Professional Documents
Culture Documents
CH 801 - 908
CH 801 - 908
ลึกลงไปในหุบเขาเวิ้งวาง ทั้งซากปรักหักพังของอารยะธรรมโบราณอันเกาแก
และในดินแดนลับแลลี้ลับที่ไรผูใดกล้ำกรายเฉียดใกล... เหลาตัวตนอันทรงพลังที่เปน
ดั่งสุดยอดฝมือในอดีต ผูที่เคยเปนตัวตนอันไรผูใดในรุนตานทาน และมีดานพลังฝก
ตนกาวล้ำนำหนาสหายรวมหนทางทั้งหลายตางเรนกายฝกฝนอยูกันอยางแข็งขัน...
อนิจจาเมื่อพวกมันไดบรรลุระดับสวรรคอมตะขั้นสูงสุด หัวใจของพวกมันกลับถูก
ความสิ้นหวังถลมทับ เมื่อตองเผชิญหนากับเสนทางที่คลายจะไรวันจบสิ้นของการ
ควบรวมโซกระแสพลัง!!
ประโยชนของการควบรวมโซกระแสพลังใหมากขึ้นไปเรื่อยๆ มันคืออะไร?
สุดทายแลวนอกจากไดรับพลังความ แข็งแกรง พวกมันก็ไรซึ่งจุดมุงหมายอะไรสืบไป
...
ในอดีตกาลนั้นเหลาตัวตนผูฝกตนอันทรงพลังมากมายเลือกที่จะใชชีวิตของพวก
มันอยางสิ้นหวัง แทนที่จะหันมาควบรวมโซกระแสพลังไปจนตาย เพราะพวกมันรูดีวา
ไมอาจกาวผานขอบเขตสวรรคอมตะขั้นสูงสุดไปได! สำหรับเหลาตัวตนอันทรงพลังที่
ฝกปรือมาชั่วชีวิตแลว นี่คือความจริงอันโหดรายดั่งฟาถลมทับใส...!!
ไหนเลยที่ตัวตนเหลานี้จะมีความพึงพอใจกับชีวิตเชนนี้ พวกมันหันมากาวเดิน
บนเสนทางฝกตนเพื่อตอตานสวรรค และมุงหนาสูหนทางแหงความเปนนิรันดร การที่
ไมอาจทะลวงขามสวรรคอมตะขั้นสูงสุดคือฝนราย!!
อนิจจาในชวงเวลากวา 10,000 ป หลังจากที่ผูอยูเหนือสรรพสิ่งและผองเพื่อน
กางมานพลังสวรรคตัดขาดหนทาง เชื่อมตอโลกเสวียนหวงกับโลกเซียนโบราณ ก็ไรซึ่ง
ตัวตนใดกาวขามขีดจำกัดนี้ไปได...
ทุกคืนทุกวันไดแตเหมอมองตะวันจันทราลาลับครั้งแลวครั้งเลา เหลาตัวตนทรง
พลังทั้งหลายไดแตอาลัยผืนฟาดวย สายตาสะทกสะทอน ใจทรมานปวดปรานัก...
แรกเริ่มเดิมทีครั้งยังเยาวทั้งหลายเลือกที่จะสละแลวซึ่งทุกสิ่งอยาง ไมวาจะครอบครัว
หรือคนรักอะไร เพื่อมุงหนาทุมเทใหกับการฝกตน เพียงหวังวาสักวันพวกมันจะไดย่ำ
เทายางเยื้องลงไปบนเสนทางสูชีวิตนิรันดร...อนิจจาความจริงที่โหดรายก็ไดตามหลอก
หลอนมันทุกลมหายใจ วานิรันดรไซร...เพียงมายาฝนอันเลือนลาง...
เพื่อหนทางฝกตนแลวพวกมันยอมไดกระทั่งสละทุกสิ่งสูญเสียทุกอยาง...แตดู
จากความเปนจริงตอนนี้ ไหนเลยยังจะ คุมคากับสิ่งที่สูญเสียไป...?
ทวาในวันนี้...วันแหงโชคชะตาที่พวกมันเฝารอไดมาถึง! สรรพสิ่งกำลังจะ
แปรเปลี่ยนไปอยางสิ้นเชิง...!!
จากบริเวณพื้นที่ลับ และดินแดนลับแล ทั้งหวงลึกอันตรายนาๆ นับประการของ
โลกเสวียนหวง บังเกิดเสาลำแสงพวย พุงสูสวรรคกันมากมาย! กลิ่นอายพลังอันดุราย
กลับกลายเปนมังกรคำรามพุงทะยานเหนือฟา ราวกับจะเยยฟาทาดินอยางยาวนาน!!
“รอยป…! เปนเวลากวารอยปแลวที่ตัวขาไดเฝารอคอย ในที่สุด...ในที่สุดขาก็
ทะลวงผานไดแลว!!”
ตอนนี้เหลาผูฝกตนอันทรงพลังที่เรนกายจากโลกหลาไปนานแสนนานสัมผัสได
วา หนทางเบื้องหนาของพวกมันไรสิ่งใดขวางกั้นแลว! พวกมันรูสึกราวปุยเมฆาที่ลอย
ลองอยางอิสระเสรี พวกมันจะพุงทะยานไปที่ใดก็ได!!
หลินฟานที่ไดปลูกฝงโลกเสวียนหวงและทำลายมานพลังสวรรคเสร็จสิ้นนั้น ก็
ยังคงเฝามองมานพลังสวรรคที่เปนดั่งมานแสงกั้นโลกคอยๆ ระเหยหายไป ทั้งเหมอ
มองพลังปราณวิญญาณเซียนที่ทะลักทลายเขามาอยางไรจำกัด
ตอนนี้พลังปราณวิญญาณเซียนในโลกเสวียนหวงหนาแนนขุนคลั่ก จนแทบจะ
กลายเปนวัตถุมีสภาพอยูรอมรอ!
“อะโห...ดูแลวในโลกเสวียนหวงก็มีตัวตนเรนกายไมเบานี่หวา ไหนดูซิ...อืม คน
ทะลวงดานพลังกันระรัวเลยแหะ...”
ตอนนี้ไมวาสิ่งใดในโลกเสวียนหวงหลินฟานยอมรับรูไดทั้งหมด แมทานแอบผายลมใน
โถงประชุมแลวตีเนียนชี้หนา ไถถามคนๆ ขางๆ วาใชลมที่ผายของเจาหรือไม...?
หลินฟานก็ลวงรูได...! หวงเวลาดั่งแรกอรุณแหงยุคใหม เหลาตัวตนอันทรงพลัง
ทั้งหลายที่เคยถูกจำกัดไวดวยมานพลังกั้นโลกเสวียนหวง ตางทะลวงดานพลังกัน
ใหญ!!
กลิ่นอายพลัง 1 จุด! กลิ่นอายพลัง 2 จุด! กลิ่นอายพลัง 3 จุด! กลิ่นอายพลัง
3,600 จุด
เพียงหวงคิดเดียวหลินฟานระบุไดทันทีวาตอนนี้มีใครบางที่กำลังทะลวงดานพลังฝก
ตน เขาสัมผัสไดหมดไมวาจะไป แอบซุมฝกอยูในซอกหลืบเรนลับแคไหนก็ตาม!
“อะ! เมี่ยเฉิงฉีก็เอากับเคาดวย?”
ตอนนี้เองสติสำนึกหลินฟานพลันมองไปยังเมี่ยเฉิงฉีที่กำลังทะลวงดานพลัง บน
ยอดขุนเขาไรนามยามนี้ปานบังเกิดอาเพศหาใหญ! กลิ่นอายพลังของเมี่ยเฉิงฉีพุง
ทะยานดวยความเร็วอันนาหวั่นหวาด! กลิ่นอายพลังชีวิตและความตายฟุงตลบ
อบอวล! เหนือฟาทามกลางสวรรคและโลกปรากฏประตูโบราณเกาแกปานดำรงอยูมา
จากครั้งบรรพกาลกำลังเปดออก ราวกับประตูนี้เชื่อมตอกับหวงแหงความลึกลับที่
ไหนสักแหง!
กลิ่นอายพลังชีวิตและความตายหลั่งไหลออกมาจากประตูดังกลาวราวน้ำหลาก
หลนรวงมาอาบรางเมี่ยเฉิงฉีเอาไว
“ทวารแหงความเปนตาย...อมตะนิรันดรไมสิ้นสูญ...ทะลวง!!”
เมียเฉิงฉีเปนดั่งจุดศูนยกลางกลิ่นอายพลังมหาศาลปะทุออกมาปานพายุใตฝุน
พายุพลังอันนาพรั่นพรึงกวาดซัดไป ทั่วขุนเขาไรนาม ปกคลุมขุนเขาไรนามเอาไวอยาง
นาสะพรึงกลัว!! เมื่อมองไปยังระดับพังฝกตนของเมี่ยเฉิงฉี หลินฟานรูสึกประหลาดใจ
เล็กนอย สุดขีดสวรรคอมตะขั้นต่ำ สุดขีดสวรรคอมตะขั้นกลาง
... สุดขีดสวรรคอมตะขั้นสูงสุด!!
ซูมมมมมมมมมม!!!!
กลิ่นอายพลังปะทุออกมาอยางไมหยุดหยอน สุดทายคอยหยุดลง! เมื่อเมี่ยเฉิงฉี
บรรลุจุดสูงสุดของดานพลังสุดขีด สวรรคอมตะขั้นสูงสุด!!
“อัยยะ! ธรรมดาที่ไหนเลา หื้ม…คนที่พี่ประมุขเทรนมากับมือจะกิ๊กกอกไดยังไง
ใชไดๆ ! นับวาเจาเมี่ยนี่มันวางรากฐานมาดี ไมเคยเกียจครานการฝกฝนจริงๆ ถึงขั้น
ทะลวงไปยังดานสุดขีดสวรรคอมตะขั้นสูงุสดในครั้งเดียวแบบนี้ ตอไปคงเปนกำลัง
หลักอันสำคัญใหพี่ประมุขไดแนๆ !!”
กระทั่งตัวหลินฟานยังไมคิดไมฝนวาเมี่ยเฉิงฉีจะทะลวงดานพลังระรัวถึงขั้น
บรรลุสุดขีดสวรรคอมตะขั้นสูงสุดไดในครั้งเดียวแบบนี้! พรสวรรคของมันเปนอะไรที่
ไรผูตานอยางแทจริง!!
ตอนแรกเมี่ยเฉิงฉีก็เปนเพียงผูเดียวบนโลกเสวียนหวงที่ทะลวงดานพลังไดหลาย
ขีดขั้น แตไมคิดไมฝนวาเยาหวูเสียแหงเมืองปศาจชีพมลายเองก็ทะลวงดานพลัง
เชนกัน! ถึงแมวากลิ่นอายพลังที่ปะทุออกจะ ไมไดกาวราวรุนแรงจนบังเกิด
ปรากฏการณพายุพลังผันผวนครั้งใหญอยางเมี่ยเฉิงฉี แตปรากฏการณของรางสาป
อสูรพิษ กายาอันแสนพิเศษก็ไมธรรมดา!
ตอนนี้ปรากฏรางเทพอสูรจาวแหงพิษหลายตนเรียงรายหอมลอมเยาหวูเสีย แต
ละคนกรีดรองคำรามโหยหวนเปลง พลังอันมหาศาลออกมา ไมนานพวกมันก็
กลายเปนยันตพิษลอยรวงอยูร อบๆ ศีรษะเยาหวูเสีย สุดทายก็พุงวูบเขาไปยังโลก
ภายในกายของมัน
“ฮาสส!!” เยาหวูเสียคำรามออกมาดวยอารมรแจมใสปลอดโปรง เหนือฟาปก
คลุมไปดวยไอพิษอันนาพรั่นพรึงทันใด เยาหวู เสียก็ไมรอชารีบดูดไอพิษนั่นกลับมา!
ไมงั้นเดี๋ยวไดตายหากันทั้งเมือง!!
สุดขีดสวรรคอมตะขั้นสูง!
“บะ! นองเยาแข็งแกรงไมเบานี่หวา!” เมื่อหลินฟานเห็นภาพนี้ยังอดไมไดที่จะ
รูสึกอิจฉาในใจ บางคนเกิดมานั้นก็เปนตัวตนที่ไมธรรมดาแลว… บางคนบมเพาะ
ฝกฝนแคเพียงปเดียวก็แข็งแกรงกวาผูที่บมเพาะมา 10 ป หรือกระทั่ง 100 ป เหลา
ตัวตนอันเปนผูนับหนาถือตา ทั้งมีประสบการณสูงในโลกเสวียนหวงหลายตอหลายคน
ที่มีดานพลังสวรรคอมตะขั้นสูงสุดมาเนิ่นนาน แมจะมีรากฐานแนนหนาและสั่งสม
พลังมาอยางมั่นคง หากแตก็สามารถทะลวงดานพลังไปไดแคสุดขีดสวรรคอมตะขั้น
กลางเทานั้น... หากพวกมันทั้งหลายไดรับรูเรื่องราวการทะลวงขั้นพลังของเมี่ยเฉิงฉี
และเยาหวูเสีย...เกรงวาคงจะกระอักเลือดตาย ดวยความละอาย!
ยามนี้หลังจากที่มานพลังสวรรคกั้นขวางโลกเสวียนหวงและโลกเซียนโบราณ
พังทลาย และทำใหเหลาตัวตนทรงพลังมากมายก็บรรลุขอบเขตที่สูงขึ้นมันก็ดูดีไมเบา
...
แตสำหรับหลินฟานแลวเรื่องนี้มันก็แคดูดีแตภายนอกเทานั้น
เพราะยอนกลับไปตอนที่โลกเสวียนหวงยังถูกมานพลังสวรรคกั้นขวาง ปราณ
วิญญาณเซียนนั้นมันเบาบางอยางมาก เหลาตัวตนที่ทรงพลังทั้งหลายที่สามารถบรรลุ
ดานพลังสวรรคอมตะขั้นสูงสุดได แมตอนนั้นจะถือวาเปนตัวตน อัจฉริยะในบรรดา
อัจฉริยะ ทวาเพราะความที่ดานพลังพวกมันบรรลุขั้นสูงสุด และติดแหง็กอยูใน
ขอบเขตนี้มาเปนเวลากวา 100 ป... อนิจจา ศักยภาพและความรุงโรจนที่ดที ี่สุด
ในชวงชีวติ ของพวกมันไดลวงเลยผานพนไปแลว...
“เฮอ...ไมใกลฝงก็ยังคงเปนไมใกลฝง แกไปใหมมา หลังจากนี้ก็คงตองเปนหนาที่
ของรุนเยาวแลวละนะ อาวุโสเหลานี้ก็ทำไดแคชี้นำเหลารุนเยาวใหเดินไปยังบน
หนทางอยางถูกตองเทานั้น...”
หลินฟานแนนอนวามีแผนการณอยูในหัว ดวยสถานการณในปจจุบันเขาตองรีบ
หาโอสถเจิ้งหยางใหไดเร็วที่สุด! เพื่อที่จะใหเขาสามารถใชสูตรโกงอยางรอยปในหนึ่ง
หวงคิด! เมื่อถึงตอนนั้นละก็...เหลาอัจฉริยะทั้งหลายของเผาพันธุมนุษยมีพลังอำนาจ
มากพอปะทะกับชนเผาโบราณ! ติดตามเขาไปไลถลมมารดาพวกอุบาทวนั่นใหสิ้น!!
ทันใดนั้นเองโลกเสวียนหวงทั้งใบพลันสั่นสะทานคลายถูกเขยา ตัวตนอันทรง
พลังทั้งหลายที่ทะลวงดานพลังไดสำเร็จ สัมผัสไดในทันที วามีพลังลึกลับอันมหาศาล
ขุมหนึ่งแผซานออกมาจากฟาเบื้องบน! คลายดั่งมือที่มองไมเห็นกำลังจะมาควาตัว
พวกมัน! ปานมือพลังลึกลับนี่จะพาพวกมันเยื้องยางขึ้นไปยังดินแดนที่สูงขึ้น!!
“เฮอะ! ลงมือทันทีเลยนะโลกเซียนโบราณ จมูกไวยั้งหมา! แตคิดจะเอาคนของ
พี่ประมุขไปตอหนาตอตาแบบนี้งั้นเหรอ? ฝนไปเหอะไอโง!!”
หลินฟานสะบัดฝามือตบฟาดออกไปทันใด ทันใดนั้นมวลพลังอันมหาศาลไร
ประมาณซัดกวาดไปยังชองวางแหง ความวางเปลาทั้งโลกเสวียนหวง ซัดพลังอำนาจ
ลึกลับที่หมายฉุดดึงผูคนใหมลายหายไปทันใด! สำหรับเรื่องนี้เหลา ตัวตนอันทรงพลัง
ของโลกเสวียนหวงรูสึกสับสนงุนงงนัก!!
พวกมันไมรูวานี่มันเรื่องราวอะไรกันแน!
พวกมันสัมผัสไดวาหากพวกมันปลอยตัวใหพลังอำนาจลึกลับเมื่อครูฉุดดึงไปละ
ก็ พวกมันจะสามารถเยื้องยางไปยังโลกเบื้องบนที่ยิ่งใหญกวานี้ได แตทวาพลังอำนาจ
ราวมือที่คอยฉุดดึงนั่นอยูๆ ก็สลายหายไปในพริบตาราวกับไมเคยมีมากอน!
แตทวาสำหรับพวกมันทั้งหลายเรื่องนี้หาไดสำคัญอะไรไม! ความจริงที่วาพวก
มันสามารถตัดผานไปยังขอบเขตพลังขั้นใหม ทำใหเหลาตัวตนผูทรงพลังเหลานี้
เสมือนไดนำทิพยฟนอุรา ฉุดพาใจที่ที่จมลึกในหวงแหงความสิ้นหวังให หวนกลับมา
เตนอยางมีพลังอีกครั้ง!!
สำหรับพลังอำนาจลึกลับที่ราวกับจะมาฉุดดึงอะไรพวกมันนั้น พวกมันหาได
สนใจอะไรสืบไปไม!
...
“ดูเหมือนวานี่ก็ไดเวลายอนกลับไปยังโลกเซียนโบราณแลวสินะ ดวยพลัง
อำนาจตอนนี้ของพี่ประมุขทั้งรางกายที่ทรงพลังแข็งแกรงที่โคตรจะเต็มเปยมไปดวย
พลัง! ไมวาหนาไหนเสลอมาแหยม คราวนี้พี่ประมุขจะตบใหหัวทิ่ม!!”
“ตองไปปลนโอสถเจิ้งหยางพวกเวรตัวตนสูงสุดนั่นใหเหี้ยน อะ...จริงสิ! ไปไลจับ
ตัวตนทรงพลังของพวกมันมาใหเปน ลิ่วลอผลิตโอสถเจิ้งหยางไปชั่วนิรันดรก็ไมเลว...”
“จะวาไปจำนวนโอสถที่ตองใชถึง 10 ลานลานนี่ นากลัวไมใชยอยจริงๆ !”
ตอนนี้ดวยพลังความแข็งแกรงของรางกาย และพลังอำนาจใหมจากการหลอม
โลก หลินฟานก็กลับมาเต็มเปยมไป ดวยความมั่นใจอีกครั้ง! ดวยความแข็งแกรง
ระดับเทพสวรรคอมตะชั้นฟาที่ 10 ของรางกาย เขาไมรูวาตอนนี้ไอพวก นั้นจะตีเขา
ใหเจ็บไดไหม!!
หากมีโอกาสตองลองสักครา!
เมื่อหลินฟานวูบรางมาปรากฏตัวที่โลกเซียนโบราณอีกครั้ง! คราวนี้สิ่งที่ตามมา
ก็คือโลกเสวียนหวงที่โคจรหมุนวน อยูในกายเขา!!
ตอนนี้หลินฟานคือเจาผูปกครองโลกเสวียนหวง! การเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตาม
ลวนขึ้นอยูกับหวงคิดเดียวของเขา!
ความรูสึกราวกับไดควบคุมสรรพชีวิตในโลกหลานี้เปนอะไรที่ยอดเยี่ยมไมนอย!!
ในอดีตเขาคงไมกลาแมแตจะฝนถึงเรื่องอะไรทำนองนี้...!!
ตอนที่ 802 ขามศพขาไปกอนเถอะ
หลินฟานมองไปยังพื้นที่กวางใหญสุดไพศาลปานจะไรขอบเขตของโลกเซียน
โบราณรอบๆ ตอนนี้ในใจของเขาเต็มเปยมไปดวยจิตตอสู! พลังความแข็งแกรงของตัว
เขาเพิ่มพูนขึ้นมามหาศาล!!
ตอนนี้สถานะความแข็งแกรงทางกายภาพของรางกายเขาก็ไดบรรลุเทพสวรรคอมตะ
10 ชั้นฟาไปแลว ซึ่งมันอาจจะเปนจุดสูงสุดแลวก็ได! ทวาเนื่องจากระบบไมไดแจง
เตือนอะไรถึงเรื่องนี้ ก็มีความเปนไปไดสูงมากที่มันอาจจะยังยกระดับพัฒนาไปได!!
อยางไรเสียหลินฟานก็พอใจในพลังของตัวเองตอนนี้ไมนอ ย มือขางหนึ่งเทา
สะเอว สวนมืออีกขางชี้ไปยังสวรรคเบื้องบนกอนจะชักนิ้วกลางออกมาโชวหรา
ตะโกนกราวออกมา
“เจตจำนงสวรรค เจามันไอลูกเตาเกาเจง! คราวนี้พี่ประมุข พาพวกมาดวยเฟย!
ดูซิเจาจะมีปญญาทำอะไรพีป่ ระมุขไดอีก!!”
หลินฟานรูดีวาเจตจำนงสวรรคยังคงหลับใหลอยู แมมันจะตื่นขึ้นมาเปนครั้ง
คราวแตพลังอำนาจที่มีก็ยังจำกัดนัก!
เพราะอยางงี้หลินฟานจึงไมไดกลัวเจตจำนงสวรรคในตอนนี้สักเทาไร! แตหาก
มันตื่นขึ้นมาโดยสมบูรณแลวนั่นเปน อีกเรื่อง! ถึงตอนนั้นคอยวากัน...!!
ตอนนี้ในใจของหลินฟานมีความคิดอยูสองประการ ประการแรกคือไปลาเหลาตัวตน
สูงสุดทั้งหลาย ตบใหคว่ำ! ปลนของมันใหหมด! เพื่อสงเสริมความแข็งแกรงของเขา!!
อีกอยางแทนบูชายัญเซียนโบราณเองก็ยังไมไดบังเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไร
หากมีเวลาวางเขาจะตรวจสอบมันใหดี และตอนนี้หลินฟานก็คิดจะมุงหนาไปยัง
ดินแดนผูพิทักษเพื่อรับตัวผูอำมหิตไรใจเจี๋ยมาเสริมทัพซะกอน เมื่อมีมันพรอมดวยผู
อมตะ หนึ่งเดียวโบราณแลว เขาจะไปไลตบเหลาตัวตนสูงสุดทั้งหลายเรียงหัว!!
เปรี๊ยงงงงง!! ครืนนนนน!!
ทวาทันใดนั้นเองสวรรคและโลกพลันบังเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นมาอยาง
กะทันหัน... “เอะ! อะไรของมันวะเนี่ยแดดออกเปรี้ยงๆ อยูดีๆ ตอนนี้ฝนจะตกรึไง?”
ทันใดนั้นเหนือขึ้นไปบนความวางเปลากลางฟาปรากฏอัสนีแลบลั่น เมฆสีเทาคอยๆ
มวนวนควบรวมพลังอำนาจไร ขอบเขตเริ่มกอเกิดขึ้นในความวางเปลา
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
“ฮัยยา...ไหงฟารองเสียงดังจังละ นากลัวเหมือนกันนะเนี่ย” ทันใดนั้นหลินฟาน
ก็ฉุกใจคิดวาอยูดีๆ ฝนมันจะตกไดเหรอ? นี่สมควรเกิดเรื่องแลวมากกวา! นั่นดูสิ!
สายฟาเสนเขื่องเทามังกร! ไมเพียงแคนั้นมันยังแฝงพลังอำนาจทำลายลางอันนาพรั่น
พรึงไวดวย! ราวกับหมายจะฟาดผาหลินฟานให ตายตกดวย 1 วิชชุ!!
“มนุษย! สงแทนบูชายัญเซียนโบราณ และบัลลังกเทพนิรันดรคืนมาเสีย!!”
ทันใดนั้นเองบังเกิดเสียงสนั่นดังกวาฟาผากังวาลขึ้นเหนือฟาเบื้องบน เสียงนี้มัน
กระจางหนักแนน ทำใหใจหลินฟานรูสึกปวดแปลบจี๊ดๆ ขึ้นมาทันใด ‘เชี่ย ซื้อหวยไม
ถูกงี้มั่งวะ ไอเจตจำนงสวรรคเวรนั่นมันมาจริงๆ ...’ ทันทีที่ไดยินเสียงหลินฟานไม
จำเปนตองเดาเขาก็รูไดทันที...วาเสียงบัดซบนี้หนาเปนตัวบัดซบหนาไหน.. สำหรับ
โลกเซียนโบราณใบนี้ ตัวตนอยางเจตจำนงสวรรคนั้นคือจาวผูปกครองอยางแทจริง
แตจากสถานการณในปจจุบันหลินฟานบอกไดคำเดียววา เขาไมกลัว! เพราะเจตจำนง
สวรรคนี่มันยังไมไดตื่นขึ้นอยางสมบูรณ!!
หลินฟานอาแขนออกทำราวกับจะรับพลังจากฟากฟา ชักสีหนาระรื่นคลายจะ
เชื้อเชิญใหเจตจำนงสวรรคลงมือ
“เจตจำนงสวรรค นี่เจาจะไมทำเกินไปหนอยรึไง! ขาประมุขพึ่งกลับมายังไมทัน
ไดนั่งเนิ่งอะไร เจาก็ถอมาหาเรื่องขาประมุขถึงที่แลว!? เจามีปญหาอะไรกับขาประมุข
นักหนาวะ หา?” หลินฟานกลาวออกมาดวยเสียงกาวราว ตอนนี้ใจเขาชักหงุดหงิด
ขึ้นมาเล็กนอย ไมไดกลัวมันสักเพียงนิด! เพราะจากสภาพการณที่เกิดขึ้นแคเขาดูก็รู
แลววาอะไรมันเปนอะไร ถาเจตจำนงสวรรคมันทรงพลังแข็งแกรงจริงๆ มันจะยัง
เสียเวลากลาววาจาขมขูเขาทำเพื่อ? ไมสูมันลงมือฟาดเปรี๊ยงใหเขาเดี้ยงไปกอน แลว
คอยชิงของไปจะงายกวา หรือ? เพราะหากพลังอำนาจมันเหนือชั้นจริง แคบีบเบาๆ ก็
คงฆาเขาไดแลว ไมตองพยายามอะไรมากมาย!
“สงมอบแทนบูชายัญเซียนโบราณ กับบัลลังกเทพนิรันดรคืนมาเสีย!!” เสียง
กระจางหนักแนนนากลัวราวกับคลื่นทะเลอันเกรี้ยวกราดดังขึ้นอีกครั้ง
“เฮยๆ เจตจำนงสวรรค อยาใหมันมากไปนะ! ของๆ ขาประมุข ขาไมมีวันใหเจา
งายๆ หรอก! แนจริงก็ลงมาจัดการขา ประมุขแยงของกลับไปสิ! ถาขาประมุข....”
เปรี๊ยะ!! กอนที่หลินฟานจะทันไดกลาวจบคำสายฟาก็ฟาดผาลงมาอยางฉับไว!
อำนาจพลังปานจะทำลายลางโลกหลา!! ความวางเปลาถูกฉีกกระชากขาดวิ่น!
เปรี๊ยงงงงงงงงงงงงง!!!!
“เชี่ยยยย!!!” เจตจำนงสวรรคนี่มันจะไรมารยาทมากไปแลว! เขายังพูดไมทันจบ
คำเลยนะ! พวกเลนสงสายฟาฟาดลงมาแลว?! นี่
มันไมเคารพกันเลยนี่หวา!! รางกายหลินฟานกระตุกไปทันใด พลังอำนาจอันไร
สิ้นสุดในสายฟาแลนวาบไปทั่วรางของหลินฟาน!!
เปรี๊ยะ! ตูมมมมมมมมมมมมม!!!
รางหลินฟานถูกสายฟาชอตทำลายไปทั่วทั้งราง ควันขโมงโฉงเฉงลอยออกมาฉุยๆ !!
“เชี่ยเอย! นี่มัน...แมง” ขนทั่วรางของหลินฟานสงกลิ่นเหม็นไหมเสียดจมูกตัว
เขายังดำเมี่ยมไปราวถานเผา พลังในรางกระเพื่อมปนปวนไป เล็กนอยกอนจะกลับมา
คงสภาพเดิม
‘ติ๊ง!! … กายเทพนิรันดร EXP+50,000’ ทันใดนั้นหนาหลินฟานก็อึ้งคางราวกับ
วาเขาพึ่งคนพบโลกใหม!
‘เฮย ชิบหาย! ไอสายฟาเวรนี่มันใหคาประสบการณกายเทพนิรันดรมากขนาดนี้
เลยหรอวะเนี่ย!!’
หลินฟานไมคิดไมฝนเลยวาไอสายฟาฟาดเมื่อครู มันจะทำใหเขาไดรับคา
ประสบการณกายเทพนิรันดรมากมายมหาศาลขนาดนี้! นี่เปนอะไรที่โคตรนาตก
ตะลึง!!
เพราะตองรูกันกอนวา...ขนาดผูอมตะหนึ่งเดียวโบราณ ที่โคตรจะทรงพลัง
ตอนนี้ยังอัดเขาไมเขา! คาประสบการณสัก 1 หนวยก็ไมเดงมาให! ไอบาเอย สายฟา
เวรนี่กลับใหเขาถึง 50,000 ฮาหมื่นนน! นี่มันจะนาอัศจรรยเกินไปแลว!!
หลินฟานอดไมไดที่จะอุทานออกมาดังอาเบาๆ ในลำคอ ทั่นใดนั้นเองพลังชีวิต
มหาศาลพลันแลนพลานไปทั่วรางอยางอัตโนมัติ ผิวดำเกรียมไหมๆ เมื่อครูกลับมา
ขาวกะจางใสในพริบตา ทั่วรางกลับมาเออลนไปดวยพลังชีวิตดังเดิม ทันใดนั้นเอง
หลินฟานนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาประการหนึ่ง...
ตอนแรกหลินฟานยังสงสัยไมนอยวารางกายของเขามาถึงจุดสูงสุดแลวรึเปลา
หลังจากที่บรรลุชั้นฟาที่ 10 เทพนิรันดร... เพราะสุดทายแลวอดีตตัวตนสูงสุดไรผูตาน
อยางผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ ยังไมอาจทำรายเขาจนไดรับคาประสบการณอีกตอไป!
หมัดเต็มพลังอีกฝายรุนแรงเทียบเทาสำลีตกใสเทานั้น! เขายังคิดอยางหวั่นๆ ในใจวา
หลัง จากนี้ไป…ใครหนอจะมาอัดเพิ่มคาประสบการณใหเขาได... ทวาตอนนี้อัสนี
ทัณฑฟาจากเจตจำนงสวรรคกลับผาเปรี๊ยงทำรายเขาจนหนาไหม! คาประสบการณยัง
พุงปรี๊ดไปถึง 50,000! บางทีเขาอาจฉวยโอกาสฝกฝนรางกายจากมันได!!
“เจา...! เปนไปไดอยางไรที่เจา...” ตอนนี้เจตจำนงสวรรคคลายตระหนักไดวา
มนุษยเบื้องลางไมไดรับความเสียหายอะไร! มันยังอดไมไดที่จะตกตะลึงพรึงเพริด คิด
ไมออกวาเรื่องพรรคนี้มีอยูไดอยางไร!!
‘เชี่ยแลวไง! พี่ประมุขใหมันรูไมไดวาสายฟามันแคคันๆ ! ไมงั้นมันไมฟาดลงมา
อีกแน!!’
หลินฟานนั้นเปนคนที่ไมเคยยอมแพหากมีโอกาสใหเขาไดฝกฝนอยูตรงหนา! ใน
เมื่อไอเจตจำนงสวรรคนี่มาสามารถทำใหเขาแข็งแกรงขึ้นไดทั้งๆ ที่เขาถอดใจวาอาจ
ทำไมไดอีกแลว! เชนนั้นเขาตองกอบโกยใหไดมากที่สุด! คนอยางเขาหลินฟานไม
ปลอยโอกาสถูกอัดดีๆ แบบนี้ใหหลุดลอยไปหรอก!!
“อะ...เอือ้ ...นิ...นีม่ ัน”
ตอนนี้ทักษะการแสดงของหลินฟานปานดาราออสการมาเอง สีหนาที่ปกติดีอยู
เมื่อครู ยังทำใหดูเสมือนวาฝนกลั้นไวอยางเต็มกลืน หนาเริ่มนิ่วคิ้วขมวด เหงื่อยังเริม่
หลั่งไหล หากแตยังคลายจะฝนทนใหเปนปกติ! ทันใดนั้นหลินฟานก็เสมือนกับคนที่
ทานทนไมไหวสืบไป รางผงะถอยไป 3 กาว กระทั่งเซถลารวงหลนไปยังพื้น แววตา
เริ่มหมนประกายจากหาวหาญกลับกลายเปนหมองสลด มือหนึ่งยกขึ้นมากอบกุมไวที่
อก ตัวงอไปเล็กนอย อีกมือเอื้อมไปแกวงไกวมั่วซั่วคลายจะควาหลักยึดจับ!
“อั๊ค! บะ...บัดซบ! นี่มัน...รุนแรงเกินไป!”
ตึงงงง!! สุดทายหลินฟานก็ทรุดลมลงไปที่พื้น ตัวเขาสั่นระริก พยายามฝนดัน
กายใหลุกขึ้น หากแตก็ลมคว่ำไปอีกรอบ ยากจะฝนยืนหยัด ทาทางราวกับบาดเจ็บ
ภายในสาหัส ในสายตาของเจตจำนงสวรรค ตอนนี้หลินฟานชางอยูในสภาพจะตาย
แหลมิตายแหลไมมีผิด!!
เจตจำนงสวรรคที่อยูในชองวางของฟาเหนือฟาพยักหนาอยางพึงพอใจเมื่อเห็น
ภาพเบื้องลาง
“ยอดเยี่ยม! เรื่องราวสมควรเปนเชนนี้ตางหาก!!”
สำหรับเจตจำนงสวรรคแลวไมมีทางที่จะมีใครไมไดรับบาดเจ็บจากอัสนีลงทัณฑของ
มัน! นี่คือผลลัพธที่มันอยากเห็น! ทวาเรื่องนี้กลับมีบางสิ่งผิดปกติอยูบาง...เพราะเทาที่
เจตจำนงสวรรคหวง อัสนีทัณฑสวรรคเมื่อครูสมควรพิฆาตอีกฝายใหตายตกไดแลว!!
ทวาไมคิดเลยวามนุษยบานั่นยังไมตายตก! นี่เปนอะไรเหนือคาดคิดนัก!!
“มนุษยสงแทนบูชายัญเซียนโบราณมาเสีย!”
“เอาบัลลังกเทพนิรันดรคืนมาใหขา!” เสียงของเจตจำนงสวรรคดังขึ้นอีกครั้ง
“ไมมีวัน! อยากไดก็ขามศพขาประมุขไปกอนเถอะ!!”
หลินฟานเงยหนาซีดเซียวคำรามออกมาเสียงสั่น กอนที่รางจะทรุดรางลงไปบน
พื้น เขาพยายามใชมือประคองทางซายก็แลวขวาก็แลวยังมิอาจลุกขึ้นมาได ลมคว่ำ
ครั้งแลวครั้งเลาอยางอนาถา... ทวาสายตายังเปลงประกายคมกลา ลอบสอดสอง
มองดูรอบๆ อยางละเอียดกระทั่งแผสัมผัสออกไปนับหมื่นลี้... เพื่อดูวามีใครบังเอิญ
ผานมาแถวนี้รึเปลา! เพราะทายที่สุดแลวการกระทำแบบนี้มันก็นาสมเพชนัก! ใครมา
เห็นเดี๋ยวภาพลักษณของเขาไดจบเหกันพอดี...!!
ตอนที่ 803 ลอกันเลนใชมยั้ นะ!?
“รนหาที่ตาย!!”
เจตจำนงสวรรคแผดเสียงดังลั่น มันไมคิดเลยวามนุษยคนนี้ขนาดโดนดีไปแลว
ยังจะกลาแข็งขืนยืนกรานไมยินยอม สยบตอมันเชนนี้!!
“เชนนั้นก็ประเสริฐ! ขาเจตจำนงสวรรคจักฆาเจาใหตายตก และขุดแทนบูชายัญเซียน
โบราณกับบัลลังกเทพนิรันดรออกมาจากซากรางไรวิญญาณของเจา!!”
“เฮอะ! ฆาขาประมุขงั้นเหรอ!? ฝนไปเถอะ!!” หลินฟานคำรามสนั่น พยายามใช
สองขาที่สั่นสะทานยืนหยัดขึ้นมา แมรางจะโงนเงนไปแทบยืนไมอยูหากแตแววตา
ทาทางยังไมยอมสยบรางฝนพุงตัวออกไปคลายจะหลบหนี!
“มนุษยออนแอ ยังกลาคิดจะหนีจากเงื้อมมือขาเจตจำนงสวรรคเชนนั้นเหรอ
ฝนละเมอของตัวโงเขลา! โลกเซียนโบราณใบนี้อยูในกำมือของขาเจตจำนงสวรรค!
ถึงแมเจาจักหนีไปสุดขอบโลก ก็เปลาประโยชน!!”
เปรี๊ยงงงง!!!
อัสนีอีกสายฟาดผาลงมาจากฟาเบื้องบน สายฟาอันทรงพลังอำนาจเปยมลนไป
ดวยอานุภาพทำลายลางไรขอบเขต ทำใหโลกคลายจะสวางวูบขึ้นมาชั่วขณะ! อัสนี
เสนเขื่องซัดฟาดไปยังรางหลินฟานอยางจัง แสงพลังทำลายลางกักขังรางหลินฟาน
เอาไวในนั้นอยางนากลัว!
เสียงระเบิดดังสนั่นมวลพลังปะทุกำจายออกโดยรอบ ปนปทำลายสรรพสิ่งจน
ราบพนาสูร! ยามนี้ทั้งโลกราวกับถูกสะกดใหหยุดนิ่งดวยเสียงสนั่นรุนแรงของอัสนี!!
ยามเมื่อสวรรคพิโรธ เจตจำนงสวรรคลงมือ! อานุภาพและผลกระทบของมัน
นั้น…รายแรงสุดที่ปุถุชนคนธรรมดาจะคิดคาด! ลำพังละลอกคลื่นทำลายลางจากการ
ปะทุก็นาหวาดกลัวอยางมหาศาลแลว!!
ความกังวลกอนหนาของหลินฟานมลายหายไปในพริบตา... เพราะหากพิจารณา
อานุภาพทำลายลางที่กำลังฟาดทำลายรางหลินฟานโดนอยูนั้น เกรงวาตอใหเปนแค
สะเก็ดพลังปะทุ หากเปนเทพสวรรคอมตะ 9 ชั้นฟาคนอื่นก็คงมิแคลวตกตายหยัง
เขียด! คงไมมีใครกลามาแอบดูทาทางเสแสรง ออนแอโอดโอยของเขาไดอีก! ไดเวลา
จัดเต็ม!!
“อาคคคคคคคคค!! ระยำเอย!!!” เพื่อที่จะแสดงใหเจตจำนงสวรรคเห็นวาเขา
รอแรขนาดไหน หลินฟานก็พยายามอยางมากถึงขั้นตองเรงเราพลังให
เนื้อตัวปริฉีก!!
‘ติ๊ง!!… กายเทพนิรันดร EXP+50,000’
แนนอนหลินฟานยอมรูดี วาตอนนี้เจตจำนงสวรรคยังตื่นไมไดตื่นขึ้นอยาง
สมบูรณ! หากมันตื่นขึ้นอยางสมบูรณเกรงวาตอใหเปนเขาตอนนี้ก็ไมนารอด!!
เพราะอยางไรเสียระดับพลังฝกตนของหลินฟานตอนนี้ก็ยังพึ่งบรรลุแคเทพ
สวรรคอมตะ 9 ชั้นฟาเทานั้น แมจะเหลือคาประสบการณที่ตองเก็บอีกแคนิดเดียว
แตยังไงเขาก็ยังไมบรรลุดานพลังเทพสวรรคอมตะ 10 ชั้นฟา!!
กระทั่งมันยังมีอีกขอบเขตหนึ่งซอนเรนอยูอีกดวย! เทพสวรรคอมตะชั้นฟาที่ 10
เทพนิรันดร ที่ครองบัลลังกเทพนิรันดร!!
หลินฟานเองก็ไมอาจทราบไดวาจะบังเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นบางกับตัว
เขา หากบรรลุ ชั้นฟาที่ 10 เทพนิรันดรกับเทพนิรันดรที่ครองบัลลังก...
หากจักรพรรดินีวารีอัคคีอยูตรงนี้ละก็ หลินฟานจะปนหนายิ้มกลาวถามนางวา
2 ขีดขั้นนี้มันมีความแตกตางกัน อยางไร...
“มนุษย...เจา...?!” ตอนนี้เจตจำนงสวรรคเริ่มมีโมโหขึ้นมาไมนอย ถึงแมวา
รางกายของมันจะยังไมไดตื่นขึ้นมาอยางสมบูรณ แตความจริงที่วามนุษยสวะเบื้อง
ลางกลับยังไมตายตกทั้งที่ทานรับอัสนีลงทัณฑมันไป 2 สายก็เปนอะไรที่แปลกมาก!
ในความเห็นของมัน เรื่องนี้ชางไมสมเหตุสมผลนัก!
ทางดานหลินฟานนั้นเมื่อไดยินเสียงอึ้งๆ ของเจตจำนงสวรรคที่ทำราวกับ
เหลือเชื่อ ก็อดไมไดที่จะขัดใจขึ้นมา ‘ไอเจตจำนงสวรรคเวรนี่มันไปเอาความมั่นใจ
ผิดๆ มาจากไหนของมันวะนะ! ก็ไมใชแคอัสนี 2 สายหรอกหรือไง? มันคิด เหรอวาแค
นี้จะฆาพี่ประมุขได! หลงตัวเองไปปาววา!?’ อยางนอยๆ มันตองฟาดมาอีก 2-3 พัน
สายสิวะ! ตองใหมนั ไดแบบนานน!!
“ออค...! ระยำเอย! พลังอะไรกัน...ขาแทบทนไมไหวแลว วิมานฟาของขาอดทน
ไว! อยาพึ่งพังทลายนะ!!”
หลินฟานกระอักเลือดกอนจะกุมมือไวที่อก สีหนาซีดเซียวลงอยางนากลัว ราว
กับไมอาจทานทนรับไหวสืบไป
“เจตจำนงสวรรค...ถึงแมวาขาประมุขจะรูดีวาหากโดนอัสนีของเจาอีก 2 ครั้ง
ตองตายตก! แตขาประมขุก็ไมมีวันยอมสยบใหเจา!!”
เปรี๊นงงงงงง!!!
แลวอัสนีลงทัณฑอีกสายก็ฟาดเปรี๊ยงลงกลางหัวหลินฟาน
รางของหลินฟานที่พึ่งทรุดลง ก็ตองรีบแกลงลมไปคลุกฝุนอีกครั้ง ทั้งยังสะกด
พลังรักษาเอาไวเต็มที่ ตอนนี้สภาพรางกายภายนอกของเขาอนาถนัก ดำเมี่ยมยิ่งกวา
ถานไหมไปคลุกผงชาโคล ในสายตาของคนอื่นแลว ใครที่ยังรอด ชีวิตอยูไดทั้งๆ ที่มี
สภาพอนาถาแบบนี้ มันไมใชผูคน!!
‘ติ๊ง!!… กายเทพนิรันดร EXP+50,000’
... “ไม! ขาประมุขยังตายไมได! ขาตองหนี! ตองหนีมันใหพน! ขาประมุขจะมา
ตายเพราะมันไดยังไง!?” หลินฟานคำรามลั่น แอบกัดกระพุงแกมอยางแรงคอยพน
เลือดออกมาเปนสาย พยายามคลานกระเสือกกระสนจนลุกขึ้นมาได สุดทายก็ราวกับ
จะใชพลังเฮือกสุดทายในชีวิต วิ่งตุปดตุเปออกไปไกล...
อยางไรก็ตามหลินฟานยังแผสติ นึกจับตามองความเคลื่อนไหวบนความวาง
เปลาเหนือฟาอยางใจจดจอ กระทั่งการแสดงวิ่งหนีก็ตองทำใหสมจริง! ทิศทางที่ตอง
วิ่งตองมุงไปยังที่ปลอดภัยอยางดินแดนผูพิทักษ! เพื่อใหเจตจำนงสวรรคคิดวาหากมัน
ประมาทไมลงมือเต็มที่มันอาจจะปลอยใหเขาหนีได!!
ยอนกลับไปในตอนที่รางกายของหลินฟานยังไมแข็งแกรงระดับเทพสวรรค
อมตะ ชั้นฟาที่ 10 เทพนิรันดร เขาคงไมกลาละเลนเกินเลยแบบนี้เปนแน! อยางไร
เสียเจตจำนงสวรรคก็คือเจตจำนงสวรรค ตอใหสตินึกมันจะตื่นขึ้นมาเพียงเล็กนอย
ไหนเลยจะเปนอะไรที่หลินฟานลอเลนดวยได!!
แตตอนนี้หลินฟานสามารถเผชิญหนากับมันไดอยางสบายบรื๋อ กระทั่งแตละ
ครั้งแคตนไมแหงชีวิตสงพลังชีวิตมารักษาเบาๆ เขาก็หายดีเปนปลิดทิ้ง พลังที่ใชนับวา
นอยนิดกระจอยรอยนัก!!
“มนุษย! เจาอยาไดหวังวาจะหนีไปไหนได! ภายใตอำนาจของขาเจตจำนง
สวรรค บนโลกเซียนโบราณใบนี้มิมีที่ใด ใหเจาหลบซอน!!” เจตจำนงสวรรคคำรามลั่น
อัสนีลงทัณฑถูกสงมาฟาดรางหลินฟานอีกครั้ง
“เอื้อออออ....” โลหิตฉีดพุงกระจายพรางฟา หลินฟานลงไปดิ้นกระแดวชัก
กระตุกอยูครูหนึ่ง กอนจะกุลีกุจอลุกขึ้นมา ศีรษะยังกมต่ำลงไปไดองศาทดทอ ราวกับ
ไมมีแรงแมแตจะเงยหนา! ขณะที่ลุกรางก็โซซัดโซเซ ราวกับจะบงบอกวา ขาไมไหว
แลวนะ! แตอยางนอยๆ ขาก็จะวิ่งหนีใหได!!
เปรี๊ยงง!!
เปรี๊ยงง!! ตอนนี้คลายเจตจำนงสวรรคจะติดอยูในหวงของคำวาอีกนิดเดียวๆ
มันสงสายฟาลงมาฟาดครั้งแลวครั้งเลา ดั่งหา พิรุณหลนรวงจากแดนสรวง กระหน่ำ
ผาเปรี๊ยงปรางใสกลางตัวหลินฟานไมมีหยุด!สุดทายก็ไหลยาว!!
“ออค! เจตจำนงสวรรค! เจาไมคิดจะเหลือทางใหขาเดินเลยหรือไง!? เจาสมควร
เปนกลาง! เจาจะฆาขาไมได เจาทำ ไมได!!” หลินฟานตะโกนออกมาพรอมน้ำเสียงคับ
แคนออนแรง
“สงมอบแทนบูชายัญเซียนโบราณมาเสีย...!”
“ไม! ตีขาใหตายขาก็ไมให!!”
‘ติ๊ง!!… กายเทพนิรันดร EXP+50,000’ ‘ติ๊ง!!… กายเทพนิรันดร EXP+50,000’
... ตอนนี้หลินฟานรูสึกชื่นมื่นยินดีนัก แมรางกายจะเจ็บปวดชาๆ คันๆ อยูบาง
แตอยางไรเสียก็มีความสุขอยางยิ่ง! ยิ่งไดยินเสียงแจงเตือนจากระบบที่ดังราวกับ
ดุริยางคสวรรคบรรเลง ใจเขาก็สุขียินดีนัก! สำหรับหลินฟานแลว นี่ละรสชาติของ
ความสุขในชีวิต! ชางยอดเยี่ยมอะไรเยี่ยงนี้!! เวลาดั่งวารีไหลผานไปไรหยุดยั้ง... ตอนนี้
ราวกับโลกทั้งใบจมจอมไปดวยอัสนี อาณาบริเวณกลับกลายเปนโลกแหงสายฟาอยาง
สมบูรณ! อันที่จริงใน ความเห็นของหลินฟาน...ทุกครั้งที่เจตจำนงสวรรคสงสายฟาออ
กม มันแทบมีจิตวิญญาณสถิตอยูรอมรอแลว!
“คาประสบการณพุงกระฉูดเลยเวยเฮย! อีกไมกี่ทีกายเทพนิรันดรพี่ประมุขจะ
เลื่อนระดับแลววว!!”
ตอนนี้ระดับของวิชากายเทพนิรันดรของเขาอยูที่ Level 19! ตราบใดที่มันเพิ่ม
อีกสักครั้ง มันจะไปถึงระดับที่ 20! ถึงตอนนั้นมันอาจจะบังเกิดการพัฒนาวิวัฒณไป
อีกขั้น! หลินฟานเองก็ไมรูวา มันจะกลับกลายเปน วิชากายาอะไรที่ทรง พลังเหนือชั้น
ไปกวานี้ไหม!!
“มา! ตีขาใหตายไปเลย!!” เมื่อมาถึงจุดหนีหลินฟานก็เลิกวิ่งหนีทันใด เขาหยุด
รางลงเงยหนาเยยฟาหลับตาพริ้ม มุมปากยิ้มยินดี อาแขนออก กวางราวกับกำลังจะ
รอโอบกอดอนาคตครั้งใหม!!
หรับหลินฟานแลวหวงเวลาที่จะบังเกิดขึ้นหลังจากนี้ คือหวงเวลาแหง
ปาฏิหาริย!!
“อาว?” ทันใดนั้นเองหลินฟานก็ตะลึง เกิดบาอะไรขึ้นวะ? ไหงไมมอี ะไรเกิดขึ้น
กัน? เจตจำนงสวรรคมันคิดอูงานหรือไง ทำไมไมผา!?
หลินฟานที่หลับตาพริ้มถึงกับตองลืมตาออกมาดวยความขัดใจ ทวาฉาก
ตรงหนาก็คือเมฆอัสนีลงทัณฑเริ่มสั่นไหวสะทาน ปานไรเสถียรภาพ! มันทำยังกับจะ
แตกสลายไปไดทุกขณะเวลา...!!
“เชี่ย!!” “ไมเอาแบบนี้นะเจตจำนงสวรรค! เจาอยาพึ่งหลุดคอมโบตอนนี้นะ!
จังหวะสำคัญแบบนี้อยาใหขาดตอนเชียว!!”
“ฮัยยา! ขาประมุขใกลตายแลวจริงๆ ! เจาดูเร็ว! ขากระอักเลือดมาเปนถังแลว
เนี่ย! ขาพรอมตายไดทุกเวลาแลว!!”
“อีก 6 ครั้งนะ! ขาประมุขสัญญา! ขอแคเจาผาลงมาอีก 6 ครั้งก็พอ! หากขา
ประมุขไมตายขอใหฟาผาเลยเอา!!” ตอนนี้หลินฟานรูสึกใจคอไมดีเลย...สถานการณ
บนของความวางเปลาเหนือฟาย่ำแยแลว! มันใหความรูสึกจืดจางปานจะเลือนหาย
ตอนแรกความวางเปลาเหนือฟาเต็มไปดวยพลังอำนาจอันนาเกรงขาม ทวาตอนนี้มัน
เบาบางลงไป จนแทบไมมีเหลือ...!!
เปรี๊ยงงง!! “วาววว! มาแลว มาแลววว!!” หลินฟานรูสึกโลงใจอยางยิ่ง เมื่อครู
เจตจำนงสวรรคทำใหเขากลัวใจเหลือเกิน เขานึกวาเจตจำนงสวรรคจะทอดทิ้งเขาซะ
แลว!!
ตอนนี้ความวางเปลาเหนือฟาปรากฏอัสนีลงทัณฑเสนเขื่องแลบลั่นเกรี้ยวกราด
จากที่หลินฟานดู ครั้งนี้มันไมธรรมดาแน!!
เปรี๊ยงงงงงงงงงงง!!!!!!!!
ทันใดนั้นเสียงอัสนีลั่นยังดังเปนพิเศษ หลินฟานรูสึกยินดีในใจนัก นี่ละ ใหมันได
ยังงี้! ไมงนั้ ก็เสียชื่อเจตจำนงสวรรคตายเลยถาไมลงมือใหเสร็จ!!
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!!
ทันใดนั้นสถานการณแลคลายจะผิดแปลกออกไปจากเดิม... ในขณะที่อัสนีลง
ทัณฑระเบิดลั่นออกมา ตัวอัสนีคลายกระพริบลุกไหม...ปรากฏควันดำขโมงโฉงเฉง
หลังจากนั้นมันก็หดเล็กลงเรื่อยๆ พอมาถึงศีรษะของหลินฟาน เสนสายอัสนีก็หดเล็ก
ลงเทาหัวแมมือเขาแลว!
ปุ!
‘ติ๊ง!!… กายเทพนิรันดร EXP+10,000’ กรามของหลินฟานอาคางแทบรวงไประ
พื้น สองตาเบิกกวาง เต็มไปดวยความเหลือเชื่อ จากนั้นเขาก็คอยๆ เงยหนา
ขึ้นมาความวางเปลาเหนือฟาดวยสายตาเลื่อนลอยคลายงุนงงสับสน
“เจตจำนงสวรรค...นี่เจาลอขาประมุขเลนใชมั้ยนะ?”
ตอนที่ 804 ทำอะไรไวกไ็ ดอยางนัน้
“เจตจำนงสวรรค นี่เจาหมดกอกแลวรึไง...ไมฟาดผาขาประมุขใหตายแลวจริงๆ
เหรอ...?”
ตอนนี้หลินฟานรูสึกเจ็บปวดใจดั่งไฟสุมทรวง ชีวิตเขาไมโดนทำรายไปหนอย
หรือไง? เขาตื่นเตนยินดีหนักหนาเพราะใกลบรรลุผลเต็มที! แตอีกฝายกลับเลิกราหยุด
ไปดื้อๆ เสียอยางนั้น! ความเจ็บปวดนี้ผูใดไหนเลาจะเขาใจ?
“ไมจริงหนา...หรือเพราะเจตจำนงสวรรคมันตื่นขึ้นมาแคสวนหนึ่ง แลวพลังที่
ตื่นขึ้นมาของมัน...ก็ใชจนหมดสิ้นไปแลวยังงั้นเหรอ?”
หลินฟานสงสัยไมนอย แตเขาเองก็ไมกลาจะมั่นใจอะไร เพราะเขาไมรูวาที่แท
แลวเรื่องราวมันเปนยังไงกันแน แตจากการลงมือของเจตจำนงสวรรคที่ดำเนินมา วา
ไปแลวเรื่องแบบนี้ไมควรบังเกิดขึ้นสิ! จะมีใครทีไ่ หนมันมาอั้นเอาไว ในขณะที่กำลังจะ
ถึงจุดสุดยอดกัน? เรื่องนี้ไมใชเหมือนกับวา...ผูชายคนหนึ่งกำลังทำกิจกรรมเขาจังหวะ
และชายคนนั้นก็กำลังเรงเราเพิ่มความเร็วเพราะใกลจะถึงจุดสุดยอด... ทวาอยูๆ กลับ
หยุดลงแลวบอกวา...ขาพเจาหมดแรงแลว หายใจไมทันแลว พอเถอะอะไรงี้เห รอ?!
อนิจจาแตเรื่องราวจริงๆ แลว มันก็เปนดั่งที่หลินฟานคาดเดาไมมีผิด ครั้งนี้มี
เพียงเศษเสี้ยวสำนึกสติสวนหนึ่งของเจตจำนงสวรรคเทานั้นที่ตื่นขึ้น ถึงแมวาจะเปน
เศษเสี้ยวสำนึกสติแตพลังอำนาจของมันก็ไมใชอะไรที่คนธรรมดาจะรับมือได อัสนีลง
ทัณฑทุกสายเต็มเปยมไปดวยพลังอำนาจลางโลก! และเมื่อเจอกับการเสแสรงแสดง
หลอกลอของหลินฟาน เจตจำนงสวรรคก็ติดกับเขาไปแลวเต็มเปา ถึงขั้นที่มันโหม ซัด
พลังอยางบาระห่ำกระหน่ำแหลก! สุดทายพอมันซัดฟาดอัสนีใสหลินฟานจนติดลม
รูตัวอีกทีมันก็สิ้นสูญพลังไปจนหมด เชนนั้นจะใหมันทำอะไรไดอกี นอกจากหายไป?
“โธเอย! ไรประโยชนจริงๆ !!” หลินฟานตบตูดเบาๆ เปนการปดฝุน กอนที่จะ
เดินจากไป... ความสงบสุขหวนคืนสูโลกหลาอีกครา หากทวาอาณาบริเวณนี้แหลก
พินาศยับเยินดวยถูกสายฟาทำลายสิ้น สภาพของมันรกรางปานกับเปนจุดจบของโลก
... ... ทางดานชนเผาเผาโบราณ... “นี่มันเกิดอันใดขึ้นกัน!? ใยพลังอำนาจของ
เจตจำนงสวรรคอยูๆ คลายหายไปจนหมดสิ้นแลวเชนนี้?”
ตอนนี้เหลาตัวตนสูงสุดของชนเผาโบราณทั้ง 6 หันหนามองตากันปริบๆ ตอนนี้
พวกมันก็ตกอยูในสถานการณไมคอยจะสูดีสักเทาไร
ตอนนี้ตัวตนสูงสุดไดตายตกไปแลวถึง 2 ตน ทำใหโลกเซียนโบราณบังเกิดความ
โกลาหลครั้งใหญ เหลาตัวตนผูทรงพลังของเผาพันธุตางๆ เริ่มลุกฮือตอตานพวกมัน
ทุกทั่วหัวระแหง! ในชวงเวลาอันสำคัญเชนนี้ พวกมันยอมไมมีวนั ยอมใหรอยพันชน
เผาทั้งหลายแข็งขอขึ้นมาไดเปนอันขาด! สำหรับตัวตนสูงสุดนั้นการจัดการกับผูคน
ของรอยพันชนเผานั้น เปนอะไรที่พวกมันมักจะใหพวกรอยพันชนเผาจัดการกันเอง!!
มีตัวตนของรอยพันชนเผามากมายที่ตัวตนสูงสุดของชนเผาโบราณจัดการ
ควบคุมเอาไว ดังนั้นมีหลายประการที่พวก มันก็ไมจำเปนตองลงมือจัดการดวยตัวเอง!
ไรสมบูรณ โหยวที่พึ่งกลับมารวมตัวกับตัวตนสูงสุดทั้ง 5 กอนหนา หันมองไปยังพวก
มันแตละคนดวยสายตาแปลกๆ
ดวยเหตุผลกลใดไมทราบ มันบังเกิดสังหรณขึ้นมาในใจอยางบอกไมถูก
ความรูสึกนี้มันลึกลับนัก! ดวยระดับพลังและความแข็งแกรงของพวกมัน ไมสมควรมี
สิ่งมีชีวิตใดบนโลกที่นาจะคุกคามพวกมันไดเลย... ทวาไรสมบูรณโหยว กลับรูสึก
สังหรณใจอยางแรงกลา จนทำใหมันยากจะสงบลงได... สายตามองเหมอออกไปยังฟา
ไกลไรสิ้นสุด
สำหรับตัวตนสูงสุดโบราณนั้น ตราบใดที่โลกไรจำกัดเปดออก เจตจำนงสวรรค
จะตื่นขึ้น คราวนี้พวกมันจะทำการสยบโลกไรจำกัดเสีย! และนั่นจะเปนวันแหงการ
ยกระดับครั้งใหญของชนเผาโบราณ!! นี่เปนชวงเวลาที่พวกมันเฝารอคอยมาเนิ่นนาน
พวกมันไมอนุญาตใหบังเกิดปญหาอะไรมาขัดขวางไดแน!
... ภายในดินแดนผูพิทักษ... ทันทีที่หลินฟานกาวเทาเขามายังจัตุรัสกลางของดินแดน
ผูพิทักษ ความโกลาหลพลันบังเกิด! ทุกผูคนลวนแตกตื่น ลุกฮือขึ้นมาอยางอลหมาน!!
นั่นเพราะกอนหนาพวกมันไดพบกับบางสิ่งอันนาตื่นตระหนกที่อยูๆ ก็อุบัติขึ้น!
“โยว! วาไงทุกคน? ขากลับมาแลว!” เมื่อเห็นสถานที่อันคุนตา หลินฟานก็อด
ไมไดที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง ตอนแรกผูคนในจัตุรัสก็มองหลินฟานดวยสายตา
สงสัยวาคนผูนี้ใชเลอะเลือนหรือไม? ใยถึงไดมาตะโกนโวยวายหนวกหู จะกลับมาก็
เรื่องของเจา บิดาไปเกี่ยวอันใด?!
พวกที่ไมเคยพบเคยเห็นตางก็มองแคลนหลินฟานกันใหญ นั่นเพราะแมพวกมัน
อาจจะเคยไดยินชื่อเสียงเรียงนามหลินฟาน แตก็ไมเคยพบเจอหลินฟานตัวเปนๆ มา
กอน! ทวาผูคนหลายตอหลายคนที่จดจำหลินฟานไดนั้น ตางอดไมไดที่จะอุทาน
โวยวายออกมาดังสนั่น!!
“นั่น! ผูนำกองทัพปฏิวัติ!!”
“สวรรค! เหตุใดเขาถึงกลับมาอีกกัน?!”
“ยามนี้กองทัพปฏิวัติก็นากลัวแทบตายแลว! ผูนำกองทัพยังกลับมาเชนนี้อีก
พวกเขามิใชวาจักนากลัวยิ่งกวาเดิมหรือไร!?” ฮือฮาๆ ตอนนี้ผูคนเริ่มสนทนากัน
จาละหวั่น ตางก็อึ้งไปไมนอยกับการปรากฏตัวของหลินฟาน กระทั่งบางคนยังรีบวิ่ง
ไปกระจายขาว บอกตอๆ กับกองกำลังตนสังกัด!
สำหรับทุกพรรคแลว กองทัพปฏิวัติเปนอะไรที่โคตรนากลัว! นากลัวอยางถึง
ที่สุด! คนกลุมนี้เปนพวกปาเถื่อนดุราย อยางสมบูรณ!!
“ทานผูนำ!” ทันใดนั้นเองปรากฏรางคนกลุมหนึ่งพุงมาแตไกล
เมื่อหลินฟานเห็นรางที่กำลังเหินมาใกล ก็อดไมไดที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ไงหัวโลน! ทุกอยางเปนไงบาง?”
“ประสพหลิน...เมื่อใดประสพจะเรียกหาอาตมาดีๆ เหมือนชาวบานเขา!”
หลวงพอศากยะไดทำหนาที่แทนหลินฟานและดูแลกองทัพปฏิวัติมาสักพักหนึ่ง
แลว มันใชชีวิตอยางมีความสุขและไรกังวลใดๆ !
แตละวันมันก็มีออกไปทำภารกิจกับคนในกองทัพบาง หาเรื่องรังแกผูคนบาง
ดื่มกินฉลองบาง… เรียกไดวาแตละวัน ผานไปอยางไรกังวล กระทั่งเสื้อผาที่มันเคยใส
ในอดีตก็แปรเปลี่ยนไป เดี๋ยวนี้ใสชุดอยางดีมีระดับแลดูมีฐานะขึ้นมาไมนอย หาใชจีวร
รายๆ ตัวเกาสืบไป... “ทานผูนำ” สำหรับผูคนของกองทัพปฏิวัตินั้นหลินฟานเปน
ตัวตนที่พวกมันเคารพนับถือหมดใจ นับตั้งแตพวกมันไดเขารวมกองทัพปฏิวัติ พวก
มันก็คลายคนพบเปาหมายของชีวิต!
สำหรับสมาชิกกองกำลังที่พึ่งเขารวมกองทัพปฏิวัตินั้น พวกมันยอมไมรูวาผูนำ
ของพวกมันเปนอยางไร แตละคนจึงอยากรูอยากเห็นกันไมนอย
ทวามาตอนนี้เมื่อพวกมันไดพบเห็นอีกฝายตัวเปนๆ พวกมันก็บอกไดเลยวาผูนำ
ของพวกมันนั้นหาไดธรรมดาไม!
แตละคนมองหลินฟานดวยสองตาเปนประกายแทบจะเปลงแสงวิบวับยิงรังสี
ความรอนออกมาเสียใหได!
“หัวโลน เจาดูนี่สิ เอะเอ…นีม่ ันอะไรกันนา?” ทันใดนั้นหลินฟานพลันหัวเราะ
ออกมาอยางสนุกสนาน กอนที่จะยกนิ้วขึ้นมาหมุนเลน แสงสวางพลันเรืองรองออกมา
บริเวณปลายนิ้ว เปนแสงพิสุทธิ์ชำระลางขององคสัมมาสัมพุทธเจา!!
มองไปในแสงดังกลาวจะเห็นภิกษุสงฆนับหมื่นพันรูปกำลังสวดประสานเสียงกัน
อยูในดินแดนสุขาวดีที่แทจริง แสงพิสุทธิ์ชำระลางนี้มีพลังขัดเกลาจิตใจอยางถึงขีดสุด
หลวงพอศากยะเพียงเห็นก็สองตาเบิกโพลงทันใด!
“ประสพ! เปนไปมิได...ประสพ..ประสพ...เปนไปมิได!!!”
หลวงพอศากยะตะลึงลานจนพูดไมเปนภาษา มันดูไมผิดแน! นั่นเปนแสงพิสุทธิ์
ชำระลางขององคสัมมาสัมพุทธเจาไมผิดเพี้ยน!!
นี่คือสุดยอดเทพพลังแหงการชำระที่เหลาผูคนของชนเผาพุทธะตางใฝฝนถึง!
พวกมันฝกฝนชั่วชีวิตเพื่อหวังวาสักวัน จะเขาถึงวิชาในตำนานวิชานี้!!
“ฮาๆ ๆ ๆ ๆ ...!! ยังไงๆ ? ตอนนี้เจาอยากไดมันแลวสิ? อยากไดใชมะลา?
อิจฉาขาแลวสินะ?” เมื่อหลินฟานเห็นหลวงพอศากยะมองตาเปนมัน เขาก็โบกนิ้วไป
มา กอนจะสำแดงพลังใหอกี ฝายดูเพื่อยั่วยวน! ใหมันรูเสียบางวาใครเปนใคร!!
ตอนนี้ในสายตาของหลวงพอศากยะ หลินฟานเปนตัวตนที่ตอใหมันตองชะเลีย
ฝาเทาอีกฝายทุกวันมันก็ตองกระทำ!!
“ประสพ! ไดโปรดเถิดประสพ! สงมันมาใหอาตมาเถอะ! ไดโปรดดดดดดด!
อาตมาขอบิณฑบาตร!!” หลวงพอศากยะ พุงรางมาคุกเขากอดขาหลินฟานเอาไว
อยางโหยหาอาลัย สายตาเผยความอยากไดถึงขีดสุด!!
หากมันสามารถร่ำเรียนวิชาแสงพิสุทธิ์แหงการชำระลางนี้ไดละก็...พลังอำนาจ
ของมันจะยกระดับพัฒนาไปถึงขีดขั้นใดกัน!?
แลวถามันเอาวิชานี้กลับไปสำแดงเดชในชนเผาพุทธะ ยังจะมีหนาไหนโดดเดน
กวามันอีก? มันจะกลายเปนตัวตนที่เปนดั่งองคตถาคตที่เที่ยงแทของชนเผาพุทธะ
และในสายตาของเหลาสรรพชีวิตทั้งมวล!!
“ฮาๆ ๆ !! ขาไมใหมีไรอะปาว!!” หลินฟานหัวเราะออกมาอยางสนุกสนาน ขบขันนัก!
“ประสพอา...ประสพดูเถิด ยามประสพไมอยูอาตมาก็คอยดูแลกองทัพปฏิวัติให
ประสพอยางดี! ประสพมอบมันใหอาตมาเถิด ไดโปรดดดดดดดด!!” หลวงพอศากยะ
ออนวอนออกมาใจจะขาด! มันอยากร่ำเรียนเทพวิชานี้หนักหนา! นี่ คือสุดยอดวิชา
ของชนเผาพุทธะ! หากมันฝกฝนสำเร็จอนาคตของมันจะไรขีดจำกัด!!
“เฮอ…หัวโลน มีคำกลาวที่วาทำอะไรไวก็ยอมไดอยางนั้น! ใครนาบอกวาไมมี
ทาง เปนไปไมได นูนนี่นั่น! เหอะ! สำหรับขาประมุขแลว…วิชาแสงพิสุทธิ์ชำระลางของ
องคสัมมาสัมพุทธเจานี่ มันฝกฝนใหสำเร็จไดงายแสนงายนัก! แต จะวาไปสำหรับ
เจานะ...เปนไปไมไดหรอก! แตก็นะถาอยากไดจริงๆ มันก็ขึ้นอยูกับความจริงใจของ
เจาแลวละ...”
ในตอนแรกที่หลินฟานเห็นวิชาแสงชำระของหลวงพอศากยะเขาก็ตองการจะ
ฝกฝนวิชานี้ไมนอย แตหัวโลนนี่มันกลาบอกปดเขาครั้งแลวครั้งเลา! แถมพอไดแลว
เขาบอกวา เขาอาจจะฝกไปถึงแสงพิสุทธิ์ชำระลาง มันก็ดูแคลนวาเขาไมมีวันทำได!!
ตอนนี้ลมเปลี่ยนทิศ สายน้ำไหลยอนกลับแลว! ไพในมือเขาเหนือกวา! แนนอน
วาตองหยอกอีกฝายใหสนุกสนานเสียกอน!!
“อา…” ตอนนี้หลวงพอศากยะยังจะไมรูไดอีกหรอวาอีกฝายคิดทำอะไร? มัน
รูสึกจนปญญาไมนอ ย!
วูมมมม!!
ทันใดนั้นเองอยูดีๆ ความวางเปลาพลันสั่นสะเทือน กอนที่จะปรากฏชองทาง
หนึ่งแหวกเปดขึ้นกลางอากาศ นี่คือทางที่จะนำไปสูชั้นบนสุดของดินแดนผูพิทักษ...
“เอาละหัวโลน เจาก็คอยๆ คิดดูแลวกันนะ ไมตองรีบๆ ! ตอนนี้ขามีธุระตอง
ออกไปทำกอน เขาใจ?”
หลินฟานกระโดดไปยังชองวางที่แหวกเปดออก กอนจะหันมาโบกมืออำลา
หลวงพอศากยะ เมื่อเห็นทาทางเต็มไป ดวยปรารถนาใครเรียนวิชาอยางถึงที่สุดแต
กลับมิอาจกระทำไดของอีกฝาย หลินฟานสนุกสนานนัก! หลังจากที่หลินฟานจากไป
หลวงพอศากยะที่ตาละหอยพลันสูดลมหายใจเขาลึกๆ ลอบใหกำลังใจตัวเองเปนการ
ใหญ ‘ตอนนี้ดูเหมือนวาขาจำตองทิ้งศักดิ์ศรีไรสาระอะไรไปเสีย...ไมวาตองทำกระไร
ขาตองร่ำเรียนวิชาแสงพิสุทธิ์ชำระลางขององคสัมมาสัมพุทธเจานั่นใหจงได!’
ในขณะเดียวกันหลวงพอศากยะยังรูสึกขัดใจอยางถึงขีดสุด ที่หลินฟานสามารถ
ร่ำเรียนเทพวิชาของชนเผามันได! ทวาตัวมันผูเปนถึงอัจฉริยะของชนเผาพุทธะแทๆ !
แตทวามันก็ไมอาจเขาถึงเทพวิชานี้ไดจากวิชาแสงชำระ! ไถถาม โลกหลาประสพหลิน
นั่นกระทำไดอยางไรกัน!?
“เฮอ...อามีทัวฝว”
เมื่อไมอาจเขาใจไดวาเรื่องราวมันบังเกิดขึ้นไดอยางไร หลวงพอศากยะก็เลิกคิด
ใหปวดหัว ตอนนี้เมื่อหลินฟานกลับมาแลว เหลาอริเกาในดินแดนผูพิทักษยอมอยูไม
สุขกันเปนแถบๆ ! อนิจจาพวกมันยังจะมีปญญาทำอะไรได? ในระหวางการตอสูยก
พวกตะลุมบอนกันครั้งที่แลว พวกมันถูกทุบตียั้งลูก! สำหรับสาวนอยในพรรคของพวก
มันนั้น ไมมีใจจะสูอกี ฝายแตแรก! กระทั่งวิ่งไปยืน่ อกใหอีกฝายซัดฝามือใสเสียดวยซ้ำ!
สำหรับเหลาพรรคที่แข็งแกรงอันเปนที่นับหนาถือตาแลว นี่คือที่สุดแหงความอัปยศ
อยางไมตองสงสัยเลย!!
ตอนที่ 805 ไปหลอกคนอื่นตอ
ณ ดินแดนผูพิทักษ ชั้นสูงสุด
“ไงตาแกสบายดีนะ วาแตทานคิดถึงขามากเหรอ...ขากลับมาไดไมทันไร ถึงกับ
ตองเชิญขาขึ้นมาแบบนี้เลย! หรือมีความเปลี่ยนแปลงำคัญอะไรชวงนี้ที่คิดบอกขารึ
เปลา?”
หลินฟานกาวออกมาจากชองวางแหงความวางเปลา กอนที่จะหันซายหันขวา
ชมดูรอบๆ อยางสนใจ เพราะนี่ก็เปนครั้งแรกเหมือนกันที่เขาไดขึ้นมาบนนี้ อยางไรก็
ตามสิ่งที่ทำใหหลินฟานประหลาดใจก็คือ มีตาแกอีกคนนั่งอยูขางๆ ตาแกเหลี่ยม
จัดฟงชิงจือ่ ผูเปนอาจารยเขา!
แตหลินฟานก็เขาใจไดทันที...คนแกแลวก็งี้ละ อยูคนเดียวมันก็มีเหงากันบาง
อะไรบาง พอมีเพื่อนแกๆ มานั่งรำลึก ความหลังอะไรกันแบบนี้ก็พอไดดีขึ้นหนอย...
“ฟงชิงจื่อ นี่นะหรือลูกศิษยตัวแสบของเจา...มิเลวๆ โครงรางเปยมลนไปดวย
ศักยภาพอันไรจำกัด! ชางเปนหนุมนอย อัจฉริยะที่มากพรสวรรคยิ่งนัก!!”
ชายชราที่อยูขางๆ ฟงชิงจื่อพินิจหลินฟานตั้งแตหัวจรดเทา กอนที่จะกลาวชม
ออกมา อยางจริงใจ
มันเองก็เพียงไดยินเรื่องศิษยหนุมคนนี้จากปากฟงชิงจื่อเทานั้น ไมเคยไดพบเจอ
อะไรอีกฝาย อยางไรเสียจากเรื่องราวทีฟ่ งชิงจื่อเลาใหฟง วาศิษยผูนี้สามารถจัดการ
ตัวตนสูงสุดได นี่ชางเปนอะไรที่สะทานโลกยิ่งนัก!
เพราะหลังจากทั้งหมดแลว ในหวงเวลานับหมื่นปที่ผาน มีเพียง 4 ผูพิทักษของ
ดินแดนผูพิทักษเทานั้น ที่ยังพอรับมือตัวตนสูงสุดแหงเผาพันธโบราณได!
แมวาในบรรดารอยพันชนเผาเองก็มีตัวตนผูทรงพลังอำนาจอยูไมนอย ทวา
ทั้งหลายยังหางไกลจากการปะทะ ตานทานตัวตนสูงสุดของชนเผาโบราณ!!
แนนอนวาโดยมากแลวก็เปนเชนนั้น เวนเสียแตวาจะมีตัวตนที่ทาทายสวรรค
อยางรุนแรงอยางจักรพรรดินีวารีอัคคี! วีรสตรีผูซึ่งไรบัลลังกเทพนิรันดร หากแต
สามารถสยบชนชั้นเทพนิรันดรที่มีบัลลังกเทพนิรันดรได! ทวาในโลกหลายัง จจะมี
ตัวตนเชนนี้สักกี่คนเชียว?
“ฮาๆ ๆ ! ขาไมใชอัจฉริยะอะไรหรอก แตขาเนี่ยโคตรอัจฉริยะตางหาก! นี่ตาแก
ผูอำมหิตไรใจเจี๋ย คนดีของขาอยู ไหนแลว?” หลินฟานหัวเราะเบาๆ กอนจะกลาว
ถาม
“เด็กนอยเอย เจารีบบอกกลาวเรื่องราวใหขาฟงกอนเถอะ วาวันนั้นที่แท
สุดทายแลวมันเกิดอันใดขึ้นกันแน? นักบุญเชิ่ง เลา...ตอนนี้มันเปนไรแลว?”
ฟงชิงจื่อไมไดตอบคำถามของหลินฟาน หากแตกลาวถามออกมาดวยทาทาง
จริงจังแทน เพราะนี่เปนเรื่องที่สำคัญอยางถึงที่สุดสำหรับฟงชิงจือ่
“โอ...ทานอยากรูหรือตาแก?” หลินฟานยิ้มหวานออกมาโดยพลัน ในหัวปง
ความคิดอันประเสริฐขึ้นมาทันใด
“ชวงนี้ ขาคอนขางขาดแคลนโอสถเจิ้งหยางไมนอย ถาหากวา...”
“เอา รับไปเสีย นี่เปนโอสถเจิ้งหยางทัง้ หมดที่อาจารยผูนานับถือของเจามีแลว...”
ฟงชิงจื่อพลันยื่นมือออกมาโดยไรซึ่งความลังเลอะไร ทันใดนั้นดั่งสายธารไหล
หลาก โอสถเจิ้งหยางพรั่งพรูออกมามหาศาล ภายในสายธารโอสถเจิ้งหยางยังถึงขั้นมี
มังกรหลายตัวเปลงเสียงคำรามออกมา พวยพุงออกจากแขนเสื้อฟงชิงจื่ออยางฉับไว!!
“ตาแก ไหงวันนี้ทา นใจดีแทละ!” หลินฟานตะลึงไปทันใด ไมคิดเลยวาฟงชิงจื่อ
จะเปนคนใจกวางขนาดนี้ เขายังกลาวไมทันจบคำ อีกฝายจัดเต็มใหเขาแลว! นี่ทำให
เขาถึงกับเหวอไปไมนอย!! หลินฟานสะบัดมือรับโอสถที่อีกฝายสงมาทันใด นับคราวๆ
แลวมีนับลานๆ เม็ด! นี่เปนอะไรที่ทำใหหลินฟานตกใจนัก!!
“เอาละเด็กนอยเอย อยาไดออมคอมพิรี้พิไรแลว รีบกลาวบอกมาเถอะ...!”
เอาตรงๆ ยามนี้ฟงชิงจื่อปวดแปลบในใจยากจะกลาว โอสถเจิ้งหยางลานลาน
เม็ดนั่น คืออะไรที่มนั เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตของมันแลว!! ตลอดระยะหลายปที่ผัน
ผาน นอกเหนือจากคาใชจายที่จำตองใชหลอเลี้ยงดินแดนผูพิทักษ นี่คือสิ่งที่เหลือเก็บ
เอาไว อยางยากลำบาก...
ถึงแมวาหลินฟานจะไมไดกลาวอะไรออกมา หากแตเขาเองก็รูสึกซาบซึ้งไมนอ ย
ไมคิดหยอกตาแกตรงหนาเลนอีก รีบกลาวออกไปตามตรงทันที
“ไอนักบุญเชิ่ง นั่น...ขาฆามันไปแลวละ! สำหรับแทนบูชายัญเซียนโบราณนั่น
ขาก็ปลูกฝงมันสำเร็จจนเปนของขา แลว”
“เปนเชนนั้นจริงๆ !”
ฟงชิงจื่อหันไปสบตากับชายชราขางๆ ทันที ตอนนี้ขอสันนิษฐานของพวกมัน
นับวาถูกเผง เพราะเจาตัวยืนยันแนชัด แลว! ทั้งคูตางก็ระบายลมหายใจออกมาอยาง
โลงอก!
“ลูกศิษยที่รักเอย...เรื่องนี้เจานับวาทำใหอาจารยผูนานับถือคนนี้ตกใจหนักหนา
แลวจริงๆ ...วาแตแลวบัลลังกเทพนิรันดรเลา เปนเชนไร?”
สำหรับฟงชิงจื่อแลวนับวาเปนเรื่องนายินดีอยางถึงที่สุดที่ไดรับรูวาตัวตนสูงสุด
ดับสูญไปแลว และที่สำคัญอยางยิ่งก็ คือบัลลังกเทพนิรันดร!
“ฮี่ๆ ...ดูซิ ใครเอย!”
หลินฟานยิ้มอยางสนุกสนานกอนจะสะบัดมือ
ทันใดนั้น ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณพลันปรากฏจากอากาศวางเปลา มาหยุดยืน
ขางกายหลินฟาน! ทันทีที่ผูอมตะหนึ่งเดียวโบราณปรากฏตัวออกมา กลิ่นอายทรง
พลังอันนาครั่นครามก็แผซานกำจายไปทั่วยอดเขาของดินแดนผูพิทักษ!
สีหนาทาทางของฟงชิงจื่อและชายชราขางๆ เครงเครียดขึ้นทันใด ทั้งคูตกใจ
หนักหนา สภาวะทั่วรางถูกเรงเราพรอม รบขึ้นมาทันใด...ทวาหลังจากนั้นตางก็คอยๆ
ผอนคลายลง
“นี่...!” เมื่อฟงชิงจื่อเห็นชนเผาโบราณเบื้องหนาแลว ก็อดไมไดที่จะขมวดคิ้ว
ดวยความประหลาดใจ ถึงกับตองจองใหมอีกครั้งใหชัดถนัดตา ใหมอีกครั้งใหชัดถนัด
ตา เมื่อหลินฟานเห็นทาทางอื้ออึงตะลึงคางของผูชราทั้ง 2 ก็อดไมไดที่จะหัวเราะ
ออกมาอยางชอบใจ
“นี่เหรอ...ก็ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณไงจะใครละ! ตัวตนสูงสุดของชนเผา
โบราณที่รวงหลนไปเมื่อ 10,000 ปกอน! แตตอนนี้ก็นะ...โดนขาจัดการเรียบรอย
แลว!” หลินฟานกลาวอธิบายออกมา
ตอนนี้ในมือเขามีตัวตนสูงสุดอยูถึง 2 ตน! นับวาเปนขุมพลังอันนาเกรงขามนัก!
ตอนนี้ตอใหตัวตนสูงสุดของชนเผาโบราณมัดรวมกันมาอีกครั้ง เขาก็ไมกลัว แถมยังมี
โอกาสชนะคอนขางสูง!
“ประเสริฐ! ชางประเสริฐยิ่ง! ยอดเยี่ยมเกินไปแลว!!”
ฟงชิงจื่อโพลงคำออกมาดวยความยินดี นี่นับเปนขาวที่ดีที่สุดที่มันไดฟงมาใน
รอบ 10,000 ป!
“แนนอน ตอนนี้ทานก็คงจะพอปะติดปะตอเรื่องราวไดแลวสินะ หลังจากที่ขา
ปลูกฝงแทนบูชายัญเซียนโบราณเสร็จ ขาก็ใชมันเดินทางกลับโลกเสวียนหวง...และ
กลับไปครั้งนี้ขาก็ไดทำการปลูกฝงโลกเสวียนหวงเรียบรอย กลาวไดวา ตอนนี้โลก
เสวียนหวงทั้งใบอยูภ ายใตการดูแลของขา! ตอนนี้ขากำลังเพาะสรางขุมกำลังจาก
เหลาสุดยอดอัจฉริยะ ของเผาพันธุมนุษยอยู…! พอเสร็จเรื่องขาเองก็รีบกลับมานี่ละ
แตไมคิดเลยทันทีที่ขากลับมาถึงโลกเซียนโบราณอีกครั้ง เจตจำนงสวรรคนั่นกลับโผล
ออกมาปะทะกับขา” หลินฟานกลาวออกมายาวเหยียดรวดเดียวจบ
“อะไร?! เจตจำนงสวรรค!!”
ทันทีที่ฟงชิงจื่อไดยนิ คำนี้ สีหนาของมันมืดลง ทาทางยังเครียดขึ้นทันใด
“ดวยความแข็งแกรงของพวกเรายามนี้ สมควรรับมือตัวตนสูงสุดที่เหลือไดมิ
ยาก...ทวายามนี้ปญหากลับเปนตัวเจตจำนงสวรรคแลว”
“ในตอนนั้นขาไดฟงจากปากของตัวตนสูงสุดเองวา ดินแดนผูพิทักษเปนเพียง
สถานที่ๆ เจตจำนงสวรรคละเวนไวเพื่อ ใหผูคนของรอยพันชนเผามีชีวิตอยูชั่วคราว
เทานั้น...หากเจตจำนงสวรรคตื่นขึ้นอยางสมบูรณ เปนไปไดวาดินแดนผูพิทักษอาจถึง
กาลจบสิ้นเชนกัน...” ฟงชิงจือ่ กลาวถึงเรื่องอันนาตื่นตระหนกออกมา
“อาว! ตาแก ไหงเปนงั้นละ!?”
นี่เปนครั้งแรกที่หลินฟานไดยินเรื่องราวอะไรแบบนี้ ตอนแรกเขาก็คิดวาดินแดน
ผูพิทักษสมควรเปนสถานที่ปลอดภัย และปราศจากอันตรายใดๆ แตไมคิดเลยวามัน
จะเปนสิ่งที่เจตจำนงสวรรคสรางขึ้นมาเอง! แลวอีกฝายจงใจเหลือพื้นที่ปลอดภัยไวให
เพื่ออะไร?
“ตาแก ขาสงสัยอยูอยาง ถาโลกไรจำกัดนั่นเปดขึ้น เจตจำนงสวรรคมันจะได
ประโยชนอะไร?” หลินฟานกลาวถามดวยความสงสัย
“คำถามนี้ของเจานับวาซับซอนไมเบา เพราะเรื่องนี้มีหลายสิ่งหลายอยางพัวพัน
กันยิ่งนัก อยางไรก็ตาม ในจุดเริ่มตน ของทุกสิ่งนั้น...โลกไรจำกัดยังเปนเอกภพที่ไรซงึ่
สิ่งมีชีวิตอันใดดำรงอยู
หากแตเจตจำนงสวรรคกลับเปนตัวตนที่ดำรงอยูกอนแลว เพื่อเสริมสรางพลัง
ของตัวมันเอง เจตจำนงสวรรคของโลกเซียนโบราณไดเริ่มตนกระบวนการทำใหโลกไร
จำกัดบังเกิดสิ่งมีชีวิตขึ้น....ทุกคราที่หวงเวลาเวียนมาบรรจบ ยามเมื่อเอกภพไดรับ
การเติมเต็มและการขัดเกลาจนสมบูรณพรอมเจตจำนงสวรรคแหงโลกเซียนโบราณจะ
เลือกกลืนกินโลกไรจำกัด ในหวงเวลาอันเหมาะสมนี้ และถึงยามนั้นตัวมันจะทะลวง
อุปสรรคดานพลังของตัวมัน บรรลุสูขอบเขตพลังที่เหนือชั้นยิ่งกวาเดิมนี้... และถึงยาม
นั้นตัวมันจะทะลวงอุปสรรคดานพลังของตัวมัน! บรรลุสูขอบเขตพลังที่เหนือชั้นยิ่ง
กวาเดิม...”
“เปนเวลานานแสนนานมาแลวตั้งแตครั้งบรรพโบราณ เหลาสิ่งมีชีวิตของรอย
พันชนเผายังไมจำเปนตองเยื้องยาง ดำเนินขึ้นสูโลกเซียนโบราณ หรือการขึ้นสูสวรรค
ที่ทุกผูคนเขาใจ แตอยางไรในตอนนั้นโลกเซียนโบราณใบนี้ก็มีแตชนเผาโบราณเทานั้น
...และในยามนั้นแตละโลกก็ลวนมีตัวตนอันทรงพลัง อันเปนจาวผูปกครองดำรงคงอยู
พอถึงหวงเวลามาบรรจบ...ถึงกาลที่เจตจำนงสวรรคคิดกลืนกินโลกไรจำกัด มันกลับ
ตองมาเผชิญหนากับการตอตานครั้งยิ่งใหญจากสิ่งมีชีวิตที่มันสราง! เรียกไดวาครั้งนั้น
เปนเจตจำนงสวรรคลมเหลวครั้งใหญก็วาได! อนิจจาเหลาตัวตน ทรงพลังทั้งหลายที่
ตอตานมัน ก็เหลือรอดชีวิตกลับมานอยคนนัก...! และหลังจากที่เจตจำนงสวรรคของ
โลกเซียนโบราณเสียหายหนัก มันก็ยินยอมจายออกดวยราคาอันมหาศาล เพื่อตรา
กฏๆ หนึ่งขึ้นมา กอนที่มันจะเขาสูหวงนิทราหลับใหล... เปนกฏที่ตราไวเพื่อปองกัน
เภทภัยและหายนะอันนำไปสูความลมเหลวของมันอีกครั้ง...สำหรับโลกไรจำกัดแลว
ตัวตนใดก็ตาม ตราบใดที่มีดานพลังบมเพาะสูงถึงขีดขั้นหนึ่ง จำตองเยื้องยางดำเนิน
ขึ้นมายังโลกเซียนโบราณใบนี้!!”
“นี่นับเปนการวางหมากอันแยบคายของเจตจำนงสวรรคนัก! ตัวมันนั้นเพื่อให
มั่นใจวาบรรดารอยพันชนเผาของโลกไรกำจัดจะถูกสะกดขมใหตกอยูในสภาพออนแอ
เปนการถาวรไมอาจตอตานมันไดอีก จึงไดตรากฏนี้ขึ้นมา! อีกทั้ง เจตจำนงสวรรคยัง
อนุญาตใหชนเผาโบราณลาสังหารเหลารอยพันชนเผาทั้งหลายเพื่อเสริมสรางพลังให
ตัวเอง!!”
เมื่อหลินฟานไดยินคำอธิบายแสนยาวเหยียดของฟงชิงจื่อ เขาก็พอจะเขาใจ
เรื่องราวขึ้นมาทันที ที่แทไอเวรนั่นมันทำแบบนี้เพราะเปนการเรียนรูจากความ
ผิดพลาด!
เจตจำนงสวรรคนั่น เหมือนวาครั้งหนึ่งก็เคยเปนตัวโงงมเชนกัน ทวาหลังจากที่
มันลมเหลวมันก็เลยทำการเปลี่ยนกฏ ดูเหมือนวาครั้งนี้เจตจำนงสวรรคมันจะมั่นใจ
นักวาตองทำสำเร็จแนนอน!
สำหรับหลินฟานแลว เขาครานจะแยแสเรื่องราวหรือความเปนมาตั้งแตสมัย
พระเจาเหาอะไร เขามีกฏอยูขอเดียว เทานั้น ใครกลาแหยมพี่ประมุข พี่ประมุขจะทุบ
ตีใหตาย!
“ออ เปนแบบนี้นี่เอง...ตาแก แลวตกลงไหนผูอำมหิตไรใจเจี๋ย ของขาละ”
หลินฟานกลาวถามออกมาอีกครั้ง
“เด็กนอยเอย...เรื่องราวใหญหลวงเพียงนี้ เจาไมคิดถามไถอะไรขาเพิ่มเติมหรือ?
สวนผูอำมหิตไรใจเจี๋ย ของเจามัน อยูดีกินดีอยาไดหวงอันใด”
ฟงชิงจื่อประหลาดใจไมนอยวาจาที่มันกลาวไปนั้น เปนเรื่องราวอันใหญหลวงไม
นอย แตไมคิดเลยวาหลินฟานจะตอบรับงายๆ ทาทางแลดูเฉยๆ ไมไดสนใจอะไร
มากมาย! นี่ทำใหฟงชิงจื่อขุนขึ้งขึ้นมาไม นอย
“โอยตาแก ถามไปก็เทานั้นละ ตอนนี้จะวางแผนอะไรไปก็เปลาประโยชน อีก
ทั้งทานแนใจไดไงวาไอเรื่องเกาแกสมัยพระเจาเหานั่นมันจะเปนความจริง? มีใครที่อยู
รอดจากยุคบรรพโบราณอะไรที่วานั่นมายืนยันรึเปลา? ตัวทานไดไปสัมผัสกับเรื่องราว
มาไหม?” หลินฟานกลาวถาม
“มิมี แลวขาก็มิไดแกขนาดนั้น...เรื่องทัง้ หมดเปนอาวุโสของขาเคยเลาใหฟง”
ฟงชิงจื่อกลาว
“โอยตาแก ทานเองก็ใชวาจะไมเคยเห็น! ทานนาจะเขาใจดี…วาคำขี้ปาก
ชาวบานมันเปนยังไง! เรื่องเลาเรื่องเดียว ทานลองใหบอกตอๆ เลากันไปสัก 100 คน
พอทานไปฟงคนที่ 100 เลา ไมรูจะเหลือเคาความเรื่องเดิมสักกี่บรรทัด! เรื่องราวที่
เดิมเฉยๆ ก็กลับกลายเปนนากลัวหนักหนาแลว! ดังนั้นทานอยาไดคิดมากไปสำหรับ
เรื่องอะไรพรรคนี้
เคยไดยินปาว ทัพมาตั้งทัพสู น้ำมากอทำนบกั้น ถึงเวลาเดี๋ยวเราก็หาวิธีดีๆ กัน
ไดเองละ!!” หลินฟานโบกไมโบกมือ อยางไมยี่หระกอนจะยักไหลทำตัวเฉยๆ
“ตาแก เรียกอำมหิตไรใจเจี๋ย มาเร็ว ตอนนี้ขาจะพามันไปแลว...ขาตองการ
โอสถเจิ้งหยางเปนการดวน นี่ขาวาจะรีบไปตระเวนหาพวกตัวตนทรงพลังสักหนอย
เพื่อจับพวกมันมาเปนทาสผลิตโอสถเจิ้งหยางใหขา!”
ตอนนี้ในใจหลินฟานมีความคิดเดียวเทานั้น คือคนหาตัวตนทรงพลังชั่วๆ ซะ
ปลนชิงทุกสิ่งแยงทรัพยากรทุกอยาง ทั้งยังจะชำระลางพวกมันและเปลี่ยนใหเปน
เครื่องจักรผลิตโอสถเจิ้งหยางใหเขาทั้งวันทั้งคืน!
พรอมกันนั้นเขาก็จะแวะไปหาตัวตนทรงพลังของชนเผาโบราณเพื่อปลนฆาพวก
มันใหเหี้ยน เมื่อเขาสะสมโอสถเจิ้งหยางไดมากพอถึงเวลานั้นเขาจะไดลงมือครั้ง
ยิ่งใหญเสียที!
“โอ อำมหิตไรใจเจี๋ยมาแลว งั้นเดี๋ยวขาไปกอนนะตาแก...ออจริงสิ จากที่ทาน
เลาดูเหมือนวาดินแดนผูพิทักษนี่ก็ไม คอยจะปลอดภัยสักเทาไรใชไหม...วาแตตาแก
แลวผูพิทักษอีก 3 คนนี่เปนเพื่อนของทานหรือสนิทอะไรกันรึเปลา?”
หลินฟานกลาวถาม
“ใยเจาถึงไดถามเรื่องนี้เลา?” ฟงชิงจือ่ ถามกลับ
“ก็ถาพวกนั้นสนิทกับทาน ขาก็จะไปขอแบงโอสถเจิ้งหยางดีๆ ! แตถาไมใช
เพื่อนทาน ขาก็จะไปหลอกเอาโอสถเจิ้งหยางมาไง!” หลินฟานกลาวถาม
ฟงชิงจื่อมองศิษยตัวแสบเบื้องหนาดวยายตาอึ้งๆ จากนั้นก็สายหัวไปมาเบาๆ
อยางจนใจ
“มิไดสนิทกันมากนัก”
“โอววว!!” ทันทีที่ฟงชิงจื่อกลาวตอบหลินฟานก็ขานรับเสียงราเริง กอนที่วูบราง
ออกเดินทางทันใด
“เด็กนอยผูนี้นี่...มันรูจักความเคารพ สัมมาคารวะหรือมารยาทอันใดบาง
หรือไม?”
เมื่อเห็นหลินฟานจากไปโดยไมกลาวลาแมครึ่งคำ ฟงชิงจื่อถึงกับพูดไมออก
“ฮาๆ ๆ ๆ ..!! ศิษยของเจาชางนาสนใจยิ่งนัก”
“เฮอ...! ขายังมิรูเลยวาตอนนั้นขาไปชมชอบเจาเด็กตัวแสบนี่ไดอยางไร…”
ฟงชิงจือ่ สายหัวพรอมกลาวออกมาอยางละเหี่ยใจ..
ตอนที่ 806 ดูเหมือนจะมีอะไรบางอยางผิดปกติ
ทันทีที่หลินฟานออกมาจากพื้นที่ของฟงชิงจื่อ เขาก็รีบทำการนับโอสถเจิ้งหยางทันที!
สุดทายตอนนี้เขาก็ไดรูวาทั้งเนื้อทั้งตัวของเขา มีโอสถเจิ้งหยางทั้งสิ้น 1.5 ลานลาน
เม็ด! จำนวนนี้ฟงดูแลวอาจจะมากมายไมนอย ทวา...รอยปในหนึ่งหวงคิด กลับตองใช
โอสถเจิ้งหยางถึง 10 ลานลานในการเปดใช! สำหรับหลินฟานแลวจำนวนมหาศาล
ขนาดนั้นมันแทบจะเอาไปถมมหาสมุทรได!!
“ประสพ...” ทันทีที่หลินฟานปรากฏตัวอีกครั้ง หลวงพอศากยะก็รีบวิ่งมาหา
ทันที ตอนนี้ใบหนาของมันยิ้มแยมแจมใสราวกับคนวานอนสอนงายนัก!
“ฮัยยา นี่ขาจะบาปไหมเนี่ย...ไมคิดเลยวาคนของชนเผาพุทธะที่กลาววาละทิ้งกิเลศไป
แลว จะยอมทำทุกอยางเพื่อวิชาซะได...” หลินฟานครวญคร่ำออกมา
“ประสพ…เมื่อทานรู ทานก็เมตตาสงสารอาตมาผูตอยต่ำสักครั้งเถอะนะ...นะ
ประสพ นะ...” หลวงพอศากยะออนวอนอยางนาสงสาร สำหรับหลวงพอศากยะแลว
นี่นับเปนการทรมานมันอยางหนักหนาจริงๆ !
“อา…ขาชักจะเริ่มหิวขึ้นมาแลวสิ!” หลินฟานลูบทองพรอมกลาวออกมา
“อาตมาจะเลี้ยงอาหารประสพเอง!”
“ฮัยยา...ไหลนี่ทำไมวันนี้มันเมื่อยจังเลยนา”
“ประสพอยาไดกลาวแลว! ประเดี๋ยวอาตมาจักนวดตัวชุดใหญใหประสพเอง!”
หลวงพอศากยะไมหืออืออะไรทั้งสิ้น
เพื่อที่จะไดรับแสงพิสุทธิ์ชำระลางแหงองคสัมมาสัมพุทธเจา หลวงพอศากยะ
ยินดีสละซึ่งทุกสิ่ง ตอใหมันตองทำงาน เยี่ยงสุนัขมันก็พรอมกระทำ!
“ไมตองรีบรอนไป...เอาละ ขาจะแนะนำใหเจารูจักคนกอน” หลินฟานหัวเราะ
ออกมาเบาๆ หลังจากนั้นเขาก็นำ เชวียนอวิ๋นเซียน ไชฉิเฉียว ยูวจิ่วหลิง ชิคกี้ พรอม
ทั้งลูกไกทั้ง 3 ของมันออกมา เมื่อทุกคนปรากฏตัวออกมาจากความวางเปลา ตางก็
สับสนงุนงงทันใด ราวกับวาทั้งหลายไมเขาใจ ...วาเมื่อครูยัง อยูที่ของตัวดีๆ ไฉนอยูๆ
ถึงมีความมืดปกคลุมและมาโผลที่นี่ได!
ตอนนี้หลินฟานเปนผูควบคุมโลกเสวียนหวงทัง้ ใบ เขาจะทำอะไรก็อาศัยเพียง
หวงคิดเดียวเทานั้น แมจะเปนการนำ ผูคนจากโลกเสวียนหวงขึ้นมา ไมวาจะเต็มใจ
หรือไมเต็มใจก็ตาม ก็เปนอะไรที่เขาทำไดงายดายยิ่งกวากระดิกนิ้วเสีย อีก!
“สามีที่นี่เปนที่ไหนหรือ?” เชวียนอวิ๋นเซียนเองก็มีความรูกวางขวางไมนอย
ทวาเมื่อนางตระหนักไดวาสถานที่แหงนี้มันแปลกจากทุกสิ่งที่นาง เคยรูมา นางเองก็
อดไมไดที่จะกลัวขึ้นมาเล็กนอย... หากไมใชเพราะความจริงที่วาหลินฟานยังยืนอยู
ขางๆ นางอาจจะกมหนาคอตกดวยความหวาดกลัวไปแลว...
“ทานอาจารย ที่นี่ที่ไหนหรือ” ไชฉิเฉียวกับยูวจิ่วหลิงกลาวถามอยางพรอม
เพรียง ตอนนี้ทั้งคูแลดูเปลี่ยนไปจากตอนแรกมาก แมวาทั้งคูจะถูกมัดติดกันอยู แตดู
คลายตางก็ไมไดมีปญหาขัดของอะไร ราวกับคุนชินไปกับการติดกันเชนนี้เสียแลว
สวนชิคกี้นั้นเพียงกระโดดขึ้นมานั่งบนไหลของหลินฟาน ไมวาที่นี่จะเปนที่ไหน
ลวนไรสำคัญ ตราบใดที่ปะปาของมัน อยูทุกอยางลวนดีเอง
“ประสพ นี่คือ...!” เมื่อเห็นวาคลายหลินฟานฉุดดึงผูคนออกมาจากสถานที่อื่น
หลวงพอศากยะก็ตะลึงพรึงเพริด หรือความแข็งแกรงของประสพหลินจะบรรลุขีดขั้น
สูงสุดแลวกัน?! นากลัว! นี่ชางนากลัวยิ่งนัก!!
“นี่ภรรยาของขาเชวียนอวิ๋นเซียน สวนสาวนอยทั้ง 2 นี่เปนลูกศิษยของขาเอง”
หลินฟานกลาวแนะนำ
“กุก กุก กู!!” ตอนนี้ชิคกี้รูสึกไมพอใจขึ้นมา มันใชหัวนอยๆ ไถขวิดแกมหลินฟาน
ระรัว ราวกับจะประทวงวาไฉนหลินฟานไมแนะนำมันดวยเลา!
“พอๆ รูแลวหนา เอาเขาไป! ใหมันไดยังงี้สิ! ไกตัวนอยอยางเจายังอยากใหขา
แนะนำตัวกับเขาดวยวางั้น?”
“เอาละ…นี่คือชิคกี้! นองชายขาเอง!”
“กุกกุกกู!!” ชิคกี้รองออกมาเสียงใส กอนที่จะยืน่ ปกของมันออกมาราวกับ
ตองการจะจับมือทักทาย หลวงพอศากยะเองก็อึ้งไปทันใด มือยกออกไปอยางไมได
ตั้งใจเชนกัน
“ทุกคนนี่คือ หัวโลน” หลินฟานแนะนำหลวงพอศากยะออกมาอยางขอไปที
ทวาเชวียนอวิ๋นเซียนนั้นไดรับการฝกฝนอบรมมาอยางดี ดังนั้นนางจึงหัวเราะออกมา
เบาๆ กลาวดวยเสียงสุภาพ
“ทานผูยิ่งใหญ อวิน๋ เซียนยินดีที่ไดรูจักทาน”
เชวียนอวิ๋นเซียนรูสึกวาสถานที่แหงนี้แปลกมาก ทั้งกลิ่นอายของพระเบื้องหนา
นาง ก็แสนจะทรงพลังทั้งยิ่งใหญสุด ไพศาลอยางไมนาเชื่อ พลังอำนาจของอีกฝาย
สูงสงไรประมาณปานจะไรขอบเขต ยากที่จะหยั่งถึงได
“อา! ที่แททานคือภรรยาของประสพหลิน! อาตมาผูตอยต่ำเรียกวาศากยะ!” สี
หนาของหลวงพอศากยะเปลี่ยนไปทันที
จากที่นอบนอมยินยอม กลับกลายเปนสูงสงและดูราวกับมหาเถระมาเอง!
“กุก กุก กู!!!”
ทันใดนั้นเองลุกไก 3 ตัวพลันไปกอดขาของหลินฟาน กอนที่จะรองประทวง
ออกมา ราวกับพวกมันตองการใหหลิน ฟานแนะนำตัวพวกมันดวยเชนกัน หลินฟา
นกมลงมองพวกมันอยางชวยไมได กอนที่จะสายหัวไปมาพรอมเริ่มกลาว
“ตัวที่ใสเครื่องประดับแกวแหวนเงินทองฟรุงฟ ริ้งเต็มตัวนี่เรียกวา ไกพี่ใหญ”
“ไกเด็กแนวที่ไมแยแสแลวซึ่งวิถีสามัญแหงโลกหลาตัวนี้ เรียกวา ไกสอง”
“เจาตัวกลมที่อวนที่สุดเทาที่มันจะอวนได เรียกวา ไกอวน”
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
หลังจากที่สิ้นคำกลาวแนะนำของหลินฟาน ลูกไกทั้ง 3 ที่ตางตัวตางมีเอกลักษณ
ก็ยื่นปกขางหนึ่งไปทางหลวงพอ ศากยะทันที ความตั้งใจของพวกมันนั้นชัดเจนนัก มา
เขยาปกพวกเราเสีย! เพื่อเปนการบงบอกวาพวกเราทำความ รูจักกันแลว!!
เมื่อเห็นไกประหลาดทั้ง 3 หลวงพอศากยะก็อึ้งไปเชนกัน สุดทายก็กมลงไป
เขยาปกพวกมันทีละตัว
“กุก กุก กู!!” ชิคกี้ที่ยืนอยูบนไหลของหลินฟานรองออกมาเสียงดัง พยักหนา
อยางพอใจ ราวมันกับจะบอกวา “ไงละปะปา ลูกของขาทั้ง 3 ตางก็มารยาทดีทั้งนั้น
เห็นไหม! พวกมันไมทำใหขาเสียหนา!!”
“อวิ๋นเซียน ที่นี่เรียกวาดินแดนผูพิทักษ เปน 1 ในสถานที่ปลอดภัยที่มีอยูเพียง
ไมกี่แหงในโลกเซียนโบราณ” หลินฟานกลาว อวิ๋นเซียนพยักหนา อยางไรก็ตามนาง
รูสึกวากลิ่นอายพลังที่แผซานออกมาทุกทิศทางนั้น ลวนแลวแตแข็งแกรงทรงพลัง
อยางถึงที่สุด!
ราวกับวายามนางถูกหอมลอมไปดวยตัวตนอันทรงพลังที่พรอมจะบดขยี้นางได
ไมตางมดปลวก แตอยางไรเสียเมื่อมีหลินฟานอยูใกลๆ ความไมสบายใจและ
หวาดกลัว ก็สลายหายไปกับสายลม
“หัวโลนไปหาอะไรกินกันเถอะ”
“ประสพ...แลว…!” ทุกชั่วลมหายใจของหลวงพอศากยะยามนี้คลายมีแตเรื่อง
วิชาแสงพิสุทธิ์ชำระลางขององคสัมมาสัมพุทธเจา เพราะสำหรับหลวงพอศากยะแลว
...ตราบใดที่มันไดร่ำเรียนเทพวิชาชำระนี้ มันพรอมกระทำทุกสิ่ง!!
“เรื่องนั้น เราไวคอยคุยกันหลังหาอะไรกินใหอิ่มทอง” หลินฟานหัวเราะออกมาเบา
“ได”
... โตะอาหาร... หลินฟานชมดูสำรับอาหารมากมายที่แลดูสวยงามสงกลิ่นหอม
จรุง ทาทางมื้อนี้จะอรอยไมเบา เขาหยิบตะเกียบมาคีบชิมดูอยางเพลิดเพลิน กอนจะ
พยักหนาอยางพอใจ สวนบรรยากาศบนโตะอาหารนั้น... ทางดานไกพี่ใหญกำลังขัด
เงาเครื่องประดับของมัน เสียงกรุงกริ๊งดังขึ้นไมหยุด ไกสอง กำลังเสยผมใหแหลม
เฟยว กอนจะปดออกขางเล็กนอย แลวคลายมันจะไมพอใจ เสยใหมปดไปปดมาอยู
นั่น สวนไกอวนนั้น ตั้งแตที่เห็นหลินฟานเริ่มกิน มันก็จัดการจิกกินทุกสิ่งอยางที่อยู
เบื้องหนาอยางตั้งอกตั้งใจ ราวกับการ กินใหหมดเปนภารกิจอันใหญหลวง โลกหลา
จะแตกสลาย ชีพขาจะวาย ก็ตองกินใหหมด!
ระหวางทีก่ ินหลินฟานก็หันไปสนทนากับเชวียนอวิ๋นเซียน สองตาสบกันหวานชื่น ทั้ง
คูสงกลิ่นอายความรักคละคลุง หลวงพอศากยะชมดูเรื่องราวเบื้องหนาสองตาปริบๆ
ทันใดนั้นมันรูสึกราวกับเปนสวนเกิน...คลายมันเปนคนนอกอยางไรไมรู เพื่อที่จะขจัด
ความรูสึกอันนาอึดอัดใจนี้ หลวงพอศากยะจึงตัดสินใจหันไปเริ่มเปดการสนทนากับ
ศิษยทั้ง 2 ของหลินฟาน ทวาเพียงมันหันไปชมดู มันก็ตองอึ้งคางหนักกวาเดิม
“จิ่วหลิง ขาอยากกินอันนั้นอา...คีบๆ” ไชฉิเฉียวชี้ไปยังอาหารจานหนึ่ง
“อื๊อ...อามมม” จิ่วหลิงเผยยิ้มจนตาหยี กอนจะปอนฉิเฉียว
“จิ่วหลิงอา...ขาจักอวนไปหรือไม หากกินเยอะ...” “มิมีทาง มิอวนหรอก
รูปรางของฉิเฉียวดีที่สุด! ฉิเฉียวตองมิอวนแนนอน”
“อื๊ม! อันนี้อรอยยิง่ ! จิ่วหลิ่งเจาลองบางสิ อามมม” สาวนอยทั้งสองตางผลัดกัน
ปอนอาหาร ทั้งหัวเราะคิกคัก เสียงใสๆ ของพวกนางที่ดังขึ้นในเหลาอาหารไมตาง
อะไรกับสำเนียงสวรรค นับวามีผลกระทบอันรุนแรงตอชายหนุมในเหลานัก!
หลินฟานเองที่กำลังเพลิดเพลินกับการพูดคุยกินอาหารกับเชวียนอวิ๋นเซียน
ถึงกับตองหยุดลงทันใด เมื่อเห็นภาพ ศิษยทั้งสอง
“เดี๋ยวนะ...นี่มัน” ทันใดนั้นหลินฟานรูสึกราวกับวา...มีบางสิ่งที่มันไมคอยจะถูกตอง!!
ยิ่งมองไปยังทีทาการกระทำของศิษยทั้งสอง ไมวา จะฉิเฉียวหรือจิ่วหลิง ทาทาง
การแสดงออกของพวกนางทำใหเขาบังเกิดความหวาดกลัวบางประการขึ้นมาในใจ...
สายตาที่ตางมองกันอยางหวานชื่น ทุกการเคลื่อนไหวทีอ่ อนโยนเอาอกเอาใจ แลดู
สนิทสนมกันเหลือเกิน! บัดซบ! สนิทสนมกันเกินไปแลว!!
“แคกๆ” หลินฟานแกลงกระแอมไอออกมา คลายจะกลาวเตือนใหทั้งคูรักษา
ภาพพจนหนอย ทวาคลายฉิเฉียวกับจิ่วหลิงจะไมไดยินอะไรทั้งสิ้น! พวกนางหัวเราะ
คิกคักและสนทนากันตอ รอยยิ้มที่พวกนางสงให
กันนับวาสะกดใจลูกคาที่มากินในเหลาไมนอย ตอนนี้ทั้งหลายตางหันมามอง
พวกนางเปนสายตาเดียวกัน ในสายตาของทุกผูคนนั้น สาวนอยทั้งสองชางนารักนา
เอ็นดูยิ่งนัก!
“อาจริงสิ…ฉิเฉียว! จิ่วหลิง ตอนนี้ก็นานพอสมควรแลว...ใหอาจารยปลดริบบิ้น
ที่มัดพวกเจาอยูดีไหม?” หลินฟานไปทำนูนนี่นั่นจนไมคอยไดดูแลสองคนนี่สักเทาไร
มาตอนนี้เขาเริ่มตระหนักวามีอะไรบางอยางผิดปกติอุบัติขึ้นมาแลว!
“อา!” “ทานอาจารย ไมตองก็ได! พวกเราเปนเชนนี้ดีแลว! ขาคุนเคยกับศิษยพี่
หญิงยิ่ง!”
“ใชแลวอาจารย! ขาเองก็รูสึกวาดียิ่งนักที่มีศิษยนองอยูเคียงขางเชนนี้!” ฉิเฉียว
กับจิ่วหลิงสายหัวไปมา เห็นไดชัดวาไมตองการใหแยกออก
“แตวามันไมคอยสะดวกไมใชรึไง?” หลินฟานกลาวถามออมๆ เขารูสึกวาไมควร
พูดออกมาตรงๆ
“ไมเลย ชางสะดวกยิ่ง!” “ใชแลวอาจารย! มิมีใดไมสะดวก! ยามขาอาบน้ำก็จะ
มีคนคอยถูหลังใหขา”
“ใชแลว! ใชแลว!” เมื่อเห็นทั้งคูตางเขากันไดดีขนาดนี้ทั้งยังกลาวตอบรับกันถึง
ระดับนี้ หลินฟานก็ไรคำใดจะกลาวสืบไป หลินฟานหันไปกวนเชวียนอวิ๋นเซียนแทน
เขาเอาขอศอกสะกิดเอวนางเบาๆ กอนจะกระพริบตาขางนึงปริบๆ พรอมยักคิ้วดานที่
ศิษยทั้งสองนั่งอยู... ราวกับจะบอกวา ในฐานะภรรยาของอาจารย นางสมควรกลาว
อะไรบางอยางเพื่อโนม นาวใหศิษยทั้งสองออกจากสถานการณสุมเสี่ยงเชนนี้สิ!!
ทวาเชวียนอวิ๋นเซียนเพียงหัวเราะออกมาเบาๆ กอนจะเผยยิ้มออกมาอยางออนโยน
ตอนที่ 807 ขางหนา มีคนตีกัน
วินาทีนี้หลินฟานไดตระหนักถึงบางสิ่ง...เขาไดกระทำความผิดพลาดอันใหญ
หลวงลงไปเสียแลว ตอนนี้เรื่องราวแปรเปลี่ยนกลับกลายหนักหนา!!
เมื่อมองสถานการณตอนนี้ เขารูดีวามันสายไปแลวสำหรับการกอบกู...! สุดทาย
เขาก็ทำไดเพียงระบายลมหายใจออกมาอยางทอดถอน ทำไดแคปลอยใหทุกสิ่งทุก
อยางมันเปนไปตามวิถีของมัน...!!
แตพอหลินฟานคิดอีกที เรื่องนี้ก็นับวาไมเลวเหมือนกัน...
หลังมื้ออาหารอันแสนอรอยจบลง...
หลวงพอศากยะนับวาทำตามใจหลินฟานมาก สั่งทำอะไรทำ อันที่จริงตอนนี้มัน
แทบจะเปนมาลาใหหลินฟานขี่แลวดวยซ้ำ
ตกดึก...
“เอาละหัวโลน เห็นแกความจริงใจของเจาขาจะสงวิชานี้ใหเจาแลวกัน...เห็นรึ
ยังวาขาใจดีกับเจาขนาดไหน?” ในที่สุดหลินฟานก็สงมอบวิชาแสงพิสุทธิ์ชำระลาง
ขององคสัมมาสัมพุทธเจาใหหลวงพอศากยะ
“ดียิ่ง! ประสพชางดีที่สุด! อาตมาผูตอยต่ำซาบซึ้งจนน้ำตาไหลแลว!!”
หลวงพอศากยะรูสึกหัวใจคลายจะกระดอนออกนอกอก!
นี่คือเทพวิชาแสงพอสุทธิ์ชำระลางขององคสัมมาสัมพัทธเจาในตำนาน! หากมัน
ฝกฝนจนบรรลุวิชาได มันจะกลายเปนตัวตนอันทาทายสวรรคแนนอน!!
“ฮึก ฮึก...ฮืออออออออออออออออออออออ!!!!!”
ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเทาไหร หลวงพอศากยะก็เกินใจจะอดทน คนร่ำไหบอน้ำตา
แตกออกมาดวยความยินดี!!
นี่คือมหาโชคลาภที่เสมือนมันไดใชบุญที่สั่งสมมา 3 ชาติภพแลกมาไมมีผิด!!
สำหรับหลินฟานแลว ตอนนี้เขาก็ไมไดสนใจอะไรวิชาแสงพิสุทธิ์ชำระลางอะไรนี่
มากนัก เพราะเขาฝกฝนมันจนบรรลุแลว กระทั่งตอนนี้เปนตัวตนสูงสุดหลินฟานก็
ชำระใหมันบริสุทธิ์ได!
ทวาขั้นตอนการดำเนินการก็ตองลำบากนิดหนอย...เพราะเขาตองกระทืบใหอีก
ฝายเสียกอน! ทั้งตองกระทืบใหเหมือนสุนัขชราใกลสิ้นลม! โอกาสสำเร็จของวิชาแสง
พิสุทธิ์ชำระลางนี่ถึงจะสูงสุด!!
ภายในบานพักสวนตัวของกองทัพปฏิวัติ
เชวียนอวิ๋นเซียนกำลังยืนสางผมหอมจรุงอยูหนาคันฉอง ผมสีดำยาวสลวยดั่ง
มานน้ำตกทอดวางอยูบนไหลขาวกระจาง กอปรดวยรูปรางของนางที่งามหมดจดยาก
จะหาใดเทียบเชนนี้ ทำใหหลินฟานรูสึกตื่นตัวขึ้นมาไมนอย
“ภรรยาจาสามีมาแลววว!!” สุดทายหลินฟานก็ยิ้มกรุมกริ่มไมอาจทนไหวสืบไป โผไป
อุมอีกฝายทันใด ไกลแคไหนคือใกลสำแดงเดชรางบรรลุถึงเตียงในเวลาเพียงหวงคิด
“สามี...ดูทานทำเขาเถิด จักรีบรอนอันใดขนาดนั้นกัน!? ตอไปก็มิใชวาพวกเรา
จักมิมีเวลาเสียหนอย”
เชวียนอวิ๋นเซียนนอนเอนอยูบนเตียง จองมองหลินฟานที่คลายรีบรอนไมนอย
คอยยกนิ้วไปแตะริมฝปากหลินฟานพรอมแยมยิ้มออกมา จากนั้นนางก็ดึงรางหลิน
ฟานใหนั่งลงอยางใจเย็น
“พรุงนี้ทา นจักออกไปแลวหรือ?” เชวียนอวิ๋นเซียนเริ่มนวดไหลใหหลินฟาน
เบาๆ มือออนโยนบอบบางเนียนนุมของนางยามลูบไลบีบนวดตองสะทอนกับแสงไฟ
สลัวในหองหับ เผยสภาวะรัญจวนชวนฝนไมนอย
“ใช ขาวาจะพาเจาชิคกี้ไปชนเผามหามังกรซักหนอย มันจะไดรูถึงชาติกำเนิด
ของมันนะ” หลินฟานกลาวตอบพรอมหลับตาพริ้มอยางเคลิบเคลิ้มเมื่อไดรับสัมผัส
สบายๆ จากมือออนนุมที่บีบเฟนบาไหล
“สามี...ขาพเจาอยากมีบุตรใหทาน” เชวียนอวิ๋นเซียนวางศีรษะลงไหลหลินฟา
นกอนจะขยับริมฝปากไปกลาวเบาๆ ขางหูหลินฟาน เสียงเบาๆ พรอมลมหายใจอุน
รอนชวนใหหลินฟานสะทานไปเล็กนอย เสียงนี้แมจะออนโยนและผอนคลายหากแต
กลับปลุกความรูสึกใหพวยพุง ขึ้นมาสูงปรี๊ด
“ขาก็ไมไดลองหมดทุกทาแลวหรือไง...”
หลินฟานเองก็สงสัยในใจไมนอย เขาก็จัดหนักจัดเต็มมาหลายตอหลายครั้งแลว
แตกระนั้นมันก็ยังไมเขาเปาอีกหรือ? เรื่องนี้พิกลไมสมเหตุสมผลนัก!
คงเปนไปไมไดที่รางกายเขาจะมีขอบกพรองอะไรใชหรือไม?
แตเรื่องนั้นเปนไปไมได! รางของเขาแทบจะเปนเอกะไรซึ่งความเจ็บปวยหรือ
โรคใดๆ กล้ำกราย! มันสมบูรณพรอมทั้งไรซงึ่ ความบกพรองอันชั่วรายใดๆ ทั้งมวล!
เขาจะไปมีปญหาอะไรแบบนั้นไดอยางไร?!
“เชนนั้นคืนนี้ทาน...ลองจัดใหหนักกวาเดิมดีหรือไม?”
สำหรับโลกภายนอกแลวอวิ๋นเซียนอาจจะเปนประมุขคนหนึ่ง หากแตเมื่อสิ้นวัน
พลบค่ำลง นางก็จะกลายเปนนางมารนอยที่คอยเอาอกเอาใจหลินฟาน
มื่อที่ออนโยนเริ่มลูบไลจากไหลไปยังแผงอกของหลินฟานลดต่ำลงไปเรื่อยๆ นิ้ว
กรีดผานผานหนาทองที่มีมดั กลามแกรงเรียงราย สุดทายนิ้วมือที่เย็นเยียบเล็กนอย
ดังกลาว ก็คอยๆ ควาหยิบจับบางสิ่ง เพียงสัมผัสออนโยนเบาๆ ลูบไลเฟนคลึงไมกี่ครา
หลินฟานก็คลายถูกมนตสะกดทันใด
“โอววว!!”
หลินฟานลุกตระหงานดั่งยอดเจดียปราบมารในทันใด แววตายังเผยความ
รอนแรงดัง่ เพลิงกัลป!!
“ไดเวลาที่สามีจะเผยสุดยอดกระบวนทาแลว!!”
เขาชอนรางเชวียนอวิ๋นเซียนขึ้นมาทั้งตัวทันใด ขานางก็รีบรัดพันเอวเขาเอาไว
ไมใหรวงหลน สองมือยังโอบคอสามีรักอยางออนโยน
“เมื่อไมนานมานี้ขาไดคนควาถึงทวงทา และแงมุมรวมถึงองศาเล็กนอย...นี่มนั
จะเพิ่มประสิทธิภาพใหการลงมือของขาสูงขึ้น เจาเตรียมใจเถอะ...มันจะถี่รัวจนเจา
หายใจไมทันแนนอน!!”
แกมเชวียนอวิ๋นเซียนแดงก่ำขึ้นมาทันใด นางกลาวตอบออกไปเสียงออน
“คืนนี้ผูอื่นจักกระทำตามแตที่ทานตองการ”
เมื่อหลินฟานไดยินคำนี้เขาก็ไมอาจสะกดกลั้นรั้งรอไดสบื ไป เลือดในกายพุง
พลานกูรองกังวานกึกกอง…
...
เชาวันถัดมา...
“ประสพ...เออ...ประสพ...เปนอันใดหรือไม ใยแลดูซูบๆ อาการดูมิคอยดีเชนนั้น
เลา?” แมจะกลาวแบบนั้นแตสภาพหลวงพอศากยะก็ไมไดดีกวากันสักเทาไร มันใช
เวลาทั้งคืนในการทำความใจวิชาแสงพิสุทธิ์ชำระลาง เพราะศักยภาพและความเปน
อัจฉริยะอันมากลนของมัน ทำใหมันทองเคล็ดและจดจำใจความสำคัญของวิชาได
ภายในคืนเดียว...
“ไมมีอะไรหรอก หัวโลน ขาออกไปครั้งนี้ก็ฝากกองทัพปฏิวัติใหเจาดูแลดวย
อยาลืมรับคนเขารวมเพิ่มเยอะๆ ละ” หลินฟานกลาวสั่ง
เมื่อคืนนั้นเขาไดลงมือไปหลายกระบวนทานัก เรียกวากระทั่งเปนเขาหลินฟาน
ตื่นมายังรูสึกเพลียไมนอย!
นี่ยังนับวาเหนื่อยลากินแรงเสียยิ่งกวารบพุงกับตัวตนสูงสุดของชนเผาโบราณเสียอีก!!
“ประสพอยาไดกังวล เชื่อมืออาตมาเถอะ” หลวงพอศากยะตอบกลับอยางมั่นใจ
“เอาละ งั้นขาฝากเจาดวย”
สำหรับหลินฟานแลว กองทัพปฏิวัติก็มีประโยชนกับเขาไมนอย คอยเก็บพวก
ปลาซิวปลาสรอยใหเขาไมตองเหนื่อยแรง!
การออกไปครั้งนี้หลินฟานตั้งใจจะพาชิคกี้ไปยังชนเผามหามังกรและตามหา
มารดาผูใหกำเนิดมัน! ตอนนี้หลินฟานคอนขางมั่นใจกวา 9 สวนวาชิคกี้สมควรเปนผล
พวงจากชนเผามหามังกรและชนเผาฟนิกซแนนอน!!
สวนทางดานชิคกี้นั้น มันไมไดรูสึกรูสายินดียินรายอะไรกับเรื่องนี้แมแตนิด
เดียว…จะพอแมหรือชนเผาตนกำเนิดอะไรมันไมไดสนใจสักนิด!!
แนนอนวาชิคกี้ไมสนแตหลินฟานนั้นไมสนไมได! เพราะสำหรับเขาแลวชนเผา
มหามังกรเปน 1 ใน 10 สัตวโบราณที่แข็งแกรงอยางถึงที่สุด! ดวยเหตุนี้อีกฝาย
สมควรมีโอสถเจิ้งหยางเก็บสะสมอยูเปนจำนวนมหาศาลแน! หากชิคกี้สามารถ
ปกครองชนเผามหามังกรได ความมั่งคั่งนั่นไมใชจะเปนของเขารึไง?
ดวยระดับพลังความแข็งแกรงของหลินฟานตอนนี้ ในแงพลังอำนาจทำลายลาง
ที่ปะทุออก อาจจะยังดอยกวาตัวตนสูงสุดรวมถึงตัวตนระดับสูงๆ อยูบาง
ทวาดวยความแข็งแกรงทางกายภาพของรางกายเขาตอนนี้ ก็มากพอที่จะทำให
เขากลายเปนตัวตนอันคงกระพันไรเทียมทานแลว!!
ดังนั้นในโลกอันกวางใหญนี้ มันไรซึ่งทีใ่ ดที่หลินฟานไมอาจไปได!!
นอกดินแดนผูพิทักษ...
“จำไดนะชิคกี้ เอาดีๆ แกเขาใจเรื่องที่แกตองทำชัดแลวนะ?! ครั้งนี้จะสำเร็จ
หรือลมเหลวขึ้นอยูกับฝมือแกตัวเดียวแลวนา! ชัวรนะ!!” หลินฟานคอยๆ กระซิบ
ออกมาเบาๆ ราวกับกลัวคนอื่นไดยิน
ชิคกี้มองไปยังหลินฟานดวยทาทางมั่นใจ กอนที่จะยกปกขึ้นมาเผยใหเห็นขน 5
เสน พรอมหรี่ตาเชิดหนา...
“เดี๋ยวๆ วาไงนะ?” หลินฟานอึ้งไป ไมอาจเขาใจไดทันที จากนั้นเมื่อไดสติเขาก็
แผดคำออกมาเสียงดัง
“เชี่ย! ชิคกี้! อยาบอกนะวาแกจะเอาสวนแบง 50%!?”
“กุกกุกกู!!”
ชิคกี้พยักหนารับทันใด หัวไกนอยๆ ผงกระรัว รวดเร็วกวาทุกสิ่งบนโลกหลา!!
“ชิบหายเอย! นี่มันจะขูดรีดกันไปแลว!” หลินฟานอยากรองไห ถลมมารดามัน
เถอะ! เขาไมเจอชิคกี้แปบเดียวไหงมันกลายเปนไกขี้ไถไปแลว!?
หลินฟานกับชิคกี้เองก็คงไมคิดมากอนวาจะมีวันที่ตองมาทะเลาะกันเรื่องแบง
ของแบบนี้ ดูแลวทามันจะไมจบลงงายๆ เสียดวย!
กาลกอนนั้นไมวาสิ่งใด คนไกลวนแบงกันไดงายๆ ไมมีปญหาอะไรเชนนี้...
ตอนนี้ชิคกี้รูสึกไมพอใจเล็กนอย กอนที่จะผายปกไปยังลูกนอยทั้ง 3
ความหมายของมันชัดเจนนัก! ตอนนี้มันมีครอบครัวใหญแลวนะ! คาใชจายในการ
เลี้ยงลูก 3 คนมันนอยที่ไหนละ!!
“ฮัยยา...ไมคิดเลยวาระหวางพวกเราจะเปลี่ยนไปแบบนี้...ออ...ใชซ.ี่ ..เดี๋ยวนี้เจา
มีครอบครัวแลวนี่นา ถึงกับมาตอรองกับขาแลว... ดูเจามองขาสิ ทำราวกับขารังแก
หรือโกงเจา...โอยขาเจ็บแปลบในใจอยางบอกไมถูก ตอไปขาไมเลี้ยงเจาแลว!!”
หลินฟานมองไปยังชิคกี้ดวยสายตาเจ็บปวด ราวกับจะตัดพอเจาชิคกี้
เมื่อเห็นสีหนาสลดของหลินฟานชิคกี้ก็ลังเลอยูพักนึง สุดทายก็หดขนปกลง
เหลือ 1 เสนอยางออนใจ!
“เยี่ยม! จัดไปตามนั้น! ปะ! พวกเราไปลุยกัน!!”
หนาสลดหดหูของหลินฟานเปลี่ยนเปนยิ้มแยมแจมใสทันใด จากนั้นก็พาเจาชิค
กี้วูบหายไปในความวางเปลากับเขา มุงหนาไปยังชนเผามหามังกร 1 ใน 10 สัตว
โบราณทันใด!!
ดวยระดับพลังความแข็งแกรงของเขาตอนนี้ เพียงพริบตาเดียวก็ทำใหเขาพุงราง
ตัดผานระยะทางหลายลานลี้!
เขาพุงผานฐานที่มั่นของชนเผาโบราณหลายตอหลายแหงอยางเปดเผย ไม
แมแตจะใชเรนกายเสียดวยซ้ำ นี่นับเปนอะไรที่ขม ขวัญผูคนนัก!
เพราะหากตัวตนสูงสุดโบราณนั้นคนพบการมาของเขาจะเปนอะไรที่ดีมาก!
ตราบใดที่พวกมันกลาเสนอหนามา เขาจะถลมมันใหเละ!!
ดวยตัวตนสูงสุดที่อยูขางกายเขาถึง 2 ตน ไมมีทางที่เขาจะแพพายในการปะทะ!!
“เอะ? ที่นี่มันแปลกๆ พิกลแหะ?”
หลังจากที่ขามดินแดนใหญของชนเผาโบราณมา 3 ดินแดน หลินฟานพลัน
สัมผัสไดวาพื้นที่บริเวณนี้มันแปลกไปพิกล เจตนาฆาฟนอบอวลฟุงตลบ ทองฟาคลาย
จะวิปริตกลิ่นอายโลหิตคาวคลุง
“ยามันเถอะ...ไมใชวาที่นี่มันพึ่งมีสงครามครั้งใหญกันหรอกนะ?”
ในสายตาของเขาตอนนี้มองอยางไรสถานที่แหงนี้มันก็นรกบนดินชัดๆ
ชิคกี้ที่ยืนอยูบนไหลหลินฟานเองก็อดไมไดที่จะทำตาโตออกมา มันรูสึกราวกับ
ผืนฟาบริเวณนี้พรอมถลมลงมาไดทุกเมื่อ!
ซูมมมม!!!
ทันใดนั้นมีแสงหลายเสนพุงมาจากสุดขอบฟาไกลตา คลายกำลังไลลากันอยู
“ชิคกี้ ดูเหมือนขางหนาจะมีคนตีกัน...พวกเราไปแอบดูกันดีกวา”
“กุกกู…!”
ชิคกี้ตีปกพั่บๆ อยางตื่นเตน!
ตอนที่ 808 โอกาสมาแลว ไดเวลาเผยโฉม
หลินฟานเรนกายโดยพลัน กลิ่นอายพลังทั้งหมดทั้งมวลของเขายังถูกปดซอนไว
อยางดี ตอนนี้การซอนตัวของเขาเรียกวาเปนอะไรที่ทาทายสวรรคนัก เขากับชิคกี้
แอบซอนอยูในหวงลึกของความวางเปลาอยางมิดชิด!!
ฮูมมมมมมมมมม!!!
ทันใดนั้นเองเสียงคำรามหนึ่งพลันดังขึ้นมา เสียงนั่นยังทรงพลังถึงขัน้ ทำใหแดน
ดินสะเทือน!
เหนือฟาปรากฏรางมหามังกรตัวเขื่องยาวหลายลานเชี๊ยะเหินตระหงาน
ทามกลางสวรรคและโลก ทุกกรงเล็บที่ตบฟาดลงมา ยังผลใหปฐพีสะทานสะเทือน
ขุนเขาทะเลพินาศทลาย ความวางเปลาที่ฉีกขาดยังตองใชเวลาสักพักกวาจะคืนตัว!
“บรรพบุรุษมังกรวานจุน ขาจักรพรรดินีนับวามองเจาผิดไปจริงๆ ! มิคิดวาที่แท
เจาจักเปนเดียรัจฉานสุนัข! ที่ตัวอุบาทวชนเผาโบราณเลี้ยงไวใชงาน!!”
มหามังกรตัวสีขาวดั่งหิมะมวนกายตลบฟาเมฆากำจาย กอนจะจำแลงกายเปน
สตรีนางหนึ่ง สตรีนางนี้ใสชุดเกราะแกรงกราวดุดันไวทั่วกาย ในมือปรากฏงาวมังกร
ทรงพลังควงขวับๆ ปานจักรผัน กลิ่นอายสภาวะของนางแกรงกลายากสยบไมใชนอย!
“เอาเชี่ย! นั่นไมใชจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูรึไง!? เปนสาวนอยชนเผามหามังกรที่
ถูกพี่ประมุขระเบิดเตานมไปครั้งกอนไมผิดแน! ใหตายเถอะ...ลูกเจี๊ยบนอยนางนี้ ใช
วิธีอะไรกันแน ถึงทำใหนมกลับมาใหญบึ้มไดแบบนั้น?! ความสามารถนี่มันจะไมทา
ทายสวรรคไปหนอยรึไง หา!?” หลินฟานเหมอมองสองเตาเขยาโลกดวยสายตา
เหลือเชื่อ
“พอๆ ตอนนี้ตองจับตาดูเรื่องราวกอน... วาแตไอบรรพบุรุษมังกรวานจุนนั่นมัน
ใครอีก เรื่องราวนี่มีความเปนมายังไงนะ?”
หลินฟานที่ซอนตัวอยูในความวางเปลารูสึกประหลาดใจไมนอย ทวาตอนนี้เขา
เลือกที่จะซุมรอดูสถานการณใหรูวาเรื่องราวมันเปนมายังไงกันแนกอน แลวคอยลงมือ
ตีชิงตามไฟ
รางมหามังกรยักษอีกตัวนั้นสีดำทมิฬตัวใหญมหึมาจนราวกับเปนกำแพงเมือง
จีนก็ไมปาน ยากที่จะมีใครบอกไดวารางกายของมันนั้นมีจุดสิ้นสุดที่ใด เพียงการ
เคลื่อนไหวเบาๆ ของมหามังกรมหึมาตัวนี้ โลกหลาก็คลายจะกระเพื่อมสั่นไหว! หาก
ทวาพริบตาตอมาแสงดำพลันเปลงเรืองรอง รางมหามังกรตัวเขื่องกลับจำแลงกายเปน
มนุษยไปอีกคน
มหามังกรตัวเล็กลงมาหนอยที่คลายติดตามมา เมื่อเห็นบรรพบุรุษมังกรวานจุน
จำแลงเปนมนุษย พวกมันก็หันมาจำแลงกายเปนมนุษยเชนเดียวกัน กอนจะมายืน
เรียงรายอยูดานหลัง
“เฉินหวู เปนเพราะขาเห็นวาเจานั้นมีพรสวรรคเลิศล้ำอันหาไดยากยิ่ง...ขาจึง
ยื่นขอเสนอใหเจาเขารวมกับชนเผาโบราณดวยกันกับขา...เจาเองก็มิไดโงงม เชนนั้น
เจาก็สมควรรูดี...วาอะไรที่มนั ดีตอตัวเจา” รางกายของบรรพบุรุษวานจุนนั้นใหญโต
ไมนอย ดวยชุดคลุมมังกรพรอมใบหนาที่เผยแผบารมีอำนาจ ความนาเกรงขามยังแผ
พุงออกจากหวางคิ้ว ทุกทวงทาของมันราวกับจะเปลงสนามพลังสะกดขมสรรพชีวิต!!
“เหลวไหล! ขายอมตายเสียจักประเสริฐกวาตองไปรวมมือกับพวกระยำชนเผา
โบราณ!!” จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูคำรามลั่น มือกระชับงาวมังกรแนน
นางรูดีวานางไมใชคูมือของบรรพบุรุษมังกรวานจุน
หากไมใชเพราะความจริงที่วา บรรพบุรุษมังกรวานจุนคิดเกลี้ยกลอมใหนางเขา
รวมชนเผาโบราณ และเปดโอกาสใหนางไดตอตานเสพรับความสิ้นหวังทีละนิด เกรง
วานางคงไมมีปญญาสูไปถอยไปจนมาถึงที่นี่ได…
“เฉินหวู เจาหยุดตอตานขาเสียเถอะ...ขาลำบากเพียงลมหายใจเดียวก็สังหาร
เจาไดงายดาย แตเนื่องจากขานั้นเล็งเห็นถึงศักยภาพของเจา เจาสมควรสำนึกไดแลว
วาอะไรมันดีตอเจา...” บรรพบุรุษมังกรวานจุนกลาวออกมา
“เหอะ! อยาไดทำเปนพูดดีไปเถอะ! เจาคิดวาขาจักรพรรดินีโงงมดูเจาไมออก
หรือไร วาสายตาของเจานั้นมีแตตัณหาราคะ! ที่เจาตองการก็มีแตขึ้นขี่ถลมขาเทานั้น!
อาศัยเศษเดนชั่วชาติทรยศเผาพันธุมหามังกรเชนเจา ยังคิดวาคูควรจะขึ้นขี่ขาถลมขา
จักรพรรดินีไดหรือ!?”
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูนั้นชางตรงไปตรงมานัก ไมไดเหลือที่วางใหบรรพบุรุษ
มังกรวานจุนโตแยงแมเพียงนิด
หลินฟานที่ซอนตัวอยูในชองวางแทบสำลักน้ำลายออกมา
‘เชี่ย นังตัวรายนั่นชางดุดันแท! เปนเลนไป!!’
แตทำไมครั้งสุดทายที่เขาจับนมนางกระทั่งระเบิดเตานมนาง ไมเห็นนางจะดุดัน
อะไรขนาดนี้นะ? นี่มันแปลกจริงๆ ...
และตอนนี้เมื่อไดฟงบทสนทนาหลินฟานก็รูแลววาสถานการณรวมถึงเรื่องราว
มันมีความเปนมายังไง
บรรพบุรุษมังกรวานจุนกับผูติดตามของมันแปรพักตรเขารวมกับชนเผาโบราณ
และมันก็พยายามจะชักจูงสหายรวมเผาใหเขารวมกับมันดวย แตดูทาแลวสหายรวม
เผาจะปฏิเสธกระทั่งเกิดการตอสูเขนฆากัน...
ความจริงที่วาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูยังไมยอมแพแมจะถูกไลตอนบีบคั้นมา
จนถึงจุดนี้ หลินฟานก็นับถือใจของนางไมนอย...
และมีคำกลาวที่วา ศัตรูของศัตรูก็คือเพื่อน!
ตอนนี้หลินฟานก็คิดจะปรากฏตัวออกมาชวยเหลือจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู แต
เขาก็ตัดสินใจหยุดคิดครูหนึ่ง...
จะขี้หมูขี้หมาเขาก็ไปขยำนมนาง...กระทั่งลงมือดวยวิชาหมัดเทพดาวเหนือ
ระเบิดเตานม...จนทำใหหนั่นเนื้ออันทรงคุณคาของนางถึงกับระเบิดบึ้มออก! ถึงแม
ตอนนี้นางจะหายดีแลว…แตความแคนในใจก็ไมใชอะไรที่จะหายไปงายๆ !!
เพราะสุดทายแลวความแคนของอิสตรีนั้นก็เปนอะไรที่นากลัวที่สุดในสามโลก
ถึงแมเขาจะออกไปชวยนาง ก็ยากที่จะกลาววานางจะไมชักมีดมาจวงแทงขาง
หลังเขาทีเผลอ...
จะลงมือทั้งทีก็ตองวางแผนใหดีซักกะหนอย!
และเเผนที่เขาคิดไดตั้งแตเมื่อกี้ก็คือหยุดรอกอน...
เขาจะรอใหจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูตกอยูในสภาพสิ้นหวังอยางถึงที่สุด
หลังจากนั้นเขาก็จะปรากฏตัวออกไปหลอๆ ชวยเหลือนางใหพนหวงวิกฤต! เขาตำรา
วีรบุรุษควบมาขาวชวยเหลือหญิงงาม!!
แตพอคิดไปคิดมา ลองทบทวนดูดีๆ แลวหลินฟานรูสึกวามันยังไมเขาทาสัก
เทาไร! เขาตระหนักวามันขาดอารมณรวมไปนิด แถมทื่อเกินไปหนอย!
“เอาละ แบบนั้นนาจะดีกวา”
ตอนนี้เองแผนการณที่หลินฟานรางในใจก็คลายจะสมบูรณแลว อยางไรเสียเขา
ก็ตองรอวินาทีสุดทายที่จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูสิ้นทาแลวจริงๆ เขาถึงจะปรากฏตัว
ออกไปอยางเทหๆ !
“เฉินหวู! จะ เจา…! ประเสริฐสุราคารวะมิรับ คิดดื่มสุราจับกรอก! เชนนั้นขาจัก
ผนึกเจา และเปลี่ยนใหเจาเปนตุกตาบำเรอของขา!!” บรรพบุรุษมังกรวานจุนมีโทสะ
หนักหนา หนามันมืดมนลงอยางนากลัว
ตัวตนอันทรงพลังดั่งบรรพบุรุษมังกร ยังจะยอมใหมังกรตัวเมียตัวหนึ่งดูถูกมัน
ตอหนาผูอื่นเชนนี้ไดหรือ!?
“เหอะ! พวกเจาทั้งหมดคิดดีแลวหรือที่จักทรยศชนเผามหามังกรและเขา
รวมกับตัวอุบาทวนี่!?” จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูตะโกนถามกลุมคนที่ยืนอยูดานหลัง
บรรพบุรุษมังกรวานจุน
“จักรพรรดินีมังกรเฉินหวู นกดียอมเลือกไมใหญทำรัง...พวกเราเพียงเลือกขางที่
แข็งแกรงกวาเทานั้น! หลังจากที่ฝกฝนอดทนมาจนมีวันนี้...ทานจักใหพวกเรามาตก
ตายอยางไรคาในหายนะเหลวไหลเชนนี้ไดอยางไร” คนของชนเผามหามังกรกลุม
ดังกลาวที่ยืนอยูดานหลังบรรพบุรุษมังกรวานจุนกลาวตอบอยางไมแยแส
“นี่นะเหรอวิถีของพวกเจา เมื่อเผชิญความยากลำบากและหายนะ ก็เลือกเสนทาง
แหงการทรยศพี่นองและชาติพันธของตัวเอง? วันนี้ ขาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู จัก
พิพากษาโทษประหารใหเจาทั้งหมดแทนทานเทพเจามังกร!!”
“วานจุน! สุดทายเจามันก็เตาหดหัว ความกลาของเจายังสูตัวเมียเชนขามิได! ขี้
ขลาดเชนเจายังมีหนาเรียกตัวเองวาบรรพบุรุษมังกรอีกหรือ? จักดีเสียกวาที่เจาจักทิ้ง
นามของชนเผามหามังกรไปเสีย!!”
“เทพยุทธพิชิตสรรพสิ่ง!”
ทันใดนั้นจักรพรรดินีมังกรเรงเราพลังมหาศาลขึ้นทั่วราง รางของนางสะทานสั่น
ไหวกอนจะเริ่มแปรเปลี่ยนไปทันใด ราวกับนางสำเร็จวิชาแยกรางขั้นสุดยอด ปรากฏ
ราง 8 รางที่เหมือนกับกับนางแยกออกมา!!
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูทั้ง 8 นั้นมีเพียงเปาหมายเดียวเทานั้น งาวมังกรในมือ
ของพวกนางแตละตนเปลงแสงสวางเรืองรอง ปราณมังกรเออลนขุนคลั่กทวมหลา
วาดงาวคราหนึ่ง วางเปลาแหลกสลายเปนเสี่ยงปานแกวกระจก ปราณมังกรพลัน
ทะลวงความวางเปลาออกมาควบแนนเปนมังกรพลังทั้ง 8! เหินขนดวนเวียนอยาง
เกรี้ยวกราด กอนจะควบรวมผสานเปนหนึ่งเดียว!!
“ลงนรกไปเสีย!!”
แสงสวางสาดสองออกทั่วสารทิศ คลื่นพลังอำนาจทำลายลางพุงแหวกฟาผา
ปฐพี ปรี่ตรงไปหาบรรพบุรุษมังกรวานจุนอยางนาครั่นคราม!
“เฉินหวู เจาคิดจริงๆ หรือวาจะตอตานขาไดดวยพลังอำนาจเพียงเทานี้ของ
เจา? มิประมาณตัว!”
บรรพบุรุษมังกรวานจุนไมไดรีบรอนอะไรเพียงหงายฝามือใหญโตของมันออก
ชาๆ ประหนึ่งจะปกคลุมควาจับไดทั้งโลกหลา หัตถพลังแกรงกราวพุงไปยังมังกรพลัง
ตัวเขื่องทันใด! มังกรพลังที่บังเกิดจากปราณมังกรทั้ง 8 ผสานเปนหนึ่ง ราวกับลูกพลับ
ออนนุม… เพียงหัตถพลังของจักรพรรดิมังกรวานจุนควาจับบีบกำ พลังก็สิ้นสลาย
กระจัดกระจายหายไป ทั้งปราณมังกรที่กระจัดกระจายยังถูกบรรพบุรุษมังกรวานจุน
ดูดกลืนไปจนหมดสิ้น...
“เทพยุทธ 12 กระบวน!”
“เปลาประโยชน...ขาคือบรรพบุรุษมังกร! ปราณมังกรของเจานั้นหาไดตางอันใด
กับอาหารเลิศรสสำหรับขาไม...”
บรรพบุรุษมังกรวานจุนจี้ออกดวย 1 ดัชนี ทันใดนั้นพื้นที่และกาลอวกาศทั่ว
อาณาบริเวณคลายถูกผนึก พลังงานมหาศาลเออลนออกมาจากความวางเปลาฉีก
กระชากชองวางเปนชิ้นๆ บังเกิดเปนรอยแตกของชองวาง รุกคืบไปอยางเชื่องชา!
พลังอำนาจนี้แมจะเปนจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู ก็มิอาจทานรับได!!
พลังชั่วชีวิตปะทุออก นางยกงาวเทพยุทธขึ้นมาคอนบังไวทันทวงที ทวางาวที่อยู
ในมือนางพลันบังเกิดเสียงปริแตกขึ้นมายามเมื่อรอยแยกสัมผัสถูก! ทันใดนั้นคลายมัน
ไมอาจทานทนรับไหว ทั่วงาวปรากฏรอยปริราวกำจายดั่งใยแมงมุม!
ปงงงงงง!!
“อออคคค!!”
งาวระเบิดออก รางของนางถูกพลังกระแทกซัดกระเด็นถอยไปหลายกาวใหญ
โลหิตคำโตกระอักลนจากริมฝปากงาม ยังราดรดลงไปทั่วหนั่นเนื้อกลมโตอันเนียนนุม
ที่เผยออก...เกราะอกของนาง ที่แทหลุดลอยกระเด็นดวยถูกพลังซัดกระแทกตั้งแต
กอนหนา ยามนี้ยังหมุนเควงควางในอากาศ...
“จักรพรรดินีมังกร ขาจักฝกเจาใหเปนทาสบำเรอของขา! ขาจักใหเจาผานพน
คืนวันอันแสนทรมานไปอยางไรสิ้นสุด! ศักดิ์ศรีที่เจาหวงแหน ขาจักย่ำยีทำลายให
พินาศหมดสิ้น! หลังจากนั้นเจาจักเปนไดเพียงสุนัขที่คอยกระทำตามคำสั่งของขา!!”
บรรพบุรุษมังกรวานจุนระเบิดเสียงหัวเราะอยางดุราย ดวงตาของมันยังเปลง
ประกายอำมหิตนากลัว
รางจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูสั่นสะทานไปทันใด เมื่อถูกแรงกดดันอันเหนือชั้น
กดทับ หากแตแววตาของนางยังทอแสงออกมาอยางดุรายไมยินยอม
“วานจุน เจาอยาไดดวนมีความสุขไป! ทิ้งความภาคภูมิใจแหงเผาพันธุหันไปกม
หัวรับใชชนเผาโบราณเยี่ยงสุนัขเชนเจา! ชั่วชีวิตเจาก็เปนไดแคสุนัขเลี้ยงของชนเผา
โบราณ!!”
“เหอะ! รนหาที่ตาย!!”
“ไปจัดการนางเสีย!!” บรรพบุรุษมังกรวานจุนกลาวสั่ง
“ทราบ!”
ตอนนี้จักรพรดรินีมังกรเฉินหวูตกอยูในหวงเวลาแหงความสิ้นหวัง หากแตใจ
นางยังไมยินยอมรับความพายแพ สองตาจับจองไปยังรางมหามังกรที่กำลังพุงมาอยาง
แกรงกราว นางคิดสูตาย!
นางนั้นถูกวาจาปนน้ำเปนตัวของบรรพบุรุษมังกรวานจุนหลอกดวยคิดวาจะไป
ทำภารกิจ กระทั่งติดตามอีกฝายออกมาจนอยูหางไกลจากฐานที่มั่นของชนเผามหา
มังกร... สุดทายใครจะไปคิดวาเรื่องราวกลับกลายเปนเชนนี้ ทั้งอีกฝายยังคิดใหนาง
เขารวมกับชนเผาโบราณ!!
“ฮาๆ ๆ ๆ !!!”
จักรพรรดินีมังกรหัวเราะออกมาสนั่นลั่นฟา ปราณมังกรทั่วกายของนางเริม่ ปะ
ทมุอยางเกรี้ยวกราด! คลื่นพลังปราณมังกรสีทองหลั่งไหลออกมาอยางลนหลามปาน
จะทวมทนโลกหลา!!
“ไมดีแลว! นางคิดทำลายตัวเอง!!”
จังหวะนี้เอง หลินฟานผูที่แอบซอนอยูในชองวางแหงความวางเปลาพลันแยม
ยิ้มออกมากอนจะพยักหนาเบาๆ ไดโอกาสปรากฏตัวแลว!!
ตอนนี้จักรพรรดินีมังกรสิ้นไรหนทางอื่นใด! สมควรแกเวลาที่เขาจะออกไป
สำแดงสุดยอดการแสดงที่แทจริงใหโลกหลารับรูแลว!!
“ชิคกี้! โทษทีนะ แตรอบนี้ไมมีบทของแกฟะ! ตอนนี้ทั้งหมดขึ้นอยูกับการแสดง
ของพี่ประมุข!!”
หลินฟานเก็บชิคกี้เอาไวในวิมานฟา กอนที่จะกระโดดออกจากชองวางแหง
ความวางเปลา
“ภายใตอัสดงรอนแรงยามแจงเชนนี้ บุรุษมากมายกลับกลุมรุมสาวนอยเพียงคน
เดียว...การกระทำชั่วชาของพวกเจากระทั่งสวรรคยั่งยากจะใหอภัย!!”
แสงประกายเย็นเยียบปรากฏ รางหลินฟานผุดโผลขึ้นทามกลางสวรรคและโลก
ในทันใด สะบัดคอเล็กนอย ผมยาวสลวยโบกสะบัดไปดานหลัง เผยใบหนาหลอเหลา
มั่นมาด ทวงทานี้รับคะแนนพอใจไปเต็ม 10! คนยังประกาศคำออกมาอยางอหังการ
ราวเจาชีวิต!!
ตอนที่ 809 เริม่ ทำตามแผน
แผนนี้ก็นับวาเปนอะไรที่ใจของหลินฟานนั้นคุนเคยกับมันดี! และหลักฐานก็เห็นกันอยู
โทนโทวาแผนนี่มันกินใจขนาดไหน กระทั่งยังใหรางวัลชีวิตหลินฟานมากเพียงใด!!
อยางไรก็ตามการจะดำเนินแผนนี้ได เขาตองมั่นใจเรื่องหนึ่งกอน นั่นคืออีกฝาย
นั้นไมมีพลังสามารถเหนือเขา!
สำหรับบรรพบุรุษมังกรวานจุนนั้น อันที่จริงในแงของพลังฝกตนมันก็นับวา
แข็งแกรงกวาหลินฟาน... ทวาหลินฟานไมไดกลัวมันซักกะผีก! นั่นเพราะความ
แข็งแกรงทางกายภาพของเขาบรรลุเทพสวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 10 เทพนิรันดรแลว!
ตอใหนอนเฉยๆ ไอบานี่ก็ตีเขาไมตาย!!
ในหวงวิกฤตของชีวิต จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูกลับเห็นแผนหลังของบุรุษผูหนึ่ง
ยืนหยัดอยูเบื้องหนานาง! นำพาใหหัวใจของนางสั่นไหวสะทานขึ้นมาทันใด แสงแหง
ความหวังคอยๆ จุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง!!
ทวาเมื่อนางมองรางเบื้องหนาใหชัด จักพรรดินีมังกรเฉินหวูก็รูสึกคลับคลาย
คลับคลาพิกล…
สายลมโชยผานพัดพาใหผมหลินฟานปลิวขึ้นเบาๆ เผยใหเห็นใบหนาอันหลอ
เหลาเดนชัด
ใบหนาแววตาของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูที่เปยมลนไปดวยความหวังอยูเมือ่ ครู
แปรเปลี่ยนกลับกลายไปในทันใดเมื่อนางไดเห็นใบหนาที่คุนเคยของผูชวยเหลือ...!
“ที่แทเปนเจา!” หนาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูมืดคล้ำดำลง ยิ่งมายิ่งดูนากลัว
เพราะนางไมคิดไมฝนเลยวาผูที่คลายจะเปนผูชวยชีวิต กลับเปนศัตรูที่ยิ่งใหญที่สุดใน
ชีวิตนาง!
ทันทีที่หลินฟานไดยินคำนี้ เขาก็เตรียมพรอมหูชาไวบางแลว
จะอยางไรเสียเขาก็เคยขยำขยี้นมของนาง กระทั่งยังบึม้ นมของนางจนระเบิด
หาย! ในฐานะที่นางเองก็เปนสตรีคนหนึ่ง แนนอนวาไมแปลกเลยที่จักรพรรดินีมังกร
เฉินหวูจะมองเขาเปนศัตรูคูฟายากจะอยูรวมโลกเดียวกันได
ทวาเรื่องที่หลินฟานชอบกระทำที่สุดก็คือ เปลี่ยนจากเปนศัตรูของอีกฝายให
กลายเปนผูมีพระคุณเสีย!
แมวามันจะเปนอะไรที่คอนขางทาทายไมนอยสำหรับกรณีของจักรพรรดินีมังกร
เฉินหวู ประหนึ่งความยากระดับโหมดโคตรแมนรกก็ไมปาน แตสำหรับหลินฟานนั้น
อะไรที่ยิ่งทาทายยิ่งทำใหเขาสนุกสนาน!
หลินฟานคอยๆ หันกลับมาชาๆ ทาทางที่เต็มไปดวยความชอบธรรมของเขา
คอยๆ แปรเปลี่ยนไปทันใดเมื่อเห็นรางจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู หนาเขาทำราวกับได
เห็นบางสิ่งที่ชั่วรายหนักหนา! เขาชักสีหนาบิดเบี้ยวกอนจะเผยความประหลาดใจ
ออกมาอยางถึงที่สุด!
“ปะ...เปนเจางั้นเรอออออ!!!”
หลินฟานชักสีหนาตะลึง กลาวคำออกมาดวยน้ำเสียงสูงลากยาวคลายไม
อยากจะเชื่อ สีหนาทาทางเสแสรงอันสมจริงนี้เอาไป 10 คะแนนเต็ม!
“สารเลว…!!”
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูไมมวี ันลืมเรื่องนั้น! นั่นคือความทรงจำอันเลวรายที่สุด
ในชีวิตของนางและเปนอะไรที่นำพาความอัปยศอดสูมาสูนางอยางไรสิ้นสุด! หนาอก
ที่สวยงามและสมบูรณแบบยากจะหาใดเสมอเหมือนของนาง ถูกระเบิดดวยน้ำมือของ
บุรุษชั่วชาติเบื้องหนา! แหลกบึ้มไปตอหนาตอตา! นั่นทำใหจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู
เจ็บแคนยากจะทำใจรับไดอยูเนิ่นนาน!!
สุดทายนางก็ตองจายออกดวยราคามหาศาลในการซอมแซมเตานม!
สำหรับจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูแลว ความปรารถนาที่ยิ่งใหญที่สุดในชีวิตของ
นางก็คือไดพบพานบุรุษผูนี้อีกครั้ง เพื่อที่นางจะย่ำเหยียบบดขยี้เปาอีกฝายใหแหลก
เหลวใตฝาเทา นางจะคอยๆ ทรมานใหบุรุษผูนี้ไดเขาใจ วานางนั้นเจ็บปวดขนาดไหน!
และใหอีกฝายไดรับรูวาเตานมสำหรับนางนั้นมันสำคัญมากเพียงใด!!
หลินฟานเองก็รูขั้นตอนของการดำเนินแผนในใจอยางกระจางชัดดี เขาตองไม
รีบรอนไมตื่นเตนอะไร... คนสะบัดผาคลุมดังฟบ!
“เรื่องพวกนั้นไววากันทีหลัง เจากับขาเราอาจจะมีความบาดหมางกันในอดีต
แตจะอยางไรเสียเรื่องที่เจากำลังประสบอยูตอนนี้ ขาก็ไมอาจยื่นอยูเฉยๆ นิ่งดูดายเจา
ตายได!” หลินฟานที่สะบัดผาคลุมดั่งฟบกลาวออกมาดวยเสียงสงบ
หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองบรรพบุรุษมังกรวานจุนดวยสายตาเอาเรื่อง
“เจาทรยศพวกพองหันไปเขารวมชนเผาโบราณ... เรื่องนีน้ ับวาเปนความอัปยศ
อดสูที่สุดของพวกเรารอยพันชนเผา! ทั้งรวมถึงเรื่องที่เจาคิดบังคับขืนใจสาวนอยแบบ
นี้ ทั้งหมดเปนความผิดบาปที่กระทั่งสวรรคยังยากจะใหอภัย! มีขาอยูที่นี่ทั้งคน เจา
เลิกฝนเรื่องกระทำอุบาทวนั่นไปไดเลย!”
บรรพบุรุษมังกรวานจุนหรี่ตามองบุรุษเบื้องหนา คิ้วขมวดลงเล็กนอย กอนที่จะ
เผยยิ้มออกมาอยางดูแคลน
“ขาจำไดแลว...ที่แทเจาเปนมนุษยผูนั้นในกาลกอนนี่เอง มิคิดเลยวาวันนี้เจาจัก
เสนอหนามาที่นี่เสียได วันนั้นที่เจามีเรื่องกับจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู ขาก็ไมไดถือสา
หาความอันใด วันนี้ก็จักประเสริฐเสียกวาที่เจาจักไสหัวไปใหพนหนาขาเสีย!!”
บรรพบุรุษมังกรวานจุนกลาวออกมาดวยน้ำเสียงถือดีกลิ่นอายยโสแผซาน
ออกมา แนนอนวามันจดจำไดวาเบื้องหนานั้นเปนใคร
ยอนกลับไปตอนที่มันไปชวยจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู มันเองก็คิดจะออกหนาลง
มือกำจัดมนุษยผูนี้ใหพนหูพน ตา ทวานั่นไมใชรา งกายที่แทจริงของมัน มันจึงทำอะไร
อีกฝายไมได!
ทวาตอนนี้มนุษยนั่นกลับปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง บรรพบุรุษมังกรวานจุนก็คิดที่
จะย่ำเหยียบมนุษยนารำคาญนี่ใหแหลกเหลวไปเสีย ทวาพอมันคิดทบทวนดูอีกที มัน
ก็ตัดสินใจที่จะลืมเรื่องนั้นไป
บางครั้งก็เปนการดีที่จะเก็บตัวปญหาเอาไว... จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูเองก็มี
ระดับพลังไมใชชั่ว การที่มนุษยผูนี้สามารถบีบคั้นนางใหตกอยูในสภาพเชนนั้นได
แสดงวาอีกฝายก็มีดีพอสมควร
“เหอะ! เจาฝนไปเถอะ! ถึงจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูจะเคยมีเรื่องบาดหมางกับ
ขา แตเรื่องที่นางมีความกลาหาญยืนหยัดตอสูกับพวกสวะชนเผาโบราณ นั่น
หมายความวานางเองก็เปนตัวตนที่คูควรใหขามอบความเคารพให! เจาคิดวาขาจะทิ้ง
นางแลวหนีไปงั้นเหรอ?!”
หลินฟานกลาวออกดวยคุณธรรม จากนั้นเขาก็หันหลังกลับมากลาวกับ
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวู “เจารีบไปกอน ขาจะรั้งมันเอาไวให”
“เจา…!”
จักรพรรดินีมังกรผงะไปทันใด ไมคิดเลยวามนุษยผูนี้จะยืนหยัดชวยเหลือนาง
จากบรรพบุรุษมังกรวานจุน! ความเหลือเชื่อฉายชัดขึ้นมาบนหนาจักรพรรดินีมังกร
เฉินหวูทันใด
เมื่อนางเห็นมนุษยนี้ชัดถนัดตาใจของนางก็มอดไหมไปดวยไฟโทสะอันไรสิ้นสุด
นางคิดฆาอีกฝายใหตายตกอยางทรมาน!
ทวาการกระทำของมนุษยเบื้องหนา กลับทำใหนางตกใจอยางถึงที่สุด
บรรพบุรุษมังกรวานจุนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอยางขบขัน
“ฮาๆ ๆ ๆ ..!! มนุษย! เจาคิดจริงๆ หรือวาจักมีปญญาตานทานขาได!!”
เมื่อหลินฟานเห็นทาทีหยิ่งผยองของบรรพบุรุษมังกรวานจุน ในใจบังเกิดความ
ขุนเคืองไมนอย ‘ถลมมารดาเจาเถอะ ยังกลาวางทาตอหนาพี่ประมุขงั้นเหรอ! ไอหอก
หักเอย ถาไมใชเพราะประมุขคิดสะสางเรื่องราว บิดาจะตบใหหนายับจนมารดาเจายัง
จดจำไมได!!’
“บรรพบุรุษมังกรวานจุน ขาจะยืนหยัดไดหรือไมไดแลวอยางไร...จักรพรรดินี
มังกรเฉินหวูนั้นเปนวีรสตรีอันนาทึ่ง! เมื่อมีโอกาสเชนนี้ แนนอนวาขาตองยินดี
ชวยเหลือนางใหพน ภัย หากเจาคิดแตะตองนาง ก็มีแตตองขามศพขาไปกอน
เทานั้น!!”
หลินฟานระเบิดเสียงดังออกมาอยางเกรี้ยวกราด กลิ่นอายพลังปะทุออก คลื่น
พลังนาพรั่นพึงลุกโหมทวมรางดั่งเพลิงผลาญใหเห็นอยางเดนชัด!
เมื่อจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูเห็นธาตุทระนงเด็ดเดี่ยวแนวแนของหลินฟานที่ยืน
หยัดอยูเบื้องหนา สีหนาตกใจของนางก็เริ่มเปลี่ยนไปทันใด
“ขาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูมิเคยวอนขอความชวยเหลือจากผูใด! สิ่งที่เจา
กระทำกับขาจักรพรรดินีมังกร ขาจักมิมีวันลืมเลือน! ตอใหเจาจะกระทำเชนนี้ขาก็ไม
มีวันเลิกราตอเจา!” จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูคำรามออกมาเสียงกราว อยางไรก็ตาม
ในใจของนางสะทานหวั่นไหวไมนอย
ทวายามที่หัวใจนางเริ่มสั่นไหว จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูก็รีบสะกดความรูสึก
ดังกลาวใหจมลึกไปยังกนบึ้งของใจทันใด
สำหรับจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูแลว ทุกสิ่งที่มนุษยผูนี้เคยไดกระทำกับนาง คือ
เรื่องที่นางไมมีวันยกโทษใหอีกฝายได!
นั่นคือเตานมที่งดงาม รูปทรงหยดน้ำอันสมบูรณแบบ! ทวาพวกมันก็ถูกมนุษย
นั่นย่ำยีขยำขยี้จนแหลกเหลวพินาศ! นี่ยังตางอะไรกับฆานางใหตายทั้งเปน?!
หลินฟานชักสีหนาจริงจังขึ้นมาหันมองไปยังจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู
“ขารู...แตตอนนี้เจารีบหนีไปกอน และหากขารอดไปไดขาจะไปไถบาปใหเจา...
เจารูหรือไม หลังจากที่ขาไดทำรายเจาวันนั้น ขาก็คิดถึงมันอยูทุกคืนวัน...ใจขาเต็มไป
ดวยความสำนึกผิดตอการกระทำเลวทรามที่ขาทำรายเจาไป... วันนี้ในที่สุดขาก็มี
โอกาสไดพบเจาอีกครั้ง นับวาฟาใหโอกาสชำระความผิดในใจอันใหญหลวงของขา
แลว ไมวาจะยังไง วันนี้ขาก็ตองทำใหเจารอดไปอยางปลอดภัยใหได!”
“เฮอะ! ขาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูไมเคยตองการความชวยเหลือจากผูใด
โดยเฉพาะมนุษยเชนเจา!” จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูกลาวตอบอยางเย็นชา
“หืม? มนุษยในเมื่อขาอุตสาหไวหนาเจาแลว แตเจายังดื้อรั้นไมเขาทา เชนนั้น
พวกเจาทั้งคูก็ตายตกมันอยูเสียที่นี่ดวยกันเถอะ!!”
ทันใดนั้นคลื่นพลังสะทานฟาของบรรพบุรุษมังกรวานจุนพลันกำจายออก กรง
เล็บมังกรของมันพุง กระซวกความวางเปลาเบื้องหนา!
พลังอำนาจของบรรพบุรุษมังกรวานจุนนั้นนาพรั่นพรึงนัก โดยเฉพาะอยางยิ่ง
ยามที่มันลงมือเต็มพลังอำนาจเชนนี้ นาหวั่นหวาดปานจะไรผูใดทัดทาน!
โลกหลาทั้งใบคลายจะสยบภายใตมวลพลังกรงเล็บมังกรนี่!
ความวางเปลาผันผวนพังทลาย สรรพสิ่งคลายหวนคืนสูโกลาหลแรกเริ่ม
ปรากฏหัตถพลังมังกรพวยพุงออกมาหมายขย้ำทำลาย อากาศสะทานสะเทือน
ระลอกพลังที่แผซานซัดกรอนสรรพสิ่งจนแหลก
ครืนนนนนนนน!!!
ใบหนาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูเผยความตื่นตระหนกตกตะลึงนางคิดจะตานรับ
พลังอำนาจนี้ หากแตนางตระหนักไดทันทีวานางกำลังเผชิญหนากับพลังอันใด ลักษณ
พลังกรงเล็บมังกรนี่ไมใชอะไรที่นางจะตานทานได!!
“พวกเจาอยาไดวังวาจักตานทานกระบวนทานี้ของขาได พลังอำนาจของขา
บรรพบุรุษมังกร หาใชอันใดที่มดปลวกอยางพวกเจาจะเขาใจ!!”
“แยแลว!” สีหนาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูแปรเปลี่ยนไปทันใด
หากทวายามนี้บังเกิดบางสิ่ง ที่ทำใหจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูตองตื่นตระหนก!!
ตอนที่ 810 เลิกลอเลนไดแลว
บรรพบุรุษมังกรวานจุนนั้นถือไดวาเปนระดับอาวุโสคนหนึ่งของชนเผามหา
มังกร พลังอำนาจของมันนั้นเปนที่ประจักษดีไมจำเปนตองไถถาม
ไมวาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูจะแข็งแกรงเพียงใด นางก็ยังนับวาหางไกลที่จะมา
ประชันกับบรรพบุรุษมังกรวานจุน...
โดยเฉพาะอยางยิ่งลักษณพลังกรงเล็บมังกรเบื้องหนา แมวามันจะแลดูเรียบงาย
ธรรมดา หากแตจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูรูดีวาลักษณพลังกรงเล็บมังกรของบรรพบุรุษ
มังกรวานจุนนั่น...
มันเปนเคล็ดการใชพลังอันเรนลับของชนเผามหามังกรเรียกวาหัตถสดับมังกร!
ตอใหเปนนางก็ไรหนทางตานทานอะไร!
ทวา ณ เวลานี้ สองตาของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูจำตองเบิกกวางถางโพลง
ราวกับนางพึ่งไดแลเห็นภาพอันนาเหลือเชื่อที่สุดในโลกหลา
ปงงงงง!!!
หัตถสดับมังกรของบรรพบุรุษมังกรวานจุนกลับถูกตานทานเอาไว ดวยรางเนื้อ
รางหนึ่งเบื้องหนาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู...
คิ้ว แววตา จมูก ริมฝปากที่กอเปนลักษณใบหนานั้น เปนใบหนาที่จักรพรรดินี
มังกรเฉินหวูรังเกียจที่สุดในชีวิตของนาง! ทวายามนี้นางจำตองอึ้ง!
ใบหนานั่นหันกลับมาจับจองมองนางอยางออนโยนทั้งยังยิ้มออกมาบางๆ ทำให
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูคลายถูกพัดพาดวยวาโยแรกวสันต เย็นฉ่ำสบายสุขใจนัก
“เจา...”
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูอึ้งไปไมนอย สายตาของนางลดต่ำลง และอดไมไดที่จะ
มองไปยังหนาอกของบุรุษเบื้องหนาที่นางชิงชังที่สุดในชีวิต รางนางสะทานไปทันใด
แผลเหวอะหวะที่หนาอกอีกฝายนั้นชางสยดสยองนัก มันแหลกหมดสิ้นแลว...
“ฮะๆ ...”
หลินฟานหัวเราะออกมาเบาๆ หากทวาฟนที่ขาวนั้นยามนี้กลับกลายเปนสีแดงฉาน
เสียง ‘อั๊ค’ ดังขึ้นเบาๆ กอนที่หยาดโลหิตอุนรอน จะทะลักออกมาราดรดหนาอก
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวู
ตอนนี้จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูนิ่งคางไปอยางแทจริง นางทำอะไรไมถูก ดวยไมรู
จะทำอะไรสืบไป...
“เจา...รีบหนีไป...เร็วเขา!”
หลินฟานยกมือขึ้นมาผลักจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูอยางแรง มือของเขาดัน
ออกไปอยางไมรูตัว หากแตยังกอบกุมหนั่นเนื้ออวบใหญเสพรับสัมผัสนุมละมุนไดเต็ม
มือนัก...กำไรชีวิตพี่ประมุขโดยแท
แตเทาที่ดูแลว คลายจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูจะไมทันไดรูตัวสักนิด...
นั่นเพราะตอนนี้นางรูสึกหัวหมุน ดวยไมเขาใจอยางถึงที่สุด!
อันที่จริงๆ ใครก็สามารถเห็นไดชัดวาใบหนาของนางนั้นแข็งคางไปแลว...กอน
หนาแมใครจะขูฆานางใหตาย นางก็ไมมีวันเชื่อวามนุษยผูนี้จะโผลมาปองกันการโจมตี
นี้ใหนาง!!
“จะ เจา ...!!!”
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูคลายดั่งคนกำลังจะกลายเปนหิน มือทั้งคูของนางยังสั่น
ไปไมนอย นางคิดใชมันสัมผัสรางของบุรุษเบื้องหนา หากแตนางก็ลังเลไมนอย
“เหตุใด เจา...?”
ในฐานะที่เปนวีรสตรีนักรบแหงชนเผามหามังกร ใจของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู
นั้นแข็งแกรงปานหินผา การตัดสินใจของนางนั้นเด็ดขาดฉับไวเสมอ ทวามายามนี้
ภาพที่เห็นกับเรื่องที่เกิดเบื้องหนาทำใหนางตกใจจนพูดไมออก
“ทำไมเจาถึงพูดมากนัก? รีบๆ หนีไปซะที!!” หลินฟานกระอักโลหิตออกมาอีก
ครั้ง แตละครั้งที่เปดปากกลาวคำ หยาดโลหิตทะลักพวยพุงออกมาอยางนากลัว เขยา
ขวัญผูคนไมนอย กอปรกับกลางอกที่กลวงโบยังชวนใหขนพองนัก!
สำหรับหลินฟานแลว แนนอนวาเปาหมายของเขาก็คือใหภาพลักษณวีรบุรุษ
ของเขาเปนภาพจำในใจของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู จากนั้นเขาจะไดถือวายุติ
เรื่องราวกับอีกฝายเสีย! เจอกันคราวหลังนางจะไดไมตองมาอาฆาตแคนอะไรเขาอีก!!
ทั้งหลินฟานเองก็คิดจะพาเจาชิคกี้ไปยังรังลับของชนเผามหามังกร ดังนั้นเขา
เองก็หวังไวไมนอยวาจะมีคนนำทาง ตอนนี้ก็นับวาโชคเขายังดีไมนอยที่ไดเจอ
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวู!
หากเขาชวยชีวิตนางได การเดินทางไปยังชนเผามหามังกรของเขา ไมใชเสมือน
ถีบเรือเปดลำนอยกินลมชมวิว ในทะเลสาบที่แสนสงบสุขหรอกหรือ?
ดังนั้นหลินฟานจึงจัดหนักกับการแสดงครั้งนี้ หากตองกระอักเลือด ก็กระอัก
ออกมาเสีย 2 คำ ไมตองลังเลอะไร!
“ฮาๆ ๆ ๆ ๆ ...!!”
บรรพบุรุษมังกรวานจุนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังสนั่น
“มนุษย สุดทายเจามันก็แคมนุษย! มิคิดเลยวาเจาจักโงงมไดถึงเพียงนี้ เพียงดูก็รูวา
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูเย็นชาหางเหินไมคิดแยแสอันใดเจาเพียงไหน! แตมิคิดเลยวา
เจายังโงงมมาเสียสละอะไรเพื่อนาง! เรื่องเหลวไหลนี่นับวาเปดหูเปดตาขาแลว!!”
เมื่อหลินฟานไดยินคำของบรรพบุรุษมังกรวานจุน เขาก็ชักสีหนาจริงจังกอนจะ
หันไปหาอีกฝาย
“นี่ไมใชขาเสียสละอะไรเพื่อนาง! ขาแคมาไถบาปที่ขาเคยไดกระทำกับนาง
เอาไวในอดีตเทาที่ขาจะกระทำได! ทาสสวะเยี่ยงสุนัขชนเผาโบราณเชนเจา ยังจะมา
เขาใจความคิดวิญูชนของขาไดยังไง!!”
“เหอะ! วาจาที่เขื่องโขโอหังนัก! มิคิดวาเจายังจะกลาสามหาวตอหนาขาทั้งๆ ที่
กำลังจักตาย! ก็ดี วันนี้ขาจักใหเจาไดรูสำนึกถึงคำมดปลวกสวะ! วามันออนแอนาอดสู
ถึงเพียงใด!!”
บรรพบุรุษมังกรวานจุนคำรามออกมา ฝามือพลิกตลบทันใด ปราณมังกรพวย
พุงออกมานาเกรงขาม! ปรากฏเปนลักษณมหามังกรขนดวนเวียนเกลื่อนฟา ยามนี้โลก
หลาราวกับจะเต็มไปดวยมหามังกร!!
“เจาถอยไปใหพน!”
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูคำรามออกมาอีกครั้งเมื่อคืนสติ ใบหนาของนาง
แปรเปลี่ยนไปทันใด แมงาวมังกรของนางจะแหลกเปนเสี่ยงไปแลว หากแตจิตตอสู
ของนางยังไมมอดดับ กระทั่งยังลุกโชนพวยพุงขึน้ มาทุกขณะ!
“เจายังไมรีบไปอีก!”
หลินฟานจะยอมใหจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูอยูสูตอไดยังไง? นี่สมควรแกเวลา
แลวที่นางจะวิ่งหนี! หนทางเดียวที่เขาจะไดใชศักยภาพและสูอยางเต็มประสิทธิภาพ
ไดมีแตตองใหนางไปใหพนๆ เสียกอน!!
หากจะใหหลินฟานเทียบละก็ระหวางการทำแบบนี้กับออกมาชวยอีกฝายตรงๆ
นั้น ผลกระทบมันตางกันราวฟากับเหว!
หากเขาปรากฏตัวออกมาแลวตบบรรพบุรุษมังกรวานจุนเปนขนม แลวมันจะไป
สะทานถึงใจจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูไหม? นี่ก็เสมือนแตงหนาเคกกับสงถานกลาง
หิมะ!!
“ออค!!”
กลาวคำจบก็กระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง
ยังกระอักออกมาไดอยางนาหวาดกลัวถึงที่สุด มันพุงทะลักออกมาราวกับ
ละอองพิรุณถมฟา!
แตแนนอนละวาเขาไมไดรูสึกเจ็บอะไรสักกะผีก
ยามหัตถสดับมังกรของบรรพบุรุษมังกรวานจุนกระแทกรางเขานั้น เรียกวายัง
เบาเสียยิ่งกวาผายลม! ไมไดสรางความเสียหายอะไรสักนิด แมแต 1 หนวยคา
ประสบการณระบบยังไมแจง! แผลนี่เขาก็ระเบิดพลังอยางแยบคายสรางขึ้นเอง
เทานั้น!!
กระจอก! พลังของมันกระจอกเหมือนขยะ!!
จักรพรรดินีมังกรที่เห็นสภาพสาหัสของหลินฟาน อดไมไดที่จะรองออกมาอยาง
ไมเขาใจ
“เพราะอะไร...ใยเจาตองทำถึงขนาดนี้ ทั้งที่ขาก็เปนศัตรูกับเจา!”
หลินฟานมองไปยังจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู กอนจะสายหนาพรอมหัวเราะ
ออกมาเบาๆ
“ไม...พวกเราไมใชศัตรู เจาเปนสตรีที่งดงามและมีเรือนรางที่สวยงามสมบูรณ
แบบที่สุดเทาที่ขาเคยพบเจอ...แตขากลับทำรายเจาไปอยางรุนแรง สรางความ
เสียหายที่ยากจะอภัยใดใหแกเจา ความผิดบาปของขาต่ำชาจนสวรรคยังไมอาจอภัย
ใหได แตวันนี้ตราบใดที่เจารอดชีวิตไปได...ทุกอยางลวนคุมคาแลว...”
“พวกเราไมใชคูตอสูของบรรพบุรุษมังกรวานจุน! เจารีบหนีไปเร็วเขา! อยาให
การเสียสละของขาตองสูญเปลา!!”
หลินฟานกัดฟนกลาว เลือดเริ่มไหลออกมาอีกครั้งพื้นดานลางเจิ่งนองราวสระโลหิต!
ตอนนี้เองหลินฟานก็อดไมไดที่จะยืนมือออกมาเชยคางที่เนียนกระจางของ
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูเบาๆ
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูผงะไปเล็กนอย นางคิดจะผลักอีกฝายออกไป ทวาเพียง
มือยกขึ้นไดเล็กนอยก็หยุดลง
“เจาชางงดงามเหลือเกิน... นาเสียดายที่กาลกอนขาหนามืดตามัวไมทันได
ตระหนักถึง...เจารีบไปเถอะ หากเปนไปได...ขาหวังวาเจาจักลืมเรื่องราวที่ขาเคย
กระทำ...”
หลินฟานกลาวตอบออกมาเสียงสงบ
จากนั้นเขาก็ลดมือที่เชยคางจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูลง เขาหันรางที่โงนเงนก
ลับไปเผชิญหนากับบรรพบุรุษมังกรวานจุนอยางยากลำบาก
“รีบไปเสีย!!”
ทันใดนั้นหลินฟานพลันปะทุพลังออกมาอยางรุนแรง กลิ่นอายพลังอันนาเกรง
ขามพวยพุงออกจากราง ความวางเปลาบิดเบี้ยวกระเพื่อม ทันใดนั้นจักรพรรดินีมังกร
เฉินหวูที่ไมทันไดตั้งตัวก็พบวาตัวเองถูกชองวางแหงความวางเปลาดานหลังดูดกลืน
เขาไป
“ไมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!”
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูยอมไมเคยพบพานประสบการณอะไรเชนนี้มากอน
ในฐานะจักรพรรดินีมังกรของชนเผามหามังกร ระดับพลังฝกตนของนางนั้นคือ
เทพสวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 10 เทพนิรันดร นางนับเปนตัวตนที่สูงสงอยูเหนือในเผา
มหามังกรตนหนึ่ง!
อันที่จริงแลวชั่วชีวิตนางไมเคยพบพานประสบการณเปนตายอะไรมากอน ยัง
นับประสาอะไรกับมีบุรุษเพศที่แลกชีวิตเพื่อนาง ทั้งกลากลาววาจาเชนนั้นกับนาง...!
ผลกระทบของเหตุการณในวันนี้สรางแรงกระเพื่อมอันใหญหลวงตอจักรพรรดินี
มังกรเฉินหวู คำกลาวนั่นสะทานหัวใจของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูอยางรุนแรง ในใจ
บังเกิดมวลอารมณยากจะกลาวพุงพลาน
นี่เปนความรูสึกที่นางไมเคยสัมผัสมากอน...
ระหวางทีน่ างกำลังสับสน นางก็พบวารางของนางถูกพลังขุมหนึ่งดูดรั้งเขาไปยัง
ชองวางแหงความวางเปลาดานหลัง หางไกลจากเบื้องหนาไปเสียแลว
และในขณะที่จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูรองออกมาอยางไมรูตัว นางก็ไดเห็น
รอยยิ้มอันออนโยนที่มองมาจากดานนอกชองวางแหงความวางเปลา รอยยิ้มนั่นมัน
ตราตรึงสลักลึกลงไปในใจของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูท ันใด...
“หากโชคชะตานำพา พวกเราคงไดพบกันอีกครั้ง...”
หลินฟานยกมือขึ้นโบกเบาๆ ริมฝปากคอยๆ ยกยิ้มบางๆ
สองตาของจักรพรรดินีเฉินหวูมองคาง รางแนนิ่งไป ตอนนี้รางของนางลอยลอง
อยูในสวนลึกของชองวางแหงความวางเปลาแลว...แววตาของนางเผยความตื่น
ตระหนกไมนอย!
ขณะที่นางจะตอบสนองอะไร ชองวางก็ปดตัวลง เบื้องหนาไมหลงเหลือสิ่งใดอีก...
“เปนไปไดอยางไรกัน!? ภายใตอำนาจที่คอยผนึกกั้นพื้นที่ไวของขา... เจากลับ
สงนางออกไปไดอยางไร!?”
จังหวะนีบ้ รรพบุรุษมังกรวานจุนถึงกับคำรามออกมาดวยความเหลือเชื่อ!
ทุกเรื่องราวบังเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป จนมันไมอาจตอบสนองอะไรไดทัน!
อาณาบริเวณสวนนี้ของโลกหลาถูกผนึกไวดวยพลังอำนาจของบรรพบุรุษมังกรวานจุน
อยางสิ้นเชิงแลว! ยังจะมีใครเปดชองวางเล็ดรอดไปตอหนาตอตามันไดยังไง!?
“มนุษยบัดซบ! ไปลงนรกเสีย!!”
บรรพบุรุษมังกรวานจุนคำรามสนั่น ฝามือเปลงพลังอำนาจที่สะทานโลกหลาใส
หลินฟาน!
ปงงงงงง!!!
สวรรคและโลกสะทานสะเทือน อำนาจพลังอันนาเกรงขามยังทำใหผินปฐพีสั่น
ไหวอยางรุนแรง พลังฝามือนี้ชางนาเกรงขามยิ่งนัก อันที่จริงยังทรงพลังเสียยิ่งกวา
หัตถสดับมังกรกอนหนาเสียอีก!!
“เอาละนะ...ที่นี้ก็เลิกลอเลนกันไดซะที...”
แสงสวางดับลง หมอกควันจางหาย...ภาพเบื้องหนาหลังการทำลายลาง ปรากฏ
รางหลินฟานที่ยืนนิ่งอยางสงบตามตัวยังเต็มไปดวยโลหิตที่กระอักออก หนาอกยังคง
กลวงโบ หากทวาพอเขาเริ่มตบเบาๆ ไปตามตัว...พริบตาทั่วรางกลับมาใสสะอาดหมด
จด ไรซึ่งรอยเลือดอะไรสักปน! ใบหนาสบายๆ แยมยิ้ม ทาทางคลายไมไดแยแสอะไร
พลังฝามือเมื่อครูสักเพียงนิด!!
อันที่จริงยามเมื่อพลังฝามือปะทะรางหลินฟาน มันก็แคกระทบเขาสงเสียงดัง
แลวก็หายไปเทานั้น!
ไมไดมีผลอะไรสักกะผีกเดียว...
ตอนที่ 811 การตอสูอ ันยุตธิ รรม
ในเมื่อตอนนี้นวลนางไดจากไปแลว หลินฟานยังจะตองเสแสรงแสดงทำมะเขืออันใด?
ทักษะการแสดงของหลินฟานนั้นเรียกไดวาเขาขั้นสุดยอดแลวอยางแทจริง ยิ่ง
การกระอักเลือดออกมาแบบนี้ นับเปนอะไรที่เขาเชี่ยวชาญและช่ำชองนัก!
อันที่จริงกระทั่งเพื่อใหบรรลุความสมบูรณแบบ เขายังแอบไปซอมกระอักเลือด
หนาคันฉองในหองน้ำอยูบอยครั้ง!!
“ดูเหมือนวาตั้งแตที่มันบรรลุระดับเทพสวรรคอมตะ 10 ชั้นฟา รางกายของพี่
ประมุขจะอยูยงกระพันแลวจริงๆ”
ตั้งแตแรกหลินฟานก็ไมไดอะไรมากมาย...แตหลังจากที่ไดทดลองรับหมัดแลว
เขาก็พบวามันดีจริงๆ !
ไมวาใครก็บอกไดเลยวาฝามือของบรรพบุรุษมังกรวานจุนกอนหนา มันนาเกรง
ขามและไมธรรมดาขนาดไหน อนิจจาสำหรับหลินฟานแลวไมตางอันใดไปจากลมที่พุง
แรงแซงผานอึออกมาแมเพียงนิด!
ไมไดสะทกสะทานสรางความเจ็บปวดอะไร กระทั่งไมรูสกึ อะไรดวยซ้ำ!
“นิ…นี่จักเปนไปไดอยางไร!?”
เมื่อบรรพบุรุษมังกรวานจุนเห็นทุกสิ่งอยางที่บังเกิดขึ้นเบื้องหนามันก็อึ้งไป
ทันใด มันไมอยากจะเชื่อวาฝามือของมันกลับมิอาจทำอะไรมนุษยเบื้องหนาไดเลย...
เรื่องนี้เปนไปมิได!
มันคือบรรพบุรุษมังกรวานจุนแหงชนเผามหามังกร ผูถือครองพลังอำนาจดาน
พลังเทพสวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 10 เทพนิรันดร!
แลวกอนหนานี้มันเกิดอันใดขึ้นกันแน เพราะมนุษยเบื้องหนาก็กระอักโลหิตคำ
ใหญ รางไซรยังใกลแหลกเหลว! ไถถามโลกหลานี่มันบังเกิดหาเหวอันใดขึ้นกันแน?!
หลินฟานกมหนามองสภาพรางกายตัวเองเล็กนอย เพื่อตรวจดูวากลับมาเนี้ยบ
เหมือนเดิมแลวรึยัง ขาดตกบกพรองเหลือรอยเลือดอะไรไวตรงไหนไหม...และเมื่อ
มั่นใจวาสะอาดสะอานดีแลว ก็หันกลับมามองบรรพบุรุษมังกรวานจุนพรอมฉีกยิ้ม
หวาน
“นี่ไอหนูตะกวดนอย เจาโงหรือโงกันแนหา? ปานนี้แลวยังไมรูตัวอีกเหรอ? หรือ
เจาคิดจริงๆ วาตัวเจามันไรเทียมทาน อยูยงคงกระพันแลว? โงเขลา! เปนขาประมุขที่
ละเลนกับพวกเจามาตลอดตางหาก! ไมคิดเลยวาจะเชื่อเปนตุเปนตะไปได!!”
“อาศัยพลังฝมือความแข็งแกรงของเจานะเหรอ? ตอใหขาประมุขยืนอยูตรงนี้ทั้ง
ป เจาก็ตีใหขนขาประมุขรวงไมไดสักเสน!!”
หลินฟานเชิดหนาเหลือบมองลงต่ำปากยังเบออกกลาวคำดวยความดูแคลน เขา
ไมไดเห็นบรรพบุรุษมังกรวานจุนอยูในสายตาสักเพียงนิด อันที่จริงในสายตาของ
หลินฟานความแข็งแกรงของบรรพบุรุษมังกรวานจุนนี่มันก็พอใชไดอยูหรอกนะ แตถา
เอามาเจอกับตัวตนอยางเขา มันยังหางไกลจากคำวาพอ!
ทาทางหลินฟานทำราวกับ ตัวตนอยางบรรพบุรุษมังกรวานจุนนั้น เปนตัวอะไร
ที่เขาสามารถสยบไดงายดายราวพลิกฝามือ!
“เปนไปมิได! ขามิเชื่อวามนุษยที่ไมตางใดจากมดปลวกเชนเจาจะแข็งแกรงถึง
เพียงนี้!” บรรพบุรุษมังกรวานจุนคำรามออกมา ผมของมันลอยลองเตนระบำใน
อากาศ
“เทพยุทธมังกรไรจำกัด!!”
ทันใดนั้นบรรพบุรุษมังกรพุงมือทั้งสองขางออกมา กอนที่คลายจะขยับซัดออก
ดวยหัตถสดับมังกรนับหมื่นพันในเวลาหวงคิด มวลพลังฝามือทรงอานุภาพแหวกฟา
ทะลักทลายออกมาอยางลนหลาม ปราณมังกรกอเกิดเปนรางมหามังกรเกลื่อนโลกา
ตางพุงทะยานออกมาราวกับจะทำลายลางแดนดิน!
“เฮอ”
หลินฟานระบายลมหายใจออกมาอยางทอดถอน ก็ชวยไมไดละนา...
“ไอหนูตะกวดนอยเอย ขาประมุขบอกไปเจาไดยินไมชัดหรือไง...ตอใหขายืนให
เจาตีตลอดทั้งป เจาก็ทำใหขนของขาประมุขรวงไมไดแมแตเสนเดียว!!”
สภาวะทั่วรางหลินฟานไรซึ่งความกลัวอันใด แตดวยระดับพลังอำนาจของเขา
ในตอนนี้ ก็ยังเปนเรื่องยากเล็กนอยที่จะเอาชนะอีกฝายได แตก็คงเปนฝนละเมอของ
ตัวโงงมเชนกันถาอีกฝายคิดจะทำใหเขามีแผลสักแผล...
ครืนนนนนนนนนนน!!! เปรี๊ยงงงงงงงงงงง!!!!!
ยอดกระบวนทานี้ทะลวงผานความวางเปลาราวกับเศษฝาย กระทั่งมิติและเวลา
ยังคลายจะถูกสะกดหยุดนิ่ง แตสำหรับหลินฟานแลว ไหนเลยยังนับเปนอะไรได มิได
ตางไปจากใบไมหลนรวงมาถูกรางสักเพียงนิด...
“อาคคคคคคคคคคค!!!”
“นี่มันเปนไปไดอยางไร! ขาไมเชื่ออ!!!”
บรรพบุรุษมังกรที่เห็นอีกฝานยืนใชนิ้วกอยแคะหูแกรกๆ ไมเปนอะไรสักนิดหลังทาน
รับพลังทั้งหมดของมันไป! ถึงกับอดไมไดที่จะรองออกมาดวยความคุมคลั่ง! มันไมเชื่อ
วามนุษยผูนี้จะเปนตัวตนที่ทรงพลังอะไรแบบนี้ไปได สองตาเบิกโพลงรางนิ่งคางไป!!
สำหรับคนของชนเผามหามังกรที่อยูขางๆ ก็อึ้งตะลึงคางไปไมตาง พวกมันชักสี
หนาราวกับพึ่งไดเห็นสิ่งที่คาดไมถึงที่สุดในโลกหลา!
“ยัง...ยังไมรูตัวอีก...ไอตะกวดนอยขี้ขาหมาเลี้ยงชนเผาโบราณเอย กอนหนา
เปนขาลอเลนกับเจาเฉยๆ ... ไมคิดวาเจาจะคิดเปนตุเปนตะไปจริงๆ เจาไมคิดเหรอวา
หากขาประมุขไดรับบาดเจ็บงายๆ แบบนั้นจริง ปานนี้ขายังจะมาพูดจอกับเจาไมหยุด
อะไรแบบนี้นะ หา?”
หลินฟานกลาวถามดวยความเยยหยัน
ในสายตาของหลินฟานนั้น กลาวไปบรรพบุรุษมังกรวานจุนนี่ก็นับวาประเสริฐนัก เทพ
สวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 10! ระดับพลังฝกตนสูงขนาดนี้ หากเขาชำระลางมัน แลวจับ
มาเปนทาสผลิตโอสถเจิ้งหยางใหเขาทั้งวันทั้งคืน ตองไดวันนึงเปนแสนๆ เม็ดแน!!
ถึงแมวานั่นจะยังหางไกลจากความสามารถในการผลิตโอสถเจิ้งหยางของตนไม
แหงชีวิตในตำนาน แตสิ่งละอันพันละนอยเมื่อสะสมใหมากเขาเดี๋ยวมันก็เยอะเอง!
“ดูเหมือนเจาจะมีความสุขมากไมใชรึไงที่ไดทบุ ตีทำรายขาประมุขกอนหนานะ หืม?
ตะกวดนอยหมาเลี้ยง? รูไหมขาประมุขเปลืองเลือดไปกับการกระอักมากแคไหน!?
ตอนนี้ไดเวลาทวงคืนอะไรนิดๆ หนอยๆ แลว! แตก็นะ…ขาประมุขไมใชคนที่ชอบ
รังแกคนอื่น ขาประมุขไมลงมือเองแลวกัน...ขาจะใหลูกนองของขาเลนกับเจาแทน”
“ออกมา!”
หลินฟานปลอยผูอำมหิตไรใจ เจี๋ย ออกมาจากวิมานฟาทันใด
ทันทีที่ผูอำมหิตไรใจเจี๋ย ปรากฏตัวในโลกหลา กลิ่นอายของตัวตนสูงสุดพลัน
แผซานกำจายไปทั่วแดนดินทันใด
คลายทั้งโลกกำลังสะเทือนสะทาน แมวาอำมหิตไรใจเจี๋ย เพียงยืนอยูเฉยๆ
หากแตแรงกดดันอันเหนือชั้นยากตานทานก็แผซานกดทับบรรพบุรุษมังกรวานจุน
อยางหนักหนา!
“นิ...นี.่ ..!!!”
บรรพบุรุษมองเรื่องราวตรงหนาดวยสองตาแทบถลนออกเบา หัวเด็ดตีนขาดมัน
ก็ไมอาจทำใจเชื่อ มือสั่นเทิ้มคอยๆ ยกขึ้นมาชี้ ใบหนายังเริ่มซีดลงดวยความ
หวาดกลัว
“ตะ...ตัวตนสูงสุด ผูอำมหิตไรใจเจี๋ย!”
ทันทีที่บรรพบุรุษมังกรวานจุนกลาวคำดังกลาวออกมา รางของมันพลันสั่นระริก
ไปทั้งตัว มันตกตะลึงพรึงเพริดแลว!
ยิ่งมารางมันยิ่งสั่นเทิ้มราวลูกนกตกน้ำทามกลางเหมันตฤดู
หวาดกลัวอำมหิตไรใจเจี๋ย อยางถึงที่สุด!
“อะฮา...ดูเหมือนวาเจาจะรูจักมันสินะ? ออจริงสิ ยังมีอีกเรื่อง ขาประมุขเนี่ย
วาไปแลวเปนคนที่ยุติธรรมตอศัตรูที่สุดในโลกหลาแลวละ และถึงแมพวกเจาจะเปน
แคตัวออนแอ...แตกระทั่งราชสีหยามลงมือกับกระตายนอยยังลงมือเต็มที่เพื่อให
สมเกียรติ” หลินฟานแยมยิ้มอยางสงบ กอนที่จะกระดิกนิ้วคราหนึ่ง นำพาใหความ
วางเปลาสะทานสั่นไหว
อีกรางหนึ่งพลันแหวกความวางเปลาออกมาทันใด
“ฮาสสสสสสสสสสสส!!”
เสียงสนั่นกังวานลันไปทั่วหลา
ยามเมื่อผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณย่ำเทาเขาสูโลกเซียนโบราณอีกครั้ง มันก็
สัมผัสไดถึงความรูสึกอันคุนเคย ทันใดนั้นพลังอำนาจมหาศาลที่ลอยลองในความวาง
เปลาพลันควบรวมเขาสูตัวมัน!!
“ขา ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ! หวนกลับมาแลว!!”
รางผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณลอยตระหงานกลางหาว โซที่พันรอบกายกระแทก
กันไปมาสงเสียงดัง
ยามนี้แมจะเปนการเคลื่อนไหวแคเพียงเล็กนอย ก็สรางแรงกดดันอันนาพรั่น
พรึงใหแกทุกคน ยามเมื่อบรรพบุรุษมังกรวานจุนสัมผัสไดถึงกลิ่นอายพลังอันนาพรั่น
พรึงของผูอ มตะ หนึ่งเดียวโบราณ รางของมันก็สะทานอยางแรง อันที่จริงตอนนี้ขามัน
สั่นพั่บๆ จนแทบยืนไมอยูแลว!
“ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ...!”
ทันทีที่บรรพบุรุษมังกรวานจุนไดยินนามนี้ ใจของมันสั่นไหวทันใดคลายจะหวนนึกถึง
อดีตกาลเนิ่นนานมาแลว ยอนกลับไปยังสมัยนั้น ที่ตัวมันบรรพบุรุษมังกรวานจุน...ยัง
เปนเพียงมหามังกรตัวนอยที่แสนออนแอไรชื่อเสียงเรียงนามในชนเผามหามังกร
เทานั้น...!
“ตะ...ตัวตนสูงสุด ของชนเผาโบราณ? ผูอมตะหนึ่งเดียวโบราณ ที่หายสาบสูญ
ไปเมื่อ 10,000 ปกอน!?”
บรรพบุรุษมังกรวานจุนแผดเสียงออกมาดวยความหวาดกลัว สีหนามันเหวอไป
ราวตัวโงงม พลังอำนาจบารมีและความนาเกรงขามที่มันแผออกมาทั่วกายกอนหนา
ตอนนี้สลายหายไปราวกับไมเคยมีมากอน!
เวลานี้สิ่งเดียวที่ครอบงำมันทั้งกายใจหาใชอื่นใดไม นอกจากความกลัว!
“เปนไปไมได! ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณไดหายสาบสูญไปกวา 10,000 ป
กระทั่งยังมีขาววาตกตายภายใตน้ำมือของสุดยอดนักรบเผาพันธุมนุษย! แลวมันจักยัง
มีชีวิตอยูไดอยางไร?!”
หนาบรรพบุรุษมังกรวานจุนตอนนี้ไรซึ่งสีโลหิตบนใบหนา มันร่ำรองออกมา
อยางหวาดผวาเหลือเชื่อ
“เฮ ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ เจานับวาดังไมเบาเลยนี่หวา ขนาดเจาหายตัวไป
กวา 10,000 ป แตไอตะกวดนอยหมาเลี้ยงนี่ยังอุตสาจำเจาไดดวยแนะ!” หลินฟาน
หัวเราะเบาๆ กอนจะมองนับจำนวนคนอีกครั้ง
“อะ ลืมนับเจานั่นไปซะได...ตอนนี้พวกเจามีกัน 4 คน ขามี 3 ...ยังไมยุติธรรมเลย!”
“ปศาจยักษโบราณ ออกมา!”
ทันใดนั้นเมืองปศาจพลันผุดโผลออกมาจากความวางเปลา ลำแสงสวางไสวสาด
สองออกไปยอมโลก รางปศาจยักษโบราณขนาดมหึมาคอยๆ ปรากฏขึ้นเหนือเมือง
ปศาจ ปราณปศาจหลั่งไหลออกจากเมืองปศาจอยางทะลักทลาย
“ฮวาสสส!!!”
รางปศาจยักษโบรษณใหญโตมหึมาปานขุนเขา ดวงตาสีมวงของมันราวกับอเวจี
นรกไรกนบึ้ง!
“จะ..จักรพรรดิปศาจ! จักรพรรดิปศาจ...!!!”
เมื่อบรรพบุรุษมังกรวานจุนเห็นรางดังกลาวหนาของมันซีดในซีดทันใด!
ผูอำมหิตไรใจเจี๋ย…! ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ…! จักรพรรดิปศาจ...!
“นิ...นี่”
โดยเฉพาะอยางยิ่ง ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ กับจักรพรรดิปศาจนั่น! ทั้งคูคือ
ตัวตนที่ทรงพลังอำนาจ แข็งแกรงที่สุดในโลกเซียนโบราณในหวงเวลานั้น!!
หากเปนตัวตนสูงสุดตนอื่นๆ ยามพบจักรพรรดิปศาจยังตองพบพานกับความ
ปวดเศียรเวียนเกลาไรจบสิ้น! ไถถามโลกหลามนุษยนั่นทำใหอีกฝายเชื่องจนมาเขา
พวกไดอยางไร!?
เปนไปไมได!
“เอาละ ตอนนี้ก็ 4 ตอ 4 แลว ...แบบนี้ขาจะไดพูดไดเต็มปาก วานี่เปนการตอสู
อันยุติธรรม!” หลินฟานหัวเราะออกมาเบาๆ ตอนนี้เขามีความสุขไมนอย
“เอาละ พวกเจาไปจัดการพวกมันได ออ เอาใหพวกมันปางตายก็พอนะ! อยา
พลั้งมือฆามันตายหรือทำใหมันพิการซะละ!!” หลินฟานกลาวสั่งออกมา
ครืนนนน!!
ทันใดนั้นความวางเปลาสะทานสะเทือนอีกครา ภาพเบื้องหนาดั่งฝูงหมาปาพุง
รางกระโจนเขาหากลุมลูกแกะนอยที่ยังไมหยานม!
“ยะ...หยุด! ยั้งมือดวย!”
“ขายอมจำนนตอเจาแลว! ขายอมจำนนแลว!!” บรรพบุรุษมังกรวานจุนไรซงึ่
ศักดิ์ศรีใดหลงเหลือ มันหวาดกลัวอยางหนักหนาจนแทบอึราด ความกลาอันตรธาน
หายไปหมดสิ้น ตอนนี้มันหวังเพียงไดรับความเมตตาเทานั้น!
ตอนที่ 812 มวลหมูสหายรวมสหบาทาสัมพันธจติ ใจ
วูบบบ!!
เมื่อจักรพรรดินีมังกรหลุดพนออกจากชองวางแหงความวางเปลา รางนางก็
แนนิ่งกลางฟา เงียบงันไปพักใหญราวกับคิดถึงบางสิ่งอันสำคัญ สายตามองเหมอไป
อยางเลื่อนลอย…
“เรื่องราวมันกลับกลายเปนเชนนี้ไดอยางไร...”
ตอนนี้ใจของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูวาวุนนัก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวนางกัน
แน? ใยนางถึงไดบังเกิดความรูสึกเชนนี้?
กาลครั้งหนึ่งจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู ยังเปนเพียงสตรีนางหนึ่งที่แสนธรรมดาใน
ชนเผา… เปนสตรีออนแอที่ทกุ ผูตางดูแคลน ไมไดรับการยอมรับใดๆ แคตัวตนอันไร
สำคัญ...
เมื่อตองเติบโตขึ้นในสภาพแวดลอมที่มีแตผูคนดูแคลนหยันหยาม หัวใจของ
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวู ก็คลายถูกหลอหลอมเคี่ยวกรำจนแกรงเหนือใดในชนเผา
มหามังกร... อันที่จริงนางยิ่งมายังยิ่งเย็นชาไรแยแสตอโลกหลา!
หากใครทำใหนางขัดใจ นางจะทุบตีมันเสียปางตาย!
หากใครกลาแตะตองนาง นางก็จะฆาลางมันทั้งตระกูล!
นี่คือคำอธิบายตัวตนของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูที่ชัดเจนที่สุด เมื่อนาง
แข็งแกรงขึ้น…ไรซงึ่ ตัวตนใดในชนเผามหามังกรกลายุงกับนาง!
ยามมองมายังจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู ในสายตาของมหามังกรทั้งหลายยังเต็ม
ไปดวยความเคารพ
ทวายามนี้จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูคลายรูสึกวามีบางสิ่งกำลังเลนงานจิตใจนาง นี่เปน
อะไรที่ขัดแยงกับตัวนางที่เคยเปนมานัก! ใจที่ดานชาไรแยแสกลับวาวุนฟุงซาน...
“นั่นเปนแคเพียงมนุษยเทานั้น! ตอไปมันก็เปนศัตรูของขา! ขาจักไปบังเกิด
ความคิดเหลวไหลเชนนั้นไดอยางไร!?”
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวู คลายตอสูกับความรูสึกในใจ... ทวาทุกครั้งที่นาง
หลับตา สิ่งเดียวที่ปรากฏก็คือรอยยิ้มสุดทายนั่นที่ปรากฏขึ้นมากอนชองวางจะปดลง
...
รอยยิ้มนั้นแมจะออนโยนอยางถึงที่สุด...แตยังเสมือนดั่งคมมีดกรีดแทงทะลุเขา
ไปกลางใจของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูจนเจ็บปวดที่สุดเชนกัน
ทันใดนั้นรางจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูก็เหินทะยานพุงไปทิศทางหนึ่งดวยความเร็ว
สูงสุด เสี้ยวพริบตารางนางวูบหายไปนับพันลี้! ความวางเปลาเผยอาการกระเพื่อมปริ
ราวใกลแตกสลาย เปนผลกระทบจากความเร็วของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู!!
หลังจากผานไปชวงหนึ่ง ที่คงมีแตสวรรคเทานั้นที่รูวานานแคไหน...
เบื้องหนาไกลตาปรากฏ ไอปราณมังกรจำนวนมหาศาลแผพุงขึ้นฟาดังเปลว
เพลิงลุกโหม ในปราณมังกรดังกลาวยังมีรางมหามังกรตัวเขื่องจำนวนนับอนันตแหวก
วายเวียนวนประหนึ่งกำลังเริงระบำ! ฉากอันแสนตระการตานี้ชางทรงพลังอำนาจนัก
และนี่คือฐานที่มั่นของชนเผามหามังกร!!
เมื่อมหามังกรเฝายามเห็นรางจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูกลับมาถึงก็รีบออกมาทำ
ความเคารพตอนรับ
“คารวะจักรพรรดินีมังกร!”
“ไสหัวไป!!”
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูคำรามเสียงแข็ง กอนจะซัดมหามังกรเบื้องหนาจนปลิว
กระเด็นหัวปกดิน
มหามังกรที่ถูกซัดจนหัวปกดินดิ้นพลานอยูพักหนึ่งคอยดึงหัวออกมาได มันนั่ง
มึนตึ๊บไปพักใหญดวยไมเขาใจ และสงสัยไมนอยวาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูเปนอะไร
ไป เกิดอะไรขึ้นกันแน นางถึงไดหงุดหงิดขนาดนี้? หรือวาเปนวันนั้นของเดือนกัน?
ภายในฐานที่มั่น...
“หืม? วันนี้มันเกิดอันใดขึ้นกับจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูกัน? ไมใชวานางออกไป
กับบรรพบุรุษมังกรวานจุนหรอกหรือ?”
“จากสีหนา...ดูเหมือนจักเกิดเรื่องบางประการขึ้นแนแลว พวกเราอยาได
กลาวถึงเรื่องนี้ดีกวา หาไมแลวหากนางไดยินพวกเราเดี๋ยวพวกเราจะถึงคราเคราะห
กันเสียเปลาๆ ...”
คนของชนเผามหามังกรกระซิบกระซาบกันเบาๆ เมื่อจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู
เหินผานฟาเหนือรางพวกมัน พวกมันก็รีบหุบปากลงทันใด
ไมนานเบื้องหนานางก็ปรากฏหอคอยมหามังกรสูงตระหงานราวกับจะทิ่มแทง
ผืนฟานภาลัย
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูรอนลงมาจากฟากอนจะคุกเขาขางหนึ่งลงบนพื้น กลาว
ออกมาเสียงดัง
“ทานเทพบรรพบุรุษมังกร ยามนี้บรรพบุรุษมังกรวานจุนไดทรยศเผาพันธุมหา
มังกรของพวกเราแลว! ผูที่ถวงเวลาใหขาหนีรอดกลับมารายงาน กำลังตอสูตานทาน
รับมือมันเอาไว! ขอทานไดโปรดสังการใหเทพมังกรทั้ง 12 ตน ติดตามขาไปชวยเหลือ
มนุษยผูนั้นดวยเถอะ!!”
ทันใดนั้นเสียงดังสนั่นพลันลั่นออกมาจากหอคอยมหามังกรอันสูงใหญ!
“เจาวาอะไรนะ!?”
“ยามนี้บรรพบุรุษมังกรวานจุนแปรพักตรไปเขาพวกกับสวะชนเผาโบราณแลว!
ขาวิงวอนรองขอตอทานเทพบรรพบุรุษมังกร โปรดสั่งการใหเทพมังกรทั้ง 12 ตน
ติดตามขาไปชวยเหลือมนุษยผูนั้น! ทั้งพวกเรายังจะไดกำจัดสวะทรยศ บรรพบุรุษ
มังกรวานจุนไปในคราวเดียว!!”
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูกมหัวลงต่ำ ปากกลาวคำวิงวอนรองขอออกมา ดวยเหตุผล
ประการใดไมทราบ แตคลายนางจะวิตกกังวลเกี่ยวกับชีวิตของมนุษยผูนั้นไมนอย
ในชนเผามหามังกรนั้น บรรพบุรุษมังกรวานจุนถือเปนตัวตนอันแข็งแกรงที่สุด
ตนหนึ่ง! ตอใหจะมีเทพมังกรทั้ง 12 ตนใหความรวมมือ…จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูก็ไม
มีความมั่นใจวาจะเอาชนะอีกฝายได! แตคงมากพอที่จะสรางโอกาส และชวยเหลือ
มนุษยผูนั้นใหรอดพนเงื้อมมือของมันได!!
“เฉินหวู ที่เจากลาวนี่…เรื่องจริงงั้นหรือ?”
“ยอมจริง! เวลามิคอยทาแลวทานเทพบรรพบุรุษมังกร ไดโปรดตอบรับคำขอ
ของขาดวย! ไดโปรด!!” จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูรองขอออกมาอยางรอนใจ
“ความแข็งแกรงของบรรพบุรุษมังกรวานจุนมิใชชั่ว พวกเรามิอาจกระทำการ
โดยประมาทได อาศัยเทพมังกรทั้ง 12 ตนยังมิแนวาจะจัดการกับมันได... เรื่องนี้พวก
เราตองไตรตรองใหด”ี
“มิได! เวลามิคอยทาแลว! หากชักชามนุษยผูนั้นยอมมิอาจทานทนไดสืบไป เขา
มิอาจรอชาได!!” ดวยเหตุผลประการใดไมทราบหากแตจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูกลับ
กลาขึ้นเสียงโตแยงเทพบรรพบุรุษมังกรออกไป!
และเมื่อกลาวคำเหลานั้นออกไป จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูก็คลายจะเขาใจ
ความรูสึกตัวเอง
“ฮึ่ม!”
“เฉินหวู ดูเหมือนวาตอนนี้เจาชางกลานัก!? นี่เจากลาขัดคำของทานเทพบรรพ
บุรุษมังกรงั้นหรือ?!”
เสียงทรงอำนาจอีกเสียงหนึ่งดังสนั่นลั่นไปทั่ว
“ขาไมกลา!”
ยามนี้ในใจจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูแทบจะมอดไหมไปดวยไฟกังวล นางรอนใจ
หนักหนาดวยไมรูวาจะทำอยางไรดี!
“หงหวงเชนนั้นเจาก็ไปดูเรื่องราวกับนางหนอยเถอะ”
ทันใดนั้นเองเสียงของเทพบรรพบุรุษมังกรพลันดังขึ้น
ทันทีที่จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูไดยินเสียงนี้ นางรูสึกคลายหัวใจเตนระรัวดวยความ
ยินดีราวกับจะกระดอนออกมานอกอก “ขอบพระคุณทานเทพบรรพบุรุษมังกร!”
นางเองก็ไมคิดไมฝนวาทานเทพบรรพบุรุษมังกร จะกลาวใหบรรพบุรุษมังกรหงหวง
ติดตามนางไปแทน! นี่คือตัวตนที่ยังสูงสงยิ่งกวาเทพมังกรทั้ง 12 ตนเสียอีก!!
...
ตอนนี้ทางดานหลินฟาน สถานการณก็กำลังไปไดสวยไมนอย ดวยมีตัวตนสูงสุด
อยูถึง 2 เรื่องราวการตอสูก็งายดายปานละเลนกับเด็กนอย
ตอนนี้มหามังกรผูติดตามบรรพบุรุษมังกรทั่วรางปกช้ำดำเขียวหนายังบวมเปน
สุกร พวกมันทำไดแคคุกเขากมหนาอยางนาเวทนา ดูทามิแคลวคงผานการถูกทุบตี
กระทืบมาครั้งใหญ ระดับพลังฝกตนของพวกมันก็ไมใชชนชั้นต่ำทราม ลวนเปนเทพ
สวรรคอมตะ 9 ชั้นฟากันทั้งสิ้น แตเพียงเทานี้เมื่ออยูตอหนาตัวตนสูงสุดก็แทบไมตาง
ใดกับมดปลวก!
ไวชีวิตพวกเราเถิด”
“พวกเรายินยอมสยบแลว”
“พวกเราเพียงถูกบรรพบุรุษมังกรวานจุนบังคับบีบคั้นเทานั้น! พวกเราหาไดเต็ม
ใจสวามิภักดิ์ตอชนเผาโบราณไม!!”
...
เมื่อเห็นรางอนาถาของชนเผามหามังกรทั้ง 3 หลินฟานก็โคงคิ้วขึ้นเล็กนอย
ความแข็งแกรงของเทพสวรรคอมตะ 9 ชั้นฟาก็นับวามิใชชั่ว หลินฟานเองก็อยูหาง
จากการยกระดับเปนเทพสวรรคอมตะ 10 ชั้นฟาอีกแสนไกล ดูเหมือนวาเขาเองก็ตอง
เก็บคาประสบการณสักหนอยแลว
ครืนนนน!!
หลินฟานเริ่มขยับทันใด เขาคอยๆ งอนิ้วกำลงชาๆ กอนที่จะชกออกไปเบาๆ
หากแตหมัดนี้เปยมลนไปดวยพลังอำนาจทำลายลางอันนาพรั่นพรึง ประหนึ่งคอน
ยักษหลนรวงจากแดนสรวง โถมทับลงไปยังรางมหามังกรทั้ง 3
“มะ ไม! มายยยยยยยยยยยยย!!!!!!!”
ทันทีที่มหามังกรทั้ง 3 เห็นอานุภาพพลังทำลายลางนาพรั่นพรึงแหวกฟาผา
อากาศมาหมายบดขยี้พวกมัน ตางก็ร่ำรองออกมาเสียงหลง รางของพวกมันไมอาจ
ตานทานแรงกดดันอันนากลัวนี้ไดเลย!!
เปรี๊ยงงงงงงงงงงงงงงง!!!!
มหามังกรทั้ง 3 ถูกพลังหมัดหลินฟานบดขยี้จนแหลกสลายหายไปทันใด!
“โห ไมคิดเลยวาพลังของพีป่ ระมุขจะแข็งแกรงขึ้นขนาดนี้แลว...แคหมัดเบาๆ
หมัดเดียวทุบไอ 3 ตัวนั่นเปนผงเลยเหรอวะเนีย่ ใชไดๆ ไมเลวๆ !”
เมื่อเห็นอานุภาพการลงมือของตัวเองหลินฟานก็ยินดีอยางยิ่ง
ไมใชวาหลินฟานไมอยากใหพวกมันอยูรอดหรืออะไร แตตองโทษที่พวกมันดัน
ออนแอเกินไป ออนแอจนพวกมันไมเขาเกณฑเปนลิ่วลอผลิตโอสถเจิ้งหยางใหเขา
เพราะลิ่วลอของเขาขั้นต่ำตองเปนเทพสวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 10 เพทนิรันดร!
‘ติ๊ง!!... ขอแสดงความยินดีทานสังหาร ชนเผามหามังกร ระดับเทพสวรรคอมตะ
ชั้นฟาที่ 9’
‘ติ๊ง!! ...EXP+ ... ’
ทุกๆ ครั้งที่หลินฟานฆาใครเขาจะฉกฉวยทุกสิ่งที่อีกฝายมี แกนแทโลหิต ดวงจิต
แดนสวรรคและโลก วิมานฟา ฯลฯ...เรียกไดวาสารัตถะอันมีประโยชนทั้งหลาย เขา
จัดเรียบ!
ตอนนี้วิมานฟาของหลินฟานแข็งแกรงอยางนาเหลือเชื่อ แดนสวรรคและโลก
ของเขาเองก็หลอมรวมเขากับวิมานฟาไปเนิ่นนานแลว ตอนนี้มันกลับกลายเปนดวง
ตะวันใหวิมานฟาของเขา! แผดแสงอันแรงกลาเปยมลนไปดวยพลังอำนาจ ฉายไปทั่ว
วิมานฟา ยังหมุนวนเปลงพลังอำนาจออกมาไมรูจบ จายพลังงานมหาศาลออกมาทุก
ชั่วขณะเวลา!!
“จะ...เจา!!”
เมื่อบรรพบุรุษมังกรวานจุนเห็นผูติดตามทั้ง 3 ของมันถูกพิฆาตจนตายตกใน 1
หมัดของบุรุษเบื้องหนา มันก็อึ้งคางตะลึงงันไปอยางสมบูรณ!
“เอาละ ตอนนี้ขาจัดการมดปลวกหมดแลว... แกงเรามารุมทืบไอนี่กันตอเถอะ!”
ถึงแมวาพลังฝมือความแข็งแกรงของบรรพบุรุษมังกรวานจุนจะนาเกรงขาม แต
สำหรับตัวตนสูงสุดแลวหากคิดฆาอีกฝายยังงายไมตางบี้มด!
ทวาหลินฟานนั้นนิยมชมชอบรวมหัวกับแกง
ปอนกระบวนทา ‘สหบาทาสัมพันธจิตใจ’ หรือเรียกงายๆ วารุมทืบแบบนี้เปน
ที่สุด! อีกฝายจะยินยอมชมชอบหรือไมนั้นไมสน! พี่จะทืบ!!
“ตัวสารเลวคิดคดทรยศวานจุน! มาเปนลิ่วลอพี่ประมุขซะดีๆ” หลินฟานเตรียม
ใชแสงพิสุทธิ์ชำระลาง กลิ่นอายรัศมีธรรมแผซานออกมาทันใด
ตั้งแตที่บรรพบุรุษมังกรวานจุนเห็นคูตอสู ใจมันก็แปวเออลนไปดวยความสิ้น
หวัง อยางไรก็ตามเมื่อมันจะประสพชะตากรรมเลวรายยิ่งกวาตายมันก็ขอสูดวยพลัง
ทั้งหมดที่มันมี!
“บัดซบ! ในเมื่อพวกเจาไมเหลือหนทางใหขากาวเดิน เชนนั้นตอใหขาตองตาย
ขาก็จักมิมีวันปลอยใหพวกเจาไดอยูสบาย!!”
“ยาคคคคคคคคคคคคคคคคคคค!!!!”
ทันใดนั้นเสียงคำรามแผดลั่นดังออก บรรพบุรุษมังกรวานจุนปะทุพลังชั่วชีวิต
ออกมาแลว!
“ฮี่ๆ ยังหาวไดอีก...”
หลินฟานแสยะยิ้มหัวเราะออกมาอยางเย็นชา กอนจะหยิบดาบเลมเขื่องออกมา
จากมิติเก็บของ
ทันทีที่ดาบเลมเขื่องนี้ปรากฏสูโลกหลา หัวใจของบรรพบุรุษมังกรวานจุนสะทานสั่น
ไหว กลิ่นอายที่แผซานจากดาบเลมเขื่องนั่น ชางเย็นเยียบเสียดกระดูกมันนัก!
“ดาบฆามังกร! ชำนาญการสับหัวมหามังกรเปนพิเศษ!!”
“ทืบ!!”
เมื่อไดยินคำสั่งของหลินฟาน ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ ผูอำมหิตไรใจ เจี๋ย และ
ปศาจยักษโบราณ ที่รุมลอมบรรพบุรุษมังกรวานจุนอยู ก็เริ่มทุบตีมันอีกครั้ง แตละ
หมัดแตละเทาเปยมลนไปดวยพลังอำนาจมหาศาล ดวยมีดาบฆามังกรสะกดขม การ
ตอตานของบรรพบุรุษมังกรวานจุนยิ่งถดถอยลง มันไดแตร่ำรองโอยๆ อยางนาเวทนา
รับประทานสหบาทาสัมพันธจิตใจอันไรเมตตาอยางเอร็ดอรอย...
“หมัดดาวเหนือโลหิตปะทุ!”
“หมัดดาวเหนือระเบิดเตานม!”
“เตะสลายแกนกำเนิด!”
“อาคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค!!!!”
เสียงกรีดรองแหงโศกนาฏกรรมยังคงดังขึ้นไมหยุดหยอน หางไกลหมื่นลี้ยังแววเสียง
ชวนหวาดผวา ไมวาผูใดไดฟงยอมบังเกิดความสะทกสะทอนเวทนาในใจไมนอย มิรูวา
ผูร่ำรองตองเจ็บปวดถึงเพียงใดกัน...ถึงสรรสรางสำเนียงโหยหวนเชนนี้ออกมาได!
“แสงพิสุทธิ์ชำระลางขององคสัมมาสัมพุทธเจา! แสงพิสุทธิ์....”
“มะ...ไม! ไมมมมมมมมมมมมมม!!”
“บาเอย! ยังชำระไมติดอีก! ดูเหมือนวาใจมันยังไหว! ดูทาพวกเรายังทุบตีมันไม
พอ! ทืบมันตอ!!”
ตอนที่ 813 โอสถเจิง้ หยาง 1 ลานเม็ดตอวัน
“มะ...ไม พอแลว! ไดโปรด! พอเถิด!”
ตอนนี้บรรพบุรุษมังกรวานจุนกมหัวร่ำรองโอดครวญออกมาเสียงออน นอกจาก
ใบหนาของมันจะฟกช้ำดำเขียวปูดบวมแลว...มันก็ไรซึ่งหนทางตอบโตอยางสิ้นเชิง! ไม
คิดเลยวาตัวตนระดับเทพสวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 10 เทพนิรันดรเชนมัน กลับตองถูก
ทุบตีโดยไมอาจกระดิกไดแมเพียงนิ้ว!
และสิง่ ที่ทำใหบรรพบุรุษมังกรวานจุนคับแคนใจถึงที่สุดก็คือความจริงที่วา...
มนุษยบัดซบนั่น มักจะปรากฏเขามารวมวงศไพบูลยกระทืบมันเปนครั้งคราว
ราวกับภูตผี และการโจมตีของอีกฝายก็นากลัวนัก! แมวาแตละหมัดของอีกฝายจะ
ไมไดมีพลังทำลายลางอะไรมากมาย แตหากชกถูกรางของมันตรงไหน...ตรงนั้นจะ
บังเกิดโลหิตฉีดพุงออกมาอยางนากลัว! ทำใหรางของมันตอนนี้ตกอยูในสภาพนา
สังเวชสุดๆ !!
บรรพบุรุษมังกรรูสึกวาวันนี้คราเคราะหที่สั่งสมมา 8 ชาติภพของมันคลายจะ
ประดังเขามาทีเดียว!
ไมคิดเลยวาออกมาวันนี้ มันจะตองมาพบพานตัวตน ที่มันไมอาจรับมือได!
สวนเรื่องที่เหตุไฉนอีกฝายถึงไดมีตัวตนสูงสุด 2 ตนในการควบคุมรวมถึง
จักรพรรดิปศาจอันนาพรั่นพรึงนั่น มันไมอาจทราบได! แตที่ทราบก็คือ...นี่ชางเปน
กำลังรบอันแข็งแกรงเขาขั้นทาทายสวรรคนัก!!
ไมตองกลาวถึงเรื่องที่ตอนนี้มันถูกกระทืบจมกองเทาเลย ลำพังแคตัวตนสูงสุด
ตนใดสักตนมันก็ไรหนทางตอสูแลว!!
เมื่อเห็นสภาพบรรพบุรุษมังกรวานจุนที่ตอนนี้ทำไดแคนอนคุดคูเก็บคองอเขา
หลินฟานก็อดไมไดที่จะหัวเราะออกมาอยางสนุกสนาน ดวยมีดาบฆามังกรที่คอนไว
บนไหล สภาพของบรรพบุรุษมังกรยิ่งหวาดผวาจนนาหัวรอ!
‘อืม...ถูกทืบจนรองแบบนี้ นาจะไดแลวนะ โอกาสที่แสงพิสุทธิ์ชำระลางจะ
สำเร็จนาจะเยอะพอดูแลว’
ทันใดนั้นดัชนีหลินฟานก็เปลงรัศมีธรรมอันสวางเรืองรองออกมาอีกครั้ง
ภายในรัศมีธรรมนี้ มองไปจะเห็นรางพระสงฆจำนวนนับหมื่นพันกำลังนั่งสวดมนต
ลอยลองวนเวียนไปมาปานเริงระบำ แลไปคลายโลกแหงพุทธะไมนอ ย ตางคนกำลัง
ถือคัมภีรทองบทสวดยากเขาใจ และยามเมื่อคัมภีรเปลงแสงเรืองรองมันก็จะเปลง
รัศมีธรรมอันบริสุทธิ์ผุดผอง พุงไปครอบงำรางของบรรพบุรุษมังกรวานจุน!
“จะ...เจาคิดชำระลางขางั้นเหรอ!?”
เมื่อสัมผัสไดถึงพลังแหงการชำระ สีหนาบรรพบุรุษมังกรวานจุนยิ่งซีดลงหนัก
หนา ยามนี้ไมมีแมแตสีสันใดบนใบหนา ใบหนาที่ปูดบวมยากจะมองเห็นลูกนัยนตายัง
เผยความหวาดกลัวจับใจออกมาใหเห็นเดนชัด!
“แมนแลวตะกวดนอยหมาเลี้ยงชนเผาโบราณ! มาๆ กลับตัวกลับใจมาอยูกับพี่
ประมุขซะดีๆ พี่ประมุขรับรอง อยูกับพี่แลวชีวิตเจาจะมีแตความสงบ!”
หลินฟานหัวเราะออกมาเบาๆ ความแข็งแกรงของบรรพบุรุษมังกรวานจุนนั้น
นับวามิใชชนชั้นต่ำทรามแมแตนอย! หากเขาจับมันมาเปนลิ่วลอปมโอสถเจิ้งหยางทัง้
วันทั้งคืนไดละก็…ประเสริฐ!!
กวาดตามองผานทั้งแดนดินนั้น แมตัวตนระดับเทพสวรรคอมตะ 10 ชั้นฟาอัน
ทรงพลังนั้นจะมีไมนอย ทวาผูที่ไดนั่งบัลลังกเทพนิรันดรชางมีนอยคนนัก! และอยาง
นอยๆ หากเขาสามารถชำระลางเปลี่ยนตัวตนเชนนี้มาเปนลิ่วลอไดสัก 2-3 ตนละก็
ตอไปเขาคงไมตองปวดหัวกับจำนวนโอสถเจิ้งหยางในภายภาคหนาแลว!!
“บัดซบ! ขาคือบรรพบุรุษมังกรวานจุน! ขามิมีวันเปลี่ยนไป มิมีวันที่เจาจักชำระ
ขาได!!”
บรรพบุรุษมังกรวานจุนแผดเสียงออกมาลำคอแทบแตกอยางเกรี้ยวกราด มัน
ยอมรูผลลัพธของการถูกชำระดี! มันจะสิ้นความรูสึกนึกคิด ไมเปนตัวของตัวเองอีก
ตอไป สุดทายชะตาชีวิตของมันก็กลับกลายเปนไดแคทาสของมนุษยเบื้องหนาตราบ
ชั่วนิรันดร ไมมีแมแตโอกาสที่สำนึกสติของมันจะหวนกลับมาอีกชั่วกาล...
“ชำระ!”
หลินฟานจี้นิ้วออก พลังแหงการชำระควบรวมเปนจุดเดียว กอนจะทะลุผาน
ความวางเปลาดิ่งตรงเขาไปยังสติสำนึกและจิตใจของบรรพบุรุษมังกรวานจุนโดยตรง!
สีหนาบรรพบุรุษมังกรวานจุนเปลี่ยนไปทันใด มันรูสึกราวกับจิตใจกำลังถูก
ครอบงำทั้งกำลังถูกกลืนกินดวยอำนาจแหงการชำระ!!
“ไม....ไม มายยยยยยยยยย!!!”
บรรพบุรุษมังกรวานจุนกรีดรองสุดเสียง มันเปลงพลังอำนาจชั่วชีวิตตานทาน
อำนาจแหงการชำระไวเต็มกลืน! สีหนาของมันแปรเปลี่ยนกลับกลายไปอยางไรสิ้นสุด
บัดเดี๋ยวก็เต็มไปดวยความเมตตา บัดเดี๋ยวกลับมาเศราหมองไมยินยอม บางก็
กลายเปนดุรายอำมหิต!!
“บัดซบ! ไมมีวันที่ขาจักยอมใหเจากระทำไดสำเร็จ!!”
บรรพบุรุษมังกรวานจุนยากจะทานทนไหวสืบไปรางของมันกระตุกระรัว กอนที่
จะหวนคืนสูรางกายที่แทจริง! มหามังกรตัวเขื่องลำตัวยาวนับหมื่นฟุตปรากฏทันใด!!
‘ติ๊ง!! …การชำระลางลมเหลว’
“ฮัยยา...ขนาดนี้แลวเจายังตานทานไดอีก! ดูเหมือนวายังถูกทืบไมพอสินะ!!”
หลินฟานคิดไมถึงเล็กนอย เพราะขนาดนี้แลวบรรพบุรุษมังกรวานจุนยังสามารถ
ตานทานอยูได! เขารูสึกขัดใจขึ้นมาทันใด! ไอกรวกนี่มันไมไวหนาเขาเลย!!
“ไป! ไปทืบมันตอ คราวนี้เอาใหเละ!!”
หลินฟานโบกมือราวหัวโจกเด็กเก กระบวนทาสหบาทาสัมพันธจิตใจปะทุ
ออกมาอีกครา!
“พี่จะตื๊บบบบ!!”
ตุบ! ตับ! ตุบ! ตับ!
ครานี้ยามเมื่อทั้ง 4 รุมกระทืบ แมรางของบรรพบุรุษมังกรวานจุนจะแปรเปลี่ยน
เปนมหึมา แตมันก็เทานั้น เกล็ดมังกรอันใหญแตกกระจายปานนำกระจกแกวไปทาน
รับอุกกาบาต! โลหิตฉีดพุงออกมาไมหยุดหยอน!!
ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ, ผูอำมหิตไรใจเจี๋ย, ปศาจยักษโบราณ แตละฝาเทา
หมัดมือลวนแมนยำฉับไว สาวไดสาวเอาออกไประรัว หากพวกมันไมลงมือเต็มที่ตามที่
หลินฟานกลาว สิ่งเดียวที่รอคอยพวกมันอยูคือชะตาอนาถเชนกัน!
“อาคคคคคคคคคคคคค!!”
บรรพบุรุษมังกรวานจุนที่ยามนี้ตัวมหึมาปานกำแพงเมืองจีนดิ้นพลานรองโอด
โอยไมขาดเสียง มวลพลังมหาศาลประดังซัดทำรายไมหยุด เคี่ยวกรำมันใหเจ็บปวด
แทบปางตาย มังกรยักษร่ำรองจนแทบสิ้นลม!
ตัวตนอยางบรรพบุรุษมังกรวานจุน เคยตกอยูในสภาพอนาถาเชนนี้ตั้งแตเมื่อใดกัน?
นี่เปนภาพการทุบตีทำรายผูคนไรทางสูอยางแทจริง!
“พวกสารเลวบัดซบ! พวกเจาจักรังแกขามากไปแลว! ขาจักใชทุกอยางตกตาย
ไปพรอมกับพวกเจา!!”
บรรพบุรุษมังกรวานจุนถูกทุบตีจนคิดร่ำไหยังไมมีน้ำตา อารมณของมันเจ็บแคน
แสนสาหัส มันคือบรรพบุรุษมังกรวานจุนผูดุรายทรงอำนาจอยูเหนือแหงเผาพันธุมหา
มังกร! ทวาตอนนี้มันกลับโดนทุบตีรังแกอยางไรทางสู มันยังจะทำอะไรไดอีก!?
ปราณมังกรทำลายลางทะลักออกมาทั่วรางของบรรพบุรุษมังกรวานจุนทันใด!
“วะ! ไอตะกวดกรวกนี่มันคิดจะบึ้มตัวเองแลว!!”
หลินฟานคิดไมถึงเชนกันวาบรรพบุรุษมังกรจะสิ้นหวังถึงขั้นคิดทำลายตัวเอง! นี่
ทำใหเขาโมโหไมนอย! ถลมยามัน เปนลิ่วลอพี่ประมุขไมดีตรงไหน!!
ดวงตาหลินฟานทอประกายวูบวาบ ทันใดนั้นเขาเห็นตุมเล็กๆ บางอยางที่ผุด
โผลออกมาจากสวนหนึ่งของบรรพบุรุษมังกรวานจุน แลไปคลายมีความสำคัญไมนอย
...
“บรรพบุรุษมังกรวานจุน นี่เจาคิดวาตัวเองเปนชนเผาซัมซุงหรือไง หา? ถึงคิด
วาจะสามารถระเบิดตัวเองไดทุกที่ทุกเวลา?!”
หลินฟานพุงรางไปทันใด ขาวาดเปนวงสวิงโคงอยางสวยงาม เตะไปยังตุมเล็กๆ
ที่โผลออกมาของบรรพบุรุษมังกรวานจุน!
“เตะสลายแกนกำเนิด!!”
ปกกกกก!!!
ประหนึ่งเพลงเตะไมพลาดเปา! แขงเทาของหลินฟานหวดเปรี๊ยงลงไปยังตุม
เล็กๆ ที่ผุดโผลออกมาบนรางบรรพบุรุษมังกรวานจุนเต็มขอ!!
คลื่นอำนาจทำลายลางดั่งจะลางโลกหลั่งไหลดั่งสายธารพุงเขาไปสะทานทำลาย
ทั่วกายของบรรพบุรุษมังกรวานจุน ความเจ็บปวดสุดแสนอันยากระงับแลนพลานไป
ถึงจิตใจ!
เสียงกรีดรองร่ำไหดวยความเจ็บปวดแผดดังออกมาจากปากของบรรพบุรุษ
มังกรวานจุนอีกครั้ง!!
อนิจจานาสงสาร ยามนี้คลายดั่งบรรพบุรุษมังกรวานจุนจะเปนสิ่งมีชีวิตที่นา
เวทนามากที่สุดในสรรพโลก มันถูกทารุณกรรมโดยตัวตนที่ทรงพลังเหนือมันหลายคน
ถูกทุบตีทำรายโดยไรซึ่งหนทางตอบโต ทั้งอีกฝายยังหวดเตะวานจุนนอยไมหยุดยั้งจน
หมดสิ้นแลวอนาคตลูกหลาน...นี่มันนาเศราถึงขั้นไหนกัน?
“แสงพิสุทธิ์ชำระลางขององคสัมมาสัมพุทธเจา!!”
หลินฟานเปลงพลังชำระ ปากบริกรรมคาถาบทสวดกลอมจิต
เขาคิดชำระลางมันอีกครา คราวนี้พลังอำนาจแหงการชำระยังสองสวางออกมา
ราวกับคลุมครอบโลกหลาทั้งใบ!!
ตอนนี้แสงชำระเปยมลนไปดวยรัศมีธรรมนำพาจิตใจอันแข็งแกรง! พลานุภาพ
ปานจะชำระไดทุกสรรพชีวิต! อนิจจาสำหรับตัวตนดั่งบรรพบุรุษมังกรวานจุน มัน
จำตองถูกทุบตีใหตายเสียกอนพลังอำนาจนี้ถึงจะมีผล และโอกาสสำเร็จของวิชานี้จะ
บรรลุจุดสูงสุดเมื่อจิตใจของอีกฝายแตกสลายยอมสยบสิ้นแลว...!
ทันใดนั้นเองจิตใจของบรรพบุรุษมังกรวานจุนคลายจะบังเกิดความเปลี่ยนแปลง
บางอยาง ตอนแรกใบหนาของมันแปรผันสลับกลับกลาย บางเมตตาการุณ บางเศรา
หมอง บางดุรายไมยินยอม หากแตยิ่งมาใบหนาดุรายยิ่งสลายหายไป ราวกับความ
เศราหมองแคนเคืองในใจกำลังจะถูกลบหายไปอยางสิ้นเชิง...!!
“ไมมมมมมมมมม…!!!!”
บรรพบุรุษมังกรวานจุนที่ใจออนลาสาหัส คลายจะเคนพลังชั่วชีวิตตานทานครั้ง
สุดทายเมื่อตองเผชิญหนากับความสูญสิ้น อนิจจายามนี้มันสัมผัสไดวาหัวใจของมัน
คลายไมอาจควบคุมไดสืบไป!
“อาคคคคคคคคคคคคคค!!!!”
‘ติ๊ง!! …การชำระลางประสบผลสำเร็จ’
“ฮาๆ ๆ ๆ ๆ ๆ !!!”
หลินฟานระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอยางสะใจ ในที่สุดหลังจากที่พยายามอยาง
หนัก เขาก็สามารถชำระลางบรรพบุรุษมังกรวานจุนและเปลี่ยนแปลงมันไดสำเร็จ!!
ตอนนี้เองรางบรรพบุรุษมังกรวานจุนก็หวนกลับมาสูรูปลักษณมนุษย ลอยลอง
อยางเงียบงันในความวางเปลาเบื้องหนาหลินฟาน ฝามือของมันพนมเขาหากันพรอม
ทองบทสวดของของชนเผาพุทธะ...
“เอาละ ตะกวดนอย ตอไปเจาจะตองอยูในวิมานฟาของพี่ประมุข ตั้งจิตใหมั่น
แลวเรงกลั่นโอสถเจิ้งหยางใหขาทั้งวันทั้งคืน!!”
ดวยตนไมแหงชีวิตในตำนานรวมกับบรรพบุรุษมังกรวานจุน ตอนนี้หลินฟานจะ
ไดรับโอสถเจิ้งหยาง 1,000,000 เม็ดตอวัน! 10 วันก็จะได 10,000,000 เม็ด! 100 วัน
ก็ได 100,000,000 เม็ด!!
ตราบใดที่เขามีเวลามากพอ เขาจะไดโอสถเจิ้งหยางเทาที่เขาตองการ!
ไมรอชาอะไร หลินฟานรีบเก็บเกี่ยวของมีคาจากบรรพบุรุษมังกรวานจุนทันที!
‘ติ๊ง!!…ขอแสดงความยินดี ทานไดรับแหวนเก็บของ’
‘ติ๊ง!! …ขอแสดงความยินดี ทานไดรับอาวุธระดับเตาขั้นสุดยอด เจดียมังกร 8 ชั้น’
‘ติ๊ง!! …ขอแสดงความยินดี ทานไดรับวิชา มังกรเดียวดาย’
...
หลินฟานนั้นไมไดสนใจอาวุธระดับเตาขั้นสุดยอดกับวิชาอะไรสักเทาไร ทวาสิ่งที่
เก็บอยูในแหวนมิติเก็บของอีกฝาย ดูคราวๆ ก็นับวาเปนอะไรที่ทำใหเขาพึงพอใจไม
นอย!!
หลังจากที่ตรวจสอบนับสิ่งของในแหวนสักพักหลินฟานก็คอยๆ เผยยิ้มหวาน
เจี๊ยบออกมา
ชนเผามหามังกรนับวาไมใชชนเผามหามังกรแตชื่อจริงๆ ! ของที่ซุกซอนอยู
ภายในนับวาระเบิดระเบอนัก!!
เพราะเพียงแคปริมาณโอสถเจิ้งหยางที่บรรพบุรุษมังกรครอบครอง มันก็มีนับ
พันลานแลว! นี่ทำใหดวงตาของหลินฟานลุกวาวขึ้นมาทันใด!!
หลังจากจบเรื่องราวกับบรรพบุรุษมังกรวานจุนแลว หลินฟานก็เก็บผูอมตะ
หนึ่งเดียวโบราณกับคนอื่นๆ เขาวิมานฟา กอนที่จะมุงหนาไปยังชนเผามหามังกรตอ!!
ตอนที่ 814 ทาทางการแสดงนี้จะมีประสิทธิภาพมากเกินไป
ภายในชองวางแหงความวางเปลา
“ชิคกี้ เอา! อยามาบนอีกละวาพี่ใหญไมไดดูแลเจาใหดี...ดูสิ เนี่ย โอสถบมเพาะ
ที่ขาพึ่งปลนมาไดทั้งหมด อะเอาไปสิ ขาใหเจาหมดเลย...”
ดำดิ่งทะลวงไปในความวางเปลา หลินฟานยังคงมุงหนาไปยังชนเผามังกรไม
หยุดหยอน ภายในแหวนเก็บของๆ บรรพบุรุษมังกรวานจุนนั้น เขายังพบโอสถบม
เพาะอะไรเปนจำนวนมาก
อยางไรก็ตามโอสถบมเพาะพวกนี้ไมไดมีประโยชนอะไรกับหลินฟานแลว ถึงแมวา
หลินฟานจะกินพวกมันจนหมด คาประสบการณที่ไดก็กระจิ๊ดกระจอยรอยนัก!
ทวาสำหรับเจาชิคกี้แลวโอสถเหลานี้นับวาเปนสิ่งที่ดี! มันตีปกพั่บๆ ลองควา
หมับไปกินเม็ดหนึ่ง สองตาเบิกโพลงขึ้นทันใด ทาทางเอร็ดอรอยนัก!!
กุก! กุก!!
ชิคกี้รับโอสถที่หลินฟานสงมาหากทวามันไมไดเก็บไปแตอยางไร มันเลือกที่ใช
พลังประคองกองจุม ปุกไวตรงหนา พุยกินระรัวราวกับขนมขบเคี้ยว!!
“โอย! เจาเปนไกตายอดตายอยากรึไงหา! อยามัวแตหวงกิน ฟงใหดีเดี๋ยวพอไป
ถึงชนเผามหามังกรแลว ถาเจาสัมผัสไดวาใครมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันทางสายเลือด
กับเจามากที่สุด เจารีบไปกอดขาเอาไวแลวรองหมรองไหทำตัวใหนาสงสารมากที่สุด
เขาใจนะ!”
หลินฟานกลาวกำชับออกมาดวยสีหนาจริงจัง
เรื่องนี้จะสำเร็จหรือลมเหลว ลวนขึ้นอยูกับชิคกี้!
ถึงแมวาเขาจะมีเรื่องเขมนกับชนเผามหามังกรเล็กนอย แตวาเรื่องมันก็ผานไป
แลว นอกจากนี้เขาก็ยังไมไดสังหารองคชาย 10 อะไรนั่นแตอยางไร สิ่งที่เขาทำก็แค
มอบหนทางสายใหมใหมันเดินเทานั้นเอง!!
“กุก กุก กู!!”
ชิคกี้ขานรับหนาเขม ปกยกขึ้นมาตะเบะอยางแข็งขัน กอนที่จะหันไปตาลุกวาว
พุยโอสถเขาปากตอ ทางดานเจาลูกไกทั้ง 3 ของมันก็แลดูจะมีความสุขไมนอย ทาทาง
โอสถพวกนี้จะเปนอะไรที่โอชารสสำหรับพวกมัน!
ตอนนี้เมื่อหลินฟานเห็นเจาชิคกี้มันกินดะๆ เขาก็หนาเครียดคอยจับพลังงานใน
รางของเจาชิคกี้อยางกังวล เพราะที่มันพุยกินอยางกับขนมกรุบนั่น...มันคือโอสถที่
บรรพบุรุษมังกรวานจุนเก็บไว!!
ทวากลับมีเรื่องที่ทำใหหลินฟานประหลาดและฉงนใจไมนอย เพราะถึงแมเจา
ชิคกี้กับลูกทั้ง 3 ของมันจะกินดะๆ แตทวามวลพลังที่สั่งสมในรางของมันไมมีวี่แววจะ
ปะทุหรือระเบิดออกมาเลย! ราวกับโอสถพวกนี้จะไมเกิดผลกระทบเลวรายอะไรกับ
พวกมัน แมจะยัดลงไปขนาดนั้น!!
“เฮยๆ ! ชิคกี้ เบาหนอยเวย! อยากินใหมันมากนัก! เดี๋ยวเจาไดระเบิดบึ้มหรอก
เฮย!!” ยังอดไมไดที่หลินฟานจะกลาวเตือนชิคกี้ดวยกังวล
เจาชิคกี้เงยหนาขึ้นมา กอนจะสะบัดปกกินโอสถไปอีกกำ พรอมผงกหัวนอยๆ
อยางมั่นใจ ทาทางไรเรื่องราวของชิคกี้ทำใหหลินฟานถึงกับอึ้ง!
เพราะมันทำราวกับกำลังบอกเขาวา “อยาหวงหนาปะปา แคนี้สบายๆ !”
ตอนนี้หลินฟานถึงกับรูสึกขัดตาขึ้นมาทันใด
“ชิคกี้ เดี๋ยวนี้ปกกลาขาแข็งแลวรึไง? ถึงกับไมฟงคำพี่ประมุข! ยังจะทำทาทาง
แบบนั้นอีก! ดูเจาทำเขา!!” หลินฟานถลึงตากลาว แตในขณะที่เขากำลังจะทำโทษเจา
ชิคกี้โดยการริบโอสถ เขาพลันสัมผัสไดถึงกลิ่นอายทรงพลัง ที่กำลังมุงหนาเขามาใกล
ดวยความเร็วสูง!!
“ชิบหาย! ไมคิดเลยวาพวกนั่นจะกลับมาชวยพี่ประมุขแบบนี้! แตตอนนี้พี่
ประมุขก็ปลอดภัยแลว...ไมไดการ ตองเพิ่มบทโศกอยางแกลงเจ็บหนักซักหนอย! ยิ่ง
สาหัสมากเทาไหรบางทีอาจจะเรียกคะแนนสงสารจากเผามหามังกรไดเพิ่ม!!”
“ชิกกี้ หยุดสวาปามกอนโวย! รีบกลับเขาวิมานฟาไปเร็ว!!”
หลินฟานกลาวจบก็ไมรอคำตอบวาเจาชิคกี้มันจะเห็นดวยหรือไมเห็นดวย
สะบัดมือสงมันพรอมลูกนอยทั้ง 3 และกองโอสถวูบกลับไปในวิมานฟาทันที
หลังจากนั้นหลินฟานก็กำหมัดชกตัวเองอยางแรงหลายครั้ง กระอักเลือดออกมา
ราว 3 ลิตรราดรดตัว ยังใชมือปายเลือดมาถูๆ บนหนา ทั้งตามรางกายตางๆ
หลังจากนั้นเขาก็เรงเราพลังขึ้นมาอยางรุนแรงเพื่อระเบิดรางกายทั้งตัวใหมันปริ
แตกแหวกฉีก เสื้อผาขาดวิ่น เลือดไหลโทรมกาย!!
ยังจัดหนักไดอีก!
หลินฟานควบคุมแดนสวรรคและโลกใหเปลงพลังเกินขีดจำกัด! ทำใหรางกาย
ของเขาตกอยูในสภาวะปนปวนไปดวยมวลพลังอยางบาคลั่ง! ราวกับจะปะทุระเบิด
ออกไดทุกเวลา!!
หลังจากที่ลงทุนลงแรงอยางหนัก หลินฟานก็สำรวจสภาพตัวเอง กอนที่จะพยัก
หนาอยางพึงพอใจ!
“เรียบรอยโรงเรียนจีน! ตอนนี้สภาพพี่ประมุขอนาถาแลดูรอแรสุดๆ !!”
หลินฟานรูสึกพึงพอใจกับการสรางภาพครั้งนี้ไมนอย อยางไรก็ตามเพื่อให
สมจริงขึ้นอีก เขายังฉีกเสื้อผาเพิ่มใหมันรุงริ่งไมตางอะไรกับผาขี้ริ้ว เรียกไดวาสภาพ
ตอนนี้ราวกับผานมหาศึกสงครามอันหนักหนามาอยางแทจริง!!
ไดเวลาสวมบทบาทแลว!!
หลินฟานนับเลขในใจ 1 2 3 แอคชั่น! สีหนาสบายๆ ไรเรื่องราวกลับกลายเปน
ซีดเผือดไรสีเลือดทันใด รางกายที่ดิ่งตรงในชองวางแหงความวางเปลาพลันสั่นระริก
โงนเงนไปมาซายทีขวาที เรียกไดวาตุปดตุเปอยางอนาถ!
แถมทุกครั้งที่เขาชนผนังชองวางแหงความวางเปลา เขายังกระอักเลือดออกมาดวย!
...
“เฉินหวู! มีคนอยูดานหนา!” ดวยเทพบรรพบุรุษมังกรมีคำสั่ง บรรพบุรุษมังกร
หงหวงก็ติดตามจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูมาเพื่อทำภารกิจชวยชีวิตทันที และทันใดนั้น
สัมผัสของมันก็ตรวจจับรางหนึ่งที่กำลังสายโงนเงนไปมาในชองวางแหงความวางเปลา
ราวกับจะลมลงไดทุกเวลา!!
“เปนเขา!!” ทันทีที่จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูเห็นรางนั้น หัวใจของนางก็เตนระรัว
ขึ้นมาทันใด!
หลินฟานที่ดูราวกับจะฝนรางหลบหนีเงยหนาขึ้นมามองอยางอิดโรย จากนั้นก็
รองออกมาเบาๆ ราวกับเจ็บปวด รางยังตกฮวบหลุดออกจากชองวางแหงความวาง
เปลาคลายจะหลนรวงไปยังพื้นดินเบื้องลาง!
เมื่อจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูเห็นภาพนี้ ในใจรอนรนดั่งไฟผลาญ ปะทุพลังชั่ว
ชีวิตพุงรางออกไปดั่งลำแสง แหวกทะลวงความวางเปลาไปรับรางหลินฟานไวทันใด!
“กลิ่นหอมอะไรกัน...ชางหอมยิ่งนัก...”
ตอนนี้หลินฟานอยูในออมกอดอันแนบแนนของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู อันที่
จริงเขาก็สงสัยไมนอย วาหนึ่งบุรุษที่จะกลายเปนจาวผูอยูเหนือใครในแดนดินอยาง
เขา ไฉนถึงมาถูกผูหญิงอุมไวแบบนี้ได!?
แตพอนึกไดวานี่คือการแสดง เขาก็สามารถกระทำไดอยางลื่นไหล ถูกอุมได
อยางแลดูเปนธรรมชาตินัก!
เมื่อทำทาทางราวกับพึ่งรูตัววาอยูในออมกอดอันอบอุนของใครบางคน
หลินฟานก็คอยๆ เปดตาอยางยากลำบาก ราวกับแคเปดตายังตองฝนหนักหนา
สุดทายเมื่อไดเห็นอีกฝายตาเขาก็เบิกกวางทอประกายออกมา แววตาที่ไรชีวิตหมน
ประกายคลายกลับกลายเปนมีสีสันขึ้นมาทันใด เมื่อไดสบตางามดั่งมุกมณีเบื้องหนา!!
“อา...ที่แทเปนเจาเอง...!” เสียงที่เปลงออกของหลินฟานแผวเบานัก หากแตมัน
คลายแฝงไวดวยความยินดีและความผอนคลายไมสิ้นสุดอยูในนั้น
“อั๊ค”
หลินฟานหนากระตุกกอนที่จะกระอักโลหิตออกมาคำโต โลหิตอุนรอนทะลัก
ออกปากราดรดไปยังหนั่นเนื้อละมุนขาวนวลปานภูเขา 2 ลูกที่อิงแอบแนบชิดของ
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวู...อีกครั้ง!
หนาอกของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูถูกเขากระอักเลือดใสกี่ครั้ง...
อันที่จริงหลินฟานก็จำไมไดแลว! อยางไรก็ตามพอแสรงทำครั้งนี้เสร็จ เขาก็ทำ
คอพับสลบไปทันใด แนนอนวาซบลงไปยังความนุมละมุนดังกลาว...!
“เจา...เจาเปนอันใดไปแลว!!” เมื่อเห็นวามนุษยในออมอกอยูดีๆ ก็คอพับสิ้นสติ
ไป ใจจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูรอนรนดั่งไฟลวก นางกระวนกระวายปานจะมีอสูรกาย
คุมคลั่งในกายหมายแหวกรางออกมาอยางไรอยางนั้น!
“ใหขาดูหนอย” บรรพบุรุษมังกรหงหวง กาวเขามาจับชีพจรที่มือหลินฟาน
กอนจะแผสติสำนึกเขาไปตรวจสอบรางหลินฟาน ทันใดนั้นคิ้วของมันอดไมไดที่จะ
ขมวดขึ้นมาเปนปม…
“ทานบรรพบุรุษมังกร เกิดอันใดขึ้นกับเขากันแน?!” จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูก
ลาวถามอยางสำรวม หากแตในแววตายากที่จะซอนความกังวลเอาไวได
ชายผูนี้เห็นไดชัดวาเปนศัตรูกับนาง! หากทวาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูอดไมไดที่
จะรูสึกวา เสมือนมีบางอยางในใจกำลังสั่นไหว
ความรูสึกนี้ชางลี้ลับนัก
“หนักหนายิ่งนัก...พลังของเขาปนปวนไปทั่วราง ทุกชีพจรคลายมีสัตวราย
อาละวาด แดนสวรรคและโลกของเขายังคลายจะปริแตกเปนเสี่ยงๆ สถานการณ
เชนนี้ดูแลวมิคอยสูดีนัก...” บรรพบุรุษมังกรหงหวงกลาวตอบ
“ขาขอวิงวอนทานบรรพบุรุษมังกรชวยเหลือเขาสักครา! ขาเปนหนี้บุญคุณชาย
ผูนี้ ขาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูมิอยากติดคางเขา!” จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูรีบรอน
รนกลาวคำออกมา นางยังหาเหตุผลยกอางขึ้นมาอยางขอไปที
บรรพบุรุษมังกรหงหวง มองจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูที่กำลังรอนใจ กอนที่จะ
สายหัวไปมาอยางจนปญญา
“มีกระแสพลังบรรพบุรุษมังกรกำลังปนปวนในรางเขา …ตอใหเปนขาก็มิอาจจะ
ขับมันออกมาได และขาเกรงวามีแตเทพบรรพบุรุษมังกรยื่นมือเขาชวยเหลือเทานั้น
ถึงจะพอขับกระแสพลังปนปวนนี่ได...แตเกรงวาแมขับกระแสพลังปนปวนนี่ได แลว
ทวาผลกระทบของมันอาจทำใหแดนสวรรคของเขาตองแตกสลายยากรักษาเอาไว...”
คิ้วของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูขมวดขึ้นอยางเครงเครียด นางคลายไมเปนตัว
ของตัวเอง ปะทุพลังสูงสุด พุงรางยอนกลับไปยังชนเผามหามังกรทันที!!
สวนหลินฟานที่แกลงหมดสตินั้น ดวยความที่หนายังซุกอยูที่หนั่นเนื้อละมุนของ
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวู เขายอมไดยินเสียงหัวใจที่เตนระรัวปานกลองศึกไดชัดเจน
เขาอดไมไดที่จะรูสึกผิดทา คลายวานี่ชักจะไมไดการขึ้นมาซะแลว...
จุดประสงคหลักครั้งนี้ของเขา เพียงพยายามกำจัดความไมลงรอยกันระหวาง
เขากับชนเผามหามังกร ไมไดคิดอะไรมากไปกวานั้น...
ทวาตอนนี้หลินฟานฉุกใจคิดวา ทาทางจะงานเขาซะแลว...!
เขาเปนบุรุษที่หลอเหลา ออนโยน ทั้งมีเสนหอันลนเหลือ! รวมถึงการแสดงกอน
หนาก็เต็มไปดวยอารมณจับใจ!!
ถึงแมวาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูจะเปนตัวตนที่มีอำนาจสูง คนที่เทียบนางไดใน
ชนเผามหามังกรก็มีเพียงนับนิ้ว กระทั่งนางยังเย็นชาไรหัวใจสังหารผูคนตาไม
กระพริบ! ทวานางยังเปนแคสาวนอยที่ไมเคยมีประสบการณหรือสัมผัสความหอม
หวานของความรักมากอน...
‘เดี๋ยวนะ...การแสดงสมบทบาท ตีบทโคตรแตกของพี่ประมุขกอนหนา...คงไมใช
วาจะไปทำใหจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูตกหลุมรักหรอกนะ...เรื่องเหลวไหลแบบนั้นคง
เปนไปไมได ใชไหม?’
‘ชะ...เชี่ย!’
‘ไมหรอกนา มันไมแนวาจะเปนแบบนั้นซักหนอย...บางทีพี่ประมุขคงคิดมากไป
เองหนา! นี่มันยังตองคอยๆ ดูกันไป! แตบาเอย! ถารูวามันจะเปนแบบนี้ พี่ไมนาเลน
ใหญเลย เอาแคใหบาดเจ็บสักหนอยก็พอแลว เวรแท!!’
ตอนที่ 815 ขาจักไมติดคางเจา
เสนแสงหนึ่งลากยาวตัดฟาทะลุฝาความวางเปลามาฉับไวกอนจะดิ่งลงจอด
ตั้งแตแรกเขาอาณาเขตฐานที่มั่นของชนเผามหามังกร หลินฟานก็สัมผัสไดถึง
ปราณมังกรจำนวนมหาศาลที่เออลนไปทั่วแผนฟา! และเมื่อเขามาถึงหอคอยมหา
มังกรที่สูงตระหงาน เขาก็สัมผัสไดถึงกลิ่นอายพลังนากลัวขุมหนึ่งที่แผซานออกมาจาก
ดานใน มันนาสะพรึงสุดที่ผูใดจะจินตนาการได!!
“ขอวิงวอนทานเทพบรรพบุรุษมังกร ไดโปรดชวยเหลือมนุษยผูนี้ดวย!”
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูคุกเขารองขอออกมาหนาหอคอยสูง
ทันใดนั้นเองหลินฟานรูสึกราวกับรางกายถูกพลังมหาศาลขุมหนึ่งหยิบยกเอาไว
พลังอำนาจนี้แข็งแกรงมาก! ดวยความแข็งแกรงของหลินฟานในตอนนี้เกรงวาคงยาก
ที่จะฆาอีกฝายได! แตแนนอนวาหากอีกฝายคิดจะทำใหเขาไดแผลสักแผล ก็คงเปน
อะไรที่เปนไปไมไดเชนกัน!!
อยางไรก็ตามดวยพลังความแข็งแกรงของตัวตนผูนี้ แมจะใหตัวตนสูงสุดลงมือ
ก็เกรงวาตองจายราคาออกไปอยูบาง...
นี่นับวานากลัวจริงๆ !
“นี่นะหรือ มนุษยที่ชวยเหลือเจาใหรอดพนเงื้อมมือวานจุน?” เสียงอันไร
ขอบเขตแผดดังออกมา แมจะเปนเพียงการกลาววาจาหากทวายังมีปราณมังกรอันไร
จำกัดกำจายออก!
“เปนเขา”
ทันใดนั้นพลังอำนาจขุมหนึ่งพลันชำแรกแทรกซึมเขารางหลินฟาน หลินฟานเอง
ก็ไมคิดตอตานอะไร ปลอยใหมันชำแรกแทรกซึมไปตามสบาย
ไมนานกลิ่นอายพลังของบรรพบุรุษมังกรวานจุน ที่เขาจงใจเหลือทิ้งไวในรางก็
ถูกขจัดออกไปหมดสิ้น
อยางไรก็ตามเมื่อขุมพลังนั้นหลั่งไหลถึงแดนสวรรคและโลกที่คลายจะปะทุ
แหลกสลายของเขานั้น มันก็ทำไดเพียงวนเวียนอยูรอบหนึ่งกอนจะคอยๆ ถอยกลับไป
“ขาไดกำจัดพลังตกคางของวานจุนใหเขาแลว...แตทวาแดนสวรรคและโลกของเขา...
มิมีอันใดที่ขาจักสามารถกระทำเพื่อฟนฟูใหเขาได...” เทพบรรพบุรุษมังกรกลาวออก
“นิ...นี่จักเปนไปไดอยางไร!?”
หนาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูแปรเปลี่ยนไปทันใด หากวาแดนสวรรคและโลก
ของเขามิอาจกูคืนได...เชนนั้นเขายังจะตางอะไรไปจากคนพิการ!?
ภายในโลกเซียนโบราณใบนี้ คนพิการยังจะมีประโยชนอนั ใดอีก? นั่นเปนชะตา
กรรมที่เลวรายเสียยิ่งกวาความตาย!
“ทานเทพบรรพบุรุษมังกร...มิใชวาชนเผามหามังกรของเรามีวิชาลับที่ใชสำหรับ
กูคืนฟนฟูแดนสวรรคและโลกโดยเฉพาะหรือ!?” จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูกลาวถาม
อยางรอนใจ
และทันทีที่คำถามนี้เปลงดังออกจากปากจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู ทั่วอาณา
บริเวณพลันเงียบงันลงทันใด
“เฉินหวู...มิใชเจาเองก็รูผลที่จักตามมาของวิชาลับนั่นดีอยูแลวหรือ...เจาแนใจ
หรือวาคิดกระทำเชนนั้น!?” เสียงเทพบรรบุรุษมังกรดังขึ้นอีกครั้ง
“ขา...”
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูลังเลอยูครูหนึ่ง
บรรพบุรุษมังกรหงหวงที่อยูข างๆ ก็เริ่มเกลี้ยกลอมนางออกมา
“เฉินหวู เจาอยาไดวูวามแลว! นี่เปนเพียงมนุษยคนนึงเทานั้น! ตัวเจาเปนถึง
จักรพรรดินีมังกรแหงเผาพันธุมหามังกรอันเกริกไกร! หากเจาคิดกูคืนฟนฟูแดนสวรรค
และโลกของมัน เจาสมควรรูถึงผลลัพธที่จักติดตามมาดี!!”
บรรพบุรุษมังกรหงหวงกลาว
วิชาเลิศล้ำที่สามารถกูคืนฟนฟูแดนสวรรคและโลกไดนี้ กวาดตามองทั่วแผนดิน
คลายจะมีเพียงชนเผามหามังกรเทานั้นที่ถือครอง...
อยางไรก็ตามราคาที่ตองจายออกสำหรับวิชานี้มันสูงล้ำนัก!
แดนสวรรคและโลกนั้นมันเปนอะไรที่กวางใหญพอกับโลกใบหนึ่ง อีกทั้งมันเปน
พลังอำนาจที่ตองใชขั้วพลังสมดุลอยางหยินและหยาง!
หากใครคิดจะกูคืนซอมแซมแดนสวรรคและโลกนั้น ไมเพียงแตตองประสาน
รางกายและจิตใจเขาดวยกันเทานั้น ทวาราคาที่ตองจายออกยังสูงล้ำนัก ผูที่รักษา
จำตองสูญสิ้นระดับพลังฝกตนไปถึงครึ่งหนึ่ง!!
เรื่องนี้ไมวาสำหรับผูใด มันก็เปนราคาคางวดที่สูงจนยากจะจายออกทั้งสิ้น!
ยิ่งสำหรับตัวตนที่บรรลุดานพลังฝกตนเทพสวรรคอมตะชั้นฟาที่ 10 ดวยแลว!
หากตองสูญสิ้นพลังอำนาจไปกวาครึ่ง นั่นจะเปนราคาสูงเทียมฟาอยางไมตองสงสัย!
และกวาที่จะฝกฝนจนฟนฟูระดับพลังใหหวนคืนสูจุดสูงสุดไดแลวนั้น กลาวตามตรง
เกรงวาคงยากที่จะกระทำได...!
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูทอดตาพินิจรางไรสติของหลินฟาน ในใจจองนางเริ่ม
สะทานสั่นไหว สุดทายใบหนางามหมดจดก็เผยความเด็ดเดี่ยวแนวแนออกมา!!
“ทานเทพบรรพบุรุษมังกรไดโปรดถายทอดเคล็ดวิชาลับนั่นใหขาดวย ขา!
เฉินหวู! มิคิดติดคางผูใด! หากมิใชเพราะไดเขายื่นมือชวยเหลือ ตอนนี้ขาเฉินหวูคงมิมี
ชีวิตอยูแลว...!!”
จักรพรรดิมังกรเฉินหวูกลาวตอบฉะฉานมั่นเหมาะ
“เฉินหวู เรื่องนี้...เจาจักไมไตรตรองดูใหดีกอนหรือ...?”
“ทานเทพบรรพบุรุษมังกร เฉินหวูไดคิดดีแลว และมิคิดแปรเปลี่ยน”
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูขานคำอยางมาดมั่น
“เชนนั้นก็ตามใจเจาเถอะ กลาวไปชนเผามหามังกรของพวกเราเอง ก็มิเคยติด
คางผูใดมากอน! เอาละ...”
ทันใดนัน้ เองปรากฏดวงแสงพลังดวงหนึ่งลอยลองออกจากหอคอยมหามังกร
กอนจะพุงวูบเขาไปในสติสำนึกจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู เคล็ดยอดวิชาฟนฟูประการ
หนึ่งสลักลงในใจของนางแลว...
“นี่ทำไมได!”
ความวางเปลากระเพื่อม รางหนึ่งปรากฏตัวออกมาพรอมประกาศกราว!
“มนุษยชั่วผูนี้มันลงมือกับบุตรชายของขา! พวกเรายังจะชวยมันทำอะไร!?” ราง
ที่ปรากฏตัวพรอมความเกรี้ยวกราดนี้เปนชายวัยกลางคน กลิ่นอายของมันทรงพลังไม
นอย หากแตยังออนดอยกวาเทพบรรพบุรุษมังกรหลายสวน
เมื่อจักรพรรดินมังกรเฉินหวูเห็นวาผูมาเปนใคร ใจนางก็ดิ่งวูบลงทันใด
นางรูวามนุษยผูนี้ไดลงมือจัดการองคชาย 10 ทวานางเองก็ลืมนึกถึงเรื่องนี้ไป
เสียฉิบ ใครจะไปคิดวาบิดาขององคชาย 10 จะปรากฏตัวออกมาตอนนี้!!
“หืม? นี่เรื่องราวมันเปนมาอยางไรกันแน?” เสียงเทพบรรพบุรุษมังกรดังออกมา
จากหอคอยมหามังกรอีกครั้ง
“เฉินหวู...ยามนั้นเปนเจาที่รูเรื่องราวกระจางแจงกวาผูใด และยังกลาวบอกขา
ดวยตัวเอง มาวันนี้ เจาก็บอกเลาเรื่องราวนั่นอีกคราตอหนาทานเทพบรรพบุรุษมังกร
เถอะ!!” เทพมังกรวานเชิ่งกลาวออก
ยามมันทอดตามองหลินฟานนั้น ในแววตาของมันมีแตความเกรี้ยวกราดเดือดดาล
สวนหลินฟานที่กำลัง ‘หมดสติ’ รูสึกปวดไขขางซายขึ้นมาตงิดๆ
‘ชิบหายเอย! ถลมมารดามัน ทำไมถึงไดมีปญหาเยอะแยะนักวะ!? องคชาย 10
นั่นมันตายที่ไหน! มันแคถูกพี่ประมุขฝกใหเชื่องเอง’
อนิจจาไหนเลยหลินฟานจะตื่นขึ้นมาบอกเลาเรื่องราวตอนนี้ได! เพราะอยูดีๆ
หากเขาฟนขึ้นมากลาวคำ เรื่องราวการบาดเจ็บยอมมีพิรธุ แลว!!
‘เฮอ...ถุยชีวิต! นี่สินะที่เคาวากันวาอยาไดริ่เริ่มโกหก...พอพี่ประมุขโกหกครั้งนึง
แลว ก็ตองโกหกตอไปเรื่อยๆ ยากที่จะยอนกลับมาทำใหเรื่องราวมันถูกตอง!!’
หลินฟานนั้นทำไดแคอดทนไมอาจกลาวอะไรออกมาได
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูกมหนาลงกอนที่จะพยักหนาชาๆ
“มิผิด องคชาย 10 ถูกมนุษยผูนี้สยบ หากทวาองคชาย 10 เองก็ยังมิไดตายตก…”
“เทพบรรพบุรุษมังกร ทานไดยินแลวหรือไม มนุษยนี่มันจัดการลูกขา! เชนนั้น
พวกเรายังจะไปชวยมันไดอยางไร!? เฉินหวู จักดีเสียกวาที่เจาจักปลอยมือเรื่องนี้ไป
เสีย! อยาไดหลงผิดคิดกระทำเรื่องเหลวไหลแลว!!”
เทพมังกรวานเชิ่งโพลงคำออกมาดังสนั่น
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูมองสบตาเทพมังกรวานเชิ่งตรงๆ
“นั่นเปนเรื่องของทาน ทวามนุษยผูนี้ก็ไดชวยชีวิตขา! เฉินหวูเอาไว! ขายอม
ชดใชบุญคุณนี้ใหเขา สวนหลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาแลว ทานจักทำอันใดกับเขาก็เปน
เรื่องของทาน มิมีอันใดเกี่ยวของกับขาสืบไป!!”
“ขอทานเทพบรรพบุรุษมังกรโปรดเมตตาสงเสริมขาดวย” จักรพรรดินีมังกร
เฉินหวูกลาวออกมา
“วานเชิ่ง...จากที่เฉินหวูบอก องคชาย 10 ลูกเจาก็ยังมิไดตายตกมิใชหรือไร?
เชนนั้นมิไดหมายความวาลูกเจายังอยูในเงื้อมมือมนุษยผูนี้หรือ แลวกระนั่นใยเจามิ
ปลอยใหเฉินหวูใชหนี้บุญคุณของนางเสียกอนเลา…พอมนุษยผูนี้ตื่นขึ้นมาเจาก็ใหมัน
อธิบายตอเจาเสียมิดีกวาหรือ?” เทพบรรพบุรุษมังกรกลาวออก
“เชนนั้นพวกเราจักกระทำตามประสงคของเทพบรรพบุรุษมังกร” ไมคิดกลาว
คำใดสืบไป เทพมังกรวานเชิ่งสะบัดผาคลุมคราหนึ่ง หันหลังกลับแลวจากไปทันที
“เอาละ เชนนี้พวกเจาทั้งหลายก็กลับไปเถอะ...”
...
ตอนนี้หลินฟานก็ถูกจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูนำมาพักที่วังของนาง
ในฐานะที่เปนตัวตนอันเปนที่ยอมรับนับหนาถือตาของชนเผามหามังกร
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวู ยอมมีพระราชวังมังกร ที่เปนดั่งวิหารเทพกรีกโบราณเปนที่
พำนักสวนตัว...
ตอนนี้รางหลินฟานนอนทอดกายอยูบนเตียงมหึมาหลังหนึ่ง ทวาแมตัวจะนอนนิ่ง
หากแตสติสำนึกพลันวิ่งพลานไปสำรวจตรวจสอบทั่วทั้งฐานที่มันของชนเผามหามังกร
...และตอนนี้สิ่งที่ทำใหหลินฟานตองปวดหัวมากที่สุดก็คือ เขาจะทำยังไงดี!!
ฉิบหายเถิดฟงเรื่องหยินหยางทีไรอดขนลุกขึ้นมาไมได! นี่เขาตองถูกนารีขยมตอ
อีกแลวหรือ? ดวยความเคารพทานยาเจา หากตองมาโดนกระทำเชนนั้นอีกครั้งจริงๆ
มิสูเขาระเบิดแดนสวรรคและโลกทิ้งไปเสียยังจักประเสริฐกวา!!
นี่ทำใหตอนนี้ในหัวของเขาปนปวนวิ่งพลานไปดวยความคิดรอยแปดพันเกา! ‘ชิบหาย!
ตัวอุบาทวที่ไหนมันคิดวิชาลับบัดซบพวกนี้ขึ้นมากัน? เอะอะก็ประสานหยินหยาง
ประสานกับตูดปูของเจาเถอะ!!’
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวู ทอดตามองรางหลินฟานที่นอนอยูบนเตียง นางระบาย
ลมหายใจออกมาอยางทอดถอนลองลอย
“เจาชวยชีวิตขาเอาไว...ขายอมตองชดใชใหเจา แตเทพมังกรวานเชิ่งยอมมิ
ปลอยเจาไปงายๆ แน... เชนนั้นขาจะพาเจาหนีออกไปหลังจากที่ขากระทำกับเจา
เสร็จสิ้น...และเมื่อขากระทำเรื่องราวเสร็จสิ้นแลว ถือวาขา จักรพรรดินีมังกรเฉินหวู
มิมีอันใดติดคางเจาสืบไป...”
ตอนนี้หลินฟานอยากจะรองไห...
ไถถามโลกหลา ไอบาเอย ใยเหตุการณมันถึงเตลิดมาถึงจุดๆ นี้ได!?
ผีหาซาตานอันใดดลใจใหเขาอุตริคิดถึงอาการรายแรงสุดกูอยางแดนสวรรคและ
โลกจะระเบิดเปนเสี่ยง? หากแคซัดหมัดหนักๆ เขาตัวสักคราใหสาหัสเทานั้นก็พอ
ถมถืด! พอรักษาตัวจนฟนคืนก็แคปลอยองคชาย 10 ออกมาใหไปเคลียกับพอมันเสีย
เชนนั้นก็ไมมีอะไรเขาใจผิด ยุติเรื่องราวความบาดหมางแลว!!
แตจะโทษใครได ทั้งหมดนี่ไมใชเพราะพี่ประมุขตัวดีอยางเขาคิดหาผลประโยชน
และสูบปลนชนเผามหามังกรใหมากที่สุดเองหรอกหรือ?!
มากที่สุดยามันเถอะ! นี่มันจะมากเกินไปแลว ชิบหาย!!
ตอนนี้เองจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูก็เริ่มบนพึมพำกับตัวเองอีกครั้ง และเมื่อหลิน
ฟานไดยินถอยคำเหลานั้นเขาก็อดไมไดที่จะสงสัย ใชนางคิดจะทุบตีรางที่นอนเปนผัก
แบบนี้ของเขาอยูรึเปลา?
“ฮึ! อยางไรก็ตาม นับวายากนักที่ขาจะลืมเลือนเรื่องที่ตัวเจาไดเคยกระทำกับ
ขาไวในอดีต”
ทันใดนั้นเองหลินฟานพลันสัมผัสไดถึง สายลมเย็นๆ ที่โชยพัดผานหนาอกเขาไป
ชูว! ชูววว!!
‘เชี่ยยยยย!!’
หลินฟานรูไดทันที วาตอนนี้หัวนมนอยๆ ของเขาไดโผลออกมารับอากาศ เผย
โฉมสูโลกภายนอกแลว
“ฮึ! เชนนี้คอยทำใหขารูสึกดีขึ้นมาบาง!” เพียงสะบัดมือซัดพลังออกไป
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูก็ทำใหเสื้อผาบริเวณหนาอกของหลินฟานขาดวิ่นเปนรูเผยให
เห็นแผงอก... และเมื่อไดซัดพลังทำรายหนาอกหลินฟานแลวแบบนี้นางคอยรูสึกดี
ขึ้นมาหนอย ราวกับในใจไดปลดเปลื้องเพราะไดเอาคืนแลวอยางไรอยางนัน้ ...!
สวนตอนนี้หลินฟานแทบจะทนไมไหวระเบิดอารมณใหรแู ลวรูรอดไป แกลงเจ็บ
อันบัดซบ แกลงหมดสติอันบัดซบ!!
ตอนที่ 816 พวกเจาทำงีไ้ มไดนะ
บนเตียงอันกวางใหญแลดูหรูหรา...
ตอนนี้หลินฟานก็นอนเบื่อมาไดพักใหญๆ แลว หลังจากที่จักรพรรดินีมังกร
เฉินหวูซัดพลังฝามือใสนมเขาเลน อีกฝายก็หายไปไหนไมรู หลินฟานเองก็ครุนคิด
เรื่องราวในใจไปเรือ่ ย อันที่จริงเขายังเริ่มคิดวาจะปลอยองคชาย 10 ออกไปหาพอมัน
เลยดีไหม?
ทวาทันใดนั้นเอง ในขณะที่นอนคิดอะไรเรื่อยเปอยอยูนั้น เหลาสาวนอยหนาตา
จิ้มลิ้มมากมายก็กรูกันเขามายังหองนอน มิแคลวจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูตองสั่งให
พวกนางมาคอยดูแลเขาเอาไวเปนแน!
“นี่นะหรือมนุษยที่ทานจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูกลาววาเปนผูที่ชวยชีวิตทาน
เอาไว...” เหลาสาวใชตัวนอยเริ่มสนทนาซุบซิบเสียงเจื้อยแจวราววิหค
สาวใชหนาตาจิ้มลิ้มเหลานี้ก็เปนสมาชิกชนเผามหามังกรเชนกัน หากแตดวยพึ่ง
กำเนิดไมนานพลังฝมือยังออนดอยซ้ำ เพศสภาพที่ตีตราแตกำเนิดวาเปนอิสตรี ยอม
ไมมีสิทธิ์มีเสียงและอิสระอะไรในชนเผามหามังกร! ชะตาชีวิตพวกนางอาภัพนักเรียก
ไดวาเกิดมาเปนแคเครื่องมือผลิตทายาทเทานั้น...!!
ทวาตองขอบคุณตัวตนอยางจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู ที่เปนมังกรเพศเมียตน
เดียวที่ทรงพลังแข็งแกรงขึ้นมาเหนือมังกรเพศผูมากมายหลายตอหลายตน! ทำให
ความเปนอยูของสตรีชนเผามหามังกรคอยดีขึ้นไมนอย มหามังกรเพศเมียแรกเกิดนาง
ก็รับมาดูแลเทาที่จะทำได!
ยังจะมีใครกลากลาววาจาโอหังวาสตรีออนแอกวาบุรุษอีก ในเมื่อมีตัวตนอยาง
จักรพรรดินีเฉินหวูยืนเดนหราอยูทั้งคน!!
แนนอนวาในใจของพวกนางนั้น ก็ยึดถือจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูเปนแบบอยาง
และแรงบันดาลใจ!
“ฮา บรรพบุรุษมังกรวานจุนนั้นมิใชทรงพลังอยางยิ่งหรือ! แตมิคิดเลยวามนุษย
ผูนี้จักสามารถตานทานรับมือถวงเวลาใหทานจักรพรรดิมังกรเฉินหวูหลบหนีมาได!
เขาตองมิใชคนธรรมดาแนๆ !!”
“เอะ พวกเจาดูนี่สิ ใยหนาอกเขาตรงนี้เสื้อผาขาดแหวงไปเสียเลา”
“อะจริงดวย! ใยถึงเปนเชนนี้ไดกัน...วาแตพวกเราลองจับดูไดหรือไม ของบุรุษมิ
เหมือนของพวกเราเลย”
“อือ~ นั่นนะสินา...ไหนๆ ทานจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูก็ยังมิกลับมาเร็วๆ นี้
พวกเรามาลองจับกันดูเถิดวาเปนอยางไร! สมควรมิมีปญหาอันใดหรอก!!”
...
ตอนนี้หลินฟานที่นอนอยูรูสึกปวดไขขึ้นมากระทันหัน นี่มันบาอะไรวะหา!?
พวกลูกเจี๊ยบเสียงแจวนี่มันวางมากหรือไง?! ไมมีอะไรทำ ถึงขั้นคิดจะจับนมเขา
เลน? พวกนางเปนบาอะไร!?
“ฮา~เจาดูเร็วขารูสึกวามันกระดุกกระดิกไดดวย! วาแตดูไปชางเหมือนลูกเกตุ
ยิ่ง! ลูกเกตุนอย ดุกดิ๊กใหพี่สาวดูอีกเร็วๆ !!”
“จริงเหรอๆ มันดุกดิ๊กไดหรือ ฮัยยาขามิทันไดเห็นอา...”
ทันใดนั้นก็มีนิ้วหนึ่งพุงมาดีดหัวนมหลินฟานเบาๆ
‘โอยย เชี่ย! พวกเจาไมมีอะไรเลนกันแลวเหรอวะเนี่ย หา!?’
หลินฟานรูสึกปวดตับขึ้นมาอยางบอกไมถูก ไมคิดเลยวาวันนี้จะตองมาโดนเหลา
สาวนอยลวนลาม! บาเอย พี่ประมุขถูกแตะอั๋งอีกแลว!!
แลวไถถามโลกหลาถลมมารดาทานเถอะ ใครจะไปคิดฝนวาเหลาสาวนอยขารับ
ใชของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู ยังจะหาญกลาเลนหัวนมบุรุษ! ชนเผามหามังกรไมมี
อะไรใหพวกนางเลนแลวหรือไง? ถึงตองมาเลนหัวนมนอยๆ เขาของเนี่ย!?!
เขาตองอดทนเอาไว ขืนโพลงลุกไปดาพวกนางตอนนี้ไอที่อุตสาหทำมาลมเหลวแนแท!
“ฮัยโย มันไมดุกดิ๊กแลวอา มิสนุกเลย…”
ทันทีที่หลินฟานไดยินคำนี้เขาพอไดลอบระบายลมหายใจอยางโลกอก ‘ใหมันได
ยังงี้สิสาวนอย! เลิกเลนซะดีแลว! หัวนมพี่ประมุขไมใชของเลน เลนไมสนุกก็เลิกซะ!!’
ทวาวินาทีตอมาหลินฟานพลันสังหรณใจพิกล คลายวางานกำลังจะเขาเขาแลว...
“จริงหรือพี่หญิง...ทานวา...ละเลนเชนนั้นมันสนุกแนหรือ?”
“ขาเองก็มิรูวามันสนุกหรือไม ทวาขาเห็นบุตรชายคนเล็กของใตเทาเทพมังกรตู
หวง ชอบที่จักเขยาสิ่งนั้นเลนทุกวันระหวางที่ดูขาพเจาอาบน้ำ! ขาถามวาสนุกหรือไม
ใตเทานอยก็พยักหนา แถมเขยามิหยุด! ทาทางแลดูชอบใจ สนุกสนานยิ่งนัก!!”
“ใชๆ ! ขาเองก็เคยเห็น สิ่งนั้นของบุรุษมิรูคืออันใด แตมันประหลาดมาก! มัน
ยืดไดหดได ซ้ำยังขยายใหญไดดวย!”
“นี่พวกเจา...ขาวามันจักดีหรือ...เรื่องนีค้ ลายมิใชความคิดที่ดีอันใด หากทาน
จักรพรรดินีมังกรมาเห็น พวกเรามิถูกลงโทษหรือ?”
“มิเปนไรหรอก! ตอนนี้ทานจักรพรรดินีมังกรมิไดอยูใกลๆ ! ยิ่งไปกวานั้นมนุษย
ผูนี้ก็สิ้นสติมิรูสึกอันใด! พวกเราลองเขยาเลนสักครูคงมิเปนอันใดหรอก!!”
“ดีดีดี! พวกเรามาเขยาเลนกันเถอะ! นี่นาสนุกยิ่ง!!”
...
‘เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยย! เขยากับนองชายเจา! เขยาของปูเจา! เขยาของตัว
ผูทั้งตระกูลพวกเจาสิวะ!!’ หลินฟานเริ่มตื่นตระหนกแลว นี่คือสถานการณอันบัดซบ
ขนานแท พวกสาวนอยนี่ไปอยูสวนไหนของโลกมาถึงไดไมรูจักเรื่องพวกนี้? แลวเหตุ
ไฉนพวกนางถึงไดไรยางอายเบอรนี้!?
นี่ถาเขาถูกสาวนอยไมรูเรื่องพวกนี้เขยาฟานนอย ตอไปเขาจะเอาหนาไปไวไหน!?
“มาๆ ๆ ตองใหขาเขยากอนคนแรกกก!!”
ตอนนี้หลินฟานที่นอนอยูสัมผัสไดถึงหายนะอยางกระจาง หัวใจของเขาเตนระ
ส่ำขึ้นมาทันใด เขาจะทำยังไงดี? เขาไมอาจยอมใหสาวใชไมประสาพวกนี้ลงมือได
สำเร็จ ใหทำไมได!!
เฉินหวูนั่นไปตายที่ไหนแลว!? ปานนี้ทำไมยังไมโผลมา!!
อนิจจายิ่งคิดหลินฟานยิ่งรูสึกปวดไขนัก! จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูไมรูไปไหน
และดูทาวาคงไมกลับมาเร็วๆ นี้เปนแน!!
“ฮา ขาตื่นเตนยิ่ง!”
เมื่อหลินฟานไดยินเสียงสาวใชดังขึ้น ใจเขาก็สั่นทันใด ดวยสำนึกสติอันเลิศล้ำ
เขายอมสัมผัสไดอยางชัดเจน มือมารกำลังคืบคลานเขามาใกลแลว! มันพรอมฉกฉวย
พญามังกรตาฟานที่หลับไหลในเปาเขาทุกเวลา!!
‘มายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!’
หลินฟานคร่ำครวญในใจ ‘จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูตัวดี รีบมาบัดเดี๋ยวนี้เลยนะ!
ไมงั้นพี่ประมุขจะสูตายกับพวกนาง!!’
ตอนนี้มือของสาวนอยที่ออนโยนบริสุทธิ์ไรซึ่งมนทิลอันใดกำลังขยับเขามาใกล
มากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ระยะหางของมือนางกับฟานนอยนั้น...มันหางกันแคเพียงเสนขน
กั้นเทานั้น!
‘ถลมมารดาเง็กเซียนเถอะวะ! ลิขิตฟามิสูความบาของสาวนอยจริงๆ ! เวรเอย
แผนที่อุตสาหวางมาซะดิบดี ตองมาพังเพราะสาวใชไมรูความพวกเนี้ยหรอ?!’
สุดทายหลินฟานก็ทอดถอนในใจอยางเหนื่อยหนาย เขาลืมตาขึ้นมาโดยพลัน
“นี่พวกเจากำลังทำอะไรกันอยู หา!?”
ทันใดนั้นเอง พระราชวังมังกรที่เงียบงัน ก็ลั่นสะทานไปดวยเสียงกรีดรอง
ประสานเสียงดังสนั่นถึงขั้นขี้หูกระเพื่อม
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!”
ตอนแรกเหลาสาวใชทั้งหลายก็คิดวามนุษยผูนี้อยูในหวงแหงความเปนตาย
หลับใหลยากจะตื่น! ผูใดจะไปคิดวาอยูๆ เขาจะตื่นขึ้นมากัน! ทั้งยังตื่นขึ้นตอนที่พวก
นางจะเขยาของเลนที่พวกนางมิมีกันอีก!!
สุดทายในหวงแหงความเปนตาย หลินฟานก็เลือกที่จะปกปองศักดิ์ศรีอันมีคาหา
ใดเปรียบของเขา ไมงั้นละก็ ฟานนอยของเขาคงไดถูกสาวใชไรเดียงสาหาไดรูความไม
พวกนี้ เขยาอยางไรปราณีแนๆ !!
‘เฮอ...แลวทีนี้พี่ประมุขจะทำยังไงดีวะ? จะแกลงอาการหนักตอไปดี หรือชาง
หัวมันแลว?’ หลินฟานที่มองเหลาสาวใชวิ่งเตลิดหนีไปดวยความหวาดกลัวก็ทำไดแค
ถอนหายใจออกมาอยางละเหี่ยจิต ครุนคิดถึงวิถีแกสถานการณที่กำลังเผชิญ
“จะ...เจาเปนไปไดยังไง!?”
ทันใดนั้นเองบังเกิดเสนแสงหนึ่งพุงตัดฟามาแตไกล กอนจะวูบมาหยุดขางเตียง!
เปนจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู ที่กำลังมองมายังหลินฟานดวยความเหลือเชื่อ ราวกับ
นางไมอาจทำใจรับความจริงตรงหนาได!!
ในสายตาของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูนั้น...เรือ่ งนี้มันเปนไปไมได!
ไมคิดเลยวาเขายังจะฟนขึ้นมาไดทั้งๆ ที่แดนสวรรคและโลกของเขากำลังอยูใน
หวงวิกฤตแตกสลายพังทลายเชนนี้! และยิ่งดูตอนนี้คลายเขาจักมิเปนใด ราวกับ
สบายดี! เรื่องนี้เปนไปไมได...หรือวา...!!
หลินฟานคอยๆ ลุกขึ้นมาอยางเชื่องชาแมในใจระส่ำอยางหนัก! แตแนนอนละ
วาคนอยางพี่ประมุข ยอมมีแผนสำรองเสมอ!!
“พอดี ขาฝกฝนยอดวิชาบางอยางมานะ ถึงแมวาแดนสวรรคและโลกของขากำลังจะ
สลายทลาย แตขาก็สามารถใชเคล็ดวิชาลับยอนทวนฟาวิถีสวรรค เพื่อรักษาได!”
หลังจากที่ครุนคิดมาครึ่งคอนวัน นี่เปนขอแกตัวเดียวที่หลินฟานคิดวาเหมาะสมที่สุด!
ในตอนแรกจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูก็เผยความสุขอันเปยมลนขึ้นมาใหเห็นบนใบหนา
ทวาพอนิ่งคิดพริบตาตอมากลับกลายเปนเย็นชาหางเหินเหมือนอยางปกติทันใด!
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูหาใชตัวโงงมไม... นางอุตสาหออกไปหาของที่
จำเปนตองใชในการซอมแซมแดนสวรรคและโลกจนหัวหมุน!
ทวามาตอนนี้ จากที่ดูคลายจะไมตองใชของพวกนั้นแลว...
“เจาคิดวาขาจักเชื่อเรื่องเหลวไหลพรรคนั้นหรือ?” จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูไถ
ถามออกมาดวยน้ำเสียงเย็นชา ราวกับนางแคนเคืองที่ถูกหลอก!!
ตอนนี้ในใจนางก็สับสนไมนอย ไมอาจเขาใจไดวามันเกิดอะไรขึ้นกันแน! อีกฝาย
ทำไดยังไง? เพราะแมแตกระทั่งทานเทพบรรพบุรุษมังกรยังกลาวดวยตัวเอง วาแดน
สวรรคและโลกของอีกฝายนั้นกำลังพังทลาย! แตพอนางไปหาของที่ตองใชเพื่อ
รักษา…อีกฝายกลับฟนขึ้นมา ซ้ำยังแลดูราวกับไมเปนไร!? เรื่องนี้เปนไปไดหรือ!!
“เจาตองเชื่อขานะ ขาเปนมนุษยแสนดีที่โกหกใครไมเปน!!” หลินฟานรีบกลาว
นี่มันเปนเวรกรรมอะไรของเขากัน! ไมอยากจะเชื่อเลยวาแผนที่อุตสาหวางไว
ดิบดีสุดทายมาพังพินาศเพราะสาวใชไมประสาพวกนั้น!!
“ขาเฉินหวู หาใชคนที่ใครจะมาหลอกไดงายๆ ไม!!” ทันใดนั้นจักรพรรดิมังกร
เฉินหวูก็บันดาลโทสะถึงขั้นชักงาวมังกรเลมใหมออกมาจากความวางเปลา
‘เชี่ยเอย! อะไรของนางวะเนี่ย บอกไปดีๆ ไมกี่คำถึงกับจะเอาเรื่องกันแลว!!’
“เฮ เจาตองฟงขานะ! ขามียอดวิชาแบบนั้นจริงๆ !!”
หลินฟานรองออกมาเสียดังกอนจะเอี้ยวหัวหลบคมงาวซายทีขวาที สุดทายก็พุง
ออกจากหองนอน กระทั่งเหินออกมาจากพระราชวังมังกร!
“ขาเฉินหวู เกลียดการถูกหลอกลวงเปนที่สุด!!”
“เชี่ย…!!” หลินฟานตะโกนออกไปอยางหัวเสีย นี่มันผิดแผน! ไหงอยูๆ นางถึงได
โมโหรายขึ้นมาไดเลา!? แลวนี่จะใหเขาทำยังไง?!
“เฮ เฉินหวู! เจากำลังเขาใจขาผิดจริงๆ ! ดวยยอนทวนฟาวิถีสวรรคขาสามารถ
รักษาตัวเองไดโดยอัตโนมัติ!!”
“เจายังเห็นวาขา เฉินหวู เปนตัวโงงมหรือไร! รับมือ!!”
เทพยุทธ 8 เวิ้งวาง!
หลินฟานพริ้วรางหลบงาวทั้ง 8 ที่ทั้งฟาดแทงจวงทุบทะลวงงาวมาไมหยุด หาก
เปนหลินฟานคนเกาเกรงวาเจอยังงี้คงโมโหสวนหมัดกลับไปสักเปรี๊ยง! แตตอนนี้ใน
เมื่อทำความรูจักกับอีกฝายไปแลวเขาจะรังแกนางไดอยางไร!?
“มนุษย! คืนบุตรชายมาใหขา!!”
ทันใดนั้นเทพมังกรวานเชิ่งก็มาผสมโรงดวยอีกคน!
ทันทีที่หลินฟานเห็นเรื่องชักจะไปกันใหญก็สบถออกมาอยางหัวเสีย จะอะไรกัน
นักกันหนาวะ! ดูเหมือนวาเขาตองใชไพตาย 1 ใน 2 ใบซะแลว!!
ใบแรกไมวาเจาชิคกี้มันจะเปนลูกใคร แตมันตองมีความเชื่อมโยงทางสายเลือดแน!
แตตอนนี้ดูทาเขาตองทิ้งไพใบที่สองอยางการปลอยตัวองคชาย 10 ออกมาซะกอน!!
เขาไมอยากทำอะไรรุนแรงนัก เพราะคราวนี้เขามาเผามหามังกรเพราะมาหา
ญาติเจาชิคกี้ ไมไดคิดจะมาลางเผา!!
‘จงออกมา ไพตายหมายเลข 2 ของพี่ประมุข!!’
ตอนที่ 817 มังกรทุกตัวลวนมีเกล็ดยอน
การลงมือของเทพมังกรวานเชิ่งนั้นมิใชชั่ว พลังอำนาจของมันยามปะทุออก
นำพาใหลมคุมฝนคลั่งทันใด!
ปราณมังกรยังกอลักษณเปนมหามังกรทองตัวเขื่องวนเวียนเหนือฟานับไมถวน!
ราวกับวามันจะปลดปลอยพลังอำนาจทุกขุมฆาลางหลินฟานใหตาย!!
เทพมังกรวานเชิ่งนั้น มันไดซุมซอนตัวอยูในความวางเปลาใกลๆ กับพระราชวัง
มังกรของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูอยูนานแลว ตอใหจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูคิดเลน
ไมซื่อ ก็ไมอาจพามนุษยหนีรอดพนสายตามันได!
ทวาดวยเหตุผลกลใดมิทราบ จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูกลับมาลงมือใสมนุษย
อยางอยางนั้น...
ดวยเหตุนี้เทพมังกรวานเชิ่งยอมไมอาจอดรนทนกักเก็บอารมณเอาไวสืบไป
ปะทุโทสะออกมาหมายลางแคนใหบุตรชายทันที!!
ทวาในขณะที่พลังอำนาจมืดฟามัวดินจะปลดปลอยซัดทำลายเขนฆาลงมา ราง
หนึ่งพลันปรากฏทามกลางความวางเปลาเบื้องหนาเทพมังกรวานเชิ่ง!
“ทานพอ! เปนขาเอง! หยุดมือเถอะ!!”
นับตั้งแตที่องคชาย 10 ไดถูกหลินฟานเปลี่ยนใหผันตัวมาอยูใตอาณัติหลินฟาน
มันก็รูสึกราวกับชีวิตของมันกำลังทะยานขึ้นสรวงสวรรค มันไดฝกฝนวิชามหามังกร
คืนชีพ! ระดับพลังฝกตนของมันเพิ่มพูนขึ้นทุกชั่วขณะเวลาประหนึ่งจรวดทะยานฟา
และมันก็ใกลแตะขอบเขตของเทพสวรรคอมตะ 10 ชั้นฟา เทพนิรันดรเต็มทีแลว!!
แคกาวเดียวเทานั้น! และหนึ่งกาวนี้สำหรับองคชาย 10 มันก็ไมไดเปนกาวที่
หางไกลอะไร!!
ทันใดนั้นเองเทพมังกรวานเชิ่งที่เปลงสภาวะกราดเกรี้ยวทำลายลางกอนหนา
เมื่อไดเห็นรางที่ปรากฏขึ้น พลังทั้งหลายก็ถูกรั้งกลับคืน เสียงของมันยังสั่นเครือดวย
ไมอยากจะเชื่อ!!
“ตัวนอย? ตัวนอยของขา เจาปลอดภัยดีหรือลูก!?” ตอนนี้มวลอารมณยินดีของ
เทพมังกรวานเชิ่งปะทุออกมารุนแรง มันตื่นเตนจนใจแทบกระดอนออกอก กระทั่ง
หนวดเครายังสั่นระริก!
ทาทางขึงขังเกรี้ยวกราดแปรเปลี่ยนเปนออนโยนนุมนวลอยางถึงที่สุด
ยามเมื่อมันไดรับทราบขาววาบุตรชายของมันถูกมนุษยจัดการ และนาจะตาย
ตกดวยน้ำมือมนุษยไปแลว ใจของมันก็แหลกสลายเปนเสี่ยงๆ !!
เทพมังกรวานเชิ่งนั้นมีบุตรชายทั้งสิ้น 10 คน และองคชาย 10 ก็เปนบุตรชาย
คนสุดทอง ทวาสำหรับเทพมังกรวานเชิ่งแลว…มันหลงเหลือเพียงแคองคชาย 10 เปน
บุตรชายคนเดียวเทานั้น! เพราะคนอื่นๆ ลวนถือดีไปผจญภัยในโลกภายนอกกระทั่ง
ตกตายหมดสิ้น!!
ทั้งหลายไมถูกชนเผาโบราณฆาสังหาร ก็ตกตายเพราะไปเหยียบเทาตัวตนทรง
พลังอื่นๆ
ทำใหหลังๆ มานี้ไมวาองคชาย 10 จะออกไปที่ยวเลนที่ไหน มันมักจะสงยอด
ฝมือคอยคุมกันพิทักษไวเสมอ เพราะมันเองก็หวาดกลัวเหลือเกิน วาบุตรชายคน
สุดทายของมันจะตายตกเพราะไปดูแคลนผูอื่น!
“ทานพอขาไมเปนไร! ขาสบายดี…ทานพอ ชายคนนี้คือพี่ใหญของขา! ทำไม
ทานพอตองลงมือกับพี่ใหญขา ละ!?” องคชาย 10 ชักสีหนางุนงงสงสัย ถึงแมวามันจะ
ถูกหลินฟานชำระลางและเชื่อฟงทุกคำของหลินฟาน ทวาตอนนี้ทาทีของมันกระทำ
คลายเปนเด็กนอยวานอนสอนงายของเทพมังกรวานเชิ่งนัก!!
“อา ตัวนอยลูกขา...”
เทพมังกรวานเชิ่งไมอาจระงับอารมณไดสืบไป มันพุงรางมากอดบุตรชายคน
สุดทายเอาไวอยางแนบแนน หยาดน้ำตาผุดซึมหลนรวง กาลกอนนั้นเมื่อไดรับฟงการ
ตายตกของบุตรชายคนแรก หัวใจของมันก็คลายถูกหมื่นมีดกรีดแทงทะลวง ยิ่งพอ
ไดรับฟงการตายตกของบุตรชายมาถึงคนที่ 9 ใจมันก็ราวรานดั่งกระจก...กระทั่งพอ
มาถึงคราวองคชาย 10 ที่มันรักเอ็นดูที่สุด ใจที่ราวรานบอบช้ำของมันก็แหลกสลาย
เปนเศษเสี่ยง!!
ทวาตอนนี้เมื่อมันไดเห็นและรับทราบวาบุตรชายคนสุดทายของมันยังมีชีวิตอยู
เศษใจที่กระจัดกระจายคลายกอตัวควบรวม หัวใจที่แหลกลับหาย คลายกลับมาเตน
อีกครั้ง! ชั่วชีวิตมันเทพมังกรวานเชิ่งนี่คือของขวัญอันยิ่งใหญที่สุด!!
เมื่อเห็นภาพการพรอมหนาพรอมตาบิดาบุตรอีกครั้ง หลินฟานก็เผยยิ้มออกมา
ตอนนี้เขามั่นใจวาปญหากับเทพมังกรวานเชิ่งนั้นจบดีมีความสุขแลวแนแท...
ทันใดนั้นองคชาย 10 ที่กอดกับบิดา ก็หันมายักคิ้วหลิ่วตาใหหลินฟานคราหนึ่ง
ปานจะกลาวบอกวา “ไวใจขาได!”
หลินฟานพยักหนาคราหนึ่ง ความหมายชัดเจน
“จัดไปไอนอง!”
“หืม? ตัวนอยของขา...กลิ่นอายพลังของเจา...มัน...!!” ระดับพลังของเทพมังกร
วานเชิ่งนั้นสูงล้ำทาทายสวรรค สำนึกรู และสายตาของมันยอมมิใชชั่ว ปราดมองเพียง
ครั้งกอปรกับไดสัมผัสชิดใกล มันยอมลวงรูซึ้งถึงพลังอันมหาศาลที่เออลนอยูในราง
องคชาย 10 ดี!
ตอนนี้ใบหนาของเทพมังกรวานเชิ่งเผยความตื่นตระหนก แววตาฉายความยาก
จะเชื่อออกมา!!
มันรูดีวาบุตรชายคนสุดทายของมันนั้นมีระดับศักยภาพพรสวรรคแคปานกลาง
เทียบเทากับมหามังกรเฉลี่ยๆ ทั่วไปเทานั้น! ทวาตอนนี้กลินอายพลังทั่วรางที่แผซาน
กำจายคลายจะสะทานบรรยากาศอยูทุกชั่วขณะเวลานั้น มันคือพลังอันมหาศาลทั้ง
กอปรไปดวยสภาวะสมดุลแหงหยินหยางอันนาเหลือเชื่อ!!
สำนึกสติชำแรกแทรกตรวจ สองตาสวางวูบ! เทพมังกรวานเชิ่งพลันเห็นมหา
มังกรทวิลักษณหยินหยางขดวนเวียนอยูในรางขององคชาย 10 ทันที!
นี่คือสุดยอดเคล็ดวิชามหามังกรคืนชีพ! ทั้งไมเพียงแคสามารถฝกฝนได กระทั่ง
ยังฝกฝนจนอยูในระดับลึกซึ้งแลว!!
“ตัวนอยลูกขา! นี่เจาสามารถฝกปรือมหามังกรคืนชีพในตำนานไดเชนนั้นหรือ!?”
เทพมังกรวานเชิ่งกลาวถามดวยความประหลาดใจ เรื่องนี้มันชางนาเหลือเชื่อนัก!!
มหามังกรคืนชีพนั้นคือสุดยอดวิชาลับ 1 ใน 3 ของชนเผามหามังกร! และมันหา
ใชวิชาที่ผูใดคิดจะเรียนจะฝกก็สามารถกระทำไดไม! ผูที่คิดฝก ตองมีศักยภาพ
เหมาะสมแตกำเนิด! เรียกวาในชนเผามหามังกรยังมีผูที่เหมาะสมเพียงนับไดดวยนิ้ว
มือเทานั้น!!
“ถูกแลวทานพอ! ดวยมีพี่ใหญคอยชวยเหลือสงเสริมขาสามารถฝกมหามังกรคืนชีพได
ถึง วัตตะที่ 8 แลว! ตอนนี้ขาเหลืออีกแคกาวเดียวเทานั้นก็จักบรรลุดานพลังเทพ
สวรรคอมตะ 10 ชั้นฟา เทพนิรันดรแลว!”
องคชาย 10 กลาวบอกออกมาอยางยินดี!
เทพมังกรวานเชิ่งมองบุตรชายคนเล็กดวยสายตาพรามัวอยางยินดี กอนที่จะหัน
มามองหลินฟานดวยสายตาซาบซึ้ง ไรคำใดจะกลาวออก
ตอนนี้มันรูสึกราวกับเรื่องราวทั้งหลายคลายมายาฝน
“เฉินหวู...มันเปนเรื่องเขาใจผิดจริงๆ นะ!!” หลินฟานโยกหลบซายทีขวาที ปาก
ยังรีบกลาวคำอธิบายออกมาไมหยุด ถึงแมวามันจะไมใชเรือ่ งเขาใจผิดอะไร แตเมื่อ
ตองมาเผชิญหนากับเฉินหวูแบบนี้ ใหตายเขาก็จะยืนกราน! เขาตองทำใหนางยอมรับ
วาที่เขาพูดเปนความจริงใหได! พี่จะแถ!!
“หุบปากไปเสีย!!”
ตอนนี้ใบหนาของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูแลดูเย็นชาหนาวเสียดกระดูกนัก นาง
ไมเชื่อคำหลินฟานแมแตนอย!!
หลินฟานปวดหัวแทบระเบิด ทำไมจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูถึงไดดื้อขนาดนี้นะ!
“ทานพอ! พี่ใหญเปนผูมีพระคุณอันลนพนของขา! เหตุผลเดียวที่ขาสามารถฝก
วิชามหามังกรคืนชีพได ทั้งหมดลวนเปนเพราะความชวยเหลือสงเสริมจากพี่ใหญ!
ทานอยาไดปลอยใหจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูลงมือทำรายพี่ใหญแลว!!” องคชาย 10
รีบกลาวออกมาอีกทาง หวังวาเทพมังกรวานเชิ่งจะชวยแกปญหาเล็กนอยนี่ได
“เรื่องทะเลาะกันเล็กนอยเทานี้อยาไดสนใจเลยตัวนอย...เราไปกันเถิด”
เทพมังกรวานเชิ่งไมไดกลาวอะไรมากความ เพียงดึงองคชาย 10 หมายพาออก
จากสถานการณนี้!
“ไม! ขาไมไป!” องคชาย 10 เองก็เริ่มดื้อรั้นยืนกรานออกมา
สำหรับเทพมังกรวานเชิ่งแลว องคชาย 10 เปนดั่งแกวตาดวงใจของมัน เจอลูก
ดื้อเชนนี้มันเองก็ไมรูจะทำอยางไรดี...
ทางดานจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูนั้นโมโหนัก! และยิ่งนางคิดถึงเรื่องนี้มาก
เทาไหร โทสะในใจของนางคลายจะลุกโหมขึ้นมากเทานั้น! ดูทาแลวนางไมมีวันปลอย
เรื่องนี้ไปงายๆ !!
“หึ! รูสึกดีหรือไมเลาที่ไดโกหกขา!” จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูแผดเสียงดังลั่น
“ฮัยยา! ขาขอสาบานตอสวรรคเลยเอา!วาขาไมไดโกหกจริงๆ !! เจาเองก็เห็นขา
ไดรับบาดเจ็บจริงๆ นะ! แตตัวขานั้นมากความสามารถ! อีกทั้งเคล็ดยอนทวนฟาวิถี
สวรรคของขาก็สุดยอดมาก! หากยังไมพังทลายเปนเสี่ยง...ตอใหแดนสวรรคและโลก
ของขาเสียหายแคไหนมันก็สามารถหายไดเองโดยอัตโนมัติ!!” หลินฟานกลาวเสียงดัง
“ฮึ่ม! เรื่องเหลวไหลพรรคนั้น! คิดหรือวาขาจักเชื่อเจา!!”
ทันใดนั้นจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูก็ปะทุพลังพุงไปหมายเลนงานหลินฟานอีก
ครั้ง ใบหนางามหมดจดของนางแตงแตมไปดวยโทสะอันยากระงับ!
“โวย! ใหตายเถอะ! ทำไมสาวนี้มันถึงไดดื้อดานนักนะ!!”
หลินฟานเองก็ชักจะมีโมโห ยิ่งมาคนยิ่งหงุดหงิดแลวนะ! เขาพยายามพูดกับนาง
ดีๆ แลว แตสาวนอยนี่ก็ไมฟงเอะอะก็ทุบเอาๆ จวงเอาๆ ! ทนไมไหวแลววอย!!
เปรี๊ยงงงง!!!
หลินฟานไมหลบอะไรสืบไป ยกมือขึ้นควาหมับงาวที่เต็มไปดวยพลังอำนาจของ
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูดวยทาทางขึงขัง
“ทุกอยางที่ขาประมุขกลาวลวนเปนความจริง! ทำไมเจาถึงดื้อรั้นไมยอมเชื่อ!?”
“ไปลงนรกเสีย! มนุษยทุกคนลวนเหลี่ยมจัด!” จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูออกแรง
หมายดึงงาวออก
“ปลอยนะ!”
“สาวนอย...เจามันชักจะมากเกินไปแลวนะ! ไมคิดเลยวาเจาจะกลาวาเผาพันธุ
มนุษยของขาวาเจาเลหเหลี่ยมจัดอะไร! ดูเหมือนวาวันนี้ขาประมุขตองสั่งสอน
บทเรียนใหเจาไดสำนึกดวยตัวเองซะแลว!!”
หลินฟานกระชากงาวคราหนึ่งรางจักรพรรดินีมังกรเซถลามาทันใด กอนที่เขา
จะพุงไปควาหมับที่เอวดวยมือขางเดียว ยังยกสะโพกนางขึ้นมาใหขาลอยพื้น
“เจาคิดทำอันใด!?” จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูคำรามออกมาดวยความตกใจ นาง
ไมคิดวาอีกฝายจะกระทำอะไรเชนนี้!
เมื่อเทพมังกรวานเชิ่งเห็นภาพนี้มันก็ตื่นตระหนกไมนอย คิดจะวูบรางไปชวย
จักรพรรดินีมังกรวานเชิ่งทันใด ทวากลับถูกองคชาย 10 ระงับเอาไว!
“ทานพอคิดทำอันใด!? นั่นพี่ใหญของขานะ!!”
เทพมังกรวานเชิ่งอึ้งกับคำบุตรชาย รางของมันหยุดลงทันใด
ตอนนี้เทพมังกรวานเชิ่งเองก็ไมรูจะทำอยางไรแลว... ‘มนุษยเอยอยาไดเชียว...’
เพี๊ยะ!! ทันใดนั้นเสียงดังสนั่นปานกระแทกกระทั่นหนั่นเนื้อพลันดังขึ้น!
และตอนนี้รางเทพมังกรวานเชิ่งคลายถูกแชแข็งไปทันใด มันไมอยากจะเชื่อวา
มันพึ่งไดเห็นภาพดังกลาวเกิดขึ้นจริงๆ ! หยุดเรื่องนี้มิไดแลว...!!
“จะ...เจา...!!”
“มาเจาเจิ้วอะไร! แลวทำไมตองมองขาอยางนั้น ขาไมไดทำอะไรไมดี ขาแคจะ
สั่งสอนสาวนอยดื้อรั้นนี่เทานั้น!!” หลินฟานที่เห็นสีหนาทาทางของเทพมังกรวานเชิ่งก็
แปลกใจเล็กนอย คลายรูสึกวาเรื่องราวเหมือนจะมีอะไรผิดปกติอยูบาง...
‘ชัดเจน! ทำหนายังงี้มีเรื่องแน!’
“มะ...มังกรทุกตัว ลวนมีเกล็ดยอน...หากเจาแตะตองมัน...เจาตองตาย!”
เทพมังกรวานเชิ่งที่สีหนาซีดลงรีบกลาวออกมาเสียงสั่น
“สารเลวชั่วชาติ! ขาจักฆาเจา! ฆาเจาใหตายทรมาน!!”
ทันใดนั้นหลินฟานพลันตระหนักวาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูที่เขาจับไวเริ่มดิ้น
พลานตอตานเขาอยางบาคลั่ง!
ตอนที่ 818 เจาสำนึกผิดหรือยัง? เชือ่ ขารึยงั !?
ทางดานองคชาย 10 ก็ทึ่งไปทั้งประหลาดใจไมนอย เพราะไมคิดไมฝนวาหลิน
ฟานจะตบกนของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูจริงๆ ! นี่ไมใชการหาเรื่องใหนางระเบิด
โทสะออกมาหรือไร!?
นี่จะเปลี่ยนจากเรื่องราวความขัดแยงเล็กนอยไปถึงจุดที่ตองฆากันใหตายแลว!
สวนทางดานหลินฟานเองตอนนี้ก็สัมผัสไดวากลิ่นอายพลังของจักรพรรดินีมังกร
เฉินหวูมันผิดแผกแตกตางไปจากเดิม อันที่จริงทั่วรางนางยังแผเจตนาฆาฟนออกมา
ชัดเจน!!
“ปลอยขา!!”
หนาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูเต็มไปดวยความเย็นเยือก เจตนาฆาฟนเออลน
ออกมาจากรางอยางแรง ราวกับนางพรอมจะสูแลกชีวิตกับหลินฟานแลว!!
ตอนนี้หลินฟานก็รูสึกผิดทาไปไมนอย ทั้งเขายังตระหนักวาจักรพรรดินีมังกร
เฉินหวูคลายของขึ้นและกลับกลายเปนคนละคน! แตแนนอนวาเขาก็ไมมีทางยอมลง
ใหงายๆ ! ถาเขายอมลงใหนาง นั่นไมใชเขาตองเสียหนารึไง!?
คงมีแตสวรรคเทานั้นที่รูวาตอนนี้มีชนเผามหามังกรมากมายถึงเพียงไหน ทีก่ รู
กันออกมาหลังจากที่ตระหนักไดวาตรงนี้เกิดเรื่อง...!
และเมื่อทั้งหลายมาถึงสถานที่เกิดเหตุ ตางก็ตกตะลึงพรึงเพริดกันทั้งนั้น!
“สวรรค! ไถถามโลกหลาคนผูนั้นที่แทเปนใคร…ใยถึงไดหิ้วเอวทานจักรพรรดินี
มังกรเฉินหวูไวเชนนั้น!”
“ไอหนุมผูนี้มันเบื่อชีวิตแลวหรือไร!?”
“บัดซบ! เทพธิดาในใจขา! ตัวบัดซบนั่นกลาดีอยางไรถึงไดมาจับเอวเทพธิดา
ของขา! ขาจักไปชวยเทพธิดาของขาบัดเดี๋ยวนี้!!”
“หุบปากและอยาไดเสลอแลว! เจาโงหรือโงกัน!? มิเห็นหรือไรกระทัง่ ทานเทพ
มังกรวานเชิ่งยังอยูย ืนนิ่งจนปญญาอยูตรงนั้น!? อาศัยพลังฝมือออนดอยเชนเจา ไป
แลวจักมีปญญาทำอะไรได!?”
...
“เฉินหวู เจามันดื้อเกินไปแลว ทั้งหมดที่ขาพูดลวนเปนความจริง! ในเมื่อเจาไม
เชื่อ ขาก็จะเคี่ยวกรำสั่งสอนใหเจาหัดสงบอารมณซักหนอย!!”
เพี๊ยะ!!
หลินฟานตบฟาดออกไปอีกครั้งอยางไรซึ่งความลังเลใดๆ นอกเหนือจากความ
จริงที่วาการไดหิ้วรางนางพรอมตีตูดแบบนี้ก็นับวาสนุกมือดีไมนอย...แตในใจของเขาก็
เต็มไปดวยปญหามากมายที่คิดไมตก
เขาจะทำยังไงตอไปดีละ?
ตอนนี้เขาไดรูแลววาที่ตบตีไปนั้นเปนเกล็ดยอนของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู! ถา
เขาปลอยนางไป นางไดหันมาสูตายเอาเรื่องกับเขาไมเลิกรา!!
แตถาไมปลอยนางไปเขายังจะทำอะไรได? คงไมใชเขาตองตีนางใหยอมแพ
กำราบปราบนางอะไรทำนองนั้นหรอกนะ?
ความเจ็บปวด! ความทรมาน! ความยากจะยอมรับ!
เพียง 1 ตบของหลินฟาน ทำใหความรูสึกดังกลาวประดังออกมาจากรางจักรพรรดินี
มังกรเฉินหวูปานจะระเบิด! นำพาใหบรรยากาศโดยรอบคลายกดดันขึ้นทันใด!!
เหลาคนของชนเผามหามังกรที่ชมดูเรื่องราวอยูคลายกลับกลายเปนตัวโงงม!
ตางอึ้งตะลึงคางยืนเหวอไปสิ้นแลว!!
“ใหตายเถิด...มิคิดเลยวาเขาจักกลาตีกนของทานจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูเชนนี้!”
“บาไปแลว นั่นมันเกล็ดยอนของทานจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูมิใชหรือไร! ไอ
หนุมนี่เบื่อชีวิตคิดตกตายหรือไร!?”
“อา!! เทพธิดาของขา! พื้นที่อันศักดิ์สิทธิ์แสนบริสุทธิ์นั่น ตองมีมลทินแลว! อาค!
ใจขาเจ็บปวดเหลือเกิน โอย โอย เจ็บปวดแทบตายแลว!!”
“ไดโปรดเถอะ! ทานใดที่ทรงพลังโปรดลงมือชวยเหลือเทพธิดาของขาดวย!!”
ในสายตาของบุรุษหนุมชนเผามหามังกรแลวนั้น จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูไมตาง
อะไรกับเทพธิดาจากสวรรค นางเปยมลนไปดวยสงาราศีและความงามเฉิดฉันทอันไร
คูเปรียบ! แตใครจะไปคิดคาดวามนุษยผูนั้นกลับกลากระทำกับนางเชนนี้! หัวใจนอยๆ
ของพวกมันราวรานแลว!!
“ตัวสารเลวชาติชั่ว! ปลอยขา! ขาจะฆาเจาใหตาย!!” จักรพรรดินีมังกรเฉินหวู
ตอนนี้สติขาดผึง! สองตาของนางแดงฉาน แววตานางยังเต็มไปดวยโทสะที่แทบจะลุก
ไหมเปนไฟพุงออกมาอยูรอมรอ!!
“ขาไมไดโกหกอะไรเจา จะเชื่อหรือไมเชื่อก็แลวแตเจา” ในใจหลินฟานก็กระวน
กระวายไมนอย แตเขารูดีวาตอนนี้เขาตองรักษาความสงบเอาไว เขาตองไมยอมออน
ขอใจออนปลอยนาง!!
จากที่หลินฟานดู ตอนนี้หากเขาปลอยนางละก็ นางไดหันมาสูตายแลกชีวิตกับ
เขาแนๆ และทาทางจะไมเลิกราจนกวาจะตายหากันไปขาง!
และเรื่องนั้นเปนอะไรที่หลินฟานไมอยากใหเกิดแมแตนอย!
ทวาตอนนี้ไมวาหลินฟานจะกลาวอะไร จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูก็ยืนกราน
ปฏิเสธที่จะเชื่อทั้งสิ้น! รางของนางราวไสเดือนถูกน้ำรอนลวก พยายามดิ้นพลาน
หมายหลุดจากเงื้อมมือของเขาใหได!!
ทวาคลายวงแขนของหลินฟานนั้นมีพลังความแข็งแกรงมหาศาลดั่งคีมเหล็ก
ผนึกปดตาย หนีบเอวของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูเอาไวแนบแนนไรหนทางที่นางจะ
หลุดไปได!
และทามกลางความวุนวายนี้ หลินฟานก็เริ่มสังหรณพิกล
“ทานพอ ตอนนี้พวกเราควรทำเชนไรกันดี...” เมื่อเห็นวาเรื่องราวตรงหนาชัก
ไปกันใหญ องคชาย 10 ก็รูสึกใจเตนไมเปนจังหวะ รีบถามออกมาอยางกังวลใจ
“ขาเองก็มิรู...แตเรือ่ งนี้คลายจักมิจบลงงายๆ เปนแน!” เทพมังกรวานเชิ่งกลาว
ตอบดวยใบหนาสับสนเชนกัน นี่นับเปนเรื่องที่เหนือความคาดหมายของมัน
มันไมคิดเลยวามนุษยผูนี้กลาที่จะกระทำเชนนี้กับจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู!
ถึงแมวามันเองก็ไมรูวาอีกฝายจงใจหรือไม แตตอนนี้ก็ไรหนทางประณีประนอมอันใด
แลว!
“งั่ม!!”
ตอนนี้ผมที่ยาวของจักรพรรดินีมังกรหอยตกปรกหนาแลดูนากลัว ซ้ำนางยัง
เอี้ยวคอไปงับเอวหลินฟานอยางแรง!
ทันทีที่หลินฟานรูสึกวามีบางสิ่งกัดเอวเขาก็รูสึกกระตุกไปในใจ หากไมใช
เพราะวาระดับความแข็งแกรงทางกายภาพของรางกายเขาฝกฝนจนถึงขีดขั้นนี้ มิ
แคลวเนื้อเขาตองแหวงฉีกดวยการงับเพียงครั้งของนางแน! ดูทาตอนนี้จักรพรรดินี
มังกรเฉินหวูจะบาไปแลวจริงๆ ! เกรงวาหากฆาเขาไมได นางไมคิดเลิกรา!!
แนนอนวาหลินฟานก็เปนคนที่ไมรูเรือ่ งการแตะถูกเกล็ดยอนของมังกรอะไรมาก
กอน หากเปนคนที่รูดีคงไมสงสัยอะไรเชนนี้ เพราะกระทั่งญาติสนิทมิตรสหายก็ตาม
ขืนมาแตะถูกเกล็ดยอน...ยังฆาแหลกไมไวหนา!
อยางไรเสียหลินฟานก็ไมคิดจะยอมลงให!
ไหนๆ เขาก็แตะเกล็ดยอนอะไรนี่ไปแลว! ดวยมาดและนิสัยของเขาแนนอนวา
เขายอมไมสนใจและจะกัดฟนทำสิ่งนี้ไปจนสุดทาง!!
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
หลินฟานบรรจงตบเปรี้ยงไปยังกนนุมๆ ของนางอยางถนัดถนี่ระรัว! ไมคิดยั้งมือ
อะไรทั้งสิน้ !!
ตอนนี้เสียงเดียวที่หลงเหลืออยูในโลกหลาคงเปนเสียงกลืนน้ำลายดังเดื้อของ
ผูคนรอบๆ
สายตาของผูคนชนเผามหามังกรที่มองมายังภาพตรงหนาแนนิ่งแข็งคางไปราว
คนตาย พวกมันไมขยับเขยื้อนกระดุกกระดิกอันใดทั้งสิ้น
ทุกครั้งที่หลินฟานตบลงไป แกมกนของนางก็เดงดึ๋ง! มันชางเดงดึ๋งดวยมีแรง
สะทอน สูมือนัก!!
ถึงแมวาตอนนี้ในใจหลินฟานจะยอมรับวาสัมผัสนุมละมุนแฝงแรงดีดสะทอน
ตอบรับปานติดสปริงนี่จะชวนใหสุขีในใจอักโข แตหลินฟานก็รูดีวาเวลานี้ไมใชเวลาที่
จะมาเพลินไปกับความสุขเล็กๆ นอยๆ นี่!
มันเปนเวลาที่เขาจะจำพาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูใหกลับมาสูหนทางอัน
ถูกตอง! โลกใบนี้ผูคนทั้งหลายจะขาดซึ่งความไวเนื้อเชื่อใจกันไปไดอยางไร!?
“สารเลว…!”
ตอนนี้จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูเสียสติไปอยางสิ้นเชิง ที่นางงับไปจมเขี้ยวนั้นไมมี
ผลอะไรแมแตนอย นางรูสึกราวกับงับเหล็กกลาไปเต็มคำ งับเนื้อไมลง! อันที่จริง
กระทั่งรองรอยกัด นางยังไมอาจทิ้งฝากไวได!!
“เจาสำนึกผิดแลวยัง?” หลินฟานกลาวถามออกมาหนาตาย มือเขาก็ยังคง
เคลื่อนไหวไมหยุด ทีแลวทีเลาบรรจงตบไปยังกนกลมอวบอิ่ม! การเคลื่อนไหวของมือ
คลายตองสปริง ดุจดั่งหยิบยืมแรงดีดสะทอนของแกมกนเพื่อใชในการหวดลงไปใหม!!
“ขาไมผิด!” จักพรรดินีมังกรเฉินหวูรูสึกไมคอยสูดีนัก ราวกับพลังอำนาจของ
นางถูกปดผนึกเอาไว นางไมอาจดิ้นรนใหหลุดออกมาไดเลย!
เพี๊ยะ!
เพี๊ยะ!
ครั้งแลวครั้งเลาไมหยุดยั้ง หลินฟานบรรจงตบลงมาระรัว มือวาดสวิงวงโคง
สวยงาม ประทับลงแกมกนซายทีขวาทีสลับกันไป!
หลินฟานเองก็รูดีวาเขาเองก็ไมอาจถอยหรือเลิกราได ระหวางเขากับนางวันนี้ตองมี
คนยอมสยบ! แนนอนวาหลินฟานยังรูดีแกใจ วาผูที่ยอมสยบนั้นไซร...ตองไมใชเขา!!
ดวยประการฉะนี้ ผูที่ยอมสยบเห็นที่ตองเปนจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูผูเดียวแลว...
แตเมื่อหลินฟานเห็นทาทางของจักรพรรดินีเฉินวู ที่ยังคงฮึดฮัดดื้อรั้นไมยนิ ยอม
เขาก็รูวาในใจนางยังเต็มไปดวยโทสะแคน ไมมีทางที่นางจะยอมรับความพายแพงายๆ
...ทาทางเขาจะทำไดแคทุบตีแบบนี้ลากยาวไปเทานั้น...
ครั้งนี้หลินฟานอุตสาหหวังวาจะมายังชนเผามหามังกรเพื่อหาตนกำเนิดใหชิคกี้
แลวแทๆ ...
ทวาไมวาเขาจะวาดแผนการมาดีแคไหน ก็ยากจะสูกับลิขิตฟา ไมคิดเลยวา
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูจะเปนตัวดื้อรั้นเชนนี้!
ไมใชวาทั้งหมดเขาก็แคแกลงเจ็บหรอกหรือไง? แคเนี้ยตองดุรายกันดวยหรอ?
และอันที่จริงถาหากไมใชเพราะสาวรับใชตัวนอยทั้งหลายนึกสัปดนคิดเขยาฟาน
นอยของเขาเลน การแสดงครั้งนี้สมควรจบลงอยางสมบทบาท! และยังเปนการแสดง
อันยอดเยี่ยมกาลครั้งหนึ่งในชีวิตอีกดวย!!
อนิจจาโลกหลาไรซึ่งคำวาถาหาก... เมื่อเรื่องราวมันเกิดขึ้นไปแลวก็จำตอง
ปลอยใหมันเปนไป ไมอาจยอนคืน...
หวงแหงกาลไหลผานไปดั่งสายธาร ยิ่งมาผูคนของชนเผามหามังกรที่แหมาดูชม
เรื่องราวก็ยิ่งมาก
ในตอนแรกก็มีเหลาบุรุษหนุมของชนเผามหามังกรไมนอยที่คิดสำแดงตัวเปนผู
กลาขี่อาชาขาวจั๊วะไปชวยเทพีของหัวใจ ทวาเมื่อพวกมันเหลือบไปเห็นวากระทั่ง
ตัวตนอยางเทพมังกรวานเชิ่ง รวมถึงเทพมังกรตนอื่นๆ ยังทำไดแคยืนชมดู ทั้งยังทำได
แคอาปากคาง มันก็ลมเลิกความคิด และทำไดเพียงอดทนเอาไวดวยใจที่ปวดราว...
ตอนนี้ทุกผูคนยังสงสัยใครรูนัก ตัวหาญกลาบิ่นผูนี้ที่แทเปนใคร? ใยมันถึงได
กลาหยามหมิ่นเกียรติและศักดิ์ศรีเทพธิดาของพวกมันตอหนาชนเผามหามังกร!!
และกระทั่งใตเทาเทพมังกรทั้งหลายก็ทำไดเพียงแคยืนชมดูเรื่องราว โดยไมมีที
ทาวาจะคิดเขาไปหามปรามหรือหยุดยั้งอะไร!
นี่ชางเปนอะไรที่ไมสมเหตุสมผลนัก!
ตอนนี้หลินฟานก็ลืมไปแลววาบรรจงหวดกนนางไปกี่รอยกี่พันครั้ง แตตองเปน
รอยๆ แหละ เพราะมือเขายังเริ่มจะชาแลวเลย!
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูที่ตะโกนออกมาอยางเกรี้ยวกราดกอนหนาตอนนี้ก็อื้อ
อึงไปแลว นางไมร่ำรองอะไรออกมาเพียงแนนิ่งอยูในวงแขนของหลินฟาน ปลอยให
อีกฝายหิ้วเอวตบตีไปอยางนั้น...
“เจาสำนึกผิดแลวรึยัง? ตอนนี้เจาเชื่อขาแลวยัง หา?”
นี่ก็เปนคำถามที่หลินฟานไดกลาวถามออกไปไมนอยกวารอยครั้ง ตอนนี้ถาม
แลวเขายังทำไดแคระบายลมหายใจออกมาอยางออนลาเล็กนอย...
แมวามือที่ฟาดตบกนอีกฝายจะสนุกสนานและนุมมือไมนอย แตเขาก็ไมอาจทำ
อะไรตอไดเลย หากสาวนอยนี่ไมยอมรับความพายแพ!
“ขาสำนึกผิดแลว... ขาเชื่อทานแลว...”
ทันใดนั้นเองใบหนาที่เต็มไปดวยโทสะแคนและบาคลั่งอาละวาดของจักรพรรดินี
มังกรเฉินหวูมลายหายไปอยางสิ้นเชิง คงเหลือไวก็แตเพียงใบหนาของสตรีอันนา
เวทนาชวนใหผูคนสงสาร หยาดน้ำตาปริ่มๆ แลดูไปคลายนางใกลร่ำไหเต็มทีแลว...
สวนหลินฟานเมื่อไดยินคำตอบนี้ก็ถึงกับอึ้งไปทันใด...!
ตอนที่ 819 หาญาติ...
“เอา! ไหงงั้นละ...?!?!”
หลินฟานกระพริบตาปริบๆ ใจยากจะเชื่อเล็กนอย เขาไมคิดเลยวาเรื่องมันจะ
มาลงเอยอีหร็อบนีไ้ ด! เพราะตลอดเวลาที่ผานมานั้น จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูทำทา
ราวกับ ‘ขาคือมารดาเจา’ มาตลอด! และทาทางนางจะไมคิดเลิกราจนกวาจะตายตก!
ใครจะไปคิดไปฝนวาอยูดีๆ นางจะกลาวยอมแพออกมาอยางสลดหดหูแบบนี้! เรื่องนี้
ทำใหหลินฟานอึ้งไปอยูบาง!!
หลินฟานเองก็หยุดมือที่ตีกนของนางทันใด และจับตามองทาทางของนางอยาง
ละเอียด เขาตองตรวจสอบใหมั่นใจกอนวาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูไมไดเสแสรงแกลง
แสดงละครอะไร! แตไมวา เขาจะมองซายก็แลวขวาก็แลวเขาเองก็ไมเห็นพิรุธอะไร...!!
ตอนนี้ทาทางของจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูนั้นแลดูตื่นกลัวนัก สองตามีหยาด
น้ำตาปริ่มๆ อันที่จริงกระทัง่ ตอนนี้ยังเริ่มไหลรินเปนสายรดแกมแลว...! ราวกับเปน
น้ำตาที่เกิดจากความเศราเสียใจที่ถูกผูคนทำรายจนเกินใจจะรับไหว...!!
‘คงไมใชหรอกมั้ง...หรือวาพีป่ ระมุขจะเจงถึงขัน้ ตีจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูให
เชื่องไดจริงๆ ?’ หลินฟานคิดในใจอยางเงียบงัน …แตยิ่งคิดเขาก็ยิ่งวามันเขาเคา
นาจะเปนไปไดหลายสวน!
“ตอนนี้เจาเชื่อขาแนนะ?” หลินฟานกลาวถามออกมาอีกครั้ง เพราะเขายังไม
อาจมั่นใจได 100%
“ขาเชื่อ! ขาเชื่อทานแลว!” จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูรีบพยักหนารับคำระรัว
อยางไมลังเลใดๆ
ไหนวะเกล็ดยอน? ตอนนี้ไมเห็นจะมีอะไรอยางที่วาแลวเลย!
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูนั้นตระหนักไดกระจางแลววา หลินฟานคือตัวตนที่
ผิดเพี้ยนเกินไป! ถึงแมวาเกล็ดยอนของนางจะถูกทุบตี แตนั้นก็ไมไดความวานางจะ
กลายเปนตัวโงงมไรสมอง!!
ภายใตการทุบตีทำราย ขมเหงรังแกกันอยางไรซึ่งมนุษยธรรม!
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวูทำไดแคยอมศิโรราบ! นางหาไดหลงเหลือความคิด
ตอตานอะไรอีกฝายแมแตนอย!!
“นิ...นี่เปนไปมิได!!”
เมื่อเทพมังกรวานเชิ่งไดเห็นภาพเรื่องราวตรงหนา มันก็ตะลึงอึ้งเหวอไปทันใด
ผลลัพธที่สมควรบังเกิดขึ้นหลังจากที่มนุษยผูนี้ไดแตะถูกเกลดยอนของ
จักรพรรดินีมังกรเฉินหวู มันควรเปนความแคนที่มิอาจอยูหายใจใตฟาเดียวกันได
สืบไป...หากอีกฝายไมตายตองไมเลิกราสิ!!
แตผูใดจะไปคิดคาดวาจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูกลับเปนฝายกลาวคำยอมจำนน
และเสียงกลาววาจายังทำราวกับจะขอความเมตตาจากมนุษย!
ภาพนี้ยังทำใหทุกผูคนอาปากคางกันถวนหนาแลว!
ถึงแมวาองคชาย 10 จะถูกหลินฟานสยบกำราบไปแลว แตสำนึกสติของมันก็
ยังคงเหลืออยูครบถวน ตอนนี้มันยังอดไมไดที่จะประทับใจวิธีการลงมือของหลินฟาน
ไมคิดเลยวาอีกฝายสามารถกำราบจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูไดดวยการหวดฟาดกน!!
“อาฮะ ถาเจาเชื่อก็นับวาดีแลว...ดูเจาตอนนี้เขาเถอะ! ขาละไมเขาใจจริงๆ วา
เจาจะทำเรื่องนี้ใหมันยากทำไม! ถาเจายอมรับดีๆ ตั้งแตแรก เจายังจะโดนตีแบบนี้
ไหม หา?”
“เรื่องนี้อะ นะ มันคือพื้นฐานของความไววางใจกันระหวางสิ่งมีชีวิตที่ทุกคน
สมควรจะมี! โลกใบเนี้ย! มันกวางใหญสุดไพศาล! เรื่องราวมหัศจรรยนาเหลือเชื่อเองก็
มีอยูทุกทั่วหัวระแหง! บางคนตายแลวยังฟนไดเลย! จะนับประสาอะไรกับการฟนฟู
แดนสวรรคและโลก! เจามองขาใหดีๆ เถอะ หนาคนอยางขาเนี่ย...มันเหมือนคนที่
หลอกลวงคนอื่นนักรึไง หา?!”
“ดังนั้นเจาจำเอาไวใหดี ตอไปวันหนาเจาตองเชื่อฟงคำขาใหมาก! อยาไดกลา
สงสัยแคลงใจอะไรขาอีก เขาใจ!?”
เมื่อเห็นวาจักรพรรดินีเฉินหวูประพฤตตัวเรียบๆ รอยๆ แคไหน หลินฟานก็อด
ไมไดที่จะถอนหายใจออกมาอยางโลงอก หลังจากที่กลาวคำย้ำเตือนนางอยาง
ละเอียด...
“ขาเขาใจแลว” ราวกับจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูจะศิโรราบหลินฟานไปแลวทั้ง
กายใจ ไมวาหลินฟานกลาวอะไรนางก็รีบพยักหนารับคำอยางวางายไมคิดไตรตรอง
อะไรแมเพียงนิด
ผูคนของชนเผามหามังกรทั้งหลายที่มุงดูอยูรอบๆ เมื่อเห็นภาพนี้ตางก็ไรคำใด
จะกลาว...
พวกมันไมรูวามนุษยผูนี้ผุดโผลออกมาแตที่ใดในหลา! ไมคิดเลยวาอีกฝายจะ
สามารถสยบจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูไดจริงๆ ! วิธีการลงมือนี้สวรรคและโลกลวนตก
ตะลึงพรึงเพริดแลว!!
ในขณะเดียวกันกับที่พวกมันตะลึงในใจนั้นเอง พวกมันก็บังเกิดอาการคันใน
หัวใจยากจะเกาดวยความอยากรูหนักหนา...แมยังไมกระจางชัดวาดวยกลวิธีอันใดที่
อีกฝายใชกำราบจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูได แตพวกมันก็ใครปรารถนาขอร่ำเรียนวิชา
นัก! หากพวกมันสามารถลวงรูกลเม็ดอันนี้ สาวนอยในชนเผามหามังกรทั้งหลายยังไม
ยอมสยบตอพวกมันไดหรือ?
ทันใดนั้นสายตาจำนวนนับไมถวนที่เปลงประกายวูบวาบอยางรอนแรงก็จบั จอ
มองไปยังรางหลินฟานอยางพรอมเพรียง!
หลินฟานเองก็ตระหนักไดถึงสายตารอนแรงจากทุกสารทิศนี่ดี เขารูสึกราวกับ
ตัวเองเปนสิ่งของล้ำคาที่หนุมๆ ทั้งหลายของชนเผามหามังกรอยากไดไปครอบครอง
ขึ้นมายังไงก็ไมรู!!
หลินฟานที่ปลอยจักรพรรดินีมังกรเฉินหวูลงไดสักพักก็มองอีกฝายอยูครูหนึ่ง
จากนั้นเขาก็คิดกาวไปหานางและกลาววาจา ทวาทันทีที่เขากาวออกไป จักรพรรดินี
มังกรเฉินหวูกลับกระเสือกกระสนถอยหนี รางยังสั่นเทิ้มขึ้นมา แววตาเผยความ
หวาดกลัว...
“เออะ?”
หลินฟานฉุนเฉียวขึ้นมาไมนอย นี่นางคงไมไดกลัวเขาหรอกนะ ใชมั้ย?
ไมวาจะอะไรยังไง นางก็คือจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู ผูเปนความภาคภูมิใจของ
ชนเผามหามังกรไมใชหรือไง! ไมใชวาเขาแคตีตูดนางไปไมกี่รอยทีรึไง!? นางตอง
หวาดกลัวเขาขนาดนี้เลยหรอ?
ดูเหมือนวาหากมีโอกาสเหมาะเขาตองจับนางมานั่งสนทนาปรับทัศนคติให
เหมาะสมหนอยแลว...
ครืนนนน!!
ทันใดนั้นเองความวางเปลาเหนือฟาพลันสั่นสะเทือน ทันใดนั้นปรากฏรอยฉีก
หนึ่งขึ้นทามกลางสวรรคและโลก กลิ่นอายทรงพลังนาเกรงขามคอยๆ เออลนออกมา
จากรอยแยกดังกลาว!
รางหนึ่งพลันเยื้องยางออกมาอยางชาๆ รางนี้ยังใหบรรยากาศใหญโตมหึมาปาน
สวรรคและโลก กลิ่นอายที่แผซาน ยังแฝงสนามพลังสะกดขมนาครั่นครามเปยมลนไป
ดวยพลังอำนาจ ดวงตามังกรคูทองนัน่ ยังเปลงแสงวับวาวราวกับแสงสีสันของเทพ
เซียน!
“เอาละ...อยางไรเสียนี่ก็คือสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของชนเผามหามังกร มิใชวาถึง
เวลาที่เจาจักตองจากไปแลวหรือ มนุษย?”
เสียงอันไรขอบเขตดังออกมาดานในชองวางแหงความวางเปลา
เมื่อคนของชนเผามหามังกรไดเห็นรางนี้ พวกมันทั้งหลายลวนหมอบกราบลงทันใด
“ทานเทพบรรพบุรุษมังกร”
เหลาชายหนุมของชนเผามหามังกรที่ตางถกเถียงสนทนาอะไรกันเซ็งแซกอน
หนาลวนนิ่งคางกมกราบลงดวยความเคารพทันใด เมื่อไดเห็นรางดังกลาว! และ
ทาทางของพวกมันนั้นลวนมีความเต็มใจมอบกราบ! ไรซึ่งความไมยินยอมแมเพียงนิด!!
“เทพบรรพบุรุษมังกรเหรอ?” หลินฟานเงยหนาขึ้นมอง นี่เปนครั้งแรกที่เขาได
เห็น ‘ขาใหญ’ ของชนเผามหามังกร และจากที่หลินฟานสัมผัสได กลิ่นอายพลังของ
อีกฝายก็นับเปนอะไรที่นากลัวไมนอย!
และเขาเองก็ไมคิดเลยวาเรื่องราวครั้งนี้จะใหญโตถึงขั้นกระตุนใหเทพบรรพบุรุษ
มังกรออกมาได นี่นาเหลือเชื่อนัก!
“อา พอดีขามาตามหาญาตินะ และถาขายังไมไดพบคนที่ขาตามหา ขาก็ยังไม
คิดจะออกไปจากที่นี่หรอก...” หลินฟานกลาวตอบเสียงดังฟงชัด ถึงแมวาเขาจะ
เผชิญหนากับเทพบรรพบุรุษมังกร หลินฟานก็ไมไดกลัวสักกะผีกเดียว!
เพราะสุดทายแลวจุดประสงคการมาครั้งนี้ของเขาก็แคตามหารากเหงาของเจา
ชิคกี้เทานั้น! ไมไดจะมาสูรบตบมือกับใคร
สวนเรื่องที่เกิดขึ้นกับจักรพรรดินีมังกรเฉินหวู อุบัติเหตุลวนๆ !!
“หืม? กำลังตามหาญาติ? เจาเปนเผาพันธุมนุษย สวนพวกเราเปนชนเผามหามังกร ...
นี่เจากำลังกลาวถึงเรื่องอันใดอยูกันแน!?” เทพบรรพบุรุษมังกรไถถามดวยสงสัย
“ออ ที่ขามาหาเนี่ยไมใชญาติขาหรอก พอดีขามาชวยนองเล็กของขาหา
ญาตินะ” หลินฟานกลาวตอบ
“ออ...แลวเจากำลังตามหาใครอยูหรือ?” เทพบรรพบุรุษมังกรยังคงถามสืบตอ
ดวยสนใจ
“ขาเองก็ไมรูเหมือนกัน เรื่องนี้ตองลองดูกอนนะ เดี๋ยวก็รูเอง...” หลินฟานจะไป
ตรัสรูไดยังไงวาใครมันเปนญาติเจาชิคกี้? ที่เขาทำไดก็แคพึ่งความเชื่อมโยงทาง
สายเลือดเทานั้น!
สิ่งหนึ่งที่เห็นไดชัดเลยก็คือเจาชิคกี้นี่มันพันธุทางแนๆ แตถาปะปาตัวจริงของ
เจาชิคกี้ไมอยูที่นี่ เขาก็ไมรูเหมือนกัน วาจะมีหมอที่ไหนรับเย็บหนาที่แหกไดบาง...!
แตแนนอนวาสายเลือดของเจาชิคกี้นี่มันตองเปนสายเลือดชั้นสูงแนนอน อีกทั้ง
จากรางกายของมันที่ไมธรรมดา บิดาของเจาชิคกี้ตองไมใชมหามังกรธรรมดาๆ แต
เปนมหามังกรระดับสูงแนนอน!!
“ชิคกี้ ออกมาได!”
หลินฟานสะบัดมือดังฟบกอนจะปลอยเจาชิคกี้ออกมาจากวิมานฟา
“กุก กุก กู!!”
ตอนนี้ทาทางของเจาชิคกี้ที่ออกมาจากวิมานฟาคอนขางเรียบๆ รอยๆ นัก ขา
ทั้ง 2 ของมันคอยๆ เยื้องยางออกมาราวพญาไกผูดี หัวนอยๆ ของมันเชิดตรงยกสูง
ดวงตาแฝงความมั่นใจดุจตัวไรเทียมทาน!
“ฮาๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ...!!!!”
“บัดซบเถอะ! นั่นมันตัวประหลาดอันใดกัน!?”
“เพย! นั่นจักเปนทายาทของชนเผามหามังกรพวกเราไดอยางไรกัน! ขาทุมแทง
หมดหนาตักวามิแคลวนั่นตองเปนทายาทของชนเผาฟนิกซแนๆ !!”
“บัดซบ! เจารีบหุบปากเร็ว…! เบื่อชีวิตแลวหรือไร?!”
“อะจริงสิ! ขาแทบลืมเลือนไปแลว...!”
เหลาคนของชนเผามหามังกรโพลงคำออกมาอยางสนุกสนานเฮฮาอีกครั้ง พวกมันบาง
คนขำจนทองแข็ง ตางคนตางหัวเราะเยาะกับการปรากฏตัวของเจาชิคกี้ไมนอย…
พวกมันคือชนเผามหามังกร! ยังจะมีทายาทที่แลดูเหมือนไกอยางนี้ไดหรือ!?
“กุก กุก กู!!”
ชิคกี้ไรแยแสตอเสียงสนทนาเซ็งแซ มันร่ำรองออกมาเสียงดัง!
ทันใดนั้นเจาชิคกี้พลันหันมามองสบตาหลินฟานคราหนึ่งคอยพยักหนาเบาๆ
สายตาของหลินฟานที่สงไปก็บอกมันวา ‘จัดไปนองเล็ก ไปหาบิดาของเจาโลด!’
ชิคกี้เริ่มสัมผัสถึงสายเลือดที่ไหลเวียนในราง และเริ่มจับถึงกระแสแหงความ
เชื่อมโยง หัวนอยๆ หันไปรอบทิศ เสาะแสวงหาไปตามคนของชนเผามหามังกร
ทันใดนั้น ชิคกี้ตระหนักไดวา มีสายตาคูหนึ่งกำลังจับจองมองมันมาอยางลึกซึ้ง
หัวนอยๆ หันขวับไปทันใด!
ทันใดนั้นมันสัมผัสไดถึงความเชื่อมโยงอันลึกซึ้งที่ไมอาจทราบไดประการหนึ่ง
ทั้งชิคกี้ยังสัมผัสไดวาโลหิตในกายกำลังกูรองกึกกอง!!
หลินฟานเองก็มองตามสายตาเจาชิคกี้ไปเชนกัน ทวาตอนนี้เขาถึงกับตองเอียงคอ…
เพราะเจาชิคกี้มันจองมองสบตากับเทพบรรพบุรุษมังกรตาแปว!
หลินฟานอึ้งไปแลว
เปนไปไมไดหรอกมั้ง...เจาชิคกี้เนี่ยนะ จะมีสัมพันธกับเทพบรรพบุรุษมังกร…?!
ตอนที่ 820 จัดไปชุดใหญ
พริบตานั้นประหนึ่งโลกหลาไรสำเนียงเสียงใด...
ชิคกี้เงยหนาขึ้นมองเทพบรรพบุรุษมังกรตาแปว พรอมกันนั้นทางดานเทพบรรพ
บุรุษมังกรที่สงบนิ่งไมแยแสก็มีทีทาเปลี่ยนไปทันใด
เมื่อเห็นภาพนี้ หลินฟานก็ฟนธงลงไปดังฉับ เจาชิคกี้มันตองสืบสายเลือดมาจาก
เทพบรรพบุรุษมังกรไมผิดแน!
“กุกกุกกู!!”
ชิคกี้เบี่ยงรางออกดานขางเล็กนอย กอนที่จะหันหลังกลับมามองหลินฟาน คอย
พยักหนาหันไปทางเทพบรรพบุรุษมังกรพรอมรองออกมา ความหมายของมันก็ชัดเจน
นัก “ปะปา เทพบรรพบุรุษมังกรเนี่ยบิดาขาชัดเจน!”
หัวใจของหลินฟานเตนระรัวหนักมากปานมันจะกระดอนออกมานอกอกเสียให
ได! เพราะหากนี่เปนเรื่องจริงไมใชวาเขากำลังจะตกเหมืองทองแลวหรือ?! เมื่อเห็น
ดังนั้นหลินฟานก็รีบขยิบตาปงๆ ใหชคิ กี้อยางรูกันทันใด!!
‘จัดไปไอหนุม เมื่อแนใจแลวก็รีบไปกอดขาพอเจาไวใหแนนๆ ซะ! เริ่มตนดรามาได!!’
ชิคกี้พยักหนารับเบาๆ อยางรูกัน ทั้งยังสงสายตาบงบอกหลินฟานอยางชัดเจน
“ปะปา อยาไดกังวล! ชิคกี้ลงมือแสดงเองทั้งคน ทุกอยางลวนอยูในกำมือ!!”
เมื่อเห็นสายตามั่นมาดของเจาชิคกี้หลินฟานก็เต็มไปดวยความมั่นใจ ถึงแมวา
ระยะเวลาที่เขากับเจาชิคกี้อยูดวยกันจะไมไดนานอะไรมากมาย แตเจาชิคกี้ก็ได
เรียนรูทุกอยางมาจากเขา ทักษะการแสดงออดออนรวมถึงการกอดขาบีบน้ำตาด
รามานั้น รับรองตองประเสริฐเลิศภพจบแดนแน!!
ทันใดนั้นบรรยากาศตึงเครียดอันเงียบงันพลันสลายหายไป
เจาชิคกี้พลันรองออกมาดังลั่น ทาทางของมันยังแปรเปลี่ยนไปหนักหนา
แมดวงตาไกนอยของมันจะไมไดโตใหญอะไรมากมาย แตทุกผูคนลวนเห็นหมื่น
พันอารมณอันซับซอนที่ประดังออกมารวดเดียว!
ตื่นเตน! สับสน! ตกตะลึง! ดีใจ...!
“กะ...กุกกก กุกกกกก กูววววววววววววววววววววววววว!!”
สองตาเริ่มพรามัวจับจองเทพบรรพบุรุษมังกรตรงหนาเขม็ง ปกชิคกี้กางออกสุด
ราวกับเห็นบางสิ่งที่ทำใหมันสะเทือนใจหนักหนา! เทาเล็กๆ ของมันซอยยิกๆ จิกถีบ
พื้นดินสงรางนอยๆ พุงไปอยางรวดเร็วปรี่ตรงไปหาเทพบรรพบุรุษมังกร!
จากนั้นเจาชิคกี้ก็โผไปกอดขาเทพบรรพบุรุษมังกรไวอยางแนบแนน! ทาทางสี
หนาแววตาอารมรที่เออลนออกมาจากภายในนั้น ราวกับมันเต็มเปยมไปดวยความคิด
ถึงสุดแสน!
“กุกกกกกกกกกกกกก กุกกกกกกกกกกกกกก กูวววววววววววววววววววววว!!!”
ถึงแมวาเจาชิคกี้มิอาจกลาวคำใหรูความ แตความหมายของเสียงรองนี้ก็ชัดเจนนัก!
“ทานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน พอออออออออออออออออออออออออ
อออ!!!”
ตอนนี้เทพบรรพบุรุษมังกรนับวาตกตะลึงจนอึ้งไปแลว สายตาของมันเผยความ
เครงเครียด จับจองมองชิคกี้เขม็งราวกับมันคิดจะตรวจสอบอะไรบางอยาง...
เทพบรรพบุรุษมังกรนั้นสามารถยืนยันไดในชั่วพริบตาวา สายเลือดที่ไหลเวียน
อยูในรางเล็กกระจอยเบื้องหนานั้น คลายกับสายเลือดของมันอยางมาก!
ตอนนี้เองหลินฟานพลันจัดเต็มออกมา สองตาเบิกกวาง รางสั่นระริก มือขวา
คอยๆ ยกนิ้วชี้ออก กลาวคำเสี่ยงสั่น “จะ...เจา ที่แทเจาคือบิดาของเจาชิคกี้!?”
เรียกวาตอนนี้ผูคนของชนเผามหามังกรนั้นแทบจะกลับกลายเปนหินไปแลว
โดยเฉพาะอยางยิ่งเหลามหามังกรชนชั้นอาวุโสทั้งหลาย หัวใจของพวกมันลวนเตน
ระรัว มวลอารมณอันเหลือเชื่อปะทุออกมาอยางยากจะทานรับ
นี่เพราะพวกมันทั้งหลายลวนรูดีถึงตำนานรักบทหนึ่งของเทพบรรพบุรุษมังกรที่
ขับขานไปพรอมกันกับนวลนางของชนเผาฟนิกซ! ทวานั้นเปนเรื่องราวที่บังเกิดขึ้นเมื่อ
นานแสนนานมาแลว!!
และตอนนี้ เมื่อพวกมันจับจองมองพินิจชิคกี้ใหดี พวกมันก็สัมผัสไดชัดเจนวามี
สายเลือดชนเผามหามังกรไหลเวียนอยูในรางเล็กกระจิ๋วนั่นอยางเขมขน อีกทั้งยังมี
สายเลือดชนเผาฟนิกซที่เขมขนไมแพกันผสมปนเป นี่มันบังเกิดขึ้นไดอยางไร!?
อยางไรก็ตามมีเรื่องราวประการหนึ่งที่ตอใหพวกมันขบคิดจนสมองบวมศีรษะ
ระเบิดก็ยากจะแตกฉาน วาเหตุไฉนกันหนอ สิ่งมีชีวิตที่สืบสายเลือดของชนเผามหา
มังกรและสายเลือดของชนเผาฟนิกซอันแสนสงางามกลับมีรูปรางเชนนี้!?
ตอนนี้หลินฟานที่จับตาดูสถานการณอยูนั้นก็รูสึกวาไมเขาทา! เพราะสีหนา
ทาทางของเทพบรรพบุรุษมังกรนั่น คลายจะสงบลงแลว!
หากชิคกี้เปนทายาทสืบสายโลหิตของเจาเทพบรรพบุรุษมังกรนั่นจริง ไมใชวา
มันสมควรมีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรสักหนอยเหรอ? อยางนอยก็ตองตื่นเตนบาง
อะไรบาง! ไดเจอลูกทั้งคนที่พรัดพรากกันไปแสนนานเลยนะ! แตไหงเจานี่มันหนานิ่ง
นักละ! นี่ไมมีอะไรผิดพลาดใชมั้ย?
และตอนนี้การแสดงของเจาชิคกี้ก็นับวาสมบูรณแบบ ไมวาอารมณสีหนาแววตา
หยาดน้ำตาที่หลั่งรินนั่นชางเปะ! ประหนึ่งเด็กนอยผูหนึ่งที่เปนกำพรา ดำรงชีวิตมา
อยางโดดเดี่ยวไรผูใดเหลียวแล สุดทายก็ฟนฝาอุปสรรคนับพันหมื่นประการจนไดพบ
พานบิดาที่ฝนหาทุกคืนวัน!
“กุกกกกกกกกก กุกกกกกกกกกกกกก กูวววววววววววววว!!!”
ตอนนี้เจาชิคกี้ที่ร่ำรองเรียกขาน ทั้งหลั่งน้ำตาอยางตื้นตันนั้น ลอบไมพอใจขึน้
มาแลว! ‘นี่ใตเทาชิคกี้กอดขาอยูนานแลวนะ! ไหงเจาผูนี้ไมตอบสนองอันใดเลยเลา!?’
สำหรับเจาชิคกี้แลว นี่ชางไมสมเหตุสมผลนัก!
จากนั้นเจาชิคกี้ก็ทำไดแคร่ำรองออกมาใหเสียงดังกวาเดิม ร่ำรองใหเหมือนปาน
จะขาดใจ เสียงนี้ชางโหยหวนชวนใหผูคนเวทนาแทบร่ำไห สะทกสะทอนอารมณ
เกินไปแลว! ราวกับเด็กนอยคนหนึ่งที่หวิ โหย เดินลำพังอยูบนโลกอันกวางใหญ แตไร
บานใหกลับ! เจาชิคกี้ทำทาราวกับตอนนี้มันเปนสิ่งมีชีวิตที่นาสงสารที่สุดในโลกหลา!
เรงเราบทโศกขึ้นมาจนผูคนโดยรอบสะทานสั่นไหว!!
ซูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!
ทันใดนั้นเองผืนฟาพลันทวมทนไปดวยเปลวเพลิงสีแดงฉาน หวงบรรยากาศปริ
แตกสะทาน รางหนึ่งแหวกทะลวงความวางเปลาโฉบลงมาดวยความเร็วสูง ปรากฏตัว
ตอหนาเทพบรรพบุรุษมังกร!!
เมื่อหลินฟานเห็นรางที่มาใหมนี้สองตาถึงกับเบิกกวางลุกวาวทอประกายวิบวับ ใจเตน
ระรัวขึ้นมาทันใด เพราะนั่นไมใชนกฟนิกซที่เขาเห็นบนโลกเสวียนหวงหรอกรึไง!?
ทวาตอนนี้ฟนิกซตัวนั้นกลับจำแลงกายอยูในรูปลักษณมนุษย นางมาในชุดคลุมฟนิกซ
สีแดงเพลิง ดวงตาของนางเออลนออกมาดวยความรักอันลึกซึ้งยามมองไปยังชิคกี้!!
รางนางนั้นแลดูสูงสง สงางาม เต็มไปดวยพลังอำนาจ ฯลฯ...ทวาอารมณของ
นางนั้น จากคลายเด็ดเดี่ยวทระนงกลับแปรเปลี่ยนไปเปนความออนโยนอันลึกซึ้ง
เทาที่มารดาคนหนึ่งจะมีได
จากนั้นชิคกี้ก็ถูกสตรีนางนั้นกมลงมาโอบกอดดวยความรัก น้ำเสียงของนางเต็มไป
ดวยความออนโยนแฝงความเปนหวงคิดถึงอยางไรขอบเขต
“ลูกชายตัวนอยของขา...”
ชิคกี้ที่เตี๊ยมกันมาสำแดงบทบาทกับหลินฟาน ทั้งยังตีบทแตกกระจายตั้งแตเริ่ม
ก็ถึงกับอึ้งคางไปทันใด มันถึงกับปลอยขาของเทพบรรพบุรุษมังกรอยางไมทันรูตัว
คอยหันกลับมามองสตรีตรงหนาดวยทาทางทึ่งๆ แมกระทั่งอีกฝายจะอุมมันขึ้นมา
กอดแลวมันก็ยังจับตนชนปลายไมถูก
“ลูกแม....”
เพียงแคคำ 2 คำเทานั้น หากแตก็มากพอที่จะทำใหเจาชิคกี้รองไหโฮน้ำตาแตก
ออกมาอีกครั้ง มันรีบกางปกนอยๆ กอนจะอิงแอบในออมกอดของนางแลวร่ำรอง
ออกมาเสียงดัง
“ไมรองนะลูก อยาไดรองไหแลว! เปนมารดาไมเอาไหนผูนี้ผิดเอง! เปนมารดา
ไมไดความที่ทำใหเจาตองไปตกระกำลำบากหนักหนาในโลกภายนอก!”
หยาดน้ำตาหลั่งไหลออกมาจากดวงตาดั่งแกวเพลิงของสตรีนางนั้นไมขาดสาย
ราวกับมีบางสิ่งที่ทำใหใจของนางแหลกสลายราวราน...
ตอนนี้เหลาคนของชนเผามหามังกรที่มามุงดูเรื่องราวทัง้ หลาย ตางหันมามองสง
สายตากันเอง พวกมันรูดีวากำลังจะบังเกิดเรื่องใหญขนึ้ แลว...
เทพบรรพบุรุษมังกรที่ปรายตามองไปยังสถานการณรอบๆ ก็เริ่มขมวดคิ้วเปนปม
“พวกเรากลับไปกันกอนเถอะ แลวมีเรื่องอันใดคอยวากลาวกันทีหลัง...”
สตรีที่กอดเจาชิคกี้อยูนั้น ในใจของนางนั้นกำลังเต็มไปดวยมวลอารมณที่เออลน
ออกมายากจะกลาว ทวาเมื่อไดฟงคำเทพบรรพบุรุษมังกรนางก็หันขวับ ดวงตาคูงาม
จับจองมองอยางเย็นเยียบ “กลับไปคอยกลาวอันใด? มีอันใดพวกเราก็รีบกลาวมัน
เสียที่นี่! ตรงนี้!!”
“สื่อเฟง...” ใจของเทพบรรพบุรุษมังกรเตนระส่ำไมเปนจังหวะทันใด มันสัมผัส
ไดถึงสังหรณอันตรายบางประการ!
“ฮวงหวูเฉิง! ทานคิดวาทานกำลังทำอันใดอยู?! ลูกชายของทานทั้งคนกอดขาร่ำ
รองแทบเปนแทบตาย แตทานยังมิแยแสอันใดอยูได!? นี่ทานกำลังดูแคลนลูกทานอยู
หรือไร?” สื่อเฟงแผดเสียงดุดาอีกฝายอยางแรง
“สื่อเฟง...ขา”
“เงียบไป! อยาไดกลาวแลว! เหอะ! ไมใชวาทานกลาวไปแลวเมื่อ 10,000 ป
กอนหรือไร? ตอนนี้ยังคิดจักกลาวอันใดอีก!? ก็ดี! ในเมื่อทานมิอยากเห็นหนาเขา
เชนนั้นก็ปลอยใหขาไปใหพนๆ ดวยเลยซี่! ขาจักไดไปใชชีวิตอยูกันสองคนแมลูก!!”
10,000 ปที่แลว เปนเพราะนางอยูกับอีกฝาย ทำใหอีกฝายตองพบพานกับแรง
กดดันและแรงตอตานอันหนักหนาจากคนของชนเผามหามังกร สุดทายอีกฝายก็ผลัก
ไสนางออกไป...ตอมาเมื่อฮวงหวูเฉิงไดกลายเปนเทพบรรพบุรุษมังกร และมีตำแหนง
ที่สูงสงเหนือผูใดแลว อีกฝายถึงคอยคิดจะพาตัวนางกลับมา...
แตเทาที่สื่อเฟงหวง พวกนางสองคนแมลูกนับเปนตัวอะไร? อีกฝายอยากจะไล
ใหไปก็ตองไป อยากใหกลับมาก็ตองกลับมางั้นเหรอ!?
“เฮอะ! ขาจักถามทานแคคำเดียวสั้นๆ ใชทานยอมรับเขาหรือไม?” สื่อเฟง
กลาวถามเสียงดุ
เทพบรรพบุรุษมังกรมองไปยังชิคกี้ กอนที่จะเหลือบขึ้นมามองผูคนของชนเผา
มหามังกรที่อยูรอบๆ สุดทายก็คอยพยักหนาออกมาเบาๆ
“ขายอมรับ...ขายอมรับแลว แตพวกเรากลับไปกอนคอยกลาวถึงเรื่องนี้ได
หรือไมเลา?” ตอนนี้เทพบรรพบุรุษมังกรแทบจะอกแตกตายแลว ตั้งแตแรกเห็นมันก็รู
ดี วาเจาชิคกี้นี่เปนลูกของมันแนแท!
แตหนาตาของมันเลา!? มันเปนถึงเทพบรรพบุรุษมังกร! ผูที่เปนที่นับหนาถือตา
ของทั้งเผาพันธุ มันยอมยากที่จะทำใจรับไดทันที! และหากไมใชเพราะความเชื่อมโยง
ระหวางสายเลือดที่แนนแฟนขุนคลั่ก ตอใหตายมันก็ไมอยากจะเชื่อวา สิ่งมีชีวิตที่แลดู
ประหลาดลูกตานี่เปนลูกชายของมัน!!
ทางดานหลินฟานนั้น ตอนนี้ยืนนิ่งมองชมเรื่องราวตาปริบๆ เรื่องราวเหตุการร
มันเปลี่ยนแปลงเร็วไวนัก!
ไมคิดเลยวาแมเจาชิคกี้จะมาที่นี่ได! และเรื่องสำคัญอีกประการที่ทำใหเขาถึงกับ
ตองแอบยิ้มกรุมกริ่มขึ้นมาก็คือ...เทพบรรพบุรุษมังกรนี่ทาทางจะกลัวเมียฟะ! ไมไหว
เลยนะเฮียกลัวเมียเนี่ย!!
และดวยภาพเหตุการณทาทางที่แสดงออกมาระหวางเทพบรรพบุรุษมังกรกับ
แมเจาชิคกี้ รวมทั้งเรื่องที่ไดยินผานหูมาตลอดถึงตอนนี้ ไมตองใหใครบอกเพิ่ม
หลินฟานก็พอจะคาดเดาเรื่องทั้งหมดไดไมยากแลว!
ยอนกลับไปในกาลกอนเทพบรรพบุรุษมังกรนี่คงไมไดมหี นามีตามีตำแหนงฐานะ
ใหญโตอะไรแบบนี้ และทาทางจะตองแขงขันแยงชิงอำนาจไมนอย มันเลยไมไดเปน
ตัวของตัวเอง! สุดทายเมื่อสื่อเฟงไมอาจยอมรับการกระทำหลบๆ ซอนๆ อะไรได ทั้ง
ไมพนอีกฝายใชใหนางหลบไปกอน นางจึงนอยใจหอบลูกในทองหนีไปโลกเสวียนหวง
แนแท!!
...
เรียกไดวานี่มันดรามาครอบครัวชัดๆ ! แตสำหรับหลินฟานแลว...เรื่องนี้ทา ทาง
จะสรางความบันเทิงใหเขาอยางไรขีดจำกัด! แตจะอยางไรก็ตาม ตอนนี้ในใจของหลิน
ฟานมีเพียงความคิดเดียวเทานั้น และนั่นก็คือ...
‘จัดไปชุดใหญไฟกระพริบเลยชิคกี้!!’
ตอนที่ 821 ไดเวลาพบพาน 3 แสบ
ดั่งคำกลาวที่วา “มิควรนำผาปูที่นอนเปอนคราบมาตากในที่สาธารณะ”
ตัวเทพบรรพบุรุษมังกรเอง ก็ยอมไมอยากใหเรื่องภายในครอบครัวของมันรับรู
กันไปทั่วในชนเผามหามังกร!
มันเองก็ตองใชเวลาทำใจไมนอยสำหรับการยอมรับเรื่องราวที่ผุดโผลมา
กะทันหันเชนนี้ ในใจของมันเรื่องนี้นาเหลือเชื่อและคาดไมถึงนัก! ในฐานะที่ตัวมันคือ
เทพบรรพบุรุษมังกร ไฉนลูกชายของมันถึงไดแลดูนาเกลียดนักเลา!?
ถาจะกลาววาลูกมันไดแม แตหากจะใหเปรียบเทียบกับความสงางามของชนเผา
ฟนิกซแลว มันชางหางไกลแสนไกลราสคนละโลก! จะวาไดพอ...แตตั้งแตหัวจรดเทา
ของอีกฝาย ก็ไมมีสวนไหนทีแ่ ลดูเหมือนชนเผามหามังกรซักนิด!!
“กุกกุกกู!!”
ชิคกี้ทิ้งตัวซบอยูในออมกอดของสตรีเบื้องหนา สองตาสะทกสะทอนคลายหวนรำลึก
ถึงคืนวัน แตลึกลงไปในแววตายังเผยประกายสวางวูบ มันยังไมลืมขอตกลงที่เตี๊ยมกัน
มากับปะปา...ไมสิ ตอนนี้ขอเรียกพี่ใหญดีกวา! จะไดไมทบั ซอนกับบิดาของมัน!!
‘พี่ใหญเคยกลาวไว ไมวาจะเกิดอะไรขึ้น...การแสดงตองดำเนินตอไป! ใตเทาชิคกี้ ตอง
จัดชุดใหญ!!’
สื่อเฟงลูบหัวนอยๆ ของชิคกี้อยางออนโยน กอนจะหันมองมายังหลินฟานดวย
สายตาตื้นตัน “ขอบคุณทานที่พาบุตรชายกลับมาหาขา”
สื่อเฟงรูดีแกใจวาลูกนอยของนางนั้นอยูในโลกเสวียนหวง และความจริงที่วาลูก
นอยของนางกลับขึ้นมาถึงโลกใบนี้ไดเปนอะไรที่นางไมคิดไมฝนมากอน!!
อันที่จริงตอนแรกนางยังคิดไปวาชั่วชีวิตนี้คงยากที่จะไดพบเห็นลูกนอยแลว
ทวามาตอนนี้ลูกนอยก็ไดกลับมาอยูในออมอกของนาง!!
สำหรับเทพบรรพบุรุษมังกรเอง...ในตอนนั้นเพื่อการดึงรางสื่อเฟงขึ้นมาจากโลก
เบื้องลาง ก็นับวามันตองจายราคาออกไปอยางมหาศาล
หลินฟานหัวเราะออกมาเบาๆ อยางสุภาพ “ทานไมตองขอบคุณขาหรอก ขากับ
ชิคกี้สนิทกันมานานแลว เปนเรื่องธรรมดาที่ขาจะพาชิคกี้มาตามหาญาติที่พรัดพราก
จากกันไป นี่นับเปนหนึ่งหนาที่ของสหายพึงกระทำ”
“ชิคกี้? ลูกชายของขาเรียกวาชิคกี้เชนนั้นหรือ?” ทันทีที่สื่อเฟงไดยินชื่อนี้คิ้วนางก็
ขมวด แมจะไมรูวาคืออะไรแตฟงดูแลว กลับรูสึกวาความหมายนาจักเลวรายนัก!
“กุกกุกกู!!!”
ชิคกี้รองออกมาเบาๆ ทาทางพึงพอใจ เผยใหเห็นวาชมชอบชื่อนี้ที่สุด!!
“ในเมื่อลูกชายขาชมชอบถึงเพียงนี้ เชนนั้นก็เรียกขานนามชิคกี้สืบไปเถิด” เมื่อ
เห็นวาบุตรชายมีความสุขมากแคไหน สื่อเฟงก็ไมคิดจะแยงอะไรอีก
สำหรับสื่อเฟงแลวการที่นางไดพบพานบุตรชายตัวนอยที่พรัดพราดจากไปอีก
ครั้ง ก็เปนเหตุการณอันนายินดีเหลือแสนควรคาแกการปดเผาเฉลิมฉลองดวยซ้ำ นาง
ยังจะใสใจกับเรื่องหยุมหยิมไดอยางไร?
ทวาทำงดานเทพบรรพบุรุษมังกรนั้นไมใช! เรื่องนี้นับวายากจะทานทนนัก! ใน
ฐานะบุตรของเทพบรรพบุรุษมังกร มันจะมีนามที่ฟงแลวรูสึกไรราคาเชนนั้นได
อยางไร…นี่ไมใชเรือ่ งนาละอายขายขี้หนาผูคนหรอกหรือ!?
แตดูจากสถานการณตอนนี้แลว เรื่องราวคลายไมไดอยูในความตัดสินใจของมัน
สืบไป! และดูจากสภาพแลวตอนนี้มันมิแคลวตองโดนใครบางคนทุบตีทำรายตอหนา
ผูคนเปนแนแท หากกลากลาวคำวา “ไม”
“กลับไปไดแลว” เทพบรรพบุรุษมังกรสะบัดผาคลุมคราหนึ่ง เพื่อใหกลุมมหา
มังกรมุงสลายตัว เรื่องนี้นับวาเปนเรื่องภายในครอบครัว ยอมไมสมควรใหทั้งชนเผา
รับรูกันไปทั่ว!!
สำหรับเหลาผูคนของชนเผามหามังกรแลว เรื่องราวครั้งนี้นับวาชางซับซอนไมนอย!
แตก็แนละสิ่งมี่ชีวิตที่แลอยางไรก็ไกชดั ๆ นั่น จะเปนลูกหลานของเทพบรรพ
บุรุษมังกรไดยังไง? บอกไปใครที่ไหนในโลกมันจะเชื่อ!
“สื่อเฟง...พวกเรากลับไปกอนแลวคอยวากันเถิด...” เทพบรรพบุรุษมังกรกลาว
ออกดวยน้ำเสียงออนโยนเอาใจ ฟงแลวยังอบอุนไมนอย
เรื่องราวในวันนี้นับวาเปนอะไรที่รุนแรงหนักหนาสำหรับเทพบรรพบุรุษมังกรไม
นอย มันไมไดเตรียมตัวเตรียมใจมากอน อยูดีๆ กลับมีลูกชายมาเคาะประตูบานแบบ
นี้ มันเองก็ไมรูจะทำอยางไรเหมือนกัน!
...
ณ หอคอยมหามังกร...
เทพบรรพบุรุษมังกรนั่งอยูบนบัลลังก ขางๆ ก็มีสื่อเฟงที่อุมชิคกี้ไวในตัก
สวนหลินฟ�นนั้นเลือกที่จะลงมานั่งขางลาง ในใจของเขากำลังหมุนแลนเร็วจี๋วา
ควรจะทำอะไรตอดี
แรงจูงใจในการพาชิคกี้มาหาญาติครั้งนี้ แนนอนวาเพื่อหลอกลอเอาโอสถเจิ้งหยางติด
ไมติดมือไปบาง
ทวาตอนนี้อัตลักษณของเจาชิคกี้กลับเหนือความคาดหมายหลินฟานไปไกลโข!
ใครจะไปคิดไปฝนวาพอมันเปนถึงเทพบรรพบุรุษมังกรละ! หากเขาสามารถหลอกลอ
เอาโอสถเจิ้งหยางมาไดนับวาประเสริฐหนักหนาแลว!!
“แคก แคก”
ทันใดนั้นเองเทพบรรพบุรุษมังกรกระแอมไอออกมา 2 ครั้ง มันคิดจะกลาวอะไร
บางอยาง ทวาพอจะเอยคำมันก็ไมรูจะพูดอะไรออกมาดี
เมื่อเรื่องราวมันดำเนินมาถึงตอนนี้ตัวเทพบรรพบุรุษมังกรก็ไมรูวามันสมควรจะ
หัวเราะหรือรองไห และยิ่งเห็นวาสื่อเฟงนั้นมองเจาตัวเล็กนั่นดวยสายตาลึกซึ้งขนาด
ไหน มันรูสึกคลายจะมหันตภัยกำลังจะบังเกิดขึ้นกับชีวิตของมัน...
“เหตุใดบุตรชายของขา ยังมิอาจกลาววาจาไดกันนะ?” สื่อเฟงที่ลูบหัวชิคกี้
อยางออนโยน อยูก็กลาวถามออกมาดวยความสงสัย
“กลืนนี่ลงไปสิลูก ลูกแมจักไดกลาววาจาได...”
ทันใดนั้นเองสื่อเฟงพลันหยิบโอสถออกมาเม็ดหนึ่ง ถึงแมวาโอสถนี้จะไมไดมี
พลังอำนาจทาทายสวรรคอะไร หากแตแคดูจากกลิ่นอายโอสถก็รู วามันตองผานการ
หลอมปรุงมาดวยวัตถุดิบสมุนไพรล้ำคา สรรพคุณของโอสถมิแคลวเปดภูมิปญญาของ
สิ่งมีชีวิตใดๆ ใหสามารถกลาววาจาผานภาษาคนได!
เมื่อเจาชิคกี้กลืนโอสถเม็ดนั้นลงไป รางของมันก็ปรากฏเปลวเพลิงรอนแรงลุก
ทวมขึ้นมาโดยพลัน
สื่อเฟงยังคงกอดลูกชายตัวนอยเอาไวไมไดนำพาอะไรกับเปลวไฟดังกลาว
“กุก...ทานแม”
ทันใดนั้นชิคกี้พลันเปดปากกลาววาจาออกมา! และหนึ่งคำที่เปลงออกมานี้ ยัง
ทำใหใจของสื่อเฟงเสมือนมีมวลผกานานาพรรณเบงบาน ทำใหนางปติยินดีนัก!!
หลินฟานนั้นยังเลือกที่จะเงียบไวไมกลาวอะไร เขารูดีวานี่ละโอกาสเหมาะที่เจา
ชิคกี้จะตีบทแตก! ตอนนี้ไมมีบทใหเขาพูดสอด ทั้งหมดอยูที่เจาชิคกี้ลวนๆ !!
“ทานพอ!”
ชิคกี้กางปกออกมากอนที่จะโผรางไปยังตักของเทพบรรพบุรุษมังกร สวนดาน
เทพบรรพบุรุษมังกรนั้นก็คอยๆ ชอนรางเจาชิคกี้ขึ้นมาอุมดู ทวาทาทางคลายรังเกียจ
ไมนอย...นี่ถาไมใชเพราะความจริงที่วาสื่อเฟงอยูใกลๆ มันอาจจะเตะโดงเจาชิคกี้ไป
ใหพนๆ แลวก็เปนได!!
“เฮอะ!!”
เมื่อสื่อเฟงเห็นสีหนาทาทางของเทพบรรพบุรุษมังกร คิ้วนางยกขึ้นทันใดเสียง
แคนสบถดวยเย็นชาเปลงออกมา ความหมายของนางนั้นชัดเจน “ดูทานทำทาเขา ยัง
ไมรีบกระทำใหดีอีก!”
เมื่อเทพบรรพบุรุษมังกรเห็นสายตาทาทางเย็นเยียบนากลัวของสื่อเฟง มีหรือจะ
กลาหือ? มันคอยๆ ยกมือไปลูบหัวชิคกี้เบาๆ พรอมกลาวออกมา “ดะ..เด็กดี...!”
“ทานพอ! ทานแม! ในที่สุดชิคกี้ก็ไดเห็นพวกทานแลว...ตอนที่ขาลืมตาดูโลกครั้งแรก
ในโลกเสวียนหวง ขางกายขาไรซึ่งสิ่งใดนอกจากพี่ใหญ... เปนพี่ใหญที่คอยปกปอง
เคียงขางขาตลอดมา และพี่ใหญบอกวาทานพอทานแมของขานั้นอยูโลกเบื้องบน! ชิค
กี้เลยพยายามฝกฝนอยางหนัก อดทนฝาฟนอันตรายเสี่ยงตายนับครั้งไมถวน!”
“และทุกครั้งที่ชิคกี้ตกอยูในหวงแหงความตาย...ชิคกี้จะทองจำไว วาหากชิคกี้
แข็งแกรงขึ้น สักวันชิคกี้จะสามารถขึ้นไปยังโลกเบื้องบนและกลับไปหาทานพอทาน
แมได”
“ไมวากี่ครั้งตอกี่ครั้งแตเมื่อชิคกี้คิดถึงเรื่องนี้ รางของชิคกี้จะเปยมลนไปดวย
พลังมหาศาล! มีแรงใหสูตอไป!!”
...
ตอนนี้ชิคกี้กลาวคำออกมาราวเด็กนอยอวดบิดามารดา นับวาทำใหหลินฟานอึ้ง
วาจาของมันยังนับวานาตกใจไมนอย!
ใครจะไปรูวาไอเจาชิคกี้มันไปหัดแถเวอรวังแบบนี้มาจากไหน! แตใหตายเถอะ
ครั้งนี้นับวามันแถเวอรวังไดสะทกสะทอนใจไมนอย!!
“โธเอย...ลูกนอยที่นาสงสารของแม...ทั้งหมดเปนเพราะแมมิไดความ ถึงไดทำ
ใหเจาตองตกระกำลำบากเชนนี้!” ทันทีที่สื่อเฟงไดยินคำกลาวของชิคกี้ เรียกไดวานาง
หนามืดตามัวไปแลวอยางแทจริง
“ทานแม...! ขาหิวแลว!” ชิคกี้พลันกลาวออกมาเสียงออน คลายไมมีแรง
“อะ! ลูกแมหิวหรือลูก! มารดำผูนี้จักใหสาวใชเตรียมอาหารเลิศรสใหเจาเดี๋ยวนี้ละ!!”
สื่อเฟงรีบกลาวตอบเปนมั่นเหมาะ
“ขาไมอยากกินอยางอื่น…ขาอยากกินเม็ดยา! ขาอยากกินเม็ดยาเยอะๆ ๆ เลย!” ชิคกี้
ยังแสดงบทเด็กนอยไรเดียงสาออกมาอยางไหลลื่น ทวาตอนนี้เมื่อหลินฟานไดยินเสียง
กลาวของมันสองตาพลันลุกวาวทันที ‘เนียนมากชิคกี้! นี่ละที่พี่ตองการ!!’
“เม็ดยา? ลูกแม เจาอยากกินโอสถอันใดหรือ?” สื่อเฟงกลาวถามพรอมลูบหัว
นอยๆ อยางเอ็นดู
“ขาอยากกินโอสถเจิ้งหยาง! โอสถเจิ้งหยางเยอะๆ กินเยอะๆ เลย!!” ชิคกี้ตอบ
กลับพรอมสยายปกใหดูกวางๆ
“ไดสิ! เดี๋ยวแมจะพาไปหองเก็บสมบัติของพอนะ ตราบใดที่ลูกแมชอบ อยาก
กินเทาไรก็กินไดตามแตที่ลูกตองการดีหรือไม?” สื่อเฟงกลาวออกอยางออนโยน เห็น
ไดชัดวาตอนนี้ไมวาสิ่งใดนางลวนตามใจชิคกี้ทั้งสิ้น!
“นิ...นี่...” ทันทีที่เทพบรรพบุรุษมังกรไดยินเรื่องนี้ ใบหนาของมันเปลี่ยนไป
ทันใด ความไมเต็มใจเผยออกมาใหเห็นชัดเจน
“ทำไม? ทานไมเต็มใจหรือ? หากทานมิเต็มใจเลี้ยงลูกก็อยาได! ขาจักพาลูกนอย
ของขากลับชนเผาฟนิกซ ขาเชื่อวามีผูคนมากมายที่ยินดีชวยขาเลี้ยงเขา!!” สื่อเฟง
กลาวเยยหยันออกมา
“มิ...มิใช! ขามิไดหมายความเชนนั้น!” เทพบรรพบุรุษมังกรรีบกลาวออกมา
อยางรอนรน
“อะ! จริงสิทานพอทานแม ขามีลูกชาย 3 คนแลวดวย! ลูกของขาคนนึงนั้นกินจุ
ยิ่งนัก เขายังกินไดมากกวาที่ขากินอีก! เขากินอาหารทีละเปนภูเขาเลย!” ชิคกี้กลาว
บอกออกมาเพิ่มเติม
“ฮะ!?” ทั้งสื่อเฟง และเทพบรรพบุรุษมังกรอึ้งไปทันใด แตละคนลวนแนนิ่งไป
คลายไมอาจทานรับเรื่องราวไดในเวลาอันสั้น หลังจากนั้นสื่อเฟงคลายไดสติ กอนที่จะ
รีบรองออกมาอยางยินดี “เร็วเขาลูกแม! รีบเรียกหลานออกมาใหแมชมดูเร็วเขา!!”
เทพบรรพบุรุษมังกรเองก็ตื่นเตนเชนกันแตเปนการตื่นเตนไปคนละทางกับ
ภรรยาอยางสิ้นเชิง ตอนนี้มันคิดวากระทั่งบุตรชำยแทๆ ยังหนาตาไมเหมือนมันแมแต
นอย...เชนนั้นแลวหลานมันเลาจะเหมือนมันไดเหรอ?
สำหรับเทพบรรพบุรุษมังกรแลว เรื่องราวนี้มันมาไวเกินไป มันแทบรับความ
เปลี่ยนแปลงไมทันแลว!
เพียงคำเดียว มันก็ไดรับบุตรชาย...อีกคำ มันก็ไดรับหลานชาย แถมยังมีถึง 3!
สำหรับมันแลวนี่เปนหายนะครั้งใหญ!
ตอนที่ 822 พี่เขาใจความเจ็บปวดในใจเจาดี...
“เออ...ทานอยากเห็นจริงๆ หรือ?”
หลินฟานกลาวถามย้ำออกมาดวยความปรารถนาดี นี่เพื่อใหอีกฝายไดเตรียมตัว
เตรียมใจบางอะไรบาง เพราะหลังจากทั้งหมดแลว...ลูกชายทั้ง 3 ของเจาชิคกี้แตละ
ตัวนั้น นับวาเปนตัวดีทั้งนั้น! นางไมกลัวสติแตกหรือไง ถาไมเตรียมตัวเตรียมใจให
พรอม?!
ทั้งเรื่องนีย้ ังนับวาเปนอะไรที่หนักหนาสำหรับเทพบรรพบุรุษมังกรไมนอย ใน
ตอนแรกที่อีกฝายเห็นชิคกี้ ความไมยอมรับและไมชมชอบก็เผยออกมาใหหลินฟา
นเห็นอยางเดนชัด! นี่ถามันเห็นหลานชายอันมีเอกลักษณเฉพาะทั้ง 3 มันไมกระอัก
เลือดตายเอาหรือ?
“ทั้ง 3 เปนหลานชายของขา! เหตุใดขาถึงมิอยากเห็นพวกเขาเลา!?”
สวนทางดานสื่อเฟงนั้นไมคดิ อันใดใหมากความ นางเพียงวาดหวังจะไดพบ
หลานของนางเทานั้น
“แมจา ลูกชายของขาทั้ง 3 นั้นประเสริฐหาผูใดเทียบ! แตละคนลวนเปนตัวของ
ตัวเองยิ่ง! ลูกทั้ง 3 ของขานับเปนความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตของขาเลย!” ชิคกี้กลาว
ออกมาดวยความภาคภูมิใจ
“แนนอน! หลานชายของแมจักธรรมดาสามัญไดอยางไร! ฮา หากบรรพบุรุษและผู
อาวุโสเรารูเรื่องนี้ พวกทานตองยินดีอยางยิ่ง!!” สื่อเฟงกลาวออกมาอยางมีความสุข
เมื่อเห็นวาทาทางคนบานนี้จะเตรียมตัวเตรียมใจกันมาดีแลว หลินฟานก็คราน
จะลากถวงสืบตอ ในเมื่ออยากดู ก็ดูใหดีๆ เถอะ!!
หลินฟานสะบัดมือปลอยลูกชายทั้ง 3 ของเจาชิคกี้ออกมาทันที
แสงสวางเรืองรองเจิดจาปรากฏทันใด ทันทีที่สื่อเฟงเห็นแสงเรืองรองนี้นางอด
ไมไดที่จะตาลุกวาว เฝามองอยางคาดหวัง!
ความอยากรูอยากเห็นของเทพบรรพบุรุษมังกรเองก็ถูกเหลาจนแหลมเชนกัน
มันอยากรูนักวาหลานทั้ง 3 ที่ประเสริฐหาผูใดเทียบนั่นที่แทเปนเชนไร!
“กุก กุก กู!!”
กอนที่รางจะปรากฏ ที่นำโดงมาเลยก็คือเสียงรองอันเปนเอกลักษณ! ทวาวินาที
ที่เสียงนี้ดังขึ้น…ใจของเทพบรรพบุรุษมังกรก็แข็งชะงักไปทันใด มันรูสึกผิดทาขึ้นมา
อยางบอกไมถูก! สวนทางดานสื่อเฟงนั้นมีเพียงความรอนใจกับความวาดหวังเทานั้น!!
ทันใดนั้นเมื่อแสงสวางขาวดับหายแสงทองอรามทั้งประกายระยับพลันเจิดจา
แทนที่ รางไกที่เต็มไปดวยวัตถุสีทองวับวาวยืนสงาอยูตรงนั้น มันหันศีรษะไปมอง
รอบๆ อยางเชิดๆ ทำราวกับทุกสรรพชีวิตทั่วหลานั้นตองกมกราบยอมสยบจำนน!!
กลิ่นอายแหงความมั่งคั่งและเพชรนิลจินดาทั่วรางเปลงปลั่งออกมาอยางรุนแรง
ควบคูไปกับสีทองที่เปลงออกมาจากรางของมัน… พรอมดวยทาหมุนตัวขาเดียวสุดเจง
นั่น...ไกพใี่ หญ อภิมหึมามหาเศรษฐีปรากฏตัว!!
“แมจา นี่คือลูกชายคนโตของขา เรียกวาไกพี่ใหญ ทานเห็นหรือไม ไมใชเขาเต็ม
ไปดวยพรสวรรคฟาประทาน ร่ำรวยมั่งคั่งไรผูใดเสมอเหมือนหรอกหรือ!?” ชิคกี้ภูมิใจ
นำเสนอ
แนนอนวาเจาชิคกี้นั้นยอมภาคภูมิใจในตัวลูกชายทั้ง 3 มาก แตละคนลวนไดรับ
สวนดีๆ ของมันไปหมดสิ้น!
“ดี! ดี! ดียิ่ง! นับวาเปนเอกลักษณยากจะหาผูใดเทียบนัก! นี่คือหลานอัน
ประเสริฐของขาอยางมิตองสงสัย! มาๆ มาใหทานยากอดเร็วเขา!!” สื่อเฟงยิ้มกวาง
ปากแทบปริ แลแลวยากที่จะหุบลงได!
“ไกพี่ใหญ นี่คือแมจาของบิดา เชนนั้นนางก็คือทานยาของเจา รีบเรียกทานยา
แลวไปกอดเร็ว!” ชิคกี้กลาวสั่งออกมา
ไกพี่ใหญยกปกลูบไลทองคำที่ประดับอยูเต็มคอ กอนที่จะเดินสายตูดไมกี่ครั้ง
คอยเดินไปเกาะขาสื่อเฟงพรอมเอาแกมถูไถอยางออดออน!
ตอนนี้สองตาเทพบรรพบุรุษมังกรเบิกกวางถางโพลงปานจะถลนหลุดออกเบา
หัวใจของมันปวดแปลบปานถูกมีดแหลมคมกระซวก...ทวาทันใดนั้นเอง กลับมีสีสัน
อันตระการตามากมายหลายหลากสองสวางทั่วหลา เงารางที่มาพรอมทรงผมสุดเฉี่ยว
คอยๆ ปรากฏขึ้น!
ไกสอง ผูเปนไกที่ยึดมั่นในวิถีเด็กแนวไมสนหลา สะบัดบอบสงผมที่ยาวเฟอย
ปรกหนาขางหนึ่งใหปดออกขาง รางเยื้องยางอยางมาดมั่นปานอยูบนเวทีงานแฟชั่น
โชว วันนี้ผมของมันโดดเดนนัก!
“แมจา นี่คือไกสอง ไมวาไปที่ใดเขาจักเปนผูที่โดดเดนดวยเฉดสีรุงและการ
แตงตัวอันไรผูใดเสมอเหมือน!!” ชิคกี้ยังคงกลาวแนะนำออกมาดวยความภาคภูมิใจ
ลูกชายของมันนั้นแตละคนลวนโดดเดนเปนเอกลักษณยากหาใดเทียบ บางครั้ง
ชิคกี้ภูมิใจมากเกินไปถึงขั้นตองขอขมาตอฟา ดวยยีนอันโดดเดนของมัน ชวยไมไดที่
ลูกมันจะโดดเดนทาทายสวรรค!!
“ไกสอง นี่คือทานยาของเจา และนี่คือทานปูของเจา รีบไปกอดทานปูเร็ว!” ชิคกี้สั่ง
ไกสองพลันสะบัดหัวไปอีกขางหนึ่ง ทรงผมสุดแนวที่ปดออกขางกลับมาปรก
หนาปดตาขางหนึ่งเอาไวอีกครั้ง จากนั่นก็ยางเยื้องไปหาเทพมังกรบรรพบุรุษดวย
ทวงทาตามใจขา!
“โยว ปู!”
เสียงรองทักทายครั้งนี้ทำใหปราการกั้นขวางในใจเทพบรรพบุรุษมังกรแตก
สลายทันใด
เปรี๊ยะ!!
มุกมังกรที่หยิบออกมาคลึงเลนในมือเพื่อสงบอารมณถูกกำจนแตกเพลง สำหรับ
เทพบรรพบุรุษมังกรแลวนี่มันหาระเบิดเกินทานรับ!!
“ลูกแม เจาดูสิวาทานพอเจาภูมิใจถึงขนาดไหนเมื่อไดเห็นหลายชาย! ไขมุก
มังกรนั่นเปนสมบัติที่ทานพอของเจาโปรดปรานมากที่สุด!!” ทันทีที่สื่อเฟงเห็นภาพนี้ก็
หัวเราะออกมาทันใด
หลินฟานเองก็ถึงกับตองยกมือกายหนาผากไปคราหนึ่ง เขายอมเขาใจความ
เจ็บปวดของเทพบรรพบุรุษมังกรตอนนี้ดี หากเขามีหลานแบบนี้ละก็ อันดับแรกเขา
จะเอาอีโตสับมันใหเหมือนหมูบะชอ กอนที่จะจับโยนลงเตาหลอมกลั่นใหมันรูแลวรู
รอดกันไป...
ตึงงงงงง!!
ยามเมื่อไกอวนเยื้องยางออกมาจากวิมานฟา หอมหามังกรถึงกับสะเทือน! และ
ทุกคราที่มันปรากฏตัวมักตองทำเนื้อชิ้นหนึ่งรวงลงจากปากทุกครั้ง!!
บริเวณคอของไกอว นนั้นจะมีสรอยมิติวงหนึ่งที่เอาไวเก็บของ แนนอนวาดานใน
ก็ไมมีอะไรไปมากกวาเนื้อสัตว!
“แมจา นี่เรียกวาไกอวน เปนลูกชายคนที่ 3 ของลูกเอง แตพอดีเขากินเกงไป
หนอยก็เลยคอนขางจะอวบไปนิด” ชิคกี้กลาว
เมื่อเห็นไกอวนที่เต็มไปดวยหนั่นเนื้อ สื่อเฟงก็แยมยิ้มออกมาอยางพึงใจ
“ประเสริฐยิ่ง! นับเปนเรื่องอันประเสริฐนักหากผูใดสามารถกินไดเยอะๆ ! เขาดู
แลวเจาเนื้อนารักนาชังนัก! ฮวงหวูเฉิง ทานนับวาโชคดียิ่ง! หลานชายทั้ง 3 นี้เหมือน
ทานนัก!” สื่อเฟงกลาว
เมื่อไดเห็นหลานชายครบ 3 คน ตอนนี้ใบหนาเทพบรรพบุรุษมังกรยิ่งมายิ่งซีดเซียว!
ตัวมันนั้นใชชีวิตมาอยางสงางามโลดแลนทั่วหลาดวยความภาคภูมิใจ สรางชื่อเสียง
เลื่องลือระบือไกล ทวาตอนนี้มันรูสึกสังหรณพิกล วาชื่อเสียงที่มันเพียรสรางมานับ
หมื่นป กำลังจะพังพินาศเพราะหลานทั้ง 3!
ยิ่งเมื่อไดยินคำกลาวสุดทายของสื่อเฟงหนาของเทพบรรพบุรุษมังกรก็แดงเถือก
สุดทายก็กระอักเลือดออกมาคำโต!
“แมจา พอจาเปนอันใดไปหรือ?” ชิคกี้กลาวถาม
“ตอนนี้พอเจามีความสุขยิ่งนัก! โดยเฉพาะเมื่อเขาไดเห็นหลานชายทั้ง 3 อันเปนผูสืบ
ทอดเชนนี้ ตอไปเรื่องราวในชนเผามหามังกรก็มิมีใดใหกังวลแลว!!” สื่อเฟงกลาว
“ออ…” ชิคกี้พยักหนารับทราบ
เทพบรรพบุรุษมังกรรูสึกคลายวาชีวิตที่แลวของมันมิแคลวคงไปกอกรรมทำเข็ญ
จนบาปหนาเปนแน ถึงไดมีหลานประหลาด 3 ตัวเชนนี้!
หลินฟานมองไปยังเทพบรรพบุรุษมังกรดวยสายตาเปนเชิงปลอบใจ แมคนอื่น
อาจจะไมเขาใจความเจ็บปวดของเทพบรรพบุรุษมังกร แตแนนอนวาหลินฟานเขาใจดี
เทพบรรพบุรุษมังกรสมควรเปนตัวตนที่มีพรสวรรคและศักยภาพอันไรเทียมทาน และ
เปนถึงผูนำของชนเผามหามังกร!
ทวาตอนนี้อยูดีๆ ลูกชายกลับโผลออกมาจากไหนก็ไมรู? ไมเพียงแตลูกชายจะแลดูไม
เหมือนมันสักกะผีก กระทั่งยังมีหลานที่ไมทันตั้งตัวโผลมาอีก 3!
หลานคนหนึ่งคลายมุงมั่นในหนทางเศรษฐี ทั่วกายเต็มไปดวยทองคำและ
เครื่องประดับฟรุงฟริ้ง!
อีกหนึ่งเปนไกเด็กแนวที่ทรงผมแตละวันแปรเปลี่ยนไปเรื่อย เสื้อผายังมีทุกเฉดสี
ละเลงไว!
สวนสุดทายเปนไกอวนเหนียงยานระพื้น มองเทาไหรก็หาลำคอไมเจอ!
แตละคนนั้นลวนเปนตัวตนอันสุดกู! หากโลกภายนอกลวงรูเรื่องนี้...มิแคลวมัน
ตองกลายเปนตัวตลกชวนหัวของทุกผูคน!!
ตอนนี้ในใจเทพบรรพบุรุษมังกรคลายกำลังหกคะเมนตีลังกาประหนึ่งนั่งรถไฟเหาะก็
ไมปาน ถึงแมดานพลังฝกตนของมันจะทาทายสวรรค แตตอนนี้มันก็ไมอาจทานทน
รับไหวแลว!
กุก กัก
ทันใดนั้นเทพบรรพบุรุษมังกรสัมผัสไดวามีหัวหนึ่งกำลังถูไถอยูกับขากางเกงมัน
ซายทีขวาที เมื่อมองลงไปมันก็ถึงกับตองกระอักเลือดออกมาอีกคำ+
ไกอวนนั่นมันทำเนื้อตกกอนที่จะกมลงไปเก็บ หากแตจงอยปากและเหนียงของ
มันเต็มไปดวยน้ำมันเยิ้ม มันก็เลยไปเช็ดๆ ถูๆ กับขากางเกงของเทพบรรพบุรุษมังกร!
ราวกับขากางเกงนั่นดำรงอยูเพื่อมัน!!
และเมื่อทั้งคูไดหันมองสบตา ไกอวนผูไรเดียงสาก็ทำตาโต...และราวกับมันไม
อาจทานรับสายตาเต็มเปยมไปดวยความรักจากทานปูไดไหว มันจึงหันไปไซรขา
กางเกงทานปูตออยางเขินอาย
ตอนนี้มันเขินอายยิ่ง!
ตอนนี้เทพบรรพบุรุษมังกรก็ไดแตหงายหลังไปพิงพนักบัลลังก แหงนมองขึน้ ไป
อยางเลื่อนลอย แววตาจองมันวางเปลาคลายชีวิตนี้ไมเหลือความหวังอันใดแลว...
‘ไถถามโลกหลา ขาเทพบรรพบุรุษมังกรผูนี้ไปทำบาปกรรมอันใดไวกัน...’
เทพบรรพบุรุษมังกรบังเกิดความคิดอยากตบฟาดหลานบัดซบทั้ง 3 ใหมันตก
ตายรูแลวรูรอดกันไป! อนิจจามันไมกลาทำและไมอาจกระทำได...
นั่นเปนเพราะมันสามารถสัมผัสไดชัดเจน วาสายเลือดที่ไหลเวียนอยูในกายของ
ตัวบัดซบทั้ง 3 นั่น เปนสายเลือดที่ละมายคลายคลึงมันนัก ชี้ชัดวาทั้งหมดมีตนกำเนิด
เดียวกัน
อยางไรก็ตามยังมีบางสิ่งที่ทำใหเทพบรรพบุรุษมังกรประหลาดใจเล็กนอย เหตุ
ใดสายเลือดหลานทั้ง 3 ของมันถึงแหมงๆ พิกล...
“ลูกแม แลวลูกสะใภของแมเลา ใยถึงไมอยูดวย?” ตอนนี้เองสื่อเฟงพลันกลาว
ถามออกมา
ทันทีที่ชิคกี้ไดยินคำถามนี้ รางมันสะทานคลายหวนรำลึกถึงบางสิ่งในใจ จากนั้น
มันคอยกลาวออกมาอยางเศราสลด “แมจา...นางตายแลว...”
ตอนที่ 823 ไดเวลากอบโกย
สิ่งที่หลินฟานกลัวที่สุดก็คือ เจาชิคกี้มันจะกลาวออกมาอยางไมทนั รูตัววา...มัน
ไปขยมไกบานจนจับพลัดจับผลูเกิดลูกทั้ง 3 ออกมา...และหากทั้งคูร ูวาหลานของพวก
มันเปนลูกหลานของแมไกบา นๆ ตัวหนึ่ง หลินฟานเองก็ไมรูวาอีกฝายจะทำหนายังไง
...
แตหากถามความเห็นหลินฟานละก็ มิแคลวทั้งคูตองระเบิดลง!
“นางตายไดอยางไรกัน...?” สื่อเฟงกลาวถาม
“นางคลอดยาก” ชิคกี้ตอบกลับ
อันที่จริงแลวเรื่องราวที่วาแมไกบานๆ ตัวหนึ่ง สามารถใหกำเนิดตัวประหลาด
ทั้ง 3 ออกมาได หลินฟานก็มึนตึ๊บยากที่จะเขาใจไดแลว วามันเปนไปไดยังไง! โคตร
อภินิหารเลย!!
นั่นเพราะในทางทฤษฏีแลว ยามมารดาอุมทองบุตร สารอาหารที่จะไปหลอ
เลี้ยงบุตรลวนมาจากมารดาทั้งสิ้น และยิ่งเปนสิ่งมีชีวิตเชนนี้ ยิ่งตองใชพลังปราณ
มหาศาลในการหลอเลี้ยง! อยาวาแต 3 ตัวเลย ลำพังแคอุมทองพวกมัน 1 ตัว แมไกก็
ตองจายสงพลังปราณจนรางแหงกรอบแลว...กระทั่งยังไมแนวาจะพอเลี้ยงอีกฝายได
สักลมหายใจดวยซ้ำ! แตใครจะไปคิดวาแมไกนั่นจะทนทานไดขนาดนี้!!
แตเรื่องที่หลินฟานไมรูก็คือ ยามเมื่อแมไกบานๆ นั่นอุมทองลูกชิคกี้ ซั่งเออกั๋วและคน
อื่นๆ ถึงกับทำงานหนักจนรางผอมเห็นกระดูก ทั้งหลายตางออกไปเสาะแสวงหาโอสถ
ทิพยมากมายในใตหลากันจาละหวั่นเพื่อนำมาบำรุงเลี้ยงดูแมไกนั่นโดยเฉพาะ!!
หากบุคคลภายนอกลวงรูถึงปริมาณโอสถล้ำคาที่แมไกนั่นใชไปละก็ พวกมันคง
ไดกระอักเลือดตาย เพราะนั่นมันโคตรของโคตรจะสิ้นเปลือง!!
“โธลูกแม...อยาเศราไปเลย วาแตแมสงสัยวานางเปนผูใดมาจากไหนหรือ หาก
วางแมจักไปเยี่ยมบานนางกับพอของเจา” สื่อเฟงกลาวถามพรอมลูบหัวปลอบ
ประโลมชิคกี้
ชิคกี้กระพริบตาปริบๆ ครุนคิดอยูครูหนึ่งคอยกลาว “ขาคิดวานาจักเปน
เผาพันธุ แมไก”
“หืม?”
“เผาพันธแมไก? มันเปนชนเผาแบบใดกัน?”
ทั้งเทพบรรพบุรุษมังกรและสื่อเฟงลวนอึ้งไปทันใด เพราะทั้งคูไมเคยมีใครไดยิน
ชื่อเสียงเรียงนามของชนเผา แมไก นี้มากอน...
หลินฟานเองก็อึ้งไปไมตาง ‘แมไกมารดาเจาสิ!’
ชนเผาแมไกนั้นนะหรือ หาใชชนเผาอื่นใดนอกจากชนเผาที่มีหนาที่อันยิ่งใหญ!
คำนิยามก็คือ “เมื่อเติบโตขึ้น ก็ตองกระโดดลงหมอเพื่อใหผูอื่นไดอิ่มหนำ”
“แฮมๆ ชนเผาแมไกนี้…กลาวไดวาเปนชนเผาที่ผูคนบนโลกเสวียนหวงไมมีใคร
ไมรูจัก ถึงแมวาพลังอำนาจและฐานะอาจจะเทียบกับ 10 เผาพันธุสัตวโบราณแบบชน
เผามหามังกรและชนเผาฟนิกซทานไมได แตชนเผาแมไกนี้ก็มีความสามารถไม
ธรรมดาเชนกัน”
“เมื่อถึงยามเชากอนที่แสงแรกของอัสดงจะสาดสอง ชนเผาแมไกจะปรากฏตัว
ออกมากอนผูใด กูรองออกมาเสียงดังกึกกอง เพื่อปลุกสรรพชีวิต...นำพาสรรพสัตว
ทั้งหลาย! สำหรับผูคนบนโลกเสวียนหวงแลว ความสำคัญและคุณคาของการกระทำนี้
นับวาใหญหลวงนัก! กลาวไปก็ทัดเทียมกับสวรรคไดเลยทีเดียว!!” หลินฟานกลาว
คำอธิบายออกมาดวยน้ำเสียงจริงจัง หนาเขม
สวนทางดานเทพบรรพบุรุษมังกรกับสื่อเฟงนั้น ถึงแมวาไมรูวาเผาพันธุนี้คือ
อะไร แตพอไดฟงคำกลาวจริงจังและสีหนาทาทางเขมขรึมของหลินฟาน กอปรกับทั้ง
เมื่อฟงดูแลวยังเปนการกระทำอันสูงสงนำอยางพาคนทั้งโลกหลา! พวกมันก็พยักหนา
ยอมรับ!!
ถึงแมวาพลังอำนาจและฐานะอาจจะดอยไปกวา 10 สัตวโบราณ แตฟงแลวก็
มิไดเลวรายหรือดอยกวากันมากนัก!
สวนหลินฟานที่พึ่งแถเสร็จ ก็หันไปยักคิ้วหลิ่วตาสงสัญญาณใหเจาชิคกี้ใหเริ่มลง
มือตอได ดวยครานจะกลาวถึงเรื่องสุมเสี่ยงเชนนี้กับพอแมของมันสืบไป!
ชิคกี้ยอมเขาใจสายตาที่สงมาของหลินฟานอยางดี มันยกปกขึ้นมาลูบทองปอยๆ
คอยกลาวออกมาอยางขวยเขิน “แมจา ชิคกี้หิวแลว...”
“ฮา จริงดวย! แมจาจักพาเจาไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!!”
ทันทีที่เทพบรรพบุรุษมังกรไดยินเรื่องนี้ มันถึงกับอึ้งคางแนนิ่งไปครูห นึ่ง เพราะ
ที่นั่นที่วานะ...เปนสถานที่เก็บสมบัติของมันเอง! มันยอมไมยินยอมพรอมใจใหใคร
ลวงล้ำเขาไป!!
ทวาภายใตพลังอำนาจของมนุษยเมียที่เปลงออกมาสะกดขมอยางไรทางตอตาน
มันยอมไมกลาหืออืออันใด ทำไดแคเห็นดวยอยางไรเสียงเทานั้น...
ตอนแรกหลินฟานก็ไมไดรับสิทธิ์ใหเขาไปดวย ทวาดวยความชวยเหลือของเจา
ชิคกี้และ 3 ลูกไกของมัน เขาก็สามารถเขาไปดวยไดสำเร็จ!
ถึงแมวาเทพบรรพบุรุษมังกรจะเต็มไปดวยอารมณไมยินยอมนับหมื่นพัน แตมัน
ก็ไรหนทางเลือกอื่นใด
เมื่อหลินฟนเดินมาถึงประตูศิลาบานเขื่อง ในใจก็เตนตุมๆ ตอมๆ !
นี่คือคลังสมบัติของเทพบรรพบุรุษมังกร! ใครจะไปรูวาขางในมีสมบัติอยู
มากมายขนาดไหน!?
“เปดสิ?” สื่อเฟงมองไปยังเทพบรรพบุรุษมังกรเขม็ง
เทพบรรพบุรุษมังกรปวดใจทั้งยังไมยนิ ยอมเหลือแสน แตดวยแรงกดดันอันมาก
ลนอยางไรตานทานของภรรยา มันก็ทำไดแคทอดถอนใจกอนจะเปดประตูบานขุม
สมบัติบานเขื่อง
ครืนนนนน!!! ฟูมมมมมมมมมมม!!!!
ทันทีที่ประตูศิลาแหงหองสมบัติคอยๆ แงมเปดออก กลิ่นอายสมบัติล้ำคาพลัน
พวยพุงออกมาจากความวางเปลาอยางรุนแรง!
เมื่อสัมผัสไดถึงกลิ่นอายสมบัติอันหนาแนนขุนคลั่กที่โชยปะทะใบหนา หลินฟาน
ก็อดไมไดที่จะยอมรับในใจ! ชางเปนกลิ่นอายสมบัติอันแรงกลานัก! เพียงแคกลิ่นอาย
พลังเบาบางก็บงบอกใหรูแลววาขางในอุดมไปดวยสมบัติล้ำคา!!
ชนเผามหามังกรนั้นกลาวไปนับเปนชนเผาที่ร่ำรวยที่สุดชนเผาหนึ่งเลยก็วาได!
“อยากไดอันใด อยากกินอันใดเจาเลือกเอาตามใจชอบ อยาไดเกรงใจ!” สื่อเฟงกลาว
หลินฟานเองเจอแบบนี้ก็ไมรูจะตอบกลับยังไงดี จะใหบอกวาแจม เดี๋ยวพี่เอา
หมดนะก็ไมใช…จึงไดแคพยักหนารับไปเงียบๆ สวนทางดานชิคกี้กับลูกทั้ง 3 นั้น ทันที
ที่ประตูเปดพวกมันก็พุงรางถลันเขาไปหองสมบัติอยางไว
หลินฟานก็รีบติดตามเขาไปทันที...
“สื่อเฟง นี่มันมิคอยดีมิใชหรือไร...ปลอยใหมนุษยเขาไปในคลังสมบัติเชนนี้นี่...
หากวา...” ตอนนี้เมื่อดานนอกเหลือกันแค 2 คน เทพบรรพบุรุษมังกรจึงเอยปาก
กลาวถามออกมา
“ทำไม? หากวาอะไร หรือแคนี้ทานก็ทนไมไดแลว?” สื่อเฟงตอบกลับเสียงกระแทก
“มิใชเชนนั้น...ขาเพียงแตรสู ึกมิคอยดีที่จักปลอยใหมนุษยเขาไปยังคลังสมบัติ
ของพวกเรา!” เทพมังกรสัมผัสไดถึงโลหิตที่กำลังหลั่งรินออกมาจากใจ นี่คือขุมสมบัติ
ที่มันไดสะสมเก็บหอมรอมริบมาตลอดระยะเวลาหลายปที่ผาน! หากมนุษยนั่นมัน
หยิบฉวยไปหมดสิ้นจะใหทำอยางไรเลา!?
“เรื่องนี้ยงั มีอันใดไมดี? ทานมิเห็นหรือไรวาลูกชายเราสนิทสนมกับมนุษยผูนั้น
มากมายเพียงใด! แลวนี่ทานจักเก็บสะสมสมบัติไปทำอะไรมากมายหากมิใช...ออใชซี้
ทานเก็บสะสมไวใหนางพวกนั้นใชหลังขาตายตกใชหรือไม...!?”
“โธ สื่อเฟงอา...เจากลาวอันใดของเจากัน...ขาฮวงหวูเฉิงจักเปนคนเชนนั้นได
อยางไร!?”
“ฮึ! ขามองเพียงครั้งก็รูแลววาทานมิใชตัวดีอันใด นี่ใชแอบไปสรางโลกอีกใบไว
หรือไม?! ฮึ! แลวมิใชวาโชคชะตาของพวกเราก็ลวนตองฝากไวกับลูกหลานมิใชหรือไร
ตอนนี้ในเมื่อลูกเราอยากได! ทานก็มอบใหเขาแตโดยดีเสียจักประเสริฐกวา อยาได
กลาวมากความแลว! แลวหากหายนะสวรรคครั้งนี้พนผานไป ทานก็รีบๆ ลงจาก
ตำแหนงบาบอของทานเสีย!!”
“ก็ได...”
...
“โอว แมเจาโวย!! โคตรพอโคตรแมรวยอะ!!”
เมื่อหลินฟานเดินเขามาในคลังสมบัติเขาก็ตกตะลึงพรึงเพริดเมื่อเห็นภาพเบื้อง
หนา ตอนนี้ในชองวางปรากฏสมบัติมากมายลอยลองอยูเต็มไปหมด!
อาวุธระดับเตา! ทั้งหมดลวนเปนอาวุธระดับเตาทั้งสิ้น!!
กระทั่งอาวุธระดับเตาเหลานั้นบางชิ้นยังไมมีเจาของ!!
จิตวิญญาณสถิตศาสตราลอยลองเวียนวนไปทั่วขุมสมบัติ ละเลนกันไปอยาง
สนุกสนาน
อันที่จริงแลวกระทั่งโอสถทังหลายในนี้ยังกำเนิดจิตวิญญาณขึ้นมาบางแลว!
หลินฟานรีบมองไปรอบๆ เพื่อหาชิคกี้ทันใด และไมนานเขาก็พบวาตอนนี้เจา
ชิคกี้มันกำลังโดดเขาไปในภูเขาโอสถและกำลังกินอยางเอร็ดอรอย
“บานโคตรรวย! หลังจากนี้เจาชิคกี้ชีวิตสบายแลว!!”
หลินฟานกลาวออกมาอยางอิจฉา บาเอย! ทรัพยากรขนาดนี้! ใหมัดรวมคลัง
สมบัติของนิกายนับ 10,000 นิกายยังเทียบที่นี่ไมได!!
หลินฟานเริ่มมองหาโอสถเจิ้งหยางทันที แมสมบัติและโอสถเหลานี้จะเลิศล้ำแต
ก็ไมไดลอลวงหลินฟานสักเทาไหร เพราะตราบใดที่เขามีวัตถุดิบสมุนไพรมากพอ เขา
จะหลอมพวกมันขึ้นมาเมื่อไหรก็ได!!
ทันใดนั้นเองหลินฟานที่เดินหาไปเรื่อยพลันชะงักเทาลง
เพราะตอนนี้เบื้องหนาของเขาคือมังกรตัวหนึ่งที่สรางขึ้นมาจากวัตถุดิบที่เขาเอง
ก็ไมรูจัก มันมวนวนขดเกลียวขึ้นไปบนฟา และทันทีที่มันอาปาก โอสถเจิ้งหยาง
จำนวนนับไมถวนก็พวยพุงออกมาจากปากของมัน!!
“นิ...นี่!!”
เมื่อหลินฟานเห็นภาพนี้เขาก็ตะลึงคางไปทันใด
ในหนึ่งลมหายใจ ปริมาณโอสถเจิ้งหยางที่พวยพุงออกมามันมีจำนวนนับไมถวน!
นี่เปนอะไรที่ทาทายสวรรคนัก!!
สายธารโอสถเจิ้งหยาง! นี่คือสายธารโอสถเจิ้งหยางอยางแทจริง!!
ไมนานนัก มหามังกรที่บังเกิดจากโอสถเจิ้งหยางก็พุงทะยานขึ้นไปโลดแลนทีละ
ตัวๆ แตละตัวนั้นอุดมไปดวยโอสถเจิ้งหยาง 100,000,000,000 เม็ด!
ตอนนี้ใจหลินฟานอยากจะเก็บกวาดใหเหี้ยน เอาใหพื้นหองวาววับไรฝุนไรไม
เหลือแมแตกระเบื้องปูพื้น! แตพอคิดถึงเรื่องที่วา ตอนนี้เขาอยูในถิ่นคนอื่น เขาก็พบวา
คงไมอาจเก็บใหเกลี้ยงกริบแบบนั้นได...
หลินฟานเองก็ไมไดโลภอะไรมากมาย สะบัดมือครั้งหนึ่งเบาๆ เก็บมหามังกร
โอสถเจิง้ หยางไป 10 ตัว...
เทานี้ก็สรางรายไดใหเขา 1,000,000,000,000 เม็ดแลว!!
หลินฟานเองก็ไมรวู าขีดจำกัดความอดทนของเทพบรรพบุรุษมังกรนี่มีแคไหน...
ดังนั้นเขาจะคอยๆ เก็บสมบัติไปทีละนิด รอดูทาทีของอีกฝาย...
ดานนอก ...
“บัดซบ! เจาดูเถอะ! มนุษยนั่นมันเก็บครั้งเดียวก็กวาดโอสถเจิ้งหยางไปแลว
1,000,000,000,000 เม็ด!!” เทพบรรพบุรุษมังกรยอมจับจองเรื่องราวในคลังสมบัติ
ตาเขม็ง และมันก็ไดพบวามนุษยนี้ไมตองการสิ่งอื่นใดนอกจากโอสถเจิ้งหยาง!!
ถึงแมวาโอสถเจิ้งหยางสำหรับชนเผามหามังกรแลวจะไมไดถือวามีคาอะไร
มากมาย แตจำนวนมหาศาลถึง 1 ลานๆ เม็ดนั่นก็เปนอะไรที่นาเกรงขามไมนอย!!
“อะไร? ทานมาติดใจอันใดนักหนากับอีแคโอสถเจิ้งหยาง 1 ลานๆ เม็ด? นี่ทาน
ยังเปนเทพบรรพบุรุษมังกรอยูหรือไม!?” สื่อเฟง
“แตนั่นมัน 1 ลานๆ เม็ดเลยนะสื่อเออ...ตอใหขาจัดตั้งขายอาคมเทพมังกรและ
ระดมเหลาเทพมังกรมากลั่นพลังผลิตเม็ดยา พวกมันก็ตองใชเวลากวา 1,000 ป ถึงจะ
ผลิตโอสถเจิ้งหยางจำนวนเทานี้ได...!”
เทพบรรพบุรุษมังกรร่ำรองออกมาดวยความเจ็บปวด
“เด็กนั่นจักลงมืออีกแลว! นั่น มันเอาไปอีก 1 ลานๆ เม็ดแลว! มิไดการแลว ขา
ตองไปหยุดมัน!!” เมื่อเห็นวาอีกฝายคอยๆ สะบัดมือเก็บโอสถเจิ้งหยางไปอีก 1 ลานๆ
เม็ดโดยสีหนาไมเปลี่ยนเทพบรรพบุรุษมังกรก็ตื่นตระหนกหนักหนา
“อะ...อะ...!!” ตอนนี้เทพบรรพบุรุษมังกรถึงกลับสับสนจนไรคำจะกลาว
แคพริบตาเดียวโอสถเจิ้งหยาง 2 ลานๆ เม็ดของมันก็หายไปเสียอยางนั้น!
ตอนนี้ในใจหลินฟานก็เริ่มบังเกิดความฮึกเหิมขึ้นมาไมนอย ตอนแรกเมื่อหยิบไป
2 ลานๆ เม็ดใจเขาก็เตนระทึกไมนอย เขายังรูสึกวานี่หยิบมากไปรึเปลา
แตเมื่อเขาตระหนักไดวาเทพบรรพบุรุษมังกรไมเห็นจะแสดงทาทีอะไร ความ
หาญกลาของหลินฟานก็เริ่มเติบใหญขึ้นมา...!
“โห...ที่แทยังมีอีกมากมายถึงขนาดนี้”
เมื่อหลินฟานลองตรวจสอบดู เขาก็พบวายังมีโอสถเจิ้งหยางหลงเหลืออยูในคลัง
สมบัตินี่มหาศาลนัก...! เขาตระหนักไดวา ไอที่เขาหยิบมา 2 ลานๆ เนี่ย...มันไมตาง
อะไรจาก 1 หยดน้ำในมหาสมุทร! ไมพอใหอีกฝายรูสึกคันหรือเจ็บปวดอะไรหรอก!!
ในเมื่อเปนแบบนี้...ก็ไดเวลากอบโกยเพิ่มอีกซักกะหนอย!!
ตอนที่ 824 รับมาเหนาะๆ 10 ลานๆ
“ดูเหมือนวานี่จะเปนคายกลที่ไวสำหรับผลิตโอสถเจิ้งหยางโดยเฉพาะเลยสินะ
เนี่ย...ผลิตไมหยุดหยอนแถมมากขนาดนี้...ทำเอาซะตนไมแหงชีวติ ในตำนานของพี่ยงั
ชิดซายไปเลย! แมเจาโวย ลมหายใจเดียวผลิตออกมามากพอจะถมทะเลไดเลย!!”
ตอนนี้หลินฟานที่เก็บติดกระเปาไวแลว 2 ลานๆ เม็ดก็แยมยิ้มอยางยินดี แตมัน
คงจะดีมากกวานี้ถาเขาสามารถเก็บโอสถเจิ้งหยางในคลังสมบัตินี่ใหเหี้ยน! เอาแคตรง
นี้ถาเขาเก็บหมด...ก็มีมาแนๆ 10 ลานๆ ! แตก็นั่นละ เขาคงไมอาจกวาดใหเกลี้ยงได
เพราะไมงั้นมีหวังไดเผชิญหนากับโทสะแคนของเทพบรรพบุรุษมังกรแน!
อีกทั้งหลินฟานเองก็เปนคนหนาบางนัก เขาคงไมดานพอที่จะหยิบโอสถเจิ้งหยางไป
หมดคลังหรอก...เพราะนั่นมันก็เกินไป...
หลินฟานเหินรางขึ้นไปยังความวางเปลาดานบน กอนที่จะเอามือไปแตะปาก
มังกรมหึมาดู
‘ติ๊ง!! …คายกลมังกรสวรรค : ดวยแกนแทดวงจิตสวนหนึ่งของเทพบรรพบุรุษ
มังกรทุกรุนในชนเผามหามังกรที่แบงมา พรอมดวยคายกลอันเลิศล้ำ สามารถกลืนกิน
พลังปราณเซียนวิญญาณมหาศาลพรอมควบรวมกอเกิดโอสถเจิ้งหยางไดในพริบตา’
“โอโห...คายกลนี่มันโหดจังวะ! แตวาไปก็นาสงสารเทพบรรพบุรุษมังกรรุนเกาๆ
จริงๆ ไมคิดเลยวาแมตัวจะตายไปแลว ยังจะไมไดพักอยางสงบไปอีก กลับตองมาผลิต
โอสถเจิ้งหยางอะไรนี่ทั้งวันทั้งคืน...” หลินฟานเบปากขณะกลาววาจา
พรอมกันนั้นหลินฟานก็รูสึกสลดเพราะผิดหวังไมนอย ตอนแรกเขาก็คิดวาจะ
สามารถสรางคายกลอะไรแบบนี้ในวิมานฟาของเขาไดบาง แตตอนนี้ทาทางจะเปนไป
ไมไดแลว เพราะเขาจะไปหาแกนแทดวงจิตสวนหนึ่งของเทพบรรพบุรุษมังกรมาจาก
ไหนเยอะแยะละ? อีกทั้งหากเอาไอที่อยูตรงหนาไปดื้อๆ ชนเผามหามังกรไดมาไลฆา
เขาเอาเปลาๆ !!
‘สุดมือสอยก็ตองปลอยมันไป...แตตอนนี้ไดเวลาหยิบนิดหยิบหนอยเพิ่มแลว’
แมจะคิดวาหยิบนิดหยิบหนอย แตยามมือสะบัดมันหาไดนิดหนอยไม แนนอน
แปบเดียวจัดมาอีก 1 ลานๆ เม็ด ลอยลองเปนสายวูบเขาวิมานฟาของเขาไป
หลังจากกอการแลวหลินฟานก็นิ่งเงียบคลายรอปฏิกิริยาตอบสนอง ถาอีกฝาย
ไมพอใจอะไร ปานนี้คงตองกระแอมแฮมๆ มาบางอะไรบาง...หลินฟานเองก็ไหวพริบ
สูงขอแคมีอะไรเล็กๆ นอยๆ ยอมเขาใจได...และถายังเงียบกริบแบบนี้ นั่นหมายความ
วา...ยังไดอยู!!
ดานนอก!
“เจาดูเถอะ! มนุษยนั่นชางละโมบยิ่งนัก มันเอาไปอีก ลานๆ เม็ดแลว! นั่นเปน
โอสถเจิ้งหยางทั้งสิ้น 3 ลานๆ เม็ด!!” เทพบรรพบุรุษมังกรคร่ำครวญออกมาดวยใจที่
ปวดแปลบ นั่นมันโอสถเจิ้งหยาง 3 ลานๆ เม็ดแลวนะ! สำหรับชนเผามหามังกรนี่คือ
โชควาสนาเทียมฟาแลว!!
ที่ชนเผามหามังกรนั้นมั่งคั่งร่ำรวยรวมถึงแข็งแกรงเชนนี้ แนนอนเพราะวาไดสะสม
ทรัพยากรและความมั่งคั่งไวมากมายจากรุนตอรุน สั่งสมสืบตอกันมาจนนับไมถวน!!
“ทานจักบนอันใดกันนักกันหนา!? หรือทานคิดวาบุตรชายของเรา กับหลานชาย
ทั้ง 3 เทียบกับโอสถเจิ้งหยาง 3 ลานๆ มิได?” สื่อเฟงกลาวถาม
“มะ..มิใชเชนนั้นหรอก...ที่รกั ! ที่ขาจักบอกก็แคมนุษยนั่นมันโลภเกินไป! หากขา
มิหยุดมัน ขากลัววามันจะเอาโอสถเจิ้งหยางของพวกเราจนหมดเกลี้ยงแนแลว!!”
ถึงแมระดับพลังฝกตนของเทพบรรพบุรุษมังกรจะเขาขั้นทาทายสวรรค
แตโอสถเจิ้งหยางทีห่ ายไป 3 ลานๆ ก็ทำใหมันปวดใจอยางแรง!!
ถึงแมวาเด็กชิคกี้นั่นจะเปนลูกชายของมัน ก็ไมใชวาตองใชเวลาทำความรูจักกัน
กอนหรือไร! คอยๆ สรางความสัมพันธกันเสียกอน!!
“ฮึ! ตอใหเขาเอาไปหมดแลวจักทำไม? หรือชนเผามหามังกรทานเปนพวกจิตใจ
คับแคบกันเลา? เขาอุตสาหฝาฟนความลำบากมากมายกวาจักนำพาบุตรชายและ
หลานชายของเรามายังที่นี่ได! แลวยังนับประสาอะไรกับอีแค 3 ลานๆ เม็ด หากเขา
ตองการจริงๆ ขาจักมอบใหเขาหมดสิ้น!!”
เทพบรรพบุรุษมังกรมองไปยังภรรยาที่รักของตัวโดยที่ไรคำใดจะกลาวออก
ความเห็นของภรรยามันคือคำขาด! แตหากมนุษยนั่นคิดกวาดโอสถเจิ้งหยางเกลี้ยง
คลังจริงๆ มันจะใชชีวิตอยูตอไปไดอยางไร?!
อยางไรก็ตามเพื่อมิใหภรรยารักหมางใจ เทพบรรพบุรุษมังกรยังจะทำอะไรไดนอกจาก
กล้ำกลืนคำคานลงคอ อยางไรเสียแววตาของมันก็ยังจับจองมองหลินฟานเขม็ง!
ราวกับวาหากหลินฟานกลาหยิบอีกนะ มันจะพุงไปแลกหมัดกับอีกฝายใหรูกันไป!
‘เออะ? แปลกแฮะ ขนานี้แลวยังเฉยอยูอีก...หรืออาเฮียกลัวเมียจะใจดีผิดคาด
ยังคิดใหขาเอาไดอีกนิดสินะ’ หลินฟานถึงกับอึ้งไปในใจเล็กนอย ไมคิดเลยวาพอบาน
สายเกรงใจภรรยาแหงชนเผามหามังกรผูนี้จะใจดีขนาดนี้!!
ฮัยยา หากเขารูวาคนของชนเผามหามังกรใจปาขนาดนี้ เขาจะไมทุบตีทำรายอีกฝาย
ตั้งแตแรก! เขาจะพยายามอยางดีที่สุดในการรักษาความสัมพันธอันดีกับอีกฝาย!!
หลินฟานเหมอมองไปยังสายธารโอสถเจิ้งหยางที่ลอยลองอยูเบื้องหนา แคเขา
มองคราวๆ เขาก็รูดีวามันมีอีกมากมายหลายลานๆ นัก!
ตอนนี้เขาขาดโอสถเจิ้งหยางอีกแค 5.4 ลานๆ เขาก็จะมีโอสถเจิ้งหยางครบ 10
ลานๆ เม็ด ตอนนี้เขายังชักจะสงสัยทั้งคันมือคันไมขึ้นมา วาถาลองสะบัดวูบหยิบหมด
มาสักทีมันจะเปนเชนไรหนอ...
“ปะปา...เอยพี่ใหญ...ทานทำอะไรอยูอะ? ทำไมทานไมเอาอะไรไปบางละ?”
ตอนนี้เองเจาชิคกี้ที่อิ่มหนำก็บินมาหาหลินฟานกอนจะกระโดดขึ้นๆ ลงๆ ไถ
ถามดวยความสงสัย
หลินฟานหันไปมองเจาชิคกี้ทันใด สายตาทั้งคูสบกัน คนไกคลายฝกเคล็ดหทัยสัมพันธ
เพียงมองตาก็รูใจ หลินฟานพยักหนาครั้งหนึ่ง ชิคกี้ก็พยักหนารับครั้งหนึ่งเชนเดียวกัน
“พี่ใหญ อยาไดเกรงใจแลว! ที่นี่คือบานของขา ขาไดพบทานพอทั้งแมทั้งที! ของๆ
ทานพอทานแมก็เหมือนของๆ ขาแหละ! พี่ใหญ ในเมื่อพี่ใหญชอบโอสถเจิ้งหยาง ขา
จะเอาใหพี่ใหญเอง!!”
ทันใดนั้นชิคก็ก็ตีปกพั่บๆ บินขึ้นสูงกอนจะสะบัดปกรุนแรง มหาพายุทอรนาโด
พลันบังเกิด ดูดฟดๆ โอสถเจิ้งหยางนับลานๆ เม็ดลอยวูบเขามา กอนที่จะสะบัดสงไป
ยังวิมานฟาของหลินฟานอยางรูงาน
“พี่ใหญ ถือซะวานี่เปนของขวัญของขาแลวกันนะ! ปะพวกเราไปกันเถอะ!”
ชิคกี้ไมรอใหหลินฟานตอบคำ เพราะรูหนาที่ตัวเองดี มันใหของขวัญเสร็จก็รีบ
เดินจากไปทันที
เมื่อเทพมังกรบรรพบุรุษเห็นเรื่องนี้ โลหิตอุนรอนดั่งกรดไหลยอนพุงปรี๊ดทะลัก
ออกปากทันใด
“นิ...นี่ สูญไปมากขนาดนี้...! ขา...ขา…!!” รางเทพบรรพบุรุษมังกรสั่นสะทานพูด
แทบไมเปนคำ ราวกับมันไมอาจทนทนรับความเจ็บปวดจากการสูญเสียนี้ได!
“อะไร? นี่เปนครั้งแรกที่บุตรชายเราใหของขวัญผูอื่น! ทานจักบอกวาทานไม
เห็นดวยกับเขาเชนนั้นหรือ!?” สื่อเฟงมองไปยังเทพบรรพบุรุษมังกร กอนจะกลาว
ออกมาดวยน้ำเสียงไมพอใจ
“ที่รัก ขามิอาจปลอยใหเขากระทำตามใจได! ถึงแมวาครอบครัวเราจักร่ำรวย
แตเราก็มิอาจมอบทุกอยางใหกับผูอื่นได! นี่ไมไดแลว ขาตองออกไปหยุดเขา! ที่เอาไป
นั่นมันเกือบ 1 ใน 4 ของโอสถเจิ้งหยางที่พวกเรามีทั้งหมดแลว!!” เทพบรรพบุรุษ
มังกรกลาวออกมาดวยความเจ็บปวดใจ
“ไปซิ! ไปเลย! เชิญทานไปไดเลย! แตเมื่อทานไปแลว ขาก็จักพาลูกชายของขา
กลับไปยังบานมารดาขาเชนกัน! ในเมื่อชนเผามหามังกรของทานมิอาจใหไดแมกระทั่ง
ของขวัญเล็กๆ นอยเชนนี้! ขาพาเขาไปรับของขวัญที่บานขาก็ได!!” สื่อเฟงกลาวตอบ
ออกมาอยางเย็นชา
“ขะ..ขา...!!” เมื่อเทพบรรพบุรุษมังกรเห็นทีทาทั้งน้ำเสียงของภรรยา มันก็รูดีวา
นางหาไดลอเลนในเรื่องนี้ไม! สุดทายที่มันทำไดก็แคทอดถอนใจออกมาเฮือกใหญ นี่
เปนราคาที่มันตองจายเพื่อแลกกับการไดรับบุตรชายมาหรือ?
สวนทางดานหลินฟานนั้นตอนนี้ลัลลาใจเหลือใดจะกลาว ใครจะไปคิดวาเขาจะ
ไดรับโอสถเจิ้งหยาง 10 ลานๆ เม็ดที่ตองการไดงายดายขนาดนี้!!
เกรงวาเหลาตัวตนสูงสุดเองก็ยากที่จะเทียบความมั่งคั่งกับชนเผามหามังกรได!
แตพอเขาคิดอีกทีอันที่จริงเรือ่ งนี้ก็ไมแปลก เพราะสุดทายแลวชนเผามหามังกรก็
สะสมสมบัติเหลานี้มาหลายชั่วอายุคน การที่ตัวตนสูงสุดจะเทียบไมไดก็ไมแปลกอะไร
เมื่อมาถึงบริเวณประตูที่เขามาตอนแรก หลินฟานก็เห็นมานแสงกางกั้นทางออก
เอาไว ทั้งหลินฟานและชิคกี้ก็ไมรอชาเดินออกมาจากมานแสงพรอมๆ กัน… เมื่อ
ปรากฏตัวอีกครั้ง สิ่งแรกที่หลินฟานเห็นก็คือใบหนาอันเต็มไปดวยความเจ็บปวดของ
เทพบรรพบุรุษมังกร!
“ขอบคุณนะ ขอบคุณมากๆ !”
เมื่อเอาของเขาไปซะขนาดนี้หลินฟานมีหรือจะไมขอบคุณ
“ขาเองก็ไดยินคำร่ำลือมานานแลว วาจิตใจของเทพบรรพบุรุษมังกร ของชนเผา
มหามังกรนั้นกวางขวางดั่งมหาสมุทร นับวากลาวไมผิดจริงๆ ขาเองยังคิดวาเอาโอสถ
เจิ้งหยางของทานมามากเกินไปรึเปลาอยูเลย...หรือขาตองคืนมันไหม?”
“ใช! ใช!!” ทันทีที่เทพบรรพบุรุษมังกรไดยินคำกลาวทายประโยคของหลินฟานใจมัน
ก็เตนระรัวขึ้นมาดวยความยินดี มันแทบรอใหหลินฟานสงมอบคืนมาไมไหวแลว!!
“มิตองหรอก! นี่เปนของขวัญที่ชนเผามหามังกรมอบใหทาน! โปรดรับมันไว
เถอะ” สื่อเฟงแยมยิ้มออกมา หลังจากนั้นน้ำเสียงยินดียามกลาวกับหลินฟาน ก็
เปลี่ยนเปนน้ำเสียงแฝงความนัยไมนอยยามกลาวถามสามี “สามี ทานคิดอยางไร?”
“อา…!” เทพบรรพบุรุษมังกรมองแววตาภรรยาแลวก็หันไปมองหลินฟาน
สุดทายก็หลับตาลงพรอมพยักหนา กลาวคำเสียงเขม “ถูกแลว นี่คือของขวัญที่ชนเผา
มหามังกรมอบใหเจา! รับ...ไป...เถอะ!!”
ทันทีที่วาจานั้นกลาวออกไป เทพบรรพบุรุษมังกรก็สัมผัสไดดี วายามนี้หัวใจของ
มันเสมือนมีบางสิ่งทิ่มแทงทำราย ชางขื่นขมระทม แสบซึ้งถึงทรวงนัก!
ไมคิดเลยวาในเวลาสั้นๆ เพียงแคไมกี่ชั่วยาม มันจะตองสูญเสียโอสถเจิ้งหยางไป
หลายลานๆ เม็ด ที่ไดกลับมาก็คือลูกชาย 1 กับหลานชายพวงมาอีก 3!
ยังมีผูใดในหลาที่ทัดเทียมกับมันไดอีก?
“ขอบคุณ ขอบคุณ!!”
ทางดานหลินฟานนั้นในใจสุขียินดียิ่ง นี่คือขนมเปยะหลนรวงจากฟามหาลาภ
จากสวรรค! อยางไรก็ตามหลินฟานก็ทำใจมาไวอยูบางแลว วาเขาจะไดเก็บเกี่ยวโชค
ลาภบางอะไรบางหลังจากที่พาชิคกี้มาหาญาติ!
แนนอนวานี่ก็ยังไมไดเหนือความคาดหวังไปสักเทาไร...มันเปนการเก็บเกี่ยวอัน
ประเสริฐ!!
แตตอนนี้เขาก็ไมรูจริงๆ วาเรื่องราวจะเปนยังไงตอไป หากเขาพาเจาชิคกี้ไปชน
เผาฟนิกซ เขาละเฝารอเรื่องนั้นเหลือเกิน...!
ตอนที่ 825 มือที่คอยผลักดันอยูดานหลัง...
หลังจากนั้นเจาชิคกี้ กับลูกชายทั้ง 3 ของมัน ก็ติดตามเทพบรรพบุรุษมังกรและ
สื่อเฟงไปสนทนากันตามประสาครอบครัว
แนนอนวาพลัดพรากจากกันไปแสนนานตางก็ตองมีคำคิดกลาวไมนอย
หลินฟานเองก็ไมอยากจะอยูรบกวนครอบครัวพรอมหนาอะไร...เชนนั้นจึง
ออกมาเดินเตร็ดเตรดานนอก...วางงานสุดๆ ! ในตอนแรกเขาก็คิดจะใหจักรพรรดินี
มังกรเฉินหวูพาไปชมรอบๆ ชนเผามหามังกรซักหนอย! แตไมคิดเลยวาตอนนี้นางจะ
หวาดกลัวเขาขึ้นสมองหลังจากที่เขาทุบตีเกล็ดยอนของนางไป เมื่อนางเห็นเขานางจะ
รีบหนีราวกับเขาเปนตัวนำโรคหา ไรซึ่งหนทางใดที่จะรัง้ นางไวได...!!
“ฮัยยา...นี่พี่ประมุขกลายเปนคนนากลัวไปตั้งแตเมื่อไหรกันเนี่ย? ไมคิดเลยวา
สาวนอยนั่นถูกตีตูดไปไมกี่รอยที ตอนนี้จะผวาจนหนีแบบนั้น นาเสียดายจริงๆ”
หลินฟานไวอาลัยเล็กนอย กอนที่จะเดินโตเตรอนเรไปทั่วชนเผามหามังกร
ตามใจ เจอใครก็ยิ้มทักไวกอน...
ฐานที่มันของชนเผามหามังกรนี้หากมองแตเปลือกก็แลดูไมไดมีอะไรมาก
เทาไหร ทวาพอเขามาดูภายในชัดๆ แบบนี้นี่ อื่อหืม! อลังการจนถึงกับตองสะดุง!!
มองไปยังชนเผามหามังกรที่เดินผานไปมา ไมวาคนไหนๆ หลินฟานละอยากทุบ
ตีปลนชิงพวกมันเสียใหได!
มาถึงตอนนี้หลินฟานตระหนักแลว วาเขากระทำพลาดไปอยางใหญหลวง! โคตร
ของโคตรพลาดอยางใหญหลวง!!
เขาไมควรพาเจาชิคกี้กลับมาหาญาติอยางใจรอนแบบนี้เลย...! เขาควรจะหา
ขออางเพื่อบุกมาปลนชนเผามหามังกรครั้งใหญเสียกอน! และพอปะทะกันหนาถึงขั้น
เปนตาย คอยเรียกเจาชิคกี้ออกมาหยาศึก! คราวนี้ละก็เรื่องราวก็จะจบลงอยาง
สวยงาม ของที่ไดก็ถือซะวาสินสงคราม ไมตอยตีไมรูจัก!!
อนิจจามาคิดไดตอนนี้ก็สายไปเสียแลว...
อยางไรเสียนอกเหนือจากชนเผามหามังกรกับชนเผาฟนิกซ ก็ยังเหลือเผาพันธ
สัตวโบราณอีกถึง 8 ชนเผา!
หลินฟานเองก็วาจะแวะเวียนไปใหครบ สะสมโอสถเจิ้งหยางใหมากๆ เขาไว!
แลวเขาจะไดยกระดับโลกเสวียนหวงใหบรรลุจุดสุดยอดในชั่วพริบตา! แคคิดก็รูสึกวา
มันชางยอดเยี่ยมอะไรเชนนี้!!
และยิ่งคิดมากเทาไหร หลินฟานก็รูสึกวามันเปนอะไรที่ใชนัก! แตทุกอยางก็คอย
ดำเนินการหลังจากนี้ รอใหเจาชิคกี้มันพบปะครอบครัวใหดีๆ กอน แลวเขาจะพามัน
ไปปลนใหทั่ว...!!
จะอยางไรก็ตาม ตอนนี้หลินฟานก็รูสึกวาเขาควรจะกลับไปดูโลกเสวียนหวงซัก
หนอย ไมรูวาเปนอยางไรบางแลว
และดวยโอสถเจิ้งหยางจำนวน 10 ลานๆ เม็ดในมือ สูตรโกงขั้นเทพดั่งปาฏิหารยิ์ที่มี
ใหเขาเลือกใช ถึง 2 อยางนั่น เขาก็สามารถเลือกใชมันไดแลว!!
อันดับแรกคือ รอยปในหนึ่งหวงคิด! หากเขาใชสูตรโกงนี้ละก็...โลกเสวียนหวงจะ
เติบโตขึ้นอยางอัศจรรย พลังความแข็งแกรงจะพุง ทะยานอยางกาวกระโดดครั้งใหญ!!
อีกอันก็คือ สมบัติเลิศล้ำรวงหลนจากแดนสรวง! นั่นคือทำใหโลกเสวียนหวง
ปรากฏพื้นที่ลับและสมบัติล้ำคากระทั่งสมุนไพรอะไรขึ้นมาอยางมหาศาล มากพอให
ผูคนในโลกไดเสาะแสวงหากันถวนหนา!
อยางไรก็ตามจากสถานการณในตอนนี้สิ่งที่มีความสำคัญมากกวาก็คือ รอยปใน
หนึ่งหวงคิด! การที่สามารถยกระดับความแข็งแกรงใหเพิ่มพูนขึ้นอยางรวดเร็วนั้นจะ
ทำใหพวกเขามั่นใจที่จะเผชิญหนากับภยันตรายที่จะบังเกิดขึ้น!
ผูใดในหลาจะไปรูวาไอโลกไรจำกัดนั่นมันจะเปดออกเมื่อไหร? และไมวา จะอะไรยังไง
ก็ตามหลินฟานสังหรณใจ วาการเปดออกของโลกไรจำกัดนั้นไมใชเรื่องดีแนๆ !
เขาเองก็ไมใชโรงทานที่จะชวยเหลือไดทุกผูคน แตอยางนอยที่สุดหลินฟานก็อ
ยากทำใหมั่นใจ วาโลกเสวียนหวงจะสามารถอยูรอดปลอดภัยไดดวยตัวเอง!
ภายในบาน...
หลินฟานไดตรวจสอบสถานการณของโลกเสวียนหวงคราวๆ ตอนนี้ทุกสิ่งทุก
อยางกำลังคืบหนาดำเนินงานไปไดดวยดีตามแผนอันประเสริฐของหลินฟาน
ภายใตการจัดการของนิกายเมงกา ตอนนี้ก็ชักนำนิกายใหญทั้งหลาย และนิกาย
ระดับกลาง รวมถึงระดับลางๆ มาเปนพันธมิตร เรื่องการรวมพลังเปนหนึ่ง กำลังใกล
ความจริงเขาไปทุกขณะ
และดวยความสามารถเลิศล้ำของกายาพิเศษหวังเสี่ยวหมิง มันก็ไดทำใหเด็ก
แหงโชคชะตาทั้งหลายผูกใจเจ็บ อาฆาตแคนไมนอย...สำหรับหวังเสี่ยวหมิงแลวนี่เปน
ชวงเวลาที่ทั้งทุกขและสุขไปพรอมๆ กัน!
หวังเสี่ยวหมิงกำลังถูกบุตรแหงโชคชะตาทั้งหลายตามมาเลนงานเอาคืน มีหลาย
ตอหลายคนที่เกือบจัดการหวังเสี่ยวหมิงได ทวาแตละครั้งก็มีเหตุใหหวังเสี่ยวหมิงรอด
ไปไดเสมอ รวมถึงพวกมันทั้งหลายยังตองเสียสิ่งอันสำคัญใหหวังเสี่ยวหมิง และเพิ่ม
ความอาฆาตแคนไปอีกขั้น...
เรียกวาชีวิตสุดยอดดาวรายของหวังเสี่ยวหมิงนี้ นับวาเปนอะไรที่สรางความ
หรรษาใหหวังเสี่ยวหมิงไมนอ ย!
อยางไรก็ตามในใจหลินฟานเองก็มีคำถามหนึ่งที่กวนใจขึ้นมาตงิดๆ เขาสงสัยนัก
วาจะเกิดอะไรขึ้น ถาไอบุตรแหงโชคชะตาทั้งหลายมันมาถึงจุดสูงสุดในชีวิตของพวก
มัน...หวังเสี่ยวหมิงผูเปนมหาวายรายผูยิ่งใหญของทุกคน ตอนนั้นใชจะถูกกองทัพบุตร
แหงโชคชะตาฆาตายหรือไม?
“ฮัยยา หวังเสี่ยวหมิงเอย...จากนี้ตอไปเจานับวาเปนผูมีบุญคุญอันใหญหลวง
สำหรับโลกเสวียนหวงแลว!” หลินฟานลอบไวอาลัยใหหวังเสี่ยวหมิงในใจ แตแนนอน
วาหากใครคิดจะฆาหวังเสี่ยวหมิงใหตาย พวกมันก็ตองมีพลังอำนาจมากพอที่จะฆา
หวังเสี่ยวหมิงภายใตการเฝาดูแลของหลินฟานซะกอน!
และรอยปในหนึ่งหวงคิดนั่น ก็หมายความวาโลกเสวียนหวงจะเสมือนถูกเรง
เวลาใหเร็วขึ้น! เพื่อไมใหทุกคนตองกังวลอะไร หลินฟานจึงจำตองลงไปบอกกลาวทุก
คนใหรับรูเสียกอน!!
โดยเฉพาะอยางยิ่งในกรณีของเชวียนอวิ๋นเซียน เพราะเกิดอยูๆ เขาหายตัวไปถึง
100 ป นางจะไมโกรธเอาหรือไง?
เพราะในขณะที่มันไมไดตางอะไรไปจากการกระพริบตาเพียงครั้งสำหรับหลิน
ฟาน แตมันคือระยะเวลา 100 ปสำหรับคนบนโลกเสวียนหวง!!
“เฮอ...ใหตายเถอะ ถาพี่ลงไปอยูบนโลกนั้นแลวบมเพาะพลังไดเหมือนคนอื่นเคา...มัน
จะดีแคไหนกันนะ?”
หลินฟานเองก็อิจฉาผูอื่นไมนอยที่กำลังจะประสบกับผลเลิศล้ำของรอยปในหนึ่ง
หวงคิด...ทวาสำหรับเขานั้นการจะยกระดับพลังความสามารถไดมันขึ้นอยูกับคา
ประสบการณลวนๆ ! ถาไมมีคาประสบการณใหเขาเก็บ ถึงไปนั่งงาวบมเพาะพลังอยู
รอยปก็ไมตางอะไรจากผายลม!
ตอนนี้ซงเขิ่นเทียนก็กลายเปนประมุขนิกายเมงกาแลว หลินฟานจึงไดลงไป
กำชับมันเปนการสวนตัว วาใหไปรับสมัครศิษยกลุมหนึ่งเปนพิเศษ...แนนอนวาไมใช
ใครที่ไหน แตเปนเหลาบุตรแหงโชคชะตาทั้งหลายที่ถูกปลุกใหตื่นดวยพลังอำนาจของ
หวังเสี่ยวหมิง!
จะอยางไรเสียในเมื่อคนเหลานี้เปนบุตรแหงโชคชะตา หลินฟานยอมสามารถใช
เจตจำนงสวรรคในการตรวจสอบไดวาพวกมันเปนใครอยูไหนกันบาง และเขายังพบ
อีกดวยวาหากบุตรแหงโชคชะตานั้นแข็งแกรงขึ้นมากเทาไหร เจตจำนงสวรรคของ
โลกเสวียนหวงก็จะยิ่งแข็งแกรงขึ้นมากเทานั้น และนั่นยังจะเปนการชักนำใหทั้งโลก
เสวียนหวงแข็งแกรงขึ้นติดตามกัน! และผลลัพธสุดทายผูที่ไดประโยชนมากที่สุดก็คือ
หลินฟาน!!
เมื่อหลินฟานไดไปฝากฝง รวมถึงกลาวบอกเรื่องสำคัญตอผูคนใกลชิดของเขา
แลว เขาก็สะบัดนิ้วเบาๆ มังกรโอสถเจิ้งหยางจำนวนนับไมถวนพลันผุดโผลออกมา
มวนวนรอบๆ รางของหลินฟาน
“รอยปในหนึ่งหวงคิด!!”
ทันใดนั้นความวางเปลาสะทานกระเพื่อม มังกรโอสถเจิ้งหยางกูกองรองคำราม
พุงผานรางของเขาไปปรากฏในโลกเสวียนหวง กอนที่จะเริม่ เปลงพลังอำนาจมหาศาล
คลุมครอบไปทั่วโลกเสวียนหวง
พลังงานอันมหาศาลนี้มากพอที่จะทำใหโลกเสวียนหวงเติบโตปานจุดระเบิด!!
ทันใดนั้นแสงสวางเรืองรองพลันสาดสองไปทั้งโลกหลา ดวยการดำรงอยูของ
ระบบ มังกรโอสถเจิ้งหยางทัง้ หลายถูกดูดซับยอยสลายอยางสมบูรณ แปลงเปน
พลังงานบริสุทธิ์อันมหาศาลผลักดันหวงเวลาใหหมุนวนแปรเปลี่ยน!
วูบๆ ภาพเรื่องราวกระพริบแลนผานไปอยางฉับไว!!
ในชวงเวลาเศษเสี้ยวกระพริบตา สำนึกสติหลินฟานสัมผัสไดชัดเจนวาบางสิ่ง
กำลังแปรเปลี่ยนไปอยางใหญหลวง ...ตอนนี้สติสำนึกของหลินฟานมาหยุดลอย ณ
หวงหนึ่ง เบื้องหนานั้นคลายดั่งสายธารๆ หนึ่งทีท่ อดยาวออกไปไรสิ้นสุด และในสาย
ธารที่ไหลไปพรอมกาลเวลานี้ ก็มีเสนสายโยงใยออกไปนับไมถวน ทุกเสนสายนั้น
เชื่อมโยงกับหนึ่งชีวิต...
มันคือสายใยแหงชะตากรรมของสรรพชีวิตในโลกเสวียนหวง!
ทวาดวยการสนับสนุนดั่งมือที่คอยผลักดันแผนหลังเอาไวของหลินฟาน... สาย
ธารคลายแปรเปลี่ยนคุมคลั่ง ชะตากรรมของผูคนนับไมถวนกำลังแปรเปลี่ยนไป!!
และภายในสายธารแหงนั้น มีกวาหมื่นเสนสายที่เชื่อมโยงกับหวังเสี่ยวหมิง! นี่
ทำใหหลินฟานบังเกิดความอยากรูหนักหนา เขาเอื้อมมือออกไปหมายแตะเพื่อ
ตรวจสอบทันที
ซงฮาว ศิษยผูเที่ยงธรรม
ชีวิตนี้ดานพลังฝกตนจำกัดอยูแค สูสวรรคอมตะขั้นกลาง
อายุขัย 103 ป
สาเหตุการตาย ตายอยางไมเปนธรรมชาติ
นี่คือชะตากรรมดังเดิมของคนที่มีนามวาซงฮาว ทวาเมื่อเวลาเริ่มไหลไป ถอยคำ
แหงชะตากรรมดังกลาวเริ่มหมุนวนลางเลือน สุดทายคอยแปรเปลี่ยนกลับกลายเปน
ถอยคำแหงชะตากรรมที่ผิดแผกแตกตางไปจากเดิม
ซงฮาว ศิษยผูเที่ยงธรรม
ดวยเพราะไดพบพานกับหวังเสี่ยวหมิง ชะตากรรมของมันไดแปรเปลี่ยนไป
ดานพลังฝกตนของมันสามารถเพิ่มพูนไดถึง เทพสวรรคอมตะ 10 ชั้นฟา เทพนิรันดร
อายุขัย นิจนิรันดร
ไมคิดเลยวาดวยการแทรกแซงของเขา ชะตากรรมของผูคนจำนวนมากบนโลก
เสวียนหวงจะแปรเปลี่ยนไปครั้งมโหฬาร!
อยางไรก็ตามเรื่องนี้มีบางสิ่งที่ทำใหหลินฟานรูสึกผิดในใจเล็กนอย เพราะนี้มัน
แทบจะเปนโคตรแหงความซวยของหวังเสี่ยวหมิง!!
ตอนแรกเขาก็เห็นวาคนที่มีชะตากรรมเกี่ยวพันกับหวังเสี่ยวหมิงก็มีไมเทาไร แต
แปบๆ อยูๆ กลับงอกเงยออกมา 10,000 คน!
นี่ไมไดหมายความวา ในชวงเวลา 100 ป ที่ผานไป เจาหวังเสี่ยวหมิงมันไปลอ
ตีนผูคนนับหมื่นเลยงั้นหรือ?
ทันทีที่นึกถึงชีวิตที่ทาทางจะลำบากไมนอยของหวังเสี่ยวหมิงหลังจากนี้...มันจะ
กลายเปนมหาวายรายที่เหลาสุดยอดอัจฉริยะหมายหัว! หลินฟานยังรูสึกอดหนาวถึง
ไขสันหลังแทนมันเสียไมได!!
‘ติ๊ง!! ... รอยปในหนึ่งหวงคิด ดำเนินการเสร็จสิ้น’
‘ติ๊ง!! …ฟงกชั่น รอยปในหนึ่งหวงคิดถูกถอดออกจากระบบ’
“เอา! เชี่ย! ไหงงั้นอะ! ใจเย็นนะระบบ! จะไปลบมันออกไปทำไมอะ!?”
ตอนแรกหลินฟานก็รูสึกดีอยางยิ่งเพราะเขาพึ่งคิดวาตัวเองไดกระทำสิ่งที่ยิ่งใหญอนั
นาเหลือเชื่อลงไป แตทันทีที่เขาไดยินเสียงแจงเตือนจากระบบเขาก็แนนิ่งไปทันใด!!
บัดซบเอย! นี่ไมใชการละทิ้งเขาใหไรหนทางหรือไร!?
พอรอยปในหนึ่งหวงคิดถูกถอดออก แลวจะเหลือสูตรโกงอะไรไวใหคนบนโลกเสวียน
หวงใชเลา!!
“บัดซบ! นี่ระบบมันหลอกลวงผูบริโภคนี่หวา! หลอกลวงผูบริโภคแลวเจาขาเอย!!”
ตอนนี้หลินฟานานั่งงาวสองตาปริบๆ ไมคิดเลยวาไอฟงกชั่น รอยปในหนึ่งหวงคิด
ของระบบ จะเปนอะไรที่ใชไดครั้งเดียวแลวหายไปแบบนี้! แลวไหงระบบไมแจงเตือน
กอนเลา! ถาเขารูกอนเขาจะไดหาวิธีใชใหดีกวานี้!!
“เชี่ยเอย...มารดายามันปวย…”
เซ็ง...ความรูสึกเดียวที่วิ่งพลานอยูในใจของหลินฟานตอนนี้...โคตรเซ็ง เพราะทำ
อะไรไมไดแลว!!
ตอนที่ 826 มารอวตาร หวังเสี่ยวหมิง
ในเมื่อรอยปในหนึ่งหวงคิดมันเปนฟงกชั่นที่ใชครั้งเดียวแลวหมดไปของระบบ...
มิแคลวสมบัติเลิศล้ำหลนรวงจากแดนสรวง ก็คงเปนอะไรที่ใชไดครั้งเดียวแลวหายอี
หร็อบเดียวกันแนๆ !!
เจาขาเอย! หลอกลวงผูบริโภคครั้งใหญแลว!
อนิจจาในเมื่อระบบจัดการแบบนี้ไปแลวหลินฟานจะไปทำอะไรได? แนนอนวา
เขาไดแคจำใจยอมรับเทานั้น!
แตไหนๆ ก็ลงมือไปแลว หลินฟานก็เริ่มอยากรูเชนกัน วาตอนนี้โลกเสวียนหวง
ทั้งใบมันเปลี่ยนแปลงไปแคไหน...ผานไปตั้ง 100 ป! การเปลี่ยนแปลงแบบไหนกำลัง
รอเขาอยูกันแนนะ!!
เมื่อหลินฟานวูบรางไปโผลในโลกเสวียนหวงอีกครั้ง เขาก็สูดลมหายใจเบาๆ ...
ตอนนี้เขาตระหนักไดวาพลังปราณวิญญาณในบรรยากาศของโลกเสวียนหวงนั้น เปน
อะไรที่หนาแนนกวา 100 ปที่แลวจมหู!
ยังมากกวาตอนที่ปราณเออลนไปทั่วโลก 2-3 เทาเสียดวยซ้ำ!!
และแมหลินฟานเองจะไมไดตั้งใจ เขาก็ยังสัมผัสไดถึงกลิ่นอายของตัวตนทรง
พลังมากมายหลายตอหลายคน!!
ชั่วพริบตา รางของเขาก็วูบไปโผลที่นิกายเมงกา
ตอนนี้นิกายเมงกาเปนดั่งจุดศูนยรวม นิกายอื่นๆ เองก็เลื่อนมาตั้งรกรากถิ่นฐาน
ใกลๆ นิกายเมงกา กระทำเชนนี้จนแผขยายออกไปรอบๆ กลับกลายเปนเมืองใหญ
ที่สุดในโลกหลาไปเสียแลว!!
และนิกายสำคัญระดับแนวหนาเมื่อมากระจุกรวมตัวกันที่เดียวเชนนี้ ก็
กอใหเกิดขุมพลังอำนาจอันยิ่งใหญคบั ฟา สวนนิกายที่ไมคิดจะเขารวมนั้น หลินฟานก็
ไมไดสนใจจะไปจี้ไชบังคับ เตือนแลวไมฟงถึงเวลาเดือดรอนก็ใหมันไปดิ้นรนกันเอง
สวนเหลารุนเยาวอัจฉริยะ อันเปนบุตรแหงโชคชะตาทั้งหลาย ที่ถูกหวังเสี่ยวหมิงปลุก
เรานั้น...
ตอนนี้ก็ถูกนิกายเมงกาไปกวานรับมา กลับกลายเปนศิษยอันสำคัญหมดสิ้นแลว!
กลับมาโลกเสวียนหวงครั้งนี้หลินฟานไมไดไปวุนวายการดำเนินการรวบรวม
ผูคนของเมงกาหรือทำใหเรื่องราวเอิกเกริกแตอยางใด เขาเพียงเรียกหาคนใกลชิดของ
เขาใหมาประชุมเปนการสวนตัวเทานั้น…
“ทานอาจารย”
เมื่อรอยปที่แลวทั้งคูยังเปนสาวนอย รอยปผานไป...ยูวจิ่วหลิงกับไชฉิเฉียวก็
เติบโตมาเปนสตรีรางบางงดงามสวยสงาแลว! ถึงแมวาจะเปนแคหวงคิดเดียวสำหรับ
หลินฟาน แตเขาก็พยายามแฝงสำนึกสติลงมาในกระแสเวลาเพื่อชมดูเรื่องราวอยูบาง
แตแนนอนวาก็ทำไดแคเห็นกระพริบผานๆ ตาเทานั้น...
เร็ว! เวลามันผานไปเร็วไวเหลือเกิน!!
และสองคนนี้แตแรกก็มีพรสวรรคและศักยภาพสูงสงไรผูตานเพราะเขาอยูแลว
ในชวงเวลา 100 ปที่ผานมา พวกนางสามารถยกระดับพลัง จนบรรลุถึงขีดขั้น เทพ
สวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 7 หมื่นวิถีสูหนึ่งทาง!!
หลินฟานมองไปยังสาวนอยทั้ง 2 เบื้องหนา ทั้งคูยังคงไมแยกจากกันไปไหน อัน
ที่จริงเรื่องที่สาวนอยทั้ง 2 ตกลงปลงใจอยูดวยกันเชนนี้หลินฟานก็รูสึกทอแทระคน
อับจนหนทางเล็กนอย...
แตจะทำอยางไรไดละ? ในเมื่อตัวการสรางเรื่องครั้งนี้ดันเปนเขาเอง! ทั้งตอให
เปนจิตนิรมิตรโอสถก็ไมอาจหลอมสรางเม็ดยารักษาความเสียใจได...เชนนั้นเสียใจ
ตอนนี้ไปก็ไรประโยชน!!
“ไมเลวๆ” หลินฟานพยักหนารับคำทักทายทั้ง 2
“ฮิๆ” ยูจิ่วหลิงและไชฉิเฉียวหัวเราะออกมาเสียงใส หลังจากนั้นก็ลากหลินฟาน
ไปนั่ง กอนที่จะเริ่มเลาเรื่องราวมากมาย แนนอนวาลวนเปนเรื่องราวของสตรีทั้งนั้น
สำหรับบุรุษทั้งแทงอยางหลินฟานไดฟงแลวรูสึกมึนตึ๊บไมนอย
ไมนานพวกซั่งเออกั๋ว เทียนอวี่ ซงเขิ่นเทียนและที่เหลือ ก็มาถึงเชนกัน
ครั้งนี้หลินฟานไดตระหนักถึงความหมายที่แทจริงของคำ สถานที่อาจยังคงเดิม
หากแตผูคนกลับเปลี่ยนไป ไดเสียที...!
และเมื่อหลินฟานเหลือบไปเห็นดานพลังฝกตนของเมี่ยเฉิงฉีที่พึ่งออกมาจาก
หองลับ เขาก็แทบพนน้ำชาออกมา ‘ชิบหาย! มารดามันเถอะ! ไอนี่มันคงไมไดปดดาน
บมเพาะพลังตลอด 100 ป ไมไปไหนเลยหรอกนะ?’
เทพสวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 9 สลาย 8 สูเวิ้งวาง!
“เฉิงฉี...เจาอยาบอกขานะ วา 100 ปที่ผานมา เจานั่งบมเพาะพลังทั้งวันทั้งคืน
ไมไปไหนเลยอะ?” หลินฟานกลาวถาม
“ถูกแลวนายทาน...! มิใชทานกลาวบอกขาวา ทานจักทำการเรงเวลาในโลกหลา
เสวียนหวงหรอกหรือ? เชนนั้นขาก็คิดวาทุกผูคนยิ่งตองใชเวลานี้ฝกฝนบมเพาะใหมาก
เขาไว...และจักเปนไปไดอยางไรที่ตัวขาจักไมกระทำใหดี! ขาจึงปดดานบมเพาะพลัง
อยูในหองลับตั้งแตตอนที่ทานกลาวบอกกระทั่งจนถึงตอนที่ทานเรียกเมื่อครูนี่ละ...”
เมี่ยเฉิงฉีตอบกลับอยางมั่นใจ แยมยิ้มเขมๆ ออกมาอยางภาคภูมิ!
สวนทางดานหลินฟานเมื่อไดยินก็กระพริบตาปริบๆ ‘เชี่ย! ใจเอ็งมันไดวะ! โคตร
บาอะชิบหาย!!’
แตนี่ก็ดีเหมือนกัน ความจริงที่วาพลังรบและความแข็งแกรงโดยรวมของโลก
เสวียนหวงยกระดับขึ้นมาครั้งมโหฬารนั้น...มันเปนอะไรที่หลินฟานตองการเห็นที่สุด!!
นั่นเพราะจะอยางไรเสีย ดวยระดับพลังของทั้งหลายเมื่อวันกอน ตอใหทั้งหมด
จะมีศักยภาพมหาศาลลนฟาอยางไรก็ไรผล! เพราะเวลาไมเคยรอใคร เมื่อถึงเวลาที่
โลกไรจำกัดเปดออก หากดานพลังฝกตนยังต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ก็ไมตางอะไรจากของขบ
เคี้ยวใหผูอื่น…
“สามี...”
ตอนนี้เองรางเชวียนอวิ๋นเซียนก็คอยๆ เยื้องยางเขามาอยางสงา ขณะที่รอยปใน
หวงคิดกำลังดำเนินการนั้น สำนึกสติของหลินฟานจดจอมาที่นางมากที่สุด ดังนั้นใน
สายตาเขานางก็เสมือนไมมอี ะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย...
ทวายามนี้ดานพลังฝกตนของเชวียนอวิ๋นเซียนนั้น ไดอยูในระดับ เทพสวรรค
อมตะ 8 ชั้นฟา แดนสวรรคและโลกแลว!
หลินฟานยังรูสาเหตุอีกวาการที่ผูคนรอบตัวของเขาสามารถบมเพาะพลังได
อยางฉับไวนั้น เพราะทั้งหมดลวนมีโชคชะตาเกี่ยวพันอยูกับเขา ทั้งยังเปนสายสัมพันธ
ที่ยากจะมีใครสะบั้นมันใหขาดได
สำหรับผูอื่นที่ไรซงึ่ ความสัมพันธอันใดกับเขา ถึงแมจะมีพรสวรรคเลิศล้ำใหตาย
แตเต็มที่ก็บรรลุไดแคเทพสวรรคอมตะ 3-4 ชั้นฟาเทานั้น
อันที่จริงสำหรับผูที่ไรพรสวรรคและไรซึ่งศักยภาพอันใดแลว หลินฟานยังเห็น
พวกมันสลายหายกลับกลายเปนฝุนไปในสายธารแหงกาลเวลาดวย...เพราะพวกมัน
สิ้นอายุขัย!
“ภรรยา”
“นายหญิง/อาจารยหญิง”
ทุกคนลวนหันไปทักทายเชวียนอวิ๋นเซียนอยางสุภาพ
“อวิ๋นเซียน เหตุผลที่ขาจำตองเรงเวลา 100 ปครั้งนี้ เพื่อใหพวกเราสามารถ
รับมือกับภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นได...ตอนนี้เองระดับพลังฝกตนของทุกคนก็เพิ่มพูน
ขึ้นไมนอยแลว ตอใหพวกเราจะยกพลไปโลกเซียนโบราณกัน ทุกคนก็นาจะสามารถ
ปกปองตัวเองไดแลวละ” หลินฟานกลาว
ครืนนนน!!
ทันใดนั้นเองเสียงคลื่นพลังระเบิดปะทุพลันกึกกองขึ้น
“หืม? ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้นกัน?” หลินฟานมองลงไปจากยอดขุนเขาไรนาม ก็
เห็นลานเบื้องลางกำลังมีกลุมคนมาชุมนุมกัน และคลายกำลังจะแหกันไปที่ไหนสักที่
ตางเรงเราพลังกันออกมาอยางคึกคัก...
“ประมุขนอยหลิน ศิษยเหลานั้นก็คือคนที่ทานใหขาไปรับมาไวอยางไรเลา
ตอนนี้พวกมันทั้งหลายก็ไดบมเพาะฝกฝนจนดานพลังบรรลุเทพสวรรคอมตะ 6-7 ชั้น
ฟากันหมดแลว นับวาแข็งแกรงทรงพลังมิใชชั่ว! ตอนนี้พวกมันก็กำลังจะมุงหนาไป
เผชิญหนากับมารอวตารหวังเสี่ยวหมิง! เพื่อที่จักกำจัดมารรายแหงโลกเสวียนหวง!!”
ตอใหเปนซงเขิ่นเทียนเอง ก็ยังไมรูวามารอวตารหวังเสี่ยวหมิงนี่มนั ผุดโผลมา
จากนรกขุมใด! และแนนอนวามันยอมไมลวงรูถ ึงความสัมพันธระหวางอีกฝายกับหลิน
ฟาน! ทวานามมารอวตารหวังเสี่ยวหมิงนี้ ในโลกเสวียนหวงไมมีใครไมรูจัก!!
ทุกทั่วหัวระแหงของโลกเสวียนหวงยอมมีรองรอยความชั่วรายของมารอวตาร
หวังเสี่ยวหมิงเหลือทิ้งเอาไว...
และมีบางสิ่งที่ทำใหทุกผูคนเองก็ลวนตื่นตระหนกกันไมนอย ไมรูวาเพราะดวย
เหตุผลกลใด หากแตเหลาชนชั้นสุดยอดอัจฉริยะของโลกเสวียนหวง ลวนแลวแตมี
ความแคนกับมารอวตารหวังเสี่ยวหมิงทั้งสิ้น!!
ทั้งยังไมใชความแคนธรรมดาสามัญ กลับเปนความแคนที่ยิ่งใหญเทียมฟาไมขา
ตายเจาก็ตองมวย!!
สำหรับเหลาโจรรายและผูฝกวิชาสายมาร กระทั่งผูที่ไมเปนที่ตองการของสังคม
นั้น ยามเมื่อไดยินนามอันยิ่งใหญของหวังเสียวหมิง พวกมันทั้งหลายก็ยินดีศิโรราบ
ยอมสยบเปนลิ่วลอใตบังคับบัญชา
เชนนั้นลัทธิมารปศาจที่ยิ่งใหญที่สุดในโลกเสวียนหวงจึงไดอุบัติขึ้น!
พวกมันยั่วยุปลุกปนกอสงครามสรางสายธารโลหิตไปทั่วทั้งโลกเสวียนหวง และ
ทุกคราที่มารอวตารหวังเสี่ยวหมิงเคลื่อนไหว สุดยอดอัจฉริยะนับไมถวนตองพบพาน
กับความโชคราย!
“ออ...นี่เปนการรวมตัวไปโจมตีปราบมารอะไรครั้งแรกเหรอ?” หลินฟานกลาวถาม
“ไม มิไดเปนเชนนั้น มารอวตารหวังเสี่ยวหมิงนั้นเปนตัวตนอันลึกลับชั่วรายนัก
ไมมีผูใดลวงรูวามันมีความเปนมาอยางไร หากแตมันผงาดขึ้นมาตั้งแตเมื่อ 80 ปกอน
สุดทายดวยความสามารถอันนาหวาดหวั่นที่อยูๆ ก็อุบัติขึ้นมาเชนนี้ ผูคนก็เลยเรียก
หามันวามารอวตาร แตอันที่จริงมันก็มิไดทำอันใดรายแรงมากนัก…เพียงแครังแกผูคน
กับปลนชิงสิ่งของรวมถึงขโมยสมบัติเลิศล้ำทั้งหลายเทานั้น”
“และครั้งนี้เปนการรวมกลุมเหลาอัจฉริยะไปปดลอมไลตอนอีกฝายเปนครั้งที่
139 แลว...” ซงเขิ่นเทียนอธิบาย
“ฮะ? แลวการลอมจับกอนหนานี้ละ ผลเปนยังไง?” หลินฟานไถถามดวยความ
อยากรู
“กลาวไปแลวก็มีการสูญเสียกันทั้ง 2 ฝาย โดยเฉพาะอยางยิ่งทางฝงของเหลา
อัจฉริยะทั้งหลาย ทุกคราที่แหกันไปลงมือ ทั้งหลายก็ลวนสูญเสียสิ่งของมีคา และ
สมบัติที่มิอาจประเมินคาไดไปนับไมถวน...
ทั้งสุดทายยังถูกกลั่นแกลงยั่วยุกลับมา บางก็ถูกกอกวนจนแทบสติแตก หากมิใช
วาพวกขาคอยควบคุมสถานการณอยูเบื้องหลัง เกรงวาเรื่องราวยังอาจบานปลายไป
มากกวานี้...”
“แตจักอยางไรก็ตาม มารอวตารหวังเสี่ยวหมิงผูนี้ เปนตัวตนที่มีไหวพริบ
ปฏิพานเปนเลิศนัก! บางครั้งกระทั่งขากับพี่ชายเออกั๋วและคนอื่นๆ ไปชวยเหลือเหลา
อัจฉริยะเพื่อทำการลอมจับอีกฝาย จนแลไปคลายมันเปนตะพาบในไห! หากแตมิคาด
เลยวาตะพาบในไหนั่น กลับกลายเปนดั่งมัจฉาสวรรคเล็ดรอดตาขายฟาแหปฐพีไปได
ทุกครา! และทุกครั้งที่มันหนีรอดไปได มารอวตารหวังเสี่ยวหมิงนั่นก็จักไปสั่งสมพลัง
ปรากฏกายอีกครั้งยิ่งกลับกลายเปนรายกาจมากกวาเดิม! เรียกวายามนี้มิอาจมีผูใด
ตอกรกับมันไดสืบไป หากมิใชความจริงที่วาทานประมุขนอยหลินกลับมา...คงมีเพียง
ศิษยพี่เมี่ยเฉิงฉีผูเดียวเทานั้นในโลกนี้ ที่จักตอกรกับมารอวตารหวังเสี่ยวหมิงได!!”
ซงเขิ่นเทียนเองก็อยากรูนักวามารอวตานหวังเสี่ยวหมิงผูนี้ที่แทคือใคร
เมื่อหลินฟานไดยินเรื่องราว เขาก็ทำไดเพียงทอดถอนอยูในใจเทานั้น
หวังเสี่ยวหมิงทาทางจะลำบากไมนอย...!
ยอนกลับไปในกาลกอนนั้น หวังเสี่ยวหมิงยังเปนแคเจาชายเสเพลสุดแสนเอาแต
ใจไมสนโลก! ทวาพอมาไดรับการใหทายหนุนหลังจากหลินฟานจนไดออกมาโลดแลน
บนโลกหลา ก็กลับกลายเปนมารรายที่ยิ่งใหญทสี่ ุดบนโลกเสวียนหวงทันที!!
แตตามบทแลว สุดทายตัวรายก็คงตองเปนฝายแพพาย...ทัง้ ยิ่งรายกาจมาก
เทาไรยิ่งมีจุดจบอนาถเทานั้น! ไมพลังสิ้นสูญถูกดูดกลืน แกนแทดวงจิตก็ถูกเหยียบย่ำ
แดนสวรรคและโลกถูกบดขยี้ ฯลฯ
นั่นยังไมเลวรายที่สุด ที่เลวรายที่สุดคือถูกกระทำขางตนทั้งหมดแลวหากแตยัง
ไมถูกฆาใหตาย! ทั้งยังถูกสะบั้นแขนขาใหพิการ ถูกทิ้งไวเปนเนื้อเนาๆ กองหนึ่งคิด
ตายก็ไมไดตาย! พบพานกับชะตากรรมที่เลวรายเสียยิ่งกวาความตาย!!
“ประมุขนอยหลิน หากครั้งนี้ทานออกหนาลงมือสักครา! มารอวตารอะไรนี่ มิ
แคลวตองถูกจัดการถอนรากถอนโคนไดแน!!” ซงเขิ่นเทียนกลาวออกมาอยางมั่นใจ
“เออ... เจาใจเย็นกอนนะ...อันที่จริงเรื่องมันเปนยังงี้...”
ตอนนี้หลินฟานทำไดแคระบายลมหายใจออกมาอยางเพลียจิต
สุดทายก็จำตองอธิบายเรื่องราวออกไปอยางชวยไมได และเมื่อทุกผูคนที่อยู
รอบๆ ไดยินเรื่องทีห่ ลินฟานเลา ตางก็อาปากคางดวยความเหลือเชื่อ...
ใครจะไปคิดกันเลา! สุดทายแลวเจามารอวตารที่ระรานผูคนไปทั่ว! จะถูกหลินฟานชุบ
เลี้ยงเอาไวเชนนี้!!
“นิ...นี.่ ...”
ตอนที่ 827 ไมอาจอยูใ ตฟาเดียวกัน!
“สวรรค มิคิดเลยวาจาวลัทธิมารอวตาร อยางมารอวตารหวังเสี่ยวหมิงนั่น...ที่
แทจักเปนอัจฉริยะที่ทานประมุขนอยหลินชุบเลี้ยงขึ้นมาเชนนี้! เชนนั้นก็ลวนอธิบาย
ไดหมดสิ้นแลว...วาใยอัจฉริยะเหลานั้นถึงมิอาจทำอันใดกับเขาไดเสียที!!”
ชงเขิ่นเทียนถึงกับอาปากคาง มาตอนนี้มันก็เขาใจเรื่องราวแลว ก็อยางวา...คงมี
เพียงตัวตนระดับเทพเจาอยางประมุขนอยหลินเทานั้นถึงสามารถชุบเลี้ยงตัวตนสุด
ยอดอัจฉริยะถึงเพียงนี้ได!!
หลินฟานเปลงเสียงในลำคอเบาๆ เปนการตอบรับ ใหทุกคนไดรู...วาเขาเนี่ยนา
สะพรึงเสมอละ!
“วาแตเรื่องนี้พวกเจาอยาไดปูดออกไปเชียว ไมงั้นคงไดเกิดผลกระทบยากจะ
ควบคุมกับเหลาอัจฉริยะทั้งหลาย และจำไวถาพวกมันวางและไมมีอะไรทำแลวจริงๆ
ก็พยายามรวมกลุมไปไลลาอะไรแบบนี้บอยๆ !”
ในเมื่อเรื่องมันบานปลายจนกลับกลายเปนใหญโตขนาดนี้แลว ก็สายเกินไปที่
หลินฟานจะแกไขอะไร มีแตใชโอกาสนี้ตีชิงตามไฟ ดำเนินเรื่องราวใหเหมาะสมและ
ฉกฉวยหยิบใชสถานการณใหเปนประโยชนเทานั้น!
ยังไงก็ตามหลินฟานก็อยากรูอยากเห็นไมนอย วาเจาหวังเสี่ยวหมิงนั่นตอนนี้
กำลังทำอะไรอยู อีกทั้งเขายังอยากจะรูนักวาหวังเสี่ยวหมิงจะรับมืออัจฉริยะเปน
กองทัพแบบนี้ไดยังไง!
ณ ลานดานนอก...
“ศิษยพี่ศิษยนองและเหลาสหายรวมทุกขรวมสุขของขา มารอวตารหวังเสี่ยวหมิงนัน้
ถือเปนศัตรูรวมของพวกเรา! สงครามครั้งนี้พวกเราจักตองเปนฝายชนะ! พวกเราจัก
กำจัดเหลามารรายใหราบพนาสูร นำพาความสงบสุขใหหวนคืนสูโลกเสวียนหวง!!”
ชายคนหนึ่งที่ยืนอยูบนแทนยกสูง ชูแขนทั้ง 2 ขึ้นพรอมกลาวออกมาดวยความ
เรารอน!
“ศิษยพี่ อวี่เจี้ยน กลาวถูกแลว!”
นี่คือบุรุษผูหนึ่ง ผูซึ่งรบรากับมารอวตารหวังเสี่ยวหมิงมาเปนเวลากวา 98 ปแลว...
ในปที่ 2 ที่หวังเสี่ยวหมิงออกเดินทางทองโลกนั้น มันไดพบพานกับบุรษผูนี้ที่
เมืองไหนสักแหง จากนั้นบุรุษผูนี้ก็ถูกหวังเสี่ยวหมิงเยยหยันถากถางรังแกทุกรูปแบบ
เหตุเพราะเรื่องไมเปนเรื่องประการหนึ่ง และนั่นเปนดั่งชนวนระเบิดของอวี่เจีย้ น!
ภายใตอำนาจของหวังที่ปลุกบุตรแหงโชคชะตานั้น ไมนานอวี่เจี้ยนผูนี้ก็ไดพบ
พานวาสนาปาฏิหาริยอะไรตางๆ นาๆ นับประการ ตกเขาครั้งใดลวนพบสุดยอดเคล็ด
วิชา เขาถ้ำไหนเปนตองเจอซากสังขารพรอมโอสถเลิศล้ำ พลังฝมือและความ
แข็งแกรงของมันเพิ่มพูนขึ้นอยางกาวกระโดด
และในวันหนึ่งมันก็ถูกเลือกใหเปนศิษยของนิกายเมงกา ภายในนิกายนั้นมันก็ได
พบพานสหายอัจฉริยะมากมาย และไปๆ มาๆ มันก็พบวาสหายทั้งหลายนั้นกลับเปน
สหายรวมชะตากรรม! ตางมีศัตรูรวมกันคือหวังเสี่ยวหมิง! นั่นทำใหยิ่งมา
ความสัมพันธของเหลาศิษยชุดนี้ของนิกายเมงกายิ่งแนนแฟน สนิทสนมกลมเกลียวดั่ง
พี่นองรวมสายโลหิต! ทั้งหมดยังมีความคิดตรงกันนั่นก็คือ ‘ฆาตัวบัดซบนั่นเสีย’!!
หลังจากนั้นพวกมันก็พยายามฝกฝนอยางหนัก บมเพาะบำเพ็ญพลังอยางแข็ง
ขัน และตราบใดที่มีโอกาส หรือไดยินขาวคราวเกี่ยวกับฐานที่มั่นของหวังเสีย่ วหมิง
พวกมันมักจะรวมกลุมกันออกไปเสาะแสวงหา เพื่อลอมฆาอีกฝาย...
อนิจจาตลอดระยะเวลา 100 ปที่ผันผาน พวกมันไดกอการเชนนี้ไปแลวทั้งสิ้น
138 ครั้ง แนนอนวาทุกครั้งลวนลมเหลว! ทวาแมจะเปนเชนนั้นพวกมันก็ยังไมสิ้นหวัง
ทอแท! อันที่จริงยังเปนดั่งเชื้อเพลิงอันดีที่คอยเรงเราจิตวิญญาณแหงการตอสูของ
พวกมัน!!
“ครั้งนี้จักเปนครั้งที่ 139 ของพวกเรา! พวกเราตองฆาหวังเสี่ยวหมิงบัดซบนั่น
ใหได! แตพวกเราตองมิปลอยใหมันตกตายงายดายเกินไป ไมอาจสังหารมันอยางรวบ
รัดได! พวกเราตองทรมานมัน ทรมานมันใหหนัก! ทรมานมันอยางอำมหิต เอาใหมัน
ร่ำรองเรียกหาความตาย!!”
“ตัวบัดซบหวังเสี่ยวหมิง! มันจับขาแกผาแถมเอาขาไปแขวนไวที่กำแพงเมือง!
แคนนี้กระทั่งสวรรคยังมิอาจใหอภัย!!”
“มันขโมยคัมภีรวิชาของขายามขาปลดทุกข! กระทั่งยังลวนลามคนรักของขา!
ขาสาบานวาจักมิขออยูเปนคนหากขามิไดสะสางความแคนครั้งนี้!!”
“มันเปนตัวอุบาทวศูนยรวมความชั่วรายทั้งมวลในหลา! ตราบใดที่ขาฆามันใด
ตัวขาไรซึ่งสิ่งใดในชีวิตใหเสียใจ!!”
“ไป! พี่นอง! พวกเราไปกันเถิด! คราวนี้หวังเสี่ยวหมิงนั่นอยูหางจากพวกเราไป
3 แสนกวาลี้! ครั้งนี้พวกเราตองรีบชิงลงมืออยาไดใหมันมีโอกาสหนีรอดไปได
เด็ดขาด!!”
“เอาละ พวกเราไปกัน!!”
ทันใดนั้นมวลแสงกลุมหนึ่งก็พุงทะลวงความวางเปลาหายลับไป
เหลาศิษยอัจฉริยะกลุมนี้นั้นสวนมากมีดานพลังฝกตนระดับเทพสวรรคอมตะ 7
ชั้นฟา มีบางบางคนที่ยังอยูท ี่เทพสวรรคอมตะ 6 ชั้นฟา แตโดยรวมแลวทั้งหมดก็ลวน
อยูในเกณฑดี!
สำหรับอัจฉริยะทีส่ ามารถฝกฝนบำเพ็ญตบะพลังใหแกกลาไดถึงขีดขั้นนี้ในเวลา
เพียงแค 100 ปนั้น มันเปนอะไรที่นาเหลือเชื่ออยางถึงขีดสุด!!
แนนอนวาในกลุมยอมมีตัวตนที่ถูกกระตุนมาพวกแรกๆ และมีดานพลังสูงกวา
ผูใด ดังนั้นแลวเหลาศิษยทั่วๆ ไปที่อยูรอบๆ ก็ไมอาจกระทำตัวเหลวไหลได
เมื่อคนในกลุมมีดานพลังสูงขึ้น ทั้งหมดก็รีบเรงพัฒนาตัวใหตามติด และเมื่อมี
ตัวอยางและหนทางจากคนที่บรรลุกอนพวกมันก็เพียงแคนำมาปรับใช!
ดวยเหตุนี้ดานพลังฝกตนของพวกมันจึงเพิ่มพูนรวดเร็วมาก ในระยะเวลาเพียง
แค 100 ปพวกมันก็เขาสูขีดขั้นนี้กันแลว!!
“เหอๆ ! ระดับพลังไมธรรมดา แถมสภาวะเหี้ยมหาญดุดัน พุงกันไปยังกับมังกร
ทะยาน...”
หลินฟานมองตามไปไกลตา อดไมไดที่จะถอนหายใจออกมาคำหนึ่ง เขาละ
สงสัยนักวาหวังเสี่ยวหมิงมันไปรังแกผูคนอีทาไหนกันแน ถึงไดมีโจทยเปนอัจฉริยะได
มากขนาดนี้ แถมทั้งหลายทำยังกะจะไปรบสงครามครูเสด!
“งั้นก็ใหขาดูหนอยละกัน วาพลังฝมือที่เจาพวกนี้มันฝกฝนกันมาเปนยังไง...”
หลินฟานไมกลาวใดสืบไปรางคอยๆ ลอยขึ้นกอนจะติดตามเหลาศิษยทั้งหลายไป เขา
อยากรูวาการปะทะกันระหวางสุดยอดอัจฉริยะเปนกองทัพแบบนี้กับหวังเสี่ยวหมิง
มันจะรุนแรงถึงขนาดไหน
ณ ปาอันเหน็บหนาวและรกรางแหงหนึง่ ที่อยูหางไกลออกไป 300,000 ลี้
สถานที่แหงนี้ชางเปลี่ยวรางวังเวง ไรซึ่งผูคนสัญจรใดๆ มองไปทางไหนก็มีเพียง
สัตวปาเทานั้น และยากนักที่จะมีผูฝกตนแวะเวียนผานมาแถวนี้ เพราะสถานที่แหงนี้
กลับมีหนึ่งบุรุษที่ทุกผูคนทั้งโลกเสวียนหวงจำตองหวาดกลัวพำนักอยู!
มารอวตาร หวังเสี่ยวหมิง!
ตอนนี้หวังเสี่ยวหมิงกำลังนอนเอนหลังบนเตียงขนาดใหญ รอบกายมีสาวนอย
จิ้มลิ้มนารักมากมายกำลังปรนนิบัติ แลไปคลายสวรรคบนดินมิผิดเพี้ยน!
เปนเวลากวา 100 ปแลว มันไดใชชีวิตผาน 100 ปนี้ไปกับการหลบหนีการตามลา
ชีวิตของมันนั้นเริ่มลำบากตั้งแต 97 ปที่แลว
หวังเสี่ยวหมิงยอมรับ วามันนั้นรักในการกลั่นแกลงรังแกผูอื่น อยางไรก็ตามทุกผูคนที่
มันกลั่นแกลงรังแกไป ลวนกลับกลายเปนสมาชิกหลักของกองกำลังที่ยกมาไลลามัน!!
นี่นับเปนสถานการณที่คอนขางวุนวายสำหรับหวังเสี่ยวหมิงไมนอย
เอาแคในชวง 100 ปที่ผานมานี้ มันก็ถูกอีกฝายคนพบฐานที่มั่นและยกทัพมา
หมายปราบเปนจำนวน 138 ครั้ง! และมันก็ตองเปลี่ยนฐานที่มั่นไปแลวกวา 89 แหง!
เรียกไดวามันเดินทางไปทั่วทั้งโลกเสวียนหวงเพื่อหาที่ซอ นตัว!!
อยูมาวันหนึ่งดวยเหตุผลกลใดไมทราบเหลาผูฝกตนที่เปนดั่งปศาจและมารราย
ในสายตาของผูอื่นก็มาเคาะประตูบานมันถึงที่ มายอมสยบศิโรราบและวิงวอนขอ
ความชวยเหลือจากมัน และดวยประการฉะนี้ นามอันนาอับอายของมันก็ดังกระฉอน
ไปทั่วโลกเสวียนหวง!
มารอวตาร หวังเสี่ยวหมิง!
แนนอนละวาหวังเสี่ยวหมิงไมไดอยากจะไดรับนามบานี่สักกะผีก! แตไหนเลย
มันยังจะมีทางเลือกอื่นได...ก็ในเมื่อทุกผูคนในโลกยามนี้ลวนเรียกหาแบบนี้กันสิ้นแลว
มันยังจะไปทำมะเขืออันใดไดอีก?
สำหรับตัวหวังเสี่ยวหมิงนั้น ในตอนนี้มันมีเพียงความคิดเดียวในใจเทานั้น และ
นั่นก็คือ...มันอยากกลับบาน! แตทวาเมื่อเรื่องราวมันบานปลายมาถึงขั้นนี้ มันยังกลับ
บานของมันไดอีกหรือ! ใยเรื่องมันเศราเคลาน้ำตาอะไรเชนนี้หนอ!?
ในกาลกอนนั้นก็มีอยูหลายครั้งหลายคราที่หวังเสี่ยวหมิงอยากกลับไปดูเรื่องราว
ที่บานวาเปนไรกันบางแลว ทวาทุกๆ ครั้งเมื่อมันเดินทางไปถึงครึ่งทาง จะตองมีคน
ตามกลิ่นมันเจอเสมอ และทั้งหลายก็แหกันมาราวผีดิบ ใครปรารถนาจะกลืนกินเลือด
เนื้อของมัน! ทั้งหมดลวนกระทำทุกทางใชทุกวิธีเพื่อจะเอาชีวิตมันใหได!!
“ทานราชันผูยิ่งใหญ! ทาไมดี! ทาไมดีแลวขอรับ…!!”
ในขณะที่หวังเสี่ยวหมิงกำลังงับองุนทีด่ รุณีนอยปอนดวยปากนั้น พลันมีเสียง
หนึ่งดังสนั่นลั่นขึ้นมา นำพาใหมันสะดุงตกใจจนงับไปโดนริมฝปากดรุณีนอยดังกลาว
...โอยตกใจแทบตาย “มีอะไรไมดี? มีปญหาอะไร?”
“พวกอัจฉริยะนั่น...มันแหกันมาตามลานายทานอีกแลวขอรับ!”
ลิ่วลอผูนี้ แตกอนนั้นเปนมหาวายรายตัวพอ ทวาเนื่องจากมันประทับใจใน
ความสามารถของหวังเสี่ยวหมิง จึงกมหัวผันตัวมาเปนลิ่วลอรับใชหวังเสี่ยวหมิงดวย
ความสมัครใจของมันเอง...อนิจจาพอมันเริ่มรับใชหวังเสี่ยวหมิงไดไมทันไร เรื่องนา
กลัวพลันบังเกิดขึ้น!
พวกมันตองเปลี่ยนบานแทบทุกป แถมถูกผูคนตามลาทุกวี่วัน!
มันเองก็เคยมีความคิดวาจะไปจากหวังเสี่ยวหมิงเชนกัน อยางไรก็ตามผูลานั้นก็
หมายหัวพวกมันเปนเปาที่ตองตามลาฆาใหตายไปดวยแลวเชนกัน
แนนอนวาคนที่อีกฝายคิดฆาใหตายเปนอันดับแรกนั้นไมใชใครที่ไหนนอกจาก
หวังเสี่ยวหมิง สวนพวกมันนั้นอยูลำดับหลังๆ !!
อีกทั้งกลุมคนพวกนี้ราวกับมีนัยนตาสวรรคเพงเล็งมาที่พวกมัน ไมวาพวกมันจะ
ไปไหนพวกมันก็จะถูกหาพบเสมอ สุดทายพวกมันก็ไมอาจหนีไปไหนได จำตอง
ดำรงชีวิตอยางนาเวทนาติดตามราชันผูยิ่งใหญของมันหลบหนีไปเรื่อยๆ แบบนี้ตอไป
“อะไรนะ!? พวกมันแหกันมากันอีกแลว!? ไมใชวาเมื่อปที่แลวพวกมันก็ยกมา
ลอมจับขาไปอยูหยกๆ รึไง? พวกบัดซบ นี่ไมคิดจะใหขาไดอยูอยางสงบเลยรึไงกัน!?
แถมเร็วๆ นี้ขาราชันผูยิ่งใหญก็ยังไมไดออกไปละเลนกับผูใดเลยมิใชหรือไงกัน!?”
ตอนนี้หวังเสี่ยวหมิงโมโหไมนอย พวกอัจฉริยะนี่มันเปนเดียรัจฉานหรือไร? พวก
มันไมคิดใหผูอื่นไดตั้งรกรากบางเลยหรือ? แหกันมาลอมจับอยูไดทุกๆ ป แถมยังมา
อยางนอยๆ ก็ปละครั้ง!!
“วาแตแลวคราวนี้พวกมันแหมากันกี่คนละ?” หวังเสี่ยวหมิงกลาวถาม
“เรื่องนี้ขามิอาจทราบไดขอรับ เพียงเห็นวามากันเยอะยิ่ง! เยอะเสียจนปดแผน
ฟาเลยขอรับ! มิต่ำไปกวา 10,000 คนแนๆ !!”
“ฮะ อะไรนะ!? เยอะขนาดนั้นเลย?
ไอพวกกรวกนั่นตองการฆาขาขนาดนี้เลยงั้นเหรอ? เมื่อปที่แลวยังมีแค 8,000
คนเอง ตอนนี้เพิ่มพูนมาเปน 10,000 คนแลว! นี่...!!” เมื่อหวังเสี่ยวหมิงไดรับรายงาน
ตัวเลขก็อึ้งไป
หวังเสี่ยวหมิงเริ่มยกมือขึ้นมานับนิ้วหงึกๆ เพื่อทบทวนดูวาเขารังแกกลั่นแกลงผูคนไป
กี่คนในชวงไมกี่ปหลังมานี้... ‘หรือไอพวกกรวกชุดใหมทั้งหลายนั่น มันไปพบพาน
วาสนาปาฏิหาริยอันใดเขาอีกกัน ดานพลังฝกตนของพวกมันถึงไดพุงสูงขึ้นพอที่จะมา
ทาทายขาได? แถมตอนนี้ยังไปรวมหัวกับพวกบานั่นเพื่อมาลอมสังหารขาอีก’
พวกกรวกบัดซบ! ครั้งนี้ไอพวกกรวกนั่นมันจะทำเกินไปแลวนะ!!
“ถายทอดคำสั่งของขาออกไป! ใหทุกหนวยเตรียมความพรอม จะอยูสูหรือจะ
หนีก็เตรียมพรอมไวทุกสถานการณ!” หวังเสี่ยวหมิงตะโกนสั่งออกมา “เหอะ! และถึง
ครั้งนี้พวกเราอาจจะตองหนี แตกอนไปขาจะสั่งสอนบทเรียนอันดีใหพวกมัน!!”
“ทราบ!!”
ตอนที่ 828 สุดยอดอาวุธ
“มารอวตารหวังเสี่ยวหมิง! ไสหัวออกมารับความตายเสีย!!”
“อยาไดเอาแตหดหัวเยี่ยงลูกเตาใจเสาะ! ไหนเลาตัวบัดซบที่เกงนักเกงหนา!?”
“ตัวอุบาทวหวังเสี่ยวหมิง! เจากลาดีอยางไรถึงไดเปาหูเพื่อนบานของขา! ใหมา
ลอบเปนชูกับภรรยาขา?! บัดซบ สุดทายกระทั่งลูกนอยที่ขาเลี้ยงก็ยังมิใชลูกขา! ความ
คับแคนอันใหญหลวงนี้เจาจักใหขาทานรับไดอยางไร!?”
เหลาอัจฉริยะทั้งหลายร่ำรองพร่ำเพอ... ความคับแคนใจอันแสนสาหัสถูก
ระบายออกมาอยางปวดราว
เมื่อมองไปยังเหลาอัจฉริยะที่ลอยลองเต็มฟาหลินฟานรูสึกไรคำพูดไปพักใหญ...
ความแคนของผูคนนั้นมีมากมายมหาศาลนัก! บางคนก็สูญเสียอาณาเขต บาง
คนก็ถูกรังแก บางคนก็ถูกสวมหมวกเขียว ไมวาคนไหนก็ลวนถูกทำใหสูญเสียอยาง
หนักทั้งสิ้น!
ไมคิดเลยวาหวังเสี่ยวหมิงนีจ่ ะสามารถกอเรื่องไดมากมายมหาศาลขนาดนี้ใน
เวลาเพียงแค 100 ป! แมจะเปนหลินฟานที่กอเรื่องเสมอๆ ก็ยังไมอาจกอเรื่อง
มากมายถึงขั้นนี้ได!!
นับวารางแหงความเกลียดชังของบุตรแหงโชคชะตาไมใชอะไรเลนๆ อยาง
แทจริง! จำนวนผูที่ถูกสรางความอัปยศและคับแคนนั้นมากมายหาที่เปรียบไมได!!
ตอนนี้ใหหลับตาสุมชี้ออกมาสักคน ไมวาคนไหนก็ลวนแลวแตมีเรื่องที่ยินดีแลก
ดวยชีวิตเพื่อฆาคนชำระแคนทั้งสิ้น!
เรียกไดวาความแคนนี้ กระทั่งเทพสวรรคก็ไมอาจหยุดยั้งระงับไดแลว!
หลินฟานเองก็สงสัยไมนอย...วาเจาเด็กแสบนั่นมันไปกอเรื่องมากมายขนาดนี้ได
อยางไร! ซ้ำดวยจำนวนอัจฉริยะที่มีเรื่องดวยยังมากมายปดฟาแบบนี้ หวังเสี่ยวหมิงยัง
หลบหนีไปไดอยางไรกันแน
เวนเสียแตวา...มันจะมีความแข็งแกรงเขาขั้นทาทายสวรรค!!
และวันนี้ในบรรดาอัจฉริยะที่มาไถแคนทวงความเปนธรรม ที่แข็งแกรงที่สุดก็
บรรลุดานพลังเทพสวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 8 แดนสวรรคและโลกเขาไปแลว! ทาทาง
เจาหวังเสี่ยวหมิงเองก็ตองมีขีดขั้นพลังอยางต่ำระดับนี้เปนแน!!
ทันใดนั้นเอง เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นกลบเสียงของผูคนนับหมื่น
“พวกเจาทั้งหลายอยาใหมันมากเกินไปนัก! ขาหวังเสี่ยวหมิงอุตสาหเรนกายมา
อยูในปาลึก และตัดขาดจากเรื่องราวภายนอกแลว... แตพวกเจายังกลามาหาเรื่องขา
ราชันผูยิ่งใหญอีกครั้ง ทั้งที่ยงั ผานไปไมถึงปดี! นี่พวกเจาไมคิดวาพวกเจาจะมากกันไป
หนอยหรือไร!?!”
เสียงหวังเสี่ยวหมิงดังขึ้นมาจากวังลึกลับเบื้องหนา อยางไรก็ตามตัวมันไมได
ปรากฏออกมาใหเห็นแตอยางไร
หวังเสี่ยวหมิงเองก็รูดี ขืนโผลหนามาใหพวกอารมณรอนเหลานี้เห็น มิแคลวตอง
ถูกพวกมันรุมฉีกทึ้งรางแนๆ !
“ฮาๆ ๆ !! ตัวบัดซบหวังเสี่ยวหมิง เจาอาศัยชวงที่พวกเราออนแอไรพลัง รังแก
พวกเราสารพัด! ยามนี้ดานพลังพวกเราบรรลุขีดขั้นทาทายสวรรคแลว! เจาก็ทำไดแค
หดหัวเยี่ยงลูกเตาหวาดกลัว! มีลมอันใดก็รีบผายใหหมดสิ้น แตเจามิมีวันลาง
บาปกรรมที่เจาเคยกระทำในกาลกอนได!!”
“มิผิด! ขาพเจาเฝารอวันนี้มาแสนนานดั่งหมาปารอวันหอน! 98 ปที่แลวเจา ตัว
อุบาทวหวังเสี่ยวหมิง มอบความอัปยศใหขากลางโรงเตี๊ยม! ซ้ำยังทุบตีขาเยี่ยงทาส!
ฉีกหนาขาตอสตรีอันเปนที่รัก! ยามนั้นเจาสมควรรูดี วาวันนี้จักอยางไรก็ตองมาถึง!!”
“ตัวอุบาทวหวังเสี่ยวหมิง! 70 ปที่แลวเพื่อแยงชิงวาสนาของขา เจาหลอกใหขา
ออกจากพื้นที่ลับ ตัดหนทางสูความยิ่งใหญของขาไปชั่วนิรันดร! นาเสียดายแตฟาไม
ละทิ้งคนดี สวรรคยังมีไมตรีใหขา นำพาใหขาไดพบพานกับมรดกความลับสวรรคอัน
ยิ่งใหญ! วันนี้ถึงเวลาที่เจาจักตองตายแลว!!”
“ตัวระยำ! 60 ปที่แลวพี่ชายขากลาววาจาดูแคลนเจาเพียงประโยคเดียว แตเจา
กลับลงมือทำรายพี่ชายขาอยางแรง หักแขนหักขาพี่ชายขา และเกือบจะทำใหตระกูล
จาวของขาตองสิ้นไรลูกหลานสืบสกุล! ในยามนั้นที่เจากำพวงสวรรคของขา จนบิดา
ขาตองกมกราบวิงวอนรองขอความเมตตาเจาตอหนาตอตาขา วินาทีนั้น! ตัวขา
จาวหวูจี้ก็สาบานตอฟาวาจักฉีกรางเจาใหตายตกดวยมือคูนี้!!”
“ตัวชั่วรายหวังเสี่ยวหมิง! 58 ปที่แลว! ในคืนที่ดาวเต็มฟาเจากลาววาจา
หลอกลวงสาวนอยไมเดียงสาเชนขา วาจักพาขาหนีตามเจา! แตมิคิดเลย...วาเจาเพียง
หลอกทำรายหักหาญน้ำใจขา! มิเพียงไมพาขาไป ยังลอบไปขโมยมรดกตกทอดของ
ตระกูลขาตอนที่ขาไปเฝารอที่เจาที่ริมน้ำ! ขาจักมิหยุดจนกวาจักไดลางแคนเจา!!”
“สารเลวชาติชั่ว! เจาจำบิดาไดหรือไม 57 ปที่แลว...!”
“56 ปที่แลว...!”
….
ภายในกลุมอัจฉริยะนั้นมี่ทั้งบุรุษและสตรี ทุกคนตางเกลียดแคนหวังเสี่ยวหมิ
งเขากระดูกดำ แทบไมอาจรอจะฉีกรางอีกฝายไดไหวแลว!
สวนทางดานหลินฟานที่ซอนตัวอยูในความวางเปลา เมื่อไดฟงเรือ่ งราวความคับ
แคนใจทั้งหลายก็ถึงกับเหวอไปไรคำจะกลาว...เขาทำไดแคทอดถอนใจออกมาอยาง
เหนื่อยลา! หวังเสี่ยวหมิงนี่ชา งโหดเหี้ยมนัก! เพียงแคจะหลอกเอามรดกสืบทอดของ
ตระกูลผูอื่น ยังถึงขั้นใชรูปโฉมกับคารมหลอกลวงสาวนอยไดลงคอ! ใยมันไมพานาง
ไปดวยกันใหรูแลวรูรอดไปกัน? มิใชวาจะไดรวบทั้งดรุณีนอยรวมถึงสมบัติดวยเลย
หรือไง! สาวนอยจิ้มลิ้มเชนนั้นใยถึงปลอยใหรอคอยอยางเดียวดาย แลวเอาไปแคเพียง
สมบัตินางเลา!!
งี่เงา! หวังเสี่ยวหมิงมันจะงี่เงาเตาถุยเกินไปแลว!!
“แคก แคก”
หวังเสี่ยวหมิงกระแอมออกมาเบาๆ แผยใหเห็นถึงความไรเดียงสาเล็กนอย
"เฮอ เรื่องราวมันก็ผานไปตั้งนานเนกาเลแลว ยังจะนึกถึงขุดคุยไปทำอะไร ตัว
ขาเองก็ลืมเลือนเรื่องราวเหลานั้นไปสิ้น... พวกเจาเองก็หัดเปนคนใจกวางเชนขาบาง
เรื่องราวใดๆ เมื่อมันผานไปแลวก็ใหแลวกันไปเถอะ! พวกเรามาสงบอารมณแลวนั่ง
สนทนากันกอนมิดีกวาหรือ...หลายปที่ผานขาเองก็ไมใชวา จะไมเสียใจที่พลาดพลั้ง
รังแกพวกเจาไป ทุกคืนวันขาหลับก็ฝนรายนับครั้งไมถวน ขาเองก็คิดกลับตัวกลับใจ
เพื่อพวกเจา...
ในเมื่อวันนี้พวกเจาเองก็มารวมกันอยู ณ ที่แหงนี้แลว...ก็ใหตัวขาผูนี้ไดอธิบาย
เรื่องราวกอนเถอะ และถาพวกเจายังคงโกรธแคน ก็เชิญมาตมยำทำแกงขาได ถึงตอน
นั้นตอใหตองตาย ขาก็จักไมเสียใจอันใดเลย.."
ครืนนนน!!
ทันทีที่หวังเสี่ยวหมิงกลาวจบคำ ประตูหนาอันใหญโตของวังก็คอยๆ เปดออกกวาง
เหลาอัจฉริยะที่ไดฟงวาจากอนหนาทั้งเห็นประตูวังเปดออก ก็หันมองสบตา
แลกเปลี่ยนความเห็นกับผูอื่น ทั้งหลายรูสึกอึดอัดใจกันอยูเล็กนอย พวกมันไมรูวามาร
อวตารนี่จะมาไมไหนกันแน!
“พวกเรายังตองกลัวอันใด? พวกเรามีกันตั้งมากมาย! มิเขาไปใยมิใชหมายความ
วาพวกเราหวาดกลัวมันหรือ!?”
“ใชแลว! พวกเราหาไดเปนคนเดิมดั่งในวันวานไม! ยามนี้ตอใหขาพเจาเดี่ยวกับ
มันตัวๆ ขาพเจาก็มิใชวาจักแพพายมัน!!”
“ถึงแมมารอวตารหวังเสี่ยวหมิงมิคิดตอสู หากแตความเกลียดชังที่ฝงลึกในใจ
ของพวกเราอยูถึงคืนวันก็ยากจะลบเลือนได! หากพวกเรามิระบายออกดวยการชำระ
แคน ตอไปมันจักเปนปมยากจะคลายดั่งมารในใจอันยิ่งใหญ ที่คอยถวงรั้งฉุดดึงพวก
เรามิใหกาวหนาในหนทางแหงยุทธ!!”
“ไป! เชนนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ!!”
ทันใดนั้นมวลชนนับหมื่นก็รอนรางจากเวหามาสูดิน จากนั้นทั้งหลายก็หันมองแหงน
คอไปทุกสารทิศอยางระแวง เพื่อไมใหมารอวตารมีโอกาสลอบทำรายทีเผลอใดๆ ได!
อยางไรก็ตาม ครั้งนี้ยกพวกกันมากันยิ่งใหญ กำลังใจฮึกเหิมเต็มเปยม ดวยขุม
พลังอำนาจอันนาเกรงขามถึงเพียงนี้ พวกมันยังจะกลัวมารอวตารไดอยางไร!?
หลินฟานที่ซอนอยูล ึกลงไปในชองวาง ก็ไมรูวาหวังเสี่ยวหมิงมันคิดจะทำอะไร
กันแน หรือเวลาที่ผานไปรอยปทำใหใจมันเปลี่ยนแปลงไปแลว? ตอนนี้มันคิดจะละทิ้ง
เรื่องราวในโลกแลวหรือไง?
ทวาเมื่อหลินฟานแผสติสำนึกออกไปตรวจสอบดวยความสงสัย สีหนาของเขาก็
แปรเปลี่ยนไปทันใด!!
เชี่ย! ถลมมารดามันเถอะ! หวังเสี่ยวหมิงก็ยังคงเปนตัวเลวรายหวังเสี่ยวหมิง!
มันยังไมไดแปรเปลี่ยนไปสักกะผีก!!
“การเตรียมการเปนอยางไรบาง?” ตอนนี้หวังเสี่ยวหมิงยืดเสนสายอบอุน
รางกายพรอมแลว รายการตอไปจะเปนการหลบหนีขั้นเทพ!
“เรียนทานราชันผูยิ่งใหญ พวกเราทุกคนเตรียมพรอมแลวขอรับ! ขาวของอันใด
ก็เก็บเรียบรอย พรอมหลบหนีไดทุกเวลาขอรับ!!”
“ดีมาก! ไอพวกกรวกเหลานี้มันดื้อรั้นเกินไป! คราวนี้หากขาไมใหบทเรียนอัน
โหดรายฝงใจพวกมันเสียบาง พวกมันคงคิดวาขาราชันผูยิ่งใหญหวังเสี่ยวหมิงผูนี้ เปน
ลูกพลับสุกออนนุมใหพวกมันบีบแหยมไดงายๆ !!”
หวังเสี่ยวหมิงคำรามออกมา กลิ่นอายพลังปะทุพวยพุงขึน้ !
“ราชันผูยิ่งใหญจงเจริญ!!”
“ราชันผูยิ่งใหญของพวกเรา ไรเทียมทาน!!”
สำหรับพวกเลวรายทั้งหลายที่ดันเลือกมาพึ่งพิงหวังเสีย่ วหมิงนัน้ พวกมันก็ไร
หนทางอื่นใด! เมื่อขี่หลังพยัคฆดุรายเชนนี้ยากที่จะลงไดแลว! พวกมันก็ทำไดแคเกาะ
กุมหนทางสายนี้ไว แลวพยายามเดินไปใหถึงที่สุดเทานั้น!
หากหวังเสี่ยวหมิงรุงโรจน พวกมันก็จะรุงโรจน! หากหวังเสี่ยวหมิงรวงหลน
พวกมันก็รวงหลน! เชนนั้นแลวหากพวกมันยังรักชีวิตไมคิดตายตก พวกมันก็ตอง
รวมมือกับหวังเสี่ยวหมิงเต็มที่!!
“เอาละ ไปสั่งใหทุกคนเขาประจำที่ และเตรียมการใหพรอม! ตอนนี้พวกเราจะ
ไดใชสิ่งอันประเสริฐที่พวกเราไดทำการทดลองวิจัยมาหลายปเสียที!!” หวังเสี่ยวหมิง
สะบัดผาคลุมดังฟบ ประกาศกราวสั่งการ!!
“ขอรับ!!”
...
ตอนนี้เองมีกลุมคนพวกหนึ่งหยุดยืนอยูดานหนาประตู...คิ้วขมวดเล็กนอย
“พวกเจาวา…บรรยากาศที่นี่ใชมีอันใดผิดปกติหรือไม?”
“นั่นสิ...มันมิเงียบเกินไปหนอยหรือ...?”
“มิควรมีอันตรายใดๆ หรอก ถึงแมวาหวังเสี่ยวหมิงจักแข็งแกรงแคไหน แตเมื่อ
ตองเผชิญหนากับพวกเราที่มีมากมายถึงเพียงนี้ มันยังมีสามารถอันใดมาตอตานพวก
เราได?”
“อืม...อยางไรเสียทุกคนก็ควรระวังใหมากเขาไว มารอวตารหวังเสี่ยวหมิงนั้นเจาเลห
เพทุบาย ซ้ำรายเลหเหลี่ยมยังแพรวพราวนัก! ผูใดจักไปรูวาตอไปจักเกิดอันใดขึ้น...”
...
ครืนนๆ ๆ ๆ ๆ
ทันใดนั้นเองเมื่อทุกผูคนผานพนประตูวังมากันหมด เสียงดังสนั่นพลันบังเกิดขึ้น
ยังเปนเสียงทีดังสนั่นสั่นไหวจนปฐพีสะเทือนเลือนลั่น!
“นี่มันเสียงอันใดกัน?”
“ไมดีแลว พวกเจาชมดูดานบน!!”
ทันใดนั้นเองทุกผูคนพบวาเหนือศีรษะพวกมันกลับกลายเปนมืดดำสนิท ราวกับ
วามีบางสิ่งกำลังปกคลุมผืนฟา!!
“นั่นมันอันใดกัน!?”
“ทาไมดีแลว! สิ่งนั้นมันสะกดพลังพวกเราได! พวกเรามิอาจตานทานมันไดแน!!”
“ระยำเอย! ชองวางทั้งหมดลวนถูกปดผนึกแลว! บัดซบ! หวังเสี่ยวหมิงมันกำลัง
หลอกพวกเรา!!”
“กรี๊ดดดดดดดดดด!! สิ่งนี้มันคืออันใด ใยจึงเหม็นเยี่ยงนี้!!”
...
“ฮาๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ !!!!!!!!!!!!!”
ตอนนี้เอง ณ ยอดเขาลูกหนึ่งที่อยูหางไกลออกไป หวังเสี่ยวหมิงลอยรางอยู
กลางอากาศอยางสงบ เสียงหัวเราะระเบิดดังลั่นออกมาเมื่อเห็นภาพเรื่องราว
ดานลาง!
"ดูซิดูๆ ! ไอพวกสมองถั่วหัวกรวกทั้งหลาย! คิดมาถลมขาราชันผูยิงใหญหวังเสี่ยวหมิง
เชนนั้นเรอะ!? เหลวไหลนะ ไอพวกกรวก! พวกเจายังออนตอโลกเกินไป! ไสหัวกลับไป
ฝกฝนบำเพ็ญมาใหมสัก 100 ปเถอะ!!
“ตัวอุบาทวหวังเสี่ยวหมิง! เจาจักตองตายอนาถ!!!”
ตอนนี้ทุกผูคนลวนเดือดดาลเปนการใหญ!
“ฮาๆ ๆ ๆ !! ชาราชันผูยิ่งใหญจักตายหรือไมตายก็หาไดมีใดเกี่ยวของกับพวก
เจาไม! ตอนนี้พวกเจาสมควรดูแลตัวเองกันใหดีกอนเถอะ! ยามนี้สิ่งที่ราดรดทั่วกาย
ของพวกเจานั้น คือสุดยอดอาวุธที่ขาหวังเสี่ยวหมิงทำการวิจัยคนควาอยางระมัดระวัง
มากวา 30 ป! มันคือ ‘สุดยอดขี้’ อันไรเทียมทาน! ตั้งแตวันนี้เปนตนไป รางพวกเจา
จักอบอวลไปดวยกลิ่นเหม็นเนา! ตอใหพวกเจาอยูหางไปนับหมื่นลี้ ขาราชันผูยิ่งใหญ
ยังคงไดกลิ่นเหม็นโชยหึ่งจากรางพวกเจา! ตอไปหากยังคิดจักมาเลนงานขาพวกเจาคง
ทำไดเพียงฝน! ลากอน! ไอพวกกรวกเนาเหม็นทั้งหลาย!!”
หวังเสี่ยวหมิงหัวเราะออกมาดั่งพญามาร สะบัดมือดังฝบ กอนจะเหินรางขึ้นฟา
นำทุกคนไป...
“เฮอ...สงสัยนับตั้งแตวันนี้เปนตนไป โลกเสวียหวงคงไดมีบุรุษสตรีถูกทิ้งเพิ่ม
ขึ้นมาอีกนับหมื่น...โลกหลานับวาตองแปรเปลี่ยนไปแนแท...”
“อาคคคคคคคคคคคคค!!! หวังงงงง เสี่ยววววว หมิงงงงงงงงงงงง!!!!!”
เสียงกูรองดวยความคับแคนใจระเบิดดังลั่นสนั่นฟา
อนิจจา...ยามนี้หวังเสี่ยวหมิงนำพาเหลาวายรายพรรคพวก พรอมทั้งสตรีรับใช
หนาตาจิ้มลิ้มทั้งหลายหายวับไปไกลแลว...
ตอนที่ 829 เรือ่ งนี้มนั โคตรปวดไข
“ใยมันถึงไดเกิดเรื่องพรรคนขี้ ึ้นไดกัน? นี่มันก็เปนเวลากวา 100 ปแลว! ขา
อดทนฝกปรือไมหนายทุกคืนวัน...แตกลับมิอาจขจัดสิ่งปฏิกูลเหม็นเนานี่ใหออกไป
จากรางกายได! แลวขาจักเสียวันเวลาบมเพาะอันลำบากยากแคนไปเพื่ออะไร!?”
จาวหวูจี้เงยหนากูกองรองร่ำตอสวรรคดวยความเจ็บปวดเหลือแสน สิ่งปฏิกูล
เหนียวหนืดเหม็นหึ่งจนแทบอาเจียนที่ติดตามรางกายนั้น แมมันใชพลังชั่วชีวิตก็ไม
อาจขจัดออกได! ในฐานะสุดยอดอัจฉริยะแลวความปวดราวนี้เกินกวาจะสรรหาคำใด
มาบรรยายออกได...!!
“อีกแลว...มันหลบหนีไปไดอกี ครั้งแลว! ครานี้พวกเราเตรียมกลยุทธปดลอมมัน
มากวารอยพันกลยุทธ ทวาพวกเรากลับยังปลอยใหมารรายนั่นหนีรอดไปไดตอหนา
ตอตา ทั้งที่พวกเรายังไมทันไดเริ่มทำอันใด! สวรรค! ใจขามันเจ็บปวดนัก!!”
“เพื่อที่จักใหมารอวตารหวังเสี่ยวหมิงจายราคาชดใชที่เคยหลอกลวงขา...ขาได
เสียสละเวลาในวัยเยาวของขาไปสิ้น และยามนี้ขาเองก็อายุได 100 กวาปแลว
หากแตยังมิมีคูครองหรือคนเคียงขางอันใด ยังไมคิดเลยวารางกายที่บริสุทธิ์ดั่งบัว
พิสุทธิ์ไรมนทิล กลับตองมาแปดเปอนสิ่งบัดซบนี่...! จากนี้ไปจักใหขาทนอยูได
อยางไร!!”
“ขามิอยากมีชีวิตอยูตอไปแลว!!”
“จากวันนี้ไป...ยังจักมีผูใดกลาเขาใกลขาบาง?”
“อั๊ค! ออคค!!”
ทันใดนั้นเหลาอัจฉริยะทั้งหลายก็สั่นสะทานพวกมันเงยหนาขึ้นมองฟากอนจะ
กระอักโลหิตออกมาดวยความคับแคน ดวงจิตของพวกมันสั่นสะทาน ตบะพลัง
บำเพ็ญที่ฝกปรือมายังเริ่มสั่นคลอน คลายวาพวกมันพรอมจะพังทลายลงไดทุกเวลา
และตอใหพวกมันฟนตัวใหมไดอีกครั้ง ก็ยากที่ดานพลังของพวกมันจะบรรลุไดถึง
ขีดขั้นนี้แลว
การที่เหลาอัจฉริยะทั้งหลายจะฝกปรือมาถึงดานพลังเชนนี้ได สิ่งหนึ่งที่สำคัญ
ที่สุดก็คือจิตใจที่แนวแนยากจะสั่นคลอนแมจะตองหามรสุมอันใด!
อนิจจาหลังจากที่พวกมันถูกหวังเสี่ยวหมิงหลอกลวงปนหัวหลายครั้งหลายครา วันนี้
ปราณและโลหิตทั่วรางของพวกมันก็ปนปวนคุมคลั่งประหนึ่งธาตุไฟกำลังเขาแทรก!!
สำหรับตัวตนระดับพวกมันแลว เรื่องรายแรงเชนนี้นี้ไมควรบังเกิดขึ้นเด็ดขาด!
ถึงแมวาเหลาอัจฉริยะเหลานี้จะไดรับการหนุนเสริมจากสวรรคและโชควาสนา
จากการเปนบุตรแหงโชคชะตา แตพวกมันก็ตองฟนฝาเรื่องรายๆ และมรสุมใน
เสนทางฝกตนมาดวยตัวเอง เชนนั้นแลวใจของพวกมันก็ควรจะถูกประสบการณหลอ
หลอมเคี่ยวกรำใหแกรงดั่งเหล็กกลา
ทวา...จะอยางไรเสียแรงกระตุนอันสำคัญที่สุดที่นำพาพวกมันใหบรรลุมาถึงจุดๆ
นี้ได ทั้งหมดก็สืบเนื่องมาจากเรื่องราวความบาดหมางกับหวังเสี่ยวหมิง! และมันเปน
ความเกลียดชังที่ไดถูกปลูกฝงบมเพาะมานานนับสิบนับรอยป!!
มาวันนี้พอพวกมันไดรับรูความจริงอันโหดราย วาพลังอำนาจที่พวกมันใชแรง
แคนผลักดัน กลับไมอาจลางแคนสังหารอีกฝายไดหลังจากผานไปหลายป ซ้ำรายกอน
หนาพวกมันก็ตองทนทุกขกล้ำกลืนกับการแพพายมาแลวหลายครั้งหลายคราจนแทบ
บา! นี่คือความปวดราวในใจอันสุดแสนของเหลาอัจฉริยะ!!
โดยเฉพาะอยางยิ่งครั้งนี้...ชีวิตพวกมันโดนทำรายดวย สุดยอดขี้! นี่มันบัดซบถึง
ขั้นใด!? ปราการอันเขมแข็งในใจของพวกมันถูก ขี้ ทลายสิ้นแลววว!!
“มารอวตารหวังเสี่ยวหมิง ขาเกลียดเจา!!!”
“ดานพลังบมเพาะของขามีไปยังมีประโยชนอนั ใด หากมันมิอาจฆาหวังเสี่ยวหมิงได
...”
“หลังจากนี้ตัวขา คงเปนไดแคตัวตลก และเรื่องขบขันของผูคนบนโลกเสวียนหวง! มิ
แคลวขาตองถูกเสียงหัวเราะของผูคนถลมจนตายตก...”
“ยามเมื่อกายขาตายตกหวนคืนสูปฐพี เสนทางฝกตนของขาก็นับวาเปนอัน
สิ้นสุด...ชางเถอะ ขาไรอาวรณแลว”
“ศิษยพี่ทั้งหลาย ขาจักขอตกตายลวงหนาไปกอน! ขามิอาจทานรับความ
ลมเหลวครั้งแลวครั้งเลาตลอดเวลา 30 ปที่ผานไดอีกแลว...”
“ศิษยนอง...เจาลวงหนาไปกอนเถอะ พวกเราเองก็จักติดตามเจาไปไมหาง...”
...
ตอนนี้หลินฟานที่ชมดูเรื่องราวอยูก็อึ้งตะลึงไปแลว ‘เชี่ย! มันตองถึงขั้นนี้กันเลย
หรอไงวะเฮย! ไมใชวาพวกเอ็งก็แคแพพายลมเหลวไมกี่ครั้งรึไง?
พวกเอ็งตองสลดหดหู สิ้นหวังถึงขั้นคิดตายกันดวยเหรอ!?!’
แลวหากพวกมันฆาตัวตายหมูกันตรงนี้ แลวไอแผนที่เขาอุตสาวางไว ไมฉิบหาย
วายวอดหมดรึไง!?
“เฮอ จะวาไปทั้งหมดก็เพราะพี่ประมุขแทๆ ...เพราะพี่ประมุขมีความสัมพันธ
กับหวังเสี่ยวหมิง ทำใหเจาตัวแสบนั่นมันมีโชควาสนาไรประมาณหอมลอมหนุนเสริม
ถึงแมไอพวกนี้จะเปนบุตรแหงโชคชะตา แตพวกมันก็ไมอาจพลิกชะตาเมื่ออยูตอหนา
หวังเสี่ยวหมิงได...”
ในตอนแรกหลินฟานคิดวา เมื่อหวังเสี่ยวหมิงถูกเหลาอัจฉริยะมากมายขนาดนี้
รุมลอม ถึงแมวามันจะไดรับโชคลาภวาสนาจากเขาหนุนเสริมก็ไมนารอดการถูก
รุมทืบไปได... แตไมคิดเลยวาตัวแสบนั่นไมเพียงจะหนีรอดไปไดแบบสบายๆ กระทั่ง
ยังทำรายจิตใจของอัจฉริยะเหลานี้จนสาหัส!!
และดูทาความชอกช้ำใจครั้งนี้จะเลวรายหนักหนาไมธรรมดานัก พวกมันคิดฆา
ตัวตายกันแลว!!
จังหวะนีห้ ลินฟานรูสึกวา สมควรแกเวลาแลวที่เขาจะตองกาวออกไป! เพราะ
หากเขาไมทำแบบนั้น อัจฉริยะเหลานี้จะกลายเปนขยะไรประโยชนแลว!!
ตอนนี้ดานเหลาบุตรแหงโชคชะตาทั้งหลาย ก็ยอมจำนนตอฟา ไรซึ่งความหวัง
อันใดหลงเหลือในใจ พวกมันยกดาบกระบี่ขึ้นมา เตรียมจวงแทงตัวตายแลว!!
“อะแฮม...”
เสียงนี้เปนดั่งเครื่องย้ำเตือนอันกระจาง มันกังวาลไปทั้งโลกหลา...ทันใดนั้นไอสี
ดำเต็มไปดวยความเหม็นเนา รวมถึงความมืดมิดก็ถูกแสงสวางหนึ่งที่เรืองรองขึ้นมา
ปานจะชำระโลกหลาปดเปามลายหายไปสิ้น
“พวกเจาทั้งหมดลวนเปนสุดยอดอัจฉริยะของนิกายเมงกา...ความแข็งแกรงของ
พวกเจาไมวาจะดานรางกายจิตใจหรือพลังลวนเปนหนึ่งในลานทั้งสิ้น...นี่ก็เปนเพียง
แคความพายแพอีกครั้ง พวกเจากลับคิดหักใจฆาตัวตายไดยังไง...”
หลินฟานยางเยื้องอออกจากความวางเปลาอยางชาๆ ดานหลังของเขาเต็มไปดวยรัศมี
พลังเทวะ ประกายแสงนับหมื่นแสนเรืองรองเจิดจรัสออกมาสาดสองไปทั่วแดนดิน!
นำพาใหผูที่มองชมสิ่งนี้ลวนบังเกิดความคิดใครกมกราบยอมสยบดวยเคารพทันใด!!
“ทานเปนใคร?”
อัจฉริยะทั้งหมดทอดสายตาอาลัยชมดูรางผูมาใหมอยางหลินฟาน ในชวงที่
สภาพจิตใจเต็มไปดวยความสิ้นหวัง พวกมันไมอาจบอกไดทันทีวานี่เปนใคร...
และในขณะที่หลินฟานเตรียมจะประกาศตัวออกไปนั้นเอง อัจฉริยะคนหนึ่งที่
อยูในกลุมก็รีบกมลงไปหมอบกราบพรอมโขกหัวคารวะ
“ศิษยผูนอย คารวะทานบรรพจารยหลิน!!”
หลินฟานประหลาดใจไมนอย ไมคิดเลยวายังมีศิษยคนหนึ่งที่จดจำเขาได! แต
พอเขานึกยอนกลับไปถึงรูปปนภาวนา ที่เปนตัวเขาบริเวณลานกวางของนิกายเมงกา
เขาก็เขาใจได
รูปปนบรรณการที่มีไวใหผูคนกราบไหวบูชานั้นเหมือนกันกับเขาทุกประการ
ตราบใดที่มีคนแหงนมองชมดูสัก 2-3 ครั้ง ยอมจดจำเขาไดทันที นับประสาอะไรกับ
อัจฉริยะเหลานี้ที่เฝามองมันมาเปนเวลาหลายสิบป!!
อัจฉริยะคนอื่นเมื่อไดฟง สายตาที่พรามัวไรประกาย พลันสองสวางขึ้นมาอีก
ครั้ง ใจพวกมันตื่นตระหนกหนักหนา!
“อะไรกัน! มิใชวาทานบรรพจารยหลิงเยื้องยางดำเนินขึ้นไปยังโลกเบื้องบนแลว
หรือ? เหตุไฉนทานมาปรากฏตัวบนโลกเสวียนหวงได!!”
“เรื่องนี้ไมมีทางผิดพลาดไดแนนอน! นั่น เปนทานบรรพจารยหลิน!!”
“สภาวะนั่น ทวงทานั่น รัศมีพลังอันเลิศล้ำสุดไพศาลนั่น! เปนทาน! เปนทาน
บรรพจารยแนแลว!!”
ตึง ตึง ตึง!
ทันใดนั้นสั่นสะทานกึกกอง เหลาอัจฉริยะทั้งหลายคุกเขาลงไปอยางพรอมเพรียง
“คารวะทานบรรพจารยหลิน!”
ยามเมื่อพวกมันตาสวางไหนเลยยังจดจำไมได พวกมันนั้นคุนเคยกับหลินฟาน
นัก! นับตั้งแตที่มันกาวเทาเขามาเหยียบนิกายเมงกา เรื่องราวความยิ่งใหญทั้งหลาย
ของบรรพจารยหลินลวนดังจากปากเหลาอาวุโสไมขาดหู
และเหลาศิษยของนิกายเมงกาทั้งหมดรุนกอนหนาพวกมันนั้น ไดเติบโตขึ้นมา
ภายใตการดูแลเอาใจใสอยางดีของทานบรรพจารยหลิน! และในบรรดาขุนเขาทั้ง 9
ขุนเขาตานติ่งนับวาร่ำรือถึงหลินฟานมากที่สุด!
อัจฉริยะเหลานี้เองก็ตองการโอสถในการฝกฝนบมเพาะเชนกัน ดังนั้นพวกมัน
ทั้งหลายจะมากจะนอยก็ตองเคยไปเหยียบขุนเขาตานติ่ง และที่นั่นพวกมันก็ไดฟง
เรื่องราวเลิศล้ำปานเทพยาดาของทานบรรพจารยหลินมากมาย ขอบเขตจิตนิรมิตร
โอสถในตำนานก็ถูกทานบรรพจารยหลินสำแดงใหไดประจักษ!
อยางไรก็ตามพวกมันก็รูอีกเชนกัน วารอยปกอนนั้น ทานบรรพจารยหลินได
เยื้องยางไปยังโลกเบื้องบนแลว...
ดวยประการฉะนี้ ตัวตนที่แข็งแกรงทีส่ ุดในโลกเสวียนหวงก็ถูกผูคนรับรูโดยทั่ว
กัน เปนเอกฉันทไรซึ่งคำทัดทานอันใด!
“ทั้งหมดลุกขึ้นเถอะ...”
ในเมื่อตัวตนก็ไดเปดเผยไปแลว หลินฟานก็เริ่มเผยมาดผูอาวุโสอันนาเกรงขาม
ออกมาทันที
“เอาละ ตอนนี้พวกเจาทั้งหลายไหนลองบอกขามา...วาพวกเจากำลังคิดจะทำ
อะไรกัน? เพียงแคความพายแพเล็กนอย พวกเจากลับตั้งใจที่ละทิ้งชีวิตกันแลว...หาก
เปนเชนนี้แลวภายภาคหนาพวกเจาจะทำอยางไร พวกเจาจะฟนฝาไปยังเสนทางแหง
นิรันดรไดอยางไร?”
หลินฟานกลาวออกมา
“ฮึกกก ฮือออออออออ!! ทานบรรพจารยหลิน ไดโปรดใหความเปนธรรมแกเรา
ดวย! มารอวตารหวังเสี่ยวหมิงกำเริบเสิบสานเลวรายยิ่งนัก! ตลอดรอยปที่ผาน มัน
รังแกพวกเราหนักหนาแลว! ตอนแรกพวกเราก็คิดวาเมื่อสำเร็จวิชา กาวหนาใน
เสนทางฝกตน พวกเราจักมีพลังสามารถมากพอที่จักทวงคืนศักดิ์ศรีกลับมาจากมันได
แตมิคิดเลยวาสิ่งที่รอคอยพวกเราอยูคือความลมเหลวครั้งแลวครั้งเลา!
ตอนนี้พวกเรายังตองถูกมันเลนงานดวยสิ่งบัดซบนาขยะแขยงเชนนี้ พวกเรามิ
อาจสูหนาผูใดในหลาไดแลว!!”
“ฮึก...กลินเหม็นเนาสุดทานทนเยี่ยงนี้...ตอไปยังจะมีผูใดในหลาหาญกลาเขาใกลพวก
เรา? พวกเรายังหลงเหลือความหวังอันใดที่จักไปตอตานมารอวตารหวังเสี่ยวหมิง!!”
...
เมื่อเห็นใบหนาคับแคนสิ้นหวังจนแทบจะขาดใจของเหลาอัจฉริยะ ใจหลินฟาน
ก็รูสึกสงสารเวทนานัก! เขาเองก็โทษตัวเองในเรื่องนี้ไมนอ ย ที่ทำใหระดับความ
ยากเย็นในชีวิตของพวกมันสูงขนาดนี้...
เพราะสำหรับบุตรแหงโชคชะตาเหลานี้แลว...หวังเสี่ยวหมิงเปนความยากระดับ
สูงสุด ยากจนกระทั่งไรหนทางเปนไปได!!
ถึงแมวาตัวแสบหวังเสี่ยวหมิงจะถูกไลลาอยางตอเนื่อง แตสุดทายอีกฝายก็มี
สามารถเหนือชั้น พลิกกระดานไดในพริบตา ทำลายกองทัพใหญขนาดนี้ไดทั้งๆ ที่
ไมไดใชความพยายามมากมายอะไร เรื่องนี้ชางนาเศรานัก!
“ทานบรรพจารยหลิน ไดโปรดออกหนาชวยพวกเราสักครั้งเถอะขอรับ...! ปราบ
มารอวตารหวังเสี่ยวหมิง นำพาสันติใหหวนคืนสูโลกหลา!!”
ตอนนี้เองเหลาอัจฉริยะทั้งหลายก็เริมร่ำรองวิงวอนออกมา พวกพวกมันไมเห็น
หนทางอื่นใดในการเอาชนะหวังเสี่ยวหมิงไดแลว! ไมเพียงเทานั้นพวกมันยังถูกอีกฝาย
บีบคั้นถึงขั้นคิดใชความตายเปนทางออก!
ทวาหากทานบรรพจารยหลินลงมือจัดการเรื่องนี้ เรื่องราวทุกประการสมควร
งายดายแนแลว!
“ขาเองก็รูเรื่องราวของมารอวตารหวังเสี่ยวหมิงมาตั้งแตแรก และหากขาคิดจะ
สยบมันก็งายดายไมตางพลิกฝามือ...แตเรื่องนี้ขาบรรพจารยไมอาจกระทำได เพราะ
ตอนนี้หวังเสี่ยวหมิงนั้นถือเปนมารในใจที่คอยขัดขวางหนทางฝกตนของพวกเจา มี
เพียงแตพวกเจาสามารถกำราบหรือสยบมารในใจของพวกเจาไดเทานั้น พวกเจาถึง
จะสามารถทะลวงฝาไปยังเสนทางแหงนิรันดรได และเมื่อถึงวันนั้นยุทธพลังของพวก
เจาจะพุงทะยานยากที่ใครในหลาจะหยุดยั้งไดสืบไป...”
หลินฟานกลาวตอบ
“แตพวกเราก็รบรากับมันมากวารอยปแลวนะขอรับ! ทวาพวกเรามิอาจกระทำ
สิ่งใดกับมันไดเลย! หลังจากนี้ยังจักใหพวกเรามีความมั่นใจไดอยางไร?”
ตอนนี้ทุกผูคนนั้นคับแคนในใจ ทั้งยังทอแทอยางถึงที่สุด
มองไปยังเหลาอัจฉริยะหนาสลดทั้งหลายแตละคนๆ หลินฟานรูสึกปวดไขขึ้นมา
ตงิดๆ ถาเรื่องราวยังเปนแบบนี้สืบไป ตอไปเขาจะฝากฝงเรื่องราวใหพวกมันจัดการได
ยังไง?
เหตุผลหลักที่เขาปลูกฝงโลกเสวียนหวงนั้น เพราะเขาหวังจะสรางเหลากองทัพ
อันเปนตัวตนที่ทรงพลัง หลังจากนั้นเขาจะไดมีความมั่นใจในการรบรากับเจตจำนง
สวรรคของโลกเซียนโบราณ
และตอนนี้เขาก็เกือบจะทำสำเร็จอยูรอมรอแลว! ใครจะไปคิดวาเหลาสุดยอด
อัจฉริยะทั้งหลายจะหมดอาลัยตายอยากคิดตายหนีปญหา! ถลมยามันเถอะ!!
ตอนที่ 830 พวกเจาคือพระเอกของจักรวาลนี้
“เฮอ ชางเถอะ...! เห็นพวกเจาเปนแบบนี้ใจของขาบรรพจารยก็รูสึกเจ็บปวดนัก
เอาละ ขาบรรพจารยจะยกระดับศักยภาพและพรสวรรคของพวกเจาทั้งหมดใหบรรลุ
สูจุดสูงสุดแลวกัน...”
“แตกอนอื่นเลย ขาจะกำจัดสิงปฏิกูลพวกนี้บนรางกายพวกเจาใหหมดกอน”
หลินฟานเองก็คิดมาพักหนึ่งแลว หากเขาไมมอบผลประโยชนอะไรใหอัจฉริยะ
เหลานี้ คงยากที่จะฟนฟูจิตตอสูของเหลาบุตรแหงโชคชะตาที่แสนอาภัพกลุมนี้ได
ทันใดนั้น สายน้ำหนึ่งพลันหลั่งไหลออกมาหอมลอมหลินฟาน นี่คือวารีตน
กำเนิดที่สามารถชำระลางไดทุกสรรพสิ่งในหลา ตอนนี้ปศาจยักษโบราณเองก็ปลูกฝง
ธาตุทั้ง 5 เสร็จสมบูรณแลว ทำใหเขาสามารถใชพวกมันไดตามใจอยางงายดาย และ
พลังอำนาจของมันก็มิใชชั่ว!
วารีตน กำเนิดพุงออกจากรางหลินฟานดั่งมังกรทะยานมวนพันไปทั่วรางบุตร
แหงโชคชะตาทั้งหลาย พลังอำนาจลึกลับสุดหยั่งถึงชำแรกแทรกซึมเขารางบุตรแหง
โชคชะตาพรอมชะลางสิ่งปฏิกูลไปหมดสิ้น!
“ฮา!! หายไปแลว กลิ่นเหม็นเนานั่นหายไปหมดสิ้นแลว!!”
“นิ...นี่มัน หรือวานี่จักเปนวารีตนกำเนิดในตำนาน!!”
“มิผิดแน! สมควรเปนสิ่งนั้นแน! ทานบรรพจารยหลินชางล้ำลึกยิ่งนักสามารถ
ปลูกฝงถึงขั้นปลดปลอยวารีตนกำเนิดที่สามารถชำระลางทุกสรรพสิ่งในโลกหลาได!!”
“ทานบรรพจารยชางสมแลวกับที่เปนทานบรรพจารย! ขามิอาจชำระลางสิ่ง
โสโครกเหลานี้ไดแมขาจะเผาแกนแทโลหิตของขาจนหมดสิ้น ขายังคิดวาชีวิตของขา
สมจบสิ้นแตเพียงเทานี้แลวเสียอีก! ไมคิดเลยวาดวยการลงมืออยางไรเรื่องราวของ
ทานบรรพจารยหลิน จักมอบชีวิตใหมใหขาไดอีกครั้ง!!”
แมจะเกงกลาปานไหน แตจะอยางไรเสียบุตรแหงโชคชะตาเหลานี้ก็ยังอยูบน
โลกเสวียนหวง! เชนนั้นแลวก็มีบางสิ่งที่พวกมันไมอาจสรรหามาครองได!!
ยกตัวอยางก็เชนธาตุตนกำเนิดทั้ง 5 ถึงอาจจะมีพวกมันอยูในโลกเสวียนหวง
บาง แตปริมาณนั้นก็นอยนิดจนนาสังเวช
หากหลินฟานมีโอสถเจิ้งหยางอีกสัก 10 ลานลานละก็ เขายังสามารถใชฟงกชั่น
สมบัติเลิศล้ำหลนรวงจากแดนสรวง เพื่อเติมเต็มทรัพยากรบนโลกเสวียนหวงได ถึง
ตอนนั้นโลกเสวียนหวงก็จะอุดมสมบูรณไปดวยสมบัติเลิศล้ำมากมาย
“เอาละ คราวนี้มาใหขาบรรพจารยชวยยกระดับศักยภาพของพวกเจาเถอะ”
เรื่องนี้หลินฟานเองก็เตรียมตัวกระทำไวนานแลว
เขาเองก็ไมกลารับประกันไดวา ตัวเขาจะสามารถสยบเจตจำนงสวรรคของโลก
เซียนโบราณไดเมื่อวันที่โลกไรจำกัดเปดออกมาถึง อยางไรก็ตามถาหากเขาสามารถ
ยกระดับศักยภาพพรสวรรคของเหลาบุตรแหงโชคชะตาเหลานี้ไดละก็ เขาอาจจะ
ไดรับผลเลิศล้ำอยางคาดไมถึง!
ศักยภาพและพรสวรรคของเหลาบุตรแหงโชคชะตานี้แรกเริ่มเดิมทีก็สูงสงอยูแลว
และหากเขายกระดับพวกมันใหบรรลุจุดสูงสุดละก็ อัจฉริยะเหลานี้จะไมตางอะไรจาก
มัจฉาพบพานลำน้ำ จะไมมีใครในโลกที่สามารถประชันขันแขงกับพวกมันได!!
“ยกระดับศักยภาพพรสวรรคหรือ? มีเพียงโอสถทิพยในตำนานที่สามารถ
กระทำเรื่องราวเชนนั้นไดไมใชหรือ!?”
“ถูกตอง! แมบนโลกเสวียนหวงจะมียอดวิชาลึกลับมากมาย แตก็ไรวิชาใดที่
สามารถยกระดับศักยภาพและพรสวรรคได...”
“ตอนนี้พวกเราก็ฝกฝนมาจนถึงดานพลังเทพสวรรคอมตะแลว! ตอใหเปนบน
โลกเซียนโบราณ พวกเราก็ถือไดวาเปนตัวตนอันทรงพลังไมนอย ทวามิคิดเลยวาทาน
บรรพจารยหลินยังกลาวราวกับ ทานสามารถยกระดับศักยภาพใหพวกเราไดงายๆ !
แลวนี่ขีดขั้นพลังฝมือของทานบรรพจารยหลินบรรลุถึงขอบเขตใดกัน?”
“นากลัว ชางนาสะพรึงกลัวยิ่งนัก!!”
หลินฟานยื่นมือออกมา นิ้วของเขากวางใหญออกมาราวกับจะสามารถโอบอุม
โลกทั้งใบไวในกำมือ พลังงานลึกลับสุดพิศวงเปลงออกมาจากฝามือของเขาดั่งระลอก
น้ำ ทันใดนั้นมันก็ไปปกคลุมเหนือศีรษะเหลาบุตรแหงโชคชะตาทั้งหลาย
“การฝกฝน...จนเพิม่ พูน!”
ทันใดนั้นเองกลิ่นอายพลังมหาศาลพลันกำจายออกมาจากรางของบุตรแหง
โชคชะตาทั้งหลาย!
สำหรับบุตรแหงโชคชะตาเหลานี้ การยกระดับศักยภาพพรสวรรคของพวกมัน
ก็ประหนึ่งทลายเขื่อนเปดทำนบพลังอันลึกลับในรางของพวกมัน ทำใหมวลพลัง
มหาศาลดั่งน้ำเชี่ยวที่ถูกกักเก็บ ไหลหลากเออลนออกมาทั่วรางจนหมดสิ้น!!
และแรกเริ่มเดิมทีโชคชะตาของเหลาบุตรแหงโชคชะตากลุมนี้ก็มีรูปรางคลาย
มังกรยักษวนเวียนอยูรอบศีรษะของพวกมัน ทวาหลังจากที่หลินฟานยกระดับ
ศักยภาพพรสวรรคใหพวกมันแลว ก็ประหนึ่งพวกมันไดรับการกำเนิดใหมทันใด!
หลังจากนั้นความสัมพันธของพวกมันกับหลินฟานก็แปรเปลี่ยนไปอยางสิ้นเชิง!
ซูมมมมมมมมมม!!!!
โชคชะตาของพวกมันพวยพุงทะยานสูสวรรค! ดวยมีจำนวนผูวิวัฒณยกระดับ
มากมายถึงเพียงนี้ ประหนึ่งสวรรคจะถูกทะลวงเปดออก! การไดรับโชควาสนาถึง
ขนาดนี้เปนอะไรทีน่ าครั่นครามนัก! ยามนี้พวกมันสามารถฆาไดกระทั่งทวยเทพหมู
มาร! พบพระเจาสังหารพระเจา พบพระสงฆปลิดปลงพระสงฆ!!
ตอนนี้ถึงแมหวังเสี่ยวหมิงจะไดรับการคุมครองดูแลจากหลินฟาน แตหากมัน
โผลหนามาใหเหลาบุตรแหงโชคชะตาเหลานี้เห็นอีกครั้ง มันอาจจะไดรับผลกระทบ
อันเลวราย ถูกทุบตีอยางทารุณจากเหลาบุตรแหงโชคชะตา!!
“สะบั้น!”
หลินฟานจี้นิ้วออกเปนดัชนี ปรากฏกระบี่ที่ไมอาจมีใครมองเห็น สะบั้นสายใย
ชะตากรรมและความเกี่ยวพันธของบุตรแหงโชคชะตาเหลานี้ที่เชื่อมโยงกับเขาให
สะบั้นขาดหมดสิ้น หลังจากนั้นมือเปลี่ยนเปนกรงเล็บควาจับ ปลูกฝงสายใยชะตาที่ได
สะบั้นใหมันกลับกลายเปนโอสถชะตากรรม แลวเก็บลงไปในมิติเก็บของทันใด
ตอนนี้จะดีเสียกวาที่เขาเก็บรักษาชะตากรรมเหลานี้เอาไว ถึงเวลาที่เหลาบุตร
แหงโชคชะตาเหลานี้ถูกหวังเสี่ยวหมิงเคี่ยวกรำจนบรรลุจุดสูงสุดของพวกมัน เขาจะ
คืนชะตากรรมเหลานี้ใหพวกมันเสีย บางทีเรื่องที่นาเหลือเชื่ออาจจะอุบัติขึ้นมาก็
เปนได!!
ทันใดนั้นเองเหลาบุตรแหงโชคชะตาทั้งหลายพลันลุกฮือขึ้นมาเปนการใหญ!
“สวรรค! เปนไปไดอยางไรกัน! ศะ...ศักยภาพของขา! ขาสัมผัสได ศักยภาพของ
ขากำลังพุงทะยาน!!”
“ขาดวย! กาลกอนมีหลายสิ่งอยางที่ตัวขามิอาจเขาใจได ยามนี้ขากลับเขาใจจน
ปรุโปรงแลว!!”
“พลังฝกตนของขาขาติดแหง็กอยูที่จุดรอคอยเทพสวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 7 มา
เนิ่นนาน! ทวายามนี้ขารูสึกวาสามารถทะลวงฝาไปไดงายๆ และสามารถปลูกฝงแดน
สวรรคและโลกของขาไดแลว!!”
“ศะ...ศักยภาพของขาพเจากำลังเปลี่ยนแปลงไป!!”
ตึงงงงง!!!
ตอนนี้เองเหลาบุตรแหงโชคชะตาทั้งหลาย ลวนคุกเขาลงดังตึงโขกหัวทั้งน้ำตา
ตะโกนออกมาดวยมวลอารมณหมื่นพันีทกำลังเออลนยากจะกลาว ใบหนาของพวก
มันแมจะร่ำไหหากแตแจมใสอยางที่ไมเคยเปนมากอน!
“พวกเราขอขอบพระคุณทานบรรพจารยหลิน! ที่ทำใหพวกเราไดถือกำเนิดใหม!!”
ตอนนี้เหลาบุตรแหงโชคชะตากลับมาฮึกเหิมพลังใจเปยมลน จิตวิญญาณของ
พวกมันพุงสูงทะลุฟาอยางไรขอบเขต! พวกมันสามารถสัมผัสไดถึงพลังงานมหาศาลที่
กำลังแลนพลานไหลเวียนไปทั่วรางกายของพวกมัน!!
หวังเสี่ยวหมิงมันจะแนสักแคไหนกัน! พวกมันหาไดหวั่นกลัวอีกสืบไป!!
“ประเสริฐ! พวกเจาทั้งหมดจงจดจำเอาไวใหดี...แมจะผานมรสุมหนักหนาจน
ออนลาถึงเพียงใด ก็อยาไดยอทอยอมจำนนตอโชคชะตา... พวกเจาที่อยูรวมกัน ณ
ที่นี้ คือพระเอกของจักรวาล! ภายภาคหนาเมื่อเวลามาบรรจบ พวกเจาจะเปนดั่งรุง
อรุณแหงความหวัง ที่จะนำพาทุกผูคนบนโลกใหอยูรอด!!”
หลินฟานกลาวคำกอนจะพยักหนาอยางสงบ กอนที่รางจะเลือนลางหายไปในอากาศ
“ขอรับทานบรรพจารยหลิน!!”
ประโยคสุดทายกอนที่หลินฟานจะหายตัวมาอยางหลอ ไดเติมเต็มพลังใจใหแก
เหลาบุตรแหงโชคชะตาจนลนปรี่ พวกมันคือพระเอกของจักรวาล! เปนดั่งรุงอรุณแหง
ความหวังของอนาคต! โลกทั้งใบเฝารอใหพวกมันกอบกูนำพาใหอยูรอด!!
ตอนนี้บุตรแหงโชคชะตาทั้งหลายรูสึกไดถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาบนไหล! ตอนนี้
พวกมันคลายจะเปนตัวตนแหงความหวัง ที่แบกรับภาระอันหนักหนาของโลกหลาไว
ดวยสองเทาของพวกมัน!!
วาจาที่หลินฟานกลาวออกอยางไรเรือ่ งราวกลับเต็มไปดวยความคาดหวัง และ
เติมเต็มหัวใจของเหลาบุตรแหงโชคชะตาเหลานี้ใหใจพวกมันเปยมไปดวยความหวัง!
อันที่จริงกระทั่งจิตวิญญาณของพวกมันคลายจะยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ความฮึกเหิม
กระตือรือรนเพิ่มพูนเปนเทาทวี!!
และนี่คือสิ่งที่หลินฟานอยากเห็นเปนที่สุด!
หางออกไปนับหมื่นๆ ลี้ หวังเสี่ยวหมิงก็ยังคงโลดเตนไปบนโลกเสวียนหวง และ
ใฝหาความสุขไปทั่วทุกมุมโลก
สำหรับหวังเสี่ยวหมิงทุกสิ่งทุกอยางที่เกิดขึ้นนั้นเปนอะไรที่มันคุนเคยมานาน
แลว ในชวงเวลา 100 ปที่ผาน กลุมคนเหลานั้นไดพยายามเลนงานเขาทุกรูปแบบ แต
สุดทายทั้งหลายก็จะถูกมันถลมกลับไปอยางยอยยับ
และนี่คืออะไรที่ทำใหหวังเสี่ยวหมิงมีความสุขนักหนา!
“เฮอ! ไอพวกหัวกรวกนั่น มันก็มาวุนวายกับขาไมเลิกราอยูได ไฉนพวกมันจึงไม
เบิ่งตาดูใหชัดสักที วาขาเปนผูใด!?”
“คราวนี้ขาไปหาเมืองอื่นเลนดีกวา ความรูสึกที่ไดกลั่นแกลงรังแกผูคนนี่ชางดียิ่ง
นัก! แตก็นะหากขาปลูกความเกลียดชังใหผูอื่นเพิ่มมากขึ้น คงมิคอยดีสักเทาไร หาก
พวกมันมีจำนวนเพิ่มมากกวานี้อีกสัก 2 เทา ถึงตอนนั้นขาอาจจะควบคุมไมได!”
ตอนนี้หวังเสี่ยวหมิงกำลังใครครวญกับชีวิตของตัวเอง
ในชวงเวลา 100 ปที่ผานมา มันเที่ยวเลนไปเรื่อย สนุกสนานอยูตลอดเวลา
อยางไรก็ตามมีบางสิ่งที่ทำใหหวังเสี่ยวหมิงประหลาดใจนัก ไมวามันจะเที่ยวเลน
เหลวไหลสักเพียงใด แตดานพลังฝกตนของมันก็ยังคงเพิ่มพูนขึ้นไปอยางไมหยุดยั้ง
พรอมๆ กัน! และดวยพลังอำนาจที่เพิ่มพูนสูงขึ้นเรื่อยๆ หวังเสี่ยวหมิงก็รูสึกเสมือนแต
ละวันมันผันผานไปดวยความสุข!!
แตในบางเวลาหวังเสี่ยวหมิงก็มีบางที่จะรูสึกเหนื่อยลา เพราะวงจรและเสนทาง
สายนี้คลายไมมีวันจบสิ้น...ทั้งยังไมอาจหันหลังกลับได
“เฮอ...” หวังเสี่ยวหมิงระบายลมหายใจออกมา และรูสึกเศราๆ เล็กนอยกับ
อนาคตของตัวเอง
“เสี่ยวหมิง...”
ทันใดนั้นเองบังเกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นดานหลังหวังเสี่ยวหมิง หวังเสี่ยวหมิงตื่น
ตระหนกจนหนาเปลี่ยนสี! เพียงแคคิดวามีคนสามารถแอบเขามาถึงดานหลังของมัน
ได โดยที่มันไมรูสึกตัวสักเพียงนิด! นี่ทำใหหวังเสี่ยวหมิงรูสึกตึงเครียดไปไมนอย!!
ทวาเมื่อหันกลับมาและพบวาเปนผูใด สีหนาของหวังเสี่ยวหมิงก็เปลี่ยนไปเปน
เออลนดวยมวลอารมรณทันที!
“ลุงหลิน...!!!”
ตอนนี้หวังเสี่ยวหมิงรูสึกราวกับวา...โลกนี้มันสวางไสวขึ้นโดยพลัน!
“ฮือออออออออออออออออออออ”
ตอนที่ 831 ทานลุง หมิงหมิงปวดใจยิง่ !!
หลินฟานมองไปยังตัวตนที่ไดรับการขนานนามวาเปนจอมมารแหงยุค มาร
อวตารหวังเสี่ยวหมิงที่กำลังกอดขาร่ำรองแหงนมองเขาดวยสายตานาเวทนา... หากมี
คนอื่นเห็นเรื่องราวนี้เกรงวาพวกมันคงจะตกตะลึงจนขากรรไกรลางรวงไประพื้นแลว!
“เสี่ยวหมิง อา...อยาไดรองไหอีกเลย...” หลินฟานลูบหัวอีกฝายเบาๆ พรอม
กลาวคำปลอบใจ
“ฮึก ไม ทานลุง! ทานอยาไดปลอบใจขาเลย! ตอนนี้เสี่ยวหมิงอยากรองไหยิ่ง
นัก! ฮืออออออออ!!!” หวังเสี่ยวหมิงรูสึกเจ็บปวดในใจแปลบๆ ตลอดระยะเวลาหลาย
ปทีผานมา มันไดพยายามไปมากมายเหลือเกิน...
“เปลา...ไมใชอยางนั้น เจาจะรองไหก็รองไปเถอะ! แตเจาจะมารองตอนที่กอด
ขาลุงอยูไมได! เดี๋ยวน้ำมูกน้ำตาเจาเปอนขากางเกงลุงหมด!” หลินฟานกลาวดวยสี
หนาเหยเก ทาทางรังเกียจไมนอย
หวังเสี่ยวหมิงเงยหนาขึ้นมามองหลินฟานตาปริบๆ คนกำลังรองไหเศราสลด
หากแตมาถูกหยุดเพราะเรื่องนี้...มันก็ถึงกับอึ้งไปไมนอย! มันถอยออกมาคอยกลาว
อยางสลดใจ...
“ทานลุง! ใจของเสี่ยวหมิงปวดราวยิ่งนัก!” หวังเสี่ยวหมิงกลาวออกดวยน้ำเสียง
หดหูใจ
“เจายังจะเศราจะปวดราวอะไรกันหา ไมใชวาเจาใชชีวิตไดอยางแสบสันมา
ตลอดรอยปที่ผานหรือไง? อัจฉริยะเหลานั้นถูกเจารังแกจนแทบฆาตัวตาย! แถมจากที่
ไดฟงมา เจายังไปเลนชูกับภรรยาของผูอื่นอีกไมใชรึไง บัดซบ! เปนชูกับเมียผูอื่นไมพอ
ลูกในทองนางยังเปนของเจาอีก! แตตอนนี้เจามาบอกขาวาใจเจาปวดราวเนี่ยนะ!?”
เมื่อหลินฟานไดยินหวังเสี่ยวหมิงบนออกมาเขารูสึกจนปญญาไมนอย ตัวแสบนี่
มันจะเปนคนไรยางอายขนาดนี้ไดยังไง? มันเลนกับอัจฉริยะเหลานั้นราวกับหยอกลูก
ลิงตลอดรอยป!!
และถึงมันจะรังแกผูคนไปนับหมื่น แตก็ไมจำเปนตองใชวิธีเหลวไหลบางประการ!
โดยเฉพาะอยางยิ่งในกรณีของอัจฉริยะหญิงเหลานั้น ใหตายหลินฟานก็ไมเชื่อ
วาเจาหวังเสี่ยวหมิงนี่จะไมเคยฉุดพวกนางมารังแก
ทันทีที่หวังเสี่ยวหมิงไดยินคำหลินฟาน หนามันก็ชะงักคางไปทันใด กอนที่จะเผย
ทาทางไมเขาใจออกมา “ทานลุงหลิน! ขาไปเปนชูอะไร? ลูกขาที่ไหน? ไอพวกกรวก
นั่นมันใสความขานะ!!”
“ขาจะบอกใหทานฟง เนิ่นนานมาแลว มีตัวบัดซบคนหนึ่งมันมาปรักปรำขาวา
ไปเปนชูกับภรรยามัน! แตขาบอกมันใหตายวาขาไมไดทำมันก็ไมยอมเชื่อขา! ทั้งเมื่อ
มันใสความขาแบบนี้ขาจะไปยอมไดอยางไร ขาจึงกระทืบมันเสีย! ตอมาขาถึงไดรูวามี
คนอางตัวเปนขาทั้งใชนามของขาไปกอเรื่อง! เปนขาแบกหมอกนดำมากวา 10 ป!
และถึงขาจะออกไปพูดความจริงเทาไหรก็ไมมีใครเชื่อขาเลย!!”
ดวงตาหวังเสี่ยวหมิงเต็มไปดวยน้ำตา “ทานลุง ความปวดราวในใจของเด็กนอย
คนนี้หนักหนานัก ขาไมอาจบอกกลาวตอผูใดไดเลย!”
“งั้นเหรอ” หลินฟานเองก็ไมคิดวาหวังเสี่ยวหมิงจะแบกหมอกนดำอะไรจริงๆ ...
และจากที่เขาดู สวนมากอาชญากรรมที่อีกฝายกอก็ลวนเปนเรื่องไรสาระทั้งนั้น!
“แลวพวกนั้นเลา ไหงถึงไดมีจำนวนมากมายนัก? นี่เจาคงไมไดออกไปรังแกผูคน
เลนทุกวันหรอกนะ?”
ตอนแรกเมื่อหลินฟานเห็นผูคนมากมายเขาก็ยากที่จะทำใจเชื่อได หากตัวแสบนี่
ออกไปรังแกคนทุกวัน ปหนึ่งสมควรสรางโจทยไว 365 คน! รอยปยอมหมายความวา
ตองมีผูคนโดนรังแก 3 หมื่นกวาคน และเมื่อมองจากจำนวนอัจฉริยะ 10,000 คน
แลว คิดงายๆ อีกฝายก็สมควรออกไปรังแกผูคนไมนอย เรียกไดวา 3 วันรังแกไป 1
คนก็วาได!!
หลินฟานไมพูดก็ดี แตพอพูดแลวจึงทำใหหวังเสี่ยวหมิงบอน้ำตาแตกอีกครั้ง
“ทานลุง! ขาถูกใหราย! ขานับแลวนับอีก อยางไรขาก็จดจำไดวาขากลั่นแกลง
รังแกผูคนไปแค 6,000-7,000 คนเทานั้น สวนพวกที่เหลือนั่นมันพวกตัวเลวรายแค
หาโอกาสผสมโรง ดวยคิดจะจัดการขาเทานั้น! ขายังไมเคยไปทำอะไรใหพวกมันเลย!
ทานลุง ทานไมคิดหรือวาชีวิตของขามันชางรันทดยิ่งนัก!?”
หวังเสี่ยวหมิงสะอืน้ ไมหยุด ตอนนี้มันไดพบกับหลินฟานแลว มันสามารถระบาย
ความอัดอั้นตันใจออกมาไดเสียที
ใครจะไปรูวาใครกันแนที่ไปปลุกเรายั่วยุคนอื่น แตเรื่องที่อยูดีๆ หวังเสี่ยวหมิงก็
มีศัตรูผุดโผลออกมา 3,000-4,000 คนนั่นก็จริง! เกรงวาหากใครที่ไมรูความจริงมา
เห็น ก็คงคิดวาหวังเสี่ยวหมิงตองไปฆาลางตระกูลใครมาแนๆ
“ฮัยยา...งั้นเหรอ? ดูเหมือนวาเจาเองก็ลำบากไมนอยเลยนะ...”
หลังจากที่หลินฟานไดฟงคำจากปากหวังเสี่ยวหมิง หลินฟานก็รูดีวานี่คงเปน
โศกนาฏกรรมของหวังเสี่ยวหมิง ในเมื่อเรื่องมันเกิดไปแลว เขาก็ทำไดแคปลอยใหมัน
เปนไปเทานั้น
“ทานลุงหลิน พวกเรายุติเรื่องนี้ดีหรือไม? อันที่จริงเรื่องนี้มันก็สนุกสนานยิ่งในชวง
ไมกี่สิบปแรก...แตในชวงไมกี่สิบปหลังมานี้ เรื่องราวมันเคี่ยวกรำจนขาแทบตายแลว!”
“ขาคิดถึงทานพอ ทานแม! ขาอยากกลับบาน! แตตอนนี้ขาก็มิอาจกลับบานได! ทาน
ลุงดูสิ! ตราบใดที่ขาคิดกลับบานนะ เพียงเดินทางไปไมทันถึงครึ่งวัน ขาก็ตองพบพาน
ผูคนที่มาทำรายขา! แลวนี่ชีวิตขายังหลงเหลืออิสระภาพอันใดอีกเลา? ฮืออออ!!”
“ทานลุง แลวทานดูสิ เปนเวลากวารอยปแลวขายังมิอาจมีภรรยาได! ตอนนี้
ตระกูลหวังอาจสิ้นไรลูกหลานแลว! ทานลุงชีวิตขานาอนาถถึงเพียงนี้ ทานลุงตองชวย
ขานะ!!”
หวังเสี่ยวหมิงร่ำรองออกมา ทาทางแลดูเศราสลดหดหูนัก
“อะไร ไมใชเจาลอลวงอัจฉริยะหญิงคนหนึ่งใหไปคอยเจาที่ริมน้ำเพื่อจะหนีตาม
กัน กอนจะลอบไปขโมยมรดกของนางหรอกหรือไง? ถาตอนนั้นเจารวบทั้งนางทั้ง
มรดกไปเลยจะไมดีกวาเหรอ?” หลินฟานยังคงรูสึกวาเรื่องราวทั้งหมดเปนเพราะหวัง
เสี่ยวหมิงทำตัวเอง เห็นไดชัดวามันมีโอกาสมากมายมากองอยูตรงหนา แตกลับไมควา
เอาไว ยังโทษใครไดละ?
“ทานลุง ทานกลาวเชนนั้นก็ไมถูกนะ! ทานไมลองชมมองรูปรางหนาตาของ
อัจฉริยะหญิงนั่นใหดีเลา? นางชางนากลัวยิ่งนัก! ใบหนาของนางนั้นชางหลอกหลอน
สยองขวัญผูคนเหลือเกิน! โอย...เพียงแคชมดูก็สั่นสะทานไปทั้งกายใจแลว! หากขาตื่น
นอนขึ้นมาแลวเห็นหนานางเปนสิ่งแรก ทานจักใหขาดำรงชีวิตอยูไดอยางไร! หากมิใช
เพราะวานางมีสมบัติเลิศล้ำ ขายังจะไปยุงวุนวายอะไรกับนางหรือ!?”
“ตอนนั้นนะ ยามขาเห็นใบหนาอันนากลัวของนางชัดๆ ครั้งแรก ขาถึงกับหวาด
ผวาไป 3 วัน 3 คืน! อา...มันชางนากลัวเหลือเกิน! โอยทานลุง...หัวใจหมิงหมิงถูกทำ
รายจนมีแผลลึกยากจะหายแลว!”
เมื่อกลาวถึงอัจฉริยะหญิงคนนั้นใจหวังเสี่ยวหมิงก็สั่นสะทานดวยความ
หวาดกลัว นางคือตราบาป! ตราบาปที่ไมสมควรดำรงคงอยูในโลกหลา! ยังมีใครใน
แดนดินทานทนอยูกับนางได!!
หากไมใชเพราะหัวใจของมันมั่นคงมากพอ มันอาจจะหวาดกลัวใบหนาของนาง
จนตกตายไปแลวก็เปนได!
หลินฟานเองก็ไมไดคาดหวังวาแตละวันของหวังเสี่ยวหมิงในรอบรอยปที่ผานจะ
เรียบงายและสวยหรู...
“นี่เจาตองการกลับไปตระกูลจริงๆ นะเหรอ แลวถากลับไปไดแลว...เจาคิดจะ
ทำอะไรกันละ หืม?” หลินฟานกลาวถาม
“ใชๆ ๆ ขาอยากกลับไปทานลุงหลิน! หากนับตามเวลาปานนี้ขาสมควรกลับ
บานและรับตำแหนงประมุขตระกูลหวังจากทานพอแลว! ขาจักไปใชชีวิตอยางสงบ
เรียบงาย มีภรรยาไมตองเยอะ มีลูกนอยสัก 2-3 คนขาก็พอใจแลว!!”
หลังจากที่ลองคิดไปครูหนึ่ง หวังเสี่ยวหมิงก็ยังคิดวาวันเวลาเชนนั้นละ ที่มันอาจ
ตองการ...?
“แลวเจาไมอยากรังแกใครอีกแลวหรือไง?” หลินฟานกลาวถาม
หวังเสี่ยวหมิงรีบโบกไมโบกมืออยางเรงรีบ “ไมแลว ไมเอาอีกแลว! หลังจากผาน
ไปรอยปกับการรังแกผูอื่น ตอนนี้ขาแทบจะอวกอยูแลวพอไดยินคำวารังแก ยอนกลับ
ไปยามนั้น ขานาจักทำตัวเปนคนดี และคอยชวยเหลือผูตกทุกขไดยากเสียมากกวา...”
‘ชวยกับเชี่ยเถอะ!’
ทันทีที่หลินฟานไดยินเรื่องนีเ้ ขาก็อึ้งไปทันใด นี่คนที่รักในการรังแกผูอื่นเปนชีวิต
จิตใจ...ยังมีวันรูสึกผิดเพราะรังแกผูอื่นไดจริงๆ หรือ? นี่มันกำลังจะกลับตัวกลับใจแลว
จริงๆ ?
แตวาเรื่องนี้ใหอีกฝายกระทำไมได! หากปราศจากรางกายพิเศษของหวังเสี่ยวหมิง
ความกาวหนาของเหลาบุตรแหงโชคชะตาอาจจะชาเกินไป เขาตองทำใหเรื่องนี้มัน
ดำเนินการไปตอใหได!!
“เอาละ งั้นลุงจะพาเจากลับบานตอนนี้เลยแลวกัน”
ทันใดนั้นหลินฟานพลันสะบัดผาคลุมคราหนึ่ง และใชพลังหอหุมรางหวังเสี่ยวหมิงไว
คอยพุงทะลวงผานชองวางแหงความวางเปลา พริบตาเดียวก็มาโผลในคฤหาสนของ
ตระกูลหวัง
หลังจากผานไปรอยปตระกูลหวังก็ยังคงแข็งแกรง อำนาจของตระกูลแผซา น
ขจรขจายออกไป อยางไรก็ตาม ยังคงจำกัดขอบเขตอยูแคในเมืองเทานั้น
อยางไรเสียตอนนี้ตระกูลหวังก็เติบโตขึ้นอยางนากลัว มีคนของตระกูลอื่นๆ มา
เขารวมและยินดีรับใชมากมายนัก
“อะ! ทานลุง แลวทานพอขาไปไหนเสียแลวเลา แลวเจานั่นที่นั่งอยูนั่นมันเปน
ใครกัน? ใยมันถึงไดเปนผูนำตระกูลหวังไดเลา?!” หวังเสี่ยวหมิงมองชายวัยกลางคนที่
นั่งอยูบนเกาอี้ผูนำตระกูลดวยความประหลาดใจ
“เสี่ยวหมิงเอย...เวลามันผานไป 100 ปแลว นี่คือรุนที่ 6 ของเจา คนนั้นอาจจะ
เปนหลานของหลานชายของเจาก็ได...” หลินฟานเองก็ไมแนนใจสุดทายจึงสะบัดมือ
ปรากฏมานแสดั่งจอภาพหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหนา
“เจาดูสิ นี่เปนพอเจา...แลวนี่ก็นองชายเจา นี่เปนหลานเจา...แลวนี่ก็ลูกของ
หลานชายเจา...ทั้งหมดกำลังปดดานบมเพาะกันอยางสันโดษ... ไหนบอกขาซิวาตอนนี้
เจายังจะอยากกลับไปอยูไหม แตถาเจากลับไป เจาก็ตองไปแยงเกาอี้ผูนำตระกูลกับ
คนรุนใหมในตระกูลเจาแลวนะ?” หลินฟานกลาวถาม
“ขา...ขา...!!” ทันทีที่หวังเสี่ยวหมิงเห็นเรื่องนี้รางมันก็ชะงักคางปานถูกแชแข็ง
มันแทบไมอาจหายใจไดทั่วทอง สิ่งเดียวที่มันอยากทำคือรองไห...
“ทานลุง...! นี่มันไมยุติธรรมเลย! ขายังมิมีโอกาสไดสัมผัสถึงความรูสึกของการ
เปนผูนำตระกูล! แถมตอนนี้ที่ตระกูลยังมีลูกหลานมากมายแลว! นี่ชางแยยิ่งนัก!!”
ทุกอยางมันเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปจนหวังเสี่ยวหมิงไมอาจตั้งตัวได
ไมใชวามันแคคิดจะกลับบานมาหลังจากที่เวลามันผานไปแค 100 ปหรือไง?
ไหงเรื่องราวในโลกถึงแปรเปลี่ยนไปเชนนี้ละ!?
หลินฟานตบไหลหวังเสี่ยวหมิงเบาๆ กอนจะกลาวคำดวยน้ำเสียงเขาใจ
“เสี่ยวหมิงอา...เจาฟงลุงนะ เจากลับไปทำเรื่องที่เจาเคยทำตอและคอยกลั่น
แกลงรังแกผูอื่นใหมากเขาไวเถอะ ลุงสัญญาวาถึงเวลาที่เหมาะสมลุงหลินจะยกโลกทั้ง
ใบใหเจาเปนเจาโลกเลยดีหรือไม?”
ดวยฟงกชั่นผูสรางในตอนนี้ หลินฟานยอมสามารถรวบรวมโลกไรจำกัดไดมาก
ขึ้นแนนอนในภายภาคหนา ถึงตอนนั้นแลวคงไมไดมีปญหาอะไร หากเขาคิดจะยกโลก
สักใบใหหวังเสี่ยวหมิง!
“เสี่ยวหมิง เจายังไมพอใจหรือ?”
เมื่อเห็นหวังเสี่ยวหมิงเงียบไปหลินฟานคิดวามันคงยังไมพอ ดังนั้นเขาจึงเพิ่มอีกหนึ่ง
อยางไรก็ตามที่หลินฟานไมทันรูเลยก็คือ ในตอนที่หวังเสี่ยวหมิงไดยินวาหลินฟานจะ
ยกโลกทั้งใบใหมันเปนจาว ใจของมันก็เต็มไปดวยความยินดีสุดแสน และในขณะที่มัน
จะตอบสนองอะไร มันก็ไดยินคำลุงหลินเพิ่มใหเปน 2 โลกแลว! ใหตายเถอะ ตอนนี้
มันมีความสุขจนแทบสิ้นสติแลว!!
“ทานลุง...ขาขอ 3 แลวกัน หากขาไดเปนเทพ 3 โลก! ขาจะคอยรังแกผูคน
ตอไปดวยใจตั้งมั่น!!” หวังเสี่ยวหมิงกลาวคำออกมาอยางไหลลื่น
“แนนอน ไมมีปญหา! ไมใชแคโลก 3 ใบรึไง จิ๊บๆ หนา! ลุงหลินใหเจาได
สบาย!!” ตอนนี้หลินฟานพลันหัวเราะออกมา เด็กนี่ชางยอดเยี่ยมนัก! พูดงายๆ ก็ตก
ลงแลว เชื่อฟงดีจริงๆ ดี!!
“ขอบคุณทานลุง...!” ตอนนี้หวังเสี่ยวหมิงยิ้มแยมแจมใสนัก ความเจ็บปวดอะไร
ในรอบ 100 ปที่ผาน คลายถูกโยนทิ้งไวดานหลัง สำหรับหวังเสี่ยวหมิงแลว...ตอนนี้ใน
ใจมันมีเรื่องราวประการเดียวเทานั้น คือไดเปนจาวโลก!!
“จัดไป!”
หลินฟานยิ้มออกมาอยางถึงพอใจ กอนที่จะสะบัดนิ้วคราหนึ่ง ทันใดนั้นเอง
ปรากฏหยาดหยดโลหิต 1 หยด ลอยลองในอากาศ มันสั่นไหวอยางแรงกอนที่จะพุง
วูบหายไปในรางกายของหวังเสี่ยวหมิง
ในตอนนี้บุตรแหงโชคชะตาทั้งหลายมีศักยภาพสูงสุดเพราะเขาจัดให ตอนนี้
หากเขาไมมอบอะไรที่โกงๆ ใหหวังเสี่ยวหมิงสักหนอย เดี๋ยวอีกฝายจะโดนพวกรุม
กระทืบแทนที่จะไดไปรังแกผูคนเอา..!
ตอนที่ 832 ปดดาน ขาตองปดดานอยางสันโดษ
“ลากอนขอรับ ทานลุง!”
หวังเสี่ยวหมิงมองรางหลินฟานที่คอยๆ หายไป ดวยใบหนาจริงจังแฝงความ
เศราพรอมโบกมืออำลา ทวาหลังจากที่หลินฟานหายไปแลวใบหนาของมันก็เผยความ
ลิงโลดออกมาทันใด!
“พวกเจาทั้งหมดไดยินเรื่องราวแลวใชหรือไม? ตอไปในอนาคต ขาราชันผู
ยิ่งใหญคนนี้ จักไดเปนเทพ 3 โลก! พอคิดวาอัจฉริยะพวกนั้นมันกลาเสนอหนามาหา
เรื่องขา...พวกมันชางไรเดียงสายิ่งนัก! พวกมันไมรูหรือไรวาใครหนุนหลังขาอยู
เหอะ!!”
หวังเสี่ยวหมิงปลดปลอยเหลาวายรายทั้งหลายออกมาจากวิมานฟา
“ทานราชันผูยิ่งใหญขอรับ...ทาน...ทานเหน็ดเหนื่อยกับเรื่องราวเหลานี้แลวจริง
หรือ?” เมื่อเหลาวายรายออกมาตางก็ไถถามหวังเสี่ยวหมิงดวยความหวั่นใจ ตอนนี้
พวกมันทั้งหมดลวนลงเรือลำเดียวกันกับหวังเสี่ยวหมิงแลว! หากหวังเสี่ยวหมิงสละ
เรือขึ้นฝง เชนนั้นใยมิใชพวกมันตองลอยเควงอยูในเรือลำนั้นเพียงลำพังหรือไร?!
“ใครบอกพวกเจากันวาขาเหน็ดเหนื่อย?” หวังเสี่ยวหมิงปลอยทั้งหมดออกมากอนจะ
ตอบคำถามดวยคำถาม หากมันเหน็ดเหนื่อยกับเรื่องนี้ ไมใชวามันเปนแคลานอยโงงม
หรือไร?! ชีวิตที่มีสีสันและสนุกสนานทุกคืนวันเชนนี้ ยังจะหาที่ไหนไดอีกเลา!?
“อาว...แตเมื่อครูทาน...!!”
“เพย ไอพวกหัวถั่ว! นั่นมันทานลุงหลินของขาเชียวนะ! อยูตอหนาลุงหลินแนนอนวา
ขาตองกระทำตัวใหนาสงสารเขาไวสิ! และยิ่งขาทำเหมือนเรื่องราวมันหนักหนาจนใจ
ขารวดราวมากเพียงใด ลุงหลินยอมเห็นใจและใหผลประโยชนขามากขึ้นเทานั้น! นี่
พวกเจาคิดวาขาเฝาเหน็ดเหนื่อยรังแกผูคนมาเปน 100 ปเพื่ออันใดกัน หา?”
“ขาหาใชตัวโงงมไม! เชนนั้นแลวขาจักไมเขาใจความคิดอานของทานลุงหลินได
อยางไร! ขาราชันผูยิ่งใหญผนู ี้…เปนดั่งหินลับมีดใหพวกอัจฉริยะหัวกรวกเหลานั้น! ขา
ตองบีบคั้นพวกมัน ยั่วยุพวกมัน เพื่อกระตุนใหพวกมันฝกฝนบมเพาะยางแข็งขัน!
ถึงแมงานนี้อาจจะดูนารังเกียจและเหน็ดเหนื่อยไมนอย แตพลังอันยิ่งใหญยอมมา
พรอมภาระอันใหญยิ่ง!!”
ทุกคำที่หวังเสี่ยวหมิงบอกกับหลินฟานกอนหนา...ลวนเปนการเสแสรงทั้งสิ้น!
ถึงแมวามันจะเหนื่อยและวุนวายไปบางที่ถูกตามลาเปนรอยป แตมันก็สนุกสนานกับ
ชีวิตของมันนัก!!
ตำแหนงผูนำตระกูลหวัง? มันจะไปสนใจเรื่องอะไรแบบนั้นไดยังไง?
“ทานราชันผูยิ่งใหญ...ทานลุงหลินของทานนี้ เปนผูใดกันหรือขอรับ?” เหลา
วายรายทั้งหมดนี้ พวกมันลวนสยบตอพลังอำนาจของหวังเสี่ยวหมิงอยางศิโรราบแลว
พวกมันเองก็เคยเปนตัวเลวรายที่กอกรรมทำเข็ญมาไมนอย และถาพวกมันนั้น
ไปเผลอลวงเกินตัวตนทรงพลังเขาสักคนละก็...ชีวิตของพวกมันนับวาแทบพบพาน
ทางตัน นี่เปนเรื่องที่ชวนใหปวดหัวหนักหนา! แตราชันผูยิ่งใหญของพวกมันนั้นตาง
จากพวกมันนัก แมอีกฝายจะถูกตัวตนอันทรงพลังหมายหัวมากมายมหาศาลเชนนั้น
แตทานยังคงใชชีวติ ไดอยางหรูหราอูฟ ู เรียกไดวามีสีสันนัก! นี่เปนอะไรที่ชางเหลือเชื่อ
โดยแท!!
"ฮี่ๆ ๆ ทานลุงหลินนะหรือ...ทานลุงหลินคือผูหนุนหลังอันยิ่งใหญของขาอยางไร
เลา! ทานลุงหลินของขาราชันผูยิ่งใหญ คือตัวตนที่แข็งแกรงที่สุดในจักรวาล!! พอๆ
พวกเจาจะถามใหมากความทำอะไร รีบยายไปยังฐานที่มั่นถัดไปไดแลว! โชคดีนะ ที่
ขาราชันผูยิ่งใหญของพวกเจาเปนคนที่มีความสุขุมรอบคอบ… ขาไดเตรียมการมาเนิ่น
นานและสรางฐานที่มั่นเอาไวมากมาย
นับไมถวนเอาไวใหพวกเราคอยๆ ละเลนกับพวกอัจฉริยะหัวกรวกนั่น!" ตอนนี้
จิตวิญญาณของหวังเสี่ยวหมิงลุกโชนขึ้นมาอยางฮึกเหิม! โดยเฉพาะอยางยิ่งหลังจากที่
ไดพบกับหลินฟานแลว ตอนนี้มันมีความมั่นใจอยางมาก!!
พวกหัวกรวกนั่นก็ไมใชแคอัจฉริยะหรือไง? เมื่อถึงเวลาที่เขาเลนกับพวกมันจน
หมดหนาที่ เขาก็จะกลายเปนจาวโลกปกครองพวกมัน! แลวพวกมันนะเหรอ ไมสน
หรอก! ก็แคเกมการละเลนขำๆ เทานั้น!!
“ทานราชันผูยิ่งใหญจงเจริญ!!” ถึงแมเหลาวายรายจะยังไมรูแนชดั วาลุงหลิน
เปนใคร แตเมื่อพวกมันไดยินราชันผูยิ่งใหญของพวกมันเทิดทูนอีกฝายขนาดนั้น ทำ
ใหพวกมันรูดี โลกหลาใบนี้ ตัวตนที่นาพรั่นพรึงที่สุดสมควรเปน ลุงหลิน ผูนี้นี่ละ!!
ตราบใดที่มีตัวตนอันยิ่งใหญหนุนหลังอยู ยอมเหิมเกริมไดตามใจ ใดๆ ลวนดีเยี่ยม!!
ทุกอยางในโลกเสวียนหวงนัน้ ลวนอยูในกำมือของหลินฟานทั้งสิ้น ถึงแมวาเหลา
อัจฉริยะเหลานี้จะทุกขบางลมลุกคลุกคลานบาง แตทั้งหมดก็เพื่อเคี่ยวกรำหลอหลอม
ใหพวกมันเปนยอดคนอันทรงพลังถึงที่สุด และเขามีแตตองกระทำเชนนี้เทานั้น...
ณ โลกเซียนโบราณ ฐานที่มั่นของชนเผามหามังกร
หลินฟานดึงสำนึกสติออกจากโลกเสวียนหวง เวลาทั้งหมดที่เขาลงไปจัดการ
เรื่องราว ยังพึ่งผานไปแควันเดียวเทานั้น...
เมื่อเปดประตูออกมาจากบานพัก หลินฟานแหงนมองฟาเล็กนอย... ถึงเวลาที่
เขาจะออกจากชนเผามหามังกรแลว!
“พี่ใหญ...!”
ทันใดนั้นเองเจาชิคกี้ตีปกเหินรางมาแตไกล
เมื่อหยุดลงบนไหลหลินฟานเจาชิคกี้ก็เงยหนามองฟาไกลตาดวยอีกตัว “พี่ใหญ
ไดเวลาที่พวกเราจะมุงหนาไปสรางความยิ่งใหญกันแลว...”
“ฮัยยา ชิคกี้เอย....ใหตายเถอะ! พี่ชอบฟงเจารองกุกกุกกูมากกวา ทุกครั้งที่ได
ยินเสียงพูดปกติ พี่คันหูเหลือเกิน!!”
“กุกกุกกู!!”
ชิคกี้เงยหัวขึ้นรองออกมาเสียงดังกอนจะเอาหัวถูไถแกมของหลินฟานอยางออดออน
“ฮาๆ ๆ ๆ ๆ !!!”
หลินฟานระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังสนั่น เจาชิคกี้อยูกับเขาตั้งแตเล็กแตนอย
ดังนั้นความสัมพันธของทั้งคูล ึกซึ้งนัก ไมตองกลาวอะไรแคมองตาก็เขาใจกันแลว
“โวะ! ชิคกี้ดูเหมือนเจาจะโตขึ้นนี่ แพนหางเจางอกออกมาอีกเสนแลวนี่หวา
ดานพลังของเจาก็เพิ่มขึ้นมาดวยแฮะ!” หลินฟานตระหนักวาเจาชิคกี้เหมือนจะ
แข็งแกรงขึ้น ทำใหเขาประหลาดใจไมนอย
ดูเหมือนวาพอแมของเจาชิคกี้จะใหอะไรมันมาไมนอยเลยงั้นสินะ?
“กุกกุกกู!!”
ทันใดนั้นเองปรากฏราง 3 รางเหินมาแตไกล
ไกพี่ใหญ ไกสอง และไกอวน อันเปนลูกชายนิสัยเสียของเจาชิคกี้ก็มีดานพลังฝกตนดี
ขึ้นไมนอยเชนกัน อยางไรก็ตามยิ่งมาพวกมันยิ่งยึดมั่นในวิถีทางของพวกมันหนักขอ...
ไกทั้ง 3 มาหยุดยืนคลอเคลียที่ขาของหลินฟาน คลายพวกมันคิดจะเดินทางติดตาม
หลินฟานไปประกาศศักดิ์ดา ตามรอยบิดาสรางชื่อใหเลื่องลือขจรขจายทั่วหลา!!
“เฮอ...! ลูกนอยของขากับหลานมาไดไมทันไรจักออกไปกันอีกแลว...ถึงแมวาขา
จักมิเต็มใจเทาใดก็ตาม แตการจักเปนตัวตนอันทรงพลังแข็งแกรงไดก็ตองฝาฟนความ
ลำบากผานการเคี่ยวกรำ ขาหวังวาเจาจักดูแลเด็กนอยใหดี…” สื่อเฟงปรากฏกายขาง
หลินฟานกอนจะกลาวออกมาอยางหวงๆ สวนเทพมังกรนั้นมันไมไดหวังอะไรมากไป
กวาเรื่องนี้อยูแลว!
ทันทีที่ลูกชายของมันกลับหลานชายทั้ง 3 ปรากฏตัว ความยิ่งใหญของมันคลาย
ดิ่งรวงตกเหว! ไมเพียงเทานั้น มันยังตองสูญเสียทรัพยสมบัติไปไมนอย นี่ทำใหหัวใจ
ของมันหลั่งเลือดแลว!!
“เรื่องนั้นมันแนอยูแลว!” หลินฟานทุบหมัดกับฝามือตัวเองตอบรับเปนมั่น
เหมาะ สำหรับหลินฟานเรื่องที่ตองดูแลเจาพวกนี้คือเรื่องที่เขาตองกระทำอยูแลว
“แมจา ขาจะออกไปกับพี่ใหญแลว! ถามีโอกาสขาจะกลับมาเยี่ยมทานนะ!!”
ชิคกี้กระโดดเขาออมอกสื่อเฟงกอนจะกลาววาจาออดออนออกมา
“เดินทางระมัดระวัง และอยาไดทำตัวหามเกินไปละลูก”
...
หลินฟานยืนมองเรือ่ งราวอยูข างๆ ฉากร่ำลาเชนนี้เขาเองก็มีประสบการณไมนอย
อยางไรก็ตามครั้งนี้นับวาเขาไดอะไรจากชนเผามหามังกรไปไมนอย
และหลินฟานเองก็เปนคนที่รูวาความพอดีอยูตรงไหน หากเขายังกระหายคิดสูบ
ความมั่งคั่งของอีกฝาย มันก็แลจะดูเกินไปหนอย...
อยางไรเสียก็ยังมี 10 เผาพันธสัตวโบราณที่เขายังไมมีโอกาสแวะไปเยี่ยมเยียน...
ที่จริงตอนนี้ก็ไดเวลาอันดีที่จะแวะไปหาพวกมันสักหนอยแลว...!
ดานเทพบรรพบุรุษมังกรนั้น ตอนนี้กำลังสะกดอดกลั้นเต็มที่ๆ จะไมเผยความ
ลิงโลดยินดีสุดใจออกมา เมื่อมันเห็นวามนุษยกำลังมองมาที่มัน ทาทีของมันก็
เปลี่ยนไปเล็กนอย เริ่มแสดงทาทางไมเต็มใจออกมาทันใด...
“โถลูกพอ...! ในฐานะบิดาคนหนึ่ง ขามิอาจทนมองเห็นเจาจากไปไกลได! ตอนนี้
พวกเจากำลังจักจากบิดาไปแลว ขากับแมของเจาคงเหงากันนัก...”
เทพบรรพบุรุษมังกรกลาวออกมาดวยน้ำเสียงโศกเศรา
หลินฟานลอบเบปากมองบนทันใด เทพบรรพบุรุษมังกรผูนี้แคดูปราดเดียวก็รูวา
เปนบิดาที่ไรความรับผิดชอบ! แถมทักษะการแสดงนั่นชางโหลยโทยสิ้นดี! เหงาเหรอ?
อยากรีบไปจุดประทัดฉลองก็บอกมาเหอะ!!
ทันทีที่สื่อเฟงไดยินคำดังกลาวออกจากปากเทพบรรพบุรุษมังกรนางก็พยักหนา
ถึงแมวารูปลักษณของลูกชายนางจะคอนไปทางชนเผาฟนิกซเสียมากกวา แตอยางไร
เสียเลือดที่ไหลเวียนในกายก็เปยมลนไปดวยสายเลือดมหามังกร
และตอนแรกนางคิดวาสามีของนางยังยินดีกับการจากไปของลูกเสียอีก แตพอ
มาไดยินเรื่องที่อีกฝายกลาวออกมาจากปากอยางอาลัย นี่ก็ทำใหนางโลงใจทั้งยังยินดี
ขึ้นไมนอย...
“แมจา จากไปคราวนี้ ชิคกี้เองก็ไมรูจะไดกลับมาเมื่อไหร ครั้งนี้ทานพอก็พูดถูก
ถาพวกเราไปกันหมดทานพอกับทานแมตองเหงาแนเลย! แลวพวกเราจะปลอยให
ทานเปนเชนนั้นไดอยางกัน? ทานกลาวแบบนี้แลวขาจะไปไดยังไง?” ชิคกี้กำลัง
ครุนคิดในหัวเร็วจี๋ หากมันพาลูกทั้ง 3 ไปดวย เกิดมันไปเจอกับแมไกกนงอน แลวถา
ลูกๆ อยู มันก็อดทับนะซี่!!
หากวามันสามารถทิ้งลูกทั้ง 3 ใหอยูที่นี่ไดละก็...ทุกอยางลวนประเสริฐ ดีงาม!!
ทันใดนั้นลูกไกทั้ง 3 ก็หันขวับไปจับจองทานปูของพวกมันทันใด จากนั้นมันก็วิ่ง
สายตูดดุกๆ ไปหาทานปูของพวกมัน กอนที่จะกางปกออกกวางแลวกอดขาพรอมเอา
หัวถูไถอยางออดออน!
สำหรับพวกมันแลวที่นี่มี่ที่พักอันประเสริฐ อาหารการกินก็เลิศล้ำ! แถมพวกมัน
ยังไดรับความรักจากทานปูและทานยา! นี่มันความสุขเบอรใดกันเลา!?
เมื่อเทพบรรพบุรุษมังกรเห็นภาพเรื่องราวนี้ มันเริ่มตระหนักวาผิดทาขึ้นมาแลว!
“พวกทานทั้ง 2 นี่นา...เอาละ งั้นขาคิดวาคงจะเปนการดีซะกวาที่จะใหหลานๆ
ของพวกทานอยูเปนเพื่อนพวกทานที่นี่ พวกทานจะไดไมตองเหงากันแลว”
หลินฟานลอบยิ้มแสยะในใจ ‘ในเมื่ออยากแสดงนัก พี่ประมุขจัดให! เอาไอ 3
ตัวปวนไปดูแลเลยไป ทีนี้ดูซิเอ็งจะทำไง!!’
ทั้ง 3 ตัวแสบนั่นไมวาตัวไหนก็มีนิสัยสุดโตงหลุดโลกทั้งนั้น! ถาเขาปลอยทั้ง 3 นี่
ไวในชนเผามหามังกรได ความวุนวายสมควรลดลงไปมาก!!
“เชนนี้ก็ดียิ่ง!” แนนอนวาสื่อเฟงยอมยินดีกับเรื่องนี้ที่สุด เรื่องนี้ตอไปยังจะมี
สวนชวยทำใหคนมาวุนวายกับพวกนางนอยลง!
เทพบรรพบุรุษมังกรมีหลายคำคิดกลาว หากแตตอนนี้มันอึ้งไปทำอะไรไมถูก ครู
ตอมามันก็อยากตีปากตัวเองหลายๆ ทีนัก เปนความผิดของมันแทๆ ปากบัดซบเอย...
จะกลาวเหลวไหลไปทำอะไร!!
“กุก กุก กูวววว...!!!” ลูกไกทั้ง 3 ยิ่งมายิ่งออดออนตางเบียดเขามาเอาหัวถูขา
เทพบรรพบุรุษมังกรเปนการใหญ
“ขา...!” ตอนนี้เทพบรรพบุรุษมังกรรูสึกถึงความเจ็บปวดอันสะทานสะเทือนใจ!
มันไมคิดเลยวาเรื่องราวจะกลับกลายมาเปนเชนนี้!!
“ชิคกี้ พวกเราไปกันเถอะ!”
“ทานพอทานแม ชิคกี้ไปกอนนะ!”
แลวหลินฟานก็สะบัดมือเปดชองวางแหงความวางเปลา กอนรางจะถูกกลืนหายลับไป
...
ยามนี้โลกหลากลับกลายเปนเงียบงัน...เทพบรรพบุรุษมังกรมีหลายคำคิดกลาว
แตเมื่อกมลงแลวเห็นหลานชายตัวนอยทั้ง 3 จับจองมาตาแปว ตางยกปกขึ้นมาโบก
ไปมา มันอยากจะไปหามุมมืดเงียบๆ กอดเขาร่ำไหเสียเหลือเกิน
ปดดาน! มันตองปดดานฝกตนอยางสันโดษ!
หลังจากนี้มันจะไปปดดานฝกตนอยางสันโดษ และไมปรากฏตัวออกมาอีกเลย...!!
ตอนที่ 833 นีม่ นั ตัวอะไรวะเนี่ย?
“อา...แลวตอนนี้พวกเราจะทำอะไรกันกอนดีละ?”
หลังจากที่เดินทางออกจากชนเผามหามังกรแลว หลินฟานก็มีตัวเลือกในหัว 2
ตัวเลือก หนึ่งคือมุง หนาไปยังฐานที่มั่นของสัตวโบราณอื่นๆ เพื่อหลอกเอาทรัพยากร
ของพวกมันมาสักหนอย กอนที่โลกไรจำกัดจะเปดออก...
และอีกหนึ่งก็คือไปตามหาพวกตัวตนสูงสุดแลวฆาปลนมันใหเหี้ยน!!
และเนื่องจากเขามีความสัมพันธบางอยางกับชนเผามหามังกร หลินฟานเองก็ไม
อยากจะลงมือลงไมใหมันรุนแรงเกินไป ทวาสัตวโบราณเผาอื่นนั้นไมเกี่ยวของอะไรกับ
เขา เขาเองก็คงไมรูสึกผิดอะไรแมแตนอยหากจะหลอกลอพวกมันเพิ่มอีกนิดๆ
หนอยๆ ...
สำหรับไอพวกตัวตนสูงสุดนั่น พวกมันเองก็นาจะมีทรัพยสมบัติมากมายเชนกัน
หากเขาฆามันได ไมเพียงแตความมั่งคั่งของพวกมัน เขายังสามารถลดจำนวนมือเทา
ของเจตจำนงสวรรคแหงโลกเซียนโบราณไดอีก!
พอคิดเรื่องที่ยามเจตจำนงสวรรคตื่นขึ้นมา และพบวาตอนนี้มันหัวเดียว
กระเทียมลีบ นั่นไมใชอะไรทีป่ ระเสริฐหรอกหรือ?
ในขณะที่หลินฟานกำลังครุนคิดและกำลังตัดสินใจอยูนนั้ ความวางเปลาพลัน
กระเพื่อมเล็กนอย
“นั่นใคร?”
สีหนาหลินฟานเครงขึ้นทันใด แมการสั่นไหวของชองวางจะเบาบางยากสัมผัส
แตหลินฟานสามารถตรวจพบมันไดทันที เนื่องจกาพลังอำนาจของเขาตอนนี้ไมใช
ธรรมดาๆ !
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา หาใชราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดา
เจาแตเพียงในนามจริงๆ มิคดิ เลยวา ‘เรนมิติซอนเวลา’ ยังมิอาจเล็ดรอดสายตาของ
ทานได”
ตอนนี้เองปรากฏรางหนึ่งในชุดคลุมลมดำเยื้องยางออกมาจากชองวาง
รัศมีพลังที่แผออกจากตัวตนในชุดคลุมลมดำนี้หาไดธรรมดาไม ทุกยางกาวของ
มันแฝงความเกรี้ยวกราดดั่งมังกร ทั้งเทาของมันยังปกคลุมไปดวยไอดำทมิฬ ราวกับ
วาไมวามันจะอยูทไี่ หน มันก็ยังคงเปนตนกำเนิดแหงความชั่วรายทั้งมวลบนโลก!
“เจา...คนของพันธมิตรแหงความชั่วรายงั้นเหรอ?” หลินฟานกลาวถามอยางระวัง
“โฮ! มิคิดเลยวาราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา จักตระหนักถึงพันธมิตร
แหงความชั่วของพวกเราไดในทันที นับเปนเกียรติของพวกเราเหลาพันธมิตรแหง
ความชั่วรายหนักหนาแลว”
คนในชุดคลุมลมดำอดไมไดที่จะกลาวออกมาดวยความภาคภูมิใจ
พันธมิตรแหงความชั่วรายนั้นหยั่งรากลึงอยูในโลกเซียนโบราณมาเนิ่นนานแลว
แมพลังอำนาจของพวกมันจะมิใชชั่ว ทวาก็มีนอยคนนักที่รับรูเรื่องราวของพวกมัน
และคนที่ลวงรูลวนแลวแตเปนตัวตนอันทรงพลังทั้งสิ้น
“คนที่ขาประมุขพบเจอและมีไอชั่วรายหนาแนนขนาดนี้ นอกจากพันธมิตรแหง
ความชั่วรายแลวก็ไมมีพวกไหนอีก...เจาที่มีไอความชั่วขุนคลั่กขนาดนี้ ถาไมใชคนของ
พันธมิตรแหงความชั่วรายจะเปนแมวที่ไหนไดละ? เจามีอะไรคิดกลาวกับขาประมุขก็
รีบๆ พูดเขา กอนที่ขาประมุขจะกระทืบเจา!”
ตอนนี้หลินฟานขาดแคลนโอสถเจิ้งหยางอยางแรง และดานพลังฝกตนของไอ
ชุดคลุมลมดำขางหนาก็สูงถึงเทพสวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 9 สลาย 8 สูเวิ้งวาง! หากเขา
จัดการตื๊บและเปลี่ยนมันใหเปนทาสแลวจับยัดวิมานฟาใหมันไปนั่งงาวหลอมโอสถเจิ้ง
หยางใหเขาทั้งวันทั้งคืนไปชั่วกาล ยอมเปนอะไรที่ประเสริฐนัก!
ทางดานคนในชุดคลุมลมดำเห็นไดชัดวาอึ้งไปไมนอย เพราะมันไมคิดเลยวา
ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจาจะเปดบทสนามาแบบนี้! หากเปนคนอื่นกลาพูด
แบบนี้สิ่งเดียวที่รออยูคือคำวิงวอนรองขอความตาย!!
ทวาบุรุษผูนี้คือราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา มันไมกลาวูวามลวงเกินอีกฝาย!
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา...ขาคิดวาทานตองเขาใจอันใดผิดไปแลว
ทานผูนำแหงพันธมิตรแหงความชั่วรายของขาใครที่จะพบปะและแลถึงความงามสงา
เด็ดเดี่ยวกลาหาญของทานราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจาสักครั้ง
ขานอยสงสัยวา...ทานมนุษยผูถลมมารดาเจา ใชกลาติดตามขานอยไปพบใตเทา
ผูนำสักคราหรือไมเลา?!”
“โอ อยากเห็นความหลอของขางั้นเหรอ?” หลินฟานแยมยิ้มออกมาทันใด ในใจ
เริ่มสายสะโพกโยกยายแลว!
“เปนเชนนั้น”
หลินฟานนั้นไมไดหวาดกลัวอะไรพวกมันเลย! เขามีลูกไมซุกซอนใตแขนเสื้อ
มากมายนัก พันธมิตรแหงความชั่วรายนี่ก็มักจะปรากฏตัวออกมาไมแนนอน
ยอนกลับไปตอนนั้นเขาก็ฆาตัวตนระดับสูงของพันธมิตรแหงความชั่วรายไป เขาเองก็
สงสัยไมนอยวาฐานที่มั่นของพวกมันอยูไหน!
“เรียนเชิญทานราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจาติดตามขานอยมา” คนใน
ชุดคลมลมดำสะบัดมือ กอนที่จะบังเกิดหมอกทมิฬขึ้นกลางอากาศ มันคอยๆ ขยาย
จนถางเปนชองวาง มองไปเปนเสนทางสายหนึ่งทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลุกตา
กอนที่จะเขาไป ก็ยากที่จะบอกไดวามันนำไปสูอะไรกันแน
หลินฟานเองก็ยักไหลกอนที่จะคอยๆ เดินมาหยุดหนาชองทางดังกลาว ที่คนชุด
ดำเขาไปรออยูแลว “อันที่จริงขาประมุขก็ไมคอยจะชอบขี้หนาพวกพันธมิตรแหง
ความชั่วรายสักเทาไรเลยวะ ในเมื่อวันนี้เจาอุตสามาเชิญขาประมุขอยางจริงใจ ขา
ประมุขยอมไปตามคำเชิญ แตก็นะ...เจาเองก็ทาทางจะดูใชการไดไมนอย มาเปนลิ่ว
ลอของขาประมุขกอนแลวกัน”
ทันใดนั้นหลินฟานก็เริ่มลงมือ สะบัดมือคราหนึ่งฉีกหวงแหงความวางเปลา
ทำลายทางเดินดังกลาวจนพินาศสิ้น!
“เจา...!”
คนในชุดคลุมลมดำผงะไปทันใด มันไมคิดวาอยูๆ ราชันแหงมวลมนุษยผูถลม
มารดาเจาจะลงมือหักดิบแบบนี้! นี่ไมใชอะไรที่มนั เตรียมการไว!!
ในอดีตมันก็ไดมาเชิญผูคนมากมาย แตไมมีใครทำอะไรแบบนี้เลย!!
“อั๊คคคคคค!!!”
พลังงานนาพรั่นนอกจากฉีกชองวางทลายทางเดินทันใด และเมื่ออยูๆ ชองวาง
ถูกทำลาย คนที่อยูดานในก็ไดรับผลกระทบอยางแรง รางมันขาดเปน 2 เสี่ยงทันใด!!
“ระ...ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา! เหตุใดเจาตองลงมือเชนนี้!?”
คนในชุดคลุมลมดำพยายามดิ้นรนเพื่อคืนสภาพ ในใจมันบังเกิดโทสะขึ้นมา
ทวาในขณะเดียวกันมันก็เต็มไปดวยความหวาดกลัว เพราะไมคิดเลยวาพลังอำนาจ
ของราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจาจะดุดันอหังการปานทรราชยเชนนี้!!
“แสงพิสุทธิ์ชำระลาง”
หนึ่งดัชนีจี้ออก ปลายนิ้วของหลินฟานเต็มไปดวยรัศมีธรรม พลังแสงแหงความ
บริสุทธิ์อันเปยมลนไปดวยอำนาจแหงพุทธะพุงไปหอมลอมรางคนในชุดคลุมลมดำราว
กับธวัชปราบมาร!
“มาเปนขี้ขา ของพี่ประมุขซะดีๆ !!”
เพื่อที่จะชำระลางใครสักคน สิ่งแรกที่หลินฟานจะตองทำคือทุบตีหรือทำใหอกี
ฝายสาหัสที่สุดกอนที่จะลงมือ จะไดสำเร็จโดยงาย!
เงาพุทธองคนับหมื่นพันหอมลอมวนเวียนทั่วรางของอีกฝาน ทั้งตางยังสวดบท
สวดราวกับทองพระไตรปฏก ทันใดนั้นหมอกสีดำที่หอมลอมรางมันคลายไดพบพาน
ของแสลง มันถึงกับร่ำรองดังลั่น!
‘ติ๊ง!!…การชำระลางประสบผลสำเร็จ’
“นายทาน”
คนในชุดคลุมลมดำกลาวออกมาดวยน้ำเสียงเคารพ ตอนนี้ทั่วรางมันไรซึ่งกลิ่น
อายแหงความเชื่อรายสืบไป กลับกลายเปนคนในชุดคลุมผูแสนใจดีมีเมตตา...
“ไหนเปดหนาเปดตาใหพี่ประมุขดูซิ ขาละเกลียดนักไอพวกชายชุดดำหาเหว
อะไรที่ทั้งวันเอาแตซอนหนาตาในผาคลุมโงๆ เนี่ย หรือเปนเพราะพวกเจาหนังหนาดี
เกินไป?”
หลินฟานนั้นเกลียดพวกชุดคลุมลึกลับอะไรแบบนี้เปนที่สุด ไมรูพวกมันจะทำ
เปนลึกลับไปหาพระแสงดามงาวอะไรนักหนา? หรือพวกมันหลอเหลาเกินไปจนกลัว
ใครมาติดพัน?
ทวาเมื่อคนในชุดคลุมลมดำเบื้องหนาถอดผาคลุมออกไปหลินฟานก็อึ้งตะลึงคาง
ไปในทันใด นี่มันยังเปนคนอยูอีกเหรอวะนะ เฮยยย!?
คนในชุดคลุมลมดำเบื้องหนานั้นมันไมมีอวัยวะหรือองคาพยพอะไรเลย หัวของ
มันทั้งหมดเปนกลุมหมอกสีดำ บริเวณที่สมควรเปนลูกตา กลับมีจุดแสงสีแดงที่ดูแลว
ชวนใหโคตรสยองแทน!!
“เชี่ย! นี่มันตัวอะไรวะเนี่ย มันมาชนเผาไหนกัน?”
หลินฟานอึ้งคางไปพักใหญ เขาเองก็เปนคนที่อานหนังสือหนังหามาไมนอย ได
รับรูอัตลักษณของชนเผามากมายหลายรอยพันชนเผา เรียกไดวาถึงเจอตัวหนาแปลก
แคไหนก็ยังพอระบุชาติพันธได…
แตทวาไอสิ่งมีชีวิตประหลาดเบื้องหนา หลินฟานไมรูจริงๆ วามันมาจากไหน!!
“ดูเหมือนวาไอพันธมิตรแหงความชั่วรายนี่ ทาจะมีปญหาซะแลว”
“เอาละ ตอนนี้เจาพาขาไปฐานที่มั่นของพันธมิตรแหงความชั่วรายอะไรนั่นซิ”
หลินฟานครานคิดอะไรใหมากความ เขาจะไปเจอไอผูนำอะไรนั่นอยางที่มันตองการ
หลินฟานคอนขางมั่นในใจพลังสามารถของตัวเอง เมื่อพันธมิตรแหงความชั่ว
รายกลาเชื้อเชิญเขาไปหา เขาก็ไมคิดจะปฏิเสธอะไรพวกมัน!
เขาจะไปเยือนฐานที่มั่นของพวกมันแลวถลมใหยับ! ทำไมเขาถึงจะไมไปเปลี่ยน
พวกมัน และทำใหพวกมันเปนลิ่วลอของเขากันละ!?
คนในชุดคลุมลมดำกลับมาเปลงกลิ่นอายแหงความชั่วรายกอนที่จะสะบัดมือ
เปดชองทางอีกครั้ง หลินฟานก็เดินตามมันเขาไปดานใน
ทางเดินนี่มันชางลึกลับจริงๆ ดูเหมือนเขากำลังขามไปยังสถานที่นากลัวบางอยาง
ขณะเดินก็มีแสงที่สีสันสาดสองออกมารอบทั้งมวนพันสะบัดราวธงตองลมแรง!
และเพียงชั่วพริบตาหลินฟานก็สังเกตเห็นวาสภาพแวดลอมรอบๆ ตัวเขาเปลี่ยนไป
โลกทั้งใบคลายจะตางออกไปอยางสิ้นเชิง...
ทองฟานั้นมืดครึ้มทั้งยังเปนสีแดงฉาน สีสันโดยรอบอึมครึมหมนเทา แลดูไป
คลายตกลงมาอยูในนรกก็ไมปาน
‘นี่ควรเปนโลกที่ใครบางคนสรางขึ้นมางั้นสินะ’
หลังจากที่ตรวจสอบอยูครูหนึ่ง หลินฟานก็เริ่มทำความเขาใจสถานที่คราวๆ
“ยินดีตอนรับ ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา ที่อุตสามาเยือนพันธมิตร
แหงความชั่วราย...โปรดเขามากอนเถิด” ทันใดนั้นเองบังเกิดเสียงนาขนลุกดังขึ้น
กอนที่จะมีประตูบานสีแดงขนาดมหึมาผุดโผลจากความวางเปลา ทั้งยังคอยๆ เปดอา
ออก พรอมกันนั้นก็มีกลิ่นอายแหงความชั่วรายอันหนาแนนพรั่งพรูออกมา
“เจาคือใตเทาผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายอะไรนั่นเหรอ?”
หลินฟานกลาวถามออกมาเสียงดัง กอนที่จะคอยๆ กาวเดินออกไปอยางไรซึ่ง
เศษเสี้ยวความกลัว
“ฮี่ๆ ! เชิญเขามาเถอะ”
“หืม? ถามไมตอบ...ขาละอยากรูนักวาเจาจะทำใหมันแลดูลึกลับไปทำมะเขือ
อะไร?” หลินฟานกลาวออกมาดวยน้ำเสียงเย็นชา กอนที่จะกาวเขาไปในประตู
หลังจากที่หลินฟานกาวผานประตูศิลาสีแดงฉานนั่นไปแลวทัศนียภาพรอบๆ
พลันแปรเปลี่ยนไปอีกครั้ง ทวาการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำใหหลินฟานตองเอียงคอมอง
ดวยความประหลาดใจอยูบาง
เบื้องหนาไกลตาปรากฏเปนแทนบูชายัญขนาดใหญตั้งอยู ทั้ง 4 ทิศ 8 ทาง
รอบๆ แทนบูชายัญดังกลาว ปรากฏลำแสงสาดสองทะลวงขึ้นฟาจมหายไปในชองวาง
ยากที่จะกลาววาลำแสงดั่งกลาวนั่นมันเชื่อมตอไปที่ไหนกันแน
และใจกลางของแทนบูชายัญนั้นก็มีบัลลังกตั้งอยูพรอมกับรางหนึ่งนัง่ อยูบนนั้น
บริเวณใตบัลลังก ก็ปรากฏคนในชุดคลุมลมดำ 2 คนยืนขนาบซายขวา กลิ่นอายของ
พวกมันสงบนิ่งนัก
“เอาละ เจาตองการอะไรไหนวามาซิ”
ตอนที่ 834 ของกำนัลนี้ พีป่ ระมุขนอมรับไวอย่ำงยินดี
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา...ตั้งแตเจาไดเยื้องยางดำเนินขึ้นมาจาก
โลกเสวียนหวง เจาก็สามารถบรรลุดานพลังฝกตนสูงล้ำถึงเพียงนีไ้ ดในเวลาไมกี่ป พลัง
ความแข็งแกรงของเจาชางเขยาขวัญผูคนนัก และยากที่จะหาผูใดทัดเทียมเจาไดอีก
แลวจริงๆ ...”
รางของผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายใหญโตไมนอย ถึงแมวามันจะนั่งอยูบน
บัลลังกหากแตมันยังคงสูงกวาหลินฟานสัก 3 เทาเห็นจะได...
แถมวาจาที่กลาวออกแตละคำก็เผยอารมณเผด็จการของมันไมนอย กลิ่นอายยัง
เย็นเยือกชวนใหหนาวเสียดกระดูก
“ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วราย เจามีอะไรคิดพูดก็ขอใหมันสั้นๆ เถอะนะ หรือ
ถามีลมคิดผายก็รีบปลอยออกมาใหหมดๆ ตูดไป ขาประมุขไมไดมีเวลามาฟงเจา
พลามทั้งวันหรอกนะ” หลินฟานยิ้มอยางสงบกลาววาจาออกมาอยางไมไวหนาอีกฝาย
แมแตนอย
ครืน! ครืน! ครืน!
เมื่อคนในชุดคลุมลมดำทั้งหลายที่อยูรอบๆ ไดยินคำกาวราวดูแคลนเจาเหนือหัว
ของพวกมัน ก็ยากที่พวกมันจะทานทนรับได! ตางปลดปลอยจิตสังหารอำมหิตออกมา
อยางหนาแนนขุนคลั่ก!!
หลินฟานเพียงเหลือบมองพวกชุดคลุมลมดำทั้งหลายดวยหางตา ทาทางดูแคลน
ไมนอย...
อยางไรเสียหลินฟานก็บังเกิดความสนใจในตัวผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายนี่
ไมเบา เขาเองก็ไมรูวามันเปนตัวอะไรกันแน... แตเขารูดีวาไอพวกชุดคลุมลมดำ
ทั้งหลายที่ทาทางเอาเรื่องพวกนี้ สมควรเปนตัวประหลาดแบบเดียวกับที่เขาชำระไป
กอนหนา...
นี่มันชนเผาอะไรกันแนนะ?
ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายยกมือที่สวมชุดเกราะสีดำสนิทขึ้นมา เปนการ
บอกใหทุกคนนิ่งไว
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจาอยาไดรีบรอนไป พันธมิตรแหงความชั่ว
รายดำรงอยูในโลกเซียนโบราณมาเนิ่นนานแลว...และยังเปนถึงขุมพลังใหญขุมหนึ่ง
ขาจาวแหงความชั่วรายผูนี้ยอมรูดีวาหมดใจเจาเพียงทุมเทไปกับการลมลางชนเผา
โบราณ! เหตุผลที่ขาจาวเชื้อเชิญเจามาวันนี้ คือคิดกลาววาจากับเจาสักครา เผื่อวา
พวกเราจักสามารถรวมงานกันได” ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายกลาวออกดวยเสียง
แหบแหง
ทุกคราที่มันพูดใหความรูสึกเหมือนเอาโลหะมาขัดสีกัน
“รวมงานอะไร?” หลินฟานมองไปยังผูนำพันธมิตรแหงความชั่วราย เขารูดีวา
พันธมิตรแหงความชั่วรายนี้ไมวาฝายไหนลวนมองมันเปนศัตรู เพราะพันธมิตรแหง
ความชั่วรายฆาผูคนของรอยพันชนเผาไปมาก หากแตก็เขนฆาคนของชนเผาโบราณ
ไปไมนอยเชนกัน! ทวาเนื่องจากฐานที่มั่นของพวกมันถูกซอนไวอยางมิดชิด ทำให
แมแตตัวตนสูงสุดแหงชนเผาโบราณก็ไมอาจทำอะไรพวกมันได
“ในวันที่โลกไรจำกัดเปดออก เจตจำนงสวรรคจักลงมาจัดการพวกเรา ถึงยาม
นั้น...เจาแครวมมือกับพวกเราสังหารเจตจำนงสวรรคทิ้งเสีย ก็เทานั้น...”
ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายกลาว
“แคเนี้ย?” หลินฟานกลาวถาม
“ถูกตองแลว แคเพียงเทานั้น…” ผูนำพันธมิตรหัวเราะเสียงเย็น “อยาไดกังวล
หากเจามีเหลาตัวตนทรงพลังมารวมดวย พวกเราพันธมิตรแหงความชั่วรายจักปฏิบัติ
ดวยดี มิเสียมารยาทตอทั้งหมดเด็ดขาด”
“ออ...จะวาไปขอเสนอนี่มันก็ดีนะ ขาเองก็คิดวาไอการรวมกันลงมือนี่มันก็ดีไม
นอย! แตก็นะ พอดีขาเองก็มักจะมีวิธีการจัดการของขาเองเสมอ...และตอนนี้ขาเองก็
พอมองเห็นแลว วาจะจัดการเรื่องนี้ยังไง” หลินฟานลอบหัวเราะในใจ ไอพวก
พันธมิตรแหงความชั่วรายเนี่ยนะเหรอคิดรวมมือกับเขากำจัดเจตจำนงสวรรค ไป
หลอกมารดามันเลนเถอะคิดวาเขางาวหรือไง?
นี่พวกมันเห็นเขาเปนเด็กนอย 3 ขวบหรือไรกัน?
“เจาคิดจัดการเรื่องนี้เชนไรเลา?” ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายหัวเราะ
ออกมาขณะกลาวถาม
หลินฟานยกมือออกมาผายเบื้องหนา “ใครก็ตามที่มีเผาพันธุตางกับขา ขาลวน
ไมไวใจทัง้ สิ้น พวกเจาพันธมิตรแหงความชั่วรายเองก็ไมรวู าเปนคนหรือผีกันแน...ใคร
จะไปรูกันละ วาแรงจูงใจของพวกเจาคืออะไรกันแน?”
“โอจริงสิ! ขาเองก็ไมคิดจะใหเจาตอบคำถามขาดวยการตอแหลแถสดอะไร
หรอกนะ ไมสูขาถามไอคนนำทางขามาจะดีกวา... เฮ ลิ่วลอ ไหนบอกซิ…วาพวกเจา
มันเปนตัวหาอะไรแลวมาจากไหนกันแน? พวกเจาสมควรมีแผนการณใหญอะไร
บางอยางใชมะ?” หลินฟานยักคิ้วใหผูนำพันธมิตรแหงความชั่วราย กอนจะหันไปพยัก
หนาใหคนในชุดคลุมลมดำขางๆ
ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายอึ้งไปกับวาจาไมไวหนาอีกฝาย และไมรูวาอีกฝาย
หมายความวาอะไรกันแน จากนั้นมันก็หันมองไปยังบริวารของมัน
ทวาเมื่อมองไดพักหนึ่งผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายก็สะดุงโหยง มันถึง
กระโดดลุกขึ้นมาจากบัลลังก!
“เจา...!”
ในตอนแรกผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายไมทันไดสังเกตเห็นอะไร แตมายามนี้
เมื่อมองใหดีก็เห็นวาอีกฝายมีรองรอยของรัศมีธรรมแหงชนเผาพุทธะวนเวียนอยู
รอบๆ ! ถึงแมวามันจะมองไมเห็นดวยอีกฝายปกปดเอาไว แตความรูสึกของมันรอง
เตือนหนักมาก!!
“เรียนนายทาน พวกเราคืออสูรนอกพิภพ วันที่โลกไรจำกัดเปดออก พวกเราจะ
บุกเขามายังหวงเอกภพนี้ และทำลายเจตจำนงสวรรคของโลกเซียนโบราณ กอนจะ
ปกครองโลกไรจำกัดทั้งหมด!”
“หุบปากไปเสีย!!”
ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายโมโหหนักมาก มันไมคิดไมฝนเลยวาบริวารของ
มันจะทรยศหักหลังมันเชนนี้!
ครืนนนนนนน!!
ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายบันดาลโทสะ มือยกขึ้นตบฟาด ซัดพลังทำลาย
ลางอันนาเกรงขามแหวกอากาศออกไปทันใด มวลพลังนาเกรงขามปรี่ตรงไปยังคนใน
ชุดคลุมลมดำขางหลินฟาน! เห็นไดชัดวาเจตนาฆาคนปดปาก!!
“ฮัยโย...ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายใจเย็นกอนๆ ! เจาจะฆาคนของเจางายๆ แบบ
นี้เพราะเจาไมชอบคำที่มันกลาวไดไงกัน? แลวเจาคิดวาขาประมุขเปนหัวหลักหัวตอ
หรือไงหา?”
หลินฟานสะบัดผาคลุมออกมาดั่งฝบ ทันใดนั้นเองบังเกิดเจตกระบี่ทรงพลัง
ทะลวงวางเปลา สลายพลังฝามือทำลายลางของผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายจน
มลายหายไปสิ้น!
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา! นี่เจาทำอันใดกับบริวารของขากันแน!?”
ใบหนาของผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายกลับกลายเปนเครงเครียดหวาดกลัว
“อสูรนอกพิภพงั้นเหรอ...โวว คิดไมถึงจริงๆ แหะ” ตอนนี้หลินฟานหัวเราะ
ออกมาดังสนั่นลั่นยาว คลายกับไมเคยหัวเราะมากอน ตอนนี้เองเขาก็นึกถึงบางสิ่งที่
เขาเคยไดพบในศาลเจาเทพธรณีบนโลกเสวียนหวง! เขาพลันฉุกคิดวาที่แทไอพวกนั้น
มันใชอสูรนอกพิภพอะไรนี่รึเปลา!?
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา ขาจาวพันธมิตรแหงความชั่วรายคิด
รวมมือกับเจา แตเจากลับลงมือทำบางสิ่งกับบริวารของขา! เจาไมเห็นหัวขาจาวผูนี้
แลวหรือไง!?” ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายคำรามออกมาอยางดุรายแววตาของมัน
เผยความเหี้ยมโหดดั่งปศาจ เห็นไดชัดวามันเดือดดาลหนักหนาแลว
“เหอะๆ ๆ ...ไมเห็นหัวเจางั้นเหรอ? แลวเจามีอะไรใหขา ประมุขเห็นหัววะ? .ให
ขาประมุขพูดตรงนี้ใหชัดเลยแลวกัน ขาประมุขมาที่นี่เพื่อถลมพันธมิตรแหงความชั่ว
รายหาอะไรนี่ของเจาใหยับ และจะจัดการพวกเจาใหเหี้ยนแบบถอนรากถอนโคนกัน
ไปเลย! ครั้งนี้นับวาเปนเรื่องอันดีงามนัก! ที่พวกเจาเสลอพาขามาถึงฐานที่มั่นของพวก
เจาเอง! โดยที่ไมตองลำบากใหขาประมุขไปงมหาอะไร!!”
หลินฟานหัวเราะออกมาเบาๆ เขาไมไดแยแสอะไรรอบๆ แมแตนอย
ฉากเรื่องราวนี้ควรเรียกวาอะไรดีนะ? ออ! ลอหมาปาเขาหอง!
ดานพลังฝกตนของผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายนั้นคอนขางดี มันเปนถึงเทพ
สวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 10 เทพนิรันดร! ทวามันเองก็ไมไดรับบัลลังกเทพนิรันดร ดังนั้น
สำหรับหลินฟานแลวมันก็พวกกลางๆ ดาดๆ ทั่วไปเทานั้น
แตถาเขาสามารถชำระมันได ก็นับวาเปนอะไรที่ดีงามเชนกัน!
“เจา…!” ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายรอยพันหมื่นคาดก็ไมเคยคิดวาเรื่องมัน
จะลงเอยอีหร็อบนี้! หนามันเปลี่ยนไปทันใด รางของมันกระพริบวูบ เสียงคำราม
กึกกองดังออก
เสียงคำรามกึกกองนี้ยังกำจายไปแสนไกล คลายจะกังวาลไปทั้งโลกหลา
ครืนนนน!!
ทันใดนั้นเองความวางเปลาพลันสะทานสะเทือน กอนที่จะแหวกฉีกออก คอย
ปรากฏกลุมหมอกทมิฬหนาแนนทะลักหลั่งไหลออกมา หมอกทมิฬนั่นพลัน
แปรเปลี่ยนกลับกลายเปนรางคนในชุดคลุมลมดำจำนวนมหาศาลปานจะถมเต็มผืนฟา
ปดลอมหลินฟานเอาไว 4 ทิศ 8 ทาง!
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา...เปนเจาแสหาที่ตายเอง!!” ผูนำ
พันธมิตรแหงความชั่วรายคำรามออกมา “จัดการมันเสีย!!”
“ฮัยยา...ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายอา...เจาใจดีจริงๆ ขาประมุขนอมรับของ
กำนัลครั้งนี้เลยแลวกันนะ ฮี่ๆ ๆ ๆ”
หลินฟานมองไปยังคนในชุดคลุมลมดำรอบๆ อดไมไดที่จะแยมยิ้มกรุมกริ่ม
ออกมาอยางเริงรา
“แสงพิสุทธิ์ชำระลางแหงองคสัมมาสัมพุทธเจา!!”
ทันใดนั้นเองปรากฏเงาพุทธองคนับหมื่นพันผุดโผลจากความวางเปลามาเรียงรายดั่ง
ทิวธงเบื้องหลังหลินฟาน! จากนั้นทั้งหลายก็แยกยายทะยานออกไปในความวางเปลา!!
ซัวววววว!!
ระลอกหนึ่งมีหลินฟานเปนจุดศูนยกลาง กำจายขยายออกไปคลายไรสิ้นสุด เปน
ระลอกพลังสีทองบริสุทธิ์ปานไรมนทิลอันใด แสงเรืองรองที่สองสาดยังเผยเงาราง
ดอกบัวเสมือนจริงสีทองออกมา! ทั้งใตเทาหลินฟานยามนี้ยังปรากฏดอกบัวสีทองดอก
ใหญคลายอาสนะรองราง!
ใบหนาหลินฟานเองก็เปยมลนไปดวยความเมตตาอารี! ยามเมื่อ 2 มือพนมเขา
หากัน รางของเขาแลคลายขยายใหญขึ้น!!
ทันใดนั้นเองปรากฏเงารางพุทธองคอนั ยิ่งใหญขึ้นดานหลังหลินฟาน พลัง
อำนาจสะทานโลกหลาเปลงออก ยามเมื่อสองมือมหึมาพนมเขาหากัน ปรากฏบุปผา
สวรรคโรยรวงออกมาจากความวางเปลาเหนือฟา ทั้งยังมีเงารางพุทธะมากมายจาก
ฟากฟาสืบสานลงมายังแดนดิน!!
“นั่นมันอะไร!?”
ยามเมื่อผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายไดเห็นรางพุทธองคดานหลังหลินฟาน สี
หนาของมันก็เปลี่ยนไปหนักขอ รองร่ำออกมาเสียงดัง ดวงตาที่เต็มไปดวยความเดือด
ดาลเคืองแคนเปลี่ยนเปนตื่นตระหนกทันใด เห็นไดชัดวายามนี้มันผวาไปแลว!
รัศมีพลังอันแสนบริสุทธิ์นี้ สรางความรูสึกอันนาหวาดหวั่นพรั่นพรึงแกผูนำ
พันธมิตรแหงความชั่วรายถึงขีดสุด!
“บัดซบ! ชนเผาพุทธะ! นี่คือวิชาลับในตำนานของชนเผาพุทธะ!!”
สายตาหวาดผวาของผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายสะทานไปทันใด มันหวน
รำลึกถึงบางสิ่งออกแลว รีบตะโกนร่ำรองออกมาอยางเสียงหลง!!
“โอ ใชเลยละผูนำพันธมิตรแหงความชั่วราย...นี่คือวิชาลับในตำนานของชนเผา
พุทธะ อันที่จริงการที่เจาไดเห็นมันอีกครั้งก็นับวาเจามีบุญมากๆ เลยนะเนี่ย...”
หลินฟานแยมยิ้มอยางการุณยขณะกวาดตามองไปยังเหลาคนในชุดคลุมลมดำที่
มากมายมหาศาล ความคิดเปลี่ยนพวกนี้ใหกลายเปนลิ่วลอเผยออกมาอยางชัดเจน
เพราะในสายตาของหลินฟานแลว พวกมันทั้งหลายคือบอทปมโอสถเจิ้งหยาง!!
“กลับตัวกลับใจเสียเถอะ หันมารับใชขาประมุข แลวพวกเจาจักสนุกสนานไป
ชั่วนิรันดร!” หลินฟานกลาวสวดออกมาเบาๆ ทันใดนั้นรางพุทธองครูปเขื่องที่อยู
ดานหลังเขาพลันลืมตาออกมา ลำแสงสีทองยังสาดสองเจิดจาออกมาทันใด!
ภายในลำแสงสีทองนั้นเต็มไปดวยปรากฏการณพิสดารมากมาย พระสงฆ
จำนวนนับไมถวนพรอมอักขระลึกล้ำยากหยั่งถึงลอยลองออกมา
“อาคคคคคคคคคค!!!”
เมื่อแสงสีทองสาดสองตองถูกชุดคลุมลมดำคนไหน พวกมันจะรองออกมาดวย
ความเจ็บปวดดังลั่น! ราวกับพวกมันกำลังถูกพลังอำนาจกัดกรอนลวกรอนก็ไมปาน
ทั่วรางบังเกิดควันขโมงโฉงเฉงลอยออกมา!!
“สารเลว! เจากลาดีอยางไร!” ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายตระหนักแลว…วา
หลินฟานคิดเปลี่ยนบริวารของมัน!!
“อาวว แลวทำไมพี่ประมุขจะทำไมไดเลา!?”
หลินฟานยิ้มหวานออกมาทวงทาสงบ ไมไดแยแสอะไรมันแมแตนอย
ตอนที่ 835 โอย...ข้ำพเจาหวาดกลัวแทบตาย
‘ติ๊ง!!…ขอแสดงความยินดี ทานประสบความสำเร็จในการชำระลางใหบริสุทธิ์ ’
...
พวกชุดคลุมลมดำเหลานี้ไมไดมีดานพลังฝกตนสูงล้ำอะไรเลย แตถึงอยางนั้น
สำหรับบนโลกเซียนโบราณใบนี้พวกมันก็ไมนับวาเปนชนชั้นตอยต่ำแตอยางไร เฉลี่ย
แลวพวกมันมีดานพลังเทพสวรรคอมตะ 5-6 ชั้นฟา
ตัวที่แข็งแกรงเขาหนอยก็มีดานพลัง 7-8 ชั้นฟา
ทวาแมเห็นพวกมันสิ้นทางายดายแบบนี้ หากพวกมันพบพานศัตรูที่มีดานพลังเทา
เทียมกัน…พวกมันยังสามารถรับมือศัตรไดโดยไมเสียเปรียบแมจะถูกกลุมรุม 3-4 คน!!
วิชาลับในตำนานของชนเผาพุทธะอยางแสงพิสุทธิ์ชำระลางแหงองคสัมมาสัม
พุทธเจานั้นเปนอะไรที่เหนือชั้นอยางมาก อยางไรก็ตามเนิ่นนานมาแลวเทพวิชานี้
กลับถูกเจตจำนงสวรรคของโลกเซียนลงมือกำจัดดวยตัวเอง เพราะหวาดกลัวในพลัง
อำนาจของตัวบทวิชา!
และถึงแมวาหลินฟานจะฝกฝนแสงพิสุทธิ์ชำระลางแหงองคสัมมาสัมพุทธเจา
สำเร็จไปแลวระดับหนึ่ง แตเขาก็ยังมีความตางอยูบางหากจะเทียบพลังของวิชายามที่
องคสัมมาสัมพุทธเจาใชเอง ทวาชองวางดังกลาวก็นับวาเล็กนอยลงมากแลว!
“ฮาๆ ๆ ๆ ไมเลว ไมเลวเลยจริงๆ ! มาเยือนพันธมิตรแหงความชั่วรายครั้งนี้พี่
ประมุขกอบโกยไดไมนอยเลยแหะ!!”
หลินฟานระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ทุกครั้งที่หลินฟานชำระใครเสร็จสิ้นเขาจะ
สงไปเก็บในวิมานฟาของเขาทันที และตอนนี้ไอพวกชุดคลุมลำดำทั้งหลายแหลกำลัง
นั่งเรียงหนาสลอนเปนตับ เพื่อหลอมกลั่นโอสถเจิ้งหยางใหเขาทั้งวันทั้งคืน!!
เมื่อเห็นกำลังผลิตโอสถเจิ้งหยางเพิ่มพูนขึ้นในพริบตา เห็นเม็ดยาโอสถเจิ้งหยาง
หาใหญรว งไปกองในไมกี่ลมหายใจ หลินฟานก็มีความสุขีใจเหลือใดจะกลาว! เขา
รีบเรงพลังชำระ หมายจัดการไอพวกทีเ่ หลือเปนตับเบื้องหนาใหเสร็จ!!
ตอนนี้ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายโกรธแคนจนแทบคลั่ง มันไมคิดเลยวา
ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจาจะเหนือชัน้ ถึงเพียงนี้! ทุกสิ่งที่อีกฝายกระทำ
ลวนอยูเหนือความคิดของมันอยางสิ้นเชิง!!
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา ขาจาวจักไมเลิกราจนกวาเจาจักตายอนาถ!!!”
ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายคำรามออกมาดวยโทสะแคน มันโกรธเสียจนนิ้ว
สั่น! มือทั้งสองคบฟาดขย้ำวางเปลาระรัว ปลดปลอยพลังฝามืออันมหาศาลนับพันๆ จี้
ตรงไปทางหลินฟานที่กำลังชำระลูกนองมัน!
ตอหนาพลังฝามืออันทรงพลังนับพันนี้ความวางเปลาทั้งมวลพังทลายฉีกขาด
กระแสอากาศและความวางเปลาคลายลำน้ำคลั่ง กระทั่งโลกใบเล็กนี้ยังเริ่มสะทาน
คลายไรเสถียร!
“เจามันก็แคเทพสวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 10 แตฝนเฟองคิดฆาขาประมุขงั้นเหรอ?
วันนี้ขาประมุขจะทำใหเจากลายเปนลิ่วลอผลิตโอสถเจิ้งหยางใหขาประมุขทั้งวันทั้ง
คืนใหดู!!”
หลินฟานไมไดวางมือจากการชำระแตอยางใด แรงกดดันอันนาครั่นครามและ
กลิ่นอายพลังเหนือชั้นพลันปะทุเปลงออกจากรางหลินฟาน!!
ครืนนนนน!!
มวลพลังที่กำจายออกปะทะกับรอยพันฝามือกอเกิดเปนแรงระเบิดอันนา
สะพรึงกลัว ทำใหกำแพงของโลกใบเล็กที่เปนดั่งแกวผลึกกระเพื่อมอยางแรงทั้งเริ่มปริ
ราว กระแสแหงความวางเปลายังเริ่มหลั่งไหลออกไปทั่วรอยแตกนี้ และเริ่มทำใหโลก
ใบเล็กปนปวนคลายจะพังทลายลง!!
“บัดซบ!!”
เมื่อไดเห็นภาพบริวารทั้งหมดถูกเปลี่ยนอยางไรปราณีไมหยุดยั้ง! ผูนำพันธมิตร
แหงความชั่วรายก็กังวลในใจหนักหนา บุรุษเบื้องหนากำลังจะทำลายรากฐานของมัน
หมดสิ้น!!
ในฐานะที่เปนอสูรนอกพิภพ...พวกมันไดพยายามบุกรุกยึดครองโลกเซียน
โบราณครั้งนี้เปนครั้งที่ 3 แลว! หากทวาความพยายามทั้งหมดกอนหนาลวนจบลง
ดวยความลมเหลว และเหลือเวลาอีกแคไมนานแลวแทๆ กอนที่ความพยายามครั้งที่
4 ของพวกมันจะเริ่มตนขึ้น... พวกมันทั้งหมดนั้นเปนอสูรนอกพิภพที่เหลือรอดจาก
ความพยายาม 3 ครั้งกอนหนา!
ตอนนี้พวกมันก็มารวมตัวกันที่นี่ทั้งหมดเพื่อปกปองฐานที่มั่นเอาไว! และเมื่อถึง
วันที่โลกไรจำกัดเปดออกพวกมันจะยาตราทพออกไปยังโลกภายนอก และเมื่อถึงตอน
นั้นพวกมันจะชวยเหลือใหสหายของพวกมันแทรกซึมเขามายังโลกใบนี้...
ทวาหากพวกมันจำตองมาหยุดอยูแคนี้ ทั้งหมดทั้งมวลลวนสูญเปลาแลว!!
“เฉือนวางเปลา!!”
ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายยื่นมือออกมา แนวแตละนิ้วของมันคลาย
เชื่อมโยงกับเสนสายสีดำประหลาดอันเต็มไปดวยความผันผวนไรเสถียร กระแสพลัง
ดังกลาวเห็นไดชัดวาปรากฏอยูตอหนาตอตา หากแตใหความรูสึกประหลาดคลายมัน
มีแตไมมี!!
ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!
ทันทีที่ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายขยับนิ้วความวางเปลาเหนือขึ้นไปทั้งหมดก็
คลายเปนลอนคลื่นเริ่มขยับขึ้นลง!
ควากกก!!
ประหนึ่งความวางเปลาถูกหั่นดวยมีดแหลมคม มันแยกออกมาเปน 5 สวน!
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา! ขาจาวพันธมิตรแหงความชั่วรายจักทำ
ใหรางเจาแหลกเปนเสี่ยงๆ !” ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายประกาศกราว! กอนที่จะ
กระดิกนิ้วของมัน ถึงแมแลแลวคลายจะไมมีอะไรเกิดขึ้น แตหลินฟานก็สัมผัสได
ชัดเจนวามีพลังยากจะทานรับขุมหนึ่งกำลังพุงมาจากสวนลึกของความวางเปลา!!
เฉือนวางเปลา เปนวิชากนหีบของผุนำพันธมิตรแหงความชั่วราย ทั้งยังเปนวิชา
ที่ยากจะฝกฝนใหบรรลุนัก! อยางไรก็ตามหากฝกสำเร็จ พลังอำนาจทำลายลางของ
มันกระทั่งสวรรคยังครั่นคราม! นี่เปนพลังสามารถที่ประหนึ่งจะหยุดหวงเวลาได!
กระทั่งชนเผาวัชระที่ชื่อเสียงเลื่องลือในเรื่องความแข็งแกรงของรางกาย กระทั่งชน
เผามหายักษา ยังตองรูสึกหวาดกลัว เมื่อตองเผชิญหนากับเฉือนวางเปลาของผูนำ
พันธมิตรแหงความชั่วราย!!
นั่นเพราะวิชานี้ กลาวไดวามันเปนหนึ่งในวิชาระดับตำนานที่สามารถจะเฉือน
สะบั้นไดทุกสรรพสิ่งในโลกหลา!!
“เฉือนวางเปลาหรอ? ชื่อก็ฟงดูเขาทาอยูหรอกนะ แตสงสัยจังวาเทียบกับวิชา
ของขาประมุขแลวจะเปนยังไง!” หลินฟานที่กำลังชำระลางคนในชุดคลุมลมดำ
ทั้งหลาย หันมาตรวจสอบพลังอำนาจที่ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายปลดปลอย
ออกมาวูบหนึ่ง
“เจตกระบี่สะบั้น”
ตอนนี้เตาแหงกระบี่ของหลินฟานไดรับการปลูกฝงใหบรรลุจุดสุดยอดแลว ใน
เวลาเดียวกันเขาก็เขาใจสำนึกกระบี่ทั้ง 9 กระทั่งหลอมรวมใหเปนหนึ่งไดสำเร็จ! นี่คือ
ที่สุดแหงเตากระบี่ ที่เหลาผูงมงายกระบี่ฝนใฝวาชั่วชีวิตจักไดบรรลุถึง!!
อนิจจาสำหรับหลินฟานแลวการเขาใจเรื่องเหลานี้ก็ไมตางอะไรกับของเด็กเลน
งายดายนัก!
หนึ่งดัชนีของหลินฟานชี้ออกอยางเชื่องชา ไมไดมีทวงทาสะทานแดนดิน ไมมี
มวลพลังเปลงปลั่งทำลายความวางเปลา ไมมีแมแตภาพอันนาตื่นตาตื่นใจอะไร ทวา
เพียงหนึ่งดัชนีอันเรียบงายที่จี้ออกนี้ ก็มากพอที่จะทำใหสีหนาผูนำพันธมิตรแหงความ
ชั่วรายแปรเปลี่ยนไปอยางสิ้นเชิง!
ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายที่ปลดปลอยกระบวนทากนหีบอยางเฉือนวาง
เปลา กลับสัมผัสไดถึงขุมพลังอันนาเกรงขามประหนึ่งสัตวรายอาละวาดกระโจนเขา
หามัน...ราวกับจะกัดกระชากมันใหสลายหายกลับกลายเปนความวางเปลา!!
“นี่มันอะไรกัน!?”
ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายถึงกับตองผงะถอยหลังเพราะถูกแรงกดดันไร
สภาพบีบคั้น! ความวางเปลาเบื้องหนาเริ่มแยกฉีก! วิชากนหีบระดับตำนานของมัน ที่
สามารถหั่นเฉือนไดกระทั่งสวรรคและโลกตอนนี้กลับถูกตีโตมาแลว!!
ปง! ปงงง!!!
พลังอำนาจอันนาพรั่นพรึงปะทุระเบิดออกมา รางของผูนำพันธมิตรแหงความ
ชั่วราย สั่นไหวไปไมอาจควบคุม! หนาของมันเปลี่ยนสีจนซีด! มันคิดเรงเราพลังหนุน
เสริม อนิจจากลับสายไปแลว เจตกระบี่สะบั้นทำลายพลังของมันจนสิ้นสูญ กระทั่งยัง
พุงมาแยกรางของมันออกเปนสองเสี่ยงอยางไรตานทาน!!
“อากกกกกกกกกก”
ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายที่รางถูกผาครึ่งร่ำรองออกมาดวยความเจ็บปวด
ระคนเคียดแคน!
“นี่นะเหรอวิชากนหีบของเจา เฉือนวางเปลางั้นหรอ? นาเบื่อฟะ!” เมื่อเห็น
สภาพนาอนาถของผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายหลินฟานยักไหลอยางไมรสู ึกรูสา
จากนั่นก็ทุมสมาธิไปกับการชำระลางคนในชุดคลุมลมดำทั้งหมดรอบๆ ใหบริสุทธิ์!!
หากเทียบกับผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายแลว หลินฟานรูสึกวา คนชุดคลุมลม
ดำที่มีจำนวนมหาศาลนี่นาสนใจกวา!
“ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วราย...ขาประมุขจะใหเวลาเจาครุนคิดใหดีถึงเรื่องที่
เจาจะตอตานแข็งขืนขาประมุข...หาไมแลวหากขาประมุขเสร็จเรื่องราวชำระลางไอ
พวกนี้จนหมดเมื่อไหร รับรองเจาไดเจอดีและพบพานที่สุดแหงโศกนาฏกรรมแน!!”
หลินฟานหัวเราะออกมาเบาๆ
เมื่อไดยินน้ำเสียงคลายจะหยามหยันจากอีกฝาย ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วราย
รูสึกวาใจมันทวมทนไปดวยไฟโทสะ!!
“อาคคคคคคคคคคคคค!!!!”
ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายคำรามออกมาดวยโทสะแคน พลังงานมหาศาล
ระเบิดออกมาจากรางของมัน กระทั่งโลกเล็กๆ ใบนี้ยังถึงกับสั่นสะเทือน และที่สั่น
ไหวหนักสุดเห็นจะเปนแทนบูชายัญอันเขื่องนั่น!
“โลงศพอสูรแหงความโกลาหล! ขุมพลังแรกเริ่มแหงอสูรนอกพิภพ จงมา!!”
ทันใดนั้นเองบังเกิดกระแสน้ำวนสีดำกอเกิดขึ้นเหนือศีรษะผูนำพันธมิตรแหง
ความชั่วราย! ทั้งกระแสน้ำวนสีดำนี้ยังมหึมานักประหนึ่งมันกับจะเชื่อมตอกับสถานที่
ลึกลับบางแหง!!
ทันใดนั้นเองลำแสงที่พวยพุงออกจากแทนบูชายัญทั้ง 4 ทิศ 8 ทาง ก็หันไปสาด
สองยังกระแสน้ำวนดังกลาว ปานพวกมันกำลังจะฉุดดึงบางสิ่งที่ยากหยั่งถึงออกมา!!
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา! ทั้งหมดเปนเจารนหาที่เอง! วันนี้ขาจาว
แหงความชั่วราย จักใชพลังทั้งหมดของขา เพื่อบดขยี้เจาใหตายอนาถ!!”
ทันใดนั้นเองปรากฏโลงศพทมิฬขนาดมหึมาผุดโผลออกมาจากวังวนทมิฬ โลง
ศพนี้ดำมืดไรสีสันอื่นใดประหนึ่งรัตติกาลกลืนแสงทั้งยังอบอวลไปดวยกลิ่นอายและ
รัศมีพลังอันชั่วราย! มันใหความรูสึกราวกับ...ตนกำเนิดแหงความชั่วรายทั้งมวลในหวง
จักรวาล ลวนถูกปลดปลอยออกมาจากโลงศพโลงนี้!!
แอด....
ทันใดนั้นเองฝาโลงศพคอยๆ แงมเลื่อนเปดออก...
บุง! บุง!
ทันใดนั้นเองเสียงดังประหลาดปานมีน้ำกำลังเดือดพลานดังขึ้นจากดานใน และ
เมื่อมองใหชัดจะเห็นวาปรากฏของเหลวสีดำมืดคอยๆ เออลนออกมาจากโลงศพ!
พริบตาน้ำดำพลันเออทะลักหลนรวงจากโลงผานฟา ราดรดไปยังผูนำพันธมิตรแหง
ความชั่วราย!!
หลินฟานรูสึกเสมือนหัวใจถูกบีบคั้นใหตึงเครียด! ยามเมื่อเห็นโลงศพสีดำทมิฬ
นั่นเขารูสึกราวกับมีมือหนึ่งกำลังขย้ำหัวใจเขาเอาไวใหเตนชาลง!!
ชางเปนความรูสึกที่พิกลนัก!
“หึๆ ๆ ...ฮาๆ ๆ !!!!” ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายที่อาบน้ำตกทมิฬหัวเราะ
ออกมาดวยเสียงนากลัว น้ำตกทมิฬคลายไรสิ้นสุด ยังคงหลั่งไหลลงมาอยางตอเนื่อง
กลิ่นอายพลังและรัศมีทมิฬแหงความชั่วรายคอยๆ เพิ่มพูนทั้งแผขยายกำจาย
ออกมา นำพาความหวาดหวั่นพรั่นกลัวมาสูทุกผูคน!
หลินฟานตกใจไมนอย เขาสะบัดมือคราหนึ่งเก็บเหลาคนชุดคลุมลมดำที่ถูกชำระลาง
ใหบริสุทธิ์เขาวิมานฟา จากนั้นยอดวิชาทารางไกลแคไหนคือใกลพลันสำแดงเดช!
เสี้ยวพริบตาบรรลุถึงดานหลังผูนำพันธมิตรแหงความชั่วราย!!
อิฐสีแดงกอนหนึ่งผุดโผลจากอากาศวางเปลาเขาสูมือ!
“พี่จะทุบ!”
ปกกกก!!!
“เฮอ...! ไอบานี่ทำพี่ประมุขหวาดกลัวแทบตาย! แคดูก็รูแลววาเดี๋ยวไอโลงบานี่
ตองมีอะไรชวนสยองโผลมาแนๆ ! คิดเหรอวะ วาพี่ประมุขจะโงรอใหเอ็งวางทาโอหัง
ทำอะไรหลอนๆ ไดจนจบ หา!?”
ในตอนแรกหลินฟานก็อยากรูนักวาไอผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายนี่มันจะมา
ไมไหน...แตไมคิดเลยวาไอนี่มันจะหยิบโลงออกมาแลวทำอะไรหลอนๆ แบบนี้!!
“ไอชิบหาย! คิดวาถายทำหนังสยองขวัญอยูรึไงฟะ? เชี่ย! จะทำใหมันขนลุกทำ
เพื่อ!? ไมรูรึไงวาพีป่ ระมุขเกลียดที่สุดเลยไอเรื่องสยองชวนขนลุกแบบนี้เนี่ย ตอนแรก
พี่ประมุขวาจะเปดโอกาสใหลงมือลงมือโตตอบมาสักหนอย ใหมันสนุกๆ มีสีสัน แตใน
เมื่อเสลอเอาของชวนสยองแบบนี้ออกมาเอง ก็โทษใครไมไดแลวละวะ!!”
หลินฟานมองผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายที่นอนแนนิ่งไปกอนที่จะตบหนาอก
เบาๆ พรอมระบายลมหายใจออกมาอยางโลงอก ทวาทันใดนั้นเองเสียงรองดังสนั่นที่
ฟงไปคลายสัตวปาพลันดังออกมาจากโลงศพทมิฬ!
หลินฟานตกใจไมนอยและเมื่อเขาเงยหนาขึ้นไปชมดู ทันใดนั้นหัวใจนอยๆ ของ
เขาก็เริ่มเตนแรงขึ้นอีกครั้ง!!
ตอนที่ 836 เปนไปไมได
กึกกก!!! กรงเล็บปศาจยาวเฟอยสีแดงฉานคอยๆ โผลออกมาจากดานในโลงศพ
เมื่อหลินฟานเห็นกรงเล็บมหึมาพรอมมืออันเต็มไปดวยเกล็ดสีแดงเลือดนี่ ใจของเขาก็
เตนระส่ำรัวถี่ขึ้นมาทันใด เขารูสึกคลายวาจะมีอะไรนากลัวออกมาจากโลงนั่น!
หลินฟานมองไปยังผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายที่ถูกแพนกบาลจนแนนิ่งไป
และรูสึกคลายถูกไอนี่มันปนหัวเลนยังไงไมร!ู !
“ไอชิบหายเอย! เห็นเบงพลังอยูตั้งนาน พี่ประมุขก็นึกวาเอ็งจะสำแดงพลังอะไร
เลิศล้ำของเอ็ง! ใครจะไปคิดวาเอ็งกำลังหาตัวชวยวะ!? รีบไสหัวฟนขึ้นมาเลยนะ! พี่
ประมุขจะสูกับเจาตัวๆ แลวรีบเก็บไอตัวนากลัวนี่ไปเสีย!!”
กลิ่นอายที่แผออกมาจากโลงศพยามนี้ราวกับมันคือตนกำเนิดแหงความชั่วรายก็
ไมปาน และยามที่โลงศพเปดอาออกหมด ทั้งโลกก็คลายจะถูกความชั่วรายครอบงำ!
หลินฟานที่ใจคอไมดี ทนไมไหวถึงกับหวดขาเตะผูนำพันธมิตรแหงความชวย
รายไมหยุด! อยางไรก็ตามผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายยังอยูในชวงติดสตัน แนนิ่งไม
ขยับสักเพียงนิด!!
“ไอเวรเอย! รีบลุกขึ้นมาสิวะ รีบเอา…!!”
ตุบ! ตับ!
ทวากอนที่หลินฟานจะทันใดกลาวจบคำ เขาพลันไดยินเสียงหัวใจเตนดังขึ้น
และเมื่อเขาเงยหนามองขึ้นไปยังโลงศพ ดวงตาพลันเบิกโพลงรูมานตาขยาย ราวกับ
พึ่งไดเห็นอะไรบางอยางอันเหลือเชื่อ!
“นี่มันตัวหาอะไรวะเนี่ย!?”
สิ่งมีชีวิตชั่วรายนี้ขนาดตัวมหึมานัก! รางกายของมันคลายปกคลุมไปดวยตน
กำเนิดแหงความชั่วราย เขาที่โคงงุมบนศีรษะของมัน พรอมดวยรางกายที่ลุกเปนไฟ
แลดูนากลัวนัก!
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
ความวางเปลาทั่วอาณาบริเวณคลายจะถูกมอดไหมดวยเปลวไฟนั่น บรรยากาศ
กลับกลายเปนรอนระอุขึ้นมาทันใด
“ฮูมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!”
เสียงคำรามบาคลั่งดังออกจากสัตวอสูรดังกลาว ทันใดนั้นบังเกิดพลังดูดรั้ง
มหาศาลจากรางของมัน! ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายที่นอนสลบบนพื้นคลายถูก
แรงฉุดดึงบางอยาง รางของมันพุงลอยเขาปากสัตวอสูรดังกลาวไปทันใด!
ตอนแรกหลินฟานก็คิดควาตัวผูนำพันธมิตรแหงความชั่วเอาไว ทวาพริบตาที่
เขาแตะรางมัน ไอแหงความชั่วรายทั่วกายของมันก็แผพุงเขาใสเขา! หลินฟานพลัน
สัมผัสไดชัดถึงอำนาจกัดกรอนอันนากลัว!!
ตอนนี้ดานพลังฝกตนหลินฟานก็แข็งแกรงนัก แถมความแข็งแกรงทางกายภาพ
เองก็เลิศล้ำสุดยอด! แตใครจะไปคิด วาไอหมอกดำดังกลาวจะกรอนใหหลินฟานรูสึก
ปวดแสบปวดรอนไดแบบนี้ ชางนาเหลือเชื่อนัก!
“นี่มันอะไรกันแนวะเนี่ย?!”
ตอนนี้หลินฟานเองก็มีความรูรอบตัวไมนอย หากแตเขาไมเคยเห็นอะไรแบบนี้
มากอนเลย ดูเหมือนวาโลงศพสีดำนี่ทาจะเปนของดีไมนอย! หลินฟานเองก็อยากจะ
ยึดไวเปนของตัวเอง แตเห็นไดชัดวาไอตัวบานั่นไมใชวาจะจัดการไดงายๆ !!
สมบัติระดับนี้ ทุกอยางลวนแลวแตมีวิญญาณสถิต ดวงตาหลินฟานทอประกาย
สวางขึ้นมาขณะมองไปยังจิตวิญญารสถิตศาสตราของโลงศพดำทมิฬ วิญญาณนั้น
คลายกับกอนเนื้อขนาดใหญ อยางไรก็ตามกอนเนื้อนี้มันสีดำทมิฬแผความชั่วราย
ออกมายิ่งกวาปศาจธรรมดาๆ ราวกับเพียงไอความชั่วรายจากมันแคหยดเดียวก็
สามารถปนเปอนพุทธองคที่บริสุทธิ์ไรมนทิลที่สุดในโลกหลาใหกลับกลายเปนบาป
หนาชั่วรายที่สุดในแดนดิน!
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา!!”
ในขณะที่หลินฟานกำลังครุนคิดอยูนั้นเอง ปรากฏแสหนึ่งที่คลายกอเกิดจากแสงสีดำ
ทะลวงผานชองวางออกมา แสงสีดำนี่นากลัวนัก ยามเหวี่ยงผานชองวางปรากฏแผล
ฟาดทิ้งรอยยาวไวเปนทางดั่งแปลเปน! ไมอาจหายไดแมจะผานไปเนิ่นนาน!!
“ไอนี่มันดูไมเบาเลยเวย! เกือบถูกแยกรางแลวไงละ!!”
นี่มันยังเปนอะไรทีน่ ากลัวเสียยิ่งกวาเฉือนวางเปลาที่ผูนำพันธมิตรแหงความชั่ว
รายใชกอนหนาเสียอีก! ทวาสำหรับหลินฟานมันก็ยังไรประโยชน…เพราะตอใหผูนำ
พันธมิตรแหงความชั่วรายลงมือจนเหนื่อยตายก็ทำรายหลินฟานไมได!!
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา! เจากลาชำระลางลูกนองทั้งหมดของขา
นี่คือความแคนที่ขาจาวยากที่จักอภัยใหได! ตอใหดานพลังของเจาจักทาทายสวรรค
แลวอยางไร!? นี่คือโลงศพอสูรแหงความโกลาหล ขุมพลังแหงความชั่วรายทั้งมวล!
ตราบใดที่มีแหลงพลังแหงความชั่วรายนี้ดำรงอยูในโลกหลา ขาจาวจักไรเทียมทาน!
สำหรับเจา...ตอนนี้จงแหลกพินาศไปภายใตเงื้อมมือขาจาวเสีย!!”
หลังจากที่กลืนกินผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายไปแลว คลายไอสัตวอสูร
ดังกลาวจะถูกแทนที่โดยผูนำพันธมิตรแหงความชั่วราย!!
“จงสยบ! กมกราบขาจาวเสีย! แลวขาจาวจักเมตตาไวชีวิตเจาสักครา! เจาต่ำ
กวาขาเพียง 1 แตอยูเหนือผูคนนับหมื่นพัน พวกเราจักปกครองโลกไรจำกัดไป
ดวยกัน!!”
ตอนนี้ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายไมไดใชรางที่มีโครงสรางเหมือนมนุษย
สืบไป สัตวอสูรที่ออกมาจากโลงศพอสูรแหงความโกลาหลคำรามกึกกอง กลิ่นอายที่
มันแผออกมาทำใหปราณชีวิตของสรรพสิ่งโดยรอบกลับกลายเปนปราณของอสูรแหง
ความโกลาหล
ที่สำคัญ ในขณะที่นั่นเปนดั่งพลังหลอเลี้ยงอสูรนอกพิภพ หากแตกลับสิ่งมีชีวิต
อยางรอยพันชนเผาแลวมันไมตางอะไรจากพิษราย! มันจะทำใหพลังงานในราง
ปนปวนคุมคลั่งและทำใหวิมานฟาลมสลาย!!
“ตอนนี้ไอที่เจาทำเปนหาวพลามมากอยูเนี่ย...เพราะเจาคิดวาอาศัยรางโงๆ นี่
แลว จะทำอะไรขาประมุขไดงั้นเหรอ?”
หลินฟานเหลือบมองไปยังอีกฝายดวยสายตาเฉยๆ ไมไดทุกขรอนอะไรเลย
“กำเนิดอสูรโกลาหล! สะกดขมไรจำกัด!”
ทันใดนั้นผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายตะโกนออกมาเสียงดังกึกกอง หมอกสีดำขน
หลั่งไหลออกมาจากปากของมัน กลุมหมอกดังกลาวเริ่มควบรวมกอเกิดเปนอักขระไม
หยุดหยอน อักขระเหลานี้แผกลิ่นอายชวนสยดสยองและความชั่วรายออกมาอยางไร
ขอบเขต! ทันใดนั้นพวกมันก็พุงไปปดลอมอาณาบริเวณรอบๆ หลินฟาน!!
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา...เจามิตองปดบังสืบไป! ขาวจาวนั้นมอง
เจาทะลุปรุโปรงแลว! เจาเปนเพียงเทพสวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 9 สลาย 8 สูเวิ้งวาง
เทานั้น! และตอนนี้ 1เวิ้งวางรวมทั้งขุมพลังทั้ง 8 ของเจาลวนถูกขาจาวปดผนึก! มาดู
กันเถอะวาเจายังจักมีปญญาทำอันใดได!”
ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายหัวเราะออกมาสนั่น ราวกับตอนนี้ทุกสิ่งอยางอยู
ในกำมือของมันสิ้นแลว
หลินฟานเองก็กระพริบตาปริบๆ ตอนนี้เขาสัมผัสไดวา 1 เวิ้งวางขุมพลังหลัก
รวมถึง 8 ชั้นฟาของเขาไดถูกปดผนึกเอาไว เขาไมอาจสัมผัสไดถึงพลังที่จายสงออกมา
ไดเลย...อยางไรก็ตาม สำหรับหลินฟานแลว เรื่องแคนี้มนั ขี้หมา!!
“เฮย! หุบปากไดแลวไอผูนำชั่ว! ขาประมุขจะละเลนกับเจากอนแลวกัน!!”
ควาง!
ขวานนิรันรผุดโผลจากอากาศวางเปลาควงขวับๆ ไปรอบกาย แสงพลังคมกลา
จากตัวขวานเปลงออก ขวานบานๆ สีทองเผยโฉมใหโลกหลาประจักษอีกครา! ขวานนิ
รันดรนี้ มันเปนถึงอาวุธในตำนาน หากแตชางนาเสียดายนักที่มันอยูในสภาพเสียหาย
แตก็ชาง หลินฟานอยากจะรูวาไอผูนำพันธมิตรแหงความชั่วนี่มันจะแนสักแคไหน!!
กอนหนานี้เขาสามารถจัดการผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายไดงายดาย แต
ตอนนี้พลังความแข็งแกรงของมันเพิ่มขึ้นอยางมหาศาล กระทั่งยังมีระดับพลังสูงกวา
เทพสวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 10 เทพนิรันดรธรรมดาๆ ไปแลว!
ผลาญ!!
นภาลัย!!
กลิ่นอายพลังทั่วรางของหลินฟานยังคงสงบไรระลอกแมจะสะบัดขอมือสับขวาน
ออกมา 2 กระบวนทาติด! แสงพลังของกระบวนทาขวานทั้ง 2 พวยพุงออกมากอนที่
จะกลับกลายเปนมังกรพัวพัน!!
เปรี๊ยงงงงงงงงงงง!!!
พลังขวานปะทุขึ้นบนรางของผูนำพันธมิตรแหงความชั่ว ลำตัวของมันปรากฏ
รอยขวานฝงลึก หากทวาหมอกสีดำที่หอมลอมก็พุงมาพาดผานรอยแผล จนทำให
บาดแผลของมันหายไดในชั่วพริบตา! แปบเดียวเหมือนไมเคยเปนอะไร!!
หลินฟานเอียงคอยักคิ้ว ประหลาดใจไปเล็กนอยเพราะไมคิดวาความแข็งแกรง
ของผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายจะเพิ่มขึ้นสูงขนาดนี้ 2 ขวานเมื่อครูเขาไดใชออก
เทาที่พลังจะเอื้ออำนวยแลว และแมจะเปนตัวตนระดับเทพสวรรคอมตะชั้นฟาที่ 9 ก็
นาจะถูกสับแหลกเปนเศษเนื้อไดไมยาก!!
แตไมคิดเลยวาจะทำไดแคฝากรอยขวานไวบนรางผูนำพันธมิตรแหงความชั่ว
รายไดแปบเดียวเทานั้น...เรื่องนี้หลินฟานคิดไมถึงจริงๆ
ดูเหมือนวาทั้งพลังและความแข็งแกรงของผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายจะ
แข็งแกรงกวากาลกอนจมหูทเี ดียว!!
“หึหึหึ ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา 2 กระบวนทาขวานของเจาเมื่อครู
นับวาล้ำลึกมิใชชั่ว...นาเสียดายที่พวกมันไรประโยชนตอขาจาว!
ในสายตาของขาจาวยามนี้ เจาก็มิตางอันใดจากไรฝุน ที่ขาวคิดจะเปาคิดจะบี้ก็
ลบเลือนหายไปไดโดยงาย!!”
ผูนำพันธมิตรแหงวความชั่วรายหัวเราะออกมาเสียงเย็นพลังงานมหาศาลเออลน
ออกมาทั่วรางของมัน ตอนนี้ความมั่นใจของมันสูงสงทะลุฟา ทั้งเต็มไปดวยความฮึก
เหิมใจเหลือใดจะกลาว!!
สวนหลินฟานนั้นไมไดพูดอะไรสักเพียงนิด สองเทาขยับรางบรรลุถึงเบื้องหนา
ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายทันที กอนที่จะยิงหมัดที่ประหนึ่งมีทวยเทพหมูมาร
สถิตยออกมา ปราณมหาภัยพิบัติโลกาวินาศทะลักออกมาทำลายลางสรรพสิ่ง!!
ตอนแรกนั้นหมัดเทพมหาภัยพิบัติโลกาวินาศก็ไมไดแข็งแกรงทรงพลังถึงเพียงนี้
ทวาวิชานี้ไดถูกหลินฟานยกระดับจนบรรลุขั้นสุดยอด เพียงหนึ่งหมัด ปราณมหาภัย
พิบัติที่อยูในระนาบหางไกลพลันถูกดึงผานหวงกาลอวกาศอันลึกลับ มาอัดแนนอยูใน
หมัดนี้!!
หากตัวตนใดทรงพลังตนใดถูกปราณมหาภัยพิบัตินดังกลาวชำแรกแทรกซึม ทั้ง
รางของพวกมันจะเริ่มสูญสลายพังทลาย ประหนึ่งถึงวันโลกาวินาศ! และถึงแมจะเปน
ตัวตนที่ทรงพลังอยางแทจริงก็ยังตองไดรับความเจ็บปวดอันหนักหนา!!
“ปราณมหาภัยพิบัติงั้นเหรอ! ประเสริฐ! นี่ชางประเสริฐนัก!!”
ผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายอาปากกวาง กอนที่จะบังเกิดวังวนพลังดูดรั้งอัน
มหาศาลดูดกลืนปราณมหาภัยพิบัติลงไปอยางเร็ว และเริ่มยอยสลอยพลังปราณ
ดังกลาวอยางยินดี!
“ฮาๆ ๆ ๆ ๆ !!! ขาจาวผูนี้คืออสูรนอกพิภพ! พลังงานแหงความมืดทั้งมวลลวน
ไมตางอันใดจากสารอาหารของขาจาว! ตอนนี้เจายังทำอันใดไดอีกเลา!?” ผูน ำ
พันธมิตรแหงความชั่วรายรองโวยวายออกมาพรอมชักกรงเล็บอำมหิตขึ้นมาตวัด!
บังเกิดใบมีดพลังคมกลาอบอวลไปดวยหมอกสีดำพุงทะลวงผาความวางเปลาปรี่ตรง
ไปหาหลินฟาน!!
ดาบพลังนี้ยากจะมองเห็นไดชัด หมอกทมิฬแหงความชั่วรายเองก็ปกคลุม
หนาแนน ยังแผขยายออกไปทุกทิศทางปานจะกลืนกินสรรพสิ่ง!
“ไปลงนรกเสีย! ดาบแหงความชั่ว!!”
เครง! เครง!!
“นิ...นี่เปนไปไดอยางไร” ยามเมื่อดาบพลังสัมผัสรางหลินฟาน ก็มีเสียงปาน
โลหะกระทบกันดังขึ้น
‘ติ๊ง!!…กายเทพนิรันดร EXP+1,000’
“โอว!”
หลินฟานแยมยิ้มออกมา กอนที่จะสะบัดนิ้วคราหนึ่งทำใหดาบพลังที่มีไอ
ความชั่วรายอบอวลแตกสลายเปนเสี่ยงๆ
“ไมเลว! ตอนนี้ขาประมุขรูแลววาเจามันก็แนใชได เกรงวาหากขาคิดจัดการเจา
ดวยตัวเอง ก็คงตองใชเวลาอยูบางละนะ...แตตอนนี้พอดีขาประมุขเบื้อจะเลนกับเจา
แลววะ ขอกระทืบเจาใหจบๆ ไปเลยแลวกัน!!”
“อาศัยเจา!?”
แมจะกลาวออกมาเชนนั้นหากแตในใจผูนำพันธมิตรยังลอบตื่นตระหนกไมนอย
ไมคิดเลยวาความแข็งแกรงทางกายภาพของราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจาจะ
สูงล้ำขนาดนี้! ดาบแหงความชั่วของมันทำอะไรอีกฝายไมไดเลย!!
“แนนอน...วาไมใชแคขา! เอา ออกมาหนอย!!”
หลินฟานสะบัดชุดคลุมคราหนึ่ง กลิ่นอายพลังอันสุดไพศาลเริ่มกำจายออกมา
ทั่วโลกใบเล็ก และเมื่อผูนำพันธมิตรแหงความชั่วรายสัมผัสไดถึงไอพลังดังกลาว มันก็
รองออกมาเสียงหลงอยางไมรูตัว
“ปะ...เปนไปไมได!!”
ตอนที่ 837 ดี พูดไดด!ี
ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ ...ผูอำมหิตไรใจเจี๋ย
ดวยมีรางอดีตตัวตนสูงสุดทั้ง 2 ยืนตระหงานอยูเชนนี้ ความรูสึกราวกับโลกหลา
จะพลิกตลบถลมทลายลง!
“เปนไปไมได! เรื่องนี้เปนไปไมได!!”
ตอนนี้จาวแหงความชั่วรายคลายจะทรุดลงไดทุกเวลา... ทันทีที่มันสัมผัสไดถึง
กลิ่นอายพลังนั่น มันก็รูดีวาผิดทาแลว!
“อะไรที่มนั เปนไปไมไดหรอจาวแหงความชั่วราย? ในเมื่อเจามันเกงนักไมใชรึ
ไง? ขาประมุขก็เลยใหตัวตนสูงสุดทั้ง 2 ไปเลนเปนเพื่อนกับเจาแทนขาแลวกัน!”
หลินฟานเลิกสนใจอีกฝายกอนจะเบนสายตาไปจับจองโลงศพอสูรแหงความ
โกลาหลที่ลอยอยูทามกลางความวางเปลา
แคมองปราดเดียวหลินฟานก็รูได...วานี่มันของดี! ถึงแมวาจิตวิญญาณสถิต
ศาสตราอาจจะดูชั่วไปนิดหนอย ทวาหากถูกหลินฟานปลูกฝงละก็ มันก็จะละทิ้งความ
มืดหันหนาเขาหาแสงสวางดั่งใบไมผลัดใบทันที!!
“ฮาๆ ๆ ๆ !!”
ทันใดนั้นเองจาวแหงความชั่วรายที่คลายหวาดกลัวตัวตนสูงสุดทั้ง 2 จนหัวหด
อยูๆ ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา และนี่ยังเปนเสียงหัวเราะที่คลายสะกดขมผูคนนัก
ราวกับมันมองดูแคลนผูคนทั่วทั้งหลาย!
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา...”
จาวแหงความชั่วรายคอยๆ กลาวออกมาอยางเชื่องชา
“หืม? วาไง?” หลินฟานหัวเราะออกมาเบาๆ ไมรูวามันคิดจะทำอะไรอีก หรือ
มันคิดจะยอมแพกัน?
สำหรับหลินฟานแลวเกิดมาทั้งทีก็ควรจะถลมทุกสิ่งที่ทำใหเขาไมพอใจเสียให
ราบ! ทวาในตอนที่หลินฟานยังออนแออยูนั้น เขาเองก็รูจักการยอมแพเชนกัน แตการ
ยอมแพของเขา...จะเปนการยอมแพแบบจดบัญชีแคนเอาไวและเตรียมจะกลับมาเอา
คืนอีกฝายเสมอ!!
“ขาคืออสูรนอกพิภพ” จาวแหงความชั่วรายกลาวออกมาหนานิ่ง
“ขารูแลว”
“ขาคือจาวอสูรนอกพิภพ” เสียงของจาวแหงความชั่วรายดังขึ้นเล็กนอย
“อันนี้ขาก็รูแลว”
“ขาจาวผูนี้มิเคยรูจักคำวาหวาดกลัว! ขาไดตอสูฟนฝามาแลวหมดสิ้นมิวาจัก
สวรรคหรือนรก! หาไดเคยกมหัวใหผูใดไม! ตอใหเปนตัวตนสูงสุดของชนเผาโบราณ
หากทวาในสายตาของขาจาวนั้น พวกมันก็ไมตางใดจากมดปลวก!!”
แปะ! แปะ! แปะ!
“ดี! พูดไดดี!!”
ฟงคำคุยโตอวดโอของอีกฝาย หลินฟานยังอดไมไดที่จะตบมือออกมาแปะๆ
ในความเห็นของหลินฟาน เขาใหคะแนนความโมของมัน 10/10 เลยเอา!
“ตอใหตัวตนสูงสุดจักอยูที่นี่ถึง 2 ขาจาวผูนี้ก็มิสั่นกลัว! แมวาขาจาวอาจจะไร
ซึ่งโอกาสรอดชีวิต ขาจาวก็มิขลาดกลัว! นั่นเพราะอสูรนอกพิภพมีศักดิ์ศรีที่มิยอมผูใด
เหยียบย่ำ!!”
“เมื่อเจากาวเขามาหาเรื่องถึงฐานที่มั่นพันธมิตรแหงความชั่วของขา นั่น
หมายความความวาเจาถือเปนศัตรูของขาจาวและอสูรนอกพิภพทั้งหมด! ยังมีจาว
แหงความชั่วรายอีกนับหมื่นพันตน! เมื่อถึงวันที่โลกไรจำกัดเปดออก สหายของขาจาว
...จักเขามาทำลายพวกเจาทั้งหมด และทำใหพวกเจาเปนทาสของอสูรนอกพิภพไป
ตลอดกาล!!”
จาวแหงความชั่วรายตะโกนออกมาดวยความเกรี้ยวกราด มันชักกรงเล็บขึ้นมา
เห็นไดชัดวาตอนนี้มันกำลังฮึกเหิมอยางหนัก!
“โอ พูดไดดีนี่! วาแตแลวไงเหรอ?”
หลินฟานยังปรบมืออีกครั้งเพื่อถือเปนการแสดงความชมเชยวาจาปราศรัยของ
จาวแหงความชั่วราย
ตอนนี้มันคงกำลังเดือดดาลถึงขีดสุดและคิดปะทุพลังทั้งหมด! ทวาสำหรับหลิน
ฟานแลวมันก็เทานั้น!
“เอาละ! พวกเจาไปจัดการตอนรับจาวแหงความชั่วรายนี้ใหดี!!” หลินฟานโบก
มือเบาๆ และครานจะกลาวอะไรสืบตอ
“ทราบ”
ทั้งผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ และผูอำมหิตไรใจเจี๋ย หันมองจาวแหงความชั่ว
รายพรอมเผยยิ้มเย็นเยือก เพียงใครสักคนก็ทำใหจาวแหงความชั่วรายรางสั่นดวย
ความหวาดกลัวแลว นับประสาอะไรกับที่ทั้ง 2 ลงมือพรอมกันแบบนี้!
และดวยสองตัวตนสูงสุดลงมือพรอมเพรียงแบบนี้ ผลลัพธมันก็แนนอนอยูแลว...
จาวแหงความชั่วรายตองโดนกระทืบจนเละ ไรซึ่งหนทางตอบโตแมแตนอย!
ทั้ง 2 ตัวตนสูงสุดกระโจนขามชองวางกาวใหญ ยังไปพรอมความเกรี้ยวกราด
และสภาวะอันหนักหนวงประหนึ่งคลื่นยักษถาโถม เรื่องนี้อดทำใหจาวแหงความชั่ว
รายรูสึกกดดันเสียไมได!!
สำหรับหลินฟานนั้น…ตัวจาวแหงความชั่วรายยังพอมั่นใจวาสามารถรับมือ
กระทั่งจัดการได แตกลับตัวตนสูงสุดทั้ง 2 มันไรซึ่งความมั่นใจอันใดแมแตนอย!
ตัวตนสูงสุดก็คือตัวตนที่นากลัวที่สุดรองจากเจตจำนงสวรรค! ตอใหเปนตัวตน
อันทรงพลังที่แทจริงของอสูรนอกพิภพ ยังตองลงมืออยางระวังหากพวกมันตองปะทะ
กับตัวตนสูงสุด!!
ตอนนี้ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณพลันยกมือขึ้นมามือหนึ่ง พรอมกลาวออกดวย
เสียงแหบแหง “ฝามือเดียว ก็เกินพอ”
“เจา...!”
จาวแหงความชั่วรายยอมเขาใจคำกลาวของผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณดี ...อีก
ฝายสามารถตบมันใหตายไดใน 1 ฝามือ และในสายตาของจาวแหงความชั่วราย เรื่อง
นี้ก็มีความเปนไปไดอยางมาก!
“ชากอน!”
ทันใดนั้นเองจาวแหงความชั่วรายพลันยกมือขึ้นมา 2 ขางพรอมตะโกนเสียงดัง
“อะไรของเจาอีกละ?” หลินฟานกลาวถามดวยน้ำเสียงสงสัย
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา! ขาจาวผูนี้รูดี...วาสิ่งเดียวที่รอขาจาวอยู
คือความตาย! แตแมกระนั้น ขาจาวก็จักขอตายอยางมีเกรียติ! ขาจาวมีสุดยอดวิชาอัน
ทรงพลัง! เจากลาพอที่จักปลอยใหขาจาวไดสำแดงหรือไม!?”
จาวแหงความชั่วรายคำรามออกมา สายตาของมันเหมือนพวกเผด็จการที่กำลัง
ไมพอใจอยางแรง หากทวาแมมันจะเผชิญหนากับตัวตนสูงสุดโบราณ แตมันกลับไม
เผยความกลัวออกมาเลย!!
“ฮาๆ ๆ ๆ อะไรกัน หรือเจาไมกลา?”
“จาวแหงความชั่วรายเอย...เจายังคิดจะลากถวงเวลาอีกงั้นเหรอ แตก็เอาเถอะ
ขาประมุขจะใหโอกาสเจา รีบๆ เขาละ!”
เมื่อหลินฟานไดยินคำกลาวของจาวแหงความชั่วรายก็ลอบสบถดาในใจ ‘ถลม
มารดาปูมันเถอะ ไอเวรนี่ไมใชคิดเลียนแบบเขาอยูหรือไง?’
ตอนนี้เมื่อมันกำลังจะเจอตัวตนสูงสุดทั้ง 2 กลุมรุมความกลาอะไรในใจของมัน
คงแตกสลายไมมีเหลือแลว นับประสาอะไรกับจาวแหงความชั่วรายคนเดียว ตอใหมี
มัน 10 คน แตหลินฟานก็สามารถทุบตีพวกมันใหรวงไดไมยาก!
“ประเสริฐ!!”
ทันใดนั้นจาวแหงความชั่วรายก็คำรามเสียงดัง กลิ่นอายทั่วรางของมันพลันปะทุ
ออกมา หมอกสีดำอันไรจำกัดยังแผออกมาหนาแนน พวกมันดั่งธวัชหอมลอมพันอยู
รอบกาย!
“ขุมพลังแหงความชั่วราย! อาณาจักรอสูรไรประมาณ!!”
ครืนนนนนนนนนน!!!
พลังอันนาเกรงขามปะทุออกมาจากรางของจาวแหงความชั่วราย พลังนี้นับวาเอาเรื่อง
ในสายตาของหลินฟาน หากแตตอหนาตัวตนสูงสุดทั้ง 2 ยังนับวากระจอยรอย!
ครืนนนนนนนนน!!
ตอนนี้เองโลงศพอสูรแหงความโกลาหลก็เริ่มสั่นสะทานกอนที่จะพุงเขาหาจาว
แหงความชั่วรายดั่งอัสนี
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา! กระบวนทานี้ของขาจาว คือกระบวน
ทาที่รุนแรงที่สุดของอสูรนอกพิภพ! แมมันจักมิอาจทำอันใดตัวตนสูงสุดทั้งสองไดแลว
อยางไร? ขาจาวก็จักลงมือเต็มพลัง!!”
ปง! ปง!
ทันใดนั้นนิ้วทั้ง 10 ของจาวแหงความชั่วรายเริ่มระเบิดออกมา กลับกลายเปน
หมอกสีดำเขมขน นิ้วทั้ง 10 นี่ยังเปนดั่งแกนชีวิตของจาวแหงความชั่วราย ตอนนี้เมื่อ
พวกมันทั้งหมดปะทุออก ก็หาใชอันใดที่ธรรมดาไม! หากมันตองการฟนฟูกูคืนสิ่งนี้
เกรงวาคงตองใชเวลาฝกฝนบมเพาะทั้งวันทั้งคืนไมต่ำกวา 100 ป!!
ทวายามนี้จาวแหงความชั่วรายมีแตตองใชออกดวยทุกสิ่งเทานั้น!
“รับกระบวนทานี้ของขาจาวเสีย! เปลี่ยนโลกาชิงสวรรค!!”
จาวแหงความชั่วรายคำรามดังกึกกอง ทันใดนั้นทั่วอาณาบริเวณพลันมืดลง
ทันใดพลังงานอันมหาศาลพวยพุงออกมาจากรอบกายจาวแหงความชั่วราย ภายใน
หมอกดำทมิฬนี้ โลงศพอสูรแหงความโกลาหลก็เริ่มพังทลายลงชาๆ จิตวิญญาณสถิตย
ศาสตราเริ่มกรีดรองโหยหวนออกมา!
เมื่อรางกายหลักของมันสลายตัว ชิ้นเนื้อสีดำขนาดมหึมาก็เริ่มสั่นสะทาน
สะเทือนเตนเราๆ ไปทั่วโลกหลา ประหนึ่งซาลาเปาบุก!!
“ดี! กระบวนทาอันดี!!” หลินฟานระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ กับผูอำมหิตไรใจเจี๋ยพุงวูบเขามาอยางพรอมเพรียง
จับควาชิ้นเนื้อดังกลาวเอาไว
กี๊ซซซซซซซซ!!!
“จาวแหงความชั่วราย…เจามันไรยางอายและนารังเกียจนัก! ขาคือสิ่งมีชีวิต
ศักดิ์สิทธิ์ของอสูรนอกพภพ แตเจายังกลาทำรายขางั้นเหรอ!?”
ทันใดนั้นกอนเนื้อก็โพลงคำออกมาดวยโทสะแคน หากทวานี่กลับทำใหหลินฟานประ
หลาดใจนัก เพราะเปาหมายของความเคียดแคนนี้กลับเปนจาวแหงความชั่วราย!!
“ราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา! วันนี้ มิใชวาขาจาวนั้นหวาดกลัวเจา!
หากแตขาจาวกำลังอยูในชวงหัวเลี้ยวหัวตอของการฝกฝนบำเพ็ญ และขาจาวมิอาจใช
พลังไดเต็มที่! วันหนาขาจาวจักใหเจาไดเห็นดีแน!!”
“หนี!”
บรึมมมมมมมมมม!!!
ความวางเปลารอบๆ กำลังสั่นสะทาน ปานโลกใบเล็กนี่พรอมจะพังทลายไดทุกเวลา
“เชี่ย จาวแหงความชั่วราย!ไอชิบหาย เจากลาหลอกขาประมุขงั้นเหรอ!?”
หลินฟานตกใจทั้งโพลงคำออกมาอยางขุนขึ้งทันใด มารดามันเถอะ ความเชื่อใจ
กันระหวางคนสองคนอยูที่ไหน!?
“เจาลางคอรอขาจาวใหดีเถอะ! วันนี้ขาจาวฝากไวกอน!!”
กาลอวกาศรอบๆ เริ่มผันผวนไรเสถียร ตอนนี้พื้นที่รอบๆ ตัวหลินฟานเองก็เริ่ม
สั่นสะเทือน นี่คือวิชาหลบหนีอันหาตัวจับไดยากของจาวแหงความชั่วราย แลกกับ
การเผาผลาญแกนแทแหงชีวิตของมัน!!
เพียงชั่วพริบตากลิ่นอายแหงความชั่วรายก็สลายหายไป มันหนีหายไปอยางไร
รองรอย...
ตั้งแตแรกจาวแหงความชั่วรายก็เตรียมการหลบหนีไวแลว...
เมื่อพิจารณาจากการปะทุแกนแทแหงชีวิตของมัน ก็ยากที่จะมีใครสามารถไล
ลามันได แตความจริงสำหรับเรื่องที่มันถูกบีบใหหนีหัวซุกหัวซุนแบบนี้ก็ทำใหจาวแหง
ความชั่วรายขุนเคืองใจไมนอย!
และเหตุผลที่มันรอชา มัวเสียเวลากลาวเวิ่นเวออยูนั้น...ก็เพื่อเตรียมบทเรียนไว
สั่งสอนราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจา!!
ตอนที่ 838 การนองเลือดอยูทไี่ หน ความร่ำรวยอยูท ี่นนั่
“เจาแหงความชั่วราย...สักวันเจาตองตกตายอนาถ!!”
จิตวิญญาณของโลงศพอสูรแหงความโกลาหลคำรามออกมา ตอนนี้เมื่อรางหลัก
ของมันตกตายไป...มันก็เหลือแคเพียงจิตวิญญาณเทานั้น! ยามเมื่อโลงศพอสูรแหง
ความโกลาหลอยูในมือของจาวแหงความชั่วราย มันก็คอยๆ กอเกิดสำนึกสติขึ้นมา
ตอนนี้เมื่อมันมีความคิดอานทั้งปลูกฝงไดลึกซึ้งแลว แนนอนวามันเองก็รักชีวิตนอยๆ
ของมัน!!
หลังจากที่มันอดทนฝนฝาปลูกฝงฝกฝนมาเนิ่นนาน จะใหมันมาตกตายจบสิ้น
งายๆ แบบนี้ไดยังไง?
คับแคนใจแทบตายแลว!
ความไมยินยอมอันหนักหนาเออลนทวมใจของจิตวิญญาณโลงศพอสูรแหงความ
โกลาหล...
“ยามเมื่อคนๆ หนึ่งเดินเรียบริมน้ำไปนานๆ สักวันเทามันก็ตองเปยก...”
หลินฟานไวอาลัยออกมา ตอนแรกที่เห็นจาวแหงความชั่วรายคิดแลกชีวิต เขาก็
ไมคิดเลยวาที่แทมันจะขี้ขลาดขนาดนี้!
ถลมมารดามันเถอะ! ความรูสึกที่ไดเจอมุกคิดระเบิดพลังสูตายกอนที่จะชิ่งหนี
ไป...มันรูส ึกแบบนี้นี่เอง! เยี่ยม!!
อยางไรเสียปญหาที่หลินฟานกำลังเผชิญอยูตอนนี้ก็คือ ...โลงศพอสูรแหงความ
โกลาหลนี่ มันพรอมบึ้มไดทุกเวลา...!
“ชวยดวย...ชวยขาดวย!!”
ตอนนี้จิตวิญญาณสถิตโลงศพอสูรแหงความโกลาหล ไดแตฝากความหวังที่จะ
รอดชีวิตไวกับหลินฟานแลว มันหวังวาหลินฟานจะชวยมันได!!
จิตวิญญาณสถิตศาสตรานั้นรูดีวาการทำลายตัวเองมันนากลัวเพียงใด หากการ
ทำลายตัวเองดำเนินจนจบ มันจะดับสูญไปจากโลกหลา ไมเหลือแมแตเศษเสี้ยว
เดียว!!
ใหตายมันก็ไมมีวันยินยอมพรอมใจ! กวาจะมีวันนี้ มันปลูกฝงมาเนิ่นนาน! พอได
คิดวามันกำลังจะหายไป...พอไดคิดวาความพยายามทั้งหมดของมันจะกลับกลายเปน
ไรคา...มันก็รับไมได!!
“นี่มันเชี่ยไรวะเนีย่ ? รางหลักไมมีแลว เหลือแตจิตวิญญาณสถิตงั้นเหรอ? แถม
ไอวิญญาณเวรนี่ยังพรอมจะบึ้มไดทุกเวลา? นี่มันไมไรประโยชนไปหนอยหรือไง หา?”
ตอนนี้หลินฟานรูสึกกลืนไมเขาคายไมออกเล็กนอย เขารูสึกวาเรื่องราวตอนนี้
ชางไมราบรื่นเอาเสียเลย ตอนแรกเขาคิดวาจะไดชำระจาวแหงความชั่วราย และยึด
ทรัพยมันซะหนอย!
แตดูจากสภาพแลว ตอนนี้เรื่องนั้นคงเปนไปไมไดสืบไป...
ตัวบัดซบเศษเดนอยางจาวแหงความชั่วรายนั่น มันเพิ่งเลนละครบัดซบ! และเพิ่งหนี
ไป! ที่แสบก็คือ มันยังจุดระเบิดใหโลงศพอสูรแหงความโกลาหลนี่เตรียมบึ้มกอนที่มัน
จะวิ่งหนีไปอีก!!
รอบนี้มันเปนการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ! สูญเสียโคตรๆ !!
“อาคคคคคคคค!!”
ตอนนี้จิตวิญญาณสถิตยศาสตรารองดังลั่นออกมา กอนเนื้อสีดำมหึมาเริ่มสั่น
รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พลังงานอันไรขอบเขตเริ่มหลั่งไหลออกมา แมจะเปนเพียงเศษเสี้ยว
พลัง ก็มากพอแลวที่จะสั่นสะทานความวางเปลา!
นี่คือยอดสมบัติ! การระเบิดของยอดสมบัติยอมทำใหโลกหลาสะเทือน!
“หลอมกลั่นสวรรคและโลก!”
ไรซึ่งความลังเลใดๆ หลินฟานเรียกเตาหลอมกลั่นสวรรคและโลกออกมาทันที
จากนั้นก็ใชพลังโยนกอนเนื้อดังกลาวลงไปโดยตรง!
“หลอมกลั่น”
กอนที่จิตวิญญาณสถิตนี่จะระเบิด เขาอาจจะหลอมมันไดทัน! แถมใครจะไปรูละ..เขา
อาจจะไดอะไรที่มปี ระโยชนมาก็ได!
“ชวยขา! ชวยขาดวย!!”
จิตวิญญาณเริ่มร่ำรองคร่ำครวญภายในเหลอมกลั่นสวรรคและโลก ในฐานะที่
มันเปนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของอสูรนอกพิภพ มันเองก็ดำรงอยูมานานไมตำกวา 10,000 ป
ใครจะไปคิดวาวันหนึ่งมันจะพบจุดจบแบบนี้!
เพียงพริบตาพลังอำนาจแหงการหลอมกลั่นก็ปะทุระเบิดออกมากลืนกินมันสิ้น!
'ติ๊ง!!…ขอแสดงความยินดีทานไดรับ แกนความคิดชั่วราย"
‘แกนความคิดชั่วราย : ตนกำเนิดของความคิดชั่วทุกประการของโลกไรจำกัด
รายกาจ นากลัว ชั่วชาสารเลว สามารถใชงานไดหลายรูปแบบ’
‘หลังจากหลอมกลั่นแลว สามารถใชเปนขุมพลังแหงความชั่วราย และควบคุม
ความคิดชั่วรายทั้งหมดภายในโลกหลาเพื่อนำมาเพิ่มพลังของผูใช ไมทราบ
ผลขางเคียง’
เมื่อหยิบแกนความคิดชั่วรายออกมาจากเตาหลอมกลั่นสวรรคและโลก หลินฟานก็งง
ไปเล็กนอย
“ไอแกนปลวกนี่มันจะเอาไปใชยังไงวะ?”
หลินฟานยักไหลคราหนึ่ง กอนที่จะโยนมันไปเกบไวในมิติเก็บของ มีเวลาเขา
คอยเอามันมาดูใหละเอียด สวนตอนนี้เขาครานจะอะไรใหมันมากความ
ตอนนี้จาวแหงความชั่วรายก็จากไปแลว แถมโลกใบเล็กนี่ก็ใกลพังทลายเต็มที
และในตอนแรกหลินฟานก็คิดวาแทนบูชายัญอันเขื่องนี่สมควรมีประโยชน
อะไรบาง แตพอเอามือไปแตะดู เขาก็ไดรูทันที วาไอนี่มันมีไวโชว วางไวโกๆ ประดับ
ฉากทำมะเขืออะไรไมไดเลย! โคตรของโคตรจะไรประโยชน!!
“ไปกันเถอะ”
หลินฟานเก็บผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ และ ผูอำมหิตไรใจเจี๋ย ลงวิมานฟา
จากนั้นก็พุงไปยังกำแพงแกวผลึก กอนจะถีบจนมันพังทลายฝาออกมาดื้อๆ
และเมื่อออกมาดานนอกแลว หลินฟานก็หันรีหันขวางอยูครูหนึ่ง...เขาไมรูวา
ตอนนี้เขาอยูไหน!
ฐานที่มั่นของพันธมิตรแหงความชั่วรายมันเปนโลกใบเล็ก เสมือนมิติสวนตัว
และไมมีตำแหนงที่ตั้งอันแนนอน ยังเปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ ในแตละวินาที ตอนนี้ตำแหนง
ที่หลินฟานอยู ก็สมควรเปนตำแหนงที่ฐานที่มันพันธมิตรแหงความชั่วรายสุมลอยมา...
ในขณะเดียวกันกับที่หลินฟานจะทำการคนหาวาเขาอยูตรงไหนนั้นเอง เขาก็
สัมผัสไดถึงกลิ่นคาวเลือด อันบงบอกวามีการนองเลือดอยูใกลๆ และทามกลางกลิ่น
คาวเลือดที่วาก็มีพลังมหาศาลดำรงอยู!!
“โอ สัมผัสพลังทางนั้น...มีคนกำลังตีกันอยู แถมทาทางจะบาดเจ็บลมตายกัน
ระนาวเลยแหะ!”
คิ้วของหลินฟานโคงขึ้นมาอยางมีความสุข เขาละชอบนักแลไอเรื่องที่มีคนกำลัง
ตีกันแบบนี้! นี่คือหนทางลัดอันเร็วที่สุดในการแสวงหาความร่ำรวย!!
หลินฟานยังพร่ำภาวนาในใจ ขอใหไอทตี่ ีกันอยูเปนตัวตนระดับสูงๆ ! เพราะ
หากเปนแบบนั้น เขาจะไดผลกำไรครั้งใหญ!!
แลวหลินฟานก็วูบรางหายไปในชองวางแหงความวางเปลาดวยความฉับไว!
ปจจุบัน เหนือขึ้นไปบนนานฟาของสถานที่แหงหนึ่ง...
ปรากฏรางหนึ่งลอยตระหงานทามกลางสวรรคและโลก
รางนี้สงบนิ่ง แลดูไรอารมณ ไมโกรธหรือเกรี้ยวกราดอะไร แขนทั้ง 2 ขางของ
มันปรากฏวงแหวนสีทองหอมลอม
ยามเมื่อมันแกวงแขนเบาๆ วงแหวนสีทองก็สั่นไหว ปะทุพลังอันไรจำกัดออกมา
เหลาตัวตนอันทรงพลังที่หอมลอมรางดังกลาวอยู ถูกคลื่นพลังที่วาซัดจนราง
ระเบิดแหลกเหลว เศษชิ้นเนื้ออวัยวะรวงหลนจากฟาไปยังพื้นดินราวกับหยาดพิรุณ
พรมพร่ำลงพื้นโลก!!
“กรี๊ดดดดดดด!!”
เสียงกรีดรองระงมดังขึ้นจากปากคนกลุมหนึ่งที่หมดสภาพสิ้นทาอยูบนพื้น เมื่อ
โดนชิ้นเนื้อพร่ำพรมรดตัวเชนนี้จะใหทานทนอยางไรไหว?
“จักรพรรดินีสตรี...ไสหัวออกมาเสีย! หาไมแลวมดปลวกชนเผาจิ้งจอกนี่จักตาย
เพราะเจา!!”
รางที่ลอยตระหงานทามกลางสวรรคและโลกนั่น เปนรางอันนาเกรงขามราง
หนึ่งของชนเผาโบราณ...
ถึงแมวาตอนนี้เหนือฟาจะมีชนเผาโบราณแคตนเดียว หากแตคนของชนเผา
จิ้งจอกและเผาพันธอื่นดานลางก็ไมกลาขยับแมเพียงนิ้ว รางพวกมันสั่นสะทานขึ้นมา
อยางไมอาจควบคุม
“ฮึ! เจาฝนไปเถอะ!” ผูนำของกลุมคนดานลางเปนเพียงเด็กสาวชนเผาจิ้งจอก
ตัวเล็กๆ เทานั้น จากรูปลักษณดูอยางไรก็สมควรมีอายุเพียง 12-13 ปเทานั้น ทวา
ใบหนาของนางชางมั่นคงแนวแน เด็ดเดี่ยวนัก แมจะตองเผชิญหนากับชนเผาโบราณ
ตนนี้ นางก็หาไดหวาดกลัวไม!!
“เหอะๆ ! นังหนู! เจามันก็แคมดปลวกสวะ!!” ชนเผาโบราณผูนี้ กลับเปนถึง
ตัวตนสูงสุด ไรสมบูรณ โหยว!
“เซวียนเซวียน พวกเราจักอยูกับเจา!!” รอบๆ รางดรุณีนอยชนเผาจิ้งจอกนางนี้
มีกลุมสิ่งมีชีวิตรายลอมเอาไวไมกี่คน สิ่งมีชีวิตเหลานี้ก็ไมไดมีอายุมากมายอะไร หาก
ทวาทั้งหลายกลับไมสะทกสะทานแมจะตองเผชิญหนากับตัวตนสูงสุดแหงเผาพันธุ
โบราณอันดุราย!
“ทุกคน ขาขอโทษ” เซวียนเซวียนกลาวขอโทษออกมา
อาจารยของนางคือจักรพรรดินีสตรี นางเองก็ไดโลดแลนสำรวจไปทั่วโลกเซียน
โบราณมาตลอดในชวงไมกี่ปที่ผาน และนางก็ไดสรางกลุมเด็กนอยของนางขึ้นมา…
ตอมานางพลันไดยินวาอาจารยของนางไดปะทะกับราชันจักรพรรดิของชนเผาโบราณ
ที่มาบุกหมูบานของนาง! กระทั่งยังไดรับทราบวาอาจารยของนางบาดเจ็บ!
ทันทีที่เซวียนเซวียนรับรูเรื่องนี้นางก็รีบเรงรุดมาทันใด!
และนั่นทำใหเหลาสหายนอยของนางเองก็เรงรุดติดตามมาดวย แตใครจะไปคิดกันวา
ตัวตนสูงสุดของชนเผาโบราณจะปรากฏตัวออกมาแบบนี้!!
“เซวียนเซวียนเจากลาวอันใดกัน พวกเราทุกคนลวนเปนสหาย! ถึงแมวามันจัก
อันตรายเพียงใด พวกเราก็มิหวั่นกลัว!” สาวนอยจากชนเผาปกที่ใบหนาซีดเซียวลง
เล็กนอยกลาวออกมา นางพยายามฝนทำวาเปนไมเปนอะไร
เซวียนเซวียนหันไปมองดูทุกคนรอบๆ ดวยความรูสึกตื้นตัน
“จักรพรรดินีสตรี ในเมื่อเจาไมยินยอมออกมา เชนนั้นพวกเด็กนอยเหลานี้ก็จักลงไป
คอยเจาที่นรกกอนแลว!!” ไรสมบูรณโหยว คำรามดัง ฝามือเปลงพลังมหาศาลจน
พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือน พลิกมือคราหนึ่ง มวลพลังดังกลาวรวงหลนจากฟามาทันใด!!
พลังอำนาจอันไรขอบเขตที่หลนรวงจากฟานี้ สำหรับเซวียนเซียนและสหายตัว
นอยของนาง ยอมไรความหวังอันใดจะตานทาน!!
และในขณะเดียวกันกับที่เซวียนเซวียนและสหายของนางกำลังจะทานรับ
อำนาจทำลายลางของมวลพลังที่หลนรวงมาทำลายพวกนางนั้น! พลันปรากฏรางหนึ่ง
พุงทะลวงความวางเปลา ออกมายิงหมัดซัดมวลพลังนากลัวนั่นจนสลายไปทันที!!
“อาจารย!” เมื่อเซวียนเออเห็นวาผูมาเปนใคร หัวใจนางก็เตนรัวขึ้นมาทันใด
ปากนอยๆ ร่ำรองเรียกหาดวยมวลอารมณ
จักรพรรดินีสตรีเงยหนาขึ้นมองไรสมบูรณโหยว ดวยใบหนาเครงขรึม! ถึงแมวา
นางเองก็เปนตัวตนระดับเทพสวรรคอมตะ ชั้นฟาที่ 10 เทพนิรันดร แตนางก็ยังคง
ออนแอเกินไปหากจะเทียบกับตัวตนสูงสุด!!
นางรูดีวาตัวตนสูงสุดไดตามลาตัวนางกับจักรพรรดิเซียนนะโม ถึงแมตอนนี้นาง
จะไมรูวาจักรพรรดิเซียนนะโมทำอะไรอยู แตนางก็คิดวาชีวิตของฝายก็ไมสมควร
งายดายเชนกัน!
“เซวียนเออ รีบพาสหายของเจาหนีไปเสีย อาจารยจักถวงเวลามันไวใหพวกเจา”
จักรพรรดินีสตรีกลาว
“อาจารย! แต...!” เซวียนเออสายหัวไปมาอยางไมยินยอม
“รีบไปเสีย! เร็วเขา!!” จักรพรรดินีสตรี รีบตัดคำเด็กนอย และใชพลังสงราง
ทั้งหมดออกไป
ตอนนี้จักรพรรดินีสตรีรูดีวาวาระสุดทายของนางมาถึงแลว แตหากนางสามารถ
ถวงรั้งอีกฝายไดสักระยะ ก็นับวาประเสริฐ!
กอนหนานี้ที่นางปะทะกับราชันจักรพรรดิทั้ง 5 ตนมานั้น นางก็ไดรับบาดเจ็บ
มาไมนอย ถึงแมวานางจะฟน ตัวไดอยางนาทึ่ง ทวาจำตองมาตานทานตัวตนสูงสุด
เชนนี้นางไมไดมีความมั่นใจอะไรมากนัก!!
ตอนที่ 839 เรือ่ งนี้ เอาไวเราคอยคุยกันทีหลัง
“จักรพรรดินีสตรี เจาไดรวมมือกับราชันแหงมวลมนุษยผูถลมมารดาเจากำจัด
ตัวตนสูงสุดของชนเผาโบราณ! บาปนี้กระทั่งสวรรคยังไมใหอภัย! เจาคิดวาเจาจักทาน
ทนรับไดอยูนานเทาใดเลา? ไมนานมดปลวกสวะเชนพวกเจา จักตองระเหยหายไป
จากโลกหลา!!”
ไรสมบูรณโหยว ไมมีวันลืมความเจ็บปวดวันนั้น! พวกมันไดสูญเสียตัวตนสูงสุด
ไปทีเดียวถึง 2! อำมหิตไรใจเจี๋ย ทรยศ! นักบุญเชิ่ง ตายตก! นี่คือความอัปยศอดสูยาก
เกินกวาชนเผาโบราณจะรับได!!
โดยเฉพาะอยางยิ่งตอนนี้ ไอพวกรอยพันชนเผาสวะทั้งหลายมันเริ่มเอาใหญ แห
กันลุกฮือขึ้นมาตอตานชนเผาโบราณ!ตางเริ่มกอจราจลทุกทั่วหัวระแหงทันทีที่ไดรับ
ทราบวาตัวตนสูงสุดถูกจัดการไป 2!!
นี่เปนอะไรที่เผาพันธุโบราณจากจะทานทน!!
วันที่โลกไรจำกัดเปดออก จะเปนวันที่ชนเผาโบราณจะผงาดง้ำขึ้นมาครองราชย
และพวกสวะรอยพันชนเผาทั้งหลายจะถูกกำจัดใหหมดสิ้นไปจากโลกเซียนโบราณ!!
ดวยเหตุนี้ชนเผาโบราณเองก็เริ่มระดมพล มีตัวตนทรงพลังของชนเผาโบราณ
มากมายถูกมอบหมายใหไปสลาย และปราบปรามกองกำลังกบฏ! ยกทัพออกไปกวาด
ลางพวกรอยพันชนเผา เขนฆาสังหารอยางไรปราณี! ใหพวกมันไดรูกันไป วานาย
เหนือแหงโลกเซียนโบราณเปนใคร!!
อยางไรก็ตามนับวาเปนเรื่องยากไมนอยที่จะกวาดลางทำความสะอาดดินแดน
ของผูอำมหิตไรใจเจี๋ย และนักบุญเชิ่ง! เหตุเพราะมีไอพวกนารำคาญจากดินแดนผู
พิทักษนั่นออกมาสอดมืออยูเรื่อย!!
แตอีกไมนานใหเปนดินแดนผูพิทักษแลวจะอยางไร?! ดินแดนผูพิทักษเปนดั่ง
คอกหมูที่เจตจำนงสวรรคสรางไวเทานั้น! โลกไรจำกัดเปดออกเมื่อใด…ดินแดนผู
พิทักษก็จักไมมีอยูอีกตอไป!!
ตอนนี้เองตัวตนของชนเผาจิ้งจอกดานลางที่หวาดกลัวก็เริ่มวิ่งหนีไป...! ภายใต
การปกครองกดขี่ขมเหงจากชนเผาโบราณ พวกมันเองก็มีความหวาดกลัวชนเผา
โบราณในใจกันแตแรก!
เอาแคพวกมันไดยินชื่อของชนเผาโบราณ พวกมันก็หวาดกลัวจับใจ! ทวาตอนนี้
กลับมีตัวตนสูงสุดบุกมาคิดเขนฆา ทั้งหลายลวนตัวสั่นใครฉี่ราดรดกางเกงแลว!!
ตอตานหรือ? นี่เปนอะไรทีพ่ วกมันเองก็เคยคิดเชนกัน...ทวาพอเห็นเศษซาก
เลือดเนื้อเลอะเลือนเกลื่อนพื้นของสหายรวมเผาที่เหินรางขึ้นไปสูกับไรสมบูรณ โหยว
กอนหนา...ใจสูของพวกมันก็หดหายดั่งจุดจูยามตองน้ำเย็นแลว!!
“คิดหนีงั้นเหรอ!?”
ทันใดนั้น ไรสมบูรณโหยว พลันคำรามออกมาอยางเย็นเยือก แขนที่นา
หวาดกลัวของมันสะบัดผานชองวางคราหนึ่ง บังเกิดพลังคลื่นปานจะฉีกผาความวาง
เปลาออกไปจนถึงสุดขอบโลก พุงออกมาอยางนากลัว!!
“ไรสมบูรณโหยว คูมือของเจาคือขา!!”
จักรพรรดินีสตรี พลิกฝามือนุมงามของนางทันใด ปรากฏมวลพลังลึกลับปะทุ
ออก พลังดังกลาวแปรลักษณไปหลายลักษณแตละอยางลวนนาทึ่งทั้งสิ้น และขณะที่
นางพลิกฝามือที่มีมวลพลังดังกลาวราวกับควาจับอากาศนั้นเอง ความวางเปลาเบื้อง
หนาก็บิดพลิ้วดังธวัช! คลื่นสะบั้นของไรสมบูรณโหยวถูกหอหุมเอาไวทันใด หนึ่งดิ้นรน
สยบ อีกหนึ่งดิ้นรนแหวกฉีก!!
“ถนนสูสวรรค!”
ขอเทาเรียวพรอมฝาเทาบอบบางยกขึ้นกระทืบอากาศคราหนึ่ง ปรากฏเสนทาง
สายหนึ่งพุงยืดยาวออกไปทามกลางสวรรคและโลก สะกดความวางเปลาทั่วอาณา
บริเวณ คลื่นพลังสะบั้นของไรสมบูรณ โหยว ที่ถูกหอหุมกอนหนา กระจัดกระจาย
สลายไปทันใด!!
“ไรสมบูรณโหยว...ถึงแมขาจักมิใชคูตอสูของเจา แตเจาก็อยาไดดูถูกผูอื่นในโลก
หลาวาออนแอไปเสียหมด!!”
จักรพรรดินีสตรีคำรามออกมา นางเริ่มยางเยื้องออกไปทีละกาว และแตละกาว
ที่เทานางย่ำออก กลิ่นอายพลังของนางจะพุงสูงขึ้นทบเทาทวี!
บัลลังกจาวสวรรคนั้นเปนสิ่งที่เทียบไดดั่งตำนานอันสูงสงแหงโลกหลา อันที่จริง
ที่จักรพรรดินีสตรีมีความนาเกรงขามถึงเพียงนี้ ลวนเปนเพราะนางไดผสานเขากับ
บัลลังกจาวสวรรคอยางมิอาจแยกออก!
อนิจจาไมวาบัลลังกจาวสวรรคจะแข็งแกรงทรงอำนาจเพียงใด เมื่อเผชิญหนา
กับตัวตนสูงสุด รัศมีพลังยังคลายจะหมองลงไปเสียหลายสวน! แตแมจักรพรรดินีสตรี
รูดีวาไมอาจตานทานอีกฝายไดนาน แตนางก็จะลอง!!
“เฮอะ! ยังนับวาพอมีอยูสักทาสองทา! แตสมบัตินั่นจักตองเปนของขาผูสูงสุด!!”
ไรสมบูรณโหยว แคนคำออกมาอยางเย็นชา มันอาปากกวางกอนจะสูดลม
หายใจเขาอยางแรง ทันใดนั้นโลกหลาคลายแปรเปลี่ยนบิดเบี้ยว ดวยปรากฏพลังดูด
รั้งขุมหนึ่งขึ้นมา!
พลังดูดรั้งนี้มหาศาลนัก! ราวกับโลกทั้งใบจะถูกสูบกลืนลงทองของมัน!!
“บัลลังกสวรรคไรครั่นคราม มิสั่นคลอน!!”
จักรพรรดินีสตรี ใชสองมือปองไวเบื้องหนาเปลงพลังตานทานเพื่อไมใหตัวนาง
ถูกดูดเขาไป หากทวาบางสิ่งที่ทำใหจักรพรรดินีสตรีตื่นตระหนกพลันอุบัติขึ้น!
“อาจารย!!”
เชนเดียวกันกับคนอื่นๆ เซวียนเออพรอมทั้งสหายตัวนอยที่ถูกพลังสงใหหนีจาก
ไปกอนหนา กลับถูกดูดรั้งกลับมาอยางไมยินยอม! แมวาพวกนางคิดจะตอตานทาง
พลังดูดรั้งขุมนี้มากเทาไร หากแตก็มิอาจกระทำสิ่งใดไดเลย!!
“ชวยขาดวย!!”
“อาคคค! ขาไมอยากโดนฆาแบบนี้!!”
เหลาผูคนของชนเผาจิ้งจอกเริ่มร่ำรองโหยหวนออกมาอยางนาเวทนา
“ถนนสูจาวสวรรค! แจกจายนิรันดร!!”
จักรพรรดินีสตรีรีบจี้นิ้วออกมาทันใด ปรากฏกระเบื้องหยกมากมายพุงไป ทั่ว
สวรรคและโลก รองฝาเทาของทุกผูคนเอาไว! และครูตอมาบัลลังกจาวสสวรรคก็เริ่ม
เปลงอานุภาพพลังชวยใหทุกผูคนตานทางพลังดูดรั้งขุมนี้!!
เมื่อมองถึงพลังความแข็งแกรงของตัวตนสูงสุดแลว มันไมมีทางใดเลยที่ทั้งหลาย
จะตานทานไดดวยดานพลังฝกตนเพียงเทานี้!!
“หืม? ไมเพียงแตปองกันตัวเอง เจายังคิดแบงปนใหเหลามดปลวกนี่ดวยงั้นเหรอ!?”
ไรสมบูรณโหยว เยยหยันออกมาเสียงเย็น ทันใดนั่นทั่วรางปะทุพลังออกมานากลัว
อำนาจดูดรั้งพลันทวีความแข็งแกรงขึ้นกวาเดิม!!
ครืด! ครืด!!
จักรพรรดินีสตรีเริ่มตระหนักแลววา บัลลังกจาวสวรรคมิอาจทานทนพลังดูดรั้ง
อันไรขอบเขตนี่ไดอีก! อดไมไดที่นางจะบังเกิดความผิดหวังจับใจ!!
“อาาาาาา!!!”
เสียงกรีดรองหนึ่งดังขึ้น เซวียนเออที่ถูกจักรพรรดินีสตรีฉุดดึงกลับมา ยามนี้ราง
ลอยออกไปอีกครั้ง ตัวนางมวนกลิ้งกลางอากาศหลายตลบ ดิ่งตรงสูปากที่อาออก
กวางดั่งโลกไรขอบเขตของไรสมบูรณ โหยว!
“เซวียนเออ!!”
ตอนนี้เหลาสหายนอยของนางเองก็ตื่นตระหนก ดรุณีนอยชนเผาปกกางปกออก
กอนจะพุงทะยานเขาหาเซวียนเออ อนิจจาภายใตแรงดูดรั้งอันมหาศาลนี้ นางแทบไม
อาจควบคุมรางกายตัวเองไดเลย!!
จักรพรรดินีสตรีสะบัดผาคลุมของนางคราหนึ่ง แขนเสื้อตวัดมวนพวยพุงทอด
ยาวไปในโลกหลารัดพันรอบเอว ควารางเซวียนเออและสหายนอยของนาง ตานทาน
พลังดูดรั้งเอาไวอยางแข็งขืน!
“รนหาที่ตาย!!”
ไรสมบูรณโหยว ตบฟาดฝามือออกมา พลังฝามือนี้พุงสะทานทำลายความวาง
เปลาไปเปนทาง บังเกิดรอย 5 นิ้วทะยานแหวกฟาปรี่ตรงไปหาจักรพรรดินีสตรี
“จักรพรรดินีสตรี ขาจักมอบทางเลือกใหเจาสองทาง...เจาจักชวยเหลือตัวเองหรือลูก
ศิษย ก็สุดแลวแตเจา!!”
ใบหนาจักรพรรดินีสตรีเปลี่ยนสีทันใด พลังฝามือที่ตบพุงทะลวงความวางเปลามานี้
ไมไดรุนแรงเหนือล้ำอะไร หากแตถานางเลือกที่จะหันไปปดปอง เซวียนเออมิแคลว
ตองถูกกลืนกิน หากไมปดปองนางก็จะบาดเจ็บและไรอำนาจตอตานอีกฝายไดสืบไป!!
ทันใดนั้นเองจักรพรรดินีสตรีพลันกัดฟนดังกรอด แดนสวรรคและโลกพลันผุด
โผลออกมาจากรางกายนางทันใด มันเริ่มเปลงกลิ่นอายพลังลึกลับออกมาปกคลุมไป
ทั่วรางของนาง!
“หืม? คิดใชแดนสวรรคและโลกปองกันตัวเชนนั้นหรือ!? เชนนั้นขาผูสูงสุดจักไม
ละเลนกับเจาสืบไป แดนสวรรคและโลกนั่นของเจา! ขาผูสูงสุดจักขอรับไว!!”
ไรสมบูรณโหยว หัวเราะออกมาดังสนั่น ทิศทางพลังฝามือเปลี่ยนไปทันใด มุง
หนาไปหมายควาแดนสวรรคและโลกดังกลาวทันที!!
“ฮวาสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส!!!!!”
ทันใดนั้นเองเสียงคำรามของมหามังกรพลันดังสนั่นสะเทือนโลกหลา คลื่นเสียง
นี้ทะลุผานชั้นบรรยากาศ กวาดทะลวงความวางเปลาจนแตกสลายดั่งกระจก!!
หลังจากนั้นปรากฏมหามังกรตัวเขื่องหนึ่งพุง ควงทะยานแหวกฟาไปพัวพันขด
รอบราง ไรสมบูรณโหยว เอาไวในพริบตา!!
สดับสำเนียงมังกรสวรรค! นี่คือสุดยอดวิชาที่ใชพลังอำนาจของคลื่นเสียงเปนสื่อ
ทำลายลาง! หากบรรลุขอบเขตสูงสุดยอมเปนสุดยอดวิชายากตานทาน เพียงแคแคน
คำคราหนึ่ง คลื่นเสียงปนทะลวงระเบิดราง นำพาอริราชยไปสูความตาย!!
ไรสมบูรณโหยว ชักสีหนาเครียด เมื่อถูกมังกรพลังเสียงปนทำลายรางกายอยาง
รุนแรง รางของมันกระตุกสะทาน กระทั่งพลังดูดรั้งยังสลายหายไปอยางสิ้นเชิง!!
“เปนผูใด! ไสหัวออกมา!!”
ไรสมบูรณโหยว คำรามออกมาดวยนำเสียงเล็ดรอดไรฟน สองตาถมึงทึงดุราย
ใจถูกสุมดวยไฟโทสะ รีบหันไปมองหาตัวบัดซบที่ลงมือสอดแสเขามาในจังหวะสำคัญ
เชนนี้ทันที!!
“ออ...ขาเองแหละ!”
สุดขอบฟาไกลตาปรากฏรางหนึ่งเหินลอยเขามาอยางเชื่องชา หลินฟานไม
คาดคิดเลยวาที่ตีกันอยูจะเปนจักรพรรดินีสตรี...
ที่สำคัญคือศัตรูของนาง กลับเปน ไรสมบูรณโหยว!!
นี่เขาจับพลัดจับผลูมาโผลในดินแดนปกครองของไรสมบูรณโหยว งั้นเหรอ?
อยางไรก็ตามแมวันนี้โชคเขาจะขาดหายไปบาง แตไมคิดเลยวาสุดทายยังจะมา
ไดปะกับตัวเอแบบนี้! ผูใดในหลาจะมีโชคเหนือพี่ประมุขอีก!?
ทั้งตอนนี้เบื้องหนายังมีไรสมบูรณโหยวแคตัวเดียว! หัวเดียวกระเทียมลีบเชนนี้
ชะตากรรมของมันก็มิแคลวตกอยูในเงื้อมมือของเขา!!
จักรพรรดินีสตรีเองก็หนั ศีรษะไปชมดูทันใด เมื่อนางเห็นรางที่เหินมาเอื่อยๆ สี
หนาทาทางของนางก็แปรเปลี่ยนไปทันใด
เซวียนเออที่รอดพนความตายมาไดหวุดหวิดตอนนี้กำลังหอบอยางหนักจน
หนาอกกระเพื่อมระรัว นางเองก็พยายามเงยหนาขึ้นไปมองขอบฟาไกลตาดวยความ
อยากรูอยากเห็นเชนกัน ทวาเมื่อนางเห็นผูมาสีหนาก็แปรเปลี่ยนไปทันใด ในตอนแรก
นางก็บังเกิดความยินดีอยางถึงที่สุด แตทันใดนั้นคลายนางนึกอันใดออก จึงไดหัน
กลับมาพรอมกมหนาลงงุดๆ
“อาวๆ ๆ ...อะไรกันเลาเซวียนเออ...? มันพึ่งจะผานไปไมกี่ปเอง นี่เจาลืมขา
แลวงั้นเหรอ หืม?”
หลินฟานมองไปยังเซวียนเออทันที ถึงแมนางจะโตขึ้นอยูบางแตกลิ่นอายพลัง
และรูปลักษณของนางเปนอะไรที่หลินฟานไมเคยลบเลือนไปจากใจ
“พะ...พี่ใหญหลินอา...เซวียนเออมิได...” ตอนนี้น้ำเสียงของเซวียนเออเบาราว
กับยุงบินราวกับนางไดกระทำสิ่งนาละอายใจมา หากไมมีใครเงี่ยหูตั้งใจฟง เกรงวาคง
ไมไดยินเสียงตอบคำของนาง
“เอาละๆ เรื่องนี้ไวเราคอยคุยทีหลัง!”
หลินฟานหัวเราะในใจอยางเย็นเยียบ เจาตัวแสบนอยนี่กลาหลอกเขา! หลอก
เขาอยางเนียน! เลนซะเขาคลั่งถือขวานไปถลมเมืองเพียงลำพัง! หากเขาไมจัดการกับ
นางใหดี ก็นับวาดูถูกตัวเองแลว!!
ตอนที่ 840 มาสูกนั
“ที่แทเปนเจา!!”
เมื่อไรสมบูรณโหยว เห็นวาผูมาเปนใคร ใจมันก็สะทานสะเทือนประหนึ่งพบ
พานภูตผี มันยอมไมมีวันลืมเลือนเรื่องราวที่บังเกิดขึ้นวันนั้นได! ในเมื่อนักบุญ เชิ่ง ได
หายตัวไปอยางไรรอ งรอย...
ทวามนุษยผูนี้กลับยังยืนหยัดอยูได นั่นชัดเจน...วานักบุญเชิ่ง รวงหลนไปแลว!!
พลังสามารถของอีกฝายที่สามารถสังหารตัวตนสูงสุดแหงชนเผาโบราณได คือ
อะไรที่เปนไปไมไดในสายตาของ ไรสมบูรณโหยว!
พลังอำนาจของเทพนิรันดรที่มีบัลลังกเทพนิรันดรไมใชอะไรที่ใครๆ จะสามารถ
จินตนาการได! การกำจัดตัวตนสูงสุดนั้น ไมใชอาศัยตัวตนที่ทรงพลังในดานพลัง
เดียวกันมากมายกลุมรุมแลวจะกระทำได!!
และหากตัวตนสูงสุดคิดจะหนี ก็ยอมไมมีใครสามารถสกัดขัดขวางได!!
“วาไง ไรสมบูรณโหยว เจาสบายดีนะ! ไมคิดเลยวาวันนี้พวกเราจะไดเจอกันอีก
ครั้ง! คราวนี้เจาอยาหวัง วาจะหนีขาประมุขไปไหนได!!”
ตอนนี้หลินฟานยังอารมณเสียอยางแรง ไมคิดเลยวาเขาจะโดนจาวแหงความชั่ว
รายนั่นหนีไปไดตอหนาตอตา แถมมันยังใชมุกที่เขาเคยใชอีก! นี่ไมใชการตบหนาเขา
ครั้งใหญใหอัปยศหรือไง?!
หากมีคนอื่นรูเรื่องนี้ พวกมันไมหัวเราะกันจนกรามคางหรือไร!?
ไรสมบูรณโหยว รีบตรวจสอบสภาพแวดลอมรอบๆ ทันที และเมื่อมันพบวาไมมี
ใครอยูรอบๆ มันก็พอไดระบายลมหายใจออกมาอยางโลงอก สุดทายก็ระเบิดเสียง
หัวเราะออกมา
“ฮาๆ ๆ อาศัยเจาคนเดียวนะหรือ!? หากฟงชิงจื่ออยูใกลๆ เจา อาจทำใหขา
ระแวงใดไดบาง แตนาเสียดายที่กลับมีเจาเพียงลำพัง!!”
ภาพเหตุการณเรื่องราวในวันนั้นทำให ไรสมบูรณโหยว หวาดกลัวจริงๆ ไมคิด
เลยวาทั้ง 2 ตัวตนสูงสุดจะถูกทุบตีอยางแรงดวยน้ำมือผูอื่น! มิใชเพียงเทานั้น พวกมัน
ยังถึงกับตองเสียตัวตนสูงสุดไปถึง 2!!
“เซวียนเซวียน พี่ชายคนนั้นคือใครหรือ?” เมื่อสหายนอยทั้งหลายของเซวียนเซ
วียนยไดเห็นวามนุษยผูนั้นกลายืนหยัดปะทะตัวตนสูงสุด ในใจของทั้งหลายก็บังเกิด
ความอยากรูอยากเห็นนัก!
“เขาคือพี่ใหญหลินของขา”
เซวียนเออกลาวออกมาเสียงเบาราวกระซิบ นางยังบังเกิดสังหรณประการหนึ่ง
...หากเรื่องราววันนี้จบลง นางคงไดถูกพี่ใหญหลินสอนสั่งอยางดีเปนแน!!
ทันใดนั้นนางหวนนึกถึงหมัดที่เต็มไปดวยความรักของพี่ใหญหลิน นางก็รูสึกราว
กับโลกหลาใบนี้มันอยูยากขึ้นทันใด!
“จักรพรรดินีสตรี เจาไหวรึเปลา?” หลินฟานเหลือบมองไปยังจักรพรรดินีสตรี
คอยกลาวถามออกมา ไมคิดเลยวาจักรพรรดินีสตรี จะตกอยูในสภาพอเนจอนาถถึง
ขั้นนี้ นางถึงกับปลดปลอยแดนสวรรคและโลกออกมานอกกาย นี่ไมใชนางเรียกหา
ความตายรึไง?
แดนสวรรคและโลกอาจกลาวไดวาเปนทั้งสวนที่แข็งแกรงที่สุดและออนแอทีส่ ุด
ของผูฝกตน! สำหรับใครก็ตามที่เผยแดนสวรรคและโลกออกมา มันแทบไมตางอะไร
จากการรนหาที่ตายสักนิด!!
หากเมื่อครูเขามาไมทันเวลา
แดนสวรรคและโลกของจักรพรรดินีสตรีคงโดน ไรสมบูรณโหยว ชวงชิงไปแลว!
และถึงตอนนั้นนางก็จะกลายเปนคนพิการไปทันที!!
“ไหว...ขามิเปนไรมาก ขาขอเวลาฟนฟูมินานก็สามารถชวยเจารับมือ ไร
สมบูรณ โหยวได” จักรพรรดินีสตรี ยอมลวงรูถึงพลังความแข็งแกรงหลินฟานดี แต
ถึงแมอีกฝายจะแข็งแกรง แตก็มีความแตกตางระหวางเขากับตัวตนสูงสุดอยูบาง!
“ไมตองหรอก แคมันคนเดียวขาก็สบายๆ เหมือนเดินชมนกชมไมใน
สวนสาธารณะนั่นละ” หลินฟานกลาวตอบโดยไมแยแส ไรสมบูรณโหยว สักกะผีก!
จักรพรรดินีสตรีถึงกับอึ้งไป! เพราะไมรูวาหลินฟานไปพกความมั่นใจแบบนั้นมา
จากไหน!!
นั่นตัวตนสูงสุด มิใชมดขางถนน!!
หากมันงายดายเชนนั้นจริง มิใชปานนี้ตัวตนสูงสุดทั้งหมดไดถูกฆาตายไปนับ
ครั้งไมถวนแลวหรือตลอดเวลาที่ผานมา!เรื่องราวมันจะกลับกลายมาเปนเชนนี้ได
อยางไร?!
“วาจาที่เขื่องโข โอหังนัก!”
เมื่อไรสมบูรณโหยว ไดยินคำนี้มันก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอยางบาคลั่ง
กลิ่นอายของมันกำจายออกมาประหนึ่งมหาพายุ! โหมกระหน่ำซัดออกไปทุกทิศทาง
โลกหลาทั้งใบคลายตกอยูในกำมือของมัน!!
“ขาผูสูงสุดลำบากเพียงฝามือเดียวก็สามารถบดขยี้มดปลวกทุกตัวใหแหลก
เหลวใตฝามือขา! ผลลัพธเดียวของผูที่กลาตอตานชนเผาโบรารคือ ตาย! นอกจากนี้
เจายังเปนมนุษยที่ชนเผาโบราณพิพากษาใหตาย!!”
ไรสมบูรณโหยว คำรามลั่น ชนเผาโบราณนั้นมีศัตรูมากมาย แตหากจะไถถามวา
มีมนุษยคนใดที่ทำใหชนเผาโบราณอาฆาตไดถึงขั้นนี้อีกไหม?
คำตอบคือไม! มีหลินฟานเพียงคนเดียวเทานั้น!!
“ลงนรกไปเสีย!”
ตัวตนสูงสุดไรสมบูรณโหยวระเบิดพลังออกมา รางของมันพุงมาดวยความเร็วสูงล้ำ
เร็วเสียจนกระทั่งความวางเปลายังเริ่มบิดเบี้ยวสุดทายก็แตกระเบิดออกดังสนั่น!
“ระวัง!!” สีหนาจักรพรรดินีสตรีแปรเปลี่ยนไป นางยอมรูดีวาพลังอำนาจตัวตน
สูงสุดมากมายเพียงใด มันไรผูตาน!
ในชวงระยะเวลาตลอด 10,000 ปที่ผานมา นางกับจักรพรรดิเซียนนะโมทำได
แคหลบซอน เรนกายไมเผยโฉมเทานั้น นั่นเพราะหากพวกนางถูกเพงเล็งจากตัวตน
สูงสุด ผลลัพธของพวกนางตองอนาถแน!
ตัวตนสูงสุดอาแขนทั้ง 2 ออกกวางทั้งผายนิ้ว กอนที่จะหุบลงคลายจะโอบกอด
หลินฟาน ทันใดนั้นเองทั้งดานซายและขวาของหลินฟานพลันบังเกิดพลังไรสภาพสุด
ประมาณยากจะมองเห็นบีบอัดเขามา! ครั้งนี้คลายไรสมบูรณโหยว จะคลั่งจนคิดบด
ขยี้หลินฟานใหแหลกอยางอำมหิต!!
“วันนี้จักเปนวันแหงหายนะของเจา มดปลวก! มา...!”
ตัวตนสูงสุด ไรสมบูรณโหยว แผดคำอยางอำมหิต ทวาทันใดนั้นเองสีหนาของ
มันก็ตองแปรเปลี่ยนไป วาจายังติดอางชะงักคาง ราวกับมันพึ่งไดเห็นบางสิ่งอันนา
พรั่นพรึง!
“นิ...นี่!”
ลมหายใจของไรสมบูรณ โหยว เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายตลบ! สุดทายใจของ
มันก็ระส่ำเตนไปไมเปนจังหวะ!!
“อะไร? หรือตอนนี้เจากลัวแลว? มาสิ เขามาสูกัน...ไมใชวาเจากระเหี้ยน
กระหือรืออยากฆาขาไมใชรึไง?”
หลินฟานหัวเราะออกมาเบาๆ สะบัดผาคลุมหนึ่งครั้งบังเกิดพลังไรสภาพขุมหนึ่ง
แผพุงออกไป มวลพลังไรสภาพที่บีดอัดมาจากซายและขวา แหลกสลายไปทันใด...
และตอนนี้เบื้องหนาทางซายและขวาของหลินฟาน ก็ปรากฏราง 2 รางลอย
ตระหงานทามกลางสวรรคและโลก
และทันทีที่รางทั้ง 2 นี้ปรากฏ! โลกหลายังประหนึ่งกลับกลายเปนเงียบงัน!!
เมื่อคนของชนเผาจิ้งจอกมองเห็นรางทั้ง 2 เบื้องหนาหลินฟาน พวกมันทั้งหลาย
ก็ตกใจกลัวอยางมาก หนาพวกมันซีดราวกระดาษฟนฟางแขงขาสั่นกึกๆ ไมหยุด! ราว
กับพวกมันพบพานเรื่องราวดั่งระเบิดลงกลางใจที่ไรคำใดจะบรรยายได! รางพวกมัน
ทรุดตัวลงราวกับตัวโงงมพิกลพิการบนพื้น!!
กระทั่งจักรพรรดินีสตรี ก็ประหลาดใจไปไมตางกัน!
ทั้ง 2 รางที่ปรากฏนั้น เปนอะไรที่เหนือความคาดหมายของจักรพรรดินีสตรีไป
ไกลโพน!
ผูอำมหิตไรใจเจี๋ย ...!
ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ…!
“นี่เปนไปมิได! เปนไปมิได!!”
ไรสมบูรณโหยวตะโกนออกมาอยางคุมคลั่ง มันรูวาผูอำมหิตไรใจ เจี๋ย ยายขาง
แลว... ดังนั้นจึงไมไดตกใจในเรื่องนี้สักเทาไร ทวาเมื่อมันไดเห็นรางที่ลอยตระหงาน
ดานขางอำมหิตไรใจเจี๋ย ใจมันประหนึ่งระเบิดลงทันใด!
นี่เปนรางที่มันจะไมมีวันลืมเลือนไปชั่วชีวิต!
นั่นคือ หนึ่งเดียวโบราณ ผูอมตะ! ทวาผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณนี้ มิใชวาตกตาย
ไปแลวหรือไร? เหตุใดถึงไดมาปรากฏตัวบนโลกหลาไดอีกครั้ง?!
และสิ่งที่ทำใหไรสมบูรณโหยว ตกตะลึงพรึงเพริดจนลนลานก็คือ...พลังอำนาจ
ของ ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ คลายจะทรงพลังแข็งแกรงกวาในกาลกอน!!
“นิ...นี่!!”
พริบตารางไรสมบูรณ โหยวที่พุงมาฉับไว ก็ตองหยุดชะงักลง!
“ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ เจาเปนตัวตนสูงสุดของเผาพันธุโบราณ! เจาจักไป
อยูขางมนุษยไดอยางไร!?”
ไรสมบูรณโหยวตะเบ็งเสียงคำรามลั่น ทุกๆ สิ่ง...ทุกอยาง...ทั้งหมด...ที่เกิดขึ้น...
มันเกินสามัญสำนึกของไรสมบูรณ โหยว! นี่มันเกิดเรื่องบัดซบอันใดขึ้นกันแน? มนุษย
นี่มีความเปนมาอยางไรกัน!?
ไมเพียงแต อำมหิตไรใจเจี๋ย ยังมีหนึ่งเดียวโบราณ ผูอมตะ?
ทันใดนั้นเอง ไรสมบูรณโหยวตระหนักไดแลว ถึงทาทีเฉยเมยไรแยแสอัน
ผิดปกติที่มนุษยเบื้องหนาเผยออกมาตั้งแตแรก!
“ไปจัดการมัน!”
หลินฟานครานจะกลาวใดสืบไป เรื่องจาวแหงความชั่วรายที่พึ่งเกิดขึ้นนับเปน
อะไรที่เคีย่ วกรำหลินฟานจนเข็ดหลาบนัก! ตอนนี้หลินฟานจะไมมที ี่วางสำหรับความ
เชื่อใจกันระหวางบุคคลอีกตอไป! ตอนนี้ไมวาเขาจะพบกับอะไร เขาจะไมแยแสคำ
กลาวเหลวไหล เพียงกระทืบมันใหเละกอนคอยวากัน!!
“ทราบ”
ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ กับผูอำมหิตไรใจเจี๋ย พยักหนารับคำเปนมั่นเหมาะ
อยางพรอมเพรียง ทันทีที่ทั้ง 2 ย่ำกาวออกไป ความวางเปลากระทั่งผืนดินดานลางก็
ปริแตกแยกออกราวกับลายกระดองเตา รางของทั้งคูอนั ตรธานหายแวบไปจากจุดที่
ยืนอยู! ปรากฏตัวอีกครั้งเบื้องหนาไรสมบูรณ โหยวทันใด!!
ไรสมบูรณโหยว ที่หยิ่งผยองกอนหนา ตอนนี้กำลังหอบหายใจอยางรัว ตอนนี้
มันตระหนักไดแลววาอันตราตอรองของมันนั้นเละเทะขนาดไหน!!
“ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ กาลกอนขาเคยชวยเจา...”
ปงงงงง!!
ไมทันที่ไรสมบูรณโหยว จะกลาวจบคำ ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ ก็ยิงหมัด
ออกไปเสียแลว! พลังทำลายลางอันนาพรั่นพรึงนี้ปนทำลายสรรพสิ่งโดยรอบไป
พรอมๆ กัน!!
“ผูอมตะ หนึ่งเดียวโบราณ! พวกเราคือชนเผาโบราณดุจเดียวกัน!!”
ไรสมบูรณโหยว หลบหลีกจาละหวั่น พลังอำนาจของตัวตนสูงสุด 2 ตนกลุมรุม
มันเชนนี้ ไมใชอะไรที่มีนจะรับมือไดแมแตนอย! โดยเฉพาะอยางยิ่งผูอมตะ หนึ่งเดียว
โบราณ! ตอใหมีอีกฝายแคตนเดียว ไรสมบูรณโหยว ก็ไมมีปญญาตอตานแลว!!
สำหรับผูอำมหิตไรใจเจี๋ย นั้น...มันไมไดแยแสอีกฝายสักกะผีก! เพราะอีกฝาย
คอนขางออนดอยกวาตัวมัน! ทวาจะอยางไรเสียอีกฝายก็เปนตัวตนสูงสุด หากมัน
ประมาทพลาดพลั้ง! ก็ไมเหลือหนทางอื่นใดอีกนอกจากความตาย!!
ตอนที่ 841 : ข้าคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด จากนี้จนชั่วนิรันดร์!!
“เอ๊ะ! แล้วมนุษย์บัดซบนั่นมันหายหัวไปที่ใดแล้ว!?”
ตอนนี้ไร้สมบูรณ์ โหยวถึงกับเดือดร้อนอย่างหนักมันเร่งพลังทั้ง
ร่างหลบหลีกจ้าละหวั่น หากแต่เมื่อมันสัมผัสไปทั่วอาณา
บริเวณให้ดี มันพลันพบเรื่องประหลาดประการหนึ่ง …ไม่รู้ว่า
มนุษย์ผู้นั้นได้สาบสูญไปอยู่ไหนแล้ว! มิอาจจับสัมผัสใดๆได้
เช่นนี้เกรงว่าคงมีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าอีกฝุายอยู่ไหน!!
“มันหลบไปอยู่ไหนกันแน่!?”
ไร้สมบูรณ์ โหยว พยายามสัมผัสอย่างละเอียด สายตาสอดส่อง
ลอกแล่ก ทุกสิ่งมีชีวิตนั้นล้วนมีสัญชาติญาณความรู้สึก
หวาดระแวงต่อบางสิ่งที่ไม่รู้มากที่สุด!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีนี้ ที่มนุษย์นั่นอยู่ๆก็หายไป! เพราะ
ในสายตาของไร้สมบูรณ์ โหยวแล้ว มนุษย์นั่นอันตรายเหนือยิ่ง
กว่าสิ่งอื่นใด! ไม่อาจมองอีกฝุายได้ด้วยมุมมองทั่วไป!!
หากทว่าทันใดนั้นเองใจไร้สมบูรณ์ โหยวพลันเต้นระรัวขึ้นมา
เพราะมันสัมผัสได้ถึงมวลพลังอันมหาศาลจากด้านข้าง และ
เมื่อมันหันกลับมาดูอีกที มันก็พบว่าผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณ
ยิงหมัดมหาประลัยบรรลุถึงตัวมันแล้ว!!
เปรี๊ยงงงงง!!!
เมื่อถูกหมัดนี้อัดเข้าร่างไร้สมบูรณ์ โหยว มันก็ถูกระเบิดอย่าง
แรง! หมัดนั่นเปี่ยมล้นไปด้วยพลังอานาจทาลายอย่างน่า
เหลือเชื่อ ร่างของไร้สมบูรณ์โหยวปรากฏอาการบาดเจ็บสาหัส
ทันใด!!
“ผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณ! เจ้ามิอาจกระทาเช่นนี้กับข้าได้!
กาลก่อนเป็นข้าที่เคยช่วยเหลือเจ้า!” ไร้สมบูรณ์ โหยว ตะโกน
ออกมา ตอนนี้ครึ่งร่างของมันแหลกยับ! ถูกทาลายจนพินาศ
ด้วยน้ามือของผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณ!!
มันรีบโคจรพลังทั่วร่างอย่างเกรี้ยวกราด ซ่อมแซมฟืนฟู
ร่างกายทันที!
อย่างไรก็ตาม พลังอานาจของผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณทาให้
ไร้สมบูรณ์ โหยว หวาดกลัวจับใจ!
ไม่คิดเลยว่าหลังจากร่วงหล่นไปกวา 10,000 ปี ผู้อมตะ หนึ่ง
เดียวโบราณจะกลายเป็นแข็งแกร่งกว่าเดิมแบบนี้!
“เหอะ! ไร้สมบูรณ์ โหยว เจ้ากล้าคิดต่อต้านนายท่านของข้า
จุดจบของเจ้ามีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นคือตาย!” พลังอานาจของ
ผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณเป็นอะไรที่สุดยอดนัก! มันคาราม
ออกมาเย็นเยือก ความว่างเปล่าพลันระเบิดออกไปเป็นระลอก
โดยมีร่างมันเป็นศูนย์กลาง!!
การปะทะกันของตัวตนสูงสุดนั้น ไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะเข้า
ไปสอดแทรกได้!
ทุกครั้งที่หมัดซัดออกภูมิประเทศของโลกหล้าล้วนถูกทาลายจน
แปรเปลี่ยนไปทันใด! สาหรับผู้คนของชนเผ่าจิ้งจอกนั้น หาก
ไม่ใช่เพราะความจริงที่ผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณ พยายามเบี่ยง
รัศมีพลังให้ไม่ไปทางนั้น เกรงว่าแค่เศษเสี้ยวกระแสพลังขุม
เดียวก็รุนแรงพอที่จะปุนร่างทุกคนให้แหลกเป็นเศษเนื้อ!!
“บัดซบ! ในฐานะตัวตนสูงสุดแห่งเผ่าพันธุ์โบราณอันยิ่งใหญ่
ไม่คิดเลยว่าเจ้าจักลดตัวไปรับใช้คนของเผ่าพันธ์มนุษย์ใน
ฐานะขี้ข้า! นี่คือความอัปยศอดสูอย่างถึงที่สุด!!”
“โอ๊ย! บัดซบ!!”
“อย่าได้! พอ! อย่าได้ทุบตีข้า!!”
ตอนนี้ไร้สมบูรณ์ โหยวไร้ซึ่งหนทางโต้ตอบอะไร ก็ใช่ที่มันเองก็
เป็นตัวตนสูงสุดแห่งชนเผ่าโบราณ แต่ต้องมาเผชิญหน้ากับ
ตัวตนสูงสุดถึง 2 ทาให้ชีวิตมันไร้หนทางแล้ว!!
“สรรพโบราณ วัตตะเทพนิรันดร์!”
ไร้สมบูรณ์โหยว คารามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด มันชูมือทั้ง 2
ขึ้นฟูา กลิ่นอายนิรันดร์ปะทุออกมาทั่วร่างของมัน! ข้ามผ่าน
กาลยุคสมัยโบราณ ชนเผ่าโบราณนั้นล้วนเป็นเผ่าพันธ์เดียวที่
เป็นนิรันดร์ ทุกสรรพสิ่งอื่นใดล้วนจมหายไปในกระแสธารแห่ง
กาลเวลา…!
ทว่า ทันใดนั้นเอง ปรากฏฝุามือขนาดมหึมาราวกับพัดใบลาน
หล่นร่วงลงมาจากฟากฟูา ตบลงศีรษะของไร้สมบูรณ์โหยว
ทันใด!!
เปรี๊ยงงงงงงงงงง!!!
รังแก! นี่นับเป็นการข่มเหงรังแกกันอย่างถึงที่สุด!!
หากเป็นการต่อสู้กันตัวต่อตัวผู้อามหิตไร้ใจ เจี๋ย คงไม่อาจทุบ
หัวไร้สมบูรณ์ โหยวแบบนี้ได้! แต่อย่างไรเสียหากให้อีกฝุายตัว
ต่อตัวกับผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณ อีกฝุายก็แทบไม่ต่างอะไร
จากกระดาษเปื่อย!!
ร่างไร้สมบูรณ์ โหยว ที่ถูกตบหัวหล่นร่วงลงไปกระแทกพื้นราว
กับอุกกาบาต! แผ่นดินกว้างใหญ่เริ่มบังเกิดรอยแยกปานใยแมง
มุม ทุกรอยแยกที่แตกระแหงออกไปยังลึกดาไม่เห็นก้น!
“อามหิตไร้ใจ เจี๋ย! ผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณ! พวกเจ้าอย่าให้
มันมากเกินไปนัก!!”
เสียงคารามอันเดือดดาลจากไร้สมบูรณ์ โหยว ดังขึ้นจากหลุม
ลึกไม่เห็นก้น มันไม่คิดเลยว่ามันจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ มัน
เงยหน้าขึ้นมองร่างทั้ง 2 บนฟูา ด้วยประกายตาสว่างไสว
มันรู้ดีว่าครั้งนี้จบไม่สวยแน่… เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ 2 ตัวตน
สูงสุดมันไม่มีหนทางชนะเลย!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณ ที่กลายเป็นข้ารับ
ใช้มนุษย์นั่น! นี่คือหายนะดังห่าระเบิดสาหรับเผ่าพันธุ์โบราณ!!
‘มิได้การ ข้าต้องหาทางหลบหนี หาไม่แล้วข้าได้ตายตกที่นี่เป็น
แน่!!’
…
เมื่อคนของชนเผ่าจิ้งจอกเห็น ไร้สมบูรณ์ โหยว ถูกทุบตีจนหัว
ปักหัวปาอย่างที่ไม่อาจตอบโต้ใดๆได้ตางก็กลั้นหายใจด้วย
ความตื่นเต้น ตอนนี้แทบไม่มีใครกล้าหายใจ เรื่องราวนี้มันดั่ง
ปรมาณูปะทุในใจพวกมันนัก!!
หากพวกมันไม่ได้มาเห็นกับตาพวกมันคงยากจะเชื่อได้ ว่าจะมี
วันที่อดีตตัวตนสูงสุดแห่งชนเผ่าโบราณจะมาช่วยชีวิตพวก
มัน!!
ตอนนี้ในใจพวกมันเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นนัก ว่าที่
แท้มนุษย์ผู้นั้นเป็นใครกันแน่? ไม่คิดเลยว่าอีกฝุายจะสามารถ
สยบตัวตนสูงสุดแห่งเผ่าพันธุ์โบราณได้แบบนี้! นี่เป็นดั่งนิทาน
ปรัมปราขายฝันของเหล่าผู้คนร้อยพันชนเผ่านัก!!
ตูมมมมมมมมมม!!!
ไร้สมบูรณ์ โหยว ปะทุพลังก่อนจะกระโดดขึ้นมาจากหลุม จับ
จ้องมองไปยังร่างตัวตนสูงสุดทั้ง 2 ด้วยสายตาคมกล้า “พวก
เจ้าทั้ง 2 จักต้องชดใช้กรรมที่กล้าคิดคดทรยศหักหลังสหาย
ร่วมเผ่าไปเข้ากับมนุษย์บัดซบนั่น! วันที่เจตจานงสวรรค์ตื่นขึ้น
พวกเจ้าต้องจ่ายราคาการกระทานี้อย่างสาสม!!”
“อ๊าคคคค!!”
ทันใดนั้นไร้สมบูรณ์ โหยว ก็กรีดร้องออกมาอีกครั้งกลิ่นอาย
พลังไร้ขอบเขตปะทุออกทั่วกาย คลื่นพลังและบรรยากาศแห่ง
นิรันดร์ห้อมล้อมทั่วร่างของมัน เพียงเศษเสี้ยวกระแสพลังนิ
รันดร์สายเดียวก็มีพลังอานาจมากพอจะทาลายล้างโลกเบื้อง
ล่างได้ทั้งใบ!!
ฟูุมมมม!! ครืนนนนนน!!!
ราวกับงูเหลือมตัวเขื่อง มวลอากาศนิรันดร์เริ่มม้วนวนเข้าหา
กัน ก่อนที่ใครจะทันได้รู้ตัว หอกเล่มหนึ่งพลันปรากฏเข้ามือไร้
สมบูรณ์โหยวแล้ว!
“เต๋าแห่งการทาลายล้าง!!”
มือไร้สมบูรณ์ โหยวสั่นสะท้าน เสียงคารามกึกก้องดังออก ยาม
หอกจ้วงแทงออกมาปรากฏแสงพลังสาดส่องทุกทิศทาง!!
“ผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณ อามหิตไร้ใจ เจี๋ย…พวกเจ้าคิดจะ
จัดการข้าไร้สมบูรณ์โหยว งั้นเหรอ! ต้องดูว่าพลังฝีมือของพวก
เจ้าถึงหรือไม่! นี่คือศาสตราในตานานที่เจตจานงสวรรค์
บันดาลให้ข้า! ต่อให้เจ้าจักเป็นผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณ ยัง
นับเป็นตัวอะไรได้!?!”
หนึ่งหอกนี้อัดแน่นไปด้วยเต๋านับพัน ทันทีที่มันเผยโฉมออกมา
กลิ่นอายทาลายล้างก็เริ่มแผ่ซ่านเบ่งบานออกไม่ต่างบุปผา
ด้วยกลวิธีพิสดารและพลังแยบคายบางประการของตัวหอก
ปรากฏมวลพลังขุมหนึ่งพุ่งไปห้อมล้อมสะกดกักผู้อมตะและเจี๋ย
เอาไว้ด้านใน!
“พวกเจ้าทั้งหมดไปลงนรกเสีย!!”
“อหังการโบราณไม่สิ้น! วัฏจักรเจตสวรรค์!!”
ปลายหอกของไร้สมบูรณ์ โหยว บังเกิดปรากฏการณ์พิสดาร
ภาพสังสารวัฏพลันฉายปรากฏ! ราวกับมันกาลังฉายห้วงแห่ง
กาลตั้งแต่กาเนิด ตั้งอยู่ และดับไปของโลกไร้จากัด กระแสพลัง
แห่งสังสารวัฏหลัง่ ไหลออกไปยังตัวตนสูงสุดทัง้ 2 ที่ถูกสะกด
ด้วยอานาจพลังของหอก!!
ผู้อมตะหนึ่งเดียวโบราณ พลันย่างเท้าออกมาก้าวหนึ่ง พร้อม
กล่าว “เจ้ามิใช่คู่มือของมัน ไปหลบด้านหลังข้า”
ผู้อามหิตไร้ใจ เจี๋ย พยักหน้ารับคาอย่างว่าง่าย ก่อนที่จะไปยืน
อยู่ด้านหลังหนึ่งเดียวโบราณ ผู้อมตะเงียบๆ
“ไร้สมบูรณ์ โหยว…ข้าเคยกล่าวถึงเรื่องนี้มาตั้งแต่ 10,000 ปีที่
แล้ว…ว่าเจ้ามันโง่เขลา! เจ้าเชื่อมั่นในตัวเจตจานงสวรรค์มาก
เกินไป! เพราะเหตุนี้พลังฝีมือของเจ้าจึงได้อ่อนด้อยที่สุดใน
บรรดาตัวตนสูงสุดทั้งหมด! และวันนี้ข้าจักให้เจ้าได้รับรู้ ว่า
พลังความแข็งแกร่งของตัวเองนั้นสาคัญไฉน!!”
“ต่อให้เป็นสมบัตินับหมื่นพัน ก็มิอาจต้านทานหนึ่งฝุามือข้า
ได้!!”
บรึมมมมมมมมมมมมม!!!
ยามเมื่อผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณย่างเยื้องออกมา มวลพลัง
กักขังเริ่มสั่นไหว สุดท้ายก็แตกสลายด้วยเงาร่างมหึมาดั่งมหา
ยักษ์ปรากฏขึ้นลอยล่องอยู่ด้านหลัง!!
“กายาแห่งตัวตนสูงสุด!!”
เมื่อไร้สมบูรณ์ โหยวเห็นภาพเบื้องหน้าสายตาก็แปรเปลี่ยน สี
หน้ายังซีดลงทันใด! แสงที่สะท้อนในแววตาคล้ายมีแต่ความ
เหลือเชื่อ!!
“ถูกแล้ว! นี่คือขีดขั้นความสาเร็จอันสูงสุด เท่าที่ร่างกายของ
ตัวตนสูงสุดจักบรรลุได้! และนี่คือขอบเขตที่เจ้ามิมีวันย่างเยื้อง
ถึงได้ชั่วกาล!!”
ตอนนี้เองพลันปรากฏพลังฝุามืออันไร้ขอบเขตสืบสานลงมายัง
โลกหล้า มันแหวกฟูาลงมาดั่งขุนเขา 5 นิ้ว! นิ้วทั้ง 5 งองุ้ม
ปานกรงเล็บ ก่อนจะไปขยุ้มคว้าจับภาพสังสารวัฏที่กาลังฉาย
เปล่งพลังลึกลับทันใด!!
ปงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!
กระแสอากาศและมวลพลังที่เปล่งออกรอบๆภาพปรากฏการณ์
แห่งห้วงสังสารวัฏ เริ่มระเบิดไปทีละนิด! ราวกับมันพบพานขุม
พลังไม่อาจต้าน! สุดท้ายมือมหึมานั่นก็บดขยี้ทุกส่งอย่างจน
แหลกสลายกลายเป็นธุลี!
“เป็นไปไม่ได้! เรื่องนี้จักเป็นไปได้อย่างไร!!”
เมื่อสองตาได้ประจักษ์กับเรื่องดั่งอภินิหาร สีหน้าแววตาย่อม
ฉาบไปด้วยความไม่เชื่อ!
“มิมีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้! เจ้าไม่มีวันเข้าใจเหตุผล ว่าใยตัวตน
สูงสุดถึงได้เรียกว่าตัวตนสูงสุด! ในอดีตเมื่อ 10,000 ปีที่แล้ว
ในขณะทีข่ ้าผู้สูงสุดเก็บตัวเงียบไป ตัวข้าผู้สูงสุดก็ได้ฝึกปรือจน
บรรลุขอบเขตที่เจ้ามิมีวันเข้าใจได้!!”
“ขาคือผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณ! ข้าเปรียบได้ดั่งสวรรค์! ข้า
คือตัวตนสูงสุดแห่งเผ่าพันธุ์โบราณที่แข็งแกร่งที่สุดจากนี้จนชั่ว
นิรันดร์!!”
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!
กรงเล็บที่มหึมาคลุมฟูาราวกับมือของเทพปีศาจจุติเปล่งพลัง
อานาจน่าครั่นคร้าม! เมื่อเหล่าผู้คนของชนเผ่าจิ้งจอกเห็นกรง
เล็บมหึมาคลุมฟูานี้ร่างพวกมันล้วนสะท้านไปด้วยความ
หวาดกลัว กลิ่นอายพลังน่นน่าสะพรึงกลัวเกินไป!!
ในสายตาของพวกมันทั้งหลาย นี่ไม่ต่างใดกับปฐมบทแห่งวัน
โลกาวินาศได้โหมโรงขึ้นมาสักนิด…
“เชี่ย! ไม่คิดเลยว่าผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณ จะทรงพลังขนาด
นี้!!”
แม้แต่หลินฟุานเองก็อึ้งไปในเรื่องนี้ เขาไม่เคยเห็นผู้อมตะ หนึ่ง
เดียวโบราณลงมือเต็มพิกัดมาก่อน ตอนนี้พลังสามารถที่ผู้
อมตะ หนึ่งเดียวโบราณใช้ออกสามารถบอกได้คาเดียว “โคตร
โหด!”
ต่อให้เป็นไอจ้าวแห่งความชั่วร้ายอะไรนั่น เกรงว่ากระบวนท่า
เดียวมันก็รับไว้ไม่ได้!
“ไม่! เจ้ามันเป็นได้แค่ตัวทรยศเผ่าพันธุ์! ชนเผ่าโบราณของ
พวกเรามิมีตัวตนสูงสุดเช่นเจ้า! สิ่งใดที่อยู่ภายใต้เจตจานง
สวรรค์ล้วนเป็นของเจตจานงสวรรค์! แต่เจ้ากลับกล้าคิดท้า
ทายสั่นคลอนตาแหน่งเจตจานงสวรรค์! เจ้ามันเป็นแค่ตัวกบฏ
คิดคดทรยศเผ่าพันธุ์! ตายไปให้ข้าเสีย!!”
ไร้สมบูรณ์ โหยวกรีดร้องเสียงดัง เส้นโลหิตสีเขียวปูดโปน
ออกมาเต็มศีรษะ! กลิ่นอายพลังอันบ้าคลั่งของมั่นสะท้านไปทั่ว
สวรรค์และโลก ยามเมื่อมันแทงหอกออกมา พลังแห่งการ
ทาลายล้างคล้ายจะโถมทับไปทั่วโลกหล้า!!
ตอนที่ 842 : ปิดตาย!
‘ติ๊ง!! … ขอแสดงความยินดีท่านสังหารตัวตนสูงสุดแห่ง
เผ่าพันธุ์โบราณ ไร้สมบูรณ์ โหยว’
‘ติ๊ง!!… ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นนับไม่ถ้วน’
‘ติ๊ง!! … สถานะด่านพลังฝึกตนยกระดับ’
‘ติ๊ง!!… ได้รับ บัลลังก์เทพนิรันดร์ (1)’
‘ติ๊ง!! … ได้รับโอสถเจิ้งหยาง 3,000,000,000,000 เม็ด’
‘ติ๊ง!! … ได้สิบอาวุธระดับเต๋า 10 ชิ้น’
‘ติ๊ง!! … ได้รับยอดสมบัติ สุดยอดหอกเทวะ’
…
หลังจากที่สังหารไร้สมบูรณ์ โหยว แล้ว ของรางวัลนั้นเด้งเข้า
ตัวหลินฟ่านจนนับแทบไม่หวาดไม่ไหว ค่าประสบการณ์ของ
เขาก็พุ่งปรี๊ดทะลุหลอด! และที่เหนือคาดคิดก็คือหลินฟ่านยัง
ได้รับยอดสมบัติด้วย!!
นี่นับว่าเป็นอะไรที่เกิดหลินฟ่านคาดคิดไว้นัก
ดูเหมือนว่าแท้จริงแล้วการที่จะเพิ่มพูนโชคชะตาใครสักคนให้
มั่งคั่งรุ่งเรือง…นั่นต้องฆ่าตัวตนสูงสุด!!
ตัวตนสูงสุดนี่ไม่ว่าตัวไหนก็ล้วนร่่ารวยกว่าตัวตนทรงพลัง
ทั่วไปนัก ร่่ารวยท้าทายสวรรค์นัก!
‘ติ๊ง!! … ขอแสดงความยินดีท่านยกระดับพลังฝึกตนมาถึงเทพ
สวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์’
วู้มมมมมม!!!
ทันใดนั้นเองพลังปราณวิญญาณเซียนทั่วโลกคล้ายก่าลังร่่าร้อง
“เกิดอันใดขึ้นกัน? เขาจักทะลวงด่านพลังตอนนี้หรือ?” เมื่อ
จักรพรรดินีสตรีเห็นความเปลี่ยนแปลงที่บังเกิดขึ้นกับหลินฟ่าน
นางก็ตะลึงค้างไปทันใด
ตอนนี้ราวกับพลังปราณวิญญาณเซียนทั่วโลกก่าลังเดือดดาล
บ้าคลั่ง อัสนีสีม่วงฟาดผ่าไปทั่วผืนฟ้า!
“ฮ่าๆๆ! ดูเหมือนข้าประมุขก่าลังจะก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นแล้ว!
ในที่สุดข้าประมุขก็จะมีด่านพลังฝึกตนสูงสุดสักที!!”
หลินฟ่านนั้นเฝ้ารอคอยวันนี้มานานแสนนาน! ในที่สุดวันของพี่
ประมุขก็มาถึงแล้ว!!
ตอนนี้ด้านในวิมานฟ้าของหลินฟ่านก่าลังบังเกิดความ
เปลี่ยนแปลงอย่างบ้าคลั่ง สรรพสิ่งสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ปราณวิญญาณเซียนพวยพุ่งเข้ามาจากโลกภายนอก! ร่าง
สรรพชีวิตในวิมานฟ้าต่างลอยล่องขึ้นไปกลางหาวดูดซับพลัง!
ม่านผลึกแก้วอันเป็นก่าแพงวิมานฟ้าของหลินฟ่านถึงกับ
พังทลายและก่อเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง!!
ร้อยลี้ พันลี้ หมื่นลี้ ร้อยพันลี้ หมื่นพันลี้ อาณาเขตวิมานฟ้าเขา
แผ่ขยายกว้างไกลออกไปไม่รู้จบ…ตอนนี้ก่าแพงผลึกของวิมาน
ฟ้าเขายิ่งมายิ่งเปล่งประกาย แต่ละผลึกเปล่งแสงเรืองรองราว
กับมันจะมีชีวิตเป็นของตัวเอง ราวกับว่าแต่ละผลึกนั้นมีโลก
ของมัน!!
สรรพชีวิตภายในวิมานฟ้าเองก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปไม่จบสิ้น
พวกมันค่ารามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด! ระดับพลังของพวก
มันเพิ่มพูนสูงขึ้น กลิ่นอายพลังปานจะไร้ขอบเขตแผ่ซ่าน
ออกมาจากเหล่าสรรพชีวิตอย่างต่อเนื่อง!!
ยกระดับ! พวกมันทั้งหมดก่าลังยกระดับ!!
ทุกๆด่านพลังฝึกตนจะท่าให้บังเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
และช่องว่างความต่างระหว่างเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 9
สลาย 8 สู่เวิ้งว้าง ไปสู่ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์นั้น มันก็พอๆ
กับระยะทางไปสวรรค์!!
ปราณวิญญาณเซียนที่ตลบอบอวลในวิมานฟ้าของหลินฟ่า
นตอนนี้แข็งแกร่งหนาแน่นกว่าก่อนหน้านับล้านเท่า! อันที่จริง
พวกมันยังเริ่มถึงขั้นควบแน่นจนจะกลายเป็นผลึกอยู่รอมร่อ
แล้ว!!
ตอนนี้ทุกสรรพชีวิตล้วนก่าลังหายใจอยู่ และด้วยความที่มี
สิ่งมีชีวิตมหาศาลขนาดนี้ ทุกหนึ่งลมหายใจของพวกมันยังก่อ
เกิดปราณประหนึ่งมหาสมุทรสุดไพศาล!
“หยินหยางหวนก่าเนิด ร่างมังกรไร้ผู้ต้าน!!”
ตอนนี้องค์ชาย 10 และจักรพรรดิมังกรทั้ง 4 ที่ก่าลังบ่มเพาะ
พลังอยู่ในวิมานฟ้าของหลินฟ่านนั้น พวกมันต่างปลดปล่อย
มหามังกรคืนชีพเต็มพลังด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกมันมี!!
มหามังกรคืนชีพคือหนึ่งในวิชาลับที่มีอยู่ไม่กี่วิชาของชนเผ่า
มหามังกร และเป็นวิชาที่ยากจะฝึกฝนนัก ทว่าเมื่อสามารถ
ฝึกฝนได้ส่าเร็จ พลังอ่านาจของมันยามปลดปล่อยออกมา
สามารถเขย่าโลกหล้าได้ทั้งใบ!
ฮู่มมมมมมมม!!!
เสียงค่ารามของมหามังกรสนั่นลั่นวิมานฟ้า ตอนนี้องค์ชาย 10
และจักรพรรดิมังกรทั้ง 4 ล้วนคืนสู่รูปลักษณ์มหามังกร ทั้งมหา
มังกรแต่ละตัวตอนนี้ทั่วร่างยังเปล่งพลังอ่านาจแห่งหยินหยาง
ออกมา..มหามังกรหยินหยาง! ความรู้สึกอันลี้ลับน่าพรั่นพรึงถูก
ปลดปล่อยออกมาจากร่างของพวกมันอย่างอย่างเกรี้ยวกราด!!
“ร่างมังกรไร้ผู้ต้าน”
เปรี๊ยะ!!
ร่างมหามังกรหยินหยางเริ่มฉีกขาด เกล็ดของมันปริแตก
ออกเป็นเสี่ยงๆ หากทว่าชั่วพริบตาเกล็ดเหล่านั้นก็รวมตัวก่อ
เกิดขึ้นมาอีกครั้ง และเกล็ดใหม่นั้นยังมีความแวววาวเงางาม
ยิ่งกว่าเดิม! พลังงานที่เปล่งออกมาแต่ละเกล็ด ยังมหาศาลปาน
แต่ละเกล็ดนั้นเป็นโลกมหามังกรใบเล็กของพวกมัน!!
แต่ละเกล็ดปรากฏลักษณ์พลังรูปมหามังกรพุ่งทะยานขึ้นไปยัง
น่านฟ้าของวิมานฟ้า! เสียงค่ารามดังออก ปราณมังกรปะทุ
ออกมาไร้จ่ากัด!!
“ร่างมหามังกรเดียวดายคุ้มคลั่ง!”
เปรี๊ยงงงงงงงงงง!!!!
เสียงระเบิดดังสนั่นออกมา ปรากฏมหามังกรตัวเขื่องยาวนับ
แสนฟุตม้วนวนไปรอบๆวิมานฟ้า ตอนนี้ราวกับวิมานฟ้าของ
หลินฟ่านกลับกลายเป็นโลกมหามังกรก็ไม่ปาน
กลิ่นอายพลังขององค์ชาย 10 และจักรพรรดิมังกรทั้ง 4
เพิ่มพูนขึ้นอย่างเกรี้ยวกราดไร้หยุดยั้ง!!
เทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์!
เมื่อสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงด้านในวิมานฟ้าของตัวเอง
หลินฟ่านรู้สึกยินดีอย่างมากที่ต่างบังเกิดความเปลี่ยนแปลง
ครั้งใหญ่!!
เหล่าสรรพชีวิตทั้งหมดในวิมานฟ้าของหลินฟ่านล้วนยกระดับ
ขึ้นกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะองค์ชาย 10 หรือคนอื่นๆ ตอนนี้พวกมันก็
บรรลุเทพสวรรค์อมตะ 10 ชั้นฟ้าหมดสิ้น! และแม้ทั้งหมดจะ
เป็นแค่ เทพนิรันตร์ไร้บัลลังก์ หากแต่ยังทรงพลังเหนือกว่าเทพ
นิรันดร์ตนอื่นๆในโลกเซียนโบราณหลายขุม!
ต้นไม้แห่งชีวิตในต่านานก็เจริญเติบโตขึ้นเช่นกัน ล่าต้นของมัน
ขยายใหญ่ออกไปจนยากจะนับว่ากี่คนโอบ กิ่งก้านใบแผ่ขยาย
ออกมาไม่หยุด แหงนมองขึ้นไปยามนี้ประหนึ่งผืนฟ้าของวิมาน
ฟ้าหลินฟ่าน จะถูกปกคลุมไปด้วยใบเขียวของมัน! ปราณ
วิญญาณเซียนอันไร้สิ้นสุดหลั่งไหลออกมา พร้อมกันนั้นพลัง
ชีวิตอันอุดมสมบูรณ์ก็ก่าจายออกมามหาศาล!!
เพียง 1 ลมหายใจ มันสามารถควบรวมปราณวิญญาณเซียน
มหาศาลให้กลายเป็นโอสถเจิ้งหยางนับไม่ถ้วน!!
ตัวแทนพุทธองค์เองก็เปิดประตูสถานศึกษาไฟฟ้าบ่าบัดของมัน
ต่างเริ่มกล่าวบทสวดออกมา หนึ่งดัชนีจี้ออกเบื้องบน ก่อเกิด
อักขระมากมายนับไม่ถ้วนลอยล่องออกมา พวกมันลอยล่อง
วนเวียนขึ้นไปเหนือฟ้าก่อนที่จะกลับกลายเป็นหยาดพิรุณสี
ทองพร่่าพรมลงมาทั่วทั้งวิมานฟ้า!
“ปีศาจยักษ์โบราณ เข้าไปยกระดับ! เตรียมผสานบัลลังก์เทพนิ
รันดร์ซะ!!”
“ฮว่าสสสสสสสสสสสสสส์”
หลินฟ่านเก็บปีศาจยักษ์โบราณลงวิมานฟ้าทันใด และบัลลังก์
เทพนิรันดร์ของไร้สมบูรณ์ โหยว นั้น เหมาะให้มันใช้ยกระดับ
ที่สุด!!
และตั้งแต่สังหารนักบุญ เชิ่ง หลินฟ่านก็ได้อาวุธเต๋ามาก่อน
แล้วมากมายนับสิบๆ ตอนนี้เขาเรียกมันออกมาบดขยี้ทั้งหมด
โยนจิตวิญญาณสถิตย์ศาสตราทั้งหลายไปให้ปีศาจยักษ์โบราณ
กลืนกิน เพื่อหลอมรวมเข้ากับร่างของปีศาจยักษ์โบราณ!!
“อย่าฆ่าข้า! ข้าคือยอดสมบัติ! ข้ายินดีรับใช้เจ้า! ข้าจักก้มหัว
ให้เจ้า!!”
ยอดสมบัติอย่างสุดยอดหอกเทวะวิงวอนร้องขอออกมาอย่าง
น่าเวทนา ตัวมันเป็นถึงจิตวิญญาณสถิตย์ศาสตราอายุกว่า
10,000 ปี ตอนนี้มันมีองค์ความรู้และภูมิปัญญาไม่ต่างอะไรไป
จากตัวตนทรงพลังคนหนึ่ง มันย่อมรู้ดีว่าเรื่องราวผิดท่าแล้ว
หากมันถูกกลืนกินมันจะสลายหายไปจากโลกหล้าอย่าง
สมบูรณ์!!
นั่นหมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเพียรฝึกฝนมาตลอด
ระยะเวลา 10,000 ปีจะกลายเป็นว่างเปล่า…
“ข้ารู้ทุกสิ่งเกีย่วกับเผ่าพันธุ์โบราณ! ข้าเป็นดั่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของ
โลกเซียนโบราณ ตัวข้ามียอดวิชาเลิศล้่าในต่านานมากมายอยู่
ในครอบครอง! ข้าขอวิงวอนต่อเจ้า! อย่าได้ฆ่าข้า!!”
หอกยาวที่ถือครองพลังอ่านาจปานจะไร้ผู้ต้านค่ารามกึกก้องทั้ง
บินวนเวียนอยู่ในวิมานฟ้าอย่างกระวนกระวาย อนิจจาตอนนี้
ตัวมันท่าได้แค่สั่นสะท้านพรั่นกลัว และร้องขอชีวิตออกมา
อย่างสิน้ หวังเท่านั้น!!
“เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของข้าจักรพรรดิปีศาจเสีย!” ปีศาจยักษ์
โบราณเอื้อมมือมหึมาพุ่งคว้าไปยังสุดยอดหอกเทวะ
“ไม่!! ข้าจักสู้ตายกับเจ้า!!”
สุดยอดหอกเทวะค่ารามลั่น พลังทั้งหมดปะทุออก พุ่งทะยาน
ไปดั่งดาวตก มวลอากาศแตกระเบิดออกเป็นวง สายลมแรง
สาดซัดไปทุกทิศทาง
ปงงงง!!! แคร่กก!!
ตอนนี้พลังอ่านาจของปีศาจยักษ์โบราณนั้นสูงส่งยากใครเทียบ
พลังอ่านาจที่มันถือครองนั่นร้ายกาจนัก มืององุ้มเป็นกรงเล็บ
คว้าจับสุดยอดหอกเทวะไว้ได้อย่างง่ายดาย และเพียงมันออก
แรงบีบคราหนึ่ง สุดยอดหอกเทวะก็แตกสลายกลับกลายเป็น
พลังงานบริสุทธิ์ ปีศาจยักษ์โบราณไม่รอช้า ปากแสนดุร้ายอ้า
ออกกว้างดูดกลืนพลังงานดังกล่าวไปทันที!!
ทันใดนั้นเจตจ่านงแห่งหอกพวยพุ่งทะยานฟ้า! พลังอ่านาจของ
มันประหนึ่งจะทะลวงโลกหล้า พลังอ่านาจอันน่าเกรงขามนี้ท่า
ให้ใจของสรรพชีวิตทั้งวิมานฟ้าสะท้านไปทันใด!!
หลังจากที่ปีศาจยักษ์โบราณกลายมาเป็นจิตวิญญาณสถิต
ศาสตราของหลินฟ่าน หลินฟ่านก็ได้ให้มันกลืนกินศาสตรา
วิญญาณไปมากมายเพื่อหล่อหลอมเสริมร่างของมัน ตอนนี้
พลังอ่านาจของมันเรียกว่าสะท้านสะเทือนโลกหล้าไปแล้ว!
อยากที่จะมีสิ่งใดต้านทานได้อย่างแท้จริง!!
“เมืองปีศาจ! อยู่!!”
หลินฟ่านสะบัดมือคราหนึ่ง ส่งบัลลังก์เทพนิรันดร์ให้ผสานเข้า
ไปในเมืองปีศาจอันเป็นร่างหลักของปีศาจยักษ์โบราณโดยตรง!
“วิวัฒน์!!”
วู้มมมมมมมม!!!
ร่างปีศาจยักษ์โบราณพลันแตกตัวออกอย่างรวดเร็วก่อนจะพุ่ง
ไปหลอมรวมเข้ากับเมืองปีศาจ ส่วนอีกด้านนั้นพลังอ่านาจของ
เมืองปีศาจก่าลังพวยพุ่งขึ้นอย่างมหาศาล มันลอยล่องขึ้นไป
หมุนวนเหนือฟ้า ปราณปีศาจปะทุออกมาอย่างบ้าคลั่ง เงาร่าง
เทพปีศาจร้ายอันทรงพลัง ปรากฏตระหง่านท่ามกลางสวรรค์
และโลก!!
ยอดสมบัติขั้นกลาง!
ยอดสมบัติขั้นสูง!
ยอดสมบัติขั้นสูงสุด!!
นี่คือการพุ่งทะยานอย่างแท้จริง!!
อันที่จริงแม้ว่ามันจะยกระดับเป็นยอดสมบัติขั้นสูงสุดแล้ว..
หากแต่พลังอ่านาจของมันยังพุ่งขึ้นไปไม่หยุดยั้ง!!
‘ติ๊ง!! … ขอแสดงความยินดีกับผู้ถือครองระบบ ท่านสามารถ
ปลูกฝังอาวุธระดับต่านานได้ส่าเร็จ ได้รับโลกปีศาจ 9 แดน
สรวง!’
‘ติ๊ง!! … ขอแสดงความยินดีกับการปลูกฝังอาวุธระดับต่านาน
ได้ส่าเร็จเป็นชิ้นแรก ได้รับรางวัลลึกลับพิเศษ x 1’
‘ท่านต้องการแลกเปลี่ยนเลยหรือไม่’
“ข้าจะแลกมันทีหลัง! ตอนนี้ได้เวลาที่พี่ประมุขจะยกระดับกับ
เค้าบ้างแล้ว!!” เมื่อหลินฟ่านจัดแจงทุกสิ่งเสร็จสิ้น ตอนนี้ก็ได้
เวลายกระดับตัวเองแล้ว!
ห้วงเวลานี้ เขารอมันมานานแสนนาน…
เทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์…! ด่านพลังฝึกตนที่
หลินฟ่าน ผู้ซึ่งก้าวเดินอยู่บนหนทางฝึกตนเสาะแสวงหามันมา
โดยตลอด…!!
“จักรพรรดินีสตรี เจ้ารีบพาทั้งหมดออกไปก่อนจะดีกว่า ตอนนี้
ข้าจะเริ่มยกระดับพลังแล้ว…” ตอนนี้ทั่วร่างของหลินฟ่านห้อม
ล้อมไปด้วยมวลพลังปราณวิญญาณเซียนอันคุ้มคลั่ง
เมื่อจักพรรดินีสตรีเห็นภาพนี้นางก็ไร้ลังเลอันใด สะบัดผ้าคลุม
คราหนึ่งปรากฏพลังคลุมครอบผู้คนโดยรอบ น่าพาทั้งหมดให้
วูบหายไปกับนางทันใด!!
ตอนที่ 846 : นี่มัน…พุ่งทะยานปานจรวด!
“เจ้านี่มัน ช่างเป็นตัวตนอันเย้ยสวรรค์เสียจริงๆ”
ห่างออกมาไกลสุดฟ้า ร่างจักรพรรดินีสตรีหยุดลอยค้างกลาง
เวหา ใบหน้างามหมดจดเงยขึ้นดูสภาพบรรยากาศของโลก
หล้าคราหนึ่งก่อนที่จะแต่งแต้มไปด้วยความประหลาดใจ…นาง
รู้ดีว่าปรากฏการณ์นี้ จะบังเกิดขึ้นเมื่อมีผู้กําลังจะทะลวงไปยัง
เทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์! หากทว่ายามนี้มวล
พลังปราณวิญญาณเซียนที่ตอบรับในสวรรค์และโลกกําลัง
เดือดดาลคุ้มคลั่งกันเป็นวงกว้างนัก! อาณาบริเวณยังมากกว่า
นางในกาลก่อนหลายเท่านัก…ทรงพลังเหนือชั้นยิ่งกว่านาง!!
ตอนนี้เหล่าตัวตนอันทรงพลังทุกคนในโลกเซียนโบราณ ต่าง
สัมผัสได้ถึงการสั่นพ้องของพลัง! ทั้งหมดบอกได้ทันที ว่ายามนี้
พลังปราณเซียนวิญญาณกําลังอาละวาด! และขอบเขตมัน
แทบจะกําจายไปทั่วโลก! ปราณมันคุ้มคลั่งจนถึงขีดสุดแล้ว!!
“ตัวตนใดกันที่กําลังจะฝ่าด่านเทพนิรันดร์!”
นี่คือคําถามในใจของเหล่าผู้ทรงพลังทั้งหลายบนโลก และเรื่อง
นี้ยังบ่งบอกให้รู้ว่าบนโลกเสวียนหวงเองก็ยังมีตัวตนทรงพลัง
ของแต่ละเผ่าพันธ์ซุกซ่อนอยู่..
สําหรับผู้เดียวดาย ฮวง ที่พึ่งหลบหนีจากมานั้น หน้าของมันก็
เปลี่ยนสีทันใด ทันทีที่มันจับสัมผัสคลื่นพลังอันน่าพรั่นพรึงนี้ได้
มันก็รีบปะทุพลังชั่วชีวิตเร่งรุดกลับไปรวมตัวกับตัวตนสูงสุดตน
อื่นๆทันที!!
ไม่นานหลังจากนั้น ตัวตนสูงสุดที่หลงเหลือกันอยู่แค่ 5 ตน ก็
มานัง่ มองกันตาปริบๆ…
“เป็นราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้ากําลังจักฝ่าด่าน
พลัง…ครั้งนี้มันกําลังจักกลายเป็นตัวตนเทพนิรันดร์แล้ว!” หนึ่ง
ในตัวตนสูงสุดกล่าว
“เรื่องนี้พวกเรามิอาจปล่อยให้เกิดขึ้นได้เด็ดขาด พวกเราต้อง
รีบออกไปจัดการกําราบมันเสีย ถึงแม้มันจะไม่มีวันได้บัลลังก์
เทพนิรันดร์เป็นของตัวเอง แต่อย่างไรเสียด่านพลังที่สูงขึ้น มัน
ย่อมต้องุคกคามพวกเราได้ทุกตน! แค่ตอนนี้พวกเราก็มิอาจทํา
ใดมันได้แล้ว หากมันยกระดับพลังเสร็จ มิใช่มันจะทะยาน
สวรรรค์แล้วหรือไร!?”
“เจ้าพูดก็ถูก…แต่ผู้ใดจักไปหยุดมันเล่า? ข้าบอกไว้เลย ข้าจัก
ไม่ไปไหนและจะเฝ้ารออยู่ตรงนี้จนกว่าโลกไร้จํากัดจะเปิดออก
คอยให้เจตจํานงสวรรค์ตื่นขึ้นอีกครั้ง! เพราะอย่างไรเสียเมื่อ
ต้องเผชิญหน้ากับเจตจํานงสวรรค์ มนุษย์นั่นมันก็ไม่ต่างใดกับ
มดปลวก” อีกหนึ่งตัวตนสูงสุดกล่าว อันที่จริงตอนนี้มัน
หวาดระแวงและระวังตัวแจต่อตัวมนุษย์คนนั้นไม่น้อย!
“ข้าผู้สูงสุดนั้นเห็นมากับตาและสัมผัสได้กระจ่าง..ว่าราชันแห่ง
มวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าบัดซบนั่น! มันฆ่าพี่น้องข้า ไร้
สมบูรณ์ โหยวไปแล้ว! นี่ดั่งระเบิดห่าใหญ่สําหรับชนเผ่า
โบราณเรานัก!!”
ผู้เดียวดาย ฮวง กวาดมองไปยังตัวตนสูงสุดรอบๆ ทว่าเมื่อ
เห็นว่าแต่ละตนนั้นไม่มีใครคิดออกไปรบกับมัน มันก็คําราม
ออกมาด้วยโทสะ “ดูพวกเจ้าเข้าเถอะ! นี่พวกเจ้ายังเป็นตัวตน
สูงสุดกันอยู่อีกหรือไร?! นี่เป็นช่วงเวลาที่สําคัญที่สุดในชีวิตของ
มัน! มิใช่ว่ามันก็มีแค่ ผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณ อํามหิตไร้ใจ
เจี๋ย และจักรพรรดิปีศาจคอยช่วยเหลือหรือไร?! หากพวกเรา
ทัง้ 5 ผนึกกําลังกัน พวกเรายังจะแพ้พ่ายมันรึ!? ใยพวกเรามิไป
กัน!?”
“หืม? ผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณน่ะหรือ!?”
“ฮะ? จักรพรรดิปีศาจ?”
“หือ? อํามหิตไร้ใจ เจี๋ย?”
ทันใดนั้นเหล่าตัวตนสูงสุดทั้ง 4 ต่างหันหน้ามองสบตากันและ
กัน ตอนแรกพวกมันก็ถูกสั่นคลอนเพราะคําโน้มน้าวไปไม่น้อย
ทว่าพอได้ยินคํากล่าวนี้…
นี่มันเรื่องชวนหัวอะไรกัน?
อันที่จริงเรื่องที่ทําให้พวกมันตะลึงที่สุดก็คือข่าวเรื่องผู้อมตะ
หนึ่งเดียวโบราณยังไม่ตาย! นั่นคือตัวตนสูงสุดจากช่วงเวลา
เดียวกันกับพวกมัน! ไม่มีใครกังขาเรื่องพลังอํานาจของอีกฝ่าย
แน่!!
“เฮอะ! หากพวกเจ้ามิไป ข้าไปเอง! เพื่อเผ่าพันธุ์โบราณ พวก
เราร่วงหล่นแล้วจะอย่างไร? พวกเราต้องทําให้มั่นใจว่ามนุษย์
นั่นมิอาจยกระดับพลังได้!!” ผู้เดียวดาย ฮวง คํารามออกมา
ด้วยความเกรี้ยวกราด
ส่วนทางด้านเหล่าตัวตนสูงสุดทั้ง 4 นั้นหันไปมองผู้เดียวดาย
ฮวง ค่อยยักไหล่ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ในแววตาของพวกมัน
นั้น แค่มองก็รู้ใจ ว่ามันกล่าวอะไรต่อผู้เดียวดาย ฮวง ‘เจ้าไป
ของเจ้าคนเดียวเถอะ’
ผู้เดียวดาย ฮวง มองตัวตนสูงสุดทั้ง 4 ส่งสายตามาเช่นนั้นทํา
ให้มันเจียนคลั่ง! หน้าของมันแดงเถือก มันไม่รู้จริงๆว่าเกิด
บัดซบอะไรขึ้นกับตัวตนสูงสุดทั้ง 4 นี้กันแน่!?
ไม่คิดเลยว่าราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าเพียงคน
เดียว จะทําให้พวกมันระวังตัวแจกันถึงขั้นนี้ นี่พวกมันยังมี
ศักดิ์ศรีของตัวตนสูงสุดหลงเหลืออยู่อีกหรือ!?
“เดียวดาย…อย่าได้ไปแล้ว ตอนนี้เจตจํานงสวรรค์ยังหลับไหล
อยู่ เพราะตอนนั้นเจตจํานงสวรรค์ได้เผลอใช้พลังมากเกินไป
ท่านไม่รู้ด้วยซ้ําว่าตอนนี้พวกเรากําลังพุดถึงเรื่องอันใดกันอยู่…
ดังนั้นแม้เจ้าจะออกไปทําอะไรก็ไร้ประโยชน์ อีกทั้งหากพวกเรา
ออกไปหาเรื่องมนุษย์ผู้นั้น ถึงแม้ว่าพวกเราอาจจะประสบ
ความสําเร็จ แต่อย่างน้อยๆข้าคิดว่าพวกเราต้องเสียสละไป
ราวๆ 3 ตน…”
“ไม่เป็นเจ้าก็ใครสักคนต้องร่วงหล่น หรืออาจจะเป็นข้าที่ร่วง
หล่น…ไม่แน่อาจจะเป็นพวกเราทั้งหมดที่ร่วงหล่น” อีกหนึ่ง
ตัวตนสูงสุดกล่าวออกมา
ตัวตนสูงสุดที่เหลือเพียงมองส่งสายตากันงียบๆและไม่กล่าว
อะไรเพิ่มมาอีก
“ตอนนี้ภารกิจหลักของพวกเราก็คือใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเรา
มีสะกดจักรพรรดินีวารีอัคคีเอาไว้ให้ได้ ไม่ว่าต้องจ่ายราคา
ออกไปมากเพียงใดก็มิอาจปล่อยให้จักรพรรดินีวารีอัคคีหลุด
ผนึกมาได้เด็ดขาด! ส่วนมนุษย์นั่น ต่อให้มันจะแข็งแกร่งถึง
เพียงใด…มันก็ไม่อ่าจทําลายม่านพลังนิรันดร์ได้! พวกเราเพียง
แค่เฝ้ารอให้เจตจํานงสวรรค์ตื่นขึ้นก็พอ ถึงยามนั้นเรื่องราว
ทั้งหมดล้วนยุติลงได้โดยง่าย…”
“ถูกแล้ว! พวกเราตัวตนสูงสุดมิอาจสูญเสียได้อีกแล้ว ตอนนี้
ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้านั่นคงวางรากฐานของ
มันเสร็จสิ้นแล้ว ยังเรื่องที่มันมีตัวตนสูงสุดข้างกายอีก 2 ไม่
เพียงเท่านั้น แม้กระทั่งจักรพรรดิปีศาจ ป่านนี้สมควรหวนคืนสู่
พลังแล้ว ต่อให้พวกเรามุ่งหน้าออกไปตอนนี้ ก็มิอาจเกิดผลเลิศ
ล้ําอันใดได้… “
“และหากไอพวกนั้น มันพากันแห่กันออกมาจากดินแดนผู้
พิทักษ์และผนึกกําลังกัน… กําลังรบของพวกเราจะกลับ
กลายเป็นอ่อนด้อยกว่าทันที! มีความเป็นไปได้สูงที่พวกเรา
ทั้งหมดจักต้องร่วงหล่นที่นั่นแทน…!!”
ตอนนี้เองผู้เดียวดาย ฮวง ก็ถึงกับต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
มันรู้สึกคล้ายจะถูกทั้งหลายเกลี้ยกล่อมโน้มน้าวให้ยอมลงด้วย
ร้อยพันเหตุผล…
แต่บัดซบเถอะ! หากพวกเจ้ากลัวก็บอกมาตรงๆ ยังต้องกล่าว
ให้มากทําอะไร!?
ส่วนทางด้านหลินฟ่านนั้น เขากําลังแหงนหน้าขึ้นไปมองความ
ว่างเปล่า มองมวลพลังปราณวิญญาณเซียนอันมหาศาลที่ควบ
รวมเวียนวน ทั้งหลายเริ่มก่อเกิดเป็นมหาพายุพลังปราณอันน่า
พรั่นพรึง!!
ครู่ต่อมาทุกรูขุมขน ทุกเส้นชีพจรทั่วร่างของหลินฟ่นาคล้าย
เปิดออก สูดลมหายใจเข้าลึกยาว เริ่มต้นกระบวนการดูดซับ
ปราณวิญญาณเซียนอันคุ้มคลั่งเข้าร่าง!!
หลินฟ่านพลันบังเกิดความรู้สึกประการหนึ่งขึ้นมาทันที คล้าย
กับเขาสามารถเชื่อมต่อเข้ากับสถานที่ลึกลับบางแห่ง
“นั่นคือบัลลังก์เทพนิรันดร์!”
แม้กระทั่งในขีดขั้นเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์
ก็พูดได้ว่ามีความแตกต่างกันไปทางด้านความแข็งแกร่งไม่ใช่
น้อย เหล่าตัวตนระดับเทพนิรันดร์ที่สามารถต่อกรกับตัวตน
สูงสุดได้นั้น สามารถนับได้ด้วยนิ้วมือข้างเดียวเท่านั้น!
มีก็แต่เหล่าผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ที่มีบัลลังก์เทพนิรันดร์เท่านั้นที่พอ
รับมือได้! ส่วนตัวตนอันทรงพลังอื่นๆ ต่อให้เป็นเทพสวรรค์
อมตะ 10 ชั้นฟ้า เทพนิรันดร์เช่นกัน พวกมันก็ไม่ใช่คู่มือตัวตน
สูงสุดเลย…
ทว่าจักรพรรดินีวารีอัคคีนั้นเป็นข้อยกเว้น!
เห็นได้ชัดว่านางเองก็ไร้บัลลังก์เทพนิรันดร์เช่นกัน ทว่าพลัง
ฝีมือความแข็งแกร่งของนางกลับเหนือล้ํากว่าตัวตนสูงสุดเสีย
อีก! ไม่เพียงเท่านั้น ไร้ผู้ใดล่วงรู้ว่านางนั้นเป็นคนของเผ่าพันธ์
ใดกันแน่ รู้แต่เพียงนางเป็นตัวตนที่เรียกว่าสุดขั้วอย่างแท้จริง
ครืนนนนน!!!
ทันใดนั้นเองพลังอันมหาศาลของกระบวนการยกระดับก็ฉีก
ความว่างเปล่า และภายในรอยแยกของความว่างเปล่าอันไร้
สิ้นสุดนั่น ก็เต็มไปด้วยบัลลังก์เทพนิรันดร์อันเปี่ยมล้นไปด้วย
พลังอํานาจไร้ผู้ต้านปรากฏขึ้นมา
บัลลังก์เทพนิรันดร์นั้นเป็นอะไรที่สําคัญนัก! เพียงแค่ห้วงเวลา
ที่มันปรากฏ มันก็เปล่งพลังอํานาจที่ราวกับทุกสรรพชีวิตใน
หล้าจําต้องหมอบกราบลงเบื้องหน้าบัลลังก์เทพนิรันดร์!
“เชี่ย! นี่น่ะเหรอบัลลังก์เทพนิรันดร์สําหรับด่านเทพนิรันดร์ที่
แท้จริง! ว่าแต่ไหงยัยตัวดีจักรพรรดินีวารีอัคคีนั่น ถึงได้ทรง
พลังนักนะ…ทั้งๆที่ไม่มีบัลลังก์เทพนิรันดร์นี่แท้ๆ? หรือมันมี
ขอบเขตเหนือกว่านี้อีก…”
ตอนนี้หลินฟ่านบังเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา แต่น่า
เสียดายที่เขายังไม่อาจหาคําตอบได้
เขาลองตรวจสอบในหน้าต่างของระบบดูทันที
ตอนนี้หน้าจอแสดงค่าสถานะของเขา ในช่องด่านพลังฝึกตน
ขึ้นคําว่า กําลังดําเนินการอยู่…
‘สถานะพลังฝึกตน : เทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิ
รันดร์ (กําลังดําเนินการปรับระดับ)’
ในตอนนี้เรื่องดังกล่าวก็เป็นอะไรที่เขาไม่อาจขบคิดให้แตกได้ไม่
ว่าเขาจะครุ่นคิดถึงมันมากเท่าไหร่ก็ตาม…แต่อย่างไรเสียเขาก็มี
ระบบ! บางทียังอาจมีความเป็นไปได้ว่าความแข็งแกร่งของเขา
ยังอาจจะเติบโตได้อย่างไร้ขอบเขต..และนั่นทําให้เขาเริ่มสงสัย
ขึ้นมา ถ้าเขาเดินตามเส้นทางของคนหมู่มากและรับบัลลังก์
เทพนิรันดร์นี่มา…มันจะเป็นการจํากัดเส้นทางและขอบเขตของ
เขาประมุขเอาไว้ ไม่ให้ก้าวหน้าต่อไปรึเปล่า?
อย่างไรเสียหลินฟ่านก็ไม่มีข้อมูลใดๆทั้งสิ้น เขาจึงค่อยๆเอื้อม
มือออกไปยังบัลลังก์เทพนิรันดร์เบื้องหน้า
“เอาวะ! พี่ประมุขจะลองเดินตามเส้นทางที่ชาวบ้านเค้าอยาก
เดินกันดูสักครั้ง!!”
หลินฟ่านคร้านจะคิดใดให้มากความ ไหนๆเรื่องราวมันก็
ดําเนินมาถึงจุดนี้แล้ว
ทว่าทันใดนั้นเองกลับมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับหลินฟ่าน
ราวกับว่าบัลลังก์เทพนิรันดร์ที่เปล่งแสงสีทองเบื้องหน้านั้น มัน
ต่อต้านเขา! ทันทีที่มือเอื้อมไปหมายไขว่คว้า มันกลับถดถอย
กลับไปยังห้วงลึกแห่งความว่างเปล่าด้านหลัง ลอยล่องออกไป
ราวกับต้องการอยู่ให้ห่างจากตัวเขามากที่สุด!!
ประหนึ่งมีพลังอํานาจอันลึกลับบางประการที่คอยดึงบัลลังก์
เทพนิรันดร์ให้ห่างไกลออกไปจากเขา ป้องกันไม่ให้เขาได้รับ
สถานะเทพนิรันดร์ที่แท้จริง!!
“เชี่ย! นี่พวกเอ็งดูถูกพี่ประมุขงั้นเหรอ!?”
ตอนนี้หลินฟ่านรู้สึกเดือดดาลขึ้นมาพลังมหาศาลปะทุออกทั่ว
กาย หัตถ์พลังเต็มพิกัดของเขาพุ่งออกไปหมายความบัลลังก์
เทพนิรันดร์ทันใด! ยิ่งมันไม่อยากให้พี่ประมุขได้ พี่ประมุขยิ่งจะ
เอา!!
เปรี๊ยงงงงงงงงงงงงง!!!!
ความว่างเปล่าระเบิดขึ้นมาทันใด ด้วยมิอาจต้านทานพลัง
อํานาจอันมหาศาลสองขุมที่ยื้อยุดกันไปมา!!
“ถล่มย่ามันเถอะวะ! นี่มันจะรังแกกันเกินไปแล้ว!!”
ตอนนี้หลินฟ่านเกรี้ยวกราดถึงขีดสุด เร่งเร้าพลังทั้งหมดลงใน
ฝ่ามือก่อนที่จะตบฟาดออกไปทันใด เขาจะสะบั้นสวรรค์และ
โลกทิ้งเสีย! ไม่ว่าจะอย่างไรวันนี้ บัลลังก์เทพนิรันดร์นั่น เขาจะ
เอา!!
หากแต่พลังอํานาจลึกลับที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนดังกล่าว ก็เปล่ง
พลังอํานาจอันไร้ขอบเขตออกมาต้านทานพลังของหลินฟ่าน
เอาไว้ สกัดการโจมตีของหลินฟ่านได้ชะงักงัน! ทั้งพลังลึกลับ
ดังกล่าวยังไปคลุมครอบไปทั่วบัลลังก์เทพนิรันดร์ และฉุดดึง
บัลลังก์เทพนิรันดรให้ลอยออกห่างไปจากเขา!!
ดูเหมือนว่านี่อาจจะเป็นสาเหตุหลักที่ทําให้เหล่าผู้คนของร้อย
พันธ์ชนเผ่าไม่อาจได้รับบัลลังก์เทพนิรันดร์นี่ได้…!
เมื่อทั้งหลายทะลวงฝ่าด่านพลัง บัลลังก์เทพนิรันดร์ก็จะปรากฏ
ออกมาให้เห็นเบื้องหน้าเช่นนี้…ทว่ามันกลับถูกพลังอํานาจ
ลึกลับบางประการฉุดดึงกลับไป…ไม่ยอมปล่อยให้ใครได้สัมผัส
บัลลังก์เทพนิรันดร์! เช่นนั้นแล้วยังจะทําอะไรได้อีก!?
“บัดซบ! นี่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สําคัญในชีวิตเลยนะ! นี่เอ็ง
คิดขัดขวางไม่ให้พี่ประมุขทะยานสวรรค์ใช่มั้ยหา!?”
“ผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณ อํามหิตไร้ใจ เจี๋ย ขอแรงหน่อยเร็ว!
มาช่วยข้าดึงไอบัลลังก์เทพนิรันดร์นั่นกลับมาที!!” หลินฟ่าน
เดือดนัก และเกรงว่าเรื่องราวที่กําลังเกิดขึ้นตอนนี้ มันไม่เคย
เกิดขึ้นที่ไหนมาก่อนเลย!!
และราวกับตัวตนที่กําลังปลดปล่อยพลังลึกลับมาจากที่ไหนไม่รู้
นั่นก็อึ้งไปไม่น้อย เพราะไม่คิดเลยว่าผู้ที่ทะลวงด่านพลังครั้งนี้
จะดื้อด้านยากจัดการอะไรขนาดนี้!!
…
ตอนที่ 847 : สํานึกสติ ปรากฏ!!
“จํานวนผู้นั่งบัลลังก์เทพนิรันดร์ได้รับการกําหนดไว้ก่อนหน้า
เนิ่นนานแล้ว…และมันมีขีดจํากัดอยู่ที่ 12 แต่อย่างไรก็ตามนั่น
จักเป็นข้อยกเว้น! เมื่อนายท่านของพวกเราต้องการบัลลังก์
พวกเราก็ต้องเอาบัลลังก์เทพนิรันดร์นั่นมาให้ได้! มิว่ามันจะ
หยุดยั้งขัดขวางอันใด พวกเราก็ต้องดึงบัลลังก์เทพนิรันดร์นั่น
มาให้นายท่านให้จงได้!!” จักรพรรดิศาจคํารามลั่น
“ถูกแล้ว! กฏเกณฑ์ของสวรรค์และโลกแล้วอย่างไร? ยังมิพอ
ให้พวกเราหวาดกลัว!!” พลังอํานาจอันไร้ขอบเขตของผู้อมตะ
หนึ่งเดียวโบราณปะทุออกมา ก่อนจะควบรวมกลายเป็นเชือก
พลังไปรัดดึงบัลลังก์เทพนิรันดร์นั่นเอาไว้!
“สู้มันเว้ย! จํากัดแค่ 12 งั้นหรอ?! นั่นมันไม่พอเติมเต็มซอกฟัน
พี่ประมุขหรอกโว้ย!” หลินฟ่านตะโกนออกมา และแล้วตัวตน
อันทรงพลังทั้ง 4 ก็กําลังทุ่มพลังสู้สุดตัวเพื่อแย่งชิงบัลลังก์เทพ
นิรันดร์กลับมา
เปรี๊ยงงงงง!!!!
ปรากฏชุดสายฟ้าแลบลั่นขึ้นมาทันใด! อีกทั้งสายฟ้าแต่ละสาย
ดูเหมือนจะเปี่ยมล้นไปด้วยพลังอํานาจทําลายล้าง!!
“สะเออะ! พวกเราล้วนเป็นตัวตนสูงสุดผู้นิรันดร์ เจ้าคิดว่า
อาศัยสายฟ้ากระจอกไม่กี่สายจะพอให้เจ้ากล้าอวดดีต่อพวก
เรางั้นหรือ!?” ผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณ หาได้กลัวสายฟ้าไม่
มันอ้าปากออกก่อนจะดูดกลืนสายฟ้าอันเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง
อํานาจทําลายล้างนั่นไปเสียหลายสาย และไม่เจ็บไม่คันไม่มี
รอยขีดข่วนอันใดทั้งสิ้น!!
พลังอํานาจระดับตัวตนสูงสุดถึง 3 และครึ่งหนึ่งของตัวตน
สูงสุด…เมื่อผนึกกําลังกันมันก่อให้เกิดพลังอํานาจที่ยากจะมีใคร
จินตนาการได้ แล้วทั้งหลายก็ยื้อยุดฉุดกระชากกับขุมพลัง
ลึกลับที่มาจากที่ไหนไม่ทราบอยู่พักใหญ่ ต่างก็ไม่มีใครยอมใคร
ล้วนเค้นพลังออกมาหมดก๊อก!
หลินฟ่านพลันคํารามออกมา กลิ่นอายพลังปะทุขึ้นอีกครั้ง ยก
มือขึ้นตบฟาดออกมายังสวรรค์! “เอาไอนี่ไปกิน!!”
เปรี๊ยงงงงงงงง!!!
หลินฟ่านมือหนึ่งซัดพลังยิ่งพุ่งออกไปมือหนึ่งคว้าบัลลังก์เทพนิ
รันดร์ แต่แม้จะเปล่งพลังอํานาจออกมาด้วยมือข้างเดียว หนึ่ง
ตบนี่ก็มีอํานาจสะท้านโลกหล้า!!
นี่คือการปล้นชิงของจริง! ทุบตีแล้วแย่งมา!!
ตอนนี้ตัวตนลึกลับจากที่ไหนไม่ทราบ คล้ายจะรู้สึกปวดหัว
ตุบๆ
สําหรับผู้คนของร้อยพันชนเผ่ายามเมื่อทั้งหลายบรรลุถึงด่าน
พลังเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์ มันก็จะ
ปลดปล่อยบัลลังก์เทพนิรันดร์ออกไป หากทว่าในความเป็นจริง
แล้ว มันกระทําเพื่อ ยั่ว ให้ทั้งหลายได้ตระหนักว่าบัลลังก์เทพนิ
รันดร์มันยอดเยี่ยมและจะทําให้ทุกคนทะยานสู่ฟ้ากันได้เพียง
ไหนเท่านั้น…สุดท้ายทัง้ หลายก็ทําได้เพียงมองอย่างปรารถนา
ทว่าตอนนี้กลับบังเกิดสถานการณ์เหนือคาดคิดขึ้นมา มันไม่คิด
เลยว่าตัวตนเหล่านี้จะดุร้ายนักถึงขั้นลงมืออย่างแรงคิดฉกฉวย
บัลลังก์เทพนิรันดร์ไปจากมันให้ได้!!
“จะดีกว่านะถ้าเจ้าจะรีบปล่อย! ไม่งั้นล่ะก็สักวันหนึ่ง…ไม่ว่า
เจ้าจะอยู่ไหน และเจ้าจะเป็นใคร! พี่ประมุขจะไปตามล่าเจ้า
และทุบตีเจ้าให้เละจนมารดาจดจําไม่ได้!!” ในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่าย
ยื้อยุดกันอยู่นั้น ต่างก็มีพลังอํานาจคล้ายจะไร้สิ้นสุด ไม่นาน
หลินฟ่านก็หมดความอดทน ชี้ไปยังสวรรค์พร้อมตวาดขู่
ออกมาด้วยโทสะ!
เปรี๊ยงงง!! เปรี๊ยงงง!!
เมื่อได้ยินคําขู่ของหลินฟ่าน ตัวตนลึกลับ จากสถานที่ยากล่วงรู้
ได้นั่น ก็ส่งสายฟ้าออกมาหลายสายเพื่อท้าทายวาจาดังกล่าว!!
“บัดซบ! ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ถ้าวันนี้เจ้าไม่ปล่อยมือให้ข้า
ประมุข นั่นหมายความว่าเจ้าไม่ไว้หน้าข้าประมุข! และในเมื่อ
เจ้ากล้าไม่ไว้หน้าข้าประมุข ข้าประมุขก็ไม่คิดจะเมตตาเจ้า
สืบไป! จิตวิญญาณจ้าวโลกาผยอง จัดให้มันชุดใหญ่ เอาให้มัน
รู้ว่าถ้ากล้าต่อต้านข้าประมุขแล้วผลจะเป็นยังไง!!”
หลินฟ่านโบกมือคราหนึ่ง ปลดปล่อยจิตวิญญาณจ้าวโลกา
ผยองออกมา!
ทันใดนั้นบังเกิดหมอกสีขาวหนาเตอะปกคลุมไปทั่วโลกหล้า
มันพุ่งผ่านบัลลังก์เทพนิรันดร์ออกไป และทะยานขึ้นไปเรื่อยๆ
เปรี๊ยะ!
ทว่าทันใดนั้นเองบังเกิดเรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อขึ้น บัลลังก์
เทพนิรันดร์ที่เปล่งพลังอํานาจไร้ขอบเขต เริ่มบังเกิดรอยปริร้าว
และพริบตาต่อมารอยร้าวมากมายก็เริ่มลุกลามไปทั่วตัว
บัลลังก์!!
“เดี๋ยวๆ! คงไม่เป็นแบบนั้นหรอกนะ…ใช่มั้ย?” หลินฟ่านอ้า
ปากค้างด้วยความประหลาดใจ
เปรี๊นงงงงงงงงงงงง!!!!
และเรื่องที่คิดก็เป็นจริง บัลลังก์เทพนิรันดร์ระเบิดบึ้มพังทลาย
ลงต่อหน้าต่อตาหลินฟ่าน กลับกลายเป็นประกายแสงมากมาย
ดั่งดาราพร่างพราว ระยิบระยับกลางฟ้าวูบหนึ่งค่อยเลือนลาง
ลับหายไป…
“เชี่ยยยยยย!!!!”
หลินฟ่านตะโกนออกมา นี่มันบ้าอะไรกัน! หลังจากเหน็ดเหนื่อย
ยื้อยุดกันมาครึ่งค่อนวัน มันบึ้มกันง่ายๆแบบนี้เนี่ยนะ!?
“ชิบหาย! เพียงเพราะจะปฏิเสธไม่ให้ข้าประมุขได้รับบัลลังก์
เทพนิรันดร์นี่…เจ้าถึงกับทําลายมันเลยงั้นเรอะ! ดี! เป็นเจ้าบีบ
บังคับให้ข้าประมุขโหดร้ายเองนะ! เมล็ดพันธ์แห่งความเคียด
แค้นระหว่างเราได้ถูกหว่านไว้แล้ว!!”
หลินฟ่านไร้คําใดจะกล่าวสืบไป…ในเมื่อบัลลังก์เทพนิรันดร์มัน
ระเบิดบึ้มไปตรงหน้าแล้วแบบนี้ เขายังจะทําอะไรได้อีกล่ะ!?
และทันทีที่บัลลังก์เทพนิรันดร์แตกสลายลงโลกหล้าก็หวนคืนสู่
สภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม กระบวนการยกระดับยังคงต้อง
ดําเนินการต่อ…
‘ติ๊ง!! … ขอแสดงความยินดีท่านเลื่อนระดับเป็นเทพสวรรค์
อมตะ 10 ชั้นฟ้า เทพนิรันดร์’
‘สถานะระดับพลังฝึกตน : เทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพ
นิรันดร์ (เทียม)’
‘ค่าประสบการณ์ : (0 / 6,000,000)’
เสียงรายงานดังอีกอย่าง หากแต่ในหน้าต่างสถานะกลับเขียน
อีกอย่าง! ทันทีที่หลินฟ่านเห็นเขาแทบจะกระอักเลือดออกมา
สักคํา ไม่คิดเลยว่าหลังคําเทพนิรันดร์จะมีคําว่า ‘เทียม’
ต่อท้ายมาแบบนี้! นี่มันจะหลอกลวงกันเกินไปแล้ว!!
ทว่าอย่างไรก็ตามหลินฟ่านก็รู้สึกได้ถึงความต่างประหนึ่งจะอยู่
กันคนละโลก สําหรับพลังอํานาจตอนนี้กับก่อนหน้า!!
พลังอํานาจของตัวเขาได้เพิ่มพูนมาทีละขั้น…ทีละขั้น และ
ตอนนี้มันก็เพิ่มพูนมาถึง ณ จุดที่เขาไม่เคยบรรลุถึงมาก่อน…!!
พลังอํานาจอันมหาศาลปานจะไร้ขอบเขตจํากัดแล่นพล่านไป
ทั่วร่างกายของเขา ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าหมัดเดียวของเขา
สามารถป่นโลกหล้าให้แหลกได้!
ทว่าทันใดนั้นเอง เขารู้สึกคล้ายจะได้ยินเสียงแว่วดังมาจากทุก
ทิศทาง
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า..!”
มีคนกําลังพูดถึงเขาด้วย!
นี่ดูเหมือนว่า…หากชื่อของเขาถูกคนอื่นกล่าวออกมา เขาจะ
สามารถรู้สึกได้ในใจทันที…นี่คือพลังอํานาจที่เขาได้รับมา
หลังจากบรรลุเทพสวรรค์อมตะ 10 ชั้นฟ้า งั้นเหรอ!?
หลินฟ่านเงยหน้าขึ้นมองไปไกลตา ก่อนที่เขาจะสะบัดมือครา
หนึ่ง สํานึกสติของเขาพุ่งข้ามระยะทางนับหมื่นพลันดิ่งตรงไป
ในทิศทางนั้นทันที
…
อีกด้านหนึ่ง…สุดท้ายเหล่าตัวตนสูงสุดทั้ง 5 ที่หารือกันอยู่ ก็
ตัดสินใจที่จะเลิกคิดถึงเรื่องนี้สืบไป…
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า นั่น…!” หนึ่งในตัวตน
สูงสุดที่คล้ายจะกล่าวอะไรบางอย่าง พลันขมวดคิ้วขึ้นมาทันใด
ไม่คิดเลยว่าสติสํานึกของหลินฟ่าน จะมาถึงที่นี่ได้!!
ราวกับว่าหากมีใครอธิษฐานอย่างต่อเนื่อง…คําอธิษฐานนั้นก็จะ
ได้รับการตอบรับ! และยิ่งตัวตนนั้นเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งมาก
เท่าไร ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงการเชื่อมโยงเหล่านี้มากขึ้นเท่านั้น!!
“ผู้ใดมา!? เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้ส่งสํานึกสติมาสอดแนม
ที่นี่!?” ตัวตนสูงสุดคนหนึ่ง พลันสัมผัสได้ถึงบางอย่างรีบ
คํารามออกมาอย่างเกรี้ยวกราดทันที
“โอ๊ะโอ! ที่แท้ก็เป็นตัวตนสูงสุด 5 ตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่กําลัง
คิดถึงข้าประมุขนี่เอง! ไอข้าประมุขก็คิดว่าจะมีเรื่องอะไร
ใหญ่โตซะอีก เลยรีบมาดู!”
เมื่อหลินฟ่านสืบสานสํานึกสติมาถึงที่นี่และพบว่าเป้าหมาย
กลับเป็นก๊วนตัวตนสูงสุดทั้ง 5 เขาก็ไม่ได้มีแม้แต่เศษเสี้ยวแห่ง
ความหวาดกลัว!!
“อ้าวว่าไง ผู้เดียวดาย ฮวง ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกลับมาถึงบ้าน
เร็วขนาดนี้…อะไรกัน ก่อนหน้าเจ้าอุตส่าไปเยี่ยมข้าประมุขถึงที่
ไหงไม่นั่งลงกินน้ําชากล่าวสนทนาอะไรกันสักหน่อยล่ะ จะรีบ
วิ่งไปแบบนั้นทําไม? หรือว่า…เจ้ากลับมาหากําลังเสริมงั้น
เหรอ?” หลินฟ่านที่เห็นผู้เดียวดาย ฮวง ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
ออกมา
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า…เจ้าได้รับที่นั่งบัลลังก์
เทพนิรันดร์หรือไม่!?” หนี่งในตัวตนสูงสุดกล่าวถามออกมา
เสียงเย็น
“ไม่! มันมิได้! ถึงแม้ว่าด่านพลังของมันจะเป็นเทพสวรรค์อมตะ
ชั้นฟ้าที่ 10 แต่มันก็มิอาจได้รับที่นั่ง บัลลังก์เทพนิรันดร์!!”
“ฮ่าๆๆๆ!! ผู้ที่ไร้บัลลังก์เทพนิรันดร์เป็นได้แค่มดปลวก!!” อีก
หนึ่งตัวตนสูงสุดหัวเราะเย้ยหยัน!!
“เหอะ! มนุษย์! ในเมื่อเจ้ากล้าส่งสํานึกสติมา เช่นนั้นก็ฝังมันไว้
ที่นี่เสีย!!”
ตัวตนสูงสุด เดียวดาย ฮวง คํารามออกมาก่อนที่จะปลดปล่อย
อํานาจพลังหมายป่นสํานึกสติหลินฟ่านให้สลายกลายเป็นฝุ่น
ทว่าหลินฟ่านพลันจี้ 1 ดัชนีออกมาอย่างไร้เรื่องราว ความว่าง
เปล่าประหนึ่งเศษแก้วต้องอุกาบาต มันแหลกลาญไปเป็นทาง
ก่อนจะป่นทําลายพลังอํานาจ ผู้เดียวดาย ฮวง จนกระจัด
กระจายในพริบตา!
“เฮ่ย! อย่าซ่าให้มันมากนัก! ถึงข้าประมุขจะไม่มีไอบัลลังก์เทพ
นิรันดร์อะไรนั่น แต่พลังอํานาจของข้าประมุขก็ไม่ได้อ่อนแอ
อะไรไปกว่าพวกเจ้าทุกตัว!!”
“และพวกเจ้าจําใส่สมองกลวงๆของพวกเจ้าไว้ให้ดี ครั้งหน้าที่
เจอกันพวกเจ้าควรล้างตูดไว้ให้สะอาดๆ และเตรียมตัวให้
พร้อมรอรับการเก็บเกี่ยวจากข้าประมุขไว้ซะ!!”
หลินฟ่านระเบิดเสียงหัวเราะดังสนั่นออกมา ราวกับทุกสิ่งอย่าง
อยู่ในกํามือ
“โอ้! สินส่วนตัวของข้ามาถึงแล้วเช่นนั้นหรือ!?”
ทันใดนั้นเองเสียงอันเปี่ยมล้นไปด้วยพลังอํานาจไร้สิ้นสุดพลัน
ดังขึ้นมาจากที่ห่างไกล
ทันทีที่หลินฟ่านได้ยินเสียงนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าที่คลี่กางจําต้อง
ชะงักค้างกระทั่งหุบลงโดยพลัน…ไฉนเสียงนี้มันคุ้นหูจังเลย…
“มิคิดเลย…ว่าเจ้าจักสามารถมาถึงขอบเขตนี้ได้หลังจากที่ไม่
พบกันแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น…เจ้านับว่ามิใช่สินส่วนตัวของข้า
จักรพรรดินีอย่างสูญเปล่าแล้ว! รอให้ข้าจักรพรรดินีทําลาย
ผนึกนี่ออกไปได้เมื่อไหร่ ข้าจักรพรดรินีจักไปเยี่ยมเยียนเจ้า
อย่างดีเป็นการส่วนตัว”
“ฮ่าๆๆๆ!!”
เสียงหัวเราะปานนางมารร้ายตัวแม่ทําให้ร่างหลินฟ่านสั่น
สะท้าน ความหนาวเย็นประการหนึ่งแล่นวูบไปถึงไขสันหลัง
ขนทั่วร่างลุกขึ้นมาตั้งชัน! รูขุมขนทั่วร่างปานจะเปิดอ้า!!
ถล่มย่ามัน! นี่มันเสียงของนั่งตัวดีจักรพรรดินีวารีอัคคี!!
หลินฟ่านมิอาจลืมเลือนภาพจํานั้นได้…หลายปีที่แล้ว วันนั้น
มันคือความอัปยศอดสูที่สุด ไม่เพียงแต่เขาจะถูกอิสตรีขึ้นควบ
ขี่ปู้ยี่ปู้ยําฟ่านน้อยอย่างไร้หนทางต่อต้าน มาตอนนี้เขายังต้อง
กลายเป็นสินส่วนตัวของอีกฝ่ายอีก! หลินฟ่านจะสามารถ
ทนทานรับเรื่องราวอะไรเช่นนี้ได้อย่างไร!!
“สินส่วนตัวของข้าจักพรรดินี เจ้าแค่อดทนเฝ้ารอให้ข้าจัก
พรรดินีทําลายผนึกนี่เท่านั้น…อีกมินานแล้ว”
เสียงของจักรพรรดินีวารีอัคคีดังขึ้นมาอีกครั้ง น้ําเสียงยังสดใส
เริ่งร่าปานมีความสุขหนักหนา อย่างไรก็ตามทันใดนั้นเองเสียง
ของนางยังแปรเปลี่ยนไปในฉับพลัน “แต่ข้าหวังว่าเจ้าจัก
รักษาร่างกายของเจ้าให้บริสุทธิ์ไร้มนทิลอันใดไปตลอด…หาไม่
แล้วเจ้าคงรู้ผลที่จักตามมาดี!!”
ทันทีที่หลินฟ่านได้ยินคํานี้ขนตูดของเขาถึงกับลุกพรึ่บ ไร้คําจะ
กล่าวใดสืบไป รีบถอนสํานึกสติกลับมาเข้าร่างหลักทันที!!
“ฮ่าๆๆๆๆๆ!!!!” เสียงหัวเราะของจักรพรรดินีวารีอัคคีพลันดัง
กระหึ่มกึกก้องไปทั่วทั้งฐานที่มั่นของเผ่าพันธ์โบราณ
ตอนนี้สีหน้าของตัวตนสูงสุดทั้ง 5 มืดคล้ําหม่นหมองลงอย่าง
น่ากลัว! ตอนนี้ดูเหมือนว่า…เรื่องจักพรรดินีวารีอัคคีจะทําลาย
ผนึกของนางออกมา มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น!!
ตอนที่ 848 : ปากน้อยๆนั่น หวานขึ้นจังนะ!
ไม่นาน…ความสงบสุขก็ค่อยๆหวนกลับคืนมาสู่โลกหล้า
หลินฟ่านผวาอย่างหนักถึงขั้นปวดไข่ขึ้นมาตุบๆ เขาก็แค่
ปลดปล่อยสานึกสติติดตามออกไปสาแดงเดชกับก๊วนตัวตน
สูงสุดทั้ง 5 เท่านั้นเอง! ไหงเขาถึงได้ถูกจักรพรรดินีวารีอัคคีพบ
ตัวได้ล่ะ!!
และเมื่อตอนนี้หลินฟ่านบรรลุด่านพลังเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้า
ที่ 10 เทพนิรันดร์แล้ว หลินฟ่านก็เริ่มตระหนักว่าพลังอานาจ
ของจักรพรรดินีสตรีมันเป็นอย่างไร…
และถึงแม้ตอนนี้ตัวเขาจะเป็นแค่ เทพนิรันดร์เทียม หากแต่
ระดับพลังงานของเขาก็พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง! ตอนนี้ต่อให้
เขาจะไปเดี่ยวๆกับตัวตนสูงสุด เขาก็มีพลังที่จะสู้มันกลับได้
อย่างไม่หวั่นเกรง! ไม่เหมือนแต่ก่อนที่เขาต้องดิ้นรนสุดชีวิต
เพื่อหาโอกาสชนะ!
หลินฟ่านแหงนมองฟ้าก่อนที่จะลอบให้กาลังใจตัวเอง ดู
เหมือนว่าหลังจากนี้เขาต้องพยายามให้มากขึ้น…นอกจาก
เจตจานงสวรรค์ของโลกเซียนโบราณแล้ว ยังมีตัวแม่อย่าง
จักรพรรดินีวารีอัคคี!!
นั่งตัวร้ายนี่โหดเหี้ยมมาก! หากนางหลุดผนึกมา คืนวันอัน
หฤโหดได้มาเยือนเขาแน่!!
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ใช่คนประเภทนั่งอยู่เฉยๆรอความตาย!
เขาจะสู้กลับ!! จักรพรรดินีวารีอัคคีคิดละเล่นกับร่างกายพี่
ประมุขหรือ!? พี่ประมุขจะไปยอมให้นางปู้ยี่ปู้ยาได้อย่างไร!?
เขาต้องไปฟาร์มให้เกิดเพื่อพลิกกระแสให้ได้!!
ทั้งนางยังกล้าเรียกหาเขาว่าสินส่วนตัว! นี่ไม่ใช่การดูถูกพี่
ประมุขอย่างแรงหรือ!?
หากพลังอานาจของเขาเพิ่มพูนมากขึ้นกว่านางแล้วล่ะก็ วันที่
นางหลุดผนึกออกมาเขาจะสยบนางเสีย! กดให้นางแน่นิ่งติด
พื้น และสอนบทเรียนให้นางสานึก ว่าความดุดันแข็งแกร่งของ
บุรุษที่แท้จริงคืออะไร!!
เมื่อหลินฟ่านนึกภาพในหัวขึ้นมาว่าจะสยบนางอย่างไร ใจเขา
บังเกิดความมุ่งมั่นอันแรงกล้าจะทางานหนักเพื่อให้บรรลุ
เป้าหมายนี้ให้ได้!!
“เจ้าได้รับที่บัลลังก์เทพนิรันดร์หรือไม่” จักรพรรดินีสตรีกล่าว
ถามออกมาอย่างเร่งร้อน ใบหน้างดงามของนางเต็มไปด้วย
ความคาดหวัง คล้ายจะตายหากไม่ได้รู้คาตอบ
“ข้าไม่ได้รับไอบัลลังก์เทพนิรันดร์อะไรนั่น บัลลังก์เทพนิรันดร์
มันถูกทาลายไปแล้ว” หลินฟ่านตอบ
ในตอนแรกความเห็นส่วนตัวของหลินฟ่านเขาก็คิดว่าตัวเป็น
ตัวตนที่โคตรท้าทายสวรรค์ แต่ไม่คิดเลยว่ากระทั่งบัลลังก์เทพ
นิรันดร์ของเขายังไม่อาจได้รับ นี่นับเป็นหนึ่งในเรื่องน่าละอาย
นัก!
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าจักรพรรดินีวารีอัคคีก็ไม่ได้รับบัลลังก์
เทพนิรันดร์หรอกหรือไง? ทว่าพลังความแข็งแกร่งของนาง
กลับลิขิตได้ทุกสรรพชีวิต! หากแม้แต่นังตัวแสบนั่นสามารถมี
พลังอานาจขนาดนั้นได้ พี่ประมุขที่ถือครองระบบเทพยังจะทา
ไม่ได้เชียวหรือ?
“อ่อ ข้าเข้าใจแล้ว เป็นเช่นนี้นี่เอง”
เมื่อจักรพรรดินีสตรีได้ยินเรื่องนี้นางก็เผลอพยักหน้าออกมา
ย้อนกลับไปในวันที่นางบรรลุด่านพลังเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้า
ที่ 10 เทพนิรันดร์ นางก็เห็นอยู่กับตาว่าบัลลังก์เทพนิรันดร์มัน
ลอยอยู่เหนือสีรษะนาง ทว่านางกลับไม่อาจทาอะไรได้เลย
นอกจากเบิกตากว้างมองดูบัลลังก์เทพนิรันดร์ลอยจากนางไป
เท่านั้น…
และทุกตัวตนของร้อยพันชนเผ่าบนโลกเซียนโบราณ ล้วน
ประสพชะตากรรมเช่นนี้หมดสิ้น
จากที่จักรพรรดินีสตรีเห็นและรวบรวมเรื่องราวของคนอื่นๆมา
นางคิดว่าสมควรมีบางสิ่งอันยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ หรือ
บางที บัลลังก์เทพนิรันดร์เหล่านั้นจะถูกเจตจานงสวรรค์
ควบคุมเอาไว้ทั้งหมด…
เพราะหากผู้คนของร้อยพันชนเผ่าสามารถเป็นเทพนิรันดร์ที่มี
บัลลังก์เทพนิรันดร์ได้ ไม่ใช่ชนเผ่าโบราณจะถูกทาลายไปนาน
แล้วหรือ? พวกมันจะอาศัยอะไรอยู่รอดมาถึงวันนี้ได้!?
นี่เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดล้วนเป็นเพราะไม่มีบัลลังก์เทพนิรันดร์ให้
ทุกคน! ตัวตนสูงสุดถึงกลายเป็นอะไรที่แข็งแกร่งเกินต้านทาน
แบบนี้!
“แล้วเจ้าล่ะ ไปไงมาไงถึงมาอยู่ที่นี่ได้
ย้อนกลับไปในโลกเสวียนหวง จักรพรรดินีสตรีหรือราชินี
สวรรค์คนนี้ได้กระทาเขาไว้เจ็บแสบนัก ดังนั้นหลินฟ่านยัง
ประกาศไว้ว่าหากเขาเยื้องย่างดาเนินขึ้นมายังโลกเซียนโบราณ
ได้เมื่อไหร่ เขาจะถล่มนางให้แหลก!
ทว่าตอนนี้เมื่อมาเห็นนางตัวเป็นอยู่เบื้องหน้า หลินฟ่านก็ไม่
อาจลงมือได้อีก
หากเขาถล่มนางขึ้นมาเพื่อล้างแค้น…แล้วเกิดนางบังเอิญท้อง
ขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ ไม่ใช่ว่าเขาต้องเป็นคนรับผิดชอบหรือไง!?
จักรพรรดินีสตรีสังเกตเห็นว่าสายตาที่หลินฟ่านมองมามัน
แปลกไปเล็กน้อย นางพลันขมวดคิ้วขึ้นมาทันใด นางสัมผัสได้
ว่าในหัวอีกฝ่ายคล้ายไม่ใช่เรื่องดี
“ที่นี่คือบ้านเกิดของเซวียนเอ๋อ พวกราชันจักรพรรดิของชน
เผ่าโบราณมันบุกมาโจมตี ข้าจักรพรรดินีเลยมาปราบพวกมัน
ทว่านั่นกลับทาให้ตัวตนสูงสุดรู้ตัว กระทั่งดึงดูดมันมาใน
ที่สุด…” จักรพรรดินีสตรีกล่าวตอบ
“อ้อ ยังงี้นี่เอง…”
หลินฟ่านพยักหน้า หลังจากนั้นก็เหลือบไปมองร่างหนึ่งที่อยู่ไม่
ไกล ริมฝีปากค่อยๆฉีกยิ้มออกมา
“อ้าวเซวียนเอ๋อ ว่างาย…ไหงเห็นข้าแล้วเจ้าถึงไม่ทักไม่ทาย
อะไรข้าเลยล่ะ!? ข้าจาได้ว่าตอนนั้นเจ้าเรียกหาข้าเสียงอ้อน
น่าดูเลยนี่?” หลินฟ่านกล่าววาจาแฝงความนัยออกมา ก่อนที่
จะมองไปยังเด็กสาวที่กาลังกมหัวงุดๆ ในใจขบขันนัก
“เอ๋ เซวียนเอ๋อ นี่เจ้ารู้จักมหาเทพท่านนี้ด้วยหรือ!?”
“ใช่ๆๆ เซวียนเอ๋อรีบบอกมาเลยนะ”
ตอนนี้สหายน้อยทั้งหลายแห่กันมารุมล้อมเซวียนเอ๋อและเอ่ย
ถามนางอย่างคาดคั้น
ในสายตาของพวกมันนั้น มหาเทพท่านนี้ทรงพลังเหลือเกิน! ไม่
เพียงแต่เขาจะฆ่าตัวตนสูงสุดแห่งเผ่าพันธุ์โบราณได้! กระทั่ง
ตัวตนสูงสุดอีกตนหนึ่งที่ปรากฏตัวออกมา ยังถึงกับต้องรีบหนี
ไปเมื่อเผชิญหน้ากับมหาเทพท่านนี้! ไม่กล้าแม้แต่จะกระทาตัว
โอหังอะไรด้วยซ้า!!
สาหรับเด็กน้อยทั้งหลายที่เติบโตมาภายใต้การกดขี่ข่มเหงใน
ระบอบการปกครองแบบเผด็จการของชนเผ่าโบราณแล้ว นี่คือ
เรื่องอันน่าเหลือเชื่อนัก!!
ตอนนี้ในใจของพวกมันทั้งหลายยกให้มหาเทพผู้นี้เป็นสุดยอด
แบบอย่าง!
เซวียนเอ๋อรีบเหินร่างน้อยๆมาหาหลินฟ่านอย่างไม่รอช้า
ก่อนที่นางจะเงยหน้าน้อยๆของนางที่น้าตาเอ่อคลอขึ้นมากล่าว
ถามเถียงสั่น “พะ…พี่ใหญ่หลิน ท่านจะตีเซวียนเอ่อหรือ…?”
เมื่อหลินฟ่านเห็นเซวียนเอ๋อทาท่าแบบนี้เขาก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี
แต่ก่อนเจ้าตัวแสบนี้ช่างซุกซนและมากกลอุบายนัก!
มาตอนนี้ดูเหมือนนางเองก็จะมีเพื่อนเพิ่มขึ้นไม่น้อย
“แล้วเจ้าว่าไงล่ะ หืม?” หลินฟ่านหัวเราะเบาๆค่อยถามกลับ
จักรพรรดินีสตรีเพียงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบงัน นางรู้ดีว่าหลิน
ฟ่านกาลังพูดถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายปีที่แล้ว
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ในสายตาของจักรพรรดินีสตรี หลินฟ่านก็ไม่
ต่างอะไรไปจากมดตัวหนึ่งที่กาลังวนเวียนอยู่แถวขอบเหวแห่ง
ความตาย ใครจะไปคิดไปฝัน ว่าในระยะเวลาเพียงแค่ 5 ปีอีก
ฝ่ายจะเติบโตขึ้นมาถึงขีดขั้นนี้ นับว่าเจิดจรัสส่องประกายจน
ทิ่มแทงตาผู้อื่นให้มืดบอดแล้ว!!
ศักยภาพนั่น พรสวรรค์นั่น โชควาสนานั่น…ทั้งหมดล้วนไร้
เทียมทานอย่างถึงที่สุด!
“ราชันหลิน พวกเรากลับไปยังหมู่บ้านก่อนเถอะแล้วหากมีอัน
ใดก็ค่อยๆพูดคุยกัน…คุยกันดีๆอย่าได้รีบร้อน” จักรพรรดินีสตรี
กล่าว
“พี่ใหญ่หลิน ท่านสบาย..หลายปีแล้วที่ไม่พบกัน! เซวียนเอ๋
อคิดถึงท่านยิ่ง…ตอนนั้นเซวียนเอ๋อเองก็มิเห็นด้วย! แต่…แต่
ว่า…!” เซวียนเอ๋อลอบมองไปที่อาจารย์ของนาง ความหมาย
ของนางนั้นชัดเจนนัก …พี่ใหญ่หลินเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้านะ
เป็นอาจารย์บีบคั้นข้า!
จักรพรรดินีสตรีถึงกับต้องไอค่อกแค่กออกมา ไม่คิดเลยว่าลูก
ศิษย์นางจะทรยศกันซึ่งๆหน้าแบบนี้! นี่ทาให้นางสลดไป
เล็กน้อย!
…
ส่วนตอนนี้ทางด้านผู้คนของชนเผ่าจิ้งจอกที่รอดตายมาได้ ก็
เคารพบูชาหลินฟ่านกันยกใหญ่ สาหรับตัวตนที่ทรงพลังถึง
ขีดขั้นนี้ ในใจของชนเผ่าจิ้งจอกเต็มไปด้วยความเคารพนับถือ!
ย้อนกลับไปตอนที่เซวียนเอ่อถูกจักรพรรดินีสตรีพาตัวไป คน
ของชนเผ่าจิ้งจอกก็คิดจะได้รับการสนับสนุนอันยิ่งใหญ่แล้ว!
ทว่ามาตอนนี้จากสภาพการณ์ที่ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่ม
มารดาเจ้า คล้ายจะมีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกับเซวียนเอ๋อ
ช่างนับเป็นอะไรที่มีแรงกระเพื่อมต่อชนเผ่าจิ้งจอกหนักหนา!!
ด้วยมีตัวตนอันทรงพลังเช่นนี้ ความปลอดภัยของชนเผ่า
จิ้งจอกสมควรได้รับการประกันไว้แล้ว!
ฐานที่มั่นของชนเผ่าจิ้งจอกนั้นอยู่ใต้ดิน อย่างไรก็ตามมีค่ายกล
ลี้ลับปกคลุม ยากที่จะทาให้ใครบอกได้ว่ามันอยู่ใต้ดิน เพราะ
ยามเมื่อทั้งหลายแหงนหน้ามองขึ้นไป สิ่งที่เห็นก็คือท้องฟ้าสี
ครามกับเมฆขาว
ภายในบ้านหลังหนึ่ง …
“พี่ใหญ่หลินอ่า…ท่านอย่าโกรธเซวียนเอ๋อเลยนะ! เซวียนเอ๋
อคิดถึงพี่ใหญ่หลินที่สุดเลย!” เซวียนเอ๋อกล่าวออกมาเสียง
อ่อน ดูเหมือนหลายปีที่ผ่านเด็กแสบนี่จะได้เรีนรู้อะไรมาไม่น้อย
แถมปากของนางก็หวานขึ้นไม่เบา
ในกาลก่อนนั้นนางมักจะเรียกเขาว่าลุง! มาตอนนี้นางเรียกเขา
ว่าพี่ใหญ่
ดูเหมือนว่าพี่ประมุขจะอายุน้อยลงเรื่อยๆเลยนะเนี่ย…
“เจ้าตัวแสบน้อย…ไม่เจอกันนานดูเหมือนปากเจ้าจะหวานจัง
เลยนะเดี๋ยวนี้! ว่าแต่นี่เพื่อนๆของเจ้าหรือ?” หลินฟ่านกล่าว
ถามด้วยรอยยิ้ม (53380)
ทันทีที่เซวียนเอ๋อได้ยินเรื่องนี้ นางก็แจกยิ้มสดใสออกมาทันที
“ใช่แล้วพี่ใหญ่! นี่เป็นเพื่อนๆของเซวียนเอ๋อที่ได้พบเจอกัน
ระหว่างเดินทางฝึกฝน!!”
“อะ…อาวุโส! ข้าคือจางเต่า จากชนเผ่า เขา ขอรับ!” เด็กน้อย
คนหนึ่งที่แลอายุไล่เลี่ยกับเซวียนเอ๋อกล่าวออกมาอย่างกล้าๆ
กลัวๆ
“อาวุโส! ข้าเถียนอวี้ จากชนเผ่าปีก!” สาวน้อยหน้าตาดีคน
หนึ่งกล่าวออกมา ดวงตาสดใสของนางเผยความกริ่งเกรงไม่
น้อย ในใจของเถียนอวี้แล้ว…บุรุษเบื้องหน้าเป็นดั่งมหาเทพที่
จะเป็นแบบอย่างของนาง!
หลังจากนั้นเพื่อนคนอื่นๆของเซวียนเอ๋อก็ทยอยกันแนะนาตัว
หลินฟ่านเพียงดูก็รู้ ว่าแม้เหล่าเด็กน้อยกลุ่มนี้บางคนอาจจะมี
พรสวรรค์ต่าต้อยไปบ้าง หากแต่หัวใจของทั้งหมดกลับกล้า
หาญมากพอที่จะลุกขึ้นต่อต้านชนเผ่าโบราณ! เจตจานง
ทั้งหลายแน่วแน่มั่นคง ไม่มีความขลาดกลัวสักนิด!!
เพราะหากทั้งหมดเป็นคนขี้ขลาด คงไม่ติดตามเซวียนเอ๋อมาได้
ถึงวันนี้…
ตอนที่ 849 : ร่างเขาจะระเบิดแล้ว !!!
“อาวุโส เมื่อไม่นานมานี้ข้าคล้ายพบกับจุดรอคอยบางประการ
อีกทั้งการฝึกฝนของข้าคล้ายยิ่งมายิ่งออกนอกเส้นทางมิว่าข้า
จักพยายามเพียงใด ก็คล้ายมันไม่ถูกต้องอย่างไรมิรู้…” ใบหน้า
จางเต่าเผยความขื่นขมออกมาขณะมองไปยังหลินฟ่าน มัน
หวังว่าอาวุโสผู้นี้จะชี้แนะให้มันสักทางสองทาง
“อาวุโส ก่อนหน้าข้าเองก็มีไปฝึกวิชาลับบางอย่างมา อย่างไรก็
ตามแค่เริ่มต้นข้ายังมิอาจเข้าถึงเคล็ดความที่แท้ของมันได้ ท่าน
ช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่ว่าปัญหามันอยู่ที่ใด?” เถียนอวี้ตี
ปีกน้อยๆของนางเบาๆ ก่อนจะกล่าวถามออกมาเสียงใส
ตอนนี้หลินฟ่านที่ยืนงงในดงเด็กถึงกับกระพริบตาปริบๆ
จากนั้นพอหันไปมองเห็นเซวียนเอ่อกาลังอมยิ้มแก้มตุ่ย เขาก็รู้
ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
‘บ้าจริง! พี่ประมุขถูกตัวแสบน้อยนี่หลอกอีกแล้ว!’
หลินฟ่านนึกถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้เล็กน้อย เขาคิดไปว่าเจ้าตัว
แสบนี่จะพาเขาไปเที่ยวชมสถานที่ต่างๆรอบๆ ใครจะไปคิดว่า
มันจะเป็นอะไรแบบนี้!
เรื่องราวก่อนหน้านี้…
“พี่ใหญ่หลิน หลังจากนี้พวกเราไปเดินเล่นดีหรือไม่? ข้าได้
เตรียมอาหารดีๆไว้มากมาย! อีกทั้งรอบๆบ้านเกิดเซวียนเอ๋อก็
มีที่สวยงามๆเต็มไปหมดเลย!!”
แน่นอนว่าคาขอเล็กน้อยแบบนี้ของเซวียนเอ๋อ หลินฟ่านย่อม
ไม่คิดปฏิเสธ สุดท้ายเขาเองก็ได้เข่นฆ่ามานานหลายปีแล้ว
นับว่าการผ่อนคลายอารมณ์บ้างก็เป็นอะไรที่ดีไม่น้อย เมื่อตึง
ไปก็ต้องหย่อนหน่อย…
และเมื่อมาถึงสถานที่แรกหลินฟ่านก็เดินเอ้อระเหยปล่อยตัว
ปล่อยไปใจไปพักหนึ่ง วิวทิวทัศน์รอบๆนับว่าสวยงามยากจะ
หาดูที่ไหนได้จริงๆ! ทว่าความรู้สึกสุนทรีย์ไปกับมวลหมู่บุปผา
นานาพรรณพร้อมแว่วเสียงสกุณาอย่างรื่นรมย์นี้ กลับอยู่ได้ไม่
นาน เพราะเขาพลันสัมผัสได้ว่ามีบางสิ่งแปลกๆ…
กลุ่มสหายสนิทของเซวียนเอ๋อได้มาปรากฏตัวเบื้องหน้าหลิน
ฟ่าน ตอนแรกหลินฟ่านก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก
ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป เหล่าเด็กน้อยก็เริ่มออกท่าทางฝึกฝนวิชา
กันยกใหญ่ หากจะไปฝึกไกลๆก็ไม่แปลก แต่นี่ล่อมาฝึก
ตรงหน้าเขา!!
บางคนที่กาลังออกกระบวนท่าวิชาของตัวอย่างตั้งใจ แต่เมื่อไป
ถึงครึ่งทางก็ชะงัก ราวกับพบความลาบากและติดขัดบาง
ประการจึงหยุดลง…
บางคนก็พยายามโคจรพลังทะลวงด่านต่อหน้าหลินฟ่าน จน
หน้าดาหน้าแดงแต่ไม่อาจทะลวงผ่านไปได้
แว่บแรกหลินฟ่านเองก็คิดไปว่า ไหงเพื่อนของเซวียนเอ๋อถึงได้
ทาตัวประหลาดนัก!? ไม่ใช่ว่านี่มาเดินเล่นผ่อนคลายชมนกชม
ไม้กันรึไง? ทาไมพวกมันมาฝึกฝนปลูกฝังวิชาอะไรตรงนี้?! นี่จะ
ไม่ขยันกันไปหน่อยรึไง!?
แต่อย่างไรเสียพอได้เห็นเหล่าเด็กน้อยตั้งมั่นขยันหมั่นเพียร
หลินฟ่านก็รู้สึกเห็นดีด้วย และเมื่อเห็นว่ามีใครบางคนกาลัง
ประสบปัญหาในการสาแดงกระบวนท่าวิชา หลินฟ่านก็อด
ไม่ได้ที่จะกล่าวตักเตือนชี้แนะไป
อนิจจา…หลังจากที่หลินฟ่านเริ่มชี้แนะให้คนแรก เรื่องราวก็
แปรเปลี่ยนกลับกลายไปในทันใด…
“อาวุโส อาวุโส! แล้วข้าล่ะ ข้าต้องทาไงหรือ!?”
“ใช่แล้วๆ ท่านอาวุโสบอกข้าบ้าง! ข้าควรทาอย่างไรดี?!”
“ได้โปรดดดดด!!”
แล้วทันใดนั้นหลินฟ่านก็พบว่าตัวเองถูกเหล่าเด็กน้อยห้อม
ล้อม! เมือ่ เห็นแววตาดั่งลูกหมาหิวนมที่ส่งมาวิ้งๆ หลินฟ่านก็
จนด้วยเกล้านัก! ราวกับว่าเขาไมอาจปฏิเสธเด็กน้อยเหล่านี้
ได้…!!
และเมื่อหลินฟ่านมองไปยังเซวียนเอ๋อ เขาก็พบว่านางไปแอบดู
อยู่ที่มุมหนึ่งเงียบๆ เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดล้วนเป็นการวางแผน
ไตร่ตรองมาก่อนหน้า!!
“ตัวแสบน้อย…!”
หลินฟ่านถลึงตามองไปยังเซวียนเอ๋อ บ้าจริง! เขาน่าจะรู้ ว่าอยู่
ดีๆไหงนางถึงได้ชวนมาเดินเล่นแบบนี้!? นี่ไม่ใช่ว่าเขาต้องมา
สอนเด็กน้อยนี่เปล่าๆรึไง!?
“พี่ใหญ่หลิน สหายของข้า ต่างก็นับถือยาเกรงท่านอย่าง
แท้จริง อีกทั้งพวกนางเองก็ไม่มีอาจารย์คอยชี้นาสอนสั่ง ทาได้
แค่ฝึกฝนด้วยตัวเองมาตลอด! เช่นนั้นแล้วทั้งหลายก็ต้อง
ลาบากตรากตรามากันไม่น้อย! ในฐานะที่พี่ใหญ่เป็นแบบอย่าง
ที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังที่สุดของเซวียนเอ๋อ พี่ใหญ่ต้อง
ช่วยเหลือเซวียนเอ๋อใช่มั้ย?”
ความสัมพันธ์ระหว่างเซวียนเอ๋อกับเหล่าเด็กน้อยนี้ก็นับว่า
สนิทสนมกันไม่น้อย และดูคล้ายความสนิทสนมกลมเกลียวนี้ยิ่ง
มาจะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น เด็กน้อยทั้งหลายเป็นคนที่นางสมควร
ไว้วางใจและฝากชีวิตไว้ได้
ต่อหน้าท่าทางวิงวอนออดอ้อนเสียงหวานของเซวียนเอ๋อ หลิน
ฟ่านยังจะทาอะไรได้อีก? และถึงแม้ว่าเขาจะทา แต่เขายังจะ
พูดอะไรได้!?
ในเมื่อนางเลือกจะใช้ถ้อยคาออกมาโน้มน้าวแบบนี้ หากเขาไม่
ช่วยเหลือนั่นไม่ใช่ทาให้ภาพลักษ์เขาแย่ลงรึไง?
“เอาล่ะๆ”
สุดท้ายหลินฟ่านก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด ได้แต่พยักหน้าลงเบาๆ
สุดท้ายการเดินเอ้อระเหยลอยชายก็จบสิ้นลง กลายเป็นเดินบน
เส้นทางแห่งการชี้แนะสอนสั่งผู้คนอีกครั้ง…
แต่หลินฟ่านก็มองเหล่าเด็กน้อยกลุ่มนี้ดีไม่น้อย บางคนก็
ค่อนข้างฉลาดเฉลียว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ชี้แนะอะไร แต่ต่อไป
ความสาเร็จในอนาคตของเด็กเหล่านี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเลวร้ายอะไร
มากมาย
ยิ่งตอนนี้เมื่อพวกมันได้พบกับสุดยอดผู้เชี่ยวชาญอย่างพี่
ประมุข ความสาเร็จของทั้งหลายในภายภาคหน้าต้องเป็นอะไร
ที่สูงส่งแน่นอน!!
เผ่าพันธุ์โบราณนั้นเปรียบได้ดั่งศัตรูร่วมของทุกผู้คน เป็นอะไร
ที่ต้องใช้ผู้คนหลายเผ่าพันธ์ร่วมมือกันกาจัด ดังนั้นก็ไม่ใช่เรื่อง
เลวร้ายอะไรหากจะฝึกฝนเหล่าอัจฉริยะทรงพลังให้มากเข้าไว้
และเนื่องจากเหล่าเด็กน้อยพวกนี้ก็ล้วนเป็นสหายอันดีของเซ
วียนเอ๋อ เขาเองก็ยินดีจะช่วยเหลือ…
ด้วยสานึกรู้รวมถึงสานึกสติอันคมชัดของหลินฟ่าน เพียงมอง
ปราดเดียวเขาก็สามารถหยั่งถึงรากฐานและแก่นแท้วิชาของ
เหล่าเด็กน้อยทั้งหลายได้กระจ่าง ถึงเวลาที่เขาต้องชี้แนะให้ ก็
ไม่ได้นับว่ามีปัญหาอะไรแม้แต่น้อย
“เจ้าทาแบบนั้นไม่ถูกนะ นี่มันต้องทาแบบนี้…”
“เจ้ายังทะลวงพลังไม่ได้หรอก รากฐานของเจ้ายังไม่แน่นพอ…
เอาล่ะข้าพอมีเม็ดยาพอใช้ได้อยู่ 2-3 เม็ดเอาไปกินเล่นเถอะ”
“โอยตายๆ หนูน้อยเอย…นี่มันวิชาหยินหยาง เจ้าคิดฝึกวิชานี้
เดี๋ยวก็ไม่ได้โตมาเป็นสาว แต่กลายเป็นหนุ่มแทนหรอก…เอา
วิชานี้ไปดีกว่า มันดีสาหรับเจ้าไม่น้อย อ่ะ…”
ไม่จาเป็นต้องกล่าวก็บอกได้เลยว่า อารมณ์ของเหล่าเด็กน้อย
กาลังปะทุพวยพุ่งอย่างแท้จริง!
สาหรับพวกมันแล้ว นี่คือโชควาสนาที่พวกมันคงต้องทาบุญสั่ง
สมมาหลายชาติภพ ถึงจะได้มีโอกาสได้รับการชี้แนะจาก
มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่แบบนี้ได้! หากผู้อื่นได้ล่วงรู้เรื่องนี้ จะไม่
อิจฉาพวกมันจนอกแตกตายหรือไร!?
“เซวียนเอ๋อตอนนี้พวกเราต้องขอบคุณเจ้ายิ่งนัก! หากไม่ใช
เพราะเจ้า พวกเราจักได้รับการชี้แนะจากท่านอาวุโสได้
อย่างไร!?”
สหายน้อยทั้งหลายที่ผ่านการชี้แนะจากหลินฟ่าน รีบปรี่ไปหา
เซวียนเอ๋อพร้อมกล่าวขอบคุณอย่างล้นหลาม
ด้วยการชี้แนะของอาวุโส พวกมันได้รับประโญชน์อันใหญ่
หลวง!
“เรื่องนี้ยังนับเป็นอะไรได้ พวกเราล้วนเป็นสหายกัน! และพี่
ใหญ่หลินก็เป็นคนดีจิตใจงดงามยิ่ง!” เซวียนเอ๋อเงยหน้ามอง
ออกไปไกลตา เห็นหลินฟ่านกาลังชี้แนะสหายของนาง ก้อด
ไม่ได้ที่แววตาของนางจะทอประกายขึ้นมาระยิบระยับดั่งดวง
ดารา
ตอนนี้พี่ใหญ่ช่างเต็มไปด้วยความภาคภูมินัก!
“ท่านผู้อาวุโส เกิดอันใดขึ้นกับข้ามิรู้ อยู่ดีๆคล้ายพลังงานใน
ร่างของข้ามันกาลังจะระเบิดออกมา!!” ตอนนี้ชายหนุ่มที่ไม่
อาจทะลวงด่านพลังได้มานาน หลังจากที่ได้โอสถจากหลินฟ่าน
ไป 2-3 เม็ด มันก็กินเล่นตามที่หลินฟ่านบอกทันที และพอกลืน
ไปเท่านั้นแหล่ะ มันรู้สึกราวกับพลังงานที่แท้จริงทั้งร่างกาลังกู่
ร้องกังวาน ซ้าพลังยังคล้ายน้าป่าเชี่ยวกราดกาลังไหลหลากไป
ทั่วชีพจรพลัง
เมื่อเซวียนเอ๋อและเด็กน้อยคนอื่นๆเห็นเรื่องนี้ ใจของทั้งหลาย
ก็เต้นระส่าขึ้นมาด้วยความกังวล “พี่ใหญ่หลิน เกิดอันใดขึ้นกับ
เขากัน!?”
เมื่อหลินฟ่านเห็นเรื่องนี้เขาก็อึ้งไปเช่นกัน นี่มันผิดท่าแล้ว
ไม่ใช่ไอหนุ่มนี่ได้ยาไปกินเล่นแค่ 2-3 เม็ดหรือไง?! ไหงเกิดเรื่อง
แบบนี้ได้ล่ะ?!
‘เชี่ย! เป็นไรวะเนี่ย ไหงตัวมันยุบๆพองๆ คล้ายพลังจะปะทุ
ระเบิดออกมาแบบนั้นล่ะ!? ไม่ใช่แค่โอสถเพิ่มพลังหรือไง!? ไหง
จะทาให้มันตัวแตกได้อะ!?’ หลินฟ่านเหล่มองซ้ายมองขวา
เล็กน้อย ก่อนที่จะชักสีหน้าแย้มยิ้ม ค่อยกล่าวออกมาเสียงดัง
“อั้ยหยา! ซี้เลี้ยว! ดูเหมือนข้าจะส่งโอสถให้เขาผิดเม็ด! นั่น
น่าจะเป็นโอสถ พลังเทวะ 3 บรรจบ! ฮายๆ ไม่น่าแปลกใจเลย
ที่เขาไม่อาจรับไหว!!”
“อ๊า! แล้วเช่นนี้พวกเราจักทาอย่างไรกันดี!?” เซวียนเอ๋อและ
คนอื่นๆจะไปรู้ได้ยังไงว่านั่นมันเม็ดยาอะไร อย่างไรก็ตามเพียง
แค่ได้ฟังชื่อ ก็มากพอที่ทั้งหลายจะเดาได้ว่ามันสมควรเป็นอะไร
ที่ทรงพลังนัก
“ก็ไม่เป็นอะไรหรอก! แค่ข้าต้องช่วยให้เขาทะลวงด่านพลังสัก
เล็กน้อยเท่านั้นเอง…” หลินฟ่านกล่าวตอบไปอย่างไร้เรื่องราว
ในตัวหลินฟ่านนั้นมีโอสถที่ริบมาจากผู้อื่นมากมายนัก และมัน
ก็เป็นเวลานานมากแล้วที่เขาไม่ได้หลอมโอสถเอง เหตุผลก็คือ
มันไร้โอสถอะไรที่จะมีประโยชนกับเขาแล้ว
และถึงแม้เขาจะหลอมโอสถที่เลิศล้าออกมาได้ เขากินไปก็ไม่ได้
ค่าประสบการณ์อะไรมากมาย ดังนั้นไม่ใช่เรื่องไร้สาระ
เสียเวลาหรอกเหรอที่เขาจะหลอมพวกมัน?
ส่วนโอสถพลังเทวะ 3 บรรจบนี่ เป็นโอสถที่หลินฟ่านคิดใช้
เพื่อให้พลังเขามีเสถียรภาพตอนที่เขาเข้าสู่ด่านพลังเทพสวรรค์
อมตะ…!
ทว่าด่านพลังฝึกตนของหนุ่มน้อยนั่นยังเป็นแค่เดียวดายสวรรค์
อมตะขั้นต่าเท่านั้น หากมันไร้ซึ่งตัวตนทรงพลังคอยกรุยพลัง
และชักนาพลังให้โคจรอย่างละเอียดอ่อนเกรงว่าร่างมันคงได้
ระเบิดเข้าจริงๆ!! (53380)
หลินฟ่านใช้นิ้วแตะไปที่หน้าผากของเจ้าหนุ่มน้อยเบาๆ กระแส
พลังหลั่งไหลผ่านปลายนิ้วเขาถ่ายทอดเข้าสู่ร่างเด็กน้อยและ
สะกดพลังที่พุ่งพล่านทั้งหมดให้สงบลง ค่อยชักนาให้มันโคจร
อย่างเป็นระเบียบ!!
และสิ่งที่ทาให้เซวียนเอ๋อและคนอื่นๆตกตะลึงก็คือ พลังฝึกตน
ของหนุ่มน้อยคนนี้กลับพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อ
ตาพวกมัน!!
เดียวดายสวรรค์อมตะขั้นกลาง..
เดียวดายสวรรค์อมตะขั้นสูง!
เดียวดายสวรรค์อมตะขั้นสูงสุด!!
นี่..!!!
ตอนนี้เซวียนเอ๋อและคนอื่นๆถึงกับอึ้งตะลึงค้าง ทะลวงผ่าน 3
ขีดขั้นในคราวเดียว! นี่มันจะไม่น่าสะพรึงกลัวไปหน่อยหรือไร!?
“เอาล่ะ มาถึงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่ากังวลแล้วล่ะ” หลินฟ่านตบ
มือเบาๆ คล้ายกับเรื่องนี้ไม่ได้นับเป็นอะไร…
ทว่าสาหรับเซวียนเอ๋อและคนอื่นๆแล้วนี่มันไม่ใช่อะไรที่
ธรรมดาแม้แต่น้อย! เรื่องนี้มันสะท้านฟ้าเกินไป! เป็นการลงมือ
ที่เขย่าขวัญผู้คนมากไปแล้ว!!
ตอนที่ 850 : วาจานี้กล่าวไป…ก็ไม่ได้ผิดอะไร
“อะ…อะไรกัน ด่านพลังบ่มเพาะของหัวถั่วพุ่งทะยานขึ้นมา
เช่นนี้ดื้อๆเลยหรือ?”
“ใยข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนกาลังฝ๎นไปนักเล่า!”
ตอนนี้เหล่าสหายน้อยของเซวียนเอ๋อล้วนตะลึงงันกันหมดสิ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกมันได้ห็นน้องเล็ก ที่ทุกคนมักเรียก
กันว่าหัวถั่วในกลุ่มพวกมัน ทะลวงผ่านด่านพลังมาดื้อๆปาน
จรวด พวกมันยังถึงกับยืนแทบไม่ตรง!!
ทีละก้าวๆ…พวกมันทั้งหลายล้วนค่อยๆย่างเยื้องอย่าง
ระมัดระวัง อดทนขยันขันแข็งดิ้นรนฝึกฝนพลังให้ทะลวงผ่าน
ขีดขั้นอย่างยากลาบาก เหน็ดเหนื่อยคืออะไรไม่รู้จัก! และ
เหตุผลที่พวกมันค่อยๆก้าวย่างนั้น เพราะพวกมันต้องการ
กระทาให้มั่นใจ ว่าพวกมันจะไม่หลงทางออกไปอย่างไม่ตั้งใจ
หรือหันไปเสียสมาธิกับเรื่องราวอื่นในโลก แต่มาดูตอนนี้เข้า
เถอะ นี่มันอะไร!? น้องเล็กของพวกมันกลับทะยานพุ่งปรี๊ด
ขึ้นมาอย่างง่ายดายเช่นนั้น!!
นี่ประหนึ่งบินตรงไปถึงสรวงสวรรค์อย่างที่ไม่ต้องสงสัยเลย!
ทางด้านน้องเล็กที่มีด่านพลังทะลวงขึ้นมา 3 ขัดขั้นก็อึ้งไปไม่
ต่างกัน
“เอ่อ…ตอนนี้ข้ากลายเป็นเดียวดายสวรรค์อมตะขั้นสูงสุดแล้ว
งั้นเหรอ?” หั่วตงเงยหน้าอันสับสนมองหลินฟุานด้วยความ
เลื่อนลอย
“ใช่แล้ว เจ้ารู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติรึเปล่า เนื้อตัวมีอะไรติดขัด
ไหม…แต่กล่าวไปแล้วก็สมควรไม่มีป๎ญหาอะไรนะ! แต่ยังไงก็
เถอะ ไหนมาให้ข้าตรวจสอบเจ้าอย่างละเอียดอีกทีซิ”
เมื่อเห็นใบหน้าเหวอๆของหนุ่มน้อย หลินฟุานขมวดคิ้ว
เล็กน้อย เขายังคิดไปว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นรึเปล่า
ส่วนทางด้านหั่วตงนั้น อารมณ์ของมันประหนึ่งนั่งรถไฟเหาะตี
ลังกามาหลายร้อยตลบ จนยากที่จะทาให้ประสาทของมันตั้ง
มั่นอยู่ได้! ศักยภาพพรสวรรค์ของมันนั้น…เรียกว่าอยู่แค่
ค่าเฉลี่ยเท่านั้น! กว่าที่มันจะฝุาฟ๎นมาถึงด่านพลังบ่มเพาะ
ระดับนี้ได้ มันต้องผันผ่านอะไรมามากมาย!!
และในช่วงเวลาที่มันสามารถตัดผ่านไปยังด่านพลังเดียวดาย
สวรรค์อมตะขั้นต่า มันก็รู้สึกว่า มันได้ใช้ศักยภาพและ
พรสวรรค์ของมันออกไปจนหมดสิ้นแล้ว เส้นทางหลังจากนั้น
มันไร้ซึ่งความหวังอันใดสืบไป..
หากมันคิดจะตัดผ่านไปยังด่านพลังเดียวดายสวรรค์อมตะขั้น
สูงสุด เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลยสาหรับมันหากไม่
พบพานวาสนาปาฏิหาริย์บางอย่าง
ทว่ามาตอนนี้ในเวลาแค่ไม่ถึงชั่วอึดใจด่านพลังของมันกลับพุ่ง
ปรี๊ดทะยานไปอย่างก้าวกระโดด! วูบเดียวบรรลุถึงเดียวดาย
สวรรค์อมตะขั้นสูงสุด! หากเอาเรื่องนี้ไปกล่าวเกรงว่าผู้คนได้
ตกใจตายกันแล้ว!!
ตุบ!
ตอนนี้หั่วตงถึงกับทิ้งตัวลงคุกเข่าเบื้องหน้าหลินฟุาน สีหน้า
แววตาของมันเต็มไปด้วยความเคารพ และเทิดทูนสุดแสน
คล้ายหลังจากนี้ไป แบบอย่างชั่วชีวิตของมันจะมีหลินฟุา
นเพียงคนเดียวเท่านั้น!!
“ขอบคุณสาหรับความช่วยเหลือขอรับท่านผู้อาวุโส! ขอบคุณ
สาหรับความช่วยเหลือขอรับท่านผู้อาวุโส..!!!”
ตลอดชั่วชีวิตหั่วตงไม่เคยก้มหัวให้แก่ผู้ใด ทว่าตอนนี้มันมั่นใจ
อย่างสุดซึ้ง ว่านี่มิใช่ผู้คน! หากแต่เป็นเทพเจ้า!
ภายในโลกเซียนโบราณความก้าวหน้าของการบ่มเพาะพลัง
เป็นอะไรที่สาคัญและต้องระวังอย่างยิ่งยวด นั่นเพราะมันจะทา
ให้รากฐานไม่มั่นคง กระทั่งเกี่ยวพันไปถึงการฝึกปรือในวันหน้า
หากทว่าจนถึงบัดนี้หั่วตงก็ไม่พบอะไรผิดปกติกับร่างกายของ
มันแม้แต่น้อย ราวกับว่าทุกด่านพลังฝึกตนที่เพิ่มพูนขึ้นมา ได้
ถูกมันก้าวย่างฝุาฟ๎นมาทีละเล็กละน้อยด้วยตัวเอง บรรลุสู่การ
ตัดฝุาด่านพลังอย่างสมบูรณ์แบบถึงขีดสุด!
“เฮ่ นี่เจ้าทาอะไรของเจ้ากันหา? เจ้าเป็นลูกผู้ชายจะมาคุกเข่า
ง่ายๆได้ยังไง? เอาล่ะๆ เจ้ารีบลุกขึ้นมาเถอะ ทาแบบนี้ข้ายิ่ง
รู้สึกผิดต่อเจ้าขึ้นไปอีก…ก่อนหน้านี้เป็นเพราะข้าพลาดพลั้งไป
ที่ดันให้ยาเจ้าไปผิดเม็ด! ทั้งหมดเป็นข้าผิดเอง! ความสุขในการ
ฝุาฟ๎นด่านพลังฝึกตนเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมนัก การที่มีด่านพลัง
ฝึกตนที่สูงไม่ได้ทาให้คนเรามีความสุข …แต่ความสุขเกิดจาก
คนเราได้ฝุาฟ๎นความยากลาบากด้วยตัวเองจนบรรลุด่านพลัง
สูงส่งต่างหาก!!”
“และดูสินี่ไม่ทันได้ตั้งตัวอะไร ข้าดันทาให้ด่านพลังฝึกตนของ
เจ้าพุ่งทะยานไปรวดเดียวแบบนี้ บรรลุถึงเดียวดายสวรรค์
อมตะขั้นสูงสุดซะแล้ว ทาให้เจ้าพลาดความสุขจากการฟ๎นฝุา
ระหว่างทางจนหมดสิ้น…เฮ่อ แต่ยังโชคดีที่ไม่ต้องจ่ายราคา
อะไรเพิ่มเติม”
หลินฟุานกล่าวออกมาอย่างเสียใจ
“ไม่! ขอท่านอาวุโสอย่าได้ตาหนิตัวเองแล้ว! ความปรารถนาดี
ของท่านผู้อาวุโส ข้าน้อยจักจดจาในใจไว้มิมีวันลืมชั่วชีวิต!!”
หั่วตงตอบกลับไปด้วยมวลอารมณ์เอ่อล้น
จะไม่ให้มวลอารมณ์ของหั่วตงมันเอ่อล้นออกมาได้อย่างไร?
ถึงแม้ด่านพลังเดียวดายสวรรค์อมตะขั้นสูงสุดจะไม่ได้มากมาย
อะไร แต่ก็ยังถือว่าเป็นด่านพลังฝึกตนที่สูงส่งมิใช่ชั่ว ต้องอย่า
ลืมว่ากระทั่งตัวตนระดับว่านฟูฉาง ของชนเผ่าโบราณเองยังไม่
มีด่านพลังสูงล้าขนาดนี้!
ย้อนกลับไปยามเมื่อพบพานกับตัวตนระดับว่านฟูฉาง พวกมัน
ผนึกกาลังกันยังแทบรับมืออีกฝุายไม่ไหว หากทว่าตอนนี้
อาศัยหั่วตงเพียงคนเดียวก็สามารถยืนวัดกับอีกฝุายได้อย่างไร้
ครั่นคร้าม!
“ฮัยยา…แต่กล่าวไปยังนับว่าโชคดีนัก ที่ก่อนหน้าข้าเพียงหยิบ
ผิดเป็น โอสถพลังเทวะ 3 บรรจบ หากข้าเผลอไปหยิบอีกเม็ดที่
ดันตั้งไว้ติดกันอย่างโอสถ ราชันรุ้งทะยาน 7 ชั้นฟูา มีหวังด่าน
พลังฝึกตนของเจ้าได้พุ่งขึ้นมารวดเดียวบรรลุถึง เทพสวรรค์
อมตะ ชั้นฟูาที่ 4 ไร้วันตายแหงๆ! ถึงตอนนั้นก็เสมือนกับข้าได้
พรากความสาเร็จและความสุขความภาคภูมิใจในเส้นทางฝึก
ตนของเจ้าครั้งใหญ่แล้ว! แต่โชคยังดีที่ข้าไม่เผลอหยิบมัน
ขึ้นมา นับว่านี่เป็นโชควาสนาในคราเคราะห์อยู่บ้างจริงๆ…”
หลินฟุานกล่าวออกมาด้วยความกังวลใจ
เรื่องเกี่ยวกับการฝึกตนนี้เป็นอะไรที่สาคัญมาก! ทุกๆความรู้สึก
ที่ได้ทะลวงขีดขั้นพลังควรเป็นอะไรที่ตัวเองได้กระทาฝุาฟ๎นมา
หากต้องพลาดประสบการณ์อันน่าอภิรมย์นั่นเสีย แล้วการบ่ม
เพาะฝึกตนยังจะมีความหมายอะไร…
เช่นเดียวกันกับตัวหลินฟุานเอง เขาได้ไต่ระดับขึ้นมาอย่าง
ยากลาบากที่ละย่างก้าว นับหมื่นพันล้านแสนชีวิตที่ถูกเขา
สังหารไป…นั่นช่างเป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษนัก…!
“เอ๋อ?”
เมื่อสหายน้อยของเซวียนเอ๋อได้ยินคากล่าวนี้ ทั้งหลายล้วน
สับสนงุนงงกันไปทันใด
นั่นหมายความว่าอันใดกัน!?
ผู้ใดยังจะไปคิดคาดว่าถึงขั้นทะลวงด่านพลัง 3 ขอบเขตนั่นยัง
ไม่ใช่สิ้นสุด มีแม้กระทั่งโอสถเลิศล้าที่จะทาให้ด่านพลังพุ่งไปถึง
เทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟูาที่ 4 ไร้วันตายเลยงั้นเหรอ!?
นิ…นี่!!
มั่นใจได้เลย ว่าตอนนี้ทุกผู้คนล้วนไร้คาจะกล่าว…
กระทั่งตัวหั่วตงเองเมื่อได้ยินยังรู้สึกผิดหวังไม่น้อย บัดซบเอ๊ย!
ใยท่านอาวุโสไม่กระทาผิดพลาดซะเล่า!? หาไม่แล้วปุานนี้
มันหั่วตง จะได้กลายเป็นเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟูาที่ 4 ไร้วัน
ตายไปแล้ว!!
ทว่าพอได้คิดหั่วตงก็ไม่อะไรมากมาย สิ่งที่มันได้รับก็นับว่ามี
ประโยชน์กับมันมหาศาลแล้ว หากไม่ได้ผู้อาวุโส ก็คงมีแต่
สวรรค์เท่านั้นที่รู้…ว่าเมื่อไหร่มันจะยกระดับพลังฝึกตนไปถึง
ขอบเขตเดียวดายสวรรค์อมตะขั้นสูงสุด…!
“ท่านผู้อาวุโสเจ้าคะ…วิชาที่ท่านให้ข้าก่อนหน้านี่มัน…!”
ตอนนี้สาวน้อยห้าวๆคนหนึ่งพลันกล่าวออกมา
นางได้อ่านคัมภีร์วิชาก่อนหน้าอย่างละเอียดแล้ว หากแต่นาง
รู้สึกว่ามันช่างลึกซึ้งเหลือเกิน ด้วยประสบการณ์และองค์
ความรู้กอปรทั้งสานึกรู้ของนางในด่านพลังเพียงเท่านี้ นางไม่
อาจเข้าใจเคล็ดวิชาลึกลับน่าอัศจรรย์เช่นนี้ได้สมบูรณ์
ทว่าในสายตานาง คัมภีร์วิชาที่ท่านอาวุโสหยิบมอบให้ต้อง
ไม่ใช่อะไรที่ธรรมดาเป็นแน่ ถึงแม้ว่าตอนนี้นางจะไม่อาจเข้าใจ
อะไรมันได้มากนัก แต่ก็ยังพอมีหนทางในใจอยู่บ้าง…
“อ๋อ วิชานั้นน่ะเหรอ…อ่าจริงสิพอดีข้าได้รับมันหลังจากฆ่า
ตัวตนสูงสุด เชิ่ง นักบุญ น่ะ! มันเป็นวิชาที่เหมาะกับสตรีไม่
น้อยเลยนะ…เมื่อเจ้าสามารถฝึกฝนจนบรรลุขั้นสูงสุดและ
เข้าถึงเต๋า พลังที่เจ้าจะถือครองก็นับว่าไม่ใช่ชั่วเลยล่ะ มีไม่กี่
เคล็ดบ่มเพาะพลังหรอก ที่สามารถทัดเทียมกับมันได้ อันที่จริง
แค่เจ้าเข้าใจบทวิชาในช่วงแรกๆ พลังที่เจ้าสามารถปลดปล่อย
ออกมาก็นับว่าไม่เลวเหมือนกัน”
หลินฟุานตอบ หลังจากที่นึกอยู่ครู่หนึ่ง
นี่เป็นพวกวิชาที่หลินฟุานไม่ได้เก็บมาใส่ใจอะไร ตอนแรกเขาก็
คิดว่าจะโละทิ้ง หรือไม่ก็เอาไปผสมเล่นให้หมด! แต่พอฉุกคิด
สักนิดเขาก็นึกได้ว่ามันอาจจะมีประโยชน์ในวันหน้า… และจาก
ที่ดูตอนนี้ ก็เหมือนมันจะได้กลายเป็นอะไรที่มีประโยชน์แล้ว
จริงๆ
“ฮ๊ะ!??!!” เมื่อสาวน้อยแลดูห้าวๆได้ยินเช่นนั้น หน้าของนางก็
แข็งค้างไปทันใด…คัมภีร์วิชา ที่ได้มาหลังสังหารตัวตนสูงสุด
เชิ่ง นักบุญ!? นี่เป็นอะไรที่น่ากลัวเกินไปสาหรับนาง!!
วิชาใดก็ตามที่อยู่ในความครอบครองของตัวตนสูงุสด มันคง
เป็นไปไม่ได้ที่จะอ่อนแอใช่หรือไม่?
นิ…นี่ … !!!
“พี่ใหญ่หลิน ข้าได้ยินมาว่าการยกระดับด่านพลังฝึกตนอย่าง
รวดเร็วเกินไป จะส่งผลกระทบต่อเส้นทางฝึกตนในวันหน้ามิใช่
หรือ? แล้วนี่หัวถั่วน้อยจะเป็นใดหรือไม่?” เซวียนเอ๋อเองก็รู้ว่า
หลินฟุานแข็งแกร่งมาก แต่นางไม่ได้คิดฝ๎นไว้เลยว่าเขาจะ
แข็งแกร่งขนาดนี้!
กระทั่งให้เป็นอาจารย์ของนางเองอย่างจักรพรรดินีสตรี ก็ไร้ซึ่ง
ความสามารถอันน่าเกรงขามถึงขีดขั้นนี้!
“ก็ใช่นะ มันมีป๎ญหาแบบนั้นอยู่จริงๆ” หลินฟุานพยักหน้าและ
ยืนยันความเห็นของเซวียนเอ๋อ
“ท่านอาวุโส เรื่องนี้มิเป็นไรขอรับ! ข้าน้อยพอใจยิ่งแล้ว…!!”
หั่วตงรีบกล่าวออกมาด้วยความสานึกบุญคุณ ใบหน้าของมัน
เต็มไปด้วยความกตัญํูรู้คุณ มันคิดว่าอาวุโสกาลังรู้สึกผิดกับ
เรื่องที่ทาให้รากฐานของมันไม่มั่นคงเพราะเพิ่มพูนด่านพลังบ่ม
เพาะให้มันรวดเร็วเกินไป…
แต่สาหรับตัวหั่วตงแล้วหากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าด่านพลัง
นี้อาวุโสยกระดับให้ล่ะก็…เกรงว่าต่อให้มันฝึกฝนไปจนชั่วชีวิต
มันก็ยากที่จะบรรลุด่านพลังนี้ได้…
“อ๋อ เรื่องเรื่องนี้น่ะไม่มีป๎ญหาอะไรหรอก…มันก็จริงอยู่บ้างที่ว่า
การฝืนยกระดับพลังหลายขีดขั้นในเวลาอันสั้นน่ะ มันเป็นอะไร
ที่มีป๎ญหาไม่น้อย ทว่าป๎ญหาอะไรนั่นน่ะ…มันจะเกิดขึ้นก็
ต่อเมื่อผู้ที่ใช้วิธีการแบบนี้มันมีความแข็งแกร่งของร่างกายและ
ชีพจรพลังทั่วร่างไม่มากพอ! ส่วนเจ้าน่ะไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลย
เพราะในขณะที่ข้ายกระดับด่านพลังฝึกตนให้เจ้า ข้าก็ใช้พลัง
ทาให้รากฐานของร่างเจ้าแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย เรียกได้ว่า
รากฐานของเจ้ามั่นคงถึงที่สุดแล้ว รับรองไม่มีป๎ญหาอะไร
ภายหลัง…”
หลินฟุานกล่าวตอบอย่างสงบ ขณะหันไปมองเซวียนเอ๋อ
“ว่าแต่เจ้าไปได้ยินเรื่องนี้มาจากใครหรือ?”
เซวียนเอ๋ออึ้งไป นางพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง จะให้นางกล่าว
ออกมาได้อย่างไรว่าได้ยินจากอาจารย์ของนาง? นางจึงทาได้
แค่ท่าทางบ๊องแบ๊วออกมา “แหะๆ เซวียนเอ๋อลืมไปแล้วอ่า…”
(53380)
ส่วนห่างออกไปไกลๆ จักรพรรดินีสตรีกาลังมองมาด้วยสายตา
ยุ่งยาก นางเองก็ได้ยินบทสนทนาดังกล่าว และถึงแม้นางจะ
รู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้สักเท่าไร แต่นางก็ไม่อาจกล่าวอะไรออกไปได้
วาจาของนางกล่าวไปก็ไม่ได้ผิดอะไร! แต่คล้ายมันจะกลายเป็น
ผิดขึ้นมาอย่างไรก็ไม่รู้ หลังจากได้ฟ๎งคากล่าวของหลินฟุาน!
อย่างไรก็ตาม ดียิ่งนักที่เซวียนเอ๋อยังคิดปกปูองอาจารย์อยู่
บ้าง…
“เอาล่ะมาๆ สหายน้อยทั้งหลาย พวกเจ้าเองก็ขยันขันแข็งกัน
มาไม่น้อย เห็นแก่ความตั้งใจและจิตอันแน่วแน่ของพวกเจ้า
ข้าจะให้พรแก่พวกเจ้าทุกคน” หลินฟุานหัวเราะออกมาเบาๆ
หลังจากนั้นเขาก็เอื้อมมือออกมาก่อนที่จะปรากฏหัตถ์พลังแสง
ไร้สภาพห้อมล้อมเด็กน้อยทุกคนเอาไว้ จักรพรรดินีสตรี ที่ดูอยู่
ไกลๆ ก็ขมวดคิ้วด้วยไม่รู้ว่าหลินฟุานคิดจะทาอะไร
ทว่าทันใดนั้นเอง นางก็ถึงกับต้องอึ้งตะลึงค้าง
ทุกสิ่งเบื้องหน้าในสายตาของนางนั้น มันช่างเหลือเชื่อ
จนเกินไป! ราวกับนี่ไม่ใช่ความจริง!!
ตอนที่ 851 : ฮัยยา…หัวใจอาจารย์ของข้า เปราะบางดั่งแก้ว!!
เป็นหลินฟุาน กาลังทาการยกระดับศักยภาพและพรสวรรค์
ของเซวียนเอ๋อและสหายน้อยทั้งหลายของนาง!
อันที่จริงแล้วกล่าวไปแต่ละสกิลของวิชาชีพเทรนเนอร์นี่ เป็น
อะไรที่โคตรจะโกงนัก! เพราะขอแค่มีเวลามากพอหลินฟุาน
สามารถสร้างตัวตนที่มีพลังอานาจมหาศาลได้อย่างไร้จากัด!!
และในขณะที่หลินฟุานนึกขึ้นมาถึงเรื่องนี้ เขาถึงกับต้องตบหัว
ตัวเองดังลั่น!
‘ชิบหายเอ๊ย! วันนั้นสมองพี่ประมุขมันถูกประตูหนีบอยู่รึไง
กัน?! ก่อนจะใช้ ร้อยปีในหนึ่งห้วงคิดทาไมพี่ประมุขไม่ไปเพิ่ม
ศักยภาพของผู้คนบนโลกเสวียนหวงก่อนฟะ!?’
‘ว๊ากกกกกกกกก! ไอบ้าเอ๊ยยย! โคตรพลาด! พลาดอย่างแรง!!
ไม่นึกเลยว่าพี่ประมุขจะมาลืมอะไรง่าวๆแบบนี้ได้! โอย พี่
ประมุขจะหายใจต่อไปในโลกได้ยังไงกัน…’
ตอนนี้หน้าหลินฟุานแลปุวยนัก ในใจรู้สึกเสียดายอย่างหนัก!
แต่สุดท้ายเขาก็ทาได้แค่ช่างหัวมันซะ…มาคิดได้เอาตอนนี้มัน
จะไปทาอะไรได้แล้วล่ะ เขายังจะกล่าวอะไรได้อีก?
“พี่ใหญ่หลินมันเกิดอันใดขึ้นกัน เซวียนเอ๋อรู้สึกราวกับมีประตู
บานหนึ่งในใจกาลังเปิดออก” ตอนนี้เซวียนเอ๋อไม่ใช่เด็กน้อย
ไม่ประสาที่ไม่รู้อะไรอีกต่อไป ต้องขอบคุณจักรพรรดินีสตรี ที่
ทาให้นางค่อนข้างมีความเข้าใจในเส้นทางแห่งการฝึกตนแบบ
นี้
แต่กระนั้นแล้ว สถานการณ์ที่อยู่ๆก็บังเกิดขึ้น ยังทาให้เซวียน
เอ๋อแน่นิ่งไปอย่างงุนงง เพราะอยู่ดีๆนางก็รู้สึกคล้ายประตูบาน
หนึ่งในใจกาลังเปิดอ้ากว้าง และพริบตาต่อมากลิ่นอายพลังอัน
ลึกลับก็หลั่งไหลเข้าสู่ร่างของนาง ความรู้สึกดังกล่าวมันลี้ลับ
ยากอธิบายนัก!!
“นี่มัน…!”
จักรพรรดินีสตรีลอยร่างออกมาด้วยความประหลาดใจเต็ม
ใบหน้า นางไม่อยากจะเชื่อภาพเรื่องราวที่สองตากาลังแลเห็น!
นางพบว่าศักยภาพพรสวรรค์ของเซวียนเอ๋อกาลังยกระดับ
เพิ่มพูนขึ้นอย่างไร้ขอบเขตจากัด! นี่เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล
อย่างแรงสาหรับจักรพรรดินีสตรี!!
เพิ่มพูนระดับศักยภาพพรสวรรค์ของผู้อื่นด้วยความแข็งแกร่ง
ของตัวเอง โดยไร้ซึ่งสมบัติอันใดช่วยเหลือทั้งสิ้น? นี่มันเป็นดั่ง
เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ชัดๆ!!
ทว่าเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ดังกล่าว กลับมาอุบัติขึ้นเบื้องหน้า
ของนาง! นางเองก็ไร้หนทางอื่นใดนอกจากเชื่อมัน!!
“ชู่ววว! อย่าพึ่ง!!”
เมื่อหลินฟุานเห็นจักรพรรดินีสตรีเหินร่างเข้ามาใกล้ เขาก็ใช้
อีกมือมายกนิ้วทาบปากบอกให้นางเงียบ จักรพรรดินีสตรีก็ผงะ
แล้วชะลอร่างลงทันใด ในใจของนางรู้ดีว่าการเพิ่มศักยภาพให้
ผู้อื่นเช่นนี้สมควรเป็นอะไรที่ยากเย็นนัก! และหากลูกศิษย์ของ
นางต้องมาพลาดกับวาสนาอันน่าอัศจรรย์นี้เพราะนางเป็นเหตุ
นางคงไม่อาจอภัยให้ตัวเองได้ชั่วชีวิต…
หลังจากนั้นไม่นานมือของหลินฟุานที่เคลื่อนไหวอย่างแช่มช้าก็
ค่อยๆหยุดลง
“เจ้ากาลังเพิ่มพูนศักยภาพและพรสวรรค์แต่กาเนิดของพวก
เขางั้นหรือ?” จักรพรรดินีสตรีกล่าวถามด้วยความประหลาดใจ
เต็มใบหน้า
“ก็ใช่ ข้าก็แค่เพิ่มไปงั้นๆล่ะ แต่ยังไงมันก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นไม่
น้อย” หลินฟุานหัวเราะออกมาเบาๆ ราวกับพึ่งทาอะไรที่
ธรรมดาสามัญไป
“ท่านอาจารย์ศักยภาพและพรสวรรค์แต่กาเนิดคืออันใดหรือ?”
เซวียนเอ๋องุนงงเล็กน้อยราวกับนางยังไม่อาจฟื้นสติ ทว่าทันใด
นั้นเองนางพลันสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่บังเกิดขึ้นในร่าง
ของนาง ใบหน้าของนางเผยความตื่นตระหนกตกใจไม่น้อย
“อ๊ะ?! ศักยภาพในร่างของข้าเพิ่มพูนขึ้น!!”
“ของข้าก็ด้วย!”
“ข้ารู้สึกว่าด่านพลังบ่มเพาะของข้ากาลังจะทะลวงขอบเขต!
อุปสรรคที่ข้าคิดว่ายากทะลวงผ่าน มาตอนนี้คล้ายกับทะลวง
ได้ง่ายดายนัก!!”
ตอนนี้เหล่าสหายน้อยของเซวียนเอ๋อต่างก็ตะลึงงันไปหมดสิ้น
เรื่องราวทั้งหมดที่พบเจอมันยากจะทาใจเชื่อได้นัก
“พี่ใหญ่หลิน…!” เซวียนเอ๋อมองหลินฟุานด้วยสายตา
ประหลาดใจ
หลินฟุานยิ้มอย่างสงบก่อนจะโบกมือไปมาอย่างไร้เรื่องราว “ก็
ไม่ได้ทาอะไรมากหรอก เจ้ากับสหายน้อยของเจ้านับว่า
ค่อนข้างใช้การได้ดีทีเดียว ข้าก็แค่ยกระดับศักยภาพพรสวรรค์
แตะกาเนิดของพวกเจ้า เพื่อให้พวกเจ้าเดินบนเส้นทางฝึกตน
ต่อไปได้อย่างราบรื่นก็เท่านั้น”
“และเจ้ายังกล่าวว่า แค่เพิ่มไปงั้นๆ? ไม่ได้ทาอะไรมาก?”
จักรพรรดินีสตรีมองหลินฟุานด้วยสายตาฉงน ความสามารถนี้
มันมากพอที่จะทาให้โลกทั้งใบต้องสั่นสะท้าน! หากในบรรดา
ผู้คนของร้อยพันชนเผ่ามีตัวตนที่มีพลังสามารถเช่นนี้สักคน
ไม่ใช่ว่าเผ่าพันธุ์พวกมันจะพุ่งทะยานในภายภาคหน้าหรือไร?
ตอนนี้สีหน้าของจักรพรรดินีสตรีแปรเปลี่ยนไปไม่น้อยเมื่อนาง
ติดอยู่กับความคิดบางประการ… และเมื่อนางสังเกตเห็นว่า
ตอนนี้ศักยภาพและพรสวรรค์ของศิษย์ตัวน้อยทั้งหมดของ
นาง…ได้สูงส่งจนก้าวข้ามนางไปหมดสิ้นแล้ว! นางยังอดไม่ได้ที่
จะบังเกิดความรู้สึกอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อย…!!
เพื่อการเพิ่มพูนศักยภาพและพรสวรรค์แต่กาเนิดแล้ว
จักรพรรดินีสตรีได้ขวนขวายคิดหาวิธีทุกทาง นางเองก็ได้กิน
เม็ดยาและโอสถทิพย์ไปมากมายนับไม่ถ้วน ดังนั้นศักยภาพ
และพรสวรค์แต่กาเนิดของนางถึงได้เพิ่มพูนขึ้นมาจากเดิมอยู่
บ้าง
แต่พอมาเห็นว่าหลินฟุานสามารถเพิ่มพูนศักยภาพและ
พรสวรรค์แต่กาเนิดของลูกศิษย์นางได้ง่ายดายเพียงแค่โบกมือ
ไปมา นางก็อดไม่ได้ที่จะเก็บงาความคิดบางประการเอาไว้…!
หากศักยภาพและพรสวรรค์แต่กาเนิดของนางเพิ่มพูนขึ้น นั่น
หมายถึงพลังฝีมือของนางเองก็จะพบพานกับการก้าวกระโดด
ด้วยเช่นกัน!!
“นี่…” ถึงแม้ว่าใจของจักรพรรดินีสตรีแทบจะถูกความ
ปรารถนาทับตาย อยากจะร่าร้องออกมาดังๆ หากแต่
จักรพรรดินีสตรีเองก็ยังคงมีอัตตาอยู่ไม่น้อย นางจะไปเป็นฝุาย
ริเริ่มกล่าววาจากับอีกฝุายเพื่อขอให้ช่วยยกระดับศักยภาพและ
พรสวรรค์แต่กาเนิดให้นางได้อย่างไร..?
ตอนนี้จักรพรรดินีสตรีก็หันไปมองลูกศิษย์คนดีของนาง หากลูก
ศิษย์ของนางเป็นฝุายกล่าวแทน นางอาจจะมีโอกาสบ้างก็ได้!
จักรพรรดินีสตรีตอนนี้ทาท่าราวกับเด็กน้อยไม่มีผิด นางขยิบ
ตาให้เซวียนเอ๋อ และด้วยการขยิบตาเพียงครั้งเซวียนเอ๋อก็
เข้าใจเจตนาของอาจารย์นางได้กระจ่าง
“พี่ใหญ่ หลินนนนนนนนนนน…!!!” เซวียนเอ๋อโดดไปเกาะแขน
หลินฟุานก่อนที่จะแกว่งไกวไปมาพร้อมเอียงคอกล่าวออกด้วย
น้าเสียงออดอ้อน เมื่อเห็นว่าเซวียนเอ๋อกล้าหาญออดอ้อน
หลินฟุานอย่างใกล้ชิดมากขนาดไหน สหายน้อยทั้งหลายอด
ไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา แม้ตอนนี้ทั้งหมดรู้ดีแล้วว่าผู้อาวุโสคนนี้
เป็นคนใจดีมาก ทว่าต่อหน้าตัวตนเช่นนี้ทั้งหลายยังเต็มไปด้วย
ความเคารพ ยังพยายามรักษามารยาทอันดีเอาไว้ ไม่กล้า
กระทาอย่างที่เซวียนเอ๋อกระทา
“ตัวแสบน้อย อ้อนข้าแบบนี้ เจ้าจะเอาอะไรอีกล่ะหืม?”
หลินฟุานกล่าวถามออกมาพร้อมหัวเราะขบขัน
“พี่ใหญ่หลิน ท่านช่วยเพิ่มศักยภาพและพรสวรรค์แต่กาเนิดให้
อาจารย์ของข้าบ้างสิ” เซวียนเอ๋อกล่าวออกมาด้วยเสียงอ้อน
“โอ้ว?” หลินฟุานยักคิ้วขึ้นมาข้างหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา
มองจักรพรรดินีสตรี ส่วนทางด้านจักรพรรดินีสตรีคล้ายนางจะ
เขินอายรีบหันหน้าหลบไปด้านข้างราวกับพึ่งนึกอะไรบางสิ่ง
ออก
“เซวียนเอ๋อเจ้าอย่าได้กล่าวเหลวไหลแล้ว ศักยภาพและ
พรสวรรค์แต่กาเนิดของอาจารย์ไม่จาเป็นต้องเพิ่มพูนอะไร
แล้ว”
สิ่งนี้นับเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งเรียกว่า ‘แสร้งปล่อยเพื่อจับ’
จักรพรรดินีสตรีรู้สึกว่าการกระทาตัวเฉยๆกับเรื่องนี้จะเป็น
ประโยชน์มากกว่า หากนางกระทาตัวราวกับกาลังต้องการ
เพิ่มพูนศักยภาพหลังจากที่ลูกศิษย์นางเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา นาง
รู้สึกว่ามันน่าละอายเกินไป!!
“แต่ท่านอาจารย์…ไม่ใช่ว่าท่านมักจะรวบรวมโอสถทิพย์และก็
วัตถุดิบมากมายเพื่อทาการหลอมกลั่นเม็ดยาเป็นจานวน
มหาศาลหรอกหรือไร? และทั้งหมดก็เพื่อยกระดับศักยภาพ
พรสวรรค์แต่กาเนิดของท่าน! แต่ทว่าทั้งหมดนั่นล้วนไร้
ประโยชน์ทั้งสิ้น! ตอนนี้พี่ใหญ่หลินสามารถเพิ่มพูนศักยภาพ
พรสวรรค์แต่กาเนิดให้ผู้อื่นได้ง่ายดาย จักประเสริฐถึงเพียงใด
กันเล่าหากท่านได้รับมันด้วย!” เซวียนเอ๋อยังคงกล่าวโน้มน้าว
ออกมา
“อะ แฮ่ม!”
“เซวียนเอ๋อ อาจารย์เจ้ามิจาเป็นต้องได้รับเรื่องนี้หรอก…”
จักรพรรดินีสตรีกระแอมเบาๆ ค่อยกล่าวตอบ
นางกาลังเฝูารอประโยคนั้นอยู่…ทุกเรื่องราวสมควรประเสริฐ
ตราบใดที่หลินฟุานกล่าวคาว่า “มาสิเดี๋ยวข้าจะเพิ่มให้”
แล้วจักรพรรดินีสตรีก็จะเห็นด้วย ราวกับนางอยู่ในจุดที่ลองดูก็
ได้…! นี่จะทาให้ดูแล้วไม่เหมือนเป็นนางที่กระหายและต้องการ
ขณะเดียวกันกลับเป็นนางที่ถูกผู้คนคะยั้นคะยอให้ได้รับ!!
หลินฟุานหรี่ตาเล็กน้อยเฝูามองท่าทีระหว่างอาจารย์กับศิษย์
ในใจยังเริ่มคิดไป ‘ไม่ไหวๆ นังบ้าที่น่าถูกถล่มนี่ไม่ไหวจริงๆ
ถ้าคิดจะเล่นละครต่อหน้าพี่ประมุข นางก็สมควรละเล่นให้มัน
สมจริงกว่านี้หน่อย!!’
“โอ้ เซวียนเอ๋อ! ในเมื่ออาจารย์เจ้าไม่อยากได้ ถ้างั้นก็ช่างมัน
เถอะ! พวกเราอย่าไปบังคับให้นางต้องฝืนใจจนรู้สึกลาบากใจ
เลยดีกว่า ว่าไหม?”
“แถมการยกระดับศักยภาพพรสวรรค์แต่กาเนิดของคนๆหนึ่ง
ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆนา มันค่อนข้างเป็นอะไรที่ใหญ่หลวงเลยล่ะ!
เหตุผลที่ข้าเพิ่มพูนศักยภาพและพรสวรรค์ให้พวกเจ้า ก็เพราะ
พวกเจ้าทั้งหมดยัง เยาว์ และยังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงที่จะ
ขับเคลื่อนอนาคตในวันหน้า ส่วนอาจารย์ของพวกเจ้านั้น…
ตอนนี้นางไม่ได้เยาว์วัยแล้ว จึงไม่ได้สาคัญสักเท่าไหร่ว่าพวก
เราจะเพิ่มหรือไม่เพิ่มศักยภาพของนาง” หลินฟุานกล่าวอธิ
บาย
แน่นอนว่านี่คือการแก้แค้นนาง สาหรับทุกเรื่องราวที่นาง
กระทาบนโลกเสวียนหวง! นางทาให้ศิษย์พี่ที่ใจดีของเขาต้อง
ตกตายอย่างอนาถ!!
“ฮะ?”
“อ๊ะ?”
ทั้งจักรพรรดินีสตรีและเซวียนเอ๋อก็อึ้งตะลึงไปทั้งคู่
จักรพรรดินีสตรียังรู้สึกว่าใบหน้าของนางเริ่มแสบร้อนขึ้นมา
ดวงตาอันเย่อหยิ่งของนางเบิกกว้าง นางยังหันหลังกลับและ
จากไปทันใด ราวกับนางพึ่งได้รับความเจ็บปวดอันรุนแรงแสน
สาหัส
เขาหมายความว่าอันใด ‘นางไม่ได้เยาว์วัยแล้ว’ มารดาผู้นี้ยัง
พึ่งมีอายุเท่าไรกัน!?!?!?!?!?!?
“อาจารย์!!” เซวียนเอ๋อตะโกนไล่หลังอาจารย์ของนางไป
“ไม่ต้องตามมา อาจารย์มีเรื่องบางประการต้องไปสะสาง! เจ้า
อยู่เล่นสนุกกับเพื่อนของเจ้าไปก่อนเถอะ!!” เสียงของ
จักรพรรดินีสตรีต่างออกไปเล็กน้อย ราวกับนางพึ่งได้รับความ
อัดอั้นตันใจอันล้นพ้น
“ฮัยยา! พี่ใหญ่หลินอ่า! ท่านกล่าวออกไปเช่นนั้นได้อย่างไรกัน!
ใจท่านอาจารย์เปราะบางดั่งแก้ว ถูกทาร้ายให้เจ็บปวดได้
ง่ายดายยิ่ง” เซวียนเอ๋อกระทืบเท้าออกอย่างขุ่นขึ้ง
“ฮะ?!” หลินฟุานอึ้ง เปราะบางดั่งแก้ว? เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง?
อามหิตเผาคนให้ตายตกทั้งเป็นเนี่ยนะ?! (ช่วงตอนที่ 84)
(53380)
“พี่ใหญ่หลิน ข้าจักเล่าเรื่องนี้ให้ท่านฟัง แต่ท่านต้องเหยียบ
เอาไว้เป็นความลับอันยิ่งใหญ่เลยนะ!” เซวียนเอ๋อพูดออกมา
ก่อนจะชะเง้อเอามือไปปูองหูหลินฟุานแล้วกล่าวออกมาเบาๆ
“จิตใจของท่านอาจารย์ข้าช่างเปราะบาง อ่อนไหวหาได้ต่างใด
กับแก้วผลึกไม่! ถึงแม้ว่าท่านอาจารย์ของข้ามักจะเผยท่าทีแข็ง
กร้าวออกมาเสมอ หากแต่ใจของท่านอาจารย์ช่างอ่อนไหวยิ่ง
นัก!!”
“เฮ่ตัวแสบน้อย นี่เจ้าพูดอะไรของเจ้า อย่างเจ้าเนี่ยไปรู้จักคา
อ่อนไหวอะไรนั่นด้วยรึไง หา?” หลินฟุานหัวเราะออกมาเบาๆ
“ฮึ่ม! พี่ใหญ่หลินอ่ะ! ข้าต้องรู้สิว่ามันคืออันใด!” เซวียนเอ๋
อเม้มปากกล่าวออกมาด้วยท่าทางฮึดฮัด
“เอ๋า…แล้วแบบนี้ ใช่พี่ใหญ่หลินต้องตามไปง้ออาจารย์เจ้ารึ
เปล่า?” หลินฟุานกล่าวถามสืบต่อ พร้อมหัวเราะเบาๆ
“นี่ยังต้องกล่าวอีกหรือ!? พี่ใหญ่หลินอ่ะ! ทั้งหมดล้วนเป็น
เพราะท่านนะ! ท่านมิรู้หรือไร?!” เซวียนเอ๋อตอบกลับ
“ก็ว่าอยู่…”
ตอนที่ 852 : ใครสักคนกาลังทาการสังเวย
ร่างงามหมดจดร่างหนึ่งกาลังยืนนิ่งเงียบงันอยู่ข้างริมลาธาร
สายน้อยไหลเอื่อย…
วาจาของหลินฟ่านนั้นสร้างแรงกระเพื่อมในใจของนางหนัก
หนานัก ไม่คิดเลยว่าเขาจะบอกกล่าวออกมาว่านางนั้นหาได้
เยาว์วัยอีกต่อไปแล้ว! อนิจจาหนึ่งคือสิ่งที่จักรพรรดินีสตรี
ต้องการมากที่สุด! และอีกหนึ่งยังเป็นอะไรที่จักรพรรดินีสตรี
ยากจะยอมรับมันได้!!
“อะแฮ่มๆ”
หลินฟ่านกระแอมเบาๆมาแต่ไกล เขาค่อยๆเดินตรงไปหา
จักรพรรดินีสตรีอย่างเชื่องช้า “เฮ่ จักรพรรดินีสตรีมันก็แค่เรื่อง
เข้าใจผิดเท่านั้นเอง…ก่อนหน้านี้จริงๆแล้วข้า”
“ราชันหลินท่านมิจาเป็นต้องกล่าวคาใดแล้ว…ข้าเข้าใจทุกสิ่งดี
ตอนนี้ข้าเพียงอยากอยู่คนเดียวเงียบๆเท่านั้น” จักรพรรดินี
สตรีกล่าวตอบออกมาอย่างเย็นชา อย่างไรก็ตามในน้าเสียง
ของนางนั้นมีความน้อยเนื้อต่าใจและเป็นอะไรที่ใครได้ฟังก็
เข้าใจได้ทันทีหากผู้ฟังไม่ได้ปัญญาอ่อน…ตอนนี้นางกาลังงอน
ทั้งน้อยใจอย่างแรง! แถมยังโกรธด้วย!!
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มันก็ช่วยไม่ได้อยู่บ้าง ถึงแม้ว่าพลังฝีมือ
ความแข็งแกร่งของจักรพรรดินีสตรีจะสูงล้าเทียมฟ้า หากแต่
สุดท้ายแล้วนางก็ยังเป็นเพียงสตรีนางหนึ่ง สตรีย่อมชมชอบให้
ผู้คนกล่าวชมสรรเสริญเป็นที่สุด ทว่าวาจาที่หลินฟ่านกล่าวอ
อกมากลับเป็นการดูแคลนนางอย่างแรง!
แล้วจักรพรรดินีสตรีควรรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนั้นเล่า? ยิ่งไปกว่า
นั้นเรื่องยังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาลูกศิษย์ของนาง นางไม่รู้จะเอา
หน้าตาและศักดิ์ศรีของนางไปไว้ไหนแล้ว!!
เมื่อหลินฟ่านเห็นอาการของอีกฝ่าย เขาก็ส่ายหัวไปมาอย่าง
ช่วยไม่ได้ เขาก็แค่คิดระบายความขุ่นเคืองที่มีต่อนางในอดีต
เท่านั้น และเนื่องจากเขาเลือกที่จะไม่ถล่มนางซ้าแล้วซ้าเล่า
ด้วยกระบวนท่าพิชิตสตรีที่ร่าเรียนมาอยางแตกฉาน เขาก็เลย
คิดจะระบายความคับแค้นในอกด้วยวิธีการอื่น แต่ใครจะไปคิด
เล่าว่าจักรพรรดินีสตรีนี่ปลูกฝังบ่มเพาะมาแต่พลังฝีมือเท่านั้น
หาได้เคี่ยวกราหล่อหลอมจิตใจมาด้วยไม่! จิตใจของนางยัง
เปราะบางดั่งแก้วกระจก!!
“เงียบอยู่คนเดียวลาพัง มันยังร้ายแรงสู้มีกันสองคนแล้วยัง
เงียบไม่ได้หรอกหน่า…” โดยไม่แยแสว่าจักรพรรดินีสตรีจะ
ยินยอมหรือไม่ หลินฟ่านก็เดินยิ้มมาหยุดยืนข้างๆนาง
หลังจากนั้นเขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆดังฟืด “ว้าวว! อากาศ
ที่นี่สดชื่นดีจัง! ต่อไปถ้าชนเผ่าโบราณถูกโค่น สุดท้ายโลกหล้าก็
คงหวนคืนสูความสงบสุขแบบนี้ได้ซะที ผู้คนของร้อยพันชน
เผ่าทั้งหลายก็จะได้เป็นอิสระ ไม่ต้องใช้ชีวิตที่น่ากลัวอะไรนี่อีก
ต่อไป…”
จักรพรรดินีสตรีเหลือบมองหลินฟ่านค่อยกล่าว “นี่เจ้าจักไม่ไร้
ยางอายไปหน่อยหรือไง?”
“ไร้ยางอาย? งั้นให้ข้าถามบ้าง ว่าจักรพรรดินีสตรีอย่างเจ้าเนี่ย
มันจะไม่เป็นอีงูพิษเกินไปหน่อยรึไงหา?” หลินฟ่านกล่าวแย้ง
ออกมา
“ข้าเนี่ยน่ะหรือ อีงูพิษ!?” ทันทีที่จักรพรรดินีสตรีได้ยิน หน้า
ของนางก็แทบจะระเบิดโทสะออกมา
“ก็ใช่น่ะสิ! ย้อนกลับไปตอนที่ยังอยู่บนโลกเสวียนหวง
ความคิดและการกระทาของเจ้ายังไม่เรียกอีงูพิษได้เหรอ ลอบ
กัดประมุขนิกายปีศาจศักดิสิทธิ์แบบนั้น แถมไอตอนที่เจ้าคิดจะ
ทาลายนิกายข้า เจ้าจาได้ไหมล่ะ ว่าพูดอะไรไว้บ้าง?” หลินฟ่า
นกล่าวถามค่อนแคะออกมา และราวกับเขาจดจาบางสิ่งได้เขา
จึงกล่าวถามออกมาสืบต่อ “ก็นะ ข้ายังจดจาได้ดีเหตุการณ์ทุก
อย่าง วาจาทุกถ้อยคาของเจ้า…และข้ายังอยากจะถามเจ้านัก!
ว่าตอนนั้นเพราะอะไรเจ้าถึงได้ดิ้นรนสู้กันเพื่อหยาดโลหิตเทวะ
มารเทพเจ้าอะไรนั่นขนาดนั้น?”
“เรื่องนั้นมันเนิ่นนานเกินไปจนข้าลืมเลือนสิ้นแล้ว หากเจ้าคิด
ว่าที่นีวิวทิวทัศน์ดี เจ้าก็ยืนเพลิดเพลินของเจ้าไปเถอะ”
จักรพรรดินีสตรีคร้านจะกล่าวคาใดสืบไป นางจึงหันหลังและ
คิดจากไป
นางไม่คิดไม่ฝันเลยว่ามดปลวกตัวกระจ้อยในสายตานางวันนั้น
เด็กหนุ่มที่แทบไม่อาจรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้ กลับเติบโตขึ้นมา
ได้ถึงเพียงนี้
ถึงขั้นที่แม้แต่นางก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายสืบไป…
“เหอะ! ถ้างั้นก็ลืมมันไปซะ เรื่องที่มันแล้วก็ให้มันแล้วกันไป
แต่ก็ยังน่าเสียดายไม่น้อยที่วันเวลาดีๆ เหล่านั้นได้จากไปหมด
สิ้นแล้ว” หลินฟ่านกล่าวออกมาด้วยอาลัย
เพียงชั่วพริบตาวันเวลาก็ผันผ่านไปหลายปี ถึงแม้ว่ายังมี
หลายๆสิ่งที่ยังคงเดิม หากแต่ผู้คนกลับเปลี่ยนไปแล้ว…
“ศักยภาพและพรสวรรค์แต่กาเนิดของเจ้าไม่ใช่อะไรที่เม็ดยา
หรือสมุนไพรเลิศล้าอะไรจะช่วยยกระดับได้สืบไป เว้นเสียแต่จะ
มีปาฏิหารยนิ์จากสวรรค์เท่านั้น ไม่อย่างงั้นอย่าได้หวังว่า
ศักยภาพของเจ้าจะเพิ่มพูนไปอีกได้”
“ข้าย่อมรู้ดี” จักรพรรดินีสตรีหยุดค่อยพยักหน้า มันก็เป็นดั่งที่
หลินฟ่านกล่าวเอาไว้ นางไม่อาจเพิ่มศักยภาพและพรสวรรค์
แต่กาเนิดของนางได้อีกแล้ว หรือกล่าวให้ชัดว่าตัวนางได้มาถึง
ขีดจากัดแล้วก็ว่าได้
หากนางยังคิดจะเพิ่มพูนศักยภาพและพรสวรรค์แต่กาเนิดอีก
ครั้ง นางทาได้เพียงพึ่งพาวาสนาปาฏิหาริย์และความบังเอิญ
จากโชคชะตาครั้งใหญ่เท่านั้น
ทว่าเรื่องพรรค์นั้นมันยังจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆหรือไร?
“เอาล่ะ มาให้ข้ายกระดับศักยภาพและพรสวรรค์แต่กาเนิดของ
เจ้าเถอะ ใครจะไปรู้ว่าไอโลกไร้จากัดเวรนั่นมันจะเปิดออกตอน
ไหน คงจะดีถ้าพลังความแข็งแกร่งของมนุษย์อย่างเจ้าจะ
เพิ่มพูนขึ้นมา” หลินฟ่านยกมือขึ้นก่อนที่จะเอื้อมไปเหนือศีรษะ
จักรพรรดินีสตรี
“เจ้าคิดทาอันใดของเจ้า?” จักรพรรดินีสตรีเอี้ยวหัวหลบมือ
ของหลินฟ่าน ก่อนจะถามออกมาด้วยความตกใจ
“อ้าว นี่ตกลงเจ้าอยากจะเพิ่มศักยภาพพรสวรรค์แต่กาเนิด
ของเจ้าเปล่าเนี่ยหา?! จะหลบทาเพื่อ?” หลินฟ่านกล่าวตอบไป
คลายสงสัย “ถ้าข้าคิดจะเพิ่มศักยภาพและพรสวรรค์แต่กาเนิด
ให้ใคร ข้าจาเป็นต้องสัมผัสหัวของอีกฝ่าย ทาไม? เจ้ามีปัญหา
กับเรื่องนี้รึไง?”
จักรพรรดินีสตรีจับจ้องมองไปยังหลินฟ่าน ใบหน้าที่เย็นชาของ
นางเผยให้เห็นว่านางมีปัญหาอย่างแรง!
นางคือจักรพรรดินีสตรีตัวตนที่ได้รับความเคารพจากผู้คน
มากมาย! พอคิดเรื่องที่จะมีคนมาลูบหัวนางตอนนี้แล้ว! เรื่อง
นี้…!
แต่จะอย่างไรเสียคาวมปรารถนาที่จะเพิ่มศักยภาพและ
พรสวรรค์แต่กาเนิดของจักรพรรดินีสตรีก็ชนะทุกสิ่ง สุดท้าย
นางก็ได้แต่พยักหน้าเห็นด้วย
หลินฟ่านหัวเราะเบาๆก่อนที่จะวางมือลงบนศีรษะจักรพรรดินี
สตรี ความรู้สึกค่อนข้างคล้ายคลึงกับการวางมือลงไปบนหัว
เด็กดื้อนัก…
‘ยีเล่นสักกะหน่อยแล้วกัน!’
‘ดีๆ เชื่อฟังดีมาก นี่แน่ะๆ!!’
“เจ้ายังไม่เริ่มอีก!” จักรพรรดินีสตรีรู้สึกกระดากใจเล็กน้อยเมื่อ
ถูกสัมผัสอะไรเช่นนี้ มันนานมากแล้วจากวันที่นางถูกใครสักคน
ลูบศีรษะเช่นนี้ ย้อนกลับไปในวันวานเนิ่นนานมาแล้ว วันที่
จักรพรรดินีสตรียังไม่ได้เป็นจักรพรรดินีสตรี และเป็นเพียงเด็ก
สาวตัวน้อยๆ นางเองก็เป็นเหมือนเด็กสาวตัวน้อยธรรมดาที่
ต้องการความรักความอบอุ่นจากบิดามารดา…
“ข้ากาลังเริ่มกระบวนการแล้ว อย่าพูดล่ะ” หลินฟ่านกล่าวอ
อกมาอย่างไม่แยแส หากแต่ในใจสนุกสนานนัก!
ตอนนี้ทั้งคู่ยืนนิ่งอยู่ริมน้า โลกหล้าคล้ายหลงเหลือแต่เพียง
สาเนียงสายธาราไหลเอื่อยแผ่วเบา ฝ่ามือหลินฟ่านยังคงจับอยู่
บนศีรษะของจักรพรรดินีสตรี ปลายนิ้วของเขาเคาะเบาๆ
ก่อนที่จะใช้ฝ่ามือลูบไปมาอย่างอ่อนโยน ราวกับกาลังให้
กาลังใจเด็กน้อยน่ารักที่กระทาความดีมา
จักรพรรดินีสตรีพลันก้มหน้าลงมาทันใด ภายในแก้มสีขาว
กระจ่างราวหิมะของนาง หากใครสังเกตให้ดีก็สามารถบอกได้
ว่าตอนนี้มันเริ่มขึ้นสีแดงขึ้นมาระเรื่อ…
นางถึงกับต้องแผ่ซ่านสานึกสติออกไปโดยรอบเพื่อยืนยันว่าไร้
ซึ่งผู้ใดอยู่ในอาณาบริเวณรอบๆ! จากนั้นนางค่อยระบายลม
หายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะหากนางถูกผู้ใดเห็นว่านางตก
อยู่ในสภาพแบบนี้ ต่อไปจะให้นางเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน?!
“นี่ ยังไม่เสร็จอีกหรือ?” ตอนนี้จักรพรรดินีสตรีรู้สึกแปลกๆ
เล็กน้อย เป็นความรู้สึกที่นางยากจะอธิบายได้
“ใกล้แล้วล่ะ”
หลินฟ่านหัวเราะออกมาเบาๆ ในเมื่อเวลาเล่นหมดลงก็ช่วย
ไม่ได้ที่จะต้องลงมือสักที สองมือที่คอยโอบอุ้มของวิชาชีพ
เทรนเนอร์สาแดงอิทธิฤทธิ์ทันใด!
วู้มมมมม!!!
ศักยภาพของจักรพรรดินีสตรีเองก็ยังไม่ได้หมดสิ้นไปอย่าง
สมบูรณ์ และทันใดนั้นเองสีหน้าของจักรพรรดินีสตรีพลัน
แปรเปลี่ยนไป นางสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางประการ
ที่กาลังอุบัติขึ้นในร่างกายของนาง ภายในโลกภายในกายของ
นางคล้ายปรากฏประตูปิดตายบานหนึ่ง กาลังถูก
กระแทกกระทั้นอย่างแรง!!
เปรี๊ยงงง!!
ประตูดังกล่าวเริ่มเปล่งแสงออกมาเรืองรอง พลังอานาจลึกลับ
ปานจะไร้ผู้ต้านเริ่มหลั่งไหลออกมาจากภายในบานประตู
ดังกล่าว!
มันกาลังเปิด! ใครจะไปคิดฝันว่ายามนี้มันกาลังจะเปิดออก
แล้ว!!
หน้าของจักรพรรดินีสตรีแปรเปลี่ยนไปทันใด! นี่คือทวารพลัง
ด่านสุดท้ายของนาง! อนิจจาก่อนหน้าไม่ว่านางจะทุ่มเทมาก
แค่ไหนและพยายามสักเพียงใด ประตูบานนี้ก็ไม่แม้แต่จะ
สั่นคลอน!!
ทว่ายามนี้นางไม่คิดไม่ฝันเลยว่ามันกาลังสะท้าน กระทั่งหลวม
คลาย! นี่คือความสุขที่นางยากจะอธิบายให้ผู้ใดเข้าใจ!!
เปรี๊ยงงงงง!!!
และในขณะที่จักรพรรดินีสตรีกาลังเฝ้าดูมวารด่านสุดท้าย
ค่อยๆถูกทะลวงด้วยความสุข ในที่สุดมันก็เปิดอ้าออกกว้าง!!
พลังงานลึกลับที่ได้สั่งสมมาเป็นเวลานานตอนนี้ถึงกับพุ่งทะลัก
ออกมาแล่นพล่านไปทั่วร่างกายของนาง แสงเป็นสายพลัน
พวยพุ่งออกมาจากศีรษะของจักรพรรดินีสตรี ราวกับจะส่อง
สว่างไปทั้งโลกหล้า!!
“ศักยภาพและพรสวรรค์แต่กาเนิดของข้ามันได้รับการยกระดับ
ขึ้นแล้วจริงๆ!” จักรพรรดินีสตรีอุทานออกมาด้วยความเบิก
บานใจ ใบหน้าที่งดงามไร้ตาหนิของนางก็เริ่มเปล่งปลั่งออกมา
ด้วยประกายยินดีไร้สิ้นสุด
“ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร”
หลินฟ่านหดมือกลับมาก่อนที่จะนาเอาไปไพร่หลังไว้ ค่อย
กล่าวออกมาอย่างสงบ
เมื่อสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายในร่าง
จักรพรรดินีสตรีก็หันไปหาหลินฟ่าน “ขอบคุณเจ้า”
“ฮะๆๆ” หลินฟ่านหัวเราะออกมาเบาๆ “เรื่องเล็กน้อยหน่า”
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเรื่องเล็กน้อยสาหรับหลินฟ่าน แต่เป็นเรื่องอัน
ใหญ่หลวงสาหรับชีวิตจักรพรรดินีสตรี!
ในขณะที่หลินฟ่านคล้ายจะกล่าวใดสืบต่อออกมานั้นเอง สีหน้า
ของเขาพลันแปรเปลี่ยนไปกะทันหัน ท่าทางยังเริ่มจริงจังขึ้นมา
อย่างน่ากลัว!
“เกิดอันใดขึ้นหรือ?” เมื่อเห็นท่าทางหลินฟ่านที่อยู่ๆก็เคร่ง
ขรึมขึ้นมา ทั้งหันมองออกไปยังขอบฟ้าทิศทางหนึ่ง นางอด
ไม่ได้ที่จะรู้สึกตึงเครียดขึ้นมา คล้ายมีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กาลังจะ
เกิดขึ้น
ตอนนี้เองแทนบูชายัญเซียนโบราณที่ลอยล่องอยู่ด้านในโลก
ภายในของเขากาลังสั่นสะท้านอย่างแรง (53380)
มีคนกาลังเซ่นสังเวยบางสิ่ง!
ภายในแท่นบูชายัญเซียนโบราณนั้น ปรากฏอักขระบาง
ประหลาดกาลังหมุนวนไปรอบๆ
“ข้าขอถวายร่างกายของข้า เพื่อแลกกับความปลอดภัยของ
นิกายเมฆา!!”
ตอนนี้พลังแห่งการสังเวยแข็งแกร่งนัก มันเป็นตัวตนที่ทรงพลัง
กาลังจะเซ่นสังเวยตัวเอง และคงมีแต่เพียงศัตรูที่ทรงพลังเหนือ
ธรรมดาเท่านั้น ถึงสามารถบีบคั้นตัวตนระดับนี้ให้จนตรอกได้
หลินฟ่านส่งสานึกสติดาลึกลงไปในแท่นบูชายัญเซียนโบราณ
และมองเห็นดินแดนอันไกลห่างผ่านมัน ตอนนี้ประมุขของ
นิกายเมฆากาลังเผาผลาญทุกสิ่งที่มี กระทั่งยังถวายร่างกาย
เพื่อแลกกับอนาคตและความอยู่รอดของนิกายเมฆา!
“ไม่มีอะไรหรอก แต่ข้าคงต้องขอตัวไปก่อน”
หลินฟ่านคร้านต่อความยาวสาวความยืดใดกับจักรพรรดินีสตรี
หลังจากที่กล่าวจบร่างของเขาก็วูบหายไปทันใด ดิ่งตรงทะลวง
ช่องว่างแห่งความว่างเปล่าไปยังนิกายเมฆาด้วยคามเร็ว
สูงสุด!!
ตอนที่ 853 : กระบี่เดียว!
ภาพงามพิลาศล้ําและบรรยากาศสุขสงบปานแดนสรวงของ
นิกายเมฆา หาได้หลงเหลืออยู่อีกสืบไป บัดนี้กวาดตามองไป
เห็นแต่เพียงเศษซากปรักหักพัง ทุ่งหญ้าที่เคยขจีกลับกลายเป็น
ดินทรายรกร้างแห้งแล้ง ผืนฟูายังเข้มจนแทบจะเป็นสีแดง
บนโลกเซียนโบราณใบนี้ นิกายเมฆาจัดได้ว่าเป็นนิกายใหญ่
นิกายหนึ่ง ศิษย์สาวกในนิกายมีผู้คนจากร้อยพันชนเผ่ารวมตัว
กันอยู่มากมาย
กระทั่งตัวประมุขนิกายก็มีด่านพลังฝึกตนมิใช่ชั่ว บรรลุถึงเทพ
สวรรค์อมตะ 8 ชั้นฟูา อันน่าเกรงขาม! ไม่เพียงเท่านั้นยัง
กระทั่งสามารถหักผ่านด่านพลังสําคัญทะลวงไปยัง เทพสวรรค์
อมตะ ชั้นฟูาที่ 9 สลาย 8 สู่เวิ้งว้างได้สําเร็จเมื่อไม่นานมานี้!
เหล่าอาวุโสทั้งหลายที่ดูแลควบคุมนิกายก็มิใช่ชนชั้นอันต่ํา
ทรามแต่อย่างไร ต่างมีพลังปานเทพยาดาในสายตาศิษย์
ทั้งหลาย พลังรบทั้งหมดนับรวมกันยังน่าพรั่นพรึงนัก หากทว่า
แม้จะเป็นเช่นนั้น…นิกายยังต้องเผชิญหน้ากับหายนะภัยพิบัติ
ใกล้ถูกฆ่าล้างจนสิ้นอย่างวันนี้…
ด้วยการโหมกระหน่ําโจมตีไม่หยุดหย่อนเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน
ม่านพลังกําบังปกปักษ์นิกายเมฆาถูกทําลายลงในที่สุด…
ภายในช่องว่าง…
ศิษย์สาวกของนิกายเมฆากําลังจับจ้องไปยังกลุ่มร่างสีดําที่ลอย
ล่องออกไปไกลตา ดวยใบหน้าเดือดดาลเปี่ยมโทสะ ทั้งหมด
ล้วนทุ่มเทพลังจ่ายส่งไปยังม่านพลังจนหมดสิ้นหากแต่ยังแพ้
พ่าย!
“จึกๆๆ ประมุขอวิ๋น…อาศัยการซ่อนตัวอยู่ในมิติเอกเทศแห่งนี้
รวมถึงการคงม่านพลังแข็งแกร่งนี่ พวกเจ้าคงคิดว่ามันไร้เทียม
ทานแล้วสินะ? อนิจจา ภายใต้พลังอํานาจของนาวาเทพฉลาม
ยักษ์ประจัญบานของเผ่าพันธุ์ข้า มิว่าม่านพลังอันใดล้วนแหลก
สลายดั่งแก้วกระจก!!”
เรือรบลอยฟูาลํามหึมาทอดยาวตระหง่านออกไปนับแสนๆลี้!
การจะควบคุมนาวาลําเขื่องนี้ให้ลอยล่องอยู่ได้จําต้องมีตัวตน
ด่านพลังเทพสวรรค์อมตะ 8 ชั้นฟูา จํานวนไม่ต่ํากว่า 30 คน
จ่ายพลังบังคับเอาไว้! ถึงจะสามารถรักษาการทรงตัวและ
อานุภาพรบพุ่งของนาวาประจัญบานนี่ไว้ได้!!
บนนาวาเทพฉลามยักษ์ประจัญบานยังมีสิ่งมีชีวิตที่มีแขนขา
คล้ายมนุษย์หากแต่มีศีรษะเป็นฉลาม ยืนตระหง่านแผ่ภาวะดุ
ร้ายออกมาสะกะข่มสรรพชีวิต นี่คือ 1 ใน 10 เผ่าพันธุ์สัตว์
โบราณของโลกเซียนโบราณใบนี้ ฉลามยักษ์!
“มิคิดเลยว่าชนเผ่าฉลามยักษ์จักแปรพักตร์ไปเข้ากับชนเผ่า
โบราณแล้วเช่นนี้…” ประมุขอวิ๋นมองทะลุความว่างเปล่าด้วย
สายตาเย็นชา
“นกดีเลือกไม้งามทํารัง คนฉลาดก็ย่อมรู้จักปรับตัวให้เข้ากับ
สถานการณ์…วันนี้วาสนาของนิกายเมฆาถึงกาลสิ้นสุดลงแล้ว!
เป็นพวกเจ้าโง่เขลาเลือกขุดหลุมฝังศพตัวเองด้วยการต่อต้าน
ชนเผ่าโบราณ! เช่นนั้นสิ่งเดียวที่รอคอยพวกเจ้าอยู่ก็คือชะตา
แตกดับ! ทั้งหมดจงฟัง ด้วยบัญชาแห่งเผ่าพันธุ์โบราณ ไม่ว่า
หน้าไหนในนิกายเมฆาล้วนฆ่าให้สิ้น!!”
ชาจิ่งหวัง…มันคือ 1 ใน 12 ตัวตนระดับเทพเจ้าของชนเผ่า
ฉลามยักษ์ พลังความแข็งแกร่งของมันมหาศาลนัก ครั้งนี้มัน
รับบัญชาชนเผ่าโบราณ ออกมาทําหน้าที่กวาดล้างนิกายเมฆา
อย่างถอนรากถอนโคน!!
“พวกเจ้าล้วนแล้วแต่เป็นตัวสารเลว…กล้าหักหลังนิกายเมฆา
งั้นเหรอ!?” เมิ่งเหิงเทียนจับจ้องไปยังร่างบางร่างที่ยืนอยู่บน
เรือรบด้วยสายตาเคียดแค้น
มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะมีผู้อาวุโสร่วมนิกายคิดคดทรยศ
เปิดเผยสถานที่ตั้งของนิกายเมฆาออกไปเช่นนี้…นี่ทําให้ชนเผ่า
ฉลามยักษ์เคลื่อนทัพฝุาแนวปูองกันทั้งหลายของนิกายเมฆามา
ได้อย่างง่ายดาย!!
มิติเอกเทศแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยพลังอํานาจของบรรพบุรุษผู้
ก่อตั้ง พลังอํานาจในการปูองกันของมันมากพอที่จะรับมือชน
เผ่าโบราณทั่วไป อนิจจาภายใต้พลังอํานาจของนาวาเทพ
ฉลามยักษ์ประจัญบาน ม่านพลังปูองกันทั้งหลายล้วนพังทลาย
ลงอย่างไร้หนทางต่อต้านอะไร…
เหล่าอาวุโสที่ทรยศหักหลังพวกพ้องปั้นหน้าไม่ยี่หระกล่าวออก
ด้วยเสียงสบายๆ “เมิ่งเหิงเทียน หนทางรอดสายเดียวคือเลือก
ข้างชนเผ่าโบราณเสีย! หากเจ้ายอมแพ้และสวามิภักดิ์ต่อชน
เผ่าโบราณบางทีพวกเราอาจรักษาชีวิตของเจ้าไว้ได้! หาไม่
แล้วหนทางสายเดียวที่หลงเหลืออยู่ให้พวกเจ้าเดิน…คือตาย!!”
“สวามิภักดิ์บัดซบอันใด เหลวไหลมารดาเจ้า! ต่อให้บิดาต้อง
ตายตก ก็มิมีวันประพฤตตัวเป็นตัวอุบาทว์ไร้กระดูกสันหลัง
ขลาดเขลารักตัวกลัวตายเช่นพวกเจ้า!” เมิ่งเหิงเทียนคําราม
เสียงสนั่น
ส่วนทางด้านศิษย์สาวกของนิกายเมฆาทั้งหลายนั้น เมื่อได้
เหม่อมองภาพสถานการณ์เบื้องหน้าใจของพวกมันก็อดไม่ได้ที่
จะเต้นระส่ําดังโครมคราม ความกลัวเอ่อล้นใจพวกมันนัก!
เพราะภายในช่องว่างเบื้องหน้า นาวาเทพฉลามยักษ์
ประจัญบานของชนเผ่ามหามังกรแผ่ซ่านแรงกดดันอันหนัก
หน่วงดังแผ่นฟูากดทับมาไม่คลาย…!!
ในฐานะ 1 ใน 10 สัตว์โบราณ พลังความแข็งแกร่งของพวก
มันช่างเย้ยฟูาท้าดินเหลือเกิน! ไม่ใช่อะไรที่ศิษย์ธรรมดาๆอย่าง
พวกมันจะทําอะไรได้!!
“เหอะ!!”
ทันใดนั้นเสียงสบถคํารามพลันดังกระหึ่ม ชาจิ่งหวังที่ถือคฑา
เทพเจ้าสมุทรในมือพลันทุบลงพื้นด้วยความเกรี้ยวกราด ทันใด
นั้นเองประหนึ่งโลกหล้าสั่นสะท้าน ปรากฏคลื่นยักษ์สูงท่วมฟูา
โหมกระหน่ําเข้ามาราวกับจะปกคลุมโลกหล้า!!
เมิ่งเหิงเทียนรีบนําพาศิษย์ถอยกลับไปทันที ประมุขอวิ๋นเองก็
ดั่งรู้ชะตา ว่าไร้หนทางสู้กับพลังอํานาจนี้! ต่างต้องถอยร่น
ออกไป ปล่อยให้ม่านพลังแสงสุดท้ายแตกสลายลงตรงหน้า…
ในอดีตนั้นนิกายเมฆาสามารถอยู่รอดมาได้ส่วนหนึ่งเพราะ
พึ่งพาความลึกลับของมิติเอกเทศที่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งได้สร้าง
เอาไว้ อีกส่วนก็พึ่งพาม่านพลังมากมายที่กางกั้นไว้หลายสิบชั้น
ทว่าตอนนี้ม่านพลังคุ้มกันทั้งหมดทั้งมวลได้พังทลายสิ้น …ไร้
ซึ่งหนทางใดที่จะปูองกันการโจมตีของเผ่าฉลามยักษ์ได้เลย!
ประมุขอวิ๋นยังรู้อีกว่าโลกไร้จํากัดสมควรใกล้เปิดออกแล้ว หา
ไม่แล้วชนเผ่าโบราณคงไม่เร่งรีบกําจัดนิกายและผู้คนของร้อย
พันชนเผ่าแบบนี้
“ประมุข ท่านจักเอาอย่างไรต่อ?” เมิ่งเหิงเทียนกล่าวถามอย่าง
กังวล
“ข้าไม่เป็นไร เจ้ารีบพาศิษย์ทั้งหมดเข้าไปยังโถงหลบภัยใน
นิกายและเตรียมการเคลื่อนย้ายทางไกลก่อนเถอะ” ประมุขอวิ๋
นกล่าว
“หงอวิ๋น” หลังจากที่ลังเลอยู่พักหนึ่ง เมิ่งเหิงเทียนก็ตะโกน
ออกมาเสียงดัง
“อาวุโส…” นางเซียนหงอวิ๋นลอยร่างออกมา ใบหน้าของนาง
เต็มไปด้วยความหวาดกลัว นางรู้ดีว่าครั้งนี้สถานการณ์ของ
นิกายเมฆามันร้ายแรงถึงเพียงไหน
“เจ้ารีบพาศิษย์ทั้งหมดเข้าไปหลบในโถงหลบภัยของนิกาย
และเริ่มต้นระบวนการเคลื่อนย้ายทางไกลเสีย! ปล่อยทุกสิ่งทุก
อย่างที่นี่ไว้ให้ประมุขและข้าจัดการ!!” เมิ่งเหิงเทียนกล่าวสั่ง
“ทราบ!” นางเซียนหงอวิ่นตอบรับอย่างไร้ลังเล ด้วย
สถานการณ์เร่งด่วนเช่นนี้นางไม่จําเป็นต้องใช้ความคิดอะไรให้
มากเหมือนกาลก่อน
“ประมุข ข้ารู้ว่าท่านกําลังคิดอันใด…แต่เรื่องนี้พวกเราต้อง
ร่วมมือกัน”
เมิ่งเหิงเทียนรู้ดีว่าประมุขนิกายเมฆาคิดจะทําอะไร ทว่าเรื่องนี้
ไม่อาจปล่อยให้ประมุขอวิ๋นลงมือเพียงลําพังได้! ทัง้ หมดเพื่อ
ความอยู่รอดของนิกายเมฆา!!
พวกมันต้องเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังของนิกายเมฆา
เอาไว้! ไม่มีวันปล่อยให้ศิษย์ของนิกายเมฆาทั้งหมดต้องมาจบ
สิ้นลงแต่เพียงเท่านี้เด็ดขาด! ตราบใดที่พวกมันสามารถส่ง
เหล่าศิษย์ทั้งหลายให้รอดไปอย่างปลอดภัยได้ แม้ต้องสละชีพ
ตัวยังนับว่าคุ้มค่า!!
“หืม?! พวกเจ้าคิดจักช่วยเหลือเหล่ารุ่นเยาว์ให้รอดพ้นหายนะ
เช่นนั้นหรือ!? ฝันไปเถอะ! ครั้งนี้นิกายเมฆาต้องถูกทําลายล้าง!
ถูกลบชื่อให้หายไปจากโลกเซียนโบราณอย่างสมบูรณ์!! พวก
เจ้ายังรออันใด!? ลงมือเสีย!!” ชาจิ่งหวังตะโกนออกมาดังสนั่น
“อะไร!?”
ทันใดนั้นสีหน้าของประมุขอวิ๋น และคนอื่นๆแปรเปลี่ยนไป
ทันใด คงมีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเหล่าอาวุโสที่ทรยศนั้นลงมือ
ตอนไหน หากแต่ตอนนี้พวกมันปิดผนึกทางเข้านิกายเมฆา
เอาไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว… และไม่ปล่อยให้ศิษย์แม้แต่คนเดียว
ถอยร่นเข้าไปได้สืบไป…!
ประกายแสงสว่างวาบขึ้นมาเจิดจ้าหน้าทางเข้านิกาย! ร่างศิษย์
ที่สัมผัสถูกแสงดังกล่าวถึงกลับสลายกลับกลายเป็นธุลีทันใด!!
“หวังเทียนหลง! เฉินหั่วลี่!! นี่พวกเจ้าทําอะไรลงไป!?” ดวงตา
เมิ่งเหิงเทียนแดงฉ่านดั่งจะลุกพล่านไปด้วยไฟโทสะ มันไม่
อยากจะเชื่อทุกสิ่งอย่างที่สองตาได้แลเห็น
“ข้าราชันได้กล่าวเอาไว้ชัดเจนแล้ว…มีเพียงผู้ฉลาดเท่านั้นที่
รู้จักปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ อาวุโสทั้ง 2 ของพวกเจ้าได้
สวามิภักดิ์ต่อชนเผ่าโบราณแล้ว” ชาจิ่งหวังแสยะยิ้มกล่าว
เสียงเย็น
ศิษย์ทั้งหมดของนิกายเมฆาทําได้เพียงพุ่งถอยกลับมาอยู่
ด้านหลังประมุขอวิ๋นอีกครั้ง สําหรับศิษย์ทั้งหลายนั้น ตอนนี้ใน
ใจของพวกมันล้วนจมจ่อมลงไปในหุบเหวแห่งความหวาดกลัว
อย่างสมบูรณ์แล้ว…
“ท่านประมุขเจ้าคะ…ตอนนี้พวกเราจักทําอย่างไรกันดี!?” นาง
เซียนหงอวิ๋นหน้าซีด ด้วยนางไม่คิดเลยว่าจะมีอาวุโสทรยศหัก
หลังอีกเช่นนี้! กระทั่งตัดทางถอยหนีของพวกนางเอาไว้ ไม่
หลงเหลือหนทางอื่นใดให้หลีกลี้ไปได้เลย…!!
อีกทั้งตําแหน่งของอาวุโสทั้ง 2 ก็มิได้ต้อยต่ําแต่อย่างไร แม้จะ
มิอาจเทียบชั้นประมุขอวิ๋นได้ แต่พวกมันก็เป็นตัวตนด่านพลัง
เทพสวรรค์อมตะ 7 ชั้นฟูา เช่นกัน…
เมื่อมีอาวุโสชรา 7 ชั้นฟูาขวางหนทางสุดท้ายอยู่แบบนี้ ศิษย์
ทั้งหลายก็ไร้หนทางใดแหวกฝุาไปได้…!!
“ฮ่าๆๆๆๆ!!!”
ทันใดนั้นเองประมุขอวิ๋นพลันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาลั่นฟูา
“ไม่คิด…ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าในช่วงเวลาเป็นตายเช่นนี้ ผู้ที่นํา
หายนะมาสู่นิกายเมฆา กลับเป็นตัวผู้อาวุโสที่นิกายเมฆาชุบ
เลี้ยงขึ้นมาเสียเอง!!’
“ที่เผ่าพันธุ์โบราณสามารถปกครองไปทั่วทั้งโลกเซียนโบราณ
ได้ ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะการกระทําโง่เขลาของพวกเราเอง
ทั้งสิ้น…”
“ลืมมันไปเสีย…วันนี้ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็ต้องกระทําให้มั่นใจ
ว่าเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังของนิกายเมฆายังหลงเหลืออยู่!!”
“ข้า ขอ ถวาย!!”
ประมุขอวิ๋นกู่ก้องร้องคําราม พลังงานทั่วร่างถูกเร่งเร้าขึ้นมา
สูงสุด ยามนี้ประมุขอวิ๋นไร้หนทางเลือกอื่นใด จําต้องสังเวย
ร่างกายตัวเองเพื่อรักษาเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังทั้งหลาย
เอาไว้…
พลังของชาจิ่งหวังนั้นไม่ใช่อะไรที่มันสามารถต่อต้านได้
“ท่านประมุข อย่า!!!” ทุกผู้คนที่ภัคดีต่อนิกายเมฆากรีดร้อง
ออกมาสุดเสียง พวกมันไม่คิดไม่ฝันว่าประมุขจะเสียสละร่าง
เพื่อพวกมัน
“ข้าขาถวาย เซ่นสังเวยทุกสิ่งทุกอย่างของข้า! เพื่อแลกกับการ
ส่งศิษย์เหล่านี้ให้รอดพ้นออกไปอย่างปลอดภัย!!”
ครืนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!
ลําแสงส่องสว่างจากร่างของประมุขจอิ๋นพวยพุ่งทะลุฟูา เมฆ
ลมคุ้มคลั่งปั่นปุวน ผืนฟูาเปลียนสีกลับกลาย ใบหน้าชาจิ่งหวัง
เคร่งเครียดขึ้นมาทันใด มันไม่คิดฝันว่าประมุขอวิ๋นจะเสียสละ
ตัวเอง!!
“เมิ่งเหิงเทียน ข้าขอฝากนิกายเมฆาไว้กับเจ้าแล้ว…”
ประมุขอวิ๋นกล่าว
“ประมุขข….!!!”
เมิ่งเหิงเทียนกรีดร้องออกมาเสียงโหยหวน แต่มันรู้ดีว่าไม่มีวิธี
ใดจะหยุดประมุขอวิ๋นได้แล้ว และนี่อาจเป็นความหวังเพียง
หนึ่งเดียวที่จะรักษาเมล็ดพันธุ์แห่งความหวัง อันเป็นเหล่าศิษย์
กลุ่มนี้เอาไว้ได้…
“เอ๊อะ!”
ทว่าทันใดนั้นเอง…อยู่ๆพลังอํานาจแห่งการสังเวยกลับสลาย
หายไปอยางสิ้นเชิง! ฝนฟูากลับมาสงบ แสงที่ส่องจากฟูาเบื้อง
บนดับหาย ประมุขอวิ๋นลอยร่างงุนงงกลางหาว สองตามองมือ
ตัวเองที่ผายออกด้วยสับสนยากจะเชื่อ!!
“ใยจึงเป็นเช่นนี้ได้กัน?
“ฮ่าๆๆๆ…!!!” เมื่อชาจิ่งหวังได้เห็นภาพนี้มันก็ระเบิดเสียง
หัวเราะออกมา หากพิธีกรรมสังเวยจบสิ้นมันไม่อาจต้านทาน
อะไรได้ หากทว่าตอนนี้พิธีกรรมสังเวยกลับหยุดลงกลางคัน
ก่อนจะจบสิ้น ราวกับตัวตนทรงอํานาจที่อยู่เหนือนั่นตัดขาดไป
เอง ทําให้ชาจิ่งหวังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดังลั่น…!
“ดูเหมือนว่ากระทั่งสวรรค์ยังละทิ้งพวกเจ้านิกายเมฆาแล้ว! นี่
คือวันโลกาวินาศสิ้นสูญของนิกายเมฆาอย่างแท้จริง!!”
“สยบพวกมันเสีย!!”
ชาจิ่งหวังโบกมือออกมา พร้อมกันนั้นเหล่าสรรพชีวิตที่อยู่บน
นาวาเทพฉลามยักษ์ประจัญบานพลันกู่ก้องร้องคํารามออก
บริเวณหัวเรือรบประจัญบานที่แลคล้ายปากฉลามยักษ์เริ่มอ้า
กว้าง มวลแสงพลังทรงกลมเริ่มควบรวมตรงกลาง ส่องสว่าง
แผ่ซ่านกลิ่นอายพลังอันตราย บรรยากาศยังบิดเบือนคล้ายมิติ
เริ่มไร้เสถียรภาพ!! (53380)
สําหรับปืนใหญ่พลังของนาวาเทพฉลามยักษ์ประจัญบานนั้น
มันคือการควบรวมพลังงานมหาศาลออกมาเป็นลําแสงอนุภาค
ทําลายล้างอันน่าพรั่นพรึง! ยิงออกไปคราใด ความว่างเปล่า
ล้วนแหลกสลาย มวลอากาศแตกระเบิด สรรพสิ่งราบพนาสูร!!
เปรี๊ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!
เหล่าศิษย์และคนของนิกายเมฆาทําได้แค่ยืนเหม่อมองลําแสง
พลังพิฆาตอันน่าพรั่นพรึงส่องสว่างพุ่งเข้ามาอย่างไร้หนทาง
ลําแสงทําลายล้างนี้ไม่ใช่อะไรที่พวกมันมีหวังต้านทานได้แม้แต่
น้อย!!
ทว่าในห้วงเวลาสุดท้ายก่อนที่ลําแสงทําลายล้างจะมาพราก
ชีวิตของพวกมันไปนั้น… พลันมีประกายหนึ่งวูบวาบขึ้นมาใน
ตา! ปรากฏเป็นกระบี่พลังเล่มเขื่องเล่มหนึ่ง พุ่งแหวกฟูาลงมา
หยุดค้างเบื้องหน้าของพวกมัน!!
อีกทั้งกระบี่พลังเล่มเขื่องนั้น! พลันตวัดฟันด้วยความเร็วแสง
สับสะบั้นออกไปเบื้องหน้าอย่างเกรี้ยวกราด!!
พริบตาต่อมาลําแสงทําลายล้างที่หมายพรากชีวิตของพวกมัน
กลับถูกผ่าแหวกออกเป็น 2 สาย แยกออกไปซ้ายขวาอย่าง
หมดจด!!
ตอนที่ 854 : หนึ่งหัตถ์สยบ ไพรีพินาศ!
“อะไรกัน!?”
เมื่อชาจิ่งหวังเห็นว่าลําแสงพลังจากปืนใหญ่ของนาวาเทพ
ฉลามยักษ์ประจัญบานของมัน กลับถูกกระบี่พลังเล่มหนึ่งผ่า
ออก ใจมันก็แทบกระดอนออกมาด้วยความตกใจ!
ทว่านี่ยังหาใช่เรื่องที่เขย่าขวัญชาจิ่งหวังถึงที่สุดไม่!
จากรอยแยกที่กระบี่แหวกฟ้าลงมานั้น ปรากฏพลังทมิฬขุม
หนึ่งแหวกฉีกความว่างเปล่าออกอีกครั้ง! มองขึ้นไปในรอยฉีก
เห็นเพียงมือสีดําขนาดมหึมา เอื้อมออกมาคว้าผู้คนที่อยู่บน
นาวาเทพฉลามยักษ์ประจัญบานลําที่พึ่งยิงปืนใหญ่ทําลายล้าง!
ก่อนจะเริ่มกําบีบ! พริบตาต่อมาดั่งหยาดฟ้าพรั่งพรู สายโลหิต
กําจายเป็นละอองทุกแห่งหน ซากศพเลือดเนื้อเลอะเลือนร่วง
หล่นเกลื่อนพื้น!!
“ผู้ใด!?!” ชาจิ่งหวังคํารามเสียงดัง มันไม่คิดฝันเลยว่าจะมา
บังเกิดเรื่องราวอะไรเช่นนี้ขึ้นในช่วงเวลาอันสําคัญเช่นนี้…!!
ทางด้านคนของนิกายเมฆาที่เตรียมตัวเตรียมใจรอรับความ
ตาย เมื่อได้เห็นภาพเรื่องราวทุกสิ่งเบื้องหน้าต่างก็ตะลึงงันกัน
ไปอย่างสิ้นเชิง…
นี่มิใช่ว่าจะแข็งแกร่งเกินไปหน่อยหรือไร?
ขณะเดียวกันนั้นหนึ่งคําถามก็บังเกิดขึ้นในใจคนทั้งหมด เป็น
ผู้ใดมาช่วยกัน!?
“เฮ่ย…นี่เจ้ากล้าถึงขั้นคิดจะทําลายนิกายของสหายข้าประมุข
เลยหรอ หา?”
ร่างในชุดคลุมสีขาวพิสุทธิ์หยุดนิ่งกลางหาว ชายผ้าคลุมปลิว
กระพือยามต้องสายลมสองมือไพร่หลังเหลือบมองลงต่ํา ราว
กับจะหยันหยามทั่วหล้า สีหน้าท่าทางและสภาวะที่สงบนี้ บ่ง
บอกให้รู้ว่า เขาไม่ได้รู้สึกกริ่งเกรงทุกอย่างเบื้องหน้าแม้แต่
น้อย…
“หลินฟ่าน…!!”
เมื่อประมุขอวิ๋นเห็นร่างดังกล่าว ก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างด้วย
ความเหลือเชื่อ!
“ว่าไงท่าน! เป็นไงบ้างล่ะประมุขอวิ๋น นานแล้วไม่พบกัน…นี่ถ้า
ไม่ใช่เพราะท่านคิดสังเวย ข้าเองก็คงไม่รู้ด้วยซ้ําว่านิกายเมฆา
จะพบพานหายนะอะไรแบบนี้…” หลินฟ่านพูดขึ้นมา
แน่นอนว่าเรื่องนี้กล่าวไปก็เสียวสันหลังไม่น้อย ถึงแม้หลินฟ่า
นจะครองพลังอํานาจเทพนิรันดร์ แต่ทว่าหากประมุขอวิ๋นไม่
เริ่มต้นกระบวนการสังเวยอย่างเมื่อครู่ เขาก็ไม่มีทางรับรู้ได้
เลย!
ดูเหมือนว่าแท่นบูชายัญเซียนโบราณนี่จะไม่ใช่อะไรที่ไร้
ประโยชน์ซะแล้ว บางทีเขาอาจจะไปบอกเหล่าสหายทั้งหลาย
ที่ชิดใกล้เอาไว้ ว่าหากพบพานเรื่องราวอะไรหนักหนาให้ใช้การ
สังเวยซะ! เขาจะได้รู้ตัวและอาจไปช่วยเหลือได้ทันเวลา…!!
ภายในกลุ่มคนของนิกายเมฆา แน่นอนว่าย่อมมีบ้างที่ไม่รู้จัก
หลินฟ่าน ยังคงมองฟ้าไถ่ถามโลกหล้าว่านั่นใครกันไม่หยุด…!
ทว่าสําหรับนางเซียนหงอวิ๋น และคนคุ้นเคยอื่นๆร่างนี้ไม่อาจ
คุ้นตาไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว!
“ผู้ทรงพลังท่านนั้นที่แท้เป็นใครกันแน่!?”
“นั่นสิ! เป็นเขาที่ช่วยเหลือพวกเราเอาไว้เมื่อครู่! และดูเหมือน
เขาจักเป็นสหายกับท่านประมุขของพวกเราอีกด้วย! นี่มิใช่
หมายความว่าพวกเราปลอดภัยแล้วหรือไร!?”
“เพ้ย! พวกเจ้าไปอยู่ที่ไหนกันมาหา!? ถึงแม้พวกเจ้าจักมิเคย
เห็นแต่ก็ต้องเคยได้ยิน! นั่นคือท่านราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่ม
มารดาเจ้า!!”
“อะไรนะ!! นั่นหรือคือท่านราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดา
เจ้า!?! ท่านราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าในตํานาน
เดียวดายอหังการ ที่ยืนหยัดต่อสู้กับตัวตนสูงสุดแห่งเผ่าพันธุ์
โบราณคนนั้นน่ะหรือ!?”
“สวรรค์! บุรุษผู้นั้นคือแบบอย่างชั่วชีวิตของข้าพเจ้า! ไม่คิด
เลยว่าชีวิตนี้ของข้าพเจ้าจักมีวาสนาได้เห็นท่านราชันแห่งมวล
มนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าต่อหน้าต่อตาเช่นนี้!!”
ตอนนี้เองเหล่าผู้คนของนิกายเมฆาก็เริ่มส่งเสียงกู่ร้องยินดี
ออกมาแทบขาดใจ ถึงแม้ว่าผู้อื่นจะไม่รู้จัก แต่พวกมันล้วน
คุ้นเคยกับราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าดี!!
นั่นเพราะเมื่อนานมาแล้วได้มีการถ่ายทอดสดครั้งหนึ่ง ที่สลัก
ลึกอยู่ในความทรงจําของพวกมัน! เป็นภาพหนึ่งบุรุษที่ยืนหยัด
ปะทะกับตัวตนสูงสุดแห่งเผ่าพันธ์โบราณอย่างไร้ครั่นคร้าม!!
“ที่แท้เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่!?” ชาจิ่งหวังหรี่ตามองพินิจหลินฟ่า
นอย่างระวัง ขณะเดียวกันในใจของมันก็เดือดดาลนัก!
ด้วยการลงมือเพียงครั้ง ไอหนุ่มนี่มันฆ่าลิ่วล้อของมันไป
มากมายนัก!!
หลินฟ่านไม่แยแสคําถามเพียงว่ายตามองรอบๆ ก่อนจะไปจับ
จ้องยังนาวาเทพฉลามยักษ์ประจัญบานอย่างสนใจ ค่อย
หัวเราะออกมาว่า “1 ใน 10 สัตว์โบราณ ฉลามยักษ์…ข้า
ประมุขสงสัยนัก ว่านี่พวกเจ้าหันไปชะเลียพวกสวะชนเผ่า
โบราณตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!?”
“เหอะ! ชนเผ่าฉลามยักษ์ของพวกเราภัคดีต่อชนเผ่าโบราณ
ตั้งแต่แรกและมิเคยเสื่อมคลาย!” ชาจิ่งหวางกล่าวตอบ
“อ๊อ…งั้นในเมื่อพวกเจ้ามันก็เป็นแค่หมาเลี้ยงโง่ๆของชนเผ่า
โบราณ พวกเจ้าก็ไม่มีราคาพอที่จะรู้ชื่อข้าประมุขว่ะ ไสหัวไป
ลงนรกเลยแล้วกัน ดีมั้ย?”
สําหรับพวกอ่อนแอดั่งมดปลวกแบบนี้หลินฟ่านคร้านจะให้
ความสนใจอะไรมากนัก เขาค่อยๆยกมือขึ้นมาอย่างแผ่วเบา
ภายใต้หนึ่งฝ่ามือที่โบกไปอย่างไร้เรื่องราว คล้ายโลกหล้าปะทุ
ขึ้นมาในฉับพลัน! ความว่างเปล่าเบื้องหน้าของหลินฟ่านปรา
กฏเป็นหัตถ์พลังขนาดมหึมาแทบคลุมฟ้ากวาดซัดออกไป! หัตถ์
พลังแหวกฝ่าทําลายสรรพสิ่งตามรายทางปรี่ตรงไปทางนาวา
เทพฉลามยักษ์ประจัญบาน! ความว่างเปล่าแตกสลายดั่งแก้ว
กระจก!!
“โอหัง!!” ชาจิ่งหวางคํารามลั่นด้วยโทสะ คฑาเทพสมุทรในมือ
เปล่งแสงส่องสว่าง พลังอํานาจเอ่อล้น ความว่างเปล่าด้านหลัง
สั่นสะท้านราวระลอกน้ํา ที่สุดบังเกิดเป็นคลื่นสมุทรถาโถม
ออกไปราวอุทกภัยล้างโลก! คลื่นน้ําสูงระฟ้าโถมไปหมายกลืน
หัตถ์พลังหลินฟ่าน!!
“ไม่ว่าอ้ายอีหน้าไหน หากหาญกล้าต่อกรชนเผ่าฉลามยักษ์! สิ่ง
เดียวที่รอคอยมันอยู่คือความตาย!!” ชาจิ่งหวังคํารามลั่นเมื่อ
เห็นคลื่นพลังโถมไปอย่างเกรี้ยวกราดใกล้กลบกลืนหัตถ์พลัง
หนึ่งนั่น…!!
พริบตาก่อนปะทะคลื่นสูงเสียดฟ้ากลับควบแน่นกลับกลายเป็น
ฉลามตัวเขื่องหนึ่งตัว! ฉลามนี้รูปลักษณ์ดั่งฉลามสวรรค์มีครีบ
สวย 2 ครีบด้านหลัง ปากกระหายเลือดของมันเปิดกว้างคล้าย
จะกลืนกินหนึ่งหัตถ์พลัง!!
ปงงงงงงง!!!!
เสี้ยวพริบตาก่อนปะทะนั้น หลินฟ่านพลันกระดิกนิ้วเบาๆครา
หนึ่ง หัตถ์พลังพลันขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย มือพลิกตวัดคว้าจับ
ฉลามยักษ์ตัวเขื่องที่ปากอ้ากว้างนั้นได้ง่ายดาย! และเพียงหลิน
ฟ่านกําเบาๆคราหนึ่งฉลามตัวเขื่องนั่นก็ถูกหัตถ์พลังบีบจน
แหลกระเบิด!!
“เป็นไปมิได้! นี่เป็นไปมิได้!!” ชาจิ่งหวังประหลาดใจหนักข้อ
ทั้งหน้าคล้ายมีคําไม่เชื่อแกะสลัก! ประหนึ่งมันไม่อยากจะทําใจ
รับได้ว่าบุรุษผู้นั้นสามารถบีบทําลายฉลามสวรรค์ของมันได้ใน
หนึ่งฝ่ามือ!!
อนิจจาโลกหล้านี้มิมีอันใดง่ายดาย แม้จะทําลายฉลามสวรรค์
ไปแล้วหัตถ์พลังของหลินฟ่าน สภาวะไม่เพียงไม่ถดถอย กลับ
ยังเปี่ยมอํานาจพลังบดขยี้พุ่งมายังชาจิ่งหวางไม่ลดละ
ชาจิ่งหวางไม่กล้าประมาทอันใดสืบไป พลังชั่วชีวิตปะทุออก
แก่นแท้โลหิตทั่วร่างถูกผลาญเผาจ่ายส่งพลังออกมาไม่ขาดสาย
มวลพลังทั้งหมดถูกควบรวมไปยังคฑาเทพสมุทร ยามเมื่อคฑา
เทพสมุทรยกชูเหนือหัว พลังอํานาจดั่งทวยเทพปะทุออกมาน่า
ครั่นคร้าม!!
เป็นฉลามสวรรค์ตัวเขื่องถูกสร้างพร้อมพุ่งไปดังจุดระเบิดอีก
ครา! อนิจจาภายใต้หัตถ์พลังที่ยังคงพุ่งมาอย่างสงบนั้น ดั่งหนัง
ฉายวนซ้ํา ฉลามถูกขยี้ง่ายดายไม่ต่างใดจากมด! และไม่ว่ามัน
จะเรงเร้าพลังสร้างฉลามสวรรค์ไปกี่ตัวต่อกี่ตัว ก็ไม่ต่างใดกับ
ยุงตัวกระจ้อยริอาจท้าฝ่ามือยูไล…!!
“บัดซบ! กางม่านพลังเต็มกําลัง!!”
เมื่อพลังอํานาจชั่วชีวิตแพ้พ่ายไม่เป็นท่า ชาจิ่งหวางหน้าเสีย
หนักข้อ มันรีบตะโกนออกมาสุดเสียงจนคอแทบแตกอย่างตื่น
ตระหนก! สิ้นคําม่านพลังแสงดั่งดวงแก้วมณีหลากสีสันพลัน
ปรากฏคลุมครอบนาวาเทพฉลามยักษ์ประจัญบานเอาไว้เป็น
ชั้นๆ!!
“สารเลวที่น่าตายนัก! เดี๋ยวเจ้าได้ตายแน่!!” ชาจิ่งหวางกรีด
ร้องออกมา ใจคิดไปว่าหากป้องกันได้…มันจะเปิดปืนใหญ่
ลําแสงอนุภาคทําลายล้างเต็มพลังฆ่าทุกสิ่งให้เหี้ยน!!
ทว่าทันใดนั้นเองมันพลันได้ยินเสียงปริแตกของม่านพลัง
เมื่อชาจิ่งหวางเงยหน้าขึ้นมามันก็พบว่าภายใต้สภาวะบดขยี้ที่
พุ่งมาอย่างสงบของหัตถ์พลังนั้น ม่านพลังอันใดล้วนไร้ค่า! ดวง
แสงหลากสีสันที่คลุมครอบแตกสลายดั่งเศษกระจกบางทันใด!
ไม่อาจต้านทานอะไรได้สักกะผีก!!
“ปะ…เป็นไปได้อย่างไรกัน!? นี่คือที่สุดแห่งพลังป้องกันของเทพ
สมุทร…!” ชาจิ่งหวางกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก อนิจจา
ม่านพลังทั้งมวลของมันไม่ว่าจะกี่ชั้นต่อกี่ชั้นที่กางกั้นออกมา…
ล้วนถูกหัตถ์พลังที่พุ่งเข้ามาฝ่าทําลายอย่างง่ายดาย! พริบตา
ต่อมาหัตถ์พลังก็บรรลุถึงนาวาเทพฉลามยักษ์ประจัญบาน…!!
‘ติ๊ง!!..ค้นพบยอดสมบัติขั้นต่ํา นาวาเทพฉลามยักษ์
ประจัญบาน’
ตอนแรกที่หลินฟ่านมาถึงนั้น เมื่อเขาได้เห็นรูปร่างเวอร์วัง
อลังการของนาวาเทพฉลามยักษ์ประจัญบาน เขาก็คิดในใจไป
อย่างสนุกสนานว่าใช่แน่ๆ มันต้องใช่แน่ๆ นี่สมควรเป็นยอด
สมบัติขั้นสูงแล้วแน่แท้! อนิจจาผู้ใดจะไปคิดคาดว่าสุดท้ายมัน
จะเป็นแค่ยอดสมบัติระดับต่ํา! ขั้นต่ํา…! นี่มันช่างอ่อนกาก!
เซ็ง! โคตรจะเซ็งงงงงงงง!!!
เปรี๊ยะ!
ด้วยความเซ็งที่เจอของกาก หลินฟ่านพลันออกแรงขยับฝ่ามือ
เล็กน้อย ทันใดนั้นหัตถ์พลังพลันตบฟาดเบาๆไปยังนาวาเทพ
ฉลามยักษ์ประจัญบาน! ทันใดนั้นคล้ายหัตถ์พลังเปล่งอํานาจ
ทําลายล้าง เรือมหึมาถูกป่นเป็นผงในเสี้ยวพริบตา!!
เมื่อชาจิ่งหวางเห็นนาวาเทพฉลามยักษ์ประจัญบานถูกทําลาย
ลงอย่างง่ายดายภายใต้ การใช้ออกด้วยหนึ่งฝ่ามืออย่างไร้
เรื่องราวของอีกฝ่าย ทั้งร่างของมันก็สั่นระริก! ใจมันหลงเหลือ
ความหวาดกลั่วที่เอ่อล้นออกมาจากก้นบึ้ง!!
นั่นคือยอดสมบัติขั้นต่ํา! กระทั่งตัวตนระดับเทพสวรรค์อมตะ
10 ชั้นฟ้า เทพนิรันดร์ยังไม่สมควรทําลายมันได้!
แต่ไม่คิดเลยว่าบัดนี้มันกลับถูกป่นทําลงลงอย่างง่ายดาย! เรื่อง
นี้เขย่าขวัญชาจิ่งหวางจนแทบตกใจตายแล้ว!!
“อย่าฆ่าข้า! ได้โปรด! ไว้ชีวิตข้าด้วย!! ได้โปรดไว้ชีวิตข้า
ด้วยยยยยยย!!!!”
แผละ!
‘ติ๊ง!! ..ขอแสดงความยินดีท่านสังหารเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้า
ที่ 9 ชาจิ่งหวาง’
‘ติ๊ง!! ..ขอแสดงความยินดีท่านได้รับยอดสมบัติขั้นต่ํา คฑาเทพ
สมุทร’
…
เพียงแค่หนึ่งกระบวนท่า โลกหล้าพลันหวนคืนสู่ความสงบ
สุข…
แปะ แปะ
หลินฟ่านตบมือปัดไปมาอย่างไร้เรื่องราว ก่อนที่จะกระดิกนิ้ว
เรียกคฑาเทพสมุทรมาดูวูบหนึ่ง สุดท้ายก็โยนทิ้งลงวิมานฟ้าไป
อย่างไร้แยแส ปล่อยให้ปีศาจยักษ์โบราณจัดการไป..
ก็นับว่าดีไม่น้อยเหมือนกันที่ให้ปีศาจยักษ์โบราณได้กินอะไรดีๆ
แบบนี้ทุกวัน เพราะนี่ก็เหมือนยาชูกําลังไม่มีผิด
“ทะ…ทั้งหมด จบสิ้นลงแล้ว? จะ…จบลงเช่นนี้?”
ตอนนี้ทุกผู้คนล้วนยืนเหวอหน้ามึนตาค้างปากอ้ากว้าง ชาจิ่ง
หวางอันน่าเกรงขามที่เป็นดั่งผู้ลิขิตความตายให้พวกมัน …ตาย
ง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ? ไหนจะเรือรบประจัญบานลําเขื่องอันน่า
พรั่นพรึงนั่น ทั้งหมดแหลกพินาศง่ายๆเช่นนี้?
ตอนนี้ไม่ใช่แค่ศิษย์ของนิกายเมฆาเท่านั้นที่ตกตะลึง กระทั่ง
ประมุขหยางและอาวุโสทั้งหมดแทบจะกลายเป็นหินกันไปแล้ว
ต่างก็รู้สึกว่านี่ช่างเหลวไหลไม่สมเหตุสมผลนัก! ทุกสรรพสิ่งมัน
โคตรเหลือเชื่อเกินไป!!
เมื่อหลินฟ่านหันมาเห็นประมุขอวิ๋นที่คล้ายจะนิ่งเป็นหินก็อด
ไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “เอ้า เป็นอะไรรึเปล่าประมุขอวิ๋น? มี
ปัญหาอะไรรึเปล่า?” (53380)
ประมุขอวิ๋นกลืนน้ําลายอึกใหญ่ลงคอดังเอื๊อก ค่อยกล่าว
ออกมาด้วยน้ําเสียงเหลือเชื่อ “เด็กน้อยเจ้า…ตอนนี้เจ้า
แข็งแกร่งเพียงใดกัน?”
ประมุขอวิ๋นยังคงจดจําได้ดี หวนนึกไปจากวันที่หนุ่มน้อยผู้นี้
จากนิกายเมฆาไปมันก็ยังไม่กี่ปีที แต่ตอนนั้นอีกฝ่ายยังมิได้
แข็งแกร่งขนาดนี้มิใช่หรือไร? แล้วไฉนเด็กหนุ่มนี่ย้อนกลับมา
อีกครั้ง มันกลับมิอาจหยั่งถึงก้นบึ้งพลังอีกฝ่ายได้แล้วเล่า!?
แข็งแกร่ง! แข็งแกร่งเกินไป!!
เจ้าหนุ่มนี่สมควรบรรลุเทพสวรรค์อมตะ 10 ชั้นฟ้า อันทรง
พลังนั่นแล้วใช่หรือไม่!?
ทว่าหนึ่งฝ่ามือที่ใช้ออกก่อนหน้านี้ เกรงว่ามันเป็นอะไรที่แม้แต่
ตัวตนระดับเทพสวรรค์อมตะ 10 ชั้นฟ้ายังมิอาจทานรับไหว!!
“อ๋อ ก็นะ งั้นๆล่ะ..” หลินฟ่านกล่าวตบไปอย่างไม่ได้สนใจ
อะไร
เมื่อประมุขอวิ๋นได้ยินคําตอบนี้ หยาดโลหิตคําโตคําหนึ่งแทบ
พุ่งออกจากปากเสียให้ได้!
ตอนที่ 855 : ชนเผ่าฉลามยักษ์!
ชายชราอันเป็นผู้อาวุโสของนิกายเมฆาทั้ง 2 ที่ปิดกั้นทางเข้า
นิกายเมฆาไม่ให้ศิษย์ผ่านเอาไว้ยามนี้ อึ้งเหวอไปอย่าง
สมบูรณ์! พวกมันไม่คิดไม่ฝันว่าเรื่องราวจะแปรเปลี่ยนกลับ
กลายมาจบลงอีหร็อบนี้ได้!!
ใครจะไปคิดกันเล่า! ว่าชาจิ่งหวางผู้น่ากลัวนั่นจะตายตกในฝ่า
มือเดียว!?
ถล่มมารดามันเถิด! นี่เรื่องมันดําเนินมาถึงจุดๆนี้ได้อย่างไร!?
ในสายตาของพวกมัน วันนี้นิกายเมฆาสมควรถึงวาระล่มสลาย
แน่แท้! ยังจะมีผู้ใดคิดคาดว่าอยู่ดีๆบุรุษผู้นั้นกลับปรากฏตัว
ขึ้น!?
และพวกมันก็รู้จักอีกฝ่ายเช่นกัน! นั่นคือมนุษย์ที่ครั้งหนึ่งเคย
ได้รับเชิญจากนิกายเมฆาในฐานะแขก!!
แต่ที่เหลือเชื่อก็คือ การปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งของอีกฝ่าย…
กลับแข็งแกร่งถึงขีดขั้นนี้เสียได้!
ตึก! ตุบ!
“ท่านประมุข! ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย! เป็นพวกเราหลงผิดจนหน้า
มืดตามัวคิดชั่วไปเพราะรู้เท่ามิถึงการณ์! ได้โปรดละเว้นชีวิต
พวกเราด้วย พวกเราล้วนเคยเป็นคนดี!!” ชายชราทั้งสองทิ้ง
ตัวลงคุกเข่า ขอร้องวิงวอนน้ําตาไหลพราก ใจทั้งคู่เพียงหวังว่า
ประมุขอวิ๋นจะไว้ชีวิตพวกมัน…
หากพวกมันรู้สักนิด…ว่าเรื่องราวจะจบลงเช่นนี้ พวกมันจะไม่
กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวข้องแวะอะไรกับชนเผ่าโบราณเลยถึงแม้
พวกมันต้องตายก็ตาม! อนิจจาโลกนี้ไม่มีโอสถรักษาอาการ
เสียใจ และจะใช้กี่หมื่นล้านก็ซื้อเมื่อวานมิได้!!
“ประมุขอวิ๋น นี่เป็นเรื่องภายในของนิกายเมฆา…ข้าจะให้ท่าน
จัดการเองแล้วกัน” ที่หลินฟ่านเกลียดที่สุดคือพวกสวะคิดคด
ทรยศหันไปเข้าพวกกับชนเผ่าโบราณ!
ตอนนี้ประมุขอวิ๋นเองก็เดือดดาลอย่างถึงที่สุดเช่นกัน เพียงตบ
ฟาดฝ่ามือออกไป 2 ครั้งติด รากฐานและสารัตถะของพวกมัน
ทัง้ 2 แหลกสลายหายไปสิ้นทันที!
“เหอะ! ทรยศหักหลังนิกาย เพียงความตายยังมิอาจชดใช้ได้!
ทั้งพวกเจ้าเป็นถึงผู้อาวุโสที่นิกายชุบเลี้ยงมาแท้ๆ กลับกล้า
กระทําลงคอ ข้าไม่เพียงจะทําลายพลังฝึกตนของพวกเจ้าทิ้ง
ยังจะกักขังพวกเจ้าไว้ในสถานจองจําของนิกายชั่วนิจนิ
รันดร์!!”
“ไม่มมมมมมมม….!!!”
ทันใดนั้นทั้งคู่ก็ตระหนักได้ว่าพลังฝึกตนชั่วชีวิตของพวกมัน
กําลังสิ้นสูญ พวกมันทําได้แค่กรีดร้องโหยหวนออกมาอย่างใจ
สลาย ไถ่ถามโลกหล้าระหว่างฆ่าพวกมันทิ้งกับทําให้พวกมัน
พิการเช่นนี้ ยังต่างกันที่ใดหนอ…
“ประมุขอวิ๋น แล้วนี่ท่านจะทําไงต่อล่ะ?” หลินฟ่านแผ่สํานึก
สติไปตรวจสอบมิติเอกเทศ และเขาพบว่าตอนนี้กลิ่นอายพลัง
ของบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งนิกายเมฆาไม่เหลืออีกแล้ว ดูเหมือนว่า
อีกฝ่ายจะดับสลายไปแล้ว…
“เฮ่อ…ตอนนี้ม่านพลังกําบังทั้งหมดล้วนพินาศ สถานที่ตั้งก็ถูก
เปิดเผย จักอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไร้ประโยชน์อันใด… ดูเหมือนว่ามี
เพียงแต่ต้องหาที่ตั้งนิกายใหม่เท่านั้น…” ประมุขอวิ๋นกล่าว
ตอบ
หลินฟ่านไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งค่อยกล่าว “ถ้างัน้ ท่านมาอยู่ที่โลก
เสวียนหวงเป็นไง? ข้าได้บูรณะโลกเสวียนหวงใหม่และผสาน
เข้ากับข้าแล้ว ไม่จําเป็นต้องกังวลอะไรกับชนเผ่าโบราณอีก
ต่อไป”
“ดี!” ประมุขอวิ๋นไม่จําเป็นต้องคิดเลย!
หลินฟ่านกระดิกนิ้วคราหนึ่ง บังเกิดพลังไร้สภาพคลุมครอบทั่ว
ทั้งนิกายเมฆา ก่อนจะส่งสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดของนิกายเมฆา
ให้ลงไปตั้งอยู่ในโลกเสวียนหวง ด้วยความที่ตอนนี้โลกเสวียน
หวงถูกหลินฟ่านปลูกฝังแล้ว ทุกผู้คนสามารถบ่มเพาะฝึกฝนที่
นั่นได้อย่างสบายใจ
ขณะเดียวกันประมุขอวิ๋นและอดีตประมุขหยางของนิกาย
เม้งก่าก็ล้วนเป็นผู้ชราอันเที่ยงธรรม หลังจากที่ไปยังโลกเสวียน
หวงแล้ว ทั้ง 2 คนสมควรสนทนากันถูกคอ
หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหลินฟ่านก็สัมผัสได้ถึง
สายตาคู่หนึ่งที่จับจ้องมองมาอย่างลึกซึ้ง เมื่อหันไปก็พบว่าเป็น
นางเซียนหงอวิ๋น
“ทั้งหมดเรียบร้อยดีหรือไม่?” นางเซียนหงอวิ๋นเดินเข้ามาหา
พร้อมกล่าวถามเสียงอ่อน
“ก็ไม่เลว” หลินฟ่านพยักหน้า “เอาล่ะ เจ้าเองก็มุ่งหน้าไปยัง
โลกเสวียนหวงก่อนเถอะ เมื่อพวกเราจัดการสยบชนเผ่า
โบราณจนหมดสิ้นแล้ว ตอนนั้นพวกเราสมควรมีเวลา
มากมาย…”
คํากล่าวของหลินฟ่านนั้นมันตีความได้สองแง่สองง่ามนัก เขา
เองก็ไม่รู้ว่าการแถไปแบบนี้ จะทําให้เขารอดพ้นจากนางเซียน
หงอวิ๋นได้ไหม…
“ข้าเข้าใจ” นางเซียนหงอวิ๋นเพียงพยักหน้ารับและไม่ได้กล่าว
ใดสืบต่อ นี่นับเป็นบทสนทนาอันแสนเย็นชานักสําหรับการได้
พบกันอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน…
“หลินฟ่าน แล้วตอนนี้เจ้าคิดกระทําสิ่งใดต่อไปหรือ?”
ประมุขอวิ๋นไถ่ถาม
“ในเมื่อไอชนเผ่าฉลามยักษ์นั่นมันกล้าหันไปเลียเท้าชนเผ่า
โบราณ ถ้างั้นข้าก็จะไปเยือนเผ่าพันธุ์มันอย่างดีสักครั้ง!”
ตอนนี้หลินฟ่านต้องการโอสถเจิ้งหยางมาก! ในเมื่อชนเผ่า
ฉลามยักษ์มันกล้าผันตัวไปเป็นขี้ข้าสวะชนเผ่าโบราณ ก็ไม่มี
ทางที่หลินฟ่านจะปล่อยให้พวกมันอยู่ดีมีสุข!!
และในฐานะที่พวกมันเองก็เป็นถึง 1 ใน 10 เผ่าพันธุ์สัตว์
โบราณ สมบัติเอยอะไรเอยก็คงไม่ขาดมือใช่ไหม?
“เอาล่ะ ถึงเจ้าจักแข็งแกร่งขึ้นมากแต่อย่างไรเสีย เจ้าก็สมควร
ระวังให้มากเข้าไว้ ชนเผ่าฉลามยักษ์นั้นนับว่าแข็งแกร่งอย่าง
ยิ่ง กระทั่งยังมีตัวตนทรงพลังดํารงอยู่ แม้ในยามปกติพวกมัน
มักจะปิดด่านมิได้ออกมาก็ตาม…” ประมุขอวิ๋นกล่าวเตือน
จริงจัง
“อาฮะ! เชื่อใจข้าได้เลย!”
หลินฟ่านสะบัดผ้าคลุมคราหนึ่งก่อนที่จะส่งคนของนิกายเมฆา
ตั้งแต่ระดับรากหญ้าถึงประมุขไปยังนิกายเมฆา ที่ไปตั้งไว้บน
โลกเสวียนหวงเรียบร้อยแล้ว…! นี่นับเป็นการสั่งสมกําลังของ
หลินฟ่านประการหนึ่ง วิธีที่จะทําให้เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถ
จัดการชนเผ่าโบราณทั้งหมดได้ ก็คือเพิ่มพลังส่วนตัวของเขา
และกองทัพของเขา…!!
ฟุ่บ!
ร่างหลินฟ่านอันตรธานหายไปทันใด คนพุ่งทะลวงผ่านช่องว่าง
แห่งความว่างเปล่าไปยังฐานที่มั่นชนเผ่าฉลามยักษ์
…
ท่ามกลางมหาสมุทรอันสุดไพศาล ปรากฏวังวิจิตรงดงามมหึมา
ตั้งอยู่กลางน้ํา ภายในโถงใหญ่ปรากฏจ้าวผู้ปกครองตนหนึ่ง
กําลังนั่งละเล่นไข่มุกเลิศล้ําราคาควรเมืองในมืออยู่บนบัลลังก์…
หากทว่าทันใดนั้นเอง ไข่มุกบนมือของมันกลับปริร้าวก่อนจะ
แหลกเป็นเสี่ยง!
ผู้คนของชนเผ่าฉลามยักษ์ที่เรียงแถวอยู่ด้านล่างล้วนก้มหน้า
ลงต่ําทันใด ภายใต้กลิ่นอายพลังสะกดข่มที่อยู่ๆก็ปะทุออกมา
เช่นนี้…ยากที่ใครจะกล้าเอ่ยวาจาแม้ครึ่งคํา!
“สัดใส่ข้าวที่ใช้การมิได้!” ในที่สุดร่างมหึมาของเทพเจ้าฉลาม
ยักษ์ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ก็กล่าวคําออกมา ดวงตาของมันยยัง
เปล่งประกายวูบวาบด้วยโทสะ!
“ท่านเทพเจ้า เครื่องบรรณาการมาถึงแล้วขอรับ”
ตอนนี้เองคนของชนเผ่าฉลามยักษ์กลุ่มหนึ่งพลันเดินเข้ามา
จากด้านนอก
สิ่งที่ติดตามมันมานั้นเป็นลูกกรงหนึ่งที่ถูกหอบหิ้วมาด้วยข้ารับ
ใช้ชนเผ่าฉลามยักษ์ ภายในกรงปรากฏเด็กน้อยนั่งตัวสั่นอยู่ 4
คน เด็กเหล่านี้แต่ละคนมองไปก็เห็นได้ชัด ว่าผิวพรรณเนียน
นวลกระจ่าง เต็มเปี่ยมไปด้วยไอพลังปราณวิญญาณคละคลุ้ง
เมื่อได้เห็นร่างมหึมาเบื้องหน้า เด็กน้อยในกรงทั้ง 4 ก็เริ่มหวีด
ร้องดังจ้าด้วยความขลาดกลัว
เทพเจ้าฉลามยักษ์สูดลมหายใจเข้าคําหนึ่งลูกกรงทั้งหลาย
พังทลาย ร่างเด็กน้อยทั้ง 4 พุ่งลอยเข้าปากมหึมา มันขบเคี้ยว
กรุบกรับไม่กี่คํา ร่างทั้ง 4 ที่ดิ้นพล่านในปากก็แน่นิ่งไป…เนื้อ
นุ่มละมุนฉ่ําเลือดหอมอันเปี่ยมล้นไปด้วยพลังปราณวิญญาณ
แสนบริสุทธิ์นี่ ช่างน่าอภิรมย์นัก!
มาตอนนี้โทสะอารมณ์ของเทพเจ้าฉลามยักษ์พอได้บรรเทาลง
บ้าง
“มิเลว…”
เทพเจ้าฉลามแยงนิ้วเล็บแหลมคมกล้าเข้าไปในปาก ค่อยแคะ
เขี่ยเศษกระดูกที่หลงเหลือจากซากศพของเด็กน้อยทั้ง 4
ออกมาจากซอกฟัน ก่อนที่มันจะโยนกระดูกดังกล่าวเข้าไป
เคี้ยวกรุบกรับอีกไม่กี่คํา กระดูกก็ป่นสลายหายลงท้องมันไป
หมดสิ้น…
“พวกสวะใช้การไม่ได้นั่น กับอีกแค่ทําลายนิกายเมฆายังจัก
กล้าล้มเหลว! พวกมันช่างนําความอัปยศอดสูมาสู่ชนเผ่าฉลาม
ยักษ์ของพวกเรายิ่งนัก!!” เทพเจ้าฉลามยักษ์กล่าว
ทุกผู้คนด้านล่างที่ยืนก้มหน้าล้วนเงียบกริบ ร่างพวกมันสั่น
ระริกด้วยความกลัวไม่กล้าเอื้อนเอ่ยคําใด เพราะทั้งหมดรู้ดีว่า
โทสะอารมณ์ของเทพเจ้าฉลามยักษ์ยังไม่ลดไปหมดสิ้น ตอนนี้
ใครกล้ากล่าวออกไปไม่ต่างอันใดกับพุ่งหัวกระทบหิน…
…
หลังจากผ่านพักใหญ่หลินฟ่านก็วูบร่างมาถึงเวิ้งสมุทรสุด
ไพศาล มองไปทางใดก็เห็นเพียงน้ําจรดฟ้ายากแยกแยะ จาก
บันทึกโบราณ นี่คือคาบทะเลที่ชนเผ่าฉลามยักษ์ตั้งถิ่นฐานอยู่…
“แน่นอนจริงๆ! นับว่าพวกมันไม่ใช่ 1 ใน 10 เผ่าพันธุ์สัตว์
โบราณแค่ในนาม ไม่คิดเลยว่าพวกมันจะปกครองพื้นที่
มหาสมุทรสุดไพศาลกว้างใหญ่ออกไปหลายล้านๆตารางลี้แบบ
นี้ได้แต่เพียงเผ่าเดียว! ดูแล้วท่าทางพวกมันน่าจะมีทรัพยากร
และความมั่งคั่งไม่น้อย…!” หลินฟ่านแผ่สํานึกสติตรวจสอบเวิ้ง
สมุทรสุดไพศาลเบื้องหน้า ทันใดนั้นเขาพลันเห็นเงาดําเล็กๆจุด
หนึ่ง เขาพลันวูบว่างไปยังสิ่งนั้นทันใด
บริเวณผิวทะเล…
เวิ้งสมุทรกว้างใหญ่ ลมโชยเอื่อยแผ่วๆทิวคลื่นซัดสาดเบาๆ
เรียดผิวทะเล มองไปช่างเป็นภาพแสนสงบนัก หากแต่กลับ
ปรากฏถังไม้โง่ๆผุพังลอยน้ําป๋อมแป๋มผุดๆลอยๆอยู่ถังหนึ่ง
ภายในถังนั้นยังมีร่างเด็กน้อยคนหนึ่งที่คอยโผล่หัวขึ้นมาดู
เรื่องราวรอบๆอย่างระวัง เมื่อไร้ภยันตรายใดๆ เด็กน้อยค่อย
หยิบไม้พายอันกระจิ๊ดริดออกมาจ้วงน้ําซ้ายทีขวาทีอย่างแข็ง
ขัน
ถังไม้โง่ๆนี้ ช่างใบเล็กกระจ้อยร่อยนัก! เกรงว่าขอเพียงถูกคลื่น
สูงเทียมเอวผู้ใหญ่ซัดมาสักลูกคงได้ล้มคว่ําคะมําหงาย! ไม่ต้อง
สงสัยเลย..ว่านี่ช่างเป็นฝันละเมอของตัวโง่งมนัก! ที่คิดจะข้าม
มหาสมุทรสุดไพศาลด้วยถังไม้โง่ๆนี่! ซ้ําร้ายในสถานการณ์ที่ไร้
ซึ่งน้ําจืดพร้อมเสบียงอาหาร เด็กน้อยนี่มันจะมีชีวิตรอดได้สักกี่
วัน?
“ฮึบๆ! ข้าจักมิย้อมแพ้! ข้าต้องออกไปยังโลกภายนอกฝึกฝน
ยอดวิชาให้สําเร็จ! เพื่อจักได้ย้อนกลับมาช่วยเหลือชนเผ่าของ
ข้า!!” ดวงตาของเด็กน้อยทอประกายแวววาว เผยให้เห็นซึ่ง
ความเด็ดเดี่ยวแลปณิธานอันตั้งมั่น
บุ๋งๆ ซ่า!!!!
ทันใดนั้นเองผิวสมุทรที่สงบนิ่งพลันมีบางสิ่งอุบัติขึ้น เวิ้งน้ําเริ่ม
ป่วนปั่น ก่อนที่มวลน้ําคล้ายจะยกตัวสูงขึ้นดั่งโดม!!
เด็กน้อยร่ําร้องออกมาสนั่นด้วยความตกใจ เมื่อหยาดน้ําพร่าง
พรูกระจัดกระจายลงมาดั่งห่าพิรุณ สองตาของเด็กน้อยพลันได้
เห็นร่างมหึมา! เป็นจ้าวทะเลตัวหนึ่งกําลังอ้าปากกระหาย
เลือดออกกว้าง ดวงตาอํามหิตของจ้าวทะเลนั้น มองเพ่งมายัง
ร่างเด็กน้อยในถังไม้เขม็ง! มันพุ่งเข้ามาด้วยความกระหายใคร่
กลืนกินเด็กน้อยพร้อมถังในหนึ่งคําไม่ผิดแน่!!
“ว๊ากกกกกกกกกก!!! ช่วยข้าพเจ้าด้วยยยยยยย!!!!”
เด็กหนุ่มเค้นเรี่ยวแรงดูดนมมารดาออกมากรีดร้องหมดสิ้น มัน
ปิดตาด้วยความหวาดกลัวไม่กล้าชมดูทุกสิ่งเบื้องหน้า หลังจาก
นั้นผ่านไปครู่ใหญ่เด็กน้อยค่อยนึกเอะใจ ว่าไฉนมันยังไม่ตาย?
ในที่สุดเด็กน้อยก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง…
และสิ่งที่มันแลเห็นก็คือ จ้าวทะเลตัวเขื่องก่อนหน้ากลับลอย
แอ้งแม้งกลางสมุทร ทั้งร่างของมันยังถูกผ่าแยกเป็น 2 เสี่ยง
โลหิตมหาศาลพรั่งพรูออกมาย้อมคุ้งน้ําให้แดงฉาน ดึงดูดเหล่า
นักล่ากระหายหิวอีกมากมายรอบๆ ให้มาร่วมงานฉลองโลหิต!
“ไอหนู…นั่นเจ้ากําลังทําอะไรอยู่น่ะ?”
ทันทีที่เด็กน้อยได้ยินเสียงกล่าวทัก ใจมันก็เต้นกระดอนตุบตับ
แทบกระเด็นออกนอกอก ขวัญเอยขวัญมาข้าพเจ้าหวาดกลัว
แทบตายแล้ว… แต่พอมันได้เห็นร่างที่ทักถาม มันก็พอได้
ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
อย่างไรก็ตามมันยังคงกล่าวไถ่ถามออกมาด้วยน้ําเสียงไม่ค่อย
ไว้ใจคนแปลกหน้าสักเท่าไรเบาๆ “ท่านผู้นี้ เป็นผู้คนแบบใด?”
(53380)
หลินฟ่านมองไอหนูตัวกระจ้อยในถังโง่ๆ ค่อยหัวเราะออกมา
เบาๆ แล้วกล่าวถามกลับ “ก็นะแล้วเจ้าคิดว่าไงล่ะ?”
“ท่าน…ใช่คนดีหรือไม่?” เด็กชายตัวน้อยยังคงกล่าวถามสืบต่อ
“อาฮะ! ดีสิ! ว่าแต่ไหงเจ้ามาอยู่นี่คนเดียวได้ล่ะ?” หลินฟ่านก
ล่าวถามออกมา
“ข้า…ข้า…”
หลังจากนั้นไม่นานเด็กชายตัวน้อยก็บอกเล่าเรื่องราวออกมา
ทั้งหมด และหลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วหลินฟ่านก็อด
ไม่ได้ที่จะรู้สึกประทับใจในความกล้าหาญของเด็กชายที่ขนอุย
ยังไม่ขึ้นผู้นี้นัก ใครจะไปคิดกันว่ามันหาญกล้าออกเดินทางข้าม
มหาสมุทรด้วยถังไม้โง่ๆนี่กัน! นี่หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่า
หลินฟ่านบังเอิญเหลือบไปเห็นแล้วไซร้ มิใช่มันจะถูกจ้าวทะเล
รับประทานเกลี้ยงแล้วหรือ!?
แต่อย่างไรเสีย หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวคร่าวๆแล้ว หลินฟ่านก็
มั่นใจได้ประการหนึ่งว่าเขามาถูกทางแล้ว…
ตอนที่ 856 : ชนเผ่าที่ไร้ผู้ฝึกตน!
และในตอนนี้หลินฟุานก็ได้รู้ชื่อของเด็กน้อยนี่แล้วเช่นกัน
ก้อนหินน้อย (เสี่ยวฉีโท่ว)
นับว่าเป็นนามอันสุดแสนจะธรรมดาเท่าที่มันจะธรรมดาได้
แล้ว!
“ไอหนู เจ้าตัวแค่นี้แถมเรี่ยวแรงก็มีเท่านี้แต่เจ้าคิดจะข้าม
มหาสมุทรอันกว้างใหญ่กว่าล้านๆลี้เนี่ยนะ ข้าคิดว่าให้เจ้าจ้วง
พายไปชั่วชีวิตก็ไปไม่ถึงฝั่งหรอก…” วาจาหลินฟุานไร้ใด
แปลกปลอมแม้เพียงนิด สําหรับเด็กน้อยตัวเท่านี้ มหาสมุทรนี่
มันช่างกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตและเป็นอะไรที่ทอดยาวไปไกลสุด
ลูกหูลูกตานัก อาศัยถังโง่ๆกับไม้พายอันกระจิ๋วหลิวนั่น ให้มัน
จ้วงน้ําทั้งวันทั้งคืนจนแขนหลุดก็คงไม่ถึงฝั่งต่อให้จะผ่านไป
กว่า 100 ปีก็ตาม…
กระทั่งเหล่าตัวตนที่มีด่านพลังต่ํากว่าขอบเขตเทพสวรรค์อมตะ
เกรงว่ากว่าจะเหินบินข้ามมหาสมุทรนี้ได้ ก็ต้องเร่งรุดเดินทาง
ทั้งวันทั้งคืนอย่างน้อย 1 ปี!
“ข้าพเจ้ามิกลัว! พี่น้องของเผ่าพันธุ์ข้าล้วนอยู่ในเงาอันมืดมิด
ของปีศาจร้ายเหล่านี้มานานพอแล้ว! ข้าจักออกเดินทางตาม
หาตัวตนอันทรงพลังและกราบให้ตัวตนท่านนั้นยอมรับเป็น
อาจารย์ของข้า! หลังจากนั้นข้าจะทุ่มเทเรียนรู้ยอดวิชาอย่าง
ขยันขันแข็ง และหวนกลับมาพร้อมพลัง!!” ถึงแม้ว่าตัวของ
ก้อนหินน้อยผู้นี้จะเล็กจ้อยผอมแห้ง ทว่าดวงตาของมันแน่วแน่
ตั้งมั่นประหนึ่งเหล็กกล้า!!
“โฮ่ ไอหนู! ความทะเยอทะยานของเจ้านี่มันโคตรสุดเลยว่ะ!
แต่ถ้าเมื่อครู่เจอไม่เจอข้า เจ้าโดนจ้าวทะเลนั่นกินเกลี้ยงไปแล้ว
ล่ะ…” หลินฟุานหัวเราะออกมาเบาๆ
หลินฟุานเองก็พอมีความรู้ความเข้าใจในร้อยพันชนเผ่าอยู่บ้าง
พลังปราณวิญญาณในร่างกายของเด็กน้อยเบื้องหน้าช่าง
บริสุทธิ์ไร้มลทินนัก ถึงแม้เจ้าหนูนี่จะไม่ได้มีการฝึกตนระดับ
ใดๆเลย แต่หลินฟุานก็บอกได้ทันที ว่าทั่วทั้งร่างและทุกอณู
เลือดเนื้อของมัน เต็มไปด้วยพลังปราณวิญญาณ!!
ด้วยร่างกายแบบนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอีกฝุายมาจากเผ่าพันธุ์
วิญญาณ แน่แท้!
และเผ่าพันธุ์นี้ก็ค่อนข้างลึกลับนัก ยากที่จะได้พบพานผู้คนเผ่า
นี้ที่อื่น!
“ท่านแข็งแกร่งหรือไม่?” ลูกหินน้อยมองมายังหลินฟุานด้วย
สายตากระหาย ราวกับมันกําลังคาดหวังบางสิ่ง
“ข้าประมุขน่ะเหรอ? ก็ไม่เลวเลยล่ะ ทําไมเหรอ? เจ้ามีอะไรรึ
เปล่า?” หลินฟุานหัวเราะออกมาเบาๆ
ตึก!
ทันใดนั้นก้อนหินน้อย ก็ทรุดตัวลงคุกเข่าลงบนพื้นถัง ร่างเล็กๆ
ของมันหมอบกราบลงไปคุดคู้ในถัง “ได้โปรดรับข้าน้อยเป็น
ศิษย์ด้วยขอรับท่านผู้อาวุโส! ได้โปรดสอนสั่งยอดวิชาต่อสู้อันลี้
ลับอัศจรรย์ให้ข้าพเจ้าด้วย!!”
“ฮ่าๆๆๆ” หลินฟุานอดหัวเราะออกมาเสียไม่ได้เมื่อเห็นก้อน
หินน้อยกําลังก้มกราบเขาอยู่ในถังโง่ๆ ไอหนูนี่ช่างน่าสนใจนัก!
“โอ้? แน่นอนล่ะว่าข้าสามารถสอนสุดยอดวิชาที่ไร้ผู้ใดเสมอ
เหมือนได้ในใต้หล้าให้เจ้า…แต่ว่านะเจ้าหนู แล้วเจ้าจะมอบ
อะไรให้ข้ากลับล่ะ?” หลินฟุานหัวเราะออกมา “เจ้าสมควรรู้ดี
ว่าบนโลกนี้ไม่มีโรงทานกินเปล่าโดยไร้วัตถุประสงค์”
เมื่อก้อนหินน้อยได้ยินคํานี้ ใบหน้าน้อยๆโง่งมของมันก็เผย
ความกังวลออกมาด้วยไม่รู้ว่ามันจะทําอย่างไรดี ทันใดนั้นก้อน
หินน้อยก็หยิบควักกริซที่เหน็บไว้บริเวณเอวออกมายื่นไว้เบื้อง
หน้า
“ได้โปรดรับข้าเป็นศิษย์ด้วยเถิดท่านผู้อาวุโส! ข้าก้อนหินน้อย
มาจากชนเผ่าวิญญาณ! ข้ารู้ดีว่าพวกปีศาจเหล่านั้นชมชอบกิน
เนื้อสหายร่วมเผ่าพันธุ์ของข้า! ตราบใดที่ท่านถ่ายทอดสุดยอด
วิชาลึกล้ําให้ก้อนหินน้อย ก้อนหินน้อยจะเฉือนเนื้อให้ท่านผู้
อาวุโสกิน”
ถึงแม้ว่าก้อนหินน้อยจะยังเล็กเป็นเด็กน้อย แต่ใบหน้าของมันก็
เคร่งขรึมขริงจังราวกับกําลังกล่าวถึงเรื่องสําคัญนัก
หน้าหลินฟุานยังอึ้งเหวอไป เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าเจ้าหนูนี่จะ
กล่าวเรื่องนี้ออกมา!
แต่หลินฟุานก็รู้ดีจากบันทึก ว่าชนเผ่าวิญญาณนั้นถือกําเนิดมา
พร้อมกับพลังปราณวิญญาณมหาศาลทั่วร่าง เรียกได้ว่าเนื้อ
ของพวกมันเป็นอะไรที่อร่อยที่สุดในโลกหล้า…!
ชนเผ่าฉลามยักษ์สมควรชุบเลี้ยงผู้คนของชนเผ่านี้ไว้ไม่ต่างใด
กับปศุสัตว์เป็นแน่ เพื่อที่พวกมันจะได้เพลิดเพลินไปกับอาหาร
อันโอชะไร้สิ้นสุดนี้ ตามแต่ใจพวกมันจะปรารถนา!
ตอนนี้เอง ตาของเจ้าชิคกี้ที่ยืนอยู่บนไหล่หลินฟุานก็เปล่ง
ประกายแวววาวขึ้นมา
“พี่ใหญ่ เจ้าหนูนี่นับว่าใช้การได้เลย! ใจสู้ของมันถูกใจชิคกี้
มากๆ!!” ชิคกี้กล่าวแสดงความเห็นออกมา
“โอ้ ชิคกี้ แกชอบเจ้าหนูนี่เหรอ งั้นให้แกรับมันเป็นลูกศิษย์เลย
ดีปุาว?” หลินฟุานยิ้มออกมา
“เอาสิๆ! ถึงเจ้าหนูนี่จะยังอ่อนแอแลดูไม่ค่อยไหวเท่าไร แต่ชิค
กี้ใจดีที่สุด สําหรับเรื่องนี้…”
ชิคกี้คิดจะคุยโวโอ้อวดอีกเล็กน้อย ทว่าตอนนี้ก้อนหินน้อยที่
คุกเข่าอยู่พลันส่ายหัวออกมาระรัว
“ไม่ไม่ไม่ไม่! ข้าต้องการกราบท่านผู้อาวุโสเป็นอาจารย์! ข้ามิ
ต้องการรับไก่เป็นอาจารย์!!”
เมื่อชิคกี้ได้ยินคําพวกนี้มันถึงกับของขึ้นทันใด ขนปีกของมัน
ลุกตั้ง “ไอหนู! เจ้านี่มันช่างไม่รู้ซะแล้วว่าอะไรมันดีกับเจ้า!
บิดาชิคกี้ผู้นี้สุดยอดที่สุดในสามโลก บิดาอุตส่ามีใจรับเจ้า
แท้ๆ…? เจ้าทําให้ใต้เท้าชิคกี้พิโรธแล้วนะ!!”
“ฮ่าๆๆๆๆ!!” หลินฟุานระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ก่อนที่จะ
ลูบหัวเจ้าชิคกี้เบาๆ
“เอาล่ะ เด็กน้อยพวกเราค่อยมาพูดถึงเรื่องนี้วันหลัง…มาๆ
ไหนให้ข้าประมุขดูก่อนว่าชนเผ่าวิญญาณของเจ้าอาการเป็น
ยังไง” หลินฟุานสะบัดผ้าคลุมคราหนึ่ง หอบร่างก้อนหินน้อย
ให้มากับเขา ค่อยเหินบินออกไปทันใด
หลินฟุานใช้เวลาเพียงเสี้ยวของเสี้ยวพริบตาก็มาถึงที่หมาย
แล้ว!
ทว่านี่สําหรับก้อนหินน้อยแล้วมันช่างเป็นอะไรที่สุดแสน
เหลือเชื่อนัก มันลอยทะเลไปกับถังซ้ํายังจ้วงพายบึ๊ดจ้ําบึ๊
ดอย่างเหนื่อยล้าอยู่กว่า 10 วัน! แต่เสี้ยวของเสี้ยวพริบตามัน
กลับมาถึงบ้านแล้ว! ตอนนี้ยิ่งมาก้อนหินน้อยยิ่งมั่นใจหนักหนา
ว่าตัวตนที่อยู่ข้างๆมัน ต้องเป็นตัวตนอันทรงพลังของจริง!!
“ก้อนหินน้อย ที่นี่ใช่บ้านของเจ้ารึเปล่า?” หลินฟุานมอง
ออกไปยังเมืองกลางมหาสมุทรเบื้องหน้า ค่อยกล่าวถามด้วย
ความสงสัย
ทั่วทั้งเมืองนี้อบอวลไปด้วยพลังปราณวิญญาณ และทั้งหมด
ล้วนถูกปลดปล่อยออกมาจากผู้คนในเมืองอันเป็นชนเผ่า
วิญญาณ เนิ่นนานผ่านไปพลังปราณวิญญาณเหล่านี้ก็
ควบแน่นก่อเกิดเป็นพายุพลังเหนือเมือง
เรียกได้ว่าพายุพลังปราณวิญญาณเหนือเมืองนั้นหมุนวนไปทั่ว
น่านฟูาของเมืองแห่งนี้ก็ว่าได้ ทั้งพายุเหล่านั้นยังให้กําเนิด
สิ่งมีชีวิตวิญญาณมากมายหลายหลากชนิดออกมา…
“ท่านผู้อาวุโส นี่เป็นบ้านเกิดของก้อนหินน้อยเอง” ตอนนี้เมื่อ
กลับมาถึงบ้านเกิดเมืองนอน ก้อนหินน้อยก็อดมองมันด้วย
ความสะทกสะท้อนหวนรําลึกเสียไม่ได้ หากแต่ใบหน้าของมัน
นั้นโดยมากแล้วจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ราวกับมันได้พบ
เจอแต่เรื่องร้ายๆมาตลอดชีวิต…
“เอ๊อะ? แปลกจังแหะ…ไหงมองไปทางไหนก็มีแต่คนธรรมล่ะ
เนี่ย?” หลินฟุานที่แผ่ซ่านสติสํานึกออกไปนั้น ทําให้ทุก
สิ่งมีชีวิตทุกการกระทําของทั้งหมดทั้งปวงในเมืองตกอยู่ในการ
รับรู้ของเขาหมดสิ้น ยังกระจ่างดั่งฝุามือตัวเอง!
พรสวรรค์แต่กําเนิดของผู้คนชนเผ่าวิญญาณก็คือ ร่างกายของ
ทุกคนนั้นจะบริสุทธิ์ถึงขีดสุด เรียกว่าไร้มลทินอันใด ไม่มี
แม้กระทั่งสิ่งปนเปื้อนอะไรทั้งนั้น! หากผู้คนเผ่านี้ได้ฝึกฝน
บําเพ็ญล่ะก็ เสมือนนั่งเรือบนทะเลสาบสงบ เรียกว่าทุกสิ่ง
อย่างสําหรับพวกมันล้วนราบรื่นทั้งสิ้น! ทว่ามาตอนนี้เรื่องราว
ช่างชวนให้หลินฟุานฉงนใจนัก! เพราะผู้คนของชนเผ่า
วิญญาณในเมืองที่หลินฟุานสัมผัสได้ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่เป็น
ผู้ฝึกตน! ทั้งหมดล้วนเป็นคนปกติที่อ่อนแอถึงขีดสุด!!
นี่เป็นเรื่องที่หลินฟุานคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้เลยบนโลก
เซียนโบราณใบนี้!!
“ก้อนหินน้อย ในบ้านเกิดของเจ้าไม่มีใครฝึกฝนบําเพ็ญพลัง
เลยหรอ?” หลินฟุานกล่าวถาม
“มิมีเลยขอรับท่านผู้อาวุโส มิมีสมาชิกในครอบครัวของก้อน
หินน้อยที่สามารถฝึกฝนพลังได้ เพราะทั้งหมดล้วนไม่ได้รับ
อนุญาตให้ฝึกฝน! หากพวกปีศาจร้ายพบว่าใครฝึกฝนพลังพวก
มันจะฆ่าทันทีขอรับ! นี่เป็นเหตุผลที่ทําให้ก้อนหินน้อยต้องการ
ออกไปจากที่นี่แสวงหาตัวตนทรงพลังที่โลกภายนอกเป็น
อาจารย์ เพื่อที่ข้าจะได้เรียนรู้วิชาอะไรบ้าง..”
ก้อนหินน้อยกล่าวตอบ
หลินฟุานไร้คําจะกล่าว เขาสัมผัสได้ถึงทุกความเคลื่อนไหวใน
เมืองชัดเจน และไม่นานเขาก็รับรู้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเมือง
นี้…
ภายในเมืองนี้มีผู้คนของชนเผ่าวิญญาณอาศัยอยู่ราวๆ 10
ล้านชีวิต อย่างไรก็ตามไม่เพียงแต่จะไร้ผู้ใดเป็นผู้ฝึกตน กระทั่ง
พลังงานที่แท้จริง ทั้งหมดยังไม่มี!!
ดูเหมือนว่าชนเผ่าฉลามยักษ์จะปิดล้อมสถานที่แห่งนี้เอาไว้
มิดชิด และเก็บชนเผ่านี้เอาไว้ไม่ต่างเชลยศึก ทว่าปล่อยให้
ทั้งหลายได้ดํารงชีวิตอยู่ตามยถากรรม มอบงานเล็กๆน้อยๆให้
ทําพอได้เลี้ยงตัวและครอบครัวให้อยู่รอดไปวันๆ…
เรื่องนี้ยังทําให้หลินฟุานหวนนึกถึงเรื่องราวในโลกเก่าของเขา
อยู่บ้าง ผู้ทกี่ ล้าฝึกฝนก็เสมือนกับผู้ที่กล้าพกพาอาวุธปืนในโลก
เก่า หากถูกพบเจอจะถือว่าเป็นอาชญากรรมร้ายแรง
บนถนนทางเดินหลินฟุานยังเห็นชนเผ่าฉลามยักษ์จัดกลุ่มลาด
ตระเวณไปทั่ว เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้คนชนเผ่าวิญญาณพบเห็นชน
เผ่าฉลามยักษ์ ต่างก็หงอยไปคล้ายสูญเสียความกล้าทั้งหมดใน
ชีวิตของพวกมันทันที
“เจ้าช่างกล้าดีนักนะ เป็นแค่สวะชนเผ่าวิญญาณแต่กลับกล้า
ฝึกฝนงั้นเหรอ!?”
ตอนนี้เองชนเผ่าฉลามยักษ์ที่ลาดตระเวณตนหนึ่ง ได้จับกุมชน
เผ่าวิญญาณตนหนึ่งขึ้นมาเอาเรื่อง แยกเขี้ยวยิงฟันแหลมคมขู่
ข่ม น่ากลัวนัก!
“ไม่นะ! ข้ามิได้ฝึกฝนอันใด!!” ชนเผ่าวิญญาณที่ถูกจับหวีดร้อง
โหยหวนออกมาด้วยความหวาดกลัว!
“ฮึ่ม! ยังกล้าโกหกบิดา! โทษของการลักลอบฝึกฝนบ่มเพาะคือ
ความตาย! เช่นนั้นก็ได้เวลากลืนกินเจ้าตามกฏ!!” ชนเผ่าฉลาม
ยักษ์คนนั้นแสยะยิ้มค่อยอ้าปากออกกว้างทันใด หมายขย้ําลง
ไปยังชนเผ่าวิญญาณในกํามือ
สําหรับผู้คนของชนเผ่าฉลามยักษ์แล้ว สิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์
วิญญาณนั้นไม่ต่างใดกับยาชูกําลัง เลือดเนื้อที่เต็มไปด้วยพลัง
ปราณวิญญาณนั้น จะกลายเป็นพลังปราณวิญญาณอันบริสุทธิ์
ของพวกมันทันทีที่กลินกินอีกฝุายเข้าไป และพลังนี้จะแล่น
พล่านไปทั่วร่างเสริมสร้างร่างกายของพวกมัน!! (53380)
เมือ่ ชนเผ่าวิญญาณรอบๆเห็นเหตการณ์ที่เกิดขึ้น ต่างก็ตัวสั่น
ด้วยความหวาดกลัว! แต่ไม่มีใครกล้าร่ําร้องหืออือออะไร!!
สําหรับผู้คนเหล่านี้ ตัวตนจากชนเผ่าฉลามยักษ์น่าหวาดกลัว
เกินไป!
“ได้โปรด! ละเว้นข้าด้วย!!” เมื่อคนของชนเผ่าวิญญาณผู้นั้น รู้
ดีว่ามันกําลังจะถูกกลืนกิน เป็นได้เพียงของขบเคี้ยวเล่นของ
ฉลามยักษ์เบื้องหน้า มันก็ทําได้แค่ร่ําร้องออกมาอย่างอนาถา…
เห็นภาพเบื้องหน้าหลินฟุานก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา ฉลามยักษ์
พวกนี้ช่างสมแล้วกับที่เป็นหมาเลี้ยงของชนเผ่าโบราณ ชั่ว
เหมือนกันไม่มีผิด สันดารชอบกินสิ่งมีชีวิตอื่นไม่ผิดแผก
แตกต่าง!!
ทันใดนั้นหลินฟุานก็จี้นิ้วออกมา
ปงงงงง!!!!!
ทันใดนั้นร่างฉลามยักษ์ที่หมายกลืนกินผู้คน ก็ระเบิดออก และ
ก่อนที่ชิ้นเนื้อเลอะเลือนของมันจะทันได้เกลื่อนพื้นก็ถูกพลังคม
กล้าสะบั้นจนแหลกสลายเป็นผุยผง ไม่หลงเหลือแม้แต่หยาด
โลหิต! ตายเสียจนไม่รู้จะตายอย่างไรดีแล้ว…!!
ตอนที่ 857 : ได้เวลารับประทานหูฉลาม!
“ผู้ใด!?”
“เป็นผู้ใดกัน!?”
ตอนนี้เหล่าฉลามยักษ์ที่เดินลาดตระเวณเริ่มขุ่นขึ้ง ไม่คิดเลยว่า
จะมีใครกล้าสังหารชนเผ่าฉลามยักษ์! พวกมันเหนื่อยกับชีวิต
มากนักหรือไร?
สาหรับคนของชนเผ่าวิญญาณนั้น หน้าของทุกคนอึ้งค้างปาน
ถูกแช่แข็งไปแล้วเมื่อได้เห็นเรื่องราวเบื้องหน้า
นั่นคือชนเผ่าฉลามยักษ์ 1 ใน 10 เผ่าพันธุ์สัตว์โบราณ! เป็นชน
เผ่าที่หันไปเข้าพวกกับชนเผ่าโบราณและปกครองห้วงสมุทรสุด
ไพศาลกว้างใหญ่นับล้านล้านตารางลี้
“ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย! เมตตาละเว้นพวกเราด้วย!!”
ทันใดนั้นเองผู้คนของชนเผ่าวิญญาณทั้งหลายต่างหมอบราบ
ลงไปกับพื้น! ในสายตาของพวกมันชนเผ่าฉลามยักษ์ต้อง
บันดาลโทสะและนามาลงกับพวกมันแน่…กระทั่งยังจะสังหาร
หมู่พวกมันแน่แท้!!
“ชนเผ่าฉลามยักษ์นับว่าเผด็จการนัก ไม่คิดเลยว่ามันจะ
ควบคุมชนเผ่าอื่นเอาไว้อยู่หมัดด้วยความกลัวแบบนี้ได้…”
ตอนนี้เองปรากฏเสียงทรงอานาจดังออกมาจากความว่างเปล่า
เงยขึ้นไปมองเห็นเป็นร่าง 2 ร่างค่อยๆโรยตัวลงมาช้าๆ
ตอนนี้ก้อนหินน้อยแลดูตื่นเต้นและคึกคักไม่น้อย มันมองผู้คน
ด้านล่างทั้งยังโบกไม้โบกมือเป็นการใหญ่ “ทุกคน! ข้ากลับ
มาแล้ว!!”
“ข้ากลับมาแล้วว!!”
ก้อนหินน้อยนั้นยังเป็นเด็กน้อยไม่ประสา ย่อมไม่รู้เรื่องราว
เกี่ยวกับตัวตนทรงพลังอะไร ทว่าเพียงมันได้เห็นหลินฟุาน
จัดการชนเผ่าฉลามยักษ์ได้ง่ายดายเพียงชี้นิ้ว มันก็รู้สึกตื่นเต้น
ยินดีอย่างยิ่ง!
ชิคกี้ที่ยืนอยู่บนไหล่หลินฟุานก็เหลือบมองดูชนเผ่าวิญญาณ
ด้านล่างตาแป๋ว ต่อมาก็อดไม่ได้ที่ชิคกี้จะส่ายหัวอย่างเพลียใจ
เพราะผู้คนด้านล่างสารรูปดูไปไม่ต่างใดจากสุกรในคอก ชีวิต
น่าสังเวชนัก!
ชนเผ่าวิญญาณที่หมอบกราบค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองบนฟูา
ไม่นานก็เห็นร่างเล็กๆชัดถนัดตา
“นั่นก้อนหินน้อย!”
“หืม? นั่นลูกชายจ้าวซินหมิง มิใช่หรือไร?”
“มิใช่ว่าเด็กน้อยนี่ออกเดินทางท่องไปในทะเลแล้วหรือ ข้ายัง
คิดว่าเขาคงต้องตายตก เป็นซากศพติดซอกฟันจ้าวสมุทรหรือ
อันใดไปแล้ว… มิคิดเลยว่าจักสามารถรอดกลับมาได้เยี่ยงนี้…”
“แล้วบุรุษที่อยู่ข้างก้อนหินน้อยเป็นผู้ใดกัน? เขาใช่คนสังหาร
ชนเผ่าฉลามยักษ์เมื่อครู่หรือไม่?”
…
“เจ้าที่แท้เป็นผู้ใดกันแน่ ถึงได้กล้าคนเผ่าฉลามยักษ์ของข้า!!”
หน่วยลาดตระเวณของชนเผ่าฉลามยักษ์คารามเสียงดัง นี่เป็น
อะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน! ไม่คิดเลยว่าจะมีผู้ใดหาญกล้าเข่น
ฆ่าคนเผ่าฉลามยักษ์ในอาณาเขตของพวกมันเองแบบนี้!!
“เหอะ!”
หลินฟุานแค่นคาออกมาเสียงเย็นด้วยเคล็ดสดับสาเนียงมังกร
สวรรค์ ปรากฏเป็นคลื่นเสียงพิฆาตพุ่งผ่านความว่างเปล่า
ออกไปด้วยพลังอานาจมหาศาล อากาศว่างเปล่าแหลกไป
ทันใด!
เปรี๊ยะๆๆๆ!!!
และอานาจที่ทาให้ความว่างเปล่าตามรายทางแหลกเป็นเศษ
เช่นนี้ สาหรับหน่วยลาดตระเวณของชนเผ่าฉลามยักษ์แล้ว มัน
คือพลังอานาจที่มิอาจต้านทานได้!!
ปงงงงง!!
บดขยี้! ช่างเป็นการบดขยี้อย่างสมบูรณ์!!
เหล่าผู้คนในหน่วยลาดตระเวณของชนเผ่าฉลามยักษ์ล้วนตัว
แตกระเบิดกลับกลายเป็นละอองธุลี!!
อนาถ! ช่างน่าเศร้านัก! ไม่เหลือกระทั่งซากศพให้กลบฝัง!!
“ทุกคน นี่คือท่านผู้อาวุโสที่กลับมากับข้า! ท่านผู้อาวุโสจะช่วย
พวกเรากาจัดปีศาจร้ายเหล่านี้เอง!!” ก้อนหินน้อยตะโกนลั่นจ้า
ออกมาด้วยความตื่นเต้น
“ก้อนหินน้อย! ไฉนเจ้ากลับมาแล้ว? แล้วบุรุษผู้นี้ที่แท้เป็นใคร
กัน?”
“ก้อนหินน้อย เร็วเข้า น้องสาวเจ้าพึ่งถูกชนเผ่าฉลามจับไป
สังเวยเทพเจ้าฉลาม!!”
…
ทันทีที่ก้อนหินน้อยได้ยินเรื่องนี้หน้ามันเปลี่ยนสีทันที “ท่าน
อาวุโส ได้โปรดช่วยน้องสาวข้าด้วย!”
เมื่อได้ยินพูดของผู้คนด้านล่าง ก้อนินน้อยยิ่งดึงเสื้อคลุมของ
หลินฟุานด้วยความกังวล
“ผู้ใดกล้าก่อเรื่อง!?!”
ทันใดนั้นเองมีเสียงตะโกนดังสนั่นกังวาลมาแต่ไกล เสียงนี้
หยาบเถื่อนเต็มไปด้วยความดุร้ายอันไร้สิ้นสุด!
สุดขอบฟูาอันห่างไกลมองไปเห็นคลื่นทะเลเกรี้ยวกราด กาลัง
ม้วนเกลียวมาปานจะท่วมทับโลกหล้า เหนือลอนคลื่นปรากฏ
ร่างฉลามยักษ์ในชุดเกราะสีทองอร่าม เปล่งพลังอานาจไม่
ธรรมดา!!
“อ๊า! ราชันฉลามมาแล้ว!!”
เมื่อผู้คคนของชนเผ่าวิญญาณได้ยินเสียงนี้พวกมันรู้สึกคล้าย
หัวใจของพวกมันจะเต้นระส่าไม่เป็นจังหวะ ท่วมท้นไปด้วย
ความหวาดกลัวอีกครั้ง!
แต่จะให้ทาอย่างไรได้ สาหรับผู้คนของชนเผ่าวิญญาณแล้ว
ราชันฉลามยักษ์ก็เปรียบเสมือนเทพผู้ควบคุมความตายของ
พวกมัน สาหรับเรื่องตัวตนทรงพลังที่ก้อนหินน้อยนาพามานั้น
ไม่มีใครเชื่อมือหรือคาดหวังแม้เพียงนิด! ในสายตาของพวกมัน
ราชันฉลามยักษ์เป็นอะไรที่อยู่ยงคงกระพันไร้เทียมทาน!!
ย้อนกลับไปในอดีตก็เคยมีผู้คนชนเผ่าวิญญาณที่รวมกลุ่มกัน
หมายมาช่วยเหลือพวกมัน อนิจจาเมื่ออยู่ต่อหน้าราชันฉลาม
ยักษ์แล้ว ทั้งหมดทั้งมวลล้วนไม่ต่างมดปลวก ถูกบดขยี้เข่นฆ่า
ในเสี้ยวพริบตา ไม่อาจต่อสู้ต้านทานได้เลย!
คิ้วหลินฟุานยักขึ้นเล็กน้อยขณะมองไปไกลตา ริมฝีเริ่มเผยยิ้ม
แสยะ มือที่ว่างเอื้อมไปลูบหัวก้อนหินน้อยที่ตัวสั่นเบาๆ “เฮ่ ไอ
หนู เจ้าไม่ต้องห่วงหน่า ทุกอย่างยังอยู่ในกามือข้า”
“เจ้าเป็นผู้ใด!?” แสงสีทองลากตัดฟูามาฉับไวก่อนจะหยุดลง
เบื้องหน้าหลินฟุาน ร่างราชันฉลามยักษ์ตนนี้นับว่ามีขนาด
ใหญ่โตมหึมานัก! หัวของมันเป็นฉลามที่แลดูดุร้ายน่ากลัวเป็น
พิเศษ ดวงตาอามหิตของมันปูดโปนจับจ้องมายังหลินฟุานด้วย
สายตาที่เต็มไปด้วยความรุนแรงเกรี้ยวกราด!!
“หุบปาก แล้วไปเรียกไอเทพเจ้าฉลามของเจ้าให้ไสหัว
ออกมา…”
กับฝุายตรงข้ามที่อ่อนแอไม่ต่างมดปลวก หลินฟุานคร้านจะ
แยแสอะไรสักเท่าไร
“บังอาจ!! ท่านเทพเจ้าฉลามเป็นตัวตนที่น่าเคารพอย่างสูง
ท่านมิใช่อะไรที่ตัวต้อยต่าไร้ราคาดั่งมดปลวกสวะเช่นเจ้าคิดจะ
พบก็พบได้! เจ้ากล้าฆ่าลูกน้องของข้า วันนี้ข้าจะให้เจ้าชดใช้
ด้วยความตาย!!” ราชันฉลามยักษ์คารามสนั่น!
วู้มมมม!!
พริบตานั้นเองร่างราชันฉลามยักษ์ตัวเขื่องกลับกลายเป็นเส้น
แสง พุ่งปรี่เข่นฆ่ามายังหลินฟุานด้วยความเร็วสูง!
เมื่อได้เห็นภาพเรื่องราวเบื้องหน้า ผู้คนของชนเผ่าวิญญาณ
ทั้งหลายล้วนคิดกันไปอย่างสิ้นหวัง! มิแคล้วตัวตนทรงพลัง
อะไรที่ก้อนหินน้อยพามาต้องตกตายสิ้นท่าแน่นอนแล้ว!!
บางทีกระทั่งก้อนหินน้อยนั่นก็คงต้องตายอนาถด้วย…
หมับ!
ทว่าเรื่องราวที่ทาให้ขวัญผู้คนกระเจิงพลันอุบัติขึ้นตรงหน้า
ราชันฉลามยักษ์ที่เป็นดั่งตัวตนอยู่ยงคงกระพันไร้เทียมทานใน
สายตาของพวกมัน กลับถูกชายหนุ่มผู้นั้นใช้มือคว้าจับลาคอ
เอาไว้อย่างง่ายดาย!!
“แค่ไปเรียกเทพเจ้าฉลามอะไรนั่นให้ไสหัวออกมาหาข้าประมุข
เสีย ระดับพวกเจ้าให้มัดรวมกันมาทั้งหมดก็แค่ฝูงมดโง่ๆ
เท่านั้น…” หลินฟุานยกมือที่กอบกุมลาคอราชันฉลามยักษ์
เอาไว้ขึ้นมาอย่างง่ายดาย สายตาดูแคลนหยามหยันที่มองไป
ทาให้มันถึงกับตกตะลึงพรึงเพริด!
ราชันฉลามยักษ์ไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องราวจะกลับกลายเป็น
เช่นนี้ไปได้ มันตะโกนออกมาเสียงดัง “บัดซบ! ที่แท้เจ้าเป็น
ผู้ใดกันแน่!?”
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า..”
หลินฟุานกล่าวตอบออกไปอย่างไร้เรื่องราว มือที่กอบกุมลาคอ
เพิ่มแรงบีบเล็กน้อย
ส่วนอีกด้านนั้นเจ้าชิคกี้ที่อยู่บนไหล่ของหลินฟุานอย่าง
ระมัดระวังนั้น มันมองไปยังราชันฉลามยักษ์ด้วยสายตาดูแคลน
ค่อยกล่าว “เหอะ! อาศัยตัวกระจอกอย่างเจ้า แค่พี่ใหญ่ข้าลด
ตัวไปจับให้มือแปดเปื้อนด้วยก็บุญหัวแล้ว! ใยเจ้าไม่ไปฉี่ใส่อ่าง
แล้วชะโงกดูเงาเล่า ว่าหนังหน้าเจ้ามันโคตรอุบาทว์ขนาด
ไหน!!”
“อ๊ะ!! พี่ใหญ่นึกอะไรออกล่ะ!!” ประกายตาดูแคลนของเจ้าชิคกี้
อยู่ดีๆก็เปล่งประกายวับวาบสดใส มันรีบกล่าวออกมาด้วย
ความตื่นเต้น
“หือ? อะไรเหรอ?”
“ข้าได้ยินจากแม่จ๋ามาว่า…ในบรรดาชนเผ่าฉลามยักษ์นั้น จะมี
สายพันธุ์ราชวงศ์เรียกว่า ฉลามสวรรค์อยู่ และครีบของมันนั้น
เป็นอะไรที่เลิศรสยิ่งนัก กระทั่งยังมีสรรพคุณช่วยกระดับพลัง
ฝึกฝนของผู้ที่ได้กิน!!”
“โอ้! เดี๋ยวนะครีบ… หูฉลามเหรอ!?” หลินฟุานเริ่มยิ้มกริ่ม
ออกมาทันใด
“พวกตัวบัดซบ!” ราชันฉลามแผดเสียงออกมา ไม่คิดเลยว่า
สิ่งมีชีวิตเบื้องหน้ากาลังปรึกษากันเรื่องคิดจะกินมัน!!
ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซ!! ครึกๆ ครืนนนนน!!!!
ทันใดนั้นราชันฉลามยักษ์ก็คารามออกมาสุดเสียง ร่างของมัน
เริ่มขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตามันก็สูงนับพันฟุต
ฉลามยักษ์ที่มีครีบคู่สวยงาม ปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าหลินฟุาน!
ครีบสวรรค์คู่นั้นช่างเปล่งประกายเจิดจ้างดงามนัก!!
“พี่ใหญ่! นั่นไง! มันเป็นฉลามสวรรค์ที่ข้าบอก!! ฉลาม
สายเลือดราชวงศ์ของชนเผ่าฉลามยักษ์!!” ชิคกี้ตีปีกพั่บๆอย่าง
ยินดี ขณะที่กล่าวออกน้าลายยังเริ่มสอหยดย้อยออกมา!!
“โอ้ว! ในเมื่อไอชนเผ่าฉลามยักษ์นี่มันชอบกินชนเผ่าวิญญาณ
มากนัก วันนี้พวกเราจะให้ชนเผ่าวิญญาณได้ลองกินมันเป็น
อาหารมั่งแล้วกัน!!”
หลินฟุานแสยะยิ้มค่อยยกมือขึ้นมาอย่างแรง ปรากฏพลังไร้
สภาพหยิบยกคว้าจับร่างราชันฉลามตัวเขื่องให้ปลิวกระเด็นขึ้น
ไปบนฟูา ทันใดนั้นหลินฟุานก็จิ้วนิ้วออกมา 2 นิ้วประกบติด
ต่างกระบี่ สะบัดฟาดวูบวาบในพริบตา
ฉัวะ! ฉัวะ!!
ปรากฏคลื่นกระบี่สะบั้น 2 สายแหวกฝุาอากาศไปอย่างฉับไว
เสียงเฉือนสะบั้นดังสนั่นในอากาศ ครีบสวรรค์ทั้งคู่ถูกตัด
ออกมาอย่างหมดจด!! (53380)
“อ๊าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค!!!”
ราชันฉลามยักษ์หวีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด อย่างไรก็
ตามพริบตาต่อมาหลินฟุานที่ระคายหูพลันสะบัดมือออกมา
อย่างไร้เรื่องราว ปรากฏมวลพลังมหาศาลซัดกระแทกผ่า
อากาศอย่างรุนแรงไปบดขยี้ร่างราชันฉลามยักษ์!
‘ติ๊ง!! ..ขอแสดงความยินดีท่านสังหาร สายเลือดราชวงศ์ของ
ชนเผ่าฉลามยักษ์ ราชันฉลาม’
‘ติ๊ง!! EXP+ … ‘
…
ด้วยความแข็งแกร่งของหลินฟุานในตอนนี้ถึงแม้อีกฝุายจะเป็น
ฉลามสวรรค์ ก็ไม่ได้ให้ค่าประสบการณ์มากมายกับเขาแต่
อย่างไร กล่าวไปยังกระจุ๋มกระจิ๋มนัก…
ตอนนี้ทางด้านผู้คนของชนเผ่าวิญญาณล้วนตกตะลึงราวกับพึ่ง
ได้เห็นบางสิ่งอันน่าสะพรึง! พวกมันไม่คิดเลยว่าราชันฉลามที่
น่าเกรงขามจะตกตายง่ายดายเช่นนั้น!!
กลับกัน ทางก้อนหินน้อยนี่คึกคักอักโขมันตบมือระรัวอย่าง
ชมชอบใจ! ตบไม่หยุดเสียจนมือเริ่มแดงแล้ว!!
ตอนที่ 858 : หนีทาเพื่อ?
“ระ…ราชันฉลาม ตกตายแล้ว!!”
ในบรรดาผู้คนชนเผ่าวิญญาณปรากฏเสียงตะโกนออกมาด้วย
ความตื่นเต้นเสียงหนึ่ง ราวกับนี่เป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อนัก และ
ไม่นานทุกผู้คนก็คล้ายถูกปลุกให้คืนสติ!
“ราชันฉลามตกตายไปแล้วจริงๆ!!”
“สวรรค์!! มิคิดเลยว่าราชันฉลามผู้อยู่ยงคงกระพันนั่นจักถูก
สังหารได้!!”
“มันถูกสังหารด้วยน้ามือของตัวตนทรงพลังที่ก้อนหินน้อยพา
มา!!”
“ทุกคนเร็วเข้า รีบออกมาดูเร็ว! ราชันฉลามยักษ์ตกตายแล้ว!!”
ตอนนี้เสียงเชียร์กู่ก้องแทบสนั่นขึ้นไปถึงชั้นฟ้า คนของชนเผ่า
วิญญาณรู้สึกคล้ายความอึดอัดบีบคั้นอันไม่พอใจ ในที่สุดก็ได้
ถูกระบายออกไปจากใจเสียที
“ท่านผู้อาวุโส ท่านช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก!” ก้อนหินน้อยเงยหน้า
ชมมองหลินฟ่านด้วยความร่าเริง ส่วนหลินฟ่านเพียงหัวเราะ
เบาๆไม่ได้ใส่ใจอะไร
ตุบ!
ทันใดนั้นเองชนเผ่าวิญญาณทั้งหมดพลันทิ้งตัวลงคุกเข่าอีก
ครั้ง!!
“ท่านผู้อาวุโสได้โปรดช่วยเหลือพวกเราด้วย!!”
ชนเผ่าวิญญาณนั้นถูกชนเผ่าฉลามยักษ์กดขี่ข่มเหงมานานแสน
นานแล้ว ในที่สุดเมื่อความหวังปรากฏขึ้นมาแบบนี้ พวกมัน
แน่นอนว่าย่อมต้องคว้าเอาไว้ให้มั่น! ตอนนี้ผู้คนชนเผ่า
วิญญาณจากทั่วทุกสารทิศรีบแห่กันมาคุกเข่าขอร้อง ด้วย
ทั้งหลายต่างบอกต่อๆกันว่า ดาวแห่งความหวัง ปรากฏขึ้น
แล้ว!!
หลินฟ่านเพียงยกมือขึ้นมาโบกเบาๆ “เอาล่ะๆ พวกเจ้า
ทั้งหมดมั่นใจได้เลย ว่าหลังจากวันนี้ไป ไอชนเผ่าฉลามยักษ์
อะไรนี่มันจะกลายเป็นอดีตไปแน่…”
“เฮ่ ชิคกี้! เจ้าอยู่นี่และรวบรวมคนมาช่วยเตรียม’หูฉลาม
สวรรค์’ไว้สาหรับงานฉลองได้เลย” หลินฟ่านกล่าว
“โอ้ว! พี่ใหญ่อย่าได้กังวล ใต้เท้าชิคกี้นับว่าถนัดนักเรื่องนี้!!”
ชิคกี้กล่าวตอบอย่างร่าเริง
ตอนนี้เองหลินฟ่านก็ลอยร่างขึ้นไปบนฟ้า “พวกเจ้าทั้งหมดไม่
ต้องห่วง ข้าประมุขจะรีบไปจัดการไอเทพเจ้าฉลามอะไรนั่น
แล้วจะรีบกลับมาเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงหูฉลามสวรรค์!!”
ทันใดนั้นร่างหลินฟ่านก็วูบหายเข้าช่องว่างแห่งความว่างเปล่า
ไป มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่เทพเจ้าฉลามอยู่อย่างไม่รอช้า
ส่วนเจ้าชิคกี้นั้น ตอนนี้มันกลายเป็นจุดศูนย์รวมความสนใจ
ของทุกผู้คนแทน
ชิคกี้อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจ “พวกเจ้า
ทั้งหมดใจเย็นๆไม่ต้องรีบร้อนหรือตกใจ พี่ใหญ่ข้าใช้เวลาไม่
นานก็น่าจะจัดการเรื่องแล้วเสร็จ! ไอเทพเจ้าฉลามอะไรนั่นน่ะ
เหรอ ไม่ได้คณนามือพี่ใหญ่ข้าหรอก! เอ้า ตรงนี้มีใครเป็นพ่อ
ครัวบ้าง? ออกมาช่วยใต้เท้าชิคกี้เตรียมทาหูฉลามสวรรค์น้า
แดงเร็วเข้า!”
ไม่นานหลังจากนั้นบรรดาผู้ที่มีอาชีพพ่อครัวของชนเผ่า
วิญญาณก็ทยอยกันก้าวออกมา และเมื่อพวกมันได้เห็นหู
สวรรค์อันเขื่องพวกมันก็ตื่นตระหนกไปทันใด!
“ให้ตายเถอะ! นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าต้องตระเตรียมอาหารที่มี
วัตถุดิบใหญ่โตมหึมาเช่นนี้!!”
“นั่นสิ…แล้วนี่พวกเราจักทาเช่นไรกันดี!?”
ตอนนี้เองเจ้าชิคกี้พลันกระโดดขึ้นไปยืนบนหูฉลามสวรรค์ ทั้ง
โบกปีกไปมา “เอาล่ะ! ทั้งหมดฟังคาแนะนาของใต้เท้าชิคกี้ให้
ดี…”
…
ตอนนี้เองบริเวณน่านฟ้าเหนือมหาสมุทรแห่งหนึ่ง …
เสื้อคลุมสีขาวของหลินฟ่านสะบัดพลิ้วเล่นลมเบาๆ สองมือ
ยังคงไพร่ไว้ด้านหลัง ชมมองสถานการณ์ด้านล่างอย่างเงียบงัน
ในระหว่างทางมานี่เขาก็ได้เจอชนเผ่าฉลามยักษ์ที่กาลังพา
น้องสาวของก้อนหินน้อยมาถวาย แน่นอนว่าเขาจัดการพวก
มันเรียบร้อย!
จากนั้นเขาก็ก็ส่งน้องสาวของก้อนหินน้อยกลับที่เมืองด้วยการ
ส่งร่างนางผ่านช่องว่าง ซึ่งก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร
“เทพเจ้าฉลาม! ไสหัวออกมา!!”
หลินฟ่านที่มองทะเลที่คลื่นลมสงบอยู่พักหนึ่ง พลันตะโกน
ออกมาเสียงดัง
ตูมมมมมมมมม!!!
ทันทีที่หลินฟ่านกล่าวจบคา ผิวน้าที่นิ่งสงบคล้ายปั่นป่วน มวล
น้าพลันพวยพุ่งขึ้นมาดั่งขุนเขาทันใด!
“ผู้ใดหาญกล้าสังหารราชันฉลาม?!”
ทันใดนั้นประหนึ่งคาบสมุทรบังเกิดอาเพศ ทั้งหมดแปร
เปลี่ยนเป็นสีดา กลุ่มชนเผ่าฉลามยักษ์ต่างพวยพุ่งขึ้นมาลอย
ล่องเต็มมหาสมุทร
“เจ้าเป็นผูใ้ ด?!”
ทันใดนั้นเองปรากฏร่างสีทองร่างหนึ่งยืนตระหง่านอย่างมั่นคง
บนผิวน้า ดวงตาฉลามยักษ์ของมันส่องประกายแวววาว
ออกมา!
สาหรับเทพเจ้าฉลามแล้ว ไม่มีผู้ใดหาญกล้ามากระทาโอหัง
เช่นนี้ถึงที่นี่เนิ่นนานเหลือเกิน! แม้แต่ในอดีตเองเหล่าผู้กล้าของ
ชนเผ่าวิญญาณที่ลุกฮือขึ้นมา ทั้งหมดก็ถูกราชันฉลามทั้ง 12
ตนของมันเข่นฆ่าสังหารจนพินาศได้ง่ายดาย!!
ทว่าวันนี้อยู่ดีๆ เทพเจ้าฉลามก็สัมผัสได้ว่า 1 ใน 12 ราชัน
ฉลามของมัน กลับตกตายไปอีกตนแล้ว!!
สาหรับเทพเจ้าฉลามแล้ว เรื่องนี้นับว่าเป็นอะไรที่มิอาจทานทน
ได้!
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า”
หลินฟ่านเอามือไพร่หลังแผ่สภาวะเหนือชั้น เปล่งอานาจสะกด
ข่มอันน่าเกรงขามออกมา
“ที่แท้เป็นเจ้านั่นเอง!” เมื่อเทพเจ้าฉลามได้ยินนามนี้ สีหน้า
ของมันเปลี่ยนไปทันใด เห็นได้ชัดว่ามันรู้จักหลินฟ่าน!
“เจ้าน่ะเหรอ เป็นผู้ที่ทาลายนาวาเทพฉลามประจัญบานของ
ข้าเทพเจ้า!?” เทพเจ้ากล่าวถามด้วยเสียงอามหิต
“เหอะๆ ในเมื่อเจ้าก็รู้ความจริงอยู่แล้วจะถามไปทามะเขือ
อะไร?” หลินฟ่านหัวเราะออกมาเบาๆ “จึกๆๆ ไม่เลวนี่หว่า!
เทียบกับราชันฉลามแล้ว เจ้ามีครีบใหญ่กว่ากันจมหูเลย! รีบ
ตัดครีบฉลามสวรรค์คู่นั้นมาให้ข้าประมุขเร็ว! พวกมันเป็นของ
ข้าประมุขแล้ว!!”
“บังอาจ!!”
ทันใดนั้นเองราชันฉลามที่เหลืออยู่ทั้งสิ้น 10 ต่างกระชับอาวุธ
ขึ้นมายืนเรียงรายหน้าเทพเจ้าฉลาม! คารามออกมาเสียง
เหี้ยม!!
ทว่าพริบตาต่อมาหลินฟ่านพลันเอื้อมมือออกมาอย่างไร้
เรื่องราว ก่อนจะบังเกิดหัตถ์พลังคว้าจับราชันฉลามทั้ง 10
เอาไว้ในกามือ!!
“เจ้ากล้า!!” เมื่อเทพเจ้าฉลามเห็นเรื่องนี้หน้ามันก็เปลี่ยนสี
ทันใด อนิจจาสาหรับหลินฟ่านแล้วยังมีอะไรที่เขาไม่กล้าทา?
เมื่อถูกศัตรูจับเอาไว้ ราชันฉลามทั้ง 10 ก็ทาได้แค่เพียงเร่งเร้า
กระบวนการคืนร่างที่แท้จริงเพื่อระเบิดพลังทั้งหมดออกมา
ทันที! ทว่าทันทีที่ร่างจริงของพวกมันปรากฏ หลินฟ่านพลันยิ้ม
หวาน ก่อนจะตวัดนิ้ววูบวาบ ปรากฏเจตกระบี่ตัดครีบสวรรค์
ของพวกมันทันที! ทั้งหัตถ์พลังยังออกแรงบีบร่างพวกมันจน
แหลกเป็นซากเนื้อเลอะเลือน!!
ร่างแหลกเหลวพร้อมหยาดโลหิตที่พรั่งพรูออกมาชโลมย้อมผิว
สมุทรให้แดงฉาน นักรบชนเผ่าฉลามยักษ์ที่เห็นภาพดังกล่าว
รีบถอยกรูดไปอย่างหวาดผวา แววตาพวกมันทาราวกับเห็นผี!
“โอ้โฮ! ใช้ได้เลยแหะ ได้ครีบสวรรค์นี่เพิ่มมาอีก 10 คู่แบบนี้…
น่าจะพอให้ชนเผ่าวิญญาณกินกันทั้งเมืองแล้วล่ะ!” หลินฟ่า
นใช้พลังไร้สภาพหยิบยกครีบสวรรค์มาชมดูเล็กน้อยค่อยพยัก
หน้าอย่างพึงพอใจ! หลังจากนั้นก็สะบัดมือส่งพวกมันพุ่งผ่าน
ความว่างเปล่า บินตรงไปโผล่ที่เมืองก่อนหน้า!!
ภาพเรื่องราวที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ ทาให้
เทพเจ้าฉลามรู้สึกเสมือนเกียรติของมันถูกหยามหมิ่นทาลาย! นี่
คือการยั่วยุกันซึ่งๆหน้าอย่างแท้จริง! ชนเผ่าฉลามยักษ์นั้นเป็น
ที่รู้ๆกันอยู่ว่าคือมหาอานาจแห่งคุ้งน้า! แต่ใครจะไปคิดไปฝัน
ว่าบุรุษผู้นี้ยังกล้ามาเคาะประตูบ้านพวกมัน หาเรื่องถึงถิ่น!!
นี่นับเป็นความอัปยศอดสูถึงที่สุด! เป็นการหยามหยันที่ยากจะ
ทานทนรับไหว!!
ชนเผ่าฉลามยักษ์นับพันล้านตัวพลันคารามออกมาอย่างเกรี้ยว
กราด คลื่นพลังของพวกมันปะทุอบอวลในอากาศ!
“เทพเจ้าฉลาม…ตั้งแต่วินาทีที่เจ้าตัดสินใจเข้าร่วมกับพวกสวะ
ชนเผ่าโบราณ ก็เหมือนกับเจ้าสลักชื่อตัวเองลงป้ายหลุมศพ
แล้ว…” หลินฟ่านกล่าวออกมาเสียงเย็น ตอนนี้เองเขาก็มี
ความคิดที่จะรับทรัพย์สมบัติของชนเผ่าฉลามยักษ์มาดูแล!!
‘ครั้งนี้พี่ประมุขอุตส่าห์มาเยือนพวกฉลามยักษ์นี่ถึงถิ่นทั้งที
กวาดทรัพย์สมบัติของพวกมันไม่เหี้ยนก็ไม่ใช่พี่ประมุขสิฟะ!’
“สารเลวบัดซบ! ฆ่ามัน!!” เทพเจ้าฉลามคารามลั่น มันโบกมือ
ให้สัญญาณ ทันใดนั้นเหล่าฉลามยักษ์นับพันล้านก็กรูมาทุก
สารทิศหมายฆ่าหลินฟ่านให้ตาย
จังหวะนี้เมื่อหลินฟ่านก้มมองลงมาเห็นเวิ้งทะเลถูกฉลามยักษ์
ย้อมเสียจนดามืดไม่เห็นสีน้า เขาก็เริ่มแย้มยิ้มออกมา
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมาดาเจ้า! ต่อให้เจ้าจักแข็งแกร่ง
มากแล้วอย่างไร ต่อหน้ากองทัพฉลามยักษ์นับพันล้านนี่ มิใช่
อันใดที่เจ้าจักต้านทานรับไหว!!” เทพเจ้าฉลามตะโกนอย่างมัน
ใจ
“พี่ชายท่านนี้! พวกเราจักช่วยท่านเอง!!”
ในขณะเดียวกันกับที่หลินฟ่านจะก้าวออกมาเก็บงานนั้นเอง
ความว่างเปล่าเบื้องหน้าพลันกระเพื่อมเป็นระลอก ก่อนที่จะมี
ร่างผู้คนนับร้อยพุ่งออกมาจากช่องว่างดังกล่าว!!
หลินฟ่านที่กาลังจะลงมือก็ถึงกับอึ้งมองไปตาปริบๆ เพราะ
เพียงมองปราดเดียวเขาก็บอกได้ทันทีว่าไอพวกนี้มันเป็นคน
ของชนเผ่าวิญญาณ!!
“เทพเจ้าฉลาม! เจ้ากล้าดีอย่างไร ถึงได้กักขังชนเผ่าวิญญาณ
ของข้าและปกครองสหายร่วมเผ่าพันธุ์ของข้าด้วยความกลัว
ยังกล้าปฏิบัติต่อทั้งหมดราวกับเชลย! เข่นฆ่าผู้คนโดยไร้
หนทางให้เลือก?! วันนี้ข้าจะสู้ตายกับเจ้า!!” ชายคนหนึ่งพร้อม
ดาบ 2 เล่มในมือ ยืนข้างๆหลินฟ่านคารามออกมาเสียงดังด้วย
ความเกรี้ยวกราด
“ฮ่าๆๆๆ!! ที่แท้เป็นพวกเจ้านี่เอง! แต่ก็มิเป็นไร ในเมื่อไหนๆ
พวกเจ้าก็มาแล้ว เช่นนั้นก็จงทานรับโทสะของฉลามยักษ์ทั้ง
พันล้านตัวนี้แล้วตกตายไปเสีย!!”
“ชนเผ่าฉลามยักษ์ของข้าคือสิ่งมีชีวิตที่อยู่ยงคงกระพันไร้ผู้
ต้าน!!”
เทพเจ้าฉลามคารามดังก้อง เมื่อมันก้าวออกมาหนึ่งก้าวมวล
พลังมหาศาลปะทุออกจากร่าง ระลอกพลังกาจายก่อให้เกิด
คลื่นยักษ์ซัดสาดออกไประลอกแล้วระลอกเล่า ทั้งมหาสมุทร
คล้ายพิโรธ คลื่นยักษ์โถมคลั่งม้วนตลบวุ่นวาย
“พี่ชายท่านนี้ แม้นมิทราบว่าท่านเป็นผู้ใด? แต่อย่างไรเสีย
ข้าพเจ้าในนามของชนเผ่าวิญญาณ ต้องขอขอบคุณท่าน!”
“อย่างไรก็ตาม ตอนนี้สถานการณ์มิค่อยจะสู้ดีนัก! ชนเผ่า
ฉลามยักษ์มากันมากมายมหาศาลถึงเพียงนี้ พวกเราจาต้อง
ถอยไปตั้งหลักเสียก่อน! ค่อยวางแผนลงมืออีกครั้งอย่าง
รอบคอบ!!”
ชายที่กวัดแกว่งดาบคู่ซัดคลื่นสะบั้นไปสกัดชนเผ่าฉลามยักษ์ที่
กาลังกรูเข้ามา หันมองมาทางหลินฟ่านพร้อมกล่าว
และเมื่อมันเห็นกลุ่มสีดาใต้ผิวน้าที่กรูกันเข้ามาทั่วทุกสารทิศ
จนทะเลแทบจะกลายเป็นสีดา ใบหน้าของมันก็เผยความอับจน
ออกมา!
“ศิษย์พี่ใหญ่ พวกเราสมควรล่าถอยได้แล้ว! นี่เป็นค่ายกล
ฉลามอามหิต ของเผ่าพันธุ์ฉลามยักษ์! หากพวกเราติดอยู่ใน
ค่ายกลของมัน คงมีเพียงความตายเท่านั้นที่รอพวกเราอยู่!!”
สตรีชนเผ่าวิญญาณนางหนึ่งตะโกนกล่าว
“เอาล่ะ! เฮ่ พี่ชายท่านนี้พวกเราต้องไปแล้ว!!”
ทั้งหลายที่อยู่ดีๆ ก็โผล่มานี้คือคนของชนเผ่าวิญญาณ ยามเมื่อ
พวกมันพบว่าสหายร่วมชนเผ่าวิญญาณของพวกมันถูกกักขัง
หน่วงเหนี่ยวไว้ด้วยน้ามือของชนเผ่าฉลามยักษ์ กระทั่งถูกชุบ
เลีย้ งไว้ไม่ต่างปศุสัตว์ พวกมันก็เต็มไปด้วยโทสะเอล้นขึ้นมา
จากก้นบึ้งของใจ! (53380)
ดังนั้นแล้วพวกมันจึงรวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มใหญ่ เพื่อยกทัพมา
ปลดแอกสหายร่วมเผ่าพันธุ์ของพวกมัน!
ตอนแรกนั้นพวกมันก็ได้ซ่อนตัวอยู่ในช่องว่างแห่งความว่าง
เปล่าเพื่อสอดแนมและตรวจสอบสถานการณ์อย่างรอบคอบ
ทว่าไม่คิดเลยว่าอยู่ดีๆ กลับมีบุรุษคนหนึ่งบุกมาหาเรื่องเทพ
เจ้าฉลามถึงที่เอาดื้อๆเช่นนี้!!
นี่นับเป็นเรื่องราวที่เหลือเชื่อเกินไปสาหรับคนชนเผ่าวิญญาณ
กลุ่มนี้
ทว่าเมื่อเห็นอีกฝ่ายกล้าบุกมาสู้เพื่อชนเผ่าวิญญาณของพวก
มัน แล้วจะให้พวกมันละทิ้งชายผู้นี้ให้ตกตายได้อย่างไร? ดังนั้น
พวกมันเลือกที่จะเปิดเผยตัวเองออกมาอย่างช่วยไม่ได้!
…
หลินฟ่านเพียงชมมองเรื่องราวตาปริบๆ และเมื่อถูกถามซ้า
เขาก็ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้
“นั่นไม่เห็นจาเป็นเลย…ทาไมต้องหนีมันด้วยอะ? ก็แค่มดปลวก
ฝูงหนึ่งเท่านั้นเอง”
ตอนที่ 859 : งั้นก็ไม่มีอะไรจะพูด…
สีหน้าบรรพบุรุษฉลามแปรเปลี่ยนไปทันใด มันไม่คิดไม่ฝันมา
ก่อนเลยว่า…ในฐานะ 1 ใน 10 เผ่าพันธุ์สัตว์โบราณแห่งโลก
เซียนโบราณใบนี้! ยังจะมีวันที่พวกมันต้องมาถูกผู้คนบีบคั้น
อะไรแบบนี้ได้!!
ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ ตัวมันเองก็เป็นถึงเทพสวรรค์อมตะ ชั้น
ฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์! แต่อนิจจา…มันรู้ดีว่าราชันแห่งมวล
มนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าผู้นี้เป็นใคร …อีกฝ่ายมิใช่อะไรที่ตัวมัน
จะจัดการได้!!
ถึงแม้ว่านามของราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าจะยัง
ไม่ได้แพร่กระจายจนรู้กันไปทั่วโลกเซียนโบราณ! แต่มันรู้ดีว่า
ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าคนนี้ มีพลังอานาจถึงขั้น
สังหารตัวตนสูงสุดแห่งเผ่าพันธุ์โบราณได้!!
“ช้าก่อนเถิด ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า! โอสถเจิ้ง
หยาง 100 ล้านล้าน เม็ดเป็นอันใดที่มหาศาลเกินไป จานวนนี้
มันมิต่างใดกับดาราเกลื่อนฟ้า! ทั้งโลกเซียนโบราณใบนี้หามีชน
เผ่าใดมั่งคั่งถึงเพียงนั้นไม่!” บรรพบุรุษฉลามรีบก้มหัวกล่าวคา
มันหวาดกลัวเหลือเกินว่าอีกฝ่ายจะฟังวาจามันไม่เข้าหู แล้ว
บันดาลโทสะจนลงไม้ลงมือ! ถึงครานั้นคงเป็นโศกนาฏกรรม
ของเผ่าพันธุ์มันแล้ว!!
ส่วนด้านหลินฟ่านนั้น ตอนนี้เขาค่อนข้างต้องการโอสถเจิ้งหยา
งอย่างเร่งด่วน! หากชนเผ่าฉลามยักษ์นี่ยินดีส่งมอบออกมาโดย
ดี เหตุใดเขาจะไม่ยอมรับเล่า?
ตัดมาทางด้านนักรบชนเผ่าวิญญาณนับร้อยนั้น เมื่อพวกมันได้
ยินเรื่องราวทั้งหมด ตอนนี้พวกมันล้วนสะดุ้งตกใจกับเรื่องราว
เบือ้ งหน้าหนักหนาแล้ว! ไม่คิดเลยว่าบรรพบุรุษของชนเผ่า
ฉลามยักษ์จะถึงขั้นก้มหัวให้มนุษย์ผู้หนึ่ง!!
ตอนนี้หัวใจของพวกมันเต้นระรัวจนแทบจะกระดอนออกนอก
อกเสียให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่บรรพบุรุษ ของ
เผ่าพันธุ์ฉลามยักษ์นั่นปรากฏตัว!
ด้วยเพราะพวกมันไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลยว่าชนเผ่าฉลามยักษ์
จะมีตัวตนเก่าแก่ถึงเพียงนี้ดารงอยู่ด้วย! หากอสูรเฒ่านี่ลงมือ
ล่ะก็เกรงว่าพวกมันคงมิอาจต้านทานได้แม้แต่น้อย! เพียงแค่อีก
ฝ่ายลาบากพลิกฝ่ามือ มิแคล้วพวกมันต้องวายปราณ!!
หากทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับมนุษย์คนนี้ ตัวตนที่น่าครั่นคร้าม
อย่างบรรพบุรุษฉลามยังต้องอ่อนน้อมถ่อมตน! ยินดีกระทา
ตามคาขอแต่โดยดีไม่กล้าขัดใจแม้เพียงนิด! ตอนนี้ในที่สุดพวก
มันก็ได้เห็นความหวังสาหรับชนเผ่าวิญญาณแล้ว!!
“แล้วถ้างั้น..พวกเจ้ามีทั้งหมดเท่าไรล่ะ?” หลินฟ่านกล่าวถาม
บรรพบุรุษฉลามมองหลินฟ่านด้วยสายตาลึกซึ้งค่อยกล่าว “13
ล้านล้าน”
“อะไร!? นี่พวกเจ้าคิดสวมรอยเป็นพวกขอทานหรือยังไง? เป็น
ถึง 1 ใน 10 เผ่าพันธุ์สัตว์โบราณ แต่มีโอสถเจิ้งหยางแค่ 13
ล้านล้านเม็ดเนี่ยนะ!? บ้าไปแล้ว! นั่นมันยังไม่ได้ 10% ของชน
เผ่ามหามังกเลยนะ!!”
ทันทีที่หลินฟ่านได้ยินคากล่าวของมันเขาก็ปรี๊ดแตกทันใด ไถ่
ถามโลกหล้าถล่มย่ามันเถอะ! ยังเป็นไปได้หรือที่พวกมันจะจน
จ๋อขอทานถึงเพียงนี้!?
พวกมันเป็นถึงเผ่าพันธุ์ 1 ใน 10 ที่ครองอานาจมานานบนโลก
เซียนโบราณ! แต่มาบอกว่ามีโอสถเจิ้งหยางเพียงเท่านี้?! ถ้า
พวกมันเอาเรื่องนี้ไปพูด ผู้อื่นยังไม่หัวเราะจนท้องแตกตายรึ
ไง!?
เทพเจ้าฉลามที่นิ่งเงียบอยู่ข้างๆถลึงตามองหลินฟ่านด้วยแวว
ตาอันน่ากลัว เต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะแค้นอันไร้สิ้นสุด ปานมี
เพลิงอาฆาตที่เอ่อล้นจากใจลุกไหม้ในลูกตาของมัน!!
มันไม่คิดเลยว่าไอตัวบัดซบนี่…ไม่เพียงแต่จะมาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ของพวกมัน! อีกฝ่ายยังคิดจะขู่กรรโชกพวกมันเช่นนี้อีก?!
ความผิดบาปของตัวบัดซบนั่นครั้งนี้กระทั่งสวรรค์ยังต้องมอบ
โทษประหาร!!
และมันก็ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเรื่องราวครั้งนี้จะหนักหนาถึงขั้น
นายผู้เฒ่าของมันต้องออกโรง!
นายผู้เฒ่านั้นปิดด่านฝึกตนอย่างสันโดษโดยไม่ยุ่งเรื่องราวทาง
โลกมาแสนนาน เพราะท่านรู้ดีว่าโลกไร้จากัดกาลังจะเปิดออก
เพื่อความหวังให้ชนเผ่าฉลามยักษ์พ้นผ่านหายนะเภทภัยไปได้
นายผู้เฒ่าจึงพยายามปิดด่านเพิ่มพูนพลังฝีมือเตรียมไว้ให้มาก
ที่สุดเพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์!!
และนี่ยังเป็นเหตุผลที่ว่าทาไมพวกมันถึงเลือกจะเข้าร่วมกับชน
เผ่าโบราณ… เพราะเมื่อโลกไร้จากัดเปิดออก เจตจานงสวรรค์
แห่งโลกเซียนโบราณก็จะตื่นขึ้นมา ถึงตอนนั้นโลกไร้จากัดต้อง
ร่วงหล่นพินาศโดยไร้หนทางต่อต้านอันใดเป็นแน่!!
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า เจ้ามิอาจนาพวกเราไป
เปรียบเทียบกับชนเผ่ามหามังกรได้! ชนเผ่ามหามังกรนั้นเป็น
เผ่าพันธุ์ที่เรียกว่าร่ารวยที่สุดในบรรดาเผ่าพันธุ์สัตวโบราณทั้ง
10 แล้ว! อีกทั้งโอสถเจิ้งหยาง 13 ล้านล้านเม็ดนี่ก็เป็นจานวน
ที่ชนเผ่าฉลามยักษ์ของพวกเราประหยัดอดออมสะสมมาเป็น
เวลากว่า 10,000 ปี!!” บรรพบุรุษฉลามรีบกล่าวตอบอย่างไว
ชนเผ่าฉลามยักษ์นั้นไม่ค่อยชอบสะสมความมั่งคั่งสักเท่าไร
ดังนั้นโอสถเจิ้งหยางนี่จึงเป็นอะไรที่ถูกสะสมรวบรวมอย่างค่อย
เป็นค่อยไป เรื่อยๆตลอดระยะเวลาเนิ่นนานที่ผ่านมา…
สาหรับพื้นที่คาบสมุทรที่ชนเผ่าฉลามยักษ์ครอบครองนั้น แม้
มันจะกว้างใหญ่สุดไพศาล หากแต่ก็ไม่ได้มีทรัพยากรมากมาย
อะไรให้พวกมันเก็บเกี่ยว อีกทั้งเมื่อพวกมันเลือกที่จะยอม
จานนให้แก่ชนเผ่าโบราณแบบนี้ โอสถเจิ้งหยางที่ชนเผ่าฉลาม
ยักษ์ยังรักษาเอาไว้ได้ก็มีแค่ 13 ล้านล้านเม็ด!
“อ้อ งั้นเหรอ…แต่น่าเสียดายนะ ที่โอสถเจิ้งหยางแค่ 13 ล้าน
ล้านเม็ดนี่มันน้อยไปอ่ะ! เท่านี้ไม่พอไถ่ชีวิตฉลามยักษ์ของพวก
เจ้าหรอก!!” หลินฟ่านยิ้มเรียบๆ
“ท่านบรรพบุรุษฉลาม มนุษย์บัดซบนี่มันจะมากเกินไปแล้ว!
ตั้งแต่เมื่อใดกันที่ชนเผ่าฉลามยักษ์ของพวกเราต้องหวาดกลัว
เผ่าพันธุ์อื่น! ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า! เจ้าอย่า
ได้มาโอหังอวดดีต่อหน้าข้า!!” เทพเจ้าฉลามคารามก้อง ฝ่ามือ
อันเต็มไปด้วยเกล็ดแกร่งของมันยกขึ้นลากยาวกลางอากาศ
ทันใดนั้นเองราวกับผืนสมุทรทั้งหมดจะลุกฮือขึ้นมา!!
ผิวน้าของสมุทรที่เคยสงบ พลันปรากฏเสาน้าอัดแน่นไปด้วย
มวลพลังพวยพุ่งขึ้นมาดั่งมังกรทะยาน!
“ตัวโง่งม! เจ้ากระทาบัดซบอันใด!!” เมื่อบรรพบุรุษฉลามเห็น
การกระทาของเทพเจ้าฉลามหน้าของมันถอดสีทันใด!!
“ฮึ่ม! บรรพบุรุษฉลาม! ข้าคือเทพเจ้าของเผ่าพันธุ์ฉลามยักษ์!
ในเมื่อมนุษย์บัดซบนี่มันกล้าบุกเข้ามาท้าทายอานาจของชน
เผ่าฉลามยักษ์ สิ่งเดียวที่รอคอยมันอยู่คือความตาย!!” เทพเจ้า
ฉลามแผดเสียงกึกก้อง พร้อมกันนั้นมันก็เปิดวิมานฟ้าออกมา!
เร่งเร้าพลังชั่วชีวิต!!
เสาน้าพุ่งทะยานปานจะทะลวงชั้นฟ้า มวลพลังอันน่าเกรงขาม
ปานจะไร้ผู้ต้านเอ่อล้นออกมาจากวิมานฟ้าไปผสานควบรวม!!
“หาเรื่องตาย!”
หลินฟ่านตบฟาดฝ่ามือปลดปล่อยหัตถ์พลังมหึมาออกมาอีก
ครั้ง! ถึงแม้เทพเจ้าฉลามจะเป็นตัวตนเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้า
ที่ 10 เทพนิรันดร์เหมือนกัน..แต่มันช่างอ่อนแอเหลือเกินใน
สายตาของหลินฟ่าน!!
ด้วยหัตถ์พลังอันเขื่อง เสาน้าทั้งหมดที่ถูกเทพเจ้าฉลามปะทุ
พลังชั่วชีวิตปลดปล่อยออกมา ถูกทาลายทิ้งไปอย่างง่ายดาย!
กระทั่งยังพุ่งไปตบมันจนหน้าสั่น!!
“ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!!!”
เทพเจ้าฉลามแผดเสียงดังจนลาคอแทบแตก “มนุษย์สวะ! ข้า
นับเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์โบราณ! เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้
กระทากับข้าเยี่ยงนี้! เจ้าต้องตายอนาถ!!”
ร่างฉลามสวรรค์ตัวมหึมาพลันปรากฏกายให้โลกยลโฉมทันใด!
ครีบสวรรค์ขนาดมโหฬารกระพือไม่หยุด! ทว่าในพริบตานั้นเอง
ปรากฏประกายกระบี่สายหนึ่งวาบขึ้นในอากาศ! สภาวะคม
กล้าปานจะหั่นโลกหล้าให้แยกขาด!!
ฉัวะ!!
หยาดโลหิตทะลักพรั่งพรูพุ่งปรี๊ดๆไปทั่วทิศ ครีบสวรรค์คู่หนึ่ง
หมุนติ้วลอยคว้างในอากาศ หลินฟ่านเพียงสะบัดผ้าคลุมเบาๆ
ครีบสวรรค์คู่นั้นก็พุ่งหายไปในความว่างเปล่า …ไม่บอกก็รู้ว่า
ส่งตรงไปที่เมือง!!
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า! ได้โปรดเมตตาด้วย!
20 ล้านล้าน! ข้ามี 20 ล้านล้าน!!” เมื่อบรรพบุรุษฉลามเฝ้า
มองเรื่องราวเบื้องหน้าหัวจิตหัวใจของมันสะท้านอย่างแรง! รีบ
กล่าวคาวิงวอนออกมาอย่างร้อนรน!!
“หืม? ตะกี้ยังมีแค่ 13 ล้านล้านอยู่แหม็บๆ มาตอนนี้มันผุดมา
จากไหนเป็น 20 ล้านล้านกัน? นี่เจ้าเห็นข้าประมุขเป็นตัวโง่งม
หลอกได้ง่ายๆรึไงหา!?”
ประหนึ่งดึงใยไหมออกจากรังไหม…
หลินฟ่านขยับนิ้วทั้ง 5 กรีดกรายไปมาเบาๆ ร่างของเทพเจ้า
ฉลามพลันแตกระเบิดออกทันใด! เผยให้เห็นแดนสวรรค์และ
โลกที่มีรูปลักษณ์ราวกับฉลามยักษ์ ลอยออกมาค้างท่ามกลาง
สวรรค์และโลกอย่างเงียบงัน!!
แดนสวรรค์และโลกนี้เป็นดั่งทุกสิ่งของเทพเจ้าฉลาม! ทุก
ชั่วขณะเวลามันเปล่งแสงเทพเรืองรองออกมา แสงดังกล่าวคือ
การจ่ายส่งพลังเทพทั้งหมดให้เทพเจ้าฉลาม!!
“ดูดซับ”
หลินฟ่านเปิดวิมานฟ้าออกมาทันใดก่อนที่จะดูดซับทุกสรรพสิ่ง
ในชั่วพริบตา ซากเนื้อเลอะเลือนของเทพเจ้าฉลามที่เปี่ยมล้น
ไปด้วยพลังไร้ผู้ต้านทั้งหมด ถูกสูบพลังงานออกจนแห้งเหือด!
มันเหี่ยวเฉาก่อนที่จะแตกสลายเป็นละอองธุลีกระจัดกระจาย
หายไปในโลกหล้า…
หลิงอู่เว่ยและทุกผู้คนล้วนชมมองภาพเบื้องหน้าที่บังเกิดขึ้น
อย่างที่ไม่ทันมีใครตั้งตัว ด้วยสายตาเลื่อนลอย
แข็งแกร่งเกินไป! นี่เป็นพลังอานาจที่เหนือชั้นเกินไปแล้ว!!
เทพเจ้าฉลามกลับถูกสังหารลงไปอย่างงั้น! เพียงแค่ตบฟาดฝ่า
มือออกมาอย่างไร้เรื่องราวง่ายๆแค่นั้น! เรื่องนี้ดั่งนิทาน
ปรัมปราที่ไม่มีวันเป็นไปได้สาหรับพวกมันโดยแท้! หากแต่
ความเป็นจริงที่อุบัติขึ้นคาลูกนัยน์ตา พวกมันไม่อยากเชื่อก็
จาต้องเชื่อ!!
ข่มเหงรังแก…ดูแล้วนี่เป็นการข่มเหงรังแกกันชัดๆ!!
“เอาล่ะ ทีนี้ก็พอได้เงียบหูขึ้นมาหน่อย! เอ้า เรามาคุยกันต่อ
เถอะ…บรรพบุรุษฉลาม ตกลงเจ้ามีโอสถเจิ้งหยางอยู่กี่เม็ด
นะ?” มุมปากของหลินฟ่านขดเป็นรอยยิ้ม ก่อนที่จะเบ้ขึ้นไป
ด้านบนพร้อมยักคิ้ว
“ข้าจะบอกอะไรให้นะ ชนเผ่าฉลามยักษ์ของเจ้าโง่มากที่เลือก
ไปอยู่ข้างชนเผ่าโบราณ! เพราะตอนนี้กระทั่งไอพวกชนเผ่า
โบราณเอง มันยังไม่กล้าแม้แต่จะโผล่หัวออกมาเจอหน้าข้า
ประมุขด้วยซ้า! พวกเจ้าเลือกข้างผิดแล้วล่ะ!!”
“เฮ่! ตัวตนสูงสุดข้างบนนั่นน่ะ! ว่าไง!? ไอที่ข้าพูดเนี่ยมันผิด
ตรงไหนมั้ย?”
หลินฟ่านรู้มานานแล้วว่าตอนนี้ตัวตนสูงสุดของเผ่าพันธุ์
โบราณกาลังชมดูเรื่องราวที่เกิดขึ้น ในความว่างเปล่าด้านบน!!
ทว่าความจริงที่ตัวตนสูงสุดกลับไม่กล้าแม้แต่จะออกมานี่…ยัง
ทาให้หลินฟ่านรู้สึกผิดหวังไม่น้อย!!
เปรี๊ยงงงงงงง!!!
ตัวตนสูงสุดที่แอบมาดูเรื่องราวถึงกับเดือดดาลอย่างหนัก! พลัง
อานาจมหาศาลเปล่งออกมาจนฟ้าครึ้มเมฆคลั่ง!อนิจจา
หลังจากที่ฟ้าลั่นสว่างวาบคราหนึ่งจนเมฆลมปั่นป่วนน่ากลัว
เมฆดาทั้งหลายก็กระจัดกระจายสลายหายไป! โลกหล้าหวนคืน
สู่ความสงบอีกครั้ง…ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้าเลย
“ฮ่าๆๆๆๆ”
หลินฟ่านระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ไอขี้ขลาดตาขาวเอ๊ย!!”
ตอนนี้สีหน้าของบรรพบุรุษฉลาดมืดดาประหนึ่งคลุกถ่านชา
โคล ทั้งยังบิดเบี้ยวไม่น่าดูอย่างแรง! ตอนแรกเมื่อมันเห็นฟ้า
เริ่มมืดเมฆลมคุ้มคลั่งปั่นป่วน มันก็นึกว่าตัวตนสูงสุดจะปรากฏ
กายออกมามอบความช่วยเหลือ ทว่าหลังจากนั้นไม่นานมันก็
ตระหนักได้ว่า..ตัวตนสูงสุดไม่ได้คิดจะปรากฏตัวออกมา!
ทั้งหมดนี่ทาให้บรรพบุรุษฉลามใจเสียหนักข้อ!! (53380)
ที่แท้ข่าวลือทั้งหมดล้วนเป็นความจริง!!
ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าคนนี้ เป็นตัวตนที่กระทั่ง
ตัวตนสูงสุดยังต้องหวาดกลัว!!
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า ได้โปรดละเว้นชีวิตข้า
ด้วย” บรรพบุรุษฉลามคล้ายแก่ขึ้นหลายปี มันได้แต่ทรุดลง
คุกเข่าอย่างไร้เรี่ยวแรง ถึงแม้ตอนนี้ในใจของมันจะเต็มไปด้วย
ความเคียดแค้นล้นปรี่ขนาดไหน มันก็ไม่กล้าเผยท่าทีแข็งข้อ
ออกมาแม้เพียงนิด!!
เมื่อต้องเผชิญหน้าหน้ากับพลังอานาจที่แท้จริง มันทาได้แค่
ยอมศิโรราบ!
“บรรพบุรุษฉลาม…ถึงเจ้าจะทาแบบนี้ไปมันก็ไม่มีความหมาย
หรอกนะ! เฮ่อ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วก็ช่วยไม่ได้ล่ะน้า…เห็นที
ข้าประมุขต้องลาบากริบความมั่งคั่งทั้งหมดของชนเผ่าฉลาม
ยักษ์ด้วยตัวเองแล้ว…” หลินฟ่านส่ายหัวไปมา
ในเมื่อเรื่องราวมันมาถึงขั้นนี้แล้วทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับเขาแล้วล่ะ!
ทันใดนั้นหลินฟ่านพลันยกแขนขึ้นมาก่อนจะกางออกกว้าง
และบางสิ่งที่ทาให้บรรพบุรุษฉลามต้องตื่นตระหนกพลันอุบัติ
ขึ้น…!
ตอนที่ 861 : ข้าขอถวาย! อัญเชิญตัวตนทรงพลังไร้เทียมทาน
ให้ปรากฏ!!
“ระ…เรื่องนี้ มันเป็นไปได้อย่างไรกัน!?”
เพียงเวลาแค่พริบตาบรรพบุรุษฉลามกลับพบว่า ทุกๆห้อง
สมบัติรวมถึงสถานที่ลับอันใดเพื่อเก็บสะสมความมั่งคั่งของ
เผ่าพันธ์ฉลามยักษ์ คล้ายจะถูกเปิดขึ้นด้วยพลังอานาจลึกลับ
บางประการ! พลังอานาจนั้นราวกับไร้ซึ่งข้อจากัดอันใด
สามารถค้นหาสมบัติจนพบได้ด้วยตัวมันเอง!!
ผิวน้าที่นิ่งสงบยามนี้เริ่มสั่นไหวสะท้าน ปรากฏจุดแสงมากมาย
ดั่งดาราเกลื่อนฟ้าส่องสว่างมาจากห้วงลึกของมหาสมุทร! ทัง้
พวกมันยังคล้ายจะพุ่งเข้ามารวมกลุ่มกัน!!
“นิ…นี่!!”
เมื่อบรรพบุรุษฉลามจับจ้องมองไปยังดวงแสงใต้น้าให้ดี สีหน้า
ของมันก็แปรเปลี่ยนไปทันใด “นั่นมันโอสถเจิ้งหยาง!!”
ด้านหลิงอู่เว่ยที่ได้เห็นภาพนี้ก็มึนตึ๊บไปไม่ต่าง มันไม่คิดเลยว่า
สมบัติและโอสถอะไรทั้งหลายจะพุ่งขึ้นมาได้เองแบบนี้!!
จากนั้นมันก็แหงนมองไปยังร่างที่ลอยคว้างกลางหาว ด้วยเสื้อ
คลุมยาวกระพือเล่นลม พร้อมสภาวะท่วงท่าแสนสงบนั่น ช่าง
ให้บรรยากาศประหนึ่งทุกสรรพสิ่งที่บังเกิดขึ้นนี้ ล้วนอยู่ในกา
มือทั้งสิ้น!!
“จุ๊ๆๆ บรรพบุรุษฉลาม เจ้านี่มันหน้าซื่อใจคดจังเลยน้า…
ว่ามั้ย?” เมื่อหลินฟ่านเห็นดวงแสงมากมายเริ่มพุ่งมารวมกัน
มุมปากค่อยยกขึ้นทันใด
“เจ้า…!” ใจบรรพบุรุษฉลามแทบจะมอดไหม้ด้วยไฟโทสะ ยัง
เต้นระรัวอย่างเดือดดาล!!
“เจ้าคิดบีบคั้นให้ชนเผ่าฉลามยักษ์ของข้าสิ้นไร้หนทางจริงๆงั้น
หรือ!?” เสียงของบรรพบุรุษฉลามกลับกลายเป็นหยาบคาย มัน
ไม่คิดไม่ฝันว่ามนุษย์นี่จะทาอะไรแบบนี้ได้!!
นี่ยังต่างอะไรกับปล้นสมบัติทั้งหมดของชนเผ่าฉลามยักษ์!?
“เหอะๆ!”
หลินฟ่านหัวเราะออกมาเบาๆ “หรือตาเจ้ามืดบอดมองไม่เห็น
เรื่องราว…แค่นี้ยังต้องถามอีกงั้นเหรอ?”
หลินฟ่านหัวเราะออกมาสนั่น หากเขาไม่ลงมือทาแบบนี้เขาเอง
ก็คงไม่รู้ว่าที่แท้ไอบรรพบุรุษฉลามนี่มันช่างตอแหลนัก! เรื่องนี้
มันหมายความว่าไงกัน…เห็นๆอยู่ว่ามันมีโอสถเจิ้งหยางทั้งหมด
30 ล้านล้านเม็ดแท้ๆ! แต่มันกล้าโกหกหน้าตายใส่เขา! นี่มัน
หลอกลวงผู้คนเกินไปแล้ว!!
ตอนนี้จุดแสงมากมายนับไม่ถ้วนพวยพุ่งขึ้นมายังฟากฟ้า หลิน
ฟ่านก็สะบัดผ้าคลุมดั่งฟั่บ สูบกลืนพวกมันทั้งหมด! ตอนนี้เรียก
ได้ว่าเหนือฟ้านั้นเจิดจ้าไปด้วยแสงสว่างไสวจนแสบตาแทบ
ตาย ดวงแสงทั้งหมดมารวมกันค่อยพุ่งมาหาหลินฟ่าน!!
1 ล้านล้าน!
2 ล้านล้าน!
3 ล้านล้าน!
….
โอสถเจิ้งหยางมากมายนับแทบไม่หวาดไม่ไหวกรูเข้ามาราวกับ
สายธารดารา หลินฟ่านเองก็เก็บทั้งหมดลงมิติเก็บของอย่างชื่น
บาน แน่นอนว่ายังมีสมบัติอะไรอย่างอื่นอีกมากมายไม่ว่าจะ
สมุนไพรโอสถชนิดอื่น หรืออาวุธ! เขาเก็บเรียบ!!
เรียกว่าตอนนี้ใจของหลินฟ่านเบิกบานอารมณ์ดีนัก! นับว่า
วิธีการรวบรวมโอสถเจิ้งหยางที่ดีที่สุดก็คือวิธีไร้ศีลธรรมเช่นนี้
นี่เอง! ให้พึ่งตัวเองหลอมกลั่นโอสถเจิ้งหยางจนได้จานวนตาม
ต้องการหรอ? นั่นมันฝันละเมอของตัวโง่งมชัดๆ!!
และด้วยจานวนโอสถเจิ้งหยางที่มาเพิ่มอีก 30 ล้านล้านเม็ด
บวกกับของเดิมที่มีอยู่แล้ว… ทาให้ตอนนี้หลินฟ่านสามารถใช้
ฟังก์ชั่นของระบบอย่าง สมบัติเลิศล้าหล่นร่วงจากแดนสรวง
ได้สักที! และนั่นจะทาให้พลังความแข็งแกร่งของโลกเสวียน
หวงพุ่งทะยานไปอีกครั้ง!!
ภายในโลกเสวียนหวง…
เสียงที่ดังปานจะไร้ขอบเขตของหลินฟ่าน พลันกังวาลไปทั่วทั้ง
โลกหล้า คนของนิกายเม้งก่าจาต้องแหงนหน้ามองฟ้าทันใด
“เฮ่!! ทุกคนบนโลกเสวียนหวงจงฟัง! ตอนนี้สมบัติเลิศล้า
ทั้งหลายกาลังจะหล่นร่วงลงมาจากสวรรค์ พวกเจ้าทั้งหมด
ต้องพึ่งวาสนาและโชคชะตาตัวเองในการได้มันมา!!”
ฟุ่บๆ!
เหล่าคนของนิกายเม้งก่าเมื่อได้ฟังก็ไม่รอช้ารีบพุ่งร่างออกจาก
เคหะสถาน มาลอยล่องยังที่โล่งทันใด
ครืนนนนนนนนนนนนนน!!!!
ทันใดนั้นเองความว่างเปล่าเหนือฟ้าของโลกเสวียนหวงกลับ
ปรากฏแสงสีรุ้งงดงามปกคลุม! ขณะเดียวกันโอสถเจิ้งหยาง
ทั้งหมดที่หลินฟ่านรวบรวมไว้ก็เริ่มแตกระเบิดออกจ่ายส่ง
พลังงานบริสุทธิ์ออกมาอย่างมหาศาลหนาแน่นขุ่นคลั่ก ก่อนจะ
ถูกระบบสูบกลืนหายไป!
ทันใดนั้นโลกหล้าคลับคล้ายบังเกิดมหาดาวตก ดวงแสงปาน
ธารดาราร่วงหล่นลงมาจากฟ้าสู่แดนดิน! ดวงแสงเหล่านั้นบ้าง
ก็กลับกลายเป็นพื้นที่ลับ บ้างก็กลับกลายเป็นโบราณสถาน!
กล่าวได้ว่ายามนี้ทั่วโลกกาลังบังเกิดพื้นที่ลับนับไม่ถ้วน! ต่าง
กระจายกันไปซุกซ่อนอยู่ในเทือกเขา ลานา ท้องสมุทร ทั่วทุก
มุมของโลก!!
เรียกว่าหากผู้ใดที่มีวาสนาแล้วล่ะก็ ย่อมต้องมีเหตุบังเอิญให้ไป
พบพานสถานที่เหล่านั้นโดยบังเอิญ! ทั้งหมดสุดแล้วแต่
โชคชะตาจะนาพาทั้งสิ้น!!
สานึกสติหลินฟ่านแผ่คลุมครอบไปทั่วทั้งโลกเสวียนหวง เขา
ชมมองพื้นที่ลับและสมบัติต่างๆที่ปรากฏขึ้นบนโลกอย่าสนใจ
มุมปากค่อยคลี่ยิ้มหวานๆออกมา สมบัติเลิศล้าหล่นร่วงจาก
แดนสรวงนี่ ไม่ธรรมดาแท้ๆ!!
นอกจากกลายเป็นพื้นที่ลับแล้ว ยังมีน้าอมฤต โอสถวิเศษ
อาวุธระดับเต๋า กระทั่งศาสตราวุธระดับยอดสมบัติก็ยังมี!
อีกทั้งในบรรดาพื้นที่ลับทั้งหลายยังมีมรดกของเหล่าตัวตนอัน
ทรงพลัง! แถมยังเป็นของตัวตนระดับเทพสวรรค์อมตะทั้งสิ้น!
นับว่าเหมาะสมสอดคล้องกับระดับพลังของผู้ฝึกตนบนโลก
เสวียนหวงในตอนนี้นัก!!
อันที่จริงแล้วมันมีแม้แต่กระทั่งสุสานมรดกของตัวตนระดับเทพ
สวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เพทนิรันดร์! เรื่องนี้ทาให้หลินฟ่าน
รู้สึกว่าการจ่ายออกด้วยโอสถเจิ้งหยางแค่ 100 ล้านล้าน เป็น
อันใดที่โคตรของโคตรจะคุ้ม!!
“สารเลวชั่วช้า ตัวระยาราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า!
เจ้าตัดเส้นทางที่หลงเหลือของเราไปหมดสิ้น! มิเหลือหนทาง
อันใดให้ชนเผ่าฉลามยักษ์เราได้ก้าวเดินต่อไปแล้ว!!” บรรพ
บุรุษฉลามคารามออกมาเกรี้ยวกราด ใบหน้าของมันบิดเบี้ยว
ดั่งอสูรร้ายแลดูน่ากลัวนัก
ในที่สุดมันก็เข้าใจแล้ว ตั้งแต่แรกราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่ม
มารดาเจ้าผู้นี้ ไม่ได้มีเจตนาจะละเว้นชนเผ่าฉลามยักษ์ของมัน
แต่แรก!!
“อาฮะ ตั้งแต่ที่พวกเจ้ากล้าผันตัวไปเป็นหมาเลี้ยงของพวก
สวะชนเผ่าโบราณ…โลกนี้ก็ไม่จาเป็นต้องมีชนเผ่าฉลามยักษ์
อะไรอีกต่อไป!” หลินฟ่านกล่าวอย่างไร้ใจ
“ตัวบัดซบระยา! ไอ้ลูกมารดาสาส่อน!!”
ทันใดนั้นบรรพบุรุษฉลามก็ไม่อาจทนไหว อารมณ์ทั้งมวลปะทุ
ระเบิด มันพุ่งร่างเข้ามาอย่างเดือดดาลดุร้าย “ไปลงนรกเสีย!!”
ท่าทางของบรรพบุรุษฉลามนั้นแลดูน่ากลัวจริงๆ คล้ายมัน
อยากจะขบเคี้ยวกลืนกินเลือดเนื้อหลินฟ่านจนตาย!!
หลินฟ่านหักนิ้วกรอบแกรบ ค่อยแสยะยิ้ม “เหอะ! เอาหมัด
ของข้าไปกิน!!”
หมัดดาวเหนือโลหิตปะทุ!!
บรรพบุรุษฉลามนั้นมันเป็นตัวตนระดับเทพสวรรค์อมตะ ชั้น
ฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์ หากแต่ระดับพลังของมันยังนับว่าเหนือ
ชั้นกว่าเหล่าบรรดาเทพสวรรค์อมตะ 10 ชั้นฟ้าโดยเฉลี่ย! วิชา
ลึกลับทั้งพลังเวทย์ยากหยั่งถึง ประดังออกมาเล่นงานหลินฟ่าน
นับไม่ถ้วน!!
ลักษณ์พลังมีทั้งฉลาม พยัคฆ์ มังกร…เรียกว่าร้อยเปลี่ยนพัน
แปลง! สรรพวิชาลับทั้งหลาย มีเท่าไหร่มันซัดมาหมด!!
บรรพบุรุษฉลามก็ถือได้ว่าเป็นตัวตนอันทรงพลังตนหนึ่ง ซึ่ง
ดารงอยู่ข้ามผ่านกาลยุคสมัย! แน่นอนว่าอานาจพลังของมัน
นั้นลึกซึ้งอย่างแน่นอน ทุกสิ่งที่มันปล่อยออกมามีผลกระทบต่อ
โลกหล้าเป็นวงกว้าง! หากเป็นตัวตนธรรมดาต้องมาพบพานสิ่ง
นี้ เกรงว่าหนทางเดียวที่มีคือตาย!!
และเรียกได้ว่าตอนนี้มันถูกหลินฟ่านทาให้บันดาลโทสะจนสุด
ขีดจากัด ถึงแม้ว่ามันรู้ตัวดีว่าไม่ใช่คู่มือของราชันแห่งมวล
มนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า แต่มันก็ยังรู้อีกว่าราชันแห่งมวลมนุษย์
ผู้ถล่มมารดาเจ้าไม่ได้ตั้งใจปล่อยให้เผ่าพันธุ์ฉลามยักษ์ของมัน
รอดไปได้แน่แล้ววันนี้…
เช่นนั้นมันก็ทาได้แค่สู้ตาย!
ปงงงงงงงงงงง!!!
กระบวนท่าวิชายุทธ์และวิชาเวทย์ของบรรพบุรุษฉลามประดัง
ออกมาไม่ขาดสาย หากแต่ที่หลินฟ่านทาก็แค่แย็บซ้ายแย็บ
ขวาออกมาอย่างไร้เรื่องราว!
ปงงงง!!
ปงงงงง!!!
หยาดโลหิตฉีดพ่นท่วมฟ้า ศีรษะของบรรพบุรุษฉลามชโลมไป
ด้วยโลหิตแดงฉาน!
“อ๊าคคคคคคคคคคคคคคคค!!!”
เสียงกรีดร้องชวนให้เวทนาดังขึ้น บรรพบุรุษฉลามทาได้แค่
ตะเบ็งเสียงออกมาด้วยโทสะ “บัดซบ! ระยาบัดซบ! ราชันแห่ง
มวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า! เจ้าต้องตายอนาถ!!”
หลินฟ่านไม่แยแสคาด่าเพียงกาหมัดหลวมๆ ยามเมื่อหมัดยิง
ออกมาปรากฏนวมพิสดารคลุมครอบ หมัดของเขาช่างมีฤทธิ์
ทรมาณผู้คนนัก! ประหนึ่งวิญญาณนักมวยเข้าสิง หลินฟ่านยิง
หมัดไปซ้ายทีขวาทีทั้งยังโยกหัวตามเป็นจังหวะ!!
หนักแน่น สม่าเสมอ เข้าเป้า!
“บรรพบุรุษฉลาม เจ้ารีบคืนร่างที่แท้จริงจะดีกว่านะ…ให้ข้า
ประมุขเฉือนครีบสวรรค์ของเจ้าซะดีๆ!!”
“ไหนๆพวกเจ้าชนเผ่าฉลามยักษ์ก็กินเนื้อของชนเผ่าวิญญาณ
มานาน! วันนี้ข้าประมุขจะจัดงานเลี้ยงหูฉลามให้ชนเผ่า
วิญญาณได้กินจนอิ่มหนาบ้าง เจ้าเองก็มอบครีบมาแต่โดยดี
เถอะหน่า!!” หลินฟ่านกล่าวออกมาพร้อมหัวเราะ ราวกับเขา
กาลังพูดเรื่องสบายๆ อย่างวันนี้อากาศดีนะอะไรประมาณนั้น…
“เจ้า!”
ใจของบรรพบุรุษฉลามสะท้านสั่นไหว มันเองก็ได้เห็นแล้วว่า
ครีบสวรรค์ของเทพเจ้าฉลามนั้น! ถูกอีกฝ่ายตัดไปอย่างน่า
อนาถ! และคราวนี้ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าบัดซบ
นี่ ก็กาลังมองมาที่มันด้วยสายตาลุกวาว แววตานั้นความหมาย
ที่สื่อช่างชัดเจนนัก!!
ตัวบัดซบราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า คิดจะตัดครีบ
สวรรค์ของมันเช่นกัน!!
ไม่! ไม่มีวัน! เรื่องนี้มันยอมไม่ได้!!
มันคือบรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์ฉลามยักษ์!
“ไปลงนรกเสียยย!!”
บรรพบุรุษฉลามกรีดร้องโหยหวน หน้ามันชโลมไปด้วยโลหิต!
“บัดซบ! ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า! ถึงแม้ว่าข้าผู้
เฒ่าจักสู้เจ้าไม่ได้ แต่เจ้าก็ฝันไปเถอะหากคิดว่าจะจัดการข้าได้
ง่ายๆ!!”
“ข้าขอถวายยยยยยยยยย!!!!”
เปรี๊ยงงงงงงงงงงงงงงงงง
ทันใดนั้นทั่วร่างของบรรพบุรุษสว่างพลันปรากฏเสาแสง เต็ม
ไปด้วยพลังลี้ลับพวยพุ่งทะลุชั้นฟ้า!
“อัยยะ! ไอเฒ่าเผ่าฉลามยักษ์นี่นับว่าเอาเรื่องเว้ย! มันรู้วิธีการ
สังเวยกับเค้าด้วย!!”
หลินฟ่านผงะไปครู่หนึ่ง ค่อยระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ไอที่
มันกาลังจะทานี่…ไม่ใช่ตัวตลกในสายตาเขารึไง?
ทันใดนั้นผืนฟ้าเริ่มมืดมิด เมฆดาลอยล่องปิดแสงตะวัน พลัง
อานาจลึกลับสุดไพศาลประการหนึ่งกดทับลงมาจากสวรรค์!
ยามเมื่อนักรบของชนเผ่าวิญญาณกว่าร้อยสัมผัสได้ถึงกลิ่นอาย
และแรงกดดันลี้ลับ หน้าของพวกมันก็เปลี่ยนสีทันใด เพราะ
พวกมันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังอันน่ากลัวที่เอ่อล้นอยู่บน
ความว่างเปล่าเหนือฟ้าดี!!
“นี่ย่าแย่แล้ว! บรรพบุรุษฉลามกาลังจักเริ่มต้นพิธีสังเวย!!”
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า! ข้าจักให้เจ้าตาย!
ถึงแม้ว่าชนเผ่าฉลามยักษ์ของข้ากาลังจักดับสูญ แต่ข้าก็จัก
ลากเจ้าให้ตายตกไปพร้อมๆกัน!!”
“ข้าผู้เฒ่า บรรพบุรุษฉลาม! ขอสังเวยสายโลหิตและฉลามยักษ์
ทุกตัวที่มีสายโลหิตของข้า!!”
บรรพบุรุษฉลามกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น มันคิดเซ่นสังเวย
สายโลหิตของมันทั้งหมด นั่นหมายความว่ามันคิดจะสังเวยทุก
สิ่งทุกอย่างของเผ่าพันธุ์ฉลามยักษ์! ทุกตัวตนของชนเผ่าฉลาม
ยักษ์!! (53380)
ปริมาณพลังที่สามารถแลกเปลี่ยนกับของเซ่นสังเวยอันใหญ่
หลวงนี้ เป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวเหนือธรรมดานัก!
“ข้าน้อมสังเวยถวายทุกสิ่ง! เพื่ออัญเชิญตัวตนผู้ทรงพลังไร้ผู้
ต้านให้เยื้องย่างลงมา! ฆ่าตัวบัดซบราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่ม
มารดาเจ้า เบื้องหน้าข้าให้ตาย!!”
ดวงตาของบรรพบุรุษฉลามแดงฉาน เต็มไปด้วยความเคียด
แค้นชิงชังอันไร้สิ้นสุด!
วู้มมมมมมมมม!!!
ทันใดนั้นลาแสงสว่างพลันสาดส่องลงมา
แท่นบูชายัญเซียนโบราณในร่างหลินฟ่านเองก็เริ่มสั่นไหว
สะท้าน
‘ติ๊ง!!… มีตัวตนอันทรงพลังได้สังเวยทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแลกกับ
การอัญเชิญตัวตนอันทรงพลังอานาจไร้เทียมทาน โปรดจัดการ
และดาเนินงาน’
หลินฟ่านอึ้งไปวูบหนึ่ง หลังจากนั้นก็ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้
เพราะนี่ไม่ใช่กาลังเรียกหาเขาอยู่รึไง?
“ฮัยยา ในเมื่อเป็นงี้ข้าประมุขก็จะเยื้องย่างลงมายังโลกเพื่อ
แลกเปลี่ยนกับมันแล้วกัน…” หลินฟ่านยอมรับการสังเวยครั้งนี้
ทันที ยากนักที่จะปฏิเสธข้อเสนอนี้…
ตอนที่ 862 : โมโหตาย!
ทุกวินาทีที่ผันผ่านพลังอานาจที่รวบรวมถวายยิ่งมายิ่งพุ่ง
สูงขึ้น! มวลพลังหลั่งไหลออกจากร่างบรรพบุรุษฉลามเป็นสาย!
และนั่นคือพลังจากสายโลหิต! ตอนนี้เหนือร่างของมันปรากฏ
เงาร่างฉลามยักษ์ล่อยล่องกลางหาว! ยังมีสายสีแดงดั่งโลหิต
คล้ายจะทิ่มแทงมาจากความว่างเปล่าทุกทิศทาง เชื่อมต่อกับ
ร่างมันดั่งท่อน้าเลี้ยง!!
เนื่องจากบรรพบุรุษฉลามนั้น เป็นถึงนายผู้เฒ่าและบรรพชน
ของเผ่าพันธุ์ฉลามยักษ์ แน่นอนว่าตัวมันเองย่อมเป็นต้นกาเนิด
สายโลหิตนี้!!
และ ณ บัดนี้ สถานที่ต่างๆนับไม่ถ้วนทั่วโลก กาลังบังเกิด
ปรากฏการณ์ประหลาด!
ชนเผ่าฉลามยักษ์นั้นเป็นจ้าวครองสมุทร หากแต่พวกมันก็
ขยายที่ทางไปทั่ว! และ ณ ที่แห่งหนึ่ง ปรากฏร่างฉลามยักษ์ฝูง
หนึ่งกาลังห้อมล้อมผู้คนของร้อยพันชนเผ่า ผู้คนที่ถูกปิดล้อม
ล้วนแล้วแต่เผยสีหน้าสิ้นหวังหมดหนทาง แต่ละคนล้วน
หวาดกลัวจับใจ!
ทว่าทันใดนั้นฉลามยักษ์ที่เปรียบดั่งผู้มอบความตายให้พวกมัน
ที่รุมล้อมอยู่นั้น อยู่ดีๆก็ดิ้นกระแด่วกรีดร้องโหยหวน ก่อนที่ร่าง
จะสลายกลับกลายเป็นละอองโลหิต! ละอองโลหิตดั่งกล่าวยั่ง
พุ่งหายไปในความว่างเปล่า!!
และวินาทีนี้ไม่ว่าที่ไหนก็ตามแต่ ชนเผ่าฉลามยักษ์ทั้งหมดล้วน
ประสบเหตุการณ์แบบเดียวกัน ทั้งหมดสลายร่างกลับกลายเป็น
ละอองโลหิต และละอองโลหิตดังกล่าวก็พุ่งทะลุความว่างเปล่า
มาหาเงาร่างฉลามยักษ์เหนือหัวบรรพบุรุษฉลาม!!
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า ถึงแม้ว่าเจ้าจักทรง
พลังอย่างน่าสะพรึง แต่ข้านายผู้เฒ่า บรรพบุรุษฉลามจักจ่าย
ออกด้วยทุกสิ่งเพื่อเอาชีวิตเจ้า! ต่อให้เจ้าจักททรงพลังหนัก
หนาแล้วอย่างไร วันนี้เจ้าก็ต้องถูกกลบฝังลงหลุมไปพร้อมๆกับ
พวกเรา!!”
ด้านหลินฟุานที่ถูกตะคอกนั้น เพียงแย้มยิ้มอย่างใจเย็น ไม่ได้
ทุกข์ร้อนหรือใส่ใจอะรสักนิด
ตอนนี้ยิ่งมาแท่นบูชายัญเซียนโบราณในร่างเขายิ่งเปล่งแสง
สว่าง พลังอานาจที่ได้มาจากการสังเวยของบรรพบุรุษฉลาม
นั้นเป็นอะไรที่มากมายมหาศาลจริงๆ! ถ้าเป็นในอดีตมีการ
สังเวยอะไรที่รุนแรงถึงขั้นนี้ เกรงว่าตัวตนสูงสุดของเผ่าพันธุ์
โบราณคงต้องลงมือด้วยตัวเอง!!
ด้านบรรพบุรุษฉลามนั้นเมื่อเห็นแสงที่ส่องสว่างจากฟูา สองตา
ของมันก็ฉายแสงแห่งความบ้าคลั่งออกมา!
“ตัวตนสูงสุด! พวกเจ้ามันไว้ใจมิได้!!”
มาตอนนี้เมื่อถูกบีบคั้นให้จนตรอกถึงขนาดนี้บรรพบุรุษฉลามก็
โกรธแค้นหนักหนา ตอนแรกมันคิดว่าการเข้าข้างชนเผ่า
โบราณนั้น ตัวตนสูงสุดแห่งเผ่าพันธุ์โบราณจะคอยเคียงข้างมัน
ยามมีปัญหา! และเผ่าพันธุ์ของพวกมันจะได้ผงาดขึ้นมา..
เพราะได้รับการส่งเสริมจากชนเผ่าโบราณ! แต่ไม่คิดเลยว่าพอ
เกิดเรื่องเข้าจริงๆ ชนเผ่าโบราณกลับทอดทิ้งพวกมันอย่างไม่
ใยดี!!
ความเกลียดชังในใจของมันตอนนี้ไร้ที่สิ้นสุดแล้ว!
และที่ลงของความเกลียดชังทั้งหมดในใจของมันยามนี้ แน่นอน
ว่าต้องเป็นหลินฟุาน! เพราะอีกฝุายคือราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้
ถล่มมารดาเจ้าอันบัดซบ ที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องราว!!
หากไม่ใช่เพราะราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้ามาหา
เรื่องเผ่าพันธุ์ฉลามยักษ์ของพวกมัน เผ่าพันธุ์พวกมันต้อง
กลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นนาแน่นอนเมื่อโลกไร้จากัดเปิดออก!
ทว่ามายามนี้ทุกสิ่งที่เคยฝันใฝุกาลังจะสลายหายไปสายธาร
แห่งกาลเวลา…
“ข้าขอถวาย!!”
“ลงมาเถิด! ตัวตนอันทรงพลังไร้ผู้ต้าน!!”
บรรพบุรุษฉลามคารามออกมาด้วยใจอันเคียดแค้นชิงชัง เงา
ร่างฉลามยักษ์ที่รวบรวมสายโลหิตของมัน ลอยล่องขึ้นฟูาจน
หายลับไปเป็นอันเสร็จพิธีถวาย…และตอนนี้เอง มันเริ่มสัมผัส
ได้ถึงพลังอานาจอันน่าเกรงขามยิ่งกว่าอะไรที่กาลังคุกรุ่นใกล้
เยื้องย่างลงมา! นั่นทาให้มุมปากของบรรพบุรุษฉลามเริ่มยกยิ้ม
แสยะขึ้นมาทันใด!!
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า ความตายกาลังจักมา
เยือนเจ้าแล้ว! ทั้งหมดนี่ล้วนเป็นเจ้าบีบคั้นข้า!!”
“เจ้าสัมผัสได้ถึงพลังอานาจนี้หรือไม่ มันมหาศาลยิ่งใหญ่เหนือ
ห้วงสมุทรอันสุดไพศาลนี่เสียอีก!!”
“หึหึหึ! ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!”
บรรพบุรุษฉลามเงยหน้าขึ้นฟูาก่อนจะระเบิดเสียงหัวร่อกึกก้อง
ประหนึ่งจะเย้ยสวรรค์!
เปรี๊ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!
ทันใดนั้นเองปรากฏรอยฉีกหนึ่งท่ามกลางสวรรค์และโลก เมื่อ
รอยฉีกแยกออกกว้าง ปรากฏประตูศิลาโบราณบานหนึ่ง ประตู
นี้แผ่กลิ่นอายลี้ลับสุดประมาณ มันลอยตระหง่านท่ามกลาง
สวรรค์และโลก ทั้งบรรยากาศยังเริ่มบีบคั้นหนักข้อ ประหนึ่งมี
มวลพลังอานาจมหาศาลยากหยั่งถึงขุมหนึ่งอยู่ด้านหลังประตู
บานดังกล่าว!!
กึกๆ!
หลิงอู่เว่ยและนักรบของชนเผ่าวิญญาณนับร้อย อยู่ดีก็ร่าง
สะท้านปากสั่นกึกๆ! พวกมันอยู่ๆก็รู้สึกหนาวยะเยือกจับไขสัน
หลัง! เพียงเพราะพวกมันสัมผัสได้ถึงพลังอานาจอันมหาศาลไร้
ผู้ต้าน ที่อยู่ด้านหลังประตูศิลาโบราณบานนั้น!!
ด้านบรรพบุรุษฉลามเองเมื่อสัมผัสได้ถึงมวลพลังมหาศาลน่า
พรั่นพรึงขุมนี้ ใจที่หดหู่ก็กลับกลายเป็นคุ้มคลั่ง! เพราะใน
สายตาของบรรพบุรุษฉลามแล้ว พลังอานาจอันน่าเกรงขามนี้
มากเกินพอที่จะทาลายทุกสรรพสิ่ง!
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า! ข้าบรรพบุรุษฉลามจัก
ให้เจ้าตาย! ข้าจักให้เจ้าตายไร้ที่ฝัง!!” บรรพบุรุษฉลามแผด
เสียงเล็ดรอดไรฟันออกมาสุดปอด น้าลายของมันแตกซ่านหยด
ย้อยราวคนคลั่ง
หลิงอู่เว่ยและคนอื่นๆหันไปมองหลินฟุาน ตอนนี้พวกมันไม่รู้
แล้วว่าจะทาอย่างไรดี พลังมหาศาลขุมนี้ที่พวกมันสัมผัสได้
ไม่ใช่อะไรที่ผู้ฝึกตนธรรมดาๆอย่างพวกมันจะต่อต้านได้เลย…
‘ติ๊ง!! … การสังเวยเสร็จสิ้น เริ่มต้นกระบวนการสืบสาน’
แอ๊ดดด…..
ทันใดนั้นประตูศิลาโบราณที่คล้ายไม่ได้เปิดออกมานานนับ
อสงไขยเริ่มแง้มเปิดออกช้าๆ คลื่นพลังอันน่าพรั่นพรึงเริ่มเอ่อ
ล้นกาจายออกมาจากช่องประตู
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!!!!!!! อย่างนั้น! ออกมา! จงออกมา!!” ด้วยความ
ที่บรรพบุรุษฉลามได้เซ่นสังเวยสายโลหิตของมันไปแล้ว นั่น
ยังผลให้ด่านพลังฝึกตนของมันเริ่มไร้เสถียรภาพ… ร่างของมัน
เหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าถึงขีดสุดเรียกว่าอยู่ ณ จุดที่พร้อมแตกดับ
ได้ทุกเวลา หากทว่าเมื่อมันสัมผัสได้ถึงมวลพลังอันน่า
หวาดหวั่นนี้ มันก็อดไม่ได้ที่จะฝืนฮึดยืนหยัดขึ้นมาได้อีกครั้ง
ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างคุ้มคลั่ง!!
ทว่าทันใดนั้นเอง บรรพบุรุษฉลามพลันตระหนักได้ว่า ราชัน
แห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า ที่ลอยร่างอยู่ตรงหน้าของมัน
เมื่อครู่…อยู่ดีๆกับอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย! นี่ทาให้มัน
ถึงกับต้องกรีดร้องออกมาด้วยโทสะ!!
“บัดซบ! ไปอยู่ที่ใด! ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้ ราชันแห่งมวลมนุษย์
ผู้ถล่มมารดาเจ้า! ไสหัวออกมา!!!”
“สารเลวชาติชั่วราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า จักดี
เสียกว่าที่เจ้าไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!!” บรรพบุรุษฉลามเริ่ม
ตะโกนออกมาอย่างร้อนรนใจ
ตอนนี้มันพึ่งตระหนักว่า ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า
อาจจะทาการหลบหนีไปเสียแล้ว…! และหากเป็นเช่นนั้น มิใช่
ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มันกระทาไปจะกลับกลายเป็นสูญเปล่าไร้ค่า
หรือไร!
ทว่านี่มันช่างลึกลับอย่างประหลาดและชวนให้ฉงนใจยิ่งนัก!
เพราะมันไม่อาจสัมผัสได้ถึงการกระเพื่อมใดๆของช่องว่างเลย!
แล้วเช่นนั้นราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าอยู่ดีๆจะ
อันตรธานหายไปในอากาศเช่นนี้ได้อย่างไร!?
ในเวลาแบบนี้…อีกฝุายหายตัวไปที่ใดกันแน่!?
“บรรพบุรุษฉลาม…”
ทันใดนั้นเองเสียงอันคุ้นเคยพลันดังขึ้นในหูของบรรพบุรุษ
ฉลาม
“เอ๊อะ!?”
บรรพบุรุษฉลามตกใจไปครู่หนึ่ง ค่อยหัวเราะออกมา ใบหน้า
ของมันยังเผยความดูแคลน “ฮ่าๆๆๆ! ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้
ถล่มมารดาเจ้า! ความตายของเจ้ากาลังมาถึงแล้ว…มาถึง…
มาถึง…”
ตอนแรกที่บรรพบุรุษฉลามได้ยินเสียงนี้ ร่างของมันก็สั่นเทิ้ม
ด้วยความตื่นเต้น แต่ทว่าเมื่อมันได้เห็นร่างที่เยื้องย่างลงมา
จากประตูศิลาโบราณ มันก็อึ้งไปอย่างสมบูรณ์!
“เจ้า…! นิ…นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!?”
ตอนนี้บรรพบุรุษฉลามถูกทาให้ตะลึงหนักข้อ ทั้งยังสับสนงุนงง
ถึงขีดสุด หัวใจของมันประหนึ่งมีคลื่นซัดกระหน่าถาโถมซ่าๆ
ทั้งหมดที่กระทาได้คือลอยร่างแน่นิ่งอย่างเลื่อนลอย สายตา
กลับกลายเป็นว่างเปล่า…
ไถ่ถามโลกหล้า เรื่องบัดซบพรรค์นี้มันเป็นไปได้อย่างไร..!?
หลิงอู่เว่ยและนักรบกว่าร้อยของชนเผ่าวิญญาณเองก็แข็งไป
ราวกับจะกลายเป็นรูปปั้น ร่างนั่น…ร่างนั่นมัน!!
หลินฟุานที่ค่อยๆโรยตัวลงมาจากประตูศิลาโบราณ ยักไหล่
ผายมือออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “บรรพบุรุษฉลาม จริงๆแล้ว…
โลกนี้น่ะ… มันไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้หรอก…”
“บรรพบุรุษฉลาม…แล้วตอนนี้ว่าไงดีล่ะ เจาอัญเชิญข้าประมุข
ออกมาแบบนี้…เจ้าต้องการอะไรอ่อ?”
หลินฟุานกระพริบตาปริบๆกล่าวถามออกมาอย่างเฉยเมย
หากแต่ในใจแทบจะหัวเราะจนท้องแข็งตายแล้ว!
เหตผลที่บรรพบุรุษฉลามยินดีสังเวยทุกสิ่งทุกอย่าง นั่นก็ไม่ต้อง
สงสัยเลยว่าเพราะมันอยากฆ่าเขาให้ตาย…ทว่ามาตอนนี้เขา
กลับเป็นตัวตนที่ถูกมันอัญเชิญมาหลังจากที่สังเวยถวายไปด้วยุ
ทกสิ่งทุกอย่าง…เรื่องนี้คงเป็นดั่งระเบิดครั้งใหญ่เกินใจบรรพ
บุรุษฉลามจะกล้ากลืนรับไหว…
อ๊อคค!!
ตอนนี้ร่างบรรพบุรุษฉลามสั่นสะท้านไปทั้งกาย อกของมันเริ่ม
ยุบๆพองๆ มือมันยกขึ้นมากอบกุมดวงใจ และคล้ายมิอาจทาน
ทนไหวสืบไป หยาดโลหิตพลันกระอักออกปากคาโต!
“ไฉนถึงมีเรื่องพรรค์นี้…?”
ตอนนี้บรรพบุรุษฉลามแทบจะพังทลายแล้ว โลกหล้ายังมีเรื่อง
บัดซบอะไรเช่นนี้ด้วยหรือ?
มันได้เสียสละทุกสิ่ง สังเวยถวายแล้วซึ่งทุกอย่าง เพื่ออัญเชิญ
ตัวตนอันทรงพลังไร้ผู้ต้านให้จุติลงมาสังหารราชันแห่งมวล
มนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า! แต่ไม่คิดเลยว่าตัวตนที่ปรากฏออกมา
กลับเป็นราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าเสียเอง!!
นิ…นี่ … !!!
“นอกจากนี้ข้าลืมบอกเจ้าไปบรรพบุรุษฉลาม…ทุกสิ่งทุกอย่างที่
เจ้าเสียสละไปน่ะ มันอยู่กับข้าเองล่ะ” หลินฟุานกลัวว่าบรรพ
บุรุษฉลามจะไม่อาจรับเรื่องราวได้ ดังนั้นเขาจึงค่อยๆกล่าว
ออกมาช้าๆ…
อ๊อคคค!!
ทันทีที่บรรพบุรุษฉลาได้ยินคากล่าวอธิบาย มันก็กระอักโลหิต
คาโตออกมาอีกคา นิ้วที่สั่นระริกยกขึ้นชี้ไปยังหลินฟุาน
“เจ้า…เจ้า!!”
“โอ้! เจ้าไม่ต้องฝืนเหน็ดเหนื่อยแล้วล่ะบรรพบุรุษฉลาม..อ๊ะ!
จริงสิ ยังมีอีกอย่างที่ข้ายังไม่ได้บอกเจ้า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้า
เสียสละและสังเวยไปน่ะ ข้าจะรับเอาไว้ใช้อย่างดี… ส่วนตัวตน
ที่แข็งแกร่งที่สุดที่เจ้าต้องการ ก็เป็นข้าประมุขเอง!!”
อ๊อค!!
ร่างบรรพบุรุษฉลามสะท้านสะเทือนอย่างแรง มันไม่อาจ
ลอยตัวให้แน่นิ่งได้สืบไป มันส่ายหัวไปมาพร้อมกระอักโลหิต
ออกมาไม่หยุด!
“เอาล่ะ ไหนๆข้าก็มาตามคาเรียกร้องของเจ้าแล้ว… ว่าแต่เจ้า
คิดจะให้ข้าทาอะไรดีล่ะ หรือเจ้ายังคิดจะให้ข้าฆ่าตัวตาย?”
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ต้องขอโทษทีแต่ข้าประมุขไม่อาจ
ตอบสนองคาขอนั้นของเจ้าได้! และถ้าเจ้าต้องการแค่นั้น การ
สังเวยของเจ้าครั้งนี้ก็คงต้องจบลงอย่างสูญเปล่า…แต่ข้าก็ต้อง
บอกเจ้าไว้ก่อนเลย ว่าการสังเวยนี้เป็นเจ้าเลือกที่จะสังเวยเอง
ข้าไม่ได้บังคับอะไร! แล้วก็…ต้องบอกเจ้าอีกเรื่อง แต่พอดีข้า
ประมุขไม่มีบริการคืนเงินหรืออะไรก็ตามที่เจ้าสังเวยมาแล้ว…
เรื่องนี้เจ้าเข้าใจนะ?”
หลินฟุานกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงเรียบๆอธิบายอย่างมีเหตุผล
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้รู้เลยว่าทุกวาจานั้นเป็นดั่งระเบิดลง
กลางใจของบรรพบุรุษฉลาม! (53380)
อั๊คคค!!!
“ทาไมมมมมมมมมมมมมมมมมม…”
ปงงง!!
ตอนนี้บรรพบุรุษฉลามไม่อาจทานทนรับเรื่องราวที่ประดัง
กระหน่าเข้ามาไหวสืบไป เลือดของมันปั่นปุวนหนักข้อ สุดท้าย
ก็ตีกลับรุนแรง เส้นโลหิตในสมองของมันถึงกับแตกระเบิด
ออก…!
แล้วมันก็โมโหจนตกตายไปเช่นนั้น…
เมื่อหลินฟุานเห็นว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอน
หายใจออกมาอย่างจนปัญญา “ฮัยยา ไม่คิดเลยว่ามันจะจบ
ง่ายแบบนี้…นี่มันง่ายดายแล้วก็รวดเร็วไปหน่อยมั้ยเนี่ย?”
ทันใดนั้นหลินฟุานก็หันหน้าไปมองเวิ้งสมุทรสุดไพศาล
นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปบนโลกเซียนโบราณใบนี้…ฉลามยักษ์ 1
ใน 10 เผ่าพันธุ์สัตว์โบราณนั้น ไม่มีอีกต่อไปแล้ว…
หลิงอู่เว่ยชมมองร่างหลินฟุานด้วยความตะลึง ขากรรไกรทุก
คนล้วนอ้ากว้างจนค้างเติ่ง
เรื่องราวที่ดังระเบิดลงครั้งนี้ก็มีผลกระทบต่อพวกมันไม่
ต่างกัน…
ตอนที่ 863 : งานเลี้ยงที่หรูหราที่สุดในใต้หล้า!!
ตอนนี้ประหนึ่งภาพเรื่องราวกลับกลายเป็นเงียบงันไร้สําเนียง
ประตูศิลาโบราณที่ปรากฏกลางหาวก็ค่อยๆจางหายไป ร้อย
พันหมื่นคาดเกรงว่าบรรพบุรุษฉลามก็ไม่เคยคิด ว่าผลของการ
สังเวยมันจะจบสิ้นลงอีหร็อบนี้…
หากมันรู้สักนิดว่าผลของการสังเวยจะสูญเปล่า! ต่อให้มันต้อง
สู้กับหลินฟุานจนตัวตาย บรรพบุรุษฉลามก็ไม่มีวันสังเวยอะไร
เด็ดขาด…!!
ความผิดพลาดครั้งเดียวนับว่าทําให้มันต้องเสียใจไปชั่วชีวิต…!
อนิจจาตอนนี้ความหวังอันใดล้วนมลายสิ้นแล้ว!!
เมื่อเห็นศพที่ร่วงลงไปลอยตุ๊บปุองเหนือผิวน้ําหลินฟุานก็ส่าย
หัวไปมา…
น่าเสียดาย…นี่นับว่าน่าเสียดายจริงๆ!
เมื่อสายโลหิตของมันสิ้นสูญไป เกรงว่ารสชาติของครีบสวรรค์
ที่จะเอามาทําหูฉลามก็ต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน…
แต่พอหลินฟุานคิดอีกที ไอบรรพบุรุษฉลามนี่ก็แก่หง่อมแล้ว
เช่นนั้นครีบของมันก็น่าจะเหี่ยวไปด้วยเช่นกัน…รสชาติก็คงจะ
ไม่ค่อยได้ความสักเท่าไร!!
ในเมื่อมันโมโหจนตายไปแล้ว ก็ช่างมันเถอะ…ไม่มีความ
จําเป็นต้องไปรู้สึกเสียดายอะไร
เพราะก่อนหน้านี้เขาก็ได้คีบสวรรค์ไปหลายสิบคู่แล้ว มันน่าจะ
เยอะเกินพอสําหรับเลี้ยงอาหารดีๆ ให้ชนเผ่าวิญญาณ อันที่
จริงเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารสชาติมันจะเป็นยังไง ยิ่งคิดก็ยิ่งรอ
แทบไม่ไหวจะได้ลิ้มรสมันแล้ว…
“ท่านผู้อาวุโส…”
หลิงอู่เว่ยและนักรบชนเผ่าวิญญาณทั้งหลาย กว่าจะเรียก
วิญญาณที่หลุดลอยไปจากร่างให้กลับมาได้ ต่างก็เหม่อกันไป
อยู่นาน สุดท้ายพวกมันก็คืนสติ..รีบลอยมาหยุดเบื้องหน้า
หลินฟุานพร้อมเรียกหาด้วยความเคารพ!
การต่อสู้ครั้งนี้ทําให้พวกมันตกใจจนแทบฉี่ราดแล้ว!
แข็งแกร่ง! ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ!!
“อ่า ตอนนี้ชนเผ่าฉลามยักษ์ถูกกําจัดไปหมดไม่มีเหลือแล้วล่ะ
ชนเผ่าวิญญาณของพวกเจ้านับว่าปลอดภัยไร้เรื่องราว ว่าแต่…
นี่พวกเจ้ามาจากไหนกันเหรอ?” หลินฟุานแย้มยิ้มอย่างปลอด
โปร่ง 2 มือไพร่หลังเอาไว้ สภาวะกับสีหน้าท่าทางทําราวกับ
เรื่องราวก่อนหน้าไม่ได้นับเป็นอะไรมากไปกว่าเรื่องขี้ประติ๋ว
แลดูไม่ได้ลําบากอะไรสักกะผีก…
“เรียนท่านผู้อาวุโส พวกเราคือศิษย์ของสํานักวิญญาณฟูา!
เป็นสํานักที่สร้างขึ้นเพื่อชนเผ่าวิญญาณขอรับ” หลิงอู่เว่ยก
ล่าวตอบ
หลินฟุานพยักหน้ารับฟัง เขาไม่คุ้นเคยกับชื่อสํานักนี่เลย ดังนั้น
เขาคิดว่ามันสมควรเป็นสํานักเล็กๆ หรืออะไรทํานองนั้น
“เอาล่ะ ตอนนี้ก็ถือว่าเรื่องราวมันจบลงด้วยดีแล้ว และพวก
เจ้านี่นับว่าโชคดีไม่น้อย เพราะพวกเจ้ากําลังจะได้ลิ้มรสหู
ฉลามสวรรค์” หลินฟุานแย้มยิ้มขณะกล่าว
หลิงอู่เว่ยเผยทีท่าสับสนงุนงง ด้วยไม่เข้าใจวาจาของผู้อาวุโส
เบื้องหน้า
หูฉลามสวรรค์? หรือว่าจะเป็นอาหารที่ทําจากครีบสวรรค์งั้น
หรือ?
หลิงอู่เว่ยรีบหันไปมองสบตาสหายของมันทันที และทั้งหมดก็
มองมาด้วยสายตาไม่ต่างกัน! ใบหน้าทุกผู้คนประหนึ่งมีคํา
เหลือเชื่อสักไว้กลางหัวเหม่ง!!
นี่พวกมันจะได้กินครีบสวรรค์จริงหรือ!?
อย่างไรเสียพวกมันก็เป็นคนที่มาจากสํานักๆหนึ่ง พวกมันย่อม
พอรู้มาบ้างถึงผลลัพธ์อันแสนอัศจรรย์ของครีบสวรรค์!!
และสายเลือดหลักอันเป็นชนชั้นราชวงศ์ของฉลามยักษ์นั้น ก็
ไม่ใช่ใดอื่นนอกจากฉลามสวรรค์!!
ทั้งพวกมันยังต้องเป็นตัวตนที่มีด่านพลังฝึกตนสูงส่งถึงขอบเขต
หนึ่งเสียก่อน ถึงจะทําให้สายเลือดพวกมันบริสุทธิ์และสร้าง
ครีบคู่ที่ดูเหมือนปีกได้สําเร็จ และครีบคู่นี้ก็เต็มไปด้วยพลังอัน
มหาศาลน่าเหลือเชื่อ ยังเต็มไปด้วยสารอาหารล้นปรี่! พวกมัน
นับว่ามีประโยชน์อย่างมหาศาลต่อเหล่าสรรพชีวิตทั้งมวล!!
อย่างไรก็ตามนี่คืออาหารที่หรูหราที่สุด! และไม่ใช่อะไรที่ใคร
อยากจะกินก็กินได้ตามแต่ต้องการ!!
ฉลามสวรรค์ทุกตนล้วนเป็นตัวตนอันน่าสะพรึงกลัวนัก! เกรง
ว่าอาศัยด่านพลังฝึกตนของพวกมัน ชั่วชีวิตนี้คงยากจะมีบุญ
ได้กิน!!
นั่นเพราะต่อให้เป็นฉลามสวรรค์ที่อ่อนด้อยมีด่านพลังฝึกตนต่ํา
เตี้ยที่สุด พวกมันก็อยู่ในด่านพลังเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟูาที่ 8!
สําหรับพวกมันการที่จะฆ่าเผ่าพันธุ์ฉลามยักษ์ ที่มีด่านพลังฝึก
ตนเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟูาที่ 8 นั้น…เป็นดั่งฝันละเมอของตัว
โง่งม!!
สุดท้ายทั้งหมดก็อดไม่ได้ที่จะเผยความตื่นเต้นออกมา…รสชาติ
ของครีบสวรรค์เป็นเช่นไรหนอ? นี่ยังเป็นเรื่องที่พวกมัน
จินตนาการได้รึไง? กระทั่งประมุขของพวกมันเกรงว่าอาจจะไม่
เคยมีบุญได้กินด้วยซ้ํา!!
ภายในเมือง…
ชิคกี้ยืนตระหง่านอยู่บนครีบสวรรค์คู่หนึ่ง เงยหน้าร้องออกมา
เสียงดังไม่หยุดๆ
“ตรงนั้นน่ะ รีบตักไปหม้อได้แล้ว!”
“เฮ่! นั่นพวกเจ้าทําอะไร รีบหน่อยเถอะ กับอีกแค่หั่นครีบใยถึง
ได้ใช้เวลานานนักเล่า! รีบหน่อยๆ!!”
“กุ๊กกู! พวกเด็กน้อยตรงนั้นน่ะ! พวกเจ้าทําอันใดของพวกเจ้า
กันหา!? อย่ามัวแต่เลียครีบเล่น! รีบไปหาเครื่องปรุงอะไรมา
เร็ว!!”
“หม้อตรงนั้นน่ะ น้ําเดือดแล้วหรือไม่!? กุ๊ก! นั่นมันไฟบัดซบอัน
ใดถึงได้มีอุณหภูมิต่ําเหลือเกิน!? บ้าเอ๊ย! หลบไปให้หมด ใต้เท้า
ชิคกี้จะแสดงเอง!!”
….
..
แฮ่กๆ … !
ตอนนี้ชิคกี้นั้นยุ่งวุ่นวายนัก! ตอนแรกเมื่อมีครีบสวรรค์คู่เดียว
อะไรๆมันก็ยังจัดการได้ง่าย… แต่ไม่คิดเลยว่าอยู่ๆมันจะถูกส่ง
มาอีกเป็นสิบ! นี่ทําให้เป็นอะไรที่ค่อนข้างยากสําหรับชิคกี้จะ
จัดการไหว!!
ลําพังครีบสวรรค์คู่เดียวก็กว้างยาวไม่ต่ํากว่าพันฟุตแล้ว การ
จะตัดมันได้ก็ต้องใช้ชาวบ้านนับไม่ถ้วนมาช่วยกัน แถมนี่ยัง
เป็นขั้นตอนที่กระทําได้เชื่องช้านัก!!
“ว่าไง ชิคกี้ เสร็จแล้วยัง?” หลินฟุานวูบมาปรากฏเหนือฟูา
ก่อนที่จะมองชมดูเรื่องราวด้านล่าง แล้วเขาก็ได้พบว่าตอนนี้
คนทั้งเมืองล้วนมีงานทําหมดสิ้น ต่างกําลังยุ่งวุ่นวายกันใหญ่!
แต่นี่จะให้ทําอย่างไรได้ เพราะครีบสวรรค์แต่ละคู่นั้นใหญ่โต
มหึมาเหลือเกิน! มันใหญ่จนผู้คนในเมืองรู้สึกเหมือนวันนี้
จะต้องเหนื่อยตายจากการเตรียมอาหารนี่แล้ว!!
ฉลามสวรรค์แต่ละตัวมีขนาดใหญ่โตนับแสนๆฟุต การที่ครีบ
สวรรค์ของพวกมันจะมีขนาดกว่าพันฟุตก็เป็นเรื่องปกติ…อันที่
จริงบางตัวยังใหญ่กว่าชาวบ้านเข้าไปอีก!
“กุ๊กกู! พี่ใหญ่จัดการเรื่องราวเสร็จแล้วหรือ?!” เมื่อชิคกี้เห็น
หลินฟุานมันก็ตีปีกกระโดดขึ้นลงไปมาด้วยความตื่นเต้น
“โฮ่ๆ แล้วเจ้าคิดว่าไงล่ะ?” หลินฟุานยักคิ้วกล่าวถาม
“กุ๊ก กุ๊ก กู..!!!”
ชิคกี้กระโดดขึ้นไปนั่งบนไหล่ของหลินฟุานทันที จากนั้นก็มอง
ไปยังกลุ่มคนด้านหลังหลินฟุาน “อ๊ะ? ชนเผ่าวิญญาณที่รู้วิธี
บ่มเพาะหรือ?”
“ใช่! พวกเขาเป็นชนเผ่าวิญญาณที่มาจากที่อื่นน่ะ” หลินฟุา
นพยักหน้าก่อนจะโบกมือออกมา “ทั้งหมด หยุดมือ!”
ตอนนี้เองเสียงอันหลินฟุานดังขึ้นปานจะได้ยินไปทั่วทั้ง
มหาสมุทร เหล่าผู้คนชนเผ่าวิญญาณที่กําลังยุ่งวุ่นวายกับการ
ตระเตรียมครีบสวรรค์ทั้งหมดล้วนหยุดมือทันใด ก่อนจะหันไป
มองยังร่างที่ลอยค้างกลางหาวอย่างสนใจ
“ตอนนี้เผ่าพันธุ์ฉลามยักษ์ได้ถูกข้าประมุขกําจัดไปแล้ว!
นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะไม่มีชนเผ่าฉลามยักษ์โผล่มาให้พวก
เจ้าเห็นอีก!!” หลินฟุานกล่าว
สําหรับผู้คนของชนเผ่าวิญญาณแล้ว นี่ประหนึ่งโองการ
ประกาศอิสรภาพจากสวรรค์!
ดั่งหัวรบนิวเคลียถูกทิ้งลงกลางมหาสมุทร ก่อให้เกิดดอกเห็ด
ขนาดมหึมา พร้อมเสียงสนั่นกังวาลกึกก้อง…
บรรยากาศที่เงียบสงบก่อนหน้าปะทุขึ้นมาทันใด ทุกทั่วหัว
ระแหงเต็มไปด้วยเสียงกู่ร้องยินดี ชนเผ่าวิญญาณทั้งหลายแย้ม
ยิ้มออกมาด้วยหน้าเปี่ยมสุข!
บ้างก็กระโดดเลดเต้นเป็นบ้าเป็นหลัง บ้างก็ทุบอกตัวเองระรัว
ราวอุรังอุตัง ตอนนี้พวกมันมีความสุขความยินดีหนักนัก! บาง
คนถึงขั้นน้ําตาไหลออกมา!!
สําหรับก้อนหินน้อยนั้น มันก็กลับมาอยู่ข้างน้องสาวของมัน
แล้ว ขณะที่มองร่างที่ลอยล่องกลางเวหา ก้อนหินน้อยก็เต็มไป
ด้วยมวลอารมณ์ยากจะกล่าว
“หือ…ช้าไป จัดการแบบนี้วันนี้ไม่ได้กินแหง ดูเหมือนพี่ประมุข
ต้องโชว์ฝีมือทําหูฉลามขั้นเทพซะแล้ว…” หลินฟุานที่เห็นเหล่า
ชาวบ้านกําลังใช้มีดทู่ๆ พยายามเฉือนครีบสวรรค์ขนาดมหึมา
ถึงกับเพลียใจ ตั้งนานแล้วครีบสวรรค์ชิ้นแรกยังถูกตัดแบ่งไม่
ถึงครึ่ง…
คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าทําแบบนี้จะได้กินชาติไหน…
หลินฟุานใช้พลังไร้สภาพอ่อนโยนระงับทุกคนไว้ ก่อนที่จะหยิบ
ยกครีบสวรรค์ให้ลอยขึ้นมาหยุดกลางอากาศ
หลินฟุานยังจี้นิ้วออกไปก่อนจะทําท่าหั่น!
ฉับ!
ฉึบ!
เพียงเสี้ยวพริบตาครีบฉลามสวรรค์ก็ถูกหั่นให้มีขนาดเล็กๆ
พอดีคํา!
ต่อมาหลินฟุานก็สะบัดมือเรียกเตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลก
ออกมา! แน่นอนว่าเตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลกย่อม
เหมาะเหม็งที่จะเอามาทําหม้อต้ม! ยังสมควรง่ายดายไร้ปัญหา
ใดอีกด้วย!!
ส่วนทางด้านหลิงอู่เว่ยและนักรบชนเผ่าวิญญาณนั้น พริบตาที่
เตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลกปรากฏท่ามกลางความว่างเปล่า
พวกมันล้วนชมดูกันด้วยใบหน้าตะลึง กลิ่นอายที่โชยออกมา
จากเตาหลอมกลั่นสวรค์และโลกนี้นับว่ามีความเลิศล้ํายากหยั่ง
ถึง! ไร้ใดเสมอเหมือนนัก!!
พอคิดว่าท่านผู้อาวุโสจะใช้มันแทนหม้อ…! พวกมันถึงกับเหว
อนึกคําพูดไม่ออกแล้ว!!
ตกตะลึง! นี่ช่างทําให้พวกมันตื่นตาตื่นใจจนตะลึงหนักแล้ว!!
เพียงพริบตาครีบสวรรค์ก็ถูกตระเตรียมเสร็จสรรพ
ด้วยการสะบัดนิ้วเบาๆอย่างไร้เรื่องราวของหลินฟุาน ปรากฏ
วารีธาตุต้นกําเนิดออกมาจากวิมานฟูา หลั่งไหลลงไปยังเตา
หลอมกลั่นสวรรค์และโลก
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ครีบสวรรค์เหล่านี้ก้เป็นดั่งสมบัติล้ําค่า!
ส่วนผสมที่ใช้ตระเตรียมมันก็ต้องดีไปด้วย! จะให้ใช้น้ําเปล่า
ธรรมดาๆได้ไง!?
พริบตาที่วารีต้นกําเนิดไหลรินออกมาดั่งสายธาร กลิ่นอายขุ่น
คลั่กแห่งวารีธาตุพิสุทธิ์พลันฟุูงตลบไปในบรรยากาศ!
“นะ…นี่มัน วารีธาตุต้นกําเนิด!!” หลิงอู่เว่ยและทั้งหมดช็อคตา
ตั้งไปอีกครั้ง!
สวรรค์! นี่จักไม่สิ้นเปลืองเกินไปหน่อยหรือ!? ไม่คิดเลยว่าท่าน
อาวุโสจะใช้วารีธาตุต้นกําเนิดเป็นส่วนผสม! หากมีผู้ใดได้พบ
เห็นเกรงว่าต้องกระอักโลหิตออกมาคําใหญ่แล้ว!!
สําหรับผู้คนของชนเผ่าวิญญาณนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่บังเกิดขึ้น
ดั่งมายาฝันเกินจริงตื่นหนึ่ง!
ชนเผ่าฉลามยักษ์ถูกกําจัด ครีบสวรรค์ของพวกมันถูกเอามา
เตรียมอาหาร! ยังไม่ใช่เท่านั้นส่วนผสมของมันยังเป็นวารีธาตุ
ต้นกําเนิด! กระทั่งหากจะกล่าวถึงหม้อ เกรงว่านั่นสมควรเป็น
ยอดสมบัติขั้นสุดยอด!! (53380)
ทัง้ หมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นยามนี้ นี่มันมีค่ามหาศาลเกินไป!!
หลังจากที่เตรียมทุกอย่างครบแล้ว หลินฟุานก็ตบมือเบาๆอีก
ครั้ง ทันใดนั้นอัคคีพลันจุดติดขึ้นมาดังพรึ่บ!
“อะ…อัคคีธาตุต้นกําเนิด..!!”
หลิงอู่เว่ยและผองเพื่อนถึงกับต้องอ้าปากจนขากรรไกรค้างอีก
ครั้ง!!
มือนี้มันจักฟุุมเฟือยเกินไปแล้ว! หรูหราเกินไปแล้ว!!
ครึกๆ!
ปุดๆ!
ไม่นานนักปราณวิญญาณดั่งหมอกควันพลันเอ่อล้นออกมาจาก
จากเตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลก ทันทีที่ทั้งหมดได้สูดดมกลิ่น
ต่างรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันใด!
สําหรับชนเผ่าวิญญาณที่ไร้การฝึกฝนนั้น ทุกผู้คนล้วนบังเกิด
ความเปลี่ยนแปลงเพราะเรื่องนี้ทันที!
ปราณวิญญาณที่ไหลเวียนอยู่ทั่วร่างของพวกมัน จากที่สงบดั่ง
ทะเลสาบกระจก กลับกลายเป็นเดือดพล่านปั่นปุวนดั่งห้วง
มหรรณพคุ้มคลั่ง!!
ตอนที่ 864 : ป่ะ! ข้าจะไปกับพวกเจ้า!!
‘ติ๊ง!! ..ขอแสดงความยินดีท่านสร้างอาหารโอชารสของทวย
เทพได้สาเร็จ’
‘หูฉลามสวรรค์ : บังเกิดจากการผสมผสานกันอย่างลงตัวจาก
ครีบสวรรค์ วารีธาตุต้นกาเนิด อัคคีธาตุต้นกาเนิดและเตา
หลอมกลั่นสวรรค์และโลก นับเป็นอาหารโอชารสของทวยเทพ
อย่างแท้จริง’
‘ผลกระทบ : มากมายนับไม่ถ้วน มีผลกระทบเลิศล้า
นาๆนับประการ’
เมื่อหลินฟ่านได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบเขาก็ไม่ได้ตื่นเต้น
หรือยินดีอะไรมากมาย เพราะเขาคิดไว้แล้วว่าผลมันต้อง
ออกมาแบบนี้แน่ๆ
หูฉลามสวรรค์นี่สมควรเป็นยาชูกาลังที่ยอดเยี่ยมที่สุดใน
จักรวาล! ไม่ต้องกลาวถึงเรื่องอื่นไกล เอาแค่ระบบการันตีว่า
มันเป็นอาหารโอชารสของทวยเทพ…นี่มันก็ไม่ธรรมดาแล้ว!!
ทันทีที่ฝาเตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลกเปิดออก ปรากฏลาแสง
สว่างเจิดจ้าสาดส่องออกมาจนตาแทบบอด! พลังปราณ
วิญญาณเซียนมากมายมหาศาลปะทุออกมาดั่งภูเขาไฟระเบิด
พวกมันพวยพุ่งขึ้นฟ้า ค่อยกาจายออกไปลอยล่องเหนือเตา
หลอมกลั่นสวรรค์และโลก!!
“นิ…นี่มันกลายเป็นโอสถอัศจรรย์ปาฏิหาริย์ไปแล้วหรือไรกัน?”
เมื่อหลิงอู่เว่ยและนักรบชนเผ่าวิญญาณเห็นปรากฏการณ์นี้ก็
อดไม่ได้ที่จะขวัญผวา ในสายตาของพวกมันนี่ช่างเป็นอันใดที่
ท้าทายสวรรค์นัก!!
ปราณวิญญาณที่ลอยล่องอยู่เบื้องหน้าพวกมัน มากมาย
มหาศาลกว่าสมบัติใดๆในชีวิตที่พวกมันเคยพบพาน แค่สูดดม
เข้าไปเพียงครั้ง พลังงานในร่างกายของพวกมันก็ส่งเสียงกู่ร้อง
ฮือๆ ใหญ่แล้ว!!
และทันทีที่เหล่าผู้คนที่ไร้พลังฝึกตนของชนเผ่าวิญญาณได้
สัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ ทั้งหมดรู้สึกราวกับตัวเองกาลังจะลอยล่อง
สู่สวรรค์!
ถึงแม้พวกมันจะไม่มีด่านพลังฝึกตนอะไร แต่ลาพังแค่อยู่ใกล้
พวกมันยังรู้สึกคล้ายร่างกายพวกมันได้รับผลกระทบจากความ
เลิศล้าดั่งปาฏิหาริย์นี่แล้ว!
“ดูเหมือนว่าผลที่ออกมาจะไม่เลวทีเดียว” หลินฟ่านยิ้มกล่าว
“พี่ใหญ่ นี่ช่างน่าทึ่งยิ่งนัก!!” เมื่อเจ้าชิคกี้สูดดมกลิ่นหอมที่โชย
ออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันสัมผัสได้ถึงพลังในร่างกาลัง
พุ่งพล่าน มันก็รู้สึกอิ่มเอม หลับตาปรือทาหน้าฟินในอารมณ์
ส่ายไปมาเบาๆจนคล้ายมึนเมา…
“ฮ่าๆๆๆ!!” เห็นท่าฟินเวอร์ของเจ้าชิคกี้ หลินฟ่านก็อดไม่ได้ที่
จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เขาสะบัดผ้าคลุมดังฝั่บ ก่อนที่จะ
จี้ดัชนีออกคราหนึ่ง พลังอานาจจิตนิรมิตรปรากฏ จากไร้สภาพ
สู่มีสภาพ ถ้วยชามกระเบื้องอย่างดีจานวนพอดีคนพลันปรากฏ
ออกมาจากความว่างเปล่าและลอยค้างเอาไว้!!
จากนั้นเขาก็สะบัดมืออีกครา หูฉลามจากเตาหลอมถูกตักแบ่ง
ใส่ชาม! ก่อนที่ชามเหล่านั้นจะแยกย้ายกันลอยล่องไปเข้ามือ
ของทุกผู้คน แต่ละคนล้วนได้รับอย่างน้อย 1 ชิ้น ตามแต่ระดับ
พลังจะทานรับไหว!!
ดูจากปริมาณพลังแล้ว…ต่อให้เป็นเผ่าพันธุ์วิญญาณที่ไร้ด่าน
พลังฝึกตนใดๆ และไม่มีแม้แต่ปราณโลหิต หรือพลังงานที่
แท้จริง ก็น่าจะสามารถทะลวงไปยังด่านพลังนภาสวรรค์อมตะ
ได้ในชั่วพริบตา หากว่าศักยภาพและพรสวรรค์ของคนผู้นั้นอยู่
ในระดับปานกลาง! แต่สาหรับผู้ที่มีศักยภาพและพรสวรรค์สูง
ล้า..ด้วยจานวนหูฉลามที่เหมาะสม ด่านพลังฝึกตนของพวกมัน
จะพุ่งทะยานครั้งเดียวบรรลุสู่ขอบเขตเดียวดายสวรรค์อมตะ ก็
ไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร!!
ลาพังตัวครีบสวรรค์มันก็เป็นดั่งโอสถทิพย์เสริมพลังเลิศล้าแล้ว
ยิ่งมามีส่วนประกอบอื่นๆที่แสนจะพิเศษเช่นนี้ มันก็กลับ
กลายเป็นทิพยโอสถที่เข้าขั้นโกง! ไม่ใช่อะไรที่โอสถทิพย์ทั่วไป
จะทัดเทียมได้!!
เมื่อชนเผ่าวิญญาณที่ไร้ด่านพลังฝึกตนทั้งหลายเห็นหูฉลามอัน
ไม่ต่างใดจากสมบัติล้าค่าตรงหน้า พวกมันก็รีบตักใส่ปากคา
ใหญ่อย่างไร้ลังเล!!
วิ้งงงงงงง!!!
ทันใดนั้นความว่างเปล่าพลันถูกอานาจพลังฉีกกระชาก!
นี่บังเกิดขึ้นเพราะความเปลี่ยนแปลงอันเกิดจากชนเผ่า
วิญญาณ ที่ไร้ด่านพลังบ่มเพาะกลืนกินครีบสวรรค์เหล่านี้! เป็น
พลังมหาศาลของพวกมันปะทุขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง! พวย
พุ่งสู่ความว่างเปล่า!!
“ไม่คิดเลยแหะว่ามันจะทรงพลังขนาดนี้!”
หลินฟ่านที่ชมดูเรื่องราวอยู่ หัวใจก็เต้นรัวขึ้นมา ตอนนี้ด่าน
พลังเดียวดายสวรรค์อมตะกลับกลายเป็นด่านพลังต้อยต่า
สาหรับผู้คนที่อยู่ที่นี่ตอนนี้…! ชนเผ่าวิญญาณบางคนกระทั่ง
บรรลุด่านพลังเทพสวรรค์อมตะในคราวเดียว! มวลพลัง
มหาศาลของพวกมันยังเริ่มควบรวมหมุนวนก่อเกิดแก่นแท้!!
ในสายตาของหลินฟ่านครีบสวรรค์พวกนี้ นับเป็นอะไรที่มี
ประสิทธิภาพเลิศล้าหาใดเปรียบจริงๆ!!
ตอนนี้เองมวลอารมณ์แห่งความตื่นเต้นก็สาดเทออกมาจากชน
เผ่าวิญญาณดั่งคลื่นยักษ์!
“ตอนนี้ข้าพเจ้ามีพลังงานที่แท้จริงแล้ว! ข้าพเจ้ารู้สึกราวกับ
ร่างกายข้าพเจ้าจักล่องลอยโบยบินไปด้วยพลังอานาจ!!”
“พลัง…นี่คือพลัง!!”
“นิ…นี่!!”
หลังจากที่หลิงอู่เว่ยและคนอื่นๆได้กินหูฉลามสวรรค์ถ้วยนี้
กระทั่งด่านพลังฝึกตนของพวกมันยังบังเกิดความเปลี่ยนแปลง
บ้างก็ทะลวงผ่านด่านพลังในขอบขตที่สูงกว่าทันที!!
“สวรรค์ หากข้ามิได้มาเห็นสิ่งนี้ด้วยตา ข้าคงคิดว่าเรื่องนี้มิ
อาจเป็นไปได้เลย!!” หลิงอู่เว่ยกล่าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้เห็นสหายร่วมเผ่าพันธุ์ของมันที่ไร้ซึ่ง
ด่านพลังฝึกปรืออะไร กลับบังเกิดความเปลี่ยนแปลงและ
ทะลวงด่านพลังหลายขอบเขตขีดขั้นบรรลุสู่ระดับพลังฝึกตน
อันน่าเหลือเชื่อในพริบตา!!
วิธีการเหล่านี้ช่างเป็นอะไรที่ท้าทายสวรรค์นัก!!
ตุบ!
ตอนนี้เองผู้คนของชนเผ่าวิญญาณที่มีจานวนนับไม่ถ้วนล้วน
คุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียง พวกมันรู้สึกสานึกบุญคุณหลินฟ่า
นอย่างถึงที่สุด ในสายตาของพวกมันแล้ว หลินฟ่านคือผู้มี
พระคุณอันหาที่สุดไม่ได้!!
กาลก่อนชีวิตในแต่ละวันของพวกมัน ล้วนผันผ่านไปด้วยความ
หวาดผวาและคราบน้าตา! พวกมันต้องทานทนรับการกดขี่ข่ม
เหงอย่างไร้สิ้นสุดจากชนเผ่าฉลามยักษ์! ทว่าตอนนี้..ราชันแห่ง
มวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า ประหนึ่งพระผู้ไถ่ที่จุติลงมาจาก
แดนสรวงเพื่อปลดปล่อยพวกมัน! ท่านสังหารชนเผ่าฉลาม
ยักษ์จนสิ้นสูญเผ่าพันธุ์ กระทั่งยังเพิ่มพลังให้พวกมันถึง
ขอบเขตที่ชาตินี้ก็ไม่เคยฝัน! บุญคุณอันใหญ่หลวงนี้ไม่ใช่อะไร
ที่พวกมันจะตอบแทนได้ชั่วชีวิต!!
เมื่อเห็นภาพเรื่องราวและสัมผัสได้ถึงบรรยากาศนี้ ใจของหลิน
ฟ่านก็เต้นรัวขึ้นมาอย่างยินดี! นี่คือบรรยากาศที่ตัวเขาต้องการ
และชมชอบที่สุด! เมื่อเห็นว่าชนเผ่าวิญญาณสานึกตื้นตันเขา
ขนาดไหน หลินฟ่านก็รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองขึ้นมาไม่น้อย!!
“ท่านผู้อาวุโส…” ตอนนี้เองหลิงอู่เว่ยก็เดินมาหยุดเบื้องหน้า
หลินฟ่าน ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความเคารพอย่างถึงที่สุด
เมื่อเผชิญหน้ากับตัวตนที่ทรงพลังถึงขีดขั้นนี้หลิงอู่เว่ยไม่
หลงเหลือแม้แต่เศษเสี้ยวของความถือดี มันลดศักดิ์ศรีและ
พยายามทาตัวให้ต้อยต่าที่สุดเท่าที่กระทาได้
“หืม? ว่าไง เจ้ามีอะไรหรือ?” หลินฟ่านกล่าวถามอย่างสงบ
“บุญคุณอันใหญ่หลวงที่ท่านได้ช่วยเหลือและปลดปล่อยสหาย
ร่วมชนเผ่าวิญญาณ เป็นอันใดที่ข้าผู้น้อยจักสลักตรึงตราไว้ใน
ใจตราบชั่วชีวิต!” หลิงอู่เว่ยรู้สึกขอบคุณและตื้นตันจนไม่รู้จะ
กล่าวคาใด ในฐานะที่มันเองก็เป็นคนของชนเผ่าวิญญาณคน
หนึ่ง การที่ได้เห็นสหายร่วมเผ่าพันธุ์ได้ย่าเหยียบลงบนเส้นทาง
แห่งความสุข หลังจากที่ได้รอดพ้นออกมาจากเส้นทางแห่ง
ความสิ้นหวัง เป็นอะไรที่มันไม่รู้จะขอบคุณอย่างไรดีแล้ว…
หลินฟ่านยิ้มอย่างสงบ ค่อยโบกมือไปมาเบาๆอย่างไร้
เรื่องราว…
“นี่อาจจักเป็นเรื่องไร้เรื่องราวเพียงผ่านมาแล้วก็ผ่านไปของ
ท่านผู้อาวุโส แต่สาหรับข้าน้อย…นี่มิต่างอันใดกับของขวัญฟ้า
ประทานประหนึ่งมอบชีวิตใหม่ให้แก่สหายร่วมเผ่าพันธุ์
วิญญาณของข้าน้อยแต่อย่างไร! ขอท่านผู้อาวุโส โปรดรับการ
คารวะจากผู้น้อยด้วย!!” หลิงอู่เว่ยไม่ลังเลเลยสักเพียงนิดที่จะ
คุกเข่าพร้อมโขกศีรษะลงบนพื้น
พี่น้องอันเป็นนักรบที่มากับหลิงอู่เว่ยเองก็เคารพหลินฟ่านหมด
ใจ พวกมันเองก็คุกเข่าลงไปโขกศีรษะเหมือนหลิงอู่เว่ย
ตัวตนที่ทรงพลังเช่นนี้ยากนักที่จะได้พบพาน ทว่าตอนนี้อีก
ฝ่ายกลับยืนอยู่ตรงหน้า กระทั่งช่วยเหลือพี่น้องร่วมเผ่าพันธุ์
พวกมัน เรื่องนี้สะท้านไปทั้งดวงจิตพวกมันแล้ว!!
เปรี๊ยะ!
ทันใดนั้นเอง จี้หยกชิ้นหนึ่งที่แขวนไว้บริเวณเอวของหลิงอู่เว่ย
พลันแตกเป็นเสี่ยง!!
สีหน้าของหลิงอู่เว่ยและนักรบชนเผ่าวิญญาณกว่าร้อยพลัน
เปลี่ยนสีทันใด ทันใดนั้นจี้หยกที่แตกออกพลันสลายเป็นผุยผง
ก่อนที่จะกลับกลายเป็นละอองแสง และค่อยๆพุ่งขึ้นมาควบ
รวมกัน เมื่อมันควบรวมอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่าข้อความ
เสียงหนึ่งพลันดังออกมา!
“ทุกคนของสานักวิญญาณสวรรค์ที่อยู่ข้างนอก จงฟังให้ดี!
ยามนี้สานักถูกสัตว์ประหลาดบุกจู่โจม! พวกเราใกล้ถูกทาลาย
ล้างเต็มที! ทั้งหมดอย่าได้กลับมาเด็ดขาด…ขอย้า! อย่าได้
กลับมาเด็ดข..อ๊าคคคคคคคคคค…..!!”
เมื่อได้ฟังเสียงกล่าวบอกเตือน และเสียงกรีดร้องของผู้ส่งสาร
สีหน้าของหลิงอู่เว่ยบิดเบี้ยวปั้นยากขึ้นมาทันใด
เหล่านักรบชนเผ่าวิญญาณกว่าร้อยก็หน้ามืดไปไม่ต่าง นั่นคือ
เสียงเจ้าสานักของพวกมัน…!
“ศิษย์พี่ใหญ่!” ทั้งหมดกว่าร้อยหันมองพร้อมเรียกหาหลิงอู่เว่ย
เป็นเสียงเดียวกัน ทุกคนตื่นกลัวและไม่รู้ว่าต้องทาอย่างไรดี
“สัตว์ประหลาดงั้นเหรอ?!”
ทันทีที่หลินฟ่านได้ยินคานี้เขาอดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดขึ้นมาทันใด
โลกนี้มีสัตว์ประหลาดด้วยเหรอ นี่เป็นไปได้ยังไง? ทุกผู้คนรู้จัก
ชนเผ่าโบราณดี และไม่มีใครเรียกหาว่าพวกมันเป็นสัตว์
ประหลาดแน่ๆ!!
“ท่านผู้อาวุโส ข้าผู้น้อยจาต้องขอตัวลาก่อนขอรับ เห็นได้ชัด
ว่ายามนี้มีบางสิ่งเกิดขึ้นกับสานัก…ข้าต้องกลับไปตรวจสอบดู
ขอรับ!” หลิงอู่เว่ยประสานมือคารวะหลินฟ่านขณะกล่าว นี่
เป็นเรื่องใหญ่ของสานักมัน หากกระทั่งเจ้าสานักของพวกมัน
ยังไม่อาจจัดการได้ นั่นบอกให้รู้…ไม่ว่าศัตรูหรือตัวอะไรก็ตามที่
กาลังจู่โจมสานักมันอยู่ ห่างไกลจากคาว่าธรรมดา!!
ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสเบื้องหน้าจะเป็นตัวตนที่ทรงพลัง หากแต่พวก
มันก็มิได้มีความสัมพันธ์อะไร! โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อาวุโสท่าน
นี้ได้ช่วยเหลือพวกมันมากมายมายมหาศาลแล้ว! หากพวกมัน
ยังจะขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสอีก นี่มันจะมากเกินไป…!!
“ป่ะ! ข้าจะไปตรวจสอบเรื่องราวกับพวกเจ้าด้วย!”
หลินฟ่านบังเกิดความสนใจไม่น้อย ว่าตัวบัดซบไหนมันกล้า
โผล่หัวออกมาบุกรุกฆ่าล้างผู้คนอีกครั้ง!!
แต่เท่าที่หลินฟ่านดู ครั้งนี้ไม่น่าจะใช่ชนเผ่าโบราณ! เพราะหาก
เป็นชนเผ่าโบราณ เสียงที่ส่งออกมาจากจี้หยกนั่นต้องไม่ใช้คา
ว่า ‘สัตว์ประหลาด’
คนที่กล่าวส่งข้อความเตือน ต้องกล่าวออกมาตรงๆว่าเป็นพวก
ชนเผ่าโบราณ!
ทางด้านหลิงอู่เว่ยนั้นพพอได้ยินคานี้พวกมันก็ไม่ต้องการอะไร
อื่นอีก! หากผู้อาวุโสเต็มใจไปช่วยเหลือพวกมัน นี่คือเรื่องราวที่
ประเสริฐสุดในโลกหล้า!!
สาหรับศัตรูที่กระทั่งเจ้าสานักของพวกมันมิอาจรับมือได้ ต่อให้
พวกมันแห่กันกลับไปก็มิอาจให้ความช่วยเหลือหรือต้านทาน
สถานการณ์อะไรได้มาก…
“อะ บอกที่ตั้งสานักพวกเจ้ามาสิ” หลินฟ่านกล่าว
“จากจุดนี้ มุ่งตรงไปทางเหนือ 300,000 ลี้ขอรับ” หลิงอู่เว่ยก
ล่าว
“เอาล่ะ! เฮ่ชิคกี้! มานี่มา ได้เวลาไปกันแล้ว!!” หลินฟ่าหันไป
โบกมือเรียกชิคกี้ ทางด้านเจ้าชิคกี้ที่กาลังใช้ปีกจับช้อนตักหู
ฉลามกินอย่างอร่อยเคี้ยวหนุบหนับจนแก้มตุ่ยท่าทางเพลินใจ
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของหลินฟ่านมันก็กระโดดขึ้นมานั่งบนไหล่
ทันที ถึงแม้จะไม่เต็มใจวางชามก็ตาม… (53380)
“ไปกันเถอะ!”
ด้วยการยกมือขึ้นหลินฟ่านนาพาหลิงอู่เว่ยและคนอื่นๆ หาย
เข้าช่องว่างไปในทันที มวลพลังไร้สภาพกางกั้นเป็นดั่งม่าน
พลัง! นาพาทั้งหมดวูบตัดระยะทางกว่า 300,000 ลี้ด้วย
ความเร็วสูงสุด!!
สาหรับผู้คนของชนเผ่าวิญญาณที่เหลือนั้น ทั้งหมดล้วนอยู่
สถานที่แห่งนี้มานานจนคุ้นชินแล้ว ในเมื่อตอนนี้ไม่มีชนเผ่า
ฉลามยักษ์ ภัยคุกคามชีวิตของพวกมันก็ไม่มีเหลืออีกต่อไป…
เช่นนั้น ก็นั่งรับประทานหูฉลามต่อ สมควรประเสริฐสุด!
ส่วนชนเผ่าโบราณนั้น เดิมทีก็ไม่ค่อยจะมาวุ่นวายอะไรกับชน
เผ่าวิญญาณที่นี่สักเท่าไร เพราะในสายตาของชนเผ่าโบราณ
แล้ว ชนเผ่าวิญญาณที่นี่อ่อนแอเสียยิ่งกว่ามดปลวกซะอีก…!
ตอนที่ 865 : แมลงบรรพบุรุษ ที่น่าสะพรึงกลัว!
ณ สถานที่แห่งหนึ่งอันเต็มไปด้วยทิวเขาสูงชันตระหง่านเรียง
ราย
พื้นที่แห่งนี้เรียกได้ว่ามีภูมิประเทศสลับซับซ้อน ปราการ
ธรรมชาติอย่างขุนเขานั้นเรียงตัวยาวแน่นหนา ภายในโลก
เซียนโบราณแห่งนี้ สานักวิญญาณสวรรค์ ก็ไม่นับเป็นอะไร
นอกจากขุมกาลังเล็กจ้อย ไม่ได้อยู่ในสายตาอะไร…
เจ้าสานักนิกายวิญญาณสวรรค์ก็เป็นคนของชนเผ่าวิญญาณ
เช่นกัน ยามเมื่อมันเยื้องย่างดาเนินขึ้นมาจากโลกเบื้องล่าง มัน
ก็ได้รับความช่วยเหลือจากตัวตนอันทรงพลังเปี่ยมคุณธรรม…
วันนั้นโชคชะตาของมันก็เลยพลิกผัน รอดพ้นหายนะจากเงื้อม
มือของชนเผ่าโบราณมาได้
ต่อมาภายหลังเมื่อด่านพลังฝึกตนของมันสูงล้าขึ้น มันก็เลย
ออกมาตั้งสานักเพื่อผู้คนเผ่าพันธ์วิญญาณขึ้นมา! ยามนั้น
ปณิธาณของมันก็เพื่อช่วยเหลือสหายร่วมเผ่าพันธุ์ทั้งหลายให้
รอดพ้นจากความโหดร้ายของโลกภายนอก…และนี่คือต้น
กาเนิดของสานักวิญญาณสวรรค์!!
มีผู้คนของเผ่าพันธุ์วิญญาณจานวนนับไม่ถ้วนที่ถูกจับไปเลี้ยง
เป็นปศุสัตว์แบบที่ถูกชนเผ่าฉลามยักษ์กระทา ดังนั้นภารกิจ
หลักของสานักวิญญาณสวรรค์ก็คือภารกิจปลดปล่อยและ
ช่วยเหลือชนเผ่าวิญญาณเหล่านั้นนั่นเอง…
ด้วยประกาลฉะนี้ ยามเมื่อศิษย์ในสานักบรรลุด่านพลังฝึกตน
สูงในระดับหนึ่งแล้ว พวกมันทั้งหลายก็จะออกจากสานัก เพื่อ
ไปพยายามช่วยเหลือสหายร่วมชนเผ่าวิญญาณของพวกมัน!
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ภารกิจบังคับแต่อย่างไร ใครอยากจะทาก็
กระทา เมื่อสาเร็จก็จะถูกบันทึกคุณงามความดีเอาไว้ เป็น
ชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลสืบต่อไป…
ในช่วงระยะเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมา ผู้กล้าที่ได้ทิ้งชื่อไว้ใน
บันทึกเกียรติยศนั้นก็มีมากมายนับพันคน อนิจจาพันกว่า
รายชื่อนี้ ยังมีอีกหลายร้อยหมื่นชีวิตที่ตกตายเพราะกระทามิ
สาเร็จ…ตกตายเพราะปรารถนาจะทิ้งชื่อเอาไว้…!
ยิ่งในฐานะของ 1 ใน 10 สัตว์โบราณด้วยแล้ว ชนเผ่าฉลาม
ยักษ์ก็เป็นอะไรที่น่าเกรงขามนัก ไม่ใช่อะไรที่พวกมันจะงัดข้อ
ได้ไหวเลย…
ทว่าวันนี้สานักวิญญาณสวรรค์กลับต้องเผชิญหายนะครั้งใหญ่
ในประวัติศาสตร์ ยังเป็นมหาภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุดของสานัก!!
เช้าขึ้นมาในหุบเขาตอนแรกมันก็เป็นอย่างเคยเป็น…แหงนมอง
ขึ้นไปแลเห็นฟ้ากระจ่างใส กลางหาวมีสกุณาร่อนเหิน ขับขาน
สาเนียงเจื้อยแจ้ว แมกไม้ทิวเขาฉาบไล้ไปด้วยแสงอัสดงอ่อน
สะท้อนบรรยากาศร่มรื่นสบาย …ชนเผ่าวิญญาณทั้งหลายก็
ออกมาฝึกฝนวิชาบ้างบาเพ็ญตบะไปตามเรื่องราว…ทว่าทันใด
นั้นเอง อยู่ท่ามกลางขุนเขาพลันบังเกิดขุนเขามหึมาลูกหนึ่งที่
ไม่ทราบผุดโผล่มาจากที่ใด หากแต่ก็ปรากฏขึ้นมาเสียอย่าง
นั้น!!
และเมื่อขุนเขาลูกใหญ่นั้นแตกออกก็ปรากฏ ‘สัตว์ประหลาด’
จานวนมากมายมหาศาลกรูทะลักออกมาชวนให้ขนพองสยอง
เกล้า!
สัตว์ประหลาดที่ว่า หาได้มีรูปลักษณ์อันใดเหมือนผู้คนไม่! พวก
มันเป็นเหล่า ‘แมลง’ ทั้งหลายบ้างมีหลายขา บ้างมีหลายหัว
ลาตัวล้วนเป็นข้อปล้อง กระทั่งยังมีบางสิ่งคล้ายดั่งชุดเกราะ
ห่อหุ้มไว้อีกชั้น
และชุดเกราะเหล่านี้พิกลนัก พวกมันมีความยืดหยุ่นและ
ทนทานเป็นอย่างมาก ประหนึ่งเป็นชุดเกราะชีวภาพก็ไม่ปาน
ผู้ฝึกตนทั่วไป ที่ไร้วิชาเลิศล้าอะไร ย่อมไม่อาจสร้างความ
เสียหายอะไรให้พวกมันได้เลย…!
อีกทั้งจ่าฝูงที่เป็นดั่งผู้นาของแมลงเหล่านี้ก็น่าสะพรึงกลัวนัก
ตัวมันใหญ่มหึมา สามารถสั่งการฝูงแมลงจานวนนับไม่ถ้วน
คอยรุกคืบตามระเบียบแบบแผน กระทั่งเจ้าสานักวิญญาณ
สวรรค์ก็มิอาจต้านทานรับมือ
เรียกว่าตอนนี้หุบเขาที่สานักสวรรค์ตั้งอยู่ ถูกปิดล้อมไปด้วย
แมลงนับหมื่นพัน ผู้คนได้ยินแต่เสียง กี๊ซๆ กิ๊กๆ ริ้งๆ ราวกับมี
จิ้งหรีดอะไรร้องดังระงมไปหมด…
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับแมลงในชุดเกราะชีวภาพแบบนี้ ศิษย์
สาวกของสานักวิญญาณสวรรค์ไร้หนทางต่อสู้อะไร! อีกทั้งพวก
แมลงอัปลักษณ์แต่ละตัวก็มีความสามารถอันน่ากลัวแตกต่าง
กันไปมากมาย! บ้างก็มีขานับร้อยยุบยับ! บ้างทั้งตัวเต็มไปด้วย
พิษร้ายตั้งแต่หัวจรดเท้า ของเหลวจากตัวของมันทาให้สรรพ
สิ่งเน่าเปื่อยสลายในพริบตา! แม้ว่าศิษย์สานักวิญญาณสวรรค์
จะสร้างโล่จากพลังปราณได้ ก็แทบไม่อาจป้องกันอะไรได้เลย!!
หลิงเทียนจื่อ เจ้าสานักวิญญาณสวรรค์ ได้ลองตัดสินใจบุก
เดี่ยวออกไปหมายสังหารจ่าฝูงแมลงเพื่อแก้ไขสถานการณ์!
อนิจจาไม่เพียงลงมือไม่สาเร็จ มันยังต้องกลับมาพร้อมแขนที่
ขาดแหว่งไปหนึ่งข้าง!!
ด้วยด่านพลังเทพสวรรค์อมตะ 8 ชั้นฟ้าของหลิงเทียนจื่อ อันที่
จริงการงอกเงยแขนออกมาสมควรเป็นเรื่องง่ายดายเสมือน
หายใจ ทว่าครานี้บริเวณรอยแผลที่ถูกสะบั้นนั้นกลับมีพิษร้าย
อันแสนลึกลับกัดกินปากแผลกระทั่งลุกลามเข้ามาตลอดเวลา
ทาให้มันไม่อาจงอกเงยแขนออกมาใหม่ได้เลย!!
อีกทั้งในเวลาเดียวกันนั้น พิษร้ายนี้ก็กาลังกัดกินพลังภายใน
ของมันอย่างต่อเนื่อง หากมันไม่เร่งเร้าโคจรพลังเพื่อต้านทาน
สุดกาลัง เกรงว่าแดนสวรรค์และโลกของมันได้ถูกพิษร้าย
ลุกลามเข้าไปกลืนกิน กร่อนทาลายแน่แท้…
“กีซ…”
ตอนนี้แมลงขนาดมหึมาจานวนนับไม่ถ้วนจนคล้ายขุนเขาใหญ่
ได้ปิดล้อมสานักวิญญาณสวรรค์ไว้ทุกทิศทางแล้ว
ด้านสานักวิญญาณสวรรค์เองก็มีม่านพลังโปร่งใสประหนึ่งแก้ว
กระจกก็ครอบคลุมไปทั่ว ทว่าม่านพลังโปร่งใสดังกล่าวยิ่งมายิ่ง
สั่นสะท้านและเริ่มกระพริบวูบวาบติดๆดับๆ ราวกับจะสลาย
หายไปได้ทุกเวลา…
นี่คือค่ายกลม่านพลังคุ้มภัยของสานักวิญญาณสวรรค์ แต่ดูแล้ว
อีกไม่นานมันคงไม่อาจคุ้มภัยอะไรได้อีก…
“ข้าก็ได้แจ้งข่าวต่อศิษย์ทั้งหลายที่ออกไปทาภารกิจหมดแล้ว…
แต่ข้ามิรู้จริงๆว่าสัตว์ประหลาดเหล่านี้มันมาจากที่ใดกันแน่
แล้วไฉนถึงได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้…” ใบหน้าหลิงเทียนจื่อ
เคร่งเครียดทั้งเริ่มมืดมน ในใจมันสิ้นไร้ความหวังอะไรแล้ว…
ยามเมื่อมันเงยหน้าขึ้นมาชมดู เหล่าสัตว์ประหลาดที่รายล้อม
อยู่นั้นน่ากลัวนัก! โดยเฉพาะตัวที่ใหญ่โตราวกับขุนเขาเป็น
อะไรที่น่าพรั่นพรึงอย่างยิ่ง!!
“กี๊ซๆ ไม่คิดเลยว่าพวกร้อยพันชนเผ่าจะกล้ามาตั้งถิ่นฐานใน
อาณาเขตเผ่าพันธุ์แมลงของข้า! นี่นับว่ารนหาที่ตายจริงๆ!!”
เสียงหนึ่งดังขึ้นกึกก้องไปทั่ว ฟังแล้วดูคล้ายว่าเผ่าพันธุ์แมลง
พวกนี้จะคุ้นเคยกับร้อยพันธุ์ชนเผ่าเป็นอย่างดี…
“ท่านเจ้าสานัก ตอนนี้พวกเราควรทาอย่างไรกันดีขอรับ!?”
อาวุโสของสานักวิญญาณสวรรค์กล่าวถามหน้าเครียด การ
ปรากฏตัวอย่างฉับพลันของเผ่าพันธุ์แมลงอันแสนน่ากลัวนี่ทา
ให้พวกมันไม่ทันได้ตั้งตัว ทาให้ไม่อาจต้านทานการรุกคืบเข้า
มาได้เลย เมื่อพวกมันตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ศิษย์ทั้งหลาย
ก็ตกอยู่ในความอลหม่านหมดสิ้นแล้ว
และตอนนี้ทั้งหมดก็ทาได้แค่ถอยร่นเข้ามารวมกันที่โถงประชุม
หลักในส่วนกลางของสานัก ส่วนอาคารอื่นๆนั้นล้วนตกอยู่ใน
เงื้อมมือของศัตรูเรียบร้อย!
หลิงเทียนจื่อหาได้ตอบคาอะไร หากแต่หน้าดาคร่าเครียดของ
มันก็เพียงพอแล้ว ที่จะแสดงทุกมวลอารมณ์ของมันที่กาลัง
รู้สึก!!
วันนี้ อาจเป็นวันที่สานักวิญญาณสวรรค์จาต้องร่วงหล่น…
อย่างไรก็ตามตราบใดที่พวกมันยังคงเหลือมรดกและเมล็ดพันธุ์
ของสานักวิญญาณฟ้าอย่างศิษย์ที่ออกไปทาภารกิจค้างอยู่ข้าง
นอก สานักวิญญาณสวรรค์ก็ไม่มีวันสูญสิ้น!!
หลิงเทียนจื่อโบกมือให้ศิษย์และอาวุโสทั้งหลายถอยไป ก่อนที่
มันจะก้าวเดินไปยังขอบระเบียงโถงประชุมและมองไปยังสัตว์
ประหลาดน่ากลัวเหล่านั้น “พวกเจ้าเป็นเผ่าพันธุ์อันใดกันแน่
ใยถึงได้มารุกรานสานักวิญญาณสวรรค์ของข้า!?”
“กีซ…!”
เผ่าพันธุ์แมลงทั้งหลายไม่ได้ตอบกลับ อย่างไรก็ตามหนวดทั้ง
อวัยวะที่คล้ายแขนบนร่างของพวกมันก็ขยับส่ายไปส่ายมา
พร้อมส่งเสียงร้องเสียดแทงระคายแก้วหูระงม เสียงนี้ฟังแล้ว
ชวนให้ขนลุกนัก ทันใดนั้นเองเหล่าแมลงคล้ายเปิดทาง เผยให้
เห็นแมลงตัวหนึ่งที่เป็นแมลงตัวเดียวกันกับที่สะบั้นแขนหลิง
เทียนจื่อไปย่างก้าวออกมา
ถึงแม้ว่าแมลงตัวนี้จะไม่ได้ใหญ่โตมหึมามากมายอะไร แต่มันก็
สูงใหญ่กว่าผู้คนหลายสิบเท่า ขาทั้ง 8 ของมันขยับแกว่งไกว
ในอากาศอย่างน่าขยะแขยง ใบหน้าของมันพิลึกพิลั่น ดวงตาสี
เขียวทั้ง 8 เปล่งแสงวูบวาบออกมา
“กวี๊ซ…ชนเผ่าวิญญาณ หลายหมื่นพันปีแล้วตั้งแต่ข้าได้ลิ้มรส
พวกเจ้า…” แมลงบรรพบุรุษกล่าวออกมาด้วยภาษาคน
อย่างไรเสียเสียงของมันนั้นเย็นชาและเต็มไปด้วยกลิ่นอาย
หนาวยะเยือก
“เพียงกลิ่นของเผ่าพันธุ์วิญญาณของเจ้าที่โชยคลุ้งออกมา ข้า
บรรพบุรุษแมลงก็ถึงกับต้องเคลิบเคลิ้มชวนให้หวนราลึกนัก…
นานแสนนานมาแล้ว ชนเผ่าวิญญาณของเจ้าที่มิรู้ดีชั่ว หารู้ว่า
อันใดประเสริฐต่อตัว ก็คิดร้ายหมายบุกเข้ามาฆ่า ข้าบรรพบุรุษ
แมลงเช่นเจ้า! แต่สุดท้ายมันก็ถูก ข้า! บรรพบุรุษแมลงผู้นี้กลืน
กิน!!”
“โอ้! ข้าบรรพบุรุษแมลงยังคงจดจาได้ดีถึงนามชนเผ่าวิญญาณ
ผู้นั้น และหากข้าจามิผิด มันเรียกว่า ราชันจักรพรรดิ
วิญญาณ”
“กวี๊ช ชนเผ่าวิญญาณยามนั้นยังแข็งแกร่งพวกเจ้าในตอนนี้
นัก!!”
ทันทีที่หลิงเทียนจื่อได้ยินวาจาที่ตัวประหลาดกล่าว หน้าของ
มันอดไม่ได้ที่จะชะงักค้างทั้งเผยความเหลือเชื่อออกมา!
ตอนนี้เองบรรพบุรุษแมลงพลันกล่าวออกมาอีกครั้ง หากแต่ใน
บรรดาขายุบยับของมันกลับถือแขนหนึ่งเอาไว้ และมันก็เริ่ม
แทะกินสดๆ “โอ๊ะ โอ…รสชาติโลหิตของเจ้ากลับละม้ายคล้าย
ราชันจักรพรรดิวิญญาณมิเบา ราชันจักรพรรดิวิญญาณ
สมควรเป็นบรรพบุรุษของเจ้าใช่หรือไม่?”
“ไม่ผิดแน่รสชาติเช่นนี้! กวี๊ช…มันสมควรเป็นบรรพบุรุษของ
เจ้า!!”
“แต่น่าเสียดายยิ่งนัก! ที่เจ้ามิอาจเทียบได้แม้แต่ครึ่งหนึ่งของ
พลังความแข็งแกร่งบรรพบุรุษเจ้า!!”
ทันใดนั้นร่างกายของแมลงบรรพบุรุษเริ่มบังเกิดความ
เปลี่ยนแปลง เปลือกนอกที่เป็นดั่งเกราะชีวภาพเริ่มหลุดออก
ร่างน่าเกลียดของมันค่อยๆแปรสภาพกลับกลายเป็นชายวัย
กลางคน ที่แลดูมีสง่าราศีคนหนึ่ง
“ท่านบรรพบุรุษ!”
เมื่อหลินเทียนจื่อได้เห็นร่างชายวัยกลางคนดังกล่าวมันก็อด
ไม่ได้ที่จะกล่าวพึมพาออกมา หากทว่าใบหน้าของมันก็ชะงักไป
ทันใด เดี๋ยวก่อน นี่มิถูกต้อง นั่นหาใช่ท่านบรรพบุรุษไม่!
“กวี๊ซ..ข้าบรรพบุรุษแมลงผู้นี้ กลิ่นกินสิ่งมีชีวิตมานับไม่ถ้วน
และมิว่าอันใดก็ตามที่ข้ากลืนกิน ล้วนถูกข้าบันทึกไว้ในความ
ทรงจาเสมอ”
ชายวัยกลางคนเปล่งเสียงหัวเราะอันน่ากลัวออกมา ก่อนที่เนื้อ
ตัวทั่วร่างจะปริแตกกลับกลายสู่รูปลักษณ์แมลงอันน่ากลัวทั้ง
น่าขยะแขยงเหมือนก่อนหน้าอีกครั้ง
เผ่าพันธุ์แมลงนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่น่ากลัวที่สุดในบรรดาโลกไร้
จากัด ด้วยเหตุนี้โลกเซียนโบราณ ถึงได้ผนึกพวกมันเอาไว้ และ
คอยป้องกันไม่ให้พวกมันปรากฏตัวออกมาสุ่มสี่สุ่มห้า
เนื่องจากสัญชาติญาณผู้ล่าแต่กาเนิด เผ่าพันธุ์แมลงย่อมไม่
พอใจที่จะอยู่ในโลกเบื้องล่างของมันอีกต่อไป พวกมันจึงออก
เดินทางไปทั่วโลกไร้จากัด รุกรานเผ่าพันธุ์อื่นๆ และกลืนกิน
เผ่าพันธุ์ทั้งหลายไปนับไม่ถ้วน…
และตอนนี้ในที่สุดม่านผนึกก็คลายตัวลง เผ่าพันธุ์แมลงจึงหวน
กลับมายังโลกเซียนโบราณอีกครั้ง และทัศนคติของมันที่มีต่อ
ร้อยพันชนเผ่าคือ…กลืนกิน ทาลายล้าง!
และนี่ยังเป็นข้อตกลงระหว่างเผ่าพันธุ์โบราณ กับเผ่าพันธุ์
แมลง
โลกไร้จากัดได้เคยเปิดออกหลายครั้งแล้วในอดีต และทุกครั้ง
ชนเผ่าแมลงก็จะปรากฏขึ้นมานับครั้งไม่ถ้วน
สาหรับผู้คนของร้อยพันชนเผ่านั้น เจตจานงสวรรค์ของโลก
เซียนโบราณหาใช่สิ่งเดียวที่พวกมันต้องต่อสู้ พวกมันยังต้องสู้
กับเผ่าพันธุ์แมลงอันน่ากลัวนี่เช่นกัน! (53380)
ราชันจักรพรรดิวิญญาณนั้น ในอดีตกาลก็เคยเป็นตัวตนที่ทรง
พลังระดับแนวหน้าเหมือนกัน ยามเมื่อโลกไร้จากัดเปิดออก
ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามมันก็ต้องมาสิ้นท่าเพราะแมลงบรรพ
บุรุษ!
“สิ่งมีชิวิตของเผ่าพันธุ์วิญญาณ…พวกเจ้ารีบย้อมแพ้เสียโดยดี
ตั้งแต่ตอนนี้จะประเสริฐกว่า พวกเจ้าคิดว่าม่านแสงนี่จักคุ้ม
กะลาหัวเจ้าให้ปลอดภัยได้หรือ? นั่นมันฝันโง่งมของตัวโง่เขลา
อย่างมิต้องสงสัยเลย”
ด้วยขาหน้าที่แลดูคมกริบของมัน แมลงบรรพบุรุษยกขึ้นมา
แตะม่านพลังเบาๆ
เพล๊งงง!!
ทันใดนั้นม่านพลังแสงคุ้มกันถึงกับแตกสลายเป็นเศษกระจก
ทันใด เผยให้เห็นสานักวิญญาณสวรรค์ที่ไร้การป้องกันได้
ชัดเจน…
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน!?”
เมื่อหลิงเทียนจื่อเห็นเรื่องนี้ ใจของมันก็จมดิ่งไปทันใด ราวกับ
มันไม่อาจทาใจเชื่อทุกเรื่องราวที่บังเกิดขึ้นตอนนี้ได้!!
ตอนที่ 866 : ชิคกี้รับประทานแมลง!
“กวี๊ชช…!”
ทันใดนั้นเผ่าพันธุ์แมลงทั้งหลายโดยรอบก็ร่าร้องเสียงแหลม
ออกมา ฟังดูน่ากลัวชวนให้ขนลุกนัก!
ศิษย์ส่านักวิญญาณสวรรค์ที่เห็นแมลงจ่านวนมหาศาลยั้วเยี้ย
ยุบยับ แถมหน้าตาน่ากลัวรุมล้อมไว้ทุกทาง ก็อดไม่ได้ที่จะขา
สั่นร่างสะท้าน พวกมันหวาดกลัวแทบตายแล้ว!!
ผู้ที่จะเยื้องย่างด่าเนินขึ้นมาจากโลกเบื้องล่างได้ กล่าวไปจิตใจ
สมควรถูกเคี่ยวกร่าหล่อหลอมให้เข้มแข็งมามากกว่าผู้ที่ถือ
ก่าเนิดบนนี้อยู่บ้าง! แต่เมื่อคนเหล่านั้นได้เห็นสถานการณ์
ตรงหน้าก็ยังอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความวิตกกังวล!!
ด้านชนเผ่าแมลงนั้นก็มองไปยังคนของส่านักวิญญาณสวรรค์
ด้วยสายตาที่ท่าราวกับมองเหยื่อรสดี…น้่าลายเหนียวเริ่มยืด
ย้อยสอออกข้างปาก!
หลิงเทียนจื่อ ชักสีหน้าเครียดหลังยืดตรง พุ่งร่างไปหยุดยืน
เบื้องหน้าบังศิษย์เอาไว้ด้านหลัง “พวกแมลง…ชนเผ่าแมลง!”
หลิงเทียนจื่อก้มหน้าลง ก่อนที่จะเริ่มหัวเราะออกมาอย่าง
เข็ญใจ “ศิษย์ทั้งหลายของส่านักวิญญาณสวรรค์จงฟังข้า!
วันนี้พวกเราจักสู้กับเผ่าพันธุ์แมลง!!”
“สู้!”
ถึงแม้ว่าศิษย์เหล่านี้จะหวาดกลัว แต่เมื่อได้ยินวาจาเจ้าส่านัก
ลั่นรบ พวกมันก็ยืดอกกล่าวค่าขานรับสนั่น ขจัดความกลัว
ออกไป!
“กวี๊ชชช..สิ่งมีชีวิตกระจ้อยดั่งมดปลวก! วันนี้ข้าจะกินพวกเจ้า
เสียให้หมด! เพื่อหวนร่าลึกถึงความหลังครั้งที่ได้ลิ้มรสชนเผ่า
วิญญาณแสนอร่อยของพวกเจ้า!!”
แมลงบรรพบุรุษก้าวออกมา ในสายตาของมันผู้คนของชนเผ่า
วิญญาณก็ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าอาหารจานเด็ดแสน
เอร็ดอร่อย ที่รอคอยให้พวกมันไปกลืนกินเติมเต็มท้องที่โหยหิว!
แกรกกกซซซ์
ทันใดนั้นแมลงบรรพบุรุษพลันเปิดปากใหญ่โตออกกว้าง ร่างที่
เดิมที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรกลับคล้ายจะขยายขึ้น ของเหลวสีเขียว
น่าขยะแขยงไหลย้อยออกมาจากปากของมัน
ปรากฏรยางค์ชวนสยอง พุ่งขึ้นไปส่ายแกว่งไกวเหนือฟ้าปาน
เริงระบ่า
เพียงชั่วพริบตาร่างของแมลงบรรพบุรุษที่ขยายใหญ่ขึ้น
กว่าเดิมหลายเท่าก็ปรากฏให้เห็น! ภายในปากที่อ้ากว้างของ
มันมองไปชวนให้ผู้คนสยดสยองขนลุกเกรียว ซี่ฟันแหลมคม
เรียงรายเป็นตับๆ ราวกับไม่ว่าสิ่งใดก็ตามหากถูกปากนี้ขบ
เคี้ยว จ่าต้องแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!
“อ๊าาา!!”
ศิษย์ส่านักวิญญาณสวรรค์บางคนที่ขวัญอ่อน เมื่อได้เห็นภาพ
น่ากลัวและรูปลักษณ์น่าสยดสยอง ร่างก็ผงะก้าวถอยหลังไปไม่
รู้ตัวกระทั่งสะดุดล้ม ในแววตายังเต็มไปด้วยประกาย
หวาดหวั่นอันไร้ขอบเขต
ศิษย์บางคนก็หวาดผวาจนมือไม้ไร้เรี่ยวแรงจนมิอาจกระชับ
อาวุธในมือให้มั่นคงได้สืบไป! บ้างยังแข้งขาอ่อนถึงขั้นทรุดลง
ไปนั่งจุ้มปุ๊กกับพื้น ท่าทางหวาดกลัวถึงขีดสุด!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดรูปร่างอัปลักษณ์มีรยางค์
โยงใยยุบยัย ทั้งขายั้วเยี้ยอะไรแบบนี้..พวกมันต่างขนลุกกัน
อย่างแท้จริง! นี่นับเป็นอะไรที่น่ากลัวยิ่งกว่าเผชิญหน้ากับ
เผ่าพันธุ์โบราณเสียอีก!!
เพราะถึงแม้ว่าชนเผ่าโบราณจะรูปลักษณ์น่าเกลียด แต่ก็ไม่ได้
น่าเกลียดและน่าขยะแขยงแบบนี้!!
และไม่เพียงแต่เผ่าพันธุ์แมลงนี่จะน่าเกลียดเท่านั้น พวกมันแต่
ละตัวยังเหมือนปีศาจ!
“ท่านเจ้าส่านัก!”
ทันใดนั้นเองเสียงหลิงอู่เว่ยพลันดังมาแต่ไกล
ทันทีที่หลิงเทียนจื่อได้ยินเสียงนี้ สีหน้าของมันแปรเปลี่ยนไป
ทันใด “รีบหนีไปเร็วเข้า! เร็ว!!” ตอนนี้หลิงเทียนนจื่อตื่น
ตระหนกนัก ไม่ใช่มันบอกให้ทั้งหมดว่าอย่ากลับมาหรือไร? เหตุ
ใดถึงได้กลับมาเอาตอนนี้!
“ไปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปปป..!!!!” หลิงเทียนจื่
อกรีดร้องสุดปอด
“กวี๊ชชช…! ยังมีเผ่าพันธุ์วิญญาณอีกกลุ่มงั้นหรือ ในเมื่อ
มาแล้วก็อย่าได้คิดจากไป!!” แมลงบรรพบุรุษหันไปมองชนเผ่า
วิญญาณกลุ่มใหม่ที่พึ่งมาถึง ค่อยระเบิดเสียงหัวเราะอันน่า
สยดสยองออกมา มันโบกสะบัดรยางค์ตามร่างคราหนึ่งปรากฏ
ล่าแสงสีด่าพุ่งทะลวงความว่างเปล่า ยิงตรงไปยังหลิงอู่เว่ยและ
พวกพ้องทันใด!!
เมื่อหลิงเทียนจื่อเห็นภาพนี้ใจมันเต็มไปด้วยความกังวลหนัก
หนา อนิจจาตอนนี้มันไม่อาจท่าอะไรได้ทันการณ์!
“โอ๊ะ?! นี่มัน…ใช่ชนเผ่าแมลงรึเปล่า!?”
หลินฟ่านที่น่าพาหลิงอู่เว่ยและคนอื่นๆมาถึง ก็มองสิ่งมีชีวิต
ยัวเยี๊ยะเบื้องหน้า และภาพสิ่งมีชีวิตมากมายพลันไล่เรียงในหัว
ทันใด.. ย้อนกลับไปตอนที่เขาอยู่ในห้องสมุดของนิกายเมฆา
คล้ายเขาจะได้เห็นบันทึกโบราณที่แนะน่าสิ่งมีชีวิตพวกนี้เอาไว้
ชนเผ่าแมลงเองก็นับเป็นอีก 1 เผ่าพันธุ์ในบรรดาร้อยพันชน
เผ่า! ทว่าพวกมันนั้นโหดร้ายที่สุด พวกมันจะกลืนกินเผ่าพันธุ์
อื่นๆก่อนที่จะดูดกลืนพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตที่กลืนกินมา
เสริมสร้างร่างกายของพวกมัน!
ทุกครั้งที่โลกไร้จ่ากัดเปิดออก ชนเผ่าแมลงจะเริ่มเข้ามารุกราน
ทะลวงม่านพลังคุ้มกันของสรรพโลกและรุกรานไปกลืนกิน
สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ประหนึ่งสงครามหมื่นขาล่าล้างจักรวาลอุบัติ!!
เรียกว่าพวกมันเปรียบเสมือนแนวหน้าเดนตายของชนเผ่า
โบราณก็ว่าได้!
แต่อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ว่าชนเผ่าแมลงจะเป็นบริวารหรือข้า
รับใช้อะไรของชนเผ่าโบราณ.. กล่าวได้ว่าทั้ง 2 เผ่าพันธุ์มี
ความสัมพันธุ์ในรูปแบบ ภาวะได้ประโยชน์ร่วมกัน!
“โอ้ เผ่าพันธุ์นี่น่าสนใจไม่เบา! ดูเหมือนต้องจับพวกมันมาสัก
ตัวเพื่อท่าการวิจัยสักหน่อย!!” เมื่อหลินฟ่านได้เห็นเผ่าพันธุ์
แมลงเบื้องหน้า ประกายตาพลันส่องสว่าง ต่อมความอยากรู้
อยากเห็นของเขาท่างานทันที!!
แม้ว่าเรื่องเกี่ยวกับฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไหนสักเผ่าพันธุ์จะเป็นอะไร
ที่หลินฟ่านไม่ค่อยคิดจะท่าสักเท่าไร แต่พอได้เห็นเผ่าพันธุ์
แมลงในใจหลินฟ่านก็เต็มไปด้วยความความรื่นรมย์ไม่รู้จบ!
‘ฮัยยา แมลงตัวใหญ่เยอะแยะไปหมด ไอพวกนี้เอาไปท่าอะไร
ได้มั่งนะ? ทอดหรอ…คั่วก็น่าจะดี อา?’
“แมลง! แมลงตัวใหญ่ยักษ์!!” ชิคกี้ที่อยู่บนไหล่หลินฟ่านถึงกับ
ตาลุกวาว ใจมันเต้นระส่่า แสงที่ตายิ่งมายิ่งเจิดจ้าเมื่อได้เห็น
สิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์แมลง! คล้ายตอนนี้มันจะตื่นเต้นคึกคักนัก!!
ทันใดนั้นเองแสงสีด่าที่พุ่งทะลวงมาฉับไว ก็บรรลุใกล้ถึงแล้ว
มันเป็นรยางค์ของแมลงบรรพบุรุษ!
“โอ๊ะโอ เจอกันก็ทักทายกันด้วยการลงมือลงไม้ซะแล้ว…นี่มัน
ค่อนข้างจะรุนแรงไปหน่อยว่ามั้ย?” หลินฟ่านแย้มยิ้มสงบ เขา
พลิกฝ่ามือก่อนจะสะบัดออกไปทันที
ปงงงงง!!
เปรี๊ยงงง!!
“กวี๊ชชชชชชชช!!!” แมลงบรรพบุรุษกรีดร้องออกมาทันใด นั่น
เพราะรยางค์ของมันถูกพลังมหาศาลฟาดท่าลายจนแหลก!
ของเหลวสีเขียวพุ่งทะลักปรี๊ดๆออกมาชโลมปฐพีทันใด!!
“นั่นเป็นผู้ใด!!” สีหน้าแมลงบรรพบุรุษเปลี่ยนไปทันใด มัน
เคร่งเครียดทั้งมองเขม็ง มันไม่คิดเลยว่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลัง
ขนาดนี้อยู่ด้วย! เหลือเชื่อนัก!!
ตอนแรกหลิงเทียนจื่อเองก็คิดว่าศิษย์กลุ่มนั้นต้องโดนแมลง
บรรพบุรุษสังหารในพริบตาแล้วแน่แท้ แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีใคร
บางคนที่ทรงพลังพอที่จะระงับการจู่โจมของแมลงบรรพบุรุษ
ได้!!
“พี่ใหญ่! ชิคกี้ทนไม่ไหวแล้ว! แมลงตัวนั้น …ตัวนี้….มีเยอะ
มากมาย !!!”
ทันใดนั้นเจ้าชิคกี้พลันกระโจนลงมาจากไหล่ของหลินฟ่าน
“กุ๊กกกกกกก กุ๊กกกกกก กูววววววววววววววววววว!!!”
เสียงกู่ร้องดังสนั่นลั่นหล้า ร่างของเจ้าชิคกี้พลันเปล่งแสง
เรืองรองออกมาราวกับมวลแสงทั้งหมดในโลกหล้าก่าลังสาด
ส่องไปที่มัน ทันใดนั้นเองร่างของเจ้าชิคกี้พลันบังเกิดความ
เปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่!!
“กุ๊ก กุ๊ก กูวววว!!!”
แพนหางทั้ง 4 ลุกตั้งไฟท่วม ร่างของเจ้าชิคกี้ยังคงขยายใหญ่
ขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ตอนนี้มันใหญ่โตเสียยิ่งกว่ามแลงที่ตัวใหญ่
ที่สุดหลายเท่านัก!
พริบตาต่อมาเมื่อแสงสว่างดับลง ร่างมหึมาของเจ้าชิคกี้ก็
ปรากฏเบื้องหน้าหลินฟ่าน ตีนไก่ของมันใหญ่ยักษ์ ขา
ตระหง่านของมันแลไปประหนึ่งเสาค้่าโลกา คล้ายจะพุ่งทะลวง
สวรรค์
หัวไก่ของมันเอียงไปเบื้องหน้า ยามต้องสะท้อนแสงอาทิตย์
จงอยปากเปล่งแสงเรืองๆปิ๊งปั๊ง มงกุฏที่อยู่เหนือศีรษะของมัน
ยิ่งมายิ่งเปล่งสีสันสดใสออกมามากกว่าครั้งใด!!
“กุ๊กกกก กุ๊กกก กูวววว!!!”
ตอนนี้เจ้าชิคกี้ราวกับคลั่งไปแล้ว! ดวงตาที่เต็มไปด้วยประกาย
วับวาว กลับเต็มไปด้วยความบ้าระห่่าปานวิกลจริต!!
“เชี่ยยย!! นี่มันอาการของไก่คลั่งเจอดงหนอน!!”
เมื่อหลินฟ่านเห็นอาการของเจ้าชิคกี้เขาก็ตะลึงไปเช่นกัน ไม่
คิดไม่ฝันเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรแบบนี้ได้!
ชิคกี้ร่างมหึมาตีปีกพั่บๆพุ่งไปยังดงแมลง ตีนมหึมาของมัน
ยกขึ้นเหยียบย่่าแมลงตัวเขื่อง จากนั้นมันก็ใช้จงอยปากแหลม
คมก้มลงมาจิก! สภาวะพุ่งจิกรุ่นแรงดั่งปั้นจั่นสวรรค์ทะลวง
โลก ก้มจิกๆ ระรัวไม่หยุดยั้ง!!
เพียงพริบตาชนเผ่าแมลงมากมายรอบกายเจ้าชิคกี้ก็พบพาน
โศกนาฏกรรมแหลกและ
ชิคกี้ก้มจิกพักหนึ่งค่อยเงยหัวขึ้นก่อนจะกลืนเหล่าแมลงลงคอ
ส่งทั้งหลายลงสู่ท้องทันใด!!
“หย่อยยย! อะหย่อยยยย!!!”
ชิคกี้ที่เคี้ยวแมลงหงุบหงับแก้มตุ่ย กล่าวออกมาด้วยความฟิน
ในอารมณ์เต็มพิกัด!
“กวี๊ชชชชชช..!!!” เมื่อแมลงบรรพบุรุษเห็นภาพนี้มันก็ค่ารามขู่
ออกมาเสียงดัง ขณะเดียวกันความประหลาดใจก็ฉายชัดเต็ม
ใบหน้าของมัน
“บัดซบ! ศัตรูตามธรรมชาติของเผ่าพันธุ์แมลง! นี่มันเป็นไปได้
อย่างไร…”
ส่าหรับบรรพบุรุษแมลงนั้น เผ่าพันธุ์แมลงของมันคือสิ่งมีชีวิต
อันไร้เทียมทานที่สุดในโลกไร้จ่ากัด! พวกมันคือเผ่าพันธุ์ที่อยู่
เหนือสุดในห่วงโซ่อาหาร สามารถกลืนกินเผ่าพันธุ์อื่นได้ทุก
เผ่าพันธุ์!! (53380)
กระทั่งเผ่าพันธุ์โบราณยังนับเป็นอาหารของพวกมันเช่นกัน!
ทว่าตอนนี้แมลงบรรพบุรุษถึงกับตกตะลึงพรึงเพริด เมื่อพบว่า
ที่แท้พวกมันยังมีเผ่าพันธุ์ที่เป็นศัตรูกับพวกมันตามธรรมชาติ!!
เมื่อตีนไก่ของเจ้าชิคกี้ย่าเหยียบลงไป ไม่ว่าแมลงตัวนั้นจะร้าย
กาจเพียงใด กลิ่นอายพลังของพวกมันกลับถูกระงับอย่าง
สิ้นเชิง น่าพาให้ทั้งหลายหวาดกลัวเสียขวัญหนักหนา กองทัพ
ที่ปิดล้อมของพวกมันเริ่มแตกฮือ ชิคกี้โดดไปที่ไหนวงแตกที่
นั่น! ต่างรีบหนีตายกันจ้าละหวั่น!!
ตอนนี้เหล่าศิษย์รวมถึงอาวุโสทั้งหลายของส่านักวิญญาณ
สวรรค์ถึงกับอึ้งไปอย่างแท้จริง ภาพเรื่องราวเบื้องหน้ามันเป็น
อันใดที่แบบว่า…เหลือเชื่อนัก! ไม่คิดเลยว่าสิ่งมีชีวิตที่น่า
สะพรึงกลัวอย่างแมลงจะกลับกลายเป็นอะไรที่อ่อนแอไร้พลัง
อย่างถึงที่สุดเมื่อพบพานกับสัตว์อสูรที่แลดูประหลาดนั่น!!
หนึ่งจิกคร่าชีวัน พันลี้ไร้ต่อต้าน! แมลงทั้งหลายมิอาจต้านทาน
ได้เลย!!
ปล.ใครเกิดทัน ‘แมลงตัวนั้น ตัวนี้ มีเยอะมากมาย’ บ้างยกมือ!
.ol
ตอนที่ 867 : นั่นมัน…โลก!
ถึงแม้ว่าจะมีเผ่าพันธุ์แมลงบางตัวหาญกล้าคิดสู้ชิคกี้ ทว่ายาม
เมื่อพวกมันพยายามพุ่งร่างเข้าไปเล่นงานร่างเจ้าชิคกี้นั้น พวก
มันก็พบว่า…ร่างกายของพวกมัน ถูกเปลวเพลิงอันร้อนแรงที่
พวยพุ่งออกมาจากร่างของเจ้าชิคกี้แผดเผาจนสุกกรอบ!!
รังแก! ข่มเหงรังแกกันอย่างแท้จริง!!
กรงเล็บมหึมาเหยียบตรึงสิ่งมีชีวิตชนเผ่าแมลง จงอยปากก้มลง
ไปจิกร่างจนแหลกค่อยกลืนกิน!
เมื่อทุกคนของสานักวิญญาณสวรรค์เห็นวงจรเข่นฆ่าอัน
โหดร้ายที่กาลังดาเนินต่อไปคล้ายไร้วันจบ ทั้งหลายรู้สึกใจ
สะท้าน ช่างเป็นสัตว์ร้ายที่ดุร้ายนัก! มันช่างเผด็จการและ
เกรี้ยวกราดเหลือเกิน!!
อย่างไรก็ตามไม่มีใครในชนเผ่าวิญญาณล่วงรู้ ว่าร่างมหึมาอัน
เป็นเจ้าชิคกี้ที่จิกกินชนเผ่าแมลงอยู่นั่น ทีแ่ ท้แล้วเป็นเผ่าพันธุ์
อันใด!
“รนหาที่ตายย!!!”
แมลงบรรพบุรุษที่ไม่อาจทนเห็นพี่น้องร่วมเผ่าพันธุ์ถูกฆ่าล้าง
อย่างไร้ทางสู้ สีหน้าท่าทางอัปลักษณ์นัก! แน่นอนว่ามันไม่อาจ
ทนมองเรื่องราวนี้สืบไปได้นาน!!
รยางค์มากมายของมันระเบิดพุ่งขึ้นฟ้า รยางค์สีดานี่เป็นอะไรที่
น่ากลัวนัก พวกมันสามารถทะลวงจนทาให้พื้นที่ และเวลา
บิดเบือน ยังนับประสาอะไรกับเจ้าชิคกี้!!
หากเทียบกับหนอนแมลงตัวอื่นๆแล้ว ย่อมไม่มีปัญหาอะไรกับ
เจ้าชิคกี้ ทว่าหากให้มันต้องไปปะทะกับเทพสวรรค์อมตะ ชั้น
ฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์แบบนี้ ความต่างของพลังมันเกินกว่าที่
เจ้าชิคกี้จะรับมือได้!!
ร่างหลินฟ่านทอประกายสว่างวูบ เจตกระบี่ทรงพลังก่อเกิด
ประกายกระบี่ทะยานฟ้า! พุ่งสะบั้นความว่างเปล่าทันใด!!
ดั่งกระดาษถูกกรีด รยางค์สีดาที่แลดูแข็งแกร่งถูกสับสะบั้นใน
พริบตา! นอกจากรยางค์ที่ขาดลอยคว้าง ยังมีของเหลวสีเขียว
น่าขยะแขยงฉีดพุ่งออกมาพร่างฟ้า!!
เสียงกรีดร้องโหยหวนพลันดังขึ้นจากปากแมลงบรรพบุรุษ!
“ขะ…แข็งแกร่ง!”
หลิงเทียนจื่อที่มองดูเหตุการณ์เบื้องหน้าอดไม่ได้ที่จะใจเต้นระ
ส่า จากนั้นก็รีบหันไปมองหลิงอู่เว่ยด้วยสงสัย ว่าศิษย์ของมัน
คนนี้ไปอัญเชิญตัวตนททรงพลังเช่นนี้มาได้อย่างไร…
อย่างไรก็ตามหลิงเทียนจื่ออดไม่ได้ที่จะบังเกิดความสงสัยขึ้นมา
ว่าสุดท้ายแล้วสถานการณ์วันนี้จะจบลงเช่นไร จะมีอันใด
เปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่!
“เจ้าสานัก!”
อาศัยช่วงเวลาที่สถานการณ์ทั้งหมดเริ่มทรงตัว หลิงอู่เว่ยและ
พวกพลันพุ่งมาสมทบกับเจ้าสานักได้สาเร็จ นักรบชนเผ่า
วิญญาณกว่าร้อยที่ออกไปกับหลิงอู่เว่ยก็เข้าไปรวมตัวกับศิษย์
คนอื่นๆเช่นกัน และเมื่อได้รับรู้ว่ามีพี่น้องมากมายเพียงใดที่
ตายตกไปเพราะการรุกรานของชนเผ่าแมลง สีหน้าก็เผยความ
เศร้าใจกลับกลายเป็นหดหู่ขึ้นมา…
“อู่เว่ย ชายผู้นั้นคือ…?” หลิงเทียนจื่อที่กาลังมองหลินฟ่านที่
ปะทะกับแมลงบรรพบุรุษอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวถามออกมา…
“เรียนเจ้าสานัก นั่นคือท่านราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดา
เจ้าขอรับ!” แล้วหลิงอู่เว่ยก็เริ่มอธิบายเรื่องราวทั้งหมดที่เกิด
ขึ้นกับชนเผ่าฉลามยักษ์ให้เจ้าสานักของมันฟัง
หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมด สีหน้าของหลิงเทียนจื่อก็เผย
ความตื่นตระหนกระคนเหลือเชื่อออกมา
ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนเผ่าฉลามยักษ์จนสิ้นสูญ? นี่เป็นไปได้ด้วย
หรือ!?
ชนเผ่าฉลามยักษ์คือ 1 ใน 10 เผ่าพันธุ์สัตว์โบราณ ที่มีพลัง
ความแข็งแกร่งอันน่าเกรงขาม! กระทั่งบรรพบุรุษฉลามนั่นยัง
เป็นตัวตนระดับเทพที่น่าพรั่นพรึงสุดหยั่ง! ไม่ใช่อะไรที่ใครที่
ไหนจะจัดการได้ง่ายๆ!!
เหล่าศิษย์ทั้งหลายที่ได้ยินเรื่องราวและประสบการณ์ที่หลิงอู่
เว่ยพบพานมาทั้งหมดก็อึ้งไปไม่ต่าง พวกมันไม่อยากจะเชื่อเลย
ว่านอกจากชนเผ่าโบราณแล้ว จะมีตัวตนที่ทรงพลังถึงขีดขั้นนี้
ดารงอยู่!
…
“ที่แท้เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่!!” ตอนนี้แมลงบรรพบุรุษจาต้องมอง
หลินฟ่านอย่างระวัง หากแต่สายตาระวังของมันก็เต็มไปด้วย
ความแค้นล้นปรี่!
สาหรับตัวบรรพบุรุษแมลงแล้ว ตัวบัดซบเบื้องหน้านี่ สามารถ
ตัดรยางค์ของมันได้ถึง 2 ครั้ง 2 ครา!
และการลงมือทั้ง 2 ครั้งนั่นก็มากเกินพอแล้วที่จะทาให้บรรพ
บุรุษแมลงรู้ว่าพลังอานาจของชายเบื้องหน้านั้นห่างไกลจากคา
ว่าธรรมดา!
“ชนเผ่าแมลงงั้นเหรอ? ต้องพูดเลย…ว่าพวกเจ้าเป็นเผ่าพันธุ์ที่
แลดูอุบาทว์และน่าขยะแขยงสุดๆ…ตรงๆเลยนะ โคตรน่า
เกลียดน่ากลัวเลยอะ!” หลินฟ่านเริ่มมองพินิจแมลงเบื้องหน้า
ตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่จะเอียงคอกล่าวออกมาด้วยความ
สงสัย “ว่าแต่นี่ทาไมเจ้าถึงได้มีรูปลักษณ์คล้ายตะขาบนักล่ะ?”
ตะขาบที่หลินฟ่านกล่าวถึง ก็คือแมลงชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในโลก
เก่าของเขา…
และแมลงบรรพบุรุษเบื้องหน้าแลไปก็เหมือนตะขาบจริงๆ
“เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้หยามหมิ่นชนเผ่าแมลงอันยิ่งใหญ่ของ
ข้า!!” ทันทีที่บรรพบุรุษแมลงได้ยินคานี้อารมณ์ของมันก็ปะทุ
ขึ้นมาทันใด รยางค์ของมันเริ่มงอกเงยออกมาแกว่งไกวอย่าง
บ้าคลั่งราวกับพร้อมทิ่มแทงทะลวงหลินฟ่านให้ตาย
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า จากโลกเสวียนหวง…
เฮ่ จาชื่อข้าประมุขไว้ให้ดีละไอแมลงน่าเกลียด ตายไปจะได้รู้
ว่าใครผ่าร่างเจ้า!!” หลินฟ่านหัวเราะออกมาเบาๆ
ตอนนี้การผ่าเป็นอะไรที่เขาค่อนข้างเชี่ยวชาญและถ่องแท้ มัน
เป็นอะไรที่ล้าลึกจนผู้คนมากมายยากจะบรรลุถึง!
“เผ่าพันธุ์มนุษย์…กวี๊ช…เผ่าพันธุ์มนุษย์ จักต้องสิ้นสูญเผ่าพันธุ์
ข้าแมลงบรรพบุรุษรือราชันแห่งเผ่าพันธุ์ ผู้ไร้วันตายและไร้วัน
ดับสูญ” บรรพบุรุษแมลงคารามออกมา ก่อนที่จะเริ่มหัวเราะ
เสียงดัง กระทั่งยังเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมาไม่หยุด
“ไอแมลงน่าเกลียดตัวเหม็น นี่เจ้าหัวเราะอะไรของเจ้ากันหา?”
หลินฟ่านถาม
“หุบปากไปเสีย! ข้าบรรพบุรุษแมลงมิใช่แมลงมีกลิ่น! มนุษย์
ตัวกระจ้อยเอย! ราคาที่เจ้าต้องจ่ายให้ข้ามันน่ากลัวนัก!!”
บรรพบุรุษแมลงเริ่มส่ายรยางค์ยั้วเยี้ยไปมาดั่งคลื่น แลดูน่า
สยองชวนให้ผู้คนหนาวเสียดกระดูก
“แมลงตัวเหม็น ข้าประมุขถามเจ้า..ว่าเมื่อกี้เจ้าหัวเราะบ้า
อะไรของเจ้า!?” ตอนนี้ขวานนิรันดร์พลันปรากฏเข้ามือหลิน
ฟ่านแล้ว
“ไปลงนรกเพื่อข้าแมลงบรรพบุรุษเสีย!!”
ทันใดนั้น ร่างแมลงบรรพบุรุษกลับกลายเป็นลาแสงพุ่งตรงไป
ยังหลินฟ่าน!!
“เหอะๆ…ไอแมลงร้อยขาน่าเกลียด ไม่ตอบงั้นเหรอ?! งั้นมาให้
ข้าประมุขกุดขาเจ้าให้เหี้ยนซะดีๆ!!” หลินฟ่านระเบิดเสียง
หัวเราะออกมาก่อนที่จะขว้างขวานนิรันดร์ออกไป แสงยะเยือก
เปล่งออกลากยาว ตัดผ่าอากาศและสรรพสิ่งบดขยี้ทุกอย่างที่
ขวางหน้า!
ทุกคราที่ขาของบรรพบุรุษแมลงขยับ ความว่างเปล่าแยกออก
ราวกระดาษ! และตอนนี้ยังบังเกิดรอยแยกฉีกอันน่าสะพรึงกลัว
เต็มความว่างเปล่า ทั้งหมดล้วนเกิดจากการแกว่งไกวของ
รยางค์!
ตอนนี้เรียกว่ามวลอากาศและความว่างเปล่ากาลังบ้าคลั่ง คลื่น
พลังน่ากลัวพวยพุ่งออกมาคล้ายจะป่นปฐพี หากเป็นสิ่งมีชีวิต
ธรรมดาต้องมาอยู่ท่ามกลางห่ารอยแยกของความว่างเปล่า
แบบนี้ล่ะก็! เกรงว่าทั้งหมดคงได้ถูกสะบั้นหั่นเป็นชิ้นๆในเสี้ยว
พริบตา!!
แต่สาหรับหลินฟ่านแล้ว รอยแยกที่พุ่งซัดมาปะทะร่างกายของ
เขา ทาให้เขารู้สึกราวมือเล็กๆของทารกน้อยมาลูบตามตัวให้
จั๊กจี้เท่านั้น ไม่เจ็บไม่คัน ไม่อะไรเลย!!
ตุบ!
ขวานทะยานผ่านห่ารอยแยกความว่างเปล่า และผ่านลาแสง
ยาวที่พุ่งเข้ามาไปในพริบตา! ก่อนที่จะบังเกิดเสียงหล่นร่วง
พร้อมเสียงกรีดร้องโหยหวนปานพบพานโศกนาฏกรรมดังขึ้น!!
“เฮ่อ…แมลงน่าเกลียดตัวเหม็น ในสายตาข้าประมุขเจ้านี่มัน
อ่อนแอจริงๆ”
คนๆหนึ่งเพียงแค่ขว้างขวานออกไปเท่านั้น…หากทว่าพลัง
อานาจของมันกลับสะท้านแดนดิน!
บรรพบุรุษแมลงที่กรีดร้องบนพื้นสัมผัสได้กระจ่างชัด ความ
เจ็บปวดสุดแสนจากการที่ขาทั้งร้อยพร้อมรยางค์ของมันถูก
สะบั้นนั้น เคี่ยวกรามันแทบตายแล้ว! ร่างของมันตอนนี้ดูไป
คล้ายท่อนไม้โง่ๆท่อนหนึ่ง ที่ดิ้นกระแด่วไปมาเท่านั้น!!
“บัดซบ! ตัวบัดซบ…!!”
บรรพบุรุษแมลงคารามออกมาอย่างเคียดแค้น ความรู้สึก
เจ็บปวดที่แล่นมาทั่วร่างเช่นนี้หนักหนานัก ของเหลวสีเขียว
เองก็ทะลักออกมาท่วมพื้นจนเจิ่งนอง
“ยังไงต่อล่ะ หืม?” ถึงแม้หลินฟ่านจะเป็นเทพสวรรค์อมตะ ชั้น
ฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์ที่ไม่มีบัลลังเทพนิรันดร์ แต่พลังอานาจ
ของเขานั้นก็เป็นอะไรที่เขย่าสวรรค์นัก!
ถึงแม้ว่าบรรพบุรุษแมลงนี่จะน่ากลัวไม่น้อย แต่ต่อหน้าหลิน
ฟ่านมันก็ยังอ่อนแอเกินไป…อ่อนแอและห่างชั้นกันเกินไป!
ตอนนี้ในโลกหล้าตัวตนที่สามารถฆ่าหลินฟ่านได้อาจมีหรือไม่มี
ใครจะไปรู?้ แต่ตัวตนที่หลินฟ่านไม่อาจฆ่าได้มันมีอยู่ไม่มาก
นัก!!
ต่อให้เป็นตัวตนสูงสุดแห่งเผ่าพันธุ์โบราณแล้วยังไง? ถ้าให้พวก
มันมาสู้เป็นตายกับหลินฟ่านแบบตัวต่อตัว หลินฟ่านก็ยัง
เชื่อมั่นว่าเขายังมีโอกาสมากกว่า 70% ที่จะฆ่าตัวตนสูงสุด
ได้…ทว่าหากเข้าใช้ผู้อมตะ หนึ่งเดียวโบราณ และคนอื่นๆร่วม
ด้วยล่ะก็ ค่าความเชื่อมั่นจะเพิ่มขึ้นถึง 100% ทันที!
ส่วนไอบรรพบุรุษแมลงนี่…มันไม่ได้เป็นตัวอะไรนอกเสียจากมด
ปลวกในสายตาหลินฟ่าน
“แข็งแกร่งยิ่งนัก!”
ตอนนี้ผู้คนของสานักวิญญาณเหวอไปหมดสิ้นแล้ว ทั้งหมดไม่
คิดคาดเลยว่าเรื่องราวจะดาเนินมาถึงขั้นนี้!
บรรพบุรุษแมลงที่เป็นตัวตนอันน่าเกรงขามในสายตาของพวก
มัน ไม่อาจทาอะไรราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าได้
แม้แต่ท่าเดียว! ส่วนแมลงตัวอื่นๆนั้นตอนนี้พวกมันกาลัง
ประสบภัยพิบัติ จากสัตว์ร้ายตัวมหึมาแปลกตานั่นเพียงตัว
เดียว!!
เศษซากร่างของพวกแมลงทั้งหลายแหลกกระจัดกระจาย
เกลื่อนพื้น ไม่มีตัวไหนตกตายสภาพศพสมบูรณ์สักตัว!
“อะ หย่อยยย! อะ หย่อยยยย!!!”
ตอนนี้เจ้าชิคกี้ก็ราวกับจมจ่อมไปกับรสชาติเอร็ดอร่อยเสียแล้ว
ทันทีที่มันได้เห็นแมลงเหล่านี้ใจมันก็เต็มไปด้วยความกระหาย
อันไร้สิ้นสุด! ในใจของมันหลงเหลือเพียงความคิดเดียวเท่านั้น!!
กิน … กิน … กิน!
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า! เผ่าพันธุ์มนุษย์บัดซบ!
ข้าแมลงบรรพบุรุษจักทาให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมดของเจ้าต้อง
สิ้นสูญไปจากโลกไร้จากัด!!” บรรพบุรุษแมลงกรีดร้องโหยหวน
ด้วยอาฆาต ก่อนที่มันจะส่งเสียงร้องประหลาดๆออกมา
“ฮ่าๆๆ โทษทีนะ แต่เกรงว่าข้าคงต้องทาให้เจ้าผิดหวังแล้วว่ะ
พอดีโลกเสวียนหวงมันอยู่ในการครอบครองของข้าประมุขโดย
สมบูรณ์แล้ว ไม่มีทางที่แมลงตัวเหม็นอย่างเจ้าจะทาอะไรได้
หรอก” หลินฟ่านหัวเราะออกมาเบาๆ
“กวี๊ชชช…! มนุษย์! เผ่าพันธุ์มนุษย์มิได้มีแค่ที่โลกเสวียนหวงที่
เดียวเท่านั้น!!” บรรพบุรุษแมลงกรีดร้องสุดหลอด จากนั้นมันก็
อ้าปากมหึมาของมันออกกว้าง เศษเสี้ยวสติสานึกกลุ่มหนึ่ง
พลันพุ่งออกมาดั่งสายฟ้า
ทันใดนั้นสติสานึกดั่งกล่าวก็ขยายเป็นหน้าจอ ฉายภาพ
เรื่องราวบางประการออกมา
ทันทีที่หลินฟ่านเห็นภาพในหน้าจอเขาถึงกับต้องขมวดคิ้ว
(53380)
ในจอปรากฏภาพ ห่าอุกกาบาตยักษ์กลุ่มหนึ่งกาลังพุ่งทะยาน
ผ่านห้วงอวกาศอันไร้สิ้นสุดด้วยความเร็วอันมหาศาล พวกมัน
ดั่งลูกไฟที่มีหางสีแดงฉานดังไฟบรรลัยกัลป์ลากยาว! และ
เป้าหมายของห่าอุกกาบาตเหล่านั้นคือดาวเคราะห์สีนาเงินดวง
หนึ่ง!!
เปรี๊ยงงงงง!!
ทันใดนั้นภาพในหน้าจอพลันแปรเปลี่ยนไปทันใด
ภายในห่าอุกกาบาตเหล่านั้นเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตจานวนนับไม่
ถ้วนที่กาลังทะลักพรั่งพรูออกมาจากห่าอุกกาบาตร้อนระอุ ต่าง
เริ่มขยับหนวดรยางค์สื่อสาร ราวกับส่งสัญญาณให้ทั้งหลาย
แยกย้ายกันไปทุกทิศทาง ก่อสงครามไปทุกทั่วหัวระแหงบน
ดาวเคราะห์สีน้าเงินดวงนั้น…
“โลก…!!”
หลินฟ่านนิ่งไปปานถูกแช่แข็ง นั่นไม่ใช่ดาวบ้านเกิดของเขา
หรือไง!?
“เชี่ย..!!!”
คิ้วหลินฟ่านขมวดเป็นปม กลิ่นอายพลังน่าครั่นคร้ามระเบิด
ปะทุพวยพุ่งจนปฐพีสั่นไหว หนึ่งดัชนีจี้ออกทันใด!
ฉัวะ!!
ร่างของบรรพบุรุษแมลงพลันถูกพลังอานาจผ่าสะบั้นแยก
ออกเป็น 2 เสี่ยงในพริบตา!
“กะ…กวี๊ช…”
ให้คะแนน: ส่งคะแนน
ตอนที่ 868 : หวนคืนสู่มาตุภูมิ
แม้นว่าร่างของมันจะถูกเจตกระบี่ผ่าสะบั้นเป็น 2 เสี่ยง!
หากแต่บรรพบุรุษแมลงยังมิได้สิ้นชีพแต่อย่างไร ร่างทั้ง 2
เสี่ยงนั่นยังคงลอยล่องกลางหาวค้างไว้ไม่ร่วงหล่น!!
“บัดซบ! มนุษย์!! บัดซบ…!!!”
ไหนเลยแมลงบรรพบุรุษจะคิดฝัน ว่ามันจะถูก 1 ดัชนีกระบี่
ของมนุษย์เบื้องหน้าสะบั้นร่างได้ง่ายดายเพียงนี้! อย่างไรเสีย
ตอนนี้ใจมันจมจ่อมไปด้วยความหวาดหวั่นอันไร้สิ้นสุด!!
“มนุษย์! จงเฝ้าดูเถิด..โลกที่มีเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเจ้าดารงอยู่
กาลังจักสิ้นสลาย และถูกเผ่าพันธุ์แมลงของข้ายึดครอง!!”
ยามเมื่อหลินฟ่านเห็นอาคารปลูกสร้างล้าสมัยที่คุ้นตา เทพี
เสรีภาพที่ร่วงหล่น หอไอเฟลที่พินาศยับ ยังวัดวาอารามรวมถึง
วังต้องห้ามกลับกลายเป็นซากปรักหักพัง จิตใจของเขาพลัน
รู้สึกหนักอึ้งขึ้นมาทันใด! ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลินฟ่าน
รู้สึกว่าตัวเขานั้นสมควรอยู่โลกคู่ขนานหรืออะไรสักอย่าง! แต่
เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่า ‘โลก’ ที่เขาจากมานั้น…กลับเป็น 1 ใน
โลกไร้จากัด!!
การรุกรานของเผ่าพันธุ์แมลงได้ทาให้ความสงบสุขของโลก
หล้าพินาศทลายลงอย่างง่ายดาย เมื่อเผชิญหน้ากับพลังอานาจ
ของเผ่าพันธุ์แมลงอาวุธล้าสมัยแทบใช้ไม่ได้ผล สุดยอดอาวุธ
อย่างระเบิดนิวเคลียยังทาได้แค่เกาแก้คันให้ตัวตนระดับสูงของ
เผ่าพันธุ์แมลง…!
เมืองหลวงที่เจริญรุ่งเรืองมากมายล่มสลายในชั่วข้ามคืน
มนุษย์มากมายนับไม่ถ้วนถูกกลืนกินราวอาหารว่าง..
“ไอแมลงเน่าเหม็นบัดซบ!!” ตอนนี้หลินฟ่านก็ไม่รู้…ว่าตัวเอง
กาลังตื่นเต้นหรือโกรธกันแน่!
ปังงงง!!
เพียงย่าเท้ากระทืบออก หลินฟ่านบดขยี้ศีรษะบรรพบุรุษแมลง
จนแหลกยับ ทันใดนั้นปรากฏคริสตัลแมลงหกเหลี่ยมลอยล่อง
ขึ้นมาในอากาศ
คริสตัลแมลงนี้ อัดแน่นไปด้วยพลังทั้งหมดของบรรพบุรุษ
แมลง!
มันก็เปรียบได้ดั่งแดนสวรรค์และโลกของผู้ฝึกตนเผ่าพันธุ์อื่น!
“มนุษย์! เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้กระทาเช่นนี้กับข้าแมลงบรรพ
บุรุษ! เจ้าจักต้องตายอนาถ!!” เสียงน่ากลัวดังขึ้นมาจากคริสตัล
แมลงเบื้องหน้า
“บอกข้ามา ว่าสุดท้ายเรื่องราวที่โลกสีน้าเงินนั่นจบลงยังไง..”
หลินฟ่านคว้าจับคริสตัลแมลงเอาไว้ พร้อมกล่าวถามเสียงเย็น
ภาพที่เขาเห็น นั่นเป็นการฉายย้อนเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแล้ว
เท่านั้น…
“ฮ่าๆๆๆๆ….ฮ่าๆๆๆๆๆ!!!!”
บรรพบุรุษแมลงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งสะใจ
“เกิดอันใดขึ้นหรือ?! แน่นอนว่าพวกสวะนั่นล้วนถูกเผ่าพันธุ์อัน
สูงส่งอย่างเผ่าพันธุ์แมลงของข้ากลืนกิน!!”
เปรี๊ยะ!
หลินฟ่านใช้แรงเพียงเล็กน้อย คริสตัลแมลงที่บีบกาอยู่ก็บังเกิด
รอยร้าวขึ้นมาทันใด ทั้งรอยร้าวยังลุกลามไปคล้ายไร้สิ้นสุดราว
กับมันพร้อมแตกออกได้ทุกเวลา!!
“ไม่! หยุด! ได้โปรดยั้งมือ! ข้าแมลงบรรพบุรุษคือบรรพบุรุษ
ของเผ่าพันธุ์แมลง! เจ้ามิอาจกระทากับข้าเช่นนี้ได้!!”บรรพ
บุรุษแมลงเริ่มกรีดร้องออกมา ตอนนี้แม้มันจะโกรธ แต่ก็ยังคง
หวาดกลัวไม่น้อย!
มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าพลังอานาจของมนุษย์นี่จะแข็งแกร่งถึง
ขีดขั้นนี้ได้! คริสตัลแมลงของพวกมันเป็นดั่งผลึกแก้วคง
กระพัน ยังเป็นวัตถุที่แข็งแกร่งที่จัดว่าแข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆ
ของจักรวาล! ทว่าด้วยการบีบเพียงครั้งกลับทาให้คริสตัลแมลง
ของมันร้าวจนราวกับจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ! นี่นับเป็นเรื่องที่
บรรพบุรุษแมลงหวาดกลัวออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ!!
“เหอะ! ทั้งหมดเป็นเจ้ารนหาที่ตายเอง! ตอนแรกข้าประมุขก็
คิดจะเล่นกับเจ้านิดๆหน่อยๆ แต่ตอนนี้เจ้าดันมายั่วให้ข้า
ประมุขโมโหหนักมาก! สมควรไปลงนรกซะ!!” หลินฟ่านแผด
คาออกมา
“บอกข้าประมุขมา! ว่าข้าจะไปที่นั่นได้ยังไง!” หลินฟ่านกล่าว
ถามเสียงเข้มอีกครั้ง
“เจ้าปล่อยข้าแมลงบรรพบุรุษก่อนเถอะ แล้วข้าแมลงบรรพ
บุรุษจักบอกเจ้า!” บรรพบุรุษแมลงไม่ใช่ตัวโง่งม มันรู้ดีว่า
ตอนนี้ใจของมนุษย์เบื้องหน้าร้อนรนไม่น้อย!
และเหตุผลการร้อนรนครั้งนี้ มิแคล้วอีกฝ่ายเป็นกังวลกับดาว
เคราะห์สีน้าเงินนั่น!!
“น้าหน้าอย่างเจ้าไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับข้าประมุข!” หลินฟ่านก
ล่าวออกเสียงเย็น ทั้งยังเพิ่มแรงบีบทาให้คริสตัลแมลงยิ่งร้าว
หนักขึ้นไปอีก!!
“ไม่! เจ้ามิอาจทาเช่นนี้ได้! หาไม่แล้วเจ้าจักมิมีวันล่วงรู้วิธีไปที่
นั่น!!” บรรพบุรุษแมลงย่อมสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่แผ่ว่าน
ออกมาจากมนุษย์เบื้องหน้าได้ชัดเจน นาพาให้หัวใจมันยิ่งมา
ยิ่งจมจ่อมไปด้วยความกลัว!
มันสัมผัสได้ชัดว่ามนุษย์เบื้องหน้าพร้อมฆ่ามันได้ทุกเมื่อ!!
“แสงพิสุทธิ์ชาระล้างแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า!!”
หลินฟ่านคารามออกมา ทันใดนั้นโลกหล้าคล้ายจ่อห่อหุ้มไป
ด้วยแสงแห่งธรรม เงาร่างพุทธ์องค์แสนบริสุทธิ์จานวนนับไม่
ถ้วนลอยล่องออกมา ต่างท่องบดสวดดังระงม ทั้งหมดห้อม
ล้อมเวียนวนรอบๆคริสตัลแมลง เปล่งพลังอานาจแห่งการ
ชาระ แทรกซึมไปตามรอยปริร้าว!!
ชาระ!
ชาระ!
แสงพิสุทธิ์ชาระล้างแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า คือสุดยอดวิชา
ท้าทายสวรรค์ของชนเผ่าพุทธะที่สาบสูญไปเนิ่นนานแล้ว!
อย่างไรเสียตอนนี้พลังอานาจของหลินฟ่านนั้นน่ากลัวกว่ากาล
ก่อนนัก การชาระล้างให้บรรพบุรุษแมลงบริสุทธิ์เป็นอะไรที่
ง่ายดายนัก!
“มนุษย์!..เจ้าคิดชาระล้างข้าแมลงบรรพบุรุษงั้นเหรอ!? มารดา
แมลง ช่วยข้าด้วย!..! มารดาแมลง! ช่วยข้าด้วยยยย!!!”
บรรพบุรุษแมลงพยายามส่งสติสานึกชุดแล้วชุดเล่าออกไปขอ
ความช่วยเหลือ
อนิจจาสติสานึกทั้งหมดถูกหลินฟ่านสกัดกั้นเอาไว้ “คิดส่ง
สัญญาณร้องขอความช่วยเหลือด้วยสานึกสติต่อหน้าข้าประมุข
งั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!!”
‘ติ๊ง!! ..ของแสดงความยินดี การชาระล้างประสบผลสาเร็จ’
“บอกข้ามา…ว่าข้าจะไปที่นั่นยังไง” หลินฟ่านกล่าวถามอีกครั้ง
“เรียนนายท่าน นี่คือแมลงห้วงมิติเทวะ มันสามารถนาพาท่าน
ไปที่นั่นได้” ทันใดนั้นปรากฏแมลงตัวหนึ่งตัวเล็กยาว แลไป
คล้ายไส้เดือนอยู่บ้าง ลอยล่องออกมาจากคริสตัลแมลง..เป็น
แมลงห้วงมิติเทวะ!
และพริบตาที่มันปรากฏตัว อานาจพลังแห่งห้วงมิติอันไร้
ขอบเขตพลันกาจายออกไปปกคลุมทั่วอาณาบริเวณทันใด!
หลินฟ่านมองไปยังแมลงห้วงมิติเทวะเบื้องหน้าพร้อมขมวดคิ้ว
แมลงห้วงมิติเทวะนี่นับเป็นแมลงสายพันธุ์เทพสายพันธุ์หนึ่ง
ของชนเผ่าแมลงจริงๆ!!
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีพลังความแข็งแกร่งมากมายอะไร ทว่า
กลับมีพรสวรรค์วิชาแต่กาเนิดเลิศล้านัก มันสามารถทะลวงฝ่า
อุปสรรคขวางกั้นระหว่างมิติของจักรวาลต่างๆได้!!
“นายท่าน” บรรพบุรุษแมลงที่ตอนนี้ถูกหลินฟ่านชาระจนเป็น
ข้าทาสบริวารกาลังมองหลินฟ่านด้วยความยินดี มันยังหวังว่า
จะได้รับคาชมเชยจากหลินฟ่านสาหรับ การทาหน้าที่อย่างดี
ของมัน
เปรี๊ยะ!!
หลินฟ่านหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็นก่อนจะบีบคริสตัลแมลง
จนแหลกเป็นเสี่ยง ยามเมื่อผลึกคริสตัลร่วงหล่น พลังปราณ
มหาศาลจานวนหนึ่งพลันทะลักล้นออกมาทันที!!
หลินฟ่านอ้าปากออกกว้างก่อนจะดูดกลืนพลังปราณวิญญาณ
ทั้งหมดทันใด
‘ติ๊ง!!..ขอแสดงความยินดีในการสังหารบรรพบุรุษเผ่าพันธุ์
แมลง’
‘ติ๊ง!!..EXP + ..’
‘ติ๊ง!! ..ขอแสดงความยินดีท่านได้รับแผนที่โลกไร้จากัด’
ทันใดนั้นเองแท่นบูชายัญเซียนโบราณที่อยู่ภายในโลกในกาย
ของหลินฟ่านก็สั่นสะท้านขึ้นมา และแมลงห้วงมิติเทวะที่ลอย
ล่องอยู่เบื้องหน้าก็คล้ายถูกแรงดึงดูดขุมหนึ่ง มันหันไปมองอก
หลินฟ่าน ราวกับจะมองทะลุไปยังแท่นบูชายัญเซียนโบราณ!!
‘ติ๊ง!! ..ค้นพบแมลงห้วงมิติเทวะกับแผนที่โลกไร้จากัด สามารถ
หลอมรวมผสานเข้ากับแท่นบูชายัญเซียนโบราณได้ ต้องการ
หลอมรวมหรือไม่’
หลินฟ่านเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะบังเกิดการเปลี่ยนแปลง
อะไรแบบนี้ขึ้นมา มือของของกางออกว้างก่อนจะพุ่งคว้าไปยัง
แมลงห้วงมิติเทวะเหมือนคว้าจับไก่ตัวกระจ้อยทันใด!
ด้านแมลงห้วงมิตินั้น เมื่อมันตระหนักได้ถึงอันตรายบาง
ประการ มันก็คิดจะทะลวงช่องว่างแหวกผ่ามิติหลบหนี!
อนิจจามันยังจะหนีรอดพ้นเงื้อมมือหลินฟ่านได้อย่างไร!!
“จัดไป!”
หลินฟ่านไม่รอช้าเลือกที่จะหลอมรวมแมลงห้วงมิติเทวะเข้ากับ
แท่นบูชายัญเซียนโบราณทันใด แผนที่โลกไร้จากัดเองก็ถูกโยน
เข้าไปผสานด้วยเช่นกัน!
ทันใดนั้น แสงสว่างพลันพวยพุ่งออกมาประหนึ่งจะชโลมย้อม
โลกหล้า บางสิ่งพลันอุบัติขึ้นกับแท่นบูชายัญเซียนโบราณ!
ภายในโลกในกาย ตอนนี้ฟังก์ชั่นและตัวเลือกของแท่นบูชายัญ
เซียนโบราณที่หลินฟ่านเห็นผ่านหน้าต่างของระบบนั้น พวก
มันยกระดับใหม่หมด! ตอนนี้ดูแล้วมันคล้ายจะตรวจสอบและ
เข้าถึงโลกไร้จากัดได้ทั้งหมด! และขอเพียงมีโอสถเจิ้งหยางมาก
พอ หลินฟ่านสามารถทะลวงผ่านอุปสรรคกั้นขวางและไปโลก
ไหนก็ได้!!
“กวี๊ช…”
สาหรับสิ่งมีชีวิตชนเผ่าแมลงที่เหลือนั้น พวกมันได้รับ
ผลกระทบจากการตกตายของบรรพบุรุษแมลงหนักมาก เมื่อไร้
ซึ่งผู้นาเหล่าแมลงทั้งหลายก็สับสนอลหม่านกันหมด ชิคกี้เองก็
เหมือนนกรู้ รีบฉวยโอกาสลงมือตอนอีกฝ่ายระส่า! เสี้ยว
พริบตาแมลงทั้งหมดใกล้ตัวล้วนถูกมันพิฆาตสังหารหมดสิ้น!!
“แข็งแกร่งยิ่งนัก…!!”
ด้านศิษย์สานักวิญญาณสวรรค์ที่ได้เห็นภาพเรื่องราวทั้งหมดก็
อึ้งไป ในสายตาของพวกมันราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดา
เจ้าคนนี้จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว! ไม่คิดเลยว่าบรรพบุรุษแมลง
ที่เป็นดั่งตัวตนไร้เทียมทานจะตกตายง่ายดายเช่นนั้น!!
ด้านสัตว์อสูรประหลาดนี่ก็ไม่ต่าง! มันช่างดุร้ายเกรี้ยวกราดนัก!
หากเอามันไปเทียบกับชนเผ่าแมลงแล้วความต่างประหนึ่ง
สวรรค์กับพิภพ!!
“กุ๊ก กุ๊กกกก กูวววววววววว”
ตอนนี้ชิคกี้รู้สึกแน่นไปหมด มันไม่อาจกินอะไรไหวแล้ว พุงมัน
ป่องกลมดิ๊ก…จุกเหลือเกิน…ตอนนี้มันอิ่มแปร้แล้ว!!
แต่นี่ช่วยไม่ได้ ในสายตาของเจ้าชิคกี้แมลงทั้งหลายนี่อร่อย
เกินไป! อีกทั้งหลังจากที่ได้กินพวกมันไปมากมาย ร่างกายมันก็
เริม่ ส่งสัญญาณว่าพลังความแข็งแกร่งของมันจะพวยพุ่ง
ทะยานฟ้า!
ส่วนทางด้านหลินฟ่านนั้นไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เขาจดจ่ออยู่กับ
แท่นบูชายัญเซียนโบราณ สานึกสติดาดิ่งลงไปในห้วงจักรวาล
อันไร้ขอบเขต เริ่มหาพิกัดของโลกอย่างเร่งด่วน
“ท่านราชัน…”
หลิงเทียนจื่อเดินเข้าไปอย่างกล้าๆกลัวๆหมายจะขอบคุณหลิน
ฟ่านให้เป็นเรื่องเป็นราว เพราะสุดท้ายแล้วผู้ที่มาช่วยเหลือ
สานักวิญญาณสวรรค์ของมันให้รอดพ้นหายนะก็คือบุรุษผู้นี้!
หากไม่ใช่เพราะท่านราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าคนนี้
เมตตา สานักวิญญาณสวรรค์คงได้จบสิ้นไปแล้ว!! (53380)
ทว่าตอนนี้ผู้มีพระคุณของมันคล้ายไม่แยแสสิ่งใด อีกฝ่ายเพียง
ยืนนิ่งอย่างเงียบงัน ท่าทางจริงจังไม่ได้กล่าวคาใดออกมา
เมื่อหลิงเทียนจื่อเห็นว่าราชันแห่งมวลมนุษย์มารดาเจ้าไม่ได้อยู่
ในอารมณ์จะสนทนากับใครมันก็ไม่กล้ารบกวนวุ่นวายอะไร
จากที่มันเห็นตอนนี้ก็คืออีกราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดา
เจ้ายืนนิ่งหน้าเคร่ง คล้ายกาลังครุ่นคิดไตร่ตรองอะไรบางอย่าง!
ทันใดนั้นเองประกายตาหลินฟ่านพลันสว่างวูบขึ้นมา เขาเจอ
พิกัดสุดท้ายที่เขาต้องการแล้ว!
“เฮ่ ชิคกี้ ได้เวลาไปแล้ว”
“กุ๊ก กุ๊ก กูวววว!!” ชิคกี้จิกแมลงทิ้งทายอีกตัว มันเคี้ยวหงุบ
หงับค่อยกลืนลงท้อง แล้วก็หดร่างบินไปยังไหล่หลินฟ่าน
หลินฟ่านเองก็สะบัดมือออกมาโดยไม่รั้งรออะไร เขาเปิดใช้งาน
แท่นบูชายัญเซียนโบราณ เพื่อข้ามมิติไปยัง ‘โลก’ ทันที!
…
ตอนที่ 869 : เมืองแสงดารา
ตอนนี้ทุกคนของสานักวิญญาณสวรรค์ถึงกับอึ้งตะลึงค้างไป
แล้ว ต่างมองภาพเบื้องหน้ากันตาปริบๆ…
เอ่อ…อยู่ๆ ท่านราชัน เขาก็จากไปเช่นนี้เลยหรือ?!
จากไปโดยไม่มีแม้แต่หนึ่งคาอาลา? นี่จักไม่ห่างเหินเกินไป
หน่อยหรือไร?
หลิงเทียนจื่อที่คิดจะกล่าวออกมาก่อนหน้า ตอนนี้ก็ได้แต่เก็บ
วาจาทั้งหมดเอาไว้ในใจ…มันไม่ได้มีแม้แต่โอกาสจะพูดอะไรกับ
อีกฝุายด้วยซ้า!!
“แค่กๆๆ”
หลิงเทียนจื่อไอแก้เขินเล็กน้อยค่อยหันกลับมาชักสีหน้าเข้ม
ขรึมจริงจัง ว่ายตามองศิษย์สานักวิญญาณสวรรค์ทุกคน
“พวกเจ้าจงเฝูาดูและเรียนรู้จากท่านราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้
ถล่มมารดาเจ้าเอาไว้เสีย…ท่านนับเป็นวีรบุรุษที่แท้จริง! มิ
นาพาชื่อเสียงหรือแสวงหาลาภยศสรรเสริญอันใด! ท่านได้
เมตตาช่วยเหลือกอบกู้สานักวิญญาณสวรรค์ของเราหากแต่ไม่
หยุดรอฟังวาจาขอบคุณจากเราแม้เพียงนิด! นี่คือความหมาย
ของคา กระทาสิ่งดีด้วยใจไม่หวังชื่อเสียง!!”
“อย่างไรเสียแม้ท่านจักมินาพาอันใด แต่พวกเราสานัก
วิญญาณสวรรค์ก็มิอาจเป็นตัวบัดซบเนรคุณ! บุญคุณที่ท่าน
ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้ามีต่อเรา จะเป็นสิ่งที่พวก
เราสลักลึกลงไปในใจ! ครั้งหน้าหากพวกเจ้าออกไปยังโลก
ภายนอก และบังเอิญพบพานท่านราชัน จงก้มหัวคารวะท่าน
ด้วยความเคารพที่สุด!!”
“ขอรับท่านเจ้าสานัก!!”
ศิษย์ที่ยังรอดชีวิตอยู่ขานรับด้วยเสียงหนักแน่น พวกมันพึ่งเดิน
ผ่านประตูแห่งความตายมาได้หมาดๆ นี่นับเป็นเรื่องที่น่า
สะพรึงกลัวนัก!
…
โลก…
ฟูาที่เคยแจ่มใสกลับไม่เป็นอย่างเคย ผืนปุาเขียวขจีกลับ
กลายเป็นดินแดนรกร้าง มองไปทางไหนก็มีแต่ผืนทรายเหลือง
ทอง ละอองธุลีแห้งแล้งโชยคลุ้งในบรรยากาศ ทั้งผืนทรายสี
ทองเหล่านั้นยามมองลงไปยังเห็นซากสังขารที่กาลครั้งหนึ่งเคย
มีชีวิตระเกะระกะไปหมด ศพซากเหล่านั้นแห้งจนเหลือแต่
กระดูก ด้วยสายลมที่พัดพายากนักที่จะรู้ใด้ว่าลึกลงไปใต้ผืน
ทรายอร่ามนี้ มีกี่ร้อยพันชีวิตที่ถูกกลบฝัง…
วู้มมมมม!!!
ความว่างเปล่าเริ่มสั่นสะท้าน ก่อนที่มันจะปริแตกแยกฉีก
ร่างหนึ่งบุรุษ หนึ่งไก่พลันปรากฏตัวออกมาบนโลกหล้า…
“เชี่ยเอ๊ย! ในที่สุดก็มาถึงซะที! ใครจะไปรู้วะ ว่าไอม่านพลังบ้า
นั่นมันจะแข็งแกร่งขนาดนี้! ยังดีนะที่พี่ประมุขเป็นตัวตนที่โคตร
จะน่าพรั่นพรึง! ถึงได้บึ้มไอม่านพลังกั้นขวางโลกนั่นได้!!”
ถึงแม้ว่าหลินฟุานจะมีอารมณ์ตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้หวน
กลับคืนสู่โลก แต่โดยรวมแล้วเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันมาก
นัก…
เพียงแค่ทุกสิ่งอย่างเบื้องหน้าที่เขามองเห็นด้วยตา คล้ายจะ
แตกต่างแปลกตาไปบ้าง…
ในกาลก่อนนั้นโลก หรือดาวเคราะห์สีน้าเงินดวงนี้เคยเป็นอะไร
ที่สวยงาม! แต่ทาไมตอนนี้มันถึงได้ดูเหมือนนรกนัก!!
หลินฟุานพลันส่งสติสานึกออกไปตรวจสอบโลกทั้งใบทันที
ยังมีผู้คนจานวนมากที่ยังมีชีวิตอยู่ ทว่าทั้งหมดล้วนแยกย้าย
กระจัดกระจายออกไป ยิ่งไปกว่านั้นจานวนประชากรโลกก็
ลดลงไปอย่างมาก ย้อนกลับไปในอดีตที่เขาได้เรียนมา โลกมี
ประชากรประมาณ 8,000 ล้านคน แต่ตอนนี้ประชากรโลกหลง
เหลืออยู่เพียงแค่ 4,000 ล้านคนเท่านั้น ตกตายไปครึ่งหนึ่ง!!
“อ่อนแอจริงๆ”
หลินฟุานพบว่าเผ่าพันธุ์แมลงที่เข้ามารุกรานโลกหล้านั้น
อ่อนแอเป็นอย่างมาก พลังความแข็งแกร่งของพวกมันกลับ
ไม่ได้มากมายอะไร แมลงตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกมันก็มี
ระดับพลังฝึกตนที่สวรรค์อมตะขั้นสูงสุดเท่านั้น นี่ไม่ใช่แค่พวก
ขี้กากหรือไร?
แต่เรื่องที่ทาให้หลินฟุานตกใจที่สุดก็คือ มนุษย์โลกที่เหลือรอด
อยู่แทบทุกคนนั้นเริ่มกลายเป็นผู้ฝึกตนไปแล้ว! และมีมนุษย์ที่
แข็งแกร่งอยู่ประมาณ 30 กว่าคน ที่เป็นตัวตนระดับสวรรค์
อมตะขั้นสูงสุดเช่นกัน!!
ส่วนที่เหลือแม้จะมีพื้นฐานการบ่มเพาะ แต่ก็ยังอ่อนแอ
กระจ้อยร่อยเหลือเกินในสายตาหลินฟุาน
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!
ทันใดนั้นสถานที่ห่างไกลออกไปทางหนึ่ง ปรากฏดอกเห็ดเบ่ง
บานพวยพุ่งขึ้นฟูา ไม่นานก็มีดอกเห็ดอีกจานวนหนึ่งผุดบาน
พุ่งขึ้นฟูาติดตามมา!!
ตูมมมมมมมม!!!
ตูมมมมมมมม!!!
เสียงระเบิดดังสนั่นเป็นระลอกๆ โลกทั้งใบคล้ายจะสะท้าน
เพราะแรงระเบิด! ดูแล้วนี่มันเป็นการระเบิดจากอาวุธนิวเคลีย์
แน่นอน…!!
“กุ๊กกุ๊กกู! แหวะ พี่ใหญ่! ปราณวิญญาณเซียนที่นี่เบาบางมาก!
ข้าแทบหายใจไม่ออกแล้ว!!” ชิคกี้ที่สูดหายใจถึงกับไอค่อกแค่
กออกมา จงอยปากอ้าออกก่อนที่จะพ่นฝุุนออกมาคาหนึ่ง…
“อ๋อยพี่ใหญ่! ท่านดูสิ! ใต้เท้าชิคกี้หายใจเข้าแค่ครั้งเดียวกลับมี
ฝุุนเยอะขนาดนี้แล้ว! บ้าเอ๊ย แทบไม่มีปราณวิญญาณเซียน
เลย! ข้าคงต้องกินฝุุนตายแน่แล้ว!!” ชิคกี้บ่นงุ้งงิ้งๆออกมา
“รู้แล้วหน่า! แกจะบ่นไปทาไมเยอะแยะหาชิคกี้! นี่ถ้าพี่พาแก
ไปปักกิ่ง แกไม่สาลักควันรถตายคาที่เลยรึไง?” หลินฟุาน
หัวเราะออกมาเบาๆ
ตอนนี้บรรยากาศบริเวณพื้นผิวโลกแทบจะปกคลุมไปด้วยฝุุน
ทรายเหลืองทอง ธรรมชาติอะไรแทบล่มสลาย ระบบนิเวศน์ก็
แทบจะพังทลายหมดสิ้นแล้ว!
แต่ทว่าเพราะเหตุใดไม่ทราบ ลึกๆแล้วหลินฟุานกลับรู้สึกถึง
ความผิดแปลกบางอย่างของโลก…แม้สถานการณ์โลกจะเป็น
แบบนี้ แต่เขารู้สึกราวกับว่า ยังมีพลังอานาจลึกลับขุมหนึ่งที่
คอยเฝูาระวังอยู่…!
หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าด่านพลังฝึกตนของหลินฟุานเอง
ก็บรรลุในระดับนี้แล้ว เขาคงไม่อาจจับสัมผัสประหลาดนี้ได้
และย้อนกลับไปตอนที่เขากาลังจะฝุาม่านพลังคุ้มกันของโลก
ตัวหลินฟุานเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทว่าทางด้านเจ้าชิคกี้นั้น
กลับถูกม่านพลังผลักออก ไม่อาจฝุาเข้ามาด้วยพลังได้!
แต่สุดท้ายหลังจากที่เขาเก็บเจ้าชิคกี้ลงมิติเก็บของๆระบบ ทุก
อย่างก็เรียบร้อย
‘ยังไงก็ลองตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดดูก่อนแล้วกัน…จะ
ได้รู้ว่าโลกใบนี้มันมีความลับอะไรซ่อนเร้นอยู่กันแน่’
‘ไม่คิดเลยว่าดาวเคราะห์เล็กๆแบบโลก จะมีม่านพลังแข็งแกร่ง
ถึงขั้นจากัดไม่ให้ตัวตนทรงพลังระดับเจ้าชิคกี้เข้ามาได้…เรื่องนี้
มันแปลกๆ ไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไร’ หลินฟุานครุ่นคิดใน
ใจ
ฝุบุ !
สาหรับหลินฟุานนั้นโลกใบนี้มันเล็กเกินไป เขาใช้เวลาแค่ไม่ถึง
นาทีก็บินรอบโลกได้สบายๆ!
และจากการรวบรวมข้อมูล เขาก็ได้พบว่าเป็นเวลากว่า 5 ปี
แล้วที่เผ่าพันธุ์แมลงได้รุกรานโลก!
สาหรับมนุษย์โลกแล้วนี่เป็นหายนะที่ทั้งหมดไม่คาดคิดว่าจะ
พบเจอ และไม่ทันได้ตั้งตัวอะไร! วันแรกที่เผ่าพันธุ์แมลงรุกราน
โลก ผู้คนถูกไล่ต้อนจนสิ้นท่า! ตกตายไปมากมายอย่างไม่ทันได้
ตั้งตัว! วันนั้นเป็นดั่งวันวิปโยคของจริง ทั้งโลกไม่อาจรับมือ
เรื่องราวได้ทันท่วงที!!
และพอถึงเวลาที่มนุษย์ทั้งหมดตระหนักว่าเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น
ระบบสังคมทุกอย่างบนโลกก็ล่มสลายไปจนหมดสิ้นแล้ว!
ทว่าในห้วงวิกฤตนั้นกลับปรากฏเหล่าตัวตนที่เคยมีอยู่แต่ใน
ตานานของโลก! เหล่าตัวตนที่เป็นดั่งเทพเทวาทั้งหลายในเรื่อง
เล่า! และกลุ่มคนเหล่านั้นก็เป็นตัวตนที่ทรงพลังมากพอจะ
จัดการเผ่าพันธุ์แมลง ทั้งหมดแยกย้ายท่องไปทั่วหล้าเพื่อกวาด
ล้างแนวหน้าของเผ่าพันธุ์แมลงทั้งหลาย!
และด้วยการลงมือของกลุ่มคนเหล่านั้น ทาให้สามารถประวิง
เวลาการรุกรานของเผ่าพันธุ์แมลงเอาไว้ได้! มอบอาสสาคัญให้
โลกได้ฟื้นตัว…เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้โอกาส และใช้เวลาอันน้อยนิด
นั่นในการตั้งหลัก…!
หลังจากนั้นสังคมแบบใหม่ของโลกก็ได้เกิดขึ้น!
ภายใต้การจัดระเบียบและควบคุมของเหล่าตัวตนทรงพลัง
เมืองหลักต่างๆเริ่มถูกสร้างขึ้นจากเศษซากปรักหักพัง ผู้คนเริ่ม
ฟื้นตัวและไม่นานกลุ่มกองกาลังพันธมิตรก็ถูกจัดตั้งขึ้นสาเร็จ!
เมืองหลักเหล่านี้ยังถือเป็นฐานที่มั่นที่สามารถปูองกันการรุกคืบ
ของเผ่าพันธุ์แมลงและเป็นฐานหลักในการเปิดฉากโต้กลับของ
เผ่าพันธุ์มนุษย์! ขณะเดียวกัน เหล่าตัวตนที่ทรงพลังเหล่านั้นก็
เริ่มแจกจ่ายวิธีการบ่มเพาะพลังฝึกตนออกไปทั้งโลก!
อีกทั้งยังกาหนดกฏเกณฑ์ที่ใช้ในการระบุระดับพลัง เพื่อ
เปรียบเทียบพลังรบกับศัตรูขึ้นมา
SSS, SS, S, A, B, C, D, E
ระดับเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นด้วยตัวตนดั่งทวยเทพในตานาน และ
โลกทั้งใบก็ใช้หลักเกณฑ์นี้ในการจาแนกพลังรบของนักรบฝุาย
พันธมิตรและศัตรูอย่างพวกแมลง
ตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ มีกาลังรบอยู่ใน
ระดับ SSS! และกล่าวได้ว่านักรบที่เป็นตัวตนในตานาน
ทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่มีระดับ SSS ทั้งหมด!!
ณ เมืองแสงดารา…
เมืองแห่งนี้นับเป็น 1 ใน 10 เมืองที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลก
ไม่ว่าจะเป็นในแง่ระดับพลังฝึกตนและกาลังรบโดยเฉลี่ยของ
นักรบในเมืองนี้ หรืออาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งในด้านการโจมตีหรือ
ปูองกัน ก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในระดับสูงทั้งสิ้น
ด้วยการผสมผสานระหว่างการฝึกตนและวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยีทั้งหลาย นับเป็นอะไรที่เรียกได้ว่าเคมีตรงกัน ซ้ายัง
ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจนัก!
ทุกครั้งที่พวกเผ่าพันธุ์แมลงตั้งทัพหมายบุกรุกตีเมือง กองกาลัง
พันธมิตรจะเริ่มจากใช้ระเบิดนิวเคลียถล่มเพื่อกาจัดพวกแมลง
ที่อ่อนแอให้หมดสิ้นซะก่อน…
สาหรับแมลงที่แข็งแกร่งและรอดพ้นจากระเบิดนิวเคลียมาได้
จะถูกทิ้งไว้ให้ตัวตนทรงพลังทั้งหลายจัดการ!
อย่างไรก็ตามตอนนี้เมืองแสงดารากาลังเผชิญกับปัญหาครั้ง
ใหญ่ และนับเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่สุดของมวลมนุษย์ชาติ!!
อะ-อว๊อออออด! อว๊อออออด! อว๊ออออออออออด!!
ในเมืองแสงดาราแห่งนี้มีประชากรทั้งสิ้น 30 ล้านชีวิต และนี่
นับเป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ในอันดับต้นๆของโลกแล้ว
ทว่าตอนนี้สัญญาณเตือนภัยกลับดังก้องไปทั้งเมือง หากมอง
ขึ้นไปยังด้านบนของเมืองจะเห็นเป็นม่านแสงสนามพลังดั่งแก้ว
ใสมาคลุมครอบเมืองอยู่ดั่งโดม! นี่คือการรวมกันระว่างวิชา
ลึกลับของผู้ฝึกตนและเทคโนโลยีสมัยใหม่!!
มันแข็งแกร่งมากพอที่จะปูองกันการโจมตีของเหล่าแมลงที่มี
กาลังรบระดับ A!
ในเมืองแสงดาวตอนนี้มีตัวตนที่เป็นกาลังรบสาคัญระดับ SSS
รักษาการณ์คุ้มกันเมืองอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น แต่สาหรับระดับ
SS, S และ A นั้น ก็มีรักษาการณ์อยู่มากมายไม่น้อย
เนื่องจากมนุษย์มีความรู้ความสามารถ และมีเทคโนโลยีที่ก้าว
ไกล ทาให้การประยุกต์เทคโนโลยีเข้ากับการฝึกตนเป็นอะไรที่
บรรเจิดนัก! นี่ทาให้เกิดการฝึกตนแบบโบราณค่าครึ กลับเป็น
อะไรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น! ยังผลให้นักรบอันเป็นผู้ฝึกตน
ของมนุษย์เองก็ก้าวหน้าขึ้นด้วยเวลาอันสั้น! อย่างไรก็ตามด้วย
ขนาดตัวที่ต่างกันและความแข็งแกร่งทางกายภาพ ทาให้ใน
ระดับกาลังรบเดียวกัน จาเป็นต้องใช้นักรบมนุษย์ถึง 5 คนใน
การรับมือกับแมลง 1 ตัว!!
นี่เป็นปัญหาที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ยากจะแก้ไขได้…
ณ จัตุรัสกลางอันเป็นลานฝึกซ้อม
ตอนนี้ครูฝึกและเหล่านักเรียนนักศึกษาของสถาบันยุทธ์
ทั้งหลาย ได้มาเตรียมตัวพร้อมออกไปรบกันเรียบร้อยแล้ว…
กองทัพแมลงที่ทั้งหมดต้องเผชิญหน้าครั้งนี้มีความแข็งแกร่ง
มากกว่ากองทัพแมลงครั้งไหนๆที่พวกมันเคยเจอ…ยังเป็นอะไร
ที่แข็งแกร่งกว่ากันมหาศาลนัก!
ตัวตนระดับ SSS คนเดียวของเมืองที่ยืนอยู่บนลานยกสูงของ
หอสังเกตุการณ์ตอนนี้ หรี่ตามองไป ณ สุดขอบฟูาบรรจบดิน
ก่อนจะเผยความตึงเครียดออกมาในแววตา สีหน้าของมันยังไม่
ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไร อย่างไรก็ตามในเมื่ออีกฝุายมาแล้ว ทาง
เดียวที่จะจัดการเรื่องนี้…ก็คือต้องเผชิญหน้ากับมันเท่านั้น!!
“ทั้งหมดฟัง! ครั้งนี้ไอพวกแมลงสวะนั่น มันยกทัพมาจู่โจม
พวกเราเต็มอัตราศึก! สถานการณ์ค่อนข้างวิกฤตนัก! พี่น้อง
ทหารทั้งหลาย หากพวกคุณทุกนายไม่อยากเห็นเมืองแสงดารา
ต้องถึงกาลอวสาน! ถึงเวลาแล้วที่พวกคุณจะต้องสู้สุดกาลัง
และสู้กับพวกมันให้ถึงที่สุด!!” (53380)
“ถ้าพวกเราล้มเหลว พี่น้องและประชาชนผู้บริสุทธิ์นับสิบๆ
ล้านของเมืองแสงดาราจะกลายเป็นอาหารเลิศรสให้ไอพวก
แมลงสวะนั่น! ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งหมดที่พวกเราเพียรสร้างกัน
มาจะล่มสลายหายไปต่อหน้าต่อตาพวกเรา!!”
…
“ท่านครับ! ตอนนี้พวกแมลงได้ทาลายสนามพลังปูองกัน ชั้น
หน้าได้แล้วครับ!!”
“บ้าเอ๊ย! ท่านครับ! พลังงานของเกราะพลังหลักกาลังลดลง
ด้วยอัตราเร็วสูงครับท่าน! เป็นแบบนี้ พวกเราต้านรับไว้ได้อีก
ไม่นานแล้วครับ!!”
…
“ปิดระบบสนามพลังสารอง เตรียมพร้อมโจมตีเต็มอัตราศึก!
จ่ายพลังงานทั้งหมดไปยังปืนหลักทุกกระบอก! ปฏิบัติ! ทุก
หน่วยฟังสัญญาณผม…. 3 2 1 ยิง!!!”
เปรี๊ยง!! ตูมมมม!! ตูมมมมม!!!!
ตอนนี้ขวัญกาลังใจของผู้คนกาลังตกต่าลงอย่างหนัก ทุกผู้คน
ล้วนอกสั่นขวัญแขวนนักเมื่อเห็นเกราะพลังปูองกันเมืองกาลัง
พังทลายลง…
ตอนที่ 870 : การมาถึงของแมลง!
กวี๊ช…!
เสียงร้องระงมจากเหล่าแมลงนั้นฟังดูน่ากลัวและชวนให้ขนลุก
นัก กอปรกับรูปลักษณ์อันน่าขยะแขยงทั้งเปี่ยมไปด้วยอันตราย
ของพวกมันแล้ว เกรงว่าหากผู้ใดจิตใจไม่มั่นคงเป็นต้องเหงื่อ
แตกพลั่กๆกันบ้างหากต้องมาแลเห็นหรือเผชิญหน้ากับพวก
มัน…
แม้ว่าเหล่านักรบฝึกหัดทั้งหลายที่พึ่งจบจากสถาบันยุทธ์จะมี
ประสบการณ์ในการต่อสู้กับพวกแมลงผ่านเครื่องจาลองเสมือน
จริงมาบ้าง แต่พอได้เห็นฝูงแมลงหนาทึบเป็นแพตัวเป็นๆ สี
หน้าของพวกมันก็ถึงกับต้องซีดเซียว ขายังสั่นพั่บๆด้วยความ
กลัว!!
อันที่จริงกระทั่งครูฝึกเองก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้าลายดังเอื๊อก ใน
ใจยังลอบบนบานวิงวอนให้พ่อแก้วแม่แก้วช่วยด้วย…
น่ากลัว…นี่มันเป็นอะไรที่น่าพรั่นพรึงเกินไป
เมื่อม่านพลังปูองกันพังทลาย สนามพลังถ่วงรั้งแมลงชั้นหน้า
ทั้งหลายพินาศ เมืองแสงดาราก็ถูกเหล่าแมลงบุกรุกคืบเข้ามา
ประชิดเมือง! แม้จะมีปืนกลอัตโนมัติและปืนพลังแสงที่วิจัย
ออกมาเพื่อรับมือ พร้อมทั้งม่านพลังชั้นในสุดท้ายที่พิทักษ์
เอาไว้ หากแต่ด้วยจานวนที่มหาศาลที่ราวกับตาข่ายฟูาแห
สวรรค์กางกั้นกระทั่งหยาดวารีก็มิอาจไหลชาแรกแทรกผ่านได้
เช่นนี้…แลแล้วยากจะต้านทานนัก!
“หนูขอให้พี่ๆนักรบทุกคนจงโชคดีมีชัย!”
“พวกเรารักทหารหาญทุกนาย”
ตอนนี้เองบังเกิดเสียงเชียร์ใสๆดังขึ้น
บนหน้าจอสกรีนขนาดมหึมาที่อยู่ตรงกลางเมืองปรากฏเกิร์ลกรุ๊
ปน่ารักกลุ่มหนึ่งกาลังโบกไม้โบกมือ บ้างก็กาลังสวดภาวนา
พร้อมมองมายังทุกผู้คนด้วยสายตาพึ่งพิง
สาวน้อยน่ารักเหล่านี้ ก่อนหน้าก็ล้วนเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่โด่ง
ดังไปทั่วโลก บ้างก็เป็นเน็ตไอดอลที่มียอดติดตามนับล้านๆ
พวกนางแต่ละคนล้วนน่ารักประหนึ่งตุ๊กตา นาพาให้หัวใจชาย
หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั้งหลายต้องอ่อนระทวยเห็นแล้วเป็นต้อง
อยากปกปูอง! อนิจจาตอนนี้ทั้งหมดหาได้มาร้องเพลงหรือเต้น
อะไร แต่มากล่าวคาเพื่อให้กาลังใจแก่นักรบหนุ่มทั้งหลาย!!
“วันนี้ พวกเราจะรอดูนะค้า! ว่าพี่ๆนักรบหนุ่มหล่อคนไหนจะ
ฆ่าแมลงน่าเกลียดนั่นได้มากที่สุด! บางทีหนูอาจจะยอมเป็น
แฟนพี่ก็ได้น้า สู้ๆค่ะ! ไฟท์ติ้งๆ!!”
คาปลุกใจเพื่อเพื่อนมนุษย์ชาติอันใดล้วนไร้สาคัญ ต้องวาจา
เช่นนี้ถึงจะบังเกิดผลต่อชายหนุ่มทั้งหลายมากที่สุด! ความหวัง
จากไอดอลน่ารักทั้งหลายนี่ล่ะกาลังใจชั้นเลิศ ที่จะทาให้มันฮึก
เหิม ลาพองถึงขีดสุด!!
“ว๊ากกก! นั่นมันน้องหวังชิ่วเหวินนี่หว่า! ดาราในดวงใจของพี่
โอ๊ย น่ารักอ๊ะ!!”
“อ๊าก! เจี๋ยวเจี่ยว ก็มา! วันนี้เฮียสู้แค่ตายเว้ยยย แมลงกร๊วก
อะไรพี่จะเปุาให้สิ้น!!!”
…
ภายในห้องส่งของสถานีกระจายสัญญาณของเมืองแสงดารา
ตอนนี้เหล่าอดีตเน็ตไอดอล และดารา รวมถึงนักร้องสาว
มากมายกาลังทยอยออกไปให้กาลังใจหน้ากล้องกันอย่างแข็ง
ขัน… ทว่าเมื่อพ้นหน้ากล้องมาแล้วแต่ละนางอดไม่ได้ที่จะเผย
ใบหน้าหวาดผวาพรั่นกลัวออกมา…
นั่นเพราะแม้พวกนางจะสวยน่ารักแต่ก็ไม่ใช่ประเภทสวยใสไร้
สมอง ต่างรู้กันดีว่าทัพแมลงที่บุกมาคราวนี้หนักหนานัก ไม่ใช่
อะไรที่มองข้ามได้ง่ายดาย กระทั่งนักรบคลาส SSS หนึ่งเดียว
ก็ยังต้องออกไปอยู่แนวหน้า…
“พี่อี้เฟย นี่พวกเราจะต้องตายกันแล้วจริงๆหรอคะ…”
“ไม่! พวกเราจะต้องรอด! พวกเค้าต้องปกปูองพวกเราไว้ได้
แน่!”
“ฮืออออ..! หนูยังไม่อยากตาย!”
…
ในสถานการณ์เลวร้ายเป็นตายยากล่วงรู้แบบนี้ เหล่ามนุษย์ที่
อ่อนแอไร้พลังต่อสู้ทั้งหลายทาได้แค่ปิดประตูหน้าต่างมิดชิด
หลบอยู่ในบ้านพร้อมสวดภาวนาเท่านั้น… ส่วนผู้ที่แม้จะไร้พลัง
หากแต่หัวใจแข็งแกร่ง ก็ล้วนหยิบอาวุธเท่าที่มีออกมายืนบน
ถนนและเฝูามองสถานการณ์ที่หน้าจอใหญ่กลางเมือง เพื่อดู
ความเปลี่ยนแปลงทั้งหลายของสนามรบ
อนิจจายามนี้หน้าจอนั้น ไม่ว่าจะแพนกล้องไปทางไหน หรือจะ
กล้องตัวใด ก็ล้วนเห็นแต่ทัพแมลงที่มากมายปานจะปิดแผ่น
ฟูา…
ส่วนแนวหน้าด้านประตูเมืองหลัก ทัพแมลงทั้งหลายก็พุ่งฝุาห่า
กระสุนมาด้วยท่าทางเกี้ยวกราดดุร้าย รูปลักษณ์อันน่ากลัวของ
พวกมันช่างขู่ขวัญให้ผู้คนหวาดกลัวจนหน้าซีดขาวราว
กระดาษ
บนกาแพงเมืองเหนือประตูหลัก…
“ให้ตายเถอะ! คราวนี้กองทัพของพวกมันแข็งแกร่งมากกว่าที่
เคยยกมาไม่น้อยเลย ขนาดยิงถล่มไปด้วยนิวเคลีย์ 30 กว่าลูก
มันยังเหลือรอดมามากมายขนาดนี้!” สีหน้าของนักรบคลาส
SSS หนึ่งเดียวของเมืองคร่าเครียดไม่น้อย
หลี่หงจวินนั้น เป็นมนุษย์ที่เร้นกายอยู่ในหุบเขาและปิดด่านฝึก
ตนอย่างสันโดษ ห่างไกลจากเรื่องราวในโลก เรียกว่ามุ่ง
บาเพ็ญตบะตามคัมภีร์โบราณโดยตัดขาดกับโลกภายนอกไป
อย่างสิ้นเชิงก็ว่าได้
ทว่าวันที่ฟูาวิปโยควันนั้น ยามเมื่อกองทัพของชนเผ่าแมลง
รุกรานโลก และกาลังจะกวาดล้างสังหารหมู่ผู้คนจนสิ้นสูญ มัน
ก็ออกจากหุบเขาลับและออกมาต่อสู้ต้านทานเหล่าแมลง
ทว่ามันกลับไม่คาดคิดเลยว่าพลังความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์
แมลงจะมากมายขนาดนี้! นี่เป็นอะไรที่เหนือความคิดของมัน
ไปไกลโข ยังดีที่ว่ามันไม่ใช่ผู้ฝึกตนที่เร้นกายจากโลกหล้าเพียง
คนเดียว นั่นเป็นเหตุผลที่ทาไมมนุษย์ชาติถึงยังสามารถ
ต้านทานรับไหว กระทั่งมีโอกาสต่อสู้สวนกลับได้…
“ท่านคะ ครั้งนี้ท่านคิดว่าพวกเราจะขับไล่พวกมันไปได้รึเปล่า
คะ!?” สตรีนางหนึ่งกล่าวถามเสียงสั่น นางสัมผัสได้ถึงมวล
อารมณ์รุนแรงที่คุกรุ่นขึ้นมาของมหาบุรุษเบื้องหน้า ในรอบ
หลายปีที่ผ่านมา…นี่เป็นครั้งแรกที่อีกฝุายถึงกับตึงเครียดขนาด
นี้…!
จากที่นางประเมิน นี่อาจจะเป็นสถานการณ์ร้ายแรงที่ยากจะ
คลี่คลายได้แล้วจริงๆ…
หลี่หงจวินที่ได้ฟังคาถาม ก็เงียบอยู่ครู่หนึ่งค่อยตอบ “ถ้า
กองทัพแมลงมันมีทั้งหมดเท่านี้…พวกเราน่าจะยังพอขับไล่
พวกมันไปได้ ถึงแม้จะต้องมีทหารพลีชีพมากมายก็ตาม…”
ตอนนี้เหล่าผู้ชมทั้งหลายเองก็เฝูามองหน้าจอใหญ่ด้วยใจระส่า
“ไอพวกแมลงเปรตนี่ ทาไมครั้งนี้มันถึงได้แห่มากันเยอะแยะ
มากมายขนาดนี้กัน!”
“บ้าเอ๊ย ครั้งนี้พวกเราจะรอดไปได้รึเปล่านะ…”
“พวกเราต้องไม่เป็นไรแน่! ท่านผู้นั้นถึงกับออกโรงด้วยตัวเอง!
พวกเราต้องชนะแมลงเวรนี่ได้แน่!!”
“อ๊ะ! ดูหน้าจอย่อยที่ 3 เร็ว นั่นมันอะไรกัน!?”
ทันใดนั้นเองโลกหล้าคล้ายจะสั่นสะท้านสั่นไหว เหนือฟูาไกล
ตาทางหนึ่งปรากฏรอยแยกขึ้นมากลางอากาศ!
“กี๊ซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!!!!!”
ทันใดนั้นเองเสียงคารามดังสนั่นเสียดหูพลันกังวาลออกมา
กลิ่นอายพลังมหาศาลแผ่ซ่านเอ่อล้นปานจะสะกดไปทั้งโลก
หล้า!!
แมลงนับไม่ถ้วนต่างหยุดลงพร้อมหันไป ราวกับจะรอต้อนรับ
การมาถึง ทันดนั้นปรากฏขาสีดาทมิฬก้าวผ่านรอยแยกออกมา
ช้าๆ!!
“นั่นมัน…!?”
เมื่อหลี่หงจวินเห็นภาพนี้ สีหน้าของมันก็เปลี่ยนไปทันใด
“ไม่ดีแล้ว นั่นมันกลิ่นอายพลังของ สวรรค์อมตะขั้นสูงสุด!!”
คาสวรรค์อมตะขั้นสูงสุดนี้ คือระดับพลังที่บันทึกไว้ในคัมภีร์
โบราณ ต่อมาเมื่อโลกหล้าพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปจนถึงยุค
ปัจจุบัน ระดับพลังดังกล่าวถูกแทนด้วย ตัวอักษรเพื่อให้คน
ทั่วไปสามารถแยกแยะได้ง่าย
อย่างไรก้ตามสาหรับผู้ฝึกตนแล้ว ทั้งหมดมักจะติดปากกับ
ระดับพลังดั้งเดิมที่บันทึกไว้ตั้งแต่สมัยโบราณมากกว่า
แกร่ก! แกร่ก! ตึงงง!! ตึงงงง!!!!
เสียงดังสนั่นดังขึ้นเป็นระลอกๆ
ขาแมลงขาแล้วขาเล่าค่อยๆก้าวออกมา!
เมื่อถึงกาลที่แมลงผู้มาเยือนตัวใหม่ก้าวออกมาจากรอยแยก
อย่างสมบูรณ์ ลูกตาของหลี่หงจวินก็หดเล็กลงโดยพลัน สายตา
ยังค้างไปปานถูกแช่แข็ง
“แมงมุมหมาปุา 8 เนตร!”
รูปลักษณ์พื้นฐานที่ปรากฏของชนเผ่าแมลงตัวนี้ มองไปไม่ต่าง
อะไรจากแมงมุม แต่ทว่าร่างกายของมันนั้นใหญ่โมหึมาสูงใหญ่
เทียมตึกระฟูา ดวงตาเย็นเยือกทั้ง 8 ที่สาดส่องไปรอบๆ ทาให้
ผู้คนรู้สึกเหน็บหนาวไปถึงไขสันหลัง
ร่างกายที่ใหญ่โตมหึมาของมันก็ทาให้มวลอารมณ์ความรู้สึก
ผู้คนกลับกลายเป็นถูกบีบคั้นอึดอัด!
ประชาชนทุกคนที่เฝูามองหน้าจอถ่ายทอดสดต่างแข็งค้างกัน
ไปหมด…
พวกมันรู้ดีเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์แมลงตัวนี้…
มันคือ แมงมุมหมาปุา 8 เนตร! เป็น 1 ในแนวหน้าของ
เผ่าพันธุ์แมลงที่แข็งแกร่งทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ! ครั้งหนึ่ง
มันเคยบุกไปทาลายล้างเมืองที่เต็มไปด้วยนักรบที่ทรงพลัง
หลายคนมาแล้ว!!
และมาตอนนี้ แมงมุมหมาปุา 8 เนตรอันน่าสะพรึงกลัวนั่น
กลับมาปรากฏตัวที่เมืองแสงดาราของพวกมัน! เกรงว่านี่กาลัง
จะเป็นหายนะครั้งใหญ่สาหรับพวกมันทุกคนทุกในเมือง!!
ตอนนี้เหล่านักรบฝึกหัดและครูฝึกของสถาบันยุทธ์ก็เริ่มส่งเสียง
เซ็งแซ่ออกมา
“งานเข้าแล้วไง! นั่นมันแมงมุมหมาปุา 8 เนตร! หนึ่งในตัวเปูง
ของไอพวกแมลงที่จัดการได้ยากที่สุด!!”
“จบแล้ว! แม่งเอ๊ย! พวกเราจบเห่กันแล้ว! ไม่มีความหวังอะไร
เหลือแล้ว!!”
ครืนนนนน!!!
ทว่าก่อนที่ทั้งหลายจะทันใด้สบถคาที่สิ้นหวังออกมาจนจบ ฟูา
ว่างเปล่าใกล้ๆกับแมงมุมหมาปุา 8 เนตร กลับปริแตกทลาย
ร่างประหนึ่งมังกรหากแต่มีร้อยขาพุ่งทะยานออกมาจากรอย
แยก ขายุบยับมากมายแกว่งไกวไปมากลางหาว ร่างกายที่ยาว
นับพันฟุตของมัน แลดูน่าขยะแขยงทั้งน่ากลัวนัก!!
“ระยา! นั่นมันตะขาบ 100 ขา!!”
“บ้าน่า! เป็นไปได้ยังไงกัน! ทาไมไอตัวบ้านี่ถึงมาปรากฏตัวที่
เมืองเราได้วะ!?! ไม่ใช่สายพันธุ์นี้มันมีอยู่แต่ที่ทวีปตะวันตก
เท่านั้นรึไง!?”
“ตายแน่…! พวกเราตายห่าแน่! ครั้งนี้เมืองแสงดาราพวกเรา
จบเห่แน่ๆ!!”
“แม่งเอ๊ย! ใครจะไปนึกวะ ว่าราชันแมลงระดับ SSS จะโผล่หัว
มา 2 ตัวพร้อมกันแบบนี้!!”
ตอนนี้เหล่ามนุษย์ทุกคนในเมืองแสงดารากาลังสบถคาออกมา
ด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าของผู้คนซีดขาวราวไร้เลือดหล่อ
เลี้ยง เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับราชันแมลงคลาส SSS พร้อมกัน
ถึง 2 ตัวแบบนี้ พวกมันรู้สึกขวัญเสีย กาลังใจจะสู้หดหายไป
แทบหมดสิ้น
ร่างของหลี่หงจวินเองก็สั่นระริกราวกับมันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ
เรื่องราวที่ปรากฏตรงหน้า…
“บ้าน่า…เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน!? ทาไมไอพวกแมลงนี่มัน
ถึงได้ส่งราชันแมลงระดับ SSS มาที่นี่ถึง 2 ตัว โดยที่ไม่มีลาง
บอกเหตุอะไรล่วงหน้าเลย!?!…ท่านคะพวกเรา…” สตรีที่อยู่
ข้างหลี่หงจวินเสียขวัญอย่างหนัก
สาหรับหลี่หงจวินนั้น…ยามเมื่อแมงมุมหมาปุา 8 เนตรโผล่
ออกมาแว้บแรก มันยังพอมีโอกาสต่อสู้รับมืออีกฝุายอยู่บ้าง
ทว่าเมื่อตะขาบ 100 ขามาเพิ่มอีกตัว มันก็หมดหวังไปอย่าง
สิ้นเชิง…
ทัง้ 2 ตัวนั่นนับเป็นสิ่งมีชีวิตระดับแนวหน้าของเผ่าพันธุ์แมลง!
อีกทั้งพวกมันยังเป็นดั่งเครื่องจักรสังหารที่ดุร้ายไร้ปราณีมาก
ที่สุดของอีกฝุาย!!
ตึงงงง!! ตึงงงงงงงง!!!
ทันใดนั้นโลกหล้ากลับสะเทือนเลื่อนลั่นอีกครา ร่างมหึมายิ่ง
กว่าอะไรพลันปรากฏขึ้นไกลห่าง ยามเมื่อทุกผู้คนหันไปมองจะ
เห็นเพียงร่างสีดาเท่านั้น…หากแต่กลับไม่อาจระบุได้ว่ามันเป็น
ตัวอะไร
รู้ก็แต่เพียงว่าร่างทมิฬนั่นกลับมหึมายิ่งกว่าแมงมุมหมาปุา 8
เนตรหลายเท่านัก!
“นั่นมันอะไรกัน!?”
ทุกผู้คนล้วนอุทานออกมาด้วยความตกใจ ทั้งหมดต่างรับรู้ได้
ถึงอะไรบางสิ่งที่ชวนให้หวาดกลัว มันเป็นความรู้สึกราวกับถูก
สัตว์ร้ายที่มีอานาจเหนือทุกชีวิตจับจ้อง
และยามเมื่อร่างสีดานั่นเผยให้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริง ผู้คนทั้ง
เมืองแสงดาราล้วนสะท้านไปโดยพลัน (53380)
“บ้าน่า! นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน!!”
“ตาย! พวกเราตายแน่! ไม่มีทางที่พวกเราจะไปสู้กับไอตัว
พรรค์นั้นได้เลย!!”
ยามเมื่อหลี่หงจวินเห็นใบหน้านั่นชัดเจนมันก็อึ้งค้างไปอย่าง
สมบูรณ์ และทันใดนั้นเอง กลิ่นอายพลังมหาศาลขุมหนึ่งพลัน
สาดกาจายออกมาจากร่างของ สิ่งนั้น! คลื่นพลังฉีกกระชาก
ออกไปทั้งโลก!!
เปรี๊ยงงงง!!!
เกราะพลังพิทักษ์ชั้นสุดท้ายของเมืองแสงดาราแหลกเป็น
เสี่ยงๆ เศษพลังกระจัดกระจายเลือนหายลับไป… การที่มัน
สามารถทาลายเกราะพลังพิทักษ์ชั้นสุดท้ายนี้ได้ด้วยการเปล่ง
รัศมีพลังออกมาเฉยๆแบบนี้ ร่างสีดามหึมานั่นคือตัวตนอัน
เขย่าฟูาอย่างแท้จริง!!
“พวกมนุษย์ดั่งมดปลวกสวะทั้งหลาย…วันโลกาวินาศของพวก
เจ้ามาถึงแล้ว…!”
ทันใดนั้นเสียงน่ากลัวหนึ่งพลันดังขึ้น
เสียงนี้เป็นดั่งท่วงทานองของปีศาจที่กาลังเบิกฤกษ์บรรเลง มัน
ชาแรกแทรกซึมเข้าไปในใจของมนุษย์ทุกคน…
ตอนที่ 871 : พี่ท่านช่างสุดจัด!
เทพเจ้าแมลง!!
หลี่หงจวินไม่คิดไม่ฝันเลยว่าแมลงเทพเจ้าจะออกมารบพร้อม
กับทัพแมลงครั้งนี้ด้วย!!
แมลงเทพเจ้าตัวนี้ มันบังเกิดจากการรวมตัวกันของสิ่งมีชีวิต
เผ่าพันธุ์แมลงนับไม่ถ้วน รูปร่างของมันมองไปคล้ายมนุษย์
หากแต่ร่างทั้งร่างของมันเป็นสีดา ผิวหนังของมันยังมีแมลงน่า
ขยะแยงมากมายคลานเกาะนับไม่ถ้วน
มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือระดับ SSS …ไม่ว่าแมลงเทพเจ้าตัว
นี้ปรากฏที่ใด ที่นั่นล้วนต้องพินาศทลาย!
ต่อหน้าแมลงเทพเจ้านั้น ให้นักรบระดับ SSS ทั้ง 30 คนมา
ผนึกกาลังกันต่อต้านก็ไร้ค่า! ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของแมลงเทพ
เจ้าได้เลย! แมลงเทพเจ้านั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นดั่งตัวตนอมตะ
ไร้วันตาย ไม่ว่านักรบมนุษย์จะทรงพลังมากแค่ไหนก็ไม่มี
หนทางเอาชนะมันได้!!
ตอนนั้นเมืองใหญ่ที่สุดของทวีปตะวันตก ยังเป็นเมืองที่มีนักรบ
ทรงพลังอยู่มากมาย! หากทว่าทั้งหมดก็ไม่อาจต้านทานการบุก
ทาลายของแมลงเทพเจ้าได้สักวินาที! ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยว
ความหวังจะต่อสู้ด้วยซ้า…!!
กระทั่งนักรบคลาส SSS ยังต้องเอาชีวิตมาทิ้งในการศึกครั้งนั้น!
วีรชนผู้กล้ามากมายกลับกลายเป็นอาหารของพวกแมลงไป
อย่างน่าหดหู่…!!
สาหรับเหล่านักรบผู้ทรงพลังทั้งหลายของโลก การดารงอยู่ของ
แมลงเทพเจ้าคือฝันร้าย! ทั้งหมดไม่อาจจินตนาการได้เลยว่า
เผ่าพันธุ์แมลง มันมีตัวตนที่น่ากลัวและแข็งแกร่งแบบนี้ดารง
อยู่ได้อย่างไร!!
แต่ก็นับว่ายังเป็นโชคดีของมนุษย์อยู่บ้าง ที่แมลงเทพเจ้านั้นไม่
ค่อยจะปรากฏตัวออกมาสักเท่าไหร่ หาไม่แล้วโลกใบนี้คงไม่มี
อะไรจะหยุดยั้งขวางทางมันได้เลย!
ทว่าวินาทีนี้.. ความกล้าทั้งมวลของมนุษย์ได้ถูกทุบทลายสิ้น
แล้ว…
ไหล่ของหลี่หงจวินห่อทรุดลงโดยพลัน นี่เพราะมันหมดหวังจะ
ต้านทานเรื่องราว… ไม่ต้องพูดถึงแมลงเทพเจ้าด้วยซ้า กระทั่ง
วินาทีแรกที่ได้เห็นราชันแมลงระดับ SSS 2 ตัวที่โผล่หัวมา
พร้อมกัน มันก็รู้ตัวดีว่านี่ไม่ใช่อะไรที่มันจะต้านทานไหวแล้ว…
เมืองแสงดาราเองก็ถูกความเศร้าโศกกัดกินทันใด ตอนนี้ผู้คน
เริ่มร่าไห้ออกมา ทั้งหมดรู้ว่าวันตายของตัวเองมาถึงแล้ว
กระทั่งอีกไม่นานพวกมันจะต้องกลายเป็นแค่อาหารที่อยู่ใน
ท้องของพวกแมลงนั่น…
ณ ทวีปเอเชีย..เมืองหนึ่งที่ตั้งอยู่บนมหาสมุทร นี่คือเมืองที่
แข็งแกร่งที่สุดในโลก เพราะมีตัวตนคลาส SSS นับ 10 คน
ประจาการณ์อยู่ที่นี่…
เรียกได้ว่าเมืองนี้อาจจะเป็นความหวังสุดท้ายของมวลมนุษย์
ชาติก็ว่าได้…
ทว่าตอนนี้ ที่ศูนย์บัญชาการหลักของเมืองแห่งความหวังกาลัง
โกลาหลอลหม่าน ทุกผู้คนยุ่งวุ่นวายกันไปหมด!
“รายงานสถานการณ์เร่งด่วน! เมืองแห่งความรุ่งโรจน์กาลังถูก
กองทัพปิดล้อม! ส่งกองกาลังสนับสนุนทางอากาสไปเสริม
ด่วน!!”
“แย่แล้วครับท่าน! ตอนนี้เมืองแสงดารากาลังจะถูกทาลายแล้ว
ครับ! มีราชันแมลงระดับ SSS ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกันถึง 2
ตัวครับท่าน!!”
“อะไรนะ!?”
เมื่อผู้บัญชาการได้ฟังรายงานสถานการณ์ สีหน้าของมันก็
เปลี่ยนไปทันใด “เร็วเข้า! รีบเอาภาพเมืองแสงดาราขึ้นหน้าจอ
หลักเร็ว! ส่งภาพถ่ายจากดาวเทียมขึ้นจอเดี๋ยวนี้!!”
“ท่านครับ ท่าไม่ดีแล้วครับ! เครื่องตรวจจับรังสีพลัง ตรวจพบ
ปฏิกริยาพลังงานสูงเกินมาตรวัดมาจากเมืองแสงดาราครับ!
พะ…พลังนั่น สูงกว่าค่าพลังของคลาส SSS ครับท่าน!!”
“ว่าไงนะ…!!”
ไม่นานนักภาพถ่ายจากดาวเทียมที่จับไปยังเมืองแสงดาราก็ถูก
ฉายขึ้นหน้าจอหลักของศูนย์บัญชาการ…ทั้งหมดในห้อง
บัญชาการ ได้เห็นร่างสีดาหนึ่งตระหง่านท่ามกลางสวรรค์และ
โลก ตามตัวมีชนเผ่าแมลงไต่เกาะยั้วเยี้ยไปหมด…
“เป็นไปได้ยังไงกัน!? นั่นมันแมลงเทพเจ้า!!”
ตอนนี้ทุกคนในหองบัญชาการหลัก ถึงกับนิ่งค้าง สมองตื้อไป
อย่างพร้อมเพรียง
ในสายตาของพวกมันเรื่องนี้มันตลกร้ายชัดๆ! พวกมันไม่คิดไม่
ฝันเลยว่าแมลงเทพเจ้าจะปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง!!
“มันจบแล้ว…เมืองแสงดารากาลังจะถูกทาลายล้าง!” ทหารคุม
จอแสดงผลคนหนึ่งกล่าวออกมาอย่างสิ้นหวัง
ผู้บัญชาการเองก็ยืนอึ้งอยู่ด้านหน้าจอแสดงผล หัวใจยังเต้น
ระรัวไม่เป็นจังหวะ จากนั้นมันก็ฟื้นสติรีบหันไปตะคอกสั่งการ
พลสื่อสารทันที “ใครเป็นผู้พิทักษ์เมืองแสงดารากัน!? คุณ และ
คุณ รีบส่งภาพถ่ายดาวเทียมชุดนี้ไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุด! พร้อม
ถ่ายทอดคาสั่งช่วยเหลืออพยพ! รีบส่งกาลังทางอากาศไปช่วย
ผู้พิทักษ์เร็วเข้า!!”
“ขออนุญาตรายงานครับท่านผู้บังคับบัญชา! ผู้พิทักษ์ของเมือง
แสงดารา คือท่าน หลี่หงจวิน ครับผม!!”
“รีบถ่ายทอดคาสั่งผมออกไป! ให้ทั้งหมดถอนกาลัง! ละทิ้ง
มาตรการปูองกันเมืองทั้งหมด! เตรียมภารกิจกู้ชีพเต็มพิกัด!
ช่วยเหลือผู้พิทักษ์คนนั้นให้ถอนตัวจากสนามรบให้ได้ ไม่ว่า
อะไรจะเกิดขึ้นห้ามปล่อยให้ตัวตนทรงพลังแบบเขาตายเปล่า
เด็ดขาด!!” ผู้บัญชาการตะโกนสั่งการอย่างร้อนใจ
สาหรับผู้บัญชาการแล้ว ตัวตนที่ทรงพลังอย่างผู้พิทักษ์คือจุด
ศูนย์รวมความหวังของมวลมนุษย์ชาติ หากตัวตนเช่นนี้ร่วง
หล่นไป มนุษย์ชาติจะเสียขวัญและกาลังใจอย่างถึงที่สุด!!
…
ตอนนี้ดั่งผืนฟูาของเมืองแสงดาราจะถูกความมืดเข้าปกคลุม
กลิ่นอายแห่งความตายกาจายไปทั่วทุกแห่งหน ยามเมื่อชนเผ่า
แมลงรุกคืบมาประชิดประตูเมือง ทุกผู้คนในเมืองก็สูญสิ้น
ความหวังที่จะต่อต้านสู้กลับอะไรทั้งมวล…ต่างคุกเข่าลง ด้วย
ยอมจานนต่อชะตา…ไร้ขัดขืนแล้ว
หลี่หงจวินเองก็ทาได้แค่กระชับดาบในมืออย่างแนบแน่น ค่อย
ยกหัวขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด “จะตายก็ช่างหัวมันปะไร! ต่อให้
วันนี้จะต้องย่อยยับ ก็จะสู้มันให้ถึงที่สุด!!”
“ท่านครับ! เมืองแห่งความหวังถ่ายทอดคาสั่งอพยพเต็มพิกัด!
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ท่านต้องมีชีวิตรอดออกไปให้ได้ ท่านห้าม
ตายที่นี่เด็ดขาด!!” พลสื่อสารรีบวิ่งมาถ่ายทอดคาสั่งอย่าง
เร่งด่วน
หลังจากฟังคาสั่งที่ส่งมาจากสายด่วน หลี่หงจวินพลันหันมอง
ไปยังประชาชนจานวนนับไม่ถ้วนเบื้องล่างครู่หนึ่ง ค่อยกล่าว
“วันนี้พวกเราจะสู้ให้ถึงที่สุด! หนี้งั้นเหรอ? พวกเราไม่อาจหนี
มันไปได้ตลอด…!!”
“ทหารหาญทั้งหมดจงฟัง! พวกเราคือเผ่าพันธุ์มนุษย์! พวกเรา
จะไปยอมแพ้ไอพวกแมลงระยานี่ได้ยังไง!? สู้มัน!!”
เหล่าครูฝึกและนักรบฝึกหัดทั้งหลายที่กาลังตัวสั่นระริก
พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อสงบสติอารมณ์ ในแววตา
เผยประกายฮุดสู้ขุมหนึ่งขับไล่ความหวาดกลัวออกไป “สู้! ถึง
ตายพวกเราก็ไม่กลัว!!”
“ถูกแล้ว! พวกเราจะสู้กับไอแมลงระยานี่ให้ถึงที่สุด ฆ่ามัน! ฆ่า
แม่งให้ตายห่าให้มากที่สุด! จนกว่าลมหายใจสุดท้ายของพวก
เราจะหมดไป!!”
…
ครืนนนนน!!!
ทันใดนั้นทางฝั่งกองทัพแมลงก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง แมลง
เทพเจ้าพลันส่งเสียงร้องให้สัญญาณคาหนึ่ง ทะเลแมลงก็เริ่ม
เคลื่อนไหวทันใด ด้านราชันแมลงทั้ง 2 แลไปราวกับรถไถดิน!
ยามมันพุ่งปรี่ไปยังเมืองเหล่าแมลงตามรายทางล้วนกระเด็น
กระดอนกระเจิดกระเจิง!!
เสียงดั่งสนั่นทั้งปฐพีสั่นสะเทือนปานอวสานโลกกาลังดาเนิน
พร้อมทั้งห่าทัพแมลงที่ประหนึ่งคลื่นสมุทรถาโถมเข้ามาใกล้ขึ้น
เรื่อยๆเช่นนี้ ทาให้ใจของมนุษย์ล้วนยิ่งมายิ่งหวาดกลัวสิ้น
หวัง!!
“กวี๊ชช!!”
ทันใดนั้นแมงมุมหมาปุา 8 เนตรก็ย่อขามากมายของมันลง
ก่อนที่จะถีบตัวส่งร่างมันให้พุ่งทะยานขึ้นฟูา! เงาร่างมหึมา
ประหนึ่งจะปิดแผ่นฟูาเด่นหราอยู่กลางหาว ท้องของมัน
กระเพื่อมแรง ก่อนที่ตูดของมันจะปรากฏใยเหนียวฉีดพ่น
เหวี่ยงกางออกมาราวกับแหดักปลาของชาวประมง! เปูาหมาย
คล้ายมันคิดคลุมครอบไปทั้งเมืองแสงดารา!!
ภาพเรื่องราวที่บังเกิดขึ้นยามนี้สาหรับชาวเมืองที่ไร้พลังอานาจ
แล้ว ไม่ต่างอะไรกับปฐมบทของวันโลกาวินาศบรรเลงสักเพียง
นิด ทัง้ หมดสิ้นสูญความหวังสุดท้ายไปแล้ว…
หลี่หงจวินที่ยืนอยู่บนกาแพงเมืองหลังกู่ร้องสุดปอด ทั่วร่าง
ปะทุพลังงานที่แท้จริงชั่วชีวิตออกมา ถึงแม้ว่ามันรู้ดีว่า
ปลายทางของวันนี้มีแต่ความตายที่รออยู่ มันก็หาได้หวาดกลัว
ไม่!
เมื่อทุกผู้คนในหอบัญชาการหลักของเมืองแห่งความหวังได้เห็น
ภาพถ่ายจากดาวเทียม ฉายภาพสถานการณ์ล่าสุดของเมือง
แสงดาราในพริบตานี้… พวกมันก็ถึงกับหลับตาลงเพราะไม่อาจ
ทนดูได้สืบไป ในสายตาของพวกมันเมืองแสงดาวถึงกาลล่ม
สลายแน่แล้ว…
เมืองนี้กาลังจะกลับกลายเป็น 1 ในหน้าประวัติศาตร์ของเมือง
ที่ถูกเผ่าพันธุ์แมลงทาลายล้าง… มวลมนุษย์ที่เป็นสหายร่วม
โลกจานวนนับไม่ถ้วนกาลังจะตกตายเพราะพวกสารเลว
เผ่าพันธุ์แมลง…
ปังงงงง!!!
ผู้บัญชาการก้มหน้าลงก่อนที่จะใช้มือทุบโต๊ะด้านหน้าอย่างแรง
ฟันขบกัดดังกรอดๆ สบถคาออกมาอย่างคับแค้น “ระยาเอ๊ย!
ทาไมมันถึงได้เป็นแบบนี้!!”
“ดี!!!”
ทว่าทันใดนั้นเองกลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาลั่นห้อง!
ผู้บัญชาการถึงกับหัวร้อนขึ้นมาทันใด เมืองกาลังจะพินาศ
นักรบคลาส SSS กาลังจะตาย ยังมีหน้าไหนกล้าร้องคาว่า ‘ดี’
ออกมา! ทว่าเมื่อผู้บัญชาการเงยหน้าขึ้นมาคิดจะด่าโคตรแม่
สักคา มันก็ต้องตะลึงค้างจังงังไปทันใด!
“นั่นมันอะไรน่ะ!?”
สาหรับผู้คนของเมืองแสงดาราแล้ว นี่คือภาพวินาทีชีวิตที่พวก
มันจะไม่มีวันลืมตราบลมหายใจสุดท้าย! หลี่หงจวินเองที่ถ่ายเท
พลังลงดาบก็ถึงกับอึ้งค้าง จนพลังที่ควบรวมสลายหาย
พริบตาที่ใยแมงมุมกาลังจะครอบคลุมเมืองนั้น ประหนึ่งฟูา
สว่างวาบขึ้นมา ก่อนจะปรากฏกระบี่แสงดั่งผลึกแก้วโปร่งไส
แหวกฝุาหมู่เมฆลงมาปานอุกกาบาตพุ่งปักตรึงร่างแมงมุมหมา
ปุา 8 เนตรเอาไว้กับพื้น! ใยที่กาลังพ่นออกไปก็จาต้องเหี่ยวหด
หล่นร่วง!!
“นั่นมันอะไรกัน!?”
“แม่เจ้า นั่นอะไรน่ะ ดาบหรอไม่สิกระบี่? เกิดอะไรขึ้นกันแน่!?”
ตอนนี้ทุกผู้คนล้วนสับสนงุนงง ใจตื่นตระหนกทั้งประหลาด
หนักหนา ด้วยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
“เฮ่! พวกนายดูนั่น! บนฟูา! บนฟูามีคน!!”
ทันใดนั้นมีเสียงวัยรุ่นคนหนึ่งดังก้องขึ้น ผู้คนที่ก้มหน้ารอความ
ตายก่อนหน้าก็เงยหน้าขึ้นไปมองฟูาอย่างพร้อมเพรียง…
“อา…ดูเหมือนว่าสถานการณ์ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไรเลยนะ…
หืม?”
หลินฟุานที่มาในภาพสองมือไพร่หลัง ค่อยๆโรยตัวลงมาจาก
ฟูาเบื้องบน ก่อนจะลงจอดลงบนท้ายด้ามจับกระบี่พลังมหึมา
เสื้อคลุมสีขาวไหวไปตามแรงลม ผมยาวสลวยกระพือเบาๆ
ปานจะหยอกเย้ากับสายวาโยที่โชยไล้ คนยืนอยู่อย่างเงียบงัน
เพียงเหลือบตามองเรื่องราวด้านล่างรอบๆอย่างช้าๆ อริยาบท
ผ่อนคลายนัก…
“กวี๊ชชช!!!”
ตอนนี้กองัทพแมลที่กรูกันเข้ามาถึงกับหยุดชะงักอย่าง
กะทันหันจนขาพวกมันยังครูดไถไปกับพื้น! นั่นเพราะพวกมัน
สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังอันน่ากลัว!!
กอปรทั้งความจริงที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า แมลงมหึมาที่เป็นถึง
ชนชั้นราชันกลับตกตายสิ้นชีพด้วยกระบี่มหึมาเล่มนั้น! นี่เป็น
อะไรที่ขู่ขวัญลิ่วล้อชนเผ่าแมลงทั้งหลายให้กลัวแทบตายแล้ว!!
สาหรับผู้คนในเมืองแสงดารา ทั้งหมดล้วนตกตะลึงพรึงเพริด
ใจหวิวๆสลับเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ ทั้งหมดต่างมองไปยัง
หน้าจอใหญ่กลางเมืองอย่างพร้อมเพรียง ด้วยความสงสัย…ว่า
หนึ่งบุรุษผู้นั้นเป็นใคร! เขาปรากฏกายเหนือฟูาดั่งเทพเทวาจุติ
มายังโลกหล้า พิฆาตราชันแมงมุมหมาปุา 8 เนตรใน 1 กระบี่!
นี่ทาให้สองตาพวกมันแทบมืดบอดเพราะความเจิดจรัสแล้ว!!
“นั่น…นั่นคือพระผู้ไถ่! ผู้มาโปรดโลกหล้า!!” หลวงพ่อคนหนึ่งที่
ห้อยกางเขนทาท่าแตะหน้าผาก หน้าอกและไหล่ทั้ง 2 ข้าง
ก่อนจะกุมมือพร้อมกล่าวออกมาอย่างปิติ
ตอนนี้ทุกผู้คนที่นิ่งอึ้งไปได้พักใหญ่ ค่อยระเบิดเสียงเชียร์ดัง
กระหึ่มลั่นเมือง! หลี่หงจวินเองก็มองร่างนั้นด้วยความ
ประหลาดใจเช่นกัน!
สาหรับมันแล้วนี่คืออะไรที่ดั่งระเบิดกระแทกใจอย่างรุนแรงนัก!
หนึ่งกระบี่เล่มเขื่อง! เพียงหนึ่งกระบี่พลังเล่มเขื่องกลับตรึงร่าง
แมงมุมหมาปุา 8 เนตรไว้กับพื้นได้ง่ายดาย!!
ตาย!
กระทั่งแมงมุมหมาปุา 8 เนตรยังตกตายไปแล้ว! พลังชีวิตมัน
สูญสลายไม่มีเหลือ! ตกตายไปทั้งอย่างนั้น!!
“คุณ…ทะ…ท่าน…เป็นใคร?” หลี่หงจวินกลืนน้าลายลงคอ
กล่าวถามออกมาอย่างตะกุกตะกัก
หลินฟุานหันกลับมามองหลี่หงจวินที่กล่าวถามพร้อมยิ้มแย้ม…
ทว่าวินาทีนั้นเอง ตะขาบ 100 ขาตัวเขื่อง พลันกระโจน ก่อน
จะพุ่งร่างมาดั่งประกายอัสนีจี้มายังหลินฟุาน!! (53380)
“ระวัง!!”
ทว่าภาพวินาทีเป็นตายที่ผู้คนกาลังชมดูจนแทบหยุดหายใจนี้
สิ่งที่ทั้งหมดได้เห็นคือหนึ่งบุรุษที่ยืนตระหง่านบนด้ามกระบี่เล่ม
เขื่อง เพียงยกมือขึ้นอย่างเชื่องช้า เชื่องช้าจนพวกมันเห็นเป็น
ดั่งภาพสโลว์ ทั้งเพียงแค่สะบัดปัดเบาๆ ราวกับขับไล่
แมลงวัน…
ทว่าบางสิ่งอันน่าสะพรึงชวนให้ตกตะลึงพรึงเพริดพลันอุบัติ
ขึ้น!
เปรี๊ยงงงงงงงงงงงง!!!!
ตะขาบ 100 ขาที่เหินทะยานมาปานอัสนี้ กลับถูกพลังอานาจ
ไร้สภาพขุมหนึ่ง ปุนร่างจนแหลกเป็นธุลีเลือดเนื้อเลอะเลือน
กระจายเกลื่อนพื้นกองหนึ่ง
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า หลินฟุาน!”
หลินฟุานยิ้มหวานด้วยท่าทางสบายๆ ทั้งหันไปยักคิ้วข้างหนึ่ง
อย่างอารมณ์ดี ยิงฟันขาวราวไข่มุกให้กล้องที่กาลังซูมภาพมา
ตัวหนึ่ง ก่อนจะตอบคาหลี่หงจวินกลับไป…
ทว่า ภาพสบายๆนี้กลับตราตรึงสลักลึกลงกลางใจของมวล
มนุษย์ชาติทุกคนที่กาลังดูภาพนี้อยู่นี้อย่างจัง!
พี่ท่านแม่งโคตรเจ๋ง…!
ตอนที่ 872 : ยังสบายได้อีก
พิฆาตแมงมุมหมาป่า 8 เนตรในกระบี่เดียว…ทั้งยังสะบัดมือ
ปลดปล่อย 1 พลังดัชนีป่นร่างตะขาบ 100 ขาจนพินาศแหลก
ยับ…
นั่นคือ 2 ราชันแมลงพลังความแข็งแกร่งของมันแทบจะเอกอุ
ในโลกหล้า! แต่ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าราชันแมลงที่ทรงพลังยาก
ต่อกร ถึงขั้นผลักมนุษย์ให้หมิ่นเหม่อยู่บนปากเหวแห่งความสิ้น
หวัง! จะถูกบุรุษผู้นี้พิฆาตดับในเสี้ยวพริบตา!!
ภาพเรื่องราวนี้ใช้คานิยามว่าตื่นตระหนกคงน้อยเกินไป คงต้อง
กล่าวว่าโคตรบิดามารดาท่านตื่นตระหนกฉิบหายแล้วจัก
ประเสริฐกว่า!!
นิ้วทุกนิ้วของหลี่หงจวินสั่นสะท้าน แต่นี่หาใช่มันสั่นสะท้าน
เพราะความหวาดกลัวไม่! นี่คือความตื่นเต้นสุดประมาณ!
ตัวมันได้สับประยุทธ์รบพุ่งกับพวกแมลงมาเป็นเวลากว่า 5 ปี
แล้ว…ตลอดเวลา 5 ปีที่ผันผ่านมามีผู้คนบริสุทธิ์มากมายต้อง
ตกตายไปนับไม่ถ้วนด้วยน้ามือของราชันแมลง มันกับสหายฝึก
ตนได้คิดร่างแผนการออกมามากมายเพื่อจะสร้างความหวัง
ให้กับมวลมนุษย์ แต่สุดท้ายแล้วเมื่อเผชิญหน้ากับราชันแมลง
แผนทั้งหลายก็เหลวเป๋ว…พวกมันก็ทาอะไรไม่ได้เลย…
ทว่ามาวันนี้ ตัวตนที่น่าเกรงขามอย่างราชันแมลงทั้งสองกลับ
ถูกสังหารลงอย่างง่ายดายด้วยน้ามือของบุรุษเบื้องหน้า! เรื่องนี้
เป็นดั่งระเบิดนิวเคลีย์ถูกจุดชนวนกลางใจของหลี่หงจวินแท้ๆ!!
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า…”
หลี่หงจวินพึมพากล่าวย้าทวนนาม นี่นับเป็นนามที่ช่าง…สะกด
ข่มผู้คนนัก! แต่จะอย่างไรเสีย ตอนนี้หมดใจของหลี่หงจวินก็
รู้สึกว่า นามนี้ช่างเหมาะสมแล้วกับมหาบุรุษผู้นี้! เขาคือผู้เดียว
ที่สามารถอหังการได้เช่นนี้! ใครหน้าไหนก็มาข้าจะถล่มมารดา
เจ้า!!
ตัวมันเองก็ได้ฝึกฝนบาเพ็ญตนมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว ได้
ดารงอยู่ท่ามกลางสายธารแห่งเวลาข้ามผ่านยุคสมัยมากมาย
แต่มันก็ทาเพียงนั่งเฝ้ามองสายลมแห่งโชคชะตาที่พัดพา ชม
มองกระแสความเป็นไปทั้งหลายที่เปลี่ยนผันโลกหล้าโดยไม่เข้า
ไปสอดแทรกวุ่นวายอะไร ปลีกวิเวกตัดขาดตัวเองจากทางโลก
เรียกว่าหากฟ้ายังไม่ถล่มมันจะเป็นเพียงผู้เฝ้ามองเท่านั้น…
หมดทั้งใจของมันมีเป้าหมายประการเดียวเท่านั้น นั่นคือการ
แสวงหาเต๋า…อนิจจาตั้งแต่เผ่าพันธุ์แมลงปรากฏตัว ทุกสิ่งทุก
อย่างก็แปรเปลี่ยนไป…
จากในบันทึกโบราณที่มันมี มันพบว่านี่คือการรุกรานของสัตว์
ประหลาดข้ามห้วงมิติ
อย่างไรก็ตามในบันทึกนั้นมีเรื่องราวที่อธิบายไว้น้อยนิดมาก
ทาให้มันไม่อาจรู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวอะไรได้ หากแต่
สิ่งหนึ่งที่มันมั่นใจก็คือ…ที่ไหนสักที่หรือโลกไหนสักโลกต้องมี
ตัวตนที่ทรงพลังดารงอยู่แน่นอน!
และบุรุษหนุ่มเบื้องหน้าของมันคนนี้ ก็ต้องเป็นตัวตนทรงพลัง
ที่มาจากโลกอื่นแน่นอน…
หลังจากที่หลินฟ่านกล่าวตอบคา เขาก็กวาดมองเรื่องราวใน
เมืองด้วยใจที่สงบนิ่ง ก่อนจะกล่าวพึมพาออกมาอย่างราลึก
“เฮ่อ…ไม่คิดเลยว่าผ่านไปแค่ 5 ปีกว่าๆโลกใบเดิมจะ
เปลี่ยนแปลงไปมากมาย ทั้งที่ทางและผู้คนแบบนี้…”
ทันทีที่หลี่หงจวินได้ยินวาจาเหล่านี้ของ ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้
ถล่มมารดาเจ้าที่แสนลึกลับ หัวใจของมันก็เต้นไหวระรัวแทบ
กระดอนออกนอกอก ‘ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า
เป็นคนบนโลกนี้เหมือนกันงั้นเหรอ…นี่เขาพึ่งกลับมาหลังจาก
เดินทางไปไหนมา 5 ปีรึยังไง?!’
เฮ!!!!!!!!
ในขณะที่หลี่หงจวินเหม่อลอยเพราะได้ทราบข้อมูลอันน่า
เหลือเชื่อ เสียงเชียร์พลันระเบิดกระหึ่มขึ้นมาจากเมืองแสง
ดารา มวลมนุษย์นับสิบๆล้านกู่ก้องร้องออกมาสุดเสียง
นี่คือความรู้สึกเบิกบานแช่มชื่นที่ทะลักออกมาจากก้นบึ้งของ
ใจ! หลังจากที่ทั้งหมดถูกข่มเหงรังแกมานานแสนนาน!!
น่าทึ่งนัก! ความรู้สึกนี้นับว่ายอดเยี่ยมกว่าใดทั้งมวล!
“ราชันแมลงของไอพวกแมลงเวรนั่นตายแล้ว! ราชันแมลงเวร
นั่นตายห่าแล้วววว!!!!”
“พี่ชายคนนั้นเป็นคนช่วยพวกเราเอาไว้! พระเจ้าช่วย!! แค่ตู้ม
เดียวราชันแมลงบึ้มตัวแตก…นี่มันโคตรเทพ!!”
“พวกเราไม่ต้องตายแล้วโว้ยยยยยย!!”
ผู้คนมากมายระเบิดอารมณ์กู่ร้องออกมาอย่างโล่งใจ สาหรับ
พวกมันแล้วหลินฟ่านเป็นดั่งโคตรทวยเทพของทุกตานาน!
สภาวะดั่งมหาบุรุษค้าฟ้าที่ยากจะหาผู้ใดเสมอเหมือน!!
สาวน้อยทั้งหลายเมื่อได้เห็นภาพนี้ต่างก็หลงใหลอ่อนระทวยกัน
ไปหมด!
ทั้งหลายรู้ตัวดีตั้งแต่รอยยิ้มสบายๆนั่นส่งมาพร้อมคิ้วที่ยักขึ้น
เบาๆ หมดใจของพวกนางก็ประเคนให้เขาไปแล้ว! หนึ่งร่างที่
ตระหง่านไม่นาพา กระทั่งยังแลดูสบายๆนั่น ทาให้พวกนาง
รู้สึกถูกสะกดให้หลงเสน่ห์อย่างยากจะถอน!!
หากเพียงหลินฟ่านกวักมือเชื้อเชิญเบาๆ พวกนางจะโถมไปทับ
ให้ไวที่สุดเท่าที่จะไวได้!
ณ เมืองแห่งความหวัง…
ผู้บัญชาการตอนนี้กาลังยืนอึ้งอยู่หน้าจอแสดงภาพถ่ายจาก
ดาวเทียม จากนั้นมันก็ได้สติ ทั้งร้องดังลั่นหอบัญชาการ “เร็ว
เข้า! เปิดการติดต่อทุกช่องทาง เอาภาพนี้ขึ้นหน้าจอหลักของ
ทุกเมือง! กระจายภาพจากเมืองแสงดาราไปให้ทั้งหมดเห็น เร็ว
เข้า!!”
“นี่ล่ะ! ความหวังของมวลมนุษย์ชาติ!! เป็นครั้งแรกเลยที่
มนุษย์เราสามารถฆ่าแมลงระดับราชาของพวกเผ่าพันธุ์แมลง
ได้! พวกเราต้องให้มนุษย์โลกทุกคนได้เห็นภาพนี้!!”
ผู้บัญชาการตะโกนออกมาด้วยใบหน้าดีใจสุดขั้ว
มนุษย์ชาตินั้นได้ถูกปกคลุมด้วยหมอกมืดแห่งความกลัวและ
ความกดดันจากราชาแมลงมานานแสนนานแล้ว มีมนุษย์หลาย
คนที่หมดหวังถึงขั้นเฝ้ารอความตาย บ้างก็ชิงฆ่าตัวตายไป
เสียก่อน…
แต่ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมีชายหนุ่มลึกลับคนหนึ่งปรากฏตัว
ออกมา กระทั่งโผล่มากลางสนามรบและจัดการเชือดนิ่มราชัน
แมลงด้วย 1 กระบี่! นี่เป็นดั่งโอเอซิสกลางทะเลทรายสาหรับ
มนุษย์โลกโดยแท้!!
“ท่านผู้บัญชาการครับ ผมขอคายืนยันคาสั่งกระจายสัญญาณ
ด้วยครับ…เอ่อ…แมลงเทพเจ้ายังอยู่ตรงนั้นนะครับ! ถ้า
ประชาชนเห็นว่าแมลงเทพเจ้าปรากฏตัวออกมา มันอาจจะทา
ให้เกิดจราจล และความโกลาหลเอาได้นะครับ…”
“และถ้าชายคนนั้นถูกแมลงเทพเจ้าฆ่า…ผมกลัวว่า…”
เจ้าหน้าที่ในหอหลักล้วนหรี่ตามองผู้บัญชาการทันที นี่นับเป็น
อะไรที่พวกมันก็กลัวไม่น้อย ถึงแม้ว่าชายหนุ่มผู้นั้นจะ
แข็งแกร่งมาก แต่เทพเจ้าแมลงก็คือตัวตนที่ท้าทายสวรรค์นัก!
หากชายผู้นั้นถูกฆ่าตายด้วยน้ามือเทพเจ้าแมลง อาจทาให้คน
ทั้งโลกบังเกิดความหวาดผวาฝังใจไปก็เป็นได้…
ยิ่งมีความหวังมากเท่าไร…เวลาพลาดยิ่งผิดหวังหนักมาก
เท่านั้น
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่แทบจะทุกเมืองถูกพวกแมลง
โจมตี สถานการณ์ของทั้งหมดก็ตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงทั้งสิ้น
“ไม่ต้องถามให้มาก! ภาพนี้ต้องถูกกระจายออกไป! แล้วก็รีบ
ติดต่อหลี่หงจวินให้ผมด้วย! ถ่ายทอดคาสั่งด่วนออกไป ไม่ว่า
อะไรจะเกิดขึ้นให้รักษาชีวิตชายหนุ่มคนนั้นไว้ให้ได้! และต้อง
พาเขากลับมาที่ฐานบัญชาการหลักให้ได้! คนที่มีระดับพลังสูง
อย่างเขาต้องถูกรักษาเอาไว้ให้ปลอดภัย!!”
“รับทราบ!”
แล้วเจ้าหน้าที่ทั้งหลายก็งานล้นมือกันอีกครั้ง..
ในระยะเวลาสั้นๆไม่ว่าจะเป็นเมืองน้อยหรือใหญ่ที่ถูกแมลงปิด
ล้อมโจมตี หรือกระทั่งเมืองที่ยังสงบสุขล้วนได้รับการ
ถ่ายทอดสดและรายงานสถานการณ์นี้ทั้งสิ้น
เมืองใหญ่ทั้งหมด ที่กลางเมืองจะมีหน้าจอขนาดมหึมาที่ใช้ใน
การออกอากาศสาคัญๆ
และตอนนี้หน้าจอขนาดใหญ่นั่นก็กาลังส่องสว่าง
“ข่าวด่วน! ประชาชนทุกคนโปรดทราบ! เมื่อสักครู่มีรายงาน
สดเข้ามา! มีชายลึกลับคนหนึ่ง ได้ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลาง
สนามรบและทาการสังหาร ราชันแมลงไป 2 ตัวด้วยพลัง
อานาจอันเหนือชั้น!!”
ทุกผู้คนที่ได้ฟังต่างหยุดทุกสิ่งทุกอย่างที่กาลังทาและรู้สึกได้ถึง
หัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ! ทั้งหมดหันมองไปยังหน้าจอใหญ่
กลางเมือง บางคนที่เฝ้าสวดภาวนาในบ้านก็ลุกขึ้นพร้อมวิ่งมา
ดูหน้าจอด้วยเช่นกัน
ในสถาบันยุทธ์ใหญ่ๆก็ย่อมมีเหล่าสตรีจานวนมากมายนับไม่
ถ้วนที่กาลังบ่มเพาะอย่างหนัก ในใจของพวกนางนั้นล้วนมี
ความคิดอ่านอย่างเดียว…ต้องแข็งแกร่งขึ้นให้มากที่สุดเพื่อสู้
กับพวกแมลง!
ทว่าเมื่อพวกนางได้ยินข่าวนี้ พวกนางพลันหยุดทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่กาลังทาอยู่ทันที
คนอย่างพวกนางนั้นคุ้นเคยกับข่าวด่วนและรายงานสดมานาน
แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมืองถูกทาลาย หรือความพ่ายแพ้อันน่า
เจ็บแค้นของมนุษย์ตามที่ต่างๆ ทว่าตอนนี้พอพวกนางได้ยิน
เรือ่ งที่ว่ามีชายลึกลับคนหนึ่งสามารถฆ่าราชันแมลงลงได้ถึง 2
ตัว ใจพวกนางพลันบังเกิดความตื่นเต้นหนักหนานัก!!
นี่เป็นดั่งนิทานปาฏิหาริย์สาหรับพวกนางก็ว่าได้!
มนุษย์สามารถฆ่าราชันแมลง? กระทั่งจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุด
ในโลกยังทาไม่ได้!!
ตอนนี้เรียกได้ว่าทุกถนนหนทางล้วนเต็มไปด้วยผู้คนที่ออกมา
ชมดูกันอย่างแน่นขนัด
ภาพหนึ่งฉายถูกฉายออกอากาศ หนึ่งร่างได้ถูกสลักลึกลงกลาง
ใจทุกผู้คน
ประกฏกระบี่เล่มหนึ่งตั้งตระหง่านระหว่างฟ้าดิน ปลายด้ามจับ
กระบี่ปรากฏร่าง 1 บุรุษในชุดคลุมสีขาวยืนอยู่…
ร่างแมงมุมหมาป่า 8 เนตรทอดกายไร้ชีวิตอยู่ด้านล่าง ลาตัว
ของมันถูกกระบี่เสียบปักตรึงเอาไว้! ถัดไปไม่ไกลก็มีร่างตะขาบ
100 ขา ที่ตัวแตกแหลกยับเกลื่อนพื้น
สาหรับผู้คนแล้วนี่เป็นภาพที่น่าตกใจเกินไป! ยังเหลือเชื่อยิ่ง
กว่าข่าวใดๆที่พวกมันเคยได้ยินมาซะอีก!!
“นั่นมันแมลงระดับราชัน! แมงมุมหมาป่า 8 เนตร! บ้านเกิด
ของลุงก็ถูกไอแมลงเวรนี่ทาลายจนพินาศย่อยยับ!!”
“เฮ่ย! นั่นมันตะขาบ 100 ขาที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดา แมลง
ระดับราชาไม่ใช่รึไง!? นิ…นี่”
“เชี่ย! เฮียเค้าเป็นใครวะ!?”
“ทุกคน…ชิบหายแล้ว! ดูนั่นเร็ว! นั่นมันแมลงเทพเจ้าไม่ใช่รึ
ไง!?”
“ว่าไงนะ! ไม่จริงน่า เป็นไปไม่ได้!!”
…
และตอนนี้เอง หลี่หงจวินที่อยู่ในหน้าจอพลันกล่าวออกมา
“ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า นั่นคือเทพเจ้าแมลง
ท่านเป็นความหวังของมนุษย์ชาติ ผมว่าท่านไม่สมควรต้องมา
พลาดท่าเสียทีอะไรที่นี่ รีบออกจากที่นี่แล้วมุ่งหน้าไปเมืองแห่ง
ความหวังก่อนเถอะครับ! ที่นั่นมีคนที่สามารถช่วยท่านได้! ไปที่
นั่นผมรับรองได้เลย ว่าศักยภาพและความสามารถของท่านจะ
ถูกปลดปล่อยออกมาถึงขีดสุด!!” หลี่หงจวินที่ได้รับสายด่วน
จากเบื้องบนรีบกล่าวออกมา ในความเห็นของมันเองคนที่ทรง
พลังแบบนี้ก็ไม่ควรมาตายที่นี่เช่นกัน ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ชัย
ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดวันนี้ไม่ใช่การฆ่าราชันแมลง แต่เป็นความ
อยู่รอดของบุรุษผู้นี้!! (53380)
ทว่าประโยคล่าถอยนี้เป็นดั่งค้อนที่ตอกลงกลางหัวมนุษย์ทุกคน
ที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่
คนในเมืองแสงดารายังเริ่มร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว
ตอนแรกทั้งหมดคิดว่ามีหวังแล้ว แต่ทว่าความหวังดังกล่าว
กาลังจะจากไป! ถ้าชายคนนั้นจากไปผลลัพธ์เดียวที่พวกมัน
ทั้งหมดจะได้รับก็คือ…ความตาย!!
“อย่าทิ้งเรา! พวกเราไม่อยากตายที่นี่!!”
…
แม้จะมีคนกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว แต่สาหรับคนที่มีสติ
และความคิดบางคนก็เข้าใจมุมมองของหลี่หงจวินและเบื้องบน
ทั้งหมดทาถูกแล้ว…ตอนนี้มนุษย์โลกมีคนที่ทรงพลังระดับนี้แค่
ไม่กี่คนเท่านั้น การเสียคนแบบนี้ไปสักคนนับเป็นเรื่องใหญ่
หลวงของมวลมนุษย์ชาติ!!
ทว่าทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มที่ยืนเอามือไพร่หลังในหน้าจอพลัน
กล่าวออกมา..!
“จะยุ่งยากทาเพื่อ? นั่นไม่ใช่แค่แมลงเทพเจ้ารึไง? แค่แมลง
กระจิ๊ดริดกระจ๊อยร่อยเหม็นๆ ก็เท่านั้น..”
ตอนที่ 873 : ทาลายล้าง! ราบพนาสูร!!
อหังการ…ช่างอหังการข่มขวัญผู้คนมากเกินไปแล้ว!!
มนุษย์ที่ยังรอดชีวิตอยู่บนโลกนั้น…สาหรับสภาพความเป็นอยู่
ในสถานการณ์หม่นๆอย่างทุกวันนี้ ยังจะเคยมีใครได้ยินวาจา
อหังการเหนือชั้นแบบนี้ด้วยหรือ?
แค่แมลงเทพเจ้า?
แค่ หรือ!? ให้ตายเถอะ! เทพเจ้าแมลงนั่นมันร้ายกาจเสียจน
มนุษย์โลกไม่สามารถทาอะไรมันได้เลยนะ! เรียกได้ว่าหากเมือง
ไหนเป็นเป้าหมายของเทพเจ้าแมลง ชะตากรรมเดียวที่รอคอย
เมืองนั้นอยู่ก็คือ…ล่มสลาย!
แต่ไม่คิดไม่ฝันเลย ว่าแมลงเทพเจ้าในสายตาชายลึกลับนั่น
กลับเป็น แค่แมลงเทพเจ้า!
พวกมันไม่รู้ว่าชาบลึกลับผู้นี้…จะอหังการขู่ขวัญผู้อื่นไปให้
มากกว่านี้อย่างไรแล้ว!
“เฮ่อ…”
หลินฟ่านถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ก็ยังงี้ล่ะน้า…
มุมมองของคนที่มีจุดยืนต่างกันน่ะ มันก็เป็นอะไรที่เอามาเทียบ
กันไม่ได้อยู่แล้ว! สาหรับคนๆหนึ่งเมื่อได้อยู่ในจุดที่สูงขึ้น
มุมมองเรื่องราวก็ย่อมต่างออกไปจากคนในระดับธรรมดา…
สาหรับไอแมลงเทพเจ้าที่อยู่ตรงหน้าเขาอะไรนี่ เขาสามารถฆ่า
มันได้มากกว่าแสนรอบด้วยการขยิบตาครั้งเดียว!!
ตึงงงงง!!!
ตอนนี้เองแมลงเทพเจ้าก็เริ่มขยับขาก้าวเดินออกมา.. เพียง
หนึ่งก้าวก็ทาให้ปฐพีสะท้านสั่นไหวครืนๆ!
ในสายตาของมวลมนุษย์ชาติ แมลงเทพเจ้าคืออะไรที่อยู่ยงคง
กระพันไร้เทียมทาน! แค่มองร่างมันครั้งเดียวก็มากพอจะทาให้
เซลประสาทในร่างกายถูกทาลายแล้ว!!
“มนุษย์บัดซบ!”
ทันทีที่แมลงเทพเจ้าเปิดปากกล่าวคา แมลงจานวนนับไม่ถ้วนก็
กรูกันทะลักออกมาจากปากของมัน และหากมองลงไปให้ชัด
ภายในปากของแมลงเทพเจ้านั้น…มันมีแมลงที่คุ้นตาเคยเห็น
อาศัยอยู่นับไม่ถ้วน!
เสียงกล่าวอันแหลมคมดั่งท่วงทานองของปีศาจนี้ ยาพาให้ทุก
ผู้คนที่ได้ฟังรู้สึกร่างสะท้านป่วนปั่นขึ้นมาทันใด!
“เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้ฆ่าคนของข้า!” แมลงเทพเจ้าแผดคา
ออกมาสนั่น คาที่มันกล่าวยังเปล่งคลื่นเสียงความถี่สูงท รุนแรง
เสียจนเมฆทั่วฟ้ากระจัดกระจายสลายหาย!
ณ เมืองแห่งความหวัง…
“ท่านผู้บัญชาการครับ พวกเราตัดสัญญาณการถ่ายทอดสด
ตอนนี้เลยไม่ดีกว่าเหรอครับ?” ตอนนี้เจ้าหน้าที่ๆคุมการส่ง
สัญญาณภาพจากดาวเทียมพลันกล่าวถามออกมาด้วยความ
ลังเล… ในสายตาของมันภาพที่กาลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้ไม่ควร
ออกอากาศสด…!
ถึงแม้ว่าชายลึกลับคนนี้จะแข็งแกร่งมาก แต่เขาไม่น่าจะสู้กับ
แมลงเทพเจ้านั่นได้เลย!
ถึงแมลงเทพเจ้าจะไม่ได้ปรากฏตัวออกมาบ่อยครั้ง แต่ชื่อเสียง
อันร้ายกาจของมันก็เป็นที่รู้จักกันดีในวงกว้าง…
มันเป็นความรู้สึกหวาดกลัวที่ฝังใจ! ยากจะมีใครขจัดออกไป
จากใจได้!
“พวกเรารอดูไปก่อน…” หน้าของผู้บัญชาการนั้นเคร่งเครียด
ไม่น้อย ตอนนี้คนที่รู้สึกกดดันมากกว่าใครก็คือมันนี่ล่ะ!
สายตาของตัวตนทรงพลังมากมายบนโลกก็จับจ้องไปยังฉากใน
หน้าจออย่างไม่วางตาเช่นกัน
“แมลงเทพเจ้านี่มันมีพลังอานาจไร้คู่เปรียบ! ถึงชายลึกลับคนนี้
จะแข็งแกร่ง แต่ไม่มีทางที่เขาคนเดียวจะสู้กับไอ้แมลงเทพเจ้า
นั่นได้เลย…”
“บ้าเอ๊ย! แล้วนี่ไอพวกทหารโง่นั่น มันมัวไปทาห่าอะไรกันอยู่
วะ! คนที่มีพลังถึงขั้นฆ่าราชันแมลงได้! ไม่ควรถูกทิ้งให้ตาย
แบบนี้!!”
“เมืองแสงดาราไม่เหลือความหวังอะไรแล้ว…”
ตอนนี้ทุกคนล้วนเผชิญกับภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในใจ แม้
ทั้งหลายไม่อยากจะทนรับเรื่องราวร้ายๆอะไร แต่ทั้งหมดก็
พยายามจับตามองเรื่องราวอย่างไม่ให้คลาดสายตา…
ส่วนหลินฟ่านนั้น ก็เผชิญหน้ากับทุกสิ่งทุกอย่างเพียงลาพัง ถึง
จะเป็นแมลงที่มีจานวนมากมายปานจะไร้ที่สิ้นสุดก็ตาม แต่ต่อ
หน้าเขาพวกมันยังไม่นับเป็นอะไรในสายตา…
และตอนนี้หากจะถามว่าในบรรดาร้อยพันชนเผ่าผู้คนที่โลก
ไหนใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างยากลาบากที่สุด ก็เห็นทีจะเป็นโลก ณ
ตอนนี้นี่ล่ะ…
วู้มมมมม!!!
ทันใดนั้น อากาศเริ่มปั่นป่วน ความว่างเปล่าเริ่มปริฉีก
แมลงเทพเจ้าอ้าปากน่ากลัวของมันออกกว้าง คล้ายกับหลุมดา
ก่อเกิด มวลพลังน่าพรั่นพรึงจะเริ่มถูกดึงดูดมาควบรวมสะสม
ขึ้น กลางปากของแมลงเทพเจ้าปรากฏบอลพลังงานสีดาทมิฬ!
บอลพลังดังกล่าวยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังทาลายล้างอันไร้
สิ้นสุด!!
ราวกับพลังงานทั้งโลกหล้าจะถูกมันควบรวมมาก่อเกิดเป็น
บอลพลังทาลายล้างนี่…!
“บ้าเอ๊ย! นั่นมันบอลพลังงานทาลายล้างของแมลงเทพเจ้า!!”
เมื่อหลี่หงจวินเห็นภาพนี้ ใจมันก็สั่นสะท้าน นั่นคือท่าไม้ตาย
ของแมลงเทพเจ้า!!
ในอดีตนั้นเมืองใหญ่ทั้งเมืองกลับต้องถูกทาลายล้างจนพินาศ
ถึงกาลอวสาน ด้วยบอลพลังงานทาลายล้างของแมลงเทพเจ้า
นั่น! สรรพสิ่งล้วนแหลกสลายเป็นธุลี! ไม่ว่าการป้องกันของ
มนุษย์จะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไร้หนทางต้านรับเลย!!
“จบแล้ว…! เมืองแสงดาราจบสิ้นแล้ว! จบสิ้นกันแล้ว!!”
“แมลงเทพเจ้าเปรตนั่นมันแกร่งเกินไป! มนุษย์อย่างเราๆจะ
เอาห่าอะไรไปสู้มันได้วะ! ระยาเอ๊ย!! นี่แม่งเป็นบททดสอบของ
ท่านรึไงวะ พระเจ้า!!” คนมากมายกรีดร้องทั้งสบถด่า บ้างก็ตัด
พ้อต่อโชคชะตา ภายใต้พลังอานาจอันสูงสุดของแมลงเทพเจ้า
พวกมันไม่เหลือใจจะต้านทานสืบไป…
เหล่านักรบฝึกหัดในสถาบันยุทธ์ทั้งหลายล้วนจับมือกันแน่น ไม่
รู้ว่าดังมาจากที่ไหน…แต่อยู่ๆก็มีเสียงสาวน้อยหนึ่งกรีดร้องดัง
ขึ้น
“พี่ชายลึกลับ…หนูขอให้พี่โชคดีนะคะ!!”
เมื่อมีคนเริ่มก็ยอมมีคนตาม นักรบฝึกหัดทั้งหลายเริ่มตะโกนร่า
ร้องส่งเสียงให้กาลังใจออกมา
“โชคดีพี่ท่าน! ขอให้ฟ้าคุ้มครอง!!”
“เหอะ! ไอเจ้านั่นน่ะ…มันไม่เหลือความหวังจะรอดแล้วล่ะ…
แมลงเทพเจ้ามันเป็นถึงตัวตนที่อยู่เหนือระดับ SSS ไปอีก …มัน
ถือเป็นเทพเจ้าของพวกแมลงไปแล้ว…” ชายคนหนึ่งกล่าว
ออกมา แม้ใบหน้าของมันจะขลาดกลัว แต่ตอนมันพูดกลับเผย
รอยยิ้มเยาะเย้ยทั้งท่าทางหยิ่งผยองออกมา
มันเป็นอัจฉริยะลาดับต้นๆของสถาบันแห่งนี้ ในยุคที่วุ่นวาย
แบบนี้เป็นช่วงเวลาที่เหล่าอัจฉริยะจะผงาดขึ้นมา!
คราวนี้เมื่อมันเห็นว่าชายหนุ่มลึกลับนั่นอายุอานามก็แลดู
เท่าๆกันกับมัน แต่พลังที่อีกฝ่ายครอบครองอยู่กับเหนือล้า
นาหน้ามันไปไกล! มันเลยอดไม่ได้ที่จะอิจฉาและริษยา
ออกมา…!!
ฟุ่บ! ขวับ!!
ทันทีที่ชายคนนี้กล่าวจบคา เรียกว่าทุกผู้คนโดยรอบล้วนหัน
ขวับมาจับจ้องมันตาขวางทันใด ในแววตาทั้งหมดล้วนเต็มไป
ด้วยความเกลียดชังอันไร้สิ้นสุด “หุบปากไปเลยไอห่านี่! ไม่พูด
สักคาพ่อแกก็ไม่ด่าว่าเป็นใบ้หรอกไอ้ชิบหาย! พี่เค้ามันระดับ
วีรบุรุษของมนุษย์ชาติ! แกอาศัยห่าอะไรมาสะเออะพูดแช่งพี่
เค้าแบบนั้นวะ!!”
“ไอสวะเอ๊ย! ที่แท้เป็นข้ามองเอ็งผิดไปมาตลอด! ไอชาติหมา!!”
“แม่ง สันดารถ่อยแบบนี้หรอวะ อันดับ 1 ของสถาบัน! ไอถ่อย
รกโลกเอ๊ย! ไสหัวออกไปตายให้แมลงแดรกไป๊!”
เรียกได้ว่าทุกถ้อยคาด่าทอสาปแช่งโคตรเหง้าบรรพบุรุษล้วน
กระหน่ามาที่ไอหนุ่มปากหมานั่นทันใด…
นอกเมืองแสงดารา…
ตอนนี้มวลพลังทรงกลมสีดาทมิฬของแมลงเทพเจ้ายิ่งมายิ่ง
ใหญ่โต แววตาของหลี่หงจวินก็ทอประกายพรั่นพรึงออกมา
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ไปเผชิญหน้ารับมืออะไรกับแมลงเทพเจ้า
ตรงๆ แต่ปริมาณพลังงานที่อัดแน่นสะสมในบอลพลังทาลาย
ล้างนั่น ก็มากพอที่จะทาให้มันรู้สึกหวาดกลัวจับใจ
น่าพรั่นพรึง..นี่มันเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัวเกินไป!!
“ไอพวกมนุษย์ดั่งมดปลวก…ไปลงนรกเสีย!!”
ซู่มมมมมมมมมม!!!!!!
บอลแสงสีดาทมิฬอันอัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายทาลายล้าง! พุ่ง
ออกจากปากแมลงเทพเจ้าด้วยความฉับไว! ระยะทางหด
หายไปในเสี้ยวพริบตา!!
วินาทีนี้คล้ายคลื่นลมของโลกหล้าป่วนปั่น ฝุนเมฆกาจายปลิด
ปลิวออกไปทุกทิศทาง ราวกับทั้งพิภพกาลังจมจ่อมอยู่ในความ
มืดมิด พลังอานาจมหาศาลน่าพรั่นพรึงนี้ทาให้ทุกผู้คนสะท้าน
ไปถึงแก่นกาย
“จบสิ้นกันแล้ว” หลี่หงจวินมองเรื่องราวเบื้องหน้าด้วยสายตา
สิ้นหวัง ตอนนี้ไม่ว่าใดๆก็ล้วนสายไปแล้ว…
มุมปากหลินฟ่านขดยิ้มขึ้นมา ภายใต้ทุกสายตาที่รับชมอยู่ของ
ทั้งโลก เขาค่อยๆยกมือขึ้นมาพร้อมใช้ 1 นิ้วสะกิดอากาศเบื้อง
หนาเบาๆ
เปรี๊ยงงงงง!!!!
“อ่อนแอ…อ่อนแอเหลือเกิน”
หลินฟ่านกล่าวออกมา
“นิ…นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?!”
หลี่หงจวินรู้สึกตะลึงงันกับภาพเรื่องราวเบื้องหน้า สีหน้ามันทา
เหมือนกับพึ่งได้เห็นบางสิ่งที่น่าตะลึงถึงที่สุด มนุษย์ทุกคนบน
โลกที่ดูหน้าจอถ่ายทอดสดอยู่ก็เหวอค้างไปราวกับมีรากงอก
เงย!
“นะ…นิ้วเดียว!? นิ…นี่?!”
เป็นเพียงนิ้วที่ชี้ออกมา 1 นิ้วแบบไร้เรื่องราว ทว่า 1 นิ้วนี้ของ
หลินฟ่านกลับหยุดบอลพลังทาลายล้างของแมลงเทพเจ้าได้
อย่างสมบูรณ์!!
เวลาไหลผ่านไปอย่างเงียบงัน!
บอลพลังทาลายล้างสีดาทมิฬที่พยายามพุ่งดัน 1 นิ้วของหลิน
ฟ่านในที่สุดก็สิ้นสูญพลังไปเรื่อยๆจนสลายหาย ใบหน้าของ
แมลงเทพเจ้าจมจ่อมไปด้วยความหวาดกลัวถึงขีดสุด เมื่อเห็น
ว่ามนุษย์ผู้นั้นยังคงยืนสบายๆอยู่เบื้องหน้า ร่างไม่สะท้านไป
แม้แต่องคุลี…มันถึงกับต้องกรีดร้องขู่ข่มออกมาตาม
สัญชาตญาณดังสนั่นลั่นโลก
“ขะ…แข็งแกร่งโคตร!”
หลังจากที่ทุกผู้คนเงียบไปพักใหญ่ ไม่นานเสียงเชียร์สนั่นพลัน
ดังกึกก้องออกมาลั่นปฐพี! ในสายตาของมนุษย์ชาติทั้งโลกเรื่อง
นี้มันช่างอัศจรรย์เหลือเกิน!!
ไม่คิดเลยว่าแม้แต่ตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุดอย่างแมลง
เทพเจ้ายังไม่อาจฆ่าเขาได้! กระทั่งเขายังใช้นิ้วเดียวหยุดยั้ง
บอลพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวนั่นไว้ได้อย่างง่ายดาย! นี่คืออะไร
ที่มันเหนือชั้นเกินไปในสายตาของมนุษย์ทั้งโลก!!
หลินฟ่านเผยยิ้มไม่แยแส ก่อนที่จะเหินร่างลงมาจากด้ามกระบี่
พลังเล่มเขื่อง…
ตอนนี้มนุษย์ทั้งโลกที่รับชมอยู่ล้วนกลั้นหายใจ ด้วยลุ้นระทึกว่า
ท่านมหาเทพชุดขาวที่แสนลึกลับนั่นคิดจะทาอันใดสืบต่อ
กระทั่งหลี่หงจวินเองยังนิ่งค้างไปไม่ต่าง มันจับจ้องมองไปยัง
ร่างหลินฟ่านเขม็ง ราวกับทุกการกระทาและการเคลื่อนไหว
ของหลินฟ่านจะส่งผลกระทบต่อผู้คนทั้งโลก
“เทพเจ้าแมลงงั้นเหรอ? เหอะๆ กระทั่งบรรพบุรุษแมลงอะไร
นั่นยังถูกข้าประมุขสอยดับไปแล้วเลย” ทันทีที่ปลายเท้าของ
หลินฟ่านกระทบพื้นดิน บางสิ่งที่ทาให้ผู้คนต้องตะลึงพลัน
อุบัติ!
ดั่งมีเท้าของเขาเป็นจุดศูนย์กลาง มวลพลังไร้สภาพดั่งคลื่น
กระแทกทาลายล้าง พลันกาจายออกมาฉับไว แผ่ขยายออกไป
เป็นวงกว้างทรงกลมทุกทิศทาง!! (53380)
มันยังขยายไปคลุมคอรบแมลงทุกตัวที่มาปิดล้อมเมืองแสง
ดาราวันนี้…!
เปรี๊ยงงง!!
เปรี๊ยงงง!!
ทันใดนั้นภาพเหตุการณ์เขย่าขวัญอันน่าพรั่นพรึงที่สุดในโลก
พลันบังเกิดขึ้น
ราวกับทั้งหมดทั้งมวลถูกพลังมหาศาลบีบอัด ร่างของเหล่า
แมลงทั้งมวลเริ่มแตกระเบิดออกมา! ก่อนที่มันจะถูกอานาจ
พลังป่นจนกลับกลายเป็นละอองธุลี สุดท้ายก็ถูกลมพัดปลิว
หายในสวรรค์และโลก…
คลื่นทัพแมลงมลายที่น่าหวั่นหวาด กลับสลายหายไปในชั่ว
พริบตา ตอนนี้สิ่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ก็มีแต่เทพเจ้าแมลง
เท่านั้น…
ตอนนี้ทุกผู้คนราวกับจะถูกแช่แข็งไปแล้ว…
อา…!!
สมองเบลอ…ว่างเปล่า ตอนนี้ไม่มีใครคิดอ่านอะไรออกทั้งสิ้น
ทุกอย่างมันวิ๊งๆไปหมด
เรียกว่ามนุษย์โลกทั้งหมดที่ได้ดูเรื่องราวบนจอใหญ่ไม่ว่าจะอยู่
ที่ไหนล้วนตะลึงอึ้งไปทั้งนั้น สายตาทั้งหลายพร่าเลือนล่องลอย
ร่างแข็งไป ราวกับพวกมันจับต้นชนปลายเรื่องราวอะไรไม่ถูก
ด้วยทั้งหมดทั้งมวลอยู่ๆก็ประดังออกมาเปรี๊ยงเดียว…!
ตอนที่ 874 : พิฆาตสิ้นทุกสิ่งอย่าง!
“เอ่อ…นี่มันเรื่องจริงหรือความฝันวะเนี่ย…นี่เฮียกาลังฝันอยู่
ใช่มั้ย?”
“โอ๊ยเจ็บ! เฮียอ่ะ! จะหยิกก็หยิกตัวเองสิมาหยิกหนูทาเพื่อ?! นี่
ไม่ใช่ความฝันแล้วเฮีย! นี่เรื่องจริง!!”
“เป็นไปได้ยังไงกัน?! แล้วไอพวกแมลงเวรนั่นมันหายไปไหนกัน
หมดแล้ว? ไหงอยู่ๆพวกมันถึงได้หายจ้อยไปในพริบตาแบบนี้
ล่ะ!?”
ตอนนี้ทุกผู้คนกาลังอื้ออึงกันอย่างสมบูรณ์ คลื่นทัพแมลงที่
มากมายมหาศาลนับสิบๆล้านกลับหายเกลี้ยงไปในเวลาแค่
พริบตาเดียว ตอนนี้จะเหลือแก็แต่แมลงเทพเจ้าที่ยืนหัวโด่อยู่
เท่านั้น…นี่เป็นอะไรที่เขย่าขวัญผู้คนนัก!
ณ เมืองแห่งความหวัง…
ผู้บัญชาการมองหน้าจอด้วยสายตาเหม่อลอย ร่างแข็งค้างไป
ไม่ไหวติง “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ใครบอกผมได้บ้าง!?”
จนถึงตอนนี้มันยังไม่เข้าใจว่าอยู่ๆมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ใครจะ
ไปนึกฝันว่าอยู่ดีๆทัพแมลงจะอันตรธานหายแว๊บไปแบบนั้น!
“ท่านผู้บัญชาการครับ! ถึงกล้องความเร็วสูงสุดของพวกเราจะ
จับภาพไม่ทัน แต่มาตรวัดพลังงานของพวกเรา ตรวจพบว่า…
เมื่อครู่มีพลังงานมหาศาลปะทุขึ้นมาวูบนึง ก่อนที่แมลงทั้งหมด
จะถูกทาลายจนสลายเป็นฝุุนครับผม!!”
“การหายไปของทัพแมลงต้องเกี่ยวของกับชายหนุ่มลึกลับคน
นั้นแน่นอน! ผมคาดว่าน่าจะเป็นเขาที่ลงมือกาจัดพวกมันครับ
ท่าน!!”
รองผู้บัญชาการกล่าวตอบ
ตอนนี้ทุกผู้คนในศูนย์บัญชาการหลักถึงกับตะลึงงันนิ่งค้างร่าง
แข็งกันไปหมด “เรื่องแบบนั้นมันเป็นไปได้ด้วยหรอ…กองทัพ
แมลงตะกี้มันเป็นสิบๆล้านเลยนะ ต่อให้เขาแข็งแกร่งแค่ไหน ก็
คงไม่น่าจะกวาดล้างพวกมันได้ในพริบตาแบบนี้หรอกมั้ง?!”
“แล้วถ้าไม่ใช่เขา พวกเราจะอธิบายเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นได้ยังไง?!”
ตอนนี้เรียกว่าเหล่าผู้ที่มีอานาจระดับสูงของทุกเมืองกาลังอ้า
ปากค้างหน้าจอใหญ่เช่นกัน แต่สาหรับประชาชนจานวนนับไม่
ถ้วนนี่คือช่วงเวลาแห่งความดีใจ!
“โอ้ววววววว!!!”
“ไอพวกแมลงนั่นถูกทาลายไปหมดแล้ว!!”
“แข็งแกร่ง! เขาจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!!”
“ให้ตายเถอะ! นี่เขาเป็นใครมาจากไหนกันแน่! เขามีพลัง
มหาศาลขนาดนี้ได้ยังไง!?”
“นั่นคือผู้ปลดปล่อย! ผู้ปลดปล่อยจุติจากสวรรค์ลงมาโปรด
มวลมนุษย์อย่างเราๆแล้ว!!”
…
ประชาชนจานวนนับไม่ถ้วนล้วนระเบิดความปิติยินดีออกมา
จากใจ ตอนนี้ทั้งหมดรู้สึกหัวใจเต้นแรงจนแทบจะกระดอนออก
ลาคอ! เรื่องนี้สร้างความเบิกบานให้พวกมันมากเกินไป!!
มวลมนุษย์ชาติต้องอดทนต่อการกดขี่ข่มเหงอย่างไร้สิ้นสุดจาก
พวกแมลงมานาน! ทว่าภาพเรื่องราวตรงหน้านี้ กลับทาให้ผู้คน
ทั้งโลกล้วนสัมผัสได้ถึงความหวังที่กาลังเบ่งบานในใจ!!
หลินฟุานเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยสองมือกลับมาไพร่หลัง หนึ่งก้าว
ที่ย่าออกส่งร่างอันตรธานหายวูบไปโผล่เบื้องหน้าแมลงเทพเจ้า
ในทันใด!
ราวกับมันไม่อาจทาใจเชื่อเรื่องราวที่พึ่งอุบัติขึ้นต่อหน้าต่อตา
ได้ เทพเจ้าแมลงถึงกับผงะถอยหลังไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อ
เห็นมนุษย์มาโผล่เบื้องหน้า
ส่วนหลินฟุานที่วูบร่างมานั้น.. ก็ค่อยๆย่างเท้าก้าวเดินไปด้วย
อริยาบทสบายๆ เมื่อเดินมาถึงเทพเจ้าแมลงที่ตัวสั่นเขาก็เงย
หน้าขึ้นไปมองมัน
“เทพเจ้าแมลง…”
ถึงแม้ว่าน้าเสียงหลินฟุานจะสงบราบเรียบ แต่นับเป็น
ท่วงทานองอันน่าสยดสยองสาหรับเทพเจ้าแมลงอย่างแท้จริง!
เทพเจ้าแมลงร้อยพันหมื่นคาดก็ไม่เคยคิด! ว่ามนุษย์เบื้องหน้า
ของมันจะแข็งแกร่งถึงระดับนี้! สามารถทาให้ลิ่วล้อของมันร่าง
สลายกลับกลายเป็นธุลีได้หมดสิ้นในชั่วพริบตา ทั้งยังกระทาต่อ
หน้าต่อตามัน! มันย่อมกระจ่างกว่าผู้ใดเพราะสัมผัสได้ถึงความ
เชื่อมโยงกับทัพแมลงที่ขาดสะบั้นลงอย่างพร้อมเพรียงในชั่ว
พริบตา!!
“มะ…มนุษย์…” น้าเสียงของเทพเจ้าแมลงแหบพร่าทั้งสั่นเครือ
ไปอย่างชัดเจน ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวแฝงอยู่ในนั้น
ถึงแม้ตัวมันจะเป็นถึงเทพเจ้าแมลงแต่ยามที่ต้องมาเผชิญหน้า
กับมนุษย์ตัวกระจ้อยดั่งมดปลวก มันก็รู้ดีแก่ใจว่าในเผ่าพันธุ์
แมลงแล้วตัวมันก็ยังเป็นได้แค่ตัวตนกระจ้อยร่อยเท่านั้น…
เนื่องเพราะโลกใบนี้มันมีข้อจากัด ทาให้ตัวตนที่ทรงพลังใน
เผ่าพันธุ์แมลงไม่อาจผ่านม่านพลังเข้ามาได้ สุดท้ายมันจึง
กลายเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกใบนี้ มันจึงเป็นดั่งพระ
เจ้าของโลกใบนี้…
ทว่าตอนนี้มนุษย์หน้ามันกลับเป็นตัวตนที่ดุร้ายเหนือกว่าที่มัน
จะคิดคาดจินตนาการได้!!
แข็งแกร่ง! แข็งแกร่งเกินไป! อีกฝุายทรงพลังถึงขั้นที่มันไม่อาจ
สู้กลับได้เลย!!
ตอนนี้เทพเจ้าแมลงคิดร่าไห้งอแงแล้ว…แม้มันอยากจะทาตัวดุ
ร้ายข่มขู่ว่าจะเคี้ยวกลืนอีกฝุายอย่างไรแต่มันก็ไร้ความกล้า
อะไรทั้งสิ้น เพราะมันรู้ดีว่าอีกฝุายต้องทุบตีมันตายแน่!
หลินฟุานเพียงยืนตรงสองมือไพร่หลังเงยหน้ามองเทพเจ้า
แมลงอย่างเงียบงัน
ทันใดนั้นเองเทพเจ้าแมลงพลันสัมผัสได้ถึงมวลพลังมหาศาลที่
เริ่มกาจายออกจากร่างของมนุษย์เบื้องหน้า มันรีบคุกเข่าลง
คิดวิงวอนร้องขอความเมตตา!
ภายใต้สายตาตะลึงลานค้างไปราวตัวโง่งมของมวลมนุษย์ชาติ
เทพเจ้าแมลงกลับคุกเข่าลงร่างสั่นเทิ้มเบื้องหน้าชายลึกลับผู้
นั้น!!
“หึ!”
หลินฟุานแสยะยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ทันใดนั้นเองเทพเจ้า
แมลงก็ชักสีหน้าซีดกลัว! ด้วยพบว่ามีพลังงานมหาศาลขุมหนึ่ง
กาลังพุ่งใส่มัน!!
เปรี๊ยงงงงงง!!!!
เพียงเวลาแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น แมลงเทพเจ้าที่เป็นดั่งแผลลึก
ฝังใจมนุษย์ชาติก็แหลกสลายกลับกลายเป็นละอองธุลี…
“พะ…พวกเราชนะแล้ว..!”
เมื่อหลี่หงจวินได้เห็นภาพเรื่องราวเบื้องหน้ามันก็สัมผัสได้ถึง
หัวใจที่เต้นแรงดังลั่น มันไม่อาจทนไหวสืบไป คนตะโกน
ออกมาเสียงดังลั่น! เทพเจ้าแมลงตายแล้ว! ไม่คิดไม่ฝันว่าเทพ
เจ้าแมลงนั่นจะตายไปแล้วจริงๆ!!
มนุษย์มากมายนับไม่ถ้วนที่ดูหน้าจออยู่ก็กู่ร้องออกมาสุดใจ
ตอนนี้ในใจพวกมันรู้สึกตื่นเต้นเหลือใดจะกล่าว!
ด้านหลินฟุานพอได้ยินเสียงโห่ร้องดีใจกระหึ่มออกมาจากเมือง
แสงดาราก็ส่ายหัวไปมาพร้อมยิ้มบางๆ ท่าทางทุกคนจะมี
ความสุขกันจริงๆ…
ทันใดนั้นหลี่หงจวินก็เหินร่างมาหยุดเบื้องหน้าหลินฟุานก่อนที่
จะมองมาด้วยสายตาเคารพนับถือ “ท่านราชันแห่งมวลมนุษย์
ผู้ถล่มมารดาเจ้า…”
“อืม”
หลินฟุานพัยกหน้ารับคา ก่อนที่จะชี้นิ้วออกมา
ทันใดนั้น ทั้งโลกก็คล้ายจะแปรเปลี่ยนไป…
“นั่นเขากาลังทาอะไรน่ะ!?”
ใจทุกคนล้วนคิดดุจเดียวกัน พวกมันไม่รู้ว่ามหาวีรบุรุษของ
มวลมนุษย์ชาติผู้นี้กาลังทาอะไร
ทว่าทันใดนั้นเองบางสิ่งที่น่าตื่นตระหนกพลันอุบัติขึ้น
โลกทั้งโลกคล้ายจะเต็มไปด้วยเจตกระบี่! ราวกับตอนนี้โลก
มนุษย์ได้กลายเป็นโลกแห่งกระบี่!!
เจตกระบี่แฝงเจตจานงอันไร้คู่เปรียบผุดโผล่ขึ้นกลางอากาศ
เล่มแล้วเล่มเล่า จานวนมันมหาศาลปานจะประชันกับดวงดาว
เป็นภาพที่น่าเกรงขามเขย่าใจทุกผู้คนนัก เหล่ามนุษย์ผู้ฝึกตนที่
ฝึกปรือแสวงหาเต๋าแห่งกระบี่ พวกมันรู้สึกร่างสะท้านไปทันใด
เมื่อเห็นภาพนี้!!
ในสายตาของพวกมันยามนี้ หนึ่งร่างที่อยู่ในหน้าจอหาใช่ใดอื่น
นอกจากเทพกระบี่ไม่! เปรียบกับเจตกระบี่จานวนมหาศาลปาน
จะไร้จากัดแล้ว พวกมันไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อยหัดเล่นกระบี่สัก
เพียงนิด!!
“ไม่คิดเลยจริงๆว่าไอเผ่าพันธุ์แมลงเวรนั่น จะสร้างความ
เสียหายให้กับโลกได้มากมายขนาดนี้ พวกมันไม่สมควรได้อะไร
อื่นอีกนอกจากความตาย!!”
หลินฟุานพลันกระดิกนิ้วคราหนึ่ง ทันใดนั้นเจตกระบี่เกลื่อนฟูา
พลันแยกย้ายพุ่งทะลวงความว่างเปล่ากระจัดกระจายออกไป
ทั่วทุกสารทิศ!!
บางเมืองที่กาลังเผชิญหน้ากับการรุกรานของทัพแมลง… เหล่า
ทหารหาญและนักรบมนุษย์ที่กาลังดิ้นรนเอาชีวิตรอด บ้าง
กาลังสู้ปะทะรับมือ…มีบ้างที่กาลังเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า บ้างก็
คิดว่าชีวิตต้องถึงกาลสิ้นสุดลงวันนี้แล้ว
บางคนก็หลงเหลือแต่เพียงความสิ้นหวังที่กัดกินในใจ
ทว่าทันใดนั้นเองความว่างเปล่าพลันสั่นสะเทือน ก่อนอากาศ
จะปริแตกแยกออก ปรากฏกระบี่พลังดั่งแก้วใสพุ่งทะลวง
ออกมาจากที่ไหนไม่ทราบ เสียบร่างแมลงก่อนที่จะระเบิดปุน
ร่างแมลงทั้งหลายให้กลับกลายเป็นความว่างเปล่า…เพียงเวลา
แค่ชั่วพริบตา…แมลงนับไม่ถ้วนทั่วโลกถูกพิฆาตดับสิ้น!!
ตอนนี้ทุกผู้คนที่กาลังรบล้วนอึ้งด้วยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่
เข้าใจว่าไฉนแมลงร้ายที่คิดคร่าชีวิตตัวกลับกลายเป็นปุ๋ยไปเสีย
อย่างนั้น…
มีเมืองจานวนนับไม่ถ้วนที่กาลังประสบปัญหากับการรุกราน
ของชนเผ่าแมลง และเรื่องราวทานองนี้ล้วนบังเกิดขึ้นอย่าง
พร้อมเพรียง!
แมลงที่แข็งแกร่งที่กาลังซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลก บ้าง
กาลังวางแผนล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ บ้างกาลังสนทนาถึงเรื่องที่จะ
กระทาหลังจากนี้ บ้างกาลังหยิบร่างมนุษย์มาเคี้ยวกลืน…
อนิจจาไม่มีแม้แต่ที่เดียวที่มวลอากาศไม่สั่นไหว อยู่ดีๆอากาศ
เหนือศีรษะพวกมันกลับปริแตกแยกออก ก่อนที่เจตกระบี่ทรง
พลังจะส่งตรงถึงกลางกระหม่อมพวกมันปานเดลิเวอร์รี่ พิฆาต
สิ้นอย่างไร้หนทางดิ้นรน…
ในสายตาหลินฟุานตอนนี้ โลกใบนี้ก็แค่ดาวเคราะห์ดวงเล็กๆ
เท่านั้น เพียงแค่ชั่วลมหายใจเดียวสติสานึกเขาก็แผ่ขยายไป
หยั่งรู้ถึงทุกสิ่งบนดาวแล้ว
แม้จะเป็นการเคลื่อนไหวที่เล็กน้อยเพียงใด ไม่ว่าจะมีมดตัว
กระจิ๊ดริดกาลังขนขนมอยู่ในซอกไหน ล้วนไม่อาจรอดพ้นการ
รับรู้ของหลินฟุานได้…!
ถึงแม้ว่าพวกแมลงจะมีปริมาณมหาศาลมากมายนับไม่ถ้วน แต่
พวกมันก็อ่อนแอถึงที่สุดในสายตาหลินฟุาน
เมื่อลงมือเสร็จสิ้น หลินฟุานก็หันไปยิ้มให้กับกล้อง เผชิญหน้า
กับคนทั้งโลก “เอาล่ะ ข้าประมุขคือราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่ม
มารดาเจ้า และตอนนี้ข้าก็พึ่งจัดการเก็บกวาดแมลงทั้งหลาย
บนโลกจนสะอาดเรียบร้อย…”
หลังจากกล่าวจบคาร่างหลินฟุานก็ค่อยๆลอยล่องขึ้นไปยัง
อากาศ
“ระ…ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า…!!”
หลี่หงจวินที่พึ่งได้สติ รีบตะโกนพร้อมลอยร่างติดตามไป…
ทว่าทันใดนั้นร่างหลินฟุานก็อันตรธานหายไปจากสายตาของ
มันเสียแล้ว…
สาหรับมวลมนุษย์ชาติทั่วโลก เรื่องราวนี้เหมือนดั่งฝันตื่น
หนึ่ง…
ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า
นี่เป็นนามที่ทุกผู้คนจะจดจาเอาไว้ในใจเสมอ
ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า ช่างเป็นราชันแห่งมวล
มนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าอย่างแท้จริง!! (53380)
ณ ศูนย์บัญชาการหลัก เมืองแห่งความหวัง…
“ขออนุญาตรายงานครับท่านผู้บัญชาการ! ตอนนี้มีสายเข้ามา
จากฐานบัญชาการของทุกเมืองที่ถูกแมลงรุกราน แมลงทั้งหมด
อยู่ดีๆก็ถูกกระบี่พลังพุ่งเสียบปุนร่าง..ศัตรูทั้งหมดถูกกาจัดแล้ว
ย้า! ขอยืนยันว่าศัตรูทั้งหมดถูกกาจัดแล้ว ครับผม!!”
“ท่านผู้บัญชาการครับ! ฐานปฏิบัติการตามจุดต่างๆก็รายงาน
มาลักษณะนี้เหมือนกันครับ!!”
“ท่านครับ! มาตรวัดคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากร่างพวกแมลงนิ่ง
ไปแล้วครับ! ตอนนี้บนโลกไม่พบคลื่นสัญญาณของพวกแมลง
แม้แต่ตัวเดียวครับท่าน!!”
เมื่อผู้บัญชาการได้ยินคารายงานที่ประดังเข้ามา มันก็ยืนเหวอ
แน่นิ่งหน้ามึนไปทั้งอย่างนั้น ไม่อาจฟื้นคืนสติได้อยู่นานสอง
นาน…
พวกแมลง…ถูกกาจัดหมดสิ้นไปแล้วจริงๆงั้นเหรอ?!
ท่านราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า..ที่แท้เป็นเทพเทวา
มาจากที่ไหนกันแน่!?
ส่วนทางด้านเจ้าตัวอย่างหลินฟุานนั้น…ตอนนี้เขาได้ดาดิ่งลง
มายังห้วงลึกแห่งเจตจานงของโลกแล้ว…!
ตอนที่ 875 : เทวะตํานานอันไร้ขอบเขตนั่น…ทั้งหมดเป็นเรื่อง
จริง!!
ฟู่ววว! ฟู่วววว!!!
“อะไรๆ!? เกิดอะไรขึ้นอีกวะเนี่ย!?”
ตอนนี้หลินฟ่านอึ้งไปกับเรื่องราวทั้งหมดที่ประดังเข้ามาอย่าง
ไม่ทันได้ตั้งตัว มารดามันเถอะ! ไม่ได้มีใครกาลังล้อเขาเล่นอยู่
ใช่มั้ยเนี่ย?
ทันใดนั้นภาพเบื้องหน้าที่เขาเห็นก็คือหลุมศพหลุมหนึ่งกาลัง
สั่นสะเทือน ก่อนที่มันจะพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า ดาดิ่งไปใน
ความว่างเปล่าอันไร้สิ้นสุด! หลินฟ่านเองก็อยากจะเอื้อมมือไป
แตะมัน แต่เขาก็ยั้งมือไว้ทันที ตอนนี้ใจเขารู้สึกแป้วแปลกๆ
เลยไม่กล้าลงมือลงไม้อะไรที่มันสุ่มเสี่ยง…
อีกทั้งหลุมฝังศพประหลาดเหล่านี้ยังปกคลุมไปด้วยพลังอันไร้
ขอบเขต! แค่กลิ่นอายพลังอย่างเดียวก็มากพอที่จะสั่นสะท้าน
หัวใจเขาแล้ว ตอนนี้หลินฟ่านบังเกิดความประหวั่นขึ้นมา หาก
ไอพวกในหลุมนั่นมันลุกขึ้นมาจริงๆ อีกฝ่ายอาจจะต่อยเขา
หมัดเดียวดับก็เป็นได้…!!
ฮูววววววววววว!!!!
ทันใดนั้นเองหลุมฝังศพอันน่ากลัวหลุมหนึ่งเบื้องหน้า ก็เริ่ม
ปล่อยหมอกควันสีดาออกมา…
พริบตานั้นเองปรากฏเงาร่างหนึ่งค่อยๆฉายขึ้นเหนือหลุมฝังศพ
ปีศาจแห่งความตาย ฉื่อเยี่ยน ของเผ่าพันธุ์โบราณ พิกลนัก..
เงาร่างดั่งภาพมายานี้กลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย!
มันเป็นร่างของตัวตนหนึ่ง มาในชุดคลุมลมสีดาคลุมหน้าและ
ร่างมิดชิด ในมือถือเคียวยมทูตยาวใหญ่สีดาทมิฬ…!!
รอบๆตัวเคียวคล้ายมีอัสนีสีดาแล่นวาบแปลบปลาบ ส่วนคม
มีดยังแผ่พุ่งกลิ่นอายแห่งความตายอันไร้ขอบเขตออกมาขุ่น
คลั่ก!!
เอื๊อก!
หลินฟ่านถึงกับต้องกลืนน้าลายดังเอื้อก! เพราะพลังที่สัมผัสได้
แม่งโคตรน่ากลัว! ไม่คิดเลยว่าแม้ตัวจะตายไปแล้วแต่กลิ่นอาย
พลังยังคงความน่าเกรงขามไว้ได้ถึงระดับนี้! นี่หากร่างจริงมัน
โผล่ออกมา ตูดพี่ประมุขไม่ถูกมันเสียบทะลวงจนทะลุเป็นรูโบ๋
หรือไง?
ราวกับนัดกันมา! ทั้งหลายตามกันมาติดๆ ตอนนี้หลุมฝังศพ
อื่นๆเริ่มแผ่ไอสีดาออกมา เงาร่างเองก็ค่อยๆปรากฏขึ้น ภาพ
ร่างมายาก่อเกิดขึ้นแน่นขนัด ตอนนี้มองไปคล้ายฝูงชนกลุ่ม
ใหญ่กาลังลอยล่องเรียงราย หากแต่ทั้งหมดล้วนเป็นอะไรที่ทรง
พลัง! แถมกลิ่นอายพลังที่แผ่ออกมายังน่ากลัวชวนให้ขนหัวลุก!
และพอยิ่งมาอยู่รวมกันหลายๆร่างพลังอานาจที่เปล่งกัน
ออกมารวมๆยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่!!
ตุบ ตุบ
หลินฟ่านถึงกับต้องก้าวถอยหลังออกไป 2 ก้าวอย่างไม่รู้ตัว ใน
ใจประหลาดหนักหนา เพราะเงาร่างนั่นสมควรเป็นภาพมายา
แท้ๆแต่ทาไมใจเขารู้สึกกดดันบีบคั้นปานมีขุนเขาถล่มทับก็ไม่รู้
..!
เขาเองก็พยายามเพ่งมองเพื่อตรวจสอบด่านพลังบ่มเพาะของ
เงาร่างที่ผุดขึ้นมาทั้งหลาย ทว่ากลับไม่อาจพบเห็นอะไรได้เลย!
นี่นับเป็นครั้งแรกจริงๆที่หลินฟ่านพบพานอะไรแบบนี้!!
หลินฟ่านสัมผัสได้ถึงใจตัวเองที่สั่นระรัวเต้นไปไม่เป็นจังหวะ
ตอนนี้เขารู้สึกกังวลนัก ทั้งยังรู้สึกร้อนวูบวาบที่หลังคอปรากฏ
สังหรณ์อัปมงคลพิกล!
ทันใดนั้นเองหลุมฝังศพด้านบนก็เริ่มสั่นสะเทือน และเงาร่างดั่ง
ภาพมายาก็ปรากฏออกมาเช่นกัน!
ราวกับมหาสงครามอุบัติ หลุมฝังศพด้านบนทั้งหมดคล้ายกาลัง
เปล่งพลังอานาจ สยบเทพปีศาจของชนเผ่าโบราณทั้ง 3,000
เบื้องล่าง!
เปรี๊ยงงงง!!!
กลิ่นอายพลังปะทะหักหาญ คว่างว่างเปล่าปริแตกแยกฉีก
หลินฟ่านเบิกตากว้างชมมองภาพเรื่องราวต่างๆเบื้องหน้า นิ้ว
ของเขาสั่นไปไม่น้อยเพราะเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังอัน
มหาศาลของ 2 กองกาลังที่กาลังปะทะหักหาญกันดี! ราวกับ
พวกมันกาลังรบกันเพื่ออะไรบางอย่าง…!!
“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นอยู่กันแน่? ไหงอยู่ดีๆถึงได้มีอะไร
ประหลาดแบบนี้ได้กัน!?”
สีหน้าหลินฟ่านไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไร ใจคอยิ่งไม่ค่อยดีหนัก
ข้อ! เขารู้สึกราวกับว่า..กาลังจะมีเรื่องราวร้ายแรงสักอย่าง
เกิดขึ้น…!!
ทันใดนั้นปรากฏแสงสีดาพุ่งทะลวงฝ่าช่องว่างออกมา ทั้งแสงสี
ดานั้นให้ความรู้สึกราวกับจะทะลวงทาลายโลกทั้งใบได้
ง่ายดาย!!
หลินฟ่านที่ใจคอไม่ดี อยู่ๆขนทั่วกายยังลุกซู่! เขารู้สึกราวกับ
ชีวิตน้อยๆของเขาไม่ได้เป็นของเขาอีกต่อไป มันกาลังจะหลุด
ลอยไปอย่างไรไม่รู้!!
“เตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลก!”
หลินฟ่านรีบเข้าไปหลบในเตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลกทันใด!
เปรี๊ยง!! ตูมมมม!!
เตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลกส่นสะเทือนอย่างแรงราบกับพึ่ง
โดนระเบิดครั้งใหญ่ถล่ม! ตอนนี้เองหลินฟ่านก็พยายาม
ตรวจสอบเรื่องราวรอบๆอย่างระวัง!!
ทันใดนั้นหลินฟ่านก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังออกมา นาพาให้
สะดุ้งตกใจ ‘เฮ่ย! หรือไอพวกตัวเป้งทรงพลังทั้งหลายนั่น..ที่แท้
มันยังไม่ตายห่ากันวะ?’
ทันใดนั้นเองต่อหน้าต่อตาหลินฟ่าน ปรากฏเทพปีศาจแห่ง
ความตายฉื่อเยี่ยนของเผ่าพันธุ์โบราณ กาลังยกเคียวยมทูตสี
ดา กวาดมองไปรอบๆด้วยสายตาคมกล้า ท่าทางยังแปลกใจ
คล้ายกับ ภาพทุกอย่างรอบๆไม่ใช่อย่างที่มันคิด…
“มนุษย์…”
เสียงหนึ่งแว่วดังออกมาอย่างแผ่วเบา หากแต่น้าเสียงนี้พอเข้า
หูหลินฟ่านแล้วกลับฟังดูน่าหวาดกลัวพิกล! คล้ายกับจะเป็น
เสียงของคนในชุดคลุมสีดาถือเคียวยมทูตนั่น!!
พอได้ฉุกคิด…หลินฟ่านที่ซ่อนอยู่ในเตาหลอมกลั่นสวรรค์และ
โลกถึงกับเบิกตาโพลง.. วินาทีนี้ในหัวของเขาล้วนว่างเปล่าไร้
สิ่งใด!!
ตอนนี้หลินฟ่านไม่เข้าใจเรื่องราวจริงๆ เขามึนจนอยากเอาหัว
โขกเต้าหูให้ตายไปให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไป! ไถ่ถามโลกหล้าทั้ง
อาม่าอากงและองค์เทพทั้งหลาย! ว่านี่มันเรื่องบัดซบห่าเหว
อะไรกันแน่? ทุกอย่างที่กาลังเกิดขึ้นตอนนี้นี่มันอะไร?!
ไม่ใช่ว่าภาพที่เขาเห็นเบื้องหน้าสมควรเป็นเงาร่างหรือภาพ
มายาของพวกที่ตายห่านอนอยู่ในหลุมศพนั่นหรือไง? แล้วไหง
พวกมันถึงได้คุยกันได้ล่ะ!?
กระทั่งหลุมศพพวกมันยังตั้งอยู่ทนโท่! แล้วนี่พวกมันยังจะเอา
อะไรอีก?!
‘เฮี้ยนชิบหาย! พี่ไม่ออกไปเด็ดขาด พี่จะไม่ออกไปนอกเตา
เด็ดขาดดด!!!’ หลินฟ่านตั้งมั่นแล้ว ว่าก่อนที่เขาจะรู้ชัดว่านี่มัน
เกิดอะไรขึ้นกันแน่เขาจะไม่ออกไปจากเตา!
“หลังจากที่กาลยุคสมัยได้ล่มสลายลงนับครั้งไม่ถ้วน…ในที่สุด
พวกเราก็จักได้หวนกลับมาอีกครั้ง เทพอสูรแห่งพลังผานกู่…
เจ้ากล้าทรยศเผ่าพันธุ์โบราณงั้นเหรอ สมควรตาย!!”
“ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินซุนหงอคง…องค์ยูไล…การต่อสู้ของพวก
เรามันพึ่งจะเริ่มต้น…”
…
ซู่มมมมมมมมมมมมม!!!!!
เสาแสงทมิฬจานวนนับไม่ถ้วนพุ่งยิ่งขึ้นไปยังยังอากาศ! ทะลวง
หลุมฝังศพของตัวตนอันทรงพลังถึงขีดสุดของร้อยพันชนเผ่า!
รอยแยกพลันปรากฏขึ้นบนช่องว่างเหนือหลุมฝังศพเทพปีศาจ
ทัง้ 3,000 ตนแห่งเผ่าพันธุ์โบราณ! ทันใดนั้นพวกมันก็พุ่งแยก
ย้ายกันไปทุกทิศทาง ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย…!!
หลุมฝังศพของตัวตนอันทรงพลังถึงขีดสุดของร้อยพันชนเผ่าก็
เริ่มสะท้านสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง ก่อนที่ทั้งหมดจะจม
หายไปในห้วงแห่งความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขต…!!
ทันใดนั้นประหนึ่งโลกหล้ากลับกลายเป็นเงียบงัน หลุมฝังศพที่
ก่อนหน้าลอยล่องปรากฏอยู่นับไม่ถ้วน…อยู่ดีๆก็หายจ้อยกันไป
หมด! ราวกับพวกมันไม่เคยดารงคงอยู่มาก่อนเลย…!!
“ปุจฉา…ตกลงนี่มันห่าอะไรกันวะเฮ่ย?!”
หลินฟ่านที่ยืนงงในเตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลกก็ได้แต่
กระพริบตาปริบๆ
เขารู้สึกว่าบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กาลังจะอุบัติขึ้น…
“อยู่ๆๆก็มา อยู่ๆก็ไป ตกลงนี่มันอะไรยังไง กันแน่? ไม่คิดจะ
เปิดโอกาสให้คนอื่นทาความเข้าใจอะไรเลยรึยังไง?”
ตอนนี้เองหลินฟ่านก็ค่อยๆเดินออกมาจากเตาหลอมกลั่น
สวรรค์และโลกช้าๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ เขาเอง
ไม่รู้จะพูดยังไงกับมันดีจริงๆ ไร้คาใดจะกล่าว…
ทุกเรื่องราวมันแลดูเกินจริงอย่างยิ่ง หากเขาไม่ได้มาเห็นกับตา
ตัวเองเขายังคิดว่าเขาฝันไปด้วยซ้า!
อีกทั้งหลินฟ่านก็รู้จักชื่อหลายชื่อที่สลักบนป้ายศิลาหลุมฝังศพ
นั่นดี…
ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน…นั่นไม่ใช่ราชาวานรหรือยังไง? แล้วนี่ซุน
หงอคงไปเป็นตัวตนสูงสุดของเผ่าพันธุ์วานรตั้งแต่ตอนไหน?
ไหนจะชื่อลูซิเฟอร์นั่นอีก ประทานโทษนะ นั่นมันไม่ใช่ชื่อของ
เทวดาตกสวรรค์ บาปแห่งอัตตาหรือไง? แล้วไหงถึงได้
กลายเป็นตัวตนสูงสุดของเผ่าพันธุ์ปีกไปซะอย่างนั้นล่ะ?
ไหนจะยังจ้าวแห่งเผ่าพันธุ์ปีศาจนั่นอีก? ไฉนถึงได้ชื่อตี้จวิ้น…
ไม่ใช่ว่าปีศาจยักษ์โบราณที่อยู่กับเขาหรอกหรือที่เป็นตัวตน
สูงสุดแห่งเผ่าพันธุ์ปีศาจ?
“โอย! ตกลงนี่มันอะไรกันวะเนี่ย! ทุกอย่างอีรุงตุงนังไปหมด
อะไรๆ ก็ผิดเพี้ยนไปจากที่รู้มาทั้งนั้น!!”
“ว่าแต่…แล้วไหนล่ะวะ ตัวตนโคตรเทพของเผ่าพันธุ์มนุษย์ของ
พี่ประมุข!? ตะกี้ก็มองทั่วแล้วนะ แต่ไม่เห็นจะมีตัวเจ๋งๆของ
เผ่าพันธ์มนุษย์สักคน… ที่เพี้ยนที่สุดก็เจ้าแม่หนี่วานั่น! ไม่ใช่ว่า
จากเรื่องเล่าในตานาน…นางต้องเป็นมารดาผู้ให้กาเนิดมนุษย์
หรอกหรือไง! ไหงถึงได้กลายเป็นเทพีแห่งเผ่าพันธุ์งูไปซะ
งั้นน่ะ!?”
…
“ปีศาจยักษ์โบราณ! ออกมาซิ! ไหนบอกพี่ประมุขมาที ว่าไอตี้
จวิ้นอะไรนั่นมันเป็นใคร มีฐานะอะไรในเผ่าพันธุ์ปีศาจของ
เจ้า?” ตอนนี้หลินฟ่านแผดเสียงกล่าวถามปีศาจยักษ์โบราณ
เรื่องราวก่อนหน้าทาให้เขาสัยสนงุนงงไปหมด
ปีศาจยักษ์โบราณเองก็ได้รับการปลูกฝังและยกระดับจากหลิน
ฟ่านมาตลอดเวลา ตอนนี้ความทรงจาของมันก็หวนกลับมา
หมดสิ้นแล้ว
“โอ ตี้จวิ้นหรือ…อืมมม…”
“ใช่ๆๆ เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับมันบ้าง!?” หลินฟ่านถาม
ปีศาจยักษ์โบราณพลันส่ายหัวไปมาง็อกแง็ก “นาน…เนิ่นนาน
เกินไป…นานเกินกว่าที่ข้าจะจาได้”
“เชี่ย…!” หลินฟ่านพูดไม่ออกเลย ถล่มมารดามันเถอะ ปีศาจ
ยักษ์โบราณนี่ไม่ใช่เคยเป็นจักรพรรดิที่ปกครองเหล่าปีศาจทั้ง
มวลหรือไง? แต่ถ้ากระทั่งมันยังไม่รู้จักตี้จวิ้น แล้วนี่จะให้หลิน
ฟ่านไปถามใครได้อีก?
และยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้าว่าไอหลุมศพทั้งหลาย
แหล่มันแห่กันหายหัวไปไหนหมด!
เปรี๊ยงงงงง!!!
ทันใดนั้นเองหลินฟ่านรู้สึกราวกับความว่างเปล่าทั้งมวลกาลัง
สั่นสะท้าน เขาสัมผัสได้ถึงมวลพลังมหาศาลที่เอ่อล้นกดดัน
ออกมาทุกทั่วหัวระแหง! ทันใดนั้นบังเกิดพลังดูดรั้งดูดเขาวูบ
กลับมาอยู่ที่เดิมหน้าดวงแสงนั่น!!
‘ติ๊ง!!..โลกไร้จากัดเปิดออก มหายุคกาลังจะสืบสานปรากฏ
ระบบกาลังอยู่ในกระบวนการอัพเกรด’
หลินฟ่าน “..”
…
“เชี่ยไรเนี่ย!? โลกไร้จากัดอยู่ดีๆก็เปิดออกแบบนี้เนี่ยนะ!?!”
หลินฟ่านสูญสิ้นคาพูดทั้งมวล ทุกอย่างมันจะไม่กะทันหันไป
หน่อยรึไง! อยู่ๆก็สาดตู้มมาแบบเนี้ยเลยเนี่ยนะ? ไอบ้าเอ๊ย! เขา
ยังไม่ทันได้เตรียมอะไรเลย!!
“ชาระล้าง…”
หลินฟ่านที่ไม่รู้จะทาอะไรต่อไป ก็หันไปลงมือกับดวงแสงก่อน
หน้าเพื่อจะปลูกฝังโลกหล้าต่อทันที…
และตอนนี้มันไม่มีตรวนเทพเจ้าอะไรนั่นปรากฏออกมาแล้ว
ดังนั้นการปลูกฝังโลกใบนี้ก็เป็นอะไรที่ง่ายดายขึ้นอย่างมาก!
‘ติ๊ง!! ..ขอแสดงความยินดีกับการปลูกฝังโลกมนุษย์”
‘ฉายานาม : ผู้สร้าง นามที่แข็งแกร่งที่สุด ต้องการๆปลูกฝัง
โลกไร้จากัดตามจานวนที่กาหนดไว้ (2 /1,000)’
หลินฟ่านไม่รอช้าสะบัดมือเก็บโลกมนุษย์ไว้ภายในโลกภายใน
กายเขาทันที เรียกได้ว่าตอนนี้โลกภายในกายของหลินฟ่าน มี
โลกเสวียนหวงแล้วก็โลกมนุษย์ดารงอยู่
เรียกได้ว่านี่คือรากเหง้าและรากฐานของเผ่าพันธุ์มนุษย์
ทั้งหมด! ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของหลินฟ่าน
แล้ว…!!
ทว่าทันใดนั้นเอง ปรากฏมวลพลังงานลึกลับขุมหนึ่งพุ่งเข้าใส่
หลินฟ่าน! และชาแรกแทรกซึมเข้าร่างเขา คล้ายกับมันกาลัง
พยายามจะไปเชื่อมต่อกับโลกมนุษย์และโลกเสวียนหวง!!
(53380)
‘ติ๊ง!! ..ค้นพบพลังงานที่ไม่มีข้อมูลกาลังจะเชื่อมโยงโลกมนุษย์
กับโลกเสวียนหวง ดาเนินการขจัดออกอัตโนมัติ’
ต่อหน้าพลังงานลึกลับขุมนี้หน้าหลินฟ่านเหวอไป เพราะเขาไม่
อาจต้านทานอะไรมันได้เลย ด้วยเหตุนี้ระบบจึงเข้ามาแทรกแท
รงและทาการตัดการเชื่อมต่อ ขจัดพลังงานดังกล่าวออกไป
ทันที ทาให้เขาสามารถมั่นใจในความปลอดภัยของโลกมนุษย์
และโลกเสวียนหวงได้ไปเปราะหนึ่ง…
“เกือบไปแล้วไงล่ะ…เมื่อกี้มันอะไรกัน! ยังดีนะที่พี่มีระบบโคตร
เทพ!!”
‘ติ๊ง!!..ระบบที่แข็งแกร่งที่สุดยกระดับเสร็จสิ้น เตรียมพร้อม
สนับสนุนให้ร่างผู้ถือครองระบบ กลายเป็นจ้าวผู้ปกครองเหนือ
โลกไร้จากัดอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียว’
‘ติ๊ง!! .. ภารกิจขั้นสูงสุด : พิชิตโลกไร้จากัด’
หลินแฟน “…”
“ล้อพี่เล่น….ใช่มั้ย?”
ตอนที่ 877 : การมาถึงของยุคใหม่!
ตอนนี้เองความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่พลันอุบัติขึ้นทั่วทุกมุมบน
โลกเซียนโบราณ การเปิดออกของโลกไร้จากัดนั้นมันรวดเร็ว
เสียจนไม่มีใครสามารถตั้งตัวได้ทัน กระทั่งตัวตนสูงสุดแห่ง
เผ่าพันธุ์โบราณก็เช่นเดียวกัน!!
และบัดนี้ เจตจานงสวรรค์ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว…
เหล่าตัวตนสูงสุดที่เหลืออยู่ทั้ง 5 นั่งมองตากันปริบๆด้วย
ใบหน้างุนงง
“เหตุไฉนถึงเกิดเรื่องราวเช่นนี้ขึ้นได้? มิใช่ว่าการเปิดออกของ
โลกไร้จากัดสมควรเริ่มขึ้นหลังจากนี้อีก 3 เดือนหรอกหรือ?”
ตัวตนสูงสุดบางคนรู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้มีบางอย่างไม่ชอบ
มาพากลเกิดขึ้น
“เจตจานงสวรรค์ ตอนนี้มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?!”
ตัวตนสูงสุดทั้ง 5 รู้สึกว่าเวลาที่โลกไร้จากัดเปิดออกมันไม่
ถูกต้อง! นั่นทาให้การเตรียมการของพวกมันที่วาดแผนวางไว้ก็
ยังไม่พร้อมด้วยเช่นกัน!!
คลื่นลูกแรกที่จะพัดกวาดไปทั้งโลกเซียนโบราณ อย่างชนเผ่า
แมลง ก็ถูกราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้าถล่มทาลายไป
เสียตั้งแต่ไม่ทันได้ทาอะไร! ทาให้สถานการณ์และแผนของพวก
มันจาต้องชะงักไปหมด!!
มาตอนนี้โลกไร้จากัดยังเปิดเร็วขึ้นกว่าที่วาดแผนเอาไว้อีก!
เห็นได้ชัดเลยว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติบังเกิดขึ้นแล้ว!!
เจตจานงสวรรค์เองก็นิ่งเงียบไปนานไม่ได้ตอบคาอะไร ราวกับ
มันเองก็ผงะกับเรื่องราวที่กาลังเกิดขึ้นไม่น้อย
มันเป็นเจตจานงสวรรค์ของโลกเซียนโบราณ มันคือผู้ที่ควบคุม
ทุกสรรพสิ่ง กระทั่งวันเปิดออกของโลกไร้จากัดก็เป็นสิ่งที่มันได้
กาหนดเอาไว้แล้ว!!
ตอนนี้เอง ณ หุบเหวห้วงลึก ที่ผนึกจักรพรรดินีวารีอัคคีเอาไว้
นั้น… ร่างจักรพรรดินีวารีอัคคีที่กาลังหลอมรวมวารีและอัคคี
อยู่ๆก็ลืมตาตื่นขึ้นมา แววตายังเผยความประหลาดใจไม่น้อย
“นี่มัน…เป็นไปได้ยังไงกัน?”
จักรพรรดินีวารีอัคคีสัมผัสได้ถึงมวลพลังมหาศาลที่พุ่งทะยาน
อย่างไร้ขอบเขตในความว่างเปล่า ราวกับว่ามีตัวตนอันร้าย
กาจกาลังจะจุติลงมา!!
“กลับบังเกิดขึ้นจริงๆ…ยุคนี้ถึงกาลสิ้นสุดแล้ว! พวกตัวตน
เหล่านั้นได้ลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง!!”
“ฮึ่ม! ตอนนี้เจตจานงแห่งวารีและอัคคีก็ได้หลอมรวมเข้ากัน
อย่างสมบูรณ์แล้ว การจะฆ่าเจตจานงสวรรค์ที่ตื่นขึ้นก็ไม่ได้
ยากอะไร…แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วดูเหมือนจะมิมี
ทางเลือกอื่นใด ช่างเถอะ! ข้าออกไปจากนี่ก่อนแล้วกัน…”
แหงนมองไปยังตราผนึกเหนือศีรษะ มุมปากจักรพรรดินีวารี
อัคคีพลันเผยยิ้มออกมา เพียงโบกมือเบาๆเจตจานงแห่งวารี
และอัคคีพลันปะทุออกมาอย่างรุนแรง อีกทั้งยามเมื่อเจตจานง
แห่งวารีอัคคีพุ่งไปควบรวมประสาน พลันก่อเกิดพลังอานาจ
สุดที่ผู้ใดจะจินตนาการคิดคาด ผนึกพลังนับหมื่นปีที่เปี่ยมล้น
ไปด้วยพลังของเจตจานงสวรรค์และตัวตนสูงสุด ปริแตกทลาย
ลงทันใด!!
เปรี๊ยงงงงงงงงงงงง!!!
โลกสะท้านขุนเขาสะเทือน ลาน้าสั่นไหว ตัวตนสูงสุดทั้ง 5 สี
หน้าแปรเปลี่ยนกลับกลาย!
“แย่แล้ว! จักรพรรดินีวารีอัคคีทลายผนึกคุมขังของนางได้
แล้ว!!” ทันใดนั้นตัวตนสูงสุดทั้ง 5 อันตรธานร่างทะลวง
ช่องว่างมาปรากฏ ณ เหนือห้วงลึกตรงกลางหอคอยทั้ง 8
อย่างฉับไว! และเมื่อพวกมันเห็นร่างจักรพรรดินีวารีอัคคีที่
ค่อยๆลอยล่องขึ้นมาอย่างเชื่องช้า พวกมันก็อดไม่ได้ที่จะมอง
นางด้วยความระวังสุดขีด!!
ในสายตาของพวกมันทั้ง 5 สรรพชีวิตอื่นใดในโลกหล้ามิต่าง
อันใดไปจากมดปลวก หากทว่าจักรพรรดินีวารีอัคคีเบื้องหน้า
นี้…คือตัวตนที่พวกมันจาต้องพึงระวังถึงขีดสุด ทั้งยังต้องเร่งรัด
สมาธิเตรียมพร้อมรับมือถึงขีดสุด!!
ร่างจักรพรรดินีวารีอัคคีที่ลอยอย่างท่ามกลางอากาศเบาบาง
ทอดสายตามองไกลออกไป ทันใดนั้นเองตัวตนสูงสุดทั้ง 5 ก็พุ่ง
เข้ามาห้อมล้อมนางเอาไว้
“จักรพรรดินีวารีอัคคีเจ้า…!” หนึ่งในตัวตนสูงสุดกล่าว
จักรพรรดินีวารีอัคคียกมือเรียบเนียนกระจ่างดั่งหยกเย็นหมื่นปี
ขึ้นมาอย่างแช่มช้า สาเนียงเพราะพริ้งเอื้อนเอ่ยออกเรียบๆ
“พวกเจ้าไม่จาเป็นต้องกล่าวใดให้มากความ ยามนี้ยุคของพวก
เจ้าจบสิ้นลงแล้ว ทุกอย่างหาได้ขึ้นอยู่กับพวกเจ้าอีกต่อไปไม่…
และพวกเจ้าเตรียมตัวร่วงหล่นจากบัลลังก์อันสูงสุดไร้ราคานั่น
ของพวกเจ้าเอาไว้เถอะ…”
หลังจากกล่าวจบคาจักรพรรดินีวารีอัคคีก็อันตรธานร่างหายไป
ในพริบตา!
ภาพนี้สะท้านสั่นใจตัวตนสูงสุดทั้ง 5 จนแทบบ้า! เพราะพวก
มันไม่อาจจับสัมผัสอะไรได้เลย! ไม่มีแม้แต่ร่องรอยการ
กระเพื่อมของพลังใดๆให้สืบสาว! อันที่จริงพวกมันไม่รู้ด้วยซ้า
ว่าจักรพรรดินีวารีอัคคีกระทาเรื่องนี้ได้อย่างไร!!
“นิ…นี่มันอะไรกัน!? จักรพรรดินีวารีอัคคีทรงพลังถึงขอบเขตนี้
ได้อย่างไร!?”
“เจตจานงสวรรค์…”
“คาที่จักรพรรดินีวารีอัคคีกล่าว…ทั้งหมดนั่นหมายความว่าอัน
ใดกันแน่!?”
…
ทว่าพริบตานั้นเองความว่างเปล่าเหนือฟ้าเบื้องบนของตัวตน
สูงสุดทั้ง 5 พลันสั่นไหวสะท้าน!
สีหน้าตัวตนสูงสุดทั้ง 5 จาต้องแปรเปลี่ยนอีกครั้งทันใด! หาก
ทว่าครานี้กลับกลายเป็นเกรี้ยวกราดดุร้าย “โอหัง!!”
หนึ่งในตัวตนสูงสุดปะทุพลังควบรวมแน่นหนาในฝ่ามือ ค่อย
ตบฟาดซัดคลื่นพลังบิดเบือนความว่างเปล่ากวาดแผ่ออกไปยัง
ความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตเบื้องบน!
ทว่าในเสี้ยวพริบตานั้นเองปรากฏประกายแสงสีดาหนึ่งพุ่ง
ทะลวงความว่างเปล่าออกมา สภาวะประหนึ่งจะผ่าทะลุห้วง
มิติเวลาและพื้นที่!!
อ๊าคคคคค!!!
ร่างของตัวตนสูงสุดที่ตบฟาดพลังออกไป มิอาจตอบสนองใด
ได้ทัน พลันถูกลาแสงพลันที่แล่นวาบฉีกผ่าร่างมันเป็นเสี่ยงๆ
บาดแผลปรากฏกลิ่นอายแห่งความตายอันไร้สิ้นสุดขุ่นคลั่ก กัด
กินสิ้นแล้วซึ่งพลังชีวิต!!
“ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้วหรือ?” ร่างในชุดคลุมลมสีดาที่ปกปิด
ทุกส่วนสัด พร้อมเคียวยมทูตที่หมุนควงในมือค่อยๆโรยตัวลง
มาช้าๆ สภาวะดั่งจะหยุดยั้งได้กระทั่งห้วงเวลา กลิ่นอายเย็น
เยียบแผ่ซ่านออกมาสะกดแช่ทุกสรรพชีวิตโดยรอบ
เพียง 1 กระบวนท่า กลับพิฆาตดับชีพตัวตนสูงสุด!
“จะ…เจ้าเป็นใคร?” ตัวตนสูงสุดที่เหลืออยู่ทั้ง 4 มองไปยังผู้มา
ใหม่ด้วยสีหน้าหวาดกลัว พวกมันสัมผัสได้ชัดดี…ถึงใจที่เต้น
ไหวลั่นรัวในอก! เรื่องราวทุกอย่างที่บังเกิดยากที่พวกมันจะทา
ใจรับได้นัก!!
นั่นคือตัวตนสูงสุดคนหนึ่ง! ทว่ากลับถูกพิฆาตดับชีพในเสี้ยว
พริบตา!!
สาหรับตัวตนสูงสุดที่เป็นตัวตนอันทรงพลังสูงสุดในโลกเซียน
โบราณที่มีอานาจเหนือผู้ใดมาตลอดชั่วชีวิต! เรื่องนี้เป็นอะไรที่
พวกมันไม่อาจคิดคาดจินตนาการได้!!
วู้มมมม!!
วู้มมมม!!
ไม่ไกลออกไปจากร่างในชุดคลุมลมสีดา ความว่างเปล่าเริ่ม
กระเพื่อมสั่นไหวดั่งระลอกน้า ทันใดนั้นหลุมฝังศพหลายหลุม
พลันผุดโผล่ออกมา…
กลิ่นอายของหลุมฝังศพเหล่านี้ช่างชั่วร้ายสามานย์ดิบเถื่อนนัก
หากจะเทียบกับตัวตนสูงสุดแล้ว เกรงว่าเสมือนดั่งผู้ใหญ่กับ
เด็กน้อยก็ไม่ปาน
“ไม่คิดเลยจริงๆว่าคนแรกที่ตื่นขึ้นมาจักเป็นข้าเทพปีศาจแห่ง
ความตาย ฉื่อเยี่ยน ผู้นี้” เทพปีศาจแห่งความตายมองไปยัง
โลงศพที่พึ่งผุดโผล่มาข้างๆพร้อมแสยะยิ้มเย็นเยือก…
“เทพปีศาจแห่งความตาย…พวกเรากาลังเฝ้ารอ…รอให้สหาย
ทั้งหลายหวนคืนกลับมา”
“ยุคนี้จักต้องจบสิ้นด้วยน้ามือของพวกเรา…ครานี้ต่อให้เป็น
พวกมัน ก็มิอาจหยุดยั้งทุกสิ่งได้”
…
ทันใดนั้นปรากฏเสียงน่าพรั่นพรึงดังออกมาจากหลุมฝังศพ
จานวนนับไม่ถ้วน เทพปีศาจแห่งความตายควงเคียวยมทูตใน
มือคราหนึ่ง ค่อยมองไปยังร่างตัวตนสูงสุดทั้ง 4 ก่อนจะเงย
หน้าขึ้นมองไปยังความว่างเปล่า
“อันใด? เทพปีศาจของเจ้าได้หวนคืนมาแล้ว แต่เจ้ายังมีรีบไส
หัวลงมาอีก!” เทพปีศาจแห่งความตายเงยหน้ามองฟ้าค่อย
คารามเสียงดัง
ในขณะที่ตัวตนสูงสุดทั้ง 4 ยังงุนงงไม่เข้าใจเรื่องราวนั้นเอง
ความว่างเปล่าโดยรอบเริ่มสั่นสะท้าน ร่างหนึ่งพลันปรากฏ
ขึ้นมาทันใด
“เจตจานงสวรรค์!” เมื่อตัวตนสูงสุดได้เห็นร่างที่ปรากฏตัว
ออกมา พวกมันก็เรียกหาทักทายด้วยความเคารพ ทว่าบางสิ่ง
ที่ทาให้พวกมันตื่นตระหนกพลันบังเกิด
เพราะทันทีที่เจตจานงสวรรค์ของโลกเซียนโบราณได้เห็นร่าง
ในชุดคลุมนั้น มันก็หวาดกลัวจนตัวสั่นไปอย่างไม่อาจควบคุม!
พริบตาต่อมามันก็ทรุดตัวลงคุกเข่ากราบการอีกฝ่าย!!
“ท่านเทพปีศาจแห่งความตาย…”
สรรพางค์กายของเจตจานงสวรรค์สะท้านสั่นรุนแรง! ราวกับ
มันได้เห็นตัวตนที่ททรงอานาจเหนือมันอย่างถึงขีดสุด!!
“เจตจานงสวรรค์…?”
“ฮ่าๆๆๆ…!!! มิคิดเลยว่าเพียงเศษเสี้ยวเดียวของปราณที่ขุ่นมัว
นั่น จักกลายเป็นเจตจานงสวรรค์ได้เช่นนี้!!” ฝ่ามือที่เปี่ยมล้น
ไปด้วยไอพลังทมิฬอันน่าพรั่นพรึงของเทพปีศาจแห่งความตาย
ลดลงไปลูบหัวเจตจานงสวรรค์ที่คุกเข่าเบื้องหน้าเบาๆ
ประหนึ่งกาลังลูบหัวสุนัขก็ไม่ปาน
ตอนนี้เหล่าตัวตนผู้สูงสุดที่หลงเหลืออยู่ทั้ง 4 ก็บังเกิดความ
หวาดกลัวจับใจ!
พวกมันนั้นดารงอยู่ ณ ตาแหน่งจ้าวผู้อยู่เหนือมานานแสนนาน
ควบคุมลิขิตความเป็นตายของผู้คนนับร้อยพันชนเผ่ามาโดย
ตลอด! ทว่าความเปลี่ยนแปลงที่บังเกิดขึ้นตรงหน้าอย่างจับต้น
ชนปลายไม่ถูกนี้ เป็นอะไรที่หนักหนาเกินกว่าที่พวกมันจะทาน
รับไหว!!
“มดปลวกทั้ง 4 พวกเจ้ามาตรงนี้…” เทพปีศาจแห่งความตาย
มองไปยังร่างตัวตนสูงสุดทั้ง 4 ก่อนที่จะกวัวมือเรียกหา
ตัวตนสูงสุดทั้ง 4 หันมองสบตากันวูบหนึ่ง สุดท้ายก็ไปคุกเข่า
ลงเบื้องหน้าเทพปีศาจแห่งความตาย ยอมจานนต่อนายใหม่
ทันที…
“ฮ่าๆๆๆ…!!!”
เทพปีศาจแห่งความตายระเบิดเสียงหัวเราะดังสนั่น กลิ่นอาย
แห่งความตายแผ่ซ่านกาจายออกมาทั่วร่าง นาพาให้โลกเซียน
โบราณทั้งใบสะท้านสะเทือน
…
และในขณะนี้เองดั่งกาลอวกาศบิดผัน โลกเซียนโบราณเริ่มเข้า
สู่กระบวนการหลอมรวมผสานเข้ากับโลกอื่นๆอย่างต่อเนื่อง
พื้นที่ของโลกเซียนโบราณเริ่มขยายออกไปอย่างไรสิ้นสุด!!
พันเท่า!
หมืน่ เท่า!
ร้อยล้านเท่า!
แรกเริ่มเดิมทีโลกเซียนโบรารก็มีขนาดกว้างใหญ่อยู่แล้ว มา
ตอนนี้ยิ่งทวีความมหึมามากขึ้นไปอีก! (53380)
ด้วยการเชื่อมโยงผนวกเข้ากับโลกไร้จากัดนับหมื่นพัน โลกใหม่
พลันอุบัติขึ้น! กฏเกณฑ์และเจตจานงต่างๆของโลกหล้าพลัน
พุ่งทะยานปานจรวด ยกระดับไปอย่างไร้ขีดจากัด!!
“ณ บัดนี้ สถานที่แห่งนี้คือสนามรบสุดท้าย…มันจักเป็นกาลยุค
สมัยที่ยอดเยี่ยมที่สุดก่อนที่ยุคสมัยนี้จักล่มสลาย!!”
“บัดนี้ พวกเราได้หวนคืนมาแล้ว…นายเหนือแห่งจักรวาลยังคง
เป็นพวกเรา!!”
ตอนนี้เมื่อบังเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นบนโลกเซียน
โบราณ! ทาให้ทุกผู้คนล้วนตกอยู่ในความตื่นตระหนกตกใจ! ณ
ฐานที่มั่นของผู้คนร้อยพันชนเผ่าทั้งหลายแทบจะทุกที่ ปรากฏ
รอยแยกมิติลึกลับหนึ่งก่อนที่จะมีหลุมฝังศพร่วงมาจากรอย
แยกดังกล่าวลงสู่ผืนดิน!!
ตึงงงงงง!!!
ตึงงงงงง!!!
ในทุกทั่วหัวระแหง หลุมศพแล้วหลุมศพเล่าต่างทยอยแหวกมิติ
หล่นร่วงลงมา…
สาหรับผู้คนของร้อยพันชนเผ่าแล้ว ทั้งหลายไม่ทราบจริงๆว่านี่
มันกาลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่…
ตอนที่ 878 : สมติฐานนี้มันเป็นจริงหรือเป็นเท็จ!?
ตัดมาทางด้านหนึ่ง…ในตอนที่โลกไร้จากัดเปิดออกนั้น จ้าวแห่ง
ความชั่วร้ายที่ถูกหลินฟ่านทุบตีจนหนีมา ถึงกับระเบิดเสียง
หัวเราะดังสนั่นลั่นอย่างถูกใจ!
“มนุษย์สารเลวบัดซบ! ร้อยพันชนเผ่าอันบัดซบ!! ในที่สุด
โอกาสของข้าก็มาถึงแล้ว! ยามเมื่อโลกไร้จากัดเปิดออกเช่นนี้
คนของข้าจักแทรกแซงเข้ามาและกลับกลายเป็นนายเหนือจ้าว
ผู้ปกครองแห่งยุค!!” ตอนนี้จ้าวแห่งความชั่วร้ายก็ได้ซ่อนตัว
อยู่ลึกลงไปในหุบเขาแห่งหนึ่ง ตลอดเวลาที่ผ่านมามันแทบไม่
กล้าโผล่หัวไปไหน ทาได้แค่พยายามรักษาบาดแผลสาหัสของ
มันอย่างเชื่องช้าเท่านั้น…!
ทว่ายามเมื่อโลกเซียนโบราณทั้งใบสั่นไหวสะท้านเช่นนี้ จ้าว
แห่งความชั่วร้ายก็รู้สึกว่า โอกาสของมันได้มาถึงแล้ว!
ทันใดนั้นเองร่างของจ้าวแห่งความชั่วร้ายก็ปะทุพลังออกมา
อย่างมหาศาล มันถึงกับใช้พลังทั้งหมดของตัวเองเป็นสื่อกลาง
เปิดทางเดินให้คนของมันข้ามผ่านกาลอวกาศมายังที่แห่งนี้ได้
ราบรื่น!!
จังหวะนี้ ทั่วร่างของจ้าวแห่งความชั่วร้ายก็ลุกไหม้ไปด้วยเปลว
ไฟอันเกรี้ยวกราด “มาเถิด! ยุคสมัยใหม่มาถึงแล้ว!!”
บรึมมมม!!!
เมื่อเผาผลาญทั้งสละแล้วซึ่งทุกสิ่งอย่างร่างของจ้าวแห่งความ
ชั่วร้ายก็แตกสลาย แปรเปลี่ยนเป็นพลังมหาศาลแหวกมิติเปิด
อุโมงค์ทางเดินสายหนึ่งได้สาเร็จ เป็นช่องว่างที่เชื่อมต่อกับห้วง
แห่งความลึกลับที่หนึ่ง!!
ช่วงเวลาที่มันได้เห็นอุโมงค์มิติที่ตัวมันสละชีวิตเปิดออก สติ
สานึกสุดท้ายที่ยังหลงเหลือก่อนดับสูญของจ้าวแห่งความชั่ว
ร้ายก็หัวเราะร่าออกมาอย่างบ้าคลั่ง!!
“มาเถิดสหายข้า! จริงสิ! สหายข้า พวกเจ้าต้องฆ่าล้างบาง
เผ่าพันธุ์มนุษย์ให้สิ้น…ยังต้องฆ่ามนุษย์บัดซบนั่นให้ตาย…!!”
ตอนนี้คนที่จ้าวแห่งความชั่วร้ายเคียดแค้นชิงชังมากที่สุดก็คือ
ราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า หากไม่ใช่เพราะอีกฝ่าย
ตัวมันจะมีชีวิตลาบากอนาถาอยู่แบบนี้หรือ? หากไม่ใช่เพราะ
อีกฝ่ายมันยังจะต้องสิ้นไร้ทางเลือกแบบนี้เหรอ!?
“หยุดดดดดด!!!!”
ทันใดนั้นเองบังเกิดเสียงตื่นตระหนกตกใจดังขึ้นจากช่องทาง
มิติ!
จ้าวแห่งความชั่วร้ายที่ร่างใกล้สลายเป็นปุ๋ยเต็มทีย่อมมึนงง
และไม่เข้าใจว่าไฉนสหายที่ตัวรอคอยกลับกล่าวเช่นนี้ หากแต่
มันไม่ได้คิดอะไรให้มากความเพียงฝากฝังเรื่องราวไว้กับสหาย
เท่านั้น “สหายข้า…ช่วยล้างแค้นให้ข้าด้วย! เอื้ออ…!!”
ตูมมมมมมมมมมมมม!!!!
จ้าวแห่งความชั่วร้ายเผาผลาญทุกอณูของตัวเอง แก่นแท้ดวง
จิต สานึกสติและทุกอณูพลังชีวิตมันของมันแปรเปลี่ยนเป็น
พลังขุมสุดท้าย กลายเป็นลาแสงพุ่งไปยังช่องทางมิติทันใด
และพริบตาต่อมาช่องทางมิตินั่นก็ขยายใหญ่วืบๆ ร่างจ้าวแห่ง
ความชั่วร้ายสลายไปไม่มีเหลือแล้ว…
“ม่ายยยยยยยยยยยย!!!”
และก่อนที่สานึกสติสุดท้ายของจ้าวแห่งความชั่วร้ายจะสลาย
หายไปอย่างสิ้นเชิง มันก็ได้ยินเสียงไม่ยินยอมดังขึ้นจาก
ช่องทาง แต่อนิจจาใดๆล้วนสายไปแล้ว…
อีกด้านหนึ่งของอวกาศ ปรากฏเสียงกล่าวเคร่งเครียด “เป็นไป
ได้อย่างไร เหตุใดตัวตนน่ากลัวเหล่านั้นถึงได้หวนคืนกลับมา
ทัง้ เลือกที่จะตื่นขึ้นในเวลานี้!? ไม่ได้! พวกเรามิอาจมุ่งหน้าไป
ยังโลกเซียนโบราณตอนนี้ได้!! ไปโลกเซียนโบราณมิได้
เด็ดขาด!! หยุดดดด!! ม่ายยยยยยยยยยยยย ไอง่าวจ้าวแห่ง
ความชั่วร้าย หยุดมือบัดเดี๋ยวนี้!!!”
เมื่อจ้าวผู้ปกครองแห่งอสูรนอกพิภพสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่
น่าพรั่นพรึงในโลกเซียนโบราณ มันก็หวาดกลัวจนหัวหด! กลิ่น
อายพลังนี้มันคุ้นเคยดี นั่นคือเหล่าตัวตนน่าพรั่นพรึงจากอดีต
กาลเนิ่นนานนับอสงไขย!!
อสูรนอกพิภพนั้นมิใช่ชนเผ่าใดๆ ไม่มีโลกให้อยู่อาศัย พวกมัน
เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นและดารงอยู่ในห้วงจักรวาลอันเวิ้ง
ว้างเท่านั้น…
สาหรับอสูรนอกพิภพแล้ว ในอดีตกาลโลกเซียนโบราณเป็น
อะไรที่พวกมันไม่กล้าย่างเท้าเข้าไปเด็ดขาด เพราะสิ่งมีชีวิตที่
ดารงอยู่นั้น เป็นตัวตนที่ทรงพลังเกินไป!
ทว่าต่อมาเหล่าตัวตนที่ทรงพลังทั้งหลายนั่นก็อันตรธานหายวับ
ไป เรื่องนี้เป็นอะไรที่ทาให้อสูรนอกพิภพถึงกับต้องระบายลม
หายใจออกมาอย่างโล่งอก! ส่วนทางด้านเจตจานงสวรรค์ของ
โลกเซียนโบราณที่ปรากฏขึ้นมาในภายหลังนั้น ไม่ได้น่ากลัว
อะไรสาหรับอสูรนอกพิภพแม้แต่น้อย นั่นเป็นเหตุผลว่าเหตุใด
พวกมันถึงได้มาเตรียมตัวในห้วงลึกลับหนึ่ง สั่งสมกาลังพลรอ
วันบุกเช่นนี้…
ทว่าพริบตาที่จ้าวแห่งความชั่วร้ายที่อยู่โลกเซียนโบราณ เปิด
อุโมงค์มิติออกมา จ้าวผู้ปกครองของอสูรนอกพิภพกลับสัมผัส
ได้ถึงกลิ่นอายพลังอันไม่ธรรมดา…และนั่นเป็นกลิ่นอายที่จ้าว
ผู้ปกครองของอสูรนอกพิภพคุ้นเคยดี!!
เช่นนั้นแล้วจ้าวผู้ปกครองจึงสะท้านสั่นไหว! อนิจจาตอนนี้สาย
เกินไปแล้ว เพราะจ้าวแห่งความชั่วร้ายได้สละพลังชั่วชีวิตเปิด
อุโมงค์ขึ้นมาแล้ว!!
และทันใดนั้นเองบังเกิดเรื่องราวน่าพรั่นพรึงประการหนึ่งขึ้น
บังเกิดขุมพลังลึกลับขุมหนึ่งจากโลกเซียนโบราณพุ่งทะลวง
ผ่านอุโมงค์มิติมายังห้วงลึกที่อสูรนอกพิภพยึดถือเป็นโลกของ
ตัว และพลังลึกลับดังกล่าวนั่นกาลังพยายามจะเชื่อมต่อเข้ากับ
ห้วงลึกนี่!!
นี่นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่!!
อีกด้านหนึ่งนั้น…มีบางสิ่งที่กาลังอุบัติขึ้น ณ ดินแดนผู้พิทักษ์
ทัง้ 4 ด้วยเช่นกัน! ม่านพลังที่เคยปกปักรักษา พิทักษ์ดินแดน
เอาไว้ อยู่ดีๆก็สลายหายไปเสียอย่างนั้น! สาหรับผู้พิทักษ์แล้วนี่
นับเป็นเรื่องเหนือจินตนาการนัก!!
…
ณ โลกเซียนโบราณ…
หลินฟ่านยืนมองรอบๆตาปริบๆด้วยความตกใจ
“นี่มัน…!”
เมื่อได้เห็นภาพเบื้องหน้า อยู่ๆหลินฟ่านก็บังเกิดความรู้สึก
ท้อแท้กับชีวิตขึ้นมาเล็กน้อย เพราะพริบตาเขาก็ตระหนักได้
ทันทีว่า…โลกทั้งใบบังเกิดความเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
และเป็นอะไรอย่างที่เขาไม่คิดคาดนัก!
“เกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่ ไหงทุกอย่างอยู่ๆก็เปลี่ยนไปกะทันหัน
แบบนี้ล่ะ!?”
ตอนนี้หลินฟ่านไม่รู้จะพูดยังไงต่อไปแล้ว โลกมันขยายขนาด
ใหญ่ขึ้นนับพันๆเท่า เผลอๆยังมากกว่านั้นด้วยซ้าหากเทียบกับ
แต่ก่อน
โลกทั้งใบเปลี่ยนไป! นับว่าโลกทั้งใบเปลี่ยนไปอย่างแท้จริง!!
กระทั่งกฏเกณฑ์ของโลกยังแปรเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ราวกับ
พวกมันจะเข้มข้นและแข็งแกร่งกว่ากาลก่อน!!
“บ้าเอ๊ย! ก่อนหน้าจะขี้หมูขี้หมายังไงพี่ประมุขก็นับเป็นตัวตนที่
ทรงพลังติด 1 ใน 10 อันดับแรกของโลกเซียนโบราณ! แต่มาดู
สถานการณ์ตอนนี้เข้าเถอะ ไอพวกบ้าลืมหลุมทั้ง 3,000 ตัว
นั่น! บ้าเอ๊ย! พี่ประมุขไม่แม้แต่จะติด 1 ใน 3,000 แล้ว!!”
หลินฟ่านโวยวายออกมาอย่างน้อยเนื้อต่าใจ
สาหรับเขามันเป็นอะไรที่โหดร้าย ชีวิตเขานี่มันช่างขึ้นๆลงๆยิ่ง
กว่ารถไฟเหาะนรกซะอีก!!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไอภารกิจที่ระบบมอบให้เขานั่น เป็น
อะไรที่ทาให้หลินฟ่านไร้คาจะกล่าวจริงๆ
‘พิชิตโลกไร้จากัด’
“พิชิตโลกไร้จากัด? พิชิตตูดมารดาเจ้าสิ! แต่ก่อนโจทย์พี่ก็มีแต่
ตัวตนสูงสุดของเผ่าพันธุ์โบราณ แต่นั่นก็ดีเพราะอะไรๆก็เริ่ม
เข้าที่เข้าทางแล้ว… แต่บ้าเอ๊ย! ตอนนี้มันอะไร!? ตอนนี้พี่ต้อง
เจอกับตัวนรกอะไรกันแน่!? แถมพี่ไม่รู้ด้วยซ้าว่าไอพวกผีลืม
หลุมนั่นอยู่ๆมันโผล่หัวมาได้ยังไง! ที่รู้ๆคือพวกมันไม่ใช่ตัวดี!!”
ตอนนี้หลินฟ่านบ่นออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ก่อนจะปล่อย
สานึกสติออกไป หมายจะสารวจที่ทางบนโลกเซียนโบราณ ทัง้
คิดจะตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดบนโลก
ทว่าทันใดนั้นเองเขาก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างสะทก
สะท้อน เพราะด้วยระดับพลังของเขาในปัจจุบันสานึกสติของ
เขากลับแผ่ออกไปได้แค่พื้นที่เล็กๆอันจากัดเท่านั้น
และนั่นยังมีอะไรใหม่ๆที่ทาให้หลินฟ่านตกตะลึงอีกด้วย!
ตึง! ตึง! ตึง! ตึง!
ทันใดนั้นเองผืนดินพลันสั่นไหว ปรากฏพืชมหึมาผงาดจากผืน
ดินอ้าปากออกกว้าง คล้ายจะงับหลินฟ่าน!
‘เทพสวรรค์อมตะ 6 ชั้นฟ้า’
“เชี่ยไรวะเนี่ย!! มารดามันเถอะ กับอีกแค่ต้นไม้ยังมีระดับเทพ
สวรรค์อมตะ 6 ชั้นฟ้าเนี่ยนะ?! แถมมันมีจิตวิญญาณสถิต
ด้วย?!”
หลินฟ่านเองก็ไม่เคยเห็นพืชพรรณลักษณะนี้มาก่อน ราวกับว่า
มันเป็นพืชสายพันธุ์ใหม่ที่ถือกาเนิดเกิดขึ้นหลังจากที่โลกไร้
จากัดเปิดออก
หลินฟ่านหยุดคิดฟุ้งซ่านค่อยยิงหมัดซัดพืชเวรที่คิดงับเขาจน
แหลกพินาศตายตก เมื่อผืนดินไม่ปลอดภัยเขาก็ลอยร่างขึ้นไป
เหินหาวกลางฟ้า…
“เฮ่อ โลกทั้งใบเปลี่ยนแปลงไปหมด ระดับพลังบ่มเพาะเฉลี่ย
ของสิ่งมีชีวิตบนโลกเพิ่มขึ้นทันตาเห็น แถมยังมีอะไรแปลกๆ
เกิดขึ้นบานตะเกียง”
ดูเหมือนว่านี่จะเป็นเพราะยามเมื่อโลกไร้จากัดเปิดออก สรรพ
โลกถูกดึงมาหลอมรวม เจตจานงสวรรค์ของทุกโลกก็ผสานเข้า
ด้วยกัน จนกลับกลายเป็นแข็งแกร่งขึ้น! และสามารถแบกรับ
สรรพสิ่งได้มากขึ้น ในแง่พลังก็สมควรเพิ่มพูนแกร่งกล้าขึ้น!!
ทว่านี่ยังไม่ถึงจุดสิ้นสุดของการเปลี่ยนแปลง ตอนนี้โลกไร้
จากัดยังคงถูกดึงมาหลอมรวมอย่างต่อเนื่อง หลินฟ่านเองก็ไม่
รู้ว่มันจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หากโลกทั้งหมดหลอมรวมเข้า
ด้วยกันเสร็จสิ้น
ตอนนี้หลินฟ่านบอกได้คาเดียวว่าปวดหัวตุ๊บๆ ทุกสิ่งทุกอย่าง
อยู่ๆมันก็เกิดขึ้นในฉับพลัน ไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัวอะไรเลย…
และทันใดนั้นเองหลินฟ่านที่เหินบินอยู่ก็ถึงกับต้องตัวแข็งทื่อ
เขาบังเกิดสังหรณ์อัปมคลอย่างแรง! ลางพี่ไม่ดีอีกแล้ว!!
“มนุษย์…”
ทันทีที่หลินฟ่านได้ยินเสียงเรียกนี้ ใจของเขาก็สะท้านเต้นรัว
ทันใด เขาหันมามองตามเสียงอย่างไม่รู้ตัว และเมื่อได้เห็นก็
แทบจะฉี่ราดกางเกงเสียให้ได้!!
“จะ…จะ…เจ้า…!” เมื่อเห็นร่างดังกล่าวหลินฟ่านถึงกับพูดติด
อ่างออกมาอย่างช่วยไม่ได้
เพราะนั่นคือเทพปีศาจแห่งความตาย!!
“โอ้ เจ้าเป็นมนุษย์งั้นสินะ หึหึ” การปรากฏตัวของเทพปีศาจ
แห่งความตายอย่างกะทันหันแบบนี้ ทาให้ท้องไส้หลินฟ่าน
ปั่นป่วนแทบอ๊วกพุ่ง
“ใช่แล้ว อา…แล้วนี่เจ้ามีอะไรหรอ เรียกข้านี่เจ้าต้องการอะไรรึ
เปล่า?” ตอนนี้หลินฟ่านยิ้มแย้มทักทายอีกฝ่ายอย่างอัธยาศัยดี
ยังกล่าวถามด้วยน้าเสียงอ่อนโยน
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีความเป็นมาอย่างไร แต่อย่างหนึ่งที่หลินฟ่าน
รู้ก็คือตอนนี้เขาไม่ใช่คู่มืออีกฝ่าย และการที่อยู่ดีๆอีกฝ่ายก็โผล่
มาหาเขาแบบนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าไม่มีความตั้งใจอันดีแน่! โลก
นี้น่ะนะ ที่ดีมันไม่มา ไอที่มามันไม่ดีสักตัว!!
“ข้าเทพปีศาจผู้นี้พึ่งตื่นขึ้นได้มินาน แต่ข้าเทพปีศาจก็พอได้ยิน
มาว่า…เจ้าได้ทาให้เผ่าพันธุ์โบราณสูญเสียไปไม่น้อย เช่นนั้นข้า
เทพปีศาจจึงมาดูว่ามดปลวกมนุษย์เช่นเจ้า มีพลังสามารถอัน
ใด” เสียงของเทพปีศาจแห่งความตายเป็นอะไรที่น่าพรั่นพรึง
นัก และทันใดนั้นน้าเสียงอีกฝ่ายก็เริ่มเปลี่ยนไป “แต่น่า
เสียดาย ที่เจ้าช่างน่าผิดหวังสาหรับข้าเทพปีศาจยิ่งนัก ว่าแต่
สมบัติที่เจ้าใช้ป้องกันข้าเทพปีศาจก่อนหน้านี้..มันคืออันใด?
เจ้ารีบหยิบมันออกมามอบถวายแด่ข้าเทพปีศาจผู้นี้เสีย!!”
(53380)
“อ่านั่น…เอ่อ…คือ…”
“หืม? อะไร? หรือเจ้าไม่คิดให้ข้า?” น้าเสียงของเทพปีศาจแห่ง
ความตายเริ่มเผยความโกรธออกมาเล็กน้อย
“ไม่ๆๆ..! ไม่ใช่อย่างน้าน! ข้าจะไม่เต็มใจได้ยังไงล่ะ! ข้า หลิน
ฟ่าน ยินดีที่ได้พบกับเทพปีศาจแห่งความตาย!!”
ตอนนี้หลินฟ่านรู้สึกว่าเขาควรพยายามเอาใจเทพปีศาจแห่ง
ความตายนี่ให้ดีซะก่อน เพราะเขาบังเกิดความคิดสาคัญ
ประการหนึ่งขึ้นมา
แล้วเขายังได้รู้มาอีกด้วยว่าส่วนใหญ่แล้วผู้คนที่หลับไปนาน
ยามตื่นขึ้นมาสติสตังจะไม่ค่อยครบถ้วนสักเท่าไร เรียกได้ว่ายัง
มึนๆเบลอๆ แถมยังคล้ายจะโง่ลง เขาเองก็สงสัยว่าสมมติฐาน
นี้มันจะจริงหรือเท็จกันแน่…!
ตอนที่ 879 : แตะมือ! พี่ขอแตะมือเปลี่ยนตัวก่อนน!!
หลินฟ่านย่อมรู้ดีว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร เขาจึงเรียกเตาหลอม
กลั่นสวรรค์และโลกที่เคยใช้กําบังลําแสงทมิฬจากอีกฝ่ายใน
ห้วงประหลาดนั่นทันที
เตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลกเป็นอะไรที่มาจากระบบ! แต่ให้
ตายเถอะมันถือว่าเป็นสมบัติขั้นเทพชิ้นหนึ่ง! ตอนแรกมันก็ถูก
ใช้ในการหลอมสร้างอาวุธ,โอสถ หรือกลั่นแต่งให้คุณสมบัติ
มันดีขึ้นเลิศล้ําขึ้น ทว่าด้วยความที่มันมีความทนทานยาก
ทําลายหลินฟ่านจึงตัดสินใจใช้มันเป็นที่ซ่อนฉุกเฉินทุกครั้งที่
เขาพบพานกับการโจมตีที่ตัวเขาไม่อาจทานรับได้
และวินาทีที่เตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลกปรากฏตัวขึ้น เขา
สัมผัสได้ทันทีว่าดวงตาของเทพปีศาจแห่งความตายนี่ต้องเรือง
แสงทัง้ เบิกกว้างแน่ๆ
แต่อันที่จริงแล้วตอนนี้ใบหน้าแววตาอะไรของเทพปีศาจแห่ง
ความตายก็ถูกซ่อนอยู่ในเงามืดของผ้าคลุม และไม่มีทางที่เขา
จะเห็นหน้าค่าตาอะไรอีกฝ่ายได้… หลินฟ่านก็แค่เดาว่าไอนี่มัน
ต้องเบิกตากว้างก็เท่านั้น..
“เป็นไงบ้างล่ะ ตอนนี้ท่านเทพปีศาจแห่งความตายคิดยังไงกับ
สมบัติของข้าชิ้นนี้หรือ?” หลินฟ่านกล่าวถาม
“ยอดเยี่ยม!” เทพปีศาจแห่งความตายกล่าวออก ทั้งในน้ําเสียง
ยังเผยร่องรอยแห่งความตื่นเต้นออกมา
“มนุษย์เจ้าทําได้ดีมาก เอาล่ะส่งมอบสมบัติชิ้นนี้มาให้ข้าเทพ
ปีศาจเสีย และมาสวามิภักดิ์เป็นลูกน้องรับใช้ข้าเทพปีศาจเป็น
อย่างไร? ด้วยมีข้าเป็นนายคอยดูแลเจ้า ย่อมมิมีผู้ใดในโลกหล้า
กล้าแตะต้องเจ้าอีก!” เทพปีศาจแห่งความตายกล่าวออกมา
ทันทีที่หลินฟ่านได้ยินคํานี้ตาเขาก็ขยิบทันที ‘เป็นลูกน้องแม่
เจ้าสิ!!’ แน่นอนว่าแค่คิดเท่านั้น แต่จะอย่างไรเสียในเมื่อเทพ
ปีศาจแห่งความตายพูดถึงเรื่องทํานองนี้ขึ้นมา นั่นหมายความ
ว่าอีกฝ่ายก็ยังพอเป็นสิ่งมีชีวิตที่คุยรู้เรื่อง มีช่องให้หลินฟ่านล
องคุยด้วยได้!!
ในใจหลินฟ่านเริ่มพินิจพิจารณาไตร่ตรองอะไรๆทันที เขาต้อง
วางแผนลงมือให้ดี
“การที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเทพปีศาจแห่งความตายเช่นนี้…
ช่างเป็นสิทธิพิเศษอันยอดเยี่ยมจริงๆ!!”
“ว่าแต่ท่านเทพปีศาจแห่งความตาย ท่านเคยกิน ล่าเถียว อ๊ะ
ป่าว?” หลินฟ่านรีบส่งสติสํานึกเข้าไปในโลกภายในกายของ
เขาทันที เขายังบึ่งไปในโลกมนุษย์และค้นหาสุดยอดของกิน
เล่นที่ฮิตติดลมบนและเป็นอะไรที่แซ่บสุดในโลกหล้า ล่าเถียว!!
‘เตรียมชิบหายได้เลยเทพปีศาจแห่งความตาย! พี่ประมุขอยู่
ของพี่ดีๆดันเสล่อมาแหยมพี่เอง วันนี้เอ็งโดนดีแน่!!’ หลิน
ฟ่านลอบก่นด่าในใจ จากนั้นเขาก็เริ่มอัดพลังจ้าวโลกาผยองลง
ล่าเถียวเต็มสูบ
‘จิตวิญญาณจ้าวโลกาผยอง! หลอมแต่งๆๆๆๆ’ หลินฟ่านขัด
เกลาอํานาจพลังจ้าวโลกาผยองจนหนาแน่นถึงขีดสุด ค่อย
ผสานลงไปในล่าเถียว
‘ติ๊ง!! ..ขอแสดงความยินดีท่านสร้าง ล่าเถียวจ้าวโลกาผยอง’
“ล่าเถียว?” ศีรษะในชุดคลุมลมดําถึงกับต้องเอียงไปข้างหนึ่ง
เทพปีศาจแห่งความตายสงสัยไม่น้อยว่ามันคืออะไร
และตอนนี้หลินฟ่านก็ได้สร้างโคตรล่าเถียวสําเร็จแล้ว ใจเขา
เต้นตุบตับมันลุ้นระส่ํานัก ยังมีความวาดหวังอันล้นปรี่ ‘นิ่งไว้!
คราวนี้พี่ต้องนิ่งๆไว้!!’
“ใช่แล้วล่าเถียว! นี่ไงมันคือของกินที่อร่อยที่สุดในตํานาน! และ
นี่ก็คือทั้งหมดที่ข้ามี ข้าเองก็เก็บสะสมไว้หลายสิบปีแล้ว” หลิน
ฟ่านหยิบล่าเถียวจ้าวโลกาผยองออกมา ยามเมื่อแท่งสีส้มแดง
ปรากฏน้ําลายเขายังอดสอไม่ได้ มันช่างมีเสน่ห์เย้ายวนนัก!!
เมื่อเห็นล่าเถียวอันยั่วยวนชวนให้น้ําลายแตกแบบนี้ กระทั่ง
หลินฟ่านยังอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ําลายดังเอื๊อก ทว่าเมื่อเขาคิดถึง
ผลกระทบของล่าเถียวจ้าวโลกาผยองแล้ว เขาก็สามารถบังคับ
อารมรณ์ให้สงบลงได้…
‘ขอให้ไอเทพปีศาจแห่งความตายนี่มันกินล่าเถียวจ้าวโลกา
ผยองของพี่ประมุขสักคําเหอะวะ รู้เรื่อง! เดี๋ยวได้หนุกหนานแน่
เอ็ง!!’
เมื่ออีกฝ่ายรับประทานเข้าไปจนออกฤทธิ์ เขาก็จะเข้าไปหลบ
ซ่อนในเตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลก! ปล่อยปีศาจยักษ์โบราณ
ออกมาให้จัดการสยบอีกฝ่ายซะ! แล้วหลังจากนั้นเขาก็จะเก็บ
เกี่ยวผลประโยชน์จากการปะทะ!!
และถ้าเขาฆ่าเทพปีศาจแห่งความตายอะไรนี่ได้ล่ะก็ ระดับพลัง
ฝึกตนเขาพุ่งปรี๊ดแน่! จากนั้นเขาจะกลับมาผงาดอย่างยิ่งใหญ่
อีกครั้ง! อุว๊ะ ฮะฮะฮ่า!!
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์
แต่พอไปเทียบกับกลิ่นอายพลังของเทพปีศาจแห่งความตาย
แล้ว เขาก็สัมผัสได้ถึงความต่างคนละโลก! ทว่าขอเพียงเขา
สามารถฆ่าตัวตนระดับนี้ได้สักครั้ง หลังจากนั้นอะไรๆก็ง่าย
แล้ว!!
“ล่าเถียวเผ็ดแซ่บแสนอร่อย!!”
ตอนนี้หลินฟ่านเองยังคล้ายได้ยินเสียงกลืนน้ําลายดังเอื๊อก แต่
เขาคิดว่าคงคิดไปเองและไม่ได้เก็บเอามันมาใส่ใจแต่อย่างใด…
“ส่งมาให้ข้า” เทพปีศาจแห่งความตายยื่นมือออกมา
‘ชัดเจน! สติสตังมันที่พึ่งตื่นท่าทางจะไม่ค่อยสมประกอบ!!’
ในความเห็นของหลินฟ่านแล้ว ไอตัวตนที่โคตรทรงพลังระดับ
เทพปีศาจแห่งความตายอะไรนี่ สมควรฆ่าทุกสิ่งอย่างที่พบเจอ!
มีที่ไหนเทพปีศาจแห่งความตายที่มาพูดคุยเป็นตุเป็นตะแบบนี้?
เมื่อถือซองล่าเถียวไว้ในมือแล้ว เทพปีศาจแห่งความตายก็ฉีก
ซองออก ดึงแท่งล่าเถียวออกมา สูดดมกลิ่นหอมเล็กน้อย ค่อย
มองมันอย่างละลานตา
และตอนนี้เองมือของเทพปีศาจแห่งความตายก็ค่อยๆยกขึ้นมา
ดึงชุดคลุมส่วนที่พันคอลง เผยให้เห็นคางของมัน…
“เอ๊อะ!?”
หลินฟ่านตะลึงถึงขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความขุ่นขึ้ง ทันทีที่เขา
เห็นคางเล็กเรียว แถมขาวกระจ่างดั่งหิมะพิสุทธิ์แรกเหมันต์ฤดู
เขาก็รู้สึกแหม่งๆขึ้นมาตงิดๆ!
เรื่องนี้จะเป็นไปได้ยังไง?
นี่ไม่ใช่เทพปีศาจแห่งความตายหรอกรึไง?
ในความเห็นหลินฟ่านหน้าตาของเทพปีศาจแห่งความตาย
อะไรนี่มันต้องออกไปแนวๆกะโหลกๆ น่าเกลียดน่ากลัวอะไร
ทํานองนั้นไม่ใช่หรอกหรือไง?! แต่มาตอนนี้หลินฟ่านรู้สึกว่าทุก
อย่างจะต่างออกไปจากที่คิดซะแล้ว!!
เทพปีศาจแห่งความตายนี่ช่างต่างกับที่เขาคิดจินตนาการไว้
ไกลโข!!
นี่มันสาวน้อย!!
ถึงแม้ว่าตอนนี้หลินฟ่านจะเห็นแค่คาง แต่จากประสบการณ์ที่
สั่งสมมานานแสนนานของหลินฟ่าน เขาสามารถบอกรูปร่าง
หน้าตาคร่าวๆของนางได้ทันที หลังจากแค่เห็นคางได้รูปบน
ใบหน้าแบบนี้อย่างเดียว!!
ริมฝีปากชมพูระเรื่อ!
มีเขี้ยวแหลมอยู่สองข้าง นางค่อยๆเผยอปาก งับล่าเถียวเผ็ด
ร้อนแสนแซ่บสีส้มแดงช้าๆ…
หลินฟ่านกลืนน้ําลายดังเอื๊อกด้วยความกระวนกระวาย!
ไม่ได้การแล้ว! นี่มันผิดท่าแล้ว!!
หลินฟ่านคิดจะกล่าวอะไรออกไป หากแต่ตอนนี้เขาทําได้แค่
กลืนคําพูดไว้ไม่ให้มันปูดออกมา…
“เป็นไงมั่ง?” เขากล่าวถามออกไปอย่างระวัง
หลังจากงับไปคําหนึ่ง ตอนนี้เทพปีศาจแห่งความตายถึงกับโยน
เคียวยมทูตทิ้ง ยังรีบถลกผ้าคลุมสีดําออกเผยให้เห็นเรือนผมสี
แดงสดสว่างปานดวงตะวันที่กําลังมอดไหม้
และเมื่อหลินฟ่านเห็นใบหน้าเทพปีศาจแห่งความตาย หัวใจ
น้อยๆของเขาก็เริ่มเต้นระรัวขึ้นมาอย่างดุเดือด
‘ชิบหายแล้วไง!’
มันเป็นอย่างที่เขาคิดและจินตนาการไว้ไม่มีผิด!!
แต่นี่มันเป็นไปได้หรอ? ไม่ใช่แล้ว! เทพปีศาจแห่งความตายเอง
ก็เป็นเผ่าพันธุ์โบราณไม่ใช่รึไง นางก็ควรมีรูปร่างหน้าตา
เหมือนพวกชนเผ่าโบราณไม่ใช่หรอ? แล้วไหงนางถึงได้มี
รูปลักษณ์แบบนี้ได้ล่ะ!?
“อื๊อ! มิเลวเลย ข้าเทพปีศาจชมชอบมันยิ่ง!” ทันใดนั้นน้ําเสียง
ของเทพปีศาจแห่งความตายก็แปรเปลี่ยนไป
เสียงแหบแห้งน่ากลัวชวนให้ขนหัวลุกก่อนหน้าหายไปอย่าง
สิ้นเชิง ราวกับทุกคําที่นางกล่าวออกมาก่อนหน้า ได้ถูกผ้าคลุม
ดํานั่นแปรเปลี่ยนน้ําเสียงไปดั่งเครื่องเปลี่ยนเสียง!
…
ภายในวิมานฟ้า ตอนนี้…
ก่อนหน้าปีศาจยักษ์โบราณก็ได้ถูกหลินฟ่านแจ้งเตือน เรื่องที่
วันนี้มันอาจจะต้องไปปลุกปล้ําเนื้อแนบเนื้อกับศัตรูอีกครั้ง…
มันเองก็ได้ทําใจเตรียมตัวปะทะเดือดกับเทพปีศาจแห่งความ
ตายบ้างแล้ว! อย่างไรเสียปีศาจยักษ์โบราณก็อดน้อยใจขึ้นมา
ไม่ได้ เพราะหลังๆมานี้ ทุกครั้งที่เหยื่อถูกพลังอํานาจของจ้าว
โลกาผยองเล่นงาน เป็นมันที่ต้องออกไปเสี่ยงภัยสยบทุกที
ถึงแม้ว่าปีศาจยักษ์โบราณจะเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจ มันก็ไม่ใช่พวก
จะอะไรกับใครก็ได้…
และในความเห็นของปีศาจยักษ์โบราณแล้ว เทพปีศาจแห่ง
ความตายอะไรนี่มิแคล้วต้องเป็นพวกหน้าเน่า ไม่ก็โครงกระดูก
อะไรน่ากลัวๆทํานองนั้นเป็นแน่! ทว่ายามนี้พอมันได้เห็นโฉม
หน้าที่แท้จริงของเทพปีศาจแห่งความตาย ปีศาจยักษ์โบราณ
ถึงกับทนไม่ได้อีกต่อไป!!
“นายท่าน! รีบให้ข้าออกไปจัดการเถอะ! ถึงแม้ข้าจักเป็นปีศาจ
ยักษ์โบราณที่ยิ่งให่ญ่และเป็นจ้าวแห่งมวลปีศาจ แต่ข้าก็ยินดี
เสียสละร่างกายนี้เพื่อความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ของนาย
ท่าน!!”
ปีศาจยักษ์โบราณรีบกล่าวออกมาเสียงดังส่งตรงถึงหูหลินฟ่าน!
สองตายังลุกวาวขึ้นมา!!
เรือนผมสีแดงดั่งตะวัน กอปรกับรูปโฉมงามพิลาศล้ําโดนใจ
นั่น…หากมีคนอื่นมาบอกหลินฟ่านว่านี่คือเทพปีศาจแห่งความ
ตาย จ้างให้เขาก็ไม่เชื่อ
เมื่อหลินฟ่านได้ยินเสียงของปีศาจยักษ์โบราณที่ส่งมา เขาก็
กระแอมเบาๆ ค่อยกระซิบตอบ “ไม่เป็นไรหรอก…อันที่จริงพี่
ประมุขก็เห็นเจ้าลําบากมาหลายครั้งแล้ว ปีศาจยักษ์โบราณ
เอย…เจ้าเหนื่อยมาหลายรอบแล้ว ครั้งนี้ให้พี่ประมุขจัดการเอง
เจ้าพักผ่อนเถอะ…”
“ข้ามิลําบากอันใด! ข้ายังไหวนายท่าน! ข้ายินดีเสียสละตัวเอง!
ครั้งนี้ก็ให้ข้าลุยเถอะ!!” ปีศาจยักษ์โบราณตะโกนกู่ก้อง
หลินฟ่านไม่ให้โอกาสปีศาจยักษ์โบราณได้กล่าวอะไรอีกต่อไป
เขาเลือกที่จะปิดวิมานฟ้าทันที
อีกเดี๋ยวสถานการณ์รบพุ่งต้องดุเดือดรุนแรงแน่…
แต่หลินฟ่านก็ตัดสินใจแล้ว
‘ถ้าพี่ไม่ลงนรกแล้วใครจะลงนรก’
ถึงแม้ว่าเทพปีศาจแห่งความตายนี่จะน่ากลัว แต่เขาพร้อมจะ
เป็นวีรบุรุษกู้โลก!!
หากเรื่องเท่านี้เขายังไม่อาจทานทนได้ เขาจะทําอย่างไรหาก
พบพานเรื่องราวเลวร้ายยากลําบากที่จะแผ้วพานเข้ามายัง
เส้นทางเขาในภายภาคหน้า?!
เวลาไหลผ่านไปอย่างเงียบงัน หลินฟ่านเองก็ยืนมองโฉมงาม
ค่อยๆเคี้ยวคําเล็กๆเบาๆ ราวกับลูกคุณหนูที่ถูกอบรมมาอย่าง
ดีอยู่ด้านข้างอย่างเงียบงัน…
และเมื่อเทพปีศาจแห่งความตายกินล่าเถียวจนหมดถุง หลิน
ฟ่านก็รู้ดีว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด…
“อา…”
ตอนนี้ใบหน้าที่ขาวพิสุทธิ์เนื้อเนียนของเทพปีศาจแห่งความ
ตายก็ค่อยแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย นี่คือผลกระทบของจ้าวโลกา
ผยอง
“มนุษย์ เจ้านับว่ายอดเยี่ยมยิ่งนัก ข้าเทพปีศาจผู้นี้รู้สึกโปรด
ปรานสิ่งนี้ยิ่ง นับแต่นี้ต่อไป เจ้าต้องไปหาล่าเถียวเผ็ดแซ่บนี่มา
ให้ข้าเทพปีศาจมากยิ่งขึ้น เช่นนั้นแล้วข้าเทพปีศาจย่อมไม่
ปฏิบัติกับเจ้าอย่างเลวร้าย!” เมื่อกล่าวจบคํา อยู่ๆเทพปีศาจ
แห่งความตายก็สัมผัสได้ถึงความร้อนรุ่มและบ้าคลั่งขุมหนึ่ง
กําลังลุกไหม้อยู่ภายในร่างของนาง
“ได้ๆ…”
หลินฟ่านพยักหน้ารับเบาๆ ตอนนี้เองเขาก็เตรียมพร้อมเต็มสูบ
ในใจหลินฟ่านยังมีคํากล่าวหนึ่ง เอ่ยออกจากใจ!
‘ให้พายุคะนองมันโหมแรงกระหน่ําเข้ามา! พี่จักทานรับมัน
ระลอกแล้วระลอกเล่า!!’
ทว่าทันใดนั้นเองหลินฟ่านเริ่มสัมผัสได้ว่า มีบางอย่างที่ไม่ค่อย
เข้ากับสถานการณ์บังเกิดขึ้น…
“เทพปีศาจแห่งความตาย นั่นท่านกําลังทําอะไรอะ!?” หลิน
ฟ่านที่กําลังจมจ่อมอยู่ในจินตนาการว่าต้องถูกสาวผมแดงขึ้นขี่
ควบแรงถึงกับต้องชะงัก! เมื่อตระหนักได้ว่า..เทพปีศาจแห่ง
ความตายกลับจี้ดัชนีออกมา ทําให้ความว่างเปล่าสั่นสะเทือน
หลังจากนั้น ด้วยอํานาจแห่งกฏเกณฑ์ทรงพลังบางประการ
กลับก่อเกิดเป็นตรวนล็อคมือล็อคเท้าหลินฟ่านเอาไว้ กระทั่งยัง
จับขึงพืด!!
แฮ่ก! แฮ่ก!!
เทพปีศาจแห่งความตายเริ่มหอบหายใจอย่างแรง ตอนนี้
ท่าทางของนางคล้ายไม่อยู่กับร่องกับรอย นางดูดรั้งเคียวยมทูต
ที่ตกอยู่ใกล้ๆเข้ามือ ก่อนที่จะควงไม่กี่ทีแปรเปลี่ยนลักษณ์มัน
ให้กลับกลายเป็นแส้สีดําทมิฬเส้นยาว… (53380)
ดะ…เดี๋ยว…!!!
‘ชิบหายแล้ว!! นางคิดทุบตีพี่แล้ว!!’ หลินฟ่านเริ่มกระวน
กระวายใจ ตอนนี้หัวใจเขาเต้นแรงดั่งคลั่ง พยายามดิ้นรนสุด
แรง
อนิจจาไม่ว่าหลินฟ่านจะดิ้นแรงขนาดไหนเขาก็ไม่อาจหลุดพ้น
จากสถานการณ์นี้ได้!
“แตะมือ! พี่ขอแตะมือเปลี่ยนตัวก่อน!!” ตอนนี้หลินฟ่านพลัน
ร่ําร้องออกมา ‘ชิบหายเอ๊ย! ปีศาจยักษ์โบราณ! ออกมา!!!’
เพี๊ยะ!!
แสงสีดํากระพริบวูบ!
“มนุษย์ เจ้าจักต้องเติมเต็มความปรารถนาอันไร้สิ้นสุดของข้า
เทพปีศาจผู้นี้! และตอนนี้เจ้าจักได้รับการเคี่ยวกรําฝึกฝนจาก
ข้าเทพปีศาจแห่งความตายผู้ยิ่งใหญ่!!” ประกายตาของเทพ
ปีศาจแห่งความตายเผยประกายวับวาวแบบแปลกๆ ใบหน้าที่
งามพิลาศล้ําของนางตอนนี้ก็เผยให้เห็นความวิปลาส
‘ชิบหายยเอ๊ยยย! แม่มันเถอะ…! พี่ประมุขพลาดไป
แล้ววววว…!!’
“โอ๊ยยยย!!!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ….!!!!”
ตอนที่ 880 : ของเล่นน้องสาวเจ้า!
เสียงน่าอายของหลินฟ่านกังวานขึ้นมาก้องโลก นี่นับเป็นความ
อัปยศอดสูรูปแบบหนึ่ง และเป็นอะไรที่เกินกว่าหลินฟ่านจะ
จินตนาการได้!
พอลองย้อนคิดไปแล้ว…กาลก่อนตัวหลินฟ่านเองก็ได้ฝึกฝน
เคี่ยวกราผู้อื่นมามากมายนับไม่ถ้วน! ทุกคราที่เขาใช้แส้บรรจง
เฆี่ยนลงร่างตัวตนทรงพลังทั้งหลาย เขามักสัมผัสได้ถึงความ
พึงใจและอิ่มเอมขุมใหญ่..!!
แต่ไหนเลยที่เขาจะเคยคิด…ว่าเรื่องราวจะแปรเปลี่ยนกลับ
กลายเช่นนี้! ไอบ้าเอ๊ย ตอนนี้พี่ประมุขกลับเป็นฝ่ายถูกผู้อื่น
เฆี่ยนตี! นี่เป็นอะไรที่เขาไม่เคยคิด! กระทั่งหลับยังไม่เคยฝัน!!
“เทพปีศาจแห่งความตาย! แบบนี้ไม่ดีม้างงงง!!!” หลินฟ่าน
ตะโกนออกมาซ้ายทีขวาที ทุกครั้งที่สัมผัสได้ถึงแส้ที่เฆี่ยนลง
ตามตัวจนเนื้อช้า ใจเขายังเต็มไปด้วยความรวดร้าวระทมสุด
แสน
ใบหน้าของเทพปีศาจแห่งความตายยิ่งมายิ่งเผยความพึงใจ
ราวกับทุกแส้ที่นางหวดเฆี่ยนได้ระบายความรุ่มร้อนและใคร่
ปรารถนาในใจ…
ส่วนในสายตาหลินฟ่านนั้น ตอนนี้เทพปีศาจแห่งความตายที่
ถูกไฟราคะสุมทรวง นางไม่ต่างอะไรไปจากสาวน้อยใจแตกหลง
ทางไปสาย S!
ตอนนี้หลินฟ่านเริ่มรู้สึกเสียใจขึ้นมาหนักหนาแล้ว! ไอบ้าเอ๊ย
หากเขารู้ว่าเรื่องพรรค์นี้จะเกิดขึ้น เขาคงเรียกปีศาจยักษ์
โบราณออกมารับศึกแต่แรก! นี่ถ้าเกิดใครมาเห็นเข้า…ต่อไปเขา
จะเอาหน้าไปไว้ไหนเนี่ย!?
เพี๊ยะ!!!
ยามเมื่อสายแส้ดั่งอสรพิษพัวพันฟาดเฆี่ยนจนเนื้อปริ ความ
เจ็บปวดแสบคันประการหนึ่งพลันแล่นพล่านถึงสมองหลิน
ฟ่าน!
‘ติ๊ง .. กายเทพนิรันดร์ EXP+100’
‘ถุยชีวิต!’
หลินฟ่านใกล้พังทลายแล้ว! ทุกการเฆี่ยนตีของเทพปีศาจแห่ง
ความตาย ทาให้เขาปวดใจแทบวายปราณ! อีกทั้งตอนนี้คล้าย
เทพปีศาจแห่งความตายยังไม่ได้ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมด อีกฝ่าย
เพียงละเล่นกับเขาเท่านั้น!!
พลังที่แฝงเร้นมาในแต่ละแส้ที่หวดฟาด เรียกได้ว่าพอดิบพอดี
ไม่มากหรือน้อยเกินไป ค่าประสบการณ์ที่ได้รับก็น้อยนิด
อนาถา!
ฟั่บ!
ทันใดนั้นเองปลายแส้พลันตวัดเลี้ยวไปเกี่ยวเข้ากับตะขอ และ
บางสิ่งที่น่าตื่นกลัวพลันบังเกิดขึ้น
แคว่กกก!!
เสื้อของเขาถูกฉีกกระชากออกดังแคว่ก! เผยร่างกายอันเนียน
แกร่งดั่งหยกเสลาหากแต่สมส่วนสู่โลกหล้า!!
“ชิบหาย! เจ้าข้าเอ๊ยยยย….ใครก็ได้ช่วยพี่ด้วยยย!!! “
หลินฟ่านตะโกนร้องลั่น ตอนนี้เขากาลังจะพานพบหายนะที่
แท้จริงแล้ว! แส้เฆี่ยนไม่พอตอนนี้นางคิดจะเฆี่ยนเขาทั้งเปลือย
เปล่าอีกหรือไร!?
“อาเจ๊เทพปีศาจแห่งความตายอ่า…! กลางวันแสกๆเจ๊เล่นแบบ
นี้มันไม่ค่อยจะดีนะ…!!” หลินฟ่านร้องเสียงหลงขณะดิ้นรนดุ๊
กดิ๊ก เรื่องราวยิ่งมายิ่งเหนือกว่าที่หลินฟ่านจะคิดคาดได้แล้ว
ตอนนี้ร่างกายเขาเองก็มีความแข็งแกร่งทางกายภาพอยู่ที่เทพ
สวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์ แต่มาตอนนี้ผิวขาวๆนม
ชมพูของเขากลับมีรอยแดงเนื้อแตกเพราะแส้เฆี่ยนทาบทับเต็ม
ไปหมด!!
ไอบ้าเอ๊ย! ลายพร้อยแล้วนี้เขาจะไปสู้หน้าผู้คนอีกได้ไง?
“ฮ่าๆๆๆ!!!!”
เมื่อเทพปีศาจแห่งความตายเห็นเรือนร่างลายพร้อยเนื้อแตก
เลือดซิบของหลินฟ่าน นางก็ถูกใจหนักหนาระเบิดเสียงหัวเราะ
ดังลั่น ราวกับภาพนี้กระตุ้นให้นางตื่นเต้นสุขสมนัก ส่วนหลิน
ฟ่านเองก็รู้สึกว่าครั้งนี้เขาดันไปขุดความชอบอันวิปลาศ
ผิดเพี้ยนในใจของเทพปีศาจแห่งความตายออกมาจนหมดกรุ!!
ล่าเถียว เผ็ดแซ่บ? บัดซบ! เก็บล่าเถียวอุบาทว์นี้ไว้กินกับ
มารดามันเถอะ!!
หลินฟ่านตอนนี้เสียใจสุดทรวงแล้ว เขาจะเอาล่าเถียวสุดแซ่บ
ให้นางกินเข้าไปทาเพื่อ!? แถมทะลึ่งยัดยาจ้าวโลกาผยองไป
เต็มเหนี่ยว! ไม่ใช่นี่เขารนหาที่ตายหรือไร!!
‘ไอวิญญาณจ้าวโลกาผยองโว้ย ทาอะไรอยู่วะหา!? ป่านนี้แล้ว
ยังไม่รีบถอนพิษของแกอีก! พี่แสบตัวจะตายห่าแล้ว!!’ หลิน
ฟ่านตะโกนดังก้องใจ
อนิจจาตอนนี้จิตวิญญาณจ้าวโลกาผยองก็อับจนหนทาง
เช่นกัน
“ฮัยยา ลูกพี่เอย…ไร้หนทางถอนฤทธิ์ยาอันใดแล้ว! นั่นน่ะข้า
อัดแก่นแท้พลังจัดไปชุดใหญ่ไฟกระพริบตามที่นายท่านลูกพี่สั่ง
ตอนนี้ข้าไม่มีแรงทาอะไรแล้ว! ตอนนี้ท่านก็ทนๆเอาหน่อยแล้ว
กัน!!” เมื่อเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า จิตวิญญาณจ้าว
โลกาผยองก็ใจสั่นระรัว ทุกอย่างมันช่างรุนแรงเหลือเกิน!
ส่วนอีกด้านนั้นตอนนี้ปีศาจยักษ์โบราณก็ยืนซาบซึ้งน้าตาไหล
พราก นายท่านของมันช่างประเสริฐเหลือแสน!
มิคิดเลยว่านายท่านของมันจะเลือกจะทานรับความเจ็บปวดนี้
ด้วยตัวเอง!!
ถึงแม้ว่าหลินฟ่านจะสั่งการย่ายีศักดิ์ศรีของปีศาจยักษ์โบราณ
หลายครั้ง แต่ครั้งนี้ก็นับเป็นเรื่องราว ขอเจ็บแทน! อันซาบซึ้ง
กินใจที่ปีศาจยักษ์โบราณไม่อาจระงับได้!
แววตาของเทพปีศาจแห่งความตายลุกโชนไปด้วยประกายคุ้ม
คลั่งวิปลาส ริมฝีปากนางเม้มกัดเอาไว้แลคล้ายยากจะทานทน
สภาวะอารมรณ์พุ่งพล่านไปหมดทั่วกายทั้งชูชันฉ่าเยิ้ม!
เพี๊ยะ!!
หัวใจดวงน้อยของหลินฟ่านเต้นรัวอย่างเกรี้ยวกราด เขา
พยายามปั่นเร่งพลังอันมหาศาลปานห้วงสมุทรของเขาครั้ง
ใหญ่! อนิจจาใดๆล้วนไร้ประโยชน์!!
ความแข็งแกร่งของเทพปีศาจแห่งความตายเหนือกว่าหลิน
ฟ่านมากเกินไป! ไม่มีทางที่เขาจะดิ้นร้นหลุดตรวนบัดซบที่ขึง
ตรึงนี้ได้เลย!
แม้จะมีอิฐแดง 95 ในตานานก็ไร้ประโยชน์! เพราะไม่รู้จะหยิบ
ไปเคาะหัวอีกฝ่ายยังไง!!
หลินฟ่านเองก็คิดไว้หากลงมืออะไรได้ ด้วยกระบวนท่าเลิศล้าที่
เขามี เขาน่าจะฟันฝ่าได้ทุกสถานการณ์! อนิจจาพอถูกจับขึง
พืดแบบนี้ก็ไม่รู้จะทาอย่างไรแล้ว…!!
ตอนนี้หลินฟ่านอยากร้องไห้นัก ตกลงวันนี้เขาจะถูกเทพปีศาจ
แห่งความตายนี่เฆี่ยนตีขืนข่มอย่างผิดเพี้ยนไปอีกนานเท่าไร?
ตอนนี้เองวูบหนึ่งในใจของหลินฟ่านก็หวนคะนึงไปถึง
จักรพรรดินีวารีอัคคี…ถึงแม้ว่านางเองก็ข่มขืนรังแกเขา
เหมือนกัน แต่อย่างน้อยๆนางก็ยังอ่อนโยนกับเขาไม่น้อย…
“ว๊ากกก!! ชิบหาย! ม่ายยยยย อย่าาาาา!!!”
ทันใดนั้นเองในขณะที่หลินฟ่านหวนราลึกถึงความอ่อนโยนอุ่น
ร้อนที่ควบขี่เขาในอดีต หลินฟ่านพลันตระหนักได้ว่าตอนนี้
ปลายแส้ของนางเทพปีศาจน่าตายพลันพุ่งมาพันรอบกางเกง
เขา! อีกฝ่ายคิดจับเขาแก้ผ้าล่อนจ้อนแน่แล้ว!!
“อาเจ๊เทพปีศาจแห่งความตายอ่า! อย่าทาแบบนี้เลย…! ถ้าเจ๊
ทาแบบนี้…เจ๊ต้องรับผิดชอบนะ!!”
“ข้าคือราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า! ข้าสามารถ
ถล่มเจ๊ได้ทั้งวันทั้งคืน! และครั้งไหนที่ข้าอยากถล่ม บอกเลยว่า
ฟ้าเหลือง! รับรองเจ๊ต้องพบพานชะตากรรมอันเลวร้ายใน
ภายหลังแน่!!”
หลินฟ่านครางครวญออกมา ตอนนี้เขาไม่รู้จะทาไงแล้ว เลย
โพล่งคาขู่ในใจออกไปอย่างเกรี้ยวกราด
ส่วนอีกด้านนั้น เทพปีศาจแห่งความตายกลับหัวเราะออกมา
อย่างชอบใจ “ดี….ดี!..ดี!!”
ทันใดนั้นหลินฟ่านเห็นชัดถนัดตา เทพปีศาจแห่งความตาย
แลบลิ้นเรียริมฝีปากชมพูของนางดังแผล่บ! สายตายังเร่าร้อนมี
อารมณ์ถึงขีดสุด! หัวใจของเขาถึงกับเต้นระรัวไปทันใด! ชิบ
หายงานหยาบ! ตอนนี้เขาเจอตัวแม่ขาโหดนิยมจัดหนักแล้ว!!
“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยด้วย! ฆ่าคนแล้ว! จะฆ่าคนตาย
แล้ววว!!”
หลินฟ่านหันซ้ายหันขวากู่ร้องดังลั่น เขายังพยายามเกร็งเอว
บิดต้านแส้สุดกาลัง ต้องรักษาปราการสุดท้ายนี้เอาไว้ให้ได้!!
ผลุบ!!
หลินฟ่านปิดตาเบื้อนหน้าหนี เมื่อตระหนักได้ว่ากางเกงถูกสาว
เจ้าถลกออกไปนิดนึงแล้ว! ตอนนี้หน้าเขายังเปลี่ยนสีไป เขาไม่
อาจปล่อยให้เรื่องนี้ดาเนินต่อได้สืบไป!!
‘เชี่ยยยย!! ไม่เอานะ! อย่าดึงงง อย่าดึงอีกเลย! ฟ่านน้อยจะ
โผล่ออกมาแล้ว!!’ หลินฟ่านร่าร้องเสียงหลงในใจ
หากเขารู้ว่าเรื่องพรรค์นี้จะเกิดขึ้น ต่อให้ตาย เขาก็คงไม่คิด
แม้แต่จะลงมืออะไรตั้งแต่แรก…
ตอนนี้จิตวิญญาณจ้าวโลกาผยองมันปวดตับเกินไป! แต่ก่อนไม่
ว่าใครหากถูกฤทธิ์จ้าวโลกาผยอง พวกมันจะเริ่มเจาะพื้นอย่าง
แรงระบายความปรารถนาในใจทั้งหมด!
แต่มาดูตอนนี้เข้าสิ!
ทั้งหลายไม่ถล่มพื้นอีกต่อไป หากแต่จะปลดปล่อยราคะที่ท่วม
ท้นทั่วร่างออกมาจนหมดสิ้น
และเทพปีศาจแห่งความตายนี้ รูปแบบการระบายความใคร่
ของนาง กลับเป็นการสวมบทราชินีตัวแม่ลงแส้เหยื่ออย่าง
อามหิต แล้วตอนนี้ใครเป็นเหยื่อนางหรือ? ก็เขาไงจะใครล่ะ!!
“ม่ายยยยยยยยย!!!”
หลินฟ่านกรีดร้องโหยหวน ทว่าทันใดนั้นเองผมยาวสลวยหนึ่ง
พลันพลิ้วมาบดบังทัศนวิสัยหลินฟ่าน ทั้งยังมีกลิ่นหอมจรุงโชย
เข้าจมูกให้ชุ่มปอด…
“อาห์…”
ทันใดนั้นเองหลินฟ่านพลันเผลอปล่อยเสียงน่าอายออกมา
อย่างพึงใจ เพราะเขาตระหนักได้ว่าน้องชายของเขากาลังถูก
กอบกุมเอาไว้! สัมผัสนี้ช่างพิกลนัก มันทั้งอุ่นร้อนและเย็นฉ่าใน
เวลาเดียวกัน อย่างไรเสียก็สบายฟ่านน้อยไม่เบา…
ตอนนี้เองหลินฟ่านพลันได้ยินเสียงหนึ่งดังสะท้อนอยู่ในหู และ
เมื่อได้ยินเสียงนี้หลินฟ่านก็อึ้งไปราวกับได้พบพานบางสิ่งอันน่า
เหลือเชื่อ!
“ฉื่อเยี่ยน กาลยุคสมัยผันผ่านไป 2 วัฏจักรแล้ว หากแต่เจ้ายัง
มิเลิกนิสัยชอบวุ่นวายกับสมบัติส่วนตัวอันพิเศษของข้าอีก
หรือ?”
เสียงนี้ชัดกระจ่าง ทั้งยังใสกังวานปานดุริยางค์สวรรค์ อย่างไร
เสียก็ท่วมท้นไปด้วยพลังอานาจอันไร้ประมาณ
“จักรพรรดินีวารีอัคคี…”
เมื่อหลินฟ่านเห็นว่าผู้ที่มาถึงเป็นใครใจเขาก็แข็งค้างไปทันใด
จากนั้นสายตาเขาก็มองต่าลง มือที่แสนอ่อนโยนของ
จักรพรรดินีวารีอัคคีกาลังกอบกุมน้องชายของเขาไว้ทั้งลา
เหนือมือนางขึ้นไปพลันมีพลังไร้สภาพระงับแส้สีดาเอาไว้
เปรี๊ยะ!!
เพียงนางออกแรงอีกนิดแส้สีดาพลันแตกสลายกลายเป็น
ละอองธุลีต่อหน้าเทพปีศาจแห่งความตาย ก่อนที่ละอองธุลี
ทั้งหลายจะม้วนวนกลับกลายเป็นเคียวเทพแห่งความตายใน
มือของนางอีกครั้ง
“โอ๊ย เบา! เจ็บ…มันเจ็บนะ!” หลินฟ่านสัมผัสได้ชัดถึงแรงบีบ
กาที่เพิ่มขึ้นของจักรพรรดินีวารีอัคคี! ราวกับหากนางออกแรง
อีกนิดเดียวฟ่านน้อยได้ระเบิดบึ้มแน่!!
“ฮึ! จดจาเอาไว้เสียให้ดี…เจ้าคือสินส่วนตัวของข้าจักรพรรดินี
แต่ผู้เดียว หากข้าจับได้ว่าเจ้ากล้าทรยศข้าจักรพรรดินีล่ะก็ ข้า
จักรพรรดินีผู้นี้จะระเบิดตัวดีของเจ้าให้แหลก!!” จักรพรรดินี
วารีอัคคีที่กอบกุมท่อนลาของหลินฟ่านพลันหันหน้ามามอง
หลินฟ่านตาดุ ดวงตาที่งดงามของนางจ้องตาหลินฟ่านไม่วาง
ราวกับนางกาลังเตือนเขาว่านางไม่ได้ล้อเล่น!
“อย่าได้ดุร้ายให้มันมากไป!” เมื่อหลินฟ่านเห็นสายตาดุๆของ
จักรพรรดินีวารีอัคคีเขาก็ขุ่นขึ้งหมองเคืองขึ้นมา ชักตาดุเสียง
เข้มสวนไปทันใด กลัวที่ไหนล่ะ! (53380)
เขาคือราชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้านะ! เขาจะมา
ถูกยัยตัวร้ายนี่ข่มไว้ได้ไง?
ต่อให้นังตัวดีนี่ตอนนี้จะแข็งแกร่งกว่าเขา เขาก็ไม่กลัว!!
“โอ๊ย! โอ๊ย! เจ็บ! อย่าบีบ… โอ๊ย…! พอ! พอแล้ว..!!” หลินฟ่าน
ชักสีหน้าเข้มได้แป๊บเดียวก็ต้องอ่อนลงทันใด เพราะอีกฝ่าย
กอบกุมจุดยุทธศาสตร์ไว้หมดแล้ว..
“ฮึ่ม..!!”
ทันใดนั้นเทพปีศาจแห่งความตายก็แค่นเสียงฮึดฮัดออกมา
ดวงตานางยังเต็มไปด้วยโทสะอันไร้สิ้นสุด “จักรพรรดินีวารี
อัคคี…นั่นคือของเล่นของข้าเทพปีศาจผู้นี้…”
ครืนนนน!!
ทันใดนั้นโลกหล้าทั้งใบคล้ายจะสะท้านสะเทือน แสงพลังหนึ่ง
ปานจะหั่นผ่าไปทั้งโลกหล้าปรากฏวูบวาบ หากแต่พลัง 2 ขั้ว
ประสานก็ต้านทานรับไว้ไม่ไหวหวั่น! ครั้นแล้วสองร่างพลันโจน
ทะยานไปโรมรันพันตูดุเดือด! ตัดกลับมาที่ด้านหลินฟ่านนั้น..
เขามีวาจาคิดเอ่ยเพียงหนึ่งคา ‘ของเล่นน้องสาวเจ้า…!!’
ตอนที่ 881 : กาลครั้งหนึ่งโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้า!
หลินฟ่านแหงนมองขึ้นไปกลางฟ้า ตอนนี้การโรมรันพันตู
ระหว่างสองสตรีที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังมหาศาลนั้นเป็นอะไรที่
น่าเหลือเชื่อนัก ทุกฝ่ามือของพวกนางที่ตบฟาดออกมา แทบ
จะทําให้โลกทั้งใบแตกแยก! พลังที่ปะทุออกมาบ้าคลั่งเกรี้ยว
กราดนัก!!
หลินฟ่านอดไม่ได้ที่จะเซ็งในใจ! เพราะตอนนี้เขาไม่อาจเทียบ
กับระดับพลังของพวกนางได้เลย!!
การปะทะกันระหว่างจักรพรรดินีวารึอัคคีกับเทพปีศาจแห่ง
ความตายนี่ ยังเป็นอะไรที่เรียกได้ว่าหายนะภัยพิบัตินัก! ไม่ใช่
อะไรที่หลินฟ่านจะสอดแทรกเข้าไปได้เลย!!
เมื่อเห็นการปะทะเดือดอันหนักหน่วงหลินฟ่านก็ครุ่นคิดเร็วจี๋
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมายืนดูการต่อสู้อะไร! เขาต้องหาทาง
หนี!!
หลินฟ่านพยายามเร่งเร้าพลังทุกขุมทั่วร่าง หากแต่พักใหญ่ก็ไม่
อาจดิ้นให้หลุดตรวนบัดซบที่ขึงพืดเขาไว้ได้!!
“เชี่ยเอ๊ย! นังบ้านั่นไม่คิดเหลือโอกาสให้ใครดิ้นรนเลยเหรอไง!”
หลินฟ่านไม่พอใจสุดทรวง จากนั้นเมื่อแรงตัวเองไม่ไหวเขาก็
เรียกทะยานสวรรค์ออกมาทันที
ทะยานสวรรค์เริ่มหมุนเร็วจี๋ ก่อนที่จะจี้ไปยังตรวนบัดซบที่ขึง
พืดเขาไว้!
ประกายไฟพุ่งออกมาราวกับสะเก็ดดาวตก ทว่าแม้จะจี้วี้ๆอยู่
นาน แม้แต่รอยบิ่นมันก็ไม่มี!!
“ชิบหายเอ๊ย! ไอตรวนบ้านี่มันจะแข็งเอาโล่ห์รึไงวะ!? ใครจะไป
เล่นกับนังบ้านี่ไหววะเนี่ย!?” หลินฟ่านอดยอมรับความพ่ายแพ้
เสียไม่ได้ ตรวนบ้านี้ไม่เหลือโอกาสให้เขาสักนิดเลย…
เปรี๊ยงงงงง!!
ทันใดนั้นมวลอากาศพลันแตกระเบิดออกอย่างรุนแรง! การประ
มือของเทพปีศาจแห่งความตายกับจักรพรรดินีวารีอัคคีทําให้
ความว่างเปล่าพินาศทลาย! ห้วงมิติยังยากจะคืนตัวได้ในเวลา
อันสั้น บังเกิดวังวนพลังปั่นป่วนก่อเกิดไปทุกที่! วังวนเหล่านี้ยัง
น่ากลัวนัก และกระแสพลังผันผวนที่เอ่อล้นออกมาจากมันก็น่า
สะพรึงกลัวยิ่งกว่าครั้งใด!!
ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่กระแสพลังผันผวนจากห้วงแห่งความ
ว่างเปล่าทลายจะร้ายแรงถึงขอบเขตนี้!
“จักรพรรดินีวารีอัคคี นี่คือของเล่นของข้าเทพปีศาจผู้นี้! เจ้า
คิดกระทําสิ่งใดของเจ้ากัน!?” ตอนนี้เทพปีศาจแห่งความตาย
ยังไม่อาจคุมสติได้เพราะฤทธิ์เจ้าโลกาผยองยังอยู่! เป็นธรรมดา
ที่นางรู้สึกสุดจะทนเมื่อมีใครพยายามจะแย่งชิงของเล่นของ
นางไปต่อหน้าต่อตา!!
“ฮึ่ม! นั่นคือสมบัติส่วนตัวของข้าจักรพรรดินีผู้นี้…ทั้งจากนี้และ
ตราบชั่วนิรันดร์ หากเจ้ากล้าแตะต้องเขา เจ้าจักต้องจ่ายออก
ด้วยชีวิตของเจ้า!!” จักรพรรดินีวารีอัคคีเปล่งอํานาจพลังสะกด
ข่มเหนือผู้ใด ยามตบฟาดออกไปปรากฏสายธารพลัง 2 สาย
ทะลวงความว่างเปล่าออกมา!!
สายธารพลังสองสายนี้คือสัจจะวารีและสัจจะอัคคี หากแต่พวก
มันเปล่งพลังอํานาจเหนือชั้นเสียยิ่งกว่าสัจจะวารีและอัคคีที่
หลินฟ่านมีอยู่มากมายนัก!!
หากจะเทียบกันแล้วสัจจะวารีและอัคคีที่หลินฟ่านมีก็เสมือน
เด็กน้อยคิดผยองต่อหน้าผู้ใหญ่! ไม่คุ้มค่าที่จะกล่าวถึงแม้ครึ่ง
คํา!!
หลินฟ่านที่ถูกขึงพืดเมื่อมองไปยังอากาสเหนือฟ้าก็รู้สึกหดหู่
ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้…ก้มมองลงไปเห็นฟ่านน้อยที่ห้อย
ต่องแต่งรับลมยิ่งปวดใจ…
จะอย่างไรเสียเขาเองก็เป็นตัวตนที่ทรงพลังอย่างแท้จริงคน
หนึ่ง! ย้อนกลับไปก่อนที่โลกไร้จํากัดจะเปิดออกระดับพลัง
ความแข็งแกร่งของเขานั้นอยู่แนวหน้า! อนิจจามาตอนนี้เมื่อ
โลกไร้จํากัดเปิดออกเขาเริ่มกลับมารู้สึกว่าชีวิตลําบากอีกครั้ง
จากตัวตนทรงพลังอยู่เหนือต้องถูกไอพวกตัวบ้าที่ไม่รู้มาจาก
ไหนนี่สะกดข่มจนเสียหมด! ถูกขึงพืดเผยมังกรน้อยอย่างไร้
หนทาง!!
แถมเทพปีศาจทั้ง 3,000 ของชนเผ่าโบราณ และเหล่าตัวตน
สูงสุดผู้เป็นจ้าวทั้งหลายของร้อยพันชนเผ่า…แต่ละตัวก็ไม่ใช่
ขี้ๆ! พลังอํานาจเรียกว่าเข้าขั้นโกงแทบทุกตัว ไม่เหลือที่ว่างให้
ผู้คนธรรมดาเบียดแทรก!!
ถ้าจักรพรรดินีวารีแข็งแกร่งกว่าเขาก็ช่างปะไร แต่ทว่ามา
ตอนนี้กระทั่งเทพปีศาจแห่งความตายยังน่าเกรงขามกว่าเขา
อีก! อีกทั้งนางยังเป็นสาวน้อยสายแส้!!
ใยโลกใบนี้ถึงได้โหดร้ายนักเล่า?
ขณะกําลังคิดไปอย่างสลดหดหู่ หลินฟ่านพลันตระหนักได้ว่า
ตรวนพลังที่ล่ามเขาพลันปริแตกสลายไป!!
หลินฟ่านไม่รอช้ารีบก้มไปถกกางเกงขึ้นมารัดเชือกแน่น แล้ว
หันมองซ้ายขวาทันใด
‘เชี่ยได้ทีแล้ว! พี่โกยก่อนละเว้ยย!!’
หลินฟ่านไม่ใช่ตัวโง่งม เมื่อทั้ง 2 กําลังรบติดพันกันอยู่เขาก็
ต้องฉวยโอกาศหลบหนีแน่นอน! เขาเข้าสู่สภาวะเร้นกายแล้ว
หนีไปทันใด!!
‘คงจะดีไม่น้อยถ้านังตัวร้ายนี่ไม่ตามพี่มา! ฮึ่มถึงหน้าสวยให้
ตายแต่นิสัยแบบนี้ก็ไม่ไหวเว้ย! ถ้าพี่ตกอยู่ในมือพวกนางอีกล่ะ
ก็ ต้องพบพานกาลครั้งหนึ่งแห่งโศกนาฏกรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่า
ความตายแน่!!’
วันนี้หลินฟ่านรู้แจ้งแล้ว! สาวๆน่ะนะ…ยิ่งสวยเท่าไหร่ยิ่ง
อันตราย! พวกนางไม่ใช่อะไรที่เขาตอนนี้จะปราบพยศได้!!
แน่นอนว่าทันทีที่หลินฟ่านหลบหนี ย่อมดึงดูดความสนใจให้
จักรพรรดินีวารีอัคคีและเทพแห่งความตายทันที! 2 สตรีที่โรม
รัน กลับสามารถจับสัมผัสได้ทันใด! พวกนางพุ่งร่างทะยานฟ้า
มาหาเขาดั่งเส้นแสง!!
ถึงแม้ว่าตอนนี้หลินฟ่านจะเข้าสู่สภาวะเร้นกายแล้ว แต่ทว่า
ยามเขาขยับตัวก็ต้องก่อเกิดร่องรอยให้ติดตาม! ถึงแม้ร่างเขา
จะล่องหนจนไม่อาจมองเห็น แต่ทั้ง 2 คือตัวตนทรงพลังที่แม้
สายลมบางเบาหนึ่งอณูยั่งหยั่งรู้ได้ดั่งนิ้วมือ!!
เรื่องการพบพานนังตัวร้ายจนต้องตกอยู่ในชะตาอนาถแบบ
วันนี้ หลินฟ่านไม่มีวันเล่าให้ใครฟังแน่! ขณะที่นึกในใจอย่าง
ขุ่นเคืองนั้น พอสัมผัสได้ถึงมวลพลังมหาศาลที่เข้ามา และเมื่อ
หันไปพบพวกนางปรี่ตรงเข้ามาหมายล่าตัวเขา! ก็ถึงกับต้อง
สะดุ้งโหยงด้วยความกลัว! อดหดหู่ใจเสียไม่ได้!!
‘เชี่ยเอ๊ย! พี่หนีพวกนางไม่พ้น!’ หลินฟ่านที่จนใจจะหนีก็ได้แต่
คลายสภาวะเร้นกาย
“พวกเจ้าต้องการอะไรกันหา!?” หลินฟ่านรีดเค้นความกล้า
ยืนมองสบตาสตรีดุร้ายทั้ง 2 แม้หน้าจะเข้มแต่ใจสั่นระริก
หน้าอกเขากระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรงจนเห็นได้ชัด ‘บ้าเอ๊ย!
พวกนางจะรังแกกันมากไปแล้วนะ!!’
ถึงแม้ว่าพลังเขาจะอ่อนด้อยกว่าพวกนาง แต่พวกนางก็ไม่
สมควรมารังแกเขาแบบนี้ป่าววะ!?
“พวกเจ้าคิดจะบีบคั้นให้ข้าตายให้ได้รึไงหา!? อย่าให้มันมากไป
นักนะ! ต่อให้ข้าประมุขตาย ข้าประมุขก็จะระเบิดร่างตัวเองให้
แหลก อย่าหวังจะได้เล่นอะไรกับตัวพี่ได้!!” หลินฟ่านคํารามอ
อกมาอย่างเกรี้ยวกราด
“ฮ่าๆๆๆ!! ข้าคือเทพปีศาจแห่งความตาย ต่อให้เจ้าตกตายไป
ข้าก็สามารถชุบชีวิตเจ้าขึ้นมาได้อย่างง่ายดายนัก!” เทพปีศาจ
แห่งความตายระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ดวงตาวิปลาสคุ้ม
คลั่งของนางยังจ้องหลินฟ่านเขม็ง! ลิ้นแลบเลียแผล็บๆยาม
นางกวาดตาแทะโลมร่างเขา!!
“เจ้านับเป็นสินส่วนตัวของข้าจักรพรรดินี เจ้ากล้าทรยศข้าจัก
พรรดินีด้วยการหลบหนีงั้นหรือ!?” จักรพรรดินีวารีอัคคีเองก็
กล่าวออกมาอย่างดุร้าย
“ดี! งั้นก็เข้ามาเลยสาวน้อย! ผลัดกันเข้ามาทีละคนเลยเป็นไง!?
แต่อย่าได้หวังว่าข้าประมุขจะแพ้พ่ายยอมพวกเจ้าง่ายๆ! ไม่มี
วันที่พวกเจ้าจะได้ใจข้าประมุขไปหรอก!!” หลินฟ่านประกาศก
ร้าว
“หึ! ใจเจ้าจักมีประโยชน์อันใด ข้าเทพปีศาจต้องการเพียง
ร่างกายเจ้าเท่านั้น” เทพปีศาจแห่งความตายกล่าวตอบ
แม้จักรพรรดินีวารีอัคคีไม่ตอบ หากแต่นางก็ยอมรับคําของ
หลินฟ่านในใจอย่างเงียบงัน
‘ถล่มสุนัขมันเถอะ…!!’ หลินฟ่านร่ําร้องในใจ พวกนังตัวร้ายทั้ง
2 นี่ไม่คิดจะมีหลักการหรือยางอายในใจหน่อยรึไง!?
“พวกเจ้าผิดแล้ว…หากพวกเจ้าสามารถชนะใจข้าประมุขได้ล่ะ
ก็ ข้าประมุขมีท่ายากมากมายรอจัดให้พวกเจ้า…” หลินฟ่านที่
ทนโดนกระทําฝ่ายเดียวไม่ไหว ในที่สุดก็คํารามออกมาอย่าง
เกรี้ยวกราด หากแต่ก่อนที่เขาจะทันได้กล่าวจบคําจักรพรรดินี
วารีก็ลงมือซะก่อน
“ไปกับข้า!” จักรพรรดินีวารีอัคคีตบฟาดมือพร้อมเผยปาง
พิสดาร ก่อเกิดมวลพลังทรงอํานาจประหนึ่งจะบีบสะกดได้ทั้ง
โลกหล้า ห่อหุ้มร่างหลินฟ่านเอาไว้!
ตอนนี้นางนับว่าลงมือได้ดุร้ายอย่างที่ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้
ตอบโต้แม้แต่น้อย! เผด็จการ! ข่มเหงรังแกกันมากไปแล้ว!!
“จักรพรรดินีวารีอัคคี! นั่นของเล่นของข้าเทพปีศาจ เจ้ามิมี
สิทธิ์คว้ามันไปจากข้าเทพปีศาจผู้นี้!!” เคียวยมทูตแห่งความ
ตายของเทพปีศาจแห่งความตายแกว่งไกวเป็นวง บังเกิดมวล
พลังทรงกลมอัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายปรากฏขึ้น!
กลิ่นอายต้นกําเนิดแห่งความตายทั้งมวลกําจายออกมาอย่างน่า
ครั่นคร้าม นี่คือพลังอํานาจแห่งความตายที่สะกดได้ทุกสิ่ง! ยาก
จะมีผู้ใดต้านทานมันได้!!
ทั้งยามเมื่อกลิ่นอายแห่งความตายสาดทะลักออกมานั้น นําพา
ให้ทั่วอาณาบริเวณกลับกลายเป็นดั่งขุมนรก สรรพสิ่งเหี่ยวเฉา
โรยรา ต่างค่อยๆร่วงโรยสลายดั่งธุลี! ไอมรณะขุ่นคลั่กทรง
อํานาจไร้ขอบเขตฟุ้งไปทั่ว!!
ครืนนนน!
แขตแดนพลังของจักรพรรดินีวารีอัคคีที่แผ่ออกมาหมายกาง
กั้นพลังอีกฝ่ายพลันถูกฉีกทําลายเป็นชิ้นๆ! ไอมรณะอันไร้
ขอบเขตเริ่มหลั่งไหลเข้ามาหมายกัดกิน!!
หน้าจักรพรรดินีวารีเปลี่ยนสีทันใด นางไม่กล้ารอช้าฝ่ามือขาว
ตบฟาดออกมานับพันๆครั้ง นําพาให้ทั้งโลกหล้าคล้ายเอ่อล้น
ไปด้วยอํานาจพลังแห่งวารีอัคคี!!
ครืนนนนน!!!
ไร้ซึ่งความลังเลใดๆหลังจากปะทุพลังชั่วชีวิต จักรพรรดินีวารี
พลันสะบัดมือดึงร่างหลินฟ่านที่ถูกนางสะกดเอาไว้วูบหายเข้า
ช่องว่างไปทันใด
“เชี่ยยย…!!!”
อยู่ในกํามือตัวตนที่ทรงพลังทั้ง 2 แบบนี้หลินฟ่านเหมือน
ลูกเจี๊ยบตัวหนึ่ง ไม่อาจทําอะไรได้เลย
และยามเมือ่ โลกหล้าหวนคืนสู่ความสงบ มวลพลังวารีอัคคีและ
ไอมรณะปะทะหักล้างจนดับสลาย โลกหล้ากลับกลายเป็นเงียบ
งัน หนึ่งร่างที่คงเหลือท่ามกลางสมรภูมิคือเทพปีศาจแห่งความ
ตาย… (53380)
ใบหน้าที่งดงามของนางอย่างไร้ที่ติของนางกลับมีบาดแผลไหม้
โลหิตสดๆยังไหลซิบออกมา ทว่าเพียงเทพปีศาจแห่งความตาย
ใช้มือที่ปะทุพลังทมิฬปาดลูบคราหนึ่ง แผลก็ค่อยๆสมานตัว
ด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า…
อย่างไรก็ตามในแววตาของนางยังคงลุกไหม้ไปด้วยไฟโทสะ
ยากจะดับ!!
ทันใดนั้นนางพลันแกว่งเคียวยมทูตของนางอย่างแรงคราหนึ่ง
สรรพสิ่งโดยรอบล้วนวิบัติ ความว่างเปล่า ไอพลังใดๆ ทุก
อย่างล้วนถูกทําลาย….คงเหลือเพียงห้วงแห่งความปั่นปวนไร้
เสถียรเท่านั้น…
“บัดซบ!!”
เสียงเทพปีศาจแห่งความตายดังกึกก้องทั้งยังอัดแน่นไปด้วย
มวลอารมณ์ขุ่นมัวถึงขีดสุด และความน่าสยดสยองชวนให้
พรั่นพรึงถึงขีดสุด!!
ไม่คิดเลยว่าของเล่นของนางจะถูกกระชากแย่งไปด้วยน้ํามือ
ของจักรพรรดินีวารีอัคคีต่อหน้าต่อตา! นี่คืออะไรที่เทพปีศาจ
แห่งความตายยากจะทานรับได้!!
ตอนที่ 882 : ใครหยุดก่อนเป็นไอ้ลูกหมา!!
‘เฮ่อ…อุตส่าห์รอดจากเขี้ยวหมาป่ามาได้ แต่สุดท้ายกลับต้อง
มาตกอยู่ในปากเสือซะงั้น หลังจากนี้ชีวิตพี่ประมุขลาบาก
แหงๆ…’
หลินฟ่านลอบไว้อาลัยให้ชะตากรรมตัวเองเบาๆ พร้อมถอน
หายใจอย่างอ่อนล้า เขาเองก็ไม่รู้ว่าหนทางสายนี้ต่อไปจะ
นาพาเขาไปเจออะไรกัน…
อย่างไรเสียเทพปีศาจแห่งความตายนั่นก็เป็นสาวซาดิสต์สวม
บทราชินีบ้าแส้ นับว่าเป็นอะไรที่หลินฟ่านไม่อยากจะเจอ
แน่นอน! แต่จักรพรรดินีวารีอัคคีนี่ก็ใช่ว่าจะดีกว่ากันสักเท่าไร
นางเองก็นับว่าเป็นนังตัวร้ายที่ชอบรังแกผู้คนเช่นกัน…!!
หลังจากถอนหายใจออกมาอย่างละเหี่ยจิตครู่หนึ่ง หลินฟ่านก็
สังเกตเห็นว่าทิวทัศน์รอบๆกายได้แปรเปลี่ยนไปแล้ว
“นี่…ที่นี่ที่ไหนหรอ?” ถึงขั้นนี้แล้วกล่าวไปหลินฟ่านก็นับว่า
เป็นคนคุ้นเคยกับจักรพรรดินีวารีอัคคีในระดับหนึ่ง เขาจึงไม่ได้
กลัวว่าอีกฝ่ายจะลงมือสังหารเขาแต่อย่างไร
ทว่าหลังจากที่รอไปสักพักแต่จักรพรรดินีวารีอัคคียังไม่ได้ตอบ
คา ทาให้หลินฟ่านต้องหันไปมองนางอีกครั้ง ค่อยตระหนักได้
ว่าสีหน้าของนางไม่ค่อยจะสู้ดี! กล่าวให้ชัดคืออาการค่อนข้าง
หนักหนา! คล้ายพลังตกค้างจากการทานรับบอลพลังแห่ง
ความตายก่อนหน้าจะไม่ใช่ชั่ว! ปราณมรณะกาลังกัดกินพลัง
ชีวิตนางอย่างน่ากลัว! กระทั่งยังค่อยๆกร่อนระดับพลังฝึกตน
ของนาง!
“เทพปีศาจแห่งความตาย!”
ดวงตาจักรพรรดินีวารีอัคคีแทบจะมอดไหม้ไปด้วยไฟโทสะ
นางเองก็ได้กลับชาติมาเกิดนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ทว่าครั้งนี้นาง
เองยังไม่ได้หวนคืนสู่ระดับพลังฝึกตนของนางอย่างสมบูรณ์!
อีกทั้งสัจจะวารีและอัคคีเองก็ยังไม่ได้หลอมผสานเข้าเป็นหนึ่ง
อย่างสมบูรณ์ไร้ที่ติเช่นกัน..
การที่นางเลือกออกมาปะทะกับเทพปีศาจแห่งความตายตอนนี้
นับเป็นความสูญเสียอันใหญ่หลวงของนาง และหากนางไม่อาจ
ขจัดปราณมรณะที่กัดกินในร่างนางออกไปให้เร็วที่สุด มันย่อม
สร้างปัญหาใหญ่หลวงให้นางแน่
อย่างไรก็ตาม ปราณมรณะนี่ไม่ใช่อะไรที่นึกจะขจัดขับออกก็
กระทาได้โดยง่าย!
มองสารรูปจักรพรรดินีวารีอัคคีปราดเดียวหลินฟ่านก็รู้เลยว่า
นางบาดเจ็บสาหัสนัก! นี่อาจเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสาหรับเขาที่จะ
หนีก็ได้!!
หลินฟ่านลอบตรวจสอบภาพแวดล้อมโดยรอบทันที ดูคล้ายว่า
เขาจะมาอยู่ในห้วงมิติไหนสักแห่ง แต่ด้วยความแข็งแกร่งใน
ปัจจุบันของเขา การบุกฝ่าหนีไปจากที่นี่ไม่สมควรมีปัญหา
อะไรมากมาย!
ตอนนี้เองหลินฟ่านก็แอบย่องๆก้าวไปอย่างช้าๆ ความเร็วเท่า
หอยทากกระดึ๊บ คิดหนีออกจากที่นี่โดยไม่หันหลังกลับไปมอง!
แต่ทว่าพริบตาที่เขากาลังจะฝ่าม่านพลังเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นทาให้
เขาจาต้องหยุดชะงักดั่งรากงอกเงย
“หากเจ้ากล้าหนี เจ้าจักมิเหลืออันใดนอกจากศพ!”
ถึงแม้ว่าตอนนี้จักรพรรดินีวารีอัคคีจะประสบปัญหาจากการกัด
กินของปราณมรณะ แต่การฆ่าหลินฟ่าน็ยังนับเป็นเรื่อง
ง่ายดาย ไม่ได้มีปัญหาอะไรสาหรับนาง…
นี่นับเป็นคาถามอันเคร่งเครียดจริงจังยากจะตอบสาหรับหลิน
ฟ่านไม่น้อย เขาต้องคิดหนักและทบทวนอย่างรอบคอบ!
จักรพรรดินีวารีอัคคีไม่ได้สนใจอะไรหลินฟ่านมากนัก สานึกสติ
นางจมดิ่งลงสู่โลกภายในกายของนางแทน และเมื่อได้เห็นว่า
ปราณมรณะกาลังอาละวาดกัดกินอยู่ในโลกภายในของนาง
นางก็รู้สึกว่าเรื่องราวชักจะยุ่งยากขึ้นมาแล้ว
และด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา ก็เรียกได้ว่าติดอยู่ที่
จุดรอคอยแล้ว…อนิจจาตัวตนทรงพลังธรรมดาไม่อาจมอบค่า
ประสบการณ์อะไรให้เขาได้อีก!
ตอนนี้ยังเหลือตัวตนสูงสุดของชนเผ่าโบราณอีกไม่กี่ตน หาก
เขาฆ่าพวกมันทั้งหมดได้ บางทีระดับพลังฝึกตนของเขาอาจจะ
ยกระดับอีกครั้ง ทว่าตอนนี้เมื่อโลกไร้จากัดเปิดออก มันต้องมี
ความเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายบังเกิดขึ้นแน่ หรือถ้าหากเขา
สามารถฆ่าไอตัวโหดที่โผล่ออกมาให้มากเข้าไว่ นั่นก็คงเป็น
อะไรที่ประเสริฐไม่น้อยเหมือนกัน!
และในขณะที่หลินฟ่านกาลังไตร่ตรองเรื่องราวอยู่นั้นเอง เขาก็
สัมผัสได้ว่าบรรยากาศโดยรอบมันเริ่มแปลกไป
เขาสัมผัสได้ถึงสายตาอันเต็มไปด้วยพลังอานาจทะลุทะลวงขุม
หนึ่งกาลังจับจ้องมองมาที่เขา! และจากประสบการณ์หลายปี
ของหลินฟ่าน เขาย่อมสัมผัสได้ชัด…ว่าสายตานี้มันเต็มไปด้วย
ความก้าวร้าวและรุนแรง!!
เมื่อหลินฟ่านหันหน้าไปมองสบตากับสายตาดังกล่าว ใจเขาก็
เริ่มสั่นไหวเต้นรัวขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
เขาบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลประการหนึ่งขึ้นมาอย่างแรงกล้า..
“เอ่อ…เจ้าคิดจะทาอะไรน่ะ!?” ใจดวงน้อยๆของหลินฟ่านเริ่ม
ระส่าเต้นรัว ตอนนี้เขาใจคอไม่ดีเลย…
จักรพรรดินีวารีอัคคีไม่ตอบคาอะไรเพียงมองไปยังหลินฟ่าน
เขม็ง เพียงย่าเท้าก้าวออกไม่กี่ก้าว ร่างนางก็บรรลุถึงเบื้องหน้า
หลินฟ่านอย่างอัศจรรย์
“ดูเหมือนว่ายามนี้เจ้าจักเป็นผู้เดียวที่ข้าสามารถพึ่งพาได้”
จักรพรรดินีวารีอัคคีบ่นงึมงากับตัวเอง
หลินฟ่านกลัวจนแทบกระโดดโหยง ‘นังตัวร้ายนี่คิดจะขย่มพี่
ประมุขอีกแล้วใช่ไหม?!’
ชิบหายเอ๊ย ..!
“ไม่เอาน่า อย่าทางี้เลย! เป็นสาวเป็นนางมาแตะๆลูบๆผู้ชาย
แบบนี้มันไม่ดีนา? พวกเราเองก็เป็นคนมีอารยะใช่มั้ย?!”
“ทาไรน่ะ! นี่เจ้าจะทาอะไรน่ะ!?”
ตึง!
ทันใดนั้นจักรพรรดินีวารีอัคคีก็ตรึงร่างหลินฟ่านไว้กับพื้น
“สินสวนตัวของข้าจักรพรรดินีเอย…ยามนี้ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจัก
ต้องเริ่มรับใช้ข้าจักรพรรดินี ดูเหมือนว่าเจ้าจักปลูกฝังสัจจะ
วารีและอัคคีที่ข้าจักรพรรดินีทิ้งไว้ในร่างของเจ้าอย่างดี
ทีเดียว” จักรพรรดินีวารีอัคคีกล่าวออก
‘ชิบหายเอ๊ย…!!’ ตอนนี้หลินฟ่าทาได้แค่ร่าร้องในใจเท่านั้น
ถล่มย่ามันเถอะ สิทธิมนุษย์ชนของเขาอยู่ไหนกัน!!
ปึง..ปง..ปังง!
ภายในห้วงมิตินี้จักรพรรดินีวารีอัคคีเป็นดั่งพระเจ้า ทุกสิ่งทุก
อย่างอยู่ในกามือของนาง
ตอนนี้เองหลินฟ่านก็ถูกจับเปลือยผ้าล่อนจ้อน ไม่มีแม้แต่ผ้าชิ้น
เดียวที่ปกคลุมร่างกายเขา เรียกได้ว่าตอนนี้เขาเผชิญหน้ากับ
ผู้อื่นด้วยความตัวเปล่าเล่าเปลือยของแท้ นี่ยังทาให้หลินฟ่าน
เขินอายอยู่บ้าง
นี่มันจะไม่ประหลาดไปหน่อยหรือไงกัน พึ่งได้เจอกันอีกครั้ง
วันนี้แท้ๆ ไหงนางถึงต้องทาอะไรแบบนี้ด้วย!?
และที่ทาให้หลินฟ่านเหวอมากที่สุดก็คือ ตอนนี้ทั้งตัวของ
จักรพรรดินีวารีอัคคีก็ไม่มีเสื้อผ้าอาภรณ์แม้แต่ชิ้นเดียว…
ทันใดนั้นจักรพรรดินีวารีอัคคี ก็แตะนิ้วลงบนหน้าผากของหลิน
ฟ่าน
ทันใดนั้นปรากฏวิชาลึกลับพิศวงชุดหนึ่งผุดโผล่ขึ้นในใจของ
หลินฟ่าน หลังจากที่ตรวจสอบดูแล้วเขาก็พบว่ามันเป็นวิชาลับ
แนวทางใช้หยางเติมเต็มหยิน!
“เชี่ย นี่พี่จะถูกขย่มอีกแล้วใช่มั้ย?”
หลินฟ่านสลดใจ จักรพรรดินีวารีอัคคีนี่ นางคิดข่มเหงรังแกบีบ
คั้นเขาให้ตายหรือไง!
“ม่ายยยยยยยยยยยย…!” หลินฟ่านกรีดร้องพยายามดิ้นรน
ต่อสู้ เขาไม่ใช่คนใจง่ายนะ! ไม่ใช่แค่นั้น เขาเองก็เป็นชายที่มี
ภรรยาแล้ว! อยู่ๆจะมาปู้ยี่ปู้ยาข่มขืนเขาได้ยังไง!!
ไม่! นี่ยังเลวร้ายยิ่งกว่าข่มขืนอีก!!
ฮึ่ม!!
ตอนนี้จักรพรรดินีวารีอัคคีพลันแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา
เพราะนางรู้สึกไม่พอใจท่าทีของหลินฟ่านที่ไม่ให้ความร่วมมือ
กับนาง!
สุดท้ายภายใต้อานาจพลังที่ไม่อาจหลีกหนี หลินฟ่านก็ทาได้แค่
มองเรือนร่างได้รูปขาวเนียนกระจ่าง หนั่นเนื้ออวบอิ่มอัน
สมบูรณ์แบบ ยอดปทุมชมพูระเรื่อไร้ที่ติดั่งภาพวาดธิดาสวรรค์
ของจักรพรรดินีวารีอัคคี สุดท้ายหลินฟ่านก็เพียงกลืนน้าลาย
ลงคอคาหนึ่งก่อนจะอ้าแขนออกกว้าง
“ในเมื่ออยากมาก็มา เชิญละเล่นตามแต่ใจเจ้าจะต้องการ!”
“ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้วพี่ต่อต้านไปยังจะได้อะไร?”
นี่นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เขาพบพานประสบการณ์เช่นนี้
ทันใดนั้นเอง หลังจากที่จักรพรรดินีวารีอัคคีเริ่มลงมือปลุกปั่น
ทั้งจับมังกรที่ผงาดแล้วเข้าถ้า ค่อยขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไป
ไม่กี่ครา กระแสธาร 2 สายจากทั้งหลินฟ่านและจักรพรรดินี
วารีอัคคีก็พลันปะทุหลั่งไหลออกมา ก่อนที่จะค่อยๆควบรวม
ผสานเข้าด้วยกัน!
นี่คือสัจจะวารีและอัคคี! ตอนนี้จักรพรรดินีวารีอัคคีคิดใช้
ประโยชน์จากพลังหลินฟ่านเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของนาง
และในขณะเดียวกันก็ปล่อยให้สัจจะวารีและสัจจะอัคคีหลอม
ผสานเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
อันที่จริงเหตุผลที่จักรพรรดินีวารีอัคคีเริ่มสามารถหลอมผสาน
สัจจะวารีและอัคคีได้ตั้งแต่แรกนั้น ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะหลิน
ฟ่านทั้งสิ้น
หลินฟ่านหลับตาลงเบาๆ หางตาปรากฏหยาดน้าใสๆผุดซึม
ก่อนจะไหลรินลงมา มันเป็นหยาดน้าตาแห่งความคับแค้นใจ
จนแทบวายปราณ
‘ถล่มมารดามันเถอะ…’ (53380)
‘ติ๊ง!! ..ขอแสดงความยินดีท่านได้รับ วิชาลับความปรารถนา
แห่งโลกหล้า หยิน’
‘ติ๊ง!! … ต้องการเรียนรู้หรือไม่?
‘เรียนรู้’
ตอนนี้หลินฟ่านสัมผัสได้ชัดเจน ว่าสัจจะวารีและอัคคีใน
ร่างกายของเขากาลังหลั่งไหลออกไปสู่ร่างของจักรพรรดินีวารี
อัคคีอย่างไม่หยุดยั้ง และในขณะที่เขากาลังสิ้นหวังในชีวิตอยู่
นั้นเอง เสียงแจ้งเตือนจากระบบพลันดังขึ้น
ในความเห็นของหลินฟ่านแล้ว วิชาลับนี่เป็นอะไรที่ค่อนข้างท้า
ทายสวรรค์ไม่น้อย!
หลังจากที่ยืนยันถึงผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมของวิชาลับ ความ
ปรารถนาแห่งโลกหล้า (หยาง) แล้วหลินฟ่านก็ไม่คิดจะพูด
อะไรมากอีกต่อไป
‘เอาก็เอาวะ!’
‘จัดมา! จะหนึ่งวันหรือสิบปีก็ขอให้มา!’
‘ใครหยุดก่อนเป็นไอ้ลูกหมา!!’
ตอนที่ 883 : เข้ามาเลย!
คงยากนักที่จักมีผู้ใดในโลกหล้าล่วงรู้ ว่าในมิติลับแห่งนี้บังเกิด
เรื่องราวอันใดขึ้น…
ตอนนี้ทีท่าของหลินฟุานเผยให้เห็นความเคร่งเครียดสองตา
หลับปี๋ เพราะตอนนี้มวลพลังในร่างของเขากาลังพุ่งพล่าน!!
ภายใต้ยอดวิชาลับดังกล่าว ไม่ว่าจะวิมานฟูาของเขา แดน
สวรรค์และโลกของเขา และทั้งหมดทั้งมวล เริ่มขยับขยาย
เพิ่มพูนทั้งสิ้น!
ถึงแม้ว่าสัจจะวารีและสัจจะอัคคีที่เขาเคยได้รับมาจาก
จักรพรรดินีวารีอัคคีและได้ทาการปลูกฝังมันไปแล้ว กาลังถูก
จักรพรรดินีวารีอัคคีชิงกลับ แต่หลินฟุานก็ไม่ได้แยแสอะไรสัก
นิด นั่นเพราะเขาสัมผัสได้ถึงพลังความแข็งแกร่งของเขาที่
กาลังเพิ่มพูนขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง!
‘ติ๊ง!!..EXP+10,000’
‘ติ๊ง!!..EXP+10,000’
ตอนแรกหลังจากที่ได้ถ่ายทอดน้าวิสุทธิ์ออกไปในกายอีกฝุาย
แล้วเสียงแจ้งเตือนจากระบบพลันดังขึ้น หลินฟุานก็ถึงกับ
ตกใจไม่น้อย! ค่าประสบการณ์ของเขากลับสามารถเพิ่มพูนขึ้น
ได้! แม้ไม่ต้องฆ่าตัวตนทรงพลังอะไร! สาหรับเขาแล้วเรื่องนี้
เกินใจจะเชื่อนัก!!
ดูเหมือนว่านี่จะเป็นผลกระทบอันน่าพิศวงจากยอดวิชาลึกลับ
นี่!
จักรพรรดินีวารีอัคคีเองก็เป็นตัวตนที่ได้กลับชาติมาเกิดนับครั้ง
ไม่ถ้วน นางดารงอยู่ข้ามผ่านห้วงเวลาและกาลยุคสมัยมา
มากมาย และในเมื่อนางรู้จักมักคุ้นกับเทพปีศาจแห่งความตาย
นั่นย่อมหมายความว่านางเองก็เป็นตัวตนเดียวจากยุคสมัย
เดียวกับอีกฝุาย!!
แต่ไม่รุ้ว่าด้วยอายุขัยหรือโชคชะตานาพากันแน่ นางถึงต้อง
กลับชาติมาเกิดใหม่เมื่อเวลาหวนมาบรรจบทุกครั้ง ดั่งถูกลิขิต
เอาไว้…
อย่างไรเสียชีวิตนี้ก่อนที่จักรพรรดินีวารีอัคคีจะได้ฟื้นพลังรบ
ของนางอย่างสมบูรณ์ นางกลับถูกเจตจานงสวรรค์แห่งโลก
เซียนโบราณกักขังไว้ในห้วงลึกผนึกปิดตายนางเอาไว้ หากแต่
นางก็ไม่ได้นาพาเพียงค่อยๆฟื้นฟูพลังสามารถภายในห้วงลึก
ดังกล่าว และเมื่อพลังอานาจบรรลุถึงขอบเขตหนึ่งแล้ว นางก็
สามารถทาลายผนึกออกมาได้อย่างง่ายดาย…
อันที่จริงเหตุผลที่จักรพรรดินีวารีอัคคีสามารถฟื้นพลังได้
รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ นี่ก็เป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับหลิน
ฟุานเช่นกัน!
ระบบนั้นมีฟังก์ชั่นหนึ่งที่เรียกว่า ฟิวชั่น …
ยามเมื่อจักรพรรดินีวารีอัคคีร่วมประสานเป็นหนึ่งเดียวกับ
หลินฟุานครั้งแรก สัจจะแห่งวารีแลสัจจะแห่งอัคคีนางก็พลอย
ได้รับอานิสงค์จากการหลอมรวมผสานของฟังก์ชั่นฟิวชั่น
ดังกล่าวไปด้วย! และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาผงาดอีก
ครั้งของจักรพรรดินีวารีอัคคี!!
มาคราวนี้เพื่อขจัดขับปราณมรณะที่กัดกินร่าง จักรพรรดินีวารี
อัคคีก็ได้รวบรวมสัจจะวารีและอัคคีที่ปลูกฝังอยู่ในร่างของ
หลินฟุานกลับมา
สัจจะวารีและอัคคีที่อยู่ในร่างหลินฟุานนั้นเรียกได้ว่าพวกมันได้
หลอมรวมผสานเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสมบูรณ์แล้ว!
อานาจพลังแห่งทวิลักษณ์สุดขั้วแบบนี้ เป็นอะไรที่สาคัญอย่าง
ยิ่งยวดสาหรับจักรพรรดินีวารีอัคคี!!
ทว่าสาหรับหลินฟุานนั้นพวกมันไม่ได้นับว่าสาคัญอะไรเลย
สัจจะวารีและอัคคีไม่ใช่อะไรที่เขาต้องการแต่แรกด้วยซ้า และ
ตอนนี้แดนสวรรค์และโลกของเขาก็ได้เข้าถึงพลังอานาจที่
แท้จริงของสัจจะวารีและอัคคีแล้ว ดังนั้นเขาก็ไม่ได้ต้องการ
พวกมันอีกต่อไป ถึงตอนนี้จะถูกจักรพรรดินีวารีอัคคีเอากลับไป
ก็ไม่ได้เกิดผลกระทบอะไรกับเขาแม้แต่น้อย
ตอนนี้แรงบันดาลใจหลักของหลินฟุานมีอยู่ประการเดียว
เท่านั้นคือใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่าที่สุด เขาอยากรู้นักว่าการสอดใส่
ประสานกันครั้งนี้ เขาจะได้รับประสบการณ์ทั้งหมดเท่าไร! บาง
ทีการจะทะลวงผ่านด่านพลังเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟูาที่ 10
เทพนิรันดร์อาจไม่ใช่เรื่องยากก็เป็นได้!!
ตอนนี้หลินฟุานก็ไม่ได้ปวดใจอะไรแล้ว เพียงนอนนิ่งๆปล่อยให้
จักรพรรดินีวารีอัคคีควบขี่เผยทักษะวิชาการขยับยักย้ายเอว
ของนางออกมาได้เต็มที่ อันที่จริงในหัวของหลินฟุานตอนนี้…นี่
มันก็เป็นอะไรสบายไม่น้อย!
หากเขาไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลย และต้องมาถูกผู้อื่นขย่ม
แบบนี้ หลินฟุานย่อมรู้สึกขุ่นเคืองแน่นอน!
ทว่าตอนนี้ข้างล่างก็เสียวซ่านสบายตัว แถมค่าประสบการณ์ก็
พุ่งปรี๊ดๆ! นี่นับเป็นอะไรที่ทาให้ใจเขาเต้นรัวขึ้นไม่น้อย!!
ระดับพลังฝึกตนใดกันแน่หนอที่จะปรากฏออกมาหลังจาก
ทะลวงฝุาด่านพลังเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟูาที่ 10 เทพนิรันดร์!?
นี่เป็นอะไรที่ไม่มีในบันทึกใดๆเลยของโลกเซียนโบราณ! ทว่า
จากพลังฝือความแข็งแกร่งของจักรพรรดินีวารีอัคคีและคน
อื่นๆ หลินฟุานคิดว่ามันต้องเป็นด่านพลังที่ลี้ลับไม่น้อย!!
‘ติ๊ง!!..EXP+10,000’
มาตอนนี้เมื่อมองค่าประสบการณ์ที่ค่อยๆเพิ่มพูนขึ้นอย่างช้าๆ
หลินฟุานก็ชักรู้สึกไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไร เพราะนี่ก็ไม่ใช่ว่า
มันได้มาแบบไม่เสียอะไร! ตัวเขาเองก็ต้องถูกเคี่ยวกราไม่น้อย
ไหนจะแผ่นหลังไหนจะศีรษะ เพราะนี่มันพื้นแข็งๆไม่ใช่เตียง!
แต่อย่างไรเสียหลินฟุานก็ยังหวังอยากจะให้เรื่องราวครั้งนี้มัน
คงอยู่นานๆ…
ส่วนอีกด้านนั้น ตัวจักรพรรดินีวารีอัคคีกลับเต็มไปด้วย
ความสุขล้นใจ เพราะปราณมรณะที่กัดกินในร่างนางมันกาลัง
ถูกขจัดขับออกไปอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันสัจจะวารีอัคคีที่อยู่
ในกายนางก็กาลังหลอมรวมผสานเข้ากัน!
อย่างไรก็ตามมีบางสิ่งที่ทาให้จักรพรรดินีวารีอัคคีถึงกับสะดุ้ง
เพราะร้อยพันหมื่นคาดนางก็ไม่เคยคิด ว่าสัจจะวารีอัคคีที่นาง
ทิ้งไว้ในร่างของบุรุษผู้นี้ กลับสามารถหลอมผสานเข้ากันได้
อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ! พวกมันหนุนเสริมเกื้อกูลกันได้อย่าง
อัศจรรย์! เรื่องนี้มันน่าเหลือเชื่อเกินใจนางจะรับได้นัก!!
นางดารงอยู่ข้ามกาลยุคสมัยมากมาย กลับชาติมาเกิดรอบแล้ว
รอบเล่า! นางย่อมมีขอบเขตความเข้าใจและมุมมองที่
กว้างขวางนัก! แต่กระทั่งเป็นนางก็ต้องทุ่มเทเวลาอันไร้สิ้นสุด
ชั่วชีวิต เพื่อหลอมรวมผสานสัจจะวารีและอัคคีเข้าด้วยกัน!!
แต่ใครจะไปคิดกันล่ะ…ว่านางจะได้พบพานการหลอมผสาน
อย่างไร้ที่ติ ประหนึ่งกระทาได้ง่ายดายแบบนี้ในตัวบุรุษที่นาง
กาลังควบขี่อยู่!!
“อ๊ะ?”
ตอนนี้เองจักรพรรดินีวารีอัคคีก็สัมผัสได้ว่าพลังอานาจของนาง
บางส่วนของนาง ก็ถูกร่างที่นอนอยู่เบื้องล่างชักนาไปใช้
ประโยชน์เช่นกัน! อย่างไรก็ตามสาหรับจักรพรรดินีวารีอัคคี
แล้วนั่นไม่สาคัญอะไร..
เนื่องจากเขาเองก็ถือได้ว่าเป็นคนของนางแล้ว ก็ไม่นับว่ามี
อะไรไม่ดีที่จะให้คนของตัวเองได้รับประโยชน์บ้าง
อย่างไรเสียถึงแม้ว่าจักรพรรดินีวารีอัคคีจะไม่ได้แยแสหรือมี
ความพึงพอใจกับความสุขทางโลกแบบนี้ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้
เลยว่านางเองก็ค่อนข้างรู้สึกโมโหไม่น้อยกับท่าทีของอีกฝุายใน
ตอนแรก..
นางคือจักรพรรดินีวารีอัคคีเชียวนะ! ไม่ว่าจะรูปโฉมหรืออะไรก็
แล้วแต่ของนางล้วนเลิศล้าทั้งสิ้น!!
เท่าที่จักรพรรดินีวารีอัคคี่ห่วงตอนนี้ หลินฟุานสมควรต้อง
หลงใหลในตัวนางสิ! และเขาต้องเป็นของนางแต่ผู้เดียว! ที่
สาคัญต้องไม่มีใครหน้าไหนกล้ามาแตะต้องของๆนาง!!
คืนวันผันผ่าน…ราตรีกาลมืดมิดสลับแจ่มใสสว่าง ต่าง
หมุนเวียนเปลี่ยนผันราวไร้วันสิ้นสุด…คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้
ว่าห้วงแห่งกาลของมิติลึกลับนี้ มันได้ดาเนินไปเนิ่นนานเท่าใด
แล้ว… สรรพสิ่งล้วนเงียบงันไร้สาเนียงใด คงเหลือก็แต่เพียง
ท่วงทานองสอดประสานมิรู้หน่ายที่ยังคงขับขานกังวานไม่
ลดละ
ตับ
ตับ
ตับ
ตับ
ตับ!
‘ติ๊ง!!..ขอแสดงความยินดีท่านยกระดับ’
‘ติ๊ง!!..ระดับพลังฝึกตนเพิ่มระดับขึ้น’
‘ทะลวงฝุาด่านพลังเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟูาที่ 10 เทพนิรันดร์
เริ่มต้นกระบวนการสร้างบัลลังก์สุดยอด เพื่อบรรลุสู่สถานะผู้
เป็นสุดยอดโดยอัตโนมัติ ‘
ทันใดนั้นเองพร้อมกันกับความเสียวซ่านสะท้านที่ปะทุออก เขา
พลันได้ยินเสียงแจ้งเตือนสาคัญจากระบบ และสัมผัสได้ถึง
ความเปลี่ยนแปลงที่อยู่ๆก็บังเกิดขึ้นทั่วร่าง!!
แดนสวรรค์และโลกของเขาพลันส่องแสงออกมาดั่งตะวันเจิด
จ้า! มันปะทุมวลพลังปราณวิญญาณออกมาอย่างมหาศาลปาน
ไร้สิ้นสุด สรรพวิชามากมายลอยล่องออกมาเคว่งคว้างในโลก
ภายในกายของเขา! ทันใดนั้นทั้งหมดทั้งมวลที่เป็นของเขา
ต่างเปล่งพลังอานาจเหนือจินตนาการ แผ่พุ่งไปควบรวมก่อ
เกิดสร้างหนึ่งบัลลังก์ขึ้นมา!
มันไม่ใช่บัลลังก์เทพนิรันดร์ หากแต่ทรงพลังเหนือชั้นเสียยิ่ง
กว่าบัลลังก์เทพนิรันดร์!!
เมื่อหลินฟุานหวนนึกถึงกลิ่นอายพลังที่กาจายออกจากบัลลังก์
เทพนิรันดร์ก่อนหน้านี้ และมาเทียบกับกลิ่นอายพลังของ
บัลลังก์ตรงหน้าเขายามนี้ เขาก็พบว่ามันช่างแตกต่างกันราว
คนละโลก ไม่มีทางที่ทั้ง 2 จะถูกยกนามาเปรียบเทียบกันได้
เลย!!
ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอย่างที่เขาคิดคาดเอาไว้…
จักรพรรดินีวารีอัคคีเอง นางก็น่าจะเพาะสร้างบัลลังก์สุดยอด
ของนางขึ้นมาเอง การที่นางทะลวงด่านพลังเทพสวรรค์อมตะ
ชั้นฟูาที่ 10 เทพนิรันดร์ไปแล้ว! นั่นทาให้นางสามารถสร้าง
บัลลังก์ดังกล่าวขึ้นมาได้!!
ตอนนี้เองก็บังเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬารภายในวิมาน
ฟูาของเขา ปราณวิญญาณภายในวิมานฟูาของเขาเริ่มแผ่
ขยายเพิ่มพูนขึ้น ต้นไม้แห่งชีวิตในตานานเองก็คล้ายกาลัง
เริ่มต้นกระบวนการวิวัฒนาการครั้งที่ 2!
กิ่งก้านของมันงอกเงยออกมาอย่างรวดเร็ว ใบเขียวแตกหน่อ
ผุดโผล่ออกมาฟูฟุอง กิ่งก้านของมันยังทิ่มแทงไปทั่วฟูาทะลวง
เสียบไปยังความว่างเปล่าอันไร้สิ้นสุด
ครืนนนนน!!
มวลพลังปราณวิญญาณเอ่อล้นออกมา
ทว่าอยู่ดีๆต้นไม้แห่งชีวิตในตานานพลันลอยล่องขึ้นมาจากฟืน
ดิน! รากของมันยังถูกขุดขึ้นมาหมดสิ้น! มันกลับลอยล่องขึ้นไป
ปกคลุมผืนฟูาของวิมานฟูาของหลินฟุาน! โอสถเจิ้งหยางเปล่ง
ประกายวับวาวเริ่มหลั่งไหลออกมาจากเบื้องบนอย่างไร้สิ้นสุด
ดั่งห่าพิรุณ!
‘ระดับพลังฝึกตน : สุดยอด ‘
‘ติ๊ง!!..นี่คือการปรากฏตัวของผู้เป็นสุดยอดแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์’
‘ติ๊ง!! ..ได้รับชุดเซ็ท ผู้เป็นสุดยอดแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์’
‘ติ๊ง!! ..ได้รับวิชาขั้นสุดยอดเป็นรางวัล’
เมื่อได้ยินเสียงเตือนจากระบบหลินฟุานแทบจะกระโดดขึ้นมา
ด้วยความดีใจ เพราะนี่มันช่างเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!!
‘พับผ่าสิ! ครั้งนี้นับว่าระบบใจกว้างจริงๆ แต่ถึงจะยกระดับ
แล้ว ไอค่าประสบการณ์ยังพุ่งขึ้นเรื่อยๆเลยนี่หว่า! เอาวะ ดู
เหมือนพี่ประมุขจะต้องก้าวต่อไปตามจังหวะนี้แล้ว! ส่วน
รางวัลกับวิชาอะไรนั่นพี่ประมุขรอได้ ค่อยตรวจสอบหลังจาก
อึ๊บกับนังตัวร้ายนี่เสร็จ!!’
ตอนนี้หลินฟุานสุขใจจนแทบจะลอยล่องโบยบินสู่สวรรค์ ครั้งนี้
ระบบทาดีจริงๆ!!
‘ติ๊ง!! ..EXP+5,000’
ถึงแม้ว่าค่าประสบการณ์ที่เขาได้ตอนนี้จะไม่ได้ดีเหมือนตอน
แรก แต่หลินฟุานก็ยังให้ความสาคัญกับมันไม่น้อย
ทว่าทันใดนั้นเองจักรพรรดินีวารีอัคคีพลันหยุดลง เพราะปราณ
มรณะในร่างของนางถูกขจัดขับออกไปสิ้นแล้ว รวมถึงสัจจะ
วารีอัคคีของนางก็ได้หลอมผสานเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์
เช่นเดียวกัน! ยามเมื่อนางลืมตาออกมาอีกครั้ง ประกายคมกล้า
หาใดเปรียบพลันทอแสงสว่างวูบออกมา!!
ผมยาวสลวยที่ทิ้งตัวลงมาถึงกลางหลังของนาง เริ่มกระพือขึ้น
ด้วยมวลพลังเอ่อล้น
“ข้าจักรพรรดินีผู้นี้ ในที่สุดก็ฟื้นตัวสมบูรณ์แล้ว” ตอนนี้
จักรพรรดินีวารีอัคคีรู้สึกราวกับพลังอานาจของนางพุ่งทะยาน
ถึงจุดสูงสุด!
“คุณลักษณ์พิเศษในกายของเจ้า ช่างทาให้เราจักรพรรดินีพึง
พอใจยิ่งนัก ตอนนี้หน้าที่ของเจ้าก็นับว่าเสร็จสมบูรณ์แล้ว”
จักรพรรดินีวารีกล่าวออกมาเสียงอ่อน ท่าทางนางคล้ายจะยุติ
เรื่องราวแต่เพียงเท่านี้แล้ว (53380)
แต่ตอนนี้หลินฟุานที่กาลังเพลิดเพลินจะยอมให้นางหยุดง่ายๆ
ได้อย่างไร?
“ในเมื่อเริ่มทาการใหญ่แล้ว จะหนึ่งวันหรือ 10 ปีล้วนไม่มี
ความหมาย! แต่เจ้าจงรู้ว่า ว่าใครหยุดก่อนเป็นไอ้ลูกหมา! เอา
สิถ้าเจ้าอยากหยุดก็หยุด!!” หลินฟุานกล่าวจบก็สะบัดหน้าหนี
เพียงวาจาที่ทิ้งไว้นี้ นับว่าเพียงพอแล้ว!
“เอ๊ะ?”
จักรพรรดินีวารีอัคคีนิ่งค้างไปดั่งถูกแช่แข็งนางรู้สึกคล้ายได้ยิน
ไม่ชัด แต่ทันใดนั้นเมื่อทบทวนวาจาอีกฝุายจักรพรรดินีวารี
อัคคีก็ถึงกับเกรี้ยวกราดขึ้นมาทันใด
“สินส่วนตัวของข้า! ในเมื่อเจ้ากล้าท้าทายเช่นนี้ ข้า
จักรพรรดินีก็จักให้เจ้าให้เจ้าได้เติมเต็มปรารถนาของเจ้า!!”
“เหอะ! พี่กลัวที่ไหน! เข้ามาเลยน้องหนู…!!”
หลินฟุานเหลือบมองด้วยสายตาสงบเป็นการบอกให้รู้ ว่าเขาไม่
กลัวนางแม้แต่น้อย!
ตอนที่ 884 : ยอมแล้ว!!
หนึ่งนาทีต่อมา …
จักรพรรดินีวารีอัคคีขมวดคิ้วคู่งามเป็นปม ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน
ทันใด ร่างของนางยังเปล่งประกายพลังออกมาสว่างโรจน์
ก่อนที่จะปรากฏอาภรณ์วิจิตรสวมใส่คลุมกาย!!
“เกิดอันใดขึ้นกัน!?”
จักรพรรดินีวารีอัคคีสับสนทั้งมึนงงไม่น้อย ด้วยไม่เข้าใจว่าเกิด
อะไรขึ้น เมื่อครู่ราวกับนางสิ้นสติไปกระทันหัน และประสาท
สัมผัสทั้งหมดของนางก็ดับวูบลงไปอย่างสมบูรณ์!!
“อ๊ะ! สินส่วนตัวของข้าจักรพรรดินีหายไปอยู่ที่ใดแล้ว!?”
จักรพรรดินีวารีรีบสารวจไปทั่วอาณาบริเวณทันที ไม่นานนาง
ก็แผดเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ “สินส่วนตัวอันน่าตาย! เจ้า
กลับกล้าฉวยโอกาสหนีไปลับหลังข้าจักรพรรดินีงั้นหรือ!?”
จักรพรรดินีวารีอัคคีเริ่มย่างเท้าก้าวเดินออกมาช้าๆ ทว่าทันใด
นั้นเองร่างนางก็สะท้านไปโดยพลัน นางตระหนักได้ทันทีถึง
ความรู้สึกที่สะท้อนขึ้นมาจากร่างของนาง มันช่างรุนแรงนัก!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดนั้นที่ระหว่างขาของนาง มันช่างสะท้าน
สะเทือนนัก! ภายในยังตอดตุบๆระรัวยากหยุดยั้ง กระทั่งยัง
ปวดแปล๊บๆแทบก้าวเดินสืบไปไม่ไหว!!
หากทว่าจักรพรรดินีวารีอัคคีหาได้ใส่ใจอะไรกับมันไม่
นางยกนิ้วขึ้นมาสะบัดไม่กี่ครา ก่อนที่มิติเอกเทศน์จะสลายตัว
ไป! ร่างจักรพรรดินีวารีอัคคีค่อยๆลอยสูงขึ้นไปในอากาศ
สายตาสอดส่องมองไปยังความว่างเปล่าทั่วบริเวณ
แม้จักรพรรดินีวารีอัคคีจะลอยร่างอย่างเงียบงันหากแต่สติ
สานึกของนางกลับแผ่กาจายออกไปทุกสารทิศ สืบค้นไปทั่วทุก
ซอกทุกมุมของโลกหล้า พยายามหาสัญญาณการดารงอยู่ของ
หลินฟุาน! อนิจจาแม้นางจะใช้ญาณเทพค้นหาเต็มพลัง ก็ยังมิ
อาจสืบพบได้แต่ร่องรอยใดๆของหลินฟุาน!!
“อะไรกัน…มิคิดเลยว่าเขาจักหายตัวไปได้แบบนั้น…”
ตอนนี้ปรากฏดวงตาคู่หนึ่งกาลังลอบจับจ้องมองไปยัง
สถานการณ์เบื้องหน้าจากบึงโคลนบึงหนึ่งอย่างเงียบงัน และ
แน่นอนว่าเจ้าของสายตาลับๆล่อๆนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน! เป็นหลิน
ฟุานไงจะใครล่ะ!!
“เชี่ย! โชคดีจริงๆที่พี่ประมุขฉลาด! และรู้ว่าควรเร้นกายแล้ว
อยู่นิ่งๆแบบนี้! แถมยังกันเหนียวโดยการมานอนแช่ในโคลน
เพื่อขจัดกลิ่นกายอย่างหมดจด!!”
หลินฟุานพึงพอใจในความฉลาดเฉลียวของเขานัก!
นี่เป็นยุทธ์วิธีหลบซ่อนที่สามารถกระทาซ้าได้และมักได้ผลเสมอ
หากเขาถูกตัวตนทรงพลังไล่ล่า! ซ่อนให้ตายใจแล้วค่อย
หลบหนีจากไปตอนศัตรูเลิกรา!!
แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะเคลื่อนย้ายหรือหลบหนีไปไหน
เพราะหากลองคิดว่าเขาเป็นจักรพรรดินีวารีอัคคีล่ะก็… ไม่ยาก
เลยที่เขาจะบอกได้ว่านางต้องใช้กลวิธีแสร้งปล่อยเพื่อจับ! โดย
การวูบหายไปไกลๆ แล้วค่อยกลับมาดูแน่นอน! เช่นนั้นคง
ประเสริฐเสียกว่าที่เขาจาต้องใช้เคล็ดนิ่งสงบสยบการ
เคลื่อนไหว! ซ่อนไปแบบนี้อีกสักพัก!!
หลินฟุานนอนแผ่ร่างอย่างนิ่งเงียบในบ่อโคลน และไม่ว่าโคลน
รอบตัวเขามันจะสกปรกแค่ไหนเขาก็ไม่คิดจะกระดุกกระดิก
หรือทาอะไรแม้แต่น้อย!
จริงดั่งคาด พริบตาต่อมาพลันปรากฏร่างหนึ่งพุ่งทะลวงความ
ว่างเปล่าออกมา
และจากเสียงสบถอย่างขัดใจ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นจักรพรรดินี
วารีอัคคี!
“ฮึ่ม!”
“สินส่วนตัวที่น่าตายนัก! หากข้าจักรพรรดินีผู้นี้จับตัวเจ้าได้
ข้าจะหั่นขาที่ 3 นั่นของเจ้าเสีย!!”
น้าเสียงเต็มไปด้วยความเอาแต่ใจแฝงพลังอานาจสะกดข่มอัน
เหนือชั้นกึกก้องในอากาศ ยามเมื่อหลินฟุานได้ยินเสียงนี้เขา
เองก็อดไม่ได้ที่จะลอบสูดลมหายใจเข้าอย่างหนาวเหน็บ!
และในขณะเดียวกันเขาก็ลอบสาบานต่อสวรรค์ว่าต่อไปเขา
ต้องไม่มีวันพลาดท่าถูกนางจับได้เด็ดขาด! และเขาจะต้อง
ยกระดับพลังฝึกตนของเขา! จากนั้นเมื่อระดับพลังฝึกตนของ
เขาเหนือล้านางเมื่อไหร่ล่ะก็.. หึหึ! ยามนั้นเขาจะตามล่านาง
และจับนางกดลงกับพื้น! ก่อนจะใช้ความแข็งแกร่งแห่งบุรุษ
ถล่มนางอย่างเกรี้ยวกราด! ให้นางได้รู้สานึกว่าบิดาผู้นี้เป็น
ใคร!!
“ฮี่ๆๆ! นังตัวร้าย! แผนตื้นๆแบบนี้คิดจริงๆหรอว่าพี่ประมุขจะ
ไม่รู้! เหอะ! ตอนนี้แค่ขนในร่างเจ้ากระตุกสักเส้น พี่ประมุขยังรู้
ว่าเจ้าคิดอะไร! อย่าได้คิดว่าจะใช้แผนอ่อนๆนี่ล่อลวงพี่ได้!!”
ตอนนี้หลินฟุานมั่นใจหนักหนา เขาไม่คิดจะเคลื่อนไหวใดๆ
ทั้งสิ้น ปล่อยให้จักรพรรดินีวารีอัคคีดาเนินแผนแสร้งปล่อยเพื่อ
จับอันใดของนางสืบไปอย่างไร้แยแส…
ถึงแม้ว่าตอนนี้กลิ่นอายพลังอะไรของจักรพรรดินีวารีอัคคีจะ
สลายหายไปหมดสิ้นแล้ว แต่หลินฟุานก็ยังรู้แกวของนางดี ว่า
จักรพรรดินีวารีอัคคีนั่นเป็นยัยตัวร้ายที่ดื้อดึงขนาดไหน! นาง
ยังไม่ยอมเลิกราง่ายๆแต่เพียงเท่านี้แน่!
และก็เป็นดั่งที่หลินฟุานคาดเอาไว้ไม่มีผิด! จักรพรรดินีวารีอัคคี
หายนแล้วโผล่ๆอย่างนี้ต่อเนื่องหลายครั้งหลายครา ราวกับ
นางยังคงเฝูารอให้หลินฟุานติดกับของนาง!!
เมื่อเห็นเรื่องราวที่เป็นไปเช่นนี้หลินฟุานก็คล้านจะใส่ใจอะไร
สืบไป เขาเพียงนอนลงเงียบๆแล้วหลับตา
นับว่าการถูกขย่มเป็นเวลานานนับหลายปีช่างเป็นอะไรที่เคี่ยว
กราจิตใจและทรมานอย่างแท้จริง! เนิ่นนานมากแล้วที่เขาไม่ได้
พบพานกับคาว่าพักผ่อน ตอนนี้ร่างกายของเขาต้องการนอน
หลับสักงีบ! ฟุานน้อยเองที่ยืนหยัด ตระหง่านค้าฟูาสู้ไม่ถอยมา
นานหลายปี ก็จาต้องผ่อนพักหลับไหลแล้วเช่นกัน!
นี่นับเป็นการนอนหลับที่หลินฟุานอยากจะใช้เวลากับมันให้เนิ่น
นาน ค่อยๆลิ้มรสความสบายนี้อย่างละเมียดละไม…
…
การสับประยุทธ์ทะลวงถ้าสวรรค์ระหว่างหลินฟุานกับ
จักรพรรดินีวารีอัคคี มันกินเวลาไปเนิ่นนานกว่า 5 ปี…
แน่นอนว่าในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผันผ่านไปนี้! บนโลกเซียน
โบราณย่อมบังเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬาร!!
ด้วยการหวนกลับมาและฟื้นคืนของตัวตนอันทรงพลังทีละตนๆ
เหล่าร้อยพันชนเผ่าที่เคยถูกกดขี่ข่มเหงในอดีตก็เริ่มยืนหยัดลุก
ขึ้นยืนได้ด้วยลาแข้งของพวกมันเอง! นั่นเพราะตอนนี้พวกมัน
แต่ละชนเผ่ามีตัวตนอันทรงพลังที่คอยหนุนหลังและเป็นศูนย์
รวมจิตใจแล้ว! ทาให้ยามนี้ชนเผ่าโบราณที่เคยแกร่งกล้าใน
กาลก่อนนั้น หาได้มีสถานะเป็นดั่งราชันทรราชที่มีพลังอานาจ
อยู่เหนือ! สามารถดารงอยู่อย่างเผด็จการกดหัวทุกผู้คนได้
สืบไป! พวกชนเผ่าโบราณไม่มีวันกระทาการรังแกข่มเหงผู้อื่น
ฝุายเดียวได้ดั่งกาลก่อนได้อีกต่อไป!!
เหล่าเทพปีศาจทั้ง 3,000 เองก็หวนคืนสู่พลังและตื่นขึ้นมาจน
ครบถ้วนหมดสิ้นแล้วในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา
ม่านแห่งการต่อสู้สะท้านแดนดินได้เปิดออกแล้ว…
และเหล่าตัวตนที่เป็นดั่งบรรพบุรุษต้นตระกูลแห่งเผ่าพันธุ์
ทั้งหลายนั้น ยามเมื่อพวกมันแต่ละคนตื่นขึ้นมา พวกมันก็เริ่ม
ก่อตั้งนิกายขึ้นมาทันใด แน่นอนว่าศิษย์สาวกทั้งหมดย่อมเป็น
ผู้คนในชนเผ่าของพวกมัน!
บัดนี้ ไม่ว่าเผ่าพันธุ์ใดก็ตามในร้อยพันชนเผ่า ได้มาถึงช่วงเวลา
อันรุ่งโรจน์ที่สุดของพวกมันแล้ว…อย่างไรก็ตามภายใต้ห้วง
เวลาเจิดจรัส ก็มีแผนการอันร้ายกาจน่ากลัวดั่งคลื่นใต้น้า
ดาเนินไปไม่หยุดยั้ง…
เมื่อสองปีที่แล้ว เทพแห่งเผ่าปีกอย่างลูซิเฟอร์ ก็ได้ตกลงปลง
ใจร่วมหัวจมท้ายไปกับเผ่าพันธุ์โบราณ
และในปีที่ผ่านมาก็บังเกิดการสับประยุทธ์สะท้านแดนดินขึ้น!
ราชาแห่งเผ่าพันธ์ยักษา ควาฟูุ ได้ปะทะแตกหักกับเทพปีศาจ
แห่งความตาย การสับประยุทธ์ครั้งนี้เขย่าสวรรค์สะท้านแดน
ดิน มวลดารามากมายเหนือฟูาถูกลูกหลงจนร่วงหล่นแตกดับ!
ผู้บริสุทธิ์มากมายตกตายนับไม่ถ้วน!!
อย่างไรก็ตามสาหรับผู้ทรงพลังของุทกเผ่าพันธุ์นั้น คล้ายกับ
พวกมันกาลังเฝูารอบางสิ่งที่พวกมันวาดหวังอยู่…
..
“คนทรยศ! ส่งมอบมหาสมบัติของชนเผ่าพุทธะนั่นคืนมา
เสีย!!”
ทันใดนั้นเองความว่างเปล่าเหนือฟูาปรากฏเส้นแสงพุ่งทะยาน
ไล่ล่ากันมาอย่างดุเดือด ราวกับการไล่ล่าฆ่าสังหารก็ไม่ปาน!
“นี่เป็นสมบัติส่วนตัวของอาตมา! หาใช่สมบัติอันใดของชนเผ่า
พุทธะไม่!!” หลวงจีนรูปหนึ่งที่ร่างพุ่งเป็นเส้นแสงหน้าสุดกาลัง
ตะโกนออกมาเสียงดังสนั่น ตอบโต้คาครหาของหลวงจีน
ด้านหลัง… อย่างไรก็ตามแลไปช่างพิกลนัก! เพราะคล้าย
หน้าอกของหลวงจีนรูปนี้จักมีหนั่นเนื้อตุงใหญ่กระเพื่อมขึ้นลง
อย่างฉงน!
หากหลินฟุานได้เห็นร่างนี้ คงไม่พ้นต้องอุทานว่า ‘ชิบหาย! นั่น
ไม่ใช่หัวโล้นบัดซบ! หลวงพ่อศากยะรึไง!?’
หลวงพ่อศากยะนั้นนับเป็นชนชั้นอัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์พุทธะ!
แล้วไฉนตอนนี้มันถึงได้ถูกผู้คนในชนเผ่าเดียวกันไล่ล่าเสียได้?
“เหอะ! อย่าได้กล่าวเหลวไหล! พวกเราอย่าได้ต่อล้อต่อเถียง
กับมัน! เพียงจับเจ้าโจรร้ายที่มีร่างกายดั่งมารผิดเพศนี่กลับไป
ให้องค์ยูไลของพวกเราชนเผ่าพุทธะจัดการเสีย!!”
“ฝุามือพุทธะองค์คลุมนภา!!”
ทันใดนั้นเองความว่างเปล่ารอบอาณาบริเวณพลันสั่นไหว
กระเพื่อม ปรากฏหัตถ์พระพุทธรูปสีทองขนาดมหึมาหล่นร่วง
จากฟากฟูา พุ่งไปหมายคว้าจับร่างหลวงพ่อศากยะ! เมื่อหลวง
พ่อศากยะเห็นกระบวนท่านี้ มันก็หวาดกลัวจนหัวใจดวงน้อย
สั่นไหวระรัวเต้นไปไม่เป็นจังหวะ!!
“บัดซบ! พวกเจ้าเอาจริงหรือ!?”
หลวงพ่อศากยะรู้สึกว่าโลกหล้านั้นได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างใหญ่
หลวงในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่าน ตอนที่ดินแดนผู้พิทักษ์พังทลาย
ลง ตัวมันก็มุ่งหน้ากลับเผ่าพันธุ์พุทธะและคิดจะเข้าร่วมกลุ่ม
กับเผ่าพันธุ์ตัวเองอีกครั้ง ทว่าผู้ใดจะไปรู้กันว่า…การหวนกลับ
สู่เผ่าพันธุ์ของมันครั้งนี้ จะบังเกิดความเปลี่ยนแปลงอันใหญ่
หลวง?!
ร้อยพันหมื่นคาดมันก็ไม่เคยคิดว่าองค์มหาเถระผู้เป็นดั่งราชา
แห่งเผ่าพันธุ์พุทธะของมันจะถูกทุบตีจนร่วงอย่างไร้หนทาง
ต่อกรประหนึ่งเด็กน้อย! และหลวงพ่อศากยะก็ได้รับทราบอีกว่า
ชนเผ่าของมันทั้งชนเผ่าได้ถูก หนึ่งตัวตนนั่นสยบไว้สิ้นแล้ว!!
ไม่นานหลวงพ่อศากยะก็ได้พบพานตัวตนทรงพลังที่มีอานาจ
อันน่ากลัว! ซ้าร้ายเรื่องราวทั้งหลายดั่งเรื่องตลกร้ายก็ไม่ปาน!
เพราะตัวตนทรงพลังดังกล่าวที่สยบสิ้นทั้งชนเผ่าพุทธะนั่น
กลับอ้างตัวว่ามันคือบิดาแห่งชนเผ่าพุทธะทั้งมวล! ชนเผ่า
พุทธะเองก็ถูกมันสร้างขึ้น!!
เรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อนี้สาหรับหลวงพ่อศากยะแล้วแทบไม่
ต่างอะไรไปจากนิทานปรัมปราขายฝัน! ทว่าไม่นานมันก็ได้
ตระหนักว่าพลังฝึกตนของมันนั้นแทบไม่พอเติมเต็มซอกฟันให้
อีกฝุายเสียด้วยซ้า!
ทั้งไม่รู้ว่าอีกฝุายไปล่วงรู้ความลับอันยิ่งใหญ่ที่ตัวมันมีอย่างที่
มันถือครอง แสงพิสุทธิ์ชาระล้างแห่งองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าได้
อย่างไร…แต่ที่รู้ๆคือตัวตนอันทรงพลังหรือ ‘องค์ยูไล’ อันใดนั่น
ได้สั่งให้มันส่งมอบเคล็ดวิชานี้ออกไป!!
แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นอะไรที่หลวงพ่อศากยะไม่อาจยอมรับได้
เพราะนี่คือเคล็ดวิชาที่ตัวมันได้มาครอบครองด้วยตัวเอง มัน
ย่อมมีสิทธิ์ถือครองโดยชอบธรรม! อีกฝุายคิดจะไถเอาวิชาก็ไถ
เอาไปได้หรอ อีกฝุายเห็นมันเป็นแพะอ้วนหรืออย่างไร?!
ด้วยประการฉะนี้หลวงพ่อศากยะจาต้องลอบหลบหนีออกจาก
เผ่าพันธุ์ของตัวเอง และนั่นทาให้ภายในปีที่ผันผ่าน หลวงพ่อ
ศากยะก็ถูกซุ่มโจมตีนับครั้งไม่ถ้วน ทุกครั้งเองก็แทบเอาชีวิตไม่
รอด!!
อย่างไรก็ตามครั้งนี้หลวงพ่อศากยะรู้สึกผิดท่าอยู่บ้าง เพราะผู้ที่
ออกมาตามล่ามันกลับเป็นตัวตนที่ทรงพลังเหนือชั้นเกินไป
เทียบกับตัวมันแล้วอีกฝุายแข็งแกร่งกว่ามาก!
“จงหมอบคลานลงไป! ยอมแพ้เสีย!!”
ฝุามือพุทธะองค์จากฟากฟูายิ่งมายิ่งมหึมา ตอนนี้มันมหึมา
ปานจะคลุมครอบได้ทั้งแผ่นฟูา หลวงพ่อศากยะไร้ซึ่งหนทาง
หลบหนีอันใด มันทาได้แค่กรีดร้องออกมาสุดปอดก่อนจะชูแขน
ทั้งสองขึ้นต้านทาน
“พวกเจ้าจักรังแกอาตมากันมากเกินไปแล้ว!!”
ตอนนี้หลวงพ่อศากยะได้เข้าสู่สภาวะปลดปล่อยพลัง มวลพลัง
มหาศาลทุกขุมในร่างปะทุออก แสงพลังทั่วร่างยังพุ่งไปควบ
รวมยังฝุามือทั้ง 2! ใจมันคิดผลักหัตถ์พลังพุทธะองค์ที่หล่นร่วง
จากฟูานี่กลับไป!! (53380)
อนิจจาใช่ว่ามันคิดต้านทานรับก็จะรับได้ มวลพลังที่กดทับนั้น
มันมหาศาลเกินไป! หลวงพ่อศากยะสัมผัสได้ถึงพลังเกรี้ยว
กราดที่กดทับลงมาทั่วร่างอย่างมิอาจต้าน!!
บรึมมม!!
บรึมมม!!
ร่างหลวงพ่อศากยะถูกมวลพลังดันจนร่วงจากฟากฟูา! สุดท้าย
ฝุาเท้าของมันก็ย่าเหยียบลงบนผืนดิน! ไร้หนทางให้ถอยหนี
สืบไป!!
“ถุยชีวิตของอาตมา…!” หลวงพ่อศากยะกู่ร้องออกอย่างไม่
ยินยอม มันรู้ตัวว่ายามนี้ตัวมันกาลังจะจบสิ้นแล้ว
“เชี่ย! ตัวบัดซบหน้าไหนไร้นัยน์ตากล้าเหยียบพี่ประมุขวะหา!?
เบื่อชีวิตคิดตายห่าแล้วรึไง!?”
ทันใดนั้นเองปรากฏเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด!
ถล่มมารดามันเถอะ เขานอนของเขาอยู่ดีๆ ขอแค่นอนหลับดีๆ
สักตื่นนี่มันยากนักรึไงหา!? ทาไมถึงได้มีตัวบัดซบไร้นัยน์ตาเดิน
ไม่ดูตาม้าตาเรือเหยียบลงมาได้! หรือตอนคลอดมันลืมหยิบลูก
ตามาจากท้องมารดารึไงกัน!?
TSS ตอนที่ 886 : ชีวิตลำบำกแสนอำภัพ!
ตอนนี้หลวงพ่อศำกยะกำลังหวั่นวิตกหวำดกลัวและตึงเครียด
ถึงขีดสุดไม่ต่ำงอะไรจำกวิหกหวำดเกำทัณฑ์ ดังนั้นเมื่ออยู่ดีๆก็
มีเสียงดังขึ้นเช่นนี้ ย่อมทำให้มันถึงกับสติเตลิด! และยิ่งสัมผัส
ได้ว่ำใต้เท้ำของมันคล้ำยมีบำงสิ่งขยับเขยื้อน…มันก็ไม่คิดใดให้
มำกควำม รีบกระทืบนำไปก่อนทันที!!
“โอ๊ย ไอชิบหำย! แม่ง! ยังจะกล้ำเหยียบลงมำอีก!?” ในขณะที่
หลินฟ่ำนกำลังจะลุกขึ้นยืนเท้ำเจ้ำกรรมของตัวบัดซบที่เดินไม่
ดูตำม้ำตำเรือก็พลันกระทืบซ้ำลงมำ! ทำให้เขำถึงกับผงะ ยัง
กระตุกต่อมให้เขำมีน้ำโหขึ้นทันใด!
ถล่มมำรดำมันเถอะ! เขำไปฉี่รดหมอนหรือตดอัดผ้ำห่มใครมำรึ
ยังไง? แล้วนี่เขำก็อุตส่ำแอบมำนอนหลบในบึงโคลนเงียบๆ แค่
อยำกจะพักให้หำยเหนื่อยไม่ใช่หรือ? แล้วไหงชีวิตเขำต้องมำ
เจออุปสรรคอะไรแบบนี้ด้วย!?
หลินฟ่ำนไม่คิดใดสืบไป เขำผลักเท้ำที่เหยียบร่ำงออกไป พร้อม
เด้งตัวลุกขึ้นมำนั่งอย่ำงเกรี้ยวกรำด!
ส่วนทำงด้ำนหลวงพ่อศำกยะนั้นหวำดกลัวจนหน้ำซีดไป
หมดแล้วตอนนี้! ยิ่งมำเห็นมนุษย์โคลนปรำกฏขึ้นเบื้องหน้ำมัน
ก็ยิ่งตื่นตระหนกหนักหนำ..!
“อ้ำว! ที่แท้เป็นเจ้ำเองหรือเนี่ย!!” ขณะทีห่ ลินฟ่ำนเตรียม
พร้อมจะลุกไปเล่นงำนตัวบัดซบที่กล้ำเหยียบเขำ ก็ถึงกับต้อง
อึ้งค้ำงไปทันใด!
เพรำะนั่นไม่ใช่ พระหัวโล้นรึไงกัน!?
และดูจำกสีหน้ำท่ำทำง ทั้งสำรรูปอิดโรยของอีกฝ่ำยแล้ว…
ท่ำทำงชีวิตของเจ้ำหัวโล้นนี่จะไม่ค่อยสู้ดีสักเท่ำไร! แล้วนี่มัน
ถูกคนตำมฆ่ำมำหรืออะไรยังไง?
ครืนนนน!!!
ครืนนนน!!!
ตอนนี้เองทำงด้ำนหัตถ์พลังพุทธะองค์ก็ยังคงถำโถมลงมำจำก
ฟ้ำ รำวกับมันพร้อมจะบดขยี้ร่ำงหลวงพ่อศำกยะได้ทุกเวลำ!
หลินฟ่ำนก็ไม่ได้กล่ำวใดออกมำให้มำกควำมเพียงส่ำยหัวอย่ำง
ช่วยไม่ได้ ดูเหมือนว่ำพระหัวโล้นนี่อำกำรไม่ค่อยจะดีเท่ำไร
แล้ว!
หลินฟ่ำนลุกขึ้นยืนตัวตรง ก่อนจะยิงหมัดส่งขึ้นฟ้ำไปทันใด
ท่วงท่ำยังสง่ำงำมน่ำประทับใจมิใช่ชั่ว ถึงแม้ว่ำจะเป็นหมัดที่
แลดูเรียบง่ำย หำกทว่ำแฝงเร้นไปด้วยพลังมหำศำล!!
หนึ่งกำปั้นนี้เพียงพอที่จะกวำดทำลำยแผ่นฟ้ำ หัตถ์พลังพุทธะ
องค์ยำมปะทะถึงขั้นแหลกสลำยกระจัดกระจำยเป็นจุดพลัง
รัศมีธรรมส่องสว่ำงลอยล่องไปทั่ว สุดท้ำยค่อยดับหำยไปใน
โลกหล้ำ
ทันทีที่หลวงพ่อศำกยะเห็นภำพนี้ หน้ำมันก็เหวอไปทันใด ทรง
พลัง…ทรงพลังเหนือชั้นอย่ำงน่ำกลัว!
คนของชนเผ่ำพุทธะที่ไล่ล่ำมันนั้นเป็นอะไรที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!
ตลอดกำรไล่ล่ำมันไม่อำจทำอะไรได้เลยนอกจำกหลบหนี! ไม่
อำจหันไปปะทะต่อสู้อะไรกับอีกฝ่ำยได้สักกระบวน!!
ทว่ำพอได้ประจักษ์ควำมจริงที่ว่ำ มนุษย์โคลนดำเมี่ยมเบื้อง
หน้ำกลับเป็นอะไรที่โคตรทรงพลังอย่ำงเหลือเชื่อ! หลวงพ่อ
ศำกยะก็ถึงกับตะลึงตำตั้ง!!
“พี่ชำยสหำยท่ำนนี้ อำตมำต้องขอขอบคุณท่ำนยิ่งแล้วที่
ป้องกันพลังฝ่ำมือนี้ให้อำตมำ ผลบุญในกำรกระทำของพี่ชำย
ครั้งนี้จักหนุนเสริมให้ชีวิตท่ำนเจริญยิ่งๆขึ้นไปในภำยภำค
หน้ำ!!” หลังจำกที่หลวงพ่อศกยะอึ้งไปครู่หนึ่ง มันก็ฟื้นสติ มัน
รู้ตัวดีว่ำไม่อำจเสียเวลำเวิ่นเว้ออะไรที่นี่สืบไป มันต้องรีบ
หลบหนีต่อทันที!!
และในขณะที่หลวงพ่อศำกยะกำลังจะพุ่งร่ำงหลบหนีไปนั้น
หลินฟ่ำนพลันกล่ำวออกมำ
“หัวโล้น นี่เจ้ำทำอะไรของเจ้ำวะหำ? ชิบหำยเอ๊ยหรือเดี๋ยวนี้
แม้กระทั่งข้ำประมุขเจ้ำก็จำไม่ได้แล้ว!? เจ้ำตำยมันซะตอนนี้
เลยดีมั้ย?”
“ประสพอำตมำมิได้เรียกว่ำหัวโล้น…”
เมื่อได้ยินผู้อื่นเรียกหำตัวว่ำหัวโล้น หลวงพ่อศำกยะอดไม่ได้ที่
จะขัดใจขึ้นมำ หำกทว่ำเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่ำยจบคำมัน
ถึงกับอึ้งค้ำงร่ำงแข็ง!
นั่นเป็นเพรำะมันตระหนักได้ชัดเจน น้ำเสียงนี้…และกำรกล่ำว
วำจำสำเนียงผิดแปลกไม่เหมือนผู้ใดเช่นนี้…เป็นอะไรที่คุ้นหูมัน
นัก!
“ประ…ประสพ…!” หลวงพ่อศำกยะจ้องมนุษย์โคลนเบื้องหน้ำ
ด้วยควำมตื่นตระหนก
หลินฟ่ำนยิ้มออกมำอย่ำงสงบ ดูเหมือนอีกฝ่ำยจะจดจำเขำได้
แล้ว เขำยกมือขึ้นมำก่อนจะปรำกฏวำรีต้นกำเนิดหลั่งไหล
ออกมำชะล้ำงสิ่งปฏิกูลทั่วกำยหำยแว๊บทันใด ใบหน้ำหล่อ
เหลำเผยให้โลกหล้ำได้ยลอีกครั้ง
“ประ…ประสพหลิน! ที่แท้เป็นประสพเอง! สวรรค์! ในที่สุด
อำตมำก็ได้พบประสพอีกครั้ง!!” ทันใดนั้นหลวงพ่อศำกยะก็ร่ำ
ร้องออกมำอย่ำงดีใจ รำวกับพึ่งได้พบพำนโชคลำภจำกเทพ
เจ้ำ!
“ประสพ! ช่วยอำตมำด้วย! อำตมำถูกคนพวกนี้ไล่ล่ำ!!” หลวง
พ่อศำกยะไม่รอช้ำอะไรมันแจ้นมำหลบหลังหลินฟ่ำน พร้อมชี้
มือชี้ไม้กล่ำวฟ้องทันที…
“อะไรกัน? เดี๋ยวนี้เจ้ำชักเหลวไหลใหญ่แล้วนะหัวโล้น หืม!?”
หลินฟ่ำนมองไปยังร่ำงที่ลอยล่องอยู่เหนือฟ้ำ กล่ำวเสียงตำหนิ
“ไม่ใช่พวกมันก็เป็นแค่เทพนิรันดร์ที่ไร้บัลลังก์รึไง? ไม่คิดเลย
ว่ำพวกมันจะบีบคั้นเจ้ำจนถึงขั้นนี้ได้? โอยละเหี่ยจิตชิบ!”
“อำมีทัวฝัว! ประสพท่ำนนี้ คนผู้นั้นคือคนบำปแห่งชนเผ่ำ
พุทธะเรำ อำตมำขอบิณฑบำตคนบำปนั่นด้วย!” ตอนนี้เองร่ำง
ที่ลอยล่องเหนือฟ้ำเปี่ยมไปด้วยรัศมีธรรมคลุมกำยพลันกล่ำว
ออกมำด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเมตตำ มันใช้มือข้ำงหนึ่งขึ้นมำตั้ง
คล้ำยจะพนมไว้กลำงอก ส่วนอีกข้ำงถือระฆังใบหนึ่งเอำไว้
“เหลวไหล! ข้ำมิได้เป็นคนบำปอันใด! พวกเจ้ำสิคนบำป
น้องสำวเจ้ำสิคนบำป! บ้ำนเจ้ำสิเป็นคนบำปกันทั้งบ้ำน!!
ประสพหลิน! อย่ำไปฟังตัวบัดซบนั่น! เป็นพวกมันที่คิดแย่งชิง
วิชำแสงพิสุทธิ์ชำระล้ำงแห่งองค์สัมมำสัมพุทธเจ้ำ!!” หลังจำก
ที่ถูกไล่ล่ำมำนำนหลวงพ่อศำกยะทั้งเคียดแค้นทั้งเก็บกดนัก!
พวกมันทั้งหลำยล้วนเป็นตัวอุบำทว์หำดีไม่ได้! ตลอดระยะเวลำ
ไล่ล่ำอีกฝ่ำยยังจะฆ่ำมันให้ตำยเสียให้ได้! มันแทบไม่มีเวลำได้
พักผ่อนอะไรเลย!!
“เหอะ!”
ชนเผ่ำพุทธะร่ำงอ้วนที่ลอยอยู่ข้ำงๆคนถือระฆังแค่นเสียงสบถ
ออกมำอย่ำงเย็นชำ ใบหน้ำอันเต็มไปด้วยโทสะของมันเช่นนี้
มำกพอที่จะขู่ขวัญพวกตัวตนด้อยพลังให้ขลำดกลัว!!
หลวงพ่อศำกยะถึงกับต้องขยับไปอยู่หลังหลินฟ่ำนให้ดี
“ประสพ ตัวเลวร้ำยพวกนี้ช่ำงโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนัก พวกมัน
มิได้ปฏิบัติตัวเหมือนดั่งคนของชนเผ่ำพุทธะเลย! หำกผู้ใดไม่ฟัง
คำของพวกมัน ล้วนถือว่ำเป็นฝ่ำยผิดทั้งสิ้น และพวกมันล้วน
สังหำรไม่ละเว้น! ยำมนี้ชนเผ่ำพุทธะแปรเปลี่ยนไปใหญ่หลวง
แล้ว!!”
ด้ำนหลินฟ่ำนนั้นไม่ได้แยแสอะไรกับพวกหัวโล้นทั้งหลำยมำก
นัก ขณะเดียวกันเขำก็คร้ำนจะแยแสฟังควำมอะไรพวกมัน
มำกมำย
“ไอพวกหลวงจีนหัวโล้น ข้ำประมุขจะขอพูดครั้งเดียว หำก
พวกเจ้ำยังรู้ว่ำอะไรดีต่อตัวก็รีบไสหัวเหม่งๆของเจ้ำไปให้พ้น
หน้ำข้ำประมุขซะ! ไม่อย่ำงงั้นก็อย่ำหำว่ำข้ำประมุขไร้ปรำณีที่
จำต้องลงมือกับพวกเจ้ำ!!” หลินฟ่ำนกล่ำวเสียงเย็น
“อำมีทัวฝัว! ประสพที่หลงทำงดวงตำมืดบอดมิรู้ผิดชอบเอย
พวกอำตมำมิกลับหำกมิได้ตัวคนบำปนั่น!”
“ฮึ่ม! เจ้ำยังถกเถียงกับมันทำอันใด! มิฟังคำพวกเรำ ก็ล้วนเป็น
คนบำปสมควรตำย! ฆ่ำไอหนุ่มนั่นแล้วสยบตัวดื้อรั้นนั่นเสีย
แล้วพวกเรำค่อยเอำตัวมันกลับไปให้องค์ท่ำนตัดสินโทษ!!”
ชนเผ่ำพุทธะอีกคนก็กล่ำวออกมำด้วยใบหน้ำเปี่ยมโทสะ
“นี่ข้ำประมุขอุตส่ำใจดีไว้หน้ำพวกเจ้ำแล้วแท้ๆ แต่พวกเจ้ำ
กลับไม่ยอมรับ…ยังจะมีหน้ำคิดแตะต้องคนของข้ำประมุข
อีก!?” หลินฟ่ำนกล่ำวจบก็แสยะยิ้มเย็นเยือก ยิงหมัดตรง
ออกไปทันใด
ทันใดนั้นบำงสิ่งน่ำพรั่นพรึงพลันอุบัติ หนึ่งหมัดนั่นรำวกับจะ
สำมำรถฉีกทะลวงชั้นฟ้ำ ปรี่พุ่งไปยังชนเผ่ำพุทธะอย่ำงเกรี้ยว
กรำด!
ตูมมมม!!
“มันจบแล้ว”
เปรี๊ยงงงงงง!!!
ทีละคนๆ เหล่ำคนของชนเผ่ำพุทธะต่ำงตื่นตระหนกขวัญผวำ
ห้วงสุดท้ำยของชีวิตพวกมันทำได้แค่เบิกตำกว้ำงมองพลัง
อำนำจทีไ่ ม่อำจต้ำนอย่ำงหวำดผวำ สุดท้ำยก็กลับกลำยเป็น
ละอองธุลีดับสลำยไปจำกโลกหล้ำ…
‘ติ๊ง!! ..ขอแสดงควำมยินดีท่ำนสังหำร คนของชนเผ่ำพุทธะ’
‘ติ๊ง!!..มหำสงครำมของโลกไร้จำกัดได้อุบัติขึ้นแล้ว ฟังก์ชั่น
แสดงค่ำควำมสัมพันธ์ เริ่มต้นกระบวนกำรเปิดใช้งำน’
‘ติ๊ง!!…คะแนนควำมสัมพันธ์กับชนเผ่ำพุทธะลดลง’
‘ชนเผ่ำพุทธะ : เกลียดชัง’
หลินฟ่ำนอึ้งไปสองตำกระพริบปริบๆ ไม่คิดเลยว่ำกระทั่ง
ฟังก์ชั่นแบบนี้ระบบก็มี! แต่สำหรับเขำแล้วนี่มันก็ไม่ได้
สลักสำคัญอะไร เพรำะในเมื่อมหำสงครำมแห่งโลกไร้จำกัด
อุบัติขึ้นมำ เขำย่อมเป็นตัวแทนแห่งเผ่ำพันธุ์มนุษย์อยู่แล้ว!
‘ไม่ว่ำใครหน้ำไหน ตรำบใดที่มันมำแหยมพี่ประมุข! พี่ประมุข
จะถล่มมันให้ตำย!!’
“อำมีทัวฝัว…บัดซบ! ประสพ! ไฉนตอนนี้ประสพถึงได้
แข็งแกร่งนักล่ะ! นี่ประสพจักไม่เกินไปหน่อยหรือ!? มิคิดเลยว่ำ
อำตมำมิได้พบพำนประสพเพียงไม่กี่ปี พลังฝีมือประสพจักน่ำ
เกรงขำมถึงเพียงนี้แล้ว!!” หลวงพ่อศำกยะอุทำนออกมำด้วย
ควำมเหลือเชื่อ!!
“เหอะ ทำเป็นพูด! ว่ำแต่เจ้ำเถอะ มัวไปทำอะไรอยู่ที่ไหนมำ
หำ? ไหงชีวิตถึงได้แลดูอนำถขนำดนี้? เฮ่อ แถมข้ำไม่คิดเลยว่ำ
หลังจำกที่ไม่ได้เจอกันตั้งหลำยปี เจ้ำยังเป็นแค่เทพสวรรค์
อมตะ ชั้นฟ้ำที่ 9 เนี่ยนะ! โอยพรสวรรค์ของเจ้ำถูกสุนัข
รับประทำนไปหมดแล้วรึไง?!”
“ฮัยยำประสพอ่ำ…ประสพจักให้อำตมำทำกระไรได้เล่ำ อำตมำ
ถูกไล่ล่ำทั้งวันทั้งคืนนำนนับปี! เช่นนั้นประสพจะให้อำตมำเอำ
เวลำที่ไหนไปปิดด่ำนฝึกตน?” หลวงพ่อศำกยะจะยอมให้หลิน
ฟ่ำนถำกถำงได้อย่ำงไร
ไม่ว่ำอย่ำงไร ตัวมันก็นับเป็นชนชั้นสุดยอดอัจฉริยะแห่ง
เผ่ำพันธุ์พุทธะ!
อนิจจำแต่หำกดูจำกเรื่องรำวตอนนี้ เกรงว่ำมันคงไม่มีวัน
กลับไปยังชนเผ่ำพุทธะได้อีกแล้ว มันกลับกลำยเป็นคนบำป
ของชนเผ่ำพุทธะไปเสียแล้ว!!
บัดซบ! พวกนั้นมันเลวร้ำยเกินไป! ควำมผิดบำปทีท่ ง้ั หลำยยัด
เยียดให้มัน มิใช่เพียงเพรำะอยำกแย่งชิงวิชำมันหรอกหรือไง?
หำกมิใช่เพรำะวิชำ พวกบัดซบนั่นยังจะไล่ล่ำมันอย่ำงโหดร้ำย
ไม่เลิกรำดั่งสุนัขกัดไม่ปล่อยทำอะไร?
“ว่ำแต่ ดินแดนผู้พิทักษ์เป็นไงมั่งล่ะ?” หลินฟ่ำนกล่ำวถำม
“พินำศไปแล้วประสพ”
“แล้วกองทัพปฏิวัติของพวกเรำล่ะ?” หลินฟ่ำนถำมสืบต่อ
“เฮ่อ…ประสพเอย กองทัพปฏิวัติของพวกเรำยุบทิ้งไปเนิ่นนำน
แล้ว ผู้คนของกองทัพเรำช่ำงโลเลเกินไป! ทันทีที่พวกมัน
ทั้งหลำยได้ยินว่ำผู้ทรงพลังอย่ำงตัวตนสูงสุดของเผ่ำพันธุ์พวก
มันหวนกลับมำ และให้ควำมคุ้มครองเผ่ำพันธุ์พวกมัน ทั้งหมด
ก็ล้วนละทิ้งกองทัพกลับเผ่ำใครเผ่ำมันทั้งสิ้น ต่ำงคิดไปพึ่ง
ใบบุญตัวตนทรงพลังอะไรนั่น!!”
เมื่อกล่ำวถึงจุดนี้ใจของหลวงพ่อศำกยะพลันปวดแปลบดั่ง
แหลนเสียบปัก
วันนั้น…วันที่ตะวันทอแสงแรงกล้ำ ผืนนภำสีสันสดใส หมู่เมฆ
ลอยเอื่อยสำยลมโชยพัดมำเบำๆ นับว่ำเป็นวันดีวันหนึ่ง…
อนิจจำเหล่ำสมำชิกทั้งหลำยกลับไม่ซึ้งอะไรในควำมสดใสของ
วัน เลือกที่จะตีจำกหลวงพ่อศำกยะไปทีละคนๆ… (53380)
“ท่ำงรองผู้นำขอรับ…ขออภัยด้วย ยำมนี้ตัวตนสูงสุดแห่ง
เผ่ำพันธุ์ข้ำหวนกลับมำแล้ว ตอนนี้ข้ำต้องกลับเผ่ำแล้ว
ขอรับ…”
ถล่มมำรดำมันเถอะ ทั้งหลำยยังมีมโนธรรมในใจหรือไม่? มีกับ
ผี! มโนธรรมพวกมันบินขึ้นฟ้ำตำยห่ำไปหมดสิ้นแล้ว!!
“ลำล่ะรองผู้นำ! ข้ำเองก็มิรู้จักอยู่ตรงนี้เพื่ออันใด! อยู่กองทัพ
ปฏิวัติไปแล้วยังทำอะไรได้!? ยำมนี้ตัวตนสูงสุดของเผ่ำพันธุ์ข้ำ
หวนกลับมำแล้ว! ได้เวลำที่ข้ำพเจ้ำจักกลับไปกอดขำท่ำนผู้นั้น
แล้ว!!”
…
แล้วสุดท้ำยสมำชิกของกองทัพปฏิวัติก็ตีจำกไปจนหมด หลวง
พ่อศำกยะก็กลำยเป็นผู้นำที่ไร้ผู้ตำม… เช่นนั้นมันก็ทำได้แค่
หวนกลับไปยังชนเผ่ำพุทธะของมันเท่ำนั้น ทว่ำใครจะไปคิด
กัน…ว่ำยำมมันหวนกลับไปยังชนเผ่ำพุทธะ มันจะได้พบพำน
กับอะไรที่เลวร้ำยแบบนี้!?!
สุดแสนจะอำภัพ! ยังเรียกได้ว่ำชีวิตของมันช่ำงโคตรลำบำก
นัก!!
TSS ตอนที่ 887 : สถานการณ์นี้คล้ายมิถูกต้อง!
หลังจากที่ได้ยินคาของพระหัวโล้นหลินฟ่านก็นิ่งเงียบไป ด้วย
ไม่คิดว่าจะบังเกิดเรื่องราวขึ้นมามากมายขนาดนี้ได้ในช่วงที่
ผ่านมา…
“ประสพหลิน ว่าแต่ประสพเถิด 5 ปีที่ผ่านมานี้…ประสพไปอยู่
ที่ใดมาหรือ?” หลวงพ่อศากยะไถ่ถาม
“เอ่อ…” หลินฟ่านนิ่งไปวูบหนึ่ง ด้วยเขาไม่รู้จริงๆว่าจะตอบ
ยังไงดี จะให้เขาตอบว่า อ๋อ 5 ปีที่ผ่านมาน่ะเหรอ…พอดีพี่อึ๊บ
กับสาวอยู่น่ะ! แบบนี้ก็คงไม่ได้ใช่มั้ย?
“อะแฮ่ม…พอดีข้าประมุขปิดด่านฝึกตนอย่างสันโดษน่ะ” ใน
ที่สุดหลินฟ่านก็นึกข้ออ้างที่เลิศภพจบแดนออก
“ทีแ่ ท้เป็นเช่นนี้นี่เอง อาตมาล้วนเข้าใจกระจ่างแล้ว มิน่าล่ะ
พลังฝีมือของประสพถึงได้แกร่งกล้าขึ้นถึงขอบเขตนี้แล้ว! มา
ตอนนี้อาตมาก็พอได้เข้าใจ…ว่าที่แท้เป็นเพราะประสพปิดด่าน
ฝึกตนอย่างสันโดษนี่เอง!!” หลวงพ่อสากยะกล่าวคร่าครวญ
ออกมา ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันจะไม่ได้ยินข่าวคราวของ
ประสพหลินเบื้องหน้ามาตลอดระยะเวลา 5 ปี
ตอนนี้เองหลินฟ่านก็นึกอะไรได้ รีบปล่อยเจ้าชิคกี้ออกมาจาก
วิมานฟ้าทันใด
“กุ๊ก กุ๊ก กู!!”
เมื่อชิคกี้ได้ออกมาอีกครั้ง มันก็ชูคอขันยาวออกมาเสียงดัง
ด้านหลวงพ่อศากยะนั้นทันทีที่เห็นเจ้าชิคกี้ สองตามันพลัน
สว่างวูบขึ้นมาทันใด! “ประสพ! ประสพส่งมันมาได้ประเสริฐ!
อาตมาผู้ต้อยต่าหลบหนีจนแทบไม่มีเวลากินนอน อดอยาก
แทบตายแล้ว! มิคิดเลยว่าประสพจักประเสริฐถึงขั้นเตรียมไก่
ให้อาตมาทาบาร์บีคิวเช่นนี้!!”
ส่วนทางด้านเจ้าชิคกี้ที่ได้ออกมาอีกครั้งหลังจากไม่ได้ออกมา
แสนนาน ขณะที่มันกาลังยืดเส้นยืดสาย เพลิดเพลินกับอากาศ
บริสุทธิ์อยู่นั้น พอมาได้ยินวาจานี้…มันก็ถึงกับของขึ้นทันใด!
หัวสะบัดดังขวับหันไปจับจ้องหลวงพ่อศากยะอย่างดุดัน สอง
ตาไก่น้อยของมันมองเขม็งอย่างเกรี้ยวกราด!!
“พระหัวโล้นน่าตาย! เมื่อครู่เจ้ากล่าวว่าจะจับผู้ใดทาบาร์บีคิว
บัดซบของเจ้านะ?” ตอนนี้ชิคกี้พิโรธแล้ว! ไม่คิดเลยว่าไอพระ
หัวเกรียนนี่จะกล้าพูดถึงเรื่องจับตัวมันทาบาร์บีคิวต่อหน้ามัน!?
บาร์บีคิวกับตูดปู่มันเถอะ!!
“พุทธองค์ทรงโปรด! ไฉนไก่ตัวนี้กลับกล่าววาจาได้..!!” เมื่อ
หลวงพ่อศากยะเห็นไก่กล่าวออกมาเกรี้ยวกราดมันก็หวาดกลัว
นี่นับเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่ง ‘สวรรค์! อาตมาพบพานไก่พูดได้
ด้วยล่ะ!!’
“เอาล่ะๆ เลิกเถียงกันเสียงดังโวยวายได้แล้ว หัวโล้นนี่เจ้าจา
ไม่ได้รึไงหา นี่นองชายข้า ชิคกี้ไง! เอาล่ะๆ พวกเจ้าทาความรู้
จักกันอีกครั้งแล้วกัน!” หลินฟ่านกล่าวพร้อมส่ายหน้า
“อ๊ะ จริงสิ! ที่แท้เป็นน้องชายชิคกี้นี่เอง! เป็นเกียรติของอาตมา
ยิ่งแล้วที่ได้เห็นน้องชายชิคกี้อีกครั้ง!!” หลวงพ่อศากยะที่นึกขึ้น
ได้รีบยื่นมือออกมาทันใด เพราะจดจาได้ว่าเจ้าไก่ประหลาดตัว
นี้ชอบเอาปีกมาจับมือเป็นการทักทาย
ทว่าสาหรับชิคกี้แล้วเรื่องมันไม่ง่ายแค่กล่าวไม่กี่คาก็จบ มันไม่
ใช้ปีกจับมืออีกฝ่ายอย่างเคย เพียงโดดโหยงคราหนึ่ง ก็ขึ้นไป
นั่งบนหัวเหม่งของหลวงพ่อศากยะ…
“ฮัยยา น้องชายชิคกี้ยังคงขี้เล่นเช่นเคย!” หลวงพ่อศากยะ
หัวเราะออกมาเบาๆ ท่าทางน้องชายชิคกี้ผู้นี้จะเปลี่ยนการ
ทักทายเสียแล้ว
ส่วนหลินฟ่านนั้นหรี่ตามองเล็กน้อย เขาสงสัยไม่น้อยว่าทาไม
เจ้าชิคกี้ถึงไม่โวยวายแถมไปนั่งราวกับจะละเล่นกับหลวงพ่อ
ศากยะอย่างญาติดีแบบนั้น 5 ปีผ่านไป เจ้าไก่ตัวแสบนี่มัน
เปลี่ยนแปลงนิสัยแล้วหรือไงกัน?
ทว่าทันใดนั้นเองหลวงพ่อศากยะพลันร้องออกมาเสียงดัง “เอ๊ะ
เหตุใดศีรษะอาตมาถึงได้ร้อนลวกนักเล่า!!”
“บัดซบ! น้องชายชิคกี้ ท่านจักเกเรเกินไปแล้ว!!”
ทันทีที่หลินฟ่านได้ยินคานี้ เขาก็หรี่ตามองไปยังศีรษะหลวงพ่อ
ศากยะทันที และพบว่าเจ้าชิคกี้ พึ่งจะเบ่งขี้จัดไปกองใหญ่
ม้วนเกลียวอย่างสวยงามบนหัวหลวงพ่อศากยะ! แถมมันยังคง
ร้อนระอุคุกรุ่น ควันขาวพุ่งโขมงโฉงเฉง!!
“กุ๊ก กุ๊ก กู…..!!!” ชิคกี้ร้องออกมาเสียงดังอย่างถูกใจ สะบัดตูด
เช็ดเหม่งอีกทีจนสะอาด ค่อยกระโดดกลับมานั่งบนไหล่ของ
หลินฟ่าน หลังจากนั้นมันก็ยืนจังก้าเอาปีกเท้าสะเอว “พระ
หัวโล้น ทีหลังต่อไปเจ้าจดจาไว้ให้ดี ว่าสมควรระวังวาจาที่พร่า
ออกจากปากของเจ้าไว้บ้าง! เจ้าเองก็อายุเท่าไหร่เข้าไปแล้ว
ยังกล่าววาจาไม่คิดราวเด็กน้อย! เหอะ! เจ้ามิอาจเทียบได้
แม้แต่กระทั่งข้า ใต้เท้าชิคกี้ผู้นี้!!”
หลวงพ่อศากยะ “..”
หลินฟ่าน “..”
…
ชนเผ่าพุทธะ เวลาปัจจุบัน…
วันนี้ชนเผ่าพุทธะได้แปรเปลี่ยนไป แตกต่างจากในวันวานมาก
นัก ทุกทั่วหัวระแหงล้วนเต็มไปด้วยเสียงบทสวดท่องพระธรรม
ไม่ได้เงียบสงบดั่งในกาลก่อน
ดินแดนสุขาวดี…ประจิมทิศ…
ปรากฏร่างภิกษุรวมถึงระดับสูงๆทั้งหลายของชนเผ่าพุทธะ
จานวนมากกาลังนั่งขัดสมาธิจับจ้องมองไป ยังร่างทรงพลัง
ของชนเผ่าพุทธะที่นั่งอยู่บนแท่นยกสูงเบื้องหน้าของพวกมัน
ด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเคารพ
ภายในดินแดนสุขาวดีแห่งนี้ บทสวดคาสอนทั้งหลายที่เปล่ง
ออก ล้วนแปรเปลี่ยนเป็นพลังอานาจแห่งธรรมะอันยิ่งใหญ่
มวลพลังยังก่อลักษณ์เป็นมังกรทองตัวเขื่องม้วนวนพัวพันไป
ทั่วน่านฟ้าทั้งอาณาบริเวณ… เหล่ามหาเถระเองตอนนี้ก็กาลัง
เทศนาให้เหล่าภิกษุทั้งหลายฟัง ภิกษุทั้งหลายเองก็รับฟังด้วย
หน้าตาแจ่มใสเบิกบาน ดั่งผู้รู้
อนิจจาเหล่ามหาเถระที่กาลังเทศน์อยู่นั้นแม้ปากจะกล่าวธรรม
มะในวิถีแห่งโลกุตระ หากแต่ในใจของพวกมันกลับเต็มไปด้วย
โลกียะ! แถมตอนนี้มันยังปวดปร่าใจไปไม่น้อย!!
พวกมันทั้งหมดเคยเป็นผู้ที่อยู่ระดับสูงสุดภายในชนเผ่าพุทธะ
แห่งนี้! และเป็นผู้ควบคุมชนเผ่าด้วยอานาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด!
ทว่านับตั้งแต่ตัวตนแห่งพุทธะคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นบรรพ
บุรุษของพวกมันปรากฏตัวออกมา ทุกสิ่งอย่างล้วน
เปลี่ยนแปลง ฉิบหายกันไปหมด!!
ตอนนี้เรียกได้ว่าอานาจของพวกมันลดหลั่นกันมาอยู่เป็นขั้นที่
3! จะให้พวกมันทานทนเป็นตัวตนอันต่าต้อยเช่นนี้ได้อย่างไร!!
อีกทั้งยามนี้การจัดที่นั่งเองก็พิเศษนัก! ตอนนี้พวกมันทาได้แค่
นั่งตามอาสนะที่จัดอันดับไว้ให้เท่านั้น…ที่สาคัญพวกมันยังต้อง
ถอยร่นออกมา จากเบื้องสูงนั่น มานั่งรวมกับชนชั้นธรรมดา
สามัญด้านล่าง…ไม่ได้มีอภิสิทธิ์ใดต่อไป!!
สาหรับเหล่าหน้าใหม่ที่แลคล้ายพวกลามะ รวมถึงองค์เทพที่
อ้างตัวว่าเป็นบรรพบุรุษพุทธะเบื้องหน้านั้น พวกมันไม่มีใครรู้
สักนิดว่าพวกเหล่านี้มันผุดโผล่มาจากนรกขุมไหนกันแน่!
ทั้งหมดราวกับปรากฏตัวออกมาจากอากาศธาตุ! และปัญหา
ใหญ่ก็คือ…พวกนี้กลับทรงพลังแข็งแกร่งเหนือจินตนาการนัก!
มหาเถระอย่างพวกมันไม่อาจเทียบชั้นอะไรได้เลย!!
ไถ่ถามโลกหล้าความยุติธรรมอยู่ที่ใด! ชั้นฟ้าเจ้าเอ๋ยบอกกล่าว
ได้หรือไม่? ว่าไฉนอดีตตัวตนที่ทรงพลังอย่างพวกมันกลับ
กลายเป็นตัวไร้ค่าทาได้แค่นาสวดหรือนั่งเทศน์โง่ๆเช่นนี้!?
สาหรับเหล่ามหาเถระแล้ว ความจริงของโลกหล้าช่างโหดร้าย
เหลือคณนานับ ราวกับชีวิตพวกมันได้ถูกโลกหล้าบดขยี้ศักดิ์ศรี
ให้กลับกลายเป็นสุนัขตัวหนึ่งก็ไม่ปาน!
ครึก!
ทันใดนั้นเองอาสนะที่ว่างเปล่าไร้ผู้นั่งบางส่วนกลับระเบิด
ออกมา! นาพาให้เหล่าลามะทั้งหลายที่นั่งอยู่ใกล้ๆตื่นตระหนก
ตกใจ หนังตาขององค์พระที่อ้างตัวว่าเป็นบรรพบุรุษพุทธะ ผู้
นั่งอยู่บนบัลลังก์ราชาเริ่มสั่นไหว ก่อนจะค่อยๆเปิดออกช้าๆ
ทันใดนั้นสุรเสียงที่ปานจะกังวาลออกไปอย่างไร้ขอบเขตพลัน
ดังกึกก้องขึ้นในความว่างเปล่า
“พุทธโลการะฆังทอง พุทธะลามะเนตรพิโรธ…ถูกปีศาจร้าย
สังหารดับสูญ หวนคืนสู่ดินแดนสุขาวดีแล้ว…”
“อา มี ทัว ฝัว”
เมื่อเหล่าลามะผู้มาใหม่ทั้งหลายได้ยินคานี้ ต่างก็กล่าวสวด
ออกมาทันที และไม่นานความสงบสุขก็หวนกลับมาอีกครั้ง…ไร้
เรื่องราวใดๆ
ส่วนเหล่ามหาเถระถึงกับหน้าเหวอ…ไม่คิดเลยว่าไอพวกบ้านี่
ยังจะสงบอยู่ได้ทั้งๆที่ได้ยินข่าวว่าสหายถูกสังหาร! นี่พวกมัน
ไม่คิดจะโศกเศร้าอะไรกันหรือไร!? สถานการณ์เช่นนี้มันมิใช่
แล้ว!!
พวกมันรู้ว่าพวกลามะเหล่านี้ได้ส่งคนออกไปตามล่าว่าที่เถระ
หนุ่มตัวแสบอย่างหลวงพ่อศากยะนั่น! ทว่าอาสนะแทนตัวผู้ที่
ออกไปไล่ล่าอยู่ๆกลับระเบิดออกเช่นนี้! หมายความว่าเจ้าหนุ่ม
ศากยะนั่นสามารถรอดพ้นชะตากรรมอันเลวร้ายของพวกมันได้
แล้ว!!
ประเสริฐยิ่ง! อามีถัวฝัว บัดซบมารดามันเถอะ โคตรประเสริฐ
ยิ่ง!!
นับว่าเจาหนุ่มนั่นหาใช่ชนชั้นสุดยอดอัจฉริยะแห่งชนเผ่าพุทธะ
แค่เพียงชื่อ! ยอดเยี่ยมนักที่จัดการพวกลามะแพะชราน่าตาย
พวกนั้นได้!!
ไม่เพียงแต่เหล่ามหาเถระจะถูกลดสถานะและบทบาท พวกมัน
กระทั่งยังถูกเหยียดยหยามจากคนของชนเผ่าพุทธะที่แปร
พักตร์เช่นกัน! ทาให้ตอนนี้เหล่ามหาเถระทั้งหลายย่อมถูกอก
ถูกใจนัก! ที่พวกลามะเฒ่านี่ตายตกไปบ้าง ไม่ว่าอะไรก็
ตามแต่…ตอนนี้ขอเพียงให้อีกฝ่ายทุกข์ใจพวกมันล้วนยินดี อา
มีทัวฝัว!!
“ดูเหมือนว่าครั้งนี้อาตมาต้องออกโรงเอง” ร่างบรรพบุรุษพุทธ
กล่าวออกมา ร่างกายของมันผู้นี้ ทั่วทั้งตัวเป็นสีทอง ทั้งยังมี
มังกรพลังแหวกว่าวเวียนวนอยู่รอบๆตัว! มันเหม่อมองไปยัง
ความว่างเปล่าทิศทางหนึ่ง ก่อนที่ร่างกายที่แท้จริงของมันจะ
วูบหายไปทันใด…
“ขอพุทธองค์ทรงโปรด..!” ผู้คนของชนเผ่าพุทธะกล่าวอวยพร
ออกมาอย่างพร้อมเพรียง
เมื่อเหล่ามหาเถระทั้งหลายเห็นภาพนี้ต่างก็สองตาเบิกโพลง
ทันใด บัดซบ! บรรพบุรุษพุทธะอะไรนั่นถึงกับใช้ร่างที่แท้จริง
ไปด้วยตัวเองงั้นเหรอ? แล้วนี่เจ้าหนุ่มตัวแสบศากยะนั่นจะ
ต้านทานรับมือไหวหรือไม่!?
ตัดกลับมาอีกด้าน…ตอนนี้หลวงพ่อศากยะกาลังจับจ้องมองเจ้า
ชิคกี้ด้วยสายตาเปี่ยมโทสะแค้น! ส่วนเจ้าชิคกี้เองก็ใช่ย่อย!
สองตากุ๊กไก่มองสวนไปอย่างดุร้าย ไม่มีเผยความอ่อนแอแม้
เพียงนิด ราวกับว่าหากอีกฝ่ายเสนอมันก็พร้อมสนอง ประลอง
กาลังฉะกันสักคราได้ทุกเมื่อ!!
“เฮ่! พวกเจ้าเลิกเล่นก่อน มีคนกาลังมา!”
ทันใดนั้นความว่างเปล่าพลันบังเกิดความเปลี่ยนแปลง
ตอนแรกผืนฟ้ายังคงใสกระจ่างเห็นเมฆขาวลิ้วล่องทอดยาวไป
นับพันลี้ ทว่าทันใดนั้นเอง…เมฆดาทมิฬอันเป็นเค้าลางของ
มหาพายุพลันก่อเกิดปกคลุมไปทั่วน่านฟ้า! และท่ามกลาง
ความมืดมิดนั้นบังเกิดแสงสีทองแห่งรัศมีธรรมส่องสาดพุ่ง
ทะลวงออกมา!!
“อา มี ทัว ฝัว!”
เสียงที่ก้องกังวาลปานจะกาจายไปไร้ขอบเขตดังออกมาจากหมู่
เมฆ ทันใดนั้นประหนึ่งเมฆดาถูกมือหนึ่งจับแหวกแยกออก เผย
ให้เห็นร่างชนเผ่าพุทธะสีทองอร่ามร่างหนึ่งลอยล่องอยู่กลาง
หาว
“เป็นมัน…! กลับเป็นมันมาเอง..!!” เมื่อหลวงพ่อศากยะเห็นว่า
ผู้มาเป็นใคร มันก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ
สาหรับหลวงพ่อศากยะแล้ว ตัวตนนี้ช่างน่ากลัวนัก!!
“ศากยะมุณี ในฐานะคนบาปของชนเผ่าพุทธะ เจ้ายังคิดจัก
ต่อต้านอย่างไร้สาระอีกหรือ? ติดตามข้ากลับดินแดนสุขาวดี
ประจิมทิศ เสียแต่โดยดีเถิด” สุรเสียงอันยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษ
พุทธะดังออก อานาจของมันประหนึ่งจะเขย่าสะท้านโลกหล้า
ทั้งราวกับมีพลังอานาจแปรเปลี่ยนอาณาบริเวณให้เป็นเขต
แดนแห่งพุทธะ ตอนนี้ทั่วบรรยากาศรอบๆพลันปรากฏพุทธรูป
สีทองลอยล่องเต็มไปหมด!!
“กลับไปถล่มกับมารดาเจ้าเถอะ! หากข้าคิดกลับไปดินแดน
สุขาวดีประจิมทิศนั่น ก็ล้วนกลับไปเพื่อถล่มมารดาเจ้า
เท่านั้น!!” หลวงพ่อศากยะกู่ก้องคารามออกมาดังสนั่น ตอนนี้
มันมีประสพหลินอยู่ที่นี่ทั้งคน มันยังต้องกลัวตัวบัดซบนี่ทา
เพื่อ!?
ส่วนทางด้านหลินฟ่านนั้น ตอนนี้เพียงหันมามองหลวงพ่อ
ศากยะแบบงงๆ “หัวโล้น นี่เจ้าชื่อ…ศากยะมุณีงั้นหรอ”
“มิผิด นั่นคือนามเต็มๆของอาตมา… แต่อาตมาผู้ต้อยต่ายังคง
หวังให้ประสพเรียกขานว่าหลวงพ่อศากยะดังเดิม” หลวงพ่อ
ศากยะกล่าวตอบ
“เชี่ย…!” หลินฟ่านรู้สึกแหม่งๆในใจเล็กน้อย
ที่สาคัญไอบรรพบุรุษพุทธะอะไรที่ลอยล่องอยู่ท่ามกลางความ
ว่างเปล่านี่ ไม่คล้ายตัวไก่กาที่จัดการได้โดยง่าย…
“ประสพท่านนี้ดูเหมือนว่าประสพจักมีชะตาต้องกันกับชนเผ่า
พุทธะไม่น้อย ประสพยินดีเข้าร่วมชนเผ่าพุทธะของเรา
หรือไม่?” บรรพบุรุษพุทธะมองหลินฟ่านพร้อมกล่าวออกมา
เสียงเย็น (53380)
“เข้าตูดมารดาเจ้าเถอะ..!” หลินฟ่านไม่คิดฝันว่าไอหัวเหม่งนี่
มาถึงไม่ทันไรก็คิดดึงตัวเขาเข้าเผ่าพุทธะ! นี่มันคิดว่าเขาเป็น
หมูโง่ๆ วิ่งไปตกหลุมพรางที่มันพึ่งขุดต่อหน้าหรือไง?
“เฮอะ!!”
ทันใดนั้นบรรพบุรุษพุทธะก็เดือดดาลไม่น้อย พลังฝ่ามืออันไร้
ขอบเขตจุติลงมาจากความว่างเปล่าทันใด “ประสพ กลับใจ
เสียยังพอมีหวังรอดชีวิต!”
“ประสพหลิน… อาตมาปล่อยให้ประสพจัดการแล้วกัน…!”
เมื่อหวงพ่อศากยะเห็นภาพเรื่องราวเบื้องหน้ามันก็รีบตะโกน
ออกมาอย่างขยาด ทั้งยังรีบพุ่งร่างกระโดดหนีถอยไปไกลห่าง
ทันใด
ช่วยไม่ได้! การต่อสู้ระดับนี้ไม่ใช่อะไรที่มันสามารถเข้ามาก้าว
ก่ายแทรกแซงได้! มันทาได้แค่เฝ้ามองหลินฟ่านโลดแล่นสาแดง
พลังสามารถ พร้อมช่วยเหลือด้วยการให้กาลังใจอยู่ห่างๆอย่าง
ห่วงๆ…!!
ส่วนทางด้านหลินฟ่านนั้น เขาสัมผัสได้ว่าหัวเหม่งผู้มาใหม่นี่…
น่าเกรงขามเล็กน้อย!
TSS ตอนที่ 888 : ใครกลัว!
ใบหน้าเข้มขึงตึงเครียด หัตถ์ทอแสงสว่างเจิดจ้า มวลพลังฝ่า
มือประหนึ่งจะคลุมสวรรค์พลันก่อเกิดเหนือฟ้า! หัตถ์พลังนี้ยัง
อัดแน่นไปด้วยรัศมีธรรมสีทองอร่าม ปานจะส่องผ่านสลาย
ความมืดมิดในโลกหล้า! ขนาดของมันแลไปไม่ต่างขุนเขา 5
นิ้วที่เคยสยบราชาวานร ฉีเทียนต้าเซิ่นแม้เพียงนิด!!
“ให้ตายเถอะวะ ไอพวกหัวล้านเอ๊ย! นี่พวกเจ้าทั้งหมดไม่มีหน้า
ไหนความคิดสร้างสรรค์ ลงมืออย่างอื่นบ้างอะไรบ้าง นอกจาก
ซัดพลังฝ่ามือเวรนี่แล้วรึไงกัน หา?!” หลินฟ่านกล่าวเสียงดัง
มวลพลังทั่วร่างเริ่มปะทุออกมาทั่วร่าง เขาเกร็งหมัดแน่นคสบ
แน่นพลังก่อนจะชกสวนขึ้นไปทันใด! พลังหมัดหลินฟ่านพุ่งไป
ดั่งกระสุน ปะทะหัตถ์พลังสีทองอันเขื่องจนบังเกิดเสียงดัง
สนั่น!!
“แกร่งชิบ!”
ทันทีที่พลังปะทะกัน หลินฟ่านรับทราบได้คร่าวๆทันใด ว่าพลัง
ฝีมืออีกฝ่ายแข็งกล้าเพียงไหน!
ต้องกล่าวเลยว่าพลังความแข็งแกร่งของไอหัวล้านน่าตายนี่..
อยู่เหนือด่านพลังผู้เป็นสุดยอดขึ้นไปแน่นอน! เพียงฝ่ามือเดียว
หลินฟ่านก็สามารถบอกอะไรได้หลายอย่าง! อันที่จริงพลังงาน
ของมันนับว่ายากต่อต้านไม่น้อย ทาให้ผู้ทานรับต้องรู้สึกอับจน
อยู่บ้าง!!
แต่ถึงอย่างนั้นหลินฟ่านก็ไม่กลัวมันแม้แต่น้อย! เขาเองก็นับว่า
เป็นคนที่มีลูกไม้ซุกซ่อนไว้ใต้แขนเสื้อไม่น้อย ไม่ว่าจะด้วยอะไร
ก็แล้วแต่เขาเชื่อว่าเขาต้องหาวิธีฆ่าไอหัวโล้นนี่ได้!!
“อามีทัวฝัว นับว่าประสพมิธรรมดาอย่างแท้จริง…การที่
ประสพอุตส่าห์บาเพ็ญฝึกฝนพลังจนมาถึงขั้นผู้เป็นสุดยอดได้
เช่นนี้ย่อมมิง่าย… เช่นนั้นแล้วก็อย่าได้เอาชีวิตมาทิ้งเพราะคน
บาปแห่งชนเผ่าพุทธะนั่นเลย”
ทางด้านบรรพบุรุษพุทธะนั้นก็ไม่ต่างกัน เพียงปะทะกันครั้ง
เดียวมันก็รับทราบพลังฝีมือบุรุษหนุ่มทันใด แต่อย่างไรก็ตาม
อดไม่ได้ที่บรรพบุรุษพุทธะจะประหลาดใจหนักหนา! มันแทบ
ไม่อยากจะเชื่อว่ามนุษย์เบื้องล่างจะมีพลังฝีมือบรรลุขอบเขตผู้
เป็นสุดยอด! นั่นช่างเหลือเชื่อนัก!!
และสิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือ…มันตระหนักได้ชัดเจนว่ามนุษย์
ผู้นี้ สมควรเป็นตัวตนที่พึ่งถือกาเนิดขึ้นมาในยุคนี้! นี่นับเป็น
เรื่องราวที่แหกทุกกฏเกณฑ์ ยากที่มันจะเชื่อถือได้!!
ในอดีตกาลเผ่าพันธุ์มนุษย์เองก็มีตัวตนสูงสุดที่ทรงพลังเช่นกัน
ทว่าทั้งหมดทั้งปวงล้วนร่วงหล่นไปแล้ว แถมยังไร้ซึ่งโอกาสที่
จะเข้าสู่ห้วงนิทรา หรือกระทั่งกลับมาเกิดใหม่อันใด…
และด้วยการที่ตัวตนในตานานทั้งหลายดับสูญลงไปจนหมดสิ้น
เนิ่นนาน จึงไม่เหลือแม้กระทั่งมรดกสืบทอด ทาให้ในหมู่มนุษย์
รุ่นหลังยากที่จะปรากฏตัวตนที่ทรงพลังเหนือชั้นอะไรได้อีก…
ไม่มีแม้แต่ผู้เดียวที่ทะลวงผ่านมาถึงขอบเขตนี้เลย!!
และความจริงที่ว่า ไอพระหัวโล้นนั่น มันแค่ลงมือเพื่อทดสอบ
ตัวเขานั้น หลินฟ่านรู้ดี…! แต่หลินฟ่านก็ไม่ได้สะทกสะท้าน
นาพา แค่นี้ยังไม่นับเป็นอะไรที่จะทาให้เขากลัวได้!!
“โทษทีนะหัวโล้นน่าตาย แต่ข้าประมุขจะปกป้องคนบาปอะไร
นั่นของเจ้า!!” หลินฟ่านประกาศกร้าวด้วยความเอาแต่ใจ
ทันทีที่หลวงพ่อศากยะได้ยินคานี้มันแทบจะร้องไห้! นี่สิมิตรแท้
ยามยาก! ความแข็งแกร่งของบรรพบุรุษพุทธะด้านหน้ามันเป็น
อะไรที่ทุกคนรู้เห็นกันดีว่าน่าเกรงขามถึงเพียงใด! แต่กระนั้น
แล้วลูกพี่หลินของมัน…ยังคงเผยความตั้งใจอันแน่วแน่ว่าจะ
ปกป้องมัน! นี่ช่างเป็นอะไรที่สะท้านใจหลวงพ่อศากยะแทบ
ตายแล้ว!!
มันแทบรอไม่ไหวที่จะเสนอตัวตบแต่งให้อีกฝ่ายแล้ว!
“ฮึก! ประสพลูกพี่หลิน…บุญคุณครั้งนี้…ให้ตายอาตมาผู้ต้อยต่า
ก็มิมีวันลืม! ฮือออ!!” สุดท้ายหลวงพ่อศากยะก็บ่อน้าตาแตก
ออกมา ตอนนี้มันไม่สนใจเรื่องที่หลินฟ่านสร้างส้มโอลูกเขื่อง
ห้อยเด้งดึ๋งๆตรงหน้าอกมันแล้ว…
“ไงล่ะ? ทีนี้รู้แล้วสิ! ว่าลูกพี่ของเจ้าดูแลเจ้าดีขนาดไหน หืม?!”
หลินฟ่านยักคิ้วกล่าว
หลวงพ่อศากยะปาดเช็ดน้าหูน้าตา ก่อนจะสูดขี้มูกดังฟืด ค่อย
กล่าวตอบพร้อมพยักหน้าอย่างสุดซึ้ง “รู้แล้ว! ตอนนี้อาตมารู้
แล้ว!!”
หลวงพ่อศากยะไม่เคยคิดกระทั่งยามหลับยังไม่กล้าฝัน ว่ายังจะ
มีใครในโลกหล้าปฏิบัติกับมันอย่างนี้! มันรู้สึกประทับใจทั้งตื้น
ตันจนแทบจะลอยล่องขึ้นสวรรค์แล้ว!!
บรรพบุรุษพุทธะมองไปยังร่างหลินฟ่าน อดไม่ได้ที่จะเย้ยหยัน
ออกมา “ในเมื่อประสพดื้อรั้น สุราคารวะมิรับ นิยมชมชอบสุรา
จับกรอก! เช่นนั้นอาตมาก็จาต้องล่วงเกิน ลากประสพกลับไป
ยังดินแดนสุขาวดี ประจิมทิศ เพื่อใช้พระธรรมกลับใจประสพ
แล้ว!!”
สีทองสว่างสาดส่อง ใบหน้าบรรพบุรุษพุทธะจากเมตตากลับ
กลายเป็นเข้มขึง พลังอานาจมหาศาลแผ่พุ่งออก บังเกิดเป็น
แสงสีทองเจิดจ้าสาดส่องลงมาราวกับจะชี้นาสรรพชีวิต หมู่
มารภูตผีปีศาจจาต้องสลายร่างทันใดเมื่อต้องถูกแสงธรรม
ดังกล่าว!!
“ช้าก่อน…”
ทว่าทันใดนั้นเอง หลินฟ่านพลันยกมือขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“หืม? ประสพ…หรือในที่สุดประสพก็ตัดสินใจเลือกทาง
ประเสริฐ ยินดีส่งมอบคนบาปแห่งชนเผ่าพุทธะนั่นให้อาตมา
แล้ว?” คลื่นเสียงบรรพบุรุษพุทธะกาจายออก มันกังวานไปทั่ว
ช่องว่าง เพียงประโยคเดียวกลับเปี่ยมล้นไปด้วยอานาจพลัง
แห่งสวรรค์ยากหาตัวจับได้
“พี่ขอเวลานอก 3 วินาที” หลินฟ่านกล่าว
“หืม? ย่อมได้” บรรพบุรุษพุทธะพยักหน้า
หลินฟ่านลอบแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมในใจ ดูเหมือนบัดนี้…
สมควรแก่เพลาแล้ว ที่พี่ประมุขจะเฉิดฉาย!!
“จัดมาระบบ! เปิดใช้งาน ชุดเซ็ทผู้เป็นสุดยอด!!”
หลินฟ่านตะโกนก้องสั่งการในใจ เขาเร่งให้ระบบเปิดชุดเซ็ทผู้
เป็นสุดยอดแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เขาได้รับมาจากทันที!
ในความเห็นของหลินฟ่านไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่เป็น
ผลิตภัณฑ์จากระบบ มันต้องเป็นอะไรที่เลิศล้าแน่นอน! หาก
เขาใส่ชุดเซ็ทผู้เป็นสุดยอด ใครจะไปรู้ล่ะเขาอาจสามารถทุบตี
ไอบรรพบุรุษพุทธะนี่ให้ยับง่ายๆก็เป็นได้!
‘ติ๊ง!! ..ได้รับคาสั่งเปิดใช้ชุดเซ็ทผู้เป็นสุดยอด เริ่มต้น
กระบวนการสวมใส่โดยอัตโนมัติ ‘
วิ๊งงงงง!!!!!
ทันใดนั้นเองร่างของหลินฟ่านพลันถูกปกคลุมไปด้วยมวลแสง
สว่าง ทว่าพริบตานั้นเองยามเมื่อชุดค่อยๆก่อเกิดคลุมกาย
หลินฟ่านก็รู้สึกผิดปกติกับมันทันใด!
ชุดคลุมมังกรรุงรังปรากฏบนร่างของเขา ก่อนที่จะมีมงกุฏเวอร์
วังอลังการประหนึ่งจิ๋นซีฮ่องเต้มาเองบนหัว แถมยังมีลูกปัด
ไข่มุกอะไรห้อยระโยงระยางปิดหน้าปิดตา เรียกได้ว่าบดบังจน
ทัศนวิสัยเป็นศูนย์!!
“ชิบหายเอ๊ย! ชุดเชี่ยไรของมันวะเนี่ย!!”
“อุฟ! ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ!!!”
ทันใดนั้นเองหลวงพ่อศากยะที่อยู่ห่างด้านหลังก็ระเบิดเสียง
หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
“หัวเราะไร หัวโล้น!!” หลินฟ่านหันขวับไปถามตาขวาง
“ประสพลูกพี่ ชะ…ชุดนี้ท่านใดแต่ใดมา…ไหนยังจะคาที่ปักไว้
กลางหลังอีก…นี่ช่างตลกขบขันยิ่ง!!” หลวงพ่อศากยะพยายาม
เอามือหุบปากเอาไว้เพื่อไม่ให้เสียงหัวเราะดั่งเล็ดรอดออกไป
หลินฟ่านรู้สึกเซ็งสุดขีด ชุดเหลวไหลรุงรังไม่พอ นี่ยังจะปักคา
อะไรเสล่อๆกลางหลังอีกหรอ?!
หลินฟ่านถอดชุดที่เป็นดั่งปฐมบทฮ่องเต้ออกทันใด ก่อนที่จะ
พลิกมาดูด้านหลัง และพอได้เห็นเขาก็เหวอไปทันใด
“เผ่าพันธุ์มนุษย์ ไร้เทียมทาน”
“เชี่ย! ถล่มย่ามันเถอะวะ!!” หลินฟ่านตะโกนออกมา! นี่มัน
วาจาเหลวไหลบัดซบอะไร!!
ทว่าตอนนี้หลินฟ่านไม่อาจมัวมาใส่ใจเรื่องอะไรพวกนี้ เขารีบ
สวมชุดกลับทันใด
‘ติ๊ง!! ..ชุดเซ็ทผู้เป็นสุดยอดแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ถูกสวมใส’
‘ติ๊ง!! ..ฟังก์ชั่นของชุดเปิดใช้งาน’
‘โหมดไร้เทียมทาน : 10 วินาที’
‘ติ๊ง!!..สุดยอดอาวุธแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ : ปืนแกตลิ่งล้างเทพ
พิฆาตอสูร’
วู้มมมมมม!!!
ทันใดนั้นความว่างเปล่าพลันสั่นสะท้านราวกับจะมีบางสิ่งอุบัติ
ขึ้น บรรพบุรุษพุทธะที่มองเรื่องราวย่นคิ้วครู่หนึ่ง ค่อยหรี่ตา
มองหลินฟ่านอีกครั้งอย่างประหลาดใจ
“ไถ่ถามโลกหล้า…นั่นมันบัดซบอันใด!?”
ส่วนด้านหลินฟ่านนั้น ที่ได้เห็นปืนแกตลิ่งล้างเทพพิฆาตอสูร ก็
ถึงกับตาลุกวาว เพราะนี่มันไม่ใช่ ปืน รึไง ‘เพียงปืนอยู่ในมือ
โลกนี้ก็เป็นของเรา!!’
ทันทีที่คว้าจับตัวปืนอันเป็นสุดยอดอาวุธของเผ่าพันธุ์มนุษย์
หลินฟ่านก็รู้สึกราวกับตัวเขากาลังจะเข้าโหมดปะทุพลังดั่ง
ปลดปล่อยสวัสดิกะ! มวลพลังมหาศาลมันพลุ่งพล่านไปทั่วกาย
ของเขาอย่างไร้สิ้นสุดราวกับมันพร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุก
เวลา!!
“เหอะ!”
เมื่อเห็นภาพนี้บรรพบุรุษพุทธะพลันไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันใด
รัศมีธรรมเจิดจ้าออกย้อมอาณาบริเวณให้ทองสว่าง ก่อนจะ
ปรากฏร่างหนึ่งตระหง่านอยู่กลางหาว ร่างนี้มหึมาใหญ่โต
เปล่งพลังอานาจเหนือชั้น! ให้สภาวะราวกับสิ่งสูงส่งยากแตะ
ต้อง พลังสะกดข่มแผ่มากดดันในบรรยากาศ ทุกการ
เคลื่อนไหวของมันก่อเกิดพลังมหาศาล!!
“ประสพลูกพี่มิว่าอย่างไรก็ตามขอจงระวังให้ดี! นั่นคือที่สุด
ของที่สุดของที่สุด..แห่งพลังอานาจอันอยู่เหนือพลังอานาจทั้ง
มวลแห่งเผ่าพันธุ์พุทธะ ลักษณ์พลังแห่งองค์เทพ!!” เมื่อหลวง
พ่อศากยะได้เห็นลักษณ์เงาร่างพลัง ของบรรพบุรุษพุทธะ มันก็
รีบกล่าวตะโกนเสียงเครียด!!
“เหอะ! คิดจะวัดเรื่องกันเรื่องลักษณ์พลังที่สาแดงออกรึไง!? คิด
ว่าพี่ประมุขไม่มีงั้นเรอะ?!”
“พลังขั้นสุดยอด บังไค!!”
หลินฟ่านคารามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ในเมื่ออีกฝ่ายจัดเต็ม
มา เขาก็ต้องทุ่มเทจัดหนักด้วยทุกสิ่งที่มี!!
“ปัดตะวันแกว่งจันทรา ด้วยสองมือที่ประหนึ่งกับจะควบคุมได้
ทุกดวงดาราในระบบสุริยะของพี่ประมุข ยังมีใครเท่ห์ได้กว่านี้
อีก!!”
ตอนนี้เองลักษณ์พลัง พลันก่อเกิดเป็นเงาร่างมหึมาด้านหลัง
หลินฟ่าน!!
ลักษณ์พลังยามเมื่อบังไคขั้นสุดยอดนี้ ยังแลดูเหมือนหลินฟ่าน
ไม่ผิดเพี้ยน!
หากทว่าลักษณ์พลังบังไคขั้นสุดยอดอันเป็นร่างหลินฟ่านนี้ มือ
ข้างหนึ่งถือไว้ดวงตะวันและจันทรา ส่วนอีกข้างพลันปรากฏ
หมู่ดาวระยับลอยล่องโคจรเหนือฝ่ามืออย่างเป็นระเบียบราว
ห้วงเอกภพ! ลักษณ์พลังของหลินฟ่านกาลังมองไปยังลักษณ์
พลังรูปองค์พุทธะสีทองเบื้องบนด้วยสายตาหยามหยันท่าทาง
วางตัวเหนือชั้นสะกดข่ม ราวกับตัวข้าคือตัวตนอันไร้เทียมทาน
ที่สุดในใต้หล้า!!
“ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยมไปเลยประสพลูกพี่หลิน! ลักษณ์พลัง
ของท่านสุดยอดนัก เป็นรูปลักษณ์ที่ท้าทายสวรรค์ยิ่ง!!”
เจตจานงและกฏทุกสิ่งที่หลินฟ่านเข้าใจและถือครองทั้งหมด
ล้วนโคจรเร่งเร้าอยู่ในสภาวะสูงสุด! โดยเฉพาะดวงตะวัน
จันทราและมวลดาราทั้งหลายในมือของเขา! ทั้งหมดเสมือน
จริงดั่งมีชีวิต!
เมื่อเห็นลักษณ์พลังที่สาแดงออกมา ตัวหลินฟ่านเองกลับไม่
ค่อยมั่นใจเท่าไรว่านี่มันเจ๋งแล้วหรือไม่! หากทว่าหลวงพ่อ
ศากยะนั้นนับเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ไม่น้อย การสาแดงพลังให้
ก่อลักษณ์น่าเกรงขามนั้นเป็นอะไรที่ทุกผู้คนล้วนใฝ่ฝันถึง!!
อย่างไรก็ตามลักษณ์พลังอันน่าเกรงขามไม่ใช่ว่าใครจะสาแดง
ออกมาได้ง่ายๆ มันช่างยากลาบากนัก เพราะต้องอาศัยความ
เข้าใจที่สูงพอ! ทว่าตอนนี้กลับสาแดงปรากฏการณ์เช่นนี้
ออกมาได้ ยังจะไม่ให้หลวงพ่อศากยะตื่นตระหนกตกตะลึงได้
อย่างไร!? (53380)
ยามเมื่อบรรพบุรุษพุทธะได้เห็นลักษณ์พลังที่หลินฟ่านสาแดง
ออกมาใจมันก็เต้นสะท้านไปอย่างเหลือเชื่อ! มนุษย์ที่ยังพึ่งอยู่
ในขอบเขตพลังผู้เป็นสุดยอด จะปลูกฝังอะไรมาได้มากมายถึง
ขั้นสาแดงพลังระดับนี้ออกมาได้อย่างไร!?
“ประสพ! กลับใจเสียตั้งแต่ตอนนี้ยังทัน ประสพยังสามารถมี
โอกาสรอดชีวิตอยู่ได้..” บรรพบุรุษพุทธะค่อยๆพนมมือเข้าหา
กัน และพริบตาที่ฝ่ามือประกบปรากฏแสงสีทองสว่างเจิดจ้า
ลาแสงหนึ่งจากฝ่ามือของมันพุ่งยิงไปยังหลินฟ่านทันใด!!
“มาสิวะหัวโล้น! ข้าประมุขจะฉะกับเจ้าให้บันเทิงกันไปเลย..!”
หลินฟ่านสัมผัสได้ถึงอันตรายที่เปล่งออกจากบรรพบุรุษพุทธะ
ดี อย่างไรก็ตามเขาไม่สั่นคลอนอะไรเพราะมัน นี่ก็ไม่ใช่แค่อีก
1 การต่อสู้หรือไง? ใครกลัว!?
TSS ตอนที่ 889 : แน่จริงเจ้าอย่าหนีก็แล้วกัน!
“อา…แล้วไอแกตลิ่งนี่เค้ายิงกันยังไงหว่า? พี่ไม่เคยเล่นซะ
ด้วย…”
ตอนนี้หลินฟ่านทาได้แค่ยกแกตลิ่งล้างเทพพิฆาตอสูรขึ้มาจับๆ
จ้องไม่รู้ว่าเซพตี้มันอยู่ตรงไหน อย่างไรก็ตามรัศมีธรรมที่สาด
มาดั่งลาแสงนั่น มันทะลวงฝ่าความว่างเปล่ามาเจียนบรรลุถึง
ตัวเขาอยู่รอมร่อแล้ว!
“ประสพลูกพี่! รีบลงมืออันใดสักอย่างเร็วเข้า!!” หลวงพ่อ
ศากยะตะโกนออกมาดังสนั่น เจ้าชิคกี้ที่ขึ้นไปยืนอยู่บนหัว
หลวงพ่อศากยะตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ยังตีปีกพั่บๆ ด้วยความ
ตื่นเต้นลุ้นระทึก!
“เจอแล้ว!!”
ในที่สุดหลินฟ่านก็ค้นพบวิธีใช้ปืนแกตลิ่งล้างเทพพิฆาตอสูร
สุดยอดอาวุธแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์เสียที…นิ้วเขาไม่รอช้าเหนี่ยว
ไกทันใด! เซพตี้อันใดนั่นหามีไม่!!
วี๊ดดดดดดดดดดดดดด!!!! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด!
แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด!
ทันใดนั้นมวลพลังอันมหาศาลแล่นพล่านไปทั่วร่างเขา ปืนกล
แกตลิ่งนี้ไม่ต่างใดกับอสูรกายดุร้าย มันปะทุพลังออกมาอย่าง
บ้าคลั่งเหนือชั้นเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการไว้!!
กระสุนทุกนัดประหนึ่งจะทะลวงได้กระทั่งห้วงมิติเวลา! ระเบิด
ทาลายลาแสงรัศมีธรรมที่ยิงมาจนสลายหายไปทันใด!!
“เชี่ย! โคตรโหด! รุนแรงมาก!!” หลินฟ่านที่มองภาพเรื่องราวที่
อุบัติขึ้นก็อึ้งไปไม่น้อย กระสุนที่ลั่นยิงออกไปยังดุร้ายเกรี้ยว
กราดยิ่งกว่ากระบวนท่าใดที่เขาใช้ออก!!
เมื่อบรรพบุรุษพุทธะได้เห็นภาพนี้มันก็ตื่นตระหนกไปไม่ต่าง
สองตาอันเต็มไปด้วยรัศมีธรรม ยังเรืองขึ้นมาด้วยประกาย
ประหลาด!!
“สมบัติชิ้นนี้…” บรรพบุรุษพุทธะอึ้งไปครู่หนึ่ง มันเองก็ได้พบ
พานสมบัติมาทุกประเภทในโลกหล้า ทว่าสิ่งประหลาดเบื้อง
หน้าของมันตอนนี้นับเป็นอะไรที่น่าทึ่งนัก รูปลักษณ์และ
อานาจการโจมตีของมันพิสดารอย่างถึงขีดสุด!!
“ยอดเยี่ยม!” ด้านหลวงพ่อศากยะเองก็ตะลึงกับศาสตราวุธ
พิสดารในมือหลินฟ่านนัก! นี่มันจะไม่น่ากลัวเกินไปหน่อยหรือ
ไร?! ไถ่ถามโลกหล้านั่นมันสิ่งบัดซบอันใดกัน!?
“ฮึ่ม!!”
บรรพบุรุษพุทธะไม่อาจทานทนกับเรื่องนี้ได้สืบไป มันคาราม
ออกมาคาหนึ่ง ทันใดนั้นพร้อมๆกันกับเสียงคาราม เงาร่าง
ลักษณ์พลังที่สาแดงของมัน อันเป็นพุทธะองค์สีทองขนาด
มหึมา! ก็ปรากฏสัญญลักษณ์สวัสดิกะสีทองเข้มเจิดจรัสขึ้น
กลางอก ตัวสวัสดกะหมุนเวียนวนลอยล่องออกมาท่ามกลาง
ความว่างเปล่า เต็มไปด้วยรัศมีธรรมเจิดจ้า!!
นี่คือสัจจะพลังของบรรพบุรุษพุทธะ มันเปี่ยมล้นไปด้วยอานาจ
พลังมหาศาล!
“สยบ!”
เสียงดังกระหึ่มปานฟ้าคาราม บทสวดแห่งพุทธะดังขึ้นระงม
กึกก้องในอากาศ ท่ามกลางความว่างเปล่าปรากฏมวลบุปผา
สวรรค์ก่อเกิดโปรยลงมา ปรากฏการณ์พิสดารบังเกิดฉายขึ้นไป
ทั่ว!
“ยังคิดจะปะทะกับพี่ด้วยรูปลักษณ์พลังเวอร์วังอลังการงั้น
เหรอ?! กลัวที่ไหน!” หลินฟ่านสบถออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
ปืนแกตลิ่งล้างเทพพิฆาตอสูรเริ่มเปล่งพลังอันน่าเกรงขาม
ออกมาอีกครั้ง!
และตอนนี้เองเงาร่างลักษณ์พลังที่ลอยล่องอยู่ด้านหลังหลิน
ฟ่านก็เริ่มขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ฝ่ามือมหึมา มันบีบอัดตะวัน
ร้อนแรงกับจันทราทมิฬอันน่ากลัวที่อยู่ในมือเข้าหากัน! ไม่
เพียงพวกมันจะหักล้างทั้งยังเริ่มผสานหลอมรวมกัน! เสี้ยว
พริบตาวัตถุประหลาดยากระบุสีแดงดาพลันปรากฏออกมาจาก
ความว่างเปล่า!!
“นี่มันอะไรกันหว่า?”
ขนาดตัวหลินฟ่านเองใช้เองยังงงเอง เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า
มันคืออะไร แต่ที่รู้ๆคือมวลพลังที่อัดแน่นอยู่ในนั้นมันเป็นอะไร
ที่น่าสะพรึงกลัวมาก ไม่อาจมองข้ามได้เลย!!
“ประสพนี่คือเต๋าของข้าบรรพบุรุษพุทธะผู้นี้ อัดแน่นไปด้วยจิต
วิญญาณแห่งสรรพชีวิตทั้งมวล ประสพมิอาจ…”
สวัสดิกะเป็นพลังอานาจพลังที่แข็งแกร่งที่สุดที่บรรพบุรุษ
พุทธะถือครองอยู่ ทว่าก่อนที่บรรพบุรุษพุทธะจะทันได้กล่าวจบ
คาสิ่งที่ทาให้มันตื่นกลัวก็บังเกิดขึ้น!
ลักษณ์พลังที่สาแดงออกของหลินฟ่าน พลันปาบอลพลัง
พิสดารแดงดานั่นออกมาอย่างไร้เรื่องราว!
มันก็ไม่ได้มีใดผิดปกติมากนัก..
หากทว่ายามเมื่อบอลพลังพิสดารนั่นปะทะเข้ากับสวัสดิกะ
พลังอานาจมหาศาลพลันปะทุออกมาก่อนจะบังเกิดเป็นหลุมดา
ดูดรั้งกลืนกินสรรพสิ่งกินรัศมีไปกว่าสามพันลี้!!
นี่คือสุดยอดพลังที่ทาลายล้างความว่างเปล่าโดยรอบจนพินาศ!
กระแสพลังผันผวนของห้วงแห่งความว่างเปล่าไหลออกมาทุก
แห่งหน!!
“นิ…นี่มันจักเป็นไปได้อย่างไร…!” บรรพบุรุษพุทธะที่เฝ้ามอง
เรื่องราวอยู่ไม่อาจสงบใจได้สืบไปเมื่อเห็นภาพนี้
ทันใดนั้นมันก็พบว่า สวัสดิกะของมันที่มีจิตวิญญาณแห่งสรรพ
ชีวิตอัดแน่นอยู่กลับถูกทาลายในพริบตา มันสลายหาย
กลายเป็นความว่างเปล่า! อันตรธานไปจากโลกหล้าอย่าง
สมบูรณ์!!
“ฮึ่ม!”
ลักษณ์พลังของหลินฟ่านที่สาแดงออกมาแค่นเสียงออกมา
อย่างเย็นชาคาหนึ่ง ก่อนที่ตะวันและจันทราจะปรากฏขึ้นในฝ่า
มือมันอีกครั้ง! ราวกับตะวันจันทรานี้สามารถใช้งานได้ไม่จากัด
ครั้ง!!
“เชี่ย…! โคตรเหนืออะ!” เมื่อหลินฟ่านสัมผัสได้ถึงพลังอันบ้า
คลั่งเขาก็อึ้งไปอย่างแท้จริง ไม่คิดเลยว่าลักษณ์พลังจากชุดเซ็ท
นี่จะขนาดนี้!!
ทุกสิ่งอย่างที่บังเกิดขึ้นจากระบบนี่มันจะไม่เหนือชั้นไปหน่อย
หรือไง? พลังอานาจที่เปล่งออกมานั้นเป็นอะไรที่เหนือ
จินตนาการของหลินฟ่านนัก! คาเดียวที่สามารถอธิบายหาใช่
ใดอื่นไม่ นอกเสียจาก…น่าพรั่นพรึง!!
“หัวโล้นเอย…ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายเจ้ามันก็ท่าดีทีเหลว…”
หลินฟ่านกล่าวเย้ยหยันออกมา หากแต่ขณะกล่าวมือข้างหนึ่งก็
ต้อง ยกมาแหวกม่านไข่มุกที่ห้อยรุงรังเบื้องหน้า…เพื่อจะได้
มองเห็นหน้าผู้ที่กล่าววาจาด้วย! บัดซบ! มันจะลาบากลาบน
เกินไปแล้ว! การที่มีอะไรมาห้อยบังทัศนวิสัยแบบนี้มันช่างชวน
ให้หัวเสียนัก!!
“อามีทัวฝัว..”
“ในเมื่อประสพยังยืนกรานที่จะกระทาในสิ่งที่ผิดบาป อาตมา
บรรพบุรุษพุทธะผู้นี้ ก็ทาได้เพียงส่งประสพลงสู่ขุมนรก
เท่านั้น!” ถึงแม้ว่าน้าเสียงของบรรพบุรุษพุทธะคล้ายจะเปี่ยม
ไปด้วยธรรมะ หากแต่กลับมีโทสะอันเดือดดาลแฝงเร้นอยู่ใน
น้าเสียงไม่น้อย
ทั้งผลกระทบจากวาจาของมันยังห่างไกลจากคาว่าธรรมดา
สรรพชีวิตทุกอย่างในโลกหล้าคล้ายจะถูกมันสะกดข่มเอาไว้!
“ธรรมะไร้ขอบเขต สุดไพศาลดั่งห้วงมหรรณพ…สู่นิพพาน!”
บรรพบุรุษพุทธะ บริกรมบทสวด พระไตรปิฏกผุดโผล่ออกมา
จากความว่างเปล่า มันคลี่กางยาวออกไป ก่อนที่อักขระพิสดาร
จะลอยล่องออกมาควบรวมผสานเข้าด้วยกัน ราวกับพวกมัน
กาลังจะสร้างโลกแห่งพุทธะ!
นี่คือพลังอานาจแห่งธรรมะไร้คู่เปรียบแห่งบรรพบุรุษพุทธะ มัน
สามารถดึงพลังจากชนเผ่าพุทธะออกมาเพื่อสร้างเขตแดน
พิสดาร! ยังเป็นสนามพลังอันลี้ลับ! เพื่อส่งสรรพชีวิตไปสู่
นิพพาน! และสาหรับหลินฟ่าน…มันคือความตาย!!
นี่ไม่ใช่วิชาหรือวิถีลับของวิชายุทธ์อะไรอีกต่อไป มันเป็น
หนทางแท้จริงของเต๋าอันยิ่งใหญ่
“เต๋ายิ่งใหญ่! สู่นิพพาน!!”
ครืนนนน!!
ริมฝีปากที่คล้ายโลหะของบรรพบุรุษพุทธะกระตุกเล็กน้อย
ก่อนที่จะเปล่งเสียงกึกก้องดั่งโลหะออกมา!
ทันใดนั้นบังเกิดความเปลี่ยนแปลงไปขึ้นในสวรรค์และโลก
อย่างฉับพลัน
หลินฟ่านถูกพลังแห่งธรรมอันไร้ขอบเขตห้อมล้อมทันใด พลัง
อานาจลี้ลับของสู่นิพพานบ้านั่นกาลังเล่นงานเขา! แถมมันยัง
เป็นพลังอานาจอันลึกล้า อัดแน่นไปด้วยทุกสิ่งของชนเผ่า
พุทธะ!!
“ประสพเอยกลับตัวกลับใจเสียเถิด เพียงละแล้วซึ่งบาปกิเลศ
ทั้งมวลหวนสู่ครรลองครองธรรม ประสพจะพบทางสบาย…
และถึงแม้นบาปของประสพจักหนาถึงเพียงนี้ ก็ขออย่าได้กังวล
อาตมาจักเป็นผู้ชาระมันเอง!!”
ประกายตาของบรรพบุรุษพุทธะเรืองวูบ แสงสีทองสาดส่อง
ทะลวงออกมา ราวกับแสงนี้เปี่ยมล้นอัดแน่นไปด้วยสรรพสิ่งที่
บรรพบุรุษพุทธะมี!
คิ้วของหลินฟ่านยู่ขมวดเป็นปม เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอัน
เกรี้ยวกราดยากจะต้านบางประการกาลังบับคั้นตัวเขา!
“เชี่ย! มันเอาจริงแล้วงั้นเหรอ!? ดูเหมือนว่าต้องใช้ไอนั่นซะ
แล้ว พี่ถึงจะเอามันอยู่!!” หากอาศัยพลังอานาจที่แท้จริงของ
หลินฟ่านแล้ว่ละก็ เกรงว่าคงยากที่จะต้านทานรับมือบรรพ
บุรุษพุทธะได้ ทว่าด้วยผลของพลังอานาจชุดเซ็ทของผู้เป็นสุด
ยอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่หลินฟ่านกาลังจะใช้นั้น! จะหมู่หรือ
จ่าก็ต้องชมดูกันอีกที!!
“ไอหัวโล้น! เจ้าลองรับประทาน ความรู้สึกที่เหมือนโคตร
มารดาป๊อบคอร์นระเบิดใส่หน้าอย่างไร้สิ้นสุดดูมั้ย!?”
หลินฟ่านคารามเสียงดัง นิ้วเหนี่ยวไกต่อทันใด
วี้ดดดดดดดดด!!!! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด!
แถ่ด! แถ่ด!
แต่พร้อมกันนั้นเอง หลินฟ่านยังตระหนักได้ว่า ยามเมื่อพลัง
อานาจของสนามพลังพิสดารและผลของสู่นิพพานอะไรนั่น
ห่อหุ้มตัวเขา เขาสัมผัสได้ชัดเจน ว่าแก่นแท้,จิตวิญญาณและ
พลังชีวิตของเขากาลังถูกสูบออกไปอย่างรวดเร็ว!
‘ช่วยไม่ได้ล่ะนะ… เปิดใช้งาน โหมดไร้เทียมทาน 10 วินาที!!’
นี่คือความสามารถเอกอุของชุดเซ็ทผู้เป็นสุดยอด : ยืนหยัด
ทระนงดั่งลูกผู้ชายเป็นเวลา 10 วินาที!!
วู้มมมม!!
ทันใดนั้นเองหลินฟ่านสัมผัสได้ถึงพลังอานาจลึกลับเข้ามาใน
ร่างกายเขา และราวกับพลังอานาจลึกลับนี้จะแล่นพล่านไปทั่ว
ร่างของเขา!
และหลังจากที่เปิดใช้โหมดไร้เทียมทาน 10 วินาทีแล้ว หลิน
ฟ่านยังสัมผัสได้ว่าแรงกดดันทั้งหลายทั้งปวงที่กดทับบีบคั้นเขา
อยู่นั้น มันสลายหายไปหมดสิ้น!!
“เยี่ยม! เวลาที่พี่ประมุขจะแสดงความแข็งแกร่งมาถึงแล้ว!!”
หลินฟ่านคารามออกมาเสียงเย็น ปืนแกตลิ่งล้างเทพพิฆาตอสูร
ในมือยิ่งมายิ่งบ้าคลั่ง กระสุนพุ่งรัวกระหน่า ประหนึ่งจะทะลุ
มิติเวลาไปแล้ว!!
กระทั่งความว่างเปล่าเบื้องหน้าก็ไม่ต่างอะไรจากกระดาษที่
แหลกเป็นชิ้นๆ
ปังงง!!
ปังงง!!
ร่างวชิระคงกระพันที่ไม่อาจทาลายได้ของบรรพบุรุษพุทธะ เริ่ม
ส่งเสียงดังสนั่นออกมาหลังจากถูกห่ากระสุนของหลินฟ่านก
ระหน่า!!
“ประสพเอย อย่าได้ดิ้นรนต่อต้านอีกเลย…การโจมตีทั้งหมด
ของประสพมิมีผลใดกับอาตมาบรรพบุรุษพุทธะผู้นี้หรอก…”
บรรพบุรุษพุทธะแย้มยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ
แต่ทว่าทันใดนั้นเอง บังเกิดเสียงปริแตกดังขึ้น!
แคร่ก..!
‘อั๊ค!’
ดวงตาของบรรพบุรุษพุทธะเบิกโพลงทั้งยังอึ้งค้างไปทันใด มัน
สัมผัสได้ว่าร่างกายวชิระคงกระพันของมันกาลังถูกทาลายลง
อย่างช้าๆ ด้วยการโจมตีประหลาดนี่!!
“ฮ่าๆๆๆ!! ไอหัวโล้น! ถ้าเจ้าแน่จริงอย่าหลบนะ!!” เมื่อเห็น
ภาพห่ากระสุนถล่มจนผิวอีกฝ่ายเริ่มปริแตก หลินฟ่านก็ระเบิด
เสียงหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
“สู่นิพพาน!!”
ตอนนี้บรรพบุรุษพุทธะบันดาลโทสะขึ้นมาแล้วมันชกหมัดทั้ง 2
เข้าหากัน พลังอานาจสู่นิพพานบีบคั้นกดดัน และเริ่มกร่อน
พลังชีวิตของหลินฟ่านอย่างไม่ลดละ!! (53380)
ทว่าหลินฟ่านกลับเฉย…ไม่เป็นอะไรสักกะผีก!!
“นี่มันจักเป็นไปได้อย่างไร!” บรรพบุรุษพุทธะอุทานออกมา
อย่างเหลือเชื่อ ไม่คิดเลยว่าพลังอานาจลึกล้าอย่างสู่นิพพาน
ของมันจะไม่มีผลอะไรเลย!!
“อ๊าคคค!!”
เมื่อห่ากระสุนกระหน่าลงมายังร่างของบรรพบุรุษพุทธะมาก
เข้า มันก็เริ่มสะสมความเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายความ
เจ็บปวดก็ทาให้บรรพบุรุษพุทธะอดไม่ได้ที่จะร้องโอดโอย
ออกมา!!
แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด!
แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด!!!
ส่วนหลินฟ่านนั้นกาลังมันในอารมณ์และเพลิดเพลินไปกับเสียง
รัวของปืนแกตลิ่ง! หัวของเขายังส่ายไปมาซ้ายทีขวาทีพร้อม
กับจังหวะรอบหมุนของปืน! เขาเองก็อยากรู้นักว่าตอนนี้บรรพ
บุรุษพุทธะนั่น..อาการเป็นยังไง!!
อย่างไรก็ตาม บรรพบุรุษพุทธะมีเพียงหนึ่งคาที่ใคร่กล่าว “ไถ่
ถามโลกหล้าถล่มมารดามันเถิด! นี่มันศาสตราห่าเหวอันใด?!
เหตุใดถึงได้สร้างความเจ็บปวดนัก!?”
TSS ตอนที่ 890 : ฝากไว้ก่อนเถอะ!
“ยอดเยี่ยม! ประเสริฐยิ่ง! ให้มันได้เยี่ยงนี้สิประสพลูกพี่! อา
มีทัวฝัว!!” หลวงพ่อศากยะแทบจะถลกจีวรยกมือยกเท้าส่ง
เสียงร้องเชียร์ดังสนั่นอย่างคึกคัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้เห็น
บรรพบุรุษพุทธะบัดซบนั่นถูกหลินฟ่านเล่นหนักจนร้องโอด
ครวญ มันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่นออกมาด้วยสะใจ
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ คืนวันของมันผ่านผันไป
อย่างระทม ตัวบัดซบชรานี่ออกคาสั่งให้ลามะเวรตะไลพวกนั้น
ไล่ล่ามันไม่ได้หยุดพัก! ทาให้ชีวิตของมันต้องลาบากลาบน
ดารงอยู่ด้วยความหวาดกลัวเป็นที่ตั้ง ทว่ามาตอนนี้เมื่อประสพ
ลูกพี่หลินของมันจัดหนัก ล้างแค้นให้คาตาหัวใจของหลวงพ่อ
ศากยะก็ชื่นมื่นสุดใจ!
“อย่างนั้นล่ะ ประสพลูกพี่! ตี! ตีมัน! ทุบตีมันเข้าไปอีก! อา
มีทัวฝัว เอาให้หัวมันแตก!!”
“ประเสริฐ!! บรรพบุรุษพุทธะห่าเหวอันใด! สุดท้ายยังโดน
ประสพลูกพี่ของอาตมาทุบตีจนสิ้นท่า!!”
ตอนนี้ท่าทางหลวงพ่อศากยะลิงโลดนัก เมื่อเห็นว่าบรรพบุรุษ
พุทธะยิ่งมายิ่งหน้าเบี้ยวท่าทางแลดูอเนจอนาถ มันก็ยิ่งหัวเราะ
อย่างสะใจ!
น่าพึงพอใจยิ่ง! พึงพอใจจนอาตมาสะใจแทบตายแล้ว!!
สาหรับหลินฟ่านนั้น บรรพบุรุษพุทธะก็ไม่ต่างอะไรจากเป้าที่
โคตรใหญ่! ด้วยขนาดร่างของมันที่มหึมาขนาดนี้ มือใหม่หัดยิง
อย่างเขาก็ไม่จาเป็นต้องเล็งอะไร กระทั่งหลับตาก็ยังยิงถูกเป้า
สบายๆ!!
ส่วนทางด้านบรรพบุรุษพุทธะนั้น ตอนนี้มันไม่อาจยืนหยัดทาน
รับห่ากระสุนที่กระหน่าเข้ามาได้อีกแล้ว! ถึงแม้ว่าที่นั่งดอกบัว
มหึมาของมันจะไม่ได้มีประโยชน์มากมายอะไร แต่นี่เป็นสิ่งที่
หนุนเสริมภาพลักษณ์ของมัน และเป็นเอกลักษณ์อันน่าดึงดูด
นัก!!
ยามมันปรากฏตัวพร้อมมีดอกบัวรองรับเป็นอาสนะเช่นนี้ ช่าง
เป็นอะไรที่มีสไตล์ และขับเน้นสภาวะให้มันแลดูเป็นสิ่งบริสุทธิ์
อันยิ่งใหญ่! แต่ทว่าสาหรับเหตุการณ์ตอนนี้ บรรพบุรุษพุทธะ
รู้สึกว่าดอกบัวเปรตนี่ช่างเป็นภาระนัก!!
หากมันจาต้องลุกขึ้นหนีจากที่นั่งดอกบัวเพื่อหลบห่ากระสุนล่ะ
ก็…เกรงว่ามาดมันที่วางมาตลอดคงได้พินาศยับเยิน
แต่หากมันไม่เคลื่อนร่างหลบหนีนี่ก็ไม่ได้เช่นกัน! มนุษย์บัดซบ
นี่มิรู้ใช้ศาสตราวุธผีสางอันใด! การโจมตีของอีกฝ่ายยากที่จะ
ต้านรับ แถมรูปแบบการโจมตีก็รวดเร็วเหลือเกิน!!
‘บัดซบเอ๊ย!’
ในขณะที่บรรพบุรุษพุทธะกาลังคร่าครวญเรื่องราว ยิ่งมาแก
ตลิ่งหลินฟ่านก็ยิ่งรัว! ห่ากระสุนทวีความดุร้ายรุนแรงขึ้น
เรื่อยๆ!!
“โอ๊ยเจ็บฉิบหาย! อาตมามิไหวแล้ว!!”
บรรพบุรุษพุทธะไม่อาจทานทนไหวสืบไป! มันถึงกับต้องลุกขึ้น
ยืน! ร่างวชิระทองคาคงกระพันของมันตอนนี้…ถูกกระหน่า
แทบจะพรุนไปทุกตารางนิ้ว!!
“โอ๊ย! อ๊าววว!!”
ทันใดนั้นบรรพบุรุษพุทธะก็เริ่มเต้นเร่าๆ มือไม้ยกขึ้นปัดป่าย
กาบังจุดต่างๆตามร่างกายซ้ายทีขวาที ร่างยังสั่นสะท้านราว
กับไม่อาจทนรับความเจ็บปวดได้ไหวสืบไป!!
“ประสพ! ท่านกระทาได้งามหน้านัก! บังอาจทาร้ายอาตมา
บรรพบุรุษพุทธะ! สวรรค์มีทางมิยอมเดิน นรกไร้ประตูดันทุรัง
บุกฝ่า! สัพเพสัพตาไปลงนรกเสีย!!” บรรพบุรุษพุทธะคาราม
ออกมาอย่างเกรี้ยวกราดก่อนจะตบฟาดฝ่ามือคู่ออกมา ทันใด
นั้นปรากฏดินแดนพุทธะขนาดมหึมาโถมทับลงมาจากแผ่นฟ้า!!
“อามีทัวฝัว!!”
ภายในดินแดนพุทธะนั้นเต็มไปด้วยรัศมีธรรมสว่างไสวทุกทั่ว
หัวระแหง! ท่ามกลางรัศมีธรรมยังปรากฏเหล่าพระมากมาย
กาลังนั่งสวดพระไตรปิฎก! อักขระลอยล่องออกจากปาก
ทั้งหลาย ค่อยแปรเปลี่ยนกลับกลายเป็นมังกรคชสาร! ราวกับ
ทุกอัขระที่สวดออก ล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอานาจของ
มังกรคชสาร! มันคือสิ่งมีชีวิตลึกลับอันเต็มไปด้วยพลังอานาจ
ทาลายล้าง!!
ส่วนหลินฟ่านนั้น…ดินแดนพุทธะก่อเกิดแล้วยังไง? มังกรคช
สารแล้วยังไง? คนหันปากกระบอกปืนแกตลิ่งล้างเทพพิฆาต
อสูรที่ยังคงพ่นไฟแลบลั่น! สาดเทห่ากระสุนประดังเข้าไป
ต้อนรับขับสู้มังกรคชสารทั้งหลาย!!
แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด!
แถ่ด! แถ่ด!
พริบตาดินแดนพุทธองค์แลไปคล้ายรังแตนอันเต็มไปด้วยรูพรุน
มังกรคชสารทั้งหลายถูกห่ากระสุนเป่าเละ! งวงงากรงเล็บอะไร
ทั้งหลาย เมื่อเจอแกตลิ่งที่รัวถี่ด้วยความเร็วรอบอันสุดที่จะนับ
ได้เข้าไป! ล้วนแหลกกระจุยไม่มีชิ้นดี! สุดท้ายก็ระเบิดสลาย
กลับกลายเป็นความว่างเปล่า!!
“นิ…นี่มันอันใดกัน!?”
บรรพบุรุษพุทธะอึ้งไปยากจะเชื่อ ส่วนด้านหลินฟ่านยิ่งมายิ่ง
เมามัน เขาเสพย์ติดการยิงปืนกลเสียแล้ว! นิ้วของเขาไม่อาจ
อยู่ห่างไกปืนได้เลย เมื่อสาดกระสุนเป่าดินแดนพุทธะจนแหลก
แล้ว! เขาก็หันมาสาดกระสุนใส่ร่างบรรพบุรุษพุทธะอีกครั้ง!!
และเมื่อบรรพบุรุษพุทธะเห็นปากกระบอกปืนที่หมุนรัวส่งเสียง
ดังวี๊ดหันมาขวัญมันก็ผวาทันใด ใจยังเต้นรัวร่าร้อง! ใจคอรู้สึก
ไม่ดีเลย…!!
แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด!
แถ่ด! แถ่ด!
ตอนนี้หลินฟ่านยากจะกล่าว..ว่านี่คือการปะทะเดือดระหว่าง
เขากับตัวตนอันทรงพลัง! นี่เหมือนเขามาปลดปล่อยอารมณ์
เก็บกด ด้วยการกระหน่ายิงเป้าระบายความเครียดเสีย
มากกว่า!!
ร่างบรรพบุรุษพุทธะยามนี้พรุนไปหมด! มันถูกเคี่ยวกรรมด้วย
ห่ากระสุนจนเจ็บปวดแทบตายแล้ว! กระบวนท่าดินแดนพุทธะ
ที่มันพึ่งปลดปล่อยไปเมื่อครู่นั้น เต็มไปด้วยสัจจะพลังแห่ง
เผ่าพันธุ์พุทธะ! แต่ใครจะไปคิดว่ามันจะแหลกสลายไปในไม่กี่
อัดใจแบบนั้นได้! ยังไม่ทันได้ลงมือทาร้ายอะไรอีกฝ่ายด้วยซ้า!!
ส่วนด้านหลินฟ่านที่กาลังหน้าสั่นไปพร้อมกับแรงสะเทือนจาก
การรัวกระสุนนั้น ในใจกลับนิ่งสงบเขาเริ่มคิดไปว่า…แม้ว่า
กระสุนนี่จะโคตรรุนแรง…แต่มันยังแรงไม่พอจะสังหารบรรพ
บุรุษพุทธะ! แต่เรื่องสร้างความเสียหายและทาให้อีกฝ่าย
บาดเจ็บนั้น ไม่นับว่ามีปัญหาอะไร!!
นี่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะระดับพลังฝึกตนของบรรพบุรุษพุทธะ
สมควรก้าวข้ามระดับพลัง สุดยอด ไปแล้ว! หากอีกฝ่ายอยู่ใน
ด่านพลังผู้เป็นสุดยอดเหมือนกันอย่างเขา มันเละเป็นปุ๋ยไป
นานแล้ว!!
อย่างไรก็ตามตอนนี้ท่าทางของบรรพบุรุษพุทธะที่เต้นไปเต้นมา
ยกแข้งยกขาหลบห่ากระสุน ทั้งมือไม้ยังพยายามกาบังปัดป่าย
ไปทั่วนั้น ก็แลดูอุบาทว์ลูกตายากจะทนดูได้ไม่ใช่น้อย…
“ไงล่ะ ไอหัวโล้น! รับประทานลูกกระสุนพี่แล้วเป็นไงล่ะ! อร่อย
ดีมีประโยชน์มั้ย!?” หลินฟ่านหัวเราะออกมาอย่างสะใจ ตอนนี้
เองเขาก็ลอบรวบรวมพลังอานาจจ้าวโลกาผยอง มวลพลังจ้าว
โลกาผยองเริ่มอัดแน่นเป็นทรงกลมพร้อมจะยิ่งพุ่งออกไปเมื่อได้
จังหวะ!!
“มนุษย์บัดซบ..!!” บรรพบุรุษพุทธะที่ถูกระดมยิงอยู่โมโหหนัก
หนา ทั้งมันยังเจ็บปวดสุดแสน!
มันเห็นชัดเจนนักว่าระดับพลังของมนุษย์กระจ้อยเบื้องหน้า
มิใช่คู่มือมันแม้แต่น้อย ทว่าสมบัติพิสดารแลดูแปลกตานั่น
ช่างน่ากลัวยิ่งนัก! ถึงแม้ว่าจะไม่อาจสร้างความเสียาหายให้แก่
มันได้มากเท่าไร แต่ความเจ็บปวดนั้นไม่ใช่อะไรที่สามารถ
ทนทานรับได้เนิ่นนาน! ประหนึ่งถูกทรมานไม่มีผิด!!
ด้วยร่างวชิระทองคาคงกระพันของมัน..ไม่สมควรที่จะมีความ
เจ็บปวดอะไรแบบนี้!
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ความจริงย่อมมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น…
สมบัตินั่นมันไม่ธรรมดา!!
“ยอดเยี่ยม! เจ๋งไปเลยประสพลูกพี่! ไม่คิดเลยว่า ท่าเต้นของ
บรรพบุรุษพุทธะบัดซบนี่ จักอุบาทว์อย่างเหนือชั้นเช่นนี้ รังแก
ลูกตาผู้คนหนักหนาจริง!!” หลวงพ่อศากยะอึ้งจนไม่รู้จะอึ้ง
อย่างไรดีแล้ว เมื่อได้เห็นภาพเรื่องราวเบื้องหน้า มันหัวเราะ
ออกมาดังสนั่นอย่างปลอดโปร่งยากจะควบคุม
“กุ๊ก กุ๊ก กูววววววววววว!!!”
ชิคกี้ก็ขันหัวเราะออกมาอย่างอารมร์ดี ปีกของมันกระพือ
ตีพั่บๆ ยังดุเดือดจนแทบจะทุบทาลายศีรษะหลวงพ่อศากยะ
แหลกแล้ว!
เกรงว่าหากตัวตนทรงพลังตนอื่นๆได้มาเห็นสารรูปของบรรพ
บุรุษพุทธะยามนี้ ทั้งหลายจาต้องตกตะลึงแน่นอน นี่ยังใช่
บรรพบุรุษพุทธะในความทรงจาของพวกมันจริงๆหรือ!?
เพราะไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ ตอนไหน…บรรพบุรุษพุทธะมักมี
รูปลักษณ์สง่างามสูงส่งเสมอ มันมักนั่งเงียบขรึมอยู่บนดอกบัว
แม้ว่าต้องเผชิญหน้ากับศัตรูอะไร ก็มักจะทาการต่อสู้ด้วยพลัง
อานาจแห่งสติสานึก! ซึ่งแค่นั้นก็แทบจะกวาดล้างทั่วหล้าให้
ราบพนาสูรแล้ว!!
ทันใดนั้นเองหลินฟ่านพลันตะโกนออกมาสนั่น “อานาจแห่ง
จ้าวโลกาผยอง! ปิดล้อมศัตรู!!”
ฟู่มมมมม!!!
ทันใดนั้นปรากฏหมอกพลังคล้ายโดมทรงกลมอันเป็นพลัง
อานาจของจ้าวโลกาผยองผุดโผล่ขึ้นมาห้อมล้อมบรรพบุรุษ
พุทธะ
แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! แถ่ด! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!!!
หลินฟ่านแม้จะลงมือไปแล้วก็ไม่สนอะไรแม้หมอกจ้าวโลกา
ผยองจะบดบังทัศนวิสัยก็ตาม เขายังคงกดไกแกตลิ่งล้างเทพ
พิฆาตอสูรค้างเอาไว้! ส่งห่ากระสุนออกไปกระหน่ายิงอีกฝ่าย
โดยไม่คิดจะเปิดโอกาสอะไร!!
“มนุษย์บัดซบ! เจ้าล้างคอรอข้าบรรพบุรุษพุทธะไว้เถอะ! สัก
วันข้าจักกลับมาส่งเจ้าไปยังดินแดนสุขาวดี…ประจิมทิศ ให้จง
ได้! และถึงยามนั้นเจ้าจักต้องทนทุกข์ทรมานไปชั่วนิจนิ
รันดร์!!”
จากด้านในหมอกพลังจากโลกาผยองที่พึ่งปรากฏห้อมล้อม
เสียงเคียดแค้นของบรรพบุรุษพุทธะพลันดังขึ้น! หากทว่าเสียง
นี้กลับค่อยๆเบาลงและคล้ายจะห่างไกลออกไป…
“โอ๊ะ! ดูเหมือนไอบ้านั่นจะฝ่าหมอกพลังหนีไปแล้วแหะ…”
และตอนนี้เองเวลา 10 วินาที ของโหมดไร้เทียมทานก็ได้หมด
ลงพอดี…
หลินฟ่านพลันระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก หากเขา
ต้องปะทะกับอีกฝ่ายที่ทุ่มพลังทั้งหมด เกรงว่าเขาคงไม่อาจสู้
มันได้แน่นอน…อย่างไรก็ตามความสามารถในการทาให้อีกฝ่าย
หวาดกลัวแบบนี้ ก็นับเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย!
‘ติ๊ง!!.. ค่าความประทับใจของชนเผ่าพุทธะที่มีต่อท่านติดลบจน
เกินจุดเยือกแข็ง พวกมันจะไม่หยุดพักจนกว่าท่านจะตาย’
พอได้ฟังเสียงแจ้งเตือนจากระบบหลินฟ่านถึงกับต้องยักไหล่
ผายมือ ไม่คิดเลยว่าเขาจะเปิดโจทย์อีกคนแล้ว แต่ก็ช่วยไม่ได้
ล่ะนะ… ยังไงเสียนี่ก็ไม่ได้สาคัญอะไรกับเขานัก
หลินฟ่านแหงนคอมองฟ้าเวิ้งว้างอย่างเลื่อนลอย… สาหรับการ
ต่อสู้เมื่อครู่นั้น ถึงแม้เขาจะใช้สุดยอดอาวุธของเผ่าพันธุ์มนุษย์
จนสามารถขับไล่บรรพบุรุษพุทธะออกไปได้… แต่หากเขาต้อง
ปะทะกับตัวตนทรงพลังระดับนี้ถึงขั้นแตกหักจริงๆล่ะก็ เกรงว่า
เขาต้องพยายามยกระดับตัวเองให้เร็วที่สุดซะก่อน!
และตอนนี้เรียกว่าเขาได้หาเรื่องล่วงเกินชนเผ่าพุทธะไปจังๆ
แล้ว หลังจากนี้ดูเหมือนว่าเขาคงต้องระวังตัวให้มากเข้าไว้…
“เฮ่อ…ไหงเผ่าพันธุ์มนุษย์ถึงได้อนาถขนาดนี้กันนะ…ไม่มีตัวตน
สูงสุดอะไรกับเขาสักคนเลยหรือไงกัน? ถ้ามีตัวตนสะท้านโลก
สักคนคงจะดีไม่ใช่น้อย พี่จะได้ไปพึ่งใบบุญคนอื่นบ้างอะไรบ้าง!
แถมยังจะได้รับการสนับสนุนอุ้มชูอะไร ให้เติบโตภายใต้การ
คุ้มครองดูแลอย่างมั่นคง พอถึงเวลาที่พี่มีพลังไม่ว่าจะทวยเทพ
หรือหมู่มารที่ขวางทาง พี่จะได้ฆ่าล้างให้สิ้น…ไม่เหมือนตอนนี้
ทีต่ ้องมาดิ้นรนลาบากลาบนอยู่คนเดียว…”
หลินฟ่านอดไม่ได้ที่จะสลดในใจอยู่บ้าง ไม่ว่าเรื่องราวใดๆเขาก็
ทาได้แค่ทานทนรับทุกสิ่งไว้ด้วยตัวคนเดียวเท่านั้น…
“ประสพลูกพี่ นี่พวกเราปลอดภัยแล้วหรือ?” หลวงพ่อศากยะ
รีบเดินเข้ามาพร้อมไถ่ถาม
หลินฟ่านตอบสนองความกังวลของอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มดูแคลน
ระคนเบื่อหน่ายไม่น้อย “หัวโล้นเอย นี่เจ้าจะไม่ถามคาถาม
ปัญญาอ่อนไปหน่อยรึไง หา? ทาไมเจ้าไม่หัดแหกตาดูเข้าเล่า!
ว่าลูกพี่ของเจ้าเป็นใคร!?” (53380)
“แต่ยังไงก็ตาม ตอนนี้พวกเรารีบไปที่อื่นก่อนเถอะ ไอพระหัว
เหม่งนั่นก็ไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ” หลินฟ่านโบกมือส่งๆ
อย่างไร้เรื่องราว ก่อนที่จะวูบร่างผ่านความว่างเปล่านาห่าง
ออกไปไกลตา!
“อามีทัวฝัว! ประสพลูกพี่! รออาตมาด้วย!!” หลวงพ่อศากยะที่
พึ่งจะรอดพ้นจากความตายได้ทั้งที มีหรือมันยังจะอยากอยู่ที่นี่
สืบไป? มันรีบพุ่งร่างด้วยพลังชั่วชีวิตติดตามหลินฟ่านไปอย่าง
ไว!
ตอนนี้มันหมดโอกาสหวนกลับไปชนเผ่าพุทธะอีกต่อไปแล้ว
และดูเหมือนว่า…กว่ามันจะกลับไปสู้กับตัวตนทรงพลังนั่นได้ ก็
ต้องหลังจากที่พลังฝีมือของมันก้าวข้ามอีกฝ่ายไปได้แล้ว
เท่านั้น…
และถึงตอนนั้นมันจะเข้ารับตาแหน่งสูงสุดของชนเผ่าพุทธะ!
มันเองก็เคยคิดชื่อสุดเท่ห์เอาไว้บ้างแล้ว …บรพบุรุษพุทธะ
ศากยะ ยูไล…! ถึงตอนนั้นมันจะแทนที่ไอบรรพบุรุษพุทธะเวร
นั่นเสีย!!
อนิจจาตอนนี้เรื่องราวดังกล่าวยังเป็นได้แค่ฝันลมๆแล้งๆของ
หลวงพ่อศากยะเท่านั้น มันยังอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายอีก
หลายหมื่นโยชน์…
TSS ตอนที่ 891 : บัลลังก์เทพนิรันดร์ ที่ซ่อนไว้งั้นเหรอ?
ณ ฐานที่มั่นของชนเผ่าพุทธะ…
ตอนนี้ใบหน้าของบรรพบุรุษพุทธะเป็นอะไรที่บิดเบี้ยวน่ากลัว
นัก ใจมันลุกท่วมไปด้วยเพลิงโทสะ! การต่อสู้ครั้งนี้นับเป็นการ
สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่! มันไม่คิดไม่ฝันเลย…ว่าอาศัยมนุษย์ระดับ
สุดยอดแค่คนเดียว กลับสามารถบีบคั้นให้มันล่าถอยมาได้!!
นี่คือที่สุดแห่งความอัปยสอดสูท อย่างต่อให้ใช้เลือดทั้งตัวของ
อีกฝ่ายมาล้างก็ไม่มีวันชาระหมดสิ้น!
“อามีทัวฝัว ยินดีต้อนรับกลับ…ท่านบรรพบุรุษพุทธะ”
ตอนนี้เหล่าภิกษุและลามะทั้งหลายที่นั่งขัดสมาธิท่องบทสวด
อะไรไปเรื่อยก็หยุดลง พร้อมกล่าวคาต้อนรับการกลับมาของ
บรรพบุรุษพุทธะ…ในใจของเหล่าชนเผ่าพุทธะเหล่านี้ บรรพ
บุรุษพุทธะคือตัวตนอันไร้คู่เปรียบ! ดั่งจุดศูนย์รวมแห่งศรัทธา
ของพวกมัน!!
ทว่าสาหรับพวกเหล่าอดีตมหาเถระทั้งหลายที่เป็นเคยจ้าว
ปกครองชนเผ่าพุทธะนั้น ต่างสัมผัสได้ชัดเจนถึงความเดือด
ดาลเกรี้ยวกราดที่ขุ่นมัวอยู่ในใจของบรรพบุรุษพุทธะ
‘ฮ่าๆๆ…! ดูเหมือนว่ามันจักล้มเหลวกลับมาสินะ! สมน้าหน้า
อาตมายิ่ง!!’
‘เอ…แต่อาศัยพลังสามารถกระจ้อยร่อยของเด็กน้อยศากยะมุณี
นั่น…มันสามารถหลบหนีเงื้อมมือของบรรพบุรุษพุทธะบัดซบนี่
มาได้อย่างไรกัน?! ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จักมีอันใดสาคัญซุกซ่อน
อยู่เบื้องหลังสินะ…’
“อามีทัวฝัว…บรรพบุรุษพุทธะ ดูเหมือนคนบาปของเผ่าพันธุ์
พุทธะเราจักถูกท่านเทศนา ขัดเกลากล่อมจิตมันด้วยพระธรรม
ของท่านจนสงบลงแล้วใช่หรือไม่” หนึ่งในอดีตมหาเถระองค์
หนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหลังกล่าวออกมาด้วยน้าเสียงเคารพไว้หน้า
หากแต่ความจริงในใจของมันรู้สึกลิงโลดหนักหนากับความ
เคราะห์ร้ายของอีกฝ่าย!!
ทว่าทันใดนั้นเองใบหน้าของบรรพบุรุษพุทธะที่นั่งอยู่บน
อาสนะบัวบานกลับแปรเปลี่ยนไป ฝ่ามือพลิกตวัด พลังงาน
มหาศาลขุมหนึ่งในร่างของบรรพบุรุษพุทธะปะทุออก!!
ปงงง!!
ไร้ซึ่งลางบอกเหตุอันใด อยู่ดีๆร่างของอดีตมหาเถระคน
ดังกล่าวที่ซักถาม ก็เกิดระเบิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน…คนทั้งคน
กลับกลายเป็นละอองธุลีในเสี้ยวพริบตา…
เมื่อเหล่าอดีตมหาเถระเห็นภาพนี้ในใจของพวกมันก็เต็มไปด้วย
โทสะอันเคียดแค้น อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกมันไม่อาจทาอะไร
ได้เลย…
“ใจของมหาเถระว่านเฉิงกลับถูกกิเลศและมารแผ้วพานให้มัว
หมองเสียแล้ว อาตมามิมีทางเลือกอื่นใด นอกจากปลดปล่อย
มันให้พ้นจากความทุกข์ทรมาน เพื่อที่มันจักได้หวนกลับมาเกิด
ใหม่อีกครั้งในชาติหน้า และบาเพ็ญตบะจนกลับมานั่งตาแหน่ง
มหาเถระได้อีกครั้ง…” บรรพบุรุษพุทธะกล่าวออกด้วยน้าเสียง
เฉยเมย ราวกับกล่าวถึงเรื่องไร้แก่นสารอะไร…
“ขอพุทธองค์ทรงโปรด!!”
เหล่าภิกษุทั้งหลายรวมถึงลามะล้วนก้มหัวลง ก่อนจะกล่าว
พึมพาออกมาด้วยน้าเสียงอ่อนโยน
แม้นวาจาเรียบเฉยหากแต่ตอนนี้ใจของบรรพบุรุษพุทธะแทบ
จะมอดไหม้ไปด้วยไฟแค้น! ระดับมันยังจะไม่รู้อีกเหรอ…ว่าตัว
บัดซบเมื่อครู่จงใจกล่าววาจาเสียดสี? มันจะยอมให้อีกฝ่ายก่อ
การออกหน้าออกตาได้อย่างไร!?
ทันใดนั้นเองร่างบรรพบุรุษพุทธะกลับอันตรธานวูบหายไปจาก
จุดเดิม ก่อนจะไปปรากฏตัวในห้วงแห่งความว่างเปล่าอันไร้
ขอบเขตแห่งหนึ่ง…
วันนี้มันมีเรื่องสาคัญบางประการที่ต้องจัดการให้เรียบร้อย
ส่วนมนุษย์บัดซบนั่นที่กล้าหาญก่อการทาร้ายมันอย่างอุกอาจ
สิ่งเดียวที่รอมนุษย์นั่นอยู่ก็คือความตาย!!
ตอนนี้เองบรรพบุรุษพุทธะพลันยกหนึ่งดัชนีขึ้นมา ก่อนที่จะ
เปล่งรัศมีธรรมยิ่งพุ่งเป็นลาแสงทะลวงความว่างเปล่าเบื้อง
หน้า พุ่งผ่านสายธารแห่งกาลอวกาศอันไร้ขอบเขต…
“บรรพบุรุษแห่งเผ่าพันธุ์ดารา บรรพบุรุษแห่งเผ่าพันธุ์ปีศาจ
ราตรี โปรดมาพบปะสนทนากับอาตมาที่นี่สักคราเถิด…”
บรรพบุรุษพุทธะกล่าวออกเสียงเข้ม วาจาของมันแปรสภาพ
กลับกลายเป็นอักขระแห่งพุทธะลอยล่องลับไปในความว่าง
เปล่า
ทันใดนั้นเอง ทะเลดาราปานทางช้างเผือกพลันบังเกิดขึ้นใน
ความว่างเปล่า ทะเลดารานี้มันทอดยาวไปคล้ายไร้สิ้นสุด
กอปรไปด้วยดาราทั้งดาวเคราะห์ดาวฤกษ์น้อยใหญ่ทุกชนิด
ทว่าท่ามกลางทะเลดารานั้น ปรากฏดวงดาวโบราณสีแดงฉาน
ดวงหนึ่ง ลอยล่องอยู่เหนือร่างตัวตนๆหนึ่ง…
“บรรพบุรุษพุทธะ…เจ้าต้องการอันใดหรือ?”
“บรรพบุรุษดารา พวกเราค่อยสนทนากันเมื่อบรรพบุรุษปีศาจ
ราตรีมาถึงเถอะ…” บรรพบุรุษพุทธะกล่าวตอบ
หลังจากที่บรรพบุรุษพุทธะกล่าวจบคาไม่นาน ก็ปรากฏแสง
ทมิฬมืดมิดหนึ่งสายผุดโผล่ขึ้น ณ ที่ไกลห่าง แสงทมิฬนี้นับว่า
มืดมิดที่สุดในห้วงเอกภพ หามีสิ่งใดมืดดาไปกว่านี้อีกแล้วไม่…
และเพียงพริบตามันก็พุ่งมาบรรลุถึง!
“บรรพบุรุษพุทธะ เกิดอันใดขึ้นเช่นนั้นหรือ!?” สุรเสียงของ
บรรพบุรุษปีศาจราตรีช่างเย็นชาจับจิตนัก ดวงตาของมันยังดา
มืด เกรงว่าหากผู้ใดเผลอสบตากับมัน…มิแคล้วคงได้จมดิ่งลงสู่
ห้วงอนธกาลอันมืดมิดชั่วนิจนิรันดร์
“บรรพบุรุษทั้งสอง…อาตมาบรรพบุรุษพุทธะคิดใค่รร้องขอ
ความช่วยเหลือจากพวกโยม…เพื่อฆ่ามนุษย์ผู้หนึ่ง…” บรรพ
บุรุษพุทธะกล่าวออกทันใด
เมื่อบรรพบุรุษพุทธะสังหรณ์ประหลาดประการหนึ่งถึงความไม่
ธรรมดาสามัญของมนุษย์ที่มันพึ่งพบพานมา แน่นอนว่ามัน
ย่อมไม่อยากลงมือด้วยตัวคนเดียวเป็นธรรมดา… มันจึงคิดขอ
ความช่วยเหลือจากบรรพบุรุษทั้ง 2!
“ฮ่าๆๆ!” บรรพบุรุษดาราระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “บรรพ
บุรุษพุทธะ ที่เจ้าเรียกหาให้พวกเรามา คงมิใช่ว่าเจ้ามีแค่
ปัญหานี้ปัญหาเดียวใช่หรือไม่? ว่าแต่เรื่องเพียงเท่านี้ยังจาต้อง
ให้พวกเราทั้ง 3 ลงมือพร้อมกันหรือ? หรือมนุษย์นั่นมันเป็น
ตัวตนที่ท้าทายสวรรค์ถึงขีดสุดอันใด?”
“แน่นอนว่ามนุษย์นั่นมิใช่เรื่องที่อาตมากังวลที่สุด…เมื่อไม่นาน
มานี้อาตมาได้รับทราบข่าวมาประการหนึ่ง ว่าผู้ยิ่งใหญ่เสมอ
ฟ้าดิน…ราชาวานรตนนั้น และพระแม่หนี่วาเทพีแห่งเผ่าพันธุ์งู
รวมถึงผู้อื่นอีกไม่น้อย ได้ลอบพบปะกระทั่งก่อตั้งพันธมิตร
ขึ้นมาเพื่อฝ่าฟันยุคสมัยนี้แล้ว…บัดนี้กาลยุคสมัยได้เข้าสู่ห้วง
กลียุค ลางหายนะแห่งการทาลายล้างใกล้อุบัติ โอกาสสู่ความ
เป็นนิรันดร์อันเที่ยงแท้ กลับกลายเป็นอันใดที่ริบหรี่ยากเย็น
สาหรับพวกเรานัก! หากพวกเรามิร่วมมือกัน เกรงว่าคงยากที่
จะหยิบฉวยโอกาสอันใดแล้ว….”
“อะไร!? มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นด้วยงั้นหรือ!?” บรรพบุรุษแห่ง
เผ่าพันธุ์ดารา กับบรรพบุรุษแห่งเผ่าพันธุ์ปีศาจราตรีหันมอง
สบตากันทันใด ถึงแม้ว่าจะได้ฟังแค่วาจาเพียงผิวเผิน หากแต่
ในใจพวกมันกลับล่วงรู้ถึงความนัยอันสาคัญที่แท้ดี…
“อามีทัวฝัว เรื่องนี้ย่อมจริงแท้ …หรือบรรพบุรษุ พุทธะอย่าง
อาตมายังสามารถมุสาได้?” บรรพบุรุษพุทธะกล่าวตอบ
เทพปีศาจทั้ง 3,000 ตนแห่งเผ่าพันธุ์โบราณแต่ละตนล้วน
แก่งแย่งชิงดีกับผู้อื่น ใจของพวกมันย่อมไม่มีวันยอมรับผู้ใด
กระทั่งเหล่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งร้อยพันชนเผ่าทั้งหลายก็ไม่
ต่างกัน แต่ละตนล้วนมีประสงค์ของตัวเอง…
อนิจจาหนทางสู่นิรันดร์อันเที่ยงแท้ มิใช่ว่าจะได้รับมา
โดยง่าย…
ในมหายุคก่อนหน้า พวกมันทั้งหมดล้วนแพ้พ่ายจาต้องหวน
กลับไปสู่นิทรา… ตอนนี้เมื่อพวกมันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง พวกมัน
ย่อมต้องสู้สุดตัวเพื่อบรรลุสู่สูงสุด!
…
บรรพบุรุษพุทธะกล่าววาจาเล่าความมากมายให้บรรพบุรุษทั้ง
2 ฟัง อย่างไรก็ตามสิ่งที่จาเป็นกว่าทุกสิ่งก็คือขอความ
ช่วยเหลือเพื่อกาจัดมนุษย์บัดซบนั่น!!
เพราะสาหรับบรรพบุรุษพุทธะแล้ว เรื่องราวที่บังเกิดขึ้นวันนี้
ทั้งหมด เป็นอันใดที่ใจมันมิอาจทานทนรับได้…
ทางด้านบรรพบุรุษดารานั้น มันคือจ้าวผู้ปกครองมวลดาราสุด
คณนานับบนผืนฟ้า การที่มันจะค้นหามนุษย์แค่คนเดียวภายใน
โลกอันกว้างใหญ่สุดไพศาลนี้ ยังเป็นอะไรที่กระทาได้โดยง่าย…
…
“อามีทัวฝัว…ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ใดหรือประสพลูกพี่…?” หลวง
พ่อศากยะที่ติดตามหลินฟ่านออกจากความว่างเปล่า หันมอง
ไปรอบๆด้วยความสงสัย มันเองก็งุนงงด้วยไม่รู้เหนือใต้ ว่า
ตอนนี้บรรลุถึงสถานที่แห่งหนตาบลใดแล้ว…
“แล้วข้าจะไปรู้ได้ไง?” หลินฟ่านส่ายหัวไปมา การ
เปลี่ยนแปลงที่บังเกิดขึ้นมันใหญ่หลวงเกินไป ระหว่างทางหลิน
ฟ่านก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่แตกต่างกันมากมายหลายขุม
แล้ว…
กลิ่นอายพลังนั้นสมควรเป็นเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกัน และทั้งหมด
ล้วนดารงอยู่เป็นกลุ่มก้อน เขาเองก็ยังสัมผัสได้ถึงพวกที่มักข่ม
เหงรังแกผู้คนอย่างชนเผ่าโบราณด้วยเช่นกัน หากทว่ายามนี้
เผ่าพันธุ์โบราณไม่ได้โดดเด่นเหนือชั้นเหมือนดั่งกาลก่อนอีก
ต่อไป…
และในเส้นทางที่หลินฟ่านท่องผ่านมาก่อนหน้านั้น เขาก็สัมผัส
ได้ชัด…ว่าชนเผ่าโบราณถูกเข่นฆ่าไปไม่น้อย! กระทั่งยังถูกไล่
ล่าจากพวกผู้คนของร้อยพันชนเผ่า…!!
ส่วนสิ่งที่ทาให้หลินฟ่านประหลาดใจมากที่สุดนั้น ก็ไม่พ้นเรื่อง
ที่ระดับพลังฝึกตนของผู้คนทั้งหลายได้เพิ่มพูนสูงขึ้นจนผิดหูผิด
ตา เป็นอะไรที่ที่น่าเหลือเชื่อนัก!
ตอนนี้มีตัวตนระดับเทพสวรรค์ 7 ชั้นฟ้าเกลื่อนกลาดดั่งสุนัข
และมีตัวตนระดับเทพสวรรค์อมตะ 8 ชั้นฟ้าที่จานวนทัดเทียม
ที่กาลังเคลื่อนไหวสัญจรไปทุกทั่วหัวระแหง เรียกได้ว่ากระทั่ง
กวาดมองไปสุ่มๆ ยังหาตัวตนระดับเทพสวรรค์อมตะ 9 ชั้นฟ้า
พบได้ไม่ยาก และกระทั่งเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิ
รันดร์ก็มีให้เห็นประปราย!
นี่นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬาร! มันมากมายเสียจน
หลินฟ่านไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นโลกเซียนโบราณใบเดียวกัน
กับที่เขาเคยโลดแล่น!!
และแน่นอนว่ามันก็เป็นดั่งที่หลินฟ่านคิด ความเปลี่ยนแปลง
ทั้งหมดนั้นเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่นัก หากจะให้กล่าวคาอธิบายก็คง
ไม่มีคาใดที่จะอธิบายได้เหมาะสมเท่า… ต่างจากเดิมประหนึ่ง
สวรรค์และปฐพี…!!
ด้วยการหลอมรวมกับโลกไร้จากัดทั้งหลาย กฏของจักรวาล
นับว่าได้ถูกยกระดับให้สูงส่งขึ้นไปล้นพ้น! ในอดีตการจะบรรลุ
ถึงเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์..เป็นอะไรที่
กระทาได้ยากเย็นแสนเข็ญนัก! แต่ทว่าตอนนี้ขอเพียงมีวาสนา
และโชคชะตาสักหน่อย ก็ไม่นับว่ายากเย็นอะไร…!!
“ยามนี้นับว่าความเปลี่ยนแปลงที่บังเกิดขึ้นในโลกหลานั้น เป็น
อันใดที่มโหฬารนัก…ในช่วงมิกี่ปีที่ผันผ่าน ตอนอาตมาหลบหนี
การไล่ล่า…อาตมาได้พบเจอนิกายที่ผุดโผล่ก่อตั้งขึ้นมา
มากมาย…! ในกาลก่อนนิกายมักจะเต็มไปด้วยผู้คนหลากหลาย
ชาติพันธุ์ เรียกว่าผู้ใดจักเข้าร่วมนิกายใดก็ได้ ทว่ามาวันนี้
ผู้คนชนเผ่าทั้งหลายเรียกว่าแบ่งแยกกันชัดเจนหมดสิ้นแล้ว..
และทั้งหลายมิยินดีรับบุคคลภายนอกที่มิใช่เผ่าพันธุ์ตัวเอง
เด็ดขาด…”
“เรื่องนี้ นับเป็นความเปลี่ยนแปลงอันใหญ่หลวงจริงๆ.. อา
มีทัวฝัว”
หลวงพ่อศากยะอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความอาลัยทั้งสลดใจ
เล็กน้อยกับเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้…
ตอนนี้เผ่าพันธุ์โบราณไม่ใช่ปัญหาอะไรสาหรับร้อยพันชนเผ่า
อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ทั้งหลายจึงมีเวลาให้เติบโตพัฒนา เหล่า
อัจฉริยะทั้งหลายที่เคยถูกโคลนตมงาประกาย ก็เริ่มเฉิดฉายขึ้น
ทีละคน ด่านพลังฝึกตนโดยรวมก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด
หนทางสู่อนาคตของทั้งหลายต่างสดใสขึ้นไม่น้อย! (53380)
หลินฟ่านรับทราบเรื่องราวด้วยความเงียบงัน ไม่ได้เอ่ยเอื้อน
วาจาใดออกมาแม้ครึ่งคา อันที่จริง…สถานการณ์ตอนนี้ก็เป็น
อะไรที่เขาได้คาดเอาไว้ล่วงแล้ว…
ทันใดนั้นเองพวกเขาสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงและความ
วุ่นวายเล็กๆที่กาลังเกิดขึ้นเบื้องหน้า
เมื่อหลินฟ่านนาพาหลวงพ่อศากยะมาถึง เขาก็รู้สึกสงสัยระคน
แปลกใจเล็กน้อย
ตอนนี้มีกลุ่มผู้คนของร้อยพันชนเผ่ามากมายหลายเผ่าพันธุ์
รวมตัวกันอยู่ ทั้งหมดดูเหมือนจะกาลังแหงนมองไปยังขุนเขา
สูงเบื้องหน้าอยู่… ขุนเขาลูกนี้แลไปก็ธรรมดาๆ หากทว่ากลับมี
ไอพลังมหาศาลคุกรุ่นอยู่ภายใน!
“บัลลังก์เทพนิรันดร์ สมควรซุกซ่อนอยู่ภายในนั้นมิผิดแน่
คราวนี้พวกเราต้องร่วมือกันแล้ว”
…
ทันทีที่หลินฟ่านได้ยินเรื่องนี้เขาก็ประหลาดใจเล็กน้อย บัลลังก์
เทพนิรันดร์เดี๋ยวนี้ มีไปซ่อนตัวอะไรอยู่ในพื้นที่ต้องห้ามอะไร
ด้วยงั้นเหรอ? นี่นับเป็นเรื่องแปลกจริงๆ…
TSS ตอนที่ 892 : ขุนเขาเทพเจ้า
“บัลลังก์เทพนิรันดร์นี้ ตัวข้าราชาสวรรค์ฮวงเฉินจักคว้าเอาไว้
ให้จงได้”
หนึ่งบุรุษร่างมหึมาเปลือยอกแกร่ง ยืนตระหง่านคาหล้า ร่างมัน
สูงใหญ่ไม่ต่ากว่าร้อยฟุต ผิวหนังสีทองแดงของมันเปล่งกลิ่น
อายเย็นเยือก มันนับเป็นตัวตนอันทรงพลังของเผ่าพันธุ์ยักษา
ตนหนึ่ง ด่านพลังฝึกตนของมันบรรลุขอบเขตเทพสวรรค์อมตะ
ชั้นฟ้าที่ 9 สลาย 8 สู่เวิ้งว้าง
กลิ่นอายพลังของมันช่างหนาแน่นนักเกรงว่าต่อให้เป็นผู้อื่นที่มี
ด่านพลังเดียวกันกับมัน ก็ยังไม่อาจแข็งแกร่งทัดเทียมกับมันได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลางแผ่นหลังของมันมีค้อนที่เปล่งประกาย
อัสนีแลบลั่นแปลบๆ ทั้งมีอักขระลึกลับจารึกเอาไว้ กลิ่นอาย
ของมันประหนึ่งจะทาลายล้างได้กระทั่งสวรรค์และโลก
“เห? ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เผ่าพันธุ์ยักษามีตัวตนที่ทรงพลังแบบ
นี้?” หลินฟ่านสงสัยไม่น้อย แต่พอเขาจาได้ว่า…มีรายนาม ควา
ฟู่ ราชาแห่งเผ่าพันธุ์ยักษาในบรรดาหลุมศพโบราณเหล่านั้น…
เขาก็เข้าใจทันที!
ดูเหมือนว่าการหวนคืนมาของเหล่าตัวตนสูงสุดอันทรงพลัง
ของแต่ละเผ่าพันธุ์ จะทาให้ระดับพลังของผู้คนในเผ่าพันธุ์
แข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวตนชนเผ่ายักษาที่ยืนอยู่ด้านหน้าของ
หลินฟ่านตอนนี้ เกรงว่าหากเป็น 5 ปีก่อน มันคงเป็นตัวตนที่
ทรงพลังแทบจะสูงสุดของเผ่าพันธุ์ ไม่มีทางที่จะไร้นามและไม่
เป็นที่รู้จักอะไรแบบนี้…
“ราชาสวรรค์ฮวงเฉิน เกรงว่าบัลลังก์เทพนิรันดร์นี้อาจไม่ได้มี
ไว้ให้เจ้า…!”
ข้างราชาสวรรค์ฮวงเฉินก็มีตัวตนที่ทรงพลังยืนอยู่กลุ่มหนึ่ง
เช่นกัน ทั้งหมดล้วนมีด่านพลังฝึกตนเทพสวรรค์อมตะ 9 ชั้น
ฟ้าทั้งสิ้น กลิ่นอายทั่วกายแต่ละคนยังหนาแน่นผิดธรรมดา
นับว่าแตกต่างจากตัวตนทรงพลังในกาลก่อนที่หลินฟ่านเค
ยเจอลิบลับ…
ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากความเปลี่ยนแปลงของโชคชะตาและ
วาสนาของพวกมัน
และเห็นได้ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายล้วนมาจากตัวตน
สูงสุดของเผ่าพันธุ์พวกมัน…
“นี่หัวโล้น เจ้ารู้จักพื้นเพความเป็นมาของไอพวกนั้นมั่งไหม?”
หลินฟ่านกล่าวถาม
“อามีทัวฝัว…ราชาสวรรค์? ยามอาตมาหลบหนียังเคยได้ยิน
เรื่องราวนี้มาอยู่บ้าง ตอนนี้เหล่าบรรดาร้อยพันชนเผ่าต่างมี
การจัดอันดับอัจริยะแบบใหม่ …และในบรรดาสุดยอดอัจฉริยะ
ของเผ่าพันธุ์ต่างๆ 100 อันดับแรก คล้ายว่าจะได้รับสมญา
นาม ราชาสวรรค์อะไรนี่ล่ะ…เจ้าพวกนั้นก็เห็นได้ชัดว่าเป็นหนึ่ง
ในพวกราชาสวรรค์อะไรนั่น” หลวงพ่อศากยะกล่าวตอบ
หลินฟ่านพยักหน้า ไม่คิดเลยว่าจะมีการจัดอันดงอันดับอะไร
แบบนี้ด้วย ต่อมาเขาก็หัวเราะเบาๆค่อยยักคิ้วถาม “หัวโล้น
แล้วนี่เจ้าได้ติดอันดับอะไรนั่นกับเขาด้วยรึเปล่า?”
“อามีทัวฝัว…ในตอนแรกอาตมาก็ยังพอติดอันดับกับเขาอยู่
บ้าง…แต่หลังจากที่ถูกไล่ล่าจากพวกลามะบัดซบนั่น โอกาส
ของอาตมาที่จะได้เฉิดฉายก็ดับหายไปสิ้นแล้ว…” หลวงพ่อ
ศากยะกล่าวตอบอย่างสลด หน้าตาหงอยลงราวลูกหมาอดนม
…
การมาถึงของหลวงพ่อศากยะกับหลินฟ่านก็ดึงดูดความสนใจ
ของผู้คนบ้าง แต่ก็ไม่มีใครคิดจะสนใจอะไรคนมาใหม่ไม่คุ้นตา
ทัง้ 2 สักเท่าไร
ตอนนี้พวกมันทั้งหมดกาลังรอให้เขาเทพเจ้าเปิดออก จากนั้น
พวกมันจะเข้าไปข้างในและคว้าบัลลังก์เทพนิรันดร์นั่นมาให้ได้!
ในกาลก่อนนั้นบัลลังก์เทพนิรันดร์ได้ถูกพลังอานาจลึกลับบาง
ประการฉุดดึงไว้ ทว่ายามเมื่อตัวตนสูงสุดของแต่ละเผ่าพันธุ์
หวนคืนมา บัลลังก์เทพนิรันดร์ทั้งหลายก็กระจัดกระจายออกไป
ทั่วโลก
เหล่าตัวตนทรงพลังที่ด่านพลังฝึกตนติดอยู่ในขอบเขตเทพ
สวรรค์อมตะ 9 ชั้นฟ้า ย่อมรู้ดีว่าพวกมันสามารถทะยานสู่
สวรรค์ได้ในครั้งเดียว หากพวกมันมีโชคได้รับบัลลังก์เทพนิ
รันดร์มาครอง
“พวกเราจักเข้าไปหลังคนอื่นหรือ?” หลวงพ่อศากยะถาม
“แน่นอนว่าต้องไป! ของฟรีทั้งทีทาไมพวกเราจะไม่เอาล่ะ ที่
สาคัญตอนนี้…ระดับพลังฝึกตนของเจ้ามันอ๋อนด๋อยเกินไป แถม
มีสหายมากสามารถอย่างข้าประมุข เจ้าเองก็คงกดดันไม่น้อย!
ดังนั้นพวกเราจึงต้องยกระดับพลังเจ้ากันสักหน่อย…” หลิน
ฟ่านหัวเราะออกมาเบาๆ
“เพ้ย!” ทันทีที่หลวงพ่อศากยะได้ยินก็แทบหน้าคะมา คนคับ
แค้นจนอยากเอามีดจิ้มพุงตัวเองให้ตาย บ้าเอ๊ย ชายคนนี้กล้า
พูดออกมาได้อย่างไร ความกดดันอันใด? อาตมาผู้ต้อยต่าคนนี้
ไม่กดดันสักนิด! ไม่มี! ความกดดันอันใดอาตมาไม่มี๊!!
ตูมมมมมมมมมม!!!!
ทันใดนั้นประหนึ่งโลกหล้าสั่นไหว ขุนเขาสะท้านสะเทือน! และ
พร้อมกันกับที่ขุนเขาเริ่มสั่นไหวนั้น เมฆหมอกที่ปกคลุมเหนือ
ยอดเขา ประหนึ่งถูกมือไร้สภาพมหึมาจับแหวกแยกออก เผย
ให้เห็นรอยแตกหนึ่งที่ฉีกลงมาประหนึ่งจะผ่าสวรรค์และโลก
บังเกิดเป็นหนทางสายหนึ่งพาดลากลงมาประหนึ่งเชื่อมแดน
สรวงกับแดนดิน…
“เขาเทพเจ้าเปิดแล้ว!!”
ทันใดนั้นเหล่าตัวตนอันทรงพลังทั้งหลายที่เฝ้ารอคอย ร่างกลับ
กลายเป็นลาแสง ต่างพุ่งทะยานออกไปฉับไวปรี่ไปยังยอดเขา
อย่างไม่รอช้า
สาหรับตัวตนทรงพลังเหล่านี้เวลาไม่ค่อยรอท่า บัลลังก์เทพนิ
รันดร์มีเพียงหนึ่งเดียว หากพวกมันชักช้าเพียงเล็กน้อยอาจถูก
คนอื่นตัดหน้าไปได้
“ป่ะหัวโล้น พวกเราก็ไปกันเถอะ!” หลังจากที่ผู้คนเข้าไปกัน
หมดแล้ว หลินฟ่านก็ค่อยๆกล่าวออกมา
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้หลินฟ่านไม่รีบไม่ร้อน
สักนิด…
หลังจากที่เขามาเหยียบไอเขาเทพเจ้าอะไรนี่ เขาก็ได้ตรวจสอบ
สภาพแวดล้อมโดยรอบทันที และยังอดไม่ได้ที่จะต้อง
ประหลาดใจ เพราะมันไม่คล้ายพื้นที่ลับหรือพื้นที่ต้องห้ามอะไร
ทานองนั้น! มันคล้ายโลกในอีกมิติหนึ่งมากกว่า!!
ยอดเขาเรียงรายทอดยาวไปสุดลุกหูลูกตาปานไร้สิ้นสุด หากแต่
กลับไร้ซึ่งสัตว์โบราณอะไร ราวกับสถานที่แห่งนี้เป็นสรวง
สวรรค์ แต่ในความเห็นหลินฟ่านที่นี่ไม่ธรรมดาซะแล้ว..
หลินฟ่านที่ลอยร่างนาไปในความว่างเปล่า ไม่นานก็ได้เห็น
เหล่าตัวตนทรงพลังทั้งหลายก่อนหน้า มายืนอยู่เบื้องหน้าราว
กับลังถกความเห็นอะไรบางอย่างกัน
“นั่นพวกมันกาลังทาอันใดกัน!?” หลวงพ่อศากยะกล่าวถาม
ด้วยสงสัย ไฉนผู้คนถึงได้จับกลุ่มยืนอยู่พรรค์นั้น? นั่นพวกมัน
คงไม่ได้กาลังนินทาอะไรผู้คนอยู่หรอกนะ?
เมื่อหลินฟ่านเหินร่างลงมากลางฝูงชน เขาก็พบว่าทั้งหมดถูก
สกัดเส้นทางเอาไว้ไม่ให้ไปข้างหน้าต่อได้…
และเมื่อมองเข้าไปในหุบเขาไกลตา หลินฟ่านก็ได้เห็นบัลลังก์
เทพนิรันดร์ที่กาลังทอแสงเจิดจ้า และมีร่างบุรุษผู้หนึ่งนั่งลง
อยู่ยนบัลลังก์เทพนิรันดร์ดังกล่าว
กลิ่นอายของมันสงบราวกับเป็นเพียงซากศพไร้ชีวิต ไร้ซึ่ง
สัญญาณความเคลื่อนไหวใดๆ
ทว่าในสายตาตัวตนทรงพลังทั้งหลาย พวกมันรู้สึกคล้าย
เรื่องราวไม่ง่ายดายขนาดนั้น ใบหน้าของพวกมันทั้งหมดตึง
เครียดมืดคล้า
“ราชาสวรรค์ฮวงเฉิน บัลลังก์เทพนิรันดร์อยู่ตรงหน้าแล้ว
อย่างไรเล่า ไฉนเจ้ามิไปเอากัน?” ชายคนหนึ่งจากเผ่าพันธุ์
มังกร ซึ่งนับเป็นตัวตนที่ติดอันดับราชาสวรรค์เช่นกันเอ่ยเย้า
แหย่ฮวงเฉิน
“หึหึ อย่าได้รีบร้อนไป” ราชาสวรรค์ฮวงเฉินตอบคา
อย่างไรก็แล้วแต่ตอนนี้ในใจของมันเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่
ไถ่ถาม ว่าบุรุษไร้ชีวิตที่นั่งบนบัลลังก์นั้นเป็นผู้ใดกันแน่หนอ…
ก่อนที่ตัวมันจะกระจ่างในเรื่องราวนี้ มันไม่คิดลงมือเคลื่อนไหว
อะไร
“ฮึ่ม! บัลลังก์เทพนิรันดร์ตั้งอยู่เบื้องหน้าแล้วแท้ๆ ในเมื่อพวก
เจ้าปฏิเสธบ่ายเบี่ยง! เช่นนั้นข้าจักขอรับมันไว้เอง!!” ชายคน
หนึ่งจากเผ่าพันธุ์เขาคารามสนั่น มันปลดปล่อยเทพพลัง
ทั้งหลายของมันออกมาหมดสิ้น ร่างของมันแปรสภาพกลับ
กลายคล้ายคนครึ่งอสูรกายดุร้ายเขาเดียวมีปีก ร่างมันเหิน
ทะยานทะลวงความว่างเปล่า มือข้างหนึ่งเอื้อมไปหมายคว้า
บัลลังก์เทพนิรันดร์!!
ตอนนี้เหล่าตัวตนทรงพลังทั้งหลายโดยรอบรู้สึกนั่งไม่ติดที่อยู่
บ้าง! บัลลังก์เทพนิรันดร์มิใช่ตั้งอยู่เบื้องหน้าหรือไร? พวกมัน
ยังรออันใดไฉนไม่เข้าไปต่อสู้ช่วงชิง?
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ยังมีคนอีกกลุ่มพุ่งร่างออกไปดั่งสายอัสนีปรี่ตรงไปหาบัลลังก์
เทพนิรันดร์
“ฮัยยา…เดี๋ยวโศกนาฏกรรมคงบังเกิด ไอพวกนี้ดับอนาถแหง
เจ้าสวดไว้อาลัยให้พวกมันตอนนี้เลยก็ดี…” หลินฟ่านเปิดปาก
กล่าวออก
“ประสพลูกพี่ หมายความว่าอันใด?” หลวงพ่อศากยะถามด้วย
สงสัน
“เหอะๆๆ เห็นๆกันอยู่ตาตาว่าเรื่องนี้มันโคตรจะแปลก! ตัวตน
ทีด่ ั้นด้นเคี่ยวกราฝึกฝนตัวเองมาจนบรรลุด่านพลังเทพนิรันดร์
มีเหรอที่จะส่งมอบบัลลังก์เทพนิรันดร์ให้ผู้อื่นโดยง่าย? ต่อให้
มันตายมันก็ไม่อยากให้ความพยายามของมันถูกใครคว้าไป
ง่ายๆหรอก! ดูท่าทางแล้วมันกระจายข่าวเพื่อล่อคนให้แห่กัน
มามากกว่า”
“แถมไอที่นั่งอยู่นั่นมันก็เป็นถึงตัวตนระดับเทพนิรันดร์ ในฐานะ
ที่อย่างน้อยๆมันก็เป็นผู้ครอบครองบัลลังก์เทพนิรันดร์ ให้มัน
ร่อแร่ยังไงพลังมันก็ไม่ใช่ชั่ว ส่วนไอพวกตัวตนร้อยพันชนเผ่า
ทั้งหลายนั่น เต็มที่ก็เทพสวรรค์อมตะชั้นฟ้าที่ 9 เท่านั้น! ยังจะ
ไปนับเป็นตัวอะไรต่อหน้าเทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิ
รันดร์ที่แท้จริงแบบมัน?” หลินฟ่านกล่าวอธิบาย
“อา! อามีทัวฝัว! ที่แท้เรื่องเป็นเช่นนี้นี่เอง!!” หลวงพ่อศากยะ
พยักหน้า อย่างไรก็ตามมันไม่ได้คิดจะกล่าวเตือนตัวตนของ
ร้อยพันชนเผ่าที่กรูกันเข้าไปแต่อย่างไร…
ตอนนี้วันเวลาได้เปลี่ยนไปแล้ว…ในกาลก่อนเมื่อเผ่าพันธุ์
โบราณกดขี่ข่มเหงพวกมัน ก็นับว่าพวกมันมีปัญหาอันใหญ่
หลวงร่วมกัน จึงพอรวมตัวกันได้ ทว่าตอนนี้แต่ละเผ่าพันธุ์ก็มี
ตัวตนสูงสุดของพวกมันผุดโผล่มาทั้งสิ้น ต่างคนต่างวาระ
เผ่าพันธุ์ใครก็เผ่าพันธุ์มัน!
หากพวกมันมาถึงที่ตาย ก็ให้พวกมันตายๆไปเถอะ ไม่ว่าจะ
อะไรก็แล้วแต่ไม่ใช่เรื่องของมันสักเพียงนิด!
“ฮ่าๆๆ!! บัลลังก์เทพนิรันดร์เป็นของข้าแล้ว!!” หนึ่งในราชา
สวรรค์ด่านพลังเทพสวรรค์อมตะ 9 ชั้นฟ้าคนหนึ่งคาราม
ออกมากึกก้อง! นิ้วมันพุ่งทะลวงฉับไว ระเบิดความว่างเปล่าไป
เป็นทาง มันใกล้คว้าบัลลังก์เทพนิรันดร์ได้แล้ว
ตัวตนทรงพลังคนอื่นมีหรือจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าของดีไปได้?
พวกมันทั้งหลายก็ปะทุพลังเต็มที่หมายต่อสู้แย่งชิงเช่นกัน!
ทว่าทันใดนั้นเองร่างที่นั่งอยู่บนบัลลังก์เทพนิรันดร์กลับลุกขึ้น
ยืนขึ้นประหนึ่งสายฟ้าฟาด พร้อมกันนั้นหมู่เมฆทั่วโลกถึงกับ
ป่วนปั่น
ประกายแสงคมกล้าหนึ่งพวยพุ่งออกมาจากผืนปฐพี!
(53380)
อ๊ากกกกก!!!
ไม่ทันมีใครตอบสนองต่อสิ่งนี้แม้แต่น้อย และสุดท้ายพอมาถึง
ตอนที่ทั้งหลายตระหนักเรื่องราว ตัวตนทรงพลังทั้งหลายก็ทา
เพียงลอยล่องอย่างเงียบงันในความว่างเปล่าเท่านั้น…
“เกิดอันใดขึ้นกัน!”
ตัวตนทรงพลังคนอื่นๆที่ไม่ได้กรูเข้าไปอดไม่ได้ที่จะสับสน พวก
มันไม่อาจเข้าใจเรื่องราวได้
ทว่าทันใดนั้นเอง… “ครึ่ก…!”
ศีรษะของราชาสวรรค์คนหนึ่งค่อยๆเลื่อนออกมาก่อนจะหลุด
ร่วง โลหิตฉีดพุ่งปรีดๆย้อมพื้น! ก่อนที่สุดท้ายจะมีเจตกระบี่
เล่มหนึ่งปะทุออกมาจากร่างของมัน ระเบิดทุกสิ่งจนแหลก..!
ปงงงง!!
หนึ่งในราชาสวรรค์ ตกตายง่ายดายเพียงเท่านั้น…
หลังจากนั้นเรื่องราวทานองเดียวกันก็บังเกิดขึ้นกับราชาสวรรค์
คนอื่นๆที่กรูเข้าไป ร่างของพวกมันระเบิดออกมาจนก่อเกิด
สายธารโลหิตไหลล้นไปเป็นทาง คล้ายจะเป็นสีสันที่หมายแต่ง
แต้มขุนเขาที่จืดชืดทั้งมวล…!
พวกมันทั้งหมดไร้ซึ่งโอกาสฟื้นคืนชีพหรือกาเนิดใหม่ผ่านโลหิต
แต่อย่างไร…
TSS ตอนที่ 893 : ยกระดับ
ตื่นตระหนกตกตะลึง!
ขวัญหนีดีฝ่อ ขนพองสยองเกล้า!!
ตัวตนทรงพลังทั้งหลายที่เลือกคุมเชิงอยู่รอบนอก อดไม่ได้ที่จะ
สูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บจับจิต! เรื่องนี้นับว่าน่า
กลัวเหนือจินตนาการพวกมันยิ่งนัก!!
ไม่คิดเลยว่าราชาสวรรค์กลุ่มหนึ่งจะตายตกง่ายดายเพียงเท่านี้!
กระทั่งโอกาสจะต่อสู้พวกมันยังไม่มีด้วยซ้้า!!
ตอนนี้สีหน้าท่าทางของบุรุษที่อยู่บนบัลลังก์เทพนิรันดร์ก็ยังคง
เหมือนเดิม ทว่าไม่รู้มาจากไหน แต่ด่านหลังของมันปรากฏ
กระบี่สีด้าลอยล่องออกมา ประกายกระบี่และเจตพลังกระบี่
ก่อนหน้ามิแคล้วถูกกระบี่ด้าเล่มนี้สร้างออกเป็นแน่..!
เต๋ากระบี่ขั้นสุดยอด…นี่คือขอบเขตที่ตัวตนเทพนิรันดร์ผู้ย่้าเดิน
ในหนทางกระบี่บรรลุถึงจุดสูงสุด
ถึงแม้ว่ามันจะร่วงหล่นแตกดับ หากแต่เต๋าแห่งกระบี่ของมัน
สามารถด้ารงคงอยู่ต่อไปชั่วกาล อ้านาจพลังสามารถสะบั้นฟ้า
หั่นนภาลัย!
ในสายตาของมันตัวตนระดับเทพสวรรค์อมตะ 9 ชั้นฟ้า หรือ
ราชาสวรรค์อะไรทั้งหลายแหล่ไม่ต่างใดจากมดปลวก! เพียงแค่
1 การโจมตีทั้งหลายก็ไม่แม้แต่จะต้านทานรับได้!!
ราชาสวรรค์ฮวงเฉินเบิกตากว้าง! มันจับจ้องมองไปยังเรื่องราว
เบื้องหน้าด้วยความเหลือเชื่อ ตอนนี้บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่น
คาวโลหิตขุ่นคลั่ก! คงไม่นับเป็นอะไรหากว่าโลหิตที่ชโลมรดพื้น
นั่น ไม่ใช่ของตัวตนระดับราชาสวรรค์ทั้งหมด!!
อีกฝ่ายกระทั่งใช้เพียงกระบวนท่าเดียว! ซึ่งพวกมันไม่อาจมอง
ได้ออกด้วยซ้้า! ว่าใช้กระบวนท่าวิชาออกอย่างไรถึงฆ่าทั้งหมด
ได้! นี่จะยังไม่นับเป็นเรื่องอกสั่นขวัญแขวนส้าหรับพวกมันได้
อย่างไร!?
“นั่นจักต้องเป็นพลังอ้านาจอันไร้ผู้ต้านของตัวตนระดับเทพ
สวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์เป็นแน่! ไฉนตัวตนเช่นนี้
ถึงได้มานั่งเฝ้าบัลลังก์เทพนิรันดร์เอาไว้ได้กัน!?” หนึ่งในราชา
สวรรค์ที่เป็นสตรีเอ่ยถาม หางทั้ง 9 ของนางฟูฟ่องปัดป่ายไป
ทัว่
“บ้าเอ๊ย! บัลลังก์เทพนิรันดร์ตั้งอยู่ตรงหน้าของพวกเราเช่นนี้…
แต่พวกเรากลับต้องยอมแพ้แต่เพียงเท่านี้หรือ!?” ราชาสวรรค์
อีกคนเอ่ยถามออกมาด้วยความขุ่นขึ้งในใจถึงที่สุด…
ราชาสวรรค์ฮวงเฉินเองก็รู้สึกปวดปร่าใจไม่น้อย “พวกเรา
ทั้งหมดลงมือพร้อมกันเถอะ มิว่าชายผู้นี้จักแข็งแกร่งเพียงใด ก็
มิอาจรับมือพวกเราพร้อมกันได้แน่นอน!”
“แล้วผู้ใดเปิด…?”
“อา…ใช่ ในเมื่อราชาสวรรค์ฮวงเฉินเสนอ เช่นนั้นเชิญท่านก็
เปิดดีหรือไม่?! เดี๋ยวพวกเราจักตามไปอย่างไว มิให้ห่าง!!”
ตัวตนทรงพลังทั้งหลายพยายามระงับเสียงหัวเราะเย้ยหยัน
เอาไว้…พวกมันยังจะไม่เข้าใจเจตนาของราชาสวรรค์ฮวงเฉิน
ได้อย่างไร? มิใช่มันคิดให้ผู้อื่นกลายเป็นกระสุนมนุษย์หรือไร?!
ดวงตาราชาสวรรค์ฮวงเฉินเผยความโกรธแค้นอับอายออกมา
เล็กน้อย อย่างไรก็ตามไม่มีทางที่มันจะบ้าจี้วิ่งไปเปิดตามที่พวก
บ้านี่ท้าเด็ดขาด สถานการณ์ตอนนี้ย่้าแย่หนักหนานัก มันรู้ดีว่า
ตอนนี้ใครลงมือก่อนก็ตายก่อนแน่นอน!!
“ป่ะหัวโล้น พวกเราไปกันเถอะ” หลินฟ่านที่มองชมเรื่องราว
อยู่ก็ยักคิ้วข้างนึง เขารู้ดีว่าตอนนี้ได้เวลาที่เขาจะลงมือแล้ว
ตอนนี้ในเมื่อผู้คนทั้งหมดไร้หนทางท้าอะไร…ก็ไม่ถือว่าเป็นตัว
เขามาแย่งของเด็กน้อยสืบไป! จะอย่างไรเสียเด็กน้อยเหล่านี้ก็
อับจนไร้หนทางกันแล้ว เขาจะลงมือหรือไม่ลงมือผลลัพธ์ของ
พวกมันก็ไม่ต่างกัน…
“จัดไปประสพลูกพี่” หลวงพ่อศากยะเองก็รู้สึกทึ่งกับตัวตนที่
นั่งอยู่บนบัลลังก์เทพนิรันดร์นั่นไม่น้อย ประกายกระบี่ และเจต
พลังกระบี่ก่อนหน้านับเป็นอะไรที่เหนือชั้นอย่างแท้จริง!
ตอนนี้เองในขณะที่ทั้งหมดยืนขาตายอับจนหนทาง… หากทว่า
มี 2 ร่างก้าวอาดๆเดินออกไป นั่นย่อมเรียกร้องความสนใจ
ผู้คนไม่น้อย! ต่างหันขวับมาจับจ้อง 2 ร่างด้วยความสงสัย
ทันที!!
“พวกนี้ใครกัน!?”
“หัวโล้นนั่น สมควรเป็นหลวงจีนจากชนเผ่าพุทธะ… แต่บุรุษผู้
นั้น…?”
“ดูเหมือนว่าที่เขาออกมาเช่นนี้ ใช่คิดลงมือแล้วหรือไม่!? แต่ใน
เมื่อกระทั่งพวกเรายังอับจนหนทาง ไม่ใช่ว่าพวกเขาก็
เหมือนกันหรอกหรือ!?”
…
ตอนนี้หลินฟ่านที่เดินมาอย่างสบายๆ ก็หันมาโปรยยิ้มให้ผู้คน
พร้อมกล่าวด้วยน้้าเสียงเป็นกันเอง “สุดมือสอยก็ต้องปล่อยมัน
ไป…ในเมื่อบัลลังก์เทพนิรันดร์นั่น มันเกินที่ฝีมือพวกเจ้าจะ
ไขว่คว้า งั้นข้าประมุขรับไว้เองแล้วกัน ไม่ว่ากันเนอะ?”
การตอบค้ากลับมาของคนแปลกหน้านับว่าเหนือคาดคิดนัก ยัง
ยั่วอารมณ์ของเหล่าราชาสวรรค์ทั้งหลายให้เดือดดาลขึ้นมาไม่
น้อย…เนอะกับมารดาเจ้า!!
“เจ้าเป็นผู้ใด?!”
“ตัวตนที่กระทั่งพวกเรายังมิอาจท้าอะไรได้…น้้าหน้าอย่างเจ้า
คิดอาศัยอะไร?”
“สหายท่านนี้ ข้าขอเตือนว่าจ้าอย่าหาเรื่องตกตายเสียจัก
ประเสริฐกว่า…”
แม้จะได้ยินค้ารบเร้าถากถางบ้างก็กล่าวเตือนจากคนอื่น แต่
หลินฟ่านก็ไม่ได้แยแสหรือน้าพาอะไร พวกมันล้อเขาเล่นหรือ
ไง? ไม่ใช่แค่ไอนั่นก็แค่เทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิ
รันดร์ หรอกเหรอ?! ถ้าเขาไม่แม้แต่จะจัดการไอตัวมอซอขี้
เกลือนี่ได้ เขาไปเอาเส้นหมี่ผูกคอตายใต้ต้นพริกยังประเสริฐ
เสียกว่า!!
“เหอะ! ยังมีตัวโง่งมไม่ประมาณตัวเองอยู่อีกหรือ หลวงจีนนั่น
ก็เป็นเพียงเทพสวรรค์อมตะ 9 ชั้นฟ้าเช่นกัน!”
“แต่ก็มิได้มีใดไม่ดี ในเมื่อมีผู้คนคิดวิ่งไปตกตายให้พวกเราดูชม
พวกเราก็ดูชมมันสักหน่อยเถอะ! บางทีพวกเราอาจสามารถจับ
ตามองกระบวนท่านั่นออก… แถมอาจมีจุดอ่อนหรือช่องว่างอัน
ใดให้พวกเราฉกฉวยจากการสังเวยชีวิตของพวกหน้าโง่นี่ก็
เป็นได้”
หลินฟ่านส่ายหัวไปมา เขามองไปยังบัลลังก์เทพนิรันดร์ ก่อนที่
จะเอื้อมมือไปหมายคว้าจับ
ทว่ายามเมื่อเขาคิดเอื้อมมือไปคว้าจับ ร่างที่นั่งอยู่บนบัลลังก์
เทพนิรันดร์นั่นลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งปลดปล่อยเจตกระบี่อันน่า
พรั่นพรึงออกมาอีกครั้ง
“ผู้ที่ปกป้องบัลลังก์เทพนิรันดร์นั่นอยู่ สมควรเป็นตัวตนระดับ
เทพสวรรค์อมตะ ชั้นฟ้าที่ 10 เทพนิรันดร์อย่างที่มิต้องสงสัย
เลย! เพียงเจตกระบี่นั่นกระบวนเดียว พวกเราก็มิอาจทานรับ
ได้แล้ว!!”
“ให้ตายเถอะ เจตกระบี่ทรงพลังแกร่งกล้าถึงขอบเขตนี้…โลก
หล้ายังมีผู้ใดต่อกรมันได้!?”
…
ซึ่บ!
ทันใดนั้น เจตกระบี่เต็มไปด้วยพลังอ้านาจอันไร้ขอบเขตพุ่ง
ทะลวงความว่างเปล่ามาฉับไว! เจตกระบี่นี้ยังมีสภาวะเกรี้ยว
กราดรุนแรงนัก เกรงว่าต่อให้เป็นตัวตนที่ทรงพลัง ก็ยังต้องถูก
ผลกระทบจากรัศมีพลังของเขตกระบี่ที่ก้าจายออกไม่น้อย!!
เจตกระบี่คมกล้าหาใดเปรียบ สภาวะประหนึ่งสับสะบั้นได้ทุก
สรรพสิ่ง! ต่อให้พวกมันจะเป็นเทพสวรรค์อมตะ 9 ชั้นฟ้าก็มิ
อาจท้าอะไรได้เลย!!
ตอนนี้สีหน้าสุดยอดอัจฉริยะทั้งหลายซีดเซียวลงอย่างน่ากลัว
ทั้งใบหน้าพวกมันยังเผยความผิดหวังออกมาสุดแสน เพียง
หนึ่งเจตกระบี่ที่ปลดปล่อยออกครั้งนี้ มากพอที่จะดับสิ้นแล้วซึ่ง
ความหวังจะได้รับบัลลังก์เทพนิรันดร์ทั้งมวลของพวกมัน…
สุดท้ายก็ไร้ผู้ใดรับไปได้!
หนึ่งร่างนั่นตั้งแต่เริ่มจนปลดปล่อยเจตพลังกระบี่แกร่งกล้า
ออกมา มันใช้เวลาเพียงแค่ หนึ่งส่วนพันวินาทีเท่านั้น เจต
กระบี่พุ่งทะลวงข้ามผ่านกาลอวกาศมาฉับไว ใกล้บรรลุ!!
“พวกโง่นั่นตกตายแน่แล้ว”
ผลลัพธ์ที่จะบังเกิดขึ้นกับหลวงพ่อศากยะและหลินฟ่านนั้น
เป็นอะไรที่ทุกผู้คนล้วนเดาได้ ด้วยอ้านาจพลังระดับนี้ คิดจะ
ทานรับป้องกัน? ท่านฝันไปเถอะ! นี่คือพลังอ้านาจที่อยู่เหนือ
สรรพสิ่ง!!
ทว่าตอนนี้เองหลินฟ่านพลันยกมือขึ้นมาอย่างไร้เรื่องราว จี้นิ้ว
ออก 2 นิ้ว ค่อยวาดเบาๆจากบนลงร่างอย่างเรียบง่าย! แต่
ทันใดนั้นเอง…บางสิ่งที่ท้าให้ทุกผู้คนตื่นตระหนกพลันอุบัติ!!
เจตกระบี่อันน่าเกรงขามทรงพลังเหนือชั้นนั่น กลับสลาย
หายไปในพริบตา! ส่วนร่างตัวตนที่ทรงพลังที่คอยปกป้อง
บัลลังก์เทพนิรันดร์ก็ถูกผ่าจากกลางกระหม่อม จนร่างแยกเป็น
2 เสี่ยงอย่างหมดจด…!
สุดท้ายมันก็สลายหายไปในอากาศดั่งหมอกควัน…
ผู้คนต่างสับสนงุนงง ลมหายใจยิ่งมายิ่งหอบถี่ระรัวเร่งร้อน…
เรื่องราวเบื้องหน้าที่พวกมันพบเห็นเหลือเชื่อเกินไป!
“อ่ะ หัวโล้น”
“อามีทัวฝัว! มา!!” หลวงพ่อศากยะเป็นปลื้มกับพลังฝีมือของ
หลินฟ่านอย่างแท้จริง นี่คืออันใดที่โคตรท้าทายสวรรค์นัก!
หลินฟ่านพุ่งมือกางนิ้วทั้ง 5 ค่อยคว้าจับอากาศ ก่อเกิดเป็น
หัตถ์พลังไร้สภาพหยิบยกบัลลังก์เทพนิรันดร์ขึ้นไปลอยล่องอยู่
เหนือศีรษะหลวงพ่อศากยะ
“เจ้าทะลวงด่านเลยแล้วกัน” หลินฟ่านกล่าวออกมาเบาๆ
ด้วยมีบัลลังก์เทพนิรันดร์ หลวงพ่อศากยะย่อมยกระดับได้แน่
ตูมมมม!!
ทันทีที่บัลลังก์เทพนิรันดร์ประทับเข้าร่างหลวงพ่อศากยะ ร่าง
ของมันก็เริ่มสั่นสะท้านไปทั่วกาย รัศมีธรรมแห่งเผ่าพุทธะเปล่ง
ออกเจิดจ้า นี่คือสัญญาณที่ส่อถึงการยกระดับของมัน!!
จังหวะนี้หลวงพ่อศากยะรู้สึกเหมือนทั้งร่างของมันเอ่อล้นไป
ด้วยพลังอ้านาจอันไร้ขอบเขต ประหนึ่งภูเขาไฟที่ไม่อาจสะกด
อดกลั้นได้สืบไป มันก้าลังจะปะทุระเบิดระเบ้อออกจากร่าง!!
ส้าหรับหลินฟ่านเองตอนนี้ก็แผ่ส้านึกสติตรวจสอบไปยังความ
ว่างเปล่าทั่วอาณาบริเวณ เมื่อครู่เขารู้สึกว่ามีคนก้าลังคอยจับ
ตามองเรื่องราวจากที่ไหนสักแห่ง! อีกฝ่ายคล้ายแอบซ่อนอยู่ใน
ส่วนลึกของช่องว่าง! และวินาทีที่เขาคว้าบัลลังก์เทพนิรันดร์
คล้ายมันจะหัวร้อนหนักข้อ ถึงกับระเบิดอารมณ์ออกมาทันที!!
ทว่าในเศษเสี้ยวพริบตาโทสะอารมณ์ทั้งมวลก็สลายหายไปดั่ง
อากาศธาตุ ทั้งร่องรอยของตัวตนดังกล่าวก็เช่นกัน…แต่เขารู้ดี
ตอนนี้มันก้าลังมองเขาอยู่!
หลินฟ่านแสยะยิ้มออกมา ดูเหมือนมีใครสักคนก้าลังละเล่น
อะไรสักอย่างและคอยบงการอยู่หลังฉาก แต่อย่างไรเสียผู้ที่มี
ความอดทน เท่านี้ยังไม่พอกระชากตัวมันออกมา!!
ทว่าสิ่งหนึ่งที่หลินฟ่านไม่เคยรู้เลยก็คือ…ยังมีดวงตาอีกคู่ที่เต็ม
ไปด้วยความเคียดแค้นอย่างถึงขีดสุดก้าลังถลึงมองเขาจาก
ส่วนลึกของความว่างเปล่า
“หลินฟ่าน…เจ้ารอก่อนเถอะ!”
…
“อา! หลวงจีนนั่นปลูกฝังบัลลังก์เทพนิรันดร์ไปแล้ว…
ง่ายดาย…ถึงเพียงนั้น”
“บัดซบ! ไถ่ถามโลกหล้าเจ้านั่นที่แท้เป็นผู้ใดกันแน่!? มิคิดเลย
ว่าบัลลังก์เทพนิรันดร์นั่นมันจักมิได้ใช้เอง หากแต่หยิบฉวยให้
สหายหลวงจีนหัวโล้นเช่นนั้น! นี่…!!”
“ไฉนถึงได้มีเรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้นได้…แล้วที่พวกเราอุตส่าดั้นด้น
มากว่าหมื่นพันแสนลี้ มันเพื่ออันใดกัน? เพื่อมาแล้วกลับอย่าง
สูญเปล่าหรือ!?”
“แม้จักมีบัลลังก์เทพนิรันดร์มากมายในโลกหล้า แต่หามีผู้ใด
ไขว่คว้าได้โดยง่ายไม่…วันนี้เป็นพวกเราที่เกือบคว้ามันได้แล้ว
แท้ๆ! แล้วนี่เมื่อไหร่พวกเราจักคว้ามันมาได้กัน!?” (53380)
ตอนนี้ไฟแห่งความขุ่นขึ้งลุกโชนขึ้นในใจ ทั้งหลายไม่อาจ
ยอมรับ! อนิจจาพวกมันก็มิอาจไม่ยอมรับ เพราะตัวตนที่
สามารถสังหารเทพนิรันดร์ได้ประหนึ่งฆ่าไก่ ไม่ใช่ตัวตนที่พวก
มันจะล่วงเกินได้เด็ดขาด…
พวกมทันท้าได้เพียงกล้้ากลืนรสขมฝาดและความขุ่นเคือง
ทั้งหลายลงคอ เก็บไว้แต่เพียงในใจไม่อาจเผยออก…
ตอนนี้เองรัศมีธรรมยิ่งมายิ่งสาดส่องเจิดจ้าออกจากร่างหลวง
พ่อศากยะ! โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังอ้านาจของแสงพิสุทธิ์ช้าระ
ล้างแห่งองค์สัมมาสัมพุทธะเจ้าที่อยู่ในร่างของหลวงพ่อศากยะ
มันก้าลังยกระดับพัฒนาไปสู่ขอบเขตความไม่แน่นอนอันไม่รู้
จบ
“คนบาป!!”
ทันใดนั้นความว่างเปล่าเหนือฟ้าสะเทือนเลือนลั่น พลังอ้านาจ
เหนือชั้นเต็มไปด้วยสภาวะสะกดข่มปกคลุมมาประหนึ่งจะ
กวาดท้าลายโลกหล้า
เมื่อหลินฟ่านสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังดังกล่าว สีหน้าของเขาก็
เปลี่ยนไปทันใด
“ถุยชีวิต..!”
TSS ตอนที่ 894 : 3 ตัวตนสูงสุดมัดรวมกันมา…
เสียงบทสวดพระธรรมกังวาลกึกก้องไปทั้งแดนดินประหนึ่ง
สาเนียงสวรรค์ บนผืนฟ้าทาทับไปด้วยรัศมีธรรมสีทองอร่าม
เรืองรอง คลื่นพลังอันนาพาความสุขสงบราวกับจะชักชวนให้
ทั้งหลายทั้งปวกเดินทางสายกลางกาจายไปทั่วอาณาบริเวณ
อาสนะดอกบัวสีทองเข้มผุดโผล่ขึ้นมาจากความว่างเปล่า
เหนือขึ้นไปบนนั้นหาใช่ใดอื่นนอกจากร่างของบรรพบุรุษ
พุทธะ!
ตอนนี้ท่วงท่าและอากัปรกิริยาที่บรรพบุรุษพุทธะแสดงออกมา
ช่างสง่างามน่าเกรงขามนัก! แม้ผู้ที่ชมมองจะมิอาจบอกได้ว่ามี
ใดผิดแปลกไปในท่าทีของอีกฝ่าย แต่ตอนนี้ที่แท้ภายในใจของ
มันกลับเต็มไปด้วยโทสะแค้นอันเดือดดาลไร้สิ้นสุด!!
คนเรานั้นหากคิดจะล้างแค้นจริงๆ แค่ค่าคืนเดียวยังแทบรอ
ไม่ได้! ยังจะนับประสาอะไรกับตัวตนที่ทรงพลังดั่งบรรพบุรุษ
พุทธะ! มันยังจะทานทนรับได้หรือที่มันต้องมาเสียท่ามนุษย์
กระจ้อยดั่งมดปลวก?!
“หัวโล้นเจ้าอีกแล้ว!” ใจหลินฟ่านกระตุกไปวูบหนึ่ง เขาบังเกิด
สังหรณ์ประหลาดกับเรื่องราวไม่น้อย
ตอนนี้เองทางด้านของหลวงพ่อศากยะที่ตัดผ่านไปยังด่านพลัง
ขอบเขตเทพนิรันดร์ก็ได้ลืมตาตื่นขึ้นมา วูบแรกแววตาก็เต็มไป
ด้วยความมั่นใจประหนึ่งตัวข้านี้เอกอุในโลกหล้า ทว่าพอได้
เห็นว่าเป็นผู้ใดที่พึ่งมาถึง ใจของมันก็สั่นไหวระรัวเต้นไปไม่เป็น
จังหวะ!
ชิคกี้เองตอนนี้ก็กระเถิบดึ๊บๆ มาอยู่ด้านหลังของหลินฟ่านอ
ย่างรู้งาน มันลอบมองบรรพบุรุษพุทธะจากช่องลอดหว่างขา
หลินฟ่าน สายตาเล็กๆแฝงเล่ห์ประหนึ่งโจรน้อยของชิคกี้ ยาม
นี้ยังเผยความประหวั่นไม่น้อย สาหรับมันแล้วตัวตนนั่นทรง
พลังเกินไป!
“รุ่นเยาว์คารวะ บรรพบุรุษพุทธะ”
เมื่อเหล่าราชาสวรรค์ของเผ่าพันธุ์ต่างๆได้เห็นผู้มาใหม่ พวก
มันก็ตื่นตระหนกกันไม่น้อย พวกมันคาดไม่ถึงจริงๆว่าตัวตนที่
ทรงพลังสูงสุดของเผ่าพันธุ์พุทธะจะมาเองแบบนี้!
เมื่อบรรพบุรุษพุทธะเห็นคนของชนเผ่าอื่นๆทักทาย มันก็หันไป
เหลือบมองพร้อมกล่าว “อามีทัวฝัว”
สาหรับบรรพบุรุษพุทธะแล้ว รุ่นเยาว์เหล่านี้ไม่ได้นับเป็นตัว
อะไรในสายตาของมันสักเพียงนิด แต่มันก็ไม่อาจเมินเฉย
มองข้ามเหล่าตัวตนสูงสุดอันทรงพลังที่คุมเผ่าพันธุ์ของ
ทั้งหลายได้! และที่สาคัญ…สาหรับบรรพบุรุษพุทธะแล้ว เรื่องที่
มันชมชอบกระทาที่สุดก็คือ การชาระเหล่ารุ่นเยาว์ของเผ่าพันธุ์
อื่นให้บริสุทธิ์ผ่องใส และเปลี่ยนพวกมันให้กลับกลายเป็นคน
ของชนเผ่าพุทธะ!!
“หัวโล้น นี่เจ้าจะมาทาไมอีกหา หรือเจ้ารู้สึกว่าการลงโทษ
เบาะๆที่ข้าประมุขผู้นี้จัดให้ยังไม่พอ?” หลินฟ่านไม่สะทก
สะท้านอะไร เพียงกล่าวถามออกมาเสียงดัง
หากแต่ 1 ประโยคถามไถ่ของหลินฟ่านนี้ ทาให้เหล่าผู้คนของ
ร้อยพันชนเผ่ารอบๆถึงกับสะดุ้งโหยง ใครจะไปคิดฝันว่าไอ
หนุ่มผู้นั้นจะกล้าโอหังเช่นนี้! บ้าไปแล้ว! ท่านผู้นั้นคือบรรพ
บุรุษพุทธะที่ทรงพลังที่สุดในเผ่าพันธุ์พุทธะนะ!!
“อามีทัวฝัว…” บรรพบุรุษพุทธะเพียงกล่าวคาสวดของมัน
ออกมาอย่างไร้สุขทุกข์อะไร แน่นอนว่าต่อหน้ารุ่นเยาว์
ทั้งหลายมากมายแบบนี้มันไม่มีทางหลุดมาดหรือเสียหน้า
เด็ดขาด “โยมทั้งหลาย เร่งรุดจากไปก่อนเถิด…”
ทันทีที่บรรพบุรุษพุทธะกล่าวคานี้ เหล่าราชาสวรรค์ทั้งหลายที่
พลาดบัลลังก์เทพนิรันดร์ก็เผยท่าทีฮึดฮัดขัดใจกับคาของบรรพ
บุรุษพุทธะออกมา อนิจจามันไม่อาจไม่ทาตามคาสั่งได้ เช่นนั้น
แล้วจึงทาได้เพียงหันไปถลึงตามองหลินฟ่านกับหลวงพ่อ
ศากยะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะจมหายไปในความว่างเปล่า
ลาจากสถานที่แห่งนี้ไป
และเมื่อฝูงชนจากไปหมดสิ้นแล้ว สีหน้าเปี่ยมเมตตาอารีย์ของ
บรรพบุรุษพุทธะก็เริ่มมืดคล้าลงทันใด “คนบาป…วันนี้อาตมา
บรรพบุรุษพุทธะ จักสยบเจ้า!!”
“ฮ่าๆๆๆ!!” หลินฟ่านระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น จากนั้น
ค่อยกล่าวค่อนแคะออกมาอย่างดูแคลน “อาศัยเจ้าเนี่ยนะ?
เฮ่อ….ข้าประมุขละสงสัยจัง ว่าเมื่อวานใครกันน้อ ที่มันวิ่งหนี
ข้าประมุขยั้งหมาเลย…”
“เจ้าจาใส่กะโหลกของเจ้าไว้เถอะ…ถ้าครั้งที่แล้วเจ้าต้องวิ่งยั้ง
หมา วันนี้ข้าประมุขก็จะทุบตีเจ้าให้วิ่งยั้งหมาอีกครั้ง!!”
หลินฟ่านกล่าวออกมา
“ประสพลูกพี่…มั่นใจมากหรือ?” หลวงพ่อศากยะถามออกมา
อย่างกล้าๆกลัวๆเพราะตอนนี้มันไม่กล้ามั่นใจอะไรมากไป
“เงียบไปเลยหัวโล้น ไปดูเงียบๆตรงนู้นไป!” หลินฟ่านกล่าว
ตอบด้วยใบหน้าเข้มขึง เพราะตอนนี้เขาเองก็สัมผัสได้ถึง
สังหรณ์อันตรายพิกล นี่เป็นความรู้สึกที่ลึกลับยากจะกล่าวนัก
“บรรพบุรุษพุทธะ…นี่น่ะหรือมนุษย์ที่เจ้าว่า พลังฝีมือของมันก็
งั้นๆ หาได้แข็งแกร่งอันใด…”
“มนุษย์กระจ้อยร่อยดั่งมดปลวกเอย…มิคิดเลยว่าอาศัยเจ้ากลับ
ขู่ขวัญบรรพบุรษุ พุทธะ ถึงขั้นต้องเรียกพวกเรามาเช่นนี้ได้ ดู
ท่าแล้วเจ้าคงมีดีสักท่าสองท่าใช่หรือไม่…?”
ทันใดนั้นเองน้าเสียงทรงอานาจแฝงเผด็จการพลันดังขึ้นจาก
ความว่างเปล่า
และทันทีที่หลินฟ่านได้ยินเสียงทั้ง 2 นั่นร่างของเขาก็สั่นขึ้นมา
ทันใด สองตาทอประกายรุนแรง…เป็นอย่างที่เขาคิดไม่มีผิด! ไอ
บรรพบุรุษพุทธะนั่นมันไปหากาลังเสริมมา!!
ครืนนนน!!
ความว่างเปล่าสะท้านสะเทือน ทันใดนั้นเองสายธารดารา
ประหนึ่งทางช้างเผือกพลันผุดโผล่ออกมาจากความว่างเปล่า
และเมื่อทางช้างเผือกนั่นควบรวมหดตัวบีบอัด ก็เผยร่างมหึมา
ร่างหนึ่งตระงานท่ามกลางสวรรค์และโลก
พร้อมกันนั้นเองอยู่ๆประหนึ่งโลกหล้าทั้งใบคล้ายถูกม่าน
รัตติกาลคลี่ทับ เส้นทางความมืดอันไร้สิ้นสุดแผ่มาปานจะกลืน
กินทุกสรรพสิ่งที่ขัดขวางเส้นทาง ปรากฏร่างชายหนุ่มผู้หนึ่ง
ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความชั่วร้าย ใช้สองมือไพร่หลังเหิน
ลอยมาตามเส้นทางแห่งความมืดดังกล่าว สองตาจับจ้องมอง
หลินฟ่านปานเหลือบแลมดปลวก
“เชี่ยแล้วไง…! “
เมื่อหลินฟ่านเห็นใครก็ไม่รู้อยู่ดีๆกลับเสนอหน้ามาถึง 2 เขาก็
อึ้งไปอย่างแท้จริง ชิบหาย! นี่พวกมันคิดบีบคั้นให้พี่ประมุขจน
ตรอกรึไง?
บ้าเอ๊ย! มาขนาดนี้ พวกมันไม่คิดเหลือทางรอดให้ชาวบ้านเค้า
บ้างรึไงกัน?!
“จักรพรรดิทั้ง 2 พวกเจ้ามาแล้ว…” เมื่อบรรพบุรุษพุทธะเห็น
ทั้งคู่ปรากฏตัวก็เอ่ยทักอย่างเฉยเมย
“ย่อมมาเป็นแน่! ในเมื่อพวกเราเห็นด้วยกับเจ้าแล้ว ไฉนจักมิ
มา? แต่จะอย่างไรเสียมนุษย์นี่..มิใช่ว่าอ่อนแอไปหน่อยหรือไร?
ด่านพลังของมันสมควรอยู่ที่ผู้เป็นสุดยอดเท่านั้น! นับว่าเป็น
อันใดที่พวกเราจัดการได้ง่ายดายยิ่งเผลอๆง่ายดายมิต่างพลิก
ฝ่ามือด้วยซ้าไป…นี่เจ้าไปแพ้พ่ายด้วยน้ามือของมันมาจริงๆ
หรือ?” บรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์ดารากล่าวออกด้วยน้าเสียง
ขบขัน จากนั้นมันก็ลองมองสารวจหลินฟ่านอีกรอบตั้งแต่หัว
จรดเท้า ทว่ามันกลับไม่อาจบอกได้เลยว่าบุรุษหนุ่มเบื้องหน้ามี
อะไรพิเศษ
แต่จะอย่างไรเสียความจริงที่ว่า…มนุษย์อย่างอีกฝ่าย กลับ
บรรพลุด่านพลังผู้เป็นสุดยอดได้ นี่นับเป็นอะไรที่ทาให้บรรพ
บุรุษแห่งเผ่าพันธุ์ดาราบังเกิดความอยากรู้อยากเห็นนัก
“ยังจะเสียเวลากล่าวอันใดกับมนุษย์ดั่งมดปลวกนี่อีก ฆ่ามัน
เสีย!” เสียงเย็นชาของบรรพบุรุษปีศาจราตรีดังขึ้น
สาหรับตัวตนระดับหลินฟ่าน มันย่อมไม่เห็นอยู่ในสายตาแม้แต่
น้อย
ตอนนี้หัวหลินฟ่านปวดตั๊บๆจนแทบจะระเบิดอยู่รอมร่อ เรื่องนี้
ยิ่งมากลับยิ่งเลวร้ายเกินกว่าที่จินตนาการเขาจะนึกภาพออก
ได้! เขาไม่คิดเลยว่าบรรพบุรุษพุทธะนี่มันจะไล่ล่าเขาอย่างไม่
ลดละ แถมไม่คิดจะเปิดโอกาสให้เขาเลย!!
และที่เหนือคาดหลินฟ่านที่สุดก็คือ ไอบรรพบุรุษพุทธะบัดซบ
นี่…มันถึงไปตามพวกมาอีก 2! โคตรมารดามันเถอะ หน้าไม่
อายขั้นสุด!!
ที่สาคัญคือทั้ง 2 นั่นทะลึงเป็นตัวตนสูงสุดของแต่ละเผ่าพันธุ์ไป
อีก! ลาพังแค่ตัวตนระดับนี้มาเดี่ยวกันตัวๆ เขาก็ยังไม่ค่อย
มั่นใจเท่าไรว่าจะฆ่าพวกมันได้ ทว่าตอนนี้พวกมันกลับมาถึง 3!
หากต้องปะทะแตกหักกันจริงวันนี้เขาไม่ถูกตีเป็นสุนัขป่วยหรือ
ไร!?
“ประสพลูกพี่…คราวนี้พวกเราเอาอย่างไรดี?” หลวงพ่อศากยะ
ที่เห็นผู้มาใหม่ทั้ง 2 ที่คล้ายจะเป็นกาลังเสริมของบรรพบุรุษ
พุทธะ ก็สัมผัสได้ถึงพลังอานาจอันมหาศาลปานจะไร้ก้นบึ้ง
แน่นอนว่าใจมันรู้ดีว่าทั้งคู่หาได้ธรรมดาไม่!!
ถึงแม้ประสพหลินจะฝีมือแกร่งกล้า แต่หากถูกกลุ้มรุมเช่นนี้ยัง
นับเป็นคู่มืออีกฝ่ายได้? เรื่องราวมันต่างออกไปใหญ่หลวงแล้ว!!
“พวกล่อแห่กันมาซะขนาดนี้ ยังจะทามะเขือไรได้อีกล่ะ! เผ่น
สิวะ!!”
ไม่รอช้ามือสะบัด จิตคิด แท่นบูชายัญเซียนโบราณพลันถูก
หลินฟ่านเปิดใช้งานทันใด! พลังอานาจแห่งห้วงมิติอบอวล คน
คิดอันตรธานหลีกหนี!!
“หึหึ มนุษย์ดั่งมดปลวกกระจ้อยร่อยไร้ราคาเอย เจ้ายังกล้าคิด
ว่าสามารถหลบหนีต่อหน้าข้าบรรพบุรุษแห่งเผ่าพันธุ์ดาราผู้นี้
ได้หรือ? ช่างน่าขันนัก!” บรรพบุรุษดาราเผยยิ้มเรียบๆออกมา
นิ้วมือของมันพุ่งทะลวงความว่างเปล่าเบื้องหน้า ก่อนจะคว้า
หลินฟ่าน ทั้งกระชากให้หลุดออกจากอุโมงค์มิติทันที!
“แต่ก็นับว่าลึกลับมิเบา…มิคิดเลยจริงๆ ว่าอย่างเจ้ากลับมี
ความสามารถเชื่อมต่อกับเส้นทางของโลกไร้จากัดได้…แต่น่า
เสียดายที่วันนี้ เจ้ามิมีโอกาสหนีไปที่ใดได้!” บรรพบุรุษแห่ง
เผ่าพันธุ์ดาราหัวเราะเยาะออกมาดังลั่น
สีหน้าท่าทางหลินฟ่านเปลี่ยนไปในฉับพลัน เขาไม่คิดไม่ฝันว่า
กระทั่งพลังอานาจเคลื่อนย้ายทะลุมิติของแท่นบูชายัญเซียน
โบราณยังไม่อาจพาเขาหนีไปได้! กระทั่งยังถูกพวกมันจับ
กลับมาได้ดื้อๆแบบนี้อีก!!
นี่นับเป็นสถานการณ์ที่หลินฟ่านไม่เคยคิดคาดจินตนาการมา
ก่อนเลย…
“คิดหลบหนีไปต่อหน้าต่อตาพวกเราหรือ…นั่นช่างเป็นฝัน
ละเมอของตัวโง่งมอย่างที่มิต้องสงสัยเลย” บรรพบุรุษพุทธะ
กล่าวออกมาด้วยน้าเสียงน่ากลัว
สาหรับเรื่องที่ตัวตนสูงสุดอย่างพวกมันทั้ง 3 กลับต้องมากลุ้ม
รุมสังหาร ผู้เป็นสุดยอดแค่ 1 คนนั้น… ก็เป็นเรื่องที่ว่า…หาก
พูดออกไปคงได้กลายเป็นตัวตลกที่สุดในห้วงจักรวาลอย่างไม่
ต้องสงสัยเลย!!
“ยังจะเสียเวลาคุยกับมดปลวกทาอันใด” ทันใดนั้นบรรพบุรุษ
ปีศาจราตรีพลันลงมือก่อนผู้ใด หนึ่งฝ่ามือของมันตบฟาด
ออกมาอย่างไร้ร่องรอย พลังอานาจประหนึ่งจุดจบของสรรพ
สิ่งพลันกวาดซัดออกมา….แม้มันจะเป็นแค่หนึ่งฝ่ามือที่ตบฟาด
ออกมาอย่างไร้เรื่องราว แต่นับเป็นอะไรที่ไร้เทียมทานใน
สายตาหลินฟ่าน!!
“จงมอดไหม้!!”
หลินฟ่านหน้าเครียด คนไร้ลังเลอะไรสืบไป ผลาญเผาโอสถเจิ้ง
หยางพร้อมดูดซับพลังบริสุทธิ์! ก่อนที่จะควบรวมมวลพลังยิง
หมัดสวนไปยังพลังฝ่ามือที่กวาดซัดมาทันใด!
ปงงงงงงงงงง!!!!
หนึ่งหมัดหนึ่งฝ่ามือปะทะ อานาจพลังมหาศาลปะทุระเบิด
ออก!!
อั๊ค!!
ร่างหลินฟ่านปลิวกระเด็นถอยไปหลายก้าวค่อยฝืนร่างให้หยุด
ยืนหยัดได้ สองตาเผยประกายดุร้ายจับจ้องมองผู้ลงมือเขม็ง
เขาไม่คิดเลยว่าตัวตนทรงพลังระดับพวกมันจะเป็นอะไรที่ชวน
ให้ปวดจิตนัก! กับอีแค่หนึ่งฝ่ามือที่อีกฝ่ายซัดออกอย่างไร้
เรื่องราว กลับเปี่ยมล้นไปด้วยพลังมหาศาลถึงขั้นนี้! กระทั่งเขา
ผลาญเผาโอสถเจิ้งหยางไปแล้วยังไม่อาจต้านทานรับไหว!!
“หืม? น่าสนใจดีนี่” เมื่อบรรพบุรุษปีศาจราตรีเห็นว่าอีกฝ่าย
ต้านทานพลังฝ่ามือของตัวได้ ก็แสยะยิ้มมุมปาก เอ่ยคาออกมา
ส่วนด้านหลินฟ่านนั้นโกรธเกินใจจะอดทน ‘ถล่มรังไข่มารดา
มันเถอะ!!’ (53380)
‘ติ๊ง!! .. ความประทับใจต่อเผ่าพันธุ์ปีศาจราตรีลดลงกลายเป็น
รังเกียจ’
‘ติ๊ง!! .. ความประทับใจต่อเผ่าพันธุ์ดาราลดลงกลายเป็น
รังเกียจ’
…
ไอเรื่องที่ความประทับใจของสองเผ่าพันธุ์จะลดลงหลินฟ่านก็
คาดไว้แต่แรกแล้ว…
“กุ๊กกู!”
เมื่อเห็นหลินฟ่านกระอักโลหิต ชิคกี้พลันโดดมาเกาะไหล่หลิน
ฟ่านทันที! ตอนนี้ใจของมันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดนัก! มัน
หันมองไปยังตัวตนทรงพลังทั้ง 3 เบื้องหน้าก่อนจะตีปีกพั่บๆ!!
“ไอพวกสารเลวบัดซบ..ใต้เท้าชิคกี้ผู้นี้จะไปจิกพวกเจ้าให้
ตาย!!”
“ชิคกี้อย่าห้าว! ถอยไปก่อนเร็วเข้า!!” หลินฟ่านไม่กล้ารอช้า
รีบสะบัดมือส่งเจ้าชิคกี้ไปอยู่ในอ้อมกอดของหลวงพ่อศากยะที่
แอบอยู่ด้านหลังทันที ตอนนี้ใจเขาร้อนรุ่มคิดหาหนทางจน
หัวปั่น สถานการณ์นับว่าเป็นอะไรที่อันตรายและสุ่มเสี่ยงระดับ
9 ตาย 1 รอดอย่างแท้จริง แต่อย่างไรเสียเขาต้องหาทางฝ่าฟัน
มันไปให้ได้!
TSS ตอนที่ 895 : การดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง…ครั้งสุดท้าย!
ตอนแรกมันก็เป็นงานเลี้ยงฉลองธรรมดา หากทว่าเมื่อหลิน
ฟ่านหยิบผลไม้ทั้ง 2 ชนิดนี้ออกมา เผ่าพันธุ์ลิงทั้งหลายดั่งได้
เบิกเนตร มองเห็นโลกหล้าเป็นครั้งแรก! ตอนนี้มือของพวกมัน
ไม่อาจหยุดยั้งได้! ให้ตายเถอะ ไม่ว่าจะกล้วยหรือลูกท้อ มันจะ
อร่อยเหาะเกินไปแล้ว!!
ราวกับ 2 สิ่งนี้มันคือโอชารสที่สวรรค์สรรค์สร้างมาให้เผ่าพันธุ์
ลิงของพวกมันโดยเฉพาะ!!
แต่ช่างน่าเสียดายนัก ที่พวกมันไม่ได้พบพาน 2 สิ่งวิเศษนี้ก่อน
หน้า! หากพวกมันด้ารงชีวิตมาด้วยความอร่อยล้้านี่แต่แรก
ชีวิตพวกมันจะสุขีปานใดกันหนอ…!!
“ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน…”
ทันใดนั้นเองบังเกิดเสียงเล็กแหลมของอิสตรีดังขึ้น เมื่อหลิน
ฟ่านหันไปชมมองเขาก็ตระหนักได้ว่า สมควรเป็นสาวๆของพี่
ลิงเค้า…
เมื่อผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินเห็นร่างเหล่าวานรเพศเมียแสน
สวยงามเดินมาหา ประกายตามันก็สว่างไสวแย้มยิ้มออกมา
อย่างยินดี มันลุกเดินไปต้อนรับโฉมงามของมันทันใด…ทว่าวูบ
ต่อมาความยินดีทั้งหลายคล้ายถูกความโศกเศร้าเบียดแทรกจน
ตกขอบ ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินยังระบายลมหายใจออกมาอย่าง
สะทกสะท้อน แผ่นหลังคล้ายแฝงความเหงาบางประการ
วินาทีที่หลินฟ่านเห็นภาพนี้ ใจเขาก็อึ้งไปทันใด…หรือผู้ยิ่งใหญ่
เสมอฟ้าดินมีปัญหาหนักใจอะไรกัน?
และทันใดนั้นเองเสียงตัวตนทรงพลังเผ่าพันธุ์ลิงที่ก้าลังหม่้า
กล้วยแก้มตุ่ยข้างๆหลินฟ่านก็ดังขึ้น
“ฮัยยา…มันก็ผ่านไปหลายปีแล้ว แต่ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินยังมิมี
ทายาทเสียที เรื่องนี้ช่างน่าเป็นห่วงนัก เจี๊ยก~”
“เฮ่อ…! ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินกล่าวเองว่า ตัวไร้สามารถมิอาจ
ร่วมหอกับพวกนางได้…เรื่องนี้พวกเราเองก็มิอาจกระท้าสิ่งใด
ได้”
ทันทีที่หลินฟ่านได้ยินบทสนทนาดังกล่าว เขาก็คล้ายฉุกคิด
อะไรได้
หลายปีแล้ว…ไม่อาจร่วมหอ?
เรื่องนี้อาจเพราะมีปัญหาใหญ่หลวงในครอบครัว เว้นเสียแต่
ว่า…?
ทันใดนั้นประเด็นแรกที่หลินฟ่านนึกถึงก็คือ เรื่องที่น่าพรั่นพรึง
นัก! หรือว่าสิ่งนั้นของผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน…มันจะ…มันจะ…!!
เจ้าชิคกี้ที่ก้าลังกินอาหารอย่างดุเดือด บังเอิญเงยหน้าขึ้นมา
มองเห็นหน้าแหยของหลินฟ่านเข้าพอดี มันผงะไปเล็กน้อย
สุดท้ายก็ส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะก้มลงไปจัดการอาหารแสน
อร่อย เติมเต็มท้องที่หิวโหยต่ออย่างสบายใจ
รอบกายผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินยามนี้แม้จะมีโฉมงามห้อมล้อม
ป้อนผลไม้ แม้มันจะปั้นยิ้มหยอกล้อนางทั้งหลาย คล้าย
พยายามมีอารมณ์ร่วมเต็มที่ แต่มันก็ยังมิวายระบายลมหายใจ
ออกมาบ่อยครั้ง กระทั่งผลไม้แสนอร่อยทั้ง 2 ชนิดยังไม่อาจ
ปลอบประโลมใจมันได้…
และถึงแม้ว่าหลินฟ่านจะเห็นว่าผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินพยายาม
ท้าสีหน้าให้เป็นปกติถึงเพียงใด แต่เขาบอกได้เลยว่าในใจอีก
ฝ่ายนั้นทุกข์ระทมขื่นขมนัก เพราะสุดท้ายแล้วเขาเองก็เป็น
ผู้ชาย อย่างหลินฟ่านจะไม่เข้าใจความเจ็บปวดของผู้ชายได้
ยังไง!!
ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกที่กล้ายอมรับออกมาตรงๆหรอกว่าไม่
สามารถท้าได้ ทว่าผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินกลับสามารถกล้ากล่าว
ออกมากับพวกนางตรงๆอย่างกล้าหาญ ว่ามันท้าไม่ได้…!
ตอนนี้เองหลินฟ่านที่มองต่อไปไม่ไหว ถึงกับต้องลุกขึ้นยืน! “ผู้
ยิง่ ใหญ่เสมอฟ้าดิน…แฮ่ม! พอดีข้ามีโอสถเทพอยู่น่ะ เจ้าเอาไป
ลองสิ” หลินฟ่านโยนโอสถให้อีกฝ่ายทันที
นี่มันก็ไม่ใช่โอสถเทพอันใดหรอก เป็นแค่โอสถที่จิตวิญญาณ
จ้าวโลกาผยองควบแน่นขึ้นมาเท่านั้น
ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินรับโอสถเม็ดนั้นมาถือไว้แล้วมองอย่าง
สงสัย มันสัมผัสได้ถึงพลังงานมหาศาลที่คุ้มคลั่งอัดแน่นอยู่ใน
โอสถเม็ดนี้ เมื่อผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินเงยหน้าขึ้นมามองหลิน
ฟ่าน หลินฟ่านก็ท้าแค่ยิ้มบางๆแล้วพยักหน้า
ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินไร้ซึ่งความลังใดๆสืบไป โยนโอสถดังกล่าว
เข้าปากทันที…
ในความเห็นของหลินฟ่านนั้น ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินเป็นตัวตนที่
ทรงพลังถึงขีดสุด เป็นตัวตนที่ยากจะมีใครต้านทานได้ เช่นนั้น
แล้วแค่โอสถจ้าวโลกาผยองธรรมดาๆ คงไม่บังเกิดผลอะไร เขา
จึงต้องท้าให้มั่นใจว่าเป็นแก่นแท้แห่งจ้าวโลกาผยองจริงๆ!!
ดังนั้นหลินฟ่านจึงควบแน่นพลังอ้านาจจ้าวโลกาผยองซ้้าแล้ว
ซ้้าเล่า บีบอัดมันให้กลั่นออกมาเป็นสุดยอดโอสถที่มีความ
เข้มข้นขั้นรุนแรง เรียกว่าหากให้คนธรรมดารับประทานยาเม็ด
นี้ล่ะก็…พวกมันอาจจะเจาะทะลวงจนทะลุโลกหล้าก็เป็นได้!
เปรี๊ยงงงง!!
ทันใดนั้นเองหมู่เมฆเหนือฟ้าพลันปั่นป่วน ร่างผู้ยิ่งใหญ่เสมอ
ฟ้าดินลุกขึ้นดั่งอัสนี ประกายตาของมันเปล่งประกายเทวะ
ออกมาอย่างน่ากลัว
ความรู้สึกนี้มัน…!
ตอนนี้เหล่าตัวตนทรงพลังของเผ่าพันธุ์ลิงต่างหันมองมายังร่าง
ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินที่ลุกขึ้นยืนขึ้นมาด้วยสายตาสงสัย ว่าเกิด
อันใดขึ้น ส่วนทางด้านผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินนั้นมันรู้สึกได้ว่า
บางส่วนของร่างกายมันก้าลังระอุคุกรุ่นขึ้นมา!
มันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าส่วนนั้นของมัน…จะบังเกิดความรู้สึก
เช่นนี้ขึ้นมาได้!!
“ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน ท่าน…!” ตัวตนทรงพลังของเผ่าพันธุ์ลิง
เริ่มตระหนักได้ว่ามีบางสิ่งแปลกไป หากเทียบกับผู้ยิ่งใหญ่
เสมอฟ้าดินในยามปกติแล้ว ยามนี้อีกฝ่ายให้ความรู้สึกและ
บรรยากาศที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
“พวกเจ้าดูแลแขกผู้มีเกียรติให้ดี!” ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินไม่อาจ
ทนรอและกล่าวใดให้มากความ หลังจากที่มันสั่งค้านี้จบ มันก็
สะบัดมือหอบหิ้วโฉมงามของมันทั้งหลายวูบหายไปในช่องว่าง
ทันที!
เหล่าตัวตนอันทรงพลังของเผ่าพันธุ์ลิงที่ชมดูภาพเรื่องราว
ถึงกับงงเต๊ก…
“เจี๊ยก~นี่มันเกิดอันใดขึ้นหรือ?”
“ไฉนข้ายังสัมผัสได้ว่ารัศมีท่านผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินกลับ
กลายเป็นลี้ลับขึ้นมา?”
“นั่นสิ เจี๊ยก~! ข้าเองก็รู้สึกเช่นกัน”
หลังจากนัน้ตัวตนทรงพลังของเผ่าพันธุ์ลิงก็อดไม่ได้ที่จะเดินมา
หาหลินฟ่านพร้อมถาม “ท่านหลินฟ่านก่อนหน้านี้ที่ท่านมอบ
ให้ท่านผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินกิน…นั่นมันโอสถอันใดหรือ”
หลินฟ่านเพียงยิ้มอ่อนๆ ก่อนที่จะแบมือออกมา ปรากฏโอสถ
เม็ดหนึ่งผุดโผล่ออกมาจากความว่างเปล่า “ของดี…พวกเจ้า
สามารถลองได้…”
ในเมื่อผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินอันเป็นนายเหนือของพวกมันกิน
โอสถของอีกฝ่ายไปแล้ว พวกมันก็ไม่แคลงใจสงสัยอะไร
หลังจากนั้นก็เป็นดั่งที่หลินฟ่านคาดไว้ไม่มีผิด สีหน้าท่าทาง
ของตัวตนทรงพลังเผ่าพันธุ์ลิงเริ่มเปลี่ยนไปทันที
“ข้าน้อยขอลาท่านหลินไปก่อน! พวกเจ้ามาดูแลท่านแขกผู้มี
เกียรติให้ดี!!”
“ข้าน้อยก็ขอลาท่านเช่นกัน! เร็วๆ พวกเจ้า รีบมาดูแลท่าน
แขกผู้มีเกียรติให้ดี!!”
…
“พวกเจ้าไปกันให้หมดนั่นล่ะ…ตามสบายเลย ข้าอยู่คนเดียว
ได้” ความแข็งแกร่งของตัวตนทรงพลังเผ่าพันธุ์ลิงไม่ได้
ใกล้เคียงกับผูย้ ิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน นอกจากนี้นี่คือจ้าวโลกา
ผยองที่บีบอัดมาจนเรียกได้ว่าเป้นแก่นแท้ ไม่มีทางที่พวกมันจะ
อดรนทนไหวไม่ให้ทะยานฟ้าได้! พวกมันไม่อาจรอช้าได้อีก
สืบไป ร่างพุ่งฉับไวจากไปพร้อมเป้าตุง!
หากพวกมันยังรอช้าลีลาไม่รีบไป เกรงว่าพวกมันคงได้เสียสติ
กันบ้าง!
ไม่นานงานเลี้ยงแสนเฮฮาก็สลาย เพราะไร้ซึ่งผู้ใดอีกนอกจาก
หลินฟ่านกับชิคกี้
ส่วนเหล่าลูกลิงน่ะหรอ? ตั้งแต่หลินฟ่านปลูกกล้วยให้ ก็เฮโล
กันไปรบพุ่งที่ดงกล้วยหมดสิ้นแล้ว…
“พี่ใหญ่…พวกมันไปไหนกันหมดแล้วอะ?” ชิคกี้ที่เงยหน้า
ขึ้นมาหลังจากกวาดเนื้อในจานจนเหี้ยนก็หันรีหันขวางด้วย
ความสงสัย
“พวกมันไปเรียนรู้ชีวิตน่ะ…” หลินฟ่านตอบ
“กุ๊ก กู? เรียนรู้ชีวิตอะไรของพวกมันกัน? ถึงขั้นไม่สนใจของ
อร่อยๆพวกนี้ได้?” ชิคกี้ส่ายหัวไปมา ก่อนที่จะก้มลงจัดการ
อาหารเลิศล้้าต่อ
ทันใดนั้นเองคล้ายโลกหล้าสั่นไหว ประหนึ่งอาณาเขตเผ่าพันธุ์
ลิงทั้งหมดบังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
“เชี่ย…พวกมันต้องรุนแรงกันขนาดนี้เลยหรอ?”
หลินฟ่านระบายลมหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ นี่เป็นอะไรที่
โคตรท้าทายสวรรค์นัก!
“อ๊าาาาาา”
“อาาาาาห์”
“เจี๊ยกกกก”
หลังจากนั้นเสียงร้องเสียงแหลมอย่างรัญจวนใจก็สนั่นลั่นไปทั่ว
อาณาเขตเผ่าพันธุ์ลิง
ช่างบัดสีบัดเถลิงนัก!
กลางวันแสกๆร้องดังแบบนี้ได้ไง เดี๋ยวก็ถูกเผ่าข้างๆแจ้ง
พฤติกรรมไม่เหมาะสมหรอก!!
ตอนนี้หลินฟ่านก็ท้าได้แค่นั่งลงหยิบเนื้อเบื้องหน้ามากิน ใจ
ของเขารู้สึกกระดากไปไม่น้อย ใครจะไปคิดกันล่ะว่าเผ่าพันธุ์ลิง
จะหน้าไม่อายแบบนี้! จะร้องดังไปไหน!!
‘ติ๊ง!!..ความประทับใจของเผ่าพันธุ์ลิงเพิ่มขึ้น : เคารพหมดใจ
(คะแนนสูงสุด)’
ทว่าเมื่อหลินฟ่านได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ เขาก็รู้สึกว่าที่
กระท้าไปมันช่างคุ้มค่านัก!!
ไม่คิดเลยว่าเพียงการลงมือแค่ 2 กระบวนของเขา กลับ
สามารถสร้างความประทับใจให้กับเผ่าพันธุ์ลิงได้อย่างมหาศาล
กระทั่งยังถึงค่าสูงสุด!
ตะวันคล้อยต่้าหม่นแสงลับลา จันทราเฉิดฉายผุดโผล่แทนที่…
หลินฟ่านกับเจ้าชิคกี้ยังคงนั่งเงียบๆ มือค่อยๆหยิบคว้าอาหาร
เลิศรสที่เตรียมมาเลี้ยงฉลองอย่างไม่รีบไม่ร้อน ปากก็กินไป หูก็
ฟังเสียงร้องและท่วงท้านองเข้าจังหวะตับๆ ราววงดนตรี
บรรเลงไปเพลินๆ
ตอนนี้คงไร้สิ่งใดให้หลินฟ่านประหลาดใจมากไปกว่านี้แล้ว…
เขาไม่คิดเลยว่าตัวตนที่ท้าทายสวรรค์อย่างผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้า
ดิน ยังมีปัญหาอันน่าพรั่นพรึงอย่างนกเขาไม่ขันได้! นี่มันน่า
เหลือเชื่อนัก!!
ทว่าตอนนี้เรื่องราวก็จบลงด้วยดีแล้ว ปัญหาน่าละอายถูก
คลี่คลาย ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินป่านนี้ก็คงลอยล่องท่องสวรรค์
ชั้น 9 ไปเรียบร้อย…
เช้าวันถัดมา….
ปึงงง!
ร่างหนึ่งวูบมาปรากฏเบื้องหน้าหลินฟ่าน!
ตอนนี้ใบหน้าผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินเปล่งปลั่งนัก สายตาที่มอง
มายังหลินฟ่านแฝงไว้ด้วยความส้านึกบุญคุณไร้สิ้นสุด!
ทันใดนั้นเองผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินยกมือขึ้นมาวางบนไหล่หลิน
ฟ่าน เอ่ยออกมา 2 ค้า
หากทว่า 2 ค้านี้อัดแน่นไปด้วยเรื่องทั้งหมด
“ขอบคุณเจ้า…”
“เอาน่า ไม่ต้องคิดมาก” หลินฟ่านสัมผัสได้ถึงมวลอารมณ์นับ
หมื่นพันที่เอ่อล้นอยู่ในค้าขอบคุณของผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินดี
เขาเพียงพยักหน้ารับเบาๆ “ข้าย่อมเข้าใจความเจ็บปวดของ
เจ้าดี…ในเมื่อปัญหาของเจ้าเองก็สะสางได้แล้ว ข้าเองก็มีเรื่อง
อยากจะรบกวนเจ้า ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน สักหน่อย…”
“ว่ามา! ให้บุกน้้าลุยไฟปีนบันใดมีดกรีดผ่าสวรรค์สะบั้นอเวจี
นรก ข้าฉีเทียนต้าเซิ่น ซุนหงอคงล้วนยินดีกระท้าไม่บ่าย
เบี่ยง!!” ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินไร้ซึ่งความลังเลอะไร เมื่อความ
ประทับใจของมันสูงสุดหลอดเช่นนี้ไม่มีอะไรที่มันจะไม่เห็น
ด้วย! (53380)
“ทุบตีข้า” หลินฟ่านกล่าว
ชิคกี้ที่ก้าลังนอนแผ่พุงด้วยอิ่มหน้าถึงกับเอี้ยวคอลุกขึ้นมาชม
มองหลินฟ่าน สองตาไก่กุ๊กของมันยังเผยประกายเหลือเชื่อ
ออกมา
‘พี่ใหญ่ของข้าใต้เท้าชิคกี้ผู้นี้…เมาเนื้อไปแล้วหรือไร?!’
“เอ๊อะ?” ผู้ยิ่งใหญ่เสอมฟ้าดินถึงกับท้าพลองที่ควงอย่างฮึก
เหิมหลุดมือ หน้ายังเหวอไปราวลิงงง มันไม่อาจเข้าใจวาจาที่
หลินฟ่านกล่าวได้
“ก็พอดีข้าฝึกวิชากายาบางอย่างอยู่น่ะ จ้าเป็นต้องได้รับการ
เคี่ยวกร้า… แต่คงต้องล้าบากเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินให้ช่วย
ปรับระดับพลังตามที่ข้าบอกหน่อยนะ” หลินฟ่านรู้สึกว่าโอกาส
ของเขามาถึงแล้ว…!
ถึงแม้ตอนนี้เขาจะไม่มีวิธีไหนที่จะยกระดับพลังฝึกตนของเขา
ให้เพิ่มขึ้น หากแต่เขาต้องกระท้าให้มั่นใจ ว่าร่างกายของเขา
จะแข็งแกร่งไร้เทียมทานไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม…!!
TSS บทที่ 902 : ไอเทมระดับตำนำน อันเหนือชั้น!
“เยี่ยม!”
“มำได้ดี!!”
ตอนนี้ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดินกำลังซัดหมัดใส่ร่ำงของหลินฟ่ำน
แต่ละหมัดล้วนบังเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น! ถึงแม้ว่ำมันจะแลดู
น่ำเกรงขำมชวนให้ครั่นคร้ำม ทว่ำนี่เป็นผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดิน
ควบคุมพลังให้ลดต่ำลงอย่ำงมหันต์แล้ว!!
เมื่อหมัดของรำชำวำนรซัดเข้ำร่ำงหลินฟ่ำนครำใด โลหิตอุ่น
ร้อนพลันกระอักทะลักออกปำกหลินฟ่ำนครำนั้น ทว่ำแม้ร่ำงจะ
โงนเงน ปำกคนจะพ่นเลือด แต่เสียงแจ้งเตือนจำกระบบก็ดังไม่
หยุดเช่นกัน..
‘ติ๊ง!! .. กำยเทพนิรันดร์ EXP+ ..’
หลังจำกที่ทำนทนรับหมัดมำแต่ละหมัด หลินฟ่ำนสัมผัสได้
ชัด…ถึงมวลพลังที่แล่นพล่ำนไปทั่วร่ำงและกำลังเสริมสร้ำง
ร่ำงกำยเขำให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น! ควำมรู้สึกนี้หลินฟ่ำนอธิบำยได้
คำเดียว ยอดเยี่ยมเกิ๊น!!
ส่วนเจ้ำชิคกี้น่ะเหรอ…ตอนนี้นั่งแหมะอยู่กับพื้นชมดูสองร่ำง
เบื้องหน้ำตำปรือ บ้ำงก็เรียกลูกลิงมำบีบนวดไปเรื่อย…
“พี่ใหญ่ถูกทุบตีอีกแล้ว…น่ำอนำถแท้ๆ”
ชิคกี้เองก็รู้สึกว่ำพี่ใหญ่ผู้นี้ของมันช่ำงพิกลนัก พี่ทั่นชอบให้
ผู้อื่นทุบตี! แถมพอถูกทุบตีแรงๆก็ชอบทำหน้ำยิ้มกริ่มให้เห็น!
ส่วนทำงด้ำนผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดินนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ
มันรู้สึกว่ำวิชำกำยำที่หลินฟ่ำนฝึกฝนเป็นอะไรที่เลิศภพจบแดน
เต็มไปด้วยควำมลี้ลับนัก!
“วิชำกำยำของเจ้ำเป็นอันใดที่ลึกล้ำยิ่งสหำยหลิน ข้ำเกรงว่ำ
ต่อให้เป็นกำยำอันลึกล้ำของ ควำฟู่ รำชำผ่ำแห่งเผ่ำพันธ์ยักษำ
เอง…ก็มิอำจเทียบเทียมเจ้ำได้ในแง่ของควำมมหัศจรรย์!” ผู้
ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดินกล่ำว
“ฮ่ำๆๆๆ! นั่นมันแหงอยู่แล้ว ในจักรวำลนี้น่ะมีข้ำคนเดียวที่
สำมำรถฝึกฝนวิชำกำยำให้ลึกล้ำได้ถึงขอบเขตนี้!” หลินฟ่ำน
หัวเรำะออกมำเบำๆ
“มำ! ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดิน จัดมำต่อ!”
“ได้!”
ตอนนี้ควำมประทับใจของเผ่ำพันธุ์ลิงที่มีต่อหลินฟ่ำนนั้นบรรลุ
ค่ำสูงสุดแล้ว ไม่ว่ำอะไรก็ตำมที่หลินฟ่ำนต้องกำร ผู้ยิ่งใหญ่
เสมอฟ้ำดินยินดีกระทำให้หลินฟ่ำนพึงใจ!
อันที่จริงก็ลืมเรื่องกล้วยกับลูกท้อไปได้เลย เอำแค่ที่หลินฟ่ำน
สำมำรถฟื้น ‘ควำมเป็นชำย’ ให้ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดินได้ มันก็
ถึงกับต้องขอบคุณหลินฟ่ำนทั้งน้ำตำไหลพรำกแล้ว!!
“ปงงงงงง!!!!”
หมัดแต่ละหมัดพุ่งแหวกอำกำศส่งเสียงระเบิดสนั่น ซัดปะทะ
อัดร่ำงหลินฟ่ำนอย่ำงจัง นำพำให้ร่ำงหลินฟ่ำนสะท้ำนไปทุก
ครั้ง! สำหรับหลินฟ่ำนแล้ว นี่คือหนทำงที่เขำต้องก้ำวเดินอย่ำง
ไร้ย่นย่อทดท้อ…หำกหวังจะพัฒนำควำมแข็งแกร่งของร่ำงกำย
ให้บรรลุควำมยิ่งใหญ่!!
‘ติ๊ง!! .. กำยเทพนิรันดร์ EXP+ ..’
วันคืนหมุนเวียนเปลี่ยนผัน คงมีแต่สวรรค์ที่รู้ว่ำมันผ่ำนไปนำน
เท่ำไรแล้ว
ทว่ำเมื่อพิจำรณำระดับพลังฝึกตนของหลินฟ่ำนกับผู้ยิ่งใหญ่
เสมอฟ้ำดินแล้วล่ะก็ ต่อให้ไม่ต้องกินไม่ต้องนอนตลอดทั้งกำล
ยุคสมัย ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิด…
ส่วนเจ้ำชิคกี้นั้น…มันเบื่อแทบตำยแล้ว! วันแล้ววันเล่ำไม่รู้ว่ำ
อีกฝ่ำยทุบตีพี่ใหญ่มันไปกี่มำกน้อย ตอนนี้มันยังอดไม่ได้ที่จะ
รู้สึกสงสำรพี่ใหญ่มันจับใจ!!
ไม่คิดเลยว่ำชีวิตพี่ใหญ่จะน่ำอนำถขนำดนี้! ขณะเดียวกันมันก็
ไม่รู้จริงๆ ว่ำไฉนพี่ใหญ่มันถึงได้ชอบถูกทุบตีนัก! หรือพี่ใหญ่
มันมีปัญหำในใจบำงประกำรที่มิอำจกล่ำว?
สำหรับเหล่ำลิงทั้งหลำยของชนเผ่ำลิง รวมถึงตัวตนทรงพลัง
นั้นพวกมันก็ตะลึงงันกันอย่ำงแท้จริงสำหรับเรื่องรำวที่เกิดขึ้น
ระหว่ำงผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดินกับมนุษย์ผู้นั้น…
ในตอนแรกพวกมันก็ไม่รู้ว่ำเกิดเรื่องรำวอะไรขึ้นกันแน่ อยู่ดีๆผู้
ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดินของพวกมันก็ลงมือทุบตีอีกฝ่ำย พวกมัน
ถึงกับต้องรีบถำมออกไปให้ไวกระทั่งยังไม่พอใจอยู่บ้ำง!
เพรำะอย่ำงไรเสียพวกมันก็รู้สึกขอบคุณและติดค้ำงมนุษย์ผู้นี้
มำก
ทว่ำพอพวกมันพบว่ำที่แท้ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดินกำลังช่วย
ฝึกฝนเคี่ยวกรำวิชำกำยำให้อีกฝ่ำย พวกมันก็เริ่มมำจับกลุ่มส่ง
เสียงเชียร์ให้กำลังใจด้ำนข้ำง..
สุดท้ำยแล้วอะไรก็ตำมที่เป็นกำรช่วยเหลือหรือตอบแทนอีก
ฝ่ำย เป็นอะไรที่พวกมันล้วนยินดีและเต็มใจกระทำนัก
“มำได้ดี! หมัดเมื่อยอดเยี่ยมยิ่ง!!”
“ฮูเร! ท่ำนผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดิน!!”
“รำชันแห่งมวลมนุษย์ผู้ถล่มมำรดำเจ้ำก็มิเบำ! ควำมแข็งแกร่ง
ของร่ำงกำยท่ำนยอดเยี่ยมยิ่ง เจี๊ยก~”
…
‘ติ๊ง!!..สถำนะควำมแข็งแกร่งท่ำงกำยภำพยกระดับ’
‘ติ๊ง!! .. กำยเทพนิรันดร์ วิวัฒน์สู่ กำยโบรำณนิรันดร์ไร้ดับสูญ’
‘ติ๊ง!!..สถำนะควำมแข็งแกร่งทำงกำยภำพ : ผู้เป็นสุดยอดขั้น
ต่ำ’
ทันทีที่เสียงแจ้งเตือนจำกระบบรอบนี้ดังขึ้นใจหลินฟ่ำนก็เต้น
รัวขึ้นมำด้วยควำมดีใจ นับว่ำฟ้ำไม่ละทิ้งคนเพียรจริงๆ ใน
ที่สุดเขำก็สำมำรถยกระดับร่ำงกำยได้แล้ว!
“ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดิน ครำวนี้เจ้ำเพิ่มแรงขึ้นอีกหน่อยนะ! สัก
ส่วนครึ่งกำลังดี…” หลินฟ่ำนกล่ำว
“ย่อมได้…!” ตอนนี้ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดินเองก็ตื่นเต้นเหลือใดจะ
กล่ำว ถึงแม้ว่ำมันจะต้องออมพลังส่วนใหญ่เอำไว้ แต่กำรได้
ทุบตีผู้อื่นแบบนี้ยิ่งมำก็ยิ่งรู้สึกดีนัก!!
หนึ่งเดือนต่อมำ…
สถำนะควำมแข็งแกร่งทำงกำยภำพ : ผู้เป็นสุดยอดขั้นกลำง
สองเดือนต่อมำ …
สถำนะควำมแข็งแกร่งทำงกำยภำพ : ผู้เป็นสุดยอดขั้นสูง
สี่เดือนต่อมำ …
สถำนะควำมแข็งแกร่งทำงกำยภำพ : ผู้เป็นสุดยอดขั้นสูงสุด
…
หนึ่งปีต่อมำ..
สถำนะควำมแข็งแกร่งทำงกำยภำพ : บรรพกำลโบรำณขั้น
สูงสุด
…
หลังจำกที่ขยันรับหมัดมำหนักมำก…ในที่สุดสถำนะควำม
แข็งแกร่งทำงกำยภำพของหลินฟ่ำนก็บรรลุถึงขอบเขตที่น่ำ
สะพรึงกลัว!
บรรพกำลโบรำณขั้นสูงสุด!
เรียกได้ว่ำตอนนี้กำรโจมตีของผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดินไม่อำจ
ระคำยผิวหลินฟ่ำน จนบังเกิดค่ำประสบกำณ์ให้หลินฟ่ำนได้อีก
แม้แต่ 1 หน่วย…!
อย่ำงไรก็ตำมหลินฟ่ำนรู้ดีว่ำนี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด
“ร่ำงกำยของเจ้ำ…” เมื่อผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดินได้เห็นร่ำงหลิน
ฟ่ำนที่ค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ…กระทั่งตอนนี้ต่อให้มันลงมือ
ด้วยพลังทั้งหมด ก็ไม่อำจสร้ำงควำมเสียหำยใดๆให้กับหลิน
ฟ่ำนได้เลย! มันก็รู้สึกหวำดกลัวในใจนัก นี่เป็นอะไรที่น่ำพรั่น
พรึงเกินไป!!
“ที่ร่ำงกำยของข้ำสำมำรถบรรลุถึงระดับที่สูงส่งขนำดนี้ได้
ทั้งหมดล้วนเป็นเพรำะเจ้ำผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดินทั้งสิ้น! ต้อง
ขอบคุณเจ้ำมำกจริงๆ!!” เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังมหำศำลทั่วกำย
หลินฟ่ำนถึงกับต้องเผยยิ้มแก้มปริด้วยควำมยินดี
ควำมรู้สึกนี้มันน่ำทึ่งชะมัดยำด!
อย่ำงไรก็ตำมแต่ มีเรื่องบำงประกำรที่หลินฟ่ำนเสียใจอยู่บ้ำง…
คือระดับพลังฝึกตนและพลังอำนำจของเขำกลับไม่ได้อยู่ใน
ระดับสูงส่งอย่ำงระดับกำยำของเขำ… ดูเหมือนว่ำเขำยังคงต้อง
ขยันให้มำกกว่ำนี้!!
“แข็งแกร่ง…ช่ำงแข็งแกร่งยิ่งนัก! หำกมีผู้ใดล่วงรู้กำรคงอยู่
ของวิชำกำยำนี่ล่ะก็…ข้ำเกรงว่ำคงได้บังเกิดมรสุมโลหิตแห่ง
กำรแย่งชิงทุกหย่อมหญ้ำแน่แท้!!” ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดิน กล่ำว
วิเครำะห์ออกมำอย่ำงเคร่งเครียด
แม้ว่ำพวกมันจะเป็นตัวตนสูงสุดที่แสนจะทรงพลัง หำกแต่
ควำมแข็งแกร่งของร่ำงกำย กลับเทียบหลินฟ่ำนไม่ได้เลย…
และหำกจะพิจำรณำจำกระดับควำมแข็งแกร่งทำงกำยภำพ
ของหลินฟ่ำนแล้ว…บอกได้เลยว่ำในขอบเขต บรรพกำล
โบรำณ เขำได้กลำยเป็นตัวตนอันอยู่ยงคงกระพันไร้ดับสูญไป
แล้วอย่ำงแท้จริง กระทั่งเกรงว่ำยังไร้ผู้ใดในขอบเขตพลังนี้ท่ี
สำมำรถสร้ำงแผลบนร่ำงหลินฟ่ำนได้สักแผล!!
ในบรรดำตัวตนทรงพลังที่พึ่งตื่นขึ้นนั้น แม้มิอำจกล่ำวได้ว่ำผู้
ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดินเป็นตัวตนอันแข็งแกร่งที่สุด หำกแต่ยัง
สำมำรถกล่ำวได้ว่ำพลังฝีมือของมันนั้นมิใช่ชนชั้นต่ำทรำม
และไม่ใช่อะไรที่ใครจะสำมำรถมองข้ำมได้! ทว่ำมำตอนนี้ต่อให้
เป็นกำรโจมตีด้วยพลังสูงสุดของมัน กลับไม่อำจสร้ำงควำม
เสียหำยให้หลินฟ่ำนได้สักกะผีกเดียว! เช่นนั้นก็ไม่ต้องกล่ำวถึง
ผู้อื่นแล้ว!!
“นี่ก็เวอร์ไป ไม่ขนำดนั้นหรอกม้ำง…เอำล่ะ ยังไงก็ตำมควำม
ช่วยเหลือครั้งนี้ข้ำต้องขอบคุณเจ้ำมำกผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดิน…
ถ้ำไม่ใช่เจ้ำช่วยข้ำอย่ำงขยันขันแข็ง คงมีแต่พระเจ้ำเท่ำนั้นที่รู้
ว่ำเมื่อไหร่ร่ำงกำยของข้ำจะบรรลุขอบเขตนี้ได้” หลินฟ่ำนกล่ำ
วออกมำด้วยควำมรู้สึกขอบคุณ
“ฮำยๆ เจ้ำนับว่ำเป็นสหำยที่ดีที่สุดของเผ่ำพันธุ์ลิง เช่นนั้นก็
อย่ำได้กล่ำวคำมำกพิธีพรรค์นั้นแล้ว” ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดินพูด
ออกมำพร้อมส่ำยหน้ำ
ตอนนี้หลินฟ่ำนรู้สึกรำวกับหัวใจของเขำกำลังจะโบยบินไปสุด
ฟ้ำ ควำมรู้สึกนี้มันช่ำงน่ำเป็นอะไรที่ชวนให้ฉงนและประทับใจ
เหลือเกิน เป็นควำมสุขที่เกินกว่ำคำบรรยำยใดๆจะอธิบำยได้
“จริงสิผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดิน มีอยู่อย่ำงที่ข้ำสงสัยมำนำนแล้ว
ทำไมพวกเจ้ำถึงต้องเข้ำสู่ห้วงนิทรำข้ำมผ่ำนยุคแล้วยุคเล่ำด้วย
ล่ะ?”
นี่เป็นเรื่องที่หลินฟ่ำนเองก็สงสัย กระทั่งคิดยังไงก็ไม่ออกและไม่
อำจเข้ำใจได้ว่ำไอตัวตนพวกนี้มันกำลังจะทำอะไร และมี
เป้ำหมำยอะไรกันแน่
ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดินควงพลองรอบหนึ่งก่อนจะเสกให้เล็กลง
แล้วเก็บในรูหู มันแหงนมองฟ้ำด้วยสำยตำเลื่อนลอยคล้ำยหวน
รำลึก ก่อนจะสูดลมหำยใจเข้ำลึกๆ ค่อยผ่อนออกมำช้ำๆ
“เฮ่อ…อันที่จริงแล้วพวกเรำมันก็แค่สิ่งมีชีวิตอันน่ำเวทนำ ที่
กำลังแสวงหำชีวิตภำยใต้ห้วงจักรวำลอันยิ่งใหญ่…”
“พวกเรำได้ดำรงอยู่ข้ำมผ่ำนกำลยุคสมัยมำมำกมำย…ก้ำวข้ำม
อะไรมำก็มำกมำยนับไม่ถ้วน อนิจจำยังไร้ผู้ใดประสบ
ควำมสำเร็จสูงสุด ครั้งนี้…ก็เป็นมหำยุคอันเป็นยุคสุดท้ำยแล้ว
เมื่อกำลยุคสมัยนี้จบสิ้นลง สรรพสิ่งและสวรรค์และโลกจะหวน
คืนสู่อนัตตำ กระทั่งพวกเรำเองก็จะหำยไปไร้ดำรง…”
“ในยุคก่อนหน้ำ…พวกเรำทั้งหมดก็ล้วนพยำยำมต่อสู้แข่งขัน
เพื่อข้ำมผ่ำน อนิจจำสุดท้ำยกลับกลำยเป็นไร้ค่ำ จนแล้วจน
รอดพวกเรำก็ทำได้แค่ใช้ชีวิตข้ำมผ่ำนกำลเวลำและยุคสมัยไป
อย่ำงเบื่อหน่ำย… ด้วยเหตุผลนั้นเองจึงได้มีกำรแตกออกเป็น 2
ฝ่ำย…และครั้งนี้ก็นับเป็นยุคสุดท้ำยแล้ว ถึงเวลำที่จะต้องก้ำว
ข้ำ…” (53380)
หลินฟ่ำนย่อมไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้มำก่อน พอมำได้ฟัง
รำยละเอียดที่ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้ำดินอธิบำยเขำก็รู้สึกว่ำมันน่ำ
กลัวนัก!
วิ๊งงงงงงง!!!
ทว่ำทันใดนั้นเองโลกหล้ำกลับสั่นสะท้ำน ปรำกฏแสงสว่ำงหนึ่ง
ที่รำวกับจะสำดส่องลงมำจำกสวรรค์ก็มิปำน! มันชโลมย้อมโลก
หล้ำให้กลำยเป็นสว่ำงเจิดจ้ำไปหมด!!
อยู่ดีๆเมื่อเห็นภำพนี้หลินฟ่ำนก็งงไปไม่น้อย “นี่…?”
“นี่เป็นสัญญำณของกำรก้ำวข้ำม! ตำนำนกล่ำวไว้ว่ำผู้ที่จะ
สำมำรถข้ำมผ่ำนทุกสรรพสิ่งได้จักต้องเป็นตัวตนที่แข็งแกร่ง
ที่สุดในโลกหล้ำ! และตอนนี้สวรรค์ก็ได้ส่งสิ่งของอันเหนือชั้น
มำแล้ว! พวกมันทั้งหมดจักเป็นสิ่งของระดับตำนำนที่ทรงพลัง
อำนำจสูงสุด!”
“ไอเทมระดับตำนำน?”
ตอนนี้สองตำหลินฟ่ำนถึงกับลุกวำว ได้ยินว่ำมีของดีระดับ
ตำนำนแบบนี้พี่ประมุขยังจะอยู่เฉยได้อย่ำงไร…ของระดับ
ตำนำนน่ะนะ มันยั่วใจเสมอล่ะ!!
ตอนที่ 903 : ผู้ชนะสูงสุด!
ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินมองถามหลินฟ่าน “เจ้าคิดจะไปช่วงชิง
สิ่งของในตานานพวกนั้นด้วยงั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว! เจ้าล่ะอยากไปกับข้าด้วยรึเปล่า?” หลินฟ่านหัวเราะ
ออกมาเอ่ยถาม
“ไม่ล่ะ ถึงแม้ว่ายุคนี้จักเป็นยุคสุดท้ายแล้วก็มิเป็นไร ข้าคร้าน
จะไปแก่งแย่งชิงดีอะไรอีกสืบไป…” ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดินส่าย
หน้าไปมา คล้ายกับมันได้เห็นซึ้งซึ่งสัจธรรม ไม่นาพาอะไรใน
หล้าสืบไปแล้ว…
ตอนนี้เองหลินฟ่านก็สัมผัสได้ถึงมวลพลังมหาศาลที่กาลังปะทุ
อยู่ในที่ไกลๆ
“เอาล่ะ งั้นข้าไปก่อนนะผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน”
หลินฟ่านกล่าวออกพร้อมชกหมัดกับฝ่ามือตัวเองดังปับ!
ชิคกี้กู่ร้องไม่กี่คา ค่อยกระโจนขึ้นมานั่งบนไหล่ของหลินฟ่าน
‘ไอเทมในตานานจ๋า พี่ประมุขมาแล้วว!!’
คนคล้ายกลับกลายเป็นลาแสงลากยาวทะลวงความว่างเปล่า
หลินฟ่านพุ่งร่างทะยานเข้าไปในช่องว่างอันไร้ขอบเขต
ยามเมื่อโลกหล้าถึงการรุ่งโรจน์ ย่อมนาพาผลประโยชน์มาต่อ
สรรพชีวิตทั้งหมดบนโลก…หากแต่สาหรับตัวตนที่ทรงพลัง
สูงสุดของแต่ละเผ่าพันธุ์แล้ว ที่พวกมันต้องการมากที่สุดก็มีแต่
สิ่งของในตานานเท่านั้น…
ไม่ว่าจะเป็นเทพปีศาจทั้ง 3,000 ของชนเผ่าโบราณ หรือตัวตน
สูงสุดของร้อยพันชนเผ่าทั้งหลาย แทบทั้งหมดล้วนใฝ่หวัง
หมายช่วงชิ่งสิ่งของในตานานเท่านั้น…
ภายในช่องว่าง …
ยามนี้ตัวตนอันทรงพลังมากมายกาลังลอยล่องอย่างเงียบงัน
พวกมันหาได้แยแสวัตถุที่ร่วงหล่นจากฟ้าที่กาลังพุ่งเป็นลาแสง
ไปยังทุกแห่งหนแต่อย่างใด
ของพวกนั้นในสายตาของพวกมันย่อมไม่ต่างเหล็กร้ายๆผุพัง…
ทว่าสาหรับเหล่าตัวตนทรงพลังที่อ่อนด้อยลงมา นั่นคือยอด
สมบัติที่มีค่าที่สุดในโลก!
ตอนนี้หลินฟ่านเองก็ซ่อนตัวในช่องว่างอันไร้ขอบเขตเช่นกัน
และเมื่อเขาเห็นถึงตัวตนทรงพลังทั้งหลายเบื้องหน้าใจเขาก็
เต้นไหวระรัว!
กลิ่นอายและรัศมีพลังของตัวตนสูงสุดของแต่ละเผ่าพันธุ์
เหล่านี้นับว่าลึกล้ายากหยั่งถึง พวกมันแต่ละตัวประหนึ่งตัวตน
อันไร้คู่เปรียบ!
หลินฟ่านครุ่นคิด หากว่าเขาต้องมาแย่งชิงสิ่งของภายใต้เงื้อม
มือตัวตนเหล่านี้สมควรเป็นงานระดับโคตรลาบาก…!
ตอนนี้หากกวาดตามองไปยังรอบๆ ถึงแม้จะเป็นสมบัติธรรมดา
หรืออะไรก็ตามที่หล่นร่วงจากฟ้า ก็นาพาให้คนของร้อยพันชน
เผ่าต่อสู้แย่งชิงกันไม่น้อย! แต่ไหนเลยหลินฟ่านจะแยแสพวก
มัน สาหรับเขาไอเทมในตานานที่กาลังจะจุติลงมาเป็นอะไรที่มี
ค่ามากที่สุด!!
‘ดูท่าแล้วครั้งนี้ก็ต้องเป็นมหาสงครามรบพุ่งครั้งใหญ่แหงๆ!
เชื่อหัวพี่ประมุขได้เลย!!’
หลินฟ่านเริ่มไตร่ตรองในใจตลบแล้วตลบเล่า เขาเองก็ต้อง
เตรียมการให้ดี หาไม่แล้วถึงเขาจะคว้าไอเทมในตานานได้ แต่
คิดจากไปยังจะง่ายดายหรือ?
ตอนนี้เองหลินฟ่านก็เริ่มควบคุมพลังอานาจจ้าวโลกาผยอง
ปลดปล่อยให้มันไปกาบังยังช่องว่างทางหนึ่งอย่างแยบคาย
เปล่งพลังออกไปดั่งสายธารไม่หยุดยั้ง…
วู้มมมม!!
ทันใดนั้นเอง! ช่องว่างและความว่างเปล่าทั้งมวลพลัน
สั่นสะเทือนเลือนลั่น รัศมีและกลิ่นอายพลังแสนลี้ลับเริ่มกาจาย
ออกมาจากเหนือฟ้า สาหรับสิ่งมีชีวิตแล้วยามเผชิญหน้ากับ
พลังลึกลับนี้ พวกมันรู้สึกไม่ต่างใดไปจากมดปลวก!
หยิน และ หยางในสวรรค์และโลกอยู่ๆพลันแยกออกจากกัน 5
ธาตุที่เกื้อหนุนสอดประสานส่งเสริมเริ่มหลวมคลาย ความว่าง
เปล่าและช่องว่างทั้งมวลคล้ายถูกปิดผนึก ยามนี้ กาลเวลา
โชคชะตา และสรรพสิ่งใดๆคล้ายถูกหยุดยั้งด้วยพลังอานาจอัน
สูงส่งดังกล่าว!!
เหล่าตัวตนทรงพลังสูงุสดทั้งหลายล้วนกลั้นหายใจ เฝ้ารอคอย
เวลาช่วงสุดท้ายที่กาลังจะมาถึง
“ในที่สุดก็จักได้ฤกษ์เสียที วันนี้ข้าบรรพบุรุษจักไขว่คว้าทุกสิ่ง
แย่งชิงทุกอย่าง!!” ตัวตนสูงสุดแห่งเผ่าพันธุ์สิงโตคารามออกมา
ศีรษะของมันเป็นสิงโตแผงขอสวยงามร่างกายเป็นมนุษย์ ยาม
มันแสยะยิ้มแยกเขี้ยวเผยฟันแหลมคมคล้ายจะสามารถขบกัด
ความว่างเปล่าให้เว้าแหว่งกลืนลงท้องได้ง่ายดาย แววตาของ
มันยังเผยจิตต่อสู้อันน่าเกรงขามกวาดมองไปยังทุกผู้คนรอบๆ
ลึกลงไปในนัยน์ตายังมีจิตสังหารที่คุกรุ่นรอเวลาปะทุ
ตราบใดที่สิ่งของในตานานที่มันต้องการร่วงหล่นลงมา มันผู้นี้
สมควรลงมือไขว่คว้าอย่างไม่แยแสแน่แท้!
ไม่ไกลนักร่างเทพปีศาจหยินและเทพปีศาจหยางแห่งเผ่าพันธุ์
โบราณ ก็กาลังแหงนมองเวิ้งอากาศว่างเปล่าเหนือฟ้าที่อบอวล
ไปด้วยพลังน่าเกรงขามด้วยสายตาคมกล้า
ด้านตัวตนทรงพลังอื่นๆที่เป็นศิษย์สาวกในนิกายประจา
เผ่าพันธุ์ พวกมันก็จับจ้องมองฟ้าเขม็งไม่ต่าง
คู่ดวงตาที่เต็มไปด้วยความโลภนั้นมีมากมายนับหมื่นพันล้านคู่
หากแต่ในแววตานั้นเผยความสะทกสะท้อนไม่น้อย คล้ายพวก
มันรู้ตัวดีว่าสิ่งของในตานานที่กาลังจะจุติลงมา ไม่ใช่น้าแกงที่
พวกมันจะขอแบ่งปันได้แม้แต่ครึ่งถ้วย…นั่นสาหรับตัวตนสูงสุด
ทั้งหลาย!!
“จ้าวแห่งเผ่าพันธุ์สิงโต…จักโลภเพียงใดก็ให้มีขอบเขตเสียบ้าง
อาศัยอสรพิษยังริกลืนกินคชสาร? ระวังจักจุกลาคอรึท้องแตก
ตายเสียเล่า!!” ชายคนหนึ่งผู้มีปีกสีดาทมิฬ 16 คู่ กล่าวออกมา
ปีกของมันยามนี้กระพือไหวคราหนึ่ง ก่อเกิดเป็นมรสุมอันร้าย
กาจซัดลงแดนดินเบื้องล่าง
“เหอะ! ลูซิเฟอร์ พวกเราเพียงรอคอยชมดูกันไปเถอะ! แต่มิว่า
หน้าไหนก็ตามที่คิดแย่งชิงสิ่งที่ข้าบรรพบุรุษหมายตา ล้วน
แล้วแต่ถือเป็นศัตรูชั่วชีวิตของข้า!!” รัศมีพลังทั่วร่างจ้าวแห่ง
เผ่าพันธุ์สิงโตเริ่มคุกรุ่นขึ้นมาเรืองๆ
“หึหหึ ึ” ลูซิเฟอร์เพียงหัวเราะออกมาเบาๆ
ทันใดนั้นเองเหนือฟ้าพลันปรากฏรอยแยกลึกลับ แสงหนึ่งสาด
เททะลักออกมา ทอประกายระยิบระยับสว่างจ้าไปทั้งพื้นที่
“นั่นมันกุญแจเทพจักรภพ!”
เหล่าตัวตนสูงสุดที่จดจาสิ่งนี้ได้ถึงกับต้องร้องอุทานออกมา
สนั่น!
“มันเป็นของข้า!!”
แขนสีทองขนาดมหึมาปกคลุ่มพื้นที่ด้วยนิ้วใหญ่โตทั้ง 5 แต่ละ
นิ้วดั่งขุนเขาสูงใหญ่ไม่ปาน มันพุ่งคว้าไปยังกุญแจเทพจักรภพ
ที่ว่า ก่อนจะไว้ในมือทันที!!
“ฮ่าๆๆๆๆ! ข้าได้มันแล้ว!!”
ผู้ที่ชิงกุญแจเทพจักรภพไว้ไปครองคือเทพปีศาจทองคาแห่ง
เผ่าพันธ์เทพปีศาจโบราณ มันเฝ้ารอของในตานานชิ้นนี้มาเนิ่น
นานแล้ว!!
ส่วนเหล่าตัวตนสูงสุดตนอื่นๆนั้นไม่ได้ลงมือแย่งชิงแต่อย่างไร
พวกมันนิ่งเงียบเพื่อสงวนพลังงานเอาไว้ให้พร้อมพรั่ง รอเวลา
ให้สิ่งของในตานานปรากฏออกมาคราวละมากๆ ค่อยช่วงชิง!
ฮู่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!
ทันใดนั้นเองเสียงคารามของมังกรพลันก้องกังวานไปทุกแห่ง
หน ปรากฏมังกรตัวเขื่องยาวใหญ่ไม่ต่ากว่าล้านฟุตฉีกผ่า
ช่องว่างออกมาอย่างเกรี้ยวกราด!
หากแต่ร่างที่แท้จริงของมังกรตัวเขื่องที่ยาวนับล้านฟุตนั่น..ที่
แท้เป็นเพียงคา “มังกร” แค่คาเดียวเท่านั้น!
เปรี๊ยงงงงง!!
ทันใดนั้นเหล่าตัวตนทรงพลังบางส่วนถึงกับต้องเริ่มลงมือ
เคลื่อนไหวทันที
หากทว่าปรากฏแส้ยาวเส้นหนึ่ง พุ่งแหวกฝ่าความว่างเปล่า
แซงทุกผู้คน ไปรัดพันมังกรตัวเขื่องนั่น! ก่อนที่จะกระชากดัง
มันกลับมา!!
“นี่คือของในตานานของเผ่าพันธุ์มหามังกรของข้า ผู้ใด
หาญกล้าแตะต้อง!?”
ในฐานะของบรรพบุรุษแห่งเผ่าพันธุ์มหามังกรแล้ว สุรเสียงอัน
เกรี้ยวกราดของ ยิ่งหลง ย่อมดังสนั่นสะท้านไปทั้งแดนดิน ยัง
สามารถฉีกกระชาดทุกสรรพสิ่ง! ปากมหามังกรอันมหึมาของ
มันอ้ากว้างก่อนจะกลืนคา “มังกร” ลงท้องไปทันที!
สิ่งของในตานานชิ้นนี้แม้จะมีคนอยากถือครองบ้าง หากแต่ก็
ไม่ได้ก่อให้เกิดกระแสหรือคลื่นแห่งความโลภต่อตัวตนทรงพลัง
อื่นๆทั้งหมดแต่อย่างไร ทั้งหมดคล้ายยังอดทนเฝ้ารอ
หลินฟ่านเองก็ซุ่มรออยู่เช่นกัน เขาเองก็ตระหนักได้ชัดเจนว่า
ตัวตนอันทรงพลังทั้งหลายก็มีมากมายที่กาลังอดทนรอคอยอยู่
ไม่ได้ผลีผลามอะไร
ถึงแม้ว่ากุญแจเทพจักรภพที่ปรากฏออกมาก่อนหน้าจะ
ค่อนข้างแข็งแกร่ง หลินฟ่านก็ยังไม่เหลียวแลหรือแยแสมัน
แม้แต่น้อย ยังนับประสาอะไรกับตัวตนสูงสุดอันทรงพลัง
ทั้งหลาย
ส่วนทางด้านคา “มังกร” นั่น มันกลับมีความละม้ายคล้ายคลึง
กับพระสูตรสวรรค์และโลกที่หลินฟ่านถือครองอยู่บ้าง แต่หาก
ให้เขาเอาพวกมันมาเปรียบเทียบกัน ก็ยังนับว่าห่างชั้นกันไม่
น้อย
เปรี๊ยงงงง!!
ทันใดนั้นบังเกิดระเบิดครั้งใหญ่สนั่นลั่นโลก สิ่งของในตานาน
คล้ายจะไม่ปรากฏทีละชิ้นสืบไป พวกมันปะทุทะลักโถมมาดั่ง
คลื่น!
ตอนนี้เองหลินฟ่านพลันสังเกตเห็นว่าในส่วนลึกของช่องว่าง
อันสุดไพศาลนั้น คล้ายบังเกิดก้อนมิติกาลังพองตัวก้อนหนึ่ง!
หากให้หลินฟ่านเดาไอก้อนที่กาลังพองๆนั่น ไม่พ้นอัดแน่นไป
ด้วยไอเทมในตานานที่กาลังจะทะลักพรั่งพรูออกมาดั่งแจ็ค
พอตแหงแซะ!!
‘เชี่ยยย!! ชัดเจน! จังหวะนี้ล่ะ!!’
เมื่อหลินฟ่านเห็นภาพนี้เขาก็รู้ได้โดยพลัน ว่าตอนนี้ไม่อาจเฝ้า
รอสืบไปได้แล้ว! ไม่รอช้าอะไรเขารับเข้าสู่สภาวะเร้นกาย และ
เรียกเตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลกออกมาทันที ก่อนที่ไอก้อน
มิติที่กาลังพองนั่นจะปะทุระเบิด!!
ทันใดนั้นเตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลกพลันผุดโผล่เหนือฟ้า
อย่างพิศวง! อีกทั้งตัวเตายังขยายใหญ่ ไปลอยจดจ่ออยู่
ด้านล่างของไอ่ก้อนมิติพองๆดังกล่าว! ขอเพียงไอเทมใน
ตานานทะลักพุ่งออกมาสวยๆ พวกมันย่อมลงหม้อ! ทั้งหมด
ต้องเป็นของเขาแหงแซะ!!
“บัดซบ! ไอ่นั่นมันเป็นผู้ใดกัน!?”
พริบตาที่หลินฟ่านลงมือเคลื่อนไหว เหล่าตัวตนทรงพลังก็
ตอบสนองได้ในฉับพลัน!!
“ระยา! มันคิดจะขโมยของในตานานของพวกเราทั้งหมด!!”
“มนุษย์! ไอ้เด็กเวรนั่นมันเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์!!”
“สยบ!!”
ตอนนี้เหล่าตัวตนทรงพลังทั้งหลายไม่อาจรั้งรอสืบไป พวกมัน
จะยินยอมให้มนุษย์ผู้นั้นแย่งชิงสิ่งของในตานานของพวกมันไป
ต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร! มวลพลังมหาศาลของแต่ละคนซัดพุ่ง
ออกมามืดฟ้ามัวดิน!!
ปุ้งงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!
ทันใดนั้นก้อนมิติพองๆพลันระเบิดออก ไอเทมในตานานทะลัก
พรั่งพรูออกมาอย่างไม่รู้จบ!!
สาหรับไอเทมในตานานที่ดันกระเด็นออกนอกเตา หรือผุดโผล่
ออกมานอกก้อนพองๆหลินฟ่านไม่คิดจะแยแสอะไรสืบไป ดัง
คาที่ว่า ไม่รู้จักพอเพียงใด งูก็ไม่อาจกินช้างได้! หากเขามัว
เสียเวลาฉกฉวยแย่งชิงไอเทมในตานานที่ทะลักออกมาจากจุด
อื่น เกรงว่าผลสุดท้ายเขาอาจจะไม่ได้อะไรกลับไปเลยก็ได้!!
(53380)
‘พี่รวยแล้วววว!!!’ เพียงห้วงคิดเดียว หลินฟ่านได้กวาดไอเทม
ในตานานจานวนมหาศาลจากจุดที่เขาดักรอ ลงเตาหลอมกลั่น
สวรรค์ได้ทั้งหมด!!
มันเยอะแยะมากมายเป็นกองพะเนิน เกรงว่าคงมีแต่พระเจ้า
เท่านั้นที่รู้ว่าเขาฉกไปได้กี่อัน!
และตอนนี้หลินฟ่านก็ไม่คิดจะต่อความยาวสาวความยืดหรือ
อวดของแต่อย่างไร เรื่องที่สาคัญที่สุดที่ต้องกระทาตอนนี้คือ
หนีไปให้ไว!!
ทว่าพริบตานั้นเอง! พลังสังหารที่โถมมามืดเฟ้ามัวดินก็ซัด
ปะทะเข้าร่างหลินฟ่านอย่างจัง ถึงกับทาให้ร่างหลินฟ่านก
ระเด็นกลิ้งไปในอากาศ โลหิตทั่วกายคล้ายกระเพื่อมเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามนอกจากจุกๆแล้ว ก็ไม่ได้บังเกิดความเสียหาย
อะไรสักเท่าไร…
“ฮ่าๆๆๆๆ!! สหายทั้งหลาย! ไอเทมในตานานพวกนี้ พี่ประมุข
ขอนะ…!!!”
ภายใต้สายตาอาฆาตปานจะกลืนกินเลือดเนื้อของตัวตนใน
ตานานมากมาย หลินฟ่านพลันตะโกนออกมาอย่างสะใจเสียง
ดังสนั่น ทันทีที่เขากางมือออก พลังจ้าวโลกาผยองก็ปะทุ
ออกมาจากร่างเขาทันที!
ตอนที่ 904 : ไอพวกหัวถั่วสมองนิ่ม!
ตอนนี้ร่างกายของหลินฟ่านมีความแข็งแกร่งทางกายภาพถึง
ขอบเขตบรรพกาลโบราณขั้นสูงสุดเข้าไปแล้ว! กระบวนท่า
สังหารของพวกตัวตนทรงพลังหล่านี้ยังจะนับเป็นอะไรได้!
เต็มที่ก็สร้างความเสียหายให้เขากระจึ๋งเดียว!!
เปรี๊ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!
เสียงดังกังวาลจนหูแทบดับลั่นออก…ก็ใช่ที่หลินฟ่านอาจทนได้
หากแต่ความว่างเปล่ารอบตัวย่อมไม่สามารถ! พวกมันแหลก
ระเบิดส่งเสียงดังสนั่นด้วยถูกพลังอานาจมหาศาลทาลายล้าง
ป่นปี้จนพินาศ!!
“ฮ่าๆๆๆๆ!!!” หลินฟ่านหัวเราะออกมาอย่างสะใจโจ๋ ตอนนี้
เขานับว่ามีความสุขนัก! ยังสุขยิ่งเสียกว่าอะไร เพราะครั้งนี้เขา
กอบโกยได้ของดีมาเต็ม! เรียกว่ารางวัลชีวิตอื้อซ่า!!
ด้านไอเทมในตานานทั้งหลายที่อยู่ในเตาหลอมกลั่นสวรรค์และ
โลกนั้น พวกมันก็ไม่ใช่จะยอมให้ใครครอบครองได้ง่ายๆ ต่าง
ดิ้นพล่านแผลงฤทธิ์กระทุ้งเตากันใหญ่! อย่างไรก็ตามเตาหลอม
กลั่นสวรรค์และโลกมันเป็นไอเทมจากระบบ มันใช่อะไรที่จะ
ทาลายได้ง่ายๆเพราะไอเทมในตานานหรือ…?
“บัดซบ! หน้าตาแบบนั้น…ที่แท้ตัวบัดซบนั่นมันคือ ราชันแห่ง
มวลมนุษย์ผู้ถล่มมารดาเจ้า!!”
หนึ่งในเทพปีศาจของเผ่าพันธุ์โบราณคารามดังลั่น จิตสังหาร
ของมันทะลักออกมาในอากาศ ยังหนาแน่นจนคล้ายจะ
ควบแน่นเป็นอสูรแห่งความตายปรี่ตรงมายังหลินฟ่าน!
มันเป็นเทพปีศาจตนหนึ่งของเผ่าพันธุ์โบราณ มันย่อมได้
รับทราบตัวตนของมนุษย์ผู้นี้จากเหล่าอดีตตัวตนสูงสุดของ
เผ่าพันธุ์โบราณดี! ทั้งได้รับรู้เรื่องราวว่ามนุษย์ผู้นี้สร้างความ
ฉิบหายวินาศสันตะโรไว้แค่ไหน! มายามนี้มันถึงกับต้อง
ประจักษ์! สิ่งของในตานานมากมายกลับถูกมนุษย์บัดซบนี่..ฉก
ไปดื้อๆต่อหน้าต่อตา! หัวมันร้อนแทบไหม้แล้ว!!
ตอนนี้เองพลังอานาจของจ้าวโลกาผยองที่หลินฟ่านพยายาม
สร้างออกมาไว้ก่อนหน้า ก็แผ่โถมไปยังเหล่าตัวตนทรงพลัง
ทั้งหลายดั่งตาข่ายฟ้าแหสวรรค์!
ซู่มมมมม!!!
รัศมีพลังหลินฟ่านปะทุออกมาทั่วร่าง อากาศรอบๆปริแตก
ระเบิดส่งเสียงดังสนั่น! ไกลแค่ไหนคือใกล้สาแดงเดช หนึ่งย่า
เท้า ร่างอันตรธานหายวูบไปยังสุดขอบฟ้าไกลตาในฉับพลัน!!
แคว่กซ์!!
เป็นเรื่องทีส่ ร้างความตื่นตระหนกให้หลินฟ่านนัก! ไอพวก
ตัวตนทรงพลังนั่นมันฉีกตาข่ายฟ้าจ้าวโลกาผยองเสียสิ้น แถม
ไม่มีใครถูกผลครอบงา! นี่ทาให้หลินฟ่านเร่งสับเท้าจนตีนแทบ
แตก ปะทุความเร็วสุดตัวหมายไปให้ไกลกว่านี้ทันที!!
“มนุษย์! ส่งมอบสิ่งของในตานานนั่นมาเสียแต่โดยดี!!” จิ้ง
เทียนคารามด้วยสุรเสียงกังวาลไปทั้งโลก สาหรับตัวตนสูงสุด
อันทรงพลังอย่างพวกมันแล้ว การที่มีใครหาญกล้าขโมย
สิ่งของในตานานไปใต้จมูกพวกมันแบบนี้ เป็นอะไรที่รนหาที่
ตายนัก!!
ควาฟู่ ราชาแห่งเผ่าพันธุ์ยักษา มันคือผู้มีฉายาว่า…ไล่ตาม
ตะวัน! (อยากเห็นหน้ามันก็ลองไปเซิจดูนะ ควาฟู่ไล่ตามตะวัน)
ร่างอันมหึมาของควาฟู่สั่นไหวรุนแรงคราหนึ่งสองตามันเปล่ง
ประกายเทวะ มันใช้วิชาท่าร่างอันลี้ลับของมันทันใด!!
“แสวงหาสุริยัน!!”
วิชาท่าร่างเคลื่อนย้ายของมันนี้เป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัวอย่าง
ยิ่ง ด้วย 1 ลมหายใจมันสามารถย่าไปได้ทั้งโลก กระทั่งไกลแค่
ไหนคือใกล้ของหลินฟ่าน ยังแลดูอ่อนด้อยลงไปถนัดตาเมื่อ
เทียบกับวิชาท่าร่างของมัน!!
ตานานเล่าลือกันว่า วิชาท่าร่างลึกลับของควาฟู่นี้มันได้รับมา
จากของในตานานสิ่งหนึ่ง ต่อมามันฝึกวิชาจนบรรลุขั้นสุดยอด
ไม่ว่าระยะทางจะห่างไกลเพียงใด เพียงแค่ก้าวเดียวมัน
สามารถไปถึงสุดทางได้ในทันใด
กระทั่งเทพปีศาจแห่งห้วงมิติของเผ่าพันธุ์โบราณก็อดไม่ได้ที่จะ
ยอมรับ ว่าวิชาท่าร่างเคลื่อนย้ายอันแสนลี้ลับของควาฟู่นี้
เหนือกว่าวิชาวิชาเคลื่อนย้ายมิติในตานานของมัน!!
“อยู่!!”
ทันทีที่ควาฟู่บรรลุถึงหน้าหลินฟ่าน แขนมหึมาของมันที่คล้าย
ดั่งมังกรขนดก็พุ่งซัดทลายความว่างเปล่ามาเป็นทาง หนึ่งการ
โจมตีของมันยังผลให้บังเกิดมหาพายุอันรุนแรงกวาดล้างแดน
ดิน!!
“อยู่กับเตี่ยเจ้า! ไสหัวไป!!”
หลินฟ่านตวาดคาออกมาดังลั่น พลังงานทั่วร่างของเขาพรั่งพรู
ออกมา พลังอานาจของปีศาจยักษ์โบราณปะทุออกควบรวม
เป็นหนึ่งหมัดมหึมา คล้ายมีพลังอานาจไร้ขอบเขตแห่งโลก
หล้า!
ปงงงง!! เปรี๊ยงงงงงงงงงงงงง!!!
หน้าควาฟู่เปลี่ยนสีทันใดร่างของมันสั่นสะท้าน มันไม่คิดไม่ฝัน
เลยว่ามันจะถูกมนุษย์ชกสวนจนกระเด็น!!
ส่วนด้านหลินฟ่านที่กระเด็นไปไม่ต่างก็แสยะยิ้มออกมา เขา
สัมผัสได้ถึงมวลพลังมหาศาลจากหมัดอีกฝ่ายแล่นพล่านไปทั่ว
ร่าง แต่ก็ได้แค่จั๊กจี้เท่านั้น! ช่างน่ากลัวจริงๆ…ตัวเขาเนี่ย!!
“มนุษย์! ส่งมอบสิ่งของในตานานนั่นออกมาให้ข้าเสีย!!” ทันใด
นั้นบรรพบุรุษแห่งเผ่าพันธุ์สิงโตพลันพุ่งออกมาจากช่องว่าง
มันอ้าปากกว้างคารามขู่ข่ม ปากมหึมาของมันประหนึ่งหลุมดา
ก็ไม่ปาน!
“โอ้โฮ! ไม่คิดเลยว่ากระทั่งสิงโตยังอยากจะได้ไอเทมในตานาน
อะไรกับเค้าด้วย! แต่ฝันไปเหอะ! แล้วที่เจ้าอ้าปากเนี่ย คิดขู่คน
ให้กลัวรึยังไง หา? รับยาไปกินซะ!!”
หลินฟ่านโยนจิตวิญญาณจ้าวโลกาผยองออกไปตรงๆ ร่างของ
เขายังลงมือต่อเนื่อง ซัดออกด้วยพลังฝ่ามือออกไปนับพันในชั่ว
พริบตาบังเกิดเป็นอานาจพลังมหาศาลพุ่งกวาดออกไป!
“หุบปากอุบาทว์นั่นให้ข้าประมุข!!”
วงล้อปีศาจเทวะ!!
กลิ่นอายเทพอสูรน่าครั่นคร้ามพลันปรากฏออกมาในความว่าง
เปล่า มันเป็นวงล้อที่หลอมรวมผสานหยินหยางเข้าด้วยกันทั้ง
ยังมีพลังอานาจแห่ง 5 ธาตุสอดประสานหนุนเสริม วงล้อ
มหึมานี้กระทั่งเปล่งพลังอานาจแห่งการกลับชาติมาเกิดออกมา
สะท้านความว่างเปล่า
ปงงง!! ปงงงง!!!
ความว่างเปล่าเบื้องหน้าแหลกเป็นรายทาง วงล้อหมุนควงด้วย
ความเร็วสูง พุ่งไปปั่นตะกุยริมฝีปากของบรรพบุรุษสิงโตจนมัน
ต้องหุบลง! แน่นอนว่าพร้อมๆกันกับที่พลังจ้าวโลกาผยองเข้า
ปากไปพอดิบพอดี!!
แค่กๆ!! อ๊อคค!!
บรรพบุรุษสิงโตพยายามไอออกมาทั้งสารอกดัง คล้ายมันได้
กลืนสิ่งที่ไม่สมควรจะกลืนลงไป!!
“ตายยย!!!!”
ทันใดนั้นเองหลินฟ่านพลันสัมผัสได้ถึงแสงหนึ่งที่พุ่งทะลวง
ช่องว่างมาอย่างฉับไว ยังแฝงเร้นไปด้วยรังสีสังหารอันน่า
สยดสยองขุ่นคลั่ก!!
เป็นรังสีโลหิต! อย่างไรก็ตามหลินฟ่านไม่ได้แยแสมันสักนิด!!
แม้รังสีโลหิตสังหารนั่นจะเต็มไปด้วยอานาจพลังทาลายล้าง
แต่หลินฟ่านก็คร้านจะหลบหลีก กระทั่งยังอ้าแขนรับแต่โดยดี
ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับพลังทาลายของมันสักนิด!!
ตอนนี้สถานะความแข็งแกร่งทางกายภาพของหลินฟ่านกลาย
เป็นอะไรที่ไร้เทียมทานไปแล้ว เขาจะมากลัวอะไรแบบนี้ได้
ยังไง!!
“พี่จะสับ!!”
ขวานนิรันดร์ผุดโผล่จากอากาศว่างเปล่าเข้ามือ ควงขวับๆไม่กี่
ที่หลินฟ่านก็สับมันลงไปดังฉับ!!
“อุ๊ย! ของดีนี่หว่า! พี่ยึด!!”
หลินฟ่านที่สับรังสีโลหิตประหลาดจนขาด ก็สัมผัสได้ถึง
ปริมาณพลังงานมหาศาลเปล่งออกมา อีกทั้งกระทั่งตัดขาดไป
แล้วมันยังคล้ายจะมีชีวิตอยู่ เขาจึงโยนมันเข้าไปเก็บในวิมาน
ฟ้าอย่างไม่ลังเล!!
“บัดซบ! สารเลว!!”
เสียงตะโกนด่าทออย่างดุร้ายหัวเสียดังขึ้นร่างหนึ่งปรากฏ
ออกมาไกลตา มันคือจ้าวแห่งเผ่าพันธุ์โลหิตที่ลอบโจมตีมาเมื่อ
ครู่ อย่างไรก็ตามตอนนี้สภาพมันไม่ค่อยสู้ดีนักเพราะแขนมัน
แหว่งหายไปข้างหนึ่ง! ดูเหมือนว่ารังสีโลหิตที่หลินฟ่านพึ่งสับ
ไปจะเป็นแขนของมัน!!
“ตัวบัดซบ! กล้าตัดแขนข้า!!”
จ้าวแห่งเผ่าพันธุ์โลหิตไม่คิดเลยว่ามนุษย์ผู้นี้จะน่าเกรงขาม
ขนาดนี้ กระทั่งหลับยังไม่กล้าฝันว่า รังสีสังหารโลหิตกระชาก
ของมันจะไม่อาจสร้างความเสียหายใดๆให้กับมนุษย์ผู้นี้ได้เลย!
นี่นับเป็นเรื่องเหลือเชื่อถึงขีดสุด!!
…
และเพียงเสียเวลาปะทะเล็กๆน้อย…ก็ทาให้เหล่าตัวตนอันทรง
พลังทั้งหลายติดตามมาทัน! ต่างล้อมกรอบหลินฟ่านเอาไว้ทุก
ด้าน…! ทั้งหมดต่างมองมายังหลินฟ่านด้วยโทสะ ก่อนหน้านี้
พวกมันก็ได้ไปหยิบคว้าของในตานานอื่นๆที่ปรากฏมาแล้ว
หากทว่าก็น้อยนิดนัก…ส่วนใหญ่กลับเป็นมนุษย์ผู้นี้ที่เอาไป
ครอง! ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามพวกมันปล่อยให้อีกฝ่ายจากไป
แบบนี้ไม่ได้!!
“มนุษย์ส่งมอบของในตานานทั้งหมดที่เจ้าชิงไปมาเสีย! หาไม่
แล้วสิ่งเดียวที่รอคอยเจ้าอยู่คือความตาย!!” จ้าวแห่งเผ่าพันธุ์
โลหิตมองหลินฟ่านอย่างเย็นชา ในดวงตามันเต็มไปด้วยความ
ชั่วร้ายล้นปรี่ดั่งมารปีศาจจากอเวจีนรก
“ไฉนพวกเรายังต้องเสียเวลากล่าววาจาใดกับมนุษย์นี้ให้มาก
ความ? เพียงกลุ้มรุมสังหารมันเสีย! เช่นนั้นพวกเราก็จักเปิดเตา
ประหลาดที่มันใช้เก็บสิ่งของในตานานนั้นไว้! แล้วผู้ใดจักได้อัน
ใดกลับไป ก็ค่อยสู้ตัดสินกันทีหลัง!!”
“ฟังดูเข้าทียิ่ง”
หลินฟ่านเองก็ไม่คิดเลยว่าจนแล้วจนรอดจะต้องมาถูกปิดล้อม
โดยตัวตนทรงพลังเหล่านี้ เขาพยายามสอดส่องสายตาหา
ช่องว่างหมายจะแหวกฝ่าวงล้อม แต่ดูท่าแล้วน่าจะลาบากนัก!
นอกจากนี้ด้วยวิชาท่าร่างเคลื่อนย้ายมิติของเทพปีศาจแห่งห้วง
มิติ กับควาฟู่ผู้นั้น ก็เป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าไกลแค่ไหนคือใกล้
ของเขา อีกฝ่ายย่อมติดตามเขาทันได้ไม่ยาก และเมื่อรบรัน
พันตูติดพัน คนอื่นก็ติดตามมาได้อีก กลายเป็นวงจรอุบาทว์ไม่
รู้จบ…
ดูเหมือนเขาจะถูกพวกมันจับได้แล้วล่ะ…
“ฮู่มมมมมม!!”
ทว่าทันใดนั้นเองปรากฏเสียงคารามหนึ่งดังขึ้นมา
“บรรพบุรุษสิงโต นั่นเจ้าคิดกระทาสิ่งใดของเจ้า!!”
“หน้าไม่อาย!!”
ตอนนี้สายตาของบรรพบุรุษสิงโตแดงก่ารัศมีพลังทั่วกายมัน
คล้ายจะคุ้มคลั่ง เห็นได้ชัดว่ามันสมควรได้รับผลกระทบจากจิต
วิญญาณจ้าวโลกาผยองแล้ว!!
ทุกผู้คนที่ปิดล้อมอยู่ก็หันไปดูด้วยสงสัยทันที ว่าเกิดอะไรขึ้นใย
ถึงได้อุทานประหลาดๆ!
ส่วนหลินฟ่านนั้น เมื่อเห็นสถานการณ์ดังกล่าวใจของเขาก็เต้น
รัวขึ้นมาด้วยความดีใจ! โอกาสเขามาถึงแล้ว!!
“ไอพวกบ้า! อยากได้ไอเทมในตานานกันนักใช่มั้ย?! งั้นใคร
อยากได้ก็วิ่งไปเก็บเอาเองโว้ย!!” ทันใดนั้นหลินฟ่านก็เรียกเตา
หลอมกลั่นสวรรค์และโลกออกมา ก่อนจะเขวี้ยงไปยังความว่าง
เปล่าอันไร้ขอบเขตด้วยพลังทั้งหมด!!
“บัดซบ! นั่นเป็นของข้าบรรพบุรุษผู้นี้!!”
ทันใดนั้นตัวตนทรงพลังที่ปฏิกิริยาตอบสนองดีหลายคนก็
ระเบิดพลังพุ่งไปด้วยความเร็วสูง ไล่ตามเตาหลอมกลั่นสวรรค์
และโลกไปทันที
“อ้าว? แล้วนี่พวกเจ้าจะล้อมข้าต่อทาเพื่อ? หรือพวกเจ้าตัดใจ
จากของในตานานไม่คิดไปแย่งชิงกับพวกนั้นแล้ว?” หลินฟ่า
นมองถามรอบๆ
เหล่าตัวตนทรงพลังที่ยังคงล้อมหลินฟ่านอยู่ประปราย เมื่อเห็น
ความเปลี่ยนแปลงของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในฉับพลันเบื้องหน้า
และสติคิดตามได้ทันหน้ามันก็เปลี่ยนสี! จากนั้นพวกมันก็พุ่ง
ร่างทะยานลัดฟ้า ไล่ตามเตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลกไปทันที!
พวกมันจะให้ผู้อื่นตักกินเนื้อหอมหวานไปหมดได้อย่างไร!?
(53380)
“โฮ่ๆ! จังหวะนี้ล่ะ! พี่จะหนี!!”
หลินฟ่านที่เหลืออยู่ตัวคนเดียวก็ไม่รอช้ารีบเร้นกายอีกครั้ง
พร้อมทั้งดาดิ่งลงไปในสายธารอันไร้สิ้นสุดของช่องว่างแห่ง
ความว่างเปล่า
“ฮ่าๆๆๆๆ! ไอพวกหัวถั่วสมองนิ่มเอ๊ย!!”
หลินฟ่านจะปล่อยให้ไอเท็มในตานานทั้งหลายถูกพวกง่าวแบบ
นี้ฉกไปได้ยังไง?
อีกด้านนั้นหนึ่งในตัวตนสูงสุดที่แสนทรงพลังก็เอื้อมมือไปเจียน
จะคว้าเตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลกได้อยู่รอมร่อ หากทว่า
พริบตาต่อมา เตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลกก็เปล่งแสงสว่าง
วาบ ก่อนจะพุ่งเป็นลาแสงด้วยความเร็วอัศจรรย์หายวับไปต่อ
หน้าต่อตาของมันทันใด…!!
ตัวตนสูงสุดผู้ทรงพลัง “..”
ตอนที่ 905 : กระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุด!
“เป็นไปได้อย่างไรกัน!?”
ตัวตนอันทรงพลังสูงสุดตนนั้นผงะไปทันใด มันรู้สึกใจสะท้าน
สั่นไหวเต้นไปไม่เป็นจังหวะ นี่เป็นสถาณการณ์ที่ไม่เคยบังเกิด
ขึ้นกับมันมาก่อน! ไม่คิดเลยว่าอยู่ดีๆเตาหลอมกลั่นสวรรค์และ
โลกจะอันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตามันอย่างไร้ซึ่งร่องรอย
ใดๆ!!
“ระยา!” เทพปีศาจหยินผู้ยิ่งใหญ่ถึงกับเดือดดาลอย่างกราด
เกรี้ยว ใจมันคับแค้นทั้งมีโมโหนักที่ถูกหลอก!
หากทว่าไม่ทันจะได้ทาอะไร เทพปีศาจหยินก็พบว่า ตอนนี้…
มันถูกตัวตนอันทรงพลังสูงสุดตนอื่นๆล้อมไว้หมดแล้ว “เทพ
ปีศาจหยิน มอบของในตานานมาเสีย!”
“มอบเมิบบัดซบอันใด! พวกเราถูกมนุษย์นั่นปั่นหัวเอาแล้ว!
ข้าเทพปีศาจผู้นี้มิได้รับสิ่งของอันใดทั้งสิ้น!!” เทพปีศาจหยิน
ตวาดตอบด้วยน้าเสียงน่ากลัว
“วาจาผายลมบัดซบ! นี่เจ้าคิดว่าพวกเราโง่งมนักหรือไร ถึงได้
คิดใช้วาจาเหลวไหลไม่กี่คาหลอกพวกเราได้ง่ายๆ? เจ้าเป็นคน
แรกที่พุ่งตามวัตถุประหลาดของมนุษย์นั่นมา มาตอนนี้เมื่อของ
สิ่งนั้นหายไปตอนเจ้าสัมผัส หรือเจ้าจักบอกว่ามันสามารถ
หายไปเองได้!?”
“ปีศาจหยินเก็บความคิดอุบาทว์ของเจ้าไปเสีย รีบส่งมอบ
สิ่งของในตานานที่อยู่ในไหประหลาดนั่นมาแต่โดยดีเสียจัก
ประเสริฐกว่า! หาไม่แล้ว…” ตัวตนอันทรงพลังสูงสุดคนหนึ่ง
กล่าวขู่ข่มออกมา
“หาไม่แล้วบัดซบอะไร? ข้าเทพปีศาจหยินผู้นี้บอกแล้วว่ามิได้
รับสิ่งของอันใด! เช่นนั้นข้าก็มิได้รับสิ่งของอันใด!!”
ตอนนี้ใจเทพปีศาจหยินลุกท่วมไปด้วยไฟโทสะอันไร้ขอบเขต
มนุษย์บัดซบนั่นมันกล้าเล่นอุบายระยาต่อหน้าต่อตาพวกมัน
แถมตอนนี้มันยังติดบ่วงกลับกลายเป็นจาเลยของตัวตนอันทรง
พลังสูงสุดทั้งหมด ที่คิดคาดคั้นให้มันมอบของในตานานไปอีก!
“เหอะ!”
ตัวตนอันทรงพลังสูงสุดตนอื่นๆก็ไม่ใช่ตัวตนที่มีจิตใจประเสริฐ
อะไรนัก! เรียกว่าตอนนี้สภาวะและบรรยากาศกลับกลายเป็น
ตึงเครียดไม่น้อย!!
และเพียงเวลาแค่ชั่วพริบตาเท่านั้นเทพปีศาจของเผ่าพันธุ์
โบราณทั้ง 3,000 ก็พุ่งมาบรรลุถึงสถานที่เกิดเหตุ และต่างมา
หยุดเคียงข้างเทพปีศาจหยิน ตอนนี้พวกมันทั้งหมดคิดร่วมมือ
กับพวกเดียวกันจัดการคนนอกเสียก่อน!
…
“ฮ่าๆๆๆ! ใครจะไปคิดกันล่ะ ว่าไอพวกง่าวหัวถั่วสมองนิ่มนั่น
จะถึงกับแบ่งฝ่ายทุบตีกันเลย!!”
ทางด้านหลินฟ่านนั้นตอนนี้บึ่งทะยานอยู่ในช่องว่างแห่งความ
ว่างเปล่าตัวปลิว ด้วยความรู้สึกชื่นมื่นเบิกบานหัวใจ ครั้งนี้
เรียกว่าไอเทมในตานานที่ปรากฏออกมากว่าครึ่งถูกเขาจิ๊กมา
หมด! สาหรับหลินฟ่านแล้วการมาครั้งนี้ไม่ใช่การเดินทางที่สูญ
เปล่าแม้แต่น้อย!!
อย่างไรก็ตามเขาคิดว่าตัวเองยังไม่พ้นขีดอันตราย! เพราะระยะ
เท่านี้ยังไม่ปลอดภัย…แถมไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มี
ตัวตนอันทรงพลังคนไหนทะลึ่งติดตามเขามา!!
เช่นนั้นหลินฟ่านที่แม้ใจจะลัลล้า แต่ก็ไม่ได้ลดความระมัดระวัง
ลงแต่อย่างไร! พยายามสอดส่องรอบทิศแผ่สานึกสติไปตรวจ
แวดล้อมรอบๆขณะเร่งรุดเดินทาง!!
เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันผ่านมาเนิ่นนานแค่ไหน แต่เขารู้สึกราวกับ
ตัวได้บึ่งทะยานพ้นผ่านหมื่นพันขุนเขาลาน้า ท่องข้ามแดนดิน
ไปนับพันโลกเห็นจะได้! สุดท้ายเขาก็มาหยุดลงที่แนวเทือกเขา
อันมีภูมิประเทศสลับซับซ้อนที่หนึ่ง!!
ยามนี้ตะวันเริ่มลาลับขอบฟ้าลงไปทางขุนเขาด้านหนึ่ง มันทอ
แสงแดงสลัวมัวตาอันเป็นแสงสุดท้ายของวัน นอกเหนือจาก
สัตว์โบราณที่ดารงอยู่ตามวิถีแล้ว แถวนี้ก็ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตอื่นใด
อีก…
หลินฟ่านไม่รอช้าหยิบเตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลกออกมา
เปิดชมดู ทว่าพริบตาที่เขาเริ่มหยิบไอเทมในตานานออกมา
นั้นเอง สังหรณ์อันตรายก็ร้องเตือนสนั่นในใจ บางสิ่งกาลังพุ่ง
มาจากห้วงแห่งความว่างเปล่าหมายเล่นงานเขา!
ชิ๊งงง!!!
เป็นเจตกระบี่ทรงพลังพุ่งทะยานผ่านช่องว่างดิ่งจี้ลงมายังเขา
เจตกระบี่นี้สภาวะของมันเป็นอะไรที่ทรงพลังไร้คู่เปรียบยังแฝง
ไว้ซึ่งอานาจเหนือชั้นยากหลีกหลบ! ทว่าหลินฟ่านเองก็นับเป็น
ปรมาจารย์ด้านเจตกระบี่เช่นกัน พริบตาต่อมา 2 ดัชนีสะบัด
วูบ ยกขึ้นมาคีบเจตกระบี่สังหารไว้ด้วยความฉับไว!!
เจตกระบี่ดังกล่าวแทบบรรลุผลลัพธ์ มันหยุดห่างจากหว่างคิ้ว
หลินฟ่านเพียงระยะเส้นขนกั้น! อันที่จริงกะทั่งผมเส้นหนึ่งของ
เขายังขาดแหว่งไป!!
แข็งแกร่งมาก! เจตกระบี่เล่มนี้อัดแน่นไปด้วยพลังอานาจ
ทาลายล้างผลาญมวลสรรพชีวิต! กระทั่งมันยังบรรลุสู่ขอบเขต
ว่างเปล่า ราวกับไม่ว่าจะสวรรค์ทั้ง 9 หรือพิภพทั้ง 10 ล้วนถูก
ผนึกเอาไว้ในนั้น! หากไม่ใช่ว่าเพราะหลินฟ่านมีปฏิกิริยา
ตอบสนองฉับไว เจตกระบี่เล่มนี้คงเสียบหว่างคิ้วทะลุสมองเขา
ไปแล้ว…!!
แต่แน่นอนว่ามันจะทาแบบนั้นได้..ก็จาต้องให้ความแข็งแกร่ง
ทางกายภาพของหลินฟ่านไม่ได้อยู่ในขอบเขต บรรพกาล
โบราณขั้นสูงสุดซะก่อน…! ด้วยความแข็งแกร่งของร่างหลินฟ่า
นตอนนี้ถึงเขาไม่โชว์ปฏิกิริยาเหนือชั้นใช้นิ้วคีบอย่างเท่ห์ แม้
มันจะตัดเส้นผมเขาได้ก็ยากจะแทงทะลุหนังหน้าเขา!!
“มิเลว…ผู้ใดจักไปคิดคาดว่าตัวเจ้าสามารถรับหนึ่งกระบี่ของ
ข้าบรรพบุรุษผู้นี้ได้!”
ทันใดนั้นร่างหนึ่งที่คอนกระบี่อยู่ในมือพลันปรากฏจากความ
ว่างเปล่า สภาวะของมันมิใช่ชั่วคล้ายไม่ว่ามันจะยืนอยู่ที่ใด ก็
ประหนึ่งจะมีอาญากระบี่สวรรค์ สามารถลิขิตทุกสรรพชีวิตให้
ยอมจานนก้มกราบ!!
“บรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์กระบี่”
เมื่อหลินฟ่านเห็นชายผู้มาใหม่ก็อึ้งในใจไม่น้อย ‘ไอบ้านี่มัน
แอบตามพี่มาตั้งแต่ตอนไหนวะ!?’
“เจ้ากาลังครุ่นคิดอยู่ใช่หรือไม่ว่าข้าบรรพบุรุษติดตามเจ้ามาได้
อย่างไร?” สีหน้าของบรรพบุรุษกระบี่เย็นชานัก ยามมันจับ
จ้องมายังหลินฟ่าน ราวกับมีกระบี่สวรรค์คู่หนึ่งพุ่งทะลวงออก
จากดวงตาคู่นั้น จี้แทงเข้ากลางใจหลินฟ่าน!
หลินฟ่านรีบส่งสานึกสติออกไปตรวจสอบความว่างเปล่า
รอบตัวทันใด เขากลัวว่ายังจะมีตัวตนอันทรงพลังแบบนี้ซ่อน
ตัวอยู่ใกล้ๆอีก!
“มนุษย์น้อย เจ้าอย่าได้เปลืองเรี่ยวแรงสืบค้นอันใด นอกจาก
ข้าบรรพบุรุษแล้วหาได้มีผู้ใดอยู่ที่นี่อีก!” บรรพบุรุษกระบี่
กล่าว
ด้านหลินฟ่านพอได้ยินคากล่าวของอีกฝ่าย ในใจเขาลอบ
ระบายออกมาอย่างโล่งอก คิ้วเขาโค้งขึ้นด้วยความดีใจ ไม่ได้
แยแสการดารงอยู่ของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
“ฮัยยา! บรรพบุรุษกระบี่! เจ้านี่มัน…นับว่าฉลาดเป็นกรดเลยที่
สามารถตามมาจับข้าประมุขได้แบบนี้!!” หลินฟ่านหัวเราะ
ออกมาเบาๆ
“มนุษย์ ส่งมอบสิ่งของในตานานรวมทั้งเตาประหลาดนั่นมาให้
ข้าเสียแต่โดยดี และข้าขอรับรองว่าวันนี้เจาสามารถเก็บกู้ชีวิต
กลับไปได้…” รัศมีพลังของบรรพบุรุษเริ่มกาจายไปทั่ว
บรรยากาศ เจตกระบี่ที่คล้ายว่างเปล่าเริ่มก่อเกิดปิดผนึกผืนฟ้า
ปฐพีและช่องว่าง
หลินฟ่านเงยมองร่างที่ลอยอยู่ครู่หนึ่งค่อยเผยยิ้มออกมา
บางๆอย่างสงบ ดูสภาพแล้วเจ้าบรรพบุรุษกระบี่ผู้นี้คิดบีบคั้น
เขาให้ส่งมอบสมบัติทั้งหมดให้มันแน่แท้…
ตอนนี้ทั้งแผ่นฟ้าผืนดินและช่องว่างเต็มไปด้วยเจตกระบี่นับ
อนันต์ เรียกว่าปิดกั้นหนทางหลบหนีของเขาหมดสิ้น ทว่าใน
สายตาของหลินฟ่านแล้วบรรพบุรุษกระบี่ผู้นี้นับว่ากล้าหาญไม่
เบา! ‘ฮั้นแน่..กล้าขนาดนี้เลยเหรอ!!’
“เอาล่ะบรรพบุรุษกระบี่ ไม่ต้องกล่าวอะไรให้มากเรื่องหรอก…
พอดีข้าประมุขอยากรู้น่ะ…ว่าเจ้าจะจัดการกับข้าประมุข
ยังไง?” หลินฟ่านหัวเราะออกมาขณะกล่าวถาม
“ฮึ่ม!” บรรพบุรุษกระบี่แค่นคาออกมาอย่างเย็นชาและไม่ได้
กล่าวใดสืบต่อ และไม่ทันสิ้นเสียงแค่นคา คนไม่รู้ผุดโผล่มาจาก
ที่ใด หนึ่งกระบี่กลับพุ่งเสียบเจียนบรรลุถึงหลินฟ่านในพริบตา!
หลินฟ่านสัมผัสได้ชัดว่าด้วยอานุภาพของกระบี่เบื้องหน้า พื้นที่
รอบๆของเขาคล้ายถูกปิดกั้น ต่อให้เขาจะมีท่าร่างเลิศภพจบ
แดนเพียงใดแต่ไม่อาจใช้ออกได้ทั้งสิ้น พื้นที่ๆให้เขาขยับยัก
ย้ายได้ มีเพียงแค่จุดเล็กๆเท่าแมวดิ้นตายเท่านั้น!!
และไม่ว่าเขาจะขยับไปไหนอย่างไร ก็คล้ายยังอยู่ในรัศมีคม
กระบี่เล่มนี้!
“ให้ตายเถอะ! บรรพบุรุษกระบี่ นี่เจ้าจะไม่อามหิตไปหน่อยรึไง
หา? แค่ข้าประมุขพูดจาไม่เข้าหูเจ้าคาเดียวก็ลงไม้ลงมือแบบนี้
แล้ว นี่เจ้าจะไร้มนุษย์ธรรมเกินไปป่าว!?” หลินฟ่านแผดเสียง
ออกมาดังลั่น หากแต่ไม่ได้ตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวอะไร
ทั้งนั้น
เปรี๊ยง!!
การเสือกแทงกระบี่อันแฝงเร้นไปด้วยเจตจานงกระบี่ชั่วชีวิต
ของบรรพบุรุษกระบี่ จี้ซัดเข้ากลางอกหลินฟ่านอย่างจัง มัน
ถึงกับเผยยิ้มแสยะเย็นเยียบออกมา หากทว่าวูบต่อมาสีหน้า
แววตาของบรรพบุรุษจาต้องเปลี่ยนไป กระบี่ของมันที่สามารถ
ทะลวงทะลุได้ทุกสรรพสิ่ง มิคาดกลับถูกมนุษย์เบื้องหน้ารับได้
คาตา! แถมดูท่าแล้วอีกฝ่ายไม่ได้ลาบากอะไรแม้แต่น้อย!!
“นี่…!” สีหน้าบรรพบุรุษกระบี่ปั้นยากทันใด มันคิดถอนกระบี่
กลับ!
ส่วนด้านหลินฟ่านนั้นตอนนี้กาลังกากระบี่ที่จิ้มอกเขาอยู่ มุม
ปากยังเริ่มเผยยิ้มแสยะออกมา!
แววตาของบรรพบุรุษกระบี่เผยความประหลาดใจหนักหนา
กระบี่ของมันเล่มนี้มันได้ทิ่มแทงออกด้วยเคล็ดวิชาในตานาน
ของเผ่าพันธุ์กระบี่ที่มันได้รับมาจากสมบัติ มันฝึกฝนทั้ง
กลางวันกลางคืนไม่หน่ายมาชั่วชีวิต ผสานหลอมรวมเข้ากับ
กฏเกณฑ์และเต๋ากระบี่นับไม่ถ้วน!!
แต่ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าไม่เพียงแต่มนุษย์นี่จะไม่สะทกสะท้าน
อะไร มิหนาซ้ายังกล้าจับกระบี่มันเอาไว้ด้วยมือเปล่า!
ทันใดนั้นเองบรรพบุรุษเสียวท้องน้อยวูบ มันสัมผัสได้ว่ามนุษย์
กาลังยกขาเตะมัน!
“เตะสลายแก่นกาเนิด!!”
“แย่แล้ว!”
บรรพบุรุษกระบี่ขนลุกซู่อย่างไร้สาเหตุมันกรีดร้องเสียงดัง คิด
ดึงกระบี่ออกแล้วถอยหนี! ทว่ามือมนุษย์คล้ายคีมนรกหนีบตาย
ไม่ปาน ดึงไม่ออก!!
ลูกเตะนี้มันเต็มไปด้วยสภาวะน่าขนลุกนัก ยังสร้างความกดดัน
มหาศาลกดทับลงใจบรรพบุรุษกระบี่ ราวกับมันต้องจ่ายออก
ด้วยราคามหาศาลหากพลาดพลั้งถูกเตะ!
บรรพบุรุษกระบี่ขบฟันดังกรอด มันถีบเท้าส่งขึ้นฟ้าเต็มกาลัง
หมายหลบการโจมตีอันลี้ลับ อนิจจากระบี่ของมันยังถูกหลิน
ฟ่านกาแน่น แถมมันก็ไม่คิดจะปล่อยกระบี่!
“กระบี่อสูร!!”
เมื่อไม่อาจดึงรั้งกระบี่กลับ บรรพบุรุษกระบี่ก็ไม่คิดปล่อยและ
ถอดใจอะไร มันเพียงใช้มืออีกข้างจี้ดัชนีกระบี่ ส่งการโจมตีอัน
รุนแรงออกมาหมายเล่นงานหลินฟ่าน ให้คีมนรกคลี่คลาย!
ด้วยหนึ่งดัชนีกระบี่ดังกล่าว โลกนับไม่ถ้วนพลันปรากฏ! แต่ละ
โลกเหล่านี้เต็มไปด้วยเงาของบรรพบุรุษกระบี่อัดแน่นอยู่ใน
นั้น!!
อดีจ ปัจจุบัน อนาคต..
คิ้วหลินฟ่านถึงกับยักขึ้นอย่างสนุกสนาน “อัยยะ! ถึงกับผสาน
เคล็ด พระสูตรกลับชาติ 3 วัฏฏะ ลงในหนึ่งกระบี่ได้เลยงั้น
เหรอ?! ไม่เลวๆ บรรพบุรุษกระบี่…ที่แท้เจ้านับว่ามีอัจฉริยะ
ภาพและพรสวรรค์แต่กาเนิดไร้ผู้ต้านคนนึงนี่นา! ธรรมดาที่ไหน
ล่ะเนี่ย!!”
“ฮึ่ม! วาจาที่เขื่องโขโอหังนัก! ข้า บรรพบุรุษกระบี่ผู้นี้ หาใช่
ตัวตนที่เจ้าจักมาชี้แนะอันใดได้!!” บรรพบุรุษกระบี่ไม่คิดไม่ฝัน
ว่ามนุษย์เบื้องหน้าจะรู้เรื่อง พระสูตรกลับชาติ 3 วัฏฏะด้วย!!
ในตอนที่มันได้รับพระสูตรกลับชาติ 3 วัฏฏะมานั้น ใจของมันก็
เต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดีครั้งมโหฬาร นี่คือเคล็ดวิชาอันลี้
ลับไร้ผู้ต้าน และสุดท้ายด้วยศักยภาพที่ไร้ผู้ต้านของมัน ก็
สามารถหลอมรวมผสานเคล็ดความเข้ากับเจตจานงกระบี่อันไร้
ผู้ต้านของมันได้!
นี่ทาให้มันสร้างมารถสร้าง เจตจานงกระบี่กลับชาติ 3 วัฏฏะได้
สาเร็จ! เป็นเจตจานงกระบี่ที่ผสานหลอมรวมเคล็ดกลับชาติ 3
วัฏฏะให้เป็นหนึ่ง!
เมื่อมองถึงเรื่องที่แต่เดิมบรรพบุรุษกระบี่ก็เป็นตัวตนที่
แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์กระบี่อยู่แล้ว มาตอนนี้มันยิ่ง
กลายเป็นอะไรที่เหนือกว่าตัวตนอันทรงพลังสูงสุดตนอื่นไม่
น้อย! และด้วยกระบวนท่านี้ก็ทาให้เต๋ากระบี่ของมันบรรลุสู่
ขอบเขตอันสูงสุด!! (53380)
นี่คือขอบเขตกระบี่อันสูงส่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา!!
“ไม่เลว…! แต่ก็นะถึงแม้ว่าระดับพลังฝึกตนของข้าประมุขจะ
อาจไม่สูงเท่าเจ้า แต่ขอบอกไว้เลย…ว่าเต๋ากระบี่ของข้าประมุข
เองก็ไม่ใช่ขี้ๆนา! เจ้าสนใจลองมั้ย?”
ทันใดนั้นมืออีกข้างของหลินฟ่านพลันพลิกขยับวูบไหวฉับไว
บังเกิดเป็นเจตพลังกระบี่ควบแน่นขึ้นในเสี้ยวพริบตาพร้อม
ตวัดจี้ขึ้นมาทันใด แน่นอนว่าเจตกระบี่นี้ของหลินฟ่านก็บรรจุ
เคล็ดกลับชาติ 3 วัฏฏะไว้ด้วยเช่นกัน!!
“ละแล้วซึ่งวิถีกระบี่อันตื้นเขิน…ไถ่ถามโลกหล้าที่แท้จุดเริ่มต้น
ของสรรพสิ่งอยู่ที่ใด”
ทันใดนั้นกลิ่นอายของหลินฟ่านพลันแปรเปลี่ยนไป ประหนึ่ง
เจตกระบี่คมกล้าพุ่งทะยานจากผืนดิน หมายเสือกแทงสะบั้นผ่า
ห้วงนภาลัยเหนือศีรษะ!
…
ตอนที่ 906 : เมื่อไข่อยู่ในกำมือ…โลกนี้ก็เป็นของพี่!
“อุ๊บส์…มันเจ็บมากขนาดนั้นเลยอ่อ!?”
หลินฟ่านเงยหน้าขึ้นมาตาแป๋ว ทั้งยังกระพริบตาปริบๆถามไถ่
ออกไปราวกับเด็กน้อยไม่เดียงสา
บรรพบุรุษกระบี่ไม่ตอบคา หากทว่าตอนนี้ขอให้ตาไม่บอดก็คง
รู้ดีว่าอาการมันเป็นอย่างไร หน้ามันบิดเบี้ยวขนาดนั้นเกรงว่า
ตอนนี้กาลังพบพานกับความเจ็บปวดสุดแสน สุดที่คนทั่วไป
อย่าได้หวังว่าจะเข้าใจอะไรได้…
“ชิคกี้ ออกมาดูนี่เร็ว!” ตอนนี้เองหลินฟ่านก็เรียกชิคกี้ออกมา
“พี่ใหญ่ นี่ท่านทาไรอยู่อะ?” ดวงตาน้อยๆใสแจ๋วของเจ้าชิคกี้
มองถามหลินฟ่านอย่างไร้เดียงสา มันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่
ใหญ่ของมันกาลังละเล่นอะไรอยู่ ไฉนมือถึงไปบีบเป้าใครก็ไม่
รู้…
“ไม่ต้องถามมากน่า มานี่มา! ข้าจะแนะนาให้เจ้าได้รู้จัก…คนๆ
นี้น่ะเป็นถึงบรรพบุรุษแห่งเผ่าพันธุ์กระบี่เลยนา…” หลินฟ่านก
ล่าว
บรรพบุรุษกระบี่ที่ถูกบีบไข่หน้าเขียวค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาอย่าง
เชื่องช้า และเมื่อมันได้เห็นเจ้าชิคกี้กาลังมองมาที่มันตาปริบๆ
ในใจมันก็รู้สึกอับอายทั้งอัปยศหนักหนา!
“อ๊าคค!!”
บรรพบุรุษกระบี่พยายามคารามออกมาอีกครั้ง มันหมายฮึดสู้
เข้าสู่สภาวะปลดปล่อยพลังทั้งหมด ทว่าก่อนที่มันจะทันได้กู่
ร้องจบคา ไฟฮึดสู้ในใจก็จาต้องมอดดับลงไป…
เพราะเพียงหลินฟ่านออกแรงขยุ้มมือเพิ่มเล็กน้อย ชีวิตของมัน
ก็รู้สึกรวดร้าวปานจะดับสลาย
“อะ….โอ๊ยยย!!”
เหงื่อเม็ดเขื่องดั่งมณีเปล่งประกายระยับ พวกมันหยดร่วงหล่น
ลงจากหน้าผากบรรพบุรุษกระบี่เป็นสาย กระทั่งตอนนี้มันยังไม่
อาจทาใจยอมรับได้ว่า…ในโลกหล้ายังมีอวิชชาอันชั่วร้ายแบบ
นี้ดารงอยู่! มันเป็นถึงผู้ที่ได้บรรลุกายากระบี่แล้ว! เหตุไฉนมัน
ยังมิอาจทานทนรับความเจ็บปวดนี้ได้กัน!?
จะเพราะอะไรไม่รู้แต่ความจริงที่มันทราบชัดเจนก็คือ…มันไม่
อาจทานทนต่อความเจ็บปวดนี้ได้เลย!!
“กุ๊กกู!”
ชิคกี้โก่งคอก่อนจะชะโงกมองไปยังเป้าของบรรพบุรุษกระบี่ที่
หลินฟ่านบีบอยู่ สองตากุ๊กไก่จดๆจ้องๆด้วยท่าทางสงสัยไม่
น้อย…
“พี่ใหญ่ นี่ท่านเล่นอะไรอยู่หรือ?” ชิคกี้ถามด้วยน้าเสียงสงสัย
เมื่อบรรพบุรุษกระบี่เห็นว่าสิ่งมีชีวิตรูปร่างบัดซบนี่กลับกล้ามา
ด้อมๆมองๆสภาพมัน มันก็ไม่อาจทานทนได้สืบไป!!
“สะ..ไสหัวไป! หาไม่แล้ว ขะ…ข้าจะฆ่าเจ้าให้ตาย!!” เสียงของ
บรรพบุรุษกระบี่นั้นสั่นพร่า มันพยายามอดทนฝืนกลั้นต่อความ
เจ็บปวดอย่างสุดกาลัง รีดเค้นพลังความแข็งแกร่งแผดคา
ออกมา!
“อว๋า! กุ๊กก!!”
ชิคกี้สะดุ้งโหยงถอยหนีไปหลบหลังหลินฟ่าน ก่อนที่มันจะใช้
ปีกน้อยๆของมันตบอกเบาๆที่ราวกับจะเรียกขวัญกาลังใจ
สุดท้ายก็จะหันไปมองหลินฟ่านด้วยสายตากุ๊กไก่แสนน่าสงสาร
“พี่ใหญ่…มันขู่จนชิคกี้หวาดกลัวแทบตายแล้ว…”
“เชี่ย! นี่เจ้ากล้าขู่ให้ชิคกี้น้องข้าหวาดกลัวได้ไงกัน หา?”
หลินฟ่านออกแรงบีบเพิ่มไปอย่างหนักหน่วงอีกครั้งทันใด นี่ทา
ให้บรรพบุรุษกระบี่พบพานกับความเจ็บปวดที่ไม่อาจต้านทาน
รับไหวอีกระลอก
“จะ..เจ้ามันสารเลวชาติสุนัข…!!” บรรพบุรุษกรีดร้องก้องฟ้า
ด้วยโทสะอันไร้ขอบเขต มันไม่อาจทานทนรับเรื่องราวนี้ได้!
“เฮ่ ชิคกี้! มันด่าแกว่าสารเลวชาติสุนัขแหนะ แกจะเอาไงกับ
มันล่ะ?” หลินฟ่านกล่าวถาม
“พี่ใหญ่…ดูเหมือนมันจะด่าท่านมากกว่าข้านา…!” ชิคกี้ส่ายหัว
ไปมาเบาๆ เป็นการบ่งบอกว่ามันไม่ใช่ไก่โง่นา…
“บัดซบ พวกเจ้าทั้งคู่ล้วนเป็นตัวสารเลวชาติสุนัข! พวกเจ้ารอ
ข้าบรรพบุรุษกระบี่ให้ดีเถอะ! ข้าบรรพบุรุษกระบี่ไม่มีวันเลิกรา
ต่อพวกเจ้า!!” ร่างบรรพบุรุษกระบี่สั่นสะท้านขึ้นมาอย่างไม่
อาจควบคุม มันระเบิดเจตจานงกระบี่อันไร้คู่เปรียบออกมา
อนิจจานั่นไม่อาจแก้สถานการณ์ได้เลย
“ไงล่ะ! เห็นมั้ย! ที่นี้ได้ยินชัดยังล่ะ ว่ามันด่าแกน่ะชิคกี้? ที่นี้เชื่อ
พี่รึยัง!” หลินฟ่านยักคิ้วถาม
“กุ๊ก! กู!!”
ครั้งนี้ชิคกี้พิโรธแล้ว มันกระพือปีกส่งร่างเหินลอยสู่ฟ้า ลอย
ค้างในท่านกกระเรียนสยายปีก ก่อนที่จะหวดเตะไปที่ใบหน้า
ของบรรพบุรุษกระบี่อย่างแรง!!
“ภายใต้โทษะอันเกรี้ยวกราดของใต้เท้าชิคกี้ผู้นี้! เจ้าจงโดนเตะ
หน้าลายไปซะ! กุ๊ก ๆ ๆ กุ๊กกู!!”
เมื่อหลินฟ่านเห็นภาพเจ้าชิคกี้ระดมหวดไปที่หน้าของบรรพ
บุรุษกระบี่เป็นชุด ก็ถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ตอนนี้เจ้ารู้สึกยังไงมั่งล่ะบรรพบุรุษกระบี่?กระทั่งชิคกี้ของข้า
ยังเตะซะจนหน้าเจ้าลาย! แล้วนี่เจ้ายังมีลูกไม้อะไรอีกไหม?”
หลินฟ่านระเบิดเสียงหัวเราะออกมาขณะกล่าวถาม
ไม่ว่าจะอะไรก็ตามแต่บรรพบุรุษกระบี่นั้นก็เป็นตัวตนระดับ
บรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์ ด้วยพลังอานาจอันแข็งแกร่งน่าเกรง
ขามของมัน มันได้ย่าเท้าข้ามผ่านกาลยุคสมัยมาแล้วมากมาย
นับไม่ถ้วน ทว่าตอนนี้มันกลับถูกลิขิตให้อยู่ในกามือของหลิน
ฟ่าน ยิ่งกว่านั้นมันยังต้องกล้ากลืนขื่นขม ทานรับความอัปยศที่
ถูกชิคกี้ยัดเยียด! จะให้มันทานทนรับเรื่องพรรค์นี้ได้อย่างไร!!
“ระยา!” บรรพบุรุษกระบี่แผดคาจนลาคอแทบแตก “มนุษย์…!
สักวันเจ้าจักได้พบกับที่สุดแห่งความสิ้นหวังและอัปย…”
หมับเข้าให้!!
หลินฟ่านออกแรงบีบกาอีกครั้ง ทาให้บรรพบุรุษกระบี่ไม่อาจ
กล่าววาจาใดสืบ ร่าร้องออกมาสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด!
เสียงกรีดร้องประหนึ่งพบพานโศกนาฏกรรมอันโหยหวนเวทนา
ของมันนี้ ใครได้มาฟังเกรงว่าคงขวัญผวากันบ้าง!
“ปะ…ปล่อย!”
ตอนนี้บรรพบุรุษกระบี่รู้สึกเสียใจหนักหนาแล้ว มันไม่น่าถูก
หลินฟ่านหลอกเลย หากมันรูว้ ่าเรื่องราวจะกลับกลายเป็น
เช่นนี้มันจะไม่มีวันประมาทอะไรเด็ดขาด!!
แต่ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว…
“หืม้ ?”
“ชิคกี้ นั่นเจ้าทาไรน่ะ?” ตอนนี้หลินฟ่านพลันสังเกตเห็นว่าเจ้า
ชิคกี้มันเดินเตาะแตะไปอยู่ด้านหลังของบรรพบุรุษกระบี่ มัน
สยายปีกออกกว้างปกคลุมแก้มแก้นทั้ง 2 ของบรรพบุรุษกระบี่
เอาไว้ปานจะโอบกอดไปก็ไม่ปาน
“พีใหญ่! ข้าอยากให้มันรับรู้ถึงพลังของใต้เท้าชิคกี้ผู้นี้!!” ชิคกี้
ชูคอขึ้นมาอย่างมาดมั่น สีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความน่าเกรง
ขาม
“เอ๊อะ?”
หลินฟ่านอึ้งไปทันใด…ถล่มมารดามันเถอะ! คงไม่ใช่งั้นหรอก
นะ!!
“ไสหัวไป!!!”
บรรพบุรุษกระบี่คลั่งแค้นไปด้วยไฟโทสะผลาญใจ มันเป็นถึง
บรรพบุรุษแห่งเผ่าพันธุ์กระบี่! มันจะถูกสิ่งมีชีวิตบัดซบนี่
ล่วงล้าให้เสื่อมเสียได้อย่างไร!?
“กุ๊กกกกกกกก กูววววววววววววววว!!!”
ตอนนี้สองตาของเจ้าชิคกี้ส่องประกายวาวโรจน์! คล้ายมันได้
อัดอั้นมานาน เพลานี้ถึงกาลที่จะต้องปลดปล่อยออกไปแล้ว!!
และด้วยสถานการณ์เช่นนี้กอปรทั้งความที่มันเป็นไก่ของขาด
มานาน…ชายหญิงย่อมไร้แบ่งแยก!!
แต่หลินฟ่านจะยอมให้ชิคกี้มันกระทาแบบนั้นได้ไง!!
ปักกกก!!!
อิฐแดงในตานาน 95 ผุดโผล่จากอากาศว่างเปล่า มืออีกข้าง
คว้าหมับ สับเขกลงไปกลางกระหม่อบรรพบุรุษกระบี่สะบั้น
ห้วงสติมันให้ดับวูบไปในทันที จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนมองร่าง
บรรพบุรุษกระบี่ที่น๊อคไปแล้วด้วยรอยยิ้มแสยะ
การสับประยุทธ์ในวันนี้นับว่าเป็นอะไรที่สะท้านสวรรค์สะเทือน
แดนดินนัก! แต่ด้วยสติปัญญาอันสูงส่ง ในที่สุดเขาก็สามารถ
การาบอีกฝ่ายได้อย่างหมดจด!!
ต่อให้มันเป็นบรรพบุรุษกระบี่แล้วจะทาไม!? สุดท้ายก็ถูกพี่
ประมุข หลินฟ่านผู้นี้ถล่ม! แถมมันยังเกือบโดนชิคกี้ถล่มซ้า
ด้วย!!
ภายในวิมานฟ้า…
ร่างของบรรพบุรุษกระบี่ลอยล่องอย่างเงียบงัน เนื้อตัวมันถูกรัด
พันไปด้วยกิ่งเถาของต้นไม้แห่งชีวิตในตานาน รัดจนมันไร้
หนทางขยับเขยื้อนอะไรได้!
หลินฟ่านตวัดกระบี่พลังของเขาสับไปยังร่างของบรรพบุรุษ
กระบี่ทันที หยาดโลหิตสดๆพรั่งพรูสาดกระจายในวิมานฟ้า
โลหิตแต่ละหยาดหยดของมันนี้ ยังอัดแน่นไปด้วยเจตจานง
กระบี่อันไร้คู่เปรียบ!
เรียกว่าเจตจานงกระบี่ของมันเป็นอะไรที่สะท้านพิภพนัก
ครอบครองพลังอานาจอันไม่ธรรมดา! แต่ละส่วนพลังของมัน
สร้างประโยชน์ให้วิมานฟ้าเขามหาศาล! ทุกหยาดหยดโลหิต
เต็มไปด้วยแก่นแท้ของบรรพบุรุษกระบี่ เกรงว่าขอเพียงเป็นคน
ธรรมดา ถ้าบังเอิญได้รับแม้แต่หนึ่งหยดโลหิตของบรรพบุรุษ
กระบี่ล่ะก็…มันย่อมสาเร็จเจตกระบี่ไร้คู่เปรียบ!!
และด้วยโลหิตมากมายขนาดนี้คงไม่จาเป็นต้องกล่าวอธิบายอัน
ใดอีก!
“ดูดซับ”
‘ติ๊ง!!..ขอแสดงความยินดีท่านสังหารบรรพบุรุษแห่งเผ่าพันธุ์
กระบี่’
‘ติ๊ง!! ..EXP+ ..’
‘ติ๊ง!! ..ระดับพลังฝึกตนของท่านยกระดับ : บรรพกาลโบราณ
ขั้นต่า’
ทันใดนั้นหลินฟ่านสัมผัสได้ถึงพลังงานมหาศาลแล่นพล่านไป
ทั่วร่าง แต่ละอณูเซลและหยดโลหิตของเขาเต็มไปด้วยพลังงาน
อันลี้ลับอัดแน่นไหลเวียน!
ตอนนี้ความรู้สึกเดียวที่หลินฟ่านมีก็คือ…เพียงหนึ่งหมัด เขาก็
สามารถทาลายล้างโลกได้ทั้งใบ!
บรรพกาลโบราณขั้นต่า..
นี่คือขอบเขตด่านพลังที่สิ่งมีชีวิตทั่วไปไม่เคยหวังว่าจะบรรลุได้
ถึง หากแต่สาหรับหลินฟ่านแล้ว..นี่คือจุดเริ่มต้นเท่านั้น! ต่อให้
เป็นด่านพลังที่เหนือล้าไปกว่านี้หลินฟ่านก็มั่นใจว่าเข้าต้อง
บรรลุได้!!
สาหรับไอพวกตัวตนทรงพลังทั้งหลายเหล่านั้น หลินฟ่าน
เชื่อมั่นว่าสักวันเขาต้องกวาดล้างพวกมันได้ทั้งหมด!!
จิตวิญญาณสถิตศาสตรากระบี่ยาวของบรรพบุรุษกระบี่ ที่หลิน
ฟ่านชิงและโยนเข้ามาตั้งแต่แรก กาลังหมอบกราบวิงวอนร้อง
ขอความเมตตาออกมา…
ทว่าสาหรับหลินฟ่านแล้ว เขาไม่เห็นมันเป็นสิ่งมีชีวิตด้วยซ้า
มันเป็นได้แค่ยาชูกาลังเท่านั้น…!
เปรี๊ยะ!!
เพียงบีบกาเบาๆจิตวิญญาณของมันก็แหลกสลาย! พลังลี้ลับ
ของดวงจิตมันสุดท้ายก็กลับกลายเป็นพลังงานบริสุทธิ์อันไร้
ขอบเขต! กฏเกณฑ์พลังมากมายที่อัดแน่นในนั้น ต่างถูกวิมาน
ฟ้าดูดซับเอาไว้หมดสิ้น!!
หลังจากที่กาแพงพลึกคริสตัลของวิมานฟ้าหลินฟ่านได้ดูดซับ
พลังงานเหล่านี้ พวกมันก็บังเกิดลมหายใจขึ้นมา ทั้งตัวกาแพง
ผลึกยังเริ่มสั่นไหวคล้ายชิ้นเนื้อกาลังเต้นเป็นจังหวะ แต่ละ
ชิ้นส่วนผลึกของมันคล้ายกาลังหล่อเลี้ยงชีวิตอยู่อย่างไรอย่าง
นั้น!!
ในที่สุด วิมานฟ้าของหลินฟ่านก็กาลังจะยกระดับพัฒนาไปเป็น
โลก (53380)
ส่วนทางด้านอาวุธในตานานที่อยู่ในเตาหลอมกลั่นสวรรค์และ
โลกนั้น พวกมันก็กาลังดิ้นพล่านวุ่นวาย! ต่างส่งเสียงคารามกู่
ร้องไม่ยินยอม หมายหลุดจากที่คุมขังประหลาดให้จงได้…
ไอเทมในตานานเหล่านี้แต่ละชิ้นล้วนมีชีวิต อันที่จริงบางชิ้นก็
นับว่ามีพลังอานาจอ่อนแอกว่าหลินฟ่านตอนนี้ซะอีก อย่างไรก็
ตาม…แต่ละชิ้นย่อมมีสานึกสติและจิตวิญญาณเป็นของตัวเอง
พวกมันเองก็บังเกิดปณิธานแน่วแน่ว่าจะดารงอยู่ข้ามกาลยุค
สมัย บาเพ็ญตบะ ทะลวงฝ่าขอบเขตตานาน บรรลุสู่การสร้าง
ร่างกายที่แท้จริงของตัวเอง
หลินฟ่านสะบัดมืออย่างสุ่มๆคราหนึ่ง ดึงโอสถเม็ดหนึ่งที่เตะตา
ออกมาถือไว้ในฝ่ามือ
‘ติ๊ง!!..ขอแสดงความยินดีท่านค้นพบ โอสถทิพย์เทพนิรมิต’
‘โอสถทิพย์เทพนิรมิต: เต็มไปด้วยผลกระทบอันมหัศจรรย์ไร้
ขอบเขต มอบพลังอานาจอันเหนือชั้นให้ผู้ใช้
ทันใดนั้นเองจิตวิญญาณของโอสถทิพย์เทพนิรมิต ก็ดิ้นรน
อย่างหนักหมายหลบหนีไปจากฝ่ามือของหลินฟ่าน!
TSS ตอนที่ 908 : บุตรแห่งข้า ลงมือได้!!
“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ…!!” จิตวิญญาณของโอสถทิพยพ์เทพ
นิรมิตคารามออกมาอย่างโกรธแค้น มันดิ้นพล่านหมายหลุดพ้น
เงื้อมมือของหลินฟ่าน น่าเสียดายทว่าตอนนี้มันดันมาอยู่ในกา
มือหลินฟ่าน…แล้วคนอย่างหลินฟ่านน่ะหรือจะยอมให้มันหนี
ได้? แน่นอนว่าโอสถทิพย์เทพนิมิตมันเป็นโอสถระดับเทพ เรื่อง
ที่มันจะมีจิตวิญญาณสถิตย์อะไรแบบนี้หลินฟ่านก็รู้ตั้งแต่แรก
แล้ว!!
“มนุษย์เจ้าปล่อยข้าไปเถอะ…ถ้าเจ้าปล่อยข้าไป ข้าจักนาพา
เจ้าไปยังโลกแห่งโอสถ! ที่นั่นเจ้าสามารถพบพานโอสถใน
ตานานมากมาย! ทุกสรรพชีวิตในโลกแห่งนั้นล้วนเป็นโอสถ
เทพ…เจ้าสามารถพุ่งทะยานสู่เส้นทางแห่งนิรันดร์ได้อย่าง
แน่นอน!!” จิตวิญญาณของโอสถทิพยพ์เทพนิรมิตพยายาม
ล่อลวงหลินฟ่านหมายหนีเอาตัวรอด
มันคือโอสถทิพย์เทพนิรมิต! มันไม่ใช่อะไรที่จะต้องมาถูก
สิ่งมีชีวิตธรรมดาๆเบื้องหน้ากลืนกิน! ปณิธานของมันหมายมั่น
ครอบครองทั่วหล้า! มองเย้ยหยันสรรพชีวิตต้อยต่าทั้งหลาย
ด้วยสายตาดูแคลน!!
“ให้ตายเถอะ! ไหงโลกนี้ถึงได้มีโอสถช่างจ้อได้นะ?” หลินฟ่าน
ราคาญนัก ในอดีตโอสถนั้นเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมสาหรับเขาไม่
น้อย พวกมันให้ประโยชน์และอยู่นิ่งๆเงียบๆ รอคอยเวลาถูกใช้
อย่างสงบเป็นอย่างที่พวกมันควรจะเป็น…
“มนุษย์…เจ้าจักต้องตายอนาถ! ข้าขอสาปแช่งเจ้า!!”
แคร่ก!
จิตวิญญาณของโอสถทิพยพ์เทพนิรมิต กู่ร้องตะโกนเสียงดัง
เสียดหูหลินฟ่านไม่หยุด อันที่จริงหลินฟ่านยังสัมผัสได้ถึงคา
สาปที่หมายกัดกินเขา! แต่อนิจจาพลังของคาสาปมันอ่อนด้อย
นัก ไม่ได้นับเป็นอะไรด้วยซ้าเพียงการลงมือง่ายๆนิดเดียวก็
สลายหายไปสิ้น…
ตอนนี้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของร่างกายหลินฟ่านได้
บรรลุขอบเขตบรรพกาลโบราณขั้นสูงสุดเข้าไปแล้ว ความชั่ว
ร้ายใดๆล้วนไม่อาจกล้ากราย ใครจะไปคิดฝันว่าเจ้าจิต
วิญญาณของโอสถทิพยพ์เทพนิรมิตกระจิ๊ดริดกระจ้อยร่อยนี่
กลับหาญกล้าคิดทาลายร่างเขา? ฝันละเมอของตัวโง่งมนัก!!
“เจ้ามันอามหิตนัก! สักวันเจ้าต้องมิได้ตายดี!!” โอสถทิพยพ์
เทพนิรมิตกรีดร้องออกมาเป็นครั้งสุดท้าย
หลินฟ่านไม่แยแสอะไรเพียงโยนโอสถเข้าปากเคี้ยวหงุบหงับ
รสชาติของมันนับว่าดีใช้ได้ พลังอานาจมหาศาลเริ่มไหลผ่าน
ซอกฟันเข้าร่าง…!
‘ติ๊ง!!..ขอแสดงความยินดีท่านบริโภค โอสถทิพย์เทพนิรมิต’
‘ติ๊ง!! ..EXP+100,000’
การกระทาอันดุร้ายอามหิตของหลินฟ่านย่อมถูกเหล่าไอเทมใน
ตานานที่อยู่ในเตาหลอมกลั่นสวรรค์และโลกแลเห็น พวกมัน
ถึงกับปั่นป่วนขึ้นมาทันใด ตางพยายามหาหนทางหลบหนีกัน
จ้าละหวั่น ประหนึ่งชีวิตของพวกมันกาลังตกอยู่ในความเสี่ยง
ดับสูญ!
ทันใดนั้นเองหลินฟ่านพลันยื่นมือไปคว้า “คา” หนึ่งกลาง
อากาศ
‘ติ๊ง!! ..ขอแสดงความยินดีท่านค้นพบไอเทมในตานาน :
อักขระ ‘ ปีศาจ’ ‘
คาว่า ‘ปีศาจ’ นี้มันดาสนิทเปล่งอานาจแห่งเต๋าอันไร้คู่เปรียบ
ออกมาตลอดเวลา ทรงอานาจประหนึ่งสามารถควบคุมชีวิต
และจิตวิญญาณของผู้คนได้! ทั้งยังราวกับภายในคาๆนั้นมันอัด
แน่นไปด้วยปีศาจนับอนันต์กาลังกู่ร้องโหวหวนอย่างบ้าคลั่ง!
คา ‘ปีศาจ’ นี้ นับว่าเผยให้เห็นซึ้งถึงแก่นแท้ของปีศาจในโลก
หล้า!!
“บัดซบ!” จิตวิญญาณสถิตย์อักขระปีศาจย่อมรู้ดีว่ามันหนีไม่
รอดแน่แล้ว และชะตาของมันมิแคล้วต้องจบเห่แบบโอสถทิพย์
เทพนิรมิตแน่นอน มันจึงทาได้แค่สาปแช่งด่าทอหลินฟ่าน
เท่านั้น
“อักขระนี่นับว่ามีพลังอานาจไม่เลว ท่าทางจะใช้ประโยชน์ได้
หลายอย่าง…อืม บางทีมันอาจจะเพิ่มพลังให้วงล้อปีศาจเทวะ
ของพี่ได้..”
“ผสานหลอมรวม!!”
ทันใดนั้นหลินฟ่านก็กลืนกินอักขระ ‘ปีศาจ’ หายลับไป ก่อนที่
จะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นพลังอานาจลี้ลับบริสุทธิ์ ก่อนจะนาไป
ผสานหลอมรวมเข้ากับวงล้อปีศาจเทวะ!!
ปราณปีศาจกาจายออกมาทั่ววงล้อปีศาจเทวะ ตอนนี้พลัง
อานาจจากอักขระค่อยๆพุ่งหายไปในตัววงล้อ ไม่นานกลิ่นอาย
พลังทั้งหมดของพวกมันก็ค่อยๆผสานเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์
ทันใดนั้นบังเกิดภาพหนึ่งฉายในใจ ร่างปีศาจเทวะตนหนึ่งยืน
ตะหง่านท่ามกลางโลกปีศาจอันไร้ขอบเขต มันกู่ก้องร้องคาราม
ออกมาจนเมฆดาเหนือฟ้าแหวกเป็นทาง ทาลายกาแพงผลึก
เบื้องบนจนสลาย ก่อนจะทะลวงผ่านไปสู่ขอบเขตอันสูงส่ง
เหนือชั้นกว่าที่มันเคยเป็น!!
‘ติ๊ง!! .. กระบวนการฟิวชั่น สาเร็จ’
‘วงล้อปีศาจเทวะได้ยกระดับกลายเป็นแดนปีศาจแล้ว’
ยังมีไอเทมในตานานมากมายนักในเตาหลอมกลั่นสวรรค์และ
โลกให้หลินฟ่านใช้ประโยชน์! นับว่าครั้งนี้หลินฟ่านได้พบ
สมบัติมูลค่ามหาศาลยากประมาณ! แน่นอนว่าเขาไม่ได้สนใจ
อะไรเป็นพิเศษเพียงกลืนกินทั้งหมด จิตวิญญาณสถิตย์ไอเทม
ในตานานหลายต่อหลายชิ้นก็พยายามดิ้นรนขัดขืนสุดกาลัง
อนิจจาการกระทาของพวกมันในสายตาหลินฟ่านล้วนไร้สาระ
ทั้งสิ้น…
‘ติ๊ง!!..ขอแสดงความยินดีท่านบริโภคน้าอมฤตแห่งหยินหยาง’
‘ติ๊ง!!..ขอแสดงความยินดีท่านบริโภค โอสถพุทธะทองคา 9
เปลี่ยน’
‘ติ๊ง!!..ขอแสดงความยินดีท่านค้นพบ ทองคาแห่งชีวิตของทวย
เทพ’
…
โอสถทั้งหมดถูกเปลี่ยนเป็นค่าประสบการณ์ ส่วนวัตถุดิบใน
ตานานทั้งหลายถูกผสานหลอมรวมเข้ากับวิมานฟ้าให้เป็นหนึ่ง
เดียว
สาหรับหลินฟ่านแล้วจังหวะชีวิตแบบนี้เป็นอะไรที่สุขีหนักหนา
วิมานฟ้าของเขาพบพานความเปลี่ยนแปลงอันดี ดั่งระเบิดแห่ง
ความสุขปะทุก็ไม่ปาน!!
และด้วยการผสานเข้ากับไอเทมในตานานมากมายหลายต่อ
หลายชิ้น ในที่สุดตราประทับแบบแปลนวิมานฟ้า อันเป็นต้น
กาเนิดสรรพชีวิตที่ไม่ได้ทางานมานาน ก็เริ่มหมุนวนอย่าง
ดุเดือดเริ่มกระบวนการสร้างสรรพชีวิตและพัฒนาทั้งหลายใน
วิมานฟ้าอีกครั้ง
รัศมีขอบเขตของวิมานฟ้าหลินฟ่านขยายตัวออกไปอย่าง
ต่อเนื่อง กาแพงผลึกของวิมานฟ้าเขาเองก็ยกระดับพัฒนาครั้ง
แล้วครั้งเล่า อีกแค่ไม่กี่ก้าวมันก็จะกลายเป็นโลกที่แท้จริงแล้ว
อันที่จริงในสายตาของหลินฟ่านต่อให้เป็นวิมานฟ้าของไอพวก
ตัวตนทรงพลังสูงสุดทั้งหลาย ก็ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าของเขาด้วย
ซ้า!!
ในขณะเดียวกันกับที่หลินฟ่านกาลังจะทะลวงผ่านนั้นเอง…
ทางด้านของอสูรนอกพิภพก็กาลังหลบซ่อนตัวอยู่ในช่องว่าง
แห่งความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตอย่างระวัง นับตั้งแต่พวกมัน
ถูกจ้าวแห่งความชั่วร้ายสังเวยชีวิตเปิดเส้นทางให้เข้ามาในโลก
เซียนโบราณ พวกมันก็ไม่กล้าโผล่หัวไปไหนด้วยซ้า ทาได้แค่
หลบซ่อนตัวอยู่อย่างนี้…
ตัวตนอันทรงพลังสูงสุดนั้นนับว่าเป็นอะไรที่แข็งแกร่งเกินกว่า
เหล่าอสูรนอกพิภพจะต่อกรด้วยได้ พวกมันก็รู้ตัวดีว่าไม่ได้
นับเป็นอะไรในสายตาของตัวตนเหล่านั้น…
ทว่า ยามนี้…กลิ่นอายพลังที่กาลังแผ่ซ่านออกมาจากหลินฟ่าน
ผู้ที่กาลังอยู่ในขั้นตอนบ่มเพาะเพิ่มพูนพลังนั้น กลับถูกอสูร
นอกพิภพกลุ่มนี้จับสัมผัสได้! ไม่นานพวกมันก็ตามรอยมาจน
เจอหลินฟ่าน!!
นัยน์ตาชั่วร้ายจานวนนับไม่ถ้วนต่างมองเขม็งไปยังร่างที่
นั่งขัดสมาธิบนพื้นด้วยประกายวูบวาบน่ากลัว!
“ตอนนี้ ทั่วอาณาบริเวณนับว่ามีมนุษย์นั่นอยู่ลาพัง!”
“เคี๊ยกๆ แถมมันกาลังอยู่ท่ามกลางการบ่มเพาะพลังอันสาคัญ!
หากพวกเราทั้งหมดลงมือพร้อมกันยามนี้ พวกเราสมควรยึด
ครองร่างกายและช่วงชิงทุกสิ่งทุกอย่างไปจากมันได้!!”
“ฟุดฟิดๆ กลิ่นนี้มัน…สวรรค์ นี่มันกลิ่นศาสตราวุธในตานาน!
อา เนิ่นนานเหลือเกินนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ข้าได้สูดดมกลิ่น
หอมของศาสตราวุธในตานานอันแสนชื่นใจเช่นนี้…”
ท่ามกลางเหล่าอสูรนอกพิภพนับอนันต์นั้น ปรากฏร่างอสูรนอก
พิภพตัวหนึ่งที่มีพลังอานาจสูงสุด มันคือราชาอสูรนอกพิภพ
ดวงตาดุร้ายของมันยามนี้ส่องสว่างเจิดจ้า! มนุษย์เบื้องหน้า
ของมันตอนนี้แลดูน่าเอร็ดอร่อยเกินไป!!
“ไอ้จ้าวแห่งความชั่วร้ายอันบัดซบ! ไม่คิดเลยว่าตัวบัดซบนั่น
จักลากพวกเรามาที่นี่เสียได้! ถึงแม้ตัวตนทรงพลังสูงสุดนั่นยัง
มิได้ออกมาไล่ล่าจับตัวพวกเรา แต่หากพวกมันพบเจอพวกเรา
มันก็ฆ่าไม่ละเว้น!!” ราชาอสูรนอกพิภพกล่าวออกด้วยน้าเสียง
เกรี้ยวกราดจริงจัง
พวกมันนั้นชมชอบยึดครองร่างของสิ่งมีชีวิตที่ตายตก ต่อให้
เป็นตัวตนอันทรงพลังสูงสุดตายตกลง พวกมันก็ยังสามารถยึด
ครองและใช้งานร่างเหล่านั้น กระทั่งยังสามารถช่วงชิงทุกสิ่ง
ทุกอย่างมาได้!!
แต่แน่นอนล่ะว่าเหล่าตัวตนทรงพลังทั้งหลายย่อมไม่มีใครเปิด
โอกาสให้พวกมันได้กระทาเช่นนั้น ซ้ายังรังเกียจสิ่งมีชีวิตอย่าง
พวกมันไม่น้อย และตราบใดที่สมควรแก่เวลา ตัวตนเหล่านั้น
ย่อมลงมือกวาดล้างพวกมัน อสูรนอกพิภพให้สิ้นซาก!!
แน่นอนว่าเรื่องนี้ราชาอสูรนอกพิภพก็ไม่อาจทนรับได้เช่นกัน!
“บุตรแห่งข้าทั้งหลาย…รีบเข้าไปยึดครองร่างมนุษย์นั่นเสีย!
พวกเราจักฉกชิงทุกสิ่งของมัน!!” ราชาอสูรนอกพิภพตะโกน
ก้อง
ทันใดนั้นเหล่าอสูรนอกพิภพนับล้านๆก็พุ่งออกมาจากส่วนลึก
ของห้วงแห่งความว่างเปล่า แต่ละตัวแยกเขี้ยวยิงฟันเผยกรง
เล็บแหลมคม ปรี่ตรงมาหาหลินฟ่าน!!
ส่วนหลินฟ่านนั้น ตอนนี้วิมานฟ้าของเขากาลังจะอยู่ใน
กระบวนการวิวัฒน์พัฒนา ด้วยไอเทมในตานานจานวน
มหาศาล มันได้ผลักดันให้สถานะของวิมานฟ้าหลินฟ่านบรรลุสู่
จุดสูงสุดทันที!
ตอนนี้ภายในวิมานฟ้าปรากฏเมฆทมิฬกึกก้องปั่นป่วน หมื่นพัน
วิชชุกระหน่าเปรี้ยงปร๊าง เหล่าสรรพชีวิตนับไม่ถ้วนกาลังถือ
กาเนิด เต๋าแห่งวิมานฟ้าเองก็กาลังเข้าสู่ความสมบูรณ์แบบไป
ทุกขณะ
นี่คือกระบวนการวิวัฒน์สู่โลก…
เพลิงแห่งพิภพและสายวายุแห่งสวรรค์ เริม่ โหมกระหน่าพัดพา
พวกมันลุกโชนเกรี้ยวกราด หมายล้างผลาญให้สุดกาลัง! ปาน
ต่อให้สูญพลัง ก็ไม่ยินยอมให้โลกอันฝืนกฏเกณฑ์สวรรค์แห่งนี้
ถือกาเนิด!!
ด้านหลินฟ่านเองตอนนี้ก็ถึงกับปวดหัวไม่น้อย เขาเขกหัว
ตัวเองแรงๆไปแล้ว 2 ที! ไม่คิดเลยว่าสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้น
เพราะความเผลอเรออีกแล้ว!!
“สยบ!!”
หลินฟ่านเองก็ทาอะไรไม่ได้ เขาทาได้แต่เร่งเร้าพลังคอยจัดการ
ปราบปรามเพลิงพิภพที่ลุกพรึ่บหมายเผาโลกหล้า และสลาย
วายุสวรรค์ที่โหมกระหน่าหมายพัดทาลายสรรพสิ่งในวิมานฟ้า
ของเขา! นี่คือจุดเริ่มต้นของหายนะภัยพิบัติสวรรค์ที่เขาต้อง
เผชิญ!!
หากต้องการปลูกฝังบ่มเพาะวิมานฟ้าให้กลายเป็นโลกหล้ามัน
จาต้องผ่านหายนะและภัยพิบัติแห่งสวรรค์ให้ได้เสียก่อน และ
เรื่องนี้เกรงว่าต่อให้เป็นตัวตนทรงพลังอันสูงสุดทั้งหลายก็ยาก
ที่จะกระทาได้สาเร็จลาพัง…! ยังนับประสาอะไรกับหลินฟ่านที่
พึ่งบรรลุด่านพลังบรรพกาลโบราณขั้นต่า!!
ตอนนี้เองหลินฟ่านก็ลอยร่างอยู่กลางวิมานฟ้าเฝ้าดูหายนะภัย
พิบัติที่คล้ายกาลังจะโถมลงมาครั้งใหญ่ ปีศาจยักษ์โบราณและ
จิตวิญญาณตนอื่นๆเองก็ขมวดคิ้วหน้าเครียดเช่นกัน พวกมัน
ทั้งหลายสัมผัสได้ถึงมวลพลังมหาศาลที่อัดแน่นอยู่ในวิมานฟ้า
ตอนนี้ได้ชัดดี…
“วิมานฟ้ากาลังจักวิวัฒน์กลายเป็นโลก! ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
พวกเราทั้งหมดต้องฟันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้!” หลินฟ่านกล่า
วออกมา
“ขอนายท่านอย่าได้กังวล!! จักรุ่งโรจน์หรือรุ่งริ่ง พวกเราจัก
หลอมใจเป็นหนึ่งเคียงกันไม่ห่าง! ต่อให้ต้องสิ้นชีพดับสูญ พวก
เราก็น้อมพลีถวายเพื่อปกป้องวิมานฟ้านี้เอาไว้ให้จงได้!!” รัศมี
พลังของปีศาจยักษ์โบราณกาจายออกมา ปราณปีศาจของมัน
หนาแน่นขุ่นคลั่ก มันพร้อมที่จะปะทะรับมือหายนะภัยพิบัติ
แล้ว…. (53380)
“ไม่จาเป็นต้องเครียดเรื่องอยู่หรือตายขนาดนั้นหรอกน่า…แต่
ยังไงการวิวัฒน์ของวิมานฟ้าสู่โลกของพี่ประมุขก็เป็นอะไรที่ท้า
ทายสวรรค์เกินไป มันฝืนกฏเกณฑ์อะไรหลายๆอย่าง หายนะ
และภัยพิบัติอะไรนี่ มันเลยคิดจะหยุดยั้งกระบวนการวิวัฒน์
ครั้งนี้”
ย้อนกลับไปในอดีตหลินฟ่านก็ได้ผ่านมหาพายุพลังปราณ
มาแล้ว เขารู้ดีว่าวิมานฟ้าของเขานั้นเป็นอะไรที่เลิศล้าเหนือ
ผู้อื่นขนาดไหน แถมตอนนี้เขาดันเผลอเรอ ทะลึ่งกลืนกินไอเทม
ในตานานเสียเพลิน! กระทั่งวิมานฟ้าของเขามันบรรลุสู่
ขอบเขตสูงสุดเท่าที่มันจะบรรลุได้ เช่นนั้นมันก็ถึงเวลาต้อง
ยกระดับวิวัฒน์พัฒนาอีกครั้ง…
เปรี๊ยงงงง!!!
ทันใดนั้นเอง หายนะและภัยพิบัติที่แท้จริงก็เริ่มขึ้นแล้ว….
“ลุยโว้ยยยย!!!!” หลินฟ่านชูมือพร้อมคารามออกมาเสียงดัง
ปลุกใจทั้งหลายให้สู้กับหายนะภัยพิบัติเหล่านี้เต็มที่…ทว่าทันใด
นั้นเองมีบางสิ่งที่ทาให้หลินฟ่าน ผู้วิ่งนาหน้าถึงกับตกใจจน
สะดุด!!