมิดก็มีเสียงวิหคประหลาดๆ ดังขึ้น
ของสีดำขนาดใหญบินกรูกันเขามา คิดไมถึงวาจะเปนคางคาวปศาจดวงตาสีมวงแดง
ขนาดเทาวิหคยักษฝูงหนึ่ง เปลงเสียงรองประหลาดๆ ออกมาขณะกระโจนเขาหาคน
ของเผาแดงสด
จูอินจื่อบินอยูดานหนาสุด เมื่อเห็นทาทางดุดันของคางคาวเหลานี ้ ใบหนา
ไรความรูสึก แตปกที่แผนหลังพลันกระพือ
ขนนกจำนวนนับไมถวนพุงออกไป ทอตัวเรียงกันอยูเบื้องหนา
ลำแสงสีแดงสวางวาบ ขนนกกลายเปนลูกธนูเพลิงจำนวนนับไมถวน เปลงแสง
สวางวาบพุงทะลุฝูงคางคาวไป
เสียงระเบิดดัง “ตูมๆ” ดังขึ้น คางคาวทยอยกันกลายเปนลูกบอลเพลิงรวงหลน
จากบนทองฟา คาดไมถึงวาจะไมมีอะไรเล็ดรอดไปสักตัว
คนของเผางแดงสดไมไดหยุดชะงักเลยสักนิด ชั่วพริบตาลำแสงหลีกหนีก็จมหาย
เขาไปในความมืดมิด ขอแคพวกเขาบินลัดเลาะไปตามหุบเขา หนึ่งวันหนึ่งคืนก็จะ
มาถึงชั้นสองของหุบเหวอยางปลอดภัย
บนเนินดินสีแดงฉาน เงาสีดำยักษเปลงแสงสวางพรางขณะบินแฉลบผานไป
ทาทางเหมือนกำลังบินหนีดวยคววามรอนใจ
และเมื ่ อ เงาสี ด ำนั ้ น บิ น ผ า นไปได ไ ม น าน ขอบฟ า ก็ ม ี ล ำแสงเปล ง ประกาย
ลำแสงหลากสีอีกสิบกวากลุมพลันเปลงแสงสวางจาแลวปรากฎขึ้น บินตรงไปทางนั้น
คนกลุมนี้มีปกที่แผนหลังอันแปลกประหลาด แตทุกคนลวนมีรอยสักสีดำอยู
บนใบหนา คิดไมถึงวาจะะเปนคนของเผาชีเยวที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งในเผาวิญญาณ
เหาะเหิน
เด็กผูหญิงรางกายผายผอมที่บินอยูหนาสุดนั่นก็คือบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่ทำใหทุกคน
ชำเลืองตามอง เอาชิง
สตรีผูนี้มองจุดเรืองๆ ในจุดที่ไกลออกไป เงาสีดำกำลังหนีเตลิด มุมปากเผย
รอยยิ้มเย็นชาออกมา ไลตามไปอยางไมรีบรอน
“ศิษยพี่หญิงเอา อสูรเขี้ยวทองตัวนี้หนีไปคนละทางกับทางเขาชั้นสองที่พวกเรา
ตองไป พวกเราไมตองตามไปแลวดีหรือไม สังหารมันเถิด” หลังจากไลตามมาไดชั่วครู
ในที่สุดชายรางใหญรางกายกำยำคนหนึ่งในบรรดาบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาชีเยวดานหลัง
ก็อดไมไหวเอยปากขึ้น
“รีบรอนทำไม! หรือวาพบกับปศาจระดับกลางฝูงหนึ่งอยางอสูรเขี้ยวทองใน
ชั้นหนึ่ง แนนอนวาตองลมจับให หมด หรือวาพวกเจาคิดวาาหากขาไปชั้ นต อไป
ชาหนอยจะไมอาจทำแบบทดสอบสำเร็จได” เด็กผูหญิงเอยก็เอยอยางไรความรูสึก
โดยไมไดหันกลับมา
“เปลาขอรับ ศิษยนองไมมีทางมีความคิดเชนนั้นแน แคกลัววาผลเปลวยมโลก
จะถูกคนของสาขาอื่นแยงไป” ชายรางใหญรางกายกำยำพลันสะดุงโหยง แลวเอย
อธิบายอยางรีบรอน
“หากสายไปจริ ง ก็แยงมาจากสาขาอื ่ นก็ไ ด แล ว หากไมไหวจริ งๆ ชั้นสี่ ข อง
หุบเหวจะตองมีผลนี้อยูจำนวนมากแนๆ มากสุดก็แคเสียเวลามากหนอยเท า นั้ น
ลงไปอีกชั้นก็ไดแลว” เอาชิงหัวเราะอยางเย็นชา แลวเอยอยางาราบเรียบ
เมื่อไดฟงคำนี้ ชายรางใหญพลันแบะปาก แลวไมกลาเอยอะไรอีก
ดังนั้นคนกลุมนั้นจึงจองเขม็งไปยังเงาสีดำที่วิ่งหนีออกไกล แลวตามไปอยางไมรีบรอน
ทาทางเหมือนแมวกำลังไลจับหนูอยางไรอยางนั้น
……
ทามกลางกองหินระเกะระกะ คนของเผาวิญญาณเหาะเหินใบหนามีเกล็ด มีปกสีฟา
ที่แผนหลังสามคน กำลังบินวนปศาจทมิฬที่มีหัวเปนกวางตัวเปนมนุษยสูงสองจั้ง
พลางโจมตีอยางบาคลั่งไมหยุด
ปศาจตนนี้มีไอสีดำหมุนวนอยูบนราง ในมือถือสามงามยักษสีดำเอาไว คนหนึ่ง
ตานทานบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิญญาณเหาะเหินสองสามคน คาดไมถึงวาจะไมตก
เปนรองเลยแมแตนอย กลับยิ่งตอสูอยางดุดันมากขึ้น
บุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิญญาณเหาะเหินสามคนที่ลอมโจมตี ตางรองอุทานวา
แยแลวในใจไมหยุด
ที่นี่เปนแคชั้นหนึ่งของหุบเหวเทานั้น แตปศาจหนากวางอยางปศาจระดับสูงที่จะ
ปรากฎตัวแคในชั้นสามเทานั้น มาปรากฎตัวที่นี่ไดอยางไร
ทวาในเมื่อถูกปศาจรายที่ชอบกินเนื้อจับจอง พวกเขาทั้งสามก็จำใจตองต อสู
อยางสุดกำลังแลว
จุดที่เหลือเหลาบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิญ ญาณเหาะเหินในชั้น หนึ่ ง กวาครึ่ง
ก็ประสบกับความยุงยากที่คิดไมถึงเชนกัน แตบางพวกกลับราบรื่นมาก จนเขาใกล
ทางเขาชั้นสองแลว แมกระทั่งคนของเผาแดงสดก็เริ่มเขาไปในทางเขาชั้นสองแลว
และหานลี่ในครานี้เพราะจำตองหลบหลีกคนของสาขาอื่นๆ ที่มีเจตนาไมดี จึงจำใจ
ตองตามหาทางเขาที่คอนขางงหางไกล พาเหลยหลันและพวกทั้งสองควบคุมรถเหาะ
หนีไปไดกวาครึ่งวัน
ไมรูวาอาคมบนรถคันนี้ไดผลจริงๆ หรือวาเดิมทีถนนสายนี้ก็มีปศาจอยูไมมากอยูแลว
หนทางตอมาของพวกเขาจึงไมไดพบความยุงยากอะไร เมื่อบินมาไดสองวันสองคืน
หลังจากบินผานปารกทึบสองผินและเนินเขาแลว ก็เขาสูจุดที่คอนขางลึกของชั้นหนึ่ง
หากวาตามความเร็วของรถและความราบรื่นนี้ นาจะใชเวลาอีกวันเดียวก็ถึง
ทางเขาชั้นสองแลว
เหลยหลันและไปปรูสึกดีอกดีใจกับสิ่งนี้มาก
ทวาหลังจากบินไปไดสองสามหมื่นลี้ เบื้องหนากลับมีภูเขาชีพจรวิญญาณใตดิน
สีดำปรากฎขึ้น
ภายใตความตกตะลึงของทั้งสาม จึงจำใจตองหยุดรถเหาะ
“ตามเครื่องหมายในแผนที่ ที่นี่ควรจะเปนที่ราบ เหตุใดถึงมีเทือกเขา” ไปปยืนอยู
ในรถจองเขม็งไปยังภูเขายักษที่ขวางทางอยูเบื้องหนา พลางเอยพึมพำกับตนเอง
เหลยหลันเองก็ตกตะลึงไปเล็กนอย
มองจากที่ไกลๆ ยอดเขาของเทือกเขาลวนสูงใหญ บางยอดก็สูงเสียด สวนที่สูง
ที่สุดในยุทธภพใตดิน แตแคสองฝงของภูเขาเหลานั้นมีรอยแยกที่สามารถผานไปได
กลายเปนถ้ำเล็กๆ ทำใหผูคนเห็นแลวรูสึกขนลุกซู
ผูใดก็ไมรูวาเทือกเขานี้ทอดยาวไปถึงเพียงไหน ดานหลังจะมีอะไรประหลาดๆ
อีกหรือไม!
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง ฉับพลันนั้นรางกายพลันพลิ้วไหว บินลงมาจากรถวิญญาณ
รอนลงบนพืน้ ดินใกลๆ และกมหนามองพิจารณาอะไรสักอยางอยางละเอียด
เมื่อเห็นทาทางของหานลี่ เหลยหลันและไปปพลันรูสึกประหลาดใจ แตหลังจาก
มองสบตากันแวบหนึ่งแลว ก็บินออกจากรถวิญญาณ แลวรอนลงดานขางหานลี่
“ดูจากรอยรอบๆ แลว เทือกเขาลูกนี้นาจะเพิ่งมาปรากฎในรอบรอยปที่ผานมา
กวาครึ่งคงถูกคนใชลมปราณเคลื่อนยายมาที่นี่” หานลี่พนลมหายใจยาวๆ ออกมา
เฮือกหนึ่ง แลวเอยอยางแชมชา
“ยายภูเขา!” เหลยหลันมีสีหนาซีดขาวไปเล็กนอย ไปปเองก็มีสีหนาเหยเกเล็กๆ
“ใชแลว และยิ่งไปกวานั้นยังไมใชแคลูกเดียว ทั้งเทือกเขาลวนถูกคนยายมาที่นี่
ทวาก็ไมจำเปนตองหวาดกลัวนัก แมวาความสามารถชนิดนี้ ราชันยปศาจที่อยูชั้น
ลึกสุดของใตดิน ก็ไมอาจทำไดโดนลำพัง กวาครึ่งคงอาศัยสมบัติอะไรสักอยางหรือวา
เขตอาคมอะไรสั ก อย า ง มิ เ ช น นั ้ น ชั ้ น ลึ ก สุ ด ของหุ บ เหวคงจะมี ป  ศ าจระดั บ
วิญญาณเที่ยงแทอาศัยอยูจริงๆ” หานลี่หัวเราะนอยๆ ออกมา
“เช น นี ้ น ี ่ เ อง” ไป ป   ใ นฐานะที ่ เ ป น บุ ต รศั ก ดิ ์ ส ิ ท ธิ ์ ข องเผ า วิ ห คสวรรค เ อง
ก็มีประสบการณไมธรรมดา เมื่อขบคิดเล็กนอยก็ถึงบางออขึ้นมา
“ตอใหเปนเชนนั้น สถานการณนี้ก็ไมคอยปกตินัก ทะเลทรายที่จูๆ ก็ปรากฏขึ้น
ที่เราเพิ่งผานมา ปศาจหุบเหวทำเชนนี้ คงมีเจตนาอะไรแน” เหลยหลันกลับเผยสีหนา
กังวลใจออกมา
“อาจจะเปนผลกระทบของการที่คลื่นปศาจจะระเบิดก็เปนได ตอใหไมใชเพราะ
เหตุนี้ ก็คงมีเหตุผลอื่น การทดสอบหุบเหวไมอาจยกเลิกได เรื่องนี้พวกเราไมอาจ
ควบคุมได มีเพียงตองรีบไปที่ชั้นสามและนำผลเปลวยมโลกกลับไป แลวรายงาน
เรื ่ อ งนี ้ ต  อ เผ า เท า นั ้ น ” หานลี ่ ก ลั บ ไม ไ ด ร  อ นใจ ถึ ง อย า งไรเสี ย เรื ่ อ งที ่ เ กิ ด ขึ้ น
อยางฉับพลันเชนนี้ เขาก็เคยพบมาไมนอย
“พี่หานพูดถูก แตเกรงวาเทือกเขานี้จะแปลกประหลาดไปหนอย หากบินผาน
ยอดเขาไป ไมรูวาจะพบกับอันตรายใด หากออมไปทางทั้งสองฝงละก็…” ไปปเอยไป
พลางลังเลเล็กนอย
“ออมไปทั้งสองทางไมได” เหลยหลันเอยปากปฏิเสธ จากนั้นก็วิเคราะหวา
“ตามสัญลักษณในแผนที่ ทั้งสองฝงของที่นี่ดานหนึ่งคือ วายุหุบเหว วายุหุบเหวที่นั่น
ไมเหมือนกับที่เราเคยพบกอนหนา ความรุนแรงและไอยะเยือกที่ผสมอยูเพีย งพอ
จะทำให พ วกเรากลายเป นเสาน้ ำ แข็ ง ติ ด อยู  ใ นนั ้ น ตลอดกาล เป น เขตต อ งห าม
ที่มีชื่อเสียงของชั้นหนึ่ง สวนอีกดานหนึ่งนั้นก็ไมใชสถานที่ที่ดีอะไร เปนรังของมดบิน
หุ บ เหวที่ จ ั ด การอยากที ่ ส ุ ด ในชั ้ น หนึ ่ ง มี ม ดบิ น อาศั ย อยู  น ั บ สองสามแสนตั ว
จากพลังยุทธของพวกเราหามบุกเขาไป ไมตองพูดวาจะมีโอกาสรอดเพียง สวน
เดียวแลว กวาครึ่งคงไมอาจเดินออกมาไดอีกตลอดกาล”
“เชนนั้น พวกเราก็มีเพียงตองเสี่ยงขามมันไปแลว” มองไปยังภูเขาสีดำเบื้องหนา
หานลี่ลูบใตคางไปมา แลวเอยพึมพำกับตัวเอง
“นั่นก็ไมแน หากยอมออมไปละก็ ก็สามารถออมไปยังถนนอีกสายได แตตอง
เสียเวลาไปอยางน อยก็เ จ็ดแปดวัน ซึ่งไมเปนผลดีตอการตามหาผลเปลวยมโลก
ของพวกเรา” เหลยหลันลังเลเล็กนอย
หานลี่กลับดวงตาเปลงประกาย มองไปยังเทือกเขาที่ไกลออกไป แลวเงียบขรึม
มิไดเอยอะไร
ครานี้ไปปและเหลยหลันเองก็ปดปากเงียบ ดูแลวคงมอบอำนาจการตัดสินใจให
หานลี่ทั้งหมด
“เทือกเขาแหงนี้ใหความรูสึกที่แปลกประหลาดมากตอขา หากขามไปจริงๆ แลว
พบกับอันตรายอะไรเขา ถึงครานี้ตอใหพวกเราออกจากเทือกเขาได ก็เกรงวาตอง
สู ญ เสี ย ลมปราณไปไม น อย ไม เ ป น ผลดี ต  อการทดสอบจากนี ้ ส ว นไปถึ ง ชั ้ นสอง
ชาหนอยก็ไมเปนไร หากลาชาไปบาง ก็จะทำใหพวกที่คิดไมดีตอพวกเรา ไมรูเสนทาง
ของพวกเรา อี ก อย า ง คนเข า รั บ การทดสอบมากมายขนาดนี ้ ชั ้ น สองคงไม มี
ผลเปลวยมโลกใหต ามหามากมายอะไรหรอก แต เ ดิ ม ข า ก็ คิ ด จะพาพวกเจาไปที่
ชั้นสามอยูแลว ไปกันเถิด เสียเวลามากหนอย ก็ดีกวากับเผชิญกับอันตรายที่ไมรจู ัก”
ในที่สุดหานลี่ก็เอยปาก จากนั้นรางกายพลันพลิ้วไหว คนกลายเปนลำแสงสีเขียว
สายหนึ่งบินกลับเขาไปในรถวิญญาณ
เหลยหลันและไปปเห็นเชนนั้น ก็ถายทอดเสียงไปสองสามประโยค สุดทายก็บิน
ขึ้นไปบนรถวิญญาณกลางอากาศ
“พี่หานเราลองปรึกษาหารือกันอีกสักรอบดีหรือไม บางทีบนภูเขาอาจจะไมได
อันตรายอะไรอยางที่คิดก็ได” ไปปที่สองเทายืนอยูบนรถวิญญาณ อดไมไหวเอยขึ้น
แมนวาเขาจะรูสึกวาสิ่งที่หานลี่กลาวมีเหตุผล แแตหากเสียเวลามมากขนาดนี้
ก็ยังทำใหเขาอดที่จะรูสึกเสียดายไมได
“ไมตองคิดแลว ขาไมมีทางเขาไปในเทือกเขานี้แน” หานลี่เอยอยางราบเรียบ
ขัดคำพูดชักจูงของไปปตอจากนี้ ทันใดนั้นปลายเทาก็แตะไปตรงสามเหลี่ยมของ
รถวิญญาณ
เสียง “สวบ” ดังขึ้น รถคันนี้กลายเปนลำแสงวิญญาณกลุมหนึ่ง พุงไปอีกดานราว
กับดาวตก
เมื่อเห็นทาทียืนหยัดของหานลี่ ไมใชแคไปปที่ถอนหายใจออกมาโดยไมไดกลาวอะไร
เหลยหลันเองก็ปดปากเงียบกริบ
ผูใดก็ไมรูวา สายตาของบุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองที่มองมายังหานลี่นั้น มีความคุกรุนในใจ
จิตสัมผัสของเขากำลั งเชื่ อมโยงกับ อสูร วิ ญญาณครวญในกำไลอสูรวิ ญ ญาณ
กำลังปลอบโยนอสูรตนนี้ที่กำลังรูสึกกระสับกระสาย ในเวลาเดียวกันก็เอยรำพึงในใจ
ไมหยุด
ตั้งแตที่เขาเขาใกลเทือกเขานี้ ไขมุกวิญญาณครวญในรางก็เริ่มรอนฉา ภายใต
ความตกตะลึงของเขาก็นึกถึงอสูรวิญญาณครวญที่อยูในกำไลอสูรวิญญาณ ผลคือ
พบวาอสูรตนนี้กำลังเปลงเสียงรองคำรามไมหยุดอยางผิดปกติ
ตอนที่ 1445 เงาสีเขียว
อสูรวิญญาณครวญเบิ กเนตรแลว หานลี่เชื่อมโยงจิตใจกั บมัน เพีย งเล็ก น อย
ถึงไดรูวาอสูรตัวนี้สัมผัสไดถึงพลัง วิญ ญาณทมิฬที่ นา กลัวกลุม หนึ ่งไดในส ว นลึ ก
ของเทือกเขานั้น ดูเหมือนวาจะมีอะไรที่แข็งแกรงสักอยางอยูจนแมกระทั่งมันเอง
ก็รูสึกกระวนกระวาย
เดิ ม ที อ สู ร วิ ญ ญาณครวญก็ เ ป น รองจิ ต วิ ญ ญาณที ่ บ ริ ส ุ ท ธิ ์ โ ดยกำเนิ ด แล ว
พลังวิญญาณทมิฬที่ทำใหมันรูสึกหวาดกลัวได เห็นไดชัดวาเปนภูตที่นากลัวแลว
แมจะกลาววาอสูรวิญญาณครวญดูเหมือนจะไมไดไมมีพลังตานทาน แตหานลี่
กลับไมอยากเสี่ยงอันตรายครั้งนี้ ดังนั้นเขาจึงยกเลิกการเขาไปในเทือกเขานี้ในทันที
แลวยอมเสียเวลานานออมไปทางอื่นที่ไกลออกไปแทน
เรื่องเหลานี้เกี่ยวของกับความลับของอสูรวิญญาณครวญ แนนอนวาหานลี่จึง
ไม อยากเอ ย อะไรกั บ เหลยหลั นและพวกทั้ ง สองอย า งละเอี ยด ถึ ง ได ใ ช เ หตุผลที่
ดูเหมือนไมใชเหตุผลแกตางไป
เชนนั้นจึงทำใหบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิหคสวรรคทั้งสองรูสึกไมพอใจเล็กๆ หานลี่
หัวเราะอยางขมขื่นในใจสองสามครั้ง แตกลับไมไดใสใจเลยสักนิด
เขาไมไดอยากอยูที่เผาวิหคสวรรคนานนัก เหตุใดตองคิดหาวิธีดูแลสองคนนี้
ขอแคพวกเขาไมเปนตัวถวงในการทดสอบครั้งนี้ก็พอแลว
เมื่อขบคิดเชนนี้จากนั้นหานลี่ก็ไมไดอธิบายอะไรใหไปปและเหลยหลันฟง อีก
บุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองก็ไมอยากเอยอะไรอีกเชนกัน
ครานัน้ บนรถวิญญาณจึงเปลี่ยนเปนเงียบสงัดเปนพิเศษ
ระหวางทั้งสามคนหานลี่ยืนอยูบนรถพลางทอดสายตามองไกลออกไป ไปปกมหนาลง
พลางครุนคิด เหลยหลันก็นั่งสมาธิหลับตาไปเสียซะอยางนั้น
รถวิญญาณที่ถูกหานลี่กระตุนดวยพลังทั้งหมดออกหางจากเทือกเขาไดในเพียงชั่วครู
ยิ่งบินออกไปไกลเทาไหร ก็จมเขาสูปารกรางที่บัดเดี๋ยวมืดมนบัดเดี๋ยวสวางพราง
อีกครั้ง
หลังจากไมรูวาผานไปนานเทาไหร ฉับพลันนั้นหานลี่ก็หนาเปลี่ยนสี ดึงสายตา
กลับมาจากจุดที่ไกลออกไป หันหนาไปทางที่วางดานหลังรถ สองตาหรี่ลงเล็กนอย
การเคลื่อนไหวอยางแปลกประหลาดของหานลี่แนนอนวาทำใหเหลยหลันและไปป
รูสึกสนใจ
ทั้งสองคนหนึ่งเงยหนาขึ้น คนหนึ่งลืมตาทั้งสองขางขึ้น
มองตามสายตาของหานลี่ไป แตรอบดานของรถวิญญาณลวนเปนสีเทาขมุกขมัว
ไหนเลยจะมีความผิดปกติ และเปนเพราะจิตสัมผัสถูกกดเอาไวเมื่ออยูในหุบเหว
ทั้งสองจึงไมอาจแผจิตสัมผัสออกตรวจสอบได หลังจากมองอีกชั่วครู ก็แคมองไปทาง
หานลี่ดวยความประหลาดใจ
หานลี่ยืนอยูในรถดวยสีหนาไรความรูสึก แตลำแสงสีฟาในรูมานตาพลันไหลเวียน
ไปมาไมหยุด ไมปริปากใดๆ แมแตคำเดียว
“พี่หาน…” ในที่สุดไปปก็ทนไมไหวเอยถามวาเกิดอะไรขึ้นกันแน แตพริบตาที่
เขาเอยปาก ฉับพลันนั้นหานลี่ก็ยื่นนิ้วสองนิ้วออกไปตวัดวาดไปกลางอากาศ
เสียง “ฟู” ดังขึ้น ลำแสงสีทองสายหนึ่งสับผานไปที่ดานหลังรถวิญญาณราวกับ
สายฟา
ทำใหไปปและพวกทั้งสองสะดุงโหยงกับฉากที่ปรากฎขึ้น
จุดที่ลำแสงสีทองแฉลบปผานไป พลันมีไอสีเขียวสวางพราง หมอกสีเขียวกลุมหนึ่ง
ปรากฎขึ้นกลางอากาศ และถูกลำแสงสีทองสับออกเปนสองสวน
กลางมานหมอกกลับมีเสียงคำรามต่ำๆ ดังขึ้นอยางตอเนื่อง หมอกสีเขียวเขียว
สองกลุ  ม พุ  ง ไปทางด า นหลั ง ผนึ ก รวมตั ว กั น กลางอากาศ คาดไม ถ ึ ง ว า จะผสาน
กลายเปนกลุมเดียวกันอีกครั้ง
หมอกสีเขียวพลันหมุนวน กลายเปนปศาจวานรประหลาดที่มีขนสีเหลืองปกคลุมราง
ตัวหนึ่ง
นั่นก็คือ อสูรวานรอาฆาตที่สังหารบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิญญาณเหาะเหิน ไป
คนหนึ่งตัวนั้น
ในที่สุดมันก็ไลตามรถวิญญาณทันเมื่อไมนานมานี้ ภายใตความตื่นเตนดีใจจึงคิด
จะเขาใกลสักหนอย จากนั้ันคอยใชหมอกพิษหอหุมรถเหาะคัน นี้ไ ว แลวสังหาร
พวกของหานลี่
แตกลับคิดไมถึงเลยวาหานลี่ไมเพียงจะมีจิตสัมผัสที่แข็งแกรงกวาระดับเทพแปลง
เนตรวิญญาณวารีกระจางยังสามารถมองทะลุผานรางมายาของเขาไดอยางงายดาย
ถูกฟนทำลายความสามารถในการอำพรางตัวไป จึงจำใจตองปรากฎกาย
เมื่อเห็นปศาจวานรตัวนี้ เหลยหลันและไปปพลันตกตะลึง ซูดปากแลวบินออกจากรถ
แยกกันออกเปนสองฝง
แมวาทั้งสองจะแผจิตสัมผัสออกไป แตปศาจวานรอยูใกลกับพวกเขาถึงเพียงนี้
กลับไมอาจสัมผัสไดนั้น เห็นไดชัดวาเคล็ดวิชาลวงตานั้นรายกาจขนาดไหน แตหานลี่
ที่อยูในระดับแมทัพวิญญาณเชนกันนั้นสัมผัสไดไดอยางไร
ทั้งสองคนมองไปทางปศาจวานรดวยทาทางระแวดระวัง ในใจรูสึกไมเขาใจเลยสักนิด
ครานี้รถเหาะที่อยูภายใตการควบคุมของหานลี่พลันหยุดลงอยางแชมชา หานลี่
มองไปยังปศาจที่ดานหลังรถโดยไมไดกลาวอะไรออกมา
“คนบนดินอยางพวกเจาสามคนทำลายการบวงสรวงของนายทานขาสินะ?”
อสูรวานรอาฆาตเบิกตากลมโต จองเขม็งไปยังทั้งสามพลางเอยถามอยางเย็นชา
“บวงสรวง? บวงสรวงอะไร เราสามคนทำเรื่องนั้นตอนไหนกัน?” ไปปพลันใจ
หายวาบ แตกลับถามกลับดวยรอยยิ้มบางๆ ไมไดสนใจภาษามนุษยที่ปศาจวานรพน
ออกมาเลยแมแตนอย
“ที่ทะเลทรายกอนหนานี้พวกเจาทำลายดอกไมวิญญาณยักษตนหนึ่งใชหรือไม
นั ่ นคื อ ของบวงสรวงของนายข า !” รู ม  า นตาของป ศ าจวานรเปล ง แสงเย็นเยียบ
เอยถามอยางเครงขรึม
“เปลา!” เมื่อไดยินปศาจวานรเอยถึงดอกไมวิญญาณยักษ หานลี่พลันใจเตน
แตกลับเอยดวยดวงตาที่ไมกระพริบ
น้ำเสียงราบเรียบและเด็ดขาด ทำใหปศาจวานรอดที่จะตกตะลึงไมได แตทันใดนั้น
สายตาก็กวาดไปยังเหลยหลันและพวกทั้งสอง พบวาพวกเขามีสีหนาแปลกประหลาด
ความคิดก็เคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว ชั่วขณะนั้นโทสะพลันปะทุขึ้น
“บนรางของพวกเจามีกลิ่นอายสูบโลหิตของดอกไมวิญญาณยักษที่ใชบวงสรวง
แลวยังกลาหลอกขา ขาจะสูบพวกเจาเขาไปในทอง แลวกลับไปรายงานนายทาน”
วานรตนนี้เอยอยางโหดเหี้ยม รางกายหมุนควาง กลายเปนหมอกสีเขียวสิบจั้งเศษ
หอหุมทั้งสามเอาไว
“รนหาที่ตายนัก!” ไปปหุบยิ้มบนใบหนา ปกทั้งสองสะบัดไปทางมานหมอกอยางแรง
เสี ย งแหวกผ า นอากาศดั ง ขึ ้ น เส น ไหมสี ท องจำนวนนั บ ไม ถ  ว นพุ  ง ออกมา
ชั่วพริบตาก็ทะลุผานมานหมอก เกิดเปนรูนับพันรู
แตมานหมอกกลับผนึกผสานกันเปนดังเดิมราวกับไมมีอะไรเกิดขึ้น ทามกลาง
ลำแสงสีเขียว
เสียง “ตูมๆ” ดังสนั่นขึ้นอยางตอเนื่อง
เหลยหลันที่อยูอีกดานเห็นทาไมดี สองมือพลันรายอาคม ประจุไฟฟาสีเงินหนาๆ
สองสายพลันพุงออกมาจากแขนเสื้อ โจมจีไปยังหมอกสีเขียว และระเบิดออกจาก
ตรงกลาง
หลังจากที่ลำแสงอัสนีสองกลุมเปลงแสงสวางวาบแลวหายไปแลว หมอกสีเขียว
ก็หยุดชะงัก เผยรูขนาดใหญถึงสองจั้งออกมา
มุมปากของเหลยหลั นไมทั นได เผยรอยยิ้ม ออกมา ในมานหมอกกลั บมี เ สี ย ง
หัวเราะเยาะเยยของปศาจวานรดังขึ้น
หมอกสีเขียวหมุนติ้วๆ แลวฟนฟูกลับมาเปนดังเดิมอีกครั้ง จากนั้นรางกาย
ก็ขยายใหญขึ้น ยังคงรอนลงมาอยางโหดเหี้ยม
ไปปและเหลยหลันลวนหนาเปลี่ยนสี คิดไมถึงเลยวาอสูรวานรอาฆาตตั วหนึ่ง
จะจัดการไดยากเชนนี้ คนหนึ่งใชมือหนึ่งหมุนวนอยางรวดเร็ว ในมือมีหวีไมสีเขียว
ปรากฎขึ้น อีกคนหนึ่งกลับใชสองมือรายอาคม บนรางมีประจุไฟฟาอัสนีลอมรอบอยู
ดูเหมือนวาจะอยากสำแดงอะไรสักอยางออกมา
หานลี่กลับแคนเสียงดวยความเย็นชาออกมา ครานี้จึงไดลงมือ
แผนหลังของเขามีลำแสงสีเขียวเปลงแสงสวางจา ภาพมายาวิหคสีเขียวขนาดใหญ
พลันปรากฎขึ้น อาปากออกกลางอากาศ
เสียง “ฟู” ดังขึ้น เสาลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพนออกมาจากปากของวิหคตัวนั้น
หลังจากเปลงแสงสวางวาบก็ทะลุผานใจกลางของหมอกสีเขียวไป
ทันใดนั้นเสาลำแสงพลันสลายไป กลายเปนเสนไหมสีเขียวจำนวนนับไมถวนแลว
ระเบิดออก
วายุบาคลั่งพลันกอตัวขึ้น!
พายุหมุนที่บาคลัง่ สายหนึ่งปรากฎขึ้นทามกลางมานหมอก มวนเอาหมอกสีเขียว
ทั ้ ง หมดเข า ไปในพายุ หลั ง จากหมุ น วนอย า งบ า คลั ่ ง ก็ พ ุ  ง ขึ ้ น ไปบนท องฟ า แล ว
หายลับไป
หมอกสีเขียวกลุมนี้ราวกับถูกพายุพัดหายไปอยางไรรองรอยอยางไรอยางนั้น
เหลยหลันและไปปเห็นฉากนี้ก็อดที่จะะตกตะลึงไมได
หรือวาปศาจที่รับมือไดยากขนาดนี้จะถูกสังหารไปเชนนี้
แตหานลี่มองเห็นฉากนี้กลับมีสีหนาแปลกประหลาดฉายแวบผาน ฉับพลันนั้น
หัวไหลพลันสั่นเทาที่แผนหลังพนไอกระบี่สีทองหนาๆ แปดสายออกมา
เปลงแสงสวางวาบแลวสับลงไปทางดานหลังทั้งแปดจุด
เสียงรองประหลาดๆ แปดเสียงดังขึ้นพรอมกันกลางอากาศ จากนั้นเงาสีเขียว
แปดกลุมก็เปลงแสงสวางวาบขึ้นกลางอากาศ และหลบหลีกไอกระบี่เหลานั้น
“เจามองเห็นพวกเรา!” เงาลำแสงสีเขียวเตี้ยยิ่งกวาปศาจวานรตัวเดิมแปดสาย
ปรากฎขึ้นลางๆ หนึ่งในนั้นยังเอยปากถามดวยความตกตะลึง
“วิ ช าอำพรางแค นี ้ ถ ู ก มองออกแล ว แปลกตรงไหน เจ า คื อป ศ าจอะไร ไม ใช
อสูรวานรอาฆาตสินะ อสูรวานรอาฆาตไมอาจมี วิชาแยกร างได” รางของหานลี่
เลือนรางไปเล็กนอย เผชิญหนากับเงาสีเขียวตรงขามแลวเอยถามอยางราบเรียบ
สวนเหลยหลันและไปปทั้งสองถึงไดหันกายไปดวยความตกใจ
เห็ นได ช ั ดว าแม ทั ้ง สองจะมีพลัง ยุ ทธไ มอ อนแอ แต ก ็ ข าดประสบการณจาก
การตอสูที่แทจริงมาก มินาละเหลาอาวุโสของเผาวิหคสวรรค ถึงไดไมคิดวาทั้งสอง
จะเอาชนะในการทดสอบไดเพียงลำพัง
“หึๆ คนบนพื้น เจาหมายจะถามประวัติความเปนมาของขา ฝนไปเถอะ! ดูแลวเจา
ไมเหมือนกับคนเผาวิญญาณเหาะเหินทั่วๆ ไป บนพื้นขาอาจจะทำอะไรเจาไมได
แตในหุบเหวแมวาเจาจะมีพลังยุทธสูงกวาขาสองสามเทา ก็ไมอาจเปนคูมือของขาได”
ครั้งนี้คาดไมถึงวาผูที่เอยปากจะเปนเงาสีเขียวอีกเงาหนึ่ง ทันใดนั้นเงาสีเขียวแปดสาย
ก็แหงนหนาหัวเราะร อกั บท องฟาพร อมกั น จากนั้นลำแสงสีเขียวพลันสวา งวาบ
คาดไมถึงวาจะผนึกรวมกันกลายเปนปศาจวานรที่เหมือนกันแปดตัว
มือของปศาจวานรเหลานี้มีลำแสงสีเขียวเปลงแสงสวางวาบ คาดไมถึงวาจะมี
มีดสีเขียวเลมหนึ่งปรากฎขึ้นพรอมกัน ตัวมีดเปนสีเขียวมรกตกระโจนเขาหามา
พวกของหานลี่ทั้งสาม
หานลี่พลันขมวดคิ้วฉับพลันนั้นพลันยกมือหนึ่งขึ้น ฝามือที่มีนิ้วเรียวขาวราวกับ
หยกพลันกางนิ้วออก
ชั่วขณะนั้นเปลวเพลิงหาสีผืนหนึ่งก็ถูกพนออกมาจากนิ้วทั้งหา วองไวอยาง
หาที่เปรียบ แคมวนวนก็กวาดปศาจวานรทั้งแปดตัวเขาไปดานใน จากนั้นลำแสงหาสี
ในเปลวเพลิงลำแสงก็เปลงประกาย รางของปศาจวานรแปดตัวเคลื่อนไหวชาลงเปน
สิบเทา
หานลี่ถือโอกาสนี้อาปากออก พนเปลวเพลิงสีเงินระยิบระยับออกมา
ภายใตความคิดที่เคลื่อนไหว เสียง “ปง” ดังขึ้น เปลวเพลิงสีเงินระเบิดออก
ทันใดนั้นก็กลายเปนลูกธนูเพลิงสีเงินแปดลูก เปลงแสงสวางวาบแลวพุงออกไป
หลังจากเสียง “ฟูๆ” ดังขึ้น ลูกธนูเพลิงสีเงินแปดสายพลันเปลงแสงสวางวาบ
ทะลุ ผ  า นไปถู ก ป ศ าจวานรที ่ ถู ก เปลวเพลิ ง ลำแสงห า สี พ ั น ธนาการเอาไว แม ว า
ปศาจวานรเหลานี้จะมีพลังยุทธไมออนแอ แตก็คิดไมถึงวาในใตหลานี้จะมีคนที่มี
ความสามารถประลหาดๆ อยางการลดความเร็วผูอื่น
โดยไมทันตั้งตัวปศาจวานรทั้งแปดเห็นวาลูกธนูจะเขามาโจมตีตัวเอง แตรางกายที่ถูก
พันธนการอยู ก็ไมอาจหลบหลีกได ทำไดเพียงรองอุทานออกมาดวยความตกตะลึง
ระคนโกรธเกรี้ ยว ตรงทรวงอกทยอยกัน มีร ู ขนาดเท ากำป น ปรากฎขึ้ น ตรงขอบ
ของเปลวเพลิงสีเงินเปลงแสงสวางวาบอีกครั้ง แลวเริ่มแผดเผา
ปศาจวานรที่อยูในลำแสงสีเงินกลายเปนควันสีเขียว ชั่วพริบตาก็หายวับ
ปศาจตนนี้ไมทันไดแ มแต จะสำแดงความสามารถหนึ่ งในสิบส วนของตนเอง
ออกมา ก็ตายไปโดยไมรูตัว แมแตจิตวิญญาณบริสุทธิ์ก็ไมอาจหนีพน!
เมื่อเปลวเพลิงสีเงินรวมตัวกันอีกครั้ง ก็กลายเปนวิหคเพลิงตัวหนึ่งจมหายเขาไปใน
รางของหานลี่ เหลยหลันที่อยูดานขางและไปปพลันมองดวยความตกตะลึงจนตาคาง
แมวาทั้งสองจะแคประมือกับปศาจวานรครั้งหนึ่ง แตก็มองออกถึงความรายกาจ
และโหดเหี้ยมที่ไมธรรมดาของมัน นาจะเปนการตอสูที่ดุเดือดถึงจะถูก
แตผลคือปศาจตนนี้คาดไมถึงวาจะถูกสังหารไดอยางงายดายเพียงยกมือขึ้น
เชนนี้ทำใหพวกเขารูสึกตกตะลึงเปนอยางมาก จะไมใหพวกเขาตะลึงงันไดอยางไร
ครานี้ทั้งสองถึงไดเขาใจอยางแทจริงวา ระยะหางระหวางตนเองและหานลี่
หางไกลกันแคไหน สายตาที่เหลือบมองหานลี่จึงแปลกประหลาดไปอยางไมรูตัว
“ไปกันเถิด! ปศาจตนนี้เอยถึงนายทานอะไรนั้น เกรงวาคงตอกรไดยาก” หานลี่
เอยอยางราบเรียบ เทาขางหนึ่งแตะไปที่รถวิญญาณ ชั่วขณะนั้นรถคันนี้ก็ปรากฎขึ้น
ทามกลางลำแสงสีขาวนวล
ตอนที่ 1446 วิกฤตการณ
เหลยหลันและไปปไดยิน พลันหนาเปลี่ยนสี รีบรอนบินกลับเขาไปในรถ
ชั่วขณะนั้นรถวิญญาณพลันกลายเป นลำแสงสี ขาวนวลกลุม หนึ่ ง ชั่วพริบตา
ก็พุงแหวกอากาศจากไป
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นทามกลางความมืดมิดไรแสงสวางในชั้นสาม พลันมี
เสียงอุทานดวยความตกตะลึงดังออกมา
แขนขาวนวลยื่นออกมาจากความมืดมิด ในนิ้วมือมีแผนปายไมหัวภูตผีสีเหลือง
ปรากฏขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น? เพลิงวิญญาณของอสูรแปดหนามอดไปแลว หึ เจาตัวไรประโยชน
เรื่องแคนี้ยังทำไมสำเร็จ! ดูแลวผูที่ทำลายเรื่องดีๆ ของขาคงจะมีความสามารถอยูบาง
ชางเถิด เรื่องเล็กแคนี้คอยจัดการวันหลังก็แลวกัน ขอแคเจาพวกนั้นไมออกจาก
หุบเหว ขาก็หาพวกเขาพบแน” หญิงสาวแคนเสียงดวยความเย็นชา เอยพึมพำดวย
ความมั่นใจ เสียงนั้นจึงหายไปทามกลางความมืดมิด
สองวันตอมาที่ชั้นหนึ่งของหุบเหว
เงาสีขาวจางๆ กลุมหนึ่งพุงผานผืนหญาสีดำไป ฉับพลันนั้นเงารางคนสีดำสิบกวาสาย
ก็พุงออกมาจากพุ มไม กระโจนไปกลางอากาศ คาดไมถึงวาจะเป นตั๊ ก แตนยั ก ษ
สีเขียวมรกตสองตาที่หนาตาโหดเหี้ยมสิบกวาตัว
ความสูงสามฉื่อ เปนสีดำราวกับเหล็ก
เสียง “ตูมๆ” ดังออกมาจากในรถ เงาสีขาวพุงออกมาจากประจุ ไฟฟาสี เ งิ น
สิบกวาสาย โจมตีไปยังรางของอสูรแมลงเหลานั้นอยางไมมีผิดพลาด
ตั๊กแตนยักษไมทันไดรองครวญ ก็กลายเปนผุยผง เปนกลุมควันแลวสลายหายไป
สี่วันตอมา ณ พื้นที่ที่เต็มไปดวยปาหิน รถวิญญาณคันหนึ่งกำลังบินดวยความรวดเร็ว
อยูกลางอากาศอยางทระนงองอาจ และขางลางกลับมีปศาจหินที่ดูเหมือนสรางขึ้น
จากกอนกรวดสองสามตัวกำลังวิ่งไลตามอยูบนยอดเสาหินในปาหินอยางไมลดละ
เสียง “สวบๆ” ดังขึ้น เสนไหมสีทองจำนวนนับไมถวนสวางวาบแลวพุงออกมา
จากรถ ชั่วพริบตาก็ปกอยูทั่วตัวของปศาจหินสองสามตัวนั้น จากนั้นก็ออกแรงดึงแนน
หลังจากลำแสงสีทองเปลงแสงสวางวาบ ปศาจหินทั้งหมดก็แตกออกเปนเสี่ยงๆ
ไรซึ่งพลังชีวิต
เจ็ดวันตอมาหมอกสีเทาขาวพลันหมุนววนอยูกลางอากาศเหนือหุบเขายักษ หานลี่
และพวกสยายปกลอยตัวอยูตรงทางเขา พลางพิจารณาหุบเขาลูกนั้นอยางละเอียด
เหลยหลันและไปปตางเผยสีหนาดีอกดีใจออกมาอยางปดไมมิด
รถเหาะใตฝาเทาของทั้งสามกลับหายวับไป ไมรูวาพังดวยน้ำมือของปศาจที่พบ
ระหวางทาง หรือวาหานลี่เก็บกลับไปแลว
“ดูแลวที่นี่คงไมมีปญหาอะไร เจาไปเถิด! เดินตามที่นี่ลงไปหนึ่งวัน พวกเราก็จะ
ถึงชั้นสองแลว ที่นี่คอนขางรกราง คิดดูแลวทางเขาคงคอนขางปลอดภัย นาจะไมมี
ใครมาดักซุมโจมตีอะไร” หานลี่เอยทันใดนั้นก็สยายปกที่แผนหลังออก ชิงบินเขาไป
ในมานหมอกกอนเปนคนแรก
ครั้นเมื่อบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิหคสวรรคมาถึงที่นี่ แนนอนวาไมอาจมีเจตนา
อยากลาถอยอะไรได จึงตามหลังมาติดๆ ดวยสีหนาเครงขรึม
ม า นหมอกสี เ ทาไม นั บ ว า หนาแน น นั ก แม ว  า จะเข า มาลึ ก แล ว ก็ ย ั ง มองเห็ น
สถานการณรอบๆ ไดในระยะสิบจั้งเศษ
ท า มกลางม า นหมอกบางครั ้ ง ก็ มี อ สรพิ ษ บิ น ติ ด ป ก ยาวสองสามฉื ่ อ สองสามตั ว
บินออกมา คิดจะโจมตีพวกเขาสามคน
แตแนนอนวาลวนถูกทั้งสามคนสังหารไดอยางงายดาย
หลั ง จากผ า นไปหนึ ่ ง ชั ่ ว ยาม ในที ่ ส ุ ด พวกเขาก็ เ ดิ น ออกมาจากม า นหมอก
ปรากฎอยูบนจุดปลายสุดของเนินเขา
ครานี้บนกำแพงภูเขายักษที่อยูตรงปลายของหุบเขา พลันมีรอยแยกขนาดยักษ
สายหนึ่งปรากฎขึ้นกลางอากาศ คดเคี้ยวไปมาทอดตัวลึกลงไปสูใตดิน
เมื่อเห็นรอยแยกนี้ หานลี่ก็หัวเราะออกมา พาคนที่อยูดานหลังสองคนเขา ไป
อยางไมลังเลเลยสักนิด
ลำแสงวิญญาณสามกลุมที่อยูในรอยแยกยิ่งบินเขาไปก็ยิ่งอยูหางไปเรื่อยๆ ตั้งแต
ตนจนจบหลังจากหักเลี้ยวไปสองสามครั้ง ถึงไดสลายหายไป
หลังจากนั้นหนึ่งวันหนึ่งคืนรอบๆ รอยแยกขนาดยักษที่ทอดไปสูดานหลัง พลันมี
เสียงรองประหลาดๆ ดังขึ้น
พายุประหลาดสีดำกลุมหนึ่งทะลักออกมาจากรอยแยก ทำใหกำแพงหินรอบๆ
กลายเปนกำแพงน้ำแข็งสีดำออน เผยความหนาวเหน็บออกมา
แตถือโอกาสนี้กลับมีลูกบอลลำแสงหลากสีสันสามลูกทะลักออกมาจากวายุ
หลังจากกระพริบวาบก็ปรากฎหางออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง และเผยเงารางคนสามสาย
ออกมาอยางชัดเจน
นั่นก็คือ หานลี่และพวกทั้งสาม
“วายุในหุบเหวของทางสายนี้รายกาจเกินไปแลว ขาเกือบจะหลบไมได เหตุใด
ในขอมูลถึงไมเคยเอยถึงเรื่องนี้เลย” ไปปมองกลับไปยังจุดที่ออกมาดวยสีหนาซีดขาว
“ในเมื่อในขอมูลไมไดกลาวไว คิดดูแลววายุนี้คงเพิ่งจะมีเมื่อไมกี่ปที่ผานมา
มิเชนนั้นอาวุโสของเผาเราไมมีทางไมเอยถึงเรื่องนี้แน” หนาสดสวยของเหลยหลันเอง
ก็มีทาทางสูญเสียพลังยุทธไปไมนอย ทันใดนั้นก็อดไมไหวมองไปทางหานลี่แวบหนึ่ง
หานลี่กำลังเอาสองมือกอดอกพิจารณามองอะไรสักอยางอยูรอบๆ ใบหนาไมมี
ความรูสึกประหลาดใจเลยสักนิด ไหนเลยจะมีสีหนาสูญเสียพลังยุทธไป
“หรือวาพลังยุทธของแมทัพวิญญาณระดับตนและระดับสูงตางกันถึงเพียงนี้!”
เมื่อนึกถึงวาตนเองเกือบจะไม อาจบิ น ออกจากรอยแยกได โชคดีที่อีกฝายลงมื อ
ถึงไดขามผานความยากลำบากมาได เหลยหลันก็รูสึกจนปญญา
“พวกเราเสียเวลาในชั้นหนึ่งไปหลายวัน ไมจำเปนตองเสียเวลาตามหาผลเปลวยมโลก
ในชั้นสองอีก ตรงไปยังชั้นสามก็พอแลว” หานลี่ชักสายตากลับ ใชน้ำเสียงที่ไมอาจ
ปฏิเสธไดเอยออกมา
กลางอากาศมีความเปยกชื้นเล็กนอย รอบๆ เต็มไปดวยกลิ่นวัชพืชเนาๆ คาดไมถึงวา
พวกเขาจะอยูกลางอากาศเหนือจุดที่เหมือนกับบึงน้ำ
เมื่อบุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองของเผาวิหคสวรรครูวาความสามารถของหานลี่อยู
เหนือตนเองแลว แนนอนวาก็ไมไดไมพอใจอะไรอีก แตเหลยหลันกลับลังเลเล็กนอย
แลวเอยถามอยางกังวลใจวา
“ไปชั้นสามนองหญิงยอมไมมีขอคิดเห็นอะไร แตพี่หาน ทางเขาไปยังชั้นสาม
มีอยูแคสามทางเทานั้น ไมวาพวกเราจะไปทางไหน ลวนตองพบกับคนของสาขาอื่น
หากพบคนที่มีเจตนาไมดีตอสาขาเราเขา…”
แมวาสตรีผูนี้จะยังเอยไมจบ แตความหมายของมันนั้นไมวาใครฟงก็เขาใจได
“ไมใชหากคนของสาขาตางๆ จะตองจัดเตรียมกำลังคนไวที่ทางเขาชั้นสามแน
เปาหมายของพวกเขาไมใชแคพวกเรา สาขาอื่นๆ ที่ออนแอ เกรงวาก็เปนเปาหมาย
ของพวกเขาเชนกัน” ไปปถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“หึๆ เจอก็แคลงมือ จุดนี้ตองผานไปใหได ทวาจากที่ขาคาดเดา แมวาพวกเผาใหญๆ
อยางเผาแดงสดจะอยากฮุบเผาเรา แตก็ไมอาจวางกำลังทั้งหมดเอาไวที่ทางเข า
ชั ้ นสามได การทดสอบที ่ ส ามร อยป จ ะมี ค รั้ ง หนึ ่ ง ต า งสำคั ญ กั บ พวกเขาเช นกั น
ทำได เ พี ย งเหลื อ ไว ค รึ ่ ง หนึ ่ ง แม ก ระทั ่ ง อาจจะเหลื อ ไว จ ำนวนน อ ยมากเท า นั้ น
หากเปนเชนนั้น การโจมตีอีกฝายใหพายแพก็ไมใชเรื่องงาย แตหากฝาคนพวกนั้นไป
ก็ไมใชเรื่องที่เปนไปไมได” หานลี่หัวเราะอยางเย็นชา พลางวิเคราะหใหฟงเล็กๆ
“หากเปนดังที่พี่หานกลาว พวกเราก็ไมใชวาจะไมมีโอกาส” ฟงหานลี่เอยเชนนี้
ไปปและพวกทั้งสองก็รูสึกมีชีวิตชีวาขึ้น
“สถานการณเปนอยางไรกันแน ผูใดก็ไมอาจรับประกันได มีเพียงตองเดินหนาตอ
แลวคอยวากันแลว” หานลี่ตอบกลับอยางเครงขรึม
“แตทางเขาทั้งสามพวกเราจะไปทางไหน มีอยูสองทางที่ปลอดภัย และอันตราย
อยูทางหนึ่ง” เหลยหลันขมวดคิ้วพลางเอยถามอีกครั้ง
“ในเมื่อครั้งนี้ไปทางไหนก็อาจจะพบคนขัดขวาง แนนอนวาตองเลือกทางที่ใกล
พวกเราที่สุด” หานลี่เอยอยางไมตองขบคิด
“เชนนั้นพวกเราก็ตองไปทางหมื่นเถาวัลย” หลังจากที่ไปปขบคิดเล็กนอยก็ตอบกลับ
“ทางหมื่นเถาวัลยที่มีเถาวัลยโบราณจำนวนมากเชื่อมติดชั้นสองชั้นสามหรือ”
หานลี่ดูเหมื อนวา จะมี อยู ใ นความทรงจำ แววตาจึงเปล ง ประกายสวางวาบขณะ
เอยถาม
“ใชแลวทางนั้นแหละ ทางสายนี้นอกจากปศาจแมลงที่ปรากฎตัวแลว โดยทั่วไป
แลวก็ไมมีอันตรายใดๆ และหากทุกอยางราบรื่นละก็ หลังจากนี้ครึ่งเดือนพวกเรา
ก็นาจะไปถึง” ไปปตอบกลับอยางมั่นใจ
“ฟงดูไมเลว พวกเราไปที่ทางเขากันเถิด!” หลังจากที่หานลี่หนาเปลี่ยนสีแลวก็
เอยปากยืนยัน
เมื่อเห็นวาหานลี่ยืนยันจุดหมาย เหลยหลันและพวกทั้งสองก็ไมไดมีเจตนาใดๆ
ลวนพยักหนาเปนเครื่องหมายแสดงวาเห็นดวย
หานลี่พลิกฝามือมือหนึ่ง ในมือมีจานอาคมสีฟาปรากฎขึ้น พลิ้วไหวอยูเบื้องหนา
แลวพลันแยกแยะทิศทางพาทั้งสองบินไปเบื้องหนาทันที
หลังจากที่พวกเขาทั้งสามจากมาไมนาน
บนพื้นดินก็มีฟองน้ำโสโครกผุดขึ้นมาจากดินโคลน ฉับพลันนั้นเงารางสีดำสนิท
ก็ปรากฎขึ้นอยางเงียบเชียบ จองเขม็งไปยังลำแสงหลีกหนีของหาลี่และพวกที่อยูไกล
ออกไป ดวงตาเปลงแสงสีแดงระเรื่อออกมา
เสียง “ปง” ดังขึ้น เงานั้นระเบิดออกราวกับฟองสูงอยางไรอยางนั้น หายวับไป
จากบึงน้ำอยางไรรองรอย
หานลี่ที่กำลังพาทั้งสองคนพุงไปขางหนา พลันรูสึกถึงความเย็นเยียบที่ผุดขึ้นมา
ที่แผนหลัง รางกายหยุดชะงักไปเล็กนอย แลวหันไปมองแวบหนึ่ง
“พี่หานเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” ไปปที่ศรัทธาในตัวของหานลี่เปนอยางมากไปแลว
เห็นการกระทำของหานลี่ ก็อดที่จะหยุดลงเชนกันแลวเอยถามไมได
“ไมมีอะไรหรอก อาจจะรูสึกไปเองกระมัง!” แววตาของหานลี่เปลงแสงสีฟา
สองสามครั้ง กวาดสายตาไปมองพื้นดินดานหลังอยางละเเอียดชั่วครู แลวถึงไดเอยขึ้น
อยางแชมชา
ความเย็นยะเยือกที่แผนหลังหายวับไปอยางไรรองรอยแลว ราวกับวาไมเคยเกิดขึ้น
มากอนอยางไรอยางนั้น
การสั ม ผั ส ได ว  ามี อะไรผิด ปกติ สำหรับ หานลี ่ ที ่ มี ป ฏิ ภ าณไหวพริ บ ว องไวนั้น
เปนเรื่องที่เกิดขึ้นบอยๆ แตมาเกิดขึ้นในสถานการณที่อันตรายเชนนี้ ก็ทำใหเขารูสึก
วามีเงาดำในใจที่ไมอาจปดออกได
ทว า ขอแค ไ ม ใ ช ป  ศ าจที ่ ม ี พ ลั ง ยุ ท ธื ส ู ง กว า ตนเองมากนั ก ก็ ไ ม อ าจหลบพ น
ความสามารถของเนตรวิญญาณของตนเองได บางทีอาจจะแครูสึกไปเองกระมัง!
หานลี่ครุนคิดอยูชั่วครู แตก็ทำไดเพียงเลิกคิดไป กวักมือไปทางไปปและพวกทั้งสองที่
อยูดานขาง แลวสยายปกออกเดินทางอีกครั้ง
แตแคใบหนาของเขามีสีหนาเครงขรึมเปนอยางมาก!
แน น อนว า หานลี ่ ย  อ มไม ร ู  ว  า ในภู เ ขาของหุ บ เหวชั ้ น หนึ ่ ง นี ้ มี ค นลึ ก ลั บ ถู ก
ชุ ด คลุ ม ยาวสี แ ดงสดห อหุ  ม อยู  กำลั ง นอนอยู  บ นเก า อี ้ ไ ม ส ี ด ำสนิ ท ตั ว หนึ ่ ง และ
บนโต ะ หิ นด า นข า งเขากลั บ มี ก ระจกทองแดงขนาดใหญ ต ั ้ ง อยู  ในกระจกนั ้ น มี
ภาพลางๆ ปรากฎอยู
เนื้อหาในรูปภาพก็คือ ลำแสงหลีกหนีของหานลี่และพวกของเหลยหลันที่กำลังบิน
ออกหางจากบึงน้ำ
“นาสนใจจริงๆ! คาดไมถึงแมแตหุนเชิดโคลนของขาก็ยังสัมผัสได ดูแลวจิตสัมผัส
คงแข็ ง แกร ง กว า พลั ง ยุ ท ธ ม าก น า เสี ย ดายข า ไม ใ ช ห กขาของชั ้ น หนึ ่ ง ไม ส นใจ
หลอมวิ ญ ญาณทมิ ฬอยู  แ ล ว ” ผู  ท ี ่ ส วมชุ ด โลหิ ต เปล ง เสี ย งหั ว เราะต่ ำ ๆ ออกมา
ทันใดนั้น ก็โบกแขนเสื้อไปทางกระจก ดูเหมือนวาหมายจะสำแดงเคล็ดวิชา
“เกือบลืมไป ดูเหมือนวายายเฒานั้นจะรวบรวมวิญญาณสัตวที่แข็งแกรงครบแลว
คนผูนี้ดูเหมื อนวาจะเป นของขวัญที ่ไมเลว นาจะเอามาแลกกั บมั จฉาโลหิต ได ! ”
ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตมีความคิดอะไรขึ้นมา พลางเอยพึมพำกับตัวเอง
ผูที่สวมชุดสีโลหิตหยัดกายลุกขึ้นนั่ง แววตาฉายแววตื่นเตนดีใจ ดูเหมือนวาจะ
รูสึกอิ่มอกอิ่มใจกับแผนที่เพิ่งผุดขึ้นมาของตนเองเปนอยางมาก
เขาพลันสะบัดแขนเสื้อ ไขมุกกลมๆ แวววาวเม็ดหนึ่งพุงออกไป หลังจากหมุ น วน
รอบหนึ่ง ก็หยุดอยูเบื้องหนา
มือหนึ่งพลันรายอาคม ลำแสงสีแดงสายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบพลางจมหาย
เขาไปในไขมุกกลมๆ ไขมุกเม็ดนี้หมุนติ้วๆ ลำแสงสีโลหิตเปลงประกายเจิดจา
ตอนที่ 1447 สวนลึกของหุบเหว
หลังจากผานไปเปนเวลาหนึ่งกาน้ำชา ลำแสงสีโลหิตบนไขมุกกลมๆ พลันหดเล็กลง
ฉับพลันนั้นก็สั่นเทาแลวมีเสียงแหบแหงของฮูหยินชราดังขึ้น
“ตี่เสี่ย มีธุระอันใดหรือ ไมรูวาขากำลังติดธุระเรื่องแผนการใหญของพวกเราหรือ?”
เจาของน้ำเสียงดูเหมือนวาจะไมคอยใจพอที่คนสวมชุดสีโลหิตมาหาเขา
“หึๆ หลังจากที่พวกเราวางแผนกันมันก็ผานมายี่สิบกวาปแลว ครานี้นานๆ
ตาเฒาจะติดตอสหายมาสักที จะคุยดวยสักหนอยมิไดเลยหรือ?” ผูที่สวมชุดคลุม
สีโลหิตกลับหัวเราะต่ำๆ ออกมาขณะเอย
“อยาออมคอม เกิดอะไรขึ้นกันแน พูดมาตามตรงเถิด มิเชนนั้นตัวประหลาดเฒาซิว
จะตัดเคล็ดวิชาลับซะ” ฮูหยินชรามีน้ำเสียงเครงขรึม ทาทางหมดความอดทน
“แผนการแยกกั น จั ด การที ่ พ วกเราวางกั น ครั ้ ง ที ่ แ ล ว มู  ช ิ ง รวบรวมของสู บ
โลหิตบวงสรวง หกขารวบรวมพลังทมิฬ ตาเฒารับหนาที่หลอมหุนเชิด สหายจำตอง
เลี้ยงดูภูตทมิฬเกราะจันทราแปดพันตนที่สำคัญที่สุด ไมทราบวาสหายไปถึงขั้นไหน
แลว” ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตกลับไมใสใจเลยสักนิด พลางเอยถามดวยสีหนาราบเรียบ
“หึๆ รูอยูแลวยังจะมาถาม! พวกเจาวางกำลังไวในลูกนองของขาตั้งไมรูเทาไหร
พัฒนาไปถึงไหนแลวจะไมรูหรือ?” ฮูหยินชราเงียบขรึมไปเล็กนอย แลวตอบกลับ
อยางเย็นชา
“ฮาๆ ก็เหมือนกันนั่นแหละ สถานที่ที่ขาหลอมหุนเชิดนั้นก็มีสหายใตอาณัติเจา
ปรากฎตัวขึ้นเชนกันมิใชหรือ แตตอนนี้ขาอยากไดยินจากเจาดวยตนเอง” ผูที่สวม
ชุดคลุมสีโลหิตหัวเราะรอขณะเอย
“นี่ก็ไมใชความลับอะไร มีอะไรที่พูดไมได ภูตทมิฬเกราะจันทราแปดพันตนยังพอวา
ขอแคหกขาหาไอวิญญาณทมิฬมาเลี้ยงดูพวกมันอยางเพียงพอ ก็เปนเรื่องที่จะเกิดขึ้น
ไมชาก็เร็วแลว ปญหาเดียวก็คือ ราชันยภูตเกราะจันทราแปดตนที่เปนผูบัญชาการ
ผูทมิฬเหลานั้น จำตองใชจิตวิญญาณบริสุทธิ์ที่มีจิตสัมผัสแข็งแกรงถึงจะหลอมขึ้นได
จิ ต วิ ญ ญาณบริ ส ุ ทธิ ์ร ะดั บ นั ้น ไม ใ ช ส ิ ่ ง ที่ ห าได ง  ายๆ” ฮู ห ยิ น ชราตอบกลั บ อยาง
ราบเรียบ
“ออ ไมทราบวาเจาหลอมราชันยภูตทั้งแปดไปไดกี่ตนแลว” ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิต
ซักถามอยางรูสึกสนอกสนใจ
“หลอมไดสามตน! อัตราการหลอมสำเร็จมันต่ำไปหนอย” ฮูหยินมีน้ำเสียงเครงขรึม
ทาทางขัดเขินเล็กนอย
“หึๆ ก็นี่แหละ ตาเฒาถึงไดติดตอมาหาสหาย เพราะอยากจะเสนอจิตวิญญาณ
บริสุทธิ์ชั้นเยี่ยมให” ฮูหยินชราพลันตะลึงงัน แลวรูสึกประหลาดใจไปเล็กนอย
“ขาไมใชหกขาและเจา จึงไมเชี่ยวชาญดานทางสายภูต แตขาเพิ่งพบคนของ
เผ า วิ ญ ญาณเหาะเหิ น คนหนึ ่ ง คาดไม ถ ึ ง ว า จะสั ม ผั ส จิ ต แยกของข า ที ่ ส ิ ง อยู  บ น
หุนเชิดโคลนได แมวาจะเปนแคจิตสัมผัสสวนเล็กๆ แตจิตสัมผัสของคนผูนี้ จะ
แข็งแกรงขนาดไหนไมตองบอกก็รูแลว นาจะเพียงพอใหเจาเอาไปหลอม เปน
ราชันยภูตสินะ” ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตเอยอยางราบเรียบ
“คนของเผาวิญญาณเหาะเหิน หรือวาถึงวันทดสอบของเผานั้นแลว ในเมื่อพบ
จิตสัมผัสของเจาได หรือวาจะเปนตาเฒาของพวกนั้นที่ลงมือเขามาเอง” น้ำเสียงของ
ฮูหยินชราแปรงๆ แลวพลันเครงขรึมขึ้น
“วางใจ แคระดับแมทัพวิญญาณคนหนึ่งเทานั้น ไมไดยุงยากอะไร” ผูที่สวมชุด
คลุมสีโลหิตเอยอยางไมใสใจ
“ระดั บ แม ท ั พ วิ ญ ญาณ เช นนั ้ น ก็ ไ ม เ ป น ไรแล ว แต พ บจิ ต สั ม ผั ส ของเจ า ได
จิตสัมผัสตองแข็งแกรงมาก เยี่ยม ของขวัญนี้ขาขอรับไว แตเจาคงไมบอกขาเปลาๆ
สินะ อยากใหขาแลกกับอะไรละ?” ฮูหยินชราขบคิดไปเล็กนอย แลวตอบกลับเชนนี้
ออกมา
“หึๆ ตาเฒาชอบคบคากั บคนที่ เข าใจอะไรงายๆ อยางสหายจริงๆ งายมาก
ขอแคตาเฒายอมบอกขาวของปลาโลหิตหมื่น ปตั วนั้น ก็พอแลว หากใหขาลงมื อ
ชวยเจาจับมันมาสงใหเจา ก็ตองเปนปลาโลหิตสองตัว ” ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิต
กลอกตาไปมา แลวเอยอยางละโมบ
“เหอะ เจาคิดวาปลาโลหิตหมื่นปคือสิ่งใดกัน วิญญาณทมิฬดวงหนึ่งจะแลกกับสองตัว
ตอนนี ้ ข  า ไม ม ี เ วลา คำเดี ย ว เจ า เอาวิ ญ ญาณบริ ส ุ ท ธิ ์ น ั ้ น มาส ง ให ข  า ข า จะมอบ
ปลาโลหิตหมื่นปใหเจาตัวหนึ่ง ก็นับวาเสียเปรียบเจาแลว” ฮูหยินแคนเสียงดวย
ความเย็นชา แลวเอยอยางไมเกรงใจ
“ตกลง ตั ว นึ ง ก็ ต ั ว นึ ง อี ก สิ บ วั น ข า จะนำจิ ต วิ ญ ญาณของคนผู  นี ้ม ามอบให”
ผู  ท ี ่ ส วมชุ ด คลุ ม สี โลหิ ต ตอบรั บ อย า งเต็ ม ใจ เห็ น ได ช ั ด ว า คิ ด ว า เรื ่ องนี ้ เ ป นเรื ่ อง
ที่ไดเปรียบมาก
“ใชแลว การทดสอบของบุตรศักดิ์สิทธิ์แหงเผาวิญญาณเหาะเหิน มูชิงและหกขา
ลวนไมมีความเห็นอะไร สังหารพวกมันใหหมด หรือวาทำเหมือนแตกอน ใหพวกมัน
สร า งความโกลาหลอยู  ท ี ่ ส ามชั ้ น แรก พวกมั น ไม ม ี ท างทำลายแผนของพวกเรา
ไดหรอก” จูๆ ฮูหยินชราพลันเอยถามขึ้น
“เรื่องใหญกำลังอยูในชวงสำคัญ ไมอาจดึงความสนใจจากเผาวิญญาณเหาะเหินไป
ขอแคพวกมันไมรบกวนพวกเรา ไมเขามาในชั้นสี่ ก็แลวแตพวกมันก็แลวกัน เรื่องนี้
คิดดูแลวมูชิงและหกขาคงเขาใจ” ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตตอบกลับอยางไมตองคิด
“เอาตามที่เจาวา!”
หลังจากเอยอยางราบเรียบ เสียงของฮูหยินชราที่ไขมุกกลมๆ ก็เงียบหายไป
สวนไขมุกนั้นกลับหยุดหมุนวน ชั่วพริบตาลำแสงสีแดงที่ผิวของมันก็หายวับไปเชนกัน
มือหนึ่งตะปบออกไป ชั่วพริบตาไขมุกกลมๆ ก็บินเขามาอยูในมือ จากนั้นก็
เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับ
“แมทัพวิญญาณระดับสูงคนหนึ่งบวกกับแมทัพวิญญาณระดับตนสองคน หุนเชิด
ไมโลหิตระดับผูบัญชาการวิญญาณขั้นตนสามตน นาจะเหลือเฟอ” ผูที่สวมชุดคลุม
สีโลหิตเอยพึมพำ พลางสะบัดแขนเสื้อ
เสี ย ง “ฟู  ๆ ๆ” ดั ง ขึ ้ น เงาสี โลหิ ต สามสายบิ น ออกมาจากแขนเสื ้ อ หลั ง จาก
เปลงแสงสวางวาบ ก็รอนลงบนพื้นดิน
ทามกลางลำแสงสีโลหิตที่มืดมิด เผยเงารางรางเลือนประหลาดๆ สามรางออกมา
พลางหมอบฟุบอยูบนพื้นไมเคลื่อนไหว
ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตแววตาเปลงแสงสีโลหิตสวางวาบ หวางคิ้วมีเสนไหมสีโลหิต
ของตาเนื้อสามสายที่ยากจะสัมผัสไดออกมา เปลงแสงสวางวาบแลวจมหายเขาไปใน
รางของเงาโลหิตทั้งสาม
ชั่วขณะนั้นเงารางพลันเงยหนาขึ้น แววตามีลำแสงสีเขียวเปลงแสงสวางวาบขึ้น
ในเวลาเดียวกัน
“ไป สังหารมันสามคนซะ เอาจิตวิญญาณของมันกลับมา!” ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิต
ชี้ไปทางรูปวาดบนกระจกทองแดง พลางเอยออกมาอยางไรความรูสึก
ลำแสงสีโลหิตสวางวาบ เงาสีโลหิตทั้งสามสายกลายเปนสายรุงสีโลหิตสามสาย
หมุนวนโคจรอยูใกลๆ แลวจมหายเขาไปในกำแพงบริเวณนั้นอยางไรรองรอย
ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตถึงไดพิงเกาอี้ไม หลับตาทั้งสองขางลง ราวกับวาทุกอยางที่
เกิดขึ้นกอนหนา เปนแคเรื่องเล็กๆ สำหรับเขาเทานั้น
ใจกลางของเทือกเขาลึกลับชั้นหนึ่ง บนแทนบวงสรวงสูงรอยจั้งเศษบนยอดเขา
ยักษที่มีไอทมิฬสีเทาปกคลุมอยู ดานบนมีลูกตายักษสีเทาขาวถูกบวงสรวงอยู บน
แทนหินสีดำ ขนาดเทาศีรษะและเต็มไปดวยเสนไหมโลหิต
รูมานตาของลูกตานั้นพนเสนไหมสีเทาจำนวนนับไมถวนออกมา เริงระบำไปรอบทิศ
พลางทยอยกันดูดไอสีเทารอบๆ ไป
ตรงดานลางแทนบูชาคนลึกลับรางกายสูงใหญ สวมผาคลุมสีดำยืนนิ่งอยูตรงนั้น
……
ในวิหารยักษที่ถูกปกคลุมดวยลำแสงสีเขียวที่ชั้นหกของหุบเหว หญิงงามเรือนผม
สีขาวราวกับหิมะ ใบหนาไรสีโลหิต ยืนอยูริมบึงน้ำสีดำขนาดรอยจั้งเศษแห งหนึ่ง
กำลังจับจองทุกอยางในบึงน้ำอยางเย็นชา
ขางกายนางมีสตรีสวมชุดสีดำอายุยี่สิบปเศษยืนอยูสองคน
หญิงสาวทั้งสองลวนมีสีหนาซีดขาวเชนกัน แตคนหนึ่งกลับมีรางกายบอบบาง
ใบหนากลมมนออนหวาน เผยความนาหลงใหลออกมา ใหความรูสึกที่บุรุษอยากจะ
เข า มาตะกองกอดเอาไว อี ก คนกลั บ ร า งอรชนอ อนแอ น ผิ ว สี ข าวซี ด แต ท  า ทีดู
เย็นชามาก
รอบๆ บึงน้ำมีเขตอาคมน อยใหญวางอยู เต็ม ไปหมด อักขระสีดำสนิททะลั ก
ออกมาลอยอยูเหนือบึงน้ำไมหยุด
ใจกลางของบึงน้ำมีเงารางลางเลือนของคนสวมชุดเกราะสีดำอยูสองสามคน
กำลังลอยอยูกลางบึงน้ำสีดำไมขยับเขยื้อน
อักขระสีดำเหลานั้นแยกออกเปนกลุมๆ เมื่อเขาใกลเงารางคนเหลานั้น ก็เปลงแสง
สวางวาบแลวจมหายเขาไปในเกราะสีดำของเงารางคน ชั่วพริบตาก็หายวับไป
แตตั้งแตตนจนจบเงารางคนก็ไมไดเคลื่อนไหว ราวกับวาสิ้นลมไปแลวอยางไรอยางนั้น
หญิงงามผมขาวเห็นเชนนั้น ก็มีสีหนาเครงขรึม หัวคิ้วๆ คอยๆ ขมวดมุนเขาหากัน
“ใชเพลิงยมโลก!” หญิงงามผมขาวเอยปากอยางเย็นชา น้ำเสียงแหบแหงเปนพิเศษ
เห็นไดชัดวาคือ ฮูหยินชราที่พูดคุยกับผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตเมื่อครู
“เจาคะ!” หญิงงามทั้งสองตอบรับพรอมกัน จากนั้นก็พากันกาวมาขางหนา
ลำแสงวิญญาณเเปลงแสงสวางจา คนหนึ่งมีขวดเล็กๆ สีดำปรากฎขึ้น อีกคนหนึ่ง
กลับมีพัดใบลานสีดำปรากฎขึ้น
ภายใตสีหนาเครงขรึมนั้น ทั้งสองชูสมบัติในมือขึ้นพรอมกัน
เสียงรองประหลาดๆ ดังขึ้น มังกรวารีเพลิงที่มีเปลวเพลิงสีดำทะลักออกมาจาก
รางบินออกมาจากปากของน้ำเตา จากนั้นก็กระโจนไปยังบึงน้ำ
ชั่วขณะนั้นทั้งบึงน้ำก็มีเปลวเพลิงสีดำปะทุขึ้น อีกดานหนึ่งหญิงสาวตัวเล็ก ก็
โบกพัดใบลานที่มีอักขระเรียงรายอยูเต็มไปหมดอยางสุดแรง
เปลวเพลิงสีดำทะลักออกมาจากพัดในทันที แลวกระโจนไปยังบึงน้ำ
เปลวเพลิงสองชนิดดูเหมือนจะมีที่มาจากแหลงเดียวกัน เมื่อผสมเขาดว ยกัน
เปลวเพลิงสีดำก็ขยายใหญขึ้นหลายเทา หอหุมเงารางคนที่ลางเลือนทั้งหมดเอาไว
ขางใน
หญิงสาวผมขาวเห็นเชนนั้น สีหนากลับไมไดเปลี่ยนแปลง แตในดวงตาคูงามกลับ
เผยแววรอคอยออกมา
แนนอนวาหานลี่ที่บินอยูในชั้นสองยอมไมรูวาตนเองถูกสิ่งที่นากลัวบางอยาง
จับจองอยู
แตหลังจากที่เขารูสึกถึงไอเย็นเยียบแปลกประหลาดเมื่อครูนั้น เขาก็ระมัดระวังตัวขึ้น
เปนอยางมาก
พาเหลยหลันและไปปบินไปขางหนาดวยความรวดเร็วไปพลาง ใชเนตรวิญญาณ
สำรวจสถานการณรอบๆ ไปพลางอยางไมเสียดายพลังปราณ
ผลของการกระทำเชนนี้ทำใหหานลี่พบปศาจระดับกลางกอนแลวจึงออมผานไป
หลบหลีกความยุงยากไดอยางงายดาย
สวนอสูรธรรมดาๆ นั้นก็ไมอาจดำรงอยูไดในชั้นที่สองอยูแลว แนนอนวาจึงไมพบ
เจออีก
เพราะกอนที่จะเขามาที่ชั้นสองเหลยหลันและพวกทั้งสองนั้นสูญเสียพลังปราณ
ไปไมนอย ดังนั้นความเร็วที่ทั้งสามใชบินจึงไมนับวารวดเร็วนัก ทำใหทั้งสองเดินทาง
ไปพลางดู ด ซั บ ไอวิ ญ ญาณจากศิ ล าวิ ญ ญาณในมื อไปพลาง เพื ่ อชดเชยพลั ง ยุ ทธ
ที่เสียไป
หลังจากบินมาไดครึ่งวัน พวกเขาก็ยังไมพบปญหาใดๆ
จนถึงวันที่สองเหลยหลันและพวกทั้งสองฟนฟูพลังลมปราณกลับมาเต็มเปยมแลว
ก็ยังคงไมพบอะไร หานลี่จึงตัดสินใจหยุดใชเนตรวิญญาณ
ทั้งสามใชความเร็วธรรมดาๆ เขาไปในเทือกเขาสีเขียวเขม
บายของวันที่สองหลังจากที่พวกเขาบินบนอยูรอบๆ ภูเขายักษแลว กลับไมพบ
ความผิดปกติใดๆ
บนทองฟาที่อยูตรงขามนั้น อยูๆ ก็มีลำแสงเปลงแสงสวางวาบ จากนั้นเสียงรอง
แหลมๆ พลันดังขึ้น ลำแสงมรกตสายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบแลวปรากฎขึ้น จากนั้นก็
พุงมายังที่พวกเขาอยู
ครูตอมาดานหลังลำแสงมรกตก็มีลำแสงประหลาดเปลงประกายสวางวาบ ลำแสง
สีเหลืองสามกลุมปรากฎขึ้น ไลตามลำแสงสีมรกตไปดวยความเร็วที่มิไดดอยไปกวา
กันนัก
ลำแสงหลีกหนีเหลานี้ปรากฎตัวอยางแปลกประหลาดเชนนี้ แมวาหานลี่และ
พวกทั้งสามจะอยากหลบหลีก แตก็ไมอาจทำได
หานลี่พลันขมวดคิ้ว พาคนที่เหลือทั้งสองหยุดลำแสงหลีกหนีลง
ตอนที่ 1448 สายฟาฟาดศัตรู
เห็นเพียงลำแสงสีมรกตที่อยูไกลๆ คือ สมบัติทรงกระสวย แคเปลงแสงสวางวาบ
ก็พุงออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง หนีมาทางนี้ กลางลำแสงสีเหลืองสามกลุมที่อยูดานหลัง
กลั บ มี ค นของเผ า วิ ญ ญาณเหาะเหิ น ที ่ ม ี อ ั ก ขระสี ท องเปล ง ประกายอยู  ด  า นใน
ใชความเร็วที่นาตกตะลึงไลตามกระสวยสีเขียวมรกตมา
“แย แ ล ว ! คนของเผ า วายุ เ หลื อ ง พวกเขาต า งแอบจั บ จ อ งเผ า วิ ห คสวรรค
เหมือนกับเผาแดงสดมาเนิ่นนานแลว” ไปปมองเห็นคนของเผาวิญญาณเหาะเหินใน
ลำแสงสีเหลืองอยางชัดเจน กลับรองอุทานดวยน้ำเสียงแหบแหงออกมา
เหลยหลันพลันเผยสีหนาตกตะลึงเปนอยางมากออกมา
“เผาวายุเหลือง?” หานลี่กลับพิจารณาคนของเผาวิญญาณเหาะเหินสามคนดวย
ทาทีมีแผนการ
ปกที่แผนหลังของคนเผาวิญญาณเหาะเหินทั้งสามนี้มีสีออกเหลือง ใบหนามีขน
ดานหลังมีหางยาวๆ ปกคลุมไปดวยเสนขนงอกออกมา ดูแลวเหมือนกับปศาจ!
คนที่ขับเคลื่อนกระสวยสีเขียวมรกตเห็นไดชัดวามองเห็นหานลี่และพวกทั้งสาม
หลังจากกระพริบวาบสองสามครั้ง ก็มาหยุดอยูตรงหนาหานลี่และพวกทั้งสาม
ลำแสงหมนแสงลง สตรีผูงดงามมีปกสีขาวที่แผนหลัง บนศีรษะมีเขาเล็กๆ สี
เขียวมรกตปรากฎตัวขึ้นกลางสมบัติรูปกระสวย
“ทั้งสามคือ คนของเผาวิหคสวรรคสิ นะ ขานอยฉินเสี่ยวของเผาราตรี เ ขี ย ว
พวกเราตางเปนพันธมิตรกัน หวังวาทั้งสามจะลงมือชวยเหลือสักหนอย” เมื่อสตรีผูนี้
ปรากฎตัว ก็เอยดวยสีหนาตื่นตระหนก
แตไมรอใหหานลี่และพวกตอบอะไร คนของเผาวายุเหลืองสามคนก็ไลตามมาทัน
แตเมื่อเห็นหานลี่และพวกทั้งสาม ทันใดนั้นก็หยุดลำแสงหลีกหนีลงพรอมกับหนาที่
เปลี่ยนสีไปยกใหญ
“นี ่ ม ั นเรื ่ องของเผ าข า และเผา ราตรี เขีย ว เผ า วิ ห คสวรรค อย า สอดจะดีกวา
มิเชนนั้นจะหาเรื่องใสตัว” หนึ่งในนั้นเอยอยางไมเกรงใจ เผยเจตนาคุกคามออกมา
อยางไมตองสงสัย
เมื่อสตรีของเผาราตรี เขียวไดย ิน แลว ก็ หน าซีด ขาว ดวงตาคูงามที่มองไปยั ง
ทั้งสามคนลวนเต็มไปดวยแววออนวอน
“เผาเรามีสนธิสัญญาวาจะชวยเหลือเผาราตรีเขียวจริงๆ จึงไมอาจเพิกเฉยได
แตกำลังของเผาวายุเหลืองนั้นยิ่งใหญไมดอยไปกวาเผาแดงสด พวกเราเองก็ไมกลา
หาเรื่อง สามคนที่ยืนตรงหนานี้เปนแคบุตรศักดิ์สิทธิ์สวนหนึ่งที่เขามาทำการทดสอบ
ของเผาวายุเหลืองเทานั้น” เหลยหลันรูวาหานลี่ไมรูเรื่องสนธิสัญญา จึงอธิบายอยาง
แผวเบาอยูดานขาง น้ำเสียงเผยความลังเลออกมา
“งั ้ น หรื อ ?” หานลี ่ เ อ ย อย า งราบเรี ย บ พิ จ ารณาสตรี ช าวววั ง แวบหนึ่ ง
สายตากวาดไปยังเรือนรางของคนเผาวายุเหลืองทั้งสามคน
ในบรรดาสามคนนั้นคาดไมถึงวาจะเปนแมทัพวิญญาณระดับกลางถึงสองคน
คนหนึ่งคือ แมทัพวิญญาณระดับสูง กำลังใชสายตาเยอหยิ่งมองมายังพวกของหานลี่
หานลี่แววตาเปลงประกายสวางวาบ มุมปากขยับหมายจะเอยอะไรนั้น ฉับพลันนั้น
กลางทองฟาไกลออกไปก็มีลำแสงวิญญาณสวางวาบ วิหคไมขนาดยักษยาวสิบจั้งเศษ
เปลงแสงสวางวาบปรากฎขึ้นที่ขอบฟา สีทองเรืองรอง พุงตรงมาทางนี้
หานลี่และพวกพลั นตกตะลึ ง ไมทันไดรูว าจุ ดสีด ำๆ สองสามจุดที่น ั่ ง อยู  บ น
วิหคไมสีขาวนั้นเปนใคร
คนของเผาวายุเหลืองสามคนเบื้องหนาเห็นเชนนั้น กลับเผยสีหนายินดีออกมา!
หลั ง จากที ่พ วกเขามองสบตากัน แวบหนึ ่ง อยา งรวดเร็ วแล ว คาดไม ถ ึ งวาจะ
ขยับรางกายพรอมกัน ชั่วครูก็แยกออกมาลอมหานลี่และพวกทั้งสามรวม ทั้งสตรี
เผาราตรีเขียวนามวาฉินเสี่ยวเอาไวตรงกลาง การเคลื่อนไหวรวดเร็วดังภูตผี
“หมายความวาอยางไร?” ไปปพลันตะลึงงัน ตะโกนดาดวยหนาที่เหยเกไป
เล็กนอย
“หึๆ หมายความวาอยางไร? ยังไมเขาใจอีกหรือ เดิมทีก็วาจะปลอยพวกเจาไป
ตอนนี้ไมจำเปนแลว” ชายรางใหญเผาวายุเหลืองหัวเราะอยางาบาคลั่งออกมา
หานลี ่ พ ลั น ใจเต น แววตาเปล ง แสงสี ฟ  า สว า งวาบ ถึ ง ได ม องเห็ น คนของ
เผาวายุเหลืองที่เปนจุดดำๆ อยูบนหลังวิหคไมอยางชัดเจน
บุรุษสองสตรีหนึ่ง ระดับแมทัพวิญญาณขั้นกลางสองคนขั้นสูงหนึ่งคนเชนกัน
เห็นไดชัดวาเดิมทีสามคนนี้คิดจะสังหารคนของเผาราตรีเขียว แตเมื่อเห็นวา
ทัพเสริมมา ก็มีความคิดอยากจะสังหารหานลี่และพวกทั้งสามคนดวยอยางไมตอง
กังวลใจใดๆ
หลังจากที่เหลยหลัน ไปปรวมทั้งสตรีของเผาราตรีเขียวมองเห็นผูที่มาเยือน
บนหลังของวิหคไมชัดเจนแลว ก็หนาเปลี่ยนสีไปยกใหญ
ความคิดของหานลี่เคลื่อนไหวอยางรวดเร็ว ทันใดนั้นก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
แลวเอยอยางราบเรียบวา
“ในเมื่อเปนเชนนี้ งั้นพวกเจาก็ตายไปกอนเถิด!”
เสียงฟาผาดังขึ้น รางของหานลี่หายวับไปทามกลางลำแสงสีเขียวขาว
“ระวัง!”
แนนอนวาคนของเผาวายุเหลืองที่อยูในระดับแมทัพวิญญาณขั้นสูงยอมตองระวัง
หานลี่ผูซึ่งเปนบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิหคสวรรคที่มีพลังยุทธสูงที่สุดอยูแลว เมื่อเห็น
สถานการณนี้จึงรองตะโกนออกมา
ครูตอมาเหนือหัวของคนผูนี้ก็มีระลอกคลื่นปรากฎขึ้น รางของหานลี่ปรากฎขึ้นน
ท า มกลางลำแสงสี เ ขี ย ว แขนขยั บ ฝ า มื อ สี ด ำราวกั บ น้ ำ หมึ ก ข า งหนึ ่ ง ตบลงไป
กลางอากาศ
ภู เ ขาขนาดย อ มสี ด ำสนิ ท ลู ก หนึ ่ ง ที ่ ม ี ล ำแสงสี เ ทาห อ หุ  ม เอาไว ป รากฏขึ้ น
ชั่วพริบตาก็ขยายขนาดขึ้นหลายเทา กลายเปนภูเขายักษขนาดสิบจั้งเศษกดลงมา
เมื่อเห็นหานลี่มาหาตนเอง คนของวายุเหลืองพลันตกตะลึง ทันใดนั้นก็หัวเราะ
อยางโหดเหี้ยมออกมา อาปากไปทางภูเขาขนาดเล็กที่อยูกลางอากาศโดยไมปริปาก
ใดๆ
เสียง “ฟู” ดังขึ้น พนลำสแงสีเหลืองกลุมหนึ่งออกมา มวนไปทางภูเขาขนาดยอม
ลู ก นั ้ น ในเวลาเดี ย วกั นลำแสงสี ข าวในมื อก็ ส ว า งวาบ สมบั ต ิ เป น รู ป จานกลมๆ
สีเงินขาวพลันปรากฎขึ้น ดูเหมือนวาหมายจะสำแดงออกมา
แตในตอนนั้นเองหานลี่พลันมีสีหนาประหลาดใจฉายแวบผาน แคนเสียงอยาง
เย็นชาในจมูก
เสียงหึนั้นไมดังนัก แตก็เขาไปในโสตประสาทหูของคนเผาวายุเหลือง กลับมีเสียง
ราวกั บ ฟา ผา ดั ง ขึ ้น ทำให ใ บหน าบิ ดเบี้ ยวดว ยความเจ็ บปวด ร า งกายซวนเซจน
เกือบจะโยนสมบัติในมือทิ้ง
จึงถือโอกาสนี้กวาดไปยังลำแสงสีเทาผืนใหญบนภูเขาสีดำ คาดไมถึงวาจะกวาด
ไปถึงดานขางของลำแสงสีเหลืองไดอยางงายดาย ทันใดนั้นก็รอนลงมาอยางดุดัน
กดทับรางของคนเผาวายุเหลืองอยางพอดิบพอดี
บุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวายุเหลืองที่นาสงสารผูนี้ยังไมทันไดสำแดงความสามารถใดๆ
ลำแสงวิญญาณที่หอหุมรางกายอยูก็ถูกลำแสงเทวะดูดปราณกวาดไปจนหมด จากนั้น
พลังมหาศาลกลุมหนึ่งก็มากระทบราง ถูกภูเขายักษกดแลวรวงลงมา
หานลี่ใชสองมือรายอาคมอยางรวดเร็ว
ภู เ ขาเทวะดู ด ปราณขยายใหญ ข ึ ้ น ชั ่ ว พริ บ ตาก็ ก ลายเป น ยอดเขายั ก ษ ส ี ด ำ
ขนาดสิบจั้งเศษทามกลางลำแสงสีเทา
แมวาคนเผาวายุเหลืองผูนั้นจะอยูในระดับเทพแปลงขั้นปลายเหมือนกับหานลี่
แตกายเนื้อก็แข็งแกรงกวาคนทั่วไปเพียงไมกี่สวนเทานั้น ทามกลางเสียงดังสนั่น
พลั น ตกลงสู  พ ื ้ น ดิ น ถู ก กดจนกลายเป น ซอสเนื ้ อ จิ ต วิ ญ ญาณดั ้ ง เดิ ม ถู ก ลำแสง
เทวะดูดปราณกวาดผานไป แลวแตกสลายออก
ตั้งแตที่หานลี่ใชเคล็ดวิชาอัสนีหลีกหนีไปจนถึงตอนที่ใชเข็มสูญจิตและภู เ ขา
เทวะดูดปราณสังหารคนของเผาวายุเหลืองระดับแมทัพวิญญาณขั้นสูงนี้ เกิดขึ้นเพียง
ชั่วอึดใจเทานั้น
ไมวาจะเปนคนของเผาวายุเหลืองอีกสองคน หรือวาไปป เหลยหลันและสตรี
เผาราตรีเขียวตางก็ตกตะลึงจนตาคาง แตทันใดนั้นคนของวายุเหลืองอีกสองคนก็รอง
อุทานวา “แยแลว” ในใจ ทันใดนั้นรางกยพลันเปลงอักขระสีทองออก กลายเปน
วิหคประหลาดสีเหลืองสองตัว กลับหลังพุงหนีไปทันที
หานลี่เห็นเชนนั้นพลันเลิกคิ้ว สะบัดแขนเสื้อ สายฟาสีเขียวสายหนึ่งดีดตัวออกมา
จากแขนเสื้อ แคสวางวาบก็เริ่มบิดเบี้ยว ชั่วพริบตาวิหคประหลาดสีเหลือง ตัวหนึ่ง
ก็ปรากฎขึ้น
ไมรอใหวิหคตัวนี้คิดจะหนีดวยความตกตะลึง สายฟากลับมีกรรไกรสีเขียวยาว
สองสามฉื่อปรากฎขึ้น
หลังจากเสียงฟาผาดัง “เปรี้ยงๆ” ดังขึ้น กรรไกรก็กลายเปนมังกรวารีอัสนีสีเขียว
ความยาวสิบจั้งเศษสองตัว ทั้งสองกระโจนไปขางหนา หลังจากที่พัวพันเขาดวยกัน
แลว ชั่วขณะนั้นวิหคประหลาดสีเหลืองก็กลายเปนซากศพสองสวน รวงลงมาจาก
ทองฟา
วิหคประหลาดอีกตัวหนึ่งเห็นเชนนั้น ก็ตกใจจนขวัญกระเจิง เริ่มเปลี่ยนทิศทาง
คิดจะกระโจนไปหาวิหคไมขนาดยักษที่บินเขามา
แตปกของมันเพิ่งจะสะบัด ดานหลังก็มีเสียงของบุรุษดังขึ้น
“นายทานจะไปไหน เพิ่งจะหนีตอนนี้ ไมคิดวาสายไปหรือ!”
ยังไมทันเอยจบก็ใชปกวายุอัสนีไลตามมาอยูดานขางวิหคตัวนั้นตั้งแตเมื่อไหรก็ไมรู
และลงมื อคว า จุ ด สำคั ญ บนตั ว ของวิ ห คประหลาดซึ ่ ง ก็ค ื อคนของเผ า วายุเ หลือง
แปลงกายเอาไว
วิหคตัวนี้มีปฏิภาณไหวพริบวองไวมาก แตปฏิกิริยากลับไมเชื่องชานัก สะบัดปกออก
ขนนกขนาดใหญกลายเปนมีดวายุจำนวนนับไมถวนดาหนากันพุงเขามา ในเวลา
เดียวกันขนเล็กๆ ตรงลำคอก็ลุกชัน มันวาวราวกับทองคำอยางไรอยางนั้น ชั่วครูก็
แทงเขาที่ฝามือของหานลี่ราวกับใบมีดที่แหลมคม
ไอสีดำสวางวาบรางของหานลี่มีเกราะสงครามที่หนาตาดูเปนเอกลักษณปรากฎขึ้น
ชั้นหนึ่ง ใบมีดวายุทั้งหมดที่โจมตีออกมาเปลงเสียงแหลมๆ ราวกับทองคำกระทบกัน
ทยอยกันดีดตัวกลับไป
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น ฝามือที่แข็งแกรงราวกับเหล็กทมิฬตรงลำคอของ
วิหคประหลาด ซึ่งถูกขนนกแหลมคมปกเอาไว กลับไมทิ้งรองรอยการบาดเจ็บใดๆ
ไมมีผลเลยสักนิด
หานลี ่ ห ั ว เราะอย า งเย็ น ชาออกมา ไม ร อให ค นของเผ า วายุ เ หลื อ งสำแดง
ความสามารถอะไรอีก พลันสะบัดแขนนิ้วทั้งหามีพลังมหาศาลทะลักออกมา
เสียง “กอก” ดังขึ้น คอของวิหคประหลาดถูกหักออกเปนสองทอนอยางงายดาย
ในเวลาเดียวกันเปลวเพลิงลำแสงหาสีก็ทะลักออกมาจากนิ้วทั้งหา หอหุมรางของ
วิหคประหลาดตัวนี้เอาไว เปลงแสงสวางวาบสองสามครั้งแลวกลายเปนผุยผง
จากนั้นรางของหานลี่ก็ยืนนิ่งอยูที่เดิม เงยหนาขึ้นมองวิหคไมขนาดยักษที่อยูหาง
ไปไมไกลนัก แววตาฉายแววเย็นชา
แนนอนวาคนของวายุเหลืองสามคนที่อยูบนวิหคไมยอมมองเห็นฉากที่หานลี่
สังหารคนของเผาเขาสามคนไดอยางชัดเจน ทุกคนลวนมีสีหนาซีดขาวไรสีโลหิต
ครั้นเมื่อหานลี่สังหารคนของเผาวายุเหลืองคนแรกนั้น ทั้งสามคงก็ยังมีสีหนา
โกรธเกรี้ยว และพยายามกระตุนวิหคไม คิดจะสับหานลี่ใหเปนชิ้นๆ แตรอจนหานลี่
สังหารอีกสองคนอยางรวดเร็วราวกับสายฟาภายในอึดใจเดียวกัน บุตรศักดิ์สิทธิ์ของ
เผาวายุเหลืองทั้งสามกลับรางกายแข็งคาง เมื่อหานลี่กวาดสายตาไปนั้น ทั้งสาม
ก็แทบจะรูสึกขนลุกซูขึ้นพรอมกัน!
“ไป คนผูนี้มีความสามาถลึกล้ำยากจะคาดเดา พวกเราไมใชคูตอสูของเขา”
สตรีที่มีพลังยุทธสูงที่สุดรองตะโกนออกมาดวยเสียงต่ำๆ แลวออกคำสั่งอยางรีบรอน
อีกสองคนพลันพยักหนาอยางตอเนื่อง ทันใดนั้นทั้งสามคนก็รวมมือกันกระตุน
วิหคไมใตราง ชั่วขณะนั้นก็หันหัวกลายเปนลำแสงสีเหลืองกลุมหนึ่งหนีเตลิดไป
หานลี่มองเห็นฉากนี้พลันขมวดคิ้ว กลับไมไดคิดจะไลตามไป แตปกที่แผนหลัง
พลันกระพือ คนมาปรากฎตัวที่กลางอากาศอีกดาน
สมบัติทรงกลมสีเงินในมือของชาวเผาวายุเหลืองที่ตายดวยน้ำมือของเขาคนแรก
กำลั ง ลอยอยู  ก ลางอากาศ หานลี ่ พ ลั น สะบั ด แขนเสื ้ อ ชั ่ ว ขณะนั ้ น ลำแสงสี เ ขียว
กลุมหนึ่งพลันพุงออกไป มวนเอาสมบัติชิ้นนั้นเขามาอยูในแขนเสื้อ
ครั้นเมื่อเสียงฟาผาดังขึ้นอีกครั้ง รางของหานลี่ก็มาปรากฏขางเหลยหลันและ
พวกอีกครั้ง
เหลยหลั น ไป ป   ร วมทั ้ ง ฉิ นเสี ่ ย วของเผ า ราตรี เ ขี ย วผู  น ั ้ น กลั บ พากั น ตาถลน
มองไปยังหานลี่ดวยความตกตะลึงโดยไมไดเอยอะไรออกมาสักคำ
ทั้งสามเห็นคนของเผาวายุเหลืองจำนวนมากขนาดนี้ หนึ่งในนั้นยังมี แม
ทัพวิญญาณระดับสูงสองคน เดิมทีก็คิดวาคงหนีหายนะครั้งนี้ไดยากแลว แตคิด ไม
ถึงวาหานลี่แคลงมือก็สังหารศัตรูที่แข็งแกรงสามคนไปไดในชั่วพริบตา และทำใหศัตรู
อีกกลุมหนึ่งลาถอยไป
สวนหานลี่นั้นก็อยูแคระดับแมทัพวิญญาณเทานั้น มันนาจะเหลือเชื่อเกิ น ไป
หนอยกระมัง!
“ไปกันเถิด เราไมควรอยูที่นี่นาน รีบไปกันเถิด!” หานลี่กวาดตามองทั้งสามคน
แวบหนึ่ง แลวเอยดวยสีหนาราบเรียบ
“ขอรับ ทุกอยางวาตามที่พี่หานกลาว!” ไปปพนลมหายใจยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่ง
และเปนฝายไดสติขึ้นมาเปนคนแรก
ตอนที่ 1449 แดนน้ำแข็งทมิฬและเสนทางหมื่นเถาวัลย
ไปปไมมีเจตนาจะขัดขืนคำสั่งของหานลี่อีกแมแตนอย เหลยหลันและหญิงสาว
เผาราตรีเขียวที่อยูดานขางก็ตกตะลึงแลวเผยสีหนาหวาดกลัวออกมา
หานลี่กลับมีสีหนาราบเรียบ หลังจากที่กวักมือเรียกทั้งสามแลวก็บินไปขางหนา
โดยไมปริปากใดๆ
คนที่เหลืออีกสมคนก็กลายเปนลำแสงวิญญาณสามกลุมไลตามไป
“สหายฉิน ขาจำไดวาเผาราตรีเขียวดูเหมือนวาจะไมไดมีแคคนเดียว สหายคนอื่น
ละ?” ระหวางทางเหลยหลันพลันเอยถามฉินเสี่ยวดวยความประหลาดใจ
“เผาของเราสงบุตรศักดิ์สิทธิ์มาทั้งหมดสามคน แตหลังจากเขามาที่ชั้นสองแลว ก็
พบกับศัตรูสาขาอื่นๆ สองสามคน คนที่เหลือลวนเพลี้ยงพล้ำไปแลว เดิมทีขาก็อยาก
แอบอยูที่ทางเขาชั้นสาม ดูวาจะโชคดีไดผลเพลิงยมโลกสักผลหรือไม แตกลับคิดไมถึง
วาจะพบคนของเผาวายุเหลืองกลางทาง แลวถูกไลสังหารมาที่นี่” หญิงสาวที่มีเขา
สีเขียวมรกตบนหัว ตอบกลับดวยสีหนาเจ็บปวด
“ออ คนของเผาวายุเหลืองจำนวนมากขนาดนี้ มาไลตามสหายเพียงคนเดียว?”
เหลยหลันแววตาเปลงประกายเผยสีหนามีเลศนัยออกมา
“นาจะเปนเพราะวาขาพกสมบัติของเผาสองสามชิ้นมาดวยกระมัง” หลังจากที่
ฉินเสี่ยวลังเลเล็กนอย ถึงไดเอยออกมาอยางระมัดระวัง
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง” เมื่อเห็นอีกฝายยอมรับ เหลยหลันก็เลิกคิ้วเรียว แตไมได
เอยซักถามตอ
“สิ่งที่ทำใหคนของเผาวายุเหลืองไลตามมาอยางไมลดละเชนนี้ หรือวาสหายฉินมีหนึ่ง
ในสามสมบัติวิเศษของเผา” ไปปกลับเอยปากแทรกขึ้น
“ในตัวนองหญิงมีกาน้ำชาผสมปราณอยูจริงๆ” ฉินเสี่ยวหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
หลังจากผานไปชั่วครูถึงไดเอยออกมาอยางจนปญญา
“กาน้ำชาผสมปราณ ที่ใชพลังผสมปราณควบคุมสมบัติของศัตรูไดนะหรือ” ไปป
และเหลยหลันพลันหนาเปลี่ยนสี
“ใช แ ล ว สมบั ต ิ ช ิ ้ นนี ้ แ หละ หากไม ใ ช เ พราะยื ม ของสิ ่ง นี ้ ม า แม ท ั พ วิ ญ ญาณ
ระดับกลางที่ต่ำตอยคนหนึ่งอยางขาจะหนีการไลลาของคนเผาวายุเหลืองมาหลายวัน
ไดอยางไร นาเสียดายที่ทุกครั้งที่ใชกาน้ำชานี้จะตองเสียผลึกศิลาผสมปราณที่หายาก
หลายก อน แม ว า ข า จะนำผลึ ก ศิล าในเผา มาหลายก อน แต ก ็ ใ ช ไ ปจนหมดแลว”
หญิงสาวถอนหายใจขณะเอย
เมื่อไดยินหญิงสาวเอยเชนนี้ เหลยหลันและไปปก็อดจะมองไปทางหานลี่ที่อยู
ดานหนาแวบหนึ่งไมได
แตหานลี่ยังคงนำทางอยูโดยไมแมแตจะหันกลับมา ราวกับวาไมไดยินคำพูด
เหลานีเ้ ลยอยางไรอยางนั้น
เมื่อเห็นวาหานลี่ไมมีทาทางดีใจเลยสักนิด หลังจากที่เหลยหลันและพวกทั้งสอง
มองสบตากันแวบหนึ่ง ทันใดนั้นก็ไมไดเอยถึงเรื่องนี้อีก กลับพูดคุยถึงเรื่องชั้นสามของ
หุบเหวกลับฉินเสี่ยวอยางมีมารยาทแทน
ฉินเสี่ยวเห็นเชนนั้นก็รูสึกผอนคลายลง
แมจะกลาววาเผาราตรีเขียวและเผาวิหคสวรรคมีสนธิสัญญาตอกัน แตนั่นก็เปน
แค ส ั ญ ญาปากเปล า เท า นั ้ น ไม ม ี ผ ลผู ก พั น อะไรที ่ จ ะรั บ ประกั บ ได หากอี ก ฝ า ย
ทั้งสามคนคิดจะชิงสมบัติ จากความสามารถของหานลี่ที่เพิ่งสำแดงออกมา นาง
ก็ไมอาจตานทานไดเลยสักนิด
ทวากลับกันแลว จากความมุทะลุและดุรายของหานลี่เมื่อครู หากจะขอเปนที่พึ่ง
และเปนทัพเสริม ติดตามเขาไปก็เปนเรื่องที่ปลอดภัยมาก
โอบกอดความคิดนี้ไว ฉินเสี่ยวไมไดเอยถึงเรื่องที่จะจากไป พลางพูดคุยกับ
เหลยหลันดวยใบหนาที่ประดับไปดวยรอยยิ้ม และพยายามผูกมิตรกับสตรีผูนี้พรอม
กับสังเกตสีหนาของอีกฝายทันที ไมนานทั้งสองก็เรียกกันวาพี่หญิงและนองหญิง
ไปปเห็นเชนนั้น พลันขมวดคิ้วนอยๆ
สองวันตอมาคนกลุมนี้ที่สังหารปศาจระดับต่ำไปสองสามกลุม ในที่สุดก็บินออก
จากเทือกเขา เบื้องหนากลับมีแดนน้ำแข็งประหลาดๆ ปรากฎขึ้น
ลำแสงหลีกหนีของคนกลุมอดที่จะลดระดับลงไมได ทยอยกันพิจารณาทุกอยางที่
อยูเบื้องหนา
ธารน้ำแข็งสีดำแวววาวกวางไกลจนสุดลูกหูลูกตา วายุเย็นเยียบเปนระลอกๆ
ปกคลุมเอาไว เกล็ดหิมะสีดำจำนวนนับไมถวนโปรยปรายลงมา เสียงกรีดรองแหลมๆ
ดั ง ขึ ้ นเป นระยะๆ ราวกั บ ว า คื อ เสี ย งภู ต ผี ก รี ด ร อ งจนส ว นลึ ก ของธารน้ ำ แข็ ง ที่
สะทอนกองไปมาอยางไรอยางนั้น
มองออกไปไกลๆ สวนลึกของธารน้ำแข็งยิ่งเปนสีดำสนิท ดูเหมือนวาจะไมมี
ลำแสงเลยสักนิด ราวกับประตูไปสูยมโลกก็ไมปาน
“ที่นี่คือแดนน้ำแข็งทมิฬที่มีชื่อเสียงของชั้นสองสินะ ไดยินวาที่นี่เปนที่อยูอาศัย
ของปศาจน้ำแข็งทมิฬระดับต่ำและกลางจำนวนมาก แมกระทั่งเคยมีคนบังเอิญพบกับ
ราชันยปศาจน้ำแข็งทมิฬที่นี่” หานลี่เอยปากราวกับรำพึงรำพันกับตัวเอง
“พี่หานพูดถูก ที่นี่คือแดนน้ำแข็งทมิฬ ทวาปศาจสวนใหญในแดนน้ำแข็งทมิฬจะ
เปนปศาจระดับต่ำและกลาง ยังไมเบิกเนตร สวนราชันยปศาจน้ำแข็งทมิฬนั้น มันเปน
แคขาวลือ เหมือนวาจะมีแคไมกี่คนที่ไดเห็นกับตา” ฉินเสี่ยวเอยตออยางชาญฉลาด
“ทว า ที ่ น ี ่ ด ู แ ล ว อั น ตรายมาก แต ค วามจริ ง แล ว คนโง เ ขลาก็ ย ั ง รู  ว  า จาก
ความสามารถของพวกเรานั้น ก็สามารถผานที่นี่ไปไดอยางไมมีปญหา” ไปปกลับ
ฉีกยิ้มออกมา
“ตามหลักการแลวที่นี่ก็ดูไมมีอันตรายอะไรจริงๆ แตการระเบิดของปศาจใน
หุบเหวครั้ ง นี ้ใ กล เขา มาแลว ควรระวังสัก หน อยจะดี ก ว า เอาละ พวกเราเข า ไป
กันเถิด!” หานลี่พยักหนาออกคำสั่งสองสามประโยค แลวถึงสยายปกที่แผนหลังออก
เพิ ่ ม ความเร็ ว ขึ ้ นสองสามเท า หลั ง จากกระพริ บ วาบสองสามครั ้ ง ก็ ท ะลวงผาน
หิมะน้ำแข็งสีดำที่อยูใกลๆ ไป
เหลยหลันและพวกทั้งสามคนมองสบตากันแวบหนึ่ง แลวทยอยกันจมหายเขาไป
ขางใน
มองออกไปไกลๆ ในตอนแรกนั้น ไกลออกไปตางมีลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบ
และมีลำแสงหลีกหนีลางๆ สองสามจุดปรากฎอยู
แตเมื่อวายุทมิฬที่รุ นแรงพัดหิมะสี ดำจำนวนวมากเขามาแล ว คนกลุมนั ้ นก็
หายวับไปทามกลางความมืดมิด
……
เสียง “ปง” ดังขึ้น ปศาจที่เหมือนกับแรดสูงสิบจั้งเศษตัวหนึ่งก็ลมตึงลงกับพื้น
รางกายอันใหญโตของมันทำใหพื้นดินรอบๆ สั่นคลอน
ลำแสงสีแดงเปลงแสงเจิดจา เสนไหมสีแดงจำนวนยี่สิบสามสิบเสนพุงออกมาจาก
รางสีดำของแรด หลังจากเปลงแสงสวางวาบก็ทยอยกันจมหายเขาไปในเงารางที่มี
ลำแสงสีแดงปกคลุมอยู
“ศิษยพี่จู เสนไหมผลึกเพลิงของเจาบริสุทธิ์ขึ้นเรื่อยๆ แลว ผิวของแรดทมิฬ
ระดับกลางแข็งแกรงไมดอยไปกวาปศาจระดับสูง ศิษยพี่ยังสามารถสังหารมั น ได
อยางงายดาย ขาวาแมวาจะเปนเฟยเยี่ยของเผาหนานหลง ก็ไมวิธีเชนนี้” เงาราง
คนติดปกที่ถูกลำแสงสีแดงหอหุมอยูอยูดานขางพลันเอยขึ้น ผูที่อยูกับเขาคนอื่นๆ
ก็ยังเอยชื่นชมเชนกัน
คนที่ลงมือคือ จูอินจื่อของเผาแดงสด! คนที่เหลือก็เปนบุตรศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆ ของ
เผาเดียวกัน
จุดที่พวกเขาอยูกลับเปนที่ราบลุมรูปวงแหวนขนาดสองสามพันลี้ รอบดานลวน
เปนปารกทึบสีดำเขียว ตรงกลางเปนที่โลงกวางรอยกิโล บนพื้นมีไขสีเทาๆ ขนาดเทา
ศีรษะกองอยูเต็มไปหมด
และตรงใจกลางของกองหินเหลานั้น กลับมีถ้ำสีดำขนาดรอยจั้งเศษอยูแหงหนึ่ง
ทอดตัวลงไปใตดนิ
คนของเผ า แดงสดและพวกรั ก ษาการณ อ ยู  ท ี ่ ท างเข า ของถ้ ำ เห็ น ได ช ั ด ว า
ปศาจแรดทมิฬตัวนั้นสิ่วอยูในปาบริเวณใกลๆ แตกลับถูกจูอินจื่อไลตามไปสังหาร
“หึ พวกเจาฟงใหดี พวกเรารักษาการณอยูที่ทางเขามาสามสี่วันแลว นอกจาก
สังหารเผาเล็กๆ ทั้งหมดแลว คนของเผาวิหคสวรรคก็ไมไดมาที่นี่ ดูแลวพวกเขาคงไป
ตามเส น ทางที ่ เ หลื อ อี ก สองสาย หรื อ ไม ก ็ ว นเวี ย นอยู  ใ นชั ้ น สอง ส ว นเผ า อื ่ นๆ
เดาว า คนมี ค นเข า ไปในชั้ นสามแล ว คนของเผ า วิ ห คสวรรค จ ะต องสั ง หารทิ้งซะ
แตผลเปลวยมโลกเองก็ ไม อาจปล อยวางได เชนนี้ดีกวา สือเทียน หงซาพวกเจ า
สองคนตามขาไปที่ชั้นสาม สวนคนที่เหลือก็เฝาอยูที่นี่ตอไป ผลเพลิงยมโลกของ
พวกเจา ขาจะชวยพวกเจาตามหาเอง” จูอินจื่อกลับขบคิดอยูชั่วครู แลวเอยเชนนี้
ออกมา
“ศิษยพี่จู เจาผูแซหานของเผาวิหคสวรรคดูเหมือนวาจะมีพลังยุทธไมออนแอ
หากเหลือศิษยพี่แคไมกี่คนละก็ จะเกิดอะไรขึ้นหรือไม” สือเทียนที่อยูทามกลางฝูงชน
กลอกตาไปมาแลวเผยสีหนากังวลใจออกมาขณะเอย
“หึ ๆ จุ ด นี้ ว างใจได ศิ ษ ย น องโหยวพลั ง ยุ ท ธ ไ ม ไ ด ด  อ ยไปกว า ข า เท า ใดนั ก
และขาจะทิ้งสมบัติระฆังตกวิญญาณของเผาเอาไว หากกระตุนระฆังนี้ทั้งไมมีเสียง
และไมมีรูปราง ไมอาจปองกันได ตอใหเปนระดับผูบัญชาการวิญญาณ หากไมระวัง
ตัวก็มีแตตองตายเพียงเทานั้น หากศิษยนองโหยวหมอบซุมอยูละก็ ตองไมเปนไรแน”
จูอินจื่อดูเหมือนวาจะขบคิดเรื่องนี้มานานแลว จึงเอยอยางไมตองคิด
จากนั้นพลันอาปากออก พนลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งออกมา มันหอหุมระฆังเล็กๆ
ความสูงสองสามชุนเอาไว ดูเกาแกและงดงาม
มือหนึ่งชี้ออกไป ระฆังนอยเปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไป แตครูตอมาระฆัง
ก็ เ ปล ง เสี ย งร อ งต่ ำ ๆ ปรากฎขึ ้ น เหนื อ ศี ร ษะของชายร า งใหญ แ ห ง เผ า แดงสด
แลวรอนลงอยางชาๆ
“ขอบพระคุณศิษยพี่ที่ประทานสมบัติให ผูแซโหยวจะทำหนาที่อยางเต็มที่!”
ชายรางใหญแซโหยวชูมือขึ้นไปรับระฆังใบนอบเอาไว พลางเอยดวยเสียงเครงขรึม
ใบหนาไรความรูสึก น้ำเสียงแหลมปดราวกับทองคำเสียดสีกันอยางไรอยางนั้น
แมวาชายรางใหญแซโหยวจะพูดไมมากนัก แตจูอินจื่อกลับดูเหมือนวาจะเชื่อมั่น
ในตัวเขาเปนอยางมาก หลังจากพยักหนาก็กวักมือพาสือเทียนและหงซากลายเปน
ลำแสงสีแดงสามสาย บินเขาไปในถ้ำ
“ฟงใหดี! ตั้งแตนี้ไปทุกคนตองอำพรางกาย อยาเผยรองรอยในบริเวรนี้ ขาจะวาง
เขตอาคมอำพรางปราณไวในทางเขา หากเปาหมายมาถึงที่นี่จริงๆ ขาจะใชระฆัง
ตกวิญญาณลอบโจมตี พวกเจาคอยปรากฎตัวก็ไมสาย” ชายรางใหญกลับออกคำสั่ง
ทันทีอยางไมเกรงใจหลังจากที่จูอินจื่อจากไป
ชายรางใหญแซโหยวดูเหมือนวาจะอำนาจไมนอยในบรรดาบุตรศักดิ์สิทธิ์ของ
เผาแดงสด คนที่เหลือตางก็ไมไดมีขอคิดเห็นอะไร ทันใดนั้นก็พากันรายอาคม อัญเชิญ
สมบัติตางๆ ออกมา
ชั่วพริบตาคนที่เหลือก็ทยอยกันอำพรางกายหายไปจากกลางอากาศ
สวนชายรางใหญแซโหยวพลันเคลื่อนไหว บินเขาไปในความมืดมิดของถ้ำ
ครานี้รอบๆ ถ้ำยักษพลันเปลี่ยนเปนเงียบสงัด
……
ชั้นสองในปาลึกอีกแหงหนึ่งที่เต็มไปดวยตนไมยักษสีดำเขียว มองออกไปรอยลี้
เสายักษสีดำเหลืองตนหนึ่งกำลังตระหงานอยูบนเนินเขาสูงเสียดฟา
มองไปใกล ก ั น นั ้ น จะพบสิ ่ ง ที ่ เ รี ย กว า “เสายั ก ษ ” นั ้ น คิ ด พื ช ขนาดใหญ
เสนผาศูนยกลางสองสามลี้ ราวกับใชเถาวัลยหนาๆ จำนวนนับไมถวนมาขดรัดเอาไว
จากนั้นก็พุงสูงขึ้นไปกลางอากาศ
ในรัศมียี่สิบสามสิบลี้ที่พืชตั้งตระหงานอยู คาดไมถึงวาจะไมมีตนไมใบหญาสักตน
ราวกับทะเลทรายอยางไรอยางนั้น แตครานี้ตรงสวนรากของพืชกลับมีเสียงระเบิด
ตูมๆ ดังขึ้น ในเวลาเดียวกันพลันมีลำแสงหลากสีสันเปลงแสงสวางวาบไมหยุด
คาดไมถึงวาจะมีคนของเผาวิญญาณเหาะเหินถูกผีเสื้อสีเหลืองทองนับพันหมื่นตัว
กักเอาไวกลางอากาศต่ำๆ
คนสองกลุมนี้กลุมหนึ่งมีประมาณสิบกวาคน มีทั้งบุรุษและสตรี แตทุกคนลวนมี
รอยสักสีดำบนใบหนา อีกกลุมหนึ่งกลับมีแคสี่คน แตทุกคนลวนเปนบุรุษรา งกาย
สูงใหญเปนพิเศษ ที่แผนหลังสะพายดาบอันใหญยักษอยู
ผีเสื้อที่บินลอมพวกเขาลวนเปลงแสงสีทองเรืองๆ ขนาดเทากำปน พวกมันเอง
ก็ไมยอมเขาใกลคนของเผาวิญญาณเหาะเหินเหลานั้น แคกระพือปกทั้งสองอยูไกลๆ
ผงผีเสื้อหลากสีสันรวงลงมาเต็มทองฟา ทำใหคนของเผาวิญญาณเหาะเหินเหลานี้
ถูกหอมลอมเอาไวอยางแนนหนา
ผงผีเสื้อเหลานี้ดูเหมือนจะธรรมดา แตเมื่อคนสองกลุมถูกลอมเอาไวขางในตางก็
ไมกลาใหผงเหลานั้นอาบยอมรางกายแมเพียงนิด ทยอยกันสำแดงเคล็ดวิชาลับตางๆ
ออกมาอยางตอเนื่อง สมบัติสองสามชิ้นกลายเปนลำแสงตางๆ ปกปองพวกเขาเอาไว
อยางแนนหนา
ตอนที่ 1450 อสูรนอยและน้ำแข็งทมิฬ
ในบรรดาคนของเผ า วิ ญ ญาณเหาะเหิ น เหล า นี ้ ก ลั บ มี ส องคนที ่ ย ื น นิ ่ ง อยู
กลางอากาศ ตั้งแตตนจนจบไมไดมีเจตนาจะลงมือ
หนึ่งในนั้นคือ ผูที่มีรางกายผอมเตี้ย นั่นก็คือ เอาชิงแหงเผาชีเยว
อีกคนหนึ่งกลับเปนบุรุษสูงใหญมีดวงตาสี่ดวง ทั้งสองคนหนึ่งมีสีหนาราบเรียบ
คนหนึ่งกำลังขมวดคิ้วมุน
“สหายเอา กอนหนานี้ทางหมื่นเถาวัลยไมเคยมีปศาจแมลงอยางผีเสื้อยมโลกทอง
มากอน แมลงนี้นาจะอยูในชั้นสี่ถึงจะถูก ดูแลวคงเกิดอะไรขึ้นสักอยางในหุ บเหว
มิเชนนั้นปศาจชั้นลึกๆ เหลานี้คงไมมาปรากฎตัวที่นี่” เมื่อเห็นวาคนอื่นๆ ถูกผงผีเสื้อ
หลากสีสันลอมเอาไว การโจมตีของพวกเขากลับไมอาจทำอะไรผงผีเสื้อประหลาด
เหลานี้ได ชายรางกายสูงใหญก็เอยปากขึ้นอยางแชมชา
“เรื่องนี้เจาไมพูดขาก็รู ในเมื่อพบปศาจระดับกลางที่ชั้นหนึ่งได พบผีเสื้อยมโลกทอง
ที่นี่ก็ไมใชเรื่องแปลกอะไร เรื่องเหลานี้ไมใชความผิดของพวกเรา แนนอนวาตองให
อาวุโสในเผาเปนผูรับผิดชอบ แตหลังจากมาถึงชั้นสามแลว เจาก็เอาแตอยูหลังขา
แลวอยามาโทษวาขาลงมือกอนละ” เอาชิงตอบกลับอยางเยือกเย็น
“แมหญิงเอาเหตุใดถึงตองไรน้ำใจถึงเพียงนี้! ผูแซเฟยมีใจตอสหาย ขานอยไป
สูขอที่เผาเจามาสามครั้งแลว แตทุกครั้งลวนถูกแมหญิงปฏิเสธ ผูแซเฟยไมเขาใจเลย
แตไหนแตไรมาเผาของเจาลวนรักษาความแข็งแกรงเอาไว สหายเอาเองก็ปลอยขาว
ลือออกไปวาจะแตงกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังแข็งแกรงที่สุด หรือวาผูแซเฟยไมเหมาะ
กับเงื่อนไขนี้?” ดวงตาทั้งสี่ของบุรุษรางกายสูงใหญมีลำแสงประหลาดไหลเวียนอยู
พลางเอยดวยน้ำเสียงเครงขรึม
คาดไมถึงวาเขาจะเปนผูที่มีชื่อเสียงเทียบเทากับจูอินจื่อ และเอาชิงอยางเฟยเยี่ย
แหงเผาหนานหลง!
“ใช บุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาชีเยวของพวกเรา ไมวาบุรุษหรือสตรีลวนตองแตงกับ
คนรุนเดียวกันที่มีพลังแข็งแกรงที่สุดของสาขาอื่น แตฝมือของเจามีแคไหน คนอื่นไมรู
แต ข  า จะไม ร ู  ห รื อ ? กำลั ง แค นี ้ ข า ยั ง ไม ส นใจ เจ า ก็ ถ ื อโอกาสนี ้ ล  ม เลิ ก ความคิ ด
ไปเสียเถิด!” เอาชิงเผยสีหนายิ้มเยาะออกมา
“ข า รู  ว  า สหายเอ า มี ค วามสามารถเกรี ย งไกร ผู  แ ซ เ ฟ ย รู  ว  า เที ย บเที ย มมิ ไ ด
แตในบรรดาบุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาตางๆ นอกจากผูแซเฟยแลว คนอื่นๆ ก็ไมเหมาะที่
จะเปนคูบำเพ็ญเพียรของสหาย หากขานอยยังไมมีโอกาสละก็ คนอื่นๆ ก็คงไมอยูใน
สายตาของสหายเชนกัน อีกอยางหรือวาสหายสนใจเจาจูของเผาแดงสด หากเปน
เช นนั ้ นล ะ ก็ ข า ก็ จ ะไปตามหาเขา แล ว สั ง หารเขาซะ” เฟ ย เยี ่ ย ถลึ ง ตาใสเ อาชิง
ขณะเอย
“จูอินจื่อ? หึ เขานะหรือ! แมแตเจาขายังไมพอใจเลย แลวจะไปสนใจเขาได
อยางไร ทวาตอนที่รวมตัวกันนั้น ขาพบคนที่นาสนใจอยูคนหนึ่ง แมวาจะไมทันได
ตรวจสอบฝมือดวยตนเอง แตความรูสึกของเขาที่สงมายังขานั้น นาจะมีความสามารถ
ไมดอยไปกวาเจา” เอาชิงพลันหัวเราะอยางแผวเบาออกมา
“บุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาใด บอกขามา! ขาจะไปกำจัดคนผูนั้น หากความสามารถ
แข็งแกรงกวาขานั้นก็ชางเถิด ขาจะไมมาวุนวายกับเจาอีก ถาหากสูขาไมได หึๆ…”
เฟยเยี่ยไดยินชั่วพริบตานั้นสีหนาก็ดำคล้ำขึ้น
ภายใตการติดตามของคนเผาตนเองทั้งบุรุษและสตรีแลว ทั้งสองก็สนทนากัน
ราวกับรอบขางไมมีผูคน ไมสนใจการโจมตีจากผีเสื้อทองรอบๆ เลยสักนิด
และในครานี้ภายใตการถูกกดดันจากผงผีเสื้อรอบๆ คนอื่นๆ ในเผาลวนสำแดง
ความสามารถปกปองออกมาเปนวงๆ และกำลังแตกเปนชุนๆ เขามาขางในไมหยุด
ดูแลวไมอาจยืนหยัดไดนานนัก
“เจายอมทดสอบความสามารถของคนผู น ี้ก็ด ี คนผูนี้คือ บุตรศักดิ์สิทธิ ์ ข อง
เผาวิหคสวรรค ดูเหมือนวาจะแซหาน หนาตาไมคุนเคย สวนเรื่องอื่นขากลับไมไดถาม
อยางละเอียดนัก” เอาชิงหนาเปลี่ยนสี คาดไมถึงวาจะพยักหนาเห็นดวย
“บุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิหคสวรรค บุตรชองสาขาที่ออนแอเชนนั้น จะมีผูที่
แข็งแกรงอะไรได” เฟยเยี่ยรูสึกตะลึงงันไปเล็กนอย
“เรื่องนี้มันพูดยาก! เผาวิหคสวรรคนั้นออนแอ แตก็ไมไดหมายความวาพวกเขา
จะไมมีบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่เปนยอดอัจฉริยะ อยาลืมละขาฝกฝน ‘คาถาทะลวงเจ็ดทวาร’
ที่ลึกลับที่สุดของเผา ข า ในดานประสาทสัมผัส นั้ น ยอมไมมีเคล็ดวิชาไหนในทั้ ง
เจ็ดสิบสองสาขาเทียบเทียมได แมวาขาจะมองคนผูนั้นจากไกลๆ แตขากลับรูสึกวา
ลึ ก ลั บยากจะคาดเดา หากเจ า อยากไปประมื อกั บ คนผู น ั้ น ก็ อย า เอาชีว ิ ตนอยๆ
ของตนเองไปทิ้งเขาละ” เอาชิงเอยอยางเย็นชา
“เจาพูดเชนนี้ยอมได! แตหากเจามองผิดไป หลังจากการทดสอบจบลง ขาจะมาสูขอ
เจากับเผาชีเยวอีกครั้ง หากจำไมผิดละก็ พิธีเปลี่ยนสภาพของเจานาจะเกิดขึ้นในอีก
ไมกี่ปสินะ ครั้งนี้เจานาจะไมมีโอกาสปฏิเสธขาไดอีกแลว” เฟยเยี่ยเอยดวยเจตนา
บีบบังคับสวนหนึ่ง
“หึ เจาชางรูดีไมนอย ใชแลว พิธีการบรรลุนิติภาวะของขาจะเกิดขึ้นในอีกสามป
ใหหลัง ไมอาจยืดเวลาออกไปไดอีก หากคนผูนั้นสูเจาไมได ทั้งเผาวิญญาณเหาะเหิน
ก็นาจะไมมีผูใดในรุนเดียวกันแข็งแกรงกวาเจาอีก หลังจากกลับไป ขาจะยอมแตงงาน
กับเจา” เอาชิงยืดคอขึ้น พลางเอยอยางทระนงตน
“ฮาๆ ตกลงตามนี้ หากพบเจาผูแซหานที่ชั้นสามไดก็จะดีมาก หากไมไดก็รอกลับไป
คอยทาประลองกับเขา คนผูนี้ทำใหเจาสนใจได คงไมแมแตผานการทดสอบไมได
กระมัง” เฟยเยี่ยหัวเราะอยางบาคลั่งออกมา สองตาเผยจิตสังหารออกมา
“แลวแตเจาก็แลวกัน แมลงปศาจเหลานี้ชางรกหูรกตานัก เจาจะลงมือ หรือให
ขาลงมือ” เอาชิงกวาดสายตาไปรอบๆ แลวเอยอยางราบเรียบ
“หึๆ เรื่องกลวยๆ แคนี้มอบใหผูแซเฟยเถิด” ชายรางใหญฉีกยิ้ม ฉับพลันนั้น
มือหนึ่งพลันตบไปที่สวนหลังของกระบี่ ชั่วขณะนั้นหลังจากกระบี่เปลงเสียงหึ่งๆ
ออกมา ก็พวยพุงขึ้นไปกลางอากาศ กลายเปนลำแสงสีทองหนาๆ สายหนึ่ง หมุนวน
อยูกลางอากาศ
แทบจะในเวลาเดี ย วกั น นั ้ น เฟ ย เยี ่ ย พลั น กระโจนพุ  ง ไปข า งหน า กลายเป น
วิหคประหลาดหัวเปนมังกรวารีหางเปนปลาวาฬ หลังจากนั้นพลันสยายปกทั้งสอง
ออกพุงขึ้นไปบนทองฟา หลังจากกระพริบวาบสองสามครั้ง เงารางวิหคยักษก็จมหาย
เขาไปในกระบี่ที่กลายเปนลำแสงสีทอง แลวผสานตัวเปนหนึ่งเดียวกัน
เมื่อเห็นวามีคนกระโจนออกมาจากเขตปองกัน ผีเสื้อทองรอบดานก็เปลงเสียง
รองหึ่งๆ ขึ้น ชั่วขณะนั้นผีเสื้อฝูงใหญพลันกระโจนเขามา
พวกมันไมทันไดเขาใกลก็มีผงจำนวนนับไมถวนทะลักไปหาลำแสงสีทอง
เสียงดังสนั่นราวกับฟาผากลางวันแสกๆ ดังขึ้น ทันใดนั้นลำแสงสีทองก็ขยายตัวขึ้น
หลายเทา ลำแสงสีทองจำนวนนับไมถวนพุงลงมาราวกับหาฝน ชั่วครูก็หอหุมฝูงผีเสื้อ
ดานลางเอาไว
ผงหนาๆ ที่เดิมทีเรียงกันเปนชั้นๆ สัมผัสกับลำแสงสีทองเหลานั้นก็มีกลิ่นไหม
ลอยออกมา ทยอยกันถูกทะลวงผาน
เชนนั้นผีเสื้อทองฝูงใหญที่หลบอยูใตผงผีเสื้อ ก็รวงลงสูพื้นหลังจากที่ลำแสงสีทอง
เปลงแสงสวางวาบ
ชั่วพริบตาก็ถูกสังหารไปกวาครึ่ง
ผี เ สื ้ อ ยั ก ษ ใ นบรรดาผี เ สื ้ อ ยมโลกทองเห็ น เช น นั ้ น ก็ ร  อ งอุ ท านด ว ยเสี ย ง
ประหลาดๆ ออกมา ทั น ใดนั ้ น ผี เ สื ้ อ ทองที ่ เ หลื อ ก็ ส ลายตั ว ออกแล ว บิ น หนี ไ ป
รอบทิศทาง
เอาชิงที่อยูทามกลางผูคนเห็นเชนนั้นพลันมีสีหนาเครงขรึม ปากพลันบริกรรมคาถา
ที่แผนหลังมีเงาลวงตายักษสีดำปรากฎขึ้น
เงาลวงตานี้ดูลางเลือนมาก คาดไมถึงวาจะเปนรูปศีรษะประหลาดๆ เจ็ดศีรษะ
บางก็มีหัวคลายวานร บางก็คลายมิคาทน…
ทุกตัวลวนมีหนาตาโหดเหี้ยม!
ภายใตการกระตุนดวยคาถาอาคมของเอาชิง ดวงตาทั้งหมดของหัวเหลานั้น
พลันเบิกขึ้น เผยดวงตาสีแดงสดออกมาพรอมกัน จากนั้นพลันอาปากออก
ลำแสงสีเขียวเจ็ดกลุมทะลักออกมา เปลงแสงสวางวาบแลวไปอยูในจุดที่ไกลออกไป
มวนตัวไปรอบทิศทาง
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฎขึ้น
ทุกแหงที่ลำแสงสี เ ขีย วเจ็ด กลุ มกวาดไปนั ้น ผีเสื้อทองทั้ง หมดพลั นหมุ น วน
ถูกมวนเขาไปขางใน ทันใดนั้นก็ระเบิดตัวเองออกทามกลางลำแสงสีเขียว กลายเปน
วารีสีโลหิต
ผีเสื้อที่หนีเตลิดไปทั่วทุกสารทิศ สุดทายแลวก็หนีไปไดแคหนึ่งในสิบสวนเทานั้น
ครานี้ลำแสงสีทองกลางอากาศพลันหมนแสงลง เฟยเยี่ยที่สะพายกระบี่ยกั ษไวที่
หลังพลันปรากฎกายขึ้น
เขามองไปยั ง เงาลวงตาเจ็ด หัวที่ อยูท ี่ แผน หลัง ของเอาชิ ง ใบหนาเผยสี ห น า
หลงใหลไดปลื้มออกมา
เงาสี ด ำเล็ ก ๆ สายหนึ ่ ง เปล ง แสงสว า งวาบ ป ศ าจสี ด ำแวววาวสองสามตั ว
ถู ก ฉี ก ออกเป นชิ ้ นๆ ในพริ บตาด ว ยน้ ำ มื อ ของกรงเล็ บ สี ข าว ไอสี ด ำเป น กลุ  ม ๆ
พลันปรากฎขึ้น ตรงนั้น
เงาลวงตาเล็กๆ นั้นมีไอสีดำลอมรอบอยู ดูดพวกมันเขาไปจนเกลี้ยง ทันใดนั้น
ก็หมุนวนกลางอากาศ เงาลวงตาบินกลับมาที่หัวไหลของหานลี่ เผยรางอสูรนอย
ขนาดเทาลูกแมวออกมา
นั่นก็คือ อสูรเกล็ดมิคาทนที่ถูกหานลี่กำราบเอาไว
“จุๆ คิดไมถึงจริงๆ วาอสูรวิญญาณตัวนี้ของพี่หานจะมีประโยชนตอน้ำแข็งทมิฬ
ถึงเพียงนี้ พวกเราไมทันไดสัมผัสถึงการมีอยูของพวกมัน มันก็ปรากฎตัวขึ้นกอนแลว
ไมทราบวาอสูรวิญญาณชนิดนี้มีนามวาอันใดหรือ นองหญิงเพิ่งเคยเห็นเปนครั้งแรก
จริงๆ” หญิงงามคนหนึ่งที่อยูดานขางเอยชื่นชม นั่นก็คือ ฉินเสี่ยวของเผาราตรีเขียว
เหลยหลันและไปปมองไปยังอสูรเกล็ดมิคาทน แววตาเผยแววตกตะลึงออกมา
“ชื่ออะไรขาก็ไมแนใจนัก แคบังเอิญปราบมันไดขางนอก ขาเองก็คิดไมถึ งวา
มันจะชอบดูดซับไอน้ำแข็งทมิฬเหลานี้” หานลี่ใชมือหนึ่งลูบไปที่ศีรษะที่มีขนปกคลุม
ของอสูรนอย แลวเอยดวยรอยยิ้มจางๆ
พอเขามาในแดนน้ำแข็งทมิฬไดไมนาน อสูรนอยที่แตเดิมกำลังหลับอุตุอยูกับ
อสูรวิญญาณครวญในกำไลเก็บของของหานลี่ก็ตื่นขึ้นมา และใชจิตสัมผัสเชื่อมโยงกับ
หานลี่พรอมบอกวาอยากออกมาอยางรอนรน
แนนอนวาหานลี ่พลั นรูสึ ก ประหลาดใจไปเล็ก น อย แตก็รูวาถึง แม อสู ร ตนนี้
จะยังเล็กนัก แตก็มีพรสวรรคล้ำเลิศ จึงไมกลามองขามมัน และในบริเวณนี้ก็ไมมีศัตรู
ที่แข็งแกรงอะไร จึงปลอยอสูรตัวนี้ออกมาจากกำไลเก็บของ
ผลคือ เมื่ออสูรเกล็ดมิคาทนปรากฎขึ้นไดไมนาน ก็ทำใหหานลี่และพวกตกตะลึง
เมื่ออสูรตัวนี้ปรากฎขึ้นที่แดนน้ำแข็งทมิฬ ไมเพียงจะมีชีวิตชีวาเปนอยางมาก
ยิ่งไปกวานั้นยังมีประสาทสัมผัสไวตออสูรที่ถูกแชแข็งอยูในน้ำแข็งทมิฬเปนอยางมาก
แมกระทั่งตอนที่หานลี่ยังไมทันสัมผัสไดวามีปศาจถูกแชแข็งอยูในสายธารจนแทบจะ
เปนเนื้อเดียวกัน มันก็พุงออกไป กรงเล็บทั้งสองเริงระบำอยางรวดเร็วฉีกน้ำแข็งทมิฬ
ออกเป นชิ ้ นๆ แล ว กลื นปศ าจน้ ำแข็ง ทมิฬเหล านั ้น เขา ไปในท องภายในคำเดียว
แลวเผยทาทางมีความสุขเปนอยางยิ่งออกมา
แมวาปศาจน้ำแข็งทมิฬเหลานี้จะไมไดดูนากลัวสำหรับพวกของหานลี่ แตพวกมัน
ก็เชี่ยวชาญในการอำพรางตัว หากอยูๆ ก็กระโจนออกมาโจมตีจากใตดินโดยไมทัน
ระวังละก็ จะยุงยากใหญ
เมื่ออสูรเกล็ดมิคาทนนี้พบพวกที่ซอนตัวอยูใตน้ำแข็งทมิฬ ก็จะแคบินผานไป รอง
คำรามประหลาดๆ ใสน้ำแข็ง ปศาจเหลานั้นก็ดูเหมือนถูกทำใหตกใจ แลวหนีออก
จากใตน้ำแข็งอยางทุลักทุเล
เชนนั้นแนนอนวาจึงกลายเปนอาหารในปากของอสูรนอย
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ไมใชแคหานลี่ที่รูสึกตกตะลึง พวกของเหลยหลันก็ยิ่ง
รูสึกสนใจอสูรนอยตัวนี้ยิ่งกวาเดิม
การเดินทางของพวกเขานั้นคาดไมถึงวาอสูรเกล็ดมิคาทนจะกลืนปศาจน้ำแข็งทมิฬ
ไปเกือบพันตัว ขนสีเหลืองที่มีลวดลายแตะแตมอยูของอสูรนอยคอยๆ มีลำแสงสีขาว
ปรากฎขึ้นชั้นหนึ่ง
ดวยเหตุนี้ทาทางอสูรนอยจะมีพลังยุทธเพิ่มขึ้นแลว!
หานลี่ปลอยใหอสูรตัวนี้เคลื่อนไหวอยางอิสระไปพลาง อดที่จะลูบใตคางขบคิดไป
พลางไมได
ตอนที่ 1451 ราชันยปศาจน้ำแข็งทมิฬ
ความจริงแลวเปนเพราะอสูรเกล็ดมิคาทนตัวนี้มีพลังยุทธเทียบเทาแคผูบำเพ็ญเพียร
ระดับกอกำเนิด ดังนั้นหลังจากถูกกำราบแลว ก็ไมคอยไดปลอยออกมาจัดการกับศัตรู
ทวาหลังจากที่อสูรตัวนี้ติดตามหานลี่มาแลวก็ไดกินยาลูกกลอนล้ำคาอยางตอเนื่อง
ชวงที่ผานมาพลังยุทธจึงเพิ่มขึ้นไมนอย จนอยูในระดับยอดสุดของอสูรปศาจระดับสิบ
แลว หากเพิ่มขึ้นอีกขั้นก็จะทะลุจุดคอขวดกลายเปนสิ่งมีชีวิตระดับเทพแปลงแลว
ตามหลักการแลวสวนใหญอสูรที่อยูในระดับอสูรปศาจระดับแปดจะตองผ าน
เคราะหอัสนี และกลายรางเปนมนุษยพรอมกับเบิกเนตร
แตอสูรวิญญาณแปลงกายเหลานี้และอสูรที่มีชีพจรโลหิตพิเศษกลับเปนขอยกเวน
พวกมั นบ า งก็ เ อาการแปลงกายไปไว ใ นความสามารถเกื อบท า ยๆ บ า งก็ ไ ม อาจ
แปลงกายไดตลอดชีวิต แตตรงกันขามนั้นเมื่ออสูรเหลานี้พัฒนาระดับขั้น สติปญญา
และความสามารถจะเหนือกวาอสูรในระดับเดียวกัน แมรกะทั่งอาจจะสังหารศัตรูที่
อยูคนละระดับได
อสูรเกล็ดมิคาทนนั้นแตเดิมก็เปนอสูรวิเศษที่ไดรับถายทอดเชื้อสายชีพจรโลหิต
มาจากกิเลน ภายใตความประจวบเหมาะนั้น หลังจากผานการกลายพันธุครั้งหนึ่ง
วันขางหนาจะมีโอกาสแปลงกายไดหรือไม ก็มีแตฟาเทานั้นที่รู
ทวาตอนนี้ดูแลวไอน้ำแข็งทมิฬจากรางของปศาจน้ำแข็งทมิฬเหลานี้คงจะเปน
สาเหตุที่ทำใหอสูรตัวนี้ทะลวงจุดคอขวดได
หานลี่ไมตองขบคิดอะไรมาก ก็เขาใจวาอสูรตัวนี้เผชิญหนากับอะไรอยูอยางรวดเร็ว
จึงอดที่จะหัวเราะอยางขมขื่นอยูในใจไมได
หากอสูรตัวนี้ทลายจุดคอขวดในเวลาอื่น แนนอนวาก็เปนเรื่องที่หายาก แตตอนนี้
กลับมาทลายจุดคอขวดในหุบเหว ก็ไมใชชวงเวลาที่ดีนักจริงๆ
ผูใดจะรูวาตอนที่อสูรตัวนี้พัฒนาระดับ จะเกิดปญหาอะไรขึ้นหรือไม
แมนวาเหลยหลันและพวกจะไมรูสถานการณของอสูรเกล็ดมิคาทน แตเมื่อตกอยู
ในสถานการณที่ลำแสงสีขาวบนรางของอสูรนอยยิ่งเจิดจาขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นอายก็ยิ่ง
แข็งแกรงขึ้นเรื่อยๆ แนนอนวายอมทำใหทุกคนตกตะลึง
และในครานี ้ ก ลุ  ม ของหานลี ่ ก ็ เ ข า มาในส ว นลึ ก ของแดนน้ ำ แข็ ง ทมิ ฬ แล ว
วากันตามระยะทางก็นับวาเดินทางมาไดเกือบครึ่งทางแลว
หลังจากที่อสูรเกล็ดมิคาทนกลืนน้ำแข็งทมิฬระดับกลางไปอีกกลุมใหญ ก็หมอบนิ่งอยู
บนหัวไหลของหานลี่ ดวงตาทั้งสองขางปดสนิทดวยทาทางเกียจคราน
แตลำแสงสีขาวบนรางของอสูรตัวนี้กลับไมหายไปเลยสักนิด ยิ่งไหลเวียนอยูบน
รางของมันจนสะดุดตามากขึ้นเรื่อยๆ
ครานี้เมื่อทุกคนบินผานภูเขาน้ำแข็งไป เบื้องหนาพลันมีหุบเขาที่ทอดตัวยาวเหยียด
ปรากฎขึ้น วายุสีดำพัดเขามาเปนระลอกๆ แทบจะกลืนกินทองฟาทั้งหมดเอาไว
หุบเขาเพียงหนึ่งเดียวยังคงเงียบสงัดเปนพิเศษ
เมื่อเผชิญหนากับภูมิทัศนเชนนี้ หานลี่และพวกตางก็ไมไดเผยสีหนาประหลาดใจ
อะไรออกมา
สถานการณเชนนี้พวกเขาเคยพบระหวางการเดินทางกอนหนานี้หลายครั้งแลว
คนกลุมนี้จึงขับเคลื่อนลำแสงหลีกหนีบินเขาไปในหุบเขาอยางไมลังเลเลยสักนิด
หุบเขานี้ไมนับวากวางนัก มีความกวางแคสามสี่รอยจั้ง แตกลับลึกถึงพันจั้ง
ประกอบกับที่มีเสียงวายุสีดำหวีดหวิวอยูเหนือศีรษะไมหยุด คนที่บินอยูทามกลาง
ลำแสงหลีกหนียอมรูสึกบีบคั้นหัวใจอยางแปลกประหลาด
โชคดี ท ี ่ ห านลี ่ แ ละพวกเป นผู  ท ี ่ ไ ม ธ รรมดา แน น อนว า าจึ ง ไม ไ ด ถ ู ก รบกวนจิ ต ใจ
ดวยเหตุนี้ ลวนนิ่งสงบอยูภายในลำแสงหลีกหนี
ฉับพลันนั้นเสียงคำรามต่ำๆ พลันดังขึ้น
หานลี่พลันหนาเปลี่ยนสี อดที่จะหันหนาไปมองไมได
เห็นเพียงอสูรเกล็ดมิคาทนที่เดิมทีหมอบอยูบนไหล หยัดกายลุกขึ้นดัง “พรึ่บ”
ดวงตาทั้งสองเบิกโพลง ขนลุกชัน ราวกับวาพบกับศัตรูที่แข็งแกรงอยางไรอยางนั้น
หานลี่พลันตะลึงงัน!
กอนหนานี้อสูรตัวนี้พบกับปศาจน้ำแข็งทมิฬจำนวนมาก ก็ยังไมมีปฏิกิริยาเชนนี้
ครานี้เหตุใดถึงมีปฏิกิริยาเชนนี้ หรือวา…
ชั่วพริบตาเขาก็นึกอะไรขึ้นได ลำแสงหลีกหนีอดที่จะหยุดชะงักลงไมได
เมื ่ อหานลี ่ ผ ู  ซ ึ ่ ง เป นผู  นำหยุ ด ลง เหลยหลั น ฉิ น เสี ่ ย วและพวกก็ ห ยุ ด ลงตาม
แตพลันใชสายตาสงสัยกวาดมองไป
หานลี่เงียบขรึม แคดวงตามีลำแสงสีฟาเปลงแสงสวางวาบพลางมองไปขางหนา
ไมรอใหเขาไดเอยถามอะไร มือหนึ่งก็โบกไปกลางอากาศเบื้องหนา
ลำแสงสีทองสายหนึ่งพนออกมาจากฝามือ สับลงไปยังสวนลึกของหุบเขาที่ไมรูวา
อยูหางไปอีกไกลเทาไหร
หลังจากเสียงดังสนั่นขึ้น ลำแสงสีทองที่อยูกลางความมืดมิดพลันเปลงประกาย
คาดไมถึงวาจะสับไปที่ตีนของหุบเขา เผยรอยแยกน้ำแข็งขนาดยักษยาวๆ แคบๆ
สายหนึ่งออกมา
เสียงรองดวยความเจ็บปวดดังออกมจากใตดิน ทันใดนั้นไอสีดำกลุมใหญก็ทะลัก
ออกมาจากรอยแยก ชั่วพริบตาก็ผนึกรวมกันกลายเปนหมอกลูกกลมๆ สีดำขนาด
เสนผาศูนยกลางสิบจั้ง
“ราชันยน้ำแข็งทมิฬ ราชันยปศาจน้ำแข็งทมิฬ! ที่นี่มีปศาจตนนี้อยูจริ ง ๆ”
ไปปกลับรองอุทานออกมาดวยน้ำเสียงแหบแหง
เหลยหลันและฉินเสี่ยวไดฟงก็พลันตกตะลึงในทันที
และในตอนนั้นเอง ลูกบอลหมอกยักษพลันหมุนควางอยูกลางอากาศ เกล็ดน้ำแข็ง
จำนวนนับไมถวนพวยพุงขึ้นมาจากพื้นดิน หอหุมลูกบอลหมอกแวววาวเอาไว
ลำแสงสีดำเปลงแสงสวางจา!
หงสน้ำแขงสีดำขนาดยี่สบิ จั้งตัวหนึง่ ปรากฎขึ้น เรือนกายสีดำมะเมื่อม ดวงตาทั้งสอง
มีลำแสงสีดำเปลงแสงสวางวาบ จองเขม็งไปยังหานลี่
ไมสิ นาจะจองเขม็งไปยังอสูรนอยที่อยูบนไหลของหานลี่ เผยทาทางราวกับ
พบศัตรูคูอาฆาตออกมา
อสูรเกล็ดมิคาทนเห็นเชนนั้น ปากก็รองคำรามต่ำๆ ออกมา แตสีเขียวมรกตใน
แววตาของอสูรกลับเผยแววอยากลิ้มลองออกมา
หานลี่กลับขมวดคิ้วขบคิดเล็กนอย
ฉับพลันนั้นเขาพลันพลิกฝามือตะปบออกไป ควาอสูรนอยบนไหลเขาไปอยูในมือ
จากนั้นก็ออกแรงบีบทามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน คาดไมถึงวาจะโยนอสูรนอย
ขึ้นไปเหนือศีรษะ
จากนั้นปกที่แผนหลังพลันสยายอก เสียงฟารองดังขึ้น กลายเปนประจุ ไฟฟา
สีเขียวขาวสายหนึ่งสลายหายไป
ครูตอมาเหนือหัวของหงสน้ำแข็งก็มีเสียงฟาผาดังขึ้น หานลี่ปรากฎตัวออกมา
อยางแปลกประหลาด แตหัวไหลกลับยั ก ขึ้ น เล็ กๆ เงาลวงตาเปนสายปรากฎขึ้ น
ดานลางหงสน้ำแข็งยักษ
หงสน้ำแข็งพลันตะลึงงัน ทันใดนั้นก็เปลงเสียงรองออกมาดวยความโกรธเกรี้ยว
กรงเล็กยักษขางหนึ่งยื่นออกไป คิดจะตะปบมดในสายตาของมันใหตายคามือ
กรงเล็บยักษสีดำสนิทคูหนึ่งมีขนาดสองสามจั้ง หลังจากตะปบลงมา ก็หอหุมราง
ของหานลี่เอาไว
แตหานลี่ก ลั บทำเปนมองไม เห็ น กรงเล็ บ ยั กษ น ั้ น แขนทั้งสองขา งลางเลื อน
เงากำปนสีดำขาวปรากฎขึ้นเต็มไปหมด พุงขึ้นไปกลางอากาศราวกับหาฝน
เสียง “ปง” ดังขึ้นอยางตอเนื่อง ลำแสงสีดำขาวสองสีระเบิดออกทามกลาง
กรงเล็บยักษ
ฉากที่แปลกประหลาดพลันปรากฎขึ้น!
กรงเล็ บ ยั ก ษ ท ั ้ ง สองระเบิ ดออก เสี ย งราวกั บ เครื ่ องลายครามปริ แ ตกดังขึ้น
แหลกออกเปนชิ้นๆ ชั่วพริบตาก็หายวับไป
หงสน้ำแข็งสีดำกรีดรองเสียงแหลมสะเทือนเลื่อนลั่น อาปากออก วายุเย็นเยียบ
สีดำกลุมหนึ่งทะลักออกมา ชั่วพริบตาก็มาอยูเหนือศีรษะของหานลี่ มวนเอาเขาเขาไป
ขางใน
แตหานลี่พลั นแววตาเปล ง ประกายสว างวาบ ในเวลาเดีย วกั นที่ ห งสส ี ด ำมา
ประชิดตัว ชั่วครูก็หายวับไปตามวายุ
หงสน้ำแข็งพลันตกตะลึง อดที่จะมองซายมองขวาหมายจะหาอีกฝายใหพบไมได
แตในครานั้นเองดานหลังของหงสสีดำพลันมีวายุประหลาดพัดมา เงารางคน
สายหนึ่งปรากฎขึ้นอยางเงียบเชียบ
รางกายพลิ้วไหวคนเหยียบอยูบนแผนหลังของหงสน้ำแข็งราวกับภูตผี กำปนสีดำ
ขาวทั้งสองเปลงแสงสวางวาบ โจมตีไปยังแผนหลังของหงสน้ำแข็งพรอมกับวายุ
ที่โหดเหี้ยมกลุมหนึ่ง
เสียง “ปงๆๆๆ” ดังสนั่นขึ้น ลำแสงสีดำขาวสองสีอาบยอมไปทั่วแผนหลังของ
หงสน้ำแข็ง หอหุมรางของหงสน้ำแขงตัวนั้นเอาไว
ไมมีปฏิกิริยาตอบสนองเลยสักนิด รางอันใหญโตของหงสน้ำแข็งราวกับกรงเล็บยักษ
เมื่อครูอยางไรอยางนั้น รอยแยกเปนสายๆ ปรากฎขึ้น จากนั้นเสียง “แกรก” ก็ดังขึ้น
แตกออกเปนเสี่ยงๆ กลายเปนน้ำแข็งแวววาวโปรยปรายลงสูพสุธา
ไอหมอกสีดำขนาดใหญเผยออกมากลางอากาศอีกครั้ง แตแคไมมีรูปรางอะไรอีก
และเปลงลำแสงสีดำประหลาดออกมา
เสียง “สวบ” ดังขึ้น เงารางเล็กๆ สายหนึ่งเปลงแสงสวางวาบ ชั่วครูก็กระโจนเขา
ไปในหมอกสีดำ กลืนลงไปในคำเดียวพรอมกับแขนขาทั้งสี่ที่โอบกอดเอาไว เปลงเสียง
ครางในจมูกดวยความตื่นเตนดีใจออกมา
นั่นก็คือ อสูรนอยที่ถูกหานลี่โยนขึ้นไปกลางอากาศ!
หลังจากนั้นอสูรตัวนี้ก็รอนลงมา เมื่อเห็นวาหานลี่ทำใหหงสน้ำแข็งกลายเปน
หมอกสี ด ำที ่ แ หลกเป นชิ ้ นๆ แน นอนว า ยอมไม ม ี ท างปล อยของขวัญ ชิ้ น ใหญไป!
ชั่วขณะนั้นพลันกระโจนเขาไปดวยความยินดี และพยายามฉีกทิ้งกัดกินมานหมอก
กลุมนั้น
ในเมื่อหมอกสีดำนั้นสรางมาจากสิ่งที่เรียกวา ราชันยปศาจน้ำแข็งทมิฬ แนนอนวา
ยอมไมยอมถูกอสูรนอยกลืนกินไปเชนนี้ ไมเพียงจะยื่นหนวดสีดำออกมาจากราง
พลางสะบัดไปมาไมหยุด ในเวลาเดียวกันบนพื้นยังมีน้ำแข็งสีดำจำนวนนมากผุุด ลอย
ขึ้นมา พุงไปหาเขาอีกครั้ง หมายจะผนึกรางขึ้นอีกครั้ง
หนวดสีดำเหลานี้ไมทันไดสัมผัสกับอสูรเกล็ดมิคาทน ก็ถูกกรงเล็บลำแสงของ
อสูรนอยสับจนแหลกเปนชิ้นๆ
สวนน้ำแข็งสีดำเหลานั้น เมื่อหานลี่สะบัดแขนเสื้อก็ถูกลูกไฟสีเงินขนาดเทาหัวแมมือ
จำนวนนับไมถวนเปลงแสงสวางวาบแลวโจมตีออกไปกลายเปนวารีบริสุทธิ์รอนลง
บนพื้น
ตั้งแตที่หานลี่ลงมือโจมตีหงสน้ำแข็งสีดำไปจนถึงแหลกละเอียด มันผานไปเพียงแค
สองสามชั่วลมหายใจเทานั้น
แมวาเหลยหลันและพวกจะไมไดเห็นหานลี่ลงมือเปนครั้งแรก แตก็ยังคงถูก
วิธีการลงมือของเขาทำใหตกใจจนขวัญกระเจิง ใบหนาอดที่จะเผยสีหนา แปลก
ประหลาดออกมาไมได!
ไอหมอกสีดำหมุนวนไปมาขณะที่อสูรนอยกำลังกลืนกิน เดี๋ยวใหญบางเดี๋ยวเล็กบาง
แตก็ไมอาจทำอะไรได กรงเล็บทั้งสี่ของอสูรนอยวางอยูดานบน นิ่งงันราวกับรากงอก
ติดลงไปอยางไรอยางนั้น
ชั่วพริบตาไอสีดำขนาดใหญก็ถูกกลืนเขาไปกวาครึ่ง
จากนั้นอสูรนอยก็เปลงเสียงรองคำรามต่ำๆ ออกมา รางกายเปลงแสงสีขาวสวางวาบ
ขึ้นสองสามครั้ง ชั่วครูก็กระโจนจากหมอกสีดำลงมายยืนนิ่งบนพื้น
หานลี่หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย มือหนึ่งพลิกฝามือโดยไมไดเอยอะไรออกมา
ขวดหยกสีขาวปรากฎขึ้น โยนไปทางหมอกสีดำที่เหลือ ปากพลันบริกรรมคาถา
ขวดหยกหมุนติ้วๆ ปากขวดเทลง พนลำแสงสีเขยวออกมาจากดานในกลุมหนึ่ง
หมอกลำแสงนี้มวนวน ชั่วขณะนั้นหมอกที่เหลือก็กลายเปนไอสีดำ ถูกดูดเขาไป
ในขวดหยก
ไปปและพวกของเหลยหลันที่อยูดานขางเห็นเชนนั้น ก็อดที่จะเผยแววตาอิจฉา
ออกมาไมได
แม นว า สิ ่ ง ที ่ เ รี ยกว าราชั นยป  ศ าจน้ ำ แข็ ง ทมิ ฬจะมีช ื่ อเรี ย กว า ราชั น ย ปศาจ
แตความจริงแลวกลับมีความสามารถธรรมดาๆ ระดับเทพแปลงทั่วๆ ไปก็สามารถ
จัดการไดอยางงายดาย แตปศาจตนนี้กลับหายากมาก ไอน้ำแข็งทมิฬที่สรางมันขึ้นนั้น
บริสุทธิ์เปนอยางมาก ไมวานำไปหลอมยุทธภัณฑ หรือแมกระทั่งฝกฝนความสามารถ
ของเคล็ดวิชาลั บตา งๆ ก็มีประโยชนมาก เหนือกวาที่ ป ศาจน้ำแข็งทมิ ฬทั่ ว ๆไป
จะเปรียบเทียบได
แตในเมื่อหานลี่เปนผูจัดการปศาจตนนี้ดวยตนเอง แมวาพวกเขาจะมีความคิดอะไร
ก็ไมกลาเอยปากออกมา
หลังจากผานไปชั่วครู ไอน้ำแข็งทมิฬก็ถูกขวดหยกดูดเขาไปจนเกลี้ยง
หานลี่พลันกวักมือ ขวดหยกกลายเปนลำแสงสีขาวสายหนึ่งจมหายเขาไปใน
แขนเสื ้ ออย า งไร ร  องรอย ครานี ้ พ ลั น กลอกตาไปมา แล ว ถึ ง ได ต กลงบนร า งของ
อสูรนอยที่อยูบนพื้นดวยความกังวลใจ
อสูรเกล็ดมิคาทนในครานี้รางกายหดเล็กลง ลำแสงสีขาวบนผิวของมันกระพริบวาบๆ
ดวงตาทั้งสองขางปดสนิท จากการเชื่อมโยงกันนั้น หานลี่รูวาอสูรนอยตัวนี้ ทั้ง
ตื ่ นเต น ดี ใ จ หวาดกลั ว ร อนรนผสมปนเปกั น ไปหมด ถอนหายใจออกมาเบาๆ
เฮือกหนึ่ง คนรอนลงบนพื้นดิน อยูขางกายของอสูรนอย และนั่งคุกเขาลง
ยกมือขึ้นลูบไปบนศีรษะของอสูรนอย แลวใชมือลูบไปบนขนอสูรที่นุมเปนพิเศษ
บนรางของมัน จากนั้นก็ปลอบโยนมันผานจิตสัมผัสที่เชื่อมโยงกัน
อสูรเกล็ดมิคาทนยื่นลิ้นนอยๆ สีชมพูออกมา เลียไปที่หลังมือของหานลี่ ในที่สุด
ก็คอยๆ สงบนิ่งลงกลับมาเปนปกติ
ตอนที่ 1452 พัฒนาระดับขั้น
และในตอนนั้นเองกลางอากาศที่มืดสนิทก็มีลำแสงสีขาวเปนสายๆ ปรากฎขึ้น
ทันใดนั้นก็สลายออกกลายเปนจุดลำแสงสีขาวนวลรอนลงมาบนพื้น
แทบจะในเวลาเดียวกันผิวของอสูรนอยก็เปลี่ยนไป กลายเปนสีชมพูระเรื่อ
จากนั้นรางของอสูรนอยก็มีกลิ่นหอมประหลาดโชยมา ทำใหผูคนที่ไดกลิ่นอดที่
จะน้ำลายสอไมได ราวกับวารางเล็กๆ ของอสูรเกล็ดมิคาทนกลายเปนสิ่งหอมหวานที่
หายากในใตหลาอยางไรอยางนั้น
ไปปและพวกที่เดิมทีกำลังสงสัยทาทางของหานลี่และอสูรนอย ไดกลิ่นนี้ก็อดที่จะ
ตกตะลึงไมได
“กลิ่นเนื้ อนิพพาน! พี่หาน อสูรวิญญาณของเจ าจะพัฒ นาระดั บ แล ว ” ไป ป
หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย
“ใชแลว ขานอยเกรงวาคงจะตองเสียเวลาอยูที่นี่สักวันนึง” หานลี่ลูบไปบน
อสูรนอยสองครั้ง แลวหยัดกายลุกขึ้นพยักหนา
“อสูรวิญญาณพัฒนาระดับยอมเปนเรื่องดี แตมาเกิดขึ้นในนี้ คงไมใชเรื่องเล็ก
กลิ่นหอมนี้โชยออกไป เกรงวาปศาจทั้งแดนน้ำแข็งทมิฬคงกรูกันเขามา หากไมระวัง
มีปศาจระดับสูงปรากฎขึ้น เกรงวาพวกเราคงตกอยูในอัตรายแลว” ไปปมีสีหนา
ไมคอยดีนัก
“เรื่องนี้ขายอมรูดี พี่ไปอยากใหขาทิ้งอสูรวิญญาณของตนเองแลวหนีไปหรือ?”
แววตาของหานลี่ฉายแววเย็นเยียบ พลางเอยอยางราบเรียบ
“ขานอยไมไดมีเจตนานั้น แค…” เมื่อไดฟงน้ำเสียงที่ไมสบอารมณของหานลี่ ไปปก็
รีบรอนปฏิเสธ และคิดจะอธิบายอะไรได แตหานลี่กลับโบกมือตัดคำพูดตอมาของเขา
“ไมวาพวกเจาจะคิดอยางไร หากพวกเจาคิดวาอันตรายก็ไปได แตขาจะไมไปไหน”
หานลี่มีทาทีแข็งกราว
เมื ่ อ ได ฟ  ง หานลี ่ ก ล า วเช น นี ้ ไป ป   เ หลยหลั น และพวกต า งก็ ม องสบตากั น
อดที่จะหัวเราะอยางขมขื่นขึ้นมาไมได
พวกเขาไมไดรูสึกแปลกใจกับทาทางเชนนี้ของหานลี่เลย
หากเปลี่ยนเปนพวกเขาอสูรวิญญาณตัวหนึ่งกำลังจะพัฒนาระดับขั้นก็ตองคอย
ดูแลมัน ไหนเลยจะทิ้งไปไดงายๆ
หานลี่ในครานี้กลับไมสนใจคนที่เหลืออีกสามคนอีก แคยุงวุนวายกับเรื่องของ
ตนเองเทานั้น
อสูรนอยจะพัฒนาระดับนั้นอยางนอยที่สุดก็ตองใชเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน ชวงเวลานี้
ขอแค ป  ศ าจที ่ อยู  ใ นบริ เ วณนี ้ ไ ด ก ลิ ่ น ก็ อาจจะดึ ง ดู ด มั น มาได แน น อนว า ที ่ นี ่ คื อ
แดนน้ำแข็งทมิฬ ยอมเปนที่ที่มีปศาจน้ำแข็งทมิฬมากที่สุด
รางกายของหานลี่เปลงแสงสีเขียวสวางวาบ ชั่วครูก็พวยพุงขึ้นไปกลางอากาศ มือ
หนึ่งปดไปที่ยามเก็บของ จานอาคมเปนตั้งๆ ปรากฎขึ้นในมือ
ชูมือหนึ่งขึ้น!
ลำแสงยี่สิบสามสิบสายพุงออกไปรอบทิศทาง จากนั้นก็เปลงแสงสวางวาบแลว
ทยอยกันจมหายไปกลางอากาศ
เสียง “ครืนๆ” ดังขึ้นจากพื้นดินรอบๆ เสาลำแสงสีแดงสิบสายทะลุออกมาจาก
ใตชั้นน้ำแข็ง ทันใดนั้นเขตอาคมขนาดยักษเสนผาศูนยกลางรอยจั้งพลันปรากฎขึ้นบน
ผิวน้ำแข็ง
ดานในเขตอาคมมีอักขระประหลาดเรียงรายอยูเต็มไปหมด อักขระสีแดงลอย
วนเวียนไปมาไมหยุด
กลิ่นอายรอนฉาแผออกไปรอบๆ แฝงไวดวยกลิ่นไหมจางๆ
นี่คือ ยุทธภัณฑเขตอาคมธาตุไฟชุดหนึ่งที่หานลี่เสียศิลาวิญญาณจำนวนไมนอย
ซื้อมาจากเมืองเทวะสวรรค มันสามารถสรางเขตอาคมตองหามที่มีชื่อวา ‘เขตอาคม
เพลิงมอดสิบผืน’
เขตอาคมนี้มีพลานุภาพไมนอย หากวางลงไปแมแตผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลง
เขามาในเขตอาคม ก็ยังไมอาจทลายออกไดไป
หากเปนปศาจธาตุน้ำแข็งที่เย็นเยียบซึ่งเปนธาตุที่ดอยกวา ก็ยิ่งมีอานุ ภาพที่
นากลัวยิ่งกวาเดิม
ทวาไมใชแคนี้สองมือของหานลี่พลันรายอาคม กระบี่เลมเล็กสีทองทั้งเจ็ดสิบสองเลม
พลันพุงออกมาจากจุดตางๆ ของรางกาย แลวพลันบินไปเหนือศีรษะในเวลาเดียวกัน
กลายเปนกระบี่ลำแสงสองสามรอยเลมที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วทามกลางเสียงหึ่งๆ
หานลี่พลันบริกรรมคาถา ชี้ไปยังกระบี่ลำแสงที่ทอตัวอยูกลางอากาศ
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีทองสองสามรอยสายพลันแตกกระจายออกรอบๆ หลังจาก
เปลงแสงสวางวาบ ก็สลายหายไปกลางอากาศ
คาดไมถึงวาหานลี่จะวางเขตอาคมมหากระบี่ทองคำของตัวเองลงในเขตอาคมอีก
จากพลังยุทธระดับยอดสุดของระดับเทพแปลงของเขาในตอนนี้ วางเขตอาคมกระบี่
ลงไปแล ว แม แ ต ผ ู  บ ำเพ็ ญ เพี ย รระดั บ หลอมสู ญ ขั ้ น ปลายเข า มาก็ ไ ม อ าจโชคดี
รอดพนได สวนผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมรางนั้นก็อาจจะถูกดึงพลังไปสองสามสวน
แตก็เปนเรื่องที่พูดยาก มีเพียงตองลองทดสอบดูถึงจะรู
หลั ง จากที่ ทำทุ ก อย างเสร็จ สิ ้น หานลี ่ ก ็ ลอยตั วอยู ก ลางอากาศในเขตอาคม
สองตาหรี่ลงพลางขบคิดอะไรสักอยาง แลวสะบัดแขนเสื้ออีกครั้ง
เปลวเพลิงสีเงินกลุมหนึ่งบินออกมาจากแขนเสื้อ หลังจากเปลงเสียงรองเพรียก
ก็กลายเปนวิ หคเพลิ งสี เ งิ นตั วหนึ ่ง หมุนวนกลางอากาศ แลวเปลงเสีย ง “สวบ”
คาดไมถึงวาจะจมหายเขาไปใตชั้นน้ำแข็งอยางไรเงา
จากนั้นหานลี่ถึงไดยกมือขึ้นปลอยรถวิญญาณสามเหลี่ยมที่เคยใชไปออกมา
ทำใหรถคันนี้ลอยนิ่งอยูกลางเขตอาคม สวนตัวเองก็นั่งสมาธิอยูในรถ หลับตา
ทั้งสองขางลง
ครานี้อสูรนอยที่อยูดานลางถูกลำแสงสีขาวหอหุมเอาไวขางใน ในเวลาเดียวกัน
ก็แผกลิ่นอายที่หอมหวานมากกวาเดิมออกมา แมวาหานลี่จะวางเขตอาคมตองหาม
เอาไวขนาดนี้ แตก็ไมอาจกลบกลิ่นอายของมันไดเลยสักนิด
กลิ่นหอมของมันชางเยายวนนัก แผออกไปทามกลางความมืดมิดอยางรวดเร็ว
หลังจากที่เหลยหลันและพวกทั้งสามพูดคุยกันเบาๆ รอบหนึ่ง ก็ยังบินเข ามา
อยางวางาย แลวยืนอยูบนรถวิญญาณ
สามคนนี้ลวนไมอยากเขาไปสูการโจมตีที่บาคลั่งของปศาจ แตจากอันตรายกอนหนา
หากไมมีหานลี่คอยปกปองนั้น ไมตองพูดถึงการตามหาผลเพลิงยมโลกเลย เกรงวา
แมแตชั้นที่สามก็ยังเขาไปไดยาก
เชนนั้นทั้งสามคนจึงทำไดเพียงทำใจดีสูเสือเทานั้น
โชคดีที่หานลี่เตรียมทุกอยางไวอยางเพียงพอ ประกอบกับที่หานลี่มักจะเปนผูที่ลึกล้ำ
ยากจะคาดเดาในความคิดของพวกนาง ขอแคไมมีปศาจที่แข็งแกรงเกินไปปรากฎตัว
เสียเวลาไปสักวันก็ไมใชวาจะรับไมได
เวลาคอยๆ ผานไป ลำแสงสีขาวนวลลดระดับลงมามากขึ้นเรื่อยๆ กลืนกินราง
ของอสูรนอยเอาไวขางในจนมองไมเห็น
อสูรเกล็ดมิคาทนที่แตเดิมเงียบกริบ พลันเปลงเสียงรองคำรามเบาๆ ในลำแสงสีขาว
ดูเหมือนวาจะกำลังขามผานความเจ็บปวดอะไรสักอยาง
“อสูรวิญญาณพัฒ นาระดั บไม เ หมื อนกั บพวกเรา ทุกครั้งล ว นทำใหร า งกาย
แข็งแกรงขึ้นมากกวาคนเผาวิญญาณเหาะเหินอยางพวกเรา” ฉินเสี่ยวมองไปยัง
ลำแสงสีขาวเบื้องหนาแลวเอยพึมพำม
“กลาวเชนนั้นก็ไมผิดแตความเจ็บปวดจากการชำระไขกระดูกนั้น ก็ไมใชสิ่งที่
พวกเราจะเทียบเทียมได” เหลยหลันเอยตอดวยรอยยิ้มจางๆ
ไปปกลับมองไปยังแดนน้ำแข็งอันมืดมิดที่อยูไกลออกไป ใบหนาเผยสีหนาเครงขรึม
ออกมา
ครานี้รอบดานดูจะเงียบสงัดเกินไปหนอยกระมัง นอกจากเสียงวายุหวีดหวิว
แลวก็ไมมีเสียงอื่นใดอีก สวนกลิ่นหอมที่แผออกมาจากรางของอสูรนอยก็แผ ไ กล
ออกไปเทาไหรก็ไมรูแลว ไกลออกไปยังพอวา แตปศาจในระยะรอยลี้ ไมอาจไมได
กลิ่นหอมนี้ได
ไป ป   ข บคิ ด เช นนี ้ ในใจพลั นรู  ส ึ ก ไม ป ลอดภั ย อดที ่ จ ะหั น หน า ไปมองหานลี่
แวบหนึ่งไมได
หานลี่หลับตาทั้งสองขาลง สีหนาราบเรียบเปนอยางยิ่ง
แววตาของไป ป   เ ปล ง แสงสว า งวาบ ริ ม ฝ ป ากกำลั ง จะขยั บ คิ ด จะเอ ย อะไรนั้ น
หานลี่กลับเบิกตาขึ้น แววตาเปลงประกายระยิบระยับ!
แทบจะในเวลาเดียวกัน บางแหงในความมืดมิดมีเสียงซาๆ ดังมา ดูเหมือนวาของ
จำนวนนับไมถวนจะกำลังทะลักมาทางนี้
ครานี้ไมเพียงไปปที่หนาเปลี่ยนสี กำลังพูดคุยกับเหลยหลันและฉินเสี่ยวทีปดปาก
เงียบเบาๆ และมองไปทางนั้นเชนกัน
เห็นเพียงไกลออกไปมีลูกตาสีแดงสดสองสามคูปรากฎขึ้น จากนั้นเงาดำๆ ขนาด
สองสามฉื่อฝูงใหญพลันทอยยกันกระโจนออกมาจากความมืดมิด
พวกมันมีเรือนกายสีดำเปนประกาย แขนขาเคลื่อนไหว เสียงซาๆ ดังเขามาใกลขึ้น
เรื่อยๆ
คาดไมถึงวาจะเปนแมงมุมน้ำแขงหนาตาโหดเหี้ยมฝูงใหญ!
มองปราดไปฝู ง แมงมุ ม คาดไม ถ ึ ง ว า จะเรี ย งตั ว ทอดยาวไปจนสุ ด ลู ก หู ล ู กตา
ชั่วพริบตาก็เรียงรายอยูเต็มพื้นน้ำแข็ง
ทวาปศาจน้ำแข็งทมิฬระดับต่ำสุดเหลานี้ลวนไมตองใหหานลี่ลงมือ ฉินเสี่ยว
ของเผาราตรีเขียวก็เปลงเสียงรองออกมา สะบัดแขนเสื้อ ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเขียว
สิบกวาสายพลันบินออกมา รอนลงไปหาฝูงแมงมุม
เสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้น ชั่วขณะนั้นทามกลางฝูงแมลงพลันมีหุนเชิดไมสูงสองสามจั้ง
สิบกวาตัวปรากฎขึ้น
หุ  น เชิ ด เหล า นี ้ ด ู เ หมื อ นกิ ้ ง ก า ยั ก ษ ไม เ ห็ น ว า พวกมั น จะเคลื่ อ นไหวใดๆ
รางกายเตี้ยๆ ก็อาปากออก พนเสาลำแสงสีเขียวออกมา
ทุ ก จุ ด ที ่ ล ำแสงสี เ ขี ย วกวาดผ า นไป แมงมุ ม น้ ำ แข็ ง ทั ้ ง หมดก็ ล ะลายหายไป
อยางรวดเร็วราวกับหิมะที่ละลายในฤดูใบไมผลิ คาดไมถึงวาจะไมอาจตานทาน
ลำแสงนี้ไดเลยสักนิด
หุนเชิดเหลานี้ยืนเรียงแถวกัน ชั่วพริบตาพลันสะบัดหัวไปซายทีขวาที ทำให
แมงมุงน้ำแข็งที่อยูไกลออกไปไมอาจเขาใกลไดแมแตกาวเดียว ซากแมงมุมนับพันตัว
เรียงรายอยูบนพื้น ชั่วพริบตากองแมงมุมก็หนาขึ้นเรื่อยๆ
ทวาจำนวนของแมงมุม น้ำ แข็ง เหลา นี ้ไมมากนั ก แมวาลำแสงสีเขียวเหล า นี้
จะแหลมคมเป นอย า งยิ ่ ง แต ห ลั ง จากที ่ ด าหน า กั น เข า มาแล ว คาดไม ถ ึ ง ว า จะดู
เหมือนวาไมสนใจชีวิตของตนเองอยางไรอยางนั้น
แมวาลำแสงสีเขียวที่หุนเชิดกิ้งกายักษสิบกวาตัวพนออกมาจะรายกาจ แตเห็นไดชัด
ว า ต อ งสู ญ เสี ย ศิ ล าวิ ญ ญาณไปไม น  อ ย แต แ ค เ วลาชั ่ ว ครู ลำแสงสี เ ขี ย วในปาก
ก็เปลี่ยนเปนสีหมองหมน ไมอาจไลสังหารแมงมุมตอไปไดอีก
เชนนั้นแมงมุมจำนวนนับไมถวนจึงทะลวงผานปราการ เขามาประชิดหุนเชิด
เหลานั้น
เสียง “ฟูๆ” ดังสนั่นขึ้น เสนไหมสีดำจำนวนนับไมถวนที่พนออกมาจากปากของ
แมงมุม หอหุมหุนเชิดกิ้งกายักษเอาไว รัดเอาไวแนนจนไมมีชองโหว
จากนั้นภายใตการดึงของเสนไหมสีดำ หุนเชิดสิบกวาตัวทยอยกันลมลงกับพื้น
ไมอาจกระดุกกระดิกไดเลยสักนิด
เมื่อเห็น ฉากนี ้ฉ ิ นเสี่ ยวที่ ยื นอยู ใ นรถวิ ญญาณพลั นรู สึ กตกตะลึ ง แตในเวลา
เดียวกันพลันสัมผัสไดวาบนพื้นไรซึ่งลำแสง ทันใดนั้นก็เอยออกมาดวยเสียงต่ำๆ วา
“เหลาสหายอยาลงมือ เจาพวกนั้นมอบใหนองหญิงจัดการเถิด” ทันใดนั้นสตรีผูนั้น
ก็กลายเปนลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา หลังจากนั้นก็เปลงแสง
สวางวาบทะลวงออกจากเขตอาคมใหญ ไปอยูเหนือแมงมุมน้ำแข็ง
แน น อนว า ฝู ง แมงมุ ม พลั น พบเป า หมายกลางาอากาศในทั น ที ทั น ใดนั ้ น ก็
เปลงเสียงรองซือๆ ออกมา แลวพนเสนไหมสีดำจำนวนนับไมถวนไปทางสตรีที่อยู
กลางอากาศ
ฉินเสี่ยวมีสีหนาเครงขรึม ฉับพลันนั้นรางกายพลันมีเปลวเพลิงสีเขียวมรกตชั้นหนึ่ง
ปรากฎขึ้น หลังจากที่สัมผัสกับเสนไหมสีดำ ก็กลายเปนกลุมควันสีเขียว หายวับไป
อยางไรรองรอย
และทันใดนั้นสตรีผูนี้ก็เปลงเสียงรองตะโกนต่ำๆ ออกมา มือหนึ่งกวาดออกไป
กระบี่เพลิงสีเขียวเลมหนึ่งปรากฎขึ้นในมือ สะบัดไปทางดานลางอยางแมนยำ
ชั่วขณะนั้นเปลวเพลิงสีเขียวหนาๆ สายหนึ่งพลันสับลงไป หลังจากเสียงดังสนั่นขึ้น
เบื้องหนาฝูงแมงมุมก็มีรองลึกความกวางสองสามจั้งสายหนึ่งปรากฎขึ้น
ดานในมีเปลวเพลิงสีเขียวหมุนวน แมงมุมน้ำแข็งทั้งหมดที่รวงลงไป พลันหายวับ
ไปในพริบตา
ฉินเสี่ยวถึงไดหยักรอยยิ้มที่มุมปากขึ้น ตอนที่กำลังคิดจะเพิ่มกระบี่สองสามเลม
ไปขยายรองลึกอีกสักสองสามสวนนั้น กลับมีเสียงรองดวยความโกรธาสองสามเสียง
ดังขึ้นทามกลางความมืดมิด ฉับพลันนั้นพลันมีสิ่งมหึมาขนาดสองสามจั้งสองสามตัว
วิ่งออกมา
ภายใตการจับจองอยางละเอียดของสตรีผูนี้ ก็อดที่จะหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอยไมได
เจาพวกนี้คือ แมงมุมยักษสี่หัวที่มีขนาดใหญกวาพวกพอง ทุกตัวลวนมีขนสีดำ
ที่แผนหลัง เผยเขี้ยวที่แหลมคมออกมาจากปาก เปลงเสียงรองดวยความโกรธเกรี้ยว
ออกมาไมหยุด
ฉินเสี่ยวพลันขมวดคิ้ว กวาดกระบี่เพลิงในมือออกไป สับลงไปหาพวกมันอยาง
ไม เ กรงใจ แต ช ั ่ ว พริ บ ตานั้ นผิ ว ของแมงมุ มเหล า นี้ ก ็ม ีล ำแสงสี ด ำไหลเวีย นไปมา
แผ นหลั ง มี ป  ก จั ก จั ่ นสี ด ำสนิ ท ปรากฏขึ ้ น มั น กระพื อป ก แล ว ทยอยกั น พุ  ง ขึ ้ น ไป
บนทองฟา
ฉินเสี่ยวเห็นเชนนั้นใบหนาผอนคลายบนใบหนาพลันหายวับไป!
ตอนที่ 1453 ปศาจพฤกษามรกต
เหลยหลันเห็นเชนนั้นพลันขมวดคิ้วว พลางหันหนาไปพูดกับไปป
“เจาพวกนี้ดูเหมือนวาจะยุงยากไมนอย ขาจะไปชวยพี่หญิงฉินอีกแรงเถิด”
พูดไปพลางรางของสตรีผูนี้ก็เปลงแสงสีทองสวางวาบ และชี้ไปที่จุดหนึ่งพรอมกับ
หัวเราะอยางขมขื่นและเอยวา
“ศิษยนองหญิงเหลยขาวาเจาไมจำเปนตองชวยแมหญิงฉินหรอก พวกเรามีอีก
อยางตองจัดการ” เหลยหลันไดยินพลันตกตะลึง มองไปทางทีไปปชี้ไป
ผลคือทามกลางความมืดมิด ปศาจหมาปาฝูงใหญเดินออกมาอยางเงียบเชียบ
มองทอดไกลออกไปทุกแหงลวนเต็มไปดวยขน ไมรูวามีอยูกี่ตัว
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น อีกดานหนึ่งพลันมีเสียงรองดังขึ้น
เหลยหลั น หลั น เหลื อ บตามองไป เห็ น เพี ย งเงาสี ด ำทางด า นนั ้ น พลิ ้ ว ไหว
เผยวานรน้ำ แข็ ง สูง สองสามจั้ งฝูง หนึ่ งออกมา ทุ ก ตั ว ลว นมีข นที ่ย าวมาก โค ง งอ
เล็ ก น อย แต ใ นมื อ ของมั น ส ว นใหญ ล  ว นกลั บ มี ไ ม ก ระบองหิ น อยู  ทุ ก ตั ว ล ว นมี
เขี้ยวแหลมคมทาทางดุดัน
“ขาจะไปจัดการฝูงหมาปา วานรน้ำแข็งเหลานั้นใหศิษยพี่ไปจัดการก็แลวกัน”
เหลยหลันกลับเอ ยอยา งรวดเร็ ว เสียงสวบดังขึ้ น คนกลายเปน ประจุ ไฟฟาสี เ งิ น
สายหนึ่งพุงเขาไปหาฝูงหมาปา
เสียงฟาผาดังขึ้นประจุไฟฟาหนาๆ สิบกวาสายระเบิดออกทามกลางฝูงหมาปา
จากนั้นก็ดีดตัวออก
ปศาจหมาปาที่ถูกประจุไฟฟาสีเงินกวาดไป ทอยยกันตัวสั่นเทาแลวลมลงกับพื้น
รางกายมีกลิ่นไหมโชยมา
ไปปเห็นเชนนั้นพลันสั่นศีรษะคารวะหานลี่ แลวกลายเปนลำแสงสีทองสายหนึ่ง
พุงออกไป
หลังจากผานไปชั่วครู ฝูงวานรที่อยูอีกดานพลันเกิดเสียงอื้ออึงขึ้น ทันใดนั้น
ลำแสงสีทองกลุมหนึ่งก็ระเบิดออกกลางอากาศ เสนไหมสีทองจำนวนนับไมถวน
หอหุมลงไปดานลาง
เสียงรองอันนาอนาถดังขึ้น!
หลังจากที่ปศาจวานรกลุมใหญมีลำแสงสีทองสวางวาบ รางก็ถูกเสนไหมสีทอง
ทะลุผานจุดตาย ทยอยกันลมลงกับพื้นกลางบอโลหิต…
ไมวาจะเปนฝูงหมาปาหรือวาฝูงวานร หากเปนแคปศาจระดับต่ำละก็ ลวนไมใช
คูตอสูของเหลยหลันและพวก แตทามกลางฝูงอสูรระดับต่ำเหลานั้น กลับมีปศาจ
ระดับกลางที่มีความสามารถไมนอยปรากฎขึ้น ทำใหพวกเขาและฉินเสี่ยวไม อาจ
สังหารฝูงอสูรไดทันที จึงทำไดเพียงคอยๆ ตอกรกับมันไปเทานั้น
หานลี่ยืนมองดูส ถานการณ อยู บ นรถวิญ ญาณ หนาเปลี่ยนสี ขบคิดวา จะให
ทั้งสามคนถอยหลับมา อาศัยอานุภาพของเขตอาคมจับปศาจเหลานี้ทั้งหมดดีหรือไม
แต ใ นตอนนั ้ น เองฉั บ พลั น นั ้ น กลางอากาศพลั น มี เ สี ย งประหลาดๆ ดั ง ขึ้ น
ดูเหมือนวาจะมีอะไรสักอยางบินมา
แววตาของหานลีเ่ ปลงแสงสีฟาสวางวาบจองเขม็งไป แตทันใดนั้นก็มีสีหนาเครงขรึม
เห็นเพียงกลางอากาศมีปศาจน้ำแข็งทมิฬรูปรางประหลาดๆ นับรอยตัวบินมา
ทุกตัวลวนมีรางกายสีดำแวววาว ขนาดใหญหนอยก็มีขนาดถึงสิบจั้ง เล็กนอยก็มีขนาด
แคสองสามจั้ง
ดูจากกลิ่นอายที่โชยออกไปขางนอกเห็นไดชัดวาลวนเปนปศาจที่อยูในหุบเหว
ปศาจเหลานี้ทุ กตัว ลว นมีส ีห น าตื ่น เต นดี ใจ บินตรงเขามาในเขตอาคมใหญ
เห็นไดชัดวาถูกกลิ่นหอมของอสูรนอยที่โชยออกไปลอมา
หานลี่หัวเราะอยางเย็นชา ยืนนิ่งที่เดิมไมขยับเขยื้อน มองเหลาปศาจที่บินเขามา
ในชั่วพริบตานิ่ง จากนั้นปากก็เปลงเสียงรองประหลาดๆ ออกมาขณะกระโจนเขามา
ในเขตอาคมใหญ หมายจะตรงเขามายังอสูรนอยที่อยูตรงใจกลาง
เมื่อเห็นวาปศาจทมิฬนับรอยตัวบินเขามากวาครึ่ง หานลี่ถึงไดลงมือ
เขาพลิกฝามือมือหนึ่ง กลางฝามือมีธงอาคมยาวสองสามชุนดามหนึ่งปรากฎขึ้น
เปนสีแดงเพลิงเปลงแสงสวางพราง
ใสลมปราณทั้ ง หมดเขา ไปในธงอาคม ปลายแหลมของธงชี ้ไ ปด า นล างอย า ง
รวดเร็ว
หลังจากเสียง “ฟู” ดังขึ้น พนลำแสงสีแดงสายหนึ่งออกมา เปลงแสงสวางวาบแลว
จมหายเขาไปในเขตอาคมอยางไรรองรอย
เสียง “ปงๆ” ดังสนั่นขึ้น เสาลำแสงสิบสายที่ตั้งตระหงานอยูตรงขอบของเขตอาคม
พลันสั่นคลอน อักขระตางๆ ปรากฏขึ้น มานลำแสงสีแดงจำนวนนับไมถวนบินมวนวน
ออกมาจากจุดตางๆ ชั่วครูก็ลอมรอบน้ำแข็งทมิฬในเขตอาคมเอาไวขางใน
ปศาจเหลานี้พลันตกตะลึงบางก็อาปากพนวายุสีดำสนิทออกมา บางก็กะหรือปก
อยางบาคลั่งเรียกหิมะสีดำและลูกเห็บออกมารอบกาย
แตไมวาจะเปนความสามารถดานน้ำแข็งชนิดใด หลังจากลำแสงสีแดงมวนวน
ผานแลว ตางก็ละลายหายไป สวนน้ำแข็งทมิฬเหลานั้นเมื่อถูกลำแสงสีแดงกวาด
ผานไป น้ำแข็งบนรางกายก็คอยๆ ละลายออกเปนชั้นๆ
ชั่วพริบตา ปศาจในเขตอาคมก็ทยอยกันหายไปเหลือเพียงไอน้ำแข็งทมิฬเปนกลุมๆ
ที่ลอยอยูกลางอากาศ
ปศาจที่อยูดานนอกเขตอาคมพลันตกตะลึง!
ปศาจบางตัวที่เสียดายกลิ่นหอมนี้ จึงไมอาจจากไปไดยังคงวนเวียนอยูดานนอก
เขตอาคม บางที่มีสติปญญาคอนขางสูงเห็นทาไมดีจึงหันกลับหนีไป
หานลี่พลันขมวดคิ้วอาปากออกพนลำแสงสีเขียวกลุมหนึ่งออกมา ดานในมีหมอเล็กๆ
สีเขียวใบหนึ่งถูกหอหุมอยู
ของสิ่งนี้หมุนควางอยูกลางอากาศไมหยุด จากนั้นลำแสงพลันเปลงแสงสวางวาบ
กลายเปนหมอยักษขนาดสองสามจั้ง
เสียง “ปง” ดังขึ้น หานลี่ตกไปที่หมอใบยักษ
หลังจากเสียงหึ่งๆ ดังขึ้น ชั่วขณะนั้นฝาหมอพลันปลิวกระเด็นออกไป เสนไหมสีเขียว
พุงออกมาจากหมอ หลังจากกระพริบวาบสองสามครั้งก็หายวับไปกลางอากาศ
ครูตอมาดานนอกเขตอาคมใกลๆ กับปศาจน้ำแข็งทมิฬเหลานั้น
ระลอกคลื่นปรากฏขึ้น เสนไหมสีเขียวจำนวนนับไมถวนพนออกมาจากกลางอากาศ
หลังจากพนไปทั่วทุกสารทิศ ชั่วขณะนั้นก็ทะลวงผานน้ำแข็งทมิฬเหลานั้น แมวา
สองสามตัวจะหนีออกไปไดไกลระยะหนึ่ง แตก็ไมอาจหลบพนการโจมตีของเสนไหม
สีเขียวได
หลังจากที่ลำแสงสีเขีย วหม นแสงลง ซากของปศาจทั้งหมดก็ กลายเปนชิ ้ นๆ
รวงลงมาจากทองฟา
เห็ นได ช ั ด ว า อานุ ภ าพของหม อ นภาสู ญ นั ้ น เพิ ่ ม ขึ ้ น ตามพลั ง ยุ ท ธ ข องหานลี่
ไมเหมือนกับในวันวานแลว
ฉินเสี่ยวและพวกเองที่สำแดงความสามารถอยูไกลออกไปกำลังทยอยกันสังหารปศาจ
ระดับกลางเหลานั้น ในที่สุดก็ทำใหปศาจแมลงเหลาแตกฮือและลาถอยไป
“คิดไมถึงวาแดนน้ำแข็งทมิฬนี้จะมีปศาจอยูมากถึงเพียงนี้ ไมรูวากอนหนานี้ไป
ซอนตัวอยูที่ใด” เหลยหลันและฉินเสี่ยวบินกลับเขามาในรถวิญญาณก็สงเสี ยงจุๆ
เอยอยางชื่นชม
“หึๆ ที่นี่กวางใหญไพศาลขนาดนี้ มีที่ซอนอยูมากมายอยูแลว ทวาปศาจเหลานี้
เปนพวกที่อยูในระแวกนี้ อีกเดี๋ยวอสูรปศาจที่อยูไกลออกไปก็คงจะมา ครานั้นอาจจะ
มีปศาจระดับสูงปรากฏขึ้น” ลำแสงสีทองสวางวาบ ไปปเองก็เขามาในรถวิญญาณ
แลวเอยอยางแชมชา
หานลี่ไดยินกลับมีสีหนาเยือกเย็นเปนพิเศษ
หลั ง จากนั ้ นไม นาน รอบด า นก็ ม ี เ สี ย งร องคำรามยาวบ า งสั ้ น บ า งคำรามขึ้น
ปศาจตางๆ เริ่มทยอยกันปรากฏตัว พลางพุงเขามาที่เขตอาคม
ครั้งนี้หานลี่ไมไดใหคนที่เหลือทั้งสามคนออกไป แตเปดการทำงานของเขตอาคม
ไมวาปศาจชนิดใดที่กระโจนเขามาในเขตอาคมก็จะโดนลำแสงสีแดงมวนเขาไปแลว
เปลงเสียงรองอันนาอนาถออกมากลายเปนเถาถาน…
เชนนั้นปศาจระลอกแลวระลอกเลา คอยๆ โจมตีเขามาเวลาครึ่งวันจึงผานไป
อยางรวดเร็ว
แมกระทั่งในชวงเวลานั้นยังมีปศาจระดับสูงปรากฏตัวขึ้นตัวหนึ่ง แตภายใต
สถานการณที่หานลี่ใชเขตอาคมมหากระบี่ทองคำอยางไมลังเลใจนั้นก็สังหารปศาจ
ตนนี้ไดอยางงายดาย
ไมรูวาปศาจตนนี้เปนปศาจที่มีชื่อเสียงในแดนน้ำแข็งทมิฬหรือไม จากนั้นก็ไมมี
ปศาจที่แข็งแกรงปรากฏขึ้นในระยะเวลานั้นอีกเลย
หานลี่และพวกจึงรูสึกยินดีมาก
สองสามชั่วยามตอมาเมื่อกลิ่นหอมบนรางของอสูรเกล็ดมิคาทนเริ่มเบาบางลง
ฝูงวิหคประหลาดที่เดิมกำลังกระโจนเขามาหาเขตอาคมอยางตอเนื่องก็แตกฮือออก
อยางไมมีเคาลางมากอน คาดไมถึงวาจะลมเลิกการโจมตี
ขณะที่หานลี่กำลังตกตะลึงนั้นไกลออกไปก็มีเสียง “ตึงๆ” ของฝเทาอันหนักอึ้งดังขึ้น
ทุกยางกาวทำใหน้ำแข็งในบริเวณนั้นสั่นสะเทือนราวกับวามีสิ่งมหึมากำลังเดินมา
ทางนี้
เหลยหลันและพวกมองสบตากันแวบหนึ่งแลวพลันเผยสีหนาตกตะลึงออกมา
หานลี่หรี่ตาทั้งสองขางลง แววตามีสีฟาสวางจา
ครูตอมาปศาจยักษสวนสูงสองสามรอยจั้งเรือนกายเปนสีเขียวมรกตก็เดินออกมา
จากความมืดมิด
“ปศาจพฤกษามรกต คิดไมถึงวาจะเปนปศาจพฤกษาตนนี้” เมื่อเห็นรูปรางของ
สัตวประหลาดอยางชัดเจน ไปปก็เอยชื่อของปศาจตนนี้ออกมาดวยความตรึงเครียด
ปศาจที่อยูเบื้องหนาชางแปลกประหลาดนัก!
รางกายอันใหญโต ทอนบนเปนมนุษยทอนลางเปนกวาง หัวดานบนเปนสีเขียวมรกต
คาดไมถึงวาจะเชื ่อมกับตนไมยั กษ ดานบนยังมีด อกและใบสีเ ขี ยวงอกอยูด ู แ ล ว
ชางนาขันนัก
แตสองมือของป ศาจตนนี้ กลั บถื อค อนขนาดเทาภู เขาอยู ไมวาผูใดเห็ น แล ว
ก็ไมอาจหัวเราะเยาะได
“ไมเปนไร แมวาปศาจพฤกษามรกตจะมีรางกายใหญโต พลังมหาศาลแตรางกาย
ของมันคอนขางหนักขอแคไมถูกอาวุธของมันโจมตีก็ไมเปนไร” ไปปเอยเตือนและ
มองไปทางหานลี่แวบหนึ่งอยางรวดเร็ว
ผลคือกลับทำใหตะลึงงัน!
เห็นเพียงหานลี่มีสีหนาเครงขรึมมาก คาดไมถึงวาจะเผยสีหนาเครงขรึมออกมา
ครั้งแรกตั้งแตที่พบเหลาปศาจลอมโจมตี
“พี่หาน เจา…” ไมใชแคไปป ฉินเสี่ยวและพวกที่พบแลวก็อดจะเอยถามดวย
ความฉงนไมได
“ถาหากมีแคปศาจตนนี้ก็พอจะตอกรได แตปศาจอีกตัวที่ยืนอยูเกรงวาคงยุ งยาก
แลว” หานลี่เงียบขรึมไปเล็กนอยคาดไมถึงวาจะเอยเชนนี้ออกมา
“อีกตัวหนึ่ง?” เมื่อไดยินหานลี่และพวกเอยเชนนี้ไปปและพวกพลันตกตะลึง
รีบรอนมองไปยังเหนือหัวของปศาจพฤกษามรกต
ภายใตการเพงพินิจมองอยางละเอียดในที่สุดก็มองเห็นปศาจอีกตนหนึ่ง
คาดไมถึงวาปศาจตนนี้จะมีความสูงไมถึงสองฉื่อ เปนคนแคระเครายาวสวม
ชุดคลุมสีเขียวมรกต มือหนึ่งถือไมเทาเอาไวยืนนิ่งอยูเหนือศีรษะปศาจพฤกษามรกต
ประกอบกับที่ถูกใบไมปกคลุมรางเอาไวเกือบครึ่ง คนอื่นๆ จึงไมพบรองรอยของเขาใน
คราแรก
“พวกเจ า ฟ ง ให ด ี ข า รู  ว  า พวกเจ า คื อคนจากบนพื ้ น ดิ น และมี ค วามสามารถ
แตพลังยุทธแคนี้ลวนไมใชคูมือของตาเฒา ขอแคยอมมอบอสูรวิญญาณที่กำลังจะ
พัฒนาระดับตัวนั้นใหแตโดยดี ตาเฒาก็จะจากไปทันที มิเชนนั้นที่นี่จะเปนที ่ตาย
ของพวกเจา” เมื่อเห็นหานลี่และพวกพบตนเองแลวคนแคระก็เอยคำพูดอยางโอหัง
ออกมาโดยที่ดวงตาไมกระพริบ
เหลยหลันไดยินอีกฝายเอยอยางโอหังเชนนี้ ก็ไมแนใจพลังของอีกฝาย จึงอดที่จะ
มองสบตากันไมได
หานลี่แววตาเปลงประกายสองสามครั้ง มองปราดเดียวก็รูพลังยุทธของอีกฝาย
จึงอดที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งไมได
มินาละคนแคระถึงไดพูดจาโอหังเชนนี้ เขาสามารถควบคุมปศาจระดับสูงอยาง
ปศาจพฤกษามรกตได ตัวของเขาคาดไมถึงวาจะเปนสิ่งที่นากลัวโดยมีระดับเทียบเทา
กับระดับหลอมสูญขั้นกลาง ทวาพลังยุทธเชนนี้ หากเผชิญหนากับบุตรศักดิ์สิทธิ์ของ
เผาวิญญาณเหาะเหินธรรมดาๆ ก็คงไมอาจตอกรได แตสำหรับหานลี่ในครานี้ขอแค
อีกฝายไมไดมีความสามารถเหนือชั้นก็ไมไดนับวาเปนศัตรูอะไร ดังนั้นหานลี่จึงขี้เกียจ
จะตอบอะไรกลับไป แคใชสองมือประสานมือคารวะมองไปยังคนแคระดวยทาที
อมยิ้มไมเอยปากอะไรออกมา
แมวาไปปและพวกทั้งสามจะใจเตนตึกตัก แตแนนอนวายอมยอมใหหานลี่เปนผูนำ
เมื่อเห็นสถานการณเชนนี้ก็ปดปากเงียบอยางรูจักวางตัว
คนแคระที่อยูบนรางของปศาจพฤกษามรกตเห็นเชนนั้นพลันรูสึกโกรธเกรี้ยว
ดวงตาทั้งสองขางคอนปะหลักปะเหลือก เอยอยางเย็นชาวา
“ในเมื่อพวกเจาเลือกหนทางแหงความตาย งั้นตาเฒาก็จะสงพวกเจาไปก็แลวกัน!”
เมื่อเอยจบไมเทาในมือของคนแคระก็แตะไปที่ปศาจพฤกษามรกตใตลาง
ชั่วขณะนั้น ปศาจตนนี้พลันเปลงเสียงรองคำรามออกมา สาวเทายาวๆ เขาไปที่
เขตอาคม
ตอนที่ 1454 หุนเชิดโลหิต
หานลี่มองดูปศาจรางยักษเดินเขามาทีละกาวอยางเยือกเย็น ใบหนาไรซึ่งอารมณใดๆ
เพียงแคอีกฝายเดินเขามาใกลอีกหนอย กาวเขามาในขอบเขตอานุภาพของ
เขตอาคมกระบี่ เขาก็จะใชเขตอาคมมหากระบี่ทองคำจูโจมอยางไมปรานี สังหารสอง
ปศาจสองตนพรอมกันในคราเดียว
ทวาในขณะนี้ ไกลออกไปบนขอบฟาพลันปรากฏแสงสีแดงสวางขึ้นวาบหนึ่ง
พรอมกับเสียงรองแหลม
ตามดวยแสงโลหิตสามดวงที่ปรากฏออกมาทามกลางความมืดมิด กลายเปนรุง
สีโลหิตสามสายพวยพุงเขามา
เมื่อเห็นฉากนี้ คนแคระก็หนาเปลี่ยนสียกใหญ ใชไมเทาในมือแตะไปที่ศีรษะของ
ปศาจพฤกษาอีกคราหนึ่ง กอนที่จะหันไปมองรุงสีโลหิตดวยใบหนาตื่นตระหนกระคน
สงสัยไมหยุด
เสียง “ตึงๆ” ดังขึ้นสองสามหน ปศาจพฤกษามรกตพลันหยุดฝเทา คิดไมถึงวา
จะหยุดที่บริเวณขอบของเขตอาคมมหากระบี่ทองคำอยางพอดิบพอดี
หานลี่ขมวดคิ้วคราหนึ่ง แตเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงใหมที่เกิดขึ้นก็เบนสายตาไป
ยังกลางอากาศที่ไกลออกไปอยางไมใสใจ
พวกไปปทั้งสามคนเห็นดังนี้ก็พากันไมสบายใจขึ้นมา ไมรูวาที่ปรากฏออกมาใหมนี้
เปนปศาจชนิดใดอีก
รุงสีโลหิตสามสายนี้มีความเร็วที่นา ประหลาด พุงปราดเปรียวมาถึงกลางอากาศ
ในบริเวณใกลเคียงอยางรวดเร็วปานสายฟาแลบ ครั้นลำแสงดับวูบ มนุษยรางเล็ก
สีแดงสูงฉื่อกวาสามคนก็ปรากฏออกมา
มนุษยรางเล็กแตละคนลวนมีใบหนางามสะโอดสะองค มองไมออกวามีอายุ
เทาไหร ทวาบนรางสวมเกราะศึกสีแดงแปลกตา บนพื้นผิวของเกราะสลักอักขระไว
อยางถี่ยิบ ผิวหนังก็เปนสีแดงสดเชนกัน ทั้งยังแผกลิ่นคาวเลือดที่ชวนคลื่นเหี ยน
อาเจียนออกมา
ดวงตาไรซึ่งความรูสึกทั้งสามคูกวาดมองลงมายังเบื้องลางครูหนึ่ง กอนที่จะปลอย
ลำแสงประหลาดลงมายังรางของหานลี่ในทายที่สุด
รู ม  า นตาของหานลี ่ ห ดเล็ ก ลง รู  ส ึ ก ได ถ ึ ง ความหนาวเหน็ บ ที ่ ผ ุ ด ออกมาจาก
แผนหลังแลวแผไปยังทั่วราง ราวกับกำลังถูกอสรพิษสามตัวจองเขม็งอยูก็มิปาน
“หุนเชิดโลหิต นั่นคือหุนเชิดรางแยกของอรหันตตี้เซวี่ย!” เมื่อคนแคระเห็น
รูปรางของมนุษยรางเล็กชัดเจน ใบหนาก็ซีดเผือดขึ้นมา สายตาเต็มไปดวยความ
หวาดกลัว
“หุนเชิดโลหิต? ตี้เซวี่ย?” หานลี่โคจรความคิดอยางรวดเร็ว ทวาในหัวกลับไมมี
ความทรงจำแมแตเสี้ยวเดียว จึงอดไมไดที่จะแอบรูสึกปลาดใจอยูบาง
มนุษยรางเล็กทั้งสามมองหานลี่อยางประเมินอยูนานสองนาน ทันใดนั้นดวงตา
ก็ปรากฏสีของความดุรายออกมา มนุษยรางเล็กทั้งสามอาปากพรอมกัน ลำแสง
สีโลหิตสามสายพลันพวยพุงออกมา ในชั่วพริบตาก็มาโผลที่เบื้องหนาของหานลี่
แมวาหานลี่จะระมัดระวังอยูกอนแลว แตเมื่อเห็นอีกฝายปลอยการโจมตีออกมา
โดยไมสงสัญญาณแมแตนอย ก็ยังตองตกตะลึงระคนโมโหอยางหนัก
ทั นที ท ี ่ ชู แ ขนขึ้ นโดยไม ค ิด แสงอรุ โณทั ย สี เ ทาผื น หนึ ่ง ก็ ป รากฏขึ้ น ตรงหนา
ขณะเดียวกัน บนรางมีปราณสีดำผุดออกมากลุมใหญ พลันปรากฏเกราะศึกโบราณ
สีดำขลับ
“พรึ่บ!” “พรึ่บ!” “พรึ่บ!” เกิดเสียงดังอื้ออึงสามครั้ง
ไมรูวาลำแสงโลหิตสามสายนี้เปนอิทธิฤทธิ์แบบใด แตคาดไมถึงวาแสงเทวะดูดปราณ
ที่สามารถควบคุมพลังเบญจธาตุไดนั้น แคลำแสงนี้เปลงกะพริบไมกี่ทีก็ถูกทะลวงเปน
รูโหวและโจมตีใสเกราะสังหารที่ปรากฏบนรางของหานลี่
แสงโลหิตสั่นกระเพื่อมอยูครูหนึ่ง หลังจากที่ลำแสงสีโลหิตทั้งสามสายมีกำลัง
ออนลงหลายสวน ครูตอมาก็ทะลวงเกราะสังหารเปนรูโพรงขนาดเทาขอมือสามโพรง
กอนที่จะปะทะเขากับทรวงอกของหานลี่อยางแข็งกราว
พวกเหลยหลันที่อยูบริเวณใกลเคียงตางพากันหนาถอดสี ทวาฉากตอจากนี้ถึงกับ
ทำใหแตละคนตองตกตะลึงจนตาคางไปตามๆ กัน
เสียงกึกกองราวกับฟาผาดังออกมาจากหนาอกของหานลี่ หลังสิ้นเสียงสะเทือน
เลื อนลั ่ น ลำแสงสี โลหิ ต ก็ ผ สานเข า กั บ ประกายอั ส นี ส ี เงิ น ทองแล ว หายไปอยาง
ไรรองรอยในเวลาเดียวกัน
คาดไมถึงวาการโจมตีนี้จะถูกอาภรณอัสนีของหานลี่ตานไวไดในที่สุด
แมจะเปนเชนนี้ก็ยังทำใหหานลี่รูสึกตื่นตกใจอยางหนัก สีหนาของเขาหมนหมอง
โดยพลัน หลังจากแคนเสียงคราหนึ่ง เกราะสังหารที่ถูกแหวกออกเปนโพรงใหญ
สามโพรงกลับผุดปราณสีดำออกมาจากขางใน ภายในชั่วพริบตาก็ฟนคืนสภาพเดิม
หากไมรูวาเกราะสังหารนี้ไดกระจายอานุภาพของลำแสงโลหิตสามสายนี้ไ ว
เกรงวาอาภรณอัสนีก็ไมอาจตานทานได
เมื่อเห็นวาการโจมตีไมไดผล หุนเชิดโลหิตทั้งสามกลับไมแสดงอารมณใดๆ แมแตนอย
แผนหลังเปลงแสงโลหิตออกมาวาบหนึ่ง ปกสีแดงฉานก็ปรากฏออกมาทีละคู เพียงแค
กระพือคราหนึ่ง มนุษยรางเล็กก็หายไปอยางไรสาเหตุ
หานลี่รูสึกใจหายวาบ ยังไมทันไดทำการตอบโตใดๆ ก็เกิดระลอกคลื่นในอากาศ
บริเวณใกลเคียงขึ้น มนุษยรางเล็กทั้งสามก็โผลพรวดออกมา
พวกมันแกวงมือทั้งสองคราหนึ่ง ในมือของแตละตัวปรากฏมีดยาวสีโลหิตสองเลม
เมื่อฟนไปยังอากาศตรงหนาหานลี่ ลำแสงมีดสีโลหิตทั้งสามเสนก็ผาลงมาเป นรูป
พระจันทรเสี้ยวสีแดงสด คิดไมถึงวาพวกมันจะไมสนใจพวกเหลยหลันที่อยูในบริเวณ
ใกลเคียงแมแตนอย
หุ  น เชิ ด โลหิ ต เหล า นี ้ ล  ว นมี จ ิ ต สั ม ผั ส ของชายชุ ด โลหิ ต อยู  ใ นนั ้ น เสี ้ ย วหนึ่ ง
ยอมสามารถแยกแยะไดวามีเพียงหานลี่เทานั้นที่สามารถคุกคามเขาได เพียงแคกำจัด
เขาทิ้ง คนที่เหลืออยูยอมไมคณามืออยูแลว
หานลี่รองออกมาดวยความเกรี้ยวโกรธ ปกสองขางบนแผนหลังสั่นไหวคราหนึ่ง
คาดไมถึงวาจะเคลื่อนยายชั่วพริบตาแลวหายไปทามกลางเสียงฟารองกอง
ในเวลาตอมา กลางอากาศสูงหางจากจุดเดิมประมาณยี่สิบจั้งเศษ เกิดประกายอัสนี
สีเขียวขาวขึ้นวาบหนึ่ง รางของหานลี่ก็ปรากฏออกมาอีกครั้ง
ทว า เกื อ บจะในเวลาเดี ย วกั น ลำแสงโลหิ ต เปล ง ประกายขึ ้ น พร อ มกั น ทั้ ง
สามทิศทาง มนุษยรางเล็กทั้งสามก็ปรากฏออกมาอยางฉับพลัน การกระทำของ
พวกมันยังคงเหมือนเดิม ทวาคมมีดโลหิตทั้งหกเลมไดกลายเปนลำแสงโลหิตจำนวน
นับไมถวน ปกคลุมหานลี่ไวเบื้องลางโดยตรง
หานลี่ใบหนานิ่งดุจสายน้ำ บนรางพลันเปลงแสงสีทองวูบหนึ่ง บนกลามเนื้อ
ปรากฏแผนเกล็ดสีทองแวววับออกมาชั้นหนึ่ง พรอมทั้งเปลงเสียงรองดังลั่นออกจาก
ปากในเวลาเดียวกัน ฝามือสีขาวดำสองขางซัดออกไปอยางเลือนราง ชั่วพริบตา
ก็กลายเปนเงาฝามือสีขาวดำผสานกันไมชัดเจนผืนหนึ่ง
เกิดเสียงดัง “เครงๆ” อยูหลายหน ราวกับโลหิตที่สงเสียงดังกองเมื่อถูกกระทบ
ครั้นคมมีดโลหิตสามเลมฟนลงบนเงาฝามือ ทันใดนั้นก็สัมผัสไดถึงพลังมหาศาลที่โถม
ทะลักออกมาอยางยากที่จะตานทานได กอนที่จะปริแตกพรอมสงเสียงรองนาเวทนา
หุ  นเชิ ด ทั ้ ง สามตั ว ถู ก พลั ง มหาศาลที ่ ส  ง มาจากคมมี ด ผลั ก ออกอย า งรุ น แรง
พากันกระเด็นหงายหลังไปไกลหลายจั้ง
แสงโลหิตบนรางเปลงประกายเปะปะครูหนึ่ง หุนเชิดโลหิตทั้งสามก็กลับมา
ทรงตัวไดอีกครั้ง พอเงยหนาขึ้นไปอีกที ก็ตกตะลึงอยางหามไมอยู
เบื้องหนาวางเปลาไรผูคน มองไมเห็นรองรอยของหานลี่แลว
ที่แทภายในชั่วพริบตานั้น หานลี่ไดใชวิชาเคลื่อนยายชั่วพริบตาอีกครั้งหนึ่ง
ตอนนี้กลับมาอยูบนรถวิญญาณแลว
เมื่อเห็นวาคนรางเล็กกมหนาหาเขาเจอไดในที่สุด ใบหนาของหานลี่ก็ปรากฏ
รอยยิ้มเยาะออกมา
สองมือตั้งทารายคาถาอยางรวดเร็ว ในปากพลางเปลงคำราย
กลางอากาศบริเวณใกลเคียงเกิดเสียงดังกระจางชัด เสนไหมสีทองแตละสายพลัน
ปรากฏออกมา เปลงแสงวูบวาบพลางขยับเขาใกลจากสี่ทิศแปดทาง โอบลอม หุน
เชิดโลหิตทั้งสามตัวไวใจกลางสุด
ที่แทเขตอาคมมหากระบี่ทองคำซึ่งฝงไวในบริเวณใกลเคียงกอนหนานี้ไดถูกหานลี่
สำแดงอานุภาพออกมาแลวนั่นเอง
อานุภาพของเขตอาคมกระบี่ยอมเพิ่มขึ้นตามระดับพลังยุทธของหานลี่ที่เพิ่มขึ้น
อยางมากเปนธรรมดา เสนไหมกระบี่ที่จากเดิมเชื่องชาเปนอยางยิ่ง ชั่วพริบตาที่
ปรากฏก็รีบพุงมารวมกันที่ใจกลางในทันที แมวาความเร็วของมันยังไมนับวารวดเร็ว
แตเทียบกับเมื่อกอนแลวก็ยังเร็วกวาไมนอย
หุนเชิดโลหิตสามตัวเห็นสถานการณเชนนี้ ลำแสงโลหิตภายในดวงตาก็โคจรรอบหนึ่ง
ปกโลหิตบนหลังพลันพลิ้วไหว แลวหายไปในอากาศอยางนาประหลาด
ดูเหมือนพวกมันคิดจะใชเคล็ดวิชาลับ จึงหนีออกนอกเขตอาคมกระบี่โดยตรง
แตดวยความยอดเยี่ยมของเขตอาคมมหากระบี่ทองคำ มีหรือที่พวกมันจะหนีรอดไป
เชนนี้ได
พื ้ นที ่ ว  า งบริ เ วณขอบของเขตอาคมกระบี ่ ส ามแห ง ส ง เสี ย งดั ง หึ ่ ง ๆ ออกมา
เสนไหมกระบี่จำนวนนับรอยก็พุงกระจายไปยังพื้นที่วางพรอมกัน
ทันใดนั้นแสงโลหิตก็ปรากฏออกมา มนุษยรางเล็กทั้งสามถูกบังคับใหเผยราง
เสนไหมสีทองพลันผสานรวมเปนหนึ่ง หุนเชิดทั้งสามตัวก็ถูกตัดแบงเปนชิ้นเล็ ก
ชิ้นนอยจำนวนนับไมถวน ราวกับเพียงเทานี้ก็ถูกทำลายลงแลว
พวกเหลยหลันและคนแคระที่อยูไกลออกไปตางก็เหินจนเบิกตาอาปากคางอยู
นานแลว
ทวาทันทีที่คนแคระสำนึกตัวจากอาการตื่นตกใจ ไมรูวาใชวิธีใด ปศาจพฤกษา
ที่อยูเบื้องลางก็ถอยไปขางหลังอยางชาๆ แตการกระทำทั้งหมดกลับไรสุมเสียง
ความรายกาจของหุนเชิดโลหิตนั้น มันผูนี้ซึ่งเปนผูอาศัยเดิมของเหวพสุธายอมรูดี
จนไมอาจจะรูดีไปกวานี้แลว ขนาดทั้งสามตัวรวมมือกันยังไมใชคูมือของเจาของ
อสูรตัวนอยที่อยูตรงหนาเลย ไหนเลยจะกลาคิดหาทางจับอสูรกิเลนเสือดาวอีก
ทวาในตอนนี้เอง ฉากที่นาประหลาดพลันปรากฏขึ้นภายในเขตอาคมกระบี่
ทันใดนั้น เศษรางของหุนเชิดโลหิตที่ดูเหมือนขี้เลื่อยก็เปลงแสงโลหิตสวางพราง
กลายเปนหยดเลือดทยอยมารวมตัวกันที่ใจกลางทีละหยดๆ ครูตอมาก็หลอมรวมเปน
กอนโลหิตขนาดเทาศีรษะสามหัว แผกลิ่นคาวเลือดคละคลุง
ครั้นกอนโลหิตหมุนเควงรอบหนึ่ง ที่พื้นผิวของมันก็ปรากฏรูปรางของมือเทาและ
ศีรษะออกมา เห็นไดชัดวาหุนเชิดโลหิตสามตัวนี้กำลังจะคืนสูสภาพเดิมแลว
เมื่อไดประจักษภาพนี้ หานลี่นอกจากจะไมตื่นตระหนกแลว ใบหนากลับเผย
อารมณแปลกประหลาดออกมา พลันแตะเบาๆ ไปยังเขตอาคมกระบี่ทีหนึง่
“สวบ!” วิหคเพลิงสีเงินตัวหนึ่งปรากฏออกมาจากพื้นที่วางภายในเขตอาคมกระบี่
ทวาทันทีที่เสียง “พรึบ” ระเบิดออกมา เพลิงสีเงินสามกองขนาดเทาขอมือก็พุง
ออกมาปรากฏที่บริเวณใกลเคียงของกอนโลหิตทั้งสาม
หลังสงเสียงดังอื้ออึงหลายหน เพลิงสีเงินก็พุงเขาใสกอนโลหิตอยางรุนแรง
เพลิงสีเงินกอตัวสูงขึ้น ปกคลุมกอนโลหิตไวภายใน เมื่อพื้นผิวของมันกับเพลิง
สีเงินสัมผัสกัน ทันใดนั้นก็มีกลิ่นไหมโชยออกมา พรอมทั้งสงเสียงแหลมโอดครวญ
อยางนาเวทนา
เพลิงสีเงินทั้งสามพุงชนกับเขตอาคมกระบี่อยางเปะปะ ราวกับแมลงวันที่ไรหัว
หานลี่จองมองทั้งหมดนี้ดวยใบหนาที่ไรซึ่งอารมณ แตในใจก็ยังแอบรูสึกตกตะลึง
อยูบาง
สำหรับอานุภาพของเพลิงสวรรคกลืนวิญญาณนั้น เขารูดีที่สุดแลว บอยครั้งที่
เผชิญหนากั บ ศัต รู อีกฝายแค แตะเพีย งเล็ ก น อยก็ จะกลายเป นเถาธุลี ใ นพริ บ ตา
แตสำหรับหุนเชิดโลหิตสามตัวนี้ คิดไมถึงวายังสามารถยืนหยัดตอไปไดอีก
ทว า เพลิ ง สวรรค ก ลื นวิ ญ ญาณก็ ย ั ง รุ น แรงเหนื อธรรมดาจริ ง ๆ เพี ย งไม นาน
เสียงคร่ำครวญภายในกอนโลหิตทั้งสามก็คอยๆ เบาลงและหายไปอยางไรรองรอย
ในที่สุดกอนโลหิตก็กลายเปนเถาธุลีภายในเพลิงสีเงิน
คราวนี้ หุนเชิดโลหิตทั้งสามตัวไมฟนคืนกลับมาแลวจริงๆ
หานลี่กวักมือไปไกลโพน ทันใดนั้นเพลิงสีเงินทั้งสามกองก็ผสานรวมเป นหนึ่ง
คืนสภาพเปนวิหคเพลิงสีเงินอีกครั้ง พุงทยานแลวจมหายไปในแขนเสื้อ
ทวาทันทีที่เขาเปลี่ยนสีหนา ราวกับสัมผัสถึงอะไรบางอยาง ทันใดนั้นก็หันหนา
มองไปยังอีกฝง
เห็นเพียงปศาจพฤกษามรกตรางมหึมาตัวนั้น ไมรูวาถอยไกลออกไปหลายรอยจั้ง
ตั้งแตเมื่อไหร เมื่อคนแคระตัวนั้นเห็นสายตาของหานลี่มองมาทางนี้ ทันใดนั้นใจก็เตน
โครมคราม พลันผิวปากออกมาโดยไมตองคิด
ปศาจพฤกษาที่ไรสุมเสียงในตอนแรก จูๆ ก็เปลงแสงสีเขียวทั่วราง กอนที่จะกาว
เทายาวเปดวิ่งพรวดไปยังทางที่มาอยางไมปดบังอำพรางใดๆ อีก
ดวยความสูงใหญของปศาจตนนี้ คิดไมถึงวาเพียงแคพุงปราดไมกี่ทีก็หายไปใน
ความมืดแลว
“คิดจะหนีเรอะ!” หานลี่พูดคนเดียว ครั้นอาปากออก เตาจิ๋วใบหนึ่งที่ถูกหุมดวย
แสงสีเขียวก็พวยพุงออกมา คือเตานภาสูญนั่นเอง!
ทวาในตอนนี้ จูๆ เบื้องลางของรถวิญญาณก็มีเสียงคำรามอยางไรเรี่ยวแรงของ
อสูรดังออกมา
หานลี่ไดยินดังนี้ก็รูสึกปติอยูในใจ ครั้นทอดมองไปยังทิศทางที่ปศาจพฤกษา
หายไปก็รูสึกลังเลเล็กนอย เขาอาปากแลวดูดเอาเตาจิ๋วเขาไปในทองอีกครั้ง กอนที่
รางจะเลือนรางและหายไปจากรถวิญญาณอยางนาประหลาด
ครูตอมา ตัวเขาก็ปรากฏบนพื้นดินเบื้องลางราวกับภูตพราย กำลังยืนอยูขางๆ
แสงสีขาวกลุมนั้น
ในตอนนี้ กลิ่นหอมที่แผกำจายออกมาจากแสงสีขาวไดจางลงอยางหาที่สุดมิได
ดวยการเชื่อมจิตสัมผัสอันลึกซึ้งของหานลี่ จึงรูวาอสูรกิเลนเสือดาวใกลจะพัฒนา
ระดับเสร็จสมบูรณแลว เห็นทีสุดทายแลวควรชวยมันอีกแรงหนึ่งจึงจะเปนการดีที่สุด
หานลี่สูดหายใจลึกคราหนึ่ง มือขางหนึ่งพลันยื่นออก สอดเขาไปในมานแสงแลว
กดลงบนรางของอสูรตัวนอยที่อยูดานใน
ในขณะเดียวกัน พลังวิญญาณบริสุทธิ์กลุมหนึ่งก็ถาโถมเขาไปในรางของอสูรตัวนอย
อยางหนักหนวง
รางของหานลี่เปลงแสงสีเขียวสวางพราง สีหนาพลันเครงขรึมขึ้นมา
เหลยหลันกับพวกไปปทั้งสามคนที่อยูบนรถวิญญาณตางก็ถอนหายใจยาวออกมา
พรอมกันโดยไมไดนัดหมาย ครั้นสบตากันคราหนึ่ง แตละคนตางก็มีทาทีโลงใจกัน
ยกใหญ
ตอนที่ 1455 มูชิงกับมังกรโลหิต
การแสดงออกของหานลี่ยังคงทำใหพวกเหลยหลันทั้งสามคนตกตะลึงยกใหญ ตอหนา
ศั ต รู ส องฝ า ยที ่ด ู แ ข็ ง แกร ง สุ ด ๆ คิ ด ไม ถ ึ ง ว า ฝ า ยหนึ ่ ง จะถู ก สัง หารอย า งงายดาย
สวนอีกฝายหนึ่งถูกทำใหตื่นตระหนกจนหนีไป ทายที่สุดก็พนภยันตรายตรงหนานี้ได
ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังสบายใจกันอยูนั้น ไมไดรูวาหุนเชิดโลหิตสามตัวที่หานลี่
สั ง หารไปนั ้ นมี พ ลั ง ระดั บ ผู  บ ั ญ ชาการวิ ญ ญาณขั ้ น ต่ ำ ไม เ ช น นั ้ น สามคนนี้ ค งได
ตื่นตระหนกตกใจยิ่งกวาเดิมแลว
ดังนั้น เมื่อเห็นวารอบๆ ไมมีปศาจปรากฏออกมาอีกแลว ในขณะเดียวกัน หานลี่
ไดชวยเหลืออสูรวิญญาณพัฒนาระดับจนมาถึงขั้นตอนสุดทายแลว พวกเหลยหลัน
ทั้งสามจึงนั่งขัดสมาธิอยูในรถวิญญาณ ฟนฟูพลังปราณที่สูญเสียไปอยางเงียบๆ
หนึ่งชั่วยามตอมา บนพื้นดินพลันเปลงแสงสีขาวอยางบาคลั่ง ทันใดนั้นก็มีเสียง
คำรามกึกกองราวกับมังกรคำรามดังออกมาคราหนึ่ง
หานลี่ที่กำลังยื่นมือขางหนึ่งเขาไปในแสงสีขาวนั้น สีหนาดูเปลี่ยนไปเล็กนอย
ครั้นโยกตัวคราหนึ่ง เงาลวงตาก็พุงถาโถมออกมาอยางตอเนื่อง
เกือบจะในเวลาเดียวกัน เงาสีทองรางหนึ่งพวยพุงออกมาจากแสงสีขาว หลังจาก
หมุนเควงรอบหนึ่ง ก็กลายเปนเงาอสูรรางยักษลำตัวยาวสิบจั้งเศษตนหนึ่งทามกลาง
ดวงแสงเจิดจา ทั่วทั้งเรือนกายเปนสีทองแวววาว มีเกล็ดปกคลุมตามรางกาย ที่แท
ก็คือ อสูรกิเลนสีทองตนหนึ่ง
แมวากิเลนตัวนี้จะเปนแคเงาลวงตาภาพหนึ่ง แตเมื่อมันเงยหนาและแผดเสียง
คำรามอันนาเกรงขามดังลั่น พลังอำนาจอันนาสะพรึงก็พุงทยานขึ้นสูทองฟา แมแต
หานลี่ที่เพิ่งจะยืนไดมั่นคงก็ยังตองถอยหลังไปอีกหนึ่งกาวพรอมกับหนาเปลี่ย นสี
เล็กนอยอยางหามไมอยู
ทวาเงาลวงตานี้ก็เปนเหมือนกับดอกราตรีที่บานชั่วแวบเดียว คอยๆ สลายหายไป
อยางชาๆ
ในเวลาเดียวกับที่แสงสีขาวดับวูบ อสูรตัวนอยก็ปรากฏกายออกมา
อสูรกิเลนเสือดาวในตอนนี้ รูปรางของมันไมตางจากเมื่อกอนมากนัก แตลวดลายบน
เนื้อหนังของมันกลับมีสีทองปรากฏเปนเสนๆ ขณะเดียวกัน เมื่อมันลืมตาทั้งสองขึ้น
รูมานตาก็เปลี่ยนเปนสีเงินแวววาว
เงาลวงตาเปลงแสงวูบหนึ่ง อสูรกิเลนเสือดาวก็หายวับไปจากที่เดิมอยางฉับพลัน
เกื อบจะในเวลาเดี ย วกัน หานลี ่ ร ู  สึ ก วา ที ่ ห นา อกตัว เองหนั ก ขึ ้น มี ส ิ ่ ง ที ่เปน
ขนปุกปุยโผลออกมา
เขากมหนาดู ที่แทก็เปนเจาอสูรตัวนอยที่พัฒนาระดับกระโจนเขามาซุกรางของ
ตนนั่นเอง
อสู ร ตนนี ้ เ บิ ก ดวงตาอั น แปลกประหลาดขึ ้ น พลางแลบลิ ้ น สี ช มพู อ อกมา
ใชแรงเลียที่หลังมือของหานลี่สองสามทีดวยทาทางสนิทสนมสุดๆ
หานลี ่ ใ ช จิ ต สัม ผั สตรวจดู ภ ายในร างของอสู รตั ว นอยโดยไม พูด จา ครู  ต อมา
บนใบหนาก็เผยสีหนาของความดีอกดีใจออกมา
อสูรตัวนอยพัฒนาระดับสำเร็จดังคาด มีพลังยุทธอยูในระดับเทพแปลงแลว
ด ว ยอิ ท ธิ ฤ ทธิ ์ โดยกำเนิ ด และสายเลื อดกิ เ ลนในตั ว ของอสู ร ตนนี ้ เหนื อ กว า
อสูรชนิดอื่นๆ ในระดับเดียวกันอยางลิบลับ ภายภาคหนานาจะสามารถกลายเปน
ผูชวยที่ขาดไมได
อสูรตัวนอยหาวหวอดในออมอกหานลี่ ทาทางดูออนเพลียอยางเห็นไดชัด การพัฒนา
ระดับเมื่อครูทำใหรางกายของมันรับไมไหว จึงตองรีบฟนฟูพลังปราณที่สูญเสียไป
หานลี่เห็นเชนนี้จ ึ งพลิ กฝ ามือขา งหนึ่ ง ระหวางนิ้วพลั นปรากฏยาลู ก กลอน
สีเหลืองอมแดงออกมาเม็ดหนึ่ง พอยัดเขาไปในปากของอสูรตัวนอยเสร็จ ก็ใชมือตบๆ
รางของอสูรตัวนอยเบาๆ
แสงสีเขียวสวางวาบ รางของอสูรตัวนอยหายไปอยางไรรองรอย มันถูกเก็บเขาไป
ในกำไลเก็บของ ตอนนี้กำลังนอนหลับปุยอยูขางใน
สามคนที ่ อยู  บนรถวิ ญ ญาณได เห็ น เงาลวงตากิ เลนก็ ห น า เปลี ่ ย นสี เล็ ก น อ ย
พลันหันมาสบตากันดวยจิตใตสำนึก ตางก็เห็นอาการตกตะลึงในดวงตาของอีกฝาย
แมวาเผาวิญญาณเหาะเหินจะเลื่อมใสแคระดับจิตวิญญาณเที่ยงแทของเผาวิหค
เท า นั ้ น แต ท ี ่ เ หมือนกั บกิ เ ลนซึ่ งไดรั บ ชื ่อเสี ยงเลื ่องชื ่อลือนามจากเผ าตา งๆ ใน
แดนวิญญาณมาชานานวามีพลังระดับจิตวิญญาณเที่ยงแทอันเกรียงไกรเชนนี้ พวกเขา
จะไมรูจักไดอยางไร
อสูรวิญญาณของหานลี่ยังมีสายเลือดของกิเลนวิญญาณเที่ยงแทอยู เรื่องนี้ยอม
ทำใหแตละคนตกตะลึงพรึงเพริดอีกครั้ง
ตอนนี้รางของหานลี่พลันพลิ้วไหว กลายเปนรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงขึ้นสูทองฟา
วนรอบอาณาเขตหลายรอยจั้งรอบหนึ่ง ลำแสงหลากหลายสีสันก็พุงทยานออกจาก
พื้นดิน กอนที่จะหายวับเขาไปในรุงสีเขียว
ธงเขตอาคมและจานเขตอาคมถูกเขาเก็บเขาไปในแขนเสื้อใหญๆ ทั้งหมด
เสาแสงสีแ ดงฉานสิบกวา ต นและเขตอาคมบนพื ้น ดิน ก็ สลายหายไปในทันที
ทุกอยางฟนคืนกลับมาเปนสภาพเดิม
“พวกเรามีเวลาไมมาก จะตองเขาสูชั้นที่สามโดยเร็วที่สุด” แสงสีเขียวสวางวาบ
รางของหานลี่พลันปรากฏภายในรถเหาะ พูดกับพวกเหลยหลันทั้งสามดวยทาทาง
สงบนิ่ง
พวกไปปและเหลยหลันยอมไมมีขอคิดอื่นใด จึงพากันพยักหนาเปนเชิงเห็นดวย
ดั ง นั ้ น หานลี ่ เ พี ย งแค ใ ช ป ลายเท า แตะเบาๆ ลงบนรถวิ ญ ญาณสามเหลี ่ ย ม
ก็กลายเปนลำแสงสีขาวพวยพุงออกไป หลังจากพุงฉวัดเฉวียนไมกี่หน ภาพของ
รถเหาะก็คอยๆ จางลงและเลือนหายไปในขอบฟาอันมืดมิดในที่สุด
ชั้นลึกแหงหนึ่งในเหวพสุธา ชวงเวลาเดียวกับตอนที่หุนเชิดโลหิตทั้งสามถูก
เพลิงสวรรคกลืนวิญญาณเผามอดจนกลายเป นเถา ธุลี ชายชุดโลหิตที่กำลั ง นอน
หลับตาพักผอนอยูบนเกาอี้ภายในหองลับบริเวณกลางเขา ครูตอมาดูเหมือนจะสัมผัส
ไดถึงอะไรบางอยาง พลันลืมตาขึ้นแลวอุทานออกมาเบาๆ ดวยความสงสัย
“เอ! หุนเชิดโลหิตถูกทำลายแลว แมแตจิตสัมผัสทั้งสามสายก็หนีออกมาไมได
นี่มันเกิดอะไรขึ้น หรือวาจะมีผูอื่นสอดมือเขามายุงเรื่องดีของผูเฒา?” ชายชุดโลหิต
พูดดวยสีหนาเฉียบขาด พลันปรากฏทาทางดุรายออกมา
“ชางเถอะ ก็แคหุนเชิดโลหิตสามตัวเทานั้นเอง จะสงหุนเชิดตัวอื่นไปอีกก็เกรงวา
จะไมทันแลว กับระดับแมทัพวิญญาณกระจอกๆ แคคนเดียว ไมถึงกับตองใหผูเฒาไป
เยือนชั้นบนดวยตัวเองหรอก” ชายชุดโลหิตเอามือลูบๆ คาง พลางบนพึมพำ
ผานไปนานสองนาน เขาจึงคอยสั่นแขนเสื้อคราหนึ่ง กอนกลมที่ใชไปเมื่อครั้ง
กอนพวยพุงออกมาอีกครั้ง หลังจากหมุนโคจรรอบหนึ่ง ก็ลอยควางอยูเบื้องหนา
มือหนึ่งรายคาถา สวนอีกมีหนึ่งแตะไปที่กอนกลมหนึ่งที แสงโลหิตจากไขมุกพลัน
ขยายใหญขึ้น พรอมสงเสียงดังหึ่งๆ ออกมาเบาๆ
ครูตอมา เสียงพูดอันเยือกเย็นของหญิงสาวผูหนึ่งดังออกขึ้น “ตี้เซวี่ย เจาหาขามี
ธุระอะไร?” เจาของเสียงพูดกับชายชุดโลหิตอยางไมเกรงใจแมแตนอย
“เหอะๆ ผูเฒาอยากจะทำขอแลกเปลี่ยนเล็กนอยกับสหายมูชิง” ชายชุดโลหิต
ตอบกลับพรอมรอยยิ้มจางๆ
“ขอแลกเปลี่ยนอะไร?” หญิงสาวรูสึกคาดไมถึงอยางเห็นไดชัด
“ไมมีอะไรหรอก ขานอยแคอยากยืมมังกรโลหิตระดับผูบัญชาวิญญาณขั้นสูงตัวนั้น
ของแมนางสักหนอย” ชายชุดโลหิตพูดอยางไมหนักหนาอะไร
“มังกรโลหิต? เจาจะยืมพวกมันไปทำไม ขายังตองใหพวกมันชวยหาอาหารโลหิต
ที่ใชเซนไหวใหขาอยู” หญิงสาวรูสึกประหลาดใจ
“ขาจำเปนตองใชพวกมันสังหารชาววิญญาณเหาะเหินระดับแมทัพวิญญาณ
สองสามคน พวกเขาอยูที่ชั้นสอง หากขาจะลงมือเองก็เห็นทีจะไมทันแลว อีกทั้งที่นี่
ยังไมมีอาคมสงตัวที่สามารถสงไปถึงที่นั่นโดยตรงได ดังนั้นจึงตองไหววานแม นาง
แลว” ชายชุดโลหิตกลาวออกมาเชนนี้
“หึ ระดับแมทัพวิญญาณสองสามคนคอยคูควรที่จะใชมังกรโลหิตหนอย เอาเถอะ
ขาไมสนวาเจามีแผนมุงรายอะไร คิดจะยืมมังกรโลหิตก็ได แตเจาตองสงพฤกษา
ซอนวิญญาณมาใหขาทอนหนึ่งถึงจะได ไมเชนนั้นเรื่องนี้ตองมาคุยกันตอหนา!”
หญิงสาวเงียบขรึมไปพักหนึ่ง จึงคอยตอบกลับอยางเรียบๆ
“พฤกษาซอนวิญญาณ! ได ไมมีปญหา แตมีเงื่อนไขอยางหนึ่ง จิตวิญญาณบริสุทธิ์
ของเผาวิญญาณเหาะเหินพวกนี้ขาจำเปนตองใชมัน หลังจากฆาพวกเขาแลว ใหมังกร
โลหิตนำมาใหขา” ชายชุดโลหิตพูดอยางไมกระโตกกระตาก
“แคนี้เรื่องเล็ก เจานำตำแหนงและรูปรางหนาตาของคนพวกนั้นสงมาใหขา”
หญิงสาวรับปาก พลันเสนอความตองการดวยน้ำเสียงที่ออนลงมาเล็กนอย
“ยอมไดอยูแลว สหายมูรอสักประเดี๋ยว” ชายชุดโลหิตยื่นนิ้วหนึ่งออกมาแตะบน
หยดเลือด พลางหลับตาลงอยางนิ่มนวล สงมอบของบางอยางใหผานทางจิตสัมผัส
ผานไปพักหนึ่ง ชายชุดโลหิตงอนิ้วกลับ พลันลืมตาขึ้นอีกครั้งแลวเอยขึ้น “ที่ขา
สงใหเจาคือตำแหนงที่พวกนั้นปรากฏตัวเมื่อไมนานมานี้ เพียงแคมังกรโลหิตไลตาม
ทันก็นาจะหาพวกเขาเจองายมาก สวนขาจะรอฟงขาวดีจากสหาย”
“ตราบใดที่เปนระดับแมทัพวิญญาณจริงก็คงไมเปลืองเวลาสักเทาไหรหรอก
แตถาหากสถานการณกับสิ่งที่เจาพูดไมตรงกันละก็…” หญิงสาวหัวเราะเยาะอยางมี
นัยแอบแฝง
“หากไมตรงตามที่วามา แมนางยอมสามารถยกเลิกขอแลกเปลี่ยนนี้ไดทุกเมื่อ”
ชายชุดโลหิตยิ้มจางๆ คราหนึ่งแลวตอบ
ดวยอิทธิฤทธิ์ของเขา แมแตระดับแมทัพวิญญาณแคไมกี่คน ยอมไมมีทางดู
พลังยุทธผิดแนนอน
“สหายยืนยันเชนนี้ก็ดี เรื่องนี้ก็ถือวาทำการตกลงแลว ขาจะสงมังกรโลหิตไปยัง
ชั้นสองโดยตรง สามวันใหหลัง นาจะมีขาวคราวสงกลับมา” หญิงสาวพูดอยางสงบนิ่ง
แสงโลหิตบนกอนกลมพลันสวางวาบ การติดตอก็ถูกตัดขาดลง
ชายชุดโลหิตเห็นดังนี้ก็ไมไดโกรธ ใบหนากลับเผยความพึงพอใจออกมา
หลั ง จากที ่ เ ขาเก็ บ ก อนกลมเสร็ จ ก็ ก ล า วพึ ม พำขึ ้ น มาคนเดี ย ว “ลงมื อด ว ย
มั ง กรโลหิต ระดั บ ผู บ ัญ ชาการวิญ ญาณขั้ น สูง น า จะไมม ีทางพลาดอย างเด็ดขาด
หากยังลงมือไมสำเร็จ นั่นก็หมายความวาอาวุโสของเผาวิญญาณเหาะเหินพวกนั้น
ลอบเขามาในเหวพสุธาจริงๆ เชนนั้นก็ตองรับมืออยางระมัดระวัง จะเสียการใหญ
ไมได”
ขณะพูดอยู ชายชุดโลหิตก็ขยับตัวพิงเกาอี้ ไมนานก็สงเสียงกรนออกมาเบาๆ
ในตอนนี้เอง เขาไดเขาสูสภาวะนิทราเปนที่เรียบรอยแลว
ที่ชั้นสามของเหวพสุธา ภายในวิหารใหญที่สรางจากไมดำจำนวนนับไมถวนแหงหนึ่ง
เงารางสีดำเลือนรางรางหนึ่งกำลังนั่งเทาคางไมขยับเขยื้อนอยูในดอกไมใหญสีทอง
ขนาดจั้งกวา
และเบื้องลางซึ่งอยูไมไกลนัก กลับมีเงาดำรางเตี้ยสูงไมเทากันคุกเขาเรียงกันเปน
สองแถว ดูแลวนาจะมีราวๆ สิบหาถึงสิบหกราง
ผานไปนานสองนาน ทันใดนั้นเงาดำก็โบกมือขางหนึ่ง ลำแสงสีเขียวมรกตสายหนึ่ง
พวยพุงออกมา แลวจมหายเขาไปในอากาศอยางไรรองรอย
เพียงชั่วครูตอมา จูๆ ภายนอกวิหารใหญก็มีเสียงฟารองดังสะเทือนเลื อนลั่น
ตามดวยแสงโลหิตสวางวาบที่นอกประตู หมอกโลหิตสลัวๆ พลันพุงเขามาในวิหาร
จากภายนอก
หมอกโลหิตพลันกระจายออก ปศาจรางคนหัวมังกรตนหนึ่งปรากฏที่ใจกลาง
วิหารใหญ โคงคำนับแสดงความเคารพเงาดำที่นั่งอยูบนดอกไมสีทองดวยทาทาง
เคารพนบนอม พลางเอยขึ้นดวยน้ำเสียงแหบแหง
“ไมทราบวานายทานเรียกเซวี่ยตูมีเรื่องสำคัญอันใด?”
“เซวี่ยตู เจาหยุดเรื่องรวบรวมอาหารโลหิตไวชั่วคราวกอน แลวไปที่ชั้นสองซะ”
เสียงพูดเย็นชาของหญิงสาวดังมาจากขางในเงาสีดำ ที่แทก็คือ “มูชิง” ที่เคยเจรจากับ
ตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยในกอนกลมผูนั้น
“นายทานโปรดกำชับ!” ปศาจหนามังกรตนนี้ ศีรษะของมันเปนสีแดงสด ขณะที่
กำลังกลอกตาก็แผไอแหงความโหดเหี้ยมอยางบอกไมถูกออกมา ทวาเมื่ออยูตอหนา
เงาดำนี้กลับดูนอบนอมผิดปกติ
“ที่ชั้นสองมีเผาวิญญาณเหาะเหินอยูสองสามคน เจาสงมันไปฆาพวกเขาทิ้งซะ
แลวนำจิตวิญญาณบริสุทธิ์สงมอบใหตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยโดยตรง นี่คือรูปราง
หนาตาและตำแหนงที่พวกเขาปรากฏตัวครั้งสุดทาย ระวังใหดี เผาวิญญาณเหาะเหิน
พวกนี้อาจจะมีความไมชอบมาพากลบางอยาง หากมีตรงไหนผิดปกติ ใหกลับมาบอก
ขาในทันที รีบไปรีบกลับละ!” หญิงสาวชูมือแลวขวางกระบอกไมไผสีดำออกไป
กระบอกหนึ่ง พลางพูดอยางราบเรียบ
“นอมรับคำสั่ง!” ปศาจหัวมังกรยื่นมือรับกระบอกไมไผ พลางพูดขานรับ กอนที่
จะขยับรางอยางฉับพลัน กลายเปนหมอกโลหิตพุงทะยานออกไป เพียงแคพุงปราด
เปรียวไมกี่หนก็หายไปจากนอกประตูวิหารอยางไรรองรอย
“เอาละ จากนี้รายงานความคืบหนาการจับอาหารโลหิตในแตละชั้นใหฟงหนอย
การเซนไหวครั้งตอไปเหลือเวลาไมเทาไหรแลว เฮยจั๋ว ถึงตาเจาแลว” หญิงสาวจอง
เขม็งไปที่ประตูวิหารครูหนึ่ง จึงคอยดึงสายตากลับมาแลวกลาวดวยน้ำเสียงเยือกเย็น
“อสรพิษเวหาสี่ปกและแมงปองเมฆาเรืองรองจากชั้นสี่ซึ่งเปนฝูงอาหารโลหิต
ที่ใหญที่สุดลวนจับมาหมดแลว เหลือแคหนูสามตาไมกี่ฝูงที่หนีเขาไปในเขาอีกาดำ
จึงจับไมไดชั่วคราวขอรับ…” เงารางสูงใหญรางหนึ่งยืนขึ้น แลวเริ่มอธิบายเปนอยางๆ
ตอนที่ 1456 โลหิตอัสนีดาวเหนือกับเพลิงวิญญาณอีกาทอง
ชั้นสองของเหวพสุธา บุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิญญาณเหาะเหินทั้งสี่คน บนหลังมี
ปกสีขาวออน เสนผมสยาย กำลังเดินทางพรอมตอสูกับฝูงแมงปองพิษสีดำรางยาว
หลายฉื่อ
แมวาแมงปองเหลานี้จะไมมีปก ทวาแตละตัวยังสามารถเหาะเหินเดินอากาศได
ดวยการเคลื่อนไหวที่คลองแคลวผิดปกติ บวกกับความไรเทียมทานของกรดเหลวที่
พ นออกจากปากและพิ ษ ประหลาดที ่ ห างตะขอของพวกมั น ทำให ช ั ่ ว ขณะหนึ่ ง
ชาววิญญาณเหาะเหินทั้งสี่รูสึกปวดเศียรเวียนเกลา ยังหาทางหลุดพนจากการพัวพัน
ของแมงปองดำเหลานี้ในทันทีไมไดจริงๆ
กวาครึ่งชั่วยามตอมา หลังจากที่ชาววิญญาณเหาะเหินคนหนึ่งตัดสินใจอยางเด็ดเดี่ยว
สำแดงอิทธิฤทธิ์อันรายกาจสุดๆ ชนิดหนึ่งอยางไมเสียดายพลังยุทธ ปลอยลูกไฟ
สีครามแวววาวออกมาทีละลูกใสแมงปองดำสามสี่ตัวที่ลอมพวกเขาจนกลายเปน
เถาธุลีทั้งหมด ในที่สุดแมงปองดำที่เหลืออยูก็หนีไปอยางไมยินยอม
ชาววิญญาณเหาะเหินทั้งสี่จึงคอยถอนหายใจยาวออกมาและรูสึกสบายใจขึ้นมา
เล็กนอย
แตไมทันรอใหพวกเขาไดเอยปากพูดคุยกัน ทันใดนั้น ไกลออกไปบนทองฟา
มีแสงวิญญาณเปลงประกายวูบหนึ่ง หมอกโลหิตกลุมหนึ่งพลันมวนเปนเกลียวพุงมา
จากขอบฟา
หมอกโลหิตนี้ไรสุมเสียง เคลื่อนตัวรวดเร็วอยางนาอัศจรรยราวกับภูตพราย
หลังจากพลิ้วไหวไมกี่ที ก็มาปรากฏที่บริเวณใกลเคียงของพวกชาววิญญาณเหาะเหิน
ทั้งสี่คนและวนรอบพวกเขาอยูหลายรอบ
ดวยความตื่นตกใจ บุตรศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิญญาณเหาะเหินทั้งสี่ยอมตองตั้งทา
เตรียมพรอมในทันที
ภายในหมอกโลหิตมีเสียงคนแคนเสียงคราหนึ่ง ปรากฏภาพลางๆ ของดวงตาคูหนึ่งที่
เต็มไปดวยความคลุมคลั่ง หลังจากที่กวาดมองมาที่รางของชาววิญญาณเหาะเหินทั้งสี่
ด ว ยสายตาโหดเหี ้ ย ม ก็ เ อ ย ขึ ้ น ประโยคหนึ ่ ง ด ว ยน้ ำ เสี ย งแหบแห ง ที ่ ช วนให
ชาววิญญาณเหาะเหินรูสึกหวาดกลัวเปนการใหญ
“แมวาจะไมใชเจาพวกนั้น! แตในเมื่อถูกขาพบแลว เชนนั้นก็ยอมรับความซวย
เสียเถิด”
เพิ่งกลาวคำนี้จบ ภายในหมอกโลหิตก็แผดเสียงฟารองดัง ทันใดนั้น ทองฟาใน
บริเวณใกลเคียงก็กลายเปนสีแดงโลหิตทั้งผืน เมฆโลหิตพลันปรากฏออกมาอยาง
นาประหลาด เคลื่อนตัวไมหยุดนิ่ง
“แยแลว นั่นมันโลหิตอัสนีดาวเหนือ หนีเร็ว!” หนึ่งในชาววิญญาณเหาะเหินทั้งสี่
เห็นฉากนี้ สีหนาพลันซีดเผือดอยางถึงที่สุด ปากพลางสงเสียงรองดังลั่น ทั้งราง
กลายเปนลำแสงสีเหลืองสายหนึ่ง หนีไปยังทิศทางหนึ่งอยางลุกลี้ลุกลน
บุตรศักดิ์สิทธิ์สามคนที่เหลือไดยินคำวา “โลหิตอัสนีดาวเหนือ” ก็พากันตกใจ
กลัวจนขวัญกระเจิง พลันเปลงแสงวิญญาณ พากันหันหลังกลับแลวขับเคลื่อนลำแสง
หลีกหนีเชนเดียวกัน
ทวาในชั่วพริบตา กลางอากาศเกิดเสียงอัสนีบาตขึ้น สายฟาฟาดสีแดงโลหิตสี่เสน
ปรากฏออกมาจากกอนเมฆ กอนที่จะบิดงอแลวหายไปอยางไรสาเหตุ ในเวลาตอมา
โลหิตอัสนีทั้งสี่เสนก็มาปรากฏเหนือลำแสงหลีกหนีทั้งสี่ที่กำลังหนีอยู ผาลงมาอยาง
ไมลังเลแมแตนอย
เสียงรองอันนาเวทนาดังออกมาสี่เสียง ลำแสงหลีกหนีทั้งสี่สายพลันแตกสลายใน
ชั่วพริบตาที่โลหิตอัสนีตองตัว
รางของบุตรศักดิ์สิทธิ์เผาวิญญาณเหาะเหินทั้งสี่ดิ้นพลานอยางบาคลั่งทามกลาง
แสงอัสนีอยูสองสามหน แลวกลายเปนเถาธุลีในที่สุด ไมวาจะเปนแสงวิญญาณคุมกัน
หรือสมบัติคุมกายลวนแตไมมีประโยชนทั้งสิ้น
เสียงหัวเราะอยางบาคลั่งดังมาจากภายในหมอกโลหิต กอนที่จะเปลงแสงโลหิต
เจิดจาแลวพวยพุงจากไปในอากาศอันไกลโพนราวกับดาวตกสีโลหิต เพียงชั่วครูเดียว
ก็ไมเห็นรองรอยแลว

ณ ที่แหงหนึ่งซึ่งไมรูวาไกลออกไปกี่หมื่นลี้ หานลี่ถอนหายใจเบาๆ คราหนึ่ง
มองดูชาววิญญาณเหาะเหินเจ็ดคนที่จูๆ ก็เขามาหอมลอมพวกเขาตรงหนาดวยความ
มุงราย พลางเอยถามอยางราบเรียบ “สหายทั้งหลายไมไดตามหาผลเพลิง อเวจี
แลวขวางพวกเราไมกี่คนไวทำไม!”
“ดูเหมือนเผาวิหคสวรรคของพวกเราจะไมมีความแคนอะไรกับเผาของเจากระมัง”
ไปปที่อยูขางๆ ก็เอยขึ้นดวยน้ำเสียงเครงขรึม แตทาทีกลับดูเย็นชาอยางเห็นไดชัด
“หึๆ ที่จริงแลวเผาวิหคสวรรคก็ไมไดมีขอทะเลาะเบาะแวงใดๆ กับเผาวิญญาณทมิฬ
ของพวกเราหรอก แตกอนที่พวกสาขาที่แข็งแกรงไมกี่คนของพวกเผาแดงสดจะออก
ไดทาง ไดแอบติดประกาศรางวัลใหบุตรสวรรคสาขาอื่นๆ ของพวกเราไววา เพียงแค
สามารถทำให พ วกเจ า ไม ก ี ่ ค นอยู  ใ นเหวพิ ภ พนี ้ ไ ปตลอดกาล พวกเราก็ จ ะได รั บ
ผลประโยชนไมนอย หากไมพบเจอพวกเราก็แลวไป พวกเราก็ไมตั้งใจไปหาพวกเจา
หรอก แตในเมื่อเจอกันแลว เรื่องที่ถือโอกาสทำตามความสะดวกเชนนี้ พวกเรา
เผาวิญญาณทมิฬไมมีทางปฏิเสธแนนอน” ชาววิญญาณทมิฬคนหนึ่งรูปรางสูงใหญ
ไมวาจะเปนปกหรือผิวหนังก็ลวนเปนสีดำสนิท กำลังยืนกอดอกพูดกับหานลี่ด วย
ทาทางยโสโอหัง
ชาววิญญาณทมิ ฬคนอื่ นๆ ที่ลอมพวกหานลี ่ทั ้ง สี่ ค นอยู  ตางก็ยืนยั นรู ป ร า ง
ลักษณะของพวกเขาดวยใบหนาไรซึ่งอารมณ
เรื่องนี้ก็ไมแปลก แมวาเผาวิญญาณทมิฬจะไมไดเปนสาขาอันดับตนๆ ในเจ็ดสิบสอง
สาขา แตก็จัดวาอยูในอันดับที่สูง เหนือกวาเผาวิหคสวรรคซึ่งเปนสาขาออนแอที่แทบ
จะอยูรั้งทายอยางลิบลับ
“ประกาศใหรางวัล?” หานลี่ขมวดคิ้วคราหนึ่ง คอนขางนอกเหนือจากความ
คาดหมายของเขา
“ที่ควรพูดก็พูดไปหมดแลว พวกเจามาถึงใตพิภพจะมาทำเปนเลอะเลือนไมไดแลว
ตอนนี้ก็ไปตายอยางสงบไดแลว” ชาววิญญาณทมิฬที่นำหนาไมยอมพูดอะไรมาก
ใบหนาพลันปรากฏจิตสังหาร พลางโบกมือขางหนึ่ง
ชาววิญญาณทมิฬที่อยูทิศทางอื่นอาปากพรอมกันโดยไมพูดจา พลันพนขนนกสีดำ
ออกมาคนละหนึ่งกาน
เริ่มแรกยังมีขนาดแคประมาณชุนกวา แตเมื่อถูสองมือดวยกัน ชั่วพริบตาก็มี
ขนาดฉื่อกวาขึ้นมา พื้นผิวเปลงแสงสีดำสลัวๆ มีอักขระพลิกตัวไปมา ดูแลวไมใชของ
ธรรมดาทั่วไป
ชาววิญญาณทมิฬหกคนสำแดงอิทธิฤทธิ์ของขนนกในมือใสพวกหานลี่พรอมกัน
เปลวเพลิงสีดำแตละผืนพลันพวยพุงออกจากขนนกอยางนาประหลาด กอนที่จะ
โบกพัดแลวฟุงกระจายไปทั่วทุกสารทิศ
“ตูม!” เพลิงสีดำกอตัวเปนมานเพลิงมหึมาผืนหนึ่ง ปดลอมทั้งสี่คนไวภายใน
ชาววิญญาณทมิฬพวกนี้ลงมืออยางไมปรานีแมแตนอย คิดจะสังหารเผาวิหคสวรรค
ในคราเดียว สำหรับฉินเสี่ยวที่เปนเผาราตรีเขียว แมวาจะไมใชคนของเผาวิหคสวรรค
แตก็ไมมีเจตนาที่จะละเวนอยางเห็นไดชัด
เหลยหลันเห็นเพลิงนี้ หนาก็เปลี่ยนสียกใหญ บนรางพลันเกิดประจุไฟฟาสีเงินขึ้น
ทันใดนั้นก็กอตัวเปนมานปองกันหนึ่งชั้น คุมกันรางของตัวเองไว ตามดวยน้ำเตาสีทอง
ที่ตนคอสั่นระริก พลันปลอยเสนไหมสายฟาเรียวเล็กสีเขียวออกมา ประจุไฟฟาก็
กลายเปนสีมวงในชั่วพริบตา อานุภาพนาสะพรึงเปนอยางยิ่ง
หลังจากทำทุกอยางเสร็จสิ้น หญิงสาวผูนี้จึงคอยถายทอดเสียงกับหานลี่ดวยความรีบ
ร อ น “พี ่ ห าน นี ่ ก ็ ค ื อเพลิ ง วิ ญ ญาณอี ก าดำของเผา วิญ ญาณทมิ ฬ สามารถดูดซับ
พลังยุทธของพวกเราได นากลัวเปนอยางยิ่ง อยาใหพวกมันแตะถูกตัวเปนอันขาด”
ไปปกับฉินเสี่ยวตางก็เผยสีหนาหวาดผวาออกมา รีบกระวีกระวาดรายคาถาดวย
ความมือไมออนทำอะไรไมถูก
คนหนึ่งปลอยลำแสงสีทองหมื่นสาย คนหนึ่งเรียกปายหยกสีเขียวแกออกมา
ปลอยแสงสีเขียวออกมาเปนเสนๆ พยายามตานทานการจูโจมของเพลิงสีดำอยาง
สุดชีวิต
“เพลิงวิญญาณอีกาทอง! นาสนุกดีนี่!” หานลี่ยิ้ม แตก็ไมเห็นการเคลื่อนไหวใดๆ
บนรางปรากฏเพลิงแสงหาสีออกมาผืนหนึ่ง แมวาเพลิงสีดำเหลานั้นจะมีอานุภาพ
ยิ่งใหญ แตเมื่อสัมผัสถูกเพลิงแสงนี้ คิดไมถึงวาจะสงเสียงฟารองทุมต่ำสะเทือน
เลือนลั่น ภายใตสองสิ่งที่สัมผัสถูกกัน พลันเกิดอาการตอบสนองอยางรุนแรงผิดปกติ
ราวกับน้ำแข็งที่รวงลงไปในน้ำมันเดือด
เมื่อเห็นฉากนี้ ชาววิญญาณทมิฬพวกนั้นก็ตกตะลึง
ทวาชาววิญญาณทมิฬที่นำหนานั้น รูมานตาหดเล็กลง พลันรองเสียงดังอยาง
ไมลังเลแมแตนอย “เพิ่มอานุภาพเพลิงวิญญาณ! พวกเรามีคนมากมายเชนนี้ แมวา
เจาหนูนี่จะมีอิทธิฤทธิ์บางอยางที่สามารถตานทานเพลิงวิญญาณไวไดชั่วคราว แตก็ไม
อาจตานไวไดนานหรอก!”
ชายหนุมผูนี้ดูเหมือนจะเปนคนที่มีชื่อเสียงมากสำหรับชาววิญญาณทมิฬ คนที่
เหลือตางก็ขานรับ พลันโบกไหวขนนกในมือเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งดานหลังของแตละคนยัง
ปรากฏเงาลวงตาวิหคยักษสีดำออกมาหนึ่งตัว สวนใหญอยูในสภาพเลือนรางผิดปกติ
มีหนึ่งถึงสองตัวที่ชัดเจนบางเปนบางครั้ง เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสวาง ไมอาจคงความเสถียรไว
ไดอยางเห็นไดชัด
แตหลังจากที่ภาพอาคมวิญญาณเหลานี้ปรากฏรูปราง อานุภาพของขนนกสีดำ
เหลานั้นก็เพิ่มขึ้นมากอยางฉับพลัน เพลิงที่พนออกมาแทบจะกลายเปนสีดำมะเมื่อม
ราวกับน้ำหมึก แมกระทั่งจุดที่ถูกเพลิงสีดำหอบไว รวมทั้งอากาศบริเวณใกลเคียงก็ยัง
สงเสียงเพรียกแผวเบา เกิดการบิดงอของรูปรางอยูลางๆ
นี่แสดงใหเห็นอยางชัดเจนวาอานุภาพของเปลวเพลิงมาถึงจุดสุดยอดที่แนนอนแลว
อานุภาพเชนนี้ การปองกันของพวกเหลยหลั นกับ ฉิ นเสี่ย วในตอนแรกก็ เ ริ่ ม
สอแววตานไมอยูแลว ดวยความหวาดผวาอยางหนัก ทั้งสามคนจึงรีบเรียกสมบัติ
ชิ้นอื่นๆ ออกมาอีก แตก็ไมอาจประคองไวไดนานนัก
แตเพลิงแสงหาสีบนรางของหานลี่ราวกับไมมีที่สิ้นสุด ในขณะที่อานุภาพของ
เพลิงสีดำเพิ่มขึ้นอยางมาก เพลิงแสงหาสีก็ขยายตัวขึ้นหลายฉื่อเชนเดียวกัน ยังคง
ตานทานเพลิงสีดำอยูที่ไกลๆ อยางมั่นคง
คราวนี้ ชาววิญญาณทมิฬที่นำหนาสี หน าไม ค อยดี นั ก แตยังไมทันใหเ ขาได
เอยปากพูดอะไรอีก หานลี่ก็ชำเลืองมองพวกเหลยหลันที่พยายามตานเพลิงสีดำ
อยางสุดชีวิตอยูขางๆ ปราดหนึ่ง พลันอาปาก พนเพลิงสีเงินออกมา หลังจากสงเสียง
ดังพึ่บพั่บ ก็กลายเปนวิหคเพลิงสีเงินตัวหนึ่ง
เมื่อวิหคเพลิงปรากฏกายออกมา ก็จองมองไปที่เพลิงสีดำที่อยูภายนอกเพลิงแสง
มันอาปากสงเสียงเพรียกดวยความเบิกบานใจ ครั้นสยายปกคราหนึ่ง รูปรางก็ขยาย
ใหญขึ้นหลายเทา กลายเปนวิหคยักษสีเงินขนาดประมาณจั้งกวา
ไมรอใหหานลี่ไดรายคาถากระตุน วิหคเพลิงสีเงินก็พุงกระโจนเขาไปในเพลิงสีดำ
ที่อยูดานนอก แสงเพลิงสีดำและสีเงินผสมปนเปเขาดวยกัน คิดไมถึงวาจะไรซึ่งเสียง
ใดๆ ทวารางของวิหคเพลิงที่ราวกับกลายเปนแมเหล็ก ไดดูดเพลิงสีดำหายเขาไปขาง
ในทั้งหมด
เดิ ม ที เ พลิ ง สวรรค ก ลื นวิ ญ ญาณก็ ห ลอมรวมมาจากเพลิ ง แท ก ลายพั น ธุ  ท ี ่ มี
อานุภาพรุนแรงหลายชนิด อีกทั้งตัวมันเองก็มีคุณสมบัติของธาตุวิญญาณ เชี่ยวชาญ
ดานกลืนกินเพลิงวิญญาณชนิดตางๆ เปนที่สุด
สำหรับสิ่งที่เรียกวาเพลิงวิญญาณอีกาทองนี้ แมวาจะไมใชเพลิงเทวะอีกาทองที่
สามารถหลอมละลายมิติ เผาราบเปนวงกวาง ซึ่งกระตุนดวยวิญญาณแทอีกาทอง
จริงๆ แตในนั้นได อาศัย การสนั บสนุน จากขนของอีกาทอง ทั้งยังมีอานุภาพของ
เพลิงเทวะอีกาทองแฝงอยูในนั้นเสี้ยวหนึ่ง จึงเปนสิ่งที่เพลิงสวรรคกลืนวิญญาณ
โปรดปรานที่สุด
ดังนั้น พอหานลี่ปลอยวิหคเพลิงกลืนวิญญาณเขาไปในเพลิงสีดำแลว มันก็เริ่ม
สวาปามอยางไมเกรงใจในทันที เพียงแคเวลาไมกี่ชั่วอึดใจ เพลิงสีดำที่ลุกมอดไหม
อยางเกรียงไกรก็ถูกวิหคเพลิงบินวนรอบ กลืนกินจนไมเหลือแมแตเสี้ยวเดียว
ทันใดนั้น ชาววิญญาณทมิฬทั้งกลุมก็พากันเบิกตาอาปากคางขึ้นมา!
พวกเหลยหลันกับไปปยอมดีอกดีใจยกใหญอยูแลว!
“เจาเปนใคร เผาวิหคสวรรคไมมีทางมีอิทธิฤทธิ์เชนนี้แน” ดวยความตื่นตระหนก
ตกใจ ชาววิญญาณทมิฬที่นำหนาจึงรองถามออกมาดวยความรูสึกตกตะลึงระคน
โกรธเกรี้ยว
“ดูเหมือนขาจะไมจำเปนตองตอบคำถามเจาแลว” หานลี่กลาวเบาๆ พลันกางปกสอง
ขางบนหลังออก ทันใดนั้นก็กลายเปนประกายอัสนีสีเขียวขาวแลวหายไปจากที่เดิม
เห็นไดชัดวาชาววิญญาณทมิฬที่นำหนาเปนผูที่มีประสบการณตอสูอยางชกโชน
เชนกัน เมื่อเห็นภาพนี้กับตา มือขางหนึ่งพลันสั่นแขนเสื้อ สวนมืออีกขางหนึ่งก็ตั้งทา
รายคาถาในเวลาเดียวกันอยางฉับพลันทันที
ทันใดนั้น ตาขายเสนไหมสีดำผืนหนึ่งก็พวยพุงออกจากแขนเสื้อ ทวาเปาหมายนั้น
ไมใชหานลี่ แตยอนกลับมาหาตนเอง ชั่วพริบตาก็กอรูปรางเปนทรายสีดำหนึ่งชั้น
ปกคลุ ม ร า งของตนไว เ บื ้ อ งล า งอย า งหนาแน น พอโบกมื อ อี ก ข า งหนึ ่ ง กลั บ มี
บอลสายฟาสีดำขลับสามลูก ขนาดเทาปากถวยพวยพุงออกมา หมุนโคจรรอบกาย
ของตนอยางไมหยุดนิ่ง
หลังสิ้นเสียงฟารองครั่นครืน หานลี่แทบจะปรากฏกายแนบชิดติดกับทรายสีดำ
“ตูม!” เกิดเสียงระเบิดดังสะนั่นสามครา บอลสายฟาสามลูกพวยพุงอยางฉับไว
จูโจมเขาใสรางของหานลี่อยางแมนยำไมมีพลาดเปา ทวาบนรางหานลี่ไมรูวา มี
ชุดเกราะศึกสีดำปรากฏออกมาตั้งแตเมื่อไหร
แมวาบอลสายฟาสามลูกนี้จะมีอานุภาพไมนอย แตก็พอที่จะตีเกราะสังหาร
แตกไดเสี้ยวเดียวเทานั้น ไมอาจทำใหหานลี่บาดเจ็บไดแมแตปลายผม
กลับเปนหานลี่ที่ใบหนาไรซึ่งอารมณ บนรางเปลงแสงสีทองวูบหนึ่ง ปรากฏเปน
เกราะเกล็ดสีทองออกมาหนึ่งชั้น หอหุมแขนขางหนึ่งอยางเลือนราง พลันยื่นออกไป
อย า งรวดเร็ ว ปานสายฟ า แลบ ห า นิ ้ ว ก็ จ  ว งแทงไปยั ง จุ ด สำคั ญ ที ่ ด  า นหลั ง ของ
ชาววิญญาณทมิฬราวกับตะขอ
“แควก!” ทรายสีดำที่ดูไมธรรมดา คิดไมถึงวาภายใตประกายแสงสีทองจากนิ้วทั้งหา
จะถูกฉีกขาดราวกับกระดาษ
ชายหนุมของเผาวิญญาณทมิฬรูสึกเย็นสันหลังวาบ แขนสีทองขางหนึ่งทะลวง
ออกมาจากหนาอก ที่นาแปลกคือ ตลอดทั้งแขนกลับไมเปอนเลือดแมแตหยดเดียว
ตอนที่ 1457 ใบเนากับผลเพลิงอเวจี
ใบหน า ของชาววิ ญ ญาณทมิ ฬเต็ ม ไปด ว ยสี ห น า ของความรู  ส ึ ก ยากที ่ จ ะเชื่ อ
ปากพลันสงเสียงคำรามลั่น พลางขยับสองมือควาแขนที่อยูตรงหนาอกอยางฉับพลัน
นัยนตาของหานลี่เปลงแสงเย็นยะเยือกวูบหนึ่ง แขนพลันเปลงแสงสีทองเจิดจา
กระบี่บินยาวหลายฉื่อเลมหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนแขนอยางเลือนราง
เสียงรองกระจางชัด!
กระบี่แสงพลันสวางพราง!
สองมือของชาววิญญาณทมิฬไมเพียงแตถูกตัดขาดอยางงายดาย รางทั้งรางก็ถูก
ลำแสงกระบี่ผาเปนสองสวนลงมาจากใจกลาง สิ่งที่คลายกับแกนผลึกกับเพลิงสีเขียวที่
ปรากฏภายในรางก็ยิ่งถูกลำแสงกระบี่ปนจนแตกเปนจุณ แมแตจิตวิญญาณบริสุทธิ์ก็
ไมอาจหนีออกมาไดแมแตนอย
ชาววิ ญ ญาณทมิ ฬ ที ่ เ หลื อ อยู  อ ี ก หกคนต า งก็ ต ื ่ น ตระหนกตกใจจนหน า ซี ด
ชายหนุมที่นำหนามีพลังยุทธระดับแมทัพวิญญาณขั้นสูง ไมวาจะดานพลังยุทธหรือ
อิทธิฤทธิ์ก็แทบจะเปนหนึ่งไมเปนสองรองใครในกลุมพวกเขา เหตุใดแคอีกฝายลงมือ
ครั้งเดียวก็ถูกฆาตายแลว
เมื่อทั้งสี่คนในกลุมพวกเขาสงเสียงรองดังลั่นดวยความตื่นตะลึงระคนเกรี้ยวโกรธ
ทั้งหมดก็กลายเปนวิหคยักษสีดำสี่ตัวในทันที พุงกระโจนเขาใสหานลี่อยางดุดัน
สวนอีกสองคนสบตากันคราหนึ่ง กลับเก็บขนเขาไปโดยไมพูดจา กลายเปนลำแสงสีดำ
สองสายพวยพุงหนีไปยังที่ไกลๆ โดยพลัน
มุมปากของหานลี่กระดกขึ้นเล็กนอย แผนหลังพลันสงเสียงฟารองกอง กลายเปน
ประกายอัสนีเสนหนึ่งแลวหายไปจากที่เดิม
วิหคยักษสีดำเหลานั้นเห็นเชนนี้ ก็รูสึกหวาดกลัวในใจ การกระทำที่จะกระโจน
เขาใสพลันหยุดชะงักลงอยางหามไมอยู
ทวาเพียงแคชาไปในชั่วพริบตาเดียว แสงสีเขียวพลันสวางวาบ เงาคนติดปกที่
เหมือนกับเงาลวงตารางหนึ่งก็ปรากฏออกมาที่เบื้องลางของวิหคยักษสีดำตั วหนึ่ง
อยางนาประหลาด
วิหคตัวนี้ยังไมทันไดเคลื่อนไหวใดๆ ก็เห็นเพียงเงาลวงตาที่อยูเบื้องลางดูเหมือน
จะขยับแขนขางหนึ่ง ตามดวยแสงสีทองเจิดจาพรามัวก็หายวับไปแลว
วิหคดำตกตะลึง ครูตอมาก็สัมผัสไดถึงความหนาวเย็นบนราง รางทั้งรางถูก
แบ ง เป น สองส ว น ร า งศพทั ้ ง สองส ว นระคนไปด ว ยฝนโลหิ ต ร ว งดิ ่ ง ลงมาจาก
กลางอากาศ
เงาคนพุงปราดมาจากทิศตะวันตก แลวหายไปอยางนาประหลาดอีกครั้ง กอนที่
จะปรากฏในบริ เ วณใกล เ คี ย งของวิ ห คอี ก ตั ว หนึ ่ ง พลั น โบกมื อคราหนึ่ ง เช นเดิ ม
แลวปลอยลำแสงกระบี่สีทองออกมาสายหนึ่ง
วิหคตัวนี้ราวกับทำมาจากเตาหู เมื่อถูกฟนขาดเปนสองทอนอยางรวดเร็วปาน
สายฟาเล็บ ขนเหล็กทั่วทั้งรางที่เดิมทีควรจะแข็งดุจเหล็กกลาก็ไมอาจตานทานได
แมแตนอย
เมื่อเปนเชนนี้ เงารางของหานลี่พลันพลิ้วไหวกลางอากาศสี่หาทีราวกับภูตพราย
ในที่สุดก็ปรากฎกายออกมา พลันหยุดกลางอากาศอยางมั่นคงดวยสภาพที่มองเห็น
ชัดเจน
วิ ห คประหลาดสี ่ ตั ว ที ่ แ ปลงกายจากชาววิ ญ ญาณทมิฬ ล ว นถู ก ฆ า ตายเรียบ
ไมเหลือแมแตตัวเดียว
หานลี่ยังคงไมมีเจตนาที่จะยั้งมือ พลันจองเขม็งไปที่ชาววิญญาณทมิฬอีกสองคน
ที่หนีไกลออกไปหลายสิบจั้ง พลางสะบัดปกดวยใบหนาไรซึ่งอารมณ กลายเปนรุงยาว
สีเขียวขาวสายหนึ่งพุงทะลวงอากาศออกไป
เสียงแหวกอากาศแหลมยาวพลันระเบิดออก!
เมื่อสายรุงพุงออกไปไกลสิบจั้งเศษ ก็เริ่มมีสภาพเลือนรางเล็กนอย กลายเปน
เสนไหมเรียวบางสีเขียวขาวสายหนึ่ง
เสนไหมพลันบิดรูปรางอยางนาประหลาดอีกครั้งหนึ่ง กอนที่จะพุงหายเขาไปใน
อากาศอยางไรรองรอย
ดานหลังของชาววิญญาณทมิฬคนหนึ่งที่พยายามหลบหนีอยางสุดชีวิตพลันเกิด
ระลอกคลื่นอากาศขึ้น เสนไหมเรียวบางสีเขียวขาวก็ปรากฏออกมา ภายในชั่วพริบตา
เสนไหมนี้ก็ทะลวงผานรางของชาววิญญาณทมิฬ แลวพันรอบอยางรวดเร็ว กอนที่
เปลงแสงสีทองสวางวาบแลวหายไป
ชาววิญญาณทมิฬถูกแบงเปนเจ็ดแปดสวนในชั่วพริบตา เสนไหมเรียวบางพลัน
บิดงอคราหนึ่ง แลวหายไปในอากาศอีกครั้ง
ครู  ต  อมา ศี ร ษะของชาววิ ญ ญาณทมิ ฬอี ก คนหนึ่ ง เปล ง แสงเขี ย วขาวเจิ ด จ า
เสนไหมเรียวบางพลันโผลพรวดออกมาอยางนาประหลาด ภายใตความเลือนราง
หานลี่ก็ปรากฏกายออกมาในสภาพสมบูรณ พลางเหวี่ยงมือขางหนึ่งโดยไมกลาววาจา
กระบี่จิ๋วสีทองเลมหนึ่งก็ปรากฏอยูในมือ กอนที่จะกลายเปนลำแสงกระบี่หยาบหนา
ฟนลงมา
ภายใตแสงสีทองระยิบระยับ กระบี่แสงก็มาถึงบริเวณศีรษะของคนที่อยูเบื้องลาง
ภายในชั่วพริบตา
ชาววิญญาณทมิฬตกใจกลัวจนสติไมอยูกับเนื้อกับตัว ภายใตการตัดสินใจอยาง
ฉับพลัน จึงกางปกสองขางบนแผนหลัง พรอมกับใชมือขางหนึ่งตบเบาๆ ไปที่ศีรษะใน
เวลาเดียวกัน
ชั่วพริบตาที่ปกสองขางเปลงดวงแสงสีดำวูบหนึ่ง ขนนกทั้งหมดก็กลายเปนลูกธนู
จำนวนนับไมถวน พวยพุงไปในอากาศอยางหนาแนนและถี่ยิบ ขณะเดียวกันก็มีโลไม
สีดำใบหนึ่งปรากฏที่เหนือศีรษะ กลายเปนเมฆดำออกมาตอนรับขับสูลำแสงกระบี่ที่
ฟนลงมาโดยตรง
ไมรูวาโลไมนั้นเปนสมบัติชนิดใด แตเห็นไดชัดวาไมสามารถตานทานความแหลม
คมของกระบี่ไผเขียวผึ้งเมฆาไดเลย!
ลำแสงสีทองพลันสวางวาบ ฟนเมฆดำเปนสองสวนและถือโอกาสผารางของ
ชาววิญญาณทมิฬเปนสองทอนในคราเดียว สวนลูกธนูสีดำเหลานั้น เมื่อพุงมาถึง
ตรงหนาหานลี่ ก็ถูกแสงอรุโณทัยสีเทาผืนหนึ่งสะกัดหนทางเอาไว
เมื่อแสงสีเทากวาดออกไป ลูกธนูจำนวนมากเชนนี้ก็หายไปอยางไรรอ งรอย
ไมสามารถทำรายหานลี่ไดแมแตปลายผม
สวนหานลี่ที่กำลังมองดูรางศพที่รวงลงมายังเบื้องลางนั้น หางคิ้วกระตุกคราหนึ่ง
ดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได พลันใชมือขางหนึ่งควาไปในอากาศ
“สวบ!” ขนนกสีดำยาวฉื่อกวากา นหนึ่ งพุง ออกจากรา งศพที่ถ ูก หั่นรา งหนึ่ ง
กอนที่จะถูกดูดเขามาอยูในมือ
หานลี่ใชมือขางหนึ่งลูบไลขนนกนี้ ดวงตาพลันเปลงประกายระยิบระยับ
เห็นเพียงขนนกนี้มีสีดำเปลงประกาย ปรากฏดวงแสงสีทองเปนเสนๆ เมื่อลอง
สะบัดดูเล็กนอย ก็มีอักขระสีดำโผลออกมา กลายเปนเพลิงสีดำอยางฉับพลัน สงกลิ่น
รอนแผดเผาโชยออกมา
หานลี่เผยสีหนาสนใจเปนอยางยิ่ง ในมือพลันเปลงแสงสีดำวูบหนึ่ง ขนนกถูกเก็บ
ไปแลว
สำหรับรางศพ ยอมถูกลูกไฟที่ตามมาทีหลังของเขาทำใหกลายเปนเถาถานไปแลว
ขณะที่รุงสีเขียวสายหนึ่งหมุนวนที่กลางอากาศต่ำ ก็ดูดเอาขนนกสีดำจากรางศพ
ทั้งหมดขึ้นมา ถูกหานลี่ชิงมาเปนของตัวเองอยางไมเกรงใจแมแตนอย
ขณะที่แสงสีเขียวพลันสวางวาบ รุงสีเขียวมาปรากฏที่ขางกายของพวกไปป
หานลี่ก็ปรากฏกายออกมาอีกครั้ง
“เดินทางตอ!” หานลี่พูดดวยน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับเหตุการณทุกอยางไมเคย
เกิดขึ้นมากอน
พวกเหลยหลันสามคนมีสีหนาคอนขางซีดเซียว แตก็ยังพยักหนาถี่ๆ โดยไมรูตัว
ครึ่งวันตอมา พวกหานลี่มาปรากฏตัวบนนานฟาของสถานที่แปลกตาแหงหนึ่ง
เบื้องหนาไมไกลเปนปาทึบเตี้ยๆ ผืนหนึ่ง ตนไมภายในปากวาครึ่งสูงไมเกินสามสี่จั้ง
ใบไมเปนสีเหลืองออน แผกลิ่นเหม็นคาวชนิดหนึ่ง ทุกคนหยุดอยูที่รอบนอกของ
ปาทึบผืนนี้ หานลี่ยืนอยูดานหนาของทุกคน กำลังจองมองปาทึบดวยสีหนาลัง เล
ไมพูดจา
ไมรูวาพวกไปปมีเจตนาหรือไมไดเจตนา ทั้งหมดตางยืนหางจากหานลี่ไปดานหลัง
หลายจั ้ ง ด ว ยท า ที ไ มก ล า ตี เ สมอกั บ หานลี ่ สายตาที ่ ม องมาทางหานลี ่ป รากฏถึง
ความเคารพและยำเกรง
จะวาไปแลว หลังจากที่หานลี่สังหารบุตรสวรรคของเผาวิญญาณทมิฬทั้งเจ็ดคน
อยางงายดายตอหนาชายหญิงทั้งสามคนนี้ ในที่สุดพวกเหลยหลันทั้งสามก็เขาใจถึง
พลังที่แทจริงของหานลี่บางแลววาแข็งแกรงเพียงใด
ที่นากลัวก็คือ เอาชิงจากเผาชีเยวี่ยกับเฟยเยี่ยจากเผาหนานหลงในคำร่ำลือ
ไมแนวาจะมีอิท ธิ ฤทธิ ์ที่ นา กลั วเช น นี้ ดังนั้น ตลอดการเดินทางตอจากนี้ ยามที่
พวกเหลยหลั นและไป ป   เ ผชิ ญ หน า กั บ หานลี ่ เวลาพู ด คุ ย ก็ ใ ช น ้ ำเสี ย งที ่ ดู เ คารพ
นอบนอมโดยไมรูตัว ราวกับอยูตอหนาอาวุโสภายในเผา นอกจากนี้ก็ไมมีความคิด
อื่นใดอีก
มีหานลี่เปนเพื่อนรวมทางที่แข็งแกรงเชนนี้อยู เห็นไดชัดวาการทดสอบครั้งนี้จะ
ไมมีปญหาใหญโตอยางแนนอน
“หากขาดูไมผิด ผลพวกนี้พึ่งพาอาศัยตนใบเนาที่กอตัวจากกลิ่นเหม็นคลุงภายใน
ความมืดมิด ที่นี่นาจะเปนหนึ่งในจุดที่กลิ่นเหม็นมารวมกันมากที่สุด หากพวกเรา
ดวงดี ก็ อ าจจะบั ง เอิ ญ เจอที ่ น ี ่ ก ็ เ ป น ได แม ว  า จะคาดหวั ง ไม ม าก แต ด ู เ หมื อน
ผลเพลิงอเวจีมีความเปนไปไดที่จะปรากฏที่นี่ พวกเจาคิดวาจะเสียเวลาคนหาที่นี่
สักหนอย หรือวาจะมุงหนาไปที่เสนทางหมื่นเถาวัลยโดยตรง” ในที่สุดหานลี่ก็ปริปาก
พูดดวยน้ำเสียงเนือยๆ
“พี่หาน ปาใบเนาแหงนี้ไมไดใหญมากนัก แมวาจิตสัมผัสจะถูกยับยั้งไว ทวาเพียง
แคใชเวลาไมถึงครึ่งวันก็สามารถคนทั่วไดรอบหนึ่งแลว” ทั้งสามคนหันมามองกัน
อยางลังเลทีหนึ่ง ไปปจึงคอยตอบดวยความเคารพนอบนอม
“ออ ขาเขาใจความหมายของพวกเจาแลว หากใชเวลาแคครึ่งวัน ก็เปนเรื่อง
เล็กนอยจริงๆ เชนนั้นก็หยุดพักที่นี่สักประเดี๋ยวเถอะ” หานลี่เองก็รูสึกไมมีปญหา
จึงพยักหนาตามใจนึก
ไดยินคำพูดของหานลี่ พวกเหลยหลันก็รูสึกดีใจเล็กนอย
หากสามารถหาผลเพลิงอเวจีไดในที่แหงนี้ ยอมฝาอันตรายไปยังชั้นสามไดอยาง
สบายแนนอน
หลั ง จากที ่ ส ามคนนี ้ ห ารื อ กั น เล็ ก น อ ย ฉิ น เสี ่ ย วก็ โ คลงแขนเสื ้ อ คราหนึ่ ง
พลันปลอยหุนเชิดเลื้อยคลานสิบกวาตัวออกมาอีกครั้ง กระตุนใหทยานไปยังทิศ
ทางหนึ่งภายในปาทึบ กอนที่จะจมหายไปในปาในทายที่สุด
เหลยหลันกับไปป สองคนนี้ดูเหมือนจะมีการเตรียมการของตัวเองสำหรับเรื่องนี้
ไวแตแรกแลว
เหลยหลันชูมือเรียกตลับหยกสีขาวออกมาตลับหนึ่ง ปากพลางรายคาถา ฝาตลับ
พลันทยานขึ้น มดบินรางยาวฉื่อกวาหลายสิบตัวก็บินออกมา เปลงแสงสีเงิน อ อน
ระยิบระยับ มุงหนาไปยังอีกทางหนึ่งพรอมสงเสียงดังหึ่งๆ
ส ว นไป ป   ก ลั บ สั ่ นป ก สองข า ง บนร า งมี ง ู ต ั ว เล็ ก สี ท องสิ บ กว า ตั ว พุ  ง ออกมา
ความกวางเทานิ้วหัวแมโปง พลันเคลื่อนตัวอยางพลิ้วไหว พากันจมหายไปในพื้นดิน
อยางไมเห็นรองรอย
ตอมา ทั้งสามคนนั่งขัดสมาธิอยูกลางอากาศ ตางก็สำแดงเคล็ดวิชาลับกระตุนหุนเชิด
อสูรวิญญาณ และแมลงวิญญาณเหลานั้น แลวเริ่มคนหาปาไมเตี้ยทีละสวน
หานลี่ลอยควางอยูกลางอากาศไมขยับเขยื้อน ดูเหมือนจะไมมีเจตนาที่จะสอดมือ
เขามายุงเรื่องนี้
เวลาคอยๆ ผานไปทีละนอย
หลายชั่วยามตอมา พวกเหลยหลันคนหาปาลับไปกวาครึ่งแลว แตก็ยังไมไดอะไร
ติดมือเลยแมแตนอย ทวาการใชจิตสัมผัสเปนเวลายาวนานโดยไมหยุดพักเชนนี้
สีหนาแตละคนก็ดูซีดลงเล็กนอย
หานลี่เอามือไพลหลัง พลันขมวดคิ้วจางๆ แลวมองไปยังทิศทางหนึ่งบนฟากฟา
ใบหนาก็ปรากฏความตกตะลึงระคนประหลาดใจออกมาปราดหนึ่ง
เมื่อครูนี้ เขารูสึกเหมือนไดกลิ่นที่รุนแรงบางอยางจากทิศทางนั้น ทวาเพียงแค
แวบเดียวก็หายไปแลว จึงทำใหเขาคิดวาตนสัมผัสอะไรพลาดไปหรือไม
ภายใต ด วงตาที ่ เ ปล ง ประกาย ขณะที ่ เ ขากำลั ง ครุ  น คิ ด ว า ควรตรวจสอบ
อยางละเอียดอีกหนอยหรือไม ทันใดนั้นก็มีเสียงรองอุทานมาจากปากของเหลยหลัน
ทาทางดีอกดีใจอยางสุดขีด
“ทำไมรึ หาผลเพลิงอเวจีเจอแลวจริงๆ หรือ!” หานลี่เองก็ไมสนใจเรื่องเมื่อครูนี้
พลันหันหนาเอยถาม
เขารูสึกเกินคาดอยูหลายสวน
“ไมผิด ขาหาปาเพลิงอเวจีเจอแลวจริงๆ ทั้งยังมีหกตนงอกขึ้นในพื้นที่เดียวกัน
บนนั้นลวนออกผลหมด อีกทั้งสวนใหญเปนผลที่สุกแลว” เหลยหลันพูดอยางยากที่จะ
ปดบังความลิงโลดบนใบหนางามๆ ของนาง
“ศิษยนองเหลย เจามองไมผิดนะ เปนผลเพลิงอเวจีจริงๆ ใชไหม?” ไปปไดยินที่
กลาวก็ไมสนใจที่จะควบคุมงูวิญญาณของตนเอง พลันถามดวยใจเตนแรง
“เจาพูดไมผิด ในเหวพสุธามีผลไมนอยที่เหมือนผลอเวจีราวกับแกะ นองเหลย
เจาตองดูใหละเอียดแลว” น้ำเสียงของฉินเสี่ยวคอนขางสั่นเล็กนอย
สตรีผูนี้ก็ไมสนใจหุนเชิดของตัวเองเชนกัน
“ไมมีทางพลาด แมวาขาจะเคยเห็นของจริงเปนครั้งแรก แตไมวาจะลำตนหรือ
ผลของมันตางก็เหมือนกับในคัมภีรโบราณไมมีผิดเพี้ยน” เหลยหลันสายหนา พลันพูด
ดวยความมั่นใจเต็มที่
“ดีมาก กอนอื่นก็ไปดูสักหนอยวาเปนของจริงหรือปลอม หากเปนของจริงก็
ไมมีปญหา พวกเราก็ไมตองไปชั้นสามแลว” หานลี่ดูสงบนิ่งอยางเห็นไดชัด พลันกลาว
อยางเรียบเฉย
เดิมทีชั้นสองก็มีความเปนไปไดที่ผลเพลิงอเวจีจะดำรงอยู เพียงแตโอกาสไมคอ ย
สูงมากก็เทานั้น ตอนนี้เพียงชั่วครูก็ถูกพวกเขาหาเจอแลว จึงไมใชเรื่องที่ยอมรับไมได
“ใชแลว ขาจะนำทางไปเอง” เหลยหลันตอบรับดวยความปลื้มปติ พลันยืนขึ้นมา
อยางพลิ้วไหว
พวกไปปสองคนก็ลุกขึ้นมาเชนกัน แมวาคิดจะฝนทำเปนไมสงบนิ่ง แตความ
ตื่นเตนดีใจก็เผยออกมาจากดวงตาโดยไมไดตั้งใจ
ดวยการนำทางของเหลยหลัน ทุกคนเหาะทยานกันอยางสุดกำลัง ภายในเวลา
เพียงหนึ่งเคอ ก็มาปรากฏที่กลางอากาศเหนือพื้นดินเปยกชื้นผืนหนึ่งภายในสวนลึก
ของปาทึบซึ่งถูกหมอกสีเทาจางๆ ปกคลุมอยู
“อยูตรงนี้แหละ บริเวณใกลๆ มีสระน้ำอยูแหงหนึ่ง ตนผลเพลิงอเวจีพวกนั้นอยูที่
ริมสระน้ำ” เหลยหลันชี้ไปยังเบื้องลาง พลางพูดอยางไมลังเลแมแตนอย
ตอนที่ 1458 เข็มอเวจีแมน้ำโลหิต
ขณะที่มองดูไอหมอกที่อยูเบื้องลาง รูมานตาของหานลี่ก็เปลงดวงแสงสีน้ำเงิน
ปราดหนึ่ง สายตามองทะลุไอสีเทาภายในชั่วพริบตา ทำใหมองเห็นสถานการณที่อยู
เบื้องลางอยางชัดเจน
เขาสั่นแขนเสื้อคราหนึ่ง พายุหมุนพลันโหมซัดสาดออกมาจากแขนเสื้ออยางบางคลั่ง
ครูตอมาก็พัดกลบไอหมอกจนโลงแจงไปกวาครึ่ง
ทิวทัศนเบื้องลางพลันมองเห็นรำไร
เบื ้ องล า งมี ส ระน้ ำ ไม ใ หญ อยู  ห นึ ่ ง สระดั ง คาด พื ้ น ที ่ ม ี แ ค ร  อยจั ้ ง เศษเทานั้น
ส ว นสถานที ่ ท ี ่ ห  า งจากสระน้ ำ เพี ย งสิ บ จั ้ ง เศษ มี ต  น ไม เ ตี ้ ย หลายสิ บ ต น ขึ ้ นอยู
หร็อมแหร็ม สวนใหญลวนแตกตางจากตนใบเนาที่อยูรอบๆ
มี ต  นไม ห ลายตนที ่ต ลอดทั้ ง ลำต น เป น สี ดำเขีย ว ที ่ ป ลายกิ ่ง ใบแตละสาขามี
ผลประหลาดสีดำเปรอะขนาดเทากำปนหนึ่งลูก
ผลเหลานี้มีพื้นผิวขรุขระเปนอยางยิ่ง ทั้งยังมีรอยแยกเปนเสนเล็กๆ จำนวนนับไมถวน
ภายในนั้นมีไอสีดำหมุนเวียนเขาออกอยูลางๆ
หานลี่หรี่ตาลง พลางคิดทบทวนครูหนึ่ง เหมือนกับผลเพลิงอเวจีที่บันทึกใน
คัมภีรโบราณทุกประการอยางที่คาดไวจริงๆ
ไมเพียงแตหานลี่ คนอื่นๆ เมื่อไดเห็นผลไมกี่ลูกนี้ ใบหนาตางก็เผยรอยยิ้มออกมา
“ศิษยนองเหลยพูดไมผิด เปนผลเพลิงอเวจีจริงๆ” ไปปพูดดวยความปลื้มปติ
“เด็ดลูกที่สุกแลวลงมาเถอะ ดูทาจะเพียงพอใหพวกเราแบงกันได” หานลี่จอง
มองอีกสองสามหน จึงคอยกลาวอยางชาๆ สีหนาทาทีดูไมรีบรอนอยูตลอด
“หากเผาแดงสดพวกนั้นคิดจะดักซุมพวกเราที่ชั้นสาม ก็ใหพวกเขารอตอไปเถอะ!”
เหลยหลันเอยดวยทาทางคลายกับกำลังหยอกลอ
เห็นไดชัดวาจิตใจเบิกบานเปนอยางยิ่ง!
ฉินเสี่ยวยอมดีใจเปนอยางมากเชนกัน
ในระหวางที่ทั้งสามคนคิดจะรอนลงมาเด็ดผล จูๆ หานลี่ก็มีสีหนาเครงขรึม
พลันยื่นแขนขางหนึ่งไปในที่วางแหงหนึ่งซึ่งอยูดานหลังโดยไมหันหนากลับไปมอง
“ปาบ!”
มือใหญหาสีขนาดจั้งกวาขางหนึ่งปรากฏออกมาอยางไรสาเหตุ พลันตะปบลงไป
ขางลางอยางไมเกรงใจแมแตนอย
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฏขึ้น!
อากาศวางเปลาที่ถูกมือใหญหาสีกุมไว พลันเปลงแสงโลหิตวูบหนึ่ง มือใหญสีโลหิต
ขางหนึ่งก็สวนออกมาตานรับไวเชนกัน
“ตูม!” หานิ้วกับหานิ้วปะทะเขาดวยกัน ภายใตการผสมผสานระหวางแสงโลหิต
กับเพลิงแสงหาสี ในชั่วพริบตาก็แตกสลายหายไปพรอมกัน
“เอ”
“นาสนุกดีเหมือนกัน!”
เสียงอุทานเบาๆ ที่แตกตางกันอยางสิ้นเชิงดังออกมาพรอมกัน
ฝายที่สงเสียง “เอ” ออกมาเบาๆ คือหานลี่ที่หันหนาไปแลวมองเห็นทุกอยางที่
เกิดขึ้น
สวนฝายที่กลาวถอยคำออกมา คือหมอกโลหิตที่ปรากฏมือใหญสีโลหิตผลุบๆ โผลๆ
ภายในหมอกมีเงาคนรางสูงใหญตะคุมๆ อยูรางหนึ่ง
“ทานคือผูใด เหตุใดตองทำลับๆ ลอๆ ดวย?” หานลี่จองมองหมอกโลหิตพลาง
เคนคำพูดออกมาทีละคำดวยทาทางนาสะพรึงกลัวผิดปกติ
“ระดับแมทัพวิญญาณแตสังเกตเห็นขาได ดูทาจะมีปญหาอยางที่คาดไวจริงๆ”
เงาคนภายในหมอกโลหิตหัวเราะประหลาดอยางลึกลับ คลายกับกำลังพูดกระซิบ
กระซาบคนเดียว
“พวกเจาไปเก็บผลเพลิงอเวจีกันตอ แลวใหคนใดคนหนึ่งสงมาใหขาก็พอแลว”
หานลี่ดวงตาเปลงประกายวาบหนึ่ง พลันกวักมือไปทางพวกเหลยหลันสามคนที่กำลัง
ตกตะลึงอยูขางๆ แลวกลาวกำชับเสียงแข็ง
“เจาคะ!”
“นอมรับคำสั่ง!”
“พี่หานระวังตัวดวย!”
พวกเหลยหลันทั้งสามแมวาจะดูพลังของเงาคนภายในหมอกโลหิตไมออก แตเมื่อ
เห็นวาหานลี่มีทาทางเครงขรึมเชนนี้ ใจก็เตนโครมครามโดยไมรูตัว รีบขานรับในทันที
จากนั้นทั้งสามคนก็กลายเปนลำแสงหลีกหนี รอนลงไปยังผลเพลิงอเวจีที่อยูเบื้องลาง
“ทำไมรึ พวกเจาสนใจไมผลที่อยูขางลางพวกนั้นสินะ หึๆ แมวาพวกมันจะไมใช
ของดีอะไร แตก็ไมใชของที่ไดมาโดยงายเชนนั้น” เงาคนภายในหมอกโลหิตกวาดตา
มองพวกเหลยหลันไปปหนหนึ่ง แลวกลาวเชนนี้ดวยน้ำเสียงประหลาดใจ
หานลี่ใจหายวาบ พลันกระตุนจิตสัมผัส คิดจะเอยปากเตือนพวกไปปสามคน
อยางฉับพลัน แตก็สายไปแลว
เบื้องลางเกิดเสียงดังสนั่นขึ้นคราหนึ่ง ทันใดนั้นภายในสระน้ำก็เกิดคลื่นมหึมาขึ้น
ตามดวยหนวดสีชมพูหลายเสนที่กวาดคลื่นน้ำออก พรอมกับลูกธนูวารีที่พวยพุง
ออกมาอยางหนาแนน
พวกไปปที่เพิ่งจะลงมาถึงริมสระน้ำ เห็นสิ่งนี้ก็ตกตะลึงยกใหญ
ผลเพลิงอเวจีพวกนั้นก็อยูขางหลังแลว ไหนเลยจะกลาปลอยใหหลุดมือไปได
งายๆ ภายใตความจนใจของทั้งสามคน จำตองพากันสำแดงอิทธิฤทธิ์เพื่อฝนรับการ
โจมตีนี้
คนหนึ่งถูมือสองขางคราหนึ่ง ปลดปลอยประกายแสงสีเงินหยาบหนาออกมา
หลายดวง อีกคนหนึ่งปล อยเสนไหมสีท องจำนวนนั บไมถ ว นพวยพุ งผสมผสานที่
เบื้องหนา สวนฉินเสี่ยวอาปากคราหนึ่ง พนแสงอรุโณทัยสีเขียวออกมาผืนหนึ่ง
อิทธิฤทธิ์ทั้งสามชนิดผสานเขาดวยกัน ทันใดนั้นก็ปะทะเขากับหนวดและลูกธนูวารี
“โครม!” รางของพวกเหลยหลันสามคนสั่นสะเทือน จึงอดไมไดที่จะถอยหลังไป
สองสามกาว
ภายในสระน้ำสงเสียงคำรามลั่นดวยความเจ็บปวดคราหนึ่ง พลันเกิดคลื่นน้ำขึ้น
ปศาจสีน้ำตาลรูปรางคลายปลาหมึกตัวหนึ่งโผลออกมาจากใตน้ำ ดวงตาประหลาด
สีเขียวจองเขม็งมาที่ริมสระ พรอมกับทำทาแยกเขี้ยวยิ่งฟน ยื่นหนวดหลายเสน
ออกมาจากใตน้ำ แตละเสนมีความสูงสิบจั้ง ทำใหผูที่เห็นเปนตองหวาดกลัว
ศีรษะอันใหญโตของปศาจตนนี้มีขนออนสีน้ำเงินขึ้นอยางหนานแนน ทุกครั้งที่มัน
เหวี่ยงหนวด ก็จะเกิดเสียงแหวกอากาศขึ้น
สิ่งที่ยิ่งทำใหพวกเหลยหลันรูสึกกลุมใจอยางหนักก็คือ หนวดที่ไดรับบาดเจ็บ
เหลานั้น หลังจากเปลงแสงสีน้ำเงินวูบหนึ่ง บาดแผลก็สมานกันในชั่วพริบตา ฟนคืนสู
สภาพเดิม
ปศาจตนนี้ไมมีเจตนาจะยั้งมือแมแตนอย มันไดเห็นบริเวณใกลเคียงของสระน้ำ
เปนอาณาเขตของมั นไปแล ว ครั้นเงยหนา ก็ ส งเสีย งคำรามอย างบาคลั่ ง ภายใต
การเหวี่ยงหนวดหลายเสนของมัน ฉับพลันก็ปลอยแสงสีน้ำเงิน พุงเขาไปโอบรัด
ทั้งสามคน
เพื่อผลเพลิงอเวจีแลว พวกเหลยหลันจึงไมอาจถอยไดแมแตกาวเดียว จึงพากัน
รองเสียงเบาแลวสำแดงอิทธิฤทธิ์ออกไปตอนรับขับสู
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงฟารองและระเบิดดังขึ้นอยางไมขาดสาย ทั้งสามคนกับปศาจ
รูปรางคลายปลาหมึกก็ตอสูพัวพันกันอุตลุด
อีกดานหนึ่ง หานลี่ดึงสายตาที่เหลมองกลับมา ใบหนาไรซึ่งอารมณใดๆ ไมเผย
สีหนาของความเปนกังวลแมแตนอย
แมวาปศาจตนนั้นจะดุรายปาเถื่อน แตหากเวลานานออกไปเล็กนอย ยอมไมใช
คูมือของพวกเหลยหลัน บุตรสวรรคทั้งสามเปนอันขาด แตผูที่อยูตรงหนานี้เปนศัตรู
ตัวฉกาจอยางเห็นไดชัด จึงตองรับมืออยางระมัดระวัง
“เจากับหุนเชิดโลหิตที่ปรากฏตัวกอนหนานี้เกี่ยวของอะไรกัน?” หานลี่จองมอง
ฝายตรงขาม พลันเอยถามออกมาเชนนี้
“หึๆ หุนเชิดโลหิต! พูดเชนนี้ก็แสดงวาตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยไดสงคนมาแลว
และพวกมันนาจะถูก เจา เชื อดทิ้ งไปแล วสิ นะ ดี ดีมาก! คอยคูควรใหขาออกโรง
ครั้งนี้หนอย” ภายในหมอกโลหิตสงเสียงหัวเราะเยาะออกมาครูหนึ่ง ไมมีเจตนาที่จะ
ตอบคำถามของหานลี่แมแตนอย
หานลี่ยนคิ้วคราหนึ่ง ฝูงกระบี่บินภายในรางพลันโลดเตนดวยอารมณคึกคัก
อยากจะลองดู
ทวาในตอนนี้เอง ฉับพลันอีกฝงก็เกิดเสียงแหลมแสบแกวหูดังขึ้น ทำใหเขาปวดหู
สองขางขึ้นมา
หานลี่ตกตะลึงอยางหนัก ยังไมทันเขาใจวาเกิดอะไรขึ้น เบื้องหนาก็มีลมหนาว
จูโจมใสอยางฉับพลัน เข็มโลหิตเลมหนึ่งที่คลายขนหนึ่งเสนก็พวยพุงออกมาจากกลาง
อากาศที่ใกลเพียงลัดนิ้วมือ มาถึงบริเวณหวางคิ้วของหานลี่
ดวยระยะหางที่ใกลเชนนี้ หานลี่จึงไมสามารถโตตอบใดๆ ไดเลย
เห็นเพียงแสงโลหิตสวางวาบ เข็มโลหิตก็แทงลงบนหนาผากของหานลี่ราวกับ
ภูตพราย
มุมปากของเงาคนในหมอกโลหิตกระตุกคราหนึ่ง พลันแสยะรอยยิ้มดุรายออกมา
อิทธิฤทธิ์นี้ สามารถทำใหเขาสังหารศัตรูที่แข็งแกรงตั้งไมรูเทาไหร ยังไมเคย
พลาดมือมากอน
“เครง!” เกิดเสียงโลหะกระทบดังกอง เข็มเรียวเล็กคลายกับแทงลงบน แผน
เหล็กกลา ถูกสะทอนลอยหมุนติ้วกลางอากาศ
หานลี่สีหนาเปลี่ย นยกใหญ แขนขางหนึ่ งยื่ น ออกไปขา งหนา อยา งเลื อ นราง
ควาเข็มโลหิตไวในมือ รอยยิ้มที่เพิ่งปรากฏบนใบหนาของเงาคนภายในหมอกโลหิตก็
แข็งคางโดยพลัน
“กายเนื้อของเจาสามารถตานทานเข็มอเวจีแมน้ำโลหิตของขาได?” ดูเหมือน
เงาคนภายในหมอกโลหิตรูสึกยากที่จะเชื่อ
ทวาหานลี่กลับไมพูดจาแมแตคำเดียว เพียงแคคลายนิ้วทั้งหาออกอยางชาๆ ที่
เบื้องหนา
เห็นเพียงเข็มโลหิตเลมนั้นเดงไปมาในฝามือไมหยุด ราวกับมีชีวิต ทวาในฝามือ
ก็ปรากฏเพลิงแสงหาสีออกมาทีละแผน ทำใหเข็มเลมนี้ไมสามารถออกหางไดเกิน ชุ
นกวา
สีหนาของหานลี่ดูย่ำแยมาก ถึงกับเขียวคล้ำอยูหนอยๆ ความหนาวเย็นอยางสุดขั้ว
วนเวียนอยูภายในจิตใจไมสูญหาย
การจูโจมทีเผลอของอีกฝายในครั้งนี้ ทำใหเขารูสึกเหมือนไดวนหนาประตูยมโลก
ไปรอบหนึ่งแลวเดินกลับมาอีกครั้งจริงๆ
หากไม ใ ช เพราะกายเนื ้ อของเขาเหนื อกว า อสู ร ป ศ าจในระดั บ เดี ย วกั น มาก
ไม ว  า จะเป น เนื ้ อ หนั ง หรื อ กระดู ก ก็ แ ข็ ง แรงทนทานกว า ศาสตราอาคมทั ่ ว ไป
หากเปลี่ยนเปนผูบำเพ็ญเพียรเผามนุษยคนหนึ่ง คงไดซี้มองเทงลงตรงนี้แลว แตเปน
เชนนี้ ก็ขูขวัญใหเขาเหงื่อออกทั้งตัวแลว ความรูสึกอยูหรือตายที่แทบจะเฉียดไหล
ผานไปนี้ เขาไมไดสัมผัสมานานหลายปแลว
ความตกตะลึงของเงารางในหมอกโลหิตก็ไมนอยไปกวาหานลี่เชนกัน!
ศัตรูที่กายเนื้อแข็งแกรงถึงระดับนี้ มันไมเคยไดยินมากอนจริงๆ จึงอดไมไดที่จะ
สงสัยวาหานลี่เปนเผาวิ ญญาณเหาะเหิ นจริง ๆ หรือไม และเปนปศาจที่กายเนื้ อ
แข็งแกรงแปลงกายมาหรือไม
สีหนาของมันคอนขางลังเลเชนกัน
ในตอนนี ้ เ อง หานลี ่ ช ู  ม ื อขึ ้ นช า ๆ พลางเปล ง เสี ย งประหลาดภายในดวงตา
ทั น ใดนั ้ น ก็ แ ค น เสี ย งออกมาคราหนึ ่ ง เงาคนภายในหมอกโลหิ ต รู  ส ึ ก เหมื อ น
สมองระเบิด ราวกับถูกคนใชแท งเหล็ กแหลมออกแรงแทงเขา ไป ความเจ็บ ปวด
ทรมานอยางสาหัสพลันโลดแลนขึ้นมา
แมวาเงาคนรางนี้จะทรงอิทธิฤทธิ์อยางที่ปศาจระดับเดียวกันไมอาจเทีย บได
แตก็ยังตองดิ้นดวยความเจ็บปวดทรมานบนรางอยางหามไมอยู แทบจะโกงโคงตัวลง
ไปในทันที
เกือบจะในเวลาเดีย วกัน เศษเสี้ยวของสติที่ยังหลงเหลื อของมันสัมผัสได ถึ ง
สายลมออนๆ ที่โชยมาจากดานหลัง ตามดวยความหนาวเหน็บอันแปลกประหลาดสง
มายังบริเวณเอวอยางฉับพลัน
คนผูนี้ตกตะลึงอยางหนัก คิดที่จะหลบหนี แตดวยความเจ็บปวดทรมานของ
จิตสัมผัสจึงทำใหมือไมเคลื่อนไหวเชื่องชาผิดปกติ จะหลบหลีกก็ไมทันการแลว
มันทำไดเพียงเปลงเสียงรองเบาๆ จากปากคราหนึ่ง บนรางพลันเปลงแสงโลหิต
เจิดจา ปรากฏเปนเกราะเกล็ดสีเขียวรูปลักษณแปลกตา ตานความหนาวประหลาดไว
เบื้องหนา แลวปองกันทั้งรางอยางมิดชิดไรชองโหว
“ฉึก!” ลำแสงสีทองสายหนึ่งแทงลงบนเกราะเกล็ดอยางไมปรานี ทวาจมเขาไป
ไดเพียงหลายชุนก็ไมสามารถเจาะลึกไดกวานี้อีก แสงสีทองพลันดับวูบ ปรากฏเปน
กระบี่บินสีทองแวววาวยาวฉื่อกวาเลมหนึ่ง
ที่แทก็เปนกระบี่ไผเขียวผึ้งเมฆาของหานลี่
และเบื้องหลังของหมอกโลหิตซึ่งไกลออกไปหลายจั้ง หานลี่ก็กำลังยืนอยูตรงนั้น
ดวยใบหนาตื่นตะลึง
ในขณะเดียวกับที่เขาปลอยจิตทิ่มแทงออกไปเมื่ อครู ก็สำแดงอิทธิฤทธิ์ข อง
ปกวายุอัสนี อาศัยเคล็ดวิชาวายุหลีกหนี กลายเปนสายลมออนเคลื่อนยายมาถึงที่นี่ใน
ชั่วพริบตา แลวใชกระบี่ฟนฉับไปในหมอกโลหิตอยางรวดเร็วปานสายฟาแลบ
ทวาคิดไมถึงวาอีกฝายยังประคองสติไดเสี้ยวหนึ่ง ปลอยเกราะเกล็ดรูปรางแปลก
ประหลาดออกมา คิดไมถึงวาจะตานทานความแหลมคมของกระบี่ไผเขียวผึ้งเมฆา
เอาไวได
นี่มันเกราะศึกอะไรกัน คาดไมถึงจริงๆ วาจะแข็งแกรงเพียงนี้
หานลี่รูสึกตกตะลึงอยูในใจ
“รนหาที่ตาย!”
ภายในชั่วพริบตา เงาคนภายในหมอกโลหิตก็ฟนสติจากจิตทิ่มแทงไดทั้ง หมด
กระบี ่ เ มื ่ อครู  ข องหานลี ่ ทำให ม ั นรู  ส ึ ก หวาดกลั ว ภายหลั ง ไม ห ยุ ด ภายใต ค วาม
โกรธเกรี้ยว มันกลับหลังหันพลางอาปาก ลำแสงสีโลหิตสายหนึ่งก็โถมทะลักออกมา
อยางบาคลั่ง
ทวาหานลี่กลับไมมีเจตนาที่จะฝนรับการโจมตีนี้ ปกสองขางบนแผนหลังพลันสั่นระริก
แลวหายไปอยางไรรองรอยทามกลางประกายแสงอัสนีสีเขียวขาว
ครูตอมา ณ จุดเดิมที่หานลี่ยืนกอนหนา เกิดเสียงฟารองดังเกริกกองคราหนึ่ง ราง
ของเขาก็ปรากฏที่นั่นอีกครั้ง
สีหนาของเขาสงบนิ่งเหมือนปกติ ราวกับวาตั้งแตเริ่มไมเคยออกหางจากที่นี่เลย
ในตอนนี้ ฝงตรงขามสงเสียงรองเบาๆ คราหนึ่ง หมอกโลหิตคอยๆ พลิกตัวแลว
สลายหายไป พลันปรากฏโฉมหนาที่แทจริงของเงาคนที่อยูฝงตรงขามออกมา
คิดไมถึงวาจะเปนปศาจรางมนุษยหัวมังกรสีแดงโลหิตตนหนึ่ง!
“มังกรโลหิต!”
รูมานตาหานลี่พลันหดเล็กลง
ตอนที่ 1459 โลหิตอัสนีดาวเหนือ
ขณะที่มองดูปศาจรางมนุษยหัวมังกรที่คุนเคยตรงหนา หานลี่ก็รูสึกเกินความ
คาดหมายมาก พลันรูสึกกังขา
ปศาจชนิดนี้ เขาไมไดเจอเปนครั้งแรก
มังกรโลหิตแปลงกายตัวหนึ่งที่เขาสังหารในมหาสมุทรดาวคลั่งที่แดนมนุษยเมื่อปนั้น
ก็มีรูปรางหนาตาเหมือนกับปศาจที่อยูตรงหนาไมมีผิดเพี้ยน แตมังกรโลหิตที่อยู
ตรงหนานี้ยอมไมใชปศาจอสูรระดับแปดอยูแลว แตเปนระดับหลอมสูญขั้นสูงที่
นาสะพรึงกลัว จากการประมือเล็กนอยเมื่อครูนี้ จึงพอรูวาอิทธิฤทธิ์ของปศาจตนนี้
นากลัวเปนอยางยิ่ง ไมใชปศาจระดับหลอมสูญทั่วไปอยางแนนอน
ขณะที่หานลี่โคจรความคิดอยางรวดเร็ว ก็แอบไตรตรองวาจะรับมืออยางไรกับ
ศัตรูตัวฉกาจที่อยูตรงหนา
“คิดไมถึงวาผูที่มีระดับแมทัพวิญญาณคนหนึ่งเกือบจะทำรายขาได ชางนาแปลก
จริงๆ! ไมแปลกใจเลยที่กอนหนาเจานายจะกำชับขาเชนนั้น” มังกรโลหิตจองมอง
หานลี่ พลางกลาวดวยทาทางนาสะพรึงกลัว
“เจานาย!” หานลี่ไดยินวาจานี้ พลันรูสึกใจหายวาบ
มังกรโลหิตที่อยูตรงหนามีพลังยุทธอยูในระดับหลอมสูญขั้นสูงแลว เชนนั้น
เจานายของมันจะไมใชปศาจยักษใหญระดับผสานอินทรียเชียวหรือ ตัวตนระดับนี้ใน
เหวพุสธา จูๆ จะมาจับตาดูตนทำไม เขาเพิ่งจะเคยมาที่นี่เปนครั้งเอง
หานลี่รูสึกฉงนใจ สีหนาพลันเครงขรึมไมพูดจา
“การโจมตีตอจากนี้ หากเจารับไวได เราผูยิ่งใหญจะหันหลังจากไปในทัน ที
ละเวนเจาเปนการชั่วคราว!” ดวงตาของมังกรโลหิตมีสีของความประหลาดสายหนึ่ง
พาดผาน ฉับพลันก็เอยขึ้นดวยทาทางคลายจะยิ้มแตไมยิ้ม
ตอจากนั้น ปศาจตนนี้ก็ไมสนใจอารมณตกตะลึงพรึงเพริดของหานลี่ สองมือพลัน
ตั้งทารายคาถา บนรางเปลงแสงโลหิตสวางวาบ แสงอรุโณทัยผืนใหญพลันมวนออก
รอบทิศ
หมอกโลหิตที่จากเดิมไดกระจายหายไปในบริเวณใกลเคียงพลันปรากฏออกมา
อีกครั้ง ครั้นตลบฟุงเพียงเล็กนอย ก็อำพรางรางของมังกรโลหิตไวภายใน
เสียงบริกรรมคาถาแปลกประหลาดดังออกมาจากภายในหมอกโลหิตอยางเรงรีบ
ทันใดนั้น กลางอากาศสูงในบริเวณใกลเคียงก็ปรากฏเมฆโลหิตผืนใหญขึ้น
ภายในเมฆสงเสียงฟารองดังลั่น สายฟาแลบสีโลหิตพลันเปลงแสงระยิบระยับ
ออกมาทีละเสนๆ
“นี่มันอิทธิฤทธิ์อะไรกัน!”
หานลี่ตกตะลึง ในใจรูสึกหวาดกลัวอยางหนัก
แมวาสายฟาภายในเมฆจะยังไมรวงลงมา แตความรูสึกเห็นทาไมดีไดผุดขึ้นในใจแลว
ดวยการลงมืออยางฉับพลัน เขาใชมือขางหนึ่งลูบไปที่หลังศีรษะ แสงอรูโณทัย
สีเทาผืนหนึ่งพลันพุงทยานออกมา กลายเปนมานแสงสีเทาคุมกันศีรษะหนึ่งชั้น
ตามดวยแสงสีเขียวสวางวาบเหนือกระหมอม เตาจิ๋วสีเขียวใบหนึ่งพลันปรากฏ
ออกมา พนเสนไหมสีเขียวจำนวนนับไมถวน ผสมผสานเขาดวยกันภายใตแสงเปลง
ประกายระยิบระยับ ตาขายมหึมาสีเขียวผืนหนึ่งก็ปรากฏที่เบื้องลางมานแสงสีเทา
ทวาเปนเชนนี้หานลี่ก็ยังไมวางใจ รางพลันหมุนเควงรอบหนึ่ง กระบี่บินเจ็ดสิบสอง
เลมก็พวยพุงออกมา กลายเปนเงากระบี่ทยอยออกมาบินวนรอบกายไมหยุดนิ่ง
อาภรณอัสนีสีทองเงินก็พวยพุงออกจากรางเชนกัน กลายเปนอักขระสีทองเงิน
ลอยเควงไมหยุดนิ่ง นอกจากนี้ ภายใตปราณดำที่แผซาน เกราะสังหารสีดำก็ปรากฏ
ขึ้นบนราง
ภายในชั่วพริบตา หานลี่ก็กางมานปองกันหาชั้นอยางหนาแนนชนิดที่ลมฝนก็
ลอดผานไปไมได
หานลี่ชูมอื สองขางขึ้น มือขางหนึ่งมีเงาดำพุงออกมา ปรากฏเปนเงาลวงตาภูเขา
ขนาดยอมสูงฉื่อกวาลูกหนึ่ง สวนมืออีกขางหนึ่งเหยียดนิ้วทั้งหาออก หัวกะโหลกสีขาว
หาหัวพลันปรากฏขึ้นผลุบๆ โผลๆ พรอมทั้งมีเพลิงแสงหาสีหมุนโคจรไมหยุด
มังกรโลหิตที่อยูใกลๆ ไดเห็นภาพนี้ พลันรูสึกตกตะลึง ไหนเลยจะมัวลังเลอีก
รีบโคจรโลหิตบริสุทธิ์ทั่วทั้งรางอยางรวดเร็ว พลางใชมือขางเดียวจิ้มไปที่เมฆโลหิต
กลางอากาศ
ภายในเมฆเปลงแสงโลหิตแสบตา โลหิตอัสนีเปลงประกายวูบวาบเกาสายผาลง
มาอยางเหี้ยมโหด ภายในชั่วพริบตา ก็มาถึงชั้นบรรยากาศเหนือศีรษะของหานลี่
แลวแบงออกเปนสามระลอก
สายฟาทั้งสามระลอกนี้ แตละระลอกจะยิ่งมีจ ำนวนและความหนามากกว า
กระลอกกอนหนา หลังจากเกิดเสียงอัสนีบาตรดังขึ้นสามครา โลหิตอัสนีสองสายของ
ระลอกที่หนึ่งก็ฟาดเขาใสมานแสงสีเทาอยางเหี้ยมโหด แมวาแสงเทวะดูดปราณจะ
ล้ำเลิศเปนอยา งยิ่ ง แตเมื่อสัมผัสถูกสายฟาสี โลหิ ตทั้งสองเส น ก็ถูกซัดกระจาย
ในทีเดียว แลวหายไปในอากาศพรอมกัน
ครูตอมา โลหิตอัสนีสามสายจากระลอกที่สองก็รวงลงมาติดๆ เห็นเพียงแสงสวาง
วาบพรอมกับเสีย งดั งสะเทื อนเลือนลั ่ น ตาขายเสนไหมสี เ ขีย วก็ ถู กฉี ก ขาดอย า ง
งายดาย โลหิตอัสนีก็จูโจมไปยังเงากระบี่ที่อยูเบื้องลาง
ฉากที่นาประหลาดพลันปรากฏขึ้น
คิดไมถึงวาการปองกันที่แปรสภาพมาจากกระบี่ไผเขียวผึ้งเมฆาทั้งเจ็ดสิบสองเลม
จะใชไมไดผล ราวกับเปนภาพมายา
โลหิตอัสนีทะลวงผานแลวพุงเขาใสอาภรณอัสนีที่กลายเปนอักขระสีทองเงิน
เสี ย งอั ส นี บาตรดั ง เกริ ก ก อ งไปทั ่ ว พื ้ น ปฐพี อั ก ขระกลายเป น ดวงแสงอั ส นี
ตานทานสายฟาสีโลหิตไว
สายฟาทั้งสามสายราวกับงูโลหิตก็มิปาน เจาลงมายังเบื้องลางอยางสุดกำลัง ทวา
ดวงแสงอัสนีสีเงินเขียวก็เปลงเสียงระเบิดอันนาตื่นตะลึงอยางไมกลาแสดงความ
ออนแอออกมา
เห็นไดชัดวาอานุภาพของโลหิตอัสนีเหนือกวาเล็กนอย หลังจากที่เปลงแสงอัสนีสามสี
อยางบาคลั่ง ดวงแสงอัสนีสีทองเงินก็แตกออกทีละชุนๆ โลหิตอัสนีสามสายก็บางลง
มาก ในที่สุดก็รวงลงมาอีกครั้ง ครั้นโจมตีถูกเกราะสังหารบนรางของหานลี่ ก็ทำให
สองสิ่งเกิดเสียงระเบิดดังอื้ออึงแลวแตกสลายไปพรอมกัน
การปองกันหาชั้นที่หานลี่เตรียมการอยางยากลำบาก ภายในเวลาชั่วพริบตาก็ถูก
ทำลายทั้งหมด
ทวาในตอนนี้เอง โลหิตอัสนีสี่สายสุดทายที่หนาและใหญกวาเดิม ไดเปลงแสง
โลหิตวูบวาบเตรียมจะรวงลงมาแลว
หานลี่สีหนาเครงขรึม มองไมเห็นการเคลื่อนไหวใดๆ ทวาบนรางพลันเปลงแสง
สีทองเจิดจา เงาลวงตาสามเศียรหกกรรางหนึ่งก็ปรากฏออกมา
เมื่อขยับคราหนึ่ง แขนสีทองแวววาวทั้งหกก็พุงเขาไปปะทะโลหิตอัสนีสี่สายที่อยู
กลางอากาศโดยตรง
แมวาวิชามารเที่ยงแทพราหมณศักดิ์สิทธิ์จะยังเปนแคเงาลวงตา แตอานุภาพ
ก็เหนือกวาจินตนาการยิ่ง นัก เมื่อแขนทั้งหกโบกลงมา ก็กลายเปนลำแสงสี ท อง
เลือนรางหกดวง
โลหิตอัสนีสี่สายพลันพวยพุงเขามา โจมตีใสแสงสีทองเหลานี้อยางแข็งกราว
เมื่อสองสิ่งปะทะเขาดวยกัน คิดไมถึงวาจะไรซึ่งเสียงใดๆ
หลังจากที่สายฟาสองสายเปลงแสงโลหิตสวางวาบ ก็หายไปพรอมกับแสงสีทอง
หกดวง สวนที่เหลืออีกสองสายกลับไมเสียหายแมแตนอย ผาตรงลงมายังศีรษะของ
หานลี่
หานลี่กลับโยกตัวคราหนึ่ง กุมฝามือสองขางที่โผลออกมาอยางนาประหลาด
กำปนเปลือยเปลาสองหมัดพลันเหวี่ยงไปยังโลหิตอัสนีสองสายที่อยูกลางอากาศสูง
กำป  น สี ข าวดำแบ ง แยกชั ด เจน ยั ง ไม ท ั น ได ส ั ม ผั ส ถู ก โลหิ ต อั ส นี โ ดยตรง
ก็กลายเปนเงากำปนขนาดมหึมาหลายเทาอยางฉับพลัน
ข า งหนึ ่ ง เป น สี เ ทาสลั ว ๆ อี ก ข า งหนึ ่ ง มี เ พลิ ง แสงห า สี ห มุ น โคจรไม ห ยุ ด
ปลอยแรงดันหมัดมหึมาหมุนเปนเกลียวออกมาพรอมกัน ราวกับบีบอัดอากาศใน
บริเวณใกลเคียงมารวมไวที่จุดเดียว
เกิดเสียง “ตูมๆ” ดังสนั่นสองครั้ง ภายใตลำแสงเจิดจาพรามัว เสื้อคลุมยาวบน
แขนทั้งสองขางของหานลี่กลายเปนเถาธุลี เผยแผนเกล็ดสีทองแวววาวอันนาตกตะลึง
เงาหมัดกับสายฟากลับกลายเปนเถาธุลีกระจัดกระจายทามกลางระเบิดพรอมกัน
หานลี่ซวนเซเล็กนอย พลันรวงดิ่งลงมาจากกลางอากาศ ทวาทันทีเหยียดตัว
รางก็กลับมายืนไดมั่นคงอีกครั้ง แลวเงยมองไปยังมังกรโลหิตที่อยูไกลออกไป
สายตาเยือกเย็นผิดปกติ ดูเหมือนจะไมไดรับความเสียหายแมแตนอย
มังกรโลหิตที่อยูภายในหมอกโลหิตสูดไอเย็นคราหนึ่ง ไมอาจปดบังความตกตะลึง
พรึงเพริดภายในดวงตาได
ในตอนนี้ หลังจากที่เมฆโลหิตบนชั้นบรรยากาศสูงปลอยสายฟาออกมา ดูเหมือน
จะใชพลังงานจนหมดแลว ชั่วครูเดียวก็แตกสลายหายไป
“คิดไมถึงวาเจาจะรับโลหิตอัสนีดาวเหนือทั้งสิบสองของขาได! ทวาอิทธิฤทธิ์นี้
ขายังฝกฝนไมสำเร็จอยางแทจริง เพียงแคพลังยุทธของขาลึกขึ้นไปอีกขั้น ก็
จะสามารถควบคุมโลหิตอัสนีไดพรอมกันสี่ระลอก ไมวาอยางไร เจาก็ไมอาจรับ
การโจมตีไดอีกแลว” แมวามังกรโลหิตจะตื่นตระหนกตกใจเปนอยางยิ่ง แตก็ยังกลาว
ดวยน้ำเสียงขรึมดวยทาทีไมคอยพอใจนัก
หานลี่ไดยินคำนี้ ดวงตาพลันเปลงแสงสีน้ำเงินวูบหนึ่ง กอนที่รางจะพลิ้วไหวอยาง
ฉับพลันโดยไมพูดไมจา แลวหายไปในสายลมออนๆ
ครูตอมา เกิดพายุหมุนกลางอากาศเหนือหมอกโลหิต รางของหานลี่ปรากฏ
ออกมาพรอมกับสายลมอยางนาประหลาด ลำแสงกระบี่สีทองหลายสิบสายพุงลงมา
พรอมกันอยางบาคลั่งราวกับพายุฝนกระหน่ำ
ขณะที่ปราณกระบี่ฟาดฟนเปนแนวขวาง อากาศในบริเวณใกลเคียงก็สงเสียงดังหึ่งๆ
เปนระลอก เสนสีขาวตัดกันปรากฏขึ้นทีละเสนๆ ชั่วพริบตาหมอกโลหิตทั้งหมดก็จม
หายเขาไปในปราณกระบี่
ภายใตการผสมผสานของปราณกระบี่จำนวนมากเชนนี้ เงารางเลือนรางที่อยู
ภายในก็ ถ ู ก ฟ น เป น ชิ ้ น เล็ ก ชิ ้ น น อ ยจำนวนนั บ ไม ถ  ว นในชั ่ ว พริ บ ตา ทว า รอให
หมอกโลหิตถูกผาจนสลายไปในอากาศแลว ตรงที่เดิมกลับวางเปลาไรผูคน ไมพบ
รางศพของมังกรโลหิตแมแตเศษเสี้ยว
หานลี่ตกตะลึงเล็กนอย ยังไมทันไดกวาดมองดูรอบๆ ทันใดนั้นเสียงหัวเราะ
อยางบาระห่ำของมังกรโลหิตก็ดังมาจากกลางอากาศสูงซึ่งไกลออกไปรอยจั้ง เศษ
“ในเมื่อเจารับโลหิตอัสนีดาวเหนือได ผูแซเซวี่ยยอมไมเสี่ยงภัยสูกับเจาตอแลว ทวา
เพียงแคขากลับ ไปรายงานเรีย กนี้ เจานายจะตองสนใจในตัวทา นเป น อย า งมาก
ดูเหมือนเวลาที่เจากับขาจะไดพบกันอีกครั้ง คงไมนานนัก”
หานลี ่ ร ี บ เงยหน า ไปมอง เห็ น เพี ย งบริ เ วณที ่ เ กิ ด เสี ย งทะลวงอากาศดั ง ขึ้ น
มีเงาโลหิตจางๆ รางหนึ่งพวยพุงออกมา พลันเปลงแสงโลหิตทั่วทั้งราง ก็กลายเปน
รุงโลหิตสายหนึ่งพุงทยานออกไป
ก็ไมรูวามังกรโลหิตใชเคล็ดวิชาแปลกประหลาดอะไร คิดไมถึงวารุงโลหิตจะ
สามารถใชเคล็ดวิชาที่เหมือนกับวิชายนระยะในขณะที่เหาะเหินได ลำแสงหลีกหนีดู
เหมือนจะปกติ แตทุกครั้งที่พลิ้วไหว รุงโลหิตก็จะเหาะทยานไปไกลถึงรอยจั้ง เพียงแค
พลิ ้ ว ไหวไม ก ี ่ ท ี ก ็ ม าถึ ง ปลายสุ ด ขอบฟ า แล ว เมื ่ อพุ  ง ปราดอี ก หน ก็ ห ายไปอย า ง
ไรรอ งรอย
ความเร็วเชนนี้แมแตหานลี่ที่กระตุนอานุภาพของปกวายุอัสนีดวยกำลังทั้งหมด
ก็ทำไดแคนี้เทานั้น หานลี่มีใบหนาตื่นตะลึง รางของเขาลอยควางอยูกลางอากาศ
ทายที่สุดก็ไมคิดจะไลตามไป
หลังจากผานไปนานสองนาน หานลี่พลันยื่นมือสองขางมาไวตรงหนาตัวเอง
เห็นเพียงฝามือสองขางที่จากเดิมเปนสีขาวใส ตอนนี้หมองคล้ำไปหมด พรอมสง
กลิ่นเหม็นไหมออกมาจางๆ
หานลี่ดวงตาเปลงประกาย พลันเงียบขรึมไมพูดจา
มังกรโลหิตตนนี้ จะตองเปนปศาจตนแรกที่มีระดับรองลงมาจากระดับผสานอินทรีย
ในบรรดาปศาจทั้งหมดที่เขาเคยพบเจออยางแนนอน หากจะโหมสุดกำลังใหตายไป
ขางกับอีกฝายขึ้นมาจริงๆ แมวาเขาจะมีแมลงกลืนทองเปนไมเด็ดอยู โอกาสชนะก็ยัง
ไมสูงไปกวาเจ็ดสวน
อิทธิฤทธิ์ที่ชื่อ “โลหิตอัสนีดาวเหนือ” ที่อีกฝายสำแดงออกมา อานุภาพรุนแรงเกินไป
จริงๆ อีกทั้งสมบัติที่มีคุณสมบัติเปนกายภาพ ดูเหมือนจะไมสามารถปองกันไดแม
แตนอย ไมเชนนั้นตอนที่ถูกอีกฝายใชสายฟานี้โจมตี กระบี่ไผเขียวผึ้งเมฆาคงไมมีทาง
ใชการไมไดเลย
อีกทั้งฟงจากที่อีกฝายพูด อิทธิฤทธิ์อันนาสะพรึงชนิดนี้ยังฝกฝนไมสำเร็จ เรื่องนี้
จะไมทำใหหานลี่คิดวกวนในใจไมหยุดไดอยางไร
ทวา สิ่งที่ทำใหหานลี่สีหนาไมสงบที่สุดก็ยังเปน “เจานาย” ที่มังกรโลหิตเรียก
ออกจากปาก ไมตองถามก็รูไดวา ตัวตนระดับนี้ไมใชสิ่งที่ตัวเขาในตอนนี้จะสามารถ
เปนปฏิปกษได
แมวาหานลี่จะรูสึกงงงวยอยางหนักวาตนไปยั่วโมโหศัตรูที่นากลัวเชนนี้ตั้งแต
เมื่อใด แตตอนนี้ก็ไมวางที่จะมาพินิจพิจารณาเรื่องนี้อยางละเอียด จำเปนตองกลับขึ้น
สูพื้นดินโดยเร็วถึงจะดี
เพียงแคกลับขึ้นสูพื้นดิน ก็จะมีอาวุโสของเผาวิญญาณเหาะเหินพวกนั้นอยู ดูแลว
ศัตรูตัวฉกาจผูนี้ก็คงหาทางทำอะไรเขาไมได
ภายในเวลาชั่วครูเดียว หานลี่ก็วางแผนทุกอยางเสร็จสิ้น
ฉับพลันที่หันหนา ก็เห็นวาพวกเหลยหลันสามคนยังคงตอสูกับ “ปลาหมึก”
รางใหญยักษอยางดุเดือด ดวงตาพลันเปลงแสงเย็นยะเยือก ชั่วพริบตาก็กลายเปน
รุงสีทองบึ่งตรงไปยังเบื้องลาง
พวกเหลยหลันทั้งสามคนที่กำลังฝนตอตานปศาจปลาหมึกนั้น เห็นเพียงแสงสีทอง
สว า งวาบตรงหน า ปราณกระบี ่ ส ี ท องจำนวนนั บ ไม ถ  ว นก็ ป กคลุ ม ลงมาจาก
กลางอากาศอยางหนาแนน
รางยักษของ “ปลาหมึก” ที่จากเดิมดูทาทางดุรายอยางหาสุดมิได รวมทั้งหนวด
สิบกวาเสนของมัน แทบจะถูกฟนขาดเปนหลายทอนในชั่วพริบตา กลิ่นคาวเลือดพลัน
แผกระจายไปทั่ว
แสงสีทองพลันดับวูบ รางของหานลี่ก็ปรากฏที่กลางอากาศเหนือเศษเนื้อ กอง
หนึ่ง กวาดตามองพวกเหลยหลันทั้งสามคนเสร็จ ก็เอยขึ้นอยางเยือกเย็น “ให
เวลาพวกเจาสามสิบลมหายใจ เด็ดผลเพลิงอเวจีลงมา จากนั้นตามขากลับขึ้นสูพื้นดิน
ในทันที หากเลยเวลานี้ไป ขาจะไมรอพวกเจาแมแตคนเดียว!”
คำพูดของหานลี่ ราวกับไมมีความรูสึกแมแตนอย
ตอนที่ 1460 หลบหนี
ไดยินคำพูดเย็นชาของหานลี่ พวกเหลยหลันสามคนยอมมองออกวาหานลี่ไมมี
เจตนาลอเลนแนนอน ดวยความตื่นตะลึง จึงพากันทยานไปเด็ดผลเพลิงอเวจีพวกนั้น
ลงมาจากตนอยางไมกลาชักชาร่ำไร แตละคนตางก็หยิบตลับไมออกมาคนละตลับ
เก็บผลเพลิงอเวจีที่สุกแลวเขาไป
ฉินเสี่ยวบรรจุหนึ่งในนั้นเสร็จ ก็ยื่นตลับไมใหหานลี่ดวยสองมือ
หานลี่สั่นแขนเสื้อคราหนึ่งอยางไมเกรงใจ แสงอรุโณทัยสีเขียวพลันพุงฉวัดเฉวียน
ออกมา ตลับไมก็หายไปอยางไรรองรอย
ในตอนนี้ เหลยหลันกับไปปสองคนตางก็แยกกันเก็บผลเพลิงอเวจีเรียบรอย
และกลับมาถึงบริเวณใกลเคียงแลว
“ไปกันเถอะ! ระหวางทางไมมีการหยุดพักใดๆ จะตองกลับขึ้นสูพื้นดินภายใน
ระยะเวลาสั้นที่สุด” หลังจากที่หานลี่กลาวดวยน้ำเสียงขรึม บนรางพลันเปลงแสง
สีเขียวสวางวาบ กลายเปนรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงทยานจากไปในทองฟา
เขาไมยอมพูดไรสาระแมแตคำเดียว
พวกไปปไมรูวาเพราะเหตุใดหานลี่ถึงไดรีบรอนออกจากเหวพสุธาเชนนี้ แตก็พอ
เดาไดวาเรื่องนี้เปนไปไดมากวามีสวนเกี่ยวของกับมังกรโลหิตที่หนีไป แมแตหานลี่
ที่ลึกยากจะหยั่งถึงก็ยังมีทาทีเชนนี้ พวกเขาก็ยิ่งรูสึกไมสบายใจ แตก็ไมกลาชักชา
เตะหนวงแมแตนอย พวกเหลยหลันจึงพากันเรงลำแสงหลีกหนีไลตามไปติดๆ
ภายในชั่วพริบตา ทุกคนก็เหาะทะลวงอากาศไปไกลโพน
สองวันตอมา ภายในวิหารใหญที่สรางจากไมที่ชั้นสามของเหวพสุธา ดอกไมยักษ
สีทองดอกนั้นยังคงอยูเชนเดิม หญิงสาวในเงาดำที่อยูดานบนกำลังเอามือขางหนึ่ง
เทาคาง พลางรูสึกลังเลอะไรบางอยาง
ภายในวิหารใหญในตอนนี้ นอกจากหญิงรับใชสวมอาภรณสีเขียวตลอดทั้งราง
สองคนที่อยูขางๆ แลว ก็ไมมีคนอื่นอีก
ทันใดนั้น นอกประตูวิหารก็มีลำแสงโลหิตสายหนึ่งพวยพุงเขามา เมื่อลำแสงดับวูบ
ปศาจสีแดงรางคนหัวมังกรตนหนึ่งก็คุกเขาที่ดานในวิหารใหญ
ที่แทก็คือมังกรโลหิตที่เพิ่งประมือกับหานลี่ตัวนั้นนั่นเอง!
“คารวะนายทาน!” มังกรโลหิตกลาว
“เจานี่เอง ธุระเปนอยางไรบาง สังหารคนพวกนั้นตายแลวหรือยัง นำจิตวิญญาณ
บริสุทธิ์กลับมาหรือไม?” หญิงสาวใชสายตากวาดมองบนรางของมังกรโลหิตทีหนึ่ง
พลางเอยถามดวยน้ำเสียงราบเรียบ
“เรียนนายทาน เซวี่ยตูไรความสามารถ สังหารคนพวกนั้นไมได” เซวี่ยตูกม
หัวมังกรของมันลงเล็กนอย พลางตอบกลับ
“ออ พูดเชนนี้แสดงวาคนพวกนี้มีปญหาแลวจริงๆ” หญิงสาวไมไดโกรธ กลับรูสึก
สนใจขึ้นมาแทน
“ใชขอรับ นายทาน คนที่เหลืออยูก็ไมเทาไหร แคเผาวิญญาณเหาะเหินระดับ
แมทัพวิญญาณทั่วไปเทานั้น แตหนึ่งในนั้นคิดไมถึงวาดวยพลังยุทธระดับแมทัพ
วิญญาณ จะสามารถรับโลหิตอัสนีดาวเหนือของผูนอยไดทั้งหมด อีกทั้งยังใชกายเนื้อ
รับการโจมตีจากเข็มอเวจีแมน้ำโลหิตแลวสะทอนออกได กอนหนานี้นายทานไดกำชับ
แลววา หากดูทาไมดีใหรีบกลับมารายงานเรื่องนี้ในทันที ดังนั้นเมื่อผูนอยโจมตี
ไมสำเร็จ จึงกลับมารายงานขอรับ” เซวี่ยตูอธิบายทีละสวนอยางชัดเจน
“สามารถรับโลหิตอัสนีดาวเหนือได กายเนื้อยังสะทอนเข็มอเวจีแมน้ำโลหิตไดอีก?”
เงาดำบนดอกไมสีทองรูแตแรกแลววาตนจะไดยินขอมูลที่ไมธรรมดาบางอยาง แตก็ยัง
ถูกคำพูดของมังกรโลหิตทำใหตกตะลึงเล็กนอย
“ไมผิดขอรับ ไมเพียงเทานี้ เคล็ดวิชาหลีกหนีของคนผูนี้ก็นาตกตะลึงมาก ทั้งยังมี
มหาอิทธิฤทธิ์อื่นๆ ติดตัวอีกหลายชนิด แมวาผูนอยจะตอสูอยางสุดกำลังกับคนผูนี้
มีโอกาสเพลี้ยงพล้ำเปนอยางมาก” มังกรโลหิตลังเลครูหนึ่ง แลวกลาวอีก
“เรื่องอื่นชางมันกอน อิทธิฤทธิ์ในโลกหลามีนับพันนับหมื่น ที่มีอิทธิฤทธิ์ขั้น
สุดยอดติดตัวสองสามอยาง สามารถรับโลหิตอัสนีดาวเหนื อของเจาได ไมถือว า
เปนเรื่องแปลก แตดวยพลังยุทธระดับแมทัพวิญญาณก็สามารถใชกายเนื้อสะทอน
เข็มอเวจีแมน้ำโลหิตของเจาได นี่ไมใชธรรมดาแลว แสดงวาความแข็งแกรงทนทาน
บนกายเนื้อของคนผูนี้มาถึงจุดสุดยอดแลว เปนอาหารโลหิตสำหรับเซนไหวที่ดีที่สุด
ดีมาก สุดทายพวกเราก็ตองเตรียมอาหารโลหิตขั้นสุดยอดสามอยางใหเสร็จสิ้น ตอนนี้
เพิ่งจะหาเจอแคหนึ่งอยาง ขากำลังกลัดกลุมเรื่องนี้อยูพอดี!” คิดไมถึงวาน้ำเสียงของ
หญิงสาวปรากฏความดีอกดีใจออกมา
“ความหมายของนายทานคือ…”
“ยอมเปนขาที่ตองลงมือเองอยูแลว จับเปนคนผูนี้กลับมา แลวนำมาเปนอาหารโลหิต
สำหรับการเซนไหวครั้งสุดทาย” หญิงสาวพลันพูดดวยน้ำเสียงนาสะพรึงกลัว
“แต นายท า น คนผู  นี ้ ไ ม ใ ช ค นที ่ อรหั น ต ต ี ้ เ ซวี ่ ย ต อ งการหรอกหรื อขอรั บ ?”
มังกรโลหิตอดไมไดที่จะกลาวเตือน เขารูเรื่องนี้จากชองอื่นอยูกอนแลว
“เห็นชัดๆ วาตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยตองการจะสังหารชาววิญญาณเหาะเหิน
พวกนี้ ที่จริงแลวนาจะเล็งวิญญาณทมิฬของพวกเขาไว อยางมากก็คงจะทำ ขอ
แลกเปลี่ยนบางอยางกับแมเฒาภูตทมิฬกระมัง ขาแคอยากไดกายเนื้อของคนผูนี้ ไม
ขัดแยงกับวัตถุประสงคของตี้เซวี่ย มีอะไรใหเปนกังวล!” หญิงสาวพูดดวยน้ำเสียง
เยือกเย็น คิดไมถึงวาจะคาดเดาวัตถุประสงคของชายชุดโลหิตไดเจ็ดแปดสวน
“นายทานหลักแหลมยิ่งนัก!” มังกรโลหิตเขาใจสาเหตุแลว
“จะมัวชักชาเสียการไมได ขาจะไปเดี๋ยวนี้ เซวี่ยตู เจาก็สงตัวไปที่ชั้นสองพรอมกับขา
ไปไลตามคนผูนี้ดวยกันเถอะ” หญิงสาวกลาวกำชับ
“นอมรับคำสั่ง!” มังกรโลหิตขานรับดวยน้ำเสียงนอบนอม พลันยืนขึ้น
เงาดำบนดอกไมยักษสีทองพลิ้วไหวคราหนึ่ง ครูตอมา หญิงสาวพรอมกับแสงสีดำ
เลือนรางก็มายืนอยูขางๆ ของมังกรโลหิตราวกับภูตพราย
มือหนึ่งตั้งทารายคาถา ในปากพลางเปลงคำราย ทันใดนั้นมานแสงสีดำขลับราว
น้ำหมึกผืนหนึ่งก็พุงทยานออกมาจากรางของหญิงสาว กอนที่จะมวนลงมาแลวหอหุม
ทั้งสองคนไวภายใน
เพียงชั่วแวบเดียว สองคนก็หายไปในมานแสงสีดำอยางไรรองรอย

อีกดานหนึ่ง ภายใตการเรงเราอยางสุดกำลังของหานลี่ พวกเหลยหลันใชเวลาแค
หนึ่งวันกวาก็หนีออกมาถึงเสนทางเมื่อหลายวันกอน ยังคงหนีอยางเอาเปนเอาตาย
ไมหยุดพักตลอดทาง ยังดีที่อันตรายบางสวนและอสูรปศาจที่ปรากฏระหวา งทาง
ถูกกวาดโลงไปแลวรอบหนึ่ง อีกทั้งคุนเคยเสนทางกันแลว จึงไมจำเปนตองพิจารณา
และแบงสมาธิอะไรมาก
แตเมื่อเชนนี้ ดวยการทุมกำลังขามน้ำขามเขาทั้งวันทั้งคืน แมวาพลังวิญญาณ
ภายในรางของพวกไปปและฉินเสียงจะสูญเสียไปไมนอย และทนไมไหวจริงๆ แตเมื่อ
สามคนเห็นหานลี่ที่เหาะทยานอยูดานหนาสุด ใบหนานิ่งขรึมดุจสายน้ำอยูตลอด
ภายในจิตใจพลันเกิดความรูสึกอางวาง แตก็ไมกลาบนแมแตคำเดียว จึงตองกัดฟน
แลวทนตอไป
ผานไปอีกหนึ่งวัน หลังจากที่บึงแหงหนึ่งปรากฏตรงเบื้องหนา ทางออกชั้นสองที่
มีพายุสีดำพัดอยางบาคลั่งไมหยุดก็มองเห็นอยูรำไร
หานลี่รูสึกโลงใจเล็กนอย อดไมไดที่จะถอนหายใจเบาๆ คราหนึ่ง แลวพาทั้งสามคน
เขาไปในนั้นอยางไมลังเลแมแตนอย
ครึ่งวันตอมา พวกหานลี่ก็ปรากฏตัวออกมาจากทางเขาหุบเขาที่ชั้นหนึ่งอีกครั้ง
หานลี่ในตอนนี้ กลับตัดสินใจในสิ่งที่ทำใหพวกเหลยหลันตกตะลึงพรึงเพริดกันยกใหญ
“ตอจากนี้พวกเราจะแยกกันเดินทาง พวกเจาสองสามคนก็ไมตองอยูด วยกัน
ใชเสนทางที่แตกตางมุงหนากลับไปบนพื้นดินอยางสุดกำลัง” พอออกมาจากหุบเขา
หานลี่ก็ดูเงียบขรึมครูหนึ่ง พลันเอยขึ้นอยางเยือกเย็น
“อะไรนะ แยกกัน? พี่หาน นี่หมายความวาอยางไร?” ไปปตกตะลึง เหลยหลัน
กับฉินเสี่ยวก็สีหนาเปลี่ยนเล็กนอย
“เรื่องมาถึงตรงนี้ก็ไมปดบังพวกเจาแลว พวกเราอาจจะถูกตัวตนระดับราชา
ปศาจของเหวพสุธาแหงนี้หมายตาอยู แมวาขาจะมีอิทธิฤทธิ์อยูบางแตก็ไมอาจเปน
คูมือกับตัวตนระดับนี้ได ถึงแมจะไมรูวาอีกฝายจะตามพวกเราทันเมื่อใด แตถาหาก
แยกกัน เปนไปไดมากวาอีกฝายจะไลตามขา โอกาสที่พวกเจาจะหนีกลับไปบนพื้นดิน
ก็มาขึ้นมาหนอย สวนขาเมื่อไมดึงพวกเจามาพัวพันและเหาะหนีอยางสุดกำลัง ก็มี
โอกาสหนีรอดไดเชนกัน อยูที่ชั้นนี้ นาจะมีของอยูนอยมาก แถมยังเปนอันตรายตอ
พวกเจาอีก” หานลี่ใบหนาหมองคล้ำ แตก็ยังอธิบายใหเขาใจ
“ตัวตนระดับราชาปศาจ! เหตุใดตัวตนที่นากลัวเชนนี้ถึงไดหมายตาพวกเรา พี่หาน
ทานทำอะไรผิดมาหรือไม” ฉินเสี่ยวกลาวดวยใบหนาซีดเผือด
“ขาจะไปรูสาเหตุของเรื่องนี้ไดอยางไร แตที่ควรพูดก็พูดไปหมดแลว ชีวิตก็เปน
ของพวกเจา จะเชื่อไมเชื่อก็ขึ้นอยูกับพวกเจาแลว แตทางที่ดีควรแยกกันออกเดินทาง
จะดีกวา ไมแนวา อีกประเดี๋ยวอีกฝายก็ตามมาทันแลว” หานลี่กลาวดวยดวงตาเปลง
ประกาย
พวกเหลยหลันสามคนอดไมไดที่จะหันมามองหนากัน
แตก็เหมือนกับที่หานลี่พูด ชีวิตเปนของตัวพวกเขาเอง ไมวาที่หานลี่พูดมาจะจริง
หรือเท็จ แตในเมื่อพูดมาเชนนี้แลว สามคนนี้ก็จำตองมองวาเรื่องนี้เปนจริงแลว อีกทั้ง
เห็นกอนหนานี้หานลี่มีทาทางระมัดระวังเชนนี้ ดูไมเหมือนขาวลวงขูขวัญจริงๆ ดังนั้น
หลังจากที่หานลี่จึงพุงทะลวงอากาศนำไปกอน ภายใตความจนใจของพวกเหลยหลัน
จึงตองหนีไปยังทิศทางอื่นตามที่พูด
ตามที ่ ห านลี ่บอก เพี ย งแค ส ามารถกลั บ ขึ้ น ไปบนพื ้น ดิ น ได พวกเขาก็ น าจะ
ปลอดภัยแลว
รุงสีเขียวสายหนึ่งพุงผานปาเปลี่ยวผืนหนึ่งอยางรวดเร็วปานลมกรด ความเร็ว
ของมันราวกับสายฟาแลบ เพียงแคพุงปราดไมกี่หน ก็มาปรากฏที่อีกฟากของขอบฟา
อยางนาประหลาด อีกทั้งตลอดการเคลื่อนไหวยังไรสุมเสียง ไมมีเสียงใดๆ เล็ดลอด
ออกมา
แมวาใตพิภพจะมีปศาจและแมลงปศาจบางสวนพบเห็นลำแสงหลีกหนีกลางอากาศ
แตพวกมันก็ไลตามไมทัน จึงไดแตมองดูรุงสีเขียวหายไปอยางรองรอยในชั่วพริบตา
หานลี่ที่อยูในรุงสีเขียวกลับโคจรพลังวิญญาณทั้งรางไมหยุดนิ่ง พลางใชมือสองขาง
ควาศิลาวิญญาณขั้นสุดยอดคอยเสริมพลังกายอยางไมขาดสาย
วิญญาณเหลวหมื่นปนั้น ตอนที่ลักลอบเขามาในแดนวิญญาณเมื่อปนั้น ตอนที่อยู
ในจุดเชื่อมตอมิติไดใชไปจนหมดเกลี้ยงแลว ตอนนี้แมวาศิลาวิญญาณขั้นสุดยอดจะ
ล้ำคาเปนอยา งยิ่ ง แตเพื่อที่จะรั กษาพลั งวิญ ญาณภายในร างใหเพีย งพอ เขาจึ ง
ไมสนใจคำวาสิ้นเปลืองแลว
การที่หานลี่แยกทางกับอีกสามคนที่ชั้นหนึ่งนั้น เขาจำเปนตองทำเพื่อตั ว เอง
คำพูดที่กลาวกับพวกเหลยหลันกอนหนานี้ แมวาสวนใหญจะเปนความจริง แตก็
ปดบังขอหนึ่งไว
เขารูสึกไดลางๆ วา พวกปศาจที่พบกอนหนานั้นดูเหมือนจะมาหาตัวเขาเอง
ไมไดสนใจพวกเหลยหลันสักเทาไหร
ภายใตสถานการณเชนนี้ เมื่อแยกกันเดินทางจริงๆ พวกเหลยหลันก็จะปลอดภัยยิ่งขึ้น
เขาคุ  ม ครองบุ ต รสวรรค ท ั ้ ง สองของเผ า วิ ห คสวรรค จ นหาผลเพลิ ง อเวจี พ บ
ทั้งยังสงกลับไปยังชั้นหนึ่ง นับวาทุมเททั้งกายและใจจนหมดสิ้นแลว เรื่องตอจากนี้
บุตรสวรรคทั้งสองตองพึ่งพาตัวเองแลว สวนเขาก็ตองคิดเพื่อชีวิตนอยๆ ของตัวเอง
แลว
ขณะที่เหาะทยานมาจนถึงตอนนี้ แมวาเขาจะไมพบความผิดปกติใดๆ ปรากฏใน
บริเวณใกลเคียง อีกทั้งระยะทางไปถึงทางเขาพื้นดินก็ไมไกลนัก แตหานลี่ก็ยังไมกลา
ประมาทแมแตนอย
ลำแสงหลีกหนีไมเพียงแตไมหยุด เขากลับพนโลหิตบริสุทธิ์ออกมาหยดหนึ่ง
ทำใหภายในแสงสีเขียวปรากฏสีโลหิตเปนเสนๆ ขึ้นมาเลือนราง ดวยการกระทำเชนนี้
ความเร็วจึงเพิ่มขึ้นอีกหลายสวน
สำหรับหานลี่นั้น สูญเสียพลังปราณบางสวนเพื่อใหสามารถหลีกหนีราชาปศาจ
ระดับผสานอินทรียคนหนึ่งได ยอมเปนการกระทำที่ชาญฉลาดอยูแลว
ทวาหลังจากที่รุงสีเขียวพุงทยานรวดเดียวในชั้นหนึ่งมาคอนวัน จูๆ หานลี่ที่อยูใน
ลำแสงหลีกหนีก็หนาเปลี่ยนสียกใหญ พลันหันไปมองขางหลัง เห็นเพียงขอบฟาที่
เบื้องหลัง ไมรูวามีมานแสงสีดำผืนหนึ่งปรากฏออกมาตั้งแตเมื่อไหร กำลังไลกวดมา
ทางเขา เพียงแคแวบเดียว ก็ขยับใกลเขามาเสี้ยวหนึ่งของระยะหางแลว
หานลี่สีหนาย่ำแยเปนอยางยิ่ง ไมทันไดคิดอะไรมาก สองปกบนแผนหลังพลัน
เปลงแสงขึ้นพรอมกัน ชั่วพริบตาก็กลายเปนเสนไหมเรียวเล็กสีเขียวขาวสายหนึ่ง
พวยพุงออกไป เพียงปราดเดียวก็ไกลออกไปรอยจั้งเศษ
ตัวเขาในตอนนี้ไมอำพรางใดๆ แลว พลันกระตุนอานุภาพของปกวายุอัสนีออกมา
ทั้งหมด
เสียงอุทานเบาๆ ดังออกมาจากมา นแสงสีด ำ ทวาในหูของหานลี ่กลับ ได ยิ น
ชัดเจนผิดปกติ ราวกับมีคนสงเสียงที่ขางหู
หานลี่รูสึกกลัดกลุม พลันเรงสองปกบนแผนหลังอยางบาคลั่งโดยไมเหลียวหลังไปมอง
เสนไหมเรียวบางสีเขียวขาวแผดเสียงแหลมออกมาเบาๆ กลางอากาศที่ลำแสง
หลีกหนีพาดผานเหลือเพียงรอยบางๆ สีขาวหนึ่งสาย ราวกับอากาศบริเวณใกลเคียง
ถูกทะลวงเปนชองวางก็มิปาน
ตอนที่ 1461 วางแผน
“คนที่อยูตรงหนานี้สินะ เปนอยางที่คาดไวจริงๆ พอมีอิทธิฤทธิ์อยูบาง แตในเมื่อ
ถูกขาไลตามแลว หากยังสามารถหนีรอดไปไดอีก เชนนั้นก็เปนเรื่องที่นาตลกขบขัน
ยิ่งนัก” เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังออกมา
ภายในมานแสงสีดำที่อยูเบื้องลางปรากฏรางของหญิงสาวเงาดำผูนั้นและเซวี่ยตู
ไมรูวาพวกเขาใชวิธีอะไร ถึงไดไลตามหานลี่ไดแมนยำเชนนี้ หญิงสาวหัวเราะ
เบาๆ คราหนึ่ง พลางใชมือเดียวตั้งทารายคาถา
มานแสงสีดำลอมรอบทั้งสองไวแลวหมุนเควงรอบหนึ่ง กลายเปนเขตอาคมแสงสีดำ
อยางนาอัศจรรย
ลำแสงประหลาดภายในเขตอาคมแสงหมุนโคจรรอบหนึ่ง เขตอาคมนี้กับรางของ
เซวี่ยตูก็เลือนรางเล็กนอย กอนที่จะหายไปในเวลาเดียวกัน
ครูตอมา ฉากที่คาดคิดไมถึงก็ปรากฏขึ้น
ภายใต ค วามเร็ ว ของเส นไหมเรี ย วบางสี เ ขี ย วขาวที ่ เ ข า ใกล ค ำว า มหั ศ จรรย
เบื้องหนาไมไกลพลันเกิดคลื่นอากาศขึ้น เขตอาคมขนาดยักษสีดำก็ปรากฏออกมา
อยางนาประหลาด
หานลี่ตกตะลึง คิดจะหยุดลำแสงหลีกหนีก็ออกจะสายไปหนอย
ภายใตการพุงอยางสุดกำลังของปกวายุอัสนีคูนี้ แมวารวดเร็วอยางนาอัศจรรย
แตกลับไมสามารถควบคุมความเร็วไดตามใจนึก เห็นเพียงเสนไหมเรียวบางสีเขียวขาว
ในสภาพไมทันปองกัน พุงกระโจนเขาไปในเขตอาคมสีดำ
หานลี่รูสึกเพียงเบื้องหนาดำมืด รอบทิศลวนเต็มไปดวยมานแสงสีดำ ทั้งยังมีพายุทมิฬ
หมุนขึ้นเปนระลอกๆ ราวกับกำลังพุงเขาสูประตูยมโลก
หานลี่รูสึกหวาดผวา ไมทันไดคิดมาก บนรางพลันเปลงเสียงฟาแลบ ทันใดนั้น
ประกายแสงสีทองจำนวนนับไมถวนก็พวยพุงออกมา กลายเปนงูสายฟาสีทองออกมา
เริงระบำทีละตัวๆ อยางตอเนื่อง
เกิดเสียงอัสนีบาตดังเกริกกอง!
ไมวาจะเปนมานแสงสีดำหรือพายุทมิฬ เมื่อเขาใกลประกายสายฟาสีทองนี้
ทั้งหมดก็พากันระเบิดราวกับเผชิญเคราะหราย อันตรธานหายไปจนหมดสิ้น
“อัสนีเทวาปดเปาภยันตราย! คิดไมถึงวาเจาจะฝกฝนเทวะอัสนีนี้ดวย!” เสียง
ประหลาดใจของหญิงสาวดังขึ้นจากสี่ทิศแปดทาง เต็มไปดวยความดีใจเปนลนพน
หานลี่ตกตะลึง ขณะที่ยังไมรูวาอีกฝายมีเจตนาใด ฉับพลันก็รูสึกวามานแสงสีดำ
รอบดานมีการหมุนขึ้น ยิ่งหมุนก็ยิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ
หานลี่ตื่นตระหนกตกใจเปนการใหญ ประกายแสงสีทองบนรางพลันพุงทยานกลับมา
พรอมสงเสียงฟาแลบ กอรูปรางเปนอาภรณอัสนีสีทองชุดหนึ่งหอหุมรางของตนไว
ทวาในตอนนี้เอง เสียงหัวเราะคิกคักเบาๆ ของหญิงสาวก็ดังเขามาในหู
“สหายไมตองหวาดกลัว ตัวขาไมไดมีเจตนาราย เพียงแคอยากเชิญสหายมา
พำนักในที่ของขานอยสักระยะหนึ่งเทานั้น”
หานลี่จะยอมไปเป นแขกอะไรนั ่นตามที่ อี กฝายพู ดจริ งๆ ไดอยางไร ปกสองข า ง
บนหลังพลันขยับไหว คิดจะหนีลอยนวล ทวาหญิงคนนั้นดูเหมือนจะคาดการณถึง
จุดนี้อยูกอนแลว จึงใชมือหนึ่งตบไปในอากาศโดยพลัน
ทวาเมื่อพลังไรลักษณมหึมาปะทะราง ดวยความแข็งแรงทนทานของกายเนื้อของ
หานลี่ รางกายก็อดไมไดที่จะแข็งคาง
หานลี่พลันรูสึกใจหนักอึ้ง
ทวาชาไปเพียงชั่วครูเดียว เขตอาคมมหึมาเปลงแสงสีดำสวางวาบ รางของทั้งสาม
ก็หายไปพรอมกัน
หานลี่บินวนกลางอากาศรอบหนึ่ง พลันแอบรองทุกขในใจวาแยแลว รีบโคจร
เคล็ดวิชาขับเคลื่อนภายในราง ประสาทการมองเห็นจึงคอยชัดเจนขึ้นมา
เขาจึงคอยพบวาตนถูกสงตัวจากกลางอากาศมาบนเนินสูงแหงหนึ่งที่ดูคลายกับ
แทนบวงสรวง
พื้นที่ฝาเทาเหยียบลง พลันปรากฏเขตอาคมสงตัวอีกแหงหนึ่ง
บริ เ วณที ่ ห  า งจากเขาไม ไ กล หญิ ง สาวผู  น ั ้ น กั บ มั ง กรโลหิ ต กำลั ง ยื น นิ ่ ง ไม
ขยับเขยื้อนอยูตรงนั้น ราวกับตั้งแตเริ่มไมไดขยับไปไหนแมแตกาวเดียว
เมื่อดูจากไอสีดำหนาแนนในอากาศบริเวณใกลเคียง ที่นี่นาจะเปนชั้นใดชั้นหนึ่ง
ที่ต่ำลงมาจากชั้นสองของเหวพสุธา
ที่ยิ่งทำใหเขารูสึกตกตะลึงก็คือ บริเวณใกลเคียงของหอสูงที่เขตอาคมตั้งอยู ยังมี
ปศาจรูปลักษณแตกตางกันยืนอยูเจ็ดแปดตัว แตละตัวมีลักษณะเปนครึ่งคนครึ่งปศาจ
พลังยุทธไมสูง แคระดับกอกำเนิดกับระดับเทพแปลงเทานั้น!
แตเมื่อมองจากหมูอาคารกลุมใหญในบริเวณใกลเคียงของเนินสูง เขาก็พบวา
ตัวเองไดถูกสงมาในรังแหงหนึ่งของปศาจ
หานลี่แอบรองทุกขในใจไมหยุด ชั่วขณะหนึ่งก็ไมกลาทำอะไรบุมบาม เพียงแค
มองไปยังหญิงสาวที่อยูตรงขามโดยไมพูดไมจา
เห็นไดชัดวาหญิงสาวผูนี้ก็คือ เจานายที่มังกรโลหิตกลาวถึง ไมเชนนั้นจะมี
อิทธิ์ฤทธิ์เชนนี้ไดอยางไร ภายในเวลาชั่วกระดิกนิ้วก็พาเขามาถึงที่แหงนี้แลว
“สหายตามขามาที่วิหารใหญกอนเถอะ” หญิงสาวเงาดำหัวเราะเบาๆ พลันขยับ
รางคราหนึ่ง ก็ทยานไปยังหมูอาคารที่อยูไกลออกไปอยางชาๆ
เซวี่ยตูมองหานลี่อยางประเมินดวยสายตาประหลาดคราหนึ่ง กอนที่จะเหาะตาม
หญิงสาวเงาดำอยางไมใสใจ ดูเหมือนพวกเขาไมกลัววาหานลี่จะหนีไปแมแตนอย
หานลี่กวาดมองหมูอาคารเหลานี้หนหนึ่ง พลันทอดมองไปยังอากาศสูงที่อยูไกล
ออกไปอีกหลายครา ใบหนาก็ปรากฏรอยยิ้มเจื่อนขึ้นมา
เห็นเพียงภายในอากาศตลบอบอวลไปดวยเมฆสีเทา มีสายฟาสีดำเปลงประกาย
วูบวาบอยูลางๆ และมีแรงกดวิญญาณประหลาดผลุบๆ โผลๆ เห็นไดชัดวาถูกคนใช
พลังยุทธขุมใหญวางอาคมตองหามไว ไมใชสิ่งที่เขาจะทำลายไดในระยะเวลาอันสั้น
อยางแนนอน
ทวาฟงจากคำพูดของหญิงสาวกอนหนานี้ ดูไมเหมือนวาจะลงมือสังหารตน
ในทันที หากเปนเชนนี้ ลองฟงวาอีกฝายจะพูดอะไรดูกอน เพียงแคไมยั่วโทสะอีกฝาย
ก็นาจะไมถึงกับไมสามารถหาโอกาสลงมือได ถึงอยางไรเขาก็ไมเคยมีปศาจหรือมนุษย
ใดๆ ที่ไมมีความคิดและทาทีปฏิกิริยาตอเขา
หลังจากที่หานลี่พิ นิจพิ จารณาในใจเสร็จ ก็รูสึกสบายใจขึ้ นมาบา งเล็ก น อย
บนรางพลันเปลงแสงสีเขียวสวางวาบ กลายเปนดวงแสงสีเขียววงหนึ่งตามไป
ภายใตการนำทางของหญิงสาวเงาดำ หานลี่ก็ตามมาถึงหนาวิหารไมใหญหลังหนึ่ง
ที่สูงสุดในหมูอาคาร กอนที่จะรอนลงมา
หญิงสาวเงาดำกับมังกรโลหิตเดินสองสามกาวเขาไปขางใน
หานลี่ใชสายตากวาดมองบนรางของปศาจสองสามตัวที่อยูสองขางของวิหารใหญ
ใบหนากลับปรากฏสีของความประหลาดออกมา
ปศาจที่เฝาอยูหนาประตูวิหารเปนปศาจวานรรางเตี้ยสองสามตัว ขางใตลำตัว
ของปศาจวานรแตละตนยังมีดอกไมวิญญาณมหึมาสีดำออนอยูหนึ่งดอก รางของมัน
ปกลงในดินโคลนที่อยูนอกประตูวิหารอยางมั่นคง
ดวงตาของเขาเปลงประกายปราดหนึ่ง เผยใหเห็นถึงสีหนาที่ราวกับคาดคิดไวแลว
หานลี่รูสึกเหมือนตัวเองจะพบสาเหตุที่อีกฝายมาหาเรื่องคนอยางตน
หานลี่ไมมัวชักชาอะไรอีก พลันสูดหายใจคราหนึ่ง แลวเดินเขาไปในประตูหาร
ภายใตสายตาที่จับจองของปศาจวานรพวกนั้น
ภายในวิหารใหญวางเปลาไรผูคน!
นอกจากหญิงสาวเงาเดากับเซวี่ยตูที่เพิ่งเขามาในวิหารแลว ก็ไมมีใครเลย
สองขางของวิหารใหญ มีเกาอี้ไมเรียงอยูสองแถว
ส ว นหญิ ง สาวเมื ่ อ เดิ น มาถึ ง บนดอกไม ย ั ก ษ ส ี ท องที ่ ใ จกลางวิ ห ารใหญ แ ล ว
ก็นั่งขัดสมาธิอยางมั่นคง
สวนมังกรโลหิตก็มายืนอยูขางๆ อยางเชื่อฟง
“เขามานี่ มาสงน้ำชาใหแขก!” หญิงสาวแสดงทาทีเปนนัยใหหานลี่นั่งบนเกาอี้ไม
ตัวหนึ่งที่บริเวณใกลเคียง พลันตบฝามือแปะๆ สองที
ครูตอมา ไมรูวาหญิงรับใชชุดเขียวใบหนาละมุนละไมคนหนึ่งเดินเลี้ยวออกมา
จากที่ใด ในมือประคองถาดไมหนึ่งใบ บนนั้นวางถวยชาสีขาวไวสองถวย
หญิงรับใชสงถวยที่อยูในนั้นใหหานลี่ถวยหนึ่ง สวนอีกถวยหนึ่งมอบใหหญิงสาวเงาดำ
คิดไมถึงวาจะไมไดเตรียมชานี้ใหมังกรโลหิตตัวนั้น
ใบหนาของเซวี่ยตูมีสีหนาเปนปกติ ดูเหมือนจะไมรูสึกวาสิ่งนี้มีอะไรไมเหมาะสม
หานลี่มองดูน้ำชาที่อยูในมือ มุมปากพลันกระตุกเกร็ง เขาไมกลาดื่มมันลงไป
ภายในถวยชาขาวสะอาดราวกับหยก แผกลิ่นเหม็นคาวออกมาเจือจาง คิดไมถึง
วาเสี้ยวหนึ่งของแกวจะเปนของเหลวสีดำมะเมื่อมราวกับน้ำหมึก
อยาวาแตดื่มของสิ่งนี้ลงไป แคลองดมดวยระยะใกลเชนนี้ก็ทำใหหานลี่สีหนา
เปลี่ยนแลวเปลี่ยนอีกหลายหน
ดวยความรอบรูของเขา ภายในชั่วพริบตาก็มองออกวาในน้ำชานี้ประกอบดวย
ของที่เปนพิษอยูไมนอย มีมากพอถึงหลายสิบชนิดดวยกัน แตเขาก็แยกแยะไดเพียง
สวนนอยเทานั้น
แตพิษที่รูจักเหลานี้ ลวนเปนพิษที่คนธรรมดาแตะแลวตายในทันที
ตอใหหานลี่มั่นใจในกายเนื้อของตัวเองแคไหน ก็ไมยอมดื่มน้ำพิษนี้ลงไปงายๆ
“สหายวางใจ ชาดับทมิฬถวยนี้ ขาใชพิษแปดสิบเอ็ดชนิดหลอมขึ้นมา หนึ่งชนิด
หรือหลายชนิดในนั้นยอมเปนของที่มีพิษ แตดวยหมอกพิษทั้งหมดที่ออกฤทธิ์ตานกัน
ไดอยางยอดเยี่ยม จึงไมมีโทษ มิหนำซ้ำหากดื่มเปนประจำ ยังมีประโยชนตอจิตสัมผัส
ของพวกขาอีกดวย” ดูเหมือนจะมองออกถึงความลังเลของหานลี่ หญิงสาวจึงยิ้ม
จางๆ คิดไมถึงวาจะกมหนาดื่มสิ่งที่เรียกวา “ชาดับทมิฬ” ลงไปจริงๆ!
หานลี่หนาเปลี่ยนสี พลันกมมองน้ำชาในมืออยางละเอียด หลังจากลังเลอยูครูหนึ่ง
ก็ยังจิบเล็กๆ คำหนึ่ง
ดวยอิทธิฤทธิ์ของอีกฝาย หากคิดจะใชวิธีลอบกัดอะไรกับเขา เขาก็ไมอาจปฏิเสธได
มิสูแสดงทาทีของคนเฉลียวฉลาดหนอยจะดีกวา อีกทั้งดูจากทาทางของอีกฝายแลว
ดูเหมือนจะไมจำเปนตองโกหกใดๆ ในเรื่องนี้
เมื่อชากลิ่นไมพึงประสงคเขาไมไปในปาก ในตอนแรกมีรสขมประหลาด พอกลืนลงไป
กลั บ กลายเป น ความร อ นประหลาด แผ ก ระจายไปทั ่ ว ชี พ จรแต ล ะจุ ด ในร า ง
ขณะเดียวกัน ในสมองกลับรูสึกเย็นเฉียบขึ้นมา สติพลันชัดเจนขึ้นมาหลายสวน
เมื่อใชจิตสัมผัสตรวจสอบภายในรางอยางรวดเร็ว ก็พบวาไมมีพิษหลงเหลืออยู
แมแตนอย
หานลี่พลันรูสึกโลงอก!
“ขอบพระคุณสำหรับการตอนรับของผูอาวุโสเปนอยางยิ่ง ไมทราบวาเพราะเหตุใด
ผูอาวุโสถึงไดพาชนรุนหลังมายังที่แหงนี้ ชนรุนหลังเพิ่งมาเยือนเหวพสุธาเปนครั้งแรก
ดูเหมือนจะไมมีสิ่งใดที่ลวงเกิน!” หานลี่วางถวยชาไวบนโตะขางๆ พลางถามอยาง
เขรงขรึม
“ข า เชิ ญ สหายมาที ่ น ี ่ ที ่ จ ริ ง แล ว มี เ รื ่ อ งสำคั ญ บางอย า งต อ งการจะเจรจา
แลกเปลี่ยน ทวาเรื่องนี้ไมรีบรอน สหายพักที่นี่ไปกอนสักสองสามวัน ขาจะอธิบายให
ชัดเจนอีกที ใชแลว ขอถามวาสหายมีชื่อเรียกวาอยางไร ขานามวามูชิง!” หญิงสาว
เงาดำใชสายตามองหานลี่อยางละเอียดครูหนึ่ง จนกระทั่งทำใหหานลี่รูสึกขนลุก
ขนพองแลว จึงคอยเอยถามอยางไมกระโตกกระตาก
“ที่แทก็คืออาวุโสมูชิง ชนรุนหลังแซหาน!” หลังจากที่หานลี่ลังเลเล็กนอย ก็เอยขึ้น
อยางถอมตัว
การตบตานั้น เปนเรื่องที่เปลืองแรงเอามากๆ เลยทีเดียว
“ที่แทก็สหายหาน! ปเออร เจาพาสหายหานไปพักผอนที่หอรับรองแขกผูทรงเกียรติ
เปนการชั่วคราวสักระยะ ไมวาจะมีความตองการใด ก็ตองทำใหสหายพึงพอใจ” มูชิง
พยักหนา พลันพูดดวยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
หญิงสาวชุดเขียวที่มาสงน้ำชาใหในตอนแรกแลวยืนปรนนิบัติอยูขางๆ พลันตกตะลึง
แตก็รีบดึงสติกลับมาแลวคุกเขารับบัญชา
ดวยความจนปญญา หานลี่จึงตองลุกขึ้นแลวตามหญิงสาวชุดเขียวออกนอกวิหารใหญ
ชั่วพริบตา ภายในวิหารก็เหลือเพียงมูชิงกับเซวี่ยตูสองคน
หญิงสาวเงาดำมองไปทางประตูวิหารที่หานลี่หายไปดวยแววตาเปลงประกาย
ไมรูวากำลังพินิจพิเคราะหอะไรอยู สวนเซวี่ยตูกลับยืนอยูขางๆ ไมพูดไมจา ราวกับ
กลายเปนใบ
“เซวี่ยตู เจาไมคิดจะถามขาวาเพราะเหตุใดถึงเปลี่ยนความคิดหนอยหรือ?” จูๆ
หญิงสาวก็เอยขึ้น
“นายทานเปนเชนนี้ ยอมมีเหตุผลของนายทานอยูแลว ผูนอยไมจำเปนตองถาม
อะไรมากขอรับ” เซวี่ยตูโคงคำนับเล็กนอย พลางพูดดวยน้ำเสียงสงบนิ่งผิดปกติ
“คิกๆ เจาก็สายตาหลักแหลมเหมือนกันนี่! ที่จริงแลวเรื่องนี้ก็ไมมีอะไรที่เปน
ความลับ บอกเจาไปก็ไมสำคัญ สาเหตุที่จูๆ ขาก็เปลี่ยนความคิด ไมคิดจะเอาเขามา
ทำเปนอาหารโลหิตแลว ยอมเปนเพราะเห็นคุณคาที่จะใชประโยชนบนตัวคนผูน้มี าก
ขึ้นอยางไรละ” หญิงสาวหัวเราะเบาๆ
“คุณคาที่มากขึ้น หรือวานายทานจะหมายถึงอัสนีเทวาปดเปาภยันตราที่คนผูนี้
สำแดง” มังกรโลหิตใจหายวาย ครุนคิดเล็กนอยแลวกลาว
“หึๆ เปนอิทธิฤทธิ์ที่คนผูนี้มีนั่นแหละ แมวาอาหารโลหิตขั้นสุดยอดจะหายาก
แตก็สามารถรวบรวมได แตถาหากมีเทวะอัสนีนี้คอยชวย แผนการใหญของพวกขา
ก็จะกุมความมั่นใจมากขึ้นมาอีกขั้น เมื่อเปนเชนนี้ การเลือกสรรดังกลาวยังตองใหขา
พูดอีกหรือไม?” มูชิงกลาวอยางชาๆ
ตอนที่ 1462 ปริศนาของเทวะอัสนี
“ที่แทก็เกี่ยวของกับงานใหญของนายทาน ไมแปลกเลยที่จะเปลี่ยนความคิด ทวา
คนผูนี้เปนคนที่ตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยระบุชัดเจนแลววาตองการฆา นายทานควรจะ
อธิ บายสั ก หน อยเถอะขอรั บ! ตั ว ประหลาดเฒ าตี ้เ ซวี ่ ย นั้ น ไม ใ ช ค นที ่ ใจกว างแต
อยางใด” มังกรโลหิตยิ้ม
“อืม เรื่องนี้ขารูจักบันยะบันยัง แตกอนที่ขาจะนำเรื่องนี้อธิบายกับหนุมนอยแซหาน
เจาคอยจับตาดูเขาไวกอน อยาใหเขาหาโอกาสหนีออกไปได ถึงเวลาขาตองเปลืองแรง
อีก” มูชิงกลาวกำชับ
“ขอรับ ในระหวางนี้ ผูนอยจะคอยจับตาดูคนผูนี้ไว” เซวี่ยตูขานรับดวยน้ำเสียง
เคารพนอบนอม
มูชิงพยักหนาดวยความพึงพอใจ กอนที่จะโบกมือใหเขาออกไป
เซวี่ยตูออกจากวิหารใหญอยางรูตัววาควรทำอยางไร
หลังจากที่หญิงสาวเงาดำลังเลอยูภายในแสงสีดำเลือนรางครูหนึ่ง ฉับพลันก็ใชมือ
ขางหนึ่งตบลงบนดอกไมยักษสีทองที่อยูเบื้องลางเบาๆ
ดอกไมยักษสั่นไหวเล็กนอย ทันใดนั้นกระจกทรงกลมสีทองแวววาวก็พุงออกมา
จากใจกลางดอกไม รูปลักษณโบราณและเรียบงาย มีอักขระเปลงแสงอยูรำไร
มูชิงอาปาก พลันพนปราณสีเขียวออกมา
ทั นใดนั ้ นก็ เ กิ ด แสงสี ท องวู บ หนึ ่ ง ปราณสี เ ขี ย วก็ จ มหายไปในกระจกอย า ง
นาประหลาด
หนากระจกเปลงแสงวิญญาณสวางวาบ ปรากฏเปนมานแสงสีทองหนึ่งชั้น
ผานไปนานสองนาน จึงคอยมีเสียงพูดซึมกระทือของชายหนุมคนหนึ่งดังออกมา
จากมานแสงสีทอง “สหายมู เจามาหามีธุระอันใด”
มูชิงไดยินเสียงนี้ก็ยิ้มแลวตอบกลับ “พี่ลิ่วจู! ไมทราบวาทานรวบรวมปราณทมิฬ
เป นอย า งไรบา ง ก อนวั นที ่ จะปรึก ษาและตกลงกั น ให แ ม เ ฒ าภูต หลอมภูตทมิฬ
เกราะดำมาใหเพียงพอไดหรือไม”
“ปราณทมิฬบริสุทธิ์ที่ชั้นลางสองสามชั้นถูกขารวบรวมจนหมดเกลี้ยงแลว แมวา
ปราณทมิฬของชั้นหนึ่งจะเบาบางที่สุด แตเพียงแคเสียเวลามากหนอย ก็สามารถ
รวบรวมไดไมนอย เพียงพอใหแมเฒาภูตหลอมภูตทมิฬไดแปดพันตน สหายมู ทำไม
จูๆ ก็ถามเรื่องนี้กับขานอยขึ้นมาละ” ชายหนุมเงียบขรึมไปพักหนึ่ง จึงคอยกลาวดวย
น้ำเสียงที่ไรซึ่งความรูสึก
“ตามแผนของพวกเรา ภูตทมิฬแปดพันตนนี้กับหุนเชิดนับหมื่นตัวของตี้เซวี่ย
ลวนเปนแคทหารเดนตายที่ใชในการขวางฝูงภูตผีแมน้ำอเวจีเทานั้น แตสุดทายหากจะ
ทำลายจุดสิ้นสุดพรมแดนของแมน้ำอเวจี ยังตองวางแผนกันอีกตางหาก อาศัยเพียง
วิธีการที่พวกเราเตรียมไวกอนหนา แตสถานการณก็ยังไมมั่นคงนัก” มูชิงไมไดตอบ
กลับโดยตรง กลับลังเลครูหนึ่งแลวกลาวขึ้น
“ทำไมรึ หรือวาสหายมูจะหาวิธีดีๆ สำหรับทำลายจุดสิ้นสุดพรมแดนไดแลว”
ชายหนุมกลับโตตอบเร็วสุดๆ น้ำเสียงเปลี่ยนเล็กนอย
“เหอะๆ พี่ลิ่วจูชางรูใจนองจริงๆ นองเพิ่งจะไดรับผลสำเร็จมาจริงๆ จึงอยากจะ
ปรึกษาสหายเล็กนอย” หญิงสาวพลันหัวเราะเบาๆ ขึ้นมา
“ไดรับผลสำเร็จ? ลองเลามาใหฟงหนอยเถอะ” น้ำเสียงของชายหนุมกลับมาสงบนิ่ง
ไมไหวติงอีกครั้ง
“วันนี้ขาหาคนผูหนึ่งที่สามารถควบคุมอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายได แมวา
จุดสิ้นสุดพรมแดนของแมน้ำอเวจีนั้นจะมีอาคมตองหามที่ใชปราณทมิฬเป น หลัก
แตที่ยุงยากสุดจริงๆ ก็คือ ปราณมารอเวจีที่แฝงอยูในนั้น ปราณมารเหลานี้บริสุทธิ์
เปนอยางยิ่ง วิธีการในตอนแรกของพวกเราอาจจะไมคอยรับประกัน แตหากมีอัสนี
เทวาปดเปาภยันตราย ปราณมารเหลานี้ก็ไมมีคาพอใหหวาดกลัวแลว” ทาทีของ
หญิงสาวก็เปลี่ยนเปนจริงจังขึ้นมา
“ในดานการขับไลมารและปดเปาความชั่วราย อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายทำได
อยางราบรื่นจริงๆ ทวาในสมัยโบราณกาล ตอนที่เผามังกรปศาจประกาศศักดาเปน
ใหญในตอนวิญญาณ ก็แทบจะขุดรากถอนโคนไผอัสนีทองที่มีอยูในแดนวิญญาณจน
หมดแลว ผูที่ฝกฝนและครอบครองไผอัสนีทองก็ถูกฆาตายไปจดหมดสิ้นแลว ตอนนี้
จะมีคนที่ควบคุม อัส นี เทวาปด เป าภยั นตรายโผลมาอีก ได อย างไร เจาไมได ด ู ผิ ด
ไปสินะ” ชายหนุมกลาวอยางชาๆ ดูเหมือนจะไมคอยเชื่อ
“ตรงจุดนี้ วางใจได อิทธิฤทธิ์ท ี่ ค นผู  นั ้ นสำแดงออกมาเป น อัส นีเ ทวาป ด เป า
ภยันตรายจริงแทแนนอน นองยังมีสายดีอยู ปญหาเพียงหนึ่งเดียวคือ ดูเหมือนคนผูนี้
จะไมรูวิธีการควบคุมที่แทจริงของอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย จึงใชงานมันเหมือน
อิทธิฤทธิ์เทวะอัสนีทั่วไป อานุภาพยังไมอาจสำแดงไดถึงหนึ่งหรือสองสวนเลย” มูชิง
พลันหัวเราะหยันขึ้นมา
“ออ หากเปนเชนนี้ก็นาจะเปนไปได คนผูนี้คงจะไดรับเศษของไผอัสนีทองมาโดย
บังเอิญ ประจวบเหมาะกับฝกฝนอิทธิฤทธิ์นี้สำเร็จพอดีกระมัง” ชายหนุมนามวาลิ่วจูผู
นั้นกลาวดวยน้ำเสียงสงบนิ่ง
“เหอะๆ นองเองก็คิดเชนนี้เหมื อนกัน ไมเชนนั้นหากคนผูนี้สามารถสำแดง
อานุภาพของอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายออกมาไดทั้งหมด แมแตทานและขาก็ตอง
หวาดกลัวกันบาง ทวาสามารถพบคนเชนนี้ในเวลานี้และสถานที่นี้ได ก็นับวาเปนเรื่อง
บังเอิญอยางใหญหลวงของทานกับขาแลว ดูเหมือนฟาจะลิขิตใหการใหญของพวกเรา
สำเร็จแลว” มูชิงพลันยิ้มหวาน
“เพียงแคอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายของคนผูนี้เปนของจริง ยอมชวยเหลือพวก
เราไดเปนอยางมาก แตจูๆ เจาก็บอกเรื่องนี้กับขา นาจะมีความยุงยากอะไรแอบแฝง
สินะ!” ชายหนุมกลับถามออกมาเชนนี้อยางฉับพลัน
“พี่ลิ่วจูชางหลักแหลม! ที่จริงแลวคนผูนี้ขาไมไดรูจักเปนคนแรก เขาเปนคนที่ตัว
ประหลาดเฒาตี้เซวี่ยนั้นระบุตัวใหขาสังหาร ทั้งยังอยากใหขากักขังจิตวิญญาณทมิฬ
ของคนผู  นี ้ มอบใหเขา ตามที ่ ขา คาดเดา เป น ไปได ม ากวา แม เฒ าภูต นั้ น ก็ม ีสวน
เกี่ยวของอยูบางเชนกัน” มูชิงยิ้มจางๆ
“ที่แทก็เปนเชนนี้ สหายมูอยากจะควบคุมคนผูนี้ดวยตัวเอง ใหขาเปนคนไกลเกลี่ย
เรื่องนี้สินะ” ชายหนุมมองเจตนาของมูชิงออกในชั่วพริบตา พลันเอยขึ้น
“นองมีเจตนาเชนนี้ พี่ลิ่วจูนาจะเขาใจดี เดิมทีนองมีรางกายที่กอตัวมาจาก
วิญญาณพฤกษา ในดานความรูและเขาใจเกี่ยวกับไผอัสนีทองนั้น ในสี่คนนี้ไมมีใคร
เทียบขาได ดวยการชี้แนะคนผูนั้นดวยตัวขาเอง จึงจะสามารถทำใหเขาควบคุม
อานุภาพของอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายไดเร็วที่สุด สามารถจัดสรรประโยชนใชสอย
ในตอนที่พวกเราดำเนินแผนการได” มูชิงพูดดวยใบหนาแยมยิ้ม ทาทางคลายจะไม
ปดบังเจตนาของตัวเอง
“อืม ที่เจาพูดมาก็มีเหตุผล แตเรื่องนี้สำคัญมา พวกเราทั้งหลายจำเปนตองหารือกัน
ตอหนาสักหนอย พวกเราสามคนเองก็ตองพบหนาคนผูนี้ดวยตัวเองถึงจะได” ครั้งนี้
ชายหนุมลังเลอยูพักใหญจึงคอยตอบกลับ
“เรื่องนี้ยอมไดอยูแลว ครึ่งเดือนใหหลังมารวมตัวกันที่พำนักของขาเถอะ แมเฒาภูต
กับตี้เซวี่ยก็ใหพี่ลิ่วจูแจงดวยตัวเองสักหนอย ถึงตอนนั้น นองจะตอนรับสหายทั้งสาม
ที่วิหารเซียนพฤกษาดวยตัวเอง” มูชิงยิ้มกลาว
“ดี เชนนี้ก็เปนการตกลงแลว” ชายหนุมกลาวตกลงอยางเด็ดขาดเปนอยางยิ่ง
ทันทีที่มานแสงสีทองบนกระจกสีทองดับวูบ ก็ไมมีเสียงใดๆ สงมาอีก ชายหนุมที่
ชื่อวาลิ่วจูผูนั้น คิดไมถึงวาจะตัดการเชื่อมตอโดยที่ไมมัวพูดมากตอ
“หึ แตกตางจากที่ขาคาดการณไวจริงๆ ลิ่วจูผูนี้ไมสนใจแมแตนอยวาคนผูนี้จะอยู
ในมือใคร ลองคิดดูก็ใช เขาเปนคนเดียวที่ไมกลัวอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย ยอม
เปนเรื่องที่ไมสำคัญอยูแลว แตอีกสองคนที่เหลือ เกรงวาจะไมยอมวางมือโดยงาย
ทวาในเมื่อคนตกอยูในมือขาแลว คิดจะสงใหอีก เชนนั้นก็เปนเรื่องเพอเจอลมๆ แลงๆ
แลว” มูชิงแคนเสียงเบาๆ คราหนึ่ง เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้น ภายในวิหารใหญ ที่
วางเปลา

หานลี่นั่งอยูขางๆ โตะกลมตัวหนึ่ง พลางจองมองผูที่ดื่มสุราอวยพรซึ่งใบหนาเต็มไป
ดวยรอยยิ้ม เงียบกริบไมพูดไมจาอยูนานสองนาน
คนผูนี้ทาทางคลายปญญาชนอายุราวๆ สามสิบกวาป บุคลิกลักษณะดูสงา มีวิชา
ความรูลุมลึก มือหนึ่งถือจอกสุราสีเขียวมรกตเชิญชวนใหหานลี่ดื่มไมหยุด
บนโต ะ กลมเต็ ม ไปด ว ยอาหารเลิ ศ รสนานาชนิด และไหสุ ราสี ดำขลั บ ใบหนึ่ง
ในไหสุราเต็มไปดวยสุราชั้นเลิศสีเหมือนอำพัน กลิ่นหอมเตะจมูก
หญิงรับใชชุดเขียวนามวาปเออรผูนั้นก็กำลังปรนนิบัติอยูขางๆ
“มาๆ! นองหานตองลิ้มลองสุราไขพฤกษาของหุบเขาเซียนพฤกษาของพวกเรา แมวา
สุรานี้จะวิเศษไมเทาชาดับทมิฬ แตก็ใชไขของวิญญาณพฤกษาหมื่นปในการกลั่น
มีฤทธิ์ทำใหสดชื่นและฟนฟูกำลัง หากสหายหานดื่มมากหนอย ก็จะรูถึงความวิเศษ
ของมัน” ปญญาชนวัยกลางคนกลาวดวยทาทางกระตือรือรนผิดปกติ
“อาวุโสเซวี่ยตู ขานอยดื่มสุราไมแข็ง สองสามจอกกอนหนานี้ยังพอได หากดื่ม
ตอไปอีก คงไดปลอยไกจริงๆ” หานลี่พูดดวยความจนปญญา
คิดไมถึงวาปญญาชนวัยกลางคนผูนี้จะเปนมังกรโลหิตที่แปลงกลายเปนราง
มนุษยอยางสมบูรณแบบ
หลังจากที่หานลี่เพิ่งจะถูกจัดเตรียมใหเขามาในหอหลังหนึ่ง คนผูนี้ก็รีบตามมาทันที
และรีบกำชับใหจัดโตะดื่มสุราโตะนี้ แลวกินดื่มกันอยางเต็มที่ในที่แหงนี้
หานลี่อยูในถิ่นของอีกฝาย ยอมไมควรปฏิเสธ จำตองทำใจดีสูเสื้อรวมเฉลิมฉลอง
กับมังกรโลหิตตัวนี้
“ฮาๆ พลังยุทธถึงระดับพวกขาแลว สุราวิญญาณจิ๊บจอยระดับนั้นจะทำใหพวกเรา
เมาไดอยางไร หรือวานองหานยังโกรธเคืองเรื่องที่ประมือกับขากอนหนานี้” เซวี่ยตู
พลันบิดศีรษะคราหนึ่งแลวพูด
“หึๆ เรื่องเล็กกอนหนานี้ ชนรุนหลังลืมไปตั้งนานแลว นั่นอาจจะทำใหอาวุโสเกิด
ความไมพอใจ เอาละ ขานอยขอดื่มใหอาวุโสเพิ่มอีกจอก” หานลี่จำตองกลาวเชนนี้
ฉับพลันเขาก็หยิบจอกสุราตรงหนาขึ้นมาหนึ่งจอก แลวดื่มสุราวิญญาณในจอกลง
ทองไปหนึ่งอึก
หญิงสาวชุดเขียวที่ยืนอยูขางๆ รีบอุมไหสุราเดินเขามาเติมใหหานลี่จนเต็มจอก
อีกครั้ง
หานลี่ขมวดคิ้วเล็กนอย แตทายที่สุดก็ไมไดกลาวอะไร
เซวี่ยตูที่อยูตรงขามกลับยิ้มแลวกลาว “นองหานพักผอนที่หุบเขาเซียนพฤกษา
ของเราอยางสบายใจก็พอแลว นายทานใหความสำคัญกับนองหานเปนพิเศษเชนนี้
จะตองมีสวนที่ขอพึ่งพาอยางแนนอน ถึงเวลาไมวาจะเปนเรื่องใด สิ่งของจำพวก
รางวัลจะตองหนักแนนอยางแนนอน จะไมดีเยี่ยมกวาการที่สหายกลับไปยังพื้นดิน
แลวเปนบุตรสวรรคของเผาวิญญาณเหาะเหินหรอกหรือ
พูดอยางไมเกรงใจ ทุกสิ่งที่เผาของเจาสามารถมอบใหสหายได เหวพสุธาของ
พวกเราก็สามารถใหไดเชนกัน ของที่ไมสามารถมอบได พวกเราก็สามารถมอบให
สหายได นี่ถือเปนโอกาสที่สหายยากจะไดรับเชียวนะ!”
คิดไมถึงวาเซวี่ยตูจะกลายเปนคนเกงเจรจาที่ชางจอไปแลว
มุมปากของหานลี่กระตุกเกร็ง ไมไดตอบคำถามนี้โดยตรง กลับยิ้มจางๆ แลวยอนถาม
“ไมทราบวาที่นี่คืออันใดของเหวพสุธา ตนสายปลายเหตุที่อาวุโสมูพาขานอยมายังที่
แหงนี้ ผูอาวุโสสามารถเปดเผยสักนิดไดหรือไม?”
“หากจะบอกวาไมรูเจตนาของนายทานเลยแมแตนอย ยอมเสแสรงเกินไปแลว
แตเรื่องนี้ผูแซเซวี่ยไมสะดวกที่จะอธิบายชัดเจนจริงๆ ทวานองหานโปรดวางใจ
นายทานเองก็ไมคิดจะปดบังนานอยูแลว อยางมากภายในครึ่งเดือนหรือหนึ่งเดือน
ก็จะอธิบายทั้งหมดใหสหายฟง สำหรับที่นี่คือชั้นใด กลับไมไดมีอะไรนาปดบัง ที่นี่
ก็คือ ปาหมอกทมิฬในชั้นสามของเหวพสุธา” เซวี่ยตูตอบกลับโดยไมตองคิด
“ปาหมอกทมิฬ! ก็คือ ปาทึบที่มีหมอกดำทมิฬปกคลุมอยู ตามที่ไดยินมา เมื่อเขาไป
ในนั้นแลวจะไมสามารถออกมาได!” หานลี่ไดยินดังนี้ ก็สีหนาเปลี่ยนอยางหามไมอยู
“ฮาๆ เปนสถานที่นี้จริงๆ คิดไมถึงวาปาแหงนี้จะมีชื่อเสียงโดงดังในเผาของเจา ที่จริง
แลวเปนแคอิทธิฤทธิ์ที่นายทานสำแดง วางอาคมตองหามเล็กนอยภายในปาเทานั้น”
เซวี่ยตูกลับหัวเราะแลวกลาว
“ที่แทก็เปนเชนนี้” หานลี่หัวเราะขื่นคราหนึ่ง ไมพูดอะไรอีก
“ใชแลว มีอยูเรื่องหนึ่ง ผูแซเซวี่ยรูสึกสงสัยมาก ไมทราบวานองหานพอจะคลาย
ขอสงสัยใหขานอยไดหรือไม” หลังจากที่เชิญชวนหานลี่ดื่มสุราไขพฤกษาอีกสองสาม
จอก ดวงตาของชายวัยกลางคนพลันเปลงแสงประหลาด แลวถามขึ้นอยางฉับพลัน
“ออ ผูอาวุโสมีสิ่งใดไมเขาใจ หากขานอยทราบก็จะบอก” หานลี่รูสึกใจหายวาบ
ภายใตการโคจรของเคล็ดวิชาขับเคลื่อนภายในราง ความมึนเมาเล็กนอยภายใน
หัวสมองก็หายเปนปลิดทิ้ง!
ตอนที่ 1463 พบหยวนเหยาอีกครั้ง
“เหอะๆ ที่จริงแลวก็ไมมีอะไร เกี่ยวกับการที่นองหานสามารถฝกฝนกายเนื้อจน
แข็งแกรงเชนนี้ ขานอยรูสึกสงสัยเปนอยางยิ่ง ตองทราบกอนวา เข็มอเวจีแมน้ำโลหิต
ของขานอยแมวาจะไมไดเปนสมบัติที่ขึ้นชื่อในดานความแหลมคม แตดวยพลังของ
กายเนื้อก็สามารถสะทอนมันออกไปได เรื่องนี้นาเหลือเชื่อเกินไปจริงๆ” หลังจากที่
เซวี่ยตูนิ่งไปพักหนึ่ง ก็ถามออกมาเชนนี้
ขณะที่พูดอยู สองตาของปศาจตนนี้จองเขม็งมาที่หานลี่โดยไมกะพริบตาแมแต
ครั้งเดียว
“ที่แทอาวุโสก็อยากจะถามเรื่องนี้ กายเนื้อของชนรุนหลังแข็งแกรงกวาคนทั่วไปจริงๆ
แตก็แคเปนแคเหตุบังเอิญเล็กนอยในปนั้นที่ไดกินยาวิญญาณที่เสริมความแข็งแกรง
ของกายเนื้อสองสามชนิดเทานั้นเอง จะเทียบกับกายมังกรของอาวุโสไดอยางไร”
หานลี่ตอบกลับอยางไมกระโตกกระตาก
“ยาวิญญาณ! ขาก็เดาไวเชนนี้ เ หมื อนกั น แตอาคมลวงตาสามเศี ยรหกกรที่
นองหานใชรับการโจมตีสุดทายของขา ดูเหมื่อจะไมใชอาคมลวงตาวิญญาณแทของ
เผ า เจ า กระมั ง ข า น อยดู แ ล ว ค อนข า งคุ  น ตา ดู เ หมื ่ อนจะเคยเห็ น ที ่ ไ หนมาก อ น
แตชั่วขณะหนึ่งก็ยังนึกไมออก สหายหานชวยบอกผูแซเซวี่ยไดหรือไม” เซวี่ยตูพูด
พลางยิ้มออน
“ออ นั่นเปนวิธีฝกฝนของสำนักนอกเผาสำนักหนึ่งที่ชนรุนหลังไดรับมาโดยไมได
ตั้งใจ หลังจากที่ฝกฝนอยางเปะปะจึงทำใหมีอิทธิฤทธิ์เล็กๆ สวนที่วาเปนอาคมลวงตา
ชนิดใด ชนรุนหลังเองก็ไมทราบเชนกัน” หานลี่ตอบกลับทีละสวนอยางไมหนักหนา
อะไร โดยที่พูดทุกอยางใหคลุมเครือไมชัดเจน จะตอบหรือไมตอบ แทบจะไมมีอะไร
ตางกัน
ไดยินหานลี่พูด อยางปลิ้ นปลอนเช นนี้ เซวี่ยตูรูสึก ค อนขางเกิ นคาดอยู บ  า ง
แตก็หัวเราะฮาๆ คราหนึ่งแลวไมพูดถึงเรื่องนี้ เชิญชวนหานลี่ดื่มสุราตอ ดวยเชนนี้
มังกรโลหิตระดับหลอมสูญผูนี้ดื่มกับหานลี่จนมีสภาพคลายกับคนเมาออแอ จึงคอย
กลาวแลวเดินโซซัดโซเซจากไป
หานลี่ยืนอยูริมหนาตางในหอ พลันหุบรอยยิ้มบนใบหนาแลวจองมองสถานการณ
ภายนอกหอ
เห็นเพียงเซวี่ยตูเดินโซเซเขาไปในหออีกหลังหนึ่งซึ่งหางจากที่พักของหานลี่ไมไกลนัก
ระยะทางหางจากหานลี่เพียงหลายรอยจั้งเทานั้น
หานลี่ขมวดคิ้วจางๆ
ดวยระยะหางที่ใกลเชนนี้ หากเขามีการกระทำอะไรเพียงเล็กนอย ก็ไมมีทางรอดพน
จากการสังเกตการณของมังกรโลหิตตัวนี้ได ดูเหมือนคนผูนี้ก็คือคนที่มูชิงสงมา
สังเกตการณเขา
หานลี่ครุนคิดอยางเงียบๆ พลางออกหางหนาตาง
ในตอนนี้ หญิงรับใชชุดเขียวไดนำโตะเลี้ยงเหลาออกไปแลว และทำการเก็บกวาด
หอจนสะอาดอีกครั้ง จากนั้นจึงคอยยืนอยูขางๆ ดวยความเคารพนอบนอม รอหานลี่
กำชับตอจากนี้
“เจาลงไปกอนเถอะ ขาจะพักผอนคนเดียวสักหนอย” หานลี่โบกมือใหหญิงผูนี้ลง
ไปอยางไมเกรงใจ
“เจาคะ คุณชายหาน บาวอยูที่ชั้นหนึ่ง สามารถฟงที่คุณชายเรียกไดทุกเวลา”
หญิงรับใชชุดเขียวขานรับ พลันออกจากชั้นนี้ดวยความยินยอมคลอยตามเปนอยางยิ่ง
หานลี่มองดูเงารางของหญิงสาวหายไปจากบันใดอยางเรียบเฉย พลันใชมือเดียว
สะบัดลงบนกำไลเก็บของ
มานแสงพลันเปลงแสงสวางวาบ ธงเขตอาคมสีเขียววางซอนกันกองหนึ่งก็ปรากฏ
ในฝามือ ครั้นโบกมืออีกคราหนึ่ง ลำแสงสีเขียวสิบกวาสายก็พวยพุงไปทั่วทั้งห อง
ชั่วพริบตาก็จมหายไปในอากาศ
หานลี่ตั้งทารายคาถา พลันใชมือเดียวปลอยคาถาสีเขียวออกมาหนึ่งสาย
“ปง!” มานแสงสีเขี ยวหนึ่ งชั้ นปรากฏบนผนังสีด านของห องอย างไรส าเหตุ
กลายเปนอาคมปดผนึก
อาคมตองหามนี้ไมไดม ีความสามารถในการปองกั นใดๆ แตสามารถตัดขาด
จิตสัมผัสของผูอื่นไดอยางยอดเยี่ยม
แมจะรูวาตนแทบจะถูกกักบริเวณแลว หานลี่ก็ไมมีทางปลอยใหตัวเองเปดเปาโลง
ภายใตสายตาคนอื่นอยางงายดายเปนอันขาด
ในหออีกหลังหนึ่ง เซวี่ยตูที่กำลังนั่งหลับตาบนเบาะทรงกลมพลันหนาเปลี่ยนสี
แลวลืมตาขึ้น ทวามุมปากก็เผยรอยยิ้มเยาะออกมา แลวหลับตาอีกครั้ง
ในเวลานี้ หานลี่กลับกำลังนอนหนุนหมอนพักผอนอยู
แมวาจะอยูในสถานที่ที่อันตราย แตการทดสอบของบุตรสวรรคกอนหนานี้ทำให
เขาสูญเสียกำลังวังชาไปไมนอย จึงควรจะฉวยโอกาสนี้ฟนฟูสักหนอย รอใหกาย
และใจของเขาฟนฟูจนถึงขีดสุดแลว คอยคิดแผนหลบหนีอยางละเอียดอีกที
เมื่อในใจคิดเชนนี้ หานลี่ก็นอนหลับสนิทอยางรวดเร็ว
การนอนหลับครั้งนี้ หลับตลอดหนึ่งวันหนึ่งคืน เขาจึงคอยตื่นขึ้นอยางชาๆ จาก
การหลับลึก
หลังจากลุกขึ้นจากเตียงแลว หานลี่ก็บิดขี้เกียจอยางไมลุกลี้ลุกลน จึงคอยนั่งบน
เกาอี้ไมที่ขางเตียง พลางเอามือเทาคางครุนคิดพิจารณาอยางเงียบๆ
สำหรับคำพูดที่มูชิงกับมังกรโลหิตสองคนนี้พูดวา ตั้งแตเริ่มก็คิดจะพึ่งพาเขา
เขาไมเชื่อเลยแมแตนอย
อยางเพิ่งพูดถึงอยางอื่น ดวยตัวเขาที่มีประสบการณตอสูมาหลายปเชนนี้ ตอนที่
ปศาจสองตนไลตามมาดวยทาทางดุดันนั้นไดปรากฏไอสังหารออกมาดวย จะปดบัง
จิตสัมผัสอันเฉียบไวของเขาไดอยางไร เห็นไดชัดวาตอนแรกมีจิตมุงสังหาร คิดจะเอา
ชีวิตของเขา
สำหรับสาเหตุที่มูชิง ปศาจสาวตนนี้เปลี่ยนความคิดอยางกะทันหัน อีกฝายจะตองพบ
บางอยางที่สามารถใชประโยชนจากตนไดอยางเหนือความคาดหมายเปนแน
ตอนนี้ลองมาคิดดูอยางละเอียด ตั้งแตชวงเวลาที่อีกฝายไลตามตนจนกระทั่ง
เปลี่ยนความคิดอยางกะทันหันแลวพาตนมาที่แหงนี้ ที่จริงแลวเปนเพียงระยะเวลาที่
สั้นสุดๆ
รวมแลวมูชิงพูดแคหนึ่งถึงสองประโยค แคพูดถึงอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายเทานั้น!
หรือวาเปนเพราะเทวะอัสนีนี้…
หานลี่นัยนตาเปลงประกายหลายหน รูสึกวาที่ตนคาดเดานาจะใกลเคียงแปดถึงเกา
ในสิบสวนแลว
แตถึงแมอัสนี เทวาป ดเปาภยั นตรายจะมี คุณ สมบัต ิใ นดา นขับ ไลมารป ด เป า
ภยันตรายที่ไดผลอยางนาอัศจรรย แตหากปราณมารกับวิชาชั่วรายแข็งแกรงจนถึง
ระดับที่แนนอน ยอมไมอาจทำลายไดโดยงาย อานุภาพระดับนี้จะเขาตาราชาปศาจ
ระดับผสานอินทรียอยางมูชิงไดอยางไร หากแมแตพวกเขาก็ยังไมสามารถรับมือกับ
มารหรือวิญญาณราย อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายก็ยิ่งใชไมไดผล
หานลี่คิดอยางไรก็คิดไมตก
ทวา เขาก็ไมไดเจาะลึกลงไปในเรื่องนี้ตอ กลับถอนหายใจยาวคราหนึ่ง
ในเมื่อพบแลววาตนมีสวนที่อีกฝายตองการใช ก็นาจะไมตองกังวลเรื่องชีวิต
ชั่วคราว เพียงแคตองระมัดระวังหนอย เขาก็ยังมีความมั่นใจมากวาจะหนีพนจากที่
แหงนี้ได ตอจากนี้ เขาเพียงแครอใหมูชิงมูศาจสาวตนนี้อธิบายเรื่อนี้กับเขาชัดเจน
เทานั้น จากนั้นก็คอยหาโอกาสลงมืออีกทีหนึ่งก็ไดแลว
ขณะที่คิดในใจอยางเงียบๆ หานลี่ก็รูสึกสบายใจไดชั่วคราว
สำหรับความคิดที่จะหนีในตอนนี้ แมวาจะเคยแลนในหัวสมองของเขา แตพอนึก
ถึงเซวี่ยตูที่คอยสังเกตการณในระยะใกลเพียงลัดนิ้วมือ เขาก็ไดแตลมเลิกความคิดนี้
ทั้งหมด
ตอมาอารมณความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป พลันนึกถึงพวกเหลยหลันขึ้นมา
ในเมื่อมูชิงกับเซวี่ยตู สองปศาจนี้ตางก็ไลตามเขา คิดวาสามคนนี้นาจะกลับไปบน
พื้นดินไดอยางราบรื่นและสำเร็จการทดสอบแลว เมื่อเปนเชนนี้ เขาก็นับวาสำเร็จการ
ไหววานสำคัญของเผาวิหคสวรรคแลว ไดความเปนอิสระกลับมาแลว เผาวิหคสวรรค
ไมสามารถใชคำสาบานแหงวิหคสวรรคมาบังคับอะไรเขาไดอีก
ทวาเมื่อลองคิดดูอีก เผาวิหคสวรรคแคตองการใหพวกเหลยหลันผานการทดสอบ
ก็คงจะไมสนใจความเปนตายของตนที่เปนบุตรสวรรคชั่วคราวผูนี้จริงๆ
หานลี่หัวเราะคราหนึ่ง หลังจากนั่งคิดอยูบนเกาอี้เชนนี้ไมรูนานเทาไหร ก็ยืนขึ้น
แลวกลับมานั่งขัดสมาธิบนเตียง
เขาเริ่มฝกลมปราณดวยสีหนาสงบนิ่ง…
เวลาผานไปครึ่งเดือนในชั่วพริบตา!
ในระหวางนี้ เซวี่ยตูนั้นมาดื่มเหลาสนทนากับหานลี่อยูเปนพักๆ สวนหานลี่ก็เอา
แตอยูที่พักทั้งวันไมออกไปขางนอก แสดงทาทีเชื่อฟงผิดปกติ
จนกระทั่งครึ่งเดือนตอมา จูๆ มังกรโลหิตก็มาหาดวยอารมณฮึกเหิม พลันพูด
อยางตรงไปตรงมา “นองหาน นายทานเชิญสหายไปที่วิหารเซียนพฤกษา ตองการจะ
แนะนำสหายกับอาวุโสคนอื่นๆ ใหรูจัก”
“ดี รบกวนอาวุโสเซวี่ยแลว” หานลี่ไมมีสีหนาประหลาดใจแมแตนอย ตอบกลับ
ดวยทาทางสงบนิ่ง
เมื่อเห็นวาหานลี่มีทาทางสงบนิ่งเชนนี้ เซวี่ยตูในมาดปญญาชนก็รูสึกเลื่อมใสในใจ
อยูหลายสวน
เขาลองถามตัวเองดูวา หากอยูในสถานะเชนเดียวกับหานลี่ คงไมสามารถรักษา
ทาทางเชนนี้ไดอยางแนนอน
ดังนั้น หลังจากที่เซวี่ยตูหัวเราะเสร็จ ก็พาหานลี่ออกมานอกหอ
เวลาผานไปชั่วหนึ่งมื้ออาหาร หานลี่ก็มาปรากฏตัวที่หนาวิหารไมใหญในตอนแรก
อีกครั้ง และตามเซวี่ยตูเขาไปในประตูวิหาร
ภายในวิหารตางจากตอนที่หานลี่มาคราวที่แลวมาก สองฝงของวิหารใหญมีโตะ
เพิ่มขึ้นมาสามตัว และมีคนสามกลุมนั่งแยกกันทีละโตะ
หานลี่ดวงตาเปลงประกายวูบหนึ่ง พลางมองดูอยางละเอียด
โตะหนึ่งมีแคสองคน ตลอดทั้งรางถูกคลุมดวยชุดคลุมยาวสีโลหิตตัวหนึ่ง ไมวาจะ
รางกายหรือกลิ่นอายก็เหมือนกันอยางไมมีผิดเพี้ยน ไมสามารถแยกแยะทั้งคูออกได
ราวกับหนึ่งคนแยกเปนสองราง
อีกโตะหนึ่งมีแคคนเดียว เปนชายหนุมสวมผาคลุมสีดำทมึนตัวหนึ่ง รูปรางสูงใหญ
ผิดปกติ บนรางแผไอเย็นยะเยือกที่คลายกับทำใหคนตองถอยหางออกไปสามฉื่อ
ราวกับสามารถทำใหอากาศในบริเวณรอบๆ แข็งตัว
กลุมสุดทายกลับเปนหญิงสาวสามคน
คนหนึ่งเปนหญิงงามวัยกลางคนใบหนาซีดขาว ผมขาวราวหิมะ สวมชุดชาววัง
สีเขียวมรกตตลอดทั้งราง นั่งตัวตรงอยูหลังโตะ เบื้องหลังของนาง มีหญิงสาววัยเยาว
สองคนรุนราวคราวเดียวกันยืนอยูตรงนั้น
คนหนึ่งรูปรางอรชอนออนแอน ใบหนากลมเบิกบาน ดวงตาสดใสชวนใหหวั่นไหว
อีกคนหนึ่งรูปรางเพรียวบาง ผิวขาวราวหิมะ ทวาสีหนากลับดูเย็นชาผิดปกติ
หญิงคนที่สองนี้เหมือนกับหญิงงามผูนั้น สีหนาคอนขางซีดขาวผิดปกติ
คนสองโตะกอนหนายังดี แมวาหานลี่จะตกตะลึงกับระดับพลังยุทธที่ลึกไมอาจ
หยั่งประมาณของคนพวกนี้ แตทายที่สุดสีหนาก็ไมไดเปลี่ยนไปแมแตนอย แตพอเห็น
หญิงสาวสองคนที่อายุรุนราวคราวเดียวกันที่โตะสุดทาย หนาก็เปลี่ยนสีอยางอดไมได
แตถึงอยางเขาก็เปนคนที่มีความคิดเกินคน สีหนาแทบจะฟนฟูเปนปกติในทันที
ทวาลึกลงไปในดวงตายังคงสั่นไหวอยูลางๆ เปนอาการตกตะลึงที่มีแคตนเองเทานั้น
ที่รู
“ทำไมถึงเปนสองคนนี้! หลังจากที่แยกยายกันในมหาสมุทรดาวคลั่งที่แดนมนุษย
เมื่อปนั้น เขาก็ไมเคยไดยินขาวคราวใดๆ เกี่ยวของหญิงทั้งสองนี้เลย แตคาดคิดไมถึง
เปนอยางยิ่งวาจะมาพบพวกนางอีกครั้งในถิ่นตางเผาของแดนวิญญาณ ทวาดูจากทาที
สบายใจของสองคนนี้ คิดไมถึงวาเคล็ดวิชาคืนวิญญาณในปนั้นจะสำเร็จจริงๆ” แมวา
หานลี่จะดึงสายตากลับมา แตภายในใจกลับมีคลื่นโหมซัดสาดอยางรุนแรง ยากที่
จะสงบไดในชั่วขณะ
คิดไมถึงวาหญิงงามผิวขาวราวหิมะผูนั้นคือหยวนเหยาที่มหาสมุทรดาวคลั่งในปนั้น
สวนหญิงรางอรชอนออนแอนที่อยูขางๆ ยอมเปนศิษยพี่ของนาง เหยียนลี่ที่ปนั้น
เกือบจะกลัวจนขวัญกระเจิง
ตอนแรกที่เขาเพิง่ จะสำเร็จอิทธิฤทธิ์ไดเพียงเล็กนอย ก็บังเอิญพบกับหยวนเหยา
อยูหลายครั้ง! ผลที่ไดคือ ในดานหนึ่งเนื่องจากอีกฝายขอรอง อีกดานหนึ่งเพราะ
ซาบซึ้งในการตัดสินใจชวยเหลือเหยียนลี่ของหญิงผูนี้ ดังนั้นจึงชวยเปนผูพิทักษใหนาง
สำแดงเคล็ดวิชาลับคืนวิญญาณ แตใครจะคิดวาระหวางทางจะพบหมอกภูตในคำ
ร่ำลือ ดูดเขาเขาไปในดินแดนอเวจีทมิฬ ภายหลังตองทุมพลังมหาศาลจึงจะหนี
ออกมาได แตหลังจากออกมา ก็ไมรูวาหยวนเหยาอยูที่ใด หายไปอยางไรรองรอย
ตอนนี้ไดมาพบกันในที่แหงนี้ ทั้งยังอยูที่เดียวกับราชาปศาจของเหวพสุธา หานลี่
ยอมรูสึกตกตะลึงสุดๆ!
ขั่วพริบตาที่หานลี่กับเซวี่ยตูเดินเขามา สายตาของคนในวิหารยอมตองกวาดมอง
มาทางนี้กอนเปนธรรมดา
พวกหยวนเหยา สองสาวไดเห็นหนาหานลี่ อารมณกลับแตกตางกันอยางมาก
ดวงตาอันงดงามของหยวนเหยามีสีของความตกตะลึงพาดผาน ฉับพลันใบหนา
ก็แลดูไรซึ่งอารมณ ดูไมออกถึงความผิดปกติแมแตนอย
ทวาเหยียนลี่กลับกะพริบตาปริบๆ ใบหนาปรากฏความงุนงงสงสัยออกมา เห็นได
ชัดวานางนาจะลืมหานลี่ที่พบหนาเพียงครั้งเดียวจนเกือบจะลืมสนิทแลว แครูสึกวา
หานลี่ดูคอนขางคุนหนาจริงๆ เทานั้น!
“ออ นี่ก็คือคนผูนั้นที่พวกเจาพูดถึงสินะ? พลังยุทธิ์เพิ่งจะระดับแมทัพวิญญาณเทานั้น
จะใช ป ระโยชน ไ ด จ ริ ง ๆ หรื อ ?” คิ ด ไม ถ ึ ง ว า หญิ ง งามผมขาวจะมี น ้ ำ เสี ย งชรา
อยางผิดปกติ พูดอยางเย็นชา
ตอนที่ 1464 มหาราชาปศาจ
“สหายหลานเหตุใดตองรอนใจเกินไปดวย ที่พวกเราตองการพึ่งพาสหายหาน
ไมใชพลังยุทธในตัวเขา แตเปนพลังแหงเทวะอัสนีที่เขามี ถึงพลังยุทธจะต่ำลงไป
ขั้นสองขั้น แตตราบใดที่สามารถสำแดงพลังของอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายออกมาได
แลวจะมีปญญาอะไร” มูชิงหัวเราะเบาๆ แลวกลาวทามกลางแสงสีดำ
“การควบคุมอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายจะงายดายเชนนี้เสียที่ไหนกัน พลังยุทธยิ่งสูง
ยอมมีความมั่นใจมากขึ้นอยูแลว ขาสงสัยมากวาระดับแมทัพวิญญาณคนหนึ่ งจะ
สามารถสำแดงอานุภาพของเทวะอัสนีไดจริงหรือไม หากจำไมผิด หากคิดจะกระตุน
อานุภาพที่แทจริงของอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย อยางนอยก็ตองมีระดับผูบัญชาการ
วิญญาณขั้นตนขึ้นไปสินะ” คิดไมถึงวาคนที่กลาวในครั้งนี้จะเปนหนึ่งในชายชุดโลหิต
สองคนนั้น น้ำเสียงแปลกประหลาดราวกับโลหะและหิน
“ตรงจุดนี้ พี่ตี้เซวี่ยวางใจไดเลย! แมวาสหายหานจะเปนแคระดับแมทัพวิญญาณ
ขั ้ นสู ง แต ไ ม ว า จะความบริ สุท ธิ ์แ ละความแข็ง ของพลัง ยุทธ ก็ ย ั ง ด อยกวาระดับ
ผูบัญชาการวิญญาณขั้นตนทั่วไปเพียงนิดเดียวเทานั้น เชื่อไดทั้งหมดวาจะทำเรื่องนี้ได
หรือวาพี่ตี้เซวี่ยมีวิธีการอื่นใดอีก ที่สามารถทำลายอาคมตองหามของแมน้ำอเวจีได
อยางมั่นใจ” มูชิงพูดอยางมีความหมายลึกซึ้ง
“หากคนผูนี้สามารถชวยพวกเราทำลายอาคมตองหามได ยอมเปนเรื่องที่นาปติ
ยินดีเปนอยางยิ่ง ผูเฒาไมไดมีเจตนาจะขัดควาง เพียงแคเปนกังวลเกินไปเทา นั้น
แมนางมูอยาบิดเบนเจตนารมณของผูเฒา” เมื่อชายชุดโลหิตอีกคนหนึ่งเอยปาก
น้ำเสียงกลับเหมือนชายชุดโลหิตคนแรกอยางไมมีผิดเพี้ยน ราวกับเปนคนเดียวกัน
ในมุมของคนอื่นตางก็มีสีหนาแปลกใจกับเรื่องนี้ แตมูชิงกลับพูดขึ้นดวยน้ำเสียง
ราบเรียบ “ในเมื่อพี่ตี้เซวี่ยไมมีความเห็นกับเรื่องของสหายหานแลว ยอมดีที่สุด แตไม
ทราบวาพี่ลิ่วจูกับพี่สาวหลานคิดอยางไรบาง?”
“ตราบใดที ่ เ ป น ประโยชน ต  อ การใหญ ข องพวกเรา ข า สนั บ สนุ น ทั ้ ง นั ้ น ”
ชายลึกลับศีรษะคลุมผาคลุมดำ ตอบกลับดวยทาทางสงบนิ่งผิดปกติ
สวนหญิงงามผมขาวนั้นกลับขมวดคิ้วมุน กำลังไตรตรองอะไรบางอยาง
“ทำไมรึ หรือวาพี่สาวหลานยังมีความเห็นใดที่ไมตรงกัน?” มูชิงดวงตาเปลง
ประกายวูบหนึ่งแลวเอยถาม
“ไมมีอะไร จิตวิญญาณบริสุทธิ์ของคนผูนี้แข็งแกรงผิดปกติ เดิมทีขาคิดจะใช
จิตวิญญาณของเขาหลอมเปนราชาภูตเกราะเงินตัวหนึ่ง ตอนนี้คงตองหาวัตถุดิบใหม
แลว เดิมทีคนผูนี้ขากับตี้เซวี่ยเปนคนพบกอน นองมูชิงเก็บคนผูนี้ไวเชนนี้ ไมรูสึกวา
ไมคอยเหมาะสมบางหรือ?” หญิงงามผมขาวพูดอยางชาๆ ไมรีบรอน
“เหอะๆ ที่แทพี่สาวหลานก็คิดจะชี้แนะสหายหานดวยตัวเอง แตตามที่ขารูมา
วิทยายุทธของพี่สาวนาจะเปนฝายถูกเทวะอัสนีพิชิตแทนกระมัง จะใหเขาเรียนรูหลัก
แหงเทวะอัสนีไดอยางไร หากทำใหการใหญลาชา จะไมเปนการเสียใจไปชั่วชีวิตเลย
หรือ” มูชิงหัวเราะเบาแลวตอบกลับ
“เปนเชนนั้นหรอกหรือ? ฟงจากการพูดของนองมู ทำเหมือนกับรูจักอัสนีเทวา
ปดเปาภยันตราย เจาก็ไมเคยฝกฝนอิทธิฤทธิ์นี้เชนเดียวกัน ใหแมเฒาชี้แนะขามี
ตรงไหนที่ทำไมได” หญิงงามผมขาวกลับยิ้มเยาะแลวกลาว
“ตัวขามีกายที่กอตัวมาจากวิญญาณพฤกษา ในสมัยโบราณ อัสนีเทวาปดเปา
ภยันตรายเปนอัสนีเทวาพฤกษาที่จัดอยูในอัสนีเทวาหาสาย หากมีนองสาวถายทอด
วิชาดวยตัวเอง ยอมตองดีกวาคนอื่นๆ อยูแลว” มูชิงสีหนาเครงขรึมขึ้นมาเล็กนอย
“ไมเห็นจะเปนเชนนี้เลย วากันดวยเรื่องระยะเวลา แมเฒาเปนรองแคสหายลิ่วจู
ดวยระยะเวลาฝกฝนที่ยาวนานเชนนี้ ก็พอที่จะหักลางพรสวรรคของนองมูไดแลว
กระมัง” หญิงงามกลับพูดอยางไมเกรงใจ
ไดยินคำนี้ มูชิงก็หนาเปลี่ยนสีเล็กนอย ขณะที่คิดจะพูดอะไรอีก ชายลึกลับนาม
วาลิ่วจูผูนั้นกลับพูดโพลงขึ้นมา “สหายทั้งสองอยาเพิ่งโตเถียงอะไรกันเลย ควรให
พวกขายืนยันวาอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายของสหายหานเปนของจริงหรือไม แลว
คอยคุยเรื่องอื่นจะดีกวา”
เห็นไดชัดวาในกลุมนี้ลิ่วจูเปนคนที่มีบารมีคอนขางสูง อีกทั้งหลังจากที่หญิงงาม
กับมูชิงสบตากับเขาดวยทาทางคอนขางหวาดกลัว หญิงงามก็ไมพูดอะไรอีก สวนมูชิง
กลับหันไปกลาวกับหานลี่ดวยทาทางสงบนิ่ง “คิดวาการสนทนาของพวกขา เมื่อครูนี้
เจานาจะไดยินทั้งหมดชัดเจนแลว สหายหานชวยปลอยอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย
ออกมาครั้งหนึ่งไดหรือไม ใหพวกขาทั้งหลายไดแนใจ เรื่องนี้มีความเกี่ยวพันไมนอย
คิดวาสหายคงไมปฏิเสธกระมัง”
หานลี่เผยรอยยิ้มเจื่อน แตก็ไมมัวพูดไรสาระอะไร พลันตั้งทารายคาถาสองมือ
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงฟารองดังสะเทือนเลือนลั่นคราหนึ่ง บนรางหานลี่เปลงแสง
สีทองเจิดจา เสนไหมสายฟาเรียวบางจำนวนนับ ไม ถว นพลัน ปรากฏออกมาจาก
ภายในราง ชั่วพริบตาก็กลายเปนประกายแสงสีทองเสนหนาๆ หลายสายพันรอบกาย
อานุภาพนาตะลึงเปนอยางยิ่ง!
ภายในวิหารพฤกษา หญิงงาม ลิ่วจู และคนอื่นๆ ตางก็จองมองประกายแสง
สีทองโดยไมกะพริบตา แมแตมูชิงที่เคยเห็นมาแลวครั้งหนึ่งก็ไมยกเวน
ลิ่วจูสั่นแขนเสื้อใหญๆ ไปที่หานลี่คราหนึ่ง พายุทมิฬสีดำสลัวๆ ก็พุงตรงออกไป
หานลี่เลิกคิ้วขึ้น พลันใชมือเดียวแตะคราหนึ่ง
ประกายแสงสีทองสายหนึ่งก็พุงออกไปตานรับ
พลันเกิดเสียงโครมขึ้นคราหนึ่ง เมื่อประกายแสงสีทองกับพายุสีดำแตะถูกกันก็
ระเบิดออกในทันที ทุกหนแหงที่แสงสีทองแผไปถึง พายุสีดำก็ราวกับหิมะละลายใน
แสงแดดฤดูใบไมผลิ คอยพากันแตกสลายและอันตรธานหายไปจนหมดสิ้น
“ไมเลว เปนอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายอยางที่คาดไวจริงๆ!” ลิ่วจูพยักหนา
ภายในน้ำเสียงมีความดีอกดีใจอยูหลายสวน
“อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายที่เหมือนกับระดับนี้ สหายคาดวานาจะปลอยไดกี่สาย”
หนึ่งในชายชุดโลหิตถามโพลงขึ้นมา
“นาจะประมาณยี่สิบสายกระมัง แตทุกครั้งหลังจากปลอยออกมาแลว จะตองรอ
เปนเวลานานจึงจะฟนกลับมาเปนเหมือนเดิม” หานลี่ตอบกลับดวยนัยนตาเปลง
ประกายเล็กนอย
เขานำจำนวนที ่ค วบคุ มอั สนี เทวาปด เปาภยัน ตรายลดลงมาสองในสามสวน
ไมตอบตามความจริง
“ยี่สิบสาย เชนนี้ก็นาจะพอใชงานไดแลว” ไดยินวาจานี้ของหานลี่ ชายชุดโลหิต
อีกคนหนึ่งกลับหัวเราะประหลาดขึ้นมาดวยความตกตะลึงระคนดีใจ
“ไมเลว แมวาอาคมตองหามของแมน้ำอเวจีจะรายกาจ แตภายใตการโจมตีดวย
เทวะอัสนีที่มากมายเชนนี้ ไมมีทางยืนหยัดตานทานไวไดแน เอาละ คนก็ไมมีปญหา
แลว ตอจากนี้ควรจะถกปญหาเรื่องทางไปของสหายหานแลว ขากับสหายตี้ เ ซวี่ย
ไมคอยรูจักเคล็ดวิชาเทวะอัสนีดีนัก จึงไมขอมีสวนรวมกับเรื่องนี้ จุดสำคัญก็คือ
ตอนนี ้ แ ม น างมู  ก ั บ สหายหลานต า งก็ อ ยากให ส หายหานตามมาเรี ย นหลั ก แห ง
การควบคุมอัสนีกับตนเอง ปญหานี้คอนขางแกยากอยูบาง ขาเห็นวาควรทำเชนนี้
ก็แลวกัน
ตอนนี้เวลายังหางจากการใหญอยูหลายป สองปแรกใหเขาติดตามแมนางมูศึกษา
เล า เรี ย นหลั ก แห ง การควบคุ ม อั ส นี สองป ห ลั ง ค อยไปเป น ศิ ษ ย ข องสหายหลาน
ในสองปสุดทาย ใหสหายหานฝกฝนและเรียนรูดวยตัวเอง สหายทั้งสองนาจะไมมี
ความเห็นแลวกระมัง!” ลิ่วจูพูดโดยไรความรูสึกอยางสิ้นเชิง
ไดยินลิ่วจูกลาวเชนนี้ หญิงงามกับมูชิงก็อดไมไดที่จะตกตะลึง
“เหอะๆ ความเห็นนี้ของพี่ลิ่วจูดีมาก ขาคิดวาสหายทั้งสองคงไมตองโตเถียงกัน
อีกแลว เปนเชนนี้ดีแลว” ชายชุดโลหิตพลันตบมือหัวเราะใหญแลวกลาว
“ในเมื่อสหายลิ่วจูกับตี้เซวี่ยตางก็รูสึกวาวิธีนี้ดี แมเฒาก็ไมมีความเห็นอะไรแลว”
หญิงงามผมขาวลังเลพักหนึ่ง จึงคอยพยักหนาตกลงอยางชาๆ
สวนมูชิงกลับนั่งตัวตรงอยูในดอกไมสีทองไมขยับเขยื้อน ยังไมพูดอะไรในทันที
“ทำไมรึ แมนางมูรูสึกวาวิธีการนี้ไมเขาทาหรือ?” ดวงตาภายในผาคลุ มพลัน
เปลี่ยนเปนเย็นชา ลิ่วจูเอยถามดวยน้ำเสียงขรึม
“ไมใชอยูแลว ตามที่ทั้งสามพูดเถอะ” มูชิงรูสึกใจหายวาบ ผานไปนานสองนาน
จึงคอยยิ้มฝนๆ แลวกลาว
“ดี เดิมทีเรื่องพวกนี้ก็เปนเรื่องเล็ก ทุกอยางควรยึดถือการใหญที่พวกเราวางแผนไว
สหายหาน ใหเวลาเจาภายในหกป หากภายในหกปสามารถฝกฝนหลั ก แห ง การ
ควบคุมอัสนีที่พวกขาถายทอดไดสำเร็จ สำแดงอานุภาพที่แทจริงของอัสนีเทวาปดเปา
ภยันตรายได พวกขาจะพาเจาไปยังสถานที่ลั บแหง หนึ่ง ซึ่งที่นั่นมีผลประโยชน
อันใหญหลวงรอเจาอยู แตในทางกลับกัน หากภายในหกปเจาไมสามารถควบคุม
อานุภาพแทจริงของอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายได ถึงเวลานั้น! หึหึ…” ชายชุดโลหิต
คนหนึ่งยิ้มแลวพูดกึ่งขูเข็ญกึ่งลอใจหานลี่
แมวาคำพูดสุดทายจะพูดไมจบ แตความหมายแอบแฝงนี้เปนใครก็ฟงออกทั้งนั้น
หลังจากหานลี่ไดยิน สีหนาก็ดูย่ำแยขึ้นมา
“สหายหานวางใจเถิด เจาสามารถฝกฝนอิทธิฤทธิ์นี้ไดดวยอายุนอยเชนนี้ จะตอง
เปนผูที่มีพรสวรรคเหนือคน! สำหรับวิธีฝกฝนการควบคุมเทวะอัสนีใหสำเร็จในหกป
จะตองไมเปนปญหาอยางแนนอน แตเพื่อปองกันไมใหสหายหานเกิดความคิดตุกติก
อื่นๆ พวกขาจำเปนตองวางอาคมตองหามขนาดเล็กไวในรางเจา” หญิงงามผมขาว
กลาว พลันชูมือขึ้น เสนไหมสีเทาสายหนึ่งก็พวยพุงออกมาอยางไมมีเคาลาง ภายใน
ชั่วพริบตา ก็มาถึงตรงหนาลำตัว
หานลี่หนาเปลี่ยนสียกใหญ รางกายคิดจะหลบหลีกดวยจิตใตสำนึก แตอากาศใน
บริเวณใกลเคียงกลับบีบตัว ตามดวยพลังไรลักษณมหาศาลหลายกลุมกดลงบนบา
รางของเขาแข็งคาง ไมสามารถกระดุกกระดิกไดแมแตนอย
หานลี่หางตากระตุก หลังจากโคจรความคิดอยางรวดเร็วปานสายฟาแลบ คิดไมถึงวา
จะไมไดโคจรพลังจิตภายในรางเพื่อหลุดจากพันธนาการนี้
เพียงแคใบหนาเขียวจางๆ จองมองเสนไหมสีเทาเปลงแสงสวางวาบ จมหายเขา
ไปในรางอยางไรรองรอย เกือบจะในเวลาเดียวกัน ลิ่วจู มูชิง และตี้เซวี่ยสามคนตางก็
ปลอยหมอกดำ แสงสีเขียว และหมอกโลหิตจมเขาไปในรางของหานลี่เชนกัน
ในตอนนี้หานลี่รูสึกเพียงพลังมหาศาลบนรางไดสลายหายไปแลว จึงกลับมา
เคลื่อนไหวไดอิสระอีกครั้ง
เมื่อรีบใชจิตสัมผัสตรวจดูภายในราง หานลี่ทั้งรูสึกกลุมใจและแอบโลงใจในเวลา
เดียวกัน
สิ่งที่ซอนอยูในรางของเขา เปนแคสิ่งที่คลายกับเครื่องหมายสี่ชนิด ไมไดเปน
อันตรายใดๆ แตในทางกลับกัน เมื่อมีสิ่งเหลานี้แลว หลังจากนี้คิดจะหาโอกาสหนีไป
คงเปนเรื่องลำบากยากยิ่งแลว
“สหายหาน หลังจากจบเรื่องนี้แลว เจาก็อยูที่หุบเขาเซียนพฤกษากอนสองป
สองปตอมา สหายหลานคอยสงคนมารับเจาไปก็ไดแลว! เอาละ เรื่องก็มาถึงตรงนี้แลว
คุยเรื่องสำคัญอยางอื่นกันบาง สหายหลาน ไดยินวาภูตทมิฬของเจาหลอมใกลเสร็จ
แลว เพียงแตยังมี…” ลิ่วจูพูดกับหานลี่ไมกี่ประโยค ก็เปลี่ยนมาคุยเรื่องอื่นแทน
คนอื่นๆ ฟงไปพลาง แสดงความคิดเห็นไปพลาง
ตั้งแตตนจนจบ ราชาปศาจเหลานี้ไมใหโอกาสหานลี่ไดพูดเลย และไมคิดจะฟง
เขาพูดอะไรเชนกัน
แตจะวาไปแลว
เมื่ออยูตอหนาราชาปศาจทั้งสี่ที่มีระดับผสานอินทรียขึ้นไป หานลี่ก็ไมมีสิทธิ์พูด
อะไรไดจริงๆ ถึงอยางไร ไมวาจะเปนแดนมนุษยหรือแตละเผาในแดนวิญญาณก็ลวน
คุยกันดวยพลัง ตัวตนระดับเทพแปลงกระจอกๆ นามหนึ่ง สำหรับปศาจในเหวพสุธา
เหลานี้ ที่จริงแลวก็เปนแคตัวตนกระจิดริดเทานั้น
แมวาในใจเขาจะรูสึกกลัดกลุม แตก็ทำไดเพียงนิ่งเงียบไมพูดจา ในขณะเดียวกัน
ก็แอบครุนคิดพิจารณาถึงคำพูดที่อีกฝายพูดเมื่อครูนี้
กอนหนานี้ เนื้อหาที่ราชาปศาจแหงเหวพสุธาเหลานี้มีไมมากนัก แตเขาก็พอจะ
จับใจความไดหนึ่งอยาง!
คนพวกนี้คิดจะยืมพลังของอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายของเขาดังคาด และคิดจะ
ใชทำลาย “อาคมตองหามแมอเวจี” อะไรนั่น
แต “หลักแหงการควบคุมอัสนี” กับอานุภาพที่แทจริงของอัสนีเทวาปดเปา
ภยันตรายที่คนเหลานี้พูดถึง คือเรื่องอะไรกัน? หรือวาอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายนี้จะ
มีวิธีการควบคุมเฉพาะทางอยางอื่นอีก? หรือวาจะมีอิทธิฤทธิ์อื่นที่ยังไมรูอีก?
หานลี่คิดอยางไรก็คิดไมออก!
จูๆ หานลี่ก็รูสึกเหมือนมีคนกำลังสนใจเขาอีก พอเหลือบมองเล็กนอย กลับหันมา
เจอกับสายตาของหญิงสาวคนหนึ่งที่แอบมองมา
ที่แทก็คือ หยวนเหยา สตรีผูนี้นั่นเอง
หยวนเหยาเห็นหานลี่มองมา กลับมีสีหนาเรียบเฉย ไมมีอารมณใดๆ แมแตนอย!
ทวาหานลี่หนาเปลี่ยนสีคราหนึ่ง ผานไปนานสองนานจึงคอยดึงสายตากลับมา
อยางไมลุกลี้ลุกลน
ตอนที่ 1465 เผามังกรปศาจ
ตอหนาพวกหานลี่กับเซวี่ยตู มูชิงและราชาปศาจอีกสามคนไดหารือหลายเรื่อง
อยางตอเนื่อง
รายละเอียดในนั้นเกี่ยวของกับ “ภูตทมิฬ” “หุนเชิด” และของตางๆ คิดไมถึงวา
พวกเขากำลังฝกกำลังขนาดใหญ คลายกำลังเตรียมไปโจมตีอะไรบางอยาง
ทวาสิ่งที่หานลี่สนใจที่สุดก็ยังเปน “แมน้ำอเวจี” ที่คนเหลานั้นเอยถึงเปนพักๆ
ตอนที่ไดยินสถานที่นี้เปนครั้งแรก หานลี่ก็เกิดฉุกคิดขึ้นมา สิ่งแรกสุดที่นึกขึ้นได
กลับเปนสถานที่ที่เรียกวาอเวจีทมิฬแหงนั้น
ทวา นอกจากคนพวกนี้จะพูดถึงสถานที่นี้สองสามครั้งแลว กลับไมพูดถึงสิ่งใดๆ
ที่เกี่ยวของกับสถานที่นี้เลย
ในตอนนี้ หานลี่ไดถอยมาอยูอีกฝงนานแลว แอบสังเกตราชาปศาจพวกนี้อยางลับๆ
พูดตามจริง ในบรรดาสี่มหาราชาปศาจนี้ คนที่เขารูสึกวาลึกลับและดูไมออกที่สุด
ก็คือ ลิ่วจูกับตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ย
คนแรกบนรางแผกลิ่นอายหนาวเหน็บ ดูแปลกประหลาดเปนอยางยิ่ง ไมมีกลิ่นอาย
ของชีวิตแมแตนอย หากไมใชเพราะเห็นวาการพูดการจาและอากัปกิริยาไมมีสิ่ง
ผิดปกติแมแตนอย หานลี่คงสงสัยวาเขาเปนสิ่งที่ตายไปแลว
สวนคนที่สองเปนเพราะมีสองรางที่รูปรางหนาตาเหมือนกันไมมีผิด
ชายชุดโลหิตสองคนไมวาจะเปนน้ำเสียงพูด รูปราง และกลิ่นอายก็ไมมี อะไร
แตกตางกัน แตสองคนนี้ตางก็ถูกเรียกวาตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ย
เรื่องนี้ยอมแปลกประหลาดเปนอยางยิ่ง
สำหรับมูชิงกับหญิงงามผมขาว หานลี่พอจะมองออกถึงความเปนมาเล็กนอยของ
สองคนนี้ไดลางๆ
บนรางของมูชิงถูกปกคลุมดวยมานแสงสีดำหนึ่งชั้น แมกระทั่งใชเนตรวิญญาณ
กระจางก็ยังไมสามารถมองไดชัด แตแสงสีเขียวมรกตที่ทะลุออกมาจากแสงสีดำนั้น
กลับไมสามารถปดบังสองตาของหานลี่ได อีกทั้งพลังวิญญาณพฤกษาที่แผออกมาจาก
บนรางของหญิงผูนี้ยังบริสุทธิ์ถึงขั้นสุดยอด หานลี่จึงแทบจะแนใจถึงแปดส ว นวา
มูชิงคือ ปศาจวิญญาณพฤกษาที่หายากตนหนึ่ง
เพียงแตไมรูวาเปนวิญญาณพฤกษาชนิดใด
สำหรับหญิงสาวผมขาว ตลอดทั้งรางมีปราณทมิฬเกาะอยางหนาแนน ทั้งชีวิตนี้
ของเขาเห็นแบบนี้นอยมาก
อีกทั้งคำพูดของราชาปศาจแตละตนเมื่อครูนี้ หานลี่จึงเดาออกเชนกันวาหญิงงาม
ผูนี้คือ ปศาจภูต
เพียงแตปศาจตนนี้แทบจะหลอมรางภูตของตัวเองจนเหมือนกับคนธรรมดาอยาง
ไมมีผิดเพี้ยน แสดงใหเห็นวามีอิทธิฤทธิ์ยิ่งใหญ
แตดวยเหตุนี้ หานลี่ก็สังเกตเห็นบนรางของหยวนเหยามีปราณทมิฬเกาะตัวไม
บางเบาเชนกัน ดูเหมือนจะไมใชรางของคนธรรมดา เพียงแตไมไดมีรางภูตที่แทจริง
เหมือนกับหญิงงาม
หญิงผูนี้ดูเหมือนจะประสบกับโอกาสบางอยาง สำหรับบนรางของเหยียนลี่ก็เปน
เชนเดียวกับหยวนเหยา ทวาดูจากกลิ่นอายที่แผออกมาจากหญิงทั้งสอง มีพลังอยูใน
ระดับเทพแปลงขั้นตน
พวกหยวนเหยาสองคนมีพลังยุทธต่ำเชนนี้แตกลับถูกหญิงงามผมขาวพามาอยู
ขางกาย ดูแลวถาไมใชเพราะรักและไววางใจอยางลึกซึ้ง ก็คงเปนเพราะเหตุผลบาง
ประการ
การเจรจาของราชาปศาจเหลานี้ไมไดดำเนินตอเนื่องนานนัก บางครั้งก็มีการ
โตแยงที่ไมเห็นตรงกันบาง จึงใชวิธีเสียงสวนนอยยอมฟงเสียงสวนมาก ทำใหแกไข
ปญหาไดเร็วมาก
เวลาผานไปหนึ่งมื้ออาหาร พวกลิ่วจูก็หารือทุกเรื่องเสร็จสิ้น พลันยืนขึ้นและกลาวลา
มูชิงลงมาจากดอกไมสีทองอยางไมกลาเสียมารยาท สงราชาปศาจคนอื่นๆ ดวย
ตัวเอง
ขณะที ่ ช ายชุ ด โลหิ ต สองคนเดิ น มาที ่ ป ระตู ว ิ ห าร ได เ ดิ น ผ า นหานลี ่ พ อดี
ตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยคนหนึ่งที่อยูใกลเขาที่สุดก็หันมาถามหานลี่ดวยน้ำเสียง
ประหลาด “หุนเชิดสองตัวที่ขาสงไป เจาเปนคนสังหารใชหรือไม”
หานลี่ลังเลเล็กนอย จึงคอยโคงคำนับแลวตอบกลับอยางซื่อตรง “ที่จริงแลวชน
รุนหลังเปนคนสังหาร กอนหนาไมทราบวาเปนลูกนองของอาวุโส หวังวาอาวุโสจะไม
ถือโทษโกรธเคือง”
“หึๆ แคหุนเชิดกระจอกๆ สองตัว ขาไมเก็บมาใสใจหรอก แตเรื่องนี้จะปลอยไป
เชนนี้ไมได ภายหลังชวยขาทำงานเล็กสักงานหนึ่ง ถือเสียวาหักลางกับเรื่องนี้ก็แลว
กัน” ในหูของหานลี่มีเสียงที่ถายทอดมาจากตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยดังขึ้น
หานลี่เงยหนามองอีกครั้งดวยความตกตะลึง
ชายชุดโลหิตสองคนกลับเดินผานตัวเขาไปอยางชาๆ ราวกับการถายทอดเสียง
เมื่อครูนี้ไมเคยมีมากอน
หานลี่ขมวดคิ้วคราหนึ่ง แอบรูสึกวาตนหาความยุงยากใสตัวอีกแลว
พวกหญิงงามผมขาวกับหยวนเหยาออกไปเปนลำดับสุดทาย และเดินผานขางๆ
หานลี่ไปเชนกัน แตหญิงงามผมขาวแคสงยิ้มจางๆ ไมไดกลาวอะไร สวนหยวนเหยา
กลับมีใบหนาไรซึ่งอารมณ ราวกับมองไมเห็นหานลี่
เหยียนลี่กะพริบตาปริบๆ สายตาที่หันมามองหานลี่ ปรากฏถึงความรูสึกราวกับ
คาดคิดไวแลว
มุมปากของหานลี่พลันกระตุกคราหนึ่ง สีหนาก็กลับมาเปนปกติ เพียงแตฝามือที่
อยูในแขนเสื้อขางหนึ่ง จูๆ นิ้วทั้งหากุมเขาหากัน
“ยินดีดวยนองหาน ผูยิ่งใหญแตละทานใหความสำคัญกับสหายหานมากขึ้นแลว”
เมื่อเห็นวาพวกมูชิงออกจากวิหารใหญไปตามลำดับแลว เซวี่ยตูก็ยิ้มกลาวกับหานลี่
“มีสิ่งใดใหนายินดี ตอนนี้ขานอยยังงงๆ กับทุกเรื่องอยูเลย อาวุโสเซวี่ยพอจะรูวา
เคล็ดวิชา” หลักแหงการควบคุมอัสนี “อะไรนั่น สามารถทำใหอานุภาพของอัสนีเทวา
ปดเปาภยันตรายเพิ่มมากขึ้นไดจริงหรือ?” หานลี่หัวเราะขื่นๆ คราหนึ่ง พลันถาม
อยางเชื่อครึ่งสงสัยครึ่ง
“หึๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ขาก็รูเพียงเล็กนอย ในสมัยโบราณกาล อัสนีเทวาปดเปา
ภยันตรายนั้นเปนอัสนีเทวาพฤกษาที่เลื่องชื่อในแดนวิญญาณ เปนหนึ่งในอัสนีแททั้ง
หาสาย ใชสำหรับปดเปาปราณมารและสิ่งชั่วรายโดยเฉพาะ ในดานอานุภาพก็ยัง
เหนือกวาโลหิตอัสนีดาวเหนือของขายิ่งนัก ทวาเทวะอัสนีนี้จำเปนตองใชวิธีการพิเศษ
ในการหลอมและควบคุม ไมเชนนั้นอานุภาพจะไมสามารถสำแดงไดถึงหนึ่งหรือ
สองในสิบสวน ในสมัยโบราณที่แดนวิญญาณก็รูจักการแบงพื้นที่แลว ซึ่งไดถูกเผาใหญ
แตละเผาในสมัยโบราณรว มมื อกั นปกครอง เนื่องจากอัส นีช นิด นี ้เ ป นภัย กั บ เผ า
มังกรปศาจที่เปนหนึ่งในนั้น พวกมันจึงรวบรวมไผอัสนีสวรรคจากแตละเผาไปจนหมด
และทำลายพวกมันจนหมดสิ้น ทำใหอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายแทบจะถูกทำลายจน
ไมเหลือรองรอยในแดนวิญญาณแลว
สำหรับวิธีการควบคุมอัสนีชนิดนี้ หายากมากที่จะมีคนรู อยางนอย ผูแซเซวี่ยก็ยัง
ไมรูเลย” เซวี่ยตูยิ้มเล็กนอย คิดไมถึงวาจะอธิบายอยางละเอียดขึ้นมาจริงๆ
“เผามังกรปศาจ?” หานลี่ตกตะลึงเล็กนอย
ตอนที่เขาอยูเผามนุษยดูเหมือนจะไมเคยไดยินวาแดนวิญญาณมีเผานี้ดวย
“เหอะๆ สหายหานไม เ คยได ย ิ น ชื ่ อของเผ า นี ้ ใ ช ห รื อไม เรื ่ องนี ้ ไ ม น  า แปลก
เปนเพราะในปนั้นเผาใหญในสมัยโบราณไมกี่เผารังแกเผาอื่นๆ ในแดนวิญญาณมาก
เกินไป ในที่สุดจึงถูกเผาสวนใหญรวมมือกันกวาดลางแลว ทวาไมเผาใหญเพียงไมกี่
เผานี้มีพลังแข็งแกรงเกินไป ในปนั้น ทุกเผาตางก็ถูกฆาตายไปเจ็ดถึงแปดในสิบสวน
ด ว ยเหตุ น ี ้ เ ช น กั น เผ า ใหญ ใ นแดนวิ ญ ญาณตอนนี ้ ล ว นแข็ ง แกร ง ขึ ้ น หลั ง จาก
สงครามใหญครั้งนั้น ไมเชนนั้น จะยอมใหพวกเขาประกาศตัวเปนใหญในดินแดน
วิญญาณไดอยางไร สวนชื่อของพวกเผามังกรปศาจ ยอมมีนอยคนมากที่จะรู” เซวี่ยตู
พูดถึงความลับในสมัยโบราณอยางไมหนักหนาอะไร
หานลี่ฟงแลวคอนขางมึน
เรื่องใหญโตเชนนี้ ทำไมในคัมภีรโบราณของเผามนุษยกับเผาวิญญาณเหาะเหินถึงไมมี
การบันทึกเรื่องนี้ไว ดวยความรูสึกประหลาดใจ เขาจึงอดไมไดที่จะถามเรื่องนี้ขึ้น
“เรื่องในสมัยโบราณที่ขาเลา เปนเรื่องในสมัยโบราณกอนที่ทุกเผาจะมีก าร
บุกเบิกครั้งแรก ตอนนั้นเผาวิญญาณเหาะเหินของพวกเจายังไมปรากฏในดินแดนนี้
ยอมไมมีการจดบันทึกเรื่องราวพวกนี้เปนธรรมดา” เซวี่ยตูหัวเราะหึๆ คราหนึ่ง
“ที่แทก็เปนเชนนี้!” หานลี่ไดยินดังนี้จึงคอยเขาใจ
ตามบันทึกในคัมภีรโบราณของเผามนุษย เวลาที่เผามนุษยปรากฏใน แดน
วิญญาณนาจะอยูหลังจากเผาวิญญาณเหาะเหิน การที่จะไมไดบันทึกเรื่องราวพวกนี้ก็
ไมใชเรื่องแปลก
ขณะที่หานลี่กับเซวี่ยตูกำลังพูดคุยสัพเพเหระกันอยู ที่ดานนอกประตูวิหารก็มี
เสียงฝเทาดังขึ้น เปนมูชิงที่เดินเขามาจากนอกวิหาร
เซวี่ยตูกับหานลี่ตางก็หยุดการสนทนา เขามาคารวะราชาปศาจตนนี้
มูชิงผงกศีรษะคราหนึ่ง พลันขยับรางพลิ้วไหวกลับมานั่งบนดอกไมมหึมาสีทองอีกครั้ง
กอนที่จะเอามือเทาคางไมพูดไมจา
ดูเหมือนหญิงพูดนี้จะมีเรื่องบางอยางที่ยากจะตัดสินใจ ผานไปพักใหญก็ยังไมมี
คำพูดหรือการกำชับใดๆ
หานลี่ตกตะลึงเล็กนอย เหลือบมองเซวี่ยตูที่อยูขางๆ ทีหนึ่งดวยจิตใตสำนึก
มังกรโลหิตตนนี้สีหนากลับสงบนิ่งเปนอยางยิ่ง ดูเหมือนจะไมรูสึกผิดคาดใดๆ กับ
สถานการณที่อยูตรงหนา
“สหายหาน เจาฟงใหดีนะ ขาไมสนวาเจาจะคิดอยางไร แตภายในสองปนี้จะตอง
เชี่ยวชาญวิธีการควบคุมอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายเพื่อขา หากเปนเชนนี้ สองปที่อยู
กั บ แม เ ฒ า ภู ต ข า ย อมสามารถช ว ยเจ า ปฏิ เ สธได เข า ใจความหมายของข า แล ว
หรือยัง?” ภายในแสงสีดำมีเสียงของมูชิงดังออกมา
หานลี่หนาเปลี่ยนสี ไดแตยิ้มเจื่อนแลวตอบกลับ “อาวุโสมูมีคำสั่ง ชนรุนหลังจะ
พยายามเต็มที่”
“หึ ทางที่ดีเจาควรพยายามเต็มที่อยูแลว ไมเชนนั้นขาไมมีทางใหเจาวิ่งไปหา
แมเฒาภูตเปลาๆ หรอก” มูชิงแคนเสียงคราหนึ่ง น้ำเสียงพลันเย็นยะเยือกขึ้นมา
หานลี่รูสึกหนักใจ ไดแตเงียบไมสงเสียง
“สามวันหลังจากนี้ ขาจะยายเจาไปอยูในถ้ำแกนพฤกษา สองปนี้ขาจะเปนคน
ชี้แนะหลักแหงการควบคุมอัสนีใหเจาเอง เซวี่ยตู เรื่องอาหารโลหิตในสองปนี้มอบให
เจาจัดการทั้งหมดแลว” มูชิงหันหนาแลวกลาวกำชับกับมังกรโลหิตดวยน้ำเสียงอยาง
ไมเปนที่สงสัยใดๆ
“ขอรับ นายทาน!” คราวนี้เซวี่ยตูรูสึกเกินคาดจริงๆ แตก็รีบขานรับในทันที
หานลี่เองก็ตกตะลึงเชนกัน
“พอแลว ขาเหนื่อยแลว พวกเจาไปเถอะ” หลังจากกำชับเสร็จ มูชิงก็โบกมือ
หานลี่กับมังกรโลหิตจำตองทำความเคารพแลวเดินออกไป
“จุๆ นองหานโชคดีไมเบานะเนี่ย คิดไมถึงวาจะทำใหนายทานชี้แนะการฝกฝน
ของเจาดวยตัวเองได นี่ถือเปนเรื่องดีที่ยากจะไดมาในรอบพันปเชียวนะ!” พอออก
จากวิหารใหญ เซวี่ยตูก็พูดโพลงกับหานลี่ขึ้นมา ดวงตามีสีของความประหลาดใจ
สายหนึ่งพาดผาน
“เปนเชนนั้ นรึ ขานอยยังไมรู เลยวา ในสองป จะสามารถฝ กฝนหลั กแห ง การ
ควบคุมอัสนีสำเร็จจริงๆ หรือไม” หานลี่กลับสายหนาถี่ๆ ดวยทาทางคอนขางกลุมใจ
“ฮาๆ ในเมื่อนายทานพูดเชนนี้ จะตองมั่นใจแนนอน นองหานไมตองคิดมาก
ผูแซเซวี่ยยังมีเรื่องบางอยางตองจัดการ คงตองขอตัวลากอน” เซวี่ยตูกลับหัวเราะ
ฮาๆ คราหนึ่ง พลันเปลงแสงโลหิตบนราง กลายเปนลำแสงโลหิตสายหนึ่งพุงไปไกลใน
ชั่วพริบตา
หานลี่ยังคงยืนอยูที่เดิม สองตาหรี่มองลำแสงโลหิตที่หายไปในอากาศครูห นึ่ง
จึงคอยหมุนกายเดินไปยังที่พักของตัวเองอยางชาๆ
ไมนานนัก หานลี่ก็มาอยูในหอที่ตนพักอยู
เขาเป ด อาคมต อ งห า งออก เพื ่ ออำพรางไม ใ ห ค นอื ่ น ๆ แอบมอง ก อ นที ่ จ ะ
นั่งขัดสมาธิบนเตียงดวยสีหนาเครงขรึม ดวงตาเปลงประกายไมหยุด
ผานไปพักใหญ จูๆ เขาก็ชูมือขางหนึ่งขึ้น พลันกางนิ้วทั้งหาออก เผยใหเห็นฝามือ
ในฝ า มื อปรากฏอั ก ขระสี ด ำตั ว หนึ ่ ง ขนาดเท า เมล็ ด ข า วอย า งน า ประหลาด
เมื่อเพงมองดู ก็เห็นเปนตัวอักษร “เหยา” หนึ่งตัว
เมื่อเห็นตัวอักษรนี้ ใบหนาของหานลี่ก็ปรากฏทาทางประหลาด
หากบอกวากอนหนานี้ยังกึ่งเชื่อกึ่งสงสัยในสถานะของหยวนเหยา มาตอนนี้
เชื่อทั้งหมดอยางไมตองสงสัยแลว
อักขระตัวนี้ ปรากฏอยูในมือของเขาตอนที่หยวนเหยาเดินผานขางลำตัวเขาไป
ตลอดการกระทำไมมีคลื่นวิญญาณแผออกมาแมแตเสี้ยวเดียว แมกระทั่งตัวตนที่
นากลัวอยางพวกมูชิงและหญิงงามก็ไมสังเกตแมแตนอย
ดวยระดับเทพแปลงกระจอยรอยคนหนึ่ง สามารถทำเรื่องเชนนี้ได เปนที่คอนขาง
ตกตะลึงจริงๆ
ไมแปลกใจที่หานลี่จะมีสีหนาผิดปกติเชนนี้
เขายื่นนิ้วหนึ่งแตะเบาๆ ไปที่ตัวอักษร “หยวน” ในฝามือ
หลังจากที่ปลายนิ้วเปลงแสงสีเขียวดวงหนึ่ง ก็ลบตัวอักษรนี้หายไป
หานลี่หดสองมือกลับเขาไปในแขนเสื้อ พลางครุนคิดอยางเงียบๆ ดวยสีหนาไมสงบ
หลังจากผานไปพักหนึ่ง เขาก็แบบมือขางหนึ่งอีกครั้งอยางฉับพลัน
เสียงฟารองดังขึ้นเบาๆ หนหนึ่ง บอลอัสนีสีทองลูกหนึ่งปรากฏออกมาจากฝามือ
อยางไรสาเหตุ ขนาดเทากำปน เนื้อที่ของมันหดขยายไมแนนอน บนพื้นผิวมีเสน
สายฟาสีทองแวววาว เปลงประกายไมหยุด
หานลี่มองดูบอลอัสนีลูกนี้ดวยใบหนาที่ไรซึ่งอารมณ พลางหรี่ตาลง
ตอนที่ 1466-1 ถ้ำแกนพฤกษา
ไผอัสนีทองที่เขาเรงโตโดยไมไดตั้งใจในและหลอมเปนกระบี่ไผเขียวผึ้งเมฆาทั้ง
เจ็ดสิบสองเลมในปนั้น สามารถยืมพลังของอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายที่อยูในกระบี่
พิชิตศัตรูได แตไมเคยคิดมากอนวา อัสนีชนิดนี้จะมีที่มาใหญโตเชนนี้ ทั้งยังมีวิธีการ
ควบคุมที่พิเศษอีกดวย
หากเปนอยางที่ปศาจในเหวพสุธาเหลานี้กลาวจริง อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายคือ
หนึ่งในอัสนีแททั้งหาวิถีในแดนวิญญาณที่เรียกวา “อัสนีเทวาพฤกษา” อะไรนั่น
หากอานุภาพสามารถเพิ่มขึ้นไดถึงสิบเทาขึ้นไป เชนนั้นความยิ่งใหญของอานุภาพ
ก็ยากที่จะเชื่อไดแลวจริงๆ สามารถเปนหนึ่งในไมตายของเขาไดเลยทีเดียว
แตถึงแมเรื่องอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายจะเปนเรื่องดีเรื่องหนึ่ง แตเขาตองไปยัง
แมน้ำอเวจีอะไรสักอยาง อีกทั้งราชาปศาจเหลานี้ไดหลอมทหารภูตและหุนเชิดอยาง
ไมหวาดหวั่นเชนนี้ ความเสี่ยงที่ใหญโตนาจะพอคาดคิดได หากหานลี่ไมระวังนิดเดียว
เปนไปไดมากวาอาจจะรวงตายอยูในนั้น
โชคดีที่ฟงจากการพูดของอีกฝาย อยางนอยก็ยังเตรียมตัวเปนเวลาหกเจ็ดป เขา
ยังสามารถพิจารณาอยางละเอียด ดูวาจะมีวิธีอะไรที่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงนี้ได
การที่ไดพบหยวนเหยาในที่แหงนี้อีกครั้ง ไมสามารถเรียกวาเปนวาสนาไดแมแตนอย
ในปนั้นหยวนเหยาทำลายตานทองของตัวเองอยางไมเสียดายเพื่อใหเหยียนลี่
หวนคืนวิญญาณ ยอมเปนเรื่องที่คุมคาแกการเคารพเลื่อมใส อีกฝายยังมีน้ำใจไมตรี
หนักแนนเชนนี้หรือไม เรื่องนี้ก็ยังไมแนนอน
ถึงอยางไรใจคนก็เปลี่ยนงายที่สุด
แตดูจากเจตนาของหยวนเหยา จึงรูไดวานางไมยินดีที่จะเปดเผยเรื่องที่รูจักกับตน
เรื่องนี้ทำใหหานลี่แอบรูสึกโลงอก
แมวาเรื่องที่สวมรอยเปนเผาวิญญาณเหาะเหินจะไมนับวาเปนเรื่องที่จำเปนตองปดบัง
แตหานลี่ก็ยังไมอยากใหประวัติความเปนมาที่แทจริงของตัวเองถูกราชาปศาจใน
เหวพสุธาพวกนี้รู
หานลี่ครุนคิดในใจอยางเงียบๆ
พูดถึงหยวนเหยา ในหัวเขาก็เริ่มคิดทบทวนถึงสถานการณที่พบเจอนางหลายครั้งใน
ตอนแรกอยางละเอียด
พอนึกถึงสถานการณที่เห็นหญิงผูนี้อาบน้ำในน้ำพุวิญญาณภายในหองลับของ
พระราชวังนภาสูญ เรือนรางอันสมบูรณไรตำหนิของหญิงผูนี้ก็แลนเขามาในหัวสมอง
อยางหามไมอยู ทำใหในใจหานลี่เกิดอาการหวั่นไหว
แตทันใดนั้ นรา งของหนานกงหวา นก็ ปรากฏขึ้ นในก น บึ ้ งของจิต ใจ ฉับพลั น
ก็ชัดเจนขึ้นอยางผิดปกติ ภาพก็เต็มอยูในหัวของหานลี่
ผานไปหลายปเชนนี้ หากทุกอยางราบรื่น นางก็นาจะเขาสูระดับเทพแปลงที่
แดนมนุษยแลวกระมัง ไมรูวาเมื่อใด เขาถึงจะไดพบกับภรรยาสุดที่รักในแดนวิญญาณ
อีกครั้ง
ใบหนาและน้ำเสียงของหนานกงหวานยังคงวนเวียนอยูในหัวของหานลี่ไมหยุด
ฉากที่อยูเคียงคูกัน เหาะเหินคูกับภรรยาที่รักในนภาทักษิณ ยิ่งปรากฏขึ้นอยาง
ไมขาดสาย
ใบหนาของหานลี่ ปรากฏรอยยิ้ม ออกมา ตัวเขาไดจมอยูใ นห วงความทรงจำ
อันแสนอบอุน
ผานไปพักใหญ หลังจากที่เสียงและใบหนาของหนานกงหวานคอยๆ หายไป
ใบหนางดงามไรที่ติอีกหนาหนึ่งก็ปรากฏภายในจิตใจของหานลี่ ทำใหเขาหวนนึกถึง
ความทรงจำในอดีตเชนกัน…
ไมรูวาเวลาผานไปนานเพียงใด หลังจากที่ถอนหายใจยาวๆ ออกมาคราหนึ่ง
ในที่สุดหานลี่ก็ไดสติกลับมา ใบหนาก็เปลี่ยนเปนรอยยิ้มเจื่อน
คิดไมถึงวาจะถูกเรื่องในอดีตของหยวนเหยากระตุนแลว ถึงกับทำใหจิตสัมผัส
ของเขาเสียการปองกันเปนเวลานานเชนนี้ โชคดีที่บริเวณใกลๆ นี้ไมมีผูไมหวังดีคอย
จับตาอยู ไมเชนนั้นคงอันตรายแลว
ทวาในเมื่อเขายังไมสามารถออกจากเหวพสุธาไดในขณะหนึ่ง จะตองมีโอกาสไดพบ
กับหยวนเหยาอีกครั้งแน แตเรื่องที่จะติดตอกับนางอีกครั้ง ยังไมจำเปนตองรีบรอน
หานลี่ครุนคิดในใจอยางชาๆ ใบหนาก็ปรากฏสีหนาครุนคิดขึ้นมาอีกครั้ง…
สามวันตอมา หานลี่ยืนอยูเบื้องหนาภูเขาขนาดเล็กลูกหนึ่ง กำลังมองดูผนังภูเขา
ประหลาดสีเขียวมรกตที่ดูแลวแมแตกอนหินก็แทบจะใสแจว ภายในดวงตาพลันมี
สีของความประหลาดใจพาดผาน
“ที่นี่ก็คือถ้ำแกนพฤกษาที่ขาใชเก็บตัวฝกฝน ความเขมขนของปราณวิญญาณ
พฤกษาในที ่ แ ห ง นี ้ แ ม ว า ทั ่ ว ทั ้ ง แดนวิ ญ ญาณจะพบไม ม าก แต ส ำหรั บ ผู  ท ี ่ ฝ  ก ฝน
เคล็ดวิชาธาตุไม เมื่อฝกฝนในถ้ำแหงนี้ สามารถเพิ่มผลการฝกฝนไดหลายเทา” มูชิงที่
อยูขางๆ กลาวดวยทาทางทระนงตัว
สามวันใหหลังที่หานลี่มาพบมูชิงตามที่กำชับ หญิงผูนี้ไดพาเขาออมเขาใหญหลาย
ลูก และหลังจากเขามาในหมอกหนาทึบที่เต็มไปดวยอาคมตองหาม ในที่สุดก็หยุดอยู
ที่สถานที่ประหลาดแหงนี้
ที่นี่หางไกลจากที่พักกอนหนานี้เปนอยางมาก คิดไมถึงวาหญิงผูนี้จะตั้งสถานที่
ฝกฝนไวที่นี่ เกิดความคาดหมายของคนทั่วไปเปนอยางมาก
ทวาผนังหินสีเขียวเบื้องหนาที่เรียบราวกับกระจกนี้ เปนถ้ำไดที่ไหนกัน
หานลี่ใชจิตสัมผัสกวาดมองอยูหลายรอบ ก็ไมพบความผิดปกติอะไร ใบหนาก็เผย
สีหนาประหลาดใจออกมา
มูชิงกาวเขามาขางหนาผนังภูเขาสองสามกาว พลันสะบัดมือขางหนึ่งใสเบาๆ
หลังจากที่บนผนังหินมีมานแสงสีเขียวปรากฏขึ้น ก็แตกออกเปนโพรงกวางอยาง
ไรสุมเสียง เผยใหเห็นถึงเสนทางสีเขียวมรกตทอดตรงเขาไปในนั้น
ที่ปากทางเขาเสนทางถูกมานแสงสีเขียวสลัวๆ ปดผนึงอยูชั้นหนึ่ง ขณะเดียวกัน
รอบดานของทางเขา ก็มีอักขระแปลกประหลาดจำนวนหนึ่งปรากฏขึ้นเลือนรางบน
ผนังหินบริเวณใกลเคียง แลดูลึกลับเปนอยางยิ่ง
หานลี่เต็มไปดวยสีหนาตกตะลึงพรึงเพริด
เบื้องหลังผนังหินมีเสนทางเชนนี้อยู ดวยจิตสัมผัสอันแข็งแกรงของเขาจะมอง
ไมออกไดอยางไร
เป นอย า งที ่ ค าดไว ดู เ หมื อนราชาป ศ าจในเหวพสุ ธ าเหลา นี ้จ ะมี อิ ทธิฤ ทธิ์ที่
นาอัศจรรยบางอยางอยู ตองระวังมากขึ้นแลวจริงๆ
หานลี่รูสึกใจหายวาบ!
รางของมูชิงพลิ้วไหว รุดหนาเขาไปในเสนทาง มานแสงสีเขียวก็ไมไดส ง ผล
กระทบกับนางแมแตนอย
หานลี่ลังเลครูหนึ่ง ยอมตองตามนางไปอยูแลว
ไมรูวากอนหนานี้มูชิงใชวิธีอะไร มานแสงจึงไมขัดขวางเขาแมแตนอยเชนกัน
หลั ง จากที ่ ท ั ้ ง สองคนเข า มาในม า นแสงได ไ ม น าน กำแพงหิ น ตลอดทั ้ ง แถว
เปลงแสงเรืองรอง ทางเขาเสนทางก็หายไป
ไมเพียงเทานี้ หลังจากผานไปไมใน แสงบนกำแพงหินสีมรกตทั้งแถวก็มือลงจนดู
ธรรมดาไมแปลกตาขึ้นมา
อีกดานหนึ่ง หานลี่เดินตามมูชิงในเสนทางอยูพักหนึ่งจึงคอยเห็นแสงสวางที่เบื้องหนา
และมาปรากฏภายในหองโถงหองหนึ่งที่ไมใหญนัก
ภายในโถงวางเปลาไรผูคน นอกจากระเบียงเชื่อมตอไปยังประตูสถานที่อื่นอีก
เจ็ดแปดทางแลว ก็ไมมีสิ่งอื่นอีก
แตหานลี่ที่อยูในที่แหงนี้ สามารถสัมผัสไดถึงปราณวิญญาณเขมขนที่แผออกมา
จากใตดินและผนังสี่ดาน ในใจก็รูสึกทั้งดีใจและกลุมใจ
ที่ดีใจก็คือ ปราณวิญญาณพฤกษาในสถานที่นี้เขมขนเชนนี้ ภายในสองปสามารถ
เชี่ยวชาญวิธีควบคุมอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายไดนั้น ดูเหมือนจะไมใชเรื่องที่เปนไป
ไมได สวนที่กลุ มใจคื อ มูชิงผูนี้แมแ ต สถานที ่ว ิ ญญาณเช น นี ้ก ็ย อมสละให ต นใช
แสดงวานางจำเปนตองใชเขาจริงๆ ภายภาคหนาคิดจะหลุดพนจากการควบคุมของ
ราชาปศาจตนนี้ ตองไมใชเรื่องงายดายอยางแนนอน
“ตามขามา ขาจะจัดการที่พักใหเจา ภายในเวลาสองปหลังจากนี้ เจาจะตองใชชีวิตอยู
ในที่แหงนี้ หามออกจากถ้ำแกนพฤกษาแมแตกาวเดียว รอบๆ นี้ขาไดวางอาคม
ตองหามที่รายกาจไวชนิดหนึ่ง หากขาไมเปดมันดวยตัวเอง เจาก็ออกจากที่นี่ไมได”
มูชิงกลาวอยางเรียบๆ ภายในน้ำเสียงเผยถึงความมั่นใจในตัวเอง
หานลี่มุมปากกระตุกคราหนึ่ง ไมกลาวอะไร เพียงแตเดินตามหญิงผูนี้เขาไปอีก
เสนทางหนึ่งอยางเงียบๆ
พอผานสวนดอกไมใหญที่เต็มไปดวยดอกไมใบหญาแปลกประหลาด หานลี่ก็ถูก
พามาอยูตรงหนาประตูใหญสีเหลืองออนที่ไมรูวาหลอมมาจากโลหะชนิดใดบานหนึ่ง
มูชิงพลันหยุดฝเทา
“ที่นี่ก็คือหองลับที่ขาใชฝกฝนเปนประจำ ใหเจายืมพักอาศัยและฝกฝนเปนการ
ชั่วคราว ตั้งแตวันพรุงนี้เปนตนไป ทุกเจ็ดวัน ขาจะชี้แนะหลักแหงการควบคุมอัสนี
ของอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายใหเจาครั้งหนึ่ง ตอนกลางวันในเจ็ดวันใหหลัง เจามา
หาขาที่โถงก็ไดแลว เอาละ เจาเขาไปเองเถอะ ขาจะไปที่หองลับอีกแหงหนึ่ง ที่นี่
นอกจากอาคมตองหามที่ขาปูไวไมกี่แหงแลว สถานที่ที่เหลือเจาสามารถเขาออกได”
มูชิงแสดงทาทีใจกวางอยางผิดปกติ
“ขอบคุณพระคุณสำหรับความเมตตาของอาวุโสเปนอยางยิ่ง” หานลี่รีบกลาวคำ
ขอบคุณ
ทวาหลังจากมูชิงพูดจบ นางแคมองหานลี่อยางเรียบเฉยคราหนึ่ง แลวหมุนกายจากไป
เมื่อเห็นวาหญิงผูนี้เดินเลี้ยงบนเสนทางเล็กๆ รางของนางก็หายไป หานลี่จึงคอยถอน
หายใจเบาๆ พลันผลักประตูโลหะสีทองบานใหญที่อยูตรงหนาแลวเขาไปในหองลับ

เวลาเปรียบดังกระสวยที่วิ่งพาดผาน ภายในชั่วพริบตา เวลาก็ผานไปหนึ่งปแลว
ในวันนี้ ทามกลางหมอกหนาทึบ จูๆ บนทองฟาเหนือยอดเขาขนาดเล็กที่ดูธรรมดาก็มี
ปรากฏการณแปลกประหลาดเกิดขึ้นอยางฉับพลัน!
เมฆดำจำนวนนับไมถวนไดมารวมตัวที่ชั้นบรรยาต่ำ ตามดวยประกายอัสนีสีเขียว
เปลงแสงวูบวาบ สงเสียงฟารองดังแผวๆ ออกมาจากเมฆเปนระลอกๆ ราวกับภายใน
เมฆดำกำลังกำเนิดอสูรดุรายที่นากลัวตนหนึ่ง
ทันใดนั้นบนพื้นผิวของยอดเขาขนาดเล็ก มีเขตอาคมสีดำกวางสิบจั้งเศษปรากฏขึ้น
พื้นผิวเปลงแสงสีดำวาบหนึ่ง ฉับพลันก็มีคนสองคนปรากฏตัวออกมาจากในนั้น
คนหนึ่งมีมานแสงสีดำปกคลุม รูปรางอรชรออนแอน สวนอีกคนหนึ่งสวมชุดคลุมยาว
สีเขียว ใบหนาออนเยาว
คือ หานลี่กับมูชิงนั่นเอง!
พริบตาที่สองคนนี้ปรากฏตัว ในอากาศก็สงเสียงฟารองดังลั่น เมฆดำพลิกตัวอยาง
รุนแรง ประกายอัสนีสีเขียวที่ปรากฏภายในเมฆเปลี่ยนเปนหนาแนน อานุภาพนา
สะพรึงอยางผิดปกติ
มูชิงเงยหนามองไปยังชั้นบรรยากาศต่ำ พลางพูดดวยทาทางสงบนิ่งผิดปกติ
“คิดไมถึงวาจะบังเอิญเชนนี้ ทัณฑสวรรคของเจาจะมาถึงในเวลานี้ แตเจามีอัสนีเทวา
ปดเปาภยันตรายอยูกับตัว อีกทั้งเขาใจหลักแหงการควบคุมอัสนีขั้นแรกแลว คิดวา
ทัณฑอัสนีระดับนี้นาจะสามารถรับมือไดอยางงายดาย กลับยังสามารถฉวยโอกาส
พิสูจนการฝกฝนเพิ่มไดอีก มีประโยชนมากสำหรับอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายที่
แทจริงของเจา เจาดูแลตัวเองดีๆ ก็แลวกัน” มูชิงพูดคำนี้จบ เขตอาคมที่ใตเทาก็
เปลงแสงวาบ รางของนางก็หายไปอยางฉับพลัน
ในชั่วพริบตา บนยอดเขาก็เหลือเพียงหานลี่คนเดียว
หานลี่เห็นสถานการณเชนนี้ ไดแตหัวเราะขื่นๆ คราหนึ่ง
ทัณฑสวรรคเล็กครั้งที่สองของตนมาเยือนที่แดนวิญญาณ คิดไมถึงวาจะมาเวลานี้
ทำใหเขารูสึกเกินคาดเปนอยางมาก
โชคดีที่เขากินยาสลายธุลีมาโดยตลอด อีกทั้งยังกินจนหมดเกลี้ยงแลว ทัณฑสวรรค
กอนหนานี้ไมใชทัณฑอัสนีสองสีที่นากลัวสุดๆ แตเปนอัสนีสวรรคสีเขียวทั่วไปเทานั้น
แตแมวาจะเปนเชนนี้ หานลี่ก็ยังไมกลาผอนคลายแมแตนอย ถึงอยางไรนี่ก็คือ
ทัณฑอัสนีครั้งที่สองของเขา จึงไมกลาประมาทเกินไป
หานลี ่ อ า ปากออก ทั นใดนั ้ นเตาจิ ๋ ว สี เ ขี ย วใบหนึ ่ ง ก็ ถ ู ก พ น ออกมาด า นนอก
ขณะเดียวกันมือขางหนึ่งก็ลูบไปที่หลังศีรษะคราหนึ่ง มานแสงสีเทาสลัวๆ ก็มวน
ออกมา กลายเปนมานแสงปกปองรอบกายหนึ่งชั้น
จากนั้นเขาจึงคอยสงเสียงรองเบาๆ คราหนึ่ง สองมือพลันกำหมัด ทันใดนั้นก็เกิด
เสียงระเบิดดังขึ้น ประกายอัสนีสีทองจำนวนนับไมถวนก็ดีดออกจากราง แลวพวยพุง
ไปในอากาศ
ครูตอมา ตาขายสายฟาสีทองผืนหนึ่งก็ปรากฏที่ชั้นนอก บนพื้นผิวเปลงประกาย
สายฟาระยิบระยับ สงเสียงฟาแลบไมหยุด
ในเวลาเดียวกัน ประกายอัสนีสีเขียวในอากาศมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และสวาง
ขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็สงเสียงดังเกริกกองไปทั่วพื้นปฐพี ประกายแสงสีเขียวจำนวนนับ
ไมถวนโหมจูโจมลงมาจากกลางอากาศอยางบาคลั่ง เปาหมายคือหานลี่ที่อยูบน
ยอดเขาเล็ก
ประกายอัสนีหนาเทานิ้วหัวแมโปง คลายกับงูเล็กสีเขียวที่กระโจนลงมาทีละตัวๆ
ราวกับหาฝน พุงเขาใสตาขายสายฟาสีทองที่อยูชั้นนอกสุด
ดวงตาของหานลี่เปลง แสงประหลาดวาบหนึ่ง พลันตั้งทารายคาถามือเดี ย ว
ตาขายสายฟาสีทองก็แผดเสียงฟารอง กอนที่บนตาขายจะมีอักขระสีทองปรากฏ
ออกมาอยางเลือนราง ครั้นหมุนโคจรรอบหนึ่ง ก็กลายเปนมานแสงสีทองราวกับ
ระลอกคลื่นเปนผืนๆ อยางฉับพลัน
ฉากที่นาประหลาดพลันปรากฏขึ้น!
เมื่อกายอัสนีสีเขียวกับมานแสงเหลานี้แตะถูกกัน มีเพียงแสงอัสนีสวางวาบ
แลวหายไปขางในทั้งหมดอยางไรรองรอย
ตลอดขั้นตอนไรสุมเสียง ราวกับถูกมานแสงสีทองกลืนหายไป
ชั่วพริบตา ประกายอัสนีสีเขียวนับรอยนับพันก็ถูกมานแสงสีทองดูดกลืนเขาไป
ภายในกวาครึ่ง มีสวนนอยที่ถูกตาขายสายฟาสีทองดีดออก สงเสียงระเบิดดังสะเทือน
เลือนลั่น
ทั ณ ฑ อั ส นี ร ะลอกที ่ ห นึ ่ ง พลั นตกลงมา หานลี ่ ไ ม ก ะพริ บ ตาแม แ ต ค รั ้ ง เดี ย ว
สามารถรับเอาไวอยางงายดายราวกับพลิกฝามือ
ตอนที่ 1466-2 เก็บอัสนี
ตาขายสีทองที่ดูดกลืนประกายอัสนีสีเขียวไปมากเชนนี้ ก็ขยายใหญขึ้นเหนือ
ศีรษะหานลี่หลายเทาตัว พื้นที่สามสิบจั้งเศษลวนถูกปกคลุมลงมา
เมื ่ อ ประกายอั ส นี ร ะลอกที ่ ห นึ ่ ง หยุ ด ลง อั ส นี ส วรรค ร ะลอกที ่ ส องก็ ก  อ ตั ว
กลางอากาศอีกครั้ง กลายเปนประกายอัสนีสีเขียวที่มีความหนากวาระลอกกอนหนา
หลายสวน รวงลงมาอีกครั้ง
หานลี่ตั้งทารายคาถามือเดียว พลันยื่นนิ้วหนึ่งวาดอากาศฉวัดเฉวียนหลายครา
แสงสีทองพลันสวางวาบ อักขระสีทองแวววาวตัวหนึ่งปรากฏออกมาจากนิ้วมือ
ครั ้ นส ง เสี ย งราวอั ส นี บ าตร ก็ ก ลายเป น ประกายแสงสี ท องพุ  ง ออกไปในอากาศ
ภายในชั่วพริบตา อักขระทั้งหมดก็กลายเปนประกายอัสนีจมหายเขาไปในตาขาย
สายฟาสีทอง
ทันใดนั้น ตาขายสายฟาก็สั่นไปทั้งผืน รัศมีแสงหลายดวงที่ลอยพลิ้วอยูในนั้น
พลันหมุนเควงรอบหนึ่ง กอนที่จะมารวมตัวกันในที่แหงหนึ่ง กอตัวเปนรัศมีแสงมหึมา
สีทองสลัวๆ
ภายในนั้น อักขระพลิ้วไหวเลือนรางไมหยุด
ในตอนนี้ ประกายอัสนีระลอกที่สองก็ตกลงมาอยางดุดัน
และแลวฉากแบบเดียวกันก็ปรากฏขึ้น!
ประกายแสงสีเขียวที่มีอานุภาพเพิ่มมากขึ้น จมเขาไปในรัศมีแสงราวกับตัวแมงเมา
บินเขากองเพลิง หายไปอยางไรรองรอย
อานุภาพของอัสนีสวรรคระลอกที่สอง ระลอกแรกไมอาจเทียบไดอยางเห็นไดชัด
ดวยการโจมตีอยางบาคลั่งของอัสนีสวรรคที่มีจำนวนมหาศาล หลังจากเวลาผาน
ไปหนึ่งถวยชา รัศมีแสงที่รอยเควงอยางเงียบๆ ในตอนแรกก็สั่นระริกขึ้น แมกระทั่ง
ภายในรัศมีแสงยังสงเสียงดังหึ่งๆ ออกมา และดังขึ้นเรื่อยๆ
แตตาขายสายฟาสีทองที่อยูเบื้องลางมีพื้นที่ใหญขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง ขณะที่ประกาย
แสงสีทองเปลงประกายผสมผสานกัน ก็สงเสียงดัง “เปรี้ยะๆ”
ผานไปอีกพักหนึ่ง เกิดเสียงดังอื้ออึงขึ้นคราหนึ่ง ในที่สุดรัศมีแสงก็ปรากฏรอย
สีขาวออกมาทีละเสน ภายใตการจูโจมอยางบาคลั่งของอัสนีสวรรค ก็คอยๆ สลาย
หายไปทีละนอย ประกายอัสนีที่ไมมีสิ่งกีดขวางแลว ก็ผาลงบนตาขายสายฟาโดยตรง
เมื่อสองสิ่งปะทะกัน ลำแสงสีทองกับแสงสีเขียวก็ผสานรวมเปนหนึ่ง พรอมแผดเสียง
ระเบิดดังกองไปครึ่งทองฟา ดวยความมหึมาของตาขายสีทองในอากาศ แมวาอัสนี
สวรรคจะดุดันผิดปกติแตก็ยังลอยควา งกลางอากาศไดอยางมั่ นคง ชั่วขณะหนึ่ ง
ก็สามารถขวางประกายอัสนีสีเขียวที่รวงลงมากวาครึ่งได สวนอัสนีสวรรคบางสวนที่
เล็ดลอดในบางครั ้ง ก็ถูกแสงเทวะดูด ปราณที่ อยู เ บื ้ องลา งกวาดหายจนไม เ หลื อ
รองรอย
หานลี่ที่ยืนอยูบนยอดเขานั้น ไดเห็นสถานการณในอากาศ กลับไมเจตนาจะใช
อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายออกมา ดูเหมือนจะมีความตั้งใจอยางอื่น
เวลาผานไปชั่วหนึ่งมื้ออาหาร ในที่สุดตาขายยักษสีทองก็สงเสียงระเบิดพรอม
ปริแตกทีละชุนๆ ในที่สุดทัณฑอัสนีระลอกที่สองก็หยุดลง
ทวาเมฆดำกลางอากาศในตอนนี้เปนสีดำทมึนราวกับน้ำหมึก การพลิกตัวยิ่ง
รุนแรงขึ้น แทบจะในเวลาชั่วอึดใจ ภายในกอนเมฆก็ปรากฏบอลสายฟาสีเขียวออกมา
ทีละลูกๆ
แต ล ะลู ก มี ข นาดประมาณกำป  น พื ้ น ผิ ว มี แ สงสี เ ขี ย วพุ  ง ออกมารอบด า น
ในขณะเดียวกัน ภายในเมฆที่หมุนตัวอยางชาๆ อานุภาพของประกายอัสนีก็แข็งแกรง
ขึ้นกวากอนหนานี้มาก
หานลี่มีสีหนาเครงขรึมขึ้นมาหลายสวน ฝามือสีขาวดำแยกกันชัดเจนสองขาง
พลันกดไปในอากาศพรอมกัน
ทันใดนั้น มานแสงสีเทากลางอากาศก็แข็งตัวขึ้น เงาลวงตาภูเขาขนาดเล็กสีดำ
ขมุกขมัวลูกหนึ่งก็ปรากฏภายในแสงสีเทาอยางนาประหลาด เกือบจะในเวลาเดียวกัน
บนแสงสี เ ทาพลั นปรากฏเงาลวงตาโครงกระดู ก ห ารา งออกมา แต ล ะตั ว มีขนาด
เทาลอรถ อาปากออกมาพรอมกัน
เพลิงแสงหาสีที่พนออกมาจากปาก ในชั่วพริบตาก็กอรูปรางเปนมานคุมกันอยู
เบื้องบนแสงเทวะดูดปราณ
จากนั้นหานลี่ก็สงเสียงรองเบาๆ คราหนึ่ง เตาจิ๋วสีเขียวที่ลอยวนเหนือศีรษะ
ก็เปลงแสงวิญญาณเจิดจา ขยายใหญขึ้นอยางบาคลั่งหลายเทาตัว กลายเปนเตามหึมา
ขนาดจั้งกวาใบหนึ่ง ภายในเตามีแสงอรุโณทัยสีเขียวโหมซัดสาด พรอมสงเสียงดัง
ครั่นครืนออกมาแววๆ
อัสนีสวรรคระลอกที่สามจูโจมลงมาอยางไมปรานีแมแตนอย!
บอลสายฟาสีเขียวแตละลูกราวกับลูกเห็บมหึมา แผดเสียงฟารองประหลาด
อานุภาพเหนือกวาอัสนีสวรรคสองระลอกกอนหนายิ่งนัก
หานลี่ที่สามารถตานทานทัณฑอัสนีสองสีไดทั้งที่เปนระดับเทพแปลงขั้นตน
ยอมไมมีทางไมสามารถตานทานไมไดแมแตการโจมตีระดับนี้
เมื่อบอลสายฟาเหลานี้กระทบเขาไปในเพลิงแสงหาสี ฉากที่คาดคิดไมถึงก็ปรากฏขึ้น!
ภายใตลำแสงประหลาดหาสีที่เปลงประกาย อานุภาพของบอลสายฟาทั้งหมดที่
รวงลงมาก็ดูออนลงเปนอยางมาก พากันถูกกักไวในเพลิงแสง ภายในชั่วพริบตา
ภายในเพลิงแสงเปลงแสงสีเขียวไมหยุด บอลสายฟารอยกวาลูกก็ราวกับถูกตรึงไว
กลางอากาศพรอมกัน
หานลี ่ ห น า เปลี ่ ย นสี เงาลวงตาภู เ ขาขนาดเล็ ก สี ด ำภายในม า นแสงสี เ ทาก็
หมุนเควงรอบหนึ่ง ทันใดนั้นแสงสีเทารอบๆ ก็กวาดไปในอากาศ หลังจากที่แสงเทวะ
ดูดปราณกวาดบอลสายฟาที่ปกคลุมทั่วผืนฟา บอลเหลานั้นก็ไมเห็นรองรอยอีก
ในขณะเดียวกัน เตามหึมาที่อยูเบื้องลางเปลงแสงสีเขียวสวา งพรางครู  ห นึ่ ง
บอลสายฟาจำนวนมากก็มาปรากฏที่ปากเตาอยางนาประหลาด ครั้นแผดเสียงระเบิด
คราหนึ่ง ก็ถูกเสนไหมสีเขียวจำนวนนับไมถวนดึงเขาไปในเตาทั้งหมด…
หานลี่เห็นสถานการณดังนี้ ใบหนาก็เผยรอยยิ้มออกมา
ครึ่งชั่วยามตอมา เมฆดำที่อยูกลางอากาศของภูเขาขนาดเล็กก็คอยๆ กระจาย
หายไปอยางชาๆ ทัณฑอัสนีไดสิ้นสุดนานแลว
ตอนนี้เงารางของหานลี่มาอยูภายในหองลับของถ้ำแกนพฤกษาแลว
เขานั่งขัดสมาธิอยูบนเสื่อกลมผืนหนึ่ง เตาจิ๋วสีเขียวลอยเควงอยูเบื้องหนา
เตาจิ๋วในตอนนี้ ฝาของมันเปดกวาง สงเสียงฟารองทุมต่ำพรอมกับเปลงประกาย
สายฟาวิบวับเปนพักๆ
หานลี่จองเขม็งไปที่เตานี้ครูหนึ่ง พลันกวักมือขางหนึ่ง เตาจิ๋วพุงทีหนึ่ง ก็คอยๆ
รวงมาที่มืออยางชาๆ
เมื่อใชมือตบเบาๆ เตาทั้งใบก็สั่นสะเทือน พลันพนบอลสายฟาขนาดเทาไขไก
ลูกหนึ่งออกมา
บอลสายฟาลูกนี้เปลงแสงระยิบระยับ พื้นผิวหดขยายไมหยุด แตถูกเส นไหม
สีเขียวหอหุมไวภายใน ไมสามารถหลุดออกมาได
ที่แทก็คืออัสนีของทัณฑสวรรคที่หานลี่เก็บมา
อัสนีสวรรคนี้แมวาจะเทียบกับอัสนีสวรรคสีทองเงินที่เก็บในตอนแรกไมได แตใน
ดานอานุภาพก็แข็งแกรงกวาอัสนีทั่วไปมาก
เมื่อมีโอกาสนี้ หานลี่ยอมใชอัสนีจำนวนมากที่เก็บมาไดเหลานี้ ถือโอกาสหลอม
ลูกแกวอัสนีจำนวนหนึ่งอีกครั้ง อาศัยเพียงลูกแกวอัสนีหนึ่งถึงสองลูก บางทีก็ทำได
เพียงขูเข็ญตัวตนระดับหลอมสูญได แตถาหากเรียกสิบกวาลูกออกมาพรอมกัน แมแต
ผูบำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรียก็ตองถอยหนีไปสามฉื่อ
นอกจากอัสนีสวรรคสองระลอกในตอนเริ่มแลว เขาก็ใชความรูใหมของอัสนีเทวา
ปดเปาภยันตรายตานทานไว อัสนีสวรรคที่เหลืออยูจึงถูกเขาใชเตานภาสูญเก็บเขาไป
ขางใน
อัสนีสีเขียวที่มีปริมาณมากเชนนี้ เพียงพอที่จะหลอมลูกแกวอัสนีหลายสิบลูกใน
รวดเดี ย ว แต ด  ว ยอานุภ าพของอัส นีสวรรค อานุ ภ าพของลูก แก ว อัสนี เหลานี้จึง
ดอยกวากอนหนาเล็กนอย
ลูกแกวอัสนีจำนวนมากเชนนี้ เพียงพอที่จะกลายเปนไมตายที่เขาใชเผชิญ กับ
อันตรายที่ไมทราบได แตแมวาทัณฑสวรรคในครั้งนี้จะไมไดคุกคามเขาแมแตนอย
แตดวยความรายกาจของทัณฑสวรรคที่เพิ่มขึ้นในแตละครั้ง หลังจากผานไปอีก
เจ็ดแปดครั้ง เขาไมอาจผอนคลายไดเชนนี้อีก
สำหรับทัณฑสวรรคใหญหลังจากที่เขาสูระดับหลอมสูญนั้น แคเริ่มครั้งแรกก็
อันตรายสุดๆ แลว ตัวตนระดับหลอมสูญไมเคยขาดคนที่รวงตายตั้งแตเผชิญกับ
ทัณฑครั้งแรก เหนือกวาทัณฑสวรรคเล็กจนไมอาจเทียบได
ทวาเรื่องเหลานี้ก็ยังเปนสิ่งที่เกิดขึ้นในภายหลัง ตอนนี้สิ่งที่เขาตองเผชิ ญ คือ
ปญหาใหญที่จะหลุดพนจากเหวพสุธาแหงนี้ไปไดอยางไร
เมื่อหานลี่นึกถึงอันตรายที่ตองพบเจอในภายภาคหนา สีหนาก็มืดครึ้มลง
หนึ่งปมานี้ มูชิงที่ชี้แนะหลักการควบคุมอัสนีใหเขานั้น ยังถือวาพยายามสุดกำลังจริงๆ
บวกกั บ ความรู ลึ ก ซึก เกี ่ย วกั บ อั สนี เทวาป ดเป าภยั น ตรายของเขา ดั ง นั ้ นภายใน
ระยะเวลาอันสั้นก็สามารถมั่นใจในวิธีการปลดปลอยและวิธีการเรียกอัสนีไดแนนอน
ดูเหมือนการจะบรรลุความตองการของมูชิงภายในสองป นาจะไมเปนปญหาแลว
บางทีดวยเหตุนี้ มูชิงอาจจะแสดงทาทีออนโยนกับเขามากขึ้น ปกตินอกจาก
ถายทอดหลักการควบคุมอัสนีจบแลว ก็มักจะชี้แนะปญหาในการฝกฝนเปนบางครั้ง
ดวยระดับของหญิงผูนี้ ชี้แนะใหกับระดับเทพแปลงกระจอกๆ คนหนึ่ง ยอมทำใหเขา
ไดรับประโยชนไมนอย แนนอนวาหานลี่ไมมีทางอยูที่นี่อยางเชื่อฟงเพราะสาเหตุนี้
จริงๆ
ในระหวางนี้ เขาไดลองสำรวจทางออกรอบๆ หลายครั้ง ดูวาอาคมตองหามรอบๆ
มีชองโหวใหเจาะไดหรือไม และคนหาวิธีขจัดสัญลักษณทั้งสี่ภายในรางออก
หากสองสิ ่ ง นี ้ ม ี ว ิ ธ ี แ ก ไ ขได จ ริ ง ๆ เขาก็ ห นี ไ ปลอยนวลไปได อ ย า งแน น อน
แตผลลัพธก็ทำใหหานลี่ตื่นตระหนกตกใจเปนการใหญ
อาคมตองหามรอบๆ ถ้ำแกนพฤกษานี้ล้ำลึก เหนือกวาที่เขาจะจินตนาการมาก
เพี ย งแค ถ ู ก มู  ช ิ ง กั ก ตั ว ทั ้ ง ถ้ ำ ก็ แ ทบจะกลายเป น กรงขั ง มหึ ม าแห ง หนึ ่ ง ซึ ่ ง เขา
ไมสามารถออกไปไดแมแตนอย
แนนอน ไมใชวาหานลี่ไมสามารถทำลายอาคมตองหามของสถานที่นี่ไดจริงๆ
ไมวาจะแสงเทวะดูดปราณหรือเพลิงสวรรคกลืนวิญญาณ การทำลายอาคมตองหาม
นั้นลวนไดผลดีเยี่ยมอยางไรที่เปรียบ
แตหากสำแดงอิทธิ ฤทธิ์ส องชนิด นี ้ฝนทำลายอาคม เกรงวาทางฝงเขาลงมื อ
ก็จะถูกทางฝงมูชิงรับรูไดทันที จุดจบเปนอยางไรก็แคคิดก็รูแลว!
สำหรับสัญลักษณที่สี่มหาราชาปศาจไดฝงไวในรางเขานั้น เปนสิ่งที่ยุงยากยิ่งกวา
สัญลักษณเหลานี้ราวกับฝงเข็มภายในรางของเขา ใชทุกวิถีทางก็ยังไมสามารถกระตุน
มันไดแมแตนอย
มีวิธีการเพียงอยางเดียว คือตองใชเพลิงทารกภายในรางหลอมทีละนิดๆ
แตสัญลักษณของราชาปศาจระดับผสานอินทรียจะหลอมไดงายดายเชนนี้เสียที่
ไหนกัน!
อยาวาแตเขาแตะสัญลักษณแลวจะถูกเจาของสัญลักษณรูตัวในทันที ตอใหเขา
ฝนหลอมมันขึ้นมาจริงๆ ก็ไมใชสิ่งที่จะทำสำเร็จไดในสามสี่ป เมื่อเปนเชนนี้ จะไมให
เขากลุมใจอยางหนักไดอยางไร ทวาหานลี่ก็ไมใชคนธรรมดาเชนกัน ภายใตความ
ครุนคิดอยางหนัก ก็ยังหาทางออกชั่วคราวไดทางหนึ่ง สามารถใชในยามจำเปนได
โดยการใชพลังของแสงเทวะดูดปราณและอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายอำพรางการรับรู
ของสัญลักษณทั้งสี่ภายในรางได
แมวาจะทำเพราะกลัวแหวกหญาใหงูตื่น หานลี่ก็ยังไมเคยลองวาวิธีนี้จะใชไดดี
หรือไม แตดวยความรูความเขาใจอิทธิฤทธิ์ทั้งสองชนิดนี้ เป นอยางดี อยางนอย
เขามั่นใจไดถึงเจ็ดสวนวาสามารถทำเรื่องเชนนี้ได
แนนอนวาการอำพรางเชนนี้ทำไดแคตอนทีเผลอเทานั้น เปนวิธีการชั่วคราว
เมื่อถูกสี่มหาราชาปศาจพบ และเรียกสัญลักษณในระยะหางที่แนนอน คาดวาเขาก็
ไมสามารถอำพรางไดนานนัก นี่ก็คือวิธีการอยางหนึ่งที่จนปญญา
หานลี่ถอนหายใจยาวคราหนึ่ง ราวกับความกลัดกลุมทุกขใจทั้งหมดได คาย
ออกมาจากราง กอนที่จะโยนเตาจิ๋วในมือไปเบื้องหนาแลวเริ่มหลอมลูกแกวอัสนี
แมวาที่นี่จะเปนสถานที่ฝกฝนของมูชิงมากอน แตก็ถูกเขาวางอาคมตองหาม
ไวใหมแลว จึงไมตองกลัววาอีกฝายจะแอบจับตาดูอยู ทันทีที่ภายในหองลับเกิดเสียง
ฟารองดังลั่น หานลี่ก็เริ่มหลอมลูกแกวอัสนีขึ้นทีละลูกๆ
หลายวันตอมา ลำแสงสีเขียวสายหนึ่งพวยพุงมาจากสวนดอกไม ภายในชั่วพริบตา
ก็จมหายเขาไปในประตูใหญของหองลับอยางไมเห็นรองรอย หลังจากผานไปพักใหญ
ประตูใหญสีเหลืองพลันเปดออก หานลี่เดินออกมาจากหองลับดวยใบหนาขมวดคิ้ว
จางๆ สีหนาเต็มไปดวยความรูสึกประหลาดใจ
ตอนนี้ยังไมถึงเจ็ดวันที่ถายทอดหลักแหงการควบคุมอัสนี มูชิงจะใชยันตถายทอด
เสียงเรียกเขาไปไดอยางไร
นี่คือเรื่องที่ไมเคยเกิดขึ้นมากอนในหนึ่งปนี้
ในใจพลันปรากฏความสงสัย หานลี่จึงเดินไปยังเสนทางภายในสวนดอกไมอยางชาๆ
ภายในกำลังเก็บของบนขอมือของเขา มีลูกแกวสีเขียวสามสิบกวาลูก แตละลูก
มีขนาดเทาหัวแมมือ เปลงแสงสีเขียวแวววาว ลูกแกวอัสนีเหลานี้ ไดใชอัสนีสวรรคที่
หานลี่เก็บไปกวาครึ่งแลว หากไมใชเพราะมูชิงเรียกไปหา เขาเตรียมที่จะหลอม
อั ส นี ส วรรค ใ นเตานภาสู ญ ทั ้ ง หมดแล ว ทว า ขณะที ่ ห านลี ่ เดิ น มาถึ ง ในห อ งโถง
ก็อดไมไดที่จะตกตะลึง
เนื่องจากภายในโถงแหงนี้ นอกจากมูชิงที่นั่งอยูในนั้นแลว ขางๆ ยังมีชายชุดโลหิต
คนหนึ่งนั่งอยู คิดไมถึงวาจะเปนตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ย
“สหายหาน ที่สหายตี้เซวี่ยมายังที่แหงนี้ ตั้งใจมาหาเจาโดยเฉพาะ” มูชิงถือ
ถวยชาไวในมือขางหนึ่ง พลางพูดกับหานลี่อยางเยือกเย็น
ตอนที่ 1467 ภูเขาเพลิงโลหิต
“หาชนรุนหลัง?” แมวาหานลี่จะคาดการณไวแลว แตใบหนาก็ยังมีสีหนาตกตะลึง
“ไมผิด ผูเฒามีเรื่องจะพบเจา หรือวาลืมคำพูดที่ถายทอดเสียงกับขากอนหนาแลว!”
ชายชุดโลหิตกลาวดวยน้ำเสียงแข็งราวกับโลหะ
“ชนรุนหลังยอมไมลืมอยูแลว อาวุโสมีเรื่องใดจะกำชับ!” แมวาในใจหานลี่จะบน
ไมหยุด แตตอนนี้จะกลาวปฏิเสธไมได
“แมนางมู เจาไดยินแลวนะ นี่แสดงวาหนูนอยแซหานตกลงที่จะชวยเอง เจาไมอาจ
ปฏิเสธอะไรไดแลว” ชายชุดโลหิตหัวเราะหึๆ คราหนึ่ง
“ขาจะปฏิเสธอะไรได ทวาสหายตี้เซวี่ยนาจะทราบดี การใหสหายหานเชี่ยวชาญ
อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายคือเรื่องสำคัญที่สุด เจาบอกวาสามเดือนนั้นไมไดแนนอน
ขาใหเวลาจำกัดเจาไดแคหนึ่งเดียวเทานั้น ไมเชนนั้นจะสงผลกระทบตอการใหญของ
พวกเรา” มูชิงจิบชา แลวพูดอยางไมกระโตกกระตาก
“หนึ่งเดือนทำธุระของขาไมเสร็จอยูแลว หุนเชิดที่ขาตองการหลอมก็สำคัญเปน
อยางยิ่ง ไมสามารถลาชาไดเชนกัน ถาไมอยางนั้น สงเขาใหขายืมสักสองเดือน เชนนี้
ก็นาจะพอถูๆ ไถๆ ไดแลว” ตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยลังเลพักหนึ่งจึงคอยกลาวเชนนี้
“หนึ่งเดือนครึ่ง! มากกวานี้หนึ่งวันไมได” มูชิงพูดน้ำเสียงเย็นชาภายในแสงสีดำ
ทาทางไมเกรงใจแมแตนอย
“ดี หนึ่งเดือนครึ่งก็หนึ่งเดือนครึ่ง! ทวาตองยืมเขตอาคมสงตัวของแมนางมูสัก
หนอยแลว” ชายชุดโลหิตดวงตาเปลงประกายหลายหน คิดไมถึงวาจะตกลงจริงๆ
“สงตัวไมมีปญหา ขาจะสงพวกเจาไปถึงภูเขาเพลิงโลหิตโดยตรง ถึงเวลาขาจะไป
รับเขากลับดวยตัวเอง” มูชิงน้ำเสียงออนลง พลันพูดอยางมีความหมายลึกซึ้ง
“ฮาๆ เรื่องนี้ไมมีปญหาแนนอน หนูนอยแซหาน ตามขามาแถอะ” ชายชุดโลหิต
หัวเราะฮาๆ คราหนึ่งแลวยืนขึ้น
ครึ่งวันตอมา เบื้องหนาภูเขาใหญดำมืดลูกหนึ่งในชั้นหาของเหวพสุธา พื้นผิวของ
อาคมสงตัวบนแทนหินลับหนึ่งเปลงแสงสีดำสวางวาบ เงารางของคนสองคนพลัน
ปรากฏออกมา
คือหานลี่กับชายชุดโลหิตนั่นเอง
หานลี่เพิ่งจะไดสติจากอาการวิงเวียนจากการสงตัว พอมองเห็นสถานการณ
ตรงหนา ก็รูสึกตกตะลึง
เห็นเพียงขางๆ อาคมสงตัว ปรากฏเปนชายชุดโลหิตอีกคนหนึ่งยืนอยู
คนผูนี้มองหานลี่ทีหนึ่ง พลันสงเสียงหัวเราะประหลาด “สหายหาน ในที่สุดเจาก็
มาแลว นี่คือสี่มหาหุนเชิดโลหิตมวงของขา จำเปนตองใชอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย
ของเจาชวยเสริมอีกหนอย มีเพียงเชนนี้ ถึงจะสามารถใชสอยพวกมันที่แมน้ำอเวจีได
ดีมาก”
“หุนเชิดโลหิตมวง!” หานลี่ไดยินคำนี้ก็รูสึกใจหายวาบ
“เหอะๆ ขอมูลที่เปนรูปธรรมไวถึงที่พักแลว ขาจะพูดรายละเอียดใหเจาฟงอีกครั้ง”
ดูเหมือนจะเปนเพราะตองการใชงานหานลี่ ชายชุดโลหิตผูหนึ่งจึงแสดงทาทีสุภาพ
ผิดปกติ
หานลี่ยอมไม มี ความเห็ นโตแ ย ง ใดๆ อยูแลว จึงตามสองคนทยานขึ้ น ไปบน
ภูเขาใหญดำมืด
ภูเขาใหญลูกหนึ่งสูงประมาณสี่ถึงหาพันจั้ง ชายชุดโลหิตสองคนพาหานลี่ทยาน
มาถึงบริเวณไหลเขา
ผลลัพธคือ ตรงหนามีหนาผาภูเขาหนึ่งที่ดูไมสะดุดตา สูงรอยจั้งเศษปรากฏขึ้น
ชายชุดโลหิตคนหนึ่งเดินขึ้นไปสองสามกาว พลันตั้งทารายคาถามือเดียว พลางกลาว
คำรายจากปาก แลวสะบัดมืออีกขางหนึ่งอยางฉับพลัน
ฉากที่ทำใหหานลี่ตกตะลึงตาคางพลันปรากฏขึ้น
หนาผาเกิดการสั่นสะเทือนพรอมสงเสียงโครมครามดังสนั่นหวั่นไหว ทามกลาง
แสงสีดำเปลงประกาย ก็กลายเปนหนามังกรที่สรางจากหินขนาดมหึมาอยา งหาที่
เปรียบไมได ดานบนยังเต็มไปดวยตะไครน้ำและพงหญา
ดวงตาหินมหึมาสองดวงบนหนามังกรพลันกะพริบคราหนึ่ง คิดไมถึงวาจะลืมตาขึ้น
เผยใหเห็นดวงตาสีแดงโลหิตคูหนึ่ง
ครั้นแสงเย็นยะเยื อกอันน าสะพรึ งกลัวสาดกระทบไปบนร างของหานลี ่ แ ละ
ชายชุดโลหิตสองคน หัวมังกรก็อาปากกวางอยางชาๆ เผยใหเห็นเสนทางที่เปลงแสง
สีขาวสายหนึ่ง
“เขาไปกันเถอะ!” ชายชุดโลหิตคนหนึ่งกลาวดวยใบหนาที่ไรซึ่งอารมณ แลวเดิน
เคียงบากับอีกคนหนึ่งเขาไปขางใน
หานลี่พลันเก็บสีหนาตกตะลึงบนใบหหนา หรี่ตามองหัวมังกรอยางละเอียดครูหนึ่งจึง
คอยเดินเขาไปขางใน
เสนทางขางในกวางใหญผิดปกติ สูงสี่ถึงหารอยจั้งไดเลยทีเดียว ผนังทั้งสี่ดานตาง
ก็กอดวยหินสีดำทรงสี่เหลี่ยม เวนระยะหางในแตละชวง มีไขมุกแสงราตรีขนาด
ประมาณนิ้วหัวแมมือฝงอยูหนึ่งเม็ด ลึกเขาไปถึงทองเขาเบื้องลาง
ชายชุดโลหิตสองคนยืนเคียงบาอยูขางหนา ตั้งแตเขามาในเสนทางก็ไมพูดจา
แมแตคำเดียว
ทวาหลังจากที่ผานเสนทางและเขาสูใตดินลึกลงไปรอยจั้งเศษ บนพื้นที่กวางโลง
เบื้องหนาก็มีปากทางเขาปรากฏขึ้นเจ็ดแปดทางเรียงกันเปนแถว ลวนมีลักษณะ
เหมือนกันทุกประการ
สถานการณนี้คอนขางเกินความคาดหมายของหานลี่
ทวาชายชุดโลหิตสองคนไมหยุดชะงักแมแตนอย เดินเขาไปในเสนทางหนึ่งตามใจชอบ
ภูเขาใหญทั้ งลู กราวกั บถูก เจาะเป นรู ภายในทองเขาเต็ม ไปด วยเส นทางตั ด
สลับกันทุกหนทุกแหง ราวกับอยูในเขาวงกต
อีกทั้งเสนทางเหลานี้ ยังมองเห็นหุนเชิดที่ในมือถือของแหลมคมมหึมาตางๆ และ
รูปรางลักษณะแตกตางกันมาก กำลังเดินลาดตระเวนไปมาอยูในนั้น
หุนเชิดเหลานีบ้ างก็มแี สงสีทองแวววาว ตลอดทั้งรางหลอมจากโลหะ บางก็เปนสีเทา
สลัวๆ กอตัวมาจากดินและหิน และยังมีที่เคลื่อนไหวปราดเปรียว แตกลับทำมากจาก
พฤกษาวิญญาณแกะสลักทั้งชิ้น
ไมวาจะหุนเชิดชนิดไหน ลวนแผแรงกดวิญญาณอันนาสะพรึงออกมาอยางชัดเจน
แม ก ระทั ่ ง หุ  นเชิ ด ที ่ ม ี ร ู ป ร า งลั ก ษณะพิ เ ศษไม ก ี ่ ต ั ว นั ้ น ยั ง มี พ ลั ง ประมาณระดั บ
เทพแปลง
หลังจากที่หานลี่มองดูสองสามหน ก็ตื่นตระหนกตกใจเปนอยางยิ่ง
ดวยความรูรอบตัวของเขา ยอมมองออกวาในดานศาสตรของหุนเชิด ตัว
ประหลาดเฒ า ตี ้ เ ซวี ่ ย นั ้ น ลึ ก อย า งไม อ าจหยั ่ ง ประมาณได เหนื อ กว า ราชาเทพ
ขับเคลื่อนอยางแนนอน
แนนอนวา นี่ไมไดหมายความวาพรสวรรคในดานหุนเชิดของตี้เซวี่ยจะเหนือกวา
ราชาเทพขับ เคลื ่อนมากนั ก เพี ย งแค เ ขามี ค วามรอบรู ข องผู ม ี พลั ง ยุ ทธ ในระดับ
ผสานอินทรีย บวกกับแดนวิญญาณมีทรัพยากรและวัตถุดิบที่อุดมสมบูรณเทานั้น
แคปจจัยที่สองคนนี้อยูก็ไมสามารถเทียบกันไดเลย
หลังจากตามชายชุดโลหิตสองคนเลี้ยวขวาที เลี้ยวซายที และเหาะทยานไปยัง
เบื้องหนาเปนเวลาหนึ่งกานธูป เบื้องหนาของหานลี่ก็สวางขึ้น ในที่สุดก็ออกมาจาก
เขาวงกตแลว ตรงหนาปรากฏเปนทะเลสาบสีแดงฉานแหงหนึ่ง แผไอความรอน
แผดเผาปะทะหนา
คิดไมถึงวาจะเปนทะเลสาบหินภูเขาไฟใตพิภพตามธรรมชาติ
บนพื้นผิวของทะเลสาบหินภูเขาไฟนี้ มีพระราชวังสีแดงโลหิตลอยอยูหลังหนึ่ง
พระราชวังไมนับวาใหญเกินไป แตก็มีความกวางถึงพันกวาจั้ง
พระราชวังทั้งหลังแผกลิ่นคาวเลือดตลบอบอวล ทวาสิ่งกอสรางงามประณีตเลิศล้ำ
ที่สุด หินผลึกสีแดงโลหิตขนาดหลายจั้งเม็ดหนึ่งฟงอยูบนยอดสูงสุดของพระราชวัง
เปลงแสงโลหิตประหลาดเรืองรอง
หานลี่เห็นดังนี้ก็ตกตะลึงเล็กนอย!
หินผลึกที่ใหญโตเชนนี้ แทบจะทำใหหานลี่นึกถึงผลึกประหลาดที่อยูบนหอคอย
ผนึกวิญญาณในเมืองศักดิ์สิทธิ์ของเผาวิหคสวรรค ที่นั่นก็มีขนาดใหญมหึมาและดู
ลึกลับเชนกัน
ดูแลวบนนี้จะตองมีอาคมตองหามอะไรบางอยางที่รายกาจสุดๆ เปนแน
ชายชุดโลหิตพาหานลี่เหาะมาถึงริมทะเลสาบหินภูเขาไฟ คิดไมถึงวาลำแสง
หลีกหนีจะรอนลงตรงนี้ จากนั้นหนึ่งในชายชุดโลหิต ในแขนเสื้อเกิดเสียงดังกรุงกริ๊ง
ทันใดนั้นกระดิ่งสีเหลืองดามหนึ่งก็พวยพุงออกมา แลวรวงลงในมือของชายชุดโลหิต
เกิดแสงสีเหลืองสวางวาบ กระดิ่งพลันสงเสียงดังกระจางชัด!
เมื่อเสียงกระดิ่งเขาไปในสองหู หานลี่รูสึกเพียงจิตสัมผัสเริ่มเลือนราง ทั่วทั้งราง
ไรเรี่ยวแรงในพริบตา
หานลี่ตกตะลึงอยางหนัก รีบโคจรเคล็ดวิชาขับเคลื่อนภายในราง จิตสัมผัสจึง
คอยกลับมาชัดเจน
หานลี่รีบถอยหลังหนึ่งกาว สองตามองไปที่ชายชุดโลหิตสองคนที่อยูเบื้องหนา
แมวาเขาจะไมเชื่อวาอีกฝายจะลงมือกับเขาในที่แหงนี้อยางกะทันหัน แตความ
ระแวดระวังภายในใจก็ไมคลายลงแมแตนอย
ผลลัพธคือ หนึ่งในชายชุดโลหิตหันกลับมาอยางฉับพลัน มองหานลี่ดวยสายตา
เยือกเย็นทีหนึ่ง เห็นวาเขายังคงประคองสติไดอยู ก็เผยทาทีตกตะลึงในดวงตาออกมา
ปราดหนึ่ง และในตอนนี้ ภายในทะเลสาบหินภูเขาไฟเบื้องหนาพระ จูๆ หินภูเขาไฟ
หลอมละลายสีแดงฉานก็เกิดการโหมซัดสาดอยางรุนแรงขึ้นระลอกหนึ่ง เบื้องลางก็มี
อสูรมหึมารางยาวสิบจั้งตนหนึ่งปรากฏออกมา
รางของมันมีกระดอก คลายเตายักษ แตลำคอเรียวยาว มีศีรษะประหลาดสามหัว
รูปรางคลายกวางอูฐ ขณะเดียวกันบนหนามีเขาประหลาดสีแดงสดคลายปะการัง
งอกอยู
อสูรตนนี้ดูเหมือนจะถูกเสียงกระดิ่งเรียกออกมา เมื่อลอยขึ้นสูผิวทะเลสาบ ก็รีบ
แหวกวายหินภูเขาไฟที่หลอมละลายพุงตรงมาหาพวกหานลี่อยางรวดเร็ว
“นี่ก็คืออสูรเฝาประตูของขา อสูรเตาอเวจี อสูรตนนี้มีกายแหงวิญญาณอัคคีมา
ตั้งแตกำเนิด สามารถปลอยเพลิงสามชนิดพรอมกันได เมื่ออยูในพื้นที่ของวิญญาณ
อัคคีและหินภูเขาไฟแลว ทรงอานุภาพสุดๆ ขนาดตอนที่ขาเก็บมันมาเลี้ยง ยังตอง
เปลืองแรงไปมากโข แตหากคิดจะเขาไปในพระราชวังเพลิงโลหิตของขา ก็ตองผาน
อสูรตอนนี้กอน” ชายชุดโลหิตคนหนึ่งหัวเราะหึๆ แลวพูดกับหานลี่
“อาวุโสอิทธิฤทธิ์กวางใหญ ชนรุนหลังเลื่อมใสยิ่งนัก!”
หานลี่ไดยินคำนี้ พลันตอบกลับอยางฉับพลัน ครั้นเงยหนามองไปยังอากาศเหนือ
ทะเลสาบหินภูเขาไฟ ดวงตาก็เปลงแสงสีน้ำเงินวูบหนึ่ง พลันหนาเปลี่ยนสียกใหญ
ภายใตเนตรวิญญาณกระจางนั้น เห็นเพียงภายในอากาศเบื้องหนามีเส นไหม
ประหลาดโปรงแสงจำนวนนับไมถวนลอยอยูอยางหนาแนนและถี่ยิบ เมื่อผสมผสาน
เขาดวยกัน ก็ปกคลุมพื้นผิวของทะเลสาบไวเบื้องลางทั้งหมด
จุดบรรจบของเสนไหมเหลานี้มารวมกันที่บนหินผลึกมหึมาที่อยูบนยอดของ
พระราชวังกอนนั้น
หากมีคนที่ไมรูเบื้องลึกเบื้องหลัง บุกทะลวงจากกลางอากาศเขาไปในพื้นผิว
ทะเลาสาบ จุดจบจะเปนเชนไรก็พอจะนึกได
หานลี่มุมปากกระตุกเกร็งคราหนึ่ง พลันสูดลมหายใจเย็นเขาไปเฮือกหนึ่ง
ในตอนนี้ อสูรเตาอเวจีวายอยางคลองแคลวฉับไวมาถึงฝง หัวทั้งสามก็สงเสียง
รองมาทางชายชุดโลหิตสองคนอยางพรอมเพรียง คิดไมถึงวาจะเปนเสียงประหลาด
คลายกบรอง
ชายชุดโลหิตคนหนึ่งเห็นดังนี้ก็โบกมือคราหนึ่ง กอนกลมสีดำทมึนขนาดเทา
กำปนลูกหนึ่งก็พวยพุงออกไปพรอมสายลมเหม็นคาว
อสูรปศาจเหวี่ยงศีรษะหัวหนึ่งออกไปคราหนึ่ง ทันใดนั้นก็พนมานแสงสีแดง
ออกมา พันกอนกลมสีดำไวแลวกลืนลงไป
หัวทั้งสามพลันสงเสียงรองออกมาอีกสองสามที ดูเหมือนอสูรตนนี้จะพออกพอใจ
เปนอยางยิ่ง จากนั้นรางของมันก็หันกลับทีหนึ่ง หางหนาๆ ของมันก็ปกลงบนชายฝง
ชายชุดโลหิตสองคนเดินไปตามหางแลวขึ้นมาบนหลังของอสูรอยางไมรอนรน
พลันกลับหลังหัน ดวงตาสองคูก็จองมาทางหานลี่
หานลี่แอบถอนหายใจคราหนึ่ง พลันขยับรางพลิ้วไหวก็มาอยูบนหลังของอสูร
ชายชุดโลหิตคนหนึ่ง สงเสียงกระดิ่งดังกังวานอีกครั้ง อสูรเตาอัคคีก็รีบบรรทุก
สามคนวายไปยังพระราชวังเพลิงโลหิตที่อยูใจกลางทะเลสาบอยางรวดเร็ว
แม ว  า บ อ หิ น ภู เ ขาไฟจะไม ใ หญ ม าก อสู ร ป ศ าจก็ บ รรทุ ก ทั ้ ง สามคนมาถึ ง
หนาพระราชวัง
สามคนลอยขึ ้นสู อากาศอย างฉับ พลั น ทยานจากอากาศต่ำ มาถึ ง หนาประตู
พระราชวัง
สองขาของหานลี่เพิ่งจะลงถึงพื้น ประตูวังก็ยังปดสนิทอยูเหมือนเดิม แตทันใดนั้น
ประตูก็คอยๆ เปดออกจากขางในอยางชาๆ กอนที่จะมีคนสองกลุมเดินออกมาจาก
ขางใน
คนกลุมหนึ่งตลอดทั้งรางสวมเกราะและหมวกเหล็กสีแดง มือหนึ่งถึงถือขวานเพลิง
ดามหนึ่ง ทั่วทั้งรางถูกหุมดวยเปลวเพลิง อีกกลุมหนึ่งกลับเปนหมอกสีเทา ภายในนั้น
มีเงาสีดำแตละรางปรากฏผลุบๆ โผลๆ ดูเหมือนมือสองขางจะวางเปลา
หานลี่ใชจิตสัมผัสกวาดมองเบื้องหนารอบหนึ่ง บนรางของคนสองกลุมนี้มีกลิ่นอาย
ของชีวิตอยูลางๆ แตก็ไมเหมือนกับตัวตนที่คลายหุนเชิด
พอตัวตนแปลกประหลาดสองกลุมนี้เดินออกมา ก็ทำความเคารพชายชุดโลหิตทั้ง
สองในทันที
“เปดตำหนักเพลิงทมิฬ ขาจะตอนรับสหายหานอยางดีสักหนอย!” ชายชุดโลหิต
คนหนึ่งเดินขึ้นมาขางหนาหนึ่งกาว พลันกลาวกำชับดวยน้ำเสียงเย็น
เมื่อไดยินคำนี้ คนสองกลุมก็รีบทำงานอยางไมสงเสียงในทันที คนสวนใหญรีบ
กลับไปในประตูวัง อีกสวนหนึ่งกลับยืนแยกเปนสองแถวดวยทาทางเคารพนอบนอม
คนเหลานี้ตางก็ไมพูดไมจา คลายกับวาไมสามารถพูดได
หานลี่เห็นเชนนี้ ภายนอกไมไดมีสีหนาเปลี่ยนไป แตภายในกลับรูสึกตกตะลึง
พรึงเพริด!
ตอนที่ 1468 วิญญาณรับใช
ทวาในขณะที่หานลี่กำลังจองมองตัวตนที่แปลกประหลาดพวกนี้อยู ชายชุดโลหิต
คนหนึ่งก็พูดกับหานลี่โดยพลัน “ทำไมรึ สหายหานสนใจวิญญาณรับใชเหลานี้ของ ผู
เฒาหรือ?”
“วิ ญ ญาณรั บ ใช ? ชนรุ  นหลั ง หูต าแคบ เพิ ่ ง ได ย ิ น เป น ครั ้ง แรกจริ ง ๆ” หานลี่
ตกตะลึง พลันตอบกลับอยางซื่อตรง
“หึๆ สหายไมเคยไดยินก็ไมแปลก วิญญาณรับใชเหลานี้เดิมทีเปนครึ่งหุนเชิดชนิด
หนึ่งที่ผูเฒาหลอมขึ้นดวยวิธีเฉพาะตัว” ภายในน้ำเสียงของชายชุดโลหิตผูนั้นเผยถึง
ความภาคภูมิใจออกมา
“ครึ่งหุนเชิด? ตอไปชนรุนหลังตองเปดหูเปดตาสักหนอยแลว” หานลี่แสดง
สีหนาตื่นตะลึงปราดหนึ่ง พลันตอบกลับดวยน้ำเสียงเคารพนอบนอม
“สหายหานสนใจวิญญาณรับใชพวกนี้เปนอยางยิ่ง ดูทาจะรูจักวิชาหุนเชิดอยู
เหมือนกันสินะ ผูเฒาสามารถชี้แนะเจาไดบาง แตตอนนี้ควรไปที่ตำหนักเพลิงทมิฬกัน
กอนเถอะ!” ชายชุดโลหิตอีกคนหนึ่งนัยนตาเปลงแสงประหลาดวูบหนึ่ง แลวกลาว
ออกมาเชนนี้
หานลี่ยอมไมพูดตอบรับใดๆ เพียงแคพยักหนาตกลงเทานั้น
ดังนั้นทุกคนจึงพากันเดินเขาไปในพระราชวัง ประตูตำหนักพลันเปดออกเอง
อยางชาๆ สวนอสูรเตาอเวจีที่หยุดอยูหนาพระราชวังนั้น ก็ดำลงไปในทะเลสาบ
หินภูเขาไฟที่มันอยูดวยความสบายอกสบายใจอีกครั้ง
หลังจากผานไปหนึ่งถวยชา หานลี่กับชายชุดโลหิตสองคนก็มาปรากฏภายในโถง
ตำหนักแหงหนึ่งซึ่งมีพื้นที่รอยจั้งเศษ
ที่แหงนี้ไมวาจะเปนโตะเกาอี้หรือสิ่งของอื่นๆ ทั้งหมด ลวนหลอมมาจากหินหยก
ประหลาดสีดำแดงชนิดหนึ่ง เมื่อสัมผัสแลวใหความรูสึกรอนอบอาว แตเมื่อความรอน
นี้เจาะเขาไปในราง กลับกลายเปนความรูสึกหนาวเย็นแทน
เดี๋ยวรอยเดี๋ยวหนาว ชางมหัศจรรยยิ่งนัก
หานลี่สัมผัสไดถึงความแปลกประหลาดของเกาอี้หยกที่อยูเบื้องลาง ในใจก็แอบ
ชมเปาะดวยความตื่นตะลึง
ในตอนนี้ เขานั่งอยูขางหนึ่งของโถงตำหนัก สวนใจกลางของโถง ยอมเปนชายชุด
โลหิตสองคนที่นั่งเคียงบาดวยกัน
บนโตะสีดำแดงเบื้องหนาทั้งสามคนตางเต็มไปดวยสุรารสเลิศและผลประหลาด
จำนวนหนึ่ง แตละโตะมีเงาคนรางหนึ่งซึ่งมีหมอกสีชมพูปกคลุมคอยยืนปรนนิบัติรับใช
อยูดานหลัง
ทุกครั้งที่ดื่มสุราเสร็จ เงาคนก็จะเดินเขามาดวยทาทางเคารพนอบนอม รีบเติม
ถวยเหลาจนเต็มดวยความคลองแคลว
เงาคนภายในหมอกสีชมพูเหลานี้ไมเหมือนกับเงาคนภายในหมอกสีเทาเหลานั้น
ไมเพียงแตเงาแตละรางมีรูปรางออนแอนอรชร ภายในหมอกยังสงกลิ่นหอมออนๆ
ทำใหผูที่ดมกลิ่นรูสึกผอนคลายสบายใจ
ดวยระยะหางที่ใกลเชนนี้ หานลี่ยอมตองมองอยางประเมินวิญญาณรับใชเหลานี้
ตั้งแตหัวจรดเทาอยูหลายรอบเปนธรรมดา ใบหนาปรากฏอารมณคลายกับคาดคิดไว
แลวเปนพักๆ
“สหายหานมองออกถึงความลึกล้ำของวิญญาณรับใชหรือไม?” ชายชุดโลหิตคนหนึ่ง
ดื่มสุราวิญญาณในจอกจนหมด แลวเอยถามขึ้นมาดวยใบหนาคลายจะยิ้มแตไมยิ้ม
“ชนรุนหลังโงเขลา เพียงแคมองออกวาวิญญาณรับใชเหลานี้คลายวิญญาณแตไมใช
วิญญาณ คลายวัตถุแตไมใชวัตถุ สำหรับความมหัศจรรยลี้ลับนี้ไมอาจมองออกได”
หานลี่ยิ้มคราหนึ่งแลวตอบกลับ
“เปนสิ่งที่คลายวิญญาณแตไมใชวิญญาณ คลายวัตถุแตไมใชวัตถุดีๆ นั่นแหละ!
วิญญาณรับใชเหลานี้เรียกไดวาเปนวัตถุครึ่งวิญญาณชนิดหนึ่ง พฤติกรรมของพวกมัน
คลายกับคนปกติอยางไมมีผิดเพี้ยน แตรางของมันมีจิตวิญญาณบริสุทธิ์ และ
จิตวิญญาณดั้งเดิมอยู การกระทำในตอนนี้เปนแคการตอบรับตามธรรมชาติของจิตใต
สำนึกของพวกมัน และถูกขาใชประโยชนจากเคล็ดวิชาลับหุนเชิดเขามาเสริม การ
ควบคุมเทานั้น แตรางเดิมของพวกมัน คือวิญญาณสองชนิดที่ไมสามารถเป ด ใช
สติปญญาได ซึ่งขาพบในภูเขาเพลิงอเวจี จากนั้นจึงหลอมเขาไปในรางของหุนเชิดก็
เทานั้น” ชายชุดโลหิตคนหนึ่งยิ้มกลาว ในที่สุดก็อธิบายความเปนมาคราวๆ ของ
วิญญาณรับใชเหลานี้
“หลอมวิญญาณเขาภายในรางของหุนเชิด!” หานลี่ไดยินดังนี้ เผยสีหนาคอนขาง
ประทับใจออกมา แทบจะนึกถึงทารกปราณที่สองของตัวเองที่เคยยืมรางของหุนเชิด
เขาไปอาศัยขึ้นมาในทันที
“ไมผิด วิญญาณเหลานี้ยังไมกอรูปรางเปนจิตวิญญาณดั้งเดิมและจิตวิญญาณบริสุทธิ์
ดังนั้นจึงโอนออนผอนตามสุดๆ อีกทั้งยังมีแสนรู คำสั่งงายๆ บางอยางก็สามารถทำได
ไมมีผิดพลาด บวกกับตัวมันที่สามารถหลอมเปนหนึ่ งเดีย วกับรา งของหุ นเชิ ด ได
ความจริงแลวก็คือ วัตถุดิบชั้นเลิศที่ใชหลอมวิญญาณรับใช และดวยเหตุนี้ ผูเฒาถึงได
อาศัยอยูที่ภูเขาเพลิงโลหิตเปนเวลานานเชนนี้” ชายชุดโลหิตกลาว
“นี่ก็คือศาสตรแหงหุนเชิดที่อาวุโสเชี่ยวชาญ ไมเชนนั้นแมวาคนอื่นจะพบพวกมัน
ก็ไมอาจคิดถึงและเพลิงแพลงเคล็ดวิชาหุนเชิดมาโกหกได”
อยามองวาตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยพูดงายเลย แคความลำบากและยุงยากของ
การหลอมวิญญาณชนิดหนึ่งเขาไปในหุนเชิด ตัวเขาที่เชี่ยวชาญวิชาหุนเชิด ยอมรูถึง
ไสถึงพุงอยูแลว
ดังนั้นสองสามประโยคนี้ หานลี่พูดจริงดวยใจจริง
“หากสหายนอยชื่นชอบ ผูเฒาสามารถถายทอดเคล็ดวิชาลับ” หลอมวิญญาณ
เข า สู  ว ั ต ถุ “ให ส หายน อยได ” ชายชุ ด โลหิ ต สองคนคล า ยกั บ มองบางอย า งออก
ครั้นสบตากันคราหนึ่ง หนึ่งในนั้นก็พูดออกมาอยางราบเรียบ
“ข า น อยยั ง ไม เ คยทำประโยชน ใ ห อาวุ โสเลย จะกล า รั บ ความเมตตาง า ยๆ
ไดอยางไร” หานลี่คอนขางรูสึกเกินคาด พลันเผยสีหนาลังเล
“ฮาๆ ก็แควิชาจิ๊บจอยเทานั้น สหายนอยหานไมจำเปนตองเกรงใจเกินไป จะได
ทำสิ่งที่ชอบในหนึ่งเดือน ผูเฒามีหลายสิ่งที่ตองพึ่งพา ยังตองการใหสหายน อย
ชวยเหลืออยางเต็มกำลัง!” ชายชุดโลหิตคนหนึ่งกลาวดวยใบหนาแยมยิ้ม น้ำเสียงยิ่งดู
สุภาพขึ้นไปอีก
หานลี่โคจรความคิดอยางรวดเร็ว จำตองยืนขึ้นแลวกลาวขอบคุณ
“อาวุโสตี้เซวี่ย ชนรุนหลังมาถึงที่นี่แลว จำเปนตองชวยหลอมหุนเชิดอยางไร
สามารถบอกชนรุนหลั งไดหรือไม ” หานลี่นั่งลงอี กครั ้ง แลวถามดวยความลั ง เล
เล็กนอย
“เรื่องนี้ไมรีบรอน สหายนอยเพิ่งจะมาถึงพระราชวังเพลิงโลหิตเปนครั้งแรก
เชิญดื่มสุราอยางถึงอกถึงใจกอนเถอะ วันนี้ก็พักผอนดีๆ สักหนึ่งคืน พรุงนี้คอยคุยก็ยัง
ไมสาย” ชายชุดโลหิตโบกมือ คิดไมถึงวาจะไมยอมคุยเรื่องนี้ในตอนนี้
หานลี่หัวเราะขื่นๆ คราหนึ่ง จำตองนั่งลงแลวดื่มสุราวิญญาณอีกจอกตามที่พูด!
จูๆ เสียง “แปะๆ” ก็ดังขึ้นสองสามที หนึ่งในชายชุดโลหิตใชมือหนึ่งตบเบาๆ
หานลี่หนาเปลี่ยนสีเล็กนอย นอกประตูตำหนักมีเสียงฝเทาดังขึ้น ทันใดนั้น
กลิ่นหอมเตะจมูกก็โชยเขามา หญิงสาววัยเยาวใบหนาสะสวยทั้งสิบสองคนก็เดินเขา
มา แตละคนสวมชุดกระโปรงหาสี รูปรางออนแอนอรชร
“นี่คือ…”
หานลี่ใชสายตากวาดมองไปบนหมอกสีชมพูจางๆ ที่แผออกจากรางของหญิงสาว
เหลานี้ ใบหนาก็แสดงทาทีเขาใจอยางฉับพลัน
หญิงสาวเหลานี้เปนตัวตนแบบเดียวกับวิญญาณรับใชที่มีหมอกสีชมพูปกคลุมซึ่ง
ยืนอยูดานหลังอยางไมมีผิดเพี้ยน
เพียงแตหมอกสีชมพูบนรางของหญิงสาวเหลานี้เปลี่ยนเปนจางลง เผยใหเห็น
ใบหนาที่แทจริงชัดเจน
รางกายของพวกนางไมรูวาหลอมมาจากวัตถุดิบชนิดใด ไมวาจะเปนสีผิวหรือ
กิริยาทาทาง ลวนเหมือนกับหญิงสาวของเผาวิญญาณเหาะเหินทั่วไปทุกประการ
แมกระทั่งบนแผนหลังยังมีปกขนนกสีเขียวออนอยูหนึ่งคู
ภายใตแสงวิญญาณที่เปลงประกายภายในดวงตาหลายหน หานลี่มองไมออกถึง
เคล็ดวิชาลวงตาใดๆ ที่อำพรางบนรางของหญิงสาวเหลานี้ ที่แทก็คือรูปโฉมภายนอก
ที่แทจริงของพวกนาง
หุนเชิดที่เหมือนคนจริงราวกับแกะเชนนี้ หานลี่รูสึกคอนขางตกตะลึงพรึงเพริด
เมื่อกอนนี้หุนเชิดทารกปราณขั้นปลายที่แดนมนุษยของเขาสามารถตบตาคนอื่นได
ในดานหนึ่งเปนเพราะผิวหนังของหุนเชิดใชวัตถุดิบล้ำคาที่เรียกวา “หยกออนตะคอก
วิญญาณ” ซึ่งคลายกับผิวหนังคนราวกับแกะ บวกกับหุนเชิดทารกปราณขั้นสุดทายใน
ตอนนั้น เดิมทีคนทั่วไปก็ไมสามารถใชจิตสัมผัสมองทะลุได
ดังนั้นในยามที่เผชิญกับศัตรูจึงสามารถทำใหอีกฝายสติปญญาสับสนครั้งแลวครั้งเลา
ไมสามารถแยกแยะความแตกตางกับคนจริงๆ ได
แต ร  า งของวิ ญ ญาณรับ ใช เ หล านี ้ ไ ม ม ีท างเป น “หยกอ อนตะคอกวิ ญ ญาณ”
ได แมกระทั่งจิตสัมผัสที่เขาฝนปลอยออกไป หลังจากที่กวาดมองบนรางของหญิงสาว
พวกนี้แลว ก็ถูกปดออกจากรางอยางนาประหลาด
หานลี่ไมมองหญิงสาวเหลานี้ ก็อดไมไดที่จะลังเล
หากคิดจะดึงดันคนหาจุดที่วิญญาณรับใชเหลานี้ไมเหมือนคนปกติ ก็คือขณะที่
ดวงตาของหญิงสาวเหลานี้เปลงประกาย คอนขางเชื่องชาเล็กนอย ราวกับ ขาด
วิญญาณของคนปกติไปเล็กนอย
ขณะที่หานลี่แอบชมเปาะอยูในใจ ในตอนนั้นเอง ภายในตำหนักใหญทั้งสองขาง
ก็ถูกชายเยาวใหญที่มีหมอกจางๆ สีเทาปกคลุมกลุมหนึ่งปรากฏออกมาอยางชาๆ
แตละคนมีใบหนาหลอเหลา ในมือตางถือเครื่องดนตรีรูปรางประหลาด นั่งขัดสมาธิ
อยูบนพื้น
ครูตอมา เสียงเพลงอันไพเราะก็ดังขึ้นในตำหนักใหญ ทำใหผูที่ฟงรูสึกสบายอก
สบายใจ ขณะที่รางของหญิงสาวใบหนางดงามเหลานั้นพลิ้วไหว พลันเตนรำอยาง
ออนชอยตามเสียงดนตรีทามกลางตำหนักใหญ
เห็นเพียงหญิงสาวเหลานี้เอวบางพลิ้วไหว ชั่วขณะหนึ่ง อาภรณหาสีก็โบกพลิ้วไป
รอบๆ พรอมแผกลิ่นหอมประหลาดไปทุกหนทุกแหง
หานลี่นั่งตัวตรงไมขยับเขยื้อน ดูเหมือนจะถูกการเตนที่เต็มไปดวยลีลาอันหยาดเยิ้ม
ของหญิงสาวเหลานี้ สองตาหรี่ลงเล็กนอย จองเขม็งไมพูดจา
ชายชุดโลหิตสองคนที่นั่งอยูขางหนาเหลือบมองหานลี่สองสามที เห็นหานลี่มี
ทาทีคลายกำลังมัวเมาอยู สองคนก็หันมามองกันดวยดวงตาเปลงประกาย
หลังจากเวลาผานไปหนึ่งมื้ออาหาร เสียงดินตรีก็หยุดลง หญิงสาวทั้งสิบสองก็
หยุดการเตนรำแลวพากันยืนนิ่ง ไมขยับเขยื้อนอยูกับที่
“สหายนอยหาน เจารูสึกวาวิญญาณรับใชนางรำของผูเฒาเปนอยางไรบาง แมวา
พวกนางจะไมใชวิญญาณรับใชประเภทผูคุมกัน ทวาแตละตัวตางก็เชี่ยวชาญการ
เตนรำหายากถึงร อยแบบ ปนั้นผูเฒา หลอมขึ้ นดว ยความชื่ นชมไปชั่ ว ขณะ ตอง
สิ้นเปลืองเวลาไปพักหนึ่งจริงๆ” ชายชุดโลหิตคนหนึ่งพลันเอยถามดวยรอยยิ้ม
“ฝมือประณีตเหนือธรรมชาติจริงๆ ดูไมออกเลยวาตางจากคนจริงๆ อยางไร”
หานลี่ถอนหายใจเบาคราหนึ่ง พลันกลาวชม
“เหอะๆ ในเมื่อสหายนอยชอบของสิ่งนี้ ผูเฒาก็จะมอบวิญญาณรับใชนางรำ
สิบสองตัวพรอมกับวิญญาณรับใชนักดนตรียี่สิบสี่ตัวใหสหายนอย” ชายชุดโลหิต
กลาวดวยรอยยิ้มจางๆ
ฉับพลันภายในดวงตาที่ตกตะลึงของหานลี่ก็มองเห็นชายชุดโลหิตคนหนึ่งก็ชูมือ
ขางหนึ่ง ชี้ไปที่นางรักและนักดนตรีที่อยูสองฝงอยางตอเนื่อง
หลังจากเกิดเสียง “ปงๆ” ดังขึ้นหลายหน เสนไหมสีโลหิตจำนวนหลายเสนพลัน
พุงออกจากฝามือของชายชุดโลหิตสองคน ครูตอมาก็ทะลุรางของวิญญาณรับใช
ทั้งหมด
เมื่อเก็บเสนไหมสีโลหิตเขาไป วิญญาณรับใชทั้งหมดก็พากันลมระเนระนาดบนพื้น
ไมขยับเขยื้อนราวกับสิ่งที่ตายไปแลว
ในตอนนี้ ชายชุดโลหิตใชมืออีกขางหนึ่งตะปบลงบนพื้นอยางพลิ้วไหว
ทันใดนั้น ภายในมานแสงผืนหนึ่ง รางของวิญญาณรับใชเหลานี้หดเล็กลงในชั่วพริบตา
กลายเปนหุนไมขนาดประมาณชุนกวา จากนั้นก็ลอยขึ้นกลางอากาศแลวพุงมาทาง
หานลี่ กอนที่จะตกลงบนโตะที่อยูเบื้องหนาแลวเรียงกันเปนแถว
“สัญลักษณภายในรางของวิญญาณรับใชเหลานี้ถูกขาเก็บคืนแลว สหายนอย
เพี ย งแค ใ ช เ คล็ ด วิ ชาลั บ ที ่ ข  าให ไ ปหลอมขึ ้น มา ก็ ส ามารถควบคุ ม ได ดั ่ ง ใจแลว”
ชายชุดโลหิตหัวเราะเบาแลวกลาว
“อาวุ โสให ค  า ตอบแทนโดยไม ม ี ค วามดี ค วามชอบ ของขวั ญ มู ล ค า สู ง เช น นี้
ชนรุนหลังจะกลารับไดอยางไร!” หานลี่กมหนามองวิญญาณรับใชหุนไมที่อยูตรงหนา
อารมณก็เปลี่ยนเปนแปลกประหลาด รีบกลาวปฏิเสธอยางตอเนื่อง
“หึๆ ก็แคของเลนบางสวนเทานั้น ทำไมรึ หรือวาสหายนอยรูสึกวาของขวัญของ
ผูเฒาราคาถูกเกินไป ไมคูควรที่จะรับไว?” ชายชุดโลหิตคนหนึ่งสีหนามืดครึ้ม น้ำเสียง
ดูเยือกเย็นขึ้นมา
หานลี่ไดยินคำนี้ หนาก็เปลี่ยนสีเล็กนอย พลันผสานหมัดคารวะดวยรอยยิ้มเจื่อน
แลวกลาว “ในเมื่ออาวุโสเมตตาเชนนี้ ชนรุนหลังปฏิเสธก็เปนการไมเคารพแลว”
แขนเสื้อพลันสะบดลงบนโตะ ทันใดนั้นแสงสีเขียวพลันสวางวาบ วิญญาณรับใช
หุนไมทั้งหมดก็หายไปอยางไรรองรอย
“ฮาๆ ใชแลว นี่ก็คือเคล็ดวิชาลับในการหลอมวิญญาณรับใช วิธีหอมวิญญาณ
เขาสูวัตถุกับวิธีเรียกหลอมวิญญาณรับใชอยูในนี้หมดแลว กลางคืนสหายนอยสามารถ
นำกลับไปศึกษาดูกอนสักรอบ จากนี้จะมีประโยชนในการชวยผูเฒาหลอมหุนเชิดเปน
อย า งมาก” ชายชุ ด โลหิ ต พยั ก หน า ด ว ยความพึ ง พอใจ อี ก คนหนึ ่ ง พลั น โบกมื อ
กระบอกไมไผสีดำเปรอะก็พวยพุงออกไป
“ขอบพระคุณอาวุโสเปนอยางยิ่ง!”
ในเมื่ออีกฝายยืนกรานจะมอบให หานลี่ก็ไมเกรงใจอีกตอไปแลว หลังจากกลาว
ขอบคุณเสร็จ ก็ยื่นมือขางหนึ่งควาออกไป ของสิ่งนี้ก็ รวงลงกลางฝามืออยางชาๆ
ตอนที่ 1469 หุนเชิดโลหิตมวง
หานลี ่ พ ลั นเก็ บกระบอกไม ไ ผ ด ว ยการต อนรั บ อั น แสนจะอบอุ  น สุ ด ๆ ของ
ตัวประหลาดเฒาตี้ เ ซวี่ ย หานลี่จึงอยู ใ นตำหนั กเพลิ งทมิ ฬนี้ ต ออี ก เป น เวลากว า
ครึ่งชั่วยาม งานเลี้ยงจึงจะสิ้นสุด
จากนั้นดวยการนำทางของวิญญาณรับใชที่อยูขางหลังเขา ก็ถูกพามาพักผอนใน
หองสงบของตำหนักปกขาง
หานลี่ปดประตูบานใหญของหองสงบเสร็จ ทันทีที่พลิกฝามือก็หยิบธงเขตอาคม
ออกมาตั้งหนึ่ง ครั้นชูมือแลวโบกคราหนึ่ง ลำแสงสิบกวาสายก็พวยพุงออกมาแลว
หายไปในอากาศ มานแสงหาสีสลัวๆ หนึ่งชั้นพลันปรากฏขึ้นบนผนังกำแพงสี่ดานของ
หองสงบ
ตอนนี้หานลี่จึงคอยรูสึกโลงใจ พลันนั่งขัดสมาธิลงบนเสื่อกลมผืนหนึ่งที ่ อยู
กลางหองสงบ แลวหลับตาครุนคิดพิจารณา
ตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยปฏิบัติกับเขาอยางสุภาพในฐานะของราชาปศาจระดับ
ผสานอินทรียเชนนี้ ออกจะไมคอยปกติจริงๆ ทำใหเขารูสึกประหลาดใจ หรือวา
การชวยหลอมหุนเชิดนี้จะยากเย็นอยางเหลือหลาย ทำใหตัวประหลาดเฒามีความคิด
เชนนี้
หานลี่สายหัวเบาๆ รูสึกไมนาเปนไปได
ถึงแมวาอีกฝายจะไมทำเรื่องเหลานี้ ตนก็ไมกลาที่จะไมพยายามเต็มที่ อีกทั้งพูด
ในมุมกลับ นอกจากคนลึกลับนามวาลิ่วจูแลว ดูเหมือนมูชิงกับหญิงงามแซหลานที่มา
กับหยวนเหยาตางก็มีเจตนาคิดจะดึงเขาเปนพวกกันทั้งสิ้น
แมแตมูชิงยังไมคิดจะใหเขายุงเกี่ยวหญิงงามผมขาวเลย
ดูเหมือนนอกจากใหเขาทำลายอาคมตองหามแมน้ำอเวจีแลว ในนั้นจะตองมี
สาเหตุอื่นๆ อยางแนนอน อยางมากก็คงจะเกี่ยวของกับอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายที่
เขาครอบครองอยู
ขณะที่หานลี่โคจรความคิดอยางรวดเร็ว ครูหนึ่งก็แยกแยะความเกี่ยวพันในนี้ได
เจ็ดแปดสวนแลว
หลังจากผานไปพักหนึ่ง เขาก็ถอนหายใจเบาๆ คราหนึ่ง แลวหลับตาลงอีกครั้ง
แมจะไมรูวาราชาปศาจของเหวพสุธาเหลานี้คิดวางแผนอะไรกันอยู แตถาหาก
หนึ่งในนั้นยังรูจักบันยะบันยังอยู ความปลอดภัยของตนก็ยังไมตองกังวลชั่วคราว
หานลี่แววตาเปลงประกายสองสามหน พลันสั่นแขนเสื้อคราหนึ่ง หุนไมหลากสี
หลายสิบตัวก็พวยพุงออกมา แตละตัวตางหมุนวนอยูเบื้องหนา ลอยควางอยูกลาง
อากาศไมรวงลงมา
เมื่อใชมีขางหนึ่งควาไป มนุษยไมตัวหนึ่งก็รวงลงมาในมือโดยตรง
ดวงตาของเขาเปลงแสงสีน้ำเงินวาบหนึ่ง เริ่มตรวจสอบมนุษยไมเหลานี้อยาง
ละเอียด
บางทีอาจจะเปนเพราะระยะหางไกลจึงไมสามารถตรวจดูความมหัศจรรยล้ำลึก
ของหุนเชิดวิญญาณรับใชเหลานี้ไดชัดเจน แตในตอนนี้เมื่อใชมือสัมผัสดู และถาย
จิตสัมผัสผานทางหานิ้วซึมเขาไปในรางมนุษยไมโดยตรง กลับไมมีปญหาแมแตนอย
ครู  ต  อมา หานลี ่ โยนมนุ ษ ย ไ ม ท ี ่ อยู  ใ นมื อ ไปในอากาศด ว ยสี ห น า ประหลาด
พลันความนุษยไมอีกตัวหนึ่งมาไวในมือ
เพียงแคทำเชนนี้ซ้ำไปซ้ำมา! หลังจากเวลาผานไปหนึ่งเคอ หานลี่ก็ตรวจสอบ
มนุษยไมทั้งหมดไดหนึ่งรอบ
แม ว  า โครงสร า งเขตอาคมภายในมนุ ษ ย ไ ม จ ะลึ ก ล้ ำ และซั บ ซ อ นจนเกิ นไป
ดวยระดับของเขาในตอนนี้ยังไมสามารถมองอะไรออกไดในชั่วขณะ แตก็ไมเหมือนกับ
ถูกเลนลูกไมอะไร ยังคงทิ้งรองรอยไวใหอยู
แนนอนวาตรงจุดนี้หานลี่ยังไมสามารถแนใจไดทั้งหมด
ถึงอยางไรวิญญาณรับใชก็เกี่ยวของกับเคล็ดวิชาหุนเชิด เหนือกวาที่เขาเรียนมา
ในแดนมนุษยกอนหนาเปนอยางมาก
โชคดีที่ตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยนำวิธีการหลอมดังกลาวมอบใหเขาครบถวนสมบูรณ
เพียงแคเขาพากเพียรศึกษาเจาะลึกสักหนอย ก็สามารถเขาใจเคล็ดวิชาหุนเชิดนี้
ไดแลว
ถึงเวลามนุษยไมเหลานี้จะเปนปญหาจริงหรือไม ยอมรูไดอยางชัดเจน
ก อนที ่ จ ะถึง ตรงนี้ เขาจะไม ย อมใชของเหลา นี ้ และเก็ บ ไว อย างระมัดระวัง
เพื่อปองกันบางสิ่งที่เกินคาด
เมื่อในใจคิดเชนนี้ หานลี่ก็สะบัดกำไลเก็บของบนมือขางหนึ่ง ในมือก็ปรากฏ
ตลับไมสีทองออนออกมาหนึ่งใบ
พื้นผิวของตลับไมนี้มีลวดลายแปลกตา มีอักขระพลิ้วไหวอยูลางๆ ดูแลวไมใชของ
ธรรมดา
เมื่อหานลี่เปดฝาออก ก็กวักมือไปทางมนุษยไมที่ลอยอยูกลางอากาศอีกครั้ง
ทันใดนั้นมานแสงสีเขียวสายหนึ่งก็พวยพุงออกมาจากตลับไม มวนเก็บหุนไม
ทั้งหมดเขาไปในตลับสีทอง
ครั้นปดฝาตลับเสร็จ ก็พลิกมืออีกขางหนึ่ง ในมือของหานลี่ก็ปรากฏยันตหลากสี
ออกมาหลายแผน
แสงวิญญาณพลันสวางวาบ ยันตเหลานั้นก็ถูกติดซอนทับกันเปนกากบาทบน
ตลับไม เพื่อปดผนึกมันไว
หลังจากทำทั้งหมดนี้เสร็จสิ้น หานลี่จึงคอยรูสึกโลงใจไดอยางแทจริง พลันหยิบ
กระบอกไม ไ ผ ท ี ่ จ ดบั นทึ ก วิ ธ ี ก ารเรี ย กหลอมวิ ญ ญาณรั บ ใชออกมา ก อนที ่ จ ะใช
จิตสัมผัสแทรกซึมเขาไป แลวเริ่มเขาฌานศึกษาอยางละเอียด
เขาจมเขาไปในความล้ำลึกของเคล็ดวิชาลับใหมเอี่ยมนี้อยางรวดเร็ว
ขณะที่ประตูใหญมีเสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้นหลายหน หานลี่จึงคอยตื่นจาก
การเขาฌานอยางฉับพลัน นำกระบอกไมไผเก็บเขาไปในแขนเสื้ออยางไมเสียดายแลว
ยืนขึ้น
ประตูใหญพลันเปด ออก ดานนอกมีว ิญ ญาณรั บ ใชต ัว หนึ่ งที่ ถู ก ปกคลุ ม ด ว ย
หมอกสีเทายืนอยู
วิญญาณรับใชตัวนี้ไมสามารถพูดได แตมันชูมือขางหนึ่งขึ้น ชั่วพริบตาแสงโลหิต
ดวงหนึ่งก็ระเบิดออกภายในฝามือ เสียงของตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยก็ดังออกมา
อยางชาๆ
“สหายนอย โปรดตามวิญญาณรับใชนี้มารวมตัวที่โถงหลอมโลหิตเถิด พวกขาจะ
หารือเรื่องหลอมหุนเชิดอยางเปนทางการแลว”
แคประโยคสั้นๆ ประโยคเดียวเนี่ยนะ!
จากนั้นเสียงของตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยก็ขาดหายไป แสงโลหิตก็สลายหายไปใน
เวลาเดียวกัน
“นำทางไป!” หานลี่กลาวกำชับอยางไมเกรงใจ
วิญญาณรับใชโคงคำนับเล็กนอย พลันหมุนกายแลวเดินอยางพลิ้วไหว คิดไมถึง
วาขณะเดินจะพลิ้วไหวไรสุมเสียง เบาเหมือนไมมีวัตถุกายภาพ
หากเมื่อวานนี้ไมไดเปดหูเปดตาเคล็ดวิชาลับหุนเชิดของตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ย
บางทีหานลี่อาจจะยังสนใจสิ่งนี้อยู แตตอนนี้เพียงแคมองทีหนึ่ง ก็ไมมีอารมณใดๆ
แลว
หลังจากเวลาผานไปหนึ่งถวยชา หานลี่ก็มาปรากฏภายในพื้นที่ลับแหงหนึ่งซึ่งอยู
เบื้องลางของพระราชวังเพลิงโลหิต
เมื่อมองดูทุกอยางที่อยูรอบๆ ใบหนาของเขาก็เต็มไปดวยความตื่นตะลึงอยาง
หามไมอยู
สถานที่ที่มีชื่อวาโถงหลอมโลหิตแหงนี้ คิดไมถึงวาจะเปนโถงมหึมาที่หลอมมา
จากผลึกกอนหนึ่งที่ผาออกมาจากหินภูเขาไฟที่หลอมละลายใตพิภพ
กวางประมาณสามถึงสี่รอยจั้ง ผนังสี่ดานลวนเปลงแสงสีขาวจางๆ
และเมื ่ อมองออกไปนอกผนั ง ผลึ ก โปล ง แสงเหล า นี ้ ทุ ก หนทุ กแห ง ล ว นเป น
หินหลอมละลายสีแดงฉานที่โหมซัดสาด แตผนังผลึกนี้กลับไมสะเทือนแมแต นอย
ภายในโถงก็ไมรูสึกถึงความรอนอบอาวใดๆ
แตทั้งหมดนี้ยังไมทำใหหานลี่รูสึกตกตะลึง ที่ทำใหเขาถึงกับตาคางก็คือ ภายใน
หินหลอมละลายเบื้องลางโถงผลึกแหงนี้ มีหุนเชิดมหึมาราวกับขุนเขา รางสูงพันจั้ง
กำลังอาบหินภูเขาไฟหลอมละลายอยู
หุนเชิดตัวนี้รางของมันสวมเกราะศึกสีดำทมึน สองแขนยาวเลยเขา ผิวหนัง
เปลงแสงสีแดงมวงระยิบระยับ มีแผนเกล็ดขนาดเทาขอมือขึ้นตามผิวหนัง
แตเมื่อมองไปบนศีรษะของมัน หานลี่ก็รูสึกหนาวยะเยือกในใจอีกครั้ง
ศีรษะของหุนเชิดตัวนี้ไมเพียงแตมีเขาสีขาวงอกขางเดียว ยังมีปากเปนเสือและ
จมูกสิงโต คิดไมถึงวาบนหนาจะมีดวงตาโลหิตประหลาดสีดวง ตาสองดวงไมตางจาก
คนปกติ สวนอีกสองดวงโผลที่แกมสองขาง และยังมีตาอีกสองดวงปรากฏที่หลังศีรษะ
ดวงตาโลหิตเหลานี้ ทุกดวงที่อยูบนศีรษะตางกลอกไปมาอยางชาๆ แผแสง
เย็นยะเยือกอันนาสะพรึงออกมา ใหความรูสึกขนพองสยองเกลาอยางนาประหลาด
“นี่ก็คือหุนเชิดโลหิตมวงของอาวุโส แตดูเหมือนจะมีจิตวิญญาณแลว หรือวา
อาวุโสจะใชเคล็ดวิชาลับหลอมวิญญาณเขาสูรางกับมันแลว!” หลังจากมองดูหุนเชิด
มหึมาอยางละเอียดอยูนาน หานลี่จึงคอยสูดหายใจลึกแลวเอยปากขึ้น
“หึๆ ดูเหมือนเมื่อคืนนี้สหายนอยจะศึกษาเคล็ดวิชาลับหุนเชิดที่ผูเฒาใหไปจริงๆ
ไมผิด หุนเชิดโลหิตมวงตัวนี้ไดทำการหลอมวิญญาณเขาสูรางแลว ทวาภายในนั้นไมได
หลอมวิญญาณออนแอเหมือนกับวิญญาณรับใชลงไป แตเปนจิตแยกของตัวผูเฒาเอง”
ภายในโถงผลึ กปรากฏเพี ย งชายชุด โลหิต คนหนึ ่ ง เขามองเห็ นความตกตะลึ ง บน
ใบหนาของหานลี่ ก็หัวเราะประหลาดแลวกลาว
“ที่แทก็เปนเชนนี้ ชนรุนหลังก็รูสึกวาหุนเชิดที่นาตกตะลึงเชนนี้ วิญญาณทั่วไปไม
สามารถควบคุมไดตามใจนึก แตดวยจิตสัมผัสที่แกกลาของอาวุโส แมวาจะเปนเพียง
จิตแยกก็ไมมีปญหาอยางเด็ดขาด” ในที่สุดหานลี่ก็เคลื่อนสายตาออกจากหุ นเชิด
โลหิตมวง พลันกลาวดวยรอยยิ้มเจื่อน
“สหายนอยเคยเห็ นหุ นเชิด ตั วนี้ แล ว คงจะรูแลวสินะว าเพราะเหตุใดผู  เ ฒ า
จำเปนตองใหสหายอยูที่พระราชวังเพลิงโลหิตเปนเวลานานเชนนี้ ขาก็ไมไดตองการ
ใหสหายนอยทำเรื ่องอะไรอยา งอื่ น หรอก เพียงแตตองการใหส หายนอยกระตุ น
อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายบางสวนเขาไปในชุดเกราะนั้น จากนั้นขาก็จะทำการแกไข
เขตอาคมยันตที่อยูบนนั้นทุกเมื่อตามที่มีการเปลี่ยนแปลงของเทวะอัสนี ใน
กระบวนการนี้ จะเสียสมาธิไมไดแมแตเสี้ยวเดียว ไมเชนนั้นความสำเร็จกอนหนาก็จะ
ลมเหลวทั้งหมด” น้ำเสียงของตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยดูจริงจังขึ้นมา
“ขอรับ ชนรุนหลังจะเชื่อฟงคำสั่งทุกอยางของอาวุโส จะพยายามเต็มที่อยาง
แนนอน” หานลี่รูสึกใจหายวาบ พลันตกปากรับคำ
“ดีมาก สหายนอยวางใจ ผูเฒาจะไมใหเจาทำงานเปลาๆ หรอก หลังจากหลอม
หุนเชิดนี้เสร็จแลว นอกจากวิธีการหลอมวิญญาณรับใชกอนหนานี้แลว ผูเฒายังมีของ
บางสวนมอบใหสหายดวย” หลังจากตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยไดยินก็ดูเหมือนจะดีใจ
สุดๆ พลันยิ้มกวางแลวกลาวดวยความดีอกดีใจ
ฉับพลันก็เห็นชายชุดโลหิตตั้งทารายคาถามือหนึ่ง พลางกลาวคำรายจากปาก
ฉากที่คาดคิดไมถึงพลันปรากฏขึ้น
เห็นเพียงหุนเชิดมหึมาที่อยูเบื้องลาง จูๆ ศีรษะก็ขยับขึ้น ขณะที่ดวงตาโลหิตทั้ง
หกเปลงประกายพรอมกัน สองมือก็ตั้งทารายคาถาขึ้น ทันใดนั้นรอบกายก็ปลดปลอย
ลำแสงสีมวงออกมาหมื่นสาย
ทุกแหงที่ลำแสงสีมวงนี้พาดผาน หินหลอมละลายทั้งหมดก็พากันรนถอยในทันที
ชั่วพริบตาก็ปรากฏเขตแดนมหึมาสีมวงที่เบื้องลาง
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ที่ใตเทาของชายชุดโลหิตกับหานลี่มีแสงสีขาวสวางขึ้น
วาบหนึ่ง พื้นผลึกที่แข็งทนทานผิดปกติในตอนแรกก็สลายหายไปราวกับภาพลวงตา
ทันใดนั้นรางของทั้งสองก็รวงลงมายังเบื้องลาง
แมวาหานลี่จะคอนขางเกินคาด แตภายใตปกสองขางบนแผนหลังที่สั่นไหว
สภาพที่กำลังรวงลงมาก็เชื่องชาลงในทันที
สวนตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยกลับเปลงแสงโลหิตสวางพรางไปทั้งราง สภาพมั่นคง
ดั่งเขาไทซาน
รางของหานลี่เหาะลงมายังเบื้องลาง ชั่วพริบตาก็รวงลงบนที่สูงระดับเดียวกับ
ศี ร ษะของหุ  นเชิ ด โลหิ ต ม ว ง ขณะที ่ ผ  า นตาโลหิ ต ดวงหนึ ่ ง ของมั น ไป ตาดวงนี ้ ก็
เคลื่อนไหวอยางฉับพลัน ดวงตาสีโลหิตจองมองมาที่หานลี่
หานลี่รูสึกเย็นสันหลังวาบ รางพลันแข็งคาง ราวกับตลอดทั้งรางถูกปกคลุมดวย
พลังไรลักษณมหาศาล
ภายในชั่วพริบตา หานลี่ก็หนาเปลี่ยนสียกใหญ บนหนาผากผุดเหงื่อกาฬออกมา
แผงหนึ่ง
โชคดีที่ตาปศาจมหึมาจั้งกวาดวงนี้เพียงแคเปลงแสงประหลาดวูบหนึ่ง ก็ฟนคืนสู
สภาพปกติในทันที จองมองไปทางอื่น
ตอนนี้หานลี่จึงคอยโลงใจไปเปราะใหญ พลางซับเหงื่อที่อยูบนหนาผากเบาๆ
ในตอนนี้เขาเขาใจแลววา เหตุใดตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยถึงไดใหความสำคัญกับ
หุนเชิดตัวนี้เชนนี้
พลังของหุนเชิดโลหิตมวงตัวนี้ เกรงวาจะเหนือกวาตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยเอง
เสียอีก ไมเชนนั้นเพียงแคมองไปคงไมสงแรงกดดันอยางหนักใหเขาเชนนี้แน
เมื่อครูนี้เขาแทบคิดที่จะเปดใชเนตรอาคมสูญสลายเพื่อตานทานดวงตาอันนา
หวาดกลัวนั้นดวยความทนไมไหว
ยังดีที่สุดทายแลว ยั งมีเ คล็ ดวิชาขั บ เคลื่ อนสนั บสนุ น อยู  จึงพอถูไถทนไปได
เมื่อเห็นเชนนี้ หุนเชิดตัวนี้ไมเพียงรางกายมหึมาอยางหาที่เปรียบไมได ดูเหมือนใน
ดานพลังของจิตสัมผัสจะมีสิ่งที่ล้ำลึกอยูอีก
หานลี่ที่คอนขางตกตะลึงพรึงเพริดในใจจึงไมกลาอยูที่บริเวณใกลเคียงของศีรษะ
หุนเชิด รีบถลาลงมายังเบื้องลางอยางรวดเร็ว
เพียงชั่วครูเดียวก็มาถึงบริเวณหนาอกของหุนเชิดแลว
ชายชุดโลหิตรออยูตรงนั้นตั้งนานแลว!
หานลี่ใชสายตากวาดมองไปบนเกราะศึ กสีดำทมึน นี้ พลันตกตะลึงเล็ก น อย
ภายในดวงตาก็เผยความงุนงงออกมาเสี้ยวหนึ่ง
เมื่อเขาไปดูเ กราะศึก นี ้ใ กลๆ บนนั้นเรียบเนีย นราวกั บกระจก ไหนเลยจะมี
เขตอาคมยันต
“หรือวาตัวประหลาดเฒานี้คิดจะ…” หานลี่รูสึกระแวงในใจขึ้นมา
“น อ งหาน เนื ่ อ งจากจำเป น ต อ งได ร ั บ การสนั บ สนุ น จากอั ส นี เ ทวาป ด เป า
ภยันตรายของเจา ขาจะอธิบายวิธีจารึกเขตอาคมยันตบนชุดเกราะงายๆ ใหเจาฟง
จากนั้นในขณะที่เริ่มทำการจารึกเขตอาคมยันต เจาก็คอยสนับสนุนขาใสอัสนีเทวา
ปดเปาภยันตรายเขาไป สุดทายเมื่อเสร็จสิ้นแลว ขาจึงคอยปดผนึกพลังของเขต
อาคมยั นต ก ั บ อั ส นี เ ทวาป ด เป า ภยั น ตรายพร อมกั น ในระหว า งนั ้ น หากมี ส ิ ่ ง ใด
ไมเหมาะสม ขาก็จะคอยบอกเจาทุกเมื่อ” ตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยอธิบายคำที่หานลี่
คาดการณไวลวงหนาอยูแลว
ตอนที่ 1470 ยันตสองชนิด
ระหวางการกระตุนอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายเขาไปในเขตอาคมยันตโดยตรงกับ
กระตุนเขาไปในระหวางจารึกเขตอาคมยันตนั้น ยอมเปนเรื่องที่แตกตางกันอยาง
สิ้นเชิง
วิธีแรกนั้นทำไดงายมาก แตวิธีหลังจะตองสนับสนุนจารึกเขตอาคมยันตอยางเปน
ขั้นตอน จิตสัมผัสที่สูญเสียไปมากมายนั้นแคคิดก็พอจะรู หรือวานี่จะเปนสาเหตุที่
อีกฝายแสดงความเมตตากับเขาเชนนี้
แมวาหานลี่จะยัง ไม ค อยแน ใจ แตสีหนาบนใบหนาไมไ ดมี การเปลี ่ย นแปลง
พลันรับปากอยางเต็มคำ
เห็นหานลี่แสดงทาทีเคารพนอบนอมเชนนี้ ตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยก็พยักหนา
ดวยความพึงพอใจ
รางของตัวประหลาดเฒาตี้เซวี้ยพลันเคลื่อนไหว ทยานเฉียงขึ้นไปขางบนสองสามกาว
รางของเขาก็มาอยูที่ดานขางหนาอกของหุนเชิดอยางฉับพลัน
ครั้นสั่นแขนเสื้อคราหนึ่ง ขวดเล็กสีแดงออนใบหนึ่งก็พวยพุงออกมา
ตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยชูมือขึ้น ใชมือหนึ่งดีดขวดเล็กเบาๆ
ทันใดนั้นปากขวดก็เปดออกดวยตัวเอง ของเหลวสีมวกลุมหนึ่งพวยพุงออกมา
จากขางใน ครั้นหมุนวนรอบหนึ่ งก็ล อยควา งอยู กลางอากาศในบริ เวณใกล เ คี ย ง
พรอมเปลงแสงวิญญาณออนๆ
ทั่วทั้งรางของตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยคลุมดวยชุดคลุมยาวสีโลหิต แตภายใต
สายตาที่เครงขรึม คาถาภายในมือเปลี่ยนแปลงไมหยุด ลึกล้ำซับซอนเปนอยางยิ่ง
“สหายหานตองจับตาดู ใหล ะเอี ยดแลว! เคล็ดวิชาจารึกเขตอาคมยัน ต ช ุ ด นี้
สามารถเพิ่มความยอดเยี่ยมใหกับหุนเชิดไดมากมาย อีกเดี๋ยวขาจะอธิบายใหฟง
เล็ ก น อ ย จะมี โ อกาสเรี ย นรู  ค วามล้ ำ ลึ ก ได ม ากเท า ไหร ต อ งดู ท ี ่ ส ติ ป  ญ ญาของ
สหายนอยแลว หากสามารถเรียนรูไดมากหนอย ตอนที่ชวยสนับสนุนเขตอาคมยันต
ของผูเฒาก็จะสบายขึ้นมาบาง” จูๆ เสียงประหลาดก็ดังมาจากขางหลังของหานลี่
หานลี่ตกตะลึง พลันหันกลับไป จึงพบวาดานหลังไมรูวาชายชุดโลหิตอีกคนหนึ่ง
ปรากฏตัวออกมาตั้งแตเมื่อไหร
อีกฝายราวกับวาอยูตรงนั้นมาโดยตลอด แตเขากลับไมไดสังเกตถึงการมีอยูแมแตนอย
“ขอบคุณอาวุโสที่ถายทอดศาสตรแหงเขตอาคมยันต ชนรุนหลังจะตองตั้ งใจ
อยางแนนอน” หานลี่ผสานหมัดคารวะทีหนึ่ง แลวกลาวดวยความเคารพนอบนอม
ชายชุดโลหิตผูนี้กลับโบกมือ แสดงเจตนาใหหานลี่สนใจการกระทำของชายชุดโลหิต
อีกคนหนึ่ง
หานลี่มองไปขางหนาอีกครั้ง
เห็นเพียงชายชุดโลหิตอีกคนหนึ่ง มีหนึ่งตั้งทารายคาถา สวนอีกมือหนึ่งเหวี่ยงไป
ทางของเหลวสีมว งกลางอากาศสองสามที
“ปง!” ของเหลวสีมวงแตกออกมาเปนชิ้นเล็กๆ ชิ้นหนึ่งแลวระเบิดอยางฉับพลัน
กลายเปนอักขระขนาดเทากำปนทยอยพุงไปยังเกราะศึกมหึมาทีละตัวๆ
แสงวิญญาณพลันสวางวาบ อักขระแตละตัวก็พากันจมเขาไปในเกราะศึกอยาง
ไรรองรอย แตฉับพลันก็สงเสียงเพรียกเบาๆ ขึ้นเปนระลอกๆ แลวปรากฏออกมาบน
พื้นผิวของเกราะศึกอีกครั้ง
หลายนิ้วของชายชุดโลหิตโยกไหวอยางรุนแรงราวกับหนักเกินพันชั่ง อักขระ
เหลานี้ก็เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงและรวมกลุมขึ้นใหม ชั่วพริบตาก็กลายเปนเขตอาคม
ยันตสีมวงขนาดยอมๆ ประมาณจั้งกวาอยางนาอัศจรรย
อักขระบางสวนที่อยูภายในมีการเปลี่ยนแปลงไมหยุด ราวกับวายังกอรูปรางไมเสร็จ
ขณะที่หานลี่มองดูจนเคลิบเคลิ้ม ชายชุดโลหิตที่อยูขางๆ ก็เอยปากอธิบายขึ้น
“เขตอาคมยันตนี้เรียกวา” จารึกทองคำ “ประโยชนใชสอยอื่นๆ ไมมี แตสามารถทำ
ใหเกราะศึกแข็งแรงทนทานเปนอยางยิ่ง พอที่จะปองกันการโจมตีของศาสตราอาคม
ทั่วไปไดโดยที่ไมไดรับความเสียหายแมแตนอย เขตอาคมยันตแบงออกเปนสามชั้น
ชั้นที่หนึ่งคือ…”
ระดับความรูในดานเคล็ดวิชาหุน เชิดและศาสตรของเขตอาคมของหานลี่น้ันก็ไมนอย
เชนกัน ขณะที่เฝาดูกระบวนการจารึกเขตอาคมยันตของตัวประหลาดเฒาตี้เ ซวี่ย
พลางฟงตัวประหลาดเฒาอีกคนหนึ่งอธิบายคราวๆ แววตาก็เปลงประกายไมหยุด
โอกาสที่ไดฟงตัวตนระดับผสานอินทรียถายทอดและสาธิตดวยตัวเองเช นนี้
ยอมหาไดยากสุดๆ
แมวาอีกฝายแคอธิบายอยางผิวเผินมาก แตก็ทำใหปญหาดานเขตอาคมและ
หุนเชิดที่รุมลอมกอกวนหานลี่เปนเวลานานในตอนแรกกระจางชางในบัดดล
เพียงเวลาชั่วหนึ่งมื้ออาหาร เขตอาคมยันตของตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยก็สำเร็จ
ไปกวาครึ่ง และเริ่มเปนรูปรางที่แนนอนขึ้นมาแลว
“สหายนอย ตอนนี้เจาแค กระตุ  นอัสนีเทาวาป ดเป าภยัน ตรายเขา ไปข า งใน
จุดตายชั้นสุดทายของเขตอาคมยันตก็ไดแลว” ชายชุดโลหิตที่อยูกับหานลี่พูดเรงเรา
น้ำเสียงขรึม
แมวาเสียงไมดัง แตเมื่อเขาไปในหูหานลี่ก็ทำใหเขาตื่นจากการเขาฌานในทันที
เขาเหาะไปโดยไมพูดจา
หานลี่ถูมือสองขางคราหนึ่ง พลันเกิดเสียงฟารองดังเกริกกอง ประกายอัสนีสีทอง
แตละสายก็พวยพุงออกมา แสงอัสนีอันนาตื่นตะลึงก็ทำใหบริเวณรอบๆ สะทอนแสง
สีทองแวววาวขึน้ มา
ชายชุดโลหิตที่อยูขางๆ หานลี่จองมองประกายสายฟาสีทองที่อยูในมือหานลี่
ดวงตาพลันเปลงประกายประหลาดปราดหนึ่ง แตชั่วพริบตาก็หายไป
หนึ่งเดือนใหหลัง รางของหานลี่ก็มาปรากฏอยูในหองสงบภายในถ้ำแกนพฤกษา
อีกครั้ง
เขากำลังนั่งขัดสมาธิอยูบนเบาะกลม สองมือหยิบปายหยกสีขาวใบหนึ่งที่อยูในมือ
ขึ้นมาดูดวยสีหนาลังเล
ในระยะเวลาหนึ่งเดือนกวานี้ เขาแทบจะอาศัยอยูขางๆ หุนเชิดมหึมาเบื้องลาง
พระราชวังโลหิตเพลิงทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดก็ชวยตัวประหลาดเฒาหลอมเสร็จอยาง
ฉิวเฉียด
เมื่อถึงเวลา มูชิงก็มาหาที่พระราชวังเพลิงโลหิตอยางไมขาดไปแมแตวันเดียว
จริงๆ แลวพาตัวเขากลับไป
จะวาไปแลว แมวาในชวงเวลานี้จะใชอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายกระตุนพลังเขา
ไปในเขตอาคมยันตตลอดทั้งวันทั้งคืน จนทำใหเขาสูญเสียจิตสัมผัสเปนจำนวนมาก
แตหานลี่ก็ไมรูวาตนมีเรื่องใดที่เสียเปรียบ
อย า งอื ่ นไม ต  องพู ด ถึ ง เพี ย งแค ว ิ ธ ี ก ารหลอมวิ ญ ญาณรั บ ใช ก ั บ ศาสตร แ ห ง
เขตอาคมยันตที่ไดฟงตัวประหลาดเฒาบรรยายในภายหลังก็ทำใหเขาไดรับประโยชน
ไมนอยแลว
โดยเฉพาะตอนที่จะไป ตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยยังมอบยาวิเศษหายากจำนวนหนึ่ง
และวัตถุดิบหุนเชิดที่มีอยูในเหวพสุธาอีกชุดหนึ่งดวย
แมจะรูวาอีกฝายอาจจะมีจุดประสงคอื่น แตก็ทำใหเขารูสึกพึงพอใจแลว
ทวาสิ่งที่หานลี่ครุนคิดในตอนนี้กลับไมใชเรื่องนี้ แตเปนชิ้นสวนปกนอกของตำราหยก
พระราชวังทองคำแผนนี้
บนปกนอกนี้ไดบันทึกเกี่ยวกับยันตที่ทรงอานุภาพสุดๆ หลายชนิด
ยันตชำระพิสุทธิ์ที่เปนหนึ่งในนั้น เขาไดเขาฌานเรียนรูแลว แมกระทั่งยังมีติดตัว
อยูหลายแผน
อี ก สามชนิ ด ที ่ เ หลื อ แบ ง เป น “ยั น ต เก า วิ ม านสวรรค ” สำหรั บ กั ก ขั ง ศั ต รู
“ยันตขวานนภา” ประเภทโจมตี และ “ยันตเกราะปราณ” ซึ่งเปนยันตหุนเชิดเงา
ที่อานุภาพแข็งแกรงที่สุดในนั้นคือ “ยันตขวานนภา” จนถึงตอนนี้หานลี่ก็ยังไมรู
วาจะทำอยางไรกับมัน จึงไดแตเก็บไวอยูตลอด
สวน “ยันตเกาวิมานสวรรค” กับ “ยันตเกราะปราณ” ดวยการเขาฌานเรียนรู
อยางตั้งอกตั้งใจในชวงหลายปมานี้ จากตอนแรกที่เขาใจอยูแลวเจ็ดแปดสวน ก็เหลือ
เพียงจุดสำคัญเทานั้นที่ยังมองไมทะลุประโปรง
แตกอนหนานี้ จากการที่ตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ย บุคคลที่เรียกไดวาเปนบรรพจารย
ผูนี้ชี้แนะเรื่องศาสตรของหุนเชิดกับเขตอาคมเปนเวลาหนึ่งเดือนกวา บวกกับหลายวัน
มานี้ไดพากเพียรศึกษาคนควาเคล็ดวิชาเรียกหลอมวิญญาณรับใชในหองสงบ ในที่สุด
ก็ทำใหเขาทะลวงจุดหนึ่งในปญหาหลายขอนี้ สามารถหลอมยันตสองชนิดนี้ไดแลว
วัตถุดิบที่จำเปนสำหรับยันตสองชนิดนี้ยอมหายากเปนอยางยิ่ง แตโชคดีที่ไมใช
ของมีราคาที่ขาดตลาด ตอนที่เขาอยูในเหวนภา ไดรวบรวมวัตถุของยันตสองชนิดไว
จำนวนมาก
ตอนนี้สามารถทดสอบไดโดยตรงแลว
เดิมทีการหลอมยันตชนิดนี้ ยังตองศึกษามากอีกหนอย และหลังจากปฏิบัติจริง
บางสวนแลว จึงจะสามารถใชวัตถุหายากพวกนั้นหลอมอยางเปนทางการ
แตภายใตราชาปศาจระดับผสานอินทรียหลายคนที่จองตาเปนมันเหลานี้ ไมวา
อยางไรเขาก็ไมมีเวลาจะยืดเยื้อตอไปได
แม ว  า ตอนนี้ ด ู แ ล ว น า จะปลอดภั ย เป น เวลาหลายป เพราะอั ส นี เทวาป ด เป า
ภยันตรายของเขา แตใครจะรูวาราชาปศาจเหลานี้จะเปลี่ยนความคิดอยางกะทันหัน
เพราะสาเหตุอื่นหรือไม
ตั้งแตที่หานลี่เริ่มฝกฝนมา เขาพึ่งพาพลังของตัวเองทั้งหมดในการทยานขึ้นมาสู
แดนวิญญาณ ถึงไดมีพลังยุทธอยางทุกวันนี้ ยอมไมมีทางนำโอกาสในชีวิตทั้งหมดมอบ
ใหผูอื่นอยางแนนอน
พยายามหลอมยันตสองชนิดนี้ใหเร็วที่สุด ยอมเปนการเพิ่มวิธีรักษาชีวิตขึ้นมา
สองสามวิธี
ผานไปพักใหญสีหนาที่ดูไมสงบของหานลี่จึงคอยฟนคืนกลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง
เขาหลับตาลงอยางชาๆ ใชจิตสัมผัสแทรกซึมเขาไปในปายหยก อานเคล็ดวิชาลับ
ของยันตสองชนิดนี้ตั้งแตตนจนจบอีกหนึ่งรอบ หลังจากผานไปครูหนึ่ง เมื่อแนใจแลว
วาไมมีปญหาอะไรจริงๆ เขาจึงคอยลืมตาขึ้นอีกครั้ง!
ขอมือขางหนึ่งพลันสั่นไหวกลางอากาศ เกิดแสงวิญญาณเปลงประกายวิบ วับ
ลำแสงสีเขียวดวงหนึ่งพลันพวยพุงออกมา แลวหมุนโคจรกลางอากาศต่ำไมหยุด
ที่แทก็คือกำลังเก็บของของหานลี่
หานลี่ใชนิ้วแตะไปที่ของสิ่งนี้อยางรวดเร็ว
“พรึ่บ!” มานแสงสีเขียวพลันกวาดออก ขาวของจำพวกขวดและกระปุกหลายสิบชิ้น
กับกลองหยกและตลับไมจำนวนหนึ่งก็ปรากฏอยูบนพื้น
พลันถือโอกาสตะปบลงบนกลองไมสีขาวที่อยูในนั้น
ฝากลองหมุนคราหนึ่ง วัตถุสีเงินแวววาวชิ้นหนึ่งก็พวยพุงออกมา
หานลี่งอนิ้วทั้งหาอีกครั้ง ทันใดนั้นสมบัติชิ้นนี้ก็พุงมาอยูตรงหนาแลวหยุดลง
คิดไมถึงวาจะเปนหนังอสูรงามละเอียดออนชิ้นหนึ่งที่พื้นผิวเรียบลื่นราวกับผาแพร
หนังชิ้นนี้ไมเพียงแตเปลงแสงสีเงินแวววาว พื้นผิวของมันยังมีลวดลายธรรมชาติที่
คลายกับอักขระขนาดเล็กใหญคละกัน ดูแลวสวยสดงดงามเปนอยางยิ่ง
นี่ก็คือวัตถุดิบที่ดีที่สุดในการหลอมหุนเชิดเงา เปนหนังอสูรของอสูรโบราณ
หายากชนิดหนึ่งที่เรียกวาอสูรวายุอัคคี
อสูรโบราณชนิดนี้ไมเพียงแตเชี่ยวชาญอิทธิฤทธิ์วายุอัคคีสองชนิด แมกระทั่งพลัง
ของมันก็ยังเทียบไดกับตัวตนระดับเทพแปลง ยิ่งกวานั้นเปนเพราะชื่นชอบอากาศ
หนาวเย็นและนอนหลับ จึงนอนหลับในบึงที่ชื้นและมืดเปนเวลานานไมยอมตื่น มีแค
เวลาที่ออกลาเหยื่อหาอาหารเทานั้น จึงจะมีคนพบเห็นรองรอยของมันเปนครั้งคราว
ยันตหุนเชิดเงาที่ใชหนังอสูรนี้หลอมขึ้นมานั้น ไมเพียงแตสามารถเพิ่มอัตราสำเร็จ
ยังสามารถทำใหอานุภาพของยันตเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งสวนดวย ดังนั้นความสูงของมูลคา
แคคิดดูก็รู
ในตอนแรกหานลี่เองก็สิ้นเปลืองแรงไปมาก จึงจะสามารถใชยาวิญญาณหมื่นป
มาแลกไดหลายแผนในรานวัตถุดิบที่ไมเล็กแหงหนึ่งในเมืองเหวนภา
สิ่งที่หานลี่คิดจะเริ่มหลอมเปนอันดับแรกก็คือยันตเกราะปราณ
ยันตชนิดนี้ก็เหมือนกับยันตหุน เชิดเงาอื่ นๆ เมื่อเรียกออกมาก็จะกลายเป น
หุ  นเชิ ด เงาตั ว หนึ ่ ง สามารถลอกเลี ย นแบบพลั ง ยุ ท ธ แ ละอิ ท ธิ ฤ ทธิ ์ บ างส ว นของ
ผูควบคุมได สำหรับประสิทธิภาพจะมากจะนอยนั้น ก็ตองดูที่ระดับของยันตที่หลอม
กับพลังยุทธของผูควบคุม
ทวายันตหุนเชิดเงาทั่วไปนั้น ทำไดเพียงลอกเลียนแบบพลังสองสวนถึงหาสวน
และอิทธิฤทธิ์ระดับต่ำสุดๆ ของผูควบคุมเทานั้น ยันตหุนเชิดเงาสมบูรณที่สามารถ
ลอกเลียนพลังไดทั้งหมดในคำร่ำลือนั้น ไดยินวามีเพียงดินแดนวิญญาณสวรรคของ
เผามนุษยเทานั้นที่มี แตก็ไมเคยมีใครเห็นมากอน
แนนอนวาการลอกเลียนแบบของยันตหุนเชิดเงาเหลานี้ไมไดไรขีดจำกัด มี
ประโยชนแคสำหรับผูบำเพ็ญเพียรระดับหลอมสูญขั้นตนและระดับต่ำลงมาเทานั้นอีก
ทั้งยังเปนยันตที่ใชครั้งเดียว เมื่ออานุภาพถูกใชหมดแลว หุนเชิดเงาก็จะหายไปเชนกัน
สวนยันตเกราะปราณของหานลี่ที่มาจากปกนอกของตำราพระราชวังทองคำแผนนี้
อานุภาพยอมไมมีทางที่ยันตหุนเชิดเงาเหลานั้นจะเทียบได
ยันตเกราะปราณนี้ดูจากระดับของผูที่หลอม หุนเชิดเงาไมเพียงแตสามารถ
ชวยเหลือผูควบคุมดวยพลังเจ็ดถึงแปดสวนขึ้นไปและมีอิทธิฤทธิ์กวาครึ่ง แตยัง
สามารถลอกเลียนแบบผูบำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรียขั้นตนและระดับต่ำลงมาได
อีกดวย
เมื่อเปนเชนนี้ ยันตเกราะปราณจึงล้ำคาอยางเห็นไดชัด
แนนอนวาดวยเหตุนี้ ไมวาจะเปนวัตถุดิบที่ใชและวิธีการหลอมนั้น ยันตชนิดนี้
ล ว นเหนื อ กว า ยั น ต ห ุ  น เชิ ด เงาทั ่ ว ไปอย า งไม อ าจเที ย บได หากไม ใ ช เ พราะเขา
ครอบครองเพลิงสวรรคกลืนวิญญาณ เพลิงแทที่คลอบคลุมพลังขั้วรอนและขั้วเย็น
ชนิดนี้ แมวาจะเขาใจวิธีการหลอมทั้งหมดแลว แตก็ยังหลอมไมงายอยูดี
หานลี่จองเขม็งหนังอสูรที่อยูตรงหนา พลันเก็บความคิดในใจตางๆ นานาออกไป
แลวอาปาก
“พึ่บ!” ลูกไฟสีเงินแวววาวลูกหนึ่งถูกพนออกมา
ที่แทก็คือ เพลิงสวรรคกลืนวิญญาณที่เชื่อมวิญญาณแลว
ภายในเพลิงสีเงินเปลงเสียงนกรองดังกระจางใส ฉับพลันก็กลายเปนวิหคเพลิง
ขนาดใหญฉื่อกวาตัวหนึ่ง กางปกสองขางแลวบินวนรอบหนังอสูรไมหยุดนิ่ง
หานลี่เห็นดังนี้ ก็แอบรายคาถาในใจคราหนึ่ง
ทันใดนั้นวิหคเพลิงสีเงินก็เริงระบำสองสามรอบ กอนที่จะพุงกระโจนเขาใสหนังอสูร
“ฟูว!” เพลิงสีเงินหอหุมหนังอสูรไวภายในอยางดุดัน
ทวาหนังอสูรที่อยูทามกลางเพลิงที่ลุกมอดไหมนี้กลับไมถูกเผาทำลาย มิหนำซ้ำ
ลวดลายคลายอักขระบนพื้นผิวเหลานั้นยังเลื้อยขยุกขยิกขึ้นมาทามกลางแสงสีเงิน
ราวกับทั้งหมดมีชีวิตขึ้นมา
เห็นไดชัดวาสถานการณนี้ลึกลับเปนอยางยิ่ง!
ตอนที่ 1471 เคล็ดวิชาเรียกอัสนี
หลายวันตอมา ประตูใหญของหองสงบพลันเปดออก หานลี่ที่เก็บตัวอยูในนั้นเปน
เวลาหกวันก็เดินออกมา แมวาใบหนาจะปรากฏสีหนาออนลา แตรอยยิ้มเล็กๆ ใน
ดวงตากลับไมอาจปดบังได ดูเหมือนการหลอมยันตในหลายวันนี้จะประสบผลสำเร็จ
เปนอยางมาก
วันนี้ไมใชวันที่มูชิงถายทอดหลักแหงการควบคุมอัสนี หานลี่เดินออกมาเพียงแค
อยากจะผอนคลายประสาทที่ตรึงเครียดอยูตลอดเทานั้น ถึงอยางไรการผอนคลายก็
เปนวิธีที่ดีสำหรับการฟนฟูรางกายและจิตใจอยางแทจริง
พื้นที่ของถ้ำแกนพฤกษาไมไดเล็กไปกวาพระราชวังเพลิงโลหิตสักเทาไหร หานลี่
เดินชาๆ ไปยังสวนดอกไมที่อยูดานหนาหองสงบ แลวเดินเตรไปยังทุกหนทุก แหง
ภายในถ้ำ
ครึ่งชั่วยามตอมา หานลี่มาปรากฏตัวที่ประตูขางบานหนึ่ง มองดูลำแสงสีเขียว
มรกตที่เปลงประกายระยิบระยับอยูบนประตูไมหยุด ก็รูสึกอดไมไดที่จะลังเลขึ้นมา
สถานที่สวนใหญของถ้ำแกนพฤกษานั้นเขาเคยเดินมาแลวหลายรอบ
ทวามีสถานที่ที่วางอาคมไวหลายจุด กลับไมสามารถมองเห็นตนสายปลายเหตุไดเลย
โดยเฉพาะสองแหงที่มีการวางอาคมตองหามอยางหนาแนน ทำใหหานลี่มองแลว
เกิดความหวาดกลัวและรูสึกสงสัยยิ่งนัก
ลานดานขางแหงหนึ่งที่เรียกวา “สวนเพลงมรกต” ก็คือหนึ่งในนั้น
ทวาทะลุอาคมตองหามที่หนาแนนนี้เขาไปนั้นเผยใหเห็นปราณวิญญาณพฤกษา
บริสุทธิ์เสี้ยวเล็กๆ ทำใหเขาเดาไดแปดเกาสวนวาที่นี่คือสวนสมุนไพรแหงหนึ่ง
ยาวิญญาณที่แมแตมูชิงซึ่งเปนถึงราชาปศาจระดับผสานอินทรียยังใหความสำคัญ
หรือวาจะเปนบุปผาวิญญาณหรือผลวิญญาณชนิดใดกัน?
ขณะที่หานลี่ครุนคิดอยูก็เกิดรูสึกสงสัยเปนอยางมาก
ทวาเมื่อนึกถึงคำพูดที่เหมือนเปนการเตือนอยางไมหนักหนาอะไรของมูชิง หานลี่
ก็หัวเราะขื่นๆ ในใจครูหนึ่ง ทายที่สุดก็ตองลมเลิกความคิดนี้
อาคมตองหามของที่นี่หนาแนนเชนนี้ มูชิงจะไมใสใจที่นี่เปนพิเศษไดอยางไร
อยามองวาตอนนี้รอบๆ วางเปลาไรผูคนเลย ตนอยูภายใตสถานการณที่ไมแนวา
จะถูกจับตามองอยูหรือไม จะสามารถทำอะไรเล็กๆ นอยๆ ไดอยางไร
หานลี่แอบสายหนา พลันเอามือไพลหลังแลวเดินไปยังทิศทางอื่น
เขาไมไดเดินเตรไปทางอื่นนานนัก หนึ่งชั่วยามตอมาก็กลับมายังหองสงบของ
ตัวเองดวยสีหนาผอนคลายแลว

ภายในคอนปตอมา หานลี่ยังคงใชชีวิตอยางจืดชืดวันแลววันเลา
ไมรูวาเปนเพราะในดานหลักแหงอัสนีนั้น เขามีพรสวรรคเหนือผูคนหรือเปน
เพราะเคล็ดวิชาควบคุมอัสนีที่คาดไมถึงวาคนอยางมูชิงจะถายทอดดวยความลำบาก
เชนนั้น ภายในระยะเวลาอันสั้นนี้ คิดไมถึงวาหานลี่จะเขาใจเคล็ดวิชานี้ไดถึงแปดเกา
สวนแลว เหลือเพียงปญหาเรื่องความคลองแคลวที่เพิ่มเขามา
มูชิงเห็นดังนี้ก็ดีใจเปนอยางยิ่ ง ระยะเวลาสองปใกลจะถึงเวลาแลว จึงเชิญ
พวกลิ่วจูและหญิงงามมารวมตัวที่วิหารเซียนพฤกษาอีกครั้ง
สามวันตอมา หานลี่มาพบราชาปศาจทั้งเหลานี้ในวิหารเซียนพฤกษาอีกครั้ง
แตครั้งนี้หยวนเหยากับเหยียนลี่ไมไดมาดวย ใหความคิดที่ยังลงเหลือในใจเขา
รูสึกคอนขางผิดหวัง
ตัวประหลาดเฒาตี้เซวี่ยยังคงมาในสภาพชายชุดโลหิตสองคนเดินเคียงกันมาซึ่ง
ทำใหแยกแยะจริงเท็จไมออก
“อะไรนะ สหายหานเขาใจและพลิกแพลงเคล็ดวิชาเรียกอัสนีของอัสนีเทวาปด
เปาภยันตรายไดแลว นองมู เจาคงไมโกหกหลอกหลวงกันกระมัง” หญิงงามผมขาว
พูดดวยความตกตะลึง พรอมกับแสดงสีหนาไมเชื่อ
ตัวนางในตอนนี้นั่งอยูลำพังที่ดานหนึ่งภายในวิหารใหญ
“เรื่องนี้สำคัญยิ่ง นองสาวจะโกหกหลอกลวงไดอยางไร พูดตามจริง ที่สหายหาน
สามารถเขาใจเคล็ดวิชาเรียกอัสนีซึ่งเปนหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดของเคล็ดวิชาควบคุม
อัสนีไดเร็วเชนนี้ แมแตนองสาวเองก็รูสึกตกตะลึงจริงๆ ภายหลังนองสาวจึงไดรูวา
ที่แทสหายหานก็ใชสมบัติไผอัสนีทองมาทำเปนศาสตราอาคมประจำกาย หากเปน
เชนนี้ สามารถควบคุมอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายไดรวดเร็วเชนนี้ก็ไมใชเรื่องแปลก
อะไรแลว” มูชิงหัวเราะคิกคักอยูในแสงสีดำ
“ใชไผอัสนีทองทำเปนศาสตราอาคมประจำกาย? สหายหาน เจาชางใจกลามาก
พอจริงๆ หรือไมรูวาทำเชนนี้แลว จะถูกเทวะอัสนียอนกลืนกินไดงายสุดๆ? การที่เจา
สามารถมีชีวิตอยูจนถึงทุกวันนี้ไดก็เปนเรื่องที่แปลกมากแลวจริงๆ” หญิงงามผมขาว
ตะลึงงัน พลันหันไปมองหานลี่แลวกลาวดวยทาทางนาสะพรึงกลัว
“เทวะอัสนียอนกลืนกิน? ดูเหมือนขานอยจะไมเคยเจอเรื่องเชนนี้มากอน ขอถาม
สาเหตุของอาวุโสดวยขอรับ” หานลี่ไดยินคำนี้กลับรูสึกตกตะลึงจริงๆ
“ทำไมละ นองมูไมมเคยพูดเรื่องนี้กับสหายหานเลยรึ?” หญิงงามผมขาวขมวดคิ้ว
คราหนึ่ง แลวถามมูชิง
“ขาสังเกตเห็นตั้งนานแลว สหายหานพรสวรรคล้ำลึก ควบคุมอัสนีเทวาปดเปา
ภยันตรายไดเสถี ยรเปนอยา งยิ่ ง และไมมีแววส อใหเ ห็ น ถึ ง การโดนยอนกลื น กิ น
แมแตนอย ยอมไมจำเปนตองพูดถึงเรื่องนี้” มูชิงตอบกลับอยางไมรูสึกหนักหนาอะไร
“หึ นี่ก็แคคำพูดของเจาคนเดียวเทานั้น พวกขายังไมไดเห็นดวยตาตัวเองเลย!”
หญิงงามผมขาวแคนเสียงคราหนึ่ง แลวมองหานลี่อยางประเมินอีกรอบ กอนที่จะ
กลาวดวยน้ำเสียงเย็นชา
มูชิงหัวเราะเบาๆ คราหนึ่ง ขณะที่กำลังคิดจะพูดอะไรอีก ลิ่วจูที่อยูขางๆ ก็เอย
โพลงขึ้นมา “พอแลว ไมตองพูดไรสาระอยางอื่นแลว แมนางมูเชิญพวกเรามาคงไมได
แคอยากจะขยับฝปากพูดสองสามประโยคหรอก สหายหานเรียนรูเคล็ดวิชาเรียกอัสนี
สำเร็จจริงหรือไม ยอมตองใหพวกเราดูดวยตาตัวเองถึงจะยอมรับ”
น้ำเสียงของลิ่วจูราบเรียบไมไหวติง ไรซึ่งอารมณใดๆ ทั้งสิ้น แตไมวาจะมูชิงหรือ
หญิงงามผมขาวไดยินวาจานี้ ตางก็รูสึกหวาดกลัวแลวเงียบปากกัน
สวนหนึ่งในชายชุดโลหิตโลหิตสองคน ในเวลานี้กลับยิ้มเอยขึ้นมา “สหายนอยหาน ใน
เมื่อเจาเรียนรูเคล็ดวิชาเรียกอัสนีของอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายไดสำเร็จแลว ก็
ลองเรียกหลอมตอหนาพวกเราสักหนอยเถอะ”
หลังจากไดยินทั้งสองคนพูดเชนนี้ หานลี่ก็ขมความตื่นตระหนกระคนสงสัยเรื่อง
การยอนกลืนกิน แลวโคงคำนับเล็กนอย “อาวุโสทั้งหลายกำชับเชนนี้ ชนรุนหลังจะ
รีบปฏิบัติตามทันที เพียงแตอานุภาพของเคล็ดวิชาเรียกอัสนีนั้นไมเบา หากเปน
ที่นี่…”
หานลี่พูดพลางกวาดสายตามองดูรอบๆ วิหารใหญ
“สหายหานพูดมาก็ถูก แมวาวิหารเซียนพฤกษาของขานี้จะมีอาคมตองหามอยูบาง
แตก็ไมอาจรับอานุภาพที่แทจริงของอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายไวได พวกเราควรไปดู
ขางนอกเถอะ” มูชิงพยักหนาแลวลุกขึ้นเดินนำไปทางประตูวิหาร
ราชาปศาจที่เหลือเห็นดังนี้ก็หันมามองหนากันคราหนึ่ง แลวพากันตามออกไป
หานลี่ยอมเดินออกไปดวยเชนกัน
ปศาจเวรยามของเหวพสุธาที่เฝาอยูนอกประตูวิหาร เมื่อเห็นราชาปศาจมากมาย
เชนนี้ ตางก็เผยสีหนาตกตะลึง
แตก็ไมมีใครกลาเขาไปถามอะไร
ผานไปพักหนึ่ง แตละคนก็มาหยุดอยูบนพื้นที่วางเปลาตรงหนาวิหารเซียนพฤกษา
สายตาทุกคนลวนจับจองไปบนรางของหานลี่
เมื่ออยูภายใตการจับจองของตัวตนระดับที่มากมายสูงเชนนี้ หานลี่ก็หัวเราะขื่นๆ
ในใจคราหนึ่ง แตก็ยังเปลงแสงสีเขียวสวางวาบบนรางดวยอารมณเยือกเย็น พลันลอย
ขึ้นกลางอากาศ
จนกระทั่งมาถึงกลางอากาศต่ำเหนือพื้นดินยี่สิบจั้งเศษ เขาจึงคอยลอยควางกลาง
อากาศไมขยับเขยื้อน
ทันทีที่สองมือตั้งทารายคาถา ก็เกิดเสียงโครมดังสนั่น ประกายแสงสีทองเรียวเล็ก
จำนวนนับไมถวนก็เขาลอมรอบกายแลวโคจรไมหยุด
ตามดวยประกายอัสนีที่คอยๆ หนาขึ้น ขยายตัวอยางบาคลั่งไปทั่วทุกสารทิศ
ชั่วครูเดียว ภายในแสงอัสนีอันนาสะพรึงนี้ก็คอยๆ กอรูปรางเปนตาขายสายฟา
ทรงกลมขนาดมหึมา
ในขณะเดียวกันนั้น ภายใตการกระตุนคาถาของหานลี่ อักขระประหลาดก็ทะลัก
พรั่งพรูอยางบาคลั่งออกจากมือทั้งสอง อักขระแตละตัวเปลงแสงสีทองระยิบระยับ
พากันจมหายเขาไปในประกายอัสนีที่อยูรอบดานอยางไรรองรอย
ฉากอันมหัศจรรยล้ำลึกพลันปรากฏขึ้น!
พริบตาที่อักขระจมเขาไปในประกายอัสนีรอบทิศทาง ทันใดนั้นทั้งหมดก็แตก
ออกราวกับฟองสบู กลายเปนรัศมีแสงสีทองสลัวๆ เสนผานศูนยกลางหลายจั้ง
หานลี่ที่อยูทามกลางรัศมีแสง รูปรางเลือนรางไมชัดเจน ทวาในปากเปลงคาถา
คลุมเครืออยางตอเนื่อง
ภายใตการโคจระของรัศมีแสงสีทอง อักขระสีทองที่อยูภายในนั้นเกิดการพลิกตัว
ไมหยุด พรอมสงเสียงหึ่งๆ ดังแววออกมา และคอยๆ กลายเปนเสียงแหลมแสบแกวหู
ขึ้นเรื่อยๆ!
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงอัสนีบาตดังขึ้น!
ชั่วพริบตาที่รัศมีแสงเปลงแสงสีทองเจิดจา ก็หายไปอยางไรสาเหตุ
หานลี่ก็ปรากฏรางออกมาอีกครั้ง
มือหนึ่งตั้งทารายคาถา อีกมือหนึ่งคลายนิ้วมือออกเบาๆ หางจากฝามือสูงขึ้นไป
หลายฉื่อ มีกอนกลมขนาดใหญเทากำปนลูกหนึ่ง ราวกับทำมาจากทองคำบริสุทธิ์
กำลังลอยควางอยูตรงนั้นไมขยับเขยื้อน
กอนกลมนี้ดูไมสะดุดตาแมแตนอย นอกจากลวดลายคลายอักขระที่พื้นผิวเวานูน
ไมราบเรียบแลว แสงยังดูหมนหมองผิดปกติ ไรซึ่งแรงกดวิญญาณใดๆ ทั้งสิ้น
ราวกับภาชนะธรรมดาทั่วไปชิ้นหนึ่งเทานั้น
เมื่อเห็นกอนกลมสีทองนี้ ใบหนาราชาปศาจที่เฝาดูอยูเบื้องลางตางก็เผยสายตา
ประหลาดใจออกมา
ตัวหานลี่ในตอนนี้ ใบหนาเต็มไปดวยสีหนาเครงขรึม ฝามือที่ประคองกอนกลม
สีทองลอยกลางอากาศ พลันดีดนิ้วทั้งหาเบาๆ คราหนึ่ง
“ฟ า ว!” ก อ นกลมสี ท องกลายเป น ลำแสงสี ท องดวงหนึ ่ ง พุ  ง ทยานไปยั ง ชั้ น
บรรยากาศสูง
เพียงแคแวบเดียวก็หายไปแลว
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ในมืออีกขางหนึ่งของหานลี่สงเสียงดังเปรี๊ยะคราหนึ่ง
เกิดแสงอัสนีสวางวาบ อักขระสีทองขนาดใหญตัวหนึ่งก็พุงทยานไปยังที่สูงอยาง
ไรรองรอยเชนกัน
“โครม!”
กลางอากาศสูงบริเวณใกลเคียงเกิดพายุหมุนขึ้นอยางฉับพลัน เมฆดำปกคลุม
อยางหนาแนน แสงตะวันสีทองดวงหนึ่งพลันปรากฏผลุบๆ โผลๆ ทามกลางเมฆดำ
ตามดวยกลิ่นอายทำลายลางอันนาสะพรึงของดวงตะวันสีทองที่พุงทยานขึ้นสูฟา
พื้นผิวของแสงตะวันเปลงแสงอัสนีนับไมถวนอยางบาคลั่ง เกิดเสียงฟารองดัง
เกริกกองอยางไมขาดสาย เสียงทุมตำชวนใหตกตะลึง
หญิงงามกับชายชุดโลหิตและคนอื่นๆ ที่อยูเบื้องลางตางพากันหนาเปลี่ยนสี
“ยั้งมือกอน! หยุดเคล็ดวิชาเรียกอัสนีของเจาเดี๋ยวนี้ เทานี้ก็พอแลว ไมตองปลอย
อานุภาพที่แทจริงของอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายออกมาจริงๆ ก็ได” จูๆ ก็มีคนหนึ่ง
พูดหามปรามขึ้นมาดวยน้ำเสียงขรึมอยางกะทันหัน ที่แทก็คือลิ่วจู
หานลี่ไดยินก็ตกตะลึง ทวาก็ไดแตพูดดวยรอยยิ้มเจื่อน “อาวุโสบอกใหชนรุนหลัง
ยั้งมือตอนนี้ คงสายไปหนอย ชนรุนหลังยังควบคุมเคล็ดวิชานี้ไมคลองแคลว ตอนนี้
ไมอาจหยุดเคล็ดวิชานี้ได”
เพิ่งจะสิ้นเสียงพูดของหานลี่ ทามกลางเสียงฟารองดังลั่นที่ทยอยดังขึ้นครั้งแลว
ครั้งเลา จูๆ แสงตะวันสีทองก็พนลำแสงสีทองสายหนึ่ง หนาประมาณอางน้ำ พุงลงไป
ยังเบื้องลางอยางรวดเร็ว
พุงใสพื้นดินวางเปลาไรผูคนที่อยูเบื้องหนาหานลี่พอดี
สถานการณที่ชวนใหตกตะลึงพรึงเพริดพลันปรากฏขึ้น
ทุกที่ที่ลำแสงพุงผาน พื้นหินสีเขียวที่กอตัวมาจากอาคมตองหามจนแข็งราวกับ
โลหะบริ ส ุท ธิ์ เพี ย งแค แ ตะถูก ก็ สลายกลายเป น ธุ ลี อยา งไรส ุ ม เสี ยง ปรากฏเปน
โพรงใหญสีดำมืดมิดเสนผานศูนยกลางหลายจั้ง
ลำแสงสีทองมีความยาวประมาณฉื่อกวา พริบตาที่แสงตะวันกลางอากาศแตะสลาย
ลำแสงสีทองก็หายไปอยางนาประหลาด
หลังจากปลอยการโจมตี้นี้ หานลี่กลับมีสีหนาคอนขางซีดเซียว ปกสองขางบน
แผนหลังขยับคราหนึ่ง ก็คอยๆ ลอยลงมาขางลางอยางชาๆ
ในตอนนี้ เมฆดำพลันกระจายออกรอบดาน ทองฟาคืนสูสภาพดังเดิม
ยามที่รางพลิ้วไหว ชายชุดโลหิตคนหนึ่งกับหญิงงามชุดขาวก็ปรากฏตัวที่ขางๆ
ถ้ำใหญพรอมกัน แลวกมหนามองไปยังเบื้องลาง
เห็นเพียงภายในโพรงที่ดำมืด มีกลิ่นเผาไหมเตะจมูกโชยออกมา และความลึก
ของถ้ำนี้ลึกจนไมอาจมองเห็นถึงจุดสิ้นสุดได
“เขาใจเคล็ดวิชาเรียกอัสนีอยางที่คาดไวจริงๆ ความนากลัวของอัสนีเทวาปดเปา
ภยันตรายก็สมคำร่ำลือจริงๆ! ตอใหพวกเราไมทันไดปองกัน ก็ไมกลารับการโจมตีนี้
โดยตรง” หญิงงามผมขาวเผยความประหลาดใจในดวงตา พลางพูดพึมพำคนเดียว
ชายชุดโลหิตมองดูโพรงถ้ำดวยแววตาเปลงประกายไมหยุด คลายกับมีสิ่งอื่นให
ครุนคิด
ลิ่วจูกับมูชิงกลับไมไดเดินเขามาดูอยางละเอียด
ในสองคนนี้ คนหนึ่งแคมองครั้งเดียวก็อาจจะมองทะลุถึงอานุภาพของเคล็ดวิชา
เรียกอัสนี ข องหานลี ่แล ว สวนอีกคนหนึ ่ งเคยเห็ น หานลี่ส ำแดงมาหลายครั้ ง แล ว
ยอมไมจำเปนตองเขาไปฮือฮาอะไรดวย
“สหายทั้งหลายคงจะพอใจกับเคล็ดวิชาควบคุมอัสนีของสหายหานสินะ!” มูชิง
พลันยิ้มจางๆ ขึ้นมา
ตอนที่ 1472 แมนำ้ อเวจี
“แมจะยังไมคอยคลอง แตอานุภาพไมเปนที่สงสัยแลว สามารถทำลายอาคม
ตองหามของแมน้ำอเวจีได แตจากการสำแดงเมื่อครูนี้ ขากลับมองออกถึงสาเหตุบาง
ประการที่สหายหานไมถูกเทวะอัสนียอนกลืนกินแลว ตอนแรกที่สหายหานเรียก
หลอมไผ อ ั ส นี ท อง พลั ง ยุ ท ธ ใ นร า งก็ เ หนื อ กว า ผู  ท ี ่ อ ยู  ร ะดั บ เดี ย วกั น หลายเท า
เชนเดียวกับตอนนี้หรือไม?” ลิ่วจูพยักหนาเสร็จก็ถามโพลงขึ้นมา
“ไมผิด หลายปกอนชนรุนหลังเคยฝกฝนเคล็ดวิชาประหลาดชนิดหนึ่งจริงๆ
แมวาความเร็วในการฝกฝนจะชากวาคนทั่วไปบาง แตพลังยุทธนั้นล้ำลึกกวาผูที่อยูใน
ระดับเดียวกันจริงๆ ที่ชนรุนหลังไมถูกเทวะอัสนียอนกลืนกินก็เพราะเหตุนี้” หานลี่
ที่รวงมาถึงพื้นแลวตอบอยางฉับพลัน
“แมวาจะไมใชเหตุผลทั้งหมด แตก็นาจะเปนหนึ่งในสาเหตุที่สำคัญ ถึงอยางไร
เดิมทีพลังยุทธก็คือพื้นฐานของอิทธิฤทธิ์ทั้งหมด อิทธิฤทธิ์แบบเดียวกันเมื่อสำแดง
ออกมาจากผูที่มีพลังยุทธแตกตางกัน อานุภาพยอมแตกตางกันมาก เมื่อควบคุมอัสนี
เทวาปดเปาภยันตรายดวยพลังยุทธที่เหนือกวาระดับเดียวกันของสหาย ยอมสามารถ
ยับยั้งการยอนกลืนกินของเทวะอัสนีไดดีมาก อีกทั้งกอนหนานี้สหายหานยังไมรูวิธี
ควบคุมอัสนีที่แทจริงมาโดยตลอด การยอนกลืนกินก็อาจจะยิ่งเหลือเพียงนอยนิด
แลว” ลิ่วจูอธิบายดวยทาทางสงบนิ่ง
“พูดเชนนี้ ตอไปชนรุนหลังสำแดงเคล็ดวิชาเรียกอัสนี ก็ยังมีโอกาสถูกยอนกลืนกิน”
หานลี่หนาเปลี่ยนสียกใหญ
“เรื ่ องนี ้ ก ็ ไ ม แ น ที ่ เ จ า สามารถปลอดภั ยได จ นถึง ทุ ก วั น นี้ นอกจากสาเหตุที่
พลังยุทธแข็งแกรงแลว ก็เปนไปไดวาเจาเคยกินสมบัติธรณีสวรรคอะไรมา หรืออาจจะ
ครอบครองสมบัติวิเศษบางอยาง เคยฝกฝนเคล็ดวิชาล้ำเลิศอะไรบางอยาง จึงชวยให
เจาระงับการยอนกลืนกินไดตลอด
อยางนอยที่สุด จากการที่เจาสำแดงเคล็ดวิชาเรียกอัสนีเมื่อครูนี้ ขามองไมเห็น
ลักษณะที่สอใหเห็นถึงการยอนกลืนกินใดๆ แตตัวเจาในตอนนี้ อยูในระดับนี้ก็ไม
จำเปนตองกังวลเรื่องนี้” ลิ่วจูพูดน้ำเสียงนิ่งอยูตลอด
แมวาหานลี่จะไมกลาเชื่อคำพูดของอีกฝายทั้งหมด แตสีหนายอมดูแยลงเปนธรรมดา
คำพูดของอีกฝายชัดเจนมาก แมวาตอนนี้เขาจะไมเปนอะไร แตหลังจากที่พัฒนา
ระดับอีกครั้ง จะสามารถยับยั้งการยอนกลืนกินของอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายได
ตลอดหรือไม ก็ยังเปนเรื่องที่ไมแนนอน
หญิงงามผมขาวไดยินคำพูดของลิ่วจูก็หรี่ตาลงเล็กนอย พลันหันมาถามหญิงสาว
ที่อยูภายในแสงสีดำดวยน้ำเสียงเย็นชา “นองมูชิง เจาใหพวกเรามารวมตัวกันที่นี่
ไมใชแคจะใหสหายหานสำแดงเคล็ดวิชาเรียกอัสนีอยางเดียว ยังมีอะไรจะพูดอีก
สินะ!”
มูชิงไดยินก็ตกตะลึงเล็กนอย พลันยิ้มออน “ไมผิด ที่จริงแลวนองสาวมีคำพูด
บางอยางอยากจะพูดกับสหายทั้งหลาย ในเมื่อแมแตพี่ลิ่วจูก็ยังคิดวาสหายหาน
สามารถสำแดงอานุภาพของอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายไดเพียงพอแลว ขาเห็นวา
สองปตอจากนี้ สหายหานไมจำเปนตองไปที่ของพี่สาวหลานแลว ไมกี่ปที่เหลือนี้ก็ให
เขาทำความคุนเคยกับหลักแหงการควบคุมอัสนีอยูในถ้ำแกนพฤกษา สหายทั้งหลาย
คิดวาอยางไร!” มูชิงไมคิดจะปดบังเจตนาของตนแมแตนอย จึงพูดออกมาอยาง
สบายๆ
“แมวาสหายหานจะเขาใจเคล็ดวิชาเรียกอัสนีแลว แตหลักแหงการควบคุมอัสนี
ของเจากับขาในจุดเล็กๆ ก็ยังแตกตางกันอยู ใหสหายหานมาเรียนกับขาสองป มีสิ่งใด
ที่ไมควร อีกทั้งเรื่องที่คุยกอนหนานี้ก็ตกลงกันไวแลว! นองมูคิดจะกลับคำ แมเฒาก็
ตองยอมรับ” หญิงงามผมขาวสีหนามืดครึ้มขึ้นมา พลันกลาวดวยน้ำเสียง นา
สะพรึงกลัว
“เหอะๆ พี่สาวหลานพูดเชนนี้ก็ไมถูก พวกขาเพียงแคตองการยืมอัสนีเทวา
ปดเปาภยันตรายของสหายหานทำลายอาคมตองหามที่แมน้ำอเวจีเทานั้น เหตใดตอง
ทำเรื่องเกินจำเปนดวยเลา สำหรับขอตกลงกอนหนานี้ ในเมื่อเรื่องที่ตกลงมีการ
เปลี่ยนแปลง มีการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวบางจะเปนไรไป” มูชิงกลับพูดดวยรอยยิ้ม
จางๆ อยางไมใสใจ
“พี่ลิ่วจู สหายตี้เซวี่ย พวกเจามีความเห็นวาอยางไร? ตางก็เห็นดวยกับคำพูดของ
นองมูชิงดวยรึ?” หญิงงามผมขาวไมสนใจมูชิงอีกตอไป หันกลับมาถามสองคนที่เหลือ
แทน
“เหอะๆ ผูเฒาไมมีความรูเกี่ยวกับหลักแหงการควบคุมอัสนีแมแตนอย สำหรับ
เรื่องนี้จะอยางไรก็ได สหายทั้งสองตัดสินกันเองก็แลวกัน” ชายชุดโลหิตคนหนึ่ง
หัวเราะหึๆ แลวบอกปดอยางไมหนักหนาอะไร ทาทางไมคิดจะเขาไปรวมการโตแยง
ของมูชิงกับหญิงงาม
เมื่อเห็นชายชุดโลหิตแสดงทาทีเชนนี้ หญิงงามผมขาวก็รูสึกตกตะลึง พลันเกิด
ความงุนงงสงสัยขึ้นแวบหนึ่ง แตฉับพลันก็กลอกตามาทางรางของลิ่วจูผูลึกลับ
ลิ่วจูที่สวมผาคลุมดำกำลังกมหนาครุนคิดอะไรบางอยาง
“ที่สหายทั้งสองพูดมาลวนมีเหตุผล ในดานหนึ่งสหายหานเขาใจและพลิกแพลง
อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายไดแลว จะอยูรับการถายทอดจากสหายหลานเปนเวลา
สองปก็ไมมีความจำเปนแลวจริงๆ อีกดานหนึ่ง เรื่องการเปลี่ยนแปลงขอตกลง ก็ไมดี
สำหรับสหายหลาน เอาเชนนี้เถอะ ขาเห็นวาระยะเวลาสองปก็ไมมีความจำเปนแลว
สหายหลานแค ชี ้แ นะสหายหานหนึ่ ง ป ก ็พ อแล ว เวลาที ่ เหลือแค ใ ห เขาอาศัยอยู
คนเดียวสักแหงก็พอแลว” ลิ่วจูเงยหนาขึ้นมาเปนคนสุดทาย คิดไมถึงวาจะกลาว
ออกมาเชนนี้
ไดยินคำนี้ หญิงงามผมขาวก็ขมวดคิ้วคราหนึ่ง สวนมูชิงก็มีทาทีเงียบขรึม
“ขารูวาเจาสองคนตางก็ไมอยากตกลงเงื่อนไขนี้ แตอยาลืมละ การใหญใกลมาถึงแลว
แมแตการที่พวกเราจะสามารถเขาไปในแมน้ำ อเวจีได หรือไมนั่ นก็ เป นเรื่ องที ่ ยั ง
สรุปไมได หากพวกเจาทำใหเสียการใหญเพราะไมพอใจกัน ตอใหในใจจะมีแผนดี
แคไหน ก็มีแตพาใหควาน้ำเหลวเทานั้น หรือวาพวกเจาคิดจะละทิ้งโอกาสที่หมื่นป
มีครั้งเดียวนี้จริงๆ?” ลิ่วจูไมรอใหหญิงทั้งสองพูดอะไร ก็พูดขึ้นมาดวยน้ำเสียงเย็น
ยะเยือก
ฟงคำนี้จบ หญิงสองคนก็หนาเปลี่ยนสี อดไมไดที่จะหันมามองหนากันทีหนึ่ง
หญิงงามแววตาเปลงประกายระยิบระยับ ทันใดนั้นก็ขยับริมฝปากเล็กนอย คิดไมถึง
วาจะถายทอดเสียงกับมูชิง
และเมื่อคำพูดที่ถายทอดเสียงเขาไปในหูของมูชิง หญิงผูนี้ก็หนาเปลี่ยนสียกใหญ
อยางฉับพลัน หลังจากผานไปพักใหญ จึงคอยเอยปากขึ้นอยางลังเล “หากที่เจาพูดมา
เปนความจริง ของสิ่งนั้นจะตัดใจมอบใหขาไดอยางไร”
“นองสาวมูนาจะเขาใจดี ขามีกายเปนภูติ ตอใหของสิ่งนั้นวิเศษวิโสเปนอยางยิ่ง
แตสำหรับขาแลวกลับไมมีประโยชนเลย” หญิงงามผมขาวตอบกลับดวยทาทีไมไหวติง
“ตามคำพูดของพี่สาวหลาน ขาตกลงรับเงื่อนไขนี้” ดูเหมือนสิ่งที่หญิงงามผมขาว
พูดมานั้นจะสำคัญกับมูชิง เพียงแคครุนคิดเล็กนอยก็ยอมรับปากแลว
“ดี ขาคิดวาคราวนี้นองมูจะไมผิดคำพูดอีก” หญิงงามผมขาวแยมยิ้ม พลันเกิด
พายุทมิฬลอยขึ้น คิดไมถึงวาจะกลายเปนลำแสงสีเทาสายหนึ่งพุงจากไปแลว
เมื่อเห็นฉากนี้กับตา ชายชุดโลหิตสองคนก็มีสายตาตกตะลึง สวนลิ่วจูกลับไมมี
ทาทางเปลี่ยนไปแตอยางใด ราวกับไมเห็นการจากไปของหญิงงาม
“สหายทั ้ ง สอง น อ งสาวเจรจากั บ พี ่ ส าวหลานเรี ย บร อ ยแล ว สหายหาน
ไมจำเปนตองไปที่ของนางแลว เวลาที่เหลือก็ใหสหายหานอยูลำพังสักแหง ใหเขาทำ
ความคุ  นเคยกั บ หลั ก แห ง การควบคุ ม อั ส นี ด  ว ยตั ว เองเถอะ สหายทั ้ ง สองคิ ด ว า
อยางไร?” มูชิงถามดวยรอยยิ้ม
“หึๆ ผูเฒาก็ยังถือตามประโยคนั้น ทั้งหมดใหสหายทั้งสองจัดการกันเอง ผูเฒา
จะไมแทรกมือเขามายุง” สีหนาภายในดวงตาของชายชุดโลหิตกลับมาเป น ปกติ
พลันหัวเราะประหลาดคราหนึง่
“ตราบใดที่ไมสงผลกระทบตอการใหญ ขาก็ไมมีความเห็นใดๆ” ลิ่วจูก็ดวย
ทาทางเยือกเย็น
มูชิงไดยินดังนี้ยอมดีอกดีใจยกใหญ
หานลี่ที่ยืนอยูที่เดิมกลับแอบถอนหายใจคราหนึ่ง
เห็นไดชัดวาภายใตสถานการณที่เขาไมรูเรื่องนั้น มูชิงกับหญิงงามผมขาวผูนั้น
ไดบรรลุขอตกลงอะไรบางอยางที่เกี่ยวของกับเขา นี่จึงทำใหเขารูสึกกลุมใจและ
ไมสบายใจขึ้นมา
ไมนานนัก ลิ่วจูกับชายชุดโลหิตสองคนก็พากันออกจากที่แหงนี้
ดวยเสียงเรียกของมูชิง หานลี่จึงตามนางเขาไปในวิหารใหญอีกครั้ง
“สหายหาน เมื่อครูนี้เจาก็ไดฟงคำพูดของพวกเราแลว ในใจนาจะคิดหาทางบาง
แลวสินะ ทวาตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ควรจะอธิบายเรื่องบางอยางกับเจาแลว จะไดขจัด
ความสงสัยภายในใจของสหายไปดวย ขาสามารถตอบคำถามที่เจาอยากรูไดสามขอ
จำไวใหดี ตอบแคสามขอเทานั้น หลังจากนี้ไมวาจะคำถามอะไร ขาก็จะไมอธิบาย
แมแตคำเดียว
แต เ พื ่ อ เป น การแลกเปลี ่ ย น หลั ง จากที ่ น  อ งหานเข า ไปในแม น ้ ำ อเวจี แ ล ว
จำเปนตองใหเจาชวยทำเรื่องหนึ่ง” เมื่อกลับมานั่งบนดอกไมยักษสีทองอีกครั้ง มูชิงก็
พูดกับหานลี่ดวยทาทีสงบนิ่ง
“ทำเรื่องหนึ่ง?” หานลี่รูสึกใจหายวาบ พลันถามดวยความระมัดระวัง
“ไมผิด ภายในสองปนี้ที่ขาถายทอดหลักแหงการควบคุมอัสนีใหเจา และชี้แนะ
การฝกฝนบางอยางใหกับเจามากมายเชนนี้ รวมถึงการตอบคำถามสามขอนี้ ใหเจาทำ
เรื่องหนึ่งเพื่อขาคงไมนับวาเกินไปหรอกกระมัง” มูชิงใชดวงตาอันงดงามจองมอง
หานลี่ พลางพูดอยางชาๆ
“ยอมไมเกินไปอยูแลว ทวาชนรุนหลัง…” หานลี่ยิ้มฝนๆ คราหนึ่ง ยังคิดที่จะพูด
อะไรอีก แตมูชิงก็โบกมือแลวพูดแทรกขึ้นมา “วางใจ ไมใหเจาทำเรื่องที่ เกิน
ความสามารถตัวเองหรอก พูดถึงสาเหตุ ที่จริงแลวแคคิดจะยืมพลังของอัสนีเทวาปด
เปาภยันตรายของเจาเทานั้น ไมเชนนั้นเจาคงเขาใจวาตัวตนระดับพวกเราใหความ
สนใจเจาเปนพิเศษจริงๆ แลวกระมัง”
มูชิงดูมีทาทีเด็ดขาดขึ้นมา
หานลี่ไดยินแลวกลับรูสึกโลงอก หลังจากครุนคิดเล็กนอย ก็ตอบกลับดวยสีหนาจริงจัง
“ในเมื่ออาวุโสกลาวเชนนี้ ชนรุนหลังก็ไมมีอะไรจะปฏิเสธ ในแมน้ำอเวจี ตราบใดที่
ไมเกินความสามารถ และไมอันตรายถึงชีวิต ชนรุนหลังก็สามารถรับปากทำเรื่องหนึ่ง
ใหอาวุโสได”
“หึๆ เจาพูดไดรัดกุมมาก! แตเรื่องนี้ก็ไมสำคัญ เจาถามมาเถอะ!” มูชิงหัวเราะ
อยางมีเลศนัย พลันเอามือกอดอกแลวกลาว
“ชนรุนหลังอยากทราบวา ตกลงแลวแมน้ำอเวจีคือสถานที่ประเภทใดกันแน และ
ที่นั่นมีอันตรายชนิดใดอยู” หานลี่เงยหนาสบตามูชิงคราหนึ่ง พลันถอนหายใจแลว
ถามออกมาสองคำถาม
“แม น ้ ำ อเวจี ค ื อ ช อ งว า มิ ต ิ อ ิ ส ระแห ง หนึ ่ ง ที ่ พ วกเราสี ่ ค นพบโดยบั ง เอิ ญ ที่
ชั้นลางสุดของเหวพสุธาเมื่อหลายรอยปกอน ในนั้นเต็มไปดวยภูและวิญญาณดุรายที่
ตลบอบอวลไปดวยปราณทมิฬ สำหรับความอันตรายในนั้นยอมไมอาจคำนวณได
อยาวาแตในนั้นมีราชาภูตหรือปศาจวิญญาณที่พลังไมนอยกวาพวกขาเลย มีบางที่ก็ยิ่ง
อั นตรายมาก แม แ ต พ วกข า ก็ ย ั ง เลี ่ ย งไม ท ั น พู ด แบบนี ้ ก ็ แ ล ว กั น ป น ั ้ น พวกเรา
ราชาปศาจในเหวพสุธาไมไดมีสี่คนแตมีหาคน ตอนที่พวกเราคนพบชองวางมิติแหงนี้
ครั้งแรก หนึ่งในพวกเราไดรวงตายในนั้น แมวาครั้งนั้นพวกเราไมคอยรูจักชองวางมิติ
นั้นเทาไหร ยังไมไดเตรียมการใหรอบดาน แตความอันตรายในนั้นแคคิดก็พอรู” มูชิง
ไมรูสึกประหลาดใจกับคำถามของหานลี่แมแตนอย เพียงแคอธิบายดวยน้ำเสียงเครง
ขรึมเทานั้น
หานลี่ไดยินคำพูดเหลานี้ ก็อดไมไดที่จะรูสึกหนักใจ แตปากก็เอยถามออกมาดวย
ความสงสัย “แมน้ำอเวจีแหงนี้อาวุโสทั้งหลายนาจะตั้งชื่อกันเองสินะ! ในเมื่อเรียก
สถานที่แหงนี้วาเชนนี้ ยอมตองมีสาเหตุบางอยางกระมัง!”
“คิกๆ คำถามนี้ของสหายนอยหาน ควรจะนับเปนคำถามขอที่สามหรือไม?” มูชิง
สงเสียงหัวเราะนาฟงออกจากปาก
“ยอมไมนับอยูแลว คำถามขอที่สามของชนรุนหลังคือ…” หานลี่รีบพูดปฏิเสธ
คิดจะเอยถามคำถามขอที่สาม แตมูชิงกลับหยุดเสียงหัวเราะลง แลวกลาวดวยน้ำเสียง
ผอนคลาย “ชางเถอะ คำถามนี้ของเจาไมถือวาเปนคำถามอะไร ขาจะอธิบายใหเจา
โดยไมคิดเงื่อนไขก็แลวกัน ภายในชองวางมิตินั้นถูกวารีทมิฬประหลาดหนาประมาณ
หมื่นจั้งปกคลุมอยูหนึ่งชั้น คนธรรมดาเขาไปในนั้น ก็จะวิญญาณสลายและถูกกวาด
ออกในทันที และรางที่กลายเปนศพทมิฬก็จะลองลอยอยูในวารีทมิฬนี้ไปตลอดกาล
ดังนั้นพวกเราจึงไดเรียกชองวางมิตินี้วาเชนนี้”
ตอนที่ 1473 ไมทมิฬและวานรทอง
“ที่แทก็เปนเชนนี้นี่เอง!” หานลี่บนพึมพำ รูสึกประทับใจกับเหวพสุธา
“เอาละ ขาจะตอบคำถามขอสุดทายให เจาลองคิดใหละเอียดเถิด” มูชิงเอย
อยางเย็นชา
“ขาอยากรูวาหลังจากเขาไปในเหวพสุธาแลว อาวุโสอยากใหชนรุนหลังทำอะไร!”
หานลี่ขบคิดเล็กนอย แลวพลันเอยถาม
แมวาเขาจะอยากถามถึงแผนการที่เหลาราชันยปศาจจะเขาไปในแมน้ำอเวจี แต
เมื่อเปรียบเทียบกันแลวก็กังวลเรื่องของตัวเองมากกวา
ไมถามเรื่องนี้ใหเขาใจ เขาก็ไมอาจวางใจได
“เจาอยากถามเรื่องนี้จริงๆ หรือ?” มูชิงรูสึกประหลาดใจไปเล็กนอย
“ใชแลว ทานอาวุโสไดโปรดแถลงไขดวย!” หานลี่ตอบดวยความมั่นใจอยางไม
ลังเลเลยสักนิด
“ในเมื่อเจาไมเสียดายโอกาสในการถามคำถามสุดทาย ก็ไมใชวาจะบอกไมได
งายมาก ขาอยากใหเจาพาขาไปเอาของที่มีประโยชนตอขาเปนอยางมากชิ้ นหนึ่ง
เทานั้น แตของสิ่งนี้มีมารชั่วรายปกปกษรักษาอยู หากขาไปคนเดียวมันจะยุงยากมาก
และมี เ พี ย งอั ส นี เ ทวาป ด เป า ภยั น ตรายของเจ า ที ่ ค วบคุ ม มั นได ” สตรี เ อ ย อย า ง
ราบเรียบ
“มาร! แมน้ำอเวจีไ ม ใช แ หล งที่ ภูต จะมารวมกัน หรื อ?” หานลี่ขมวดคิ ้ว รู  สึ ก
ประหลาดใจเล็กๆ
“ที่นั่นมีภูตและวิญญาณชั่วรายอยูจำนวนมากจริง แตก็ยังมีมารปะปนอยูดวย
สาเหตุนั้นไมตองถามขาหรอก ขาเองก็ไมรู” มูชิงใชน้ำเสียงที่เขมงวดเอยขึ้น
ชั่วขณะนั้นหานลี่พลันรูสึกหมดคำพูด!
“ทวา เจาวางใจ มีอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายคอยชวย และมีขาที่จะลงมือเอง
ยอมจัดการมารตัวนั้นไดอยางไมมีปญหา นอกจากนี้ขอแคเอาของสิ่งนั้นกลับมาได
ข า จะมอบสมบั ต ิ ใ ห เ จ า ชิ ้ นหนึ ่ ง เช น กั น ในฐานะบุ ต รศั ก ดิ ์ ส ิ ท ธิ ์ ข องเผ า วิ ญญาณ
เหาะเหิน เจาจะตองสนใจของสิ่งนั้นมากแน” แววตาของมูชิงฉายแววเจาเลหออกมา
“ของ?” หานลี่เผยสีหนาฉงน
“ตอนนั้นที่คลื่นปศาจเหวพสุธาระเบิดขึ้น ขาเคยสังหารอาวุโสของเผาวิญญาณ
เหาะเหิ นไปคนหนึ ่ ง จึ ง ได โลหิ ต ศั ก ดิ์ สิ ทธิ ์เ ที่ ย งแทข องเผ าวิ ญ ญาณเหาะเหินมา
ขวดหนึ่ง จากที่ขารูมาแมวาจะไมใชโลหิตศักดิ์สิทธิ์เที่ยงแทของสาขาพวกเจา แตก็ยัง
เปนสมบัติที่ประเมินคามิไดสำหรับเผาวิญญาณเหาะเหินของพวกเจา” มูชิงเอยอยาง
เยอหยิ่ง
“เปนโลหิตศักดิ์สิทธิ์เที่ยงแทชนิดใด!” หานลี่พลันตะลึงงันไปจริงๆ
“โลหิตวิญญาณเที่ยงแทของนกยูงหาสี ของสิ่งนี้ เจาคิดเห็นอยางไร แมวาเจาจะ
ไมอาจใชได แตหากเอากลับไปที่เผา จะมีประโยชนแคไหนไมตองคิดก็รูแลว” คำพูด
ของมูชิงเต็มไปดวยเจตนายั่วยวน
มินาละ!
ไม ต  อ งพู ด ถึ ง ว า แต ไ หนแต ไ รมาเผ า วิ ญ ญาณเหาะเหิ น ให ค วามสำคั ญ กั บ
โลหิตวิญญาณเที่ยงแทอยางไร แมแตเผาประหลาดเผาอื่นๆ ไดของสิ่งนี้ไปก็ยังมองวา
มันคือสมบัติ
ถึงอยางไรเสียโลหิตวิญญาณเที่ยงแทนั้นไมวาใชปรุงยาหรือหลอมยุทธภัณฑก็
ลวนมีผลลัพธที่นาเหลือเชื่อ!
นกยูงหาสีนั้นมีชื่อเสียงเปนอยางมากในเหลาจิตวิญญาณเที่ยงแท เปนวิหคที่
นากลัวจัดอยูในอันดับแรกๆ ของจิตวิญญาณเที่ยงแท
หานลี่พลันรูสึกดีอกดีใจเปนอยางมาก
เขาฝกฝนตื่นจากจำศีลแปลงกายสิ บสองครั้ ง และไดเรียนรูไปสามชนิ ด แล ว
เห็นไดชัดวามีเคล็ดวิชาลับแปลงกายของนกยูงหาสีดวย
ขอแคดูดซับโลหิตวิญญาณนี้เขาไปในราง เขาก็จะสามารถฝกฝนคาถานี้ไดทันที
และสามารถแปลงกายเปนนกยูงหาสีได
ตื่นจากจำศีลแปลงกายสิบสองครั้ง ยิ่งเรียนมากเทาไหร อานุภาพก็ยิ่งนากลัวมาก
ขึ้นเทานั้น
ตามที่ในคาถากลาวเอาไว ทุกครั้งที่เรียนรูการแปลงกายไดหนึ่งชนิด ก็จะทำให
อานุภาพของการแปลงกายที่เรียนรูไปกอนหนาเพิ่มขึ้นสามสวน
ตามทฤษฎีแลวหากสามารถรวมการแปลงกายทั้งหมดที่เรียนรูเขาดวยกัน ก็จะ
ทำใหอานุภาพเพิ่มขึ้นมากกวาสี่เทา
แนนอนวาเดิมทีอานุภาพของการแปลงกายก็จะเพิ่มขึ้นตามพลังยุทธที่เพิ่มขึ้นอยูแลว
คาถาตื่นจากจำศีลเพิ่มขึ้นหลายเทา ก็จะเพิ่มขึ้นโดยพื้นฐานอยูแลว เชนนั้น
เมื่อประกอบกับการเรียนรูการแปลงกายหลายๆ ชนิด ความนากลัวของคาถาตื่น
จากจำศีล แคคิดก็รูแลว และ ‘ลำแสงเทวะหาสี’ ที่นกยูงหาสีมี ก็ยิ่งเลื่องลือใน
แดนวิญญาณ วากันวาทุกแหงที่ลำแสงหาสีนี้กวาดผานไป ของเบญจธาตุจะถูกกัก
เอาไว ลำแสงเทวะดูดปราณของหานลี่ก็จัดอยูในประเภทนี้เชนกัน
แนนอนวาอานุภาพที่แทจริงของทั้งสอง นั้นแตกตางกันแนนอนอยูแลว
หานลี่มีสีหนาเปนปกติ แตแววตาตกตะลึงระคนดีใจเล็กๆ ยังคงไมอาจปดบังมูชิงได
นางหัวเราะนอยๆ แลวเอยขึ้นวา
“ดูแลวสหายหานคงจะพึ งพอใจโลหิต เที่ ยงแท ข องนกยู ง ห าสี เ ป น อยา งมาก
เชนนั้นละก็ ตกลงตามนี้ก็แลวกัน ขาจะเอาโลหิตวิญญาณเที่ยงแทครึ่งหนึ่งใหเจากอน
หลังจากภารกิจสำเร็จ คอยใหอีกครึ่งหนึ่ง”
มูชิงเอยจบ มือหนึ่งพลันตบไปที่ดอกบัวสีทองใตราง ชั่วขณะนั้นพลันพนขวดเล็กๆ
สีแดงสดออกมาขวดหนึ่ง
สตรีผูนี้ใชมือควาออกไป ขวดเล็กๆ บินไปหาหานลี่
แววตาของหานลี่ฉายแววประหลาดใจ ควาขวดเล็กๆ เอาไวในมือ ทันใดนั้นก็เปด
ฝาขวดออกทันที
ชั่วขณะนั้นพลันมีเสียงเพรียกอันไพเราะดังออกมาจากขวดสีแดงสด ลำแสงหาสี
ทะลักออกมา มีอะไรสักอยางบินออกมาจากดานใน
เสียง “แกรก” ดังขึ้น หานลี่พลันปดฝาขวดลงอีกครั้งดวยความรวดเร็วอย าง
ไมลังเลเลยสักนิด
ชั่วพริบตานั้นเขาไดใชจิตสัมผัสกวาดเขาไปในขวด
แมนวาจะไมเคยเห็นโลหิตวิญญาณเที่ยงแทชนิดนี้มากอน แตจากกลิ่นอายอัน
นาอัศจรรยที่แผออกมาจากดานใน ก็นาจะเปนของจริงถึงจะถูก
“ขอบพระคุณทานอาวุโสที่มอบโลหิตวิญญาณให!” หานลี่ไมเกรงใจอีกตอไป เก็บ
ขวดโลหิตเขาไป คอมตัวลงแลวเอยขอบคุณ
“หึๆ ถึงครานั้นอยาลืมชวยขาอีกแรงก็แลวกัน ตอนนี้เจาไปไดแลว ขอแคไมใช
ชั้นสามลงไป ทุกแหงในเหวพสุธาเจายอมเลือกที่ฝกฝนไดตามใจ สามปใหหลังเมื่อขา
เตรียมการเสร็จ จะเรียกเจามาอีกครั้ง” มูชิงพยักหนาจากนั้นออกคำสั่งสงแขก
หลังจากที่หานลี่ครุนคิด เล็ก น อย ก็ไมไดเอยอะไรตามมารยาทอีก รอบกาย
เปลงแสงสีเขียวเจิดจา กลายเปนสายรุงสีเขียวสายหนึ่งพุงออกไป
กระพริ บ วาบสองสามครั ้ ง ลำแสงหลี ก หนี ห ายวั บ ไปจากประตู ว ิ ห ารอย า ง
ไรรองรอย
มูชิงมองลำแสงหลีกหนีของหานลี่ที่หายวับไป รอยยิ้มในแววตาหายวับไปอยางไม
เห็นเงา
ครูตอมาสตรีผูนี้ก็ใชมือหนึ่งรายอาคม
ชั่วขณะนั้นดอกไมสีทองใตรางพลันมีลำแสงสีดำเปลงแสงมะเมื่อม เขตอาคม
ลำแสงสีดำปรากฎขึ้น
เงารางคนกระพริบวาบ มูชิงหายวับไปจากบนดอกไมสีทอง เขตอาคมสีดำเอง
ก็หายวับไปเชนกัน
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นในถ้ำแกนพฤกษาที่มูชิงใชฝกฝน ตรงประตูหนาสวน
เพลงมรกตที่ถูกเขตอาคมเปนชั้นๆ ผนึกเอาไว เขตอาคมลำแสงพลันเปลงแสงสวาง
วาบเชนกัน มูชิงปรากฎตัวขึ้น
เมื่อสตรีผูนี้ปรากฎตัวก็เงยหนาขึ้นมองประตูอันมหึมาเบื้องหนาแวบหนึ่ง รางกาย
พลิ้วไหว กาวไปขางหนาสองกาวอยางไมลังเลเลยสักนิด
เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น
เขตอาคมเปนชั้นๆ บนประตูราวกับผิวน้ำถูกสัมผัสอยางไรอยางนั้น กระเพื่อมจน
เกิดเปนระลอกคลื่นกลางอากาศ แตมูชิงกลับมีลำแสงสีดำไหลโคจรอยู ชั่วพริบตาก็
ละลายหายเขาไปในประตูอยางไรรองรอย
ครูตอมาอีกดานของประตูใหญ เงารางของมูชิงพลันเปลงแสงสวางวาบปรากฎขึ้น
และเบื้องหนาของสตรีผูนี้ กลับมาปรากฎทามกลางสวนดอกไมยักษหลากสีสัน
ดอกไมยักษเหลานี้ลว นมี ขนาดที่ นาตกตะลึ ง ใหญหนอยมีขนาดสองสามจั้ ง
เล็กหนอยมีขนาดสองสามฉื่อ บางก็ผลิกลีบเบงบาน บางก็หุบแนนเปนดอกตูมๆ
แตทุกดอกลวนแผไอวิญญาณอันนาประหลาดใจออกมา
ตรงกลางของดอกไมยักษเหลานี้มีทางเดินเล็กๆ ที่คดเคี้ยวไปมาอยู
มูชิงเดินเขาไปในทางเดินทามกลางหมูมวลบุปผาอยางไมลังเลเลยสักนิด
เดินไปไดเปนเวลาหนึ่งกาน้ำชา หลังจากผานดอกไมยักษมาไมรูกี่ดอก ก็มองไม
เห็นมวลบุปผาอีก เบื้องหนากลับเปนทุงหญาสีเขียวเหลืองปรากฎขึ้น
ตรงใจกลางของทุงหญาตนไมยักษสีดำสนิทตนหนึ่งตั้งตระงหานอยู
ตนไมตนนี้มีความสูงหาสิบหกสิบจั้ง ขนาดใหญยักษ แตภายนอกดูนาอัศจรรย
เปนอยางมาก
ตรงกลางของตนไมทั้งตนราวกับมีเขตแดนไรรูปรางอยู ครึ่งหนึ่งมีใบหนาแนน
เขียวชอุมอุดมสมบูรณ อีกครึ่งหนึ่งแหงโกรน ไมมีใบไมสักใบ ราวกับเปนตนไมที่
ยืนตนตายก็มิปาน
มองตนไมยักษสีดำเบื้องหนา แววตาของมูชิงเปลงประกาย หยุดฝเทาหางจาก
ตนไมไปสิบจั้งเศษ แทบจะในเวลาเดียวกันเบื้องหนาตนไมยักษฝงที่มีใบหนาแนนก็มี
ลำแสงสวางวาบ จากนั้นลำแสงสีดำก็พุงออกมา ตรงเขามามูชิง
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฎขึ้น
ลำแสงสีดำบนรางของมูชิงถูกหมอกสีดำหอเอาไว ก็คลายออกทันที เผยเงาราง
เยายวนอรชนออนแอนออกมา
หนาตาที่แทจริงเผยออกมา
คาดไมถึงวาจะเปนสตรีผูงดงามผิวสีดำคล้ำ
บางทีสตรีผูนี้ก็ไมนับวางดงามที่สุดในแผนดิน แตจิตสังหารตรงหวางคิ้วที่แทบจะ
กอตัวขึ้นอยางหนาแนนนั้น กลับทำใหผูคนเห็นแลวรูสึกอกสั่นขวัญแขวนไมได
“ตาเฒาจินอยูหรือไม!” สตรีจองเขม็งไปยังตนไมยักษสีดำแวบหนึ่ง ฉับพลันนั้นก็
ตะโกนออกมาดวยความเย็นชา
ลำแสงสีทองสวางวาบขึ้นกลางอากาศ เงาสีทองกลุมหนึ่งปรากฎขึ้นเบื้องหนามูชิง
และประสานมือคารวะสตรีผูนั้น
“คารวะนายทาน วิญญาณจินอยูที่นี่มาโดยตลอด!”
คาดไมถึงวาเงารางสีทองจะเปนวานรสูงสามฉื่อที่มีลำแสงสีทองเปลงแสงทั่วเรือนกาย
แผนหลังมีสามงามและกระบี่สั้นไขวกันอยู หนวดสีขาวยาวครึ่งฉื่อ ดวงตาทั้งสองเปน
สีดำเปนมันวาว สีหนาเคารพนับถือ
“ตาเฒาจินลุกขึ้นเถิด! ชวงนี้ไมมีผูใดลักลอบเขามาที่นี่สินะ” คาดไมถึงวามูชิงจะ
ปฏิบัติตอวานรสีทองตัวนี้อยางเกรงใจเปนพิเศษ ยกมือขึ้นใหวานรลุกขึ้นแลวเอยถาม
อยางออนโยน
“ไมมี สองปมานี้ตาเฒาจินไมเคยอยูหางรางของนายทานแมแตกาวเดียว ไมพบ
ความผิดปกติใดๆ” วานรตอบกลับอยางไมลังเลเลยแมแตนอย
“ดีมาก ที่ผานมาตองขอบคุณตาเฒาจินจริงๆ เจาก็รู แมวาอิทธิฤทธิ์ของขาจะไม
ตางกับคนอื่นๆ นัก แตรางมายาที่สรางขึ้นจากพฤกษาวิญญาณนั้นมีจุดออนที่ถึงชีวิต
จึงตองรบกวนตาเฒาจินชวยปกปอง” มูชิงถอนหายใจออกมาขณะเอย
“เหตุใดนายทานตองกลาวเชนนี้ดวย ตอนนั้นขาเปนแควานรปาธรรมดาที่มักจะ
มาเลนใกลๆ กับรางของนายทานเทานั้น หากไมใชเพราะนายทานคอยสนับสนุน
จะมีวิญญาณจินวันนี้ ไ ด อยา งไร! และยิ่งไปกวา นั ้ นครั้ งที่ แลว วิญญาณจินไม ไ ด
ตรวจสอบจนตกหลุมพรางของผูอื่น จนเกือบจะทำใหรางของนายทานถูกคนชิงไป
หากไมใชเพราะนายทานสังหรณใจไมดี ยอมเสียปราณแทครึ่งหนึ่ง ระเบิดตนเองทำ
ร า ยอี ก ฝ า ย เกรงว า วิ ญ ญาณจิ น คงทำผิ ด ที ่ ไ ม อ าจกอบกู  ไ ด แ ล ว แต เ ช น นี ้ ร  า ง
พฤกษาวิ ญ ญาณของนายท า นจะกลั บ มาเป น ดั ง เดิ ม ได เกรงว า ก็ ต  องใช เ วลาอี ก
หลายป” วานรกลับเอยดวยสีหนาละอายใจ
“เรื่องครั้งที่แลวก็ไมอาจโทษเจาได เปนเพราะขาประมาทคิดวามีพวกลิ่วจูอยูดวย
จะไมมีผูใดทำอะไรรางหลักของขาได ถึงไดใหคนทะลวงเขามาในมิติเวลา ทวาในเมื่อ
คนผูนั้นแอบเขามาในที่ที่ขาซอนรางหลักเอาไวได และยังลอเจาออกไปได ก็มีเพียง
คนที่คุนเคยกับถ้ำแกนพฤกษาเทานั้น คนผูนี้คือผูใด ขาเองก็รูดีอยูแกใจ แตแคคนผูนี้
ก็ถูกผูอื่นบงการอยู ขาจึงไมอยากแหวกหญาใหงูตื่น พลาดเรื่องใหญอยางแมน้ำอเวจี
ไป ถึงไดแสรงทำเปนไมรูเชนนี้ รอจนขากลับมาจากแมน้ำอเวจี และไดทุกอยาง
กลับมาแลว ขาจะตัดเอ็นถลกหนังมันเปนการแกแคนใหกับรางหลักของขา” มูชิงมี
สีหนาเครงขรึม แววตาฉายจิตสังหารออกมาขณะเอย
ตอนที่ 1474 แผนการที่คาดไมถึง
“ในเมื่อนายทานรูแลว วิญญาณจินก็วางใจ ทวานายทานจะไปแมน้ำอเวจีในครั้งนี้
จะจัดการรางพฤกษาวิญญาณอยางไร?” วานรลังเลเล็กนอย แลวเอยถามสิ่งที่คางคา
อยูในใจ
“จุดนี้ขาคิดเอาไวแลว ขาจะเตรียมนำรางพฤกษาวิญญาณไปดวย” มูชิงตอบกลับ
อยางราบเรียบ
“นายทาน จะเปนไปไดอยางไร! แมน้ำอเวจีอันตรายขนาดไหน หากนายทาน
ถูกกักหรือเกิดอะไรขึ้นในแมน้ำอเวจี รางหลักอยูภายนอก ขอแคใชเวลาสักหนอย
ก็อาจจะคืนรางไดอีกครั้ง แตหากถูกกักอยูในแมน้ำอเวจีดวยกัน จะไมเปนการสูญเสีย
โอกาสนี้หรือ และยิ่งไปกวานั้นรางพฤกษาวิญญาณก็ไมอาจอยูในยามเก็บของไดนาน
นัก แมน้ำอเวจีไมมีตนไมใบหญาสักตน จึงยิ่งไมอาจปลูกไวที่นั่นได” วานรสีทองมี
สีหนากังวลใจ
“วางใจ ในเมื่อขานำรางหลักเขาไปในแมน้ำอเวจี แนนอนวาตองมั่นใจวาจะ
กลับมาไดมากกวาเจ็ดสวน ดวยเหตุนี้ขายังหลอมไขมุกเก็บของที่พฤกษาวิญญาณ
สามารถอาศั ย อยู  ไ ด ส องสามป ข ึ ้ นมาด ว ย มิ เ ช น นั ้ น ข า จะเอาร า งหลั ก ออกไปใน
โลกภายนอกอยางสบายใจไดอยางไร แมนวาเจาจะมีความสามารถไมนอย หางชั้นกับ
พวกเราแคขั้นเดียวเทานั้น แตหากมีคนวางแผนชั่วราย ก็ไมอาจปกปองรางหลักของ
ขาไดนานนัก” มูชิงสั่นศีรษะ เดินไปอยูหนาตนไมยักษสีดำ ใชฝามือลูบไปที่ตนไม
อยางแผวเบาขณะเอย
“ในเมื ่ อนายท า นตั ด สิ น ใจแล ว วิ ญ ญาณจิ น ก็ ข อตามเข า ไปช ว ยนายท า นที่
แมน้ำอเวจีอีกแรง” วานรสีทองไดฟงคำพูดอันแนวแนของมูชิง พลันครุนคิดเล็กนอย
แลวเอยเชนนี้ออกมา
“หึๆ ผูเฒาจินไมพูดถึงเรื่องนี้ ขาก็คิดไวอยางนั้นอยูแลว ถึงอยางไรเสียชวงที่ผาน
มาแมขาจะรับผูใตบังคับบัญชาที่มีความสามารถเอาไวหลายคน แตกลับมีแคเจาที่ขา
ไวใจจริงๆ หลังจากตามขาเขาไปในแมน้ำอเวจีแลวก็ไมตองทำอยางอื่น แคชวยขา
จับตามองเจาเด็กแซหานก็พอแลว แนนอนวาหากเขาตกอยูในอันตราย ก็ตองปกปอง
ชีวิตนอยๆ ของเขาเอาไว” มูชิงเอยอยางราเริง
“เจาเด็กแซหาน? คือผูที่นายทานพากลับมาเมื่อสองปที่แลวนะหรือ” วานรสีทอง
แววตาเปลงประกายเย็นยะเยือก เอยถามเพื่อความแมนยำ
“ใชแลว คนผูนั้นไมใชแคมีประโยชนตอการทำลายเขตอาคมของแมน้ำ อเวจี
ยังเปนคนที่มีความสำคัญตอการฟนฟูปราณแทอยางรวดเร็วของขาอีกดวย” มูชิง
พยักหนาดวยสีหนาเครงขรึม
“ขาจะดูแลคนผูนี้ใหดี” วานรสีทองตบอกพลางเอยอยางรับประกัน
“กอนเขาไปในแมน้ำอเวจีอยางเปนทางการ เจาไมตองกังวลกับความปลอดภัย
ของคนผูนี้นัก แมวาพวกเราจะไมลงมือ คนอื่นๆ ก็ตองการใหผูคนผูนี้ทลายเขตอาคม
ของแม น ้ ำ อเวจี ไม ม ี ท างทำร า ยเขาแม แ ต ป ลายก อ ยแน แต ห ลั ง จากเข า ไปใน
แมน้ำอเวจีแลว ตาเฒาจินคงตองลำบากแลว” มูชิงคุรนคิดแลวเอยขึ้น
“นายทานโปรดวางใจ วิญญาณจินเขาใจดี” วานรสีทองตอบกลับอยางเครงครัด
“เยี่ยม ขาก็วางใจ ที่นี่ใหเจาดูแลชั่วคราวก็แลวกัน รอจนถึงวันที่ออกเดินทาง ขาจะ
มาเรียกเจาอีกครั้ง” มูชิงถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง เผยสีหนามีแผนการออกมา
……
ในมิติเวลาขนาดใหญดานลางพระราชวังเพลิงโลหิต ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิต
สองคนยืนเคียงบากัน เบื้องหนาของทั้งสองคือหุนเชิดสีมวงโลหิตขนาดใหญเทา
เนินเขา
ครานี้ดวงตาปศาจทั้งสี่ที่อยูเบื้องหนาของหุนเชิดพลันเบิกโพลง เปลงลำแสง
สีโลหิตประหลาดๆ ระยิบระยับ จองเขม็งไปยังผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตเบื้องหนา
ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตทั้งสองไมไหวติง แตสายตาที่ประสานกับดวงตาทั้งสี่ของ
หุนเชิดนั้นกลับเผยแววตาเลื่อนลอยสับสนออกมา
หลังจากผานไปชั่วครูเสียงถอนหายใจลึกๆ ก็ดังออกมาจากปากของหุนเชิด!
“เชนนั้นมูชิงและแมเฒาภูตคงไมทำสัญญา คิดจะใชเจาเด็กนั่นชวยกันฮุบสมบัติ
ในสุสานมารหรอก หึ โชคดีที่ขาคิดเรื่องนี้เอาไวนานแลว ใหเจาเด็กแซหานชวย
พวกเราหลอมเกราะสงครามปดเปาภยันตรายกอน ขอแคเจาเด็กนั่นพกวิญญาณรับใช
ไวกับตัว ถึงครานั้นจะถูกใครควบคุมก็เปนเรื่องที่พูดยากแลว นอกจากนี้แมนวา
พวกของลิ่วจูและแมเฒาภูตจะเจาเลห ก็คงคิดไมถึงวาขาจะยอมทิ้งรางคูมารทมิฬเดิม
นำจิตวิญญาณดั้งเดิมไปหลอมรวมกับหุนเชิด เหลือไวในรางมารแคจิตวิญญาณดั้งเดิม
ที ่ ส องเท า นั ้ น และไม ก ลั ว อั ส นี เ ทวาป ด เป า ภยั น ตรายอะไรอี ก ขอแค เข า ไปใน
แมน้ำอเวจี ไดสิ่งที่ทำใหหุนเชิดพัฒนาระดับขึ้นอีกขั้น ขาก็จะอาศัยรางของหุนเชิด
ขึ้นเปนแมทัพ นั่นก็ไมใชเรื่องเพอฝนแลว หึๆ สมบัติในสุสานมาร ยอมไมมีทางปลอย
ใหพวกเขาทั้งสองเอาไปแตเพียงลำพังแน”
เสียงบุรุษที่ไมคุนเคยดังออกมาจากรางของหุนเชิดสีมวงแดง ดังกองสะทอนไปทั้ง
มิติเวลา
สวนผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตทั้งสองลวนมีสีหนาสดใส แตกลับประสานมือเขา
ดวยกัน โดยไมไดเอยอะไรออกมา
…..
ในสวนลึกของเหวพสุธา วายุสีดำลูกหนึ่งกำลังเริงระบำอยูทามกลางหุบเขา
สตรีผูงดงามเรือนผมสีขาวลอยอยูกลางอากาศ มือหนึ่งควงของสิ่งหนึ่งเลนในมือ
สายตากวาดไปยังเบื้องลางอยางราบเรียบ
ดานลางวายุสีดำลูกนั้นมีเงารางคนจำนวนนับไมถวนอยูลางๆ
เงารางคนเหลานี้สูงสองสามจั้ง ผิวหนังเปนเกราะประหลาดสีดำ หนาตาแปลก
ประหลาด
ฮูหยินผูงดงามผมขาวพิจารณาเงารางคนดานลางแวบหนึ่ง แลวถอนสายตา
กลับมาจองเขม็งไปยังสิ่งของในมือ
นางควงมันเลนไปมา เห็นไดชัดวาคือไขมุกกลมๆ สีเขียวมรกตเม็ดหนึ่ง
ไขมุกเม็ดนี้เปลงแสงสีเขียวโดยไมรูวาเปนสมบัติชนิดใด ตัวเม็ดเปลงไอวิญญาณ
พฤกษาที่บริสุทธิ์ออกมา
สวนใบหนาของฮูหยินงามกลับมีสีหนาไมสงบนิ่ง เหมือนกับมีเรื่องอะไรสักอยางที่
ทำใหนางไมอาจตัดสินใจได
……
ตรงใจกลางของเทือกลึกลับที่ชั้นหนึ่งของเหวพสุธา บนแทนบูชาสูงรอยจั้งเศษ
ลูกตาขนาดยักษสีเทาขาวดวงหนึ่งยังคงพนเสนไหมสีเทาจำนวนนับไมถวนออกมา
โบกสะบัดอยูดานลาง ทยอยกันดูซับไอทมิฬเขาไปดานใน
ลิ่วจูที่สวมผาคลุมสีดำ กลับมองดูทุกอยางราวกับไมมีอะไรเกิดขึ้น แตแคสองมือ
ไพลหลัง เงยหนาขึ้นมองกลางอากาศ รางกายไมไหวติง
สองแขนที่โผลพนออกมาจากเสื้อคลุมสีดำกำยำเปนอยางยิ่ง ผิวหนังมีรอยแตก
สีเทาขาวที่นอยใหญไมเทากัน
อีกดานหนึ่งกลางอากาศเหนื อที่รกรางสี ดำ สายรุงสีเขียวสายหนึ่งกำลั ง บิ น
ลองลอยอยู
ชายหนุมสวมชุดสีเขียวที่อยูภายในลำแสงหลีกหนี นั่นก็คือหานลี่ที่แยกจากมูชิง
ไดไมนานนัก
แมวาเปนเพราะในตัวมีตราประทับของราชันยปศาจทั้งสี่อยู ไมวาจะไปหลบซอนที่ใด
ก็ไมอาจปดบังคนเหลานั้นได
หานลี่ยังคิดจะหาที่ที่รกรางที่หนึ่งเพื่อพักอาศัย
สวนความคิดที่จะถือโอกาสนี้หลบหนีนั้น เขาก็ทำไดเพียงขบคิดเทานั้น หาก
ตราประทับบนรางยังไมถูกคลายออก ก็ไมอาจหนีจากการควบคุมของราชันยปศาจได
ราชันยปศาจเหลานี้ใหเวลาเขาไมมากนัก แตระยะเวลาสองสามปก็เพียงพอจะให
เขาหลอมโลหิตวิ ญ ญาณนกยู งห าสีครึ่ง ขวดที่ เพิ่ งไดมา แลวฝกฝนเคล็ดวิชาการ
แปลงกายของวิญญาณเที่ยงแทนี้แลว
เดิมทีการผสมโลหิตวิญญาณเที่ยงแทเขาไปยอมเปนเรื่องที่ทำสงเดชไมได จำตอง
มีชีพจรโลหิตหรือเคล็ดวิชาลับอะไรที่พิเศษคอยชวยเสริมถึงจะได
แตคาถาตื่นจากจำศีลแปลงกายสิบสองครั้งนั้นกลับใชคาถาแคชุดเดียว ก็สามารถ
คลายความยากเข็ญนี้ไดแลว
เห็นไดชัดวาอาวุโสเผาวิหคสวรรคที่สรางเคล็ดวิชานี้ขึ้นในตอนแรกเปนอัจฉริยะที
มีพรสวรรคล้ำเลิศ!
แมหานลี่จะรูวาหากฝกฝนสำเร็จ ก็ไมอาจเปนคูตอสูของสิ่งมีชีวิตระดับหลอมรางได
แตอยางนอยที่สุดก็นาจะรักษาชีวิตเอาไวไดในแมน้ำอเวจี แนนอนวาหากเขาคิดวิธี
สลายรอยประทับนี้อยางเงียบๆ ในชวงเวลานี้ได เขาก็จะไปจากที่นี่อยางไมตองคิด
แม น ว า จะได ย ิ น มู  ช ิ ง คุ ย เรื ่ อ งราวเกี ่ ย วกั บ แม น ้ ำ อเวจี อ ยู  ส องสามประโยค
แตสถานที่ที่ทำใหราชันยปศาจระดับหลอมรางเพลี้ยงพล้ำไดนั้น ยอมเปนสถานที่
ที่อันตรายมาก
หานลี่ครุนคิดอยูในใจ บินออกมาไดครึ่งเดือนกวา ในที่สุดก็หยุดอยูเบื้องหนา
เทือกเขาขนาดยอมแหงหนึ่ง
เทือกเขาแหงนี้อยูหางจากที่พักของมูชิงและพวกไปตั้งไมรูกี่หมื่นลี้ ไอวิญญาณใน
ภูเขาหนาแนนมาก และไมมีปศาจระดับสูงอะไรนักรวมตัวกันอยูที่นี่
หลังจากที่หานลี่บินวนลอมเทือกเขาผืนนี้อยูชวงหนึ่ง ในที่สุดก็พยักหนาดวย
ความพึงพอใจ รอนลำแสงหลีกหลีนลงตรงใจกลางของเทือกเขา
หลังจากผานไปสองสามชั่วยาม เนินเขาของภูเขาลูกนี้ก็ถูกหานลี่ตัดออกอยางงายดาย
สรางเปนถ้ำพำนักอยางงายๆ แหงหนึ่ง
เขาเขาไปในถ้ำพำนักแลววางเขตอาคมลงทันที ปลอยหมอกสีขาวออกไปหอหุม
ภูเขายักษทั้งลูกเอาไว
หานลี่เขาไปในหองลับภายในถ้ำพำนัก ตั้งแตนั้นประตูบานใหญก็ปดสนิท ทาทาง
ไมไดคิดจะกักตนเปนเวลานานนัก
เวลาคอยๆ ไหลผานไป เทือกเขาที่หานลี่อาศัยอยูนั้นแบงออกเปนสี่ฤดูอยางชัดเจน
จากวสันตฤดูไปจนถึงเหมันตฤดู สารทฤดูจนถึงเหมันตฤดู ทำใหบางเวลาเทือกเขาก็
เต็มไปดวยสีดำและเขียว บางครั้งก็เปนสีขาวโพลนของหิมะ
มูชิงและพวกดูเหมือนวาจะลืมหานลี่ไปจนหมดแลว ยังคงยุงวุนวายกับเรื่องของ
ตัวเอง
สองปตอมาหานลี่นั่งขัดสมาธิอยูบนฟูกภายในหองลับ มือหนึ่งควงไมกระบองที่ดู
ธรรมดาๆ ดามหนึ่งเลนไปมา
ไม ก ระบองนี ้ ด  านหนึ ่ ง ทื ่อๆ อี ก ด า นหนึ ่ ง รี บ เหมื อนใบมี ด รู ป ทรงกลม ผิ ว มี
ลวดลายสีเขียวลึกลับ
นั่นก็คือ ผลสวรรคทมิฬที่หานลี่เรงการเจริญเติบโตมันขึ้นมาอยางหนัก แตกลับ
ไมรูวามีประโยชนใด
ชวงปที่ผานมาเขาเอาแตใชขวดเล็กลึกลับหยดของเหลวลงไปบนมัน
ผลคือหลายปผานไปภายนอกของเจาสิ่งนี้ก็ยังไมเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด
แคลำแสงสีขาวนวลที่ซอนอยูดานในเริ่มหนาขึ้นกวาตอนแรกหลายเทา ลำแสง
ระยิบระยับ ดูสะดุดตาเปนอยางมาก
จากนั้นหานลี่ก็ลองใชลมปราณหรือแมกระทั่งโลหิตบริสุทธิ์กระตุนเจาสิ่งนี้อยู
สองสามครั้ง แตก็ยังคงไมมีอะไรเกิดขึ้นเลยสักนิด
และการทดสอบในครั้งนี้ก็เห็นไดชัดวาไมมีผลอะไร
ถอนหายใจออกมาเบาๆ เฮือกหนึ่ง หานลี่จึงทำไดเพียงเก็บ ‘ไมกระบอง’ เขาไป
ในกำไลเก็บของอีกครั้ง จากนั้นก็เผยสีหนาครุนคิดออกมาขณะกมหนาลง
สองปนี้ในที่สุดเขาก็นำโลหิตวิญญาณเที่ยงแทของนกยูงหาสีเขาไปในรางดวย
คาถาตื่นจากจำศีลและแปลงกายเปนสิ่งนี้ไดสำเร็จแลว
ผลคือพลันรูสึกวาพลังยุทธของตนเองเพิ่มขึ้นไมนอย ชางเปนผลประโยชนที่คาด
ไมถึงจริงๆ
หากไมใชเพราะตนเองยังไมเคยฝกฝนคาถาแลปงกายเปนมังกรเที่ยงแทหงสสวรรค
เขาคงคิดจะหลอมโลหิตวิญญาณเที่ยงแททั้งสองชนิดเขาไปในราง แลวดูวาพลังยุทธ
ของตนเองจะเพิ่มขึ้นไปไดถึงขั้นไหน
ทวาสองปนี้เขาก็เริ่มกินของเหลววิญญาณคางคกเที่ยงแทไปแลว แตนาเสียดายที่
แมวาของเหลวชนิดนี้จะมีผลประสิทธิภาพที่นาตกตะลึง แตภายในระยะเวลาสั้นก็ไม
อาจทำใหพลังยุทธของเขาเพิ่มขึ้นไดเทาใดนัก
สวนตราประทับราชันยปศาจทั้งสี่ในรางนั้นก็ยังคงทำอะไรมันไมได
เชนนี้การที่เขาตองเขาไปในแมน้ำอเวจีก็คงเปนเรื่องที่ไมอาจหลีกเลี่ยงได
หานลี่ขบคิดมาถึงตรงนี้ หวางคิ้วก็อดที่จะมีจิตสังหารสวางวาบขึ้นมาไมได
แตหลังจากผานไปชั่วครู เขาก็เงยหนาขึ้นพรอมกับเปลี่ยนสีหนา สายตากวาดไป
ยังประตุหองลับที่ปดสนิทอยู ใบหนาฉายแววประหลาดใจสวางวาบ
ฉับพลันนั้นมือหนึ่งก็ตะปบไปทางประตู!
เสียง “สวบ” ดังขึ้น เขตตองหามบนประตูสั่นกระเพื่อม ของสีดำชิ้นหนึ่ง พุง
แหวกเขตตองหามเขามา ถูกเขาควาเอาไว
หานลี่มองของในมือนิ่ง ชั่วขณะนั้นพลันหนาเปลี่ยนสี หยัดกายลุกขึ้นอยาง
กะทันหันพรอมกับเสียง “พรึ่บ”
กลองไมความยาวสองสามฉื่อกลองหนึ่ง ภายนอกเปนสีถาน เต็มไปดวยรอยหลุม
ชางอัปลักษณนัก!
ตอนที่ 1475 สตรีสองคนมาเยี่ยม
หานลี่กวาดจิตสัมผัสไปบนกลองไม ใชนิ้วลูบไปบนของชิ้นนี้เล็กนอย ครุนคิดอยู
เงียบๆ
หลังจากผานไปชั่วครู เขาก็เปดฝากลองออก ดานในมีเสียง “สวบ” ดังขึ้น คิดไมถึงวา
จะมีไขมุกกลมสีดำสนิทราวกับน้ำหมึกเม็ดหนึ่งบินโฉบออกมา
ไขมุกกลมเม็ดนี้หมุนตัวเปนวงกลมอยูตรงหนาหานลี่ แลวกลายเปนหมอกสีดำ
กลุมหนึ่งระเบิดออก เปลงแสงสวางวาบแลวหายวับไปอยางไรรองรอย
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น หานลี่พลันรูสึกเพียงวาคันฝามือ
ขณะที่ใจกำลังเตนระรัวเขาก็ยกมือขึ้น
เห็นเพียงตรงใจกลางฝามือมีตัวอักษรประหลาดเล็กๆ ปรากฎขึ้นสองสามตัว
มีขนาดเล็กเทาเมล็ดขาวสาร เบลอๆ ไมชัดเจน
หานลี่มองไปปราดหนึ่งแลวสะบัดขอมือ
ลำแสงสีเขียวเปลงแสงสวางวาบ ตัวอักษรสองสามตัวหายวับไปอยางไรรองรอย
หลังจากที่เขาครุนคิดอีกชั่วครู รางกายก็เปลงแสงสีเขียวออกมา กลายเปนสายรุง
สีเขียวสายหนึ่งพุงออกไปจากหองทำสมาธิ หมุนวนรอบหนึ่ง แลวตรงไปยังประตูของ
ถ้ำพำนัก
หนึ่งเคอตอมา กลางอากาศเหนือหุบเขานิรนามแหงหนึ่งที่ตั้งอยูตรงชายแดนของ
เทือกเขา สายรุงสีเขียวพุงเขามาราวกับมังกรที่แหวกวายอยูกลางนภา
ลำแสงสีเขียวหมนแสง รางของหานลี่ปรากฎขึ้นกลางอากาศเหนือยอดเขา
แววตาของเขาเปลงแสงสวางวาบพลางกวาดตามองไปสองสามแวบแลวรอนลง
มาอยางเชื่องชา
พื้นที่ของหุบเขานี้มีแคพันกวาจั้งเทานั้น มุมหนึ่งของหุบเขามีกองหินระเกะระกะ
วางอยู
หานลี่กำลังรอนลงบนเบื้องหนากองหินกองนั้น
“ผูแซหานมาตามนัดแลว สหายทั้งสองปรากฎตัวเถิด” เมื่อสองเทาของหานลี่
แตะพื้น ก็เอยกับหินกอนยักษทามกลางกองหินกอนหนึ่งดวยสีหนาราบเรียบ
“หึๆ ศิษยพี่หญิงเหยียน ขาบอกแลว เคล็ดวิชาอำพรางกายแคนี้ไมมีทางปดบัง
พี่หานไดแน”
“ขาเองก็รูวาสหายหานตองเปนผูที่มีความสามารถไมธรรมดา ทำเชนนี้ก็แคอยาก
ทดสอบเทานั้น”
หลั ง จากหั ว เราะน อ ยๆ ออกมา เสี ย งสนทนาอั น ไพเราะของสตรี ท ั ้ ง สองก็
ดังออกมาจากกอนหินยักษกอนนั้น จากนั้นหมอกลำแสงสีเทาพลันสั่นกระเพื่อม
สตรีวัยเยาวหนาตางดงามเฉิดฉันสองคนพลันปรากฏตัวขึ้นบนนั้น
คนหนึ่งมีผิวสีขาวราวกับหิมะ รางกายอรชนออนแอนราวกับเทพเซียน สวย
หยาดเยิ้ม ทาทางกำลังหัวเราะตอกระซิก
คาดไมถึงวาจะเปนหยวนเหยาและเหยียนลี่!
กลองไมดำที่หานลี่ไดรับในถ้ำพำนัก ก็คือยุทธภัณฑที่ทำมาจากไมหลอเลี้ยง
วิญญาณที่ไดมาจากวิหารนภาสูญในตอนแรก
ดังนั้นเขามองปราดเดียวก็จำไดแลว
แตแคไมรูวาสตรีทั้งสองสำแดงความสามารถที่ลึกลับอะไร คาดไมถึงวาจะสง
กลองไมมาดานนอกหองลับของเขาโดยที่ไมมีผูใดลวงรู
“ที่แทก็สหายทั้งสองนี่เอง! แมหญิงหยวน ตอนที่แยกกันในมหาสมุทรดาวคลั่ง
สบายดีหรือ?” หานลี่มองสตรีทั้งสอง ใบหนาประหลาดใจฉายแวบผานไป แลวเอย
ถามอยางเอื่อยเฉื่อย
“พี่หาน หรือวาเจาลอพวกเราเลน เจาเห็นวาขาและศิษยพี่หญิงเหยียนมีทาที
ไมสบายหรือ?” หยวนเหยาหุบยิ้มบนใบหนา แลวถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“นั ่ น มั น ก็ ใ ช ผู  แ ซ ห านพู ด จาไม เ หมาะสมแล ว ทว า ข า ว า แม ห ญิ ง ทั ้ ง สองดู
ไมเหมือนพวกภูต มีความลับอะไรสินะ” หานลี่สัมผัสไดถึงไอทมิฬที่แผออกมาจากราง
ของสตรีทั้งสอง ก็ขมวดคิ้วขณะเอยถาม
“พี่หานเดาไมผิด วันนั้นเปนเพราะศิษยนองหญิงพยายามชวยชีวิตขา จึงพลัดเขา
ไปในหมอกภูตของมหาสมุทรดาวคลั่ง เราสองคนไดอาศัยไอยมโลกทมิฬของที่ นั่น
ฝกฝนคาถาตะวันจันทราวัฏสงสาร แตเคล็ดวิชาการผสานรางมนุษยและภูตนั้น ก็ทำ
ใหพวกเราสองคนกลายเปนครึ่งคนครึ่งภูต จะวาไปแลวเปนเพราะขาไมมีกายเนื้อ
จึงตองลำบากศิษยนองหญิงหยวน” เหยียนลี่มีสีหนาละอายใจขณะเอย
"ศิษยพี่หญิง เจาพูดอะไรกัน ตอนนั้นหากไมใชเพราะศิษยพี่หญิงลงมือชวย
ขาก็ไมรูวาเปนหรือตายแลว ศิษยพี่หญิงจะตกไปอยูในสถานการณนั้นไดอยา งไร
เหยียนเหยากลับหนาเปลี่ยนสี แลวรีบรอนเอยอธิบาย
เหยียนลี่กลับทำไดเพียงสั่นศีรษะพรอมกับหัวเราะอยางขมขื่น
“คาถาตะวันจันทราวัฏสงสาร?” หานลี่กลับขมวดคิ้ว
“ไมเลว! ดูแลวพี่หานคงรูจักเคล็ดวิชานี้ไมนอย” เหยียนลี่เอียงคอ แววตาคูงาม
เปลงประกายขณะเอย
“ผูแซหานรูจักเคล็ดวิชานี้อยูเล็กนอย เชนนั้นทั้งสองก็สูญเสียคุณสมบัติในการ
เขาสูวัฏสงสารไปแลว!” หานลี่กระแอมไอเบาๆ ขณะเอย
เหยียนลี่นั้นพอวา หานลี่ไมไดสนิทสนมกับนางนัก แตสิ่งที่หยวนเหยาทำในตอนนั้น
เขายังรูสึกเลื่อมใสเปนอยางมาก
“ตอนนั้นหากขาและศิษยพี่หญิงไมฝกฝนการผสานราง เกรงวาคงกลายเปนเถาธุลีไป
นานแลว ดังนั้นการฝกฝนเคล็ดวิชานี้ หยวนเหยาจึงไมไดรูสึกเสียใจอะไร แตวาการที่
พี่หานบินมาขึ้นมายังแดนวิญญาณไดนั้นถึงจะเปนเรื่องที่นานับถือมาก” หยวนเหยา
หัวเราะกับหานลี่เบาๆ
“จากการขาดแคลนไอวิญญาณในแดนมนุษย ขาเองก็ไมไดใชวิธีการธรรมดาๆ ใน
การบินขึ้นมา ทวาเหตุใดสหายทั้งสองถึงมาปรากฎตัวที่นี่ ที่นี่ไมใชเขตแดนของ
เผามนุษยของพวกเรา” หานลี่รูสึกประหลาดใจไปเล็กนอย
“พวกเราศิษยพี่ศิษยนองก็ไมรูเหมือนกัน สองรอยปกอน ขาและศิษยนองหญิง
ฝกฝนคาถาตะวันจันทราวัฏสงสารสำเร็จ เพิ่งจะบรรลุระดับเทพแปลง ก็ถูกพายุ
ทะมึนลูกใหญพัดเขาใสจนออกจากแดนฝกฝน และเปนลมสลบไป รอจนพวกเรา
สองคนไดสติ ก็มาปรากฎตัวอยูในเหวพสุธา จากนั้นก็พบกับแมเฒาภูตที่มีรางเปนภูต
และถูกรับไวเปนศิษยใตอาณัติ ขาและเหยียนลี่อยูที่นี่มาเนิ่นนาน ถึงไดรูวาเราสองคน
อยูในแดนวิญญาณ และไมเคยมีโอกาสไปบนพื้นเลยสักครั้ง” เหยียนลี่มีสีหนางงงวย
ฉายแวบผานขณะเอยปากตอบ
หานลี่ไดฟงคำพูดเหลานี้กลับรูสึกหมดคำพูด
ในแดนมนุษยมีผูบำเพ็ญเพียรระดับเทพแปลงจำนวนไมนอยที่ทุมเทแรงกาย
แรงกายในการขามไปยังแดนวิญญาณ แตผลคือไมอาจสมหวังได
แตหยวนเหยาและพวกทั้งสองเพิ่งจะฝกฝนสำเร็จ ก็มาถึงแดนวิญญาณอยางงงๆ
ในโลกนี้ชางมีเรื่องมหัศจรรยมากมายจริงๆ!
“สหายทั้งสองมาถึงแดนวิญญาณไดอยางไร จุดนี้ขาเองก็อนุมานไมได แตเหตุใด
ถึงไมตกไปที่แดนมนุษย ก็นาจะเปนเพราะคาถาตะวันจันทราวัฏสงสาร ถึงไดทำให
แมนางทั้งสองไมไดถูกแทนวิญญาณเหาะเหินรับเอาไว” หานลี่ขบคิดเล็กนอยแลวเอย
เชนนี้ออกมา
“ปญหานี้ขาและศิษยพี่หญิงหยวนเองก็เคยศึกษา และคิดวาสาเหตุนี้เชนกัน”
เหยียนลี่พยักหนาขณะเอยสนับสนุน
“เอาละเรื่องในอดีตพวกเราคอยหาเวลาคุยกันได แตจูๆ สหายทั้งสองมาหา
ผูแซหานที่นี่ นาจะมีธุระอะไรสินะ!” หานลี่เลิกคิ้วแลวเอยถามขึ้น
หยวนเหยาและเหยีย นลี่ ไดยิ นคำพู ดนี ้ก็ อดที่ จะมองสบตากั น แวบหนึ่ง ไม ไ ด
คาดไมถึงวาครานั้นจะเงียบกริบไมมีคำพูดใดๆ
ชั่วครูหลังจากที่เหยียนลี่ลังเลเล็กนอย ก็เอยสิ่งที่ทำใหหานลี่ตะลึงงันออกมา
“ในเมื่อพี่หานและศิษยพี่หญิงหยวนเปนสหายเกากัน ขาเองก็จะไมปดบัง ครั้งนี้ที่
เราสองคนมาหานั ้ น เป นเพราะพวกเรากำลั ง ตกอยู  ใ นอั น ตราย อยากให พ ี ่ ห าน
ชวยเหลือ”
“ตกอยู  ใ นอั นตราย! สหายเหยี ย นหมายความว าอย างไร? สหายทั ้ ง สองเปน
ลูกศิษยของแมเฒาภูต ในเหวพสุธานาจะไมมีผูใดกลาเขามาวุนวายถึงจะถุูก!” หานลี่
มีสีหนาประหลาดใจฉายแวบผาน
“แตผูที่ตองการชีวิตของขาและศิษยนองหญิงหยวน ก็คือแมเฒาภูตนั่นแหละ!”
เหยียนลี่ถอนหายใจออกมายาวๆ เฮือกหนึ่ง แววตาฉายแววตกตะลึง
“แม เ ฒ า ภู ต ! แม ห ญิ ง หยวน เป น เช น นั ้ น จริ ง ๆ หรื อ !” หานลี ่ ใ จหายวาบ
แมจะรูสึกวาเหยียนลี่ไมนาจะพูดจาโปปด แตก็ยังหันหนาไปถามหยวนเหยา
“พี่หานหากไมมีวิธีอื่นแลว ขาและศิษยพี่หญิงเหยียนคงไมเสี่ยงถูกแมเฒาภูตพบ
ดวยการมาหาเจาถึงที่นี่หรอก ทวาพี่หานเองก็ไมจำเปนตองกังวลอะไร แมเฒาภูต
กำลังหลอมราชันยภูตเกราะทมิฬเอาไวใชในแมน้ำอเวจี นาจะไมออกจากการกักตน
ในระยะเวลาอันสั้น นี่จึงเปนโอกาสเดียวที่ขาและะศิษยพี่หญิงจะมาขอ ความ
ชวยเหลือได ปกติแลวพวกเราสองคนไมอาจออกจากวังพสุธาได” หยวนเหยาพยัก
หนาดวยสีหนาเครงขรึม
“พี่หานเคยชวยศิษยนองหญิงในแดนมนุษย และยังปกปองจิตวิญญาณแทน
นองหญิงนอย นองหญิงเองก็เคยไดยินศิษยนองหญิงเอยถึงหลายครั้งแลว ครั้งนี้เรา
สองคนไมมีทางเลือกจริงๆ จึงทำไดเพียงมาหาพี่หานที่นี่ หวังวาสหายจะชวยพวกเรา
ศิษยนองสักครั้ง!” เหยียนลี่เอยไปพลางดวงตาทั้งสองก็แดงก่ำ ฉับพลันนั้นพลันดึง
หยวนเหยาที่อยูขางกายมาคำนับใหหานลี่เบาๆ
หานลี่หนาเปลี่ยนสีสะบัดแขนเสื้อ ชั่วขณะนั้นพลังมหาศาลไรรูปรางกลุมหนึ่ง
พลันสงออกมาจากกลางอากาศ
หยวนเหยาและเหยียนลี่ที่กำลังจะคำนับพลันรูสึกเพียงวาอากาศรอบกายแข็งคาง
จากพลังยุทธของทั้งสองคาดไมถึงวาจะไมอาจคำนับได
สตรีทั้งสองจึงอดที่จะรูสึกตกตะลึงระคนดีใจไมได!
ตกตะลึงนั้นแนนอนวายอมเปนเรื่องที่หานลี่มีความสามารถสูงสง เหนือกวา
ที่พวกนางคาดเอาไว สวนที่ดีใจก็คือหากอีกฝายลงมือ พวกนางก็ดูเหมือนวาจะหนีได
จริงๆ
“แมหญิงหยวน เจาสองคนอยามองผูแซหานสูงสงเกินไปนัก ภายในสถานการณเชนนี้
พวกเจาก็รูดีวาผูแซหานเองก็ถูกลงอาคมไว แลวจะตอกรกับแมเฒาภูตไดอยางไร และ
ยิ่งไปกวานั้นเหตุใดแมเฒาภูตถึงจะเอาชีวิตของสหายทั้งสอง ตองมีเหตุผลสิ?
ทั ้ ง สองแน ใ จเรื ่ องนี้ แ ลว หรื อ ?” หลั ง จากที ่ห านลี ่ไ มไ ดร ับ การคารวะของทั้งสอง
กลับหนาเปลี่ยนสีไปชั่วครูแลวถึงไดเอยถามขึ้นดวยเสียงเขมงวด
“เขาใจผิด? หากขาและศิษยนองหญิงเขาใจผิด คงเปนเรื่องที่โชคดีมาก แตความจริง
แลวเราสองคนไปพบความชั่วที่แมเฒาภูตซอนเอาไวดวยตนเอง สวนเรื่องเปนอยางไร
นั้นนองหญิงนอยจะไมพูดก็แลวกัน แตบอกพี่หานไดวา ตอนแรกที่แมเฒาภูตรับขา
และศิษยนองหญิงหยวนมาเปนศิษยนั้น ก็เพราะสนใจคาถาตะวันจันทราวัฏสงสาร
และไอทมิ ฬบริ ส ุ ท ธิ ์ ท ี ่ ร วมตั ว อยู  ใ นร า งของข า และน องหญิ ง เคล็ ด วิ ช าหนึ ่ ง ของ
แมเฒาภูตผูนี้สามารถกลืนกืนไอทมิฬและจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของพวกเราไดพรอมกัน
เพื่อชวยใหพลังยุทธืของนางเพิ่มขึ้น” เหยียนลี่เอยไปพลางอดที่จะรางสั่นสะทานไป
พลางไมได
“นอกจากนี้ขาและศิษยนองหญิงเองก็แอบรูวา กอนหนาพวกเราแมเฒาภูตเองก็
เคยรับศิษยที่มีรางเปนภูตไวเชนกัน ผลคือลวนหายไปอยางไรรองรอย เห็นไดชัดวา
หลักฐานที่พวกเรามีเปนความจริง!” หยวนเหยาเอยสนับสนุนดวยสีหนาซีดเผือด
“ตอใหเปนเชนนั้นทั้งสองก็คงไมคิดวาแคขาพูดคำหนึ่ง แมเฒาภูตจะปลอยไป
หรอกนะ ตอใหขาใชของที่มีคา แตแคเขาไปในแมน้ำอเวจีขาก็คงรักษาชีวิตเอาไว
ไดยาก” หานลี่เงียบขรึมไปแลวถึงไดเอยขึ้นดวยดวงตาที่ฉายแววสวางวาบ
“จุดนี้พี่หานไมตองกังวล วิธีชวยพวกเรานองหญิงคิดออกแลว และนาจะงายตอ
พี่หานเปนอยางมาก ยิ่งไปกวานั้นครั้งนี้หากพี่หานชวยพวกเรา ความจริงแลวก็เปน
เรื่องที่ไดโอกาสทั้งสองฝาย พวกเรามีวิธีที่สามารถกำจัดผนึกบนรางของสหายไดใน
ระยะเวลาสั้นๆ” เหยียนลี่หยักมุมปาก ใบหนาเจาเลหปรากฎขึ้นขณะเอย
“อะไรนะ พวกเจาทำไดจริงๆ หรือ!” หานลี่หนาเปลี่ยนสีไปยกใหญ
“จุๆ เรื่องนี้เปนเรื่องสำคัญมาก นองหญิงจะหลอกทำไม ยิ่งไปกวานั้นขาสามารถ
บอกวิธีกับพี่หานได จากนั้นก็ใหพี่หานเปนตัดสินใจเองวาจริงหรือเท็จ” เหยียนลี่
พลันฉีกยิ้ม
“ตกลง! หากเปนเรื่องจริง ขานอยทำได ผูแซหานจะลองเสี่ยงชวยสหายทั้งสอง
ดูสักตั้ง” หานลี่ลูบใตคาง แววตากวาดไปทางใบหนาของหยวนเหยา ในที่สุดก็เอยขึ้น
อยางแนวแน
ตอนที่ 1476 ดื่มโลหิต
“เราสองคนมาหาไมผิดคนจริงๆ พี่หาน เจาฟงใหดีละ!” เหยียนลี่ไดยินหานลี่
ตอบกลับเชนนี้ก็เผยสีหนายินดีออกมา ริมฝปากขยับเล็กนอยพลางถายทอดเสียงมา
หานลี่รวบรวมสมาธิตั้งใจฟง ใบหนาเผยสีหนาขบคิดออกมา
สวนหยวนเหยานั้นแคยืนนิ่งอยูดานขาง เมื่อสายตากวาดมาบนใบหนาของหานลี่
ดวงตาพลันเผยแววสดใสไมแนนอน
“วิธีนี้ก็ใชไดจริงๆ ทวาเกรงวาจะมีเพียงแคสหายสองคนรวมมือกันถึงจะทำเรื่องนี้ได
ในแมน้ำอเวจี” หลังจากที่หานลี่ฟงคำถายทอดเสียงจบ พลันถอนหายใจยาวออกมา
เฮือกหนึ่ง
“พี่หานพูดถูก ไอทมิฬของแมน้ำอเวจี มีเพียงตองใชไอทมิฬบริสุทธิ์ในรางของขา
และศิษยนองหญิงถึงจะรูสึกรวมกันได แนนอนวาแมเฒาภูตเองก็ทำได แตนางไมมี
ทางลบผนึกที่ตนเองลงไวแน” เหยียนลี่ฉีกยิ้มเบิกบาน
“ได แตไมทราบวาสหายทั้งสองอยากใหขาชวยพวกเจาอยางไร” หานลี่พยักหนา
ขณะเอยถาม
“ใหแมเฒาภูตยกเลิกความคิดที่มีตอพวกเรา เดาวาคงไมได แตหากยืดเวลาที่จะ
ลงมื อกั บพวกเราออกไป กลั บอาจจะเป น ไปได ขอแค ย ื ด ไปจนถึ ง วั น ที ่ เขา ไปใน
แมน้ำอเวจี พวกเราสามคนก็จะมีโอกาสหนีจากควบคุมของพวกเขา” หยวนเหยาเอย
อยางแชมชา
หานลี่พลันเลิกคิ้วไมไดเอยตอบอะไร รูวาจากนี้สตรีทั้งสองจะเอยอยางละเอียด
เหยียนลี่พลันเอยตอบทันทีดังคาด
“ตอนนี้แมเฒาภูตและพวกอยากใหสหายชวย ขอแคพวกเราสองคนเผยไปวา
พี่หานและพวกเราสองคนเปนสหายเกาแกกัน และยิ่งไปกวานั้นยังมีสัมพันธลึกซึ้ง
สวนพี่หานเองก็ไปชื่นชมนองหญิงหยวนตอหนาแมเฒาภูต เชนนี้ตอใหนางสงสัยอะไร
ก็จะไมลงมือทำรายพวกเราชั่วคราวแน”
“ชื่นชมแมหญิงหยวน!” หานลี่พลันตกตะลึง กลอกตาไปตกอยูบนใบหนา บอบ
บางของหยวนเหยา
แมวาหยวนเหยาจะฝกบำเพ็ญเพียรมาหลายป เมื่อไดยินคำพูดของเหยียนลี่
ใบหนาก็เผยสีแดงระเรื่อออกมา ทำใหนางยิ่งดูงดงามมากยิ่งขึ้น ชางนาเยายวนใจนัก
“หากแคพูด ผูแซหานยอมทำได ทวาที่แมเฒาภูตและมูชิงทำขอตกลงอะไรกันไวนั้น
เปนความจริงหรือไม ก็เปนเรื่องที่พูดยาก” หานลี่เอยเตือน
“มีเรื่องเชนนี้ดวย?” เหยียนลี่หนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย แตทันใดนั้นก็หัวเราะ
อยางขมขื่นออกมา
“หากเปนเชนนั้นจริงๆ ละก็ ก็เสี่ยงไปหนอย ทวานอกจากวิธีนี้แลว เราสองคนก็
ไมมีวิธีที่ดีกวาแลว ทำไดเพียงรอดูฟาลิขิตแลววาแมเฒาภูตและพวกใหความสำคัญกับ
พี่หานหรือไม” หยวนเหยาหนาเปลี่ยนสีไปเล็กนอย ขณะหัวเราะอยางขมขื่นออกมา
“เอาอยางนี้ก็แลวกัน สหายหานแคยืนยันคำพูดของพวกเรา โดยลองพูดเรื่อง
สำคั ญ หน อยก็ ไ ด ทำให แ ม เ ฒ า ภู ต คิ ด ว า พี ่ ห านหลงรั ก ศิ ษ ย น  อ งหญิ ง หยวนเป น
อยางมาก เชนนั้นแมเฒาภูตก็นาจะคำนึงถึงสามสวน กวาครึ่งคงไมกลาลงมือทำราย
นอกจากนี้ประวัติของขาและหยวนเหยา แมเฒาภูตก็พอรออยูบาง ที่สหายปลอมตัว
เปนคนของเผาวิญญาณเหาะเหิน เกรงวาคงไมอาจปกปดได” เหยียนลี่ขบคิดแลวเอย
อยางเครงขรึม
“ปลอมเปนคนของวิญญาณเหาะเหินเดิมทีก็เปนแคเรื่องที่กุขึ้นมาเทานั้น ไมวา
แมเฒาภูตจะรูหรือไม ก็ไมมีผลอะไรกับขามากนัก พวกเขาไมไดสนใจฐานะคนเผา
วิญญาณเหาะเหินของผูแซหาน แตสนใจที่ควบคุมอัสนีเทวาปดเปาภยันตรายได
เทานั้น” หานลี่สั่นศีรษะอยางไมใสใจ
“พี่หานกลาวเชนนี้ เราสองคนก็วางใจ รอชาไมไดแลว หากแมเฒาภูตออกมา
พวกเราก็จะดำเนินการตามแผน แลวสหายก็เขามารวมมือดวยทันทีก็พอแลว ขอแค
ไมกระทบตอแผนการหลักของพวกเรา แมกระทั่งรายละเอียดในแดนมนุษย สหายก็
บอกแมเฒาภูตไปก็ได ถึงอยางไรเสียก็มีทั้งเรื่องจริงและเรื่องหลอกลวงอยูถึงจะทำให
นางเชื่อถือไดมากยิ่งขึ้น” เหยียนลี่เอยชี้แนะ
“ได ตกลง ผูแซหานจะรวมมือกับสหายทั้งสองอยางเต็มที่” หานลี่กมหนาลง
ขบคิดรอบหนึ่ง รูสึกวาไมมีปญหาอะไรมากนัก จึงเอยอยางแนวแน
หยวนเหยา เหยียนลี่ไดยิน พลันรูสึกผอนคลายลงไปเปาะหนึ่ง สายตาที่มองมายัง
หานลี่อดที่จะมีความรูสึกสนิทสนมขึ้นสองสวนไมได
ทันใดนั้นทั้งสามคนก็กลาวถึงรายละเอียดกันอีกเล็กนอย ในที่สุดสตรีทั้งสองก็ขอตัว
กลาวลา แมวาแมเฒาภูตจะกำลังกักตนอยู สตรีทั้งสองก็ไมกลาประมาทเลยสักนิด
จำตองรีบกลับไปยังชั้นลึกของเหวพสุธา
หานลี่มองไปยังพายุทมิฬของสตรีทั้งสอง ชั่วพรบิตาก็หายวับไปจากขอบฟา แลว
สะบัดแขนเสื้อทันที หลังจากนั้นลำแสงพลันสวางวาบขึ้นบนเรือนราง กลายเปนนกยูง
ยักษขนาดสองสามจั้งตัวหนึ่ง ขนนกสวยสดงดงาม
ปกทั้งสองกระพือออก หมอกลำแสงนับหมื่นสายทำใหแมกระทั่งบรรยากาศรอบๆ
เริ่มมีเสียงคำรามต่ำๆ ขึ้น ลำแสงหาสีมวนวน รางของนกยูงเลือนราง กลายเปน
มานลำแสงหมุนวนบินไปไกล ตรงไปยังใจกลางของเทือกเขา
หลังจากนั้นไมนานรางของหานลี่ก็มาปรากฎตัวในถ้ำพำนัก และเขาไปในหองลับ
ปดประตูหองลับลงอีกครั้ง…
สองเดือนตอมา พายุทมิฬสีดำกลุมหนึ่งพุงจากขอบฟาเขาไปหาถ้ำพำนักของหานลี่
จากนั้นก็รอนลงมาดานลางอยางไมเกรงใจเลยสักนิด แลวหายวับไปอยางไรรองรอย
ราวกับวาจมหายเขาไปในสันเขาอยางไรอยางนั้น
เขตอาคมที่หานลี่วางเอาไว คาดไมถึงวาจะไมมีผลตอเขาเลยสักนิด
หลังจากผานไปหนึ่งชั่วยามเต็มๆ ประตูถ้ำพำนักของหานลี่ก็เปดออก พายุทมิฬสีดำ
บิ น โฉบออกมาอี ก ครั ้ ง ตรงไปยั ง ท อ งฟ า ที ่ อ ยู  ไ กลออกไป แล ว หายวั บ ไปอย า ง
ไรรอ งรอย
ในเวลาเดียวกันประตูถ้ำพำนักก็คอยๆ ปดลงอยางเชื่องชา
เวลาคอยๆ ไหลผานไป หลังจากที่เทือกเขาถูกหิมะสีขาวปกคลุมไวเปนชั้นๆ
เวลาสองปก็ผานไปในชั่วพริบตา
เหวพสุธาทั้งหมดแบงออกเปนเจ็ดชั้น ชั้นที่เจ็ดคือชั้นที่มีไอทมิฬรวมตัวกันอยาง
หนาแนนที่สุด ในนั้นมีปศาจที่แข็งแกรงซึ่งยังไมเบิกเนตรของเหวพสุธาอาศัยอยู
แมกระทั่งราชันยปศาจทั้งสี่ตางก็หวาดกลัวอยูหลายสวน
ดังนั้นแมวาสตรีผูงดงามเรือนผมสีขาวจะชื่นชอบไอทมิฬมากที่สุด แตก็ไมอยาก
นำวังพสุธาแหงการฝกฝนมาไวที่ชั้นนี้ จึงสรางเอาไวที่ชั้นหกเทานั้น
แตวันนี้ที่ชั้นเจ็ดกลางทะเลทรายสีเทาที่เย็นยะเยือกกลับมีเงารางปศาจจำนวน
นับไมถวนปรากฎขึ้น จำนวนมากกวาสองสามหมื่นตน กวาครึ่งลวนเปนปศาจรระดับ
ต่ำธรรมดาๆ นอกจากนี้ยังมีที่แปลกประหลาดอยูบางเล็กนอย
สวนหนึ่งถูกพายุทมิฬสีดำปกคลุมเอาไว เงารางภูตจำนวนนับไมถวนปรากฎขึ้น
ลางๆ และมีเสียงกรีดรองโหยหวยดังออกมาทามกลางพายุ ทำใหปศาจอื่นๆ ตางหลีก
หนีหาย ไมกลาเขาใกลเลยสักนิด ดานบนพายุทมิฬสตรีผมขาวลอยตัวอยูตรงนั้น
ดานหลังมีเงารางสีดำอยูอีกแปดสาย
ทุกตนมีความสูงสองสามจั้ง ลวนสูงเกราะสงครามดุดันเอาไว บางก็ถืออาวุธมีด
บางกลับมือเปลา มองไปที่ใบหนากลับลางเลือน ไมอาจมองใหชัดเจนไดเลยัสกนิด
ไกลจากเงาสีดำทั้งแปดออกไป สตรีผูงดงามสองคนก็ลอยตัวอยูกลางอากาศ
เชนกัน นั่นก็คือ หยวนเหยาและเหยียนลี่
หางจากพายุสีดำไปไมไกลนัก คือหุนเชิดรูปรางตางๆ ที่มีความสูงต่ำไมเทากัน
กำลังยืนนิ่งอยู
สวนใหญลวนเปนหุนเชิดโคลนถลม สูงสองสามจั้ง รางกายเปลงแสงสีเทาขาวบาง
ก็สีน้ำตาลออกมา แตเห็นไดชัดวาเปนการหลอมหยาบๆ สวนนอยเปนหุนเชิดไม
สีดำเขียวและหุนเชิดธาตุทองที่เปลงแสงสีดำมะเมื่อมออกมาจากราง หุนเชิดเหลานี้
ไมวาจะเปนวัตถุดิบที่ใชหรืออักขระอาคมที่อยูบนผิวหนังนั้น ลวนวิจิตรงดงามอยาง
เห็นไดชัด
ทวาทามกลางหุนเชิดเหลานี้ ตัวที่สะดุดตาที่สุดลวนเปนตัวที่อยูตรงกลางของ
หุนเชิดทั้งหมด สูงสามสิบจั้ง เปนหุนเชิดสีมวงแดงหกตา นั่นก็คือ หุนเชิดโลหิตมวง
ขนาดใหญราวกับภูเขาที่ตัวประหลาดพสุธาโลหิตหลอมขึ้นใตวังเปลวโลหิต
ทวาครานี้รางกายของหุนเชิดตนนี้หดเล็กลงหลายสิบเทา แมวาจะยังคงสูงใหญมาก
แตกลับไมนาตกใจเทากับตอนแรก ตรงบาทั้งสองของหุนเชิดโลหิตมวงมีคนสวมชุด
สีโลหิตสองคนยืนอยู ตางเอามือทั้งสองขางไพลหลัง
ตรงหนาสุดของหุนเชิดและเหลาปศาจ มีคนอีกสองสามคนยืนอยูสูงมาก
คนหนึ่งสวมผาคลุมสีดำปกปดรางกายเอาไวอยางมิดชิด กลับเปนผูที่ลึกลับที่สุด
ในบรรดาสี่ราชันยปศาจ ลิ่วจู สิ่งที่ทำใหผูคนตกตะลึงก็คือ เหนือศีรษะของลิ่วจู
มีลูกตายักษขนาดสองสามจั้งลอยอยูดวงหนึ่ง เปลงแสงสีเทาประหลาดๆ ออกมา
หางจากลิ่วจูไปไมไกลนัก กลับมีดอกไมยักษสีทองดอกหนึ่งลอยอยูกลางอากาศ
มูชิงยืนอยูบนดอกไม เงยหนามองทองฟา
วานรสีทองตนหนึ่งยืนอยูดานขาง แผนหลังสะพายดาบคู ดวงตาฉายแววเย็นชา
ดานลางทั้งสองมีปศาจระดับสูงที่แปลงกายเปนครึ่งปศาจรอยกวาตนยืนอยู ทุกตน
ลวนมีสีหนาดุดัน
ดานขางวานรสีเหลืองชายหนุมสวมชุดสีเขียวคนหนึ่งเอามือกอดอกอยูเงียบๆ
ไมปริปาก ใบหนาไรความรูสึก นั่นก็คือ ผูที่ฝกฝนอยูลำพังมาสองสามป และถูก
ราชันยปศาจทั้งหมดบังคับเรียกตัวมาอยางหานลี่
เขาในครานี้สายตากวาดไปบนเรือนรางของปศาจหุนเชิดดานลางเปนบางครั้ง
ใบหนาไรซึ่งความประลหาดใจ แตในใจกลับรูสึกตกใจอยูไมนอย
ปศาจระดับต่ำจำนวนมากขนาดนี้ เกรงวาที่นี่คงมีกำลังกวาครึ่งที่สี่ราชันยปศาจ
ควบคุมอยูในเหวพสุธาแลว ตอใหไมเอยถึงปศาจเหลานั้น ทหารภูตรรวมทั้งหุน
จำนวนนับไมถวนในพายุสีดำเหลานั้น ก็เปนกำลังอำนาจสองกลุมที่แข็งแกรงมากแลว
ของเหลานี้นาจะเปนสิ่งที่ราชันยปศาจเหลานี้รวมมือกันมาหลายรอยป ถึงได
รวบรวมขึ้นมาไดในจำนวนที่นาตกตะลึงเชนนี้ พวกเขาทุมเทแรงกายแรงใจอยาง
ไมเสียดายขนาดนี้ ดูแลวแมน้ำอเวจีคงสำคัญมาก แตไมรูวาในแมน้ำอเวจีมีสิ่ งใด
กันแน ถึงทำใหพวกเราเทหมดหนาตักขนาดนี้
หั ว ใจของหานลี ่ เ ต นระรั ว ไม แ น น อน ร า งของลิ ่ ว จู ท ี ่ อยู  เ บื ้ องหน า พลั นขยั บ
ปากพลันออกคำสั่งอยางเย็นชา
“เซียนมู ถึงเวลาอันสมควรแลว รีบถวายโลหิต เขาสูการบวงสรวงสุดทาย”
มูชิงไดยินคำนี้พลันพยักหนา มือหนึ่งกวักไปดานลาง
ชั่วขณะนั้นปศาจระดับสูงดานลางพลันบินออกมาสิบกวาตน ทุกตนลวนมือเปลา
แตตรงเอวตางเหน็บถุงหนังสีแดงโลหิตเอาไว
คนเหลานี้ลวนไมพูดอะไร ชั่วพริบตาก็บินไปยังกลางอากาศสูง จากนั้นก็ตะปบไป
ที่ถุงหนังที่เอวพรอมกัน สะบัดปากถุงไปทางเดียวกัน
เสียง “สวบๆ” ดังขึ้นอยางตอเนื่อง ลำแสงสีโลหิตเปลงแสงสวางวาบ ของเหลว
สีแดงสดสิบกวากลุมกลายเปนแมน้ำโลหิตสิบกวาสายพุงออกมาจากถุงหนัง
ชั่วขณะนั้ นกลิ่ นคาวเลื อดพลั นคละคลุ ง แผ ไ ปรอบๆ ดาน จนปรากฎเต็ ม ทั่ ว
ทองฟา
แมน้ำโลหิตเหลานี้รวมตัวกันอยูกลางอากาศ คาดไมถึงวาจะรวมตัวกันราวกับมีชีวิต
กลายเปนลูกบอลโลหิตเสนผาศูนยกลางสามสิบสี่สิบจั้ง
ครานี้มูชิงพลันตบเทาไปบนดอดกไมสีทอง เขตอาคมลำแสงสีดำเปลงแสงสวางวาบ
ขึ้นบนดอกไม ชั่วขณะนั้นรางกายพลันเปลงแสงสวางวาบหายวับไป
ครูตอมา ลูกบอลโลหิตยักษเบื้องหนาพลันเปลงแสงสีดำสวางวาบ รางของมูชิง
ปรากฎขึ ้ น อี ก ครั ้ ง นางมี ส ี ห น า เคร ง ขรึ ม มื อ หนึ ่ ง ยกขึ้ น ชั ่ ว ขณะนั ้ น ขวดสี ด ำ
พลันปรากฎขึ้นในมือ ทันใดนั้นพลันพลิ้วไหวและพวยพุงขึ้นไปกลางอากาศ ไปถึง
ลูกบอลโลหิตดานบน
มูชิงพลันรายอาคม ขวดสีดำพลันหมุนติ้วๆ ชั่วขณะนั้นฝาขวดพลันบินออกไป
ตรงปากขวดมีของสีดำแดงขนาดเทากำปนสองสามกำปนเปลงแสงสวา งวาบ
แลวจมหายเขาไปในลูกบอลโลหิตอยางไรรองรอย
ตอนที่ 1477 มารเขยาชั้นบรรยากาศ
ฉากที่ทำใหตื่นตะลึงพลันปรากฏขึ้น หลังจากที่ลูกบอลลำแสงสีโลหิตสู บ ของ
สีดำแดงเขาไป กลิ่นคาวเลือดพลันสลายหายไป กลับมีกลิ่นหอมฟุงโชยออกมาแทน
พลันเกิดเสียงฮือฮาขึ้นทามกลางเหลาปศาจที่อยูดานลาง!
ปศาจระดับสูงเหลานั้นยังพอวา แมจะรูสึกโลภ แตสุดทายก็ฝนควบคุมอาการ
ของตนเองเอาไว
ปศาจระดับต่ำอื่นๆ ที่สติปญญาไมสูงกลับทยอยกันเผยสีหนาละโมบออกมา
พากันสติหลุด สวนทหารภูตและหุนเชิดทั้งหมดที่อยูในพายุสีดำกลับนิ่งสงบไมไดขยับ
เขยื้อน
ฉับพลันนั้นเสียงแคนเสียงขึ้นจมูกอันเย็นชาพลันดังขึ้น
ความเย็นยะเยือกทะลุปอดพลันแผซานออกมา ชั่วพริบตาก็ปกคลุมไปทั่ว ทำให
ปศาจทั้งหมดตัวสั่นสะทาน ความละโมบที่เพิ่งผุดขึ้นมาเมื่อครูหายวับไป คาดไมถึงวา
ลิ่วจูจะดูเหมือนวาคาดเดาเรื่องนี้เอาไวแลว แรงกดดันระเบิดออกมาจากราง
หานลี่เห็นเชนนั้นพลันใจกระตุกวูบ ตั้งแตที่เขาพบกับสิ่งมีชีวิตระดับหลอมราง
สองสามคน ลิ่วจูคือคนที่แข็งแกรงที่สุด
หรือวาอยูในระดับยอดสุดของระดับหลอมรางขั้นปลาย?
หานลี่เอยพึมพำในใจ ในเวลาเดียวกันก็ตัดสินใจวาจะไมเผชิญหนากับอีกฝาย
ตรงๆ ใดๆ ทั้งสิ้น
บางทีจากความสามารถของเขา เผชิญหนากับราชันยปศาจตนอื่นก็พอจะมีหวัง
ในการหลบหนีได แตกลับคนผูนี้กลับไมมีโอกาสใดๆ
ครานี้มูชิงกำลังเอยพึมพำอยูเบื้องหนาลูกบอลโลหิตยักษที่แผกลิ่นหอมฟุงออกมา
ปศาจระดับสูงสิบกวาตนกลับทยอยกันพุงลงไปดานลาง คาดไมถึงวาจะมีทาทีหนีหัว
ซุกหัวซุน แทบจะในเวลาเดียวกันดานบนลูกบอลโลหิตมีเสียงฟาฟาดดังสนั่นขึ้น
ชั้นบรรยากาศรอบๆ สั่นสะเทือน เมฆหมอกสีเงินออนปรากฏขึ้นเปนกลุมๆ จากนั้นก็
หมุนวน กลายเปนกระแสน้ำวนยักษ
กระแสน้ำวนมีเสนผาศูนยกลางสิบจั้งเศษ ดานในมีหมอกสีเงินหมุนวนเปนเกลียว
และยิ่งไปกวานั้นยังเปลงประกายขึ้นเรื่อยๆ เสียงกรีดรองระเบิดออกมาใน เวลา
เดียวกัน ราวกับวามีอะไรสักอยางพุงแหวกอากาศมาอยางไรอยางนั้น
หานลี่หนาเหยเก ดวงตาที่มองไปกลางอากาศหรี่ลงเล็กนอย ดานในมีลำแสงสีฟา
เปลงแสงสวางวาบไมหยุด
บางทีคนอื่นอาจจะไมรูสึก แตอิทธิฤทธิ์เนตรวิญญาณวารีกระจางของหานลี่กลับ
มองเห็นสถานการณในกระแสน้ำวนไดอยางชัดแจง
เห็นเพียงสวนลึกที่สุดในกระแสน้ำวน ดูเหมือนกระดาษบางๆ ที่ยับยูยี่ ภายใต
หมอกสีเงินที่อัดลงไป และสั่นเทาอยางรุนแรง
เสียงระเบิดก็คือเสียงชั้นบรรยากาศที่ผัวผวนอยางรุนแรง จนเกิดเปนเสียงรอง
ประหลาดๆ ออกมา
ฉับพลันนั้นเสียงเครื่องลายครามปริแตกก็ดังสลับปะปนขึ้น รูมานตาของหานลี่
หดเล็กลง
ในที่สุดชั้นบรรยากาศในกระแสน้ำวนก็ปริแตก ลำแสงสีดำเปลงแสงสวางวาบ
แขนที ่ ม ี ข นสี เ งิ น ปุ ก ปุ ย ข า งหนึ ่ ง ยื ่ น ออกมา หลั ง จากที ่ ช ั ้ น บรรยากาศพลิ ้ ว ไหว
สองสามครั้ง ทันใดนั้นแขนอีกขางที่เหมือนกันทุกระเบียบนิ้วก็ยื่นออกมา แขนยักษ
สองขางที่มีเล็บสีทำสนิทยาวสองสามจั้งตะปบไปตรงขอบของหลุมดำทั้งซายและขวา
ชั้นบรรยากาศรอบๆ ในระยะรอยจั้งเศษแตกออกเปนเสี่ยงๆ!
หลังจากนั้นกระแสน้ำวนสีเงินพลันมีเสียงคร่ำครวญดังขึ้น กลายเปนดวงดาวสีเงิน
แลวแตกพรางพราวหายไป
กลางอากาศที่เดิมกลับมีหลุมดำที่ใหญกวาเดิมสิบเทาปรากฏขึ้น มือยักษคูหนึ่ง
เกาะอยูตรงขอบของมันนิ่ง ในเวลาเดียวกันดวงตายักษขางหนึ่งที่อยูกลางหลุมดำ
พลันกะพริบระยิบระยับ เปลงลำแสงสีเขียวประหลาดๆ ออกมา
เมื่อเห็นสถานการณที่นาตกตะลึงนี้ นอกจากราชันยปศาจทั้งสี่แลว ทุกคนตางก็
สูดลมหายใจเย็นยะเยือกเขาไปเฮือกหนึ่ง
มูชิงมีสีหนาเครงขรึม เขตอาคมลำแสงสีดำใตฝาเทาเปลงแสงเจิดจา ชั่วขณะนั้น
พลันสลายหายไปทามกลางลูกบอลโลหิต
ครูตอมาสตรีผูนี้พลันมาปรากฏตัวเบื้องหนาวานรสีทอง สีหนาคอยๆ ผอนคลายลง
เสียง “กุกๆ” ราวกับเสียงไกขันดังออกมาจากหลุมดำยักษ
หานลี่ไดยินแลวพลันตื่นตะลึงอยางคาดไมถึง แตเมื่อมองไปทางสายทีขวาทีกลับ
ตกใจจนสะดุงเฮือก
หลังจากที่เหลาปศาจดานลางไดยินเสียงประหลาดนี้ ก็ทยอยกันรางกายสั่นเทา
พวกที่อยูในระดับต่ำหนอยรูสึกหมดเรี่ยวแรงลมตึงลงไปกับพื้น ระดับสูงหนอยก็
ดูเหมือนวาจะยืนไดอยางไมมั่นคง
แมแตสี่ราชันยปศาจในครานี้ก็ยังมีลำแสงวิญญาณหลากสีสันกะพริบวาบอยู
บนผิวกาย ตางใชเคล็ดวิชาตางๆ ออกมาปองกัน
สวนหานลี่กลับปลอดภัยทุกระเบียบนิ้ว ทาทางไมรูสึกถึงความผิดปกติเลยสักนิด
หานลี่พลันตื่นตะลึงกับตนเองอยางระงับไมอยู แนนอนวายอมดึงดูดความสนใจ
ของมูชิงและพวก
สตรีผูงดงามเรือนผมสีขาวรองอุทานออกมเบาๆ ริมฝปากขยับเล็กนอยคิดจะเอย
ถามอะไร แตลิ่วจูกลับชิงเอยปากอยางเย็นชาวา
“ไม ต  องตกใจ! เจ า เด็ ก นั ้ น ใช ส มบั ต ิ ไ ผ อั ส นี ส ี ท องมาเป น สมบั ต ิ ป ระจำกาย
ประกอบที่ไมไดอยูในเหวพสุธานานนั ก ไอทมิฬจึงยังไมอาบยอมไปบนเรือนร า ง
จึงไมกลัวเสียงรองของมารเขยาชั้นบรรยากาศก็ไมแปลก”
เมื่อไดยินลิ่วจูเอยเชนนี้ หญิงงามก็เผยสีหนาเขาใจได แลวปดปากเงียบไมไดเอยอะไร
ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตสองคนและมูชิงพลันหนาเปลี่ยนสีขณะมองหานลี่แวบหนึ่ง
แตกลับไมไดเอยอะไรออกมา
หานลี่ไดยินคำวา ‘มารเขยาชั้นบรรยากาศ’ พลันขมวดคิ้ว
ชื ่ อนี ้ เ ขาไม เ คยไดย ิ นมากอน แต ส ามารถแหวกอากาศมาได ย อมไมธรรมดา
อย า งแน นอน หรื อว า เเป นนสิ ่ ง มี ช ีว ิ ต ที ่อยู  ในระดั บ วิ ญญาณเที ่ ย งแท ? แต แ มวา
สี่ราชันยปศาจจะมีสีหนาเครงขรึม แตก็ไมเหมือนกับเผชิญหนากับสิ่งมีชีวิตระดับ
วิญญาณเที่ยงแทถือกำเนิด!
หานลี่กำลังรูสึกประหลาดใจเปนอยางมาก แขนสีเงินคูนั้นตรงขอบของหลุมดำ
หดเล็กลงอยางรวดเร็ว จากนั้นดวงตาปศาจในหลุมก็คอยๆ ชัดเจนขึ้น สิ่งมีชีวิต
ขนาดมหึมาคอยๆ โผลขึ้นมาจากดานใน เผยหนาตาที่แทจริงของมันออกมา
ขณะที่หานลี่กำลังมองไป ก็มีสีหนาตกตะลึง
ตัวประหลาดนี้มีหัวเปนสีเงินขนาดยี่สิบสามสิบจั้ง ผิวของมันเปนตะปุมตะป�
ไมมีขนเลยสักเสน ตรงหวางคิ้วมีดวงตาสีเขียวมรกตโผออกมาครึ่งดวง ปากยาวใหญ
เต็มไปดวยฟนซี่เล็กๆ ดูแหลมคมเปนพิเศษ สวนตรงจมูกกลับวางเปลา มีเพียงหลุม
สีดำสองหลุม ไมมีอะไรเลยสักนิด
แตสิ่งที่ทำใหขนพองสยองเกลาก็คือ ตัวประหลาดตัวนี้มีหัวตั้งหัวนึง แตกลับไมมีตัว
แขนที่มีขนปุกปุยคูนั้นงอกออกมาจากตรงหูทั้งสองขางบนหัว พลางเปลงแสงสีเงิน
เรืองๆ ออกมา
“นี่คือมานจิงคง ทาทางนากลัวเกินไปหนอยแลวกระมัง!”
แมวากอนหนานี้หานลี่จะเคยพบตัวปศาจมารตัวประหลาดมาไมนอย แตก็ยัง
ตกใจกับรูปรางของมัน จนรูสึกเย็นเยียบที่แผหลัง!
หลังจากที่ปศาจตนนี้ปรากฏตัวดานหนาหลุมดำ ดวงตาขางเดียวของมันก็หมุนวน
ตกลงบนลูกบอลโลหิตยักษทันที และเปลงแสงประหลาดๆ ออกมา
ทำเหมือนมองไมเห็นสี่ราชันยปศาจรวมทั้งปศาจหุนเชิดสองสามหมื่นตนที่อยู
ดานลาง
เห็นไดชัดวาที่มันฉีกชั้นบรรยากาศมาที่นี่ ก็เพราะถูกดื่มโลหิตดึงดูดมา
ครานี้ในที่สุดปศาจระดับต่ำก็ทยอยกันปกขึ้นมาหลังจากที่มารเขยาชั้นบรรยากาศ
หยุดรอง แตพากันตัวสั่นเทาไมกลาเปลงเสียงใดๆ ออกมาเลยสักนิด
สี่ราชันยปศาจมองตัวประหลาดนี้ ลวนมีทาทีตึงเครียด แตไมไดเผยสีหนาลนลาน
ออกมา
หัวยักษเปลงเสียงรองคำรามต่ำๆ ออกมา อาปากออกพนหมอกสีเงินออกมา
ชั่วครูก็มวนเอาลูกบอลโลหิตดานลางเขาไป แลวดึงกลับไป
เสียง “อึก” ดังขึ้น ลูกบอลโลหิตถูกตัวประหลาดกลืนลงไป
มารเขยาชั้นบรรยากาศเปลงแสงสวางวาบ เรือนกายกลายเปนสีแดงสด ราวกับ
วากลืนดื่มโลหิตเขาไปแลวก็ถูกยอมเปนสีแดงในชั่วพริบตา
เสียงอึกทึกราวเสียงเรอดังออกมาจากปาก หัวยักษเริ่มสั่นคลอน ทันใดนั้นก็
หันกายจมหายเขาไปในหลุมยักษสีดำ ชั่วพริบตาก็าหายไปอยางไรรองรอย
คาดไมถึงวามารเขยาชั้นบรรยากาศจะไปทั้งอยางนั้น
สี ่ ร าชันยป  ศาจไมไ ดเ ขา ไปขั ดขวางเลยสัก นิ ด ไม ไ ด ม ีเ จตนาจะรั ้ง มัน ไวใดๆ
เหลือเอาไวเพียงหลุมดำที่ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
เมื่อมองมาถึงตรงนี้ แววตาของหานลี่กลับฉายแววตกตะลึงออกมา รูสึกประหลาดใจ
อยูเล็กนอย!
แตในตอนนั้นเองลิ่วจูพลันเอยปากขึ้นอยางราบเรียบวา
“เอาละ มีมารเขยาชั้นบรรยากาศชวยฉีกชั้นบรรยากาศแทนพวกเรา การเขาไป
ในแม น้ ำ อเวจี ของพวกเราก็สำเร็จ ไปครึ ่ งหนึ ่ง แลว สหายมู เจา กั บ ขา เขา ไปกอน
ไปเชื่อมโยงชั้นบรรยากาศของแมน้ำอเวจี จะไดใหตี้เสวี่ยและกองทัพของสหายหลัน
เขาไปไดอยางราบรื่น”
“เชิญสหายลิ่วจู! สหายหาน วิญญาณทอง พวกเจาตามขามาเถิด” มูชิงพยักหนา
และออกคำสั่งอยางไมลังเล
“ขอรับ!” วานรสีทองตอบกลับ แลวรีบรอนคอมตัวลง
หานลี่พลันตะลึงงัน ทันใดนั้นก็หัวเราะอยางขมขื่นออกมาแลวบินไป
ที่แทราชันยปศาจสองสามตนก็ใชดื่มโลหิตดึงดูดใหมารเขยาชั้น บรรยากาศ
ปรากฏตัว แลวใชชั้นบรรยากาศที่มันฉีกออก เขาไปในแมน้ำอเวจีเทานั้น
ทวาดูจากทาทางคุนเคยในการวางดื่มโลหิตของมูชิงและพวก ก็เห็นไดชัดวา
นี่ไมใชการสังเวยโลหิตครั้งแรก
ไมรูวามารตนนี้มีอิทธิฤทธิ์ชนิดใด คาดไมถึงวาหลังจากหายไปแลว จะทิ้งรอยแยกของ
ชั้นบรรยากาศเอาไว ทันใดนั้นรางของลิ่วจูและมูชิงก็พลิ้วไหว ชิงบินนำเขาไปใน
หลุมยักษสีดำ
หานลี่ทำไดเพียงทำใจดีสูเสือตามไปทามกลางสายตาของวานรสีเหลืองที่กำลัง
ฉีกยิ้มโดยที่ดวงตาไมกะพริบไปดวย
เมื่อรางกายมาปรากฏที่ขอบของหลุมดำ หานลี่ก็สัมผัสไดถึงคลื่นชั้นบรรยากาศที่
แข็งแกรงมากดานในพัดเขามาเปนระลอกๆ เห็นเพียงรอยแยกของชั้นบรรยากาศ
ไมเหมือนกับรอยแยกอื่นๆ ที่เคยเห็นมากอน ราวกับเปนอุโมงคยักษที่ทอดตัวไปยัง
จุดที่ไกลแสนไกล
ตรงสีดำสนิทที่อยูไกลออกไป มีเสียงรองคำรามต่ำๆ ดังออกมาอยางตอเนื่อง
ลิ่วจูและมูชิงกำลังบินอยูลิบๆ เบื้องหนา ความเร็วเชื่องชา ทาทางระมัดระวังตัว
หานลี่และวานรสีทองเองก็ตามไปทันที
ทางเดินสีดำไมยาวนัก คนกลุมนั้นบินไปขางหนาไปพันจั้งเศษ ฉับพลันนั้นก็หยุดลง
เบื้องหนามีหมอกสีเงินหมุนวน ไมมีหนทางใดๆ ใหเคลื่อนไปอีก
“ถึงแลว ที่นี่แหละ มารเขยาชั้นบรรยากาศตนนั้นหลับไปแลวดังคาด หลังจาก
กลับไปถึงแมน้ำอเวจีก็ทำไดเพียงปดทางเดินเล็กๆ เอาไวเทานั้น สหายมูชิงดื่มโลหิตที่
เจาใหมันกินในครั้งนี้ นาจะทำใหมันหลับสนิทไปไดเปนเวลานานสินะ!” ลิ่วจูจองเขม็ง
ไปยังหมอกสีเงินเบื้องหนา เอยถามดวยสีหนาเงียบสงบ
“วางใจ ดื่มโลหิตกลุมสุดทายนี้ ขาไมไดแอบลดวัตถุดิบเลยสักนิด ทำตามที่สหาย
สั่งมาทุกอยาง ดวยเหตุนี้ที่ผานมาขาจึงแทบจะสูญเสียสภาพจิตใจทั้งหมดไป” มูชิง
เอยอยางมั่นอกมั่นใจมาก
“ดีมาก! แมวามารเขยาชั้นบรรยากาศจะเปนมารที่มีชื่อเสียงในเรื่อง ชั้น
บรรยากาศ แตมันไมรูสึกตัวเลย ก็ตองพึ่งฝมือในการจัดการเทานั้น! แตการบวงสรวง
ดื่มโลหิตสิบกวาครั้งกอน ประกอบกับการกลืนสมุนไพรมัวเมาหมื่นปใน ดื่มโลหิตใน
ครั้งนี้เขาไป ก็เพียงพอจะทำใหมันหลับไปสองสามเดือนแลว ขอแคมัน ไมตื่น
ทางเดินกอนหนาก็จะยังผานเขาออกได เพียงพอใหพวกเรากลับไปจาก แมน้ำ
อเวจี จะวาไปแลวครั้งที่แลวหากไมใชเพราะมารตนนี้มาปรากฏตัวในเหวพสุธาของ
พวกเรา พวกเราก็คงไมมีทางแมน้ำอเวจีได” ลิ่วจูพยักหนาขณะเอย
“ทวาหากไมใชเพราะพี่ลิ่วจูเคยไดยินเรื่องแมน้ำอเวจีมากอน เกรงวาพวกเราก็ไม
มีทางเสี่ยงอันตรายเขาไปในสถานที่อันตรายในครั้งนี้!” มูชิงหัวเราะบางๆ ออกมา
“หึ หากไมใชเพราะพวกเจาเองก็สนใจนมเทวะแมน้ำอเวจีเชนกัน ขาก็ไมพูดให
พวกเจาสนใจหรอก เอาละ ตอนนี้ไมใชเวลามาพูดคุยกันเรื่องนี้ ลงมือ เปดทางเดิน
เถิด!” ลิ่วจูแคนเสียงหึแลวออกคำสั่ง
ตอนที่ 1478 เขตตองหามแมน้ำอเวจีและเขตอาคมแปดทวารดูดอัสนี
มูชิงไดยินพลันหัวเราะออกมา พลิกฝามือหนึ่งอยางไมใสใจ ในมือมีไขมุกกลมๆ
สีแดงโลหิตสามเม็ดปรากฏขึ้น ขนาดเทาหัวแมมือ เปลงแสงระยิบระยับ
ลิ ่ ว จู  พ ยั ก ไหล ท ั ้ ง สองข า ง ลำแสงสี ด ำเปล ง แสงสว า งพร า ง บนหั ว ไหล เ ขามี
แขนสองขางงอกออกมา
แขนขางหนึ่งกำแผนปายสีดำรูปสามเหลี่ยมเอาไว อีกขางหนึ่งถือสมบัติทรงกรวย
สีฟาเอาไว
และเมื่อแขนเดิมทั้งสองของเขารายอาคมอยูเบื้องหนา จากนั้นเสียงพรึ่บก็ดังขึ้น
เสาลำแสงสีดำสายหนึ่ งพ นออกมาจากปาก เปลงแสงสวางพรา งแลว โจมตี ไ ปยั ง
หมอกสีเงิน
เสียง “หึ่งๆ” ดังขึ้น ไมรูวาเสาลำแสงสีทองมีอิทธิฤทธิ์ใด หมอกสีเงินสัมผัสกับมัน ก็
ปรากฏทาทีตานทานไมไหว ระเบิดเสียงดังกึกกองออกมา
มูชิงที่อยูดานขางเห็นเชนนั้น ก็ชูมือหนึ่งขึ้นอยางไมลังเลเลยสักนิด
ชั่วขณะนั้นไขมุกกลมสีแดงโลหิตสามเม็ดพลันเรียงกันเปนเสนแลวพุงออกไป
กลายเปนอัสนีเพลิงสีแดงโลหิตสามเม็ด หลังจากเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นสามเสียง
ดังขึ้น หลังจากที่เปลวเพลิงสีโลหิตขนาดเทาศีรษะสามกลุมระเบิดออก หมอกสีเงินก็
เริ่มแตกกระจายออก
หมอกสีเงินและลำแสงสีดำจากเปลวเพลิงสีโลหิตโรมรันเขาดวยกัน ทางเดินทั้ง
เสนเริ่มสั่นเทา
หานลี่ที่ยืนอยูดานหลังมูชิงและลิ่วจู หนาเปลี่ยนสีไปอยางระงับไมอยู
การพังทลายและยุบตัวของมิติเวลาที่ปริแตก แมวาเขาจะเคยผานมาหลายครั้งแลว
และรอดชีวิตมาไดหลังจากการเดินทางขามหวงมิติ แตก็ไมไดหมายความวาเขาจะ
มั่นใจวาจะหลบหลีกหวงเวลาที่พังทลายได กอนหนาโชคดีหนีมาได มันก็แคโชคดีของ
เขาเทานั้น นอกเสียจากจะฝกฝนไดระดับมหายานหรือระดับจิตวิญญาณเที่ย งแท
ไมวาผูใดก็ไมกลามองขามอันตรายจากหวงมิติเวลา
ในตอนนั้นแขนใหมทั้งสองของลิ่วจูพลันขยับพรอมกัน
ภายใตการสั่นเทาของแผนปายสามเหลี่ยม พนหมอกเพลิงสีแดงสดจำนวนนับไมถวน
ออกมา ปกคลุมไปทั่วเบื้องหนา สมบัติทรงกรวยอีกชิ้นหนึ่งก็เปลงเสียงคำรามออกมา
พริบตานั้นก็กลายเปนสายรุงสีฟาสายหนึ่งพุงทะยานออกไป
ในครานั้นเองมูชิงเองก็สะบัดแขนเสื้อทั้งสองขาง ลำแสงสีเขียวจำนวนนับไมถวน
พุงออกมา
มีการโจมตีจากสามคนใหหลัง หมอกสีเงินก็ถอยไปดานหลังแลวพลันแตกตัวออก
กระจายออก
เมื่อหมอกสีเงินถูกบีบจนตองรนถอยไปสิบจั้งเศษแลว ในที่สุดเสียงคำรามอัน
ดั ง สนั ่ นก็ ห ายวั บ ไป ทั ้ ง ห ว งมิ ต ิ เ วลาถู ก เชื ่ อมต อกั น เผยทางออกสู  ห ว งมิ ต ิ เ วลา
อีกอันหนึ่งออกมา
หานลี่แววตาเปลงประกาย มองเห็นทางออกอยางชัดเจน
ดานนอกมีลำแสงสีขาวออนเปลงแสงพรางพราว ในเวลาเดียวกันก็มีพายุเย็นยะ
เยือกพัดเขามา
แมวาหานลี่จะมีลำแสงวิญญาณปกปองรางเอาไว แตก็ยังรูสึกสั่นสะทานยามเมื่อ
พายุเย็นยะเยือกพัดผานผิวกาย
ความเย็นยะเยือกของพายุสามารถทะลุผานลำแสงวิญญาณตรงเขามากระทบ
รางกายได หากไมใชเพราะเขามีเพลิงเย็นหาสีอยู ครานั้นคงเสียเปรียบไมนอย
โชคดีที่พายุนี้ผานไปแคชั่วพริบตาเทานั้น จากนั้นก็กลับคืนสูสภาวะปกติ
หานลี่พนลมหายออกมาเบาๆ เฮือกหนึ่ง
ลิ่วจูมองปากหลุมแววตาเปลงประกายระยิบระยับ รางกายพลิ้วไหวพุงกระโจน
ออกไป ในเวลาเดียวกันก็เอยอยางราบเรียบดังออกมาจากลำแสงหลีกหนี
“ตอนนี ้ เ ป ด ทางเดิ นแล ว ! พวกเจ า เรี ย กสหายที ่ เ หลื อเข า มาเถิ ด ข า จะไปดู
ดานนอกกอน!”
เอยยังไมทันจบรางของลิ่วจูก็ออกไปจากปากหลุมแลว เปลงแสงสวางวาบแลว
หายวับไปทามกลางลำแสงสีขาว
มูชิงพลันขมวดคิ้ว กลับออกคำสั่งโดยไมแมแตจะหันกลับมา
“วิญญาณทอง เจาเรียกตี้เสวี่ยและสหายหลานเขามากอนกองทัพเถิด ขาจะพา
สหายหานลวงหนาไปกอน”
“ขอรับ นายทาน!” วานรสีทองตอบรับ รางกายหมุนติ้วๆ กลายเปนสายรุงสีทอง
สายหนึ่งพุงไปดานหลัง
สวนหานลี่กลับทำไดเพียงตามมูชิงไปยังทางออกอยางเงียบๆ
ครูตอมาเบื้องหนาของหานลี่พลันมีแสงเจิดจา คนมาปรากฏที่อีกหวงมิติเวลาหนึ่ง
แต ส ถานการณ เ บื ้ องหน า กลั บ ทำให ห านลี ่ ฉ ายแวววตาประหลาดใจออกมา
เห็นเพียงหางออกไปสองสามรอยจั้ง มีผิวน้ำสีขาวขวางกั้นเอาไว
น้ำนี้เปนสีขาวนวล ออกขุนเล็กนอย ไมรูวาลึกเทาไหร แตเมื่อมองปราดไปทั้งซาย
และขวาลวนมองไมเห็นปลายทาง
บนผิวน้ำมีพายุเย็นยะเยือกกลุมหนึ่งพัดปลิวไหวอยู
สิ่งที่นาแปลกก็คือพายุขนาดนี้ คาดไมถึงวาผิวน้ำจะยังสงบเยือกเย็นดังกระจกอยู
ไมกระเพื่อมเลยสักนิด ราวกับเปนน้ำนิ่งก็ไมปาน
ลิ่วจูลอยอยูบนผิวน้ำเบื้องหนาหางไปไมไกลนัก กำลังทอดสายตามองเบื้องหนา
ไมไดเอยอะไรออกมา
“นี่ก็คือแมน้ำอเวจี!” หานลี่พนลมหายใจยาวๆ ออกมาเฮือกหนึ่ง แลวเอยพึมพำ
ออกมา
“ใชแลว ขาอยากขามแมน้ำสายนี้ เขาไปในแดนแมน้ำอเวจีที่มีหมอกวารีปกคลุม
จำตองอาศัยพลังของอัสนี เทวาปด เปาภยั นตรายของสหายหาน” มูชิงเอยอย า ง
ราบเรียบ
“ชนรุนหลังจะพยายามอยางสุดกำลัง!” หานลี่ตอบกลับอยางนอบนอม
มูชิงพลันพยักหนา ยามที่คิดจะเอยอะไรอีกนั้น ลิ่วจูที่อยูเบื้องหนาก็ใชมือหนึ่ง
ตะปบไปทางกลางอากาศเหนือผิวน้ำ
ชั่วขณะนั้นมือยักษสีดำขางหนึ่งพลันปรากฏออกมา ตะปบลงไปดานลางอยางดุดัน
แตเมื่อมือยักษจมไปในผิวน้ำไดสามสี่จั้ง เสียง “วี้ด” ก็ดังขึ้น ลำแสงสีเงินจำนวน
นับไมถวนพุงออกมาจากน้ำ เสียงแหวกอากาศดังไปทั่วทุกแหงที่วิ่งผานไป ชั่วพริบตา
มือยักษสีดำก็กลายเปนรูพรุน หายวับไป
“นี่คืออะไร?” หานลี่พลันตื่นตะลึง
“นี่คือปลาประหลาดชนิดหนึ่งในแมน้ำอเวจี รางกายเล็กบางดุจเข็ม ตอบสนอง
ตอทุกสิ่งที่เขาใกลผิวน้ำ และจะบินขึ้นมาโจมตีอยางไมรูจักเหน็ดเหนื่อย มองขาม
ไมได และเจาสิ่งนี้ก็เปนแคอันตรายที่เล็กที่สุดในแมน้ำอเวจีเทานั้น ขอแคมีพลังยุทธ
มั่นคงก็สามารถใชลำแสงวิญญาณปกปองรางตานทานได อันตรายก็ไมสูแมกระทั่ง
น้ำในแมน้ำอเวจี! สิ่งเดียวที่นาปวดหัวก็คือปลาชนิดนี้ชอบอยูกันเปนฝูง หากเริ่มทำ
การโจมตีแลวมันจะเขามาอยางตอเนื่อง นอกเสียจากกวาจะสังหารปลาในละแวกนี้ไป
จนเกลี้ยงเทานั้น” ในที่สุดมูชิงก็หันกลับมา อธิบายอยางสงเดชมาสองประโยค
หานลี่ไดยินคำนี้ ก็เขาใจไดในทันที
ครานั้นทางเดินทางดานหลังพลันมีเสียงดังขึ้น
หานลี่หันหนาไปมองเห็นผูสวมชุดสีโลหิตสองคนเหยียบอยูบนหุนเชิดโลหิตมวง
สตรีผูงดงามผมสีขาวพาเงารางสีดำแปดราง หยวนเหยา และเหยียนลี่บินตามมาอยาง
ตอเนื่อง
ดานหลังพวกเขาเปนกองทัพปศาจที่ดูเหมือนไมมีที่สิ้นสุด หุนเชิดทุกตัวรวมทั้ง
ทหารภูตเกราะจันทรา
ชั่วพริบตาก็ยึดครองพื้นที่กลางอากาศกวาครึ่งของทางออกตรงทางเดินเอาไว
ลอยตัวอยูเต็มไปหมด
“พี่ลิ่วจู เปนอยางไรบาง? เขตอาคมในแมน้ำอเวจีไมไดเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมสินะ”
ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตคนหนึ่งใชเทาหนึ่งตบไปบนหุนเชิดสีมวงโลหิต พลางบินตรงเขา
มาหาหานลี่และพวก ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตอีกคนหนึ่งเอยถามขึ้นดวยเสียงอันดัง
“ไมมี เหมือนกับตอนที่เราเขามาทุกระเบียบนิ้ว!” ลิ่วจูถอนสายตาออกจากผิวน้ำ
แลวตอบกลับอยางราบเรียบ
“เชนนั้นการทลายเขตอาคมตองหามในครั้งนี้ ตองพบกับเหตุการณเชนเดิมแน”
เสียงของผูสวมชุดคลุมสีโลหิตเครงขรึม
“เกรงวาจะเปนเชนนั้น! ทวาครั้งนี้พวกเราเตรียมตัวมามากมายขนาดนี้ คงไมมี
การบาดเจ็บลมตายแบบครั้งที่แลวแน” สตรีผูงดงามเรือนผมสีขาวบินเขามาแลวเอย
อยางมั่นใจ
“อืม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่พวกเรารวมมือกันทลายเขตอาคมแยกแมนำ้ สายนี้
สวนอันตรายอยางอื่นนั้นก็ไมตองกังวล เอาละ พวกเราโปรดเตรียมตัว เริ่มการทลาย
เขตอาคมได สหายหานถึงเวลาที่เจาตองปลอยอัสนีเทวาออกมาชวยพวกเราโจมตี
ไอมารในน้ำอเวจจีแลว ขอแคทำใหไอมารสลายไป พวกเราก็แยกน้ำอเวจีไดอยาง
ไมมีปญหาแลว” "ลิ่วจูเลื่อนสายตาไปจองหานลี่ แลวเอยอยางไรซึ่งความรูสึก
“เหลาสหายโปรดวางใจ ขานอยคุนเคยกับเคล็ดวิชาเรียกอัสนีแลว ไมมีทางพลาด
แน” หานลี่คอมตัวลงเล็กนอย แลวเอยดวยสีหนาราบเรียบ
“หึๆ มีคำพูดนี้ของเจาก็วางใจแลว” ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตคนหนึ่งหัวเราะฮาๆ
ออกมา
สตรีผูงดงามเรือนผมสีขาวเองก็พยักหนา!
ทันใดนั้นราชันยปศาจทั้งสี่ก็กวักมือ ชั่วขณะนั้นปศาจระดับสูงกลุมนั้นพลันกรูกัน
ออกมา ทยอยกันควักยุทธภัณฑประหลาดๆ ออกมา คาดไมถึงวาจะเริ่มวางเขตอาคม
อะไรสักอยาง
เงาสีดำแปดสายและหุนเชิดธาตุทองที่มีลำแสงสีดำเปลงประกายสิบกวาตัวเองก็
ถูกสตรีผูงดงามและตี้เสวี่ยเรียกรวมตัว และเตรียมตัวอะไรสักอยาง
หานลี่ลอยอยูกลางอากาศแลวพลันสะบัดแขนเสื้อ ฉับพลันนั้นธงเล็กๆ สีเขียว
แปดดามพลันบินออกมาจากมือ หลังจากหมุนโคจรรอบหนึ่ง ก็รวมตัวกันกลายเปน
เขตอาคมธาตุอัสนีเปลงแสงประจุไฟฟาสีเขียวออกมา
โดยลอมหานลี่เอาไวตรงใจกลางของเขตอาคมพอดี
“สหายหาน เจาจะทำอะไร!” วานรสีทองที่กลับมาขางกายของหานลี่อีกครั้ง
และคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของหานลี่อยูโดยตลอด เห็นสถานการณเชนนี้พลัน
ตกตะลึง อดที่จะเอยปากถามไมได
“ไม ม ี อะไร นี ่ ค ื อเขตอาคมสนับ สนุ น ที ่ผู  แซ หานศึ ก ษาค น คว ามาดว ยตนเอง
ไมเพียงสามารถทำใหเคล็ดวิชาเรียกอัสนีมั่นคง ยิ่งไปกวานั้นยังสามารถเพิ่มอานุภาพ
ใหเล็กนอยดวย” หานลี่เอยอยางคลุมเครือ
ตั้งแตที่รูวาหากตนเองสำแดงเคล็ดวิชาเรียกอัสนีแลวอาจจะถูกอัสนีเทวาปดเปา
ภยันตรายแวงกัด หานลี่ก็รูสึกไมสบายใจ จึงคิดหาวิธีแกไขอยางหนัก
เขตอาคมเล็กนี้คือวิธีการแกไขชนิดหนึ่งที่เขาคิดไดจากการกักตน
เขาใชยันตอัสนีผนึกรวมกันกลายเปนเขตอาคม มีประสิทธิภาพในการดูดซับ
พลังอัสนีที่ปลอยออกมา และเมื่อวางเขตอาคมแปดทวารดูดอัสนีที่คิดคนขึ้นเขาไปอีก
ก็สามารถเพิ่มอานุภาพของเคล็ดวิชานี้ไดหลายเทา เมื่อถูกอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย
แวงกัดตอนที่สำแดง ก็สามารถใชเขตอาคมนี้ดึงพลังของอัสนีเทวาปดเปาภยันตราย
เขาไปในเขตอาคม แลวหลีกเลี่ยงการเพลี้ยงพล้ำได แนนอนวาการกระทำเชนนี้
จะได ผ ลจริ ง ๆ หรื อไม หรื อมี ผ ลมากแค ไ หน หานลี ่ ไ ม เ คยถู ก อั ส นี เ ทวาป ด เป า
ภยันตรายแวงกัด แนนอนวายอมไมแนใจ
แตการวางเขตอาคมนี้ตอนที่สำแดงเคล็ดวิชาเรียกอัสนี ก็ทำใหเขารูสึกปลอดภัยขึ้น
เล็กนอย สวนสิ่งที่เขาพูดวาจะชวยเพิ่มพลานุภาพนั้น แนนอนวายอมเปนแคคำพูด
สงเดชเทานั้น
เมื่อไดยินหานลี่กลาวเชนนี้วานรสีทองพลันพยักหนาดังคาด และไมไดเอยอะไรอีก
มูชิงและพวกมองไปปราดหนึ่ง แตก็ไมอาจมองอะไรออกได
ถึงอยางไรเสียความพิเศษของเขตอาคมชุดนี้ก็อยูที่ธงเขตอาคม สวนวิชายันต
อัสนีของธงอาคมนั้นก็เปนสิ่งที่หานลี่ตองทุมเทอยางหนักถึงจะควบคุมได แมวา
ราชันยปศาจเหลานี้จะมีอิทธิฤทธิ์มากมาย แตก็ไมอาจมองสิ่งนี้ออกได
เห็นไดชัดวาป ศาจตนอื่ นต างไดรั บ การฝ กฝนมาไมต่ำ กวาหนึ ่ง ครั้ ง เวลาแค
หนึ่งกาน้ำชา เขตอาคมยักษเสนผาศูนยกลางยี่สิบสามสิบจั้งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ
เขตอาคมนี้สรางขึ้นจากยุทธภัณฑตางๆ กวายี่สิบชิ้น หนึ่งในนั้นสวนใหญลวน
เป น จานสี ด ำขนาดเท า ปากชาม ส ว นน อ ยคื อ ของประหลาดๆ อย า งไม บ รรทั ด
วงแหวน กอนผลึกเปนตน
แตกลิ่นอายที่แผออกมาจากของเหลานี้กลับถูกหลอมเปนหนึ่งเดียวกับเขตอาคม
ไมมีความแปลกแยกเลยสักนิด
และตรงใจกลางเขตอาคม ลิ่วจูและมูชิงกำลังยืนเคียงไหลกัน
เงาสีดำแปดสายที่อยูอีกดานกลับเรียงตัวกันเปนแถว สองมือของทุกคนลวนไปที่ไหล
ของผูที่อยูหนาสุด ราวกับถังหูลูที่รอยเขาดวยกัน
หญิงงามผมขาวยืนอยูเบื้องหนาเงาสีดำทั้งหมด สีหนาเครงขรึมเปนอยางมาก
สวนทางดานผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิต ไมเพียงรางกายของหุนเชิดสีมวงโลหิตที่
ขยายใหญขึ้นรอยเทา หุนเชิดธาตุทองสิบกวาตนพลันมารวมตัวกั นอยูตรงกลาง
คาดไมถึงวาจะรวมตัวกันกลายเปนหุนเชิดโกเลมสูงยี่สิบสามสิบจั้งตัวหนึ่ง ในมือมี
มีดยักษเปลงแสงพรางพราว
ตอนที่ 1479 รวมมือทลายเขตอาคม
“สหายหาน เจาเตรียมเคล็ดวิชาเรียกอัสนีใหดีเถิด พอพวกเราเรียกก็ปลอย
อัสนีเทวาปดเปาภยันตรายเลย” ลิ่วจูลอยชุดพลิ้วไสวอยูตรงใจกลางของ เขต
อาคมยักษ ออกคำสั่งดวยน้ำเสียงที่ไมอาจปฏิเสธได
หานลี่พยักหนาสองมือพลันรายอาคม ชั่วขณะนั้นประจุไฟฟาสีทองบนเรือนราง
พลันหมุนวน ตาขายไฟฟาชั้นหนึ่งปรากฎขึ้นแลวขยายตัวออกไป หลังจากเสียงวี้ดๆ
ดังขึ้นสองครั้ง ก็กลายเปนลำแสงสีทองกลุมหนึ่ง
ยั นต ส ี ท องเริ ง ระบำไปทั ่ ว ทุ ก ทิ ศ ทาง ลำแสงเปล ง แสงสว า งวาบรวมตั ว กั น
กลายเปนลูกบอลกลมสีทองเม็ดหนึ่ง ลอยพลิ้วอยูบนฝามือขางหนึ่ง
ครานี้หานลี่ไมไดสำแดงอะไรตออีก แคใชมือใหญถือลูกบอลเอาไวแลวมองดู
สถานการณอยูดานขางดวยความเย็นชา
ลิ่วจู มูชิงและพวกกลับเริ่มลงมือทลายเขตอาคม
เห็นเพียงลิ่วจูและมูชิงบริกรรมคาถา อาวุธที่ปศาจระดับสูงใตฝาเทายี่ส ิบ ตน
ควบคุมอยูเปลงแสงนับหมื่นแสงออกมา กลายเปนเขตอาคมชั่วพริบตาก็กลายเปน
หลุมยักษสีดำ ไอวิญญาณฟาดินจำนวนนับไมถวนจากรอบๆ ไปรวมตัวกันรอบกาย
ของลิ่วจูและมูชิง
ชั่วพริบตาลิ่วจูและพวกทั้งสองก็มีลำแสงวิญญาณหลากสีสันสองกลุมหอหุมอยู
รางกายเปลงแสงระยิบระยับ ราวกับเทพเจาสององคก็ไมปาน
อีกดานเงาสีดำแปดสายเบื้องหนาหญิงงามเรือนผมสีขาวพลันประกบมือทั้งสอง
เขาดวยกัน แลวแยกออกอีกครั้ง ในมือมีระฆังเล็กๆ สีดำสนิทปรากฎขึ้น
ภายนอกของระฆังดูเกาแกอยางหาที่เปรียบ แมกระทั่งตรงขอบยังมีรองรอยการผุพัง!
ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตทั้งสอง คนหนึ่งมีหุนเชิดภูตสีมวงโลหิตอยูบนไหล อีกคน
กลับรางกายพลิ้วไหวไปอยูเหนือศีรษะของหุนเชิดธาตุทองขนาดยักษที่สรางขึ้นใหม
ปากของหุนเชิดภูตสีมวงโลหิตเปลงเสียงคำรามต่ำๆ ออกมา สองมือถูกันไปมา
คาดไมถึง วาจะมี ขวานสี ม ว งแดงยาวสิ บจั้ ง ปรากฎขึ ้ นท ามกลางลำแสงสี โลหิ ต ที่
เปล ง แสงพร า งพราว ผิ ว ของขวานด า มนี ้ ม ี ล ำแสงสี โลหิ ต เปล ง แสงระยิ บ ระยั บ
ถูกหุนเชิดชูขึ้นดวยมือทั้งสอง และชี้ไปทางผิวน้ำเบื้องหนา
หุนเชิดธาตุทองเองก็ชูมีดยักษในมือขึ้นเชนกันดวยการกระตุนจากผูที่สวมชุดคลุม
สีโลหิต ผิวของมันเปลงแสงสีดำกระพริบวาบๆ
เสียงอึกทึกดังขึ้น ในที่สุดลิ่วจูก็ใชมือหนึ่งตบออกไป
เสาลำแสงสีดำสายหนึ่งพนออกมาจากฝามือ
ครั้งนี้เสาลำแสงหนากวาตอนที่อยูในทางเดินของหวงมิติเวลาหลายเทา ทุกแหงที่
เสาลำแสงกวาดผานไป ทำใหแมกระทั่งหวงมิติเวลาบิดเบี้ยวยับยนเปนชั้นๆ
เสาลำแสงเปลงแสงเจิดจาจมหายเขาไปในผิวน้ำ
แมน้ำอเวจีที่แตเดิมดูเหมือนน้ำนิ่ง คราแรกพลันไมแยแส แตเมื่อเสาลำแสงสีดำ
พนเขามาไมหยุด ในที่สุดก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
คราแรกระลอกคลื่นเริ่มกระเพื่อมเปนชั้นๆ ทันใดนั้นน้ำในแมน้ำอเวจีก็เริ่มหมุนวน
โดยมีเสาลำแสงเปนศูนยกลาง และยิ่งไปกวานั้นยังรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ และเปลงเสียง
รองครืดคราดออกมา
มูชิงเองก็ลงมือ
ดอกไมสีทองใตฝาเทาหมุนติ้วๆ ดูดมานลำแสงรอบๆ เขาไปกวาครึ่ง จากนั้นก็
ขยายขนาดขึ้น ตั้งตระหงาน กลายเปนธรรมจักรยักษสีทองเรืองรอง ตรงเขาไปหาทุก
อยางที่อยูตรงหนา
ธรรมจักรขนาดเสนผาศูนยกลางสองสามจั้ง ยังไมทันไดสัมผัสกับผิวน้ำก็ระเบิด
เสียงพายุและอัสนีออกมา ลำแสงสีทองเปลงแสงเจิดจาแลวสับลงไปยังผิวน้ำ
ชั่วขณะนั้นผิวน้ำที่แตเดิมหมุนวนพลันมีลำแสงสีทองสวางวาบ ในที่สุดก็เปลง
เสียงรองคำรามออกมาแลวแยกตัวออก!
หลุมสีขาวคอยๆ ปรากฎขึ้นจากเสาลำแสงที่อยูใจกลางและขยายขนาดไปเรื่อยๆ
แตมานน้ำรอบๆ พลันสั่นกระเพื่อม ทำใหหลุมนี้ไมมั่นคง ทาทางเหมือนจะพังทลายได
ทุกเมื่อ
เสียง “วี๊ด” ดังขึ้น เงาโลหิตขวานยักษสีมวงแดงดามหนึ่งและมีดลำแสงสีดำเปลง
เสียงกรีดรองออกมา
ภายใตการรวมมือกันโจมตีที่มากมายขนาดนี้ หลังจากเสียงสะเทือนฟาสะเทือนดิน
ดังขึ้น แมน้ำอเวจีก็ถูกแยกออก หุบเขากลางสายน้ำสูงยี่สิบสามสิบจั้ง กวางสิบจั้งเศษ
คอยๆ กอตัวขึ้น แตในครานั้นมานน้ำรอบๆ พลันเปลงเสียงครืนๆ ประหลาดๆ ดังขึน้
จากนั ้ นเส นไหมสี ด ำที ่ เ ปล ง แสงระยิ บ ระยั บ ก็ ป รากฎขึ ้ น ในน้ ำ อเวจี รวบไปทาง
หุบเขายักษ
ฉากที่นาเหลือเชื่อพลันปรากฎขึ้น!
การโจมตี เ ดิ ม จากสี ่ ร าชั นย ป  ศ าจไม ว  า จะเป น เสาลำแสง ธรรมจั ก รหรื อ ว า
มีดลำแสงถูกเสนไหมสีดำรวบเอาไว ก็ทยอยกันสั่นเทาหมนแสงลง ทาทีการโจมตี
ผอนลง และเริ่มมีทาทีเสื่อมอานุภาพลง
“สหายหานยังไมลงมือ รออะไรอยู” เสียงอันเย็นชาของลิ่ วจูดั งออกมาจาก
มานลำแสงหลากสี
จากการนำไอวิ ญ ญาณฟ า ดิ นมารวมตั ว กั น กลายเป น ธรรมจั ก รยัก ษ และยั ง
ประคับประคองใหมันปลอยเสาลำแสงสีดำออกมาในเวลาเดียวกัน ก็ทำใหมันหดเล็ก
ลงอยางรวดเร็ว มูชิงที่ควบคุมธรรมจักรยักษสีทองดานขางก็เปนเชนเดียวกัน
เห็นไดชัดวาอิทธิฤทธิ์ทั้งสองลวนทำใหสูญเสียลมปราณไปจำนวนมาก แมนวาจะ
อาศัยพลังของเขตอาคมก็ยังไมอาจประคับประคองตอไปไดนานนัก
หานลี่สูดลมหายใจเขาลึกๆ เฮือกหนึ่ง มือถือลูกบอลสีทองเอาไวกลางอากาศ
นิ้วทั้งหาดีดไปมาเบาๆ
เสียง “พรึ่บ” ดังขึ้น ลูกบอลสีทองกลายเปนแสงสีทองสายหนึ่งพุงทะยานขึ้นไป
กลางอากาศ อี ก มื อหนึ ่ ง ชี ้นิ ้ วออกไปอยา งรวดเร็ ว อั ก ขระยั น ตสี ทองขนาดใหญ
ปรากฎขึ้นและพุงออกไปเชนกัน
หลังจากเสียงฟาผากลางวันแสกๆ ดังขึ้น บรรยากาศรอบๆ ก็เกิดพายุหมุนขึ้น
เมฆสีดำทอดตัวอยูเต็มทองฟา ดวงอาทิตยสีทองปรากฎขึ้นทามกลางหมูเมฆสีดำ กลิ่น
อายที่ดูเหมือนจะถลมฟาดินทะลักออกมาจากเมฆสีดำพวยพุงขึ้นไปบนทองฟา
ชั่วพริบตานั้นผิวของดวงอาทิตยก็กระพริบวาบๆ เสียงฟารองดังขึ้นอยางตอเนื่อง
ทุมต่ำจนนาตกใจ
หานลี่มีสีหนาเครงขรึม ปากพลันบริกรรมคาถาที่ฟงไมไดศัพทออกมา นิ้วหนึ่ง
ชี้ไปยังผิวน้ำเบื้องหนา
ยันตสีทองเปลงแสงเจิดจา!
เสาลำแสงสีทองขนาดเทาถังน้ำพนออกมาจากดวงอาทิตย หลังจากกระพริบวาบ
สองสามครั้งก็โจมตีไปยังน้ำในแมน้ำอเวจี
เสียง “ปง” ประหลาดๆ ดังออกมาจากผิวน้ำ ชั่วพริบตาที่เสาลำแสงสีทองสัมผัส
กับผิวน้ำ ก็กลายเปนประจุไฟฟาสีทองมวนวนแผออกไปรอบดานเปนวงๆ
สถานการณที่นาตกตะลึงปรากฎขึ้นทามกลางเสียงฟารองที่ดังสนั่น
ทุกแหงที่ลำแสงอัสนีกวาดผานไป เสนไหมสีดำแวววาวที่ปรากฎขึ้นในแมน้ำอเวจี
ลวนกลายเปนฝุนควันทามกลางลำแสงสีทอง!
เมื ่ อเห็ นสถานการณ เ ช นนี ้ ล ิ ่ ว จู  แ ละพวกพลั น รู  ส ึ ก ดี อกดี ใ จ รี บ ร อนกระตุ น
อิทธิฤทธิ์โจมตีผิ ว น้ำ อยา งต อเนื่ อง สวนหญิงงามผมขาวที่ ยัง ไมไ ดล งมื ออี ก ด า น
ก็เปลงเสียงรองแหลมสูงออกมาเชนกัน
ชั่วขณะนั้นเงาสีดำแปดตนที่ยืนอยูดานหลังนางพลันมีลำแสงสีดำเปลงประกาย
อยูบนเกราะสงคราม รวบรวมไอทมิฬเขาดวยกัน แลวพวยพุงสงมาหาหญิงงามผมขาว
แมนวาราชันยภูตเกราะจันทราทั้งแปดจะมีพลังยุทธแคระดับหลอมสูญขั้นปลาย
แตไอทมิฬทั้งแปดที่รวบรวมไดนั้น ก็ยังคงนาตกใจ
เงาภูตขนาดใหญตนหนึ่งปรากฎขึ้นลางๆ เหนือศีรษะของสตรีผูงดงาม
ระฆังใบเล็กสีดำในมือของหญิงงามผมขาวเปลงแสงสีดำเจิดจาออกมา ชั่วพริบตา
ก็หมุนวนพุงขึ้นไปกลางอากาศ ขยายใหญขึ้นจนมีขนาดสองสามจั้ง
แววตาของหญิงงามเปลงประกายประหลาดๆ ยื่นนิ้วออกไปนิ้วหนึ่ง รายไปกลาง
อากาศเบาๆ
เสียง “หงาง” ของระฆังดังขึ้น
คลื่นลำแสงสีดำชั้นหนึ่งปรากฎขึ้นบนระฆังยักษ ทอตัวเต็มทองฟากระโจนไปยัง
หุบเขาที่อยูตรงกลางแมน้ำอเวจี
ฉากที่แปลกประหลาดพลันปรากฎขึ้น
เมื่อคลื่นลำแสงสีดำสัมผัสกับหุบเขา ชั่วพริบตาก็กลายเปนมานลำแสงสีดำทะมึน
ชั้นหนึ่ง ชั่วครูก็รองใตมานน้ำรอบๆ เอาไว ตรงกลางแมน้ำอเวจีมีทางเดินสีดำของจริง
ปรากฎขึ้น
เมื่อถูกอิทธิฤทธิ์ของลิ่วจูและพวกกระตุนมานลำแสงนี้ก็ดูเหมือนจะขยายตัวทอดยาว
ไปจนมองไมเห็นปลายทางอยางไรอยางนั้น
หานลี่มองเห็นฉากทุกอยาง แมวาจะรูสึกประหลาดใจ แตเพื่อตอกรกับเสนไหมสีดำ
แวววาวที่ปรากฎขึ้นบนแมน้ำอเวจีอยางตอเนื่อง ก็ทำไดเพียงกระตุนดวงอาทิ ตย
สีทองกลางอากาศไมหยุด พนเสาลำแสงสีทองสายแลวสายเลาออกมา ชวยลิ่วจูและ
พวกกระตุนไมหยุด
แทบจะในเวลาเดียวกันเมื่อหุบเขาสีดำทอดตัวลึกเขาไปอยางตอเนื่อง ลิ่วจู มูชิง
และพวกก็เริ่มกระตุนเขตอาคมใตราง ทำใหการโจมตีของตัวเองโจมตีไปจุดหนึ่งอยาง
ตอเนื่องไมหยุด หานลี่เห็นเชนนั้นก็มองไปยังดวงอาทิตยสีทองสองสามดวงที่ขึ้นมา
ทดแทนกลางอากาศ แลวทำไดเพียงหัวเราะอยางขมขื่นยืนนิ่งอยูที่เดิม
เขาไมไดมีจิตสัมผัสแข็งแกรงถึงขนาดที่จะสามารถควบคุมอัสนีเทวาใหไปตกที่
เปาหมายในระยะไกลขนาดนั้นได
ทวาโชคดีที่เคล็ดวิชาเรียกอัสนีมีความสามารถไมนอย ขอแคเสาลำแสงสีทอง
โจมตี ไ ปใกล ๆ ประจุ ไ ฟฟ าอั ส นี ก ็แ ผข ยายไปและยั ง คงทำลายเส น ไหมสีด ำที่อยู
ไกลออกไปทั้งหมดได แนนอนวาเมื่อหุบเขาทอดตัวลึกเขาไปไมหยุด หานลี่ก็จำใจตอง
ปลุกความฮึกเหิม ใชอาคมควบคุมเสาลำแสงสีทองทอดตัวลึกเขาไปดวย โชคดีที่
ไมตองกำหนดตำแหนงที่แมนยำอะไร ขอแคควบคุมระยะหางคราวๆ ไดก็พอแลว
ดังนั้นสีหนาของเขาจึงยังคงผอนคลายอยู
หนึ่งเคอตอมาฉับพลันนั้นพลันมีเสียงดังสนั่นดังออกมาจากหุบเขาอีกดานหนึ่ง!
มูชิงไดยินเสียงนี้พลันเอยขึ้นอยางดีอกดีใจทันทีวา
“ในที่สุดก็เปดทางไดแลว!”
ทันใดนั้นสตรีผูนี้ก็กวักมือเรียก ครูตอมาธรรมจักรสีทองก็บินกลับมาจากสวนลึก
ของหุบเขา กลายเปนดอกไมยักษสีทองอีกครั้ง ปรากฎขึ้นใตฝาเทา
สตรีผูงดงามผมขาวและพวกเองก็มีสีหนาปติยินดี ทยอยกันเก็บอิทธิฤทธิ์กลับมา
เชนกัน
“เยี่ยม! ทางเดินนี้นาจะอยูไดสักสองสามชั่วยาม พอใหพวกเราขามแมน้ำอเวจีไป
ไดแลว แตยังคงตองระวังการโจมตีของภูตในแมน้ำอเวจี ใหพวกมันเขาไปกอนเถิด
จะเขาไปในแดนแมน้ำอเวจีไดกี่ตน ก็ขึ้นอยูกับดวงของพวกมันแลว ใหพวกมันหนีเอา
ชีวิตตรอดไปขางหนาอยางสุดกำลังก็แลวกัน” หลังจากที่แววตาของลิ่วจูเปลงแสง
สีเขียวสวางวาบสองสามครั้ง ก็มองไปยังปศาจระดับต่ำเหลานั้นแลวเอยขึ้น
มูชิงและพวกไดยินคำนี้ก็มองสบตากันแวบหนึ่ง สีหนายินดีหายวับไป
หานลี่ที่สลายเคล็ดวิชาเรียกอัสนีออก กลับอดที่จะตกตะลึงไมได!
และในตอนนั้นเองหุนเชิดและทหารภูตทั้งหมดก็รวมตัวกันอยูที่ทางเขา และยิ่งไปกวา
นั้นยังแบงออกเปนสองฝงซายขวาตรงขอบอยางแปลกประหลาด ปศาจอสูรระดับต่ำ
เหลานั้นกำลังทยอยกันถูกจัดใหมารวมอยูตรงกลางโดยการกนดาของปศาจระดับสูง
จำนวนนับหมืน่ ตนนี้แทบจะปดทางเดินทั้งสายใหลอดผานไปไมได!
ภายใตการออกคำสั่งของเหลาราชันยปศาจ ชั่วขณะนั้นทหารภูตและหุนเชิดจาก
ทั้งสองฝงก็เริ่มบินเขาไปในทางเดิน
พายุทมิฬที่หอหุมรางของภูตเกราะจันทราเอาไวพลันสลายออกในทันที ในที่สุด
ก็เผยรูปรางที่แทจริงของพวกมันออกมา
ทุกตนลวนสวมเกราะครึ่งตัวสีดำเปนมัน วาว มือหนึ่งถือขวาน สามงามและ
อาวุธมีดตางๆ เอาไว ผิวหนังที่เผยออกมาจากเกราะสีดำลวนเปนสีเทาตุนๆ ราวกับ
ซากศพก็ไมปาน สวนหัวกลับถูกเพลิงภูตสีเขียวกลุมหนึ่งหอหุมเอาไว
ภายใตเปลวเพลิงสีเขียวที่เปลงแสงระยิบระยับ เห็นไดชัดวาคือหัวกะโหลกที่มี
หนาตาดุดัน
ภูตทมิฬเหลานี้ลวนมีสีหนาไรความรูสึก ปดปากเงียบไมเปลงคำพูดใดๆ บนรางมี
กลิ่นอายเย็นเยียบแผออกมาจางๆ
หานลี่ยืนอยูดานหลังมูชิงมองไปยังเหลาภูต ดวงตาทั้งสองอดที่จะหรี่ลงไมได
เดิมทีแดนแมน้ำอเวจีก็มีภูตผีอยูจำนวนมากอยูแลว แตลิ่วจูและพวกก็ยังคง
หลอมทหารภูตขึ้นจำนวนมาก ดูแลวคงจะมีความลับอะไรแน
ครูตอมาปศาจระดับต่ำที่มีหุนเชิดและทหารภูตก็ถูกออกคำสั่งใหทยอยกันบินเขา
ไปในทางเดิน
ลิ่วจูและพวกปศาจระดับสูงเหลานั้นกลับมองอยุดานนอกทางเดินอยางเย็นชา
ครานี้ไมมีทาทีจะเขาไปเลยสักนิด
ชั่วพริบตาที่ปศาจระดับต่ำเขาไปในทางเดินของหุบเขาสีดำนั้น มานลำแสงสีดำรอบๆ
ก็มีลำแสงสีเงินเปลงแสงสวางวาบ เสียง “ฟวๆ” ดังแหวกอากาศมา เสนไหมสีเงิน
จำนวนนับไมถวนพุงออกมาจากทั้งสี่ทิศแปดดาน
เปาหมายของพวกมันลวนเปนปศาจระดับต่ำที่อยูตรงใจกลาง สวนหุนเชิดและ
ภูตทมิฬที่อยูทั้งสองฝง เสนไหมสีเงินกลับไมสนใจเลยสักนิด
ตอนที่ 1480 ผลึกของวิญญาณอเวจี
เสนไหมสีเงินเหลานี้แนนอนวายอมเปนปลาประหลาดแหงแมน้ำอเวจีที่หานลี่
เห็นตอนแรก
ประหลาดเหลานี้แตละตัวลวนมีลักษณะบางยาวเหมือนเข็ม เแมวาสนไหมสีเงินที่
วาดขึ ้ นมาจะไม อาจทำอะไรป ศ าจระดั บ สู ง ได แต ก ลั บ เป น อั น ตรายถึ ง ชี ว ิ ต ต อ
ปศาจระดับต่ำที่ไมอาจปลอยลำแสงวิญญาณออกมาปกปองรางได
ชั่วพริบตาปศาจหลายรอยตัวที่ลวงหนาเขาไปในทางเดินก็ถูกแทงจนรางเปน
รูพรุนกวาครึ่ง แลวลมตึงลงกับพื้น
ปศาจที่ทะลักเขามาจากดานหลังพลันตกตะลึง แตปศาจจำนวนไมนอยตางทยอย
กำลังสำแดงลำแสงวิญญาณออกมา ภูตทมิฬและหุนเชิดที่อยูทั้งสองดานเองก็โบก
สะบัดอาวุธมีดในมือ ชั่วขณะนั้นพลันตานทานเสนไหมสีเงินกวาครึ่งเอาไวดานนอก
เส นไหมสี เ งิ นที ่ อยู  ท  า มกลางม านลำแสงสี ด ำยั ง คงพุ  ง ออกไปอย า งต อเนื ่อง
เหมือนกับไมมีที่สิ้นสุดอยางไรอยางนั้น
สวนปศาจระดับต่ำที่เขาไปอยูกลางทางเดินตางพยายามวิ่งหนีไปอีกดานอยาง
สุดชีวิตโดยมีผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตคนหนึ่งเปลงเสียงรองยาวๆ กระตุน
แมวาจะเปนปศาจระดับต่ำ แตเมื่อบินอยางเต็มอัตรา ความเร็วของแตละตนลวน
นาตกใจ
ไอปศาจหมุนวนเปนเกลียว ปศาจจำนวนไมนอยขามผานทางเดินกวาครึ่งไปไดแลว
และในตอนนั้นเองความเปลี่ยนแปลงก็ปรากฎขึ้น!
เงาสีดำเปนสายๆ พลันปรากฎขึ้นกลางมานลำแสงสีดำที่อยูรอบๆ เสียงรอง
ประหลาดๆ ดังออกมาจากทั้งสี่ดานแปดทิศ
เงาดำสนิทรูปทรงแตกตางกันพลันปรากฎขึ้น บีบทะลักออกมาจากมานลำแสง
อยางแปลกประหลาด
เงาสีดำเหลานั้นบางก็อาปากออกพนลูกธนูน้ำสีขาวเปนกลุมๆ ออกมา บางกลับ
เผยเขี้ยวแหลมคมเต็มปากออกมากระโจนเขาฉีกทึ้งโรมรันกับปศาจจนกลายเปนกอน
กลมๆ
ปกติแลวปศาจที่ถูกธนูน้ำพนใสจะทยอยกันลมตึงจบชีวิตลง ที่มีลำแสงวิญญาณ
ปกปองราง ก็ดูเหมือนวาจะไมอาจตานทานการลอบโจมตีจากลูกธนูน้ำได ชั่วพริบตา
ผิวกายพลันมีไอสีดำปรากฎขึ้น แตก็ตานทานเอาไวไดแคไมกี่กาวเทานั้น
ส ว นป ศ าจที ่ ฉ ี ก ทึ ้ ง กั บ เงาสี ด ำเหล า นั ้ น เมื ่ อ ถู ก กั ด ก็ ด ิ ้ น รนได แ ค เ ล็ ก น อ ย
แลววิญญาณก็แตกสลายไป ชั่วพริบตาซากศพก็กลายเปนน้ำเหม็นคาวอาบยอมไปทั่ว
คิดไมถึงวาในปากของเงาสีดำเหลานั้นจะมีพิษ!
“นี่คือภูตทมิฬ!”
แววตาของหานลี่มีลำแสงสีฟาเปลงประกาย มองทุกอยางอยูไกลๆ ดวยความ
ตระหนกตกใจ
ภายใตเนตรวิญญาณ แนนอนวาเขายอมเห็นทุกอยางอยางชัดเจน เงาสีดำเหลานี้
คือซากวิญญาณรูปรางประหลาดจำนวนนับไมถวน แตแคครานี้ลวนกลายเปนเหมือน
ผีดิบที่ไมมีจิตสำนึก แคพยายามกระโจนเขาไปหาปศาจที่มีชีวิต ไมสนหุนเชิดและ
ทหารภูติที่อยูดานขางทั้งสองฝงเลยสักกระผีก
แนนอนวาปศาจระดั บต่ำจำนวนนั บ ไม ถ ว นเองก็ไมใช วา ไมมี กำลั งตา นทาน
ภายใตการเสียเปรียบในคราแรกพวกมันบางก็พนลูกบอลเพลิงเปนดวงๆ ออกมา
บางก็ปลอยเคล็ดวิชาสมบัติเมฆวายุตางๆ ออกมาโถมโจมตีไปยังภูติทมิฬเหลา นั้น
อยางบาคลั่ง
ทวาสิ่งที่ทำใหปศาจประหวั่นพรั่นพรึงก็คือไมวาจะใชเคล็ดวิชาใดโจมตีไปบนราง
ของภูติทมิฬเหลานี้ ก็จะทยอยกันเปลงแสงสวางวาบและจมหายเขาไปในรางของ
พวกมันอยางไรรองรอย
คิดไมถึงเลยวาจะไมมีผลเลยสักนิด!
ครานี้ปศาจทั้งหมดตางขนพองสยองเกลา
“เจาโง! ภูติทมิฬไมอาจออกหางจากแมน้ำอเวจีไดมากนัก แควิ่งออกจากทางเดิน
ก็ ป ลอดภั ย แล ว ” น้ ำ เสี ย งที ่ เ ย็ น ชาของลิ ่ ว จู  พ ลั น ดั ง สะท อ นไปมาในทางเดิ น
สั่นสะเทือนโสตประสาทหูทั้งสองขางของปศาจทั้งหมด
ชั่วขณะนั้นปสาจระดับต่ำถึงไดเขาใจ ทันใดนั้นก็ไมสนการโจมตีภูติทมิฬอีก
แคพยายามบินไปยังอีกดานของทางเดินอยางสุดชีวิต ระยะหางหมื่นจั้งเศษสำหรับ
ปศาจที่มีความรวดเร็วเหลานี้ แคไมกี่ชั่วอึดใจก็ขามผานไปไดแลว
สวนปศาจที่เหลือที่มีหุนเชิดและภูตทมิฬปกปองอยู แมวาจะถูกปลาประหลาด
และภูตทมิฬลอบโจมตีจนไดรับบาดเจ็บหนัก ทวาโชคดีที่ปศาจระดับต่ำมีจำนวนไม
มากนัก ปศาจที่ลมตายจึงเปนแคหนึ่งในหาสวนจากปศาจที่กระโจนเขาไปในทางเดิน
เทานั้น
ฝูงปศาจระดับต่ำดานหลังก็ยังคงทะลักเขามาราวกับคลื่นน้ำโดยมีปศาจระดับสูง
เปนผูกระตุน
กลิ่นอายโลหิตคละคลุงไปทั่วทั้งทางเดิน
มูชิง สตรีผูงดงามและพวกที่อยูดานนอกเห็นสถานการณในทางเดิน ใบหนาพลัน
เผยสีหนาตึงเครียดออกมา กลับยังคงไมมีผูใดลงมือชวย เหมือนวากำลังรอคอยอะไร
สักอยางอยางไรอยางนั้น
ในตอนที่หานลี่กำลังขมวดคิ้วคาดเดาเจตนาของคนอื่นอยูในใจนั้น กลางอากาศ
ในทางเดินก็มีเงายักษสีดำปรากฎขึ้น
พลิ้วไหวอยางรุนแรง มานลำแสงสีดำที่แตเดิมมั่นคงมากพลันสั่นเทา
เสียง “สวบๆ” ดังขึ้น หนวดยักษสองสามเสนโจมตีทลายมานลำแสงออกราวกับ
งูเหลือมยักษ ชั่วครูก็ทะลวงเขาไปในทางเดิน แคกวาดไปอยางสงเดชก็มว นเอา
ปศาจสิบกวาตนที่หลบไมทันเขาไป ดึงออกจากมานลำแสงในแมน้ำอเวจีอยางรวดเร็ว
ราวสายฟา
หลังจากเสียงรองครวญครางสิบกวาเสียงดังขึ้น ปศาจเหลานั้นก็ดูเหมือนวาจะถูก
เงาสีดำยักษกลืนกินเขาไปในทอง จากนั้นหนวดยักษก็ปรากฎขึ้นในทางเดินอีกครั้ง
ชั่วขณะนั้นพลันเกิดความโกลาหลขึ้นในบรรดาปศาจระดับต่ำที่อยูรอบๆ!
“ปรากฎกายแลว ลงมือ!”
เหลาราชันยปศาจเห็นหนวดปรากฎขึ้น พลันรูสึกปติยินดีขึ้นพรอมกัน ลิ่วจูยิ่ง
รองตะโกนออกมาอยางไมลังเลย
ชั่วขณะนั้นผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตทั้งสอง ลิ่วจู มูชิง สตรีผูงดงามและพวกรวมหาคน
พลันมีลำแสงวิญญาณเปลงแสงสวางวาบขึ้นบนเรือนราง และหายวับไปจากที่เดิม
ครูตอมากลางอากาศที่หนวดปรากฎขึ้น รางหาคนปรากฎขึ้นอีกครั้ง
มูชิงและพวกสี่คนชูมือขึ้นตะปบออกไปกลางอากาศพรอมกัน
มือลำแสงยักษหลากสีสันสี่มือพลันปรากฎขึ้นทันที หลังจากเปลงแสงสวางวาบก็
ตะปบไปที่หนวดคนละเสนแลวออกแรงดึงลงมาดานลางพรอมกัน
สิ่งมีชีวิตระดับหลอมรางสี่คนลงมือพรอมกัน เกรงวาแมแตภูเขายักษหมื่นใบมีด
ก็ยังถูกถอนขึ้นมาได
เมื่อเสียงคำรามดังขึ้น เสียง “ปง” พลันดังขึ้น เจาของหนวดถูกพลังมหาศาล
สี่กลุมดึงจากมานลำแสงเขาไปในทางเดิน
คาดไมถึงวาจะเปนกอนเนื้อยักษสีขาวโพลน!
ไรจมูกไรตา มีเพียงปากยักษที่กินพื้นที่เกือบครึ่งตัวคน กวาครึ่งของกอนเนื้อ
มีหนวดยาวๆ เจ็ดแปดเสน กวาครึ่งถูกมือลำแสงตะปบเอาไว ไมอาจกระดิกกระเดี้ย
ได เลยสั ก นิ ด หนวดเส นอื ่ นๆ กลั บโบกสะบั ด ไปมาอยู  ก ลางอากาศ ทุ บ ลงมาหา
เหลาราชันยปศาจอยางแรง
เสียงแคนเสียงดวยความเย็นชาดังขึ้น!
กระบี่ลำแสงสีดำสนิทสายหนึ่งปรากฎขึ้นกลางอากาศ ลำแสงสีดำสวางวาบ
ผากอนเนื้อยักษออกเปนสองสวนจากใจกลาง
เงารางคนสายหนึ่งพุงออกไปราวกับกลุมควัน พลิ้วไหวเล็กนอยแลวควักสิ่งหนึ่ง
ออกมาจากกอนเนื้อ จากนั้นลำแสงพลันมัวหมนลงปรากฎรางขึ้น
คาดไมถึงวาจะเปนลิ่วจูที่เมื่อครูไมไดลงมืออะไรเลย
ครานี้เขาใชมือหนึ่งถือผลึกหินสีขาวนวลเอาไวเม็ดหนึ่ง ขนาดเทาไขไก เปลงแสง
ระยิบระยับ
“ในที่สุดก็ไดผลึกวิญญาณอเวจีมา มีสิ่งนี้วันขางหนาก็สบายแลว” ลิ่วจูพิจารณา
ของในมือแลวพยักหนาดวยความพึงพอใจ
สตรีผูงดงาม มูชิงและพวกเห็นวาไดผลึกหินนี้มาอยางราบรื่น ก็เผยสีหนาปลื้มอก
ปลื้มใจออกมา
“หึๆ ในแมน้ำอเวจีจะมีจิตวิญญาณของแมน้ำอเวจีอาศัยอยูเพียงตนเดียวเทานั้น
การเคลื่อนไหวที่รุนแรงขนาดนี้ ไมมีทางไมไปรบกวนสิ่งนี้ได แมวามันจะมีอิทธิฤทธิ์
แตจะสูพวกเราที่รวมมือกันโจมตีไดอยางไร” ผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตเองก็หัวเราะหึๆ
อยางแปลกประหลาดออกมา
ใชแลว! การรวมมือกันเมื่อครูของคนเหลานั้นดูเหมือนจะงายดาย แตกลับเปน
ผลมาจากการฝ ก ฝนมาหลายครั ้ ง ถึ ง ได ส ั ง หารจิ ต วิ ญ ญาณของแม น ้ ำ อเวจี ท ี ่ มี
ความสามารถไมนอยลงไดอยางงายดายเชนนี้
“ในเมื่อไดของแลว พวกเราก็รีบขามไปเถิด ครั้งนี้มีเพียงภูตทมิฬที่ปรากฏตัว
ไมพบภูตโหดเหี้ยมตนอื่นที่พบครั้งที่แลว ก็นับวาโชคดีแลว” มูชิงสะบัดแขนเสื้อ
ลำแสงสีเขียวมวนวนออกไป ชั่วขณะนั้นพลันโผเขาไปหาซากของภูตทมิฬที่แตก
ออกเปนชิ้นๆ แลวเอยปากอยางราบเรียบในเวลาเดียวกัน
คนอื่นๆ ไมไดมีเจตนาคัดคานอะไร ทันใดนั้นก็กลายเปนสายรุงเปนสายๆ ทยอยกัน
พุงแหวกอากาศไปยังทางเดินอีกดาน
ครานี้อีกดานของทางเดิ นสีดำ รอจนลิ่วจูและพวกออกคำสั่ง กั บเหลา ป ศ าจ
ระดับสูงทุกคนแลว ก็เริ่มควบคุมลำแสงหลีกหนีบินเขามาในทางเดิน
หานลี่และวานรสีทองตามหลังปศาจตนอื่นๆ ไป และจมหายเขาไปขางในเชนกัน
สิ่งมีชีวิตระดับสูงอยางหานลี่นั้น แนนอนวาการโจมตีของปลาประหลาดและ
ภูตทมิฬยอมไมเพียงใหหวาดกลัว โดยเฉพาะตอนนี้ความเร็วของพวกเขาเหนือกวา
ปศาจระดับต่ำเปนอยางมาก
แคชั่วครูพวกเขาก็ขามผานทางเดินมาไดอยางปลอดภัย ปรากฎตัวกลางอากาศที่
ไรที่สิ้นสุด
สวนปศาจระดับต่ำที่บินออกมาจากทางเดินนั้น ก็ยังคงบินออกมาอยางตอเนื่อง
หลังจากผานไปหนึ่งมื้ออาหาร ในที่สุดปศาจสองสามหมื่นตัว ทหารภูตเกราะจันทรา
และหุนเชิดก็บินออกมาจากทางเดินสีดำจนหมด
ทหารภูตและหุนเชิดยังพอวาแทบจะไมไดรับอันตรายใดๆ แตปศาจระดับต่ำนั้น
ไมเพียงจะหายไปสวนหนึ่ง แมแตตนที่มาปรากฏตัวที่นี่ก็ยังมีตนที่ไดรับบาดเจ็บอยู
ไมนอย โชคดีที่ปศาจเหลานี้ลวนมีพลังฟนฟูที่นาตกใจ จึงไมจำเปนตองกลัดกลุมนัก
ลิ่วจูและพวกกลับทำเปนมองไมเห็นสิ่งเหลานี้ กลับรวมตัวกันปรึกษาอะไรกันสักอยาง
หานลี่ลอยตัวอยูกลางอากาศ แววตาเปลงประกายสวางวาบขณะพิจารณาทุก
อยางที่อยูเบื้องหนา
เขาในครานี้อยูเ หนือพื้ นดิ นไปสองสามพั นจั้ง มองไปรอบๆ รอบๆ ลวนเป น
เม็ดทรายสีดำสนิท และมีตนหญาสีดำเหลืองความยาวสองสามชุนงอกอยู เผยใหเห็น
ความรกรางอยางนาตกใจ
และเหนือศีรษะของพวกเขาก็มีน้ำของแมน้ำอเวจีรวมตัวกันกลายเปนทองฟา
สีขาวโพลน ราวกับวาปกคลุมไปทั่วทั้งผืนดินก็ไมปาน
“ตามแผนที่วางไว ภูตทมิฬเกราะจันทราอยูดานหนา หุนเชิดอยูดานหลัง” เหลา
ราชันยปศาจหารือกันเสร็จแลว หลังจากยืนยันตำแหนงคราวๆ แลว ลิ่วจูก็บินเขามา
ปากก็ออกคำสั่งไปดวย
ชั่วขณะนั้นทุกคนพลันเกิดความโกลาหลขึ้น และยิ่งไปกวานั้นยังแบงออกเปน
สองสามกลุม จากนั้นก็มุงตรงไปขางหนาอยางยิ่งใหญมโหฬาร
หานลี่ยังคงอยูยืนอยูดานหลังมูชิงพรอมกับวานรสีเหลือง
ร า งแน ง น อ ยของมู  ช ิ ง ยื น อยู  บ นดอกไม ย ั ก ษ ส ี ท อง และคอยนั ่ ง บั ญ ชาการ
ปศาจระดับสูงอยูฝูงหนึ่ง
ลิ่วจูและสตรีผูงดงามนำทหารภูตแปดพันตน และอาคมพายุทมิฬอยูดานหนา
แนนอนวาผูที่สวมชุดคลุมสีโลหิตทั้งสองพลันกระตุนหุนเชิดอยูดานหลัง
ทั ้ ง กองทั พ ดู เ หมื อนมั ง กรยั ก ษ ส ี ด ำตั ว หนึ ่ ง ที ่ เ หาะไปข า งหน า อย า งรวดเร็ ว
ชั่วพริบตาก็สลัดทางออกของทางเดินดานหลังออกอยางไรรองรอย
หลังจากผานไปสองสามชั่วยาม ทั้งกองทัพก็บินออกมาจากทะเลทรายสีดำผืนนั้น
ผลคือ เบื้องหนามีของที่ทำใหหานลี่สูดลมหายใจเขาดวยความสยดสยอง
กระดูกสีขาวโพลนทอดสายตามองไปไมเห็นปลายทาง!
ทางที ่ ก องทั พ เคลื ่ อ นไปมี โ ครงกระดู ก ต า งๆ เรี ย งรายจนกลายเป น ที ่ ร าบ
โครงกระดูกเหลานี้มีขนาดนอยใหญไม

You might also like