You are on page 1of 233

บทที่ 601 ผนึก

ทามกลางทองฟาอันมืดมิด กอนหินขรุขระรูปรางประหลาด ลักษณะคลายอสูร


นอนหมอบอยางสงบอยูบนพื้น
ทหารจากหนวยพิพากษากระจายกันออกไปเปนวงกลม ที่ใจกลางมีเยี่ยไปอีที่
สลบไสลไมไดสตินอนอยู ผูพิพากษาซีเหมินลอยอยูกลางอากาศเหนือเยี่ยไปอี และพุง
ความสนใจไปที่เขา
อีกหนึ่งชั่วโมงผานไป หัวใจแหงเทพก็ยังคงแผคลื่นพลังออกมา
หัวใจแหงเทพ...สิ่งที่นาหวาดกลัวเชนนี้เปนงานสรางของวิหารพิษอสูรจริงหรือ!
ผูพิพากษาซีเหมินรูสึกประหลาดใจ ประหนึ่งมีอสูรที่นากลัวจำศีลอยูภายในตัว
ของเยี่ยไปอี ไมสิ เยี่ยไปอีก็คืออสูร อสูรที่นอนหมดสติอยู
ผูพิพากษาซีเหมินสงสัยวาหากมีอันตรายถึงชีวิต หัวใจที่เตนดุจหัวใจมังกรนั้น
อาจจะเสียการควบคุมขึ้นมาได เมื่อไมมีการควบคุม พลังอันรุนแรงจนนาหวาดหวั่น
นั้นก็จะสงผลสะทอนกลับอยางรายแรง
ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แลว บทสุดทายก็คงไมตางอะไรไปจากผลสะทอนกลับอันรุนแรงนั้น
ขอยกเวนเดียวก็คือมันทำลายแผนการถวงเวลาของพวกเขา
ผูพิพากษาซีเหมินรูสึกโชคดีที่หนานกงอูเหลียนตายไปแลว การสรางสิ่งแปลก
ประหลาดอยางหัวใจแหงเทพขึ้นมาไดนั้น ก็คงไมเปนการกลาวเกินไปหากจะบอกวา
หนานกงอูเหลียนนั้นเปนอันตรายอยางรายแรง ทันใดนั้นนางก็คิดวาจะเปนอยางไร
หากวิหารพิษอสูรสามารถสรางหัวใจแหงเทพขึ้นมาไดเรื่อยๆ
ทหารหนวยพิพากษาบนพื้นนั้นเงียบงันอยางที่สุด รอใหนางออกคำสั่ง
ทุกคนตางก็พยายามเต็มที่เพื่อจะยืนใหตรงแตก็ทำไดยากดวยรางกายที่เต็ มไป
ดวยบาดแผล พวกเขาใชดวงตาที่แดงก่ำจองมองไปยังเยี่ยไปอี หนวยพิพากษาเหลือ
กันแคครึ่งเดียวแลว ลวนแลวแตดูออนลาอยางมาก
ดูเหมือนกับพวกทหารที่พายแพกลุมหนึ่ง!
แตกระนั้น ก็เปนไปไดที่คนกลุมนี้จะกอใหเกิดปาฏิหาริยขึ้นมา
ผูพิพากษาซีเหมินกวาดตามองดูทุกคน หลังจากคืนนี้ นางไมรูวาจะมีใบหนาที่
คุนเคยมากมายแคไหนหายไปจากสายตา ในใจของนางนั้นมีทั้งความโศกเศราและ
ภาคภูมิใจ
ทันใดนั้นนางก็ถามขึ้น “ทุกอยางถูกบันทึกแลวหรือยัง”
“ขอรับ!”
เสียงของทุกคนแหบหาวราวกับใบไมแหง เสียงของพวกเขาแทรกผานสายลมดั่ง
ทะเลทรายไรขอบเขต
ใบหนาออนโยนนารักของผูพิพากษาซีเหมินแผความมุงมั่นตั้งใจออกมา นางเปน
เสมือนกระบี่แหลมคมที่ถูกชักออกจากฝก นางดึงสายธนูคันเล็กในมืออยางออนโยน
แทบจะในเวลาเดียวกัน ทหารหนวยพิพากษาก็ดึงธนูในมืออยางพรอมเพรียง ธนู
เหลานั้นเปลงแสงสีขาวเจิดจาออกมา ในหุบเขาลึกอันมืดมิดพระจันทรเต็มดวงลอย
อยูเหนือทองฟายามราตรี
สายธนูแตละเสนมีลำแสงสีขาวที่กอตัวเปนลูกศรเรืองแสง ลวดลายสีดำสนิท
ปรากฏขึ้นบนลูกศรที่เล็งไปยังผูพิพากษาซีเหมินบนทองฟา วงแสงปรากฏขึ้นใตเทา
ของพวกเขา วงแสงนี้มีลวดลายหลากหลายที่หมุนวนไมรูจบ
ลูกศรเรืองแสงทั้งหมดเล็งไปยังผูพิพากษาซีเหมิน
มีเสียงดีดสายธนูที่ชัดเจนและไพเราะดังขึ้น
พวกทหารปลอยสายธนูออกไปเหมือ นกับ ไดรับ คำสั่ ง ดูประดุจสายฝนลู ก ศร
ลูกศรเรืองแสงทั้งหมดตางก็พุงตรงไปที่ผูพิพากษาซีเหมิน
ผูพิพากษาซีเหมินสองแสงประกายจากหัวจรดเทา ราวกับรางกลายเปนลำแสง
สภาพของนางทำใหผูคนแสบตาเมื่อมองตรงไปที่นาง รางเล็กของนางหอมลอมไวดวย
แสงเจิดจาราวกับวานางเปนเทพองคหนึ่ง
ไมรูวาสายธนูของนางถูกดึงตั้งแตเมื่อไร
เสียงเย็นเยีบราวกับน้ำแข็งที่ชัดเจนและจริงจังดังขึ้น
“หนวยพิพากษาทำการผนึก!”
เสาแสงที่เจิดจาและชัดเจนราวกับจะตัดผาทองฟาไดสาดลงมาใสรางของเยี่ยไปอี
อยางไมคาดคิด รางของเขาเหมือนจะไดรับบาดเจ็บสาหัส หลังกระแทกกับพื้นดิน
ลำแสงที่หมุนวนใตเทาของทหารทำหนาที่เปนเหมือนกับตาขายขนาดใหญซึ่ง
หอหุมเยี่ยไปอีเอาไวอยางรวดเร็ว
หัวใจแหงเทพในรางเยี่ยไปอีเหมือนจะสัมผัสไดถึงอันตรายและเตนอยางรุนแรง
ตุบ ตุบ ตุบ!
การเตนแตละครั้งเหมือนกับเสียงตีกลองอยางหนักหนวง
ทหารที่อยูในบริเวณมีเลือดฉีดพุงออกมาจากรอยแผลบนราง ทันใดนั้นเพลิงสีขาวก็พุง
ขึ้นจากใตเทาของพวกเขา เหลาทหารถูกหอหุมเอาไวดวยไฟกอนจะทันสงเสียงรอง
โหยหวนออกมา
แมวาพลังที่แผออกมาจากหัวใจแหงเทพจะทรงพลัง เมื่อปะทะกับกับตาขายที่
เกิดจากวงแสง มันก็ไมอาจตีฝาตาขายแสงที่ดูเหมือนจะออนแอนี้ได ตาขายเรืองแสง
หยุดชะงักเล็กนอยกอนจะหดตัวอยางรวดเร็วและมัดเยี่ยไปอีเอาไวอยางแนนหนา
วงแหวนรอบกายเยี่ยไปอีเปนเหมือนกับแหที่สองแสงเจิดจา
ตุบ ตุบ ตุบ
หัวใจแหงเทพเตนชาลงเรื่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ
ในที่สุดก็เงียบงันไปอยางสิ้นเชิง
รางของเยี่ยไปอีเสียสิ่งที่หนุนเอาไวและรวงลงจากทองฟา
ผูพิพากษาซีเหมินที่อยูบนทองฟามีแสงประกายสวางจาอยูรอบกาย
เมื่อเห็นผูพิพากษาซีเหมิน ภีตะวั่นรูสึกตกใจอยางใหญหลวง ในตอนนี้ รอยยน
จำนวนหนึ่งปรากฏขึ้นบนใบหนาเด็กหญิงของผูพิพากษาซีเหมินอยางไมคาดคิด
แสงบนรางของผูพิพากษาซีเหมินหายไปและนางก็ตกลงจากทองฟา
ภีตะวั่นปรากฏขึ้นขางกาย รับรางนางไวอยางรวดเร็ว
ผูพิพากษาซีเหมินพูดออกมาอยางยากลำบาก “รีบไป”
ภีตะวั่นดวงตาแดงก่ำและออกคำสั่ ง “นำตัวทหารที่บาดเจ็ บและเยี่ย ไป อ ี ไป
ในทันที”
ทหารหนวยพิพากษาพุงออกมาอยางรวดเร็ว แบกทหารที่ยังมีชีวิตรอดไวบนหลัง
และควารางที่ไมไดสติของเยี่ยไปอีวิ่งตามภีตะวั่นออกจากหุบเขาไปอยางรวดเร็ว
เมื่อพวกเขาหายไป เฮอหนานซานที่เหนื่อยลาจากการเดินทัพก็มาถึงหุบ เขา
พรอมกับมือดีของตน
เมื่อครูเฮอหนานซานมองเห็นลำแสงที่สะดุดตามาแตไกล เขาไมสงสัยเลยวานั่น
เปนลางไมดีและรีบนำทหารรุดมาอยางรวดเร็ว
ไมมีใครแมแตคนเดียวในยามที่พวกเขามาถึงหุบเขา
เฮอหนานซานคุกเขาลงกับพื้น ยังมีรองรอยของคลื่นพลังธาตุบนพื้นดิน สีหนา
ของเขาหมนหมองลงไปอีก เขาไมรูวาหนวยภีตะและหนวยพิพากษาใชวิธอี ะไร แตเขา
สัมผัสไดวามีรองรอยการผนึกอยูในคลื่นพลังธาตุนั้น
การที่หนวยภีตะและหนวยพิพากษายอมเปดเผยตำแหนงตัวเองโดยไมลังเลและ
ฝนใชการผนึกนั้น...
เฮอหนานซานไมจำเปนตองคิดก็รูคำตอบเพราะมันมีเพียงอยางเดียวเทานั้น
นี่เปนสิ่งที่เขาไมเคยคาดคิดมากอน
บัดซบ! ใบหนาของเขาซีดขาว และทุบกำปนกับพื้น พลังอันรุนแรงไมไดเคลื่อน
ลึกลงไปใตดิน แตทั่วทั้งหุบเขาเกิดการสั่นสะเทือน
“ไลตามพวกมัน!”
พวกศัตรูยังหนีไปไดไมไกล และเขาหวังวาโชคจะเขาขาง
ความโกรธของเฮอหนานซานหายไปอยางรวดเร็วอยางไรรองรอย เขาฝนยิ้มออกมา
โชค...โชคไมเขาขางเขามาตั้งแตแรกแลว

ในยอดเขาสยบเทพทั้งสามนั้น ยอดเขาที่อยูใกลพื้นดินที่สุดคือยอดเขาของหนวย
ทหารราบ หนวยทหารราบมีความชำนาญในการตอสูบนพื้นดิน พวกเขาจึงตองอยู
ใกลกับพื้นดินมากพอ ปรมาจารยหวังเสี่ยวซานไดปรับแตงพื้นดินใตยอดเขาสยบเทพ
อย า งบรรจง ได ส ร า งชั ้ น กั บ ดั ก มากมายรวมถึ ง สร า งภู ม ิ ป ระเทศที ่ จ ะนำเอา
ความสามารถของหนวยทหารราบออกมาใชไดอยางเต็มที่
เสียงทุมลึกของทหารราบเงินดังออกมาจากยอดเขาสยบเทพ
“ไมเลว ลองใหมอีกครั้ง!”
เขายืนอยูตรงหนาของพวกทหารประมาณหาสิบคน ทุกคนตางก็เหงื่อชุมไปทั้งตัว
และหอบหายใจอยางหนักหนวง แตพวกเขาก็ยังแสดงทาทีพรอมโจมตีออกมา
ทหารราบเงินกาวออกมาและตอยหมัดออกไปในอากาศอยางไมมีใครคาดคิด!
เสียงภายใตหนากากนั้นดังกองราวเสียงฟารอง “ฆา!”
ทหารหาสิบคนก็ชกหมัดออกไปในอากาศและตะโกนอยางรุนแรง “ฆา!”
รังสีรูปกำปนขนาดใหญเปนเหมือนกับเครื่องทำลายประตูเมืองที่สามารถทุบ
ทำลายสิ่งกีดขวางใหราบเปนหนากลอง
รังสีกำปนลอยอยูบนทองฟาอยูอยางนอยสิบหาวินาทีกอนจะคอยๆ จางหายไป
ทหารราบเงินหายใจยาวออกมา ลมหายใจที่เขาพนออกมานั้นแข็งดุจกระบี่ เขา
ดึงกำปนกลับชาๆ พวกทหารดานหลังเขาลมเคเกอยูบนพื้น นอนแนนิ่ง
น้ำแกงพลังธาตุที่ถูกจัดเตรียมเอาไวนานแลวถูกสงมาใหถึงตรงหนาเหลาทหาร
หลังจากดื่มน้ำแกงแลว พวกเขาก็มีแรงฮึดขึ้นมาใหม เริ่มทำการโคจรพลังเพื่อดูดซับ
พลังธาตุจากน้ำแกง
สีห นา พึงพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน า ของทหารราบเงิ น ความแข็ งแกร งของ
กองทัพเพิ่มขึ้นอยางรวดเร็วและมากจนเกินความคาดหมายของเขา การฝกฝนที่
สาหัสและทรัพยากรที่มากมายชวยใหเด็กใหมเหลานี้พัฒนาขึ้นอยางรวดเร็ว ระดับ
พลังพื้นฐานของพวกเขาเพิ่มขึ้นอยางมาก
เขาคิดถึงตอนที่เขาเปนกังวลเรื่องที่อายฮุยปลนสะดมหนวยรบอื่น แตไมคาดคิดเลยวา
เขาเองจะไดรับประโยชนจากการกระทำนี้โดยตรง วัตถุดิบที่ใชทำน้ำแกงพลังธาตุนั้น
เปนทางฝายซือเสวี่ยมั่นสงมาและไดสูตรการปรุงมาจากโหลวหลาน
นี่เปนบทพิสูจนคำพูดที่วา ‘เจากินเนื้อไป ขาจะซดน้ำแกง’
นี่เปนครั้งแรกในชีวิตที่ทหารราบเงินใชชีวิตอยางหรูหราเชนนี้
เขาหัวเราะอยางไรเหตุผล
“ชางนาทึ่งอยางแทจริง หากกำปนนี้ปรากฏขึ้นบนสนามรบ ไมมีศัตรูคนใดจะ
ตานทานมันได” เสียงเยือกเย็นแตยินดีดังขึ้นดานหลังเขา
ทหารราบเงินหันกลับไปก็เห็นศิษยนองเดินเขามาในระยะสายตา เขาเสียสมาธิไป
ชั่วขณะ แตก็ดึงสติกลับมาไดในทันที
เขาสายหนาและตอบ “ขาทำไดแครวมพลังหาสิบคน เทียบกับคนกวาสองรอย
คนในหนวยกระบี่สายฟาของอายฮุยแลว ขายังดอยกวา”
ขอบฟาคุนหลุนสายหนา “ศิษยพี่ไมจำเปนตองถอมตน การตอสูรูปแบบเจดียนั้น
เปนกลยุทธที่อายฮุยสรางขึ้น จึงไมนาแปลกที่เขาสามารถรวมพลังคนสองรอยคนได
หากมีเวลาศิษยพี่ก็จะสามารถไปถึงจำนวนนั้นไดเชนกัน”
ทหารราบเงินถาม “ทางเจาเปนอยางไรบาง”
น้ำเสียงของขอบฟาคุนหลุนออกจะผิดหวังเมื่อนางตอบ “ไมราบรื่นนัก แตนั่น
เปนปญหาของขาเอง หนวยกระบี่สายฟาของอายฮุยนั้นละทิ้งความงามและลึก ลับ
ของวิถีกระบี่ไปจนหมดสิ้น ขานั้นไมอาจที่จะทำใจตัวเองได”
ทหารราบเงินปลอบโยน “ไมตองกังวล ปลอยใหเปนไปตามธรรมชาติ”
รูปแบบการตอสูของหนวยกระบี่สายฟาสรางความตกใจใหกับทั้งคู และยังทำให
พวกเขาไดทำตามใจตน เรื่องนี้อายฮุยไมไดเห็นแกตัวและใหคำแนะนำกับคนอื่นโดย
ไมปดบัง อยางไรก็ตาม หนวยกระบี่สายฟานั้นกอตั้งขึ้นโดยอายฮุยจากความจำเปน
ของเจดียกระบี่ การที่หนวยทหารราบและหนวยขอบฟาจะเอารูปแบบการตอสูแบบ
เจดียไปใชอยางไรนั้นก็ขึ้นอยูกับตัวทหารราบเงินและขอบฟาคุนหลุนเอง
ความกาวหนาของทหารราบเงินนั้นเปนไปอยางราบรื่นจนเขาสามารถควบคุม
ทหารหาสิบนายได ในทางกลับกัน ขอบฟาคุนหลุนไมกาวหนาเลย นางไมใชแกนหลัก
ของหนวยรบของนาง
นางเปนมือ กระบี่แ บบดั้งเดิม และวิ ถ ี ก ระบี ่ ข องนางก็ ก  อ ตั ว ขึ ้ น นานมาแล ว
นอกจากนี้นางยังรูสึกวาวิถีกระบี่ของหนวยกระบี่สายฟานั้นไมอาจเรียกวาวิถีกระบี่ได
แตกลับปรากฏวา พลังในการตอสูของหนวยกระบี่สายฟานั้นนาทึ่งอยางที่สุด
ขอบฟาคุนหลุนมีปญหาอยางมาก นางไมใชคนที่เยอหยิ่งดื้อดึง และรูสึกวาวิถี
กระบี่ของหนวยกระบี่สายฟาจะมาแทนที่วิถีกระบี่แบบดั้งเดิมในที่สุด
วิถีกระบี่แบบดั้งเดิมนั้นยังไมทันจะฟนกลับมาเต็มที่ ก็ตองเสื่อมสลายลงอีกครั้ง
เสียแลวหรือ
นางรูสึกสับสน
ในไมชาทั้งสองก็ไมมีอารมณจะฝกฝนตอ...เจียงเหวยมาถึงในขณะนั้น
ทหารราบเงินรองออกมาอยางประหลาดใจ “อายฮุยหมดสติหรือ เกิดอะไรขึ้น”
ขอบฟาคุนหลุนอดมองไปทางศิษยพี่ไมได เพราะนางแทบไมเคยเห็นเขาเสียการ
ควบคุมตัวเองเชนนี้มากอน ศิษยพี่มองอายฮุยเปนคนสำคัญและใหความหวงใยกับเขา
เปนอยางมาก
เจียงเหวยดูไมดีนัก “เรายังไมแนใจ มันเกิดขึ้นอยางฉับพลัน โหลวหลานกำลังทำ
การตรวจหาสาเหตุอยู”
ทหารราบเงินกำลังจะไปตรวจอาการอายฮุยกับเจียงเหวย ก็มีเสียงสัญญาณเตือน
ดังโหยหวนขึ้นมาอยางไมคาดคิด ทั้งสามหันไปมองทางคายของหนวยเทพหมาปาตาม
สัญชาตญาณ สีหนาก็เปลี่ยนไปอยางรุนแรงและหายใจคางพรอมๆ กัน
บทที่ 602 การมาถึงของไพรพลคายอสูร
ที่ขอบฟาไกลออกไป สัตวโลหิตจำนวนมากมายไรสิ้นสุดเปนเสมือนทะเลเมฆสี
แดงเขมที่วาดผานทองฟา
รอยยิ้ม ปรากฏขึ้นบนใบหนา ของเฮ อ เหลี ย นเที ย นเสี ่ ย ว บรรดาขุ น พลที ่ อ ยู
ดา นหลังเขาก็มีสีห นา ตื่นเตนจนอดไม ได ต อ งชกมื อ ขึ ้ น ไปในอากาศ แม ว  า ความ
แข็งแกรงของพวกเขาจะเหนือกวาผูใชพลังธาตุ ทวายังตองพบกับการตายติดตอกัน
ทั้งหมดตางก็หงุดหงิดกับเรื่องนี้ ยิ่งไปกวานั้นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ยังไมมีปฏิกิริยาใด
เรื่องการจับตัวเยี่ยไปอีกับหนานกงอูเหลียน นี่ทำใหทุกคนในหนวยเทพหมาปารูสึก
กังวลและตกใจ พวกเขารูสึกประหนึ่งวามีดาบที่พรอมจะฟนลงมาบนคอของเขาและ
พรากชีวิตไปไดทุกขณะ
ทหารทุกคนในหนวยเทพหมาปาถูกทรมานอยูทุกวี่วันดวยความรูสึกหวาดกลัว
และมืดมน ในตอนนี้กำลังเสริมไดมาถึงแลว อารมณที่ถูกสะกดเอาไวก็ระเบิดออกมา
ไพรพลคายอสูรนั้นเปนกำลังสำรองที่คอยชวยเหลือหนวยเทพและหนวยโลหิต
คายอสูรแตละคายมีกำลังคนหนึ่งหมื่นนาย
สัตวโลหิตที่จัดสรรใหพวกเขาใชก็คือปลาคางคาวหลังกวาง ปลาคางคาวหลังกวางเปน
พัน ธุใหมท ี่เกิดจากการผสมพันธุข องค า งคาวโลหิ ตดำและปลาป ศาจ ลั ก ษณะดู
เหมือนกับปลาปศาจที่มีรางกายสีดำซึ่งสามารถบินไดในอากาศ ดวงตามีเสน สีแ ดง
ทอดยาวไปจนถึงปลายหาง ปกของมันกางออกไดยาวถึงสี่สิบเมตร ทำใหมันเปนสัตว
ที่มีขนาดใหญมหึมา
ปลาคางคาวหลังกวางมีกลามเนื้อหลังที่แข็งแกรงมาก ทั้งหนาและกวางทำใหนั่ง
ไดอยางสบาย
ปลาคางคาวหลังกวางนั้นมีสติปญญาระดับต่ำ บินไดชาแตก็สามารถบินไดอยาง
มั่นคงแมวาจะแบกน้ำหนักเอาไวมากก็ตาม
หากไมใชเพราะปลาคางคาวหลังกวางมีความกระหายที่ไมรูจักพอ พวกมันคงเปน
สัตวโลหิตที่ใชในการขนสงไดเปนอยางดี ทุกวันมันตองกินผลหยกเปนจำนวนมาก ทำ
ใหตนทุนการเลี้ยงสูงมาก สงผลใหมันถูกใชแคกับคายอสูรเทานั้น
เมื่อผูนำของคายอสูรเห็นเฮอเหลียนเทียนเสี่ยวยืนอยูที่ประตูคาย พวกเขาก็รีบ
บังคับปลาคางคาวหลังกวางใหรอนลงจากทองฟา
ทะเลเมฆที่ปกคลุมทองฟาก็พรั่งพรูลงมาจากเบื้องบน ราวกับน้ำที่ไหลบาออกมา
จากประตูน้ำที่เปดออก
เมื่อปลาคางคาวหลังกวางรอนลงมาจากทองฟา บริเวณรอบคายก็ดูเหมือนกับวา
ปูไวดวยพรมสีดำ ดูนาอัศจรรยละลานตา
ผูนำคายอสูรทั้งสี่เดินเขาหาเฮอเหลียนเทียนเสี่ยวและทักทายดวยความเคารพ
“ใตเทา เรามาถึงแลว! ขอโทษที่มาถึงลาชา!”
“แคพวกเจามาไดก็ไมเปนไรแลว เรายังตองพักและเตรียมการอีกสองวันกอนที่
จะโจมตีแนวปองกันของพวกมัน” เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวตอบอยางพึงพอใจ
“ขอรับ!” ผูนำคายอสูรทั้งสี่คำนับและรับคำอยางพรอมเพรียง
พวกเขาสองคนมีสีหนาเครงขรึมในขณะที่อีกสองคนถูมือดวยความตื่นเตน แตไม
มีใครแสดงความกลัวออกมา กอนที่จะเดินทางมา พวกเขาก็รูแลววาสถานการณเปน
อยางไร จึงเตรียมใจเอาไวแลววาจะตองเผชิญหนากับอะไร
ในฐานะกำลังสำรอง เปนเรื่องยากที่พวกเขาจะไดพบกับเฮอเหลียนเทียนเสี่ยว
ยิ่งไปกวานั้นการไดเห็นเฮอเหลียนเทียนเสี่ยวยืนรอพวกเขามาถึงหนาประตูทางเขา
นั้นทำใหพวกเขารูสึกเปนเกียรติอยางมาก
สถานะของคายอสูรนั้นต่ำมาก ปกติแลวหนาที่ที่สำคัญที่สุดที่ไดทำก็คือสงคนเขา
รวมหนวยโลหิต ในชวงหลายปที่ผานมา หนวยโลหิตไมไดเสียหายมากนัก ดังนั้น
จำนวนทหารจากคายอสูรที่มีโอกาสไดเขารวมหนวยโลหิตจึงมีนอยอยางยิ่ง กำลังคน
สวนใหญจะถูกสงกลับบานหลังจากรับใชคายอสูรมาหลายป
โลหิตแหงเทพนั้นใหความสำคัญกับผลงานทางทหาร เมื่อมีผลงานทางทหาร ก็
สามารถทำเปาหมายใหสำเร็จ ไดรับการเลื่อนตำแหนง และสามารถดูแลครอบครัวได
ดีกวาเดิม ในโลหิตแหงเทพฐานะของคนที่มีตำแหนงทางทหารนั้นสูงมาก มีฐานะสูง
กวาอาชีพอื่นๆ สมาชิกในครอบครัวของทหารนั้นก็จะไดรับการปฏิบัติดวยดีเปนพิเศษ
แมวาคายอสูรจะเปนเพียงกำลังสำรอง แตก็ไดรับการดูแลเปนอยางดีจนทำให ผู ใช
พลังธาตุโลหิตที่ทำอาชีพอื่นตองอิจฉา
ดังนั้นหากทหารจากคายอสูรไมอาจเขารวมหนวยโลหิตไดกระทั่งถูกปลด การ
ปฏิบัติดูแลเปนพิเศษที่พวกเขาเคยไดรับก็จะหายไป
ในทางกลับกัน หากตายในสนามรบ ครอบครัวก็จะไดรับการปฏิบัติดูแลเปนอยาง
ดีไปตลอด นี่คือเหตุผลที่ทหารของโลหิตแหงเทพไมกลัวที่จะตายในสนามรบ
ไมใชวาไมมีใครในโลหิตแหงเทพคัดคานการปฏิบัติเปนพิเศษนี้ แตเพราะวาเปน
ประกาศิตจากจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เอง ดังนั้นจึงไมมีใครกลาคัดคาด
เหตุนี้เอง เมื่อคายอสูรไดรับคำสั่งใหมาเสริมกำลังในแนวรบ ไมเพียงแคพวกเขา
จะไมหวาดกลัว แตยังรูสึกตื่นเตนอี กดวย พวกเขาจัดขาวของอยางรวดเร็ว ที ่ สุด
เดินทางทั้งวันทั้งคืนเพื่อรีบมาใหถึงแนวรบ
ระหวางทาง ผูนำคายอสูรทั้งสี่พูดคุยถึงความเปนไปไดถึงสถานการณที่พวกเขา
ตองเผชิญ ในที่สุดพวกเขาก็ไดขอสรุปวามีความเปนไปไดสูงที่พวกเขาจะตองรับหนาที่
ในการบุกทะลวงแนวปองกัน
นับแตอดีตกาล การบุกตีเมืองนั้นก็ไมใชเรื่องงาย
แคมีระบบปองกันที่สมบูรณ ฝายตั้งรับก็สามารถทำใหฝายบุกตีตองหมดหวังได
ตอใหฝายบุกมีกำลังมากกวาหลายเทาก็ตาม และสิ่งที่ตามมาก็คือฝายบุกนั้นจะตอง
เสียหายอยางหนัก
ผูนำคายอสูรทั้งสี่สั่งใหผูใตบังคับบัญชาตั้งคายและพักผอน สวนตัวพวกเขาเอง
นั้นไมกลาที่จะพัก เรงเดินทางไปสำรวจแนวปองกันที่สะพานมุกดาวายุโดยไมสนใจ
ความออนลาของตน
ครั้นเห็นแนวปองกันอยางชัดเจน พวกเขาก็อาปากคางพรอมกัน แมแตผูนำคาย
อสูรที่กระตือรือรนอยากลงมือกอนหนานี้ก็ยังหนาเปลี่ยนไปอยางรุนแรง
สถานการณนั้นเลวรายกวาที่พวกเขาคาดคิดเอาไว!
คนที่มากับพวกเขาก็คือรองแมทัพของหนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงินนามพานเฟ งหลิง
พานเฟงหลิงเปนสตรีแตมีรางกายกำยำ นางตัวสูงและกำยำยิ่งกวาผูชายโดยทั ่ว ไป
น้ำเสียงทุมลึกและแหบ อาวุธของนางก็นากลัวเชนกัน คือกระบองที่มีสีฟาคราม มี
ความสูงเทากับตัวนาง มันแผรอยของหมอกขาวซึ่งทำใหพื้นที่โดยรอบเย็นเยียบ
หนวยรบของโลหิตแหงเทพนั้นใหความสำคัญกับยศตำแหนงมาก ธรรมเนียม
ปฏิบัติระหวางนายทหารยศสูงกับยศต่ำนั้นเปนไปอยางเขมงวด
คายอสูรนั้นเปนเพียงแคกำลังสำรองเทานั้น ยศของผูนำคายอสูรนั้นเทียบไดกับ
ขุนพลระดับกลางในหนวยโลหิต การที่รองแมทัพหนวยโลหิตติดตามผูนำคายอสูรทั้งสี่
มานั้นก็นับวาขัดกับหลักการของโลหิตแหงเทพแลว
พานเฟงหลิงนั้นไรความรูสึก แตเสียงของนางแฝงไวดวยความหยิ่งทะนง กระนั้น
ก็ยังบรรยายสถานการณออกมาอยางชัดเจนใหผูนำคายอสูรทั้งสี่ฟง
“เราไมอาจโจมตีทางพื้นดิน ดูนั่น ตรงนั้นคือหลุมทรายดูด หนวยโลหิตบุปผาแกรง
เสีย หายอยางหนักก็เพราะถูกทรายดูดนั ้น ทำใหเสี ยจั งหวะ ยิ ่ งไปกว านั้ น ศั ตรูมี
ปรมาจารยดานการสรางสนามรบ เขาสามารถสรางกำแพงสูงขึ้นกลางหลุมทรายดูด
เมื่อไรก็ได ทำใหหนวยทหารราบสามารถใชพลังไดอยางเต็มที่บนพื้นดิน ในทรายดูด
ยังมีกับดักอีกมากมายที่ยากจะหลีกเลี่ยงได เจดียปนใหญบนทองฟาก็สามารถบินลง
มาใสพื้นดินไดอีกดวย”
นางกลาวตอ “ตรงกลางก็ไมเหมาะที่จะโจมตีเชนกัน กอนหนานี้เราไดทดสอบดู
วาสามารถโจมตีบริเวณชวงกลางไดหรือไม และพบวาชวงกลางนั้นไมเหมาะจะโจมตี
เปนที่สุด ยอดเขาสยบเทพที่อยูตรงกลางคือหนวยขอบฟา จุดนี้อาจดูออนแอที่สุด แต
ในความเปนจริงมันไดรับ การคุ มกั น แน น หนาที ่ ส ุ ด หน ว ยทหารราบสามารถให
ปรมาจารยหวังเสี่ยวซานสรางแทนทรายที่ยกสูงขึ้นเพื่อใหการชวยเหลือพื้นที่ตรง
กลาง เจดียปนใหญเพลิงโลกันตรของหนวยทวนเมฆาหนักที่สวนดานบนสุดนั้น ก็
สามารถลงมาชวยเหลือพื้นที่ตรงกลางไดเชนกัน”
“จากการทดสอบที่เราทดลองทำชวงหลายวันที่ผานมานี้ มีทางเดียวที่พวกเราจะ
โจมตีแนวปองกันของพวกมันไดก็คือตีผานสวนที่สูงที่สุด เราตองทำลายยอดเขาสยบ
เทพที่อยูด านบนสุดซึ่งเปนของหนวยทวนเมฆาหนักกอน หากเราโจมตีจุดนั้น เราจะ
เผชิญหนากับเจดียปนใหญเทานั้น เจดียปนใหญอาจจะมีพลังรุนแรงแตก็ไมอาจยิงได
เร็วนัก หากไมใชเพราะวาพวกมันมีปรมาจารย เจดีย ปน ใหญ พวกเราคงสามารถ
ทำลายยอดเขาสยบเทพนั้นไดไปนานแลว”
พานเฟงหลิงพนลมออกมา เห็นไดวานางไมพอใจกับการเสริมกำลังของคายอสูร
นางไมไดพยายามซอนความขุนเคืองเอาไวแมแตนอย อยางไรก็ตาม เมื่อนางคิดถึง
ผลงานที่นางจะไดรับจากการยึดแนวปองกันมุกดาวายุ น้ำเสียงของนางก็ออนลง
น้ำเสียงของนางแฝงไวดวยประกายความกลาเมื่อนางกลาวตอ “อยางไรก็ตาม นี่
เปนเพียงโอกาสเดียวของพวกเจา ตราบใดที่เรามีกำลังคนมากพอ การบุกของเราก็จะ
แข็งแกรงพอที่จะทำลายแนวปองกันของเจดียปนใหญได เมื่อเราทำลายยอดเขาสยบ
เทพที่ควบคุมโดยหนวยทวนเมฆาหนักนี้ไดแลว การจัดการกับยอดเขาสยบเทพอีก
สองยอดที่เหลือก็ไมใชเรื่องยาก เรายอมยึดครองแนวปองกันมุกดาวายุไดแนนอน”
ผูนำคายอสูรทั้งสี่สังเกตรายละเอียดทั้งหมดของแนวปองกันมุกดาวายุอยางตั้งใจ
พวกเขาไมมีทางเลือกนอกจากยอมรับวาสิ่งที่พานเฟงหลิงพูดนั้นเปนความจริง ทาง
เดียวที่จะทำลายแนวปองกันนี้ก็คือทำลายยอดเขาสยบเทพที่อยูดานบนสุด
“ใตเทาพูดไดถูกตอง พวกเราจะกลับไปปรึกษากันในเรื่องนี้” หนึ่งในผูนำคายอสูรที่ดู
รอบคอบกวากลาวกับพานเฟงหลิงอยางใหความเคารพ
“อยาไดทำใหการบุกยึดลาชา” พานเฟงหลิงพนลมออกมา
เมื่อกลาวจบ นางก็หันหลังจากไป

เสออวี๋จองมองหยดโลหิตเทพภายในผลึกแกวอยูเปนเวลานาน นางไมคาดคิดวา
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จะมอบหยดโลหิตเทพใหแกนาง
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไมเคยมอบหยดโลหิตเทพใหใครมากอน แมแตปศาจแดงเองก็
ไมเคยไดรับการปฏิบัติเชนนี้จากจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ นางเปนเพียงแคเมล็ดพันธุเทานัน้
แตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์กลับเมตตานางถึงขนาดมอบของมีคายิ่งเชนนี้ให เสออวี๋รูสึกวา
นางกำลังฝนไป
หยดโลหิตเทพนี้เปนของเทพโลหิตเอง ในแควนแหงเทพนี้มันนับเปนของที่มีคา
มากที่สุด
มีขาวลือมากมายเกี่ยวกับโลหิตเทพ บางก็บอกวาจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์องคแรกนั้น
เปนทายาทของเทพโดยตรง องคเทพรูวายุคสมัยแหงการบำเพ็ญตนกำลังจะจบลง
และเขาจะตองรวงหลน ดังนั้น เขาจึงมอบหยดโลหิตเทพสิบหยดใหแกทายาท บางก็
บอกวาโลหิตเทพนั้นอันที่จริงแลวเปนแกนแทอันบริสุทธิ์ที่สุดของโลหิตปศาจที่มีชีวิต
อยูเมื่อหลายหมื่นปกอน ไมเชนนั้นโลหิตนี้จะคงอยูมาจนถึงตอนนี้ไดอยางไร พลัง
วิญญาณโลหิตนั้นดูเหมือนจะชวยพิสูจนขาวลือนี้
อยางไรก็ตาม ไมสำคัญวาโลหิตเทพนี้จะเปนของเทพหรือปศาจ
เสออวี๋รูวาโลหิตเทพทุกหยดมีพลังมากมายมหาศาล สาเหตุที่จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
ไดเปนยอดปรมาจารยและปกครองโลกนี้ก็เพราะสามารถไขความลับของโลหิตเทพ
และดูดซับพลังอันล้ำเลิศจากมันได
นางไมอยากเชื่อวาจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จะมอบโลหิตเทพแกนาง เปนไปไดหรือไม
วาจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไดเหนือล้ำไปกวาขีดจำกัดของโลหิตเทพแลว
ความคิดนี้ผุดขึ้นในหัวของเสออวี๋ จากนั้น นางก็ทิ้งความคิดอันสับสนทิ้งไป นางมี
สิทธิ์ไปคิดวาจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ทำอะไรไมทำอะไรตั้งแตเมื่อไหรกัน
นางทุมความสนใจมาที่โลหิตเทพอีกครั้ง ลึกลงไปนางรูสึกขอบคุณเปยสุยเซิงเปนอยาง
ยิ่ง โลหิตเทพอาจไมใชแคคำตอบสำหรับ [วิชาบูชายัญดอกไมแหงชีวิตและความตาย]
เทานั้น แตยังเปนคำตอบที่ดีที่สุด กอนหนานี้นางไดฝากความหวังทั้งหมดเอาไวที่
หัวใจแหงเทพ เพราะนางไมกลาคาดฝนวาจะไดรับโลหิตเทพ โลหิตเทพนั้นเปนสมบัติ
ล้ำคาที่สุด ในระบบพลังวิญญาณโลหิต โลหิตเทพนั้นนับเปนตัวตนอันสูงสุด ไมวา
[วิชาบูชายัญดอกไมแหงชีวิตและความตาย] จะสูงสงและลึกลับเพียงใด ก็ไมอาจเทียบ
กับโลหิตเทพได
นางเพียงกังวลวานางจะสามารถรับมือกับพลังของโลหิตเทพไดหรือไม
พลังที่ไดจากโลหิตเทพนั้นไรขีดจำกัดและยิ่งใหญมาก หากคนธรรมดารับมันไป
รา งกายก็จ ะระเบิดในทันที ในหมู  จ ั ก รพรรดิ ศั ก ดิ ์ สิ ท ธิ ์ ห ลายรุ  น ที ่ ผ า นมามี เพียง
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์องคปจจุบันที่สามารถไขความลับของโลหิตเทพได!
เสออวี๋ไมคาดคิดวานางเองจะสามารถไขความลับของโลหิตเทพได ทั้งหมดที่นาง
ตองการก็แคใชพลังของมันเพื่อชวยตัวนางจาก [วิชาบูชายัญดอกไมแหงชีวิตและ
ความตาย]
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไดมอบคำแนะนำในการใชโลหิตเทพมา นางบอกไดวาบันทึก
นี้เขียนขึ้นดวยตัวจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เอง เสออวี๋จดจำทุกคำในนั้น นางอานมันหลาย
ตอหลายรอบ และรูเนื้อหาของมันเปนอยางดี
นางรูวานางมีโอกาสเดียวเทานั้น ดวยโอกาสอันดีเชนนี้ หากนางไมอาจทำสำเร็จ
นางก็อาจจะตายไป
นางหายใจเขาลึก ความมุงมั่นฉายขึ้นในดวงตา นางมั่นใจวานี่เปนจุดพลิกผัน
ชะตาชีวิตของนาง
นางโยนผลึกแกวเขาปาก
เปรี๊ยะ ผลึกนั้นไมไดแข็งอยางที่คิด มันแตกออกอยางงายดายประดุจกอนน้ำแข็ง
ในปากของนาง
รัศมีพลังไหลตามลำคอลงไปในกาย สีหนาเจ็บปวดปรากฏขึ้นบนใบหนาขาวซีด
ของเสออวี๋ รัศมีพลังลึกลับในกายของนางแผไปทั่วบริเวณ พื้นดินใตเทาของนางถูก
ทำลายเปนผุยผงอยางเงียบงัน แทนที่จะลอยขึ้นไปในอากาศ ฝุนผงพวกนี้กับอยูกับ
พื้นแนะสั่นไหวราวกับคลื่นน้ำ
คลื่นพลังที่มองไมเห็นแผกระจายไปทั่วหอง คอยๆ ทำลายหวงมิติอยางชาๆ
บทที่ 603 เสนดายทองคำและดอกเหมยโลหิต
ในตอนนี้ เสออวี๋รูสึกเหมือนกับวานางอยูในเตาหลอม ความเจ็บปวดกำลังแผด
ไหมใหสมองของนางวางเปลา สรรพสิ่งรอบกายเปลี่ยนเปนพราเลือน พาดผานดวงตา
ของนางราวกับพืชน้ำที่สั่นไหว
นางจดจำสิ่งที่บอกไวในบันทึกของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไดและพยายามปกปอง
จิตใจของตนอยางเต็มที่ ไมวาจะพยายามอยางไร นางก็ยังออนแอเกินไป ตอหนา
โลหิตเทพที่แข็งแกรงนาหวาดกลัว
รอนดั่งไฟ รางของนางนั้นรอนดุจพระเพลิงผลาญ
นางอยากจะรองออกมาดวยความเจ็บปวดทวาไมอาจสงเสียงออกมาได กระดูก
ทุกชิ้นรูสึกเหมือนถูกแผดเผา ดวยความมึนงงนางรูสึกเหมือนกับเปนเครื่องบูชายัญใน
ยุคโบราณ ที่ถูกมัดไวกับเสาหินและเผาในกองไฟอันรอนแรง
นางดูเหมือนจะมองเห็นดวงดาวรวงลงมาจากทองฟาราวกับสายฝน ทะเลที่หา ง
ไปปนปวน เพลิงธรณีที่พลุงพลานพุงขึ้นสูชั้นเมฆ ควันดำโดยรอบมีประกายไฟที่กลืน
กินดวงดาวและปกคลุมปฐพี
ความโศกเศรา กริ่งกลัว ผิดหวัง ถวิลหา...
อารมณอันลึกลับกลืนกินนางเอาไวราวกับคลื่นที่พลุงพลานปนปวนครั้งแลวครั้งเลา
ทุกครั้งนางลวนรูสึกเหมือนตนเองกำลังจะเปนบาและสิ้นหวัง
กระดูกสันหลังขอแรกของนางเรืองแสงขึ้น
จากนั้นก็ขอที่สอง ขอที่สาม ขอที่สี่.....
อัตราความเร็วในการเรืองแสงขึ้นของกระดูกสันหลังเริ่มลดลงหลังจากมาถึงขอที่
ยี่สิบหา
หากเสออวี๋เห็นเขานางคงตกใจ นางคือรางทรงเทพ ไมใชพิทักษเทพ ทวาการ
ปลดปลอยกระดูกสันหลังนั้นเปนลักษณะที่พบไดในพวกพิทักษเทพเทานั้น
นาเสียดายที่นางไมอาจเห็น ในตอนนี้นางจมอยูกับพลังที่ไรขอบเขต เปนเฉกเชน
ขอนไมที่ลอยอยูในทองทะเล ประเดี๋ยวนางก็ถูกคลื่นซัดลอยขึ้นไป ประเดี๋ยวก็ถูก
กระแทกจนจมลึกลงไปในทะเล

ตำหนักเย็น
มีคนสองคนนั่งหันหนาเขาหากันอยูที่ประตู คนหนึ่งอยูภายในตำหนักอีกคนหนึ่ง
อยูขางนอก
ตรงหนาของเปยสุยเซิงเปนชายวัยกลางคนผูนาเกรงขาม กำลังจิบน้ำชาชาๆ
เปยสุยเซิงก็รินน้ำชาใหตัวเองเพิ่มและถามดวยทาทีสบายๆ “มันเริ่มหรือยังฝาบาท
การสัมผัสของขานั้นออนดอย”
ชายวัยกลางคนที่อยูตรงหนาของเขาก็คือผูปกครองคนปจจุบันของแควนแหงเทพ
เปนสิ่งที่สูงสุดแทบจะเรียกไดวาปกครองทั้งโลก จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ดื่มชาจนหมดและหลับตา ราวกับกำลังริ้มรสของชา
“ฝาบาท ขานอยมีแตใบชาคุณภาพต่ำ” เปยสุยเซิงกลาวอยางออนแรง
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลืมตาและตอบเสียงเขม “หือ ใบชาคุณภาพต่ำหรือ ใครรับ
หนาที่จัดซื้อของใหเจา เปนไปไดหรือไมวามีการยักยอกทรัพ ดูเหมือนขาจะตองทำ
การสืบสวนหนอยแลว!”
เปยสุยเซิงมีเสียงที่ไรเรี่ยวแรงกวาเดิม “ฝาบาทลืมนิสัยของขาไปแลวหรือ ขา
ชอบดื่มชาคุณภาพต่ำ”
“อา ขา ไมไดมาที่นี่พ ัก หนึ่งแล วสิ น ะ สุ  ย เซิ งอย า ได โ ทษข า อย า ได โ ทษขา”
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์พูดพลางหัวเราะพลาง
หากมีใครมาเห็นภาพนี้ ตองประหลาดใจตาแทบถลน จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ ์ ที่
ยิ่งใหญนาหวาดเกรงกลับมีดานที่ออนโยนดวย!
เปยสุยเซิงสายหนาและจิบชา “เหมือนจะเริ่มขึ้นแลว”
“ใชแลว เพิ่งเริ่มขึ้น” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ตอบ เขาวางถวยชาลงเบื้องหนาเปน
สัญญาณใหเปยสุยเซิงรินน้ำชาเพิ่มให
เปยสุยเซิงควากาน้ำชาและรินจนเต็มถวยของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นเขาก็
พูดอยางเรียบเฉย “ขาไมอาจเขาใจไดจริงๆ วาเหตุใดฝาบาทจึงประทานโลหิตเทพแก
เสออวี๋”
“เจาไมเขาใจหรือ เจาไมไดกลาวชมเสออวี๋หรอกหรือ ขาคิดวาเจามีความสนใจใน
ตัวนาง หรือวาขาเขาใจเจาผิดไป” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ตอบดวยสีหนาซื่อตรง
เปยสุยเซิงไมสนใจกับคำพูดไรสาระของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และกลาวตอ “หัวใจ
แหงเทพนั้นเปนเพียงของเลียนแบบ แตโลหิตเทพนั้นเปนของศักดิ์สิทธิ์ จะเหมือนกัน
ไดอยางไร ยิ่งไปกวานั้นเมื่อทานมอบโลหิตเทพใหกับเสออวี๋ ก็เทากับสรางความ
เสียหายใหกับความแข็งแกรงของทาน ขาไมเขาใจจริงๆ วาเหตุใดทานตองทำเชนนั้น”
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์หัวเราะและรูสึกพอใจกับตนเอง “ยากนักที่จะไดเห็นสุยเซิงไม
เขาใจบางอยาง ในสายตาของขาสุยเซิงเปนคนที่ฉลาดที่สุดในโลก”
เขาทำสายตาประหนึ่งจะบอกวา ‘รีบถามขาสิ’
เปยสุยเซิงทำเปนไมเห็นสีหนาของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และจิบน้ำชาตอไป
ผานไปครูหนึ่งจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็อดไมไหวและถามขึ้น “ขาก็นึกวาเจาไมเขาใจ
แลวทำไมไมถามขา”
เปยสุยเซิงทำสีหนาตกใจและตอบ “ขาคิดวาฝาบาทไมประสงคจะตอบคำถามใน
เรื่องนี้ จึงดีกวาที่ขาจะไมรูเรื่องที่เปนความลับมากเกินไปนัก”
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มีสีหนาเบื่อหนายขึ้นมา แตก็ทำอะไรไมได ภายนอกเมื่อใดก็
ตามที่เขารูสึกโกรธขึ้นมา ทั่วทั้งโลกตางก็สั่นสะทานดวยความกลัว ทวาในตำหนักเย็น
แหงนี้ เขามิไดเผยพลังและอำนาจออกมา ดูเหมือนเพียงคนชราที่สุภาพคนหนึ่ง
ชายหนุมที่อยูตรงหนาเขานั้นมีระดับสติปญญาสูงที่สุดในโลก ทวารางกายของ
เขากลับมีอาการปวยที่แปลกประหลาด จึงไดแตอยูในตำหนักที่เย็นเยียบหมองมัวนี้
เพื่อที่จะมีชีวิตรอด
ปญญาของเขานั้นชางเจิดจานาประทับใจ เปนแสงสวางแหงยุคสมัย สวรรคได
มอบสมองที่ไรตำหนิแกเขา แตก็ขังเขาเอาไวในกรงที่ไมอาจหนีออกไปไดชั่วชีวิต
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์รักเขามากจนไมกลาดาวา
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จิบชาและกลาว “ขาตองการมอบโลหิตเทพหนึ่งหยดออกไป
และในฐานะผูอาวุโสของแควนแหงเทพ เสออวี๋ก็มีคุณสมบัติพอที่จะไดรับโลหิตเทพ
ขาแคคิดไมถึงวาทาสดอกไมคืออายฮุย หรือการที่นายและทาสดอกไมสลับตำแหนง
อายฮุยนั้นนับวามีความสามารถและเรียกไดวาเปนพยัคฆหนุม”
น้ำเสียงของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์นั้นสงบนิ่ง ฟงเหมือนกับวาเขาไมสนใจกระบี่
สายฟาที่โดงดังไปทั่ว
เปยสุยเซิงก็ไมโตแยงเขา จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์นั้นสามารถมีความมั่นใจเชนนี้ได
อายฮุยอาจจะพุงขึ้นมาในชวงนี้ แตเขาก็ยังต่ำชั้นกวาจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มากนัก
ในตอนนี้ มีเพียงคนเดียวที่พอจะตานทานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไดก็คือไตกัง
เปยสุยเซิงเปนกังวลเรื่องอื่น “เลอปูเหลิ่งยังไมไปทาประลองกับไตกังเลย”
อันตรายตอจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์นั้นจะคงอยูตอไปจนกวาเลอปูเหลิ่งจะทาประลอง
กับไตกัง หลังจากตอสูกับอันมูตา อาการบาดเจ็บของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไมหายดี
ดังนั้นหากไตกังโจมตีแควนแหงเทพในตอนนี้ สถานการณคงยากลำบากอยางยิ่ง
“หากไตกังมีความกลาที่จะสูกับขาจริง เขาคงมาซุมโจมตีหลังจากอันมูตาในวันนั้น
ไมเชนนั้นทำไมเขายังไมมาอีก เขาตองการที่จะปกปองที่ดินผืนเล็กๆ แหงนั้นเอาไว
เขาไมไดกลาหาญเชนที่เคยเปนในอดีต” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เยย
เปยสุยเซิงเห็นดวยอยางเต็มที่กับสิ่งที่จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์กลาว
“พวกที่อยูในแนวรบก็มีแตพวกไรประโยชน! พวกมันเสียหนานกงอูเหลียนกับเยี่ยไปอี
ไปไดอยางไร! แมแตหมูก็ยังฉลาดกวาพวกมันเสียอีก!” สีหนาของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
หมนหมองลง
เปยสุยเซิงรูวาหากไมใชเพราะสถานการณในแนวรบนั้นเลวราย จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
คงไมตองเสี่ยงเชนนี้
“ฝาบาทโปรดสงบลงกอน เยี่ยไปอีไดรับการปกปองจากหัวใจแหงเทพ เขาจึง
นาจะปลอดภัยดี ในทางกลับกัน เราควรที่จะจัดการเรื่องวิหารพิษอสูรใหเร็วที ่สุด”
เปยสุยเซิงปลอบโยนจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
เยี่ยไปอีมีการปกปองจากหัวใจแหงเทพแตหนานกงอูเหลียนไม โอกาสที่ฝายหลัง
จะรอดชีวิตนั้นมีต่ำมาก แมวาเปยสุยเซิงจะไมชอบหนานกงอูเหลียน แตก็ยังรูวาวิหาร
พิษอสูรนั้นมีคาสำหรับแควนแหงเทพเพียงใด มันเทียบไดกับเยี่ยไปอี๋
เยี่ยไปอีสรางหกหนวยเทพขึ้นมาดวยตัวเองคนเดียว แตวิหารพิษอสูรก็มีสวน
เกี่ยวของกับแควนแหงเทพในหลากหลายแงมุม อยางเชน การวิจัยการกลั่นโลหิต การ
เพาะพันธุสัตวโลหิต กิจการภายในของแควนแหงเทพ เพิ่มความแข็งแกรงใหกับพืช
โลหิตและผลหยก หาทางลดตนทุนในการสรางสัตวโลหิต ฯลฯ
หากมีอะไรเกิดขึ้นกับวิหารพิษอสูร อาจไมแสดงผลดานลบออกมาอยางชัดเจน
แตจะทำใหแควนแหงเทพตองเสียหายในระยะยาว
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สายหนาและตอบ
“เราจะรออีกสักพักหนึ่ง แมวาหนานกงอูเหลียนจะมีความสามารถธรรมดา แต
เขาก็ทำงานอยางขันแข็งมานานหลายป ไมงายนักที่เขาจะมาไดถึงขนาดนี้ จะทำ
อยางไรหากแตงตั้งเจาวิหารคนใหมไปแลวแตเขายังมีชีวิตอยู เราไมทำใหเขาตอง
ผิดหวังอยางนั้นหรือ”
เป ย สุ  ย เซิ ง พยั ก หน า และกล า ว “ฝ า บาทกล า วถู ก ต อ งแล ว ข า ไม ไ ด ค ิ ด ให
รอบคอบ”
ทันใดนั้นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็มีทาทีประหลาดใจออกมา เมื่อเขาพูดดวยน้ำเสียง
อัศจรรยใจ “เสออวี๋มีพรสวรรคสูงกวาที่ขาคาดคิดเอาไว”
เมื่อไดยินเชนนั้น เปยสุยเซิงก็มองผานประตูไปยังที่พักของเสออวี๋
…..
ภายในหองที่มืดมิด
รางของเสออวี๋ลอยอยูกลางอากาศ ดูราวกับวามีมือที่มองไมเห็นประคองรางนาง
เอาไว ดวงตาปดสนิท ไมอาจสัมผัสไดถึงสิ่งใดในตอนนี้ ชุดสีแดงพลิ้วไหวอยางงดงาม
ชาๆ ดูราวกับวานางจมอยูใตน้ำ
กระดูก สันหลังทั้งสามสิบ สองขอ ของนางส องแสงเจิดจา อยู  บนหลั งของนาง
กระดูกขอที่อยูบนสุดนั้นเปนประดุจปอมปราการที่ดื้อรั้นไมยอมสองสวางขึ้นมา มีเสน
ใยที ่ละมา ยคลายเสนดายสีทอง ทอดผ า นกระดู กสั น หลั งที ่ เรือ งแสงของนาง ซึ่ ง
สามารถมองเห็นไดอยางชัดเจน
ทุกครั้งที่กระดูกสันหลังแตละขอสองสวางขึ้น รางกายของเสออวี๋ก็จะไดรับการ
หลอหลอมหนึ่งครั้ง เมื่อกระดูกสันหลังทั้งสามสิบสองขอสองสวาง กลามเนื้อของนาง
ก็จะถูกหลอหลอมจนแทบจะเรียกไดวาสมบูรณแบบ รางกายของนางนั้นดูเหมือนจะ
สรางขึ้นจากหยกขาวเปลงประกายและโปรงใส ซึ่นสองแสงแวววาวออกมาอย า ง
ออนโยน
สามารถมองเห็นอวัยวะภายในไดอยางชัดเจน มีแตรางที่ทรงพลังเทานั้นจึงจะ
สามารถตานทานพลังอำนาจของโลหิตเทพได หากเสออวี๋ตื่นขึ้นมาในตอนนี้ นางคงรู
วานางไดผานขั้นแรกไปแลว หากมีมีพรสวรรคมากพอ ก็ไมอาจที่จะรอดชีวิตผานการ
หลอหลอมรางกายไปได และไมอาจที่จะทนรับพลังของโลหิตเทพได สงผลใหตอง
ระเบิดและตายไป
นี่เปนเหตุใหจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์รูสึกประหลาดใจ เสออวี๋เปนรางทรงเทพ พรสวรรค
ของนางนั้นอยูที่จิตใจไมใชรางกาย จึงนาประหลาดใจที่เห็นนางทนรับโลหิตเทพได
กระดูกสันหลังขอสุดทายยังไมเปดออก ทันใดนั้นเสนดายสีทองที่วิ่งผานกระดูก
สันหลังของนางก็แยกออกเปนสองสวนและพุงออกมาจากกระดูกกนกบ
เสนดายสีทองเสนหนึ่งไหลไปทั่วอวัยวะภายใน เขาไปในกะโหลกและหยุดลงอยู
ตรงที่จุดหวางคิ้ว สวนดายสีทองอีกเสนหนึ่งนั้นไหลเขาไปในดอกเหมยโลหิตที่อยูบน
อกดานซายของนาง
ดอกเหมยโลหิตก็เหมือนจะสัมผัสไดถึงอันตรายและสั่นไหวอยางรุนแรง อยางไรก็ตาม
มันไมอาจที่จะหลุดพนไปจากเสนดายสีทองได
เสนดายสีทองพันรอบดอกเหมยโลหิตอยางรวดเร็ว รอยสีทองเจิดจาปรากฏขึ้น
บนขอบของดอกเหมยโลหิต ดูงดงามตระการตา
ทันใดนั้นดอกเหมยโลหิตก็ระเบิดแสงสีแดงเลือดออกมา แสงสีโลหิตสาดสองทั่ว
หองจนกลายเปนสีแดงฉาน รอยสีทองตรงขอบของดอกเหมยโลหิตไมเปลี่ยนไปแมแต
นอย แตแสงสีเลือดที่แผออกมาจากดอกเหมยโลหิตนั้นหนาขึ้นเรื่อยๆ
รอยสีทองพันรอบแสงสีแดงเลือดเอาไวแนนประดุจตรวนทองคำ ทำใหมันซอน
หนาขึ้นอยางรวดเร็ว
แสงสีแดงเลือดสาดสองไปทั่วหองนั้นดูเหมือนจะถูกมือที่มองไมเห็นดึง ในที่สุดก็
กลายเปนลำแสงที่มีรูปรางเหมือนดอกเหมยโลหิต ลำแสงสีแดงนี้เปนเฉกเชนโมราสี
แดงสดซึ่งสองสวางสุกใส
ดอกเหมยโลหิตจำนวนมากหมุนวนรอบลำแสงสีแดง รัศมีพลังแหงชีวิตและความตาย
พัวพันกัน รัศมีพลังชั่วรายลึกลับกดใสแสงสีทอง ดอกเหมยโลหิตบนอกของเสออวี๋เริ่ม
ที่จะระเบิดจากภายใน แตมันก็ยังพยายามที่จะหนีออกมาผานลำแสงสีแดง แสงสีทอง
และแสงสีโลหิตนั้นมีพลังเทาเทียมกัน
สีของดอกเหมยโลหิตบนรางของเสออวี๋เขมขึ้นเรื่อยๆ จนดำดุจน้ำหมึก มันเริ่ม
พังทลายและแผรังสีข องการหายไปจนเต็ มอากาศ ดอกเหมยโลหิ ตนั ้ น มื ดดำจน
เหมือนกับเหวลึก
ดายสีทองที่เขาไปอยูตรงหวางคิ้วของนางก็แผแสงสีทองออกมาเชนกัน แสงสี
ทองนี้เสริมแรงใหกับแสงที่หอมลอมดอกเหมยโลหิตเอาไว
แสงสีแดงเลือดยังคงหนาขึ้นเรื่อยๆ จำนวนของดอกเหมยโลหิตที่หมุนวนอยูรอบ
ลำแสงเริ่มลดจำนวนลง แสงสีทองกำลังจะชนะ
เสนดายสีทองที่หมุนวนอยูก็แทรกเขาไปในดอกเหมยโลหิตสีดำดั่งเหวลึกนั้น
อยางเงียบงัน เสมือนหมึกที่ซึมลงไปในกระดาษ
ดอกเหมยโลหิตสีดำก็มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ จนกายเปนจุดสีดำทาปลายเข็ม
รางงดงามของเสออวี๋สั่นสะทาน และจุดสีดำนั้นก็หายไป
แสงสีทองหดตัวลงและกลับสูหวางคิ้วของนาง สีหนาทุกขทรมานปรากฏขึ้นบน
ใบหนาของเสออวี๋อีกครั้ง แสงสีทองบนหนาผากของนางแผเสนใยออกมานับไมถวน
แพรกระจายไปทั่วสมองของเสออวี๋ราวกับใยแมงมุม
รางเสออวี๋เริ่มสั่นเทา
ประกายสีทองที่ตัดกันไปมาปรากฏขึ้นบนใบหนาและสมองของนาง แสงสีทอง
เหมือนจะระเบิดออกมาจากศีรษะนาง
ทันใดนั้นเอง แสงสีทองนั้นก็แข็งคางไป
มันพุงออกมาจากสมองของเสออวี๋ราวกับคลื่นน้ำที่ซัดหางออกไป ครั้นแลวก็พุง
เขาหาหัวใจเสออวี๋ราวกับฉลามที่หิวโหยไดกลิ่นเหยื่อ
บทที่ 604 ดวงตาโลหิตบนผาพันแผล
บรรยากาศบนกางปลานั้นตึงเครียด กองทัพศัตรูมาถึงหนาประตูแลว และอายฮุย
ก็พลันมาหมดสติในตอนที่วิกฤติเชนนี้
นี่ทำใหสถานการณที่เลวรายอยูแลวย่ำแยลงไปอีก กอนหนานี้ หลังจากการบุกโจมตี
ดวยกระบี่กังหันลมที่คายศัตรู อายฮุยก็ไดกลายมาเปนเสาหลักของทุกคนโดยไมรตู ัว
โดยเฉพาะอยางยิ่งในพันธมิตรเจดียปนใหญ ในอดีตพวกเขานั้นขาดความมั่นใจและ
เต็มไปดวยความกังขาในตัวเอง ทุกวันนี้ พวกเขากลายเปนนักรบที่ยึดมั่น บางก็มีถึง
ขนาดภาคภูมิเยอหยิ่ง ทั้งหมดลวนไมมีทางเลือกนอกจากยอมรับวา อายฮุยนั้นคูควร
แกการเปนผูนำของพันธมิตรเจดียปนใหญ
ถงกุยและอวี๋จินที่เปนขุนพลจากเมืองซินกวงก็ถูกอายฮุยเอาชนะใจไปไดเชนกัน
ไมจำเปนตองพูดถึงเคอหนิงที่กลายเปนผูสนับสนุนหมายเลขหนึ่งของอายฮุย
ในตอนนี้
กลุมคนที่หอมลอมกระโจมของอายฮุย ทุกคนตางมีสีหนาเปนหวงและกั งวล
ในตอนนี้โหลวหลานกำลังรักษาอายฮุยอยู ทุกคนไดแตหวังวาอายฮุยจะไดสติกลับมา
โดยเร็วที่สุด ทันใดนั้นประกายสีทองก็แผออกมาจากในกระโจม
“ชางเปนพลังสะกดขมที่รุนแรง!” ใบหนาเฉยชาของเสี่ยวซานบูดเบี้ยว
บรรดาปรมาจารยในที่นี้มองหนากันและเห็นความไมแนใจในดวงตาของอีกฝาย แสงสี
ทองนี้เงียบงัน แตรัศมีพลังที่เหนือล้ำกวานั้นทำใหทุกคนหวาดกลัวและเปนกังวล พวก
เขามีสัมผัสที่ไวตอรัศมีพลังและสามารถสัมผัสไดวาแสงสีทองนี้มีความดุราย
ในกระโจม ดวงตาของโหลวหลานแผแสงสีแดงออกมา
รอยแสงสีท องปรากฏขึ้นบนรางกายของอา ยฮุ ย รอยแสงสี ทองนี ้มีพ ลังกดขี่
อาละวาดไปทั่วรางของอายฮุยกอใหเกิดความปนปวนไปทั้งกาย กอนจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น
รางกายของอายฮุยก็ออนแออยางมากอยูแลว ไดแตอาศัยพลังจากกิ่งไมแหงชีวิตและ
เมฆกระบี่เพื่อรักษาชีวิตเอาไว ความสมดุลนี้เสียไปเมื่อเกิดรอยแสงสีทองขึ้นมาและ
อาละวาดไปทั่วรางกายของเขา ทำใหอายฮุยหมดสติไป
ไมมีใครรูวารัศมีพลังสีทองนั้นคืออะไรยกเวนโหลวหลาน
หยดโลหิตสีทองปรากฏขึ้นบนมือของเขาและความสงสัยก็ฉายขึ้นในแววตา รัศมี
พลังจากหยดโลหิตสีทองนี้เหมือนกับรอยแสงสีทองไมผิดเพี้ยน
อายฮุยเคยพูดมากอนวานี่เปนโลหิตของเทพปศาจ
อายฮุยมีโลหิตเทพปศาจอยูทั้งหมดสองหยด หนึ่งนั้นถูกใชไปกับรูปปนหินซึ่ง
กลายมาเปนเกราะปศาจไปแลว อีกหนึ่งนั้นมอบใหกับโหลวหลาน แลวอายฮุยได
โลหิตเทพปศาจทั้งสองหยดนี้มาจากไหน
โหลวหลานไมเขาใจวาเกิดอะไรขึ้น
อยางไรก็ตาม เขาไมอยากที่จะขบคิดเรื่องนี้ใหนานเกินไป ในตอนนี้ เวลากำลัง
หมดลง สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือชวยชีวิตของอายฮุย
โหลวหลานนั้นมีประสาทสัมผัสตอรัศมีพลังเหนือธรรมดา เมื่อเขาเห็นโลหิตเทพ
ปศาจในตอนแรก ก็รูวาเปนของที่มีประโยชนกับเขาเปนอยางมาก แตกระนั้น เขาก็
ไมไดพยายามที่จะใชมันเพราะอายฮุยบอกเขาวามันเปนโลหิตของเทพปศาจซึ่งเปนสิ่ง
ที่ไมธรรมดา
โหลวหลานรูสึกวาอายฮุยพูดถูก เขาเห็นชุดเกราะปศาจมากอนและรูสึกวามัน
แปลกประหลาดอยางยิ่ง ยิ่งไปกวานั้น ยังมีเรื่องมากมายที่เขายังไมรูเกี่ยวกับแกน
ทรายเที่ยงคืนของเขา เขาเต็มไปดวยความไมแนใจเกี่ยวกับมัน
ดวยความระมัดระวัง โหลวหลานจึงไมดูดซับโลหิตเทพปศาจ อยางไรก็ตาม เขา
ทำการศึกษามันอยางไมหยุดหยอน
หลังจากศึกษาหยดโลหิตเทพปศาจมาเปนเวลานาน โหลวหลานก็เขาใจในที่สุด
วาทำไมเขาถึงรูสึกวามันเปนประโยชนกับเขา
นั่นเพราะพลังวิญญาณโลหิต
ยอนไปตอนนั้น ยามที่เขากำลังวิเคราะหผลึกโลหิต ผนึกของแกนทรายเที่ยงคืน
ถูกปลดออกและทำใหความแข็งแกรงของเขาเพิ่มขึ้นอยางมาก
นี่เปนหนึ่งในหลายสิ่งที่ทำใหโหลวหลานประหลาดใจ
แกนทรายเที่ยงคืนของเขานั้นแตกตางไปจากแกนทรายอื่นอยางมาก เขามีบันทึก
ของแกนทรายหลากหลายรูปแบบ แตไมมีอันไหนที่เหมือนกับเที่ยงคืน
แกนทรายของตุกตาทรายทั่วไปนั้นใชพลังธาตุในการทำงาน แตเที่ยงคืนไมได
ทำงานเชนนั้น
ชั้นนอกของแกนเที่ยงคืนใชพลังธาตุในการทำงาน แตภายในนั้นใชพลังวิญญาณโลหิต
ในการทำงาน นี่คือเหตุผลวาทำไมผนึกจึงถูกเปดออกในยามที่เขาวิเคราะหผลึกโลหิต
โครงสรางของแกนทรายเที่ยงคืนนั้นซับซอนมาก ความซับซอนนั้นเหนือล้ำกวา
แกนทรายทั้งหมดที่โหลวหลานเคยเห็นมา เหมือนกับหอมหัวใหญที่มีหลายชั้น แกน
เที่ยงคืนนั้นมีทั้งหมดเกาชั้น นับตั้งแตผนึกถูกปลดออก โหลวหลานก็สามารถใชงานได
อยางเต็มที่แคเพียงสามชั้นนอกเทานั้น
มีหลักฐานมากขึ้นเรื่อยๆ วาอาจารยเซานั้นอาจเปนพวกโลหิตแหงเทพ ดูจาก
ความซับซอนและความยุงยากของโครงสรางแกนทรายเที่ยงคืน อาจารยเซานั้นยอม
ไมใชคนธรรมดาแนนอน
โหลวหลานสงสัยวาอาจารยเซาในตอนนี้สบายดีไหม
เขาพลันรูสึกคิดถึงอาจารยเซาขึ้นมาและก็รูสึกงุนงง ไมวาอาจารยเซาจะเปนใคร
มาจากไหน ตำแหนงของเขาในหัวใจของโหลวหลานก็ไมมีวันเปลี่ยนแปลง
โหลวหลานไดสติกลับมาและจองมองไปที่อายฮุยซึ่งกำลังหมดสติ
ในโลกนี้มีคนสองคนที่สำคัญสำหรับโหลวหลาน นั่นก็คืออายฮุยกับอาจารยเซา
อาจารยเซาไดหายตัวไปและโหลวหลานไมตองการใหเกิดอะไรขึ้นกับอายฮุย เขาเปน
แคตุกตาทรายและก็เปนตุกตาทรายโชคดีอยางมาก
โหลวหลานเตรียมตัวที่จะดูดซับโลหิตเทพปศาจ
กอนหนานี้โหลวหลานไมกลารีบรอนใชโลหิตเทพปศาจ เพราะเขายังไมรูวามันจะ
มีผลอยางไรกับตัวเขา เขาสัมผัสไดวามีความสัมพันธระหวางพลังวิญญาณโลหิตกับ
โลหิตเทพปศาจ แตเขาไมแนใจวามันจะมีความสัมพันธกันลึกซึ้งเพียงใด
ตามแผนเดิมของเขา เขาตองการเตรียมตัวใหดีกอนจะดูดซับโลหิตเทพปศาจ ยิ่ง
เตรียมตัวดีเทาไร ความเสี่ยงก็จะลดลงเทานั้น อยางไรก็ตาม เมื่อเทียบกับชีวิตของ
อายฮุยแลว ความเสี่ยงพวกนั้นไมมีคาอะไรกับโหลวหลาน
เอะ โหลวหลานสัมผัสไดถึงบางสิ่งที่ผิดปกติและมือของเขาก็แข็งคางไป
มีสีแดงเลือดออนจางปรากฏขึ้นบนผาพันแผลที่พันอยูรอบกายอายฮุย
แสงสีแดงในดวงตาของโหลวหลานกะพริบอยางถี่ยิบ ไมมีบาดแผลบนรางของ
อายฮุย!
แลวเลือดบนผาพันแผลมาจากไหน
โหลวหลานไมกลาลดความระวังลงและจองมองดูผาพันแผลนั้น
รอยเลือดบนผาพันแผลยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ มันเหมือนกับเลือดที่ซึมออกมาจาก
ภายในผาพันแผลทีละนอย รอยเลือดนั้นรวมตัวกันอยูที่บริเวณอกของอายฮุย หาก
โหลวหลานไมรูสภาพรางกายของอายฮุยเปนอยางดีแลว คงคิดวาหนาอกของอายฮุย
มีบาดแผลเปดอยูเปนแน
รอยคราบเลือดนั้นสวางมากขึ้นเรื่อยๆ ในไมชาก็กอตัวเปนภาพที่นาหวาดกลัว
ดวงตา
ดวงตาโลหิตกินพื้นที่เกือบเทากับหนาอกของอายฮุย เปนภาพที่เรียบงายปราศจาก
การตกแตง ดูเหมือนกับเสาบูชาของชนเผาโบราณ แกนทรายของโหลวหลานมีขอมูล
มากมายสะสมเอาไว แตก็ไมมีขอมูลใดเกี่ยวกับดวงตาโลหิตนี้เลย
ดวงตาโลหิตนั้นดูเหมือนกับมีชีวิตของมันเอง อาบไปดวยเลือดและมีความมันวาว
ซึ่งสรางความรูสึกหวาดกลัวในใจของผูคน
โหลวหลานเปนตุกตาทราย เขาจึงไมไดรับผลกระทบจากมัน เขาตั้งสมาธิสำรวจ
ความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ่นในรางกายของอายฮุย
เมื่อดวงตาสีแดงปรากฏขึ้น แสงสีทองที่อาละวาดอยูก็หยุดลง ชั่วขณะตอมา แสง
สีทองก็พุงเขาหาดวงตาโลหิตนั้นและซึมเขาไปโดยไมลังเล
แสงสีท องเขาไปในนัยนตาของดวงตาโลหิ ต จากนั ้น นั ย น ตาเยือ กเย็นเปยม
อำนาจนั้นก็ดูเหมือนจะสรางขึ้นจากทองคำ
จองมองมาที่โหลวหลาน
แสงสีทองที่หอหุมกระโจมหมนแสงลง แตโหลวหลานสัมผัสไดถึงอันตรายในทันที
เขาพบวามีบางอยางทำใหเขาเคลื่อนไหวไมได ไมอาจขยับไดแมแตสวนเดียวของ
รางกาย
กึก นัยนตาทองคำของดวงตาโลหิตนั้นก็หมุนวนอยางฉับพลัน
คลื่นพลังที่มองไมเห็นกวาดไปทั่วกระโจม ทุกอยางในกระโจมสั่นไหวราวกับพืช
น้ำในทะเลก็มิปาน
ทรายที่กอตัวเปนรางของโหลวหลานนั้นเสียการควบคุม เม็ดทรายเริ่มหลุดรวง
ออกจากชั้นนอกของรางกายและกระจายไปในอากาศรอบกาย
แกนทรายเที่ยงคืนของโหลวหลานทำงานอยางรวดเร็ว ในขณะที่แสงสีแดงใน
ดวงตาของเขากะพริบไมหยุดหยอน เขาสูญเสียการควบคุมเม็ดทรายที่สรางเปนราง
ของเขา และเปลี่ยนไปเปนพายุทรายที่หมุนวนอยูในอากาศ
ชั้นนอกของพายุทรายหมุนวนอยูภายในกระโจม ใจกลางของพายุทรายนั้นมีผลึก
แกวขนาดเทากำปนสองแสงสีแดงออกมา นี่ก็คือแกนทรายเที่ยงคืนของโหลวหลาน
แกนเที่ยงคืนนั้นมีรูปรางเหมือนกับหัวใจมนุษย และกะพริบแสงสีแดงที่ดูเหมือนการ
เตนของหัวใจออกมา หากมองดูแสงสีแดงที่กะพริบอยูใหดี ก็จะพบวาทุกการกะพริบ
นั้นเกิดจากการหมุนวนของของแสงสีแดงรอบผลึกกอนที่จะหายไปราวกับดาวตกที่
พาดผานทองฟา
ที่ใจกลางของผลึกแกว เปนความวางเปลาที่ลึกล้ำยากหยั่งถึง
มันเปนแกนทรายแตก็ดูเหมือนจะถูกหอมลอมดวยกำแพงที่มองไมเห็นที่กางกั้น
ตัวแกนทรายออกจากพายุทราย
พายุทรายหอมลอมแกนเที่ยงคืนและกำแพงที่มองไมเห็นเอาไวแนนจนกอตัวเปน
รูปหัวใจขนาดใหญที่เปนทรายทั้งสิ้น ผิวนอกของหัวใจทรายนั้นเต็มไปดวยสายระโยง
ระยางที่เชื่อมโยงเขากับสวนตางๆ ของรางกายโหลวหลาน ในตอนนี้ สายเหลานั้นสั่น
ไหวอยางหลวมๆ ราวกับรากของพืชน้ำ
ยิ่งพายุทรายอยูใกลกับแกนเที่ยงคืนมากเทาไรก็ยิ่งมีความมั่นคงขึ้นเทานั้น
หลังจากผานไปนานเทาไหรไมทราบ แสงสีทองของนัยนตานั้นก็คอยๆ จางลง
และรอยแสงนั้นก็คอยๆ กลับคืนสูรางของอายฮุย
โหลวหลานรูสึกวาทั่วรางผอนคลาย คลื่นพลังที่มองไมเห็นหายไป และรางของ
โหลวหลานก็กลับคืนเปนปกติ สิ่งแรกที่เขาทำก็คือตรวจสอบรางกายอายฮุย เมื่อเห็น
วาอายฮุยหายใจเปนปกติ เขาก็ถอนหายใจอยางโลงอก
นี่เปนครั้งแรกที่เขาไดพบกับคลื่นพลังที่มองไมเห็นซึ่งแปลกประหลาดเชนนี้
คลื่นพลังของมันไมไดทรงพลังนัก ทวาเขากลับไมอาจตอตานมันไดเลยแมแตนอ ย
กระนั้นก็ตาม เขาไดบันทึกมันเอาไวแลว ลักษณะทั้งหมดของมันจะผานการวิเคราะห
ในภายหลัง
ผานไปครูหนึ่ง สีทองก็หายไปจากนัยนตาโลหิตอยางสิ้นเชิงและกลับคืนสูสภาพ
นัยนตาสีแดงเลือดเหมือนเชนเคย
สีของดวงตาโลหิตก็จางลงเชนเดียวกัน
โหลวหลานบันทึกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับผาพันแผลและสำรวจสภาพของ
อายฮุยในเวลาเดียวกัน
เขาพบความผิดปกติบางอยางไดในทันที
แสงสีทองที่มีอำนาจกดขี่รุนแรงกอนหนานี้ไดเปลี่ยนไปเปนออนโยนนุมนวล
หลังจากกลับเขาสูรางของอายฮุย ถึงขนาดเริ่มรักษารางกายของอายฮุยดวยตัวเอง
การเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะอยางฉับพลันของแสงสีทองนี้ทำใหโหลวหลานยินดี
เปนอยางยิ่ง แมวาเขาจะไมเขาใจวาเกิดอะไรขึ้น แตก็รูวานี่เปนเรื่องดีสำหรับอายฮุย
แตกระนั้นอันตรายก็ยังไมหมดไป
ในตอนนี้ มีพลังสามอยางอยูในรางของอายฮุย อยางแรกก็คือพลังทำลายลางของ
สายฟาที่มาจากเมฆกระบี่ในตำหนักปฐพี อยางที่สองก็คือประกายแสงสีเขียวทั้งสามที่
ไหลไปทั่วรางของอายฮุย มันคือพลังชีวิตดั้งเดิมที่มาจากกิ่งไมแหงชีวิต อยางที่สามก็
คือ รอยสีทองที่มาจากโลหิตเทพปศาจ
แสงสีทองผานไปที่ใดก็ตาม กลามเนื้อของอายฮุยจะถูกหลอหลอม จากนั้นพลัง
ชีวิตดั้งเดิมก็จะรักษาบาดแผลที่เกิดจากการหลอหลอมของแสงสีทองในกลามเนื้อของ
อายฮุย เมฆกระบี่ก็จะเหมือนกับสัมผัสไดถึงอันตรายและสงเสียงคำรามปานฟารอง
ออกมา พลังสายฟาอันพลุงพลานก็จะทำลายกลามเนื้อที่เพิ่งถูกรักษาไป
พลังทั้งสามกอตัวเปนวงโคจร
รางกายของอายฮุยจะถูกหอหุมดวยแสงสีทอง แสงเรืองสีเขียว และประกาย
สายฟาสีเงินเจิดจาอยูเปนระยะๆ ในแตละรอบ รางกายของอายฮุยจะถูกทำลายและ
รักษาซ้ำแลวซ้ำเลา เปนภาพที่นากลัวอยางยิ่ง
โหลวหลานไมอาจทำอะไรกับมันได พลังทั้งสามในรางกายของอายฮุยนั้นทั้ ง
แข็งแกรงและลึกลับ แสงสีทองนั้นมาจากโลหิตเทพปศาจที่ลึกลับ แสงสีเขียวมาจาก
ผลงานขั้นสุดยอดของหมอเทวดาชุดขาวลูเฉิน และเมฆกระบี่ซึ่งเกิดจากสายฟาที่
หลอมละลายเขากับตัวออนกระบี่จากยุคสมัยแหงการบำเพ็ญตน
คนผูหนึ่งตองใชเวลาทั้งชีวิตเพื่อสรางความเขาใจในพลังอยางใดอยางหนึ่ง ใครจะ
ไปคิดวาอายฮุยจะมีพลังทั้งสามอยูในรางกาย แตกระนั้น อายฮุยก็ไมอาจสรางสมดุล
ใหกับพลังทั้งสามได รางกายของเขาจึงกลายเปนสนามรบของพวกมัน ในที่สุดแลว
รางกายของเขาจะพังทลายลง ไมมีใครอื่นที่จะชวยอายฮุยในขั้นตอนนี้ได
ปญหากอนหนานี้ของอายฮุยก็คือพลังชีวิตดั้งเดิมกับเมฆกระบี่นั้น ไมอาจอยู
รวมกันไดอยางกลมเกลียว ในตอนนี้ยังมีแสงสีทองเขามาทำใหสถานการณแยลงไปอีก
ในตอนนั้นเอง อายฮุยก็คอยๆ ไดสติกลับคืนมาอยางชาๆ
บทที่ 605 ชีวิตและความตาย
ร า งของอ า ยฮุ ย ไม อ าจเคลื ่ อ นไหวได แ ม แ ต น  อ ย เมื ่ อ ได ส ติ ข ึ ้ น มาและรู  ว า
สถานการณของรางกายตนเองเปนอยางไร ก็ตองตกตะลึง
แสงสีทองนี่คืออะไร
เอะ ทำไมรัศมีของมันถึงไดคุนเคยนัก!
ในทันทีที่โหลวหลานพบวาอายฮุยฟนคืน สติก ลับมา เขาก็รีบบอกทุกอยา งที่
เกิดขึ้นกอนหนานี้ใหฟง สถานการณในรางกายของอายฮุยนั้นซับซอนเปนอยางมาก
และคนนอกไมอาจเขาไปยุงเกี่ยวไดแมแตนอย อยางไรก็ตาม โหลวหลานสามารถชวย
อายฮุยไดโดยการคนควาหาขอมูลใหมากขึ้น
โหลวหลานไมไดพูดเร็วนักตอนที่เขาบรรยายทุกรายละเอียดใหอายฮุยฟงอยาง
ชัดเจน ทั้งยังบอกขอสันนิษฐานของตนออกไปอีกดวย
หลังจากบอกอา ยฮุย ทุก อยา งแล ว โหลวหลานก็ สงบลงและยื น ดู อ  า ยฮุ ย อยู
ด า นข า ง แสงสี แ ดงในดวงตาของเขากะพริ บ ไม ห ยุ ด ในยามที ่ เ ขาสำรวจมอง
สถานการณของอายฮุย
ครั้นอายฮุยไดฟงสิ่งที่โหลวหลานเลาจนจบ เขาก็ตระหนักวาเกิดอะไรขึ้นและ
คิดถึงบางคนขึ้นมาในทันที
ยายหนึ่งพันหยวน! [วิชาบูชายัญดอกไมแหงชีวิตและความตาย]!
นั่นเปนเพราะดอกเหมยโลหิตไดหายไปแลว
อายฮุยนั้นหวาดกลัวสตรีชุดแดงที่ยั่วยวนนั่น นางลอบกัดเขาโดยไมรูตัวราวกับ
อสรพิษที่ซอนอยูในความมืด
หลังจากสงบสติลงแลว อายฮุยก็พักเรื่องของยายหนึ่งพันหยวนเอาไวกอน การ
หายไปของดอกเหมยโลหิตเปนสัญญาณบอกวา [วิชาบูชายัญดอกไมแหงชีวิตและ
ความตาย] นั้นไดถูกถอนไปแลว เขาถอนหายใจออกมาอยางโลงอก ตลอดเวลาที่ผาน
มา [วิชาบูชายัญดอกไมแหงชีวิตและความตาย] เปนความกังวลสูงสุดของเขา
ในตอนนี้ เขาจำเปนตองคิดเรื่องสถานการณอันนาหวาดกลัวในรางกายของเขากอน
โลหิตเทพปศาจ!
หลังจากฟงขอสรุป ของโหลวหลาน อ า ยฮุ ย ก็ ตระหนั ก ได ว าเกิดอะไรขึ ้ น ไม
ประหลาดใจเลยวาทำไมเขาถึงไดรูสึกวารัศมีพลังของแสงสีทองนั้นถึงไดคุนเคยนัก
เขาเคยใชหยดโลหิตเทพปศาจกับรูปสลักหินมากอน ซึ่งเปลี่ยนมาเปนเกราะเทพปศาจ
ในที่สุด เขาไมคาดคิดเลยวายายหนึ่งพันหยวนจะมีหยดโลหิตเทพปศาจดวย
โหลวหลานเคยบอกอายฮุยมาก อนวาโลหิตเทพป ศาจและโลหิตแหงเทพนั้น
ตางกันก็แคมีคำวา “ปศาจ” เพิ่มขึ้นมาเทานั้น มีแนวโนมวาจะมีสวนเกี่ยวของกัน ดู
จากสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นแลวก็เหมือนวาโหลวหลานจะพูดถูก
เมื่ออายฮุยรูวาถึงปรากฏขึ้นของดวงตาโลหิตบนผาพันแผลและไดยินวาประกาย
แสงสีทองที่กดขี่กอนหนานี้เปลี่ยนเปนออนโยนขึ้นมา เขาก็เขาใจวาผาพันแผลได
ชวยชีวิตเขาเอาไวอีกครั้งหนึ่งแลว
ในตอนนี้อายฮุยคิดดูแลว เขาก็รูสึกวาดินแดนในความฝนที่เขาไดเห็นกอนหนา
อาจเปนของจริง ชุดเกราะเทพปศาจ โลหิ ตเทพป ศาจและผา พั นแผลนั้ น มีความ
เชื่อมโยงกันอยางใกลชิด
จิตใจของอายฮุยลองลอยไปอยางลืมตัว
เขาไมรูวาเทพปศาจบรรพกาลนั้นมีอยูจริงหรือไม เกราะเทพปศาจ โลหิตเทพปศาจ
และผาพันแผลทั้งสามอยางนี้ลวนแตลึกลับและทรงพลังอยางยิ่ง
แคผาพันแผลอยางเดียวก็ชวยชีวิตเขามาหลายครั้งแลว
กอนหนานี้ ทุกครั้งที่เขาคิดวาผาพั นแผลไดชวยชีว ิตเขาเอาไว ก็จะคิดไปถึ ง
อาจารยและอาจารยหญิง
ความรูสึก โหยหาผุดขึ้นในใจ ใบหน า ซึ่ งเต็ มไปด ว ยรอยยิ ้ มของอาจารยและ
อาจารยหญิงฉายขึ้นมาในหวงคำนึง ความกังวลที่เขารูสึกผอนคลายลงไปเรื่อยๆ ไมวา
สถานการณจะยากลำบากเพียงใด เขาก็ไมอาจเสียความกลาที่จะตอสู เขานับวาโชคดี
มากแลวที่รอดชีวิตมาไดนานถึงเพียงนี้
โหลวหลานไมรูวาอายฮุยจะรับมือกับขาวพวกนี้อยางไร แตเขาพบวาสถานการณ
เลวรายภายในรางกายของอายฮุยนั้นบรรเทาลงอยางเห็นไดชัด
อายฮุยสมกับเปนอายฮุยยิ่งนัก!
โหลวหลานรูสึกยินดีอยางมาก เขามีความเชื่อมันในตัวอายฮุยมาเสมอ ดวงตา
โหลวหลานเปลี่ยนรูปเปนพระจันทรเสี้ยวสองดวง อยางไรก็ตาม เขาก็กำมืออยาง
รวดเร็วและเบิกตากวาง จากนั้นดวงตาของเขาก็กะพริบแสงสีแดงเปนจังหวะ
เขาตองบันทึกทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในกายของอายฮุยและใหคำแนะนำ
อายฮุย
เมื่ออายฮุยสงบสติอารมณลงและสำรวจสภาพรา งกายของตน รูสึกวามั นไม
เลวรายอยางที่คิดเอาไว ปญหาอยางไรก็คือปญหา บางครั้งก็ตองมองปญหาในมุมมอง
อื่นบาง เมื่อทำเชนนั้นก็จะเห็นสิ่งที่แปลกใหมออกไป
อายฮุยครุนคิดถึงปญหานี้
เปาหมายแรกของเขาก็คือโลหิตเทพปศาจ การใสใจอยางจริงจังในยามที ่แกไข
ปญหานั้นมีความสำคัญเปนอยางยิ่ง หลังจากครุนคิดเรื่องโลหิตเทพปศาจ อายฮุยก็
สัมผัสไดถึงบางอยางที่ตางไป
เขาเองก็เคยใชโลหิตเทพปศาจหยดหนึ่งดวยตัวเองมากอน
แสงสีทองในรางกายของเขานั ้น ดู เหมือนจะออนลงอยางเห็ นไดชัด ไม ไดแค
ออนโยนลงเทานั้น แตปริมาณก็ลดลงอีกดวย อายฮุยสรุปไดวาแสงสีทองนี้มีพลังอยาง
มากไมเกินหนึ่งในสี่สวนของหยดโลหิตเทพปศาจหนึ่งหยด
อายฮุยรูสึกยินดีอยูในใจ
หากมันเปนหยดโลหิตเทพปศาจเต็มหยด รางกายของเขาคงระเบิดไปแลว คงไม
มีชีวิตอยูจนถึงตอนนี้
หลังจากอายฮุยระบุปริมาณของโลหิตเทพปศาจในรางกายแลว เขาก็ทุมความ
สนใจไปที่ลักษณะของแสงสีทองนั้น ผาพันแผลทำใหแสงสีทองที่เคยรุนแรงและกดขี่
เปลี่ย นเปนออ นโยนและเก็บ ตัว อย า งไรก็ ตาม ความสามารถในการหล อ หลอม
กลามเนื้อของมันไมเปลี่ยนแปลงไป
ปรากฏวาแสงสีทองนั้นไมใชพลังใดที่อายฮุยเคยรูจักมากอน ไมใชทั้งพลังธาตุ
หรือพลังวิญญาณโลหิต โชคยังดีที่เขานั้นมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของที่ไมเปนที่รูจัก
ตัวออนกระบี่และสายฟาก็ลวนเปนพลังรูปแบบใหมที่ไมมีใครรูจักเชนกัน
เมื่ออายฮุยเผชิญหนากับสิ่งที่ไมรูจัก เขาจะคิดอยางชาญฉลาด ทำการทดสอบ
อยางรอบคอบ และศึกษาอยางละเอียด วิธีการนี้เกิดขึ้นจากประสบการณในการ
รับมือกับสิ่งที่ไมรูจัก
เขาพยายามที่จะขับเคลื่อนแสงสีทอง แตมันก็ไมเคลื่อนไหวแมแตนอย
อายฮุยไมประหลาดใจ แมวาผาพันแผลจะลดพลังทำลายลางของแสงสีทอง แต
แสงสีทองนี้ก็ยังเปนโลหิตเทพปศาจอยูดี ดังนั้นระดับของมันจึงสูงอยางยิ่ง ไมแนวา
เขาอาจจะใชแสงสีทองนี้ไดหากเขาสวมเกราะเทพปศาจ นาเสียดายที่เขาไมอาจขยับ
รางกายไดเลยแมแตนอย ขอสันนิษฐานนี้คงตองทดสอบในภายหลังแลว
ในเมื่อเขาไมอาจขับเคลื่อนแสงสีทองนี้ได เขาจึงพยายามขับเคลื่อนพลังอีกสอง
อยางแทน
เขาสามารถบังคับเมฆกระบี่ไดอยางราบรื่นเปนอยางยิ่ง สามารถเขาสูสภาวะเมฆ
กระบี่ไดเพียงแคใชความคิดเทานั้น ปกติแลวเมื่อเขาใช สภาวะเมฆกระบี ่ เขาจะ
สามารถขยับรางกายไดตามตองการ ทวาในตอนนี้ เขาไมอาจทำเชนนั้นได
เขาสามารถขั บ เคลื ่ อ นพลั ง ชี ว ิ ต ดั ้ ง เดิ ม จากกิ ่ ง ไม แ ห ง ชี ว ิ ต ได เ ช น กั น แต ก็
เชนเดียวกัน เขาสัมผัสไดถึงแรงตานทานที่มองไมเห็น
ในตอนนี้ อายฮุยไดยืนยันแลววาระดับพื้นฐานของแสงสีทองนั้นมีพลังเทียบเทา
กับเมฆกระบี่และพลังชีวิตดั้งเดิม
แสงสี ท องไหลเวีย นไปรอบกายอ า ยฮุ ย อย า งเป น อิส ระ มั น เป น ตั ว ร า ยของ
สถานการณที่รางกายของเขาเผชิญอยูตอนนี้ เมฆกระบี่และพลังชีวิตดั้งเดิมนั้นแทบ
จะรักษาสมดุลเอาไวไมได ในตอนนี้แสงสีทองไหลเวียนไปทั่วรางกายอยางอิสระสราง
ความปนปวนไปทั่ว เมฆกระบี่สัมผัสไดถึงอันตรายและปลอยสายฟาออกมาอยาง
ตอเนื่อง รัศมีพลังทำลายจากสายฟานั้นกอใหเกิดความกลัวและความประหมาใน
รางกายอายฮุย ในขณะเดียวกันพลังชีวิตดั้งเดิมก็ติดตามเมฆกระบี่และแสงสีทองนั้น
ไป ซอมแซมความเสียหายที่พลังอื่นกอขึ้นในรางกาย
พลังที่แตกตางกันสามอยางไมอาจอยูรวมกันได
พวกมันเปนเหมือนยอดฝมือที่มีพลังทัดเทียมกันสามคนที่ไมชอบหนากันและตอสู
กันอยางเอาเปนเอาตาย
พลังชีวิตดั้งเดิมที่เฟองฟู สายฟาที่ทำลายลาง และโลหิตเทพปศาจที่ลึกลับ...
ทันใดนั้นจิตใจของอายฮุยก็สะดุง
พลังชีวิตดั้ งเดิม นั้นเปนตัวแทนของ “ชีวิต” และสายฟานั้นเปนตัวแทนของ
“ความตาย” ...
สิ่งหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในใจของเขา [วิชาบูชายัญดอกไมแหงชีวิตและความตาย]!
อายฮุยพลันตื่นเตนขึ้นมา!
อายฮุยตองหวาดหวั่นเพราะ [วิชาบูชายัญดอกไมแหงชีวิตและความตาย] มาเปน
เวลานาน ได ใ ช เ วลาและความพยายามมากมายเพื ่ อ ที ่ จ ะรั บ มื อ กั บ มั น เขามี
ประสบการณกับตำแหนงนายแหงดอกไมและทาสแหงดอกไมมากอน สงผลใหเขามี
ความเขาในใจ [วิชาบูชายัญดอกไมแหงชีวิตและความตาย] ในแบบของตนเองขึ้นมา
ชีวิตและความตายนั้นอยูตรงกันขามกัน เฉกเชนขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต
แตกระนั้น อายฮุยก็รูวาความสัมพันธระหวางชีวิตและความตายนั้นมีความลึกซึ้ง
ยิ่งใหญอยางที่สุด
หากเขาตองเปรียบเทียบความสัมพันธเชนนี้ เขาก็ตองนึกถึง “หยินและหยาง” ของ
หันลี่ อยางไรก็ตาม “ชีวิตและความตาย” นั้นมีความลึกล้ำยิ่งกวา “หยินและหยาง”
อยางมาก
แมวาเปนเรื่องยากที่จะพบที่ใดในโลกที่หยินและหยางสามารถดำรงอยูคูกันได แตก็ยัง
มีใหเห็นอยูบาง ทวาในทางกลับกัน ไมเคยมีใครเห็นสถานที่ซึ่งชีวิตและความตายอยู
รวมกันมากอน
ชีวิตและความตายนั้นเปนสิ่งที่แตกตางกันอยางสิ้นเชิง หากเขาตองการที่จะนำ
มันมาอยูรวมกันเขาก็ตองหาสิ่งที่มาเปนตัวกลาง มีเพียงแคตัวกลางที่สูงล้ำเทานั้นจึง
จะสามารถรักษาสภาพที่แตกตางกันสุดขั้วใหอยูรวมกันได!
อายฮุยเล็งเปาไปที่โลหิตเทพปศาจโดยไมลังเล
ความคิดอันโลดโผนผิดปกตินี้ทำใหอายฮุยตื่นเตน พูดตามทฤษฎีแลว ความคิดนี้
ไรขอบกพรองและฉลาดล้ำ
อยางไรก็ตาม เขาจะทำใหพลังที่แตกตางกันทั้งสามมาอยูรวมกันไดอยางไร
อายฮุยพลันคิดถึงภาพของดอกเหมยโลหิตขึ้นมา
แกนโลหิต! เขาสะดุงขึ้น
เขามีสิ่งซึ่งบรรจุแกนโลหิตอยูหรือไม ใชแลว!
ผาพันแผล!
เมื่อความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจของอายฮุย ผาพันแผลที่พันอยูรอบกายของเขาก็เริ่ม
เคลื่อนไหว มันเขาไปในรางกายของอายฮุยผานนิ้วมืออยางคลองแคลวประดุจงูขาว
...
การหมดสติของอายฮุยทำใหเกิดเมฆดำเหนือแนวปองกัน
กระนั้นก็ตาม หนวยรบทั้งสามก็ไมสนใจมันอีกตอไปในตอนนี้ ทุกคนรูสึกตึ ง
เครียดเปนอยางยิ่ง การมาถึงของพวกศัตรูนั้นหมายถึงการตอสูครั้งสุดทายกำลังจะ
เริ่มขึ้นแลว
เจดียปนใหญเพลิงโลกันตรบนยอดเขาสยบเทพถูกเปลี่ยนเปนปนใหญหนักรวงผึ้ง
กระบอกบืนใหญหนาสีแดงชี้ขึ้นทองฟาอยางสงางาม ลาวาหิมะถูกรินลงในที่
บรรจุไฟเหลว ทำใหอากาศเปลี่ยนเปนรอนดั่งไฟไหม เจาอวนเดินไปมา ตรวจสอบ
เจดียปนใหญทั้งหมดเพื่อใหแนใจวาจะไมมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นในการตอสู
ปนใหญหนักรวงผึ้งถูกสรางขึ้นโดยมีถังลูกหกถังและถังแมหนึ่งถัง จำนวนนี้ทำให
แนใจไดวาปนใหญหนักรวงผึ้งจะสามารถยิงไดเปนเวลานาน และยังลดเวลาที่ตองใช
เพื่อการยิงแบบรวมเปนหนึ่ง นอกเหนือจากสงลาวาหิมะใหถังแมแลว ถังลูกยังเพิ่ม
พลังในการยิงใหกับปนใหญหนักรวงผึ้งอีกดวย
ถังลูกแตละถังจะมีทหารสามคนคอยคุมกัน เมื่อรวมกับพลปนประจำเจดียปน
ใหญและพลปนสำรองแลว ปนใหญหนักรวงผึ้งแตละกระบอกจะมีทหารประจำอยู
ทั้งหมดยี่สิบคน
บนยอดเขาสยบเทพที่เปนของหนวยทวนเมฆาหนักมีปนใหญหนักรวงผึ้งทั้งหมด
หนึ่งรอยกระบอก ปนใหญพวกนี้ถูกติดตั้งที่ผิวนอกของยอดเขาสยบเทพและดูโดด
เดนอยางยิ่ง นี่เปนคายกลเจดียปนใหญอันแรกของโลก อยางไรก็ตาม ไมมีใครแนใจ
วามันจะสามารถขับไลกองกำลังศัตรูออกไปไดหรือไม
สัตวโลหิตจำนวนมากมายจนแผนดินสะเทือนนั้นทำใหพวกเขารูสึกกดดันเปน
อยางมากอยางที่ไมเคยรูสึกมากอน
เมื่อเปนการตอสูลอมตี สิ่งที่กองทัพโจมตีจำเปนตองมีมากที่สุดก็คือจำนวน ไมใช
คุณภาพ หากไมมีก ำลังพลเพีย งพอ ก็ ย ากนั ก ที ่ จะสามารถทำลายแนวป อ งกันที่
หนาแนนได
จำนวนกำลังเสริมที่ศัตรูไดมานั้นนาหวาดเกรง พวกเขาสามารถที่จะทำการศึก
ลางผลาญได
สัตวโลหิตยักษใหญทำใหผูใชพลังธาตุทุกคนหวาดกลัวเปนอยางยิ่ง ยอดฝมอื ที่มี
ประสบการณทุกคนยอมบอกไดวาสัตวโลหิตจำนวนมากนี้เปนปญหาอยางใหญหลวง
สำหรับการศึกที่จะมาถึง
แมแตเจาอวนก็ยังรูสึกกระวนกระวาย ไมรูดวยซ้ำวาป นใหญหนักรวงผึ ้ งจะ
สามารถตานทานสัตวโลหิตพวกนี้ไดหรือไม
เปลือ กนอกเขายังลอเลียนดูถู กผู ใช พลั งธาตุ โลหิ ต นิ สั ย ขี้ ขลาดของเจาอวน
เปลี่ยนไปมาก และฝปากของเขาก็จัดจานขึ้นในเวลาเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ
พวกสมาชิกกลุมเจดียปนใหญนั้นซึมซับเอาลักษณะนิสัยของผูนำมา คำสบถของเจา
อวนนั้นรายกาจ สมาชิกหนวยทวนเมฆาหนักมักจะหัวเราะออกมาเสียงดังเปนระยะๆ
ทำใหบรรยากาศตึงเครียดผอนคลายลงอยางเห็นไดชัด
เจาอวนไมใชแคคนเดียวที่รูสึกเปนกังวล ทุกคนก็ตื่นตัวเชนกัน
ซือเสวี่ยมั่นไมไดยืนเฝาอยูนอกกระโจมของอายฮุยอีกตอไป สถานการณนั้นวิกฤต
และนางก็จำตองดูแลยอดเขาสยบเทพดวยตนเอง พันธมิตรเจดียปนใหญยังไมอาจเขา
รวมทำศึกได แตอดีตสมาชิกหนวยตรวจตรานั้นเปนยอดฝมือที่นำโดยเสี่ยวซานได
เตรียมพรอมที่จะเสริมกำลังใหไดในทุกขณะ
เวลาผานไปทีละนิดในอากาศที่แข็งคาง
หนวยสอดแนมของศัตรูที่เปนปญหาซึ่งคอยมาสืบขาวอยูกอนหนานี้หายไปแลว
คายทหารตรงขามนั้นเงียบงัน เสมือนอสูรที่นากลัวกำลั งรวบรวมกำลังกอ นที ่ จ ะ
กระโจนออกมา
ในเชาวันที่สอง กอนที่ตะวันจะขึ้น คายทหารของผูใชพลังธาตุโลหิตก็เต็มไปดวย
กิจกรรม เสียงคำรามของสัตวโลหิตดังออกมา
การศึกกำลังจะเริ่มขึ้นแลว
บทที่ 606 ไพรพลคายอสูร
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวมองดูผูนำคายอสูรทั้งสี่คนตรงหนา
ผูนำคายอสูรคนแรกชื่อวาหยางเซียนหยง มีใบหนากวางคิ้วหนา แขนขากำยำ
ใหญโตดูราวกับขุนเขา หยางเซียนหยงไมใชผูมีพรสวรรค แตเปนคนที่ขยันทำงาน ได
บมเพาะทหารที่โดดเดนขึ้นมามากมายซึ่งถูกคัดตัวใหเขารวมกับหนวยโลหิตและ
หนวยเทพ ดังนั้นเขาจึงนับเปนผูนำคายอสูรที่มีชื่อเสียงพอตัว
ผูนำคายอสูรคนที่สองชื่อวาเซวียนชง รูปรางอวนเตี้ยดูเหมือนกับลูกวัว มีใบหนา
ดุดันทำใหเขาดูดุรายอยูตลอดเวลา เปนคนกลาหาญและตอสูไดดี แตมีอารมณรุนแรง
โมโหงาย มีครั้งหนึ่งที่เขาทำผิดรายแรงจนเกือบถูกตัดหัว ในที่สุดเขาก็ถูกลงโทษใหลด
ตำแหนงลงมาเปนผูนำคายอสูร
ผูนำคายอสูรคนที่สามชื่อวามั่วเสาจวิน มีผิวสีเขียวเขมที่เปนเอกลักษณ รูปรางสูง
ผอมแหง ดูเหมือนคนปวยที่ทุกขทนเนื่องจากใชชีวิตอยางเสเพลสุดขั้วตลอดมา ทวา
หากประเมินเขาต่ำเกินไปเพราะรูปลักษณของเขาแลวก็นับวาเปนความผิดพลาดอยาง
ใหญหลวง เขาเปนคนที่โหดเหี้ยมและปาเถื่อน
ผูนำคายอสูรคนที่สี่ชื่อเวยฝูหมิน เขาเตี้ยมาก ดูเหมือนกับชาวนาชรากรำแดด
ใบหนามีรอยยิ้มที่ไรยางอายอยูเสมอ เปนคนกะลอนที่นอยคนนักจะเอาเปรียบเขาได
นี่เปนครั้งแรกที่เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวติดตอกับคนจากคายอสูรเหลานี้โดยตรง
ปกติแลวหากหนวยเทพหมาปาขาดคน เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวก็จะยายคนมาจาก
หนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงินหรือหนวยโลหิตบุปผาแกรง ซึ่งหนวยโลหิตทั้งสองจะมี
ปฏิสมั พันธกับคายอสูรมากกวา
“เปนอยางไรบาง พวกเจามีแผนหรือไม” เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวถามอยางเปนกันเอง
ผูนำคายอสูรทั้งสี่มองหนากัน ผานไปครูหนึ่ง หยางเซียนหยงก็กาวออกมาตอบ
“เรามีความคิดบางอยาง...”
ในตอนที่หยางเซียนหยงกำลังจะรายงานนั้นเอง เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวก็โบกมือ
และยั บ ยั ้ ง ไว “ไม จ ำเป น ต อ งรายงานต อ ข า พวกเจ า ล ว นเป น ทหารเก า ที ่ มี
ประสบการณและรูวาจะตอสูในการศึกนี้อยางไร ขาเชื่อมั่นในตัวพวกเจาทุกคน”
เฮอ เหลีย นเทีย นเสี่ย วไดนำกองทั พ มานานหลายป แ ละมี ป ระสบการณ ด า น
การทหารมากมาย เขารูวาตัวเขาเองนั้นไมคุนเคยกับคายอสูร หากเขาออกคำสั่ง อาจ
ทำใหพวกนั้นไมพอใจ หยางเซียนหยงและพวกไมใชเด็กใหม นี่ไมใชครั้งแรกที่พวกเขา
กาวเทาเขาสูสนามรบ และพวกเขาก็มีความคุนเคยกับผูใตบังคับบัญชาของตนดีกวา
สีหนาผอนคลายปรากฏขึ้นบนใบหนาของผูนำคายอสูร พวกเขารูสึกมีกำลั งใจ
อยางยิ่ง การไดรับความเชื่อใจจากใตเทาเฮอเหลียนนั้นเปนสิ่งเราใจที่ไมอาจไดรับมา
อยางงายดายสำหรับพวกเขา
สีหนาของเฮอเหลียนเทียนเสี่ยวเปลี่ยนเปนจริงจังและกลาว “ขาไมตองการจะย้ำ
เตือนวาการศึกครั้งนี้สำคัญแคไหนกับพวกเจาทุกคน ขาแคอยากจะบอกพวกเจาวา
ทุกคนในที่แหงนี้ตางก็ลงเรือลำเดียวกันแลว ไมวาจะเปนพวกเจาจากคายอสูร หนวย
เทพหมาปาหรือหนวยโลหิตน้ำคางแข็ งเงิ น ทุ ก คนรวมถึงตัวขา ล วนอยู ในเรือลำ
เดียวกัน หากเราไมอาจเอาชนะไดก็ขอตายอยูที่นี่!”
“ขอรับ!” ความเย็นเยียบเรื่อยลงไปตามแนวสันหลังของผูนำคายอสูรทั้งสี่
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวยืนขึ้นและโบกมือ “ไปยึดยอดเขาสยบเทพมา!”
“ขอรับ!” ผูนำคายอสูรตอบรับอยางพรอมเพรียง
จากนั้นพวกเขาก็เดินออกจากกระโจมของเฮ อ เหลี ย นเที ย นเสี ่ ย ว ภายนอก
กระโจม ทหารจากคายอสูรนั้นพรอมที่จะออกเดินทัพ มองจากระยะไกลพวกเขานั้นดู
เหมือนกับกลุมกอนสีดำที่หนาแนนดูสะดุดตาอยางยิ่ง ปลาคางคาวหลังกวางจำนวน
นับไมถวนดูราวกับทะเลสีนิล เมื่อใดก็ตามที่ปลาคางคาวหลังกวางกระพือปก ฟอง
คลื่นสีดำก็ปรากฏขึ้นไปทั่วทะเลสีนิลนี้
“เดินทัพ!”
ทะเลนิลลอยขึ้นไปในอากาศ ทองฟามืดลงเมื่อปลาคางคาวหลังกวางจำนวนนับ
ไมถวนปกคลุมอยูทั่วทองฟา
เมื่อมองดูทองฟา ซงเสี่ยวเชี่ยนก็อดอุทานอยางชื่นชมไมได “ชางตื่นตายิ่งนัก!”
ตลอดมานางไมคาดหวังกับความสามารถในการตอสูของไพรพลคายอสูรมากนัก
ทวาเมื่อนางเห็นภาพนี้ นางก็เต็มไปดวยความตกใจ ปกติแลวคายอสูรนั้นแทบไมมี
โอกาสไดตอสูในสนามรบ ยอนกลับไปในตอนนั้น เมื่อเยี่ยไปอีสรางหนวยรบใหกับ
แควนแหงเทพเสร็จ มีหนวยรบทั้งสิ้นสิบแปดหนวย หนวยเทพหกหนวยและหนวย
โลหิตอีกสิบสองหนวย ทะเบียนรายชื่อนั้นอัดแนนเต็มที่ ดังนั้นไพรพลคายอสูรจึงไมมี
โอกาสแมแตนอย
คนอื่นก็พยักหนาราวกับวาพวกเขาก็ตกตะลึงกับภาพตรงหนาเชนกัน
ยอดเขาสยบเทพที่อยูไกลออกไปสองสวางขึ้นทีละยอด ศัตรูไดเตรียมตัวที่จะ
เผชิญหนาแลว แสงสวางออนโยนปกคลุมรอบยอดเขาสยบเทพทั้งสาม แมแตแสงแดด
เจิดจาจากดวงตะวันยามเชาก็ไมอาจบดบังแสงออนโยนที่แผออกมาจากยอดเขาได
เมื่อจำนวนการตอสูระหวางผูใชพลังธาตุกับผูใชพลังธาตุโลหิตเพิ่มมากขึ้น ก็ไมมี
สมาชิกหนวยเทพหมาปาคนใดกลาประมาทศัตรูอีกตอไป หากเปนหนวยรบอื่นทำการ
ปองกันแบบเตาอยูในกระดองเชนนี้ พวกเขาอาจคิดวาหนวยรบนั้นขี้ขลาด ทวาหนวย
ทวนเมฆาหนักนั้นไดพิสูจนคุณคาของตนมาแลว
ไมวาจะเปนเฮอเหลียนเทียนเสี่ยวหรือพวกทหาร ตางก็รูวาการตอสูที่รุนแรงนา
สยดสยองอยางที่ไมเคยมีมากอนกำลังรอพวกเขาอยู
ผูนำคายอสูรที่นั่งอยูบนปลาคางคาวหลังกวางก็เขาใจเรื่องนี้เชนกัน
พื้นที่ที่กองทัพศัตรูปองกันอยูนั้นมีขนาดเล็กมาก ยอดเขาสยบเทพทั้งสามไดปดผนึก
อุโมงคเหนือสะพานเอาไวอยางหนาแนน ขนาดรางกายของปลาคางคาวหลังกวางนั้น
ใหญมาก และกองทัพของพวกเขาก็ไมอาจกระจายกำลังออกไป ซึ่งนั่นทำใหเปนการ
ยากที่พวกเขาจะพุงเขาไปในแนวปองกันดวยทหารจำนวนมาก
สองวันที่ผานมา ผูนำคายอสูรทั้งสี่ไดหารือกันวาจะรับมือกับแนวปองกันของศัตรู
อยางไรดี แมวาศัตรูจะเปนเหมือนเตาที่อยูในกระดองหนา พวกเขาก็สามารถคิดแผน
บางอยางขึ้นมาได
“เราจะทำตามแผนที่วางเอาไว” หยางเซียนหยงกลาว
“ตกลง!”
“ขาจะเปนคนนำเอง!”
“มาดูกันวาพวกมันจะตอบโตอยางไร”
ผูนำคายอสูรอีกสามคนตอบรับและกลับไปยังไพรพลของตน
คนที่ทำหนาที่เปนผูนำคือ มั่วเสาจวิน
ผูนำคายอสูรอีกสามคนแยกกันไปและทิ้งระยะระหวางกัน ตำแหนงที่ตั้งของศัตรู
นั้นมีขนาดเล็กเกินไป และไมอาจที่จะนำปลาคางคาวหลังกวางจำนวนมากเขาไปได
ดวยการทิ้งระยะหางระหวางกันจะทำใหทองฟานั้นไมแออัดจนเกินไป
ในหนามั่วเสาจวินเปลี่ยนเปนชั่วราย เขาเลียริมฝปากและสายตาก็ฉายแววแหง
ความบาคลั่งออกมา “ไปถามกลุมแรกวาพรอมหรือยัง”
รองหัวหนาคายอสูรดานขางหันกลับไปและสอบถาม เขาไดรับคำตอบกลับมา
อยางรวดเร็วและแจงตอมั่วเสาจวิน “ใตเทา กลุมแรกพรอมแลว พวกเขาสามารถลง
มือจูโจมไดทุกเมื่อ!”
“เชนนั้นก็เริ่มกันเลย” มั่วเสาจวินตอบดวยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“ทราบ!”
ผูนำกลุมแรกมีนามวาอันซุน เปนชายรางกำยำอายุประมาณสี่สิบป พูดตามตรง
เขานั้นไมคาดคิดวาจะไดเหยียบยางเขาสูสนามรบ เขาไดใชเวลาอยูในคายอสูรมานาน
แลว ดวยอายุของเขาในตอนนี้ เปนไปไมไดที่จะไดรับการเลื่อนตำแหนงอีกตอไป เขา
ตัดสินใจที่จะอยูในคายอสูรตอไปอีกสักสองสามปกอนจะเกษียณและกลับบานไป
ตอนไดยินวาคายอสูรถูกเรียกใหมาเสริมทัพในแนวรบ เขาก็แทบไมอยากเชื่อ
เขาไมกลัวที่จะตองตาย นับตั้งแตที่เกิดภัยพิบัติโลหิตขึ้น ก็มีผูคนตองตายอยูทกุ วี่วัน
เมื่อเกิดมาในยุคแหงความโกลาหล ก็ไมใชเรื่องแปลกที่จะชาชินกับความตาย มีเหตุผล
พิเศษที่ทำใหเขารูสึกเชนนี้ เมื่อคนรูสึกชินชากับการไดเห็นความตายก็จะเขาใจไดวา
ชีวิตนั้นเปราะบางและไรความหมายเพียงใด
การตายบนสนามรบนั้นก็ไมไดมีอะไรพิเศษเชนกัน แตอยางนอยการตายนี้ก็จะ
นำผลประโยชนบางอยางมาใหกับภรรยาและลูกสาวของเขาได
เขาแตงงานกับภรรยาคนนี้ก็ตอนอายุมากแลว เขาโชคดีที่สามารถกลายมาเปน
ผูใชพลังธาตุโลหิตโดยรอดชีวิตผานการกลั่นโลหิตมาได สมาชิกในครอบครัวคนอื่น
ของเขาไมโชคดีเหมือนเขาและไดตายไประหวางภัยพิบัติโลหิต ภรรยาคนปจจุบันนั้น
โชคดีกวาเขา นางสามารถรอดชีวิตผานภัยพิบัติโลหิตมาพรอมกับลูกสาว
แมวาเขาจะรูสึกโศกเศราแตชีวิตก็ยังดำเนินตอไป ทั้งเขาและภรรยาเปนคนที่
ซื่อสัตยและขยันทำงาน หลังจากที่เพื่อนของพวกเขาทำตัวเปนพอสื่อให พวกเขาก็
แตงงานกัน ลูกสาวของภรรยาเปนเด็กที่เชื่อฟงและมีเหตุผล เขาเองก็ปฏิบัติกับนาง
เหมือนเปนลูกสาวของเขาเอง
ผลประโยชนจากการตายในสนามรบนั้นมากกวาผลประโยชนที่เขาจะไดรับจาก
การเกษียณมากนัก ดังนั้น เขาจึงไมคิดมากหากจะตองไปสูสนามรบ อยางไรก็ตาม
เขาก็ตองประหลาดใจเล็กนอยเมื่อกลุมของเขาไดรับหนาที่ใหเปนผูโจมตีชุดแรก
ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในใจ ภาพเบื้องหนาเปลี่ยนเปนความวางเปลาที่กวาง
ใหญ พวกเขานั้นอยูตามลำพังแลวเพราะกลุมของเขานั้นไดแยกตัวออกมาจากกอง
กำลังหลักแลว
กลุมแรกนั้นมีกำลังคนหนึ่งพันนายและปลาคางคาวหลังกวางหาสิบตัว
การโจมตีนี้ตองการคนเพียงหาสิบคน แตอันซุนรูสึกวาเขาควรทำตัวเปนตัวอยาง
ในเมื่อเขาเปนผูนำของกลุมนี้
อันซุนยังคงรักษาทาทีเอาไว เขารูแผนการโจมตีเปนอยางดีราวกับหลังมือของตัวเอง
ในตอนนี้ เขากำลังประเมินระยะหางจากแนวปองกันของศัตรู ไดยินมาวามีหนวย
สอดแนมมากมายที่เสียชีวิตไปเพื่อที่จะยืนยันระยะยิงของกองกำลังศัตรู
อันซุนคิดกับตัวเองวานั่นเปนเรื่องนาเสียดาย หนวยสอดแนมของหนวยเทพหมาปา
และหนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงินนั้นเปนยอดฝมือในหมูยอดฝมือ ไมใชเรื่องงายเลยที่จะ
ฝกหนวยสอดแนมระดับสูงเชนนี้ขึ้นมาได อันซุนรูเรื่องนี้เปนอยางดี
พวกเขากำลังจะเขาสูระยะยิงของศัตรูแลว อันซุนก็ตะโกน “ยาเม็ดโลหิตคลั่ง!”
อีกสี่สิบเกาคนที่เหลือก็นำเอายาเม็ดโลหิตคลั่งที่เตรียมเอาไวลวงหนาออกมา
และปอนใหกับปลาคางคาวหลังกวางที่พวกเขานั่งอยู
หากหนวยเทพเปนกองกำลังชั้นหนึ่งและหนวยโลหิตเปนกองกำลังชั้นสองแลว
คายอสูรก็คือกองกำลังชั้นสาม คายอสูรนั้นมีหนาที่หลักคือการบมเพาะทหารใหม
ใหแกหนวยโลหิต ระดับความแข็งแกรงของไพรพลคายอสูรนั้นต่ำกวา เห็นไดจากการ
ที่พวกเขามีจำนวนผูใชพลังธาตุโลหิตที่มีฤทธิ์เทพนอยกวา ผูใชพลังธาตุโลหิตที่มีฤทธิ์
เทพในคายอสูรของอันซุนก็คือมั่วเสาจวิน คนที่มีศักยภาพสูงที่พวกเขาบมเพาะขึ้นมา
ปกติแลวจะถูกสงตอไปยังหนวยโลหิต
กระนั้นก็ตาม เยี่ยไปอีก็ยังจัดทำกลศึกที่เรียบงายบางอยางใหกับไพรพลคายอสูร กล
ศึกพวกนี้มีไวเพื่อใหแนใจวาคายอสูรนั้นจะมีประโยชนในสถานการณพิเศษบางอยาง
การใชยาเม็ดโลหิตคลั่งก็เปนหนึ่งในกลศึกเหลานั้น
ยาเม็ดโลหิตคลั่งนั้นถูกสรางขึ้นโดยวิหารพิษอสูร มันทำใหสัตวโลหิตนั้นเขาสู
สภาวะบาคลั่งเปนพิเศษ ในสภาวะนั้น สัตวโลหิตจะดุรายกาวราวกวาปกติ อีกทั้ง
ความแข็งแกรงก็เพิ่มขึ้นอยางมากเชนกัน กลายเปนสิ่งมีชีวิตที่ไมรูจักความกลัว
ปลาคางคาวหลังกวางที่มีขนาดมหึมาและมีกำลังมหาศาลนั้นทำใหกลศึกนี้มีพลัง
ทำลายลางที่นากลัว
อันซุนตบหัวของปลาคางคาวหลังกวางที่เขานั่งอยูดวยความรูสึกเศราใจเล็กนอย
เขาพูดดวยน้ำเสียงสงบ “ตาเฮย มา”
เมื่อยาโลหิตคลั่งถูกปอนใหสัตวโลหิต สมองของสัตวโลหิตจะไดรับความเสียหาย
อยางถาวร มีโอกาสนอยมากที่มันจะรอดชีวิตไปไดหลังจากนี้ เลือดของมันจะถูกเผา
ผลาญไปจนหมดสิ้น ตอใหรอดชีวิตไปได ก็กลายเปนพิการ ไมอาจกลับไปรับใชคาย
อสูรไดอีก สำหรับสัตวโลหิตแลวเรื่องเชนนี้นับวาเลวรายยิ่งกวาความตายเสียอีก
ปลาคางคาวหลังกวางของอันซุนนั้นเชื่อฟงและเชื่องเปนอยางยิ่ง มันติดตามเขา
มานานหลายปแลวและพวกเขาก็มีความผูกพันกันอยางมาก
ตาเฮยกลืนเม็ดยาโลหิตคลั่งลงไปอยางเชื่องเชื่อ
อันซุนยิ้มและตบหลังของปลาคางคาวหลังกวาง “อยาไดโทษที่ขาเอาเปรียบเจา
หากเจาไมรอดขาเองก็จะตายไปกับเจาดวย เราจะไปสูโลกเบื้องลางดวยกัน”
ตาเฮยไมเขาใจคำพูดของอันซุนเพราะยาเม็ดโลหิตคลั่งไดเริ่มออกฤทธิ์แลว มันมี
สีหนาที่เต็มไปดวยความเจ็บปวด รางสั่นสะทานไมหยุด ลวดลายโลหิตจำนวนนับไม
ถวนปรากฏขึ้นบนเสนสีเลือดใหญหนาขางกายของมันทั้งสองเสน ลวดลายโลหิตได
แพรกระจายไปทั่วรางของมันราวกับเถาวัลยที่เติบโตอยางรวดเร็ว
ปุ ปุ ปุ เสียงเนื้อหนังปริแตกดังขึ้น
เดือยกระดูกสีขาวแข็งแรงงอกออกมาจากดานหนาของปกขนาดมหึมาของตาเฮย
เดือยกระดูกนี้แ ผรังสีสีแดงเลือดที่ช ั่ว รายออกมา หนามแหลมจำนวนมากผุ ดขึ้ น
มาตามหางที่ยาวของมันจนแนนขนัด มันแหลมคมจนทำใหคนที่ไดเห็นตองหวาดกลัว
อยูในใจ
ตาเฮยสงเสียงคำรามออกมาอยางเจ็บปวด ดวงตาเปลี่ยนเปนสีแดงเลือด
ปกของมันสะบัดอยางรุนแรง ทันใดนั้น ตาเฮยก็ระเบิดพลังอันรุนแรงออกมา บิน
สูงขึ้นไปบนทองฟา
อันซุนไมเคยรูสึกถึงความแข็งแกรงที่ รุนแรงเชนนี้จากตา เฮยมากอน ตาเฮย
เกือบจะสลัดเขาตกลงจากหลัง โชคยังดีที่เขามีปฏิกิริยาวองไว สามารถควาเกล็ด
ของตาเฮยเอาไวได ในตอนนี้ รางของเขากำลังหอยอยูกลางอากาศ
ตาเฮยยังคงบินสูงขึ้นไปอยางบาคลั่ง มีแตทำเชนนี้ถึงจะทำใหมันรูสึกดีขึ้นได
กระแสลมที่ตีมาทำใหยากที่อันซุนจะรักษาสมดุลรางกายเอาไวได
แมวาอันซุนจะทำการฝกฝนกลศึกนี้มาหลายครั้งแลว นี่เปนครั้งแรกที่เขาใชมัน
ออกมาดวยตัวเอง
รางกายของตาเฮยหยุดสั่น และอันซุนก็รูวายาไดออกฤทธิ์อยางเต็มที่แลว
อันซุนยังคงจับเกล็ดของตาเฮยเอาไวแนน ฝามือมีเลือดหยดออกมาเนื่องจากถูก
เกล็ดของตาเฮยบาดเอา เขาดูเหมือนกับวาไมรูสึกอะไรและคำรามออกมาสุดเสียงเพื่อ
ตอสูกับกระแสลมที่รุนแรง “ตาเฮย ลุย!”
ราวกับวามันไดยินคำสั่งของอันซุน ตาเฮยก็ตีวงโคงกลางอากาศและพุงเขาหา
ยอดเขาสยบเทพ
แสงสีแดงเลือดออนจางหอหุมรางกายของตาเฮยและอันซุนเอาไว อันซุนและตาเฮย
พุงลงมาจากทองฟาราวกับดาวตกที่รวงหลนจากสวรรคพรอมกับเพลิงรอนแรงและ
เสียงอันดังกึกกอง
เงาขนาดใหญจำนวนหนึ่งปรากฏขึ้นดานหลังของอันซุนและตาเฮย ติดตามการนำของ
พวกเขามาอยางใกลชิด
แสงสีเลือดที่แผออกมาจากรางของพวกมันสองสวางไปทั่วทองฟาและยอดเขา
สยบเทพทั้งสาม
บทที่ 607 ทดสอบการปองกัน
ดวยการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลและรางกายที่ใหญโต ปลาคางคาวหลังกวางจึงดู
ประดุจเมฆดำที่ลอยอยูบนทองฟา ทำใหคนรูสึกเหมือนกับวาพวกมันบินอยางเชื่องชา
ทวานั่นเปนเพียงแคภาพลวงตา เมื่อใดก็ตามที่ปลาคางคาวหลังกวางกระพือปก จะ
บินไปเปนระยะทางไกล พวกมันนั้นเปนยอดในเรื่องของการบินระยะไกล
ทุกคนมีใบหนาเครงเครียด พวกเขาไมเคยเห็นปลาคางคาวหลังกวางมากอ น
เพียงขนาดรางกายที่ใหญโตก็นาหวาดหวั่นมากแลว
เจาอวนนั้นสงบเยือกเย็นเปนอยางยิ่ง เขาเดินทางมาอยางตอเนื่องและเคยทำ
การคามาบางสองสามป ดังนั้นจึงมีสายตาที่แหลมคม
แมวานี่เปนครั้งแรกที่เห็นปลาคางคาวหลังกวาง เขาก็บอกไดวามันเปนสัตวที ่เชื่อง
สามารถแบกน้ำหนักไดมาก ดูจากลักษณะและวิธีการบินของมัน
เมื่อเห็นวามีกลุมยอยแยกตัวออกมาจากกองทัพและพุงตรงเขามา เขาก็ตอง
ขมวดคิ้ว กลุมยอยนี้มีปลาคางคาวหลังกวางแคหาสิบตัว เห็นไดชัดวาพวกมันตองการ
จะทดสอบการปองกัน
เมื่อปลาคางคาวหลังกวางเปลี่ยนเปนบาคลั่ง ก็มีหลายคนรองออกมาอยางตกใจ
เจาอวนเองก็ตกใจเชนกัน แตเมื่อไดยินเสียงรองของผูใตบังคับบัญชา เขาก็รูสึก
เสียหนา เนื้อหนาบนแกมของเขาสั่นระรัวในยามที่เขาตะโกนออกมาอยางโกรธเกรี้ยว
“พวกเจารองหาอะไรกัน!”
ในตอนนี้ เจาอวนเขาใจถึงเจตนาของศัตรูแลว เขาปรับสายตาและตะโกนออกมา
สุดเสียง “พลปนใหญไปประจำที่ในเจดียปนใหญเพลิงโลกันตร!”
กอนจะกลาวจบดวยซ้ำ เขาก็กระโดดออกจากปนใหญหนักรวงผึ้งและวิ่งไปยัง
เจดียปนใหญเพลิงโลกันตร
พลปนใหญคนอื่นตกตะลึง ในไมชาพวกเขาก็ไดสติกลับมา และกระโดดออกจาก
ปนใหญหนักรวงผึ้งและวิ่งไปยังเจดียปนใหญเพลิงโลกันตร
ยอดเขาสยบเทพไดติดตั้งปนใหญหนักรวงผึ้งประมาณหนึ่งรอยกระบอกและ
เจดียปนใหญเพลิงโลกันตรอีกหลายสิบ เจดียปนใหญเพลิงโลกันตรเหลานี้เคยใชใน
การขับไลหนวยสอดแนมของศัตรู และยังเปนสิ่งที่พวกพลปนใหญใชฝกซอม เจาอวน
ไมไดถอนพวกมันทิ้ง เพราะยอดเขาสยบเทพมีที่ตั้งมากมาย ยิ่งไปกวานั้นเจาอวนรูสึก
วาเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรยังมีความแข็งแกรงบางอยางที่ปนใหญหนักรวงผึ้งไมมี
ในบางเวลามันอาจจะใชประโยชนไดอยางนาประหลาดก็เปนได
ระยะการยิงหวังผลของเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรนั้นดอยกวาปนใหญหนักรวงผึ้ง แต
พลังทะลุทะลวงของมันนั้นแข็งแกรงกวาและสามารถยิงไดไกลกวา เหมาะอยางยิ่งใน
การยิงสังหารยอดฝมือของศัตรู
เจาอวนไมคาดคิดวาจะตองใชความแข็งแกรงนี้อยางรวดเร็วถึงเพียงนี้
เจาอวนมาถึงเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรอยางรวดเร็วปานสายฟา
มานแสงที่หอหุมยอดเขาสยบเทพเริ่มสั่นไหว ทำใหคนภายนอกยากจะมองเห็น
ไดวาเกิดอะไรขึ้นภายใน
เจาอวนกระโดดไปอยูเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรดวยความเร็วที่ไมสมกับรูปราง
และตะโกน “เตรียมตัว!”
เจดียปนใหญเพลิงโลกันตรแตละหลังนอกจากพลปนใหญแลว พวกลูกมือที่เหลือ
ก็เตรียมพรอมเชนกัน เมื่อเจาอวนวิ่งไปยังเจดียปนใหญเพลิงโลกันตร พวกเขาก็เริ่มทำ
การเตรียมพรอม ยามที่เจาอวนออกคำสั่ง ทุกคนก็เตรียมการพรอมแลว
กระบอกปนเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรของเจาอวนเปลี่ยนเปนสีแดงสดอยางรวดเร็ว
เจาอวนยืนกางขาและใชบาหนุนกระบอกปนเอาไว ใบหนาอวนกลมเปยมไปดวย
สมาธิในตอนนี้ เขาหรี่ตาเล็กนอย ดวงตาเปนประกายเย็นเยียบ
ตูม!
เสียงระเบิดดังกองไปในอากาศเมื่อเพลิงขาวถูกยิงออกไปจากกระบอกปน
เจาอวนรูสึกถึงแรงถีบสะทอนของเจดียปนใหญเพลิงโลกันตร กลามเนื้อทั้งหมด
แข็งเกร็ง มัดกลามและเสนเอ็นปูดโปนออกมาอยางชัดเจน ไอน้ำที่รอนระอุลอยขึ้นมา
จากรางกาย ดูราวกับรูปปนที่เพิ่งออกมาจากเตาเผา
หัวของปลาคางคาวหลังกวางที่นำหนาระเบิดออกอยางฉับพลัน กะโหลกและ
เลือดเนื้อปลิวกระจายไปทั่วทุกทิศทาง
ตูม ตูม ตูม!
เจดียปนใหญเพลิงโลกันตรของเจาอวนยิงเพลิงขาวออกไปอยางตอเนื่อง ไอน้ำ
ลอยขึ้นมาจากทั่วรางของเขา รางกายเปยกชุมไปดวยเหงื่อโดยที่เขาไมรูตัว เหงื่อ
รวมตัวกันเปนสายน้ำที่ไหลลงมาตามกลามเนื้อที่ชัดเจนของรางอวนใหญของเขา
ในมือของเจาอวน เจดียปนใหญเพลิงโลกันตรนั้นเบาไมตางไปจากทอนไมไผ
พลปนใหญคนอื่นก็อดอุทานออกมาอยางชื่นชมไมได พวกเขามองดูเจาอวนดวย
ดวงตาที่เต็มไปดวยความเลื่อมใส แรงสะทอนจากเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรนั้นนอย
กวาปนใหญหนักรวงผึ้ง จำนวนคนที่ประจำอยูในเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรนั้นก็นอย
กวาปนใหญหนักรวงผึ้งมาก ดังนั้นพลเจดียปนใหญจึงตองรับแรงกระแทกที่หนักกวา
ยิ่งไปกวานั้น เมื่อยิงดวยความถี่ที่มากขึ้น แรงกระแทกที่พลเจดียปนใหญตองรับก็จะ
มากขึ้นไปอีก
แรกกระแทกที่เกิดจากการยิงอยางรวดเร็วนี้ชางหนักหนายิง่ นัก แตกระนั้นเจาอวนก็ดู
เหมือนจะไมรูสึกอะไรเลย
แมวาจะยิงอยางรวดเร็วมาก ความแมนยำของเจาอวนก็ไมไดลดลง ทุกครั้งที่
เจดียปนใหญยิงออกไป หัวของปลาคางคาวหลังกวางจะตองระเบิดออก!
เขาไมพลาดแมแตเปาเดียว!
สีหนาของเจาอวนนั้นเย็นชา เขาพรากชีวิตของปลาคางคาวหลังกวางพวกนั้น
อยางเปนระบบ
เขาไมเคยเห็นยาเม็ดโลหิตคลั่งมากอน แตบอกไดวาเจตนาของอีกฝายคืออะไร
เขาบอกไดวาปลาคางคาวหลังกวางไมใชสัตวโลหิตที่ใชในการรบ พวกศัตรูแคตองการ
ใชรางกายอันใหญโตของปลาคางคาวหลังกวางมาเปนเปากระสุนในการโจมตีแนว
ปองกัน
เมื่อมีรางกายใหญโต ปลาคางคาวหลังกวางจึงมีพลังชีวิตที่นาเหลือเชื่อ อาการ
บาดเจ็บทั่วไปยากที่จะทำใหมันถึงแกชีวิตได นับตั้งแตแรกเจาอวนก็เล็งไปที่หัวของ
พวกมัน ไมวามันจะกินยาอะไรไป ปลาคางคาวหลังกวางก็ยังเปนสัตวโลหิตและไม
อาจรอดชีวิตไดหากไดรับบาดเจ็บอยางรุนแรงที่หัว
สวนที่ยากก็คือการยิงสวนหัวของปลาคางคาวหลังกวางที่บินอยางรวดเร็วใหแมนยำ
เมื่อเทียบกับปกที่กวางยาวใหญโตแลว หัวของปลาคางคาวหลังกวางนั้นกลับเล็กมาก
พวกมันไมมีคอ หัวอยูติดอยูกับตัวโดยตรง ในยามที่พวกมันกำลังบาคลั่ง ความเร็วใน
การบินก็เพิ่มขึ้นอยางมาก ทำใหยากที่จะเล็งไปที่หัวของมันได
แตนั่นก็ยังไมเปนปญหาสำหรับเจาอวน
ตอใหหัวของปลาคางคาวหลังกวางเล็กกวานี้ เขาก็ยังมั่นใจวาจะยิงถูกหัวของมัน
ยิ่งไปกวานั้นความเร็วที่เพิ่มขึ้นของมันก็ไมสงผลตอเจาอวนเทาไรนัก ดวยลักษณะทาง
กายภาพของพวกมัน ตอใหอยูในสภาพบาคลั่งก็ยังไมอาจคลองแคลววองไวไปกวานก
ขนแดงได
เจาอวนพบปญหากับสัตวอสูรที่ตัวเล็กแตวองไวและระวังตัวเทานั้น
ระยะยิงที่โดดเดนของเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรนั้นถูกใชออกมาอยางเต็มที่ใน
มือของเจาอวน กวาที่พลปนใหญคนอื่นจะประจำที่ เจาอวนก็สังหารปลาคางคาวหลัง
กวางไปสี่ตัวแลว
ลูกศรที่สองแสงเจิดจาบินออกมาจากยอดเขาสยบเทพและระเบิดหัวของปลา
คางคาวหลังกวางตัวหนึ่ง
เจียงเหวยยืนอยูบนยอดเขาพรอมกับธนูในมือ
“เล็งไปที่หัว!”
เจาอวนเตือนพวกพลปนใหญ
เสียงระเบิดจากเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรดังกองไปในอากาศราวกับเสียงประทัด หัว
ปลาคางคาวหลังกวางบนทองฟาระเบิดออกและรวงลงจากทองฟาอยูเปนระยะๆ
อยา งไรก็ตาม ความแมนยำของพลป น คนอื ่ นนั ้ น ไม อ าจเทีย บกับ เจ า อวนได
แทนที่จะยิงโดนสวนหัวแลว พลปนกลับยิงถูกสวนอื่นของปลาคา งคาวหลังกว า ง
กอใหเกิดรูขนาดเทาชามขาวบนตัวมัน สำหรับปลาคางคาวหลังกวางที่มีพลังชีวิต
มากมาย บาดแผลแคนี้ก็ไมตางจากยุงกัด
ปลาคางคาวหลังกวางตัวหนึ่งมีรูเลือดหลายสิบรูบนราง แตก็ยังดูเหมือนกับวาไม
รูสึกอะไรเลย ความเร็วในการบินของมันไมลดลงแมแตนอย
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวที่มองดูการตอสูอยูแตไกลมีสีหนาพึงพอใจ “ใชทุกอยางให
เปนประโยชน แมวาคายอสูรจะไมมีความสามารถในการโจมตีเทาไร แตก็มีประโยชน
อยางมากในการบุกยึดเมืองหรือแนวปองกัน ยอนไปในตอนนั้นเยี่ยไปอีไดใชเวลาและ
ความพยายามไปไมนอยในการสรางกลศึกนี้ขึ้นมาใหกับไพรพลคายอสูร”
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวเงียบงันไปเมื่อเขาคิดไปถึงเยี่ยไปอี เขามีความเคารพตอเยี่ยไปอี
เปนอยางสูงและเปนหวงความปลอดภัยของเขาเปนอยางมาก ไมวาอยางไรก็ตามการ
ชวยเหลือเยี่ยไปอีนั้นเกินเอื้อมสำหรับเขา และเขาไดแตหวังวาเขาจะทำลายแนว
ปองกันนี้ไดอยางรวดเร็วที่สุด
ซงเสี่ยวเชี่ยนไมกะพริบตาแมแตนิดเดียว นางทุมความสนใจไปกับการศึกอยางเต็มที่
และไมอาจสัมผัสไดถึงความเปนกังวลในคำพูดของเฮอเหลียนเทียนเสี่ยว จากนั้นนาง
ก็พ ูดขึ้นอยางรวดเร็ว “นอกเหนือ จากเฉีย นไต แลว พลป น ใหญคนอื ่ นนั้ นก็ไมได
เชี่ยวชาญนัก”
การสอดแนมและการกอกวนกอนหนานี้นั้นไดขอมูลกลับมานอยมาก
ในตอนนี้เมื่อความรุนแรงของการศึกเพิ่มขึ้น จุดออนของหนวยทวนเมฆาหนักก็
เผยออกมา
ขุนพลคนอื่นก็เห็นดวยกับซงเสี่ยวเชี่ยน นอกเหนือจากเฉียนไตที่ยิงไดอ ย า ง
แมนยำเต็มรอยแลว พวกพลปนใหญคนอื่นนั้นถือวาไรประสิทธิภาพ
ปลาคางคาวหลังกวางตกตายรวงหลนลงจากทองฟาอยางตอเนื่องแตก็ยังเหลืออยูอีก
ยี่สิบหกตัว ปลาคางคาวหลังกวางที่ตกตายไปนั้นกวาครึ่งหนึ่งเปนฝมือของเฉียนไต
ทุกคนรูสึกมีกำลังใจขึ้นมาในทันที ปรมาจารยเจดียปนใหญคนเดียวจะทำไดมาก
สักเพียงไหน จะฆาปลาคางคาวหลังกวางไดสักกี่ตัวกัน หาสิบตัว หรือรอยตัว
ในเวลานี้ ปลาคางคาวหลังกวางอยูหางจากยอดเขาสยบเทพไปไมถึงสี่ลี้ สำหรับ
ปลาคางคาวหลังกวางแลว ระยะทางแคสี่ลี้นั้นสั้นแคพริบตาเดียว
เมื่อถึงตอนนั้นพวกเขาก็จะโจมตียอดเขาสยบเทพได...
ไมวาจะเปนผูนำคายอสูรทั้งสี่ที่กองหนา หรือซงเสี่ยวเชี่ยนและพวกที่อยูดานหลัง
ตางก็รูสึกมีความสุข สถานการณเปนไปอยางราบรื่นกวาที่พวกเขาคิดเอาไว!
เมื่อปลาคางคาวหลังกวางเขาใกลยอดเขาสยบเทพ ความแมนยำของพลปนใหญ
ก็เพิ ่มมากขึ้นอยา งมาก แรงกดดั น ที ่ เกิ ดจากปลาค า งคาวหลั งกว า งก็ ห นั ก หนา
เชนเดียวกัน
ความเร็วในการบินของปลาคางคาวหลังกวางนั้นเพิ่มขึ้นอยางเห็นไดชัด
แรงกดดันที่พลปนใหญไดรับนั้นเพิ่มขึ้นอยางหนักเชนกัน เมื่อปลาคางคาวหลังกวาง
ใกลเขามา แรงกดดันจากรางกายอันใหญโตนากลัวของมันก็รุนแรงยิ่งขึ้น พลปนใหญ
หลายคนรูสึกกระสับกระสาย ยิงก็ยิงพลาดเปา
โชคยังดีที่พลปนเกินกวาครึ่งยังสามารถยิงไดตามมาตรฐานของตน โดยเฉพาะอูเฟง
เขาแสดงความสามารถในการควบคุมอารมณไดเปนอยางดี ผลการรบของเขาเปนรอง
เพียงแคเจาอวนเทานั้น เขาสังหารปลาคางคาวหลังกวางไปแลวสี่ตัว
ปลาคางคาวหลังกวางรวงหลนลงจากฟากฟาทีละตัวๆ
ปลาคางคาวหลังกวางตัวสุดทายอยูหางจากยอดเขาสยบเทพไปไมถึงหารอยเมตร
มันเหมือนกับจะรูวาตัวเองตองตาย หางที่เหมือนกับเลื่อยของมันฟาดออกและ
ลำแสงสีแดงก็พุงเขาหายอดเขาสยบเทพพรอมเสียงกรีดรองบาดหู เดือยกระดูกขาว
ลวดลายโลหิตและหางสีแดงสดที่เหมือนกับเลื่อยของปลาคางคาวหลังกวางปรากฏให
เห็นอยางชัดเจน!
อูเฟงมองเห็นอยางชัดเจนและยิงเจดียปนใหญออกไปอยางไมลังเล
โพละ! หัวของปลาคางคาวหลังกวางตัวนั้นระเบิดออกราวกับลูกแตงโม ประกาย
แสงสีแดงกระทบยอดเขาสยบเทพกอใหเกิดคลื่นกระจายตัวไปตามมานแสง
ทุกคนมีสีหนาตื่นตะลึง การโจมตีระลอกแรกของศัตรูมาถึงพวกเขาได
สีหนาของเจาอวนยังคงเดิม เขากระโดดออกจากเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรและ
คำราม “ปนใหญหนักรวงผึ้ง!”
ในครั้งนี้ พลปนใหญนั้นมีป ฏิ ก ิ ริ ย าที ่ รวดเร็ ว ขึ ้ น กว า เดิ ม ไม มี ใครลั งเลและ
เคลื่อนไหวอยางรวดเร็วยิ่ง
มั่วเสาจวินรูสึกพึงพอใจกับการโจมตีระลอกแรกเปนอยางมาก แมวาทุกคนที่เขา
โจมตีในครั้งแรกจะตายลง แตการที่พวกเขาไปถึงตัวศัตรูที่ตั้งรับอยูไดนั้นก็พิสูจนแลว
วาศัตรูนั้นออนแอกวาที่พวกเขาคาดคิดเอาไว
“กลุมที่สอง สาม สี่และหาเตรียมตัวโจมตี!” มั่วเสาจวินออกคำสั่งดวยเสียงเรียบเฉย
มั่วเสาจวินสงปลาคางคาวหลังกวางสองรอยตัวออกมาในครั้งเดียว หากไมใช
เพราะวาแนวปองกันของศัตรูมีขนาดเล็กมากแลว และปลาคางคาวหลังกวางไมอาจที่
จะกระจายตัวลอมเอาไวได เขาคงสั่งใหปลาคางคาวหลังกวางทั้งหมดบุกออกไปแลว
อยางไรก็ตาม ปลาคางคาวหลังกวางสองรอยตัวก็มากพอที่จะสะกดกองกำลัง
ศัตรูเอาไวได
ริมฝปากโคงเปนรอยยิ้มชั่วราย ราวกับวาเขากำลังคาดหวังบางสิ่ง
บทที่ 608 ยิงปนใหญหนักรวงผึ้งสิบสองนัดซอน
บนยอดเขาสยบเทพของหนวยขอบฟา ทุกคนมีสีหนาเปนกังวลเมื่อมองไปยังฝูง
ปลาคางคาวหลังกวางที่กำลังพุงเขามาบนทองฟา ภาพของปลาคางคาวหลังกวางสอง
รอยตัวทำใหพวกเขาหายใจไมออก
“ปรมาจารยอวนจะหยุดพวกมันไดหรือไม”
“นาจะได”
บทสนทนาแบบนี้เกิดขึ้นทั่วยอดเขาสยบเทพ ทุกคนรูสึกเปนกังวลอยูลึกๆ
ในกลุมคน มีชายที่เบิกตากวางอยูผูหนึ่ง เขาก็เหมือนกับคนอื่นๆ ที่ไมอยากพลาด
รายละเอียดใดไป เขามีนามวาเหอฮวน เปนสมาชิกคนหนึ่งที่เขารวมพันธมิตรกระบี่
คุนหลุนมาตั้งแตแรก ไมนับวามีพรสวรรคแตก็ขยันฝกฝนอยางหนัก ดังนั้นเขาจึงมี
ความแข็งแกรงไมนอย เมื่อขอบฟาคุนหลุนสรางหนวยขอบฟาขึ้นมาใหม นางก็ใหเขา
เปนผูนำกลุมยอย
เหอฮวนเปนคนที่แข็งแกรงและควบคุมอารมณไดดี มีสัมพันธที่ดีกับทุกคนใน
หนวยขอบฟา
อยางไรก็ตาม ไมมีใครรูวาบรรพบุรุษของเหอฮวนนั้นเปนบริวารของบรรพบุรุษ
ตระกูลเยี่ย เนื่องจากเปนคนที่มีความสามารถและสนใจในเรื่องการทหาร เหอฮวนจึง
ถูกเยี่ยฮูหยินสงมาเขารวมกับพันธมิตรกระบี่คุนหลุน ในตอนนั้นเยี่ยฮูหยินตองการให
เขาคอยปกปองขอบฟาคุนหลุนจากที่ลับจึงสงใหเขามาเขารวมพันธมิตรกระบี่คุนหลุน
หลังจากมีการตั้งแนวปองกันมุกดาขึ้น เขาก็ไดรับภารกิจใหม ซึ่งก็คือสำรวจทุก
แงมุมของขุมกำลังซงเจียนเปนการลับ เหอฮวนถนหายใจออกมาอยางโลงอกเมื่อไดรบั
ภารกิจนี้ เบื้องบนรูวาสถานการณนั้นวิกฤตและคงไมทำเรื่องที่เปนการทำลายตัวเอง
เหอฮวนไมรูสึกเครียดแตอยางไรเพราะมัน ไม ใชภารกิจลอบสั งหาร เขาตั้งใจ
บันทึกทุกอยางที่เขาเห็นอยางละเอียด บางครั้งเขาถึงขนาดเพิ่มบทวิเคราะหสิ่งที่เขา
ไดสังเกตเห็นเขาไปดวย
“ขุนพลเหอ ทานคิดวาปรมาจารยอวนจะสามารถหยุดยั้งพวกมันไดหรือไม” คน
ในกลุมของเหอฮวนถามขึ้น
“เขาทำไดอยางแนนอน” เหอฮวนตอบอยางสบายๆ โดยไมหันกลับไป
สมาชิกคนอื่นมีความมั่นใจอยางมากในตัวเหอฮวนและสายตาของเขา เมื่อไดยิน
เชนนั้น ทุกคนก็ถอนหายใจออกมาอยางโลงอก
“หากขุนพลเหอกลาววาปรมาจารยอวนสามารถหยุดพวกมันได ก็หมายความวา
เขาสามารถทำไดจริง!”
“เราตองเชื่อมันในตัวขุนพลเหอ!”
เหอฮวนพุงความสนใจไปที่ทองฟาอยางเต็มที่ ดวงตาของเขานั้นดูสงบ
การฝกฝนประจำวันของหนวยทวนเมฆาหนักนั้นเปนภารกิจหลักของเขา ภาพ
การยิงปนใหญหนักรวงผึ้งนั้นเปนที่สะดุดตาอยางยิ่ง เมื่อใดก็ตามที่ทหารหนวยขอบ
ฟาหยุดพัก พวกเขาจะหามุมดีๆ มองดูการยิงปนใหญหนักรวงผึ้ง ภาพนั้นงดงามยิ่ง
กวาดอกไมไฟเสียอีก
ทุกคนลวนพูดคุยกันถึงความแข็งแกรงของเจดียปนใหญ บางครั้งเหอฮวนก็แสดง
ความเห็นเชนกัน
เหอฮวนไมเพียงแคสำรวจความแข็งแกรงของปนใหญหนักรวงผึ้งเทานั้น แตยัง
สังเกตทุกแงมุมของขุมกำลังซงเจียนอยางละเอียด ยกตัวอยางเชนลักษณะนิสัยของ
สมาชิกหลักของขุมกำลังซงเจียน
เจาอวนนั้นเปนคนที่ถูกมองขามไป
กอนที่เจาอวนจะกลายเปนปรมาจารย เขาเปนคนที่รูโดยทั่วไปวาเปน “คนขี้ขลาด”
แตหลังจากที่เขาเปนปรมาจารยเจดียปนใหญคนแรกในประวัติศาสตรทุกคนก็มองเขา
เปลี่ยนไป
กระนั้นก็ตาม เหอฮวนบันทึกและวิเคราะหเจาอวนตางไปจากคนสวนใหญอยาง
สิ้นเชิงตั้งแตแรก
นับตั้งแตอายฮุยมีชื่อเสียงขึ้นมา เรื่องในอดีตของเขาก็เผยออกมาใหโลกไดรับรู
อยางชาๆ ผูใชพลังธาตุหลายคนจากกลุมนักลาในแดนรางสมัยที่เขายังเปนแรงงานนั้น
ยังมีชีวิตอยู พวกเขาสามารถจดจำรายละเอียดประสบการณของอายฮุยในแดนรางได
ในหมูความทรงจำที่ถูกบรรยายออกมานั้น เหอฮวนพบวามีบางสิ่งที่ถูกคนสวน
ใหญมองขามไป ผูใชพลังธาตุสวนใหญในกลุมนักลานั้นจดจำเจาอวนได บางก็จดจำ
อายฮุยไมไดเทาไรดวยซ้ำ แตกลับมีความประทับใจในตัวเจาอวนอยางลึกซึ้ง
นาเสียดายที่เหอฮวนไมอาจถามคนอื่นเกี่ยวกับความเห็นถึงเจาอวนไดดวยตัวเอง
อยางไรก็ตาม นี่แสดงใหเห็นวาเจาอวนนั้นไมไดไรความสามารถอยางที่คนอื่นคิด
นอกเหนือจากอายฮุย เจาอวนก็เปนผูรอดชีวิตอีกคนหนึ่ง คนสวนใหญเชื่อวาเจาอวน
รอดชีวิตมาไดเพราะอายฮุยชวยปกปองและดูแลเขา
เหอฮวนไมคิดเชนนั้น
เขามองเห็นวาเจาอวนนั้นมีสัมผัสถึงอันตรายที่เหนือกวาคนทั่วไป สัญญาณถึง
ปญหาเพียงเล็กนอยก็ทำใหเจาอวนตื่นตัวแลว คลังอาวุธของเจาอวนนั้นเต็มไปดวย
ความชั่วรายเลวทราม การลอบโจมตีและกับดักเปนอาวุธที่เจาอวนชอบใช
เปนเรื่องยากที่คนจะจินตนาการไดวาคนเชนเขาจะกลายมาเปนปรมาจารยได
เมื่อเหอฮวนเห็นการโจมตีรอบแรกของเจดียปนใหญเพลิงโลกันตร เขาก็รูวาเจาอวน
ไดวางกับดักเอาไว เหอฮวนเคยเห็นความแข็งแกรงของปนใหญหนักรวงผึ้งมากอน รู
วามันนากลัวเพียงใดหากหนวยทวนเมฆาหนักยิงปนใหญหนักรวงผึ้งทั้งหมดออกมาใน
คราเดียว
จำนวนปลาคางคาวหลังกวางบนทองฟามีมากกวาครั้งกอนหลายเทา พวกมันกอ
ตัวเปนกอนดำบนทองฟา สรางความหวาดกลัวและตื่นตะลึงใหกับเหอฮวน สัตวโลหิต
ยักษใหญไรความกลัวบนทองฟาเปนเสมือนคลื่นยักษสีแดงเขมที่เต็มไปดวยความโกรธ
และพลังที่บาคลั่ง
อยางไรก็ตาม ดวยเหตุผลที่ไมทราบได เหอฮวนกลับคาดหวังวาจะไดเห็นภาพอันเจิด
จาของปนใหญหนักรวงผึ้งปะทะกับคลื่นยักษสีแดงเขมนี้ มันจะนาตื่นตาถึงเพียงไหน!
เขากลั้นหายใจโดยไมรูสึกตัว
…..
เจดียปนใหญของหนวยทวนเมฆาหนักตั้งอยูบนยอดเขาสยบเทพ
พลปนใหญวิ่งอยางรวดเร็วจากเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรไปยังปนใหญหนักรวงผึ้ง
พวกเขาหอบหายใจอยางหนักหนวง หนาผากเต็มไปดวยเม็ดเหงื่อ ในที่สุดพวกเขาก็
หายใจไดเปนปกติ ทุกคนกลั้นหายใจและลืมตากวาง อากาศดูเหมือนจะแข็งคางไป
ชั่วขณะ สวนของปนใหญหนักรวงผึ้งที่กวางใหญนั้นเงียบงันจนแมเข็มหลนพื้นก็ไดยิน
เสียงของปลาคางคาวหลังกวางกระพือปกที่เต็มไปดวยเดือยกระดูกนั้นดังชัดเจน
มากขึ้นเรื่อยๆ คลื่นอากาศที่เกิดขึ้นจากปกของพวกมันรวมตัวกัน ทำใหทองฟาตอง
สั่นสะเทือน
“ใหพวกมันใกลเขามา! รอฟงคำสั่งขา!”
เจาอวนสงเสียงทุมลึก แตกลับดังผิดปกติในพื้นที่เจดียปนใหญที่เงียบงัน
สามลี้!
พรึบ พรึบ พรึบ!
เสียงปลาคางคาวหลังกวางกระพือปกฟงดูเหมือนกับเครื่องสูบลมขนาดใหญ
กำลังทำงาน คลื่นอากาศจากปกของพวกมันกระทบถูกมานแสงของยอดเขาสยบเทพ
ทำใหมันสั่นสะเทือนไมหยุด
พลปนใหญสามารถสัมผัสไดวายอดเขาสยบเทพสั่นสะเทือนเล็กนอย
สองลี้!
พลปนใหญมองเห็นความบา คลั ่ งในดวงตาของปลาค างคาวหลั งกว า ง เดื อ ย
กระดูกสีขาวใหญโต ลวดลายโลหิตที่เหมือนกับเถาวัลยพันเกี่ยวบนรางกายมัน รวมถึง
สีหนาบาคลั่งและชั่วรายของผูใชพลังธาตุโลหิตที่อยูบนหลังของพวกมัน
หนึ่งลี้!
ดวยระยะที่ใกลเกินไประหวางปลาคางคาวหลังกวางกับพลปนใหญทำใหพวกเขา
มองไมเห็นสิ่งใดนอกจากปลาคางคาวหลังกวาง แมแตทองฟาก็ยังไมอาจมองเห็นได
เสมือนหนึ่งวาพวกเขาถูกวางไวใตคลื่นยักษสีแดงเขมและกำลังจะถูกบดขยี้เปนผุยผง
ไดทุกขณะ!
หนาผากของพวกเขาเต็มไปดวยเม็ดเหงื่อ รางกายก็เปยกชุมไปดวยเหงื่อ แมวา
พวกเขาจะพยายามอยางเต็มที่เพื่อที่จะรักษาทาทีเอาไว ใบหนาก็ยังขาวซีด บางคนก็
เลียริมฝปากที่แหงผากอยูเปนระยะๆ
ที่ฝายตรงขาม เมื่อมั่วเสาจวินเห็นผูใตบังคับบั ญชาเขาใกลยอดเขาสยบเทพ
ความรูสึกไมสบายใจอยางหนักหนวงก็ผุดขึ้นมาในหัวใจ
ยอดเขาสยบเทพนั้นเงียบเกินไป! มีบางอยางผิดปกติ! ปลาคางคาวหลังกวางไม
ถูกขัดขวางเลยสักนิด!
อีกฝายมีความมั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ พวกมันไมกลัวหรือวาจะทำมือไหมเมื่อ
เลนกับไฟ ดวยระยะที่ใกลขนาดนั้น ตอใหใชเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรก็ไมอาจ
หยุดยั้งพวกปลาคางคาวหลังกวางเอาไวได!
แตทำไมเขาถึงไดรูสึกไมสบายใจเชนนี้
รอยยิ้มบนใบหนาของมั่วเสาจวินหายไปและเม็ดเหงื่อก็ผุดขึ้นมาบนหนาผาก เขากำ
มือแนนโดยไมรูตัวจนนิ้วมือขาวซีด เขาเบิกตากวางจองดูโดยไมกะพริบตาแมแตนอย
กลัววาจะพลาดรายละเอียดใดไป
รอยจั้ง!
“ฆา!”
เจาอวนสงเสียงที่ทุมลึกผิดปกติ แฝงไวดวยประกายความเย็นเยียบ อยางไรก็ตาม
เมื่อเสียงเขาดังขึ้นในหูของพลปนใหญที่จิตใจกำลังจะพังทลาย มันก็ฟงประดุจสียงฟา
รองกองในโสตประสาท
แทบจะในทันที ปนใหญทั้งหมดก็ดังขึ้นพรอมกัน!
ทันใดนั้น แสงสีแดงก็สองสวางเฉกประกายกระบี่สีแดงสด พุงเขาใสคลื่นใหญสี
แดงเขมที่เกิดจากปลาคางคาวหลังกวาง
แสงสีแดงหรือ สีหนาของมั่วเสาจวินเปลี่ยนไปหัวใจเตนรัวดวยความหวาดกลัว
นั่นไมใชเจดียปนใหญเพลิงโลกันตร!
พวกเขาอยูใกลเกินไป!
พลปนใหญของหนวยทวนเมฆาหนักไมเคยยิงใสเปาหมายที่อยูใกลเชนนี้มากอน
พวกเขาไมจำเปนตองเล็งเปาดวยซ้ำเพราะรางกายที่ใหญโตของปลาคางคาวหลังกวาง
บดบังสัยตาของพวกเขาไปหมดแลว
นี่มันบาคลั่งเกินไปแลว!
พวกเขาไมเคยปลอยใหตัวเองอยูในสภาพที่บาคลั่งเชนนี้มากอน ศัตรูใกลเขามา
มากขึ้นเรื่อยๆ ความกลัวและความกังวลที่พวกเขารูสึกตลอดเวลาที่ผานมาไดมาถึง
ขีดจำกัดและระเบิดออกมาในทันทีที่ปรมาจารยอวนออกคำสั่ง ทุกคนรูสึกงงงัน พวก
เขายิงเขาใสคลื่นยักษสีแดงเขมที่ปกคลุมสายตาของเขาอยางรวดเร็ว
ความถี่ในการยิงของพวกเขานั้นอยูในระดับที่ไมเคยเกิดขึ้นมากอน
ลำกลองสีแดงสดของปนใหญหนักรวงผึ้งสองแสงเรืองนาขนลุก ประดุจแผนเหล็ก
ที่ถูกเผาไหมจนรอนแดง
เสียงหึ่งจากชั้นในของปนใหญหนักรวงผึ้งที่หมุนดวยความเร็วสูงประสมปนเปกับ
เสียงระเบิดดังกึกกองอยางตอเนื่อง
ลำแสงสีแดงที่พุงออกมาจากปนใหญหนักรวงผึ้งเปนเสมือนใยไหมสีแดงสด ใน
ระหวางการฝกฝนประจำวัน ลำแสงของปนใหญหนักรวงผึ้งจะเกิดขึ้นกอนจะแตก
กระจายออกเปนตาขายเรืองแสงที่กินพื้นที่เปนวงกวางแคแวบเดียวเทานั้น
อยางไรก็ตาม ในตอนนี้ ปลาคางคาวหลังกวางนั้นอยูใกลกับพลปนใหญเกิ นไป
มันสายเกินไปที่ลำแสงสีแดงจากปนใหญหนักรวงผึ้งจะกระจายตัวออก ในชั่วพริบตา
มันก็ทะลุผานปลาคางคาวหลังกวางไปราวกับประกายกระบี่
ปลาคางคาวหลังกวางกวาสิบตัวตรงหนา เต็มไปดวยประกายแสงนับรอยจากปน
ใหญหนักรวงผึ้งในชั่วพริบตา
พลังชีวิตที่แข็งแกรงของปลาคางคาวหลังกวางนั้นไรความหมายเมื่ออยูตอหนา
ของปนใหญหนักรวงผึ้ง กอนที่ปลาคางคาวหลังกวางจะรองโหยหวนออกมาอยาง
เจ็บปวด รางกายของมันก็ถูกฉีกกระชากออกดวยลำแสงนาหวาดกลัวของปนใหญ
หนักรวงผึ้งเสียแลว
การโจมตีจากปนใหญหนักรวงผึ้งนั้นแสดงพลังของคำวา “หนัก” ออกมาไดอยาง
เต็มที่ หากเทียบพลังโจมตีของเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรที่วามีพลังทะลุทะลวงนา
หวาดหวั่นแลว การโจมตีของปนใหญหนักรวงผึ้งก็เปนเหมือนกับคอนยักษที่ฟาด
กระหน่ำ
เมื่อการโจมตีของปนใหญหนักรวงผึ้งกระทบถูกปลาคางคาวหลังกวาง พวกมันก็
แข็งคางไปชั่วขณะ นี่แสดงใหเห็นวาพลังโจมตีของปนใหญหนักรวงผึ้งนั้นนาหวาดกลัว
เพียงไร แรงขับเคลื่อนที่ปลาคางคาวหลังกวางพุงเขามานั้นถูกทำลายทิ้งจนสิ้นใน
ชั่วขณะตอมา
แสงจากปนใหญหนักรวงผึ้งพุงอยางตอเนื่องไปยังปลาคางคาวหลังกวางที่อยู
ดานหลัง แทบจะในทันทีนั้นการยิงนัดที่สองก็กระทบถูกปลาคางคาวหลังกวางที่อยู
ดานหนา พวกมันแข็งคางไปและถูกฉีกกระชากเปนเศษเล็กเศษนอย และลำแสงจาก
ปนใหญหนักรวงผึ้งก็พุงตรงตอไปสูปลาคางคาวหลังกวางที่อยูดานหลัง...
นัดที่สาม!
นัดที่สี่!
...
พวกเขายิงไปทั้งหมดสิบสองนัดซอน!
นี่เปนผลลัพธที่ไมเคยเกิดขึ้นมากอน เปนผลลัพธที่พวกเขาไมอาจทำไดสำเร็จใน
การฝกฝน
ความเงียบงันปกคลุมทั่วปนใหญหนักรวงผึ้งไปชั่วขณะ
พลปนใหญหอบหายใจอยางหนักหนวง รางกายของพวกเขาเต็มไปดวยเหงื่อ ไอน้ำ
หอหุมอยูรอบบริเวณ ดวงตาเต็มไปดวยความงุนงง เห็นไดชัดวาพวกเขายังไมฟนตัว
จากความตกใจ พวกเขาเพิ่งจะเดินทางไปเยือนประตูนรกมาและยังตกใจไมหาย
เสียงโหยหวนดังขึ้นในอากาศ ทำใหทุกคนไดสติกลับมา
พวกเขาเงยหนาขึ้นไปบนทองฟา คลื่นยักษสีแดงเขมที่ปกคลุมทองฟาไดหายไปแลว มี
ปลาคางคาวหลังกวางที่พิการไปครึ่งตัวเหลืออยูตัวหนึ่ง มันสงเสียงรองโหยหวนกำลัง
จะสิ้นใจ รางกายครึ่งหนึ่งหายไป โลหิตไหลพุงออกมาจากรางกายที่เปนรูพรุน หยดลง
จากทองฟา
บนพื้นที่ทรายดูดตรงหนาแนวปองกัน เศษซากเลือดเนื้อกระจัดกระจายไปทั่ว
บริเวณ ดูไมตางไปจากนรกภูมิ สายลมพัดผานพื้นที่นั้น นำพากลิ่นโลหิตเขมขนที่มี
กลิ่นหวานผิดปกติเขาสูจมูกของทุกคน พลปนใหญที่เพิ่งจะไดสติคืนมาจากความ
หวาดกลัวและความคลั่งเจียนตาย ลวนทนไมไหวและยอกายลงอวกออกมาอยาง
พรอมเพรียง
ดานหลังพวกเขา สมาชิกหนวยทวนเมฆาหนักที่เหลือ พวกหนวยทหารราบและ
หนวยขอบฟาตางก็ไมอยากเชื่อสายตาตัวเอง
ที่ฝงตรงขาม มั่วเสาจวินและทุกคนในหนวยเทพหมาปาและหนวยโลหิตน้ำคาง
แข็งเงินตางก็มีสีหนาไมอยากเชื่อแบบเดียวกันหมด
ทั้งสองฝายตางก็นิ่งเงียบผิดปกติไปชั่วขณะหนึ่ง
บทที่ 609 การพนันสงผล
เจาอวนจองมองภาพที่เกิดขึ้นตรงหนา เมื่อเห็นกองทัพศัตรูถอยหนีไปราวกับ
คลื่นซัดกลับ เขาก็ไมอยากเชื่อสายตา
นี่... พวกเขาชนะแลวหรือ
เขาเช็ดเหงื่อออกจากหนาผากดวยใบหนาเหมอลอย พลังของเขานั้นถูกใชไปจน
หมดสิ้น ขาออนแรงและทรุดลงนั่งกับพื้น
ในระหวางการฝกซอมประจำวัน พวกเขาไมเคยโจมตีใสเปาหมายที่อยูใกลเชนนี้
มากอน เขามีความเชื่อมั่นในพลังอำนาจของปนใหญหนักรวงผึ้ง แตหากกองกำลัง
ศัตรูเขามาใกลเกินไป ก็นับวาอันตรายอยางมาก พวกกองทัพศัตรูอาจจะซอนตัวอยูใน
หนังที่หนาและเนื้อที่แข็งเพื่อบุกถลมเขาใสแนวปองกัน
เจาอวนไมรูวาเขาคิดอะไรอยูในตอนนั้น ทำไมเขาถึงไดคิดทำการเสี่ยงถึงเพียงนั้น
เขาควรจะตอสูอยางปลอดภัยกวานี้ ในตอนนั้นเขารูสึกเพียงแตวาตองขมขวัญพวก
ศัตรูใหจงได!
ความคิดนั้นผุดขึ้นในใจของเขาราวกับสายฟา เขาตัดสินใจวางเดิมพันโดยไมคิด
ใหรอบคอบ
เหตุใดเขาตองขมขวัญศัตรูดวย เขาไมไดคิดเรื่องนั้น ไมรูวาทำไมเขาถึงไดคิด
เชนนั้นดวยซ้ำในตอนนั้น ที่เขารูก็คือสีหนาจองหองของพวกศัตรูนั้นทำใหเขารำคาญ
เปนความรูสึกที่ยากจะบรรยายได
ในตอนนี้... เขารูสึกหวาดกลัว
ความรูสึกตกใจอยางหนักทำใหเจาอวนขาสั่นไมหยุด เหงื่อไหลลงมาตามใบหนา
ของเขาอยางกับสายน้ำ ลมหายใจหนักหนวงที่เขาหายใจออกมานั้นเปนประดุจควัน
จากภูเขาไฟที่รอนระอุ
“แมเจา...” ริมฝปากของเจาอวนสั่นเทาพึมพำออกมาโดยไมรูตัว
เขาอยากจะหาหญาสักตนมาเคี้ยว ทวามือที่สั่นเทาไมอาจเอื้อมควาสิ่งใดได
ตุบ ตุบ ตุบ
หัวใจของเขาเตนรัวราวกับเสียงรัวกลองดังกองอยูในหู ทำไมหัวใจเขาถึงไดเตน
เร็วนัก ทำไมแขนขาของเขาถึงไดออนแรงเชนนี้
เขาตัดสินใจแลววาจะไมทำเรื่องบาบิ่นเชนนี้อีกในอนาคต ทำตัวบาบิ่นมีแตจะทำ
ใหชีวิตสั้นลง
เสียงอื้ออึงทำใหเจาอวนหวาดกลัวมากจนรางกายสั่นเทาอยางไมอาจควบคุมได
เขาเกือบจะวิ่งไปหาที่ซอนตัว
ผานไปครูหนึ่ง เมื่อไดสติกลับคืนมา เขาก็ตระหนักวาเสียงอื้ออึงนั้นอันที่จริงแลว
เปนเสียงโหรองยินดีของพวกเขาเอง เขาถอนหายใจออกมาอยางโลงอกเพราะรูสึกดี
ใจที่เขาไมไดวิ่งไปซอนหรือเอามือกุมหัวดวยความกลัว นั่นคงนาอับอายไมนอยเลย
เขารูสึกวาเขาควรจะยืนขึ้น วีรบุรุษควรที่จะยืนดวยความภาคภูมิในชวงเวลา
เชนนี้ไมใชหรือ
เขาควรเอามือเทาสะเอวและมองผานหางตาอยางดูถูก หรือเขาจะทำสีหนานัก
ฆาไรอารมณแบบที่อายฮุยทำดี นั่นก็คงนาทึ่งเชนกัน...
ความคิดฟุงซานพวกนี้ทำใหความหวาดกลัวหลังเหตุสะเทือนใจที่เหลืออยู จาง
หายไปโดยไมรูตัว เอะ ทำไมเขาลุกไมขึ้น
เขาตระหนักวาแขนขาของเขานั้นออนแรงเหมือนกับเสนหมี่ ไมอาจใชแรงได
แม แ ต น  อ ย เขาเปลี ่ ย นจากอั บ อายกลายเป น โทสะ เพิ ่ ง จะเอาชนะมาได อ ย า ง
ยากลำบาก แตกลับไมอาจลุกขึ้นยืนไดในตอนนี้! เจาอวนเปนคนที่ชอบหาประโยชน
จากคนอื่น แลวจะใหเขาควบคุมตนเองในตอนนี้ไดอยางไร
“พวกเจาตายกันหมดแลวหรือ พวกเจาไมรูหรือไงวาตองมาชวยพยุงขาขึ้น”
เสียงคำรามอยางโมโหของเจาอวนถูกเสียงโหรองอื้ออึงกลบไป
พลปนใหญตางก็โหรองยินดีอยางบาคลั่ง หลังจากประสบกับเหตุการณเฉียดตาย
เมื่อ ครู ความรูสึกกดดันทั้งหมดก็ ถู กปลดปลอยออกมาในตอนนี้ ผลการศึกที่นา
ประทับในนี้ก็หวานฉ่ำยิ่งขึ้นเชนกัน
มีแตจูเหยี่ยนที่ไดยินเสียงสบถของเจาอวน ก็ไดแตหัวเราะแตไมมีทาทีวาจะไป
ชวยดึงเจาอวนขึ้น
ซือเสวี่ยมั่นมองดูพื้นที่ของเจดียปนใหญอยางปติยินดีเปนอยางยิ่ง คนที่อยูขาง
กายนางก็เต็มไปดวยความตกใจและประหลาดใจ
เจียงเหวยสายหนา พูดออกมาดวยความทึ่ง “บาคลั่ง! กลามาก!”
เขาไมคาดคิดวาเจาอวนที่ปกติแลวขี้ขลาดจะทำสิ่งที่บาบิ่นเชนนี้ นี่ชางนาอัศจรรยใจ!
เขาไมใชคนเดียวที่รูสึกเชนนี้ ทุกคนก็รูสึกอัศจรรยในตัวเจาอวนเชนกัน ทุกคนตางก็
เคยฝกรวมกับเจาอวนมา ดังนั้นพวกเขาจึงคุนเคยกับลักษณะนิสัยของเจาอวนดี
อยางไรก็ตาม ทุกอยางเกิดขึ้นแลว และพวกเขาก็เห็นกับตาตัวเอง
นี่ชางนาอัศจรรยเหลือเกิน!
ริมฝปากซือเสวี่ยมั่นโคงเปนรอยยิ้ม “เจาอวนมีความรับผิดชอบแลวในตอนนี้ เรา
ไดกำไรมหาศาลในครั้งนี้!”
ทุกคนยิ้มออกมาอยางพรอมเพรียงดวยสีหนาตื่นเตน คำพูดของซือเสวี่ยมั่นบอก
สิ่งที่อยูในใจของพวกเขาออกมา หากมีคนบอกวาเจาอวนจะไดเปนปรมาจารยและรับ
หนาที่ซึ่งมีความรับผิดชอบสูงในอดีตที่ผานมา พวกเขาคงระเบิดหัวเราะออกมาแลว
“สุดทายแลว เขากับอายฮุยก็คือคนเพียงสองคนที่เอาชีวิตออกมาจากแดนรางได!”
บางคนตะโกนขึ้น
คำพูดนี้ไดรับการยอมรับจากทุกคนในทันที
“สุดทายแลว เขากับอายฮุยก็คือคนเพียงสองคนที่เอาชีวิตออกมาจากแดนรางได!”
เหอฮวนอดใจกลาวคำนี้ออกไปไมได
ตลอดมาเขาชื่นชมเจาอวนมาก ความกาวหนาของเจาอวนนี้ก็พิสูจนการประเมิน
ของเขา การศึกที่เกิดขึ้นนี้สั้นนัก แตผลการศึกนั้นนาทึ่งเปนอยางยิ่ง ความนาทึ่งนี้พูด
อยางไรก็ไมนับวาเกินเลยไปได อยางไรก็ตาม สิ่งที่เหอฮวนมองเห็นนั้นคือรายละเอียด
เล็กนอยที่แสดงออกมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ขาศึกพุงเขามาดวยพลังที่เหนือล้ำเปนอยางยิ่ง หากพวกเขาไมอาจหยุดยั้งแรง
กดดันนี้ได การตอสูที่ตามมาตองยากลำบากกวาเดิม ศัตรูมีสัตวโลหิตมากเกินไป
บาดแผลทั่วไปไมอาจทำใหพวกมันหวาดกลัวได แตกลับจะทำใหศัตรูบาเลือดคลุมคลั่ง
ยิ่งกวาเดิม ทำใหการศึกยิ่งเสียหายหนักกวาเดิม
ทุกคนเขาใจตรรกะนี้ กระนั้นก็ตาม จะมีกี่คนกันที่กลาปลอยใหศัตรูเขามาใกลถึง
เพีย งนี้ก อ นจะลงมือ ตอบโต คนทั ่ ว ไปไม ก ล า ที ่ จ ะทำเช น นี ้ นั ่ น เป น เพราะความ
ผิดพลาดเพียงเล็กนอยก็ทำใหกองทัพศัตรูตีฝาแนวปองกันเขามาได
นั่นคือสิ่งที่เลวรายที่สุด ทวา คนที่ปกติแลวขี้ขลาดเชนเจาอวน กลับสามารถทำ
ในสิ่งที่บาบิ่นและกลาหาญเชนนี้ได
ศักยภาพที่ไมมีใครรูซึ่งซอนอยูภายใตทาทางขี้ขลาดของเจาอวนไดเริ่มเผยความ
เจิดจาออกมาแลว ไมเพียงแคเขากลาหาญและเด็ดเดี่ยว แตพนันที่เขาทุมเดิมพันก็
สงผลแลว! นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
คนชนะเปนคนเขียนกฎและคนแพก็ตองทำตาม นี่คือความเปนจริงบนสนามรบ
หากความพายแพสามารถนำมาซึ่งประสบการณที่ทำใหพวกเขาไมทำผิดพลาด
แบบเดิมอีก ชัยชนะก็สามารถทำใหคนสงบและเยือกเย็นมากขึ้น เพิ่มความมั่นใจที่
ผูคนมีให
เหอฮวนรูสึกยินดีเปนอยางยิ่ง แตในไมชาเขาก็เต็มไปดวยความรูสึกที่ซั บซอน
แมวาฝงของพวกเขาจะเปนคนรุนใหม แตแนวปองกันของพวกเขานั้นก็นับวามั่นคง
และโอกาสที่จะชนะก็เพิ่มสูงขึ้น เจาอวนเองก็เปนหนึ่งในขุมกำลังซงเจียน
ความขัดแยงระหวา งขุมกำลังซงเจี ย นกั บ เมื อ งเที ย นซิ น นั ้ น เป น สิ ่ งที ่ ไม อาจ
หลีกเลี่ยงได
จากที่เหอฮวนเห็น ขุมกำลังซงเจียนนั้นแข็งแกรงขึ้นทุกวัน พวกเขาทรงอำนาจ
มากขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนี้ เมืองเทียนซินจำเปนตองใชอายฮุยปกปองชายแดน เชนนี้
แลวเมืองเทียนซินจะตานทานขุมกำลังซงเจียนที่เติบโตขึ้นไดหรือไม
เขารูสึกกังวลเล็กนอย
ประกายความกังวลที่แวบขึ้นในใจของเขานั้นหายไป รอยยิ้มจริงใจปรากฏขึ้นบน
ใบหนาของเขาอยางรวดเร็ว ใครจะบอกไดวาจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ไมวาอยางไรก็
ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือปกปองแนวปองกันเอาไว
…..
ทุกคนในหนวยเทพหมาปารูสึกตึงเครียด
ทุกคนตางก็มีสีหนานาเกลียด ไมมีใครคาดคิดวาคายอสูรจะเสียหายใหญหลวง
ขนาดนี้ในการตอสูครั้งแรก
“นั่นมันเจดียปนใหญแบบไหนกัน มีใครเคยไดยินหรือเห็นมากอนบาง”
ภายในกระโจม เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวกวาดตามองไปทั่ว ไมมีใครสามารถบอกได
วาเขารูสึกอยางไรในตอนนี้ ความตกใจที่เขาไดรับกอนหนานี้หายไป แมวาเขาจะ
กลับคืนสูทาทีปกติแลว แตก็ยังแผรัศมีที่นาเกรงขามออกมา
เขากลายเปนจอมพลที่มีอำนาจสูงสุดในใจของทุกคนอีกครั้ง
ขวัญกำลังใจที่ตกลงฟนฟูขึ้นอีกเล็กนอย ในขณะที่บรรยากาศตึงเครียดผอนคลาย
ลงอยางชัดเจน
ซงเสี่ยวเชี่ยนสายหนาและตอบ “ขาไมเคยไดยินมากอน มันตองเปนเจดียป น ใหญ
แบบใหมที่พวกศัตรูเพิ่งพัฒนาขึ้น มันตางไปจากเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรอยาง
สิ้นเชิง ตอนนี้เราตองมาวิเคราะหมัน เรารูวาการโจมตีของมันนั้นไมอาจหยุดยั้งไดและ
มีพลังมหาศาลในระยะใกล หากมันพุงมาไกลมากพอก็จะระเบิดออก กินพื้นที่เปนวง
กวาง สถานการณในตอนนี้ปนปวนเกินไป ทหารของพวกเราอยูใกลเกินไป และยากที่
จะบอกไดวาเจดียปนใหญแบบใหมนี้มีระยะโจมตีเชนไรกันแน”
“นารังเกียจที่สุด! พวกมันกลาใชเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรเพื่อลอลวงพวกเรา
กอนหนานี้!”
“ขายังคิดวาซือเสวี่ยมั่นเปนคนที่ซื่อสัตยถือมั่นเสียอีก ไมคาดคิดเลยวานางจะใช
แผนการที่นารังเกียจเชนนี้”
“อาจไมใชซือเสวี่ยมั่น แตอาจเปนปรมาจารยเจดียปนใหญที่ชื่อเฉียนไต ขาไดยิน
มาวาคนผูนี้นารังเกียจยิ่งนัก!”
ทุกคนสงเสียงพูดคุยออกมาเต็มไปดวยความไมพอใจ
“หุบปาก!” เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวคำราม
พวกขุนพลปดปากเงียบดวยความกลัว
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวจับจองไปยังทุกคนดวยสายตาแหลมคมดุจมีด ทำใหพวก
เขาตองกมหนาลง
“อยาทำใหขาขายหนา! ในสนามรบมีแตชนะหรือพายแพ ไมมีคำวานารังเกียจ
เขามาเกี่ยวของดวย!” คำพูดของเฮอเหลียนเทียนเสี่ยวเฉียบคมราวกับกระบี่
พวกขุนพลที่ทำเสียงดังกอนหนานี้หนาแดงดวยความละอาย
“สิ่งสำคัญที่สุดที่เราตองทำในตอนนี้ ก็คือระบุความสามารถของเจดียปน ใหญ
แบบใหมนี้” เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวพูดดวยน้ำเสียงสงบเยือกเย็น “ไมมีอาวุธสมบูรณ
แบบอยูบนโลกนี้ ตราบใดที่เราหาจุดออนของมันพบ ก็จะมีวิธีเอาชนะ มั่วเสาจวิน
รายงาน”
มั่วเสาจวินยืนอยูที่มุมหนึ่งของกระโจมดวยสีหนาหมนหมอง
เขาเสียหายอยางหนักในการศึกนี้ แมวาผูใชพลังธาตุโลหิตไมไดตายมากนักแตป ลา
คางคาวหลังกวางเกินครึ่งหนึ่งถูกสังหารไป เขารูสึกเหมือนมีกระบี่ปกเขามาในหัวใจ
โอกาสที ่ จ ะได ก  า วเข า สู  ส นามรบนั ้ น ยากจะมาถึ ง ดั ง นั ้ น มั ่ ว เส า จวิ น จึ งให
ความสำคัญกับมันเปนอยางมาก เขาไมคาดคิดวาจะตองพายแพยับเยินตั้งแตเริ่มการ
ตอสูเชนนี้!
แควนแหงเทพใหความสำคัญกับผลงานทางทหารอยางมาก ดังนั้น หนวยรบ
ทั้งหมดตางก็โหยหาโอกาสที่จะไดเขาสูสนามรบและสรางผลงานทางทหาร หกหนวย
เทพสิบสองหนวยโลหิตนั้นมีอำนาจเหนือสงคราม ดังนั้นคายอสูรจึงไมมีโอกาสที่จะ
กาวสูสนามรบดวยซ้ำ
หากไมตอสูในสนามรบ ก็ไมอาจไดรับผลงานทางการทหารหรือมีโอกาสเลื่อนขั้น
โอกาสเชนนี้นับวาหาไดยากยิ่ง และเขาก็ทำมันพัง ดังนั้นเขาจึงรูสึกหมดกำลังใจขึ้นมา
ในตอนนี้ หากที่ตายไปเปนผูใชพลังธาตุโลหิตก็ยังนับวาไมเปนไร แตวาที่ตายไป
นั้นเปนปลาคางคาวหลังกวาง ซึ่งหมายความวาสถานการณของเขานั้นหางไกลจากคำ
วาดีมากนัก
ครั้นไดยินคำของเฮอเหลียนเทียนเสี่ยว เขาก็ไดสติกลับมาและกลาว “ใตเทา
ทานพูดถูกตอง ในตอนนี้ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกเราก็คือทำความเขาใจเกี่ยวกับ
เจดียปนใหญแบบใหมของพวกศัตรู จากการประเมินของขา ศัตรูมีเจดียปนใหญแบบ
ใหมประมาณหนึ่งรอยกระบอก พวกเขายิงออกมาสิบสองนัดในครั้งนี้ ขาประเมิน
สถานการณผิดไป และใชกระบวนทัพที่แนนขนัดในการทำลายแนวปองกันของศัตรู
ซึ่งนั่นทำใหขาเสียหายอยางหนัก”
“วาตอไป” เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวพูดอยางเรียบเฉย
“เราตองระบุกำลังของเจดียปนใหญแบบใหมนี้ วายิงไดไกลแคไหน สงผลกวาง
เพียงไรเปนตน เรายังตองรูวาพวกเขามีเจดียปนใหญแบบใหมนี้เทาไรกันแน เนื่องจาก
เจดียปนใหญจำเปนตองใชลาวาหิมะ เราก็หาวาเจดียปนใหญแบบใหมนี้ใชลาวาหิมะ
มากเทาไร และยังตองหาวาพลปนใหญของศัตรู สามารถยิ งอยา งตอเนื่องได นาน
เพียงใดดวย” มั่วเสาจวินกลาวตอ
“หากขาตองการจะรูเกี่ยวกับเจดียปนใหญแบบใหมมากขึ้น เจาจะทำอยางไร”
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวถามอยางเรียบเฉย
“กอนหนานี้ เราเสียหายอยางหนักเพราะกระบวนทัพของเราหนาแนนเกินไป
หากขาไดรับอนุญาตใหตอสูอีกครั้ง ขาจะแบงการโจมตีออกเปนสามสวนและโจมตี
ยอดเขาสยบเทพทั้งสามในทิศทางที่ตางกัน ทำเชนนี้ เราจะปองกันเจดียปนใหญไมให
ทุมสมาธิมาที่การโจมตีกองกำลังของพวกเรา นอกจากนี้ขาจะเพิ่มจำนวนของทหารที่
มีสวนในการทำศึก และโยนระเบิดหมอกโลหิตเพื่อบดบังการมองเห็นของศัตรู”
มั่วเสาจวินตอบอยางจริงจัง
สีหนาพึงพอใจปรากฏขึ้นบนใบหนาของเฮอเหลียนเทียนเสี่ยวในที่สุด จากนั้นเขา
ก็ใหกำลังใจมั่วเสาจวิน “พรุงนี้ เจานำการบุกตอไป คืนนี้ คิดวาจะทำการศึกอยางไร
ใชสมองใหมากขึ้น อยาไดทำใหขาผิดหวัง อยาไดกังวลเรื่องการลมตาย ขาจะชดชย
ความเสียหายทั้งหมดของเจา ตราบใดที่เจาสามารถมองแผนการของศัตรูออก ก็ไมมี
ใครแยงผลงานของเจาไปได!”
มั่ว เสาจวินรูสึกยินดีเปนอยางมาก เขาตอบอย างตื ่น เต น “ขอบคุ ณใตเทาที่
สนับสนุนขา!”
บทที่ 610 ปาหินทะเลทราย
หลังจากวันแหงการศึกที่นาหวาดกลัว หัวใจที่ตึงเครียดของทุกคนก็ผอนคลายลง
ในที่สุดและความเหนื่อยลาก็ถาโถมเขามาเฉกเชนคลื่นที่ซัดสาดอยางตอเนื่อง ทุกคน
งวงเหงาหาวนอนหลังจากดื่มน้ำแกงพลังธาตุ ในไมชาพลปนใหญก็เดินโซซัดโซเซและ
เสียงกรนก็ดังออกมาใหไดยิน
เจาอวนไมไดพัก เอนกายอยูที่กระบอกปนของปนใหญหนักรวงผึ้ง กำลังสำรวจดู
ภายในของกระบอก เขาขมวดคิ้วและพึมพำกับตัวเอง “มีรอยราวดวย มันสรางความ
เสียหายใหกับปนใหญถึงเพียงนี้หรือ”
เจาอวนกัดฟนสีหนาเจ็บปวด
ปนใหญหนักรวงผึ้งนั้นมีราคาแพง หากไมใชเพราะการปลนทรัพยจากพวกที่ถอย
ทัพกอนหนานี้ พวกเขาคงไมอาจสรางมันขึ้นมาไดมากขนาดนี้
เจาอวนเปนพวกที่ขี้เหนียว ชอบหาประโยชนจากคนอื่น เปนคนที่ไมยอมเสียแมแต
แดงเดียว เมื่อเห็นวาหลังจากยิงไปแคสิบสองนัดก็ทำใหเกิดรอยราวขึ้นบนปน ใหญ
หนักรวงผึ้งแลว เขาก็รูสึกเจ็บปวดจนความรูสึกปติยินดีในวันแหงชัยชนะเลือนหายไป
จูเหยี่ยนไดยินก็กลาว “เจาอยากเปลี่ยนใหมหรือไม”
เขากลายเปนผูชวยเจาอวนไปแลวในตอนนี้
หากเปนกอนหนานี้ จูเหยี่ยนที่หยิ่งทะนงคงรูสึกวาเปนการดูถูก อาจารยของเขา
คือเลอปูเหลิ่งและตัวเขาเองก็เปนปรมาจารยมากอนเจาอวน ไมวาจะมองจากมุมไหน
ทั้งสองฝายตางก็ไมมีทางเทาเทียมกัน ตอใหเปลี่ยนตำแหนงใหเจาอวนมาเปนผูชวย
เขา เขาก็คงรูสึกรำคาญคนขี้เกียจและขี้ขลาดเชนเจาอวน
แตตอนนี้ จูเหยี่ยนยอมรับอยางเต็มใจ
เขาติดหนี้เจาอวนที่ไมทอดทิ้งเขาเอาไวในยามที่อันตราย แลวตอนนี้จูเหยี่ยนจะ
ไมใหความสำคัญกับมิตรภาพนี้ไดอยางไรกัน ดวยเหตุนี้ จูเหยี่ยนที่เยอหยิ่งจึงกลายมา
เปนผูชวยใหกับเจาอวน
นอกจากนี้ ยิ่งพวกเขาใชเวลาอยู  รว มกั นมากเท าไร จู  เหยี ่ ย นก็ ยิ ่ งรู สึ กไดถึง
ความสามารถของเจาอวน เจาอวนนั้นอาจขี้ขลาดและดูเหมือนจะทำตัวไมถูกเวลาเกิด
อันตรายขึ้นมา แตเขาก็จะแสดงความเด็ดเดี่ยวและมุงมั่นออกมาเมื่อจนมุม
เจาอวนนั้นหลักแหลม ตื่นตัวและสามารถหลบซอนในทันทีที่เขาสัมผัสไดถึงสิ่ง
ผิดปกติ นี่คือวิธีปกปองตัวเองของเขา แตเมื่อเขาเขาใจวาไมอาจที่จะหลบซอนได ก็
จะตอสูอยางมุงมั่นและใชลูกไมที่นารังเกียจทุกอยางออกมาจนทำใหคนตองตะลึง
เพื่อที่จะมีชีวิตรอด เจาอวนไมสนใจอะไรทั้งนั้นและยินดีทำเรื่องไรยางอายอยางเต็มที่
ในทางกลับกัน จูเหยี่ยนรูสึกวาตนเองเปนเหมือนกับดอกไมในเรือนกระจก ที่อาจ
ดูงดงามแตอันที่จริงแลวเปราะบางอยางยิ่ง
จูเหยี่ยนเปนคนขยันทุมเท เปนผูชวยที่ยอดเยี่ยม เขาเกิดในตระกูลชั้นสูงทำให
เขาเปนคนที่เปยมไปดวยความรู ในแงของความฉลาดและพรสวรรค จูเหยี่ยนอาจจะ
ดอยกวาตวนมูหวงฮุน ทวาความตองการที่จะลางแคนใหกับตระกูลที่ถูกทำลาย ความ
เจ็บปวดที่ตองถูกผนึกในน้ำแข็งมานานหลายป การเรียนรูจากเลอปูเหลิ่งทั้งจากคำ
สอนและการกระทำนั้น ลวนทำใหจูเหยี่ยนเปนคนที่มีความมุงมั่นตั้งใจมากกวา
เมื่อมีความคิดจิตใจที่ถูกตอง เขาก็เติบโตเปนผูใหญขึ้นมาอยางรวดเร็ว
เจาอวนสายหนาซ้ำแลวซ้ำเลา “ไมจำเปน เรายังใชมันไดอีกสักพัก เราสรางความ
ประหลาดใจใหกับพวกมันไปมากในวันนี้ หากยังไมแนใจในสถานการณ พวกมันก็ไม
กลาทำอะไรในเร็วๆ นี้”
จูเหยี่ยนเห็นดวยกับการประเมินของเจาอวน
ไมนานหลังจากนั้น ซังจื่อจวินก็รองเรียกเจาอวนและจูเหยี่ยนใหไปรวมประชุม
เรื่องการรับมือศัตรูตอไป
เมื่อมาถึง เจาอวนกับจูเหยี่ยนก็พบทหารราบเงินและขอบฟาคุนหลุนที่มาถึงกอน
แลว ทุกคนเขามาแสดงความยินดีกับเจาอวนและกลาวชมเชยเขาทีละคน
บรรยากาศแหงความยินดีหายไปอยางรวดเร็ว ทุกคนเปลี่ยนเปนจริงจัง
สงครามในวันนี้เปนเพียงแคของเรียกน้ำยอยเทานั้น แมวาพวกเขาจะสรางความ
ประหลาดใจใหกับหนวยเทพหมาปาไปครั้งใหญ แตก็ไมเพียงพอที่จะทำใหพวกมัน
ยอมถอยหนีกลับไปได
การศึกในวันพรุงนี้ ทั้งสองฝายจะตองนำกลยุทธทุกอยางออกมาใช
และเปนเชนที่คาดเอาไว การศึกวันตอมานั้นเปนไปอยางดุเดือด
ตรงหนาของแนวปองกัน มีควันสีแดงสดเต็มไปทั่วพื้นที่ ทำใหพวกเขาไมอาจ
มองเห็นไดไกลนัก ควันสีแดงนี้ไมมีพิษโลหิต แตก็หนาแนนอยางมาก พลปนใหญไม
อาจมองเห็นเปาหมาย ทำใหพลังทำลายของพวกเขาลดลงไปอยางมาก
ปลาคางคาวหลังกวางจะพุงออกมาจากหลังมานควันอยางไมมีปมีขลุยอยู เปน
ระยะๆ ทำใหพวกพลปนใหญปนปวนอยูไมนอย
การโจมตีของศัตรูไมจำกัดอยูแคยอดเขาสยบเทพของหนวยทวนเมฆาหนัก
ยอดเขาสยบเทพที่เหลือก็ถูกโจมตีเชนกัน ในทางกลับกัน หนวยทหารราบกลับมี
สถานการณดีที่สุด พวกเขาเปนหนวยรบที่มีความเชี่ยวชาญในการตอสูประชิดตัวและ
ยังมีการชวยเหลือจากหวังเสี่ยวซานทำใหพวกเขาแข็งแกรงปานกอนหิน
ความสามารถในการสรางสนามรบของหวังเสี่ยวซานนั้นพัฒนาขึ้นทุกวัน พื้นดิน
เปนเหมือนกับดินเหนียวในมือของเขา ที่จะปนแตงเปนอะไรก็ไดตามใจ กำแพงดินที่
วางสะเปะสะปะ ตะปุมตะป� สูงต่ำไมเทากัน แตก็มีความสูงพอเหมาะกับการที่ทหาร
ของหนวยทหารราบจะกระโดดขึ้นลงได นอกจากนี้ ยังมีประตูโคงรูปรางประหลาด
พิกลที่เต็มไปดวยขอบแหลมคมซึ่งดูเหมือนกับพุมหนามขนาดใหญที่สรางจากกอนหิน
หนวยทหารราบสามารถเคลื่อนไหวไดอยางคลองแคลวในพื้นที่นี้ แตเปนการยาก
สำหรับปลาคางคาวหลังกวางที่มีรางกายใหญโตจะผานไปได และยิ่งนาอัศจรรยยิ่ง
กวาเมื่อพุมหนามเหลานั้นสามารถฟนฟูตัวเองไดหลังจากไดรับความเสียหาย
เมื่อปลาคางคาวหลังกวางตกลงสูพื้น ทรายดูดก็จะดูดมันลงไปเบื้องลางอยางรวดเร็ว
นี่เปนสิ่งที่หวังเสี่ยวซานทำขึ้นในชั่วขามคืนเพื่อรับมือกับศัตรูโดยอิงจากการทำ
ศึกเมื่อวานนี้ เขาเรียกมันวา [ปาหินทะเลทราย]
[ปาหินทะเลทราย] นั้นไมถึงขั้นที่เรียกวาไมอาจตีฝาได แตก็สรางปญหาใหกับ
ปลาคางคาวหลังกวางเปนอยางมาก ซึ่งสงผลดีตอหนวยทหารราบอยางใหญหลวง
เรียกไดวาชวยหนุนเสริมซึ่งกันและกัน
หนวยขอบฟานั้นเรียกไดวาอยูในสถานการณที่แยที่สุด แตขอบฟาคุนหลุนก็ไมใช
คนที่ธรรมดา แมวานางจะยอมรับการตอสูรูปแบบเจดียของอายฮุยไดยาก แตก็มีวิถี
กระบี่เฉพาะตัวของนางเอง คายกลกระบี่จำนวนมากที่นางจัดวางไวรอบหนวยขอบฟา
นั้นบรรจุไวดวยความรูแจงในวิถีกระบี่ที่นางสั่งสมมาตลอดเวลาหลายป
ขอบฟาคุนหลุนมีความตั้งใจที่จะจัดทำสารานุกรมกระบี่ นางยังไมลืมความตั้งใจ
ของตนเอง ไมวาสถานการณจะเปนอยางไร นางก็ยังทุมเทใหกับวิถกี ระบี่ตอไปอยาง
ไมหยุดยั้ง
นางอาจไมใชจอมพลที่ยอดเยี่ยมนัก แตก็เปนมือกระบี่ชั้นยอดอยางแนนอน
ยอดเขาสยบเทพของหนวยขอบฟานั้นดูงดงาม กระบี่แหลมคมจำนวนนับไมถวน
บินวนอยูรอบยอดเขาสยบเทพดูเหมือนกับฝูงปลาสีเงินที่แหวกวายอยูในทะเล หาก
มองดูใกลๆ จะพบวากระบี่แหลมคมเหลานี้เปลี่ยนทิศทางอยางไรระเบียบอยูภายใน
มานแสง ดูลึกลับซับซอนเปนอยางยิ่ง
แตกระนั้น ปลาคางคาวหลังกวางก็มีหนังและกลามเนื้อหนา นอกเหนือจากสวน
หัวแลว สวนอื่นของรางกายมันแทบไมมีผลกระทบอะไรเลยจากอาการบาดเจ็บ ปลา
คางคาวหลังกวางที่เต็มไปดวยรอยแผลอาบเลือด ยังคงพุงเขายอดเขาสยบเทพได
อยางเปนปกติ
โชคยังดีที่คา ยกลเจดียป นใหญด านบนสังเกตเห็ นสถานการณ น ี้ แ ละชวยยิง
สนับสนุนอยางรวดเร็ว ซึ่งทำใหพวกเขาตานทานการโจมตีระลอกนี้ไปได
การศึกวันที่สองนับวาทาทายเปนอยางมาก ทุกคนตางก็เหน็ดเหนื่อยเมื่อยลา
จำนวนของปลาคางคาวหลังกวางที่ศัตรูนำมาใชนั้นนอยกวาเมื่อวานมาก แตการ
โจมตีนั้นเปนแบบสุมและยากจะคาดเดา
หลังจากทำศึกอยางรุนแรงมาทั้งวัน พวกศัตรูก็ลาถอยในที่สุด
ไมวาทุกคนจะเหนื่อยเพียงไร พวกเขาก็ยังมารวมตัวกันเพื่อปรึกษาหารือเรื่องการ
รับมือศัตรูตอไป
เจาอวนดูแยมาก ไมหลงเหลือความยินดีจากชัยชนะของวันที่ผานมา เขาพูดเบาๆ
“เราตองหาวิธีตอบโตควันโลหิต ไมเชนนั้นความไดเปรียบของเจดียปนใหญที่เรามีก็
จะลดลงอยางมาก วันนี้มีปลาคางคาวหลังกวางถูกสงมานอยกวาเมื่อวานนี้ แตสราง
แรงกดดันไดมากกวา ทุกคนตางก็รูสึกกดดันกวาเกา หากไมอาจแกปญหาเรื่องควัน
โลหิตได พวกเราก็จะยิ่งเสียเปรียบ”
ทุกคนพยักหนา พวกเขาบอกไดวาปญหาของการศึกวันนี้อยูที่ไหน แตไมรูวาจะ
แกปญหาเรื่องควันโลหิตนี้ไดอยางไร ไมมีใครรูจะเริ่มตรงไหน ไมมีใครเคยพบเห็นควัน
โลหิตมากอนหนานี้
เสี่ยวซานพลันพูดขึ้นมา “ขารูเล็กนอยเกี่ยวกับควันโลหิต”
ทุกคนหันหนาไปทางเสี่ยวซานดวยความคาดหวัง พวกเขารูวาเขามาจากหนวย
ตรวจตราซึ่งเปนหนวยสายลับ
ซือเสวี่ยมั่นพูดอยางจริงจัง “โปรดชี้แนะดวย”
สาเหตุที่เสี่ยวซานรีบพูดขึ้นมาก็เพราะเห็นทุกคนเปนทุกขเรื่องควันโลหิต เขาไมใช
พวกที่พูดจาไรสาระจึงกลาวเขาเรื่องในทันที “ควันโลหิตนั้นสรางขึ้นโดยวิหารพิษอสูร
มีทั้งหมดมากกวาหาสิบชนิด แตที่เห็นในตอนนี้ มีสามชนิดที่สงมอบใหกับหนวยรบ”
เมื่อไดยินวามีควันโลหิตกวาหาสิบชนิด ทุกคนก็มีสีหนาบูดเบี้ยวขึ้นมา แตเมื่อฟง
ตอไปก็รูสึกโลงอกขึ้นมาบาง ทุกคนรูสึกตื่นเตน สมแลวที่เขาเปนคนใหญคนโตใน
หนวยตรวจตรา แคฟงจากรายละเอียดที่เขาอธิบายก็พอบอกได
การรูซึ้งถึงตัวเองและศัตรูนั้นคือพื้นฐานในการนำมาซึ่งชัยชนะ ทุกคนตั้งใจฟง
ดวยเกรงวาจะพลาดขอมูลที่สำคัญไป
“ทั้งสามชนิดนั้นเรียกวา หมอกแดง สาวงามเมามาย และชายาสวรรค ทั้งสามนี้
ยากที่จะสืบขาวได แตเราก็พอจะรูผลกระทบของมันอยูบาง หมอกแดนงั้นเห็นไดบอย
ที่สุดและมีความหนาแนนมากที่สุด มันเขมขนแตมีพิษนอยที่สุดในทั้งสามประเภท มี
ความสามารถอยางมากในการตานทานลม ไมวาลมจะแรงเพียงใด ก็ไมอาจที่จะพัด
หมอกแดงใหจางหายไปได ขาคิดวาสิ่งที่ศัตรูใชในวันนี้ก็คือหมอกแดง สวนสาวงาม
เมามายนั้นมีควันที่บางเบายากสังเกตเห็นแตสงผลใหเกิดภาพหลอนอยางรุนแรง หาก
สูดหายใจเขาไปเพียงเล็กนอยก็ไดรับพิษแลว
สวนอยางสุดทาย ชายาสวรรคนั้นเบาบางที่สุด แทบจะไมมีสีใหเห็น แตกลับมีพิษ
รุนแรงที่สุด เหยื่อที่ไดรับพิษชนิดนี้ลวนดูนาหวาดกลัวอยางยิ่ง”
เสี่ยวซานหยุดไปครูหนึ่งกอนจะกลาวตอ “พูดแลวขาก็ละอายใจ แมวาจะรูวามี
ควันโลหิตทั้งสามชนิด แตเราก็ไมไดทำการศึกษามันอยางแทจริง”
เมื่อคิดวาหนวยตรวจตราเอาแตใหความสำคัญกับเรื่องภายในของเมืองเทียนซิน
ในขณะที่ละเลยการศึกษาศัตรูนั้นทำใหเสี่ยวซานรูสึกละอายใจ
ขอมูลขาวสารเพียงเล็กนอยอาจจะตัดสินชะตาของผูคนมากมายนับไมถวนใน
สนามรบ
ในยามที่ทุกคนรูสึกผิดหวังอยูนั้น เสี่ยวซานก็ถอนหายใจยาวออกมา “อยางไรก็
ตาม ขายังจำไดวาเคยเห็นสิ่งประดิษฐสิ่งหนึ่งของวิหารพิษอสูร มันบรรจุขอมูลสำคัญ
เกี่ยวกับการใชและเก็บรักษาหมอกแดง ในขอมูลเหลานั้นมีขอที่หนึ่งที่สำคัญมากก็คือ
หามโดนน้ำ”
ทุกคนตาเปนประกาย
เจียวเหวยถามขึ้น “เปนไปไดหรือไมวามันจะเสื่อมสภาพหากโดนน้ำ”
ซือเสวี่ยมั่นตอบอยางชัดเจน “ทดลองดูในวันพรุงนี้”
สิ่งที่ทำใหทุกคนเปนกังวลที่สุดก็คือพวกเขาไมมีขอมูลเกี่ยวกับกลยุทธของศัตรู
เลยแมแตนอย การไดรูเพิ่มขึ้นมาแมเพียงเล็กนอยก็สรางความไดเปรียบขึ้นมาได
ซือเสวี่ยมั่นนั้นเปนผูใชพลังธาตุน้ำและคิดหาวิธีที่จะทดลองไดสองสามวิธีแลว
เจาอวนโพลงขึ้นมา “ขามีความเห็น”
ทุกคนหันไปมองทางเจาอวน
เจาอวนกลาวตอ “การสอดแนมของศัตรูในวันนี้ประสบความสำเร็จอยางไมตอ ง
สงสัย เปนธรรมดาที่มันจะมีความมั่นใจมากขึ้นและการโจมตีในวันพรุงนี้จะรุนแรง
กวาเดิม ขาคิดวาเราควรจะเก็บกลยุทธตอบโตควันโลหิตเอาไวกอนและใชออกมาใน
ยามคับขัน นี่จะสรางความประหลาดใจใหกับศัตรูอีกครั้งหนึ่ง”
เมื่อเขากลาวประโยคสุดทาย เสียงของเจาอวนก็แฝงเอาไวซึ่งความโหดเหี้ยมโดย
ไมรูตัว
ดูเหมือนทุกคนตองมองเจาอวนใหม เจาอวนที่อยูตรงหนาพวกเขาเปนเหมือนกับ
นักพนันที่กำลังเลนพนันอยู นี่ใชเจาอวนที่ขี้ขลาดขี้ระแวงที่พวกเขาเคยรูจักแนหรือ
เจาอวนที่โมโหจนเดือดพลาน ถูกทุกคนจองมองจนรูสึกอับอายขึ้นมา และรีบพูด
“แหะๆ ขาก็แคพูดสิ่งที่คิดออกมา อยาไดสนใจขาเลย”
ทันใดนั้นซือเสวี่ยมั่นก็พูดขึ้น “ขาเห็นดวยกับความคิดนี้!”
ทุกคนหันไปมองนางโดยไมรูตัว
ซือเสวี่ยมั่นยิ้ม “อาจจะเสี่ยง แตคิดดูแลว ศัตรูของเราพรอมแลวหรือยัง พวกมัน
จะทุมสุดกำลังในการโจมตีวันที่สามหรือไม”
ดวงตาเจาอวนเปนประกาย
บทที่ 611 แดนมหัศจรรยในรางกายอายฮุย
จิตใจอายฮุยมุงมั่นอยูกับการคนหาความเปลี่ยนแปลงในรางกาย
เขาคิดถึง [วิชาบูชายัญดอกไมแหงชีวิตและความตาย] แตก็ไมรูวาจะทำเชนไรดี
เวลาผานไปก็เต็มไปดวยความมึนงง
เมื่อเขาตื่นขึ้น ก็ตองตะลึงที่พบวาตนเองอยูใตเสาแสง
แสงสีแดงอบอุนโอบลอมเขาเอาไวเป นประดุจดังแขนมารดา อายฮุยที่มึนงง
มองเห็นสิ่งที่ดูเหมือนกับซากปรักหักพังอยูนอกเสาแสงอยางชัดเจน
ที่นี่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้น
อายฮุยตื่นตัวขึ้นมา
ตอนแรกเขาสังเกตเห็นเสาแสงที่ปกคลุมทั้งรางกายของเขาเอาไว
เสาแสงหรือ เขามองขึ้นไปก็ตองสะดุงดวยความตกใจและหวาดกลัว
ทอ งฟา ปกคลุมไวดวยภาพดวงตาโลหิตมหึมา อ า ยฮุ ย ไม เคยเห็ น ภาพอันนา
หวาดกลัวและแปลกประหลาดเชนนี้มากอน ถึงขนาดเห็นภาพดวงตาสีแดงเลือดบน
ทองฟานั้นเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิตและกำลังจองมองเขาอยู เสาแสงสีแดงพุงลงมา
จากดวงตาโลหิต หอหุมรางของเขาเอาไวเปนบริเวณหลายสิบฉื่อ
อายฮุยบังคับตัวเองใหสงบลง เขาคุนเคยกับลวดลายของดวงตาโลหิตดี มันเปน
เหมือนกับที่อยูบนผาพันแผลไมผิดเพี้ยน
แสงสีแดงนั้นไมเปนอันตราย ทั้งยังใหความรูสึกอบอุนและเหมือนจะชวยปกปองเขา
ผาพันแผล... ผาพันแผลที่ชวยชีวิตอายฮุยเอาไวหลายครั้ง เขารูสึกอบอุนอยาง
อธิบ ายไมถ ูก ความหวาดกลัว ในใจของเขาหายไปในที ่ สุ ด เมื ่ อ อ า ยฮุ ย สงบลง ก็
เปลี่ยนเปนสงสัยขึ้นมาในเวลาไมนาน
ที่นี่คือที่ไหนกัน
เขาจองมองผานเสาแสงไป
มองเห็นสถานที่ซึ่งเปลี่ยวรางทรุดโทรม ไรซึ่งหญาแมแตตนเดียวที่งอกเงย
ตำหนักที่ทรุดโทรมสองสามหลังปรากฏใหเห็นอยูไกลออกไป แตอายฮุยบอกได
อยางชัดเจนวามันไดพังทลายลงไปแลว
ไมไกลจากเขานัก มีตำหนักที่ยังคงสภาพอยูเพียงตำหนักเดียว ถูกปกคลุมไปดวย
เมฆดำซึ่งลอยต่ำจนเหมือนจะเอื้อมมือไปควาได ทามกลางเมฆดำ สายฟาสองแสงมา
เปนระยะๆ แสงสีเงินเลื้อยทอดวกเวียนไปมาประหนึ่งงู เมฆดำนั้นพลุงพลานเสมือนมี
กระบี่นับพันรวมตัวกันและเคลื่อนตัวไปรอบๆ เสียงกระบี่ดังเฉกเชนเสียงคลื่นกระทบ
ฝง บางครั้งก็เหมือนโกรธเกรี้ยว ในขณะที่เจตนกระบี่เขมขนแผขยายออกไปอยางไร
ขอบเขต
สายฟาและเจตนกระบี่กระจายออกไปจากตำหนักเปนระยะๆ และกวาดไปตามพื้น
ทิ้งพื้นดินใหเต็มไปดวยรอยแตกราวที่ไหมดำ
อีกที่หนึ่งมีตนไมที่สูงเทาสะเอวตั้งอยู เปนตนไมชนิดใดไมทราบ มีกิ่งสามกิ่ง ลำ
ตนสีเขียวเปนประกายสุกใสดั่งหยก ตนไมมีใบเพียงแคเกาใบ มีสีสันสดใสเสมือนอยู
ในวสันตฤดู และตนไมนั้นหอหุมไวดวยแสงสีเขียว ทันใดนั้นใบไมก็หลุดลงจากกิ่ง
ลอยขึ้นไปบนทองนภา ฉับพลันหยาดพิรุณแผวเบาก็โปรยปรายลงมา ธรณีซึ่งแหงดำก็
คอยๆ คืนความชุมชื้นขึ้นมา รอยแตกราวก็ประสานตัวปดลงในที่สุด
ไกลออกไปบนทองฟาที่เกินเอื้อม ภายใตดวงเนตรโลหิตใหญยักษ ดวงอาทิตยสีทอง
ลอยอยูอยางโดดเดี่ยว แสงสีทองนั้นเจิดจาและเย็นเยียบเสียดกระดูกเสมือนดั่งเข็ม ไร
ซึ่งความอบอุน
ความคิดบางอยางผุดขึ้นมาในหัว หรือวานี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในรางกายของเขา
หรือวาซากปรักหักพังใตเทาของเขานั้ นก็ คื อเลือ ดเนื้อ ของเขาเอง ตำหนัก ที่
พังทลายนั้นก็คือหาคลังแปดตำหนักที่ถูกทำลายไป ตำหนักที่ยังไมพังลงก็คือตำหนัก
ปฐพี ตนไมนั่นก็คือกิ่งไมแหงชีวิตและเมฆดำก็คือเมฆกระบี่ ดวงอาทิตยสีทองก็ คือ
โลหิตเทพปศาจ
นี่คือแดนมหัศจรรยที่ผาพันแผลสรางขึ้นใชหรือไม
เมื่อนึกไปถึงนิมิตฝนอันแปลกประหลาด เขาก็นึกไดวาผาพันแผลนั้นเปนผาที่ใช
วาดภาพปศาจ กอนหนานี้ เขาคิดวาความฝนนั้นเหลวไหล แตตอนนี้เขาคิดวามัน
นาจะเปนจริงถึงเจ็ดแปดสวน ไมมีใครรูตนกำเนิดของเทพปศาจที่สามารถรอดมาได
อยางไรรอยขีดขวน
ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของอายฮุยและเขาก็พยายามรวบรวมสมาธิอยูกับปจจุบัน
แมเขาจะรูวามันเปนเพียงภาพลวงตา แตก็ดูเสมือนจริงมาก ไมวาจะเปนดินแหงแลง
ไหมเกรียม ตำหนักที่พังทลายหรือแมแตเมฆกระบี่ ทุกอยางดูจริงเหลือเกิน
อายฮุยพยายามเดินออกจากแสงสีแดง แตไมคาดคิดวามันจะตามเขามา
หรือวาผาพันแผลกำลังปกปองเขา
ในขณะที่อายฮุยกำลังครุนคิด ก็เงยหนาขึ้นมองออกไปนอกเสาแสง
สังเกตเห็นวาในตอนนี้แสงภายนอกนั้นสวางขึ้น
สวางขึ้น...
เขามองขึ้นไปบนดวงอาทิตยรอนแรงที่ลอยอยูใตดวงตาโลหิต ดวงตะวันรอนแรง
ขึ้นกวากอนหนานี้
แสงสีทองที่เย็นเยีย บผสานกับแสงสีข าวที่ เจิ ดจา เหมื อนกั บผู ปกครองโลกที่
เหี้ยมโหดที่ทอดตามองโลกอยางเฉยชา
พื้นดินที่ไหมเกรียมทรุดโทรมยิ่งขึ้นแตเมื่อแสงสีทองสาดสองมาที่กิ่งไมแหงชีวิต
และตำหนักปฐพี มันก็กระตุนการตอบโตกลับมาในทันที
แสงสีเขียวของกิ่งไมแหงชีวิตสองสวางมากขึ้นและแผพลังชีวิตออกมา ตนออนสีเขียว
แตกใบผลิดอกในบริเวณโดยรอบ ในเวลาสั้นๆ ดอกไมก็เบงบานราวกับภาพวาด ดู
วิจิตรงดงามเปนอยางยิ่ง
เมฆดำที่ปกคลุมตำหนักปฐพีก็พลุงพลานปนปวน สายฟาสีเงินเหมือนกับงูตัวอวน
ที่เงินเลื้อยไปมาในเมฆ เสียงฟารองคำรามดังกึกกองจนนาหวาดกลัว เจตนกระบี่ชั้น
แลว ชั้นเลา พบเปาหมายและเคลื่อ นไปด านหนา ระลอกแลว ระลอกเล าพรอมกับ
สายฟาสีเงิน พุงเขาหาแสงสีทองบนทองฟา
แมแตในเสาแสงสีแดง อายฮุยก็ยังสัมผัสไดถึงความรุนแรงของการตอสูจากสามฝาย
เขายืนยันไดวาเสาแสงสีแดงของผาพันแผลปกปองเขาอยู มันทำใหแสงสีทองที่
สองมาโดนเสาแสงสีแดงหายไปอยางไรรองรอย
แสงสีทองสองสวางมากขึ้น ดูเหมือนมันจะโกรธที่ถูกตอบโตกลับมาจากกิ่งไมแหงชีวิต
และเมฆกระบีส่ ายฟาในตำหนักปฐพี แสงสีทองเจิดจาแทบจะเปลี่ยนโลกภายนอกให
กลายเปนสีขาวจนหมดสิ้น
แสงสีทองสองตองดอกไมและพืชพรรณที่เติบโตอยูบนพื้นรอบกิ่งไมแหงชีวิต
ดอกไมถูกทำลายไปดวยความเร็วที่มองเห็นไดดวยตาเปลา
ทวา แสงสีเขียวของกิ่งไมแหงชีวิตก็ยืนหยัดตานทานแสงสีทองเอาไว
การตอสูระหวางเมฆกระบี่กับแสงสีทองนั้นรุนแรงยิ่งกวา เจตนกระบี่ที่เขมขนพุง
เขาใสแสงสีทองบนทองฟาราวกับกระแสคลื่น ทุกครั้งที่สายฟาสีเงินและแสงสีทอง
ปะทะกัน ก็จะเกิดเสียงระเบิดดังกึกกอง
แสงสีทองยังคงแข็งแกรงขึ้นเรื่อยๆ เปนเสมือนผูปกครองที่เลือดเย็นไร หัวใจ
แข็งแกรงและนาหวาดเกรง
แมวาโลหิตของเทพปศาจจะมีมานานและอายฮุยมีประสบการณกับพลังของชุด
เกราะเทพปศาจมากอน แตนี่เปนครั้งแรกที่เขาไดเผชิญหนากับพลังของโลหิตเทพ
โดยตรง
มันทรงพลังอยางยิ่ง!
เมื่อมองผานเสาแสง อายฮุยสามารถสัมผัสไดถึงพลัง แตอายฮุยไมชอบกลิ่นที่แผ
ออกมาจากโลหิตเทพปศาจแมวามันจะมีพลังเกินกวาที่เขาคาดคิดเอาไว นอกจากนี้
รัศมีพลังที่แสดงถึงอำนาจเผยใหเห็นถึงความเฉยชาออกมา
เฉยชาตอชีวิต
นี่คือสาเหตุที่อายฮุยไมชอบชุดเกราะเทพปศาจ พลังของเกราะเทพปศาจนั้นแผ
รัศมีแบบเดียวกันออกมา ไรซึ่งรองรอยแหงชีวิตมีเพียงความเงียบสงบอยางที่สุด ทั้ง
ยังมีความเฉยชาตอชีวิตและความเยือกเย็น
อายฮุยรูสึกไมสบายตัวอยางมากและไมชอบมัน
ลึกลงไปในใจ เขารูสึกมาตลอดวาเทพปศาจที่เขาเห็นในความฝนนั้นเปนเทพที่ชั่วราย
อันที่จริงแลวอายฮุยไมไดสนใจเรื่องความดีเลวเทาไรนัก หากแตรูสึกวาคนเรามองชีวติ
ในแงมุมที่ตางกัน ไมวาจะเปนผูบำเพ็ญตนหรือผูใชพลังธาตุ ก็ลวนมีขึ้นลง มีการ
เปลี่ยนแปลงภายในใจมนุษย ไมวาจะเปนเมืองเทียนซินหรือปาหยก ก็เปนแคเรื่อง
ของมุมมองของแตละคน
รัศมีพลังของโลหิตเทพปศาจทำใหเขารูสึกถึงสิ่งที่ “ไมใชมนุษย” ขึ้นมา
ถึงอยางไรอายฮุยก็เปนมนุษยคนหนึ่ง
โชคยังดี แสงอบอุนสีแดงจากผาพันแผลกั้นเขาจากแสงสีทองที่กดขี่และทิ่มแทง
และยังทำใหอายฮุยไดเห็นภาพที่นาอัศจรรย
แสงสีทองบนทองฟาพลันเริ่มหมุนวนและมองหาเปาหมาย
อายฮุยตกตะลึง
เขาเห็นแสงสีทองที่มีอยูทั่วหดตัวลงและพุงเขาหากเมฆกระบี่และกิ่งไมแหงชีวิต
เสาแสงสีทองสองสายดูราวกับทองแทปกคลุมกิ่งไมแหงชีวิตสีเขียวที่สุกสกาวและ
เมฆกระบี่สายฟาที่รองคำราม
กิ่งไมแหงชีวิตมีสีเขียวสดยิ่งขึ้นและกระจางใสเฉกเชนผลึกแกว แสงสีเขียวเขมขน
ตานทานแสงสีทองเอาไวอยางหนักแนน ที่ขอบของแสงสีทองและแสงสีเขียวเกิดเสียง
เสียดสี และแสงสีเขียวก็เปลี่ยนเปนขี้เถาอยางตอเนื่อง
การตอบโตของเมฆกระบี่กลับรุนแรงยิ่งกวา
คลื่นที่พลุงพลานเกิดจากการรวมตัวกันของเจตนกระบี่ที่หนาแนนปะทะเขากับ
แสงสีทอง ประกายของแสงสีทองและเศษของเจตนกระบี่กระเด็นไปทั่วบริเวณ สง
เสียงดังกึกกองไปทั่ว สายฟาที่หนาและแข็งแกรงพุงออกไปราวกับสอมสีเงินใหญยักษ
และจมลงไปในแสงสีทอง อายฮุยมองเห็นแสงสีทองที่แหลกสลายลงใกลกับสายฟา
ทั้งสามฝายดูเหมือนจะติดคางหาทางออกไมได แสงสีเขียวจากกิ่งไมแหงชีวิต
เหนียวแนนและสายฟาที่คำรามกึกกองของเจตนกระบี่นั้นดูเหมือนจะไรที่สิ้นสุด
เวลาผานเลยไป
อายฮุยไมกลาที่จ ะผอนคลายแมแ ต นอย เขารูวาภาพตรงหนา นั้ นแมว า จะดู
เหมือนสงบสุข แตอันที่จริงแลวอันตรายอยางยิ่ง ความขัดแยงที่เกิดขึ้นภายในรางกาย
ของเขานั้นหากเปลี่ยนแปลงแมเพียงเล็กนอยก็จะสงผลตอเขาอยางใหญหลวง
เขามองดูทุกการเปลี่ยนแปลงอยางระมัดระวังและตั้งใจ
เสาแสงสีทองยิ่งสองสวางมากขึ้นและเขมขนกวาเดิม อายฮุยรูสึกวาพวกมันเปน
เหมือนกับเสาผลึกสีทองโปรงใสสองตนและรังสีจากเสาทั้งสองก็ไหลชาๆ
แสงสีเขียวของกิ่งไมแหงชีวิตสั่นและหดตัวลงไมอาจที่จะตานทานการโจมตีได
สายฟาภายในเมฆกระบี่ก็เสียความแข็งกราวลงเผยใหเห็นรองรอยความออนแอ
อายฮุยรูสึกเปนกังวล
หากกิ่งไมแหงชีวิตและเมฆกระบี่ไมอาจทัดทานโลหิตเทพปศาจได จะเกิดอะไร
ขึ้นกับเขา
จะเปลี่ยนเปนผูใชพลังธาตุโลหิตหรือ
ไม ว  า ผลลั พ ธ จ ะเป นอย า งไร อ า ยฮุ ย ก็ไ ม ค ิด จะยอมรั บ มั น หลั ง จากยื นยั น
ความสัมพันธของโลหิตเทพปศาจและโลหิตแหงเทพแลว อายฮุยก็เปนกังวลและ
หวาดกลัวเรื่องนี้มากที่สุด
แตเขาก็พบวาตนเองนั้นไมอาจทำอะไรไดเลย
เขาพยายามเดินไปยังเมฆกระบี่และพบวาเมื่อเขาเขาใกลตำหนักปฐพีมากขึ้น เขา
ก็ไมอาจกาวตอไปไดอีก
ดวงตาโลหิตบนทองฟาดูเหมือนจะจำกัดการเคลื่อนไหวของเขา
อายฮุยรูสึกผิดหวังเล็กนอย เพราะเขามีเจตนาที่จะใชประโยชนจากแสงสีแ ดง
เพื่อชวยเหลือเมฆกระบี่และกิ่งไมแหงชีวิต
ดูเหมือนวาวิธีนี้จะไมเปนผล
ในตอนนี้ แสงสีเขียวของกิ่งไมแหงชีวิตไมอาจจะตานทานไดอีกตอไป แสงสีเขียว
ชั้นสุดทายถูกทำลายและกิ่งไมแหงชีวิตก็เผยตัวออกมาภายใตเสาแสงสีทอง
อายฮุยตกตะลึง
แสงสีทองที่เย็นเยียบและกาวราวสองไปยังกิ่งไมแหงชีวิตโดยตรง
กิ่งไมแหงชีวิตสีเขียวสดพลันสั่นสะทานและขอบของใบไมก็เปลี่ยนเปนสีเหลือง
และดำคล้ำ จากนั้นก็กลายเปนควัน ควันสีเขียวลอยขึ้นไปในเสาแสงสีทอง ปรากฏ
เปนเงายาว
แสงสีทองหอหุมกิ่งไมแหงชีวิตดวยความเร็วที่มองเห็นไดดวยตาเปลา
เงาในแสงสีทองนั้นแจมชัดยิ่งขึ้น มันไมไดกระจายตัวออกไปแมวาจะถูกหอหุม
เอาไวดวยเสาแสงสีทอง
นี่มัน...
อายฮุยจับจองไปที่ภาพเงานั้น ทันใดเขาก็สั่นราวกับถูกพลังที่ลึกลับควบคุม เขา
จ อ งมองไปยั ง เงาที ่ จ ั ด เจนของควั น สี เ ขี ย วในแสงสี แ ดงด ว ยเกรงว า จะพลาด
รายละเอียดใดไป
บทที่ 612 กิ่งไมแหงชีวิตและวงแหวนธาตุไฟ
ตลอดมา อายฮุยนั้นเขาใจวากิ่งไมแหงชีวิตนั้นเปนพลังธาตุไมอันบริสุทธิ์ ทวาเขา
เห็นพลังธาตุที่แตกตางกันทั้งหาชนิด ทอง ไม น้ำ ไฟ ดิน ในภาพเบื้องหนา
มีธาตุครบทั้งหาชนิด!
ความเขาใจที่มีตอกิ่งไมแหงชีวิตนั้นเปลี่ยนไปอยางสิ้นเชิง กิ่งไมแหงชีวิตนั้นอยูใน
รา งกายของอา ยฮุย มานานพอสมควร ก อ นหน า นี ้ เขาได ศึ ก ษากิ ่ งไม แ ห งชี ว ิ ตมา
มากกวาหนึ่งครั้ง แตก็ไมไดอะไรจากมันมากนัก อยางไรก็ตาม ภาพเบื้องหนาของเขา
ทำใหตระหนักวาความเขาใจที่มีตอกิง่ ไมแหงชีวิตกอนหนานี้นั้นผิดไปจากรากฐานที่
แทจริงของมัน
นี่เปนไปไดอยางไร
ในตอนนี้ อายฮุยนั้นทั้งตกใจทั้งไมอยากเชื่อ ผานมาตั้งนานแตเขาก็ยังไมอาจ
ตระหนักไดถึงความซับซอนของมัน! แตในเวลานี้เขาไมอาจเสียเวลาไปกับเรื่องพวกนี้
ภายใตแสงสีทอง กิ่งไมแหงชีวิตกำลังถูกทำลายลงอยางตอเนื่อง หากเขาพลาดโอกาส
นี้ไป ก็จะไมอาจศึกษาความอัศจรรยของกิ่งไมแหงชีวิตไดอีก
แสงสีทองที่เย็นเยียบและกดขี่ไดทำลายการปกปดและเปลือกนอกของกิ่งไมแหงชีวิต
ไปจนหมดสิ้น ทำใหการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดปรากฏขึ้น
มีพลังธาตุอยูครบทุกชนิดอยางแนนอน เมื่อเห็นพลังธาตุทั้งหาชนิดสอดผสานกัน
อยางแยบยล อายฮุยก็อดอุทานออกมาอยางชื่นชมไมได คิดไปถึงพลังผสานธาตุ แต
เมื่อเทียบกันแลว สวนประกอบธาตุทั้งหาของกิ่งไมแหงชีวิตนั้นเหนือกวาหลายเทา
พลังธาตุทั้งหาหนุนวนเปนวงรอบแหงธาตุอยางตอเนื่อง นี่คือวงแหวนแหงชีวิตที่
ประณีตบรรจงอยางที่สุด
วงแหวนหาธาตุนั้นมีเปาหมายในการสรางพลังธาตุไมออกมา
ในตอนนี้ อายฮุยเพิ่งจะตระหนักไดวาพลังรักษาที่นาตื่นตะลึงของกิ่งไมแหงชีวิต
มาจากไหน อันที่จริงแลวกิ่งไมแหงชีวิตนั้นบรรจุเอาไวดวยวงแหวนแหงชีวิต นี่ทำให
พลังธาตุที่อยูโดยรอบไมวาจะเปนธาตุอะไรก็ตามจะถูกกิ่งไมแหงชีวิตดูเขาไปในวง
แหวนหาธาตุและผลิตพลังธาตุไมที่ไรสิ้นสุดออกมา แตกระนั้นวงแหวนแหงชีวิตที่
หมุนวนอยางตอเนื่องนั้นก็ยังมีเสนแบงที่มองไมเห็นอยู เหมือนกับวาวงแหวนทั้งหมด
จมอยูใตน้ำมีเพียงธาตุไมเทานั้นที่เผยออกมาใหเห็น
ทันใดนั้นอายฮุยก็พลันนึกถึงเสนทางแหงปรมาจารยของหันลี่ [หยินหยาง]!
ทอง น้ำ ไฟและดินเปนหยินสวนไมเทานั้นที่เปนหยาง
อายฮุยพึมพำกับตัวเองซ้ำแลวซ้ำเลา
เมื่อแสงสีทองทำลายการแบงหยินหยาง พลังธาตุอีกสี่ชนิดจึงเผยออกมาใหเห็น
ไมนาสงสัยเลยวาทำไมจึงมีขาวลือวากิ่งไมแหงชีวิตนั้นเปนตนกำเนิดของพลังธาตุไม
ปรากฏวาไมเพียงแคกิ่งไมแหงชีวิตเทานั้นที่เปลี่ยนสภาพไป หยินก็เปลี่ยนเปนหยาง
เชนกัน
นี่เปนขั้นตอนที่ลึกลับเกินจินตนาการ ซึ่งทำใหพลังธาตุไมแตกตางไปอยางสิ้นเชิง
และคงไวซึ่งพลังรักษาอันนาอัศจรรย
ยิ่งใหญมาก!
กิ่งไมแหงชีวิตเปนงานสรางของลูเฉิน หมอเทวาชุดขาวที่แข็งแกรงที่สุดในยุคนี้
เขาชางสมกับชื่อเสียงยิ่งนัก!
นี่เปนวงแหวนหาธาตุที่สรางสรรคเปนเอกลักษณที่สุดที่เขาเคยเห็นมา
ภายใตแสงสีทอง กิ่งไมแหงชีวิตยากที่จะรักษาสภาพเอาไวได รากสวนสุดทายเริ่ม
สลายกลายเปนควัน ในทางกลับกัน เงาแสงสีทองกลับชัดเจนยิ่งขึ้น อายฮุยนั้นรูวา
เมื่อกิ่งไมแหงชีวิตถูกทำลายจนหมด เงาแสงสีทองจะหายไปอยางไรรองรอย
นาเสียดาย!
อายฮุยรูสึกเสียดายเหลือจะพรรณนา
ในตอนนี้ เขาไมคิดถึงผลลัพธอันนากลัวที่จะเกิดขึ้นกับรางกายเขาหากกิ่งไมแหง
ชีวิตถูกทำลาย แตรูสึกวานาเสียดายที่วงแหวนพลังธาตุที่สมบูรณแบบและนาทึ่งนี้จะ
ถูกทำลาย
เขาจะหยุดยั้งมันไมใหเกิดขึ้นไดหรือไม
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจ เสาแสงสีแดงก็พลันสองลงมาจากทองฟาหอหุมเงา
แสงสีทองเอาไว
อายฮุยตะลึงงัน
เขาเงยหนาขึ้นและมั่นใจวาเสาแสงสีแดงนั้นพุงออกมาจากดวงตาโลหิตเหนือ
ศีรษะเขา
แสงสีทองดูเหมือนจะหวาดกลัวแสงสีแดงที่พุงออกมาจากดวงตาโลหิต จึงถอยไป
อยางรวดเร็วราวกับกระแสน้ำลง
เงาของกิ่งไมแหงชีวิตภายในแสงสีแดงเปลี่ยนสภาพเปนแสงสีเขียว มันไมไดเขา
ไปในดวงตาโลหิตและแสงสีแดงก็หายไปในเวลาตอมา
เปนแบบนี้ก็ไดหรือ
อายฮุยรูสึกยินดีเปนอยางยิ่งกับขาวดีนี้และคิดที่จะชวยเมฆกระบี่ เขามองไปทาง
ดวงตาโลหิตใหญยักษดานบนดวยความคาดหวัง
เวลาผานไปอยางชาๆ
อายฮุยเริ่มปวดคอแตลำแสงก็ยังไมฉายออกมา
เขารูสึกตะลึงงัน ทำไมมันไมมีผลอีกแลว
อายฮุยรูสึกเหมือนกับวาดวงตาโลหิตบนทองฟากำลังเยยหยันเขาอยู
ตองเปนภาพลวงตาแน!
อายฮุยปลอบโยนตัวเอง
โลหิตเทพปศาจที่เสียเปาหมายอยางกิ่งไมแหงชีวิตไป ก็ยายพลังโจมตีทั้งหมดไป
ที่เมฆกระบี่ อายฮุยสังเกตเห็นวาแสงสีทองที่สองไปบนเมฆกระบี่นั้นมีพลังเพิ่มขึ้น
อยางฉับพลัน
เมฆกระบี่ที่รักษาสภาวะเอาไวไดอยางยากเย็น ก็ตกอยูในอันตรายขึ้นมาในทันที
สายฟาที่รุนแรงดูเหมือนจะสูญเสียพลังทั้งหมดและไมอาจที่จะตอบโตแสงสีทอง
ไดแมแตนอย
แสงจากสายฟาก็ออนลงเชนกัน
สีหนาของอายฮุยเครงเครียดขึ้นมาเพราะสายฟาในเมฆกระบี่นี้ไมไดบมเพาะ
ขึ้นมาดวยตัวเขาเอง หากแตดูดซับมาจากชั้นเมฆ ยากที่จะหามาแทนไดหลังจากถูกใช
ไป สถานการณของเมฆกระบี่ในตอนนี้เปนหลักฐานแสดงวาสายฟาถูกใชออกไปมาก
เกินไปจนมันออนแอลง
ไมวาสายฟาจะโจมตีอยางไร เสาแสงสีทองก็สาดสองเขามาอยางไมหยุดยั้ง
ในขณะที่เสาแสงสีทองสองตองเมฆกระบี่ เมฆกระบี่ที่รองคำรามอยางปนปวนก็
หยุดชะงักไป แตความเปลี่ยนแปลงที่ตามมานั้นตางไปจากที่อายฮุยคาดคิดไว
แสงสีเงินพลันปรากฏขึ้นจากเมฆกระบี่ ดูเหมือนกับวามันกำลังจะหนีไปอยางไร
รองรอย ทวาแสงสีทองที่สองลงมาจากบนฟาก็จับมันเอาไวแนน
อายฮุยเห็นไดอยางชัดเจน วาแสงสีเงินนั้นก็คือสายฟาสีเงิน ชางนาพิศวง
สายฟาหนาเทากับตะเกียบ มีการแตกแขนงที่ละเอียดยิบมากมาย มันแข็งคางอยู
ในลำแสงสีทอง ประหนึ่งถูกสรางขึ้นมาจากเงิน
ดวยสายตาที่เฉียบแหลม อายฮุยจึงมองเห็นสายฟาสีเงินเล็กๆ ในเสาแสงสีทองได
ดูเหมือนจะถูกสะกดเอาไวแตก็ยังคงพยายามขัดขืนเหมือนเชนกอนหนานี้ เขาบอกได
วามันดูดกลืนและพนสายฟาออกมาเปนระยะๆ เพื่อตานทานแสงสีทอง
สายฟาตกอยูในสถานการณแบบเดียวกับกิ่งไมแหงชีวิต ถูกขังอยูในเสาแสงสีทอง
ที่แผออกมาจากโลหิตเทพปศาจ
ทวาอายฮุยอดมองไปยังเมฆกระบี่ที่เหลือไมได เมฆกระบี่ที่เสียสายฟาทั้งหมดไป ไมได
ออนแอแบบที่เขาคิดเอาไว ในทางกลับกัน มันสามารถตานทานไดอยางรุนแรงขึ้น
เมฆกระบี่กอนหนานี้กอตัวขึ้นจากสายฟาและทำลายตัวออนกระบี่ไป ในตอนนี้
เมื่อไมมีสายฟาก็เหลือแคเพียงเศษเสี้ยวของตัวออนกระบี่เทานั้น
ตัวออนกระบี่คืออะไร อายฮุยเองก็หาคำตอบที่ชัดเจนมาบรรยายมันไดยาก แต
เขารูวาตัวออนกระบี่นั้นบมเพาะจิตใจ!
ชวงตนของเศษคัมภีรที่หลงเหลืออยูกลาวไวชัดเจนวารางกายของมนุษยนั้นมี
ขีดจำกัด แตการฝกฝนจิตใจนั้นไรซึ่งขีดจำกัด
สายตาของอายฮุยจับจองไปที่เมฆกระบี่ที่พลุงพลานในขณะที่จมอยูในความคิด
การกลั่นสกัดใหบริสุทธิ์นั้นเปนสวนสำคัญของจิตใจ ไมใชความแข็งแกรงหรือปริมาณ
เห็นไดชัดวาพลังของเมฆกระบี่นั้นลดลงอยางมากเมื่อมันเสียสายฟาไป แตรัศมีพลังที่
แหลมคมของมันนั้นกลับแข็งแกรงขึ้นกวาเกา
แสงสีทองเปนเสมือนเครื่องตีเมืองที่แข็งแกรง ในขณะที่เมฆกระบี่ที่หมุนวนพลุง
พลานนั้นเปนเหมือนกับกวานที่เต็มไปดวยใบมีด
ทวามันกลับสามารถตานทานการบุกเขามาของแสงสีทองไดอยางเหนือความ
คาดหมาย!
อายฮุยสะดุงดวยความประหลาดใจ เขาพลันเห็นวา แมตัวออนกระบี่จะเสียหาย
ก็ยังมีความอัศจรรยยิ่งกวากิ่งไมแหงชีวิตและสายฟา
ความสรางสรรคของกิ่งไมแหงชีวิตนั้นทำใหอายฮุยตกใจ ในแงของความซับซอนและ
คุณคา วงแหวนแหงชีวิตและการผสานหยินหยางนั้นเหนือล้ำยิ่งกวายอดเขาสยบเทพ
และเจดียปนใหญเพลิงโลกันตรเสียอีก
กิ่งไมแหงชีวิตนั้นมีระบบพลังธาตุที่โดดเดนที่สุดเทาที่อายฮุยเคยเห็นมา
แมวาลูเฉินจะไมไดเปนยอดปรมาจารย แตอายฮุยก็เชื่อวาลูเฉินไดกาวเทาเขาไป
แลวขางหนึ่งจากกิ่งไมแหงชีวิตนี้
เมื่อลูเฉินเปดประตูนั้น โลกที่กวางใหญไรสิ้นสุดก็จะรอเขาอยู
แมกระนั้น กิ่งไมแหงชีวิตที่นาทึ่งก็ยังไมอาจตานทานโลหิตเทพปศาจได
สายฟาที่ออนแอและถูกสะกดอยางตอเนื่องนั้นยืนยันไดวาโลหิตเทพปศาจนั้นมี
ระดับพลังที่สูงกวา
จากมุมมองของอายฮุย เมฆกระบี่ที่ออนแอที่สุด ไมสิ ตอนนี้มันคือเมฆตัวออนกระบี่
ไดแสดงศักยภาพที่สูงกวาออกมา อายฮุยรูสึกวาความเขาใจที่เขามีตอสิ่งตางๆ ได
เปลี่ยนไปอยางพลิกฟาคว่ำดินในวันนี้
เขาเคยเชื่ออยางเต็มที่วาสาเหตุที่เมฆกระบี่นั้นทรงพลังก็เพราะวาความแข็งแกรง
ของสายฟา
ตัวออนกระบี่ที่บมเพาะขึ้นมาจากเศษซากคัมภีรกระบี่ เมื่อเทียบกับสายฟาที่ไมมี
ผูใชพลังธาตุคนใดเคยครอบครองมากอนแลว เพียงมองแคแวบเดียวก็รูวาอยางไหน
แข็งแกรงกวากัน
อยางไรก็ตาม ขอเท็จจริงที่เกิดขึ้นไดพิสูจนแลววาเขาผิดไป
การปะทะกันระหวางเมฆตัวออนกระบี่และเสาแสงสีทองนั้นทำใหเห็นวาพวกมัน
นั้นแข็งแกรงเทาเทียมกัน เห็นไดชัดวาไมอาจหาผูชนะไดในเวลาอันสั้น
อายฮุยพยายามสะกดความตกใจเอาไว เขาหันกลับไปมองสายฟาที่ถูกสะกดอยู
ในแสงสีทอง
เขาคาดหวังอยูเล็กนอย
สายฟาคืออะไรกันแน อายฮุยก็ยังไมทราบคำตอบของคำถามนี้เชนกัน แมวาเขา
จะเปนปรมาจารยสายฟาคนแรกในประวัติศาสตร แตก็ยังไมอาจจะตอบคำถามที่
พื้นฐานที่สุดนี้ได
วิธีที่เขาใชเพื่อฝกฝนสายฟาพิสูจนวาเขาเปนเพียงแคผูชักนำสายฟา เขายาย
สายฟาจากธรรมชาติเขามาไวในรางกายของตนเอง ไมอาจทำใหสายฟานี้มีความ
บริสุทธิ์เขมขนขึ้น หรือเปลี่ยนลักษณะของสายฟาได
ไมวาอายฮุยจะมีพลังขนาดไหน ก็ยังรูวาความเขาใจพลังธาตุของเขานั้นก็ยังดอย
กวาลูเฉินที่สรางกิ่งไมแหงชีวิตขึ้นมามาก
กิ่งไมแหงชีวิตที่เผยสภาพดั้งเดิมของมันออกมาภายใตแสงสีทองเมื่อครูนี้ อยูใน
สภาพที่บริสุทธิ์ที่สุด สิ่งบดบังทั้งหมดถูกทำลายออกไปจนสิ้น
จากนั้นเขาก็เห็นไดอยางชัดเจนวาเกิดอะไรขึ้นกับกิ่งไมแหงชีวิต
ในยามที่แสงสีทองสองประกายลงมาบนสายฟา ซึ่งไมอาจจะตานทานแสงสีทอง
ไดในตอนนี้ สายฟาจะเผยเนื้อแทของมันออกมาเชนกันหรือไม
อายฮุยเต็มไปดวยความคาดหวังและเบิกตากวาง เขาจองมองไปยังสายฟาที่ดิ้น
รนอยูภายในแสงสีทอง แมวาจะพิสูจนแลววาสายฟานั้นไมใชคูตอสูที่ทัดเทียมกับ
โลหิตเทพปศาจ สถานการณนี้ก็ยังใหประโยชนกับอายฮุยอยางมากในการชวยไข
ปญหาที่เขาขบคิดไมออกมานาน
สายฟาภายในแสงสีทองดิ้นรนอยางตอเนื่อง อยางไรก็ตาม อายฮุยสังเกตเห็นวา
ทุกครั้งที่มันขัดขืน ขนาดของสายฟาก็จะลดลงเล็กนอย
เวลาเลื่อนผานไปอยางรวดเร็วระหวางการตั้งสมาธิอยางมุงมั่น
สายฟาในแสงสีทองนั้นหดลงจากขนาดที่หนาเทาตะเกียบจนเหลือเพียงเทาไมจิ้มฟน
เมื่ออายฮุยคิดวาสายฟากำลังจะเผยตัวตนที่แทจริงออกมา เขาก็พบวาสายฟาที่แทบ
จะสลายหายไปนั้นกลับเหนียวแนนยิ่งกวาที่เขาคาดคิดเอาไว ภายในเสาแสงสีทอง
สายฟาที่เล็กแตเจิดจานั้นสะดุดตาเปนอยางยิ่ง มันไมขยับแมแตนอย
อายฮุยมีความอดทนอยางมาก เขาจองมองอยางไมละสายตา ประหนึ่งนักลาที่
อดทน ซอนตัวอยูทามกลางพุมไมรอใหเหยื่อปรากฏตัว
โพละ!
เสียงแตกดังขึ้นจากเสาสีทอง
ใจอายฮุยกระตุก!
มาแลว!
บทที่ 613 ยอนแผน
เมื่อดวงอาทิตยลอยขึ้นในเชาวันตอมา คายฝงตรงขามก็เริ่มปนปวนขึ้นมา
พลปนใหญใตก ารควบคุมของเจ า อ ว นรู  สึ ก สงบลงและมี ความมั ่ น ใจมากขึ้ น
หลังจากไดรับชัยชนะเมื่อวาน อยางไรก็ตาม ยังตองพบเจออีกมากถึงจะกลายเปน
ทหารที่มีประสบการณได บรรยากาศนั้นตึงเครียดและอึมครึมเหมือนเชนเคย
บางคนตรวจสอบลาวาหิมะในถังเก็บไฟเหลว ในขณะที่คนอื่นทำความสะอาด
เจดียปนใหญแมจะสะอาดไรรอยเปอนอยูแลวก็ตาม
หัวหนากลุมยอยเนนย้ำจุดสำคัญที่เกิดขึ้นในตอนกลางวันอยางตอเนื่อง
เจาอวนกวาดตามองไปยังคายที่อยูตรงขามอยางเงียบงัน
ใบหนาอวบอวนของเขาเต็มไปดวยความปติยินดีเชนแตกอน นัยนตาขนาดเทาเม็ดถั่ว
สองประกายอันตรายอยูเปนระยะๆ พลปนใหญมองไปที่เจาอวนอยูเปนครั้งคราว
แมวาเวลาจะผานไปนาน แตความเชื่อมั่นในตัวเจาอวนของทุกคนก็เพิ่มขึ้นอยางมาก
จูเหยี่ยนที่อยูดานขาง รูสึกวาเจาคนรางอวนผูนี้มีเสนหที่ยากจะสังเกตเห็นและ
บอกไมถูกอยู
ไมมีใครปฏิเสธไดวาสงครามนั้นผลักดันมนุษยไปสูขีดจำกัดไดอยางนาทึ่ง
แมแตจูเหยี่ยนเองก็มีความรูสึกที่ผิดจากความเปนจริง แมวาสงครามจะเพิ่ ง
เกิดขึ้น แตกลับรูสึกวามันยาวนานเหมือนชั่วชีวิต จิตใจของจูเหยี่ยนรูสึกสงบไมนอ ย
เพราะกลยุทธไดขอสรุปแลวเมื่อวานนี้
ความคิดของเจาอวนนั้นไรยางอายแตกลับไดรับการสนับสนุนจากซือเสวี่ยมั่น
จากนั้นทุกคนก็ปรึกษากันเรื่องความเปนไปไดที่ศัตรูจะใช เมื่อทุกคนระดมความคิด
ออกมา แผนการก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ความมั่นใจก็มีมากขึ้น
อยางไรก็ตาม การศึกนั้นไมใชเรื่องงายดังการพูดคุยกันอยูในหอง ตอใหเตรียมตัว
มาเปนอยางดีก็ยังไมอาจยืนยันไดวาจะไดรับชัยชนะ
ในสนามรบมีสิ่งที่ไมคาดคิดเกิดขึ้นไดเสมอ
เจาอวนพลันถามขึ้น “ศัตรูกำลังเตรียมที่จะโจมตี”
เจาอวนยังไมทันขาดคำ ผูใชพลังธาตุโลหิตและสัตวโลหิตก็พุงขึ้นสูทองฟา
มานแสงของยอดเขาสยบเทพทั้งสามก็สองสวางขึ้นมาทันทีเชนกัน เขาสูสภาพ
พรอมรบ บรรยากาศบริเวณเจดียปนใหญก็ตึงเครียดขึ้นมาพลัน ทุกคนเขาประจำ
ตำแหนงรบ ปดปากเงียบ จับจองตรงไปเบื้องหนา
ฝูงปลาคางคาวหลังกวางดำมืดเปนเสมือนเมฆดำหนาบินตรงเขามา
ทหารจากคายอสูรควบคุมปลาคางคาวหลังกวางอยางระมัดระวัง ดานหลังพวก
เขามียอดฝมือที่ยืนตรงอยางไมหวาดหวั่น ปลาคางคาวหลังกวางที่ลอมรอบอยูไดรับ
การสนับสนุนจากยอดฝมือเหลานี้
ยอดฝมือคนหนึ่งกลาว “เริ่มได”
พวกเขาสบตากันและเริ่มขับเคลื่อนพลังวิญญาณโลหิต บางคนก็มีขนหยาบหนา
งอกยาวออกมาปกคลุมราง บางคนก็มีผิวหนังกระดาง หนามแหลมคม และเกล็ด
หนาแนนเปนประกาย
เมื่อ รางกายของพวกเขาเปลี่ยนไป รั ศมี พ ลั งที ่แผ ออกมาก็ น าหวาดกลัวและ
แข็งแกรงยิ่งขึ้น
ผูใชพลังธาตุโลหิตที่มีฤทธิ์เทพ!
นาทึ่งนักที่คนพวกนี้ลวนเปนผูใชพลังธาตุโลหิตที่มีฤทธิ์เทพ!
ที่เทาของพวกเขาแตละคนมีตะกราไมไผที่เต็มไปดวยกอนสีดำขนาดเทากำปน
ผูใชพลังธาตุโลหิตที่มีฤทธิ์เทพคนหนึ่งควากอนสีดำในตะกราไมไผขึ้นมาและ
หัวเราะอยางชั่วราย เขาหายใจออกเสียงดังและขวางมันขึ้นไปบนฟา
เสียงฝาอากาศที่ดังขึ้นเหมือนกับเสียงของหนาไมที่แข็งแกรง
ความแข็งแกรงของเขานั้นไมธรรมดา ในชั่วพริบตากอนสีดำนั้นก็ปรากฏขึ้นใกล
กับแนวปองกันของยอดเขาสยบเทพ
โพละ! กอนสีดำแตกออกและควันสีแดงก็พุงออกมาในอากาศ แผรัศมีออกไปกวา
สิบจั้ง สายลมรุนแรงมากแตกลุมควันสีแดงก็ไมไดรับผลกระทบแมแตนอย
ผูใชพลังธาตุโลหิตที่มีฤทธิ์เทพคนอื่นก็เคลื่อนไหวตามกันอยางตอเนื่อง
ผูใชพลังธาตุโลหิตเกรงกลัวพลังของปนใหญหนักรวงผึ้งจึงโยนกอนสีดำนั้นจาก
ระยะไกล
ควันสีแดงระเบิดออกตรงหนายอดเขาสยบเทพ ไมวาลมจะพัดอยางไรมันก็มี
สลายไป แตกลับขยายตัวออกไปเปนวงกวาง
พื้นที่เจดียปนใหญตื่นเตนขึ้นมา แมวาพวกเขาจะถูกย้ำเตือนวาจะเกิดอะไรขึ้นใน
วันนี้มาหลายรอบ แตควันโลหิตเบื้องหนาก็หนาจนบดบังการมองเห็นของพวกเขา
อยางสิ้นเชิง สำหรับพลปนใหญแลวการมองเห็นศัตรูนั้นเปนสิ่งจำเปนกอนที ่จะยิง
ออกไป หากมองไมเห็นก็จะสงผลซึ่งขัดตอสัญชาตญาณของพวกเขา
กอนสีดำถูกโยนเขาใสกลุมควันสีแดงและระเบิดออกอยางตอเนื่อง
ควันโลหิตเปนเหมือนกับสัตวประหลาดสีแดงขนาดใหญที่คืบคลานเขามาอยาง
ตอเนื่อง
จูเหยี่ยนถอนหายใจอยางโลงอก “เปนหมอกแดงอยางที่คิด!”
แผนของเจาอวนนั้นนับวาเสี่ยงมาก จูเหยี่ยนตัวสั่นดวยความกลัว ไมอาจเขาใจได
วาทำไมจอมพลซือถึงไดสนับสนุนความคิดนี้ ความประมาทเพียงเล็กนอยจะกอใหเกิด
ผลรายอยางมาก หากขอมูลของผูอาวุโสเสี่ยวซานผิดพลาดหรือศัตรูไมไดใชหมอกแดง
พวกเขาก็จะตกอยูในสภาพเสียเปรียบอยางมากทันที
เมื่อ ควันโลหิตระเบิดออก เขาก็ สั งเกตควั น โลหิ ตนั ้ น ในทั น ที มั น มี ลั ก ษณะ
เหมือนกับคุณลักษณะของหมอกแดงทุกประการ
เจาอวนเลียริมฝปากและกลาว “เหมือนกับวาการศึกเมื่อวานนี้จะสรางความ
เจ็บปวดใหกับพวกมันไมนอย พวกมันระวังเปนอยางมากในวันนี้”
จูเหยี่ยนก็มีความรูสึกเชนเดียวกัน เมื่อมองไปยังแนวหมอกโลหิตที่เคลื่อนเขามา
หมอกโลหิตคืบหนามาเรื่อยๆ เริ่มเขามาในระยะยิงของเจดียปนใหญ เจาอวนหรี่ตาที่
มีขนาดเทาเม็ดถั่วนั้น
เขาพลันพูดขึ้น “ยิงหลอกพวกมัน”
จูเหยี่ยนรูสึกเสียสมาธิ “เราไมรอคำสั่งกอนที่จะเริ่มยิงหรือ”
เจาอวนยิ้มอยางชั่วราย “หากเราจะทำการแสดง ก็ตองทำจนถึงที่สุด พวกมันจะ
ไมสบายใจหากเราไมยิงออกไปเลยแมแตนัดเดียว”
จูเหยี่ยนนึกขึ้นได ‘ใชแลว! หากหมอกโลหิตเคลื่อนเขามาอยางรวดเร็วแตเราก็
ยังไมยอมยิง มันก็จะนาสงสัยเกินไป หากศัตรูเริ่มสงสัยมันก็ไมติดกับ’
เขารีบออกคำสั่งกับคนที่เหลือ
เมื่อเสียงระเบิดจากเจดียปนใหญดังขึ้น เจาอวนก็สัมผัสไดวาหมอกโลหิตนั ้นก็
เคลื่อนเขามาดวยความเร็วที่มากขึ้น
ซือเสวี่ยมั่นและคนอื่นที่อยูไมไกลก็ไดสติกลับมา พวกเขาก็สัมผัสไดเชนกัน
พวกเขาเคยตอสูอยางตรงไปตรงมา สำหรับกลยุทธที่เจาเลหเชนนี้ไมคุนเคย
แมแตนอย ดังนั้นพวกเขาจึงมองขามเรื่องนี้ไป
ตำแหนงของซือเสวี่ยมั่นนั้นอยูใกลกับแนวรบ มีผูใชพลังธาตุน้ำประมาณสามรอย
คนอยูขางกายนาง หนวยทวนเมฆาหนักนั้นมีสมาชิกสวนใหญเปนผูใชพลังธาตุไฟ
จำนวนของผูใชพลังธาตุน้ำนั้นมีนอยกวามาก ยิ่งไปกวานั้น พวกเขาสวนใหญอยูใน
ฝายสนับสนุนไมใชฝายตอสู ยอนไปตอนนั้น หุบเขาซงเจียนนั้นมีชื่อเสียงจำกัดและไม
อาจดึงดูดผูใชพลังธาตุน้ำและทองมาไดมากนัก สงผลใหผูใชพลังธาตุน้ำที่มาสมัครเขา
รวมนั้นมีความความสามารถธรรมดาสามัญเทานั้น ยิ่งไปกวานั้น เพราะหนวยทวน
เมฆาหนักมีการฝกฝนประจำวันที่เขมงวดและหนักมาก ผูคนไดรับบาดเจ็บอย า ง
งายดาย ซือเสวี่ยมั่นจึงอนุญาตใหผูใชพลังธาตุน้ำนั้นชวยเหลือคนที่บาดเจ็บในการ
รักษาตัว แมวาพวกเขาจะไมใชหมอที่ฝกฝนมาโดยเฉพาะ แตก็มีความสามารถในการ
ชวยเหลือฟนฟูสุขภาพของทหารพวกนั้นไมนอย
ผูใชพลังธาตุน้ำรูสึกเปนกังวล แตเมื่อเห็นความสงบของใตเทาเสวี่ยมั่น พวกเขาก็
คอยๆ สงบลงเชนกัน
ใตเทาเสวี่ยมั่นเปนหัวใจสำคัญของหนวยทวนเมฆาหนัก ไมวาสถานการณจะ
เลวรายแคไหน ตราบใดที่มีนางอยูทุกคนก็รูสึกโลงใจ
ซือเสวี่ยมั่นสดับฟงอยางตั้งใจ
หมอกโลหิตบดบังวิสัยทัศน จึงทำไดเพียงแคพึ่งพาการฟงเพื่อระบุตำแหนงของศัตรู
เสียงของสายลมดังขึ้นเรื่อยๆ และชัดเจนยิ่งขึ้นแสดงใหเห็นวาศัตรูกำลังใกลเขามา
ซือเสวี่ยมั่นกำลังคิดที่จะออกคำสั่ง ทวาหยุดลงเพราะสัมผัสไดวามีบางอยางไม
ถูกตอง ในตอนนั้นเองนางก็คิดบางอยางขึ้นมาได ไมมีเสียงรองคำรามดังมาจากปลา
คางคาวหลังกวาง!
นางจดจำไดอยางชัดเจนวาเกิดอะไรขึ้นเมื่อวาน ปลาคางคาวหลังกวางที่กินยา
เขาไปจะดุรายเปนอยางยิ่งและสงเสียงรองคำรามอยางไมอาจควบคุมได
สายลมจากภายในหมอกโลหิตไมไดนำมาซึ่งเสียงรองคำรามแตอยางไร
ซือเสวี่ยมั่นยังคงสงบเยือกเย็นราวน้ำแข็งและควบคุมตัวเองไวอยางเต็มกำลัง
ปกโลหิตบางเบาของผูใชพลังธาตุโลหิตที่มีฤทธิ์เทพหยุดลง เขายิ้ม “เหมือนที่ขา
บอกไว วาทำมากเกินความจำเปน”
ผูใชพลังธาตุโลหิตนี้มีฤทธิ์เทพที่สืบทอดมาจากจักจั่นโลหิตโบราณ
ผูใชพลังธาตุโลหิตที่มีฤทธิ์เทพอีกคนสายหนาและตอบ “การระวังไวกอนไมใช
เรื่องเสียหาย”
เขาหลบแสงเจิดจาที่ยิงมาจากเจดียปนใหญอยางคลองแคลว จากนั้นเขาก็หัน
กลับไปและสงสัญญาณมือใหโจมตี
หมอกโลหิตที่หนาแนนไมไดบดบังการมองเห็นของผูใชพลังธาตุโลหิตแมแตนอ ย
พวกเขาเปนเหมือนปลาที่อยูในน้ำ
ทหารของคายอสูรปอนยาใหปลาคางคาวหลังกวางกินอยางตอเนื่อง และปลา
คางคาวหลังกวางก็เริ่มขยายขนาดขึ้น พวกมันกาวราวขึ้นมากและสงเสียงคำราม
ออกมาอยางตอเนื่อง
อยางไรก็ตาม เสียงระเบิดของเจดียปนใหญจากเบื้องหนานั้นยิ่งดังกองกวาเดิม เพลิงสี
แดงพุงเขามาในหมอกโลหิต
ปลาคางคาวหลังกวางพุงเขาหาศัตรูจากทุกทิศทางราวกับ คลื ่น ที ่พลุ งพล า น
ปนปวน
เมื่อซือเสวี่ยมั่นไดยินเสียงคำรามปานฟารองของปลาคางคาวหลังกวาง ประกาย
เย็นเยียบก็ฉายขึ้นบนดวงตาที่เหมือนกับอัญมณีที่กระจางใส นางตะโกนเสียงดังขึ้นมา
ในทันที “เตรียมพรอม!”
ผูใชพลังธาตุน้ำแตละคนเตรียมความพรอม พวกเขามีเครื่องมือนานาชนิดอยูใน
มือ บางก็เปนมุกธาตุน้ำ บางก็เปนธนูและศรธาตุน้ำในขณะที่บางคนมีกอนเมฆเล็กๆ
และของอยางอื่นอีกหลายชนิด
อุปกรณเหลานี้สวนใหญถูกรื้อคนออกมาจากกองทรัพยากรที่สูงเปนภูเขาเมื่อคืนนี้
ซือเสวี่ยมั่นกลั้นลมสองอึดใจและออกคำสั่ง “โจมตี!”
ผูใชพลังธาตุน้ำชูอาวุธในมือเขาหาหมอกโลหิต
มุกพลังธาตุน้ำระเบิดออกกลางอากาศและพลังธาตุน้ำที่หนาแนนแพรกระจายไป
ในอากาศ ลูกศรพลังธาตุน้ำเปลี่ยนไปเปนน้ำไหลและพุงออกจากสายธนูเขาสูหมอก
โลหิต กอนเมฆเล็กๆ ลอยขึ้นสูทองฟาและขยายตัวออก เริ่มสงละอองฝนออกมาอยาง
ไมคาดคิด
ซือเสวี่ยมั่นสูดหายใจเขาลึกและควงทวนเมฆายอมสวรรคในมืออยางนุมนวล
ทองฟาที่เคยสดใสกอนหนานี้พลันเต็มไปดวยเมฆดำจำนวนนับไมถวน
ทวนเมฆายอมสวรรคแทงออกไปจากมือของนาง
เมฆดำเต็มทองฟานั้นตามมาดวยสายฟาและฝนหาใหญ
สายฝนสาดลงไปทามกลางหมอกโลหิต
หมอกโลหิตที่หนาแนนและไมแตกกระจายกอนหนานี้หายไปในชั่วพริบตา ราว
กับรินน้ำรอนลงไปบนน้ำแข็ง
ปลาคางคาวหลังกวางที่พุงมาจากทุกทิศทางปรากฏตัวใหเห็นอยางชัดเจน
หมอกโลหิตหายไปอยางรวดเร็ว ปลาคางคาวหลังกวางและทหารคายอสูรเสีย
สมาธิไปชั่วขณะ
ในตอนนั้น เปลวเพลิงก็พุงออกมาจากยอดของยอดเขาสยบเทพ เสียงอั นดั ง
กึกกองจนหูอื้อทำใหพวกมันตกใจ
ปลาคางคาวหลังกวางเจ็ดแปดตัวถูกยิงและรวงลงตามกันไปในทันที
เปนการโจมตีซึ่งหนาอีกรอบและพวกมันก็ไดรับบาดเจ็บสาหัส!
ศัตรูเตรียมรับมือมาเปนอยางดี!
แต ท หารค า ยอสูร ก็ ตอบสนองอย า งรวดเร็ ว นอกเหนื อ จากบุ ก ต อ ไปก็ ไม มี
ทางเลือกอื่นแลว เพราะการถอยก็คือความตาย!
เสียงระเบิดจากปนใหญหนักรวงผึ้งนั้นดังกองไปทั่วทองฟา พลปนใหญที่นำโดย
เจาอวนเปดการยิงเต็มอัตราและไอน้ำสีขาวเจิดจาก็กระจายตัวออกมาจากบริเวณของ
เจดียปนใหญ
ปลาคางคาวหลังกวางสงเสียงรองโหยหวน รวงหลนลงพื้นอยางตอเนื่อง พลปน
ใหญทั้งหมดทุม เต็มกำลังและผลที ่ออกมาก็น า เหลือเชื ่อ กระนั้นก็ตาม ยังมีปลา
คางคาวหลังกวางจำนวนมากที่พุงเขามายังพื้นที่ดานหนา
ทวาครั้งนี้ ศัตรูไดเรียนรูและโจมตีมาจากทิศทางอื่น แตละกลุมมีปลาคางคาว
หลังกวางสองสามตัวและกระบวนทัพแบบกระจายตัวของพวกมันก็ลดพลังของเจดีย
ปนใหญไปมาก
อยางไรก็ตาม ซือเสวี่ยมั่นและพวกก็เตรียมพรอมสำหรับเรื่องนี้เอาไวแลว มาน
แสงของยอดเขาสยบเทพทั้งสามสองสวางมากที่สุด และเตรียมพรอมที่จะตานทาน
การโจมตี
เหลือปลาคางคาวหลังกวางจำนวนไมมากนักและพวกเขาสามารถเอาตานทาน
พวกมันได
ในตอนนั้นมานตาของซือเสวี่ยมั่นก็หดเล็กลง
ทหารแตละคนบนหลังปลาคางคาวหลังกวางแบกตะกราเอาไวบนหลัง นางจำได
วาทหารบนหลังปลาคางคาวหลังกวางนั้นไมไดพกตะกราติดตัวเมื่อวานนี้!
ทันใดนั้น หนึ่งในทหารก็ย ิ้มออกมาอย างชั่ วรายและทุ บทำลายตะกราอยาง
รุนแรง
บทที่ 614 หญาตั๊กแตนน้ำคางแข็ง
เมฆสีแ ดงลอยออกมาจากตะกร าที่ถ ูก ทุ บทำลายลอยอยู ก ลางอากาศราวกับ
ตั๊กแตนฝูงหนึ่ง
ตั๊กแตนโลหิตมีขนาดประมาณนิ้วมือ ปกของมันดำราวกับหมึก รางกายเปนสีแดง
สดเฉกเชนหยดโลหิต ฝูงตั๊กแตนกระจายตัวออกไปในอากาศอยางรวดเร็ว บินเขาหา
มานแสงของยอดเขาสยบเทพ
ตั๊กแตนโลหิตบินอยางหนาแนนและไมอาจควบคุมได
หนาของเจาอวนเปลี่ยนไปเล็กนอยเขารูสึกหงุดหงิดขึ้นมา
ตั๊กแตนโลหิตหรือ พวกมันมีไวทำไม สถานการณที่คาดไมถึงเกิดขึ้นในสนามรบ
พวกศัตรูถือวาพวกมันเปนไพตาย เห็นไดชัดวาวางแผนเอาไวนานแลว
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นโดยที่พลปนใหญไมทันตั้งตัว ทำใหพวกเขาแตกตื่นไร
ระเบียบไมรูวาจะเล็งยิงตรงไหนดี
เจาอวนตัดสินใจลงมือในทันทีและรองตะโกนออกมาเสียงสูง “ไมตองสนใจอยางอื่น
เล็งไปที่ปลาคางคาวหลังกวาง!”
ปนใหญหนักรวงผึ้งนั้นเหมาะสมอยางยิ่งที่จะยิงทำลายตั๊กแตนพวกนั้น ทวา
ในตอนนี้ ปลาคางคาวหลังกวางนั้นอยูใกลกับยอดเขาสยบเทพเกินไป ดวยระยะใกล
เชนนี้การใชปนใหญหนักรวงผึ้งนั้นไมมีประสิทธิภาพเทาที่ควรเพราะเพลิงของมันไม
อาจกระจายตัวเพื่อทำลายตั๊กแตนโลหิตไดทันเวลา แทนที่จะเล็งไปที่ตั๊กแตนโลหิต
การเล็งไปที่ปลาคางคาวหลังกวางนั้นฉลาดกวามากนัก
พลปนที่ตื่นตระหนกก็สงบลงและเริ่มเล็งไปทางปลาคางคาวหลังกวาง
เสี่ยวซานที่ปกติสงบเยือกเย็นอดส งเสีย งรอ งออกมาไม ได “พวกมันคือ หญ า
ตั๊กแตนน้ำคางแข็ง! อยาใหพวกมันเขาใกลมานแสงปองกันได!”
หญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งหรือ
นี่เปนครั้งแรกที่ทุก คนไดย ินชื ่ อ นี ้ แม จ ะไม มี ใครรู  ว  า มั น มี พ ลั ง เพี ย งใด แต
พฤติกรรมของเสี่ยวซานก็ทำใหพวกเขาเปนกังวลขึ้นมา พวกเขาตองการที่จะลงมือทำ
ทุกอยางที่ทำไดโดยไมลังเล
ซังจื่อจวินนำพลธนูยิงใสฝูงตั๊กแตนโลหิต ลูกศรพุงออกไปมากมายดุจหาฝน
ตั๊กแตนโลหิตไมไดเคลื่อนที่เร็วมากนักและไมถือวาคลองแคลว พวกที่ถูกยิงก็
ระเบิดกลายเปนกลุมโลหิตในทันที
คายกลกระบี่ของหนวยขอบฟาเปนเสมือนกวานที่หมุนวน บดขยี้ตั๊กแตนโลหิต
จนแหลกเหลวไปในทันที
กลุมโลหิตแตกกระจายบนทองฟาราวกับดอกไมงดงามเบงบาน นาเสียดายที่ไมมี
ใครมีเวลาจะมาชื่นชมความงดงามนี้
อยางไรก็ตาม ตั๊กแตนโลหิตมีมากมายจนยากจะจินตนาการได ตะกราดานหลัง
ทหารพวกนี้บรรจุตั๊กแตนจำนวนมากเพียงนี้ไดอยางไร
ตูม! ปลาคางคาวหลังกวางกระแทกใสยอดเขาสยบเทพของหนวยทวนเมฆาหนัก
ทำใหมานแสงสั่นสะเทือนอยางรุนแรง ทุกคนบนนั้นเซถลาไปเล็กนอยเพราะเสี ย
สมดุล แรงสั่นสะเทือ นอันรุนแรงส งผลต อ เหล า พลป น ใหญ ป น ใหญ ห นั ก รวงผึ้ ง
สะเทือน ยิงไมถูกเปาหมาย
ปลาคางคาวหลังกวางสองสามตัวก็ดูเหมือนวาจะกระแทกเขาใสมานแสงเชนกัน
เถาวัลยหนาที่หอยลงมาจากยอดเขาสยบเทพเหมือนกับโซเหล็กนั้นยกตัวขึ้นอยาง
รวดเร็วเหมือนกับสมอที่ถูกดึงขึ้นและฟาดใสปลาคางคาวหลังกวางตัวหนึ่ง
รางใหญโตของปลาคางคาวหลังกวางถูกซัดกระเด็นไปในทันที
เถาวัลยที่หอยอยูพุงขึ้นมาอยางรุนแรงและฟาดเขาใสปลาคางคาวหลังกวางที่พุง
เขามา ยอดเขาสยบเทพเปนประดุจปลาหมึกยักษโบราณที่ลอยตัวขึ้นมาจากทะเลลึก
หนวดที่หนาทนทานนั้นแข็งแกรงเปนอยางยิ่ง เมื่อปลาคางคาวหลังกวางถูกฟาดก็
กระเด็นไปไกลหลายสิบจั้ง
ปลาคางคาวหลังกวางมีพลังชีวิตที่นาทึ่งอยางเห็นไดชัด ไมวามันจะถูกฟาดกระเด็นไป
ไกลแคไหน ก็ยังสามารถกลับมาไดในเวลาอันสั้น มันไมเพียงไมกลัวแตยังดุรายยิ่ง
กวาเดิม โจมตีดวยความรุนแรงและบาคลั่งยิ่งขึ้น
ปลาคางคาวหลังกวางหลบพนปนใหญมาไดมากกวาหาตัว ซือเสวี่ยมั่นพุงขึ้นไป
บนทองฟาโดยไมลังเล
หยางเสี่ยวตง เสี่ยวซาน และพวกติดตามมาติดๆ
เมื่อเผชิญหนากับสัตวโลหิตขนาดยักษ ผูใชพลังธาตุทั่วไปนั้นสามารถสรางความ
เสียหายไดเพียงเล็กนอยเทานั้น มีแตปรมาจารยเทานั้นที่สามารถตานทานการโจมตี
ของพวกมันได
เจียงเหวยดึงสายธนูจนโคงเหมือนดวงจันทรกอนจะปลอยสาย ลูกศรพุงผาน
ทองฟาเปนลำแสงแทงทะลุสมองของปลาคา งคาวหลังกวา ง สมองของมันระเบิ ด
ออกเปนกลุมหมอกโลหิต รางที่ไรหัวกระแทกเขาใสมานแสงของยอดเขาสยบเทพดวย
พลังที่เหลืออยูจนเกิดรอยคลื่นหลายชั้น
ทุกคนทุมความสนใจอยูกับปลาคางคาวหลังกวาง พวกตั๊กแตนโลหิตจึงมีโอกาส
บุกรุก ตั๊กแตนโลหิตปะทะเขากับมานแสง
ซังจื่อจวินกำลังเตรียมตัวที่จะยิง ตั๊กแตนโลหิตบนมานแสงก็ระเบิดออกเสียงดังแปะ
นี่อะไรกัน ซังจื่อจวินชะงัก
ไมมีรังสีโลหิตกระจายออก แตกลับมีหมอกสีเทาขนาดเทากำปนเหนือมานแสงแทน
ตรงกลางมีตนหญาสีขี้เถาปรากฏขึ้นใหเห็นอยางชัดเจน
หญาตั๊กแตนน้ำคางแข็ง... อันที่จริงแลวเปนหญา!
ผูใชพลังธาตุที่ควบคุมยอดเขาสยบเทพสงเสียงรองออกมาอยางตื่นตกใจ “มัน
กำลังดูดซับพลังธาตุจากมานแสงปองกัน!”
ซังจื่อจวินหนาซีด
มานแสงรอบหญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งบางลงอยางรวดเร็วจนมองเห็นไดในขณะที่
ตนหญาสีขี้เถาเติบโตอยางรวดเร็ว
ซังจื่อจวินปลอยธนูและแสงสีทองก็ปกเขาใสหญาตั๊กแตนน้ำคางแข็ง
สิ่งที่เกิดขึ้นตอมาทำใหซังจื่อจวินหนาเปลี่ยนไปอยางสิ้นเชิง
แปะ! หญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งระเบิดออกและกระจายไปทั่วทุกที่ราวกับสียอมที่
ระเบิดออก ชั่วขณะตอมาหนอออนสีขี้เถาก็งอกออกมา
โผละ โผละ โผละ!
ตั๊กแตนโลหิตอีกสามตัวบินมากระทบมานแสงและระเบิ ดออกในทั นที ในชั่ว
พริบตา มานแสงก็ถูกคลุมไปดวยหญาสีขี้เถาที่นาเกลียด
หญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งเติบโตอยางรวดเร็วจนนาตระหนกในขณะที่เดียวกันมันก็ดูด
ซับพลังธาตุของมา นแสงอยางรวดเร็ว มานแสงรอบต นหญ าบางกวาจุดอื่ นอย า ง
ชัดเจน
“อยาใหมันออกผลได มันเปนเหมือนกับตนผูกงอิง[1]!”
เสี่ยวซานที่เพิ่งฆาปลาคางคาวหลังกวางไปตัวหนึ่งหันหลังกลับมาเตือน เขาเต็ม
ไปดวยความเกลียดชังในตอนนี้ แมเขาจะรูวามันมีลักษณะอยางไรแตก็รูเกี่ยวกับมัน
นอยมากเมื่อตองรับมือกับสิ่งที่แปลกประหลาดเชนนี้
หนวยตรวจตราไมอาจแทรกซึมเขาไปในแควนแหงเทพไดอยางราบรื่นดังนั้นพวกเขา
จึงมีขอมูลขาวสารอยางจำกัด แควนแหงเทพสรางสายพันธุใหมขึ้นมามากมายในชวง
หลายปมานี้ และหนวยตรวจตราก็รูจักเพียงแคชื่อและลักษณะของพวกมันเทานั้น
กำลังและความสนใจสวนใหญของหนวยตรวจตรานั้นอยูที่เมืองเทียนซิน
เสี่ยวซานเมมริมฝปากแนน เขาตองการอยางมากที่จะรายงานทุกอยางใหจอมพล
ฟงเมื่อเรื่องนี้จบลง! ใหเขาไดเห็นวามีชีวิตมากมายเพียงใดที่เกี่ยวของกับรายงานแต
ละฉบับ
เขาหันหนาไปเห็นปลาคางคาวหลังกวางที่บินหวือๆ ราวกับยอดเขาเล็กๆ ที่สง
เสียงคำรามขมขวัญเขามา มันเผยเขี้ยวขาวและน้ำลายที่กลิ่นไมนาอภิรมย เต็มไปดวย
ความมุงราย ทหารจากคายอสูรมีสีหนาบาคลั่งดวงตาแดงก่ำสงเสียงรองคำรามอยาง
ปาเถื่อน
สายตาเสี่ยวซานเปลี่ยนเปนเย็นชา นิ้วมือเคลื่อนไหวเล็กนอย พื้นที่โดยรอบแข็ง
คางไปในทันที ราวกับวาเปลี่ยนเปนน้ำแข็ง กลืนกินปลาคางคาวหลังกวางและทหาร
จากคายอสูรเขาไปอยางรวดเร็ว
ปลาคางคาวหลังกวางและทหารจากคายอสูรถูกผนึกเอาไวในชั้นน้ำแข็ง
พื้นที่ซึ่งถูกแชแข็งเกิดรอยราวขึ้นในทันที เปรี๊ยะ! มันแตกออกเปนชิ้นเล็กชิ้นนอย
จนนับไมถวนและตกลงจากทองฟาราวกับหาฝนโลหิต
ซังจือจวินไดยินเสียงเตือนของเสี่ยวซาน ภาพของเกสรผูกงอิงลอยไปตามสายลม
ทำใหนางรูสึกเย็นเยียบไปทั้งกาย
จำนวนของหญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งบนมานแสงเพิ่มจำนวนมากขึ้น เปนภาพที่นา
ตื่นตระหนก
ฉุกเฉิน!
ซังจื่อจวินสามารถเห็นไดอยางชัดเจนวาจำนวนจุดบนมานแสงมีมากขึ้นและมานแสงก็
บางลงอยางรวดเร็ว นางรูวาพวกเขาตองหยุดหญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งใหได ไมเชนนั้น
มานแสงจะออนลงและปลาคางคาวหลังกวางจะสรางความเสียหายอยางใหญหลวง
นางยังสังเกตเห็นวาผูใชพลังธาตุโลหิตที่มีฤทธิ์เทพปรากฏกายบนสนามรบ
การตอสูกำลังดุเดือดยิ่งขึ้น
ศัตรูเห็นโอกาสที่จะบุกเขามาและสงยอดฝมือออกมาจำนวนมากโดยหวังวาจะ
ทำลายการปองกันของพวกเขา เมื ่ อ ไม มี ม า นแสง ยอดเขาสยบเทพก็ จะเสียการ
ปองกันที่มีไปและพวกเขาจะตองรับการโจมตีจากศัตรูโดยตรง
ทวา... พวกเขาจะกำจัดหญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งไดอยางไร
หญา... ตั๊กแตนน้ำคางแข็งเชนนั้นหรือ
สมองของซังจื่อจวินทำงานอยางหนัก หญาชนิดใดกันที่สามารถดูดกลืนผูใชพลังธาตุ!
เมื่อนึกถึงการระเบิดออกของตั๊กแตนโลหิต นางก็มั่นใจวาตั๊กแตนโลหิตนั้นเปน
เพียงพาหะของเมล็ดหญาเทานั้น หากมันเปนหญาแลวละก็...
ซังจื่อจวินนึกถึงบางอยางที่เปนประโยชนขึ้นมาไดทันที
นางหันกลับไปมองหา ก็พบเห็นกองไขหินที่บรรจุลาวาหิมะอยูขางถังเก็บเพลิง
เหลว!
ใชแลว ลาวาหิมะ!
นางกางปกเมฆาและบินไปอยางคลองแคลวราวกับนก นางบินออกจากมานแสง
พรอมกับลาวาหิมะในมือ
นางหยุดอยูที่จุดสีขี้เถา พรอมที่จะทำลายเปลือกหิน
ลูกศรที่เจิดจาพุงผานแกมของนางไป
ดานหลังนาง ยอดฝมือผูใชพลังธาตุโลหิตเบิกตากวาง รูขนาดเทาชามขาวปรากฏ
ขึ้นบนหนาอก
ศัตรูมาใกลถึงเพียงนี้หรือ
ซังจื่อจวินตกตะลึง นางหันไปเห็นเจียงเหวยถือธนูอยูบนยอดเขาสยบเทพ สายธนูยัง
สั่นอยูในตอนที่เขามองมาที่นาง นางรูสึกอบอุนและสงบอยูในใจ สงยิ้มใหเขากอนจะ
เบนสายตาไป
นางทำลายเปลือกหินและรินลาวาหิมะที่ใสเหมือนน้ำลงไปบนจุดสีขี้เถา
ซู! ควันสีขี้เถาลอยขึ้นเปนกลุมกอนที่ปนปวนไมรูจบ ใบหนาออนจางปรากฏขึ้น
และสงเสียงโหยหวนไมอยากที่จะหายไป
กอนควันสีขี้เถานี้ทำใหซังจื่อจวินรูสึกหวาดกลัวอยูบาง นางนึกไปถึงรอยพลังธาตุ
ที่เหมือนกับใบหนามนุษยบนตนไมโลหิตในปาโลหิต
ผานไปครูนึ่ง หมอกสีขี้เถาก็หายไปพรอมกับเสียงแตก
ซังจื่อจวินสะกดความกลัวและมองไปตรงจุดเดิม จุดสีขาวขี้เถาหายไปและมาน
แสงที่บางลงก็กลับคืนสูสภาพเดิม
นางรูสึกยินดีเปนอยางยิ่ง ลาวาหิมะใชไดผล!
มีหลายคนรวมถึงเจียงเหวยสังเกตการกระทำของซังจื่อจวินและรูสึกยินดีเปน
อยางมาก พวกเขารีบไปหาลาวาหิมะ
ทันใดนั้นเสียงทรงพลังของดังขึ้น “ใหเขาเอง!”
เปนเสียงของภูเขาไฟทรงเกียรติ
เขาไดจัดเตรียมลาวาหิมะอยูดานหลังตอนที่ไดยินวามีการตอสูอยางดุเดือด เขา
รีบเรงออกมาเพื่อใหการชวยเหลือ และไดเห็นภาพซังจื่อจวินใชลาวาหิมะทำลายจุดสี
ขี้เถาของหญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งเขาโดยบังเอิญ
ภูเขาไฟทรงเกียรติบินออกมาจากมานแสง พลังรุนแรงพลุงพลานปานภูเขาไฟที่
ระเบิดแผระดับพลังของปรมาจารยออกมาอยางไมปดบัง รางกายปกคลุมไปดวยชั้น
แสงสีแดงที่เหมือนจะสรางขึ้นจากลาวาหิมะ สงคลื่นความรอนที่มองไมเห็นซึ่งกวาด
ไปทั่วบริเวณ
เขาปลดน้ำเตาออกมาจากเข็มขัด เงยหนาขึ้นและดื่มของภายในน้ำเตาลงไปอึกใหญ
เขาแสดงสีหนาเจ็บปวด ลาวาหิมะที่อยูในนั้นสรางขึ้นอยางประณีตดวยตัวเขาเอง
ลาวาหิมะที่ปกติใสไรสีนั้น ในตอนนี้มีประกายสีทองอยูดวย
ฟู เพลิงโปรงใสลอยขึ้นเหนือศีรษะของเขา
ภูเขาไฟทรงเกียรติหายใจเขาลึก เงยหนาขึ้นแลวอาปาก
ตูม! เพลิงสีแดงขาวเจิดจาพุงออกมาจากปากของเขา ลอยขึ้นสูทองฟาราวกับ
ภูเขาไฟระเบิด
เปลวเพลิงเปนเสมือนดังมังกรไฟตัวใหญยักษหมุนวนไปรอบมานแสงของยอดเขา
สยบเทพ ไมวามันผานไปที่ใด จุดสีขี้เถาก็หายไป
ภูเขาไฟทรงเกียรติทำเชนนี้ตอไป และในชั่วพริบตา หญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งบน
มานแสงของยอดเขาสยบเทพทั้งสามถูกทำลายลงจนหมดสิ้นอยางมีประสิทธิภาพ
ผูใชพลังธาตุเริ่มโหรองยินดี
เมื่อเสียโอกาสที่จะโจมตี ผูใชพลังธาตุโลหิตก็ละทิ้งสนามรบที่เต็มไปดวยซากศพ
และถอยกลับไปราวกับกระแสน้ำลง

[1] ผูกงอิง (蒲公英) หรือแดนดิไลออน เมื่อโตเต็มที่กลีบดอกจะปลิดปลิวไป


เติบโตในที่ใหม
บทที่ 615 ตัวออนกระบี่ไรเทียมทาน
เมื่อความลับของสายฟาเผยออกมาตอหนาอายฮุยในที่สุด อายฮุยก็รูสึกเหมือน
หายใจไมออกไปชั่วขณะหนึ่ง นั่นเปนภาพลวงตา สภาพของเขาในตอนนี้ไมจำเปนตอง
หายใจดวยซ้ำ
สายฟาสีเงินภายในเสาแสงสีทองแผแสงสีเงินออกมา แสงสีเงินนั้นเหมือนกับแสง
เหนือที่ลึกลับซึ่งปรากฏเหนือภูเขาที่เย็นเยียบในยามราตรี
จากนั้น แสงสีเงินก็เริ่มยืดยาวออกไปทีละนอยประดุจเงา
อายฮุยเบิกตากวาง ทุมสมาธิทั้งหมดไปกับภาพตรงหนาดวยเกรงวาจะพลาด
รายละเอียดใดไป
ภายในแสงสีเงิน วงแหวนที่ลึกลับก็คอยๆ ปรากฏขึ้นเบื้องหนาอายฮุย ดูเหมือน
จะบินออกมาจากหมอกหนาในภูเขา
วงแหวนหาธาตุ!
อายฮุยพยายามสะกดความตื่นเตนเอาไว เขาคิดถูก! กอนหนานี้เขาก็มีความรูสึก
วาสายฟาอาจจะเปนวงแหวนหาธาตุ ทวาเมื่อโครงสรางของวงแหวนหาธาตุปรากฏ
ขึ้นตรงหนา เขาก็อดรูสึกตื่นเตนขึ้นมาไมได
โครงสรางของวงแหวนหาธาตุจะเปนแบบไหนกัน
แสงของวงแหวนหาธาตุนั้นเปลี่ยนเปนสวางและสดใสยิ่งขึ้น สงคลื่นแสงที่มีสสี ัน
เจิดจาออกมาไมหยุด เสมือนหนึ่งวาวงแหวนหาธาตุนั้นถูกผาโปรงคลุมเอาไวกอนหนา
นี้และในตอนนี้เมื่อผาโปรงนั้นถูกถอดออก ก็เผยใหเห็นแสงเรืองรองออกมา
อายฮุยรูสึกหลงเสนหมัน
เขาอุทานออกมาอยางชื่นชมอยูในใจหลายครั้ง ชางเปนโครงสรางที่อัศจรรย!
ความเขาใจในกิ่งไมแหงชีวิตกอนหนานี้ใหประโยชนแกเขาหลายทาง กิ่งไมแหงชีวิต
เปนวงแหวนแหงชีวิตที่กอตัวขึ้นจากการกอเกิดระหวางธาตุทั้งหา ในขณะสายฟานั้น
เปนวงแหวนแหงการทำลายที่เกิดขึ้นจากการสะกดขมระหวางธาตุทั้งหา อยางไรก็
ตาม อายฮุยไมเคยคาดคิดวาแกนของสายฟาจะสรางขึ้นจากพลังธาตุน้ำในวงแหวน
แหงการทำลายลาง!
หลังจากคิดดูอีกครั้ง เขาก็ตระหนักวามันเปนเรื่องที่สมเหตุผลที่สุด!
สายฟากอตัวขึ้นภายในกอนเมฆ นี่เปนเรื่องที่รูโดยทั่วไปซึ่งแมแตเด็กก็ยังรู แลว
ทำไมเขาไมเคยคิดถึงมันมากอน ไมใชเพียงแคเขาคนเดียวเทานั้น ในประวัติศาสตร
ของอูสิงเทียนที่ยาวนานนับพันป ไมมีใครสามารถพบความลับของสายฟาได เปนไป
ไดหรือไมวาไมมีใครเคยคิดเรื่องนี้มากอน
เมื่ออายฮุยคิดใหลึกซึ้งลงไปอีก ก็ตระหนักขึ้นมา
กิ่งไมแหงชีวิตเปนวงแหวนแหงชีวิต ธาตุทอง ธาตุน้ำ ธาตุไฟและธาตุดินนั้นเปนหยิน
สวนธาตุไมนั้นเปนหยาง มีโครงสรางที่ประณีตเปนอยางยิ่ง
เมื่อเทียบกับกิ่งไมแหงชีวิต โครงสรางของสายฟานั้นคลายคลึงกัน แตมีความ
ซับซอนและนาอัศจรรยยิ่งกวา!
นั่นเปนเพราะมันเกิดขึ้นจากวงแหวนหาธาตุสองวง!
วงแหวนหาธาตุวงแรกมี ธาตุทอง ธาตุไม ธาตุไฟและธาตุดินเปนหยินในขณะที่
ธาตุน้ำเปนหยาง สวนวงแหวนหาธาตุวงที่สองนั้นมี ธาตุทอง ธาตุไม ธาตุไฟและธาตุ
ดินเปนหยางในขณะที่ธาตุน้ำเปนหยิน วงแหวนหาธาตุนั้นลอยคูกันอยูบนอากาศราว
กับฝาแฝด
อายฮุยรูสึกหลงใหลอยางลึกซึ้ง เขาไมเคยเห็นโครงสรางพลังธาตุที่ยิ่งใหญและ
ลึกลับเชนนี้มากอน!
ในตอนนั้นเองที่เขาเขาใจวาทำไมถึงไม มีใครสามารถถอดรหัสโครงสรา งของ
สายฟามาไดตลอดเวลาทีผ่ านมา ผูใชพลังธาตุสวนใหญจะฝกฝนพลังธาตุเพียงแคธาตุ
เดียว มีแตคนที่ฝกฝนมาจนถึงระดับสูงเทานั้นจึงจะสามารถสัมผัสถึงวงแหวนหาธาตุ
ได หากไมใชเพราะอายฮุยมีอาจารยที่ศึกษาเรื่องการใชรอยพลังธาตุในการขับเคลื่อน
พลังธาตุและทำลายกำแพงระหวางพลังธาตุแตละชนิด อายฮุยก็คงไมไดสัมผัสกับการ
ผสมผสานของพลังธาตุและหลักการอันซับซอนเบื้องหลังวงแหวนหาธาตุนี้
การที่ลูเฉินสามารถสรางกิ่งไมแหงชีวิตขึ้นมาไดทั้งที่เปนผูใชพลังธาตุไมนั้นก็
แสดงใหเห็นถึงความฉลาดและอัจฉริยภาพของเขาไดเปนอยางดี
ความยิ่งใหญของสายฟาที่มีโครงสรางซับซอนและลึกลับยิ่งกวากิ่งไมแหงชีวิตนั้น
เกินกวาจินตนาการของมนุษยจะคิดไปถึง หากไมใชเพราะแสงสีทองจากโลหิตเทพ
ปศาจแลว อายฮุยคงไมอาจไดรับรูถึงความยิ่งใหญของสายฟา
สายตาของเขาจับจองไปที่วงแหวนหาธาตุหยินหยางทั้งสองวงซึ่งหมุนวนและ
พัวพันซึ่งกันและกัน จนลืมเรื่องเวลาไปเสียสนิท
ทันใดนั้นแสงสีแดงก็พลันลอยลงมาจากทองฟาและหอหุมวงแหวนหาธาตุที่หมุน
วนเอาไว
วงแหวนหาธาตุสองวงผสานรวมและเปลี่ยนไปเปนประกายแสงสีเงินที่พุงเขาไป
ในดวงตาโลหิตบนทองฟา
อายฮุยไดสติกลับคืนมา
เขาดูสับสนเล็กนอย ที่เขาคิดไดก็คือวงแหวนหาธาตุทั้งสองวงหมุนวนอยา งไม
รูจักเหน็ดเหนื่อย วากันตามจริง โครงสรางพลังธาตุของสายฟานั้นเกินกวาที่อายฮุยจะ
จินตนาการได สงผลกระทบตอเขาอยางรุนแรง
เขาไมรูวายอดปรมาจารยมีความเขาใจในพลังธาตุมากเพียงไร แตเขารูวาไมมีใคร
สักคนที่ไดรับรูความลับของสายฟาอยางแทจริง
หลังจากที่สายตาถูกแสงสีทองเจิดจาหอหุมเอาไว เขาก็ไดสติกลับคืนมา
เขาตะลึงงันอยูขณะหนึ่งกอนที่จิตใจที่ตื่นเตนจะสงบลงในที่สุด จากนั้นความ
หวาดกลัวอยางไมอาจบรรยายไดก็ผุดขึ้นในใจเขา
โครงสรางของสายฟานั้นซับซอนและละเอียดอยางมากแตก็ลึกลับโดยธรรมชาติ
เกินขีดจำกัดของระดับความเขาใจในพลังธาตุของผูใชพลังธาตุในปจจุบันนี้ แตถึง
กระนั้นสายฟาก็ยังคงไมอาจตานทานแสงสีทองจากโลหิตเทพปศาจได
โลหิตเทพปศาจ....นั้นไรผูตานจริงหรือ
ความหวาดกลัวอยางเขมขนทวมทนจิตใจของอายฮุย ทำใหเขาตัวสั่นดวยความกลัว
มีใครที่สรางวงแหวนหาธาตุที่มีความซับซอน ประณีตและทรงพลังยิ่งกวาสายฟา
หรือไม
อายฮุยไดแตหัวเราะอยางขมขื่นกับตัวเอง
หลังจากแสงสีทองกลืนกินสายฟาเขาไป มันก็เหลือศัตรูอีกเพียงหนึ่งเดียวเทานั้น
เมฆตัวออนกระบี่ที่อยูในตำหนักปฐพีของอายฮุย หากเมฆตัวออนกระบี่ถูกแสงสีทอง
ดูดกลืนเขาไป รางกายของเขาก็จะเต็มไปดวยพลังของมัน เขาจะกลายเปนผูใชพลัง
ธาตุโลหิตหรือไม
รอยยิ้มขมขื่นบนใบหนาของอายฮุยกวางขึ้น เขามองผูใชพลังธาตุโลหิตเปนศัตรูคู
แคนแลวตองกลายเปนหนึ่งในพวกมันนั้น มันไมตลกรายเกินไปหนอยหรือ
เสียงกระบี่กำธรดังขึ้นในหู เสียงแหลมชัดเจนของกระบี่กำธรอันพลุงพลานพุงเขา
หาแสงสีทองราวกับเกลียวคลื่น
เอาเถิด อยางนอยกอนตายเขาก็อยากจะเห็นวาตัวออนกระบี่เปนอยางไร
นี่จะเรียกวาตายอยางไมเสียดายหรือเปลา
เขาหัวเราะกับตัวเองอีกครั้ง
อายฮุยรูสึกตื่นเตนขึ้นมาเล็กนอย เมื่อนึกถึงตัวออนกระบี่ ก็รูสึกสนใจขึ้นมา
ในทันที เมื่อเทียบกับพลังธาตุและวงแหวนหาธาตุแลว ตัวออนกระบี่นั้นอยูในรางกาย
ของอายฮุยมาเปนเวลานานกวา
ตัวออนกระบี่มีสวนชวยอยางมากที่เขาเอาชีวิตรอดออกมาจากแดนรางไดในอดีต
ตัวออนกระบี่นั้นทรงพลังและลึกลับ นับตั้งแตแรก อายฮุยงงงวยอยูเสมอเมื่อเปนเรื่อง
ของตัวออนกระบี่ ในตอนนี้ เขาก็ยังคงงงวยเชนเดิม
อายฮุยนั้นเต็มไปดวยความสงสัยใครรูที่จะไดประจักษความยิ่งใหญของตัวออนกระบี่
เขาโยนความคิดฟุงซานทิ้งไป และตั้งสมาธิสำรวจดูการตอสูระหวางเมฆตัวออนกระบี่
และแสงสีทอง
เชนเดียวกับเมื่อกอน แสงสีทองรวมตัวกันอยูบนเมฆตัวออนกระบี่ที่ตำหนักปฐพี
เสาแสงสีทองที่สองลงมาบนเมฆตัวออนกระบี่เขมขนและแข็งแกรงยิ่งขึ้น
เจตนกระบี่ที่ทรงพลังของเมฆตัวออนกระบี่แผออกมาเปนระยะๆ เฉกเชนคลื่นที่
เกิดจากกระบี่จำนวนนับไมถวน ลำแสงสีทองทอดผานอากาศออกมาราวกับใบไม
ทองคำในขณะที่เจตนกระบี่บินไปทุกทิศทางราวกับน้ำที่สาดกระจาย
การตอสูนั้นเขมขนยิ่งกวาครั้งกอน
พลังที่นาเกรงขามและเยือกเย็นอยางยิ่งสองสายกำลังปะทะกัน
อายฮุยไมกลาที่จะลดสมาธิลง การตอสูระหวางกิ่งไมแหงชีวิตและแสงสีทองนั้นดำรง
อยูไดไมนานนัก เมื่อแสงสีทองนั้นหอหุมเหยื่อเอาไว เหยื่อก็ไมอาจอยูรอดไดนานนัก
ดังนั้นการเสียสมาธิแมเพียงเล็กนอยก็อาจทำใหเขาพลาดสิ่งที่เกิดขึ้นได
อายฮุยเบิกตากวางและทุมความสนใจไปที่การตอสู
เวลาผานไปชาๆ
หลังจากเวลาผานไปนานเทา ไรก็ ไม ท ราบ อายฮุยก็เริ่มรูสึกวา มีบางอย า งไม
ถูกตองนัก
มีอะไรผิดไป
อายฮุยไมรูวาจะบรรยายมันอยางไร ทวาเขารูสึกวาเขารูสึกเหนื่อย ทำไมเขาถึง
รูสึกเหนื่อย เปนเรื่องยากที่จะไมรูสึกเหนื่อยหลังจากทุมเทสมาธิติดตอกันมาเปน
เวลานานเชนนี้
เขาตะลึงงัน
เปน...เวลา...นาน...
เขาพลันเขาใจวามีอะไรผิดไปและเลื่อนสายตาไปยังตำหนักปฐพีของตน จากนั้น
เขาก็ตัวแข็งไปเมื่อเห็นสิ่งที่เขาไมอยากเชื่อ
การตอสูระหวางตัวออ นกระบี่แ ละแสงสีทองไม เปลี ่ยนไปเลยแมแ ตนอย ยัง
ดุเดือดเหมือนเชนเคย
เวลาผานไปนานเทาไรแลว
เปนการยากที่อายฮุยจะบอกไดวาเวลาผานไปนานเทาไรในยามที่เขาอยูในแดน
มหัศจรรยของดวงตาโลหิต อยางไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจ เวลาไดผานไปนานกวา
ระยะเวลาในการตอสูของแสงสีทองกับกิ่งไมแหงชีวิตและสายฟา
ทำไมถึงเปนเชนนั้น อายฮุยรูสึกไมอยากเชื่อ
เมฆตัวออนกระบี่ที่เขาคิดวาออนแอที่สุดในพลังทั้งสามกลับสามารถตานทานแสง
สีทองได จนถึงตอนนี้ก็ยังไมไดแสดงสัญญาณความออนแอออกมาใหเห็น
เกิดอะไรขึ้น
อายฮุยรูสึกสับสนเล็กนอย
นี่ไมไดแสดงใหเห็นวาตัวออนกระบี่และโลหิตเทพปศาจมีระดับเดียวกันหรอกหรือ
เดี๋ยว ระดับเดียวกันหรือ
อายฮุยอดมองไปยังตำหนักปฐพีอีกครั้งไมได การตอสูระหวางทั้งสองฝายนั้น
ยังคงดำเนินตอไป ยังเขมขนเหมือนเชนเคย อายฮุยเบิกตากวางอีกครั้ง สำรวจมอง
พื้นที่บริเวณโดยรอบการตอสู
ใชแลว เมฆตัวออนกระบี่ไมมีทาทีวาจะออนแอลงเลย
อายฮุยรูสึกสับสนอยางมาก ตัวออนกระบี่นั้นทรงพลังจนสามารถตานทานโลหิต
เทพปศาจเชียวหรือ
รางกายของเขามีสิ่งที่สามารถตานทานโลหิตเทพปศาจไดอยางไร ไมสิ ควรถามวา
เขาสรางสิ่งที่นาเกรงขามเชนนี้ขึ้นมาไดอยางไร
อายฮุยเกือบจะเอามือกุมหัวรองคำรามออกมา เกิดอะไรขึ้น
หลังจากผานไปนาน อายฮุยก็ยอมรับความจริงไดในที่สุด หลังจากผานไปเปน
เวลานาน อายฮุยก็ยอมรับวาเมฆตัวออนกระบี่ไมยอมออนขอใหกับแสงสีทอง!
แรงระเบิดแผออกมาจากการปะทะอยางรุนแรงระหวางเมฆตัวออนกระบี่ที่พลุง
พลานกับเสาแสงสีทองอยางตอเนื่อง
เวลาผานไปชาๆ และทั้งสองฝายตางก็ไมมีทีทาวาจะออนแรงลง
นับตั้งแตแรก อายฮุยทุมเทสมาธิทั้งหมดไปที่การตอสู ในที่สุดเขาก็รูสึกดานชา
เริ่มคิดถึงคำถามอื่นขึ้นมา อยางเชน เขาจะออกไปจากแดนมหัศจรรยของดวงตา
โลหิตไดอยางไร
ดูแลวมันคงใชเวลาอีกนานกวาการตอสูระหวางเมฆตัวออนกระบี่และโลหิตเทพ
ปศาจจะรูผล
เปนไปไดหรือไมวาเขาจะติดอยูในนี้ไปตลอด ทวา อายฮุยตระหนักวาเขาไมอาจ
ทำอะไรไดในยามที่เขายืนอยูภายในเสาแสงสีแดง
ใครกันที่กำลังมองดูเขาอยูในตอนนี้ แนนอนวาตองเปนโหลวหลาน! อายฮุยคิด
กับตัวเอง
เมื่ออายฮุยคิดถึงโหลวหลาน หัวใจของเขาก็อบอุนขึ้น
ทันใดนั้น เขาก็สะดุง เปนไปไดหรือไมวาโหลวหลานจะพบสถานการณของเขา
ดังเชนที่อายฮุยคาดคิดไว โหลวหลานไดมองดูอายฮุยอยูขางเตียงตลอดเวลา
ในตอนนั้นแสงสีแดงในดวงตาของโหลวหลานกะพริบไมหยุด เขาบันทึกความ
เปลี่ยนแปลงทุกอยางที่เกิดขึ้นภายในรางกายของอายฮุย รางกายของอายฮุยแผแสงสี
เขียวและประกายสายฟา เจตนกระบี่ที่พลุงพลานและแสงสีทองที่กดขี่แตก็คุนเคย
ออกมา
ความคิดของโหลวหลานนั้นถูกตอง กิ่งไมแหงชีวิต เมฆกระบี่ สายฟาและโลหิต
เทพปศาจนั้นกำลังตอสูกันครั้งใหญในรางกายของอายฮุย
ในไมชาแสงสีเขียวและพลังธาตุไมก็คอยๆ หายไป ตอนนั้นเองที่โหลวหลานรูวา
กิ่งไมแหงชีวิตถูกกลืนกิน เมื่อแสงสีทองเขมขนขึ้น ประกายสายฟาก็หมนมัวลงเชนกัน
ในที่สุดประกายสายฟาก็หายไป ในตอนนั้นแสงสีทองก็เขมขนขึ้นอีก เขมขนจนดู
เหมือนกับวาจะพุงออกมาจากรางกายของอายฮุย ในตอนนี้แสงสีทองของโลหิตเทพ
ปศาจไดปกคลุมพื้นที่สวนใหญในรางกายของอายฮุย ตำหนักปฐพีของอายฮุยที่ซึ่งมี
เมฆตัวออนกระบี่อยู เปนสวนเดียวที่ไมถูกแสงสีทองหอหุมเอาไว
โหลวหลานเห็นตัวออนกระบี่ที่พลุงพลานในตำหนักปฐพีของอายฮุยตานทานแสง
สีทองเอาไวกับตาตัวเอง
ในตอนนี้ กระโจมเต็มไปดวยเจตนกระบี่ที่นาทึ่งและรัศมีพลังที่กดขี่ นี่คือสิ่งที่
เกิดขึ้นจากการตอสูระหวางเมฆตัวออนกระบี่กับแสงสีทองในรางกายของอายฮุย
ตัวออนกระบี่...
โหลวหลานพลันพุงออกจากกระโจม
เขาหาทางแกไดแลว
บทที่ 616 หมื่นกระบี่
หลังจากการประชุมหลังการศึกจบลง ซือเสวี่ยมั่นก็เดินขามสะพานลม เดินมายัง
กางปลา
การตอสูวันนี้ชางนาหวาดกลัวเกินกวาปกติ
ความภาคภูมิและเยอหยิ่งที่เกิดจากชัยชนะกอนหนานี้ถูกบดขยี้ไปเสียสิ้น สิ่งแรก
ที่เจาอวนทำในการประชุมก็คือกลาวขอโทษทุกคน ในตอนนี้เมื่อเจาอวนคิดถึงการ
กระทำที่เสี่ยงของเขา ก็รูสึกหวาดกลัว หากไมใชวิธีแกปญหาหญาตั๊กแตนน้ำคางแข็ง
ของซังจื่อจวินและการมาถึงของภูเขาไฟทรงเกียรติอยางถูกจังหวะ การตอสูคงจะยาก
กวานี้มาก
วันนี้ ผูใชพลังธาตุโลหิตไดสอนบทเรียนใหแกพวกเขาอยางดีทีเดียว
ในตอนที่เขาคิดวาผูใชพลังธาตุโลหิตแคพึ่งพาปลาคางคาวหลังกวางเทานั้น ผูใชพลัง
ธาตุโลหิตใชความเปนจริงแสดงใหเห็นวาไมใชแคพวกเขาเทานั้นที่มีไพตายอยูในมือ
ผูใชพลังธาตุโลหิตไดใชกลศึกที่มีการพลิกแพลงหลากหลาย ใชปลาคางคาวหลังกวาง
เปนโลกำบังและเตรียมหญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งเอาไวเบื้องหลัง
พวกเขาตองยอมรับวาหญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งนั้นมีประสิทธิภาพอยางมากในการ
ศึกวันนี้ มันมอบบททดสอบอันนาสยดสยองใหกับแนวปองกันของผูใชพลังธาตุ หาก
ซังจื่อจวินคิดหาทางแกไขไมทันหรือภูเขาไฟทรงเกียรติมาชากวานี้แมแตเพียงเล็กนอย
กองกำลังศัตรูคงสามารถโจมตียอดเขาสยบเทพโดยตรง การศึกวันนี้ย้ำเตือนพวกเขา
วาแมยอดเขาสยบเทพจะแข็งแกรง แตก็ไมไดไรเทียมทาน
โชคยังดีที่กองกำลังศัตรูดูเหมือนจะไมคาดคิดวาหญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งจะสราง
ผลลัพธโดดเดนเชนนี้ ดังนั้น พวกมันจึงสงกองหนุนมาชาไปหนอย หากพวกยอดฝมือ
มาถึงเร็วกวานี้ แรงกดดันที่ผูใชพลังธาตุไดรับจะเพิ่มขึ้นอยางมากและการตอสูจะยิ่ง
อันตรายมากกวานี้
ทุกคนกำลังถกเถียงกันถึงกลศึกที่ศัตรูจะนำมาใชและแผนการที่จะตอบโตกลับไป
ในวันพรุงนี้
บรรยากาศการประชุมเปนไปอยางตึงเครียด สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำใหทุกคน
หวาดกลัวขึ้นมา
ปนใหญหนักรวงผึ้งก็เผยจุดออนออกมาในวันนี้ เมื่อกองกำลังศัตรูเขาใกลเกินไป
ประสิทธิภาพก็จะลดลง เหตุการณในวันแรกที่ศัตรูบุกเขามาเปนกลุมที่หนาแนนจะไม
เกิดขึ้นอีก วันนี้การโจมตีของศัตรูนั้นถูกวางแผนมาเปนอยางดีและรอบคอบ พวกมัน
โจมตีจากหลายทิศทางและกระจายการยิงของปนใหญหนักรวงผึ้งเพื่อลดอำนาจของ
มันลง
โชคยังดีที่พวกเขายังสามารถขับไลศัตรูไปไดแมวาสถานการณจะสุมเสี่ยงอยูบาง
บรรยากาศทั่วทั้งคายตึงเครียด แตทุกคนก็ไมเสียขวัญกำลังใจไป
ในทางกลับกัน ซือเสวี่ยมั่นรูสึกมั่นใจมาก ในหนวยรบมีทหารใหมจำนวนมากมาย
มหาศาล ตอใหเปนพวกทหารเกาก็ไมไดพบเจอกับศึกใหญเชนนี้มากนัก ไมมีใคร
แมแตตัวนางเองที่มีประสบการณมากมายเชนนั้น และยังมีเรื่องอีกมากที่พวกเขาตอง
เรียนรูดวยตัวเอง
นับแตอดีตกาล แมทัพที่มีชื่อเสียงลวนสรางชื่อขึ้นจากการเอาชนะในการรบครั้ง
แลวครั้งเลา
ซือเสวี่ยมั่นสัมผัสไดอยางชัดเจนวาทุกคนรวมถึงตัวนางเองดวยกำลังพัฒนาขึ้น
ซึ่งทำใหนางยินดีเปนอยางมากและรูสึกมีความหวัง นางเชื่อมั่นวาความยากลำบากใน
สงครามนั้นเปนเรื่องชั่วคราว แลวชัยชนะในตอนสุดทายจะเปนของพวกเขา
เรื่องเดียวที่นางเปนหวงก็คืออายฮุย
หลังจากการประชุมจบลง นางก็เดินตรงไปหาเขาในทันที
กอนจะมาถึงกระโจมของอายฮุย นางเห็นโหลวหลานออกคำสั่งสมาชิกหนวย
กระบี่สายฟาใหปกกระบี่จำนวนมากลงบนพื้น
ดูเหมือนจะเปนคายกลกระบี่บางอยาง
เมื่อนางเดินเขาไปใกล ก็ถามขึ้นดวยความสงสัย “โหลวหลานทำอะไรอยู อายฮุย
เปนอยางไรบาง”
“เสวี่ย มั่น พวกเรากำลังจัดตั้ งค ายกลกระบี ่ ” โหลวหลานตอบอยา งรวดเร็ว
“โหลวหลานอยากลองดูวาคายกลกระบี่นี้จะชวยอายฮุยไดหรือไม”
คายกลกระบี่ ชวยอายฮุยหรือ
ซือเสวี่ยมั่นตกตะลึงไปชั่วขณะ รูสึกสับสนเล็กนอย แตก็ไมขัดขวางโหลวหลาน
นางแคยืนอยูดานขางมองดูพวกเขาทำงานกันอยางเงียบๆ โหลวหลานเปนคนที่มี
ทักษะการแพทยดีเยี่ยม นั่นแสดงวาเขาตองมีสาเหตุที่ทำเชนนี้
เชนเดียวกับซือเสวี่ยมั่น สมาชิกหนวยกระบี่สายฟาก็รูสึกสงสัยเชนกัน
โหลวหลานแบกอายฮุยออกมาจากกระโจมอยางระมัดระวัง
เมื่อซือเสวี่ยมั่นเห็นอายฮุย ก็รูสึกตกใจอยางชวยไม ได แสงสีทองเขมข นแผ
ออกมาจากรางของอายฮุย เสมือนมีดวงอาทิตยอยูในรางกายเขา
เปนรัศมีพลังที่ทรงอำนาจ!
ลึกลงไป ซือเสวี่ยมั่นรูสึกตกตะลึง แสงสีทองแผรังสีที่ทรงอำนาจอยางยิ่งแบบที่
นางไมเคยพบเจอมากอน
ซือเสวี่ยมั่นสัมผัสไดถึงรัศมีพลังที่ตางไปอยางสิ้นเชิง ในตำหนักปฐพีของอายฮุย
เหมือนจะมีกระบี่ที่แหลมคมจำนวนมากวายวนอยู ซึ่งแผรัศมีพลังที่เย็นเยียบราวกับ
ไอหมอกเย็นจากน้ำแข็งหมื่นป
สีหนาตกใจปรากฏขึ้นบนใบหนาของสมาชิกหนวยกระบี่สายฟา ทุกคนตางก็เปน
มือกระบี่ พวกเขายอมรูดีวานี่เปนปราณกระบี่ หากแตไมเคยเห็นปราณกระบี่ที่เขมขน
เชนนี้มากอน
พวกเขารูสึกวากำลังอยูทามกลางทะเลกระบี่ คลื่นบนพื้นผิวทะเลอาจดูไมนากลัวนัก
แตลึกลงไปในทะเล มีกระบี่ที่พลุงพลานอยูนับไมถวน
กูเซวียนจองมองอายฮุยอยางเหมอลอย
เขารูดีวาเจานายนั้นแข็งแกรงเพียงใด เขายอมแพใหกับฐานะ “ปรมาจารยสายฟา”
และ “ปรมาจารยกระบี่” ของเจานาย อยางไรก็ตาม เขาไมคาดคิดวาเจานายนั้นจะมี
ความเขาใจในวิถีกระบี่ลึกซึ้งถึงเพียงนี้!
หรือวานี่คือ...สิ่งที่เรียกวา “เจตนกระบี่” ที่กลาวถึงในคัมภีรโบราณจากยุคสมัย
แหงการบำเพ็ญตน
มีการถกเถียงมากมายเกี่ยวกับเจตนกระบี่ บางก็พูดถึงการมีอยูของมันอยางเลิศเลอ
บางก็บรรยายราวกับวามันเปนเหมือนกับเทพเจา และบางก็รูสึกวาเปนเพียงเรื่องที่
เขาใจกันผิดไปและไมเคยมีอยูเลย
กูเซวียนก็ไมแนใจวานี่คือสิ่งที่ เรี ยกว าเจตนก ระบี่ จริงหรือ ไม กระนั้นก็ตาม
ในตอนนี้เขารูสึกหลงใหลในรัศมีพลังนี้อยางที่สุด รัศมีพลังที่บริสุทธิ์และเย็นเยียบทำ
ใหเขารูสึกราวกับวามีปลายกระบี่จี้มาที่หวางคิ้ว ขนทุกเสนลุกชันอยางไมอาจควบคุม
ได แตเขาก็รูสึกดีกับสัมผัสนี้ สำหรับคนที่หลงใหลในวิถีกระบี่ ปราณกระบี่ที่บริสทุ ธิ์
และเย็นเยียบนั้นเปนเหมือนกับสายลมที่ยอดเยี่ยม ยากที่จะแยกตัวจากไปได
โหลวหลานบรรจงวางอายฮุยไวในคายกลกระบี่และดวงตาก็กะพริบแสงสีแดง
คายกลกระบี่นี้คือ [คายกลกระบี่ดาวเหนือ] ที่เรียบงาย กระบี่รวมใจก็ใชในการ
จัดคายกลนี้ ยอนไปกอนหนานี้ เจาบอดเหอไดหลอมสรางกระบี่รวมใจและมีสวนหนึ่ง
เก็บสำรอง แมวากระบี่รวมใจจะมีตนทุนในการหลอมสรางสูงมาก พวกเขาก็ตองใช
มันในการสรางคายกลกระบี่เพราะไมมีเวลาและสายเกินไปที่จะหลอมสรางกระบี่
ขึ้นมาใหม
คายกลกระบี่ไมมีปฏิกิริยาใด
ภายในคายกลกระบี่ อายฮุยไมมีปฏิกิริยาเชนกัน แสงสีทองในรางกายของเขานั้น
มั่นคงอยางยิ่ง และปราณกระบี่ที่หมุนวนก็ยังคงเปนเหมือนเชนเคย ไมเปลี่ยนไป
แมแตนอย
ครึ่งชั่วยามผานไป
โหลวหลานไมเคลื่อนไหว ทวาแสงสีแดงในดวงตาของเขากะพริบอยางเปนจังหวะ
ซือเสวี่ยมั่นนั่งลง มองไปทางอายฮุยอยางเหมอลอยเอามือเทาคาง จิตใจนางลอย
ไปและยากจะบอกไดวานางกำลังคิดสิ่งใดอยู
ในหมูสมาชิกของหนวยกระบี่สายฟา มีเพียงกูเซวียนเทานั้นที่ยังคงรักษาความ
เยือกเย็นเอาไวได คนอื่นลวนมีสีหนาเปนกังวล
จนถึงตอนนี้ก็ยังไมมีปฏิกิริยาใด
เปนไปไดหรือไมวาวิธีนี้ไมไดผล
ทันใดนั้น เสียงสั่นสะเทือนเบาๆ ก็กวาดผานอากาศ
คนที่มีการไดยินแหลมคมสะดุงโหยง ซือเสวี่ยมั่นยืนขึ้นและมองไปที่คายกลกระบี่
เชนเดียวกับคนอื่นที่กลั้นหายใจในขณะที่มองไปยังคายกลกระบี่
แสงสีแดงในดวงตาโหลวหลานยังคงกะพริบอยางเปนจังหวะตอไป
กระบี่รวมที่อยูใกลกับอายฮุยสั่นสะเทือนเล็กนอย เสียงสั่นสะเทือนที่แผวเบานั้น
เกิดขึ้นจากกระบี่นั้น!
มันสั่นสะเทือนเล็กนอยจนแทบไมมีใครเห็นการเคลื่อนไหวของมัน บางคนอาจ
เขาใจผิดวาเปนเพราะลมพัด การสั่นสะเทือนนี้ก็แผวเบาอยางมากเชนกัน หากไมใช
เพราะทุกคนกำลังทุมความสนใจอยางเต็มที่ ก็คงพลาดรายละเอียดไป
ไมมีลมพัดมาแมแตนอย
กระบี่รวมใจเริ่มสั่นมากขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถมองเห็นการสั่นสะเทือนไดดวยตาเปลา
กระบี่เลมที่สองก็เริ่มสั่นขึ้นมาเชนกัน
จากนั้นก็ตามมาดวย กระบี่เลมที่สาม เลมที่สี่...
เสียงสั่นจากกระบี่รวมใจไดยินอยางชัดเจนแลวในตอนนี้
กูเซวียนเบิกตากวางดวยความกังขา เขาดูเหมือนจะเห็นรองรอยของพลังที่ดูราว
กับหมอกซึมเขาไปในรางกายของอายฮุย
นั่นมัน...
ไมมีใครบอกไดวารองรอยที่เหมือนกับหมอกนั้นคืออะไร ในตอนนี้ ทุกคนรวมถึงซื
อเสวี่ยมั่นกำลังลุมหลงอยูกับคายกลกระบี่
เสียงสั่นนั้นเหมือนกับเสียงผึ้งกระพือปกดวยความเร็วสูง
กระบี่รวมใจทุกเลมแผแสงออนโยนออกมา เมื่อเกิดการสั่นขึ้นเล็กนอย กระบี่รวมใจก็
กอใหเกิดลำแสงพราเลือน ในที่สุด [คายกลกระบี่ดาวเหนือ] ก็แผแสงแวววาวหอม
ลอมอายฮุยเอาไว
จากความเงียบงันอยางที่สุด บัดนี้พื้นที่เต็มไปดวยเสียงกระบี่กำธร ตลอดเวลา
เสียงกระบี่กำธรสรางความเย็นเยียบที่ทุกคนหวาดกลัวจับใจ
เสียงกระบี่กำธรที่ดังกองเปลี่ยนเปนเสียงกรีดรองที่แสบหู คลายกับเสียงรองของ
นกกระเรียน
ชิ้ง!
ประกายกระบี่แหลมคมเย็นเยียบฉายผานดวงตาทุกคนและหายไป
แสงเรืองและเสียงกระบี่กำธรจางหายไป มันเหมือนกับวาทุกอยางกลับไปเปน
ปกติและไมมีอะไรเปลี่ยน
โผละ เสียงแตกเบาๆ ดังกองไปในอากาศ
กระบี่รวมใจเลมหนึ่งแตกละเอียดเปนผุยผง หายไปในอากาศราวกับหมอกควัน
โพละ โพละ โพละ กระบี่รวมใจที่เหลือแตกละเอียดเปนผุยผงและสลายหายไปใน
อากาศเชนเดียวกัน
แมแตดามกระบี่ก็สลายเปนผุยผงเชนเดียวกัน
สายตาของซือเสวี่ยมั่นสำรวจมองรางกายของอายฮุ ยอย างละเอียด จากนั้น
ประกายความยินดีก็ฉายขึ้นในดวงตางดงามของนาง แสงสีทองในรางกายอายฮุย
ยังคงเหมือนเดิมแตปราณกระบี่ที่พลุงพลานในรางกายของอายฮุยดูเหมือนจะเขมขน
ขึ้นเล็กนอย
ความเขมขนที่เพิ่มขึ้นของปราณกระบี่นั้นเล็กนอยมาก ผูใชพลังธาตุทั่วไปไมอาจ
สัมผัสได แตมันไมอาจรอดพนไปจากสายตาของซือเสวี่ยมั่น
แสงสีแ ดงในดวงตาของโหลวหลานนั้ น หยุ ดกะพริ บ ในตอนที่ เขาส งเสี ยงรอง
ออกมาอยางราเริง “โหลวหลานหาทางแกไดแลว!”
โหลวหลานแบกอายฮุยไวบนหลังอยางระมัดระวังกลับเขาไปในกระโจม และวิ่ง
ออกไปราวกับสายลม
เมื่อซือเสวี่ยมั่นมองไปที่ภาพหลังของโหลวหลาน ริมฝปากนางก็โคงเปนรอยยิ้ม
และประกายความหวังฉายขึ้นในดวงตา หินหนักในหัวใจของนางถูกยกออกไป นาง
กำทวนเมฆายอมสวรรคในมือแนนและจากไป
นางตองเตรียมพรอมสำหรับการศึกในวันพรุงนี้

ชางฝมือทั้งหมดถูกสั่งใหหยุดสิ่งที่กำลังทำอยูและมารวมตัวกัน เนื่องจากอายฮุย
ไดรีดไถมาตลอดทางที่เดินทางมายังแนวรบ จำนวนชางฝมือที่พวกเขามีในตอนนี้จึง
มากมายเปนอยางยิ่ง หากมีใครมองมาจากระยะไกลก็จะพบวาพวกเขานั้นแนนขนัด
จนดูเปนกลุมกอนสีดำ
แมวาสวนใหญแลวจะมีความสามารถธรรมดาสามัญ แตก็ยังมีจำนวนมากมายถึง
หาพันคน มีเพียงเมืองเทียนซินที่มีจำนวนชางฝมือมากมายขนาดนี้ และจำนวนนี้มี
เพียงแคชางฝมือของสภาผูอาวุโสเทานั้นที่มีได
ไมมีใครยินยอมมอบชางฝมือระดับปรมาจารยแกอายฮุย และเขาก็ไมอาจทำ
อะไรได อยางไรก็ตาม อายฮุยไมไดจูจี้มากนัก เขาไมสนใจวาชางฝมือพวกนี้จะมี
ระดับสูงแคไหน แคกวาดตอนทั้งหมดที่เขารวบรวมไดมา
เพราะจำนวนชางฝมือจำนวนมากมายที่ขุมกำลังซงเจียนมี พวกเขาจึงสามารถเรง
การผลิตปนใหญหนักรวงผึ้งสำหรับการทำศึกได และเนื่องจากการหลอมสรางจำนวน
มากนี้จึงมีปนใหญหนักรวงผึ้งมาใหพันธมิตรเจดียปนใหญฝกซอมประจำวันไดอยางไม
ขาดแคลน
ชางฝมือรูสึกสงสัยเล็กนอย ทุกคนกระซิบกระซาบกันและพยายามสืบคนวาเกิด
อะไรขึ้น
กำหนดการประจำวันของพวกเขานั้นเต็มแนนและนี่เปนครั้งแรกที่ถูกเรียกใหมา
รวมตั ว กั น เช น นี ้ หากไม ใ ช เ พราะว า พวกช า งฝ ม ื อ เหล า นี ้ ไ ด ร ั บ การดู แ ลและ
ผลประโยชนอยางดีแลว พวกเขาคงคิดวาตัวเองจะถูกสงเขาสูสนามรบ
ผานไปครูหนึ่ง ปรมาจารยเหอและปรมาจารยหลี่ก็มาถึง
เมื่อมีครูอาวุธระดับปรมาจารยทั้งสองอยูที่นี่ ชางฝมือทุกคนก็เงียบลงในทันที
สีหนาของปรมาจารยเหอยังคงเดิมเชนเคย เขามีสีหนาเย็นชาไมสนใจใครเสมอมา
อยางไรก็ตาม ปรมาจารยหลี่ที่ปกติใจกวางนั้นดูเครงเครียดเปนอยางยิ่งในตอนนี้
เขากวาดตามองไปทั่วและเริ่มพูดดวยเสียงที่เครงขรึม
“ทุกคน หยุดสิ่งที่กำลังทำอยู เรามีภารกิจเรงดวนเขามา”
เสียงพูดคุยอื้ออึงดังขึ้น จากนั้นบางคนก็ตะโกนขึ้น “เราตองหยุดสรางปนใหญ
หนักรวงผึ้งดวยหรือไม”
“ใชแลว!” หลี่โฮวถังมีสีหนาเครงเครียดและน้ำเสียงก็เต็มไปดวยความมุงมั่นแนวแน
“งานทั้งหมดที่ทำอยูในตอนนี้ตองวางเอาไวและเราจะตองทำงานดวนนี้ใหเสร็จกอน”
ความเย็นเยียบไหลลงมาตามสันหลังของทุกคน จากน้ำเสียงของปรมาจารยหลี่
ภารกิจใหมนี้ตองมีความสำคัญเปนอยางมาก
ประกายแวววาวฉายขึ้นในดวงตาของหลี่โฮวถัง เขาออกคำสั่งอยางเครงเครียด
“ในครั้งนี้ งานของเราคือหลอมสรางกระบี่ นับตั้งแตนี้ไป ทุกคนจะตองหลอมสราง
กระบี่! ทรัพยากรไดถูกจัดเตรียมเอาไวแลว”
หลอมสรางกระบี่เชนนั้นหรือ
ทุกคนตกตะลึงและเกาหัวดวยความสงสัย ทำไมพวกเขาตองใชคนมากมายเพียง
นี้หลอมสรางกระบี่ ทำไมพวกเขาตองการกระบี่มากมายถึงเพียงนี้
หลี่โฮวถังไมไดอธิบายตอแตกลับทิ้งระเบิดใสพวกเขา
“เปาหมายแรกคือหลอมสรางกระบี่ขึ้นมาหมื่นเลม”
หลังจากเงียบงันไปครูหนึ่ง พวกชางมีมือก็สงเสียงอื้ออึงขึ้นมา!
เปาหมายแรกก็คือสราง...หมื่นกระบี่!
บทที่ 617 ทำการทดลองกับคายกลกระบี่
แมวามั่วเสาจวินและพวกจะไมอาจยึดแนวปองกันได เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวก็ยัง
กลาวชมพวกเขาและยืนยันวาพวกเขามีผลงานทางทหารเปนอยางมาก
ไพรพลคายอสูรของมั่วเสาจวินเสียหายอยางหนักและหมดสภาพ เขามีผูใชพลัง
ธาตุโลหิตเหลืออยูอีกมาก แตปลาคางคาวหลังกวางนั้นถูกใชไปจนหมด
อยางไรก็ตาม มั่วเสาจวินเตรียมพรอมกับเรื่องนี้แลว ไมเพียงแคเขา ผูนำคายอสูร
อีกสามคนก็เปนเชนเดียวกัน คายอสูรถูกสรางขึ้นมาก็เพื่อเสียสละ
สิ่งสำคัญก็คือพวกเขาเสียสะเพื่อสิ่งที่มีความหมาย
กลศึกของเขาในวันนี้ไดเปดหูเปดตาคนอื่นอยางมาก
การพึ่งพาแคปลาคางคาวหลังกวางเพียงอยางเดียวนั้นไมเพียงพอที่จะทำลาย
แนวปองกันลงได แตการใชวิธีการที่หลากหลายจะสรางผลลัพธที่ดีกวา
ประโยชนจากการใชหญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งนั้นเกินกวาความคาดคิดของพวกเขามาก
หากพวกเขาเตรียมตัวมาอยางเพียงพอ ผลการตอสูคงดีไปกวานี้อีก ในทางกลับกัน
พวกเขาประหลาดใจมากที่กองกำลังศัตรูสามารถหาทางแกปญหาเรื่องหญาตั๊กแตน
น้ำคางแข็งไดรวดเร็วมาก นี่พิสูจนวาศัตรูนั้นผานการฝกมาเปนอยางดีและเปนพวกไม
ยอมใคร
หลังจากการประชุมหลังการศึก ผูนำคายอสูรทั้งสี่รวมตัวกันเพื่อปรึกษาวายังมีวิธี
อื่นนอกเหนือไปจากหญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งอีกหรือไม
สีหนาของมั่วเสาจวินกลับมาเปนปกติแลว เขาเปนคนที่ไรความรูสึก ไมไดรูสึก
เศราเพราะผูใตบังคับบัญชาไดรับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แตเปนเพราะความคืบหนาใน
การตอสูกับศัตรูนั้นเล็กนอยเกินไป
ในตอนนี้ เขาไดสติกลับคืนมาแลวและนำเสนอความคิดอยางมีชีวิตชีวา เขาไมได
ทำตัวแยลงเพียงเพราะวาผูนำการตอสูในวันพรุงนี้จะเปนคนอื่น
เขารูอยางชัดเจนวาตองเอาชนะเทานั้นจึงจะกอบกูทุกอยางได
การพายแพจะทำใหความเสียสละทั้งหมดสูญเปลา
มีเพียงเฮอเหลียนเทียนเสี่ยวและซงเสี่ยวเชี่ยนเหลืออยูในคายของหนวยเทพหมาปา
ซงเสี่ยวเชี่ยนรายงานตอเฮอเหลียนเทียนเสี่ยวดวยสีหนาเครงเครียด “เราไดทำ
การสำรวจระยะรอยลี้จากจุดนี้และพบจุดที่มีความเปนไปไดหกจุด อยางไรก็ตาม เรา
ยังจำเปนตองใชเวลาเพิ่มเติมในการตัดสินใจเรื่องตำแหนงสุดทาย”
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวพยักหนาพรอมยิ้ม “ไมจำเปนตองรีบ วันนี้การโจมตีของ
พวกเรานั้นมีประสิทธิภาพทีเดียว ขามั่นใจวาศัตรูจะตองตะลึง”
“ขาเองก็ไมคาดคิดวามั่วเสาจวินจะสามารถทำสำเร็จไดถึงเพียงนี้ การที่ใตเทา
เคลื่อนไพรพลคายอสูรมานั้นสงผลใหเห็นในทันที” ซงเสี่ยวเชี่ยนยิ้มออกมา
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวระเบิดหัวเราะ “พูดตามตรง ขาก็ไมคาดหวังวาพวกเขาจะ
ประสบความสำเร็จในระดับนี้ ขาคาดหวังวาจะไดเห็นวิธีที่พวกเขาใชในวันพรุงนี้ ขา
ไมสนใจวาวิธีนั้นจะไดผลหรือไม ตราบใดที่พวกเขาสามารถสรางแรงกดดันใหกับกอง
กำลังศัตรูและทำใหพวกมันไขวเขวได ขาก็ไมสนวาพวกเขาจะทำอะไร”
“ใตเทากลาวถูกตองแลว”
ซงเสี่ยวเชี่ยนเห็นดวยกับคำพูดของเฮอเหลียนเทียนเสี่ยวอยางสุดหัวใจ
“เจาไมจำเปนตองกังวล เรายังมีเวลา อยางไรก็ตาม เจาตองทำใหมั่นใจวาแผนที่วาง
ไวจะประสบความสำเร็จ ไมลมเหลวเมื่อลงมือจริง” เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวพูดดวย
เสียงทุมลึก
“ขาจะทุมเทเต็มความสามารถเพื่อการตอสูนี้! ขาจะมีชีวิตอยูไดก็ตอเมื่อขาทำ
สำเร็จ หากขาทำลมเหลวก็ยินดีที่จะตาย!” ซงเสี่ยวเชี่ยนคำนับและพูดอยางจริงจัง
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวมีสีหนาเปนปกติและกลาวตอ “อยาคิดวาขากดดันเจา
ในตอนนี้ เราลงเรือลำเดียวกันแลว ชัยชนะเปนความหวังเดียวของพวกเราในตอนนี้”
“ผูนอยเขาใจแลว!” ซงเสี่ยวเชี่ยนตอบอยางแนวแน
“ไป”
“ทราบ!”

ในหุบเขาไมไกลจากพื้นที่หลอมสราง
ตนหญาและพุมไมทั้งหมดในหุบเขาถูกเผาไหมจนไมเหลือสิ่งใด
เหอฮวนเดินตามกูเซวียนเขาไปในหุบเขา เขามองไปรอบๆ รูสึกเปนกังวล เปนไป
ไดหรือไมวาพวกเขาพบตัวตนที่แทจริงของเขาแลว พวกเขาจะนำเขามายังที่กันดาร
เชนนี้เพื่อที่จะฆาทิ้งอยางนั้นหรือ เขาเคนสมองคิดวาเขาทำอะไรผิดพลาดไปจน
เปดเผยตัวตนออกมา
วันนี้เขาไดรับคำสั่งจากจอมพลใหเขาติดตามกูเซวียนมายังสวนหลังเพือ่ ใหความ
รวมมือ คำสั่งของจอมพลนั้นคลุมเครืออยางมาก
นับตั้งแตเขาไดรับคำสั่งมา เขาก็รูสึกกระวนกระวายใจมาตลอด จากการตอสูที่
รุนแรงกวาปกติในวันนี้ ก็พอจะจินตนาการถึงความรุนแรงของการศึกในวันพรุงนี้ได
ดังนั้นเขาจึงอดรูสึกเปนกังวลอยางมากไมไดเมื่อไดรับคำสั่งใหถอนตัวจากแนวรบมา
อยูดานหลัง โดยเฉพาะเมื่อคำสั่งนั้นคลุมเครือมาก
แมกระนั้น เขาก็สะกดอารมณเอาไวอยางมาก แมวาเขาจะรูสึกเปนกังวลอยูลึกๆ
ก็ยังรักษาทาทีภายนอกเอาไวได
เขาสังเกตเห็นกองกระบี่อยูในหุบเขาที่วางเปลา รูสึกสงสัยจึงถามขึ้น “ใตเทากู
เรามาที่นี่ทำไม”
กูเซวียนเปนรองจอมพลของหนวยกระบี่สายฟา ดังนั้นเขาจึงมีตำแหนงที่สูงกวา
เหอฮวน เหอฮวนจึงไดเรียกเขาวา “ใตเทา” แมวาหนวยกระบี่สายฟาจะมีคนแคไมกี่
รอยคน แตก็ไมมีใครกลาประมาทพวกเขา
“อันที่จริงแลว เราตองทำการทดลองคายกลกระบี่หลายประเภท อยางไรก็ตาม
ขุนพลเหอควรจะรูวาตอใหพวกเราเปนมือกระบี่ แตก็ไมคุนเคยกับคายกลกระบี่มาก
นัก ดังนั้นขาจึงรองขอใหใตเทาคุนหลุนสงมือกระบี่ที่เชี่ยวชาญเรื่องคายกลกระบี่มา
ชวยพวกเราจัดตั้งคายกลกระบี่ ใตเทาคุนหลุนแนะนำขุนพลเหอมาใหพวกเรา นางยก
ยองขุนพลเหอวาเปนผูเชี่ยวชาญในเรื่องการจัดตั้งคายกลกระบี่ ดังนั้นเราจึงขอรอง
อยางไรยางอายใหใตเทาคุนหลุนสงขุนพลเหอมาชวยเหลือพวกเรา” กูเซวียนตอบ
อยางสุภาพ
เหอฮวนถอนหายใจอยางโลงอกอยูในใจ สรุปแลวตัวตนของเขายังไมถูกเปดโปง
ที่ขอบฟาคุนหลุนชื่นชมวาเขาเชี่ยวชาญในเรื่องคายกลกระบี่นนั้ ไมใชการพูดเกินจริง
เหอฮวนเปนหนึ่งในผูอาวุโสของพันธมิตรกระบี่คุนหลุน และยังเปนมือกระบี่ที่เขารวม
คนแรกๆ เขาติดตามขอบฟาคุนหลุนมาเปนเวลานานและมีความเชี่ยวชาญในคายกล
กระบี่เหนือคนสวนใหญ
หลังจากผอนคลายมากขึ้น เหอฮวนก็คิดไดอยางมีชีวิตชีวาอีกครั้ง อยางไรก็ตาม
เขายังมีความสงสัยอีกมาก ทำไมพวกเขาถึงสงเขามาเพื่อสรางคายกลกระบี่ในขณะที่
สงครามกำลังอยูในจุดสำคัญเชนนี้
“คายกลกระบี่หรือ ขาขอทราบไดหรือไมวาจะใชคายกลกระบี่ทำอะไร” เหอฮวน
ถามดวยความสงสัย
“เราพยายามที่จะหาคายกลกระบี่ที่เหมาะสม” กูเซวียนตอบ
“แบบไหนที่เรียกวาเหมาะสม” เหอฮวนสงสัยมากขึ้นกวาเดิม
กูเซวียนสายหนาและตอบ “เรายังไมรู และนี่คือสาเหตุที่เราตองการขุนพลเหอ
ใหม าชว ยจัดตั้งคา ยกลกระบี่ทุก ชนิ ดที ่ ท  า นรู  จ ั ก ก อ นที ่ เราจะได รู  ว  า แบบไหนที่
เหมาะสม”
“คายกลกระบี่ทุกชนิดเชียวหรือ” เหอฮวนตกตะลึง
แมวาขอบฟาคุนหลุนจะดูแลหนวยขอบฟา แตนางก็ไมเคยหยุดศึกษาและพัฒนา
คายกลกระบี่ ดวยความหวังที่จะสราง “สารานุกรมกระบี่” ขึ้น ไมเพียงแคนาง แต
ผูคนมากมายในพันธมิตรกระบี่คุนหลุนก็ทำสิ่งเดียวกัน คายกลกระบี่ทั้งหมดที่พวก
เขาคิดขึ้นถูกบันทึกเอาไวในสารานุกรมกระบี่ที่ยังไมเสร็จสมบูรณ
จำนวนคายกลกระบี่ที่มีในสารานุกรมกระบี่นั้นเพิ่มมากขึ้นทุกป
จนถึ ง ตอนนี ้ ม ี ค  า ยกลมากมายกว า หนึ ่ ง พั น หกร อ ยชนิ ด ที ่ บ ั น ทึ ก เอาไว ใ น
สารานุกรมกระบี่
ดังนั้นเมื่อเหอฮวนไดยินกูเซวียนบอกวา “คายกลกระบี่ทุกชนิด” เขาก็ตกตะลึง
กูเซวียนมีสีหนาจริงจัง เขายืนยันอีกครั้ง “ใชแลว! ทุกชนิด!”
เมื่อเหอฮวนเห็นกองกระบี่ที่ทับซอนสูงเปนภูเขาภายในหุบเขาแหงนี้ เขาก็พลัน
ตระหนักไดวากูเซวียนไมไดลอเลน เห็นไดชัดวากระบี่พวกนี้ถูกหลอมขึ้นเมื่อไมนาน
มานี้ บางเลมยังมีควันขึ้นมาอยูเลยและบางเลมก็ยังไมไดลับ
เหอฮวนรูสึกสงสัยมากขึ้นกวาเดิม เขาเคนสมองขบคิดแตก็ยังไมอาจเขาใจไดวา
คนพวกนี้กำลังทำอะไรอยู คำพูดของกูเซวียนนั้นทำใหเขางงงัน
เมื่อเขาเห็นสีหนาจริงจังของกูเซวียน เขาก็กลาวเตือนเอาไวกอน “สารานุกรม
กระบี่ฉบับลาสุดมีคายกลกระบี่บันทึกเอาไวมากกวาหนึ่งพันหกรอยชนิด ขาจดจำได
แคประมาณเการอยชนิดเทานั้น”
กูเซวียนพยักหนาและตอบ “เชนนั้นก็จัดสรางเการอยกวาแบบที่วานั่น! ขอบคุณ
ที่ใหความรวมมือขุนพลเหอ!”
กูเซวียนรูสึกอับอายกับตัวเองเล็กนอย
เมื่อมองไปที่เหอฮวน เขาก็เปนมือกระบี่คนหนึ่งแตกลับสามารถจดจำคายกล
กระบี่ไดถึงเการอยกวาชนิด!
กูเซวียนเองจดจำคายกลกระบี่ไดแคสิบกวาชนิดเทานั้น ทั้งที่ในหนวยกระบี่
สายฟาวิถีกระบี่ เขาเปนรองเพียงแคอายฮุย
เมื่อไดยินคำตอบของกูเซวียน เหอฮวนก็ตอบกลับไปตรงๆ “ขาจำเปนตองไดรับ
ความชวยเหลือ”
“ทุกคนในหนวยกระบี่สายฟายินดีรับฟงคำสั่งของขุนพลเหอรวมถึงตัวขาเองดวย
หากยังไมพอ ขาจะไปตามคนมาเพิ่ม” กูเซวียนตอบ
“เพียงพอแลว เพียงพอแลว” เหอฮวนกลาวอยางรีบเรง
เมื่อเหอฮวนรับภารกิจ เขาก็ทำมันอยางประณีตบรรจงทุมเทหัวใจและวิญญาณลงไป
การจัดสรางคายกลกระบี่เการอยกวาชนิดเปนบททดสอบครั้งใหญสำหรับเขา
เขารูสึกวากำลังไดรับการทดสอบอยางยากลำบาก เขาตองคนความทรงจำทั้งหมดที่มี
และนี่ไมใชเรื่องงายเลย
แมวากูเซวียนและพวกจะไมคุนเคยกับคายกลกระบี่ พวกเขาก็ยังระบุไดวาคาย
กลกระบี่ถูกจัดตั้งผิดรูปแบบหรือไม
ดวยความชวยเหลือของทุกคนในหนวยกระบี่สายฟา กระบวนการก็ดำเนินไป
อยางรวดเร็วกวาที่เหอฮวนคาดคิดไว แตกระนั้น พวกเขาก็ตองใชเวลาทั้งคืนกวาจะ
จัดสรางคายกลกระบี่เการอยกวาชนิดขึ้นมาได
ดวงตะวันลอยขึ้นที่ขอบฟา หุบเขาอันวางเปลากอนหนานี้เต็มไปดวยคายกลกระบี่
ทุกคนยืนอยูบนเนินเขาดานขางหุบเขาและมองลงไปในหุบเขา หัวใจเต็มไปดวย
ความรูสึกสำเร็จ ความเหนื่อยลาจากการทำงานตลอดทั้งคืนดูเหมือนจะลดลงอยาง
เห็นไดชัด
ทันใดนั้น บางคนก็ตะโกนขึ้น “ดูนั่น มีรอยหมอก!”
ทุกคนเพงมองไปยังหุบเขา มีรองรอยของหมอกสีขาวจางๆ อยูในหุบเขาอยาง
ลึกลับดวย รอยหมอกนั้นออนจางอยางมาก รัศมีพลังที่เย็นเยียบและแหลมคมนั้น
สามารถสัมผัสไดอยางชัดเจนแมวาพวกเขาจะอยูหางออกมามาก
หมอกนั้นเขมขนขึ้นเรื่อ ยๆ สิ ่ งที ่ แ ปลกประหลาดก็ คื อ มั น เปลี ่ ย นสี อ ยู  เสมอ
บางครั้งก็เปนสีขาวเฉกยอดภูเขาน้ำแข็ง สีแดงเฉกดวงอาทิตยอรุณ สีฟาออนเฉก
ทองฟา และสีเงินดั่งกระบี่
“ทำไมมันถึงไดดูเหมือนกับทะเลหมอกเงิน”
“พอเจาพูดขึ้นมาแลวก็ดูเหมือนทะเลหมอกเงินจริงๆ”
“ทะเลหมอกเงินอะไรกัน นั่นมันทะเลหมอกกระบี่!”
เมื่อเหอฮวนไดยินเสียงพูดคุยอยางตื่นเตนของสมาชิกหนวยกระบี่สายฟา สมอง
ของเขาก็เริ่มทำงานอยางเงียบงัน หรือวาพวกเขาพยายามที่จะสรางทะเลหมอกเงิน
ขึ้นใหม แตทำเชนนั้นแลวมีประโยชนอะไร ทะเลหมอกกระบี่หรือ
เขาไมอาจคิดหาคำอธิบายที่มีเหตุผลได ภาพอันนาอัศจรรยในหุบเขาตรงหนาทำ
ใหเขาตกตะลึง เขาตระหนักวาคายกลกระบี่ในหุบเขานั้นสรางขึ้นจากกระบี่ประมาณ
หนึ่งหมื่นเลม
หมื่นกระบี่ยอมหมายถึงทรัพยากรและแรงงานจำนวนมากมายมหาศาล
ในตอนที่พวกเขาจัดสรางคายกลกระบี่ กระบี่จำนวนมากก็ถูกสงมายังหุบเขา
อยา งไมข าดสาย เห็นไดชัดวา กระบี่ พ วกนี้ เพิ ่ งออกมาจากเตาหลอม บางเล ม ยัง
เปลงแสงสีแดงเจิดจาอยูเลย
คายกลกระบี่มากมายพวกนี้จะสรางขึ้นไดก็ตองใชทรัพยากรและแรงงานจำนวน
มากมายมหาศาล บางทีมีแตคนกลุมนี้เทานั้นที่จะใชทรัพยากรอยางสิ้นเปลืองเชนนี้ได
เหอฮวนรูสึกวาพวกเขากำลังใชทรัพยากรไปอยางสิ้นเปลือง เขาไมอาจคิดหา
เหตุผลที่พวกเขาจะทำอยางนี้ได
แมวาเหอฮวนจะไมรูวาพวกเขากำลังพยายามทำอะไร แตก็ยังถามขึ้นอยางสบายๆ
“หากทานตองการจะเพิ่มพลังของคายกลกระบี่ ทำไมพวกทานไมใชการเซนโลหิต”
เมื่อไดยินคำพูดของเหอฮวน กูเซวียนก็ถามขึ้นอยางรวดเร็ว “การเซนโลหิตคืออะไร”
“นี่เปนสิ่งที่พวกเราคนพบระหวางทำการศึกษาคายกลกระบี่โบราณ อันที่จริง
แลวมันก็ไมไดเขาใจยากนัก ขาคิดวาทุกคนเคยเห็ นมัน มาแลวจากคั มภี รโ บราณ
ทั้งหลาย กระบี่ที่ไมเคยลิ้มรสเลือดมากอนจะไมมีรัศมีพลังแหงความตาย กระบี่บินใน
ยุคสมัยแหงการบำเพ็ญตนนั้นขึ้นอยูกับเจาของที่จะหลอเลี้ยง และเลือดของศัตรูก็คือ
สิ่งที่เสริมกำลังใหกับกระบี่บินในทุกๆ วัน”
“ใชแลว มีเรื่องเชนนี้บันทึกไวจริง เราสามารถทดลองดูได” กูเซวียนพยักหนา
อยางไรก็ตาม เมื่อเขามองไปที่หุบเขา ก็รูสึกหงุดหงิดขึ้นมา “มีกระบี่มากมาย
เพียงนี้ เราจะไปหาเลือดมากมายจากไหนมาเซนพวกมันได”
เมื่อเหอฮวนคิดถึงจำนวนของกระบี่ในหุบเขา ก็รูสึกวาความคิดของเขานั้นตื้นเขินไป
จึงรีบกลาว “เมื่อไมมีการเซนโลหิตแมวาคายกลกระบี่จะออนแอลง มันก็ยังคงใชได”
ในตอนนั้น ดวงตะวันยามเชาก็ลอยขึ้น แสงอาทิตยสาดสองลงมาผานชองเขาเขา
สูหุบเขา
แสงแดดสะทอนออกมาจากกระบี่ในหุบเขาอยางตอเนื่อ ง ทันใดนั้นหุบเขาก็
เปลี่ยนเปนสวางเจิดจา
กระบี่ในหุบเขาดูเสมือนกับปา และหมอกก็เคลื่อนไปแมวาจะไมมีลมเลยสักนิด
รัศมีพลังอันแหลมคมอยางยิ่งพุงขึ้นสูทองฟา ทำใหทุกคนตองถอยหลังไปอยางไมรูตัว
เสียงกระบี่กำธรที่ดังกองไปในอากาศและกระบี่จำนวนนับไมถวนก็ลอยขึ้นจากพื้น
และบินไปทั่วภายในหุบเขา ภายใตแสงแดด กระบี่บินนั้นดูประหนึ่ งฝู งปลาที ่ ทอ
ประกาย คลองแคลวและปนปวน ดูราวกับวากระบี่เหลานั้นตองการที่จะตัดเฉือน
แมแตแสงตะวัน
เมื่อเห็นภาพที่นาตื่นตะลึงนี้ ทุกคนก็เงียบลงอยางพรอมเพรียง
บทที่ 618 หมอกกระบี่
เหอฮวนกลับไปยังหนวยขอบฟาดวยจิตใจอันเปยมดวยความสงสัย
โหลวหลานแบกอายฮุยเขาไปในหุบเขา
กูเซวียนถือบางอยางอยูในมือ ก็รีบเขาไปในหุบเขาเชนกัน
เขาอธิบาย “ขุนพลเหอไมไดบอกหรือวาคายกลกระบี่จะทำงานไดดีขึ้นหากมีการ
เซนโลหิต ขาเพิ่งไปที่สนามรบ เห็นศพปลาคางคาวหลังกวางมากมาย ขานำกลับมา
บางสวน เพื่อดูวาเราจะใชมันในการเซนโลหิตหรือไดหรือไม คงไมมีปญหาอะไรถาเรา
จะทดลองใชมันกับคายกลกระบี่สักคายหนึ่งใชไหม”
กูเซวียนมองไปที่โหลวหลานดวยสีหนาไมมั่นใจ
“เราทดลองดูได โหลวหลานเองก็ไมแนใจ ทดลองมันกับคายกลกระบี่สุดทาย”
โหลวหลานพยักหนา
กูเซวียนถอนหายใจออกมาอยางโลงอก เขาเกรงวาการทำไปดวยความหวังดีของ
เขาอาจกอใหเกิดปญหาได
ในครั้งนี้พวกเขาตองการคนหาวาคายกลกระบี่แบบไหนที่จะชวยอายฮุยไดมาก
ที่สุด ในตอนนี้ รางกายอายฮุยเหลือพลังเพียงสองอยาง โลหิตเทพปศาจและตัวออน
กระบี่ พวกเขากำลังพยายามชวยอายฮุยเอาชนะโลหิตเทพปศาจ
กอนหนานี้ [คายกลกระบี่ดาวเหนือ] ไดพิสูจนวาความคิดของโหลวหลานนั้น
ถูกตอง ในตอนนี้พวกเขากำลังหาวาคายกลแบบใดจะชวยเหลืออายฮุยไดมากที่สุด
กูเซวียนและพวกพบวาความแตกตางระหวางจำนวนความชวยเหลือที่คายกล
กระบี่แตละแบบจะชวยอายฮุยไดนั้นมีนอยมาก
อยางไรก็ตาม แมวาอัตราการชวยเหลือที่แตกตางกันของคายกลกระบี่แตละคาย
จะไมมากนัก ทวาความแตกตางระหวางคายกลกระบี่นั้นนับวามีไมนอย พวกเขา
ตองการจะหาคายกลกระบี่ที่สรางผลกระทบที่ดีที่สุดและใชจำนวนกระบี่นอยที่สุด
เพราะคายกลกระบี่นั้นจำเปนตองใชทรัพยากรและแรงงานไมใชนอยในการสรางขึ้น
พวกเขาตองการที่จะชวยอายฮุยใหมากที่สุดในขณะที่สิ้นเปลืองทรัพยากรและ
แรงงานนอยที่สุด
โหลวหลานผูชาญฉลาดสามารถทำใหทุกคนเชื่อถือได
โหลวหลานแบกอายฮุยมาและวางเขาลงอยางระมัดระวังลงไปในใจกลางหุบเขา
จากนั้น เขาก็รีบกลับไปยังสันเขาดานขางหุบเขา ดวงตากะพริบแสงสีแดงเมื่อ
ยามที่เขาสังเกตและบันทึกการเปลี่ยนแปลงทุกอยางที่เกิดขึ้นในหุบเขา แกนเที่ยงคืน
ในรางกายของเขาทำงานดวยความเร็วที่เพิ่มสูงขึ้น
คนอื่นก็กลั้นหายใจ เพราะไมกลาหายใจแรงเกินไป สายตาจองมองไปที่อายฮุย
อายฮุยนอนอยูบนพื้นหุบเขาอยางเงียบงัน หมอกและกระบี่ลอยอยูเหนือรางกาย
ของเขา
เวลาเหมือนจะแข็งคางไปในตอนนี้
ทุกอยางดูเงียบงันผิดปกติ จนถึงขั้นที่ทำใหคนรูสึกตื่นเตนขึ้นมา
หรือวามันไมไดผล
สีห นา สมาชิก บางคนเริ่มดูเป น กั งวลขึ ้ น มา พวกเขาทำงานกั น มาทั ้ งคื นและ
คาดหวังกับคายกลกระบี่นี้เอาไวอยางสูง
คนที่ขี้ขลาดก็หลับตาลงอยางลืมตัวไมกลามองสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
อายฮุยที่อยูภายในแดนมหัศจรรยนั้นตกตะลึง
การตอสูระหวางตัวออนกระบี่กับโลหิตเทพปศาจนั้นยังคงเปนเชนเดิม การตอสู
ยังคงเขมขนเหมือนเมื่อกอนและไมแสดงการออนขอแมแตนอย ทวาเมื่อเวลาผานไป
อายฮุยก็เริ่มรูสึกชาดาน
เขาไมอาจทำอะไรไดเลย
กอนหนานี้มีรองรอยบางอยางของเจตนกระบี่ที่เขามาในแดนมหัศจรรยนี ้และ
หนุนเสริมตัวออนกระบี่ อายฮุยรูวานี่ตองเปนความคิดในการหาทางแกปญหาของ
โหลวหลาน อยางไรก็ตาม เห็นไดชัดวาประสิทธิภาพของมันนั้นนอยมาก ทั้งโลหิตเทพ
ปศาจและตัวออนกระบี่ตางก็เปนยักษใหญที่มีพลังนาเกรงขาม พลังของพวกมันนั้น
เหนือกวาความรูของอายฮุย แมแตสายฟายังไมอาจเทียบได นั่นยอมบงบอกวามัน
ทรงพลังถึงเพียงไหน ยิ่งมันมีพลังที่บริสุทธิ์เขมขนมากเทาไร ก็ยิ่งเสริมความแข็งแกรง
ใหเพิ่มขึ้นไดยากมากเทานั้น
ร อ งรอยเจตน ก ระบี ่ ท ี ่ เ ข า มาช ว ยเสริ ม ตั ว อ อ นกระบี ่ น ั ้ น อ อ นแรงอย า งยิ่ ง
เหมือนกับเติมน้ำชามหนึ่งลงไปในทะเลสาบ ไมอาจมองเห็นความเปลี่ยนแปลงไดแต
อยางใด
ตัวอายฮุยเองก็คิดไมไดวาจะชวยเหลือตัวออนกระบี่อยางไร
เมื่อคิดวาตองหาพลังที่ทัดเทียมกับโลหิตเทพปศาจก็เพียงพอที่จะทำใหเขารูสึก
สิ้นหวังขึ้นมาแลว แตทวาในตอนนี้ อายฮุยรูสึกวามีบางอยางเขามาในรางกายและเขา
ก็ตกตะลึง
ในไมชาก็สังเกตเห็นวามันคือปราณกระบี่เบาบางอยางยิ่ง เขาสายหนาเพราะมัน
ไมมีสวนชวยตอสถานการณนี้แมแตนอย
ปราณกระบี่อีกสายก็พุงเขามาในรางกายของเขา สองสาย สามสาย...
เอะ อายฮุยตกตะลึง ปราณกระบี่จำนวนนับไมถวนไหลเขามาในตำหนักปฐพีซึ่ง
เปนที่อยูของตัวออนกระบี่
จำนวนนี้... ดูเหมือนจะไมถูกตอง...
ในขณะเดียวกัน สมาชิกหนวยกระบี่สายฟาบนสันเขาก็กำลังมองดูภาพอีกอยางหนึ่ง
หลังจากประสบกับความเงียบงันอยูชั่วขณะ เสียงกระบี่กำธรที่ดังกึกกองก็ดังผาน
อากาศมาและปลุกทุกคนใหตื่นขึ้น
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหนากูเซวียน กระบี่เลมแรกที่สงเสียงกระบี่กำธรออกมา
เปนของคายกลกระบี่ที่เซนดวยเลือดเนื้อของปลาคางคาวหลังกวาง
อยางไรก็ตาม ชั่วขณะตอมาเขาก็ไมมีเวลามาคิดถึงมันอีกตอไป
มีเสียงที่เหมือนกับพายุฝนเกิดขึ้นอยางฉับพลัน
เสียงกระบี่กำธรที่เขมขนรวมตัวและระเบิดอยูภายในหุบเขาราวกับคลื่นลูกใหญ
ไมอาจบรรยายไดวาเสีย งที่เกิดจากการสั่นพอ งของกระบี่หมื่นเลมนั้นมี พ ลั ง
มากมายถึงเพียงไหน!
สมาชิกหนวยกระบี่สายฟาบนสันเขารูสึกวาหูอื้อไปและรางกายก็ชาดาน คลื่นความ
เย็นไหลขึ้นมาตามแนวสันหลังทำใหพวกเขาตัวสั่นเอาอยางไมอาจควบคุม พลังธาตุใน
กายของพวกเขาอาละวาดไปทั่วประหนึ่งแมลงวันไรหัวที่บินไปทั่วอยางไรทิศทาง
สมาชิกหนวยกระบี่สายฟาหนาขาวซีดและทรุดตัวลงกับพื้นทีละคน
หนาของกูเซวียนก็ขาวซีดเชนกัน เขารูสึกวามีใบมีดที่บางราวกระดาษกำลังกรีด
ตัดสมองเขา ขนทุกเสนในรางกายลุกชันราวกับมีกระแสไฟฟาวิ่งไปตามผิวหนัง ไม
เหมือนกับสมาชิกคนอื่นที่ทรุดลงกับพื้น เขาฟนยืนหยัดและจองมองไปยังหุบเขา
เขาเริ่มเปนกังวลขึ้นมาเล็กนอย เจานายจะทนปราณกระบี่ที่ทรงพลังและนากลัว
เชนนี้ไดอยางไร
กระบี่ทุกเลมที่ปกลงไปในพื้นของหุบเขาเริ่มลอยขึ้นไปในอากาศ ละอองหมอกที่
แผออกมาจากกระบี่เหลานั้นทุกอยางที่เกิดขึ้นในหุบเขาตอนนี้นั้นขัดกับความรูความ
เขาใจของกูเซวียนอยางสิ้นเชิง
ละอองหมอกนั้นคือปราณกระบี่อันบริสุทธิ์
กระบี่ท ี่เสีย ปราณกระบี ่ไ ปก็ เริ่ มบิ ด เบี ้ ย วราวกั บ กิ ่ ง ไม แ ห ง ในที ่ สุ ดก็ ส ลาย
กลายเปนขี้เถา
ภายใตการจับจองของทุกคน หมื่นกระบี่ก็สลายลงอยางพรอมเพรียง ภาพที่
กระบี่ทั้งหลายสลายกลายเปนขี้เถานั้นทรงพลังอยางยิ่ง ตรึงจิตใจของกูเซวียนเอาไว
อยางเหนียวแนน เขาทั้งเกรงกลัวและมุงหวังในเวลาเดียวกัน
ชางเปนภาพที่นาทึ่งยิ่งนัก!
เมื่อกระบี่เลมสุดทายกลายเปนขี้เถา ละอองหมอกที่หมุนวนก็ปกคลุมเกือบทั่วทั้ง
หุบเขา ไมไดสงเสีย งอันใด หมุนวนอยูอยางเงียบงัน อยางไรก็ตาม กูเซวียนรู สึก
ประหนึ่งวามีอสูรแดนรางที่นาเกรงขามจองมองมาที่เขา ทำใหรางกายแข็งทื่อ ไมมีที่
ใหเขาหนี จากนั้นความรูสึกหวาดกลัวอยางยิ่งก็อัดเต็มอยูในใจ เขาไมสงสัยเลยวา
ละอองหมอกที่หมุนวนอยางออนโยนภายในหุบเขานั้นสามารถสับเขาใหกลายเปน
ชิ้นๆ ไดอยางงายดาย
เมื่อครั้งยังเยาว เขาเคยไปยังทะเลหมอกเงิน หมอกหนาหอหุมทะเลหมอกเงินนั้น
เปนสีเงินที่ทอประกาย ดูนาตื่นตาเปนอยางยิ่ง อยางไรก็ตาม หมอกในทะเลหมอกเงิน
ยังไมอาจทำใหเขารูสึกหวาดกลัวไดเหมือนเชนในตอนนี้
ละอองหมอกที่หมุนวนในหุบเขาเปนเสมือนอสูรที่โหดเหี้ยมและเยือกเย็น
ตุบ ตุบ ตุบ...
กูเซวียนรูสึกปากคอแหงผาก เขาอดพูดขึ้นไมได “ดูเหมือนจะมีเสียง”
“นั่นคือตัวออนกระบี่ของอายฮุย มันกำลังเตน” โหลวหลานกลาว
แสงสีแดงในดวงตาของโหลวหลานกะพริบดวยความเร็วนาตระหนก
กูเซวียนไมสังเกตวาโหลวหลานนั้นพูดดวยน้ำเสียงที่ตางไปจากปกติอยางสิ้นเชิง
ในตอนนี้ น้ำเสียงของเขานั้นเปนประดุจเครื่องจักรที่ไรอารมณความรูสึก
กูเซวียนเพงความสนใจไปที่คำพูดของโหลวหลานแทน ตัวออนกระบี่กำลังเตน
เชนนั้นหรือ เขาอดถามดวยความคาดหวังไมได “เชนนั้นมันก็ไดผลใชหรือไม”
“ใช แ ล ว มั น ได ผ ล” เมื ่ อ โหลวหลานพู ด จบประโยค หมอกในหุ บ เขาก็ เริ่ ม
เปลี่ยนแปลง
หมอกที่หมุนวนกอนหนานี้เริ่มพลุงพลานปนปวน สีและรูปรางของหมอกเริ่ม
เปลี่ยนไปอยางตอเนื่อง ในที่สุดละอองหมอกที่มีสีสันและรูปรางหลากหลายก็ไดกอตัว
ขึ้น ละอองหมอกที่พลุงพลานนั้นมีความรุนแรงยิ่งขึ้น ดูราวกับอสูรปาเถื่อนที่กำลัง
ตอสูดิ้นรนเอาชีวิตรอดหลังจากติดกับดัก
ไมวาพวกมันจะดิ้นรนมากเพียงไร ก็ไมอาจหลุดพนไปได ละอองหมอกเหลานั้นดู
เหมือนกับวาพวกมันถูกกักขังเอาไวภายในตาขายที่มองไมเห็น
ตุบ ตุบ ตุบ เสียงของตัวออนกระบี่เตนนั้นดังชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ดันหนึ่งวามี
ใครกำลังตีกลองอยูภายในหมอกนั้นก็มิปาน ในเวลาเดียวกันมันก็ดังเหมือนมีอสูรแดน
รางที่ตื่นขึ้นจากการหลับใหลนานหมื่นป
ปากของกูเซวียนแหงผากยิ่งกวาเดิม
เมื่อเวลาผานไป ละอองหมอกที่หอหุมหุบเขาไวก็เริ่มจางลง รางของอายฮุ ย
ปรากฏขึ้นแกสายตาของทุกคนอีกครั้งหนึ่ง
ตุบ ตุบ ตุบ เสียเตนของตัวออนกระบี่นั้นดังราวกับวามันอยูขางหูของพวกเขา
ทรงพลังและชัดเจนเกินกวาปกติ
ในครั้งนี้ทุกคนสามารถเห็นไดอยางชัดเจนวาเกิดอะไรขึ้น
ทุกครั้งที่ตัวออนกระบี่เตน ละอองหมอกจะถูกดูดซับเขาไปในตำหนักปฐพีและ
หมอกที่หอหุมอายฮุยเอาไวก็จะจางลงทีละนิด
กูเซวียนรูสึกวามันไมใชภาพลวงตา ละอองหมอกที่เหลือดูเหมือนจะรูชะตาของตัวเอง
ตางก็ดิ้นรนแตก็ไมอาจหลุดรอดออกไปจากพลังที่มองไมเห็นที่ไดกักขังมันเอาไว
ตัวออนกระบี่ดูเหมือนจะมีพลังที่สามารถกดขี่ควบคุมปราณกระบี่ได
กูเซวียนรูสึกหลงใหลและอิจฉาในเวลาเดียวกัน เจานายไดสอนวิธีการสรา งตัว
ออนกระบี่แกพวกเขามากอน ทวาไมมีใครสามารถทำไดสำเร็จ พวกเขารูสึกวาเศษ
คัมภีรบทการฝกตัวออนกระบี่นั้นเปนเหมือนคัมภีรสวรรคที่ไมอาจทำความเขาใจได
อยาวาแตจะฝกฝนมันเลย
พวกเขาจำไดทุกคำที่เขียนไวในเศษคัมภีรบทนั้น แตไมอาจเขาใจไดเมื่อถอยคำ
มารอยเรียงเขาดวยกัน
เจานายก็ไมรูจะอธิบายความลึกล้ำของสิ่งนี้ไดอยางไร
แมแตคนโงก็ยังสัมผัสไดวาตัวออนกระบี่มีความแข็งแกรงเพียงใด
เมื่อตัวออนกระบี่ดูดซับละอองหมอกสุดทายเขาไป มันก็คอยๆ เงียบลง
ทุกอยางดูเหมือนจะกลับมาเปนปกติ
อายฮุยนอนอยางเงียบงันอยูกลางหุบเขา แสงสีทองที่เขมขนแผออกมาจากรางกาย
ของเขาอยางตอเนื่อง รัศมีพลังที่หมุนวนรอบตัวออนกระบี่ก็แหลมคมเหมือนกระบี่
หุบเขาเต็มไปดวยรูเล็กๆ ถี่ยิบ เปนรอยที่เกิดจากคายกลกระบี่ซึ่งตอนนี้สลาย
กลายเปนผุยผงไปแลว
ไมไดผลหรือ
กูเซวียนดูผิดหวังเล็กนอย หลังจากไดเห็นภาพที่นาตื่นตาเมื่อครู เขาคิดวาอายฮุย
จะตองฟนขึ้นมาในครั้งนี้ เขาไมคาดคิดวามันจะลมเหลวอีกครั้ง
แสงสีแดงกะพริบในดวงตาของโหลวหลานสงบลงในที่สุด
เสียงราเริงของโหลวหลานทำลายความเงียบงัน
“โหลวหลานพบแลว!”

เขตหลอมสรางเต็มไปดวยกิจกรรมและสองสวางไปทั่วทองฟายามราตรี
กระบี่ที่เพิ่งหลอมสรางเสร็จถูกนำออกมาจากเตาหลอมราวกับธารน้ำไหลไมขาดสาย
ชางฝมือทั้งหมดเต็มไปดวยความเหนื่อยลา
“บาไปแลว! ขาคิดวาเราเพิ่งจะสรางกระบี่หมื่นเลม แลวนี่พวกเขาตองการกระบี่
ลานเลม!”
“บัดซบ! เขากินกระบี่เขาไปหรืออยางไร”
“กินกระบี่หรือ ใครที่ไหนจะกินกระบี่หมื่นเลมหมดในคืนเดียว”
“เกิดเรื่องบาอะไรขึ้น ตอใหเขาตองการจะอวดรวย ก็ไมควรทำเชนนี้”
“บัดซบ! หากมีใครขอใหขาหลอมสรางกระบี่อีก ตองไสหัวไปใหพนหนาขา!”
“ใชแลว! ขาคิดวาคงตองอวกออกมาแนหากไดเห็นกระบี่อีกเพียงเลมเดียว!”
“โอย ใครก็ไดมาชวยขาที!”
“ไมมีใครสามารถชวยเจาได!” เสียงเย็นชาพลันดังขึ้นดานหลังของพวกเขา
ทุกคนตองตกใจที่พบวาเปนปรมาจารยเหอ พวกเขาไมรูวาเมื่อปรมาจารยเหอมา
อยูดานหลังเขาเมื่อไร ไดแตเงียบปากไปในทันที
เจาบอดเหอพนลมออกมาและจากไป หลังจากหางพวกชางฝมือคนอื่นไปสิบจั้ง
เขาก็อดพึมพำกับตัวเองไมได
“ใครจะมาชวยขาได”
บทที่ 619 สุกงอม
เมืองเทียนซิน ทะเลสาบปรมาจารย
ทะเลสาบปรมาจารยที่ปกติแลวไดรับการรักษาความปลอดภัยอยางหนาแนน ดู
ราวกับวาจะเตรียมรับมือศัตรูแข็งแกรงในวันนี้ ทหารยามรายลอมทะเลสาบเอาไว
หลายชั้นจนเหมือนกับกำแพงเหล็ก ทำใหทะเลสาบกลายเปนสถานที่ซึ่งไมอาจบุกรุก
ได คนใหญคนโตทั้งหมดในเมืองเทียนซินลวนมารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้
เยี่ยฮูหยินยืนอยูดานขางทะเลสาบ ใบหนาสงบเยือกเย็นไมตางไปในยามปกติที่เปน มี
เพียงมือขวาของนางอยางผูตรวจตราเหนียนเทานั้นที่รูวานางขมอารมณเอาไว
โครงการเกียรติยศของปรมาจารย ที่พวกเขาใชเวลาฟูมฟกมานานหลายปใช
ทรัพยากรและแรงงานไปนับไมถวน สรางขอถกเถียงมากมาย ที่สุดก็สุกงอมแลว
ผูตรวจตราเหนีย นรูว า เยี่ย ฮูห ยิ น นั ้ น เสี ย สละให ก ั บ โครงการเกี ย รติ ย ศของ
ปรมาจารยไปมากเพียงไร
นับตั้งแตตนจนถึงตอนนี้ โครงการเกียรติยศของปรมาจารย ไดพบกับการคัดคาน
และตอวามากมาย หากไมใชเพราะมีเยี่ยฮูหยินสนับสนุนอยางเต็มที่โดยไมยอทอ
โครงการนี้ก็คงไมอยูมาจนถึงวันนี้
ดวยเหตุนี้ผูตรวจตราเหนียนจึงมีแตความเคารพนับถือในตัวเยี่ยฮูหยิน โครงการ
เกียรติยศของปรมาจารยจะประสบความสำเร็จถึงเพียงไหน จะสรางปรมาจารยขึ้นมา
ไดจริงหรือไม ตอใหสรางปรมาจารยขึ้นมาได ปรมาจารยเหลานั้นจะมีความแข็งแกรง
เชนใด
ไมมีใครรูคำตอบของคำถามเหลานี้
เยี่ยฮูหยินนั้นยินดีที่จะทุมหมดหนาตักกับสิ่งที่ไมรูอนาคตนี้ ตลอดเวลาที่ผา นมา
นางไมลังเลและความมุงมั่นของนางก็ไมสั่นคลอน จะมีคนสักกี่คนกันที่จะมีความ
มุงมั่นตั้งใจไดถึงเพียงนี้
เยี่ยฮูหยินอาจจะทำสิ่งที่เปนเรื่องฉาวโฉ แตนางก็ยังทำในสิ่งที่เอาชนะใจผูคนดวย
คนที่ไดรับเชิญมาในวันนี้ลวนเปนเบื้องบนของเมืองเทียนซิน บางก็เปนพวกผู
อาวุโสจากสภาผูอาวุโส และบางก็เปนผูนำตระกูลจากตระกูลชั้นสูง ทุกคนที่มีชื่อเสียง
ในเมืองเทียนซินลวนไดรับเชิญ
ผูคนมีปฏิกิริยาตอเหตุการณนี้แตกตางกันออกไป บางก็รูสึกตื่นเตน บางก็รูสึก
กังขา บางก็เงียบงัน บางก็กระซิบกระซาบกัน
เยี่ยฮูหยินนั้นมองดูภาพสีหนาที่แตกตางกันไปของทุกคน ประกายความเฉยชา
และดูถูกฉายขึ้นในดวงตาของนาง
คนออนแอพวกนี้จะเขาใจวาวันนี้คือจุดเริ่มตนของยุคสมัยใหมไดอยางไรกัน
นางสังเกตเห็นวาหมาซื่อจี๋ตัวแข็ง นางยิ้มและปลอบโยนเขา “ซื่อจี๋ อยาไดกังวล
ขาเชิญคนพวกนั้นมารวมชมความสนุก แมวาวันนี้จะไมใชวันที่คิด ก็ชางปะไร พวกเขา
ตองมาหากขาบอกใหมา”
หมาซื่อจี๋ฝนยิ้ม เหงื่อเม็ดโปงก็ผุดขึ้นบนหนาผากอยางไมอาจควบคุม
เขากำลังกังวลอยูจริงๆ จากการประมาณของเขา วันนี้คือวันที่ฝกบัวหาธาตุจะสุก
งอมเต็มที่ อยา งไรก็ตาม เขาไมคาดคิ ดว า เยี ่ ย ฮู ห ยิ น จะเชิ ญ คนมาชมเหตุ ก ารณ
มากมายเพียงนี้ ดังนั้น เขาจึงรูสึกกังวลเปนอยางยิ่ง เขาไมกลาคิดวาจะเกิดอะไรขึ้น
หากเขาคำนวณผิดพลาดและทำใหเยี่ยฮูหยินตองขายหนา
เยี่ยฮูหยินยิ้มและเบนสายตาไปยังฝกบัวหาธาตุบนทะเลสาบ แสงเรืองจากฝกบัว
หาธาตุกะพริบสาดตองทะเลสาบเปนประกายหลากสี ดูงดงามเปนอยางมาก
ทันใดนั้น ผูตรวจตราเหนียนก็สูดหายใจอยางประหลาดใจและมองไปที่ใจกลาง
ทะเลสาบ
แสงเจิดจาปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาอยางฉับพลัน
“ใตเทาเหนียน ทานพบอะไรเขาหรือ” เยี่ยฮูหยินถาม
แสงเจิดจาในดวงตาของผูตรวจตราเหนียนหายไปและเขาก็ลดรัศมีพลังลง เขา
ตอบดวยน้ำเสียงเคารพ “ขอแสดงความยินดีกับฮูหยินดวย”
เมื่อเขากลาวจบ แสงเจิดจาจากทะเลสาบก็หายไปในทันที ทั่วบริเวณกลายเปน
มืดมิด เสมือนเปนหลุมที่ไรกนซึ่งกักขังแสงเอาไว
ฝกบัวหาพลังธาตุขนาดมหึมาจำนวนยี่สิบหาฝกนั้นดูเสมือนทุงแหงความมืดมิด
เสียงสนทนาทั้งหมดหยุดลงในที่สุด
ทุกคนดูหวาดกลัวเมื่อพวกเขาตระหนักวาพลังธาตุรอบกายนั้นแข็งคางไปอยางลึกลับ
ผูใชพลังธาตุที่คอนขางออนแอพบวาตนไมอาจที่จะขับเคลื่อนพลังธาตุในรางกายได
เสมือนวารางกายแข็งคางไป ไมอาจเคลื่อนไหวหรือสงเสียงไดเลยแมแตนอย
ปรากฏการณนี้เกิดขึ้นอยางฉับพลันและหายไปในทันที ในชั่วพริบตาทุกคนก็
กลับมาเปนปกติ
ในตอนนี้ ไมมีใครพูดคุยกัน ทุกคนลวนมีสีหนาตื่นตะลึง เกิดอะไรขึ้นเมื่อครู พวก
ปรมาจารยที่เกิดจากโครงการเกียรติยศของปรมาจารย... ทรงพลังเพียงนี้หรือ การ
แสดงอำนาจออกมาเพีย งชั่ว ครูได ก ำจั ดข อ ตำหนิ ท ี ่ มี ต อ โครงการเกี ย รติ ย ศของ
ปรมาจารยไป
ใบหนาซีดเซียวของหมาซื่อจี๋แดงขึ้นมา ประหนึ่งวาเขากำลังเมาสุรา
เขาสะกดความตื่นเตนและคำนับอยางสุภาพ “ฮูหยินโปรดไปยังริมทะเลสาบ”
เยี่ยฮูหยินพยักหนาอยางไวทีและเดินไปยังริมทะเลสาบดวยทวงทาที่สงางาม
หมาซื่อจี๋กลาวตอ “ฮูหยินโปรดใชแกนเลือดของทานปลุกเหลาปรมาจารยขึ้นมา”
โดยไมพูดอะไรเลย นางยื่นมือสีขาวดุจหิมะออกไปและมีดสั้นอันประณีตงดงามก็
ปรากฏขึ้นในมือของนาง จากนั้นนางก็กดคมของมีดสั้นลงบนแขนเรียวงาม หยดโลหิต
สีแดงสดก็ไหลรินลงมาตามใบมีด
ในไมชาเลือดก็ไหลเปนทางไปตามทองแขนอันขาวนวลไรตำหนิของนาง ภาพนั้น
มีความงดงามที่ยากจะบรรยายไดอยู
มีความสงบผิดปกติอยูบนหนาของเยี่ยฮูหยิน ซึ่งแผรัศมีพลังที่นาหวั่นเกรงออกมา
เลือดของนางหยดลงไปในทะเลสาบ
เยี่ยฮูหยินดูเหมือนจะไดยินเสียงพึมพำที่ฟงดูคุนหูและแปลกประหลาดในเวลา
เดียวกัน นางชะงักไปเล็กนอย เมื่อนางฟงอยางตั้งใจ กลับไมอาจไดยินอะไร ดวงตา
กระจางใสงดงามนั้นที่ดูเหมือนจะมีชั้นหมอกปกคลุมอยูนั้นก็เปลี่ยนเปนพรา เลือน
และหางไกลขึ้นมาในทันที
ผานไปครูหนึ่ง นางก็ขยับริมฝปากแดงและพูดอยางแผวเบา “เสี่ยวเปา ตื่นไดแลว”
โผละ
ฝกบัวหาธาตุฝกหนึ่งสงเสียงแตกเบาๆ ออกมา ทันใดนั้นเปลือกนอกของฝกบัวก็
ระเบิดออกเปนชิ้นเล็กชิ้นนอย เฉกเชนการเบงบานของดอกไม ครึ่งบนของชายที่ดู
คุนตาเผยขึ้นมาใหเห็น
เมื่อเยี่ยฮูหยินเห็นใบหนาที่คุนเคย รางกายบอบบางของนางสั่นเทากอนนางจะ
สูญเสียการควบคุมอารมณ “เสี่ยวเปา!”
รางครึ่งบนที่เปลือยเปลาของชายหนุมคอยๆ ลืมตาขึ้นชาๆ ความหมนมัวที่เคยมี
ในดวงตาของเขาหายไปและเปลี่ยนเปนกระจางใส ไมมีความอบอุนใหเห็นในดวงตาคู
นี้ มีเพียงความเย็นเยียบและเฉยชา
เสี่ยวเปาเหมือนจะเปลี่ยนไปเปนคนละคน นอกเหนือจากโครงสรางของใบหนาที่
ไมไดเปลี่ยนไปมากนักแลว รางกายของเขาเปลี่ยนเปนสมบูรณแบบไดจุดดางพรอย ดู
ราวกับรูปสลักชั้นเลิศ
ลำแสงสีสันเจิดจาหมุนวนรอบกายเขา ทอง ไฟ ไม น้ำและดิน มันคือวงแหวนหาธาตุ!
โผละ โผละ โผละ
เสียงแตกเบาๆ ดังสะทอนไปทั่ว เปลือกนอกของฝกบัวระเบิดออกราวกับดอกไม
เบงบาน
รางมนุษยมากมายปรากฏขึ้นตอหนาของทุกคน
รอบทะเลสาบเปลี่ยนเปนเงียบงัน อากาศดูเหมือนจะคางแข็งไป ไมมีรองรอยของ
สายลมแมแตนอย
รางเปลือยเปลาที่ยืนอยูบนฝกบัวไดแผรัศมีพลังที่แข็งแกรงอยางไมอาจบรรยาย
ไดออกมา
พวกเขามีรางกายที่แตกตางกันแตก็ลวนสมบูรณแบบ ทุกสวนของรางกายดู
เหมือนจะถูกสลักขึ้นมาจากชางฝมือระดับปรมาจารย ดวงตาของพวกเขากระจางใส
แตก็แสดงถึงความเย็นเยียบและเฉยชาในเวลาเดียวกัน
บางคนเริ่มเลียริมฝปากอยางกังวล แตคนสวนใหญตัวแข็งไปดวยความกลัว
นั่นรวมถึงผูตรวจตราเหนียนดวย
เขาไม เ คยเห็ นภาพที่ แ ปลกประหลาดเช น นี ้ ม าก อ น มี ค นหลายร อ ยคนที ่ ดู
คลายคลึงกัน เขารูสึกอยางแรงกลาวาพวกเขาเปนรางแยกถึงแมจะรูวาไมใชก็ตาม
พวกเขาดูเหมือนกันมากจนเกินไป!
พวกเขานั้นแตกตางกันในแงความสูง อยางไรก็ตาม รัศมีพลัง ทาทาง สายตาอัน
เย็นเยียบ รางกายที่ไรตำหนิ และวงแหวนหาธาตุที่หมุนวนอยูนั้นทำใหพวกเขาดู
เหมือนกับเปนรางแยก
เขาเคยพบคนมามากมายที่มีลักษณะทาทางเหมือนกัน ยกตัวอยางเชนพวกทหาร
จากหนวยตรวจตราก็มีลักษณะทาทางคลายคลึงกัน นั่นหมายความรวมถึงหนวยกลาง
อีกสองหนวยเชนเดียวกัน อยางไรก็ตาม คนกลุมนี้นั้นมีทาทางเหมือนกันไมผิดเพี้ยน
ความเย็นเยียบไหลลงมาตามไขสันหลังของผูตรวจตราเหนียน และความรูสึก
หวาดกลัวพุงขึ้นมาในหัวใจ เขาไมกลาที่จะคิดมากนัก
ปรมาจารยทั้งหมดที่ยืนอยูบนฝกบัวแบมือและสายมืออยางแผวเบา วงแหวนหาธาตุที่
หมุนวนรอบกายเขาสูหลังมือและกลายเปนรอยสักรูปวงแหวนขนาดเทานิ้วหัวแมมือ
พวกเขาเคลื่อนไหวอยางพรอมเพรียงราวกับเปนคนเดียวกัน
เยี่ยฮูหยินจับจองไปที่เสี่ยวเปา สายตาของเสี่ยวเปานั้นเย็นชาไรความรูสึก นาง
สัมผัสไดถึงการสื่อจิตที่บางเบาระหวางนางกับเสี่ยวเปา
“ขอแสดงความยินดีกับฮูหยิน! ขอแสดงความยินดี!”
เยี่ยฮูหยินไดสติกลับมา หมาซื่อจี๋มีสีหนาตื่นเตนอยางมาก
หมาซื่อจี๋กลาวตอ “ขาเพิ่งนับเสร็จ เราสรางปรมาจารยขึ้นมาไดทั้งสิ้นสามรอยสิบหก
คน! ดีกวาที่เราคาดเอาไวมาก! ครั้งกอนที่ฮูหยินมาที่นี่ มีคนสี่สิบสี่คนจากจำนวนสาม
รอยหกสิบคนที่ลมเหลว! ในตอนนั้น เราประมาณการขั้นต่ำเอาไววาเราคงจะสราง
ปรมาจารยไดประมาณสองรอยคน แตในตอนนี้เราสามารถสรางปรมาจารยไดถึงสาม
รอยสิบหกคน! ขอแสดงความยินดีกับฮูหยิน! ขอแสดงความยินดี!”
เยี่ยฮูหยินมีสีหนากลับเปนปกติและยิ้ม “ทั้งหมดตองขอบคุณทานซื่อจี๋! เพื่อ
โครงการเกียรติยศของปรมาจารย ทานไดทุมเทสมองและทำงานอยางหมดใจ ขาเห็น
กับตาตัวเองวาทานทำงานหนักเพียงใด ซื่อจี๋ ขาจะตอบแทนทานอยางเหมาะสม!”
หมาซื่อจี๋สายหนาและตอบดวยความซาบซึ้ง “หากไมใชเพราะฮูหยินมองเห็น
คุณคาของผูนอย ผูนอยก็ไมทราบวาจะเปนเชนไรในโลกหลานี้ ผูนอยไดแคเพียงตอบ
แทนเมตตาของฮูหยินที่มองเห็นคุณคาของผูนอยดวยการเสียสละชีวิตทำงานใดก็
ตามที่ฮูหยินมอบใหขา!”
เยี่ยฮูหยินยิ้มอยางพึงพอใจ “เราจะพูดเรื่องรางวัลกันภายหลัง คงไมเหมาะสม
อยางแนนอนหากขาไมตอบแทนทานอยางงดงามกับผลงานที่ยอดเยี่ยมหาใดเทียมนี้
ในตอนนี้ ขาตองการใหทานแนะนำเหลาปรมาจารยของเราใหกับทุกคน”
“คำพูดนั้นไรความหมายหากไรซึ่งการลงมือทำ ทำไมฮูหยินไมใหปรมาจารยสัก
คนทำการสาธิตใหดู” หมาซื่อจี๋ตอบอยางสุภาพ
“หมาซื่อจี๋พูดถูก” เยี่ยฮูหยินพยักหนา
นางหันกลับและเพิ่มระดับเสียงขึ้น “มีใครอยากประลองกับปรมาจารยสักคน
หรือไม หากชนะ ขาจะมอบยาวิเศษพลังธาตุใหสามเม็ด!”
เสียงอื้ออึงดังขึ้นในหมูผูชม
ยาวิเศษพลังธาตุนั้นหายากมากในทุกวันนี้ ไมอาจซื้อไดตอใหมีเงินก็ตาม ดังนั้นเมื่อ
เยี่ยฮูหยินเสนอยาวิเศษพลังธาตุสามเม็ดเปนรางวัล ผูคนมากมายจึงรูสึกสนใจขึ้นมา
“ฮูหยิน ขาขอทราบไดหรือไมวาเปนยาวิเศษพลังธาตุชนิดใด” บางคนตะโกนขึ้น
เยี่ยฮูหยินกำลังอารมณดีและไมรูสึกโกรธ นางยิ้มและตอบ “ชนิดใดก็ไดตามแต
เจาจะตองการ”
ทันใดนั้นพวกผูชมก็ตื่นเตนขึ้นมา
“ฮูหยิน ขายินดีที่จะทดลองดู” ชายวัยกลางคนยืนขึ้นและพูดอยางเคารพ
เมื่อทุกคนเห็นชัดเจนวาชายผูนี้เปนใคร ทุกคนก็เงียบลงในทันที ชายผูนี้แผรศั มี
พลังที่แข็งแกรงและมีสีหนาที่นาเกรงขาม บอกไดเลยวาเขาเปนคนที่แข็งแกรงอยาง
มากคนหนึ่ง
จงโหวจวินเปนคนที่แข็งแกรงที่สุดในบานตระกูลจง แมวาตระกูลชั้นสูงนี้จะไมมี
เกียรติและอำนาจเหมือนเชนในอดีตและบานตระกูลจงก็เสื่อมลงมาระยะหนึ่งแลว
แตพวกเขาก็ยังมีความแข็งแกรงอยูไมนอย
จงโหวจวินเคยเปนรองจอมพลหนวยทหารราบ เขาควรจะไดเปนจอมพลคนตอไป
ทวาการปรากฏขึ้นของทหารราบเงินนั้นไมเพียงทำใหเขาเสียตำแหนงรองจอมพลไป
เทานั้น แตบานตระกูลจงของเขาก็ตกต่ำลงอีกดวย
มีคนมากมายรูวาจงโหวจวินนั้นเต็มไปดวยความโกรธและไมพอใจ
เมื่อทุกคนเห็นจงโหวจวินอาสาดวยตัวเอง พวกเขาก็รูวาจะไดเห็นการแสดงชั้นดี
และหุบปากเงียบไปกันหมด
บทที่ 620 สังหารในพริบตา
เยี่ยฮูหยินไมประหลาดใจที่เห็นจงโหวจวินอาสา นางพูดพรอมกับรอยยิ้มจางๆ
“ทานชางกลาหาญยิ่งนัก สามารถแบกรับความรับผิดชอบอันใหญหลวง แคความกลา
หาญนี้ก็ยากที่จะหาไดแลวในโลกนี้”
นางหันไปมองทางทะเลสาบ “แมทัพจงมีความสามารถเหนือคนมากมาย ใครจะ
ออกไปสูกับเขา”
พวกผูชมยังคงนิ่งเงียบราวกับวาไมมีใครไดยินคำถามของนาง
ใบหนาของเสี่ยวเปานั้นประดุจถูกสลักขึ้นมาจากกอนน้ำแข็ง ดวงตากระจางใส
นั้นไรการเคลื่อนไหว “กุยหู”
“ขอรับ!”
ลำแสงลอยขึ้นจากทะเลสาบและรอนลงตรงหนาผูชม
จงโหวจวินนัยนตาหดลง
กุย หูนั้นดูก ำยำและแกรงกลา ทุ ก ส ว นบนร า งกายดู เหมื อ นจะสร า งขึ ้ นจาก
เหล็กไหล ยามยืดเหยียดรางกาย กลามเนื้อก็บิดตัวดุจฝูงงู ลบความกังขาถึงพลังที่มี
อยูอยางสิ้นเชิง ยิ่งดูยิ่งแปลกที่วาถึงแมจะมีแสงออนจางแผออกมาอยูร อบกายของเขา
แตก็ไมมีคลื่นพลังธาตุรั่วไหลออกมาเลยแมแตนอย
เขารูวากุยหูนั้นเกิดมาจากตระกูลเล็กๆ และมีพรสวรรคที่นับวาธรรมดาทั ่วไป
ทวาในตอนนี้ทุกการเคลื่อนไหวของกุยหูนั้นดูสมบูรณแบบราวกับวาเขาไดเปลี่ยนไป
เปนคนละคน โดยเฉพาะดวงตานั้นไรซึ่งความอบอุนและจงโหวจวินก็รูสึกหนาวเย็นไป
ถึงหัวใจ
ไมเพียงแคเขา แตทุกคนที่ไดเห็นก็เงียบงันไปดวยความหวาดกลัว
พวกเขาไมรูสึกอะไรเมื่อมองดูจากระยะไกล แตเมื่อกุยหูเขามาใกล ความรูสึกอึด
อัดจนหายใจไมออกก็ตามมาดวย ราวกับวามีเมฆนับพันกดทับลงมาบนศีรษะและอุด
ตันการหายใจของพวกเขา ปรมาจารยที่มีประสาทสัมผัสแหลมคมรูสึกไดถึงอันตรายที่
แผออกมาจากรางของกุยหู
โครงการเกียรติยศของปรมาจารยนั้นยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้เชียวหรือ
จงโหวจวินนั้นมีประสบการณสูง รีบครองสติ ทำจิตใจใหสงบ
ที่เขาตัดสินใจเขาตอสูนั้น ใชวาทำไปอยางบุมบาม
เยี่ยฮูหยินแสดงความไมใสใจตอพวกตระกูลชั้นสูง ตระกูลชั้นสูงที่เคยรุงเรือง
อยางมากในอดีตนั้นหมดกำลังใจและเหงาหงอยในตอนนี้ ตระกูลจงนั้นหลุดรอดมาได
ก็เพราะไมทำตัวโดดเดนและรูจักยับยั้งชั่งใจ แมวาเขาจะถูกปลดออกจากตำแหนงรอง
จอมพลของหนวยทหารราบ แตก็ยังไมคัดคานแตอยางใด แตกระนั้นก็ตาม เขารูดีวา
หากเขาไมแสดงวาตนเองมีคาเปนเวลานานเกินไป จะถูกลืมเลือนไปอยางแนนอน
เขาตองแสดงคุณคาออกมา ไมวาจะกับเยี่ยฮูหยินหรือโลหิตแหงเทพก็ตาม
ธงอาจจะไมโบกไสวก็ได แตตองมีประโยชนใชสอย
จงโหวจวินออกปากอยางสุภาพ “เชิญ!”
แมแตพวกที่สติปญญาออนดอยก็ยังเขาใจวาพวกที่ผานโครงการเกียรติย ศของ
ปรมาจารยมาไดเหลานี้จะกลายเปนเครื่องมือของเยี่ยฮูหยิน ปรมาจารยรุนเยาว
เหลานี้จะกาวขึ้นสูเวทีและมีบทบาทสำคัญอยางมากตออนาคตของพวกเขา
กุยหูไมตอบสนองอะไรตอมารยาทของจงโหวจวิน
“ฆาเขา”
เสียงเย็นชาดังผานจากใจกลางของทะเลสาบ เปนเสียงของเสี่ยวเปา
จงโหวจวินสีหนาเปลี่ยนไป สีหนาของคนโดยรอบก็เปลี่ยนไปเปนนาเกลียดและ
ความเกลียดชังก็ผุดขึ้นมา นี่เปนเพียงแคการประลอง แตเขายังสั่งใหกุยหูสังหารจง
โหวจวิน! ผูคนมากมายตัดสินใจที่จะสั่งสอนพวกเด็กนอยเหลาหนี้สักหนอย!
สิ้นเสียงของเสี่ยวเปา กุยหูก็เคลื่อนไหว
นี่คือความสงบกอนเกิดพายุ!
จงโหวจวินรูสึก แคว าตนเองตาบอดไปเมื ่ อ กุ  ยหู  ปรากฏขึ ้น ต อ หน า เขาอยาง
ฉับพลัน
รวดเร็วเหลือเกิน!
ดวงตาของจงโหวจวินบิดเบี้ยว ไมกลาชักชาแมแตนอย และผลักฝามือออกไป
คลื่นพลังธาตุระเบิดออกราวกับลมพายุพัดพาไปทั่วบริเวณ
พลังธาตุเปลี่ยนสภาพไปเปนระฆังที่หอหุมรางกายของเขาเอาไวจนหมดและหมุนวน
อยางตอเนื่อง มันมีรูปรางเรียบงายสวนบนแคบสวนลางกวาง เต็มไปดวยลวดลายของ
นกและดอกไม
[ระฆังใหญ]!
แมวาบานตระกูลจงนั้นจะไมมีอำนาจยิ่งใหญเชนบานตระกูลหลิง แตก็มีมรดกตกทอด
ที่ยิ่งใหญ [ระฆังใหญ] นั้นเปนวิชาลับขั้นสูงที่เปนที่รูจักมากที่สุด ตั้งชื่อตามระฆังที่สง
เสียงดังกังวานนาชื่นชม วากันวาบรรพบุรุษตระกูลจงนั้นมีแซอื่นแตไดเปลี่ยนเปน
“จง (ระฆัง” หลังจากสรางวิชา [ระฆังใหญ] ขึ้น
หนวยทหารราบนั้นมีชื่อเสียงในเรื่องของพลังปองกัน ในหมูวิชาลับขั้นสูงทั้งหลาย
มีแตวิชา [ทหารราบ] ซึ่งมีแคจอมพลเทานั้นที่สามารถฝกไดนั้นที่สามารถเทียบไดกับ
[ระฆังใหญ] แมแตในอูสิงเทียนก็ยังถือวา [ระฆังใหญ] นั้นเปนวิชาลับขั้นสูงที่ทรงพลัง
ที่สุดวิชาหนึ่ง
จุดออนเดียวของมันก็คือพลังโจมตี
ทุกคนรูสึกโลงอกเมื่อเห็นจงโหวจวินใช [ระฆังใหญ] ออกมา เขาเปนปรมาจารย
และใช [ระฆังใหญ] ออกมาไดในเวลาคับขัน พลังธาตุของเขานั้นลึกล้ำ คนที่อยูที่นี่
ตางก็ไมมีใครมีความมั่นใจวาจะทำลายการปองกันของเขาได
ความปาเถื่อนและเย็นชาของเสี่ยวเปาสรางความขุนเคืองใหกับพวกตระกูลชั้นสูง
พวกเขาถูกเยี่ยฮูหยินควบคุมก็รูสึกอึดอัดมากพอแลว ในตอนนี้พวก “ปรมาจารย”
แรกเกิดเหลานี้ยังประกาศเอาชีวิตตอหนาทุกคน พวกตระกูลชั้นสูงรูสึกวาพวกเขา
ตองสั่งสอนคนพวกนี้ใหรูสำนึกและกำจัดความอวดดีไป ไมเชนนั้นพวกเขาคงมีชีวิตที่
ยากลำบากในอนาคต
เปนเรื่องยากนักที่ทุกคนจะมีศัตรูรวมกันได
กุยหูที่อยูทามกลางเงายังคงสีหนาไรอารมณ ดูไรชีวิต เฉกเชนหุนเชิดที่รูจักแต
การเขนฆาเทานั้น
เขากำมือขวาเปนหมัดและกระแสพลังธาตุรวมถึงลำแสงก็มารวมตัวกันที่ขอมือ
ทอง ไม น้ำ ไฟ ดิน... วงแหวนหาธาตุ!
จากนั้นก็มีวงแหวนหาธาตุจำนวนมากเกิดขึ้นรอบลำแขนของเขาในทันที
วงแหวนหาธาตุเกาวงที่สองแสงเจิดจาพันอยูรอบแขนขวาของกุยหู พลังธาตุพลุง
พลานอยางรุนแรงขึ้นมาในทันที ราวกับพยัคฆรายที่แยกเขี้ยวกางเล็บแสดงความ
โหดรายออกมา
จงโหวจวินสีหนาเปลี่ยนไป
กอนที่เขาจะทันทำอะไร กุยหูก็เหวี่ยงกำปน
กำปนกุยหูนำแสงซึ่งดูคลายดวงตากระจางใสของพยัคฆรายที่พรอมจะลงมือ
สังหารมาดวย มันปะทะลงบนระฆังใหญเขาอยางจัง
เคลง!
เสีย งดังกอ งระเบิดขึ้นในหูข องทุ ก คน ทำให พ วกเขาสู ญ เสี ย การได ย ิ นไปชั่ว
ขณะหนึ่ง
จงโหวจวินภายในระฆังเหมือ นจะเสี ย สมาธิ แต เขาก็ รี บ ดึ งสติ ก ลั บ มาอย า ง
รวดเร็ว! ปรับพลังอันพลุงพลานปนปวนภายในรางกาย เมื่อเห็นสภาพระฆังตรงหนา
อยางชัดเจน นัยนตาเขาก็หดลงอีกครั้ง ดานบนของระฆัง.... มีรอยราว!
ปะ... เปนไปไดอยางไร
เขาไมอยากเชื่อสายตาตัวเอง เขาไมเคยเห็นรอยราวบนระฆังมากอนเลย
เคลง!
อีกหมัดหนึ่งกระแทกเขาใสรอยราว
กำปนกุยหูนั้นดูไมเร็วเทาไรนัก ไมไดเร็วปานสายฟา แตละหมัดนั้นสามารถ
มองเห็นไดอยางชัดเจน
รอยแยกบนตัวระฆังก็มองเห็นไดอยางชัดเจนเชนเดียวกัน
เคลง เคลง เคลง!
กุยหูตอยลงไปที่จุดเดิมอยางไมรูจักเหน็ดเหนื่อย ทำใหรอยราวขยายตัวขึ้นอยาง
รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
คลื่นพลังธาตุที่บาคลั่งหมุนวนรอบกายกุยหูโดยไมจางหายไป หากแตลอยอยูรอบกาย
และสั่นไหวไปตามการตอยแตละครั้ง
เลือดลมของจงโหวจวินพลุงพลานอยางรุนแรง ในที่สุดเขาก็ตองพนโลหิตออกมาคำโต
เลือดสดๆ สาดใสระฆัง ทำใหลำแสงของมันนั้นเจิดจามากขึ้น
ตอนนั้นเองที่ดวงตาของกุยหูเปนประกาย เขาคลายหมัดและประทับมือลงไปบน
รอยแตกราวของระฆัง
คลื่นพลังธาตุที่ลอมรอบกายของเขาหายไปอยางรวดเร็ว พลังธาตุในระยะรอยจั้ง
รอบกายเขาก็หายไปเชนกัน วงแหวนหาธาตุทั้งเกาวงรอบแขนหลอมรวมกันเปนวง
เดียวอยูรอบฝามือที่วางอยูบนระฆัง
เปรี๊ยะ!
ฝามือของกุยหูทะลวงผานระฆังเขาไปราวกับวาไมมีอะไรมาตานทาน และฟาด
เขาใสหนาอกของจงโหวจวิน
กุยหูลอยตัวขึ้นในอากาศ เปลี่ยนเปนลำแสงกอนจะกลับไปยังดอกบัวที่อยูกลาง
ทะเลสาบอีกครั้งราวกับวาเขาไมไดทำอะไรที่สลักสำคัญอันใด
ทั่วทั้งทะเลสาบเงียบสนิท
จงโหวจวินกมศีรษะลงในขณะที่ยังสับสน เขามองเห็นวงแหวนหาธาตุที่อยูบนอก
ไดอยางชัดเจน
มันหมุนวนอยางตอเนื่อง ขณะที่พลังของธาตุทั้งหาไหลเวียนแทนที่กันและกัน
เกิดขึ้นและหายไปอยางไมรูจบ
รอยแตกเริ่มปรากฏขึ้นบนรางกายของเขา ประหนึ ่ งเป น รู ป ป  น ดิ น เผา รอย
แตกราวกระจายไปทั่วรางราวกับใยแมงมุม แสงสวางชั่วรายพุงออกมาจากรอยราวนัน้
ลำแสงสองสวางมากขึ้นและจงโหวจวินก็เริ่มละลายราวกับกอนน้ำแข็ง เขาขยับปาก
พยายามจะพูดแตไมมีเสียงดังออกมา
ฟู รางพราเลือนของเขาละลายไปจนหมดทามกลางแสงสวาง ไมเหลือสิ่งใดเอาไวเลย
แสงเจิดจาสีสันสดใสจางลงอยางรวดเร็วและหายไปในที่สุด
ทั่วทั้งบริเวณยังคงเงียบงัน
ไมมีใครอยากเชื่อสิ่งที่เพิ่งไดเห็นกับตา กุยหูสามารถสังหารจงโหวจวินไดอยาง
งายดายเพียงนี้จริงหรือ กุยหูกลาสังหารจงโหวจวินเชียวหรือ โครงการเกียรติยศของ
ปรมาจารยแข็งแกรงถึงเพียงนี้หรือ
ผลกระทบอยางรุนแรงทำลายการปองกันที่พวกเขาสรางขึ้นลงไดในชั่วพริบตา
ผูตรวจตราเหนียนเองก็ตกตะลึงเชนกัน
แปะ แปะ แปะ
เสียงปรบมือเบาๆ ทำลายความเงียบงัน
พวกผูชมมองมายังตนกำเนิดเสียงซึ่งก็คือเยี่ยฮูหยิน
เยี่ยฮูหยินมีสีหนาที่เต็มไปดวยความภูมิใจ “กุยหูกาวหนาขึ้นมาก เขายังเปนแค
เด็กนอยตอนที่เขามายังบางตระกูลเยี่ยเปนครั้งแรก แตตอนนี้ไดกลายเปนคนสำคัญ
ไปแลว ไมทำใหขาผิดหวังจริงๆ”
นางไมไดมองไปที่พวกตระกูลชั้นสูงและเหลาปรมาจารยที่ทำหนาเหมือนเพิ่งจะ
เสียลูกชายไป พวกเขาไมมีคาอะไรสำหรับนาง
นางจอ งมองไปยังรา งที่เครงขรึ มกลางทะเลสาบปรมาจารย เวลาหลายปที่
ยากลำบากและทุกขทนพรากหัวใจของพวกเขาไป เสียงร่ำไหคร่ำครวญเปลี่ยนไปเปน
ความแข็งแกรงนายำเกรง
นางทำสำเร็จแลว
แผนการและทุกอยางที่นางจายไปไดตอบแทนกลับมาเปนอยางดี
นางไดรับพลังที่เปนของนางแตเพียงผูเดียว พลังที่นาเกรงขาม
นางเต็มไปดวยความรูสึกปลอดภัยอยางไมเคยมีมากอน และทั่วรางก็เปยมไปดวย
ความมั่นใจอยางที่ไมเคยรูสึกมากอน คำพูดกลายเปนสิ่งไรคาในตอนนี้
แมแตคำพูดที่กลาหาญก็ไมมีความจำเปนอันใดสำหรับนางในตอนนี้
นับจากวันนี้ไป นางสามารถควบคุมชะตากรรมของตนเองไดอยางแทจริง และมี
อำนาจที่จะกาวสูเวทีโลกตั้งแตนี้เปนตนไป
นี่เปนเพียงแคกาวแรก นี่คือรอบแรกของโครงการเกียรติยศของปรมาจารย จะมี
ปรมาจารยจำนวนนับไมถวนที่จะตอสูเพื่อนาง เปนผูใตบังคับบัญชาของนาง
สำหรั บ นางแล ว ชี ว ิ ต เพิ ่ ง จะเข า สู บ ทใหม สำหรั บ โลกนี ้ ก ็ ไ ด เ ข า สู  บ ทใหม
เชนเดียวกัน
นางพูดอยางแผวเบา “พวกเจาไปไดแลว”
ไมมีใครกลาพูดอะไร พวกเขากมหนาและจากไปอยางเงียบงันดวยความกลัว
เยี่ยฮูหยินรูสึกไดถึงความยินดีที่ผุดขึ้นมาอยางตอเนื่อง นางทดลองทุกวิธีเพื่อ
สะกดพวกตระกูลชั้นสูงเอาไว และแมวาพวกนั้นจะไมพูดออกมา พวกเขาก็ไมเชื่อฟง
นางและทำการตอตานอยูเบื้องหลังอยางตอเนื่อง อยางไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้จะ
ทำใหแนใจไดวาคลื่นใตน้ำทั้งหมดจะถูกกำจัดไปจนหมดสิ้น
ความทะเยอทะยานที่พวกมันมีอยูถูกทำลายไปจนหมดแลว
นาสมเพช
นางสายหนาไมอยากคิดเรื่องนี้อีกตอไป สงเสียงเรียกออกไปเบาๆ “เสี่ยวเปามานี่”
เสี่ยวเปาลอยขึ้นและบินไปอยูตรงหนานางอยางไมลังเล
ความโหดเหี้ยมหายไปจากดวงตาเย็นชาของเขาแลวในตอนนี้ เยี่ยฮูหยินรูสึกได
ถึงความปลอดภัยอยางมากและอดยิ้มไมได
นางยื่นมือออกไปลูบไลใบหนาของเสี่ยวเปาดวยสายตาพิศวง นางกระซิบ “จากนี้
ไปมารดาตองพึ่งพาเจาใหชวยปกปองแลวนะ”
เสี่ยเปายังคงเฉยเมย เขาเปนประดุจรูปปนที่ไรชีวิต
สายตาเยี่ยฮูหยินกลับมากระจางใสอีกครั้ง นางดึงมือกลับและพูดอยางใจเย็น
“ขาอยากใหพวกเจาทั้งหมดทำงานใหขาสองอยาง”
บทที่ 621 เสริมความแข็งแกรงใหตัวออนกระบี่
ภายในแดนมหัศจรรยของดวงตาโลหิต การตอสูระหวางโลหิตเทพปศาจกับ ตัว
ออนกระบี่ยังไมมีทีทาวาจะจบลง หลังจากไดรับการเสริมกำลังจากคายกลกระบี่นับ
แสนคายกล ตัวออนกระบี่ก็เปลี่ยนไปอยางเห็นไดชัด
สภาพของหมอกที่ปกคลุมตำหนักปฐพีของเขานั้นตอนแรกเปนเสมือนเมฆสีเทา
ในตอนนี้สามารถมองเห็นกระบี่จำนวนนับไมถวนไดอยางเลือนรางอยูภายในเมฆนั้น
กระบี่ที่มีขนาดและรูปรางแตกตางกันไป แตก็ตางสองประกายแสงที่เจิดจาออกมาทำ
ใหพวกมันดูมีตัวตน อยางไรก็ตาม มีแคเพียงสวนปลายกระบี่เทานั้นที่มีอยูอยาง
ชัดเจน หากมองตามตัวกระบี่เขาไป ก็จะพบวามันคอยๆ พราเลือนและจางหายไป
ภายในเมฆหมอก
กระบี่เหลานั้นลากหมอกใหยืดยาวออกจนดูเหมือนกับผืนผาบางๆ ขนาดเทาฝา
มือจำนวนมากมาย
ตัวออนกระบี่ในตอนนี้เคลื่อนไหวอยางทรงพลังจนนาตกใจ และพลังตอสูของมัน
ก็เพิ่มขึ้นอยางเห็นไดชัด
อายฮุยสำรวจดูอยางละเอียด แมวาทั้งสองฝายจะดูเทาเทียมกัน ทวาประกาย
รังสีที่แตกกระจายออกมาจากเสาแสงสีทองนั้นเพิ่มขึ้นอยางเห็นไดชัด ความพลุง
พลานปนปวนของกระบี่ก็เปนเฉกเชนฝูงปรันยาที่มุงหนาไปอยางเหี้ยมหาญพรอมกับ
ฟนอันแหลมคม คอยกัดแทะเสาแสงสีทองไมหยุดหยอนราวกับไมรูจักเหน็ดเหนื่อย
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำใหเขาประหลาดใจอยางมาก
สำหรับเขา ตัวออนกระบี่นั้นปกคลุมไปดวยชั้นของผาโปรงที่ลึกลับยากจะมอง
ทะลุผานเขาไปได มันมีปฏิกิริยากับทุกอยางที่เกี่ยวของกับกระบี่ ทั้งลึกลับและไมดอย
ไปกวาพลังของโลหิตเทพปศาจที่แข็งแกรงและกาวราวเลย
คิดดูแลว อายฮุยก็รูสึกวาตนคอนขางโชคดี
เขาไมไดมีโลหิตเทพปศาจมากมายนักภายในราง บางทีอาจจะแคหนึ่งในสามหรือ
หนึ่งในสี่หยดเทานั้น เขาคอนขางมั่นใจวาหากเขามีโลหิตเทพปศาจเต็มหยดแลวละก็
เขาตองตายไปแลวแมวาจะมีตัวออนกระบี่ก็ตาม
เขารูสึกสงสัยวายายหนึ่งพันหยวนไปเอาโลหิตเทพปศาจมาจากไหนกัน
เขาคิดวามีความเปนไปไดสูงที่จะเปนรางวัลจากจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ แตทำไม
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ถึงตองทำเชนนี้ โลหิตเทพปศาจมีคามากมายมหาศาล และไมมี
ทางมอบใหใครงายๆ อยางแนนอน
อีกอยาง... เขาไมตองใชมันอีกแลวหรือ
อายฮุยรูสึกวาความคิดนี้ชางแปลกประหลาด โลหิตเทพปศาจนั้นเปนพลังระดับที่
สูงที่สุดแมแตตัวออนกระบี่ของเขาก็แทบจะสูไมได แลวพลังที่เหนือกวาโลหิตเทพ
ปศาจจะเปนเชนไรกัน
ความรูเกี่ยวกับพลังของอายฮุยนั้นเปลี่ยนแปลงไปอยางไมรูตัว
หากวาปรมาจารยก็คือผูใชพลังธาตุที่คนพบเสนทางของตนเองแลว เปาหมาย
ตอไปก็จะเปนการสรางวงแหวนพลังธาตุของตนเองขึ้นมา ยกตัวอยางเชน กิ่งไมแหง
ชีวิตและสายฟานั้นตางก็เปนวงแหวนพลังธาตุที่มีครบทุกธาตุ หรือหากใหพูดอยาง
เจาะจงก็คือมีหาธาตุ
ไมตองสงสัยเลยวาเปนสิ่งที่ยากเย็นและทาทายอยางยิ่ง
ผูใชพลังธาตุทั่วไปนั้นเริ่มจากการฝกเพียงแคธาตุเดียว และเสนทางสูการเปน
ปรมาจารยก็เต็มไปดวยอุปสรรค บางทีคนสวนใหญอาจมองวาพลังธาตุเดียวนั้นเปน
หลักการที่ถูกตอง มีนอยคนนักที่รูถึงขั้นตอไป ที่ใชพลังธาตุเดียวนั้นขับเคลื่อนพลัง
ธาตุทั้งหา
พลังผสานธาตุของสมัชชามหาปราชญนั้นมีความไดเปรียบกวาในแงนี้
สิ่งที่ลึกลับยิ่งกวาก็คือวงแหวนพลังธาตุที่ปรมาจารยสรางขึ้น ซึ่งสวนใหญนั้น
ไมไดแสดงพลังธาตุทุกธาตุออกมา ยกตัวอยางเชนกิ่งไมแหงชีวิตนั้นทุกคนมองวามัน
เปนพลังธาตุไม ในขณะที่สายฟานั้นก็เกี่ยวของกับธาตุน้ำ ไมมีใครคิดวาพวกมันตางก็
มีโครงสรางที่เกิดจากวงแหวนหาธาตุ
หากไมใชเพราะโลหิตเทพปศาจ อายฮุยก็คงไมอาจเขาใจเรื่องนี้ได
วงแหวนหาธาตุนั้นเปนขั้นสองของระดับปรมาจารย
แลวยอดปรมาจารยเลา ยังคงเปนวงแหวนหาธาตุหรือไม อายฮุยเองก็ไมรูเพราะ
เขาไมเคยพบเจอยอดปรมาจารยมากอนจึงไมอาจตัดสินได อยางไรก็ตาม กิ่งไมแหง
ชีวิตของลูเฉินนั้นมีวงแหวนหาธาตุที่มีโครงสรางประณีตซับซอน แตก็ยังไมไดเปนยอด
ปรมาจารย ตัวเขาเองก็บังเอิญสรางสายฟาขึ้นมาไดแมวาจะไมไดเปนยอดปรมาจารย
ยอดปรมาจารยเปนคนที่เทียบเท ากับ จั กรพรรดิ ศักดิ ์สิท ธิ ์ ความแข็งแกรงก็
ทัดเทียมกัน
ในระบบพลังธาตุ การที่สามารถตอตานโลหิตเทพปศาจไดก็นับวานายกยองมาก
แลว ขนาดสายฟาของอายฮุยยังพายแพ ตัวออนกระบี่ก็เปนสิ่งแปลกประหลาดที่
แมแตอายฮุยก็ยังไมรูที่มา
เมื่อคิดเรื่องนี้มากขึ้น อายฮุยก็ไดแนวคิดของตนเองขึ้นมา
ขั้นแรกคือเปนปรมาจารย
ขั้นที่สองคือเขาใจวงแหวนหาธาตุและความแตกตางของสภาวะตางๆ ยกตัวอยางเชน
สายฟานั้นเหนือกวากิ่งไมแหงชีวิต มีวงแหวนหาธาตุที่เรียบงายกวากิ่งไมแหงชีวิตอยู
หรือไม อายฮุยคิดวามี แลวมีวงแหวนหาธาตุที่ซับซอนยิ่งกวาสายฟาหรือไม อายฮุยก็
คิดวามีความเปนไปไดเชนกัน
ขั้นสามก็คือมีความแข็งแกรงระดับเดียวกับยอดปรมาจารย โลหิตเทพปศาจและ
ตัวออนกระบี่
หากจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มอบโลหิตเทพปศาจใหเสออวี๋ ก็เปนไปไดวาเขาไดคนพบ
สิ่งที่มีความแข็งแกรงยิ่งกวาแลว เชนนั้นใชหรือไม ยังมีสิ่งที่แข็งกวาอยูอีกหรือ
อายฮุยรูสึกสงสัย วงแหวนหาธาตุของกิ่งไมแหงชีวิตทำใหเขาประหลาดใจ และ
ยังพบอีกวาสวนประกอบของสายฟานั้นลึกล้ำเกินกวาจินตนาการ โลหิตเทพปศาจนั้น
ทรงพลังอยางยิ่ง ในขณะตัวออนกระบี่ก็เปนสิ่งที่สับสน แตก็มีที่มาจากมือกระบี่ที่ทรง
พลังและลึกลับ อายฮุยจึงคาดหวังกับมันมาก
พลังที่เหนือกวาโลหิตเทพปศาจ อายฮุยไมอาจจะจินตนาการได
อายฮุยรูสึกวาความคิดของเขานั้นออกจะนาขัน เรื่องที่หางไกลเชนนั้นไมใชสิ่งที่
เขาตองเอามาใสใจ
เขาสายหนาและเบี่ยงความสนใจกลับมาที่การตอสูระหวางตัวออนกระบี่และ
โลหิตเทพปศาจ
เมื่อสายตาของเขาจับจองไปที่การปะทะอยางรุนแรงนั้น เขาก็ตระหนักวาสะเก็ด
ของลำแสงสีท องกระเด็น ออกมาจากเสาแสงสี ท อง เมื ่ อ เที ย บกั บ ความยิ ่ งใหญ
แข็งแกรงของเสาแสงสีทอง สะเก็ดเหลานี้ดูเหมือนจะเล็กนอยจนไรคา หากยังเปน
เชนนี้ตอไป การตอสูนี้จะยืดเยื้อไปอีกนานเพียงไร
ทันใดนั้น อายฮุยก็ตระหนักวาเขาไดมองขามปญหาหนึ่งไป
กระบี่แหลมคมภายในตัวออนกระบี่ไดแตกสลายจากการปะทะและเปลี่ยนเปน
หมอกกลับคืนสูตัวออนกระบี่ แลวสะเก็ดที่กระเด็นออกมาจากเสาแสงของโลหิตเทพ
ปศาจหายไปไหน
กลับคืนสูโลหิตเทพปศาจหรือ เหมือนจะไมใช...
อายฮุยเบิกตากวางและมองหา

“วันนี้ก็แคนี้สินะ”
สีหนาเจียงเหวยมีรองรอยของความเหนื่อยลา การตอสูวันนี้เปนไปอยางดุเดือดมาก
ศัตรูมีกลศึกมากมาย พวกเขาจึงตองระแวดระวังอยูตลอดเวลา พวกศัตรูนั้นเจาเลห
มากขึ้นเรื่อยๆ และกลยุทธของพวกเขาก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แตผลลัพธออกมาไมดี
เหมือนเคย
มีศพของปลาคางคาวหลังกวางทั้งหมดสิบสามศพ
เมื่อพวกเขาตระหนักวาเลือดเนื้อของมันจำเปนสำหรับคายกลกระบี่ เจียงเหวย
และพวกก็เริ่มขนสงซากปลามาจากแนวรบเปนประจำทุกวัน สมาชิกหนวยกระบี่
สายฟาก็จะรีบมารับและสับมันเปนชิ้นๆ กอนที่จะสาดเขาไปในคายกลกระบี่
ในตอนนี้คายกลกระบี่กำลังถูกสรางมากขึ้นเรื่อยๆ
บรรยากาศบนยอดเขาเหนือหุบเขานั้นแตกตางไปอยางสิ้นเชิง คายกลกระบี่ที่
หนาแนนเปนเสมือนปาเหล็ก แผรัศมีที่เย็นเยียบและอันตรายออกมา หมอกกอตัว
และสลายไปอยางตอเนื่องไมหยุดหยอน ทำใหหลายสวนนั้นถูกบดบังจนมองไมเห็น
หมอกหมุนวนอยูภายในหุบเขาที่ติดตั้งคายกลกระบี่ เปนเสมือนวังน้ำวนยักษที่
ปกคลุมไปทั่วหุบเขา และใจกลางของวังวนนั้นก็คืออายฮุย
หมอกนั้นไหลเขาสูรางกายของอายฮุยอยางตอเนื่อง
เสีย งฟูๆ ดังออกมาจากภายในค า ยกลกระบี ่ เป น เสี ย งของค า ยกลกระบี ่ ที่
กลายเปนผงธุลี
“ในหุบเขามีกระบี่เทาไรแลว”
“จนถึงตอนนี้ก็สามแสนสองหมื่นหกพันหกรอยสี่สิบเกาเลม”
“นาตกใจยิ่งนัก ชาติกอนเปนตัวกินกระบี่หรือไร”
“โหลวหลานก็คิดเหมือนกัน”
เจียงเหวยดูกระตือรือรนขั้น “มันจะไดผลไหม”
โหลวหลานตอบอยางจริงจัง
“ไดผลแนนอนเจียงเหวย การเซนดวยเลือดเนื้อเพิ่มพลังใหคายกลกระบี่ถึงหาเทา ทำ
ใหปราณกระบี่เปลี่ยนแปลงไปและมีรองรอยของวิญญาณ แมวาจะออนจางแตก็มีคา
มาก ในหมูคายกลกระบี่ที่เรารูจัก คายกลกระบี่หยินหยางไดผลดีที่สุด”
เจียงเหวยถามขึ้นในทันที “อายฮุยจะตื่นขึ้นเมื่อไร”
โหลวหลานสายหนา “โหลวหลานไมรูเหมือนกัน”
เจียงเหวยจับจองไปที่ใจกลางของคายกลกระบี่ที่จัดวางอยางแนนขนัดซึ่งอายฮุย
นอนหลับลึกอยู “ขาหวังวาเขาจะตื่นขึ้นมาโดยเร็ว”
โหลวหลานพยักหนาดวยสีหนาโหยหา “ใช”
…..
ภายในดวงตาโลหิต
อายฮุยเขาใจในที่สุดวาสะเก็ดแสงพวกนั้นหายไปไหน
สวนหนึ่งของมันถูกตัวออนกระบี่ดูดซึมเขาไป อีกสวนหนึ่งก็เขาไปในรางกายของเขา
สวนที่เหลือก็กลายเปนหมอกสีทองออนจางและสลายหายไปในอากาศ
อา ยฮุย สามารถสัมผัสไดอ ยางชั ดเจนวา ตัว อ อนกระบี ่ และเลือ ดเนื้ อ ของเขา
เปลี่ยนแปลงไปอยางนาทึ่ง เขาพบวาการเปลี่ยนแปลงนี้ยากจะบรรยายได แตเขาก็รู
วามันเปนผลประโยชนตอเขาอยางมาก
ประโยชนที่เห็นไดชัดเจนที่สุดก็คือมันชวยรักษากลามเนื้อที่เหี่ยวแหงของเขา ทำ
ใหเขารูสึกประหลาดใจอยางยินดี นับตั้งแตเขาใชสายฟาเพื่อตอสูกับผลผีเสื้อ ราตรี
รางกายของเขาก็เสียหายและออนแอราวกับกระดาษ จากนั้นพลังทุกชนิดในรางกาย
ของเขาก็ตอสูกันเปลี่ยนรางกายของเขาเปนสนามรบ ดูเหมือนวาจะไมมีหวังที่จะ
รักษาไดเลย
ใครจะรูวาสะเก็ดแสงสีทองจะมีผลเชนนี้!
การเปลี่ยนแปลงของตัวออนกระบี่นั้นซับซอนยิ่งกวา อายฮุยไมอาจอธิบายไดวา
เปลี่ยนไปในทางที่ดีหรือราย แตกระนั้น หลังจากดูดกลืนสะเก็ดแสงเขาไป ตัวออน
กระบี่ก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนเปนสงบนิ่งตอโลหิตเทพปศาจมากขึ้น
หลังจากหยุดไปสองวัน ปราณกระบี่ก็เริ่มไหลเวียนอยางตอเนื่องอีกครั้ง อายฮุยรู
วานี่ตองเปนผลงานของโหลวหลานและพวกที่พยายามจะชวยเหลือเขา
อายฮุยรูสึกซาบซึ้งใจ ไมวาเมื่อไรหรือสถานการณจะยากลำบากเพียงใด พวกเขา
ก็ไมเคยทอดทิ้งเขา
ปราณกระบี่ที่ไหลอยางตอเนื่องเสริมความแข็งแกรงใหกับตัวออนกระบี่อยางรวดเร็ว
อายฮุยพบวามีบางอยางแตกตางไป ไมเพียงแคปราณกระบี่แข็งแกรงขึ้นเทานั้น
ยังมีความเปลี่ย นแปลงไปอยา งมากมาย ประหนึ ่ งมี ว ิ ญ ญาณอ อ นจางและความ
แตกตางของหยินหยาง
หรือวาจะเปนคายกลกระบี่
ในเวลาสั้นๆ อายฮุยก็สามารถคาดเดาได มีนอยคนนักที่มีความรูมากกวาเขาใน
เรื่องของกระบี่และคายกลกระบี่ จำนวนของปราณกระบี่ที่เพิ่มขึ้นนั้นมากมาย จึงเห็น
ไดชัดวาคายกลกระบี่ที่โหลวหลานและพวกสรางขึ้นนั้นมีขนาดใหญโตอยางมาก
แตอายฮุยยังไมรูวา โหลวหลานตองสรางคายกลกระบี่ขึ้นนับรอยนับพันเพื่อชวยเขา
เขาคิดแควาคงใชกระบี่เปนหมื่นเลม หากเขารูความจริงคงตองตะลึงงันเปนแน
ปราณกระบี่ที่เขามาใหมสรางผลกระทบอยางใหญหลวงใหกับตัวออนกระบี่ ไม
เพียงแคปลายกระบี่ที่หนาแนนนั้นจะดูเหมือนมีวิญญาณขึ้นมา มันยังแยกออกเปน
สองกลุม หยินและหยาง ทั้งสองกลุมเชื่อมตอกันและหมุนวนพัวพันกัน
อายฮุยตกใจเมื่อไดเห็นเชนนั้น นี่ไมใชปลาหยินหยางหรอกหรือ
ตัวออนกระบี่ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงเปนเขมแข็งขึ้นและจำนวนสะเก็ดแสงที่หลุด
ออกมาจากเสาแสงก็เพิ่มขึ้น สะเก็ดแสงสีทองถูกตัวออนกระบี่และเลือดเนื้อของเขา
ดูดซับเขาไปอยางตอเนื่อง สวนที่ไมถูกดูดซับก็เปลี่ยนไปเปนหมอกสีทองและเริ่ม
ชัดเจนมากขึ้น
ดวงตะวันที่รอนแรงและลอยอยูนั้น ดูเหมือนจะไมเปลี่ยนไปแมแตนอย เสาแสงสี
ทองยังคงไรผูตานเหมือนกอน ทวาอายฮุยเริ่มมองเห็นโอกาสที่จะชนะขึ้นมาแลว
บทที่ 622 การมาถึงของเสออวี๋
สูงขึ้นไปบนทองฟา
แสงสีทองเจิดจาพุงผานลมทองคำที่รุนแรง เปนเฉกลูกศรทองที่เทพเจายิงออกมา
เสออวี๋สวมพัสตราภรณแดง มีแสงสีทองหอหุมรอบกาย นางบินดวยความเร็วสูง
ราวกับลูกปนใหญที่ถูกยิงออกมา ทิ้งรอยเปนทางยาวไวเบื้องหลัง เปนรอยประดุจเรือ
วิ่งผานทองทะเล คงอยูเพียงแคครูเดียวก็ถูกลมทองคำอันรุนแรงทำลายไป
ดวงพักตรงดงามยั่วยวนของนางชวนใหลุมหลง แคนางขมวดคิ้วก็ทำใหผูชาย
หัวใจละลายได
นางยังไมคุนเคยกับพลังอันยิ่งใหญภายในรางกาย ทุกครั้งที่หัวใจเตนทำใหนางสั่น
ไหวไปถึงจิตวิญญาณ ประหนึ่งมีกระแสไฟฟาไหลไปตามรางกาย
ไมกี่วันกอนตอนที่นางลืมตาขึ้นทุกสิ่งก็เปลี่ยนไป โลกตรงหนานางเปลี่ยนไปอยาง
สิ้นเชิง ความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเกิดจากโลหิตเทพปศาจ วัตถุศักดิ์สิทธิ์ของแควน
แหงเทพ
โลหิตเทพปศาจที่ยังไมถูกดูดซับนั้นยังคงอยูในหัวใจของนางราวกับอสูรยักษที่รอ
วันตื่นนิทรา แตการดูดซับโลหิตเทพปศาจแคบางสวนนั้นก็ทำใหนางไดกาวหนาขึ้นไป
จนถึงระดับที่เกินกวานางจะจินตนาการได พลังในกายนางนั้นมากมายลมหลามดั่ง
มหาสมุทร บางครั้งแมแตการเคลื่อนไหวเพียงเล็กนอยก็สามารถทำใหผืนน้ำปนปวน
ได
วิชาบูชายัญดอกไมแหงชีวิตและความตายที่นางเปนกังวลมานานนั้นไดหายไป
อยางไรรองรอยราวกับวาไมเคยมีอยู ดังนั้นนางจึงมั่นใจอยางมากวาปญหาไดรบั การ
แกไขแลว ชางนาอัศจรรยยิ่งนัก
ราวกับวาปญหาทุกอยางนั้นเกิดจากความออนแอ
นี่รวมไปถึงความกังวลและโกรธเกรี้ยวเชนเดียวกัน
ในตอนนี้เสออวี๋ตั้งสมาธิอยูกับภารกิจ ซึ่งมีความสำคัญอยางยิ่งตอแควนแหงเทพ
เพื่อชวยใหนางทำภารกิจไดสำเร็จ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ถึงกับมอบโลหิตเทพปศาจ
ใหกับนางเพราะทั้งเยี่ยไปอีและหนานกงอูเหลียนนั้นเปนคนที่ไมมีใครมาแทนไดใน
แควนแหงเทพ
ดังนั้นไมวาจะตองทำอยางไร นางตองทำภารกิจนี้ใหสำเร็จ นำตัวเยี่ยไปอีและ
หนานกงอูเหลียนกลับมาใหได
นางจะไมมีวันลืมความเมตตาอันยิ่งใหญของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
ทันใดนั้นนางก็สัมผัสไดถึงบางสิ่ง จึงบินไปอีกทิศทางหนึ่งอยางฉับพลัน ในตอนนี้
นางมีประสาทสัมผัสไวมาก โดยเฉพาะกับพลังวิญญาณโลหิต และหัวใจแหงเทพนั้นก็
มีความเชื่อมโยงกับโลหิตเทพปศาจอยู เพราะหัวใจแหงเทพนั้นถูกสรางขึ้นเพื่อโลหิต
เทพปศาจ ดังนั้นนางยอมสามารถหาที่อยูของหัวใจแหงเทพไดแมวามันจะถูกผนึกไว
ซึ่งนี่เปนสาเหตุที่จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มอบภารกิจนี้ใหแกนาง
รางของนางหายไปจากบนฟากฟาอยางฉับพลัน
ชั่วขณะตอมา นางก็ปรากฏขึ้นต่ำลงมา ตามองลงไปยังหนวยรบที่อยูดานลาง
หนวยเทพวิญญาณกำลังพักผอน ทุกคนตางก็เหนื่อยลา รวมถึงเฮอหนานซาน
ใบหนาของเขาอิดโรยแสดงใหเห็นถึงความออนลาและเปนกังวล หลายวันกอน หัวใจ
แหงเทพพลันหยุดเตน จากนั้นหนวยภีตะกับหนวยพิพากษาก็หายไปในเทือกเขา
พวกเขาไม ร ู ว า เป น เพราะพวกเขาได ท ำลายหัว ใจแหง เทพหรื อ เพราะว า มี
บางอย า งเกิ ด ขึ ้ น กั บ มั น สิ ่ ง ที ่ แ ย ท ี ่ ส ุ ด ที ่ จ ะเป น ได ก ็ ค ื อ พวกนั ้ น ได ส ั ง หารทั ้ ง ผู
บัญชาการเยี่ยและเจาวิหารหนานกงไปแลว
ความหวาดกลัวในหัวใจของเขานั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ความเปลี่ยนแปลงอยางฉับพลันนั้นทำลายแผนการของพวกเขาไปจนสิ้น พวก
เขาตองเปลี่ยนกระบวนทัพและสงสายสืบออกไปเพื่อสืบหารองรอยที่อาจหลงเหลือ
อยูของศัตรู
นี่มอบโอกาสอันดีใหแกพวกศัตรูที่ไมไดเปนฝายเสียเปรียบอีกตอไป หนวยภีตะ
และหนวยพิพากษาไดเปลี่ยนจากผูหลบหนีไปเปนหมาปาเดียวดายในปากวาง ทั้ง
โหดเหี้ยมและเจาเลห คอยฉวยโอกาสโจมตีอยูเสมอ
หนวยรบของเฮอหนานซานถูกโจมตีหลายครั้งและเสียหายอยางหนัก พวกศัตรู
นั้นมีประสบการณและเจาเลหมากกวาที่เขาคาดคิดเอาไว
ทันใดนั้น เฮอหนานซานก็สัมผัสไดถึงบางอยางที่ผิดปกติ เขามองขึ้นไปและหัวใจ
ของเขาก็หดลง
เขาไมรูตัวดวยซ้ำวามีคนมาปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ!
จนกระทั่งไดเห็นใบหนาของคนผูนั้นถึงไดผอนคลายและถอนหายใจออกมาอยาง
โลงอก “โธ เปนองคหญิงนี่เอง”
สถานะของเสออวี๋ในแควนแหงเทพนั้นไมไดต่ำแตก็ไมนับวาสูงเชนกัน นอกจากนี้
นางก็ไมไดมีพลังอำนาจอะไร ในฐานะจอมพลแหงหนวยเทพวิญญาณ เฮอหนานซาน
นั้นมีสถานะสูงกวานางอยางแนนอน
แตเมื่อเห็นเสออวี๋ในครั้งนี้ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวของเฮอหนานซาน ใบหนา
ของเขาซีดลงกอนจะคำนับและถาม “มีขอความจากฝาบาทหรือ”
นี่เปนเรื่องที่เปนไปไดมากที่สุดเทาที่เขาจะนึกได และเขาก็เตรียมพรอมที่จะรับ
ความโกรธเกรี้ยวของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ผลงานของพวกเขานั้นทุเรศจนตัวเขาเองก็
ยังรับไมได ไดแตหวังวาจะไดสรางความดีความชอบมาลบลางความผิด มากกวาที่จะ
ถูกจับและนำตัวกลับไปในตอนนี้
เมื่อเห็นสีหนาของเฮอหนานซาน เสออวี๋ก็เดาไดวาเขาคิดอะไรอยู
นางยิ้มอยางออนโยน
โลกตรงหนาของพวกทหารหนวยเทพวิญญาณเปลี่ยนไปอยางมากมาย รอยยิ้ม
นั้นขยายใหญขึ้นในดวงตาของพวกเขา ทองฟาดานหลังสตรีชุดแดงก็ดูเหมือนจะพลิก
กลับ ทำใหพวกเขาไมอาจที่จะยืนไดอยางมั่นคง พลังวิญญาณโลหิตในกายนั้นเสียการ
ควบคุมไปอยางสิ้นเชิง พวกเขาทรุดลงกับพื้นอยางหมดกำลัง ไมอาจที่จะขยับได
แมแตนิ้วมือ
ความหวาดกลัวอยางมากกลืนกินทุกคน
พวกเขาไมเคยพบเจอสิ่งที่แปลกประหลาดเชนนี้มากอน
ทันใดนั้นก็ไดยินเสียงอสูรคำรามจากดานหลัง เปนเสียงผูใชพลังธาตุโลหิตที่มี
ฤทธิ์เทพคนหนึ่งใชฤทธิ์เทพเพื่อตานทานเสออวี๋ จากนั้นผูใชพลังธาตุโลหิตที่มีฤ ทธิ์
เทพคนแลวคนเลาก็ใชฤทธิ์เทพออกมากอนจะทรุดตัวลงตามกันไป
ใบหนาของเฮอหนานซานซีดขาว รางกายสั่นเทา แตก็ยังสามารถตานทานแรง
กดดันและถามขึ้นดวยเสียงที่สั่นเทา “ฝาบาทตองการจะทำอะไร”
เสออวี๋ไมตอบ นางยิ้มอีกครั้ง ทันใดนั้นพวกเขาก็สัมผัสไดวาดอกไมเบงบานและ
ดวงอาทิตยก็สองแสงอยางเจิดจาอีกครั้งหลังฝน
แรงกดดันทั้งหมดหายไป อากาศอันอบอุนทำใหพวกเขารูสึกสบาย พวกขุนพล
และทหารก็อดที่จะยิ้มออกมาไมได
แตเฮอหนานซานกลับหวาดกลัวยิ่งกวาเดิม
เสออวี๋แข็งแกรงจนนาหวาดกลัวถึงเพียงนี้ไดอยางไร
จากนั้นเขาก็ไดยินเสียงออนโยนกระซิบที่ขางหู
“ขานั้นตองขอบคุณเปนอยางยิ่งที่ฝาบาทประทานไดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของแควนแหงเทพ
ให ขายอมตายอยางทุกขทรมานเพื่อตอบแทนพระคุณนี้ ฝาบาทไดบอกกับขาดวย
ตัวเองวาใหรีบนำผูบัญชาการเยี่ยและเจาวิหารหนานกงกลับไป จอมพลเฮอโปรดบอก
ใหอีกสองหนวยนั้นไปชวยหนวยเทพหมาปา งานใหญของแควนแหงเทพไมอาจถูก
หยุดยั้งดวยแนวปองกันได”
เฮอหนานซานมองไปที่รอยยิ้มของเสออวี๋ดวยความไมอยากเชื่อ
แนนอนวาเขารูวาสิ่งศัก ดิ์สิทธิ์ น ั้ น คือ อะไร แต เขาไม อยากเชื่ อว าจักรพรรดิ
ศักดิ์สิทธิ์จะมอบมันใหใครก็ตาม
แตความแข็งแกรงอยางนาหวาดหวั่นของเสออวี๋ก็มีแคคำอธิบายเดียวเทานั้น
เขาใชเวลานานทีเดียวกวาจะไดสติกลับมา เขากมหนาพูดอยางเคารพ “ขอแสดง
ความยินดีกับองคหญิงดวย ผูนอยทราบแลว!”
ในแควนแหงเทพ ความแข็งแกรงคือทุกอยาง ในตอนนี้คงมีเพียงแคปศาจแดง
เทานั้นที่อาจจะสามารถเทียบกับเสออวี๋ไดในเรื่องของความแข็งแกรง ดังนั้น จึงเปน
ธรรมดาที่เฮอหนานซานตองแสดงความเคารพตอนาง ยิ่งไปกวานั้น การไดรับสิ่ง
ศักดิ์สิทธิ์จากจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์นั้นยอมแสดงใหเห็นถึงความโปรดปรานที่มีตอเสออวี๋
หลังจากลังเลอยูครูหนึ่ง เฮอหนานซานก็กลาว “องคหญิง ขามีเรื่องจะรายงาน”
เฮอหนานซานรูวาจะทำตัวอยางไรในชวงตกต่ำ ซึ่งทำใหเสออวี๋พอใจ นางพูด
อยางออนโยน “เชิญจอมพลเฮอกลาวมา”
เฮอหนานซานกลาวอยางเคารพ “เราไมรูวาเพราะเหตุใด แตเมื่อหลายวันกอน
คลื่นที่แผออกมาจากหัวใจแหงเทพไดหายไปและไมปรากฏขื้นอีกเลย ทำใหพวกเรา
ลมเหลวในการตามรอยศัตรู นาละอายที่ตองบอกวาดวยความไรสามารถของข า
ขุนพลและทหารมากมายตองลมตายลง”
เสออวี๋ดูสงบเยือกเย็นเชนปกติราวกับวานางรูอยูแลว นางกลาวดวยใบหนาที่ยิ้มแยม
“ทานไมตองโทษตัวเอง ขาคิดวาหัวใจแหงเทพไดถูกพวกศัตรูปดกั้นเอาไว หนวย
พิพากษาและหนวยภีตะมีประวัติศาสตรยาวนานนับพันป ยอมไมใชพวกออนแออยาง
แนนอน ทั้งภีตะวั่นและผูพิพากษาซีเหมินตางก็เปนยอดฝมือผูโดดเดน อุปสรรค
เล็กนอยที่เราพบเจอนี้ไมสงผลกระทบตอสถานการณโดยรวม”
เฮอหนานซานรูสึกโลงอก
เขารูวาเสออวี๋มาในนามของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ซึ่งแสดงวาพวกเขานั้นทำงานได
ไมเปนที่พอใจ เขากังวลวาเสออวี๋จะลงโทษเขา ตอใหเปนเชนนั้นเขาก็ไดแตยอมรับมัน
แตคำพูดของนางนั้นชัดเจนวาจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไมตองการที่จะลงโทษพวกเขาแต
มอบโอกาสใหทำคุณไถโทษ
ขุนพลและทหารที่อยูรอบกายเฮอหนานซานก็รูสึกผอนคลายเชนกัน ดวยเหตุนี้เสออวี๋
จึงสรางความประทับใจอันดีไวในหัวใจของพวกเขา
เฮอหนานซานรูสึกอับอาย “เปนความผิดของขา ขานั้นไมคูควรจะเปนจอมพล
ขายินดีที่จะรับการลงโทษ”
เสออวี๋สายหนา “ชนะหรือพายแพนั้นเปนเรื่องธรรมดาในการทำศึก ทานไมตอง
กังวลจนเกินไปในเรื่องนี้ ขามีวิธีตามหาหัวใจแหงเทพ สวนอีกสองหนวยรบนั้น ขา
หวังวาทานจะสงคนไปบอกขอความและเตือนพวกเขาวาอยาไดไขวเขวเพราะเรื่องนี้”
เมื่อไดยินที่นางกลาว เฮอหนานซานก็รูวาเสออวี๋ตองมีวิธีอื่นเขาจึงไมพูดมาก “ไม
มีปญหา! เราจะสงคนไปเดี๋ยวนี้เลย!”
เสออวี๋พยักหนาและจากไป
ตอนนี้เองที่พวกหนวยเทพวิญญาณรูสึกผอนคลายอยางแทจริง
“ความแข็งแกรงขององคหญิงเสออวี๋นั้นนาหวาดกลัวยิ่งนัก ขาไมอาจควบคุม
รางกายไดเลย แมแตขยับนิ้วก็ยังทำไมได!”
“นางเองก็แข็งแกรงอยูแลว วากันวานางฝกวิชา [ดาราเทพมายา] เจารูหรือไมวา
ใครที่ฝกวิชานี้สำเร็จเปนคนสุดทายกอนหนานาง”
“ใครกัน”
“ฝาบาท!”
“จริงหรือ ชางนาอัศจรรย! ไมสงสัยเลยที่ฝาบาทมอบสิ่งศักดิ์สิทธิ์แกนาง”
“ใชแลว เรามีผูยิ่งใหญเพิ่มขึ้นอีกคนแลวในแควนแหงเทพ”
พวกเขาพูดคุยกันดวยความชื่นชมเปนอยางยิ่ง
เฮอหนานซานเองก็รูสึกประหลาดใจ ในตอนนั้นปศาจแดงไดสรางความตกตะลึง
ไปทั่วแควนแหงเทพ ในตอนนี้องคหญิงเสออวี๋ก็ไมไดเปนรองใตเทาปศาจแดงเลย หาก
นางสามารถชวยผูบัญชาการเยี่ยและเจาวิหารหนานกงไดแลว ความสำเร็จของนางก็
จะเหนือล้ำยิ่งกวาใตเทาปศาจแดงเสียอีก ยิ่งไปกวานั้น ในใจของจักรพรรดิศกั ดิ์สิทธิ์
องคหญิงเปนคนที่ไดรับความเชื่อใจ
เขาตะคอกใสพวกทหาร “หุบปาก! กลาดีอยางไรถึงไดพูดเรื่ององคหญิงลับหลัง!
ออกคำสั่งใหเดินทางไปยังแนวปองกันสะพานมุกดาวายุ สงคนไปแจงคำสั่งขององค
หญิงแกอีกสองหนวยดวย สงคนไปยังหนวยเทพหมาปาโดยเร็วที่สุดเพื่อแจงขาววา
พวกเรากำลังจะไปและบอกใหพวกนั้นไมทำอะไรบุมบามกอนที่พวกเราจะไปถึง เมื่อ
พวกเราพบกันแลว เราจะถลมแนวปองกันพรอมกัน!”
“ทราบ!”
เสออวี๋ไมหยุดแมแตนอยหลังจากออกมาจากหนวยเทพวิญญาณ
นางไมไดโกหก นางสัมผัสไดถึงรัศมีพลังของหัวใจแหงเทพ เห็นไดวาศัตรูไดผนึก
มันเอาไวจึงไมอาจสัมผัสไดถึงคลื่นพลัง แตพวกเขาก็ไมอาจจะปดบังรัศมีของมันได
หัวใจแหงเทพเปนวัตถุจากการกลั่นโลหิตอยางหาใดเปรียบมิได มีพลังชีวิตที่
แข็งแกรงและรัศมีที่ทรงพลัง
และรัศมีพลังของมันก็ไมเกี่ยวของอะไรกับพลังธาตุแมแตนอย ดังนั้นผูใชพลังธาตุ
จึงไมอาจสัมผัสได แตเมื่อนางไดดูดซับโลหิตเทพปศาจ เสออวี๋ก็สามารถสัมผัสถึงมัน
ไดอยางงายดาย นี่คือสาเหตุที่จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มอบโลหิตเทพปศาจแกนางและสง
นางมาทำภารกิจนี้
นางบินไปตามทางที่นางสัมผัสไดอยางเงียบงันราวกับผีชุดแดง
ในที่สุด รัศมีพลังนั้นก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ นำทางนางราวกับปายบอกทาง
นางรูวาศัตรูนั้นอยูไมไกล
บทที่ 623 การเปลี่ยนแปลงของตัวออนกระบี่
อายฮุยติดตามดูการเปลี่ยนแปลงของตัวออนกระบี่อยางใกลชิด
ในเวลาเพียงไมกี่วัน ตัวออนกระบี่ที่เคยเปนแคเมฆหมอกไดเปลี่ยนเปนมีปลาย
กระบี่เพิ่มขึ้นมาและจากนั้นก็กลายเปนปลาหยินหยาง ในตอนนี้พวกมันไมใช แ ค
หมอกจางๆ อีกตอไป กระบี่ที่ดูบางเบานั้นก็คอยๆ ชัดเจนขึ้น
กระบี่ขนาดเล็กที่มีรูปรางแตกตางกันรวมกลุมกันราวกับฝูงปลา
สิ่งที่นาสนใจก็คือ ไมวากระบี่เล็กๆ นั้นจะมีรูปรางอยางไร ก็ตางมีเปนคู หนึ่งหยิน
หนึ่งหยาง กระบี่หยินและกระบี่หยางนั้นแยกกันอยางเห็นไดชัด แตก็ดูเหมือนฝาแฝด
ที่หมุนวนไปรอบกันและกันอยางตอเนื่อง
สะเก็ดแสงสีทองแตกกระจายและลอยอยูในอากาศเสมือนฝูงแมลง
ตัวออนกระบี่หยินหยางหมุนวนเปนวังวน ดึงดูดหมอกสีทองที่ทอดตัวเปน สาย
ยาวมัดรอบตัวออนกระบี่เอาไวดุจไหมสีทองโปรงใส
อายฮุยรูสึกตกใจกับการเติบโตของตัวออนกระบี่ เขาตระหนักวาเทพปศาจยุคโบราณ
นั้นนาทึ่งเพียงใด แมวาจะเปนเพียงแคเทพปศาจที่ไมมีใครรูจักและไมมีชื่อในบันทึก
ใดๆ โลหิตที่หลงเหลืออยูก็มีจิตวิญญาณที่แข็งแกรงที่ไมพังทลายลงไปแมวาจะผานมา
นานหลายปเพียงนี้แลวก็ตาม
หากไมมีการชวยเหลือจากโหลวหลานและพวก ตัวออนกระบี่ก็คงไมอาจจะมี
เปรียบไดอยางนาประหลาดใจเชนนี้ ปราณกระบี่ยังคงไหลเขามาเสริมพลังหยินหยาง
และทำใหหมอกกระบี่หนาแนนขึ้น แสงเย็นเยียบที่ปลายกระบี่สองประกาย เมื่อแสง
นั้นหมุนวน แรงผลักก็รุนแรงขึ้นกวาแตกอน
ตัวออนกระบี่ทำลายแสงสีทองเชนเดียวกับจิตวิญญาณของโลหิตเทพปศาจทีละนิด
เจตจำนงของเทพปศาจถูกทำลายไปจากชิ้นสวนที่แตกกระจายออกมาซึ่งกลายเปน
อาหารใหแกตัวออนกระบี่
นั่นคือหมอกสีทอง
หลังจากถูกดูดซับเขาไปในตัวออนกระบี่ กระบี่เล็กๆ เหลานั้นก็ดูดซับหมอกสีทองเขา
ไปเหมือนกับฝูงปลาตะกละกินอาหาร
เมื่อหมอกสีทองซึมซับเขาไปในกระบี่เล็กๆ เหลานั้น กระบี่สีเทาก็เริ่มมีประกาย
แวววาวของโลหะขึ้นมา
คลื่นพลังที่แหลมคมสาดกระจายออกมาราวกับวงคลื่น
แมจะอยูภายในเสาแสงโลหิต อายฮุยก็ยังสามารถสัมผัสไดถึงความหวาดหวั่นราว
กับวามีใครถือกระบี่จอเอาไวที่หวางคิ้วของเขา
แสงสีทองถูกตัวออนกระบี่ทำลายเปนจำนวนมากขึ้น และรัศมีของมันก็เติบโตขึ้น
อยางรวดเร็ว
จิตและวิญญาณของอายฮุยนั้นกระจางใสอยางที่สุด รวมถึงเจตนกระบี่เย็นเยียบ
อันแหลมคมและบริสุทธิ์ ตัวออนกระบี่ดูเหมือนจะรวมจิต วิญญาณ และเลือดเนื้อของ
เขาเอาไว เขาสัมผัสไดถึงการเติบโตของกระบี่แตละเลมและรัศมีพลังที่แตกตางกัน
ของพวกมัน
รัศมีพลังของกระบี่แตละเลมนั้นตางกันไปอยางสิ้นเชิง บางก็เอาแตใจ บางก็
บริสุทธิ์ บางก็สุภาพเรียบรอย บางก็ดุดันรุนแรง อายฮุยไมเคยคิดเลยวาจะมีปราณ
กระบี่มากมายหลายชนิดถึงเพียงนี้ แตละชนิดตางก็มีเอกลักษณของตัวเอง แตก็
สามารถผสานกันไดอยางกลมกลืนโดยไมมีความขัดแยงแมแตนอย
อายฮุยกำลังมึนเมาอยูกับปราณกระบี่ที่หลากหลายเหลานี้
ตนกำเนิดของตัวออนกระบี่กระบี่นั้นมาจากแกนแท-ลมหายใจ-วิญญาณของเขา
ตอนนี้การเติบโตของตัวออนกระบี่จึงไดสงเสริมจิตวิญญาณเขา เศษคัมภีรที่กลาวถึง
การฝกตัวออนกระบี่ก็พลันผุดขึ้นในหัว อายฮุยรูวาเขากำลังหยั่งรู เนื้อหาที่เปน
ปริศนาก็กลายเปนสามารถเขาใจไดขึ้นมาอยางฉับพลัน
เขาไมรูวาเวลาผานไปนานเพียงไรในยามที่เขาตื่นขึ้นมาจากอาการมึนเมาและตก
ตะลึง ทั้งหมดที่เขามองเห็นในตอนนี้ก็คือหมอกสีทองปกคลุมไปทั่วบริเวณ ภายใน
หมอกหนา อายฮุยไมอาจมองเห็นเสาแสงสีทองไดอยางชัดเจน
เขาพยายามสงบใจลง ผานไปครูหนึ่งก็เริ่มตระหนักไดวาเกิดอะไรขึ้น
ตัวออนกระบี่ดูดซับเพียงแตจิตวิญญาณที่ประทับอยูในโลหิตเทพปศาจเทานั้น
สวนอื่นๆ นั้นไรประโยชน ทวา ในโลหิตเทพปศาจ จิตวิญญาณที่ประทับอยูเปนเพียง
แคสวนเล็กนอยเทานั้น สวนประกอบของโลหิตเทพปศาจที่เกี่ยวของกับเลือดเนื้อนั้น
ไดซับซาบเขาไปในรางกายของอายฮุย และหลอเลี้ยงเลือดเนื้อใหแข็งแรงขึ้น
นอกเหนือจากสองสวนนี้ โลหิตเทพปศาจยังมีพลังที่ลึกลับอื่นอีก ซึ่งหลงเหลืออยู
ในตอนนี้ อายฮุยไมอาจดูดซับมันได พลังจึงไปรวมตัวกันและลอยอยูในรางของเขา
พลังของเทพปศาจนั้นเหนือกวาความรูของอายฮุย ดังนั้นเขาจึงมองมันดวยความ
เลื่อมใสยำเกรง
เลือดเนื้อและตัวออนกระบี่ของเขาสามารถดูดซับไดเพียงแคสวนนอยของพลัง
ทั้งหมด
อายฮุยตื่นตัวขึ้นมาเมื่อเห็นขนาดของหมอกสีทองอยางชัดเจน เขาจัดระเบียบพลังที่
แปลกประหลาดและแข็งแกรงในรางกายของตนอยางยากลำบาก ดูจากสถานการณ
ในตอนนี้ เขาแคตองรอเวลาใหตัวออนกระบี่ทำลายโลหิตเทพปศาจจนหมด
ทวา หมอกสีทองที่ลึกลับนี้ก็ไดกลายมาเปนสิ่งที่นากังวลแทน ยิ่งมีหมอกมาก
เทาไร ก็ยิ่งเปนอันตรายมากขึ้นเทานั้น
เมื่อไดเรียนรูบทเรียนอยางยากลำบากมาแลว เขาก็จะไมยอมใหมีพลังที่แปลก
ประหลาดมาอยูในรางกายงายๆ อีก
หลังจากสงบลง อายฮุยก็ไมอยากที่จะโลภมากเก็บพลังที่อยูในหมอกสีทองเอาไว
แตกลับคิดวาจะขับไลหมอกสีทองนี้ออกจากรางกายไดอยางไร สำหรับเขา โลหิตเทพ
ปศาจที่ถูกตัวออนกระบี่และเลือดเนื้อของเขาดูดซับไปนั้นก็มากพอที่จะทำใหเขา
แข็งแกรงขึ้นแลว
ในตอนนี้ เขาไมมีเวลามาศึกษาสวนที่ยังไมรูนี้
ในตอนนั้นเองที่ปราณกระบี่ไหลเขาสูรางกายของอายฮุยจากภายนอก
เมื่อแกนแท-ลมหายใจ-วิญญาณของอายฮุยแข็งแกรงขึ้น เขาก็สามารถสัมผัสได
ถึงคายกลกระบี่อันตอเนื่องอยูในโลกภายนอก
ทันใดนั้นเขาก็คิดอะไรบางอยางขึ้นมาได ทำไมไมสงหมอกสีทองนี้เขาไปในคาย
กลกระบี่
เมื่อคิดไดเชนนั้น กระบี่ขนาดเล็กนับพันในตัวออนกระบี่ก็เริ่มสงเสียงคำรามอยาง
พรอมเพรียง
…..
บนสันเขาเหนือหุบเขา สมาชิกหนวยกระบี่สายฟานอนกองอยูกับพื้นทั่วไปหมด
ทุกคนตางก็เหน็ดเหนื่อยอยางทีส่ ุด บางคนก็หลับไป สงเสียงกรนราวกับฟารอง พวก
เขาเหน็ดเหนื่อยอยางมากในชวงไมกี่วันมานี้ ทั้งหมดที่พวกเขาทำก็คือจัดตั้งคายกล
กระบี ่ ท ั ้ ง วั น ทั ้ ง คื น จำไม ไ ด ด  ว ยซ้ ำ ว า จั ด ตั ้ ง ค า ยกลกระบี ่ ไ ปมากน อ ยแค ไ หน
นอกจากนั้นยังตองทำการเซนสังเวยโลหิตที่ไดมาจากสัตวโลหิตซึ่งพวกทหารเก็บ
รวบรวมมาจากสนามรบใหกับคายกลกระบี่อีกดวย
กระบี่ยาวชุดใหมยังไมเสร็จ และการตอสูในสนามรบวันนี้ก็ยังไมจบสิ้น เวลา
พักผอนนั้นเปนสิ่งมีคาสำหรับพวกเขา ทุกคนจึงนอนลงกับพื้น
กูเซวียนนั้นดีกวาคนอื่นหนอย แมวาจะเหน็ดเหนื่อย เขาก็ยังสามารถยืนอยูได
และมองไปยังคายกลกระบี่ที่หนาแนนในหุบเขาอยางหลงใหล
สือจื้อกวงที่อยูดานขางพึมพำ “เมื่อไรเจานายจะตื่นขึ้นมา ไมมีเขาอยูดวยขารูสึก
เปนกังวล...”
กูเซวียนไดสติกลับมาและตอบ “อีกไมนาน”
สือจื้อกวงดวงตาเปนประกาย “จริงหรือ”
กูเซวียนพูดอยางหนักแน “จริง! มองดูใหดีสิ เขากลืนกินคายกลกระบี่ไดรวดเร็ว
กวาเดิมมากและก็ยังเรงความเร็วขึ้นไปอีก”
สือจื้อกวงไมใชคนโง เขาแคไมไดสังเกตมากอน ครั้นไดยินคำพูดของกูเซวียน เขา
ก็ตาเปนประกาย “ใชแลว จริงดวย! การกินของเจานายนั้นรวดเร็วขึ้นมาก! เราแทบ
จะตั้งคายกลกระบี่ไมทันใหเขากิน”
เขาใชกำปนทุบฝามืออีกขางอยางตื่นเตน “เมื่อเจานายตื่นขึ้น เราก็ไปตอสูกับ
พวกมันกัน ขาจะแสดงพลังของหนวยกระบี่สายฟาใหไดเห็น”
เขาคิดถึงความตื่นเตนที่ไดตอสูกับหนวยเทพหมาปาครั้งกอน เปนความรูสึกที่
ระทึกใจอยางยิ่ง
กูเซวียนพยักหนา เขาก็รูสึกเชนเดียวกัน
เนื่องจากเขามีอายุมากกวาและมีความเปนผูใหญกวา จึงมีความคิดที่ลึกซึ้งกวา
เขารูวาการศึกนั้นรุนแรงมากในทุกวันนี้ และพวกศัตรูก็เปลี่ยนกลยุทธอยูตลอดเวลา
ทุกคนตองมีสมาธิเปนอยางสูง จนถึงตอนนี้การปองกันของพวกเขายังนับวามั่นคงแต
กูเซวียนก็ยังรูสึกไมวางใจอยูตลอด
บางทีอาจเปนเพราะเจานายหมดสติไป
อายฮุยเปนเสมือนกระดูกสันหลังของพวกเขา เมื่ออายฮุยไมอยูดวย พวกเขาก็
รูสึกกังวลไมวาจะทำอะไรก็ตาม
กระนั้นก็ดี เมื่อ คิดดูอ ีก ทีแ ลว กู  เซวี ย นก็ รู  สึ ก ว า มั น เป น ธรรมดาเพราะเขา
สังเกตเห็นวาไมเพียงแคหนวยกระบี่สายฟาเทานั้นแตจอมพลซือเองก็มีความรูสึก
เชนนี้ จอมพลซือนั้นแข็งแกรงแตนางก็ยังเต็มใจติดตามเจานายจากกนบึ้งของหัวใจ
ดังนั้นแมลงเล็กๆ เชนขายอมตองพึ่งพาอายฮุยเพื่อความรูสึกปลอดภัย
ในตอนนั้น เขาลืมไปเลยวาเขาเปนรองจอมพลของหนวยกระบี่สายฟา
สิ่งที่เขาพูดกับสือจื้อกวงไมใชคำโกหก แตเปนขอสรุปที่ไดมาจากการสังเกตอยาง
รอบคอบ
เจานายจะตื่นในไมชา!
ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็ไดยินเสียงฟารองคำรามมาจากภายในหุบเขา
กูเซวียนและสือจื้อกวงสะดุงขึ้นดวยความตกใจ
หุบเขาสั่นสะเทือนไปดวยเสียงกระบี่นับหมื่นเลม
เสียงกระบี่กำธรกลายเปนคลื่น เสียงนั้นทำใหหัวใจคนสั่นสะทานรวมไปถึงพื้นดิน
อีกดวย
ในตอนแรก กูเซวียนและพวกหวาดกลัว แตเมื่อคิดดูอีกที พวกเขาก็ตื่นเตนขึ้นมา
นี่อาจเปนสัญญาณวาเจานายกำลังจะฟนขึ้นมาก็ได
ในไมชา พวกเขาก็ตระหนักวามีบางอยางผิดปกติ
“ดูที่คายกลกระบี่ที่ถูกเซนดวยโลหิต!”
เมื่อไดยินเชนนั้น คนอื่นก็หันไปมองดูที่คายกลกระบี่นั่น คายกลกระบี่เซนโลหิตนั้น
เปนคายกลกระบี่ที่เซนสังเวยดวยเลือดเนื้อของสัตวโลหิต โหลวหลานพบวาคายกล
กระบี่เซนโลหิตนั้นชวยอายฮุยไดดีกวา
อันที่จริงแลวไมมีใครรูวิธีเซนสังเวย พวกเขาจึงแคสาดเลือดเนื้อของสัตวโลหิตเขา
ไปในคายกลกระบี่ จากนั้นพวกเขาก็พบวาอายฮุยนั้นชอบคายกลกระบี่ที่ไดรับการ
เซนสังเวยโลหิตมากกวาเพราะพวกมันจะถูกกลืนกินทันทีที่พรอม
คายกลกระบี่เซนโลหิตนั้นเพิ่งสรางขึ้นดวยเลือดเนื้อของสัตวโลหิตที่ถูกสงมาเมื่อ
หนึ่งชั่วยามกอน
คายกลกระบี่เซนโลหิตนั้นเริ่มสองแสงสีทองออกมา และเลือดเนื้อในคายกลก็ถูก
ดูดเขาไปปานน้ำในทะเลทราย ในขณะเดียวกัน กระบี่ยาวในคายกลกระบี่ก็ดูดซับ
เลือดที่อยูบนตัวกระบี่เขาไป
ในชั่วพริบตา โลหิตทั้งหมดในคายกลกระบี่ก็หายไป
เคลง!
เสียงกระบี่ดังกอง กระบี่ยาวเลมหนึ่งในคายกลกระบี่แผลำแสงสีทองออกมา
เคลง เคลง เคลง!
เสียงกระบี่ดังขึ้นอยางไมรูจบ กระบี่ยาวแตละเลมในคายกลกระบี่แผแสงสีทอง
ออกมาอยางเขมขนขึ้นเรื่อยๆ ลำแสงสีทองนั้นเปนประกายเจิดจา โปรงใสและตรง
เหมือนเชนกระบี่ มันวิ่งผานทองฟาเหนือคายกลกระบี่ขึ้นไป
จากนั้นก็มีเสียงแตกเบาๆ เศษเหล็กขนาดเทาตะปูก็หลุดลอกออกมาจากกระบี่
ยาวและสลายเปนเถาธุลีกอนจะตกถึงพื้นดวยซ้ำ
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ
ชิ้นสวนที่ใหญขึ้นเริ่มแตกออกมาจากกระบี่ราวกับสีที่กรอนจากกำแพง
ชิ้นสวนทั้งหมดตางก็แหลกสลายกลายเปนเถาธุลีและมลายหายไปในอากาศ
หลังจากเสียงแตกครั้งสุดทาย ชิ้นสวนทั้งหมดก็หายไป และภาพตรงหนาของทุก
คนก็แปลกประหลาดอยางยิ่ง
คายกลกระบี่ถูกหอมลอมดวยแสงสีทอง กระบี่แสงจำนวนมากมายปกอยูกับ
พื้นดิน พวกมันสองสวางเจิดจา ราวกับวาเพิ่งถูกนำออกมาจากเตาหลอม ปราณกระบี่
พุงขึ้นสูทองฟาเหนือคายกลกระบี่
กระบี่เปลี่ยนเปนลำแสง แทงทะลุพื้นดินทีละเลมๆ
บทที่ 624 โลหิตเทพปศาจและกระบี่
หยางเซียนหยงมีใบหนาเหลี่ยมและคิ้วหนา เขากำลังรายงานสถานการณลาสุด
ของสนามรบ
คายอสูรแหงแรกนั้นเสียหายหนักมาก จำนวนคนตายมีมากกวาเจ็ดสวนแลว ซึ่ง
หมายความวาพวกเขานั้นไมอาจลงมือไดอีก หยางเซียนหยงไมอยากยอมรับ แตเขาไม
อาจทำอะไรไดเพราะศัตรูแข็งแกรงเกินไป
“พลังโจมตีของเจดียปนใหญนั้นเพิ่มขึ้นทุกวัน ขาคิดวาพันธมิตรเจดียปนใหญคง
มารวมทำศึกดวย ในตอนนี้ เปนการยากที่พวกเราจะตีฝาแนวปองกันเพราะไฟที่พน
ออกมาจากเจดียปนใหญนั้นหนาแนนมากจนกลายเปนกำแพงไฟเจดียปนใหญ ตราบ
ใดที่กระบวนทัพโจมตีดวยปลาคางคาวหลังกวางยังมีจุดออน กองกำลังทั้งหมดก็จะถูก
ทำลาย ดูเหมือนวาพวกมันจะมีลาวาหิมะเพียงพอ จึงโจมตีไดอยางบาคลั่งยิ่งกวาแต
กอน พวกมันไมสนใจเลยวาใชไปเทาไร”
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวไดยินเชนนั้นก็รูสึกประหลาดใจ “พวกคนจากหุบเขาซง
เจียนนั้นชางฉลาดอยางแทจริง ลาวาหิมะเปนไฟเหลวชั้นหนึ่งและมีราคาแพงมาก
พวกมันสามารถใชลาวาหิมะไดอยางมากมายก็เพราะพวกมันมีวิธีที่จะสรางขึ้นมาเปน
จำนวนมาก ขาเกรงวายังไมมีใครรูความลับนี้ของหุบเขาซงเจียน”
หยางเซียนหยงลังเลอยูครูหนึ่งกอนที่จะรายงานตอ “ขาพบวามีบางอยางแปลก
ประหลาดในชวงไมกี่วันมานี้”
“แปลกประหลาดหรือ”
“ขอรับ หลังจากจบการตอสู พวกมันจะนำเอาศพของปลาคางคาวหลังกวาง
ทั้งหมดไป กอนหนานี้ พวกมันจะเผาศพดวยลาวาหิมะเพื่อไมใหเกิดโรคระบาด ดังนั้น
ขาจึงคิดวาสิ่งที่พวกมันทำอยูในตอนนี้จึงคอนขางประหลาด”
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวดูประหลาดใจ เขาคิดอยูครูหนึ่งกอนที่จะกลาว “แคศพ
ของปลาคางคาวหลังกวางหรือ”
“ขอรับ ศพของพวกทหารนั้น พวกมันทำเหมือนเชนที่เคยทำกอนหนานี้”
ซงเสี่ยวเชี่ยนถาม “หรือวาพวกมันตองการที่จะเรียนรูเกี่ยวกับปลาคางคาวหลังกวาง”
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวพยักหนาและกลาว “ใช บางทีพวกมันอาจจะตองการ
หาทางรั บ มื อ กั บ ควั นพิษ ของปลาค า งคาวหลั ง กว า ง แต ไ ม ไ ด ทำไปเพื ่อ ที ่ จ ะได
กลายเปนผูใชพลังธาตุโลหิต”
คนอื่นหัวเราะออกมาเมื่อไดยินสวนสุดทาย
บางคนแทรกขึ้นมา “หากพวกมันตองการจะเปนผูใชพลังธาตุโลหิต ก็แคยอม
จำนน เรามีวิธีที่ดีกวาและปลอดภัยกวา”
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวยิ้มและพูดกับสมาชิกคายอสูรอยางออนโยน “ขารูวา พวก
เจาเสียหายอยางหนักและพบความยุงยากมากมาย แตครั้งนี้เราไดโจมตีปอมปราการ
ที่ปองกันอยางเขมแข็ง ซึ่งเปนการตอสูระหวางความเปนและความตาย พวกเราไม
อาจลาถอย ไมมีเวลามาเสียใจกับคนที่ตายไป แตตองหาวิธีที่จะทำลายศัตรู ครั้งกอน
หญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งมีประสิทธิภาพมาก และเราเกือบจะทำสำเร็จแลว ขาเชื่อใน
ความแข็งแกรงและความตั้งใจของพวกเจา ไปเตรียมตัวใหพรอมสำหรับทำศึกในวัน
พรุงนี้เถอะ!”
ผูนำคายอสูรทั้งสี่มองหนากันและตอบอยางพรอมเพรียง “ขอรับ!”
คนอื่นๆ ไดออกไป เหลือเพียงซงเสี่ยวเชี่ยนและเฮอ เหลียนเทียนเสี่ยวอยู  ใน
กระโจม
ใบหนาของเฮอเหลียนเทียนเสี่ยวเครงเครียดขึ้นมา เขาพูดอยางเย็นชา “พวกมัน
เก็บศพของปลาคางคาวหลังกวาง ขาเกรงวาพวกมันวางแผนบางอยางอยู เราไมอาจ
ลาชาอีกตอไป เจาคืบหนาไปถึงไหนแลว”
ซงเสี่ยวเชี่ยนกลาวอยางเคารพ “ขาพบวิธีแลว และผลการทดสอบก็ดีทีเดียว ขา
คิดวามันสามารถนำมาใชในการศึกจริงไดหลังจากปรับปรุงอีกเล็กนอย”
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวถามดวยเสียงทุมลึก “ตองใชเวลานานแคไหน”
ซงเสี่ยวเชี่ยนตอบอยางแนวแน “สามวันเปนอยางมาก ขายินดีเขียนหนังสือสัญญา!”
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวพยักหนาอยางแรง “ตกลง ขาจะใหเวลาเจาสามวัน”
จากนั้นสีหนาของเขาก็ผอนคลายมากขึ้น เขาพูดอยางสุภาพ “อยาไดโทษที่ขา
กดดันเจาอยางหนัก แตละวันนั้นหมายถึงชีวิตทหารของเรา หากไมอาจหาทางแกได
กอนที่พวกคายอสูรจะถูกสังหารจนหมด ขาคงตองเขาสูสนามรบดวยตัวเอง”
ซงเสี่ยวเชี่ยนกลาวอยางหนักแนน “เราจะทำสำเร็จในเวลาสามวัน!”
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวโบกมือ “ไปได”
ตอนนี้เหลือเขาอยูในกระโจมคนเดียว เขารูสึกเหนื่อยลาเพราะศัตรูนั้นรับมือยาก
ขึ้นเรื่อยๆ พวกมันแข็งแกรงขึ้นเมื่อตอสูมากขึ้น เขากลัวความกาวหนาของพวกมัน
เขาไมเคยเห็นหนวยรบที่เติบโตไดอยางรวดเร็วเชนนี้มากอน
อันที่จริงแลวหยางเซียนหยงไมจำเปนตองรายงานดวยซ้ำ เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวรู
ดีวาสถานการณเปนอยางไร
อัตราการตายของพวกเขาเพิม่ มากขึน้ และยากที่จะคืบหนาได แมวาพวกเขาจะมี
แผนใหมมากมาย ก็ไมมีแผนการไหนที่สามารถทำอันตรายศัตรูได พวกมันสามารถ
ตอบโตกลับมาไดอยางรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ในตอนนั้นเอง เขาไดยินเสียงปนปวนวุนวายจากภายนอก และทหารยามก็เดิน
เขามารายงานดวยความตื่นเตน “ใตเทา มีจดหมายมาจากคนของจอมพลเฮอ”
เฮอหนานซานหรือ
เฮ อ เหลี ย นเที ย นเสี ่ ย วรู  ส ึ ก ยิ น ดี ข ึ ้ น มา หรื อ ว า พวกเขาจะะช ว ยเหลื อ ผู
บัญชาการเยี่ยและเจาตำหนักหนานกงไดแลว
เขานั่งตัวตรงและรับจดหมายมาฉีกอาน
เมื่ออานขอความในจดหมายแลว เขาก็ตกใจ
เสออวี๋! สิ่งศักดิ์สิทธิ์!
เขารูสึกยิน ดีที่ไดรูว าหนวยรบอื่นๆ จะมาถึงในอีก ไมกี ่วั นนี้ แตความยิ นดี ก็
เปลี่ยนเปนขัดแยงอยางรวดเร็ว
…..
ภายในหุบเขา
เปรี๊ยะ!
กระบี่แสงแตกกระจายเปนเศษทองคำซึ่งไมจางหายไปแตไปรวมตัวกับกระบี่อื่นที่
อยูใกลเคียง
“กระบี่พังไปอีกหนึ่งแลว”
กูเซวียนรูสึกเจ็บปวดเมื่อเห็นกระบี่พัง แมเขาจะไมรูวากระบี่แสงแข็งแกรงแคไหน ก็
ยังรูไดวามันยอดเยี่ยมแทบจะในทันทีที่ไดเห็น
เขารีบหันไปหาพวกสมาชิกและตะโกน “เซนสังเวยโลหิต! เร็วเขา!”
สมาชิกคนอื่นรีบสาดเลือดเนื้อที่พวกเขาเตรียมไวเขาใสคายกลกระบี่
กระบี่ที่ดูดซับชิ้นสวนทองคำก็สองสวางขึ้นดวยประกายไฟในทันทีที่มันสัมผัสกับ
เลือดเนื้อ
ซือเสวี่ยมั่น เจียงเหวยและพวกก็ตกตะลึงกับภาพที่เห็น
“มันแตกหักจริงๆ หรือ”
“เปนเรื่องจริง”
พวกเขาไดยินเรื่องการเปลี่ยนแปลงของอายฮุย และมาดูวาเกิดอะไรขึ้นเมื่อมี
เวลาวาง
โหลวหลานนั้นติดตามความเปลี่ย นแปลงของอา ยฮุยอยา งใกล ช ิด คุ น เคยกับทุก
รายละเอียดเปนอยางดี เขาอธิบาย “หมอกสีทองเปนโลหิตเทพปศาจที่ไมอาจจะดูด
ซับได ดังนั้นเขาจึงกำจัดมันออกมาจากรางกาย ไมอยางนั้นเขาจะกลายเปนผูใชพลัง
ธาตุโลหิต”
ซังจื่อจวินถามดวยความสงสัย “โลหิตเทพปศาจนั้นเปนโลหิตของเทพปศาจจริงๆ
หรือ”
ซือเสวี่ยมั่นพลันกลาว “เราไมอาจรูถึงตนกำเนิดของโลหิตเทพปศาจ ดังนั้นจึง
ยากจะยืนยันไดวามันเปนโลหิตของเทพปศาจจริงหรือไม แตเราแนใจแลววาโลหิต
เทพปศาจแตละหยดนั้นมีพลังอันนาทึ่ง โลหิตเทพปศาจนั้นถูกคนพบโดยโลหิตแหง
เทพในตอนแรกและกลายเปนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพวกมันซึ่งสงผานมาจากรุนสูรุนจนถึง
ทุกวันนี้”
นางเกิดในตระกูลชั้นสูง จึงมีความรูมากมายที่นอยนักคนอื่นจะรู
ซังจื่อจวินสงสัยมากขึ้นกวาเดิม “เชนนั้นทำไมอายฮุยถึงไดมีโลหิตเทพปศาจ”
หากมันเปนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของโลหิตแหงเทพ ก็ตองมีคามาก ทำไมอายฮุยถึงมี
ครอบครอง
โหลวหลานอธิบายวาเกิดอะไรขึ้นกับ [วิชาบูชายัญดอกไมแหงชีวิตและความตาย] ทุก
คนรูสึก ตกตะลึง พวกเขาไมเคยได ย ิ น เรื ่ อ งการสั งเวยอั น โหดร า ยเช น นี ้ ม าก อ น
นอกจากนั้น พวกเขายังมีความเคารพนับถืออายฮุยมากยิ่ งขึ้ น เมื่อรูวาเขาทำตั ว
แข็งแรงดีมาตลอดเวลาทั้งที่เขานั้นบาดเจ็บสาหัส
มีแตเจาอวนที่ตาเปนประกาย เขากลาวอยางชื่นชม “อาฮุยโชคดียิ่งนัก! เราทำ
อะไรกับ เขาไดบ า ง เขาไดรับ ของศั ก ดิ ์ สิ ท ธิ ์ มาจากอาการบาดเจ็ บ ! เมื ่ อ เป นของ
ศักดิ์สิทธิ์ก็ตองแพงมากจริงไหม”
ในสายตาของเขา ก็เหมือนวาอายฮุยนั้นบังเอิญเก็บถุงเงินไดระหวางทาง
ไมมีใครอยากจะเสียเวลาตอบเจาอวน
โหลวหลานอธิบายตอไป “โลหิตเทพปศาจที่อายฮุยไมอาจดูดซับไดนั้น ถูกสงเขา
ไปในคายกลกระบี่ แตกระบี่ธรรมดาไมอาจตานทานพลังของมันไดจึงระเบิดออก
อยางไรก็ตาม โลหิตเทพปศาจนั้นไวตอเลือดเนื้อเปนอยางมาก คายกลกระบี่เซนโลหิต
นั้นสามารถดูดซับโลหิตเทพปศาจไดบางสวน”
ซังจื่อจวินเบิกตากวาง “ถาเชนนั้นกระบี่พวกนี้จะถูกหลอหลอมเปนกระบี ่เทพ
หรือไม”
เจาบอดเหอพลันพูดขึ้น “ตามหลักแลวก็นาจะใช”
ทุกคนหันไปมองเจาบอดเหอ
เจาบอดเหอพูดอยางสบายๆ “โลหิตเทพปศาจนั้นสงผลตอกระบี่ในรูปแบบที่เปน
เอกลักษณและแตกตางไปจากวิธีที่ขารูจัก นาเสียดายมันไมใชอาวุธระดับเทพเพราะ
คุณภาพของกระบี่พวกนี้แคธรรดาเทานั้น มีเพียงอาวุธระดับสวรรคที่สามารถดูดซับ
โลหิตเทพปศาจไดมากพอจนกลายเปนอาวุธระดับเทพได”
เจียงเหวยถามดวยความสงสัย “แลวทำไมเราไมใชกระบี่ที่คุณภาพสูงขึ้น”
เจาบอดเหอตอบ “ไมมีเวลา การสรางอาวุธระดับสวรรคนั้นใชเวลานานเกินไป
และยังตองใชวัตถุดิบล้ำคาจำนวนมากอีกดวย แมวาเราจะมีวัตถุดิบมากแตก็มีไมกี่
อยางที่สามารถใชสรางอาวุธระดับสวรรคได”
เจาอวนแทรกขึ้น “อยางนอยก็นาจะสรางไดสักเลมสองเลมไมใชหรือ”
“นั่นเปนเรื่องเปลาประโยชน” เจาบอเหอตอบอยางไรเยื่อใย “เราตองมีอยาง
นอยรอยเลม”
กระบี่ระดับสวรรครอยเลม...
เมื่อไดยินเชนนั้นทุกคนก็ลมเลิกความคิดไปในทันที
ซือเสวี่ยมั่นถาม “เราตองใชกระบี่มากเทาไรเพื่อดูดซับโลหิตเทพปศาจ”
นางหวังวาอายฮุยจะตื่นขึ้นโดยเร็ว เพียงแคสามารถกำจัดโลหิตเทพปศาจที่ ไม
อาจดูดซับไดออกจากรางก็สามารถทำใหเขาตื่นขึ้นไดแลว รัศมีพลังของกระบี่แสงนั้น
แข็งแกรงรุนแรง และจะสงผลรายตอรางกายของอายฮุยหากมันอยูในรางกายเขานาน
เกินไป
เจาบอดเหอตอบ “ประมาณหนึ่งแสนเลม”
คนอื่นตางก็หวาดกลัวเมื่อไดยินจำนวนนี้ มีเพียงเจาอวนที่ใจแข็งพอ “ไดเลย เรา
ตองทำมันได”
เจียงเหวยถามขึ้นอีกครั้ง “ถาหากกระบี่หนึ่งแสนเลมกลายเปนกระบี่ระดับเทพ
ทั้งหมดเลา มันจะทรงพลังขนาดไหน”
“อยางที่ขาบอกไป มันไมอาจนับวาเปนกระบี่ระดับเทพได” เจาบอดเหอกลาว
“แมวากระบี่แตละเลมจะสามารถดูดซับโลหิตเทพปศาจเทพปศาจไดเพียงเล็กนอย
เทานั้นเพราะคุณภาพของพวกมัน แตโลหิตเทพปศาจก็ยังสามารถปรับปรุงกระบี่
เหลานั้นและทำใหมันมีอานุภาพสูงขึ้นได”
หลังจากคิดครูหนึ่ง เขาก็กลาวตอ “กระบี่ที่ปรับปรุงแลวอาจจะออนดอยกวา
อาวุธระดับสวรรคอยูบางแตก็อาจมีประโยชนอยางอื่น”
ในตอนนั้น แสงสีทองที่สองประกายก็เริ่มแผออกมาจากตำแหนงใจกลางหุบเขาที่
อายฮุยอยู กระบี่ที่ไมอาจตานทานโลหิตเทพปศาจไดเริ่มระเบิดออกอยางตอเนื่องอยู
เปนระยะๆ แตกระบี่ที่หลงเหลืออยูก็ทำใหทั่วทั้งหุบเขาสองสวาง
เมื่อราตรีมาเยือน จุดแสงของกระบี่แสงก็เปนเสมือนตะเกียงที่กระจัดกระจายไป
ทั่วหุบเขา เปนภาพที่งดงามจับตา
แตกระนั้นก็ไมมีใครอยูชื่นชมกับความงามของภาพที่เห็น
เจาบอดเหอไปสรางกระบี่เพิ่มขึ้นเพราะอายฮุยตองใชกระบี่มากขึ้นในการดูดซับ
โลหิตเทพปศาจ
ซือเสวี่ยมั่น เจาอวนและพวกกลับไปยังแนวรบเพื่อเตรียมพรอมในการทำศึกวันพรุงนี้
กูเซวียนและสมาชิกหนวยของเขากำลังวุนวายกับการจัดตั้งคายกลกระบี่ภายใน
หุบเขา
ไมมีใครสังเกตเห็นวาหุบ เขาซงเจียนบนกา งปลานั้น มีชายหนุมผูหนึ่งยื นอยู
ทามกลางใบไผที่ลอยลองอยูในปาไผ รองรอยของ [บุปผาเขียวขจี] คอยๆ จางลง
อากาศในปาไผดูเหมือนจะหยุดหมุนเวียน เวลาเหมือนจะหยุดเดิน ใบไผกระบี่
หยกที่ลองลอยนั้นหยุดคางอยูกลางอากาศ รองรอยบุปผาเขียวขจีรูปเพชรที่ประณีต
คอยๆ ปรากฏขึ้นตรงหวางคิ้วของชายหนุมผูนั้น
บทที่ 625 ทะลวงผานมานลม
หลังจากตอสูมาทั้งวัน ทั้งผูใชพลังธาตุและผูใชพลังธาตุโลหิตตางก็ออนลา จึง
หยุดตอสูเพื่อฟนฟูเรี่ยวแรงและเตรียมพรอมสำหรับการตอสูในวันตอไป
คายอสูรพยายามที่จะโจมตีตอนกลางคืน แตก็ไมสำเร็จและกลับมาพรอมกับ
อัตราการตายอยางหนักหนวง
ในยามราตรี เสียงหวีดหวิวของมานลมทองคำแทบจะกลบเสียงอื่นไปจนหมดสิ้น
หางจากคายใหญไปหนึ่งรอยยี่สิบลี้ หนวยรบสองหนวยยื่นนิ่งราวกับรูปปนเปน
แถวยาวตรงหนามานลม มีเพียงเสียงหอนของหมาปาดังมาใหไดยินเปนระยะๆ
อากาศคืนนี้ดีทีเดียว ทองฟามืดสนิทไรดวงจันทร
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวที่ยืนอยูหนามานลมทองคำพูดอยางเครงเครียด “ที่นี่หรือ”
ซงเสี่ยวเชี่ยนคำนับ “ใชแลว เราพบจุดที่ออนแอหกจุดในมานลมทองคำ และนี่
คือจุดที่ออนแอที่สุด”
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวพยักหนา “ถาเชนนั้นก็เตรียมพรอม”
ซงเสี่ยวเชี่ยนลังเล “เราไมตองรอกำลังเสริมหรอกหรือ”
แมใจนางจะไมตองการรอกำลังเสริม
แตก็ยังรูสึกวาการไมสนใจจดหมายของจอมพลเฮอนั้นก็ไมเหมาะสมเทาไร
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวสายหนา “ไมจำเปน”
คนอื่นก็รูสึกโลงใจเชนกัน จากนั้นก็รูสึกตื่นเตน
ตราบใดที่พวกเขาสามารถทำลายมานลมได จุดออนที่สุดของศัตรูก็จะเผยออกมา
ตรงหนาพวกเขา หากไมใชเพราะสภาพภูมิประเทศที่พิเศษเฉพาะของสะพานมุกดา
วายุ ที่สรางเสนทางซึ่งเพียงคนเดียวก็ขวางทางตานทหารทั้งกองทัพไดขึ้นมาละก็ ตอ
ใหมียอดเขาสยบเทพถึงสามยอดก็ไมอาจหยุดยั้งการโจมตีพวกเขาไดเลยแมแตนอย
หนวยรบเดียวที่พวกเขาเกรงกลัวก็คือหนวยทวนเมฆาหนัก แตก็ยากที่จะเทียบกับ
หนวยเทพหมาปาได
แนวปองกันสะพานมุกดาวายุในตอนนี้เปนแนวปองกันสุดทายของศัตรู ตราบใด
ที่พวกเขาสามารถทำลายสะพานมุกดาวายุลงได ก็จะสามารถเดินทัพไดอยางไรการ
ตา นทานและตอ งชนะอยา งแนนอน ดั งนั ้ น พวกเขาไม ต อ งการที ่ จ ะแบ งความดี
ความชอบใหกับคนอื่น
เมื่อไดยินการตัดสินใจของจอมพล พวกเขาทุกคนจึงไดตื่นเตนขึ้นมา
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวมองไปรอบๆ และพูดเสียงดัง “ทุกคนฟงขา ขาไมมีอะไร
ตองพูดมากนักกับการตอสูในคืนนี้ หากเราชนะ มันจะเปนความดีความชอบอยาง
ที่สุด หากเราพายแพก็คือพวกเราทุกคนตองตาย”
คำพูดนี้สรางความกลาใหกับทุกคนในที่นี้ พวกเขาตัวสั่นดวยความตื่นเตนและ
เลือดลมพลุงพลาน
พวกเขาเปนทหารและแมทัพ ที ่ แ ข็ งแกร งและห า วหาญ มี ผลงานทางทหาร
มากมาย จึงกระหายชัยชนะยิ่งกวาคนทั่วไป ยิ่งไปกวานั้น การศึกในคืนนี้จะตองไดรับ
การจารึกไวในประวัติศาสตร
ความชอบไรที่ใดเปรียบนั้นดึงดูดใจของขุนศึกผูหาวหาญทุกคน
ดวยความตื่นเตนและโหดเหี้ยม พวกเขากลายเปนสัตวประหลาดที่กระหายเลือด
ไปแลว พวกเขาขี่หมาปาและหายใจหนักหนวง เลียริมฝปากอยูเปนครั้งคราว เผยให
เห็นความปาเถื่อนในใจที่พวกมันพยายามสะกดกลั้นเอาไว
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวไมพูดมากความและออกคำสั่ง “เริ่มได”
ซงเสี่ยวเชี่ยนไมลังเลอีกตอไป นางกลับคืนสูทาทีเฉยชาเหมือนเคย ขี่หมาปา
น้ำคางแข็งเงินเขาหามานลม
ตรงหนามานลม มีหนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงินสิบสองคนเตรียมพรอมอยูกอนแลว
ซงเสี่ยวเชี่ยนสูดหายใจลึกและตะโกน “เริ่ม!”
ความเศราปรากฏขึ้นบนใบหนาของทหารหนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงิน พวกเขาลง
จากหลังหมาปาดวยดวงตาที่เรื่อไปดวยน้ำตา และลูบหัวของหมาปา
“ไป!”
พวกเขาเสียงสั่นเครือ
หมาปาน้ำคางแข็งเงินสงเสียงหอนอยางโหยหวนแลวเลียเจานายของมัน จากนั้น
ก็พุงเขาสูมานลมทองคำราวกับดาวตกสีเงิน
หมาปาน้ำคางแข็งเงินสิบสองตัวเปลี่ยนเปนลำแสงสีเงินสิบสองสายที่ชนเขากับ
มานลมทองคำและระเบิดในทันที
น้ำคางแข็งเงินปกเขาไปในมานลมประหนึ่งเสาน้ำแข็งอันแข็งแกรง
น้ำคางแข็งเงินจำนวนเล็กนอยแตกกระจายและความเย็นเยียบเสียดกระดูกก็แผ
ไปทั่วบริเวณ ขุนพลและทหารทั้งจากหนวยเทพหมาปาและหนวยโลหิตน้ำคา งแข็ง
เงินตางก็เงียบงัน เนื่องจากพวกเขาตางก็ผูกพันกับสัตวพาหนะของตนอยางลึกซึ้ง จึง
ทำใจดูภาพที่เกิดขึ้นไมได
เสาน้ำแข็งสิบสองตนปกอยูในมานลม กอใหเกิดวงกลมเสนผาศูนยกลางประมาณ
หาถึงหกจั้ง
ลมทองคำยังคงสงเสียงหวีดหวิว แตวงกลมน้ำแข็งนั้นก็ยังปกแนนอยู
ซงเสี่ยวเชี่ยนพูดอยางเย็นชา “หญาตั๊กแตนน้ำคางแข็ง!”
ทหารปลอยหญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งที่เตรียมเอาไวออกไป ตั๊กแตนโลหิตสีแดงดำ
บินเขาไปในวงกลมน้ำแข็งราวกับเมฆสีแดงดำ
ติง ติง ติง
ตั๊กแตนโลหิตพุงเขาชนมานลมในใจกลางวงกลมน้ำแข็ง
จุดสีเทาเริ่มกระจายตัว ในชั่วพริบตาใจกลางของวงกลมน้ำแข็งก็เปลี่ยนเปนสีเทา
พลังธาตุทองถูกกัดกิน อยางรวดเร็วและอุโมงคก็ปรากฏขึ้นตรงหนาของพวกเขา ทุก
คนตื่นเตนยินดีขึ้นมา
แมวาพวกเขาจะรูอยูแลววาเบื้องบนจะตองหาทางออกได แตเมื่อไดเห็นกับตาวา
มานลมถูกทำลายลงความตองการตอสูในกายก็เดือดพลานขึ้นมา
ตราบใดที่พวกเขาสามารถผานมานลมไปได ชัยชนะก็อยูแคเอื้อมเทานั้น
ซงเสี่ยวเชี่ยนรูสึกโลงอก นางสงบใจลงและออกคำสั่ง “หนวยเทพหมาปาและ
หนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงินจะรวมกันฝาอุโมงคนี้ไป หนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงิน เสริม
ความแข็งแกรงใหกับอุโมงคดวยอากาศเย็นในขณะที่เดินทางผาน”
พวกทหารเขาใจเจตนาของซงเสี่ยวเชี่ยนไดในทันที ทุกคนชื่นชมในวิธีการอัน
สมบูรณแบบของนางอยูในใจ หนวยรบทั้งสองรวมมือกันมาเปนเวลานานหลายป จึง
รูจักซึ่งกันและกันเปนอยางดี พวกเขาผสมรวมตัวกันไดอยางรวดเร็ว
ขุนพลจากหนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงินเดินนำหนาและหมาปาน้ำคางแข็งเงินก็
กระโดดขึ้นและกาวเขาไปในอุโมงค
ทุกครั้งที่หมาปาน้ำคางแข็งเงินใชกรงเล็บเหยียบอุโมงค พวกมันก็จะสรางหมอก
เย็นซึ่งจะชวยเสริมความแข็งแกรงใหกับอุโมงค
ขุนพลจากหนวยเทพหมาปาติดตามไปอยางกระชั้นชิด
จากนั้นพวกที่เหลือก็เคลื่อนเขา ไปในอุโมงค เมื่อทหารคนสุดทายเดิ นเข า ไป
ใบหนาของซงเสี่ยวเชี่ยนก็เปนประกายดวยความยินดี
นางตองทำงานอยางหนักเพื่อทำลายมานลม การหาจุดออนของมานลมก็ตองใช
เวลามากมายแลว จากนั้นนางยังตองเคนสมองคิดหาวิธีที่จะตัดผานมานลม หลังจาก
ไดรับแรงบันดาลใจจากหญาตั๊กแตนน้ำคางแข็งที่คายอสูรใช นางจึงคิดหาทางออกได
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวที่ปกติดูเย็นชาก็ไมอาจปดบังความยินดีบนใบหนาได “เจา
จะเปนผูมีความชอบสูงสุดในการศึกครั้งนี้”
ซงเสี่ยวเชี่ยนที่อยูบนหลังหมาปาโคงคำนับเล็กนอยเปนการตอบรับโดยไมพูดอะไร
เมื่อไมมีลมเย็นเพิ่มเขาไปอยางตอเนื่อง อุโมงคน้ำแข็งในมานลมทองคำก็เริ่ม
ละลาย ผานไปครูหนึ่งทั้งอุโมงคก็สลายหายไปจนหมดสิ้นและมานลมก็กลับคืนสู
สภาพกอนหนา
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวมองกลับไปยังหนวยเทพหมาปาและหนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงิน
ที่เขาแถวอยูตรงหนา
เขาเอยอยางเครงขรึม “นับจากนี้ไป หามสงเสียงดัง หามพูดจากัน เดินอยางชาๆ
และระมัดระวัง อยาใหเกิดเสียงแมแตนอย ไปได!”
หนวยเทพหมาปาและหนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงินเดินทัพดวยความเร็วที่ไมสูงนัก
กองทัพขนาดใหญรวมถึงหมาปาไมสงเสียงแมแตนอย จิตสังหารปกคลุมไปทั่วทั้ง
กองทัพ
ในหุบเขาที่ไมมีอะไรโดดเดน
ผูใชพลังธาตุไมไดปลูกเถาวัลยลวงตาเพื่อใชในการอำพรางตัว ฝามือพวกเขาสอง
แสงสีเขียว เถาวัลยสีเขียวโตขึ้นอยางรวดเร็ว ในไมชาพื้นดินรอบคายพักก็ปกคลุมไป
ดว ยเถาวัลย มีห มอกอยูรอบๆ เถาวั ลย ลวงตา หากมองจากภายนอกจะไม อ าจ
มองเห็นคายพักได
หุบเขามีขนาดเล็กมองครั้งเดียวก็เห็นไดทั่ว ไมตองเขามาในหุบเขาก็มองเห็นได
ทุกซอกทุกมุม
หนวยภีตะและหนวยพิพากษาใชประโยชนจากคุณลักษณะนี้
ผูใชพลังธาตุโลหิตปกติแลวจะแคเหลียวมองดูหุบเขากอนจะจากไป พวกเขาจะ
ไมสงคนเขามาในหุบเขาเพื่อคนหาเพราะมันเล็กเกินกวาหนวยรบจะซอนตัวได
พวกเขาเริ่มพักผอน
นับตั้งแตหัวใจแหงเทพของเยี่ยไปอีถูกผนึก สถานการณก็เปลี่ยนไปอยางมากมาย
พวกเขาเริ่มเปนฝายนำ ไมตองถูกไลลาวิ่งหนีอีกตอไปและสามารถไดรับชัยชนะในการ
ซุมโจมตี นี่ทำใหกองทัพมีขวัญกำลังใจเพิ่มสู งขึ้น เนื่อ งจากการได เห็น ชัยชนะนั้ น
ตื่นเตนยิ่งกวาอะไรทั้งสิ้น
ภีตะวั่นสังเกตเห็นความออนลาบนใบหนาผูพิพากษาซีเหมิน จึงเดินเขาไปนั่งอยู
ขางนาง “เจาเปนอะไรหรือเปลา”
ผูพิพากษาซีเหมินขมวดคิ้วอยางไมพอใจ “เปนสิ”
นางเปนคนประเภทที่ตองทำทุกอยางใหดี ไมตองการใหคนอื่นมาเปนหวง
ภีตะวั่นและผูพิพากษาซีเหมินรูจักกันมานานหลายป คุนเคยกับลักษณะนิสัยของ
อีกฝาย ภีตะวั่นจึงไมสนใจและพูดตอ “มีบางอยางผิดปกติ”
ผูพิพากษาซีเหมินมองดูเขา นางชื่นชมในความสามารถของภีตะวั่นเสมอมา จึง
ถามกลับไปดวยเสียงทุมต่ำ “มีอะไรผิดปกติหรือ”
ภีตะวั่นกลาว “เราไมพบผูใชพลังธาตุโลหิตมาสองวันแลว ไมวาจะเปนกองทัพ
หรือหนวยสอดแนม”
ผูพิพากษาซีเหมินหยุดคิดครูหนึ่งกอนที่สีหนาของนางจะเปลี่ยนไป นางไมใชคน
โงและตระหนักถึงปญหาไดในทันที พิจารณาจากสถานการณกอนหนานี้พวกเขาควร
จะไดพบเจอกับพวกศัตรูสองสามครั้งตอวัน เปนเรื่องผิดปกติที่ไมพบเจอผูใชพลังธาตุ
โลหิตติดตอกันถึงสองวัน
เยี่ยไปอียังอยูในมือของพวกเขา ดังนั้นผูใชพลังธาตุโลหิตยอมไมมีสาเหตุใหวางมือ
เวนเสียแตวา…
นางโพลงออกมา “หรือวาจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มาที่นี่”
สีหนาของภีตะวั่นเปลี่ยนไปเชนกันเมื่อไดยินคำพูดของนาง
ในตอนนั้นเองที่พวกเขาไดยินเสียงหัวเราะจะดานบน
ภีตะวั่นตกใจ มองขึ้นไปก็เห็นหญิงสาวชุดแดงนั่งอยูบนยอดเขา นัยนตาเขาหดลง
หัวใจเตนระรัว เขาไมอาจสัมผัสการมาถึงของสาวนอยผูนี้ไดเลยสักนิด!
แคสิ่งนี้ก็แสดงใหเห็นถึงความสามารถอันโดดเดนของนางแลว
เสออวี๋มองดูพวกเขาและพูดดวยรอยยิ้ม “อยาไดประเมินตัวเองสูงเกินไป พวกเจา
เปนแคเศษซากที่เหลืออยูของกองทัพที่พายแพ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ยอมไมมาดวย
ตัวเอง”
เสียงของนางใหความรูสึกนาหลงใหลอยางบอกไมถูก ทหารบางคนเริ่มตกอยูใน
อาการเคลิบเคลิ้มราวกับมีเวทมนตรปกคลุมหุบเขาเอาไว
ภีตะวั่นหวาดกลัว ทหารและขุนพลของหนวยพิพากษาและหนวยภีตะนั ้น ผาน
การศึกมานับไมถวน พวกเขามีจิตใจแนวแนมั่นคง แตกระนั้นก็ยังไมอาจหลุดพนไป
จากกับดักของนางได
พลังธาตุในกายของเขาพุงขึ้นขณะตะโกนเสียงดังปานฟารอง “เฮย!”
ราวกับมีพายุเกิดขึ้นในหุบเขา คนอื่นๆ ตัวสั่นและไดสติกลับคืนมา
พวกเขาจองมองไปยังรางในชุดแดงบนยอดเขา
ยอดฝมือสามารถพิสูจนความสามารถของตนไดในกระบวนทาเดียว
สมาชิกของหนวยพิพากษาและหนวยภีตะตางก็มีประสบการณ สามารถพิจารณา
ถึงสถานการณปจจุบันไดอยางชัดเจน หญิงสาวในชุดแดงอาจจะดูออนแอ แตใน
สายตาของพวกเขานางเปนศัตรูที่แข็งแกรงที่สุด
เมื่อเห็นหญิงสาวผูนั้นในชุดแดง ผูพิพากษาซีเหมินก็พลันนึกขึ้นไดวานางเปนใคร
และตะโกน “เจาคือสตรีชุดแดงเสออวี๋ละหรือ”
ซงเยียนยืนอยูใตเสออวี๋พอดี ในตอนที่ผูพิพากษาซีเหมินพูด เขาก็ลงมือโจมตี
รังสีดาบหมนมัวบินเขาหาเสออวี๋อยางเงียบงัน
กระบวนทานี้แสดงใหเห็นถึงประสบการณอันมากมายของซงเยียน เขาเลือกมุมที่
จะซัดมีดบินไดอยางชาญฉลาดซอนเอาไวภายใตเสียงของผูพิพากษาซีเหมิน
ทันใดนั้นเสออวี๋ก็มองลงมาพลางยิ้มใหซงเยียน
รอยยิ้มนี้ประดุจดั่งบุปผาบาน แมแตทองฟาเหนือศีรษะนางก็ดูสดใสเปนประกาย
ขึ้นมา
นางดีดนิ้วขาวนวลเพรียวงามเบาๆ
ปง!
มีดบินระเบิดออก ซงเยียนสงเสียงคำรามและเซไปดานหลังสองสามกาว กอนจะ
สามารถทรงตัวได เลือดก็ไหลซึมออกมาจากมุมปาก
ทุกคนสีหนาเปลี่ยนไป
บทที่ 626 สาสนแหงหนวยตรวจตรา
เคอหนิงกำลังเดินตรวจตราคายพัก เดินอยางเงียบงันและระแวดระวังดวยเกรง
กวาจะปลุกเพื่อนรวมรบที่ใบหนาเต็มไปดวยคราบดิน
ใบหนาออนเยาวของเขาแสดงความเปนผูใหญเกินกวาอายุ ประสบการณใน
สนามรบสามารถลางความเห็นใจและความขี้เลนออกไปจากผูคนได การตอสูระหวาง
ความเปนและความตายไมเพียงทดสอบความมุงมั่นแตยังรวมถึงจิตใจอีกดวย
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเคอหนิงก็เกิดขึ้นกับเพื่อนรวมรบจำนวนมากใน
พันธมิตรเจดียปนใหญ
ระหวางการตอสูอยางหนักหนวง มีหลายครั้งที่สถานการณอัน ตรายถึ งขั ้ นที่
พั น ธมิ ต รเจดี ย  ป  น ใหญ ต  อ งออกไปช ว ยในแนวรบ สถานการณ ใ นวั น นี ้ ก ็ เ ป น
เชนเดียวกัน พวกศัตรูสามารถรุกเขามาจนมีระยะหางจากแนวปองกันของพวกเขา
เพียงยี่สิบจั้งเทานั้น
หลังจากตอสูอยางหนักหนวงมาทั้งวัน พวกนักรบตางก็สิ้นเรี่ยวแรง ทุกคนใช
โอกาสนี้พักผอนเพราะรูวาพรุงนี้ก็ไมมีทางงายกวาเดิมเปนแน
คายอสูรทั้งสี่ยังไมถูกกำจัด หนวยเทพหมาปาและหนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงินที่
แข็งแกรงยิ่งกวาก็ยังเฝารอใหผูปองกันหมดแรงลง หากแสดงความออนลาออกมาแม
เพียงเล็กนอยก็จะทำใหศัตรูที่เจาเลหทุมกำลังทั้งหมดออกมา
ถงกุยและอวี๋จินนั่งอยูบนเขาแหงแลง เต็มไปดวยรอยไหม ทั้งคูกำลังมองดูเคอหนิงที่
กำลังลาดตระเวนอยูในคายพักยามค่ำคืนอันมืดมิด
ราตรีมืดมนอนธการราวกับหมึก สายลมพัดโชย ภายในคายที่เงียบสงัด ชายหนุม
ตัวตรงราวกับทวน ปนใหญหนักรวงผึ้งที่ใหญโตถูกวางอยูทั่วทุกที่ราวกับอสูรโบราณที่
หมอบอยูบนพื้น แผเงื่อมเงาแหงความตายออกมา
อวี๋จินพลันกลาวขึ้น “เคอหนิงกาวหนาขึ้นมาก”
ถงกุยเห็นดวยกับคำชมเชยของนาง “ใชแลว เขาเหมือนกับเกิดใหม ในตอนแรก
ขาสงสัยวาทำไมอายฮุยถึงจะสั่งใหพวกเราคอยชวยเหลือเขา ไมคาดคิดวาเขาจะ
เปลี่ยนไปมากมายเพียงนี้หลังจากผานการศึกไมกี่ครั้ง อายฮุยนับวามีสายตายาวไกล
อยางแทจริงเรื่องเคอหนิง”
อวี๋จินถาม “พวกศัตรูจะทำอยางไรตอไป”
ถงกุยคิดอยูครูหนึ่งและตอบ “ขาไมรู สถานการณในตอนนี้ถือวาดีสำหรับเรา
พันธมิตรเจดียปนใหญทำงานไดดีทีเดียวเพราะพวกเขาเริ่มคุนชินกับการใชเจดียปน
ใหญแลว ตราบใดที่พวกเราไมเสียแนวปองกันนี้ ก็จะยังรักษาสถานะของพวกเรา
เอาไวได”
อวี๋จินไมตอบอะไร
บทสนทนาเชนนี้เกิดขึ้นอยูตลอดเวลา ปกติแลวก็เปนแคเรื่องไรสาระ ในการ
ประชุมประจำวันเกี่ยวกับสถานการณในสนามรบ พวกเขาไดปรึกษาหารือกั นใน
รายละเอียดยิ่งกวานี้ การพูดคุยแบบกวางๆ นี้เปนวิธีที่พวกเขาใชในการสรางกำลังใจ
ใหกับตัวเอง
เมื่อเห็นอวี๋จินหลับตา ถงกุยก็หยุดพูด การรบในชวงเวลากลางวันนั้นไมใชเรื่องงาย
สำหรับพวกเขาเชนกัน
ภูเขาไฟทรงเกียรติมีสีหนาครุนคิด ยอกายอยูตรงแนวเขาและมองมายังหุบเขา
ในหุบ เขามีก ระบี่ที่สอ งแสงเรือ งรองดู ราวกั บ กระบี ่ ท ี ่ ร อ นแดงป ก อยู  ท ั ่ ว ไปหมด
กลายเปนภาพที่ดูสะดุดตา
แมวาเขาจะมีประสบการณและความรูมากมาย นี่เปนครั้งแรกที่เขาเห็นภาพที่
แปลกตาเชนนี้
ภูเขาไฟทรงเกียรติพึมพำดวยความอัศจรรยใจ “ครั้งแรกที่ขาไดพบอายฮุย ขาก็รู
วาเขานั้นตางไปจากคนอื่นและมักสรางสิ่งที่นาอัศจรรยอยูเสมอ สงสัยเหลือเกินวาเขา
เอาเวลาที่ไหนมาคิดเรื่องพวกนี้”
เสี่ยวซานยืนอยูเงียบๆ ดานขาง กำลังจมอยูในความคิดของตัวเองขณะที่มองไป
ยังหุบเขา
ทันใดนั้นเขาก็ถาม “อายฮุยจะฟนขึ้นเมื่อไร”
โหลวหลานตอบ “ดูจากการฟนตัวของเขาในชวงสองวันที่ผานมา คงตองใชเวลา
อีกประมาณสิบวันเขาถึงจะหายดี”
เจตนกระบี่ที่พลุงพลานภายในหุบเขาหายไป ถาเขาไมไดเห็นมันดวยตาตัวเองมา
กอน คงคิดวาไมมีอะไรอยูภายในหุบเขา สิ่งนี้นาตกใจสำหรับพวกเขาเพราะรูวากระบี่
ที่เหมือนกับเหล็กรอนแดงนั้นไดปดกั้นเจตนกระบี่ทั้งหมดเอาไว
การปดกั้นนั้นยากเย็นยิ่งกวาการแสดงพลังอันพลุงพลานออกมา
ทันใดนั้นโหลวหลานก็มองไปยังที่ไกลออกไป
เสี่ยวซานตื่นตัวขึ้นและถาม “อะไร”
โหลวหลานรูสึกสับสน “โหลวหลานสัมผัสไดถึงการสั่นไหวของพลังธาตุดินใตพื้นดิน
เหมือนมีอสูรกลุมหนึ่งกำลังเคลื่อนเขามา”
ภูเขาไฟทรงเกียรติรูสึกสงสัยขึ้นมา “อสูรหรือ จะมีอสูรที่ไหนจะมายังสถานที่
เสื่อมทรามแหงนี้”
กอนหนานี้พวกเขาไดทำการสำรวจพื้นที่บริเวณนี้หลายครั้ง ไมมีแมแตกระทั่ง
แมลงตัวใหญใหเห็นอยาวาแตสัตวอสูรเลย พื้นที่บริเวณมานลมนั้นนับวาแหงแลง
กันดารอยางที่สุด
เสี่ยวซานมีสีหนาระแวดระวัง “อสูรชนิดใด มีมากนอยแคไหน”
โหลวหลานหลับตาและตอบหลังจากผานไปครูหนึ่ง “มากมายเลย เปนอสูรสี่เทา
และเดินยองเขามา”
เขาเปนตุกตาทรายที่มีสัมผัสไวตอพลังธาตุดิน การผันผวนของพลังธาตุดินนอย
กวาพลังธาตุชนิดอื่น บนแผนดินที่กวางใหญ พลังธาตุดินโดยปกตินั้นจะแนนิ่งราวกับ
พื้นผิวทะเลสาบที่เงียบสงบ แมกระนั้นในตอนนี้โหลวหลานสามารถสัมผัสไดวาพลัง
ธาตุดินที่อยูไกลออกไปมีการสั่นไหวเล็กนอย
ยอนไปตอนที่สือโหยวกวงตามลาอายฮุย เขาก็ใชรองรอยพลังธาตุดินที่ผูใชพลัง
ธาตุหลงเหลือไวในการระบุตำแหนงของอายฮุย
โหลวหลานนั้นเหนือล้ำยิ่งกวาสือโหยวกวงในแงนี้ ไมใชเพียงเพราะวาเขาเปน
ตุกตาทรายแตยังเปนเพราะแกนทรายที่หาใดเปรียบไมไดของเขา แกนเที่ยงคืนมีพลัง
ไรเทียมทาน สงผลใหเขาสามารถสัมผัสไดถึงการเปลี่ยนแปลงแมแตเพียงเล็กนอยของ
พลังธาตุดินที่อยูหางไกลออกไปถึงสิบลี้
เสี่ยวซานเปนกังวลขึ้นมา “ทางไหน”
โหลวหลานชี้ไปที่ดานหลังของคายและตอบ “ทางโนน!”
เสี่ยวซานบินขึ้นไปบนทองฟาโดยไมลังเล
เมื่อมองไปยังทิศทางที่โหลวหลานชี้ เสี่ยซานก็เห็นเงากลุมหนึ่งเคลื่อนไหวอยู
เหมือนกับเปนการสั่นไหวของเสนขอบฟา
เมื่อเขาเห็นขนาดของกลุมนั้น เขาก็รูไดในที่สุดวาทำไมโหลวหลานถึงไดพูดวามี
มากมาย
ความเย็นเยียบไหลมาตามแนวสันหลังไลมาจนถึงหนาผาก หนังศีรษะของเขาชา
ตึง รูสึกเหมือนกับตกลงไปในสระน้ำที่เย็นเยียบจนรูสึกชาไปดวยความเย็น
เสี่ยวซานไดสติกลับคืนมา ใบหนาก็ขาวซีด เขาสงเสียงตะโกน “ศัตรูบุก!”
เสียงนั้นตัดผานราตรีอันเงียบงัน
“ศัตรูบุก!”
คา ยของศัตรูอ ยูทางดานหนา แสงไฟเจิ ดจ าสอ งสว างราตรีอ ัน มืดมิดราวกับ
ดวงดาวบนทองฟา
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวพึมพำ “งดงามนัก!”
เสียงตะโกนจากระยะไกลนั้นฟงชัดเจนขึ้นในที่สุด “ศัตรูบุก!”
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวฉีกยิ้มอยางดุดัน เขาตบทองของหมาปาที่เขาขี่อยูและออกคำสั่ง
“หนวยเทพหมาปาโจมตี!”
ซงเสี่ยวเชี่ยนที่อยูดานขางออกคำสั่งเชนกัน “หนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงินโจมตี!”
ฝูงหมาปาเรงความเร็วขึ้น
เสียงโครมครามของฝูงสัตวอสูรดังขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเปนเสียงเหมือนฟารอง
คำราม อุงเทาหมาปาที่แข็งแกรงทรงพลังกระแทกใสพื้นดินราวกับคอน กอนหินไม
อาจหยุดยั้งพวกมันและแตกสลายกลายเปนผงใตเทาของพวกมันแทบจะในทันที
ตูม ตูม
อุงเทานับพันกระทืบใสพื้นดินราวกับสายฟาฟาดลงสูพื้น แผนดินสั่นสะเทือน
ขนของหมาปาเทพนั้นมีสีแดงราวกับโลหิตและสองสวางตองรางของทหารที่ขี่มัน
อยู แสงสีแดงผสานรวมเขาดวยกัน หากมองลงมาจากบนทองฟาจะเห็นวาแสงสีแดง
ขยายออกและรวมตัวกันกลายเปนวงแสงขนาดใหญเมื่อหนวยเทพหมาปาพุงไปดวย
ความเร็วที่เพิ่มมากขึ้น
คลื่นสีแดงเลือดเคลื่อนไปตามพื้น พวกเขาพุงเขาไปอยางรวดเร็วราวกับขวานสี
แดงขนาดยักษตัดผานอากาศ
ทั้งสองดานของหนวยเทพหมาปาเปนทหารหนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงินที่มีสีขาว
ดุจหิมะ กอใหเกิดหมอกเย็นเยียบ ดูราวกับกระบี่สองเลมที่พรอมจะโจมตีศัตรูไดทุก
เมื่อ พื้นดินที่พวกมันวิ่งผานกลายเป น น้ ำแข็ง ก อ ให เกิ ดถนนน้ำ แข็ งสองสายอยู
ดานหลังของพวกมัน
บนหลังของหมาปาเหลานั้นมีทหารที่จิตใจปลุกเรา พรอมจะลงมือสังหารทุก
อยางที่พบเจอ พวกเขามีดวงตาแดงก่ำ ใบหนาก็เปยมดวยความปาเถื่อน
พวกเขาไมเคยมั่นใจในชัยชนะมากมายถึงเพียงนี้มากอน!
ดวยประสบการณที่สั่งสมมาจากการตอสูนับครั้งไมถวน จึงคอนขางมั่นใจวา การ
บุกโจมตีในระยะใกลขนาดนี้ โดยที่ศัตรูไมทันตั้งตัวนั้นทำใหพวกเขาไรเทียมทาน ตอ
ใหเปนหนวยกลางทั้งสามก็ไมอาจจะหยุดยั้งได
คายพักของศัตรูอยูตรงหนาเริ่มเกิดความปนปวนวุนวายขึ้นมา ไฟถูกจุดขึ้นอยาง
ตอเนื่องซึ่งสองสวางไปทั่วทั้งคายราวกับเปนเวลากลางวัน
พวกมันก็เปนแคกลุมคนกลุมหนึ่งเทานั้น!
ความแตกตื่นของศัตรูกระตุนความปาเถื่อนในกายผูใชพลังธาตุโลหิตขึ้นมา ความ
กระหายอยากสังหารแผซานอยูในรางกาย พวกเขารูสึกเหมือนกับสามารถมองเห็น
ภาพอนาคต หลังจากพวกเขาบุกเขาไปในคาย คายที่เปราะบางนั้นก็จะถูกฉีกกระชาก
เปนชิ้นๆ เมื่อตองเผชิญกับอุงเทาอันทรงพลังของหมาปา พวกมันจะตัดรางกายของ
ศัตรู ฉีกกระชากเลือดเนื้อออกมาไดอยางงายดายราวกับขวานสวรรคอันแหลมคม
เงารางหลายสายพุงออกมาจากคายศัตรูและบินตรงมาหาพวกเขา
ทันใดนั้นน้ำแข็งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศตรงหนาพวกมันและขยายใหญขึ้นเรื่อยๆ
เสี่ยวซาน!
เขาเปนยอดฝมือจากหนวยตรวจตรา
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวไดเห็นเสี่ยวซานตอสูในการทำศึกมาหลายครั้งและรูสึก
ประทับใจในพลังอันแข็งแกรงของเสี่ยวซาน ยอดฝมือของเขาที่มีฤทธิ์เทพถูกกำจัด
ดวยฝมือของเสี่ยวซานไปมากมาย
แตตอนนั้นก็เปนเพียงการตอสูเล็กๆ
ในการต อ สู  เ ช น นั ้ นปรมาจารย ม ี บ ทบาทสำคั ญ พวกเขานั ้ น แข็ ง แกร งและ
คลองแคลว ซึ่งเปนความไดเปรียบอยางมาก
อยางไรก็ตาม เมื่อเปนการบุกถลมเต็มกำลังของหนวยรบ สถานการณก็เปลี่ยนไป
อยางสิ้นเชิง
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวคิดวาเสี่ยวซานนั้นมั่นใจในตัวเองเกินไป เหมือนกับแมลง
พยายามหยุดรถศึก
ชั่วขณะตอมา น้ำแข็งที่สามารถแชแข็งอากาศก็ขยายตัวเปนกำแพงโปรงใสที่ปด
กั้นเฮอเหลียนเทียนเสี่ยวเอาไว และเขายิ้มอยางดูถูก
เขาไมลดความเร็วลง แตขึ้นนำหนาพุงเขาหากำแพงโปรงใส ราวกับขวานใหญที่
แผแสงสีแดงออกมา หนวยเทพหมาปาสับเขาใสกำแพงโปรงใส
ตูม!
กำแพงโปรงใสพังทลาย เศษซากที่เหมือนกับผลึกแกวกระจัดกระจายไปจนนับไมถวน
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของหนวยเทพหมาปาไมลดลงเลยแมแตนอย
บนทองฟา เสี่ยวซานพนโลหิตออกมาคำโตและเสียการควบคุมรางกาย คนที่อยู
ดานขางรีบควาตัวเขาเอาไว ทำใหเขาสามารถปรับสมดุลและสะกดพลังธาตุที่ปนปวน
ภายในรางกาย เขารูวาเขาไมอาจจะหยุดยั้งการบุกโจมตีของหนวยเทพหมาปาไดดวย
ตัวเอง ไมตางอะไรไปจากการฆาตัวตายเลย
อยางไรก็ตาม เวลาแตละวินาทีนั้นมีคาอยางมากสำหรับพวกเขาในตอนนี้!
เสื้อผาของเขาเปยกชุมไปดวยเลือด ใบหนาขาวซีด ดูนาอนาถเปนอยางยิ่ง แตเขา
กลับดูประดุจเปลวเทียนที่โหมขึ้นเปนครั้งสุดทาย "[สาสนแหงหนวยตรวจตรา]!" เขา
คำรามเสียงดังเทาที่จะทำได
พวกทหารตกตะลึงกับเสียงคำรามของเขา พวกเขาเขาใจวาเสี่ยวซานกำลังเสี่ยง
ชีวิตในการตอสูครั้งนี้ นาทีตอมาก็พบวามีความรูสึกบางอยางระเบิดออกในหัวใจ พวก
เขานั้นติดตามเสี่ยวซานมาและเตรียมพรอมที่จะสละชีวิตตั้งแตกอนที่จะมาถึงที่นี่แลว
ไมมีใครหัวหด พวกเขาคำรามดวยความบาคลั่ง "[สาสนแหงหนวยตรวจตรา]!"
พลังธาตุพ ุงขึ้นอยา งบา คลั่งจากใต เท า ของพวกเขาและไหลผ า นผิ ว หนั งทุ ก
ตารางนิ้ว ดวงตาเปนประกายเจิดจา รางกายกำยำมั่นคง พวกเขาสามารถสัมผัสไดถึง
การสะทอนของพลังธาตุจากรางของแตละคน
แมวาพวกเขาจะฝกกระบวนทานี้มาตั้งแตยังเปนวัยรุน แตก็ไมเคยคิดวาตองใช
มันขึ้นมาในอนาคต
พวกเขายิ้มใหกันและกัน
พวกเขาปดฝุนออกเผยใหเห็นความเงางามของกระบี่ ทั้งกองทัพเปนเหมือนกับ
สัตวประหลาดที่ลืมตาขึ้นมาและแสดงถึงพลังอันยิ่งใหญอีกครั้ง พวกเขาเปนกลุมคน
จากหนวยรบที่มีประวัติศาสตรยาวนานนับพันป ในตอนนี้ พวกเขากำลังรองเพลงรบ
ที่เปนของบรรพบุรุษ เสียงระงมทอดยาวไปตามสายธารแหงเวลาเขาสูทองฟา ธงที่
พวกเขาชูนั้นรุงริ่งแตก็เจิดจาดั่งดวงตะวัน
พวกเขารูวานี่จะเปนเพลงสุดทาย
ดังนั้นก็ใหมันเปนไป
บทที่ 627 กินหญา
เสียงหวีดหวิวของ "สาสนแหงหนวยตรวจตรา" บนทองฟายามราตรียังไมจาง
หายไป เมื่อเปลวเพลิงพุงขึ้นสูทองฟาจากภายในคายพักของพันธมิตรที่อยูไกลออกไป
ดวยเสียงดังกึกกอง เสียงดังดุจเสียงภูเขาไฟระเบิด
ภูเขาไฟทรงเกียรติ!
ลูกเพลิงลาวาหิมะขนาดใหญสามลูกลอยขึ้นไปบนฟา กอใหเกิดการเผาไหมบน
มานราตรี ราวกับดาวตกที่รวงลงจากฟากฟา ลอยเขาหาคลื่นโลหิตที่เคลื่อนเขามา
ดวยเสียงดังโครมคราม
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวไมคิดที่จะลดความเร็วลงราวกับวามองไมเห็นพวกมัน
ซงเสี่ยวเชี่ยนที่อยูดานขางตะโกนดังสุดเสียง “พลธนุู!”
พลธนูทั้งสองดานของหนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงินเคลื่อนไหวอยางพรอมเพรียง ดึง
สายธนูโดยไมไดชักลูกศรออกมา อากาศเย็นโดยรอบรวมตัวกันและลูกศรน้ำแข็ ง
โปรงใสเปนประกายก็ปรากฏขึ้นบนสายธนู หางลูกศรน้ำแข็งอันงดงามงั้นดูเหมือนกับ
เกล็ดหิมะขนาดใหญ
ซงเสี่ยวเชี่ยนออกคำสั่ง “ยิง!”
ตึง!
เสียงปลอยสายธนูนับพันดังกองไปทั่ว ศรน้ำแข็งนับพันดอกบินไปบนทองฟา ทิ้ง
ไวแตรอยแสงเจิดจาราวกับหนอนไหมเรืองแสง ประหนึ่งวามีมือที่มองไมเห็นอยูบน
ทองฟา ถักทอไหมที่เจิดจานี้และกอใหเกิดพายุน้ำแข็งที่สวางเจิดจาและงดงาม
ลูกไฟลาวาลูกหนึ่งกระแทกเขาสูพายุน้ำแข็งอยางรุนแรง
ตูม!
เพลิงลาวาจำนวนนั้นไมถวนระเบิดออกในอากาศราวกับดอกไมไฟ ชั่วขณะตอมา
น้ำคางแข็งเงินที่ฉีกขาดก็แข็งตัว และแสงงดงามทั้งหมดก็หายไปในทันที ดอกไมเพลิง
ไดเปลี่ยนไปเปนดอกไมน้ำแข็งในขณะที่กอนลาวาอันรอนแรงเปลี่ยนไปเปนกอนหิน
น้ำแข็งที่ตกลงสูพื้นดินราวกับหาฝนและแตกกระจายออก
…..
แสงบนยอดเขาสยบเทพของหนวยทวนเมฆาหนักนั้นหมนมัว และพวกทหารที่ออนลา
ก็ใชเวลานี้เพื่อพักผอนอยู แตทวามีแสงเจิดจาอยูภายในกระโจมของซือเสวี่ยมั่นเมื่อ
เหลาผูนำมารวมตัวกันเพื่อปรึกษาเรื่องการศึกในวันพรุงนี้
ทันใดนั้นซือเสวี่ยมั่นก็เงยหนาขึ้น หัวใจเตนไมเปนส่ำ
คลื่นพลังธาตุเคลื่อนไหวอยางรุนแรง!
มานลมทองคำไมเพียงแคปดกั้นเสียงโดยรอบเทานั้น แตยังปดคลื่นพลังธาตุสวน
ใหญเอาไวอีกดวย แมกระนั้นคลื่นพลังธาตนี้ก็รุนแรงจนมานลมทองคำไมอาจที ่จะ
ปดบังเอาไวได!
มันมาจาก… ดานหลัง!
สีหนานางเปลี่ยนไป
ไมเพียงแคนาง คนอื่นก็รูสึกถึงการเปลี่ยนแปลงนี้เชนกัน มันรุนแรงจนเกิน ไป
เฉกเชนดวงตะวันปรากฏยามค่ำคืน สรางความแตกตื่นไดอยางงายดาย
“ศัตรู!”
เสียงสัญญาณเตือนดังกอง พวกทหารที่รับหนาที่เฝายามในตอนกลางคืนก็วิ่งเขามา
“รายงาน! พบศัตรูกลุมใหญ!”
ทุกคนพุงออกไปจากกระโจม
ที่ขอบฟาไกลออกไป ปลาคางคาวหลังกวางจำนวนนับไมถวนกำลังบินเขามาหา
พวกเขาอยางรวดเร็วราวกับคลื่นอันทรงพลัง
จำนวนของปลาคางคาวหลังกวางทำใหทุกคนตองสูดหายใจลึก ไมสงสัยเลยวา
ศัตรูไดทุมเททุกอยางกับการศึกครั้งนี้ ไม มีแตคายอสูรเทานั้น แลวหนวยเทพหมาปา
กับหนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงินเลา พวกมันอยูที่ไหน
เมื่อคิดถึงคลื่นพลังธาตุที่เคลื่อนไหวอยางปนปวนกอนหนานี้ ใบหนาของพวกเขา
ก็ซีดขาวอยางรวดเร็ว
หรือวาพวกศัตรูเจาะผานมานลมเขามาได
แสงบนยอดเขาสยบเทพทั้งสามสวางขึ้น หนวยทหารราบและหนวยขอบฟาก็
ไดรับการเตือนเชนเดียวกัน
ซือเสวี่ยมั่นกัดริมฝปากอยางแรงจนแทบขาด ไมเคยมีครั้งไหนที่ทำใหนางรูสึก
หวาดหวั่นไดถึงเพียงนี้ แทบจะทำใหรูสึกสิ้นหวัง! ไพรพลคายอสูรที่บุกเขามาเปน
เสมือนดั่งครึ่งยักษที่สามารถกลืนกินพวกเขาไดอยางงายดาย
ใจเย็นไว ใจเย็นไว!
ความคิดแรกของนางคือใชยอดเขาสยบเทพไปชวยอายฮุยและพวก แตนางก็รูวา
สายเกินไปแลว
นอกจากนี้หากพวกนางถอยไป หนว ยขอบฟา และหน วยทหารราบคงไมอาจ
ตานทานกองกำลังศัตรูไวได แนวปองกันของพวกเขาจะถูกทำลายลงในชั่วพริบตา ทำ
ใหไมมีใครสามารถหนีรอดไปได ดวยความคุนเคยกับการทหาร นางจึงรูวาการถอยหนี
งั้นยากเย็นยิ่งกวาการสูสุดตัวเสียอีก พวกเขาจะตองเสียหายอยางหนักหากประมาท
ในการลาถอยแมแตเพียงเล็กนอย
อายฮุยจะทำเชนไรหากเขาอยูในสถานการณเชนนี้
ซือเสวี่ยมั่นปลอบโยนตัวเอง อายฮุยเคยตกอยูในสถานการณที่อันตรายยิ่งกวานี้
มาแลว แตเขาก็ไมยอมแพ แลวนางจะยอมไดอยางไร ยิ่งไปกวานั้นคนสาระเลวอยาง
อายฮุยจะตายงายๆ ไดอยางไรกัน
ใชแลว เขาจะตายงายๆ ไดอยางไรกัน
คนเลวอายุยืนจะตาย!
ซือเสวี่ยมั่นทิ้งความตื่นตระหนกไปและสงบจิตใจลง นางมีสติแจมใสมากขึ้นแลว
ในตอนนี้ หากอายฮุยตองตาย แนวหลังจะถูกทำลาย หนวยรบที่กองหนาทั้งสามก็จะ
ไมอาจรอดชีวิตไดเชนเดียวกัน หากแนวปองกันดานหนาถูกทำลายพวกที่อยูดานหลัง
ก็ไมอาจรอดเชนเดียวกัน
รอดก็รอดดวยกัน ตายก็ตายดวยกัน
ความคิดนี้ขจัดความหวาดกลัวทั้งหมดทิ้งไป
ละทิ้งเพื่อนรวมรบและหนีไปลำพังไมใชสิ่งที่คนจากตระกูลซือแหงทะเลเหนือจะทำ!
นางตัดสินใจอยางรวดเร็ว “เฉียนไต จูเหยี่ยน ไปชวยพันธมิตรเจดียปนใหญ!”
เจาอวนรูสึกหงุดหงิดมานานแลว ความคิดที่วาอายฮุยกำลังตกอยูในอันตราย
สงผลกระทบตอความตองการตอสูของเขา เขาชื่นชมซือเสวี่ยมั่นที่นางสามารถยึดมั่น
ในหลักการของนางซึ่งเปนสิ่งที่นาเคารพ ทวาเขาไมเหมือนกับนาง เขาเปนแคเจาอวน
ที่โชคดีมีชีวิตรอดมาไดและมีหลักการที่เรียบงาย
สำหรับเขาไมมีสิ่งใดสำคัญไปกวาอายฮุย
เจาอวนกับจูเหยี่ยนจากไปในทันที
เมื่อกลับคืนสูทาทีปกติ ซือเสวี่ยมั่นก็แสดงความเด็ดเดี่ยวออกมา เชื่อวาแนวหลัง
นั้นตองการกำลังรบระยะประชิดเพื่อ ตานทานหนวยเทพหมาปาและหนวยโลหิ ต
น้ำคางแข็งเงิน อยางไรก็ตามนางรูอยางชัดเจนวามันสายเกินไปแลวที่จะสงคนกลับไป
ใหความชวยเหลือ
นางมั่นใจวาศัตรูไดลงมือโจมตีแลว!
ยิ่งไปกวานั้นคลื่นพลังธาตุที่เขมขนและนาหวาดกลัวทำใหนางนึกถึงรายละเอียด
บางอยางเกี่ยวกับหนวยกลางทั้งสามที่นางเคยอานเจอกอนหนานี้
เมื่อไมอาจแกปญหาความเสียเปรียบที่ดานหลังได นางก็จำเปนตองใชความ
ไดเปรียบที่มีอยูใหเต็มที่ นี่คือการตัดสินใจของนาง หากการศึกจบลงและพันธมิตรถูก
ทำลายไปเรียบรอยแลวในตอนที่เจาอวนกับจูเหยี่ยนไปถึง ก็ไมมีประโยชนอะไรที่คน
อื่นจะไปเชนเดียวกัน หากการศึกยังดำเนินตอไปก็หมายความวาทั้งสองฝายยังเทา
เทียมกันและการไปถึงของพวกเขาก็จะเสริมกำลังใหกับพันธมิตรอยางมาก
แรงกดดันที่แนวหนาก็มากมายมหาศาล แตซือเสวี่ยมั่นยังคงมีความมั่นใจ
ทามกลางความปนปวนวุนวาย ซือเสวี่ยมั่นวางเดิมพันกับความหวังครั้งสุดทาย
สุดทายแลวโชคชะตาของมนุษยก็อยูภายใตการกำหนดของสวรรค
เคอหนิงตะโกนอยางบาคลั่งใหพวกทหารไปประจำที่เจดียปนใหญ
ความหวาดกลัวอยางมากพุงขึ้นมาในหัวใจ ทำใหเขารูสึกอึดอัดจนหายใจไมออก
อยางไรก็ตามเขารูวาทุกวินาทีนั้นแลกมาดวยเลือดเนื้อของเพื่อนรวมรบ
บนทองฟาไกลออกไป คนกลุมหนึ่งถูกหอมลอมเอาไวดวยแสงเจิดจา มองจาก
ระยะไกลพวกเขาดูเหมือนตะเกียงที่แขวนอยูบนทองฟา
ผูอาวุโสเสี่ยวซานกับพวก…
น้ำตาไหลลงมาตามแกมของเคอหนิงโดยไมรูตัว
เสียงหวีดหวิวดังกองอยูในหัวของเขาครั้นแสงเจิดจาสาดสองไปบนทองฟาอันมืดมิด
หนวยกระบี่สายฟา!
เคอหนิงกระโดดขึ้นและตะโกนสุดเสียง “พลปนใหญไปประจำที่เจดียปนใหญ!
พลปนใหญไปประจำที่เจดียปนใหญ!”
ภายในคายผูคนพุงตัวไปดวยดวงตาแดงก่ำ ราวกับวากำลังบาคลั่ง
ไกลออกไป คลื่นอันปนปวนอัดเต็มอยูในสนาม และแสงเจิดจาก็สองสวางทองฟา
ยามราตรี
กอนแสงที่ดูเหมือนกับโคมไฟแผคลื่นพลังอันนาหวาดกลัวจนทำใหเฮอเหลียน
เทียนเสี่ยวหนาเปลี่ยนไปเปนครั้งแรก เขานึกถึงตำนานที่ร่ำลือกันมานานยาวนานแต
คอนขางเปนความลับขึ้นมา มีตำนานเลาขานวาหนวยกลางทั้งสามนั้นมีภารกิจที่
สำคัญอยางยิ่งอยูอยางหนึ่ง ซึ่งก็คือการทำใหแนใจวาสภาผูอาวุโสจะไมตกอยูภายใต
การควบคุมของยอดปรมาจารย ดังนั้นหนวยกลางทั้งสามทุกรุนจึงไดทำงานอยางหนัก
เพื่อพัฒนาทาไมตายที่สามารถสะกดขมยอดปรมาจารยได
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวใจเตนขึ้นมา หรือวาตำนานจะเปนจริง
บนทองฟามีลำแสงปรากฏขึ้นมากมายระหวางบรรดาอดีตสมาชิกหนวยตรวจตรา
ซึ่งตอนนี้ถูกหอมลอมไปดวยลำแสง ในตอนแรกนั้นลำแสงนี้หมนมัวไมตางจากเงาแตก็
สวางขึ้นอยางรวดเร็ว
สองสวางมากขึ้นเรื่อยๆ!
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวสังเกตเห็นวาสายลมเริ่มกอตัว!
ไม พลังธาตุในบริเวณโดยรอบกำลังถูกดูดเขาไปโดยพวกบัดซบบนทองฟานั่น
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวคำราม “ยิงพวกมันลงมา!”
เมื่อไดยินเชนนั้น ซงเสี่ยวเชี่ยนก็ตะโกน “พลธนู!”
พลธนูหนวยโลหิตน้ำคางแข็งเงินดึงคันธนูออกมาอยางพรอมเพรียงกัน
“ยิง!”
พายุน้ำแข็งเดิมเกิดขึ้นอีกครั้ง พุงเขาหากอนแสงและรางที่อยุูบนทองฟาดวย
เสียงดังหวีดหวิว
ในยามที่พายุน้ำแข็งจะกลืนกินรางที่ลอยอยูบนทองฟา ดอกไมสีเขียวก็ปรากฏขึ้น
อยางฉับพลัน
ดอกไมสีเขียวขจียังคงแนนิ่งแมวาจะเผชิญกับพายุน้ำแข็งอันรุนแรง ในขณะที่มัน
ปรากฏขึ้นก็เติบโตอยางรวดเร็ว กิ่งกานยืดยาวออกไปราวกับเถาวัลยปศาจ กอตัวเปน
กำแพงกิ่งไมสีเขียวขจีในชั่วพริบตา
พายุน้ำแข็งที่เกิดจากลูกศรน้ำแข็งจำนวนนับไมถวนปะทะกับกำแพงกิ่งไมเขียว
ขจีอยางรุนแรง
ระลอกคลื่นเกิดขึ้นบนกำแพงขณะลำแสงเจิดจาแผกระจายไปตามกิ่งกานที่อยู
เต็มกำแพง และจุดแสงก็เปลี่ยนเปนดอกไมที่งดงาม ชางงดงามจนยากจะละสายตา
จากไป
รางที่คอนขางผอมบางปรากฏขึ้นดานบนตั้งแตเมื่อไรก็ไมทราบ
เขาสวมชุดขาวราวหิมะ ผมยาวสบัดพลิ้วไปตามสายลม ความซีดเซียวบนใบหนา
ดูขัดแยงกับรูปหนาอันหลอเหลาแตก็ขับเนนใหงดงามยิ่งขึ้น รอยบุปผาเขียวขจีตรง
หวางคิ้วเสริมความลึกลับเขาไปอีก
เขามีสีหนาเย็นชาและดูเยอหยิ่งอยางมาก ทองฟายามราตรีอันมืดมิดดูราวกับปก
สีดำที่ติดอยูบนหลังของเขา
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวนันยตาหดลงอีกครั้ง ตวนมูหวงฮุน!
เขากลับมาแลวหรือ มีขาววาตวนมูหวงฮุนไดกักตัวฝกวิชาเปนเวลานาน ใครจะ
ไปรูวาเขาจะปรากฏตัวขึ้นในชวงเวลาคับขั นเชนนี้ คงไมใชเรื่องใหญอะไรเพราะ
ตามปกติแลวตวนมูหวงฮุนก็คงบรรลุขั้นปรมาจารยเทานั้น ไมใชเรื่องที่ตองกังวลแต
อยางใด
ปรมาจารยคนเดียวจะทำอะไรไดเมื่ออยูกลางสนามรบ
กระนั้นก็ตาม กำแพงบุปผาเขี ยวขจีน ี้ ก็ ทำใหเฮอ เหลียนเที ยนเสี ่ยวทราบวา
ความสามารถของตวนมูหวงฮุนนั้นเหนือล้ำกวาปรมาจารยทั่วไป
เจาหมอนี่แข็งแกรงขึ้นเพียงนี้ไดอยางไร
เฮอเหลียนเทียนเสี่ยวรูสึกไมมั่นใจแตก็รีบสงบจิตใจลง ตอใหเปนเชนนั้นแลวจะ
อยางไร เมื่อไมมียอดปรมาจารย พวกศัตรูก็ไมสามารถตานทานการโจมตีของพวกเขา
ได!

You might also like