You are on page 1of 1511

ราชันย์ เร้ นลับ 1 — แดงฉาน

เจ็บ…

เจ็บจัง…

ทาไมมันเจ็บแบบนี…

ดินแดนแห่ งความฝันประหลาดที่เปี่ ยมด้ วยเสี ยกเพรียกหาพลัน


แหลกสลาย

โจวหมิงรุ่ย (วัฏจักรโชคลาภเจิดจรัส) ที่กึ่งหลับกึ่งตื่นพลันเจ็บ


แปลบที่ศีรษะประหนึ่งถูกทุบด้ วยเสาเหล็ก ไม่ สิ ระบุให้ ชัดคือ มัน
เป็ นความเจ็บแปลบราวกับถูกโลหะแหลมยาวเสี ยบทะลวงขมับ
พลางคนกวนให้ ย่ งุ เหยิง

โงนเงน

โจวหมิงรุ่ยพยามฝื นพยุงตัวลุกนั่ง เขาต้ องการใช้ มือสั มผัสศีรษะ


ให้ แน่ ชัดเพื่อสื บทราบหาต้ นตอความเจ็บปวด แต่ ไม่ ว่าทั้งมือหรื อ
เท้ าต่ างก็มิอาจขยับเขยื้อนได้ ดั่งใจ ราวกับร่ างกายนีม้ ิใช่ ตนที่เป็ น
เจ้ าของ
บางทีเราอาจยังไม่ ตื่นดี นี่คงเป็ นเพียงในฝันที่เสมือนจริง… ใช่
แล้วเราแค่ คิดว่ าตัวเองตื่น แต่ แท้ จริงแล้วกาลังหลับ

ในฐานะที่ไม่ ค้ นุ ชินกับสถานการณ์ เช่ นนีเ้ ลย โจวพยายามตั้งสติ


และสลัดความดามืดที่เป็ นฝันและฝื นเอาชนะร่ างกายที่ถูก
พันธนาการ แต่ ด้วยความที่กึ่งหลับกึ่งตื่น เจตจานงอันแรงกล้ ากลับ
บางเบาราวกลุ่มหมอก ห้ วงความคิดไม่ ปะติดปะต่ อและยากจะ
ควบคุม ไม่ ว่าจะพยายามฝื นจิตเพียงแต่ แต่ ทุกการกระทาล้วนเป็ น
หมัน

ทาไมจู่ๆ ถึงปวดหัวได้ …

แถมยังเจ็บขนาดนี้!

หรื อว่ าจะเป็ นอาการเลือดคั่งในสมอง...

บ้ าจริง นี่เราจะตายทั้งที่ยังหนุ่มแน่ นเนี่ยนะ!

รีบตื่นเร็วเข้ า! ตื่น!

อา… มันไม่ ค่อยเจ็บแล้ว แต่ ในหัวเหมือนกับบางสิ่ งคล้ายมีดทื่อ


กาลังสั บสมองเราอย่ างเชื่ องช้ า…

คงนอนต่ อไปไม่ ได้ แน่ แล้วเราจะไปทางานพรุ่งนีไ้ ด้ ยังไง


เดี๋ยวสิ นี่นายยังคิดจะไปทางานอีกหรื อ ปวดหัวบัดซบแบบนี้ ขอ
ใบรับรองแพทย์ แล้วนอนอยู่บ้านดีกว่ า โดนบ่ นจนหูชาสั กยกจะ
เป็ นไรไป

ไม่ เลว อย่ างน้ อยก็ได้ ลาหยุดหนึ่งวัน

หลังจากความรู้สึกราวกับสมองถูกกรีดจบลง โจวหมิงรุ่ยเริ่ม
ได้ รับพลังใจกลับมาอย่ างน่ าประหลาด ท้ ายที่สุด เขายืดตัวเอนหลัง
ให้ ต้งั ตรงได้ แล้ว ดวงตาลืมขึน้ พลางสลัดคราบอาการกึ่งกลับกึ่งตื่น
เมื่อครู่
ภาพการมองเห็นพร่ ามัวไปชั่วครู่ จากนั้นก็เริ่มปรับสายตาให้ ชิน
กับบรรยากาศรอบข้ างที่มีสีออกแดงเจือจาง โจวหมิงรุ่ยมองเห็น
โต๊ ะไม้ ต้ังวางอยู่เบื้องหน้ า บนโต๊ ะมีสมุดเล่มหนึ่งถูกกางเปิ ดออก
กระดาษบนสมุดทั้งหยาบและเหลือง มีข้อความอักษรประหลาดถูก
เขียนไว้ ด้วยด้ วยหมึกสี ดาเข้ มเตะตา

ซ้ ายมือของสมุดเป็ นกองหนังสื อวางตั้งเรียงราวเจ็ดถึงแปดเล่ม


มันวางชิดขอบโต๊ ะอย่ างเป็ นระเบียบ กาแพงฝั่งขวามือมีท่อสี เทา
ขาวถูกเดินติดตั้งอย่ างเป็ นระเบียบ ปลายสุ ดของท่ อเชื่ อมเข้ ากับ
โคมไฟผนัง

ดูคล้ายกับโคมไฟผนังทรงตะวันตกยุคเก่า ขนาดเพียงครึ่งศีรษะ
บุรุษโตเต็มวัย ด้ านในล้อมสี่ ทิศด้ วยกระจกใส่ ส่ วนด้ านนอกถูก
ครอบไว้ ด้วยโลหะที่คล้ายเหล็ก
ใต้ โคมไฟผนังมีขวดหมึกดาที่ห้ ุมด้ วยกระดาษสี แดงสดเปล่ง
ประกาย ลวดลายบนกระดาษถูกพิมนูนด้ วยภาพของนางฟ้ า

ถัดจากขวดหมึกคือปากกาดาหัวกลมที่วางอยู่ข้างขวาของสมุด
อย่ างเงียบงันไม่ ส่งเสี ยง ปลายปากกายังคงเหลือหมึกอย่ างเจือจาง
ส่ องกระทบแสงจนเกิดประกายเล็กน้ อย ข้ างปลอกปากกามีปืน
ลูกโม่ ทองเหลือวางอยู่

ปื น… แถมยังเป็ นลูกโม่ … โจวหมิงรุ่ยผงะไปครู่ใหญ่ ทุกสิ่ งที่เขา


มองเห็นด้ วยตาไม่ เหมือนกับบรรยกาศห้ องนอนตัวเองแม้ แต่
น้ อย

ท่ ามกลางความตกตะลึง เขาเริ่มตระหนักว่ าโต๊ ไม้ ะ สมุดจด ขวด


หมึก และปื นลูกโม่ ล้วนถูกหุ้มไว้ ด้วยชั้น 'ผ้ าบาง' สี แดงฉาน ตา
ของโจวเริ่มทาความคุ้นชินกับแสงจากภายนอกที่เล็ดลอดเข้ ามา
ทางหน้ าต่ าง

ขณะสติยังกลับมาไม่ ครบถ้ วน โจวหมิงรุ่ยเงยหน้ าขึน้ เล็กน้ อย

ณ ท้ องฟ้ ายามค่าคืนหลังม่ านฝ้ายสี ดาง จันทร์ เต็มดวงกาลัง


สุ กสว่ างพลางส่ องแสงสี แดงเลือดอย่ างเงียบงัน

นี่มัน… โจวหมิงรุ่นเริ่มสั มผัสถึงความไม่ ปรกติ เขารีบลุกพรวด


ขึน้ แต่ น่าเสี ยดายที่แข้ งขายังคงไร้ เรี่ยวแรง แถมหัวสมองยังคง
วิงเวียนไม่ หายจากอาการปวด ชายหนุ่มสู ญเสี ยสมดลร่ างกาย
พร้ อมกันล้มก้นจ้าเบ้ ากระแทกใส่ ไม้ แข็งหนึ่งครั้ง จากนั้นก็เสี ย
หลักเซนั่งลงบนเก้าอีพ้ อดิบพอดี

ตุ้บ!

โชคดีที่ไม่ ได้ รับอาการบาดเจ็บเพิม่ เติม โจวหมิงรุ่ยวางมือลงบน


โต๊ ะพร้ อมกับฝื นออกแรง เขาพยายามพยุ่งตัวขึน้ อีกครั้งเพื่อต้ อง
ทราบให้ ได้ ว่า ตนหลุดเข้ ามาอยู่ในสถานการณ์ ใดกันแน่

นี่คือห้ องเล็กและแคบที่มีประตูสีน้าตาลเพียงสองบานซ้ ายขวา


เตียงไม้ ต่าถูกวางตั้งอีกฟากฝั่งของผนังด้ านตรงข้ าม

ระหว่ างเตียงไม้ และประตูซ้ายมีต้ เู สื้ อผ้ าหน้ าหน้ าออก ด้ านล่ างตู้
มีลนิ้ ชักทั้งหมดห้ าชั้น

ท่ อสี เทาขาวขนาดสู งเท่ าคนถูกติดตั้งที่มุมห้ อง ปลายท่ อเชื่ อมกับ


กล่องกลไกลแปลกประหลาดที่ด้านในเผยให้ ลูกปื นและเฟื อง
บางส่ วน

ไม่ ไกลจากโต๊ ะไม้ มาก มุมห้ องขวามือมีอุปกรณ์ มากมายวางเรียง


ราย ทั้งเตาถ่ าน หม้ อซุบ หม้ อเหล็ก และอุปกรณ์ ทาครัวนานาชนิด

ข้ างประตูฝั่งขวามีแท่ นกระจกเงาสาหรับแต่ งตัวที่ฐานทามาจาก


ไม้ แสนธรรมดา
หลังจากกวาดเพ่งสายตาอยู่ครู่หนึ่ง โจมหมิงรุ่ยเริ่มมองเห็น
รูปลักษณ์ ในสภาพปัจจุบันอย่ างเลือนลาง

ผมสี ดาขลับ นัยน์ ตาสี น้าตาล เสื้ อลินิน ร่ างกายผอมบาง หน้ าตา
ปานกลาง กรามค่ อนข้ างเรียว

นี่มัน… โจวหมิงรุ่ยพลันสู ดลมหายใจเข้ าปอด ความคิดฟุ้งซ่ าน


นานาชนิดกาลังถาโถมโหมกระหน่า

ปื นลูกโม่ บรรยากาศกลิ่นอายยุโรปยุคเก่า รวมถึงดวงจันทร์ สี


ชาดที่แตกต่ างจากโลกมนุษย์ โดยสิ้นเชิง ทั้งหมดนาพาไปสู่ ข้อสรุป
เดียว

เราถูกส่ งมาต่ างโลกงั้นหรื อ… โจวหมิงรุ่ยอ้าปากค้ างไม่ หุบ

ในฐานะบุคคลที่เติบโตมาพร้ อมกับนิยายออนไลน์ เขาเฝ้าฝันการ


เดินทางไปยังต่ างโลกบ่ อยครั้ง แต่ เมื่อได้ สัมผัสเข้ ากับตัวเอง มัน
กลับยากจะทาใจยอมรับเสี ยเหลือเกิน

นี่สินะที่เขาเรียกว่ า 'เอีย้ กงปรารถนามังกร' (แม้ จะหวาดกลัว แต่


ก็ตื่นเต้ นยินดี) หลังจากผ่ านการครุ่นคิดนานหลายวินาที โจวหมิง
รุ่ยเริ่มพึมพากับตัวเองพลางขมวดคิว้

หากไม่ เพราะความเจ็บปวดที่ยังฝังแน่ นในหัว ผนวกกับสติ


สั มปชัญญาที่เริ่มเฉียบคมและชัดเจนมากขึน้ ทุกขณะ โจวหมิงรุ่ย
คงอาจคิดว่ าตนกาลังดาดิ่งอยู่ในฝันประหลาด

ใจเย็นก่อน… หลังสู ดลมหายใจเข้ าปอดสองสามหน โจวหมิงรุ่น


เริ่มข่ มจิตให้ สงบนิ่ง

ในวินาทีนี้ ขณะจิตและกายเริ่มปรองดองเป็ นหนึ่ง เศษเสี้ยว


ความทรงจาใหม่ พลันพรั่งพรูเข้ ามาในหัวสมอง

ไคลน์ ·โมเร็ตติ พลเมืองทวีปเหนือ จักรวรรดิลูเอ็น อาณาจักรอา


โอว่ า เมืองทิงเก็น แถมยังเป็ นนักศึกษาที่เพิง่ จบจากคณะ
ประวัติศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยโฮอี… ้

บิดาเป็ นจ่ าสิ บเอกแห่ งกองทัพหลวงและสละชีพในสงครามยึด


ครองดินแดนกับทวีปใต้ เงินชดเชยที่ครอบครัวได้ รับช่ วยให้ ไคลน์
ได้ ศึกษาในโรงเรียนประจาสายวิทย์ นั่นคือพื้นฐานสาคัญที่ส่งผล
ให้ ไคลน์ สอบเข้ ามหาวิทยาลัยสาเร็จ

มารดาเป็ นผู้ศรัทธา 'เทพธิดารัตติกาล' อย่ างแรงกล้า เธอจากโลก


นีไ้ ปในปี เดียวกับที่ไคลน์ สอบเข้ ามหาวิทยาลัยโฮอีส้ าเร็จ

เขายังมีพชี่ ายและน้ องสาวที่อาศัยอยู่ด้วยกันภายในบ้ านพักสอง


ห้ องนอน

ครอบครัวมิได้ ร่ารวย จะเรียกว่ ายากจนกว่ ามาตรฐานก็ไม่ ผิดนัก


รายได้ ที่จุนเจือครอบครัวทั้งหมดมาจากพีช่ ายที่ทางานเป็ นเสมียน
ในบริษัทน้าเข้ าและส่ งออก

ในฐานะที่จบดานประวัติศาสตร์ ไคลน์ เชี่ยวชาญในภาษาโบราณ


ที่ชื่อ 'ฟูซัค' ซึ่งถือเป็ นรากฐานของอักษรทวีปเหนือทั้งหมด
รวมถึงอักษรเฮอร์ มิสที่มักปรากฏบ่ อยครั้งในสุ สานเก่าแก่ รวมถึง
ปรากฏในตาราและบทสวดอีกมาก

เฮอร์ มิส… ความทรงจาหนึ่งแล่นเข้ ามาในหัวโจวหมิงรุ่ย เขารู้สึก


เจ็บแปลบที่ขมับจนต้ องเลื่อนมือขึน้ ไปจับเพื่อบรรเทา จากนั้น
หมิงรุ่ยชาเลืองสายตากลับไปมองสมุดบนโต๊ ะที่หน้ ากระดาษเปิ ด
ค้ างอยู่ อักษรที่เขียนกึ่งกลางเริ่มแปรเปลี่ยน จากไม่ ค้ นุ เคยเป็ น
คุ้นเคย จากคุ้นเคยเป็ นอ่านออกในที่สุด

มันคือประโยคสั้ นที่เขียนด้ วยอักษรเฮอร์ มิส

หมึกดาได้ กล่าวว่ า :

"ทุกคนต้ องตาย รวมถึงฉัน"

วาบ!

โจวหมิงรุ่ยสั มผัสถึงความหวาดกลัวจากก้นบึ้ง เขาผงะเซถอย


หลังตามสั ญชาตญาณ ราวกับต้ องการออกห่ างจากสมุดเล่มนีใ้ ห้
ไกล
ด้ วยความที่ร่างกายกาลังอ่อนล้า เขาเสี ยหลักล้มลงและใช้ มือคว้ า
ขอบโต๊ ะไว้ ได้ ทัน ภาพการมองเห็นกาลังหมุนเคว้ ง บรรยากาศ
รอบตัวปั่นป่ วนและไม่ ชัดเจน หูเริ่มได้ ยินเสี ยงประหลาดดังแว่ ว
ประหนึ่งกับร่ างกายถูกผีอาชั่วขณะก็มิปาน

โจวหมิงรุ่ยส่ ายศีรษะเพื่อสลัดความหวาดกลัวออกไป เขา


พยายามดึงสติกลับมาพลางเบนสายตาหนีจากสมุด ลมหายใจกาลัง
ขาดห่ วงด้ วยท่ าทางของคนเหนื่อยหอบ

สายตาหมิงรุ่ยชาเลืองมองปื นลูกโม่ สีทองแดง ความสั บสนเริ่มถา


โถมเข้ ามาในสมอง

"ด้ วยสภาพความเห็นอยู่ของครอบครัวไคลน์ หมอนั่นไปเอาปื น


ลูกโม่ มาจากไหน"

ชายหนุ่มขมวดคิว้ ครุ่นคิด

ท่ ามกลางความสั บสนและตื่นตระหนก หมิงรุ่ยเหลือบเห็นรอย


ครึ่งฝ่ ามือสี แดงฉานที่ขอบโต๊ ะ สี แดงของมันทั้งสดและน่ า
สะอิดสะเอียนยิ่งกว่ าจันทร์ สีเลือดด้ านนอกหน้ าต่ าง

ไม่ ผิดแน่ … นี่คือรอยฝ่ ามือเปื้ อนเลือด

"รอยมือเปื้ อนเลือด…"
โจวหมิงรุ่ยรีบยกฝ่ ามือขวาขึน้ มามองตามสั ญชาตญาณ มือขวาที่
เมื่อครู่ใช้ พยุงตัวกับขอบโต๊ ะขณะเสี ยหลักล้ม แล้วก็เป็ นดังคาด ทั้ง
ฝ่ ามือและนิว้ ข้ างขวากาลังมีเลือดสี แดงฉานเปรอะเปื้ อนหลายจุด

ขณะเดียวกัน อาการหัวหมุนได้ วนเวียนกลับมาหลอกหลอนอีก


ระลอก ถึงจะบางเบากว่ าช่ วงแรก แต่ มันยังคงดาเนินอย่ างไม่ จบ
สิ้น

"เราหัวแตกงั้นหรื อ…"
โจหมิงรุ่ยพึมพาพลางเดินไปส่ องกระจกที่แตกร้ าว

เพียงไม่ กี่ก้าว เขาก็ได้ เห็นภาพของชายส่ วนสู งปานกลาง นัยน์ ตา


สี น้าตาล ส่ องสะท้ อนบนกระจกเงา

นี่คือตัวเราในปัจจุบันสิ นะ… ไคลน์ ·โมเร็ตติ

ด้ วยความที่แสงไฟจากด้ านนอกไม่ สว่ างมากพอ เขาจึงมองเห็น


บาดแผลของตัวเองได้ ไม่ ชัดเจน โจวหมิงรุ่ยพยายามขยับใบหน้ า
เข้ าใกล้กระจกมากขึน้ พลางเอนศีรษะไปยังจุดต้ นตอที่เลือดไหล

ภาพบนกระจกเงากาลังสะท้ อนบาดแผลเหวอะหวะชวนอาเจียน
ตรงขมับ รอบแผลปากมีรอยไหม้ และคราบดินปื น
ณ กึ่งกลางของบาดแผล… โจวหมิงรุ่ยมองเห็นสมองสี เทาของ
ตัวเองกาลังยุบพองอย่ างเชื่ องช้ า
ราชันย์ เร้ นลับ 2 : สถานการณ์ ปัจจุบัน

ตึก ตึก ตึก!

โจวหมิงรุ่ยหวาดกลัวในสิ่ งที่เห็น ร่ างกายเซถอยหลังตาม


สั ญชาตญาณ ฉากในกระจกเมื่อครู่ไม่ เหมือนการส่ องสะท้ อนเงา
ตนเอง ราวกับนาภาพซากศพใครบางคนมาฉาย

มนุษย์ ที่มีแผลฉกรรจ์ ปานนั้นจะมีลมหายใจได้ อย่ างไร

หมิงรุ่ยยากทาใจเชื่ อลง กระนั้นก็ต้องทาให้ แน่ ชัด มันเอนศีรษะ


อีกด้ านพลางชาเลืองมองกระจกจากระยะห่ าง แสงอาจมัวสลัว แต่
ไม่ ผิดแน่ บาดแผลของตัวมันเหวอะหวะเป็ นรูโหว่ และเปี่ ยมด้ วย
คราบเลือด

"จริงหรื อเนี่ย…"

โจมหมิงรุ่ยสู ดลมหายใจเข้ าปอดเพื่อข่ มสติ

มันเลื่อนมือสั มผัสหน้ าอกซ้ าย หัวใจยังคงเต้ นปรกติ ไม่ สิ แรง


กว่ าปรกติมาก เส้ นขนบนผิวหนังตั้งชูชัน เหงื่อไคลแซมหลายจุด
เป็ นอุณหภูมิร่างกายของมนุษย์ ปรกติ

หลังจากพิสูจน์ ว่าเข่ ายังงอได้ โจวหมิงรุ่ยยืนตัวตรงอีกครั้งพลาง


ครุ่นคริด
"เกิดอะไรขึน้ กันแน่ ?"

มันขมวดคิว้ ลังเลจะสารวจปากแผลอีกหนดีหรื อไม่

หลังจากก้าวขาไปสองหน มันชะงักอีกครา แสงสลัวจากจันทร์


เลือดด้ านนอกไม่ เพียงพอต่ อการวิเคราะห์ รายละเอียด

ทันใดนั้น มันฉุกคิดบางสิ่ งได้ โจวหมิงรุ่ยเหลือบมองท่ อสี เทาข้ าง


โต๊ ะไม้ ปลายสุ ดท่ อเชื่ อมติดโคมผนัง

โคมผนังเป็ นชนิดตะเกียงแก๊ ส เปลวเพลิงจากตะเกียงชนิด


ดังกล่าวจะคงที่และให้ ความสว่ างน่ าพึงพอใจ

เดิมที ครอบครัวของไคลน์ ·โมเร็ตติไม่ มีปัญญาครองแม้ กระทั่ง


ตะเกียงน้ามันก๊ าด อย่ าว่ าแต่ ตะเกียงแก๊สเลย เทียนไขคือแสงสว่ าง
ชนิดเดียวที่มันได้ รับ แต่ ราวสี่ ปีก่อน ในช่ วงที่มันต้ องติวหนังสื อ
สอบเข้ ามหาวิทยาลัยโฮอี้ พีช่ ายของไคลน์ —เบ็นสั น มองว่ าการ
สอบเข้ าของไคลน์ หมายถึงอนาคตครอบครัว ต่ อให้ ต้องหยิบยืม
เงินก็ต้องทา เพื่อให้ ไคลน์ มีสภาพแวดล้อมที่ดีสาหรับตัวหนังสื อ

แต่ แน่ นอน เบ็นสั นไม่ ใช่ คนสมองทึบและใจร้ อน มันนาข้ ออ้าง


'หอพักต้ องติดตั้งโคมตะเกียงแก๊สทุกห้ องเพื่อยกระดับมาตรฐาน
และเรียกลูกค้ า' ไปกล่าวกับเจ้ าของหอพัก โน้ มน้ าวให้ เจ้ าพัฒนา
สาธารณูปโภคพื้นฐาน ไม่ เพียงเท่ านั้น เบ็นสั นยังใช้ เส้ นสายที่มีต่อ
บริษัทน้าเข้ าส่ งออกเพื่อจัดหาตะเกียงแก๊สในราคาใกล้กับต้ นทุน
ความพยายามทั้งหมดส่ งผลให้ เบ็นสั นไม่ ต้องหยิบยืมเงินจากผู้ใด
เพียงควักเงินส่ วนตัวเก็บจานวนไม่ มาก

เศษเสี้ยวความทรงจาจบลง โจวหมิงรุ่ยเดินกลับมายังโต๊ ะไม้ มัน


ใช้ มือบิดวาล์วท่ อแก๊สพลางเปิ ดสวิตช์ ใช้ งานตะเกียง

เสี ยงแกร่ กดังขึน้ แห้ งๆ คล้ายคลึงกับการเปิ ดเตาแก๊ส แต่ โคม


ตะเกียงกลับไม่ ส่องสว่ าง
แกร่ ก! แกร่ ก!

หมิงรุ่ยพยายามบิดหมุนอีกสองครา แต่ ไฟตะเกียงยังคงดามืด


เช่ นเดิม

"หืม…"

มือขวาถอนกลับจากสวิตช์ ฝ่ ามือซ้ ายยังคงแนบขมับ โจมหมิงรุ่ย


นึกเค้ นสมองหาสาเหตุของความล้มเหลว

ไม่ กี่วินาทีถัดมา มันหมุนตัวเดินมาทางประตู หมิงรุ่ยหยุดยืน


หน้ าอุปกรณ์ กลไกลที่ติดไว้ บนผนังข้ างลูกบิดประตู อุปกรณ์
ดังกล่าวมีท่อสี เทาขาวเชื่ อมติดอยู่
มิเตอร์ แก๊ส
หลังจากเห็นลูกปื นและเฟื องอยู่ในสภาพหลวมโครก โจวหมิงรุ่ย
รีบควักเหรียญจากกระเป๋าเสื้ อ

เป็ นเหรียญโลหะสี เหลืองหม่น ส่ องแสงทองแดงเล็กน้ อยยาม


กระสบความสว่ าง บนเหรียญมีใบหน้ าของบุรุษสวมมงกุฏ ขอบ
เหรียญสลักถักทอลวดลายต้ นข้ าวสลี ใจกลางเหรียญทองแดงมี
'เลขหนึ่ง' นูนเด่ นสง่ า

โจวหมิงรุ่ยทราบทันทีว่าเป็ นสกุลเงินพื้นฐานของอาณาจักรลูเอ็น
ผู้คนเรียกมันว่ า 'เพนนีทองแดง' ค่ าเงินหนึ่งเพนนีในลูเอ็นจะมี
มูลค่ าราวสามถึงสี่ ดอลล่าส์ ในโลกเก่าที่โจวหมิงรุ่ยเคยอาศัย ยังมี
เหรียญประเภทอื่นอยู่อีก เช่ นห้ าเพนนี ครึ่งเพนนี และหนึ่งส่ วนสี่
เพนนี ในชีวิตประจาวัน การจ่ ายตลาดแต่ ละหนต้ องพกพาเหรียญ
ให้ มากชนิดที่สุด

บนโลกเก่า เหรียญเพนนีถูกนามาใช้ ครั้งแรกหลังจากพระเจ้ า


จอร์ จที่สามขึน้ ครองราชย์ โจมหมิงรุ่ยดีดมันเล่นบนปลายนิว้ ครู่
หนึ่ง จากนั้นนาไปแทรกกลางระหว่ างรูช่องว่ างมิเตอร์ แก๊ ส

กริ๊ก!

ทันทีที่เหรียญหล่นถึงก้นเครื่ อง เฟื องกลไกลเริ่มขยับ เกิดเป็ น


ท่ วงทานองอันไพเพราะ
โจวหมิงรุ่ยยืนมองมิเตอร์ เพื่อให้ แน่ ใจ หลังจากผ่ านไปสองสามสิ
นาที มันเดินกลับมายังโต๊ ะสี ไม้ พร้ อมกับบิดหมุนสวิตช์ ตะเกียง
แก๊ส

แกร่ ก! พรึ่บ!

เปลวเพลิงในตะเกียงถูกจุดติดอย่ างรวดเร็ว มันขยายขนาดจนถึง


ระดับพอเหมาะ แสงสว่ างแผ่ จากด้ านในตะเกียงไปยังโดยรอบทีละ
นิด เพียงไม่ นาน ห้ องของไคลน์ เปี่ ยมด้ วยแสงนวลสว่ างไสว
ความมืดมิดสลายไป สี แดงระเรื่ อจากจันทร์ เลือดเริ่มเลือนลง
โจวหมิงรุ่ยแสดงสี หน้ าโล่งใจ มันเดินกลับไปยังหน้ ากระจกแต่ งตัว
ทันที

ในครานี้ มันบรรจงเพ่งมองรอบขมับพลางสั งเกตุรายละเอียด

หลังจากสารวจถี่ถ้วน มันพบว่ า นอกจากคราบเลือดที่เริ่มแห้ ง


กรัง ไม่ มีเลือดใหม่ ไหลออกจากบาดแผลแม้ แต่ น้อย ประหนึ่งได้ รับ
ยาห้ ามเลือดและผ้ าพันแผลชั้นเลิศ บาดแผลบนเนื้อสมองสี เทาที่ยุบ
พองเริ่มสมาน เฉกเช่ นบาดแผลตรงขมับ หากปล่อยไว้ บาดแผลคง
สมานสนิทภายในครึ่งชั่วโมง เหลือทิง้ ไว้ เพียงแผลเป็ นไม่ ลึกมาก

"เป็ นพลังรักษาจากการข้ ามโลกรึไง?"


โจวหมิงรุ่ยพึมพาพลางอมยิม้ มุมปาก
หลังจากสู ดลมหายใจเข้ าลึก มันถอนหายใจยาวสุ ดปอด ไม่ ว่าจะ
เกิดอะไรขึน้ อย่ างน้ อยมันก็ยังมีลมหายใจ

เมื่อตั้งสติให้ นิ่ง โจวหมิงรุ่ยรีบดึงลิน้ ชักและราสบู่ออกมา จากนั้น


ก็คว้ าผ้ าขนหนูผืนเล็กในตู้เสื้ อ มันเปิ ดประตูและรีบเดินตรงไปยัง
ห้ องน้ารวมบนชั้นสอง

'ต้ องขจัดคราบเลือดให้ เร็วทีส่ ุ ด ต่ อให้ เราไม่ กลัว แต่ น้องสาวเรา


ต้ องตกใจแน่ เมลิสซ่ าจะตื่นในตอนเช้ า ถ้ าไม่ รีบทาความสะอาดคง
ได้ เกิดปัญหาใหญ่ '

ทางเดินด้ านนอกค่ อนข้ างมืด มีเพียงแสงจันทร์ ลอดผ่ านหน้ าต่ าง


สุ ดปลายทางเดิน แสงจันทร์ สลัวกระทบกับวัตถุบนผนังสองข้ าง
ทาง ประหนึ่งดวงตาปี ศาจที่คอยเฝ้ามองมนุษย์ ยามค่าคืน

โจวหมิงรุ่ยเกิดอาการหวาดกลัว มันรีบจา้ เท้ าเพื่อไปให้ ถึงที่หมาย


โดยไว

ภายในห้ องน้า หน้ าต่ างรับแสงจันทร์ อย่ างเต็มเปี่ ยม ภาพการ


มองเห็นกระจ่ างและชัดเจน โจวหมิงรุ่ยหยุดลงหน้ าก๊อกน้าพลาง
หมุนเปิ ดวาล์ว

เมื่อได้ ยินเสี ยงน้าไหล ความทรงจาเกี่ยวกับเจ้ าของหอพลันแล่น


เข้ ามาในหัว
ด้ วยความที่ค่าน้าถูกคิดเหมารวมในค่ าเช่ า มิสเตอร์ แฟรงค์ ชาย
ร่ างเล็กผู้มากับหมวกทรงสู ง เสื้ อกั๊กสี ดาด้ านใน แจ็คเก็ตสี ดาคลุม
ทับด้ านนอก มิสเตอร์ แฟรงค์ บัดซบมักแอบเงี่ยหูฟังการใช้ น้าของ
ลูกบ้ านเสมอ

หากเสี ยงน้าดังมาก มิสเตอร์ แฟรงค์ จะสลัดมาดผู้ดีทันที มันมัก


ใช้ ไม้ คา้ กระแทกประตูอย่ างเกรี้ยวกราดพลางตะโกน "ไอ้
หัวขโมย!" "ละอายแก่ใจบ้ าง!" "ฉันจาแกได้ !" "ถ้ าฉันจับได้ อีก
ครั้ง แกเตรียมเก็บข้ าวของออกไปได้ เลย!" "เชื่ อฉันเถอะ หอพัก
ของฉันคุ้มราคาที่สุดในเมืองทิงเก็นแล้ว! แกไม่ มีวันได้ พบกับ
เจ้ าของหอที่ใจกว้ างไปกว่ าฉัน!"

ขณะความทรงจาแล่ นผ่ าน โจวหมิงรุ่ยใช้ ผ้าหมาดซับเลือดออก


จากใบหน้ า ทาซ้าหนแล้วหนเล่า

หลังจากสารวจในกระจกและพบว่ าบาดแผลเหวอะหวะถูกสมาน
เหลือเพียงรอยแผลเล็ก โจวหมิงรุ่ยแสดงท่ าทีโล่งใจหลายส่ วน มัน
รีบถอดเสื้ อลินนินออกและใช้ สบู่ขัดถูคราบเลือด

ทันใดนั้น ปัญหาใหม่ ผุดขึน้ ในห้ วงความคิด

แผลที่ขยับมีใหญ่ มากในตอนแรก ย่ อมหมายถึงเลือดที่เปรอะ


เปื้ อนหลายจุด ไม่ เพียงบนร่ ายกาย แต่ ยังรวมถึงเฟอร์ นิเจอร์ และ
พื้นภายในห้ อง
หลังจากครุ่นคิดพลางทาความสะอาดหลายนาที โจวหมิงรุ่ย
จัดการกับเสื้ อลินินเสร็จ มันรีบใส่ เสื้ อกลับคืนและนาพาเช็ดตัว
เปี ยกพาดบ่ า รีบเดินกลับห้ องด้ วยความเร็วสู ง เมื่อถึงห้ อง หมิงรุ่ย
ใช้ ผ้าหมาดเช็ดคราบเลือดบนโต๊ ะไม้ จากนั้นก็อาศัยแสงไฟตะเกียง
ค้ นหารอยเลือดในจุดที่เหลือ

การตัดสิ นใจดังกล่าวช่ วยให้ มันพบคราบเลือดที่กระเซ็นลงบน


พื้นและบริเวณใต้ ลนิ้ ชัก ไม่ เพียงเท่ านั้น มันยังพบปลอกกระสุ นสี
เหลืองหม่ นตกอยู่ริมกาแพงซ้ ายมือ

"…เอาปื นลูกโม่ จ่อขมับแล้วลั่นไกสิ นะ"

หลังจากปะติดปะต่ อชิ้นส่ วนเข้ าด้ วยกัน โจวหมิงรุ่ยก็ได้ ข้อสรุป


ความตายของไคล์น·โมเร็ตติ

หมิงรุ่ยไม่ รีบร้ อนสื บหาความจริง มันรีบขจัดคราบเลือดให้ หมด


เป็ นลาดับแรก จากนั้นก็เก็บปลอกกระสุ นและเดินกลับไปยังโต๊ ะไม้
โจวหมิงรุ่ยหยิบปื นขึน้ และดันโม่ ออกไปทางฝั่งซ้ าย มันเทกระสุ น
ในโม่ ออกจนหมด

'กระสุ นห้ านัด… รวมถึงปลอก ทั้งหมดทาจากทองเหลือง'

"ชัดเจนแล้ว…"
โจมหมิงรุ่ยยืนมองโม่ ที่ว่างเปล่าครู่หนึ่ง จากนั้นก็ใส่ กระสุ นกลับ
เข้ าไป

สายตาของมันเหลือบมองไปยังสมุดจดที่เปิ ดค้ าง อักษรบน


หน้ ากระดาษเขียนไว้ ว่า "ทุกคนต้ องตาย รวมถึงตัวฉัน" เมื่ออ่าน
จบ ความฉงนเริ่มผุดขึน้ ในห้ วงความคิด

'ปื นมาจากไหน?'

'ฆ่ าตัวตาย หรื อฆาตกรรมอาพราง?'

'นักศึกษาจบใหม่ จากสาขาประวัติศาสตร์ ไปพัวพันกับอะไรเข้ า?'

'ทาไมการลั่นไกฆ่ าตัวตายถึงหลงเหลือเพียงคราบเลือด? หรื อ


การเดินทางข้ ามโลกของเรามีผลช่ วยฟื้ นฟูร่างกาย'

ขณะครุ่นคิด โจวหมิงรุ่ยเปลี่ยนไปใส่ เสื้ อลินินตัวอื่น มันนั่งลง


บนเก้าอีพ้ ลางทบทวนถึงสิ่ งที่สาคัญด้ านอื่น

มันไม่ สนอดีตของไคลน์ มากนัก ที่มันกาลังอยากทราบคือ เหตุใด


ตนถึงถูกส่ งข้ ามโลก และจะกลับได้ ด้วยวิธีใด

พ่อแม่ ญาติพนี่ ้ อง เพื่อนสนิท โลกที่เปี่ ยมด้ วยอินเทอร์ เน็ต


ความเร็วสู งและอาหารรสเลิศ โจวหมิงรุ่ยต้ องการกลับโลกเก่าด้ วย
เหตุผลดังกล่าว
มือขวาของมันกาลังดันโม่ ปืนเข้ าออกเล่นโดยไม่ ร้ ูตัว

'ไม่ มีเรื่ องไหนปรกติสักอย่ าง… เราทาอะไรลงไปบ้ าง ถึงได้ ถูกส่ ง


ข้ ามโลกมาที่นี่… โชคร้ ายชะมัด'

'โชคร้ าย… เดี๋ยวนะ เราทาพิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตาก่อนอาหาร


ค่าใช่ ไหม?'

ความคิดในหัวหมิงรุ่ยพลันขาวโพลน ฉากความทรงจาอัน
เลือนลางถูกบดบังด้ วยหมอกเทา

ในฐานะนักการเมืองคีย์บอร์ ด นักประวัติศาสตร์ คีย์บอร์ ด นัก


เศษรฐศาสตร์ คีย์บอร์ ด นักชีววิทยาคีย์บอร์ ด นักคติชนคีย์บอร์ ด
โจวหมิงรุ่ยมักอวดโอ่กับเพื่อนฝูงว่ าตน 'รอบรู้ทุกเรื่ องอย่ างละนิด'
และแน่ นอน เพื่อนของมันจะตอกยา้ ด้ วยคาว่ า 'อย่ างละนิดจริงๆ'
เสมอ

พิธีกรรมโบราณคือหนึ่งสิ่ งที่โจวหมิงรุ่ยศึกษาผิวเผิน

'ราวปี ก่อน เรากลับบ้ านเกิดและได้ พบกับฉบับคัดลอกของ


"พิธีกรรมโบราณในราชวงศ์ ฉินและฮั่น" ในร้ านหนังสื อเก่า หาก
มองผิวเผิน มันคือหนังสื อที่น่าสนใจมาก เราเกิดความคิดที่จะซื้อ
เพื่ออวดทุกคนบนอินเทอร์ เน็ต แต่ น่าเสี ยดายที่เนื้อหาด้ านในน่ า
เบื่อเกินไป หลังจากเปิ ดอ่านไม่ กี่หน้ า เราก็นามันกลับไปวางบนชั้น
ทันที'

จนกระทั่งเดือนก่อน โจวหมิงรุ่ยพานพบความฉิบหายในชีวิต
อย่ างต่ อเนื่อง โทรสั บสู ญหาย เสี ยลูกค้ า ก่อความผิดพลาดในที่
ทางาน เมื่อความอับโชคถาโถม มันจึงหวนนึกถึงพิธีกรรมชนิด
หนึ่งที่ถูกระบุในช่ วงต้ นของหนังสื อ พิธีกรรมเปลี่ยนแปลง
โชคชะตา การเตรียมการแสนง่ ายดาย ไม่ จาเป็ นต้ องใช้ พลังภายใน
เข้ าช่ วย

'เพียงนาอาหารท้ องถิ่นมาแบ่ งเป็ นสี่ ส่วน แต่ ละส่ วนวางไว้ มุม


ห้ องสี่ ทิศ จะบนตู้หรื อโต๊ ะก็ได้ จากนั้นก็ยืนกึ่งกลางห้ องเพื่อเตรียม
ตัว พิธีกรรมแสนง่ ายดาย เพียงก้าวเท้ าทวนเข็มนาฬิ กาสี่ ครั้งให้
เป็ นรูปทรงจัตุรัส ก้าวแรกท่ องในใจว่ า "เซียนราชันย์ ฟ้าดิน
ประทานโชค" (ฝูเฉิงเสวียนหวังเซียนซุน) ก้าวที่สองท่ องว่ า "เทพ
สวรรค์ ฟ้าดินประทานโชค" (ฝูเฉิงเสวียนหวังเทียนจุน) ก้าวที่สาม
ท่ องว่ า "จักรพรรดิสวรรค์ฟ้าดินประทานโชค" (ฝูเฉิงเสวียนหวัง
ซ่ างตี)้ และก้าวที่สี่ท่องว่ า "ราชันย์ สวรรค์ ฟ้าดินประทานโชค" (ฝู
เฉิงเสวียนหวังเทียนซุน) หลังจากเดินครบ หลับตาลงและสงบนิ่ง
เป็ นเวลาห้ านาที พิธีเป็ นอันเสร็จสิ้น'

ในเมื่อเป็ นของฟรี ทดสอบสั กนิดคงไม่ เสี ยหาย มันปฏิบัติตาม


ข้ อความในหนังสื อทุกประการก่อนทานข้ าวเย็น แต่ กลับไม่ มีสิ่งใด
เกิดขึน้ ในทันที
ใครจะไปคิดว่ า ตัวมันจะถูกส่ งข้ ามโลกในเวลาเที่ยงคืนตรง
ข้ ามโลกเชียวนะ

"ต้ องเป็ นเพราะพิธีกรรมเปลีย่ นโชคแน่ … ดีล่ะ เราจะลงมือ


ทดสอบพรุ่งนี้ หากเป็ นสาเหตุของการข้ ามโลกจริง เรายังมีหวังที่
จะกลับไป"

โจวหมิงรุ่ยหยุดเล่นโม่ ในมือขวา มันยืนขึน้ ด้ วยสี หน้ าเปี่ ยม


ความหวัง
'แม้ โอกาสจะน้ อยนิด แต่ ค้ มุ ค่ าที่จะลองเสี่ ยง'
ราชันย์ เร้ นลับ 3 : เมลิสซ่ า

หลังจากยืนยันแผนการ โจวหมิงรุ่ยพลันปวดขมับรุนแรงอีก
ครั้ง ภาวะหวาดกลัวและกระวนกระวายกาลังคุกรุ่นในหัวสมอง

แต่ ก่อนอื่น มันต้ องไล่ย้อนอ่านความทรงจาของไคลน์ ·โมเร็ตติ


อย่ างระมัดระวัง โจวหมิงรุ่ยลุกเดินไปปิ ดวาล์วแก๊ สด้ วยความเคย
ชิน สายตาเหลือบมองโคมไฟกาแพงที่เริ่มหรี่แสง ก่อนจะนั่งลงเมื่อ
แสงดับสนิท มือข้ างหนึ่งเล่นโม่ ปืน ส่ วนอีกข้ างเลื่อนขึน้ มากุมแนบ
ขมับ

ความทรงจาของบุคคลอื่นกาลังฉายซ้าในสมองประหนึ่งนั่ง
ชมภาพยนต์ เรื่ องยาว แต่ ที่แปลกจากปรกติคือบรรยากาศของฉาก
หลังถูกฉาบด้ วยสี แดงหม่ น

เวลาล่วงผ่ านไปนาน อาจเพราะถูกกระสุ นเจาะทะลุสมอง


ความทรงจาของไคลน์ ·โมเร็ตติจึงกระจัดกระจายไม่ ปะปิ ดปะต่ อ
หลายจุดถูกฉายข้ าม โดยเฉพาะส่ วนที่เกี่ยวกับปื นลูกโม่ กระบอกนี้

มันมาอยู่กับไคลน์ ได้ อย่ างไร และฆ่ าตัวตายไปทาไม หลาย


คาถามที่หมิงรุ่ยสงสั ยยังคลุมเคลือ ข้ อความบนสมุด ‘ทุกคนต้ อง
ตาย รวมถึงฉัน’ หมายถึงสิ่ งใดกัน และสองวันก่อนเกิดเหตุฆ่าตัว
ตาย ความทรงจาเหล่านั้นหายไปไหน
ไม่ เพียงเรื่ องสาคัญ แต่ เรื่ องที่เกี่ยวกับความรู้ทั่วไปของโลกใบ
นีก้ ็หายไปหลายส่ วน

ท่ ามกลางความฉงน มีสิ่งหนึ่งที่โจวหมิงรุ่ยมั่นใจ หากไคลน์ ·


โมเร็ตติกลับไปเรียนมหาวิทยาลัยอีกครั้งในสภาพปัจจุบัน มันไม่ มี
ทางจบการศึกษาอย่ างแน่ นอน

ความจาแหว่ งโหว่ ถึงเพียงนั้น ทั้งที่ไคลน์ ·โมเร็ตติจะเพิง่ เรียน


จบเมื่อไม่ กี่วันก่อนนี่เอง
แล้วหมิงรุ่ยต้ องแบกร่ างไคลน์ ไปสอบสั มภาษณ์ เข้ าทางานกับ
มหาวิทยาลัยทิงเก็นในอีกสองวันข้ างหน้ าเนี่ยนะ…

ตามธรรมเนียมปฏิบัติของอาณาจักรโลเอ็น ผู้ที่จบการศึกษา
มักไม่ ทางานต่ อในมหาวิทยาเดิมที่เคยร่าเรียน… อาจารย์ ที่ปรึกษา
จึงเขียนจดหมายแนะนาให้ เข้ าสมัครงานที่มหาวิทยาลัยทิงเก็นและ
มหาวิทยาลัยเบ็คลันด์ …

ที่หน้ าต่ างด้ านนอก โจวหมิงรุ่ยนั่งมองจันทร์ สีเลือดกาลังลับ


ขอบฟ้ าทิศตะวันตก แสงจันทร์ บรรจงริบหรี่ลงอย่ างเงียบงัน เมื่อ
จันทร์ ลับขอบฟ้ าโดยสมบูรณ์ ท้ องฟ้ าฝั่งทิศตะวันออกเริ่มฉายแสง
ทองอร่ ามระยิบระยับ
ทันใดนั้น ความวุ่นวายเล็กๆ เริ่มอุบัติขนึ้ ภายในหอพัก เสี ยง
ฝี เท้ าผู้คนเดินขวักไขว่ อาจไม่ ดังจนรบกวน แต่ ก็มากพอจะได้ ยิน
ทั่วหอพักที่ผนังแสนบอบบาง

เพียงไม่ นาน เสี ยงฝี เท้ าคนผู้หนึ่งดังแว่ วใกล้เข้ ามายังประตู


ห้ องนอนไคลน์

“เมลิสซ่ าตื่นแล้วสิ นะ… ยังเป็ นเด็กตรงเวลาเหมือนเคย”

หมิงรุ่ยพลันอมยิม้ เนื่องจากความทรงจาของมันเริ่มผสมกับ
ไคลน์ ทีละนิด ตัวตนของเมลิสซ่ าจึงมอบความรู้สึกเหมือนกับ
น้ องสาวแท้ ๆ ของมันโดยปริยาย

แต่ เราไม่ มีน้องสาวสั กหน่ อย… หมิงรุ่ยรีบดึงสติกลับสู่ ความ


จริง

เมลิสซ่ ามีสถานะแตกต่ างจากไคลน์ และเบ็นสั นเล็กน้ อย เธอยัง


เรียนไม่ จบการศึกษาขั้นพื้นฐานตามข้ อบังคับของรัฐบาล

ช่ วงก่อนเมลิสซ่ าจะถึงวัยเรียนเล็กน้ อย อาณาจักรโลเอ็นได้


ออกกฏใหม่ ให้ ประชาชนทุกคนได้ รับ ‘การศึกษาขั้นพื้นฐาน’ โดยมี
ทุนการศึกษาสนับสนุน

เพียงสามปี … หลังจากโบสถ์ เริ่มจัดตั้งหลักสู ตรการศึกษาวัน


อาทิตย์ ขนึ้ โรงเรียงสามัญทั่วอาณาจักรโลเอ็นต่ างรีบนาหลักสู ตร
ด้ านศาสนาออก เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ งระหว่ างคาสอนของทั้ง
สามเทพประจาอาณาจักร ประกอบด้ วย เทพแห่ งวายุสลาตัน
เทพธิดารัตติกาล และเทพแห่ งจักรกลไอน้า

โรงเรียนวันอาทิตย์ ของโบสถ์ จะคิดค่ าเล่าเรียนเพียงหนึ่งเพ


นนีทองแดงต่ อสั ปดาห์ นับเป็ นราคาที่ถูกมากเมื่อเทียบกับค่ าเล่า
เรียนของโรงเรียนสามัญซึ่งแพงถึงสามเพนนีต่อสั ปดาห์

แต่ แบบแรกจะมีเรียนเฉพาะวันอาทิตย์ ส่ วนแบบหลังนั้นต้ อง


เรียนสั ปดาห์ ละหกวัน คุณภาพการศึกษาย่ อมต่ างกันหลายขุม

แต่ เมลิสซ่ าไม่ เหมือนกับเด็กสาวทั่วไป

ในวัยเด็ก เธอมิได้ สนใจตุ๊กตาหรื อของเล่น แต่ จะชื่ อชอบเฟื อง


เกียร์ สปริง และตลับลูกปื นมากเป็ นพิเศษ เธอมีความฝันอยากเป็ น
ช่ างกลไอน้าในอนาคต

พีใ่ หญ่ อย่ างเบ็นสั นที่ขาดโอกาส ย่ อมตระหนักถึงความสาคัญ


ของการศึกษาได้ ดีกว่ าใครในครอบครัว เฉกเช่ นที่เคยสนับสนุนการ
เรียนของไคลน์ อย่ างสุ ดความสามารถ

เหนือสิ่ งอื่นใด เมลิซ่าเล็งศึกษาต่ อเพียงเป้าหมายเดียว นั่นคือ


โรงเรียนเทคนิคทิงเก็นที่มีค่าเล่าเรียนค่ อนข้ างต่าและสอบเข้ าไม่
ยากนัก เมลิซ่าจึงไม่ จาเป็ นต้ องเรียนด้ านภาษาหรื อวิชาการเสริม
เมื่อถึงกรกฏาคมปี ที่แล้ว เมลิซ่าวัยสิ บห้ าปี จบการศึกษาจาก
โบสถ์ และสอบเข้ าโรงเรียนเทคนิคทิงเก็นสาเร็จ กลายเป็ นนักเรียน
เทคนิคทิงเก็นสาขาไอน้าและเครื่ องจักรเต็มตัว

ด้ วยเหตุนี้ ค่ าเล่าเรียนของเธอจึงเพิม่ เป็ นสามเพนนี่ต่อสั ปดาห์

ในทางกลับกัน บริษัทที่เบ็นสั นทางานได้ รับผลกระทบอย่ าง


หนักจากสถานการณ์ เศรษฐกิจที่ย่าแย่ ของทวีปใต้ กาไรเหือดแห้ ง
ลูกค้ าหดหาย พนักงานหนึ่งในสามถูกลอยแพอย่ างไม่ มีทางเลือก
หากเบ็นสั นต้ องการรักษาสถานภาพพนักงานไว้ มันต้ องทางานให้
หนักกว่ าปรกติหลายเท่ า รวมถึงต้ องเดินทางไปยังสถานที่
ทุรกันดาร นั่นคือสาเหตุที่เบ็นสั นไม่ กลับบ้ านติดต่ อกันหลายวัน
ในช่ วงหลัง

ไม่ ใช่ ว่าไคลน์ ไม่ ต้องการช่ วยพีช่ ายแบ่ งเบาภาระ แต่ เมื่อเกิด
เป็ นสามัญชน ไคลน์ จาเป็ นต้ องศึกษาในโรงเรียนสามัญและ
มหาวิทยาลัยเพื่อให้ แข่ งขันกับครอบครัวขุนนางได้ ทัดเทียม

ค่ าเล่าเรียนมหาศาลของไคลน์ ส่งผลให้ ครอบครัวประสบ


ปัญหาด้ านการเงินอย่ างต่ อเนื่องตลอดหลายปี ที่ผ่านมา

แต่ นั่นคือสิ่ งจาเป็ น เพราะทายาทตระกูลขุนนางล้วนรู้ภาษา


โบราณทุกชนิดของทวีปเหนือตั้งแต่ เด็ก แต่ กลับกัน สามัญชนจะได้
เรียนเป็ นครั้งแรกในระดับมหาวิทยาลัย
ทว่ า นั่นมิได้ ทาให้ ไคลน์ ย่อท้ อ มันตั้งใจเรียนหนังสื ออย่ าง
หนักตั้งแต่ ยังเล็ก ขณะเรียนมหาวิทยาลัย ทุกคืนต้ องศึกษาตาราจน
ดึกดื่นและตื่นก่อนใครเสมอ

จนท้ ายที่สุด ไคลน์ เรียนจบมหาวิทยาลัยด้ วยคะแนนที่สูงกว่ า


ค่ าเฉลี่ยเล็กน้ อย

ขณะความทรงจามากมายเกี่ยวกับพีช่ ายและน้ องสาวกาลังซัด


โถมโจวหมิงรุ่ยอย่ างไม่ หยุดพัก เสี ยงลูกบิดประตูถูกหมุนได้ ดัง
แว่ วเข้ ามากระทบแก้วหู

มันเพิง่ นึกได้ ว่า ในมือยังกาลูกโม่ ทองเหลืองแน่ นถนัด… นี่


เป็ นอาวุธกึ่งควบคุมที่ต้องมีใบอนุญาต!

เมลิสซ่ าอาจเข้ าใจผิดได้ และที่แย่ ไปกว่ านั้น บาดแผลตรงขมับ


ของมันก็ยังไม่ หายดี

เมื่อตระหนักว่ าน้ องสาวอาจเปิ ดประตูเข้ ามาทุกเมื่อ โจวหมิง


รุ่ยรีบใช้ มือขวาปกปิ ดบาดแผลไว้ ส่ วนมือซ้ ายดึงลิน้ ชักออก แล้ว
กระแทกลูกโม่ ลงไปจนเกิดเสี ยงดังโครม

“เกิดอะไรขึน้ ?”

เมลิสซ่ าเอ่ยปากถามหลังจากได้ ยินเสี ยงเอะอะ เธอยังอยู่ในวัย


ช่ างสงสั ย ถึงจะได้ รับสารอาหารไม่ มากพอเพราะความยากจน แต่
ยังคงมีท่าทีอยากรู้อยากเห็นเหมือนเช่ นเด็กในวัยสาวทั่วไป

เมื่อหันไปเห็นน้ องสาวเปิ ดประตูพลางจ้ องมองเข้ ามาในห้ อง


หมิงรุ่ยชะงักเล็กน้ อย

ลิน้ ชักยังไม่ ถูกปิ ด มันแสร้ งหยิบบางสิ่ งในลิน้ ชักชึ้นมากาแทน


ลูกโม่ เพื่อเบนความสนใจ จากนั้นก็ใช้ หมัดดันลิน้ ชักไม้ กลับเข้ าไป
เพื่อเก็บซ่ อนปื นให้ มิดชิด

มือข้ างขวาที่สัมผัสขมับเริ่มรับรู้สิ่งผิดปรกติ บาดแผลที่ควรมี


ได้ หายไปแล้ว สมานติดกันโดยสมบูรณ์ ไร้ ร่องรอย

หมัดข้ างซ้ ายที่ใช้ ดันลิน้ ชักปิ ด โจวหมิงรุ่ยเริ่มคลายกามือ เผย


ให้ เห็นนาฬิ กาแบบห้ อยคอสี ทองเหลืองรูปทรงใบองุ่น

มันใช้ ปลายนิว้ กดอย่ างทะนุถนอม ฝาเครื่ องดีดขึน้ เปิ ดตาม


กลไกลพร้ อมเสี ยงกริ๊ก

ด้ านในบรรจุภาพถ่ ายบิดาของสามพีน่ ้ อง เป็ นสิ่ งของมูลค่ า


สู งสุ ดเท่ าที่ทางกองทัพทิงเก็นจะหาคืนครอบครัวโมเร็ตติได้

แต่ ด้วยความที่เป็ นนาฬิ กามือสอง เมื่อผ่ านไปสั กพัก เวลาจะ


เริ่มเดินเพีย้ น ถึงแม้ จะมีช่างนาฬิ กาหมั่นซ่ อมบารุงอย่ างสม่าเสมอ
ก็ตาม
การระบุเวลาผิดได้ สร้ างความลาบากใจให้ เบ็นสั นบ่ อยครั้ง มัน
เคยชอบพกนาฬิ าเรื อนนีเ้ พื่อเป็ นของต่ างหน้ าพ่อ รวมถึงเป็ น
สั ญลักษณ์ แทนผู้นาครอบครัว แต่ เมื่อเริ่มบอกเวลาผิดพลาด
บ่ อยครั้งเข้ า เบ็นสั นไม่ มีทางเลือกอื่นนอกจากวางเก็บไว้ ที่บ้าน
อย่ างสงบนิ่ง

เมลิสซ่ าทาตัวสมกับความใฝ่ ฝันที่จะเป็ นช่ างจักรกล ในช่ วง


ต้ น เธอตั้งใจศึกษากลไกการทางานของนาฬิ กาโดยละเอียด
จนกระทั่งเมื่อพร้ อมซ่ อม เครื่ องมือหลายชนิดถูกหยิบยืมมาจาก
โรงเรียนเทคนิคทิงเก็น และเมื่อไม่ นานมานี้ เธอบอกกับทุกคนว่ า
ซ่ อมมันสาเร็จแล้ว

แต่ หลังจากยืนพิจารณาอยู่พกั หนึ่ง หมิงรุยพบว่ าเข็มนาทีไม่


ขยับเขยื้อน จึงเลื่อนนิว้ ขึน้ ไปบิดเม็ดมะยมตามสั ญชาตญาณ

ทว่ า บิดเท่ าไรก็ไม่ ได้ ยิงเสี ยงสปริง


เข็มนาทียังคงนิ่งค้ างในจุดเดิม

“ดูเหมือนจะเสี ยอีกแล้วล่ะ”

ชายหนุ่มหันมองเมลิสซ่ าเพื่อหาหัวข้ อสนทนา น้ องสาวสุ ดที่


รักมองตอบด้ วยสี หน้ าเรียบเฉยไร้ อารมณ์ ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินเข้ า
มาคว้ านาฬิ กาไป
เธอยังคงไม่ เป็ นไหน เมลิซ่ายืนเพ่งนาฬิ กาพร้ อมกับใช้ นวิ้ ดึง
เม็ดมะยมขึน้ หนึ่งล็อค เมื่อลองบิดซ้ ายขวาสองสามครั้ง เข็มนาทีก็
เริ่มส่ งเสี ยงดังติกตอกอีกครั้ง

ไม่ ใช่ ว่าการดึงเม็ดมะยมขึน้ จะหมายถึงตั้งเวลาหรอกหรื อ…


โจวหมิงรุ่ยขมวดคิว้ ฉงน

ทันใดนั้น เสี ยงระฆังโบสถ์ ดังกังวาลจากจุดห่ างไกลออกไป


สั ญญาณดังขึน้ หกครั้ง หมายถึงเวลาหกโมงเช้ า เป็ นเสี ยงที่ใส
เสนาะหู
เมลิซ่าเอียงคอฟังระฆังโบสถ์ อย่ างตั้งใจ เมื่อกลับเข้ าสู่ ความ
เงียบงัน เธอก้มลงหมุนเม็ดมะยมเพื่อปรับเวลาให้ ตรงกัน

“ใช้ ได้ แล้ว”

เป็ นถ้ อยคาเรียบง่ ายไร้ อารมณ์ เช่ นเคย เม็ดมะยมถูกกดลงดัง


กริ๊ก จากนั้น เมลิซ่ายื่นนาฬิ กากลับให้ โจวหมิงรุ่ย

มันอมยิม้ แทนคาขอบคุณ

เธอขมวดคิว้ พลางหรี่ตาจ้ องพีช่ ายคนกลางด้ วยสายตาเสี ยด


แทง จากนั้นก็เดินกลับไปยังตู้เสื้ อผ้ าที่ห้องรวม เมลิสซ่ าจัดเตรียม
อุปกรณ์ อาบน้าพร้ อมผ้ าเช็ดตัว เมื่อเรียบร้ อย เธอออกจากห้ องพัก
และมุ่งหน้ าตรงไปยังห้ องน้ารวม
เหตุใดเธอถึงจ้ องพีช่ ายตัวเองด้ วยสายตาเย็นชาและดูแคลน
ขนาดนั้น?

เป็ นห่ วงพีช่ ายไม่ เอาไหนงั้นหรื อ?

หมิงรุ่ยเอียงคอพร้ อมกับพ่นลมหายใจเหนื่อยหน่ าย มันส่ ง


เสี ยงหัวเราะในลาคอ

ขณะเดียวกัน นาฬิ กาในมือถูกนิว้ ดันให้ ฝาพับปิ ดลง จากนั้นก็


กดเปิ ดเล่นอีกครั้ง หมิงรุ่ยมักมีนิสัยเล่นของบนมือขณะใช้ ความคิด

ไคลน์ ยิงตัวตายด้ วยลูกโม่ โดยไม่ ใส่ ที่เก็บเสี ยง มันขอสมมติให้


เป็ นการฆ่ าตัวตายไปก่อน… เสี ยงจากปื นลูกโม่ กระบอกนีน้ ่ าจะ
คารามได้ กึกก้องพอตัว แล้วเหตุใดเมลิซ่าถึงไม่ เอะใจกับสิ่ งที่
เกิดขึน้ ภายในห้ องพีช่ ายเลย

หลับลึก? หรื อว่ าการฆ่ าตัวตายของไคลน์ จะมีเงื่อนงาที่


มากกว่ านี?้

กริ๊ก! ฝานาฬิ กาเปิ ดออก


แกร่ ก! ฝานาฬิ กาปิ ด…

เมื่อเมลิสซ่ ากลับจากห้ องน้ารวม เธอเหลือบเห็นพีช่ ายกาลังยืน


ครุ่นคิดพลางปิ ดเปิ ดนาฬิ กาเล่นอยู่พกั ใหญ่ สายตาของเธอแฝง
ด้ วยความหงุดหงิดอีกครั้ง
ทว่ า น้าเสี ยงกลับอ่อนหวานนุ่มนวลสวนทาง

“ไคลน์ เอาขนมปังที่เหลือออกมา แล้ววันนีอ้ ย่ าลืมไปซื้อ


ของใหม่ ด้วย เนื้อกับถั่วก็หมดแล้วเหมือนกัน การสั มภาษณ์ งาน
ใกล้เข้ ามาแล้วใช่ ไหม ฉันจะทาสตูว์แกะใส่ ถั่วให้ ”

ขณะกล่าว เมลิสซ่ าเดินไปหยิบหม้ อต้ มและถ่ านฟื นจากมุม


ห้ องและเริ่มต้ มน้า
ก่อนน้าเดือด เธอก้มดึงลิน้ ชักชั้นชั้นล่างสุ ดและหยิบบางสิ่ ง
ออกมาด้ วยท่ าทางทะนุถนอมประหนึ่งเป็ นสมบัติลา้ ค่ า…

กระปุกใบชาราคาถูก!

เมลิซ่าเปิ ดฝาหยิบออกมาราวสิ บใบ โปรยลงไปในหม้ อต้ ม สี


หน้ าพึง่ พอใจราวกับได้ ชงชาแท้ คุณภาพชั้นเลิศ

เมื่อร้ อนได้ ที่ เธอรินชาใส่ ถ้วยสองใบใหญ่ จากนั้นก็ฉีกขนมปัง


ไรย์ ที่เริ่มแข็ง แบ่ งกับกินกับโจวหมิงรุ่ยสองคน

บนผิวขนมปังไม่ มีเศษฝุ่ นผง ความนุ่มอยู่ในระดับปรกติ แต่


รสชาติน้ นั เข้ าขั้นบัดซบ… โจวหมิงรุ่ยยังไม่ ถูกเติมเต็มท้ องที่หิว
โหย ร่ างกายอ่อนล้ าและปราศจากเรี่ยวแรงเหมือนเช่ นเคย แต่ ถึงจะ
บ่ นในใจ ทางเลือกคงมีไม่ มากนัก ต้ องฝื นกระเดือกขนมปังไรย์ ใน
มือให้ หมด

เมลิสซ่ าทานหมดหลังหมิงรุ่ยไม่ นานนัก เธอจัดแจงเส้ นผมสี


ดาขลับไปด้ านหลังพร้ อมกับกล่าว

“อย่ าลืมซื้อขนมปังสด เอามาแค่ แปดปอนด์ ก็พอ ช่ วงนีอ้ ากาศ


ร้ อน ขนมปังจะเสี ยง่ าย แล้วอย่ าลืมซื้อเนื้อแกะกับถั่วมาด้ วย ห้ าม
ลืมเด็ดขาด!”

เป็ นอย่ างที่คิด เธอคงเป็ นห่ วงพีช่ ายสุ ดบื้อของตัวเอง ถึงขั้น


เน้ นยาหลายครั้งเพราะกลัวลืม… โจวหมิงรุ่ยอมยิม้ พลางผงก
ศีรษะ

“ครับผม”

จากความทรงจาของไคลน์ หน่ วยชั่งตวงของอาณาจักรโลเอ็น


จะใช้ ‘ปอนด์ ’ เป็ นหลัก แปดปอนด์ จะใกล้เคียงกับครึ่งกิโลกรัมของ
โลกเดิมที่มันคุ้นเคย

เมลิซ่าไม่ กล่าวสิ่ งใดต่ อ เธอลงมือทาความสะอาดห้ องรวมจน


เรียบร้ อย เศษขนมปังไรย์ ที่เหลือถูกนาใส่ กระเป๋าสะพายเตรียมไว้
เป็ นอาหารกลางวัน

เมลิซ่าหยิบผ้ าคลุมหัวซึ่งสภาพค่ อนข้ างเก่าออกมาสวม เป็ น


ของดูต่างหน้ าจากมารดาผู้ล่วงลับ หลังจากนั้น เธอหยิบกระเป๋าที่
บรรจุเครื่ องเขียนและหนังสื อออกมาสะพาย เป็ นใบที่ผ่านการ
ซ่ อมแซมครั้งแล้วครั้งเล่าด้ วยฝี มือเย็บปักที่เมลิสซ่ าภาคภูมิใจ

ถึงคราวเธอออกเดินทางไปเรียนแล้ว วันนีไ้ ม่ ใช่ วันอาทิตย์ การ


เรียนการสอนจึงยาวตลอดทั้งวัน

หากด้ วยเดินเท้ า จากหอพักไปถึงโรงเรียนเทคนิคทิงเก็นจะใช้


เวลาราวห้ าสิ บนาที

ภายในเมืองมีบริการรถม้ าสาธารณะ อัตราค่ าโดยสารกิโลเมตร


ละหนึ่งเพนนี ค่ าโดยสารสู งสุ ดในเขตเมืองจะมีราคาไม่ เกินสี่ เพนนี
และไกลสุ ดชานเมืองจะมีราคาไม่ เกินหกเพนนี

แต่ เพื่อประหยัดเงิน เมลิสซ่ าเลือกเดินเท้ าไปโรงเรียน

ขณะยืนอยู่หน้ าประตูห้องพัก เธอชะงักไปครู่หนึ่งหลังจากเปิ ด


ประตูค้างไว้ ครึ่งบาน

เมลิสซ่ าหันหลังกลับมากล่ าว

“ไคลน์ อย่ าซื้อมาเยอะเกินไปนะ เบ็นสั นจะกลับมาวันอาทิตย์


เราสองคนต้ องการขนมปังแค่ แปดปอนด์ เท่ านั้น”

“รู้แล้วน่ า”
โจวหมิงรุ่ยเริ่มตอบด้ วยน้าเสี ยงไม่ พอใจ

ขณะเดียวกัน ภายในหัวกาลังทบทวนคาว่ า ‘วันอาทิตย์ ’ ซ้า


หลายหน

อ้างอิงจากปฏิทินของทวีปเหนือ หนึ่งปี แบ่ งออกเป็ นสิ บสอง


เดือน แต่ ละปี จะมี 365 หรื อ 366 วัน และในหนึ่งสั ปดาห์ จะแบ่ ง
ออกเป็ นเจ็ดวัน

ตามหลักปรกติ การแบ่ งสิ บสองเดือนเกิดจากความรู้ด้านดารา


ศาสตร์ ของมนุษย์ หมิงรุ่ยจึงนึกสงสั ยว่ า ที่นี่อาจเป็ นโลกคู่ขนาน
กับโลกที่ตนเคยอาศัย

ในทางกลับกัน การแบ่ งวันทั้งเจ็ดจะมีรากฐานมาจากศาสนา

ทวีปเหนือมีเทพทั้งหมดเจ็ดองค์ ประกอบด้ วย เทพตะวันเจิด


จรัส เทพแห่ งวายุสลาตัน เทพแห่ งความรู้และปัญญา เทพธิดา
รัตติกาล พระแม่ ธรณี เทพสงคราม และเทพแห่ งจักรกลไอน้า

เมื่อเห็นน้ องสาวปิ ดประตูเดินจากไป หมิงรุ่ยพลันถอนหายใจ


ยาว สมาธิท้ังหมดหันมาจดจ่ อกับพิธีกรรมเปลี่ยนดวงตะชา

ขอโทษนะ… แต่ พอี่ ยากกลับบ้ าน


ราชันย์ เร้ นลับ 4 : ทานายดวงชะตา

เมื่อกลับมานั่งเก้าอีต้ ัวเดิม โจวหมิงรุ่ยได้ ยินเสี ยงระฆังโบสถ์


กังวาลจากระยะไกลเป็ นหนที่สองของวัน ระฆังตีดังทั้งหมดเจ็ด
ครั้ง มันลุกยืนขึน้ และเดินไปยังตู้เสื้ อผ้ าเพื่อแต่ งตัว

เสื้ อกั๊กดาสี เดียวกับสู ท กางแกงขายาวสี ดาสนิทรัดรูป หมวก


ทรงกึ่งสู ง เมื่อผนวกเข้ ากับกลิ่นอายบัณฑิตรอบตัว โจวหมิงรุ่ ยรู้สึก
ราวกับตนคือสุ ภาพบุรุษขุนนางแห่ งยุควิคตอเรียยังไงยังงั้น

เสี ยพึมพาหลุดจากปากพร้ อมกับอมยิม้

“เราจะไม่ สอบสั มภาษณ์ เข้ าทางาน สิ่ งเดียวที่ต้องทาคือ


พิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตา…”

จิตใต้ สานึกของไคลน์ น้ ันกังวัลกับการสอบสั มภาษณ์ มาก


โจวหมิงรุ่ยจึงซึบซับอิทธิพลการแต่ งกายมาโดยไม่ ร้ ูตัว

หลังจากสู ดลมหายใจเข้ าลึก มันตัดสิ นใจถอดสู ทกับเสื้ อกั๊ก


ออก เปลี่ยนไปใส่ โค้ ทสี เหลืองอมน้าตาลแทน และยังเปลี่ยนหมวก
ทรงกึ่งสู งเป็ นหมวกปี กกว้ างสี เดียวกับเสื้ อ

เมื่อจัดการเครื่ องแต่ งกายเสร็จ เป้าหมายต่ อไปคือพรม


สี่ เหลี่ยมจัตุรัสที่วางบนพื้นข้ างเตียง หลังจากยกพรมขึน้ โจวหมิง
รุ่ยใช้ มือควานหารูเล็กจากช่ องลับ จนได้ พบสิ่ งที่ถูกซ่ อนไว้ ด้านใน
มันชักมือขวากลับ วัตถุที่ติดมาด้ วยคือธนบัตรซึ่งถูกม้ วนเป็ น
ทรงกระบอกจานวนแปดใบ ทั้งหมดมีสีเทาอมเขียวเจือจาง

นี่คือเงินเก็บทั้งหมดในปัจจุบันของเบ็นสั น และยังเป็ นค่ า


ครองชีพในอีกสามวันข้ างหน้ าของไคลน์ และเมลิสซ่ าด้ วย สองจาก
แปดใบเป็ นธนบัตร 5 ซูล ส่ วนที่เหลืออีกสามใบเป็ นธนบัตร 1 ซูล

ซูลคือเงินสกุลอาณาจักรโลเอ็น มีมูลค่ ามากเป็ นลาดับสองรอง


จากปอนด์ ทอง เดิมทีแล้ ว หน่ วยซูลมีต้นตอมาจากเหรียญเงิน
โบราณ หนึ่งซูลจะเท่ าทับ 12 เพนนีทองแดง

ธนบัตรซูลจะมีอยู่สองประเภท คือ 5 ซูล และ 1 ซูล

ส่ วนหน่ วยเงินมูลค่ าสู งสุ ดในอาณาจักรคือ ‘ปอนด์ ทอง’


ธนบัตรอาจมีลักษณะคล้ายคลึงกับกระดาษทั่วไป แต่ จะสอดแทรก
ด้ วยลวดลายสี ทองเอาไว้ หลายจุด

หนึ่งปอนด์ ทองจะมีค่าเท่ ากับ 20 ซูล


ธนบัตรปอนด์ ทองมีสามประเภท ประกอบด้ วยธนบัตร 1, 5
และ 10 ปอนด์ ทอง

โจวหมิงรุ่ยคลี่ธนบัตรออกพร้ อมกับดมกลิ่นหมึกที่ติดเจือจาง
นี่สินะ... กลิ่นเงิน
อาจเป็ นจิตใต้ สานึกจากไคลน์ ที่ปรารถนาเงินทองอย่ างแรงกล้า
โจวหมิงรุ่ยตกหลุ่มรักธนบัตรเหล่านีต้ ้งั แต่ แรกพบ

ดูการออกแบบนี่สิ… แม้ แต่ กษัตริย์จอร์ จที่สาม ซึ่งแต่ เดิมเป็ น


คนดุและไว้ หนวดเข้ ม กลับยังน่ ารักน่ าเอ็นดูอย่ างเหลือเชื่ อเมื่อ
ปรากฏตัวในเงินตรา...

ดูลายน้านี่สิ… มันช่ างงดงามเหนือคาบรรยายหากนาไปส่ อง


กับแสงแดด แถมการออกแบบยังปราณีตวิจิตร ป้องกันการปลอม
แปลงได้ ดีเยี่ยม แตกต่ างจากธนบัตรราคาถูกโดยสิ้นเชิง

โจวหมิงรุ่ยเชยชมเงินนานเกือบนาที ก่อนจะดึงธนบัตรหนึ่ง
ซูลสองใบออกมาถือไว้ ส่ วนที่เหลือเก็บใส่ ไว้ ในช่ องลับตามเดิม

จุดซ่ อนเงินถูกพรมเช็ดเท้ าปกปิ ดไว้ มิดชิด หลังจากนั้น หมิง


รุ่ยพับธนบัตรหนึ่งซูลสองใบปราณีตและเก็บไว้ ในกระเป๋าเสื้ อโค้ ท
สี เหลืองอมน้าตาล มันไม่ ต้องการให้ ธนบัตรกับเศษเหรียญเพนนี
ในกระเป๋ากางเกงปะปนกัน

เมื่อเตรียมตัวเสร็จ กุญแจห้ องถูกนามาใส่ ในกระเป๋าเสื้ อข้ าง


ขวา หมิงรุ่ยหันไปคว้ าถุงกระดาษสี น้าตาลตัวและเดินตรงไปยัง
ประตูหน้ าห้ อง
เสี ยงฝี เท้ าซอยถี่ในตอนแรก แต่ เพียงไม่ นานก็ช้าลง จนกระทั่ง
หยุดนิ่งสนิทหน้ าประตู

โจวหมิงรุ่ยครุ่นคิดหลายเรื่ องขณะยืนเหม่ อหน้ าประตู คิว้ เริ่ม


ขมวดชนกัน

มันไม่ กล้าออกไปนอกห้ อง…

การฆ่ าตัวตายของไคลน์ เต็มไปด้ วยปริศนา หากเดินเพ่นผ่ าน


ภายนอก ตนจะไม่ ถูก ‘อุบัติเหตุ’ เล่นงานเข้ าหรื อ?
หลังจากไตร่ ตรองถี่ถ้วน หมิงรุ่ยเดินกลับเข้ าห้ องตัวเอง ลิน้ ชัก
ถูกดึงออก มันหยิบปื นลูกโม่ สีทองเหลืองแววาวขึน้ มาถือ

นี่เป็ นเพียงอาวุธชนิดเดียวที่ตนนึกออก และยังเป็ นเครื่ องรางที่


อุ่นใจหากพกติดตัวไว้ พลังทาลายของมันเหลือเฟื อเกินกว่ าจะ
เรียกว่ าป้องกันตัว

ถึงจะไม่ เคยฝึ กยิง แต่ เพียงยกขู่เจ้ านี่ให้ อีกฝ่ ายฉี่ราดก็เพียงพอ


แล้ว

หมิงรุ่ยลูบคลาปื นอย่ างทะนุถนอม ก่อนจะนาไปยัดไว้ ใน


กระเป๋าเสื้ อด้ านซ้ าย ซึ่งเป็ นช่ องเดียวกับธนบัตรทั้งสองใบ ฝ่ ามือ
รองธนบัตรไว้ ส่ วนนิว้ ชี้วางรอใกล้โกร่ งไกปื น เผื่อมีเหตุไม่ คาดฝัน
ให้ ต้องใช้ งาน
นับเป็ นการเตรียมตัวและซุกซ่ อนอันสมบูรณ์ แบบ แต่ หลังจาก
รู้สึกปลอดภัยได้ ไม่ นาน สั ญชาตญาณ ‘รู้ทุกเรื่ องอย่ างละนิด’ ได้
สร้ างความกังวลใหม่ ภายในใจ

จะเกิดอะไรขึน้ ถ้ าปื นลั่น?

เมื่อจินตนาการถึงความฉิบหายที่อาจมาเยือน โจวหมิงรุ่ยไม่
รีรอ มันรีบปลดโม่ ปืนออกพร้ อมกับตบมาฝั่งซ้ าย จากนั้นก็หยิบ
กระสุ นออกหนึ่งนัด รังเพลิงเปล่าถูกเลื่อนให้ ตรงกับนัดแรกที่จะถูก
ยิง

โม่ ปืนถูกตบกลับอีกครั้ง

ด้ วยเหตุนี้ ต่ อให้ เกิดปื นลั่น แต่ ก็จะลั่นในนัดเปล่า

ปื นถูกยัดใส่ กลับกระเป๋าเสื้อช่ องเดิม หมิงรุ่ยนามือซ้ ายสอดใส่


กระเป๋าไว้ เช่ นนั้นโดยไม่ ดึงออกมา มือขวาจัดระเบียบหมวกปี ก
กว้ างเป็ นครั้งสุ ดท้ าย

ประตูใหญ่ ห้องรวมถูกเปิ ดออก การผจญภัยสู่ โลกภายนอกครั้ง


แรกของโจวหมิงรุ่ยได้ เริ่มต้ นขึน้ อย่ างเป็ นทางการ

ทางเดินยังไม่ สว่ างมากนักแม้ จะเป็ นยามเช้ า ภายในในอาคาร


ไม่ มโี คมไฟมากเท่ าที่ควร หน้ าต่ างมีเพียงไม่ กี่บาน คงยากที่แสงจะ
ลอดผ่ านเข้ ามาถึง โจวหมิงรุ่ยไม่ รีรอ มันรีบล็อคห้ องและเดินลงไป
ชั้นล่างเพื่ออ้าแขนรับแสงแดดยามเช้ า

ถึงจะย่ างเข้ าใกล้เดือนกรกฎาคม แต่ สาหรับเมืองนีย้ ังถือเป็ น


ฤดูร้อน

เมืองทิงเก็นอยู่ค่อนขึน้ มาทางทิศเหนือของอาณาจักรโลเอ็น
สภาพอากาศที่นี่จึงพิเศษกว่ าเมืองอื่นเล็กน้ อย อุณภูมิสูงสุ ดไม่ มาก
ไปกว่ า30 องศาเซลเซียสของโลกเก่า ซึ่งนับเป็ นอากาศที่เย็นสบาย
โดยเฉพาะในยามเช้ าที่มีลมเอื่อยเย็นยะเยียบโชยปะทะใบหน้ า
ทว่ า ถนนหนทางกลับสกปรกกว่ าที่คิด แอ่ งน้าเน่ าและเศษขยะ
กระจัดกระจายเรียงราย จากความทรงจาของไคลน์ นี่คือภาพที่พบ
เห็นได้ ทั่วไปในเมืองยากจน เพราะเหนือสิ่ งอื่นใด ทุกคนต้ องดิน้ รน
เพื่อเอาชีวิตให้ รอดในแต่ ละวัน ไม่ มีเวลาคิดถึงส่ วนรวมมากนัก

โดยเฉพาะภายในเมืองแร้ นแค้ นแสนแออัด

“เข้ ามาลองเร็วเข้ า! ปลาย่ างอร่ อยมาก!”

“ซุปหอยนางรมสดใหม่ ร้อนๆ การได้ ซดในยามเช้ าจะทาให้ วัน


ทั้งวันเหมือนกับสวรรค์ !”

“ปลาสดมากจากท่ าเรื่ อ เพียงห้ าเพนนีต่อหนึ่งชิ้นเท่ านั้น!”


“มัฟฟิ นและซุปปลาไหลมีรสชาติกลมกล่อมเข้ ากันอย่ างน่ าเห
ลื่อเชื่ อ!”

“เปลือกหอยจ้ า! เปลือกหอย!”

“ผักสดเก็บจากฟาร์ มนอกเมือง ถูกและสดสะอาด!”

พ่อค้ าแม่ ค้าแผงลอยยืนกระจายขายของเต็มสองฝั่งถนน


สิ นค้ ามีหลากหลายชนิด ทั้งผักสด ผลไม้ รวมถึงอาหารร้ อน พวก
มันส่ งเสี ยงตะโกนโน้ มน้ าวผู้คนที่สัญจรผ่ านไปมาในชั่วโมง
เร่ งด่ วน

บ้ างหยุดเพื่อหาอะไรทานรองท้ อง บ้ างก็โบกไม้ โบกด้ วยด้ วยสี


หน้ าเคร่ งเครียดประหนึ่งยังหางานทาในวันนี้ไม่ ได้

โจวหมิงรุ่ยลองสู ดลมหายใจเข้ าเต็มปอดหนึ่งฟอดใหญ่


บรรยากาศแฝงไว้ ด้วยกลิ่นหอมฟุ้งของอาหาร ปะปนกับกลิ่นเหม็น
หืนจากของเสี ย

มือซ้ ายกาธนบัตรและปื นลูกโม่ แน่ นถนัด ศีรษะก้มลงเล็กน้ อย


มือขวากดปี กหมวกต่าลง ลาตัวเอนด้ านหน้ าพร้ อมกับรีบเดินแหวก
ฝูงชนให้ พ้นเขตแออัด
หัวขโมยมักลอบแฝงตัวในเขตชุมชนเสมอ แถมถนนเส้ นนีย้ ัง
มีกลุ่มคนตกงานและยากจนเดินขวักไขว่ รวมถึงเด็กเล็กที่ถูกพ่อแม่
บังคับให้ แร่ ขอทาน

โจวหมิงรุ่ยกัดฟันจา้ เท้ าจนพ้นจุดที่ผ้ คู นเดินเบียดเสี ยด เมื่อ


รอบข้ างบางตาลง มันตัดสิ นใจเงยหน้ าขึน้ หลังเหยียดตั้งตรง
สายตากวาดมองสองข้ างทาง

เสี ยงหีบเพลงถูกบรรเลงอย่ างไพเราะ ท่ วงทานองเพลงเป็ นไป


อย่ างเบาสบาย แต่ บางครั้งก็อัดแน่ นด้ วยห้ วงอารมณ์ เศร้ าหมอง
ไม่ ห่างจากหมิงรุ่ยคือกลุ่มเด็กเล็กที่สวมชุดเก่าและขาดรุ่งริ่ง สี
หน้ าพวกมันซีดเซียวเนื่องจากขาดสารอาหาร

เด็กเหล่านีย้ ืนฟังเพลงพลางเต้ นราด้ วยท่ าทางที่ตัวเองคิดค้ น


แน่ นอนว่ าไม่ เข้ าจังหวะเลยสั กนิด แต่ สีหน้ ากลับยินดีปรีดา
ประหนึ่งเทวดาและนางฟ้ าตัวน้ อยจากสรวงสวรรค์

สตรีใบหน้ าไร้ อารมณ์ เดินผ่ านหมิงรุ่ยไป กระโปรงที่เธอสวมมี


สภาพสกปรกมอมแมม ผิวพรรณตามร่ างกายหยาบกร้ าน

แววตาของหญิงสาวจ้ องมองรอบข้ างอย่ างเฉื่ อยฉาไร้ อารมณ์


ตอบสนอง จนกระทั่งเหลือบไปเห็นกลุ่มเด็กเต้ นรา มุมปากเธอ
พลันกระตุกเล็กน้ อย ราวกับได้ เห็นตัวเองย้ อนกลับไปสามราวสิ บปี
ก่อน
โจวหมิงรุยเดินแซงเธอไปพร้ อมกับเลีย้ วตัดเข้ าถนนอีกเส้ น
ก่อนจะหยุดหน้ าร้ านที่ป้ายเขียนว่ า ‘สลินเบเกอรี่’

เจ้ าของร้ านคือหญิงชราใจดีวัยเจ็ดสิ บกว่ านามว่ า ‘เวนดี·้ สลิน’


เส้ นผมสี ขาวเทาทั้งหัว สวมรอยยิม้ อบอุ่นตลอดเวลา เวนดีข้ าย
ขนมปังและเค้ กที่ร้านแห่ งนีม้ าแต่ ไคลน์ จาความได้

ทิงเก็นบิสกิตและเค้ กมะนาวของเธอคือของขึน้ ชื่ อของเมือง มี


รสชาติเปรียบประหนึ่งอาหารจากสรวงสวรรค์ … โจมหมิงรุ่ย
น้าลายสอทันทีเมื่อจินตนาการจากความทรงจาไคลน์

“คุณนายสลิน ขอขนมปังแปดปอนด์ ครับ”

“โอ้ ไคลน์ ที่รักเองหรื อ เบ็นสั นไปไหนแล้วล่ะ? ยังไม่ กลับจาก


ทางานใช่ ไหม?”

เวนดีถ้ ามพลางอมยิม้

“อีกไม่ กี่วันก็กลับครับ”

โจวหมิงรุ่ยตอบคลุมเคลือ

ขณะเวนดีน้ าขนมปังไรย์ ใส่ ถุง เธอถอนหายใจยาวพลางเริ่ม


บทสนทนา
“เขาเป็ นคนหนุ่มที่ทางานหนักกว่ าใครเสมอ หวังว่ าจะมี
ภรรยาที่ดีนะ”

เมื่อกล่าวจบ เวนดีอ้ มยิม้ มุมปากพร้ อมกับกล่าวต่ อไปด้ วย


น้าเสี ยงร่ าเริง

“แต่ ก็ดีแล้วล่ะ ไคลน์ ของฉันเรียนจบจากมหาวิทยาลัยโฮอีแ้ ล้ว


นี่นา~ อีกไม่ นานก็จะทางานและมีเงินจุนเจือครอบครัว พวกเธอ
สามพี่น้องจะได้ เปลี่ยนหอพักสั กที อย่ างน้ อยก็เลือกที่มีห้องน้า
ส่ วนตัว”

“คุณนายสลินยังสาวและร่ าเริงเหมือนเคยนะครับ”

โจวหมิงรุ่ยกล่าวชมตามมารยาท มันทาได้ เพียงอมยิม้ ขื่นขม

หากไคลน์ ·โมเร็ตติสอบสั มภาษณ์ ผ่านเข้ าไปทางานใน


มหาวิทยาลัยทิงเก็นได้ แน่ นอนว่ าสถานะทางสั งคมของครอบครัว
จะถูกยกระดับมหาศาล

จากเศษเสี้ยวความทรงจาของไคลน์ มันมีความฝันจะเช่ าบ้ าน


เดี่ยวในเขตชานเมืองอยู่ร่วมกันสามพีน่ ้ อง บ้ านในฝันต้ องมีห้าถึง
หกห้ องใหญ่ สองห้ องน้า ระเบียงบ้ านชั้นสองกว้ างขวางโอ่อ่า ชั้น
ล่างมีห้องรับแขก ห้ องอาบน้า ห้ องทานอาหาร และห้ องใต้ ดิน
สาหรับเก็บของ
นี่ไม่ ใช่ ความเพ้อฝันเกินเอื้อม หากได้ เข้ าทางานในฐานะ
อาจารย์ ฝึกสอนของมหาวิทยาลัยทิงเก็น รายได้ จะอยู่ที่สองปอนด์
ทองต่ อสั ปดาห์ และเมื่อถูกยกระดับเป็ นอาจารย์ สอนเต็มตัว รายได้
จะอยู่ที่สามปอนด์ ทองกับอีกสิ บซูลต่ อสั ปดาห์

เมื่อลองย้ อนกลับไปมองเบ็นสั น พีช่ ายของไคลน์ แม้ จะทางาน


มานานหลายปี แต่ รายได้ กลับต่าเพียงหนึ่งปอนด์ ทองกับอีกสิ บซูล
ต่ อสั ปดาห์

งานอาจารย์ มหาวิทยาลัยนับว่ ามีหน้ ามีตาและมั่นคงมาก


โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับชนชั้นแรงงานซึ่งมีรายได้ สูงสุ ดไม่ เกินหนึ่ง
ปอนด์ ทองต่ อสั ปดาห์ หรื อมากกว่ านั้นเล็กน้ อย

ค่ าเช่ าบ้ านเดี่ยวจะเริ่มที่สิบเก้ าซูล ไปจนถึงหนึ่งปอนด์ กับอีก


แปดซูลต่ อสั ปดาห์

“แตกต่ างระดับเดียวกับชนชั้นแรงงานที่โลกเก่าของเรา…
ค่ าจ้ างคนงานจะตกสามถึงสี่ พันหยวนต่ อเดือน ส่ วนค่ าจ้ างของชน
ชั้นกลางจะตกสี่ ห้าถึงหมื่นหยวน…”

โจวหมิงรุ่ยพึมพา

แต่ เหนือสิ่ งอื่นใด ความฝันของไคลน์ จะเป็ นจริงก็ต่อเมื่อสอบ


เข้ าทางานในมหาวิทยาลัยทิงเก็นหรื อเบ็คลันด์ ได้ เท่ านั้น
โอกาสด้ านอื่นมีไม่ มาก โดยเฉพาะตาแหน่ งข้ าราชการที่ต้องใช้
เส้ นสาย แถมไคลน์ ยังเรียนจบด้ านประวัติศาสตร์ งานที่ทาได้ ยิ่ง
จากัดวงแคบลง เหลือแค่ … ที่ปรึกษาส่ วนตัวด้ านประวัติศาสตร์
ให้ กับชนชั้นสู ง ธนาคาร หรื อไม่ ก็อุตสาหกรรมใหญ่

เมื่อปะติดปะต่ อความทรงจาที่กระจัดกระจายของไคลน์ โจวห


มิงรุ่ยแสดงสี หน้ าเจ็บแปลบเมื่อมิอาจตอบสนองความหวังของคุณ
ยายเวนดีไ้ ด้

“ฉันยังสาวเสมอแหละนะ… โฮะโฮะ”

คุณนายสลินตอบกลับด้ วยอารมณ์ ขัน

เมื่อกล่าวจบ ถุงขนมปังไรย์ หนักแปดปอนด์ ถูกยื่นให้ โจวหมิง


รุ่ย

“เก้าเพนนี”

ขนมปังแต่ ละก้อนหนักราวครึ่งปอนด์ ขนาดไม่ ต่างกันมากนัก

“เก้าเพนนี? ไม่ กี่วันก่อนยังราคาสิ บเอ็ดเพนนีอยู่เลย…”

หมิงรุ่ยถามพลางขมวดคิว้ ขนมปังไรย์ เคยมีราคาสู งถึงสิ บห้ า


เพนนีเมื่อหลายเดือนก่อนด้ วยซ้า ค่ าครองชีพลดลงอย่ างน่ า
ประหลาด
“เธอต้ องไปขอบใจผู้คนที่ร่วมใจเดินขบวนต่ อต้ าน ‘กฏหมาย
เมล็ดพันธุ์’ ล่ะนะ”

เวนดีก้ ล่าวพลางยักไหล่

โจวหมิงรุ่ยพยักหน้ ารับ มันพอจะมีข้อมูลอยู่บ้าง แต่ ก็เพียง


น้ อยนิด เนื่องจากความทรงจาของไคลน์ ยังคงกระจัดกระจายและ
ไม่ สมบูรณ์
เนื้อหาสาคัญของกฏหมายเมล็ดพันธุ์คือ รัฐจะช่ วยประกัน
ราคาเมล็ดพันธุ์ข้นั ต่าภายในประเทศ แต่ ขณะเดียวกัน เมื่อราคา
เมล็ดพันธุ์สูงขึน้ ประเทศในทวีปใต้ อย่ าง ‘เฟเนพ็อต’ ‘มาซิน’ ‘ลุ
นเบิร์ก’ และอื่นๆ จะหยุดการนาเข้ าเมล็ดพันธุ์จากทิงเก็นโดย
ปริยาย

ในสายตาหมิงรุ่ย นับเป็ นกฏหมายที่ช่วยเหลือเกษตรกรได้ ดีใน


ระดับหนึ่ง แล้วเหตุใดถึงมีผ้ คู นเดินขบวนประท้ วงจานวนมาก?

มันมิได้ กล่ าวสิ่ งใดออกไป หมิงรุ่ยกาลังกังวลว่ าตนจะเผลอ


หยิบปื นออกมาจากกระเป๋า มือซ้ ายที่ซุกอยู่พยายามดันลูกโม่ ออก
ปลายนิว้ ตวัดหนีบธนบัตรหนึ่งซูลออกมาสองใบ

หนึ่งใบถูกยื่นให้ เวนดีเ้ พื่อเป็ นค่ าขนมปังไรย์ หนักแปดปอนด์


ส่ วนอีกหนึ่งใบเก็บกลับ
1 ซูลมีมูลค่ า 12 เพนนี
หมิงรุ่ยได้ รับเงินทอน 3 เพนนี

ถุงกระดาษสี น้าตาลที่เตรียมไว้ ถูกนาออกมาใส่ ขนมปังไรย์ สด


ใหม่ หลังจากนั้น หมิงรุ่ยเดินออกจากร้ านและมุ่งหน้ าไปยังเขตที่
ขายเนื้อและถั่ว มันตั้งตารอ ‘สตูว์เนื้อแกะใส่ ถั่ว’ ที่เมลิสซ่ าสั ญญา
ว่ าจะทาให้

เมื่อเดินผ่ านจัตุรัสของเมืองซึ่งเป็ นสี่ แยกจุดตัดระหว่ างถนน


กางเขนเหล็กและถนนดารารัตน์ เต็นท์ ชั่วคราวถูกวางตั้งเรียงราย
เต็มบริเวณ คณะตัวตลกหลายคนแต่ งกายด้ วยชุดประหลาด พวก
มันกาลังยืนแจกใบปลิว

“จะมีการแสดงของคณะละครสั ตว์ พรุ่งนีต้ อนกลางคืน?”

โจวหมิงรุ่ยชาเลืองสายตาอ่านเนื้อหาที่ถูกเขียนไว้ บนใบปลิว

เมลิสซ่ าต้ องชอบแน่ ว่ าแต่ … ค่ าเข้ าชมเท่ าไรกันนะ?

เมื่อเกิดความสงสั ย หมิงรุ่ยเดินดุ่ ุมตรงไปยังเต็นท์ ใกล้ที่สุด

ขณะจะเอ่ยปากถามตัวตลกที่ทาหน้ าด้ วยแถบสี เหลืองสลับ


แดง สุ้ มเสี ยงแหบพร่ าของสตรีปริศนาดังแว่ วข้ างหู
“ไม่ ลองทานายดวงชะตาหน่ อยหรื อ?”

โจวหมิงรุ่ยรีบหันมองตามสั ญชาตญาณ เบื้องหน้ าคือสตรีสวม


หมวกปลายแหลม เดรสยาวสี ดาสนิท ยืนใกล้กลับเต็นท์ ขนาดเล็ก
หลังหนึ่ง

ใบหน้ าถูกทาด้ วยแถบแดงสลับเหลือง ดวงตาของเธอมีสีฟ้า


หม่ นแฝงไว้ ด้วยบรรยากาศลุ่มลึก

“ไม่ ล่ะ”

มันส่ ายศีรษะพร้ อมกับส่ งเสี ยงตอบ เศรษฐกิจของครอบครัว


โมเร็ตติไม่ มั่งคั่งพอจะใช้ จ่ายอย่ างฟุ่ มเฟื อยขนาดนั้น โดยเฉพาะ
การทานายดวงชะตาไร้ ประโยชน์

สตรีปริศนาอมยิม้ เธอกล่าว

“การทานายไพ่ทาโร่ ต์ของฉันแม่ นมากนะ”

“ทาโร่ ต์…”

หมิงรุ่ยอึง้ ไปชั่วขณะ การออกเสี ยงเหมือนกับไพ่ทาโร่ ต์ของ


โลกเก่าทุกประการ
และบนโลกเก่า ไพ่ทาโร่ ต์ก็มีไว้ เพื่อทานายดวงชะตาเช่ นกัน
ไพ่แต่ ละใบคือตัวแทนลางบอกเหตุหลายชนิด

เดี๋ยวนะ… ขณะครุ่นคิดเรื่ องที่ไพ่ทาโร่ ต์คล้ายคลึงกับโลกเก่า


ความทรงจาไคลน์ เริ่มพรั่งพรูในหัวสมองหลังจากได้ ยินคีย์
เวิร์ด…

ต้ นกาเนิดของไพ่ทาโร่ ต์มิได้ มาจากเทพทั้งเจ็ดองค์ หรื อมิได้


เกิดจากตานานโบราณแต่ อย่ างใด ไพ่ทาโร่ ต์ถูกคิดค้ นโดยบุรุษนาม
ว่ า ‘โรซายล์·กุสตาฟ’ มหาเสนาบดีแห่ ง ‘สาธารณรัฐอินทิส’ ใน
สมัยนั้น เหตุการณ์ ผ่านมาแล้วราว 170 ปี

มิสเตอร์ โรซายล์ยังเป็ นผู้คิดค้ นเครื่ องจักรไอน้า ยกระดับ


เทคโนโลยีเรื อพาย ล้มล้างระบบปกครองราชวงศ์ อินทิสเดิม และ
เป็ นผู้ที่ถูกยอมรับโดยโบสถ์ ‘เทพแห่ งช่ างฝี มือ’

หลังปฏิวัติอินทิสสาเร็จ โรซาลย์ ขนึ้ กุมอานาจมหาเสนาบดี


แห่ งสาธารณรัฐ

จากนั้น โรซาลย์ นากองทัพบุกลุนเบิร์กและอาณาจักรข้ างเคียง


ในทวีปทิศใต้ เพื่อเปลี่ยนให้ เป็ นเมืองขึน้ เมื่อจบสงคราม มันออก
ประกาศิตสั่ งให้ อาณาจักรโลเอ็น เฟเนพ็อต จักรวรรดิฟูซัค รวมถึง
ชาติมหาอานาจของทวีปเหนือ ต้ องตกอยู่ใต้ อาณัติของอินทิส

โรซาลย์ ทาการเปลี่ยนชื่ อสาธารณรัฐอินทิสให้ เป็ น ‘จักรวรรดิ


อินทิส’ และสถาปนาตนเองเป็ น ‘มหาจักรพรรดิซีซาร์ ’

ระหว่ างโรซาลย์ ครองบัลลังก์ โบสถ์ เทพแห่ งช่ างฝี มือได้ รับ


‘สารจากสวรรค์ ’ เป็ นแห่ งแรกนับตั้งแต่ ‘ยุคสมัยที่ห้า’ อุบัติขึน้
หลังจากนั้นเป็ นต้ นมา ‘เทพแห่ งช่ างฝี มือ’ จึงถูกเปลี่ยนชื่ อเป็ น
‘เทพแห่ งจักรกลไอน้า’

โรซายล์ไม่ เพียงคิดค้ นการทานายไพ่ทาโร่ ต์ แต่ มันยังสร้ างเกม


ไพ่กระดาษอีกหลายชนิดให้ เข้ ากับวัฒนธรรมในยุคดังกล่ าว โดยแต่
ละเกมจะมีวิธีเล่นที่ละเอียดซับซ้ อนแตกต่ างกันไป

เมื่อพยายามรีดเร้ นความทรงจา โจวหมิงรุ่ยพบว่ า เกมไพ่ที่


ไคลน์ ร้ ูจักนั้น มีหลายชนิดคล้ายคลึงกับเกมไพ่บนโลกเก่า ไม่ ว่าจะ
เป็ น เท็กซัสโปกเกอร์ สลาฟ ไพ่นกกระจอก และไพ่กเวนท์ …

ไม่ เพียงเท่ านั้น กองทัพเรื อของโรซายล์ยังค้ นพบเส้ นทาง


เดินเรื อใหม่ ระหว่ างทวีปเหนือและใต้ เป็ นทางลัดที่ต้องฝ่ าเขตพายุ
และคลื่นสมุทรอันเกรี้ยวกราด ถือเป็ นจุดเริ่มต้ นของยุคสมัย
เดินเรื อและโจรสลัด

แต่ โชคไม่ ดีนัก มหาจักรพรรดิโรซายล์ถูกทรยศในวัยชรา

ณ ปี 1198 ของยุคสมัยที่ห้า มันถูกลอบสั งหารโดยกองกาลัง


ร่ วมระหว่ างโบสถ์ เทพตะวันเจิดจรัส อดีตราชวงศ์ อินทิส—ตระกูล
เซารอน รวมถึงเหล่าตะกูลขุนนางที่มีอานาจและอิทธิพลมหาศาล
ลงเอยด้ วย โรซาลย์ จากโลกไปในวัยชรา สถานที่พานักสุ ดท้ าย
ของชีวิตคือมหาราชวังเมเปิ้ ลขาว

อึก…! ความทรงจาที่พรั่งพรูส่งผลให้ มันเจ็บแปลบบริเวณ


ขมับฉับพลัน

หรื อว่ าจะเป็ น… ผู้เดินทางข้ ามโลกรุ่นพี?่

เมื่อทราบเช่ นนี้ โจวหมิงรุ่ยเกิดความอยากรู้อยากเห็นทันที ว่ า


ไพ่ทาโร่ ต์ที่นี่จะเหมือนกับโลกเก่าของตนขนาดไหน

มันผงกศีรษะให้ สตรีปริศนาที่ทาหน้ าแถบเหลืองสลับแดง

“ถ้ าราคาสมเหตุสมผล จะลองดูก็ได้ ”

หญิงสาวคนดังกล่าวอมยิม้

“คุณเป็ นลูกค้ าคนแรกของวันนี้ จะทานายให้ ฟรีก็แล้วกัน”


ราชันย์ เร้ นลับ 5 : พิธีกรรม

ฟรี? ของฟรีนี่แหละอันตราย!

โจวหมิงรุ่ยพึมพากับตัวเองในใจ มันสาบานว่ าจะไม่ เสี ยเงินซื้อ


บริการเสริมทุกชนิดโดยเด็ดขาด การปฏิเสธต้ องฉะฉานหนักแน่ น!

ถ้ าแน่ จริง ก็ทานายให้ ได้ สิฟะว่ าฉันเป็ นผู้เดินทางข้ ามโลก!

ด้ วยความคิดเช่ นนีใ้ นหัว โจวหมิงรุ่ยเดินก้มตัวตามสตรี


ปริศนาเพื่อมุดเข้ าไปในเต็นท์

ภายในเต็นท์ มืดสนิท มีแสงสว่ างเล็ดลอดเข้ ามาเพียงเล็กน้ อย


บนโต๊ ะที่เต็มไปด้ วยไพ่ถูกตกแต่ งด้ วยลวดลายหลากสี ที่ชวนให้
วิงเวียนศีรษะ

แต่ ลวดลายกลับไม่ ส่งผลต่ อสตรีสวมหมวกปลายแหลม เธอ


เดินเข้ าไปนั่งด้ านในด้ วยสี หน้ าราบเรียบ เมื่อก้นติดพื้น เทียนไขถูก
จุดเพื่อมอบแสงสว่ าง

ภายในเต็นท์ มีจุดกาเนิดแสงแหล่งใหม่ เป็ นทั้งความสว่ างและ


มืดมิดในเวลาเดียวกัน บรรยากาศเริ่มลีล้ ับมากขึน้ ทุกขณะ
โจวหมิงรุ่ยนั่งลงอย่ างเงียบงัน สายตาเหลือบมองหน้ าไพ่ บน
โต๊ ะ ทั้งชนิดและชื่ อของไพ่เป็ นแบบที่มันคุ้ยเคยทุกประการ มีท้งั
เดอะเมจิกเชี่ยน ดิเอ็มเพอเรอร์ เดอะแฮงก์แมน เท็มเพอแรนซ์ และ
อีกมาก

มีโอกาสสู งที่โรซายล์ จะเป็ น ‘รุ่นพี’่

หมิงรุ่ยได้ แต่ นึกสงสั ย ว่ าโรซายล์จะเป็ นคนชาติเดียวกับตน


หรื อไม่ … มันพึมพาในใจตามความเคยชิน

แต่ ยังไม่ ทันจะมองไพ่ครบ หญิงสาวฝั่งตรงข้ ามทาการเหยียด


แขนรวบไพ่กลับไปกองด้ านหน้ าตัวเอง เธอบรรจงหยิบไพ่คว่า
หน้ าและวางกองกันเป็ นสารับ ก่อนจะดันกลับมาหาโจวหมิงรุ่ย

“สั บไพ่ก่อน จากนั้นค่ อยตัดสารับ”

นักทานายปริศนาแห่ งคณะละครสั ตว์ กล่าวเสี ยงค่ อย

“ผม? สั บเองหรื อ?”

โจวหมิงรุ่ยรีบถาม

นักทานายสาวพลันชะงักครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยรอยยิม้ อีกครั้ง

“แน่ นอน ดวงใครดวงมัน ฉันเป็ นเพียงผู้แปลความหมาย”


โจวหมิงรุ่ยขมวดคิว้ มันเอ่ ยปากถามด้ วยสี หน้ าหวาดระแวง

“การแปลความหมายจะไม่ ถูกคิดเงินเพิม่ ใช่ ไหม?”

‘ในฐานะนักมานุษย์ วิทยาคีบอร์ ด ฉันเคยเห็นลูกไม้ ต้มตุ๋นแบบ


นีน้ ับครั้งไม่ ด้วยแล้ว!’

หล่อนถึงกับอึง้ ก่อนจะตอบกลับด้ วยเสี ยงกระซิบกระซาบ

“ไม่ คิดเงิน”

โจวหมิงรุ่ยแสดงสี หน้ าโล่งใจ มันใช้ มือซ้ ายยัดปื นเข้ าไปให้ ลึก


กว่ าเดิม จากนั้นก็ใช้ มือทั้งสองข้ างสั บและตัดไพ่

“เสร็จแล้ว”

กองสารับไพ่ที่ตัดเสร็จถูกวางกลางโต๊ ะ

นักทานายใช้ ฝ่ามือสองข้ างดึงสารับไพ่กลับไปหาตัว เธอจ้ อง


มองไพ่อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากถามด้ วยสี หน้ ากระอักกระอ่วน

“ขอโทษที่ลืมถาม แต่ คุณอยากให้ ฉันทานายเรื่ องอะไร?”

ขณะกาลังจีบสาวซึ่งเป็ นรักแรก โจวหมิงรุ่ยเคยศึกษาเกี่ยวกับ


ไพ่ทาโร่ ต์ในระดับพื้นฐาน มันจึงตอบกลับโดยไม่ ลังเล
“อดีต ปัจจุบัน และอนาคต”

นี่คือหลักสามัญในการทานายดวงชะตาด้ วยไพ่ทาโร่ ต์ ไพ่สาม


ใบจะถูกเลือกและเปิ ดเรียงต่ อกัน ใบแรกหมายถึงอดีต ถัดมาคือ
ปัจจุบัน และสุ ดท้ ายเป็ นอนาคต

หล่อนพยักหน้ าเล็กน้ อยพลางอมยิม้ มุมปาก

“ช่ วยสั บไพ่ใหม่ ด้วย การทานายจะแม่ นยาหลังจากทราบ


จุดประสงค์ ของผู้ถูกทานาย”

คิดใช้ ลูกไม้ ตื้นๆ อีกแล้วหรื อ หน้ าตาฉันดูหลอกง่ ายขนาดนั้น


เชียว ฉันจะไม่ ยอมจ่ ายเงินเพิม่ เด็ดขาด!

มุมปากโจวหมิงรุ่ยพลันกระตุก มันสู ดลมหายใจเข้ าเต็มปอด


ก่อนจะดึงสารับไพ่กลับมาสั บและตัดใหม่ อีกครั้ง

“ต้ องทาอะไรอีกไหม?”

มันวางไพ่ลงบนโต๊ ะพร้ อมกับส่ งให้ เธอ

“ไม่ แล้ว”
นักทานายใช้ ปลายนิว้ หยิบไพ่ใบบนสุ ดออกมาวางซ้ ายมือหมิง
รุ่ย เธอกล่าวต่ อไปด้ วยเสี ยงบางเบาจนแทบไม่ ได้ ยิน

“ใบนีแ้ ทนอดีต

“ส่ วนใบนี้แทนปัจจุบัน”

ไพ่ใบที่สองถูกวางตรงหน้ ามัน ก่อนที่เธอจะวางไพ่ใบสุ ดท้ าย


ไว้ ฝั่งขวามือหมิงรุ่ย

“และใบนีแ้ ทนอนาคต”

“เอาล่ะ คุณอยากทราบเรื่ องไหนก่อน”

หล่อนเงยหน้ าขึน้ มองหลังจากวางไพ่ใบสุ ดท้ ายเสร็จ นัยน์ ตาสี


ฟ้ าหม่ นของเธอกาลังจ้ องหมิงรุ่ยไม่ กระพริบ

“เอาเป็ น… ปัจจุบันก่อน”

มันตอบหลังจากครุ่นคิดหนึ่งอึดใจ

เธอผงกศีรษะอย่ างเชื่ องช้ า จากนั้นก็ใช้ ปลายนิว้ พลิกไพ่ใบ


กลาง

บุคคลในไพ่สวมชุ ดหลากสี สัน เหนือศีรษะสวมหมวกหรูหรา


มือข้ างหนึ่งจับไม้ เท้ าหาบเร่ วางพาดบ่ า ปลายสุ ดไม้ หาบมีถุงผ้ ามัด
ไว้ สาหรับใส่ สิ่งของ บนพื้นมีลูกสุ นัขสี ขาวตัวหนึ่งเดินตามไม่ ห่าง

ไพ่หมายเลข ‘0’

“เดอะฟูล”

นักทานายอ่ านชื่ อไพ่ขณะสายตายังคงจ้ องมองโจวหมิงรุ่ย

เดอะฟูล?
หมายเลข ‘0’ แห่ งสารับไพ่ทาโร่ ต์น่ะหรื อ?

หมายความว่ าอย่ างไร การเริ่มต้ น? หรื อการเริ่มใหม่ ที่มีความ


เป็ นไปได้ นับไม่ ถ้วน?

ความรู้ด้านไพ่ทาโร่ ต์ของหมิงรุ่ยมีเพียงหางอึ่ง ไม่ ถึงขั้นมือ


สมัครเล่นด้ วยซ้า มันคาดเดาความหมายไพ่จากองค์ ประกอบและ
ความรู้สึกส่ วนตัว

แต่ ขณะนักทานายสาวจะแปลคาอธิบาย ผ้ าม่ านทางเข้ าเต็นท์


ถูกยกขึน้ จนแสงแดดส่ องผ่ านมาด้ านใน โจวหมิงรุยรีบหันศีรษะ
มองตามความเคยชิน มันพลันต้ องหรี่ตาลงเมื่อปะทะเข้ ากับ
แสงแดดเจิดจ้ า

“ทาไมเธอถึงปลอมตัวเป็ นฉันอีกแล้ว! การทานายดวงชะตา


เป็ นงานของฉันต่ างหาก!”
สตรีภายนอกแผดเสี ยงโมโห

“รีบกลับไปประจาตาแหน่ งซะ! งานของเธอเป็ นแค่ นักฝึ ก


สั ตว์ !”

น…นักฝึ กสั ตว์ ? ดวงตาหมิงรุ่ยเริ่มคุ้นชินกับแสงสว่ าง มัน


สั บสนเล็กน้ อย เพราะหญิงสาวด้ านนอกเต็นท์ แต่ งกายคล้ายคลึง
กับนักทานายที่นั่งฝั่งตรงข้ ามมาก หมวกยาวแหลม เดรสสี ดาสนิท
ใบหน้ าทาด้ วยแถบสี แดงสลับเหลือง สิ่ งเดียวที่ต่างกันคือ บุคคล
ด้ านนอกมีส่วนสู งมากกว่ า และร่ างกายที่ผอมบางกว่ า

หญิงสาวฝั่งตรงข้ ามหมิงรุ่ยพลันลุกยืน เธอกล่าวด้ วยน้าเสี ยง


หงุดหงิดเสี ยเต็มประดา

“ต้ องขอโทษด้ วย แต่ ฉันชอบทานายดวงชะตาจริงๆ และมั่นใจ


ว่ าตัวเองเป็ นคนทานายแม่ นในบ้ างครั้ง นี่ฉันพูดจริงนะ…”

เมื่อกลาวจบ เธอยกชายกระโปรงขึน้ พร้ อมกับเดินผ่ านหมิงรุ่ย


จากนั้นก็วิ่งเหยาะออกไปนอกเต็นท์

“มิสเตอร์ … คุณต้ องการให้ ฉันแปลความหมายของไพ่รึ


เปล่า?”
นักทานายตัวจริงเอ่ยปากถามพร้ อมอมยิม้
มุมปากหมิงรุ่ยกระตุกอีกครั้ง มันถามเธอด้ วยสี หน้ าขึงขัง

“ฟรีไหม?”

“…ไม่ ”

นั่นคือคาตอบ

“ลืมไปซะ”

โจวมิงรุ่ยดึงแขนออกจากโต๊ ะทานาย มือข้ างซ้ ายถูกนาไปซุก


กระเป๋าข้ างที่มีปืน จากนั้นก็ก้มศีรษะมุดออกจากเต็นท์ ไป

บ้ าจริง! นี่เราได้ นักฝึ กสั ตว์ ทานายไพ่ให้ ?

‘แต่ นักฝึ กสั ตว์ ที่ชื่นชอบการทานายไพ่คงรับบทตัวตลกที่ดีได้


แน่ …’

โจวหมิงรุ่ยรีบออกจากจัตุรัส มันเดินตรงไปยังเขตขายเนื้อ
และถั่ว สายตากวาดมองหาร้ านที่ขาย ‘เนื้อแกะเกรดพอประมาณ’

มันตัดสิ นใจซื้อเนื้อแกะหนักหนึ่งปอนด์ หลังจากนั้นเป็ นการ


ซื้อถั่วปากอ้าเล็ก กะหล่า หอมใหญ่ มันฝรั่ง และผักชนิดอื่น
ราคารวมของขนมปัง เนื้อ ถั่ว และผักคือ 25 เพนนี หรื อ
เทียบเท่ า 2 ซูลกับ 1 เพนนี

“ซื้อของแค่ นี้ แต่ เงินกลับไม่ พอ… เบ็นสั นผู้น่าสงสารเอ๋ย…”

หมิงรุ่ยพกธนบัตร 1 ซูลมาสองใบ ทาให้ มันต้ องออกเงินตัวเอง


อีก 1 เพนนีในกระเป๋า

มันไม่ เถลไถลที่ไหนอีก เป้าหมายเดียวคือรีบเดินตรงกลับ


หอพัก ด้ วยอาหารจานหลักที่ซื้อเตรียมไว้ หมิงรุ่ยพร้ อมแล้ว
สาหรับการเริ่มพิธีเปลี่ยนดวงชะตา

หลังจากกลับมาถึงห้ องในช่ วงสาย ประชากรหอพักชั้นสองเริ่ม


ทยอยออกไปทางานหรื อเรียนหนังสื อกันหมด มันไม่ รีบร้ อนทาพิธี
โจวหมิงรุ่ยนั่งแปลบทร่ ายคาถา “เซียนราชันย์ ฟ้าดินประทานโชค”
ให้ เป็ นภาษาฟุซัคโบราณรวมถึงภาษาโลเอ็น เผื่อว่ าบทสวด
ภาษาจีนดั้งเดิมไม่ ได้ ผล มันจะได้ ทดลองใหม่ ด้วยภาษาท้ องถิ่น
โลกนี้

เหมือนกับสานวนที่ว่า เข้ าเมืองตาหลิ่วต้ องหลิ่วตาตาม!

และยังไม่ ลืมแปลให้ เป็ นภาษาเฮอร์ มิสที่นิยมใช้ ในพิธีกรรม


โบราณหลายชนิด หมิงรุ่ยพยายามเค้ นสมองแปลเทียบทีละคาอย่ าง
ตั้งใจ

หลังจากจัดการบทสวดเรียบร้ อย มันนาขนมปังไรย์ สี่ชิ้น


ออกมาเตรียมทาพิธี แต่ ละชิ้นถูกวางไว้ ยังมุมห้ องสี่ ทิศ ชิ้นแรกวาง
ไว้ บริเวณเตาถ่ าน ชิ้นที่สองวางไว้ ด้านข้ างกระจกเงาสาหรับแต่ งตัว
ชิ้นที่สามวางไว้ บนตู้เสื้ อผ้ า และชิ้นสุ ดท้ ายวางไว้ ซ้ายมือโต๊ ะไม้
อ่านหนังสื อ

ลมหายใจถูกสู ดเข้ าเต็มปอด โจวหมิงรุ่ยเดินกลับมายังกึ่งกลาง


ห้ องและใช้ เวลาสงบจิตใจนานหลายนาที หลังจากนั้น เท้ าขวาขยับ
ไปด้ านหน้ าหนึ่งก้าว ก่อนจะเริ่มเดินทวนเข็มนาฬิ กาเป็ นทรง
สี่ เหลี่ยมจัตุรัส

เมื่อจบก้าวแรก มันเปล่งเสี ยง

“เซียนราชันย์ ฟ้าดินประทานโชค”

ก้าวที่สอง

“เทพสวรรค์ ฟ้าดินประทานโชค”

ก้าวที่สาม มันสู ดลมหายใจก่อนเปล่งเสี ยง

“จักรพรรดิสวรรค์ ฟ้าดินประทานโชค”
เมื่อจบก้าวสุ ดท้ าย มันท่ องคาถาพร้ อมกับหลับตาทาสมาธิสงบ
จิตใจ

“ราชันย์ สวรรค์ ฟ้าดินประทานโชค”

หลังจากกลับมายืนในจุดกึ่งกลางอีกครั้ง โจวหมิงรุ่ยเฝ้ารอ
ผลลัพธ์ ด้วยใจจดจ่ อ อารมณ์ ความรู้สึกหลายหลากกาลังถาโถม ทั้ง
คาดหวัง กระสั บกระส่ าย รวมถึงหวาดกลัว

ตนจะกลับไปโลกเดิมได้ หรื อไม่ ?

จะมีผลข้ างเคียงอะไรไหม?

หรื อจะเกิดเหตุการณ์ ไม่ คาดฝันขึน้ ?

ความไม่ ร้ ูคือบ่ อเกิดของสองความรู้สึก อยากรู้อยากเห็นและ


หวาดกลัว แม้ จะหลับตาสนิท แต่ เปลือกตากลับยังมองเห็นแสงสี
แดงทะมึน

ทันใดนั้น ห้ วงความคิดในหัวโจวหมิงรุ่ยเริ่มปั่นป่ วนและหมุน


เคว้ ง ไม่ ว่าจะพยายามเพียงใดก็มิอาจระงับอาการดังกล่าว

เวลาผ่ านไปครู่หนึ่ง หมิงรุ่ยสั มผัสได้ ว่าบรรยากาศรอบตัวเริ่ม


หยุดนิ่ง ทว่ า ยังเปี่ ยมด้ วยด้ วยมวลพลังปริศนาปริมาณเข้ มข้ น
หลังจากนั้นไม่ นาน เกิดเสี ยงกระซิบดังแว่ วข้ างหูอย่ างต่ อเนื่อง
บ้ างดังชัดเจนเสมือนมีใครยืนกระซิบ บ้ างดังหวีดแหลมแสบโสต
ประสาท บ้ างดังลอยฟุ้งประหนึ่งเสี ยงในจินตนาการ บ้ างดังเย้ า
ยวนน่ าหลงไหล

บ้ างดังกระเส่ าอย่ างคลั่งไคล้


และบ้ างดังกรรโชกอย่ างบ้ าคลั่ง

ถึงจะไม่ เข้ าใจว่ าเสี ยงแว่ วที่ดังต่ อเนื่องกาลังพูดในสิ่ งใด แต่


ด้ วยความใครรู้ หมิงรุ่ยจึงพยายามเงี่ยหูฟังอย่ างตั้งใจเพื่อแปล
ความหมาย

ทันใดนั้น ศีรษะพลันเจ็บแปลบประหนึ่งมีใครนาสว่ านตอก


เจาะเข้ าที่ขมับ เป็ นความทรมานราวกับหัวจะระเบิดเป็ นชิ้นเล็กชิ้น
น้ อย

ภาพในสมองของหมิงรุ่ยเริ่มผุดสี สันประหลาดคล้ายกับอาการ
หลอนยาเสพติด

สถานการณ์ เริ่มไม่ ส้ ู ดีนัก มันตัดสิ นใจลืมตาขึน้ เพื่อยุติ


พิธีกรรม ทว่ า แม้ แต่ อิริยาบทที่ง่ายที่สุดก็มิอาจกระทาสาเร็จ
ร่ างกายถูกบีบรัดแน่ นขึน้ ทุกขณะราวกับจะแตกเป็ นเสี่ ยงๆ

ทันใดนั้น มันตัดพ้ออย่ างสมเพชตัวเอง


“ไม่ น่ารนหาที่เลย…”

หมิงรุ่นทนไม่ ไหวอีกต่ อไป ทว่ า ขณะหัวสมองจวนเจียน


ระเบิด บรรยากาศรอบข้ างพลันสงบลงอย่ างน่ าประหลาด เสี ยง
แว่ วข้ างหูหายไปโดยสมบูรณ์ อารมณ์ ของโจวหมิงรุ่ยเริ่ม
แปรปรวนไม่ มั่นคง

ไม่ เพียงอารมณ์ แม้ แต่ ร่างกายก็เริ่มโงนเงนไม่ มั่นคงเช่ นกัน


มันกลั้นหายใจและฝื นลืมตาขึน้ ด้ วยสมาธิท้ังหมดที่มี แต่ คราวนี้
กลับกระทาได้ ง่ายดายกว่ าที่คิด

ภาพที่เห็นตรงหน้ า… รอบตัวมันมีแต่ หมอกควันสี เทาเต็มไป


หมด ทั้งคละคลุ้ง ฟุ้งกระจาย และไร้ สิ้นสุ ด

“เกิดอะไรขึน้ ?”

โจวหมิงรุ่ยรีบกวาดสายตามองรอบข้ างอย่ างลนลาน เมื่อก้ม


ลงมองด้ านล่ าง มันพบว่ าตัวเองกาลังลอยเคว้ งท่ ามกลางกลุ่ม
หมอกสี เทาที่ไร้ ก้นบึง้ … มิติแห่ งนีไ้ ม่ มีพื้น!

สายหมอกรอบตัวมิได้ หยุดนิ่ง พวกมันไหลวนไปตามกระแส


ประหนึ่งสายวารี ท่ ามกลางสายหมอกเทามีจุดแสงคล้ายกับ
‘ดวงดาว’ สี แดงเข้ มลอยเรียงรายเป็ นจานวนมาก ขนาดของแต่ ละ
ดวงไม่ เท่ ากัน บ้ างใหญ่ มาก บ้ างก็เล็กมาก บ้ างจมลึกลงไปราวกับ
กาลังหลบซ่ อน บ้ างก็ลอยเหนือกระแสหมอกอย่ างไม่ เกรงกลัว
ขณะกวาดสายตามองฉากสุ ดอลังการตรงหน้ าที่คล้ายคลึงภาพ
โฮโลแกรม โจวหมิงรุ่ยเหยียดมือขวาออกไปสั มผัสกับ ‘ดาว’ ดวง
หนึ่งซึ่งลอยเหนือสายหมอกสี เทา

มันกาลังกึ่งสงสั ย กึ่งหวาดกลัว ไม่ มิได้ คิดซับซ้ อน เพียง


ต้ องการออกไปจากสถานที่แห่ งนีโ้ ดยเร็ว

ในวินาทีที่ฝ่ามือสั มผัสดาวแดงเข้ มดวงดังกล่าว เกิดคลื่นน้า


กระเพื่อมออกจากร่ างกายโจวหมิงรุ่ยฉับพลัน ดาวแดงถูกคลื่นน้า
ปะทะและเผาไหม้ ตัวเองจนระเหิดหายไป

มันพลันตกตะลึง มือขวาถูกชักกลับอย่ างลนลานตาม


สั ญชาตญาณ แต่ ดันสั มผัสไปโดนดาวอีกดวงโดยไม่ ได้ ต้งั ใจ

ผลก็คือ ดาวแดงโชคร้ ายเกิดการลุกไหม้ และระเหิดไปต่ อหน้ า


ต่ อตาเหมือนเช่ นเคย

ทันใดนั้น หัวสมองโจวหมิงรุ่ยพลันขาวโพลน จิตวิญญาณ


หลุดลอยออกจากร่ าง

ณ กรุงเบ็คลันด์ แห่ งอาณาจักรโลเอ็น


ภายในคฤหาสน์ สุดหรูหราใจกลางเมืองหลวง
‘ออเดรย์ ·ฮอลล์’ กาลังนั่งหน้ าโต๊ ะเครื่ องแป้งเก่าแก่ กึ่งกลางมี
บานกระจกทองเหลืองสาหรับแต่ งตัว ผิวกระจกมีรอยร้ าวเล็กน้ อย

“กระจกเอ๋ย จนตื่นเถิด…

“ในนามแห่ งตะกูลฮอลล์ ฉันของสั่ งให้ เจ้ าลืมตาตื่น ณ บัดนี!้ ”


หล่อนพยายามเปลี่ยนบทสวดคาถา แต่ ทุกครั้งยังไร้ ผลลัพธ์
เหมือนเช่ นเคย

หลังจากผ่ านไปสิ บนาที ในที่สุดออเดรย์ ก็ยอมแพ้ เธอนั่งทา


แก้มป่ องหน้ ากระจกด้ วยสี หน้ าหงุดหงิด ปากบ่ นพึมพา

“ท่ านพ่อต้ องโกหกเราแน่ ไหนบอกกระจกบานนีเ้ ป็ นสมบัติหา


ยากของจักรพรรดิมืดแห่ งจักรวรรดิโรมัน แถมยังเป็ นของ
วิเศษ…”

ทันใดนั้น เสี ยงของเธอมีอันต้ องขาดห้ วง แสงสว่ างสี แดงเข้ ม


พลันเจิดจ้ าจากบานกระจกทองเหลือง โอบล้อมร่ างกายออเดรย์ ·
ฮอลล์ไว้ โดยสมบูรณ์

ท่ ามกลางทะเลโซเนีย เรื อใบเก่าแก่ประหนึ่งซากวัตถุโบราณ
ขนาดสามเสากระโดงกาลังแล่ นฝ่ าใจกลางพายุ

อัลเจอร์ ·วิลสั นยืนบนดาษฟ้ าเรื อที่มีสภาพโคลงเคลงหนักจาก


คลื่นทะเลอันเกรี้ยวดกราด แต่ ถึงอย่ างนั้น มันกลับรักษาสมดุล
ร่ างกายได้ อย่ างน่ าเหลือเชื่ อ

ชุดคลุมที่อัลเจอร์ สวม กึ่งกลางหน้ าอกมีลวดลายสายฟ้ าขนาด


ใหญ่ สลัก ในมือถือขวดแก้วทรงประหลาด ของเหลวภายในขวด
ฉวัดเฉวียนอยู่ไม่ เป็ นสุ ข ประเดี๋ยวผุดฟองเดือดพล่าน ประเดีย๋ ว
จับตัวเป็ นน้าแข็ง ประเดี๋ยวหมุนวนประหนึ่งเกลียวพายุ

“ยังขาดโลหิตฉลามวิญญาณสิ นะ…”

อัลเจอร์ พมึ พา

ทันใดนั้น แสงสว่ างสี แดงฉานพลันเจิดจ้ ากึ่งกลางระหว่ างฝ่ า


มือและขวดแก้ว อัลเจอร์ ถูกแสงเลือดกลืนกินร่ างกายฉับพลัน

ท่ ามกลางสายหมอกสี เทา เมื่อออเดรย์ ได้ รับการมองเห็น


กลับคืน เธอรีบกวาดสายตามองโดยรอบด้ วยสี หน้ าตื่นตระหนก
หวาดกลัว
หล่อนก็ได้ พบเงาลางของบุคคลปริศนาที่ยืนไม่ ห่างนัก คนผู้
นั้นกาลังแสดงพฤติกรรมคล้ายคลึงกับเธอ

เพียงไม่ นาน ทั้งออเดรย์ และอัลเจอร์ ได้ พบกับอีกหนึ่งตัวตน


ปริศนาที่ยืนห่ างออกไปเล็กน้ อย รอยกายบุคคลดังกล่าวมีกระแส
หมอกสี เทาห่ อหุ้มหนาแน่ นจนมองไม่ เห็นใบหน้ า

‘ตัวตนปริศนา’ ดังกล่าวไม่ ใช่ ใครอื่นนอกจากโจวหมิงรุ่ย มัน


เองก็ฉงนไม่ ต่างจากทั้งสองคน

“มิสเตอร์ … เกิดอะไรขึน้ กันแน่ ?”

แม้ กาลังตกตะลึง แต่ ท้งั ออเดรย์ และอัลเจอร์ ไม่ กล้าแหกปาก


โวยวาย พวกมันตัดสิ นใจเอ่ยปากถามพร้ อมกันโดยมิได้ นัดแนะ

“คุณคิดจะทาอะไรกับพวกเรา?”
ราชันย์ เร้ นลับ 6 : ผู้วิเศษ

ไม่ เพียงจะพูดภาษาโลเอ็นเหมือนกัน แต่ ท้ังสองยังแสดงสี หน้ า


แบบเดียวกันด้ วย

สี หน้ าของความตึงเครียดสุ ดขีด

เราอยู่ที่ไหน? และถูกนาตัวมาที่นี่ทาไม?

‘เรื่ องนั้น แม้ แต่ ฉันเองก็อยากทราบเหมือนกัน…’

หลังจากสงบสติอารมณ์ หมิงรุ่ยนาคาถามของทั้งสองคนมา
วิเคราะห์ ตีความในหัว

คาถามของอัลเจอร์ และออเดรย์ มิได้ ต้องการคาตอบ แต่ เป็ น


การไต่ ถามตามสั ญชาตญาณเมื่อร่ างกายเกิดภาวะตกตะลึง
หวาดกลัว และไม่ ปลอดภัย

ด้ วยเหตุผลบางประการซึ่งหาคาอธิบายไม่ ได้ สองบุคคลเบื้อง


หน้ าถูกลากตัวเข้ ามาในมิติทะเลหมอกสี เทาอย่ างไม่ เต็มใจ

ในฐานะตัวต้ นเหตุ แม้ แต่ โจวหมิงรุ่ยยังเกิดภาวะตื่นตระหนก


รุนแรง ไม่ แปลกที่คนทั้งสองจะแสดงท่ าทีกระวนกระวายขนาดนี้
‘สาหรับพวกเขา เหตุการณ์ ปัจจุบันคงอยู่เหนือสามัญสานึก
อย่ างมากแน่ … ใช่ แล้ว’

ในช่ วงเวลาไม่ กี่อึดใจ โจวหมิงรุ่ยคานึงถึงความเป็ นไปได้ สอง


ตัวเลือก ข้ อแรก หากมันแสร้ งทาเป็ นผู้เสี ยหายเหมือนกับอีกสอง
คน อาจได้ รับความไว้ เนื้อเชื่ อใจและร่ วมกันหาทางออก แถมยังใช้
โอกาสนีจ้ ับตามองการกระทาไปในตัว เผื่อว่ าจะได้ รับข้ อมูลที่
น่ าสนใจใหม่

ข้ อสอง แสร้ งทาเป็ นตัวตนปริศนาต่ อไป วิธีนจี้ ะส่ งผลให้ อีก


ฝ่ ายเกรงกลัว รวมถึงอาจได้ รับข้ อมูลที่มีค่ามหาศาล

ด้ วยระยะเวลาที่จากัด ไม่ เพียงพอให้ มันประมวลผลชั่งน้าหนัก


หาข้ อดีข้อเสี ยโดยละเอียด หมิงรุ่ยกัดฟันยอมเสี่ ยงเลือกข้ อสอง

แสร้ งทาเป็ นบุคคลลึกลับให้ อีกฝ่ ายยาเกรง เพื่อที่ตนจะได้ ถือ


ไพ่เหนือกว่ าภายในห้ วงมิติไร้ ก้นบึง้ แห่ งนี้

หลังจากช่ วงเวลาเงียบงันผ่ านไปหลายวินาที หมิงรุ่ยเปิ ดเอ่ย


ปากพูดด้ วยน้าเสี ยงทุ้มต่า เปี่ ยมด้ วยความสุ ขุมเยือกเย็น เพื่อเป็ น
การทักทายสหายใหม่ สองคนที่กาลังเสี ยขวัญ

“ข้ าแค่ ลองทดสอบดู”


ทดสอบ… ทดสอบอะไร?
ออเดรย์ ·ฮอลล์รีบหันมองทางบุคคลลึกลับทันที รอบกายชาย
ปริศนายังคงห้ อมล้อมด้ วยหมอกเทาหนาทึบเช่ นเดิม สถานการณ์
ปัจจุบันช่ างน่ าฉงน น่ าหวาดกลัว และแปลกประหลาดเหนือคา
บรรยาย

เมื่อครู่ ตนยังนั่งหน้ าโต๊ ะเครื่ องแป้งภายในห้ องนอน แต่ เพียง


ไม่ กี่วินาทีก็ถูก ‘ลาก’ เข้ ามายังสถานที่ซึ่งมีเพียงทะเลหมอกไหล
ผ่ าน
ช่ างน่ าอัศจรรย์ อะไรเช่ นนี้!

ออเดรย์ สูดลมหายใจเข้ าเต็มปอด ก่อนจะเผยรอยยิม้ ใสซื่ อและ


อ่อนโยน คาถามถูกเปล่งออกจากปากด้ วยน้าเสี ยงสั่ นเครื อ

“มิสเตอร์ … การทดลองอะไรหรื อ? แล้วท่ านสามารถส่ งพวก


เรากลับได้ ไหม?”

อัลเจอร์ ·วิลสั นยังคงเคลือบแคลงในตัวหมิงรุ่ยไม่ น้อย แต่ ด้วย


ประสบการณ์ ที่มากกว่ า มันจึงรักษาท่ าทีสุขุมสง่ างาม และเลือกที่
จะเป็ นผู้ชมอย่ างเงียบงัน

โจวหมิงรุ่ยชาเลืองมองตามต้ นเสี ยงของหญิงสาวที่เอ่ยปาก


ถาม สายตามันมองเห็นเพียงคร่ าวๆ ว่ าอีกฝ่ ายคือสตรีรูปร่ างสู ง ผม
สี ทองเงางาม แต่ มิอาจมองเห็นรูปลักษณ์ ที่ชัดเจนได้
มันไม่ รีบตอบ หมิงรุ่ยหันไปชาเลืองบุรุษอีกหนึ่งคนที่ยังเงียบ
งัน เส้ นผมของมันยุ่งเหยิงและมีสีน้าเงินเข้ ม หุ่นกายาสั นทัด ไม่ จัด
ว่ าอ้วนท้ วม

หมิงรุ่ยเกิดสมมติฐานใหม่ หากมันมีพลังมากกว่ านีใ้ นอนาคต


อาจมองทะลุผ่านหมอกเทาจนเห็นรูปลักษณ์ ที่ชัดเจนของทั้งคู่

‘ถ้ าเข้ าไม่ ใจผิดไป… เราคือเจ้ าบ้ าน และสองคนนีเ้ ป็ นแขกของ


ห้ วงมิติทะเลหมอก’

หลังจากเปลี่ยนมุมมอง โจวหมิงรุ่ยเริ่มตระหนักถึง
รายละเอียดเล็กน้ อยที่มันมองข้ าม

ทั้งเด็กสาวที่มีเสี ยงไพเราะและชายหนุ่มกายา ตัวตนของพวก


มันมิได้ กระจ่ างชัดเจนเท่ าที่ควร บนลาตัวส่ องแสงแดงระเรื่ อเจือ
จาง ราวกับเป็ น ‘ภาพฉาย’ มากกว่ าร่ างเนื้อ

หากให้ เดา คงเป็ นดาวสองดวงที่ตนบังเอิญสั มผัสเข้ าจนลุก


ไหม้ เมื่อครู่

ภาพฉายเกิดจากสายสั มพันธ์ ที่มองไม่ เห็นระหว่ างตัวมันกับ


คนทั้งสอง และด้ วยความเป็ นเจ้ าบ้ าน จึงมีเพียงหมิงรุ่ยเท่ านั้นที่
ตระหนักในเรื่ องนี้
ภาพฉายจะหายไปเมื่อสายสั มพันธ์ ระหว่ างดวงดาวถูกตัดขาด
และนั่นจะเป็ นการส่ งพวกมันกลับสู่ โลกแห่ งความเป็ นจริง
ตามเดิม…

โจวหมิงรุ่ยพยักหน้ าอย่ างอ่อนโยนขณะหันมองเด็กสาวผมสี


ทอง มันส่ งเสี ยงหัวเราะในลาคอก่อนตอบกลับ

“แน่ นอน หากเจ้ าปรารถนาที่จะกลับ สามารถแจ้ งความ


ประสงค์ ได้ ทุกเมื่อ แล้วข้ าจะส่ งกลับให้ เอง”
เมื่อสั มผัสว่ าน้าเสี ยงของโจวหมิงรุ่ยปราศจากความมุ่งร้ าย ออ
เดรย์ ถอนหายใจยาวเฮือกใหญ่ ด้วยสี หน้ าโล่ งใจ หล่อนเกิดความคิด
ที่ว่า หากสุ ดยอดตัวตนที่สามารถบันดาลเรื่ องมหัศจรรย์ เช่ นนี้
กาชับรับปาก อีกฝ่ ายไม่ มีทางคืนคาแน่ นอน

เมื่อจิตใจเริ่มสงบลง เธอจึงยังไม่ อยากกลับ ออเดรย์ กวาด


สายตามองไปรอบทะเลหมอกที่มีประกายแสงระยิบระยับมากมาย

เธอกล่าวด้ วยน้าเสี ยงเจือความกังวล แต่ ก็คาดหวังในเวลา


เดียวกัน

“นับเป็ นประสบการณ์ ที่สุดยอดมาก… ฉันเฝ้าฝันมาตลอดให้


มีเรื่ องเช่ นนีเ้ กิดขึน้ กับตัวเองในสั กวัน เอ่อ… ฉันเป็ นคนชอบเรื่ องลี้
ลับและพลังพิเศษมาก เอ่อ… ที่อยากจะถามก็คือ ฉันจะกลายเป็ น
ผู้วิเศษด้ วยวิธีใดได้ บ้าง?”
ยิ่งพูดก็ยิ่งตื่นเต้ น ถ้ อยคาของออเดรย์ จึงตะกุกตะกัก สิ่ งที่เธอ
เฝ้าฝันมาตลอด สิ่ งที่เคยทาได้ เพียงจินตนาการถึง บัดนีเ้ กิดขึน้
เบื้องหน้ ากับตัวเองแล้ว

หลังจากกล่าวจบ ความกังวลและตึงเครียดก่อนหน้ าได้ เลือน


หายโดยสมบูรณ์

‘ถามได้ ดี! ฉันเองก็อยากทราบเหมือนกัน’


โจวหมิงรุ่ยตัดพ้อในใจ มันยังคงเงียบงันเพื่อรักษามาดของ
บุคคลลึกลับไว้

ขณะนั้นเอง หมิงรุ่ยรู้สึกว่ าการยืนสนทนาค่ อนข้ างไม่ สะดวก


สถานที่จับเข่ าคุยเรื่ องสาคัญควรโอ่อาหรูหราเหมือนกับมหาราชวัง
และตัวมันต้ องนั่งหัวโต๊ ะประชุมยาวเพื่อทาหน้ าที่ประธานใหญ่
เก้าอีท้ ุกตัวรอบโต๊ ะประชุมต้ องสลักด้ วยลวดลายเก่าแก่ และตัวมัน
มีหน้ าที่เป็ นเพียงผู้เฝ้ามองเท่ านั้น

หลังจากความคิดจบลง ห้ วงมิติสายหมอกเริ่มสั่ นสะเทือน


ทั้งอัลเจอร์ และออเดรย์ ต่างแสดงท่ าทีตกตะลึง

เพียงพริบตา เสาหินทรงกระบอกขนาดใหญ่ ผุดขึน้ รอบตัว


พวกมันเป็ นจานวนมาก ท้ องฟ้ าที่เคยเปิ ดโล่งและมีประกายดาวระ
ยิบระยิบ ได้ ถูกเพดานโดมคล้ายหลังคาปกคลุมมิดชิด
วิวทิวทัศน์ รอบตัวแปรเปลีย่ นเป็ นบรมมหาราชวังที่โอ่อาและ
อลังการ คล้ายกับวังสวรรค์ ของเผ่ าพันธุ์คนยักษ์ ในตานานก็มิปาน

ภายใต้ เพดานโดมกว้ างขวางโอ่อ่า เบื้องล่างยังคงมีสายหมอกสี


เทาไหลเวียนไม่ ขาดสาย กึ่งกลางห้ องปรากฏโต๊ ะทองแดงยาว 22 ที่
นั่ง แบ่ งเป็ นเก้าอีฝ้ ั่งละสิ บตัว รวมหัวท้ ายอีกสองตัว

บริเวณพนักพิงเก้าอีท้ ุกตัวจะส่ องแสงสี แดงเข้ มเป็ นรูปทรง


ของหมู่ดาวที่โจวหมิงรุ่ยไม่ พบเห็นมาก่อน

ออเดรย์ และอัลเจอร์ นั่งหันหน้ าเข้ าหากัน

พวกมันนั่งลงบนเก้าอีส้ องตัวแรกใกล้กลับกับหัวโต๊ ะของบุรุษ


ลึกลับ เด็กสาวผมทองยังคงกวาดสายตามองรอบข้ างด้ วยสี หน้ าสุ ด
ทึ่ง

“สุ ดยอดไปเลย…”

‘ใช่ แล้ว มันสุ ดยอดมาก…’

โจวหมิงรุ่ยนั่งลงที่ตาแหน่ งหัวโต๊ ะ ก่อนจะเหยียดแขนขวา


ออกไปวางบนขอบโต๊ ะด้ วยสี หน้ าเรียบเฉย
อัลเจอร์ ชาเลืองมองสภาพแวดล้อมด้ วยนัยน์ ตาที่ยังคงสั่ น
ระริก หลังจากเงียบงันอยู่พกั ใหญ่ มันตัดสิ นใจตอบคาถามของเด็ก
สาวผมทองแทนโจวหมิงรุ่ย

“คุณมาจากโลเอ็นใช่ ไหม?

“ถ้ าต้ องการเป็ นผู้วิเศษ ก็ต้องเลือกเข้ าร่ วมเป็ นสาวกของโบสถ์


สั กแห่ ง ไม่ ว่าจะเป็ นโบสถ์ เทพธิดารัตติกาล โบสถ์ เทพแห่ งวายุ
สลาตัน หรื อโบสถ์ เทพแห่ งจักรกลไอน้า

“คนธรรมดาคงยากที่จะเดินสวนกับผู้วิเศษในชีวิตจริงได้ ต้ อง
เกี่ยวพันกับโบสถ์ แห่ งเทพไม่ ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ ต้องมีตาแหน่ งที่
สู งพอสมควรด้ วย ยกตัวอย่ างเช่ น นักบวชทั่วไปของแต่ ละโบสถ์
จะชะตากรรมไม่ ต่างจากคนทั่วไปมากนัก ถึงอย่ างนั้น ผมสามารถ
บอกคุณได้ ว่า มีผ้ วู ิเศษจานวนไม่ น้อยแฝงตัวเป็ นเจ้ าหน้ าที่รัฐ
ทางานอยู่ในศาล ตุลาการ และหน่ วยงานสาเร็จโทษของอาณาจักร
พวกมันคอยใช้ พลังพิเศษต่ อสู้ กับภัยมืดมิดที่มนุษย์ มองไม่ เห็น
ทว่ า หากเทียบกับช่ วงต้ นยุคเหล็กแล้ว จานวนผู้วิเศษลดลงจาก
อดีตจนน่ าใจหาย”

โจวหมิงรุ่ยเพ่งสมาธิต้ังใจฟังสุ ดชีวิต แต่ ท่าทีภายนอกยังแสร้ ง


ไม่ แยแส ประหนึ่งนั่งฟังเด็กสองคนเล่านิทานให้ กันและกัน

จากความทรงจาอันเลือนลางของนักศึกษาวิชาประวัติศาสตร์
อย่ างไคลน์ โจวหมิงรุ่ยย่ อมทราบว่ า ‘ยุคเหล็ก’ หมายถึงยุค
ปัจจุบัน หรื ออีกชื่ อหนึ่งคือ ‘ยุคสมัยที่ห้า’ ซึ่งเริ่มต้ นเมื่อ 1349 ปี
ก่อน

ออเดรย์ นั่งฟังอัลเจอร์ จนจบประโยค ก่อนจะถอนหายใจยาว


ด้ วยสี หน้ าผิดหวัง

“มิสเตอร์ … เรื่ องนั้นฉันทราบอยู่แล้ว และทราบลึกยิ่งกว่ าที่


คุณเล่า รู้ไปถึงตัวตนหน่ วยลับของทั้งสามโบสถ์ ซึ่งประกอบด้ วย
เหยี่ยวราตรี ทูตพิพากษา และจิตแห่ งจักรกล แต่ ฉันไม่ ต้องการ
สู ญเสี ยอิสระภาพของตัวเองโดยการอุทิศตัวรับใช้ โบสถ์ ”
อัลเจอร์ หัวเราะแห้ งในลาคอ ก่อนจะตอบกลับอย่ างคลุมเคลือ

“การเป็ นผู้วิเศษต้ องเสี ยสละบางสิ่ ง หากไม่ ต้องการเข้ าร่ วม


โบสถ์ และอุทิศตัวเพื่อผ่ านบททดสอบ คุณก็ต้องเข้ าหาตระกูล
ราชวงศ์ ของอาณาจักร หรื อไม่ ก็ตระกูลขุนนางที่มีประวัติศาสตร์
ไม่ ต่ากว่ าพันปี ไม่ อย่ างนั้น หนทางสุ ดท้ ายคือการเข้ าร่ วมกับ
องค์ กรลับชั่วร้ าย แต่ วิธีนจี้ าเป็ นต้ องใช้ วาสนามากหน่ อย”

ออเดรย์ ทาแก้มป่ องตามความเคยชิน ก่อนจะกวาดสายตามอง


ไปมาระหว่ าง ‘บุรุษลึกลับ’ กับอัลเจอร์

เมื่อมั่นใจว่ าไม่ มีคาอธิบายเพิม่ เติม


ออเดรย์ ถามยา้
“ไม่ มีวิธีอื่นอีกแล้วจริงหรื อ?”
อัลเจอร์ เงียบงันอยู่นานกว่ าครึ่งนาที ก่อนจะชาเลืองสายตาไป
ยังบุรุษลึกลึกลับที่เอาแต่ เฝ้ามองอย่ างเงียบงัน

เมื่อมั่นใจว่ าโจวหมิงรุ่ยไม่ กล่าวสิ่ งใดเสริม อัลเจอร์ หันไปมอง


ออเดรย์ พลางกล่าวอย่ างระมัดระวัง

“ผมครอบครองสู ตรปรุงโอสถลาดับ 9 อยู่สองชนิด”

ลาดับ 9? โจวหมิงรุ่ยพึมพาในใจ

“จริงหรื อ? อันไหนบ้ าง?”

ออเดรย์ ทราบว่ าสู ตรปรุงโอสถลาดับ 9 หมายถึงสิ่ งใด

อัลเจอร์ เอนหลังเล็กน้ อย ก่อนจะมอบคาตอบให้ ออเดรย์ อย่ าง


ใจเย็น

“อย่ างที่คุณทราบ มนุษย์ ต้องดื่มโอสถเพื่อให้ กลายเป็ นผู้วิเศษ


ซึ่งชื่ อของโอสถดั้งเดิมนั้นถูกสลักไว้ บน ‘แผ่ นศิลาเย้ ยเทพ’ แต่
หลังจากถูกแปลงเป็ นหลายภาษา ทั้งภาษาคนยักษ์ ภาษาเอลฟ์
ภาษาเฮอร์ มิสโบราณ ภาษาฟุซัคโบราณ และภาษาเฮอร์ มิสปัจจุบัน
ชื่ อของโอสถมีการปรับเปลี่ยนให้ เข้ ากับยุคสมัยอยู่เสมอ ชื่ อจึง
ไม่ ใช่ แก่นคาสั ญของพลังวิเศษ สิ่ งที่ควรสนใจคือ ‘ธรรมชาติพลัง’
ของโอสถชนิดดังกล่าวมากกว่ า
“ผมมีสูตรโอสถลาดับ 9 สองชนิด ประเภทแรกชื่ อว่ า ‘กะลาสี ’
มันจะช่ วยให้ คุณทรงตัวได้ ยอดเยี่ยม ต่ อให้ ยืนบนเรื อที่กาลังฝ่ า
พายุฝน คุณก็สามารถวิ่งเล่นได้ เหมือนกับบนพื้นดินปรกติ
พละกาลังจะสู งกว่ ามนุษย์ ปรกติค่อนข้ างมาก มีเกล็ดลวงตาที่ซ่อน
ภายใต้ ผิวหนัง สามารถเคลื่อนไหวใต้ น้าได้ ว่องไวไม่ ต่างสั ตว์ ทะเล
และต่ อให้ ไม่ มีอุปกรณ์ ช่วย แต่ คุณจะดาน้าได้ นานสิ บนาทีโดยไม่
พักหายใจ”

“สุ ดยอด… ใช่ อันเดียวกันกับ ‘ผู้พทิ ักษ์ สมุทร’ ของโบสถ์ เทพ


แห่ งวายุสลาตันรึเปล่า?”

“อา… มันเคยมีชื่อนั้นเมื่อในอดีต”

อัลเจอร์ กล่าวต่ อไป

“ส่ วนโอสถลาดับ 9ชนิดที่สองคือ ‘ผู้ชม’ ผมไม่ แน่ ใจว่ ามันถูก


เรียกว่ าอย่ างไรเมื่อในอดีต แต่ เป็ นโอสถที่ช่วยให้ ครอบครองพลัง
สั งเกตุเหนือมนุษย์ คุณจะตระหนักถึงทุกรายละเอียดเล็กน้ อยที่อยู่
รอบตัว ตัวอย่ างที่เห็นภาพชัดคือโรงละครโอเปร่ า ‘ผู้ชม’ หมายถึง
คนดูในโรงละคร และเป้าหมายของผู้ชมก็คือนักแสดงบนเวที
เจ้ าของพลัง ‘ผู้ชม’ จะเฝ้าสั งเกตทุกการกระทาของนักแสดง
รวมถึงอารมณ์ สี หน้ า ท่ าทาง และยังสามารถอ่านความคิดอีกฝ่ าย
ได้ เล็กน้ อย”
เมื่ออธิบายถึงจุดนี้ อัลเจอร์ รีบตักเตือน

“จงจาไว้ ให้ ดี ไม่ ว่าจะสถานที่ใด โรงละครหรื อถนนที่แอดอัด


ด้ วยผู้คน แต่ ผ้ ชู มจะเป็ นได้ เพียงผู้ชมวันยังค่า”

แววตาออเดรย์ เริ่มเปล่งประกาย เธอครุ่นคิดอยู่พกั หนึ่งก่อนจะ


ถามต่ อ

“งั้นหรื อ? หืม… ฉันชักตกหลุมรัก ‘ผู้ชม’ แล้วสิ ต้ องทา


อย่ างไรคุณถึงจะยอมบอกสู ตรผสมโอสถ? จะให้ ฉันแลกเปลี่ยน
ด้ วยสิ่ งไหน?”

มุมปากอัลเจอร์ กระตุกเล็กน้ อย สี หน้ าและแววตาคล้ายรอ


จังหวะนีอ้ ยู่นานแล้ว มันกล่ าวออกไปด้ วยเสี ยงทุ้มต่า

“โลหิตฉลามวิญญาณ อย่ างน้ อย 100 มิลลิลิตร”

ออเดรย์ พยักหน้ ารับอย่ างตื่นเต้ น ทว่ า เพียงไม่ นานก็ถามกลับ


ด้ วยสี หน้ าสงสั ย

“เอ่อ… ถ้ าเกิดฉันหามาได้ จะต้ องส่ งให้ คุณด้ วยวิธีใด? แล้ วจะ


มั่นใจได้ อย่ างไรว่ าคุณจะมอบสู ตรผสมโอสถเป็ นการตอบแทน
รวมถึงความถูกต้ องของสู ตร”
อัลเจอร์ ตอบกลับอย่ างใจเย็น
“ผมจะบอกที่อยู่ของตัวเองให้ หลังจากได้ รับโลหิตฉลาม
วิญญาณ คุณมีสองวิธีในการรับสู ตรโอสถ หนึ่งคือ ให้ ผมส่ ง
จดหมายไปหา และสองคือ ผมจะบอกด้ วยปากเปล่าภายในห้ วงมิติ
สายหมอกแห่ งนี้

“ส่ วนเรื่ องความมั่นใจ ผมคิดว่ าท่ านบุรุษลึกลับผู้นี้สามารถ


เป็ นพยานให้ ได้ ”

เมื่อกล่าวจบ มันชาเลืองมองโจวหมิงรุ่ยที่นั่งหลังตรงบนพยัก
เก้าอีห้ ัวโต๊ ะ

“มิสเตอร์ … คุณคือผู้วเิ ศษที่มีพลังเหนือจินตนาการ พวกเรา


คงไม่ กล้าละเมิดข้ อตกลงหากคุณยอมเป็ นสั กขีพยานให้ ”

“จริงด้ วย!”

แววตาออเดรย์ ส่องประกายอีกครั้งพร้ อมกับผงกศีรษะอย่าง


ตื่นเต้ น ในมุมมองของเธอ บุรุษลึกลับคือสั กขีพยาน ‘ที่ไว้ ใจได้ ’

ทั้งหล่อนและชายผมยุ่งเหยิงไม่ มีวันกล้ าปลิน้ ปล้อนต่ อหน้ า


บุรุษลึกลับผู้ยิ่งใหญ่ แน่ !

ออเดรย์ หมุนตัวพร้ อมกับจ้ องมองโจวหมิงรุ่ยด้ วยสายตาเว้ า


วอน
“มิสเตอร์ … ได้ โปรดเป็ นสั กขีพยานให้ การแลกเปลี่ยนของ
พวกเราด้ วย”

ทันใดนั้น หล่อนพลันตระหนักถึงความเสี ยมารยาทที่ตน


กระทาลงไป การค้ าขายแลกเปลี่ยนเมื่อครู่เกิดขึน้ โดยยังไม่ ได้ รับ
ความเห็นชอบจากบุรุษลึกลับด้ วยซ้า!

“เอ่อ… มิสเตอร์ … จะให้ พวกเราเรียกคุณว่ าอย่ างไรดี?”


อัลเจอร์ พนักหน้ ารับ มันถามซ้าด้ วยถ้ อยคาที่ขึงขังและหนัก
แน่ นกว่ า

“ใช้ แล้วครับ พวกเราต้ องเรียกคุณว่ าอย่ างไร?”

โจวหมิงรุ่ยชะงักชั่วครู่ มันใช้ ปลายนิว้ เคาะโต๊ ะทองแดงเป็ น


จังหวะขณะใช้ ความคิด

นิสัยเก่าที่แก้ไม่ หาย

ทันใดนั้น ผลการทานายดวงชะตาเมื่อเช้ าพลันแล่นเข้ ามาใน


หัว หมิงรุ่ยเอนหลังตั้งตรงทันที เมื่อขวาถูกดึงกลับ สิ บนิว้ ประสาน
ใต้ คางพร้ อมกับเผยรอยยิม้ ให้ คนทั้งสอง
“จงเรียกข้ าว่ า…”
มันจะชะงักคาพูดเล็กน้ อย ก่อนจะกล่าวต่ อไปด้ วยน่าเสี ยง
สุ ขุม

“เดอะฟูล”
ราชันย์ เร้ นลับ 7 : นามแฝง

“จงเรียกข้ าว่ า… เดอะฟูล”

ชื่ อที่เรียบง่ ายถูกเปล่งกังวาลทั่วห้ วงมิติสายหมอกสี เทา แต่


เพียงไม่ นานก็เลือนลับหายไป

ทว่ า เสี ยงกลับยังดังสะท้ อนภายในใจอัลเจอร์ และออเดรย์ อีก


หลายระลอก

พวกมันไม่ คิดว่ าอีกฝ่ ายจะใช้ นามแฝงเพื่อปกปิ ดตัวตน แต่ เมื่อ


ลองคิดดูให้ ดี การเรียกด้ วยนามแฝงคงเหมาะสมกับ ‘บุคคลลึกลับ’
มากกว่ า

หลังจากเงียบงันครู่หนึ่ง ออเดรย์ ลุกยืนขึน้ พลางดึง


ชายกระโปรง ก่อนจะถอนสายบัวให้ โจวหมิงรุ่ยอย่ างนอบน้ อม

“มิสเตอร์ ฟูลที่เคารพ ได้ โปรดเป็ นสั กขีพยานในการ


แลกเปลี่ยนของพวกเราด้ วยค่ ะ”

“ไม่ มีปัญหา”

หมิงรุ่ยตอบสั้ นห้ วนแต่ สง่ าผ่ าเผย มันพยายามรักษา


ภาพลักษณ์ ผ้ ยู ิ่งใหญ่ ไว้
“เป็ นเกียรติอย่ างยิ่งครับ”

อัลเจอร์ ยืนขึน้ พร้ อมกับแบมือขวาแนบหน้ าอก จากนั้นก็ก้ม


ศีรษะลงเล็กน้ อย

โจวหมิงรุ่ยผายมือขวาลงพลางอมยิม้

“เชิญต่ อได้ ”
อัลเจอร์ พยักหน้ าก่อนจะนั่งลง มันหันไปกล่าวกับออเดรย์ ต่อ

“หลังจากคุณหาโลหิตฉลามวิญญาณได้ แล้ว ให้ ใครสั กคน


นาไปส่ งที่บาร์ นักรบท้ องทะเล ท่ าเรื อพริสต์ ถนนนกกระทุง รัฐ
กุหลาบขาว บอกเจ้ าของร้ านที่ชื่อวิลเลี่ยมว่ า นี่คือสิ่ งที่ ‘กัปตัน’
ต้ องการ

“หลังจากผมยืนยันแล้วว่ าเป็ นของจริง คุณต้ องการให้ ส่งสู ตร


ให้ ตามทีอ่ ยู่ หรื อจะให้ บอกปากเปล่าภายในมิติแห่ งนี้?”

ออเดรย์ ครุ่นคิดเล็กน้ อยก่อนจะตอบกลับพร้ อมรอยยิม้

“ขอเป็ นวิธีทปี่ ลอดภัยดีกว่ า ให้ คุณบอกปากเปล่าภายในมิติ


แห่ งนี้ ถือเป็ นการทดสอบความทรงจาของฉันด้ วย”
ในมือมิสเตอร์ ฟูลยอมเป็ นสั กขีพยานแลกเปลี่ยน หมายความ
ว่ าต้ องมี ‘การรวมตัว’ คราวหน้ าเกิดขึน้ อีกแน่

ด้ วยความคิดเช่ นนี้ ออเดรย์ หันมองไปทางโจวหมิงรุ่ยด้ วย


ดวงตาเปล่งประกาย น้าเสี ยงเจือความตื่นเต้ นหลายส่ วน

“มิสเตอร์ ฟูลคะ… ช่ วย ‘ทดสอบ’ แบบนีอ้ ีกสั กสองสามครั้งได้


รึเปล่า?”

อัลเจอร์ พยักหน้ ารับเห็นด้ วย


มันรีบโน้ มน้ าว

“มิสเตอร์ ฟูล คุณไม่ คิดว่ า ‘การรวมตัว’ เช่ นนีน้ ่ าสนใจหรอก


หรื อ? แม้ คุณจะเป็ นผู้วิเศษที่ครอบครองพลังเหนือจินตนาการ แต่
อาจมีสักเรื่ องสองเรื่ องที่ไม่ เคยทราบมาก่อน… สตรีผ้ นู คี้ ือ
บุตรสาวของขุนนางตระกูลใหญ่ ส่ วนผมก็มีท้ังประสบการณ์
วิสัยทัศน์ และทรัพยากรที่คุณอาจสนใจ หรื อบางที อาจมีสักวันที่
พวกเราพอจะช่ วยคุณแก้ปัญหากวนใจเล็กน้ อยได้ ”

ในมุมมองอัลเจอร์ การที่อีกฝ่ าย ‘ลาก’ ตนเข้ ามาในห้ วงมิติโดย


มิอาจขัดขืน หมายความว่ า มิสเตอร์ ฟูลมีอานาจกุมชะตาชีวิตมัน
ได้ ทุกลมหายใจ ในสถานการณ์ เสี ยเปรียบ การผูกมิตรย่ อมเป็ น
ทางเลือกที่ฉลาดกว่ า
หากสนิทกันไว้ นอกจากจะไม่ มีผลเสี ย อาจมีผลดี เพราะแต่ ละ
คนมาจากพื้นฐานครอบครัวและปูมหลังที่แตกต่ างกัน สิ่ งที่อีกคน
หนึ่งขาดไป อีกคนอาจเติมเต็มให้ กันได้

การแลกเปลี่ยนเมื่อครู่เป็ นเพียงตัวอย่ างพื้นฐาน หากต้ องการ


อธิบายให้ เห็นภาพ…

ยกตัวอย่ างเช่ น การจะลงมือ ‘ฆ่ า’ ใครสั กคน ถ้ าให้ สมาชิก


ภายในนีซ้ ึ่งไม่ เกี่ยวข้ องกับเหยื่อเป็ นฝ่ ายลงมือแทน ตารวจไม่ มี
ทางสื บสาวหาคนร้ ายตัวจริงได้ แน่
ทว่ า เมื่ออัลเจอร์ กล่าวจบและหันไปมองเด็กสาวผู้ร่าเริง
ใบหน้ าของเธอกลับกาลังเหม่ อลอย…

‘นี่เราออกท่ าทางมากไปงั้นหรื อ?’

ออเดรย์ จ้องมองอัลเกอร์ พลางอ้าปากค้ างชั่วขณะ นั่นไม่ ใช่


ความหวาดกลัว แต่ เป็ นความตื่นเต้ นดีใจที่จะได้ ทาเรื่ องมหัศจรรย์
ร่ วมกับผู้อื่น

เพียงไม่ นาน เธอดึงสติกลับมาและรีบพยักหน้ าซ้าหลายครั้ง

“มิสเตอร์ ฟูล ฉันเองก็เห็นด้ วย! หากมีเรื่ องเล็กน้ อยที่คุณไม่


ต้ องการเปลืองแรงลงมือทาด้ วยตัวเอง คุณสามารถไหว้ วานให้ เรา
จัดการแทนได้ แต่ ต้องอยู่ในขอบเขตความสามารถด้ วยนะคะ”
นับตั้งแต่ อัลเจอร์ เสนอแนะ โจวหมิงรุ่ยก็ชั่งน้าหนักผลดี
ผลเสี ยในใจมาตลอด

ยิ่งรวมตัวกันบ่ อยครั้ง ตนก็จะยิ่งได้ รับข้ อมูลที่จาเป็ นมากขึน้


ไม่ ว่าจะเรื่ องผู้วิเศษหรื อความลับโลกใบนี้ อาจรวมถึงวิธีเดินทาง
กลับโลกเก่า

ตัวอย่ างเช่ น การพบปะกันครั้งหน้ า เมื่อทั้งสองคนแลกเปลี่ยน


เสร็จสิ้นและชายกายาบอกสู ตรโอสถ ‘ผู้ชม’ แบบปากเปล่า ตนก็มี
สิ ทธิ์ได้ รับฟังสู ตรดังกล่าวด้ วยเช่ นกัน อาจมีบางวันที่ข้อมูลโอสถ
ขวดนีเ้ กิดประโยชน์

แต่ ขณะเดียวกัน ยิ่งรวมตัวบ่ อยครั้ง ความลับของตัวมันก็อาจ


ถูกเผยได้ ง่ายขึน้

นั่นสิ นะ ไม่ ว่าจะโลกเก่าหรื อใหม่ ก็เหมือนกันหมด… ของฟรีก็


ไม่ มีในโลก

โจวหมิ่งรุ่ยเหยียดแขนขวาออกไปเคาะโต๊ ะอย่ างนุ่มนวล เมื่อ


คานึงว่ าตนคือเจ้ าของมิติสายหมอก โอกาสที่ความลับจะแตกจึงมี
ไม่ มากนัก หรื ออีกนัยหนึ่ง ข้ อดีมีมากกว่ าข้ อเสี ย

เมื่อโจวหมิงรุ่ยตัดสิ นใจได้ มันหยุดเคาะโต๊ ะพลางอมยิม้ ให้ กับ


บุคคลทั้งสองที่กาลังแสดงสี หน้ าคาดหวังปนกระสั บกระสาย
“ข้ าชื่ นชอบในความเท่ าเทียม

“เมื่อมีคนช่ วยเหลือ ผู้น้ นั ก็ต้องได้ รับการตอบแทน

“ทุกวันจันทร์ บ่ายสาม พยายามทาตัวให้ ว่างเข้ าไว้ ขอเวลาข้ า


ทดสอบพลังอีกสั กสองสามครั้ง หากค้ นพบหลักการของห้ วงมิติ
บางทีอาจมีวิธีให้ พวกเจ้ าแจ้ งล่ วงหน้ าเมื่อไม่ สะดวกที่จะเข้ าร่ วม”

ทั้งอัลเจอร์ และออเดรย์ ต่างพยักหน้ าพร้ อมเพรียง


ออเดรย์ คือบุตรสาวขุนนางวัยสิ บเจ็ดปี เธอถูกเลีย้ งดูเยี่ยงไข่ ใน
หินมาตลอด จึงมีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะเรียนรู้สิ่งแปลก
ใหม่ จากโลกภายนอก

ดังนั้น เมื่อทราบว่ า ‘ผู้ยิ่งใหญ่ ’ จะจัดการรวมตัวลีล้ ับให้ ทุก


สั ปดาห์ เด็กสาวผู้ไร้ เดียงสาจึงกาหมัดแน่ นอย่ างมีความสุ ข

ออเดรย์ ไม่ เปิ ดโอกาสให้ อัลเจอร์ พูด เธอรีบเสนอแนะเรื่ อง


ถัดไปด้ วยดวงตาเปล่งประกาย

“พวกเราทุกคนใช้ ชื่นแทนกันเถอะ! จะให้ บอกชื่ อจริงคงไม่


เหมาะสั กเท่ าไร”

‘เราอาจปกปิ ดมิสเตอร์ ฟูลไม่ ได้ แต่ ชายกายาคนนีม้ ีท่าทาง


อันตรายเล็กน้ อย… เราจะให้ เขาทราบตัวตนไม่ ได้ เด็ดขาด!’
“เป็ นความคิดที่ดี”

โจวหมิงรุ่ยกล่าวด้ วยน้าเสี ยงผ่ อนคลาย

สมองออเดรย์ พลันประมวลอย่ างหนัก หลากหลายไอเดียผุด


ขึน้ ในหัว จนกระทั่ง…

“ในเมื่อคุณคือมิสเตอร์ ฟูลจากไพ่ทาโร่ ต์ ถ้ าอย่ างนั้น การ


รวมตัวลับของพวกเราก็ควรเป็ นไปในทางเดียวกัน ฉันจะเลือกชื่ อ
จากไพ่ทาโร่ ต์บ้าง”

ออเดรย์ กาลังครุ่นคิดอย่ างตื่นเต้ น

“ตัดสิ นใจได้ แล้ว! ฉันจะชื่ อ ‘จัสติส’!”

หนึ่งใน 22 ไพ่สารับหลักของทาไร่ ต์

“แล้วคุณล่ะ? มิสเตอร์ …”

สาวน้ อยอมยิม้ พลางหันไปมอง ‘คู่ค้า’ รูปร่ างกายาที่นั่งฝั่งตรง


ข้ าม

อัลเจอร์ ขมวดคิว้ ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ


“เดอะแฮงแมน”

เป็ นหนึ่งใน 22 ไพ่สารับหลักเช่ นกัน

“เอาล่ะ พวกเราจะเรียกการรวมตัวที่นี่ว่า ‘ชุ มนุมไพ่ท่าโรต์ ’!”

ออเดรย์ กล่าวอย่ างตื่นเต้ น จนกระทั่งผ่ านไปหนึ่งอึดใจ เธอเพิง่


ตระหนักได้ ว่ากิริยาของตนออกนอกหน้ าเกินไปสั กหน่ อย จึงหัน
ไปถามโจวหมิงรุ่ยที่มีหมอกเทารายล้อมเข้ มข้ น
“ใช้ ชื่อนีไ้ ด้ รึเปล่าคะ? มิสเตอร์ ฟูล”

โจวหมิงรุ่ยส่ ายศีรษะเล็กน้ อย

“เรื่ องเล็กแค่ นี้ พวกเจ้ าตกลงกันเองเลย”

“ขอบคุณมากค่ ะ!”

ออเดรย์ รีบหันไปกล่าวกับอัลเจอร์ ด้วยสี หน้ าเปี่ ยมสุ ข

“มีสเตอร์ แฮงแมน คุณช่ วยทวนที่อยู่ให้ ฟังอีกครั้งได้ ไหม? ฉัน


กลัวว่ าความทรงจาของตัวเองจะทรยศ”

“ไม่ มีปัญหา”
อัลเจอร์ ชอบใจที่ออร์ เดรยแสดงสี หน้ าจริงจังขณะทวนที่อยู่
ของตนซ้าไปมา

หลังจากท่ องในใจสามครั้ง สาวน้ อยกล่าวอีกครั้งอย่ างร่ าเริง

“ฉันได้ ยินมาว่ า ไพ่ทาโร่ ต์เป็ นเกมทานายดวงชะตาที่มหา


จักรพรรดิโรซายล์คิดค้ นขึน้ หรื ออีกนัยหนึ่งคือ มันแฝงพลัง
ทานายอนาคตไว้ อย่ างนั้นหรื อ?”

“ผิดแล้ว โดยส่ วนมาก พลังทานายดวงชะตาจะมีรากฐานมา


จากตัวผู้ถูกทานายเอง มนุษย์ ทุกคนเกี่ยวพันกับโลกวิญญาณทั้ง
ทางตรงและทางอ้อม หลายคนสามารถสื่ อสารกับดวงจิตที่สูงกว่ า
ตัวเองได้ ทว่ า มนุษย์ ทั่วไปมักไม่ เอะใจถึงเรื่ องนี้ ส่ วนใหญ่ ไม่
ตระหนักถึง ‘สั ญญาณ’ ของข้ อมูลดวงชะตาที่ตัวเองได้ รับ ส่ งผล
ให้ ต้องใช้ อุปกรณ์ เป็ นสื่ อกลางสาหรับอ่านสั ญญาณดังกล่ าว
ตัวอย่ างที่เห็นได้ ชัดคือความฝัน และนักทานายฝัน”

อัลเจอร์ เหลือบมองหมิงรุ่ยเล็กน้ อย
เมื่อไม่ เห็นท่ าทีตอบสนอง มันจึงเล่าต่ อ

“ด้ วยเหตุนี้ ไพ่ทาโร่ ต์จึงทาหน้ าที่เป็ นอุปกรณ์ สื่อกลางสาหรับ


รับข้ อมูลดวงชะตา เพื่อให้ มนุษย์ ตีความอนาคตตัวเองได้ ง่ายขึน้ ”

แม้ ภายนอกจะทาเป็ นไม่ แยแส แต่ ภายในใจหมิงรุ่ยกลับคิด


ตามจนหัวแทบระเบิด สมองที่เคยโปร่ งโล่งพลันปวดแปลบรุนแรง
“อันนั้นก็ใช่ ค่ะ”

ออเดรย์ พยักหน้ าเห็นด้ วย แต่ จากนั้นก็เริ่มอธิบายคาถามของ


ตัวเองใหม่ ให้ ละเอียดกว่ าเดิม

“ฉันไม่ ได้ หมายถึงไพ่ทาโร่ ต์ชุดหลัง… เคยได้ ยินมาว่ า แท้ จริง


แล้ว จักรพรรดิโรซายล์ได้ สร้ างไพ่กระดาษจานวน 22 ใบเป็ นชุด
ต้ นแบบ มันคือสารับไพ่ที่เต็มไปด้ วยความลับและปริศนามากมาย
แต่ ละใบแทนสั ญลักษณ์ ของพลังอันยิ่งใหญ่ … ทว่ า ในภายหลัง ไพ่
ดังกล่าวถูกดัดแปลงเป็ นเกมไพ่ ทาโร่ ต์สาหรับทานายโชคชะตาที่ไม่
มีพษิ มีภัย ข้ อมูลนีถ้ ูกต้ องรึเปล่าคะ?”

เธอหันมองโจวหมิงรุ่ย เด็กสาวย่ อมต้ องการฟังความเห็นจาก


มิสเตอร์ ฟูลผู้ยิ่งใหญ่

แต่ หมิงรุ่ยกลับทาเพียงอมยิม้ และหันไปหามิสเตอร์ แฮงแมน


ประหนึ่งกาลังลองภูมิความรู้ จากมัน

อัลเจอร์ ผงะเล็กน้ อย หลังของมันพลันเชิดตั้งตรงตาม


สั ญชาตญาณ ก่อนจะหันไปมอบคาตอบให้ ออเดรย์ ด้วยน้าเสี ยงลุ่ม
ลึก

“ถูกต้ อง… ว่ ากันว่ า จักรพรรดิโรซายล์เคยเห็นแผ่ นศิลาเย้ ย


เทพด้ วยตาตัวเอง จึงสร้ างไพ่กระดาษขึน้ มา 22 ใบ เพื่อแทน 22
เส้ นทางแห่ งการกลายเป็ นเทพ”

“22 เส้ นทางแห่ งการกลายเป็ นเทพ…”

ออเดรย์ ทวนซ้าด้ วยสี หน้ าครุ่นคิด

ขณะเดียวกัน หัวสมองโจวหมิงรุ่ยเริ่มทวีความเจ็บแปลบเกิน
ขีดจากัด มันรู้สึกคล้ายกับการเชื่ อมต่ อระหว่ างดวงดาวเริ่มเจือจาง
ลง
“วันนีพ้ อแค่ นกี้ ่อนก็แล้วกัน”

มันกล่าวเสี ยงทุ้มหลังจากตัดสิ นใจปุบปับฉับพลัน

“สุ ดแล้วแต่ ท่าน”

อัลเจอร์ ก้มศีรษะอย่ างนอบน้ อม

“สุ ดแล้วแต่ ท่านค่ ะ”

ออเดรย์ ทาท่ าทางแบบเดียวกับมิสเตอร์ แฮงแมน แต่ ภายใน


ของเธอยังคงมีคาถามอยากรู้อยากเห็นอีกมาก จึงนึกเสี ยดายที่
ชุมนุมทาโร่ ต์จบลงเร็วเกินไป
ก่อนที่โจวหมิงรุ่ยจะตัดการเชื่ อมต่ อ มันอมยิม้ พลางกล่าว
“แล้วพบกันใหม่ ในการรวมตัวครั้งหน้ า”

ดวงดาวส่ องแสงเป็ นครั้งสุ ดท้ าย


หลังจากหมิงรุ่ยเอื้อมมือไปสั มผัส ดาวแดงเริ่มละลายหายไป
ราวกับหยดน้า

ในวินาทีที่ออเดรย์ และอัลเจอร์ ได้ ยินเสี ยงมิสเตอร์ ฟูลกล่าวคา


อาลา ภาพการมองเห็นพวกมันพลันพร่ ามัวก่อนจะมืดสนิท
ผ่ านไปหนึ่งวินาที ‘ภาพฉาย’ ของทั้งแฮงแมนและจัสติสได้
สลายไป เหลือไว้ เพียงทะเลหมอกอันว่ างเปล่าภายในห้ องประชุม
โอ่อ่า

ศีรษะโจวหมิงรุ่ยเริ่มปวดแปลบทรมาน ภาพการมองเห็นสอง
ข้ างทางหมุนเคว้ งเกรี้ยวกราด เพียงไม่ นาน ความมืดก็เข้ าปกคลุม
โดยสมบูรณ์

จากนั้นไม่ กี่อึดใจ หมิงรุ่ยลืมตาขึน้ อีกครั้งภายในห้ องของ


ตัวเองที่มีแสงแดดส่ องจ้ า

มันยังคงยืนอยู่ใจกลางห้ องทาพิธี
“เหมือนกับฝันไปเลย… มิติสายหมอกคืออะไรกันแน่ … เป็ น
พลังของใคร หรื อสิ่ งใดที่เนรมิตรให้ เกิดมิติดังกล่าวขึน้ มา…”

มันพึมพากับตัวเองก่อนถอนหายใจอย่ างโล่งอก หมิงรุ่ยพยุง


ตัวเดินไปนั่งลงบนเก้าอีไ้ ม้ ด้วยร่ างกายที่หนักอึง้ ประหนึ่งถูกตะกั่ว
ถ่ วงขา

นาฬิ กาห้ อยคอทรงใบองุ่นที่วางไว้ บนโต๊ ะถูกหยิบขึน้ มา


ตรวจสอบเวลา มันต้ องทราบให้ ได้ ว่าโลกภายนอกผ่ านไปแล้วกี่
นาที
“เวลาเดินเร็วเท่ ากัน…”

มันประมาณอย่ างคร่ าว

หลังจากวางนาฬิ กาลง หมิงรุ่ยฝื นร่ างกายตัวเองไม่ ไหวอีก


ต่ อไป อาการปวดหัวรุนแรงจวนเจียนสลบ มันเลื่อนมือขึน้ มาบีบ
นวดขมับเผื่อว่ าจะดีขนึ้

หลังจากผ่ านไปสั กพัก หมิงรุ่ยส่ งเสี ยงถอนหายใจยาวพร้ อม


กับกล่าวเป็ นภาษาจีนกลาง

“ดูเหมือนว่ า เราคงไม่ ได้ กลับบ้ านภายในเร็ววันนี้…”

ความไม่ ร้ ูคือบ่ อเกิดความหวาดกลัว หลังจากได้ เผชิญ


เหตุการณ์ ประหลาด ได้ เรียนรู้เกี่ยวกับผู้วิเศษและโอสถ โจวหมิงรุ่ย
ไม่ กล้าทดสอบทาพิธีเปลี่ยนดวงชะตาในภาษาฟุซัคหรื อโลเอ็นอีก

จะเกิดอะไรขึน้ บ้ าง ไม่ มีใครตอบได้


อาจเลวร้ ายยิ่งกว่ าเมื่อครู่หลายเท่ า หรื ออาจต้ องทรมาณราวกับ
ตกนรก

“ไว้ ค่อยทดสอบใหม่ หลังจากเรามีความรู้เกี่ยวกับเรื่ องเหนือ


ธรรมชาติมากกว่ านี”้

อย่ างน้ อย สิ่ งที่เรียกว่ าชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์ก็ถือเป็ นผลลัพธ์ ด้าน


บวก

หลังจากใช้ สมาธิครุ่นคิดอยู่พกั หนึ่ง หมิงรุ่ยพึมพากับตัวเอง


ด้ วยน้าเสี ยงเจ็บปวด ผิดหวัง และเศร้ าหมอง

“นับแต่ นไี้ ป… เราคือไคลน์ แล้วสิ นะ”

ไคลน์ พยายามรวบรวมสติเพื่อหาหนทางดาเนินชีวิตต่ อไป


พร้ อมกับหาวิธีขจัดอารมณ์ ด้านลบในใจ

บางที มันอาจกลายเป็ นผู้วิเศษได้ จากสู ตรโอสถ ‘ผู้ชม’ ที่แฮง


แมนขายให้ จัสติส…
การ ‘ชุมนุม’ ที่เพิง่ เกิดขึน้ นั้นน่ าทึ่งมากหากมองในมุมยุคสมัย
ปัจจุบัน ผู้คนจากแต่ ละส่ วนของโลกถอดจิตมาคุยกันแบบเห็น
หน้ าตาในระยะใกล้ ถกเถียงประเด็นความรู้ ค้ าขายแลกเปลี่ยน
รวมถึงเติมเต็มจุดด้ อยของกันและกัน

เอ่อ… มันเหมือนกับ…

ไคลน์ เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะระเบิดเสี ยงหัวเราะคนเดียวราว


กับคนบ้ า มันใช้ ปลายนิว้ นวดขมับพลางพึมพากับตัวเองเสี ยงค่ อย
“เหมือนกับโซเชียลเน็ตเวิร์ครูปแบบนึงเลยไม่ ใช่ รึไง…”
ราชันย์ เร้ นลับ 8 : ยุคสมัยใหม่

ฟ้ าวว

เสี ยงลมกรีดร้ องโหยหวนดังพร้ อมกับการพัดพามาถึงของ


พายุฝนห่ าใหญ่ เรื อใบขนาดสามเสากาลังโคลงเคลงด้ วยสภาพน่ า
เวียนหัวเนื่องจากคลื่นทะเลสุ ดปั่นป่ วน

เป็ นความคลื่นไส้ ประหนึ่งยักษาเขย่ าเรื อเล่นก็มิปาน

แสงสี แดงเข้ มในดวงตาอัลเจอร์ ·วิลสั นดับมอดลง เมื่อได้ สติ


กลับคืน มันพบว่ าตัวเองกาลังยืนอยู่ในท่ าเดิมโดยไม่ มีสิ่งใด
เปลี่ยนแปลง

เพียงพริบตา ขวดแก้วทรงประหลาดในมือพลันแตกละเอียด
ของเหลวด้ านในที่เริ่มจับตัวแข็งได้ ถูกสายฝนเบื้องบนชะล้างจน
ละลายหาย ไม่ หลงเหลืองเศษเสี้ยววัตถุโบราณแสนลา้ ค่ าอีกต่ อไป

สั ญลักษณ์ เกล็ดหิมะหกเหลี่ยมผุดขึน้ กึ่งกล่ างฝ่ ามือ จากนั้น


เริ่มเลือนลางทีละนิดประหนึ่งแทรกซึมเข้ าสู่ ผิวหนัง ก่อนจะ
หายไปโดยสมบูรณ์ ในอีกไม่ กี่อึดใจต่ อมา

อัลเจอร์ พยักหน้ าเชื่ องช้ าแต่ หนักแน่ นสองสามครั้ง สี หน้ า


คล้ายกับครุ่นคิดบางสิ่ ง อากัปกริยาแน่ นิ่งเช่ นนี้นานถึงห้ านาทีเต็ม
หลังจากนั้น มันหันหลังเดินกลับเข้ าด้ านในเรื อ แต่ ก่อนที่ร่าง
จะแทรกผ่ านเข้ าไป บุรุษผมทองสวมเสื้ อคลุมปักลวดลายสายฟ้ า
แบบเดียวกับอัลเจอร์ ทาการเดินสวนออกมาพอดี

ชายคนดังกล่ าวชะงักเล็กน้ อยเมื่อเห็นอัลเจอร์ มันกาหมัด


พร้ อมกับเลื่อนแขนขึน้ แนบหน้ าอก ก่อนจะกล่าว

“ขอพายุจงสถิตย์ กับท่ าน”


อัลเจอร์ ตอบกลับด้ วยท่ าทางและถ้ อยคาเดียวกัน ใบหน้ าของ
ชายหนุ่มรูปงามยังคงเรียบเฉย

หลังจากทักทาย อัลเจอร์ เดินต่ อไปยังห้ องพักกัปตันที่อยู่ส่วน


ลึกสุ ดของทางเดินยาว

น่ าประหลาดมาก สองข้ างทางเงียบงันและไม่ ปรากฏสั ญญาณ


สิ่ งมีชีวิต บรรยากาศประหลาดผิดแผกและเงียบงันประหนึ่งป่ าช้ า

เมื่อเปิ ดประตูห้องกัปตันเข้ าไป ด้ านล่ างมีพรมน้าตาลอ่อนนุ่ม


วางต้ อนรับ ด้ านในสุ ดของห้ องมีช้ ันหนังสื อและหิง้ เก็บไวน์

ภาพของหนังสื อปกเหลืองและของเหลวสี แดงคลา้ ภายในขวด


นับว่ าแปลกตาเมื่อส่ องสะท้ อนกับแสงเทียนไขที่วูบวาบภายในห้ อง
บนโต๊ ะที่มีเชิงเทียนไขประดับ อุปกรณ์ มากมายวางเรียงราย
ระเกะระกะ ประกอบไปด้ วยขวดหมึก ปากกาขนนก กล้องส่ อง
ทางไกลโลหะ และเครื่ องวัดระยะสาหรับเดินเรื อ

หน้ าโต๊ ะตัวดังกล่าว ชายวัยกลางคนผิวขาวซีดกาลังนั่งบน


เก้าอีใ้ นสภาพหันหลัง เหนือศีรษะของมันสวมหมวกกัปตันสี ดาที่มี
สั ญลักษณ์ กระโหลกสี ขาว

เมื่ออัลเจอร์ เดินเข้ าไปใกล้ ชายปริศนาได้ แผดเสี ยงตะโกนด้ วย


น้าเสี ยงหวาดผวา

“คราวนีฉ้ ันไม่ ยอมแพ้แน่ !”

“ขอให้ ทาสาเร็จนะ”

อัลเจอร์ กล่าวด้ วยน้าเสี ยงสุ ขุมราบเรียบประหนึ่งกาลังถามไถ่


สภาพอากาศ

“นี่แก…”

ชายคนดังกล่ าวผงะกับคาตอบที่ไม่ คาดฝัน

ทันใดนั้น เพียงพริบตาที่อัลเจอร์ โน้ มตัวลงด้ านหน้ า ร่ างกาย


ของมันพลันพุ่งไปถึงสุ ดมุมห้ องอีกฟากฝั่งในพริบตาราวกับ
ระยะทางห่ างแค่ ฝ่ามือ
ปึ ด!

ทุกส่ วนของแขนขวาอัลเจอร์ เริ่มขยายขนาด ฝ่ ามือบีบคว้ า


ลาคอชายสวมหมวกกัปตันไว้ แน่ นถนัด

หลังมือขวาปรากฏเกล็ดปลาสี เขียวขณะออกแรงบีบลาคอ
เหยื่อ อีกฝ่ ายไม่ มีโอกาสแม้ แต่ จะตอบโต้ หรื อขัดขืน

กร็อบ!

เมื่อสิ้นเสี ยงกระดูกหัก ดวงตาของชายสวมหมวกกัปตันพลัน


เหลือกขึน้ ร่ างกายถูกยกลอยจากพื้น

แข้ งขาสั่ นกระตุกรุนแรงก่ อนจะแน่ นิ่งภายในไม่ กี่อึดใจ ดวงตา


เบิกโพลงและเหม่ อลอย หว่ างขามีของเหลวไหลเปี ยกซึมกางเกง

อัลเจอร์ ยกร่ างชายคนดังกล่าวพร้ อมกับเดินมายังกาแพงห้ อง


อีกฝั่ง

โครม!

มันออกแรงชกใส่ กาแพงไม้ โดยฝ่ ามือมหึมายังคงคว้ าร่ างเหยื่อ


ไว้ ท้ังอย่ างนั้น
กาแพงไม้ แหลกละเอียดจนเกิดรูโหว่ ฝนเย็นยะเยียบสาดเทเข้ า
มาในห้ องพร้ อมกับกลิ่นของทะเลที่ค้ นุ เคย

อัลเจอร์ โยนศพเหยื่อออกนอกเรื อ ร่ างมันปะทะเข้ ากับคลื่นที่


ใหญ่ ยักษ์ ราวกับภูเขา

สายลมด้ านนอกยังคงร้ องโหยหวนระงมท่ ามกลางความมืด


มิด เป็ นภาพของธรรมชาติที่น่าสะพรึงกลัวราวกับจะกลืนกินทุก
สรรพสิ่ งให้ หายไปอย่ างถาวร
อัลเจอร์ หยิบผ้ าเช็ดหน้ าสี ขาวออกมาจัดแจงเช็ดฝ่ ามือขวาจน
สะอาด ก่อนจะโยนทิง้ ลงทะเลตามหลังไป

มันก้าวถอยหลังและรอคอยให้ ใครสั กคนเปิ ดประตูเข้ ามาอย่ าง


ใจเย็น

ไม่ ถึงสิ บวินาที บุรุษผมทองคนเดิมผลักประตูห้องเข้ ามาด้ วยสี


หน้ าตื่นตระหนกพร้ อมกับเอ่ยปากถาม

“เกิดอะไรขึน้ ?”

“‘กัปตัน’ หนีไปแล้ว”

อัลเจอร์ ตอบด้ วยสี หน้ าเฉยชา


“ไม่ คิดว่ าจะยังเหลือพลังผู้วิเศษอยู่อีก”

“บ้ าจริง!”

บุรุษผมทองสบถเสี ยงค่ อย จากนั้นก็เดินมาใกล้รอยแตก


บริเวณกาแพงไม้ สายตากวาดมองออกไปด้ านนอกเรื อ แต่ สิ่งที่เห็น
มีเพียงคลื่นทะเลและลมฝน

“ช่ างเถอะ เจ้ านั่นก็แค่ ตัวประกอบ”


ชายผมทองกล่าวพลางโบกมือ

“แค่ พวกเราค้ นพบเรื อผีสิงแห่ งยุค ‘ทูดอร์ ’ ลานี้ ก็มากพอจะ


รับทรัพย์ ก้อนโตกันแล้ว”

ต่ อให้ ตัวมันเป็ นผู้พทิ ักษ์ สมุทร ก็คงไม่ กล้าลงไปแหวกวายใน


ผืนทะเลอันเกรี้ยวกราดดุจดั่งขุมนรกเช่ นนี้แน่

“หากสภาพอากาศยังไม่ ดีขนึ้ ‘กัปตัน’ คงหมดทางรอดแล้ว”

อัลเจอร์ กล่าวพร้ อมกับพยักหน้ าเห็นด้ วย

ขณะเดียวกัน รูโหว่ บนกาแพงไม้ เริ่มซ่ อมแซมตัวเองด้ วย


ความเร็วอันน่ าเหลือเชื่ อ
อัลเจอร์ จ้องกาแพงที่กาลังสมานตัวเองอยู่พกั หนึ่ง ก่อนจะหัน
ไปมองยังตาแหน่ งของหางเสื อและใบเรื อด้ วยความเคยชิ น

ถึงจะมีมีกาแพงไม้ ขวางกั้นอยู่หลายชั้นระหว่ างห้ องพักกัปตัน


และหางเสื อ แต่ อัลเจอร์ กลับมองเห็นทุกสิ่ งอย่ างทะลุปรุโปร่ ง

เรื อลา้ นีไ้ ม่ มีต้นเรื อ ต้ นหน หรื อรองต้ นหนคอยควบคุมแม้ แต่


คนเดียว…

ทว่ า ท่ ามกลางความว่ างเปล่าไร้ สัญญาณสิ่ งมีชีวิต หางเสื อและ


ใบเรื อกลับขยับได้ เองอย่ างน่ าพิศวง

เมื่อสงบจิตใจได้ อัลเจอร์ จินตนาการถึง ‘เดอะฟูล’ ผู้ปรากฏ


กายท่ ามกลางสายหมอกครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาวอย่ างอ่ อน
แรง

มันหันหลังกลับไปมองคลื่นทะเลสุ ดเกรี้ยวกราดด้ านนอกอีก


ครั้ง ก่อนจะราพึงกับตัวเองด้ วยน้าเสี ยงหวาดผวาดเจือคาดหวัง

“ยุคใหม่ เริ่มต้ นขึน้ แล้วสิ นะ…”


ณ อาณาจักรโลเอ็น กรุ่งเบ็คลันด์
ย่ านจักรพรรดินี

ออเดรย์ ·ฮอลล์กาลังหยิกแก้มเพื่อพิสูจน์ ว่าเหตุการณ์ เมื่อครู่


ไม่ ใช่ ฝันไป

บนโต๊ ะเครื่ องแป้งด้ านหน้ า กระจกทองแดงเก่าแตกละเอียด


เป็ นชิ้นเล็กชิ้นน้ อย

ออเดรย์ ชาเลืองสายตามองหลังมือของตน—แสงสี กาลังแดง


หมุนวนรอบตัวเองคล้ายกับดวงดาว ประหนึ่งรอยสั กที่มีชีวิตก็มิ
ปาน

เพียงไม่ นาน สั ญลักษณ์ สีแดงเข้ มได้ ซึมหายเข้ าไปในผิวหนัง

เมื่อเห็นเช่ นนี้ เธอมั่นใจแล้ วว่ าเรื่ องราวเมื่อครู่ไม่ ใช่ ความฝัน

ดวงตากาลังส่ องประกาย มุมปากแสยะยิม้ อย่ างมีความสุ ข ออ


เดรย์ จับชายกระโปรงพร้ อมกับถอนสายบัวให้ อากาศวางเปล่า
จากนั้นก็เริ่มเต้ นราอย่ างมีความสุ ขไปรอบห้ อง—เป็ นการราท่ วงท่ า
‘เอลฟ์ โบราณ’ ซึ่งนิยมในหมู่ราชวงศ์ และขุนนางชั้นสู ง

รอยยิม้ ของเธอช่ างสดใส


สี หน้ าท่ าทางร่ าเริงสุ ดขีด
ก็อก! ก็อก!

ใครบางคนเคาะประตูห้องนอน

“ใครกัน?”

ออเดรย์ หยุดเต้ น ขณะส่ งเสี ยงถาม มือทั้งสองข้ างรีบจัดแจง


ชุดเดรสให้ เรียบร้ อย

“คุณหนู ให้ ดิฉันเข้ าไปได้ ไหม? ถึงเวลาแต่ งตัวเตรียมเข้ าร่ วม


พิธีเฉลิมเฉลองแล้วค่ ะ”

ออเดรย์ เหลือบมองโต๊ ะเครื่ องแป้งที่กระจกเงาแหลกละเอียด


รอยยิม้ กว้ างบนใบหน้ าเริ่มจางหาย แต่ ยังเหลือซ่ อนไว้ ด้วยยิม้ มุม
ปากอย่ างซุกซน

เมื่อมัน่ ใจว่ าทุกอย่ างเรียบร้ อยดี เธอหันไปส่ งเสี ยงตอบ

“เข้ ามาได้ ”

ลูกบิดประตูถกู หมุน แอนนี่—สาวใช้ ส่วนตัวของออเดรย์ ผลัก


ประตูห้องเข้ ามา

“ตายแล้ว กระจกแตก…”
แอนนี่กล่าวด้ วยสี หน้ าตกตะลึงหลังจากเปิ ดประตูเข้ ามาเห็น
สภาพโต๊ ะเครื่ องแป้ง

ออเดรย์ รีบกระพริบตาปริบๆ

“เอ่อ… ช…ใช่ แล้ว! เป็ นฝี มือซูซี่! เมื่อครู่เพิง่ เข้ ามาป่ วนใน
ห้ อง คุณก็น่าจะรู้ใช่ ไหมว่ าซูซี่เป็ นนักทาลายข้ าวของ!”

ซูซี่คือโกลเด้ นรีทรีเวอร์ พนั ธุ์ทางซึ่งตระกูลฮอลล์ได้ รับเป็ น


ของแถมเมื่อครั้งบิดาของเธอ—เคาต์ ฮอลล์ ซื้อจิง้ จอกล่าเนื้อ

ซึ่งออเดรย์ ชื่นชอบซูซี่มาก

“คุณหนูควรฝึ กวินัยมันบ้ างนะคะ”

แอนนี่กล่าวพลางเดินเข้ ามาเก็บเศษกระจกที่อาจทาอันตราย
กับคุณหนู

หลังจากห้ องเรียบร้ อย แอนนี่หันมากล่าวกับออเดรย์

“คุณหนูจะใส่ ชุดไหนไปร่ วมงานคะ?”

ออเดรย์ ครุ่นคิดก่อนจะมอบคาตอบ
“อยากใส่ ชุดที่คุณนายจีเนียร์ มอบให้ เป็ นของขวัญวันเกิดอายุ
17”

“ไม่ ได้ นะคะ คุณหนูห้ามใส่ ชุดซ้าเข้ าร่ วมงานพิธีใหญ่ เด็ดขาด


ไม่ อย่ างนั้น ตระกูลฮอลล์อาจถูกถากถางว่ าเป็ นขุนนางตกยากได้ ”

แอนนี่ปฏิเสธพร้ อมกับส่ ายศีรษะ

“แต่ ฉันชอบนี่นา”

ออร์ เดรย์ ดื้อเงียบ

“คุณหนูสามารถใส่ มันที่บ้านหรื อไม่ ก็งานพิธีไม่ สาคัญได้ ค่ะ”

แอนนี่หนักแน่ น ไม่ ยอมให้ อีกฝ่ ายต่ อรอง

“งั้นเอาเป็ น… เดรสแขนยาวลายบัวที่มิสเตอร์ ไซดีสมอบให้


เมื่อสองวันก่อน”

ออเดรย์ ตอบกลับพร้ อมรอยยิม้

“ยังรสนิยมดีเหมือนเดิมนะคะ”

แอนนี่ชื่นชม จากนั้นก็เดินออกไปที่ประตูและส่ งเสี ยงตะโกน


“ห้ องเสื้ อที่หก! อ๊ะ ช่ างเถอะ เดี๋ยวฉันไปจัดการเอง”
สาวใช้ เริ่มทางานอย่ างขยันขันแข็ง เครื่ องแต่ งกายทั้งหมดของ
เธอ ทั้งเดรส เครื่ องประดับ รองเท้ า หมวก เครื่ องสาอาง รวมถึง
ทรงผม ทั้งหมดถูกจัดแจงเป็ นระเบียบเรียบร้ อย

เมื่อทุกสิ่ งใกล้เสร็จสรรพ เคาต์ ฮอลล์ปรากฏตัวหน้ าประตูห้อง


ในเสื้ อกั๊กสี น้าตาล

มันสวมหมวกสี เดียวกับเสื้ อ หนวดเหนือริมฝี ปากถูกตัดแต่ ง


อย่ างสง่ างาม ดวงตาสี ฟ้าครามเปี่ ยมด้ วยความร่ าเริง

น่ าเสี ยดายที่ความหล่อเหล่าในวัยหนุ่มถูกทาลายด้ วยขนาด


รอบเอวที่เพิม่ ขึน้ ริ้วรอยบนใบหน้ า และท่ อนแขนที่ลีบเล็กลง

“อัญมณีที่เจิดจรัสที่สุดแห่ งเบ็คลันด์ เอ๋ย! ถึงเวลาออกเดินทาง


กันแล้ว!”

เคาต์ ฮอลล์กล่าวพลางเคาะประตูสองครั้ง

“ท่ านพ่อ! หยุดเรียกหนูแบบนั้นสั กที”

ออเดรย์ พยายามดิน้ รนขณะถูกสาวใช้ จับแต่ งตัว

“งั้นเอาใหม่ … ได้ เวลาออกเดินทางแล้ว องค์ หญิงสุ ดเลอโฉม


ของพ่อ!”
เคาต์ ฮอลล์กล่าวพร้ อมยกแขนซ้ ายตั้งฉากกับพื้น เป็ นนัยให้
บุตรสาวเดินเข้ ามาควงแขน

ออเดรย์ รีบส่ ายศีรษะ

“นั่นไว้ สาหรับคุณแม่ เคาต์ เทสฮอลล์”

“ถ้ างั้นก็ข้างนี”้
เคาต์ ฮอลล์ยกแขนขวาขึน้ แทน ก่อนจะกล่าวด้ วยรอยยิม้

“นี่สาหรับเจ้ า ความภูมิใจสู งสุ ดของพ่อ”

ณ ฐานทัพเรื อหลวง
ท่ าเรื อพริสต์

ขณะออเดรย์ จูงแขนบิดาลงจากรถม้ าหรูหรา นัยน์ ตาของสาว


น้ อยพลันเบิกโพลงเมื่อได้ เห็นวัตถุขนาดมหึมาเบื้องหน้ า

ท่ าเรื ออยู่ไม่ ห่างจากจุดจอดรถม้ านัก


เรื อมหึมาลาหนึ่งกาลังถูกวางในจุดเตรียมปล่อย รอบลาเรื อ
ส่ องแสงโลหะระยิบระยับเงางาม เพดานเรื อไม่ มีใบเรื ออย่ างที่ควร
เปลี่ยนเป็ นหอบังคับการและปล่องไฟขนาดใหญ่ สองปล่องแทน
ท้ ายเรื อมีปืนใหญ่ สุดน่ าเกรงขามสองกระบอกติดตั้ง

ขนาดของเรื อมโหฬารชนิดที่เรื อใบด้ านข้ างลีบเล็กประหนึ่ง


คนแคระยืนข้ างยักษา

“ข้ าแต่ เทพแห่ งวายุสลาตัน…”

“สุ ดยอด…”

“เรื อรบจักรไอน้า!”

ท่ ามกลางความฮือฮา แม้ แต่ ออเดรย์ ยังตื่นตะลึงในความ


ยิ่งใหญ่ ของสิ่ งที่มนุษย์ สร้ างขึน้ นับเป็ นปาฏิหาริย์แห่ งท้ องทะเลที่
เธอไม่ เคยพบเจอมาก่อน

ใช้ เวลาอยู่พกั ใหญ่ กว่ าเหล่าขุนนาง รัฐมนตรี และสมาชิกสภา


จะกลับสู่ ความสงบ แต่ หลังจากนั้นไม่ นาน จุดดาใหม่ ได้ ปรากฏ
เหนือท้ องฟ้ าท่ าเรื อ

ยิ่งเวลาผ่ านไป ขนาดของจุดขยายขึน้ ทุกขณะ จนกระทั่งปก


คลุมหนึ่งในสามของท้ องฟ้ าด้ านบน
จักรกลลอยฟ้ าขนาดหมึมาที่มีท่อพ่นไอน้าวิจิตรงดงาม มัน
กาลังลอยตัวกลางอากาศอย่ างน่ าพิศวงในสายตามนุษย์ ด้านล่ าง

ภายนอกถูกตกแต่ งด้ วยสี น้าเงินเข้ ม ถุงลมรอบเครื่ องทาจาก


ฝ่ ายผสมอัลลอยเป็ นโครง ส่ งผลให้ น้าหนักเบาแต่ แข็งแรง

ด้ านล่างเรื อบินมีปีนกลขนาดใหญ่ ถูกติดตั้งเคียงข้ างกับเครื่ อง


ยิงกระสุ น เสี ยงเครื่ องยนต์ กาลังคารามสนั่น สอดประหลาดกับการ
หมุนของใบพัดด้ านหลังอย่ างลงตัว

ฉากเบื้องหน้ าได้ สะกดทุกคนจนอยู่หมัด

ราชาและสมาชิกราชวงศ์ เริ่มยืนปรากฏตัวโบกไม้ โบกมือบน


จักรกลลอยฟ้ าประจาตระกูลพวกมัน บรรยากาศรอบตัวราชาจอร์ จ
ที่สามเปี่ ยมด้ วยบารมีและความน่ าเกรงขามเป็ นล้นพ้น

ข้ างลาเรื อลอยฟ้ ามีตราสั ญลักษณ์ ดาบขนาดใหญ่ สองเล่ม คม


ดาบตั้งตรงปักพื้น ด้ ามจับทาจากมงกุฏทับทิม

นี่คือตรา ‘ดาบแห่ งคุณธรรม’ ซึ่งเป็ นสั ญลักษณ์ ของตระกูล


‘ออกัสตัส’ ที่สืบสายเลือดยาวนานมาตั้งแต่ ยุคสมัยที่สี่

ออเดรย์ ยังมีอายุไม่ ถึงสิ บแปด จึงไม่ ต้องเข้ าร่ วม ‘พิธีแนะนา


ตัว’ ซึ่งราชินีเป็ นผู้กาหนดขึน้
พิธีแนะนาตัว—เพื่อให้ แวดวงชนชั้นสู งของเบ็คลันด์ มีโอกาส
พบปะและรู้จักกันอย่ างทั่วถึง ขุนนางที่อายุครบ 18 ปี ทุกคนต้ อง
เข้ าร่ วมอย่ างมิอาจปฏิเสธ

ด้ วยเหตุนี้ ออเดรย์ จึงทาเพียงยืนมองพิธีดาเนินไปอย่ างเงียบ


งันอยู่ด้านหลังด้ านหลัง

อันที่จริง เธอชื่ นชอบความเงียบสงบเช่ นนีม้ ากกว่ า ออเดรย์ มัก


ไม่ พอใจเวลาถูกเหล่าองค์ ชายพัวพัน

‘ปาฏิหาริย์แห่ งท้ องฟ้ า’ จากฝี มือมนุษย์ ทาการลงจอดอย่ าง


นุ่มนวล คนกลุ่มแรกที่ก้าวออกจากประตูคือเหล่าองครักษ์ หนุ่ม
จานวนมากในชุดงานพิธีสีแดงสด กางเกงขายาวสี ขาว เหรียญตรา
ประดับประดาเต็มอก ในมือถือปื นไรเฟิ ล

กลุ่มองครักษ์ หนุ่มเดินออกมาและรีบตั้งขบวนต้ อนรับ


หลังจากนั้น เหล่าราชวงศ์ ทาการเดินเรียงแถวเดินออกจากเรื อบิน
ตามลาดับ ไล่เรียงจากราชาจอร์ จที่สาม ราชินี องค์ ชาย และองค์
หญิง

ออเดรย์ ไม่ ชื่นชอบการพบปะผู้คน เธอจึงไม่ สนใจพิธีรีตรอง


แม้ แต่ น้อย กลับกัน ความสมาธิของสาวน้ อยกาลังเพ่งไปยังอัศวิน
ม้ าเกราะดาสนิทที่เดินขนาบสองข้ างราชา
ในยุคสมัยของเหล็ก ไอน้า และปื นใหญ่ เช่ นนี้ ค่ อนข้ าง
ประหลาดไม่ น้อยที่ยังมีทหารสวมเกราะหนักเต็มพิกัดอยู่

ชุดเกราะที่เงางามทั่วร่ างกายได้ มอบความรู้สึกแข็งแกร่ งดุดัน


แก่ผ้ ูพบเห็น

“จะใช่ พาลาดินวินัยรึเปล่านะ...”

ออเดรย์ มักแอบฟังบทสนทนาของผู้ใหญ่ บ่อยครั้ง… ถึงจะเกิด


ความสงสั ยใครครู่ แต่ เธอก็ไม่ กล้าเข้ าไปชมในระยะใกล้

พิธีเริ่มต้ นอย่ างเป็ นทางการเมื่อตระกูลราชวงศ์ เสด็จถึง ทันใด


นั้น ผู้ดารงตาแหน่ งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน—อากัส·นีแกน ก้าว
ขาออกมาด้ านหน้ าสุ ด

มันสั งกัดพรรคอนุรักษ์ นิยม และเป็ นนายกรัฐมนตรีคนที่สอง


ที่ไม่ ได้ มาจากสถานะขุนนาง

อากัส·นีแมน—หลังจากสร้ างคุณประโยชน์ ให้ อาณาจักรมา


นาน ในที่สุดมันก็ได้ รับพระราชทานคานาหน้ าชื่ อด้ วย ‘ลอร์ ด’

ลอร์ ดอากัส·นีแกน

ออเดรย์ ยังทราบด้ วยว่ า ผู้สนับสนุนสาคัญของพรรคอนุรักษ์


นิยม คือดยุคคนปัจจุบันแห่ งตระกูลนีแกน—พาลัส·นีแกน ซึ่งเป็ น
พีช่ ายบังเกิดเกล้าของอากัสนั่นเอง

อากัสมีรูปร่ างผอมเพรียว กึ่งกลางศีรษะล้านเหลือด้ านข้ างไว้


เล็กน้ อย เป็ นภาพลักษณ์ ทั่วไปของชายวัยห้ าสิ บ

มันกวาดสายตาเล็กน้ อยก่อนจะเปล่งเสี ยง

“สุ ภาพบุรุษและสุ ภาพสตรีท้งั หลาย กระผมมีความยินดีเป็ น


อย่ างยิ่ง ที่ทุกท่ านจะได้ เป็ นสั กขีพยานในพิธีปล่อยเรื อรบจักรไอน้า
แห่ งประวัติศาสตร์ มวลมนุษย์ ! ความยาวของหล่อนคือ 101 เมตร
กว้ าง 21 เมตร กราบขวาเรื อถูกออกแบบด้ วยเทคโนโลยีอันยอด
เยี่ยมสาหรับจอดเทียบท่ า แผ่ นเหล็กรอบลาเรื อมีความหนา 457
มิลลิเมตร ระวางขับ 10,060 ตัน ปื นหลักขนาด 305 มิลลิเมตร 4
กระบอก ปื นใหญ่ ระดมยิง 6 กระบอก ปื นใหญ่ หกปอนด์ 12
กระบอก ปื นใหญ่ หกลากล้อง 18 กระบอก และเครื่ องยิงตอร์ ปิโด
อีก 4 กระบอก ความเร็วสู งสุ ด 16 น็อต!”

“หล่อนคือราชินีแห่ งท้ องทะเลตัวจริง!”

ฝูงชนถูกเร้ าอารมณ์ ลาพังคาอธิบายก็มากพอจะสร้ างความ


ตื่นเต้ นได้ แล้ว แต่ นี่กลับมีของจริงปรากฏอยู่เบื้องหน้ า

อากัสกล่าวอีกสองสามประโยคก่อนจะหันไปแสดงความ
เคารพต่ อราชา จากนั้นก็เอ่ยปากขอรบกวน
“ฝ่ าบาท ได้ โปรดประทานนามให้ หล่อนด้ วยขอรับ!”

“ในเมื่อมันถูกปล่อยลงทะเลครั้งแรกที่ท่าเรื อพริสต์ เราขอตั้ง


ชื่ อมันว่ า… เดอะพริสต์ ”

เมื่อกล่าวจบ ราชาจอร์ จแสดงสี หน้ าโล่ งใจ

“เดอะพริสต์ !”

“เดอะพริสต์ !”

ถ้ อยคาตะโกนเริ่มกระจายตั้งแต่ นายกรัฐมนตรี ไปถึงพลเรื อ


แห่ งกองทัพเรื อหลวง จนกระทั่งถึงหูทหารและลูกเรื อที่ประจาการ

ทุกคนร่ วมเปล่งเสี ยงพร้ อมกันอย่ างยินดีว่า

“เดอะพริสต์ !”

หลังจากราชาจอร์ จที่สามทาพิธีส่งเรื อลงทะเล เสี ยงปื นยิงสลุต


เริ่มขึน้ พร้ อมกับบรรยากาศเฉลิมฉลอง

ปู๊ น—!
ควันขาวพวยพุ่งจากปล่องไฟมหึมาด้ านบน เสี ยงเครื่ องจักร
ดังกังวลไปพร้ อมกับแตรเรื อ

หลังจากวัตถุมหึมาถูกส่ งลงทะเลเรียบร้ อย ทุกคนต่ างทึ่งเมื่อ


ปื นใหญ่ ท้ายเรื อทาการยิงไปยังไปเกาะร้ างที่ไม่ ห่างออกไปนัก

บึม้ ! บึม้ ! บึม้ !

ผืนดินสั่ นสะเทือน ฝุ่ นควันคละคลุ้งทั่วเกาะ เกิดคลื่นกระแทก


จากปากกระบอกปื นจนน้าทะเลสั่ นกระเพื่อม

อากัสอมยิม้ อย่ างพึงพอใจ จากนั้นก็หันมากล่าวกับฝูงชน

“นับแต่ นไี้ ป หายนะจะคืบคลานเข้ าหาโจรสลัดทั้งเจ็ดที่บังอาจ


เรียกตัวเองว่ า—นายพลโจรสลัด และอีกสี่ โจรสลัดที่บังอาจเรียก
ตัวเองว่ า—ราชาโจรสลัด พวกมันต้ องสั่ นระริกด้ วยความ
หวาดกลัวเมื่อเผชิญหน้ ากับเดอะพริสต์ !

“หลังสิ้นสุ ดยุคสมัยปัจจุบัน บนท้ องทะเลจะมีเพียงเรื อจักรไอ


น้าปกครองผืนสมุทร! ไม่ สนว่ าพวกโจรสลัดจะพึง่ พาพลังวิเศษ
เรื อผีสิง หรื อเรื อต้ องสาปก็ตาม!”

เลขาส่ วนตัวของอากัสส่ งเสี ยงถาม


“แล้วพวกมันสร้ างเรื อจักรไอน้าเองไม่ ได้ หรื อ?”
ขุนนางหลายคนรวมถึงสมาชิกสภาล้วนพยักหน้ าเห็นด้ วย
ความเป็ นไปได้ ดังกล่าวมิอาจถูกมองข้ าม

อากัสฉีกยิม้ พร้ อมกับส่ ายศีรษะ


มันอธิบายต่ อไป

“นั่นไม่ มีทางเกิดขึน้ แน่ นอน! และจะไม่ มีทางเกิดขึน้ ตลอดไป!


การสร้ างเรื อรบจักรไอน้าต้ องใช้ เหมืองถ่ านหินขนาดใหญ่ 3 แห่ ง
ต้ องใช้ เครื่ องผสมเหล็กกล้าเทียบเท่ าโรงงานเหล็ก 20 แห่ ง ต้ องใช้
นักวิทยาศาสตร์ และช่ างเทคนิคหัวกะทิกว่ า 60 คนจากหน่ วย
งานวิจัยปื นใหญ่ เบ็คลันด์ และหน่ วยงายวิจัยทางทะเล ต้ องใช้ อ่ตู ่ อ
เรื อหลวงถึงสองแห่ ง ต้ องใช้ วัสดุจิปาถะจากโรงงานโลหะอีกกว่ า
ร้ อยแห่ ง ต้ องผ่ านการเห็นชอบจากจอมพลเรื อ คณะกรรมการต่ อ
เรื อ สภาสู ง ราชาที่มีวิสัยทัศน์ กว้ างไกล รวมถึงต้ องเป็ นอาณาจักร
ยอดเยี่ยมที่มีกาลังผลิตเหล็กกล้า 12 ล้านตันต่ อปี !

“พวกโจรสลัดไม่ มีวันทาได้ !”

เมื่อกล่าวจบ อากัส·นีแกนหยุดเล็กน้ อยก่อนจะชูกาปั้นขึน้ ฟ้ า

“สุ ภาพบุรุษและสุ ภาพสตรีท้งั หลายเอ๋ย… ยุคสมัยของปื น


ใหญ่ และเรื อรบกาลังจะเริ่มขึน้ แล้ว!”
ราชันย์ เร้ นลับ 9 : สมุดบันทึก

หลังจากพักผ่ อนได้ ชั่วโมงครึ่ง โจวหมิงรุ่ยที่ตัดสิ นใจเรียก


ตัวเองว่ าไคลน์ ร่ ายกายของมันเริ่มฟื้ นฟูกลับมาหลายส่ วน

ไคลน์ ชาเลืองมองไปยังหลังมือของตน บนผิวหนังปรากฏจุด


ดาขนาดไม่ ใหญ่ มากจานวนสี่ จุด เรียงตัวกันเป็ นสี่ เหลี่ยมจัตุรัส
ขนาดเล็ก

จุดดาซึมหายเข้ าไปในผิวหนัง ไคลน์ ทราบดีว่า มันไม่ ได้


หายไปถาวร เพียงแต่ รอวันถูกปลุกขึน้ มาใหม่

“สี่ จุด… หมายถึงอาหารที่วางไว้ สี่มุมห้ องอย่ างนั้นหรื อ


หมายความว่ าครั้งหน้ า เราไม่ ต้องเตรียมอาหารแล้วรึไง? แค่ ท่อง
บทสวดพิธีกรรมและเดินก็ทวนเข็มนาฬิ กาพอ…”

ไคลน์ ใช้ ความคิด

ถ้ าเป็ นเช่ นนั้นคงสะดวกสบายขึน้ มาก แต่ ก็ยังไม่ มีสิ่งใดยืนยัน


ว่ าจริง ความไม่ ร้ ูคือบ่ อเกิดความหวาดกลัวเสมอ ทั้งที่เรื่ องที่ เหตุ
ใดพิธีกรรมจีนโบราณถึงมีผลในโลกใบนี้ เหตุใดตนถึงถูกส่ งข้ าม
โลกในตอนที่นอนหลับสนิท เสี ยงโหยหวนขณะทาพิธีเปลี่ยนดวง
ชะตาคือสิ่ งใด? รวมถึงมิติสายหมอกสี เทานั่นอีก
ไคลน์ กาลังยืนสั่ นกลัวแม้ จะเป็ นช่ วงกลางฤดูร้อน

“อารมณ์ ที่เก่าแก่และรุนแรงที่สุดของมนุษย์ คือความกลัวกลัว


และความกลัวที่รุนแรงทีสุดคือการกลัวในสิ่ งที่ไม่ ร้ ูจัก”

ไคลน์ หวนนึกถึงคาคมทีเ่ คยอ่าน

ภายในใจกาลังรู้สึกประหลาด มันต้ องการเรียนรู้สิ่งลีล้ ับของ


โลกให้ มากกว่ านี้ เพราะไม่ ว่าอย่ างไร ตนก็ต้องไขปริศนาและ
หาทางกลับโลกใบเดิมให้ ได้

ไม่ เพียงเท่ านั้น ในใจยังรู้สึกขัดแย้ งกันเองอย่ างพิลึก เมื่อต้ อง


แสร้ งสวมรอยเป็ นไคลน์ ต่อไป และต้ องทาเหมือนกับไม่ มีสิ่งใด
เกิดขึน้

แสงแดดสาดส่ องลงบนโต๊ ะอ่านหนังสื อเบื้องหน้ า สี ของมัน


เหลืองระยิบระยับประหนึ่งมีใครบางคนโปรยผงทองลงไป

ไคลน์ นั่งจ้ องมองโต๊ ะไม้ ด้วยใบหน้ าเหม่ อลอย ในใจเกิดความ


สงบสุ ขชั่วขณะ

มันปล่อยร่ างกายให้ ผ่อนคลายตามธรรมชาติ อาการเหนื่อยล้า


ตามร่ างกายกาลังแผ่ ปกคลุมไปทุกส่ วน
เปลือกตาหนักอึง้ ประหนึ่งถูกมัดหินถ่ วง พวกมันพยายามปิ ด
ตัวเองลงโดยไม่ ฟังคาสั่ งเจ้ าของร่ าง คงเป็ นผลจากการแทบไม่ ได้
นอนทั้งคืน รวมถึงเหตุการณ์ ชวนให้ สิ้นเปลืองพลังงานในช่ วงเช้ า

ไคลน์ ส่ายศีรษะพลางพยุงร่ างขึน้ โดยมีขอบโต๊ ะเป็ นจุดคา้ ยัน


ร่ างกายโงนเงนขณะเดินไปยังเตียงสองชั้น มันทิง้ ตัวลงบนเตียง
โดยไม่ สนใจขนมปังไรย์ สี่ชิ้นที่วางมุมห้ อง

โครก! โครก!

ไคลน์ ได้ สติกลับมาอีกครั้งพร้ อมกับเสี ยงร้ องจากกระเพาะ เมื่อ


ลืมตาขึน้ ร่ างกายรู้สึกสดชื่ นเหมือนกับได้ เกิดใหม่

“ยังปวดหัวนิดหน่ อยแฮะ”

ไคลน์ ลูบขมับอย่ างนุ่มนวลหลังจากพยุงตัวนั่งบนเตียง มัน


กาลังหิวมาก ชนิดที่สามารถกินม้ าได้ ท้งั ตัว!

เมื่อจัดระเบียบเสื้ อผ้ าจนเรียบร้ อย ไคลน์ เดินกลับมาที่โต๊ ะอ่าน


หนังสื ออีกครั้ง นาฬิ กาห้ อยคอใบองุ่นถูกหยิบออกจากกระเป๋าเสื้ อ

กริ๊ก!
กลไกลดีดฝาเปิ ดออกด้ วยสปริง เข็มบอกนาทียังคงเดินเป็ น
ปรกติ

“เที่ยงครึ่ง เราหลับไปสามชั่วโมง…”

มันเก็บนาฬิ กากลับที่เก่าพลางกลืนน้าลายอึกใหญ่

ในหนึ่งวันของทวีปเหนือจะถูกแบ่ งเป็ น 24 ชั่วโมง ชั่วโมงละ


60 นาที และนาทีละ 60 วินาที หรื อก็คือ เหมือนกับโลกเก่าทุก
ประการ นับเป็ นเรื่ องประหลาดที่สร้ างความฉงนและโล่ งใจในเวลา
เดียวกัน

แต่ ในวินาทีนี้ ไคลน์ มิอาจขบคิดหาคาอธิบายให้ กับเรื่ องเหนือ


ธรรมชาติ ไม่ ว่าจะเป็ นความบังเอิญที่เกิดขึน้ หรื อเรื่ องมิติสาย
หมอกสี เทา ในสมองมีเพียงเรื่ องเดียวคือ—อาหาร

ทุกสิ่ งจะถูกครุ่นคิดใหม่ อีกครั้งหลังจากมื้ออาหารจบลง


กองทัพต้ องเดินด้ วยท้ องเท่ านั้น!

ไคลน์ เดินไปหยิบขนมปังไรย์ ที่มุมห้ องทั้งสี่ ชิ้นมาปัดฝุ่ น มัน


ไม่ ลังเลที่จะกินขนมปังซึ่งเป็ นของเซ่ น ในห้ วงเวลาความเป็ นความ
ตาย ทุกสิ่ งที่กินได้ คืออาหาร

ไคลน์ ไม่ สนว่ าที่จะเป็ นของเซ่ นหรื อไม่ เพราะในโลกเก่าเองก็มี


ธรรมเนียมกินของเซ่ นหลังจากไหว้ เสร็จ และเหนือสิ่ งอื่นใด ขนม
ปังก็ยังใหม่ มาก การประหยัดคือสิ่ งที่ดี เพราะเงินในกระเป๋าเหลือ
เพียงห้ าเพนนี่เท่ านั้น

บางที… นี่อาจเป็ นความตระหนี่ที่หลงเหลือมาจากความทรง


จาของไคลน์ ·โมเร็ตติคนเดิม

คงสิ้นเปลืองค่ าแก๊สน่ าดู หากเปิ ดวาล์วแล้วใช้ เพียงให้ แสง


สว่ าง ไคลน์ จึงเดินไปยังครัวเพื่อใช้ แก๊สให้ เกิดประสิ ทธิภาพสู งสุ ด

เตาแก๊สถูกจุด มันวางหม้ อต้ มไว้ ด้านบนพร้ อมกับเทน้าเปล่า


ลงไป ก่อนจะเติมถ่ านและวางขนมปังไรย์ ไว้ ข้างเตา

ไคลน์ เดินวนหน้ าเตานานหลายนาที

ใครก็ตามที่กระเดือกขนมปังบัดซบนั่นเข้ าไปโดยไม่ ทาให้ น่ ุม


ลง รับประกันได้ เลยว่ าต้ องติดคอตายแน่ นอน

เฮ่ อ! ชีวิตที่กินเนื้อได้ เฉพาะมื้อเย็น ช่ างเป็ นชีวิตที่น่าเศร้ านัก


เดี๋ยวก่อน… ถ้ าจาไม่ ผิด เมลิสซ่ าเคยบอกว่ า ครอบครัวโมเร็ตติจะ
กินเนื้อแค่ สัปดาห์ ละสองมื้อเท่ านั้น!

ถ้ าสั มภาษณ์ งานไม่ ผ่าน อนาคตของตนและครอบครัวคง


มืดมนไร้ หนทาง

เมื่อพยายามควานหาของกินรอบห้ องและไม่ พบสิ่ งใด ไคลน์


จาใจต้ องกระเดือกขนมปังไรย์ ตามยถากรรม
ความหิวโหยไม่ เคยปราณีใคร

มันเริ่มเหลือบมองเนื้อแกะข้ างตู้เสื้ อผ้ าที่ซื้อมาเมื่อช่ วงเช้ า แต่


หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ไคลน์ ตัดสิ นใจอดทนรอกินพร้ อมเมลิสซ่ า

ถึงจะแค่ ครึ่งเดียว แต่ การกินก่อนนับเป็ นเรื่ องเสี ยมารยาทมาก

ไคลน์ วางแผนทาอาหารรสเลิศของโลกเก่าให้ เมลิสซ่ าได้ ชิม ถึง


มันจะเคยใช้ ชีวิตโดยการทานอาหารนอกบ้ านบ่ อยครั้ง แต่ ฝีมือการ
ปรุงก็อยู่ระดับพึง่ พาได้

ไม่ เสี ยแรงที่ได้ รับฉายาว่ า—ทาเป็ นทุกอย่ าง แต่ ไม่ เก่งสั กทาง

อาหารฝี มือไคลน์ มิได้ เลิศรสเหมือนภัตตาคาร แต่ รับประกันว่ า


มนุษย์ กินได้ และพึงพอใจ

มันเบือนหน้ าหนีจากเนื้อแกะเพื่อไม่ ให้ ถูก ‘เย้ ายวน’ ไป


มากกว่ านี้ ก่อนจะนึกขึน้ ได้ ว่า เมื่อเช้ าตนได้ ซื้อถั่วและผักติดไม้ ติด
มือกลับมาอีกหลายชนิด

มันฝรั่ง!

เมื่อฉุกคิดได้ ไคลน์ รีบเดินกลับไปยังตู้เสื้ อผ้ าเพื่อนามันฝรั่ง


สองชิ้นออกมาจากกองวัตถุดิบที่มีไม่ มาก
ขั้นแรก ล้างทาความสะอาดมันฝรั่งในห้ องน้ารวม จากนั้นก็
นาไปใส่ ในหม้ อ

เมื่อผ่ านไปสั กพัก ไคลน์ เติมเกลือเหลืองลงในหม้ อ เป็ นเพียง


เครื่ องปรุงเดียวที่ควานหาได้ จากตู้เสื้ อผ้ า

มันยืนรอหน้ าเตาต่ ออีกสองถึงสามนาที ก่อนจะยกหม้ อขึน้


และเท ‘ซุป’ ลงในชาม จากนั้นก็ใช้ ส้อมตักมันฝรั่งต้ มขึน้ จากหม้ อ
และวางลงบนชาม เมื่อเตรียมตัวเสร็จสรรพ ไคลน์ ยกอาหารมาวาง
บนโต๊ ะทานข้ าวให้ เป็ นกิจจะลักษณะ

ฟู่ ววว

มันใช้ ปากเป่ ามันฝรั่งต้ มครู่หนึ่ง ก่อนจะใช้ มือบรรจงปลอก


เปลือกอย่ างปราณีต กลิ่นแสนหอมหวลอันเป็ นเอกลักษณ์ ของมัน
ฝรั่งต้ มโชยฟุ้งทั่วห้ อง ชวนให้ น้าลายสอเป็ นที่สุด

ไคลน์ สวาปามอย่ างบ้ าคลั่ง ไม่ สนอีกแล้วว่ าอาหารจะร้ อนบด


ซบเพียงใด มันใช้ ปากกัดเข้ าไปในเนื้อมันฝรั่งที่ยังปอกเปลือกได้
เพียงครึ่งเดียว

หอมฉิบ!
ผิวสั มผัสนุ่มละมุน รสชาติยิ่งหวานเมื่อยิ่งเคีย้ ว ความสุ ขกาลัง
ปรากฏบนใบหน้ าไคลน์ อย่ างชัดเจน เพียงไม่ นาน มันจัดการกับ
มันฝรั่งทั้งสองชิ้นในพริบตาโดยไม่ เหลือเนื้อติดเปลือก

…ถึงขั้นกินเปลือกเข้ าไปเล็กน้ อย

ถัดมาเป็ นการยกซดน้าซุป เกลือเหลืองที่เติมปรุงลงไปช่ วย


เพิม่ ความสดชื่ นได้ มากทีเดียว

‘มันฝรั่งเคยเป็ นอาหารที่เราในวัยเด็กชอบมาก…’
ไคลน์ คิดเช่ นนีข้ ณะฉีกขนมปังจุ่มลงใน ‘ซุป’ เพื่อทาให้ น่ ุมลง

สงสั ยพิธีกรรมจะทาให้ หิวโหย มันทาการซัดขนมปังสองชิ้นที่


หนักรวมหนึง่ ปอนด์ เรียบในพริบตา

ไคลน์ ร้ ูสึกราวกับได้ เกิดใหม่ อย่ างแท้ จริง ซุปในถ้ วยถูกซดจน


เกลีย้ ง ชีวิตของมันกลับมามีความสุ ขอีกครั้งหลังจากท้ องถูกเติม
เต็ม

เมื่อเก็บกวาดทาความสะอาดเสร็จ ไคลน์ เดินกลับไปที่หน้ าต่ าง


เพื่อรับแสงตะวันแสนอบอุ่นด้ านนอก

หลังจากทุกอย่ างเข้ าสู่ ภาวะสงบ มันเดินกลับมานั่งบนเก้าอีไ้ ม้


พร้ อมกับครุ่นคิด
“เราคงหนีโชคชะตาไม่ ได้ การจะหาทางกลับต้ องศึกษาเรื่ องลี้
ลับให้ มากกว่ านี้ และการเป็ น ‘ผู้วิเศษ’ ที่แฮงแมนกับจัสติสพูดถึงก็
นับเป็ นสิ่ งสาคัญไม่ แพ้กัน

“ต้ องขจัดความกลัวที่เกิดจากความไม่ ร้ ู

“ทางเดียวของเราในตอนนีค้ ือ… รอให้ ถึงชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์


สั ปดาห์ หน้ า จากนั้นก็แอบฟังสู ตรการผสมโอสถ ‘ผู้ชม’ รวมถึงหา
ข่ าวเกี่ยวกับเรื่ องลึกลับของโลกใบนี”้
“เหลืออีกสี่ วันกว่ าจะถึงวันจันทร์ ก่อนหน้ านั้นต้ องสื บหาให้
ได้ ก่อนว่ า ทาไมไคลน์ ถึงฆ่ าตัวตาย และเกิดอะไรขึน้ กับเขากันแน่ ”

เมื่อตัดสิ นใจพักการกลับโลกเก่าไว้ ชั่วคราว ไคลน์ เดินไปยัง


ห้ องน้าเพื่อล้างมือ และกลับมานั่งลงบนเก้าอีไ้ ม้ ตัวเดิม

สมุดบันทึกของไคลน์ ตัวจริง บางทีอาจมีเบาะแสในการฆ่ าตัว


ตายรวมถึงความทรงจาในอดีตเขียนไว้

ไคลน์ ตัวจริงมีนิสัยชอบจดบันทึก โดยเฉพาะในรูปแบบไดอารี

มันชาเลืองมองตู้เก็บของที่วางฝั่งขวามือของโต๊ ะ ด้ านในบรรจุ
ไดอารีเก่าหลายเล่มที่เขียนจนครบทุกหน้ ากระดาษ
ด้ านสมุดเล่มบนโต๊ ะ เรื่ องราวถูกบันทึกไว้ ต้งั แต่ วันที่ 10
เมษายน เนื้อหาส่ วนใหญ่ เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยและอาจารย์ รวมถึง
ความรู้ทั่วไปเล็กน้ อย

“วันที่ 12 เมษายน มิสเตอร์ อะซิก เล่าว่ า ภาษาที่นิยมในใช้


จักรวรรดิไปลันของทวีปใต้ ถูกพัฒนามาจากภาษาฟุซัคโบราณ ซึง
ถือมีรากฐานจากภาษายักษ์ แขนงหนึ่ง… เรื่ องนีห้ มายความว่ า
อย่ างไร? สิ่ งมีชีวิตทุกชนิดในอดีตใช้ ภาษาเดียวกันอย่ างนั้นหรื อ?
ไม่ เลย ไม่ ใช่ แบบนั้นแน่ เพราะจากบันทึก ‘พระคัมภีร์แห่ ง
รัตติกาล’ และ ‘บันทึกแห่ งวายุสลาตัน’ ได้ ระบุไว้ ชัดเจนว่ า เผ่ าคน
ยักษ์ ไม่ ใช่ สิ่งมีชีวิตประเภทเดียวที่มีพลังอานาจในยุคบรรพกาล
สมัยนั้นยังมีเอลฟ์ สั ตว์ ประหลาด รวมถึงมังกร… แต่ ในความเป็ น
จริง ไม่ เคยมีหลักฐานปรากฏว่ าสิ่ งมีชีวิตเหล่านั้นเคยอาศัยอยู่ อาจ
เป็ นเพียงเรื่ องแต่ งในนิยายก็ได้ ”

“วันที่ 16 เมษายน รองศาสตราจารย์ อาวุโสโคเฮนและมิสเตอร์


อะซิกสนทนากันในหัวข้ อ ‘ยุคแห่ งไอน้า’ ที่มนุษย์ มิอาจหลีกเลี่ยง
มิสเตอร์ อะซิกให้ ความเห็นว่ า ยุคไอน้าเป็ นเรื่ องบังเอิญอย่ างแท้ จริง
เพราะหากโลกไม่ มีมหาจักรพรรดิโรซายล์ ทวีปเหนือก็ยังคงกวัด
แกว่ งดาบสู้ รบกันไม่ ต่างจากทวีปใต้ … การโต้ เถียงระหว่ างอาจารย์
กับมิสเตอร์ อะซิกเป็ นไปอย่ างดุเดือดและออกรส อาจารย์ ได้ ให้
ความเห็นว่ า ต่ อให้ ไม่ มีจักรพรรดิโรซายล์ แต่ ก็คงมีจักรพรรดิโร
เบิร์ตหรื อใครสั กคนปรากฏตัวขึน้ และทาแบบเดียวกัน ยุคสมัยแห่ ง
ไอน้าคืออนาคตที่ต้องมาถึงในสั กวันอยู่แล้ว… แต่ ทาไมเราถึงไม่
รู้สึกตื่นเต้ นกับหัวข้ อสนทนาสั กเท่ าไร บางที อาจเป็ นเพราะเราไม่
เหมาะกับการเรียนสาขาประวัติศาสตร์ เราชอบที่จะขุดคุ้ยความลับ
ในอดีตมากกว่ าอนาคต รู้แบบนีล้ งเรียนสาขาโบราณคดีก็ดี”

“วันที่ 29 เมษายน เวิร์ชมาหาเราและบอกว่ า เขาเพิง่ ได้ สมุด


บันทึกหายากจากยุคสมัยที่สี่เมื่อไม่ นานมานี้… หนังสื อยุคสมัยที่สี่
เชียวนะ! พระเจ้ า! เวิร์ชไม่ ต้องการให้ คนนอกทราบเรื่ องนี้ จึงไม่ ได้
ขอร้ องให้ อาจารย์ สาขาโบราณคดีช่วยตรวจสอบ แต่ เขาเลือกเรากับ
นาย่ าให้ ช่วยถอดรหัสสมุดบันทึกเล่มนีแ้ ทน… ใครจะปฏิเสธลง?
แต่ แน่ นอน ไว้ ค่อยทาหลังจากสอบโปรเจคจบเรียบร้ อยแล้ว เราไม่
ควรแบ่ งสมาธิไปทาเรื่ องอื่นในช่ วงเวลาสาคัญ”

เมื่ออ่านจบ ไคลน์ เริ่มให้ ความสนใจกับเนื้อหา สาเหตุที่ไคลน์


คนก่อนฆ่ าตัวตายคงไม่ เกี่ยวกับการถกเถียงของอาจารย์ แต่ มาจาก
สมุดบันทึกปริศนาจากยุคสมัยที่สี่

ยุคสมัยที่สี่ต้องย้ อนกลับไปราวพันห้ าร้ อยปี ก่อน เป็ นยุคที่เต็ม


ไปด้ วยปริศนามากมาย แทบไม่ มีการค้ นพบสุ สานโบราณหรื อเมือง
โบราณซึ่งบ่ งบอกว่ ามาจากยุคสมัยที่สี่ หลักฐานเดียวที่ปรากฏคือ
บันทึกประวัติศาสตร์ ของเจ็ดโบสถ์ หลักที่คอยเผยแพร่ ศาสนาอย่ าง
ต่ อเนื่อง แต่ ข้อความในบันทึกมีเพียงรายละเอียดเลือนลางที่สืบ
ทอดต่ อกันมา เนื้อหาจากบันทึกของเจ็ดโบสถ์ หลัก โดยมากจะพูด
ถึงจักรวรรดิโบราณ เช่ นจักรวรรดิทรันซอสต์ จักรวรรดิโซโลม่ อน
และราชวงศ์ ทูดอร์

ความอยากรู้อยากเห็นของไคลน์ คนเก่าได้ ม่ ุงเน้ นไปยังยุคสมัย


ที่สี่—ยุคสมัยแห่ งเทพ มากเป็ นพิเศษ เรื่ องราวตั้งแต่ ยุคสมัยที่หนึ่ง
ถึงสามไม่ เป็ นที่น่าสนใจสั กเท่ าไร เพราะช่ วงเวลาล่วงผ่ านมานาน
เกินไป ส่ วนใหญ่ จึงเป็ นตานานที่ไม่ มีหลักฐานอ้างอิง

“หืม… ไคลน์ เป็ นห่ วงอนาคตตัวเอง จึงตั้งใจเรียนให้ จบและ


เตรียมตัวสอบสั มภาษณ์ แต่ กลับไม่ มีโอกาสได้ ใช้ ชีวิตที่
ต้ องการ…”

ไคลน์ ถอนหายใจยาว

ในยุคสมัยที่มหาวิทยาลัยยังมีไม่ มาก และนักเรียนส่ วนใหญ่ มา


จากครอบครัวขุนนางร่ารวย หากไม่ ใช่ มนุษย์ ที่มีจิตผิดปรกติ
จนเกินไป เด็กจากครอบครัวสามัญที่สอบเข้ ามหาวิทยาลัยติด จะมี
โอกาสอยู่ในแวดวงชนชั้นสู งได้ ไม่ ยากนัก

ยิ่งถ้ าความสนใจเป็ นไปในทางเดียวกัน พวกมันก็ยิ่งสนิทกัน


ง่ าย ตัวอย่ างที่เห็นได้ ชัดคือไคลน์ กับเวิร์ช

เวิร์ช·แม็กโกเวิน—บุตรชายของนายธนาคารจากเมือง
คอนสแตน รัฐเลียบทะเล อาณาจักรโลเอ็น สนิทสนมกับไคลน์ และ
นาย่ าเพราะมักทางานกลุ่มร่ วมกัน
ไคลน์ ไม่ มัวคิดมาก มันอ่านไดอารีต่อ

“วันที่ 18 มิถุนายน ในที่สุดเราก็จบการศึกษา ลาก่อน


มหาวิทยาลัยโฮอี!้ ”

“วันที่ 19 มิถุนายน เราได้ อ่านสมุดบันทึกเล่มนั้นแล้ว เมื่อลอง


เทียบโครงสร้ างคาและรากศัพท์ สมุดเล่มนั้นถูกเขียนด้ วยภาษาที่
ดัดแปลงจากภาษาฟุซัคโบราณ ไม่ สิ กล่าวให้ ชัดคือ ภาษาฟุซัคมี
การเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และเนื้อความในสมุดคงเป็ นยุคหนึ่ง
ของภาษาฟุซัค”

“วันที่ 20 มิถุนายน พวกเราถอดรหัสเนื้อหาหน้ าแรกได้ แล้ว ดู


เหมือนคนเขียนจะเป็ นสมาชิกของตระกูลที่ชื่อ ‘อันทิโกนัส’”

“วันที่ 21 มิถุนายน ภายในสมุดมีการพูดถึงจักรพรรดิมืด ซึ่ง


ค่ อนข้ างขัดแย้ งกับยุคสมัยที่สมุดเล่มนั้นถูกเขียนขึน้ หรื อข้ อมูล
ของศาสตราจารย์ จะผิดไป? หรื อ ‘จักรพรรดิมืด’ จะเป็ นสมญา
นามที่จักรพรรดิโซโลม่ อนทุกพระองค์ ใช้ ?”

“วันที่ 22 มิถุนายน พวกเราได้ ทราบว่ าตระกูลอันทิโกนัสมี


ตาแหน่ งทางสั งคมสู งมากภายในจักรวรรดิโซโลม่ อน และผู้เขียน
ระบุถึงการค้ าขายลับกับบุคคลที่ชื่อว่ าทูดอร์ … ทูดอร์ ? เกี่ยวอะไร
กับราชวงศ์ ทูดอร์ รึเปล่า?”
“วันที่ 23 มิถุนายน เราต้ องเลิกคิดถึงสมุดเล่มนั้นก่อน เราไม่
ควรไปบ้ านเวิร์ชขณะการสอบสั มภาษณ์ ใกล้เข้ ามาทุกขณะ! มัน
สาคัญกับชีวิตเรามาก!”

“วันที่ 24 มิถุนายน นาย่ าบอกกับเราว่ า พวกเขาค้ นพบเรื่ อง


ใหม่ ที่น่าสนใจ เราต้ องชอบแน่ เธอว่ าอย่ างนั้น”

“วันที่ 25 มิถุนายน จากเนื้อความที่ถอดได้ ผู้เขียนได้ รับ


ภารกิจให้ ไปเยือน ‘อาณาจักรรัตติกาล’ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาที่
สู งสุ ดของเทือกเขาโฮนาซิส พระเจ้ า! มีอาณาจักรตั้งอยู่บนยอดเขา
เหนือน้าทะเล 6,000 เมตรได้ อย่ างไร? มนุษย์ อาศัยอยู่ที่นั่นด้ วยวิธี
ไหน?”

“วันที่ 26 มิถุนายน เรื่ องราวประหลาดเหล่านีเ้ ป็ นความจริง


ทั้งหมดอย่ างนั้นหรื อ?”

ไดอารีจบเพียงเท่ านี้ โจวหมิงรุ่ยเดินทางข้ ามโลกในวันที่ 28


มิถนุ ายน หลังเที่ยงคืนเล็กน้ อย

“หรื ออีกนัยหนึ่ง… ข้ อความที่เราเห็นบนสมุดเป็ นของวันที่ 27


มิถุนายน…

“ทุกคนต้ องตาย รวมถึงเรา…”


ไคลน์ พลันขนลุกเมื่อพลิกกระดาษมายังหน้ าแรกที่เขาได้ พบ
หลังจากเดินทางข้ ามโลก

มันเริ่มมั่นใจ

หากต้ องการแก้ปมปริศนาการฆ่ าตัวตายของไคลน์ ·โมเร็ตติ


มันต้ องเดินทางไปยังบ้ านของเวิร์ชเพื่อหาหลักฐานเพิม่ เติมจาก
สมุดบันทึกเก่าแก่เล่มนั้น

ทว่ า จากประสบการณ์ มากมายที่สั่งสมในโลกเก่า ทั้งการอ่าน


นิยาย ละครทีวี ภาพยนต์ หากสมุดบันทึกเล่มนั้นคือสาเหตุของ
ปริศนาทั้งหมดจริง การไปเยือนบ้ านเวิร์ชต้ องมีอันตรายรออยู่แน่

…เหมือนกับกลุ่มตัวเอกที่เดินทางสารวจบ้ านผีสิงเพื่อค้ นหา


ความจริง! ปลายทางมักมีความฉิบหายรออยู่เสมอ!

ทว่ า การเอาแต่ หนีคงไม่ ช่วยให้ ปริศนากระจ่ างขึน้ อาจเลวร้ าย


ลงด้ วยซ้า และตนต้ องใช้ ชีวิตอยู่กับความไม่ ร้ ูไปตลอดกาล

เรียกตารวจดีไหม? แต่ หากแจ้ งความว่ าเราเคยลงมือฆ่ าตัวตาย


มาก่อน มันคงพิลึกน่ าดู…

ก็อก!

ก็อก ก็อก!
เสี ยงเคาะประตูที่หนัักแน่ นดังขึน้

ไคลน์ ลุกยืนพลางเงี่ยหูฟัง

ก็อก!

ก็อก ก็อก!

เสี ยงเคาะประตูดังกังวาลทั่วทางเดินอันว่ างเปล่าของหอพัก


ราชันย์ เร้ นลับ 10 : ตามปรกติแล้ว

“นั่นใคร?”

ในขณะไคลน์ กาลังไตร่ ตรองหาสาเหตุการตายของไคลน์ คน


ก่อน รวมถึงภัยอันตรายที่อาจเผชิญหากตนเดินทางไปบ้ านเวิร์ช
เสี ยงเคาะประตูอันหนักแน่ นพลันดังขึน้

จิตใต้ สานึกสั่ งให้ หยิบปื นลูกโม่ ออกมาจากลิน้ ชักไม้ เพื่อ


ต้ องกันตัว จากนั้นจึงหันไปตะโกนถาม

อีกฝั่งของประตูเงียบงันนานสองถึงสามวินาที ก่อนจะตอบ
กลับด้ วยเสี ยงดุดันในสาเนียงอาโฮว่ า

“ฉันเอง เมาท์ บัตเท่ น… บิช·เมาท์ บัตเท่ น”

เสี ยงปลายทางชะงักไปครู่ ก่อนจะกล่าวต่ อ

“ตารวจ”

บิช·เมาท์ บัตเท่ น… หลังจากได้ ยินชื่ อเต็ม ไคลน์ นึกออกทันที


ว่ าหมอนี่เป็ นใคร
ตารวจที่คอยดูแลทุกคดีบนถนนเส้ นที่หอพักแห่ งนีต้ ้ังอยู่ นิสัย
เข้ าขั้นแย่ ทั้งป่ าเถื่อน หยาบคาย และโผงผาง ทว่ า ต้ องเป็ นตารวจ
กระด้ างเช่ นนีจ้ ึงจะรับมือกับเหล่าอาชญากรสุ ดต่าทรามไหว พวก
มันส่ วนใหญ่ มีพื้นเพมาจากพวกขีเ้ หล้า หัวขโมย นักเลง หรื อ
กระทั่งวายร้ าย

นาเสี ยงอันเป็ นเอกลักษณ์ คือเครื่ องหมายการค้ าของเมาท์ บัต


เท่ น

“กาลังจะไปเดี๋ยวนี้!”
ไคลน์ ขานตอบ

ในตอนแรก มันคิดจะซ่ อนปื นไว้ ในลิน้ ชักตามเดิม แต่ หลังจาก


ไตร่ ตรองจนถ้ วนถี่ ไคลน์ ยังไม่ ทราบเจตนาของตารวจ อาจมีการ
ค้ นบ้ านเกิดขึน้ จึงขอไม่ เสี่ ยง ปื นถูกโยนเข้ าไปในเตาถ่ านที่ฟืนดับ
มอดนานแล้ว

จากนั้น ไคลน์ หยิบถุงถ่ านเทลงไปในช่ องใส่ ฟืนเพื่อปกปิ ดการ


มีตัวตน ก่อนจะวางกาน้าไว้ บนเตาอีกชั้นให้ มิดชิ ด

หลังจากจัดการเสร็จสรรพ เสื้ อผ้ าถูกจัดระเบียบขณะเดินตรง


ไปยังประตู จากนั้นก็ส่งเสี ยงพึมพาก่อนจะหมุนลูกบิด

“ขอโทษครับ พอดีงีบอยู่”
เมื่อเปิ ดออกไป ด้ านนอกมีเจ้ าหน้ าที่ตารวจยืนเรียงรายสี่ คน
ทุกคนสวมเครื่ องแบบลายตารางหมากฮอสสี ขาวสลับดา เหนือ
ศีรษะสวมหมวกตารวจ

เมาท์ บัตเท่ นเคราน้าตาลกระแอมหนึ่งทีพร้ อมกับกล่าว

“นายตารวจสามคนนีม้ ีบางสิ่ งต้ องการถามนาย”

นายตารวจ? หางตาไคลน์ ชาเลืองมองหัวไหล่ท้งั สาม สองคน


ติดดาวเงินหกแฉก 3 ดวง ส่ วนอีกหนึ่งติดดาวเงิน 2 ดวง ทุกคนยศ
ใหญ่ กว่ าบิชที่ติดบั้งรูปตัว ‘V’ สี เงิน 3 ขีด

ในฐานะนักเรียนประวัติศาสตร์ ไคลน์ ไม่ ค่อยมีความรู้ด้านยศ


ตารวจมากนัก ทราบแต่ เพียง บิชมักอวดโอ่บ่อยครั้งว่ ามันมียศสิ บ
ตารวจเอก

เช่ นนั้นแล้ว นายตารวจสามคนนีล้ ่ะ?

ในความทรงจาของไคลน์ คนเก่อน หากวิเคราะห์ จากบท


สนทนาที่เคยมีกับคนใกล้ตัว ทั้งเบ็นสั น เวิร์ช รวมถึงเพื่อนสนิท
ตามหลักมารยาทแล้ว ตนควรเชิญตารวจให้ เข้ าไปนั่งคุยด้ านใน
“สวัสดีครับ เชิญด้ านในก่ อน ให้ ผมช่ วยอะไรได้ บ้าง?”

หัวหน้ าของกลุ่มตารวจทั้งสาม—ตารวจวัยกลางคนที่มีดวงตา
เรียวคม นัยน์ ตาลุ่มลึกราวกับจะมองทะลวงไปถึงความคิดอีกฝ่ าย

ใต้ ตามีรอยเหี่ยวย่ นเล็กน้ อย ไรผมสี น้าตาลเข้ มเผยให้ เห็น


บริเวณขอบหมวก มันกวาดมองรอบห้ องก่อนจะกล่าวด้ วยเสี ยงทุ้ม
ต่า

“คุณรู้จักเวิร์ช·แม็กโกเวินรึเปล่า?”

“เกิดอะไรขึน้ กับเขา?”

ไคลน์ สั่นระริกเล็กน้ อย
ร่ ายกายเผลอผงะถอยหลัง

“ผมเป็ นฝ่ ายถาม”

นายตารวจวัยกลางคนกล่ าวเสี ยงเข้ ม ส่ วนนายตารวจสามดาว


อีกคนที่ยืนข้ างกัน มันอมยิม้ เล็กน้ อยขณะจ้ องมองไคลน์

“ไม่ ต้องประหม่ า พวกเราแค่ ถามตามธรรมเนียมสื บสวน”

นายตารวจคนนีอ้ ยู่ในวัยสามสิ บกว่ า จมูกโด่ งเป็ นสั น ดวงตาสี


เทาหม่ นประหนึ่งน้าในทะเลสาปเก่าแก่โบราณ มอบความลุ่มลึก
อย่ างน่ าประหลาด

ไคลน์ สูดลมหายใจขณะจัดเรียงชุดคาพูด

“ถ้ าคุณหมายถึงเวิร์ช·แม็กโกเวินแห่ งคอนสแตน นักศึกษาจบ


ใหม่ จากมหาวิทยาลัยโฮอี้ แน่ นอน พวกเรารู้จักกัน ในฐานะเพื่อน
ร่ วมห้ องที่มีอาจารย์ ที่ปรึกษาคนเดียวกัน—ผู้ช่วยศาสตราจารย์
อาวุโสเควนติน·โคเฮน”

ในอาณาจักรโลเอ็น ‘ศาสตราจารย์ ’ ไม่ เพียงเป็ นคานาหน้ าทาง


วิชาการ แต่ ยังรวมถึงตาแหน่ งหน้ าที่การงานด้ วย คล้ายคลึงกับ
คณะบดีของโลกเก่า

หรื ออีกนัยหนึ่งคือ ศาสตราจารย์ ของแต่ ละคณะใน


มหาวิทยาลัยจะมีเพียงคนเดียว หากรองศาสตราจารย์ ต้องการขึน้
เป็ นแทน ต้ องรอให้ ศาสตราจารย์ ลาออกหรื อถูกปลดเท่ านั้น

มาถึงจุดนี้ ไคลน์ จ้องมองเข้ าไปในแววตาของนายตารวจวัย


กลางคนครู่หนึ่ง ก่อนจะอธิบายต่ อ

“ด้ วยความสั ตย์ จริง ความสั มพันธ์ ของพวกเราค่ อนข้ างดี


ในช่ วงหลัง เวิร์ชชวนผมกับเพื่อนอีกคนที่ชื่อนาย่ า ไปที่บ้านของ
เขาเพื่อหารื อเกี่ยวกับสมุดบันทึกจากยุคสมัยที่สี่ซึ่งเป็ นของเวิร์ช
คุณตารวจครับ มีบางสิ่ งเกิดขึน้ กับเขาอย่ างนั้นหรื อ?”
นายตารวจวัยกลางคนไม่ ตอบเอง มันหันไปมองพวกพ้องที่มี
นัยน์ ตาสี เทา—ใบหน้ าค่ อนข้ างธรรมดา ไม่ หล่อเหล่า ไม่ ขีเ้ หร่

มันตอบไคลน์ อย่ างนุ่มนวล

“ขอแสดงความเสี ยใจด้ วย มิสเตอร์ เวิร์ชเสี ยชีวิตแล้ว”

“อะไรนะ!?”

แม้ จะเตรียมใจไว้ บ้างแล้ว แต่ ไคลน์ ก็ยังตะโกนออกมาด้ วยสี


หน้ าตื่นตระหนก

เวิร์ชตายแล้วงั้นหรื อ?
เหมือนกับไคลน์ เจ้ าของร่ าง… บ้ าน่ า!

“แล้วนาย่ า?”

ไคลน์ รีบถามอย่ างกระวนกระวาย

“มิสนาย่ าก็เช่ นกัน”

ตารวจนัยน์ ตาเทาหันมาตอบด้ วยน้าเสี ยงค่ อนข้ างสุ ขุม

“ทั้งคู่เสี ยชีวิตในบ้ านมิสเตอร์ เวิร์ช”


“ฆาตกรรม?”

ไคลน์ ถามเดาสุ่ ม
บางทีคงเป็ นการฆ่ าตัวตายมากกว่ า…

ตารวจนัยน์ ตาเทาส่ ายศีรษะ

“ไม่ ใช่ สภาพแวดล้อมบ่ งบอกว่ าเป็ นการฆ่ าตัวตาย มิสเตอร์


เวิร์ชใช้ ศีรษะโขกกาแพงหลายครั้งจนเสี ยชีวิต กาแพงชุ่มชะโลม
ด้ วยเลือดสี แดงฉาน ส่ วนมิสนาย่ าขาดอากาศหายใจตายในอ่างล้าง
หน้ า”

“เป็ นไปไม่ ได้ …”

ขนทุกเส้ นบนตัวไคลน์ พลังตั้งชันขณะจินตนาการที่เกิดเหตุ


สุ ดสยอดสยอง

สาวสวยคุกเข่ าลงบนเก้าอีแ้ ละใช้ ใบหน้ าจุ่มลงไปในอ่างที่มีน้า


เต็ม เส้ นผมยาวประหลังกาลังปลิวไสวไปตามแรงลม แต่ ร่างกาย
สงบนิ่งและเย็นชื ด

เวิร์ชนอนแผ่ หราบนพื้นด้ วยดวงตาที่เหลือกถลนจ้ องเพดาน


ห้ องเขม็ง ศีรษะโชกเลือดและมีแผลเหวะหวะบริเวณหน้ าผาก บน
กาแพงในจุดที่ถูกโขกเกิดรอยร้ าว เลือดที่เคยสาดกระเซ็นเริ่มแห้ ง
กรังติดผนัง…
ตารวจนัยน์ ตาเทากล่ าวต่ อ

“พวกเราก็คิดแบบเดียวกัน แต่ ผลการชันสู ตรศพออกมาแล้ว


ว่ า ไม่ มีร่องรอยการใช้ สารเสพติดหรื อถูกกาลังบังคับจาก
ภายนอก… แถมมิสเตอร์ เวิร์ชและมิสนาย่ าก็ไม่ แสดงอาการดิน้ รน
ขัดขืนก่อนตาย”

ไม่ เปิ ดโอกาสให้ ไคลน์ พูด นายตารวจนัยน์ ตาเทาเดินเข้ าไปใน


ห้ อง กวาดสายตาหนึ่งรอบพร้ อมกับหันมาถาม

“คุณเห็นมิสเตอร์ เวิร์ชและมิสนาย่ าครั้งสุ ดท้ ายเมื่อไร?”

ขณะกล่าว มันใช้ สายตาส่ งสั ญญาบอกใบ้ บางสิ่ งกับพวกพ้อง


ตารวจสองดาวเงิน

ตารวจหนุ่มคนนี้มีอายุไล่เลี่ยกับไคลน์
จอนข้ างใบหูสีดาเข้ ม นัยน์ ตาสี เขียวมรกต ใบหน้ าหล่อเหลา
บรรยากาศรอบตัวคล้ายคลึงนักกวีโรแมนติก

หลังจากได้ ยินคาถาม ไคลน์ ครุ่นเล็กเล็กน้ อยก่อนจะพึมพา


ตอบทั้งที่ยังขมวดคิว้

“น่ าจะเป็ นวันที่ 26 มิถุนายน… พวกเราไปที่บ้านเวิร์ชเพื่อ


ถอดรหัสเนื้อความบทใหม่ ผมกลับบ้ านหลังจากนั้นเพื่อเตรียม
สอบสั มภาษณ์ ที่จะมีขนึ้ ในวันที่ 30 มิถุนายน… สั มภาษณ์ เข้ า
ทางานในมหาวิทยาลัยทิงเก็น”

ทิงเก็นมีฉายาว่ าเมืองแห่ งการศึกษา เป็ นที่ต้งั ของสถานศึกษา


มากมาย ประกอบด้ วยมหาวิทยาลัยทิงเก็น มหาวิทยาลัยโฮอี้
โรงเรียนเทคนิค โรงเรียนกฏหมาย และโรงเรียนธรุกิจ จานวน
สถานศึกษาเป็ นรองเพียงเมืองหลวงเบ็คลันด์ เท่ านั้น

เมื่อกล่าวจบ ไคลน์ เหลือบเห็นตารวจหนุ่มเดินเข้ าไปที่โต๊ ะอ่าน


หนังสื อพร้ อมกับหยิบสมุดไดอารีขนึ้ มาอ่ าน

บ้ าจริง! เราลืมซ่ อน!

“เฮ้ !”

ไคลน์ ตะโกน

ตารวจหนุ่มทาเพียงอมยิม้ มือของมันไม่ หยุดพลิก


หน้ ากระดาษ ปากเปล่งเสี ยงกล่ าวขณะยังคงก้มหน้ าอ่าน

“นี่เป็ นการตรวจค้ นตามขั้นตอน”

บิช·เมาท์ บัตเท่ นและนายตารวจวัยกลางคนทาเพียงยืนมอง


โดยไม่ เข้ าไปช่ วยหรื อห้ ามปรามตารวจหนุ่ม
ไหนหมายค้ นฟะ?

ขณะคิดจะเอ่ยปากถาม ไคลน์ พลันฉุกคิดได้ ว่าที่นี่ไม่ ใช่ โลกเก่า


ตามกฏหมายแล้ว ตารวจโลเอ็นสามารถค้ นบ้ านผู้ต้องสงสั ยได้
ทันทีโดยไม่ ต้องมีหมาย ระบุให้ ชัดคือ กฏหมายยังเป็ นแบบเก่าที่
เขียนไม่ ครอบคลุมพลเรื อนขนาดนั้น เหนือสิ่ งอื่นใด กรมตารวจ
เพิง่ ถูกตั้งขึน้ ได้ เพียง 15 หรื อ 16 ปี

ขณะไคลน์ คนเก่ายังเด็ก กรมตารวจในอดีตยังมีชื่อว่ า—


เจ้ าหน้ าที่รักษาความปลอดภัยสาธารณะ

ไคลน์ ไม่ สามารถห้ ามได้ มันทาได้ เพียงยืนมองตารวจหนุ่ม


พลิกสมุดหน้ าแล้วหน้ าเล่ า

ขณะเดียวกัน ตารวจที่เหลือมิได้ ไต่ ถามสิ่ งใดเพิม่ เติม

“เรื่ องประหลาดที่เขียนในนีห้ มายถึงอะไร?”

หลังจากตารวจหนุ่มเปิ ดสมุดไล่ไปถึงหน้ าสุ ดท้ ายที่ถูกจด


บันทึก มันหันมาถาม

“แล้วประโยคนีค้ ือ?

“ทุกคนต้ องตาย รวมถึงฉัน…”


แปลกตรงไหน? ถ้ าไม่ ได้ อมตะ ทุกคนก็ต้องตายอยู่แล้วไม่ ใช่ รึ
ไง?

ไคลน์ เตรียมคาแถ แต่ พลันชะงักหลังจากนึกขึน้ ได้ ว่า ตัวมัน


เคยคิดจะไปแจ้ งกับตารวจถึงสิ่ งที่เกิดขึน้ เผื่ออาจมีอันตรายยังคอย
ตามรังควาน

ลงเอยด้ วย ไคลน์ มิได้ แถออกไปอย่ างหน้ าด้ าน

หลังจากฉุกคิดด้ วยเวลาหนึ่งวินาที ไคลน์ เลื่อนมือขึน้ ไปจับ


หน้ าผากพร้ อมกับโอดโอยด้ วยน้าเสี ยงเจ็บปวด

“ผมเองก็ไม่ ทราบเหมือนกัน ไม่ ร้ ูจริงๆ… เมื่อเช้ านี้ ผมตื่น


ขึน้ มาพร้ อมกับอาการปวดหัวรุนแรง รู้สึกเหมือนกับความทรงจา
บางส่ วนหายไป โดยเฉพาะความทรงจาสองสามวันก่อน จาไม่ ได้
ด้ วยซ้าว่ าทาไมถึงเขียนประโยคแบบนั้นลงไป”

ในบางครั้ง การพูดความจริงก็เป็ นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด แต่


แน่ นอนว่ าต้ องมาพร้ อมวาทะศิลป์ เรื่ องไหนที่เลี่ยงได้ ก็ควรเลี่ยงไม่
พูด กุญแจสาคัญคือต้ องจัดลาดับเรื่ องราวให้ ถูกต้ อง

นี่คือความเชี่ยวชาญในฐานะนักรบคีย์บอร์ ด ไคลน์ เป็ นยอดนัก


‘ตอบเลี่ยง’
“เหลวไหล! แกคิดว่ าพวกเราโง่ รึไง!”
บิช·เมาต์ บัตเท่ นโพล่ งขึน้ อย่ างเดือดดาล

“เป็ นการโกหกอย่ างหน้ าด้ านและดูถูกสติปัญญาตารวจมาก!

“แสร้ งทาเป็ นคนโรคจิตยังดีกว่ าแสร้ งทาเป็ นความจาเสื่ อม!”

“ผมพูดความจริง”

ไคลน์ ตอบด้ วยสี หน้ าแน่ วแน่ สายตาจ้ องมองไปยังเมาท์ บัต


เท่ นและตารวจวัยกลางคน

สิ่ งที่ไคลน์ เล่า เป็ นเรื่ องจริงซะยิ่งกว่ าจริง

“แบบนีเ้ องหรื อ”

ตารวจนัยน์ ตาเทากล่ าวเสี ยงค่ อย

อะไรนะ? หมอนี่เชื่ อคาพูดเรา?


ไคลน์ องึ้ เล็กน้ อย

ตารวจคนเดิมอมยิม้ และกล่าวต่ อ

“ผู้เชี่ยวชาญจะมาถึงทิงเก็นในอีกสองวัน สบายใจได้ เลย ความ


ทรงจาคุณจะกลับเป็ นปรกติได้ แน่ ”
ผู้เชี่ยวชาญ?
ช่ วยให้ ความทรงจากลับเป็ นปรกติ?
นักจิตวิทยางั้นหรื อ?

ไคลน์ ขมวดคิว้

เดี๋ยวนะ… แล้วถ้ าความทรงจาโลกเก่าถูกเปิ ดเผยด้ วยล่ะ?

มันเริ่มตึงเครียด

ตารวจหนุ่มวางสมุดลงและเริ่มสารวจรอบห้ อง โชคดีที่ความ
สนใจพุ่งไปยังตู้เก็บไอดารีมากกว่ ากาต้ มน้าบาเตา

“เสร็จแล้วครับ มิสเตอร์ ไคลน์ ขอบคุณที่ให้ ความร่ วมมือเป็ น


อย่ างดี ขอเตือนว่ าคุณไม่ มีสิทธิ์เดินทางออกจากทิงเก็นโดยพละ
การ หรื อหากมีเหตุจาเป็ น กรุณาแจ้ งกับเจ้ าหน้ าที่เมาท์ บัตเท่ นก่อน
ไม่ อย่ างนั้นคุณจะกลายเป็ นผู้ร้ายหนีคดี”

แค่ นเี้ องหรื อ? จบแล้ว? ไม่ มีคาถามเพิม่ สาหรับสอบสวนเชิง


ลึกเลยรึไง?

ไม่ นาตัวเราเข้ าเครื่ องจับเท็จหรื อทรมานที่สถานีตารวจด้ วย?


ไคลน์ ขมวดคิว้ มันเองก็ต้องการทราบเบื้องหลังการตาย
ปริศนาของเวิร์ชและนาย่ าเช่ นกัน

“เข้ าใจแล้วครับ”

เจ้ าหน้ าที่เริ่มทยอยเดินออกจากห้ อง คนสุ ดท้ ายคือนายตารวจ


หนุ่มนัยต์ มรกต ก่อนจากไป มันใช้ มือตบบ่ าไคลน์ อย่ างนุ่มนวล

“ดีจังที่คุณปลอดภัย… โชคดีมากเลยนะ”

“หมายความว่ ายังไง?”

ไคลน์ ขมวดคิว้

ตารวจนัยน์ ตามรกตที่มีบรรยากาศนักกวีโรแมนติกอมยิม้ ก่อน


มอบคาตอบ

“ผมกาลังจะบอกว่ า ตามปรกติแล้ว ผู้เกี่ยวข้ องในเหตุการณ์


ประหลาดมักตายพร้ อมกันในที่เกิดเหตุ จึงถือเป็ นโชคดีมากที่คุณ
ยังมีชีวิตอยู่ ผมยินดีด้วย”

หลังจากนั้น มันปิ ดประตูห้องและเดินกลับด้ วยมาดภูมิฐาน

ตามปรกติแล้ว ทุกคนต้ องตายพร้ อมกันในที่เกิดเหตุ? ดีใจที่


เรายังรอด?
การรอดของเราคือเรื่ องที่โชคดีมาก?

แม้ จะเป็ นยามเที่ยง แต่ ไคลน์ กาลังยืนสั่ นระริกด้ วยร่ ายกายที่


เย็นยะเยียบภายในห้ องของตัวเอง
ราชันย์ เร้ นลับ 11 : รสมือที่แท้ จริง

ตามปรกติแล้ว ทุกคนต้ องตายพร้ อมกันในที่เกิดเหตุ?

หมอนั่นดีใจที่เรายังรอด?
การรอดของเราถือเป็ นเรื่ องปาฏิหาริย์?

ไคลน์ ยืนสั่ นระริกครู่หนึ่งก่อนจะรีบวิ่งไปที่หน้ าประตู มันคิด


จะเปิ ดออกไปตะโกนขอให้ ตารวจมอบความคุ้มครอง

ขณะฝ่ ามือกาลูกบิด ไคลน์ พลันชะงัก

…ในเมื่อตารวจหนุ่มคนนั้นเน้ นยา้ ขนาดนั้นว่ าเป็ นเรื่ อง


มหัศจรรย์ ที่เรายังรอด แล้วทาไมพวกมันถึงไม่ จัดกาลังคนอารักขา
คุ้มครองพยาน?

ไม่ ผ่อนหย่ อนยานไปหน่ อยหรื อ?


ทาไมถึงไม่ พยายามเค้ นความจริง?
หรื อนี่จะเป็ นกับดักให้ เราตายใจ…?

เมื่อตกผลึกความคิดทั้งหมด ไคลน์ เริ่มระแคะระคายว่ า กรม


ตารวจอาจลอบซุ่มจับตามองมันอย่ างเงียบงัน
เมื่อคิดได้ เช่ นนี้ ไคลน์ เลิกลนลาน มันบรรจงเปิ ดประตูพร้ อม
กับตะโกนออกไปด้ วยน้าเสี ยงสั่ นเครื อ

“พ…พวกคุณจะปกป้องผมใช่ ไหม?”

ตึก ตึก ตึก…

ไม่ มีการตอบกลับจากตารวจ เสี ยงรองเท้ าหนังกระทบบันได


ไม้ ยังคงย่าด้ วยความเร็วคงที่

“ผมรู้ว่าพวกคุณทาแน่ !!”

ไคลน์ แสร้ งตะโกนด้ วยน้าเสี ยงหวาดกลัวสุ ดขีด พยายามทาตัว


เหมือนเหยื่อบริสุทธิ์ที่ตกอยู่ในอันตราย

เมื่อเสี ยงฝี เท้ าบางเบาลงจนจายหายโดยสมบูรณ์ ไคลน์ พ่นลม


หายใจพร้ อมกับพึมพา

“เราแสดงได้ แนบเนียนรึเปล่า…?”

ไคลน์ ไม่ วิ่งตามต่ อ กลับกัน มันปิ ดประตูและกลับเข้ ามาใน


ห้ อง

หลายชั่วโมงถัดมา ไคลน์ แสร้ งทาตัวกระสั บกระส่ ายหนัก หรื อ


ที่ศัพท์ เทคนิคของโลกเก่าเรียกว่ า อาการกินไม่ ได้ นอนไม่ หลับ
ไคลน์ แสร้ งตึงเครียดจากการต้ องอยู่คนเดียวเป็ นเวลานาน
ตนต้ องได้ รับรางวัลตุ๊กตาทองแน่ !
ไคลน์ ชื่นชมตัวเองในใจ

เมื่อดวงอาทิตย์ ใกล้ตกดิน เมฆขาวบริเวณขอบฟ้ าถูกย้ อมด้ วย


สี แสด ลูกบ้ านของหอพักเริ่มทยอยกลับจากทางานหรื อเรียนทีละ
คนสองคน

สมาธิของไคลน์ ยังคงจดจ่ ออยู่กับบางสิ่ ง


“เมลิสซ่ าใกล้เลิกเรียนแล้วสิ นะ…”

มันจาเป็ นต้ องลองเสี่ ยงดู

หางตาชาเลืองมองเตาถ่ าน ไคลน์ รีบเดินเข้ าไปยกกาน้าร้ อนขึน้


และคุ้ยกองถ่ านเพื่อนาปื นลูกโม่ ออกมา

ด้ วยความเร็วสู ง มันรีบวิ่งตรงไปยังเตียงไม้ สองชั้นและหมอบ


ลง ปื นถูกสอดไว้ ระหว่ างระแนงไม้ ที่เรียงแถวกันใต้ เตียง

เมื่อจัดการปื นเสร็จ ไคลน์ ต้งั ตัวยืนตรง ภายในใจเฝ้ารอให้


ตารวจผลักประตูห้องออกมาพร้ อมกับพูดว่ า ‘หยุดนะ! ยกมือขึน้ ’
เหมือนกับในหนังสายลับ
เพราะหากเป็ นเช่ นนั้นจริง หมายความว่ าตารวจคอยจับตาดู
พฤติกรรมของมันอยู่

ปัจจุบันคือยุคสมัยแห่ งไอน้า ด้ วยเทคโนโลยีล้าหลังซึ่งยังไม่ มี


กล้องวงจรปิ ด มันมั่นใจมากว่ าการกระทาภายในห้ องไม่ มีทางถูก
สอดแนมจากภายนอก

แต่ ติดตรงที่โลกใบนีม้ ีพลังพิเศษและผู้วิเศษอยู่

หลังจากยืนใจจดใจจ่ อนานหลายนาที บานประตูห้องไม่ มีการ


ขยับเคลื่อนไหว เสี ยงเดียวที่ได้ ยินคือบทสนทนาระหว่ างลูกบ้ าน
เกี่ยวกับการเดินทางไปยังไวลด์ บาร์ บนถนนกางเขนเหล็ก

“ฟู่ ว”

ไคลน์ ถอนหายใจ
เป็ นที่แน่ ชัดแล้วว่ า ตารวจไม่ ได้ แอบสอดแนมตน

หมดปัญหาไปอีกหนึ่งเรื่ อง วันนี้จึงเหลือเพียง รอให้ เมลิสซ่ าก


ลับจากโรงเรียนและทาสตูว์เนื้อแกะย่ างใส่ ถั่วให้ เรากิน!

เมื่อเกิดความคิดเช่ นนีใ้ นหัว น้าลายไคลน์ พลันไหลย้ อย


อัตโนมัติ กลิ่นหอมหวานของน้าซอสเกรวี่ยังคงฝังแน่ นในความ
ทรงจาไคลน์ คนก่อน
ด้ วยความหิวโหย มันทบทวนวิธีการปรุงสตูว์เนื้อแกะใส่ ถั่ว
ของเมลิสซ่ า

ก่อนอื่น ต้ มน้าให้ เดือด เอาเนื้อแกะลงไปผัดครู่หนึ่ง จากนั้นก็


ใส่ หอมใหญ่ เกลือ และพริกไทยดาเล็กน้ อย ปิ ดท้ ายด้ วยเติมน้าเพิม่

เมื่อถึงเวลาที่กาหนด ใส่ ถั่วปากอ้าและมันฝรั่งตามลงไป


จากนั้นก็ต้มด้ วยไฟอ่อน ปิ ดฝาทิง้ ไว้ ราวสี่ สิบนาที

“เป็ นการปรุงที่ง่ายและหยาบมาก… หวังพึง่ รสชาติจากน้าเนื้อ


เพียงอย่ างเดียว”

ไคลน์ ส่ายศีรษะด้ วยสี หน้ าตาหนิ

ช่ วยไม่ ได้ ล่ะนะ ในยุคสมัยเช่ นนี้ ครอบครัวสามัญคงหมดสิ ทธิ์


ครอบครองสู ตรอาหารรสเลิศ ทาได้ เพียงปรุงด้ วยกรรมวิธี
พื้นฐาน

ขอแค่ วัตถุดิบหลักอย่ างเนื้อไม่ ไหม้ ก็พอ ที่เหลือจะเป็ นอย่างไร


ก็ช่าง โดยเฉพาะกับครอบครัวโมเร็ตติที่มีสิทธิ์กินเนื้อสั ปดาห์ ละ
สองมื้อ

บนโลกเก่า ไคลน์ เองก็มิได้ ปรุงอาหารด้ วยฝี มือเลิศเลอนัก แต่


อย่ างน้ อยก็ยังสละเวลาสั ปดาห์ ละสามถึงสี่ ชั่วโมงเพื่อทดลอง
ประกอบอาหารกินเอง
เมื่อสั่ งสมประสบการณ์ มากเข้ า ฝี มือจึงอยู่ในระดับพอใช้ ที่
เหนือพื้นฐานเล็กน้ อย

“ถ้ ารอให้ เมลิสซ่ ากลับมาทา กว่ าอาหารจะเสร็จก็คงทุ่มครึ่ง


เรากับเธอคงได้ อดตายกันพอดี… ถึงเวลาต้ องแสดงฝี มือการ
ทาอาหารที่แท้ จริงให้ เห็นแล้วสิ นะ!”

เรื่ องของเรื่ องคือไคลน์ หิว มันแค่ ต้องการหาข้ ออ้างได้ ชิมก่อน


เท่ านั้นเอง
โดยไม่ รีรอ ไคลน์ ตรงไปยังห้ องน้าเพื่อเตรียมน้าเปล่าจานวน
หนึ่งสาหรับประกอบอาหาร เมื่อกลับถึงห้ อง มันนาเนื้อแกะล้างน้า
สะอาด หยิบแผ่ นเขียงมาวาง ก่อนจะหั่นเนื้อเป็ นชิ้นขนาดพอดีคา

สาหรับคาแก้ตัวเรื่ องที่มันปรุงอาหารเป็ น ไคลน์ จะโบ้ ยให้


เวิร์ช·แม็กโกเวินรับไป

ข้ ออ้างมีดังนี้ : ไม่ เพียงเวิร์ชจะจ้ างพ่อครัวฝี มือเยี่ยมซึ่ง


เชี่ยวชาญอาหารของรัฐเลียบทะเลมาปรุงอาหารเป็ นการส่ วนตัว
แต่ เวิร์ชยังกาชับให้ พ่อครัวช่ วยสอนทุกคนทาอาหารเพื่อติชมฝี มือ

ใช่ แล้ว คนตายพูดไม่ ได้ !

‘เดี๋ยวนะ… บนโลกที่มีพลังพิเศษ บางทีคนตายอาจพูดได้ ก็


ได้ …’
เมื่อตระหนักถึงความจริงดังกล่าว ไคลน์ ร้ ูสึกผิดกับตัวเอง
เล็กน้ อย เหนือสิ่ งอื่นใด มันคือผู้ที่เคยเผชิญเรื่ องราวเหนือ
ธรรมชาติด้วยตัวเองมาแล้ว

หลังจากสลัดความคิดฟุ้งซ่ าน ไคลน์ นาเนื้อแกะที่สับหยาบมา


ใส่ ชาม เดินไปนากล่องเครื่ องปรุงมาวางด้ านข้ างพร้ อมกับใช้ ช้อตัก
เกลือโปรยลงในชาม เม็ดเกลือเกินกว่ าครึ่งเก่าจนเป็ นสี เหลือง
จากนั้นก็โรยพริกไทยดาตามอีกเล็กน้ อย ก่อนจะใช้ มือขยา
เครื่ องปรุงให้ เข้ าเนื้อ

หมอถูกวางลงบนเตาและจุดไฟ ขณะรอให้ หม้ อร้ อน ไคลน์ สับ


แครอตที่ซื้อมาเมื่อช่ วงเช้ าให้ เป็ นชิ้นเล็ก ทาแบบเดียวกันกับหอม
ใหญ่

เมื่อเตรียมการเสร็จ มันเดินไปยังกับข้ าวและหยิบกระปุกบาง


สิ่ งออกมา เป็ นกระปุกมันหมูที่เหลือก้นขวด

ไคลน์ ใช้ ช้อนควักมันหมูใส่ ลงในก้นหม้ อที่เริ่มร้ อน จากนั้นก็เท


แครอตกับหอมใหญ่ ลงไป ก่อนจะผัดให้ เข้ ากัน

กลิ่นหอมเริ่มโชยฟุ้ง ไคลน์ ใส่ เนื้อแกะลงในหม้ อและบรรจงผัด


อย่ างตั้งใจ มันเฝ้าหม้ ออยู่เช่ นนั้นพักใหญ่
อันที่จริง ตามสู ตรต้ องใส่ ไวน์ ปรุงอาหารลงไปด้ วย หรื ออย่ าง
น้ อยก็ต้องไวน์ แดง แต่ ครอบครัวโมเร็ตติยากจนชนิดที่ดื่มเบียร์ ได้
เพียงสั ปดาห์ ละแก้ว เครื่ องปรุงแบบไวน์ ไม่ มีทางปรากฏในครัว

มันรินน้าเปล่าแทนส่ วนของไวน์ จากนั้นก็ปิดผา

ผ่ านไปราวยี่สิบนาที ไคลน์ เปิ ดฝาอีกครั้งพร้ อมกับใส่ ถั่วปากอ้า


และมันฝรั่งลงไป ตามด้ วยน้าเปล่าหนึ่งถ้ วยและเกลืออีกสองช้ อน

มันปิ ดฝาและเบาไฟลง สี หน้ าของไคลน์ กาลังโล่งใจเมื่อทุก


อย่ างผ่ านไปด้ วยดี

เหลือเพียงรอให้ เมลิสซ่ ากลับถึงบ้ าน

เพียงไม่ นาน ทั่วทั้งห้ องก็อบอวลไปด้ วยกลิ่นเนื้ออันหอมหวล


แทรกด้ วยกลิ่นเอกลักษณ์ ของมันฝรั่งและหอมใหญ่

เป็ นกลิ่นอันกลมกล่อมลงตัว เรียกน้าย่ อยให้ กับใครก็ตามที่สูด


ดมเข้ าไป

ไคลน์ หมั่นเปิ ดนาฬิ กาใบองุ่นตรวจสอบเวลาเป็ นระยะ

เมื่อผ่ านไปราวสี่ สิบนาที เสี ยงฝี เท้ าที่เป็ นจังหวะสม่าเสมอแต่


ไม่ เร่ งรีบ เริ่มดังใกล้เข้ ามา
กุญแจถูกเสี ยบ ลูกบิดประตูหมุนดังกริ๊ก บานประตูห้องถูกดัน
เข้ าด้ านใน

ยังไม่ ทันจะได้ ขยับเท้ าเดิน เมลิสซ่ าพลันชะงักพร้ อมกับพึมพา


ด้ วยสี หน้่ าฉงน

“หอมจัง…”

ขณะที่มือข้ างหนึ่งยังถือกระเป๋า สาวน้ อยเดินเข้ ามาในห้ อง


พลางชาเลืองหม้ อต้ ม
“นายเป็ นคนทา?”

เมลิสซ่ าใช้ มือหยิบถอดหมวกตาข่ าย เธอมองไคลน์ ด้วยสี หน้ า


สุ ดทึ่ง แววตาเปี่ ยมด้ วยความเคลือบแคลงเสี ยเต็มประตา

จมูกเมลิสซ่ าฟุดฟิ ดอีกครั้ง เธอสู ดลมหายใจเข้ าเต็มปอดเพื่อ


รับกลิ่นหอมเข้ าไปเพิม่ ผ่ านไปไม่ นาน นัยน์ ตาที่เคยตื่นตระหนก
เริ่มสงบลง เมลิสซ่ ามั่นใจ

“ฝี มือนาย?”

เธอถามยา้

“กลัวฉันจะทาเนื้อแกะเสี ยของรึไง?”
ไคลน์ ตอบคาถามกลับด้ วยคาถาม มันอมยิม้ เล็กน้ อย ก่อนจะ
กล่าวต่ อไปโดยไม่ รอคาตอบ

“ไม่ ต้องห่ วง ฉันขอให้ พ่อครัวบ้ านเวิร์ชสอนปรุงอาหารจานนี้


ให้ เป็ นพิเศษ เธอรู้ไหม เขาเป็ นพ่อครัวทีเ่ ก่งมาก”

“หัดทาครั้งแรก?”

เมลิสซ่ าขมวดคิว้ ตามนิสัยปรกติ แต่ ปมคิว้ เริ่มคลายลง


หลังจากสู ดกลิ่นหอมเข้ าไปเพิม่

“ฉันต้ องมีพรสวรรค์ ด้านนีม้ ากแน่ ”

ไคลน์ อมยิม้

“ใกล้เสร็จแล้ว เอากระเป๋ากับหมวกของเธอไปเก็บก่อน
จากนั้นก็ล้างมือให้ สะอาด อาหารจะเสร็จพอดีเมื่อเธอจัดการตัวเอง
เรียบร้ อย ฉันค่ อนข้ างมั่นใจในรสชาติ”

เมื่อได้ ยินพีช่ ายสั่ งอย่ างฉะฉานเป็ นขั้นเป็ นตอนด้ วยสี หน้ า


มั่นใจ เมลิสซ่ าพลันยืนแข็งทื่อตรงหน้ าประตู สายตาเปี่ ยมด้ วย
ความตะลึงและสงสั ย

นี่ใช่ พชี่ ายตนจริงหรื อ?


“หืม… ถ้ าเธอไม่ รีบไป เดี๋ยวเนื้อแกะก็เกรียมกันพอดี”

ไคลน์ ยุแหย่

“ต…ตกลง!”

เมลิสซ่ าได้ สติกลับมา เธอรีบนากระเป๋ากับหมวกเข้ าไปเก็บใน


ห้ อง

เมื่อฝาหม้ อถูกเปิ ด ไอน้าสี ขาวฟุ้งกระจายส่ งกลิ่นหอยฉุย


ไคลน์ นาขนมปังไรย์ สองชิ้นวางลงข้ างถั่วกับมันฝรั่ง พวกมันจะถูก
ความร้ อนและไอน้าอบจนนิ่ม พอดีกับที่เมลิสซ่ าเตรียมตัวเสร็จ

หลังจากเก็บกระเป๋าและหมวก เมลิสซ่ าเดินออกไปล้างมือที่


ห้ องน้ารวม จากนั้นก็กลับมาพบสตูว์เนื้อแกะใส่ ถั่ววางเตรียมรอ
บนโต๊ ะทานอาหาร

บนจานมีเครื่ องเคียงหลายชนิด ทั้งมันฝรั่ง ถั่วปากอ้า แครอต


และหอมใหญ่

ขนมปังไรย์ สองก้อนถูกวางเคียงในสภาพอ่อนนุ่ม พวกมันมี


ร่ องรอยการนาไปจิม้ น้าซอสเกรยวี่เล็กน้ อย

“ลองชิมดูสิ”
ไคลน์ ชี้นวิ้ ไปยังส้ อมไม้ ข้างจาน

เมลิสซ่ ากาลังตะลึง เธอไม่ ปฏิเสธ ส้ อมไม้ จิม้ ลงไปยังมันฝรั่ง


ก่อนจะถูกหยิบขึน้ มากัดคาเล็ก

กลิ่นแสนหอมหวลของมันฝรั่งฟุ้งกระจายเต็มปาก ผิวสั มผัส


นุ่มละมุน รสชาติกลมกล่อม

น้าลายในปากเมลิสซ่ ากาลังคุ้มคลั่งขณะเคีย้ วมันฝรั่งต้ มหมด


คา

“กินเนื้อด้ วยสิ ”

ไคลน์ ชี้ไปที่เนื้อแกะ

มันแอบชิมมาก่อนแล้ว จึงทราบว่ ารสชาติอยู่ในระดับพ้นขีด


มาตรฐานเพียงคาบเส้ น แต่ ถือว่ ายอดเยี่ยมสาหรับครอบครัวสามัญ
ชนในโลกปัจจุบันที่อาศัยอยู่

เมลิสซ่ าไม่ มีทางเคยกินอาหารรสนีแ้ น่ เพราะตั้งแต่ เด็กจนโต


เธอมีโอกาสกินเนื้อน้ อยกว่ าเด็กทั่วไปมาก

หลังจากได้ ลมิ้ รสมันฝรั่ง สี หน้ าของเมลิสซ่ าเปี่ ยมความ


คาดหวังขณะเล็งชิมเนื้อแกะบนจาน
เมื่อกัดเข้ าไปคาแรก สั มผัสที่แล่นไปทั่วร่ างคือความอ่อนนุ่ม
ละมุนลิน้ ใกล้เคียงคาว่ าละลายในปาก

กลิ่นอันเป็ นเอกลักษณ์ ของซอสและเนื้อคละคลุ้งฟุ้งกระจาย


น้าเนื้อไหลฉ่าปาก รสชาติราวกับอาหารจากสวรรค์

เป็ นความรู้สึกที่เมลิสซ่ าไม่ เคยสั มผัสมาก่อนสั กครั้งในชีวิต


เธอควบคุมร่ างกายตัวเองไม่ ได้ มือที่จับส้ อมได้ จิม้ เนื้อใส่ ปากคา
แล้วคาเล่าอย่ างหยุดไม่ อยู่

จนกระทั่งได้ สติกลับมาในอีกหลายวินาทีให้ หลัง เมลิสซ่ ากิน


เนื้อเข้ าไปคนเดียวหลายชิ้น

“ฉ…ฉัน เอ่อ… ไคลน์ ฉันเผลอกินส่ วนของนายเข้ าไป”

เมลิสซ่ ากล่าวน้าเสี ยงตะกุกตะกัก ใบหน้ าแดงก่าอย่ างเขินอาย

“ไม่ เลย ฉันแอบชิมไปบ้ างแล้ว นี่คือสิ ทธิพเิ ศษของพ่อครัว”

ไคลน์ ตอบกลับพลางอมยิม้ มันใช้ ส้อมจิม้ เนื้อเข้ าปากหนึ่งคา


สลับกับการตักถั่ว มันฝรั่ง แครอต หอมใหญ่ มากิน

เมื่อถึงจุดหนึ่ง มันวางภาชนะลงและฉีกขนมปังไรย์ จิม้ น้าซอส


เกรยวี่ใส่ ปาก
เมลิสซ่ ารู้สึกผ่ อนคลายและทานอาหารได้ มากขึน้ หลังจากเห็น
ท่ าทีเป็ นธรรมชาติของพีช่ ายตัวเอง

“จานนีอ้ ร่ อยมาก ไม่ เหมือนกับการหัดทาครั้งแรกเลย”

เมลิสซ่ ากล่าวชมจากใจจริง เธอจ้ องมองจานเปล่าตรงหน้ า


ด้ วยแววตาเหม่ อลอย

กระทั่งน้าซอสยังแทบไม่ เหลือ

“ยังห่ างไกลจากฝี มือพ่อครัวบ้ านเวิร์ชมาก ถ้ ารวยกว่ านี้ ฉัน


ต้ องพาเธอกับเบ็นสั นไปกินอาหารในภัตตาคารให้ ได้ !”

ไคลน์ กล่าวด้ วยสี หน้ ามุ่งมั่น

“แล้วการสั มภาษณ์ ของนาย… เอิ่ก!”

ยังไม่ ทันที่เมลิสซ่ าจะกล่าวจบประโยค เสี ยงเรอแห่ งความพึง


พอใจดังแทรกขึน้ มาจากลาคอ

สาวน้ อยรีบใช้ มือปิ ดปากด้ วยใบหน้ าแดงก่า นัยน์ ตาสั่ นระริก

เป็ นความผิดของสตูว์จานนีต้ ่ างหาก!


ม…มันอร่ อยเกินไป!
ไคลน์ แอบหัวเราะในใจ หากประเมินจากนิสัยน้ องสาว การเย้ า
แหย่ คงไม่ ใช่ ทางเลือกที่ฉลาดนัก

มันชี้ไปที่จาน

“หน้ าที่ของเธอ”

“ได้ เลย!”
เมลิสซ่ ารีบลุกขึน้ และยกภาชนะไปยังอ่างล้างหน้ าที่ห้องน้า
รวม

เมื่อล้างจานเสร็จสรรพและกลับมา เธอทาการเปิ ดตู้กับข้ าว


เพื่อสารวจเครื่ องปรุงและอุปกรณ์ อื่นตามนิสัยปรกติ

“นายใช้ พวกมันหรื อ?”

เมลิสซ่ าถามพลางขมวดคิว้ เธอยกขวดพริกไทยดากับกระปุก


มันหมูขนึ้ มาชู

ไคลน์ ยักไหล่ยมิ้

“นิดเดียวเอง อยากได้ ความอร่ อยก็ต้องลงทุนหน่ อย”


หางตาเมลิสซ่ ากระตุกเล็กน้ อย หลังจากครุ่นคิดพักหนึ่ง เธอ
หันกลับมาพูดกับไคลน์

“ให้ ฉันทาอาหารเองดีกว่ า

“เพราะว่ า… นายต้ องตั้งสมาธิเพื่อเตรียมตัวสอบสั มภาษณ์


งานของนายสาคัญเหนือสิ่ งอื่นใด”
ราชันย์ เร้ นลับ 12 : พบกันอีกครั้ง

เมลิสซ่ า ช่ วยอย่ าขุดเรื่ องที่ทาร้ ายจิตใจขึน้ มาพูดได้ ไหม…


ไคลน์ พมึ พา ขมับของมันเริ่มปวดแปลบ

ความทรงจายังขาดหายไปหลายส่ วน ไม่ มีอันไหนที่ไม่ สาคัญ


แล้วมันจะเอาความรู้ที่ไหนไปสอบสั มภาษณ์ ซึ่งจะมีขนึ้ ในอีกสอง
วันข้ างหน้ า?

ยิ่งไปกว่ านั้น เหตุการณ์ พลิ ึกมากมายเกิดขึน้ ต่ อเนื่องไม่ หยุด


หย่ อน จะให้ มีอารมณ์ อ่านหนังสื อทบทวนได้ อย่ างไร?

ไคลน์ ตอบแบบขอไปทีก่อนจะแสร้ งเปิ ดหนังสื ออ่าน เมลิสซ่ า


เห็นดังนั้นจึงร่ วมวงนั่งทาการบ้ านของตัวเองในจุดที่ไม่ ห่างนัก ถือ
เป็ นการประหยัดโคมไฟผนังไปในตัว

บรรยากาศผ่ านไปอย่ างเงียบสงบ จนกระทั่งห้ าทุ่มตรง สองพี่


น้ องกล่าวฝันดีต่อกันและแยกย้ ายไปนอน

ก็อก!
ก็อก! ก็อก!
เสี ยงเคาะประตูดังจนไคลน์ ตื่นจากภวังค์

เมื่อเหลือบมองหน้ าต่ างนอกห้ อง แสงแดดสี แสดยามรุ่งสาด


สาดส่ องทะลุม่าน ไคลน์ งัวเงียพยุงตัวเองลุกนั่ง

“ใครกัน?”

หัดรู้เกรงใจคนอื่นบ้ างสิ ฟะ!


แล้วทาไมเมลิสซ่ าถึงไม่ ยอมปลุกตน?

“ผมเอง ดันน์ ·สมิท”

ชายเสี ยงลุ่มลึกหลังประตูขานตอบ

ดันน์ ·สมิท? ใครกัน…

ไคลน์ ลุกจากเตียงและเดินไปที่ประตูด้วยสี หน้ าหงุดหงิด เมื่อ


บานประตูเปิ ดออก นายตารวจนัยน์ ตาเทาคนเมื่อวานกาลังยืนหน้ า
ห้ อง

ไคลน์ เอ่ยปากถามด้ วยท่ าทีตื่นตระหนก


“มีอะไรงั้นหรื อครับ?”
นายตารวจตอบเสี ยงขึงขัง

“พวกเราได้ เบาะแสใหม่ จากคนขับรถม้ า เขาสาบานว่ าเป็ น


คนขับรถพาคุณไปส่ งที่บ้านมิสเตอร์ เวิร์ชในวันที่ 27 มิถุนายน วัน
ที่เวิร์ชและนาย่ าเสี ยชีวิต แถมยังยืนยันหนักแน่ นว่ ามิสเตอร์ เวิร์ช
เป็ นผู้ออกค่ าโดยสารให้ ท้งั หมด”

ไคลน์ เริ่มสั่ นระริก มันมิได้ ตื่นตระหนกเพราะเคยโกหกสิ่ งใด


ไปกับตารวจ ด้ วยความสั ตย์ จริง ไคลน์ ยังไม่ เคยให้ การเท็จกับ
ตารวจเลยสั กครั้ง

มันเพียงแต่ อึง้ กับเบาะแสใหม่ ที่ดันน์ ·สมิทเล่าให้ ฟัง

อีกนัยหนึ่งก็คือ วันที่ 27 มิถุนายน ไคลน์ คนก่อนได้ เดินทางไป


ยังบ้ านเวิร์ชจริง และกลับถึงห้ องตัวเองก่อนเที่ยงคืน จากนั้นก็ลง
มือฆ่ าตัวตายเหมือนกับเวิร์ชและนาย่ า…

ไคลน์ ฝืนยิม้

“หลักฐานของคุณยังอ่อน มันไม่ ได้ พิสูจน์ ว่าผมเกี่ยวข้ องกับ


การตายของเวิร์ชและนาย่ าเลยสั กนิด ด้ วยความสั ตว์ จริง พวกเขา
เป็ นเพื่อนสนิท และตัวผมก็ต้องการทราบความคืบหน้ าคดียิ่งกว่ า
ใคร แต่ ว่า… ผมจาอะไรไม่ ได้ เลย โดยเฉพาะวันที่ 27 มิถุนา ความ
ทรงจาของผมว่ างเปล่าโดยสมบูรณ์ ผมพยายามอ่านไดอารีเผื่อว่ า
ตัวเองจะเขียนอะไรไว้ บ้าง ไม่ ร้ ูด้วยซ้าว่ าตัวเองเดินทางไปที่
บ้ านพักของเวิร์ชในวันที่ 27”

“คุณคงความจาเสื่ อมรุนแรงมาก”

ดันน์ ·สมิทกล่าวพลางผงกศีรษะเล็กน้ อย ใบหน้ าของมันราบ


เปรียบปราศจากอารมณ์ ไม่ โกรธ ไม่ เคลือบแคลง และไม่ ยมิ้ แย้ ม

“คุณก็น่าจะสั มผัสถึงความบริสุทธิ์ใจของผมได้ ใช่ ไหม”

ไคลน์ กล่าวขณะจ้ องมองเข้ าไปในดวงตาสี เทาของดันน์

ฉันพูดความจริง!
ถึงมันจะไม่ ท้ังหมดก็เถอะ!

ดันน์ ·สมิทยังไม่ มอบคาตอบ มันกวาดสายตารอบห้ องก่อนจะ


กล่าว

“ปื นลูกโม่ ของมิสเตอร์ เวิร์ชหายไป ผมขอเดาว่ า… สามารถ


พบมันได้ ในห้ องนีใ้ ช่ ไหม? มิสเตอร์ ไคลน์ ”

ก็เออสิ ฟะ…
ในที่สุดไคลน์ ก็ทราบที่มาของปื นลูกโม่ ทองเหลืองหรูหรา
ข้ อมูลปริศนาเริ่มปะติดปะต่ อกันในหัวทีละชิ้นสองชิ้น

ไคลน์ ผายมือเชิญดันน์ ·สมิทเข้ าไปในห้ อง จากนั้นก็ใช้ ปลาย


คางชี้ไปยังเตียงไม้ สองชั้ น

“บนแผ่ นไม้ ใต้ เตียง”

มันไม่ ได้ ระบุว่าเป็ นเตียงชั้นล่าง เพราะคงไม่ มีใครเสี ยสติ


พอจะซ่ อนปื นไว้ ใต้ เตียงชั้นบน จุดที่แค่ แหงนหน้ าขึน้ ก็มองเห็น
ดันน์ ·สมิทยังไม่ เดินเข้ าไป มุมปากมันกระตุกเล็กน้ อยก่อนจะ
หันมาถาม

“มีอะไรอยากเล่าอีกไหม?”

ไคลน์ ตอบโดยไม่ ลังเล

“แน่ นอน!

“เมื่อวาน ผมตื่นขึน้ กลางดึกและพบว่ าตัวเองกาลังนอนฟุบ


โต๊ ะ ข้ างลาตัวมีปืนลูกโม่ วางอยู่ บริเวณมุมห้ องมีกระสุ นตกหนึ่ง
นัด สถานที่เกิดเหตุเหมือนกับการฆ่ าตัวตาย… แต่ ไม่ ร้ ูว่าเพราะ
เหตุใด อาจเพราะขาดประสบการณ์ ด้านปื น หรื ออาจเพราะกลัว
ตายในวินาทีสุดท้ าย กระสุ นจึงทาหน้ าที่ของมันไม่ สาเร็จ ส่ งผลให้
ผมยังมีชีวิตอยู่
“ผมจึงสู ญเสี ยความทรงจาบางส่ วนนับแต่ น้ นั โดยเฉพาะ
ความทรงจาวันที่ 27 มิถุนายน ผมไม่ ได้ โกหกคุณ ผมจาอะไรไม่ ได้
เลยสั กนิด”

เพื่อให้ ตนรอดพ้นจากการเป็ นผู้ต้องสงสั ยโดยเร็ว และเพื่อ


ขจัดเหตุการณ์ ประหลาดที่เกิดขึน้ รอบตัวอย่ างต่ อเนื่อง ไคลน์
อธิบายทุกสิ่ งที่เกิดขึน้ ตามจริง ยกเว้ นเรื่ องเดินทางข้ ามโลกและ
‘ชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์’
ไม่ เพียงเท่ านั้น ไคลน์ ยังเลี่ยงบาลีอย่ างแยบยล มันได้ ไม่ พูดว่ า
‘กระสุ นทะลวงสมองจนเป็ นเป็ นรูโหว่ ’ เพียงแต่ บอกว่ า กระสุ นปื น
ทาหน้ าที่ของมันไม่ สาเร็จ

สาหรับคนอื่น สองประโยคอาจฟังดูคล้ายคลึงกันมากจน
เหมือนเป็ นสิ่ งเดียวกัน แต่ ความจริงแล้วไม่ ใช่

ดันน์ ·สมิทยืนฟังอย่ างเงียบงัน


ก่อนจะกล่าว

“คาให้ การของคุณสอดคล้องกับสิ่ งที่ผมคาดเดา รวมถึง


สอดคล้องกับพยานแวดล้อมที่พวกเรามี แต่ ก็ยังไม่ ทราบเหตุผลที่
คุณรอดชีวิตมาได้ ”
“ขอบคุณที่เชื่ อ ผมเองก็ไม่ ทราบว่ ารอดมาได้ ยังไงเหมือนกัน”
ไคลน์ โล่งอก มันแอบถอนหายใจ

“แต่ ว่า…”

ดันน์ ยังมีแต่

“ต่ อให้ ผมเชื่ อคุณ แต่ ก็ไม่ มีสิ่งใดเปลี่ยนไป คุณคือผู้ต้องสงสั ย


อันดับหนึ่งคนปัจจุบันอย่ างเลี่ยงไม่ ได้ ทางเดียวที่จะพ้นข้ อครหา
คือเข้ ารับการตรวจและยืนยันจาก ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ว่ าคุณเสี ยความ
ทรงจาจริง และไม่ ได้ เกี่ยวข้ องกับการตายของมิสเตอร์ เวิร์ชและ
มิสนาย่ า”

ดันน์ กระแอม สี หน้ ามันขึงขันขึน้

“มิสเตอร์ ไคลน์ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ คุณต้ องร่ วมมือกับ


พวกเรา ตามผมไปยังสถานีตารวจเพื่อตรวจสอบความจริง คงใช้
เวลาราวสองถึงสามวันจนกว่ าจะสรุปผล”

“ผู้เชี่ยวชาญมาถึงแล้ว?”

ไคลน์ ขมวดคิว้ ถาม


ไม่ ใช่ ตารวจเคยบอกเองหรื อ ว่ าต้ องใช้ เวลาอีกสั กสองสามวัน
กว่ าผู้เชี่ยวชาญจะมาถึงทิงเก็น
“เธอมาถึงเร็วกว่ าที่คาดไว้ ”

ดันน์ ผายมือส่ งสั ญญาณบอกให้ ไคลน์ ลงไปพร้ อมกับมัน

“ขอทิง้ ข้ อความไว้ ได้ ไหม”

ไคลน์ ขอร้ อง
เบ็นสั นยังไม่ กลับ ส่ วนเมลิสซ่ าก็ออกไปโรงเรียนแล้ว มัน
จาเป็ นต้ องทิง้ ข้ อความเพื่อชี้แจงว่ าตนพัวพันกับคดีของเวิร์ช สอง
พีน่ ้ องจะได้ ไม่ ต้องเป็ นห่ วง

ดันน์ พยักหน้ า

“ตามสบาย”

ไคลน์ เดินกลับไปที่โต๊ ะ หลังจากควานหาแผ่ นกระดาษอยู่พกั


หนึ่ง มันฉุกคิดบางสิ่ งได้

ด้ วยความสั ตย์ จริง มันเริ่มเกิดความรู้สึกไม่ อยากพบ


‘ผู้เชี่ยวชาญ’ เพราะไม่ อย่ างนั้น ความลับใหญ่ หลวงเกี่ยวกับการ
ข้ ามโลกอาจถูกเปิ ดเผย

ภายใต้ โลกที่ถูกกุมอานาจเบ็ดเสร็จโดยศาสนาหลักอย่ างโบสถ์


ทั้งเจ็ดแห่ ง ไคลน์ คาดเดาเอาว่ า สาเหตุที่มหาจักรพรรดิโรซายล์ถูก
ลอบสั งหาร อาจเป็ นเพราะความลับเรื่ องเดินทางข้ ามโลกถูก
เปิ ดเผย

หรื ออีกนัยหนึ่งคือ บุคคลเดินทางข้ ามโลกจะเป็ นที่ต้องการตัว


ของโบสถ์ และทุกคนต้ องเข้ ารับการพิพากษาโทษ!

ทว่ า ตัวมันที่ปราศจากอาวุธ ทักษะต่ อสู้ หรื อพลังพิเศษ จะเอา


สิ่ งใดไปสู้ กับนายตารวจระดับสู งได้ ? ไม่ เพียงเท่ านั้น นอกห้ องคงมี
ลูกน้ องดันน์ ดักรออีกเพียบแน่

เมื่อใดที่พวกมันชักปื นยิง เมื่อนั้นจะเป็ นจุดจบของไคลน์ ·โม


เร็ตติโดยสมบูรณ์

“เอ่อ… แล้วฉันจะรีบกลับมา”

ไคลน์ ทงิ้ ข้ อความ จากนั้นก็คว้ ากุญแจติดตัวและเดินออกจาก


ห้ องตามดันน์ ·สมิทไป

ท่ ามกลางทางเดินอันมือมิด ตารวจสี่ นายในเครื่ องแบบตาราง


หมากรุกขาวสลับดา กาลังเดินล้อมไคลน์ ไว้ ทุกทิศ ท่ าทีระมัดระวัง
เป็ นพิเศษ

กึก กึก กึก…

ไคลน์ เดินตามดันน์ อย่ างว่ าง่ าย บันไดไม้ เก่าโทรมของหอพัก


ส่ งเสี ยงร้ องโหยหวนเมื่อถูกเหยียบ
ด้ านล่างหอพักมีรถม้ าสี่ ล้อคันใหญ่ จอดรออยู่ ข้ างรถติดตรา
‘ดาบไขว้ และมงกุฏ’ ซึ่งเป็ นสั ญลักษณ์ ของกรมตารวจ รอบรถม้ ามี
พ่อค้ าแม่ ค้าแผงลอยยามเช้ าและผู้คนขวั่กไขว่ เช่ นเคย

“ขึน้ ไปนั่ง”

ดันน์ สั่งสั ญญาณให้ ไคลน์ เข้ าไปนั่งคนแรก

ขณะไคลน์ กาลังก้าวขา พ่อค้ าขายหอยนางรมได้ แหกปาก


ตะโกนลั่นเพื่อปรักปราชายคนหนึ่งว่ าเป็ นหัวขโมย

ทั้งสองปลุกปลา้ นัวเนียไม่ ห่างรถม้ านัก ส่ งผลให้ ม้าตารวจเริ่ม


แตกตื่นและเริ่มคุมไม่ อยู่

โอกาสทอง!

ไคลน์ ไม่ คิดให้ มากความ มันก้มหน้ าลงและพุ่งตัวหายเข้ าไปใน


กลุ่มฝูงชนที่แออัดทันที

อาศัยการแหวกว่ ายและโยกตัว มันนาพาตัวเองมาถึงอีกฝั่งของ


ถนนด้ วยความเร็วสู ง

ความสาคัญในปัจจุบันคือต้ องเลี่ยงเผชิญหน้ ากับ ‘ผู้เชี่ยวชาญ’


ให้ ได้
ทางเดียวที่จะรอดคือไปให้ ถึงท่ าเรื อนอกเมือง จากนั้นก็นั่งเรื อ
ผ่ านแม่ น้าทัสซอคไปยังกรุงเบ็คลันด์ ที่มีผ้ คู นหนาแน่ นและหลบ
ซ่ อนตัวได้ ง่ายกว่ า

หรื ออีกวิธีหนึ่ง สามารถหนีไปทางทิศตะวันออกด้ วยรถไฟไอ


น้า ลงสถานทีสักแห่ งที่ใกล้กับท่ าเรื อเอ็นมาร์ ท จากนั้นมุ่งหน้ าไป
ยังท่ าเรื อพริสต์ ทางทะเล แล้วค่ อยมุ่งหน้ าสู่ เบ็คลันด์ อีกทอด

หลังจากสั บขาวิ่งไม่ นาน ไคลน์ ก็มาถึงทางเดินสุ ดถนน มันรี


บวกตัดเข้ าถนนกางเขนเหล็ก ซอยดังกล่าวมีรถม้ าให้ บริการเป็ น
จานวนมาก

“ไปท่ าเรื อนอกเมือง”

ไคลน์ ใช้ มือเกาะข้ างรถม้ าและดึงตัวขึน้

มันคานวนทุกสิ่ งไว้ โดยละเอียด ก่อนอื่น ต้ องทาให้ ตารวจ


ไขว้ เขวโดยการทาเป็ นมุ่งหน้ าไปยังท่ าเรื อ แต่ ความจริงแล้วจะแอบ
กระโดดลงกลางทาง

“ครับผม”

คนขับรถม้ าเริ่มสะบัดบังเหียน
กร่ อก! กร่ อก! กร่ อก…

รถม้ าเคลื่อนตัวพ้นจากถนนกางเขนเหล็ก

หลังจากนั้นสั กพัก ขณะไคลน์ คิดจะกระโดดลงเพื่อหนี มันเริ่ม


ผิดสั งเกตุเมื่อกวาดสายตามองสองข้ างทาง

รถม้ าคันนีไ้ ม่ ได้ ม่ งุ ไปยังท่ าเรื อนอกเมือง!

“จะขับไปไหน?”

ไคลน์ โพล่งอย่ างหัวเสี ย

“ไปบ้ านมิสเตอร์ เวิร์ช…”

คนขับตอบเสี ยงเย็นยะเยียบ

อะไรนะ?

ไคลน์ องึ้ จนพูดไม่ ออก

ทันใดนั้น คนขับรถม้ าหันกลับมามองด้ วยนัยน์ ตาสี เทาหม่ น!


ดันน์ ·สมิท!
นายตารวจนัยน์ ตาเทา!

“นี่คุณ!”

ไคลน์ ตื่นตระหนกสุ ดขีด ทันใดนั้น ภาพการมองพลันพร่ ามัว


พร้ อมกับหมุนเคว้ ง ก่อนจะสงบลงอีกครั้งเมื่อมันพยุงตัวลุกขึน้ นั่ง

ลุกขึน้ นั่ง?

ไคลน์ กวาดสายตามองไปรอบตัว แล้วก็พบว่ า ผ้ าม่ านหน้ าต่ าง


กาลังถูกฉาบด้ วยสี แดงเข้ มของจันทร์ เลือด

มันเลื่อนมือขึน้ มาจับหน้ าผากที่เปี ยกแฉะไปด้ วยเหงื่อไคลเย็น


ฉ่า บริเวณแผ่ นหลังก็มีสภาพไม่ ต่างกัน

“ฝันร้ ายหรอกหรื อ…”

ไคลน์ ถอนหายใจยาว

“เรายังไม่ เป็ นอะไร… ยังปลอดภัยดี”

แต่ มันเริ่มฉุกคิดถึงความไม่ ชอบมาพากล เหตุใดตัวเองในฝัน


ถึงมีสติครบถ้ วนได้ เช่ นนั้น? แถมยังตัดสิ นใจได้ อย่ างสุ ขุมชัดเจน
มาก
เมื่อไตร่ ตรองอย่ างใจเย็นอยู่พกั ใหญ่ ไคลน์ หยิบนาฬิ กาใบองุ่น
ขึน้ มาตรวจสอบเวลา

เพิง่ จะตีสองตรง มันรีบลุกขึน้ เพื่อเข้ าห้ องน้าล้างหน้ าล้ างตาให้


สะอาด และหวังปลดปล่อยสิ่ งที่อยู่ในกระเพาะปัสสาวะ

ด้ วยท่ าทีผ่อนคลาย ไคลน์ เปิ ดประตูห้องและเดินตรงไปตาม


ทางที่มีแสงจันทร์ ให้ ความสว่ างเพียงเล็กน้ อย

ทันใดนั้น มันเหลือบเห็นเงาตะคุ่มของใครบางคนยืนริม
หน้ าต่ างสุ ดทางเดินยาว

จากแสงจันทร์ อันเลือนลางที่ฉายกระทบ ไคลน์ พอจะมองเห็น


เสื้ อกันลมสี ดาที่บุคคลปริศนาสวมอยู่ ชายเสื้ อยาวกว่ าแจ็คเก็ต แต่
สั้ นกว่ าโค้ ต

บุคคลดังกล่าวกลมกลืนไปกับความมืดมิดได้ แนบเนียนจนน่ า
ทึ่ง คงมองมิอาจมองเห็นหากไม่ มีแสงจันทร์ ส่องกระทบ

ทันใดนั้น บุคคลปริศนาทาการหมุนตัวกลับมาอย่ างเชื่ องช้ า


นัยต์ ตาสี เทาของมันทั้งลุ่มลึกและเย็นยะเยียบ

ดันน์ ·สมิท!
ราชันย์ เร้ นลับ 13 : เหยี่ยวราตรี

กึก!

ไคลน์ ผงะถอยหลังโดยอัตโนมัติ มันไม่ มั่นใจอีกแล้ว ว่ าวินาที


ปัจจุบันคือฝันหรื อความจริงกันแน่

เงาปริศนาถอดหมวกออกพร้ อมกับก้มศีรษะเล็กน้ อย ก่อนจะ


กล่าวด้ วยรอยยิม้

“ขอแนะนาตัวเองอีกครั้ง ผมคือดันน์ ·สมิทแห่ งเหยี่ยวราตรี”

เหยี่ยวราตรี? หนึ่งในองค์ กรผู้วิเศษของโบสถ์ เทพธิดารัตติกาลที่


‘จัสติส’ กับ ‘แฮงแมน’ พูดถึงอย่ างนั้นหรื อ?

ไคลน์ ฉุกคิดบางสิ่ งได้


ข้ อมูลในหัวเริ่มปะติดปะต่ อ

“คุณควบคุมความฝันของผมใช่ ไหม? คุณบังคับให้ ผมต้ องฝัน


แบบนั้น…”

เหยี่ยวราตรี—ดันน์ ·สมิท นาหมวกกลับไปสวมเพื่อปกปิ ดศีรษะ


ที่ค่อนข้ างเถิก มันอธิบายด้ วยนัยน์ ตาสี เทาที่ไม่ สั่นคลอน
“ไม่ ครับ ผมเพียงเข้ าไปในความฝันของคุณและทาการชี้นาอย่ าง
เหมาะสม”

เป็ นเสี ยงอันนุ่มละมุนและลุ่มลึก ดังกังวาลไปตามทางเดินหอพัก


โดยไม่ ปลุกลูกบ้ านคนใดให้ ตื่น

“ภายในความฝันของมนุษย์ อารมณ์ ทุกชนิดจะเข้ มข้ นกว่ ายาม


ปรกติเสมอ โลกภายในนั้นจะปั่นป่ วน บ้ าคลั่ง และปลุกเร้ า ฝันคือ
สิ่ งที่เกิดจากจิตใจสานึก และจิตใต้ สานึกไม่ มีวันโกหก… สาหรับ
ผู้เชี่ยวชาญอย่ างผม การชี้นาความฝันจะมนุษย์ จะเค้ นความจริงได้
มากกว่ าถามจากปากโดยตรง”

นี่มัน… มนุษย์ ธรรมดาที่ไหนจะควบคุมความฝันคนอื่นได้ ?


และหากมันบังเอิญฝันถึงโลกเก่ าเข้ า ความลับจะไม่ ถูกดันน์ ·สมิท
ล่วงรู้เอาหรื อ?

ไคลน์ ยืนชะงัก ภายในใจกาลังทบทวนรายละเอียดของฝันร้ าย


ก่อนหน้ า

มันยังคงมองว่ าแปลกอยู่ดี… เหตุใดตัวมันในความฝันถึง


ตัดสิ นใจได้ สุขุมนัก? มีความคิดเป็ นเหตุเป็ นผล มิได้ อารมณ์ พลุ่ง
พล่างหรื อลงมือทาตามจิตใต้ สานึกอย่ างที่ดันน์ กล่าว สามารถ
ไตร่ ตรองสิ่ งที่ต้องพูดและไม่ สมควรพูดได้
อีกนัยก็คือ ไม่ เหมือนความฝันเลยสั กนิด
หรื อว่ า… ดันน์ ไม่ ได้ บงการฝัน เพียงแต่ ‘อ่าน’ ภาพความฝัน
ของตน และได้ เห็นเฉพาะสิ่ งที่ตนอยากให้ เห็น

สมองไคลน์ กาลังประมวลผลอย่ างบ้ าคลั่งเพื่อหาข้ อสรุป

ทาไมเราถึงยังมีสติในความฝันตัวเอง?
หรื อการเดินทางข้ ามโลกจะทาให้ เรามีร่างกายและจิตที่พเิ ศษกว่ า
มนุษย์ ปรกติ?
หรื อจะเป็ นเพราะ… พิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตา?

“ถ้ าอย่ างนั้น มิสเตอร์ สมิท คุณยอมเชื่ อแล้วใช่ ไหมว่ าผมสู ญเสี ย
ความทรงจา?”

ไคลน์ เรียบเรียงความคิดก่อนถามออกไป

ดันท์ ·สมิทไม่ ตอบทันที มันจ้ องมองเข้ าไปในดวงตาไคลน์

“คุณไม่ ตกใจกับเหตุการณ์ ประหลาดที่เกิดขึน้ เลยหรื อ?

“ผมเคยทาคดีมากมาย คนธรรมดาเกือบทั้งหมดจะไม่ เชื่ อใน


พลังของผู้วิเศษ ส่ วนใหญ่ แยกแยะไม่ ออกระหว่ างความฝันและ
ความจริง ต่ อให้ ผมอธิบายชัดเจน แต่ พวกเขาจะคิดว่ าตัวเองกาลัง
ฝันอยู่”
ไคลน์ ตอบกลับ

“บางที… คงเป็ นเพราะผมคอยสวดภาวนามาตลอดชีวิต ให้ พลัง


วิเศษที่มองไม่ เห็นช่ วยคุ้มครองในยามได้ รับอันตราย”

“เป็ นมุมมองที่น่าสนใจ… การรอดชีวิตของคุณอาจไม่ ใช่ เพราะ


โชคเพียงอย่ างเดียว”

ดันน์ พยักหน้ าไร้ อารมณ์

“ผมสามารถยืนยันได้ ว่า คุณสู ญเสี ยความทรงจาไปบางส่ วนจริง


โดยเฉพาะความจาในช่ วงที่เกิดเหตุ”

“แล้วผมเป็ นอิสระหรื อยัง?”

ไคลน์ ถามหยั่งเชิง ภายในใจมันโล่ งอกไปหลายส่ วน

ดันน์ สอดมือทั้งสองข้ างเข้ าไปในกระเป๋าเสื้ อกันลมพร้ อมกับเดิน


เข้ าหาไคลน์ ด้วยย่ างเก้ าที่เชื่ องช้ า บรรยากาศมืดมิดโดยรอบพลัน
อ่อนโยนและอบอุ่น

“ยังไม่ ได้ ครับ คุณต้ องไปหาผู้เชี่ยวชาญกับผมก่อน”


ดันน์ ตอบพลางอมยิม้
“เพราะอะไร?”

ไคลน์ ขมวดคิว้

“ได้ เห็นผมในฝันแล้วยังไม่ เชื่ ออีกหรื อ?”

นายต้ องล้อกันเล่นแน่
ถ้ า ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ บัดซบนั่นถนัดสะกดจิตหรื ออ่านใจ ความลับ
ของฉันจะไม่ ถูกเปิ ดโปงกันพอดีหรื อ?

ผลที่ตามมานั้นร้ ายแรงเหนื อจินตนาการ

“ปรกติผมเป็ นคนถ่ อมตัวนะ แต่ หากเป็ นเรื่ องที่เกี่ยวกับความ


ฝัน ผมจะมั่นใจในฝี มือตัวเองพอสมควร”

ดันน์ อธิบายด้ วยท่ าทีสุขุม

“แต่ ในเชิงการสอบสวน การยืนยันซ้าอีกครั้งไม่ ใช่ เรื่ องเสี ยหาย


แถมทางเรายังมีผ้ เู ชี่ยวชาญหลายด้ าน อาจช่ วยคุณฟื้ นฟูความทรง
จากลับมาให้ ได้ ”

โดยไม่ รอให้ ไคลน์ ตอบ ดันน์ กล่าวต่ อด้ วยน้าเสี ยงทุ้มต่าและเย็น


ยะเยียบ
“และเหนือสิ่ งอื่นใด คุณคือเบาะแสเดียวของสมุดบันทึกตระกูล
อันทีโนกัส”

“อะไรนะ?”

ร่ างกายไคลน์ พลันแข็งทื่อ

ดันน์ ·สมิทหยุดเดินตรงหน้ าไคลน์ นัยน์ ตาสี เทาของมันจ้ องมอง


ราวกับมองเห็นทุกสิ่ งทะลุปรุโปร่ ง
“ณ ที่เกิดเหตุ บ้ านของมิสเตอร์ เวิร์ช พวกเราไม่ พบร่ องรอยสมุด
บันทึกจากยุคสมัยที่สี่… เวิร์ชเสี ยชีวิต นาย่ าเสี ยชีวิต เหลือเพียง
คุณเท่ านั้นที่จะนาทางพวกเราไปหาสมุดได้ ”

“…เข้ าใจแล้ว”

ไคลน์ ครุ่นคิดครู่ใหญ่ ก่อนจะถอนหายใจยาวด้ วยท่ าทียอมจานน

สมุดบันทึกที่หายไป…
นี่สินะ ปมปริศนาที่แท้ จริงของคดีนี้
เราดันลืมนึกถึงสมุดเล่มนั้นเสี ยสนิท

ดันน์ พยักหน้ าเล็กน้ อย มันเดินผ่ านไคลน์ พร้ อมกับหันมากล่าว


“ล็อคประตูห้องและเดินทางไปบ้ านพักมิสเตอร์ เวิร์ชกับผม
ผู้เชี่ยวชาญรออยู่ที่นั่นแล้ว”

ไคลน์ สูดลมหายใจเข้ าลึก หัวใจมันกาลังเต้ นไม่ เป็ นจังหวะ

มันต้ องการปฏิเสธ จิตใต้ สานึกร่าร้ องให้ วิ่งหนี ทว่ า จากสิ่ งที่ตน


เคยกระทาในความฝัน ดันน์ ·สมิทคงเห็นแล้วและเพิม่ ความรัดกุม
มากขึน้ จากเดิม

ยิ่งไปกว่ านั้น ความแตกต่ างระหว่ างมนุษย์ ธรรมดาและผู้วิเศษมี


มากเกินไป โอกาสหลบหนีสาเร็จแทบเป็ นศูนย์

แถมดันน์ อาจพกปื นมาด้ วย…


และคงซ้ อมยิงปื นสม่าเสมอด้ วยแน่ …

จากหลากหลายความคิดที่ถาโถม เมื่อชั่งน้าหนักอย่ างถ้ วนถี่


ไคลน์ ตัดสิ นใจยอมรับความจริงอันน่ าหดหู่ที่ตนมิอาจเลี่ยง

“เข้ าใจแล้ว”

เฮ่ อ… คงต้ องปล่อยตัวตามสบายแล้วยอมรับในชะตากรรม


ตัวเองสิ นะ

บางที เราอาจรอดจาก ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ด้ วยร่ างกายและจิตที่พเิ ศษ


เหมือนกับในความฝันเมื่อครู่…
“ไปกันเถอะ”

ดันน์ กล่าวด้ วยเสี ยงราบเรียบ

ไคลน์ หันหลังกลับพร้ อมกับเดินตาม แต่ หลังจากย่ างฝี เท้ าได้


สองก้าว มันชะงักและเอ่ยปากถาม

“มิสเตอร์ สมิท ผ…ผมอยากเข้ าห้ องน้าก่อน”

จุดประสงค์ เดิมที่ออกมาจากห้ องก็เพื่อทาธุระในห้ องน้า… ดันน์


ไม่ ห้าม มันเพียงจ้ องมองไคลน์ ด้วยแววตาสุ ขุม ก่อนจะกล่าว

“ไม่ มีปัญหา แต่ เชื่ อผมเถอะไคลน์ ท่ ามกลางความมืดมิดเช่ นนี้


ผมจะทรงพลังชนิดที่คุณไม่ มีวันจินตนาการออก”

ท่ ามกลางความมืด… ไคลน์ พมึ พาในใจ

มันไม่ คิดหนีอยู่แล้ว เพียงต้ องการล้างหน้ าให้ สดชื่ นจากเหงื่อ


เหนียวเหนอะหลังฝันร้ าย รวมถึงการปลดปล่อยของเหลวออกจาก
กระเพาะปัสสาวะเพื่อให้ จิตใจสงบลง

หลังออกจากห้ องน้า ไคลน์ เดินกลับห้ องนอนเพื่อเปลี่ยนชุด


จากนั้นก็ล็อคประตูห้องพักและเดินตามดันน์ ลงไปชั้นล่าง
ท่ ามกลางบรรยากาศเงียบงัน ดันน์ ·สมิทเป็ นฝ่ ายเริ่มบทสนทนา
“ในตอนท้ ายของฝัน ทาไมคุณถึงคิดหนี? กาลังหวาดกลัวอะไร
งั้นหรื อ?”

ไคลน์ ตอบกลับโดยไม่ คิดนาน

“ผมไม่ มีความทรงจาของวันที่ 27 มิถุนายนเลย บุคคลที่ฆ่าเวิร์


ชและนาย่ าอาจเป็ นตัวผมก็ได้ จึงเกิดความหวาดกลัวขึน้ มา… หาก
เป็ นผมจริง ผมก็ต้องรับโทษ ชีวิตหลังจากนีค้ งเข้ าขั้นเลวร้ าย ไม่ มี
ใครต้ องการแบบนั้นหรอกใช่ ไหม? ผมขอเสี่ ยงหนีไปทวีปใต้ เพื่อ
เริ่มต้ นชีวิตใหม่ ดีกว่ า”

“ถ้ าเป็ นคุณ ผมก็คงทาแบบเดียวกัน”

ดันน์ กล่าวพลางเปิ ดประตูหอพัก อากาศหนาวเหน็บจาก


ภายนอกไหลเข้ าปะทะกับความอบอุ่นภายในตึก

ดันน์ ·สนิทเดินนาขึน้ ไปนั่งในรถม้ าโดยไม่ กลัวว่ าไคลน์ จะ


หลบหนี รถม้ าคันเบื้องหน้ าเหมือนกับในฝันทุกประการ ห้ อง
โดยสารมีีสี่ ล้อ ข้ างตัวรถมีตราสั ญลักษณ์ กรมตารวจ—ดาบไขว้
และมงกุฏ

ไคลน์ ก้าวตามขึน้ ไป ด้ านในมีพรมหรูหรารองรับพร้ อมด้ วย


กลิ่นหอมฟุ้งกระจาย
มันนั่งลงพร้ อมกับถามถึงความเป็ นไปได้ ของคดี

“มิสเตอร์ สมิท จะเกิดอะไรขึน้ ถ้ าผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่ า ผม


สู ญเสี ยความทรงจาในวันเกิดเหตุจริง? โดยที่ไม่ มีหลักฐานเพิ่มเติม
บ่ งชี้ว่าผมมีส่วนพัวพันกับการตายของเวิร์ชและนาย่ า ผมจะพ้น
ข้ อกล่าวหาทันทีหรื อไม่ ?”

“ในทางทฤษฏีแล้วใช่ พวกเราคงต้ องยอมปล่อยตัวคุณและค้าหา


สมุดบันทึกด้ วยวิธีอื่น ถ้ าหากมันยังไม่ ถูกทาลาย สั กวันคงได้ รับ
เบาะแสเพิม่ เติม ส่ วนตัวคุณ พวกเราจะตรวจสอบให้ มั่นใจว่ าคุณ
ไม่ ถูกวิญญาณร้ ายเข้ าสิ งหรื อตามรังควาน ไม่ มีคาสาปหลงเหลือ
และไม่ แสดงสั ญญาณของอาการทางจิต พวกเราต้ องมั่นใจว่ าคุณ
จะกลับไปใช้ ชีวิตในสั งคมได้ อย่ างปรกติสุขและแข็งแรง”

ดันน์ กล่าวพลางอมยิม้ เป็ นรอยยิม้ ที่แปลกประหลาดกว่ าปรกติ


เล็กน้ อย

ไคลน์ เอะใจในบางคาพูด มันถามยา้

“ในทางทฤษฏี?”

“ถูกต้ อง ในทางทฤษฏีจะเป็ นเช่ นนั้น แต่ ในทางความเป็ นจริง


คดีแปลกประหลาดมักมีจุดจบไม่ สวย ต้ องมีเหตุการณ์ ที่อธิบาย
ไม่ ได้ สักเรื่ องสองเรื่ องเกิดขึน้ เสมอ”
ดันน์ จ้องเข้ าไปในดวงตาไคลน์ พร้ อมกับอธิบายต่ อ

“ทว่ า ด้ วยพลังและความรู้ทจี่ ากัด พวกเราจึงไม่ สามารถ


ตรวจสอบหรื อทานายความผิดปรกติได้ ละเอียดทุกซอกมุม และ
เมื่อปล่อยเหยื่อกลับเข้ าสั งคมไป ความผิดปรกติเหล่านั้นกลับ
ปรากฏและเล่นงานเหยื่อในภายหลัง”

“ตัวอย่ างเช่ น?”

ไคลน์ เริ่มหวาดผวา

ขณะรถม้ าแล่นไปตามถนนอันว่ างเปล่า ดันน์ หยิบกล้องยาสู บ


ออกมาดม และกล่าวต่ อ

“เมื่อพวกเราคิดว่ าไม่ มีอะไรแล้ว เหยื่อกลับเป็ นปรกติแล้ว แต่ ใน


หลายปี ให้ หลัง เหตุการณ์ สุดสยองขวัญกลับเกิดแก่เหยื่อ

“หลายปี ก่อน ผมเคยทาคดีเกี่ยวกับลัทธิชั่วร้ าย หลักการพวกมัน


ไม่ ซับซ้ อน บูชายัญเหยื่อเคราะร้ ายให้ เป็ นเครื่ องสั งเวยของเทพ
ทว่ า ขณะที่เหยื่อคนหนึ่งถูกเลือกให้ เป็ นผู้สังเวย สั ญชาตญาณการ
เอาตัวรอดได้ ทาให้ เขาตาสว่ างและเอาชนะความโง่ เขลา เอาชนะคา
สอนอันผิดแผก รวมถึงเอาชนะสารเสพติดหลอนประสาทมาได้
เหยื่อคนดังกล่าวจึงแอบหนีออกมาและแจ้ งความกับตารวจ
“ตารวจส่ งต่ อคดีต่อมาถึงหน่ วยเรา นับเป็ นคดีที่ไม่ ยากหรื อ
ซับซ้ อน ไม่ มีผ้ วู ิเศษในหมู่ผ้ กู ระทาผิด ลิทธิประหลาดของพวกมัน
บูชาเทพเก๊ที่ไม่ มีตัวตนอยู่จริง จุดประสงค์ ของลัทธิเพียงหลอกเอา
เงินผู้ศรัทธาไปวันๆ ไม่ มีความน่ าเกรงขามใดทั้งสิ้น

“พวกเราใช้ ผ้ วู ิเศษเพียงสองคนในการปราบลัทธิชั่ว พร้ อมด้ วย


ความช่ วยเหลือจากตารวจธรรมดาอีกเล็กน้ อย ไม่ มีผ้ กู ระทาผิดเล็ด
รอดจากการจับกุม… ส่ วนผู้แจ้ งเบาะแส ทางเหยี่ยวราตรีได้ นาตัว
มาตรวจสอบหาคาสาปและวิญญาณร้ ายทุกซอกทุกมุม ผลการ
ตรวจไม่ พบสิ่ งใด ไม่ พบอาการทางจิตทุกชนิด
“พวกเราจึงปล่อยเขากลับไปใช้ ชีวิตตามปรกติ โดยในภายหลัง
เหยื่อคนดังกล่าวเจริญก้าวหน้ าทางหน้ าที่การงาน ประสบ
ความสาเร็จในชีวิต แต่ งงานและมีครอบครัวที่อบอุ่น มีทายาทที่
น่ ารักเป็ นบุตรชายหนึ่งคนและบุตรสาวอีกหนึ่งคน ราวกับอดีตอัน
ดามืดได้ สลายไปโดยสมบูรณ์ ”

มาถึงจุดนี้ ดันน์ ·สมิทเริ่มอมยิม้ จืดชื ด

“ทว่ า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แม้ ชีวิตของเขาจะรุ่งเรื องและมี


ครอบครัวแสนอบอุ่นรายล้อม …แต่ ชายคนนั้นกลับผู้คอตายอย่ าง
ไร้ เงื่อนงาภายในห้ องทางานตัวเอง”

แสงจันทร์ เลือดนอกหน้ าต่ างส่ องกระทบใบหน้ าดันน์ ·สมิท


เมื่อไคลน์ หันไปมอง บนใบหน้ าดันน์ กาลังเผยรอยยิม้ ของบุคคล
ที่กาลังตาหนิตัวเองอย่ างหนัก

ไคลน์ พลันขนลุก

“ผูกคอตาย…”

มันเริ่มหายใจติดขัด ภายในสมองจินตนาการว่ าตนต้ องมีชะตา


กรรมเช่ นนั้น

ต่ อให้ รอดแล้วหนหนึ่ง แต่ ไม่ ได้ แปลว่ าจะรอดตลอดไป?

ยังมีวิธีใดที่ต่อสู้ กับพลังเร้ นลับได้ อีก?


ต้ องกลายเป็ นผู้วิเศษเท่ านั้นหรื อ?

หัวสมองไคลน์ กาลังฟุ้งซ่ าน ความเงียบงันของรถม้ าส่ งผลให้


มันอยู่กับตัวเองนานขึน้

บรรยากาศสงบนิ่งปกคลุมเมืองทิงเก็นในยามเช้ า รถม้ าตารวจ


ควบไปบนถนนที่แทบไร้ สิ่งกีดขวางด้ วยความเร็วสู ง

ขณะไคลน์ คิดหาทางปรึกษาขอความคุ้มครองจากดันน์ ·สมิท รถ


ม้ าพลันหยุดลงอย่ างไม่ มีปี่มีขลุ่ย

“มิสเตอร์ สมิท พวกเราถึงบ้ านพักของมิสเตอร์ เวิร์ชแล้วครับ”


คนขับรถม้ าหันมากล่าว

“ลงกันเถอะ”

ดันน์ จัดแจงเสื้ อกันลมสี ดาที่ยาวถึงเข่ าให้ เรียบร้ อย

“ขอแนะนาให้ ร้ ูจักล่วงหน้ า เจ้ าหน้ าที่หญิงที่พวกเรากาลังจะไป


พบนั้น บนฉากหน้ า เธอได้ ปลอมตัวเป็ นผู้เชี่ยวชาญชื่ อดังแห่ งรัฐ
อาโฮว่ า ส่ วนฉายาที่คนทั่วไปใช้ เรียกเธอก็คือ—ผู้สื่อวิญญาณ”
ไคลน์ ชะงักความคิดฟุ้งซ่ านครู่หนึ่ง
มันหันไปถาม

“แล้วตัวตนที่แท้ จริงของเธอ?”

ดันน์ บิดตัวกลับมาตอบด้ วยนัยน์ ตาสี เทาอันสุ ขุมลุ่มลึก

“ผู้สื่อวิญญาณตัวจริงเสี ยงจริง”
ราชันย์ เร้ นลับ 14 : ผู้สื่อวิญญาณ

ผู้สื่อวิญญาณตัวจริงเสี ยงจริง… ไคลน์ พาพึมถ้ อยคาของดันน์


ภายในใจ มันไม่ กล่าวสิ่ งใดต่ อ เพียงก้มหน้ าลงจากรถม้ าและเดิน
ตามไปอย่ างว่ าง่ าย

บ้ านเช่ าของเวิร์ชในทิงเก็นมีขนาดค่ อนข้ างใหญ่ มีสวนด้ านหน้ า


ถนนติดกับประตูร้ ัวกว้ างพอสาหรับให้ รถม้ าเรียงหน้ ากระดานวิ่ง
ได้ สี่คันพร้ อมกัน

โคมไฟสาธารณะถูกติดห่ างกันทุกห้ าเมตร รูปทรงและรูปแบบ


แต่ งต่ างจากโลกเก่าของไคลน์ พอสมควร ความสู งโคมไฟอยู่ใน
ระดับสายตาผู้ใหญ่ สะดวกต่ อการเดินเรียงจุดหรื อดับไฟ

โครงสร้ างภายนอกโคมไฟทาจากเหล็กเส้ นที่ถูกดัดให้ มีลักษณะ


เป็ นตะแกรงเหล็ก ด้ านในตะแกรงเป็ นกระจกใส

มองผิวเผินจะคล้ายคลึงกับ ‘งานศิลป์ ’ โคมไฟกระดาษของ


ประเทศแถบตะวันออกในโลกเก่า

แสงสว่ างสี เหลืองทองด้ านในตัดกับโลหะสี ดาด้ านนอกอย่ างลง


ตัว อากาศเย็นยะเยียบบนถนนจะอบอุ่นขึน้ เล็กน้ อยเมื่อเดินเข้ าไป
ใกล้
หลังจากเดินบนถนนได้ ไม่ นาน ไคลน์ และดันน์ ก็มาถึงประตู
ทางเข้ าบ้ านพักเวิร์ชหลังที่เช่ าอาศัย

ประตูร้ ัวด้ านนอกมีลักษณะเป็ นโครงเหล็ก มันถูกเปิ ดแง้ มรอไว้


เล็กน้ อย

ไคลน์ ยืนคงยังอยู่หน้ าบ้ าน สายตาจ้ องมองทางเดินหินอ่อนซึ่ง


ทอดยาวจากรั้วไปจนถึงบ้ านสองชั้นด้ านใน ทางเดินดังกล่าวกว้ าง
ประมานรถม้ าสองคันวิ่งได้ พร้ อมกัน

ฝั่งซ้ ายเป็ นสวนดอกไม้ ฝั่งขวาเป็ นลานหญ้ าโล่งเตียนเปลือย


เปล่า กลิ่นดอกไม้ โชยเจือจางเตะจมูกจากระยะไกล ผสมกลมกลืน
กับกลิ่นหญ้ าเขียวขจีอย่ างลงตัว

ไคลน์ ร้ ูสึกสดชื่ นและผ่ อนคลาย

ในวินาทีที่ย่างเท้ าเข้ าไป มันพลันชะงักและรีบเหลียวซ้ ายแลขวา


ด้ วยใบหน้ าตื่นตระหนก

ไคลน์ สัมผัสได้ เช่ นจัด… สั กแห่ งบนลานหญ้ า สั กแห่ งบนหลังคา


สั กแห่ งที่มุมมืด สายตาของใครหลายคนกาลังจ้ องมองมา!

แต่ เมื่อกวาดสายตาสารวจ กลับไม่ พบใครแม้ แต่ คนเดียว กระนั้น


ความรู้สึกแบบเดิมยังไม่ หายไป ราวกับตนกาลังยืนเปลีือยเปล่า
ท่ ามกลางถนนที่ผ้ คู นเดินสวนขวักไขว่
ด้ วยบรรยากาศขัดแย้ งกับตาเห็น ด้ วยบรรยากาศสุ ดพิสดารที่ไม่
เคยประสบพบเจอ ไคลน์ พลันเย็นสั นหลังวาบไปทั่วตัว

“มีบางสิ่ งผิดปรกติ!”

มันไม่ มีทางเลือกอื่นนอกจากฟ้ องดันน์

สี หน้ าดันน์ ·สมิทยังคงเรียบเฉยเช่ นเดิม มันหันมากล่าวกับ


ไคลน์ ด้วยน้าเสี ยงสุ ขุม
“ไม่ ต้องไปสนใจ”

เมื่อ ‘เหยี่ยวราตรี’ เป็ นผู้กล่าวเช่ นนี้ ความกังวลของไคลน์ จึง


ลดลงหลายระดับ ถึงภายในใจจะยังสั บสนกับความรู้สึกปัจจุบันก็
ตาม—ความรู้สึกของการถูกดวงตาหลายร้ อยคู่จ้องมองโดยที่หาตัว
อีกฝ่ ายไม่ พบ

กึก กึก…

ดันน์ พาไคลน์ เดินมาถึงหน้ าประตูบ้าน

ถ้ าความรู้สึกสุ ดบัดซบเมื่อครู่อยู่นานกว่ านีอ้ ีกสั กนิด เกรงว่ ามัน


คงได้ คลั่งตายก่อนได้ พบผู้สื่อวิญญาณแน่
ขณะดันน์ ยืนเคาะประตู ไคลน์ รีบกวาดสายตามองเข้ าไปสวน
บุปผาที่ดอกไม้ กาลังโยกตัวไปตามแรงลม

แน่ นอน มันไม่ พบใครแม้ แต่ คนเดียว

“เชิญเข้ ามาได้ สุ ภาพบุรุษทั้งหลาย”

เสี ยงบางเบาและนุ่มนวลของสตรีผ้ หู นึ่งดังจากภายในบ้ าน

ดันน์ บิดกลอนพร้ อมกับผลักเข้ าไป จากนั้นก็กล่ าวทักทายหญิง


สาวที่นั่งบนโซฟา

“เจออะไรบ้ าง? ดาลี่ย์”

โคมไฟระย้ าบนเพดานห้ องไม่ ได้ ถูกเปิ ด ด้ านล่ างมีโซฟาหนัง


สองชุ ดใหญ่ ล้อมรอบโต๊ ะกาแฟหินอ่อนไว้

บนโต๊ ะมีเทียนไขถูกจุด แสงไฟจากเทียนส่ องสว่ างสี น้าเงินเข้ ม


ปกคลุมห้ องนั่งเล่นที่ถูกเชื อกขึงกั้นเนื่องจากเป็ นสถานที่เกิดเหตุ

แสงเทียนยังสว่ างไปถึงห้ องครัวและห้ องทานอาหาร เกิดเป็ น


บรรยากาศแปลกประหลาดในสายตาไคลน์

สุ ภาพสตรีสาวสวยกาลังนั่งเอนหลังพิงเบาะโซฟายาวตัวหนึ่ง
เธอสวมชุดคลุมสี ดาแบบมีฮู้ดครอบหัว เปลือกตาและโหนกแก้ มถูก
แต่ งแต้ มด้ วยเครื่ องสาอางสี ฟ้าครามงดงาม ข้ อมือข้ างหนึ่งสวม
กาไลเงินที่มีจคี้ ริสตัลสี ขาวห้ อย

ในแวบแรกที่เห็น ไคลน์ ยากจะอธิบายความรู้สึกออกมาเป็ น


คาพูด การแต่ งกายของดาลี่ย์รวมถึงบรรยากาศรอบตัวช่ าง
คล้ายคลึงกับ… ผู้สื่อวิญญาณ!

กาลังสวมบทบาทให้ สมจริงอย่ างนั้นหรื อ?

ผู้สื่อวิญญาณดาลี่ย์นับว่ าเป็ นสตรีที่งดงามคนหนึ่ง เธอชาเลือง


ไคลน์ ด้วยนัยน์ ตาเขียวมรกตครู่ใหญ่ ก่อนจะหันไปคุยกับดันน์

“ในตอนที่ฉันมาถึง วิญญาณในที่เกิดเหตุได้ สลายไปหมดแล้ ว


รวมถึงเวิร์ชและนาย่ า ส่ วนวิญญาณเร่ ร่อนรอบบ้ านก็ไม่ ทราบ
ข้ อมูลอะไรเลย”

วิญญาณ? ผู้สื่อวิญญาณ…

สายตาที่จ้องมองตนหน้ าบ้ านคือวิญญาณเร่ ร่อนอย่ างนั้นหรื อ?


มากมายขนาดนั้นเชียว?

ไคลน์ ถอดหมวกและเลื่อนลงมายังบริเวณหน้ าอก ก่อนจะโค้ ง


คานับเล็กน้ อย

“สวัสดียามเช้ าครับ มาดามดาลี่ย์”


ดันน์ ·สมิทถอนหายใจยาว

“เป็ นคดีที่ยากจังเลยนะ…

“ดาลี่ย์ นี่คือไคลน์ ·โมเร็ตติ คุณลองตรวจสอบหาเบาะแสจากเขา


ดูหน่ อย”

ผู้สื่อวิญญาณดาลี่ย์ เธอหันกลับมามองไคลน์ ครู่หนึ่ง ก่อนจะ


ปลายชี้นวิ้ ไปยังเก้าอี้
“เชิญนั่ง”

“ขอบคุณครับ”

ไคลน์ พยักหน้ าเล็กน้ อย มันเดินไปนั่งลงบนเก้าอีต้ ัวที่ดาลี่ย์ชี้นวิ้


หัวใจกาลังเต้ นโครมครามอย่ างหยุดไม่ อยู่

มันจะรอดคดีหรื อไม่ จะผ่ านเหตุการณ์ ตรงหน้ าได้ อย่ างราบรื่ น


ไหม และชะตากรรมต่ อไปจะเป็ นเช่ นไร ทั้งหมดขึน้ อยู่กับผลการ
ทดสอบที่กาลังจะเกิดขึน้ !

ในสถานการณ์ แสนสิ้นหวังและไม่ มีสิ่งใดให้ ยึดเหนี่ยว


ความหวังเดียวของไคลน์ คือ ‘ความพิเศษ’ ของร่ ายกายและจิตที่
ติดตัวมาจากการข้ ามโลก…
คิดว่ าอย่ างนั้นละนะ

ไคลน์ ตัดพ้อขื่นขม

ถัดมา ดันน์ นั่งลงบนโซฟาขนาดสองที่นั่งซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ าม


ไคลน์ ขณะเดียวกัน ดาลี่ย์ล้วงมือเข้ าไปหยิบขวดแก้วสองใบจาก
กระเป๋าเล็กข้ างเอว ขนาดของขวดกระทัดรัดเพียงนิว้ หัวแม่ มือ

นัยน์ ตาเขียวมรกตหันมาจ้ องไคลน์ ก่อนจะกล่าว


“ฉันต้ องการความร่ วมมือจากทางคุณด้ วย ในเมื่อคุณไม่ ใช่ ศัตรู
หรื ออาชญากร ฉันจึงไม่ สามารถใช้ วิธีรุนแรงได้ วิธีรุนแรงที่ว่าจะ
ทาให้ คุณอึดอัดและเจ็บปวด หรื ออาจร้ ายแรงถึงขั้นเกิดผลข้ างเคียง
ในภายหลัง… ส่ วนวิธีที่ฉันจะใช้ กับคุณนั้น มันค่ อนข้ างอ่อนโยน
และนุ่มนวล คุณจะผ่ อนคลายราวกับขึน้ สวรรค์ ความสุ ขสุ ดยอด
จะแล่นไปทั่วร่ างอย่ างมิอาจหยุดยั้ง”

ทาไม… ยิ่งฟังก็ยิ่งประหลาด…
นัยน์ ตาไคลน์ เริ่มสั่ นระริก

ดันน์ ที่นั่งฝั่งตรงข้ ามพลันหัวเราะแห้ ง

“ไม่ ต้องตกใจไป พวกเราไม่ เหมือนกับสาวกของเทพแห่ งวายุ


สลาตัน สตรีที่นับถือโบสถ์ เทพธิดารัตติกาลสามารถใช้ วาจาล่วง
ละเมิดทางเพศผู้ชายได้ โดยไม่ มีความผิด… คุณเองก็คงทราบดีอยู่
แล้ว เพราะมารดาเป็ นถึงสาวกตัวยงของโบสถ์ เทพธิดารัตติกาล
คุณกับพีช่ ายย่ อมต้ องเคยเข้ าโบสถ์ เพื่อเรียนคาสอนทุกวันอาทิตย์ ”

“เรื่ องนั้นผมทราบ เพียงแต่ ไม่ คิดว่ าเธอจะ… เอ่อ… จะ…”

ไคลน์ ทาไม้ ทามือ มันมิอาจหาคาพูดมาบรรยายสิ่ งที่ตนต้ องการ


จะสื่ อ ถึงขั้นเกือบหลุดแสลงภาษาจีน ‘นักขับรุ่นเก๋า*’ ออกไป

(* นักขับรุ่นเก๋า — หมายถึงผู้ที่ช่าชองทางใดทางหนึ่งเป็ นพิเศษ


นิยมใช้ บ่อยบนเวบบอร์ ดสาหรับโพสสื่ อลามกอนาจาร )

ดันน์ ·สมิทอมยิม้ มุมปากก่อนจะกล่าวต่ อ

“ไม่ ต้องห่ วง ดาลี่ย์ทาแบบนี้ไม่ บ่อยครั้งนัก เธอแค่ หวังให้ คุณ


ผ่ อนคลายและใจเย็นลง ด้ วยความสั ตย์ จริง ดาลี่ย์หลงไหลซากศพ
มากกว่ ามนุษย์ เพศชายซะอีก”

“คุณพูดเหมือนฉันเป็ นพวกโรคจิต”

ดาลี่ย์อมยิม้ จากนั้น เธอเปิ ดจุกขวดเล็กและหยดของเหลวด้ าน


ในลงบนเปลวเพลิงสี น้าเงินเข้ มของเทียนไข

“วนิลาราตรี ดอกหลับไหล และคาโมไมล์ ทั้งหมดถูกกลั่นและ


สกัดจนเข้ มข้ นเพื่อให้ ได้ กลิ่นบุปผาสุ ดพิเศษชนิดนี้ ฉันเรียกมันว่ า
‘อมานด้ า’ ภาษาเฮอร์ มิสโบราณหมายถึงความสงบสุ ข กลิ่นหอม
ของมันสุ ดยอดมาก”

ขณะบทสนทนาดาเนินไป เปลวเพลิงจากเทียนไขเริ่มวูบวาบ
กลิ่นหอมหวลของดอกไม้ ที่ระเหยจากการเผาไม้ เริ่มโชยคลุ้งทั่ว
ห้ อง

เพียงไม่ นาน กลิ่นดังกล่าวหาทางเล็ดลอดเข้ ารูจมูกของไคลน์


พบ ร่ างกายผ่ อนคลายลง มันไม่ ร้ ูสึกประหม่ าหรื อหวาดกลัวอีก
แล้ว

จิตใจสงบนิ่งประหนึ่งนั่งจ้ องผืนฟ้ าอันงดงามยามค่าคืน

“ส่ วนของเหลวในขวดนีม้ ีชื่อว่ า ‘เนตรแห่ งวิญญาณ’ สกัดจาก


เปลือกและใบของต้ นมังกรกับต้ นวิลโลว์ นาไปตากแดดเจ็ดวันเจ็ด
คืน และกลั่นเข้ มข้ นอีกสามรอบ จากนั้นก็นาไปผสมกับไวน์ กลั่น
บริสุทธิ์ แน่ นอน ระหว่ างกระบวนการต้ องท่ องคาถาพิเศษ…”

ขณะดาลี่ย์อธิบาย หยดของเหลวสี เหลืองอาพันได้ ระเหยจาก


ความร้ อนเปลวเพลิงเทียนไข

เมื่อสู ดกลิ่นหอมชนิดใหม่ ซึ่งคล้ายคลึงกับไวน์ เข้ าไป ไคลน์ เริ่ม


เห็นเปลวเพลิงเทียนไขวูบวาบอย่ างผิดแผก บรรยากาศรอบพลัน
พร่ ามัวและแยกออกเป็ นสอง
“มันคือตัวช่ วยที่ดีสาหรับผู้สื่อวิญญาณ แถมกลิ่นหอมดอกไม้ ก็
ยังถูกนาไปเสริม…”

การอธิบายของดาลี่ย์ยังคงดาเนินต่ อไปราวกับสวดคาถา
ขณะเดียวกัน ไคลน์ เริ่มได้ ยินเสี ยงเธอดังแว่ วจากทุกทิศทาง
รอบตัว

จากนั้นไม่ นาน การของเห็นของไคลน์ พลันหมุนเคว้ งและ


เลือนลาง ร่ างกายเบาหวิวราวกับถูกหมอกหนาทึบห่ อหุ้มหลายชั้น
กระทั่งจิตก็เริ่มไม่ ปรกติ ไคลน์ ไม่ ร้ ูสึกถึงร่ างกายตัวเองอีกต่ อไป
ทุกสิ่ งลอยละล่องและจับต้ องไม่ ได้

หลากสี สันผสมกลมกลืนคล้ายกับภาพวาดงานศิลป์ ยุคใหม่ ที่


เข้ าถึงได้ ยาก

สี แดงยิ่งแดงสด
สี น้าเงินยิ่งน้าเงินเข้ ม
สี ดายิ่งดาสนิท

เกิดภาพหลอนคล้ายคลึงกับผลจากสารเสพติดบางชนิด

ทุกสิ่ งเริ่มพร่ ามัว เสี ยงโหยหวนรอบตัวทวีความดังขึน้ ทุกขณะ


ราวกับมีผ้ คู นหลายร้ อยกาลังประชุมโต้ เถียงที่ข้างหู
‘ทาไมถึงได้ เหมือนกับตอนทาพิธีเปลี่ยนดวงชะตา? ขาดแค่
อาการปวดหัวสุ ดบัดซบ…’

ไคลน์ เริ่มได้ สติกลับมา มันเพ่งพิจารณาทุกสิ่ งตรงหน้ าพร้ อมกับ


ใช้ ความคิด

ปัจจุบัน การมองเห็นไคลน์ จดจ่ ออยู่กับนัยน์ ตาสี เขียวมรกตของ


ดาลี่ย์

บนโซฟาที่พร่ ามัวฝั่งตรงข้ าม สตรีสวมผ้ าคลุมดากาลังมอง


กลับมายังกึ่งกลางศีรษะของไคลน์ เธออมยิม้ ก่อนจะกล่าวต่ อไป
ด้ วยน้าเสี ยงอ่อนโยน

“ขอแนะนาตัวอย่ างเป็ นทางการอีกครั้ง ฉันคือผู้สื่อวิญญาณดา


ลี่ย์”

ทาไมเรายัง… มีสติสัมปชัญญะครบถ้ วน…

เหตุการณ์ และความรู้สึกคล้ายคลึงเมื่อครั้งทาพิธีเปลี่ยนแปลง
ดวงชะตามาก

หลังจากครุ่นคิดพักหนึ่ง ไคลน์ แสร้ งทาตัวเหมือนกับคนถูก


สะกดจิต
“ยินดีที่ได้ ร้ ูจัก…”
“ห้ วงมิติจิตของมนุษย์ น้ ันแสนกว้ างใหญ่ มีความลับมากมาย
หลับไหลซุกซ่ อน… เฉกเช่ นมหาสมุทร มนุษย์ เรามีภูมิความรู้ด้าน
ท้ องทะเลเพียงน้ อยนิด สิ่ งที่ตามนุษย์ เห็นมีแค่ เกาะเหนือผิวน้า
รวมถึงคลื่นทะเลบนพื้นผิว แต่ อีกหลายส่ วนที่มองไม่ เห็นนั้นอยู่ลึก
ลงไปในใต้ ทะเลไร้ ก้นบึง้ …

“ท้ องทะเลเปรียบได้ กับห้ วงมิติจิตของมนุษย์ เพราะนอกจาก


เกาะแล้ว ยังมีส่วนใต้ ทะเลรวมถึงท้ องฟ้ าอันกว้ างใหญ่ ให้ ความลับ
เข้ าไปซุกซ่ อน

“คุณคือเจ้ าของห้ วงมิติจิตแห่ งนี้ นอกจากเกาะซึ่งเป็ นพื้นผิว คุณ


ยังทราบถึงสิ่ งที่ซุกซ่ อนอยู่ในท้ องทะเลลึกของตัวเอง…

“ทุกสิ่ งที่เคยมีตัวตนอยู่ หากถูกลบเลือนหายไปอย่ างกระทันหัน


มันจะทิง้ ร่ อยรอยไว้ เสมอ… หมู่เกาะบนผิวทะเลอาจถูกลบเลือน
หายไปก็จริง แต่ หลักฐานการมีอยู่ของมันจะต้ องหลงเหลือใต้ ทะเล
ลึกแน่ …”

ดาลี่ย์พยายามสะกดจิตไคลน์ อย่ างต่ อเนื่อง

ภายในห้ วงมิติจิตของไคลน์ สายลมและเงาดาเริ่มก่อตัวเป็ นดวง


จิตเหนือมหาสมุทรอันว่ างเปล่า—จิตของดาลี่ย์ เธอรอให้ ไคลน์
เปิ ดเผยความลับใต้ มหาสมุทรออกมา
แน่ นอน ไคลน์ ย่อมมองเห็นภาพรวมท้ องทะเลจิต รวมถึงจิต
ของดาลี่ย์ที่แอบจับจากมองจากท้ องฟ้ า

หลังจากครุ่นคิด ไคลน์ ได้ แสร้ ง ‘กวน’ คลื่นทะเลเป็ นระยะเพื่อ


ทาทีกาลังค้ นหาคาตอบให้ หล่อน

เวลาผ่ านอีกไปพักใหญ่ ไคลน์ ในโลกจริงเริ่มเปล่งเสี ยงแหบพร่ า


และเบาบาง

“ผม… จาอะไรไม่ ได้ เลย… ลืม… หมดแล้ว…”

สี หน้ าไคลน์ ·โมเร็ตติกาลังเจ็บแปลบพอประมาณ

ดาลี่ย์ยังคงพยายามสะกดจิตนาพาไคลน์ ให้ เข้ าถึงความลับอีก


หลายครั้ง

แต่ แน่ นอน ไคลน์ ที่สติครบถ้ วนไม่ มีทางเผยความลับสาคัญของ


ตัวเอง

“พวกเราพอแค่ นกี้ ่อน คุณออกไปได้ ”

“ออกไปได้ ”
“ออกไปได้ …”

เสี ยงดาลี่ย์ดังกังวาลในห้ วงจิตไคลน์ หลายครั้งก่อนสลายไป สาย


ลมและเงาดาที่หมุนวนเหนือทะเลเริ่มสงบนิ่ง…

กลิ่นหอมดอกไม้ และไวน์ โชยเตะจมูกไคลน์ อย่ างเด่ นชัดอีกครั้ง

สี สันในการมองเห็นกลับเป็ นปรกติ ภาพที่เคยเพร่ ามัวกลับมา


คมชัด ร่ างไคลน์ สั่นเทาเล็กน้ อยก่อนจะได้ สมดุลตัวเองกลับมา
มันลืมตาที่ไม่ ร้ ูว่าหลับไปตอนไหน

สิ่ งแรกที่ปรากฏในการมองเห็น เปลวเพลิงเทียนไขสี น้าเงินเข้ ม


สว่ างวูบวาบ ดันน์ ·สมิทยังคงนั่งฝั่งตรงข้ ามด้ วยท่ าทีผ่อนคลาย
เฉกเช่ นผู้สื่อวิญญาณดาลี่ย์ในชุ ดคลุมสี ดา

“ทาไมคุณถึงเลือกใช้ วิธีสุดพิสดารของ ‘สมาคมแปรจิต’ ?”

ดันน์ ขมวดคิว้ ขณะถามดาลี่ย์

เธอตอบกลับขณะเก็บขวดเล็กสองใบเข้ ากระเป๋าบริเวณเอว

“วิธีนดี้ ีที่สุดแล้ว โดยเฉพาะเมื่อคานึงจากหลักฐานและพยาน


แวดล้อมที่เรามี…”
ไม่ รอคาตอบจากดันน์ ดาลีย์กล่าวต่ อ

“เจ้ าพวกบ้ านี่ฉลาดเป็ นกรด ไม่ เหลือร่ องรอยอะไรไว้ เลย”

เมื่อได้ ยินบทสนทนา ไคลน์ โล่งใจไปหลายส่ วน ราวได้ กับยก


ภูเขาออกจากอก ก่อนจะเปล่งเสี ยงถามด้ วยสี หน้ าสุ ดเสแสร้ ง

“จบแล้วหรื อครับ? เกิดอะไรขึน้ ? ผมรู้สึกเหมือนกับหลับไปงีบ


ใหญ่ …”
จะเนียนรึเปล่า?
ต้ องใช่ แน่

ขอขอบคุณ ‘พิธีเปลี่ยนดวงชะตา’ ที่มอบภูมิค้ นุ กันให้ ล่วงหน้ า!

“คิดว่ าเป็ นแบบนั้นก็แล้วกัน”

ดันน์ เบรกบทสนทนาของไคลน์ ก่อนจะหันไปถามดาลี่ย์

“ผลการตรวจสอบศพเวิร์ชกับนาย่ าเป็ นอย่ างไรบ้ าง?”

“ศพจะบอกสาเหตุการตายได้ ละเอียดแม่ นยามาก น่ าเสี ยดายที่


ต้ องระบุว่า เวิร์ชและนาย่ าเสี ยชีวิตจากการฆ่ าตัวตายไม่ ผิดแน่
ดังนั้น อานาจภายนอกเดียวที่คุกคามจิตใจพวกเขาได้ คือความ
หวาดกลัวในระดับเหนือจินตนาการ… แต่ ร่องรอยดังกล่าวก็ถูกลบ
ออกไปโดยสมบูรณ์ เช่ นกัน”

ดาลี่ย์ลุกยืนพลางชี้ปลายนิว้ ไปยังเทียนไข
เธอกล่าวต่ อ

“ฉันขอพักผ่อนก่อน”

เปลวเพลิงสี น้าเงินเข้ มพลันดับมอด บ้ านทั้งหลังถูกบรรยากาศ


อึมครึมสี แดงฉานปกคลุมแทนที่

“ขอแสดงความยินดี คุณมีสิทธิ์กลับไปใช้ ชีวิตแบบปรกติแล้ว


แต่ ผมต้ องขอร้ องหนึ่งเรื่ อง ห้ ามเล่ารายละเอียดของคดีให้ ใครฟัง
เด็ดขาด ไม่ ว่าจะเป็ นคนสนิทขนาดไหนก็ตาม คุณต้ องสั ญญากับ
ผมก่อน”

ดันน์ กล่าวขณะพาไคลน์ เดินมาหน้ าประตู

ไคลน์ ถามกลับด้ วยสี หน้ าประหลาดใจ

“ไม่ ตรวจสอบคาสาปหรื อวิญญาณร้ ายที่อาจสิ งร่ างผมหรื อ?”

“ถ้ าดาลี่ย์ไม่ พูดถึงมัน ก็แปลว่ าไม่ จาเป็ น”


ดันน์ ตอบเรียบง่ าย

ไคลน์ สงบใจลงเล็กน้ อย แต่ ก็เกิดความกังวลใหม่ แทน

“แล้วผมจะมั่นใจได้ ยังไงว่ าตัวเองปลอดภัยโดยสมบูรณ์ แล้ ว?”

“ไม่ ต้องคิดมาก”

มุมปากดันน์ กระตุกเล็กน้ อย
“จากสถิติที่ผ่านมา เหยื่อกว่ า 80% จะกลับไปใช้ ชีวิตได้ ตาม
ปรกติ ปราศจากผลข้ างเคียงด้ านลบหรื อพลังลึกลับ แต่ นั่นเป็ น
เพียงสถิติจากประสบการณ์ ส่วนตัวของผม อาจมากกว่ าหรื อน้ อย
กว่ านีเ้ ล็กน้ อย”

“หมายความว่ า… เหยื่อเคราะร้ ายมีถึงหนึ่งในห้ าเลยสิ นะ”

ไคลน์ ไม่ กล้าเอาชีวิตตัวเองเข้ าเสี่ ยงกับอัตราความซวยที่สูง


ขนาดนั้น

“ถ้ าคุณไม่ สบายใจ สามารถเข้ าทางานกับหน่ วยเหยี่ยวราตรีได้


ในฐานะเจ้ าหน้ าที่พลเรื อน หากมีเหตุการณ์ ไม่ ชอบมาพากล พวก
เราสามารถช่ วยเหลือได้ ทันท่ วงที”
ดันน์ กล่าวขณะเดินไปยังรถม้ า
“หรื อไม่ คุณก็กลายเป็ นผู้วิเศษและคอยดูแลตัวเอง… เหยี่ยว
ราตรีของเราไม่ ใช้ สานักงานพีเ่ ลีย้ งเด็ก จะให้ จับตามองพฤติกรรม
คุณทุกฝี ก้าวไม่ ได้ หรอกนะ โดยเฉพาะช่ วงเวลาสุ ดเร้ าร้ อนระหว่ าง
คุณกับสุ ภาพสตรี”

“ผมเป็ นผู้วิเศษได้ หรื อ?”

ไคลน์ ถามด้ วยสี หน้ าตกตะลึง


แน่ นอนมันไม่ คาดหวังสั กเท่ าไร เพราะหน่ วยลับอย่ างเหยี่ยว
ราตรี รวมถึงการเป็ นผู้วิเศษ คงไม่ เข้ าถึงได้ ง่ายขนาดนั้นแน่

ผู้วิเศษเชียวนะ!

ดันน์ หยุดเดินพร้ อมกับหันหน้ ามองไคลน์

“ใช่ ว่าเป็ นไม่ ได้ … ขึน้ อยู่กับสถานการณ์ ”

…อะไรนะ?

ถ้ อยคาจากปากดันน์ ทาให้ ไคลน์ ต้องทึ่ง มันยืนเหม่ อลอยข้ างรถ


ม้ าครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปถามยา้
“จริงหรื อ? ผมเนี่ยนะ?”
ล้อกันเล่นรึเปล่า?
การเป็ นผู้วิเศษง่ ายดายขนาดนีเ้ ชียว?

ดันน์ อมยิม้ เล็กน้ อย นัยน์ ตาสี เทาหม่ นยังคงสุ ขุมภายใต้ เงาความ


มืดข้ างรถม้ า

“ไม่ เชื่ องั้นหรื อ? แต่ ขอเตือนไว้ ก่อน การเป็ นเหยี่ยวราตรีต้อง


เสี ยสละมากกว่ าที่คุณคิด อันดับแรกเลยคืออิสระภาพ
“ถึงคุณจะยังไม่ ตกลง แต่ ผมจะเล่าให้ ฟังอย่ างคร่ าวก่อน
ประการแรก คุณไม่ ได้ เข้ าร่ วมโบสถ์ ในฐานะนักบวชหรื อสาวก
หรื ออีกนัยหนึ่ง พลังที่คุณต้ องการจะมาถึงได้ ยากกว่ าสมาชิก
ปรกติ”

“และประการที่สอง…”

ดันน์ เอื้อมแขนเกาะที่จับรถม้ า ก่อนจะดึงตัวเองเข้ าไปด้ านใน


ห้ องโดยสาร

มันกล่าวต่ อ

“จากบรรดาคดีมากมายที่พวกเราเหยี่ยวราตรี หน่ วยทูต


พิพากษา และหน่ วยจิตแห่ งจักรกลต้ องสะสาง เกินกว่ าหนึ่งในสี่
เกี่ยวข้ องกับอาการ ‘คลุ้มคลั่ง’ ของผู้วิเศษ”
หนึง่ ในสิี่ … ผู้วิเศษคลุ้มคลั่ง?

ไคลน์ ขมวดคิว้ ตั้งใจฟัง

ทันใดนั้น ดันน์ หันกลับมาจ้ องไคลน์ ด้วยแววตาแสนเศร้ าหมอง


รอยยิม้ เลือนหายจากใบหน้ าโดยสมบูรณ์

“จากจานวนดังกล่ าว… มีไม่ น้อยที่เกิดกับพวกพ้องคนสาคัญ”


ราชันย์ เร้ นลับ 15 : เชื้อเชิญ

หลังจากได้ ยินคาเตือนจากปากดันน์ ภายในใจไคลน์ กาลังเกิด


อารมณ์ หลากหลาย

“ทาไมถึงเป็ นแบบนั้น?”

ผู้วิเศษมีผลข้ างเคียงรุนแรงขนาดนีเ้ ชียว?

เหตุใดหน่ วยลับของโบสถ์ ซึ่งมีหน้ าที่ปราบปรามคดีเหนือ


ธรรมชาติทั่วโลก ถึงได้ กลายเป็ นต้ นตอของคดีเสี ยเอง?

ดันน์ นั่งลงบนเบาะและกล่าวด้ วยสี หน้ าแววตาที่ยังไม่ เปลี่ยน

“เล่าไปก็คงยังไม่ เข้ าใจ และอันที่จริง คุณไม่ มีสิทธิ์ล่วงรู้ข้อมูลนี้


จนกว่ าจะกลายเป็ นส่ วนหนึ่งของพวกเราเสี ยก่อน”

ไคลน์ พลันขมวดคิว้ หลังจากตามเข้ าไปนั่งในห้ องโดยสาร มัน


เอ่ยปากถามดันน์ ด้วยถ้ อยคาติดตลก

“ถ้ าผมไม่ ทราบสาเหตุของปัญหา แล้วจะกล้าตัดสิ นใจเข้ าร่ วม


ได้ ยังไง?”
และถ้ าไม่ กล้าเข้ าร่ วม ตนก็ไม่ มีวันทราบถึงต้ นตอของปัญหาได้
เลย วัฏจักรเวียนวนเช่ นนีไ้ ม่ ร้ ู จักจบสิ้น…

ดันน์ ·หยิบกล้องยาสู บออกมาถือ ก่อนจะเลื่อนขึน้ ไปบริเวณจมูก


และทาการสู ดลมหายใจ

“เข้ าใจผิดแล้ว เจ้ าหน้ าที่พลเรื อนก็นับเป็ นหนึ่งในพวกเรา


เหมือนกัน”

“หรื อก็คือ ถ้ ากลายเป็ นเจ้ าหน้ าที่พลเรื อนของเหยี่ยวราตรี ผมก็


จะได้ ทราบสาเหตุที่ผ้ วู ิเศษคลุ้มคลั่ง รวมถึงภัยอันตรายที่ผ้ วู ิเศษ
ต้ องเชิญในอนาคต จากนั้นค่ อยตัดสิ นใจว่ าจะเป็ นผู้วิเศษ
หรื อไม่ …”

ไคลน์ สรุปสิ่ งที่ตนเข้ าใจให้ ดันน์ ฟัง

ดันน์ ·สมิทอมยิม้

“ถูกต้ อง แต่ ขอเตือนไว้ เรื่ องหนึ่ง คุณไม่ สามารถกลายเป็ น


ผู้วิเศษได้ ดั่งใจ โบสถ์ ของเราเข้ มงวดกับเรื่ องนีม้ าก”

ไม่ เข้ มงวดสิ แปลก… ไคลน์ พมึ พา

มันหันไปถามดันน์ ด้วยสี หน้ าและภาษามือที่เอาจริงเอาจัง


“แล้วเงื่อนไขการเป็ นเจ้ าหน้ าที่ฝ่ายพลเรื อนล่ะ? คงเข้ มงวด
เหมือนกันใช่ ไหม?”

“ถ้ าเป็ นคุณก็ไม่ มีปัญหา”

ดันน์ ตอบกลับขณะสู ดกล้องยาสู บเข้ าไปจนเปลือกตาปิ ดลง


ครึ่งหนึ่ง สี หน้ าของมันกาลังผ่ อนคลาย ทว่ า กล้องยาสู บดังกล่าว
ไม่ ถูกจุดไฟ

“เพราะอะไร?”
ไคลน์ ถามด้ วยสี หน้ าฉงน ภายในใจกาลังตั้งสมมติฐานติดตลก

ความพิเศษของเราในฐานะผู้เดินทางข้ ามโลกเจิดจ้ าขนาดนั้น


เชียว? ประหนึ่งหิ่งห้ อยท่ ามกลางยามราตรีอันมืดมิด มีชะตากรรม
ต้ องส่ องสว่ างโดดเด่ นเหนือแมลงชนิดอื่นสิ นะ!

ดันน์ ลืมตาที่เคยหรี่ลง นัยน์ ตาสี เทาเผยให้ เห็นความสุ ขุมเฉกเช่ น


ปรกติ

“ประการแรก คุณรอดชีวิตจากเหตุการณ์ ประหลาดได้ โดยไม่ พงึ


พาความช่ วยเหลือจากพวกเรา มีบางสิ่ งในตัวคุณที่พเิ ศษกว่ ามนุษย์
คนอื่น ยกตัวอย่ างเช่ น ความโชคดี บุคคลที่ดวงดีมันถูกต้ อนรับ
จากเพื่อนร่ วมงานเสมอ”
เมื่อเห็นไคลน์ เริ่มขมวดคิว้ ดันน์ อมยิม้ และอธิบายต่ อ
“จะถือว่ าเมื่อครู่เป็ นมุกตลกก็ได้ ประการที่สอง คุณจบการศึกษา
จากมหาวิทยาลัยโฮอีใ้ นคณะประวัติศาสตร์ ซึ่งนับเป็ นความ
เชี่ยวชาญที่ทางเราขลาดแคลนอย่ างหนัก… ผมมีเพื่อนคนหนึ่งเป็ น
สาวกของโบสถ์ เทพแห่ งวายุสลาตัน เขาชื่ อว่ าลัวมี่ หมอนั่นเป็ น
พวกชอบดูถูกเพศหญิง แต่ ข้อดีก็ยังมี ลัวมี่ศึกษาอย่ างลึกซึ้งด้ าน
สั งคมนิยม มานุษยวิทยา เศรษฐกิจ และการเมือง เขาเคยแสดง
ความเห็นไว้ ว่า บุคคลพรสวรรค์ จาเป็ นต่ อการพัฒนาของทุก
องค์ กร ไม่ ว่าจะเป็ นพรสวรรค์ด้านใดก็ตาม ซึ่งผมเห็นด้ วยกับ
แนวคิดนี้มาก”

เมื่อเหลือบเห็นไคลน์ ยังคงขมวดคิว้ ดันน์ อธิบายต่ อ

“คุณคงพอจะเดาได้ บ่ อยครั้งที่หน่ วยของเราต้ องรับมือกับกอง


เอกสารโบราณจากยุคสมัยที่สี่หรื อเก่ากว่ า… เป็ นของกลางที่ยืดมา
ได้ จากลิทธิและกลุ่มคนนอกรีตที่พยายามขวนขวายครอบครอง
พลังพิเศษทางลัด หลายต่ อหลายครั้งที่พลังดังกล่าวย้ อนกลับไปทา
ร้ ายพวกมันเสี ยเอง

“หน่ วยเราอาจมีผ้ วู ิเศษที่ถือครองพลังหลากหลายชนิด แต่ ด้าน


วิชาการแล้วไม่ ใช่ ส่ วนมากไม่ ถนัดการเรียน และหลายก็แก่เลยเลย
วัยไปมากแล้ว”

ขณะกล่าวประโยคสุ ดท้ าย ดันน์ อมยิม้ พลางชี้นวิ้ เข้ าหาตัวเอง


จากนั้นอธิบายต่ อ
“เอกสารโบราณเหล่านั้นทั้งน่ าเบื่อและชวนให้ ง่วง แม้ แต่ พลัง ‘ผู้
ไร้ หลับ’ ของผมก็ไม่ ช่วยอะไร… ในอดีต มีบ่อยครั้งที่พวกเราต้ อง
พึงพาความช่ วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญสาขาโบราณคดีและ
ประวัติศาสตร์ แต่ นั่นไม่ ใช่ ทางเลือกที่ดีนัก เพราะนโยบายของ
โบสถ์ เน้ นการรักษาความลับให้ มิดชิด และการให้ บุคคลทั่วไปเข้ า
มาพัวพันกับเอกสารโบราณ อาจเป็ นการนาพาชีวิตคนเหล่านั้นให้
ประสบชะตากรรมเลวร้ าย… ดังนั้น เมื่อมีโอกาสได้ ตัวผู้เชี่ยวชาญ
มาร่ วมงาน ผมจึงต้ องการคว้ าไว้ ”
ไคลน์ พยักหน้ าเล็กน้ อย มันเริ่มมองเห็นภาพรวมแล้ว หลังจาก
ครุ่นคิดพักหนึ่ง ไคลน์ หันกลับไปถามอีกครั้ง

“แล้วทาไมคุณถึงไม่ จ้างผู้เชี่ยวชาญเป็ นเรื่ องเป็ นราวสั กคนไป


เลย?”

ดันน์ อธิบาย

“นั่นคือสาเหตุประการที่สาม และยังเป็ นเหตุผลสาคัญที่สุด…


เหตุผลที่ผมเลือกคุณเพราะ คุณเคยผ่ านเหตุการณ์ เหนือธรรมชาติ
มาแล้ว ดังนั้น การชักชวนคุณจึงไม่ ผิดกฎด้ านรักษาความลับ

“หากต้ องชักชวนคนภายนอก ผมต้ องมอบข้ อมูลสาคัญให้ และ


ผมต้ องแบกรับความเสี่ ยงที่คนผู้น้ นั จะทรยศและนาความลับไป
เปิ ดเผย… นั่นคือสาเหตุที่ เจ้ าหน้ าที่พลเรื อนของเหยี่ยวราตรีส่วน
ใหญ่ ถูกส่ งจากโบสถ์ โดยตรง”

ไคลน์ นั่งฟังอย่ างตั้งใจ


มันยังคงไต่ ถามในเรื่ องที่สงสั ย

“ทาไมพวกคุณถึงเข้ มงวดด้ านความลับนัก? การเผยแพร่ ข่าว


ของพลังพิเศษและเรื่ องเหนือธรรมชาติ น่ าจะทาให้ ผ้ คู นตื่นตัวและ
รับมือได้ ดีกว่ าไม่ ใช่ หรื อ? ความหวาดกลัวที่รุนแรงที่สุด คือความ
กลัวที่เกิดจากการไม่ ร้ ู… แต่ โบสถ์ สามารถเผยแผ่ ความรู้ให้ แก่
มนุษย์ ปรกติได้ ”

“ไม่ เลย มนุษย์ น้ นั โง่ เขลากว่ าที่คุณจินตนาการมาก หากเผยแพร่


ออกไป นอกจากจะไม่ ช่วยให้ คดีลดลง อาจได้ รับผลตรงกันข้ าม
ความอยากรู้อยากเห็นเป็ นบ่ อเกิดความวุ่นวายและอุบัติเหตุร้ายแรง
เสมอ”

ดันน์ ส่ายศีรษะ

ไคลน์ พยักหน้ าเล็กน้ อยเมื่อจับประเด็นที่อีกฝ่ ายต่ อการสื่ อ

“บทเรียนเดียวที่มนุษย์ ได้ รับจากอดีต… คือการที่มนุษย์ ไม่ เคย


เรียนรู้อดีตเลยสั กครั้ง เอาแต่ กระทาความผิดพลาดซ้าเดิมต่ อเนื่อง”

“เห็นด้ วย คาคมของจักรพรรดิโรซายล์น้ นั แฝงแนวคิดทางปรัญ


ชาไว้ อย่ างลึกซึ้ง”
ดันน์ ผงกศีรษะรับ

…จักรพรรดิโรซายล์เคยกล่าวไว้ แล้ว?

รุ่นพีข่ ้ ามโลกไม่ คิดจะให้ ‘รุ่นหลัง’ ได้ เฉิดฉายบ้ างเลยหรื อ?


ไคลน์ ไม่ ร้ ูจะสานต่ อบทสนทนาอย่ างไร

ดันน์ ชาเลืองมองไปนอกหน้ าต่ างห้ องโดยสารรถม้ า แสงโคมไฟ


จากถนนภายนอกส่ องเข้ ามาเป็ นระยะ แสดงให้ เห็นถึงความเจริญ
ทางอารยธรรมในยุคปัจจุบัน

“…มีประโยคหนึ่งที่หน่ วยลับของทุกโบสถ์ มักพูดเหมือนกัน


และอาจเป็ นเหตุผลหลักที่ต้องปกปิ ดความลับของเรื่ องเหนือ
ธรรมชาติให้ มิดชิดจากคนทั่วไป”

“ประโยคหนึ่ง?”

ไคลน์ ถามอย่ างสนอกสนใจ มันกาลังมีความสุ ขที่ได้ เข้ าถึง


ความลับซึ่งคนทั่วไปมิอาจจับต้ อง

ดันน์ หันศีรษะกลับมามอง มุมปากกระตุกเล็กน้ อยจนยากจะ


สั งเกตุเห็น
“ความศรัทธาและความกลัวจะนามาซึ่งปัญหา ยิ่งความศรัทธา
และความกลัวมีมาก ปัญหาที่ตามมาก็ยิ่งร้ ายแรง… เหตุการณ์
เช่ นนี้จะเกิดซ้าไปมาจนกระทั่งทุกสิ่ งถูกทาลายโดยสมบูรณ์ ”

ดันน์ ถอนหายใจยาว

“นอกจากสวดภาวนาให้ เหล่าเทพยื่นมือช่ วยเหลือแล้ว มนุษย์


แทบมิอาจแก้ ไขปัญหาสาคัญด้ วยตัวเองได้ เลย”

‘ความศรัทธาและความกลัวจะนามาซึ่งปัญหา ยิ่งความศรัทธา
และความกลัวมีมาก ปัญหาที่ตามมาก็ยงิ่ ร้ ายแรง…’

ไคลน์ พมึ พาในใจ มันยังตีความประโยคดังกล่าวไม่ ออก

หากตั้งคาถามว่ า อะไรคือความหวาดกลัวจากสิ่ งที่มองไม่ เห็น?

ถ้ าต้ องยกตัวอย่ าง ในมุมมืดบนท้ องถนนที่แสงไฟส่ องไม่ ถึง เรา


มิอาจทราบได้ เลยว่ า มีสิ่งใดกาลังหลบซ่ อนอยู่ในเงามืดนั้น ใน
บางครั้ง จิตมนุษย์ จะสร้ างภาพหลอนขึน้ โดยอัตโนมัติ จาพวก
ดวงตาของสิ่ งเร้ นลับที่ไม่ มีอยู่จริง เพื่อเติมเต็มความหวาดกลัว
ภายในใจ

ม้ าตารวจกาลังควบไปบนถนนด้ วยด้ วยความว่ องไวดุดัน ขณะ


ล้อรถหมุนเร็วจนเกิดเสี ยงดังเอี๊ยดอ๊าด ดันน์ ·สมิทหันมากล่าวเชื้อ
เชิญไคลน์ อย่ างเป็ นทางการอีกครั้ง
“คุณอยากทางานกับหน่ วยของเราในฐานะเจ้ าหน้ าที่พลเรื อน
ไหม?”

ภายในใจไคลน์ กาลังฟุ้งซ่ านหลายสิ่ ง ซึ่งแน่ นอน มันไม่ มีความ


สุ ขุมพอจะมอบคาตอบได้ ทันที

“ขอเวลาคิดสั กพักได้ ไหม?”

การตัดสิ นใจครั้งใหญ่ ที่อาจพลิกผันชีวิต อาจมีสิ่งเร้ นลับเหนื อ


ธรรมชาติตามมา มันไม่ ควรผลีผลามโดยเด็ดขาด

“ไม่ มีปัญหา แต่ ผมต้ องการคาตอบก่อนวันอาทิตย์ ”

ดันน์ พยักหน้ าพร้ อมกล่าวกาชับ

“อย่ าลืมปิ ดเรื่ องทั้งหมดไว้ เป็ นความลับ ห้ ามเล่าถึงคดีของ


มิสเตอร์ เวิร์ชให้ พชี่ ายกับน้ องสาวฟังเด็ดขาด หากฝ่ าฝื น นอกจาก
พวกเขาจะเดือดร้ อน ตัวคุณยังต้ องเข้ าสู่ กระบวนการพิจารณาคดี
พิเศษด้ วย”

“เข้ าใจแล้วครับ”

ไคลน์ ให้ สัญญา


รถม้ าถูกความเงียบงันครอบงาอีกครั้ง
เมื่อวิวทิวทัศน์ สองข้ างทางเริ่มขยับเข้ าใกล้กับถนนกางเขนเหล็ก
ที่มีหอพักของตนตั้งอยู่ ไคลน์ ชั่งใจราวสองวินาทีก่อนจะเอ่ยปาก
ถาม

“มิสเตอร์ สมิท ค่ าตอนแทบกับสวัสดิการของเจ้ าหน้ าที่พลเรื อน


เป็ นอย่ างไรบ้ าง?”

คาถามสุ ดจริงจัง…
ดันน์ ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ เพียงไม่ นานก็อมยิม้ และมอบคาตอบ

“ไม่ ต้องห่ วง หน่ วยของเราได้ รับเงินสนับสนุนจากโบสถ์ และ


กรมตารวจ สาหรับเจ้ าหน้ าที่พลเรื อนเข้ าใหม่ ค่ าตอบแทนจะอยู่ที่
สั ปดาห์ ละ 2 ปอนด์ กับ 10 ซูล แต่ จะมีเงินตอบแทนพิเศษจากค่ าสี
ยงภัยและการรักษาความลับอีก 10 ซูล รวมทั้งสิ้นเป็ น 3 ปอนด์
แทบไม่ ต่างจากอาจารย์ มหาวิทยาลัยที่ถูกแต่ งตั้งอย่ างเป็ นทางการ

“ในภายหลัง ค่ าตอบแทนสามารถเพิม่ ขึน้ จากความสาเร็จใน


หน่ วยงาน รวมถึงประสบการณ์ ที่สั่งสม

“ในฐานะเจ้ าหน้ าที่พลเรื อน สั ญญาฉบับแรกจะมีอายุห้าปี เต็ม


หลังจากครบกาหนด คุณสามารถเลือกอยู่ต่อหรื อถอนตัวก็ได้
ข้ อจากัดเดียวคือ คุณต้ องเซ็นสั ญญาว่ าจะรักษาความลับไปตลอด
ชีวิต และจะไม่ สามารถเดินทางออกจากทิงเก็นจนกว่ าจะได้ รับ
อนุญาต หากมีการย้ ายที่อยู่ คุณต้ องไปรายงานตัวกับสานักงาน
เหยี่ยวราตรีท้องถิ่นของเมืองนั้น

“แต่ ขอเตือนไว้ ก่อน เจ้ าหน้ าที่พลเรื อนจะไม่ มีวันหยุดเสา


อาทิตย์ และทางานในรูปแบบเข้ าเวร สานักงานเหยี่ยวราตรีต้องมี
เจ้ าหน้ าที่อย่ างน้ อยสามคนประจาการตลอดเวลา หากต้ องการพัก
ร้ อนทางใต้ หรื ออ่าวเดซี่ คุณต้ องจัดสรรเวรกับเพื่อนร่ วมงานให้ ดี”

เมื่อดันน์ กล่าวจบ รถม้ าได้ เคลื่อนตัวถึงหน้ าหอพักของไคลน์


และพีน่ ้ อง

“เข้ าใจแล้วครับ”

ไคลน์ เหลียวซ้ ายแลขวาก่อนกระโดดลงจากรถม้ า จากนั้นก็หัน


กลับไปถามดันน์

“ว่ าแต่ มิสเตอร์ สมิท หลังจากผมตัดสิ นใจได้ แล้ว จะแจ้ งข่ าวกับ
คุณได้ ทางไหน?”

ดันน์ หัวเราะเสี ยงค่ อย ก่อนจะกล่าว

“ไปทีถ่ นนเบซิคและหาร้ าน ‘ผับสุ นัขล่ าเนื้อ’ บอกกับเจ้ าของ


ร้ าน—มิสเตอร์ ไรท์ ว่า คุณต้ องการจ้ างทหารรับจ้ างจานวนหนึ่งไป
ทาภารกิจ”
“เอ๋?”

ไคลน์ ขมวดคิว้

“ที่อยู่ของสานักงานเราก็เป็ นความลับเช่ นกัน จนกว่ าคุณจะเข้ า


ร่ วม ผมคงบอกที่อยู่จริงไม่ ได้ … มิสเตอร์ โมเร็ตติ ขออวยพรให้ คุณ
มีความฝันที่ดี”

ดันน์ อมยิม้
ไคลน์ ถอดหมวกแนบหน้ าอกและก้มศีรษะลงตามมารยาท มัน
จ้ องมองรถม้ าตารวจวิ่งจากไปจนกระทั่งลับสายตา

นาฬิ กาใบองุ่นถูกหยิบออกมาเปิ ด

กริ๊ก! สปริงโลหะดีดฝาพับขึน้

เพิง่ จะเลยตีสี่ได้ ไม่ นาน บรรยากาศบนถนนกางเขนเหล็กมีสาย


ลมเย็นสบายพัดเอื่อย แสงไฟจากโคมส่ องสะท้ อนตึกรามบ้ านช่ อง
อย่ างงดงาม

มันสู ดลมหายใจเข้ าลึก ดื่มด่าไปกับความเงียบสงบและอากาศ


สดชื่ นเช่ นนั้นเป็ นเวลานาน
ถนนที่เนืองแน่ นด้ วยผู้คนในทุกเช้ า ยามค่าคืนกลับมีบรรยากาศ
สงบสุ ขอย่ างน่ าเหลือเชื่ อ

ตรงข้ ามกับประสบการณ์ สุดขนลุกที่ทางเดินหน้ าบ้ านเวิร์ชโดย


สิ้นเชิง… ความรู้สึกซึ่งเกิดจากการถูกดวงตาหลายร้ อยคู่ที่มองไม่
เห็นจดจ้ อง ไคลน์ ไม่ ต้องการเผชิญเป็ นหนที่สอง

ทันใดนั้น แผ่ นหลังของมันพลันชุ่มไปด้ วยเหงื่อไคลเย็นนะเยียบ


ราชันเร้ นลับ 16 : สุ นัขไล่จับหนู

ฟู่ ว! ในที่สุดก็ผ่านด่ านผู้สื่อวิญญาณมาได้ !

ไคลน์ ถอนหายใจยาว หลังจากดื่มดาไอเย็นและความเงียบสงบ


บนถนน มันหันกลับเข้ าไปในหอพักของตน

เมื่อเดินถึงหน้ าหอพัก กุญแจถูกหยิบออกมาไขอย่ างนุ่มนวล


ประตูถูกผลักเข้ าด้ านใน ไม้ เสี ยดสี จนเกิดเสี ยงดังแอ๊ด แสงจันทร์ สี
แดงฉานส่ องลอดผ่ านทางช่ องว่ างประตู

ไคลน์ เดินขึน้ บันไดวนอันเปล่าเปลี่ยวไร้ ผ้ คู น บรรยากาศรอบตัว


ยังคงเย็นฉ่า

ไคลน์ ร้ ูสึกแปลกประหลาดไม่ น้อยเมื่อได้ ใช้ ชีวิตบนโลกที่ปลอด


ผู้คน

ฝี เท้ าถูกเร่ งก้าวขึน้ บันได

หลังจากไคลน์ เดินมาถึงหน้ าห้ องตัวเอง มันไขกุญแจเปิ ดประตู


และบิดเข้ าไปอย่ างเหม่ อลอย

ทันใดนั้นพลันต้ องชะงัก
สาเหตุเพราะ มีบุคคลหนึ่งกาลังนั่งบนเก้าอีอ้ ่านหนังสื อ ผมยาว
สี ดาแดง นัยน์ ตาสี น้าตาลสว่ าง ใบหน้ าเรียบร้ อยและดูดี

เป็ นใครอื่นไม่ ได้ นอกจากเมลิสซ่ า·โมเร็ตติ

“ไคลน์ นายไปไหนมา?”

เมลิสซ่ าเอ่ยปากถามพลางขมวดคิว้
ไม่ รอให้ ไคลน์ ตอบ เธอเสริมต่ อ
“เมื่อครู่ ฉันตื่นมาเข้ าห้ องน้า แต่ เห็นว่ านายไม่ อยู่ในบ้ าน”

สี หน้ าของเธอ ราวกับต้ องการให้ ไคลน์ สาธยายทุกสิ่ งอย่ าง


ละเอียดโดยไม่ ขาดตกบกพร่ อง เมลิสซ่ าหวังทราบให้ ได้ ว่า ในยาม
วิกาลเช่ นนี้ ไคลน์ ออกไปทาอะไรกันแน่

ด้ วยความเป็ นนักโกหกพ่อแม่ ตัวยง สมองไคลน์ ประมวลผล


อย่ างชานิชานาญก่ อนจะมอบคาตอบพร้ อมรอยยิม้

“ฉันบังเอิญตื่นกลางดึกแล้วนอนไม่ หลับ หลังจากครุ่นคิดอยู่พกั


หนึ่ง ฉันตระหนักได้ ว่าไม่ ควรปล่อยเวลาให้ สูญเปล่า จึงออกไปวิ่ง
รอบถนนเพื่อฝึ กฝนร่ างกาย ไม่ เชื่ อก็ดูเหงื่อสิ ”

เมื่อกล่าวจบ ไคลน์ ถอดแจ็คเก็ตพร้ อมกับเอีย้ วหลังอันเปี ยกชุ่ม


อวดเมลิสซ่ า
เธอลุกขึน้ จากเก้าอีเ้ พื่อเดินเข้ ามาสารวจในระยะใกล้ ก่อนจะ
กล่าวด้ วยสี หน้ าเรียบเฉย

“ด้ วยความสั ตย์ จริงนะไคลน์ นายไม่ ต้องตื่นเต้ นกับการสอบ


สั มภาษณ์ ขนาดนั้นก็ได้ ต่ อให้ ไม่ ได้ งานที่มหาวิทยาลัยทิงเก็น แต่
ฉันมันใจว่ า… เอ่อ… นายต้ องหางานอื่นที่ดีทาได้ แน่ ”

ฉันไม่ ได้ คิดเรื่ องสอบสั มภาษณ์ เลยสั กนิด…


ไคลน์ ยมิ้ แห้ งก่อนขานรับ

“เข้ าใจแล้ว”

มันไม่ กล่าวถึง ‘ข้ อเสนอ’ จากดันน์


ไคลน์ ยังไม่ ได้ ตัดสิ นใจว่ า มันจะตอบรับคาเชิญของดันน์ ·สมิท
หรื อไม่

หลังจากจ้ องมองไคลน์ ครู่หนึ่ง เมลิสซ่ ารีบวิ่งกลับเข้ าไปในห้ อง


ของเธอ จากนั้นก็เดินกลับออกมาโดยถือวัตถุที่มีรูปร่ างคล้าย ‘เต่ า’
ไว้ ในมือ

วัตถุดังกล่าวถูกประกอบจากเศษเหล็กหลายชิ้น ทั้งเฟื อง เหล็ก


ขึน้ สนิม สปริงดีด และสปริงขด
หลังจากหมุนสปริงดีดหลายรอบ เมลิสซ่ าวางวัตถุดังกล่าวลง
บนโต๊ ะอ่านหนังสื อ

กึก กึก กึก กึก!

แกร่ ก! แกร่ ก! แกร่ ก!

‘เต่ า’ ตัวดังกล่าวเคลื่อนที่พลางกระโดดเป็ นจังหวะตามกลไกที่


กาหนด ใครก็ตามที่ได้ เห็นมีย่อมต้ องเหลียวมองอย่ างสนอกสนใจ
“ทุกครั้งที่หดหู่หรื อเครียด ฉันจะนามันออกมาเล่นเพื่อผ่ อน
คลาย นายก็ลองเล่นดูบ้างสิ ฉันมั่นใจว่ ามันได้ ผล!”

เมลิสซ่ าพยายามโน้ มน้ าวด้ วยแววตาเปล่งประกาย ไม่ มีพชี่ ายใด


ในโลกปฏิเสธความหวังดีจากก้ นบึง้ หัวใจน้ องสาวลง

ไคลน์ เดินเข้ าไปหา ‘เต่ า’ และเฝ้ามองจนกระทั่งกลไกหยุดลง


หลังจากนั้น มันอมยิม้ และหันไปกล่าวกับเมลิสซ่ า

“ความเรียบง่ ายและเป็ นจังหวะ ช่ วยให้ จิตใจผ่ อนคลายได้ ดี”

ไม่ รอให้ อีกฝ่ ายกล่าวสิ่ งใดต่ อ ไคลน์ ชี้นวิ้ ไปที่ ‘เต่ า’ พร้ อมกับ
ถาม
“เธอทาเองหรื อ? ตั้งแต่ เมื่อไรกัน? ทาไมฉันไม่ เคยเห็นมาก่ อน”
“ประกอบจากเศษเหล็กที่ไม่ ใช้ แล้วในคาบเรียน รวมถึงเศษเหล็ก
ที่เก็บได้ บนถนน เพิง่ สร้ างเสร็จเมื่อสองวันก่อน”

เมลิสซ่ ากล่าวด้ วยน้าเสี ยงเรียบเฉยไร้ อารมณ์ เฉกเช่ นทุกครั้ง


ทว่ า มุมปากของเธอกาลังอมยิม้ มากกว่ าปรกติ

“เก่งจังน้ า…”

ไคลน์ ยกย่ องจากใจ


ในฐานะเด็กชายที่ปราศจากพรสวรรค์ ด้านกลไก ในวัยเด็กของ
มัน ลาพังรถของเล่นสี่ ล้อยังประกอบได้ ยากลาบาก

เมลิสซ่ ากล่าวต่ อด้ วยคางที่เชิดขึน้

“ก็ไม่ ได้ สุดยอดขนาดนั้น”

“ถ่ อมตัวเกินไปไม่ ใช่ เรื่ องดีหรอกนะ…”

ไคลน์ อมยิม้ มันกล่าวต่ อ

“นี่คือเต่ าใช่ ไหม?”

ทันใดนั้น บรรยากาศภายในห้ องพลันอึมครึมราวกับสุ สาน


หลังจากผ่ านไปครู่หนึ่ง เมลิสซ่ าตอบกลับด้ วยเสี ยงอันเบาบาง
และเย็นยะเยียบ

“หุ่นมนุษย์ ”

หุ่นมนุษย์ …

ไคลน์ ยื้มเจื่อน มันพยายามเฉไฉ

“ปัญหาคือวัสดุที่นามาประกอบสิ นะ สรีระของหุ่นจึงค่ อนข้ าง


จากัด”

ถัดมา ไคลน์ ไม่ ปล่อยให้ เธอสานต่ อบทสนทนาเดิม มันรีบ


เปลี่ยนเรื่ อง

“ว่ าแต่ ทาไมเธอถึงเข้ าห้ องน้าตอนดึก? ห้ องเราก็มีอ่างล้างมือ


ไม่ ใช่ หรื อ? ทุกทีเห็นเธอตื่นเช้ าตรงเวลาตลอด”

เมลิสซ่ าชะงักไปเล็กน้ อย
ถัดมาอีกไม่ กี่วินาที ขณะที่เธออ้าปากอธิบาย…

โคร่ ก!

เสี ยงประหลาดดังจากบริเวณกระเพาะอาหารของสาวน้ อย
“ฉ… ฉันจะไปนอนต่ อเดี๋ยวนีแ้ หละ!”

โครม! เธอรีบคว้ าหุ่นมนุษย์ ที่รูปร่ างคล้ายเต่ า ก่อนจะวิ่งกลับเข้ า


ห้ องและปิ ดประตูเสี ยงดังโครม

อาหารมื่อเย็นคงอร่ อยเกินไป เมลิสซ่ าจึงทานมากกว่ าปรกติ และ


เมื่อกระเพาะอาหารไม่ ค้ ยุ เคยกับปริมาณ จึงเกิดปัญหาในการย่ อย
อาหารขึน้ …

ไคลน์ ส่ายศีรษะพลางอมยิม้ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ ะอ่าน


หนังสื อและครุ่นคิดถึงหลายสิ่ งที่เกิดขึน้

ขณะถ้ อยคาเชื้อเชิญของดันน์ ·สมิทดังก้องในหัว แสงจันทร์ สี


แดงฉานด้ านนอกได้ ส่องเข้ ามาในห้ องอีกครั้งเมื่อเมฆบนท้ องฟ้ า
เลือนลับ

การเป็ นเจ้ าหน้ าที่พลเรื อนของเหยี่ยวราตรีย่อมมาพร้ อมปัญหา


ใหญ่

ปัจจุบัน ไคลน์ มีหลายตัวตน ทั้งผู้เดินทางข้ ามโลก เดอะฟูลแห่ ง


ชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์ และยังมีความลับอื่นอีกมาก การเข้ าร่ วมองค์ กร
แห่ งโบสถ์ เทพธิดารัตติกาลที่เชี่ ยวชาญการสื บคดีผ้ วู ิเศษ จึงนับเป็ น
ความเสี่ ยงใหญ่ หลวงสาหรับไคลน์
หากเข้ าทางานในเหยี่ยวราตรี เป้าหมายของมันคือการเป็ น
ผู้วิเศษ ขณะเดียวกันก็ต้องคอยปกปิ ดความลับของชุมนุมไพ่ทา
โร่ ต์

แถมการเป็ นสมาชิกเหยี่ยวราตรีเต็มตัวยังถูกจากัดสิ ทธิ์หลาย


ด้ าน เช่ นการต้ องขออนุญาตก่อนเดินทางออกจากทิงเก็นทุกครั้ง
มันจะขาดอิสระและมิอาจเคลื่อนไหวได้ ตามใจ และนั่นจะทาให้
พลาดโอกาสสาคัญมากมาย

เหยี่ยวราตรีคือองค์ กรลับที่ขนึ้ ตรงต่ อโบสถ์ หรื ออีกนัยหนึ่ง เมื่อ


มีคาสั่ งจากโบสถ์ มันมิอาจขัดขืนหรื อปฏิเสธได้

ไม่ เพียงเท่ านั้น ผู้วิเศษยังมีโอกาสคลุ้มคลั่ง

เมื่อไล่เรียงข้ อเสี ยครบถ้ วน ไคลน์ ลองพิจารณาถึงข้ อดีดูบ้าง

จากประสบการณ์ ที่ได้ รับในพิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตา ไคลน์ เริ่ม


มั่นใจว่ า ตนคือ 20% ผู้โชคร้ ายจากภัยอันตรายที่ดันน์ ·สมิทเอ่ยถึง
ตัวมันมีโอกาสสู งมาก ที่จะถูกคาสาปหรื อสิ่ งเร้ นลับเล่นในอนาคต

การได้ เข้ าร่ วมเหยี่ยวราตรีและกลายเป็ นผู้วิเศษจะช่ วยระงับ


เหตุการณ์ ดังกล่าว
ตัวมันไม่ สามารถกลายเป็ นผู้วิเศษได้ จากการชุมนุมเพียงอย่ าง
เดียว ต่ อให้ มีสูตรสร้ างโอสถจากจัสติสและแฮงแมน แต่ เราจะหา
วัสดุสาหรับปรุงยามาจากไหน?

ยิ่งไปกว่ านั้น หากใช้ ชีวิตอย่ างราบเรียบไปวันๆ โดยไม่ ได้ เผชิญ


เหตุการณ์ เร้ นลับ ตัวมันจะสู ญเสี ย ‘ความน่ าเกรงขาม’ และไม่ มี
ข้ อมูลใดไปแลกเปลี่ยนกับจัสติสและแฮงแมน

หากเป็ นเช่ นนั้นต่ อไป จัสติสกับแฮงแมงจะเริ่มเคลือบแคลงใน


ตัวมัน และคงไม่ คิดสนทนาเรื่ องสาคัญต่ อหน้ าไคลน์ อีก
ด้ วยเหตุนี้ ตัวไคลน์ จาเป็ นต้ องมีเรื่ องราวตื่นเต้ นเร้ นลับไป
แลกเปลี่ยน จึงจะเหมาะสมตาแหน่ งหัวหน้ าการประชุมอย่ าง
มิสเตอร์ ฟูล

การแลกเปลี่ยนวัตถุดิบกับทั้งสองก็ไม่ ใช่ เรื่ องฉลาด หากมันต้ อง


มอบที่อยู่ตัวเอง ตัวตนจะถูกเปิ ดเผยในเวลาไม่ นาน และการ
สนทนาแบบ ‘ออนไลน์ ’ จะกลายเป็ น ‘ออฟไลน์ ’

นั่นคือจุดเริ่มต้ นของปัญหาที่มันไม่ ต้องการให้ เกิด

แต่ การเข้ าร่ วมเหยี่ยวราตรีจะเปิ ดโอกาสให้ ไคลน์ ได้ เผชิญ


เรื่ องราวเหนือธรรมชาติมากขึน้ มีโอกาสได้ พบกับมุมลึกของโบสถ์
หรื อเหล่าชนชั้นสู ง สิ่ งเหล่านีจ้ ะช่ วยสร้ างความน่ าเชื่ อถือต่ อจัสติส
และแฮงแมนในอนาคต
หรื อหากโชคดี มันอาจได้ ข้อมูลสาคัญที่ใช้ ในการต่ อรอง
แลกเปลี่ยนกับสองคนนั้น เมื่อยิ่งมั่งคั่งร่ารวย ไคลน์ ก็จะยิ่งเข้ าถึง
สั งคมชนชั้นสู งและขุนนางได้ ง่ายขึน้

แน่ นอน นอกจากเหยี่ยวราตรีแล้ว ทางเลือกที่คล้ ายกันคือเข้า


ร่ วมกับองค์ กรลับอย่ าง ‘สมาคมแปรจิต’ ที่ดันน์ และดาลี่ย์เอ่ยถึง

แต่ ข้อเสี ยที่คล้ายคลึงกันคือขาดอิสระ และต้ องคอยหวาดระแวง


หน่ วยลับของโบสถ์ ไปตลอดชีวิต ซึ่งนั่นไม่ ใช่ เรื่ องที่ดี
แต่ ปัญหาสาคัญที่สุดคือ ไคลน์ ไม่ ร้ ูว่าจะหาพวกคนของสมาคม
แปรจิตได้ ที่ไหนบ้ าง หรื อจะเข้าร่ วมองค์ กรได้ ด้วยวิธีใด

หรื อต่ อให้ หาวิธีเข้ าร่ วมได้ จากแฮงแมน แต่ ความสั มพันธ์ เพียง
ผิวเผินไม่ ได้ มั่นคงขนาดจะนาชีวิตเข้ าไปเสี่ ยงได้

ดูเหมือนว่ า การเป็ นเจ้ าหน้ าที่พลเรื อนของเหยี่ยวราตรีจะไม่


เลวร้ ายนัก ทางเดินเส้ นนีม้ อบทั้งความปลอดภัยและอนาคต

การเร้ นกายในเงามืดทางเลือกที่ฉลาดของผู้อ่อนแอ บางที เหยี่ยว


ราตรีคงเป็ นคาตอบที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

และในอนาคต หากมันไต่ เต้ าตาแหน่ งขึน้ ไปเป็ นเจ้ าหน้ าที่


ระดับสู งของโบสถ์ คงไม่ มีใครจิตนาการออกแน่ ว่ าตนคือพวกนอก
รีตที่มิได้ ศรัทธาเทพธิดารัตติกาลแม้ แต่ น้อย …แถมยังเป็ นหัวหน้ า
ชุมนุมออนไลน์ ลึกลับที่เจตนายังไม่ แน่ ชัด

แสงแดดยามเช้ าสาดส่ อง จันทร์ สีเลือดเลือนหายไปพร้ อมแสง


สว่ างแรกของโลก

ขณะเฝ้ามองแสงส้ มอมทองสว่ างขึน้ เหนือขอบฟ้ า ในที่สุด


ไคลน์ ก็ตัดสิ นใจได้
มันจะไปหาดันน์ ·สมิทเพื่อเข้ าทางานในตาแหน่ งเจ้ าหน้ าที่พล
เรื อนของเหยี่ยวราตรี

ปัจจุบัน ถึงเวลาเมลิสซ่ าลุกขึน้ จากเตียงอีกรอบ ขณะเธอผลัก


ประตูห้องนอนตัวเองออกมา สี หน้ าเมลิสซ่ าพลันตะลึงเมื่อเห็น
พีช่ ายกาลังยืดเส้ นยืดสายด้ วยท่ าสุ ดอุบาทว์

“นายยังไม่ นอนอีก?”

“ต้ องคิดอะไรหลายอย่ าง”

ไคลน์ อมยิม้ อย่ างผ่ อนคลาย


เมลิสซ่ าครุ่นคิดเล็กน้ อย ก่อนจะชี้แนะ
“ทุกครั้งที่เผชิญปัญหา ฉันจะไล่เรียงข้ อดีและข้ อเสี ยของ
เหตุการณ์ เพื่อชั่งน้าหนัก การทาแบบนั้นจะช่ วยให้ นายตัดสิ นใจได้
ง่ ายขึน้ ”

“เป็ นเทคนิคที่ดี ฉันก็ทาเหมือนกัน”

ไคลน์ ยมิ้

สี หน้ าเมลิสซ่ าเริ่มผ่ อนคลายลง เธอไม่ กล่าวสิ่ งใดต่ อ ทาเพียง


หยิบอุปกรณ์ อาบน้าและเปิ ดประตูเดินออกไป
ไคลน์ ไม่ รีบร้ อน มันลิม้ รสอาหารมื้อเช้ าและส่ งน้ องสาวออกไป
เรียน ก่อนจะทิง้ ตัวลงนอนหลังจากผ่ านค่าคืนอันเหน็ดเหนื่อย

ไม่ มีความจาเป็ นต้ องรีบร้ อน ไคลน์ ทราบดีว่าผับส่ วนใหญ่ ปิด


บริการในช่ วงเช้ า

ณ บ่ ายสองของวันเดียวกัน ไคลน์ ลืมตาตื่นพร้ อมกับจัดแจง


เครื่ องแต่ งกาย หมวกผ้ าไหมทรงสู งถูกนาออกมาขัดทาความ
สะอาด รวมถึงผ้ าเช็ดหน้ าประจาตัว ฝุ่ นที่เคยเกาะถูกขัดถูจน
กลับมาเอี่ยมอ่องอีกครั้ง

จากนั้นเป็ นการหยิบสู ทตัวเก่งมาสวม


ไคลน์ แต่ งตัวเรียบร้ อยพิถีพถิ ันราวกับจะออกไปสอบสั มภาษณ์
ถนนเบซิคอยู่ค่อนข้ างไกล ไคลน์ กังวลว่ าหากเดินไป มันจะถึง
ไม่ ทัน ‘เวลาทางาน’ ของเหยี่ยวราตรี จึงเลือกโดยสารรถม้ า
สาธารณะบนถนนกางเขนเหล็กแทน

ในอาณาจักรโลเอ็น รถม้ าโดยสารจะมีท้ังหมดสองชนิด—แบบ


ใช้ รางและไม่ ใช้ ราง

แบบแรกจะใช้ ม้าลากสองตัว ที่นั่งภายในห้ องโดยสารมีประมาณ


ยี่สิบ สั มภาระต้ องวางตัก เส้ นทางโดยสารระบุไว้ อย่ างหยาบ ไม่ มี
สถานีจอดเจาะจงเป็ นพิเศษ ปลายทางเลือกลงได้ แบบยืดหยุน และ
จะไม่ จอดรับคนเพิม่ หากรถเต็ม

ส่ วนแบบหลังเป็ นกิจการรถม้ าของบริษัทรถราง


ตัวรางจะถูกติดตั้งไว้ บนถนนสายหลักรอบเมือง ม้ าจะทาหน้ าที่
ลากห้ องโดยสารสองชั้นที่บรรจุคนมากกว่ าห้ าสิ บ รถม้ าประเภทนี้
จะประหยัดทรัพยากรและค่ าดูแลม้ ากว่ าแบบแรกมาก ส่ งผลให้
ค่ าบริการถูกลง

แต่ ปัญหาคือ สถานีตายตัวและเข้ าไม่ ถึงบางจุดของเมืองที่


ซับซ้ อน

หลังจากยืนรอกว่ าสิ บนาที เสี ยงล้อกระทบรางเหล็กดังแว่ วข้ างหู


ไคลน์ รถม้ าสองชั้นได้ เคลื่อนตัวมาจอดที่สถานีกางเขนเหล็ก
“ไปถนนเบซิค”

ไคลน์ กล่าวกับคนขับ

“คุณต้ องไปลงที่ถนนแชมเปญ จากนั้นเดินเท้ าต่ ออีกสิ บนาทีก็จะ


ถึงถนนเบซิค”

คนขับรถม้ าหันมาอธิบายเส้ นทางที่ไคลน์ จาเป็ นต้ องทราบ

“ไปถนนแชมเปญก็ได้ ”

มันพยักหน้ า

“ไกลกว่ าสี่ กิโลเมตร… สี่ เพนนี่”

เด็กหนุ่มหน้ าตาดีผิวพรรณสะอาดสะอ้ านส่ งเสี ยงพร้ อมกับแบ


มือหาไคลน์ จากด้ านข้ าง

มันคือคนเก็บเงิน

“ตกลง”

ไคลน์ หยิบเหรียญทองแดงสี่ เหรียญใส่ มือและยื่นให้


เมื่อเดินขึน้ ไปบนห้ องโดยสาร ไคลน์ พบว่ ามียังมีผ้ คู นไม่ มาก แม้
จะเป็ นชั้นแรกก็ตาม

“เหลือติดตัวแค่ สามเพนนี สงสั ยขากลับต้ องเดิน…”

หลังจากนั่งลง ไคลน์ ถอดหมวกและวางไว้ บนตัก

บรรยากาศรอบข้ างตัวมัน ชายหญิงแต่ งกายภูมิฐานนั่ง


ประปรายกระจายตัวทั่วห้ องโดยสาร ทุกคนล้วนสวมชุดทางาน
สะอาดสะอ้ าน ทั้งที่คนเหล่านีอ้ าจมีชุดเก่งสาหรับทางานเพียงชุด
เดียว

แต่ ละคนกางหนังสื อพิมพ์อ่านด้ วยท่ าทีผ่อนคล้ายไม่ สนโลก ไม่


มีใครคุยกับใคร บรรยากาศภายในห้ องโดยสารเป็ นไปอย่ างเงียบงัน

ไคลน์ หลับตาลงเพื่อชดเชยการนอนน้ อยของตน มันไม่ แยแสสิ่ ง


ที่เกิดขึน้ รอบตัวอีกแล้ว

ผ่ านสถานีแล้วสถานีเล่า จนกระทั่งได้ ยินเสี ยงตะโกนว่ า ‘ถนน


แชมเปญ’

เมื่อลงจากรถม้ า ไคลน์ เดินเท้ าต่ ออีกราวสิ บนาทีจนมาถึงถนนเบ


ซิค มันกวาดสายตามองจนพบผับที่หน้ าร้ านแขวนป้ายสี เหลือง
กึ่งกลางป้ายมีสัญลักษณ์ สุนัขล่ าเนื้อ
ไคลน์ ออกแรงผลักจนประตูบานใหญ่ ถูกดันเข้ าข้ างใน เสี ยง
เอะอะโวยวายและไอร้ อนภายในร้ านพลันพุ่งสวนออกมา

แม้ เป็ นยามบ่ าย แต่ ลูกค้ าในผับกลับมากมายจนน่ าทึ่ง บ้ างเป็ น


ลูกจ้ างชั่วคราว บ้ างกาลังรอให้ ใครสั กคนมาจ้ างไปทางาน ส่ วนที่
เหลือก็เอาแต่ ดื่มเหล้า มอมเมาตัวเองให้ ร่างกายเกิดอาการล่องลอย

แสงไฟค่ อนข้ างหรี่ บรรยากาศรอบผับนับว่ าประหลาดหาก


เทียบกับผับที่ไคลน์ ร้ ูจัก

กรงขนาดมหึมาสองกรงวางติดกันใจกลางห้ อง สามส่ วนสิ บของ


กรงจมลึกลงไปในดิน

ผู้คนนั่งเรียงรายบนเก้ าอีร้ อบร้ าน บ้ างยกแก้วไวน์ ที่ทาจากไม้ ขนึ้


จิบเป็ นระยะ บ้ างสนทนาเสี ยงดังโวยวาย บ้ างก็เอาแต่ หัวเราะอย่ าง
ไร้ แก่นสาร และบ้ างเอาแต่ สถบสาปแช่ งไม่ หยุดปาก

ไคลน์ หรี่ตาชาเลือง มันเหลือบเห็นสุ นัขสองตัวกาลังถูกล่าม


แยกกันภายในกรงใหญ่ ท้ังสอง ตัวหนึ่งมีขนสี ขาวสลับดา
คล้ายคลึงกับไซบีเรียนฮัสกีใ้ นโลกเก่า ส่ วนอีกตัวมีขนสี ดาสนิทเงา
งาม บ่ งบอกชัดเจนว่ าถูกประคมประหงมดูแลอย่ างดี แถมท่ าทางดุ
ร้ ายเกรี้ยวกราด

“พนันไหมเจ้ าหนุ่ม? ดอร์ กตัวนั้นชนะมาแปดเกมติดแล้วนะ!”


เสี ยงจากชายร่ างเล็กที่สวมหมวกเบเล่ต์สีน้าตาล มันเดินเข้ ามา
ใกล้ไคลน์ พลางชี้นวิ้ ไปยังสุ นัขขนสี ดาสนิท

พนัน? ไคลน์ ผงะชั่วครู่


ก่อนจะได้ สติกลับมาในอีกอึดใจ

“พนันสุ นัขกัดกัน?”

มันยังจาได้ ดี สมัยเรียนมหาวิทยาลัยโฮอี้ มีบ่อยครั้งที่ถูกเพื่อน


ขุนนางหรื อชนชั้นสู งชักชวนให้ ร่วมวงพนันการชกต่ อยระหว่ าง
คนตกงานกับพวกนักเลงที่มีขึน้ ในผับ

นอกจากพนันชกต่ อย พนันเกมไพ่ แล้วยังมีพนันสุ นัขกัดกันอีก


หรื อ? อย่ าบอกว่ ามีพนันไก่ชนด้ วย?

ชายร่ างเล็กแสยะยิม้

“มิสเตอร์ พวกเรามิได้ ไร้ อารยะขนาดนั้น ไม่ คิดจัดกิจกรรมน่ า


รังเกียจอย่ างสุ นัขกัดกันหรอกน่ า…”

มันเอนตัวเข้ ามาใกล้ไคลน์ พร้ อมกับกระซิบ

“เพราะกฏหมายได้ เริ่มห้ ามอย่ างจริงจังเมื่อปี ที่แล้ว…”

“แล้วพนันอะไรกัน?”
ไคลน์ ขมวดคิว้

“นักล่า… ฝ่ ายไหนจะล่าได้ มากกว่ ากัน”

ทันทีที่ชายร่ างเล็กกล่าวจบประโยค เสี ยงเอะอะพลันดังฮือฮา


รอบผับ

เมื่อหันกลับไปมอง ชายร่ างเหล็กรีบโบกมือให้ ไคลน์

“รอบนีไ้ ม่ ทันแล้ว คุณรอพนันรอบหน้ าก็แล้วกัน”

เมื่อได้ ยินเช่ นนี้ ไคลน์ รีบเขย่ งปลายเท้ าเพื่อมองข้ ามไหล่คน


ข้ างหน้ า

ผ่ านไปไม่ นาน ชายกายาสองคนได้ ลากถุงขนาดใหญ่ ออกมาคน


ละใบ แต่ ละคนเดินแยกย้ ายไปที่กรงทั้งสอง จากนั้น พวกมันทาการ
เปิ ดประตูข้างกรงและเทสิ่ งที่อยู่ในถุงลงไป

เป็ นสั ตว์ สีเทาที่น่ารังเกียจจานวนมาก!

ไคลน์ พยายามเพ่งมองเพื่อให้ แน่ ใจ หลังจากพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง


ในที่สุดมันก็ได้ คาตอบ…

สั ตว์ ดังกล่าวคือหนู… หนูนับร้ อยตัว!


กรงเหล็กฝังลึกลงไปในพื้นดินโดยไม่ มีช่องว่ างบริเวณขอบ หนู
ที่ถูกปล่อยลงไปจึงเอาแต่ วิ่งพล่านทั่วกรงโดยไม่ สามารถปื นขึน้
ข้ างบน

หลังจากประตูกรงปิ ดกลับอีกครั้ง โซ่ ที่ล่ามสุ นัขทั้งสองตัวก็ถูก


ปลด

“โฮ่ ง!”

สุ นัขสี ดากระโจนไปด้ านหน้ าและสั งหารหนูตัวแรกด้ วยการกัด


เพียงครั้งเดียว

ทางด้ านสุ นัขขาวดา มันประหม่ าและแสดงท่ าทีฉงนในตอนแรก


แต่ หลังจากจับจังหวะได้ มันเริ่มเป็ นฝ่ ายเริ่มกระโจนไปมาอย่ าง
อย่ างสนุกสนาน

ผู้คนรอบข้ างยกแก้วไวน์ ดื่มด้ วยสี หน้ าพึงพอใจ บางคนแหกปาก


ตะโกนอย่ างไร้ ยางอาย

“ฆ่ ามัน! ต้ องอย่ างนั้น!”

“ดอร์ ก! ดอร์ ก!”

เชี่ย… หมาล่าหนูของจริง!
( ในภาษาจีน สานวนหมาล่าหนูหมายถึงพวกที่ชอบก้าวก่ายงาน
คนอื่น )

มุมปากไคลน์ พลันกระตุก

เป้าหมายของแข่ งคือ ให้ คนดูพนันว่ าฝั่งใดจะล่าหนูได้ มากกว่ า


กัน…

บางทีอาจมีพนันถึงจานวนหนูที่จะถูกฆ่ า
มันเริ่มเข้ าใจแล้วว่ า เหตุใดถึงมีคนซื้อและขายหนูเป็ น บนถนน
กางเขนเหล็ก…

เปิ ดหูเปิ ดตาฉิบ…

ไคลน์ ส่ายศีรษะ มันหัวเราะในใจขณะเดินแหวกกลุ่มผู้คนเพื่อไป


ให้ ถึงหน้ าบาร์

“หน้ าใหม่ หรื อ?”

บาร์ เทนเดอร์ กล่าวหลังจากชาเลืองไคลน์ มือของมันกาลังจับผ้ า


ขาวขัดทาความสะอาดแก้ว จากนั้นก็อธิบายต่ อ

“เบียร์ ไรย์ แก้วละเพนนี เบียร์ เอ็นมาร์ ทแก้วละสองเพนนี


เบียร์ นันวิลล์สี่เพนนี หรื อจะรับมอลต์ หมักบริสุทธิ์ดี?”
“ผมมาหามิสเตอร์ ไรท์ ”

ไคลน์ กล่าวไม่ อ้อมค้ อม

บาร์ เทนเดอร์ หันไปด้ านข้ างพร้ อมกับส่ งสั ญญาณมือและแหก


ปากตะโกน

“ลุง! มีคนมาหา”
“โอ้… ใครกัน…”

ลุงแก่ขเี้ มากลิ่นตัวหึ่งเดินมาที่บาร์ พร้ อมกับส่ งเสี ยงแหบพร่ า

มันขยีต้ าเล็กน้ อย ก่อนจะเหลือบมองไคลน์

“เจ้ าหนุ่ม ตามหาฉันหรื อ?”

“มิสเตอร์ ไรท์ ผมต้ องการจ้ างทหารรับจ้ างเพื่อทาภารกิจ”

ไคลน์ ตอบตามที่ดันน์ ·สมิทกาชับ

“หน่ วยทหารรับจ้ าง? นายยังอยู่ในยุคบุกเบิกรึไง? โลกเราไม่ มี


ของแบบนั้นนานแล้ว”
บาร์ เทนเดอร์ กล่าวขัดไคลน์ ด้วยรอยยิม้

ทว่ า ไรท์ ยังคงเงียบงัน


มันไม่ กล่าวสิ่ งใดสั กพักจนกระทั่ง…

“ใครเป็ นคนบอกนายเกี่ยวกับที่นี่?”

“ดันน์ … ดันน์ ·สมิท”

ไคลน์ ตอบกลับอย่ างซื่ อตรง

ไรท์ ระเบิดเสี ยงหัวเราะอย่ างมีความสุ ข


มันกล่าว

“งั้นหรอกหรื อ อันที่จริง ก็ยงั พอมีอยู่ละนะ ทหารรับจ้ างที่นาย


ต้ องการ เพียงแต่ พวกเขาปรับตัวให้ เข้ ากับยุคสมัยใหม่ … นาย
สามารถพบได้ ที่ช้ ันสองบ้ านเลขที่ 36 บนถนนซุตแลน”

“ขอบคุณครับ”

ไคลน์ ขอบคุณอย่ างนอบน้ อมก่อนจะเดินแหวกฝูงชนออกจาก


ผับไป

ยังไม่ ทันจะเดินพ้น บรรยากาศภายในร้ านพลันเงียบสงัด เสี ยง


ใครบางคนพึมพา
“ดอร์ กแพ้ได้ ยังไง…”

“จบเห่ แล้ว…”

ไคลน์ อมยิม้ พลางส่ ายศีรษะ จากนั้นก็รีบเดินออกจากร้ าน ถาม


ทางคนแถวนั้น และเดินตรงไปยังถนนซุตแลนทันที

“30, 32, 34… ที่นี่สินะ”


มันเดินนับเลขที่บ้านก่อนจะเดินขึน้ บันไดไปยังชั้นสอง หลังจาก
ก้าวพ้นบันได ไคลน์ เหลือบเห็นป้ายหน้ าห้ องเขียนไว้ ว่า

“บริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ”
ราชันย์ เร้ นลับ 17 : หน่ วยปฏิบัติการพิเศษ

“บริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ”

หลังจากอ่านป้ายจบ ไคลน์ ประหลาดใจเล็กน้ อย แต่ ก็พอเข้ าใจ


ได้

มันส่ ายศีรษะ ก่อนจะเดินเข้ าไปเคาะบานประตูที่ถูกเปิ ดค้ างไว้


ครึ่งหนึ่ง

ก็อก! ก็อก! ก็อก!

เสี ยงเคาะไม้ ดังกังวาลและเป็ นจังหวะ แต่ ไม่ มีการตอบรับจากอีก


ฝ่ าย ไคลน์ เพียงได้ ยินเสี ยงบางสิ่ งกาลังดังอย่ างบางเบา แต่ ไม่ ทราบ
ว่ าเป็ นเสี ยงอะไร

ก็อก! ก็อก! ก็อก!

ไคลน์ เคาะซ้า แต่ ผลเหมือนเดิม

มันเปลี่ยนวิธีการ ไคลน์ ตัดสิ นใจผลักประตูและเดินเข้ าไปใน


ห้ อง ภาพแรกที่เห็นคือชุดโซฟาแบบคลาสสิ กสาหรับต้ อนรับแขก
เก้าอีผ้ ้ าอ่อนนุ่ม และโต๊ ะไม้ แข็งแรงสาหรับดื่มกาแฟ
หญิงสาวผมสี น้าตาล เธอกาลังหลับพิงโซฟายาวด้ วยสภาพ
น้าลายไหลย้ อย

ถึงบริษัทรักษาความปลอดภัยจะเป็ นแค่ ฉากหน้ า แต่ ก็ควร… มี


ความเป็ นมืออาชีพมากกว่ านีห้ น่ อย ไม่ ใช่ รึไงฟะ?

หลังจากเห็นความหละหลวม จะมีลูกค้ าที่ไหนกล้าใช้ บริการ


บ้ าง?

เดี๋ยวสิ บางที… คนพวกนีอ้ าจไม่ ต้องการลูกค้ าด้ วยซ้า

ไคลน์ เดินเข้ าไปใกล้โต๊ ะกาแฟที่ทาจากไม้ มันออกแรงเคาะ


เพื่อให้ สตรีคนดังกล่าวตื่น

ก็อก! ก็อก!

หญิงสาวผมน้าตาลรีบดีดตัวนั่งในพริบตา เธอคว้ าหนังสื อพิมพ์


ที่วางใกล้มือ ยกมันขึน้ อ่าน พร้ อมกับใช้ ปกปิ ดใบหน้ าไปในตัว

หนังสื อพิมพ์ซื่อตรงเมืองทิงเก็น… เป็ นชื่ อที่น่าสนใจมาก…


ไคลน์ ไล่อ่านพาดหัวข่ าวอยู่ใหญ่ ในใจ

“บริการรถจักรไอน้า ‘ด่ วนทะยานฟ้ า’ ที่เชื่ อมระหว่ างทิงเก็นกับ


คอนสแตนเปิ ดให้ บริการแล้ววันนี… ้ ให้ ตายสิ แล้วเมื่อไรจะมีสายที่
ตรงไปถึงอ่าวดีซี่บ้าง? ไม่ ชอบนั่งเรื อเลย เวียนหัวชะมัด… เอ่ อ…
แล้วคุณเป็ นใครคะ?”

หญิงสาวผมน้าตาลแสร้ งทาเป็ นอ่านหนังสื อพิมพ์หน้ าตาย ก่อน


จะลดมือลงเล็กน้ อย เผยให้ เห็นหน้ าผากสว่ างใสและนัยน์ ตาน้าตาล
นวล หล่อนขมวดคิว้ ให้ ไคลน์ พลางถามด้ วยสี หน้ าใสซื่ อ

“สวัสดีครับ ผมไคลน์ ·โมเร็ตติ มาที่นี่เพราะได้ รับคาชักชวนจาก


ดันน์ ·สมิท”

ไคลน์ ถอดหมวกและเลื่อนมาที่หน้ าอก ก่อนจะคานับเล็กน้ อย


ตามมารยาท

สตรีผมน้าตาลตรงหน้ า อายุคงราวยี่สิบตอนต้ น สวมเดรสสี


เขียวอ่อนสไตล์โลเอ็น ชายแขนเสื้ อและกระโปรงประดับประดา
ด้ วยลูกไม้ และสายห้ อยงดงาม

“หัวหน้ าสิ นะ… เข้ าใจแล้ว รอที่นี่ก่อนนะ ขอเข้ าไปถามก่อน”

เมื่อกล่าวจบ หญิงสาวคนดังกล่าวเดินหายเข้ าไปในห้ องที่อยู่


ติดกันทันที

หล่อนไม่ ได้ เสิ ร์ฟชา… กระทั่งน้าเปล่าก็ไม่ !

การต้ อนรับแขกของที่นี่เข้ าขั้นวิกฤติ…


ไคลน์ ยมิ้ แห้ ง มันยังยืนรอในจุดเดิม
หลังจากผ่ านไปสองถึงสามนาที หญิงสาวผมน้าตาลเดินกลับมา
เธออมยิม้ และกล่าว

“มิสเตอร์ โมเร็ตติ ตามมาค่ ะ หัวหน้ ามีเวรเฝ้า ‘ประตูยานิส’ จึง


ไม่ สามารถออกมาต้ อนรับด้ วยตัวเองได้ ”

“ตกลงครับ”

ไคลน์ เดินตามอย่ างว่ าง่ าย ภายในใจครุ่นคิด

ประตูยานิส… คืออะไรกัน?

หลังจากเดินผ่ านฉากกั้น สิ่ งแรกที่เห็นคือทางเดินแคบและสั้ น


สองข้ างทางมีประตูห้องทางานฝั่งละสาม

บางห้ องล็อคปิ ดตาย บางห้ องเปิ ดอ้าซ่ า เผยให้ เห็นบุคคลกาลัง


ก้มหน้ าพิมพ์งานขะมักเขม้ นด้ วยเครื่ องพิมพ์ดีดกล

หลังจากชาเลืองมองหนึ่งครั้ง ไคลน์ จดจาใบหน้ าของชายผู้หนึ่ง


ได้ ทันที มันคือนายตารวจหนุ่มนัยน์ ตาสี มรกต เคยปรากฏตัว
พร้ อมกับดันน์ ·สมิทที่บ้านไคลน์ บรรยากาศรอบตัวยังคงแผ่ กลิ่น
อายนักกวีเช่ นเคย
ตารวจนัยตาเขียวมิได้ สวมเครื่ องแบบทางการ เป็ นเชิ้ตขาวปก
ตั้ง ชายเสื้ อปล่อยนอกกางเกง เหมือนกับเด็กนักเรียนที่ไม่ ยอม
รักษาระเบียบ

หรื อจะเป็ นนักกวีตัวจริง…?


ไคลน์ พยักหน้ าหนึ่งครั้ง มันยิม้ ให้ ตารวจหนุ่มคนดังกล่าว อีก
ฝ่ ายก็มีท่าทีแบบเดียวกัน

สตรีผมน้าตาลเดินนาไปจนสุ ดทาง ก่อนจะผลักประตูซ้ายมือ


พร้ อมกับชี้นวิ้
“พวกเราต้ องเดินลงไปอีกหน่ อย”

ภายในห้ องไม่ มีเฟอร์ นิเจอร์ แม้ แต่ ชิ้นเดียว กึ่งกลางห้ องเป็ น


บันไดหินสี เทาปนขาว ปลายทางคือชั้นล่ าง

ข้ างบันไดทั้งสองฝั่งมีโคมไฟแก๊สถูกติดติง้ แสงไฟที่สงบนิ่งได้
สลายความมืดมิดภายในห้ องอย่ างชะงักงัน แถมยังสร้ างวิว
ทิวทัศน์ อันงดงามไปในตัว

สตรีผมน้าตาลเดินนาหน้ าลงไป สายตาจ้ องขั้นบันไดอย่ าง


พิถีพถิ ัน ขาทั้งสองเล็งก้าวระมัดระวัง

“แม้ จะเดินขึน้ ลงจนชินแล้ว แต่ ฉันก็ยังกลัวกลิง้ ตกเป็ นลูกขนุน


อยู่ดี… คุณอาจไม่ เชื่ อ แต่ เลียวนาร์ ดเคยทาเรื่ องน่ าอับอายแบบนั้น
ต่ อหน้ าคนอื่นมาแล้ว ในวันแรกที่เขากลายเป็ น ‘ผู้ไร้ หลับ’ ขณะ
เลียวนาร์ ดยังควบคุมพลังใหม่ ไม่ ได้ หมอนั่นกลิง้ ตกบันได
เหมือนกับลูกขนุนไม่ มีผิด! ฮะฮะ! นึกแล้วยังขาจนถึงทุกวันนี้
เหตุการณ์ ผ่านมาแล้วสามปี เห็นจะได้ … จะว่ าไป ฉันก็ทางานกับ
เหยี่ยวราตรีมาห้ าปี แล้ว ตั้งแต่ อายุสิบเจ็ด…”

หญิงสาวผู้ร่าเริงนินทาเพื่อนร่ วมงานขณะก้าวขาอย่ าง
ระมัดระวัง ทันใดนั้น เธอใช้ ฝ่ามือตบหน้ าผากตัวเองหนึ่งฉาด

“ตายแล้ว… ลืมแนะนาตัวเองเสี ยสนิท! ฉันชื่ อโรแซน บิดาเป็ น


อดีตเหยี่ยวราตรีที่เสี ยชีวิตในหน้ าที่เมื่อห้ าปี ก่อน คงต้ องเรียกคุณ
ว่ าเพื่อนร่ วมงานสิ นะ… เอ่อ… เพื่อนร่ วมงานคงเหมาะสมแล้ว
เพราะพวกเราไม่ ใช่ ผ้ วู ิเศษ จึงไม่ ใช่ เพื่อนร่ วมทีม”

“หวังว่ าผมจะได้ รับเกียรติน้ ัน… ยังต้ องรอให้ มิสเตอร์ สมิท


ยืนยันก่อน”

ไคลน์ เริ่มสารวจบรรยากาศรอบตัว มันรู้สึกเหมือนกับเดินด่าดิ่ง


ลงมายังชั้นใต้ ดินที่ค่อนข้ างลึก กลิ่นอายความชื้นจากผนังแผ่
อบอวลจนร่ างกายสั มผัสได้ ไอความร้ อนจากฤดูร้อนเริ่มจางลง

“ไม่ ต้องกังวล ถ้ าหัวหน้ าบอกให้ คุณมาที่นี่ หมายความว่ า เขาจะ


รับคุณเข้ าทางานแน่ นอน อันที่จริง ฉันค่ อนข้ างกลัวหัวหน้ า… แม้
เขาจะมีบรรยากาศใจดีเหมือนกับคุณพ่อ แต่ ทาไมถึงกลัวก็ไม่ ร้ ู”
โรแซนพูดติดขัด ราวกับกาลังอมลูกกวาดไว้ ในปาก
ไคลน์ อธิบายติดตลก

“ก็เพราะเป็ นพ่อไม่ ใช่ หรื อ? ถึงได้ กลัว”

“จริงด้ วย!”

โรแซนกล่าวขณะใช้ ฝ่ามือยันผนังเพื่อพยุงร่ างกาย

ในที่สุด คนทั้งสองก็เดินถึงสุ ดปลายบันได

พื้นทางเดินเบื้องหน้ าปูจากหินทั้งหมด

เป็ นทางเดินที่ค่อนข้ างยาว สองฝั่งกาแพงมีโคมแก๊สถูกติดตั้ง


เป็ นระยะ ผนังทาจากตะแกรงเหล็ก เงาคนทั้งสองทอดยาวและไหว
วูบวาบเป็ นระยะ จากแสงไฟรอบทิศขณะก้าวเดิน

ไคลน์ ช่างสั งเกตุ มันเหลือบเห็น ‘สั ญลักษณ์ ศักดิ์สิทธิ์แห่ งความ


มืด’ สองข้ างฝั่งทุกหนึ่งถึงสองเมตรที่เดินผ่ าน

สิ่ งนีค้ ือสั ญลักษณ์ ประจาตัวเทพธิดารัตติกาล พื้นหลังสี ดาสนิท


กึ่งกลางแต้ มด้ วยจุดแสงสว่ าง รูปทรงคล้ายจันทร์ สีเลือดครึ่งเสี้ยว
ตราสั ญลักษณ์ เหล่านี้ พวกมันไม่ มีพลังพิเศษ แต่ ไคลน์ ที่เดิน
ผ่ านกลับรู้สึกจิตใจสงบนิ่งอย่ างน่ าประหลาด กระทั่งโรแซนช่ างจ้ อ
เธอเองก็เงียบงันไปพักใหญ่ เช่ นกัน

หลังจากทางเดินยาว ไคลน์ มาถึงจุดที่เป็ นสี่ แยก โรแซนรีบอธิ


บาย

“ซ้ ายมือเป็ นทางเดินไปยังโบสถ์ พระแม่ เซเลน่ าที่ต้งั บนถนน


พระจันทร์ แดง ทางขวาเป็ นคลังแสง คลังอุปกรณ์ และคลังเก็บของ
เก่า ถ้ าเดินตรงไปจะเป็ นประตูยานิส”
โบสถ์ พระแม่ เซเลน่ า?
ถนนซุตแลนใกล้กับถนนพระจันทร์ แดงแค่ นเี้ องหรื อ? ไคลน์
ประหลาดใจเล็กน้ อย

โบสถ์ พระแม่ เซเลน่ าบนถนนพระจันทร์ แดง ถือเป็ นสานักงาน


ใหญ่ ของโบสถ์ เทพธิดารัตติกาลภายในเมืองทิงเก็น เหล่าสาวกและ
ผู้ศรัทธาต่ างเดินทางไปเรียนคาสอนและสั กการะอย่ างสม่าเสมอ

ยังมี ‘โบสถ์ ชะตาศักดิ์สิทธิ์’ ของเทพแห่ งจักรกลไอน้า ที่ต้งั อยู่


ในเขตชานเมือง และ ‘โบถส์ ธารสมุทร’ ของเทพแห่ งวายุสลาตันที่
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทิงเก็น

ทั้งสามโบสถ์ ถือเป็ นศูนย์ รวมใจทางศาสนาที่สาคัญของ


ชาวเมืองทิงเก็น
ไคลน์ ตระหนักดีว่า ตัวมันไม่ มีสิทธิ์ถามก้าวก่ายไปมากกว่ านี้ จึง
ทาเพียงเดินตามและรับฟังอย่ างเงียบงัน

คนทั้งสองเดินตรงผ่ านสี่ แยกไป เพียงไม่ ถึงหนึ่งนาที ไคลน์ ได้


เห็นบานประตูเหล็กสี ดาสนิท ที่สลักสั ญลักษณ์ ศักดิ์สิทธิ์แห่ งความ
มืดไว้ ท้งั หมดเจ็ดอัน

บานประตูมอบความรู้สึกหนักแน่ น เย็นยะเยียบ และปลอดภัย


ให้ แก่ผ้ พู บเห็น ประหนึ่งยักษาคอยปกป้องภัยอันตรายจากความ
มืดมิด

“ประตูยานิส”

โรแซนอธิบาย จากนั้น เธอชี้นวิ้ ไปยังห้ องด้ านข้ างที่ติดกับบาน


ประตูเหล็ก

“หัวหน้ าอยู่ข้างใน เข้ าไปหาเองนะ”

“ไม่ มีปัญหา ขอบคุณมาก”

ไคลน์ ตอบนอบน้ อม

ห้ องที่โรแซนหมายถึง ตั้งเยื้องกับประตูยานิสเล็กน้ อย หน้ าต่ าง


ไม่ ถูกปิ ดม่ าน เผยให้ เห็นแสงมัวจากภายใน
ไคลน์ สูดลมหายใจเข้ าลึก มันพยายามสงบสติอารมณ์

ก็อก! ก็อก! ก็อก!

“เข้ ามาได้ ”

เป็ นเสี ยงอับอบอุ่นใจดีของดันน์ ·สมิท

ประตูไม่ ได้ ล็อค ไคลน์ เปิ ดอย่ างทะนุถนอม ภายในห้ องมีโต๊ ะ


เพียงหนึ่งตัว เก้าอีส้ ี่ ตัว

ดันน์ ·สมิทที่หน้ าผากเริ่มเถิกล้าน มันนั่งอ่ านหนังสื อพิมพ์ด้วย


ท่ าทีผ่อนคลาย เครื่ องแต่ งกายยังคงเหมือนกับคืนก่อน โค้ ตสี ดา
สนิท บริเวณลาคอห้ อยนาฬิ กาที่โซ่ เป็ นสี ทอง

“มานั่งสิ ตัดสิ นใจดีแล้วใช่ ไหม? ที่จะเข้ าร่ วมเป็ นส่ วนหนึ่งของ


พวกเรา”

ดันน์ อมยิม้ มันวางหนังสื อพิมพ์ลง

ไคลน์ ถอดหมวกเลื่อนมาไว้ ที่อก ก่อนจะโค้ งนาคานับอย่ างสุ ภาพ


จากนั้น มันเดินมานั่งบนเก้ าอีข้ ้ างโต๊ ะ

“ครับ… ผมตัดสิ นใจดีแล้ว”


“ถ้ างั้นก็อ่านเอกสารก่อน… สมัยนีค้ งต้ องเรียกว่ า ‘สั ญญา’
สิ นะ”

ดันน์ ก้มตัวลง มันดึงลิน้ ชักออก หยิบเอกสารสั ญญาออกมาสอง


ฉบับ

ข้ อกาหนดในสั ญญามีไม่ มาก ดันน์ ·สมิทเคยเล่าให้ ฟังเกือบ


หมดแล้ว ส่ วนสาคัญคือข้ อห้ ามด้ านความลับ หากฝ่ าฝื น จะต้ องถูก
ดาเนินคดีโดยศาลพิเศษของโบสถ์ เทพธิดารัตติกาล มิใช่ ศาล
อาณาจักร เหมือนกับทหารและตารวจ ที่มีศาลวินัยข้ าราชการแยก
เป็ นการเฉพาะ

สั ญญายาวนานห้ าปี … ค่ าตอบแทนสองปอนด์ กับอีกสิ บซูล ต่ อ


สั ปดาห์ และมีค่าเสี ยงภัย รวมถึงค่ ารักษาความสั บ อีกสิ บซูลต่ อ
สั ปดาห์ … หลังจากอ่านจบ ไคลน์ ตอบด้ วยสี หน้ ามุ่งมั่น

“ผมไม่ มีปัญหา”

“งั้นก็เซ็นเลย”

ดันน์ กล่าว มันชี้นวิ้ ไปยังปากกาขนนกสี ดาแดงที่วางใกล้ขวด


หมึก

ไคลน์ ทดสอบเซ็นลงบนกระดาษไม่ ใช่ แล้ว หลังจากมั่นใจ มันทา


การเซ็นลงบนเอกสารสั ญญาทั้งสองฉบับในชื่ อ : ไคลน์ ·โมเร็ตติ
ปัจจุบัน ไคลน์ ยังไม่ มีตราประทับเป็ นของตัวเอง จึงต้ องยืนยัน
ตัวตนด้ วยลายนิว้ มือ

ดันน์ รับสั ญญากลับไป มันก้ มตัวลง หยิบตราประทับจากลิน้ ชัก


ก่อนจะปั๊มลงบนส่ วนสาคัญของเอกสาร ราวสองถึงสามจุด

เมื่อเสร็จสิ้น ดันน์ เก็บหนึ่งฉบับไว้ ในลิน้ ชัก ส่ วนอีกฉบับยื่นกลับ


ให้ ไคลน์ จากนั้นก็ลุกยืนขึน้ และกล่าว
“ยินดีต้อนรับ นายเป็ นกลายส่ วนหนึ่งของพวกเราแล้ว อย่ าลืม
เอกสารฉบับนี้ต้องถูกเก็บรักษาอย่ างเป็ นความลับเช่ นกัน”

ไคลน์ ยืนตาม มันรับเอกสารด้ วยมือข้ างหนึ่ง และจับมือตอบ


ด้ วยมืออีกข้ าง

“ถ้ าอย่ างนั้น ผมต้ องเรียกคุณว่ าหัวหน้ าแล้วใช่ ไหม?”

“ถูกต้ อง”

นัยน์ ตาสี เทาของดันน์ สุขุมลุ่มลึกเป็ นพิเศษ

เมื่อจับมือเสร็จ ทั้งคู่นั่งลงอีกครั้ง
ไคลน์ เหลือบเห็นข้ อความบนตราประทับ มันอ่านออกเสี ยง
“หน่ วยเหยี่ยวราตรี เมืองทิงเก็น รัฐอาโฮว่ า อาณาจักรโลเอ็น”

“ไม่ อยากจะเชื่ อเลยว่ า พวกคุณเปิ ดสานักงานบังหน้ าชื่ อ ‘บริษัท


รักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ’”

ไคลน์ กล่าวพลางอมยิม้

“อันที่จริง พวกเรายังมีอีกชื่ อ”
ดันน์ ก้มลงหยิบกระดาษแผ่ นหนึ่งออกจากลิน้ ชัก

เป็ นแผ่ นกระดาษที่มีตราประทับของกรมตารวจ ร่ วมกับตรา


ประทับของเทศบาลเมือง

เนื้อหามีดังนี้

“หน่ วยปฏิบัติการพิเศษที่เจ็ด กรมตารวจรัฐอาโฮว่ า


อาณาจักรโลเอ็น”

“สี่ หน่ วยแรกจะเป็ นตารวจทั่วไป มีหน้ าที่อารักขาแขกคนสาคัญ


รวมถึงภารกิจพิเศษจิปาถะ ตั้งแต่ หน่ วยที่ห้าขึน้ ไป จะเป็ นหน่ วย
สาหรับปราบปรามคดีเหนือธรรมชาติโดยเฉพาะ แบ่ งหน้ าที่และ
ความรับผิดชอบอย่ างชัดเจน ยกตัวอย่ างหน่ วยที่เจ็ด พวกเราต้ อง
ดูแลทุกคดีที่ผ้ เู กี่ยวข้ องเป็ นคนของโบสถ์ เทพธิดารัตติกาล แต่ หาก
เป็ นคดีที่ผ้ เู กี่ยวข้ องมาจากหลายโบสถ์ การดูแลจะแบ่ งตามพื้นที่
รับผิดชอบ ของพวกเราประกอบด้ วย ทิศเหนือ ทิศตะวันตก และ
เขตฟิ นิกซ์ ทอง”

ดันน์ อธิบายต่ อ

“หน่ วยปฏิบัติการที่หกคือหน่ วยทูตพิพากษาจากโบถส์ วายุ


สลาตัน บริเวณที่รับผิดชอบคือ เขตท่ าเรื อ ทิศตะวันออก และทิศใต้
ส่ วนหน่ วยปฏิบัติการที่ห้าคือหน่ วยจิตแห่ งจักรกล ดูแลรับผิดชอบ
เขตมหาวิทยาลัย และเขตชานเมืองทั้งหมด”

“เข้ าใจแล้ว”

ไคลน์ ไม่ ถามเรื่ องหน่ วยพิเศษต่ อ มันอมยิม้ เล็กน้ อยก่อนจะ


เปลี่ยนหัวข้ อสนทนา

“จะเกิดอะไรขึน้ ถ้ ามีคนติดต่ อจ้ างงานกับบริษัทรักษาความ


ปลอดภัยหนามทมิฬ?”

“ก็รับงานตามปรกติ ไม่ มีเหตุจาเป็ นต้ องปฏิเสธสั กหน่ อย ถ้ า


หากมันไม่ กระทบกับงานเหยี่ยวราตรี ตรงนีถ้ ือเป็ นรายได้ เสริม
ของทุกคน สมาชิกหน่ วยส่ วนใหญ่ จึงเต็มใจทา… แต่ ก็อย่ างว่ า งาน
ไม่ ได้ มีบ่อยขนาดนั้น เพราะงานจิปาถะส่ วนใหญ่ จะถูกบริษัท
นักสื บแย่ งส่ วนแบ่ งไป”
“เหยี่ยวราตรีมีท้งั หมดกี่คน?”

ไคลน์ ถาม

“คดีเหนือธรรมชาติเกิดขึน้ ไม่ บ่อยครั้ง และที่น้อยกว่ าคือจานวน


ผู้วิเศษ เหยี่ยวราตรีของพวกเรามีเจ้ าปฏิบัติการหกคน และ
เจ้ าหน้ าที่พลเรื อนอีกหกคน นับรวมคุณด้ วย”

ไคลน์ พยักหน้ าเชื่ องช้ า ก่อนจะถามในสิ่ งที่ค้างคาใจมานาน


“หัวหน้ า… ผู้วิเศษคลุ้มคลั่งหมายถึงอะไร? แล้วทาไมถึงเกิด
อาการคลุ้มคลั่งได้ ?”
ราชันย์ เร้ นลับ 18: ต้ นกาเนิดและสาเหตุ

หลังจากได้ ยินคาถามไคลน์ ดันน์ เหลือบมองนอกหน้ าต่ างบานที่


ตรงกับประตูยานิส มันหยิบกล้ องยาสู บขึน้ มา ยัดยาสู บและใบ
มินท์ ลงไป จากนั้นก็ยกขึน้ สู ดดมบริเวณจมูก

ดันน์ กล่าวด้ วยน้าเสี ยงกังวาลและลื่นไหล

“มีเพียงบ้ านเท่ านั้นที่ฉันสามารถดื่มด่ากลิ่นของยาสู บและใบ


มินท์ ได้ เต็มปอด… ไคลน์ นายรู้จักเทวตานานต้ นกาเนิดไหม?”

“ทราบครับ เมื่อก่อน ผมต้ องเข้ าโบถส์ ทุกวันอาทิตย์ เรียนคา


สอนจากมหาคัมภีร์แห่ งรัตติกาลโดยตรง ตาราเล่มหลักที่ใช้ คือ
หนังสื อแห่ งปัญญา และจดหมายเหตุจากนักบุญ ตาราทั้งสองชนิด
มีการกล่าวถึงเทวตานานต้ นกาเนิดไว้ ”

ไคลน์ พยายามรีดความทรงจาจากไคลน์ คนก่อน จังหวะการพูด


เริ่มช้ าลง

“พระผู้สร้ างตื่นจากการหลับไหลในห้ วงจักรวาลต้ นกาเนิด


จากนั้นได้ ทาลายความมืดมิดที่ปกคลุมจนเกิดเป็ นแสงสว่ างแรก
ของโลก ถัดมาไม่ นาน พระผู้สร้ างตัดสิ นใจหลอมรวมตัวเองเข้ ากับ
จักรวาลโดยสมบูรณ์ ร่ างกายกลายเป็ นผืนปฐพีและท้ องฟ้ า ดวงตา
หนึ่งข้ างกลายเป็ นดวงตะวัน อีกหนึ่งข้ างกลายเป็ นจันทราแดง
โลหิตทุกอนูไหลเวียนแทนสายน้าและทะเล หล่อเลีย้ งทุกสรรพสิ่ ง
บนโลก…”

ไคลน์ ชะงักอย่ างไม่ มีทางเลือก ความทรงจาไคลน์ คนก่อนไม่


ปะติดปะต่ อและเลือนทาง มันจาได้ เพียงว่ า ต้ นกาเนิดของโลกใบนี้
คล้ายคลึงกับตานานพระเจ้ าผานกู่ของจีนมาก

น่ าฉงนไม่ น้อยที่ผ้ คู นจากโลกคนละใบกลับมีจินตนาการคลาย


คลึงกันหลายส่ วน โดยเฉพาะด้ านเทวตานานและตานานทั่วไป
เมื่อเห็นไคลน์ ‘ติดขัด’ ดันน์ ·สมิทช่ วยกล่าวเสริม

“ปอดกลายเป็ นเอลฟ์ หัวใจกลายเป็ นคนยักษ์ ตับกลายเป็ นเผ่ า


พฤกษา สมองกลายเป็ นมังกร ไตกลายเป็ นอสรพิษนภา เส้ นผม
กลายเป็ นวิหคอมตะ หูกลายเป็ นหมาป่ าอสู ร ปากและฟันกลายเป็ น
สั ตว์ กลายพันธุ์ ของเหลวในร่ างกายที่เหลือกลายเป็ นสั ตว์ ทะเล
โดยเฉพาะนากา กระเพาะอาหาร ลาไส้ เล็ก ลาไส้ ใหญ่ กลายเป็ น
ปี ศาจและวิญญาณชั่วร้ ายหลายชนิด ดวงจิตแบ่ งออกเป็ นสามส่ วน
ประกอบด้ วยเทพสุ ริยันเจิดจรัส เทพแห่ งวายุสลาตัน และเทพแห่ ง
ความรู้และปัญญา…”

“สติปัญญาของพระผู้สร้ างกลายเป็ นเผ่ าพันธุ์มนุษย์ และนั่นคือ


จุดเริ่มต้ นยุคสมัยที่หนึ่ง ยุคสมัยบรรพกาลต้ นกาเนิด”
ไคลน์ ตบท้ ายประโยคของดันน์ ภายในใจรู้ สึกทึ่งไม่ น้อย
ในฐานะนักเลงคีย์บอร์ ดที่ศึกษาพื้นฐานของหลายตานานอย่ าง
ผิวเผิน ไคลน์ พบว่ าตานานของโลกใบนีค้ ่ อนข้ างแปลกกว่ าที่อื่น
รายละเอียดของแต่ ละอวัยวะถูก ‘แจกแจง’ ให้ เป็ นสิ่ งมีชีวิตแต่ ละ
ชนิดอย่ างชัดเจนและเห็นภาพ เป็ นการใช้ ประโยชน์ จากทุกส่ วน
ของพระผู้สร้ างให้ เกิดผลลัพธ์ สูงสุ ด

ไม่ เพียงเท่ านั้น เทวตานานข้ างต้ นยังระบุไว้ คล้ายคลึงกันทั้งใน


โบถส์ เทพธิดารัตติกาล โบถส์ เทพแห่ งวายุสลาตัน และโบสถ์ เทพ
แห่ งจักรกลไอน้า ไม่ มีโบสถ์ ใดเชิดชูเทพของตนอย่ างออกนอกหน้ า
หรื อลดทอนความยิ่งใหญ่ ของเทพองค์ อื่น…

หรื ออีกนัยหนึ่งก็คือ หากเทวตานานเหล่านีไ้ ม่ ใช่ เรื่ องจริง โบสถ์


หลักทั้งเจ็ดก็ต้องประชุมร่ วมกันเพื่อปรับเนื้อหาของคัมภีร์ให้ ตรง
ก่อนเริ่มต้ นเข้ าสู่ ยุคสมัยที่ห้า…

เมื่อเกิดความฉงน ไคลน์ เอ่ยปากถามในหัวข้ อถัดไป

“ผมสงสั ย… ทาไมเทพสุ ริยันเจิดจรัส เทพแห่ งวายุสลาตัน และ


เทพแห่ งความรู้และปัญญาถึงเกิดจากดวงจิตพระผู้สร้ างโดยตรง
แต่ เทพธิดารัตติกาลกลับไม่ ใช่ ?”

จากบันทึกมหาคัมภีร์แห่ งรัตติกาล เทพธิดารัตติกาลลืมตาตื่น


เป็ นหนแรกในยุคสมัยที่สอง ผลงานสาคัญของเธอคือการร่ วมมือ
กับเทพสุ ริยันเจิดจรัส เทพแห่ งวายุสลาตัน และเทพแห่ งความรู้
และปัญญา คอยอวรพรช่ วยเหลือเผ่ าพันธุ์มนุษย์ ให้ รอดพ้นจาก
มหาภัยภิบัติครั้งใหญ่ เหตุการณ์ ครานั้นอยู่ในยุคสมัยที่สาม ยุคแห่ ง
มหาภัยพิบัติ

เป็ นช่ วงเดียวกับที่พระแม่ ธรณี และเทพแห่ งการต่ อสู้ เริ่มปรากฏ


ตัว

กลับกัน เทพแห่ งจักรกลไอน้าเพิง่ ปรากฏขึน้ ในยุคสมัยที่สี่ ชื่ อ


เดิมคือเทพแห่ งช่ างฝี มือ
ด้ วยเหตุนี้ จุดยืนและบารมีของเทพแต่ ละองค์ จึงไม่ เท่ าเทียม
อย่ างเห็นได้ ชัด

ยิ่งมีประวัติยาวนานกว่ า เก่าแก่กว่ า ย่ อมหมายถึงความศักดิ์สิทธิ์


ที่มากกว่ า!

แน่ นอน ความตะขิดตะขวงใจในเรื่ องนี้ ต้ องเป็ นปมด้ อยของ


เหล่าสาวกเทพธิดารัตติกาลทุกคนแน่

ดันน์ ·สมิทยังคงถือกล้องยาสู บไว้ ในมือ แต่ แทนที่จะมอบคาตอบ


มันกลับย้ อนคาถามด้ วยคาถาม

“เทพธิดารัตติกาลมีพระนามเต็มว่ าอย่ างไร…”


ไคลน์ พลันเจ็บแปลบที่ขมับดุจดังถูกมีดกรีดแทง นี่คือ
ผลข้ างเคียงจากการฝื นเค้ นสมองอย่ างผิดธรรมชาติ

“เทพธิดารัตติกาลสู งส่ งกว่ าดวงดารา และจะคงอยู่ไปชั่วรันดร์


พระองค์ ท่านยังเป็ นสตรีสีชาด มารดาแห่ งความเร้ นลับ
จักรพรรดินีแห่ งหายนะ และนายหญิงแห่ งความสงบสุ ขุม”

โชคดีที่มารดาของไคลน์ เป็ นผู้อุทิศกายใจให้ เทพธิดารัตติกาล


เมื่อครั้งยังมีชีวิต เธอมักเอ่ยพระนามเต็มก่อนเมื้ออาหารและก่ อน
เข้ านอนเสมอ แม้ ความทรงจาของไคลน์ อาจไม่ ครบถ้ วน แต่ กับ
เรื่ องนีย้ ่ อมไม่ มีทางตกหล่น

“แล้วสตรีสีชาดสื่ อถึงอะไร?”

ดันน์ ถามชี้นา

“พระจันทร์ แดง”

เมื่อสิ้นเสี ยงตอบ ไคลน์ พลันฉุกคิดได้

“ถ้ าอย่ างนั้น… จันทราแดงเกิดจากส่ วนในของพระผู้สร้ าง?”

ดันน์ ถามด้ วยรอยยิม้

“ดวงตาหนึ่งข้ าง!”
ไคลน์ และดันน์ อมยิม้ พร้ อมกัน

ถ้ าเช่ นนั้น เทพธิดารัตติกาลจะไม่ ด้อยไปกว่ าเทพแห่ งวายุ


สลาตัน ที่เกิดจากหนึ่งในสามเศษเสี้ยวดวงจิตพระผู้สร้ างเลยสั ก
นิด!

สาหรับโบสถ์ พระแม่ ธรณีและเทพแห่ งการต่ อสู้ คาอธิบายก็คง


ไม่ ต่างจากเทพธิดารัตติกาลมากนัก ทว่ า ด้ านโบสถ์ เทพแห่ งจักรกล
ไอน้านั้นก่อตั้งในยุคสมัยล้าหลังเกินไป จึงมิอาจอ้ างตนว่ ามาจาก
ส่ วนหนึ่งของพระผู้สร้ างได้

แต่ ใช่ ว่าพวกมันจะไม่ มีข้อได้ เปรียบ ในยุคสมัยที่เครื่ องจักรและ


ไอน้ากาลังรุ่งเรื อง โบสถ์ เทพแห่ งจักรกลไอน้าย่ อมใกล้ชิดกับ
มนุษย์ ได้ มากกว่ า ส่ งผลให้ บารมีด้อยกว่ าเทพองค์ อื่นไม่ มากนัก

ดันน์ ใช้ ปากเป่ ากล้องยาสู บอย่ างอ่อนโยน

“มนุษย์ ถือกาเนิดจากปัญญาของพระผู้สร้ าง หรื ออีกนัยหนึ่งก็


คือ พวกเรามีสติปัญญาสู งกว่ าสิ่ งมีชีวิตทั้งปวง แต่ จะอ่อนแอด้ าน
พลังพิเศษเหนือธรรมชาติ…

“ทว่ า จากคาอธิบายของเทวตานานต้ นกาเนิด เราจะมองเห็น


หนึ่งประเด็นที่เข้ าใจง่ ายและไม่ ซับซ้ อน นั่นก็คือ… ทุกสิ่ งมี
รากฐานจากต้ นกาเนิดเดียวกัน”
“รากฐานจากต้ นกาเนิดเดียวกัน…”

ไคลน์ ทวนซ้าประโยคสุ ดท้ าย

“เมื่อได้ ข้อสรุปเช่ นนี้ เราจึงพบคาตอบว่ าทาไม มนุษย์ ที่ถูกเทพ


อวยพรถึงทาสงครามชนะเผ่ าคนยักษ์ เผ่ าปี ศาจ และเผ่ าสั ตว์ กลาย
พันธุ์ได้ ในอดีต… หลังจากชนะสงครามได้ ไม่ นาน ปัญญาของ
มนุษย์ ได้ นาพาไปสู่ ต้นกาเนิดของผู้วิเศษ มนุษย์ ร้ ูจักรวบรวม
ชิ้นส่ วนที่มีพลังเวทมนตร์ ของวิญญาณร้ าย มังกร สั ตว์ ประหลาด
ต้ นไม้ เวท ดอกไม้ หรื อคริสตัลเวทมนตร์ ผสมรวมกันจนเกิดเป็ น
โอสถขึน้ มา โอสถแต่ ละชนิดจะมอบพลังพิเศษที่แตกต่ างกันไป…
สิ่ งเหล่านีค้ ือความรู้พื้นฐานของวิชาเหนือธรรมชาติ”

ดันน์ ไม่ ลงลึก มันอธิบายอย่ างคร่ าวและเปลี่ยนหัวข้ อสนทนา

“ระหว่ างศึกษาโอสถ บรรพบุรุษของพวกเราต้ องพานพบชะตา


กรรมอันเจ็บปวด ในยุคสมัยที่ ‘เส้ นทาง’ โอสถยังไม่ ชัดเจน การ
ลองผิดลองถูกคือสิ่ งจาเป็ น คนเหล่านั้นต้ องทดสอบดื่มโอสถแบบ
สุ่ มเพื่อค้ นหาผลลัพธ์ และคาตอบ โดยจุดจบผู้ทดลองจะทั้งหมดมี
สามรูปแบบ…”

“อะไรบ้ าง?”

ไคลน์ ถามใคร่ ร้ ู
“แบบแรก จิตใจถูกทาลายโดยสมบูรณ์ ร่ างเนื้อแปรเปลี่ยนเป็ น
สั ตว์ ประหลาด

“แบบที่สอง อุปนิสัยจะเปลี่ยนไปตามโอสถที่ดื่ม สามารถเป็ นได้


ทั้งคนเย็นชา อ่อนไหว ฉุนเฉียว ป่ าเถื่อน หรื อเลือดเย็น

“ส่ วนแบบที่สาม…”

ดันน์ วางกล้องยาสู บลง ก่อนจะยกถ้ วยชาแบบจีนขึน้ จิบ


“กาแฟเฟอมอร์ จากแม่ น้าเพิร์ธ ถึงจะขมไปสั กหน่ อย แต่ กลิ่น
หอมมาก แถมยังเหลือรสสั มผัสติดลิน้ ที่ยอดเยี่ยม รับสั กถ้ วย
ไหม?”

“ผมชอบกาแฟจากเฟเนพ็อตมากกว่ า แน่ นอน เคยดื่มแค่ ไม่ กี่


ครั้งที่บ้านเวิร์ช”

ไคลน์ ปฏิเสธนุ่มนวล

“แล้วแบบที่สามล่ะครับ”

“กลายเป็ นคนโรคจิต เสี ยสติทันทีที่กลืนโอสถลงคอ อุปนิสัยชั่ว


ร้ ายยิ่งกว่ าปี ศาจ นี่คือนิยามของผู้วิเศษคลุ้มคลั่ง”
ในที่สุด ดันน์ ก็อธิบายถึงความหมายของการ ‘คลุ้มคลั่ง’
โดยไม่ รอให้ ไคลน์ กล่าวสิ่ งใด มันวางถ้ วยกาแฟลงและอธิบายต่ อ

“หลังจากลองผิดลองถูกอย่ างยาวนาน รวมถึงการปรากฏตัวของ


ศิลาเย้ ยเทพ ในที่สุดมนุษย์ ก็รวบรวมข้ อมูลระบบโอสถได้ สมบูรณ์
แบบ โอสถทุกชนิดถูกแบ่ งหมวดหมู่ออกเป็ นหลายระดับ… โอสถ
หลายชนิดที่สามารถดื่มเรียงต่ อกันได้ โดยไม่ เกิดการคลุ้มคลั่ง เรา
เรียกสิ่ งนีว้ ่ า ‘เส้ นทาง’ ยิ่งโอสถมีลาดับตัวเลขต่า ความแข็งแกร่ ง
และพลังก็ยิ่งมาก… โบสถ์ หลักทั้งเจ็ดจะครอบครอง ‘เส้ นทาง’
โอสถที่สมบูรณ์ ไว้ อย่ างน้ อยหนึ่งสาย แต่ ขณะเดียวกันก็มีโอสถ
เส้ นทางอื่นที่ไม่ สมบูรณ์ อยู่ด้วย เกิดจากการสื บค้ นข้ อมูลที่สั่งสม
มาตลอดหลายพันปี ”

“ศิลาเย้ ยเทพ?”

ไคลน์ ยังจาได้ ดี ในการชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์ครั้งที่ผ่านมา แฮงแมน


เคยพูดถึงศิลาเย้ ยเทพมาก่อน

จากคากล่าวของแฮงแมน ศิลาเย้ ยเทพคือส่ วนสาคัญที่ช่วยให้


มนุษย์ เติมเต็มระบบโอสถได้ สมบูรณ์

แตกต่ างจากที่ดันน์ เล่าเล็กน้ อย

“ศิลาเย้ ยเทพคือสิ่ งที่ถูกสร้ างโดยเทพมารบางกลุ่ม ส่ วนปรากฏ


ในยุคสมัยใดนั้น ตัวผมเองก็ยังไม่ ทราบ หากคุณมีเบาะแสในเรื่ องนี้
ให้ รีบรายงานมาที่ผมโดยด่ วน ขอรับประกันว่ ารับรางวัลตอบแทน
คุ้มค่ าแน่ นอน”

ดันน์ กล่าวอย่ างคลุมเคลือ จากนั้นก็กลับเข้ าสู่ หัวข้ อหลัก

“ที่กล่าวไปข้ างต้ นเป็ นเพียงหนึ่งในประเภทการคลุ้มคลั่ง ยัง


เหลืออีกสี่ ประเภท ผมจะเล่าให้ ฟังต่ อจากนี”้

“ได้ ครับ”
ไคลน์ กลืนคาถามเกี่ยวกับศิลาเย้ ยเทพลงคอไปก่อน มันหันมา
สนใจฟังคาอธิบายเกี่ยวกับการคลุ้มคลั่งต่ อ

“คากล่าวที่ว่า มนุษย์ เกิดมาโดยมีสติปัญญาสู ง แต่ จะอ่อนแอด้ าน


พลังพิเศษเหนือธรรมชาติ สิ่ งนีใ้ ช้ ไม่ ได้ กับทุกคน มีมนุษย์ โชคดี
บางกลุ่มที่เกิดมาพร้ อมสั มผัสวิญญาณอันเฉียบแหลม แม้ ไม่ ต้อง
เป็ นผู้วิเศษ แต่ ก็มองเห็นและได้ ยินเสี ยงของเหล่าวิญญาณ ทว่ า ผม
ขอเรียกคนเหล่านีว้ ่ าเป็ นกลุ่มที่โชคร้ าย…”

ขณะดันน์ กล่าว มันชาเลืองนัยน์ ตามองความว่ างเปล่าด้ านหลัง


ไคลน์ เป็ นระยะ ส่ งผลให้ ไคลน์ หวาดผวาจนฉี่แทบเล็ด

“อีกความหมายหนึ่งก็คือ กลุ่มคนเหล่านีจ้ ะมีพลังเทียบเท่ า


ผู้วิเศษลาดับ 9.5… อ๊ะ! ลืมบอกไป ผู้วิเศษทั่วไปจะเริ่มต้ นที่ลาดับ
9 ส่ วนบุคคลที่เกิดมาพร้ อมญาณพิเศษ จะถือว่ าเป็ นมนุษย์ ที่ดื่ม
โอสถไปครึ่งขวดแล้ว หมายความว่ า พวกเขาต้ องดื่มโอสถชนิดที่
เกี่ยวข้ องกับพลังมองเห็นหรื อได้ ยินวิญญาณเท่ านั้น หากข้ ามสาย
จะเกิดอาการทางจิตรุนแรงจนคลุ้มคลั่งในที่สุด อาจถึงแก่ความตาย
ในกรณีเลวร้ าย”

“เข้ าใจแล้วครับ”

ไคลน์ พยักหน้ าเล็กน้ อย

“ประเภทที่สามของการคลุ้มคลั่ง จะคล้ายกับประเภทที่สอง เมื่อ


มนุษย์ เลือก ‘เส้ นทาง’ และดื่มโอสถลงไป คนผู้น้ ันจะเปลี่ยนสาย
โอสถไม่ ได้ แล้ว หากดื่มโอสถข้ ามสายจะส่ งผลให้ พลังแปรปรวน
ตกอยู่ในอาการกึ่งจิตหลอน กลายเป็ นคนอารมณ์ สุดโต่ ง เช่ น
อ่อนไหวและฉุนเฉียวง่ าย ป่ าเถื่อนและกระหายเลือด หรื อไม่ ก็เงียบ
งันและซึมเศร้ า อย่ างใดอย่ างหนึ่ง

“บทสรุปของประเภทที่สามมีเพียงสิ่ งเดียว หลังจากดื่มโอสถ


ข้ ามสาย หรื อไม่ ก็โอสถชนิดที่เคยดื่มไปแล้ว ปลายทางคือการคลุ้ม
คลั่ง… จิตใจถูกทาลายโดยสมบูรณ์ ร่ างกายแปรเปลี่ยนเป็ นสั ตว์
ประหลาด หรื อแม้ กระทั่งกลายเป็ นวิญญาณร้ ายหลังความตาย”

เมื่อกล่าวจบ ดันน์ ยกถ้ วยกาแฟขึน้ จิบ

หลังจากได้ ยินเช่ นนี้ สี หน้ าไคลน์ เริ่มขาวซีด มันเงียบงันอยู่พกั


หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากถาม
“แล้วแบบที่สี่ล่ะครับ?”

“แบบที่สี่ง้นั หรื อ… ฮะฮะ เป็ นแบบที่พบได้ ค่อนข้ างบ่ อย


หลังจากดื่มโอสถเข้ าไปและครอบครองพลังพิเศษ ในช่ วงแรก
มนุษย์ จะยังได้ ยินเสี ยงของสั ตว์ ร้ายหรื อวิญญาณชั่ว นี่คือผลพวง
ของการหยิบยืมพลังสั ตว์ วิเศษมาไว้ ในร่ างกายมนุษย์ ด้ วยเหตุนี้
จิตใจของผู้วิเศษจึงอ่อนไหวง่ าย เป็ นที่ชื่นชอบของเหล่าภูติผีและ
วิญญาณร้ าย
“อาการอาจไม่ แสดงให้ เห็นภายนอก และคนนอกก็ตรวจสอบได้
ยาก มันจะซ่ อนลึกลงไปในจิตใจผู้วิเศษคนดังกล่าว… หากไม่ รีบ
ขจัดให้ หมดก่อนดื่มโอสถลาดับถัดไป เสี ยงหลอกหลอนจะสั่ งสม
ไปเรื่ อยๆ จนถึงจุดที่ร่างกายรับไม่ ไหว ผู้วิเศษคนดังกล่าวจะเข้ าสู่
ภาวะคลุ้มคลั่งในที่สุด…”

ดันน์ เงียบงันครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่ อพลางถอนหายใจยาว

“ทางเหยี่ยวราตรีจึงมีกฏปากเปล่าอยู่ข้อหนึ่ง ซึ่งเป็ นที่ร้ ูกันดีคือ


หลังจากดื่มโอสถไปแล้ว ผู้วิเศษจะไม่ สามารถดื่มโอสถลาดับถัดไป
ได้ ภายในสามปี ไม่ ว่าจะมีผลงานดีเด่ นและยอดเยี่ยมมากเพียงใด
แถมยังต้ องได้ รับการตรวจร่ างกายอย่ างเข้ มงวดก่อนดื่มโอสถ
ลาดับถัดไปทุกครั้ง… แต่ ถึงจะมีกฏเช่ นนี้ กรณีผ้ วู ิเศษคลุ้มคลัง่ ก็
ยังเกิดขึน้ ทุกปี ”
ชักน่ ากลัวแล้วสิ …
ไคลน์ อ้าปากค้ างเล็กน้ อย แต่ ก็ยังถามต่ อด้ วยสี หน้ าใครครู่

“แล้วแบบสุ ดท้ ายล่ะครับ?”

ดันน์ ไม่ หลงเหลือรอยยิม้ บนใบหน้ าอีกแล้ว

“แบบที่ห้าเกิดขึน้ ได้ ง่ายและบ่ อยครั้งที่สุด หลังจากดื่มโอสถเข้ า


ไป ผู้วิเศษจะมีสัมผัสวิญญาณที่กล้าแกร่ งขึน้ ยิ่งโอสถลาดับต่าก็ยิ่ง
เพิม่ สั มผัสวิญญาณมาก ด้ วยเหตุนี้ ผู้วิเศษลาดับสู งจึงได้ เห็นในสิ่ ง
ที่ผ้ อู ื่นไม่ เห็น ได้ ยินในสิ่ งที่ผ้ ูอื่นไม่ ได้ ยิน ได้ เผชิญในสิ่ งที่ผ้ อู ื่นไม่
เผชิญ… ผู้วิเศษที่มีสัมผัสวิญญาณรุนแรงมักถูกวิญญาณร้ าย
ล่อลวงและกระตุ้นแรงกระหายได้ ง่าย หากหลงมัวเมาโดยไม่
ควบคุมจิตใจ จุดจบเดียวที่เหลืออยู่คือการคลุ้มคลั่ง”

ขณะกล่าว ดันน์ จ้องมองไคลน์ อย่ างไม่ กระพริบตา เงาสะท้ อน


ของไคลน์ ·โมเร็ตติกาลังฉายบนนัยน์ ตาสี เทาหม่ น

ดันน์ กล่าวต่ อด้ วยเสี ยงเย็นยะเยียบ

“ผู้ก่อตั้งเหยี่ยวราตรี อาร์ คบิชอปยานิสเคยกล่าวไว้ ว่า ‘พวกเรา


คือผู้พทิ ักษ์ แต่ ขณะเดียวกันก็เป็ นเหยื่อผู้น่าสมเพช ต้ องรับมือภัย
คุกคามและความบ้ าคลั่งนานับชนิดบนโลก’”
ราชันย์ เร้ นลับ 19: วัตถุต้องห้ าม

“พวกเราคือผู้พทิ ักษ์ แต่ ขณะเดียวกันก็เป็ นเหยื่อที่น่าสมเพช


ต้ องรับมือภัยคุกคามและความบ้ าคลั่งนานับชนิดบนโลก”

หน้ าต่ างห้ องบานใกล้กับทางเดินถูกปิ ดตาย ผนังห้ องราบเรียบ


มอบบรรยากาศเย็นยะเยียบ ภายในห้ องมีแสงสี เหลืองอ่อนส่ อง
สว่ าง

ถ้ อยคาของดันน์ ·สมิทกังวาลก้อง ทุกการสะท้ อนได้ สั่นคลอน


จิตใจไคลน์ ไม่ น้อย ชายหนุ่มถึงกับหมดคาพูดไปชั่วขณะ

ดันน์ ส่ายศีรษะเมื่อเห็นไคลน์ เงียบงัน

“ผิดหวังรึเปล่า? ผู้วิเศษมิได้ สวยหรูเหมือนกับที่ผ้ คู นวาดฝันไว้


เส้ นทางของเรามีเพียงอันตรายรออยู่”

“เมื่อได้ รับบางสิ่ ง ก็ต้องสู ญเสี ยบางสิ่ งแลกเปลี่ยน”

ไคลน์ กล่าวเสี ยงสั่ น

เป็ นเรื่ องจริงที่มันไม่ เคยรับทราบมากก่อนว่ า ผู้วิเศษซึ่ง


แข็งแกร่ ง ทรงพลัง ยิ่งใหญ่ และเหนือมนุษย์ จะมีด้านลับอันตราย
ซ่ อนอยู่
เหตุการณ์ จริงที่ต้องเผชิญอาจไม่ ร้ายแรงเท่ ากับที่ดันน์ เล่า แต่ ตัว
ไคลน์ เคยสั มผัสเรื่ องเหนือธรรมชาติที่อันตรายมาแล้ว ไม่ แปลกที่
มันจะเกิดความกังวล หวาดกลัว และหดหู่

แต่ เครียดไปก็เท่ านั้น มันหันหลังกลับไม่ ได้ อีกแล้ว ผู้วิเศษคือ


อนาคตที่ตนต้ องเผชิญในสั กวัน

“ไม่ เลว เป็ นคาตอบที่สมเหตุผลสมและเป็ นผู้ใหญ่ …”


ดันน์ ซดกาแฟก้นแก้วจนหมด ก่อนจะกล่าวต่ อ

“ยิ่งไปกว่ านั้น ผู้วิเศษมิได้ ทรงพลังอย่ างที่คุณคิด โดยเฉพาะ


‘ลาดับ’ ต่า… สงสั ยไหมว่ าทาไมพวกเราถึงใช้ เลข 1 ระบุลาดับ
สู งสุ ดของโอสถ และ 9 ระบุลาดับต่าสุ ดของโอสถ?

“เหตุใดถึงต้ องใช้ ลาดับชั้นที่ขัดต่ อความรู้สึกและหลักตรรกะ


เช่ นนี?้ ผมเองก็ไม่ ทราบ รู้แต่ เพียงว่ า ยิ่งตัวเลขมาก ลาดับก็ยิ่ง
ห่ างไกลจากความแข็งแกร่ ง

“เอ่อ… ผมพูดถึงไหนแล้ว? อ้อ… ผู้วิเศษมิได้ ทรงพลังอย่ างที่


คุณคิด ผู้วเิ ศษระดับต่านั้นสู้ ไม่ ได้ แม้ กระทั่งปื นเล็ก ไม่ ต้องกล่าวถึง
ปื นขนาดใหญ่
“ถ้ าคุณมีโอกาสกลายเป็ นผู้วิเศษในอนาคต อย่ าลืมคาที่ผมพูดใน
วันนีเ้ ด็ดขาด ห้ ามตัดสิ นใจผลีผลามเกินตัว”

ไคลน์ อมยิม้ มันกาลังดูแคลนตัวเอง

“ผมยังไม่ ร้ ูเลยว่ าจะได้ รับโอกาสนั้นไหม”

ต่ อให้ โอกาสอยู่ตรงหน้ า ไคลน์ ก็ไม่ มั่นใจว่ าจะคว้ าไว้ … การ


เลือกดื่มโอสถผิดจะต้ องเสี ยใจไปชั่วชีวิต แถมโอสถลาดับสู งก็มี
โอกาสคลุ้มคลั่งสู ง ตัวมันคงพยายามเลี่ยงให้ มากที่สุด
ข้ อเสี ยหลักของโอสถคือการกัดกร่ อนจิตใจผู้ดื่ม ยิ่งมีสัมผัส
วิญญาณรุนแรง เสี ยงประหลาดที่ได้ ยินในหัวก็จะยิ่งเข้ มข้ น

แต่ ถ้ามีความช่ วยเหลือจากพวกพ้องทีมเหยี่ยวราตรี ไคลน์


สามารถหยิบยืมคาแนะนามาปรับใช้ เพื่อลดโอกาสคลุ้มคลั่งได้
ปัญหาจะเกิดขึน้ ได้ ยากกว่ าเดิม หากตัวมันไม่ รีบร้ อนดื่มโอสถ
ลาดับถัดไปเสี ยเอง

ชีวิตยังต้ องเผชิญปัญหาอีกมาก และไคลน์ ต้องผ่ านมันไปให้ ได้


เพื่อหาโอกาสเดินทางกลับโลกเก่า นี่คือจุดประสงค์ สาคัญที่สุดซึ่ง
ห้ ามลืมโดยเด็ดขาด ต้ องอย่ างลืมหมั่นศึกษาบทเรียนเหนือ
ธรรมชาติให้ ถ่องแท้

ตนจะไม่ เล็งไปถึงโอสถระดับสู งที่คลุ้มคลั่งได้ ง่าย เพราะหาก


เกิดอาการคลุ้มคลั่ง แผนการกลับโลกเดิมจะล้มเหลวทันที ทุกสิ่ งที่
พยายามจะสู ญเปล่า คงเป็ นการดีกว่ า หากแอบศึกษาข้ อมูลเพื่อ
หาทางกลับโลกเก่าด้ วยร่ างผู้วิเศษลาดับต่า ไม่ ควรเอาตัวเข้ าเสี่ ยง
โดยไม่ จาเป็ น

ไคลน์ ยังจาได้ ดี เมื่อครั้งทดสอบพิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตา เสี ยง


กระซิบอันแหบพร่ ายังคงดังชัดเจนในหัวจวบจนปัจจุบัน

ต่ อให้ ไม่ เป็ นผู้วิเศษ เสี ยงเหล่านีก้ ็คงไม่ หายไปเอง หมายความว่ า


อย่ างน้ อยก็ควรเลือกเส้ นทางผู้วิเศษไปก่อน เพื่อให้ ป้องกันตัวเอง
ได้ บ้างเบื้องต้ น

สรุปคือ เป็ นผู้วิเศษได้ แต่ ไม่ ควรไปถึงลาดับสู ง

หลังจากชั่งน้าหนักข้ อดีข้อเสี ยจนชัดเจน ความหวาดกลัวในตัว


ผู้วิเศษก็เลือนลางลง

ไคลน์ จะไม่ หันหลังกลับแน่ นอน

ดันน์ หยิบกล้องยาสู บขึน้ มาอีกครั้ง นัยน์ ตาเทาหม่ นของมันจ้ อง


มองไคลน์ อย่ างอบอุ่น

“สาหรับเรื่ องนั้น ผมคงให้ คาตอบที่ชัดเจนไม่ ได้ การจะได้ เป็ น


ผู้วิเศษ คุณต้ องสร้ างคุณงามความดีให้ โบสถ์ เสี ยก่อน แต่ โอกาสนั้น
อาจอาจมาเร็วกว่ าที่คุณคิดก็ได้
“บางที ถ้ าพรุ่งนีค้ ุณตีความเอกสารโบราณสาคัญ จนทาให้ พวก
เราพบเบาะแสที่ยิ่งใหญ่ คุณก็จะได้ รับสิ ทธิ์ให้ กลายเป็ นผู้วิเศษ
ทันที…

“แต่ ถึงอย่ างนั้น ก็ยังต้ องรอให้ ทางสมาชิกระดับสู งของโบสถ์


อนุมัติกลับมา เราถึงจะมอบโอสถให้ คุณได้

“เอาล่ะ ผมชี้แจงประเด็นสาคัญเกี่ยวกับผู้วิเศษเกือบหมดแล้ว
หวังเป็ นอย่ างยิ่งว่ าคุณจะไม่ ใจร้ อนเกินไป…
“ถึงเวลาแนะนาตัวให้ เจ้ าหน้ าที่พลเรื อนคนอื่นรู้จักคุณบ้ าง”

ดันน์ ลุกขึน้ และเดินไปหยุดหน้ าประตู ปลายนิว้ ชี้ไปยังทางเดิน


ยาวฝั่งตรงข้ ามประตูยานิส

“พวกเรามีนักบัญชีหนึ่งคน และเจ้ าหน้ าที่ทั่วไปอีกหนึ่งคนที่


คอยจัดหาอุปกรณ์ หรื อสิ่ งสาคัญสาหรับสานักงาน คอยวิ่งเอกสาร
ไปมาระหว่ างเหยี่ยวราตรี วิหาร สถานีตารวจ รวมถึงเป็ นพลขับใน
บางโอกาส

“คนเหล่านีเ้ ป็ นผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ ต้องเข้ าเวร หมายความว่ าพวก


เขาจะหยุดทางานในวันอาทิตย์ แบบตายตัว

“ส่ วนเจ้ าหน้ าที่อีกสามคนประกอบด้ วยโรแซน ไบรท์ และ


ลุงนีลล์ หน้ าที่ของพวกเขาคือ ต้ อนรับแขก ทาความสะอาดห้ อง
เขียนสานวนคดีความ และคอยลงทะเทียนอุปกรณ์ สานักงาน

“ในบางครั้ง พวกเขาต้ องเปลี่ยนเวรกันเฝ้าคลังแสง คลังอุปกรณ์


และคลังเก็บของเก่า… เพื่อไม่ ให้ มีคนเข้ าไปหยิบของโดยพละการ
ต้ องลงทะเบียนการหยิบยืมอุปกรณ์ ทุกครั้ง และต้ องเป็ นผู้เดินไป
หยิบด้ วยตัวเองเท่ านั้น

“แต่ ละคนจะได้ หยุดสั ปดาห์ ละหนึ่งวันเต็ม ยกเว้ นวันอาทิตย์


พวกเขาต้ องจัดสรรช่ วงเวลากันเอง ว่ าใครต้ องทาสิ่ งใดในช่ วงไหน
บ้ าง รวมถึงวันหยุดในแต่ ละสั ปดาห์ ที่ต้องไม่ ตรงกัน”

“หน้ าที่ของผมเหมือนกับโรแซนใช่ ไหม?”

ไคลน์ สลัดความคิดเกี่ยวกับผู้วิเศษออกไป หัวสมองไตร่ ตรองถึง


งานใหม่ ที่ตนต้ องรับผิดชอบ

“ไม่ … ไม่ จาเป็ น คุณเองก็เป็ นผู้เชี่ยวชาญ”

ดันน์ อมยิม้

“คุณมีงานให้ ทาสองอย่ าง อย่ างแรก หาเวลาออกไปเดินเล่นข้ าง


นอกบ้ าง โดยเฉพาะเส้ นทางระหว่ างบ้ านคุณและบ้ านเวิร์ช”

“อะไรนะ?”
ไคลน์ ขมวดคิว้ นี่มันงานตรงไหน?
และเป็ นหน้ าที่ผ้ เู ชี่ยวชาญยังไง?

ดันน์ สอดมือเข้ าไปในกระเป๋าเสื้ อกันลมสี ดาพลางกล่าว

“หลังจากพวกเรายืนยันแล้วว่ าคุณสู ญเสี ยความทรงจา คดีของ


เวิร์ชและนาย่ าจึงถูกปิ ดลงอย่ างไม่ มีทางเลือก ส่ งผลให้ เบาะแสของ
สมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสหายเข้ ากลีบเมฆตามไปด้ วย

“ในตอนต้ น พวกเราสงสั ยว่ าคุณคือผู้ที่ขโมยสมุดบันทึกเล่ม


ดังกล่าวติดตัวไปจากบ้ านเวิร์ช และอาจซ่ อนไว้ ระหว่ างทางกลับ
บ้ านตัวเอง นั่นน่ าจะเป็ นสาเหตุที่คุณไม่ ตัดสิ นใจฆ่ าตัวตายในที่เกิด
เหตุเพียงคนเดียว

“พวกเราพยายามค้ นหาทุกซอกทุกมุมของถนนแล้ว แต่ ก็ยังไม่


พบสมุดบันทึกเล่มดังกล่ าว

“ถึงแม้ คุณจะถูกพลังลึกลับบางชนิดลบความทรงจาไป แต่ สมอง


ของมนุษย์ คือสิ่ งที่น่าทึ่งและเร้ นลับ อาจยังมีบางเบาะแสหลงเหลือ
ก็เป็ นได้

“การที่ดาลี่ย์หาไม่ พบ ไม่ ได้ แปลว่ ามันไม่ มีอยู่จริง แต่ เพราะพลัง


ของผู้สื่อวิญญาณมิได้ ครอบจักรวาลขนาดนั้น บางที ถ้ าคุณได้ เดิน
ผ่ านจุดที่เคยซ่ อนสมุด อาจเกิดภาพเดจาวูจนทาให้ ฉุกคิดบางสิ่ ง
ขึน้ มาได้
“นี่คือสิ่ งที่เหยี่ยวราตรีหวังจากคุณ”

“เข้ าใจแล้วครับ”

ไคลน์ พลันกระจ่ าง

ไม่ ใช่ เรื่ องเข้ าใจยาก ถึงสาเหตุที่เหยี่ยวราตรีต้องการหาที่อยู่สมุด


บันทึกให้ พบ
ไคลน์ คือบุคคลเดียวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ ดังกล่าว และเป็ น
คนที่มีเวลาพอจะนาสมุดบันทึกไปซ่ อนระหว่ างทางกลับบ้ าน

“หากคุณหาไดอารีเล่มดังกล่ าวพบด้ วยตัวเอง คุณงามความดีจะ


มากพอสาหรับการได้ เป็ นผู้วิเศษ”

ดันน์ ให้ กาลังใจ และบอกเป็ นนัยว่ า สมุดบันทึกตระกูลอันที


โกนัสมีค่ากับเหยี่ยวราตรีมากเพียงใด

“หวังว่ าจะเป็ นแบบนั้น”

ไคลน์ พยักหน้ า

ดันน์ เปลี่ยนหัวข้ อสนทนา


“อย่ างที่สอง คุณสามารถหยุดได้ หนึ่งวันต่ อสั ปดาห์ จะเลือกเลย
ก็ได้ นะ… ส่ วนช่ วงที่ไม่ ได้ ออกไปข้ างนอก คุณต้ องศึกษา
วรรณกรรมและพระคัมภัร์ นี่คืองานของผู
ื ้ เชี่ยวชาญด้ าน
ประวัติศาสตร์ เมื่อใดที่ศึกษาเอกสารเหล่านั้นจนหมด ค่ อยเริ่ม
ผลัดเวรกับลุงนีลล์และเจ้ าหน้ าที่พลเรื อนที่เหลือ”

“ได้ ครับ ไม่ มีปัญหา”

ไคลน์ ถอนหายใจโล่ งอก


งานของตนง่ ายมาก…

ทันใดนั้น ดันน์ บิดตัวไปด้ านหลังและชี้ไปยังประตูเหล็กสี ดา


สนิท บานพับเปิ ดได้ จากด้ านนอก บนบานประตูมีสัญลักษณ์
ศักดิ์สิทธิ์สลักจานวนเจ็ดแห่ ง

“นี่คือประตูยานิส ตั้งชื่ อตามผู้ก่อตั้งหน่ วยเหยี่ยวราตรียุคใหม่


อาร์ คบิชอปยานิส วิหารประจาเมืองใหญ่ ทุกแห่ งจะมีประตูบานนี้
อยู่ใต้ ดินเสมอ”

“ด้ านนอกประตูจะมีเจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการของเหยี่ยวราตรี


ผลัดเวรเฝ้าตลอดเวลา ส่ วนด้ านในจะมี ‘ผู้คุม’ ที่ส่งจากโบสถ์
อย่ างน้ อยสองคนคอยตรวจตราความเรียบร้ อย อีกทั้งยังมีกับดัก
จานวนมาก ห้ ามเข้ าไปใกล้โดยเด็ดขาด ไม่ ว่าจะเกิดอะไรขึน้ ก็ตาม
ไม่ อย่ างนั้น ชะตากรรมอันโหดร้ ายอาจตกอยู่กับคุณ”
“น่ ากลัวแฮะ…”

ไคลน์ กล่าวจากใจ

“หลังบานประตูแบ่ งออกเป็ นหลายเขต มีท้งั ห้ องเก็บรักษาสู ตร


โอสถ รวมถึงวัตถุดิบเวทมนตร์ สาหรับปรุงโอสถ หรื อใช้ ใน
พิธีกรรม บางชนิด

“บางเขตถูกใช้ เป็ นสถานกักกันคราว กลุ่มนักโทษจะ


ประกอบด้ วยพวกนอกรีด ลัทธิชั่ว รวมถึงสมาชิกองค์ กรลับ คน
เหล่านีม้ ีชะตากรรมต้ องถูกส่ งตัวไปยังวิหารศักดิ์สิทธิ์”

ดันน์ อธิบายอย่ างต่ อเนื่อง

วิหารศักดิ์สิทธิ์? หมายถึงวิหารหลวงของของโบสถ์ เทพธิดา


รัตติกาลน่ ะหรื อ?

ที่ว่ากันว่ า ตั้งอยู่ในรัฐเหมันต์ ทางตอนเหนือของอาณาจักร หรื อ


อีกชื่ อหนึ่งคือ… วิหารสั นติสุข

ไคลน์ ครุ่นคิดพลางพยักหน้ าตามเป็ นระยะ

“แล้วก็… ยังมีเอกสารโบราณสาคัญถูกเก็บเป็ นจานวนมาก เมื่อ


คุณมีสิทธิ์เข้ าถึงความลับโบสถ์ มากกว่ านี้ คงมีโอกาสได้ อ่านพวก
มันในสั กวัน”

ดันน์ ชะงักไปเล็กน้ อย ก่อนจะกล่าวเสริม

“และสุ ดท้ าย สิ่ งสาคัญที่สุดภายในประตูยานิสคือ… ‘วัตถุ


ต้ องห้ าม’”

“วัตถุต้องห้ าม?”

ไคลน์ ทวนซ้า

ฟังดูเหมือนคาเฉพาะ

“หมายถึงของวิเศษบางชนิดที่ทางโบสถ์ รวมรวบมาได้ บางชิ้นมี


ความสาคัญ บางชิ้นมีความลึกลับเหนือธรรมชาติ หากตกอยู่ในมือ
ของคนชั่ว จะเกิดเป็ นภัยพิบัติครั้งใหญ่

ด้ วยเหตุนี้ พวกเราจึงต้ องเก็บไว้ เป็ นความลับและป้องกันไม่ ให้


ใครขโมยออกไป แม้ แต่ เจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการของเหยี่ยวราตรีก็มิ
อาจนาออกไปใช้ ได้ ตามใจชอบ แล้วก็…”

ดันน์ หยุดครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่ อ

“…วัตถุต้องห้ ามบางชนิดจะพิเศษกว่ าวัตถุประเภทอื่น พวกมัน


‘มีชีวิต’ และสามารถล่อลวงจิตใจผู้คุมได้ เป็ นของวิเศษที่จะส่ ง
อิทธิพลกับสิ่ งรอบตัว มีความคิดที่จะหลบหนีด้วยตัวเอง และ
สามารถสร้ างพิบัติร้ายแรงแก่โลก พวกมันจึงต้ องถูกผนึกเป็ น
พิเศษ”

“สุ ดยอด…”

ไคลน์ เริ่มคล้อยตาม

“สานักงานใหญ่ เหยี่ยวราตรีจะแบ่ งวัตถุต้องห้ ามออกเป็ นสี่


ระดับ เริ่มที่ระดับ 0 - วัตถุอันตรายสู งสุ ด วัตถุชนิดชี้ถือเป็ น
ความลับสุ ดยอดของเหยี่ยวราตรี เจ้ าหน้ าที่ไม่ สามารถเข้ าถึง
รายละเอียด ศึกษา นาไปใช้ งาน หรื อเผยแพรข้ อมูลพวกมันกับ
บุคคลอื่นได้ วัตถุระดับ 0 จะถูกผนึกไว้ ที่ช้ ันใต้ ดินของวิหาร
ศักดิ์สิทธิ์เท่ านั้น”

ดันน์ อธิบายต่ อ

“ถัดมาคือระดับ 1 - วัตถุอันตรายมาก เจ้ าหน้ าที่สามารถใช้ ได้ ใน


ภารกิจเฉพาะ วัตถุชนิดนีม้ ีความสาคัญรองลงมา สามารถเก็บไว้ ที่
วิหารหลักซึ่งมีบิชอปประจาการอยู่ หรื อไม่ ก็วิหารเมืองใหญ่ ทมี่ ี
เจ้ าหน้ าที่เหยี่ยวราตรีระดับสู งคอยดูแล

“แต่ เนื่องจากความความอันตรายของมัน แม้ กระทั่งวิหารที่กรุง


เบ็คลันด์ ยังมีวัตถุระดับ 1 เก็บไว้ สูงสุ ดเพียงสองชิ้นเท่ านั้น ที่เหลือ
ต้ องถูกส่ งไปเก็บที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ท้งั หมด”
“ถัดมาเป็ นเกรด 2 - วัตถุอันตราย สามารถใช้ ได้ ในภารกิจ แต่
ต้ องระมัดระวังเป็ นพิเศษ การนาไปใช้ ต้องมีบิชอปหรื อหัวหน้ า
หน่ วยเหยี่ยวราตรีคอยควบคุมด้ วยตัวเอง วิหารประจาเมือง
สามารถเก็บวัตถุระดับ 2 ได้ ต้งั แต่ สามถึงห้ าชิ้น ขึน้ อยู่กับความ
เหมาะสม ที่เหลือจะถูกส่ งไปยังวิหารศักดิ์สิทธิ์

“สุ ดท้ าย ระดับ 3 - วัตถุค่อนข้ างอันตราย ต้ องใช้ งานอย่ าง


ระมัดระวัง โดยการนาไปใช้ ในภารกิจแต่ ละครั้ง ต้ องมีเจ้ าหน้ าที่
เหยี่ยวราตรีอย่ างน้ อยสามคนจับทีมกัน ระดับความสาคัญไม่ สูง
มาก แค่ เป็ นเจ้ าหน้ าที่หน่ วยปฏิบัติการก็ทาเรื่ องเบิกใช้ งานได้ แล้ว”

“ในอนาคต คุณจะได้ อ่านเอกสารที่เกี่ยวข้ องกับวัตถุต้องห้ ามอีก


มากมาย พวกเราจะเรียกมันด้ วยรหัส เป็ นรหัสที่เห็นแล้วเข้ าใจได้
ทันที ตัวอย่ างเช่ น รหัส 2-125 จะหมายถึงวัตถุระดับ 2 หมายเลข
125…”

ขณะดันน์ กล่าว มันชะงักเล็กน้ อย จากนั้นก็เดินกลับเข้ าไปใน


ห้ อง ก่อนจะก้มหยิบเศษกระดาษขึน้ มาหนึ่งใบ

“ลองดูนี่ เมื่อสามปี ก่อน อาร์ คบิชอปที่เพิง่ รับตาแหน่ งเกิดการ


คลุ้มคลั่ง ด้ วยเหตุผลบางประการ มันสามารถฝ่ าด่ านป้องอันแน่ น
หนาเข้ าไปขโมยวัตถุต้องห้ ามระดับ 0 ออกมาได้
“จาภาพนีไ้ ว้ หากคุณพบเบาะแสของมัน ห้ ามเข้ าไปตอแยหรื อ
ทาให้ ร้ ูตัวเด็ดขาด รีบกลับมารายงานกับผมหรื อเจ้ าหน้ าที่เหยี่ยว
ราตรีทันที ไม่ อย่ างนั้น โอกาสที่คุณจะเสี ยชีวิตในหน้ าที่คือหนึ่งพัน
เปอร์ เซนต์ ”

“อะไรนะ?”

ไคลน์ รับเศษกระดาษพลางขมวดคิว้

ไม่ มีหัวข้ อเขียนไว้ มีเพียงภาพขาวดาพร้ อมข้ อความประกอบ


ไม่ กี่บรรทัด

“อินซ์ ·แซงวิลล์ เพศชาย อายุสี่สิบปี อดีตอาร์ คบิชอป… ‘ผู้เฝ้า


ประตู’ ที่เลื่อนลาดับพลังไม่ สาเร็จ ถูกปี ศาจล่อลวงจนจิตใจบิด
เบีย้ ว ทาการหนีไปพร้ อมกับวัตถุต้องห้ าม 0-08 ลักษณะเด่ นของ
ชายคนดังกล่าวคือ…”

ภาพบนกระดาษ อินซ์ ·แซงวิลล์กาลังสวมชุดนักบวชสี ดาสนิท


ชุดคลุมมีกระดุมติดอยู่ท้งั สองข้ าง เหนือศีรษะสวมหมวกนักบวช
ขนาดเล็ก

เส้ นผมสี ทองเข้ ม นัยน์ ตาสี น้าเงินเข้ มจนเกือบดา จมูกโด่ ง ปาก


ทรงกระจับ รูปลักษณ์ คล้ายคลึงกับรูปปั้นโบราณ ใบหน้ าปราศจาก
ริ้วรอยเหี่ยวย่ น จุดสั งเกตุเด่ นชัดที่สุดคือดวงตาหนึ่งข้ างบอดสนิท
“ข้ อมูลของผู้ร้ายหลบหนีถูกเขียนไว้ อย่ างละเอียดครบถ้ วน แต่
วัตถุต้องห้ ามกลับมีเพียงรหัสตัวเลข…”

ไคลน์ กล่าวถึงสิ่ งแรกที่มันสะกิดใจ

“นั่นเพราะวัตถุดังกล่าวมีระดับความสาคัญสู งสุ ด จากที่ผม


ทราบ ข้ อมูลของวัตถุต้องห้ ามหมายเลข 0-08 จะถูกเล่าแบบปาก
ต่ อปากเท่ านั้น ไม่ เคยมีใครเห็นคาอธิบายเป็ นลายลักษณ์ อักษรมา
ก่อน และสิ่ งที่เล่าต่ อกันมาก็มีรายละเอียดเพียงน้ อยนิด”

ดันน์ ถอนหายใจเบา

“จากข้ อมูล 0-08 เป็ นแค่ ปากกาขนนกธรรมดา แต่ จุดเด่ นของ


มันคือ ไม่ ต้องใช้ หมึกในการเขียน นี่คือสิ่ งที่ผมทราบ”

ดันน์ ไม่ ลงลึกรายละเอียดมากกว่ านี้ มันใช้ มือล้วงโซ่ สีทองออก


จากกระเป๋าเสื้ อ สิ่ งที่ห้อยติดมากับโซ่ คือนาฬิ กาสี ทองอร่ าม

ดันน์ กดปุ่ มให้ ฝาสปริงดีดออก ชาเลืองมองเวลาครู่หนึ่ง ก่อนจะ


ชี้นวิ้ ไปด้ านนอก

“ผมบอกทุกเรื่ องที่คุณควรทราบไปแล้ว ดังนั้น เดินไปหาลุงนีลล์


ที่คลังอาวุธ บอกเขาให้ เตรียมเอกสารที่คุณต้ องอ่าน

“นีลล์ไม่ ใช่ นักบวชเจ้ าหน้ าที่พลเรื อนธรรมดา เขาเคยเป็ น


เจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการเหมือนผม แต่ เนื่องจากอายุมากแล้ว การเลื่อน
ลาดับพลังคงไม่ สาเร็จ และนีลล์ก็ไม่ ต้องการเป็ นผู้คุมภายในประตู
ยานิส สิ่ งเดียวที่เขาหลงไหลคือเอกสารและบันทึกประวัติศาสตร์ ”
ราชันย์ เร้ นลับ 20: ดันน์ ขลี้ ืม

“ตกลงครับ”

ไคลน์ โค้ งศีรษะเล็กน้ อย ก่อนจะสวมหมวกผ้ าไหมทรงสู ง


กลับไป

แต่ ภายในใจนึกสั งสั ยว่ า ถึงวัตถุต้องห้ ามหมายเลข 0-08 จะมี


หน้ าตาเป็ นเช่ นไร

ปากกาขนนกธรรมดางั้นหรื อ?
แค่ เขียนโดยไม่ ใช้ หมึก?

เช่ นนั้นแล้ว ความสามารถที่แท้ จริงของมันคืออะไร? เหตุใดถึง


กลายเป็ นวัตถุต้องห้ ามระดับสู งสุ ดของโบสถ์ ไปได้ …

หรื อจะเป็ นปากกาขนนกที่เขียนชื่ อใครแล้วคนนั้นจะตาย?

ไม่ น่าใช่ แบบนั้นคงเป็ นการแหกกฏฟ้ าดินจนน่ าเกลียดเกินไป


และหากมีพลังดังกล่าวจริง อินซ์ ·แซงวิลล์ไม่ มีความจาเป็ นต้ อง
หลบหนีเลยสั กนิด…

ขณะไคลน์ ครุ่นคิดพลางเดินออกจากห้ อง ดันน์ ·สมิทตะโกนไล่


หลัง
“เดี๋ยวก่อน ผมลืมพูดบางเรื่ อง”

“ครับ?”

ไคลน์ หันหลังมอง นัยน์ ตาแฝงความประหลาดใจ

ดันน์ เก็บนาฬิ กาพกใส่ กระเป๋า ก่อนจะกล่าวด้ วยรอยยิม้

“หลังจากนี้ อย่ าลืมไปหามาดามโอเรียนน่ าที่เป็ นฝ่ ายบัญชีด้วย


คุณต้ องเบิกค่ าตอบแทนล่วงหน้ าสี่ สัปดาห์ —สิ บสองปอนด์ และใน
สั ปดาห์ ต่อไป ค่ าแรงของคุณจะถูกหักครึ่งหนึ่งจากปรกติจนกว่ าจะ
ชดเชยครบสิ บสองปอนด์ ”

“ไม่ เยอะไปหน่ อยหรื อ ผมไม่ ต้องใช้ เงินมากขนาดนั้น ปริมาณ


ของมันควรลดลง”

ไคลน์ ตอบทันทีโดยไม่ ได้ คิดซับซ้ อน อันที่จริง มันเองก็ชื่นชอบ


ที่ได้ รับค่ าจ้ างล่วงหน้ า เพราะปัจจุบัน แม้ แต่ ค่ารถม้ ากลับบ้ านยังมี
ไม่ เพียงพอ

ทว่ า การได้ รับรวดเดียวสิ บสองปอนด์ คงมากเกินไปสั กหน่ อย

“ผิดแล้ว จาเป็ นสิ ”


ดันน์ แย้ ง มันส่ ายศีรษะพลางอมยิม้

“ลองไตร่ ตรองให้ ถี่ถ้วนก่อน คุณจะอาศัยอยู่ในหอพักแบบเดิม


จริงหรื อ? บ้ านที่ต้องใช้ ห้องน้าร่ วมกับคนอื่น ต่ อให้ คุณไม่ ถือสา
แต่ ก็ควรเป็ นห่ วงสุ ภาพสตรีในครอบครัว แล้วก็…”

ดันน์ ชะงัก สายตาชาเลืองมองไคลน์ ที่กาลังพยักหน้ าเห็นด้ วย


มันทาการสารวจอีกฝ่ ายตั้งแต่ หัวจรดเท้ า ก่ อนจะอมยิม้ อย่ างมีเลศ
นัย
“แล้วก็… คุณต้ องมีไม้ คา้ และสู ทตัวใหม่ ”

ไคลน์ ถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะดึงสติกลับสู่ โลกความจริง


ในเวลาถัดมา

ใบหน้ าเริ่มแดงก่าอย่ างเขินอาย สู ทและเสื้ อตัวในของมันล้วน


เป็ นผ้ าคุณภาพต่าที่ซื้อมาในราคาถูก

หมวกผ้ าไหมทรงสู งทั่วไปจะมีราคาราวห้ าถึงหกซูล โบว์ หูกระ


ต่ างอีกสามซูล ไม้ คา้ ที่หัวทางานเงินอีกแปดซูล เสื้ อตัวใหม่ สามซูล

ส่ วนกางเกงขายาว เสื้ อกั๊ก และทักซิโด้ ราคารวมกันราวเจ็ด


ปอนด์ แถมยังมีรองเท้ าหนังอีกสิ บซูล
คานวณอย่ างหยาบจะออกมาเป็ นแปดปอนด์ กับอีกเจ็ดซูล และ
ถ้ าหากต้ องการเป็ นสุ ภาพบุรุษเต็มคราบ มันต้ องมีโซ่ ห้อยนาฬิ กา
นาฬิ กาพก และกระเป๋าเงิน

ในอดีต ไคลน์ และเบ็นสั นเคยช่ วยกันเก็บออมอย่ างยากลาบาก


จนกระทั่งรวบรวมเงินได้ ก้อนหนึ่ง พวกมันตรงไปที่ร้านเสื้ อผ้ า
เพื่อมองหาชุดที่เรียบร้ อยและภูมิฐาน แต่ หลังจากตรวจสอบราคา
ทั้งสองรีบออกจากร้ านโดยไม่ แม้ แต่ จะต่ อรอง ลงเอยด้ วยการซื้อ
ชุดมือสองจากร้ านบนถนนกางเขนเหล็กในราคารวมไม่ ถึงสอง
ปอนด์
ผลพวงจากเหตุการดังกล่าว ไคลน์ คนก่อนจึงฝังใจกับราคา
เสื้ อผ้ าอย่ างมาก

“ข…เข้ าใจแล้วครับ”

ไคลน์ ตอบกระอักกระอ่วน

ตัวไคลน์ มีนิสัยคล้ายคลึงกับไคลน์ คนก่อนในด้ านรสนิยมเสื้ อผ้ า


มันชื่ นชอบที่จะแต่ งตัวมีสง่ าราศี

ดันน์ หยิบนาฬิ กาพกจากกระเป๋าและเปิ ดตรวจสอบเวลา

“ผมคิดว่ าคุณควรไปพบมาดามโอเรียนน่ าเป็ นอันดับแรก การไป


หาลุงนีลล์คงใช้ เวลาสั กพักใหญ่ แต่ มาดามโอเรียนน่ าใกล้ถึงเวลา
เลิกงานแล้ว”
“ได้ ครับ”

ไคลน์ ตระหนักถึงความจนบัดซบของตัวเองดี มันไม่ คิดคัดค้ าน


การได้ รับเงินล่วงหน้ า

ดันน์ เดินไปยังข้ างโต๊ ะทางานและกระตุกเชื อกที่แขวนไว้ กับ


เพดาน

“ผมจะให้ โรแซนนาทางคุณ”

เชื อกทางานตามกลไกของมันอย่ างเต็มประสิ ทธิภาพ เกิดเสี ยง


หมุนของฟันเฟื อง เพียงชั่วอึดใจ กระดิ่งที่ห้องรับรองแขกของ
บริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬก็ส่งเสี ยงกังวาล

เมื่อโรแซนได้ ยิน เธอรีบดีดตัวขึน้ และมุ่งหน้ าตรงมายังห้ องผู้คุม


ประตูยานิสอย่ างระมัดระวัง

เพียงไม่ นาน ไคลน์ ก็ได้ พบหล่อนอีกครั้ง

ดันน์ กล่าวติดตลก

“ผมคงไม่ ได้ รบกวนเวลาพักผ่ อนของคุณใช่ ไหม? ช่ วยพา


มิสเตอร์ โมเร็ตติไปหามาดามโอเรียนน่ าให้ หน่ อย”
มุมปากโรแซนกระตุกเล็กน้ อยก่อนจะตอบกลับด้ วยน้าเสี ยง ‘ร่ า
เริง’

“ได้ ค่ะ หัวหน้ า”

“แค่ นเี้ องหรื อ?”

ไคลน์ ขมวดคิว้ ถามด้ วยใบหน้ าสุ ดฉงน

การเบิกค่ าแรงล่วงหน้ า ไม่ ใช่ ว่าต้ องมีเอกสารยืนยันจากหัวหน้ า


สั กหน่ อยหรื อ?
จะไม่ เขียนอะไรสั กนิดเลยรึไง?

“หืม? แล้วยังต้ องมีอะไรอีก?”

ดันน์ ตอบคาถามด้ วยคาถาม

“เอ่อ… การเบิกค่ าแรงล่วงหน้ าจากมาดามโอเรียนน่ า ไม่ ต้องใช้


ลายเซ็นของคุณหรื อ?”

ไคลน์ พยายามอธิบายด้ วยภาษาที่ง่ายที่สุด

“หืม… ไม่ จาเป็ น แค่ มีโรแซนไปด้ วยก็ยืนยันได้ แล้ว”


ดันน์ ชี้นวิ้ ไปยังสตรีผมน้าตาลขณะมอบคาตอบให้ ไคลน์
หัวหน้ า… องค์ กรเราบริหารจัดการเงินได้ ห่วยแตกเกินไปแล้ว…
ไคลน์ กลืนถ้ อยคาตัดพ้อลงคอและรีบเดินออกจากห้ องไปพร้ อมโร
แซน

ทันใดนั้น เสี ยงดันน์ ตะโกนไล่หลัง

“เดี๋ยวก่อน ยังมีอีกเรื่ อง”

ให้ จบทีเดียวไม่ ได้ รึไง? ไคลน์ หันหลังกลับพร้ อมกับปั้นรอยยิม้


จอมปลอม

“ครับ?”

ดันน์ ใช้ มือข้ างหนึ่งนวดคลึงขมับก่อนอธิบายต่ อ

“ถ้ าไปหาลุงนีลล์แล้ว อย่ าลืมเบิกกระสุ นปราบมารด้ วย”

“ผมเนี่ยนะ? กระสุ นปราบมาร?”

ไคลน์ ถามเสี ยงหลง

“ลูกโม่ ของเวิร์ชยังอยู่กับคุณใช่ ไหม? ไม่ ต้องนามาคืนพวกเรา


หรอกนะ”
ดันน์ สอดมือเข้ าไปในกระเป๋าเสื้ อกันลม

“ถ้ ามีกระสุ นปราบมาร หากคุณบังเอิญเผชิญหน้ ากับเหตุการณ์


เหนือธรรมชาติเข้ า มันจะช่ วยปกป้องชีวิตคุณได้ … หรื ออย่ างน้ อย
ก็มอบกล้าเพิม่ นิดหน่ อย”

ประโยคสุ ดท้ าย… หัวหน้ าไม่ ต้องพูดก็ได้

ไคลน์ ไม่ มัวจินตนาการถึงสิ่ งเร้ นลับเหนือธรรมชาติให้ ปวดหัว


มันพยักหน้ ารับทันที

“เข้ าใจแล้วครับ ผมจะจาไว้ ”

“แต่ อันนีต้ ้ องใช้ เอกสารจากผม ช่ วยรอสั กครู่”

เมื่อกล่าวจบ ดันน์ นั่งลงพร้ อมกับหยิบปากกาหมึกแดงเข้ ม


ออกมาเขียน ‘โน๊ ต’ แผ่ นหนึ่งใส่ กระดาษ ก่อนจะเซ็นและปั๊มตรา
ประทับ

“ขอบคุณครับ หัวหน้ า”

ไคลน์ รับกระดาษพลางกล่าวขอบคุณ จากนั้นก็หันหลังกลับ


เตรียมเดินออกจากน้ อง
“เดี๋ยวก่อน”
ดันน์ เรียกไล่หลังอีกครั้ง

…หัวหน้ า ทั้งที่คุณดูเหมือนชายหนุ่มสุ ขภาพดีวัยสามสิ บ แต่


กลับมีอาการของโรคความจาเสื่ อมแล้วหรื อ?

ไคลน์ ฝืนเค้ นยิม้ ด้ วยสี หน้ าจืดชื ด

“ครับ? ว่ า?”
“ผมลืมว่ าคุณไม่ เคยฝึ กยิงปื นมาก่อน กระสุ นปราบมารอาจ
ไม่ ได้ ใช้ ประโยชน์ มากนัก เอาแบบนีด้ ีกว่ า… เบิกกระสุ นปื นแบบ
ธรรมดาวันละสามสิ บนัด แล้วหาโอกาสไปซ้ อมยิงที่ช้ ันใต้ ดินของ
บ้ านเลขที่สาม ตั้งอยู่หัวมุมถนนซุตแลน

“ลู่ซ้อมยิงเกือบทั้งหมดจะเป็ นของเจ้ าหน้ าที่ตารวจปรกติ แต่ มี


อยู่หนึ่งลู่ที่เหลือไว้ เป็ นของเหยี่ยวราตรีโดยเฉพาะ

“อ๊ะ! อย่ าลืมขอตราเจ้ าหน้ าที่จากลุงนีลล์ด้วย ไม่ อย่ างนั้นคุณจะ


เข้ าไปใช้ บริการไม่ ได้ ”

ดันน์ ใช้ มือลูบหน้ าผากอย่ างตาหนิตัวเอง มันขอโน๊ ตในมือไคลน์


กลับไปเขียนเพิม่ ก่อนจะปั๊มตราประทับและเซ็นลายเซ็นทับ
“นักแม่ นปื นมือฉมังเกิดจากการกินกระสุ นเข้ าไปนับไม่ ถ้วน
อย่ าลืมคานีเ้ ชียว”

ดันน์ ส่งโน๊ ตที่ถูกแก้ไขคืนให้ ไคลน์

“เข้ าใจแล้วครับ”

ตัวมันที่หวาดผวาต่ อสิ่ งเร้ นลับเป็ นพิเศษ ไคลน์ สาบานกับ


ตนเองว่ าจะเข้ าไปซ้ อมยิงปื นทุกวัน

ขณะเดินไปหน้ าประตู ไคลน์ ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะบิดตัว


กลับไปถาม

“หัวหน้ า มีอะไรอีกไหมครับ?”

“ไม่ แล้ว”

ดันน์ ผงกศีรษะหนักแน่ น

ไคลน์ ถอนหายใจยาว มันเดินตรงไปที่ประตูด้วยความรู้สึก


ประหลาด ก่อนที่สัญชาตญาณจะดลใจให้ หันกลับมาถามดันน์ อีก
ครั้ง

“ไม่ มีแน่ นะครับ?”


เมื่อยืนยันแน่ ชัด ในที่สุดไคลน์ ก็ได้ ออกจากห้ องผู้คุมประตูยานิส
เสี ยที

“หัวหน้ าเป็ นแบบนีเ้ สมอ เขามักหลงลืมในหลายเรื่ อง”

ขณะโรแซนเดินเคียงข้ างไคลน์ หล่อนกระซิบกระซาบนินทา


หัวหน้ าตัวเองด้ วยเสี ยงแผ่ วเบา

“คุณยายของฉันยังความจาดีกว่ าเขาเลย แต่ โชคยังดีที่หัวหน้ าไม่


ค่ อยลืมเรื่ องสาคัญ…
“ไคลน์ สินะ! นับแต่ นไี้ ปฉันจะเรียกนายว่ าไคลน์ ! มาดามโอเรียน
น่ าเป็ นคนอัธยาศัยดีมาก เธอคือหญิงสาวประเภทที่สนิทกับผู้คน
ได้ ง่าย บิดาเป็ นช่ างนาฬิ กามือฉมัง…”

ไคลน์ เดินไปพลางฟังสาวผมน้าตาลนินทาเรื่ อยเปื่ อย เพียงไม่


นาน คนทั้งสองกลับขึน้ มายังชั้นบนของตึกอีกครั้ง โรแซนเปิ ด
ประตูห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้ ามกับห้ องบันไดหิน ภายในมีมาดามโอ
เรียนน่ ากาลังกัมหน้ าทางาน

สตรีผมดาสวมเดรสลูกไม้ ประดับประดาด้ วยลวดลายวิจิตร อายุ


อานามราวสามสิ บ ทรงผมหยักโศกเข้ ากับยุคสมัย นัยน์ ตาเขียว
มรกตใสกระจ่ าง รอยยิม้ ค่ อนข้ างมีเสน่ ห์ นับเป็ นสตรีที่สง่ างาม
และเลอโฉมคนหนึ่ง
หลังจากโรแซนถ่ ายทอดคาพูดดันน์ ·สมิทให้ เธอฟัง โอเรียนน่ า
หยิบโน๊ ตแผ่ นนึ่งขึน้ มาพร้ อมกับเขียนรายละเอียดการเบิกเงิน
ล่วงหน้ า

“เซ็นตรงนี้ มีตราประทับไหม? ถ้ าไม่ มีให้ ใช้ ลายนิว้ มือแทน”

“ครับผม”

ไคลน์ เริ่มคุ้นชินกับขั้นตอนราชการ มันปฏิบัติตามคาแนะนาจน


เสร็จสรรพ
โอเรียนน่ านากุญแจทองแดงออกจากลิน้ ชักและเดินไปยังห้ อง
นิรภัย หลังจากนับธนบัตรอยู่ครู่หนึ่ง เธอหันมาอมยิม้ ให้ ไคลน์

“คุณโชคดีมากที่พวกเรามีเงินสดพอ… ว่ าแต่ ไคลน์ คุณถูก


หัวหน้ าชักชวนเพราะเกี่ยวข้ องกับคดีเหนือธรรมชาติมาและมี
ความพิเศษอยู่ในตัวใช่ ไหม?”

“ใช่ ครับ สั ญชาตญาณของคุณแม่ นมาก”

ไคลน์ เชยชมจากใจ

โอเรียนน่ าหยิบธนบัตรออกมาทั้งหมดสี่ ใบ ทุกใบล้วนมันมีพื้น


หลังสี เทาและเขียนด้ วยหมึกดา หลังจากปิ ดห้ องนิรภัย เธอเดิน
กลับมาหาไคลน์ พร้ อมรอมยิม้
“นั่นเพราะฉันเองก็เหมือนกัน”

“จริงหรื อครับ?”

ไคลน์ ทาทีตกใจตามมารยาท

“ยังจาคดีฆาตกรต่ อเนื่องในทิงเก็นเมื่อสิ บหกปี ก่อนได้ ไหม?”

โอเรียนน่ ายื่นธนบัตรสี่ ใบให้ ไคลน์


“…จาได้ ครับ มีเด็กสาวถูกสั งหารต่ อเนื่องห้ าศพ บางคนถูกจอม
ชาแหละโรคจิตนาอวัยวะภายในออกไป มักเป็ นพวกหัวใจหรื อ
กระเพาะอาหาร แม่ ของผมมักนาคดีนี้มาขู่น้องสาวเสมอสมัยที่
พวกเรายังเด็ก”

ไคลน์ เล่าพลางแสดงสี หน้ าครุ่นคิด

เมื่อได้ รับธนบัตรมา มันทาการตรวจสอบอย่ างละเอียด สองใบ


เป็ นธนบัตรห้ าปอนด์ ส่ วนอีกสองใบเป็ นธนบัตรหนึ่งปอนด์
ทั้งหมดมีพื้นหลังสี เทาและเขียนด้ วยหมึกดา สี่ มุมสลักลวยลาย
ซับซ้ อนด้ วยหมึกพิเศษเพื่อป้ องกันการคัดลอก

ธนบัตรประเภทแรกจะมีขนาดใหญ่ กว่ าแบบหลังนิดหน่ อย


กึ่งกลางเป็ นภาพของอดีตกษัตริย์โลเอ็นลาดับห้ า บรรพบุรุษของ
กษัตริย์จอร์ จที่สาม พระนามเดิมคือ เฮนรี·ออกัสตัส
ใบหน้ าเรียวกลม เหนือศีรษะสวมที่คาดผมสี ขาว ดวงตา
ค่ อนข้ างตี่ สี หน้ าขึงขังจริงจัง แต่ ด้วยเหตุผลบางประการ ไคลน์
กลับรู้สึกสนิทชิดเชื้ออย่ างน่ าประหลาด

นีค่ ือธนบัตรห้ าปอนด์ เชียวนะ!


เทียบเท่ ารายได้ ของเบ็นสั นสี่ สัปดาห์ เต็ม!

ถัดมาเป็ นแบงค์ หนึ่งปอนด์ กึ่งกลางแบงค์ มีใบหน้ าของอดีต


กษัตริย์โลเอ็นพระองค์ ก่อน บิดาของกษัตริย์จอร์ จที่สาม กษัตริย์วิ
ลเลี่ยม·ออกัสตัสทีีหก

วิลเลี่ยมเป็ นบุรุษหนวดเข้ ม ดวงตาขึงขังเฉียบคม สมัยครอง


บัลลังก์ มันคือผู้ปลดปล่อยอาณาจักรโลเอ็นให้ เป็ นอิสระจาก
ขนบธรรมเนียมโบราณ ส่ งผลให้ ประเทศพัฒนาอย่ างก้ าวกระโดด
จนกลายเป็ นอาณาจักรชั้นนา

ทั้งคู่ล้วนเป็ น ‘กษัตริย์ที่ดี’
ไคลน์ คิดเช่ นนีข้ ณะสู ดดมกลิ่นอันหอมหวลและสดชื่ นของหมึก
ธนบัตร

“ถูกต้ อง ถ้ าเหยี่ยวราตรีมาไม่ ทัน เหยื่อคนที่หกก็จะเป็ นชื่ อของ


ฉัน…”
เสี ยงของโอเรียนน่ าสั่ นเครื อเล็กน้ อย ราวกับเธอยังไม่ ลืมความ
ทรงจาอันขื่นขมที่ผ่านมานานกว่ าสิ บหกปี แล้ว

“ถ้ าจาไม่ ผิด ฆาตกรต่ อเนื่อง… ไม่ สิ… จอมชาแหละโรคจิตนั่น


เป็ นผู้วิเศษใช่ ไหม?”

ไคลน์ กล่าวขณะบรรจงพับธนบัตรอย่ างปราณีตและเก็บไว้ ใน


กระเป๋าเสื้ อ จากนั้นก็ใช้ ฝ่ามือตบซ้าอย่ างนุ่มนวลเพื่อตรวจสอบให้
แน่ ใจว่ ายังอยู่ดี

“ค่ ะ”

มาดามโอเรียนน่ าผงกศีรษะหนักแน่ น

“อันที่จริง มีเหยื่อเคราะห์ ร้ายที่ไม่ เป็ นข่ าวอีกมาก สาเหตุที่ถูก


จับได้ เพราะ มันกาลังเตรียมทาพิธีกรรมบูชาปี ศาจ”

“ถึงต้ องล่าอวัยวะเด็กสาวสิ นะ… ขอโทษด้ วยครับมาดามโอ


เรียนน่ า ที่ผมทาให้ นึกถึงความทรงจาเลวร้ าย”

ไคลน์ กล่าวตาหนิตัวเอง

โอเรียนน่ ายิม้

“ฉันเลิกกลัวนานแล้ว… ในช่ วงนั้นกาลังศึกษาที่โรงเรียนบัญชี


พอดี ดันน์ จึงกล่าวชักชวนจนได้ มาทางานที่นี่
“เอาล่ะ ฉันไม่ รบกวนเวลาของคุณแล้ว ยังต้ องไปหาลุงนีลล์ อีก
ใช่ ไหม”

“แล้วพบกันใหม่ ครับ มาดามโอเรียนน่ า”

ไคลน์ ถอดหมวกเลื่อนมาไว้ ที่อกพร้ อมกับก้มศีรษะคานับ ก่อน


จะเดินกลับลงไปชั้นล่างอีกครั้ง มันไม่ ลืมที่จะใช้ มือตบกระเป๋าเพื่อ
ยืนยันว่ าธนบัตรรวมสิ บสองปอนด์ ยังอยู่ดี
เมื่อถึงสี่ แยก ไคลน์ เลีย้ วขวาและเดินตรงไปยังคลังอาวุธ ใช้ เวลา
เพียงไม่ นานก็มองเห็นประตูเหล็กที่ปิดค้ างไว้ ครึ่งบาน

ก็อก! ก็อก! ก็อก!

เมื่อเคาะจบ เสี ยงแหบพร่ าของชายชราดังจากด้ านใน

“เข้ ามา”

ไคลน์ ผลักประตูเข้ าไป แล้วก็ได้ พบห้ องสุ ดคับแคบที่จุได้ เพียง


โต๊ ะทางานหนึ่งตัวและเก้าอีอ้ ีกสอง

ผนังภายในห้ องมีประตูเหล็กบานใหญ่ อีกชั้นที่ล็อคไว้ แน่ นหนา


หลังโต๊ ะทางานมีชายแก่ ชุดคลุมสี ดากาลังนั่งบนเก้าอี้ มันคร่าเคร่ ง
อ่านแผ่ นกระดาษสี เหลืองซีดโดยอาศัยแสงสว่ างจากโคมไฟแก๊ส
เมื่อไคลน์ เดินเข้ ามา ชายชราเงยหน้ าขึน้ มอง

“ไคลน์ ·โมเร็ตติใช่ ไหม? โรแซนเล่าให้ ฟังว่ าเจ้ าเป็ นชายหนุ่มที่


สุ ภาพ… เธอแอบเข้ ามาเล่าเมื่อครู่ล่ะนะ ฮะฮะ!”

“มิสโรแซนเองก็อัธยาศัยดีมากเช่ นกัน สวัสดียามบ่ ายครับ


มิสเตอร์ นีลล์”

ไคลน์ ถอดหมวกคานับ

“นั่งลงก่อน”

เมื่อกล่าวจบ นีลล์ชี้นวิ้ ไปยังกระป๋องสี เงินที่สลักลวดลายดอกไม้


ซึ่งวางอยู่บนโต๊ ะ

“รับกาแฟบดสั กถ้ วยไหม?”

ริ้วรอยบริเวณดวงตาและรอบริมฝี ปากของลุงนีลล์ค่อนข้ างลึก


นัยน์ ตาสี แดงเข้ มเริ่มปรากฏอาการขุ่นมัว

“คุณไม่ ดื่มกาแฟหรื อ?”

ไคลน์ ถามหลังจากชาเลืองมองถ้ วยชาจีนของนีลล์ที่ใส่ น้าเปล่าไว้


เต็ม
“ฮะฮะ! เป็ นกฏของตัวฉันเองที่จะไม่ ดื่มกาแฟหลังจากบ่ าย
สาม”

นีลล์อธิบายอย่ างอารมณ์ ดี

“เพราะอะไรครับ?”

ไคลน์ ใคร่ ร้ ู
มุมปากนีลล์กระตุกเล็กน้ อย มันจ้ องมองเข้ าไปในดวงตาไคลน์
พร้ อมกับอธิบาย

“ฉันกลัวว่ ามันจะทาให้ นอนไม่ หลับตอนกลางคืน ถ้ าเป็ นอย่ าง


นั้น ฉันจะได้ ยินเสี ยงที่ไม่ อยากได้ ยินของสิ่ งมีชีวิตปริศนา”

ไคลน์ องึ้ ไปพักใหญ่ เมื่อสานต่ อบทสนทนาเดิมไม่ ได้ จึงหาเรื่ อง


คุยในประเด็นใหม่

“มิสเตอร์ นีลล์ ผมควรอ่านเอกสารหรื อหนังสื อเล่มไหนดีครับ?”

ขณะกล่าวจบ ไคลน์ ยื่นโน๊ ตที่ดันน์ เขียนให้

“อะไรก็ได้ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เรื่ องราวซับซ้ อน หรื อ


เรื่ องราวที่ไม่ ปะติดปะต่ อ… ด้ วยความสั ตย์ จริง ฉันพยายามศึกษา
พวกมันมานานแล้ว แต่ กลับถอดรหัสข้ อความได้ ในระดับผิวเผิน
เท่ านั้น

“ปัญหาคือ ฉันต้ องไล่อ่านเอกสารอื่นเพิม่ เติมเพื่อยืนยันให้ ได้ ว่า


เนื้อหาในเอกสารดังกล่าวมีบริบทกล่าวถึงสิ่ งใด…. ต้ องเสี ยเวลา
อ่านทั้งไดอารี่ หนังสื อสมัยใหม่ ถ้ อยคาจารึก และอีกมากมายเพื่อพ
ยายยามทาความเข้ าใจ…”

นีลล์ตัดพ้อ
“ตัวอย่ างเช่ นเอกสารเหล่านี้ ฉันจาเป็ นต้ องศึกษาตารา
ประวัติศาสตร์ อย่ างหนักเพื่อให้ เข้ าใจบริบท”

“ทาไมกันครับ?”

ไคลน์ ขมวดคิว้

นีลล์ชี้ไปยังแผ่ นกระดาษสี เหลืองด้ านหน้ า

“นี่คือส่ วนหนึ่งของไดอารีโรซายล์ ·กุสตาฟเล่มที่หายไปก่อนเขา


จะเสี ยชีวิต… จักรพรรดิโรซายล์ต้องการบันทึกทุกสิ่ งไว้ เป็ น
ความลับ จึงประดิษฐ์ สัญลักษณ์ และอักษรขึน้ เองเพื่อมิให้ ผ้ ใู ด
ถอดรหัสได้ ”
จักรพรรดิโรซายล์?
นักเดินทางข้ ามโลกรุ่นพีค่ นนั้นน่ ะหรื อ?

ไคลน์ ชะงักเล็กน้ อยก่อนเริ่มตั้งใจฟัง

“หลายคนเชื่ อว่ าเขายังไม่ ตาย แต่ กลายเป็ นเทพเร้ นลับ ด้ วยเหตุ


นี้ จึงมีลัทธิจานวนมากกราบไหว้ บูชาจักรพรรดิโรซายล์ หรื อ
แม้ กระทั่งประกอบพิธีกรรมต้ องห้ ามเพื่อหยิบยืมพลังจากจากเขา

“เหยี่ยวราตรีของพวกเราได้ รับงานให้ ปราบปรามลัทธินอกรีต


เหล่านีบ้ ่ อยครั้ง จึงมีโอกาสยึดไดอารีท้งั ของจริงและฉบับคัดลอก
เป็ นของกลาง”

นีลล์ส่ายศีรษะ

“แต่ จนกระทั่งปัจจุบัน ยังไม่ มีใครถอดรหัสสั ญลักษณ์ พเิ ศษ


เหล่านีไ้ ด้ วิหารศักดิ์สิทธิ์จึงอนุญาตให้ เหยี่ยวราตรีมีฉบับคัดลอก
ในครอบครองเพื่อการศึกษา เผื่อว่ าจะมีใครถอดรหัสสาเร็จเข้ าสั ก
วัน”

เมื่อกล่าวจบ นีลล์เผยรอยยิม้ มีเลศนัย

“แต่ ฉันถอดรหัสได้ แล้วบางส่ วน มันเป็ นสั ญลักษณ์ ที่สื่อถึง


ตัวเลข เมื่อตีความอย่ างละเอียดจะพบว่ า แผ่ นกระดาษเหล่านี้คือได
อารีของจักรพรรดิโรซายล์จริงๆ!
“ฉันพยายามถอดรหัสเพิม่ เติมโดยเปรียบเทียบกับเอกสารอื่นใน
ยุคสมัยที่จักรพรรดิโรซายล์ยังมีชีวิตอยู่ รวมถึงเหตุการณ์ สาคัญที่
เกิดขึน้ ในช่ วงนั้น จะได้ เข้ าใจเนื้อหาของไดอารีและอักษรพิเศษได้
ง่ ายขึน้

“เป็ นยังไงบ้ าง? ฉันอัจฉริยะใช่ ไหม?”

ชายชราผมขาวมาดสง่ างามกาลังจ้ องมองไคลน์ ด้วยแววตาเปล่ง


ประกาย
ไคลน์ พยักหน้ ารับ

“ใช่ ครับ”

“ฮะฮะ! พรุ่งนีท้ ้งั วัน ไว้ เจ้ าค่ อยศึกษามาไดอารีกับฉัน”

นีลล์ยื่นแผ่ นกระดาษสี เหลืองมาหาไคลน์

หลังจากกลับหัวกลับหางให้ เข้ าที่และเริ่มต้ นอ่าน ชายหนุ่มพลัน


ตกตะลึงสุ ดขีด หัวใจแทบหยุดเต้ น

แม้ ‘สั ญลักษณ์ ’ จะถูกคัดลอกด้ วยลายมือไก่เขี่ยและมีบางจุดผิด


ไปจากที่ควรเล็กน้ อย แต่ มันไม่ มีทางหลงลืมสั ญลักษณ์ เหล่านี้…
ไคลน์ คุุ้นชินกับพวกมันมานานมาก…
ภาษาจีน!

สั ญลักษณ์ บัดซบเหล่านีค้ ืออักษรจีนกลาง!


ราชันย์ เร้ นลับ 21 : เพื่อนเก่าต่ างถิ่น

ไคลน์ หลงนึกไปชั่วพริบตาว่ ามันกลับมายังโลกเก่าแล้ว ทว่ า แสง


จากโคมไฟแก๊สสี เหลืองนวลที่มีตะแกรงเหล็กล้อมได้ ทาให้ ชาย
หนุ่มต้ องยอมรับความจริง

สายตาชาเลืองเห็นกระป๋องกาแฟบดสี เงินเงางามบนโต๊ ะทางาน


ไม่ ผิดแน่ มันยังอยู่บนโลกใบเดิม โลกแห่ งจักรกลและไอน้า

นักเดินทางข้ ามโลกรุ่นพี่ จักพรรดิโรซายล์ แท้ จริงแล้วเป็ นเพื่อน


ร่ วมชาติหรอกหรื อ?

มันใช้ อักษรจีนกลางในการจดบันทึกไดอารี ซึ่งไคลน์ มั่นใจ โลก


ใบนีไ้ ม่ มีการประดิษฐ์ อักษรจีนกลางแน่ นอน

เป็ นความรู้สึกที่บรรยายไม่ ถูก ความรู้สึกเหมือนกับได้ พบเพื่อน


เก่าต่ างถิ่น ประหนึ่งนักเรียนนอกได้ พบคนจากชาติเดียวกันโดย
บังเอิญตามท้ องถนน เป็ นความรู้สึกโหยหาและเกิดสายสั มพันธ์
อย่ างน่ าประหลาด

ไคลน์ รีบอ่านไดอารีท้งั สามหน้ า

“18 พฤจิกายน การทดลองอันยิ่งใหญ่ และน่ าตื่นเต้ นได้ เกิดความ


ผิดพลาด แต่ ก็ทาให้ เราได้ พบสหายน่ าสงสารที่ติดอยู่ท่ามกลาง
ความมืดมิดและลมพายุกระโชก เจ้ านั่นเข้ าใกล้โลกแห่ งความจริง
ได้ เพียงเดือนละครั้งในคืนจันทร์ เต็มดวง เป็ นสหายที่ทาไม่ ได้
แม้ แต่ ละส่ งเสี ยงตะโกน โชคดีแค่ ไหนแล้วที่ได้ พานพบวีรบุรุษแห่ ง
ยุคสมัยอย่ างเรา!

“หลังจากอ่านประโยคเมื่อครู่จบ เราเกิดความรู้สึกหดหู่เล็กน้ อย
ภาษาจีนของเราเริ่มมีสานวนคล้ายกับโปรแกรมแปลภาษาเข้ าไป
ทุกวัน ช่ วงเวลากว่ าสี่ สิบปี ผ่ านไปไวประหนึ่งดีดนิว้ มือ ความทรง
จาในอดีตเลือนลางราวกับเป็ นเพียงความฝัน”
“ปี 1184 วันที่ 1 มกราคม ในงานเลีย้ งฉลองปี ใหม่ มาดามฟลอ
เนอร์ แจ่ มมาก!”

“2 มกราคม อัครราชทูตของเรามีแต่ พวกหัวขีเ้ ลื่อย!”

“3 มกราคม เรารีบร้ อนเกินไปในอดีต ถ้ าเราทราบความจริงแต่


แรก ป่ านนีค้ งเลือกเส้ นทาง ‘ผู้ฝึกหัด’ ‘นักทานาย’ หรื อไม่ ก็ ‘นัก
จารกรรม’ ไปแล้ว น่ าเสี ยดายที่เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ ได้

“4 มกราคม ทาไมลูกๆ ของเราถึงได้ งี่เง่ าขนาดนี?้ อุตส่ าห์ ยา้


เตือนไปหลายหนว่ าอย่ าถูกพวกนักต้ มตุ๋นเหล่านั้นหลอกเอาได้ !

“กุญแจสาคัญของโอสถมิใช่ การ ‘ชิงพลัง’ มาเป็ นของตัวเอง แต่


เป็ นการ ‘ย่ อยพลัง’ ให้ หมดต่ างหาก! หลักสาคัญไม่ ได้ อยู่ที่การรีด
เร้ นพลังออกมาใช้ แต่ เป็ นการ ‘สวมบทบาท’ ให้ สมจริง!
“และชื่ อของโอสถก็มิได้ ถูกตั้งขึน้ อย่ างไร้ ความหมาย แต่ มันคือ
กุญแจคาสั ญที่สุดของโอสถทุกชนิด! ต้ องสร้ างจินตนการในสมอง
ให้ ชัดเจนและเป็ นจริงขึน้ มา… ‘หลัก’ สาคัญอยู่ที่การย่
ี อยพลังให้
หมด!”

“9 กันยายน ฝ่ ายศัตรูได้ รวมหัวตั้งพันธมิตรขึน้ แล้ว ฟุซัคจาก


เหนือ โลเอ็นจากตะวันออก และเฟเนพ็อตจากใต้ ในที่สุดศัตรูของ
เราก็เริ่มเคลื่อนไหวสั กที

“แต่ บอกเลยว่ าไม่ กลัว เดี๋ยวจะสอนให้ ร้ ูเองว่ าเทคโนโลยีและภูมิ


ปัญญาสาคัญกว่ าผู้วิเศษลาดับต่าจานวนมากยังไง! จานวนคนที่
น้ อยกว่ าไม่ ใช่ ปัญหาเลยสั กนิด

“ส่ วนผู้วิเศษลาดับสู งฝั่งมันน่ ะหรื อ? สงสั ยจะลืมกันแล้วสิ นะ


ว่ าฉันคนนีค้ ือใคร!”

“23 กันยายน เราขาดการติดต่ อกับเรื อที่ส่งออกไปค้ นหา


‘ดินแดนเทพทอดทิง้ ’

“สงสั ยต้ องสร้ างเทคโนโลยีโทรเลขไร้ สายใช้ เพื่อการนีโ้ ดยเฉพาะ


หวังว่ าจะไม่ ถูกพายุกลางทะเลรบกวนสั ญญาณเอานะ”
“24 กันยายน มิสอิธาก้ าเลอโฉมยิ่งกว่ ามาดามฟลอเนอร์ หลาย
เท่ า! คิดถึงสมัยยังหนุ่มจังเลยน้ า~”

เนื่องด้ วยความซับซ้ อนและรายละเอียดยิบย่ อยของอักษรจีน


กลาง คนยุคสมัยปัจจุบันจึงต้ องเขียนให้ มีขนาดใหญ่ กว่ าปรกติ
เพื่อจะได้ เก็บรายละเอียดครบถ้ วน ส่ งผลให้ หน้ ากระดาษหนึ่งมี
เพียงไม่ กี่บรรทัด แถมฉบับคัดลอกสาหรับฝึ กถอดรหัสก็ไม่ มีหน้ า
หลัง

แต่ ถึงอย่ างนั้น ไคลน์ ก็ได้ ดื่มด่ากับอารมณ์ อันหลากหลายที่ยาก


อธิบายหลังจากได้ อ่านภาษาจีนอีกครั้ง รวมถึงข้ อมูลแสนมีค่าที่
จักรพรรดิโรซายล์เขียนอธิบายเกี่ยวกับโอสถ สิ่ งนีจ้ ะเป็ นทางเลือก
ให้ มันตัดสิ นใจเส้ นทางโอสถง่ ายขึน้

ไดอารีท้งั สามแผ่ นมีช่วงเวลาไม่ ปะติดปะต่ อกัน ดูเหมือนโร


ซายล์จะระบุปีเฉพาะวันขึน้ ปี ใหม่ เท่ านั้น ส่ งผลให้ ไคลน์ ไม่
สามารถเดาได้ เลยว่ า เดือนและวันที่ถูกเขียนเกิดขึน้ ในปี ใดบ้ าง
รวมถึงปริศนาของ ‘สหายน่ าสงสาร’ ที่จักรพรรดิโรซายล์บังเอิญ
พบเข้ ากลางทะเล

แถมยังมี ‘การย่ อย’ และ ‘สวมบทบาท’ นั่นอีก… หมายถึงอะไร


กันแน่ ?

แล้วดินแดนเทพทอดทิง้ อยู่ที่ไหน?

คาถามมากมายกาลังอัดแน่ นภายในสมองไคลน์ มันต้ องการที่จะ
รวมรวบไดอารีของจักรพรรดิโรซายล์ให้ ครบทุกแผ่ นทันที

จากนั้นจะบรรจงอ่านตั้งแต่ ปกหน้ าไปจนถึงปกหลัง!

“ไคลน์ ?”

ลุงนีลล์ขมวดคิว้ ถาม
ไคลน์ ถูกดึงสติกลับมาอีกครั้ง มันรีบอมยิม้ และตอบกลบเกลื่อน

“ผมคิดว่ าตัวเองเป็ นคนพิเศษ จึงพยายามถอดรหัสข้ อความ


เหล่านีใ้ ห้ ได้ …”

“ฮะฮะ! คนหนุ่มเนี่ยน้ า”

ลุงนีลล์พยักหน้ าพลางฉีกยิม้

“ในอดีต ฉันก็เคยคิดว่ าตัวเองเป็ นคนพิเศษเหมือนกัน”

ไคลน์ อ่านข้ อความในกระดาษอย่ างตั้งใจอีกหลายครั้งเพื่อมิให้


ตกหล่น หลังจากยืนยันความทรงจา มันทาการยื่นแผ่ นไดอารี
กลับคืนให้ นีลล์ก่อนจะถามหยั่งเชิง
“ไดอารีมีเท่ านีห้ รื อครับ?”

ผมอยากอ่านไดอารีจักรพรรดิโรซายล์ท้งั หมด!

“เจ้ าคิดว่ ามันหาง่ ายนักหรื อไง?”

ลุงนีลล์รับแผ่ นกระดาษคืนพร้ อมกับย้ อนถามกลับ ร่ องเหี่ยวย่ น


ลึกขึน้ ขณะแสดงสี หน้ าเย้ ยหยันเด็กหนุ่ม

“ในแต่ ละปี มีคดีเหนือธรรมชาติที่เกี่ยวข้ องกับผู้วิเศษเพียงไม่


มาก… สาเหตุหลักเกิดจากการลดจานวนลงอย่ างรวดเร็วของสั ตว์
วิเศษบนทวีปเหนือ หากไม่ มีพวกมัน มนุษย์ ก็ขาดวัตถุดิบสาหรับ
สร้ างโอสถ ส่ งผลสื บเนื่องให้ จานวนผู้วิเศษลดลงตามไปด้ วย

“เฮ่ อ… ในช่ วงหลายร้ อยปี ที่ผ่านมา มังกร คนยักษ์ และเอลฟ์


ต่ างกลายเป็ นเพียงสิ่ งมีชีวิตในบันทึกตานาน แม้ กระทั่งสั ตว์ ทะเลก็
ยังลดจานวนลงอย่ างน่ าใจหาย”

เมื่อได้ ยินเช่ นนี้ ไคลน์ พลันนึกถึงมุกตลกสมัยอยู่โลกเก่า มัน


กล่าวออกไปทันที

“ผมคิดว่ าเราควรก่อตั้งสมาคมพิทักษ์ มังกรและคนยักษ์ ได้ แล้ว


นะ”
ลุงนีลล์สับสนเล็กน้ อยหลังจากได้ ยิน ต้ องใช่ เวลาสั กพักกว่ าจะ
เข้ าใจว่ าเป็ นมุกตลก ทันใดนั้น ชายชราใช้ มือทุบโต๊ ะพร้ อมกับ
หัวเราะเสี ยงดังจนหมดสิ้นมาดผู้ดี

“ฮะฮ่ าฮ่ าฮ่ า! ไคลน์ ! ฉันชอบมุกตลกของเจ้ า! นี่คือจุดเด่ นของ


อาณาจักรโลเอ็น! คนหนุ่มต้ องมีอารมณ์ ขันเข้ าไว้ !

“แต่ ฉันว่ าเราไม่ ควรจากัดวงแคบเกินไป ทาไมถึงมีเพียงมังกร


และคนยักษ์ ล่ะ? ฉันคิดว่ าควรเปลี่ยนชื่ อเป็ น… สมาคมพิทักษ์ สัตว์
เวทมนตร์ ”
“ไม่ ได้ ไม่ ได้ พวกเราจะละเลยพฤกษาที่น่าสงสารไม่ ได้
เด็ดขาด”

ไคลน์ ส่ายศีรษะ

คนทั้งสองหันมองกันก่อนจะเปล่งเสี ยงอย่ างพร้ อมเพรียงว่ า :

“สมาคมพิทักษ์ สิ่งมีชีวิตเวทมนตร์ !”

เสี ยงหัวเราะของสองบุรุษดังขึน้ อีกครั้งอย่ างอบอุ่น บรรยากาศ


เคอะเขินก่อนหน้ าได้ เจือจางลงอย่ างชัดเจน

“หายากที่สมัยนี้จะมีคนหนุ่มน่ าสนใจแบบเจ้ า… ฉันพูดถึงไหน


แล้วนะ?”
ลุงนีลล์อมยิม้ ด้ วยใบหน้ าเหี่ยวย่ น

“นึกออกแล้ว… เมื่อผู้วิเศษลดจานวนลง กลุ่มคนที่บูชา


จักรพรรดิโรซายล์จึงเหลือเพียงไม่ ถึงหยิบมือ การที่พวกเรา
ครอบครองถึงสามหน้ าจึงนับว่ ามากแล้ว… แต่ ถ้าเป็ นวิหารใหญ่
หน่ อยหรื อมุขมณฑลบิชอป บางทีอาจมีไดอารีหน้ าอื่นเก็บรักษา
ไว้ …”

หลังจากพึมพาอีกเล็กน้ อย นีลล์ก้มหน้ าอ่านโน๊ ตของดันน์ ที่


ไคลน์ ยื่นให้

“เป็ นกระสุ นแบบไหน? ปื นพก ปื นไรเฟิ ล หรื อปื นอัดไอน้า?”

“ลูกโม่ ครับ”

ไคลน์ ตอบกลับตามจริง

“เดี๋ยวเข้ าไปหยิบให้ แล้วก็… เจ้ ามีซองปื นรักแร้ หรื อยัง? ถ้ า


ผู้ชายอย่ างเราปล่อยให้ เป้ากางเกงตุงในที่สาธารณะคงดูไม่ งามแน่ ”

ลุงนีลล์ปล่อยมุกตลกที่เพศชายเข้ าใจกันดี

“ยังครับ ผมต้ องกลับไปขออนุญาตหัวหน้ าก่อนรึเปล่า?”


ไคลน์ ยมิ้
ลุงนีลล์ลุกขึน้

“ไม่ จาเป็ น แค่ ลงบันทึกไว้ ก็พอ ซองปื นรักแร้ เป็ นแค่


เครื่ องประดับ พูดตามฉันนะ : เครื่ องประดับ!”

“คุณเคยเป็ นครูมาก่อนรึเปล่า?”

ไคลน์ ถามติดตลก
“เคยสอนที่โรงเรียนวันอาทิตย์ กับโรงเรียนกุศลอยู่บ้าง”

ลุงนีลล์โบกโน๊ ตในมือพลางก้ มหยิบกุญแจจากลิน้ ชัก ก่อนจะเดิน


ไปหยุดหน้ าประตูเหล็กซึ่งด้ านในเป็ นห้ องกว้ าง

ผู้วิเศษก็ไม่ ต่างจากคนธรรมดาเท่ าไร…

ไคลน์ พมึ พา จากนั้นก็ชาเลืองมองโต๊ ะทางานที่มีไดอารีสามแผ่ น


วางอยู่

จักรพรรดิโรซายล์ศึกษาถึงเรื่ องราวเหนือธรรมชาติของโลกใบนี้
จนถึงแก่นแท้ เลยสิ นะ…

ไดอารีของโรซายล์น้ นั ประเมินค่ าไม่ ได้


หากยังไม่ มีใครถอดรหัสสาเร็จ คนอื่นอาจมองเป็ นเพียงเศษ
กระดาษ แต่ สาหรับตัวมันที่อ่านจีนกลางออก กระดาษพวกนี้คือ
สมบัติที่มีมูลค่ ามหาศาล!

ได้ แต่ นึกสงสั ยว่ าไดอารีที่เหลือจะกระจัดกระจายอยู่แห่ งหน


ใดบ้ าง

ไม่ ว่าอย่ างไร ไคลน์ ก็ต้องรวบรวมให้ มากที่สุด เพื่อเข้ าถึง


ความลับอันลึกซึ้งของโลก…
สมองไคลน์ กาลังประมวลผลอย่ างแข็งขัน เป็ นการยากที่จะให้
สงบนิ่งหลังจากค้ นพบสิ่ งที่น่าเหลือเชื่ อเมื่อครู่

จนกระทั่งลุงนีลล์เดินออกมาจากห้ องพร้ อมกับปิ ดประตูเหล็ก

“กระสุ นปราบมารสิ บนัด กระสุ นลูกโม่ สามสิ บนัด ซองปื นรักแร้


หนังวัว แล้วก็ตราหน่ วยปฏิบัติการพิเศษที่เจ็ด… ลองนับจานวน
กับทดสอบเอาเองนะ จากนั้นค่ อยเขียนลงในบันทึกเบิก”

ลุงนีลล์นาอุปกรณ์ ที่ถูกเบิกแต่ ละชิ้นวางตั้งเรียงกัน

กระสุ นลูกโม่ บรรจุมาในกล่องกระดาษสี่ เหลี่ยม ตัวปลอกกระสุ น


มีสีเหลืองอร่ ามเงางามไม่ ต่างจากกระลุนลูกโม่ ที่โลกเก่ามากนัก
เพียงแต่ ขนาดจะเล็กกว่ านิดหน่ อย
สาหรับกระสุ นปราบมาร ลักษณะของมันเหมือนกับกระสุ น
ลูกโม่ ทุกประการ แต่ จะถูกบรรจุในกล่องเหล็กทนทาน และปลอก
ทาจากโลหะสี เงินเงางาม

ทว่ า เมื่อลองพิจารณาให้ ละเอียด กระสุ นปราบมารจะถูกสลัก


ลวดลายแปลกประหลาดและซับซ้ อนไว้ ที่ส่วนหัว ก้นกระสุ นเป็ น
รูปตราสั ญลักษณ์ ศักดิ์สิทธิ์—พื้นหลังสี ดาสนิท กึ่งกลางมีจุดสี ขาว
มาพร้ อมกับดวงจันทร์ สีแดงครึ่งเสี้ยว

ซองปื นรักแร้ ค่อนข้ างเหนียวและทนทานหากมองผิวเผิน มา


พร้ อมกับสายรัดที่ปรับขนาดได้ ตามใจชอบ ข้ างซองปื นเป็ นตรา
ตารวจขนาดใหญ่ ครึ่งฝ่ ามือ พื้นหลังทาจากโลหะสี เงินสลัก
ข้ อความเป็ นร่ องลึกเขียนไว้ ว่า ‘หน่ วยปฏิบัติการพิเศษที่เจ็ดแห่ ง
กรมตารวจอาโฮว่ า’

กึ่งกลางตราเป็ นสั ญลักษณ์ ดาบไขว้ และมงกุฏของกรมตารวจโล


เอ็น

“น่ าเสี ยดายที่ไม่ ใช่ ตราเหยี่ยวราตรี”

ไคลน์ เปรยเสี ยงอ่อย แต่ อีกใจก็เป็ นการถามหยั่งเชิง

ลุงนีลล์ไม่ กล่าวสิ่ งใด มันอมยิม้ พร้ อมกับส่ งสั ญญาณให้ ไคลน์


ทดสอบสวมซองปื นรักแร้
หลังจากถอดเสื้ อตัวนอกออก ไคลน์ พยายามดึงสายรัดของซอง
ปื นด้ วยท่ าทางเก้ๆ กังๆ ใต้ รักแร้ ซ้าย จนในที่สุดก็สวมสาเร็จ

“ไม่ เลว”

ไคลน์ สวมเสื้ อตัวนอกทับกลับเข้ าไป

หลังจากตรวจสอบความพอดีจนเรียบร้ อย ลุงนีลล์พยักหน้ า
อย่ างพึงพอใจ
“เหมาะกับเจ้ ามาก สายตาของฉันยังเฉียบแหลมเหมือนเคย”

ไคลน์ หยิบอุปกรณ์ ทเี่ บิกยัดใส่ กระเป๋าเสื้ อจนครบ จากนั้นก็


สนทนากับลุงนีลล์เรื่ อยเปื่ อยอีกครู่หนึ่งก่อนจะออกจากห้ อง

ขณะเดินมาได้ ครึ่งทาง ไคลน์ ตบหน้ าผากตัวเองหนึ่งฉาดอย่ าง


นึกเสี ยดาย

“ลืมถามไปเลยว่ าโบสถ์ เทพธิดารัตติกาลมีโอสถเส้ นทางไหนบ้ าง


เป็ นความผิดของไดอารีจักรพรรดิโรซายล์แท้ ๆ เชียว…”

ไคลน์ จึงยังไม่ ทราบว่ าโบสถ์ ของตนมีเส้ นทางใดให้ เลือก รู้แต่


เพียงเริ่มต้ นที่ลาดับ 9
แต่ เหมือนโรแซนจะเคยเปรยให้ ได้ ยินอยู่บ้าง หากจาไม่ ผิดจะชื่ อ
‘ผู้ไร้ หลับ’ กระมัง

ขณะไคลน์ เดินใกล้ถึงบันไดหิน ใครบางคนเดินสวนลงมาพอดี

มันสวมกางเกงรัดรูปที่ดูสะดวกสบายและคล่องตัว เสื้ อเชิ้ตสี


ขาวปล่อยชายนอกกางเกง บรรยากาศรอบตัวเหมือนกับนักกวีไม่ มี
ผิด

เป็ นใครอื่นไม่ ได้ นอกจากนายตารวจหนุ่มนัยน์ ตาเขียวที่เคยทา


คดีบ้านไคลน์ คนทั้งสองเคยสบตากันมาแล้วครั้งหนึ่งที่ช้ ันบน แต่
ไม่ ได้ สนทนากัน

“สวัสดียามบ่ าย”

ตารวจหนุ่มเหยี่ยวราตรีทักทายด้ วยรอยยิม้

“สวัสดีเช่ นกันครับ ผมคงไม่ ต้องแนะนาตัวใช่ ไหม?”

ไคลน์ ตอบติดตลก

“ไม่ จาเป็ น ผมจาคุณได้ แม่ น”

นายตารวจนัยน์ ตาเขียวยื่นแขนขวาออกมาหาไคลน์ พร้ อมกล่าว


แนะนาตัว
“เลียวนาร์ ด·มิเชล… ผู้วิเศษลาดับแปด—นักกวีเที่ยงคืน”

ลาดับแปด… แล้วก็เป็ นนักกวี!

ไคลน์ ฉีกยิม้ พลางยื่นแขนออกไปจับตอบ

“คุณจาผมได้ แม่ น?”

นัยน์ ตาสี มรกตของเลียวนาร์ ด·มิเชลกาลังจ้ องมองไคลน์ อย่ างไม่


กระพริบ ก่อนที่มันจะตอบด้ วยรอยยิม้ มุมปาก

“คุณพิเศษกว่ าใครในสายตาผม”

ฟังดูเกย์ ฉิบ… มุมปากไคลน์ กระตุกเล็กน้ อย

“ผมไม่ เห็นว่ าตัวเองเป็ นแบบนั้น”

“ทั้งที่เผชิญเหตุการณ์ เหนือธรรมชาติระดับนั้น แต่ คุณกลับรอด


ชีวิตได้ โดยที่เหยี่ยวราตรียังไม่ ทันลงมือ เท่ านีก้ ็มากพอจะทาให้ คุณ
เป็ นคนพิเศษแล้ว”

เลียวนาร์ ดชี้นวิ้ ไปยังทิศทางประตูยานิส

“ผมต้ องเข้ าเวรแทนหัวหน้ าแล้ว ไว้ เจอกันพรุ่งนีค้ รับ”


“เจอกันพรุ่งนีค้ รับ”

ไคลน์ หันหลังและเดินขึน้ บันไดหินกลับสู่ ด้านบน

เมื่อไคลน์ ลับสายตา เลียวนาร์ ดบิดตัวกลับมาจ้ องมองบันไดหิน


ที่กาลังอาบแสงสี เหลืองอ่อนจากโคมไฟ ก่อนจะพึมพากับอากาศ

“สั มผัสถึงอะไรได้ บ้างไหม…”

“ไม่ เลย… หมอนั่นจืดชื ด”


ราชันย์ เร้ นลับ 22 : ลาดับเริ่มต้ น

หลังจากเดินกลับขึน้ มาข้ างบนจนถึงห้ องรับรองบริษัทหนาม


ทมิฬ ในวินาทีที่ไคลน์ จะกล่าวคาอาลากับโรแซน สตรีผมน้าตาล
เป็ นฝ่ ายเริ่มบทสนทนาก่อน

“หัวหน้ าบอกให้ คุณค่ อยเริ่มงานวันจันทร์ ทีเดียว ไปสะสาง


ปัญหาทางบ้ านให้ เรียบร้ อยก่อน”

“…ตกลง”

ไคลน์ ไม่ เคยคิดเลยว่ า องค์ กรเหยี่ยวราตรีจะเป็ นมิตรและอานวย


ความสะดวกให้ พนักงานขนาดนี้ คิดไม่ ผิดจริงๆ ที่ตัดสิ นใจเลือก
ทางาน

แผนเดิมในวันพรุ่งนีข้ องไคลน์ คือ มันจะตื่นแต่ เช้ าตรู่เพื่อหา


โอกาส ‘เดินเล่น’ รอบมหาวิทยาลัยทิงเก็น

สาเหตุเพราะต้ องแจ้ งกับทีมงานสั มภาษณ์ ว่าตนได้ งานแล้ว และ


จะไม่ เข้ าไปสอบ

เหนือสิ่ งอื่นใด การสั มภาษณ์ งานคราวนีเ้ กิดขึน้ ได้ เพราะความ


ช่ วยเหลือจากอาจารย์ ที่ปรึกษาสมัยเรียน ถึงจะไม่ ทาเพื่อตัวเอง แต่
ก็ควรยกเลิกให้ เป็ นกิจจะลักษณะเพื่อรักษาหน้ าอาจารย์ ไว้
ในโลกที่ไม่ มีโทรศัพท์ ระบบสื่ อสารที่เร็วที่สุดคือโทรเลข ซึ่งค่ า
ส่ งจะเพิม่ ขึน้ ตามความยาวอักษร แถมยังใช้ เวลาสั กพักกว่ าจะถึง
ปลายทาง

จากที่ไคลน์ คานวณ การนั่งรถม้ าไปบอกด้ วยตัวเองคือหนทางที่


ประหยัดและรวดเร็วที่สุด

ด้ วยเหตุนี้ เมื่อดันน์ ·สมิทอนุญาตให้ เริ่มทางานวันจันทร์


หมายความว่ าพรุ่งนีไ้ คลน์ ไม่ จาเป็ นต้ องตื่นเช้ า ตื่นสายหน่ อยก็ยัง
พอมีเวลาให้ เดินทางไปมหาวิทยาลัยทันถมเถ

แต่ ขณะจะบอกลาโรแซน ไคลน์ พลันฉุกคิดบางสิ่ งได้ มันกวาด


สายมองรอบห้ องก่อนจะเดินเข้ าไปกระซิบข้ างหูเธอ

“โรแซน… คุณมีข้อมูล ‘เส้ นทาง’ โอสถที่โบสถ์ เทพธิดา


ครอบครองบ้ างรึเปล่า?”

เป็ นสิ่ งที่มันค้ างคาใจแต่ ลืมถามลุงนีลล์

นัยน์ ตาโรแซนพลันลุกวาว เธอจ้ องไคลน์ ราวกับเห็นภูติผี

“คุณจะคิดจะเป็ นผู้วิเศษหรื อไง?”


เราถามตรงไปงั้นหรื อ? ไคลน์ เกาแก้มพลางตอบกลับอย่ าง
กระอักกระอ่วน

“ม…เมื่อทราบว่ ามีพลังพิเศษและผู้วิเศษอยู่บนโลก คงเป็ นการ


โกหกเกินไปถ้ าบอกว่ าไม่ อยากเป็ น”

“ตายแล้ว… นี่คุณไม่ ร้ ูหรื อว่ ามันอันตรายขนาดไหน? หัวหน้ า


ไม่ ได้ บอกหรื อไง? ศัตรูของผู้วิเศษมิใช่ พวกลิทธิชั่วร้ ายหรื อสาวก
มืดเพียงอย่ างเดียว แต่ ยังรวมถึงพวกพ้องด้ วย!

“เกือบทุกปี จะมีเจ้ าหน้ าที่คลุ้มคลั่ง บางคนต้ องสละชีวิตใน


หน้ าที่เพื่อยับยั้งเหตุ! คุณไม่ เป็ นห่ วงความรู้สึกคนในครอบครัว
บ้ างหรื อ?”

โรแซนทาไม้ ทามืออธิบายเพื่อหวังให้ ไคลน์ คล้อยตาม สี หน้ าและ


โทนเสี ยงของเธอไม่ พงึ พอใจอย่ างชัดเจน

“ไคลน์ ฉันคิดว่ าการเป็ นเจ้ าหน้ าที่พลเรื อนนั้นสบายและ


ปลอดภัยที่สุดแล้ว ค่ าตอบแทนของพวกเราเพิม่ ขึน้ ทุกปี หลังจาก
หลังผ่ านไปสั กพัก คุณก็จะมีเงินเก็บจานวนมาก สามารถเช่ าบ้ าน
หลังใหญ่ ในเขตเหนือหรื อไม่ ก็เขตชานเมืองได้ สบาย จากนั้นก็
สมรสกับสตรีสูงศักดิ์ที่มั่งคั่ง มีครอบครัวแสนอบอุ่น มีทายาทที่
น่ ารักและซุกซน…”

“เดี๋ยว! หยุดก่อนโรแซน!”
ไคลน์ รีบเบรกหล่อนไว้ มันสั มผัสได้ ว่าเธอเริ่มฉุนเฉียว จึง
พยายามเฉไฉไปเรื่ องอื่น

“ผมก็แค่ … เอ่อ… อยากมีความรู้พื้นฐานติดตัวไว้ บ้าง”

“งั้นหรอกหรื อ…”

โรแซนเงียบงันสั กพัก เธอก้มศีรษะลงพลางครุ่นคิดด้ วยสี หน้ า


ดามืด
“เพราะฉันเคยสู ญเสี ยคุณพ่อไปในเหตุการณ์ ลักษณ์ ดังกล่าว ทุก
ครั้งที่มีคนพูดถึงผู้วิเศษ ฉันก็เลย…

“เอ่อ… คงจะหงุดหงิดมากไปหน่ อย แต่ ด้วยความสั ตย์ จริงนะ


ฉันชื่ นชมและขอบคุณชายหญิงทุกคนที่ยอมเสี ยสละตัวเองเพื่อเข้ า
ร่ วมหน่ วยเหยี่ยวราตรี”

“ผมเข้ าใจ… ผมเข้ าใจดี”

ไคลน์ พยายามปลอมประโลม

โรแซนกระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะกล่าวต่ อ

“คุณพ่อเคยบอกว่ า หากต้ องการแก้ปัญหา การเพิม่ พลังไม่ ใช่ วิธี


แก้ปัญหาที่ถูกต้ อง… ยิ่งกลายเป็ นผู้วิเศษลาดับสู ง ภารกิจเสี่ ยงภัย
และศัตรูที่แข็งแกร่ งก็จะยิ่งวิ่งเข้ าหาบ่ อยครั้ง มันตรงกันข้ ามกับ
ความปลอดภัยโดยสิ้นเชิง

“หากมิอาจทนแรงชักจูงจากเสี ยงกระซิบชั่วร้ าย ผู้วิเศษจะเหลือ


เพียงสองจุดจบ หนึ่งคือตาย และอีกหนึ่งคือกลายเป็ นบ้ า…

“คุณพ่อเสี ยชีวิตหลังจากพูดประโยคนีไ้ ด้ เพียงสองสั ปดาห์ …


ไคลน์ อย่ ามองฉันด้ วยสายตาแบบนั้น ฉันสบายดีและกาลังมี
ความสุ ขมาก ความน่ ากลัวที่อธิบายไปเมื่อครู่ล้วนสมเหตุสมผล!”
“แต่ ผมแค่ อยากทราบพื้นฐาน…”

ไคลน์ ตอบซ้าในสิ่ งที่เคยพูดไปแล้ว มันเริ่มทาตัวไม่ ถูก ไม่ ร้ ูว่า


ต้ องหัวเราะหรื อร่าไห้

ความอันตรายของผู้วิเศษนั้น ดันน์ ·สมิทเคยเล่าไว้ ละเอียดกว่ าโร


แซฯมาก และต่ อให้ มันไม่ กลายเป็ นผู้วิเศษ แต่ ปัญหาในชีวิตก็ยังไม่
จบลงอยู่ดี…

“ก็ได้ ”

หลังจากไตร่ ตรองอยู่นาน ในที่สุดโรแซนก็ยอมอ่อนข้ อ

“ฉันเคยได้ ยินจากหัวหน้ าและลุงนีลล์มาบ้ าง โลกเราในปัจจุบัน


เหล่าสั ตว์ วิเศษเริ่มสู ญพันธุ์จนผลิตโอสถลาดับสู งได้ ยากขึน้ ส่ งผล
ให้ ผ้ วู ิเศษลาดับสู งมีน้อยลงจากอดีตมาก เพียงแค่ ได้ เป็ นผู้วิเศษก็
นับว่ าหายากมากแล้ว!

“ในเมืองทิงเก็นของเราที่มีพลเมืองกว่ าแสนคนหรื อมากกว่ านั้น


แต่ ผ้ วู ิเศษกลับมีจานวนเพียงสามสิ บกว่ า นี่เป็ นจานวนที่ฉันนับเอา
เอง… ยังไม่ รวมถึงสาวกมืดและคนของลัทธิชั่วร้ ายที่หลบซ่ อนใน
เงามืด…”

โดยไม่ รอคาตอบจากไคลน์ โรแซนที่เหมือนจะกลับมาชีวิตชีวา


เธอกาหมัดแน่ นพร้ อมกับเลื่อนขึน้ มาที่หน้ าอก

“จากบรรดาผู้วิเศษกว่ าสามสิ บคน เกือบทั้งหมดจะอยู่เพียง


ลาดับเก้า! เอ่อ… ฉันคงนอกเรื่ องไกลไปหน่ อย”

“ไม่ เป็ นไร มันคือข้ อมูลสาคัญที่ผมจาเป็ นต้ องทราบอยู่แล้ว”

ไคลน์ ชื่นชอบในนิสัยพูดเรื่ อยเปื่ อยของโรแซน มันต้ องการให้


เธอเป็ นตัวของตัวเองให้ มากที่สุดและคายความลับทั้งหมดมาซะ!

“หรื ออีกนัยหนึ่งก็คือ แค่ ได้ เป็ นผู้วิเศษก็นับว่ าสุ ดยอดมาก”

โรแซนกล่าวประโยคสุ ดท้ ายซ้า

“เข้ าเรื่ องกันดีกว่ า เส้ นทางสมบูรณ์ ที่โบสถ์ เราครอบครองนั้นมี


ชื่ อว่ า : ผู้ไร้ หลับ… และโอสถลาดับเก้าก็ชื่อว่ า ‘ผู้ไร้ หลับ’ เช่ นกัน”
ว่ าแล้วเชียว… ไคลน์ พยักหน้ าพลางเหลือบมองโรแซนที่พยา
ยามระงับปากของตัวเองไม่ ให้ อธิบายอย่ างละเอียด

“ฟังจากชื่ อก็คงเดาพลังได้ ใช่ ไหม ผู้ไร้ หลับจะนอนน้ อยกว่ า


มนุษย์ ปรกติ เพียงวันละสามถึงสี่ ชั่วโมงเท่ านั้น… ให้ ตายสิ ฉัน
อิจฉาชะมัด!

“ไม่ ใช่ … เดี๋ยวก่อน! การได้ นอนหลับสบายคือพรที่แท้ จริงจาก


เทพธิดาต่ างหาก!

“ถึงไหนแล้วนะ? อ้อ! ผู้ไร้ หลับสามารถมองเห็นในความมืดได้


โดยไม่ ต้องพึ่งพาแสงสว่ าง และยิ่งสภาพแวดล้อมมืดมิดมาก
เพียงใด ผู้ไร้ หลับจะยิ่งทรงพลังมากเท่ านั้น…

“ความทรงพลังในที่นหี้ มายถึงภาพรวมทุกด้ าน ไม่ ว่าจะเป็ น


พละกาลัง สมรรถนะทางร่ างกาย สั มผัสวิญญาณ รวมถึงความ
เข้ มแข็งของจิตใจ

“ทว่ า ถึงจะมองเห็นศัตรูที่เป็ นวิญญาณชั่วร้ ายหรื อศัตรูที่ใช้ พลัง


นอกรีต แต่ ผ้ ไู ร้ หลับยังคงพึงพาอาวุธปื นและกระสุ นปราบมารใน
การต่ อสู้ อยู่ดี

“แถมยังต้ องใช้ อุปกรณ์ ช่วยเหลือบางชนิดหากศัตรูเป็ นสั ตว์


ประหลาดที่เอาชนะไม่ ได้ ด้วยวิธีการปรกติ… คุณพ่อของฉันเคย
เป็ นผู้ไร้ หลับมาก่อน

โดยไม่ รอไคลน์ ไต่ ถาม โรแซนเล่าต่ อ

“ลาดับแปดคือของเส้ นทางผู้ไร้ หลับคือ ‘นักกวีเที่ยงคืน’ ส่ วน


ลาดับเจ็ดคือ ‘ฝันร้ าย’”

ฝันร้ าย? ไคลน์ หวนนึกถึงดันน์ ·สมิทในค่าคืนที่มันถูกแทรกแซง


ความฝัน ชายหนุ่มเอ่ยปากถามทันที
“หัวหน้ าใช่ ไหม?”

“หือ? คุณทราบด้ วยหรื อ?”

โรแซนทาปากเหวอจนเกือบเป็ นทรง ‘O’

“หัวหน้ าเคยเข้ าฝันผมครั้งหนึ่ง…”

ไคลน์ กวาดสายตามองรอบห้ องก่อนจะลดเสี ยงให้ ค่อยลง

“งีน้ ี่เอง…”

โรแซนพยักหน้ าพร้ อมกับขานตอบด้ วยเสี ยงกระซิบ


เธอหันไปยกถ้ วยกาแฟจิบหนึ่งอึกก่อนจะหันกลับมาเล่าต่ อ
“ในวิหารเทพธิดารัตติกาลเมืองทิงเก็นของเรา ผู้วิเศษลาดับเจ็ด
จะมีเพียงสองคนเท่ านั้น และหัวหน้ าคือหนึ่งในสองคนนั้น!

“ต่ อให้ หัวหน้ าถูกย้ ายไปประจาการที่วิหารใหญ่ กว่ านี้ หรื อ


แม้ กระทั่งเมืองมุขมณฑลของบิชอป แต่ เขาก็ยังเป็ นบุคคลระดับสู ง
อยู่ดี อาวุโสของโบสถ์ บางคนยังเอาชนะหัวหน้ าไม่ ได้ ด้วยซ้า!”

“หัวหน้ าสุ ดยอดไปเลยแฮะ”


ไคลน์ ขานรับ มันยังคงอมยิม้

ว่ ากันตามตรง สิ่ งที่ดันน์ ·สมิทกระทาในคืนดังกล่าวยังคงสร้ าง


ความประทับใจแก่ไคลน์ จวบจนปัจจุบัน มันไม่ เคลือบแคลงเลยสั ก
นิดว่ าดันน์ ·สมิทจต้ องเป็ นหนึ่งในผู้วิเศษที่แข็งแกร่ ง

“แน่ นอนอยู่แล้ว!”

โรแซนกล่าวอย่ างภูมิใจ

ขณะเดียวกัน คิว้ ของเธอเริ่มขมวดเข้ าหากันเมื่อพยายามเค้ น


สมองดึงความทรงจาที่เหลือ

“ฉันไม่ มีข้อมูลตั้งแต่ ลาดับหกขึน้ ไป ในบรรดาเหยี่ยวราตรี


ทั้งหมด อาจมีแค่ หัวหน้ าที่ทราบชื่ อของโอสถลาดับหก”
“แล้วเส้ นทางอื่นล่ะ? เส้ นทางที่ไม่ ครบสมบูรณ์ พอจะมีข้อมูล
บ้ างไหม?”

ไคลน์ พงึ พอใจกับข้ อมูลผู้ไร้ หลับ ได้ เวลาถามถึงโอสถชนิดอื่น


บ้ าง

พลังผู้ไร้ หลับสอดคล้องกับตัวตน ‘ผู้วิเศษ’ ในจินตนาการไคลน์


ก็จริง แต่ นั่นไม่ ใช่ พลังที่มันต้ องการ
โอสถลาดับเก้าที่ไคลน์ หวังไว้ อย่ างน้ อยต้ องเชี่ยวชาญด้ านพลัง
เหนือธรรมชาติ เพื่อที่จะได้ ต่อยอดศึกษาหาวิธีกลับโลกเก่าใน
อนาคต

โรแซนครุ่นคิดเล็กน้ อยก่อนจะถอนหายใจ

“ฉันไม่ ได้ สนใจด้ านนี้ ก็เลยมีข้อมูลไม่ มากนัก รู้แต่ เพียงว่ าโบสถ์


ของเราครอบครองสู ตรโอสถไว้ มากกว่ าโบสถ์ อื่น ส่ วนรายละเอียด
นั้น… เทพธิดารัตติกาลมีอีกพระนามว่ า มารดาแห่ งความเร้ นลับ
นโยบายหลักของโบสถ์ คือการรักษาความลับ

“เฮ่ อ… คงจะมีอีกสั กสองถึงสามเส้ นทางที่ไม่ สมบูรณ์ …


เจ้ าหน้ าที่ฝ่ายปฏิบัติการของเหยี่ยวราตรีหลายคนมีนิสัยเย็นชาและ
เข้ าถึงได้ ยาก ฉันจึงกลัวที่จะสนทนาด้ วย พวกเขามักแผ่ กลิ่นอาย
ประหลาดรอบตัวเสมอ ส่ วนบางคนก็…
“ช่ างเถอะ… เรื่ องแบบนี้ ฉันว่ านายควรไปถามลุงนีลล์มากกว่ า
นะ เขามีความรู้กว้ างขวาง แถมยังเชี่ยวชาญด้ านพิธีกรรม

“เอ… ลุงนีลล์เคยบอกชื่ อโอสถลาดับเก้าของเขาอยู่นะ ชื่ อว่ า


อะไรแล้วน้ า…

“อ้อ! ใช่ แล้ว! ผู้ส่องความลับ!”

หืม… มีความรู้ด้านพิธีกรรมที่หลากหลาย?

พลังของผู้ส่องความลับคล้ายคลึงกับสิ่ งที่ไคลน์ ต้องการมาก…


มันแสดงสี หน้ าโล่ งใจเมื่อมองเห็นแสงแห่ งความหวัง

“จริงสิ ! ฉันยังรู้ จักโอสถอีกชื่ อหนึ่ง เป็ นลาดับเจ็ดในเส้ นทางที่


ไม่ สมบูรณ์ !”

โรแซนกล่าวอย่ างตื่นเต้ น เธอพยายามเค้ นสมองนึก

“ชื่ อว่ าอะไร?”

ไคลน์ ถามด้ วยแววตาอยากรู้อยากเห็น

ในยุคสมัยที่ผ้ วู ิเศษลาดับสู งมีน้อยจนอาจไม่ มีเลย การเป็ น


ผู้วิเศษลาดับเจ็ดย่ อมหมายถึงตัวตนที่ทรงพลังของโบสถ์
เมื่อนึกออก โรแซนฉีกยิม้ กว้ างก่อนตอบ

“ผู้สื่อวิญญาณ!”

“มาดามดาลี่ย์?”

ไคลน์ ถามทันควัน

หลังจากประหลาดใจค่ อนข้ างมากในตอนที่พบกันครั้งแรก


ไคลน์ มองว่ าหากผู้สื่อวิญญาณคือผู้วิเศษลาดับเจ็ด ก็คงไม่ ใช่ เรื่ อง
แปลกแต่ อย่ างใด เพราะสิ่ งที่มาดามดาลี่ย์แสดงให้ เห็น นับเป็ นพลัง
การสื่ อวิญญาณที่น่าทึ่งมาก

สามารถล้วงความลับใครก็ได้ …

ดวงตาโรแซนกลมโตอีกครั้ง เธอกล่าวด้ วยสี หน้ าประหลาดใจ


สุ ดขีด

“ค…คุณรู้ได้ ยังไง?”

“ผมเคยพบมาดามแล้ว”

ไคลน์ ไม่ ปิดบัง


“งั้นหรอกหรื อ”

น้าเสี ยงของเธอแฝงด้ วยความริษยาในปริมาณเจือจาง

“ถ้ าได้ เป็ นผู้วิเศษที่ยอดเยี่ยมเหมือนมาดามดาลีย์บ้าง ฉันคง


ยอมเปลี่ยนใจเป็ นผู้วิเศษในสั กวัน… ไม่ สิ ต้ องไตร่ ตรองให้
รอบคอบนับสิ บๆ ครั้งก่อน!”

“อา… มาดามดาลี่ย์คือผู้วิเศษในอุดมคติของผมเหมือนกัน”
ไคลน์ กล่าวเยินยอเกินจริง

หลังจากบรรลุเป้าหมายสื บข้ อมูล ไคลน์ นั่งคุยเรื่ องเปื่ อยกับโร


แซนอีกครู่หนึ่งก่อนจะมั่นใจว่ าเธอคายความลับหมดแล้ว ชาย
หนุ่มลุกขึน้ ยืนถอดพลางหมวกคานับ จากนั้นก็บอกลา

ขณะเดินลงบันไดจนเกือบถึงขั้นแรก ไคลน์ ชะงักฝี เท้ าพร้ อมกับ


เลื่อนมือซ้ ายเข้ าไปในกระเป๋าเสื้ อฝั่งที่เก็บธนบัตรสิ บสองปอนด์

มันกาแบงค์ ไว้ แน่ นถนัดราวกับกลัวจะหล่นหายกลางทาง


รอยยิม้ เปี่ ยมสุ ขถูกเผยบนใบหน้ าอย่ างชัดเจน

ตามธรรมเนียมของจักรวรรดิแห่ งอาหารอย่ างจีน


แผ่ นดินใหญ่ … เมื่อได้ รับเงินก้ อนโต สิ่ งแรกที่ต้องทาคือเลีย้ ง
ฉลอง!
ได้ เวลาพาเมลิสซ่ าไปกินของดีแล้ว!
ราชันย์ เร้ นลับ 23: อาวุธรอง

ขณะไคลน์ เดินไปบนถนนซุ ตแลน ร่ างกายปะทะเข้ ากับสายลมที่


อบอุ่นแต่ เหนอะหนะ ภายในหัวพลันฉุกคิดบางสิ่ ง

ก่อนจะได้ รับธนบัตรสิ บสองปอนด์ ตัวมันเหลือเศษเหรียญเพียง


สามเพนนีเท่ านั้น! หากต้ องเดินทางกลับโดยรถม้ าเพื่อไปให้ ถงึ
ถนนกางเขนเหล็ก จานวนเงินที่ต้องใช้ คือสี่ เพนนี

และหากต้ องใช้ ธนบัตรหนึ่งปอนด์ จ่ายค่ ารถม้ าเพียงสี่ เพนนี่ จะ


ไม่ ต่างอะไรกับการใช้ แบงค์ พนั หยวนซื้อลูกอมราคาแค่ ไม่ กี่หยวน
บนโลกเก่า สิ่ งนีไ้ ม่ ผิดกฏหมาย แต่ ไคลน์ เกิดความไม่ สบายใจ

หรื อต้ องจ่ ายค่ ารถม้ าสามเพนนีแล้วเดินเท้ าต่ อจนกว่ าจะถึง


บ้ าน?

ไคลน์ ก้าวขาให้ ช้าลง มือของมันสอดเข้ าไปในกระเป๋าเสื้ อขณะ


ครุ่นคิดหาหนทาง

การเดินไม่ ใช่ เรื่ องดีแน่ มันปัดไอเดียดังกล่าวให้ ตกไป

เป็ นการเสี่ ยงมากหากคิดเดินชดเชยระยะทางรถม้ าหนึ่งเพนนี


โดยเฉพาะขณะที่ตนพกเงินจานวนมหาศาลติดตัว อาจถูกจีป้ ล้น
กลางทางเอาได้
ไคลน์ ไม่ ได้ พกปื นมาด้ วยวันนี้ มันกลัวว่ าทางเหยี่ยวราตรีจะยึด
คืนในฐานนะของกลางคดีเวิร์ช ดังนั้นหากเกิดปัญหาระหว่ างทาง
มันจะไม่ มีสิ่งใดใช้ ป้องกันตัว โดยเฉพาะภัยคุกคามเหนือธรรมชาติ
จากคดีการตายของเวิร์ชและนาย่ า

แตกธนบัตรจากธนาคารแถวนีด้ ีไหม?

…คงไม่ ดีแน่ ค่ าธรรมเนียมสู งถึง 0.5% เรียกได้ ว่าแพงบัดซบ


ไคลน์ ส่ายศีรษะโดยไม่ กล่าวสิ่ งใดออกมา เพียงนึกถึงเงินที่ต้อง
สู ญเสี ยก็มากพอจะทาให้ หัวใจเจ็บแปลบ

ต้ องหาทางอื่น… แววตาไคลน์ พลันส่ องประกายเมื่อเหลือบเห็น


ร้ านเสื้ อผ้ าที่อยู่ด้านหน้ าไปไม่ ไกล

ใช่ แล้ว… หากซื้อของในราคาที่เหมาะสม การได้ รับเงินทอนจะ


ไม่ ใช่ เรื่ องน่ าเกลียดแต่ อย่ างใด

สู ททางาน เสื้ อเชิ้ต เสื้ อกั๊ก กางเกงขายาว รองเท้ าหนัง รวมถึงไม้


คา้ สิ่ งเหล่านีค้ ืออุปกรณ์ ที่ตนต้ องซื้ออยู่แล้ว ไม่ ว่าจะช้ าหรื อเร็ว

แต่ เดี๋ยวก่อน… ตัวเราไม่ ถนัดเลือกเสื้ อผ้ า เรื่ องแบบนีค้ วรให้ เบ็น


สั นช่ วยจัดการ หมอนั่นต่ อรองราคาเก่งมาก คงต้ องรอให้ เบ็นสั น
กลับถึงบ้ านก่อน…
ถ้ าอย่ างนั้นซื้อไม้ คา้ ดีไหม?

ใช่ แล้ว เคยมีคากล่าวที่ว่า ไม้ คา้ คืออาวุธป้องกันตัวที่ดีที่สุดของ


สุ ภาพบุรุษ ประโยชน์ ใช้ สอยเทียบเท่ าชะแลงเลยก็ว่าได้ การถือปื น
ข้ างหนึ่งและถือไม้ คา้ อีกข้ างหนึ่ง นี่คือรูปแบบการต่ อสู้ ของผู้ที่
เจริญแล้ว!

หลังจากถกเถียงกับตัวเองสั กพัก ในที่สุดไคลน์ ก็ได้ ข้อสรุป มัน


เดินตรงเข้ าไปในร้ านที่ชื่อ ‘วิลเกอร์ ·เสื้ อผ้ าและหมวก’
การจัดเรียงสิ นค้ าคล้ายคลึงกับร้ านเสื้ อผ้ าบนโลกเก่า ผนังฝั่ง
ซ้ ายมือมีเซ็ตเสื้ อผ้ ามาตรฐานแขวนเรียงราย ราวแขวนใจกลางร้ าน
เป็ นชุดแยกขาย ประกอบด้ วยเสื้ อเชิ้ต กางเกงขายาว เสื้ อกั๊ก และ
โบว์ หูกระต่ าย ส่ วนด้ านผนังฝั่งขวาจะเป็ นโซนรองเท้ าและบูทยาว
ซึ่งถูกเก็บอยู่ในตู้กระจกมิดชิด

“มิสเตอร์ มีอะไรให้ ช่วยไหมครับ?”

พนักงานชายเพศชายเดินเข้ ามาถามไถ่ อย่ างสุ ภาพ มันสวมเชิ้ต


ขาวด้ านในและเสื้ อกั๊กสี แดงทับนอก

ภายในอาณาจักรโลเอ็น ขุนนางหรื อชนชั้นสู งที่มีฐานะมั่งคั่งจะ


แต่ งกายด้ วยเซ็ตสู ทสี ดา ประกอบด้ วยเชิ้ตขาวและเสื้ อกั๊กดา โทนสี
ของเสื้ อผ้ าออกงานทั้งหมดจะเป็ นลักษณะนี้
ส่ งผลให้ คนรับใช้ และพนักงานระดับต่าต้ องแต่ งกายสี สัน
ฉูดฉาดเข้ าไว้ เพื่อจะได้ แบ่ งแยกกับชนชั้นสู งชัดเจน

แต่ ทางฝ่ ายสตรีน้ ันกลับกัน สาวใช้ และพนักงานหญิงจะสวมชุด


โทนสี ขาวดาเสมอ ส่ วนบรรดาคุณหญิงคุณนายจะแต่ งกายด้ วย
สี สันฉูดฉาด เสื้ อผ้ าประดับประดาด้ วยผ้ าริ้วระยิบระยับ

ไคลน์ ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากถามพนักงานงาน

“ไม้ คา้ … หนักและแข็ง”

แบบที่เขกกระโหลกศัตรูให้ แตกร้ าวได้ !

พนักงานแอบชาเลืองสายตาสารวจไคลน์ หัวจรดเท้ าครู่หนึ่ง


ก่อนจะเดินนาทางไปยังบริเวณที่มีไม้ เท้ าวางขาย

“ไม้ คา้ เลี่ยมทองอันนีผ้ ลิตจากไม้ แก่นเหล็ก ทั้งหนักและแข็งมาก


ราคาตกอยู่ที่ 11 ซูล 7 เพนนี จะลองถือเล่นสั กหน่ อยไหมครับ?”

11 ซูล 7 เพนนี? อยากรวยทางลัดขนาดนีท้ าไมพวกเอ็งไม่ ปล้น


ธนาคารเลยฟะ?

ที่มาของราคาคงเป็ นแผ่ นทองที่เลี่ยมอยู่


ไคลน์ ยืนอึง้ กับความแพงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ าเล็กน้ อย
“เอามาลองหน่ อย”

พนักงานขายดึงไม้ คา้ เลี่ยมทองออกมายื่นให้ ไคลน์ อย่ าง


ระมัดระวังราวกับกลัวว่ าชายหนุ่มจะทาหล่ นจนสิ นค้ าเสี ยหาย

หลังจากรับไม้ มาลองถือ ไคลน์ พบว่ าน้าหนักของมัน


ค่ อนข้ างมาก และเมื่อทดสอบกวัดแกว่ งเล่นสั กสองสามครั้ง ไม้ คา้
เลี่ยมทองเคลื่อนไหวได้ ไม่ ได้ ไหลลื่นอย่ างที่คิด

“หนักเกินไปหน่ อย”

ไคลน์ ส่ายศีรษะ ภายในใจกาลังโล่งอก

นี่ไม่ ใช่ ข้ออ้างนะเฟ่ ย!

พนังานขายเก็บกลับเข้ าที่เก่า ก่อนจะหยิบไม้ คา้ อีกสามอัน


ออกมาในคราเดียว

“อันนีผ้ ลิตจากไม้ วอลนัต เป็ นฝี มืือของช่ างทาไม้ คา้ อันดับหนึ่ง


ในทิงเก็น มิสเตอร์ ฮีส ราคาของมันจะอยู่ที่ 10 ซูล 3 เพนนี…

“ส่ วนอันนีผ้ ลิตจากไม้ มะเกลือ เลี่ยมด้ วยเงินแท้ แข็งเหมือนกับ


เหล็ก ราคา 7 ซูล 6 เพนนี่…
“อันนีผ้ ลิตจากไม้ โพลี่ขาว เลื่ยมด้ วยเงินแท้ เหมือนกัน ราคา 7
ซูล 10 เพนนี่…”

หลังจากไคลน์ ทดสอบแกว่ งทั้งสามอัน ชายหนุ่มพบว่ าน้าหนัก


ค่ อนข้ างเหมาะมือ ถัดมาเป็ นการเคาะเนื้อไม้ ด้วยข้ อนิว้ เพื่อวัด
ความแข็ง ลงเอยด้ วย ไคลน์ เลือกไม้ คา้ อันที่มีราคาต่าสุ ด

“เอาเป็ นไม้ มะเกลือดีกว่ า”

ไคลน์ ชี้นวิ้ ไปยังไม้ คา้ ไม้ มะเกลือเลี่ยมเงินที่หนักงานกาลังถืออยู่


“ไม่ มีปัญหาครับ มิสเตอร์ ช่ วยตามผมมาชาระเงินที่ด้านใน
ด้ วย… และหากไม้ คา้ เกิดรอยขูดหรื อสี ถลอก ท่ านสามารถนา
กลับมาให้ ทางเราซ่ อมแซมโดยไม่ เสี ยค่ าใช้ จ่ายเพิม่ ”

พนักงานเดินนาทางไคลน์ ไปยังจุดชาระเงิน

ระหว่ างทาง ไคลน์ หยิบปึ กธนบัตรสี เทาทั้งสี่ ใบออกมานับ ก่ อน


จะดึงใบที่มีขนาดเล็กออกมาหนึ่งใบ

“สวัสดีครับท่ าน ราคาทั้งหมดอยู่ที่ 7 ซูล กับอีก6 เพนนี”

พนักงานเก็บเงินกล่าวทักทายอย่ างสุ ภาพพร้ อมสรุปราคา

ไคลน์ พยายามดารงตนให้ อยู่ในมาดผู้ดีมากที่สุด แต่ มันก็อด


ไม่ ได้ ที่ถามขณะส่ งธนบัตรหนึ่งปอนด์ ให้ พนักงาน
“ลดหน่ อยไม่ ได้ หรื อ?”

“ท่ านครับ ไม้ คา้ เหล่านีเ้ ป็ นผลงานผลิตมือ ราคาของมันสู งมาก


เป็ นทุนเดิม”

พนักงานขายของด้ านข้ างหันมาตอบแทน

“แถมหัวหน้ าพวกเราก็ไม่ อยู่ คงลดราคาตามใจไม่ ได้ ครับ”


พนักงานคิดเงินเสริม

“ขออภัยในความไม่ สะดวกด้ วยครับ”

“ไม่ เป็ นไร”

หลังจากส่ งธนบัตรให้ ไคลน์ รับไม้ คา้ เลี่ยมเงินมาถือ

ขณะรอเงินทอน มันก้าวถอยหลังสองถึงสามก้าวก่อนจะใช้ มือ


ข้ างไม่ ถนัดฟาดไม้ คา้ ใส่ อากาศว่ างเปล่า

ฟุ่ บ! ฟุ่ บ! ฟุ่ บ!

เสี ยงแหวกลมดังหนักแน่ น ไคลน์ พยักหน้ าอย่ างพึงพอใจ


เมื่อไคลน์ เงยหน้ าขึน้ มองอีกครั้ง มันหวังจะได้ เห็นภาพ
พนักงานเดินนาเงินทอนมามอบให้ แต่ สิ่งที่ปรากฏในสายตากลับ
กลายเป็ นว่ า… พนักงานขายเสื้ อกั๊กแดงเดินหนีไปไกลแล้ว ส่ วน
พนักงานคิดเงินได้ ถอยหลังไปใกล้กับผนังฝั่งที่มีปืนลูกซองแฝด
แขวนอยู่

อาณาจักรโลเอ็นมีกฎหมายกึ่งควบคุมอาวุธปื น สามารถ
ครอบครองได้ แต่ ต้องมีใบอนุญาตเป็ นกิจจะลักษณะ

ใบอนุญาตแบ่ งออกเป็ นสองชนิด หนึ่งคือใบอนุญาตพกพาอาวุธ


และสองคือใบอนุญาตล่าสั ตว์ แต่ ไม่ ว่าจะแบบไหนก็ไม่ มีสิทธิ์
ครอบครองอาวุธร้ ายแรงในบัญชีต้องห้ าม ประกอบด้ วยปื นกล ปื น
แรงดันไอน้า และปื นกลหนักหกลากล้อง

ใบอนุญาตพกพาอาวุธจะครอบคลุมถึงอาวุธปื นเล็กทุกชนิด แต่


ค่ อนข้ างยุ่งยากในการขอ แม้ กระทั่งพ่อค้ าที่มีชื่อเสี ยงบางรายก็ไม่
ผ่ านการพิจารณาอนุญาตชนิดนี้

ส่ วนใบอนุญาตล่าสั ตว์ น้ ันของ่ ายกว่ ามาก แต่ ชนิดของอาวุธที่


สามารถพกพาจะจากัดในวงที่แคบกว่ า ใบอนุญาตล่าสั ตว์ หาง่ าย
ชนิดที่ว่าชาวนาแถบชานเมืองแทบทุกคนมีไว้ ติดตัว

สาหรับคนที่ถือครองทรัพย์ สินมีค่า ส่ วนใหญ่ จะพกพา


ใบอนุญาตล่ าสั ตว์ เพื่อใช้ ปกป้องตัวเองในยามฉุกเฉิน… เฉกเช่ น
การปล้นร้ านเสื้ อผ้ าเป็ นต้ น
มุมปากไคลน์ พลันกระตุกเมื่อเริ่มเข้ าใจความหวาดกลัวของ
พนักงานร้ าน

“ไม่ เลว ไม้ คา้ อันนีเ้ หมาะมือมาก ฉันชอบ”

หลังจากได้ เห็นท่ าทีเป็ นมิตรของไคลน์ พนักงานเก็บเงินเริ่มเบา


ใจ มันเดินกลับมาอีกครั้งพร้ อมกับยื่นเงินทอนให้ ด้วยมือทั้งสอง
ข้ าง
ไคลน์ ชาเลืองมองสิ่ งที่ตนได้ รับ ประกอบด้ วยธนบัตร 5 ซูลสอง
ใบ ธนบัตร 1 ซูลสองใบ เหรียญ 5 เพนนีหนึ่งเหรียญ และเหรียญ 1
เพนนีอีกหนึ่งเหรียญ… มันผงกศีรษะเชิงขอบคุณ

ไคลน์ ไม่ แยแสสายตาพนักงานร้ านที่ยืนมองมันคลี่ธนบัตรส่ อง


กับไฟเพื่อมองหาลายน้ากันการปลอมแปลง

เมื่อเสร็จสิ้น ไคลน์ เก็บธนบัตรและเหรียญทั้งหมดใส่ กระเป๋าเสื้ อ


มันหันหลังให้ พนักงานพร้ อมกับขยับปี กหมวกหนึ่งครั้งด้ วยมาด
ผู้ดี จากนั้นก็เดินออกจากร้ านวิลเกอร์ โดยทดสอบใช้ ไม้ คา้ ใหม่ เอีย
มอ่องไปในตัว

ถัดมา ไคลน์ นั่งรถม้ าไร้ รางในราคาแพงถึงหกเพนนีเพื่อออกจาก


ถนนซุตแลนมาลงยังถนนอีกเส้ นใกล้กับกางเขนเหล็ก ก่อนจะนั่ง
รถม้ าอีกหนึ่งต่ อจนถึงบ้ านอย่ างปลอดภัย
เมื่อปิ ดประตูบ้านมิดชิด มันทาการนับธนบัตรจานวน 11 ปอนด์
12 ซูลซ้าสามครั้งก่อนจะเก็บลงในลิน้ ชักโต๊ ะอ่านหนังสื อ
ขณะเดียวกันก็นาลูกโม่ สีทองเหลืองที่ด้ามจับทาจากไม้ ออกมาถือ
ในมือ

กริ๊ก! แกร่ ก!

ไคลน์ ถอดโม่ ไปทางซ้ ายและเทกระสุ นห้ านัดลงบนโต๊ ะ จากนั้นก็


ใส่ กระสุ นปราบมารสี เงินที่มีลวดลายสลักลงไปในโม่ จานานห้ านัด

เฉกเช่ นก่อนหน้ า มันจงใจเหลือโม่ เปล่าไว้ หนึ่งนัดเพื่อป้องกัน


การลั่น ไคลน์ บรรจงเก็บกระสุ นธรรมดาห้ านัดของเดิมลงในกล่อง
เหล็กที่เคยบรรจุกระสุ นปราบมาร

แกร่ ก!

โม่ ถูกตบกลับเข้ าที่ ชายหนุ่มรู้สึกได้ ถึงความปลอดภัย

ถัดมาเป็ นการทดสอบซองปื นรักแร้ ไคลน์ สอดปื นลงไปใน


ช่ องว่ างและปรับสายรัดเพื่อให้ ปืนแน่ นเข้ าที่ มันซักซ้ อมชักปื นเข้ า
ออกจากสายรัดเป็ นเวลาหลายชั่วโมง มีการหยุดพักบ้ างเมื่อแขน
เริ่มล้า จนกระทั่งได้ ยินเสี ยงฝี เท้ าของลูกบ้ านคนอื่นดังมาจาก
ทางเดิน
ฟู่ ว!

ไคลน์ ถอนหายใจด้ วยสี หน้ าเหนื่อยหอบพร้ อมกับเก็บปื นเข้า


ซองใต้ รักแร้ จากนั้นก็เดินกลับมาหน้ าตู้เสื้ อผ้ าและถอดชุดทางการ
ออก ก่อนจะเปลี่ยนกลับเป็ นชุดตามสบายที่สวมใส่ บ่อยครั้งขณะ
อยู่บ้าน—โค้ ตเหลืองอมน้าตาล

แขนถูกแกว่ งเล่นอีกสั กพักเพื่อให้ หายจากอาการปวดเมื่อย

ตึก ตึก ตึก

เสี ยงฝี เท้ าดังเข้ าใกล้ประตูห้อง ตามมาด้ วยเสี ยงสอดกุญแจและ


บิด

เมลิสซ่ าผมดาเดินเปิ ดประตูและเดินเข้ ามา สายตาของเธอ


ผิดหวังเล็กน้ อยเมื่อเหลือบมองเตาแก๊สแล้วพบว่ ามันปิ ดอยู่

“ไคลน์ ฉันจะอุ่นอาหารที่เหลือจากเมื่อคืนให้ กิน เบ็นสั นน่ าจะ


กลับบ้ านพรุ่งนีแ้ ล้ว”

เด็กสาวกล่าวขณะหันกลับมามองพีช่ ายของเธอ

ไคลน์ กาลังยืนหน้ าโต๊ ะอ่านหนังสื อ มือของมันทั้งสองข้ างสอด


เข้ าไปในกระเป๋าเสื้ อ
“ไม่ ! เราจะออกไปหาอะไรกินข้ างนอกกัน”

“กินอาหารนอกบ้ าน?”

เมลิสซ่ าขมวดคิว้

“ไปภัตตาคารมงกุฏเงินบนถนนดารารัตน์ ไหม? ได้ ยินว่ าอาหาร


ที่นั่นอร่ อยมาก”

ไคลน์ แนะนาร้ าน

“ต…แต่ ว่า”

เมลิสซ่ ายังสั บสน

ไคลน์ ฉีกยิม้ กว่ าง

“ฉลองที่ฉันได้ งานใหม่ !”

“นายได้ งานใหม่ แล้ว?”

น้าเสี ยงของเธอเปี่ ยมด้ วยความประหลาดใจหลายระดับ

“ม…ไม่ ใช่ ว่าสอบสั มภาษณ์ ของมหาวิทยาลัยทิงเก็นเริ่มพรุ่งนี้


หรื อ?”
“เป็ นงานอื่น”

ไคลน์ อมยิม้ พร้ อมกับหยิบปึ กธนบัตรออกจากลิน้ ชัก

“พวกเขาจ่ ายค่ าแรงล่วงหน้ าสี่ สัปดาห์ ”

เมลิสซ่ าจ้ องมองธนบัตร5 ซูลสองใบด้ วยดวงตาที่ลุกวาว

“นาย… ทาไมพวกเขาถึง… เอ่อ… นายได้ งานอะไรกันแน่ ?”

เรื่ องนั้น… ไคลน์ ชะงักครู่หนึ่งก่อนจะงัดคาตอบที่เตรียมท่ องไว้


หลายรอบ

“เป็ นบริษัทรักษาความปลอดภัยที่รับงานประเภทค้ นหา


รวบรวม และปกป้องสมบัติโบราณ พวกเขากาลังขาดแคลนที่
ปรึกษาด้ านประวัติศาสตร์ พอดี จึงเซ็นสั ญญากับฉันเป็ นเวลาห้ าปี
เต็มด้ วยค่ าแรงสั ปดาห์ ละสามปอนด์ ”

“นี่คือสาเหตุที่นายกังวลทั้งคืน?”

เมลิสซ่ าถามหลังจากนิ่งเงียบไปสั กพัก

ไคลน์ พยักหน้ า
“ถูกต้ อง… ถึงการทางานในมหาวิทยาลัยจะมีหน้ ามีตามากกว่ า
แต่ ฉันขอเลือกงานนี”้

“ไม่ เป็ นไร อันนีก้ ็ไม่ เลว”

เมลิสซ่ ายิม้ ให้ กาลังใจ ก่อนจะถามต่ อด้ วยสี หน้ าสงสั ย

“แล้วทาไมถึงต้ องจ่ ายค่ าแรงล่วงหน้ าตั้งสี่ สัปดาห์ ?”

“พวกเขาอยากให้ ฉันพาครอบครัวย้ ายบ้ าน อย่ างน้ อยก็เป็ นบ้ าน


ที่มีห้องน้าส่ วนตัว”

ไคลน์ ฉีกยิม้ พร้ อมกับยักไหล่ มันมั่นใจว่ ารอมยิม้ ของมันไร้ ที่ติ


ก่อนจะกล่าวเสริม

“ดีใจรึเปล่า?”

เมลิสซ่ าเงียบงันไปครู่ใหญ่ ก่อนจะตอบด้ วยน้าเสี ยงไม่ สบายใจ

“ไคลน์ … ความเป็ นอยู่ของพวกเราทุกวันนีก้ ็นับว่ าดีมากแล้ว ที่


ฉันบ่ นเรื่ องห้ องน้าเพราะมันติดเป็ นนิสัย ไม่ ได้ อยากย้ ายจริงสั ก
หน่ อย

“นายยังจาเจนนี่ได้ ไหม? ที่เคยอาศัยอยู่ข้างห้ องเรา นับตั้งแต่ พ่อ


ของเธอประสบอุบัติเหตุจนตกงาน พวกเขาก็ต้องย้ ายบ้ านไปอยู่
บนถนนสายล่าง สมาชิกครอบครัวห้ าคนเบียดเสี ยดภายในห้ อง
แสนคับแคบ สามคนนอนบนเตียง อีกสองคนนอนบนพื้น แถมยัง
คิดจะปล่อยเช่ าที่ว่างภายในบ้ านอีก…

“เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว เราสบายกว่ าหลายเท่ า พวกเราโชคดี


แล้วไคลน์ อย่ าฟุ่ มเฟื อยกับเรื่ องแบบนีเ้ ลย แล้วก็… ฉันยังอยากกิน
ขนมปังของมาดามสลินอยู่”

น้ องสาวที่รัก…. ทาไมท่ าทีตอบสนองของเธอถึงไม่ เหมือนกับที่


พีค่ ิดไว้ เลย?

ไคลน์ ทาตัวไม่ ถูกเมื่ออยู่ต่อหน้ าน้ องสาวแสนตระหนี่


ราชันย์ เร้ นลับ 24 : กระเบียดกระเสี ยร

ท้ องฟ้ าด้ านนอกเริ่มถูกย้ อมด้ วยแสงสี ส้มขณะตะวันใกล้ลับขอบ


ฟ้ า ไคลน์ จ้องมองเมลิสซ่ าอย่ างหมดคาจะกล่าว ถ้ อยคาที่เคย
เตรียมไว้ ไม่ สามารถงัดออกมาใช้ ได้

มันกระแอ่มเสี ยงค่ อยสองครั้งก่อนฝื นเค้ นความทรงจา

“เมลิสซ่ า พวกเราไม่ ได้ ฟุ่มเฟื อย แต่ ในอนาคต เพื่อนร่ วมงาน


ของฉันหรื อเบ็นสั นจะต้ องมาเยี่ยมที่บ้าน จะให้ ต้อนรับคนเหล่านั้น
ด้ วยห้ องแบบนี้จริงหรื อ?

“และเมื่อเบ็นสั นกับฉันแต่ งงาน จะให้ นอนร่ วมกันบนเตียงสอง


ชั้นเหมือนเดิมรึไง?”

“พวกนายสองคนยังไม่ มีคู่หมั้น… ไว้ เก็บเงินอีกสั กหน่ อยค่ อย


ย้ ายบ้ านก็ยังไม่ สาย”

เมลิสซ่ าตอบสั้ นห้ วน แต่ อัดแน่ นด้ วยเหตุและผล

“ไม่ ได้ ! เมลิสซ่ า นี่เป็ นบรรทัดฐานของสั งคม!”

ไคลน์ ไม่ มีทางเลือกนอกจากอ้างหลักการของความเป็ นผู้ดี


“ในเมื่อฉันหาเงินได้ สัปดาห์ ละสามปอนด์ ก็ต้องอยู่บ้านให้
เหมือนกับคนที่หาเงินได้ สัปดาห์ ละสามปอนด์ !”

ด้ วยความสั ตย์ จริง มันเคยเช่ าหอพักอยู่ร่วมกับเพื่อนมาก่อนที่


โลกเก่า โจวหมิงรุ่ยย่ อมคุ้นชินกับชีวิตหอพักเป็ นอย่ างดี การสวม
บทบาทเป็ นไคลน์ จึงไม่ ใช่ เรื่ องยาก

แต่ เป็ นเพราะประสบการณ์ ในอดีต มันจึงทราบถึงความไม่


สะดวกสบายหลายด้ าน โดยเฉพาะการใช้ ชีวิตของผู้หญิง
แถมไคลน์ ยังมีแผนจะเป็ นผู้วิเศษในอนาคต การทาพิธีกรรมเวท
มนตร์ ที่บ้านจึงเป็ นสิ่ งที่เลี่ยงไม่ ได้ ดันนั้นที่พกั จึงไม่ ควรมีผ้ คู น
พลุกพล่านผ่ านไปมา และอย่ างน้ อยก็ต้องมีห้องส่ วนตัวที่ห้ามใคร
เข้ า

เมื่อเห็นเมลิสซ่ ากาลังจะอ้ าปากเถียง มันรีบอธิบายต่ อ

“ไม่ ต้องห่ วง ฉันไม่ ได้ คิดจะซื้อบ้ านเดี่ยว เอาแค่ บ้านแถวก็พอ


เพียงแต่ เน้ นว่ าต้ องมีห้องน้าส่ วนตัว และมีห้องแยกของแต่ ละคน

“แน่ นอน ฉันเองก็ชอบขนมปังของมาดามสลิน รวมถึงบิสกิตทิง


เก็นและเค้ กมะนาวด้ วย บ้ านหลังใหม่ จึงต้ องอยู่ใกล้กับถนน
กางเขนเหล็กหรื อไม่ ก็ถนนดารารัตน์ ”
เมลิสซ่ าทาแก้มป่ อง เธอเงียบงันเป็ นเวลานานด้ วยสี หน้ าครุ่นคิด
ก่อนจะผงกศีรษะในท้ ายที่สุด

“แล้วก็ ฉันไม่ ได้ ใจร้ อนจะย้ ายบ้ านทันที พวกเราต้ องรอให้ เบ็น
สั นกลับมาก่อน ”

เมื่อกล่าวจบ ไคลน์ หัวเราะคิกคัก

“คงไม่ ดีแน่ ถ้าเบ็นสั นกลับมาและพบกับห้ องที่ว่างเปล่า ลองนึก


ภาพดูสิ เขาจะต้ องพูดว่ า…
“ข้ าวของหายไปไหนหมด? แล้วพีน่ ้ องของฉันล่ะ? นี่ฉันเข้ าผิด
บ้ านรึเปล่า? โอ้! ได้ โปรดท่ านเทพธิดา! หากนี่เป็ นฝันร้ าย ช่ วยปลุก
ผมให้ ตื่นจากฝันร้ ายด้ วยเถิด! บ้ านผมหายไปได้ ยังไง? แค่ จากไป
ไม่ กี่วันเองนะ!”

ไคลน์ เลียนเสี ยงและสาเนียงพูดของเบ็นสั น เมลิสซ่ าเผยรอยยิม้


โดยไม่ ร้ ูตัว ดวงตาของเธอกาลังมีความสุ ข ลักยิม้ ตื้นสองข้ างแก้ม
ปรากฏขึน้ ไม่ บ่อยนัก

“ผิดแล้ว มิสเตอร์ แฟรงค์ คงดักรอเบ็นสั นที่ช้ ันล่างเพื่อให้ เขาคืน


กุญแจ เบ็นสั นไม่ มีทางขึน้ มาถึงนี่ได้ แน่ ”

เด็กสาวล้อเลียนความตระหนี่ของเจ้ าของหอพัก เป็ นความเคย


ชินของสมาชิกครอบครัวโมเร็ตติไปแล้ว ที่จะล้อเลียนนิสัยจุกจิก
ซึ่งมิสเตอร์ แฟรงค์ ชอบกระทา สิ่ งนี้มีจุดเริ่มต้ นมาจากเบ็นสั น
“นั่นสิ นะ คนงกแบบหมอนั่นไม่ มีทางเปลี่ยนกลอนประตูทุกครั้ง
ที่เปลี่ยนผู้เช่ าแน่ ”

ไคลน์ เสริมด้ วยรอยยิม้ ก่อนจะชี้นวิ้ ไปยังประตูและกล่าวด้ วย


น้าเสี ยงผู้ดี

“มิสเมลิสซ่ าครับผม พวกเราออกไปทานอาหารที่ภัตตาคาร


มงกุฏเงินกันไหม? เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองที่ผมได้ งานใหม่ ”
เมลิสซ่ าถอนหายใจเสี ยงค่ อย

“ไคลน์ นายรู้จักเซเลน่ ารึเปล่า? เพื่อนร่ วมห้ องและเพื่อนสนิท


ของฉัน”

เซเลน่ า?

ทันใดนั้น ภาพของเด็กสาวผมสี ไวน์ แดงนัยน์ ตาน้าตาลเข้ มลอย


เข้ ามาในหัว พ่อและแม่ ของเซเลน่ าเป็ นสาวกโบสถ์ เทพธิดา
รัตติกาลเหมือนบ้ านโมเร็ตติ ถึงขนาดตั้งชื่ อบุตรสาวตามชื่ อพระ
แม่ เซเลน่ าเพื่อหวังจะได้ รับการอวยพรพิเศษ

เด็กคนนั้นยังอายุไม่ ครบสิ บหกบริบูรณ์ อ่อนวัยว่ าเมลิสซ่ าราว


ครึ่งปี นับเป็ นเด็กที่ร่าเริงและเข้ ากับคนได้ ง่าย
“จาได้ สิ”

ไคลน์ พยักหน้ า

“พีช่ ายของเธอที่ชื่อคริสเป็ นนักกฏหมาย รายได้ ต่อสั ปดาห์


เกือบจะสามปอนด์ แล้ว ส่ วนคู่หมั้นของเขาทาอาชีพเสริมเป็ นนัก
พิมพ์ดีด

“ทั้งสองหมั้นหมายมานานกว่ าสี่ ปี แต่ ก็ยังไม่ ตกลงปลงใจ


แต่ งงาน เพื่อให้ ครอบครัวมีความมั่นคงกว่ าที่เป็ น พวกเขาจึงตั้งใจ
ออมเงินมาตลอดจนถึงปัจจุบัน มีแผนจะทาเช่ นนี้ไปอีกอย่ างน้ อย
หนึ่งปี ค่ อยคิดเรื่ องแต่ งงาน

“จากคาบอกเล่าของเซเลน่ า มีผ้ ชู ายหลายคนที่เป็ นเหมือนกับ


พีช่ ายเธอ พวกเขาจะเริ่มแต่ งงานหลังจากอายุ 28 เป็ นต้ นไป หรื อ
จนว่ าครอบครัวจะมีความมั่นคง… ดังนั้นไคลน์ นายไม่ ควรใช้ เงิน
ฟุ่ มเฟื อย”

ฉันแค่ จะพาเธอไปทานอาหารนอกบ้ านมื้อเดียว…

ไคลน์ ยมิ้ ไม่ ได้ ร่าไห้ ไม่ ออก มันกล่าวหลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก

“เมลิสซ่ า แต่ ฉันมีรายได้ สัปดาห์ ละสามปอนด์ แล้วนะ และจะ


เพิม่ ขึน้ ทุกปี ดังนั้นเธอไม่ ควรเป็ นกังวลเกินไป”
“แต่ พวกเราต้ องออมเงินเผื่อกรณีฉุกเฉินไว้ ด้วย อย่ างเช่ นการ
ล้มละลายของบริษัทรักษาความปลอดภัยที่นายนา…

“ฉันเคยมีเพื่อนร่ วมชั้นคนหนึ่ง บริษัทที่พ่อของเธอทางานอยู่


เกิดล้มละลาย ชีวิตเปลี่ยนผันจากหน้ ามือเป็ นหลังเท้ าทันที เธอคน
นั้นไม่ มีทางเลือกอื่นนอกจากต้ องลาออก”

เมลิสซ่ ากล่าวด้ วยสี หน้ าเคร่ งขรึม

…ไคลน์ ถึงกับใช้ มือก่ายหน้ าผาก

“ต…แต่ บริษัทของฉัน… กับรัฐบาล… ช…ใช่ แล้ว! บริษัทนี้มี


เส้ นสายกับรัฐบาล! ไม่ ล้มละลายง่ ายขนาดนั้นแน่ ”

“ในยุคสมัยปัจจุบัน แม้ แต่ รัฐบาลเองก็ไม่ มั่นคง เกิดการ


เปลี่ยนแปลงใหญ่ หลวงทุกครั้งที่เลือกตั้ง และเส้ นสายที่มีจะหายไป
ทันทีเมื่อขั้วอานาจใหม่ เข้ ามาบริหารแทน ถ้ าเป็ นแบบนั้นจริง
บริษัทของนายก็จะถึงจุดจบ”

เมลิสซ่ าให้ เหตุผลอย่ างหนักแน่ น

คุณน้ องสาวครับ… ทาไมถึงฉลาดขนาดนี?้

ไคลน์ ยังคงยิม้ แห้ งแม้ จะพ่ายแพ้การโต้ เถียงอย่ างหมดท่ า มัน


ส่ ายศีรษะ
“ก็ได้ … ฉันจะอุ่นซุปที่เหลือจากเมื่อวาน แต่ เธอต้ องไปซื้อปลา
ทอดหนึ่งชิ้น เนื้อวัวพริกไทยดาหนึ่งชิ้น เนยโหลเล็ก และเบียร์
มอลต์ ให้ ฉันแก้วนึง ไม่ ว่าอย่ างไรก็ต้องจัดงานฉลองเล็กๆ ให้ กับ
งานใหม่ ของฉันบ้ าง”

รายการที่กล่าวไปล้วนหาได้ ง่ายจากแผงลอยบนถนนกางเขน
เหล็ก ปลาทอดหนึ่งชิ้นมีราคาราว 6 ถึง 8 เพนนี ส่ วนเนื้อหมัก
พริกไทยดาชิ้นไม่ ใหญ่ มากจะอยู่ที่ 5 เพนนี เบียร์ มอลต์ แก้วละ 1
เพนนี และเนยโหลเล็กหนัก ¼ ปอนด์ มีราคา 4 เพนนี แต่ ถ้าซื้อโหล
ใหญ่ หนักหนึ่งปอนด์ จะมีราคาเพียง 1 ซูล 3 เพนนีเท่ านั้น

ไคลน์ คนก่อนรับหน้ าที่ซื้อของเข้ าบ้ านในวันหยุดเสมอ ส่ งผลให้


ราคาสิ นค้ าถูกบันทึกลงหัวสมองแม่ นยา มันประมวลผลรวดเร็ว
และได้ คาตอบเป็ น 1 ซูล 6 เพนนี จึงทาการยื่นธนบัตร 1 ซูลให้ เม
ลิสซ่ าสองใบ

“ก็ได้ ”

เธอไม่ คัดค้ านการทากับข้ าวทานเอง เมลิสซ่ าถอดกระเป๋าสะพาย


วางลงพร้ อมกับเหยียดแขนหยิบธนบัตร

หลังเตรียมโหลเนยและหม้ อสาหรับจ่ ายตลาดเสร็จ เมลิสซ่ าเดิน


ตรงไปที่ประตูอย่ างกระฉับกระเฉง เมื่อไคลน์ เหลือบเห็น มันรีบส่ ง
เสี ยงตะโกน
“เมลิสซ่ า! อย่ าลืมใช้ เศษเงินที่เหลือซื้อผลไม้ กลับมาด้ วยนะ!”

มีแผงลอยไม่ น้อยบนถนนกางเขนเหล็กที่ขายผลไม้ หมดอายุ


หรื อคุณภาพต่า เป็ นสิ่ งที่พวกมันซื้อต่ อจากร้ านอิื่นมาอีกทอด

ผลไม้ หมดอายุค่อนข้ างได้ รับความนิยมในถนนกางเขนเหล็ก


สาเหตุเพราะราคาเข้ าขั้นถูกบัดซบ คนซื้อก็ไม่ คิดอะไรมากกับส่ วน
ที่เน่ าเสี ย อย่ างน้ อยก็ยังมีส่วนที่หวานฉ่าให้ ลองชิม เป็ นความสุ ข
เล็กๆ ที่ราคาถูกกว่ าการซื้อผลไม้ สดทั้งผลมาก

เมื่อกล่าวจบ ไคลน์ เดินเข้ าไปหาเมลิซ่าพร้ อมกับยัดเหรียญหนึ่ง


กาใส่ ฝ่ามือเธอ

“หือ?”

นัยน์ ตาสี น้าเริ่มสั่ นสะริกอย่ างฉงน

ไคลน์ หันหลังกลับพร้ อมกับส่ งเสี ยง

“อย่ าลืมให้ รางวัลตัวเองด้ วย! ไปที่ร้านมาดามสลินและนั่งกิน


เค้ กมะนาวซะ”

“…”
เมลิสซ่ ากระพริบตาปริบๆ ก่อนจะพ่นถ้ อยคาด้ วยเสี ยงบางเบา

“ตกลง”

เด็กสาวหันหลังกลับพร้ อมกับเปิ ดประตูห้องเดินออกไป

แม่ น้าตัดผ่ านผืนดินจนแบ่ งแยกเป็ นสอง ถนนริมแม่ น้าเรียงราย


ด้ วยต้ นเมเปิ้ ลและต้ นสนซีดาร์ เป็ นทิวแถว อากาศบริเวณนีท้ ้งั สด
ชื่ นและชุ่ มปอด

จุดประสงค์ การเดินทางของไคลน์ คือเพื่อบอกยกเลิกสอบ


สั มภาษณ์ ที่จะมีขนึ้ ในช่ วงเย็น มือซ้ ายของชายหนุ่มกาลังจับไม้ คา้
ส่ วนมือขวายื่นเหรียญหกเพนนีจ่ายค่ าโดยสารรถม้ าไร้ ราง

หลังจากลงรถ ไคลน์ เดินไปบนถนนซีเมนต์ โดยมีจุดหมายเป็ น


ตึกสามชั้นที่ก่อจากหิน สี ของมันเริ่มเขียวจากตะไคร่ อาคารแห่ งนี้
คือสานักงานของมหาวิทยาลัยทิงเก็น

“สมกับเป็ นหนึ่งในสองมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ ที่สุดของ


อาณาจักรโลเอ็น…”

ในฐานะที่เพิง่ เคยเยือนเป็ นครั้งแรก ไคลน์ ถอนหายใจยาวขณะ


ก้าวเดิน
เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยทิงเก็นแล้ว มหาวิทยาลัยโฮอีท้ ี่อยู่ฝั่ง
ตรงข้ ามแม่ น้าจะหม่ นหมองลงถนัดตา

“ฮุยเร่ !”

“ฮุยเร่ !”

เสี ยงตระโกนอย่ างมีพลังของชายหนุ่มกลัดมันดังมาจากเรื อพาย


สองลาที่กาลังแล่ นแข่ งกันทวนกระแสแม่ น้าโฮอี้ จังหวะจะโคนการ
จ้ วงพายนับว่ าประสานงานได้ ยอดเยี่ยม

นีค่ ือกีฬาพายเรื อซึ่งได้ รับความนิยมอย่ างมากในหมู่


มหาวิทยาลัยของอาณาจักรโลเอ็น แม้ แต่ ตัวไคลน์ คนเก่าก็เช่ นกัน
มันเข้ าเรียนในมหาวิทยาลัยโฮอีด้ ้ วยทุนการศึกษา จึงถูกบังคับต้ อง
ทากิจกรรมชมรม

ด้ วยเหตุนี้ ไคลน์ เวิร์ช และน่ ายาจึงเข้ าร่ วมชมรมพายเรื อและ


แสดงฝี มือได้ ค่อนข้ างน่ าประทับใจ

“พวกเด็กหนุ่มไฟแรง…”

ไคลน์ หยุดเดินและหันไปมองเรื อพายสองลาที่เริ่มแล่นไกล


ออกไป ก่อนจะถอนหายใจยาวด้ วยสี หน้ าเหนื่อยหน่ าย
สัปดาห์ หน้ าคงไม่ ได้ เห็นภาพแบบนี้แล้ว เนื่องจากเป็ นช่ วงเวลา
ปิ ดภาคเรียนของมหาวิทยาลัย

หลังจากเดินพ้นถนนซีเมนต์ ที่มีหลังคาธรรมชาติเขียวขจีปก
คลุม ในที่สุดไคลน์ ก็มาถึงหน้ าอาคารหินสามชั้น มันเดินเข้ าไป
รายงานตัวและแจ้ งความประสงค์ กับเจ้ าหน้ าที่ ก่อนจะเดินตรงไป
ยังห้ องทางานของบุคคลที่ค้ นุ เคย

ก็อก! ก็อก! ก็อก!


มันใช้ นวิ้ เคาะประตูทเี่ ปิ ดแง่ มไว้

“เข้ ามา”

เป็ นเสี ยงจากภายในห้ อง

เจ้ าหน้ าที่มหาวิทยาลัยวัยกลางคนซึ่งแต่ งกายด้ วยทักซิโด้ ดาและ


เชิ้ตขาว มันกล่าวขึน้ หลังจากเงยหน้ าขึน้ มองผู้มาเยือน

“ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนการสอบสั มภาษณ์ จะเริ่มขึน้ ”

“มิสเตอร์ สโตน ยังจาผมได้ ไหม? นักศึกษาของศาสตราจารย์ โค


เฮ็นที่ชื่อไคลน์ ·โมเร็ตติ คุณเคยอ่านจดหมายแนะนาตัวของผมแล้ว
ครั้งหนึ่ง”
ไคลน์ อมยิม้ พร้ อมกับถอดหมวกคานับ

ฮาวิน·สโตนใช้ มือลูบเคราสี ดาเข้ มก่อนจะถามด้ วยสี หน้ าฉงน

“มีอะไรอย่ างนั้นหรื อ? ผมไม่ ได้ เข้ าร่ วมการสอบสั มภาษณ์ ของ


คุณหรอกนะ”

“คือแบบนีค้ รับ ผมได้ งานใหม่ แล้ว ก็เลยจะมาแจ้ งว่ าไม่ เข้ าร่ วม
การสั มภาษณ์ ”
ไคลน์ แจงเหตุผล

“อย่ างนีน้ ี่เอง…”

เมื่อทราบจุดประสงค์ ฮาวิน·สโตนลุกขึน้ พร้ อมกับยื่นแขนขวา


ออกมา

“ยินดีด้วยสาหรับงานใหม่ คุณเป็ นคนหนุ่มที่มีมารยาทยอด


เยี่ยมมาก เดี๋ยวผมจะรีบรายงานให้ ศาสตราจารย์ กับรอง
ศาสตราจารย์ อาวุโสทราบ”

ไคลน์ จับมือตอบ มันคิดจะคุยเรื่ องเปื่ อยกับฮาวิน·สโตนเล็กน้ อย


ก่อนจะกล่าวคาอาลา แต่ ทันใดนั้นกลับมีเสี ยงที่ค้ นุ เคยดังจาก
ด้ านหลัง
“โมเร็ตติ คุณได้ งานใหม่ แล้วหรื อ?”

เมื่อหันกลับไป มันได้ พบกับชายสองคนที่เดินเข้ ามาในห้ อง คน


หนึ่งเป็ นชายชราผมสี เงิน นัยน์ ตาสี ฟ้าลุ่มลึก บนใบหน้ ามีรอยเหี่ยว
ย่ นเล็กน้ อย ส่ วนอีกคนคือบุรุษผิวคมเข้ มในสู ททักซิโด้ สีดาและเชิ้ต
ขาว

“สวัสดีครับอาจารย์ … สวัสดีครับมิสเตอร์ อะซิก”

มันรีบยิงคาถาม

“ว่ าแต่ พวกคุณมาทาอะไรที่นี่?”

ชายชราไม่ ใช่ ใครอื่นนอกจากรองศาสตราจารย์ อาวุโสคณะ


ประวัติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยโฮอี้ และยังเป็ นอาจารย์ ที่ปรึกษา
ของไคลน์ ด้วย เควนติน·โคเฮ็น

ส่ วนคนที่ยืนเคียงข้ างโคเฮ็นคือชายวัยกลางคนที่มีผิวสี แทน


ร่ างกายกายาและสั นทัด ใบหน้ าเกลีย้ งเกลาปราศจากหนวดเครา
เส้ นผมดาขลับ นัยน์ ตาน้าตาลที่แฝงความเหนื่อยล้าไว้ ตลอดเวลา
ประหนึ่งได้ พบเห็นสั จธรรมของโลกจนเกิดความเบื่อหน่ าย ติ่งหู
ข้ างขวามีไฝสี ดาซึ่งต้ องสั งเกตุให้ ดีถึงจะเห็น

ไคลน์ ย่อมจาได้ ชายคนนีก้ ็เป็ นหนึ่งในคณะอาจารย์ ของ


มหาวิทยาลัยโฮอีเ้ ช่ นกัน
มิสเตอร์ อะซิกชื่ นชอบที่จะถกเถียงประวัติศาสตร์ ร่วมกับเควน
ติน·โคเฮ็น พวกมันมักโต้ เถียงรุ นแรงบ่ อยครั้งด้ านความคิดเห็น แต่
ก็เป็ นมิตรสหายที่สนิทมากในเวลาเดียวกัน ไม่ อย่ างนั้นคงไม่ หา
โอกาสจับเข่ าคุยเรื่ องประวัติศาสตร์ บ่อยๆ

โคเฮ้ นพยักหน้ าเล็กน้ อยก่อนจะกล่าวด้ วยน้าเสี ยงผ่ อนคลาย

“อะซิกกับผมมาที่นี่เพื่อเข้ าร่ วมการประชุมทางวิชาการ… งาน


ใหม่ ของคุณเป็ นแบบไหนอย่ างนั้นหรื อ?”

“เป็ นบริษัทรักษาความปลอดภัยที่รับงานประเภทค้ นหา


รวบรวม และปกป้องสมบัติโบราณ พวกเขากาลังขาดแคลนที่
ปรึกษาด้ านประวัติศาสตร์ พอดี จึงเซ็นสั ญญากับผมเป็ นเวลาห้ าปี
เต็มด้ วยค่ าแรงสั ปดาห์ ละสามปอนด์ ”

เป็ นคาโกหกที่ไคลน์ ท่องจาซ้าแล้วซ้าเล่า คาอธิบายจึงเหมือนกับ


ที่เคยเล่าให้ เมลิสซ่ าฟังเมื่อวานทุกประการ

“ก็อย่ างที่อาจารย์ ทราบ ผมชอบสื บหาเบาะแสของ


ประวัติศาสตร์ มากกว่ าสรุปและถ่ ายทอดให้ คนอื่นฟัง”

โคเฮ็นผงกศีรษะเล็กน้ อย
“ทุกคนล้วนมีเส้ นทางของตัวเอง และผมดีใจนะที่คุณยอมสละ
เวลาเพื่อเดินทางมาแจ้ งข่ าวกับมหาวิทยาลัยทิงเก็นก่อน แทนที่จะ
หายตัวไปอย่ างเฉยๆ”

อะซิกเสริม

“ไคลน์ … คุณได้ ยินเรื่ องที่เกิดขึน้ กับเวิร์ชและนาย่ าหรื อยัง? ผม


อ่านจากหนังสื อพิมพ์แล้ว เห็นว่ าพวกเขาถูกฆ่ าโดยฝี มือหัวขโมย”

เหตุการณ์ ในคราวนั้นถูกกลบเกลื่อนให้ กลายเป็ นคดีปล้นบ้ าน


ธรรมดาสิ นะ… แต่ ทาไมถึงต้ องรีบลงข่ าวในหนังสื อพิมพ์ขนาดนี้
ด้ วย?

ไคลน์ ชะงักเล็กน้ อยก่อนจะกล่าวคาโกหกที่เคยเตรียมและ


ซักซ้ อมล่วงหน้ า

“ผมก็ไม่ ทราบรายละเอียดเหมือนกัน รู้แต่ ว่าเวิร์ชได้ สมุดบันทึก


ของตระกูลอันทีโกนัสแห่ งจักรวรรดิโซโมม่ อนจากยุคสมัยที่สี่มา
ครอบครอง เขาเคยชักชวนให้ ผมกับนาย่ าไปช่ วยถอดรหัส ผมได้
ไปบ้ านของเขาบ้ างในช่ วงแรก แต่ ระยะหลังวุ่นอยู่กับการหางาน
จึงห่ างเหินกันไปครับ”

ไคลน์ ต้งั ใจเผยข้ อมูลของสมุดบันทึกอันทีโกนัสรวมถึง


จักรวรรดิโซโลม่ อนให้ ท้งั สองฟัง เผื่อว่ าอาจารย์ ประวัติศาสตร์ จะมี
ความเห็นที่น่าสนใจ
“ยุคสมัยที่สี่…”

โคเฮ็นขมวดคิว้ พึมพา

ทันใดนั้น นัยน์ ตาที่เบื่อโลกของอะซิกเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเป็ น


ครั้งแรก มันสู ดลมหายใจเข้ าปอดหนึ่งฟอดใหญ่ หนังสื อพิมพ์ใน
มือถูกเลื่อนขึน้ มานวดถูบริเวณขมับ

“อันทีโกนัส… ผมคุ้นหูมาก แต่ ลืมแล้วว่ าเคยได้ ยินจากที่ไหน”


ราชันย์ เร้ นลับ 25 : มหาวิหาร

ขณะอะซิกพึมพา มันหันชาเลืองมองเคว็นติน·โคเฮ็นโดยหวังให้
อีกฝ่ ายช่ วยเค้ นสมองนึก

โคเฮ็นนัยน์ ตาฟ้ าส่ ายศีรษะโดยปราศจากความลังเล

“ผมไม่ ค้ นุ เลย”

“…ครับ บางทีอาจเป็ นแค่ คาคล้ายที่มีรากภาษาเดียวกัน”

อะซิกลดมือซ้ ายลงพลางยิม้ ชื ดเชิงตาหนิตัวเอง

ไคลน์ ค่อนข้ างผิดหวังกับผลลัพธ์ แต่ ก็เรียกร้ องมากกว่ านีไ้ ม่ ได้

“อาจารย์ มิสเตอร์ อะซิก พวกคุณคงทราบอยู่แล้วว่ าผมหลงไหล


ในปริศนาของยุคสมัยที่สี่มาก ดังนั้นถ้ ามีข้อมูลเพิม่ เติมหรื อนึกสิ่ ง
ใดออก ช่ วยส่ งจดหมายแจ้ งผมสั กหน่ อยได้ ไหมครับ?”

“ไม่ มีปัญา”

การกระทาของไคลน์ ในวันนี้นับว่ าน่ ายกย่ อง อาจารย์ ท้งั สองคน


จึงยินดีช่วยเหลืออย่ างเต็มที่ โดยเฉพาะศาสตราจารย์ โคเฮ็น
อะซิกพยักหน้ าตาม

“ยังใช้ ที่อยู่เดิมใช่ ไหม?”

“ตอนนีก้ ็ใช่ ครับ แต่ ผมมีแผนกาลังจะย้ ายบ้ าน เมื่อเวลานั้นมาถึง


ไว้ เขียนจดหมายแจ้ งที่อยู่ใหม่ ส่งไปให้ ท้งั สองท่ านครับ”

ไคลน์ ตอบอย่ างนอบน้ อม

โคเฮ็นขยับไม้ คา้ สี ดาในมือซ้ ายพลางกล่ าว

“นั่นสิ นะ ถึงเวลาต้ องย้ ายไปอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ ที่ดีกว่ า


เดิมแล้ว”

ขณะเดียวกัน ไคลน์ ชาเลืองอ่านข้ อความบนหนังสื อพิมพ์ที่อะ


ซิกกาลังถือ

“อาจารย์ มิสเตอร์ อะซิก หนังสื อพิมพ์กล่าวถึงการตายของเวิร์


ชและนาย่ าไว้ ว่าอย่ างไรครับ? ตารวจเคยมาสอบปากคาผมแล้ วก็
จริง แต่ พวกเขาไม่ ได้ เล่ารายละเอียดมากนัก”

ขณะอะซิกกาลังจะอธิบาย โคเฮ็นรีบหยิบนาฬิ กาพกโซ่ ทองที่


ห้ อยติดกับเสื้ อทักซิโด้ ดาออกมาสารวจเวลา
กริ๊ก! ฝาถูกเปิ ดออก ไม้ คา้ ในมือซ้ ายขยับตามเป็ นจังหวะ
เดียวกัน

“การประชุมวิชาการใกล้เริ่มแล้ว อะซิก พวกเราไม่ ควรเสี ย


เวลานานกว่ านี้ ส่ งหนังสื อพิมพ์ให้ โมเร็ตติซะ”

“ครับ”

อะซิกยื่นหนังสื อพิมพ์กระดาษให้ ไคลน์

“พวกเราต้ องไปแล้ว อย่ าลืมเขียนจดหมายระบุที่อยู่ใหม่ ของคุณ


มาด้ วย ส่ วนที่อยู่ของพวกเรายังคงเหมือนเดิม… แผนก
ประวัติศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยโฮอี้ ฮะฮะ!”

อะซิกหัวเราะเสี ยงค่ อยก่อนจะเดินออกจากห้ องไปพร้ อมโคเฮ็น

ไคลน์ ถอดหมวกคานับครู่หนึ่งจนกระทั่งสองบุรุษลับตา จากนั้น


ก็หันมากล่าวคาอาลากับเจ้ าของห้ องทางาน—ฮาวิน·สโตน ก่อนจะ
เดินออกจากอาคารหินสามชั้นสี เทาอมเขียว

ขณะหันหลังให้ แสงแดด ไคลน์ ยกมือซ้ ายที่ถือไม้ คา้ ขึน้ มาช่ วย


กางกระดาษหนังสื อพิมพ์ หน้ าแรกมีข้อความเขียนไว้ ตัวใหญ่ ว่า :

“หนังสื อพิมพ์ทิงเก็นฉบับเช้ า”
ทิงเก็นเป็ นเมืองที่มีหนังสื อพิมพ์และวารสารมากมาย… มีท้งั
ฉบับเช้ า ฉบับเย็น หนังสื อพิมพ์ซื่อตรง หนังสื อพิมพ์รายวันเบ็ค
ลันด์ ทัสซอคไทม์ วารสารครอบครัว และเอกสารจาพวกบท
วิเคราะห์ แสดงความเห็นในประเด็นต่ างๆ

อย่ างต่าก็เจ็ดถึงแปดฉบับเท่ าที่ไคลน์ นึกออก แน่ นอนว่ าหลาย


ฉบับไม่ ใช่ หนังสื อพิมพ์ท้องถิ่น แต่ ถูกแจกจ่ ายผ่ านรถจักรไอน้าไป
ทั่วราชอาณาจักร

ปัจจุบัน เทคโนโลยีกระดาษและการพิมพ์พฒ ั นาขึน้ มาก ส่ งผล


ให้ หนังสื อพิมพ์มีราคาเพียงหนึ่งเพนนีเท่ านั้น ทุกบ้ านสามารถ
เข้ าถึงได้ ไม่ เว้ นแต่ แค่ ครอบครัวที่ฐานะค่ อนข้ างยากจน

ไคลน์ ไม่ มัวอ่านให้ เสี ยเวลา มันรีบพลิกหาหัวข้ อ ‘กลุ่มโจรติด


อาวุธบุกปล้นบ้ านอุกอาจ’ ทันที

“…จากรายงานของกรมตารวจ สถานที่เกิดเหตุซึ่งเป็ นบ้ านของ


มิสเตอร์ เวิร์ชค่ อนข้ างสยดสยอง เงินทองและเครื่ องเพชรหายไป
อย่ างไร้ ร่องรอย รวมถึงสิ่ งของมีค่าที่ใกล้มือและหยิบจับได้ ง่าย ไม่
มีแม้ แต่ เพนนีเดียวที่เหลือทิง้ ไว้ ”

“เจ้ าหน้ าที่ตารวจเชื่ อว่ า ฝ่ ายที่ก่อเหตุต้องเป็ นกลุ่มหัวรุนแรง


อามหิต พวกมันเลือกฆ่ าผู้บริสุทธิ์อย่ างมิสเตอร์ เวิร์ชและมิสนาย่ า
โดยปราศจากความปราณี”
“นับเป็ นการท้ าทายกฎหมายอันศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักรโลเอ็นที่
อุกอาจมาก! ระบบความปลอดภัยสาธารณะกาลังถูกกระตุกหนวด
เสื อ! ไม่ มีใครต้ องการเผชิญชะตากรรมเดียวกับพวกเขา!”

“แต่ โชคดีที่ยังเหลือข่ าวดีให้ ได้ ยินอยู่บ้าง ทางกรมตารวจแจ้ งว่ า


สามารถระบุเบาะแสที่พกั ของหัวโจกคนร้ ายได้ แล้ว หากมีความ
คืบหน้ าเพิม่ เติมจะแจ้ งให้ ทราบต่ อไป”

“จอห์ น·บราวนิ่ง รายงาน”

ความจริงถูกปกปิ ดไว้ โดยสมบูรณ์ …

ขณะเดินไปบนถนนอย่ างไม่ เร่ งรีบ ไคลน์ ผงกศีรษะด้ วยจังหวะ


หนักแน่ น

ถัดมาเป็ นการไล่อ่านหัวข้ อข่ าวสาคัญที่เหลือ แต่ ทันใดนั้น เส้ น


ขนบริเวณต้ นคอพลันลุกตั้งชูชัน คลับคล้ายถูกเข็มเรียวเล็กจิม้ แทง
อย่ างนุ่มนวล เป็ นความรู้สึกยุบยิบที่จับต้ องได้

มีใครบางคนกาลังจ้ องเรา?
จับตามอง? หรื อเฝ้าสั งเกต?

ไคลน์ ผุดความคิดมากมายในหัวขณะความรู้สึกถูกจ้ องมองยังคง


เด่ นชัด
สมัยยังอยู่โลกเก่า ไคลน์ เคยรู้สึกถูกดวงตาที่มองไม่ เห็นจับจ้ อง
บ่ อยครั้งก็จริง แต่ ก็ไม่ มีครั้งใดที่ชัดเจนและจับต้ องได้ เท่ ากับวินาที
นี!้

ไม่ ว่าจากความทรงจาของตัวมันหรื อของไคลน์ คนก่อน

การที่ประสาทสั มผัสของเราเฉียบคมขึน้ เป็ นผลมาจากเดินทาง


ข้ ามโลกหรื อพิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตากันแน่ ?

ไคลน์ คิดแผนสาหรับค้ นหาตัวอีกฝ่ ายโดยใช้ ความรู้จากนิยาย


และทีวีบนโลกเก่า มันหยุดเดินและลดหนังสื อพิมพ์ในมือลง ก่ อน
จะแสร้ งกวาดสายตามองไปรอบริมแม่ น้าโฮอีป้ ระหนึ่ง
นักท่ องเที่ยวหยุดพักชมวิว

ถัดมาเป็ นการแสร้ งสารวจวิวทิวทัศน์ รอบตัวอย่ างเชื่ องช้ าและ


ดื่มด่าไปกับมัน ศีรษะและแววตาบรรจงหันมองเก็บรายละเอียด
เมื่อวนครบหนึ่งรอบเต็ม ภาพทั้งหมดถูกบันทึกในหัวสมองโดยไม่
ขาดตกบกพร่ อง

นอกเหนือจากต้ นไม้ ทุ่งหญ้ าเขียวขจี และนักศึกษาที่เดินผ่ านไป


มาแล้ว ไม่ มีบุคคลน่ าสงสั ยอยู่ในระยะการมองเห็นแม้ แต่ คนเดียว!

แต่ ความรู้สึกของการถูกจ้ องมองยังคงเด่ นชัดไม่ แปรเปลี่ยน

นี่มัน… หัวใจไคลน์ เริ่มเต้ นระรัว เลือดลมสู บฉีดไปทั่วร่ างอย่ าง


เดือดพล่าน
หนังสื อพิมพ์ถูกพับขึน้ มาปกปิ ดใบหน้ าไว้ ครึ่งหนึ่งเพื่อมิให้ ใคร
เห็นสี หน้ าอันตื่นตระหนก

ไม้ คา้ ในมือถูกกาแน่ น สมาธิจดจ่ ออยู่กับการใช้ มือขวาชักปื น


ออกจากซองรักแร้ ซ้าย

หนึ่งก้าว สองก้าว สามก้ าว… ไคลน์ ย่องเดินไปด้ านหน้ าทีละนิด


ไม่ ผิดแน่ อีกฝ่ ายยังคงจับตามองอยู่ แต่ ปราศจากสั ญญาณการลง
มือทาร้ าย

มันเดินผ่ านถนนหน้ ามหาวิทยาลัยด้ วยจังหวะการเดินที่ไม่ ค่อย


จะไหลลื่นนัก จนกระทั่งมาถึงสถานีรถม้ าสาธารณะในที่สุด

ค่ อนข้ างบังเอิญที่รถม้ าผ่ านมาทันทีโดยไม่ ต้องรอนาน

“กางเขน… ซุตแล… ไม่ สิ เอาเป็ นถนนแชมเปญก็แล้วกัน”

ไคลน์ ตอบกลับโลเลตะกุกตะกัก

มันคิดจะตรงกลับบ้ านในตอนแรก แต่ นึกได้ ว่าอาจทาให้ อีกฝ่ าย


ทราบที่อยู่ จึงเกิดเปลี่ยนใจจะไปลงถนนซุตแลนกลางคันเพื่อแวะ
สานักงานเหยี่ยวราตรีและรายงานเหตุการณ์ กับดันน์ ·สมิท
ทว่ าไคลน์ เกิดเปลี่ยนใจอีกครั้ง การไปหาเหยี่ยวราตรีโดยตรง
อาจทาให้ บุคคลที่จับตามองไหวตัวทันและทราบถึงความลับของ
บริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ

ด้ วยเหตุนี้ ไคลน์ จึงต้ องมุ่งหน้ าไปทางอื่น

“หกเพนนี”

เจ้ าหน้ าที่เก็บเงินแจกแจงราคาตามหน้ าที่

ไคลน์ ไม่ ได้ พกธนบัตรปอนด์ ติดตัวมาเลย มีเพียงแบงค์ หนึ่งซูล


สองใบกับเหรียญเพนนีอีกจานวนมาก

มันจ่ ายค่ ารถม้ าด้ วยหกเหรียญก่อนจะดึงตัวเองเข้ าไปในห้ อง


โดยสาร

หลังจากนั่งลงและประตูห้องโดยสารถูกปิ ดมิดชิด ความรู้สึกถูก


จับตามองพลันหายไปเป็ นปลิดทิง้ !

ไคลน์ สูดลมหายใจเข้ าลึก แข้ งขากาลังสั่ นระริกอย่ างหวาดกลัว

เราควรทาอย่ างไรดี?
ต้ องไปไหนต่ อ?

ไคลน์ มองออกไปนอกหน้ าต่ างพร้ อมกับเค้ นสมองนึกหาวิธีการ


เอาตัวรอด
จนกว่ าจะทราบเจตนาของผู้จับตามอง มันต้ องสมมติให้ อีกฝ่ าย
มีเจตนาร้ ายไว้ ก่อน

ความคิดและไอเดียมากมายผุดขึน้ ในหัว แต่ เกือบทั้งหมดต้ อง


โยนทิง้ เพราะเสี่ ยงอันตรายหรื อเพ้อฝันเกินไป

ข้ อสรุปปรากฏหลังจากผ่ านไปหลายนาที

ต้ องแจ้ งให้ เหยี่ยวราตรีทราบเสี ยก่อน นี่คือทางเดียวที่จะหลุด


พ้นจากอันตรายได้ เด็ดขาด

แต่ ครั้นจะตรงไปสานักงานเลยก็ไม่ ใช่ เรื่ อง บางทีอีกฝ่ ายอาจเล็ง


สิ่ งนี้ไว้ ต้ังแต่ แรก…

เมื่อชั่งน้าหนักหาข้ อดีข้อเสี ยและค่ อยๆ ตัดตัวเลือกทิง้ ในที่สุด


สมองไคลน์ ก็ได้ คาตอบชัดเจน

ซู้ด—

มันสู ดลมหายใจให้ ฉ่าปอดเพื่อเรียกความสุ ขุมกลับคืนมา วิว


ทิวทัศน์ ด้านนอกรถม้ ากาลังแล่ นฉิวอย่ างรวดเร็ว

ไคลน์ ถึงที่หมายซึ่งเป็ นถนนแชมเปญโดยปลอดภัย มันเปิ ด


ประตูและก้าวลงรถพร้ อมกับไม้ คา้ ทันใดนั้น ความรู้สึกของการถูก
จ้ องมองหวนกลับมาอีกระลอก

มันแสร้ งทาเป็ นไม่ มีอะไรเกิดขึน้ มือซ้ ายถือไม้ คา้ มือขวาถือ


หนังสื อพิมพ์ สองเท้ าก้ าวเดินจากถนนแชมเปญไปทางเส้ นตัดกับ
ถนนซุตแลน

แต่ เมื่อถึงทางแยก มันไม่ เลีย้ วเข้ าซุตแลน แต่ เลือกเดินเข้ าไปใน


ถนนพระจันทร์ แดงที่อยู่ข้างกัน ผ่ านไปเพียงไม่ กี่ก้าวก็ถึงลาน
กว้ างและมหาวิหารขนาดใหญ่ ซึ่งมียอดแหลม
มหาวิหารพระแม่ เซเลน่ า—สานักงานใหญ่ ของโบสถ์ เทพธิดา
รัตติกาลสาขาเมืองทิงเก็น

ในฐานะสาวกอย่ างไคลน์ ไม่ ใช่ เรื่ องแปลกที่มันจะเข้ าร่ วมพิธี


สวดภาวนาในวันว่ าง

การตกแต่ งภายนอกคล้ายคลึงกับโลกเก่ามาก เป็ นอาคารทรง


โกธิกเก่าแก่ กึ่งกลางเป็ นหอนาฬิ กาสู งสี ดาหรูหราอลังการ ฝั่งซ้ าย
ขวาหอนาฬิ กาประดับประดาด้ วยกระจกตารางหมากฮอสสี น้าเงิน
สลับแดง

ไคลน์ รีบเดินเข้ าวิหารและตรงไปยังห้ องสวดภาวนาทันที


ระหว่ างทางได้ เชยชมทัศนียภาพอันงดงามสองข้ างฝั่ง บาน
หน้ าต่ างสู งตกแต่ งด้ วยกระจกสี แดงสั บน้าเงิน ปล่อยให้ แสงแดด
ลอดผ่ านเข้ ามามอบความสว่ าง
กระจกสี น้าเงินเป็ นน้าเงินเข้ มจนเกือบดา ส่ วนกระจกแดงก็แดง
เหมือนพระจันแดงในยามค่าคืน ผสมผสานจนบรรยากาศภายใน
วิหารค่ อนข้ างลึกลับและเงียบสงบ

ความรู้สึกถูกจับตามองหายไป ไคลน์ แสร้ งทาหน้ านิ่งพลางเดิน


ตรงไปยังประตูห้องสวดภาวนาที่บุคคลภายนอกเข้ าออกได้
ตลอดเวลา

ภายในห้ องไม่ มีกระจกสู งเหมือนด้ านนอก บรรยากาศอึมครึม


และมืดกว่ าเล็กน้ อย

แต่ ห้องก็มิได้ มืดสนิท ณผนังด้ านบนเหนือแท่ นบูชาทรงโค้ งที่ต้งั


ในจุดลึกสุ ด ตรงข้ ามกับประตูทางเข้ าพอดิบพอดี บริเวณดังกล่าวมี
รูโหว่ ขนาดกาปั้นมนุษย์ ราวยี่สิบจุด ปล่อยให้ แสงแดดเล็ดลอดเข้ า
มามอบความสว่ างกับผู้คนภายในห้ องสวดภาวนา

เจตนาก็เพื่อให้ มองเห็นดวงดาวอันศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ผุดผ่ อง
ส่ องระยิบระดับยามค่าคืน เหตุผลก็ไม่ ซับซ้ อน สถานที่แห่ งนี้
เคารพบูชาเทพธิดารัตติกาลซึ่งเป็ นสั ญลักษณ์ แห่ งกลางคืน

แม้ แต่ คนอย่ างไคลน์ ก็ไม่ คิดลบหลู่ดูหมิ่นเทพ มันตัดสิ นใจก้ม


ศีรษะลงเล็กน้ อยอย่ างนอบน้ อม
ขณะบิชอปเทศนาธรรมด้ วยน้าเสี ยงนุ่มละมุน ไคลน์ เดินหาที่นั่ง
อย่ างเงียบงันไปบนทางเดินกลางห้ องที่แบ่ งม้ านั่งไม้ ออกเป็ นสอง
ฝั่งซ้ ายขวาอย่ างเท่ าเทียม ก่อนจะตัดสิ นใจนั่งลงบนเก้าอีย้ าวในจุด
ใกล้กับทางเดิน

ไม้ คา้ ในมือซ้ ายถูกบรรจงวางพิงพนักด้ านหน้ า ไคลน์ ถอดหมวก


ออกวางไว้ บนตักพร้ อมกับหนังสื อพิมพ์ ก่อนจะโน้ มตัวไป
ด้ านหน้ าเล็กน้ อย ศีรษะก้มลงและประสานมือซ้ ายขวาเข้ าหากัน

ทุกการกระทาเป็ นไปอย่ างไม่ เร่ งร้ อน ท่ าทีคล้ายคลึงกับผู้ที่ต้งั ใจ


มาสวดภาวนา

เมื่อมีทางเลือกไม่ มากนัก ไคลน์ หลับตาลงดาดิ่งเข้ าสู่ ความมืดมิด


หูเงี่ยฟังเสี ยงเทศนาจากบิชอปด้ านหน้ า

“ผู้ที่ขาดแคลนอาหารและเครื่ องนุ่งห่ ม ผู้ที่ปราศจากสิ่ งห้ อหุ่ม


ร่ างกายในยามหนาวเหน็บ

“ผู้ที่ช่ ุมฉ่าเปี ยกปอนด้ วยฝี มือของสายฝน ผู้ที่ต้องนอนแอบอิง


หินก้อนใหญ่ เพราะปราศจากที่อยู่อาศัย

“เด็กกาพร้ าที่ถูกช่ วงชิงตัวจากอ้อมอกมารดา พวกเขาทุกคน


ล้วนปราศจากความหวังในการดารงชีวิต พวกเขาต้ องเผชิญวิบาก
กรรมเพราะความยากจนที่ตนเลือกเกิดไม่ ได้
“แต่ รัตติกาลมิเคยทอดทิง้ คนเหล่านี้ ในทางกลับกัน รัตติกาลจะ
โอบอุ้มพวกเขาด้ วยความรักความอาทร”

บทสวดเทศนาดังกังวาลในหัวไคลน์ ภาพการของเห็นของมันยัง
ดามืดขณะหลับตา แต่ จิตใจกลับผ่ อนคลายและถูกชาระล้างอย่ าง
น่ าประหลาด

ไคลน์ อดทนอย่ างใจเย็นจนกระทั่งบิชอปเทศนาจบและดาเนิน


ขั้นตอนสุ ดท้ ายของพิธี

หลังจากนั้น บิชอปเปิ ดประตูห้องสารภาพบาปที่อยู่ไม่ ห่างนัก


และเข้ าไปนั่งด้ านใน ชายหญิงภายในห้ องสวดทุกคนพลันลุกขึน้
ยืนและต่ อแถวเพื่อรอเข้ าห้ องสารภาพบาป

ไคลน์ ลืมตา มันสวมหมวกกลับคืนและลุกขึน้ ต่ อแถวโดยแทรก


ตัวปะปนกับคนอื่น

ใช้ เวลาราวยี่สิบนาทีกว่ าจะถึงคิว

เมื่อเดินเข้ าไปในห้ องสารภาพบาป ไคลน์ หันกลับไปปิ ดประตูที่


อยู่ด้านหลัง ภาพการมองเห็นพลันมืดสนิท

“บุตรต้ องการกล่าวสิ่ งใดอย่ างนั้นหรื อ?”


เสี ยงบิชอปดังจากอีกฟากฝั่งของผนังกั้นที่ทาจากไม้

ไคลน์ นาตราตารวจ ‘หน่ วยปฏิบัติการพิเศษที่เจ็ด’ ออกมาจาก


กระเป๋า มันรีบยื่นผ่ านทางช่ องว่ าง

“มีใครบางคนกาลังสะกดรอยตาม ผมต้ องการพบดันน์ ·สมิท


โดยเร็ว”

ราวกับภาวะอารมณ์ ถูกความมืดมิดภายในห้ องแคบเข้ าครอบงา


เสี ยงของไคลน์ น่ ุมนวลกว่ าปรกติแม้ กาลังตื่นเต้ น

บิชอปนาตราตารวจไปตรวจสอบด้ วยความเงียบงันหลายวินาที
ก่อนจะเปล่งเสี ยงกล่าว

“หันหน้ าเข้ าหาห้ องสารภาพบาปและหมุนตัวไปทางขวา เดิน


ตรงไปจนสุ ดแล้วจะพบกับประตูลับ เข้ าไปในประตู บุคคลทีร่ ออยู่
ด้ านในจะนาทางจนถึงที่หมายเอง”

เมื่อกล่าวจบ บิชอปทาการดึงเชื อกภายในห้ องเพื่อส่ งสั ญญาณ


บอกนักบวชบางคนให้ เตรียมความพร้ อมหลังจากได้ ยินเสี ยงระฆัง

ไคลน์ รับตราตารวจกลับมาพร้ อมกับถอดหมวกเลื่อนไว้ บริเวณ


อก มันก้มคานับอย่ างนอบน้ อมก่อนจะเปิ ดประตูออกจากห้ อง
สารภาพบาป
เมื่อมั่นใจว่ าปราศจากความรู้ สึกถูกจับตามอง ไคลน์ สวมหมวก
กลับที่เก่า มันหันหน้ าเข้ าหาห้ องสารภาพบาปครู่หนึ่งก่อนจะหมุน
ตัวไปทางขวาโดยไม่ เปลี่ยนสี หน้ า เดินตรงไปเรื่ อยๆ จนใกล้กับ
แท่ นบูชาทรงโค้ ง

ประตูลับอยู่ไม่ ห่างจากแท่ นมากนัก มันเปิ ดออกอย่ างเงียบงัน


และรีบแทรกตัวเข้ าไปในช่ องว่ างโดยระวังไม่ ให้ ใครเห็น

เมื่อประตูปิดลงไร้ เสี ยง ไคลน์ ได้ พบกับนักบวชวัยกลายคนในชุด


คลุมสี ดา ภายในห้ องมีแสงสว่ างเล็กน้ อยจากโคมไฟแก๊ ส

“ให้ ช่วยอะไร?”

นักบวชถามสั้ นห้ วน

ไคลน์ แสดงตราตารวจพร้ อมกับเล่าในสิ่ งที่เคยอธิบายบิชอปเมื่อ


ครู่

นักบวชวัยกลางคนไม่ กล่าวสิ่ งใดต่ อ มันหันหลังกลับและเดินนา


ทางอย่ างเงียบงัน

ไคลน์ พยักหน้ าก่อนจะขยับปี กหมวกให้ เข้ าที่เข้ าทาง จากนั้นก็


รีบเดินตามนักบวชไปไม่ ห่าง
โรแซนเคยกล่าวไว้ ว่า ณทางเดินสี่ แยกที่ตรงไปยังประตูยานิส
หากเลีย้ วซ้ ายจะสามารถใช้ ไปโผล่ที่วิหารพระแม่ เซเลน่ าได้
ราชันย์ เร้ นลับ 26 : ฝึ กซ้ อม

กึก กึก กึก

เสี ยงฝี เท้ าดังก้องทางเดินที่มืดมิดและคับแคบ

บรรยากาศค่ อนข้ างเงียบงัน

ไคลน์ เดินหลังตรงโดยพยายามไล่ตามความเร็วนักบวชให้ ทัน


มันไม่ กล้าเอ่ยปากถามหรื อชวนคุย ทาตัวสงบนิ่งดุจดังผิวน้าที่
ปราศจากสายลมพัดผ่ าน

หลังจากเดินผ่ านทางเดินยาวที่มีระดับป้องกันภัยแน่ นหนา


นักบวชชุ ดคลุมดานากุญแจออกมาไขประตู จากนั้นก็ชี้นวิ้ ไปยัง
บันไดลงชั้นล่างที่ทาจากหิน

“เดินตรงไป เมื่อถึงสี่ แยก เลีย้ วซ้ ายจะเป็ นประตูยานิส”

“ขอให้ เทพธิดาคุ้มครอง”

ไคลน์ ใช้ มือขวาทาสั ญลักษณ์ พระจันทร์ แดงที่หน้ าอก เฉกเช่ น


สั งคมสามัญชนที่มีมารยาทพื้นฐานรูปแบบหนึ่ง ศาสนาเองก็มี
มารยาททักทายพื้นฐานอีกรูปแบบหนึ่ง
“เทพธิดาจงเจริญ”

นักบวชชุดคลุมดาทาสั ญลักษณ์ เดียวกัน

ไคลน์ ไม่ กล่าวสิ่ งใดขณะเดินลงบันไดหินที่สองข้ างฝั่งมีโคมไฟ


ติดตั้งเป็ นระยะ

เมื่อถึงกลางทาง มันตัดสิ นใจหันกลับไปมองด้ านหลัง แล้วก็ได้


พบนักบวชคนเดิมยังคงยืนจ้ องลงมาจากบันไดขั้นแรก ท่ าทางแข็ง
ทื่อไม่ ขยับเขยื้อนดุจดังหุ่นขีผ้ งึ้

ไคลน์ รีบหันกลับและก้าวเท้ าต่ อไปจนกระทั่งถึงขั้นบันไดชั้น


ล่างสุ ด ทางเดินหินปูทอดยาวลักษณะเดียวกับทางลงจากบริษัท
รักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ

เดินเพียงไม่ นานก็มาถึงสี่ แยก

มันไม่ เลีย้ วซ้ ายเพื่อตรงไปประตูยานิส สาเหตุเพราะดันน์ ·สมิท


เพิง่ จะเป็ นเวรเฝ้าประตูไปเมื่อวาน ไม่ น่าจะเป็ นซ้าในวันนีไ้ ด้

ไคลน์ เลีย้ วขวาและเดินตรงไปเรื่ อยๆ จนกระทั่งพบกับบันไดหิน


ขาขึน้ ของบริษัทหนามทมิฬที่โรแซนเคยนาทาง มันสื บเท้ าขึน้ ชั้น
บนโดยไม่ รีรอ
เมื่อเดินถึงสุ ดบันใดและเปิ ดประตูห้อง ชายหนุ่มพบกับประตูหก
บานแบ่ งออกเป็ นซ้ ายขวาฝั่งละสาม บางบานปิ ดสนิท บางบานเปิ ด
แง้ ม ไคลน์ ไม่ สนใจจะเคาะหรื อเดินเข้ าไป มันรีบตรงไปยังห้ อง
รับรอง

ภายในห้ องมีหญิงสาวผมน้าตาลกาลังนอนอ่ านวารสารพลางยิม้


น้ อยยิม้ ใหญ่

“สวัสดีโรแซน”

ไคลน์ แอบย่ องเข้ าใกล้หล่อนพร้ อมกับกล่าวทักทายและใช้ นิ้ว


เคาะโต๊ ะหนึ่งครั้ง

ก็อก!

โรแซนดีดตัวขึน้ นั่งด้ วยท่ าทางลนลานสุ ดขีด หญิงสาวกล่าว


ทักทายกลับด้ วยน้าเสี ยงตะกุกตะกัก

“ส…สวัสดีไคลน์ ! ท…ทาไมคุณถึงอยู่ที่นี่?”

โรแซนใช้ มือทาบอกพร้ อมกับแสดงสี หน้ าโล่งใจประหนึ่งเด็ก


สาวที่กลัวพ่อจับได้ ว่าแอบโดดเรียน

“ผมต้ องการพบหัวหน้ า”
ไคลน์ ตอบสั้ นห้ วน
“…ใจหายหมด นึกว่ าหัวหน้ าแอบมาตรวจ”

โรแซนจ้ องไคลน์ เขม็ง

“คุณควรรู้จักเคาะประตูบ้างนะ! โชคดีที่ฉันเป็ นหญิงสาวความ


อดทนสู งและไม่ ชอบใช้ ความรุนแรง ไม่ สิ ขอเรียกตัวเองว่ า
สุ ภาพสตรีก็แล้วกัน… แล้วคุณอยากพบหัวหน้ าไปทาไมหรื อ?
ตอนนีเ้ ขาคงอยู่ที่ห้องมาดามโอเรียนน่ ากระมัง”
ถึงจะถูกตาหนิ แต่ ไคลน์ กลับอมยิม้ มันขบขันท่ าทีตอบสนอง
น่ ารักน่ าชังจากโรแซน

ชายหนุ่มครุ่นคิดเล็กน้ อยก่อนจะตอบ

“ความลับน่ ะ”

“…”

นัยน์ ตาของเธอพลันสั่ นระริก แอบแฝงความไม่ พอใจเล็กน้ อย


ไคลน์ ทาเพียงโบกมืออาลาให้ และเดินจากไป

เมื่อพ้นฉากกั้น ไคลน์ หยุดลงหน้ าประตูบานขวามือพร้ อมกับใช้


นิว้ เคาะ
“เข้ ามา”

เป็ นเสี ยงอันลุ่มลึกของดันน์ ·สมิท

ไคลน์ ผลักประตูห้องเดินเข้ าไปและปิ ดตามหลัง มันถอดหมวก


ออกเพื่อทักทายดันน์ ·สมิท

“สวัสดีครับหัวหน้ า”

“สวัสดี มีอะไรให้ ผมช่ วยอย่ างนั้นหรื อ?”

เสื้ อกันลมและหมวกสี ดาตัวเก่งถูกแขวนไว้ บนราวใกล้กับโต๊ ะ


ทางาน ดันน์ กาลังสวมเชิ้ตขาวและกั๊กดา ถึงศีรษะค่ อนข้ างเถิกล้าน
แต่ นัยน์ ตาสี เทาหม่ นคู่น้ นั ยังคงสุ ขุมเช่ นเคย

สี หน้ าของดันน์ ดูดีกว่ าเมื่อวานเล็กน้ อย

“มีใครบางคนสะกดรอยตามผม”

ไคลน์ เล่าความจริงโดยไม่ ปิดบังหรื อแต่ งเติม

ดันน์ เอนหลังพิงเบาะพร้ อมกับประสานมือทั้งสองข้ างเข้ าหากัน


นัยน์ ตาจ้ องมองเข้ าไปในดวงตาไคลน์ อย่ างเพ่งพิศ
มันมิได้ ไต่ ถามรายละเอียดของผู้สะกดรอย แต่ เลือกเบี่ยงไปถาม
ประเด็นอื่น

“คุณมาทางวิหารพระแม่ ใช่ ไหม?”

“ครับ”

ไคลน์ ตอบสั ตย์ จริง

ดันน์ ผงักศีรษะหงึก มันไม่ ได้ ระบุว่าการกระทาของไคลน์ เป็ น


เรื่ องดีหรื อแย่ บทสนทนาเปลี่ยนกลับมาเป็ นหัวข้ อหลัก

“อาจเป็ นเพราะบิดาของเวิร์ชยังไม่ ปักใจเชื่ อในสาเหตุการตาย


ของบุตรชาย จึงทาการจ้ างนักสื บเอกชนจากเมืองวายุมาแกะรอย”

เมืองคอนสแตนแห่ งรัฐเลียบทะเลมีอีกชื่ อหนึ่งว่ าเมืองวายุ เป็ น


ดินแดนที่อุตสาหกรรมถ่ านหินและเหล็กพัฒนาไปไกล ถูกจััดให้
เป็ นหนึ่งในสามเมืองใหญ่ ของอาณาจักรโลเอ็น

ไม่ ปล่อยให้ ไคลน์ แสดงความเห็น ดันน์ อธิบายต่ อ

“หรื ออาจเป็ นกลุ่มที่เกี่ยวพันกับสมุดบันทึกนั่นก็ได้ … เมื่อไม่


นานมานี้ เราเริ่มทาการสื บสวนต่ อยอดว่ าเวิร์ชได้ รับสมุดเล่ม
ดังกล่าวมาจากใคร เรื่ องนีอ้ าจเชื่ อมโยงกับองค์ กรลับบางกลุ่ม และ
ถ้ าเป็ นเช่ นนั้นจริง พวกมันคงกาลังตามหาสมุดบันทึกตระกูลอันที
โกสนัสอยู่เช่ นกัน”
“แล้วผมควรทาอย่ างไรดี?”

ไคลน์ ถามเสี ยงกังวลพลางขมวดคิว้ มันได้ แต่ ภาวนาให้ เรื่ องราว


เป็ นแบบแรก

ดันน์ ไม่ ตอบในทันที มันยกถ้ วยกาแฟซดอึกใหญ่ เมื่อวางลง


นัยน์ ตาสี เทาเงยขึน้ มาจ้ องมองไคลน์ อย่ างไม่ สั่นคลอน

“กลับไปทางเดิมที่คุณมา จากนั้นก็ทาตัวตามปรกติ… จะทา


อะไรก็ได้ ”

“ทาอะไรก็ได้ ?”

ไคลน์ ถามยา้

“ใช่ แล้ว… ทาอะไรก็ได้ ”

ดันน์ ผงกศีรษะหนักแน่ น

“แต่ ต้องไม่ ผิดกฏหมายหรื อทาให้ อีกฝ่ ายตื่นตัว”

“ได้ ครับ”
ไคลน์ สูดลมหายใจเต็มปอดก่อนจะอาลาดันน์ และเดินออกจาก
ห้ อง เพียงไม่ นาน วิวทิวทัศน์ สองข้ างทางกลายเป็ นใต้ ดินที่มืดมิด
ที่มีแสงไฟสลัวจากโคมตะเกียงอีกครั้ง

พอมาถึงสี่ แยก ไคลน์ เลีย้ วซ้ ายเพื่อกลับเข้ าวิหารพระแม่ เซเลน่ า


ทางเดินยาวที่ค่อนข้ างมืดและเงียบงัน เป็ นบรรยากาศที่สามารถ
สั่ นคลอนจิตใจมนุษย์ ได้ ไม่ น้อย

เสี ยงฝี เท้ าชายหนุ่มดังก้องทางเดินคับแคบ

เมื่อมาถึงบันไดหินขาขึน้ ไคลน์ ก้าวไปทีละขั้นจนถึงด้ านบน มัน


ได้ พบกับเงาลางของบุคคลหนึ่งกาลังยืนนิ่งท่ ามกลางแสงไฟสลัว

นักบวชวัยกลางคนชุดคลุมดา

ไม่ มีใครกล่าวสิ่ งใดต่ อกัน นักบวชทาเพียงหันหลังกลับและเปิ ด


ประตูทางลับให้

ไคลน์ ปรากฏตัวที่ห้องสวดภาวนาอีกครั้ง วงกลมขนาดกาปั้น


เหนือแท่ นบูชาทรงโค้ งยังคงปล่อยให้ แสงลอดผ่ านท่ ามกลางห้ อง
มืดสลัว ชายหญิงหลายคนยังคงยืนต่ อคิวเข้ าห้ องสารภาพบาป
อย่ างเป็ นระเยียบ แต่ ปริมาณลดลงจากตอนแรกมาก

หลังจากยืนไตร่ ตรองครู่หนึ่ง ไคลน์ ตัดสิ นใจเดินออกจากห้ อง


สวดพร้ อมกับไม้ คา้ และหนังสื อพิมพ์ในมือ
เข้ ามาแบบไหนก็ออกไปแบบนั้น แสร้ งทาเป็ นไม่ มีอะไรเกิดขึน้

ในวินาทีที่ใบหน้ าปะทะแสงแดดด้ านนอก ความรู้สึกถูกจับตา


มองพลันหวนกลับคืน

ราวกับเหยื่อที่รับรู้ว่าพญาเหยี่ยวบนท้ องฟ้ ากาลังจ้ องเขม็ง

ทันใดนั้น มันผุดคาถามใหม่ ในใจ

เหตุใด ‘ผู้จับตามอง’ ถึงไม่ ตามเข้ าไปภายในวิหาร? ตนอาจใช้


ทางลับไปหาเหยี่ยวราตรีจนคลาดสายตาได้ ก็จริง แต่ ถ้าเป็ นห้ อง
สวดภาวนาก็พอจะเข้ าได้ ไม่ ใช่ หรื อ?

บางทีผ้ จู ับตามองอาจเป็ นอาชญากรที่เคยกระทาผิดร้ ายแรงจน


ได้ รับหมายจับ… หรื ออาจเป็ นผู้วิเศษที่บิชอปและนักบวชด้ านใน
จดจาใบหน้ าได้

และหากเป็ นเช่ นนั้น ตัวตนผู้จับตามองจะหากไกลจาก ‘นักสื บ


เอกชน’ มาก…

ไคลน์ ถอนหายใจยาวสุ ดปอดก่อนจะเดินไปบนถนนด้ วยสี หน้ า


เรียบเฉย ปราศจากอาการตื่นตระหนกเหมือนก่อนหน้ า

เพียงไม่ นานก็มาถึงถนนซุตแลน
ไคลน์ เดินเข้ าไปในอาคารทรงโบราณหลังหนึ่งที่กาแพงมีรอย
ด่ างดา บ้ านเลขที่ 3 ชื่ อเต็มของที่นี่คือ ‘สโมสรยิงปื นซุตแลน’

เป็ นส่ วนหนึ่งของกรมตารวจ ใต้ ดินเปิ ดเป็ นลานซ้ อมยิงปื นเพื่อ


หารายได้ และฝึ กฝนบุคลากรไปในตัว

ความรู้สึกถูกจับตามองหายไปอีกครั้งหลังจากเดินเข้ าไปด้ านใน


อาคาร ไคลน์ ไม่ รีรอ มันแสดงตราหน่ วยปฏิบัติการพิเศษที่เจ็ด
ทันที
หลังจากยืนยันตัวตน เจ้ าหน้ าที่นาทางลงมายังห้ องใต้ ติดที่
ค่ อนข้ างคับแคบ

ห้ องยิงปื น

“เป้าสิ บเมตรครับ”

ไคลน์ แจ้ งเจ้ าหน้ าที่ขณะชักปื นลูกโม่ ออกจากซองรักแร้ ซ้าย ถัด


มาเป็ นการนากล่องกระสุ นทองเหลืองออกจากกระเป๋ามาวาง
เตรียม

เหตุการณ์ ที่เกิดขึน้ ในวันนีไ้ ด้ กระตุ้นให้ มันเลิก


ผัดวันประกันพรุ่ง ในเมื่อภัยคุกคามอยู่ใกล้เพียงปลายจมูก คงนิ่ง
นอนใจไม่ ได้ อีกแล้ว
แถมการซ้ อมยิงปื นยังช่ วยปลดปล่อยความเครียดและพัฒนา
ฝี มือตัวเองไปพร้ อมกัน

กริ๊ก!

หลังจากเจ้ าหน้ าที่กลับไป ไคลน์ ตบโม่ มาทางซ้ ายพร้ อมกับนา


กระสุ นปราบมารสี เงินห้ านัดออกจากโม่ ตามด้ วยการใส่ กระสุ น
ทองเหลืองสาหรับซ้ อมยิงเข้ าไปแทน

มันไม่ เหลือช่ องว่ างไว้ เผื่อปื นลั่น รวมถึงไม่ ถอดหมวกทรงสู งที่


ค่ อนข้ างเกะกะออกก่อน

ไคลน์ หวังฝึ กซ้ อมให้ คล้ายคลึงสถานการณ์ จริงที่สุด ขณะเกิดภัย


อันตรายมันคงมิอาจตะโกนกับศัตรูแล้วบอกว่ า

“เดี๋ยวก่อน! รอฉันแต่ งตัวให้ ทะมัดทะแมงกว่ านี้สักหน่ อย”

…เห็นทีจะไม่ ได้

กริ๊ก! ไคลน์ ใช้ นวิ้ หัวแม่ มือดันโม่ กลับเข้ าที่ในสภาพพร้ อมยิง

ทันใดนั้น มือทั้งสองข้ างยกปื นขึน้ ตั้งตรงในท่ าเตรียมยิง


เป้าหมายที่ห่างออกไปราวสิ บเมตรถูกเล็งผ่ านศูนย์
แต่ มันไม่ รีบร้ อนลั่นไก ภายในหัวกาลังประมวลผลอย่ างใจเย็น
นึกทบทวนความรู้สมัยเป็ นนักเรียนรักษาดินแดนบนโลกเก่า

ระยะห่ างเท่ านีต้ ้ องเล็งศู นย์ ประมาณไหน รวมถึงต้ องกร็งมือ


มากเพียงใดเพื่อเตรียมรับแรงดีดของปื น

ฉึบ ฉึบ ฉึบ

เป็ นเสี ยงเสื้ อผ้ าขยับขณะไคลน์ ซักซ้ อมยกปื นขึน้ ลงหลายครั้งให้


คุ้นชิน สี หน้ าของมันเอาจริงเอาจังประหนึ่งนักเรียนใกล้เข้ าห้ อง
สอบ

หลังจากซ้ อมชักปื นเล็งสั กพัก มันเดินถอยหลังเพื่อมานั่งบน


เก้าอีย้ าวด้ วยสี หน้ าผ่ อนคลาย ปื นลูกโม่ ถูกวางไว้ ข้างลาตัว ปาก
กระบอกหันออกป้องกันการลั่น

แขนของมันปวดเมื่อยเล็กน้ อยจากการขยับขึน้ ลงซ้าไปมาหลาย


ครั้ง ไคลน์ พยายามนวดคลึงเพื่อบรรเทา

ในหัวจินตนาการถึงเทคนิคยิงปื นของโลกเก่าที่ร่าเรียน เมื่อเริ่ม


รู้สึกเริ่มดีขนึ้ ไคลน์ ลุกจากที่นั่งและเดินกลับไปยังลู่ยิง

มือทั้งสองข้ างยกปื นเล็งไปยังเป้าสิ บเมตรด้ านหน้ าโดยไม่ สั่น


ไหว
ท้ ายที่สุด ไกปื นถูกลั่นเป็ นครั้งแรก
ปัง!

แม้ จะเกร็งรับไว้ ล่วงหน้ า แต่ ฝ่ามือก็ยังสั่ นระริกหนักหน่ วง


รวมถึงร่ างกายที่เซถอยหลังเล็กน้ อยจากแรงดีดของปื น

ยิงพลาดเป้า

ปัง! ปัง! ปัง!


ความทรงจาของโลกเก่าเริ่มถูกรื้อฟื้ น มันกระหน่ายิงเพื่อเรียก
ความมั่นใจและความเคยชิน จนกระทั่งผ่ านไปหกนัด

เริ่มเข้ าเป้าบ้ างแล้ว… ไคลน์ ถอยหลังกลับไปนั่งบนเก้าอีย้ าว


พลางถอนหายใจโล่งอก

กริ๊ก! ไคลน์ ดันโม่ ออกและเทปลอกกระสุ นลงพื้น จากนั้นก็บรรจุ


เพิม่ เข้ าไปอีกหกนัด

เมื่อแขนเริ่มหายล้า มันลุกขึน้ ยืนและกลับไปประจาจุดยิง

ปัง! ปัง! ปัง!

เสี ยงดังกังวาลทั่วห้ องซ้ อม เป้าสิ บเมตรเริ่มสั่ นไหวหลังจากถูก


กระสุ นพุ่งผ่ าน พัฒนาการความแม่ นยาของไคลน์ ดีขึน้ ทุกขณะ
มันเริ่มตั้งใจเล็งกลางเป้าบ้ างแล้ ว

เป็ นการยิงหกนัดสลับพักแขนไปเรื่ อยๆ

กระสุ นซ้ อมสามสิ บนัดที่เบิกมาล้วนถูกใช้ จนหมด รวมถึงอีกห้ า


นัดจากกระสุ นของเดิมที่ไคลน์ คนเก่าใช้ ฆ่าตัวตาย

เมื่อกระสุ นถูกใช้ จนเกลีย้ ง ไคลน์ เหวี่ยงแขนข้ างที่ปวดเมื่อยก่อน


จะเทปลอกกระสุ นห้ านัดสุ ดท้ ายลงพื้น คราวนีแ้ ทนที่ด้วยกระสุ น
ปราบมารสี เงินห้ านัด และแน่ นอน เหลือไว้ หนึ่งช่ องเพื่อป้องกัน
ปื นลั่น

ปื นถูกสอดกลับลงในซองรักแร้ ไคลน์ ปัดเศษดินปื นและฝุนออก


จากตัว ก่อนจะเดินออกจากสนามยิงปื นมาโผล่ยังถนนซุตแลน

การจับตามองเริ่มขึน้ อีกครั้ง แต่ ไคลน์ ไม่ แยแส จิตใจสงบนิ่งลง


หลังจากได้ ยิงปื นปลดปล่อย เท้ าก้าวไปบนถนนซุตแลนอย่ างไม่ รีบ
ร้ อนจนกระทั่งมาถึงถนนแชมเปญ

ไคลน์ ขนึ้ รถม้ าที่สถานีแชมเปญ จุดหมายปลายทางคือถนน


กางเขนเหล็ก ค่ าโดยสารยังคงสี่ เพนนีเท่ ากับขามา

เมื่อลงจากรถ ไคลน์ เดินตรงกลับเข้ าหอพักด้ วยท่ าทีสุขุม


หลังจากเข้ าไปในตัวอาคาร ความรู้สึกถูกจ้ องมองก็หายไป
มันนากุญแจออกมาไขลูกบิดประตูก่อนจะผลักเข้ าไป ภาพแรกที่
เห็นคือบุรุษผมสั้ นในวัยใกล้สามสิ บกาลังนั่งบนเก้าอีห้ น้ าโต๊ ะอ่าน
หนังสื อ

หัวใจหล่นไปที่ตาต่ ุุมชั่วขณะ ก่อนจะกลับมาผ่ อนคลายอีกครั้ง


เมื่อนึกขึน้ ได้

“สวัสดียามเช้ า ไม่ สิ ยามบ่ าย… เบ็นสั น”

บุรุษผู้นมี้ ิใช่ ใครอื่นนอกจากพีช่ ายของเมลิสซ่ าและไคลน์ เบ็น


สั น·โมเร็ตติ

อันที่จริง เบ็นสั นเพิง่ จะอายุเพียงยี่สิบห้ า แต่ เนื่องด้ วยศีรษะที่


เริ่มเถิกรวมถึงสี หน้ าอิดโรยประกอบกัน เบ็นสั นจึงดูคล้ายชายวัย
ใกล้สามสิ บเข้ าไปทุกที

เส้ นผมสี ดาและนัยน์ ตาสี น้าตาลเหมือนกับไคลน์ ทุกประการ


ต่ างกันเพียงบรรยากาศของ ‘นักวิชาการ’ ที่ไคลน์ มี แต่ เบ็นสั นไม่

“สวัสดียามบ่ ายไคลน์ สั มภาษณ์ งานเป็ นอย่ างไรบ้ าง?”

เบ็นสั นยืนขึน้ พร้ อมกับรอยยิม้

อีกฝ่ ายสวมเพียงเสื้ อลินินขาว ส่ วนโค้ ทสี ดารวมถึงหมวกทรงกึ่ง


สู งที่สวมประจาถูกแขวนผึ่งไว้ กับเตียงนอน
“เลวร้ ายมาก”

ไคลน์ ตอบห้ วน

เมื่อเห็นเบ็นสั นผงะ ไคลน์ หัวเราะคิกคักก่อนจะเสริม

“ที่จริงฉันได้ งานใหม่ ก่อนจะสอบสั มภาษณ์ แล้ว เป็ นงานที่ได้ รับ


ค่ าตอบแทนสามปอนด์ ต่อสั ปดาห์ …”
สิ่ งที่เคยเล่าให้ เมลิสซ่ าฟัง ถูกนับมาเล่ าซ้าให้ เบ็นสั นใหม่ ท้งั หมด

ท่ าทีของเบ็นสั นเริ่มสงบลง มันส่ ายศีรษะพลางอมยิม้ อย่ างมี


ความสุ ข

“นายโตไวชะมัด… เป็ นงานที่เจ๋ งมาก”

เมื่อกล่าวจบ เบ็นสั นถอนหายใจหนึ่งเฮือก

“เยี่ยมไปเลย สิ่ งแรกที่ได้ ยินหลังกลับจากเดินทางไกลคือข่ าวดี


ของน้ องชาย… คืนนีพ้ วกเราฉลองกันเถอะ กินเนื้อกันไหม?”

“ไม่ มีปัญหา แต่ เมลิสซ่ าต้ องโกรธแน่ ถ้าเราไม่ ปรึกษาก่อน ไว้ รอ


เธอกลับมาตอนเย็นค่ อยออกไปก็ยังไม่ สาย… ตั้งงบไว้ สักสามซูล
กาลังดี
“ว่ าแต่ … สกุลเงินอาณาจักรเราห่ วยชะมัด หนึ่งปอนด์ เท่ ากับ
ยี่สิบซูล และหนึ่งซูลเท่ ากับสิ บสองเพนนี แถมเพนนียังมีแยกย่ อย
เป็ นครึ่งกับเสี้ยวเพนนี ไม่ สมเหตุสมผลเลยสั กนิด ฉันคิดว่ านี่คือ
หนึ่งในสกุลที่ห่วยที่สุดในโลก”

เมื่อกล่าวจบ สี หน้ าของเบ็นสั นพลันเคร่ งเครียด ไคลน์ อดสงสั ย


ไม่ ได้ ว่าตนกล่าวสิ่ งใดผิดไปอย่ างนั้นหรื อ?

บางทีในเศษเสี้ยวความทรงจาที่เลือนหายไปของไคลน์ คนก่ อน
เบ็นสั นอาจเป็ นพวกชาตินิยมที่ไม่ ยอมให้ ใครด่ าว่ าประเทศ
ตัวเอง…

เบ็นสั นเดินเข้ ามาใกล้ไคลน์ พร้ อมกับปฏิเสธด้ วยสี หน้ าขึงขัง

“ไม่ ใช่ หนึ่งใน… แต่ นี่คือระบบเงินตราที่ห่วยแตกที่สุดในโลก


อย่ างไร้ ข้อกังขา”

ไม่ ใช่ หนึ่งใน…?

ไคลน์ ชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะเข้ าใจมุกตลกของพีช่ ายในภายหลัง


ชายหนุ่มมองเข้ าไปในแววตาของเบ็นสั นและหลุดขาเสี ยงดัง

นั่นสิ นะ เบ็นสั นยังคงเป็ นเบ็นสั นที่เปี่ ยมด้ วยอารมณ์ ขันคนเดิม


เบ็นสั นยกมุมปากขึน้ เล็กน้ อยพลางกล่าวด้ วยน้าเสี ยงจริงจัง

“นายต้ องเข้ าใจก่อนว่ า ระบบสกุลเงินของอาณาจักรนั้นซับซ้ อน


มาก ผู้ที่จะออกแบบได้ ต้องมีความรู้ด้านการนับเลขและทศนิยม
อย่ างลึกซึ้ง แต่ น่าเสี ยดายที่รัฐบาลอาณาจักรเรายังขาดแคลน
บุคลากรคุณภาพอยู่มาก”
ราชันย์ เร้ นลับ 27 : มื้อค่าของสามพีน่ ้ อง

นับเป็ นมุกตลกที่คมคายและหลักแหลม… ไคลน์ ถึงกับหัวเราะ


ร่ วน ก่อนจะเสริมด้ วยอารมณ์ ขันจากประสบการณ์ ในโลกเก่า

“นั่นสิ นะ พวกเรายังไม่ มีหลักฐานด้ วยซ้าว่ าเจ้ าหน้ าที่บริหาร


ระดับสู งของอาณาจักรมีสมอง”

“เยี่ยม! อันนีด้ ี! ฮะฮะ!”

เบ็นสั นหัวเราะพลางยกนิว้ โป้ง

“ไคลน์ อารมณ์ ขันของนายพัฒนาขึน้ มากเลยนะ”

หลังจากเว้ นช่ วงพักหายใจ เบ็นสั นเสริม

“ฉันต้ องไปที่ท่าเรื อช่ วงบ่ ายแก่ๆ วันว่ างจึงมีแค่ พรุ่งนีเ้ ท่ านั้น…


ไว้ พวกเราสามคนไปสานักงานจัดหาบ้ านของเมืองทิงเก็นกัน บาง
ทีอาจมีบ้านแถวราคาไม่ แพงยังเหลือให้ เช่ า แล้วต้ องไม่ ลืมไปหา
มิสเตอร์ แฟรงค์ ด้วย”

“เจ้ าของหอพักน่ ะหรื อ?”


ไคลน์ ถามด้ วยสี หน้ าสุ ดฉงน หรื อมิสเตอร์ แฟรงค์ จะเป็ นเจ้ าของ
บ้ านแถวทาเลดีซึ่งตนไม่ เคยทราบมาก่อน

เบ็นสั นชาเลืองมองก่อนจะตอบ

“ลืมไปแล้วหรื อว่ าสั ญญาเช่ าบ้ านของพวกเราคือหนึ่งปี นี่เพิง่


ผ่ านไปแค่ หกเดือนเท่ านั้น”

“ซื้ด…”

ไคลน์ สูดลมหายเข้ าปอด มันลืมเสี ยสนิทว่ ามีเรื่ องแบบนีอ้ ยู่ด้วย!

ถึงจะจ่ ายค่ าเช่ าสั ปดาห์ ต่อสั ปดาห์ แต่ หากย้ ายไปอยู่ที่พกั ใหม่
และไม่ จ่ายค่ าเช่ าต่ อ จะถือเป็ นการผิดสั ญญาที่กระทาไว้ หนึ่งปี
และต้ องจ่ านเงินชดเชยจานวนมาก

“นายยังขาดประสบการณ์ ใช้ ชีวิตอยู่นะ”

เบ็นสั นใช้ มือลูบคลาหน้ าผากที่เริ่มเถิกพลางกล่าวเสี ยงค่ อย

“มันคือสั ญญาเช่ าที่ฉันพยายามต่ อรองกับมิสเตอร์ แฟรงค์ อย่ าง


ยากลาบาก ในอดีต หมอนั่นต้ องการทาสั ญญาเช่ ากับพวกเราแค่
สามเดือน

“สาหรับคนมีเงิน เจ้ าของหอพักมักทาสั ญญาระยะยาวสองถึง


สามปี เพื่อให้ มีรายได้ คงที่… แต่ กับครอบครัวเรา—ครอบครัวเราใน
อดีต มิสเตอร์ แฟรงค์ กังวลว่ าอาจเกิดเหตุไม่ คาดฝันขึน้ เข้ าสั กวัน
จนพวกเราไม่ มีปัญญาจ่ ายค่ าเช่ า จึงต้ องการทาสั ญญาระยะสั้ นแค่
สามเดือน”

“และถ้ าเป็ นสั ญญาระยะสั้ น หมอนั่นต้ องหาเรื่ องขึน้ ค่ าเช่ าเมื่อ


เริ่มสั ญญาฉบับใหม่ แน่ นอน”

ไคลน์ กล่าวเสริมด้ วยประสบการณ์ เด็กหอที่สั่งสมนานหลายปี

เบ็นสั นถอนหายใจ

“นี่คือความโหดร้ ายของสั งคม แต่ นายไม่ ต้องเป็ นห่ วง ปัญหา


ด้ านสั ญญาจะถูกจัดการได้ ไม่ ยาก อันที่จริง แค่ พวกเราไม่ จ่ายค่ า
เช่ าสั กหนึ่งสั ปดาห์ มิสเตอร์ แฟรงค์ ก็รีบขับไล่ไสส่ งอย่ างไม่ ใยดี
แล้ว

“อาจนาของภายในบ้ านไปขายเพื่อชดเชยเป็ นค่ าเช่ าสั กสองสาม


ชิ้น สติปัญญาของหมอนั่นเทียบเท่ าลิงบาบูนขนหยิก ไม่ มีทาง
ประมวลผลเรื่ องซับซ้ อนมากกว่ านีไ้ ด้ แน่ ”

หลังจากฟังจบ ไคลน์ พลันนึกถึงมีมหนึ่งบนโลกอินเทอร์ เน็ต


มันรีบส่ ายศีรษะปฏิเสธด้ วยสี หน้ าขึงขัง

“ผิดแล้วเบ็นสั น”
“หือ?”

เบ็นสั นขมวดคิว้

“สติปัญญาของมิสเตอร์ แฟรงค์ น้ นั สู งกว่ าลิงบาบูนขนหยิกมาก”

น้าเสี ยงของไคลน์ ยังคงเคร่ งขรึม

“…ถ้ าเขาอยู่ในฟอร์ มที่ดีล่ะนะ”


“ฮะฮะ!”

เบ็นสั นระเบิดเสี ยงหัวเราะลั่น หลังจากตีอกชกตัวครู่หนึ่ง มันชี้


นิว้ มาหาไคลน์ โดยไม่ กล่าวสิ่ งใด สี หน้ ายังคงขบขันไม่ หาย

ก่อนจะวกกลับเข้ าเรื่ องเดิม

“แต่ แน่ นอน พวกเราเป็ นสุ ภาพบุรุษ ไม่ มีทางใช้ วิธีการน่ าอับอาย
เช่ นนั้น เดี๋ยวฉันจะเจรจาสั ญญากับมิสเตอร์ แฟรงค์ ให้ เอง ไม่ ต้อง
กังวล หมอนั่นโน้ มน้ าวได้ ง่ายมาก”

ไคลน์ ไม่ เคลือบแคลงคาพูดของเบ็นสั น เครื่ องพิสูจน์ ที่ดีที่สุดคือ


ท่ อส่ งแก๊ สซึ่งถูกติดตั้งทั่วทั้งหอพักเพียงเพราะเบ็นสั นชักแม่ น้าทั้ง
ห้ าหลอกล่อ
หลังจากคุยกันตามประสาลูกผู้ชายอีกสั กพัก ปลาทอดที่เหลือ
จากเมื่อวานถูกนามาต้ มเป็ นซุปรวมกับผัก ระหว่ างต้ มได้ มีการใส่
ขนมปังไรย์ เข้ าไปอบให้ นิ่ม

ขนมปังไรย์ น่ ุมถูกปาดด้ วยเนยก่อนทาน รสชาติผสมผสาน


กลมกลืนอย่ างน่ าอัศจรรย์ อาหารมื้อนีเ้ รียบง่ ายและราคาไม่ แพง
แต่ ก็อร่ อยมากพอจะทาให้ ท้งั ไคลน์ และเบ็นสั นประทับใจ ความ
หวานมันของเนยยังคงติดลิน้ แม้ จะกลืนลงท้ องไปนานแล้ว

เมื่อถึงเวลาเบ็นสั นต้ องไปทาธุระที่ท่าเรื อ ไคลน์ ตัดสิ นใจออกไป


ซื้อของโดยไม่ รอเมลิสซ่ ากลับมาก่อน เพราะไม่ ว่าอย่ างไร
ครอบครัวก็ต้องได้ ทานอาหารค่าหรูหราอย่ างพร้ อมหน้ าในคืน
นี้

สถานที่แรกเป็ นตลาดขายเนื้อและผักสด ไคลน์ พกเงินติดตัว


สามซูลรวมถึงเหรียญเพนนีอีกจานวนหนึ่ง

หกเพนนีถูกใช้ ไปกับเนื้อหนักหนึ่งปอนด์ เจ็ดเพนนีถูกใช้ ไปกับ


ปลาทัสซอคสด ซึ่งเนื้อหวานฉ่ามากและมีก้างน้ อย

ไคลน์ ยังซื้อมันฝรั่ง ถั่วปากอ้า หัวไชเท้ า ผักรูบาร์ บ กะหล่า และ


หัวผักกาด รวมถึงเครื่ องเทศจาพวกโรสแมรี่ ใบกะเพรา ยี่หร่ า และ
น้ามันพืชสาหรับทอด
ตลอดเวลาการจ่ ายตลาด มันยังคงสั มผัสได้ ถึงการจ้ องมอง แต่
ไม่ มีภัยคุกคามทางกายภาพใดเกิดขึน้

หลังจากปิ ดท้ ายด้ วยร้ านขนมมาดามสลิน ไคลน์ รีบเดินกลับบ้ าน


โดยไม่ รีรอ ถัดมาเป็ นการฝึ กฝนเพื่อเพิม่ กาลังแขนโดยฝื นยกของ
หนักอย่ างกองหนังสื อ

แถมยังมีการออกกาลังกายในลักษณะของทหาร เป็ นภูมิปัญญาที่


ได้ รับสมัยเรียนรักษาดินแดน แต่ เนื่อจากท่ วงท่ าและจังหวะต้ องถูก
ชี้นาจากวิทยุ ไคลน์ จึงจารายละเอียดการฝึ กได้ ไม่ มาก กระทาได้
เพียงท่ าพื้นฐานเท่ านั้น

ถึงแม้ จะหัวเสี ย แต่ ก็ยังฝื นออกกาลังกายไปเรื่ อยๆ เพื่อเรียกเหงื่อ

ไคลน์ ไม่ โหมหนักเกินตัว เพราะนี่คือร่ างของไคลน์ คนก่อนที่


แทบไม่ เคยออกกาลังกาย หากฝื นมากไปอาจได้ รับบาดเจ็บจนถูก
บุคคลที่กาลังจับตามองชิงลงมือทาร้ าย

ไคลน์ ซ้อมและหยุดพักอย่ างมีวินัย ขณะนั่งพักก็ไม่ ปล่อยเวลา


สู ญเปล่า มันหยิบหนังสื อวิชาการมาอ่านควบคู่ไปกับไดอารีเก่าที่
ไคลน์ เคยจดไว้ เผื่อว่ าจะมีบางสิ่ งเกี่ยวพันธ์ กับยุคสมัยที่สี่ให้ ศึกษา

เมื่อถึงช่ วงเย็นค่ อนไปทางหัวค่า เบ็นสั นและเมลิสซ่ ากาลังนั่ง


หลังตรงติดเก้าอีป้ ระหนึ่งนักเรียนประถมรอทานข้ าว สายตาจ้ อง
มองอาหารบนโต๊ ะที่ถูกบรรจงวางเรียงรายหลายเมนู

แต่ ละจานล้วนมีกลิ่นหอมเย้ ายวนฟุ้งกระจายทั่วห้ อง

ซุปเนื้อกระชากวิญญาณที่เสิ ร์ฟคู่กับมันฝรั่งอบและซุปถั่วข้น
กลิ่นแสนละมุนของผักรูบาร์ บและกลิ่นหอมโชยของขนมปังไรย์ ทา
เนย

เบ็นสั นกาลังน้าลายแตกฟอง มันหันไปมองไคลน์ ด้วยสายตา


ร้ อนรน ไคลน์ กาลังก้มบรรจงวางชิ้นปลาทอดลงบนจานอย่ าง
พิถีพถิ ัน กลิ่นของปลาทอดสดใหม่ ที่เพิง่ ผ่ านน้ามันร้ อนฉ่ าลอยโชย
เตะจมูก

โครก!

ท้ องไส้ กาลังประท้ วงปั่นป่ วน

ไคลน์ พบั แขนเสื้ อขึน้ ข้ างละสองจังหวะ ก่อนจะยกจานปลาทอด


ไปเสิ ร์ฟลงที่ใจกลางโต๊ ะอาหารซึ่งถูกจัดแต่ งอย่ างเป็ นระเบียบ

ถัดมา ไคลน์ เดินไปที่ต้ กู ับข้ าวและหยิบเบียร์ ขิงออกมาสองแก้ว


หนึ่งแก้วถูกวางตรงหน้ าเบ็นสั น

ไคลน์ หันไปยิม้ ให้ เมลิสซ่ าเล็กน้ อย ก่อนจะหยิบพุดดิง้ มะนาวที่


แอบข้ างแก้วเบียร์ เบ็นสั นออกมาเซอไพรส์
“พวกเรามีเบียร์ ส่ วนเธอมีอันนี”้

“...ขอบคุณมาก”

เมลิสซ่ ารับพุดดิง้ มะนาวไป

เมื่อเบ็นสั นมั่นใจว่ าอาหารทุกจานถูกจัดเตรียมเรียบร้ อย มันหัน


ไปกล่าวกับทุกคนพร้ อมกับยกแก้วขึน้
“ดื่มฉลองเนื่องในโอกาสที่ไคลน์ ได้ งานใหม่ สุดเจ๋ ง!”

ไคลน์ ยกแก้วของมันขึน้ ชน จากนั้นก็เลื่อนไปสั มผัสเบาๆ กับ


ถ้ วยพุดดิง้ ของเมลิสซ่ า

“เทพธิดาจงเจริญ!”

อึก อึก อึก

ไคลน์ เอนศีรษะไปด้ านหลังขณะซดเบียร์ ขิงลงลาคอ รสชาติเผ็ด


ร้ อนและอบอุ่นแล่นไปตามหลอดลาเลียงอาหาร เหลือทิง้ ไว้ ด้วย
รสชาติตกค้ างสุ ดซาบซ่ าน

แม้ จะได้ ชื่อว่ าเบียร์ แต่ เบียร์ ขิงไม่ มีแอลกอฮอล์ผสม เกิดจากการ


รวมตัวกันของขิงที่เผ็ดร้ อนและมะนาวอีกเล็กน้ อย ก่อเกิดเป็ น
สั มผัสใหม่ ที่คล้ายคลึงกับเบียร์

เครื่ องดื่มชนิดนีเ้ ป็ นที่ชื่นชอบของสุ ภาพบุรุษและสตรีมากมาย


แต่ เมลิสซ่ าเลือกที่จะไม่ ทานเพราะเธอเกลียดรสสั มผัส

“เทพธิดาจงเจริญ!”

เบ็นสั นกระดกตามอึกใหญ่ ส่ วนเมลิสซ่ าทาเพียงงับพุดดิง้ อย่ าง


ทะนุถนอม เธอเคีย้ วสองสามคาก่อนจะกลืนลงคอด้ วยสี หน้ านึก
เสี ยดาย

“ลองทานดู”

ไคลน์ วางแก้วลง มันหยิบช้ อนและส้ อมขึน้ มาชี้ไปยังจานอาหาร


ที่วางเรียงรายบนโต๊ ะ

เมนูที่ไม่ มั่นใจมากที่สุดคงเป็ นซุบถั่วข้ น เพราะแต่ ไหนแต่ ไรมา


ไคลน์ ไม่ ชอบทานของแปลกสมัยอยู่โลกเก่า ส่ งผลให้ สูตรอาหารใน
หัวสมองมีแต่ เมนูพื้นฐาน

ในฐานะพีใ่ หญ่ สุด เบ็นสั นไม่ พูดพร่าทาเพลง มันใช้ ช้อนตักมัน


ฝรั่งอบคาโตใส่ ปาก

มันฝรั่งเหล่านีถ้ ูกทาด้ วยมันหมูเจือจางและเกลืออีกเล็กน้ อยก่อน


ต้ ม ส่ งผลให้ รสชาติกระตุ้นต่ อมได้ หนักหน่ วงกว่ าปรกติ ใครก็
ตามที่ได้ ชิมมีอันต้ องระเบิดน้าลาย

“ไม่ เลว… อร่ อยมาก”

เบ็นเส็ นชมกว้ างๆ

“อร่ อยกว่ ามันฝรั่งอบของที่ทางานเสี ยอีก… ที่นั่นจะใช้ แค่ เนย


ทา”

นีค่ ือหนึ่งในความถนัดของฉันเอง! ไคลน์ ยืดอกรับคาชมด้ วยสี


หน้ าภาคภูมิ

“ต้ องขอบคุณพ่อครัวที่บ้านเวิร์ช”

ขณะเดียวกัน เมลิสซ่ ากาลังเล็งไปที่ซุปเนื้อ ในถ้ วยซุปไร้ สี


ประกอบด้ วยใบกะเพรา ผักกระหล่า และไชเท้ าหั่น วัตถุดิบทั้งหมด
กาลังโอบอุ้มเนื้อวัวซึ่งเป็ นพระเอกของจาน กลิ่นหอมฟุ้งได้ เย้ า
ยวนส้ อมในมือเมลิสซ่ าจนเกินห้ ามใจ

โดยไม่ รีรอ เธอใช้ ส้อมปักลงในเนื้อชิ้นหนึ่งก่อนจะนาใส่ ปาก


หลังจากลองเคีย้ วหยั่งเชิง เมลิสซ่ าพบว่ าเนื้อเหนียวน้ อยกว่ าที่
จินตนาการไว้ มาก เธอแทบไม่ ต้องออกแรงเคีย้ วให้ เมื่อยกราม

เนื้อมีรสชาติกลมกล่อมจากความเค็มของเกลือและความหวาน
ของไชเท้ าหั่น น้าซุปยังมีรสเผ็ดสดชื่ นจากใบกะเพรา รสชาติของ
เนื้อจึงมีความละมุนลิน้

“…”

เธอต้ องการชื่ นชมความอร่ อย แต่ ต้องขอโทษด้ วยที่ปากหยุด


เคีย้ วไม่ ได้ จริงๆ

ไคลน์ ลองชิมบ้ าง และพบว่ ามันมีรสชาติค่อนข้ างน่ าพึงพอใจ ถึง


จะไม่ เลิศเลอเมื่อเทียบกับสู ตรต้ นตารับ แต่ นั่นเป็ นเพราะวัตถุดิบ
การปรุงมีจากัด ไม่ แปลกที่รสชาติจะแตกต่ าง

หรื อต่ อให้ มีวัตถุดิบครบครัน แต่ มือสมัครเล่นอย่ างมันก็มิอาจ


ปรุงได้ เทียบเท่ าพ่อครัวมือฉมังจากโลกเก่า

ทันใดนั้น ไคลน์ พลันรู้สึกเจ็บแปลบเมื่อเห็นสี หน้ าอิ่มเอมใจของ


เบ็นสั นและเมลิสซ่ า

อาหารที่สองคนนีเ้ คยทานมาตลอดชีวิตต้ องแย่ แค่ ไหนกัน ถึงได้


ชื่ นชมอาหารที่ตนทาไม่ ขาดปาก

หลังจากกลืนเนื้อลงคอ ไคลน์ หันมาชิมปลาทัสซอคทอดที่ถูก


ปรุงด้ วยยี่หร่ าและโรสแมรี่ เรียกได้ เต็มปากว่ ากรอบนอกนุ่มใน
ผิวสั มผัสสี เหลืองทองสมบูรณ์ แบบ ชุ่มไปด้ วยรสเค็มและอมน้ามัน
พืชในปริมาณพอเหมาะ
หลังจากผงกศีรษะเล็กน้ อย ไคลน์ ลองชิมคาที่สามซึ่งเป็ นซุ ปผัก
รูบาร์ บ รสชาติค่อนไปทางอร่ อย ตัดเลี่ยนอาหารจานเนื้อได้ ดี

และท้ ายที่สุด มันรวมรวบความกล้าเพื่อลองชิมซุปถั่วข้ น… ผล


ออกมามีรสหวานและเปรี้ยวโดดไปนิด ไคลน์ ขมวดคิว้ โดยไม่ ร้ ูตัว

แต่ หลังจากชาเลืองมองเบ็นสั นและเมลิสซ่ าที่แสดงสี หน้ าที่พงึ


พอใจหลังจากชิมซุปถั่ว ไคลน์ เริ่มเคลือบแคลงต่ อมรับรสของ
ตัวเอง มันรีบซดเบียร์ ขิงอีกหนึ่งอึกเพื่อล้างปาก
เมื่อเมนูอาหารค่าจบลง สามพีน่ ้ องนั่งอืดบนเก้ าอีเ้ ช่ นนั้นอยู่สัก
พักใหญ่

“พวกเรามาสรรเสริญเทพธิดาอีกครั้งกันเถอะ”

เบ็นสั นยกแก้วเบียร์ ขิงขึน้ ของเหลวด้ านในเหลือให้ ซดอีกราว


หนึ่งอึก

“เทพธิดาจงเจริญ!”

ไคลน์ กล่าวพลางซดเบียร์ อึกสุ ดท้ ายลงคอ

“เทพธิดาจงเจริญ”
เมลิสซ่ ากล่าวพร้ อมกับตักพุดดิง้ มะนาวคาสุ ดท้ ายใส่ ปาก เธอดื่ม
ด่ารสชาติสุดซาบซ่ านของมันเป็ นเวลานาน

เมื่อไคลน์ เห็นเช่ นนั้น มันอมยิม้

“เมลิสซ่ า เธอทาไม่ ถูกนะ ของอร่ อยต้ องรีบกินเป็ นอันดับแรกใน


ตอนที่หิว ถ้ าเก็บไว้ กินตอนอิ่มแล้วจะสู ญเสี ยรสชาติไปมาก รู้ไหม
ว่ ามันผิดกฎของอาหาร”

“ไม่ เลย กินสุ ดท้ ายก็ยังอร่ อยเหมือนเดิม”


เมลิสซ่ าตอบดื้อรั้น

บทสนทนาภายในครอบครัวสามพี่น้องเป็ นไปอย่ างอบอุ่น เมื่อ


อาหารเริ่มย่ อยเข้ าที่ การทาความสะอาดเก็บกวาดก็เริ่มขึน้ ไคลน์
ตักน้ามันที่เหลือจากการทอดปลาใส่ โหลเก็บไว้ ใช้ ในโอกาสหน้ า

เมื่อเสร็จสรรพ แต่ ละคนแยกย้ ายไปทากิจวัตรส่ วนตัว คนหนึ่ง


ทบทวนความรู้ด้านบัญชีและการเงิน ส่ วนที่เหลือศึกษาตารา
วิชาการและจดบันทึกกันลืม

เวลาผ่ านไปอย่ างคุ้มค่ าและเกิดประโยชน์ สูงสุ ด จนกระทั่งห้ าทุ่ม


ตรง สามพี่น้องดับโคมไฟพร้ อมกับแยกย้ ายเข้ านอนหลังจาก
อาบน้าเรียบร้ อย

ไคลน์ มองเข้ าไปในความมืดมิดเบื้องหน้ าด้ วยสภาพงัวเงียบ สิ่ ง
เดียวที่เห็นคือชายสวมชุดกันลมสี ดาและหมวกกึ่งทรงสู ง

ดันน์ ·สมิท

“หัวหน้ า!”

ไคลน์ แสร้ งถามลนลาน แต่ ภายในใจทราบทันทีว่านี่คือความฝัน


ดันน์ กล่าวด้ วยนัยน์ ตาเทาไร้ อารมณ์ ราวกับเป็ นหัวข้ อไม่ สาคัญ

“มีใครบางคนแอบเข้ าห้ องคุณ จงหยิบปื นลูกโม่ และใช้ มันขับไล่


ผู้บุกรุกออกมาตรงทางเดิน พวกเราจะจัดการที่เหลือเอง”

มีใครบางคนแอบเข้ าห้ อง? บุคคลที่สะกดรอยทั้งวันเริ่มลงมือ


แล้วหรื อ?

แน่ นอน ไคลน์ กาลังลนลาน แต่ มันไม่ กล้ าถามสิ่ งใดเพิม่ เติม ทา
เพียงพยักหน้ าและขานตอบ

“ได้ ครับ”

ภาพการมองเห็นสี ดาเบื้องหน้ าไคลน์ พลันระเบิดแตกออกราว


กับกับฟองอากาศ
เมื่อกลับสู่ โลกความจริงและค่ อยๆ ลืมตาขึน้ มันได้ พบกับบุคคล
ปริศนารูปร่ างผอมบางซึ่งไม่ ค้ ุนตา กาลังก้มควานหาบางสิ่ งบริเวณ
โต๊ ะอ่านหนังสื ออย่ างเงียบงัน
ราชันย์ เร้ นลับ 28 : นิกายเร้ นลับ

ตึกตัก! ตึกตัก!

หัวใจไคลน์ กาลังเต้ นโครมครามและยุบพองไม่ เป็ นจังหวะ


ร่ างกายสั่ นระริกอย่ างหยุดไม่ ได้

เป็ นเช่ นนั้นอยู่ครู่ใหญ่ ไคลน์ หลงลืมไปหมดสิ้นแล้วว่ า ดันน์ ·สมิ


ทมอบหมายให้ ตนกระทาสิ่ งใดบ้ าง จนกระทั่งบุคคลปริศนาหยุด
พฤติกรรมชั่วคราวพร้ อมกับใช้ หูเงี่ยฟังเสี ยงผิดปรกติรอบตัว

เลือดกลับมาไหลเลีย้ งสมองอีกครั้ง ไคลน์ ได้ รับกระบวนการคิด


กลับคืนมา ฝ่ ามือถูกเลื่อนไปใต้ หมอน ด้ ามลูกโม่ ถูกกาแน่ น

เพราะความละมุนของด้ ามจับที่ทาจากไม้ จิตใจไคลน์ เริ่มสงบ


นิ่ง มันค่ อยๆ เลื่อนปากกระบอกปื นจ่ อศีรษะบุคคลลึกลับอย่ างเงียบ
เชียบ

ด้ วยความสั ตย์ จริง มันไม่ มั่นใจที่จะยิงใส่ แม้ การซ้ อมเมื่อวาน


จะทาได้ ดีและเข้ าเป้าหลายนัด แต่ เป้าฝึ กกับคนจริงที่เคลื่อนไหว
นั้นต่ างกันมาก มันไม่ โอหังขนาดนาความสาเร็จเล็กน้ อยที่สนามยิง
ปื นมาใช้ กับสถานการณ์ หน้ าสิ่ วหน้ าขวาน
หลักการคมคายของโลกเก่าพลันแล่นเข้ ามาในหัว—อาวุธ
นิวเคลียร์ จะมีอานาจต่ อรองมากที่สุดในตอนที่ยังไม่ ยิงออกไป

สถานการณ์ ปัจจุบันอาจแตกต่ างเล็กน้ อย แต่ บริบทเหมือนกัน


ปื นในมือตนกาลังเปรียบดังหัวรบนิวเคลียร์ อีกฝ่ ายไม่ มีทางทราบ
ว่ าไคลน์ เป็ นแค่ มือสมัครเล่นที่เพิง่ หัดยิงปื นเมื่อวาน

การยิงส่ งเดชมีโอกาสพลาดเป้าสู งมาก

ไคลน์ กาลังประหม่ า มันกังวลและไม่ มั่นใจ ไกปื นจึงถูกยับยั้งไว้


โดยไม่ ยังไม่ เหนี่ยว

ทันใดนั้น ความคิดใหม่ แล่นเข้ ามาในหัว โดยปรกติแล้ว มัน


ไม่ ใช่ คนใจเย็นขณะเผชิญเหตุวิกฤติ แต่ ครั้งนีเ้ ป็ นข้ อยกเว้ น ไคลน์
มีแผนใช้ วาจาข่ มขู่อีกฝ่ าย

ประเทศจีนมีคาพังเพยที่ว่า—เกราะที่มนุษย์ ใช้ ป้องกันตัวได้ ที่ดี


สุ ดคือ ‘สติ’

ขณะไคลน์ กาลังเล็งปื นไปยังศีรษะผู้บุกรุกอย่ างใจเย็น ชาย


ปริศนาพลันชะงัก มันเริ่มสั มผัสถึงความผิดปรกติ

ถัดมาไม่ นาน เสี ยงไคลน์ ถูกเปล่งออกไปพร้ อมรอยยิม้

“สวัสดีตอนดึก มิสเตอร์ ”
ผู้บุกรุกกาหมัดแน่ น ร่ างกายกาลังแข็งทื่อ ไคลน์ บนเตียงชั้นล่าง
เปลี่ยนอิริยาบทจากท่ านอนเป็ นท่ านั่ง ปื นในมือยังคงเล็กไปยัง
ศีรษะแน่ วแน่

ชายหนุ่มเปล่งเสี ยงแสนสุ ขุม

“ยกมือทั้งสองข้ างขึน้ และหันหลังกลับมา กรุณาทาอย่ างช้ าๆ


ด้ วย อันที่จริง ผมเป็ นพวกตกใจง่ าย อาจแตกตื่นได้ ถ้าคุณขยับตัว
เร็วเกินไป ผมไม่ ขอรับประกันว่ าปื นกระบอกนีจ้ ะไม่ ลั่นสุ่ มสี่ ส่ ุ ม
ห้ า”

ชายร่ างผอมแห้ งยกฝ่ ามือทั้งสองข้ างเลยศีรษะเล็กน้ อย ก่อนจะ


ค่ อยๆ หมุนตัวกลับมาทีละนิด

ภาพแรกที่ไคลน์ เห็นคือสู ทรัดรูปสี ดา กระดุมติดอย่ างปราณีต


เรียบร้ อย ถัดมาเป็ นภาพของขนคิว้ น้าตาลเข้ มที่เรียวและหนา

นัยน์ ตาฟ้ าของมันมิได้ แฝงความหวาดกลัว ตรงกันข้ าม กาลังอัด


แน่ นด้ วยความดุร้ายประหนึ่งสั ตว์ ป่าหิวกระหาย หากไคลน์ เสี ย
จังหวะแม้ เพียงเสี้ยววินาที มันจะถูกกระโจนใส่ พร้ อมกับฉีกร่ าง
เป็ นชิ้นเล็กชิ้นน้ อย

ด้ ามไม้ ของลูกโม่ ถูกกาแน่ นขึน้ ไคลน์ พยายามแสร้ งปั้นหน้ า


เรียบเฉย ไม่ แยแสท่ าทีเกรี้ยวกราดของอีกฝ่ าย
หลังจากไคลน์ ได้ เห็นใบหน้ าชายปริศนาอย่ างสมบูรณ์ มันเชิด
คางขึน้ และชี้ไปที่ประตู ก่อนจะกล่าวด้ วยน้าเสี ยงเยือกเย็น

“มิสเตอร์ พวกเราออกไปสะสางกันด้ านนอกดีกว่ า อย่ ารบกวน


ความฝันแสนหวานของผู้อื่นเลย อ๊ะ! อย่ าลืมทาอย่ างช้ าๆ
เหมือนเดิมด้ วย พยายามย่ องเท้ าให้ เบาที่สุด นี่คือมารยาทพื้นฐาน
ของสุ ภาพบุรุษ”

นัยน์ ตาเย็นชาของผู้บุกรุกกวาดมองรอบห้ องหนึ่งครั้ง ก่อนจะ


ย่ องตรงไปที่หน้ าประตูในท่ ายกแขนค้ างไว้

ไคลน์ ยังคงเล็งปากกระบอกลูกโม่ ไว้ ที่ศีรษะ ผู้บุกรุกบรรจงบิด


ประตูอย่ างเชื่ องช้ าและเงียบเชียบ

เมื่อบานประตูถูกดึงเข้ ามาครึ่งหนึ่ง ชายร่ างเล็กพลันกระโดด


ม้ วนตัวพุ่งออกจากประตูอย่ างรวดเร็ว ถัดมาอีกอึดใจ บานประตู
ถูกสายลมปริศนากระแทกปิ ดดังโครม สนั่นไปทั่วห้ องสามพีน่ ้ อง

“หือ…”

เบ็นสั นที่นอนบนเตียงชั้นสองส่ งเสี ยงสะลึมสะลือ

ทันใดนั้น ท่ องทานองดนตรีที่ปลอดโปร่ งและไพเราะเริ่มดังจาก


นอกห้ อง ตามด้ วยเสี ยงขับขานกังวาลและมีเสน่ ห์
“อา…

“จงหวาดกลัวต่ อภัย จงบูชาในจันทร์ ชาด

“หนึ่งสิ่ งที่แน่ ชัด ทุกชีวิตย่ อมชะตาขาด

“หนึ่งสิ่ งที่เที่ยงแท้ อื่นใดล้วนเป็ นภาพวาด

“บุปผาที่ถูกเด็ด มีเวรกรรมต้ องถึงฆาต”

พลังของบทกวีช่วยให้ ทุกคนที่ได้ ยินรู้สึกผ่ อนคลาย เบ็นสั นบน


เตียงชั้นสองหลับตาลงอีกครั้ง เมลิสซ่ าที่อยู่ในห้ องส่ วนตัวได้ เข้ าสู่
ภาวะหลับไหลโดยสมบูรณ์

สติของไคลน์ เลือนลางเช่ นกัน มันถึงกับอ้ าปากหาววอดใหญ่

ไคลน์ เค้ นสติครุ่นคิด ชายร่ างผอมบางเมื่อครู่มีความไวที่น่า


เหลือเชื่ อ การยิงสุ่ มสี่ ส่ ุ มห้ าคงยากที่จะเข้ าเป้า มันทาถูกแล้วที่เลือก
ขู่

สายตายังคงชาเลืองประตูที่ปิดสนิท ไคลน์ พมึ พากับตัวเองเสี ยง


ค่ อย
“คุณอาจไม่ เชื่ อก็ได้ ถึงผมจะลั่นไกไป แต่ กระสุ นปื นก็ไม่ ถูกยิง
อยู่ดี”

เพราะนั่นเป็ นโม่ เปล่าสาหรับกันปื นลั่น

ถัดมา นักกวีเที่ยงคืนยังคงขับขานเพลงกลอนไม่ ขาดปาก ไคลน์


อดทนฟังอย่ างใจเย็น รอจนกว่ าการต่ อสู้ ด้านจะนอกจบลง

ราวหนึ่งนาที ท่ วงทานองสุ ดไพเราะเปรียบประหนึ่งแสงจันทร์


บนผิวน้าได้ หยุดลง ค่าคืนอันมืดมิดกลับมาเงียงสงบไร้ ส้ ุ มเสี ยงอีก
ครา

ไคลน์ ใช้ นวิ้ ดันโม่ ออก หมุนโม่ ให้ กระสุ นปราบมารตรงกับรัง


เพลิงพร้ อมยิง หูเงี่ยรอฟังผลการต่ อสู้ อย่ างใจจดใจจ่ อ

สิ บนาทีเต็มผ่ านไป ขณะลังเลว่ าควรสารวจด้ วยตาตัวเองดี


หรื อไม่ น้าเสี ยงสุ ขุมและอบอุ่นของดันน์ ·สมิทดังจากหน้ าประตู

“เรียบร้ อยแล้ว”

ฟู่ ว! ไคลน์ ถอนหายใจยาว

มือขวายังคงกาปื น มือซ้ ายถือกุญแจห้ อง ฝ่ าเท้ าเปลือยเปล่า


ประตูถูกไขและดึงเข้ าหาตัวอย่ างเชื่ องช้ า ภาพแรกที่เห็นคือดันน์ ·
สมิทในชุดกันลมสี ดาตัวเก่ง หมวกทรงกึ่งสู ง นัยน์ ตาเทาสุ ขุม
“ต้ องใช้ เวลาสั กพักกว่ าผมจะเข้ าฝันหมอนั่นสาเร็จ”

ดันน์ กล่าวใจเย็น นัยน์ ตาจองมองจันทร์ แดงด้ านนอกหน้ าต่ าง

“เป็ นคนของใคร?”

สี หน้ าไคลน์ เริ่มดีขนึ้ ทุกขณะ

ดันน์ ผงกหัว
“เป็ นคนขององค์ โบราณที่ชื่อนิกายเร้ นลับ ก่อตั้งในยุคสมัยที่สี่ มี
ความเกี่ยวพันกับจักรวรรดิโซโลม่ อนและขุนนางตกอับสมัยนั้น

“สมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสเคยเป็ นของพวกมันมาก่อน
จนกระทั่งสมาชิกบางคนหละหลวมและปล่อยเข้ าสู่ ตลาดมืด ก่ อน
จะมาอยู่ในมือของเวิร์ชและเกิดเรื่ องขึน้ พวกมันจึงไม่ มีทางเลือก
นอกจากส่ งคนตามหา”

โดยไม่ รอให้ ไคลน์ แทรก ดันน์ กล่าวต่ อ

“แผนต่ อไปของพวกเราคือ ตามจับกุมสมาชิกที่เหลือจาก


เบาะแสใหม่ แน่ นอนว่ าบทสรุปอาจไม่ สวยหรูนัก เจ้ าพวกนีซ้ ่ อน
ตัวเก่งยิ่งกว่ าหนูในท่ อ
“แต่ ข่าวดีคือ พวกมันปักใจเชื่ อว่ าทางเหยี่ยวราตรีอาจมีสมุด
บันทึกอันทีโกนัสในครอบครอง หรื ออย่ างน้ อยก็มีเบาะแสสาคัญ
เกี่ยวกับสมุด ด้ วยเหตุนี้ คนของนิกายเร้ นลับน่ าจะถอนตัวจาก
ภารกิจทวงคืนสมุดในไม่ ช้า คงไม่ มีใครต้ องการเอาชีวิตเสี่ ยงกับ
เหยี่ยวราตรีโดยไม่ จาเป็ น นี่คือหลักสาคัญในการรักษาตัวรอดของ
นิกายโบราณ ยกเว้ นแต่ ว่า สมุดเล่มดังกล่าวจะสาคัญต่ อพวกมัน
มาก”

“…แล้วถ้ าสมุดสาคัญกับพวกมันมาก?”

ไคลน์ ถามขมวดคิว้

ดันน์ อมยิม้ ไม่ ตอบ มันกล่ าวต่ อ

“พวกเรามีข้อมูลนิกายเร้ นลับน้ อยมาก ปฏิเสธไม่ ได้ เลยว่ า


ความสาเร็จของภารกิจในวันนีเ้ กิดขึน้ ได้ เพราะคุณ

“สามารถเยือกเย็นและหลักแหลมในสถานการณ์ หน้ าสิ่ วหน้ า


ขวาน สติปัญญาของคุณช่ วยให้ พวกเราพบเบาะแสเกี่ยวกับสมุด
เล่มดังกล่าวเพิม่ เติม

“ดังนั้น คุณจึงมีสิทธิ์เลือก”

“มีสิทธิ์เลือก?”
ไคลน์ พอเดาได้ เลือนลาง ลมหายใจของมันเริ่มติดขัดไม่ เป็ น
จังหวะ

รอยยิม้ บนใบหน้ าดันน์ หายไป มันกล่าวด้ วยน้าเสี ยงราบเรียบ

“คุณต้ องการเป็ นผู้วิเศษใช่ ไหม? หลังจากได้ รับความดี


ความชอบในเหตุการณ์ ล่าสุ ด คุณสามารถเลือกหนึ่งในโอสถเริ่มต้ น
ซึ่งเป็ นเส้ นทาง ‘ไม่ สมบูรณ์ ’ ได้ ”

“แน่ นอน คุณมีสิทธิ์สั่งสมความชอบไว้ ยังไม่ ต้องรีบใช้ และเมื่อ


ความชอบเพิม่ ขึน้ คุณจะมีโอกาสเลือกเส้ นทาง ‘ผู้หลับไหล’ ซึ่ง
เป็ นเส้ นทางสมบูรณ์ เดียวที่เทพธิดาประทานให้ หน่ วยเหยี่ยว
ราตรี”

จริงด้ วย…

ไคลน์ โล่งใจเล็กน้ อย มันไม่ ออกอาการลังเล เส้ นทางผู้หลับไหล


มิใช่ สิ่งตนปรารถนา

ชายหนุ่มเปิ ดปากถาม

“แล้วผมเลือกเส้ นทางไหนได้ บ้าง?”

มันจาเป็ นต้ องมีข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสิ นใจ ไม่ ว่าจะเป็ น


การสะสมไว้ ก่อน หรื อการใช้ สิทธิ์ในทันที
ดันน์ หันกลับมาจ้ องไคลน์ หน้ าประตูมีแสงจันทร์ สีแดงสาดส่ อง
เหยี่ยวราตรีนัยน์ ตาเทามองเข้ าไปในแววตาของชายหนุ่ม

“นอกจากผู้ไร้ หลับ โบสถ์ เทพธิดาครอบยังครองเส้ นทางไม่


สมบูรณ์ อีกสามชนิด หนึ่งในนั้นคือ ‘ผู้ส่องความลับ’ ของลุงนีลล์
ผมขอเดาว่ าโรแซนคงเล่าให้ คุณฟังแล้วใช่ ไหม เธอไม่ มีทางสงบ
ปากไว้ ได้ แน่ ”

ไคลน์ ยมิ้ กระอักกระอ่วน ชายหนุ่มไม่ กล้าตอบสิ่ งใด แต่ โชคดี ดู


เหมือนดันน์ จะไม่ ได้ โกรธ มันเริ่มอธิบายต่ อ

“สู ตรโอสถผู้ส่องความลับ รวมถึงโอสถระดับเก้าเส้ นทางไม่


สมบูรณ์ ชนิดอื่น ล้วนเป็ นสิ่ งที่พวกเรายึดได้ จากนิกายมอสส์

“ว่ ากันว่ า สมาชิกนิกายพวกมันแทบไม่ เกิดการคลุ้มคลั่ง แต่ ก็


แลกมาด้ วยระเบียบวินัยอันเคร่ งครัด นิกายมอสส์ แสวงหาความรู้
อย่ างไม่ จบสิ้น พวกมันเก็บความลับเก่งฉกาจ สมาชิกใหม่ ทุกคนจะ
ถูกห้ ามพูดเป็ นเวลาห้ าปี เมื่อผ่านบททดสอบนี้ได้ สมาชิกจะได้ รับ
สิ ทธิ์ให้ เป็ น ‘ผู้ส่องความลับ’ เต็มตัว

“หลักคาสอนของนิกายมอสส์ กลายเป็ นหลักปฏิบัติของผู้ส่อง


ความลับทั่วโลก—ทาทุกสิ่ งที่อยากทา แต่ ต้องไม่ เดือดร้ อนใคร

“พลังของผู้ส่องความลับค่ อนข้ างกว้ างขวาง แต่ พื้นฐานคือ


การศึกษาด้ านเวทมนตร์ คาถา โหราศาสตร์ และพลังเหนือ
ธรรมชาติอีกหลายชนิด

“ผู้ส่องความลับชานาญด้ านพิธีกรรมเวทมนตร์ แต่ ข้อเสี ยคือ


การมีสัมผัสวิญญาณกล้าแกร่ ง สามารถพบเห็นตัวตนที่คนทั่วไป
ไม่ ควรเห็น จึงต้ องระวังการคลุ้มคลั่งมากกว่ าเส้ นทางอื่น

“ผู้ส่องความลับเป็ นเส้ นทางที่พวกเราครอบครองไม่ สมบูรณ์


ตัวอย่ างเช่ นโอสถลาดับแปด เหยี่ยวราตรีสาขาทิงเก็นไม่ มีสูตร
ผสม แต่ อาจมีในวิหารศักดิ์สิทธิ์”
ค่ อนข้ างตรงกับสิ่ งที่มันต้ องการ…

ไคลน์ พยักหน้ าหงึกหงัก แต่ ขณะกาลังจะกล่าวตกลง …โชคดีที่


นึกขึน้ ได้ เสี ยก่อน

“แล้วอีกสองเส้ นทางล่ะครับ?”

“ถัดมาคือ ‘ผู้เก็บซากศพ’ พวกลิทธินอกรีตของทวีปใต้ ที่บูชา


ความตายมักเลือกพลังชนิดนี้ หลังจากดื่มโอสถเข้ าไป วิญญาณร้ าย
ด้ อยสติปัญญาจะเข้ าใจผิดว่ าเป็ นพวกเดียวกัน และไม่ เข้ ามาทาร้ าย
ก่อน

“ผู้เก็บซากศพจะทนทานต่ อออร่ าแสนสะอิดสะเอียนที่แผ่ จาก


ศพ ทั้งความหนาวเหน็บ เน่ าเปื่ อย ผุกร่ อน และสิ่ งชวนอาเจียน
ทั้งหลาย
“สามารถสื่ อสารกับวิญญาณร้ ายได้ บางชนิด มองเห็นจุดอ่อน
และลักษณะพิเศษของสิ่ งมีชีวิตประเภทอันเดด แถมยังได้ รับพลัง
ทางกายภาพเพิม่ ขึน้ เมื่อต้ องเผชิญหน้ า

“โบสถ์ ของเรามีเส้ นทางผู้เก็บซากศพถึงลาดับเจ็ด ส่ วนชื่ อของ


โอสถลาดับเจ็ด คุณคงคุ้นเคยเป็ นอย่ างดี…

“ถูกต้ อง ผู้สื่อวิญญาณนั่นเอง ดาลี่ย์เลือกเส้ นทางผู้เก็บซากศพ”


ดันน์ อธิบาย

ผู้สื่อวิญญาณค่ อนข้ างน่ าสนใจและแข็งแกร่ ง แต่ ตัวมันต้ องการ


ความรู้ด้านพลังเร้ นลับเหนือธรรมชาติมากกว่ า

ไคลน์ ไม่ ขัด ปล่อยให้ ดันน์ เล่ าต่ อ

ดันน์ ·สมิทหันกลับไปมองพระจันทร์ แดงอีกครั้ง ก่อนจะกล่าว

“และเส้ นทางสุ ดท้ าย พวกเรามีเพียงสู ตรของโอสถลาดับเก้ า


ส่ วนขั้นสู งกว่ านี้ ยังไม่ แน่ ใจว่ าวิหารศักดิ์สิทธิ์มีหรื อไม่

“ชื่ อของมันคือ… นักทานาย”


นักทานาย?
นัยต์ ตาไคลน์ หดลีบเล็ก มันยังจาเนื้อความในไดอารีจักรพรรดิ
โรซายได้ ดี

โรซายเสี ยดายมากที่ไม่ ได้ เลือกเส้ นทางผู้ฝึกหัด นักจารกรรม


หรื อนักทานาย…
ราชันย์ เร้ นลับ 29 : ‘งาน’ และบ้ านเช่ าคือสิ่ งสาคัญ

ไคลน์ พยายามเก็บงาอารมณ์ ก่อนจะเอ่ยปากถามด้ วยสี หน้ าใครรู้

“นักทานายมีพลังแบบไหนกันครับ?”

“ถามผิดนะ คุณต้ องถามว่ า—โอสถนักทานายมอบพลังแบบ


ไหนให้ ผ้ ดู ื่ม”

ดันน์ ส่ายศีรษะพลางอมยิม้ มันเบือนสายตาจากจันทร์ แดง


กลับมามองไคลน์

เงาดายามค่าคืนสาดทอดทับร่ างดันน์ จนกลืนหายเข้ าไปความมืด

“นักทาลายเชี่ยวชาญเกี่ยวกับศาสตร์ หลายแขนง ทั้งดาราศาสตร์


การพยากร ลูกตุ้มวิญญาณ และการดูดวงลูกแก้ว

“แน่ นอน คุณจะไม่ ได้ ครอบครองความรู้ท้งั หมดทันทีที่ดื่มโอสถ


พลังจากโอสถเพียงแค่ ช่วยให้ คุณเรียนรู้ศาสตร์ เหล่านั้นได้ ง่ายขึน้ ”

“แต่ ข้อเสี ยย่ อมมี นักทานายจะไม่ มีทักษะด้ านต่ อสู้ โดยสิ้นเชิง


เอ่อ… ลองนึกถึงภาพของผู้ประกอบพิธีกรรมที่ต้องเตรียมตัว
หลายขั้นตอน อารมณ์ คงประมาณนั้น เป็ นศาสตร์ ที่อยู่ตรงข้ ามกับ
การต่ อสู้
“แต่ หากเป็ นด้ านปัญญาเวทมนตร์ และพิธีกรรม นักทานายจะมี
ศักยภาพสู งกว่ าผู้ส่องความลับแบบลุงนีลล์”

สอดคล้องกับสิ่ งที่มันต้ องการมากทีเดียว… แต่ ข้อเสี ยด้ านพลัง


ต่ อสู้ ก็น่าหวั่นใจไม่ น้อย หากต้ องเผชิญหน้ าศัตรูคงรับมือได้ ยาก
กว่ าผู้วิเศษเส้ นทางอื่น

ยิ่งไปกว่ านั้น ดันน์ กาชับชัดเจนว่ าโบสถ์ เทพธิดารัตติกาลไม่ มี


โอสถลาดับถัดไปของเส้ นทางนักทานาย…

และวิหารศักดิ์ศิทธิ์ก็อาจไม่ มีเช่ นกัน

วิหารศักดิ์สิทธิ์หมายถึงวิหารแห่ งความสงบ ศูนย์ บัญชาการ


สู งสุ ดของศาสนาเทพธิดารัตติกาล ถ้ าแม้ แต่ ที่นั่นยังไม่ มีสูตรโอสถ
เหยี่ยวราตรีสาขาไหนไม่ มีท้งั นั้น

หมายความว่ า ไคลน์ จะกลายเป็ นผู้วิเศษที่พ่ายแพ้แม้ กระทั่งปื น


สั้ นไปอีกหลายปี …

ไคลน์ ลังเลระหว่ างนักทานายและผู้ส่องความลับ มันไม่ มองถึงผู้


เก็บซากศพอีกแล้ว

เมื่อเห็นไคลน์ แสดงสี หน้ าอมทุกข์ ดันน์ อมยิม้ พลางกล่ าว


“ไม่ ต้องรีบตัดสิ นใจก็ได้ ไว้ ค่อยให้ คาตอบผมเช้ าวันจันทร์
เหยี่ยวราตรีของทิงเก็นไม่ สนใจว่ าคุณจะเลือกเส้ นทางไหน พวกเรา
ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ เสมอ

“ดังนั้น หลับตาลงและถามใจตัวเองดู”

เมื่อกล่าวจบ ดันน์ ·สมิทก้มศีรษะลงเล็กน้ อยตามมารยาท ก่ อน


จะเดินตรงไปยังบันไดไม้ เพื่อลงชั้นล่ าง

ไคลน์ ไม่ กล่าวสิ่ งใด ไม่ แม้ แต่ จะบอกล่า มันยืนมองดันน์ จากไป
อย่ างเงียบงัน

แม้ ชายหนุ่มปรารถนาที่จะเป็ นผู้วิเศษมาตลอด แต่ เมื่อโอกาส


มาถึงตรงหน้ า ไคลน์ กลับออกอาการลังเล

สาเหตุมีหลายประการ ทั้งเรื่ องที่เส้ นทางไม่ สมบูรณ์ การคลุ้ม


คลั่งของผู้วิเศษ ความน่ าเชื่ อถือของไดอารีจักรพรรดิโรซาย
รวมถึงเสี ยงกระซิบที่จะตามเย้ ายวนหลอกหลอนผู้วิเศษ

ทั้งหมดก่อตัวกันเกิดเป็ นคูน้ารอบตัวไคลน์ และกีดขวางการ


พัฒนา

“แต่ ถึงจะแย่ ยังไง ก็ไม่ โหดร้ ายไปกว่ าการให้ เด็กม. 6 อายุ 18


ตัดสิ นใจอนาคตครั้งสาคัญของตัวเอง…”
ไคลน์ ยมิ้ จืดชื ด ขณะปิ ดประตูและเดินกลับไปที่เตียง หัวสมอง
ยังคงพยายามประติดประต่ อข้ อมูลทั้งหมดเข้ าด้ วยกัน

มันทิง้ ตัวลงบนเตียงชั้นล่างโดยที่ดวงตายังเปิ ดอยู่ เอาแต่ จ้อง


มองแผ่ นไม้ ของเตียงชั้นบนซึ่งกาลังถูกแสงจันทรสี แดงสาดทอด

ขีเ้ มาเอะอะโวยวายขณะเดินโซซัดโซเซบนถนนกางเขนเหล็ก
เบื้องล่าง รถม้ าแล่นผ่ านเกิดเสี ยงกุบกับ สิ่ งเหล่านีม้ ิได้ ทาลายความ
สงบสุ ขยามค่าคืน ตรงกันข้ าม มันยิ่งช่ วยส่ งเสริมให้ ความมืดมิดมี
เสน่ ห์และลึกลับซับซ้ อน

จิตใจไคลน์ กาลังสงบนิ่งขณะย้ อนนึกถึงชีวิตบนโลกเก่า ตัวมันที่


ชอบออกกาลังกาย บิดาที่ชอบพูดจาล้งเล้ งเสี ยงดัง มารดาที่ขยัน
ทางานหนักแม้ จะมีโรคประจาตัว เพื่อนฝูงที่เติบโตมาด้ วยกัน เล่น
ฟุตบอลด้ วยกัน เล่นบาสเก็ตบอลด้ วยกัน เล่นไพ่นกกระจอก
ด้ วยกัน

รวมถึงสาวที่สารภาพรักแต่ ล้มเหลว…

ความทรงจาทั้งหมดเปรียบดังน้านิ่ง ไม่ มีสิ่งใดสลักลึกลงในใจ


เป็ นพิเศษ มิได้ กระเพื่อมจนสั่ นคลอนจิตใจสถานหนัก ไคลน์ ไม่ ได้
โหยหาหรื ออาวรณ์ แทบขาดใจ เพียงแต่ ความทรงจาเหล่านั้นช่ วย
ให้ ชีวิตของมันชุ่มฉ่าและมีสีสันเสมอมา
คงจริงที่ว่า คนเราจะเห็นค่ าของสิ่ งใกล้ตัวในยามที่สูญเสี ยไป
แล้ว

ท้ องฟ้ าที่เคยแดงฉานเริ่มเปลี่ยนเป็ นแสงทองอร่ ามในยามเช้ า


ไคลน์ ครุ่นคิดกับตัวเองอยู่นานจนได้ คาตอบ

เมื่อลุกจากเตียง มันเดินไปยังห้ องน้ารวมเพื่อทากิจวัตรหลังตื่น


นอน ล้างหน้ าแปรงฟัน
จากนั้นก็เดินจับจ่ ายตลาดชดเชยอาหารที่หมดลงไปกับมื้อใหญ่
เมื่อคืน ธนบัตรหนึ่งซูลถูกยื่นให้ มาดามสลินเพื่อเป็ นค่ าขนมปัง
ไรย์ หนักแปดปอนด์ ซึ่งมีราคาเก้าเพนนี ถัดมาเป็ นการจับจ่ าย
จิปาถะทดแทนอาหารภายในบ้ านที่หมดลง

หลังจากเสร็จมื้ออาหาร ขณะพีน่ ้ องคนอื่นกาลังเปลี่ยนเสื้ อผ้ า


เพื่อเตรียมตัว

“ราคาสิ นค้ าบริโภคเริ่มคงที่แล้ว…”

ไคลน์ กล่าว

วันนีเ้ ป็ นวันอาทิตย์ วันว่ างของเบ็นสั นและเมลิสซ่ า


ไคลน์ อยู่ในชุดสุ ภาพ มันนั่งลงบนเก้าอีพ้ ลางกางหนังสื อพิมพ์
ฉบับเก่าของเมื่อวานออกมาอ่าน พลางกล่าวด้ วยน้าเสี ยงตื่นเต้ น

“บ้ านว่ างให้ เช่ า : เขตเหนือ บ้ านเลขที่สาม ถนนเวนเดล บ้ าน


เดี่ยวสองชั้น ชั้นบนประกอบด้ วยหกห้ องนอน สามห้ องน้า และ
สองระเบียงใหญ่

“ชั้นล่างประกอบด้ วยห้ องทานอาหาร ห้ องนั่งเล่น ห้ องครัว สอง


ห้ องน้า และสองห้ องนอนแขก รวมถึงห้ องเก็บของใต้ ดิน

“หน้ าบ้ านมีพื้นที่ส่วนตัวกว้ างสองอาร์ * รวมถึงสวนขนาดเล็ก


สั ญญาเช่ ามีต้ังแต่ หนึ่งปี สองปี ไปจนถึงสามปี ค่ าเช่ าสั ปดาห์ ละ
หนึ่งปอนด์ กับอีกหกซูล ท่ านใดที่สนใจ ให้ เดินทางไปยังถนนแชม
เปญและตามหามิสเตอร์ กุซุฟ”

( * 1 อาร์ = 100 ตารางเมตร)

“นั่นจะเป็ นบ้ านในอนาคตของพวกเรา”

หลังจากเบ็นสั นแต่ งตัวเสร็จ มันกล่าวขณะสวมหมวกทรงกึ่งสู ง


สี ดา

“โฆษณาบ้ านเช่ าในหนังสื อพิมพ์มักแพงกว่ าที่สานักงานจัดหา


บ้ านเช่ าเสมอ ที่สานักงานจะมีตัวเลือกราคาถูกกว่ าซึ่งคุณภาพแทบ
ไม่ ต่างกัน”
“ทาไมพวกเราไม่ ไปสานักงานจัดหาบ้ านเช่ าสาหรับชนชั้น
ทางานโดยเฉพาะล่ะ?”

เมลิสซ่ าเดินออกจากห้ องพร้ อมกับส่ งเสี ยงถาม ในมือถือหมวก


ตาข่ ายของดูต่างหน้ ามารดา เธอเปลี่ยนเสื้ อผ้ าเรียบร้ อยแล้ว สาว
น้ อยมาในชุ ดเดรสยาวสี เทาซึ่งมีรอยปะชุนหลายแห่ ง

ถึงจะมีนิสัยเงียบขรึมและเก็บตัว แต่ นั่นก็มิได้ ปกปิ ดความร่ าเริง


ของเธอ
เบ็นสั นหัวเราะ

“เธอไปได้ ชื่อยินสานักงานจัดหาบ้ านเช่ าชนชั้นแรงงานมาจาก


ใคร? เจนนี่? มาดามร็อชเชอร์ ? หรื อเซเลน่ าเพื่อนซี้?”

เมลิสซ่ าหันไปมองเบ็นสั นพร้ อมกับตอบเสี ยงค่ อย

“มาดามร็อชเชอร์ … พวกเราเจอกันตอนล้างหน้ าก่อนนอนเมื่ อ


คืน เธอถามเกี่ยวกับการสั มภาษณ์ งานของไคลน์ ฉันจึงเล่าให้ ฟัง
อย่ างคร่ าว เธอก็เลยบอกให้ ลองไปติดต่ อสานักงานจัดหาบ้ านเช่ า
สาหรับชนชั้นแรงงาน”

เมื่อเบ็นสั นสั มผัสได้ ว่าไคลน์ กาลังขมวดคิว้ มันส่ ายศีรษะและ


อธิบายอย่ างอารมณ์ ดี
“กลุ่มเป้าหมายของสานักงานดังกล่ าวคือคนจน ไม่ สิ ระบุให้ ชัด
คือกลุ่มชนชั้นล่ างของสั งคม บ้ านเช่ าส่ วนใหญ่ จะมีสภาพทรุด
โทรม ถูกซ่ อมบารุงมาแล้วหลายครั้ง เกือบทั้งหมดจะเป็ นห้ องน้า
รวม ข้ อดีเดียวคือได้ เลือกว่ าจะเช่ าห้ องหนึ่งเตียง สองเตียง หรื อ
สามเตียงเท่ านั้น เธอยังต้ องการอาศัยในสภาพแวดล้อมเหมือนเดิม
ต่ อไปหรื อ?

“ถึงสานักงานจัดหาบ้ านเช่ าสาขาทิงเก็นจะมีลักษณะธุรกิจ


คล้ายคลึงกัน แต่ ตัวเลือกกว้ างกว่ ามาก ที่นั่น พวกเราจะมีสิทธิ์เลือก
บ้ านแถวสาหรับชนชั้นกลางระดับต่า

“แต่ ด้วยความสั ตย์ จริง ฐานะทางการเงินของพวกเราดีกว่ าชน


ชั้นกลางระดับต่าไปมากแล้ว แต่ ก็ยังห่ างจากชนชั้นกลางที่แท้ จริง
อยู่พอสมควร ปัญหาไม่ ได้ อยู่ที่รายได้ แต่ เป็ นเงินเก็บที่ยังมีไม่ มาก
พอ”

ไคลน์ พกั หน้ าขณะรับฟัง ก่อนจะวางหนังสื อพิมพ์ลงและหยิบ


หมวกทรงกึ่งสู งสี ดามาสวม

“ไปกันเถอะ”

“ถ้ าจาไม่ ผิด สานักงานจัดหาบ้ านเช่ าสาขาทิงเก็นจะอยู่บนถนน


ดารารัตน์ ”
เบ็นสั นกล่าวขณะใช้ มือผลักประตู
“เฉกเช่ นสานักงานจัดหาบ้ านเช่ าสาหรับชนชั้นแรงงาน ธุรกิจ
ประเภทนีจ้ ะถูกเรียกว่ า ‘เงินกินเปล่า 5%’… พวกนายรู้ไหมว่ า
หมายถึงอะไร?”

“ไม่ ทราบ”

ไคลน์ ตอบพลางยกไม้ คา้ ก้าวเดินเคียงข้ างเมลิสซ่ า

ขณะเดียวกัน เด็กสาวผมดาเงางามยาวถึงหลังรีบส่ ายหน้ าเป็ น


เชิงไม่ ทราบ

เบ็นสั นอธิบายต่ อ

“สานักงานจัดหาบ้ านเหล่านี้ได้ รับอิทธิพลมาจากสาขาเมือง


หลวงเบ็คลันด์ ช่ องทางรายได้ จะมีท้งั หมดสามส่ วน

“อย่ างแรก ได้ รับเงินสนับสนุนจากหน่ วยงานการกุศล อย่ างที่


สอง ได้ รับเงินจากการระดมทุนพิเศษ พวกมันสามารถกู้เงินรัฐบาล
ได้ ในอันตราดอกเบีย้ เพียง 4% ต่ อปี และอย่ างที่สาม ถ้ าหาลูกค้ าให้
เจ้ าของบ้ านเช่ าได้ สานักงานจะหักรายได้ 5% จากค่ าเช่ าที่เจ้ าของ
บ้ านได้ รับ นี่คือที่มาของคาว่ า ‘เงินกินเปล่า 5%’”

สามพีน่ ้ องเดินลงบันไดและตรงไปยังถนนดารารัตน์ สาเหตุที่ยัง


ไม่ บอกมิสเตอร์ แฟรงค์ เพราะเบ็นสั นต้ องการรับประกันบ้ านหลัง
ใหม่ เสี ยก่อน ทั้งสามไม่ อยากตกอยู่ในสถานที่ถูกไล่ออกจากบ้ าน
เดิม แต่ ไม่ มีบ้านใหม่ ให้ ย้ายเข้ า

“แต่ เคยได้ ยินจากเซเลน่ าว่ า มีสานักงานจัดหาบ้ านบางแห่ ง


ดาเนินการทุกอย่ างโดยไม่ คิดเงิน เรียกได้ ว่าการกุศลเต็มตัว”

เมลิสซ่ าถามพลางขมวดคิว้

เบ็นสั นคิกคัก
“ก็มีอยู่นะ เช่ นบริษัทสิ นเชื่ อเดอไวล์ที่เซอร์ ·เดอไวล์บริจาคเงิน
ส่ วนตัวสมทบ เขาจะสร้ างหอพักราคาถูกกว่ าปรกติสาหรับชนชั้น
แรงงานโดยเฉพาะ แถมยังมีที่ปรึกษาเกี่ยวกับบ้ านเช่ าคอยให้
คาแนะนาโดยไม่ คิดเงิน แต่ ผ้ เู ข้ าพักอาศัยจะถูกตีกรอบด้ วยกฎที่
เข้ มงวด”

“ฟังดูเหมือนนายไม่ ค่อยชอบเขา?”

ไคลน์ สัมผัสได้ มันอมยิม้

“เข้ าใจผิดแล้ว ฉันเคารพเซอร์ ·เดอไวล์มาก เพียงแต่ เขายังเข้ าไม่


ถึงความยากจนที่แท้ จริง หอพักคนจนอาจเป็ นสิ่ งที่ฟังดูสวยหรู แต่
ในทางปฏิบัติแล้วไม่ จริงเลย
“ตัวอย่ างเช่ น ทุกคนที่ย้ายเข้ าต้ องฉีดวัคซีนหลักครบหมดแล้ว
เท่ านั้น แถมยังต้ องแบ่ งเวรทาความสะอาดห้ องน้ารวม ห้ ามปล่อย
เช่ าพื้นที่ในห้ องให้ บุคคลอื่น ห้ ามทากิจกรรมหารายได้ ภายในห้ อง
ห้ ามมั่วสุ มเรื่ องเพศภายในห้ อง ห้ ามเด็กเล็กวิ่งตามทางเดิน

“ให้ ตายสิ … เขาคิดจะสร้ างหอพักอบรมสุ ภาพบุรุษและ


สุ ภาพสตรีหรื ออย่ างไร?”

เบ็นสั นตอบกลับด้ วยน้าเสี ยงราบเรียบ

ไคลน์ ขมวดคิว้

“เท่ าที่ฟังดูก็ไม่ เห็นเป็ นปัญหาตรงไหน ฉันกลับคิดว่ าเป็ นกฎที่


สมเหตุสมผลดีแล้ว”

“นั่นสิ ”

เมลิสซ่ าพยักหน้ าเห็นด้ วย

เบ็นสั นเอียงคอมองน้ องชายน้ องสาวก่อนจะหัวเราะคิกคัก

“สงสั ยฉันคงเลีย้ งพวกเธอดีเกินไป จึงไม่ เคยพบเห็นความ


ยากจนที่แท้ จริง พวกเธอคิดว่ าคนเหล่านั้นจะมีเงินจ่ ายค่ าวัคซีน
หลักครบทุกชนิดอย่ างนั้นหรื อ? การขอรับวัคซีนฟรีจากรัฐบาล
ต้ องรอนานกว่ าสามเดือน
“พวกเธอคิดว่ างานของคนเหล่านั้นมั่นคงนักหรื อ? ถ้ าไม่ มี
รายได้ เสริมจากการแบ่ งพื้นที่ห้องให้ คนนอกเช่ าห้ อง ถ้ าเกิด
อุบัติเหตุและตกงาน ก็ต้องย้ ายออกทันทีใช่ ไหม?

“แถมยังมีหญิงสาวอีกหลายคนที่หารายได้ โดยการเย็บเสื้ อผ้ า


หรื อแพ็คกล่องไม้ ขีดขาย กิจกรรมเหล่านีล้ ้วนเป็ นสิ่ งที่เกิดรายได้
ทั้งสิ้น ต้ องไล่ออกจากหอพักให้ หมดทุกคนเลยรึเปล่า?

“คนจนแทบทั้งหมดจะใช้ เวลาส่ วนใหญ่ ไปกับการทางาน พวก


เธอคิดว่ าคนเหล่านั้นมีเวลาอมรบวินัยบุตรหลานหรื ออย่ างไร? จะ
ห้ ามเด็กวิ่งบนทางเดินได้ จริงหรื อ?

“ทางออกเดียวคือการขังปิ ดตายภายในห้ องขณะผู้ปกครอง


ออกไปทางาน รอให้ เด็กโตกว่ านี้ สั กเจ็ดแปดขวบ ค่ อยส่ งไป
โรงงานบางแห่ งที่ยอมรับเด็กเข้ าทางาน”

เบ็นสั นอธิบายด้ วยคาพูดที่แตกต่ างจากทุกครั้ง ไคลน์ พลันเย็น


สั นหลังวาบเมื่อฟังจบ

คนยากจนที่แท้ จริงมีความเป็ นอยู่แร้ นแค้ นขนาดนั้นเชียวหรื อ?

เมลิสซ่ าที่เดินข้ างไคลน์ เธอเงียบงันเป็ นเวลานานก่อนจะกล่าว


ด้ วยน้าเสี ยงเย็นยะเยียบ
“หลังจากเจนนี่ย้ายไปอยู่ถนนสายล่าง เธอก็ไม่ ยอมให้ ฉันไป
เยี่ยมที่บ้านอีกเลย”

“ก็ได้ หวังว่ าพ่อของเธอจะตั้งตัวได้ เมื่อหายจากอาการบาดเจ็บ


แต่ เคยได้ ยินมาว่ า คนติดเหล้ามักใช้ เหล้าเพื่อบาบัดตัวเอง…”

เบ็นสั นยิม้ แห้ ง

ไคลน์ ไม่ กล่าวสิ่ งใดต่ อ เมลิสซ่ าก็เช่ นกัน สามพีน่ ้ องเดินไปบน


ถนนดารารัตน์ อย่ างเงียบงันจนกระทั่งถึงหน้ าสาหนักงานจัดหา
บ้ านเช่ าสาขาทิงเก็น

เจ้ าหน้ าที่ต้อนรับคือชายวัยกลางคนที่มีรอยยิม้ เป็ นมิตร มันมิได้


สวมชุ ดทางการนัก มีเพียงเชิ้ตขาวและกั๊กดาพอเป็ นพิธี

“เรียกผมว่ าสกาเตอร์ ขอทราบได้ ไหมครับว่ าบ้ านในใจเป็ นแบบ


ไหน?”

มันฉีกยิม้ กว้ างขณะชาเลืองมองไม้ คา้ เลี่ยมเงินในมือไคลน์

ชายหนุ่มหันไปมองเบ็นสั นที่มีวาทศิลป์ สู งกว่ า ก่อนจะทา


สั ญญาณมือบอกใบ้ ให้ อีกฝ่ ายอธิบายแทน

เบ็นสั นหันไปกล่าวหนักแน่ น
“บ้ านแถวครับ”

สกาเตอร์ หยิบแฟ้ มเอกสารเล่มใหญ่ มาเปิ ดออกทีละหน้ า มัน


กาลังอมยิม้

“มีท้งั หมดห้ าหลังที่ยังว่ างอยู่ อันที่จริง สานักงานของเรามี


กลุ่มเป้าหมายเป็ นครอบครัวใหญ่ ขนาดตั้งแต่ หกถึงสิ บคนอาศัย
ภายในบ้ านใหญ่ หลังเดียว ส่ งผลให้ ไม่ มีรายชื่ อของบ้ านแถวมาก
นัก
“บนถนนดารารัตน์ มีหนึ่งหลัง บ้ านเลขที่สอง เขตเหนือมีหนึ่ง
หลัง เขตตะวันออกมีหนึ่งหลัง…

“ค่ าเช่ าอยู่ระหว่ างสิ บสองถึงสิ บหกซูล รายละเอียดเพิม่ เติม


สามารถอ่านได้ ที่นี่”

สกาเตอร์ ยื่นแฟ้ มเอกสารให้ เบ็นสั น ไคลน์ และเมลิสซ่ า

หลังจากกวาดสายตามอง สามพีน่ ้ องชี้นวิ้ ไปยังจุดเดียวกันโดย


มิได้ นัดหมาย

“ไปดูบ้านเลขที่สองบนถนนดารารัตน์ กันก่อนเถอะ”

เบ็นสั นเสนอแนะ ไคลน์ และเมลิสซ่ าพยักหน้ าพร้ อมเพรียง


บ้ านหลังดังกล่าวอยู่ในเขตที่ท้งั สามคนคุ้นเคยเป็ นอย่ างดี เพราะ
ถนนดารารัตน์ น้ นั ใกล้กับถนนกางเขนเหล็กมาก
ราชันย์ เร้ นลับ 30 : เริ่มต้ นใหม่

บ้ านเลขที่ 2, 4 และ 6 บนถนนดารารัตน์ คือบ้ านแถวสามหลังตัด


กัน หลังคาเป็ นทรงปั้นหยาหลายเหลี่ยม ภายนอกถูกทาด้ วยสี เทา
อมฟ้ า ปล่องไฟสามปล่องเรียงรายบ้ านละหนึ่งหลัง

แน่ นอน บ้ านแถวย่ อมไม่ มีลานหญ้ า สวนดอกไม้ หรื อเฉลียง


หน้ าบ้ าน ประตูทางเข้ าอยู่ติดกับทางเดินริมถนน

สกาเตอร์ แห่ งสานักงานจัดหาบ้ านสาขาทิงเก็นหยิบพวงกุญแจ


ออกมาไขประตูหน้ า ก่อนจะอธิบายเสริม

“บ้ านแถวของพวกเราจะไม่ มีโถงใหญ่ ไว้ สาหรับรับแขก เมื่อเปิ ด


ประตูเข้ าไปจะพบกับห้ องนั่งเล่นทันที แต่ บริเวณด้ านหน้ าจะมีมุข
หน้ าต่ าง*สาหรับรับแสง ความสว่ างภายในบ้ านจึงพอเหมาะ”

( มุขหน้ าต่ าง — หน้ าต่ างบานใหญ่ ที่นูนยื่นออกจากตัวบ้ าน พบ


เห็นได้ บ่อยในสิ่ งก่อสร้ างทรงยุโรป )

ไคลน์ เบ็นสั น และเมลิสซ่ าเปิ ดประตูเข้ าไปพบกับโซฟาผ้ าที่


กาลังถูกแสงแดดสี ทองสาดทอด และแน่ นอน ภายในบ้ าน
กว้ างขวางกว่ าหอพักสองห้ องนอนเดิมของพวกมันมาก

“ห้ องนั่งเล่นสามารถใช้ แทนห้ องรับแขกได้ ขวามือเป็ นห้ องทาน


อาหาร ส่ วนซ้ ายมือเป็ นเตาผิงที่จะช่ วยปรับอุณหภูมิในฤดูหนาว”
สกาเตอร์ อธิบายคล่องแคล่ว

ไคลน์ กวาดสายตามองแล้วพบว่ า บ้ านหลังนี้มีสภาปัตยกรรม


ภายในที่เรียบง่ ายและโปร่ งโล่ง ห้ องทานอาหารกับห้ องนั่งเล่นไม่ มี
ฉากกั้นแบ่ ง และค่ อนข้ างห่ างกับมุขหน้ าต่ าง ส่ งผลให้ แสงส่ องไม่
ถึงโต๊ ะทานอาหารจะเป็ นเวลากลางวัน

เก้าอีไ้ ม้ เนื้อแข็งจานวนหกตัวถูกวางเรียงรอบโต๊ ะไม้ สีแดงทรง


สี่ เหลี่ยมผืนผ้ า มันคือโต๊ ะสาหรับทานอาหาร ส่ วนเตาผิงฝั่งซ้ ายมือ
มีลักษณะเหมือนกับที่เคยเห็นในภาพยนต์ ยุโรปทุกประการ

“ถัดจากห้ องทานอาหารจะเป็ นห้ องครัว แต่ พวกเราไม่ เตรียม


อุปกรณ์ ให้ ถัดจากห้ องนั่งเล่นเป็ นห้ องนอนแขกขนาดเล็กและ
ห้ องน้า…”

สกาเตอร์ เดินนาทางพาชมบ้ านพลางอธิบายไม่ ขาดปาก

ห้ องน้าแบ่ งออกเป็ นสองสวน โซนล้างหน้ าแปรงฟันและส่ วนที่


เป็ นห้ องสุ ขา กึ่งกลางกั้นด้ วยบานเฟี้ ยมที่พบั ยืดหดได้

ห้ องนอนแขกที่ถูกบรรยายว่ าเล็ก แต่ ขนาดของมันกลับใหญ่ เท่ า


ห้ องปัจจุบันของเมลิสซ่ า
หลังจากสารวจชั้นล่ างครบถ้ วน สกาเตอร์ นาทางสามพีน่ ้ องไป
ยังบันไดที่อยู่ติดกับห้ องน้า

“ข้ างล่างเป็ นห้ องเก็บของใต้ ดิน บรรยากาศค่ อนข้ างอบอ้าว อย่ า


ลืมเปิ ดให้ อากาศถ่ ายเทสั กพักก่อนลงไป”

เบ็นสั นพยักหน้ าก่อนจะเดินตามสกาเตอร์ ขนึ้ ไปชั้นสอง

“ซ้ ายมือจะมีหนึ่งห้ องน้าและสองห้ องนอน ด้ านขวามือก็เช่ นกัน


แต่ ฝั่งนี้จะมีระเบียงถัดจากห้ องน้า”
ขณะกาลังพูด สกาเตอร์ เอื้อมมือไปเปิ ดประตูห้องน้าพร้ อมกับ
ขยับตัวหลบเพื่อให้ เบ็นสั น ไคลน์ และเมลิสซ่ าเห็นวิวด้ านใน

เป็ นห้ องน้าใหญ่ ที่มีอ่างอาบน้าติดตั้ง แต่ ยังเหมือนกับห้ อง


ด้ านล่ างที่กึ่งกลางมีบานเฟี้ ยมกั้นแบ่ งระหว่ างห้ องสุ ขากับอ่างล้าง
หน้ า

ถึงฝุนจะค่ อนข้ างมาก แต่ เป็ นเพราะขาดการทาความสะอาด ตัว


ห้ องน้าอยู่ในสภาพดี มิได้ ปรากฏคราบสกปรก กลิิ่นเหม็น หรื อ
แออัดคับแคบแต่ อย่ างใด

เมลิสซ่ าจ้ องมองด้ วยสี หน้ าเหม่ อลอยเป็ นเวลานาน จนกระทั่ง


สกาเตอร์ เดินเข้ าไปในห้ องนอนที่อยู่ถัดไป เธอยังคงยืนเงียบงันอยู่
ในจุดเดิมอีกสั กพัก ก่อนจะเดินตามคนที่เหลือไปชมห้ องนอน
ทว่ า หลังจากเมลิสซ่ าก้าวไปได้ สองก้าว เธอชะงักฝี เท้ าและหัน
กลับไปมองห้ องน้าอีกครั้ง

แม้ ไคลน์ จะเคยผ่ านประสบการณ์ มามาก แต่ มันก็ยังตื่นเต้ น


เหมือนกับทุกคน ที่หอพักห้ องเก่า มิสเตอร์ แฟรงค์ อาจทาความ
สะอาดห้ องน้ารวมบ่ อยครั้ง แต่ เป็ นไปไม่ ได้ เลยที่จะรักษาความ
สะอาดได้ ตลอดเวลา สภาพน่ าคลื่นไส้ อาเจียนสามารถพบเห็น
บ่ อยครั้ง ยังไม่ รวมถึงความทุกข์ ใจขณะปวดหนักแต่ ต้องต่ อคิวยาว
เหยียด
ห้ องน้าอีกหนึ่งนั้นคล้ายคลึงกับห้ องแรก

จากบรรดาห้ องนอนที่มีจานวนสี่ จะมีหนึ่งห้ องที่ใหญ่ พเิ ศษ


เฟอร์ นิเจอร์ ภายในครบครันพร้ อมด้ วยตู้หนังสื อ

ส่ วนห้ องนอนอีกสามจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน มีเฟอร์ นิเจอร์


พื้นฐานครบถ้ วน จาพวกเตียง โต๊ ะไม้ และตู้เสื้ อผ้ า

“ระเบียงค่ อนข้ างเล็ก คงยากที่จะตากเสื้ อผ้ าให้ แห้ งพร้ อมกันใน


แดดเดียว”

สกาเตอร์ กล่าวพลางชิ้นนิว้ ไปยังสุ ดทางเดินซึ่งมีประตูบานหนึ่ง


ถูกล็อคอยู่
“บ้ านหลังนีม้ ีระบบระบายน้าสมบูรณ์ แบบ มีระบบท่ อแก๊ส
มิเตอร์ แก๊ส รวมถึงสิ่ งอานวยความสะดวกขึน้ พื้นฐาน

“เหมาะสาหรับครอบครัวขนาดย่ อมของสุ ภาพบุรุษและ


สุ ภาพสตรีแบบพวกคุณ ค่ าเช่ าบ้ านจะอยู่ที่สิบสามซูลต่ อสั ปดาห์
แต่ จะมีค่าเช่ าเฟอร์ นิเจอร์ อีกห้ าเพนนีต่อสั ปดาห์ และต้ องจ่ ายค่ า
เช่ าล่วงหน้ าสี่ สัปดาห์ ”

ขณะเบ็นสั นกาลังจะกล่าวบางสิ่ ง ไคลน์ กวาดสายตามองหนึ่ง


รอบพร้ อมกับชิงถามด้ วยน้าเสี ยงใคร่ ร้ ู
“เอ่อ… ถ้ าจะซื้อบ้ านสั กหลักต้ องใช้ เงินเท่ าไรหรื อครับ?”

ในฐานะอดีตพลเมืองของจักรวรรดิแห่ งอาหาร·จีนแผ่ นดินใหญ่


มันย่ อมต้ องการครอบครองทรัพย์ สินอย่ างถาวร

หลังจากได้ ยินคาถาม เบ็นสั นและเมลิสซ่ าต่ างตกตะลึงประหนึ่ง


เห็นพีช่ ายน้ องชายของตัวเองเป็ นสั ตว์ ประหลาด

สกาเตอร์ ตอบกลับอย่ างสุ ขุมลุ่มลึก

“ซื้อ? สานักงานของเราไม่ มีบ้านขายหรอกครับ บริการรูปแบบ


เดียวคือให้ เช่ า”

“ผมแค่ ต้องการทราบราคาอย่ างคร่ าว”


ไคลน์ อธิบายกระอักกระอ่วน สกาเตอร์ ครุ่นคิดเล็กน้ อยก่อนจะ
มอบคาตอบ

“เมื่อราวเดือนก่อน เจ้ าของบ้ านเลขที่ 11 ถนนดารารัตน์ ได้ ขาย


สั ญญาเช่ าบ้ านแบบชั่วคราวเป็ นเวลา 15 ปี ไปในราคา 300 ปอนด์
ลักษณะของบ้ านไม่ ต่างจากหลังนีม้ ากนัก

“จริงอยู่ที่ถูกกว่ าการเช่ าค่ อนข้ างมาก แต่ คงยากที่ใครสั กคนจะมี


เงินติดตัวก้อนโตขนาดนั้น และนั่นเป็ นเพียงสั ญญาเช่ า หาก
ต้ องการซื้อขาด ราคาคงอยู่ราว 850 ปอนด์ ”

850 ปอนด์ ? ไคลน์ รีบคานวนในหัวสมอง

รายได้ ของตนคือสั ปดาห์ ละสามปอนด์ ของเบ็นสั นคือหนึ่ง


ปอนด์ กับอีกสิ บซูล… รายจ่ ายแบ่ งออกเป็ น ค่ าเช่ าบ้ านสิ บสามซูล
และถ้ าหากกินอาหารแบบไม่ อดอยาก ค่ าใช้ จ่ายรวมทั้งครอบครั ว
จะตกราวสั ปดาห์ ละสองปอนด์ ยังมีค่าจิปาถะอย่ างเสื้ อผ้ า การ
เดินทาง และภาษีสังคม

หมายความว่ า ครอบครัวสามพีน่ ้ องจะเหลือเงินเก็บเพียง


สั ปดาห์ ละยี่สิบซูล หรื อปี ละ 35 ปอนด์ หากต้ องการเก็บเงินให้ ได้
850 ปอนด์ จะต้ องใช้ เวลามากถึง 20ปี

หรื อถ้ าจะเก็บเงินเช่ าบ้ านระยะยาว 15 ปี ในราคา 300 ปอนด์ ก็


จะต้ องเก็บเงินนานกว่ า แปดถึงเก้าปี เลยทีเดียว… นี่ยังไม่ รวม
ค่ าใช้ จ่ายพิเศษอย่ างการแต่ งงาน เลีย้ งลูก ท่ องเที่ยว และอีกมาก…
ิิ
ในโลกที่ไม่ มีสิ นเชื่ อรายบุคคลสาหรับกู้ซื้อบ้ าน ผู้คนส่ วนใหญ่
จึงเลือกที่จะเช่ าบ้ านอยู่อาศัยแทน

หลังจากกระจ่ าง ไคลน์ ก้าวถอยหลังพลางชาเลืองมองเบ็นสั น


เพื่อส่ งสั ญญาให้ มันเจรจาสั ญญาเช่ ากับสกาเตอร์

ส่ วนความเห็นจากเมลิสซ่ านั้นไม่ จาเป็ น เพราะดวงตาที่กาลัง


เปล่งประกายของเธอคือคาตอบ!

ด้ วยเหตุนี้ ไคลน์ ปล่อยให้ เบ็นสั นแสดงพลังของนักต่ อรองอย่ าง


เต็มที่ เบ็นสั นใช้ นวิ้ เคาะไม้ คา้ ที่ราบเรียบก่อนจะกล่าวตาหนิบ้าน

“พวกเราควรไปดูบ้านอื่นก่อนนะ ห้ องทานอาหารมีแสงน้ อย
เกินไป ระเบียงชั้นสองเล็กมาก ตากผ้ าสามคนพร้ อมกันไม่ ได้ มี
ห้ องนอนเดียวที่มีเตาผิง และเฟอร์ นิเจอร์ ที่เตรียมไว้ ก็เก่าโทรมคร่า
ครึ หายคิดย้ ายเข้ าจริง พวกเราต้ องเปลี่ยนเกินกว่ าครึ่ง…”

เบ็นสั นพล่ามข้ อเสี ยของบ้ านอย่ างทะลุปรุโปร่ งนานกว่ าสิ บนาที


มันพยายามโน้ มน้ าวให้ สกาเตอร์ เข้ าใจว่ าเหตุใดต้ องลดค่ าเช่ าบ้ าน
เหลือเพียงสิ บสองซูลต่ อสั ปดาห์ และลดค่ าเช่ าเฟอร์ นิเจอร์ เหลือ
สั ปดาห์ ละสามเพนนี แถมยังพยายามต่ อรองค่ ามัดจาก้อนแรกให้
เหลือเพียงสองปอนด์
แต่ ท้ายที่สุดก็สาเร็จอย่ างน่ าเหลื่อเชื่ อ!

เหตุการณ์ ดาเนินไปอย่ างราบรื่ น สามพี่น้องกลับไปยังสานักงาน


จัดหาบ้ านเช่ าสาขาทิงเก็นเพื่อเซ็นสั ญญาเช่ าสองฉบับ

จากนั้นก็เดินทางไปยังสานักงานรับรองเอกสารประจาเมืองทิง
เก็นเพื่อประทับตรารับรองสั ญญาเช่ า

หลังจากจ่ ายค่ ามัดจาล่วงหน้ า ไคลน์ และเบ็นสั นเหลือเงิน


รวมกันเก้าปอนด์ สองซูล และแปดเพนนี

ขณะหยุดยืนหน้ าประตูบ้านเลขที่ 2 ถนนดารารัตน์ สามพีน่ ้ อง


ต่ างกากุญแจทองแดงไว้ คนละหนึ่งดอก สี หน้ าจดจ่ ออยู่กับตัวบ้ าน
โดยไม่ ละสายตาไปทางไหน อารมณ์ หลากหลายกาลังซัดโถมจิตใจ
จนชุ่ มฉ่า

“เหมือนความฝันเลย…”

เมลิสซ่ ากล่าวเสี ยงค่ อยขณะแหงนหน้ ามอง ‘บ้ านโมเร็ตติ’ ซึ่ง


เป็ นอนาคตของทุกคน

เบ็นสั นอมยิม้

“ถ้ าอย่ างนั้นก็ไม่ ต้องตื่น”


ไคลน์ ไม่ มีอารมณ์ ร่วมเหมือนกับสองคนนั้น มันเพียงผงกศีรษะ
เล็กน้ อย

“ต้ องรีบเปลี่ยนกลอนประตูหน้ าและระเบียงโดยเร็ว”

“ไม่ ต้องรีบก็ได้ สานักงานจัดหาบ้ านเช่ าสาขาทิงเก็นมีชื่อเสี ยง


ค่ อนข้ างดี เงินที่เหลือควรนาไปซื้อชุดทางานใหม่ ให้ นายมากกว่ า
แต่ ก่อนอื่น พวกเราต้ องแวะไปเยี่ยมเยียนมิสเตอร์ แฟรงค์ ”

เบ็นสั นกล่าวพลางชี้นวิ้ กลับหอพัก

สามพีน่ ้ องเดินกลับมาที่ห้องพักและอบขนมปังไรย์ กินจนอิ่ม


หนา ก่อนจะเดินทางไปยังบ้ านแถวหลังหนึ่งบนถนนกางเขน
เหล็ก—บ้ านเจ้ าของหอพัก—บ้ านมิสเตอร์ แฟรงค์

หลังจากเบ็นสั นเคาะประตู เสี ยงดังเกรี้ยวกราดภายในบ้ านเล็ด


ดังลอดออกมา มิสเตอร์ แฟรงค์ พยุงร่ างเล็กลุกพรวดจากโซฟาตัว
โปรดเปิ ดประตู

“คงรู้จักกฏเหล็กของฉันดีแล้วใช่ ไหม! ลูกบ้ านไม่ มีสิทธิ์เลื่อน


การชาระค่ าเช่ าทุกกรณี!”
เบ็นสั นเอนตัวไปด้ านหน้ า
“มิสเตอร์ แฟรงค์ครับ พวกเรามาเพื่อยกเลิกสั ญญาเช่ า”

ตรงไปตรงมาอย่ างนีเ้ ลยหรื อ? จะไปสาเร็จได้ ยังไง? ไคลน์ ที่ยืน


ข้ างเบ็นสั นพลันขมวดคิว้ อย่ างไม่ เชื่ อหู

ระหว่ างทางที่เดินมา เบ็นสั นกล่าวด้ วยสี หน้ าแสนมั่นใจว่ า


ค่ าชดเชยจะไม่ มากไปกว่ าสิ บสองซูลแน่ นอน

“ยกเลิกสั ญญา? ไม่ มีวัน! พวกเรายังเหลือสั ญญาอีกตั้งครึ่งปี !”

แฟรงค์ จ้องเบ็นสั นเขม็งพลางโบกไม้ โบกมือ

เบ็นสั นรอให้ อีกฝ่ ายสงบ ก่อนจะกล่าวอย่ างใจเย็น

“มิสเตอร์ แฟรงค์ อย่ าลืมสิ ถ้ าพวกเรายกเลิกสั ญญา คุณจะทา


เงินได้ มากขึน้ นะ”

“ทาเงินได้ มากขึน้ ?

แฟรงค์ ถามอย่ างสนอกสนใจ มันเลื่อนมือขึน้ มาลูบไล้ใบหน้ าผม


เพรียวของตน

เบ็นสั นเริ่มอธิบายอย่ างตรงไปตรงมาและเรียบง่ าย


“ห้ องพักสองห้ องย่ อยที่สามพีน่ ้ องเราเช่ าในราคาสั ปดาห์ ละห้ า
ซูลหกเพนนีน้ นั หากคุณปล่อยให้ ครอบครัวใหญ่ ที่มีสมาชิกหกคน
เช่ า ถ้ ามีสองคนที่ทางานหาเงิน พวกเขาต้ องยินยอมจ่ ายในราคา
มากถึงหกซูลแน่ คนเหล่านีล้ ้วนต้ องการถีบตัวเองหนีจากถนนสาย
ล่างที่มีอัตราอาชญากรรมสู ง”

นัยน์ ตาแฟรงค์ เริ่มระยิบระยับ เบ็นสั นทาการตอกลิ่มลงไป

“คุณเองก็คงทราบดีใช่ ไหม เมื่อไม่ นานมานี้ ค่ าเช่ าห้ องพักเฉลี่ย


มีอัตราสู งขึน้ ยิ่งพวกเราอยู่นาน คุณก็ยิ่งขาดทุน”

“แต่ ว่า… ฉันต้ องเสี ยเวลาหาผู้เช่ ารายใหม่ ”

แม้ จะลังเล แต่ สีหน้ าของมิสเตอร์ แฟรงค์ ที่สืบทอดกิจการเช่ า


หอพักจากผู้เป็ นบิดาเริ่มคล้อยตาม

“ผมเชื่ อว่ าคนเก่งและมีความสามารถอย่ างคุณต้ องหาผู้เช่ าใหม่


ได้ รวดเร็วแน่ อาจภายในสองวันหรื อสามวัน… พวกเรายินดีจ่าย
ค่ าชดเชยให้ ระหว่ างที่คุณกาลังหาผู้เช่ ารายใหม่ เอาแบบนีเ้ ป็ นไง
ครับ? พวกเราจะจ่ ายให้ ก่อนเป็ นจานวนสามซูล เข้ าท่ าดีใช่ ไหม?”

เบ็นสั นคิดเองเออเองแทนอีกฝ่ าย

แฟรงค์ ผงกศีรษะเล็กน้ อยด้ วยสี หน้ าพึงพอใจ


“เบ็นสั น คุณช่ างเป็ นคนหนุ่มที่รอบคอบและซื่ อสั ตย์ มาก ไม่ มี
ปัญหา พวกเรามาเซ็นสั ญญายกเลิกสั ญญาเดิมกัน”

หลังจากเฝ้ามองเหตุการณ์ ต้ังแต่ ต้นจนจบ ไคลน์ ทาได้ เพียงอ้า


ปากค้ างอย่ างตกตะลึง มันไม่ อยากเชื่ อว่ ามิสเตอร์ แฟรงค์ จะถูกโน้ ม
น้ าวง่ ายดายขนาดนี้

ง่ ายเกินไปแล้ว…

หลังจากปัญหาเรื่ องสั ญญาจบลงไป ถึงคิวเมลิสซ่ าและเบ็นสั น


ช่ วยกันเลือกชุดทางานให้ ไคลน์

ถัดมาเป็ นการย้ ายของเข้ าบ้ านใหม่ สามพีน่ ้ องไม่ มีสมบัติที่หนัก


หรื อขนาดใหญ่ บรรดาเฟอร์ นิเจอร์ ภายในห้ องล้วนเป็ นทรัพย์ สิน
ของมิสเตอร์ แฟรงค์ ท้งั สิ้น เมลิสซ่ ากับเบ็นสั นจึงคัดค้ านไอเดีย
ไคลน์ ที่ต้องการจ้ างบริษัทขนของ

พวกมันเลือกจะเดินไปกลับระหว่ างถนนกางเขนเหล็กและดารา
รัตน์ หลายรอบแทน

ดวงตะวันบนฟากฟ้ าเคลื่อนย้ ายตัวเองไปทางทิศตะวันตก


แสงแดดสาดส่ องผ่ านมุขหน้ าต่ างกระทบผิวโต๊ ะไม้
ไคลน์ จ้องมองสมุดและหนังสื อหลายเล่มที่ถูกจัดเรียงในตู้อย่ าง
เป็ นระเบียบ ก่อนจะหยิบปากกาขนนกและขวดหมึกมาวางลงบน
โต๊ ะไม้ ที่เพิง่ ถูกทาความสะอาดเอี่ยมอ่อง

จบสั กที… ไคลน์ พ่นลมหายใจตัดพ้อความเหนื่อยหน่ ายที่ผ่าน


มา ทันใดนั้น เสี ยงท้ องเริ่มร้ องคาราม ชายหนุ่มพับแขนเสื้ อลง
ขณะเดินตรงมาทางประตู

ปัจจุบัน มันมีเตียงส่ วนตัวแล้ว ผ้ าปูเตียงและผ้ าห่ มล้วนมีสีขาว


ผ่ อง ถึงเนื้อผ้ าจะค่ อนข้ างเก่า แต่ ความสะอาดไม่ เป็ นสองรองใคร

ไคลน์ บิดประตูก่อนจะเดินจากออกจากห้ องนอนส่ วนตัว ขณะ


มันกาลังจะตะโกนบางสิ่ งออกไป ประตูห้องนอนฝั่งตรงข้ ามทั้ง
สองถูกเปิ ดออกมาพร้ อมกัน

เบ็นสั นและเมลิสซ่ า

เมื่อเห็นคราบฝุ่ นเกาะติดใบหน้ ากันและกัน เบ็นสั นและไคลน์


หัวเราะร่ วนอย่ างมีความสุ ข เป็ นความสุ ขที่ครอบครัวนีไ้ ม่ ได้
สั มผัสมานานแล้ว

เมลิสซ่ าพยายามกลั้นขารักษาอาการ แต่ ริมฝี ปากของเธอกาลัง


สั่ นระริก และท้ ายที่สุดได้ หลุดหัวเราะออกมาเสี ยงค่ อย

เช้ าวันถัดมา

ไคลน์ ยืนแต่ งตัวหน้ ากระจกเต็มใบที่ปราศจากรอยร้ าว มันกาลัง


จัดแจงปกและแขนเสื้ อให้ เข้ าที่เข้ าทาง

ชุดทางานประกอบด้ วยเชิ้ตขาว ทักซิโด้ ดา หมวกผ้ าไหมทรงสู ง


กั๊กดา รวมถึงกางเขงขายาว รองเท้ าหนัง และโบว์ หูกระต่ ายเข้ าชุด

ไคลน์ วิงเวียนศีรษะไปครู่ใหญ่ เมื่อต้ องซื้อชุดทางานทั้งหมดเป็ น


เงินแปดปอนด์

แต่ เงินทุกบาททุกสตางค์ ที่จ่ายไปล้วนคุ้มค่ า หลังจากไคลน์ เห็น


ตัวเองในกระจกบานใหญ่ มันสั มผัสได้ ว่าบรรยากาศนักวิชาการ
และความหล่อเหล่าเพิม่ พูนหลายระดับ

กริ๊ก!

ไคลน์ ปิดฝานาฬิ กาพกก่อนจะใส่ ไว้ ในกระเป๋าเสื้ อ ไม้ คา้ เลี่ยมเงิน


ถูกหยิบขึน้ มาถือ ปื นลูกโม่ ถูกเก็บไว้ มิดชิดในซองรักแร้

ไคลน์ ·โมเร็ตติขนึ้ รถม้ าแบบรางมาถึงถนนซุตแลนในเวลาไม่


นาน
ขณะเดินขึน้ บันไดไปสู่ ช้ ันสอง ไคลน์ พลันส่ ายศีรษะตาหนิ
ตัวเองอย่ างหนัก มันเคยชินกับชีวิตในอดีตจนหลงลืมแบ่ งเงินให้ เม
ลิสซ่ าเป็ นค่ ารถม้ า ลงเอยด้ วยเธอต้ องเดินไปโรงเรียนเฉกเช่ น
ปรกติ

ชายหนุ่มรีบจดบันทึกใส่ เศษกระดาษเพื่อเตือนความจา ก่อนจะ


ย่ างกรายเข้ าไปในสานักงานบริษัทรักษาความปลอดภัยหนาม
ทมิฬ

ภาพแรกทีเ่ ห็นคือสตรีผมน้าตาล—โรแซน กาลังก้มหน้ าชง


กาแฟ กลิ่นที่หอมกรุ่นและเข้ มข้ นได้ ฟ้ งุ ไปทั่วห้ อง

“สวัสดีตอนเช้ าไคลน์ วันนีอ้ ากาศดีมากเลยนะ ว่ าไหม?”

โรแซนทักทายอย่ างร่ าเริง

“ด้ วยความสั ตย์ จริง ฉันนึกสงสั ยมานานแล้วว่ า พวกผู้ชายไม่


ร้ อนกันบ้ างหรื ออย่ างไรที่ต้องแต่ งกายมิดชิดหลายชั้นขนาดนั้น?
ถึงทิงเก็นจะร้ อนน้ อยกว่ าเมืองอื่นก็เถอะ แต่ ฤดูร้อนก็ยังเป็ นฤดู
ร้ อนอยู่ดี”

“เป็ นราคาที่ต้องจ่ าย เพื่อแลกมากับมาด”

ไคลน์ ตอบติดตลก
“สวัสดีตอนเช้ าเช่ นกันโรแซน ว่ าแต่ หัวหน้ าอยู่ไหนหรื อ?”
“ทีเ่ ก่าเวลาเดิม”

โรแซนชี้นวิ้ เข้ าไปยังประตูห้องที่อยู่หลังฉากกั้น

ไคลน์ พยักหน้ า มันเดินไปหยุดหน้ าประตูห้องทางานของดันน์ ·


สมิทก่อนจะใช้ นวิ้ เคาะ

“เข้ ามา”
เสี ยงดันน์ ยังคงกังวาลและอบอุ่น

เมื่อเห็นไคลน์ มาในชุ ดทางานใหม่ รอยยิม้ ของดันน์ ·สมิทฉีก


กว้ างกว่ าปรกติ

“ตัดสิ นใจได้ แล้วหรื อ?”

มันถาม

ไคลน์ สูดลมหายใจเพื่อสงบสติ จากนั้นก็ตอบด้ วยสี หน้ าขึงขัง

“ครับ ผมตัดสิ นใจได้ แล้ว”

ดันน์ ค่อยๆ ลุกขึน้ ยืนอย่ างสุ ขุม สี หน้ าและแววตายังคงราบเรียบ


“บอกความต้ องการของคุณมา”

ไคลน์ ไม่ ลังเล

“นักทานาย!”
ราชันย์ เร้ นลับ 31 : โอสถ

ดันน์ ·สมิทจ้ องมองไคลน์ ด้วยนัยน์ ตาสี เทาโดยไม่ กล่าวสิ่ งใดเป็ น


เวลานานกว่ าหนึ่งนาที

แม้ จะถูกสายตากดดัน แต่ ไคลน์ มีได้ แสดงท่ าทีสะดุ้งแต่ อย่ างใด


มันยังคงประสานสายตากับดันน์ อยู่เช่ นนั้น

“ผมขอเตือนเป็ นครั้งสุ ดท้ าย ถ้ าดื่มโอสถไปแล้ว คุณจะถอยหลัง


กลับไม่ ได้ อีก”

ดันน์ กล่าวด้ วยน้าเสี ยงลุ่มลึกแต่ ไร้ อารมณ์

ไคลน์ ฉีกยิม้

“ผมทราบครับ แต่ ผมขอเลือกที่จะทาตามเสี ยงของหัวใจ”

ประการแรก พลังของผู้ไร้ หลับไม่ สอดคล้องกับสิ่ งที่มันต้ องการ


เช่ นเดียวกับพลังของโอสถ ‘ผู้ชม’ ซึ่งเคยได้ ยินจากชุมนุมไพ่ทา
โร่ ต์

ไคลน์ ไม่ แน่ ใจว่ าตนจะมีโอกาสพบเบาะแสโอสถเส้ นทางอื่นอีก


ตอนไหน ดังนั้นสุ ภาษิตที่ว่า ช้ าๆ ได้ พร้ าสองเล่มงาม คงไม่ เหมาะ
กับสถานการณ์ เร่ งด่ วนในปัจจุบัน
ด้ วยเหตุนี้ การตัดสิ นใจจึงอยู่ในขอบเขตที่โบสถ์ เทพธิดา
รัตติกาลจัดหาได้ เหลือเพียงผู้เก็บซากศพ นักทานาย และผู้ส่อง
ความลับ

และเมื่อตัดผู้เก็บซากศพออกไป ตัวเลือกึงเหลือเพียงผู้ส่อง
ความลับและนักทานาย

ทั้งสองเส้ นทางอ่อนแอด้ านการต่ อสู้ ท้งั คู่ และชานาญในเวท


มนตร์ พธิ ีกรรมเหมือนกัน ด้ วยเหตุนี้ สิ่ งที่ช่วยให้ ไคลน์ ตัดสิ นใจได้
หนักแน่ นคือ เนื้อความซึ่งเขียนอยู่ในไดอารีของจักรพรรดิโร
ซาย—ชายคนนั้นเสี ยใจที่ไม่ ได้ เลือกหนึ่งในสามเส้ นทาง
ประกอบด้ วยผู้ฝึกฝน นักจารกรรม และนักทานาย

ยิ่งไปกว่ านั้น ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับ ‘การสวมบทบาท’ และ ‘การ


ย่ อย’ ที่ไคลน์ ยังไม่ ค่อยเข้ าใจนัก เพียงแต่ ทราบว่ า สองสิ่ งดังกล่าว
ถือเป็ นกุญแจสาคัญที่ช่วยลดโอกาสคลุ้มคลั่งของผู้วิเศษ แถมยัง
ช่ วยดึงประสิ ทธิภาพของโอสถออกมาถึงขีดสุ ด

ส่ วนเสี ยงประหลาดที่คอยตามหลอกหลอนในหัว เสี ยง


ประหลาดที่จูงใจให้ ผ้ วู ิเศษตกอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ไคลน์ ได้ ยิน
พวกมันก่อนจะกลายเป็ นผู้วิเศษเสี ยอีก

“เข้ าใจแล้ว”
ดันน์ หยิบหมวกทรงกึ่งสู งขึน้ มาสวม

“ตามผมลงไปข้ างล่าง”

ไคลน์ พยักหน้ าพลางถอดหมวกคานับ

กึก กึก กึก

คนทั้งสองมุ่งหน้ าลงไปยังชั้นล่าง เสี ยงฝี เท้ าดังสะท้ อนทั่ว


ทางเดินมืดสลัว

ไคลน์ เริ่มเกิดภาวะตึงเครียด มันพยายามหาเรื่ องคุย

“หัวหน้ าครับ คุณบอกว่ าโอสถจะไม่ มอบความรู้ด้านเวทมนตร์


และสิ่ งเหนือธรรมชาติให้ ผม เป็ นสิ่ งที่ต้องศึกษาและขวนขวาย
ด้ วยตัวเอง หากเป็ นเช่ นนั้นจริง บรรพบุรุษของเราหาความรู้จาก
ไหนกัน? ต้ องเสี่ ยงชีวิตเหมือนกับการไขปริศนาโอสถหรื อไม่ ?”

ทางเดินใต้ ดินยังมีบรรยากาศเหมือนกับทุกครั้ง อากาศที่นี่


บริสุทธิ์มาก แถมมีระบบถ่ ายเทที่ดี แต่ ด้วยเหตุผลบางประการ
ไคลน์ กลับเย็นสั นหลังวาบเมื่อมีสายลมพัดผ่ าน

ดันน์ หันมาจ้ องไคลน์ ท่ ามกลางแสงไฟสลัว นัยน์ ตาเทาของมัน


ลุ่มลึกกว่ าปรกติ
ดันน์ ตอนกลับอย่ างสุ ขุม

“ถูกต้ อง บรรพบุรุษอาศัยการทดลองและสรุปผล แต่ นั่นเป็ น


เพียงหนึ่งในสามวิธีที่มนุษย์ ได้ รับความรู้ของศาสตร์ เหนือ
ธรรมชาติ

“วิธีที่สองคือ เทพประทานความรู้ให้ โดยตรง และวิธีที่สามคือ


เอ่อ… เป็ นความรู้ที่ได้ จากเสี ยงเพรียกกระซิบซึ่งผู้วิเศษได้ ยิน
เฉพาะบุคคล ใช่ แล้ว… มันเป็ นเสี ยงเย้ ายวนที่อันตรายมาก แต่ ใน
บางครั้งก็มอบความรู้ที่มนุษย์ ไม่ เคยทราบมาก่อน

“ทว่ า จากข้ อมูลด้ านสถิติ ผู้วิเศษทุกคนที่ต้งั ใจฟังเสี ยงดังกล่าว


ล้วนมีจุดจบเดียวกันคือคลุ้มคลั่ง

“ถึงอย่ างนั้น มนุษยชาติก็ติดหนีบ้ ุญคุณพวกเขาที่ยอมเสี ยสละ


ตัวเอง บันทึกหรื อไดอารีที่พวกเขาทิง้ ไว้ ก่อนตายล้วนเป็ น
ประโยชน์ ต่อชนรุ่นหลังอย่ างมหาศาล”

หนูทดลอง?

อากาศเย็นยะเยียบของโถงทางเดินส่ งผลให้ ร่างกายไคลน์ เริ่ มสั่ น


เทา

ถ้ าอย่ างนั้นแล้ว พิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตาของเรา ที่จะได้ ยิน


เสี ยงกระซิบทุกครั้งหลังจากเดินทวนเข็มเป็ นรูปทรงสี่ เหลี่ยม
จัตุรัส จะส่ งผลให้ เราเกิดอาการคลุ้มคลั่งในอนาคตเหมือนกัน
หรื อไม่ ?

เมื่อมาถึงทางแยก ดันน์ มิได้ ตรงไปยังประตูยานิส และมิได้ เลีย้ ว


ขวาไปคลังอาวุธ คลังอุปกรณ์ หรื อคลังเก็บของเก่า แต่ มันเลือก
เลีย้ วซ้ ายไปยังมหาวิหารพระแม่ เซเลน่ า

ทว่ า ขณะมาเดินถึงกลางทาง หัวหน้ าเหยี่ยวราตรีชะงักฝี เท้ าและ


ใช้ มือกดปุ่ มเปิ ดประตูลับอย่ างรวดเร็ว ไคลน์ ไม่ ทันสั งเกตุว่าดันน์
กดลงไปยังจุดใด

“ที่นี่คือห้ องแปรธาตุของเหยี่ยวราตรี ผมจะบอกให้ ลุงนีลล์ หยิบ


สู ตรโอสถนักทานายรวมถึงส่ วนผสมที่ใช้ ออกมาจากประตูยานิส
แล้วก็…

“คุณโชคดีมากเลยนะ สงสั ยเป็ นเพราะเทพธิดาคอยอานวยพร


เหยี่ยวราตรีของเราจึงยังเหลือวัสดุสาหรับผลิตโอสถนักทานายได้
อีกสองขวด ไม่ อย่ างนั้นคงต้ องรอไปอีกพักใหญ่ ”

ดันน์ ชี้นวิ้ เข้ าไปในห้ อง

“นั่งรอด้ านในก่อน ลุงนีลล์จะมาผสมโอสถให้ ที่นี่ คุณต้ องคอย


ศึกษาไว้ ถือเป็ นพื้นฐานของศาสตร์ พลังเหนือธรรมชาติ แล้วก็…
ห้ ามแตะต้ องอุปกรณ์ ภายในห้ องโดยพละการ พวกมันแพงมาก
อันตรายมาก หรื อไม่ ก็ท้งั คู่”
เมื่อกล่าวจบ ดันน์ เว้ นวรรคไปพักหนึ่งก่อนจะพูดเสริมเหมือน
ทุกครั้ง

“เอ่อ… จริงด้ วย ผมลืมบอกไป คุณกลายเป็ นผู้วิเศษเนื่องจากถูก


คนขององค์ กรลับสะกดรอยและรื้อค้ นบ้ าน การตัดสิ นใจของคุณ
ทาให้ เหยี่ยวราตรีได้ รับข้ อมูลสาคัญ หรื ออีกนัยหนึ่งก็คือ ความดี
ความชอบตรงนีเ้ กิดขึน้ โดยบังเอิญ ไม่ ได้ แปลว่ าคุณกลายเป็ น
เจ้ าหน้ าที่ฝ่ายปฏิบัติการแล้ว คุณยังคงเป็ นเจ้ าหน้ าที่พลเรื อนเช่ น
เคย ค่ าตอบแทนรายสั ปดาห์ จึงไม่ เปลี่ยนแปลง

“หน้ าที่ของคุณคล้ายคลึงของเดิม พยายามเดินสารวจเบาะแส


ระหว่ างบ้ านเวิร์ชและหอพัก แต่ สิ่งที่เพิม่ ขึน้ มาคือ คุณต้ องตั้งใจ
ศึกษาศาสตร์ เหนือธรรมชาติกับลุงนีลล์อย่ างเป็ นกิจจะลักษณะ
ส่ วนเรื่ องเวลาให้ นัดแนะกันเอาเอง”

“เข้ าใจแล้วครับ”

สิ่ งเดียวที่ตะขิดตะขวงใจไคลน์ คือการที่ค่าตอบแทนไม่


เพิม่ ขึน้ … นอกนั้นเขารับได้

จากคาบอกเล่าของดันน์ ก่อนหน้ านี้ ผู้วิเศษจาเป็ นต้ องทาความ


เคยชินกับพลังของโอสถไปอีกสั กพัก หมายความว่ า หากมันถูก
บรรจุเป็ นเจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการทันทีและต้ องออกปฏิบัติภารกิจ
เหนือธรรมชาติ สิ่ งเดียวที่รออยู่คงเป็ นความตายแน่ แท้
ขณะดันน์ เดินกลับไปถึงทางแยก มันหันหลังมาเรียกไคลน์ อีก
หน

“ยังมีอีกเรื่ อง”

นั่นปะไร…
ไคลน์ เริ่มเคยชินกับ ‘รูปแบบ’ ของหัวหน้ าผู้นี้แล้ว

“พวกเราสามารถวิเคราะห์ การกระทาของลัทธิเร้ นลับได้


บางส่ วน”

ดันน์ กล่าวด้ วยน้าเสี ยงปรกติ

“มีความเป็ นได้ สูงที่พวกมันจะไม่ ก่อกวนคุณอีกในอนาคต แต่


อย่ าประมาทไว้ จะดีกว่ า เพราะตราบใดที่พวกเรายังไม่ มีความ
ชัดเจนว่ า สมุดบันทึกอันทีโกนัสมีความสาคัญกับพวกมันในระดับ
ใด

“จากการสารวจเบื้องตน สมุดเล่มนีเ้ ป็ นของโบราณจากยุคสมัย


ที่สี่จริง มีพลังอานาจบางอย่ างแอบแฝงอยู่ และยังเกี่ยวพันธ์ กับ
จักรวรรดิโซโลม่ อนและขุนนางทุจริตในสมัยนั้นโดยตรง”

“เข้ าใจแล้วครับ ขอบคุณมากหัวหน้ า”


ไคลน์ ถอนหายใจยาว

นีค่ ืออีกหนึ่งเหตุผลที่ว่า ทาไมไคลน์ ถึงต้ องรีบกลายเป็ นผู้วิเศษ


นัก

เมื่อเห็นดันน์ เดินลับสายตาโดยไม่ กล่ าวสิ่ งใดเพิม่ เติม ไคลน์ จึง


ย่ างกรายเข้ าไปในห้ องแปรธาตุ

ด้ านในมีโต๊ ะยาวตั้งอยู่พร้ อมกับอุปกรณ์ หลากหลายชนิด ทั้ง


หลอดทดลอง หลอดหยด ตราชั่ง รวมถึงเบ้ าหลอม คล้ ายคลึงกับ
อุปกรณ์ ในคาบเรียนวิทยาศาสตร์ มาก เพียงแต่ โบราณและไม่
ละเอียดเท่ าเครื่ องไม้ เครื่ องมือยุคปัจจุบัน

นอกจากนั้นยังมีหม้ อต้ ม ทัพพีไม้ สีเข้ ม บอลคริสตัล และ


อุปกรณ์ ที่ไม่ ค้ นุ เคยอีกหลายชนิด แถมยังมีตราสั ญลักษณ์ ศักดิ์สิทธิ์
ถูกตกแต่ งอยู่ทั่วห้ อง มอบบรรยากาศลึกลับเหนือคาบรรยาย

ไคลน์ กวาดสายตามองไปรอบห้ องอย่ างสนอกสนใจ แต่ แน่ นอน


มันไม่ โง่ พอจะใช้ มือสั มผัสจับต้ อง

ถัดมาไม่ นาน เสี ยงฝี เท้ าขึน้ จากด้ านนอก เป็ นลุงนีลล์ที่เดินเข้ า
มาพร้ อมกับกล่องสี เงินสลักลวดลายซับซ้ อน

ลุงนีลล์ยังคงสวมชุดคลุมสี ดาซึ่งไม่ เข้ ากับยุคสมัย แต่ ดันเข้ ากับ


หมวกสั กหลาดที่มีสีเดียวกันอย่ างลงตัว
“เจ้ าหนุ่ม นึกไม่ ถึงเลยว่ าเจ้ าจะเลือกเส้ นทางนักทานาย”

ลุงนีลล์วางกล่องสี เงินลงบนโต๊ ะ ก่อนจะใช้ นัยน์ ตาสี แดงที่เริ่ม


ขุ่นมัวจ้ องพิจารณาไคลน์

“นิสัยของเจ้ าเหมือนกับฉันตอนยังหนุ่มไม่ มีผิด ไม่ ชอบที่จะ


เหมือนใคร หลงไหลการแสวงหาความรู้… ไม่ เลว เอาล่ะ ช่ วยฉัน
จุดโคมไฟในห้ องก่อน จากนั้นก็ปิดประตู”
“ครับ”

ไคลน์ ระวังตัวสุ ดขีดขณะเอื้อมมือเปิ ดโคมไฟแก๊สที่ติดกับผนัง


ห้ อง มันไม่ ต้องการทาสิ่ งใดหล่นแตก เพียงไม่ นาน ห้ องแปรธาตุก็
สว่ างไสวเหมาะแก่การทางาน

แกร่ ก!

ประตูลับถูกปิ ดสนิท ไคลน์ หันกลับมาพบชายชราผมขาวที่มีริ้ว


รอยลึกหลายแห่ งบนใบหน้ า ปัจจุบัน ลุงนีลล์กาลังใช้ เศษกิ่งไม้
ประหลาดขูดกับหม้ อต้ มสี ดาสนิท

“การปรุงโอสถระดับต่างั้นง่ ายมาก อย่ างน้ อยก็จนถึงลาดับเจ็ด


ขั้นตอนไม่ ซับซ้ อน ไม่ จาเป็ นต้ องใช้ เพลิงชนิดพิเศษหรื อพิธีกรรม
ประหลาด แถมคาถาก็เรียบง่ าย
“แค่ผสมวัสดุตามปริมาณที่ระบุไว้ ในสู ตร ทาตามขั้นตอนโดย
ไม่ บิดเบือน เท่ านีก้ ็เพียงพอแล้ ว”

ลุงนีลล์ฉีกยิม้ กว้ าง

“แค่ นเี้ องหรื อครับ?”

ไคลน์ ประหลาดใจเล็กน้ อย
ง่ ายขนาดนีเ้ ชียว? ง่ ายเหมือนกับพิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตา…

ง่ ายจนน่ ากลัว

“คงเป็ นของขวัญจากเทพกระมัง… เทพธิดาจงเจริญ”

ลุงนีลล์ทาสั ญลักษณ์ ดาวแดงสี่ จุดบริเวณหน้ าอก ก่อนจะเปิ ด


กล่องเงินและนากระดาษหนังแพะที่มีสภาพเก่าแก่โบราณออกมา

กระดาษหนังแพะสี น้าตาลอมเหลืองค่ อยๆ ถูกคลีออกทีละนิดจน


เผยให้ เห็นอักษรด้ านใน ไคลน์ แอบชาเลืองจากระยะห่ าง…

เป็ นอักษรเฮอร์ มิส ภาษาที่มันคุ้นเคย


หมึกบนกระดาษมีสีแดงเข้ มราวกับเขียนด้ วยเลือด แถมคับคล้ าย
คับคลาว่ ายังไม่ แห้ งสนิท แต่ ก็ไม่ มีสิ่งใดพิเศษนอกเหนือจากนี้

“นักทานาย : น้าบริสุทธิ์ 100 มิลลิลิตร วานิลลาราตรี 13 หยด


มิน์ทองคา 7 ใบ…”

ไคลน์ พยายามอ่ านเนื้อความ แต่ อักษรที่เหลือถูกบดบังโดย


ข้ อมือของลุงนีลล์อย่ างมิดชิด

“น้าบริสุทธิ์คือน้าที่ผ่านการกลั่นซ้าหลายสิ บหน โชคดีที่ฉันทา


เตรียมไว้ ล่วงหน้ าจานวนหนึ่ง เราจึงข้ ามขั้นตอนนีไ้ ปได้ ”

ขณะกล่าว ลุงนีลล์เอื้อมมือหยิบขวดแก้วที่ปิดสนิทบนโต๊ ะด้ วย


ความเคยชิน จากนั้นก็บิดฝาและเทน้าบริสุทธิ์ประมาณ 100
มิลลิลิตรลงในหม้ อต้ มโดยไม่ คิดมาก

ไคลน์ ไม่ กล้าถามสิ่ งใด กลัวว่ าตนจะไปรบกวนสมาธิการผสม


ของลุงนีลล์ เพราะแต่ ไหนแต่ ไร ตัวมันมีหน้ าที่แค่ ดื่ม

“วานิลลาราตรี 13 หยด… นี่ก็เป็ นสิ่ งที่เตรียมไว้ ล่วงหน้ าแล้ ว


เช่ นกัน มันถูกใช้ ในหลายโอกาสมาก”

ลุงนีลล์นาขวดสี น้าตาลใบเล็กออกจากกล่องเงิน เปิ ดฝาและใช้


หลอดหยดดูดขึน้ ไปเล็กน้ อย ก่อนจะหยดลงในหม้ อต้ มจานวน 13
หยดถ้ วนด้ วยท่ าทีผ่อนคลาย
เกิดกลิ่นเย้ ายวนเจือจางลอยจากปากหม้ อ ไคลน์ สัมผัสได้ ถึง
ความสงบอย่ าน่ าประหลาด

“มินท์ ทองคา 7 ใบ…”

ลุงนีลล์หยิบกระปุกสี เงินขนาดไม่ ใหญ่ มากออกมาเปิ ดฝา ปลาย


นิว้ คีบใบไม้ ออกมาใส่ หม้ อทั้งหมดเจ็ดครั้ง จากนั้นก็ใช้ จมูกสู ดดม
กลิ่นในหม้ อดังฟุดฟิ ด

“4, 5, 6, 7… สมบูรณ์ แบบ”

ลุงนีลล์ยมิ้ อย่ างพึงพอใจก่อนจะก้มหน้ าอ่านสิ่ งที่เขียนบน


กระดาษหนังแพะต่ อ

“พิษจากใบเฮ็มล็อค 3 หยด… นี่ไม่ ใช่ สิ่งที่มนุษย์ ควรกินส่ งเดช


พิษของใบไม้ ชนิดนีจ้ ะทาให้ ร้ ูสึกชาไปทั้งตัว หากดื่มเข้ าไปใน
ปริมาณมากอาจถึงตายได้ เป็ นวิธีฆ่าตัวตายที่คนสมัยโบราณนิยม
ใช้ ”

เอ่อ… ผมคงไม่ โง่ ขนาดนั้นกระมัง

ไคลน์ ราพันกับตัวเอง

ลุงนีลล์นาหลอดหยดอันใหม่ ออกมาดูดของเหลวในขวด ก่อนจะ


หยดพิษใบเฮ็มล็อคลงไปในหม้ อต้ ม ของเหลวในหม้ อผสมผสาน
กันจนเกิดกลิ่นประหลาดที่มอบความรู้สึกสดชื่ น

“ผงหญ้ าโลหิตมังกร 9 กรัม…”

ลุงนีลล์รื้อค้ นกล่องสี เงินสั กพักก่อนจะหยิบหลอดแก้วที่ด้านในมี


ผงสี ดาบรรจุออกมา จากนั้นก็เทใส่ ถ้วยบีเกอร์ ที่วางอยู่บนตราชั่ง
จนครบ 9 กรัม

มันคว่าบีเกอร์ เทผงใส่ หมอต้ มพร้ อมกับคนกวนส่ วนผสม


ทั้งหมดสองรอบด้ วยทัพพีไม้ สีเข้ ม

ท่ าทีเฉื่ อยฉาและไม่ พถิ ีพถิ ันของลุงนีลล์ทาให้ ไคลน์ เป็ นกังวล


เล็กน้ อย

“อันที่จริง วัตถุดิบเหล่านีเ้ ป็ นเพียงส่ วนเสริม ไม่ จาเป็ นต้ องตาม


สู ตรเป๊ ะๆ ก็ได้ หืม… จะใส่ เพิม่ อีกสั กนิดดีรึเปล่านะ?”

ลุงนีลล์กล่าวติดตลก

“แต่ วัตถุดิบอีกสองชนิดที่เหลือนั้นไม่ ใช่ เราสามารถใส่ น้อยกว่ า


ปรกติได้ แต่ ต้องไม่ ห่างจากที่ระบุในสู ตรมากนัก ไม่ อย่ างนั้นการ
ปรุงโอสถจะล้มเหลว… และห้ ามใส่ เกินโดยเด็ดขาด ไม่ อย่ างนั้น
เจ้ าเตรียมตัวกลายเป็ นคนเสี ยสติได้ เลย แถมยังมีโอกาสสู งมากที่จะ
เสี ยชีวิตคาที่”
ไคลน์ พลันตึงเครียดขณะลุงนีลล์หยิบโหลแก้วสี ดาออกจาก
กล่องสี เงิน

“โลหิตหมึกลาวา 10 มิลลิลิตร… เจ้ านี่เป็ นสายพันธุ์ที่แปลกมาก


เรียกว่ าสั ตว์ วิเศษก็ไม่ ผิดนัก น่ าจะกลายพันธุ์มาอีกทอดหนึ่ง เลือด
ของมันจะเสื่ อมคุณสมบัติทันทีที่โดนแสงแดด เราจึงต้ องเก็บไว้ ใน
ภาชนะทึบแสง”

โทนเสี ยงของลุงนีลล์ไม่ ผ่อนคลายเหมือนก่อนหน้ า มันบรรจง


ตวงเลือดสิ บหยดใส่ หลอดแก้วอย่ างระมัดระวัง

โลหิตหมึกลาวาจะมีสีฟ้าเรื องแสงเหมือนกับท้ องฟ้ า มันจะพ่น


ฟองอากาศลวงตาตลอดเวลาราวกับเป็ นประตูกับเชื่ อมต่ อโลก
วิญญาณ

“หลังจากตวงเสร็จ ต้ องเทมันออกสั กสองสามหยดเพื่อไม่ ให้


ปริมาณเกินที่กาหนด”

ลุงนีลล์กล่าวเสี ยงค่ อย

ในวินาทีที่เลือดสี ฟ้าสั มผัสกับของเหลวในหม้ อต้ ม เกิดเสี ยงฟอง


ผุดคล้ายกับน้าเดือด บรรยากาศรอบห้ องแปรธาตุถูกอาบด้ วยแสงสี
ฟ้ าครามทันใด
ไคลน์ ร้ ูสึกคุ้นเคยและไม่ ค้ นุ เคยในเวลาเดียวกัน
เหมือนกับ… ตอนอยู่ในท้ องแม่

โลหิตหมึกลาวามีอานาจกระตุ้นดวงวิญญาณของมนุษย์ มาก
เพียงนั้น

“และสุ ดท้ าย คริสตัลวารีดาว 50 กรัม”

เสี ยงของลุงนีลล์ได้ ปลุกให้ ไคลน์ กลับสู่ โลกความเป็ นจริงอีกครั้ง


มันรีบมองไปบนโต๊ ะ

ในมือชายชรากาลังถือเศษคริสตัลที่ใสบริสุทธิ์อย่ างน่ าเหลือเชื่ อ


และที่แปลกคือ ผิวของมันไม่ ได้ มีลักษณะเหลี่ยมแข็ง แต่ โค้ งมน
คล้ายคลึงกับเยลลีสีใสเสี ยมากกว่ า

แสงสี ฟ้ารอบห้ องส่ องสะท้ อนคริสตัลจนเกิดประกาย


ระยิบระยับประหนึ่งบรรจุดวงดาวไว้ ด้านใน

“นี่เป็ นวัสดุหายากสาหรับสร้ างคริสตัลทานาย… ต้ องใช้ ให้


ประหยัดและคุ้มค่ าที่สุด”

ลุงนีลล์กล่าวพลางใช้ มีดเงินเล่มเล็กที่มีลวดลายซับซ้ อนกรีดแยก


คริสตัลออกจากกัน
“น้าบริสุทธิ์ วานิลลาราตรี ใบมินท์ ทองคา พิษใบเฮ็มล็อค ผง
หญ้ าโลหิตมังกร เลือดหมึกลาวา และคริสตัลวารีดาว ทั้งหมด
สาหรับโอสถนักทานาย…”

ไคลน์ ทวนวัถตุดิบซ้า

เมื่อจัดการเสร็จ ลุงนีลล์หยิบเศษคริสตัลวารีดาวใส่ หม้ อต้ มจน


ครบห้ าสิ บกรัม

ซู่วว—
หมอกสี เทาฟุ้งขโมงออกจากหม้ อต้ ม บรรยากาศภายในห้ องแปร
ธาตุพลันตลบอบอวล

ท่ ามกลางหมอกคละคลุ้ง ไคลน์ มองเห็นดวงดาวจานวนมากส่ อง


แสงระยิบระยับ ขณะเดียวกันก็ร้ ูสึกราวกับถูกสิ่ งที่มองไม่ เห็นกาลัง
จ้ องมอง

หมอกเทาสลายไปในอีกหลายวินาทีถัดมา ลุงนีลล์รีบใช้ ทัพพีไม้


ตักของเหลวเหนียวหนืดออกจากหม้ อต้ ม ลักษณะของมันนุ่ม
เหนียวและเกาะกันเป็ นเนื้อเดียว ไม่ มีแม้ แต่ หนึ่งหยดที่เหลือค้ างติด
ก้นหม้ อ

ลุงนีลล์นาของเหลวดังกล่าวใส่ แก้วสี ข่ ุนเบื้องหน้ าก่อนจะชี้นวิ้


“เสร็จแล้ว โอสถนักทานายของเจ้ า”
ราชันย์ เร้ นลับ 32 : เนตรวิญญาณ

ไคลน์ จ้องมองเข้ าไปในของเหลวกึ่งเยลลี่สีน้าเงินเข้ ม ยากจะ


อธิบายว่ านี่คือของเหลวหนึ่งแก้วหรื อหนึ่งถ้ วยกันแน่

ชายหนุ่มกล่าวด้ วยสี หน้ าขาวซีดพลางกลืนน้าลาย

“ผมต้ องดื่มทั้งอย่ างนีเ้ ลยหรื อ?

“ต้ องผ่ านขั้นตอนอะไรก่อนไหมครับ? เช่ นพิธีกรรม ร่ ายคาถา


หรื อสวดภาวนา”

ลุงนีลล์พยักหน้ า

“ขั้นตอน? มีสิ มีแน่ นอน ก่อนอื่นเลย เจ้ าต้ องจิบไวน์ เออร์ เมียร์
ของอินทิสพร้ อมกับสู บซิการ์ เดซี่ จากนั้นก็เต้ นจังหวะราชสานัก
หรื อจะเต้ นแท็ปก็ได้ ถ้าชอบ ตบท้ ายด้ วยการเล่นไพ่เกว็นท์ ต่ออีก
ยก…”

เมื่อเห็นไคลน์ กาลังฉงน ลุงนีลล์หัวเราะคิกคักก่อนเฉลยสิ่ งที่


กล่าวไปเมื่อครู่

“หรื ออะไรก็ได้ ที่ตัวเจ้ าหายประหม่ า”


…คิดว่ าตัวเองตลกมากนักหรื อลุง?

มุมปากไคลน์ กาลังกระตุก มันพยายามหักห้ ามใจไม่ ใช่ ชักปื นใน


ซองรักแก้ออกมายิง

ไคลน์ วางไม้ คา้ ลงพร้ อมกับยื่นแขนขวาออกไปจับแก้วทึบแสง


ขณะยกแก้วขึน้ กลิ่นอันเป็ นเอกลักษณ์ ของโอสถโชยเตะจมูกอย่ าง
เข้ มข้ น

“เจ้ าหนุ่ม อย่ าได้ ลังเล ยิ่งลังเลมาก ความหวาดกลัวก็ยิ่งเพิม่ ขึน้


และนั่นจะส่ งผลต่ อการดูดซึมพลังจากโอสถ”

ลุงนีลล์กล่าวขณะหันหลังให้ ไคลน์ น้าเสี ยงของมันเรียบเฉยราว


กับคุ้นชินสถานการณ์

โดยที่ไคลน์ ไม่ ร้ ูตัว ลุงนีลล์เดินไปถึงอ่างล้างมือและเปิ ดก็อกน้า


เพื่อทาความสะอาด

ชายหนุ่มพยักหน้ ากับตัวเองพร้ อมกับสู ดลมหายใจสุ ดปอด


กริยาท่ าทางเหมือนกับเด็กถูกบังคับกินยา มันใช้ มือข้ างหนึ่งอุด
จมูก อีกข้ างจับแก้วกระดก ของเหลวสุ ดสะอิดสะเอียนถูกดื่มรวด
ในอึกเดียว

สั มผัสอันนุ่มละมุนและเย็นฉ่าเคลื่อนที่ผ่านช่ องปากไปยังหลอด
อาหารอย่ างรวดเร็ว เพียงไม่ นานก็ถึงกระเพาะ
ประหนึ่งของเหลวสี น้าเงินเข้ มชนิดนีป้ ลดปล่อยหนวดแหลม
ยาวในท้ องไคลน์ เป็ นระยะ เซลล์ท้งั หมดในร่ างพลันเย็นวาบอย่ าง
สะอิดสะเอียน

ร่ างกายบิดงอเมื่อการมองเห็นเริ่มพร่ ามัว สี สันในสายตาฟุ้ง


กระจายท่ วมท้ น แดงยิ่งแดงก่า น้าเงินยิ่งน้าเงินเข้ ม ดายิ่งดาสนิท

สี สันอันหลากหลายเข้ มข้ นถูกฉายในการมองเห็นคล้ายกับ


ภาพวาดของศิลปิ นร่ วมสมัย

ไคลน์ เคยพานพบประสบการณ์ เช่ นนีม้ าก่อนแล้ว… มัน


เหมือนกับเมื่อครั้งถูกผู้สื่อวิญญาณ·มาดามดาลี่ย์ประกอบ
พิธีกรรม!

ในตอนนั้น สายตาของไคลน์ พร่ ามัวหนักมาก แต่ จิตใจยังคงเบา


สบายและแจ่ มชัด คล้ายกับดวงวิญญาณล่องลอยไปบนทะเลจิตอัน
กว้ างใหญ่

เพียงไม่ นาน ภาพการมองเห็นรอบตัวชายหนุ่มเริ่มกลับเป็ น


สี สันปรกติ สิ่ งเดียวที่แปลกประหลาดคือหมอกสี เทาซึ่งกาลังฟุ้ง
กระจายบดบังการมองเห็น

รอบตัวไคลน์ ปรากฏรูปร่ างมายาของสิ่ งมีชีวิตที่อธิบายไม่ ได้ เต็ม


ไปหมด ไม่ เหมือนกับสั ตว์ ตนใดที่มันเคยรู้จักมาก่อน เมื่อเพ่ง
พิจารณาอย่ างถ้ วนถี่ ร่ างกายพวกมันค่ อนข้ างแวววาวและส่ องแสง
หลากสี สั ญชาตญาณของไคลน์ กาลังบ่ งบอกว่ า พวกมันคือร่ างจิต
ของสิ่ งมีชีวิตที่ทรงปัญญา

ภาวะทั้งหมดที่เกิดขึน้ คล้ายคลึงกับพิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตา
มาก… เมื่อก้มมองลงไป มันได้ พบ ‘ตนเอง’ ยังคงยืนอยู่ในจุดเดิม
แต่ ด้วยร่ างกายที่สั่นเทา

ทันใดนั้น เมื่อจิตตระหนักได้ ว่าสิ่ งที่กาลังมองเห็นไม่ ได้ เกิดจาก


ร่ างจริง สติพลันถูกดึงกลับร่ างหลักอีกครั้ง

ซู่ว!

หมอกสี เทาจางหายไป การมองเห็นรอบตัวกลับเป็ นปรกติ ไม่


หลงเหลือภาพของสิ่ งมีชีวิตเลือนลางที่ระบุสายพันธุ์ไม่ ได้ เมื่อครู่

ห้ องแปรธาตุยังคงเป็ นห้ องแปรธาตุ

แต่ สมองของไคลน์ กาลังหมุนเคว้ งราวกับถูกมือมนุษย์ กวนขยา


สายตาที่เคยคิดว่ ากลับเป็ นปรกติแล้ว ได้ เกิดภาพทับซ้ อนจนเริ่ม
พร่ ามัว โสตประสาทกึกก้องด้ วยเสี ยงกระซิบที่แจ่ มชัด

“โฮนาซิส… เฟรเกีย…
“โฮนาซิส… เฟรเกีย”
ขณะไคลน์ กาลังเจ็บปวดดุจดังถูกกรีดแทงบริเวณหน้ าผาก มัน
พยายามควานหาต้ นตอเพื่อระบายความรู้สึกอึดอัดออกไป

ชายหนุ่มขมวดคิว้ ชนกันพลางออกแรงสะบัดศีรษะ

“การมองเห็นผิดเพีย้ นใช่ ไหม? กาลังได้ ยินในเสี ยงที่ไม่ เคยได้ ยิน


ใช่ ไหม?”

ลุงนีลล์กล่าวพร้ อมกับเดินมายืนด้ านข้ างด้ วยรอยยิม้ มีเลศนัย

“ใช่ ครับมิสเตอร์ นีลล์ ผมควรทาอย่ างไร?”

ขณะฝื นเค้ นเสี ยงถาม ไคลน์ พยายามข่ มความบ้ าคลั่งที่เกิดขึน้

ลุงนีลล์หัวเราะ

“นี่คือผลจากการรั่วซึมของพลังโอสถ เจ้ ายังไม่ เข้ มแข็งพอจะ


ควบคุมมันได้ ท้ังหมด… เอาล่ะ ทาตามที่ฉันบอก จินตนาการภาพ
วัตถุสักชนิดขึน้ ในสมอง ไม่ ต้องซับซ้ อนเกินไปนัก”

ไคลน์ รีบนึกภาพหมวกผ้ าไหมสี ดาทรงกึ่งสู งที่ตนเพิง่ ซื้อ ชาย


หนุ่มพยายามจินตนาการถึงรูปทรงและสั มผัสของมัน
“เพ่งสมาธิท้งั หมดไว้ ที่วัตถุดังกล่าว ทาซ้าจนกว่ าภาพของวัตถุ
จะชัดเจนที่สุด เสมือนจริงที่สุด… เป็ นอย่ างไรบ้ าง ดีขนึ้ รึยัง?”

เสี ยงของลุงนีลล์ส่งผ่ านมาถึงแก่นจิตใจชายหนุ่มประหนึ่งบท


เพลงสุ นทรี

ไคลน์ พยายามเพ่งจิตให้ รูปทรงของหมวกผ้ าไหมชัดเจนที่สุด


หลังจากผ่ านไปไม่ กี่อึดใจ เสี ยงกระซิบโฮนาซิสเริ่มบางเบาจน
ไม่ ได้ ยิน ภาพการมองเห็นที่เคยซ้ อนทับจนเบลอ เริ่มประกบกัน
อย่ างสมบูรณ์ คมชัด
“ดีขนึ้ มากแล้วครับ”

ไคลน์ ถอนหายใจยาวเมื่อความอลหม่ านภายในห้ วงความคิดเริ่ม


สงบนิ่ง มันทดสอบก้ มมองลงไปด้ านล่าง ภาพทุกอย่ างกลับคืนสู่
ความปรกติ

ชายหนุ่มขยับแขนขาด้ วยความคาดหวังเจือปนสงสั ย ก่อนจะ


เอ่ยปากถาม

“ผมทาสาเร็จรึเปล่า? กลายเป็ นนักทานายแล้วหรื อยัง?”

ลุงนีลล์หยิบแผ่ นปรอทที่มีลักษณะคล้ายกระจกเงามาจ่ อหน้ า


ไคลน์
“ลองมองเข้ าไปในดวงตาสิ ”
ภาพแรกทีเ่ ห็นคือไคลน์ ·โมเร็ตติคนเดิมกาลังสวมหมวกผ้ าไหม
ทรงกึ่งสู ง รูปลักษณ์ ยังเหมือนเดิมทุกประการ สิ่ งเดียวที่แตกต่ าง
จากปรกติ คือเหงื่อไคลที่ช่ ุมชะโลมใบหน้ าราวกับเพิง่ อาบน้าเสร็จ

ชายหนุ่มเริ่มทาตามคาแนะนาลุงนีลล์ สมาธิท้ังหมดถูกเพ่งไปยัง
นัยน์ ตาสี น้าตาล จากนั้นก็พบว่ าดวงตาของตนลุ่มลึกกว่ าเดิม
ค่ อนข้ างมาก ประหนึ่งท้ องฟ้ ายามค่าคืนที่สามารถดูดกลืนวิญญาณ
มนุษย์ เข้ าไปด้ านใน
เดิมที นัยน์ ตาสี ดาตาลของมันมักคมเข้ มคลายสี ดามากอยู่แล้ว
การเปลี่ยนแปลงเช่ นนี้จึงแทบไม่ เห็นถึงความแตกต่ าง หากไม่ เพ่ง
พิศอย่ างถี่ถ้วน

“นี่คือผลกระทบทางกายภาพของพลังจากโอสถ แต่ หลังจากเจ้ า


เรียนวิธีการเข้ าฌานและทาความเคยชินกับพลัง สี ของนัยน์ ตาจะ
ค่ อยๆ กลับมาเป็ นปรกติในภายหลัง”

ลุงนีลล์ฉีกยิม้ กว้ างพร้ อมกับยื่นแขนขวาออกมาหา

“ยินดีด้วย เจ้ ากลายเป็ นผู้วิเศษเต็มตัวแล้ว… นักทานายของ


พวกเรา”

“ขอบคุณมากครับ”
ไคลน์ ยื่นแขนขวาออกไปจับตอบ

“มิสเตอร์ นีลล์ แล้วผมจะเรียนการเข้ าฌานได้ ตอนไหน?”

“ตอนนีเ้ ลย… หลักพื้นฐานของการเข้ าฌานนั้นง่ ายมาก และยิ่ง


ง่ ายขึน้ หลังจากกลายเป็ นผู้วิเศษ”

ลุงนีลล์ยิม้

“เหมือนกับเมื่อครู่ จินตนาการภาพของวัตถุที่ง่ายและคุ้นเคย
พยายามสร้ างภาพชัดของวัตถุดังกล่าวในสมอง นั้นคือพื้นฐานของ
การเข้ าฌาน ลองทาดูอีกครั้ง”

ไคลน์ หลับตาลงอย่ างว่ าง่ าย มันจินตนาการภาพหมวกทรงสู งใบ


เดิมซ้า

สมาธิของชายหนุ่มถูกรวบรวมเร็วกว่ าครั้งก่อนหน้ า เพียงไม่


นาน ความคิดฟุ้งซ่ านพลันถูกขจัด เหลือไว้ เพียงตัวตนอันเด่ นชัด
ของหมวกผ้ าไหมทรงกึ่งสู งสี ดา

“ถัดมา ลองปล่อยความคิดให้ วางเปล่า เปลี่ยนวัตถุที่จินตนาการ


ให้ เป็ นบางสิ่ งที่ไม่ เคยมีตัวตนบนโลกนี้มาก่อน… ต้ องเสกขึน้ จาก
ความว่ างเปล่า พยายามออกแบบขึน้ ใหม่ ด้วยตัวเอง”
“เจ้ าต้ องทาตามกฏอย่ างเคร่ งครัด… หลังจากเข้ าสู่ ฌานที่แท้ จริง
เมื่อเริ่มตระหนักว่ า ‘ตนเอง’ ไร้ ตัวตน เมื่อเจ้ าก้ าวข้ ามการระลึกถึง
‘ตนเอง’ ได้ เจ้ าก็จะมองเห็นโลกและจักรวาลที่กว้ างขึน้ มีสติมาก
พอจะเข้ าใจและพบแก่นแท้ ของทุกสรรพสิ่ ง เจ้ าจะได้ รับปัญญาซึ่ง
มีเพียงตนเท่ านั้นที่ตกผลึก…

“ในขอบเขตของศาสตร์ เร้ นลับ สิ่ งนีเ้ รียกว่ าประสบการณ์ เร้ น


ลับ”

ลุงนีลล์กล่าวด้ วยเสี ยงสุ ขุม


“ส่ วนรายละเอียดมากกว่ านี้ ไว้ ฉันจะอธิบายให้ ฟังวันหลัง
ปัจจุบัน สิ่ งเดียวที่เจ้ าต้ องทราบคือหนทางเข้ าฌานที่ถูกต้ อง”

ให้ จินตนาการสิ่ งที่ไม่ เคยมีอยู่บนโลกใบนี้ สร้ างวัตถุขนึ้ เองจาก


ความว่ างเปล่า…

ถ้ าอย่ างนั้น ใช้ วัตถุจากโลกเก่าได้ ไหม?

ไคลน์ ลองจินตนาการภาพขีปนาวุธข้ ามทวีปสี เขียวเข้ มของ


กองทัพ ซึ่งเคยเห็นจากทีวีไม่ บ่อยครั้งนัก ชายหนุ่มแทนที่หมวกผ้ า
ไหมทรงกึ่งสู งด้ วยจรวดขีปนาวุธขนาดใหญ่ และหนา

แต่ ไม่ ว่าจะพยายามจินตนการให้ ชัดเจนเพียงใด มันก็มิอาจหลุด


พ้นจากการระลึกถึงตัวเองได้
สงสั ยจะไม่ สาเร็จ…

คงต้ องปล่อยให้ จินตนาการลอยเตลิดไปตามธรรมชาติ ไคลน์


เปลี่ยนไปนึกภาพบอลแสงสี ขาวสว่ างจานวนมาก จากนั้นก็บรรจง
นามาซ้ อนทับกันเป็ นรูปทรงแปลกใหม่

หลังจากสร้ างวัตถุแสงสี ขาวรูปทรงประหลาดในหัวสมอง จิต


ของไคลน์ เริ่มเข้ มข้ นและล่องลอย

ร่ างกายและสมาธิเริ่มสงบนิ่ง ทั้นใดนั้น ภาพการมองเห็น


ปัจจุบันเริ่มเกิดหมอกสี เทารายล้อมอีกครา ตามด้ วยสี สันอัน
หลากหลายและเข้ มข้ น ลอยเหนือวัตถุแสงที่ไคลน์ จินตนาการ
เล็กน้ อย

จิตของชายหนุ่มลอยสู งขึน้ และเพ่งพิจารณาถึงกลุ่มก้อนบอล


แสงหลายชั้นจนหลงลืมตัวเองไปชั่วขณะ ไคลน์ สัมผัสถึงพวกมัน
อย่ างเด่ นชัด และโอบล้อมพวกมันไว้ อย่ างแน่ บแน่ น

“ยอดเยี่ยมมาก สมกับเป็ นนักทานาย เจ้ าเข้ าฌานได้ อย่ างราบรื่ น


ไร้ จุดติดขัด แต่ ก็ยังด้ อยกว่ าฉันตอนหนุ่มเล็กน้ อย… แค่ เล็กน้ อย
เท่ านั้น ฮะฮะ!”

ลุงนีลล์ยมิ้ อย่ างมีความสุ ข


“ถัดมา ฉันจะสอนเกี่ยวกับพลังพื้นฐานที่ใช้ งานง่ ายและสาคัญ
ที่สุดของผู้วิเศษ แถมยังเป็ นพลังที่จาเป็ นสาหรับศึกษาศาสตร์ เร้ น
ลับในอนาคต… เนตรวิญญาณ!”

ลุงนีลล์ดับโคมไฟทั้งหมดในห้ องพร้ อมกับเปิ ดประตูแง้ ม


เล็กน้ อยให้ แสงลอดผ่ าน บรรยากาศภายในห้ องแปรธาตุพลันมืด
สลัว แต่ ก็พอจะมองเห็นเค้ าลางของวัตถุภายใน

“เอาละ คงสภาพเข้ าฌานไว้ ก่อน ยกฝ่ ามือทั้งสองขึน้ นาหลังมือ


วางไว้ หน้ าดวงตาแต่ ละข้ าง นิ้วชี้ต้องอยู่ใกล้กัน แต่ ห้ามสั มผัสกัน
โดยเด็ดขาด

“ค่ อยๆ ลืมตาขึน้ ทีละนิด จนกว่ าจะคุ้นชินกับความมืดของห้ อง”

ไคลน์ ทาตามขั้นตอนของลุงนีลล์อย่ างไม่ ขาดตกบกพร่ อง เมื่อ


สายตาเริ่มปรับแสง มันมองเห็นเค้ าลางของนิว้ ทั้งสิ บและฝ่ ามือ
เบื้องหน้ า รวบถึงอุปกรณ์ ต่างๆ ภายในห้ องแปรธาตุ

“อันที่จริง เจ้ าต้ องนอนราบลงกับพื้นเพื่อให้ ร่างกายผ่ อนคลาย


แต่ เมื่อดูจากการเข้ าฌานที่ลื่นไหล ฉันคิดว่ าคงไม่ จาเป็ น”

นีลล์หัวเราะคิกคัก

“เอาล่ะ ดวงตาซ้ ายเพ่งมองหลังมือซ้ าย ดวงตาขวาเพ่งมองหลัง


มือขวา จากนั้นก็ขยับนิว้ ชี้ท้ังสองขึน้ ลงเล็กน้ อย อย่ าให้ สัมผัสโดน
กันเด็ดขาด และห้ ามขยับออกจากกรอบการมองเห็นของสายตา”
ไคลน์ ฟังจับใจความก่อนจะแบ่ งสมาธิดวงตาเพื่อมองหลังมือแต่
ละข้ าง ถัดมาเป็ นการขยับนิว้ ชี้ให้ ยังอยู่ในขอบเขตสายตาโดยไม่
สั มผัสกัน

หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง…

ทันใดนั้น แสงสี แดงพลันส่ องสว่ างจากนิว้ มือทั้งสิ บ

“เอ๋…”

ชายหนุ่มส่ งเสี ยงประหลาดใจ

“เห็นสี แล้วใช่ ไหม? ต้ องอย่ างนั้น! นี่คือขั้นแรกของเนตร


วิญญาณ สี ที่เจ้ าเห็นเรียกว่ าแสงออร่ า”

ลุงนีลล์อธิบาย

“ไม่ ต้องรีบร้ อน ลองทาซ้าอีกสั กสองสามหน เมื่อเคยชินแล้ ว


ทดสอบกวาดสายตามองไปยังจุดอื่นรอบห้ อง แล้วฉันจะอธิบาย
ความหมายของออร่ าแต่ ละสี ให้ เอง”

“ครับ”
ไคลน์ ทดสอบขยับนิว้ ขึน้ ลงเพื่อให้ เคยชินกับแสงออร่ าสี แดงจาก
นิว้ มือ

ลุงนีลล์สังเกตุท่าทีไคลน์ สักพักก่อนจะอธิบายต่ อ

“ศาสตร์ เร้ นลับจะแบ่ งโครงสร้ างของมนุษย์ ออกเป็ นสี่ ระดับ…


ชั้นในสุ ดซึ่งเป็ นแกนกลางสาคัญคือ ‘กายจิต’ มีใครบางคนกล่าวไว้
ว่ า สิ่ งมีชีวิตทุกชนิดที่มีวิญญาณล้วนมีกายจิตทั้งหมด”

“ฉันไม่ มันใจว่ าผู้วิเศษเส้ นทางอื่นจะเหมือนกันไหม แต่ สาหรับ


ผู้ส่องความลับทุกคน จุดมุ่งหมายสู งสุ ดของการเข้ าฌาณ รวมถึง
วิธีการเพิม่ พลังวิญญาณ ล้วนเกี่ยวข้ องกับกายจิตทั้งสิ้น

“ระดับถัดจากกายจิตคือ ‘วิญญาณดารา’ มีไว้ สาหรับให้ กายจิต


ติดต่ อกับโลกวิญญาณผ่ านห้ วงมิติดวงดาว ไม่ ผิดนักหากจะกล่าว
ว่ า วิญญาณดาราคือรูปแบบหนึ่งของกายจิต แต่ สีของมันจะ
เปลี่ยนไปตามอารมณ์ และความปรารถนาของมนุษย์ ในช่ วงนั้น

“ฉากที่เจ้ าเห็นหลังจากดื่มโอสถ คือฉากที่จิตมองผ่ านดวงตา


วิญญาณดาราขณะท่ องโลกวิญญาณ… โลกวิญญาณคือสถานที่ซึ่ง
ใช้ กฎเกณฑ์ ของโลกมนุษย์ ตัดสิ นไม่ ได้

“โลกวิญญาณจะเกี่ยวพันกับภาวะก้าวข้ าม ‘ตนเอง’ ภาวะ


‘ตนเอง’ ไร้ ขีดจากัด และภาวะจักรวาลแห่ ง ‘ตนเอง’
“ในโลกวิญญาณ อดีต ปัจจุบัน และอนาคตจะซ้ อนทับกันหลาย
ชั้น สถานที่แห่ งนีค้ ือส่ วนสาคัญของศาสตร์ การทานายทั้งหมด

“ในโลกวิญญาณ ภาพที่เจ้ าเห็นจะเป็ นเพียง ‘สั ญลักษณ์ ’ เป็ นสิ่ ง


ที่ต้องนามาตีความซ้าเพื่อให้ ได้ ข้อเท็จจริง

“ศาสตร์ ทานายและเวทมนตร์ บางชนิดต้ องใช้ งานผ่ านวิญญาณ


ดาราเพื่อเชื่ อมต่ อกับโลกวิญญาณ”

“อย่ าได้ เข้ าใจผิดระหว่ างวิญญาณดารากับกายจิตเด็ดขาด เป็ น


คนละอย่ างกัน”

อันหนึ่งเป็ น ‘แก่น’ ส่ วนอีกอันเป็ น ‘ร่ างเทียม’ สาหรับใช้ พลัง


สิ นะ…

สายตาไคลน์ ยังคงจ้ องมองฝ่ ามือตัวเอง แต่ หัวสมองกาลัง


สรุปผลในสิ่ งที่ลุงนีลล์อธิบาย

“ถัดมาเป็ น ‘กายปัญญา’ นับตั้งแต่ ระดับนีข้ นึ้ ไป จะเริ่มนับ


รวมถึงร่ างเนื้อที่จับต้ องได้ … กายปัญญาจะรวมถึงสมอง ไหวพริบ
ด้ านการตีความ ไหวพริบด้ านการจาแนก ไหวพริบด้ านการ
วิเคราะห์ และไหวพริบด้ านการพิจารณา… โอสถบางชนิดจะช่ วย
เพิม่ พูนพลังเหล่านีเ้ ป็ นพิเศษ กายปัญญาจาเป็ นสาหรับร่ ายเวท
มนตร์ บางชนิด”
ลุงนีลล์อธิบายอย่ างละเอียดทุกซอกมุม
“ส่ วนระดับนอกสุ ดคือ ‘กายอากาศ’ ในชั้นนี้จะนับรวมถึง
อวัยวะภายในและร่ างเนื้อ

“สี ของออร่ าที่เจ้ าเห็นเกิดจากปรากฏการณ์ ภายนอกของกาย


อากาศ หรื ออีกความหมายหนึ่งก็คือ เนตรวิญญาณจะทาให้ เจ้ า
มองเห็นกายอากาศของมนุษย์ ทั่วไป รวมถึงภูติผีและวิญญาณชั่ว
ร้ ายด้ วย

“กายอากาศของมนุษย์ จะแสดงออร่ าออกมาเป็ นสี ต่างๆ เจ้ า


สามารถอ่านภาวะอารมณ์ และสุ ขภาพของบุคคลเหล่านั้นได้ จากสี
ความเข้ ม และความสว่ างของออร่ า

“เมื่อเนตรวิญญาณพัฒนาขึน้ เจ้ าจะเข้ าถึงศาสตร์ เร้ นลับได้ อย่ าง


ลึกซึ้ง รวมถึงอ่านรายละเอียดออร่ าของมนุษย์ คนอื่นได้ อย่ าง
ชัดเจน อาจเห็นไปถึงอายุขัย

“และอย่ างที่เคยบอกไป ภาวะอารมณ์ จะขึน้ อยู่กับวิญญาณดารา


ของมนุษย์ คนดังกล่ าว จึงหมายความว่ า หากพัฒนาเนตรวิญญาณ
ไปถึงระดับสู ง เจ้ าจะมองเห็นวิญญาณดาราของผู้อื่นอย่ างใน
ชัดเจน และนั่นยิ่งทาให้ เข้ าถึงแก่นแท้ ของศาสตร์ เร้ นลับมากขึน้ …
นี่คือพลังอันยิ่งใหญ่ ที่ผ้ สู ่ องความลับและนักทานายสามารถ
ครอบครอง
“มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ ว่า เนตรวิญญาณสามารถมองเห็นทุก
สรรพสิ่ ง ไม่ ว่าจะเป็ นอดีตหรื ออนาคต แต่ ฉันยังไม่ ปักใจเชื่ อเรื่ อง
นั้น”

ทรงพลังกว่ าที่คิดอีกแฮะ…

ไคลน์ องึ้ จะพูดไม่ ออก


ลุงนีลล์กระแอมก่อนจะเล่าต่ อ

“มาเข้ าเรื่ องรายละเอียดของสี ออร่ ากันดีกว่ า อวัยวะที่ต้อง


เคลื่อนไหวจาพวกแขนขาและนิว้ จะมีออร่ าสี แดง สมองและศีรษะ
จะมีสีม่วง จุดขับของเสี ยจะมีสีส้ม ระบบย่ อยอาการจะมีสีเหลือง
หัวใจและระบบร่ างกายทั่วไปจะมีสีเขียว ลาคอและระบบประสาท
จะมีสีฟ้า ร่ างกายของมนุษย์ ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ จะแสดงออร่ า
ซ้ อนทับกันจนเป็ นสี ขาวบริสุทธิ์… นั่นคือสั ญญาณของสุ ขภาพดี

“เมื่อออร่ าในส่ วนใดมีสีเข้ มขึน้ หมองลง หมายความว่ าจุด


ดังกล่าวเริ่มทางานผิดปรกติ เป็ นได้ ท้ังอาการป่ วยหรื ออ่อนล้า

“ยังไม่ หมด… วิญญาณดาราก็มีสีของออร่ าเช่ นกัน ไว้ สาหรับบ่ ง


บอกถึงอารมณ์ สี แดงหมายถึงตื่นเต้ นและหลงไหล สี ส้มหมายอุ่น
ใจและพึงพอใจ สี เหลืองหมายถึงสุ ขและเอาใจใส่ สี เขียวหมายถึง
สุ ขุมและสั นติ สี ฟ้าหมายถึงสงบนิ่งและร่ มเย็น สี ขาวหมายถึงร่ า
เริงและกระตือรื อร้ น สี ดาหมายถึงกังวล เศร้ า และเงียบขรึม สี ม่วง
หมายถึงเย็นชาและเหินห่ าง…”
ไคลน์ บันทึกทั้งหมดลงสมองพร้ อมกับทาความเคยชินเนตร
วิญญาณ

“เอาล่ะ ลองมองไปที่วัตถุอื่นบ้ าง”

ลุงนีลล์ไม่ กล่าวสิ่ งใดอีก

ไคลน์ หันหน้ าไปทางลุงนีลล์ และสิ่ งที่พบก็ไม่ ผิดจากที่คาดมาก


นัก ออร่ าหลากสี กาลังปรากฏตามร่ างกาย แต่ ละจุดมีความเข้ มจาง
แตกต่ างกัน

ส่ วนที่เข้ มและสว่ างที่สุดหนีไม่ พ้นบริเวณศีรษะซึ่งมีสีม่วง


บริเวณแขนขามีออร่ าสี แดงหม่ น ออร่ าตามร่ างกายส่ วนที่เหลือจะ
มีสีออกไปทางสี ซีดจาง คงเป็ นเพราะร่ างกายที่ชรา

กาลเวลาช่ างโหดร้ ายนัก… ไคลน์ ราพัน

ในวินาทีนี้ มันกาลังสั มผัสประสบการณ์ พลังผู้วิเศษเป็ นครั้งแรก


พลังที่ไม่ มีในมนุษย์ ทั่วไป!

“ผู้วเิ ศษ…”

ขณะจ้ องมองลุงนีลล์ต้ังแต่ หัวจรดเท้ า ชายหนุ่มเหลือบเห็น


ดวงตาที่เย็นชาและดุร้ายคู่หนึ่ง กาลังลอยด้ านหลังลุงนีลล์
ท่ ามกลางความมืดมิดอันว่ างเปล่า ดวงตามายามีขนาดใหญ่
ลักษณะโปร่ งแสงและปราศจากคิว้

ดวงตามายาจ้ องมองนีลล์อย่ างไม่ ละสายตาไปไหน…

นี่มัน… ชายหนุ่มพลันอ้าปากค้ าง มันส่ งเสี ยงบอกกับลุงนีลล์

“มีดวงตาคู่หนึ่งอยู่หลังคุณ!”

นีลล์ชะงักเล็กน้ อยก่อนจะฝื นยิม้ จืดชื ด


“ไม่ ต้องไปสนใจ”
ราชันย์ เร้ นลับ 33 : ปุ่ มเปิ ดปิ ด

เมื่อสิ้นเสี ยงลุงนีลล์ ดวงตามายาที่จ้องมองจากด้ านหลังพลัน


สลายไป แม้ จะยังอยู่ในภาวะเนตรวิญญาณ แต่ ไคลน์ กลับสั มผัส
ตัวตนไม่ ได้ อีกเลย

“เป็ นผลกระทบจากพิธีกรรมน่ ะ”

ลุงนีลล์อมยิม้

สุ ดยอด… เนตรวิญญาณคือเนตรหยินหยางที่ถูกยกระดับอย่ าง
นั้นหรื อ? ไคลน์ กาลังตื่นเต้ นประหนึ่งเด็กเล็กได้ ของเล่นใหม่

มันตัดสิ นใจกวาดสายตาไปรอบตัว เพื่อจะเปรียบเทียบระหว่ าง


ห้ องแปรธาตุที่มองผ่ านเนตรวิญญาณ และมองผ่ านดวงตาปรกติ

ทว่ า ภาพเค้ าลางของวัตถุทุกชนิดยังคงเหมือนเดิม ไม่ ว่าจะเป็ น


โต๊ ะ หลอดแก้ว ตราชั่ง หรื อถ้ วยแก้ว ทุกสิ่ งยังเหมือนกับมองด้ วย
ตาเปล่า มิได้ ปรากฏแสงสี ของออร่ าเช่ นมนุษย์

สิ่ งไม่ มีชีวิตจะไม่ มีออร่ าอย่ างนั้นหรื อ?

ไคลน์ ชาเลืองสายตามองกล่ องสี เงินใจกลางโต๊ ะไม้ ทันใดนั้น


ชายหนุ่มมองเห็นสี สันเจือจางสว่ างจากปากกล่อง มีท้ังสี ฟ้าคราม
ราวกับท้ องฟ้ า สี ขาวระยิบระยับเหมือนดวงดาว และสี แดงฉาน
ประหนึ่งเปลวเพลิงระอุลุกโชน

“วัตถุดิบจากสั ตว์ วิเศษยังมีสัญญาณชีพหลงเหลืออยู่อีกหรื อ?


แถมยัง เอ่อ… ยังไม่ ตายหรื อครับ? ทั้งที่ร่างต้ นเสื่ อมสลายไปนาน
แล้ว”

ไคลน์ พมึ พาเสี ยงดัง มันต้ องการให้ ลุงนีลล์ช่วยไขข้ อข้ องใจ

“คาอธิบายที่ถูกต้ องก็คือ พวกมันยังหลงเหลือเศษเสี้ยววิญญาณ


อยู่ภายใน เป็ นสาเหตุสาคัญที่ช่วยให้ เจ้ ากลายเป็ นผู้วิเศษ และยัง
เป็ นสาเหตุที่ทาให้ ผ้ วู ิเศษเกิดการคลุ้มคลั่ง… ดันน์ คงเล่าให้ ฟังบ้ าง
แล้วสิ นะ”

นีลล์อธิบายอย่ างคร่ าว ก่อนจะหัวเราะเมื่อนึกบางสิ่ งขึน้ ได้

“ฮะฮะ! จะบอกอะไรให้ โอสถนักเก็บซากศพมีส่วนผสมสาคัญ


คือคางคกจุดดาโตเต็มวัยซึ่งต้ องนาไปตากแห้ ง การฝื นกระเดือก
โอสถดังกล่ าวต้ องใช้ ความกล้าไม่ น้อยทีเดียว”

เพียงจินตนาการตามก็มากพอจะทาให้ ชายหนุ่มขยะแขยง มัน


ไม่ พยายามทวนซ้า สายตากวาดมองรอบห้ องเผื่อว่ าจะพบดวง
วิญญาณหรื อภูติผีให้ ทดสอบพลังเนตรใหม่
“ไม่ ใช่ ว่าในโลกควรมีวิญญาณล่องลอยเต็มไปหมดหรื อครับ?”
ไคลน์ ถามฉงน
ลุงนีลล์ยมิ้

“เจ้ าหนุ่ม พูดตามฉัน :

“ที่นี่คือศูนย์ บัญชาการใหญ่ ของเหยี่ยวราตรีเมืองทิงเก็น แถมยัง


อยู่ใต้ วิหารพระแม่ เซเลน่ า สถานที่ซึ่งมีผ้ วู ิเศษขวักไขว่ เต็มไป
หมด!
“คิดว่ าจะมีผีหรื อวิญญาณร้ ายตนใดแร่ ร่อนมาถึงนี่ได้ หรื อ? และ
อย่ างที่เคยบอกไป โลกมนุษย์ และโลกวิญญาณนั้นแยกจากกัน”

ไคลน์ พลันเคอะเขินที่ดันมองข้ ามเรื่ องพื้นฐานขนาดนี้ มันเบือน


หน้ าหนีไปทางโคมไฟผนังบริเวณทางเข้ าและแสร้ งทาเป็ นจ้ องมอง
อย่ างสนใจ

“เข้ าใจแล้วครับ”

เมื่อกล่าวจบ กึ่งกลางหว่ างคิว้ พลันกระตุก

เกิดอะไรขึน้ ?

ขณะจะหันหลังกลับมาถาม มันเหลือบไปเห็นเงาลางของคนผู้
หนึ่งยืนบริเวณหน้ าประตูอย่ างเงียบงัน รอบตัวมีแสงสี ขาวเจือจาง
ส่ องสว่ างตัดความมืด

เป็ นรูปร่ างมนุษย์ ไม่ ผิดแน่ แต่ สีของออร่ าดันกลมกลืนไปกับ


ความมืดอย่ างน่ าประหลาด ส่ งผลให้ ไคลน์ แยกแยะไม่ ออกในทีแรก

ตุบตุบ!

หว่ างคิว้ ชายหนุ่มกระตุกรุนแรง ภาพการมองเห็นเริ่มปั่นป่ วน


มันพยายามเพ่งหาตัวตนปริศนาเมื่อครู่ แต่ บัดนีส้ ั มผัสไม่ ได้ อีก
แล้ว

น่ าแปลก… มันหันกลับมาถามลุงนีลล์

“มิสเตอร์ นีลล์ ผมปวดหว่ างคิว้ มากเลย มันกระตุกยิบๆ”

“ฮะฮะ! เป็ นเรื่ องปรกติ เจ้ ายังเป็ นผู้วิเศษหน้ าใหม่ เนตร


วิญญาณจึงสร้ างภาระให้ กับกายจิตมาก เจ้ าใช้ มันต่ อเนื่องเป็ น
เวลานานเกินไป

“ผลทางกายภาพที่พบได้ บ่อยคือ หว่ างคิว้ กระตุก ปวดศีรษะ


และมองเห็นภาพหลอน

“ไม่ เพียงเท่ านั้น การอยู่ในภาวะเนตรวิญญาณนานเกินไป จะทา


ให้ ร้ ูสึกอึดอัดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่ ค้ นุ เคย แถมเจ้ าอาจคล้อยตาม
อารมณ์ ของผู้อื่นได้ ง่าย นี่คือสิ่ งที่ต้องพึงระวังให้ ดี พยายาม
ฝึ กซ้ อมให้ บ่อยครั้ง แต่ ต้องไม่ อยู่ในภาวะเนตรวิญญาณนานเกินไป
ฮะฮะ!”

นีลล์ตอบพร้ อมเสี ยงหัวเราะ

ทาไมสี หน้ าของลุงถึงกาลังสนุกในตอนที่ผมเดือดร้ อน…

ไคลน์ เอ่ยปากถามต่ อ

“แล้วผมจะออกจากเนตรวิญญาณยังไง?”

ชายหนุ่มเคยคิดจะถามเรื่ องบุคคลลึกลับเมื่อครู่ แต่ เมื่อได้ ยินว่ า


อาการปรกติของการใช้ เนตรวิญญาณคือเห็นภาพหลอน มันจึง
ปล่อยผ่ านไป เพราะคาตอบของนีลล์คงไม่ เป็ นอื่นแน่ นอน

“คล้ายกับตอนเปิ ดใช้ ให้ นึกถึงวัตถุที่เบี่ยงเบนความสนใจ


จนกว่ าจะหลุดพ้นจากสภาวะเข้ าฌาน จงหลับตาลงและเพ่งจิตให้
ยกเลิกเนตรวิญญาณซ้าไปมา จากนั้นก็ลืมตาขึน้ แล้วการมองเห็น
จะกลับเป็ นปรกติ”

ลุงนีลล์อธิบายอย่ างคร่ าว ก่อนจะเสริม

“แน่ นอนว่ า นั่นเป็ นวิธีที่หยาบและด้ อยประสิ ทธิภาพที่สุด


ผู้วิเศษอย่ างเราสามารถสะกดจิตร่ างกายให้ เข้ าและออกภาวะเนตร
วิญญาณได้ ง่ายกว่ านั้น หรืิ ออีกความหมายหนึ่งก็คือ สร้ างปุ่ มปิ ด
เปิ ดทางธรรมชาติขนึ้ มา

“ตัวอย่ างเช่ น หลอกร่ างกายว่ า เมื่อใช้ ปลายนิว้ แตะหว่ างคิว้ สอง


ครั้งจะเป็ นการเข้ าสู่ ภาวะเนตรวิญญาณ และหากแตะซ้าอีกสอง
ครั้งจะเป็ นการยกเลิก ทานองนี้ ขึน้ อยู่กับความสะดวกของแต่ ละ
คน”

“เข้ าใจแล้วครับ”

ไคลน์ ครุ่นคิดเล็กน้ อย ก่อนจะทดสอบใช้ วิธีที่ลุงนีลล์แนะนา—


แตะหว่ างคิว้ สองสองครั้ง แทนปุ่ มเปิ ดปิ ดภาวะเนตรวิญญาณ

การแตะแค่ หนึ่งครั้งอาจเกิดขึน้ โดยไม่ ต้ังใจ และการแตะสาม


ครั้งนั้นมากเกินไป อาจไม่ ทันในบางสถานการณ์ ที่ฉุกเฉิน ส่ วนการ
กระทาโจ่ งแจ้ งจาพวกดีดนิว้ จะสร้ างจุดเด่ นเกินจาเป็ น

ไคลน์ เพ่งสมาธิเพื่อสร้ างบอลแสงซ้ อนทับกันอีกครั้งเพื่อให้


เข้ าฌาน

หลังจากได้ ลุงนีลล์คอยชี้แนะ ไคลน์ ใช้ เวลาฝึ กฝนอีกสั กพักจน


ได้ รับ ‘ปุ่ มเปิ ดปิ ด’ ภาวะเนตรวิญญาณอย่ างสมบูรณ์

ชายหนุ่มกาหมัดแน่ นอย่ างสะใจ ก่อนจะใช้ ปลายนิว้ ชี้แตะเบาๆ


ที่หว่ างคิว้ สองสรั้ง ทันใดนั้น ภาพการมองเห็นพลันปรากฏแสงออ
ร่ าหลากสี สัน
เมื่อแตะอีกสองครั้ง ทุกสิ่ งก็กลับสู่ ปรกติ

“ผมทาสาเร็จแล้ว…”

ไคลน์ ถอยหายใจยาวอย่ างมีความสุ ข

เมื่อฝึ กซ้ อมเสร็จ ร่ างกายรู้สึกหนักอึง้ โดยไม่ ร้ ูตัว ราวกับพร้ อม


หลับวูบได้ ทุกเมื่อ และบางทีอาจหลับไปนานถึงสามวันเต็ม
นีลล์หัวเราะคิกคัก

“พวกเราไม่ ใช่ ผ้ ไู ร้ หลับสั กหน่ อย การสิ้นเปลืองพลังกายย่ อม


ต้ องง่ วงนอนอยู่แล้ว เจ้ าควรกลับบ้ านไปพักผ่ อนสั กงีบใหญ่ ในช่ วง
บ่ ายค่ อยตื่นมาเดินสารวจรอบบ้ านเวิร์ชเพื่อหาเบาะแสของสมุด
บันทึกอันทีโกนัส

“พรุ่งนีฉ้ ันจะสอนศาสตร์ เร้ นลับให้ เพิม่ เติม แน่ นอน เจ้ าจะได้
อ่านเอกสารโบราณด้ วย”

“ครับผม!”

ไคลน์ เห็นด้ วยทุกประการกับคาแนะนาของลุงนีลล์


ชายหนุ่มใช้ ไม้ ค่าพยุงร่ างออกจากห้ องแปรธาตุ มันและลุงนีลล์
แยกย้ ายเมื่อถึงทางแยก ลุงนีลล์ ต้องไปเฝ้าคลังอาวุธต่ อ ส่ วนไคลน์
แบกร่ างอันอ่อนล้าของตนเดินขึน้ บันไดหินพลางบีบนวดขมับ

ทันใดนั้น ดันน์ ·สมิทเดินเข้ ามาทักจากด้ านหลังด้ วยรอยยิม้ มุม


ปาก

“ผมได้ ยินมาว่ า คุณเป็ นผู้ที่เหมาะกับนักทานายมาก ถึงขนาดใช้


เนตรวิญญาณได้ โดยไม่ ต้องเข้ าฌานอย่ างนั้นหรื อ?”

“คงเป็ นพลังพิเศษเฉพาะตัวของนักทานายกระมังครับ”

ไคลน์ ตอบถ่ อมตน

หัวหน้ าคงรับหน้ าที่เฝ้าคลังอาวุธแทนนีลล์จนถึงเมื่อครู่สินะ

ดันน์ ·สมิทเดินแซงไคลน์ ไปเล็กน้ อย ก่อนจะชะงักและหัน


กลับมากล่าวด้ วยสี หน้ าขึงขัง

“คุณต้ องจาใส่ ใจไว้ ว่า แมวขีส้ งสั ยคือแมวที่อายุส้ั น ผู้วิเศษก็


เช่ นกัน ห้ ามฟังเสี ยงที่คนอื่นไม่ ได้ ยิน และห้ ามจ้ องมองสิ่ งที่คนอื่น
ไม่ เห็นโดยเด็ดขาด”

“เข้ าใจแล้วครับ”
ไคลน์ ยังจาได้ นั่นคืออีกสาเหตุสาคัญที่ผ้ วู ิเศษเกิดการคลุ้มคลั่ง
เมื่อกลับถึงสานักงานบริษัทหนามทมิฬ ชายหนุ่มกล่าวอาลาโร
แซนที่ยังไม่ ทราบว่ าตนกลายเป็ นผู้วิเศษ จากนั้นก็เดินลงบันได
และขึน้ รถม้่ าแบบรางกลับถนนดารารัตน์ —บ้ านหลังใหม่ เมื่อเสร็จ
สิ้นการเดินทาง ไคลน์ ร้ ูสึกอ่อนล้าพร้ อมสลบลงทุกเมื่อ

ยังเป็ นเวลาช่ วงเช้ าของวัน อุณหภูมิประมาน 26 องศาเซลเซียส


ไคลน์ นากุญแจออกจากเอวและไขประตูบ้านเข้ าไป

บ้ านหลังใหม่ ยังขาดองค์ ประกอบอีกหลายสิ่ ง ห้ องนั่งเล่นนับว่ า


โล่งเกินไป

วันนีว้ ันจันทร์ เบ็นสั นและเมลิสซ่ าจึงออกไปทางานและเรียน


คนทั้งสองออกจากบ้ านตั้งแต่ เช้ าตรู่แล้ว

ไคลน์ ไม่ มีกะจิตกะใจจะทาสิ่ งใด มันล็อคประตูหน้ าบ้ านและเดิน


ขึน้ ชั้นสองไปยังห้ องนอนใหญ่ ที่สุดซึ่งมีต้ หู นังสื อ—ห้ องนอน
ไคลน์

ทักซิโด้ ถูกถอดออกและแขวนไว้ บนราว ชายหนุ่มไม่ รีรอที่จะทิง้


ตัวลงบนเตียง และในวินาทีดังกล่าว มันก็หลับเป็ นตายในพริบตา


ไคลน์ ·โมเร็ตติถูกปลุกให้ ตื่นด้ วยแสงแดดที่สาดทอดทับใบหน้ า
มันงัวเงียลืมตาขึน้ และได้ พบกับดวงอาทิตย์ อันร้ อนแรงนอก
หน้ าต่ าง

“กี่โมงแล้ว? เลยเวลาชุมนุมไพ่ทาโร่ ไปหรื อยัง?”

ไคลน์ ลนลานคลานจากเตียงไปยังราวแขวนผ้ าเพื่อล้วงนาฬิ กา


พกออกจากกระเป๋าทักซิโด้

ไม่ เพียงหลงลืมเวลานัดหมาย แต่ ยังลืมปิ ดประตูห้องนอนให้


เรียบร้ อยด้ วย! แถมผ้ าม่ านมุขหน้ าต่ างก็ไม่ ถูกเลื่อนปิ ดเพื่อบดบัง
แสงแดด

กริ๊ก! ไคลน์ รีบเปิ ดฝานาฬิ กาพกเพื่อตรวจสอบเวลา…

เพิง่ จะเลยบ่ ายมาเพียงเล็กน้ อย ยังเหลือเวลาอีกพอสมควรก่อน


จะถึงเวลานัดหมายของชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์ตอนบ่ ายสามตรง

ทุกวันจันทร์ ไคลน์ ต้องพบปะกับแฮงแมนและจัสติสเพื่อ


รวบรวมข้ อมูล

ชายหนุ่มแตะหว่ างคิว้ สองครั้ง ภาพการมองเห็นรอบตัว


เปลี่ยนไปเล็กน้ อย มันสารวจร่ างกายเพื่อตรวจสุ ขภาพและอาการ
ผิดปรกติ
ร่ างกายแข็งแรงสมูบรณ์ ดี
หว่ างคิว้ ถูกแตะซ้าสองครั้งเพื่อปิ ด มันเดินลงบันไดอย่ างอารมณ์
ดี ไคลน์ เปิ ดกระปุกชาคุณภาพต่าโรยใส่ กาน้าเพื่อต้ ม เมื่อ
ตระเตรียมเรียบร้ อย อาหารกลางวันคือชาคู่กับขนมปังไรย์ ทาเนยที่
เตรียมไว้

ถัดมาเป็ นการทบทวนความรู้ของโลกยุคปัจจุบันจากหนังสื อ
และไดอารีของไคลน์ คนก่อน มันเริ่มเข้ าใจพื้นเพและธรรมชาติ
ของโลกใบนีเ้ พิม่ ขึน้ เมื่อความทรงจาในอดีตเริ่มกลับคืนมาทีละนิด

เวลา 2:57 ในยามบ่ าย ชายหนุ่มปิ ดหนังสื อลงพร้ อมกับสวม


ปลอกปากกา ผ้ าม่ านภายในห้ องถูกดึงปิ ดสนิทมิดชิด ส่ งผลให้
บรรยากาศค่ อนข้ างมืดสลัว ก่อนจะเดินไปล็อคประตูห้องนอนปิ ด
ท้ าย

ปลายนิว้ ชี้ถูกแตะหว่ างคิว้ สองครั้งเพื่อเข้ าสู่ ภาวะเนตรวิญญาณ


สายตากวาดมองสารวจรอบห้ องหาสิ่ งผิดปรกติ

เมื่อไม่ พบอะไร ไคลน์ ออกจากเนตรวิญญาณและตรวจสอบเวลา


จากนาฬิ กาพกเป็ นครั้งสุ ดท้ าย

ติ๊ก ต่ อก
ต๊ อก ต่ อก

อีกหนึ่งนาทีก่อนบ่ ายสาม ไคลน์ ปิดนาฬิ กาและเริ่มเดินทวนเข็ม


เป็ นรูปทรงสี่ เหลี่ยมจัตุรัส ก่อนจะปิ ดท้ ายด้ วยการท่ องคาถา
ภาษาจีนกลางเสี ยงค่ อย

เพียงแต่ ในคราวนี้ มันไม่ ต้องเตรียมอาหารวางไว้ สี่มุมห้ อง

ขณะหลับตาลง ไคลน์ เริ่มสั มผัสว่ าหลังมือเกิดอาการคันยุบยิบ


ประหนึ่งจุดดาทั้งสี่ ที่เรียงตัวเป็ นทรงสี่ เหลี่ยมจัตุรัสกาลังปูดโปน
ออกมาจากผิวหนัง

เสี ยงตะโกนโหวกเหวกและเสี ยงกระซิบอันแหบพร่ ายังคงดังข้ าง


หูอย่ างเด่ นชัดเช่ นเคย แต่ ไคลน์ สัมผัสได้ ว่า อาการปวดศีรษะไม่
รุนแรงเหมือนกับครั้งแรก

ไม่ ใช่ ว่ามันไม่ ส่งผล แต่ คงเพราะไคลน์ ชื่อฟังคาเตือนของดันน์ ที่


กล่าวว่ า ‘ห้ ามตั้งใจฟังเสี ยงที่คนอื่นไม่ ได้ ยินเด็ดขาด’

ในฐานะผู้วิเศษ มันจาเป็ นต้ องมีวินัยกับตัวเองมากกว่ าคนปรกติ

เพียงพริบตา ร่ างกายพลันเบาหยิวประหนึ่งลอยได้ ภาพการ


มองเห็นหมุนเคว้ งก่อนจะปรากฏทะเลหมอกสี เทาเข้ มข้ นเหมือน
คราวก่อน
หลังจากกวาดสายตามอง ไคลน์ เหลือบเห็น ‘ดาว’ สี แดงสองดวง
ที่มีสายสั มพันธ์ เล็กๆ เชื่ อมกับตน ขณะเดียวกันก็ความรู้สึกสนิท
สนมอย่ างน่ าประหลาด

ไคลน์ ก้มสารวจร่ างกายตัวเองที่ค่อนข้ างโปร่ งแสงและพร่ ามัว


จากนั้นก็พมึ พา

“นี่คือวิญญาณดาราที่ลุงนีลล์หมายถึงหรื อ?”

ไคลน์ ยืนสงบนึ่งอยู่หลายอึดใจ ก่อนที่มิติสายหมอกจะ


แปรเปลี่ยนเป็ นโถงประชุมศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ หลังคาสู งทรงโดม
หรูหรา โต๊ ะทองเหลืองยาวและมีเก้าอีพ้ นักสู ง 22 ตัวรายล้อม
แบ่ งเป็ นข้ างละ 10 ตัว หัวท้ ายอีกตาแหน่ งละตัว บนพนักเก้าอีท้ ุก
ตัวมีสัญลักษณ์ ทางดาราศาสตร์ สลักแตกต่ างกันไป

ไคลน์ เดินไปนั่งหัวโต๊ ะด้ วยมาดสุ ขุม จากนั้นก็เสกให้ หมอกสี เทา


รอบตัวทวีความเข้ มข้ นขึน้ กว่ าปรกติ มือขวาเอื้อมออกไปสั มผัส
‘ดาว’ แดงทั้งสองดวงเพื่อสร้ างการเชื่ อมต่ อสุ ดปาฏิหาริย์
ราชันย์ เร้ นลับ 34 : ค่ าตอบแทนล่วงหน้ า

ณ ห้ องใต้ ดินลับที่ไม่ มีหน้ าต่ างแม้ แต่ บานเดียว อัลเจอร์ ·วิลสั น


กาลังนั่งหน้ าโต๊ ะยาวซึ่งมีเครื่ องไม้ เครื่ องมือหลายชนิดวางเรียงราย
รวมถึงกระดาษหนังแพะอีกหลายใบ

ด้ านหน้ ามันคือเทียนไขที่ละลายไปแล้วครึ่งลา เปลวเพลิงสี


เหลืองหม่ นส่ องวูบวาบจนเงาเฟอร์ นิเจอร์ ภายในห้ องคับคล้ายกับ
กาลังเคลื่อนไหว

เส้ นผมสี น้าเงินเข้ มเกือบดาของอัลเจอร์ พวั พันยุ่งเหยิงประหนึ่ง


สาหร่ ายทะเล มันสวมชุดคลุมซึ่งมีสัญลักษณ์ สายฟ้ าสลัก สองมือ
กุมประสานด้ านหน้ าโดยหันนิ้วโป้งเข้ าหากัน สายตาจ้ องมองขวด
ของเหลวสี ดาสนิทที่ต้งั วางบนโต๊ ะถัดจากเทียนไขเล็กน้ อย

ซู่ว! ซู่ว! ซู่ว!

ซ่ า! ซ่ า! ซ่ า!

เสี ยงสายลมกระโชกสลับกับเสี ยงคลื่นทะเลซัดโถมดังออกจาก


ขวดปริศนา หยดหมึกสี ดาลอยกึ่งกลางขวด สายหมอกสี เทาเจือ
จางหมุนวน มองผิวเผินคล้ายกับปากและดวงตาของสิ่ งมีีชีวิตเร้ น
ลับ
อัลเจอร์ เหลือบมองนาฬิ กาแขวนผนัง จนกระทั่งเข็มสั้ นบ่ งบอก
ชั่วโมงถูกเลื่อนมาเตะเลขสามตรง

มันใช้ ปลายนิว้ บีบนวดขมับเล็กน้ อย ก่อนที่ภาพการมองเห็นจะ


กลายเป็ นสี ดาสนิทและแสงสี ต่างๆ ฟุ้งกระจายเข้ มข้ น

ทันใดนั้น แสงแดงสว่ างจ้ าคล้ายกับคลื่นสมุทรก่อตัวซัดโถมโอบ


ร่ างมันไว้ ในพริบตา

กรุ่งเบ็นลันด์ เขตราชินี
ภายในคฤหาสน์ สุดหรูของตระกูลฮอลล์

หลังจากแยกย้ ายกับครูเต้ นรา ออเดรย์ รีบล็อคประตูก่อนจะเดิน


ไปหน้ าโต๊ ะเครื่ องแป้งเก่าแก่ตัวเดิม

แสงแดดภายนอกห้ องกาลังส่ องสว่ างอย่ างเจิดจ้ า เป็ นปรกติของ


ยามบ่ ายสาม บนโต๊ ะเครื่ องแป้งมีสมุดบันทึกสี น้าตาลอ่อนซึ่งผลิต
จากหนังแกะคุณภาพสู ง หน้ ากระดาษเปิ ดค้ างเผยให้ เห็นความว่ าง
เปล่า ไม่ ห่างกันนักมีปากกาหมึกซึมปลอกสี ทองวางนอนอยู่ ด้ าม
จับประดับประดาด้ วยทับทิมหลายเม็ด

ออเดรย์ ทดลองซ้าแล้วซ้าเล่าเพื่อให้ มั่นใจว่ า เธอจะจดบันทึกได้


ทันท่ วงทีหลังถูกส่ งออกจากชุ มนุมไพ่ทาโร่ ต์
“ตื่นเต้ นจัง…”

เธอพยายามสู ดลมหายใจสุ ดปอดเพื่อระงับอารมณ์ โครมคราม


ขณะเดียวกันก็ทาปากจู๋พลางชาเลืองมองเข้ าไปในกระจก

ทว่ า สิ่ งที่เห็นมิใุ่ช่ ภาพสะท้ อนจากกระจกเงา หากแต่ เป็ น


ลาแสงมายาสี เดงเข้ มซึ่งพุ่งตรงออกจากแผ่ นกระจกจนอาบท่ วม
ร่ างตนไว้

ณ ห้ วงมิติสายหมอกซึ่งถูกจาลองเป็ นโถงประชุมศักดิ์สิทธิ์
คล้ายคลึงกับสิ่ งก่อสร้ างของเผ่ าคนยักษ์ ไม่ มีผิดเพีย้ น

เสาสี แดงเข้ มสองต้ นพุ่งขึน้ จากเบาะเก้าอีส้ องตัวเดิมที่แฮงแมน


และจัสติสเคยนั่ง เสาลาแสงกระแทกใส่ โดมเพดานอย่ างเกรี้ยว
กราดประหนึ่งน้าพุโลหิต ก่อนจะซาลงและค่ อยๆ ‘สลัก’ รูปลักษณ์
ของสองบุคคล

ออเดรย์ ผ้ มู าพร้ อมเส้ นผมสี ทองอ่อน รูปร่ างสู งโปร่ ง ผอมเพรียว


และสง่ างาม สิ่ งแรกที่หล่ อนกระทาคือชาเลืองมองเก้าอีห้ ัวโต๊ ะ เธอ
พบบุคคลหนึ่งซึ่งมีหมอกเทารายล้อมเข้ มข้ นกาลังนั่งด้ วยมาดสง่ า
มือข้ างขวาวางอยู่บนโต๊ ะ ส่ วนข้ างซ้ ายกาลังลูบคางราวกับ
ครุ่นคิด
“สวัสดียามบ่ ายค่ ะ มิสเตอร์ ฟูล~”

ออเดรย์ ทักทายด้ วยสี หน้ าร่ าเริง

ถัดมาเป็ นการชาเลืองมองบุคคลที่นั่งเก้าอีฝ้ ั่งตรงข้ ามและ


ทักทายด้ วยโทนเสี ยงแบบเดียวกัน

“สวัสดียามบ่ ายค่ ะ มิสเตอร์ แฮงแมน~”


ช่ างเป็ นสตรีผ้ ใู สซื่ อ… เธอมั่นใจได้ อย่ างไรว่ าเราคือคนดี? เหตุ
ใดถึงไม่ มีความหวาดกลัวหรื อกังวลในจิตใจเลย?

เป็ นบุตรสาวขุนนางใหญ่ ที่ถูกเลีย้ งดูมาเยี่ยงไข่ ในหินหรื อ


อย่ างไร?

ไคลน์ อมยิม้ แต่ มาดภายนอกยังคงสุ ขุมขึงขัง

“สวัสดียามบ่ าย มิสจัสติส”

ขณะกล่าว มันเบือนหน้ าไปทางซ้ ายเล็กน้ อยพร้ อมกับใช้ ปลาย


นิว้ แตะหว่ างคิว้ สองครั้ง

ภาพการมองเห็นผันเปลี่ยนในพริบตา ปรากฏสี ออร่ าของ


ร่ างกายแฮงแมนและจัสติสอย่ างแจ่ มชัด
ทุกสรรพสิ่ งรอบมิติสายหมอกล้วนดามืดเช่ นเดิม ไม่ พบ
สั ญญาณชีพใดในห้ องประชุมศักดิ์สิทธิ์แห่ งนี้

สายตาหันชาเลืองมองออร่ าจัสติส สี ออร่ ารอบตัวเธอเหมือนกับ


ที่ลุงนีลล์เคยอธิบายไว้ ทุกประการ แต่ ละจุดแบ่ งแยกชัดเจนด้ วยสี
แดง ม่ วง ฟ้ า และอื่นๆ จนรวมกันเป็ นสี ขาวบริสุทธิ์ผุดผ่ อง บอกได้
คาเดียวว่ า เด็กสาวผู้นถี้ ูกเลีย้ งดูอย่ างดีและมีระดับสุ ขภาพไร้ ที่ติ

ถัดมาเป็ นสี ของอารมณ์ … แดงและเหลือง ซึ่งหมายถึงความ


ตื่นเต้ น กระตือรื อร้ น และความยินดี เมื่อได้ ข้อสรุป ไคลน์ หันไป
สารวจแฮงแมนบ้ าง

คล้ายคลึงกับจัสติส… ไม่ มีออร่ าใดผิดแผกจากมนุษย์ สุขภาพดี


ทั่วไป ส่ วนอารมณ์ น้ ันมีสีฟ้าสลับส้ ม

สุ ขุม ครุ่นคิด ระมัดระวัง และพึงพอใจ?

นีค่ ือครั้งแรกที่มันหัดอ่านสี ออร่ า ไคลน์ จึงยังไม่ มั่นใจในข้ อสรุป


นัก

แต่ ขณะกาลังจะเบือนความสนใจกลับ มันเริ่มสั มผัสถึงบางสิ่ ง


ประหลาดได้ จากแฮงแมน
ออร่ าในชั้นลึกสุ ดของบุคคลผู้นแี้ ทบจะกลมกลืนกันเป็ นสี เดียว
ไคลน์ ลองเพ่งสมาธิให้ หนักขึน้ มันพิจารณาแฮงแมนอย่ าง
ละเอียดจนพบว่ า ในส่ วนลึกที่ถัดจากกายอากาศลงไป ออร่ าของ
แฮงแมนปรากฏสี ฟ้าครามดุจดังน้าทะเล แต่ มิได้ สงบนิ่ง กาลัง
เกรี้ยวกราวประหนึ่งลมพายุ

หรื อจะเป็ น… วิญญาณดารา? หรื อควรเรียกว่ าภาพเสมือน


วิญญาณดาราดี?

ถ้ ามีวิญญาณดาราก็หมายความว่ า…

แฮงแมนเป็ นผู้วิเศษ! แถมยังเป็ นออร่ าที่ทรงพลังยิ่งกว่ าลุงนีลล์!

หลังจากวิเคราะห์ ภายในใจอย่ างเงียบงัน มันส่ ายศีรษะเล็กน้ อย

‘ไม่ จาเป็ นเสมอไป อาจเกี่ยวกับเรื่ องที่มิติสายหมอกแห่ งนีค้ ือ


สถานที่พเิ ศษ สี ของออร่ าจึงไม่ ตรงกับความจริง’

หลังจากหันไปชาเลืองมองจัสติสอีกครั้ง ชายหนุ่มก็มั่นใจว่ าออ


ร่ าสี ฟ้าครามของแฮงแมนคือสั ญลักษณ์ ของผู้วิเศษ

ขณะเดียวกัน อัลเจอร์ กล่าวทักทายตามมารยาทเสร็จสิ้น

ออเดรย์ ฉีกยิม้ ขณะเอ่ยปากถามด้ วยสี หน้ าคาดหวัง


“มิสเตอร์ แฮงแมน คุณได้ รับกล่องโลหิตฉลามวิญญาณแล้วหรื อ
ยัง?”

ก่อนจะตอบ อัลเจอร์ หันไปมองไคลน์ เล็กน้ อย มันพบว่ ามิสเตอร์


ฟูลกาลังใช้ ปลายนิว้ สั มผัสหว่ างคิว้ คล้ายกับครุ่นคิดถึงเรื่ องอื่น

“ต้ องขอบคุณมากจริงๆ นั่นคือสิ่ งที่ผมต้ องการ ไม่ คิดว่ าคุณจะ


หาพบเร็วขนาดนี้ เพราะโลหิตฉลามวิญญาณจัดว่ าเป็ นวัตถุดิบ
พิเศษซึ่งค่ อนข้ างหายาก”
อัลเจอร์ ตอบอย่ างซื่ อตรง
ออเดรย์ ยมิ้

“ฉันดีใจที่คุณชอบ”

ในฐานะบุคคลที่ผ้ หู ลงไหลศาสตร์ เร้ นลับตั้งแต่ เด็ก ออเดรย์ จึง


เน้ นเข้ าสั งคมกับทายาทชนชั้นสู งที่ชื่นชอบในสิ่ งเดียวกัน พวกมัน
มักแลกเปลี่ยนข้ อมูล หนังสื อ หรื อของวิเศษกันบ่ อยครั้ง แต่ ไม่ มี
ใครเลยที่สามารถช่ วยให้ ออเดรย์ กลายเป็ นผู้วิเศษได้ จริง

อาจใช่ ที่องค์ ชายบางคนบอกใบ้ ว่า มันสามารถช่ วยให้ เธอ


กลายเป็ นผู้วิเศษได้ แต่ ต้องแลกกับการมาเป็ นภรรยารอง

ส่ วนที่มาของโลหิตฉลามวิญญาณ ออเดรย์ แอบขโมยมาจากคลัง


สมบัติตระกูล ซึ่งบ้ านของเธอมีโหลบรรจุโลหิตฉลามวิญญาณ
‘ขนาดใหญ่ มาก’ ชนิดที่ต่อให้ หายไปร้ อยมิลลิกรัมก็ไม่ มีทางรับรู้
ออเดรย์ จึงแอบขโมยมาเล็กน้ อยโดยไม่ ร้ ูสึกผิด เธอเชื่ อว่ า ต่ อให้
ครอบครัวเอะใจว่ าโลหิตฉลามวิญญาณถูกขโมย แต่ คงไม่ มีใคร
เสี ยเวลาสื บสวนเอาความ

อัลเจอร์ ชาเลืองมองเดอะฟูลที่มีหมอกเทารายล้อม ก่อนจะหัน


กลับไปหาจัสติสด้ วยสี หน้ ายินดี

“จากข้ อตกลงของเรา ผมจะบอกสู ตรผลิตโอสถ ‘ผู้ชม’ ตาม


สั ญญา”

“เดี๋ยวนะคะ ขอเตรียมหัวสมองก่อน…

“ตกลง เริ่มได้ !”

ออเดรย์ สูดลมหายใจเข้ าลึกพลางจ้ องอัลเจอร์ ด้วยแววตาไม่


สั่ นคลอน

“โอสถลาดับต่านั้นปรุงได้ ง่ายมาก เพียงใส่ ส่วนผสมให้ ตรงตาม


สู ตรก็พอ ให้ จาไว้ ว่า สามารถใส่ ในปริมาณน้ อยกว่ าที่ระบุได้ แต่
ห้ ามใส่ มากกว่ าเด็ดขาด ไม่ อย่ างนั้นจะเกิดปัญญาใหญ่ ตามมา คุณ
คงเคยได้ ยินเรื่ องที่ผ้ วู ิเศษคลุ้มคลั่งใช่ ไหม? ผมคงไม่ ต้องทวนซ้า
กระมัง”
อัลเจอร์ แจงเรื่ องสาคัญที่สุดของการปรุงโอสถก่อน
ออเดรย์ พยักหน้ าหนักแน่ น

“เข้ าใจแล้วค่ ะ”

ขณะเดียวกัน เด็กสาวชาเลืองมองเดอะฟูล เผื่อว่ าบุคคลผู้ยิ่งใหญ่


จะมีสิ่งใดชี้แนะเพิม่ เติมเกี่ยวกับศาสตร์ เร้ นลับ ทว่ า เดอะฟูลยังคง
เงียบงันและแน่ นิ่งประหนึ่งรูปปั้น

อัลเจอร์ พกั เล็กน้ อยก่อนจะกล่าวต่ อ

“ผมบอกว่ าใส่ น้อยกว่ าได้ ก็จริง แต่ ไม่ ควรน้ อยกว่ าปริมาณที่ระบุ
มากเกินไป… หากไม่ มีผ้ ชู ่ วย ขอแนะนาให้ คุณศึกษาศาสตร์ แปร
ธาตุเบื้องต้ นด้ วยตัวเองก่อน”

“มีครูสอนพิเศษส่ วนตัวอยู่แล้วค่ ะ”

ออเดรย์ ตอบอย่ างมั่นใจ

หลังจากแนะนาข้ อมูลสาคัญไปหมดแล้ว อัลเจอร์ ไล่เรียง


รายละเอียดของสู ตรอย่ างคล่องแคล่ว

“ผู้ชม… โอสถลาดับเก้า น้าบริสุทธิ์ 80 มิลลิลิตร สารสกัด


หญ้ าฝรั่นเหมันต์ 5 หยด ผงดอกโบตั๋นฟันวัว 13 กรัม ดอกไม้ เอลฟ์
7 กลีบ ตาปลามานเฮอร์ โตเต็มวัย 1 ข้ าง และโลหิตปลาดาเขาแพะ
35 มิลลิลิตร

“วัตถุดิบสองชนิดสุ ดท้ ายที่กล่าวไปเป็ นส่ วนผสมหลักหายาก


จากสั ตว์ วิเศษในทะเล คุณต้ องระวังเรื่ องปริมาณให้ ดี”

“เข้ าใจแล้วค่ ะ”

ออเดรย์ ทวนซ้า

“น้าบริสุทธิ์ 80 มิลลิลิตร สารสกัดหญ้ าฝรั่นเหมันต์ 5 หยด ผง


ดอกโบตั๋น… ”

“ฟันวัว”

อัลเจอร์ ช่วย

ด้ วยเหตุนี้ ออเดรย์ เริ่มจดจาสู ตรผลิตโอสถได้ ขึน้ ใจ ทว่ า เด็ก


สาวยังคงกลัวลืมและทบทวนซ้าเช่ นนั้นอีกหลายรอบ

“คุณผู้จักการเข้ าฌานไหม?”

เมื่อเห็นจัสติสผงกศีรษะ อัลเจอร์ อธิบายต่ อ

“ผมไม่ แน่ ใจว่ าคุณศึกษาการเข้ าฌานถึงระดับไหน แต่ จะทวนให้


ในจุดที่สาคัญ…
“หลังจากดื่มโอสถแล้ว จงรีบเข้ าฌานทันที เพื่อให้ ร่างกายเคย
ชินสั มผัสวิญญาณและพลังชนิดใหม่ … การเข้ าฌานต้ องฝึ กฝนเป็ น
ประจาทุกวันเพื่อช่ วงชิงพลังโอสถมาเป็ นของตัวเองโดยเร็ว
พยายามรีดเร้ น ‘ความหมาย’ ของโอสถให้ ชัดเจนที่สุด สั มผัสถึง
ความเร้ นลับของมันให้ มากที่สุด ร่ างกายจะได้ ปรับสภาพกับพลัง
ใหม่ ได้ เร็วขึน้

“ด้ วยวิธีดังกล่าว คุณสามารถลดโอกาสคลุ้มคลั่งไปได้ หลายส่ วน


และ ‘ความหมาย’ ของโอสถมิได้ ซ่อนที่ไหนไกล แต่ จะแฝงอยู่ใน
ชื่ อโอสถชนิดนั้นๆ … เช่ น ‘ผู้ชม’ เป็ นต้ น”

ไคลน์ แอบฟังบทสนทนามาตลอดโดยไม่ มีเจตนาจะขัดขวาง สิ่ ง


เดียวที่มันต้ องการคือขโมยความลับของโลกใบนีใ้ ห้ ได้ มากที่สุด

แต่ เมื่อได้ ยินอัลเจอร์ กล่าวถึงโอสถเช่ นนั้น ไคลน์ พลันครุ่นคิดถึง


บางสิ่ ง

ออเดรย์ ฟังแฮงแมนอธิบายอย่ างตั้งใจ ขณะที่เธอกาลังจะถามถึง


รายละเอียดเชิงลึกของโอสถ เสี ยงเคาะโต๊ ะพลันแว่ วข้ างหู

แฮงแมนและจัสติสรีบหันมองเดอะฟูลเป็ นตาเดียว บุคคล


ปริศนาหัวโต๊ ะกาลังใช้ ปลายนิว้ เคาะเรียกอย่ างนุ่มนวล ถัดมาเป็ น
เสี ยงอธิบายอันสุ ขุมลุ่มลึก
“กุญแจสาคัญของโอสถมิใช่ การ ‘ชิงพลัง’ แต่ เป็ นการ ‘ย่ อย
พลัง’

“หลักคาสั ญมิใช่ การค้ นหาหรื อรีดเร้ นความหมาย แต่ เป็ นการ


‘สวมบทบาท’

“ชื่ อของโอสถมิใช่ สัญลักษณ์ หรื อความหมาย แต่ เป็ นกุญแจ


สาหรับ ‘สวมบทบาท’”

ออเดรย์ ค่อนข้ างสั บสนในสิ่ งที่ได้ ยิน เธอไม่ เข้ าใจว่ ามิสเตอร์ ฟูล
กาลังกล่าวถึงสิ่ งใด สายตาเด็กสาวพลันชาเลืองมองแฮงแมนตาม
สั ญชาตญาณ ทันใดนั้น หล่อนมีอันต้ องผงะ

สาเหตุเพราะ แฮงแมนกาลังยืนแข็งทื่อด้ วยสี หน้ าสุ ดตกตะลึง


ท่ าทีคล้ายคลึงยามมนุษย์ ปรกติได้ ยินเสี ยงฟ้ าผ่ าในระยะประชิด

“การย่ อยพลัง การสวมบทบาท… การย่ อย สวมบทบาท กุญแจ


สาคัญ…”

อัลเจอร์ ทวนคาพูดเดอะฟูลซ้าไปมาอีกสั กพักใหญ่ ด้วยเสี ยงค่ อย


คล้ายกับมันเริ่มเข้ าใจหลักการของบางสิ่ ง หรื อไม่ ก็ถูกสาปให้ เสี ย
สติไปเรียบร้ อยแล้ว

หลังจากผ่ านไปครู่หนึ่งโดยไม่ มีใครรบกวน อัลเจอร์ หันมากล่าว


กับไคลน์ ด้วยเสี ยงแหบพร่ าเจือความสั่ นระริก
“ขอบคุณมากครับมิสเตอร์ ฟูล คาบอกใบ้ ของคุณสาคัญกับชีวิต
ผมมาก เป็ นการชี้แนะครั้งใหญ่ ที่ไม่ เคยได้ รับจากใครมาก่อน ถึงจะ
ยังไม่ เข้ าใจอย่ างถ่ องแท้ ในปัจจุบัน แต่ ผมสั มผัสได้ ว่า เมื่อครู่เป็ น
บทเรียนที่สาคัญและยิ่งใหญ่ มาก”

ไคลน์ ยังคงรักษามาดสุ ขุมเช่ นเคย มันกล่าวกับอัลเจอร์ ด้วย


รอยยิม้

“ถือว่ านั่นเป็ นค่ าตอบแทนล่ วงหน้ า”

อันที่จริง สมองไคลน์ กลวงโบ๋ เกี่ยวกับสิ่ งที่ตนกล่าวออกไปเมื่อ


ครู่ เพียงแค่ คัดลอกถ้ อยคามาจากไดอารีของจักรพรรดิโรซาย
เท่ านั้น แต่ อย่ างน้ อยไคลน์ ก็มั่นใจว่ า รุ่นพีจ่ ักรพรรดิโรซายต้ อง
เป็ นผู้วิเศษลาดับสู งซึ่งทรงพลังยิ่งกว่ าแฮงแมน

ค่ าตอบแทนล่วงหน้ า…

หลังจากเห็นอากัปกริยาแฮงแมน ออเดรย์ ทราบทันทีว่าข้ อมูล


เมื่อครู่มีมูลค่ ามหาศาล

“มิสเตอร์ ฟูลคะ คุณต้ องการให้ พวกเราทาสิ่ งใดอย่ างนั้นหรื อ?”

อัลเจอร์ ที่นั่งตรงข้ ามรีบถามอย่ างร้ อนรน


“คุณจะมอบหมายงานแบบใดให้ ผ้ ตู ่าต้ อยเช่ นพวกเรากระทา
อย่ างนั้นหรื อครับ?”

ไคลน์ เอนกายพิงผนังเบาะก่ อนชาเลืองไปมาระหว่ างคนทั้งสอง


สุ้ มเสี ยงของมันทั้งอ่อนโยนและกังวาลไปทั่วห้ องประชุม

“จงรวบรวมไดอารีของจักรพรรดิโรซายมาให้ เรา ไม่ เกี่ยงว่ าจะ


เล็กน้ อยเพียงใด แค่ หนึ่งหน้ าก็มีความหมาย”
ราชันย์ เร้ นลับ 35 : แลกเปลี่ยนข้ อมูล

ไดอารีลับของโรซาย·กุสตาฟ?

จักรพรรดิโรซายคนนั้นน่ ะหรื อ?

สมกับเป็ นมิสเตอร์ ฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ความสนใจย่ อมต้ องยิ่งใหญ่ ตาม


ไปด้ วย… ออเดรย์ ผงะเล็กน้ อย ก่อนระลึกได้ ว่านี่เป็ นเรื่ องปรกติ

มีข่าวลือว่ า จักรพรรดิโรซายเคยเห็นแผ่ นศิลาเย้ ยเทพด้ วยตา


ตัวเองมาแล้ว และว่ ากันว่ า ไพ่ลับจานวน 22 ใบที่โรซายสร้ างขึน้ มี
ความเกี่ยวพันธ์ ลึกซึ้งกับ 22 เส้ นทางสู่ ความเป็ นเทพ ไม่ แปลกที่
ผู้วิเศษลาดับสู งจะแสวงหาข้ อมูลเหล่านี้

“ไดอารี? นั่นคือไดอารีหรอกหรื อครับ?”

อัลเจอร์ ขมวดคิว้ มันเริ่มเข้ าใจสถานการณ์ มากขึน้

แต่ สิ่งที่น่าแปลกคือ… มิสเตอร์ ฟูลกลับกล้าระบุชัดเจนว่ าสมุด


บันทึกเล่มดังกล่ าวเป็ นไดอารี!

ชายคนนีท้ ราบได้ อย่ างไร?


หรื อว่ า สามารถอ่านเนื้อความที่เขียนในสมุดบันทึกเล่มดังกล่าว
ออก?
เมื่อถูกแฮงแมนตั้งคาถามด้ วยสี หน้ าตื่นตะลึง หมายความไคลน์
ประสบความสาเร็จในการสร้ างความประทับใจให้ อีกฝ่ าย

ชายหนุ่มเอนหลังพิงพนักเก้าอีพ้ ลางนามือประสานไว้ ด้านหน้ า


ก่อนจะกล่าวด้ วยน้าเสี ยงผ่ อนคลาย

“จงเรียกมันว่ าไดอารีไปก่อน”

ไคลน์ แบ่ งรับแบ่ งสู้

ออเดรย์ เคยได้ ยินทายาทของขุนนางชั้นสู งคนอื่นกล่าวถึงสมุด


บันทึกเล่มดังกล่ าวอยู่บ้าง แต่ เธอไม่ มีรายละเอียดเชิงลึกของมัน
เด็กสาวจึงกล่าวด้ วยน้าเสี ยงใคร่ ร้ ู

“ได้ ยินมาว่ า เอ่อ… ไดอารีของจักรพรรดิโรซายเล่มนั้นถูกเขียน


ไว้ ด้วยภาษาที่เข้ ารหัสซับซ้ อน หรื อไม่ ก็สัญลักษณ์ ที่เขาคิดค้ นขึน้
เอง”

“ถูกต้ อง”

อัลเจอร์ ตอบห้ วน

“บางคนระบุว่า สั ญลักษณ์ ดังกล่าวคืออักขระเวทมนตร์ โบราณ


บ้ างก็ชื่อว่ าเป็ นอักษรบรรพกาล จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ มีใครสามารถ
ถอดรหัสข้ อความดังกล่าวได้ สมบูรณ์ อย่ างน้ อยนี่คือสิ่ งที่ผม
ทราบ”

เมื่อกล่าวจบ อัลเจอร์ รีบหันมองไคลน์ เพื่อให้ อีกฝ่ ายบอกเล่า


ข้ อมูลเพิม่ เติม

อักษรถูกคัดลอกจากต้ นฉบับมาแล้วหลายทอด ไม่ แปลกที่มันจะ


บิดเบีย้ วและอ่านได้ ยากกว่ าต้ นฉบับ จากสติปัญญาของมนุษย์ คง
ยากที่จะให้ ถอดรหัสภาษาจีนผิดเพีย้ นซึ่งถูกบิดเบือนไปตาม
กาลเวลา

ไคลน์ ยังคงรักษามาดเข้ ม มันอมยิม้ ภายในหมอกสี เทาหนาทึบ

สาหรับฝ่ ายที่มองว่ าเป็ นอักขระเวทมนตร์ โบราณ ไคลน์ พลันนึก


ถึงมุกตลกหนึ่งได้

จอมเวมชั่วร้ ายแต่ งกายในชุ ดดา ถลกแขนเสื้ อข้ างหนึ่งขึน้ จนเผย


ให้ เห็นสั ญลักษณ์ พเิ ศษของจักรพรรดิโรซายบริเวณหัวไหล่ เป็ น
อักษรจีนกลางสี ฟ้าตัวใหญ่ เขียนไว้ ว่า :

“逗比” (โต้ วปี่ — ตัวตลกในหมู่เพื่อน)

มุมปากไคลน์ ยกโค้ งขึน้ เล็กน้ อยเมื่อจินตนาการถึงมุกตลกสุ ดฝื ด


ของโลกเก่า อารมณ์ ของมันเริ่มแจ่ มใสขึน้ กว่ าเดิม
หลังจากได้ ยินคาอธิบายของแฮงแมน เด็กสาวผมทองแสดงสี
หน้ าครุ่นคิด

“ถ้ าพวกเราอ่านไม่ ออก… แล้วจะถ่ ายทอดข้ อมูลให้ คุณได้


อย่ างไรคะ? มิสเตอร์ ฟูล หรื อพวกเราต้ องส่ งจดหมายไปที่ใดสั ก
แห่ ง?”

เป็ นคาถามที่น่าสนใจ… ไคลน์ ไม่ คิดเสี่ ยงให้ ที่อยู่ของตัวเอง การ


เชื่ อมต่ อออนไลน์ ก็ต้องทาในรูปแบบออนไลน์ เท่ านั้น…
มันไม่ รีบให้ คาตอบ มือที่กาลังประสานกันด้ านหน้ า นิว้ โป้งถูก
กางออกจากกันเล็กน้ อย ก่อนจะหุบกลับมาชนกันอีกครั้ง ทาสลับ
เช่ นนีซ้ ้าไปมา เป็ นสั ญญาณการใช้ สมองครุ่นคิด

จนกระทั่งได้ ข้อสรุป

ในเมื่อตนสามารถสร้ างห้ องประชุมศักดิ์สิทธิ์สุดหรูหราได้


ตามใจนึก เช่ นนั้นแล้ว อาจพอมีหนทางที่จะแสดงภาพใน
จินตนาการของผู้อื่นออกมา

คงต้ องทดสอบดูสักหน่ อย…

ทันใดนั้น ทั้งแฮงแมนและจัสติสเห็นเดอะฟูลลุกขึน้ ยืนท่ ามกลาง


สายหมอกสี เทา
“มิสจัสติส ช่ วยร่ วมมือทดสอบสั กหน่ อย จงนึกถึงข้ อความ
ขึน้ มาหนึ่งประโยค จากนั้นก็เพ่งสมาธิและจิตนาการภาพตัวเอง
เขียนมันลงบนกระดาษอย่ างรวดเร็ว ก่อนจะลงมือเขียนจริงด้ วย
ปากกาที่เตรียมไว้ ให้ ”

ยังไม่ ทันที่ไคลน์ จะกล่าวจบ กระดาษหนังแพะสี เหลืองน้าอม


ตาลและปากกาหมึกซึมสี ดาแดงได้ วางอยู่บนโต๊ ะเบื้องหน้ าออเดรย์

เด็กสาวจ้ องมองปากกาด้ วยท่ าทีสับสนและไม่ มั่นใจ แต่ ก็


พยายามทาตามขั้นตอนที่อีกฝ่ ายชี้แนะ เธอจินตนาการถึงกวีบท
หนึ่งซึ่งจักรพรรดิโรซายเคยแต่ งไว้

“เมื่อย่ างเข้ าเหมันต์ ใบไม้ ผลิก็ใกล้แค่ เอื้อมมิใช่ หรื อ?*”

( เป็ นคาถามเชิงปรัญชาจากหนังสื อ Ode to the West Wind อัน


โด่ งดัง - ประพันธ์ โดย Percy B. Shelley )

หลังจากจินตนาการตัวเองทาการเขียนข้ อความลงบนกระดาษ
เสร็จ ออเดรย์ หยิบปากกาหมึกซึมขึน้ มาและเริ่มลงมือเขียนจริง

ไคลน์ สัมผัสความคิดของหล่ อนโดยมีปากกาหมึกซึมเป็ น


สื่ อกลาง มันถ่ ายทอดในสิ่ งที่ออเดรย์ คิดลงบนกระดาษ

ในวินาทีที่ปลายปากกาจรดลงบนกระดาษหนังแพะ เธอพลัน
เห็นข้ อความประโยคหนึ่งถูกเขียนไว้ เสร็จสรรพ
“เมื่อย่ างเข้ าเหมันต์ ใบไม้ ผลิก็ใกล้แค่ เอื้อมมิใช่ หรื อ?”

“สุ ดยอด! มหัศจรรย์ มาก!”

ออเดรย์ โพล่งขึน้ ด้ วยน้าเสี ยงสุ ดตกตะลึง ขณะเดียวกันก็ออก


อาการเศร้ าซึม

เด็กสาวผมทองชาเลืองมองไคลน์ ด้วยสี หน้ าหวาดระแวงและตึง


เครียด

“มิสเตอร์ ฟูล… คุณอ่านความคิดของฉันได้ หรื อคะ?”

“ไม่ เลย เราเพียงชี้นาเท่ านั้น อาศัยแรงปรารถนาที่เจ้ าต้ องการ


เขียน ช่ วยถ่ ายทอดภาพที่อยู่ในหัวออกมา หากเจ้ าไม่ ต้องการ
เปิ ดเผย ข้ อความก็จะไม่ ปรากฏ”

ไคลน์ พยายามสงบสติหล่อนด้ วยน้าเสี ยงนุ่มนวล

“แบบนีน้ ี่เอง… ถ้ าอย่ างนั้น พวกเราก็แค่ จดจาสั ญลักษณ์ ของ


จักรพรรดิโรซายให้ ได้ จากนั้นค่ อยถ่ ายทอดให้ คุณภายหลังใช่
ไหม?”

ออเดรย์ ถอนหายใจยาวด้ วยสี หน้ าปลอดโปร่ ง


“ถูกต้ อง”

ไคลน์ ตอบเรียบง่ าย

“เป็ นวิธีที่ดีมาก มิสจัสติส คุณไม่ ต้องกังวลเรื่ องความสามารถใน


การจดจา หลังจากกลายเป็ น ‘ผู้ชม’ แล้ว พลังความจาของคุณจะ
พัฒนาจนอยู่ในระดับน่ าทึ่ง”

อัลเจอร์ เฝ้ามองการทดลองอย่ างใกล้ชิด มันพบว่ าเดอะฟูลผู้นี้


ทรงพลังและทรงปัญญากว่ าที่ตนจินตนาการไว้ มาก…

สาหรับอัลเจอร์ ด้ านความจาไม่ ใช่ ปัญหา หากการเลื่อนระดับ


ครั้งถัดไปสาเร็จ พลังความจาของมันจะเพิม่ ขึน้ จากเดิมหลายเท่ า

เมื่อได้ ยินแฮงแมนกล่าวเช่ นนั้น ออเดรย์ ผงกศีรษะด้ วยความเบา


ใจ

“ขอบคุณที่ช่วยเตือนค่ ะ มิสเตอร์ แฮงแมน คุณยังมีเคล็ดลับ


เกี่ยวกับเส้ นทางผู้ชมเพิม่ เติมอีกไหม?”

ขณะกล่าว เธอแอบชาเลืองไปยังหัวโต๊ ะ

“มิสเตอร์ ฟูล ดิฉันจะพยายามเต็มที่เพื่อให้ ภารกิจของคุณลุล่วง


จะใช้ เส้ นสายทั้งหมดสาหรับรวบรวมไดอารีจักรพรรดิโรซาย
จานวนมาก”
“เราเคยกล่าวไปแล้วว่ า เราชื่ นชอบที่จะแลกเปลี่ยนอย่ างเท่ า
เทียม ส่ วนค่ าตอบแทนล่วงหน้ าที่บอกใบ้ ไปเมื่อครู่ มูลค่ าของมัน
เทียบเท่ าไดอารีจานวนสองหน้ า หากรวบรวมได้ มากกว่ านั้น เราก็
จะชดเชยให้ พวกเจ้ าเพิม่ ”

ไคลน์ กล่าวด้ วยน้าเสี ยงสุ ขุมลุ่มลึก คล้ายคลึงกับผู้ใหญ่ ที่ไม่ คิด


เอาเปรียบเด็ก

แต่ ความจริงแล้ว มันกาลังเอาเปรียบ…!

เพราะในส่ วนของค่ าตอบแทนเพิม่ เติม ชายหนุ่มคิดจะนาข้ อมูล


จากไดอารีหน้ าใหม่ เหล่านั้นมาบอกเล่ากับคนทั้งสองเหมือนที่เคย
ทา หากินเป็ นวัฏจักรเวียนวนเช่ นนี้ไม่ ร้ ูจบสิ้น

“สมกับเป็ นสุ ภาพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ”

อัลเจอร์ ที่เงียบงันมานาน มันก้มศีรษะคานับพลางแนบกาปั้นไว้


บนหน้ าอก

หลังจากเงยหน้ าขึน้ อัลเจอร์ หันไปกล่าวกับจัสติส

“ผมขอเน้ นยา้ อีกครั้งก็แล้วกัน… ผู้ชมจะเป็ นได้ เพียงผู้ชมวันยัง


ค่า
“ผมเคยเห็น ‘ผู้ชม’ หลายคนที่อินกับบทบาทของนักแสดงจน
เกินพอดี จึงถูกความอารมณ์ ของนักแสดงครอบงาโดยไม่ ร้ ูตัว
ส่ งผลให้ อารมณ์ อันหลากหลายพรั่งพรูเข้ าใส่ อย่ างรุนแรง ทั้ง
หัวเราะ โมโห และร้ องไห้ นั่นไม่ ใช่ สิ่งที่ผ้ ชู มพึงกระทา

“เมื่อเผชิญหน้ ากับบุคคลในสั งคมที่สวมหน้ ากากเข้ าหากัน คน


เหล่านั้นคือนักแสดงซึ่งกาลังปกติดตัวตนที่แท้ จริง คุณห้ ามมี
อารมณ์ ร่วมไปกับคนเหล่านีโ้ ดยเด็ดขาด หน้ าที่ของคุณคือเฝ้า
สั งเกตุรายละเอียดเล็กน้ อยด้ วยความสุ ขุม เพ่งสมาธิหาสิ่ งผิดปรกติ
เช่ นอิริยาบถเมื่ออีกฝ่ ายโกหก หรื อกลิ่นอายเจือจางของอารมณ์
ประหม่ า หากทาได้ โดยสมบูรณ์ แบบ คุณจะจับโกหกมนุษย์ ทุกคน
บนโลกได้

“มนุษย์ จะมีอารมณ์ และกลิ่นเฉพาะตัวที่แตกต่ างกันไป ส่ วนมาก


มักเก็บซ่ อนไว้ ด้านในอย่ างมิดชิดโดยไม่ เปิ ดเผยให้ ใครเห็น แต่
สาหรับ ‘ผู้ชม’ ที่เก่งฉกาจ พวกเขาสามารถขุดคุ้ยกลิ่นดังกล่ าวได้
อย่ างทะลุปรุโปร่ ง

“เมื่อไรก็ตามที่คุณใช้ อารมณ์ มากเกินไป พลังสั งเกตุก็จะเริ่มเอน


เอียง การสั มผัสถึงอารมณ์ ที่แท้ จริงของผู้อื่นก็ยิ่งทาได้ ยาก เพราะ
จิตใจกาลังถูกรบกวนด้ วยอารมณ์ เข้ มข้ นของตัวเอง”

ออเดรย์ ฟังอย่ างตั้งใจ แววตาของเธอกาลังเปล่งประกายสุ ดขีด


“น่ าสนใจมาก… สุ ดยอดไปเลย!”
ไคลน์ ที่ได้ ฟังเช่ นนั้นเริ่มเข้ าใจบางสิ่ ง

หากมันตีความไม่ ผิด โอสถผู้ชมจะมีหลักการสาคัญก็คือ ‘ต้ อง


วางตัวเป็ นกลางและไม่ เข้ าไปยุ่งเกี่ยว’

เหมือนกับการสวมบทบาทเป็ นผู้ชมตัวจริงเลยแฮะ…

เดี๋ยวก่อน… สวมบทบาท?
ความหมายเดียวกับ ‘สวมบทบาท’ ที่จักรพรรดิโรซายเอ่ยถึงรึ
เปล่า?

ถ้ าอย่ างนั้น เราก็ต้องสวมบทบาทเป็ นนักทานาย เพื่อให้ ย่อยพลัง


โอสถได้ เร็วขึน้ ?

ขณะไคลน์ กาลังด่าดิ่งในห้ วงความคิด อัลเจอร์ กล่าวกับออเดรย์


ว่ า ตัวมันไม่ มีคาแนะนาใดเพิม่ เกี่ยวกับโอสถผู้ชมอีกแล้ว

ไคลน์ กวาดสายตามองหนึ่งรอบ

“หมดธุระหรื อยัง?”

“ผมคิดว่ า พวกเราควรแลกเปลี่ยนข้ อมูลรอบตัวสั กเล็กน้ อย


เพื่อให้ ทราบความเป็ นไปของโลกในมุมที่แตกต่ างกัน สาหรับคุณ
อาจเป็ นเรื่ องด้ อยค่ า แต่ สาหรับพวกเรา ข้ อมูลเหล่านีอ้ าจมี
ประโยชน์ มหาศาล”

“ไม่ มีปัญหา”

ไคลน์ พยักหน้ าพลางเอนหลังพิงเก้าอี้

ภายในหัวชายหนุ่มกาลังครุ่นคิดหาวิธี ‘สวมบทบาท’ เป็ นนัก


ทานาย ดังนั้นข้ อมูลทั้งหมดจึงเป็ นสิ่ งที่มีค่า ไม่ ว่าจะเล็กน้ อย
เพียงใดก็ตาม

ความเห็นของอัลเจอร์ จึงนับว่ าน่ าสนใจมากทีเดียว และการ


แลกเปลี่ยนข้ อมูลคงไม่ ทาให้ ตนตกเป็ นฝ่ ายเสี ยเปรียบ

“ถ้ าอย่ างนั้น เริ่มที่คุณก่อนดีไหมคะ? มิสเตอร์ แฮงแมน”

ออเดรย์ กาลังตื่นเต้ น

อัลเจอร์ ครุ่นคิดเล็กน้ อยก่อนจะเล่า

“โจรสลัดต่าทรามที่เรียกตัวเองว่ า นายพลโจรสลัด·ลูเธอร์ ไวล์


เริ่มล่องเรื อสารวจสุ ดขอบตะวันออกของทะเลโซเนียอีกครั้ง”

“หือ? เจ้ าของ ‘ทิวลิปดา’ น่ ะหรื อ?”


ออเดรย์ ถามพลางครุ่นคิด

“ถูกต้ อง”

อัลเจอร์ พยักหน้ า

ไม่ ร้ ูจักเลยแฮะ… ไคลน์ นั่งฟังอย่ างเงียบงัน ขณะเดียวกันก็


ครุ่นคิดถึงข้ อมูลที่ตนจะนาไปแลกเปลี่ยนกับทั้งสอง

ต้ องเป็ นข้ อมูลซึ่งไม่ เปิ ดเผยตัวตน แต่ ก็ต้องมีน้าหนักมากพอจะ


สร้ างความน่ าเชื่ อถือ

พลังจากไตร่ ตรองสั กพัก มันก็ได้ ข้อสรุป ไคลน์ ยังคงรักษามาด


เคร่ งขรึมของเดอะฟูลไว้ ชายหนุ่มใช้ ปลายนิว้ เคาะโต๊ ะทองเหลือง
อย่ างนุ่มนวล

“เท่ าที่เราทราบ ลิทธิเร้ นลับได้ ทาสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัส


สู ญหาย”

นี่มิใช่ ข้อมูลเฉพาะของเหยี่ยวราตรีสาขาทิงเก็นเท่ านั้น แต่


ผู้วเิ ศษที่เกี่ยวข้ องทั้งหมด รวมถึงสมาชิกลัทธิเร้ นลับก็ย่อมทราบ
ไม่ มีทางถูกสื บสาวถึงตัวตนด้ วยข้ อมูลนีแ้ น่

“สมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัส?”
อัลเจอร์ ส่ายศีรษะพร้ อมกับฉีกยิม้ กว้ าง

“ถ้ าโบสถ์ เทพธิดารัตติกาลรู้เรื่ องนีเ้ ข้ า พวกมันจะมีท่าทีเช่ นไร


กัน…”

เดี๋ยวก่อน… ทาไมนายถึงเอ่ยชื่ อโบสถ์ เทพธิดารัตติกาลออกมา


ตั้งแต่ คาแรก? ไคลน์ สัมผัสถึงลางร้ าย แต่ มันไม่ กล้ าเอ่ยปากถาม
การกระทาน่ าอับอายรังแต่ จะทาให้ สูญเสี ยภาพลักษณ์ เดอะฟูลโดย
เปล่าประโยชน์
ทันใดนั้น ออเดรย์ โพล่งด้ วยน้าเสี ยงฉงน

“ทาไมต้ องมีท่าทีด้วย? โบสถ์ เทพธิดาเกี่ยวพันกับเรื่ องนีอ้ ย่ างไร


หรื อ?”

อัลเจอร์ ยังคงยิม้

“ตระกูลอันทีโกนัสถูกทาลายด้ วยน้ามือโบสถ์ เทพธิดารัตติกาล

“ไม่ แน่ ใจว่ า เหตุการณ์ เกิดขึน้ ในตอนปลายยุสสมัยที่สี่ หรื อว่ า


ต้ นยุคสมัยที่ห้า”

นั่นมัน… นัยน์ ตาไคลน์ พลันหดลีบ ร่ างกายเย็นวาบไปถึงไขสั น


หลัง
กะแล้วเชียว

มิน่า… เหยี่ยวราตรีเมืองทิงเก็นถึงได้ ให้ ความสาคัญกับสมุด


บันทึกอันทีโกสมากขนาดนั้น

และสาเหตุที่เหยี่ยวราตรี ‘ตอบแทน’ ตนด้ วยการเลื่อนระดับให้


เป็ นผู้วิเศษ แม้ จะอ้างว่ าตอบแทนในเรื่ องที่ช่วยเหลือจับกุมตัว
สมาชิกลิทธิเร้ นลับ แต่ ความจริงแล้วไม่ ใช่ เลย เหยี่ยวราตรีเพียง
ต้ องการให้ มันเพิม่ สั มผัสวิญญาณ เพื่อที่จะได้ พบเบาะแสสมุด
บันทึกเล่มดังกล่ าวได้ ง่ายขึน้ !

หัวหน้ าไม่ ได้ ปกปิ ด ดันน์ ·สมิทเคยพูดเกริ่นไว้ แล้วหลายครั้ง


เพียงแต่ ตัวมันไม่ เอะใจ…

หลังจากได้ ยินคาอธิบายจากแฮงแมน เด็กสาวผมทองแสดงสี


หน้ าตื่นเต้ นยิ่งกว่ าเก่า

“ไม่ เคยได้ ยินมาก่อนว่ ามีเรื่ องแบบนั้นเกิดขึน้ ด้ วย…

“เอาล่ะ ถึงตาฉันแล้ว ขอนึกก่อนนะคะว่ าจะเล่าเรื่ องไหนดี”

ทายาทขุนนางสาวสวยเอียงคอครุ่นคิดโดยใช้ มือข้ างหนึ่งรอง


ศีรษะไว้
“เมื่อวาน… ครูสอนมารยาทได้ สอนวิธีการเป็ นลมอย่ างสง่ างาม
โดยไม่ เสี ยจริตของสตรีและไม่ ได้ รับบาดเจ็บ เพื่อที่จะได้ ใช้ หลีก
หนีจากสถานการณ์ อึดอัดหรื อขณะถูกผู้ชายตามจีบ… ฮิฮิ ขออภัย
ค่ ะ ที่เล่าไปเมื่อครู่เพราะกาลังเรียบเรียงความทรงจา…

“ของจริงที่จะเล่าก็คือ หลังจากอาณาจักรโลเอ็นพ่ายแพ้ในสนาม
รบชายฝั่งตะวันออกของไปลัน ทั้งกษัตริย์ รัฐมนตรี และเหล่าขุน
นางต่ างพากันตึงเครียดอย่ างหนัก พวกเขาต้ องการความ
เปลี่ยนแปลง”
ราชันย์ เร้ นลับ 36 : คาถามง่ ายๆ หนึ่งข้ อ

หลังจากหยุดครุ่นคิดถึงบทสนทนาของบิดาและพีช่ ายเล็กน้ อย
ออเดรย์ กล่าวต่ อ

“พวกเขามองว่ าระบบรัฐบาลค่ อนข้ างเปราะบาง ในทุกการ


เลือกตั้ง หากฝ่ ายที่ชนะเปลี่ยนขั้ว เจ้ าหน้ าที่รัฐบาลจะถูกเปลี่ยน
ตั้งแต่ ระดับสู งสุ ดจนถึงต่าสุ ด ระบบบริหารจะโกลาหลไปหมด
ส่ งผลให้ พ่ายแพ้สงคราม ประสิ ทธิภาพของรัฐบาลใหม่ จึงต่ากว่ า
ปรกติมาก แถมยังสร้ างความลาบากใจให้ พลเรื อนอีกด้ วย”

ไคลน์ ทราบดีว่า อาณาจักโลเอ็นไม่ มีระบอบการปกครองที่มี


ประสิ ทธิภาพให้ อ้างอิง จึงยังเกิดระบบ ‘ข้ าราชการ’ ขึน้ คลับคล้าย
กับยุคสมัยเริ่มต้ นทางการเมืองของโลกเก่า

ส่ งผลให้ ทุกครั้งที่เลือกตั้งจบและอานาจเปลี่ยนขั้ว อานาจใหม่


ต้ อง ‘ตอบแทน’ ผู้สนับสนุนด้ วยการมอบตาแหน่ งบริหารให้

หืม… แล้วเหตุใดจักรพรรดิโรซายถึงไม่ พฒ
ั นาระบบข้ าราชการ
ขึน้ มาสั กที?

หรื อจะไม่ ชอบเป็ นการส่ วนตัว?


หรื อในบั้นปลายชีวิตมัวแต่ เพ่งความสนใจไปกับเรื่ องอื่น?
ทันใดนั้น แฮงแมน—อัลเจอร์ ·วิลสั น ส่ งเสี ยงคิกคัก

“เพิง่ จะคิดได้ อย่ างนั้นหรื อ? ความรู้สึกช้ ากันจังนะ สงสั ยถ้ าถูก


ยุงทมิฬกัด กว่ าจะรู้ตัวเข้ าก็คงปาไปอีกหนึ่งปี ให้ หลัง”

ยุงทมิฬคือสิ่ งมีชีวิตสุ ดป่ าเถื่อนที่อาศัยทางตอนใต้ ของ


อาณาจักรโลเอ็น พิษของมันรุนแรงมาก ผู้ที่ได้ รับพิษจะถูกกระตุ้น
ให้ ฉีกกระชากผิวหนังตัวเองทั้งเป็ น
ออเดรย์ เลื่อนมือขึน้ มาจับคางครุ่นคิด เธอไม่ ใส่ ใจถ้ อยคาเหยียด
หยันจากแฮงแมน เด็กสาวผมทองกล่าวเข้ าประเด็นหลัก

“แต่ น่าเสี ยดาย พวกเขามองหาวิธีที่ดีกว่ าปัจจุบันไม่ พบ”

ไคลน์ ต้งั ใจฟังเป็ นพิเศษ เพราะนี่คือสิ่ งที่มันถนัดและสามารถ


เฉิดฉาย เดอะฟูลแสยะยิม้ อย่ างมีเลศนัยท่ ามกลางกลุ่มหมอก

มันตอบสั้ นห้ วน

“แก้ได้ ง่ายมาก”

จักรวรรดิแห่ งอาหารมีระบบการปกครองที่ยอดเยี่ยมมาตั้งแต่
สมัยอดีต จนหลายชาติต่างหยิบยืมไปใช้ เป็ นแบบอย่ าง ไคลน์ ย่อม
เจนจัดในเรื่ องดังกล่าว ระบบ ‘จอหงวน’ เป็ นสิ่ งที่โด่ งดังของการ
ปกครองจีนสมัยอดีต

“ง่ ายหรื อคะ?”

ออเดรย์ ถามกลับ สี หน้ าของเธอค่ อนข้ างตกตะลึง

แม้ จะไม่ ได้ ศึกษาด้ านการเมืองโดยตรง แต่ ก็มีบ่อยครั้งที่ได้ ฟัง


บทสนทนาระหว่ างพีช่ ายและบิดา ส่ งผลพอจะให้ มีความรู้ด้าน
การเมืองอยู่บ้าง
ไคลน์ เค้ นสมองนึกถึงกระดานดาของวิชาสั งคมศึึกษาเมื่อหลาย
ปี ก่อน

“จัดการสอบขึน้ แบบเดียวกับการสอบเข้ ามหาวิทยาลัย เปิ ดการ


สอบให้ ประชาชนทั่วไปมีสิทธิเข้ าร่ วม จะแบ่ งคัดเลือกเป็ นสองรอบ
หรื อตามรอบก็ได้ ขึน้ อยู่กับความเหมาะสม แต่ เนื้อหาของข้ อสอบ
ต้ องเกี่ยวพันกับตาแหน่ งที่รับ เพื่อให้ ได้ บุคคลากรระดับหัวกะทิเข้ า
ทางาน”

“แต่ ว่า…”

ออเดรย์ ทราบว่ าการสอบเช่ นนีจ้ ะนามาซึ่งสิ่ งใด แต่ ก่อนจะมี


โอกาสได้ เรียบเรียงคาพูด ไคลน์ กล่าวแทรก
“จากนั้น ให้ เหล่าหัวกะทิที่ผ่านการคัดเลือกทางานในตาแหน่ งที่
สาคัญเช่ นข้ าราชการสภา ข้ าราชการรัฐ ข้ าราชการประจาหัวเมือง
ข้ าราชการประจาเขต และเลขาธิการสภา ใช่ แล้ว ต้ องเป็ นตาแหน่ ง
ที่ใช้ ความรู้ความสามารถขับเคลื่อนอาณาจักรได้

“ตาแหน่ งที่ต่างกัน ควรใช้ บุคคลที่มีความถนัดแตกต่ างกันไป


การสอบรอบที่สองหรื อรอบที่สามจะเป็ นตัวระบุความถนัดและ
ความสาคัญของหน่ วยงานที่ทา งานที่จาเป็ นต้ องใช้ ผ้ เู ชี่ยวชาญ ก็
ต้ องปล่อยให้ ผ้ เู ชี่ยวชาญจัดการ

“ส่ วนตาแหน่ งทางการเมืองที่สาคัญอย่ างรัฐมนตรี ประมุขรัฐ


หรื อเทศมนตรีเมือง ในส่ วนนี้ปล่อยให้ เป็ นฝ่ ายที่ชนะการเลือกตั้ง
เข้ ามาบริหาร นั่นคือเวทีของนักการเมือง”

อัลเจอร์ ที่เคยไม่ แยแสด้ านการเมือง มันถึงกับหันมาฟังด้ วยสี


หน้ าสนใจ ขณะเดียวกัน ออเดรย์ ขมวดคิว้ ครุ่นคิดเป็ นการใหญ่

“ไม่ จาเป็ นต้ องเปลี่ยนระบบปกครองทั้งหมดในคราวเดียว


เพราะหากเป็ นเช่ นนั้น ระบบปัจจุบันอาจถึงคราวพิการไปชั่วขณะ

“การสอบคัดเลือกจะจัดขึน้ ทุกปี หรื อทุกสามปี ก็ได้ ให้ พจิ ารณา


ตามความเหมาะสม แถมตาแหน่ งเหล่านี้ยังต้ องมีการเปลี่ยนแปลง
อย่ างต่ อเนื่องตามธรรมชาติครรลองของมัน

“เมื่ออาณาจักรขยายตัวและมีตาแหน่ งว่ างเกิดขึน้ รวมถึงการ


เกษียณอายุของข้ าราช วิธีจัดการกับตาแหน่ งที่ว่างอยู่ก็คือ ให้
คัดเลือกบุคลากรในหน่ วยงานเดิมขึน้ มาดารงตาแหน่ งแทน และ
เมื่อเลื่อนขึน้ แบบขั้นบันได ตาแหน่ งระดับล่ างสุ ดที่ว่างลง จะให้
บุคคลที่สอบผ่ านในปี นั้นได้ บรรจุเข้ าทางาน”

ไคลน์ กาลังสาแดงฝี มือนักการเมืองคีย์บอร์ ดอย่ างช่าชอง แขน


ทั้งสองยื่นออกมาด้ านหน้ าพลางกล่าวต่ อ

“ด้ วยระบบการปกครองเช่ นนี้ รัฐบาลจะได้ บุคลากรที่มี


ประสิ ทธิภาพเข้ ามาทางาน และไม่ ว่าผลการเลือกตั้งจะเปลี่ยนขั้ว
อานาจหรื อไม่ แต่ ระบบบริหารสามารถดาเนินต่ อไปได้ อย่ างมั่นคง
และไม่ เสี ยศู นย์ ”

แต่ แน่ นอน ผลเสี ยคือความล่าช้ าของระบบ เนื่องจากต้ อง


ดาเนินงานผ่ านขึน้ มาทีละขั้น กว่ าจะถึงระดับบริหารก็เสี ยเวลาไป
มาก นี่คือจุดด้ อยใหญ่ หลวงของระบบข้ าราชการที่ทั่วโลกแก้ไม่ ตก

ขณะออเดรย์ กาลังตกผลึกคาแนะนาของเดอะฟูล เธอถามด้ วยสี


หน้ าฉงน

“คุณกาลังจะบอกว่ า ถ้ าปกครองในวิธีดังกล่าว การเปลี่ยนถ่ าย


รัฐบาลจะไม่ กระทบต่ อการบริหารอาณาจักรใช่ ไหมค่ ะ? ต่ อให้
รัฐมนตรีชุดใหม่ จะเป็ นพวกลิงบาบูนขนดกก็ตาม”

“ผิดแล้ว”
อัลเจอร์ รีบแทรก

“ผมเชื่ อว่ าลิงบาบูนขนดกบริหารประเทศได้ ดีกว่ ารัฐมนตรีชุด


นี”้

มันชะงักครู่หนึ่งก่อนจะเสริม

“เพราะเหนือสิ่ งอื่นใด บาบูนต้ องการเพียงกิน นอน และผสม


พันธุ์ พวกมันไม่ ทาเรื่ องสุ ดบัดซบอย่ างการเสนอนโยบายงี่เง่ า
หรื อไม่ ก็ยืนกรานที่จะลงทุนในโครงการไร้ สาระ”

มิสเตอร์ แฮงแมน… ฟังจากน้าเสี ยงแล้ว หัวหน้ าของคุณคงระยา


พอสมควรเลยนะ

ไคลน์ นั่งส่ ายศีรษะอย่ างขบขันที่หัวโต๊ ะ

ออเดรย์ พยายามเรียบเรียงความคิดที่เดอะฟูลเสนอแนะ
หลังจากผ่ านไปครู่หนึ่ง น้าเสี ยงของเธอเริ่มเจือปนความตื่นเต้ น

“บางที มันอาจได้ ผลก็ได้ …

“เป็ นวิธีที่ง่ายได้ มีประสิ ทธิภาพสู งมาก!”

เธอหันมองไคลน์ ด้วยสี หน้ าและแววตาเคารพเทินทูน


“มิสเตอร์ ฟูล คุณคงเป็ นผู้อาวุโสที่มีปัญญาและความรู้กว้ างขวาง
ดุจดังมหาสมุทร …ใช่ ไหมคะ?”

…มุมปากของชายหนุ่มยกขึน้ เล็กน้ อย สายตากวาดมองสลับไป


มาระหว่ างจัสติสและแฮงแมนที่นั่งเงียบงัน

“วันนีพ้ อแค่ นกี้ ่อนก็แล้วกัน”

หากมิสจัสติสสามารถโน้ มน้ าวให้ ตระกูลของเธอช่ วยผลักดัน


ระบอบปกครองใหม่ ได้ จริง ไคลน์ ควรรีบแจ้ งให้ เบ็นสั นทราบ
ตั้งแต่ เนิ่นๆ เพื่อจะได้ เตรียมตัวสอบเป็ นข้ าราชการโดยมีความรู้
เต็มเปี่ ยม

หลังจากไตร่ ตรองมาหลายวัน เบ็นสั นเหมาะกับงานประเภท


ข้ าราชการมาก

แต่ แน่ นอน มิสจัสติสคงไม่ มีทางใช้ ตระกูลตัวเองออกหน้ า


ผลักดันกฎหมาย เพราะไม่ อย่ างนั้น ทั้งตนและแฮงแมนจะทราบ
ทันทีว่าตัวจริงของมิสจัสติสคือใคร

ทว่ า เธอสามารถลอบทาอย่ างลับๆ ได้ โดยให้ ตระกูลอื่นออกหน้ า


แทน

“สุ ดแล้วแต่ ท่าน”


ออเดรย์ แล้วอัลเจอร์ ลุกขึน้ ทาความเคารพพร้ อมกัน

ไคลน์ เอนหลังพิกพนักพลางตัดการเชื่ อมต่ อดาวแดงทั้งสอง


ทันใดนั้น ภาพร่ างจัสติสและแฮงแมนพลันพร่ ามัว ก่อนจะแตก
กระจายเป็ นชิ้นเล็กชิ้นน้ อย

ท่ ามกลางสายหมอกสี เทา ท่ ามกลางพระราชวังศักดิ์สิทธิ์ที่คล้าย


กับวังสถิตย์ ของเหล่าเทพ ไคลน์ ยังคงนั่งตามลาพังที่ตาแหน่ งผู้
ทรงเกียรติ
ชายหนุ่มไม่ รีบตัดการเชื่ อมต่ อและกลับโลกเก่าเหมือนคราวก่อน
สาเหตุเพราะ พลังผู้วิเศษได้ ช่วยให้ จิตของมันแข็งแกร่ งขึน้ กว่ าเดิม

ชายหนุ่มตัดสิ นใจเลิกชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์เร็วกว่ าปรกติ เพราะได้


ทราบถึงท่ าทีที่เหยี่ยวราตรีมีต่อสมุดบันทึกอันทีโกนัส ตัวมัน
จาเป็ นต้ องพยายามค้ นหาสมุดบันทึกให้ มากกว่ านี้ หากเอาแต่ นอน
ตีพุงอยู่บ้านโดยไม่ ทาประโยชน์ ดันน์ คงเกิดความหวาดระแวงและ
คาถามว่ า …ตนมัวทาอะไรอยู่

ไม่ เพียงเท่ านั้น ไคลน์ ยังได้ รับผลประโยชน์ ค่อนข้ างมากใน


ชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์เมื่อครู่

ชายหนุ่มยังคงเอนหลังพิงพนักเก้าอีส้ ู งยาว แขนสองข้ างวาง


ผ่ อนคลางลงบนที่พกั แขน ฝ่ ามือประสานกันเบื้องหน้ า สายตา
กวาดมองรอบห้ วงมิติสายหมอกอันกว้ างใหญ่ ที่เงียบสงัดประหนึ่ง
รกร้ างมานานกว่ าล้านปี

หลังจากสร้ างการเชื่ อมต่ อเพื่ออัญเชิญแฮงแมนและจัสติสใน


วันนี้ ไคลน์ ได้ ทราบข้ อมูลใหม่ เพิม่ อีกหนึง่ ข้ อ

นั่นคือ… เมื่อกลายเป็ นผู้วิเศษ ตนสามารถสร้ างการเชื่ อมต่ อกับ


ดาวแดงเพิม่ ได้ อีกหนึ่งดวง!

“หมายความว่ า เราอัญเชิญแขกเพิม่ ได้ อีกหนึ่งคนอย่ างนั้น


หรื อ?”

ไคลน์ ย้อนนึกถึงความรู้สึกในวินาทีดังกล่าวก่อนจะพึมพากับ
ตัวเอง

แต่ มันก็ไม่ กล้าลงมืิออัญเชิญผู้ใด เพราะไม่ มีทางทราบได้ เลยว่ า


สมาชิกใหม่ จะมีตัวตนและอุปนิสัยเป็ นเช่ นไร จะเป็ นมิตรและเก็บ
ความลับได้ ดีเหมือนแฮงแมนและจัสติสหรื อไม่

หากมันเกิดซวยอัญเชิญโดนดันน์ ·สมิทเข้ าชุ มนุมไพ่ทาโร่ ต์


องค์ กรลับที่มันก่อตั้งขึน้ อย่ างยากลาบากก็จะอยู่ในสายตาของ
โบสถ์ เทพธิดารัตติกาลทันที

ในฐานะบอสใหญ่ แห่ งองค์ กรลับ ‘ชั่วร้ าย’ มันกาลังเป็ นห่ วง


อนาคตของตัวเอง
ไคลน์ ทราบดีว่า มิติสายหมอกแห่ งนีเ้ ป็ นปริศนาเร้ นลับใน
ระดับสู ง ไม่ ใช่ สิ่งที่ผ้ วู ิเศษระดับดันน์ ·สมิทหรื อใกล้เคียงจะมอง
ออกได้ ง่าย

มันมิได้ กลัวเหยี่ยวราตรีหรื อดันน์ ·สมิท แต่ สิ่งที่กาลังหวาดกลัว


คือ ในเมื่อพลังพิเศษมีอยู่จริง ย่ อมหมายความว่ า เทพก็มีอยู่จริง
ด้ วยเช่ นกัน และคงแข็งแกร่ งกว่ าผู้วิเศษลาดับสู งหลายเท่ า

แต่ คงมีเหตุผลบางประการทีท่ าให้ เทพปรากฏตัวต่ อหน้ ามนุษย์


ไม่ ได้

อย่ างน้ อย นับตั้งแต่ ยุคสมัยที่ห้าเป็ นต้ นมา ไม่ เคยมีหลักฐานว่ า


มนุษย์ คนใดเคยพบเทพมาก่อน สิ่ งเดียวที่ปรากฏคือคาพยากรณ์
จากเทพซึ่งก็มีจานวนไม่ มาก

“อา… การลากคนเข้ าร่ วมประชุมโดยไม่ ผ่านความสมัครใจ คง


ไม่ ใช่ ความคิดที่ดีนัก ไม่ มีใครต้ องการถูกดึงมายังมิติเร้ นลับซึ่ง
อธิบายเหตุผลไม่ ได้ … เรื่ องนีไ้ ว้ ค่อยตัดสิ นใจอีกครั้งในอนาคต”

ไคลน์ ถอนหายใจยาวพลางลุกขึน้ ยืน

มันลงมือตัดการเชื่ อมต่ อกับห้ วงมิติสายหมอก ทันใดนั้น ภาพ


การมองเห็นพลันหมุนเคว้ งและหล่นวูบ
หมอกสี เทาและดาวแดงเลือนหายไป ร่ างกายไคลน์ เจ็บแปลบ
เล็กน้ อยคล้ายกับถูกผิวน้าซัดกระแทก จนกระทั่งภาพในดวงตา
กลับกลายเป็ นโลกความจริง—ห้ องนอนอันมืดมิดของมัน

ไคลน์ กลับออกมาโดยปราศจากอาการเหนื่อยล้าเจียนตายเหมือน
คราวก่อน ประสบการณ์ เมื่อครู่จึงยังคงเด่ นชัด

“น่ าแปลก… ห้ วงมิติสายหมอกไม่ เหมือนกับโลกวิญญาณที่


ลุงนีลล์อธิบาย…”

ไคลน์ พยายามขยับแขนขาเพื่อสั มผัสถึงการมีอยู่ของอวัยวะ

หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน มันทาได้ เพียงส่ ายศีรษะอย่ างไร้ คาตอบ


ก่อนจะลุกขึน้ ไปเปิ ดม่ านที่มุขหน้ าต่ าง

พรื ด!

เมื่อม่ านถูกเก็บ แสงแดดยามบ่ ายจึงสาดส่ องเข้ ามาด้ านในจน


ห้ องเริ่มสว่ าง

ชายหนุ่มจ้ องมองผู้คนที่เดินขวักไขว่ สวนกันไปมาบนถนน


ด้ านล่ าง ไคลน์ สูดลมหายใจเต็มปอดก่อนพึมพากับตัวเองเสี ยงค่ อย

“ถึงเวลาออกไปทางานแล้วสิ นะ
“แล้วเราจะสวมบทบาทเป็ นนักทานายด้ วยวิธีไหน?”
“ห้ ามรีบร้ อนเด็ดขาด… และอย่ าลืมหมั่นฝึ กฝนเนตรวิญญาณ
อย่ างต่ อเนื่อง”

กรุงเบ็คลันด์ เขตราชินี

ภาพของสตรีนามว่ าออเดรย์ ·ฮอลล์กาลังถูกสะท้ อนภายใน


กระจกเงาโต๊ ะเครื่ องแป้ง แก้มของเด็กสาวยังคงแดงระเรื่ อจาก
อาการตื่นเต้ น แววตาส่ องประกายอย่ างเจิดจ้ าจนไม่ มีใครกล้าเผชิญ

เธอไม่ สนใจรูปลักษณ์ ตัวเองแม้ แต่ น้อย สมาธิท้งั หมดเพ่งอยู่กับ


การใช้ ปากกาหมึกซึมด้ ามสี ทองที่มีทับทิมประดับประดา จดสู ตร
ผลิตโอสถผู้ชมลงในกระดาษหนังแพะเพื่อป้องกันมิให้ หลงลืม

“น้าบริสุทธิ์ 80 มิลลิลิตร สารสกัดหญ้ าฝรั่นเหมันต์ 5 หยด ผง


ดอกโบตั๋นฟันวัว 13 กรัม กลีบดอกไม้ เอลฟ์ 7 กลีบ ดวงตาปลามาน
เฮอร์ โตเต็มวัย 1 ข้ าง และโลหิตปลาดาเขาวัว 35 มิลลิลิตร”

ฟู่ ว… ออรเดรย์ ถอนหายใจอย่ างโล่งอก ก่อนจะอ่านทวนซ้าอีก


หลายครั้งเพื่อเน้ นยา้ ให้ ปราศจากข้ อผิดพลาด

ภายในใจกาลังต้ องการเต้ นราไปรอบห้ องอย่ างยินดีปรีดา แต่ ก็


ต้ องข่ มความอยากนั้นเอาไว้
หลังจากครุ่นคิดพักหนึ่ง เธอเริ่มเขียนสู ตรทางเคมีจานวนมาก
ลงไปรอบสู ตรผลิตโอสถ ออเดรย์ พยายามทาให้ กระดาษหน้ านีย้ ่ งุ
เหยิงและอ่านยากที่สุด จะได้ ไม่ มีใครถอดความออก

เมื่อไม่ มีใครอ่านมันได้ คนที่เปิ ดผ่ านก็จะมองเป็ นเพียง


หน้ ากระดาษจดสู ตรเคมีทั่วไป มิอาจค้ นพบสาระสาคัญที่ต้องการ
เก็บซ่ อน…

ฉลาดมาก! ออเดรย์ กล่าวชมตัวเองก่อนจะเริ่มขบคิดถึงหนทาง


รวบรวมวัตถุดิบ

“ต้ องไปรื้อคลังตระกูลดูก่อนว่ าพอจะมีสิ่งใดอยู่บ้าง ส่ วนที่เหลือ


ค่ อยหาวิธีแลกเปลี่ยนกับผู้อื่น…

“ถ้ าจนปัญญาที่จะรวบรวม คงต้ องพึง่ พาความช่ วยเหลือจาก


แฮงแมนหรื อเดอะฟูล… แล้วเราจะจ่ ายพวกเขาด้ วยอะไรได้ บ้าง?”

หลังจากครุ่นคิดเล็กน้ อย ออเดรย์ ปิดสมุดลง เธอนามันไปวางไว้


บนชั้นหนังสื อปะปนกับเล่มอื่น ก่อนจะเดินไปที่หน้ าประตูและ
ออกแรงบิดกลอน

สุ นัขโกลเด้ นรีทรีเวอร์ กาลังนั่งรอหน้ าห้ องอย่ างว่ านอนสอนง่ าย


ออเดรย์ ยกมุมปากขึน้ พลางเผยรอยยิม้ แสนร่ าเริงเจือความ
อ่อนโยน

“ซูซี่ ทาภารกิจได้ ดีมาก!”

“ในนิยายที่ถูกแต่ งลงหนังสื อพิมพ์ นักสื บมักมีผ้ ชู ่ วยเป็ นสุ นัข


แสนรู้เสมอ… ฉันเองก็มีสุนัขตัวใหญ่ คอยสนับสนุนผู้ชมตัวจริง
เหมือนคนอื่นเค้ าด้ วย~”


ณ ห้ องใต้ ดินที่มีเพียงแสงเทียนไขไสววูบวาบ อัลเจอร์ ·วิลสั นยก
ฝ่ ามือขึน้ พลางเพ่งพิจารณารายละเอียด

หลังจากผ่ านไปสั กพัก มันทาได้ เพียงถอนหายใจยาว

“น่ าอัศจรรย์ มาก… เรามิอาจหาเหตุผลมาอธิบายได้ เลย”

แม้ จะเตรียมอุปกรณ์ มากมายสาหรับวิเคราะห์ สืบหาต้ นตอ แต่


มันก็ยังไม่ พบคาตอบสั กทีว่า เดอะฟูลใช้ วิธีใดอัญเชิญจิตของมัน
เข้ าไปในห้ วงมิติสายหมอก

สายตาก้มลงมองแผ่ นกระดาษหนังแพะที่วางบนโต๊ ะอย่ างเหม่ อ


ลอย
หัวกระดาษสี น้าตาลอมเหลืองถูกเขียนไว้ ด้วยอักษรเฮอร์ มิสห
มึกสี น้าเงินเข้ มว่ า...

“ลาดับเจ็ด กะลาสี ”
ราชันย์ เร้ นลับ 37 : สโมสร

ไคลน์ เดินทางออกจากบ้ านภายใต้ แสงแดดแผดเผายามบ่ ายแก่

เมื่อมีแผนเดินเท้ าจากถนนกางเขนเหล็กไปยังบ้ านเวิร์ช ไคลน์


เลือกสวมเสื้ อลินินตัวเก่ ามากกว่ าชุดทางานใหม่ เอี่ยม บนศีรษะ
สวมหมวกสั กหลาด รองเท้ าเป็ นคู่เก่าของไคลน์ ก่อนฆ่ าตัวตาย
ทั้งหมดก็เพื่อมิให้ กลิ่นเหงื่อเหม็นอับติดชุดทางานแสนแพง

ชายหนุ่มเดินไปบนถนนดารารัตน์ ก่อนจะตัดเข้ าถนนกางเขน


เหล็กและเดินผ่ านเขตจัตุรัสใจกลาง สายตาชาเลืองมองเข้ าไปด้ าน
ในตามจิตใต้ สานึก

กระโจมคณะละครสั ตว์ ไม่ อยู่อีกแล้ว พวกมันคงย้ ายสถานที่


หลังจากการแสดงจบลง

ไคลน์ ย้อนนึกถึงผู้ผึกสั ตว์ สาวสวย มันคิดมาเสมอว่ า เธออาจ


เป็ นผู้วิเศษปกปิ ดตัวตนที่แอบชี้นาอนาคตของมันอย่ างลับๆ
หลังจากมองเห็นความพิเศษในตัว

จึงมีโอกาสที่เธอจะปรากฏตัวต่ อหน้ ามันอีกครั้งในอนาคต เพื่อ


ช่ วยบอกใบ้ เพิม่ เติม
แต่ ความจริงแล้วไม่ ใช่ ผู้ฝึกสั ตว์ คนดังกล่าวหายไปพร้ อมกับ
คณะละครสั ตว์ ป่ านนี้คงกาลังตระเวนทัวร์ ในเมืองอื่น

หล่อนจะรู้สึกอย่ างไรบ้ างนะ หากต้ องคอยแสดงซ้าเดิมไปเรื่ อยๆ


ในแต่ ละเมือง…

ไคลน์ ส่ายศีรษะพลางยิม้ จืดชื ด มันสื บเท้ าเดินต่ อไปบนถนน


กางเขนเหล็ก

ถนนกางเขนเหล็กมิใช่ ถนนเส้ นตรงทั่วไป ตามชื่ อของมัน ถนน


กางเขนเหล็กประกอบด้ วยถนนสองเส้ นตัดกันเป็ นรูปกาเขน แบ่ ง
ออกเป็ นสี่ เขต คือฝั่งขวา ฝั่งซ้ าย สายบน และสายล่าง

ไคลน์ เบ็นสั น และเมลิสซ่ าเคยอยู่สายล่างมาก่อน แต่ สายล่ างเอง


ก็ถูกแบ่ งแยกย่ อยเป็ นส่ วนล่ างกับส่ วนบน ผู้พกั อาศัยในเขตสาย
ล่างตอนบนไม่ พอใจที่ถูกเรียกเหมารวมกับเขตสายล่างที่แออัด จึง
ทาการเปลี่ยนชื่ อเรียกถนนสายล่างตอนบนเสี ยใหม่ ว่า ‘ถนนสาย
กลาง’

แตกต่ างจากเขตที่อยู่ถัดลงไปราวสองร้ อยเมตรค่ อนข้ างมาก


บริเวณดังกล่างคือเขตชุมชนแออัดอย่ างแท้ จริง หนึ่งเตียงนอน
จะต้ องรองรับน้าหนักมนุษย์ ยากจนตั้งแต่ ห้าถึงสิ บคน

เมื่อย่ างเข้ าถนนฝั่งซ้ าย ไคลน์ ปล่อยความคิดตัวเองให้ ไหลลื่น


มันหวนนึกถึงรูปลักษณ์ และรายละเอียดของสมุดบันทึกตระกูลอัน
ทีโกนัส รวมถึงจุดที่ไคลน์ คนเก่าอาจนาสมุดไปไปซ่ อน
สมุดเล่มดังกล่าวสาคัญกับเหยี่ยวราตรีค่อนข้ างมาก และยังเป็ น
เบาะแสการตายของไคลน์

สี หน้ าของชายหนุ่มดามืดขณะครุ่นคิด

ทันใดนั้น สุ้ มเสี ยงที่ค้ นุ เคยดังแว่ วข้ างหู

“พ่อหนุ่ม”
อะ…! ไคลน์ รีบหันมองตามสั ญชาตญาณ แล้วก็พบว่ า ตนกาลัง
ยืนอยู่หน้ าร้ านขนมปังสลินที่เมลิสซ่ าโปรดปราน

มาดามเวนดีผ้ ้ มู ีสีผมหงอกเทาได้ กล่าวทักทายด้ วยรอยยิม้ อบอุ่น

“สี หน้ าไม่ ค่อยดีเลยนะ?”

หญิงชราไต่ ถามอ่อนโยน

ไคลน์ ลูบหน้ าตัวเองเล็กน้ อย

“นิดหน่ อยครับ”

“ไม่ ว่าเธอจะกังวลมากเพียงใด แต่ วันพรุ่งนีย้ ังมีเสมอ”


มาดามเวนดีก้ ล่าวด้ วยรอยยิม้

“ลองชิมชาเย็นสู ตรใหม่ หน่ อยไหม? ฉันยังไม่ มั่นใจว่ ารสชาติจะ


ถูกปากคนท้ องถิ่น”

“คนท้ องถิ่น? แล้วคุณไม่ ใช่ หรื อครับ? มาดามสลิน”

ไคลน์ ขมวดคิว้ ฉงน แต่ มันก็มิได้ ขัดข้ องคาเชื้อเชิญ ของฟรีย่อม


ดีเสมอ
เวนดี·้ สลินเชิดคางขึน้ เล็กน้ อย

“เดาถูกแล้ว ฉันไม่ ใช่ คนที่นี่ เกิดและเติบโตที่รัฐตอนใต้ แต่ ย้าย


มาอยู่ทิงเก็นตามสามี… เรื่ องราวก็ผ่านมาสี่ สิบกว่ าปี แล้ว ตอนนั้น
เบ็นสั นยังไม่ เกิด บางทีพ่อกับแม่ เธอยังไม่ ร้ ูจักกันด้ วยซ้า ฮิฮิฮิ

“ฉันยังไม่ ชินกับอาหารรัฐเหนือสั กที บ่ อยครั้งที่คิดถึงอาหาร


ของรัฐใต้ เช่ นไส้ กรอกหมู ขนมปังมันฝรั่ง แพนเค้ กปิ้ ง ผักทอดมัน
หมู แล้วก็เนื้อย่ างราดซอสพิเศษ

“อ้อ รวมถึงชาเย็นด้ วย…”

ไคลน์ อมยิม้
“มาดามสลินครับ เรื่ องเล่าของคุณทาให้ ผมถึงกับท้ องร้ อง…
ขอบคุณสาหรับความห่ วงใยครับ ผมรู้สึกดีขนึ้ มากแล้ว”

“รสชาติอาหารอร่ อยสามารถชาระล้างจิตใจได้ เสมอ”

เมื่อกล่าวจบ เวนดี·้ สลินยื่นแก้วชาสี น้าตาลอมแดงมาให้

“นี่คือชาเย็นที่ชงจากสู ตรในความทรงจาอันเลือนลาง ลองชิมดู


แล้วบอกกับฉันว่ ารสชาติเป็ นอย่ างไร”

หลังจากก้มศีรษะขอบคุณ ไคลน์ รับถ้ วยชามาจิบหนึ่งอึก… รส


สั มผัสคล้ายคลึงกับชาเย็นบนโลกเก่า เพียงแต่ กลิ่นและรสของชาจะ
เข้ มข้ นกว่ ามาก แถมยังหอมสดชื่ น ปัดเป่ าความไม่ สบายใจก่อน
หน้ าได้ หมดสิ้น

“อร่ อยมากครับ!”

ไคลน์ กล่าวชมอย่ างจริงใจ

“ได้ ยินแบบนีค้ ่ อยโล่งอก”

เวนดีอ้ มยิม้ เธอยืนมองไคลน์ ดื่มชาในถ้ วยจนหมดด้ วยสี หน้ าอิ่ม


เอม

หลังจากสนทนากับมาดามสลินเล็กน้ อยเกี่ยวกับเรื่ องย้ ายบ้ าน


ไคลน์ ออกเดินทางอีกครั้งไปบนถนนที่มันคุ้นเคยเป็ นอย่ างดี
พ่อค้ าแม่ ค้าหาบเร่ ลดจานวนลงมากในยามบ่ าย จะกลับมาคึกคัก
อีกครั้งหลังจากห้ าโมงครึ่งเป็ นต้ นไป ซึ่งเป็ นเวลาเลิกงาน

บุคคลที่ยังคงทามาค้ าขายล้วนมีสีหน้ าอิดโรยไร้ วิญญาณ

ในวินาทีที่ย่างกรายเข้ าสู่ ถนนสายกลาง—สายล่ างตอนบน หัวใจ


ไคลน์ พลันหดหู่ราวกับถูกความมืดมิดเข้ าครอบงา

เกิดเป็ นความรู้สึกท้ อแท้ และสิ้นหวังอย่ างไร้ เหตุผล …เพราะ


อะไรกัน?

ชายหนุ่มหยุดเดินและรีบสารวจตนเองและสิ่ งรอบตัว แต่ ก็ไม่


พบความผิดปรกติใดเลย…

หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก มันตัดสิ นใจเลื่อนปลายนิว้ ขึน้ ไปแตะ


หว่ างคิว้ สองครั้ง ทาทีคล้ายกับกาลังไตร่ ตรองบางสิ่ ง

ภาพการมองเห็นผันเปลี่ยน แสงออร่ าจานวนมากจากร่ างพ่ อค้ า


แม่ ค้าและคนเดินถนนสองข้ างทางเริ่มปรากฏในการมองเห็น

แต่ ก่อนจะได้ เพ่งความสนใจไปกับสุ ขภาพของใครสั กคน มันถูก


ดึงดูดให้ ต้องหันไปมองสี ออร่ าอันหม่ นหมองเข้ มข้ นที่ระบุถึงภาวะ
สิ้นหวังรุนแรง
มันมิอาจคาดเดาอารมณ์ ที่แน่ ชัดของอีกฝ่ ายได้ แต่ สิ่งหนึ่งที่แจ่ ม
แจ้ งก็คือ อารมณ์ สิ้นหวัง ซึมเศร้ า และมืดมน กาลังเอ่อล้นภายใน
ตัวมันอย่ างเข้ มข้ น

หลังจากกวาดสายตามองรอบตัวหนึ่งครั้ง แม้ แต่ ดวงอาทิตย์ ก็มิ


อาจลบล้างความดามืดดังกล่าวออกไปได้ ราวกับเป็ นอารมณ์ ที่ถูก
กักเก็บไว้ ในใจมานานหลายปี โดยไม่ ได้ ปลดปล่อย

หลังจากครุ่นคิดชั่วครู่ ไคลน์ เริ่มตระหนักถึงสั จธรรมของบาง


สิ่ ง

ดังคาที่ลุงนีลล์เคยกล่าว การเข้ าสู่ ภาวะเนตรวิญญาณจะส่ งผลให้


อารมณ์ ผ้ ใู ช้ หวั่นไหวไปตามสภาพแวมล้อมได้ ง่ายกว่ าปรกติ
โดยเฉพาะในตอนที่ร่างกายยังไม่ ชินกับพลัง

สั มผัสวิญญาณก็มีหลักการแบบเดียวกัน

โอสถนักทาลายช่ วยส่ งเสริมให้ สัมผัสวิญญาณของไคลน์ เฉียบ


แหลมขึน้ การฝึ กซ้ อมเท่ านั้นที่จะช่ วยให้ ร่างกายคุ้นชิน

เป็ นพลังติดตัวที่มิอาจสลัดออกหรื อเพิม่ พูนได้ ตามใจต้ องการ

ไม่ แปลกที่นักทานายจะสั มผัสถึงความผิดปรกติรอบตัวได้


มากกว่ ามนุษย์ ทั่วไป
ผู้วิเศษแต่ ละคนย่ อมมีระดับจิตสั มผัสที่แตกต่ างกัน ผู้วิเศษสาย
วิญญาณโดยตรงอย่ างผู้สื่อวิญญาณจะช่าชองเป็ นพิเศษ พวกมันจะ
มองเห็นอารมณ์ ความรู้สึกของผู้อื่นได้ แจ่ มชัดประหนึ่งแสงสว่ าง
ท่ ามกลางค่าคืนอันมืดมิด

ด้ วยเหตุนี้ บุคคลที่มีสัมผัสวิญญาณรุนแรงจะถูกบรรยากาศ
รอบตัวครอบงาอารมณ์ ได้ ง่ายมาก หากไม่ มีการฝึ กฝนหรื อควบคุม
พลังที่ดีพอ

“สี เข้ มขนาดนี้ ต้ องสะสมนานเท่ าไรกัน?”

ไคลน์ ถอนหายใจพลางส่ ายศีรษะ ชายหนุ่มแตะหว่ างคิว้ สองครั้ง


เพื่อปิ ดเนตรวิญญาณและสงบจิตใจกลับเป็ นปรกติ

กึก กึก กึก

ไคลน์ เดินมาหยุดหน้ าหอพักเก่าที่เคยซุกหัวนอนมานาน ชาย


หนุ่มยังคงสั มผัสถึงมวลอารมณ์ ด้านลบอันเข้ มข้ น รวมถึงการ
เชื่ อมต่ อเบาบางจากผู้มีสัมผัสวิญญาณอ่อนๆ

ขณะเดียวกัน มันพยายามมองหาเบาะแสสมุดบันทึกอันที
โกสนัสซึ่ง ‘ตัวมัน’ อาจนาไปซุ กซ่ อนไว้ ที่ใดสั กแห่ ง

สภาพถนนยังคงเหมือนเดิมทุกประการ ขยะเกลื่อนกลาด น้า


ขังเน่ เหม็นส่ งกลิ่นรุนแรง จุดเดียวที่ถูกทาความสะอาดคือบริเวณ
หน้ าหอพัก

ไคลน์ ผลักประตูที่เปิ ดแง้ มเข้ าไป ก่อนจะเดินสารวจชั้นหนึ่งอัน


มืดมิดซึ่งแสงแดดส่ องเข้ ามาไม่ ถึง

ชั้นหนึ่งไม่ พบสิ่ งใด

เมื่อเดินขึน้ ชั้นสอง เสี ยงบันไดไม้ ยังคงร้ องเอี๊ยดอ๊ าดไม่


แปรเปลี่ยน แสงไฟบนชั้นสองยังสลัวเหมือนเคย ไคลน์ เข้ าสู้ ภาวะ
เนตรวิญญาณและจ้ องมองเข้ าไปในความมืด

แต่ ก็ไม่ พบสิ่ งใดเช่ นกัน ไม่ ว่าจะเบาะแสของสมุดบันทึกหรื อ


ภูติผี

“ถ้ าพบได้ ง่ายขนาดนั้น มนุษย์ ทั่วไปคงเจอผีเป็ นว่ าเล่นแล้ ว…”

มันถอนหายใจยาว ไคลน์ ทราบดีว่า ‘วิญญาณ’ ไม่ ได้ ปรากฏตัว


ในรูป ‘ภูติผี’ หากแต่ เป็ นรูปเฉพาะของวิญญาณ ซึ่งมีเพียง ‘ผู้สื่อ
วิญญาณ’ เท่ านั้นที่สามารถติดต่ อสื่ อสาร

หลังจากวนรอบชั้นสามหนึ่งครั้งและไม่ พบสิ่ งใด ไคลน์ เดินลง


จากหอพักพร้ อมกับรีบจา้ เท้ าไปยังบ้ านเวิร์ช

ตลอดทางกว่ าหนึ่งชั่วโมงเต็ม มันไม่ พบเบาะแสใดแม้ แต่ อย่ าง


เดียว
เมื่อหยุดยืนหน้ าบ้ านเดี่ยวที่มีสวนหรูหรา ไคลน์ มองลอดผ่ าน
ช่ องรั้วเหล็กที่ถูกล็อคแน่ นหน้ าเข้ าไป

“เราไม่ ต้องสารวจในบ้ านใช่ ไหม? หัวหน้ ากับมาดามดาลี่ย์คง


จัดการเรียบร้ อยแล้ว…

“และเราก็ไม่ มีกุญแจ หัวหน้ าคงไม่ ได้ ต้องการให้ เราปี นบ้ านเข้ า


ไปแน่
“ไว้ ค่อยลองเส้ นทางอื่นพรุ่งนี…

“วันนีเ้ ดินเยอะเป็ นพิเศษ น่ าเสี ยดายที่ยุคปัจจุบันไม่ มีอุปกรณ์


ช่ วยนับก้ าวเพื่อนาไปอวดเพื่อนร่ วมงาน…”

ขณะราพันติดตลก ไคลน์ เดินไปยังสถานีรถม้ าเพื่อเตรียมต่ อรถ


ไปถนนซุตแลน ถนนที่ต้งั สานักบริษัทรักษาความปลอดภัยหนาม
ทมิฬ

มันต้ องการเบิกกระสุ นซ้ อมยิงรายวันจานวนสามสิ บนัด


หากหสั งเป็ นนักแม่ นปื นฝี มือฉกาจ การฝึ กซ้ อมสม่าเสมอทุกวันคือ
สิ่ งที่มิอาจเลี่ยง

ในฐานะนักทานายที่อ่อนแอด้ านพลังต่ อสู้ อุปกรณ์ ช่วยปกป้อง


ชีวิตจึงเหลือเพียงไม้ คา้ และลูกโม่
ถนนรอบเขตบ้ านเวิร์ชนั้นสะอาดสะอ้านเหนือคาบรรยาย
ปราศจากขยะหรื อน้าขังบนถนนโดยสิ้นเชิง แถมกระจกร้ านค้ า
สองข้ างทางล้วนใสสะอาด

เมื่อมาถึงสถานีรถม้ า ขณะไคลน์ กาลังยืนรอเตรียมโดยสารไปลง


ถนนซุตแลน สายตาพลันชาเลืองมองป้ายโฆษณาบนถนนฝั่งตรง
ข้ าม

“ห้ ามสรรพสิ นค้ าแฮรอดส์ ”

“สโมสรทหารผ่ านศึก”

“สโมสรพยากรณ์ ”

สโมสรพยากรณ์ … ไคลน์ พมึ พากับตัวเองด้ วยสี หน้ าเหม่ อลอย


ก่อนจะนึกขึน้ ได้ ว่า ตัวมันกาลังหาทาง ‘สวมบทบาท’ เป็ นนัก
ทานายอยู่

นั่นสิ นะ… เข้ าไปลองสั กหน่ อยคงไม่ เสี ยหาย เผื่อได้ ไอเดียแปลก
ใหม่ มาปรับใช้ กับตัวเอง
หลังจากได้ ข้อสรุปในใจ ไคลน์ เดินข้ ามถนนไปยังตึกฝั่งตรงข้ าม
และขึน้ บันไดไปยังชั้นสองทันที

หลังจากเดินผ่ านโถงใหญ่ ชายหนุ่มได้ พบกับเจ้ าหน้ าที่ต้อนรับ


สาวสวยผู้หนึ่ง

เส้ นผมสี น้าตาลดัดเป็ นลอนงดงาม เธอชาเลืองสารวจไคลน์ หัว


จรดเท้ าก่อนจะเอ่ยปากถามด้ วยรอยยิม้

“มิสเตอร์ คุณมาดูดวงหรื อสนใจจะเข้ าสโมสรคะ?”


“ต้ องมีคุณสมบัติเข้ าร่ วมอย่ างไรบ้ าง?”

ไคลน์ ถามระมัดระวัง

สาวสวยตอบอย่ างคล่องแคล่วเคยชิน

“เพียงแค่ กรอกรายละเอียดและจ่ ายค่ าสมาชิกเท่ านั้นค่ ะ ในปี แรก


ค่ าสมาชิกจะอยู่ที่ปีละห้ าปอนด์ แต่ ปีถัดไปราคาจะเหลือเพียงหนึ่ง
ปอนด์ ไม่ ต้องห่ วงค่ ะ พวกเราไม่ เหมือนสโมสรนักการเมืองหรื อ
นักธรุกิจที่ต้องถูกแนะนาจากภายใน บุคคลทั่วไปสามารถเข้ าร่ วม
ได้ อิสระ

“สมาชิกสามารถใช้ ห้องประชุมสโมสรได้ ตามใจชอบ รวมถึง


ห้ องพยากรณ์ และอุปกรณ์ ต่างๆ ที่เตรียมไว้ ให้
“สมาชิกจะได้ รับเครื่ องดื่มฟรีไม่ ว่าจะเป็ นชาหรื อกาแฟ แถมยัง
มีสิทธิ์อ่านหนังสื อพิมพ์และนิตยสารที่ทางสโมสรเป็ นสมาชิก มี
สิ ทธิ์ใช้ งานอุปกรณ์ ทานายฝึ กพื้นฐานเพื่อเรียนรู้ศาสตร์ พยากรณ์

“ภายในสโมสรยังมีอาหาร เครื่ องดื่ม แอลกอฮอล์ และอุปกรณ์


ทานาย สาหรับจัดจาหน่ ายในราคาต้ นทุน

“ไม่ เพียงเท่ านั้น พวกเรายังเรียนเชิญนักพยากรณ์ ชื่อดังมาให้


ความรู้และคอยตอบคาถามสมาชิกในทุกเดือน
“เหนือสิ่ งอื่นใด คุณจะได้ พบปะสั งสรรค์ กับเพื่อนฝูงที่หลงไหล
ในศาสตร์ ชนิดเดียวกัน ถือเป็ นการสร้ างสายสั มพันธ์ และต่ อยอด
มิตรภาพในอนาคต”

ฟังดูเข้ าท่ าชะมัด… แต่ เราไม่ มีเงินมากถึงห้ าปอนด์ ไคลน์ ทาได้


เพียงตัดพ้อ

“แล้วค่ าดูดวงเท่ าไรครับ?”


ราชันย์ เร้ นลับ 38 : มือสมัครเล่น

หลังจากได้ ยินคาถามไคลน์ สตรีเลอโฉมผมสี น้าตาลอ่อนมิได้


แสดงท่ าทีหมดความอดทนแต่ อย่ างใด เธอยังคงอมยิม้ จนถึงที่สุด

“สมาชิกสโมสรพยากรณ์ สามารถดูดวงให้ ผ้ อู ื่นได้ แต่ ละคนจะ


เป็ นผู้กาหนดราคาด้ วยตัวเอง ทางสโมสรของเราจะหัก
ค่ าธรรมเนียมเพียงเล็กน้ อย

“หากคุณต้ องการดูดวง สมุดอัลบัมเล่มนีไ้ ด้ รวบรวมรายละเอียด


เบื้องต้ นและค่ าบริการของหมอดูแต่ ละท่ านไว้ ”

“แต่ ตอนนีเ้ ป็ นวันจันทร์ ช่วงบ่ าย สมาชิกส่ วนใหญ่ กาลังทางาน


จึงมีหมอดูพร้ อมให้ บริการเพียงห้ าคน…”

ก่อนเริ่มลงมือแนะนา หล่อนเชิญไคลน์ ให้ นั่งบนเก้าอีร้ ิมหน้ าต่ าง


และกางสมุดอัลบัมออก เธอใช้ ปลายนิว้ ชี้ไล่ ไปยังแต่ ละภาพของห้ า
บุคคลที่พร้ อมดูดวง

“เฮเนส·วินเซนต์ หมอดูชื่อดังของเมืองทิงเก็น เป็ นอาจารย์ สอน


ดูดวงให้ กับสมาชิกหลายคนภายในสโมสร ถนัดศาสตร์ พยากรณ์
หลากหลายชนิด ค่ าบริการครั้งละสี่ ซูล”
แพงฉิบ… เป็ นจานวนเงินที่สามารถเติมเต็มกระเพาะของตน
เบ็นสั น และเมลิสซ่ าได้ สองมื้อใหญ่

ไคลน์ ส่ายศีรษะ ไม่ ได้ กล่าวสิ่ งใด

เมื่อสาวสวยเบื้องหน้ าเห็นปฏิกิริยา เธอพลิกหน้ าสมุดอัลบัมและ


อธิบายต่ อไปเรื่ อยๆ

“…และคนสุ ดท้ าย กลาซิส เขาเป็ นสมาชิกใหม่ ที่เพิง่ เข้ าร่ วม


สโมสรปี นี้ ถนัดทานายไพ่ทาโร่ ต์ คิดราคาครั้งละสองเพนนี
“มิสเตอร์ ต้องการเลือกคนไหนหรื อคะ?”

ไคลน์ ไม่ พธิ ีรีตองมาก มันตอบฉะฉาน

“มิสเตอร์ กลาซิส”

“…”

เจ้ าหน้ าที่ต้อนรับสาวสวยเกิดอาการเงียบงันไปสองวินาทีก่อนจะ


กล่าวต่ อ

“มิสเตอร์ ขอเตือนเป็ นครั้งสุ ดท้ ายนะคะ มิสเตอร์ กลาซิสเป็ น


เพียงมือสมัครเล่น”
“ผมเข้ าใจครับ ขอรับผิดชอบในสิ่ งที่ตัวเองตัดสิ นใจ”
ไคลน์ พยักหน้ าพร้ อมรอยยิม้

“…ถ้ าอย่ างนั้นก็ตามมาค่ ะ”

พนักงานต้ อนรับลุกขึน้ และนาทางไปยังประตูที่อยู่ไม่ ห่างจาก


ห้ องรับรองแขกมากนัก

ทางเดินค่ อนข้ างสั้ น ห้ องประชุมส่ วนกลางเป็ นห้ องขนาดใหญ่ ที่


อยู่เกือบสุ ดทางเดิน แสงสว่ างภายในกาลังดีแม้ ไม่ ต้องเปิ ดโคมไฟ
คงเป็ นเพราะแดดยามบ่ ายใกล้เย็นเช่ นนี้

ภายในห้ องมีโต๊ ะและเก้าอีห้ ลายสิ บตัว แถมยังมีหนังสื อพิมพ์


นิตยสาร รวมถึงไพ่กระดาษแข็ง

กลิ่นกาแฟอ่อนๆ ลอยโชยนุ่มละมุน

เจ้ าหน้ าที่ต้อนรับหยุดยืนหน้ าประตูห้องประชุมและส่ งสั ญญาณ


ให้ ไคลน์ หยุด เธอเดินเข้ าไปในห้ องพลางตะโกนนุ่มนวล

“มิสเตอร์ กลาซิส มีคนต้ องการดูดวงกับคุณค่ ะ”

“ผมหรื อ? จริงหรื อ?”


เสี ยงกลาซิสเปี่ ยมด้ วยความฉงน ถัดมาเป็ นเสี ยงขยับเก้าอี้
“ค่ะ ต้ องการใช้ ห้องไหนคะ?”

เจ้ าหน้ าทีสาวสวยตอบเสี ยงเรียบ

“ห้ องบุษราคัม ผมชอบบุษราคัม”

กลาซิสเดินออกจากประตูห้องประชุมกลางพลางจ้ องมองไคลน์
ที่ยืนรอห่ างไม่ ไกล สี หน้ ากลาซิสกาลังเคลือบแคลงสุ ดขีด
เจ้ าหน้ าที่สาวไม่ กล่าวสิ่ งใดต่ อ เธอเดินไปหยุดหน้ าประตูห้อง
บุษราคัมที่ใกล้กับห้ องประชุมและไขกุญแจเปิ ด

ม่ านภายในห้ องปิ ดสนิทมิดชิด ส่ งผลให้ บรรยากาศค่ อนข้ างสลัว


คล้ายกับเป็ นความเชื่ อว่ า ต้ องทาเช่ นนีจ้ ึงจะได้ ผลลัพธ์ การดูดวง
จากเทพแม่ นยาที่สุด

“สวัสดีครับ ผมชื่ อกลาซิส ไม่ เคยคิดมาก่อนว่ าจะมีใครกล้าเลือก


ผมด้ วย”

กลาซิสโค้ งคานับตามมารยาทสุ ภาพบุรุษ ก่อนจะเดินเข้ าไปใน


ห้ องและนั่งลงฝั่งตรงข้ ามของโต๊ ะยาว

“ผมเคยดูดวงผู้อื่นมาบ้ างก็จริง แต่ ก็เป็ นแค่ มือสมัครเล่นเท่ านั้น


ประสบการณ์ มีไม่ มาก หรื ออีกความหมายหนึ่งก็คือ ตัวผมยังไม่ ใช่
หมอดูที่เก่งกาจอะไร …จะเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะครับ”

หลังจากไคลน์ คานับตอบ มันปิ ดประตูห้องพลางกล่าวด้ วย


รอยยิม้

“คุณซื่ อตรงดีมาก ไม่ ต้องห่ วง ผมเป็ นคนที่ตัดสิ นใจแล้วไม่ คืน


คา”

“เชิญนั่งครับ”
กลาซิสชี้ไปยังเก้าอีฝ้ ั่งตรงข้ ามก่อนจะทาสี หน้ าครุ่นคิดครู่หนึ่ง

“การดูดวงเป็ นงานอดิเรกของผม แหะๆ ในชีวิตคนเรา มี


บ่ อยครั้งที่ได้ รับการชี้นาจากสวรรค์ โดยไม่ ร้ ูตัว น่ าเสี ยดายที่คน
ปรกติมิอาจตีความการบอกใบ้ จากเทพได้ แม่ นยา และนั่นคือ
เหตุผลที่ต้องมีอาชีพหมอดู

“และยังเป็ นเหตุผลที่ผมเข้ าร่ วมสโมสรด้ วย เนื่องจากเป็ นงาน


อดิเรก จึงยังไม่ มีความมั่นใจสั กเท่ าไร ผมไม่ ต้องการคิดค่ าดูดวง
กับคุณ ส่ วนค่ าธรรมเนียมที่ถูกหักให้ สโมสร ผมจะเป็ นผู้จ่ายแทน
เอง ไม่ ถึงเพนนีด้วยซ้า”

ไคลน์ ไม่ พยักหน้ าหรื อส่ ายศีรษะ มันเพียงอมยิม้ ตอบ


“เท่ าที่ดู คุณคงมีการงานมั่นคงสิ นะครับ”
ขณะกล่าว ไคลน์ โน้ มตัวไปด้ านหน้ าเล็กน้ อยและแอบใช้ ปลายนิว้
สั มผัสหว่ างคิว้ เบาๆ สองครั้ง

“แต่ นั่นไม่ ได้ ช่วยให้ ผมดูดวงแม่ นขึน้ หรอกนะครับ ฮะฮะ!”

กลาซิสตอบติดตลก

“ปวดหัวหรื อครับ? ให้ ผมดูดวงเกี่ยวกับสุ ขภาพดีไหม?”


“นิดหน่ อยครับ แต่ ไม่ ต้องถึงกับดูดวง ผมอยากตามหาสิ่ งของที่
หายไปมากกว่ า”

ไคลน์ กล่าวพร้ อมกับเอนหลังพิงเบาะเก้าอี้

ในสายตาชายหนุ่ม ออร่ าของกลาซิสได้ บ่งบอกทุกสิ่ ง สี ส้มของ


ส่ วนปอดค่ อนข้ างคลา้ และเจือจาง ส่ งผลให้ ออร่ าในส่ วนอื่นหมอง
ลงเล็กน้ อย

นี่ไม่ ใช่ อาการเหน็ดเหนื่อยธรรมดา…

ไคลน์ พยักหน้ ากับตัวเองเพียงเล็กน้ อยชนิดที่ไม่ มีใครสั งเกตุเห็น

“ตามหาสิ่ งของที่หายไปหรื อครับ?”


กลาซิสครุ่นคิดก่อนจะกล่าวต่ อ

“งั้นพวกเราลองทานายเชิงชี้นาแบบพื้นฐานกันก่อน”

มันใช้ มือดันสาหรับไพ่ทาโร่ ต์บนโต๊ ะไม้ สีดาเข้ าหาไคลน์

“พยายามทาจิตให้ ว่าง จิตนาการถึงสิ่ งของดังกล่ าวให้ ชัดเจน


ที่สุด จากนั้นก็กับถามตัวเองว่ า ‘ยังมีโอกาสหาพบหรื อไม่ ’ ขณะ
ส่ งเสี ยงถาม รบกวนคุณสั บและตัดไพ่ให้ ผมด้ วย”
“ครับ”

ไคลน์ ลืมไปแล้วว่ าสมุดบันทึกเก่าแก่มีหน้ าตาเป็ นเช่ นไร สิ่ งเดียว


ที่ทาได้ คือการตั้งคาถามกับตัวเอง : ยังมีโอกาสหาสมุดบันทึก
ตระกูลอันทีโกสนัสพบหรื อไม่ ?

ขณะกล่าวประโยคคาถามซ้าภายในหัว มือของไคลน์ สับและตัด


ไพ่อย่ างชานาญ ถัดมา กลาซิสทาการหยิบไพ่ใบบนสุ ดออกมาหนึ่ง
ใบและวางลงบนโต๊ ะ ก่อนจะหมุนไพ่หนึ่งครั้งจนกระทั่งหยุดนิ่งใน
แนวนอน

กลาซิสเลื่อนไพ่ใบนั้นมาวางหน้ าไคลน์

“ค่ อยๆ หมุนตามเข็มนาฬิ กาจนกว่ าไพ่จะอยู่ในแนวตั้ง จากนั้นก็


พลิกเปิ ด หากคุณเห็นไพ่กลับหัว หมายความว่ าคุณจะไม่ ได้ สิ่งของ
ดังกล่าวคืน แต่ หากไพ่อยู่ในตาแหน่ งถูกต้ อง พวกเราค่ อยมา
ทานายกันต่ อ ถึงสถานที่และความเป็ นไปได้ อื่นๆ”

ไคลน์ ทาตามอย่ างว่ าง่ าย มันหมุนไพ่จากแนวนอนให้ เป็ นแนวตั้ง


ตามเข็มนาฬิ กา ก่อนจะเลื่อนปลายนิว้ มาที่มุมไพ่พร้ อมกับพลิก
เปิ ด

เป็ นไพ่กลับหัว

“น่ าเสี ยดายนะครับ”

กลาซิสถอนหายใจผิดหวัง

ไคลน์ แน่ นิ่งไม่ ตอบโต้ เพราะมันกาลังอึง้ เมื่อได้ เห็นชนิดของไพ่


ที่หงายเผยตรงหน้ า

ตัวละครบนไพ่แต่ งกายด้ วยเสื้ อผ้ าหรูหราและสวมเครื่ องประดับ


ศีรษะงดงาม

…เดอะฟูล!

เดอะฟูลอีกแล้วหรื อ?

คงไม่ ใช่ เหตุบังเอิญแล้วกระมัง… เพราะจากที่ลุงนีลล์และอัล


เจอร์ อธิบาย ศาสตร์ การทานายนั้นเกิดจากคาชี้แนะของเทพ ซึ่ง
เป็ นเรื่ องของดวงรายบุคคล หมอดูมีหน้ าที่เพียงตีความออกมาเป็ น
คาพูด

พลังทานายเกิดจากการต่ อต่ อสื่ อสารระหว่ าง ‘ตัวบุคคล’ กับโลก


วิญญาณ ไพ่ทาโร่ ต์คืออุปกรณ์สาหรับช่ วยอ่ านค่ าดวงชะตา หรื อ
ในทางทฤษฏีคือ ไม่ ว่าจะใช้ อุปกรณ์ ใด แต่ ดวงชาตะมนุษย์ ก็จะไม่
เปลี่ยน…

ไคลน์ ขมวดคิว้ เป็ นเวลานาน


“ดูให้ หน่ อยได้ ไหม ว่ าสิ่ งของดังกล่าวตกอยู่ในมือผู้อื่นแล้ว
หรื อไม่ ?”

“ไม่ มีปัญหา สามารถทาขั้นตอนเมื่อครู่ซ้าได้ ด้วยตัวเองเลยครับ”

กลาซิสพยักหน้ าตื่นเต้ น

ไคลน์ สับและตัดไพ่พร้ อมกับทวนคาถามใหม่ ภายในหัว : สมุด


บันทึกตระกูลอันทีโกนัสตกอยู่ในมือผู้อื่นแล้วหรื อไม่

ไคลน์ หยิบไพ่ใบบนสุ ดของกองออกมาและหมุนหนึ่งครั้งจนมัน


อยู่ในแนวนอน เมื่อเตรียมการเสร็จสิ้น สี หน้ าชายหนุ่มเริ่มตึง
เครียด
มันสู ดลมหายใจเต็มปอดพร้ อมกับยื่นแขนออกไปพลิกมุมไพ่
ได้ โปรดอย่ าเป็ นเดอะฟูล…

หลังจากสวดอ้อนวอน สี หน้ าไคลน์ พลันโล่งใจสุ ดขีด เพราะหน้ า


ไพ่ไม่ ใช่ เดอะฟูลอีกแล้ว แต่ เป็ น ‘เดอะสตาร์ ’ ในสภาพกลับหัว

“จากผลการทานาย ดูเหมือนสิ่ งของจะยังไม่ ถูกใครเอาไปนะ


ครับ”

กลาซิสช่ วยอ่านผลทานายด้ วยรอยยิม้

ไคลน์ พยักหน้ าเล็กน้ อย แขนขวาถูกยกขึน้ เพื่อแตะหน้ าผากสอง


ครั้ง มันพยายามทาให้ เหมือนกับท่ าทีครุ่นคิด ถัดมาเป็ นการ
ล้วงกระเป๋าหยิบเหรียญเพนนีแวววางสองเหรียญส่ งให้ กลาซิส

“ผมบอกว่ าฟรีไม่ ใช่ หรื อ?”

กลาซิสขมวดคิว้

ไคลน์ อมยิม้ ขณะลุกยืน

“นี่เป็ นการแสดงความเคารพต่ อศาสตร์ พยากรณ์ คุณควรได้ รับ


มัน”
“ขอบคุณสาหรับน้าใจครับ”
กลาซิสลุกยืนและยื่นแขนออกไปหยิบเหรียญ

หลังจากจับมือกัน ไคลน์ ถอยหลังสองก้าวและหมุนตัวเดินไปยัง


หน้ าประตู

ขณะกาลังจะบิดกลอนประตูเดินออกไป ชายหนุ่มเอียงคอ
เล็กน้ อยและกล่าว

“มิสเตอร์ กลาซิส คุณควรหาโอกาสไปพบแพทย์ โดยด่ วน เน้ น


วินิจฉัยโรคเกี่ยวกับปอด”

“ทาไมกันครับ?”

กลาซิสถามพร้ อมขมวดคิว้

คุณกาลังแช่ งผมหลังจากไม่ ได้ ผลลัพธ์ ทานายตามที่ต้องการอย่ าง


นั้นหรื อ?

ไคลน์ ครุ่นคิดและให้ เหตุผล

“เป็ นอาการของโรคที่ผมอ่านจากสี หน้ า หว่ างคิ้วของคุณมี


ลักษณะคลา้ มาก…”
“หว่ างคิว้ คลา้ …”
นี่คือครั้งแรกในชีวิตที่กลาซิสเคยได้ ยินใครอธิบายลักษณะอาการ
ของโรคด้ วยหว่ างคิว้

ไคลน์ ไม่ กล่าวต่ อ มันเดินออกจากห้ องด้ วยรอยยิม้ และใช้ มือปิ ด


ประตูไม้ ตามหลัง

“เขาเป็ นแพทย์ สมัครเล่นหรื อนักสมุนไพรอย่ างนั้นหรื อ?”

กลาซิสส่ ายศีรษะเล็กน้ อยด้ วยท่ าทีขบขันก่อนจะก้มหยิบกระจก


เงาสี เงินสาหรับดูดวงออกมาจากกระเป๋า

เมื่อลองสองกระจกสารวจอย่ างถี่ถ้วน …หว่ างคิว้ ของมัน


ค่ อนข้ างคลา้ ตามคาที่ไคลน์ กล่าว

แต่ ความจริงแล้วไม่ เกี่ยวกันเลย ความคลา้ เกิดจากแสงไฟของ


ห้ องที่มืดสลัว ไม่ ใช่ แค่ หว่ างคิว้ ที่คลา้ แต่ ท้งั ใบหน้ ากาลังดามืด!

“ไม่ เหมือนกับมุกตลกสั กเท่ าไร”

กลาสซิสพึมพา

มันกังวลถึงขนาดดูดวงสุ ขภาพของตัวเองซ้าหลายครั้งเพื่อให้
แน่ ใจ

ขณะเดินออกจากสโมสรพยากรณ์ ไคลน์ มีเป้าหมายในชีวิตเพิม่


อีกหนึ่งเรื่ อง

นั่นคือการเก็บเงินให้ ได้ ห้าปอนด์ และกลายเป็ นสมาชิกเต็มตัว


ของสโมสรพยากรณ์ มันจะได้ ‘สวมบทบาท’ เป็ นนักทานายเต็ม
ตัวสั กที

ส่ วนเหตุผลที่ไคลน์ ไม่ เลือกทาตัวเป็ นนักทานายอิสระ เพราะตัว


มันยังขาดช่ องทางและการเป็ นที่ร้ ูจัก ครั้นจะให้ ไปยืนเร่ ร่อนตาม
ถนนเพื่อทานายดวงให้ คนแปลกหน้ าที่สัญจรไปมา แบบนั้นคงเสี ย
ภาพลักษณ์ แย่

ถัดมาไม่ กี่นาที ไคลน์ จ่ายเงินสองเพนนีเพื่อนั่งรถม้ าไปลงถนนซุ


ตแลนซึ่งอยู่ไม่ ไกล

มันผลักประตูสานักงานบริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ
เข้ าไป แต่ กลับไม่ พบหญิงสาวผมน้าตาลอย่ างที่ควรจะเป็ น มีเพียง
ชายหนุ่มผมดานัยน์ ตามรกต—เลียวนาร์ ด·มิเชลผู้มีบรรยากาศ
คล้ายคลึงนักกวี กาลังปฏิบัติหน้ าที่รับลูกค้ าแทน

“สวัสดียามบ่ ายครับ โรแซนไปไหนหรื อ?”


ไคลน์ ถามพร้ อมถอดหมวกคานับ
เลียวนาร์ ดอมยิม้ และชี้นวิ้ ไปยังฉากกั้น

“เธอมีเวรเฝ้าคลังอาวุธ”

โดยไม่ ปล่อยให้ ไคลน์ ไต่ ถามต่ อ เลียวนาร์ ดชิงกล่ าวน้าเสี ยงเปี่ ยม


สงสั ย

“ไคลน์ มีคาถามบางข้ อที่คอยกวนใจผมมานานแล้ว”


“อะไรหรื อครับ?”

ชายหนุ่มขมวดคิว้

เลียวนาร์ ดลุกยืนและอมยิม้ ผ่ อนคลาย

“ทาไมเวิร์ชและนาย่ าถึงฆ่ าตัวตายในที่เกิดเหตุ ส่ วนคุณเดินทาง


กลับบ้ าน?”

“หัวหน้ าบอกว่ า อาจมีตัวตนลึกลับสะกดจิตให้ ผมนาสมุดบันทึก


ตระกูลอันทีโกนัสไปซ่ อนหรื อทาลายทิง้ ระหว่ างทางกลับ”

ไคลน์ เล่าในทฤษฎีที่ดันน์ ·เชื่ อว่ าเป็ นไปได้ มากที่สุด


เลียวนาร์ ดเดินวนไปมาเล็กน้ อยก่อนจะหยุดและจ้ องมองเข้ ามา
ในดวงตาไคลน์

“ต้ องไม่ ใช่ การทาลายหลักฐานแน่ เพราะถ้ าตัวตนลึกลับต้ องการ


ให้ พวกคุณทั้งสามฆ่ าตัวตายเพื่อปิ ดปากและลบหลักฐานทั้งหมด
ทิง้ ผมก็ไม่ เห็นความจาเป็ นที่คุณต้ องเดินทางกลับบ้ านเลยสั กนิด
ทาลายสมุดบันทึกภายในบ้ านเวิร์ชและฆ่ าตัวตายตามก็สิ้นเรื่ อง
แล้วไม่ ใช่ หรื อ?”
ราชันย์ เร้ นลับ 39 : ลูกเล่นที่น่าสนใจ

แม้ แต่ ตัวเราก็ไม่ ทราบว่ าสมุดบันทึกถูกทาลายหรื อแค่ ซ่อนไว้ …


แต่ หากลองอนุมานแบบย้ อนกลับ ก็จะเป็ นดังที่เลียวนาร์ ดว่ าไว้

ถ้ าจุดประสงค์ มีเพียงการทาลายสมุด ก็ไม่ จาเป็ นที่ไคลน์ ต้อง


เดินทางกลับบ้ าน…

หลังจากได้ ยินคาถามจากเลียวนาร์ ด ไคลน์ เข้ าสู่ ภาวะนักสื บ


คีย์บอร์ ดทันที

มันขมวดคิว้ ครุ่นคิด

“บางทีเวิร์ชและนาย่ าอาจทาพันธสั ญญากับตัวตนลึกลับที่ชื่น


ชอบการเซ่ นสั งเวยชีวิตมนุษย์ อย่ างต่ อเนื่อง

“ในเมื่อการฆ่ าตัวตายทาให้ ข่าวไปถึงหูตารวจได้ เร็ว ตัวตน


ลึกลับจึงสะกดจิตให้ ผมนาสมุดติดตัวกลับมาที่ห้องเพื่อเตรียม
พิธีกรรมเซ่ นสั งเวยครั้งถัดไป แต่ ผมกลับล้มเหลวด้ วยเหตุผลบาง
ประการ”

นีค่ ือทฤษฎีที่ไคลน์ คิดขึน้ เองจากประสบการณ์ อ่านนิยาย


ภาพยนตร์ หรื อละครทีวีที่เกี่ยวข้ องกับพิธีกรรมบูชายัน
และความผิดพลาดเกิดขึน้ กลางคันเพราะตัวมันดันถูกส่ งข้ าม
โลกมาในจังหวะดังกล่าวพอดิบพอดี

“เป็ นสมมติฐานที่น่าสนใจ แต่ ผมเชื่ อในอีกทฤษฎีมากกว่ า… เวิร์


ชและนาย่ าได้ สังเวยชีวิตตนเองเพื่ออัญเชิญตัวตนลึกลับให้ ลงมา
จุติบนโลก สมุดบันทึกเล่มดังกล่าวคือภาชนะบรรจุดวงวิญญาณ
หรื อสถานที่ ‘ฟักไข่ ’ ของดวงวิญญาณ อย่ างใดอย่ างหนึ่ง ในขณะที่
พลังของตัวตนลึกลับยังฟื้ นตัวไม่ เต็มที่ สมุดจะถูกทาลายไม่ ได้ โดย
เด็ดขาด และนั่นคือเหตุผลที่ต้องนาสมุดไปซ่ อนให้ พ้นสายตา
ผู้คน”

เลียวนาร์ ด·มิเชลลองคาดเดา เมื่อกล่าวจบ มันจ้ องมองเข้ ามาใน


ดวงตาไคลน์ พร้ อมกับยิม้ อย่ างมีเลศนัย

“แต่ ก็ไม่ แน่ เช่ นกัน สมุดบันทึกอาจถูกทาลายไปแล้ว โดย


‘ภาชนะ’ ที่แท้ จริงของตัวตนปริศนาไม่ ใช่ สมุดบันทึก แต่ เป็ นร่ าง
เนื้อของใครสั กคน และนั่นคือสาเหตุที่คุณฆ่ าตัวตายล้มเหลว ส่ วน
การทาลายสมุดก็เพื่อลบเนื้อความด้ านในให้ หายไปจากโลกโดย
สมบูรณ์ ”

หมอนี่หมายความว่ ายังไง?
กาลังสงสั ยเราหรื อ?

เลียวนาร์ ดกาลังสงสั ยว่ าร่ างเนื้อไคลน์ คนก่อน คือภาชนะในการ


อัญเชิญดวงวิญญาณให้ กับตัวตนลึกลับ?
ไม่ สิ เดี๋ยวก่อน… ทฤษฎีนมี้ ีมูลอยู่มาก ร่ างเนื้อของไคลน์ คน
ก่อนอาจถูกใช้ เป็ นภาชนะในการเดินทางข้ ามโลกของเรา

ถ้ าอย่ างนั้น วลี ‘ฟักไข่ ’ คงไม่ ถูกต้ องนัก ร่ างของไคลน์ ควรถูก


เรียกว่ า ‘ภาชนะดวงวิญญาณ’ มากกว่ า

ไคลน์ ผงะไปครู่ใหญ่ สี หน้ าของมันกาลังหมกมุ่นครุ่นคิด

“ผมไม่ ได้ คิดจะปกป้องตัวเองหรอกนะ แต่ ผมหลงเหลือความ


ทรงจาของเหตุการณ์ ในวันนั้นเลย และหัวหน้ ากับมาดามดาลี่ย์ก็
ยืนยันแล้วว่ าไม่ พบสิ่ งผิดปรกติในตัวผม มุกตลกของคุณจึงไม่ ขา
สั กเท่ าไร”

“ผมแค่ ลองคาดเดาดู สาเหตุที่คุณฆ่ าตัวตายล้ มเหลวอาจเป็ น


เพราะดวงวิญญาณตัวตนลึกลับในสมุดได้ เข้ ามาสิ่ งสู่ แทน… หรื อ
อาจไม่ มีอะไรเลยก็เป็ นได้ เหตุผลที่คุณฆ่ าตัวตายล้มเหลว อาจ
เพราะเทพธิดาต้ องการให้ คุณมีชีวิตอยู่ต่อไป”

เลียวนาร์ ดยิม้ มุมปากก่อนจะเปลี่ยนเรื่ อง

“ช่ วงบ่ ายที่ผ่านมา พบอะไรบ้ างไหม?”

จากบทสนทนาเมื่อครู่ ไคลน์ เริ่มระแวงในตัวเลียวนาร์ ดมากขึน้


ชายหนุ่มตอบกลับด้ วยท่ าทีระมัดระวัง
“ไม่ เลย พรุ่งนีผ้ มจะลองเปลี่ยนเส้ นทางดู”

จากนั้นก็ชี้นวิ้ ไปยังฉากกั้น

“ผมขอตัวลงไปคลังอาวุธก่อน ต้ องเบิกกระสุ นซ้ อมประจาวัน”

สนามยิงปื นเปิ ดบริการถึงสามทุ่มก็จริง แต่ หากเป็ นช่ วงเวลา


หลังเลิกงาน โอกาสถูกแย่ งลู่ซ้อมจนต้ องต่ อคิวก็ยิ่งมากขึน้
“ขอให้ เทพธิดาอวยพร”

เลียวนาร์ ดยิม้ พร้ อมกับทาสั ญลักษณ์ มือที่หน้ าอก

มันจ้ องมองไคลน์ เดินผ่ านฉากกั้นด้ วยรอยยิม้ เช่ นนั้นจนกระทั่ง


เสี ยงฝี เท้ าดังจากบันไดหิน ทันใดนั้น รอยยิม้ บนใบหน้ าเลียวนาร์ ด
พลันเลือนหายไป ถูกแทนที่ด้วยดวงตาอันเคลือบแคลง

มันส่ งเสี ยงกระซิบด้ วยท่ าทีไม่ พอใจ

ณ ทางเดินใต้ ดินชั้นล่ าง ไคลน์ กาลังมุ่งหน้ าไปยังเส้ นทางที่


นาไปสู่ คลังอาวุธและคลังเก็บของเก่า
เมื่อผลักประตูเข้ าไป โรแซนผมน้าตาลกาลังยืนหน้ าโต๊ ะทางาน
เธอสนทนาอยู่กับชายวัยกลางคนสวมหมวกทรงสู งซึ่งมีเคราสี ดา
เข้ มน่ าเกรงขาม

“สวัสดียามเช้ า ไม่ สิ… สวัสดียามบ่ าย ข้ างล่างมื ดตลอดจนฉัน


หลงลืมกลางวันกลางคืน… ไคลน์ ! ฉันได้ ยินจากลุงนีลล์ แล้ว คุณ
กลายเป็ นผู้วิเศษอย่ างนั้นหรื อ? ชื่ อว่ าอะไรน้ า~ นักทานายใช่
ไหม?”

โรแซนหันมาหาพร้ อมกับยิงคาถามใส่ ใบหน้ าของเธอไม่ ปกปิ ด


ความฉงนและความกังวล

ไคลน์ พยักหน้ ายิม้ รับ

“สวัสดียามบ่ าย มิสโรแซน บรรยากาศข้ างล่างมืดตลอดดังที่คุณ


ว่ า แต่ มันก็มอบความสงบสุ ขได้ ในเวลาเดียวกัน… ส่ วนคาอธิบาย
ของถูกยังไม่ ถูกต้ องนัก ต้ องกล่ าวว่ า ชนิดของโอสถที่ผมดื่มเข้ าไป
มีชื่อว่ านักทานาย”

“คุณกลายเป็ นผู้วิเศษจนได้ …”

โรแซนกล่าวเสี ยงค่ อย สี หน้ าของเธอค่ อนข้ างผิดหวังและห่ อ


เหี่ยว
ไคลน์ ชาเลืองมองชายวัยกลางคนที่ยืนข้ างหล่อนและเอ่ยปาก
ถามอย่ างสุ ภาพ

“สวัสดีครับ คุณคือ?”

จะเป็ นเจ้ าหน้ าที่เหยี่ยวราตรี หรื อเจ้ าหน้ าที่พลเรื อนอีกหนึ่งคน


ที่ตนยังไม่ เคยพบ?

โรแซนทาแก้มป่ องเมื่อถูกเมิน

“นี่คือไบรท์ เจ้ าหน้ าที่พลเรื อนเหมือนกับพวกเรา เขามาขอสลับ


เวรเฝ้าคลังอาวุธกับฉัน เพื่อที่พรุ่งนีจ้ ะได้ ไปดูหนังในโรงเขตเหนือ
กับภรรยา เนื่องในโอกาสครบรอบวันแต่ งงานปี ที่สิบห้ า ช่ างเป็ น
สุ ภาพบุรุษที่โรแมนติกมาก”

ไบรท์อมยิม้ และยื่นแขนออกมาหาไคลน์

“ถ้ ามีมิสโรแซนอยู่ด้วย ผมแทบไม่ ต้องอธิบายอะไรเพิม่ เติมเลย


สวัสดีครับไคลน์ ไม่ คิดว่ าคุณจะกลายเป็ นผู้วิเศษเร็วขนาดนี้ ใน
ส่ วนของตัวผมคงขอผ่ าน ฮะฮะ ผมไม่ มีความกล้ามากขนาดนั้น”

“ดีแล้วครับ เคยมีคากล่าวไว้ ว่า คนเสี ยสติจะไม่ หวาดกลัวต่ อภัย


อันตราย”

ไคลน์ กล่าวเชิงตาหนิตัวเองพร้ อมกับยื่นแขนออกไปจับมือกับ


ไบรท์
“ความขีข้ ลาดของผมคงไม่ ใช่ เรื่ องแย่ เสี ยทีเดียว”

ไบรท์ ส่ายศีรษะเล็กน้ อย

“เคยมีผ้ วู ิเศษกล่าวกับผมในวาระสุ ดท้ ายของเขาว่ า จงอย่ าได้


สงสั ยในสิ่ งที่ไม่ ควรสงสั ยเด็ดขาด โดยเฉพาะกับเหตุการณ์ แปลก
ประหลาดที่อาจนาพาไปสู่ อันตราย ยิ่งรู้น้อยเท่ าไร ชีวิตก็ยิ่งยืนยาว
และมีความสุ ขมากเท่ านั้น”
โรแซนรีบเสริม

“ไคลน์ คุณไม่ ต้องกังวลเกินไป ฉันได้ ยินมาจากลุงนีลล์แล้ว นัก


ทานายคือผู้วิเศษสายสนับสนุน ตราบใดที่คุณไม่ ถูกเสี ยงในหัวเย้ า
ยวน อันตรายยังถือเป็ นเรื่ องไกลตัว

“แล้วก็… ทาไมถึงแต่ งตัวแบบนี?้ ไคลน์ ! คุณแต่ งกายได้ เสื่ อม


เกียรติสุภาพบุรุษมาก!

“ว่ าแต่ … วันนีค้ ุณไม่ ต้องเข้ าเวรแล้วนี่นา? แล้วกลับมาทาไม


อย่ างนั้นหรื อ?”

“ผมมาเบิกกระสุ นซ้ อม”


ไคลน์ ไม่ ตอบคาถามแรก มันเชื่ อว่ าอีกประเดี๋ยวสตรีผ้ นู คี้ งลืมไป
เอง

“ไม่ มีปัญหา”

“ไบรท์ เป็ นหน้ าที่คุณแล้ว คงรู้ใช่ ไหมว่ ากุญแจคลังอาวุธถูกเก็บ


ไว้ ที่ใด? อ๊ะ! ลุงนีลล์ใจร้ ายมาก! ไหนบอกว่ าวันนี้จะให้ ลองชิม
กาแฟ? ดันเอากระป๋องติดตัวกลับไปเสี ยได้ ”

โรแซนยืนจ้ ออีกสั กพักจนไคลน์ ได้ รับกระสุ นฝึ กซ้ อม


คนทั้งสองเดินออกจากบริษัทหนามทมิฬพร้ อมกัน แต่ แยกกลาง
ทางบนถนนซุตแลน คนหนึ่งขึน้ รถม้ ากลับบ้ าน ส่ วนอีกคนเดินไป
สนามยิงปื น

ปัง! ปัง! ปัง!

ไคลน์ ฝึกซ้ อมแบบเดิมซ้าไปมา : ดึงปื นออกจากซองรักแร้ เกร็ง


มือเล็ง ยิงให้ ครบหกนัด ดันโม่ ออก เทปลอกกระสุ น และบรรจุ
กลับไปใหม่

ยิ่งเวลาผ่ านไป กล้ามเนื้อร่ างกายก็ยิ่งคุ้นเคยกับท่ วงท่ า รวมถึง


ความแม่ นยาของกระสุ นที่เข้ าเป้ามากกว่ าเดิมเล็กน้ อยหลังจาก
กลายเป็ นผู้วิเศษ
เมื่อครบหนึ่งเซ็ต ไคลน์ จะนั่งพักและพิจารณาหาข้ อบกพร่ อง
ของตัวเอง

หลังจากใช้ กระสุ นไปจนหมด ชายหนุ่มอาศัยพื้นที่ภายในสนาม


ยิงปื นเพื่อซ้ อมวิดพื้นและฝึ กร่ างกายในรูปแบบอื่น

เมื่อทุกสิ่ งเสร็จสิ้น มันนั่งรถม้ าไร้ รางตรงกลับบ้ านทันที ขณะ


มองออกไปนอกหน้ าต่ าง ชายหนุ่มเพิง่ ตระหนักได้ ว่าท้ องฟ้ าเริ่ม
มืด ปัจจุบันเป็ นเวลาเกือบหนึ่งทุ่ม

ไคลน์ เตรียมตัวออกจากบ้ านไปซื้อของสาหรับประกอบอาหาร


เย็น ทันใดนั้น เมลิสซ่ าเปิ ดประตูบ้านสวนเข้ ามาพร้ อมกับกระเป๋า
สะพายบรรจุเครื่ องเขียน

นอกเหนือจากกระเป๋า เธอยังถือถุงพะรุงพะรังซึ่งเป็ นวัตถุดิบ


สาหรับประกอบอาหารในคืนนี้

“…ฉันคิดว่ านายกับเบ็นสั นน่ าจะกลับดึก ก่อนออกจากบ้ านเลย


หยิบเงินจากที่ซ่อนจานวนหนึ่งซูลเพื่อซื้อของ”

เมื่อเห็นพีช่ ายแสดงสี หน้ าฉงน เมลิสซ่ าจึงอธิบายด้ วยน้าเสี ยง


เรียบเฉยเหมือนทุกครั้ง

“ถ้ าหยิบเงินไปแล้ว ทาไมเธอถึงไม่ นั่งรถม้ าไปโรงเรียน?”


ไคลน์ ย้อนนึกถึงสิ่ งที่มันครุ่นคิดเมื่อช่ วงเช้ า
เมลิสซ่ าขมวดคิว้ ตอบ

“ทาไมฉันต้ องนั่ง? ค่ าโดยสารรถม้ าไปโรงเรียนจะอยู่ที่สี่เพนนี่


ไปกลับเท่ ากับแปดเพนนี หากรวมเบ็นสั นกับนาย ค่ าเดินทาง
ครอบครัวเราจะตกที่วันละ 24 เพนนี นั่นเท่ ากับสองซูลเลยนะ!
เมื่อคานวณค่ าใช้ จ่ายภายในหนึ่งสั ปดาห์ โดยตัดวันอาทิตย์ ออกไป
ค่ าเดินทางจะอยู่ที่ 12 ซูลต่ อสั ปดาห์ เทียบเท่ าได้ กับค่ าเช่ าบ้ าน”

หยุด หยุด หยุด! ไม่ ต้องประกาศศักดาความเก่งคณิตศาสตร์ ต่อ


หน้ าพี…
่ ไคลน์ รีบยกมือขึน้ เป็ นเชิงห้ าม

เมลิสซ่ าชะงักครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่ อ

“การเดินไปเรียนไม่ ใช่ เรื่ องเสี ยหายสั กหน่ อย คุณครูบอกว่ า


มนุษย์ ทุกคนควรออกกาลังกายอย่ างสม่าเสมอ แถมยังมีโอกาสเก็บ
เศษวัสดุได้ ตามทางเดิน”

ไคลน์ แสยะยิม้

“งั้นฉันจะคานวณให้ ฟัง ค่ าเดินทางรายสั ปดาห์ ตกที่สิบสองซูล


ค่ าเช่ าบ้ านอีกสิ บสองซูลสามเพนนี รวมเป็ นหนึ่งปอนด์ สี่ ซูล กับ
อีกสามเพนนี… ลาพังค่ าแรงเบ็นสั นก็มากพอจะจ่ ายตรงนีไ้ ด้ หมด
แถมยังเหลือเศษนิดหน่ อย
“ค่ าแรงของฉันอาจถูกลดลงครึ่งหนึ่งจากการเบิกล่วงหน้ าก็จริง
แต่ ก็ยังสู งถึงสั ปดาห์ ละหนึ่งปอนด์ กับอีกสิ บซูล ต่ อให้ พวกเรากิน
เนื้อทุกวัน รวมถึงค่ าจิปาถะอย่ างแก๊ ส ถ่ านหิน ฟื น และเครื่ องเทศ
สาหรับปรุงอาหาร รายได้ ของพวกเราก็ยังเหลือกินเหลือใช้ ถ้า
ประหยัดค่ าอาหารเที่ยงสั กหน่ อย พวกเราสามารถเป็ นสมาชิก
หนังสื อพิมพ์ฉบับเช้ าได้ ด้วย

“หลังจากครบสองเดือน หนี้ที่เบิกล่วงหน้ าก็จะหมดลง ฉันจะ


กลับมามีค่าแรงสามปอนด์ ต่อสั ปดาห์ อีกครั้ง เงินที่เหลือจะถูกเก็บ
ออมสาหรับเสื้ อผ้ าชุ ดใหม่ ของเธอและเบ็นสั น”

“ต…แต่ พวกเราต้ องสารองเงินเผื่ออุบัติเหตุเอาไว้ ”

เมลิสซ่ ายังคงยืนกราน

ไคลน์ อมยิม้

“ถ้ าอย่ างนั้นพวกเราจะกินเนื้อให้ น้อยลง เธอไม่ คิดบ้ างหรื อว่ า


ระยะเวลาห้ าสิ บนาที ไม่ สิ หนึ่งร้ อยนาทีที่เธอใช้ เดิน มันผ่ านไป
อย่ างสู ญเปล่าและไม่ เกิดประโยชน์ เธอสามารถนาเวลาดังกล่าวมา
ทบทวนบทเรียนหรื ออ่านหนังสื อพัฒนาตัวเองได้

“ถ้ ามีเวลาอ่านหนังสื อเพิม่ เมลิสซ่ า เธอจะจบการศึกษาด้ วยผล


การเรียนเป็ นเลิศ ได้ ทางานที่มั่นคงและผลตอบแทนดี และเมื่อเป็ น
เช่ นนั้น ครอบครัวของเราจะยิ่งมั่งคั่งขึน้ กว่ าเดิม ลองคิดถึงอนาคต
ดูบ้าง”

“…”

นีค่ ือความช่าชองในการโต้ เถียงของนักเลงคีย์บอร์ ด เมลิสซ่ ามิ


อาจหาเหตุผลมาแย้ งได้ เธอจาใจต้ องทาตามข้ อเสนอ

ฟู่ ว! ในที่สุดก็ล่อลวงสาเร็จ ไม่ สิ คาว่ าล่อลวงฟังดูอันตราย


เกินไป เรียกว่ าโน้ มน้ าวก็แล้วกัน…
ไคลน์ ราพันก่อนจะก้มตัวลงไปหยิบถุงพะรุงพะรังที่เมลิสซ่ าหิว้
มาตลอดทาง

“คราวหลังซื้อเนื้อสั ตว์ ให้ มากกว่ านี้ จาพวกเนื้อแกะหรื อเนื้อ


ไก่… เธอต้ องทานให้ อิ่ม จะได้ มีอาหารไปเลีย้ งสมอง เมื่อสุ ขภาพ
ร่ างกายแข็งแรง ผลการเรียนก็จะดีขนึ้ ตามไปด้ วย เนื่องจากสมอง
ได้ รับการพัฒนาเต็มที่”

เมื่อพูดถึงเนื้อสั ตว์ ไคลน์ เริ่มน้าลายสอ

เมลิสซ่ าทาแก้มป่ องก่อนจะยอมอ่อนข้ อ

“เข้ าใจแล้ว”

เช้ าวันถัดมา หลังจากมั่นใจว่ าเมลิสซ่ ายอมขึน้ รถม้ าไปโรงเรียน
ไคลน์ และเบ็นสั นต่ างแยกย้ ายไปยังบริษัทของตัวเอง

เมื่อย่ างกรายเข้ าไปในสานักงาน ชายหนุ่มได้ พบกับลุงนีลล์และ


โรแซนกาลังนั่งสนทนาบนเก้าอีร้ ับแขกอย่ างออกรส

รายแรกยังคงสวมชุดคลุมสี ดาคล้ายนักบวชเช่ นเคย ดูเหมือนเขา


จะไม่ แยแสสายตาคนรอบข้ าง
ส่ วนโรแซน วันนีเ้ ธอปรากฏตัวในเดรสสี ครีมน่ ารักน่ าชัง

“สวัสดียามเช้ า มิสเตอร์ นีลล์ มิสโรแซน”

ไคลน์ กล่าวทักทายพร้ อมถอดหมวก

ลุงนีลล์จ้องมองอย่ างมีเลศนัย

“สวัสดียามเช้ า… เสี ยงที่ไม่ ควรได้ ยิน เจ้ าไม่ ได้ ยินมันใช่ ไหม?”

“ไม่ มีครับ ผมหลับสบายดี”

ไคลน์ ฉงนเล็กน้ อย อาจเป็ นเพราะตนยังมีสัมผัสวิญญาณไม่


รุนแรงพอกระมัง…
“ฮะฮะ! อย่ าไปคิดมากเลย ไม่ ใช่ เสี ยงที่ได้ ยินง่ ายนักหรอก”

ลุงนีลล์ชี้นวิ้ ไปยังฉากกั้น

“ตามฉันไปที่คลังอาวุธ พวกเราจะเรียนศาสตร์ เร้ นลับคาบเช้ าที่


นั่น”

ไคลน์ พนักหน้ าและเดินตามลุงนีลล์ไปอย่ างว่ าง่ าย เมื่อมาถึง


ไบรท์ ซึ่งมีเวรทั้งคืนยังคงปฏิบัติหน้ าที่อยู่ ได้ เวลาลุงนีลล์มาเปลี่ยน
“พวกเราจะเรียนอะไรกันหรื อครับ?”

ไคลน์ ถามฉงน

ลุงนีลล์อธิบาย

“มีท้งั ความรู้ระดับพื้นฐานและค่ อนข้ างซับซ้ อน แต่ ก่อนอื่นเลย


ฉันจะสอนนายเกี่ยวกับลูกเล่นที่น่าสนใจ”

ลุงนีลล์ยกข้ อมือขึน้ และชี้ไปยังอัญมณีที่ห้อยอยู่กับสร้ อยเงิน…


ศิลาจันทรา
ราชันย์ เร้ นลับ 40 : คาบเรียนวิชาเร้ นลับ

“ลูกเล่นที่น่าสนใจ?”

ไคลน์ ถามพลางขมวดคิว้

ลุงนีลล์ยมิ้ ก่อนจะอธิบายต่ อ

“ฉันจะเข้ าไปสารวจความเรียบร้ อยในคลังอาวุธ คลังอุปกรณ์


และคลังเก็บของเก่า จงใช้ แก้วบนโต๊ ะชงกาแฟจานวนสองแก้ ว

“จากหนึ่งในสองแก้วที่ชง ให้ ใส่ สิ่งน่ าขยะแขยงลงไป ส่ วนจะ


เป็ นอะไรก็สุดแล้วแต่ เจ้ า ใช้ จินตนาการเอาเอง เรื่ องเดียวที่ฉัน
ขอร้ องคืออย่ าใช้ กาแฟในปริมาณมากเกินไป นั่นเป็ นถึงเมล็ดกาแฟ
เฟเนพ็อตสุ ดหายากที่ฉันบดด้ วยสองมือของตัวเอง!”

“เข้ าใจแล้วครับ”

ถึงไคลน์ จะไม่ ทราบว่ าลุงนีลล์จะแสดงมายากลใดให้ รับชม แต่


มันก็เต็มใจทา

ชายหนุ่มเฝ้ามองลุงนีลล์เปิ ดประตูคลังอาวุธด้ วยกุญแจทองแดง


และเดินเข้ าไป มันไม่ รีรอ ถ้ วยกาแฟถูกนามาวางเตรียม ถัดมาเป็ น
การตรวจสอบน้าร้ อนภายในกา
เมื่อเห็นว่ าน้าร้ อนมีเพียงพอ ไคลน์ บรรจงเปิ ดฝากระป๋องสี เงิน
ออก กลิ่นหอมของกาแฟอันเย้ ายวนลอยเตะจมูก ชายหนุ่มใช้ ช้อน
ตักกาแฟบดจนพูนและนาไปใส่ ท้งั สองถ้ วย ก่อนจะเทน้าร้ อนตาม
ลงไปและใช้ ช้อนคนกวน

ในฐานะผู้เดินทางข้ ามโลกที่มาจากยุคสมัยเทคโนโลยี
พร้ อมสรรพ ไคลน์ ย่อมคุ้นชินกับการดื่มกาแฟ แต่ ก็มิได้ หรูหรา
มากนัก ส่ วนใหญ่ มักเป็ นกาแฟกึ่งสาเร็จรูป
หลังจากคนกาแฟทั้งสองแก้ วได้ ที่ ไคลน์ ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะ
นั่งลงและยกเท้ าขวาขึน้ มาวางไขว้ บนเข่ าซ้ าย มันใช้ ปลายนิว้ หยิบ
เศษดินที่ติดอยู่กับรองเท้ าออกมาใส่ ในแก้วกาแฟถ้ วยซ้ ายมือ

จากนั้นก็ใช้ ช้อนคนซ้า จนสิ่ งแปลกปลอมกลายเป็ นเนื้อเดียวกับ


กาแฟในถ้ วยจนแยกไม่ ออก

ไม่ กี่นาทีถัดมา ลุงนีลล์เดินกลับจากประตูคลังอาวุธ นิว้ มือควง


กุญแจทองแดงเล่น เมื่อปิ ดประตูและหันมองไคลน์ มันเอ่ยปากถาม

“เสร็จหรื อยัง?”

นัยน์ ตาสี แดงขุ่นมัวชาเลืองมองไคลน์ ที่นั่งฝั่งตรงข้ ามโต๊ ะ


ทางาน
“ครับ”

ชายหนุ่มพยักหน้ า

ลุงนีลล์ยมิ้ พร้ อมกับปลดโซ่ เงินที่ข้อมือและนั่งลงบนเก้าอีท้ างาน

สี หน้ าชายชราสงบนิ่งโดยพลัน มันใช้ มือซ้ ายถือโซ่ เงิน ส่ วนมือ


ขวาถือปลายโซ่ ที่มีศิลาจันทราห้ อย อีกไม่ กี่มิลลิเมตรก็จะสั มผัสกับ
ของเหลวในถ้ วยกาแฟ
ท่ ามกลางบรรยากาศเงียบงัน ศิลาจันทร์ เริ่มสั่ นระริกอย่ างไร้
เหตุผล ก่อนจะหมุนตัวเองไปพร้ อมกับโซ่ เงินในทิศทางทวนเข็ม
นาฬิ กา

“ในถ้ วยมีสิ่งน่ าขยะแขยงอยู่”

ลุงนีลล์กล่าวด้ วยสี หน้ ามั่นใจ

โดยไม่ รอไคลน์ เฉลย มันใช้ มือหยิบกาแฟอีกถ้ วยยกจิบทันที

“เจ้ าชอบกาแฟดาอย่ างนั้นหรื อ? สาหรับฉันต้ องใส่ น้าตาลและ


นมลงไปด้ วย”

ไคลน์ ยังไม่ ตอบ มันรีบถามด้ วยสี หน้ าใคร่ ร้ ู


“คุณทานายได้ แม่ นมาก เป็ นเพราะศิลาจันทราหรื อครับ? ต้ องใช่
แน่ …”

“นี่คือการทานายด้ วยลูกตุ้ม หรื อเรียกอีกชื่ อหนึ่งว่ าลูกตุ้ม


วิญญาณ ลูกตุ้มในที่นคี้ ือการนาอัญมณีใดก็ได้ มาห้ อยกับโซ่ เงิน

“เป็ นเทคนิคที่ใช้ ‘วิญญาณดารา’ ของตัวเองเพื่อติดต่ อกับโลก


วิญญาณ ให้ ตัวตนในโลกวิญญาณช่ วยตอบคาถามในสิ่ งที่ปรารถนา
จะทราบ ผ่ านตัวกลางอย่ างอัญมณี คริสตัล หรื อโลหะวิเศษบาง
ชนิด

“ผลลัพธ์ คาทานายจะแสดงออกมาเพียงสองคาตอบเท่ านั้น คือดี


หรื อไม่ ดี ตัวอย่ างเช่ นกาแฟสองถ้ วยนี้ ถ้ วยแรกหมุนทวนเข็ม
นาฬิ กา จึงแปลว่ าไม่ ดี ส่ วนถ้ วยที่สองหมุนตามเข็มนาฬิ กา จึง
แปลว่ าดี ถ้ าไม่ หมุนเลยแปลว่ าไม่ ดีไม่ แย่

“เจ้ าสามารถทดสอบได้ ด้วยตัวเองโดยการเขียน ‘ประโยคบอก


เล่า’ ที่ต้องการทานายลงบนเศษกระดาษ จงจาไว้ ให้ ดี สิ่ งที่เขียนลง
ไปต้ องเป็ น ‘ประโยคบอกเล่า’ เท่ านั้น”

ลุงนีลล์วางถ้ วยกาแฟลงพร้ อมกับอธิบาย

ไคลน์ ถามด้ วยสี หน้ าสงสั ย


“ห้ ามเขียนประโยคคาถามงั้นหรื อครับ?”
“ถูกต้ อง เจ้ าไม่ สามารถถามว่ า ‘หญิงสาวผู้นตี้ ้ องการเป็ นคู่หมั้น
ของผมหรื อไม่ ’ แต่ ควรใช้ ประโยคบอกเล่าเช่ น ‘หญิงสาวผู้นี้
ต้ องการเป็ นคู่หมั้นของผม’

“เขียนลงบนกระดาษและวางไว้ บนโต๊ ะ จากนั้นก็ใช้ มือข้ างถนัด


ถือโซ่ เงินที่มีปลายห้ อยลูกตุ้ม ขอเน้ นยา้ ต้ องเป็ นมือข้ างถนัด
เท่ านั้น”

ลุงนีลล์กล่าวพลางอมยิม้

“ขณะทานายให้ ยืดแขนตรง ปรับลูกตุ้มอย่ างเหมาะสม ปล่อยให้


ปลายห้ อยเหนือแผ่ นกระดาษเพียงเล็กน้ อย จากนั้นก็หลับตาลงและ
ท่ องประโยคบอกเล่าที่เขียนจนครบเจ็ดครั้ง

“เมื่อเสร็จสิ้น ให้ ลืมตาขึน้ และสารวจว่ าลูกตุ้มวิญญาณมีการ


เปลี่ยนแปลงหรื อไม่ ถ้ ายังไม่ หมุน ให้ หลับตาลงและท่ องอีกเจ็ด
ครั้ง ทาเช่ นนีจ้ นกว่ ามันจะหมุน”

ไคลน์ พยักหน้ ารับ

“สรุปก็คือ ทวนเข็มนาฬิ กาหมายถึง ‘ไม่ ใช่ ’ และตามเข็มนาฬิ กา


หมายถึง ‘ใช่ ’ สิ นะครับ?”
“เจ้ ายังสามารถใช้ ระบุความ ‘สาเร็จ’ หรื อ ‘ล้มเหลว’ ได้ ด้วย
ขึน้ อยู่กับประโยคที่เขียน”

ลุงนีลล์เสริม มันพยายามสอนความหลากหลายและ
อรรถประโยชน์ ของการทานายด้ วยลูกตุ้มวิญญาณ

ไคลน์ ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะประเมินว่ าเทคนิคดังกล่าวมี


ประโยชน์ ใช้ สอยหลายด้ าน ตัวอย่ างเช่ น หากเดินทางไปยังสถานที่
ไม่ ค้ นุ เคย มันสามารถใช้ ทานายว่ าอาหารจานดังกล่าวมีพษิ เจือปน
หรื อไม่ โดยไม่ จาเป็ นต้ องมีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์
แน่ นอนว่ านี่เป็ นเพียงเทคนิคการทานายพื้นฐาน ชุดคาตอบที่
ได้ รับมีเพียงสองถึงสามรูปแบบ มิอาจลงลึกรายละเอียดไปมากกว่ า
นั้น คงยากที่จะใช้ ในการสื บสวนคดีซับซ้ อน

ตัวอย่ างเช่ นหากท่ องประโยคในใจว่ า ‘ภายในอาหารมีสิ่งที่เป็ น


อันตรายกับร่ างกาย’ ต่ อให้ คาตอบออกมาเป็ น ‘ใช่ ’ แต่ ก็ไม่ แน่
เสมอไปว่ าอาหารจะมียาพิษ เพราะวัตถุดิบประกอบอาหารส่ วน
ใหญ่ ล้วนก่อผลเสี ยแก่ร่างกายในปริมาณไม่ มาก เช่ นสารปนเปื้ อน
ในผัก กลุ่มคนที่เลือกกินไม่ ได้ ย่ อมยินดีกลืนลงท้ องโดยไม่ แยแส

เทคนิคทานายด้ วยลูกตุ้มไม่ สามารถมอบคาตอบที่ละเอียดกว่ านี้


ได้ เลย

“ผมคงต้ องรีบเก็บเงินซื้อคริสตัสและโซ่ เงินสาหรับสร้ างลูกตุ้ม


วิญญาณ…”
ไคลน์ ถอนหายใจยาว

ลุงนีลล์มองด้ วยสี หน้ าฉงน

“ทาไมถึงไม่ เบิก? นี่คืออุปกรณ์ พื้นฐานสาหรับผู้วิเศษ


โดยเฉพาะผู้วิเศษสายสนับสนุนอย่ างพวกเรา ภายในคลังอาวุธยัง
เหลือบุษราคัมและโซ่ เงินสาหรับสร้ างลูกตุ้มวิญญาณอยู่นะ”

“แต่ ผมไม่ ใช่ เจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการ…”

ไคลน์ ร้ ูสึกไม่ ดีที่มันต้ องเบิกอุปกรณ์พร่าเพรื่ อ แต่ อีกใจหนึ่งก็


ลังเล

ลุงนีลล์ยมิ้

“สาหรับผู้วิเศษ ไม่ ว่าจะเป็ นเจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการหรื อไม่ แต่


เหยี่ยวราตรีจะสนับสนุนอุปกรณ์ พื้นฐานให้ เสมอ โดยเฉพาะ
เจ้ าหน้ าที่พลเรื อนที่มีเงินเดือนต่ากว่ า”

“คงต้ องเรียกว่ า ‘สิ ทธิพเิ ศษ’ กระมัง… ตกลงครับ ผมจะแจ้ ง


เรื่ องนีใ้ ห้ หัวหน้ าทราบภายหลัง”

หลังจากตัดสิ นใจ ไคลน์ กาหมัดแน่ นด้ วยสี หน้ าตื่นเต้ น


มันทราบได้ อย่ างไรว่ าดันน์ จะอนุญาตทั้งที่ไม่ เคยลองถามเลยสั ก
ครั้ง?

“ดีมาก”

ลุงนีลล์กล่าว

“เอาล่ะ ถึงเวลาพวกเราเริ่มคาบเรียนวิชาเร้ นลับอย่ างเป็ น


ทางการแล้ว พื้นฐานที่สุดของศาสตร์ เร้ นลับคือ ‘สั ญลักษณ์ ’ เจ้ ารู้
หรื อไม่ ว่าสั ญลักษณ์ หมายถึงสิ่ งใด?”

ไคลน์ หวนนึกถึงเศษเสี้ยวความทรงจาที่ผ่านมาทั้งหมด ไม่ ว่าจะ


เป็ นภาพของโลกวิญญาณหรื อมิติสายหมอก ชายหนุ่มตกผลึก
ความคิดตัวเองเป็ นคาพูด

“ไม่ ว่าจะเป็ นโลกวิญญาณ มิติดารา หรื อแม้ กระทั่งมิติลึกลับที่ไม่


มีใครรู้จัก ทั้งหมดจะอยู่นอกเหนือ ‘สั มผัส’ ของมนุษย์ ข้ อมูลที่
กายจิตได้ รับไม่ ใช่ สิ่งที่มนุษย์ สามารถอธิบายได้ ด้วยสั มผัสจากหู
จมูก หรื อดวงตา

“ข้ อมูลดังกล่าวมาในรูปแบบนามธรรม เป็ นประสบการณ์ ที่


อธิบายไม่ ได้ มีหลายครั้งที่ข้อมูลออกมาเป็ นภาพอักขระหรื อ
สั ญลักษณ์ พเิ ศษที่มนุษย์ ต้องตีความเอาเอง”
“ถูกต้ องไร้ ที่ติ สมกับเป็ นนักทานาย”
ลุงนีลล์พยักหน้ าชื่ นชม

“เมื่อใดที่ตีความสั ญลักษณ์ เหล่านั้นได้ ด้วยตัวเอง เจ้ าก็จะสู่ โลก


ศาสตร์ เร้ นลับที่กว้ างขึน้

“ด้ วยเหตุนี้ ศาสตร์ การทานายเบื้องต้ นจึงต้ องมีอุปกรณ์


ช่ วยเหลือเสมอ ตัวอย่ างชัดเจนคือไพ่ทาโร่ ต์ มันเป็ นสั ญลักษณ์ ที่
มนุษย์ คิดค้ นขึน้ เพื่อตีความข้ อมูลบรรพกาลจากโลกวิญญาณ”
ลุงนีลล์หยิบปากกาหมึกซึมพร้ อมกับวาดเส้ นโค้ งลักษณะหงาย
จากนั้นก็วาดขีดยาวหนึ่งขีดไว้ ด้านบน

ชายชราเงยหน้ ามองไคลน์ พลางเอ่ยปากถาม

“นี่คือสั ญลักษณ์ ของอะไร?”

ชายหนุ่มครุ่นคิด มันตอบอย่ างไม่ มั่นใจ

“ขนตา?”

“…”

ลุงนีลล์ถอนหายใจผิดหวัง
“นี่คือสั ญลักษณ์ ของราศีเกษตรกรรมในจักรราศี และนี่คือ
สั ญลักษณ์ ของราศีอัสนี ส่ วนนี่คือสั ญลักษณ์ ของราศีเหมันต์ …”

ชายชราวาดภาพสั ญลักษณ์ เพิม่ อีกสองถึงสามชนิด

ไคลน์ พยายามจดจา แต่ ขณะเดียวกันก็อดวิจารณ์ ไม่ ได้

“ชื่ อของแต่ ละสั กลักษณ์ ช่าง… ช่ างไร้ ความสุ นทรีสิ้นดี… ใช่


แล้ว! ไร้ อารยะมากๆ!”
ปราศจากรสนิยม แถมยังเก่าแก่คร่าครึ

ลุงนีลล์เผยรอยยิม้

“เจ้ าพูดเหมือนกับจักรพรรดิโรซายเลยนะ เขาเคยพยายาม


เปลี่ยนชื่ อของพวกมันเป็ นราศีกันย์ ราศีกรกฏ หรื อราศีพจิ ิก

“แต่ น่าเสี ยดายที่ชายคนนั้นไม่ มีพลังมากพอจะเปลี่ยน


ขนบธรรมเนียมโบราณของโลก แต่ อย่ างน้ อย ชื่ อเชยๆ ของ
จักรราศีเหล่านีก้ ็ยังพอมีประโยชน์ บ้าง เพราะชาวนาจะได้ ทราบว่ า
ถึงเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว”

“จักรพรรดิโรซายช่ างปรีชานัก”
ไคลน์ อมยิม้ จักรพรรดิโรซายเป็ นรุ่นพีท่ ี่มีวิสัยทัศน์ ค่อนข้ างดี
ทีเดียว…

ลุงนีลล์ย่อมไม่ เข้ าใจมุกตลกของไคลน์ มันอธิบายสั ญลักษณ์


จักรราศีที่เหลือทั้งหมดจนครบพร้ อมชื่ อ ประกอบด้ วยสุ ริยัน
จันทราแดง ดาวสี น้าตาล ดาราสี ชาด และดาราสี คราม

ขณะอธิบายก็สอนไคลน์ ถึงวิธีการวาดภาพสั ญลักษณ์ ทางดารา


ศาสตร์ ไปในตัว รวมถึงอธิบายเกี่ยวกับหลักพื้นฐานที่ควรทราบ

ถัดมาเป็ นการสอนศาสตร์ ทานายด้ วยลูกแก้วคริสตัล เริ่มจาก


วัสดุที่ใช้ สร้ างลูกแก้ว บทสวดและคาถาที่ต้องท่ อง

เป็ นคาบเรียนยาวนานที่ทาให้ ไคลน์ ได้ พบโลกใบใหม่ หากไม่


เพราะพลังโอสถนักทานายช่ วยให้ ความจาดีขึน้ คงมีหลายครั้งที่
มันต้ องขอให้ ลุงนีลล์หยุดเพื่อย่ อยข้ อมูลให้ เสร็จ

“คาบเรียนวิชาเร้ นลับของวันนีจ้ บลงแล้ว ลองทบทวนในใจและ


ไต่ ถามในสิ่ งที่ยังเคลือบแคลง”

ชายชราหยิบนาฬิ กาพกจากกระเป๋าเสื้ อเพื่อตรวจสอบเวลา ก่อน


จะปิ ดมันและเก็บกลับ

“อย่ าลืมอ่านเอกสารโบราณที่ฉันเตรียมไว้ ให้ ด้วยล่ะ ด้ วยความ


สั ตย์ จริง แม้ แต่ ตัวฉันยังเข็ดขยาดพวกมัน”
“ได้ ครับ”

ไคลน์ หยิบเศษกระดาษที่ลุงนีลล์วาดสั ญลักษณ์ จักรราศีเก็บใส่


กระเป๋า มันพยายามทบทวนบทเรียนของวันนีเ้ พื่อที่จะได้ ไม่ ตก
หล่น

ลุงนีลล์จิบกาแฟและกล่าวต่ อ

“แค่ การจดจายังไม่ พอ แต่ ต้องหาโอกาสปฏิบัติจริงให้ บ่อยครั้ง


วิธีการดังกล่าวจะช่ วยให้ ความรู้ติดตัวไปตลอด แล้วอย่ าลืม
เข้ าฌานอย่ างสม่าเสมอ ยิ่งฝึ กฝนมากเท่ าไร ก็ยิ่งช่ วงชิงพลังโอสถ
มาเป็ นของตัวเองได้ เร็ว เจ้ าจะค้ นพบความลับของโอสถและลบ
ล้างเสี ยงที่ไม่ พึงประสงค์ ออกจากหัว”

ชายหนุ่มเงยหน้ าขึน้ และครุ่นคิดถึงแผนการสวมบทบาทที่จะ


เริ่มทาในสโมสรพยากรณ์ ไคลน์ พยายามบอกใบ้ นีลล์

“โอสถของผมเกี่ยวพันกับศาสตร์ ทานาย การฝึ กฝนหรื อเข้ าฌาน


อย่ างเดียวคงไม่ ช่วยให้ พฒ
ั นาพลังได้ เร็ว ผมจึงมีแผนจะดูดวงให้
บุคคลทั่วไปอย่ างสม่าเสมอเพื่อขัดเกลาพลังนักทานายให้ เฉียบ
แหลม

“ด้ วยเหตุนี้ สโมสรพยากรณ์ จึงเป็ นสิ่ งที่ขาดไม่ ได้ สโมสร


ดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตเหนือบนถนนฮาเวิส ผมต้ องเก็บเงินค่ าสมาชิก
และหาโอกาสดูดวงบุคคลทั่วไปให้ มากที่สุด เพื่อจะได้ กลายเป็ นนัก
ทานายตัวจริงเสี ยงจริง”

แผนสวมบทบาทเป็ นนักทานายคงมิอาจหลบเลี่ยงสายตาเหยี่ยว
ราตรีได้ ตลอดรอดฝั่ง มันจึงต้ องบอกให้ ทราบล่วงหน้ าตั้งแต่ เนิ่นๆ

“ความคิดของเจ้ าเหมือนกับดาลี่ย์เลยนะ หล่อนมักทาเหมือน


ตนเองเป็ นผู้สื่อวิญญาณตัวจริงเสมอ”

ลุงนีลล์ส่ายศีรษะเล็กน้ อย
“แล้วทาไมต้ องรอเก็บเงินให้ ครบล่ะ? เจ้ าสามารถขอเบิกเงินจาก
ดันน์ ได้ ทันที สิ่ งนีถ้ ือเป็ นค่ าใช้ จ่ายในการปฏิบัติหน้ าที่!”

“องค์กรต่ างๆ เช่ นสโมสรพยากรณ์ อาจมีผ้ วู ิเศษนอกรีตแฝงตัว


อยู่ หรื อกระทั่งสมาชิกลัทธิชั่วร้ าย เดิมทีแล้วเหยี่ยวราตรีมีหน้ าที่
สอดสององค์ กรที่กระจายตัวในเขตรับผิดชอบ

“แต่ เนื่องจากพวกเรามีกาลังคนน้ อย บางครั้งจึงจับตามองได้ ไม่


ทั่วถึง การเข้ าเป็ นสมาชิกของเจ้ าจะสร้ างประโยชน์ ให้ เหยี่ยวราตรี
แน่ นอน นั่นถือเป็ นงานประเภทหนึ่ง!”

ทาแบบนั้นได้ ด้วยหรื อ? ไคลน์ จ้องมองชายชราด้ วยสี หน้ าสุ ด


ฉงน
นี่มันข้ ออ้างขอเบิกเงินเพื่อใช้ ในธุระส่ วนตัวไม่ ใช่ หรื อไง?
บนโลกเก่าก็เคยมีเรื่ องคล้ายๆ แบบนี้…

ถ้ าจาไม่ ผิดจะเรียกว่ าคอรัปชั่น ในฐานะนักการเมืองคีย์บอร์ ด


ไคลน์ ไม่ มีทางลืม

“เจ้ าคิดจะใช้ เงินส่ วนตัวจริงหรื อ?”

ลุงนีลล์ยังคงยิม้ เมื่อเห็นปฏิกริยาไคล์
ชายหนุ่มรีบส่ ายศีรษะหนักแน่ น

“ผมจะไปบอกกับหัวหน้ าเดี๋ยวนี!้ ”

ชายชราพยักหน้ าอย่ างพึงพอใจ ก่อนจะชี้นวิ้ ไปยังถ้ วยกาแฟที่ยัง


ไม่ ได้ ดื่ม—ถ้ วยที่ไคลน์ ใส่ สิ่งน่ าขยะแขยงลงไป

“เจ้ าใส่ อะไรลงไป?”

ชายหนุ่มตอบกระอักกระอ่วน

“เศษดินจากรองเท้ าผม สี ของมันเข้ ากับกาแฟในถ้ วยพอดิบ


พอดี”
นีลล์ชะงักไปหลายวินาทีก่อนจะแผดเสี ยง

“แล้วทาไมไม่ รีบเอามันไปเททิง้ อีก!?”


าชันย์ เร้ นลับ 41 : ออเดรย์ และซูซี่ของเธอ

หลังจากเทกาแฟทิง้ ไคลน์ เดินกลับมายังคลังอาวุธเพื่อรับ


เอกสารโบราณกองโตและสาเนาคาอธิบายจากลุงนีลล์ จากนั้นก็เดิน
ผ่ านทางเดินสลัวขึน้ มายังสานักงานบริษัทรักษาความปลอดภัย
หนามทมิฬอีกครั้ง

กึก กึก กึก

เสี ยงฝี เท้ าดังก้องทั่วทางแคบ

หลังจากชายหนุ่มเดินพ้นบันไดวนที่ทาจากหิน มันผลักประตู
ห้ องออกไป กวาดสายตาหนึ่งรอบเพื่อยืนยันตาแหน่ ง ก่อนจะเดิน
ไปยังประตูห้องทางานบานที่สองฝั่งตรงข้ าม

แม้ เพิง่ จะทางานที่นี่ได้ เพียงสองวัน แต่ โครงสร้ างอาคารทั้งหมด


ก็แจ่ มชัดภายในหัวสมอง

ทางเข้ าหลักของแขกทั่วไปคือห้ องโถงใหญ่ ที่มีโซฟาและชุ ด


รับแขก ส่ วนห้ องทางานด้ านในจะถูกบดบังไว้ ด้วยฉากกั้น

ทางเดินหลังฉากกั้นจะมีประตูท้งั หมดหกบาน ฝั่งซ้ ายสามบาน


เรียงจากใกล้ไปไกลประกอบด้ วย ห้ องบัญชีของมาดามโอเรียนน่ า
ห้ องนอนสาหรับเจ้ าหน้ าที่เหยี่ยวราตรี ภายในมีโซฟาและเตียง
นอน และห้ องสุ ดท้ ายคือบันไดหินทางลงชั้นใต้ ดิน

ฝั่งขวาจานวนสามห้ อง เรียงจากใกล้ไปไกลประกอบด้ วย ห้ อง
ทางานดันน์ ·สมิท ห้ องทางานสาหรับเจ้ าหน้ าที่พลเรื อน ภายในมี
เครื่ องพิมพ์ดีดลา้ สมัย และสุ ดท้ ายคือห้ องนันทนาการสาหรับให้
เจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการเหยี่ยวราตรีได้ พกั ผ่ อนหย่ อนใจ

ไคลน์ เคยเห็นเลียวนาร์ ด·มิเชลเล่นไพ่กับเพื่อนร่ วมทีมภายใน


ห้ องนันทนาการ ชายหนุ่มเดาว่ าเป็ นไพ่ ‘พิชิตแลนลอร์ ด’ ที่โด่ งดัง
ในโลกเก่า แต่ แน่ นอน จักรพรรดิโรซายได้ เปลี่ยนชื่ อเป็ นไพ่ ‘พิชิต
จอมมาร’ แทน แต่ วิธีการเล่นยังคงเหมือนกับที่ไคลน์ ร้ ูจัก

( * ไพ่โต้ วตีจ้ ู่ [斗地主] (พิชิตแลนลอร์ ด) ได้ รับความนิยม


อย่ างมากในประเทศจีน เป็ นเกมไพ่ที่ต้องเล่นสามคน มีการวางเดิม
พัน เป้าหมายการเล่นคือ ไพ่ใครหมดมือก่อนเป็ นฝ่ ายชนะ
คล้ายคลึงกับสลาฟของญี่ปุ่น ศึกษาข้ อมูลเพิม่ เติมและวิธีการเล่น
ได้ ใน wiki )

ไบรท์ ได้ รับสิ ทธิ์พกั ผ่ อนหนึง่ วันหลังจากเข้ าเวรยาวตลอดคืน โร


แซนนั่งที่โต๊ ะทางานในห้ องรับแขก ส่ วนพนักงานขับรถม้ าผู้มี
หน้ าที่จัดหาและรับส่ งของจิปาถะ ซีซาร์ ·ฟรานซิส ก็ไม่ ได้ เข้ า
สานักงานเช่ นเคย

หลังจากไคลน์ เปิ ดประตูห้องทางานของเจ้ าหน้ าที่พลเรื อนเข้ าไป


มันพบโต๊ ะทางานว่ างเปล่าจานวนสามตัว มีเพียงเครื่ องพิมพ์ดีด
วางแน่ นิ่ง

“เครื่ องพิมพ์ดีดบริษัทอักเคอร์ สัน รุ่น 1346…”

ไคลน์ พมึ พา มันเคยเห็นของแบบนีใ้ นบ้ านเวิร์ชและห้ องทางาน


อาจารย์ มาก่อน ความงดงามกลไกด้ านในคือเสน่ ห์อันน่ าหลงไหล
ของเทคโนโลยีเครื่ องจักรในยุคปัจจุบัน

ชายหนุ่มเดินไปนั่งบนเก้าอีห้ น้ าเครื่ องพิมพ์ดีด มันเตรียมตัว


เรียบเรียงข้ อมูลในหัวจนครบ ก่อนจะก็ทดสอบพิมพ์ใส่ อากาศหนึ่ง
รอบ

ในช่ วงแรก ไคลน์ ออกอาการสั บสนกับเครื่ องพิมพ์ดีดแป้น ‘พิน


อิน’ ของภาษาจีนกลาง แต่ หลังจาก ‘หลอมรวม’ ความทรงจา
ไคลน์ คนก่อนเข้ าด้ วยกัน ความผิดพลาดดังกล่ าวก็ไม่ เกิดขึน้ อีก

แต่ ก! แต่ ก! แต่ ก!

เสี ยงเคาะจังหวะบนพิมพ์ดีดดังไพเราะคล้ายคลึงท่ วงทานองที่


เรียบเรียงจากอุตสาหกรรมเพลงโดยตรง ท่ ามกลางทานองดังกล่าว
ไคลน์ พมิ พ์ใบคาร้ องเสร็จในระยะเวลาอันสั้ น

อย่ างไรก็ตาม ชายหนุ่มมิได้ รีบร้ อนไปพบดันน์ ·สมิทและแจ้ ง


ความจานง สมาธิท้ังหมดกาลังเพ่งไปยังเอกสารโบราณที่ลุงนีลล์
จัดเตรียมไว้ ให้ บางเอกสารเป็ นการอ่านทบทวนสิ่ งที่ลุงนีลล์
วิเคราะห์ แต่ บางเอกสารก็ว่างเปล่าและรอให้ ไคลน์ วิเคราะห์ ใหม่
ตั้งแต่ ต้น

เมื่อถึงเวลาเกือบเที่ยง ชายหนุ่มบิดเหยียดลาคอเพื่อผ่ อนคลาย


ก่อนจะวางเอกสารโบราณลง มันกลับมาทบทวนบทเรียนศาสตร์
เร้ นลับในช่ วงเช้ าซ้า

หลังจากเสร็จสิ้นทั้งหมด ไคลน์ ถือใบคาร้ องที่พมิ พ์เสร็จเดินไป


หยุดหน้ าห้ องทางานถัดไป มันใช้ นวิ้ เคาะบานประตูไม้ อย่ าง
นุ่มนวล

ดันน์ ·สมิทกาลังรอให้ อาหารกลางวันมาส่ ง เมื่อเห็นไคลน์ เดินเข้ า


มายื่นเอกสาร มุมปากของมันโค้ งขึน้ เล็กน้ อย

“ลุงนีลล์สอนมาหรื อ?”

“ใช่ ครับ”

ไคลน์ ไม่ ลังเลเลยที่จะหักหลังลุงนีลล์

ดันน์ หยิบปากกาหมึกซึมสี ดาแดงขึน้ มาเซ็นรับรอง

“ผมมีแผนจะยื่นขอเงินสนับสนุนในส่ วนของเดือนกรกฏาคม
สิ งหาคม และกันยายนจากโบสถ์ และกรมตารวจ เมื่อไรก็ตามที่มัน
ถูกอนุมัติ คุณจะเบิกเงินจากมาดามโอเรียนน่ าได้ ทันที ส่ วนเรื่ อง
ของลูกตุ้มวิญญาณ คุณสามารถเบิกได้ เลยในช่ วงบ่ าย”

“เข้ าใจแล้วครับ”

ไคลน์ ตอบเสี ยงห้ วนแต่ กระฉับกระเฉง สี หน้ าแววตาเปี่ ยมด้ วย


ความตื่นเต้ น

ก่อนจะกล่าวคาอาลากับดันน์ ·สมิท มันเอ่ยปากถามอย่ าง


ระมัดระวัง
“ว่ าแต่ ... ตามปรกติแล้ว เงินสนับสนุนของเดือนกรกฏาคม
สิ งหาคม และกันยายน ต้ องถูกอนุมัติให้ เรียบร้ อยภายในเดือน
มิถุนายนไม่ ใช่ หรื อครับ?”

แล้วเหตุใดเงินสนับสนุนของเดือนกรกฏาคมถึงถูกอนุมัติภายใน
เดือนกรกฏาคม?

ดันน์ เงียบงันไปหลายวินาทีก่อนจะหยิบกาแฟขึน้ มาจิบ

“พวกเราต้ องทาสามคดีใหญ่ ภายในเดือนมิถุนายน ผมจึงยุ่งจน


ลืมส่ งเอกสาร”

สมกับเป็ นหัวหน้ าขีล้ ืม… ดันถามในสิ่ งที่ไม่ ควรถามเข้ าเสี ยได้


ชายหนุ่มรีบเดินออกจากห้ องโดยไม่ กล่ าวสิ่ งใดต่ อ
ชีวิตของไคลน์ เริ่มมีกิจวัตรที่ชัดเจนและเรียบง่ ายมากขึน้ เวลา
ครึ่งช่ วงโมงในช่ วงเช้ าจะถูกใช้ ฝึกเข้ าฌาน จากนั้นเป็ นคาบเรียน
วิชาเร้ นลับราวสองชั่วโมง และอีกชั่วโมงครึ่งสาหรับศึกษาเอกสาร
โบราณ ตอนเที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน หลังเที่ยงเป็ นช่ วงงีบ
สั้ นภายในห้ องนอน

พอเริ่มเข้ าสู่ ช่วงเย็น ไคลน์ จะเดินลงไปเบิกกระสุ นสาหรับซ้ อม


ยิงปื น เมื่อยิงเสร็จ จะเป็ นการเดินเท้ าไปบ้ านเวิร์ชซึ่งห่ างจากสนาม
ยิงปื นไม่ มาก แต่ มันต้ องคอยเปลี่ยนเส้ นทางเดินกลับถนนกางเขน
เหล็กไปเรื่ อยๆ ทุกวัน จนกว่ าจะพบเบาะแสของสมุดบันทึกอันที
โกนัส วิธีนี้จะช่ วยประหยัดค่ าเดินทางรถม้ าได้ มาก และถือเป็ นการ
ออกกาลังกายไปพร้ อมกัน

ระหว่ างเดินเล่น หากมีโอกาส มันจะฝึ กฝนเนตรวิญญาณและ


เทคนิคทานายด้ วยลูกตุ้มวิญญาณไปในตัว แถมยังสามารถซื้อของ
ใช้ จาเป็ นกลับบ้ านเพื่อประกอบอาหารได้ ด้วย

ณ ห้ องแล็ปเคมีส่วนตัวซึ่งเครื่ องไม้ เครื่ องมือเพียบพร้ อมครบ


ครัน

ออเดรย์ ผมทอง สู งโปร่ ง เธอกาลังจ้ องมองถ้ วยในมือที่มี


ฟองอากาศผุดมากมาย บรรยากาศรอบห้ องสงบนิ่งเงียบงัน ไร้ การ
รบกวนจากภายนอก
ผ่ านไปอีกไม่ กี่อึดใจ ของเหลวภายในถ้ วยได้ ตกตะกอนกลายเป็ น
สสารสี เงินลักษณะเหนียวข้ น

“ฮะฮะ! ฉันต้ องมีพรสวรรค์ด้านศาสตร์ เร้ นลับมากแน่ ! ถึงได้


ประสบความสาเร็จตั้งแต่ การทดลองครั้งแรก อุตส่ าห์ ลงทุนเตรียม
วัตถุดิบสองชุดเผื่อว่ าจะล้มเหลว”

เด็กสาวผมทองกล่าวชมตัวเองด้ วยสี หน้ าเปี่ ยมสุ ข


วัตถุดิบทั้งหมดถูกรวบรวมจากคลังสมบัติตระกูลหรื อไม่ ก็การ
แลกเปลี่ยนในแวดวงชนชั้ นสู ง ปัจจุบัน ออเดรย์ ·ฮอลล์กาลังสู ดลม
หายใจเข้ าลึกพร้ อมกับหลับตาปี่ เตรียมซดโอสถผู้ชมเข้ าไปรวด
เดียวจนหมด

แต่ ทันใดนั้น เสี ยงเห่ าของสุ นัขพลันดังจากนอกห้ อง เด็กสาวผม


สองขมวดคิว้

ถ้ วยบรรจุของเหลวสี เงินถูกบรรจงซ่ อนไว้ ในมุมมืดห้ องแล็ปอ


ย่ างระมัดระวัง ก่อนที่เธอจะรีบเดินกลับไปยังประตู

“ซูซี่ ใครมา?”

ออเดรย์ บิดกลอนประตูออกไป เธอได้ พบสุ นัขโกลเดนรีทรีเวอร์


ขนฟูกาลังนั่งรอหน้ าห้ องอย่ างที่ควรจะเป็ น
ขณะซูซี่กาลังกระดิกหางระริก สาวใช้ ส่วนตัวของเธอ—แอนนี่
ปรากฏตัวขึน้ ที่ทางเดิน

ออเดรย์ รีบเดินออกจากห้ องและปิ ดประตูด้านหลังโดยไม่ ได้ ล็อค


ก่อนจะมองไปที่แอนนี่

“ฉันไม่ ได้ บอกคุณหรื อ? ว่ าห้ ามรบกวนตอนกาลังใช้ ห้องแล็ป


เคมี”
แอนนี่ตอบด้ วยสี หน้ ากระวนกระวาย

“แต่ มีคาเชิญมาจากท่ านดัชเชสไดล่า”

“ภรรยาดยุคนีแกนน่ ะหรื อ?”

ออเดรย์ ถามขณะเดินเข้ าไปหาสาวใช้

“ใช่ ค่ะ เธอมีโอกาสว่ าจ้ างช่ างอบขนมปังของวังหลวง มาดามวีวี่


เป็ นการส่ วนตัวสาเร็จ จึงต้ องการเรียนเชิญคุณหนูและมาดามไป
ดื่มชาช่ วงบ่ ายด้ วยกัน”

แอนนี่ทวนคาเชิญให้ ฟัง
ออเดรย์ ใช้ นวิ้ เคาะแก้มครุ่นคิด
“ไปบอกท่ านแม่ ว่าฉันปวดหัวนิดหน่ อย คงเกิดภาวะขาดน้า
เพราะถูกแสงแดดนรกด้ านนอกแผดเผา... โน้ มน้ าวให้ ท่านแม่ ช่วย
ขอโทษมาดามไดล่าแทนฉันด้ วย”

ขณะกล่าว ออเดรย์ แสร้ งทาสี หน้ าอ่อนแรง

“คุณหนู นี่ไม่ ใช่ การจิบชายามบ่ ายเพียงอย่ างเดียว แต่ ยังรวมถึง


การเสวนาวรรณกรรมด้ วยนะคะ”
แอนนี่เสริม

“แต่ นั่นไม่ ได้ ช่วยให้ ฉันหายปวดหัวสั กหน่ อย... ฉันต้ องการ


พักผ่ อน”

ออเดรย์ ปฏิเสธหนักแน่ น ภายในใจกาลังตัดพ้อหงุดหงิด หาก


จาเป็ น บางทีต้องคงต้ องใช้ วิชามารยา แสร้ งทิง้ ตัวเป็ นลมอย่ างมี
จริตตามที่ครูมารยาทเคยสอน…

หืม เมื่อครู่มีเสี ยงอะไรตกแตกรึเปล่านะ?

“เข้ าใจแล้วค่ ะ”

แอนนี่กล่าวพร้ อมกับถอนหายใจยาว
“คุณหนูจะให้ ดินฉันช่ วยพยุงเดินกลับห้ องไหมคะ?”

“ไม่ จาเป็ น ฉันต้ องทาความสะอาดห้ องแล็ปเคมีก่อน”

ออเดรย์ ปรารถนาจะกลับไปห้ องแล็ปเพื่อดื่มโอสถผู้ชมที่เพิง่


ปรุงเสร็จ แต่ ตามมารยาทแล้ว เธอกระทาเช่ นนั้นไม่ ได้ เด็กสาวจา
ใจยืนส่ งแอนนี่จนกว่ าจะลับสายตา ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องแลป
อีกครั้ง

เมื่อถึงหน้ าห้ อง ออเดรย์ ประหลาดใจเมื่อไม่ เห็นซูซี่ โกลเดนรีทรี


เวอร์ สีทองที่ควรจะนั่งรอหน้ าห้ องตามคาสั่ ง

...แถมประตูห้องแลปยังเปิ ดแง้ มไว้ เล็กน้ อย

“ลืมไปเลยว่ าซูซี่เปิ ดประตูแบบกลอนคันโยกได้ ถ้ าอย่ างนั้น


เสี ยงเมื่อครู่… แย่ แล้ว!”

เมื่อสั กครู่ ออเดรย์ ได้ ยินเสี ยงคล้ายบางสิ่ งตกแตก แต่ ก็ยังไม่


มั่นใจนัก

แต่ ปัจจุบัน เธอเริ่มตระหนักถึงเหตุการณ์ เลวร้ ายที่อาจเกิด เด็ก


สาวผมทองรีบวิ่งหน้ าตาตื่นเข้ าไปในห้ องแล็ป

ภาพแรกทีเ่ ห็นคือ ถ้ วยบรรจุโอสถหล่นแตกกระจายเป็ นเศษเล็ก


เศษน้ อยตามพื้น ส่ วนซูซี่ตัวแสบกาลังใช้ ลนิ้ เลียของเหลวสี เงินจน
เกลีย้ ง ไม่ เหลือไว้ แม้ แต่ หยดเดียว

ออเดรย์ พลันตัวแข็งทื่อประหนึ่งรูปปั้น

ขณะเดียวกัน ซูซี่นั่งลงและหันมามองเด็กสาวพร้ อมกับกระดิก


หางระริกอย่ างไร้ เดียงสา

ณ ผืนทะเลห่ างจากอ่าวพริสต์ ไม่ มาก

บนเกาะแห่ งหนึ่งซึ่งมักถูกลมพายุซัดกระหน่าเป็ นระยะ เรื อ


โบราณลาหนึ่งกาลังจอดเทียบท่ า

ชายผมทองในชุดคลุมสายฟ้ ากาลังยืนจ้ องมองอัลเจอร์ ·วิลสั น


ด้ วยสี หน้ าฉงน

ท้ ายที่สุด มันตัดสิ นใจเอ่ยปากถาม

“อัลเจอร์ คุณสามารถกลับไปยังอาณาจักรเพื่อไปรับตาแหน่ ง
หัวหน้ าหน่ วยทูตพิพากษาได้ สบาย หรื อแม้ กระทั่งบิชอปที่มี
ชื่ อเสี ยง... แต่ ทาไมถึงเลือกมาเป็ นกัปตันเรื อ ‘โทสะสี คราม’ ลา
นี?้ ”
สี หน้ าอัลเจอร์ ยังคงเรียบเฉย ราวกับเก็บงาความเจ็บปวดทุก
ชนิดไว้ แต่ เพียงผู้เดียว

“ทะเลคือดินแดนของวายุสลาตัน ผืนทะเลทั้งหมดคืออาณาจักร
ที่แท้ จริงของพระองค์ ผมยินดีอุทิศกายใจเพื่อรับใช้ เทพวายุ
สลาตันจนลมหายใจสุ ดท้ าย... อาณาจักรของพระองค์ ท่าน ผมจะ
เป็ นผู้ปกป้องไว้ เอง”

“เข้ าใจแล้วครับ”

ชายผมทองเลื่อนกาปั้นขึน้ มานาบบริเวณหน้ าอก

“ขอให้ พายุสถิตย์ กับท่ าน”

“ขอให้ พายุสถิตย์ กับท่ าน”

อัลเจอร์ ทาท่ าทางในลักษณะเดียวกันตอบ

มันยังคงยืนอยู่บนดาดฟ้ าเรื อกับพวกพ้องอีกเล็กน้ อย สายตา


ชาเลืองมองอดีตพวกพ้องซึ่งทยอยเดินลงเรื อ จนกระทั่งลับตาไป

“ไซแอน นายไม่ เข้ าใจ เพราะนายยังขาดประสบการณ์ ...”

อัลเจอร์ พมึ พา
...
ขณะเดียวกัน ออเดรย์ ผสมโอสถถ้ วยที่สองเสร็จด้ วยสี หน้ าอิด
โรย

เมื่อเห็นของเหลวสี เงินภายในถ้ วยใหม่ มีลักษณะไม่ ต่างจากถ้ วย


ก่อนที่ตกแตกไปมากนัก เด็กสาวแทบหลั่งน้าตาแห่ งความปี ติ

อึีก อึก

ออเดรย์ ซดมันจนหมดในคราเดียว

...

ณ วันศุกร์ สายฝนโหมกระหน่าสาดเสใส่ เมืองทิงเก็นจนชุ่ มฉ่า


บานหน้ าต่ างของบ้ านทุกหลังล้วนเปี ยกปอนด้ วยคราบหยดน้า

ภายในสานักงานบริษัทหนามทมิฬ ไคลน์ โรแซน และไบรท์


ต่ างนั่งลงบนโซฟาภายในห้ องต้ อนรับและลิม้ ลมอาหารเที่ยงด้ วย
บรรยากาศชื่ นมื่น

กาน้าร้ อนไม่ เพียงพอสาหรับอบขนมปังไรย์ ค้างคืน ไคลน์ จึงมิ


อาจใช้ ขนมปังแข็งชื ดเป็ นอาหารกลางวันได้ การเดินทางกลับบ้ าน
เพื่อไปทานมื้อเที่ยงโดยเฉพาะก็ไม่ ใช่ ทางเลือกที่ฉลาด เพราะต้ อง
นั่งรถม้ ากลับบ้ าน และเดินเท้ าจากถนนกางเขนเหล็กมายังบ้ าน
เวิร์ช ก่อนจะต้ องนั่งรถม้ ากลับอีกรอบ ถือเป็ นการสิ้นเปลืองค่ารถ
ม้ าสามครั้งในวันเดียว

มันจึงไม่ มีทางเลือกอื่นนอกจากทานสิ่ งที่เรียกว่ า ‘เสบียง


สานักงาน’ ร่ วมกับโรแซนและสมาชิกที่เหลือ

ร้ านอาหารลุงวีลล์ใกล้สานักงานคือจุดฝากท้ องเป็ นอย่ างดี พวก


มันจะส่ งพนักงานมาหนึ่งคนในช่ วงสิ บโมงครึ่งเพื่อรับเมนู ก่อนจะ
ยกมาเสิ ร์ฟในช่ วงเที่ยงครึ่ง และส่ งคนมาเก็บภาชนะอีกครั้งช่ วง
บ่ ายสาม
‘เสบียง’ ประกอบด้ วยเนื้อสั ตว์ ผัก และขนมปัง แม้ ปริมาณจะ
ค่ อนข้ างน้ อยจนมิอาจเติมเต็มความอิ่มท้ อง แต่ ราคาก็
สมเหตุสมผลอยู่ที่ราวเจ็ดถึงสิ บเพนนี ขึน้ อยู่กับความพิเศษของ
อาหารที่สั่ง

แม้ ไคลน์ จะต้ องการให้ ห่ ุนตัวเองบึกขึน้ แต่ มันก็สั่งอาหารใน


ราคาต่าสุ ดอย่ างเจ็ดเพนนีเสมอ สิ่ งที่ได้ รับมักประกอบด้ วย ขนม
ปังสาลีครึ่งปอนด์ เนื้อสั ตว์ ชิ้นเล็กที่ปรุงต่ างกันไปในแต่ ละวัน ซุบ
ข้ นที่มาพร้ อมผัก และเนยหรื อมาการีนในปริมาณน้ อย

“ตอนนีเ้ จ้ าหน้ าที่เหยี่ยวราตรีเหลือแค่คนเดียวเองสิ นะ...”

โรแซนถอนหายใจยาวขณะตักซุบข้ นพูนช้ อนใส่ ปาก


“ได้ ยินว่ า มีคดีเกี่ยวกับลัทธินอกรีตก่อเหตุจารกรรมอุกอาจที่
เขตไม้ ฟินิกซ์ ทางกรมตารวจจึงขอแรงผู้วิเศษจานวนสองคน...”

ไบรท์กล่าวขณะวางขนมปังลง

ไคลน์ นาเศษขนมปังส่ วนสุ ดท้ ายจุ่มลงในน้ามันเนื้อที่ไหลเยิม้


ก่อนจะยัดใส่ ปากจนหมดรวดเดียวโดยไม่ กล่ าวสิ่ งใด

บริเวณข้ อมือซ้ ายของมันกาลังสวมโซ่ เงินซึ่งห้ อยบุษราคัมไว้

ทันใดนั้น เสี ยงเคาะประตูดังจากประตูทางเข้ าหลักซึ่งเปิ ดแง้ ม


ไว้

“...เชิญค่ า”

โรแซนสะดุ้งเล็กน้ อยก่อนจะรีบวางช้ อนและใช้ ผ้าเช็ดหน้ าซับ


ปาก จากนั้นก็ลุกยืน

ประตูถูกผลักเข้ ามาด้ านใน เป็ นชายสวมหมวกทรงกึ่งสู ง ไหล่


ซ้ ายของสู ทดามีคราบเปี ยกชุ่มจากพายุฝนด้ านนอก

เส้ นผมของมันมีบางส่ วนกลายเป็ นสี เทา ชายแปลกหน้ าวางร่ ม


ลงหน้ าประตูและหันมากล่ าวกับทุกคน

“ที่นี่ใช่ สานักงานทหารรับจ้ างไหมครับ?”


“จะเรียกแบบนั้นก็ไม่ ผิดค่ ะ”

โรแซนตอบกลับฉะฉาน

ชายร่ างผอมบางสู งโปร่ งกระแอมหนึ่งครั้งก่อนจะกล่าวต่ อ

“ผมมีภารกิจต้ องการไหว้ วาน”


ราชันย์ เร้ นลับ 42 : พ่อบ้ านครี

ไหว้ วานภารกิจ...? คงมาผิดที่แล้ว

ป้ายชื่ อบริษัทรักษาความปลอดภัยของที่นี่มีไว้ ประดับเท่ านั้น...

เมื่อทราบว่ ามีแขกมาถามหาทหารรับจ้ าง ไคลน์ เกือบหลุดโพล่ง


ถ้ อยคาประชดประชันออกไป

ช่ างน่ าขันที่บริษัทจอมปลอมเช่ นนีก้ ลับมีลูกค้ ากล้าไหว้ วานให้


ทาภารกิจ

แต่ เพียงไม่ นาน มันก็ตระหนักว่ า ตนเคยตั้งถามลักษณะนี้กับ


ดันน์ ·สมิทมาแล้วหนหนึ่ง และคาตอบก็ชัดเจนว่ า เหยี่ยวราตรี
สามารถรับงานเสริมได้ หากไม่ กระทบกับงานหลัก นั่นจะถือเป็ น
รายได้ เสริมสาหรับทุกคน และยังมีโบนัสสาหรับบุคคลที่เข้ าร่ วม
ภารกิจ

โรแซนกวาดสายตาหนึ่งรอบ เธอครุ่นคิดเล็กน้ อยก่อนจะตอบ


กลับไป

“เจ้ าหน้ าที่ของบริษัทเราออกไปทางานข้ างนอกกันหมด เร็ ว


ที่สุดคือหนึ่งชั่วโมง หากภารกิจของคุณไม่ เร่ งด่ วนมาก ก็สามารถ
ไหว้ วานพวกเราทิง้ ไว้ ได้ ”
จากบรรดาเจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการหกคน หัวหน้ าอย่ างดันน์ ถูกบิช
อปของโบสถ์ พระแม่ เซเลน่ าเรียกตัวโดยไม่ มีใครทราบเหตุผล เลีย
วนาร์ ด·มิเชลจึงต้ องคอยเฝ้าประตูยานิสแทน

ผู้เก็บซากศพ ฟราย และผู้ไร้ หลับ รอยัล·เรย์ ดีน ถูกเรียกตัวไปยัง


กรมตารวจ ตามคาขอร้ องให้ ช่วยสื บคดีจารกรรมที่เขตไม้ ฟินิกซ์
สั นนิษฐานว่ าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็ นพวกลัทธินอกรีต

ผู้ไร้ หลับ โคเฮนรี่·ไวท์ อยู่ในวันลาพัก ส่ วนนักกวีเที่ยงคืน ซิก้า·


ทีรอน กาลังออกลาดตระเวนแถบสุ สานราฟาเอลบริเวณเขตเหนือ
ตามหน้ าที่รับผิดชอบประจาวัน

สานักงานเหยี่ยวราตรีจึงเหลือผู้วิเศษเพียงสองคน ลุงนีลล์อายุ
มากแล้ว ร่ างกายอ่อนแอเกินกว่ าจะขยับกระฉับกระเฉง ส่ วนไคลน์
ก็มือใหม่ แกะกล่อง ยังเป็ นผู้วิเศษได้ ไม่ ถึงสั ปดาห์

“ไม่ มีใครอยู่เลยหรื อ...”

เมื่อกล่าวจบ ชายร่ างผอมใช้ มือข้ างหนึ่งคว้ าร่ ม ส่ วนมืออีกข้ าง


ถอดหมวกพร้ อมกับก้มศีรษะ

“ขออภัยที่มารบกวน ลาก่อน”
มันหันหลังกลับและเดินจากไป เสี ยงฝี เท้ าดังจากขั้นบันไดไกล
ขึน้ ทุกขณะ เพียงอึดใจ ชายคนดังกล่าวเดินพ้นเขตบ้ านเลขที่ 36
ถนนซุตแลนโดยสมบูรณ์

ภายนอกทมีเพียงเสี ยงฝนสาดกระหน่าสอดแทรกกับเสี ยงฝี เท้ า


ชุ่มน้า

“น่ าเสี ยดายจัง”

โรแซนยืนมองชายร่ างผอมเดินจากไป ก่อนจะถอนหายใจยาว


แม้ ว่าเธอจะไม่ ได้ รับส่ วนแบ่ งหรื อโบนัสสาหรับงานที่เป็ นของ
บริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ แต่ โรแซนก็มีโอกาสดื่มด่า
งานฉลองมื้อใหญ่ ไปพร้ อมทุกคนหากได้ รับค้ าจ้ างก้อนโต

“แต่ พวกเราทาอะไรมากกว่ านีไ้ ม่ ได้ ประตูยานิสจาเป็ นต้ องมีคน


เฝ้าตลอดเวลา”

ไคลน์ วางภาชนะทานอาหารลงด้ วยสี หน้ าอิ่มเอม ถึงมันจะไม่


ชอบซุปผักข้ นมากนัก แต่ ของเหลวในชามก็ถูกยกซดจนเกลีย้ ง

“คุณจะให้ ไบรท์ ออกไปทาภารกิจอย่ างนั้นหรื อ? รึว่าตัวคุณ


เอง?”

โรแซนกรอกตามองบนหนึ่งรอบ ก่อนจะหัวเราะคิกคักและกล่าว
“ไบรท์คงไม่ ไหว แต่ ถ้าเป็ นคุณต้ องทาได้ แน่ มิสเตอร์ นักทานาย
...”

ทันทีที่สิ้นเสี ยง โรแซนรีบใช้ มือปิ ดปากด้ วยสี หน้ าหวาดผวาสุ ด


ขีด เธอหลงลืมว่ านั่นคือสิ่ งที่ห้ามพูด หากบุคคลภายนอกได้ ยิน
เรื่ องราวเกี่ยวกับผู้วิเศษเข้ า จะถือว่ าความลับองค์ กรรั่วไหล

“ขอบคุณสวรรค์ ที่หัวหน้ าไม่ อยู่...”

โรแซนชะโกงหน้ ามองหลังฉากกั้นก่อนจะแลบลิน้ ปลิน้ ตา

“ไม่ อย่ างนั้นฉันต้ องไปห้ องสารภาพบาปนั่นอีก!”

ไบรท์ และไคลน์ ระเบิดเสี ยงหัวเราะพร้ อมกันด้ วยบรรยากาศ


อบอุ่น ถัดมา สองหนุ่มได้ ยกภาชนะทานอาหารไปเก็บให้ เป็ นที่เป็ น
ทาง

เมื่อทุกสิ่ งเรียบร้ อย ไคลน์ ยังไม่ มีแผนจะเดินทางกลับ เพราะมัน


ไม่ ได้ นาร่ มติดตัวมาด้ วย ไม่ มีทางเลือกอื่นนอกจากหมกตัวใน
สานักงานจนกว่ าฝนจะหยุด

ชายหนุ่มหยิบหนังสื อพิมพ์พร้ อมกับเดินไปหามุมนั่งอ่านบน


โซฟานุ่ม นี่คงเป็ นการพักเบรกยามบ่ ายอย่ างแท้ จริง
“การขนส่ งทางอากาศจากเบ็คลันด์ ถึงอ่าวเดซี่เปิ ดให้ บริการแล้ว
...”

“หนังสื อรวมแฟ้ มคดีของยอดนักสื บมุนซันกาลังจะถูกตีพมิ พ์


เร็วๆ นี.้ ..”

“โฆษณาของบริษัทอาวุธลากาลัส? ปื นลูกโม่ บรรจุหกนัดรุ่ น


มาตรฐานมีราคาอยู่ที่สามปอนด์ สิบซูล ปื นสั้ นลากล้องแผดมีราคา
อยู่ที่สองปอนด์ ...”

...

ไคลน์ อ่านเนื้อความภายในหนังสื อพิมพ์ทิงเก็นซื่ อตรงจนหมด


ทุกหน้ า มีเพียงไม่ กี่หัวข้ อที่เตะตาชายหนุ่ม

“...ผู้ต้องสงสั ยในคดีสังหารมิสเตอร์ เวิรช์ และมิสนาย่ าถูกจับตัว


แล้ว พวกเราเชื่ อว่ า ความปลอดภัยและสั นติสุขจะกลับคืนสู่ เขต
เหนือ เขตไม้ ฟินิกซ์ และเขตตะวันออกอีกครั้ง...

“บิดาของเวิร์ช มิสเตอร์ แม็คโกเวินผู้เป็ นนายธนาคารใหญ่ กาลัง


ลาเลียงศพของบุตรชายกลับสู่ เมืองคอนสแตน โดยจะประกอบพิธี
ศพอย่ างยิ่งใหญ่ ในภายหลัง...”

หลังจากอ่านข่ าวเวิร์ชทวนซ้าหลายรอบ ไคลน์ ถอนหายใจยาว


ด้ วยสี หน้ าเจ็บแปลบ
จากคาบรรยาย ดูเหมือนบิดาของเวิร์ชจะไม่ ได้ เอะใจสาเหตุการ
ตายจนต้ องจ้ างนักสื บเอกชน ชายคนนั้นเลือกที่จะเชื่ อในคาอธิบาย
ของตารวจ...

ความเศร้ าโศกของบิดาเวิร์ช คงไม่ ด้อยไปกว่ าบิดาทุกคนที่


สู ญเสี ยบุตรชายหัวแก้วหัวแหวน...

ท่ ามกลางบรรยากาศหดหู่ ไคลน์ นั่งด่าดิ่งกับความรู้สึกตัวเอง


เป็ นเวลานาน
มันมิได้ ประหลาดใจหรื อเศร้ าใจที่ไม่ ถูกเชิญตัวไปร่ วมงานศพ

เมื่อเหตุการณ์ เริ่มสงบลงในอนาคต ตัวมันจะหาโอกาสส่ งช่ อ


ดอกไม้ ไปวางไว้ หน้ าหลุมศพของเวิร์ชและนาย่ า

ขณะไคลน์ กาลังจะงีบหลับบนโซฟาในห้ องรับแขก เสี ยงเคาะ


ประตูดังขึน้ อีกครั้ง

“เชิญค่ า”

โรแซนที่สัปหงกพลันดีดตัวพรวดลุกยืน

บานประตูถกู ดันเข้ ามาด้ านใน ผู้มาเยือนไม่ ใช่ ใครอื่น ชายร่ าง


ผอมซูบคนเดิม
“ผมรอที่นี่ได้ ไหม? ทหารรับจ้ าของพวกคุณคง... เอ่อ ผม
หมายถึงเจ้ าหน้ าที่รักษาความปลอดภัย กาลังจะกลับมาแล้วสิ นะ?”

ชายร่ างผอมเอ่ยปากถาม มันพยายามเก็บซ่ อนความกระวน


กระวายใจ

“ใช่ ค่ะ เชิญนั่งก่อน”

โรแซนชี้นวิ้ ไปยังโซฟาที่ว่าง

ไคลน์ ตัดสิ นใจถามด้ วยสี หน้ าใครรู้

“คุณได้ ยินชื่ อของบริษัทนีจ้ ากที่ไหนหรื อครับ? ใครเป็ นผู้


แนะนามา?”

ต้ องสิ้นหวังขนาดไหนกันถึงยอมเดินฝ่ าพายุฝนสองครั้งสอง
ครา แถมยังเต็มใจที่จะรอ

บางที... เชื่ อเสี ยงของบริษัทหนามทมิฬอาจโด่ งดังกว่ าที่ตนคิด


ผู้วิเศษนั้นจัดการปัญหาได้ รวดเร็วและเด็ดขาดกว่ ามนุษย์ ปรกติ
มาก ไม่ แปลกที่จะมีผลงานอยู่บ้าง...

ชายร่ างผอมวางร่ มไว้ ข้างประตูด้านนอกก่อนจะเดินเข้ ามานั่ง


บนโซฟา
มันอมยิม้ ขื่นขม

“ผมเดินจนทั่วถนนใกล้เคียงและเข้ าไปติดต่ อกับบริษัททหาร


รับจ้ างมาหมดแล้ว... เอ่อ ผมหมายถึงเจ้ าหน้ าที่รักษาความ
ปลอดภัย รวมถึงนักสื บเอกชน แต่ ก็ไม่ มีใครว่ างพอจะรับงานนีเ้ ลย
พวกคุณจึงเป็ นความหวังเดียว

“ด้ วยความสั ตย์ จริง หากพนักงานเสิ ร์ฟของร้ านอาหารไม่


แนะนาว่ าที่นี่มีบริษัทรักษาความปลอดภัยซ่ อนอยู่ ผมคงไม่ มีวัน
ทราบ”

...ทาไมถึงไม่ เหมือนกับที่คิดเลยฟะ

ขณะไคลน์ องึ้ โรแซนแทรกด้ วยคาถาม

“พวกเขาไม่ ว่างหรื อ? บริษัทรักษาความปลอดภัยมีงานเยอะ


ขนาดนั้นเชียว?”

ชายร่ างผอมถอนหายใจซ้า

“ในฐานะที่พวกคุณเป็ นทหารรับจ้ าง... เอ่อ ผมหมายถึงบริษัท


รักษาความปลอดภัย คงเคยได้ ยินข่ าวปล้นฆ่ าสุ ดสยองบนถนนฮา
เวิสแล้วใช่ ไหม?”
ถนนฮาเวิส... ปล้นฆ่ าสุ ดสยอง...

เอ่อ... นั่นมันคดีเวิร์ชและนาย่ าไม่ ใช่ หรื อ? ก็ฉันนี่แหละหนึ่งใน


ผู้เกี่ยวข้ อง...

ไคลน์ พยักหน้ า

“ทราบครับ”

“ด้ วยความโหดเหีย้ มและอุกอาจของวิธีสังหาร ผู้มีอันจะกิน


ภายในเขตเหนือและถนนใกล้เคียงจึงพากันหวาดระแวงภัย
อันตราย... อาจส่ งผลไปทั่วทั้งเมืองทิงเก็นด้ วยซ้า ทาให้ เจ้ าหน้ าที่
คุ้มกันส่ วนตัวเริ่มขาดแคลน งานว่ าจ้ างของผมจึงตกมาถึงมือพวก
คุณ”

ชายร่ างสู งผอมอธิบายกระจ่ าง

เหตุการณ์ ลูกโซ่ สินะ... ไคลน์ และโรแซนรีบหันมองหน้ ากัน ต่ าง


คนต่ างสั มผัสถึงรอยยิม้ มุมปากซึ่งไม่ เผยออกมาโฉ่ งฉ่ างของอีก
ฝ่ าย

นีค่ ือยุคสมัยของธุรกิจคุ้มกัน!

แต่ ถึงอย่ างนั้น บริษัทหนามทมิฬก็ไม่ มีส่วนได้ ส่วนเสี ยในวงจร


ธุรกิจมากนัก พวกมันมีกาลังคนจากัด แถมชื่ อเสี ยงก็ไม่ โด่ งดัง งาน
ที่เข้ าหาคงไม่ มากไปกว่ าเดิมสั กเท่ าไร

แต่ ขณะเดียวกันก็เป็ นการยืนยันว่ า หน่ วยเหยี่ยวราตรีปกปิ ด


ตัวตนได้ เงียบเชียบและไม่ ปล่อยให้ ข้อมูลรั่วไหล

หลังจากบรรยากาศเข้ าสู่ ความเงียบงันราวยี่สิบนาที ไคลน์


เตรียมตัวเดินทางไปสนามยิงปื นเนื่องจากฝนด้ านนอกเริ่มซาลง

ทันใดนั้น ชายผมดานัยน์ ตาเขียวได้ เดินออกมาจากฉากกั้น มัน


ชาเลืองมองบุคคลที่โซฟาด้ วยสี หน้ าสงสั ย

“เขาคือ?”

“ลูกค้ าน่ ะ หัวหน้ ากลับมาแล้ วหรื อ?”

โรแซนถามโล่งใจ

“กลับมา?”

ชายร่ างสู งผอมออกท่ าทีฉงน เพราะมันนั่งอยู่ในห้ องมาตลอด


แต่ กลับไม่ เห็นใครกลับเข้ ามาในสานักงานแม้ แต่ คนเดียว

โรแซนผงะเล็กน้ อย ก่อนจะตอบด้ วยน้าเสี ยงคิกคัก


“พวกเราเป็ นถึงบริษัทความปลอดภัย ไม่ ได้ มีประตูเข้ าออกแค่
ทางเดียวหรอกนะคะ”

“จริงด้ วย”

ชายร่ างผอมพยักหน้ าราวกับได้ บรรลุสัจธรรม

มันไม่ ประหลาดใจกับคาว่ า ‘หัวหน้ า’ สั กเท่ าไร เพราะใน


หน่ วยงานรักษาความปลอดภัยขนาดเล็ก รวมถึงสมาคมทหาร
รับจ้ าง เป็ นเรื่ องปรกติที่จะใช้ คาเรียกผู้บังคับบัญชาว่ า ‘หัวหน้ า’
เลียวนาร์ ดมาในชุดปรกติของมัน เสื้ อกั๊กดาปล่อยชายออกนอก
กางเกง ไร้ ระเบียบและความเป็ นมืออาชีพสิ้นดี

เลียวนาร์ ดชาเลืองมองชายร่ างผอมเล็กน้ อย ก่อนจะดีดนิว้ กล่าว

“ผมคือเจ้ าหน้ าที่ของบริษัทหนามทมิฬ จะให้ เรียกคุณว่ า


อย่ างไรดีครับ? แล้วผมจะช่ วยอะไรได้ บ้าง?”

บางที อาจเพราะเคยได้ ยินวีรกรรมไร้ ระเบียบของทหารรับจ้ าง


มาก่อน ส่ งผลให้ มันไม่ ถือสาการแต่ งกายและมารยาทที่ไม่ มืออาชีพ
ของเลียวนาร์ ด

ตรงกันข้ าม มันถอนหายใจยาวด้ วยสี หน้ าโล่งอก


เมื่อเห็นเลียวนาร์ ดนั่งลง ชายร่ างผอมพยายามเรียบเรียงคาพูด
“ผมชื่ อว่ าครี เป็ นพ่อบ้ านของมิสเตอร์ วิคโรลล์ พ่อค้ ายาสู บ...
บุตรชายเพียงคนเดียวของมิสเตอร์ วิคโรลล์ คุณหนูเอลเลียต ถูก
ลักพาตัวไปเมื่อช่ วงเช้ า พวกเราได้ แจ้ งความกับเจ้ าหน้ าที่ตารวจ
แล้ว และคดีถูกกาหนดระดับความสาคัญไว้ สูงสุ ด

“แต่ กระนั้น มิสเตอร์ วิคโรลล์ก็ยังไม่ สบายใจ จึงพยายามติดต่ อ


กับทหารรับจ้ างอีกหลายบริษัทเพื่อให้ ช่วยตามหา... เอ่อ ผม
หมายถึงบริษัทคุ้มกัน ในเมื่อกลุ่มคนเหล่านีช้ านาญชองทางในทิง
เก็นไม่ แพ้ตารวจ เขาจึงมองว่ า การค้ นหาจากหลายมุมมองจะช่ วย
เพิม่ โอกาสพบตัวคุณหนูเอลเลียตได้ มากขึน้

“หากพวกคุณสามารถระบุแหล่งกบดานของคนร้ ายได้ มิสเตอร์


วิคโรลล์ยินดีมอบค่ าตอบแทนเป็ นเงิน 100 ปอนด์ หรื อหาก
ช่ วยชีวิตคุณหนูเอลเลียตออกมาได้ อย่ างปลอดภัย ค่ าตอบแทนที่จะ
มอบให้ คือ 200 ปอนด์ ”

เลียวนาร์ ด·มิเชลแสยะยิม้

“ดูเหมือนมิสเตอร์ วิคโรลล์แค่ ต้องการให้ พวกเราระบุแหล่ง


กบดานคนร้ ายก็พอสิ นะ? ไม่ อย่ างนั้น คงไม่ ตอบแทนเพิม่ จากเดิม
แค่ ร้อยปอนด์ แน่ ในฐานะพ่อค้ ายาสู บที่มีสายสั มพันธ์ แนบแน่ น
ภาคเกษตรกรรมรัฐใต้ ค่ าไถ่ ชีวิตบุตรชาย 200 ปอนด์ มันไม่ น้อย
เกินไปหน่ อยหรื อ?”
“ม...ไม่ ใช่ ครับ มิสเตอร์ วิคไรลล์เป็ นเพียงพ่อค้ าธรรมดา มิได้ มั่ง
คั่งขนาดนั้น และเขามองว่ า หากเป็ นปฏิบัติการช่ วยเหลือตัว
ประกัน ทางตารวจคงมีข้นั ตอนเป็ นมืออาชีพมากกว่ า”

ครีตอบเถรตรง

“ก็ได้ ไม่ มีปัญหา”

เลียวนาร์ ดดีดนิว้ พร้ อมกับชาเลืองหางตาไปมองโรแซน


“คุณสุ ภาพสตรีผ้ เู ลอโฉม ได้ โปรดจัดการร่ างสั ญญาให้ ด้วย
ครับ”

“คุณไม่ ต้องทาตัวเป็ นนักกวีตลอดเวลาก็ได้ โดยเฉพาะตอนที่จิก


หัวใช้ ผ้ อู ื่น”

โรแซนบ่ นอุบอิบโดยไม่ แยแสว่ าลูกค้ าจะได้ ยินหรื อไม่ สายตา


จ้ องมองเลียวนาร์ ดอาฆาตแค้ น

แน่ นอน บริษัทหนามทมิฬไม่ จาเป็ นต้ องง้ อลูกค้ าอยู่แล้ว

มีกด็ ี ไม่ มีก็ไม่ เป็ นอะไร

โรแซนเดินผ่ านฉากกั้นเข้ าไปในห้ องทางานเจ้ าหน้ าที่พลเรื อน


ถัดมาไม่ นาน เสี ยงเครื่ องพิมพ์ดีดเริ่มดังต๊ อกแต๊ ก
มุมปากไคลน์ พลันกระตุก มันมองว่ าบริษัทแห่ งนีไ้ ม่ มีความเป็ น
มืออาชีพเอาเสี ยเลย

แค่ แบบฟอร์ มสั ญญาก็ไม่ มีเตรียมไว้ รึไง!

น่ าอนาถชะมัด...

และสิ่ งที่น่าเศร้ ากว่ านั้นคือ ตัวมันกาลังทางานให้ บริษัทดังกล่าว


โดยที่ไม่ สามารถลาออกไปได้ อีกห้ าปี

ขณะไคลน์ ครุ่นคิดเรื่ อยเปื่ อย โรแซนพิมพ์เอกสารเสร็จและเดิน


กลับมาในห้ องรับแขก บนกระดาษเขียนระบุสัญญาไว้ เพียงไม่ กี่ข้อ
เลียวนาร์ ดและครีทาการเซ็นลงไปในฐานะผู้ว่าจ้ างและผู้ถูกว่ าจ้ าง

เมื่อครีปั๊มตราประทับเสร็จ โรแซนเดินถือกระดาษแผ่ นเดิมเข้ า


ไปในห้ องการเงินของมาดามโอเรียนน่ า เพื่อปั๊มตราประทับของ
บริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ...

ตราประทับที่ไร้ ประโยชน์ ที่สุดในโลก

หากเป็ นวันทางานทั่วไป ดันน์ จะมอบให้ โอเรียนน่ าเก็บไว้ ส่ วน


ในวันอาทิตย์ ตราประทับดังกล่าวจะถูกส่ งต่ อให้ โรแซน
“แล้วผมจะรอฟังข่ าวดีนะครับ”
เมื่อได้ รับสั ญญาฉบับคัดลอก ครีลกุ ขึน้ ยืนพร้ อมถอดหมวก
คานับ

เลียวนาร์ ดไม่ กล่าวสิ่ งใดต่ อ มันครุ่นคิดกับตัวเอง ก่อนจะชาเลือง


มองไคลน์ ด้วยรอยยิม้ แฝงเลศนัย

“คุณต้ องช่ วยผม”

“เอ๋?”

ไคลน์ ผงะ

“ผมหมายความว่ า พวกเราสองคนจะต้ องบรรลุภารกิจนีไ้ ป


ด้ วยกัน”

มุมปากเลียวนาร์ ดโค้ งขึน้ เล็กน้ อย

“ผมชานาญการต่ อสู้ ยิงปื น ปี นป่ าย จิตสั มผัส และขับขานบท


กวี แถมยังรับหน้ าที่สนับสนุนได้ บางครั้ง แต่ นั่นไม่ รวมถึงการตาม
หาเบาะแสผู้คน ด้ วยสภาพอากาศเลวร้ ายเช่ นนี้ คุณคงไม่ คิดจะให้
ลุงนีลล์ออกไปข้ างนอกใช่ ไหม?”

ขณะกล่าวคาว่ า ‘จิตสั มผัส’ เลียวนาร์ ดเบาเสี ยงตัวเองลงจน


เกือบเป็ นการกระซิบ มีเพียงไคลน์ เท่ านั้นที่ได้ ยิน
“ก็ได้ ”

มันไม่ ปฏิเสธ มีโอกาสไม่ บ่อยนักที่จะได้ ทดสอบ ‘พลังใหม่ ’ ถึง


ภายในใจจะยังหวาดระแวงเลียวนาร์ ดอยู่บ้างก็ตาม

ฟู่ ว! ขอให้ ผลลัพธ์ ออกมาดีด้วยเถิด...

มันจินตนาการไม่ ออกเลยว่ า พลังนักทานายของตนจะทา


ประโยชน์ ให้ พวกพ้องด้ านใดได้ บ้าง ไม่ แปลกที่จะตื่นเต้ นกว่ าทุก
ครั้ง
ราชันย์ เร้ นลับ 43 : ตามหาคนหาย

ขณะจ้ องมองไคลน์ เลียวนาร์ ดอมยิม้ พลางผงกศีรษะเบาๆ

“คุณต้ องการอะไรจากเขาไหม?”

มันเคยทาภารกิจร่ วมกับลุงนีลล์บ่อยครั้ง จึงไม่ แปลกที่จะทราบ


ว่ า ศาสตร์ ทานายจาเป็ นต้ องใช้ ‘สิ่ งของ’เป็ นสื่ อกลาง โดยเฉพาะ
เมื่อเป้าหมายการทานายไม่ อยู่ใกล้

ไคลน์ ครุ่นคิด ก่อนจะหันไปบอกครี

“ผมต้ องการชุดที่เอลเลียตเพิง่ สวม เอาแบบไม่ ได้ ซัก ถ้ ามี


เครื่ องประดับที่เขามักสวมติดตัวบ่ อยครั้งก็จะดีมาก”

เพื่อไม่ ให้ ถูกตั้งคาถาม ไคลน์ พยายามร้ องขอของใช้ ทั่วไป


สาหรับการสื บคดี

แต่ กระนั้น ครียังคงฉงนหนัก

“ผมพกรูปถ่ ายคุณหนูเอลเลียตติดตัวมาด้ วย ใช้ แทนได้ ไหม?


คุณจะเอาเสื้ อผ้ าไปทาอะไรหรื อ?”
เอาไปทาอะไรงั้นหรื อ? ก็เอาไปทานายหาที่อยู่ของคุณหนูเอล
เลียตไงฟะ…

ไคลน์ อา้ อึง้ มันมิอาจหาคาตอบมาอธิบาย

หากตอบในสิ่ งที่คิดออกไปโดยไม่ ห่วงว่ าความลับจะแตก ครีคง


เดือดดาลและฉีกสั ญญาทิง้ ต่ อหน้ า จากนั้นก็โพล่งอย่ างฉุนเฉียวว่ า
‘ไอ้พวกนักต้ มตุ๋น! ถ้ าของพรรค์ น้ นั ได้ ผล ฉันไปจ้ างผู้สื่อวิญญาณ
คนดังของรัฐอาโฮว่ าไม่ ดีกว่ ารึไง!’

เลียวนาร์ ด·มิเชลที่ยืนข้ างไคลน์ มันส่ งเสี ยงหัวเราะคิกคัก

“มิสเตอร์ ครี คู่หูของผมน่ ะ… เอ่อ เพื่อนของผมเขามีสัตว์ เลีย้ ง


พันธุ์พเิ ศษ จมูกดมกลิ่นได้ ดีกว่ าสุ นัขล่ าเนื้อชื่ อดังหลายเท่ า นั่นคือ
สาเหตุที่พวกเราต้ องการชุดเก่าของคุณหนูเอลเลียต คุณคงเคยได้
ยินมาบ้ าง ว่ าสุ นัขดมกลิ่นสามารถระบุสถานที่อย่ างคร่ าวๆ ได้

“ส่ วนรูปถ่ าย พวกเราก็ต้องการเช่ นกัน ไม่ อย่ างนั้นคงไม่ ทราบ


ว่ าคุณหนูเอลเลียตมีหน้ าตาเช่ นไร”

ครีผงกศีรษะคล้อยตาม

“จะรออยู่ที่นี่ หรื อว่ าจะตามผมไปที่บ้านมิสเตอร์ วิคโรลล์พร้ อม


กัน?”
“ไปพร้ อมกัน แบบนั้นประหยัดเวลากว่ า”
ไคลน์ เสริม

ในภารกิจปัจจุบัน ไม่ เพียงมันต้ องการทดสอบพลังใหม่ แต่ การ


ช่ วยเหลือตัวประกันก็สาคัญไม่ แพ้กัน

“ตกลงครับ รถม้ ารออยู่ด้านล่าง”

เมื่อกล่าวจบ ครียื่นรูปถ่ ายขาวดาใบหนึ่งให้ เลียวนาร์ ด


เป็ นภาพเดี่ยวของเอลเลียต·วิคโรลล์ อายุราวสิ บขวบ ผม
ด้ านหน้ ายาวปรกถึงดวงตา ตามแก้มมีจุดกระเล็กน้ อย รูปลักษณ์
โดยรวมมิได้ หน้ าตาดีจนโดดเด่ น

เลียวนาร์ ดชาเลืองภาพชั่วครู่ก่อนจะยื่นให้ ไคลน์ ชายหนุ่มรับมา


เก็บไว้ ในกระเป๋าเสื้ อ ก่อนจะหยิบไม้ คา้ พร้ อมกับสวมหมวก

ไคลน์ เดินตามครีและเลียวนาร์ ดขึน้ ไปนั่งในรถม้ าที่จอดรออยู่


ข้ างล่าง

เป็ นรถม้ าส่ วนบุคคลที่ห้องโดยสารมีขนาดใหญ่ โอ่อ่า กึ่งกลางมี


โต๊ ะขนาดเล็ก บนพื้นเป็ นพรมหนาคุณภาพดี

เมื่อร่ วมทางไปกับครี ไคลน์ กับเลียวนาร์ ดมิได้ สนทนาสิ่ งใดต่ อ


กัน ทั้งสองดื่มด่าไปกับบรรยากาศแล่นรถม้ าท่ ามกลางพื้นถนน
เปี ยกชุ่มและสายฝนเอื่อย

“คนขับฝี มือดีมาก”

เลียวนาร์ ดทาลายความเงียบด้ วยรอยยิม้

“เห็นด้ วย”

ไคลน์ เสริมพอเป็ นพิธี


ครีอมยิม้

“คาชมของพวกคุณถือเป็ นเกียรติแก่เขา… พวกเราใกล้ถึงกัน


แล้วครับ”

ด้ วยความหวาดกลัวว่ าคนร้ ายอาจไหวตัวทัน รถม้ าจึงไม่ หยุดที่


หน้ าบ้ านตระกูลวิคโรลล์โดยตรง แต่ เลื่อนไปจอดบนถนนด้ านข้ าง

ครีหยิบร่ มและวิ่งหายเข้ าไปในบ้ านหลังใหญ่ เลียวนาร์ ดมอง


ตามสั กพักก่อนจะหันมาคุยกับไคลน์

“สมมติฐานของผมเมื่อก่อนหน้ า ไม่ ได้ คาดเดาอย่ างไร้


ความหมายหรอกนะ ผมเพียงต้ องการจะบอกคุณว่ า สมุดบันทึก
เล่มนั้นต้ องปรากฏตัวอีกแน่ และบางทีอาจเร็วกว่ าที่คิด”
“ไม่ ใช่ สมมติฐานที่น่ายินดีเลยสั กนิด”

ไคลน์ เชิดคางขึน้ และยื่นไปทางคนขับรถม้ า เป็ นสั ญญาณบ่ ง


บอกว่ า มันไม่ ต้องการพูดคุยเรื่ องละเอียดอ่อนให้ คนนอกได้ ยิน

เลียวนาร์ ดเป่ าปากเบาๆ ก่อนจะเหลือบมองออกไปนอกหน้ าต่ าง


ห้ องโดยสาร สายฝนยังคงตกปรอยจนกระจกหน้ าต่ างหนาแน่ น
ถนัดด้ วยหยดน้า ภาพการมองเห็นพร่ ามัวไม่ ชัดเจน

ผ่ านไปสั กพัก ครีกลับมาพร้ อมกับถุงใส่ สิ่งของหลายชิ้น และ


ด้ วยความเร่ งรีบวิ่งมา ขากางเกงจึงมีรอยโคลนเปรอะเปื้ อน ส่ วน
ชายเสื้ อเปี ยกชุ่มเป็ นจุดๆ

“นี่คือชุดที่นายน้ อยเอลเลียตสวมเมื่อวาน ส่ วนนี่คือสร้ อยคอวายุ


ที่เขาใส่ ประจา”

ไคลน์ นั่งพิจารณาอย่ างถี่ถ้วน เบื้องหน้ าเป็ นเสื้ อผ้ าสุ ภาพบุรุษตัว


น้ อยซึ่งประกอบด้ วย เชิ้ตเล็ก กัก๊ เล็ก และโบว์ หูกระต่ ายเล็ก

สร้ อยคอวายุทาจากทองแดง สลักลวดลายคลื่นทะเลและสายลม


…ไคลน์ สัมผัสไม่ พบความผิดปรกติในสิ่ งของชนิดใดเลย

“ผมจะเล่าเหตุการณ์ ในช่ วงเช้ าอย่ างละเอียดอีกครั้ง หวังว่ าจะ


ช่ วยให้ พวกคุณพบตัวนายน้ อยเอลเลียตเร็วขึน้ …”
ครีนั่งลงพร้ อมกับอธิบายเหตุการณ์ เป็ นฉากๆ หวังเป็ นอย่ างยิ่ง
ว่ าทีมค้ นหาจะสร้ างปาฏิหาริย์สาเร็จ

ไคลน์ และเลียวนาร์ ดมิได้ ใส่ ใจรายละเอียดปลีกย่ อยมากนัก พวก


มันเพียงต้ องการทราบว่ า ฝ่ ายลักพาตัวมีจานวนกี่คน ใช้ วิธีการใด
และพกอาวุธหรื อไม่

‘สาม’ ‘ไม่ ใช่ ผ้ วู ิเศษ’ ‘ใช้ อาวุธปื น’

เมื่อได้ รับข้ อมูลที่ต้องการ ทั้งสองกล่ าวคาอาลากับครีและเดินไป


เช่ าบริการรถม้ าสองล้อ

แตกต่ างจากรถม้ าสาธารณะ รถม้ าส่ วนตัวมีเพียงสองชนิด ไม่ สี่


ก็สองล้อ ค่ าบริการขึน้ อยู่กับเวลาหรื อระยะทาง แล้วแต่ จะตกลง
หากคิดตามระยะทางจะตกกิโลเมตรละสี่ เพนนีในเขตเมือง และ
แปดเพนนีในเขตชานเมือง แต่ หากคิดตามเวลาจะตกสองซูลต่ อ
ชั่วโมง เศษเกินคิดหกเพนนีทุกสิ บห้ านาที หากสภาพอากาศ
เลวร้ ายหรื อลูกค้ าเร่ งรีบ ราคาจะปรับขึน้ ตามความเหมาะสม

ไคลน์ เคยได้ ยินจากอะซิกว่ า รถม้ าภายในกรุงเบ็คลันด์ ขนึ้ ชื่ อ


ด้ านขูดรีดราคามหาโหด

สาหรับมัน รถม้ าส่ วนตัวถือเป็ นสิ่ งหรูหราเกินจาเป็ น แต่ ใน


คราวนีไ้ ม่ ต้องกังวล เพราะเลียวนาร์ ดได้ ยื่นธนบัตรหนึ่งซูลสองใบ
ให้ คนขับเรียบร้ อย
“คิดตามเวลา”

เมื่อบอกเงื่อนไขการใช้ บริการ เลียวนาร์ ดเอื้อมมือไปปิ ดประตู


ห้ องโดยสาร

“ไปไหนดีครับ?”

คนขับรับธนบัตรด้ วยสี หน้ ายินดีปนฉงน


“รอสั กครู่”

เลียวนาร์ ดหันมองไคลน์

ชายหนุ่มพยักหน้ ารับ มันหยิบเสื้ อผ้ าเอลเลียตออกมาวางแผ่ บน


พื้นห้ องโดยสาร ก่อนจะนาสร้ อยคอวายุมาพันรอบด้ ามจับไม้ คา
เลี่ยมเงิน ส่ วนปลายของไม้ คา้ จิม้ ลงบนชุดที่วางแผ่

ไคลน์ สร้ างบอลแสงซ้ อนทับภายในห้ วงจิตและเข้ าฌานอย่ าง


รวดเร็ว นัยน์ ตาน้าตาลทวีความเข้ มข้ นลุ่มลึก

ชายหนุ่มควบคุมกายจิตให้ อาศัยร่ างวิญญาณดาราติดต่ อกับโลก


วิญญาณ
เมื่อจิตสงบนิ่ง ไคลน์ กล่าวเสี ยงค่ อย
“ที่อยู่ของเอลเลียต”

หลังจากกล่าวครบเจ็ดครั้ง ไคลน์ ปล่อยมือจากไม้ คา้ เลี่ยมเงิน แต่


ไม้ คา้ กลับไม่ หล่ นไปยังทางใดทางหนึ่ง มันตั้งตรงเช่ นนั้นชั่วครู่ท้งั
ที่ห้องโดยสารรถม้ ามีอาการโคลงเคลงเล็กน้ อยจากสายฝน

ผ่ านไปราวหนึ่งนาที ไม้ คา้ เริ่มเกิดการสั่ นเล็กๆ โดยตลอด


ขั้นตอน ไคลน์ สัมผัสถึงสายตาคู่หนึ่งที่มองไม่ เห็นกาลังจ้ องมอง
ในช่ วงสองสามวันที่ผ่านมา นี่คือความรู้สึกปรกติที่จะได้ รับเมื่อ
เข้ าฌานหรื อเข้ าสู่ ภาวะเนตรวิญญาณ

แม้ จะหวาดกลัว แต่ มันก็ทราบดีว่าเป็ นผลข้ างเคียงจากโอสถ

ชายหนุ่มจ้ องมองไม้ คา้ เลี่ยมเงินที่ต้งั ตรงด้ วยนัยต์ ตาเกือบดา


สนิทต่ อไปอีกสั กพัก ก่อนจะเริ่มกล่าวในใจอีกหน

“ที่อยู่ของเอลเลียต”

“ที่อยู่ของเอลเลียต”

เมื่อครบเจ็ด คราวนีไ้ ม้ คา้ เอียงล้มลงไปในทิศทางเดียวกับที่รถม้ า


หันหัว
“ตรงไป”

ไคลน์ กล่าวด้ วยเสี ยงทุ้มกังวางประหนึ่งเปล่งจากโลกลึกลับ


จากนั้น มันเอื้อมมือลงไปหยิบไม้ คา้ กลับขึน้ มาตั้งตรงใหม่

นีค่ ือเทคนิคทานายที่ชายหนุ่มเพิง่ เรียนรู้ มีชื่อว่ า‘การทานาย


ด้ วยแท่ งไม้ ’ อุปกรณ์ สื่อกลางสามารถใช้ เป็ นแท่ งไม้ แท่ งโลหะ
หรื อผสมกัน
ในการทานายของมนุษย์ ปรกติ ผู้ทานายต้ องใช้ แท่ งไม้ ดาวซิ่งถึง
สองอันไขว้ กัน แต่ ในฐานะที่ไคลน์ เป็ นนักทานายตัวจริง มัน
ทดสอบแล้วพบว่ า ตนสามารถใช้ เพียงไม้ คา้ ของตัวเองในการบ่ ง
บอกทิศทางสิ่ งที่ต้องการค้ นหา

น่ าเสี ยดายที่มันไม่ หลงเหลือความทรงจาของสมุดบันทึกอันที


โกนัสอยู่เลย ไม่ อย่ างนั้นคงใช้ วิธีนหี้ าจนพบได้

“ตรงไปเรื่ อยๆ”

เลียดนาร์ ดส่ งสั ญญาณบอกคนขับ

“ไว้ เลีย้ วแล้วจะบอกเอง”


คนขับไม่ ค่อยเข้ าใจนัก เหตุใดลูกค้ าถึงมีเงื่อนไขพิสดารเช่ นนี้
แต่ ธนบัตรสองซูลในกระเป๋าได้ ปิดปากจนเงียบสนิท มันยอมทา
ตามโดยไม่ ปริปากบ่ น

รถม้ าเคลื่อนตัวไปอย่ างไม่ รีบร้ อนผ่ านถนนเส้ นแล้วเส้ นเล่ า

จนกระทั่งถึงจุดที่ไคลน์ เริ่มมั่นใจว่ าเทคนิคทานายด้ วยแท่ งไม้


ของตนพบจุดหมาย

เมื่อรถม้ าขับวนครบรอบบ้ านหลังหนึ่ง ชายหนุ่มจึงมั่นใจว่ าว่ า


เอลเลียต·วิลโรลล์อยู่ภายในตัวอาคารหลังนี้

ทั้งคู่ตัดสิ นใจลงจากรถม้ า

เพิง่ จะผ่ านไปเพียงสามสิ บนาทีเท่ านั้นหลังจากกล่ าวคาอาลา


กับครี

ไคลน์ วางไม้ คา้ ลงให้ ปลายปักพื้น แต่ คราวนีม้ ิได้ ใช้ เสื้ อผ้ าเอลเลีย
ตรองไว้ เหมือนทุกครั้ง มันกาสร้ อยคอไปพร้ อมกับใช้ ปลายไม้ คา้
จิม้ ลงพื้นถนนโดยตรง

นัยน์ ตาเปลี่ยนเป็ นสี เข้ มลุ่มลึกอีกครั้ง ทันใดนั้น สายฝนรอบไม้


คา้ เริ่มหมุนวนเป็ นเกลียวอย่ างผิดธรรมชาติ

ไม้ คา้ เลี่ยมเงินเอนไปด้ านหน้ าเล็กน้ อย แต่ ไม่ ถึงกับล้มสนิท


ไคลน์ ชี้นวิ้ ไปยังบันไดวนที่อยู่เบื้องหน้ าคนทั้งสอง
“ไม่ ผิดแน่ ในนั้น”

“ผมเคยอิจฉาลุงนีลล์ที่มีพลังแสนสะดวก และตอนนีก้ าลังอิจฉา


คุณในแบบเดียวกัน”

เมื่อได้ บทสรุป เลียวนาร์ ดอมยิม้ พร้ อมกล่าวชมไคลน์

ชายหนุ่มชาเลืองมอง มันกล่ าวตอบด้ วยน้าเสี ยงเรียบเฉย


“ไม่ ได้ ยากเย็นขนาดนั้น คุณเองก็ทาได้ ถ้าตั้งใจศึกษา… สั มผัส
วิญญาณของคุณก็คงเฉียบแหลมไม่ แพ้ผมหรอกใช่ ไหม?”

เลียวนาร์ ดพยักหน้ า

“นั่นไม่ ใช่ เรื่ องน่ ายินดีหรอกนะ”

เมื่อกล่าวจบ เหยี่ยวราตรีนัยน์ ตาเขียวรีบเดินข้ ามถนนไปหยุด


หน้ าบันไดวนท่ ามกลางสายฝนตกปรอย

ไคลน์ กังวลว่ าชุดทางานใหม่ เอี่ยมของตนจะเปี ยก มันรีบวิ่งย่ อง


ข้ ามถนนว่ องไว

อาคารตรงหน้ าสู งสามชั้น ลักษณะคับคล้ายตึกแถวบนโลกเก่า


ทางเข้ าแต่ ละชั้นจะอยู่กลางทางบันไดวน แต่ ละชั้นมีแค่ สองห้ อง
ซ้ ายขวา

ไคลน์ ทดสอบทานายแท่ งไม้ ในชั้นที่หนึ่งและสอง แต่ แท่ งไม้


ยังคงชี้ขนึ้ ทั้งคู่จึงเดินขึน้ ไปยังชั้นสาม

ไคลน์ ลงมือทานายอีกครั้ง

ฟ้ าววว

สายลมเย็นพัดพาละอองน้าฝนพาดผ่ านบันไดวน นัยน์ ตาชาย


หนุ่มพลันดาเข้ ม คล้ายกับจะดูดกลืนวิญญาณของมนุษย์ เข้ าไป

ฟ้ าววว!

เสี ยงลมยังคงดังต่ อเนื่องประหนึ่งฟ้ าร่าไห้ ไคลน์ ปล่อยมือไป


ตามสบาย ไม้ คา้ ที่ยังมีสร้ อยคอวายุรัดพันกาลังตั้งตรงเป็ น
เวลานาน

ไคลน์ ท่องเสี ยงค่ อย

“ที่อยู่ของเอลเลียต”

ทันใดนั้น ไม้ คา้ ล้มชี้ไปยังห้ องฝั่งขวา


“น่ าจะอยู่ในนั้น”
ขณะไคลน์ ก้มหยิบไม้ คา้ เลี่ยมเงิน มันใช้ ปลายนิว้ แตะหว่ างคิว้
สองครั้ง

ชายหนุ่มเพ่งพิศห้ องขวามืออย่ างละเอียด แสงออร่ าจากมนุษย์


ภายในส่ องสว่ างชัดเจนเต็มสองตา

“หนึ่ง สอง สาม สี่ … ผู้ร้ายสาม ตัวประกันหนึ่ง ตรงตามข้ อมูลที่


ได้ รับ… แสงออร่ าหนึ่งจุดมีส่วนสู งต่า คงจะเป็ นเอลเลียต…
“มิสเตอร์ ครีเล่าว่ า พวกมันมีปืนล่าสั ตว์ สองกระบอกและลูกโม่
หนึ่งกระบอก”

ไคลน์ กระซิบกระซาบ

เลียวนาร์ ดแสยะยิม้

“ให้ ฉันกล่อมพวกมันเอง”

“อา…

“เหตุไฉนพวกเจ้ าต้ องประพฤติร้าย…

“เหตุไฉนพวกเจ้ าไม่ ใช้ ชีวิตสงบสุ ข”


เลียวนาร์ ดเยื้องย่ างสองก้าว สี หน้ าและแววตาพลันเงียบงันเจือ
ความเศร้ า

เสี ยงของมันใสกังวาลขึน้ ทุกขณะ

“จงหวาดกลัวต่ อภัย จงบูชาในจันทร์ ชาด

“หนึ่งสิ่ งที่แน่ ชัด ทุกชีวิตย่ อมอาลา

“หนึ่งสิ่ งที่เที่ยงแท้ อื่นใดล้วนมายา

“บุปผาที่ถูกเด็ด มีชะตาต้ องถึงฆาต”


ราชันย์ เร้ นลับ 44 : ชะตา

บทกลอนชวนหลับไหลที่เลียวนาร์ ดขับขานดังกังวาลทั่วบันได
วนที่ทาจากไม้ เสี ยงลุ่มลึกเล็ดลอดผ่ านบานประตูเข้ าไปในห้ อง

จิตไคลน์ เกิดการงัวเงียเล็กน้ อย คับคล้ายได้ เห็นแสงจันทร์ สาด


ส่ องบนผิวน้ายามค่าคืนที่เรียบสงบไร้ คลื่น

เปลือกตาเริ่มหนักอึง้ ร่ ายกายโงเงนราวกับจะล้มทั้งยืน

ท่ ามกลางความรู้สึกเดจาวูเลือนลาง ชายหนุ่มสั มได้ ว่า มีบางสิ่ ง


กาลังจ้ องมองแผ่ นหลังของตน มันทั้งไร้ รูปร่ างและไม่ ชัดเจน ราว
กับกาลังท่ องตระเวณไปทั่วโลกวิญญาณ

ขณะด่าดิ่งไปกับภาพมายา ไคลน์ รีบดึงจิตกลับมาและทาสมาธิ


เพื่อเข้ าฌาน

ด้ วยสั มผัสวิญญาณที่เฉียบแหลมรวมถึงสมาธิอันเข้ มข้ น ไคลน์


หลุดพ้นจากบทเพลงหลับไหลของนักกวีเที่ยงคืนอย่ างฉิวเฉียด

แต่ ถึงมันจะครองสติได้ ภาพการมองเห็นรอบตัวยังคงเฉื่ อยฉา


และจืดชื ดปราศจากอารมณ์
ผ่ านไปราวหนึ่งอึดใจ เลียวนาร์ ดหยุดขับขานพลางหันมอง
ไคลน์ ด้วยรอยยิม้

“ผมเคยคิดมาสั กพักแล้ว ว่ าควรเบิกเงินหัวหน้ าเพื่อซื้อพิณสั ก


ตัว การร้ องเพลงอย่ างเดียวโดยไม่ มีเครื่ องดนตรีประกอบช่ างน่ า
เบื่อและไร้ อารยะ คุณไม่ คิดเช่ นนั้นบ้ างหรื อ?

“ฮะฮะ! ผมล้อเล่น เอาล่ะ… ฟังจากเสี ยงด้ านใน ตอนนีพ้ วกมัน


คงหลับกันหมดแล้ว”

เหยี่ยวราตรีผมดานัยน์ ตาเขียวผู้มีบรรยากาศนักกวี เลียวนาร์ ด·


มิเชล มันเดินไปหยุดยืนหน้ าประตูซึ่งกั้นแบ่ งระหว่ างพวกตนกับ
คนร้ ายลักพาตัวและเหยื่อ

ในวินาทีที่หัวไหลเริ่มขยับ เลียวนาร์ ดชกใส่ กลอนประตูจนพังใน


หมัดเดียว

เปรี้ยง!

กลอนประตูถูกชกหล่นเข้ าไปด้ านในจนเกิดรูโหวขนาดใหญ่ บน


บานไม้

“การจะทาแบบนีไ้ ด้ คุณต้ องมีความแม่ นยาและชานาญมาก”


เลียวนาร์ ดหันมายิม้ ให้ ไคลน์ ขณะใช้ มือล้วงเข้ าไปปลดกลอน
แบบขัด

ชายหนุ่มเริ่มได้ สติกลับมา แต่ มันไม่ กล้าประมาทแบบเลีย


วนาร์ ด ลูกโม่ ถูกชักออกจากซองรักแร้ ซ้ายอย่ างชานาญ ไคลน์ ปลด
โม่ และหมุนหนึ่งช่ องเพื่อให้ กระสุ นพร้ อมยิงในนัดถัดไป

เมื่อประตูถูกเปิ ดอ้าเต็มบานด้ วยฝี มือเลียวนาร์ ด ไคลน์ มองเข้ า


ไปและพบกับชายคนหนึ่งกาลังหลับฟุบโต๊ ะ ฝ่ ามือห้ อยลงกับพื้น
ปลายนิว้ มีปืนกระบอกหนึ่งตกอยู่
ส่ วนอีกคนกาลังขยีต้ าด้ วยท่ าทางงัวเงียอยู่บนพื้น พยามอย่ าง
หนักที่จะพยุงตัวลุกขึน้

เปรี้ยง!

เลียวนาร์ ดซัดเข้ าไปหนึ่งหมัดจนสลบซ้า

ขณะไคลน์ กาลังจะเดินตามเข้ าไป มันสั มผัสถึงความผิดปรกติ


จากชั้นล่าง ชายหนุ่มรีบหันปื นลูกโม่ เล็งจ่ อทางเดินบันไดทันที

กึก กึก กึก!

เสี ยงฝี เท้ าเข้ าใกล้ทุกขณะ บุคคลทีป่ รากฏเบื้องหน้ าไคลน์ คือชาย


โค้ ตน้าตาลซึ่งไม่ สวมหมวก มือของมันถือถุงกระดาษที่บรรจุขนม
ปังหลายชิ้น
เมื่อแหงนมองพบปากกระบอกปื น ชายโค้ ตน้าตาลชะงักฝี เท้ า
ทันที

นัยน์ ตาหดลีบเล็กตามสั ญชาตญาณ แววตาสะท้ อนภาพของบุรุษ


หนุ่มสวมหมวกทรงกึ่งสู ง สู ทดา เชิ้ตขาว โบวหูกระต่ ายสี ดาเข้ าชุด
ไม้ คา้ เลี่ยมเงินที่ถูกพาดราวบันได และปื นลูกโม่ สุดอันตรายในมือ

“อย่ าขยับ! ยกมือขึน้ ! สาม สอง หนึ่ง…”


เสี ยงไคลน์ ล่มุ ลึกแต่ ผ่อนคลาย

มันใช้ สองมือจับด้ ามปื นแน่ นถัด ภายในหัวกาลังจินตนาการถึง


เป้าซ้ อมยิง

ด้ วยบรรยากาศสุ ดตึงเครียด ชายโค้ ตน้าตาลไม่ มีทางเลือก มัน


วางถุงขนมปังลงตรงหน้ าพร้ อมกับบรรจงชู มือทีละนิด

“มิสเตอร์ นี่คือมุกตลกหรื ออย่ างไร? คุณต้ องเข้ าใจอะไรผิดแน่ ”

มันฝื นยิม้ ขณะเพ่งมองปลายนิว้ ไคลน์ ที่เตรียมเหนี่ยวไกปื น

ชายหนุ่มมิอาจแยกแยะได้ ว่า ชายคนนีเ้ ป็ นชาวบ้ านบริสุทธิ์หรื อ


ผู้สมรู้ร่วมคิด แต่ ไคลน์ จะไม่ ประมาทจนตัวเองตกที่นั่งลาบาก
เด็ดขาด
“อย่ าขัดขืน อีกสั กพักจะมีคนช่ วยตัดสิ นให้ เองว่ า คุณเป็ นผู้
บริสุทธิ์จริงหรื อไม่ ”

ทันใดนั้น เลียวนาร์ ดที่จัดการคนร้ ายลักพาตัวในห้ องเสร็จ มัน


เดินออกมาเห็นไคลน์ กาลังเล็งปื นใส่ ชายโค้ ตน้าตาลตรงบันได

นักกวีกล่าวพลางอมยิม้

“แบบนีน้ ี่เอง… คนร้ ายลักพาตัวมีผ้ สู มรู้ร่วมคิดช่ วยซื้ออาหาร


มาส่ งสิ นะ”

ทันทีที่ได้ ยิน ชายไม่ สวมหมวกใช้ เท้ าเตะถุงขนมปังให้ กระเด็น


ไปทางไคลน์ เผื่อว่ าจะช่ วยบดบังการมองเห็นได้ บ้าง แต่ น่าเสี ยดาย
ที่การกระทาของมันเปล่าประโยชน์ ไคลน์ ลั่นไกปื นด้ วยสี หน้ าสงบ
นิ่งหนึ่งนัด

เยือกเย็นราวกับอีกฝ่ ายเป็ นเพียงเป้าซ้ อม

ปัง!

โลหิตสาดกระเซ็นจากหัวไหล่ซ้าย

มันโงนเงนก่อนจะพยายามวิ่งหนีลงไปชั้นล่าง เป็ นวินาที


เดียวกับที่เลียวนาร์ ดคว้ าราวบันไดและกระโจนลงไปด้ วยเข่ าคู่
เกิดเสี ยง‘ปึ ก’ดังค่ อย เข่ าเลียวนาร์ ดกระแทกใส่ ชายโค้ ตน้าตาล
จากด้ านบนจนมันสลบ

เลียวนาร์ ดลุกยืนพร้ อมกับปัดรอยเลือดออกจากกางเกง ก่อนจะ


แหงนหน้ ามองไคลน์ และอมยิม้

“ยิงได้ ดี”

แต่ ฉันเล็งที่ขา…

มุมปากไคลน์ กระตุกเมื่อกลิน่ เลือดสดโชยเตะจมูก มันยังไม่ ชิน


กับสถานการณ์ แบบนีส้ ั กเท่ าไร

ไคลน์ ได้ เรียนรู้อีกเรื่ องหนึ่งว่ า แม้ โอสถนักทานายจะไม่ ช่วย


เสริมพลังทางกายภาพจาพวก จิตสั มผัสต่ อสู้ ความเฉียบแหลม
ของสายตา รวมถึงประสาทสั มผัสหูที่ว่องไว

แต่ ตัวมันสามารถมองทะลุสิ่งกีดขวางได้ เล็กน้ อย รวมถึงการได้


ยินเสี ยงฝี เท้ าเจือจางจากจุดห่ างไกล แม้ ในตอนแรกจะไม่ ทราบว่ า
เป็ นเสี ยงฝี เท้ าก็ตาม

หรื อนี่จะเป็ นพลังจากสั มผัสวิญญาณ?


ไคลน์ ครุ่นคิดกับตัวเอง ส่ วนเลียวนาร์ ดค้ นตัวผู้สมรู้ร่วมคิดจน
พบมีดสั้ น มันทาการยึดและลากตัวชายโค้ ตน้าตาลเข้ าไปในห้ อง
กองรวมไว้ กับคนร้ ายลักพาตัวที่เหลือ

ไคลน์ เดินตามเข้ าไปพร้ อมปื นในมือขวาและไม้ คา้ ในมือซ้ าย


ขณะเดียวกัน เอลเลียต·วิคโรลล์ที่ถูกปลุกให้ ตื่นจากเสี ยงปื น
เด็กชายพยายามพยุงตัวยืนจากท่ าถูกมัด

เลียวนาร์ ดแก้เชื อกออกจากตัวเอลเลียตนานแล้ว มันใช้ มีดตัด


แบ่ งเชื อกดังกล่าวและนาไปมัดร่ างคนร้ ายทั้งสี่ แน่ นหนา
เมื่อเชื อกไม่ พอ เลียวนาร์ ดจะใช้ มีดตัดเสื้ อผ้ าพวกมันและนาไป
มัดแทนเชื อก

ด้ านชายโค้ ตน้าตาลที่ถูกยิงตรงหัวไหล่ เลียวนาร์ ดทาแผลอย่ าง


หยาบด้ วยการใช้ ผ้ารัดห้ ามเลือด มันรังเกียจที่จะสั มผัสเลือดอีกฝ่ าย
จึงไม่ ช่วยแคะกระสุ นออกจากปากแผลก่อน

“พ…พวกคุณคือ?”

น้าเสี ยงเอลเลียตเปี่ ยมด้ วยความยินดีหลังจากตื่นขึน้ มาเห็นฉาก


ตรงหน้ า

“เดาได้ แม่ นมากครับคุณหนูเอลเลียต”


เลียวนาร์ ดกล่าวติดตลกในท่ าคุกเข่ า
นักกวีตัวปัญหาคนนีม้ ีอารมณ์ ขันกับเขาด้ วยหรื อ?

ไคลน์ ก้มหน้ ามองเอลเลียตและอธิบาย

“พวกเราคือทหารรับจ้ างที่บิดาของคุณหนูว่าจ้ างมา จะเรียกว่ าผู้


คุ้มกันก็ได้ ”

“ฟู่ ว! จริงหรื อเนี่ย? ผมรอดแล้วใช่ ไหม?”


เอลเลียตกล่าวอย่ างโล่งใจ แต่ เด็กชายยังไม่ กล้าขยับตัวมาก

คงเป็ นเพราะถูกกระทาอย่ างรุนแรงตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา


ท่ าทีของเด็กคนนีจ้ ึงสงบเสงี่ยม นับว่ าสุ ขุมเกินวัยมาก แตกต่ างจาก
ธรรมชาติของเด็กที่เอาแต่ เล่นซนและโวยวาย

เลียวนาร์ ดลุกยืน มันเหลือบมองไคลน์

“คุณลงไปข้ างล่างและตามหาตารวจที่กาลังลาดตระเวน บอก


พวกเขาให้ ช่วยแจ้ งเรื่ องกับพ่อค้ ายาสู บ ผมไม่ ต้องการเตร็ดเตร่ ไป
ไหนมาไหนกับเด็กหนึ่งคนและพวกงั่งอีกสี่ ”

ไคลน์ ที่กาลังกังวลว่ าต้ องทาสิ่ งใดต่ อ มันพยักหน้ าอย่ างว่ าง่ าย


และเดินลงไปชั้นล่างพร้ อมไม้ คา้ ปื นพกถูกเก็บกลับซองรักแร้
เพื่อให้ ไม่ เตะตาผู้คน
ขณะเดินลงบันได ไคลน์ ร้ ูสึกเหมือนตนหลงลืมอะไรบางสิ่ ง

ทันใดนั้น เสี ยงเลียวนาร์ ดดังมาจากห้ องด้ านบน มันกล่ าวกับเอล


เลียต

“คุณหนูไม่ ต้องกังวล อีกประเดี๋ยวก็ได้ พบกับท่ านพ่อ ท่ านแม่


และคุณพ่อบ้ านครีแล้ว มาเล่นไพ่เกว็นท์ กันสั กเกมไหม?”

ไคลน์ เกือบหลุดขา

ชายหนุ่มเดินลงไปชั้นล่างสุ ดและถามหาตารวจจากชาวบ้ านใน


ละแวก จนกระทั่งได้ พบตารวจลาดตระเวนสองนาย

ไคลน์ ไม่ ได้ แสดงตราเหยี่ยวราตรีหรื อตรากรมตารวจ มันสวม


บทบาทพนักงานบริษัทรักษาความปลอดภัยและเล่าเรื่ องราวที่
เกิดขึน้ โดยละเอียด

ส่ วนการพกพาอาวุธปื น ไคลน์ ไม่ ได้ เป็ นกังวลมากนัก มันได้ รับ


ใบอนุญาตพกพาอาวุธปื นทุกชนิดแล้วเมื่อสองวันก่อน สาเหตุที่ถูก
อนุมัติรวดเร็วเพราะมีเส้ นสายภายในจากกรมตารวจช่ วยลัดคิว
ตารวจลาดตระเวนสองนายมองหน้ ากันเล็กน้ อย ก่อนที่นายหนึ่ง
จะรีบไปแจ้ งข่ าวกับตระกูลวิคโรลล์ ส่ วนอีกนายเดินตามไคลน์ ไป
ยังห้ องที่เกิดเหตุ

หลังจากยืนเฝ้าในที่เกิดเหตุราวสี่ สิบนาที เลียวนาร์ ดแอบส่ ง


สั ญญาณกับไคลน์ ขณะตารวจไม่ สนใจ

ทันใดนั้น นักกวีนัยตาเขียวและนักทานายนัยน์ ตาน้าตาลรีบปลีก


ตัวจากที่เกิดเหตุอย่ างเงียบเชียบไร้ ส้ ุ มเสี ยง

“เชื่ อผมเถอะ การไปสถานีตารวจไม่ ใช่ เรื่ องสนุกเลยสั กนิด แถม


ยังเสี ยเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ถ้ ามีจังหวะชิ่งได้ ก็รีบทา”

มันอธิบายด้ วยท่ าทีผ่อนคลาย

เมื่อเลียวนาร์ ดรับปากว่ าจะรับผิดชอบหากเกิดปัญหาตามมา


ไคลน์ จึงไม่ โต้ แย้ ง มันเดินตามไปอย่ างว่ าง่ าย

ราวห้ านาทีถัดมา รถม้ าส่ วนตัวหรูหราได้ แล่นมาจอดหน้ าอาคาร


ที่เกิดเหตุ พ่อบ้ านครีลงจากรถพร้ อมกับเจ้ านาย มิสเตอร์ วิคโรลล์

เมื่อพบตัวเอลเลียต ครียืนทึ่งอย่ างไม่ เชื่ อสายตา มันไม่ คิดว่ า


เหตุการณ์ จะจบลงเร็วถึงเพียงนี้ ราวกับฝันไปไม่ มีผิด

ทันใดนั้น ครีได้ ยินเสี ยงดีดนิ้วดังจากด้ านหลัง มันหันรีบกลับไป


มอง
รถม้ าเช่ าสองล้อแล่ นผ่ านตึกที่เกิดเหตุและหยุดลง เลียวนาร์ ดผม
ดานัยน์ ตาเขียวฉีกยิม้ กว้ างให้ ครีจากหน้ าต่ างห้ องโดยสาร ก่อนที่
มันจะดีดนิว้ ซ้าอีกครั้ง

รถม้ าเช่ าแล่นผ่ านรถม้ าตระกูลวิคโรลล์ไปอย่ างเงียบงัน เลีย


วนาร์ ดเลื่อนม่ านปิ ดพร้ อมกับหันมองไคลน์

มันยื่นมือขวาไปหา
“เป็ นเกียรติอย่ างยิ่งที่ได้ ร่วมงานกับคุณ”

พวกเราไม่ ได้ สนิทกันขนาดนั้น…

ไคลน์ ส่ายศีรษะ

มันไม่ เคยคิดว่ าคดีลักพาตัวจะถูกคลี่คลายง่ ายดายขนาดนี้ ชาย


หนุ่มกาลังท่ึ่ งกับพลังของผู้วิเศษ ทั้งที่ตัวมันยังเป็ นผู้วิเศษได้ ไม่ ถึง
สั ปดาห์ แต่ สามารถใช้ พลังระบุตาแหน่ งปัจจุบันของเหยื่อได้
แม่ นยา

สะดวกสบายฉิบ…

“การจับมือเป็ นมารยาททางสั งคมของชนชั้นสู งหลังจากประ


ดาบ”
เลียวนาร์ ดอธิบาย

“ผมทราบ”

ไคลน์ เองก็มีเพื่อนเป็ นชนชั้นสู งไม่ น้อย

ชายหนุ่มยังคงมองไปนอกหน้ าต่ าง มันส่ งเสี ยงถามพลางขมวด


คิว้
“ดีแล้วหรื อทีพ่ วกเราไม่ รอยืนยันผลงานกับมิสเตอร์ ครี ? ถ้ าเขา
คิดว่ าตารวจเป็ นฝ่ ายช่ วยเหลือคุณหนูเอลเลียตออกมา ค่ าจ้ างจะ
หายไปครึ่งหนึ่งเชียวนะ”

ตั้ง 100 ปอนด์ !

หลังจากพูดคุยก่อนเริ่มทางาน พ่อบ้ านครีคงไม่ เคลือบแคลงว่ า


ไคลน์ และเลียวนาร์ ดคือผู้พบเบาะแสแหล่งกบดาน …แต่ ครีไม่ มี
ทางทราบเลยว่ าใครเป็ นผู้จับกุมและช่ วยเหลือ

“อย่ าใส่ ใจนักเลย สาหรับพวกเรา เงินทองไม่ ได้ สาคัญขนาดนั้น”

เลียวนาร์ ดยักไหล่
…แต่ มันสาคัญกับฉัน!
ไคลน์ ฝืนยิม้ แห้ ง

“ถึงว่ าทาไมนักกวีมักไส้ แห้ งตาย”

เลียวนาร์ ดคิกคัก

“คุณหนูเอลเลียตคงไม่ โกหก ผมสั มผัสได้ ถึงความใสซื่ อภายใน


ตัวเขา ถึงภายนอกจะเยือกเย็นเหมือนผู้ใหญ่ ก็เถอะ…
“แต่ ถึงอย่ างนั้น ต่ อให้ พวกเราได้ รับค่ าจ้ างเต็มจานวน 200
ปอนด์ จริง ส่ วนแบ่ งสาหรับคุณก็เหลือไม่ มากหรอกนะ”

“ผมจะได้ เท่ าไร?”

ไคลน์ ถามอย่ างสนใจ

“ครึ่งหนึ่งจะถูกแบ่ งให้ มาดามโอเรียนน่ าเก็บไว้ เป็ นเงินสารอง


ของหน่ วย ส่ วนที่เหลือจะแบ่ งอย่ างเท่ าเทียมตามจานวนคน น่ า
เสี ยดายที่คุณยังไม่ ใช่ เจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการ ส่ วนแบ่ งจึงเหลืออยู่ราว
สิ บเปอร์ เซนต์ ”

10 ปอนด์ ? นั่นก็ไม่ เลวนักหรอก…


ไคลน์ แสร้ งทาหน้ าพึงพอใจก่อนจะถามต่ อ
“คุณไม่ กลัวบ้ างหรื อ? กลุ่มคนร้ ายลักพาตัวอาจเอะใจหลังจาก
ตื่นขึน้ ว่ าพวกมันหลับไปเพราะพลังของผู้วิเศษ”

“พวกมันไม่ มีทางนึกสงสั ย ในสมองจะเข้ าใจว่ าอากาศดีจนเคลิม้


หลับไปเอง ส่ วนบทกวีที่ผมขับขาน พวกมันจะคิดว่ านั่นเป็ นเสี ยง
ที่ดังในความฝัน… หน่ วยเหยี่ยวราตรีเคยทดสอบและยืนยันเรื่ องนี้
มานานแล้ว”

เลียวนาร์ ดอธิบายฉะฉานมั่นใจ

“หลักฐานเดียวที่ไม่ ปรกติ คือกระสุ นปราบมารที่คุณยิงฝังเข้ าไป


ในแขน แต่ เราสามารถแก้ต่างได้ ว่า คุณเป็ นพวกคลั่งพิธีกรรมและ
หลงไหลศาสตร์ เร้ นลับ”

“เข้ าใจแล้ว”

ไคลน์ โล่งอก

แต่ ความรู้สึกหนึ่งยังไม่ เลือนหายไป มันคลับคล้ายว่ าตัวเองกาลัง


มองข้ ามหรื อหลงลืมบางสิ่ ง


หลังจากกลับถึงถนนซุตแลน ไคลน์ ไม่ รอให้ พ่อบ้ านครีมาติดต่ อ
มันเดินเท้ าไปจนถึงบ้ านเวิร์ชและเดินกลับถนนกางเขนเหล็กโดย
เปลี่ยนเส้ นทางไม่ ให้ ซ้าเก่า ระหว่ างทางยังแวะซื้อวัตถุดิบปรุง
อาหารสาหรับมื้อดึก

มื้ออาหารของสามพีน่ ้ องยังคงอบอุ่นและอิ่มเอมเช่ นเคย


บรรยากาศสนทนาเป็ นไปอย่ างออกรส แต่ ถูกคั่นด้ วยผู้มาเยือน
แปลกหน้ าครู่หนึ่ง …พนักเก็บเงินค่ าแก๊ ส อัตราอยู่ที่หนึ่งเพนนีต่อ
หนึ่งหน่ วยมิเตอร์

เมื่อท้ องฟ้ าเริ่มมืดสนิท สามพีน่ ้ องกล่าวคาอาลาและเดินกลับ


ห้ องตัวเอง

ไคลน์ หลับสบายเฉกเช่ นทุกคืน จนกระทั่งมันถูกปลุกโดยบางสิ่ ง


ด้ านนอกห้ อง ชายหนุ่มงัวเงียเปิ ดประตูห้องนอนอันว่ างเปล่าที่ไม่
มีใครอาศัยอยู่

มันผลักบานประตูไม้ ที่มีจุดด่ างดาเข้ าไป ภาพแรกที่เห็นคือโต๊ ะ


อ่านหนังสื อสี เทา

บนโต๊ ะมีสมุดวางอยู่หนึ่งเล่ ม ปกทาจากกระดาษแข็งดาสนิท

ไคลน์ สัมผัสถึงความรู้ สึกเดจาวูอย่ างเลือนลาง มันเดินไปที่โต๊ ะ


และเปิ ดสมุดออกด้ วยท่ าทีเหม่ อลอย
เมื่อพลิกไปหน้ าแรก ชายหนุ่มได้ พบกับภาพที่ตนคุ้นเคย มันคือ
ภาพของใครบางคนที่สวมเสื้ อผ้ าหรูหราและเครื่ องประดับศีรษะ
ระยิบระยับ

…เดอะฟูล!

ใต้ ภาพเดอะฟูลมีอักษรเฮอร์ มิสโบราณเขียนไว้

“ทุกคนต้ องตาย รวมถึงเรา”

หัวใจไคลน์ แทบหยุดเต้ นเมื่อมุมปากของเดอะฟูลในภาพโค้ งขึน้


ต่ อหน้ าต่ อตา!

พรวด!

ชายหนุ่มลุกนั่งบนเตียงด้ วยสี หน้ าตกตะลึงสุ ดขีด มือขวาเลื่อน


ขึน้ มาสั มผัสบริเวณหัวใจที่กาลังเต้ นโครมคราม

แสงจันทร์ สีแดงจากภายนอกส่ องทะลุม่านดาสนิทเข้ ามาในห้ อง


เล็กน้ อย เมื่อกวาดสายตามองโดยรอบ เงาของชั้นหนังสื อและโต๊ ะ
อ่านหนังสื อยังคงประจาในจุดเดิม ที่นี่คือห้ องนอนตนไม่ ผิดแน่

เมื่อครู่เป็ นเพียงฝันร้ าย

แต่ ในฐานะนักทานาย มันย่ อมทราบว่ าความฝันคือลางบอกเหตุ


จากโลกวิญญาณ ชายหนุ่มพยายามเค้ นสมองตีความภาพดังกล่าว
ออกมาเป็ นเบาะแส

ทันใดนั้น ร่ างกายไคลน์ พลันแข็งทื่อเมื่อตระหนักได้ ว่า วันนี้ตน


หลงลืมสิ่ งใดไป…

ในวินาทีที่เสี ยงขับขานของเลียวนาร์ ดดังกังวาลในหัว ไคลน์


สั มผัสว่ ามีบางสิ่ งที่มองไม่ เห็นกาลังจ้ องมองแผ่ นหลังของตน

เป็ นการจ้ องมองที่แตกต่ างจากผลข้ างเคียงปรกติของโอสถใน


ยามเข้ าฌานและใช้ เนตรวิญญาณ

มันมอบความรู้สึกเหมือนกับ… เดจาวู!

และตามคาบอกเล่าของหัวหน้ าดันน์ ·สมิท หากตนสั มผัสถึงเด


จาวูได้ เมื่อไร

นั่นจะแปลว่ า…

ไคลน์ นั่งเอนหลังตรง มันพยายามยืนยันความรู้ สึกตัวเองให้


ชัดเจนอีกครั้ง

…ไม่ ผิดแน่ ความรู้สึกเดจาวูหมายถึงสมุดบันทึก

สนุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัส!
ราชันย์ เร้ นลับ 45 : กลับมาสู่

สมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสอยู่ภายในตึกเดียวกับที่คนร้ าย
ลักพาตัวหลบซ่ อน แถมยังเป็ นห้ องตรงข้ าม!

อาจฟังดูบังเอิญจนยากจะเชื่ อ แต่ ไคลน์ มั่นใจว่ าการตีความของ


ตนไม่ ผิดพลาด

ชายหนุ่มลุกพรวดจากเตียง มันถอดชุ ดนอนที่ใส่ ประจาออก เชิ้ต


ขาวซึ่งเป็ นชุดทางานถูกหยิบขึน้ มาสวมพร้ อมติดกระดุมจากบน
ลงล่าง

หนึ่งเม็ด สองเม็ด สามเม็ด… ไคลน์ ติดกระดุมพลาดจนซ้ ายขวา


เยื้องไม่ เท่ ากัน

เมื่อไล่ย้อนดู มันพบว่ าตนติดผิดตั้งแต่ เม็ดแรก ส่ งผลให้ กระดุม


ทุกเม็ดที่เหลือผิดพลาดหมด

ชายหนุ่มส่ ายศีรษะตาหนิตัวเอง ลมหายใจถูกสู ดเต็มปอด ไคลน์


ถึงกับพึง่ พาการเข้ าฌานเพื่อให้ จิตใจสงบ

เมื่อสวมเชิ้ตขาวเสร็จ มันนาซองปื นรักแร้ มาสวมและรัดสาย


ก่อนจะก้มหยิบปื นใต้ หมอนใส่ ซองล็อคไว้ แน่ นหนา
ไม่ มีเวลาแม้ แต่ จะติดโบว์ หูกระต่ าย ไคลน์ รีบคว้ าสู ทดาตัวนอก
สวมทับ มือขวาถือหมวกทรงกึ่งสู ง มือซ้ ายถือไม้ คา้ เลี่ยมเงิน สอง
เท้ าย่ างกรายหยุดหน้ าประตูห้องนอน

เมื่อสวมและจัดระเบียบหมวกผ้ าไหมเรียบร้ อย ชายหนุ่มเปิ ด


ประตูออกไป เบื้องหน้ าเป็ นทางเดินยาวชั้นสองของบ้ าน

ไคลน์ หันหลังปิ ดประตูห้องนอนด้ วยเสี ยงเงียบเชียบ ฝ่ าเท้ า


บรรจงย่ องลงบันไดประหนึ่งหัวขโมยช่าชอง เมื่อถึงชั้นล่ าง มันนา
ปากกาหมึกซึมออกมาเขียนโน้ ตแจ้ งว่ าต้ องออกไปทางานเช้ ากว่ า
ปรกติ ต้ องขอโทษที่ลืมบอกล่วงหน้ า

ในวินาทีที่เปิ ดประตูบ้าน สายลมเย็นด้ านนอกโชยปะทะจนจิตใจ


สงบ

ถนนที่ดารารัตน์ ท้ังมืดละเงียบสงบปราศจากผู้คนสั ญจรไปมา มี


เพียงแสงสลัวของโคมไฟแก๊สสาธารณะสองข้ างทาง

ไคลน์ หยิบนาฬิ กาพกออกมาปิ ดฝา เข็มชั่วโมงบนหน้ าปัดชี้ไป


ยังเลขหก หมายถึงยามหกโมงเช้ าซึ่งใกล้สว่ างเต็มที

จันทร์ แดงบนท้ องฟ้ ายังไม่ เลือนหายโดยสมบูรณ์ แต่ อีกไม่ นาน


แดดทองอร่ ามยามเช้ าจะเข้ ามาแทนที่

ขณะคิดเช่ ารถม้ าส่ วนตัวแสนแพง มันเหลือบเห็นรถม้ า


สาธารณะแบบไร้ รางกาลังวิ่งเข้ ามาใกล้
“เช้ าขนาดนีม้ ีรถม้ าสาธารณะด้ วยหรื อ?”

ไคลน์ ค่อนข้ างฉงน แต่ มันก็เดินไปดักหน้ าเพื่อโบกหยุด

“สวัสดีตอนเช้ าครับมิสเตอร์ ”

คนขับหยุดม้ าอย่ างชานาญ

พนักงานเก็บค่ าโดยสายยื่นมือมาหาพลางอ้าปากหาว

“ถนนซุตแลน”

ไคลน์ หยิบเหรียญหนึ่งเพนนีสองเหรียญจากกระเป๋าเสื้ อ ก่อนจะ


ล้วงหยิบเศษ‘ครึ่งเพนนี’อีกจานวนหนึ่งเพื่อสมทบให้ ครบ

“สี่ เพนนี”

พนักงานเก็บเงินบอกราคาฉะฉาน

หลังจากจ่ ายเงินและดึงตัวขึน้ ไปนั่งในห้ องโดยสาร ชายหนุ่ม


พบว่ าเที่ยวขบวนยังคงเปล่าเปลี่ยวไร้ ผ้ คู น นับเป็ นความอ้างว้ างที่
ไม่ ค้ นุ ชินท่ ามกลางค่าคืนอับแสง
“คุณเป็ นคนแรก”
คนขับรถม้ าหันมายิม้

ขณะเดียวกัน ม้ าสี น้าตาลสองตัวเร่ งฝี เท้ าควบผ่ านถนนดารา


รันต์ ด้วยความเร็วปานกลาง

“ด้ วยความสั ตย์ จริง ผมไม่ ยักทราบมาก่อนว่ ารถม้ าสาธารณะจะ


มีรอบเช้ าขนาดนี้ด้วย”

ไคลน์ เลือกที่นั่งใกล้คนขับ มันหาเรื่ องคุยเรื่ อยเปื่ อยเพื่อข่ ม


อารมณ์ ตื่นเต้ นภายในหัว

คนขับรถม้ ายิม้ จืดชื ดก่อนตัดพ้อ

“วิ่งตั้งแต่ หกโมงเช้ าถึงสามทุ่ม แต่ ค่าแรงของผมแค่ สัปดาห์ ละ


หนึ่งปอนด์ ”

“ไม่ มีพกั เลยหรื อ?”

ไคลน์ ขมวดคิว้ ถาม

“หยุดสั ปดาห์ ละหนึ่งวัน”

น้าเสี ยงคนขับเริ่มทุ้มต่า
พนักงานเก็บเงินช่ วยเสริม

“ช่ วงเช้ า พวกเราวิ่งตั้งแต่ หกโมงถึงสิ บเอ็ดโมง จากนั้นก็หยุดพัก


จนถึงบ่ ายแก่ ก่อนจะกลับมาเปลี่ยนกะกับเพื่อนร่ วมงานในช่ วงหก
โมงเย็น ต่ อให้ เราไม่ อยากพัก แต่ ม้าก็ต้องได้ พกั บ้ าง”

“เมิื่อก่อนไม่ มีหรอกนะ ถึงได้ เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง คนขับรถม้ า


ต้ องทางานทั้งวันจนไม่ มีสติควบคุมม้ า รวมถึงม้ าที่เหนื่อยล้าจนรถ
เสี ยหลัก เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งจนต้ องมีกฎหมายผลัดเวรรองรับ…
ไม่ อย่ างนั้น ไอ้พวกนายทุนหน้ าเงินคงไม่ คิดแยแส!”

คนรับรถม้ าสบถเดือดดาล

ท่ ามกลางบรรยากาศเข้ าใกล้ ร่ ุงเช้ าเข้ าไปทุกขณะ รถม้ าเคลื่อน


ตัวไปเรื่ อยๆ โดยมีปลายทางเป็ นถนนซุตแลน ระหว่ างทางจอดแวะ
รับผู้โดยสารอีกราวเจ็ดถึงแปด

เมื่อไคลน์ เริ่มผ่ อนคลาย มันหยุดบทสนทนาและหลับตาลง


สมาธิทบทวนประสบการณ์ ที่ได้ รับเมื่อวาน หวังว่ าจะเก็บตกในสิ่ ง
ที่หลงลืมให้ ครบถ้ วน

กระทั่งแสงแดดยามเช้ าส่ องสว่ าง ดวงจันทร์ ถูกแทนที่ด้วยดวง


อาทิตย์ รถม้ านาตัวชายหนุ่มมาส่ งถึงที่หมาย ถนนซุตแลน
ไคลน์ ถอดหมวกพร้ อมกับก้มศีรษะ ก่อนจะกระโดดลงห้ อง
โดยสารรถม้ าด้ วยมาดสุ ภาพบุรุษสุ ดเท่

เป้าหมายการเดินเท้ าคือบ้ านเลขที่ 36 ของถนนซุตแลน หลังจาก


เดินย่าขั้นบันไดไม่ นาน มันก็ถึงบริษัทรักษาความปลอดภัยหนาม
ทมิฬโดยสวัสดิภาพ

ประตูปิดสนิท… ย่ อมต้ องเป็ นเช่ นนั้น ปัจจุบันยังไม่ ถึงเวลาเปิ ด


ทาการ

ไคลน์ หยิบพวกกุญแจทองเหลืองที่เอวเพื่อควานหากุญแจ
สานักงาน เมื่อหาจนพบ ชายหนุ่มหยิบมันเสี ยบเข้ าไปในช่ อง
กลอนก่อนจะบิดไข

ทันทีที่ผลักประตูเข้ าไป ภาพแรกที่เห็นคือชายผมดานัยน์ ตา


เขียวซึ่งร่ วมทาภารกิจกับตนเมื่อวาน เลียวนาร์ ด·มิเชล มันนั่งสู ด
กลิ่นบุหรี่ยี่ห้อดัง

“ชอบซิการ์ มากกว่ าแฮะ… หืม? ทาไมวันนีค้ ุณมาเช้ านัก?”

เหยี่ยวราตรีกลิ่นอายนักกวีถามไคลน์ ด้วยท่ าทีเกียจคร้ านผ่ อน


คลาย

“หัวหน้ าอยู่ไหม?”
ไคลน์ ไม่ ตอบ มันตั้งคาถามแทน
เลียวนาร์ ดชี้ไปยังฉากกั้น

“ในห้ องทางาน… หัวหน้ าเป็ นผู้ไร้ หลับระดับสู ง เขาต้ องการ


เวลานอนเพียงวันละสองชั่วโมงเท่ านั้น สะดวกสบายชะมัด พวก
เจ้ าของโรงงานคงชื่ นชอบโอสถผู้ไร้ หลับมากเป็ นพิเศษ”

ไคลน์ พยักหน้ าและเดินผ่ านฉากกั้นไป

เมื่อถึงหน้ าห้ อง มันพบว่ าประตูเปิ ดค้ างอยู่ และดันน์ ·สมิทกาลัง


ยืนใกล้กับทางเข้ า

“มีอะไรอย่ างนั้นหรื อ?”

ดันน์ ในชุดกันลมสี ดาถามเสี ยงขรึม

“ผมสั มผัสถึงเดจาวูได้ ต้ องเป็ นสมุดบันทึกไม่ ผิดแน่ สมุด


บันทึกตระกูลอันทีโกนัส!”

ไคลน์ พยายามอธิบายให้ ชัดเจนและสมเหตุสมผล

“อยู่ที่ไหน?”

สี หน้ าดันน์ ยังคงเรียบเฉย แต่ สัมผัสอันเฉียบแหลมของไคลน์


ระบุว่า อีกฝ่ ายออกอาการประหลาดใจอย่ างลับๆ
“อาคารหลังที่ผมกับเลียวนาร์ ดช่ วยเหลือตัวประกันเมื่อวาน
น่ าจะเป็ นห้ องฝั่งตรงข้ าม ผมไม่ เอะใจจนกระทั่งกลับบ้ านและหลับ
ฝันถึง มันคือฝันบอกเหตุ”

ไคลน์ อธิบายไม่ ปิดบัง

“เท่ าที่ฟัง… ผมพลาดความดีความชอบครั้งใหญ่ เลยนะเนี่ย”

เลียวนาร์ ดที่เดินตามไคลน์ มา มันกล่าวเสี ยงคิกคัก

ดันน์ พยักหน้ าก่อนออกคาสั่ งเสี ยงขรึม

“ให้ โคเฮนรี่เฝ้าคลังอาวุธแทนลุงนีลล์ บอกฟรายกับลุงนีลล์


เตรียมออกเดินทาง”

เลียวนาร์ ดหยุดพฤติกรรมเฉื่ อยชาชั่วขณะ มันเดินไปในห้ อง


นันทนาการและแจ้ งคาสั่ งจากหัวหน้ าให้ โคเฮนรี่กับฟรายฟัง คน
หนึ่งเป็ นผู้ไร้ หลับ ส่ วนอีกคนเป็ นผู้เก็บซากศพ

ห้ านาทีถัดมา รถม้ าสองล้อประจาหน่ วยเหยี่ยวราตรีแล่ นมาจอด


บนถนนซุตแลน ก่อนจะนาพาทุกคนฝ่ าความแอดอัดยามเช้ าบน
ถนนไปยังจุดเกิดเหตุ
เลียวนาร์ ดสวมหมวกขนนก เชิ้ต และกั๊ก แต่ ไม่ ใส่ สูท มันนั่งใน
ตาแหน่ งคนขับ มือขวาถือแส้ ตวัดฟาดม้ าเพื่อเร่ งความเร็วเป็ น
ระยะ

ในห้ องโดยสารรถม้ ามีสี่บุคคล ไคลน์ และลุงนีลล์นั่งติดกัน ส่ วน


ฝั่งตรงข้ ามเป็ นดันน์ และฟราย

ผิวหนังของผู้เก็บซากศพมีสีขาวซีดจนน่ าเหลือเชื่ อ ประหนึง่ ไม่


เคยถูกแสงแดดแผดเผาแม้ แต่ วินาทีเดียว หรื อไม่ ก็เข้ าสู่ ภาวะขาด
เลือดรุนแรงจนเซลล์ผิวปราศจากเม็ดสี
หากประเมินจากรูปลักษณ์ ฟรายคงมีอายุราวสามสิ บ ผมดา
นัยน์ ตาฟ้ าคราม ดั้งจมูกสั นโด่ ง ริมฝี ปากบางและเล็ก บรรยากาศ
รอบตัวเย็นยะเยียบอึมครึม สี หน้ าเรียบเฉยราวกับเห็นศพผ่ านตา
นับไม่ ถ้วน

“อธิบายสถานการณ์ และรายละเอียดให้ ทุกคนฟังอีกครั้ง”

ดันน์ กล่าวขณะใช้ มือจัดปกเสื้ อกันลมสี ดา

ไคลน์ ลูบไล้บุษราคัมที่ห้อยข้ อมือซ้ ายพลางแสดงสี หน้ าครุ่นคิด


ก่อนจะเริ่มเล่าเหตุการณ์ นับตั้งแต่ ทาภารกิจร่ วมกับเลียวนาร์ ด ไป
จนถึงฝันที่เกิดขึน้ กลางดึก

ลุงนีลล์ที่นั่งเคียงข้ างส่ งเสี ยงคิกคัก


“ดูเหมือนชะตาของเจ้ าจะเกี่ยวพันกับสมุดบันทึกเล่มนั้นแนบ
แน่ น ไม่ คิดเลยว่ าจะหาพบในลักษณะเช่ นนี”้

นั่นสิ … ไม่ บังเอิญเกินไปหน่ อยหรื อ?

แต่ โชคดีที่ผลการสื บสวนเพิม่ เติมของเลียวนาร์ ดระบุว่า กลุ่ม


คนร้ ายลักพาตัวไม่ มีองค์ กรหรื อลัทธิใดหนุนหลัง พวกมันทาเพื่อ
เงินโดยแท้ จริง ไม่ อย่ างนั้น ไคลน์ คงอดคิดไม่ ได้ ว่า มีผ้ วู ิเศษบาง
คนกาลังชักใยเหตุการณ์ ท้งั หมดจากเงามืด
ทุกสิ่ งบังเอิญจนน่ าตกใจ

ดันน์ มิได้ กล่าวสิ่ งใดเพิม่ เพียงแสดงสี หน้ าครุ่นคิดตลอดทาง


เช่ นเดียวกันกับผู้เก็บซากศพ·ฟราย ใบหน้ าของมันเย็นยะเยียบ
ภายใต้ เสื้ อกันลมสี ดาสนิท

จนกระทั่งรถม้ าหยุดหน้ าอาคารที่เกิดเหตุ ความเงียบถูกทาลาย


เป็ นหนแรก

“เริ่มปฏิบัติการได้ ไคลน์ กับลุงนีลล์ พวกคุณรั้งท้ ายแถว ระวัง


ตัวด้ วย… ระมัดระวังให้ มากที่สุด”

ดันน์ ลงจากรถม้ าพร้ อมกับหยิบลูกโม่ ประหลาดออกจากซองปื น


ลากล้องยาวและหนาผิดแผกจากปรกติ ก่อนที่มันจะก็ยัดใส่ ในประ
เป๋าเสื้ อฝั่งขวาเพื่อไม่ ให้ เตะตา
“ทราบแล้วครับ”

ไคลน์ พยักหน้ าโดยไม่ คัดค้ าน

หลังจากเลียวนาร์ ดจ้ างใครบางคนให้ ช่วยเฝ้ารถม้ า ผู้วิเศษทั้งห้ า


เดินเรียงแถวขึน้ บันไดอาคารด้ วยเสี ยงเงียบเชียบไปจนถึงชั้นสาม

“ห้ องนีห้ รื อ?”


เลียวนาร์ ดชี้นวิ้ ไปยังห้ องฝั่งตรงข้ ามจุดเกิดเหตุเมื่อวาน

ไคลน์ เคาะหว่ างคิว้ เพื่อเข้ าสู่ เนตรวิญญาณ

ในภาวะดังกล่าว สั มผัสวิญญาณจะเฉียบแหลมขึน้ มาก… เมื่อ


มั่นใจว่ าเป็ นประตูบานเดียวกับในฝัน ชายหนุ่มพยักหน้ ายืนยัน
หนักแน่ น

“ใช่ ”

ลุงนีลล์เข้ าสู่ ภาวะเนตรวิญญาณเช่ นกัน มันกวาดสายตามอง


รอบห้ องพร้ อมกับกล่าวระมัดระวัง

“ไม่ มีใครอยู่เลย ไม่ มีกระทั่งเศษเสี้ยวพลังเวทมนตร์ ”


ผู้เก็บซากศพ·ฟรายกล่าวเสริมด้ วยเสี ยงแหบพร่ า

“ไม่ มีวิญญาณร้ าย”

มันสามารถมองเห็นภูติผีตัวเป็ นๆ ได้ ด้วยตาเปล่า รวมถึง


วิญญาณร้ ายและวิญญาณอาฆาต โดยไม่ ต้องเข้ าสู่ ภาวะเนตร
วิญญาณเหมือนคนอื่น

เลียวนาร์ ดย่ างกรายเข้ าไปหยุดยืนหน้ าบานประตู และเฉกเช่ น


เมื่อวาน มันชกจนกลอนหล่นเข้ าไปด้ านใน

เศษไม้ กระจัดกระจาย กลอนโลหะหล่นตกกระทบพื้นห้ องเกิด


เสี ยงดัง

ไคลน์ เกิดความรู้สึกประหลาด คล้ายกับผนึกที่มองไม่ เห็นถูก


คลายออก ทันใดนั้น กลิ่นเหม็นเน่ าชวนอาเจียนพลันโชยเตะจมูก

“ซากศพ… ซากศพเน่ าเปื่ อย”

ฟรายอธิบายเสี ยงเย็นยะเยียบราวกับไม่ ร้ ูสึกขยะแขยง

ดันน์ ใช้ มือขวาที่สวมถุงมือหนังดาบรรจงผลักประตูไม้ เข้ าไป


สิ่ งแรกที่ทุกคนเห็นคือเตาผิง ถึงปัจจุบันจะเป็ นช่ วงฤดูร้อนต้ น
เดือนกรกฎกา แต่ อุณหภูมิภายในห้ องกลับสู งอย่ างผิดวิสัย
ด้ านหน้ าเตาผิงเป็ นเก้าอีโ้ ยกทาจากไม้ บุคคลที่นั่งบนเก้าอีค้ ือ
หญิงชราในชุดขาวสลับดา ศีรษะห้ อยก้มต่าลงด้ านหน้ า

ร่ างกายบวมใหญ่ ผิดธรรมชาติ ผิวหนังมีสีดาอมเขียวและเต่ งตึง


ราวกับพร้ อมระเบิดกระจายทุกเมื่อเพียงสั มผัสบางเบา นี่คือต้ อตอ
ของกลิ่นเหม็นบัดซบที่ไคลน์ สัมผัสถึง ตามผิวหนังของเธอมี
หนอนแมลงชอนไชร่ วมกับปรสิ ตหลายชนิด เนตรวิญญาณ
สามารถตรวจจับสิ่ งเหล่านีไ้ ด้ เพียงจุดแสงขนาดเล็กจนยากสั งเกตุ
เห็นในความมืด
แผละ!

ดวงตาหญิงชราหลุดจากเบ้ าและตกลงพื้น เกลือกกลิง้ สองสาม


รอบจนเกิดคราบของเหลวสี เหลืองเหนียวเหนอะทางยาว

ความสะอิดสะเอียนของไคลน์ ถึงขีดจากัด มันมิอาจทนต่ อกลิ่น


และภาพชวนอาเจียนอีกต่ อไป ชายหนุ่มโน้ มตัวลงด้ านหน้ าพร้ อม
กับอ้วกจนหมดไส้ พุงโดยไม่ อายสายตาผู้ใด
ราชันย์ เร้ นลับ 46 : ภาพเหมือน

อุแหวะ!

แค่ ก!

ไคลน์ ก้มลงอาเจียนอย่ างห้ ามตัวเองไม่ ได้ แต่ มันก็สารอกไม่ นาน


นัก แถมยังมีปริมาณของเหลวข้ นไม่ มาก สาเหตุเพราะตอนเช้ ายัง
ไม่ ได้ ทานอะไรติดตัวมา

ทันใดนั้น ขวดดีบุกทรงสี่ เสี่ ยมที่ดูคล้ายกล่องบุหรี่ได้ ปรากฏขึน้


เบื้องหน้ าชายหนุ่ม

ทันทีที่จุกขวดถูกดึงออก กลิ่นของยาสู บ ยาฆ่ าเชื้อ และใบมินท์


ผสมผสานอย่ างลงตัวพลันหอมโชยออกเตะจมูก ไคลน์ ร้ ูสึกสดชื่ น
กระปรี้กระเปร่ าผิดธรรมชาติ

แม้ กลิ่นเหม็นบัดซบยังคงตลบอบอวล แต่ มันกลับไม่ ร้ ูสึก


คลื่นไส้ หรื อสะอิดสะเอียนอีกแล้ว อาการอ้วกหยุดลงในอีกไม่ กี่อึด
ใจ

ชายหนุ่มแหงนหน้ ามองตามขวดดีบุก มันได้ พบฝ่ ามือที่ขาวซีด


ราวกับไม่ ใช่ ของมนุษย์ ถัดมาเป็ นชายแขนเสื้ อกันลมสี ดาสนิท
เมื่อเงยศีรษะขึน้ อีกนิด ไคลน์ ได้ พบกับใบหน้ าของผู้เก็บซากศพ·
ฟราย ผู้มีบรรยากาศเย็นยะเยียบและดามืดตลอดเวลา

“ขอบคุณมาก”

ไคลน์ หายจากอาการย่าแย่ เป็ นปลิดทิง้ มันใช้ ฝ่ามือทั้งสองข้ าง


ยันเข่ าและพยุงตัวขึน้

ฟรายพยักหน้ าไม่ ยินดียินร้ าย


“พอเริ่มชินแล้วจะดีขนึ้ เอง”

เมื่อกล่าวจบ ผู้เก็บซากศพปิ ดจุกขวดดีบุกและเดินเข้ าห้ องไป


สั มผัสร่ างหญิงชราด้ วยมือเปล่า สภาพศพเน่ าเปื่ อยแล้วหลายวัน
ฟรายก้มหน้ าตรวจสอบร่ างหญิงชราโดยละเอียด

ขณะเดียวกัน ดันน์ และเลียวนาร์ ดแยกย้ ายสารวจรอบรอบห้ อง


โดยสวมถุงมือจับนู้นนี่เรื่ อยเปื่ อย

ลุงนีลล์บีบจมูกแน่ นทั้งที่ยังไม่ ได้ เดินเข้ าไปในห้ อง สี หน้ าของ


มันบิดเบี้ยวเหยเก

“โสโครกชะมัด! ฉันสาบานว่ าจะเรียกร้ องค่ าชดเชยเพิม่ เติมจาก


ภารกิจคราวนี!้ ”
ดันน์ เบนความสนใจมายังเตาผิง มันใช้ มือขวาที่สวมถุงมือหนัง
ดาลูบไล้ ไปตามผนังอิฐด้ านใน ก่อนจะหันมาถามไคลน์

“คุ้นรึเปล่า?”

ไคลน์ สูดลมหายใจเข้ าลึก มันใช้ มือกานาฬิ กาพกสี เงินในกระเป๋า


เพื่อให้ จิตใจสงบลง

ปัจจุบัน ชายหนุ่มอยู่ในภาวะเนตรวิญญาณ การมองเห็นจึง


แตกต่ างจากภาพตาเปล่าภายในฝัน ไคลน์ พยายามกวาดสายตารอบ
ห้ องหนึ่งหน เพื่อเรียกความทรงจาจากฝันกลับมาโดยละเอียด

เตาผิง, เก้าอีโ้ ยก, โต๊ ะไม้ , หนังสื อพิมพ์, ตะปูขนึ้ สนิมบริเวณ


บานประตู, กระป๋องดีบุกเลี่ยมเงิน…

ฉากในฝันทั้งมืดและไม่ คมชัด คับคล้ายการชมภาพยนตร์ จาก


แผ่ นฟิ ล์มโบราณบนโลกเก่า เรียกว่ าพร่ ามัวก็ไม่ ผิดนัก แถมยังมี
ลักษณะฟุ้งกระจายเหมือนกับอยู่บนดินแดนความฝัน

ฉากฝันและความจริงเบื้องหน้ าเริ่มซ้ อนทับอย่ างรวดเร็ว อาการ


เดจาวูหวนกลับมาประทับร่ างไคลน์ แจ่ มชัดอีกหน ทันใดนั้น เสี ยง
มายาไร้ ตัวตนพลันกรีดร้ องทะลุกาแพงที่มองไม่ เห็นแทรกเข้ าใน
หัว
“โฮนาซิส… เฟรเกีย… โฮนาซิส… เฟรเกีย… โฮนาซิส… เฟร
เกีย…”

“ค่ อนข้ างคุ้นครับ”

ไคลน์ ตอบเถรตรง หัวสมองเริ่มทวีความเจ็บแปลบ แต่ โชคดีที่


มันแตะหว่ างคิว้ สองหนได้ ทันท่ วงทีและหลุดพ้นจากภาวะเนตร
วิญญาณ

โฮนาซิส… หมายถึงเทือกเขาโฮนาซิสที่ถูกเอ่ยถึงในไดอารีของ
ไคลน์ คนก่อนงั้นหรื อ?

นั่นคือเนื้อหาที่ไคลน์ เวิร์ช และนาย่ าช่ วยกันถอดรหัสสมุด


บันทึกตระกูลอันทีโกนัส…

เสี ยงกระซิบโฮนาซิสคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ เมื่อครั้งดื่มโอสถ


มาก

หรื อคาว่ า‘โฮนาซิส’จะเป็ นเสี ยงที่คอย‘ล่อลวง’ให้ ผ้ วู ิเศษเกิด


อาการคลุ้มคลั่ง?

ดันน์ พยักหน้ าเล็กน้ อยและเดินไปยังตู้กับข้ าวเก่า ถุงมือหนังข้ าง


ขวาออกแรงกระชากบานประตูไม้

ภายในตู้มีเพียงขนมปังขึน้ ราและหนูสีเทาราวเจ็ดตัวที่นอนแห้ ง
ตายอย่ างสงบ
“เลียวนาร์ ด ลงไปชั้นล่ างและแจ้ งกับตารวจลาดตระเวณถึง
สถานการณ์ ปัจจุบัน”

ดันน์ กาชับ

“ครับผม”

เลียวนาร์ ดหันหลังและเดินไปจากห้ อง
ถัดมา ดันน์ ลงมือสารวจภายในห้ องนอนอีกสองห้ องที่เหลือ มัน
พยายามค้ นหาเบาะแสด้ วยท่ าทีระมัดระวัง

หลังจากยืนยันแล้วว่ าไม่ พบเบาะแสใด รวมถึงการมีตัวตนของ


สมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัส ฟรายลุกขึน้ ยืนขึน้ และเช็ดมือด้ วยผ้ า
สี ขาวส่ วนตัวที่เตรียมมาเอง

“ตายนานกว่ าห้ าวัน ไม่ มีบาดแผลภายนอก ไม่ มีร่องรอยการลง


มือจากผู้วิเศษ สาเหตุการเสี ยชีวิตต้ องชันสู ตรอย่ างละเอียดอีก
ครั้ง”

“พวกคุณพบอะไรบ้ างไหม?”

ดันน์ หันไปถามทางฝั่งลุงนีลล์และไคลน์
ทั้งสองที่ไม่ ได้ อยู่ในภาวะเนตรวิญญาณต่ างส่ ายศีรษะพร้ อมกัน

“นอกจากศพแล้ว ทุกอย่ างในห้ องปรกติดี แถมยังไม่ มีกาแพงใส


หลงเหลือภายในห้ องก่อนพวกเราจะมาถึง …ก็อย่ างที่นายทราบ
การจะลงมือทาพิธีกรรมทุกครั้ง จาเป็ นต้ องพึ่งพากาแพงที่มองไม่
เห็นเพื่อให้ ไม่ ถูกรบกวน”

ลุงนีลล์ครุ่นคิดสองสามวินาทีก่อนจะอธิบาย

ขณะดันน์ กาลังจะกล่าวบางสิ่ ง สายตาของมันพลันชาเลืองไป


นอกประตู ไคลน์ และนีลล์ที่สัมผัสถึงความผิดปรกติต่างหันไปมอง
บันไดพร้ อมกัน

ไม่ กี่วินาทีถัดมา เสี ยงฝี เท้ าดังเจือจางจากชั้นล่าง เป็ นตารวจลาด


ตระเวณที่เลียวนาร์ ดพาตัวมาทาคดี

เจ้ าหน้ าที่ตารวจแสดงสี หน้ าบิดเบีย้ วหลังได้ กลิ่นไม่ พงึ ประสงค์

โดยไม่ รอช้ า ตารวจคนดังกล่ าวรีบให้ ความร่ วมมือกับ‘เพื่อน


ร่ วมงาน’ซึ่งเป็ นหน่ วยปฏิบัติการพิเศษที่เจ็ดอย่ างกระฉับกระเฉง
มันเดินลงไปเคาะประตูห้องชั้นล่างเพื่อไต่ ถามถึงข้ อมูลบุคคลที่พกั
อาศัยบนชั้นสาม

หลังจากสอบสวนไม่ นานก็ได้ ความ ตารวจยศสองบั้งเงินเดิน


ขึน้ มายังห้ องเกิดเหตุ สายตาชาเลืองมองศพบนเก้าอีโ้ ยกเล็กน้ อย
“เคธี่·สเตฟาน่ า·บีเบอร์ อายุระหว่ าง 55 ถึง 60 ปี เป็ นหม้ าย เช่ า
ห้ องนีร้ ่ วมกับบุตรชาย รีเอล·บีเบอร์ มานานกว่ าสิ บปี แล้ว

“สามีเป็ นช่ างอัญมณีฝีมือดี บุตรชายอายุราวสามสิ บ สื บทอด


กิจการต่ อจากบิดา ทาเงินได้ สัปดาห์ ละหนึ่งปอนด์ สิบห้ าซูล จาก
ปากคาของเพื่อนบ้ าน ทั้งสองถูกพบตัวครั้งสุ ดท้ ายราวหนึ่ง
สั ปดาห์ ก่อน”

ยังไม่ ทันที่ตารวจจะอธิบายต่ อ ไคลน์ ทราบทันทีว่าตัวการสาคัญ


เป็ นใคร

หายไปไหน…

รีเอล·บีเบอร์ หายไปไหน!

มีโอกาสสู งมากที่สมุดบันทึกโบราณจะอยู่กับหมอนั่น!

“คุณมีภาพของรีเอล·บีเบอร์ ไหม?”

ดันน์ หันมองตารวจก่อนจะเอ่ยปากถาม มันกาลังแสร้ งทาทีเป็ น


นายตารวจระดับสู ง

แต่ อันที่จริง ใช้ คาว่ าแสร้ งคงไม่ ถูกนัก เพราะในรายชื่ อ


ข้ าราชการตารวจอาณาจักรโลเอ็น ดันน์ ·สนิทติดยศนายตารวจ
ระดับสู ง!

เงินเดือนและเบีย้ เลีย้ งส่ วนหนึ่งของดันน์ ก็มาจากกรมตารวจ


โดยตรง และยังมีอีกส่ วนที่มาจากโบสถ์

เจ้ าหน้ าที่ตารวจส่ ายศีรษะกระสั บกระส่ าย

“ผมให้ คาตอบไม่ ได้ ต้ องกลับไปตรวจสอบที่สถานีก่อน พวกเรา


ไม่ ได้ มีภาพของชาวเมืองทุกคนเก็บไว้ ”
“เข้ าใจแล้ว รบกวนสอบปากคาผู้อยู่อาศัยทุกห้ องในอาคารโดย
ละเอียดด้ วย”

ดันน์ ออกคาสั่ งเสี ยงขรึม

ขณะยืนมองเจ้ าหน้ าที่ตารวจเดินจากไป ดันน์ รีบปิ ดประตูมิดชิด


ก่อนจะหันมองลุงนีลล์

“ผมจะให้ คุณจัดการที่นี่ แต่ ถ้ายังไม่ สาเร็จ ผมคงไม่ มีทางเลือก


อื่นนอกจากทาให้ ผ้ พู กั อาศัยทุกคนในตึกหลับ นั่นคือวิธีเดียวที่เรา
จะได้ ภาพรีเอล·บีเบอร์ อย่ างชัดเจน ผมไม่ คิดว่ าการสเก็ตช์ ภาพ
คนร้ ายจากปากคาพยานจะแม่ นยาน่ าเชื่ อถือสั กเท่ าไร”

ลุงนีลล์พยักหน้ า มันหยิบขวดปริศนาขนาดเล็กราวหัวแม่ มือ


ออกจากกระเป๋าชุดคลุมดา ก่อนจะบรรจงสาดของเหลวในขวด
ตามลาดับอย่ างพิถีพถิ ัน

ถัดมาเป็ นการกาผงบางสิ่ งโปรยรอบตัวเป็ นวงกลม

น่ าประหลาดมาก กลิ่นประหลาดเริ่มโชยไปทั่วห้ องแทนที่กลิ่น


เหม็นเน่ าซากศพ ไคลน์ เริ่มสั งเกตุเห็นกาแพงใสก่อตัวรอบลุงนีลล์
สนามพลังดังกล่าวราวกับทาหน้ าที่ก้ันแบ่ งระหว่ างสภาพแวดล้อม
ด้ านในและด้ านนอกให้ แยกจากกันโดยสิ้นเชิง

บรรยากาศห้ องกลับไปมีลักษณะคล้ายคลึงในตอนเพิง่ พบศพอีก


ครั้ง

ลุงนีลล์หรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง ริมฝี ปากพึมพาคาถาด้ วยเสี ยงค่ อยจน


ยากจะฟังได้ ศัพท์ แต่ ถึงอย่ างนั้น ไคลน์ ก็พอจะจับใจความได้ บ้าง
เล็กน้ อย ในบทคาถามีประโยคซ้าเดิมบ่ อยครั้ง จาพวก‘ท่ าน
เทพธิดา ได้ โปรดประทานพลังให้ พวกเราด้ วย’และ‘พวกเรา
ปรารถนาการปกป้องจากรัตติกาล…’

ฟุ่ บ!

สายลมพันผ่ านฉับพลันเข้ ามาทางหน้ าต่ าง ผงปริศนาที่ลุงนีลล์


โปรยไว้ รอบตัวเริ่มฟุ้งกระจาย

หัวใจไคลน์ เต้ นระรัว เส้ นขนลุกชูชันทั่วร่ าง เป็ นความรู้สึกแปลก


ใหม่ ที่ยากอธิบายด้ วยถ้ อยคา ชายหนุ่มพบว่ า‘กลิ่น’ที่ตนกาลังสู ด
ดมเข้ าปอดได้ มอบความหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจ

ความสั บสนเพิม่ พูนควบคู่ไปกับความตึงเครียด คล้ายกับในยาม


ที่เรียนคาบวิชาคณิตศาสตร์ แล้ วไม่ เข้ าใจที่ครูสอน

ทันใดนั้น ดวงตาลุงนีลล์เบิกโพลงด้ วยนัยน์ ตาดาสนิท

มันหยิบปากกาหมึกซึมจากกระเป๋าเสื้ อและเริ่มก้มหน้ าวาดบาง


สิ่ งลงบนกระดาษด้ วยความเร็วสู ง เร็วจนร่ างกายชายชราสั่ นเทิ่ม
ไม่ เป็ นจังหวะ

ไคลน์ เพ่งสมาธิจดจ้ องไปบนแผ่ นกระดาษ เพียงไม่ นาน ภาพ


โครงหน้ าและสั นจมูกของบุรุษผู้หนึ่งเริ่มปรากฏเป็ นรูปเป็ นร่ าง

เมื่อวาดผมสั้ นหยักโศกตามธรรมชาติเสร็จ ลุงนีลล์เขียนบางสิ่ ง


กากับลงไปใต้ ภาพเหมือน

“ผมดา นัยน์ ตาฟ้ าเข้ ม ฝั่งซ้ ายของช่ องปากเป็ นฟันเซรามิค”

ตึก!

ปากกาหมึกซึมถูกวางกระแทงลงบนกระดาษจนเกิดเสี ยง
ร่ างกายลุงนีลล์ออกอาการชักกระตุกสองสามหน
“นี่คือภาพของรีเอล·บีเบอร์ จากเบาะแสที่หลงเหลือภายในห้ อง”
ลุงนีลล์ส่งเสี ยงกระซิบขณะเปลือกตาเริ่มเปิ ดขึน้ ถัดมา มันเดิน
กลับไปยืนในจุดกึ่งกลางวงกลมพีธีกรรม ก่อนจะหมุนตัวหนึ่งรอบ
อย่ างเชื่ องช้ าเพื่อสลายกาแพงใสที่มองไม่ เห็นให้ กลายเป็ นสายลม

“เทพธิดาจงเจริญ”

ลุงนีลล์ทาสั ญลักษณ์ สี่จุดบนหน้ าอกแสดงถึงจันทร์ สีชาด

ไคลน์ เริ่มผ่ อนคลาย สมาธิของมันเพ่งมองไปยังภาพเหมือนของ


รีเอล·บีเบอร์ บุรุษวัยกว่ าสามสิ บผู้นไี้ ม่ มีเอกลักษณ์ ใดโดดเด่ นหรื อ
ผิดธรรมชาติ ใบหน้ าค่ อนข้ างราบเรียบอ่อนโยน จุดเดียวที่เตะตา
คือบริเวณใต้ จมูกเหนือริมฝี ปากซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงผู้ป่วยปาก
แหว่ งเพดานโหว่ …อาจเกี่ยวพันกับฟันเซรามิคก็เป็ นได้

“ผมจะลองค้ นหาด้ วยเทคนิคแท่ งวิญญาณ”

ชายหนุ่มหยิบภาพเหมือนของรีเอลขึน้ มาถือ จากนั้นเดินรื้ อค้ น


เสื้ อผ้ าบุรุษเก่าภายในห้ องพักจนพบ

วัตถุท้งั สองถูกวางลงบนพื้นห้ อง

ดันน์ เลียวนาร์ ด และลุงนีลล์ ไม่ มีใครคิดขัดขวางไคลน์ แต่ ละ


คนทาเพียงยืนจ้ องมองชายหนุ่มหยิบไม้ คา้ ปักลงพื้นในจุดเหนือ
เสื้ อผ้ าเก่า ส่ วนฟรายยังคงเงียบงันเช่ นเคย
นัยต์ ตาไคลน์ แปรเปลี่ยนจากน้าตาลเป็ นเกือบดา มันพึมพาคาถา
เสี ยงค่ อยก่อนจะปล่อยมือเป็ นอิสระจากไม้ คา้

ไม้ คา้ เลี่ยมเงินตั้งตรงกลางอากาศโดยไม่ แยแสกฏแห่ งแรงโน้ ม


ถ่ วง ประหนึ่งปลายแหลมเสี ยบปักพื้นไว้ ก็มิปาน

“ที่อยู่ของรีเอล·บีเบอร์ ”

มันทวนซ้ากับตัวเองเจ็ดรอบ

เมื่อเกิดสายลมพัดผ่ าน ไม้ คา้ เริ่มเอนตัวลงเล็กน้ อย แต่ กลับหมุน


เปลี่ยนทิศทางกระทันหันเป็ นวงกลม หมุนอยู่เช่ นนั้นจนกระทั่ง
กลับมาตั้งตรงใหม่ อีกหนโดยปราศจากแรงกระทาจากภายนอก

ไคลน์ เดินเข้ าไปใช้ มือจับไม้ คา้ และท่ องคาถาเสี ยงค่ อยก่อนจะ


ปล่อยมือเริ่มทานาย

ไม้ คา้ แสดงอากัปกริยาเหมือนเดิมทุกประการ มันทิง้ ตัวเล็กน้ อย


และหมุนเป็ นวงกลมก่อนจะกลับไปตั้งตรงดังเดิม

หลังจากเกิดเหตุการณ์ เดิมซ้าขึน้ อีกสองสามหน ไคลน์ ตัดสิ นใจ


ยอมแพ้
มีพลังลึกลับขัดขวาง‘การทานาย’ไว้
ดันน์ ถอดถุงมือหนังสี ดาออกและไปกล่าวกับเลียวนาร์ ด

“นาภาพเหมือนของรีเอล·บีเบอร์ ไปสอบปากคาผู้พกั อาศัยเพื่อ


ยืนยันว่ าเป็ นบุคคลเดียวกัน เมื่อแน่ ใจแล้ว ให้ รีบออกหมายจับใน
คดีสังหารมารดาตัวเองทันที”

“ครับผม”

ไคลน์ เก็บไม้ คา้ กลับและโน้ มตัวลงไปหยิบภาพเหมือนของรีเอล·


บีเบอร์ ที่ลุงนีลล์ร่างไว้

หลังจากเพื่อนบ้ านยืนยันแล้ วว่ าภาพดังกล่าวคือรีเอล·บีเบอร์ ไม่


ผิด ดันน์ ออกคาสั่ งให้ เลียวนาร์ ดและเจ้ าหน้ าที่ตารวจกลับไป
จัดการเอกสารที่สถานีให้ เรียบร้ อย ส่ วนตัวมันมุ่งหน้ าไปยังบาร์
สองสามแห่ งในทิงเก็นเพื่อขอความร่ วมมือผ่ านช่ องทางอื่น

ด้ านไคลน์ และลุงนีลล์เดินทางกลับบริษัทรักษาความปลอดภัย
หนามทมิฬบนถนนซุตแลน ในตอนที่มาถึง เข็มสั้ นบอกชั่วโมงยัง
ขยับไม่ ถึงเลขแปด จึงไม่ แปลกที่โรแซนจะยังไม่ เข้ างาน

หลังจากปิ ดประตูสานักงาน ไคลน์ เงยหน้ ามองลุงนีลล์ก่อนจะ


เอ่ยปากถามอย่ างใคร่ ร้ ู
“ทาไมผมถึงต้ องส่ งสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสให้ รีเอล·บี
เบอร์์ ด้วย? ”

อาคารที่เกิดเหตุเป็ นคนละทิศทางกับบ้ านพักของเวิร์ชและถนน


กางเขนเหล็กโดยสิ้นเชิง

ลุงนีลล์เดินไปนั่งบนโซฟาก่อนจะส่ งเสี ยงคิกคัก

“แน่ นอนอยู่แล้วไม่ ใช่ หรื อ? สมุดเล่มดังกล่าวมีพลังเร้ นลับซ่ อน


อยู่ เจ้ าอาจประกอบพิธีกรรมกับเพื่อนโดยไม่ ร้ ูความ ส่ งผลให้ ไป
ปลุกตัวตนลึกลับภายในสมุดเข้ า

“ตัวตนดังกล่าวครอบงาเจ้ าให้ มอบสมุดบันทึกกับรีเอล·บีเบอร์


และลบร่ องรอยทั้งหมดทิง้ หลังจากเสร็จพิธี เพื่อไม่ ให้ ใครตามหา
มันพบเป็ นหนที่สอง

“ด้ วยเหตุนี้ เจ้ าที่เป็ นผู้ส่งสมุดจึงมีชีวิตอยู่เป็ นคนสุ ดท้ ายและ


เดินทางออกจากบ้ านเวิร์ช ส่ วนมิสเตอร์ เวอร์ และมิสนาย่ าลงมือ
ปลิดชีวิตตัวเองในที่เกิดเหตุ… แต่ หากถามถึงสาเหตุที่เจ้ ายังรอด
ชีวิต ฉันเองก็ไม่ ทราบเหมือนกัน”

“เรื่ องนั้น… ผมเองก็อยากทราบ”

ไคลน์ นั่งลงและกล่าวต่ อด้ วยรอยยิม้ เย็นชื ด


“ผมเคยวิเคราะห์ ในสมมติฐานแบบเดียวกับคุณมาก่อน แต่ สิ่งที่
ยังคาใจคือ ทาไมพลังลึกลับในสมุดถึงดลใจให้ ผมมอบสมุดบันทึก
ให้ รีเอล·บีเบอร์ ? ทาไมถึงเป็ นหมอนั่น?”

ลุงนีลล์ยักไหล่ตอบ

“บางที อาจเป็ นเพราะดวงชะตารีเอล·บีเบอร์ มีการเชื่ อมโยงกับ


สมุดอย่ างแนบแน่ น หรื อไม่ ก็ เพราะมันคือทายาทคนสุ ดท้ ายของ
ตระกูลอันทีโกส จะเป็ นแบบไหนก็ได้ … สรุปโดยสั้ นก็คือ พวกเรา
มีข้อมูลน้ อยเกินกว่ าจะหาคาอธิบาย… และเรื่ องที่สมุดโบราณเล่ม
ดังกล่าวปรากฏตัวในเมืองทิงเก็นก็คงด้ วยเหตุผลเดียวกัน”

“ผมไม่ คิดว่ ารีเอล·บีเบอร์ จะเป็ นทายาทตระกูลอันทีโกนัส”

ไคลน์ ถอนหายใจอย่ างผิดหวัง

“น่ าเสี ยดาย ผมน่ าจะรู้ตัวเร็วกว่ านี้ ก่อนที่รีเอล·บีเบอร์ จะไหว


ตัวทันและหนีไปพร้ อมสมุดบันทึก”

ลุงนีลล์อมยิม้

“นั่นอาจเป็ นเรื่ องแย่ สาหรับดันน์ แต่ สาหรับตัวเจ้ า ฉันกลับมอง


ว่ าเป็ นเรื่ องที่ดีแล้ว”

“คุณหมายความว่ ายังไง?”
ไคลน์ ขมวดคิว้ งุนงง
ราชันย์ เร้ นลับ 47 : ลุงนีลล์ขัดสน

ลุงนีลล์ใช้ มือลูบขมับก่อนจะกล่าว

“เราคงเห็นพ้องต้ องกันแล้วใช่ ไหม? ว่ าเหตุใดพวกเจ้ าทั้งสามถึง


ลงมือฆ่ าตัวตาย เช่ นนั้นฉันจะไม่ กล่าวถึงมัน…

“ปัจจุบัน สมุดบันทึกเล่มดังกล่าวตกอยู่ในมือของรีเอล·บีเบอร์
เรียบร้ อยแล้ว และข้ อมูลนีจ้ ะถูกเผยแพร่ เป็ นวงกว้ างในอีกไม่ ช้าก็
เร็ว

“อีกนัยหนึ่งก็คือ ไม่ ว่าเจ้ าจะรอดตายหรื อไม่ แต่ สมุดก็บรรลุผล


หน้ าที่ของมันแล้ว คือการนาไปส่ งให้ ถึงมือรีเอล·บีเบอร์ …

“ฉันคิดว่ า… ไม่ สิ ฉันเชื่ อว่ านับแต่ นไี้ ป พลังของตัวตนลึกลับ


ภายในสมุดคงไม่ สนใจเจ้ าอีก เหมือนกับที่เจ้ าไม่ สนใจมดปลวกบน
พื้นนั่นแหละ ฮะฮะ! ตราบใดที่เจ้ าไม่ ทาตัวเด่ นจนเตะตาพลังลึกลับ
ดังกล่าวล่ะนะ

“ในไม่ ช้า ใบประกาศจับรีเอล·บีเบอร์ ของกรมตารวจจะหลุดไป


ถึงสายข่ าวของลัทธิเร้ นลับ พวกมันจะเริ่มระแคะระคายว่ ารีเอล·บี
เบอร์ เกี่ยวพันกับสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสไม่ ทางใดก็ทางหนึ่ง
เชื่ อฉันเถอะ องค์ กรลับที่มีอายุยืนยาวขนาดขั้น เครื อข่ ายของมูล
พวกมันอยู่ในระดับน่ าทึ่งมาก
“ความสนใจจากองค์ กรเร้ นลับจะมุ่งเป้าไปที่รีเอล·บีเบอร์ แทน
เจ้ า พวกมันจะต้ องเร่ งมือค้ นหาสถานที่หลบซ่ อนของบีเบอร์ ให้ พบ
ก่อนเหยี่ยวราตรีแน่ ด้ วยเหตุนี้ เจ้ าจะได้ ใช้ ชีวิตอย่ างสงบสุ ขโดยไม่
ถูกลัทธิเร้ นลับคุกคามอีกต่ อไป

“ขอแสดงความยินดีด้วย ที่สามารถก้าวออกจากเงามืดในอดีตได้
สาเร็จ นับแต่ นี้ไป ชีวิตใหม่ ของเจ้ าจะเป็ นการเดินที่สดใสซึ่งเต็มไป
ด้ วยแสงแดดอบอุ่นสาดส่ อง”
เมื่อลุงนีลล์กล่าวจบ ไคลน์ พยักหน้ าพลางฉีกยิม้ กว้ าง

“ผมก็หวังว่ าจะเป็ นแบบนั้น”

นับตั้งแต่ ถูกส่ งข้ ามโลกมาที่นี่ จิตใจของมันก็ไม่ เคยผ่ อนคลาย


เต็มที่เลยสั กครั้ง ราวกับมีเงามืดแอบเฝ้ามองทุกฝี เก้า แต่ ปัจจุบัน
ความรู้สึกเหล่านั้นไม่ หลงเหลืออีกแล้ว…

อย่ างไรก็ตาม ไคลน์ ยังแสดงอาการยินดีได้ ไม่ เต็มที่นัก ด้ วย


ความรู้สึกบางประการ มันสั มผัสได้ ว่า สมุดบันทึกอันทีโกนัสมีสาย
สั มพันธ์ ประหลาดเชื่ อมติดกับตนไว้ โดยเฉพาะความบังเอิญที่มี
โอกาสพัวพันกับคดีลักพาตัวเข้ า ไม่ อย่ างนั้น เบาะแสของสมุดเล่ม
ดังกล่าวคงหายไปตลอดกาลพร้ อมกับรีเอล·บีเบอร์ แล้ว
ไคลน์ ยังแอบหวาดหวั่นลึกๆ ในใจ หากมีสักวันที่พสั ดุปริศนาส่ ง
ถึงมันโดยไม่ จ่าหน้ าซอง และเมื่อเปิ ดออกกลับพบสมุดบันทึกอันที
โกนัสอยู่ด้านใน

…ถ้ าเป็ นเช่ นนั้นจริง มันต้ องทาตัวอย่ างไร?

ได้ แต่ หวังว่ าเรื่ องราวทั้งหมดจะเป็ นไปตามที่ลุงนีลล์คาดเดา


ชายหนุ่มแอบสวดภาวนา

หลังจากได้ ยินไคลน์ ตอบ ลุงนีลล์คิกคัก


“เจ้ าคงไม่ ใช่ ผ้ เู คร่ งศาสนาสิ นะ ไม่ อย่ างนั้น ในเวลาเช่ นนีต้ ้ องทา
สั ญลักษณ์ จันทร์ แดงที่หน้ าอกพร้ อมกับกล่าวว่ า‘ขอให้ เทพธิดาอวย
พร’”

“มิสเตอร์ นีลล์ ตัวคุณก็เหมือนมิได้ เคร่ งศรัทธาสั กเท่ าไร


ไม่ อย่ างนั้นคงไม่ อวยพรผมว่ า‘ชีวิตใหม่ ของเจ้ าจะเป็ นการเดินที่
สดใสซึ่งเต็มไปด้ วยแสงแดดอบอุ่นสาดส่ อง’หรอกกระมัง?”

หลังจากเรียนวิชาศาสตร์ เร้ นลับภายใต้ การสอนของลุงนีลล์


หลายวัน ไคลน์ เริ่มสนิทสนมกับอีกฝ่ ายมากขึน้ จึงกล้าต่ อปากต่ อ
คาจิกกัด

ทั้งสองประสานสายตาพลางหัวเราะคิกคักเสี ยงค่ อย ก่อนจะทา


สั ญลักษณ์ จันทร์ แดงสี่ จุดบริเวณหน้ าอกพร้ อมกัน
“เทพธิดาจงเจริญ!”

ทันใดนั้น เสี ยงโลหะกระทบดังขึน้ เมื่อบานประตูหลักของบริษัท


รักษาความปลอดภัยหนามทิฬถูกเลื่อนเปิ ด

มาดามโอเรียนน่ าผู้เลอโฉมเดินเข้ ามาในห้ องรับแขกด้ วยเดรสสี


เขียวอ่อน ผมของเธอยังคงม้ วนปลายตามสมัยนิยมเหมือนทุกวัน

“อรุณสวัสดิ์มิสเตอร์ นีลล์ อรุณสวัสดิ์ไคลน์ สุดหล่อ”

มาดามโอเรียนน่ าถือกระเป๋าหนังใบเล็กในมือพลางทักทายด้ วย
รอยยิม้

“เป็ นวันที่ยอดเยี่ยมอีกวันหนึ่ง สภาพอากาศค่ อนข้ างดีเลย


ทีเดียว”

“อรุณสวัสดิ์มาดามโอเรียน่ า คุณยังสาวและสวยเหมือนกับสิ บปี


ก่อนไม่ มีผิดเลยนะ”

ลุงนีลล์ทักทายอารมณ์ ดี

มาดามโอเรียนน่ าพลันหันมองค้ อน
“มิสเตอร์ นีลล์ วิธีการชมเชยของคุณก็ยังฟังแล้วน่ าหงุดหงิด
เหมือนสิ บปี ก่อนไม่ มีผิด”

เธอเน้ นหนักคาว่ า‘สิ บปี ’

“เอ๋? ทาไมถึงเป็ นแบบนั้น?”

ลุงนีลล์หันมองไคลน์ ด้วยสี หน้ าสุ ดฉงน มันไม่ เข้ าใจว่ าตนกล่าว


สิ่ งใดผิดไป

เอ่อ… ลุงไม่ เคยได้ ยินหรอกหรื อ? ว่ าการเอ่ยถึงอายุของ


สุ ภาพสตรีมันเสี ยมารยาท

ในฐานะนักรบคีย์บอร์ ด ไคลน์ ย่อมทราบกฏพื้นฐานการสนทนา


บนโลกอินเทอร์ เน็ต รวมถึงมารยาทที่ควรปฏิบัติต่อหญิงสาว

ชายหนุ่มกระแอมเสี ยงค่ อยพลางหันไปกล่าวกับมาดามโอเรียน


น่ า

“อรุณสวัสดิ์ครับ มาดามโอเรียนน่ ายังคงสวยเหมือนทุกวัน”

“ขอบคุณสาหรับคาชมค่ ะ คุณบัณฑิตจบใหม่ จากมหาวิทยาลัย


โฮอี”้

โอเรียนน่ าอมยิม้ พึงพอใจ ก่ อนจะกล่าวต่ อ


“พ่อบ้ านชราคนดังกล่าวนาเงินมาจ่ ายค่ าจ้ างแล้วนะคะ ตามกฏ
ของหัวหน้ า ครึ่งหนึ่งจะถูกหักไว้ เป็ นเงินสารองของหน่ วย ส่ วนอีก
ครึ่งหนึ่ง… ตามจริงต้ องหารสองระหว่ างคุณและเลียวนาร์ ดอย่ าง
เท่ าเทียม แต่ คุณไม่ ใช้ เจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการ จึงได้ รับส่ วนแบ่ งเพียง
สิ บเปอร์ เซนต์ เท่ านั้น ที่เหลือจะถูกแจกจ่ ายให้ เจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการ
คนอื่นอย่ างเท่ าเทียม ว่ างช่ วงไหนก็เข้ ามาเซ็นเบิกได้ เลยนะคะ”

“พ่อบ้ านคนนั้นจ่ ายเท่ าไรครับ?”

ไคลน์ ถามด้ วยสี หน้ าอิ่มเอม แต่ ภายในใจกาลังนึกเสี ยดายไม่ น้อย

“200 ปอนด์ ถ้วนค่ ะ และเขายังฝากข้ อความทิง้ ท้ ายไว้ ด้วยว่ า—


แด่ องค์ เทพวายุสลาตัน ผมไม่ นึกไม่ ฝันมาก่อนว่ าปัญหาจะได้ รับ
การแก้ไขรวดเร็วเช่ นนี้! เหตุใดบริษัทของคุณถึงยังไม่ เป็ นที่ร้ ูจัก
อีก? เกิดอะไรขึน้ กับอุตสาหกรรมทหารรับจ้ างกันแน่ ?”

มาดามโอเรียนน่ าเลียนแบบน้าเสี ยงและสาเนียงรัฐใต้ ของ


พ่อบ้ านครี

ไคลน์ ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวติดตลก

“อันที่จริง… ไม่ ยุติธรรมกับคนร้ ายลักพาตัวเลยสั กนิด”

สองผู้วิเศษสามารถไขคดีได้ รวดเร็วด้ วยพลังแสนสะดวกสบาย


คนหนึ่งทานายหาแหล่งกบดานแม่ นยา ส่ วนอีกคนแค่ ร้องเพลง
กล่อมให้ หลับ… ลักษณะเหมือนผู้ใหญ่ แกล้งเด็กโดยไม่ ออมมือ

“พวกมันโชคร้ ายเกินไปต่ างหาก ผู้กระทาชั่วย่ อมต้ องถูกเทพ


ทอดทิง้ เป็ นธรรมดา”

โอเรียนน่ ากล่าวติดตลกบ้ าง

“ฉันจึงอธิบายไปว่ า สายสื บของพวกเราบังเอิญโชคดีได้ เห็น


คนร้ ายลักพาตัวเด็กเข้ าไปในตึก คดีจึงถูกปิ ดลงได้ รวดเร็ว บริษัท
ของเรามิได้ เก่งกาจขนาดนั้น อย่ าได้ คาดหวังกันนักเลย ก็แค่ บังเอิญ
โชคดี ไม่ แปลกที่จะไม่ มีชื่อเสี ยงโด่ งดัง”

อันที่จริง การพยายามฝื นพูดให้ สิ่งหนึ่งกลายเป็ นเพียงเรื่ อง


ธรรมดา สิ่ งนั้นกลับยิ่งพิเศษขึน้ มาโดยพลัน…

ไคลน์ พมึ พาในใจ สายตาของชายหนุ่มมองตามหลังมาดามโอ


เรียนน่ าที่เดินผ่ านฉากกั้นเข้ าไปในห้ องการเงิน

ลุงนีลล์หัวเราะคิกคักก่อนจะกล่าวด้ วยน้าเสี ยงเจือความอิจฉา

“เจ้ าเป็ นคนหนุ่มที่โชคดีมาก! ทางานไม่ ทันไรก็ได้ จับงานใหญ่


มูลค่ าสองร้ อยปอนด์ เสี ยแล้ว”

“งานหายากมากหรื อครับ?”
ไคลน์ ถามฉงน

ก่อนหน้ านี้ กิจวัตรน่ าเบื่อหน่ ายของตนมีเพียงศึกษาศาสตร์ เร้ น


ลับ อ่านเอกสารโบราณ ซ้ อมยิงปื น และตระเวนอย่ างไร้ จุดหมาย
ระหว่ างบ้ านเวิร์ชและถนนกางเขนเหล็ก

“จากบันทึกของโอเรียนน่ า บางสั ปดาห์ พวกเราก็ไม่ มีงานเข้ ามา


เลย และถึงจะมี งานส่ วนใหญ่ มักได้ รับค่ าตอบแทนไม่ ถึงยี่สิบ
ปอนด์ ”
ลุงนีลล์ใช้ มือลูบไล้ศิลาจันทราบริเวณข้ อมือพลางถอนหายใจ
ยาว จากนั้นก็หันไปมองไคลน์ ด้วยสี หน้ าคาดหวัง

“ถ้ ามีงานหวานหมูแบบนีเ้ ข้ ามาอีก อย่ าลืมแอบบอกฉันบ้ างล่ะ!”

ไคลน์ ขมวดคิว้ เล็กน้ อยหลังจากได้ ยินถ้ อยคาดังกล่าว มัน


ตัดสิ นใจถามตรงไปตรงมา

“มิสเตอร์ นีลล์ คุณขัดสนเรื่ องเงินอย่ างนั้นหรื อ? ได้ รับค่ าจ้ าง


สั ปดาห์ ละเท่ าไรครับ? พอจะบอกกันได้ ไหม ถ้ าไม่ สะดวกก็ไม่ เป็ น
อะไร ข้ ามไปได้ เลยครับ”

ลุงนีลล์เอนหลังพิงโซฟาก่อนอมยิม้
“ไม่ ใช้ ความลับที่ต้องปิ ดบังสั กหน่ อย ฉันทางานที่นี่มานานแล้ว
รายได้ รวมจากทั้งกรมตารวจและโบสถ์ ตกอยู่ที่สัปดาห์ ละสิ บสอง
ปอนด์ ”

“สิ บสองปอนด์ ต่อสั ปดาห์ ?”

ไคลน์ โพล่งอย่ างตกตะลึง

สัปดาห์ ละสิ บสองปอนด์ หนึ่งปี มี 52 สั ปดาห์ หมายความว่ า


ลุงนีลล์ได้ รับเงินปี ละกว่ า 600 ปอนด์ !
ย้ อนกลับเมื่อครั้งไคลน์ ได้ อ่านหนังสื อพิมพ์ทิงเก็นฉบับเช้ า
รวมถึงหนึ่งสื อพิมพ์ทิงเก็นซื่ อตรง ทั้งสองฉบับกล่าวตรงกันว่ า
ทนายความฝี มือเยี่ยมจะมีรายได้ ราว 800 ปอนด์ ถึง 1,000 ปอนด์
ต่ อปี

แต่ นั่นหมายถึงทนายฝี มือเก่งฉกาจที่มีอยู่เพียงน้ อยนิด!

สาหรับหัวหน้ างานของเบ็นสั น รายได้ ของมันตกที่ราวหก


ปอนด์ ต่อสั ปดาห์ ซึ่งนับเป็ นงานที่ค่อนข้ างมั่นคงแล้ว

“ค่ าตอบแทนจานวนไม่ น้อย แถมพวกเรายังได้ รับการละเว้ น


ภาษี เยี่ยมไปเลยใช่ ไหม?”

ลุงนีลล์กล่าวอย่ างมีความสุ ข
ไคลน์ เคยได้ ยินจากเบ็นสั นว่ า ชาวเมืองทุกคนต้ องชาระภาษี
ประเภท E หากมีรายได้ สูงกว่ าสั ปดาห์ ละหนึ่งปอนด์

ถ้ ามีรายได้ ต้ังแต่ หนึ่งปอนด์ ถึงสองปอนด์ อัตราภาษีจะอยู่ที่


3% สองปอนด์ ถึงห้ าปอนด์ จะอยู่ที่ 5% ห้ าปอนด์ ถึงสิ บปอนด์ จะ
อยู่ที่ 15% และยี่สิบปอนด์ ขนึ้ ไปจะอยู่ที่ 20%

นอกจากนั้น ไคลน์ ยังเคยอ่านข้ อมูลการจ่ ายภาษีประเภทอื่นจาก


หนังสื อพิมพ์ ภาษีประเภท A จะเกี่ยวข้ องกับที่ดิน ที่พกั อาศัย
รวมถึงอสั งหาริมทรัพย์ ทุกชนิดและค่ าเช่ า ส่ วนประเภท B คือภาษี
ที่เกี่ยวข้ องกับเกษตรกร ประเภท C คือภาษีจากผลกาไรพันธบัตร
และกองทุนหุ้น ประเภท D คือรายได้ เชิงพาณิชย์ ท้ังหมด รวมถึง
ค่ าจ้ างจากการทางาน

“เข้ าขั้นน่ าอิจฉาเลยครับ”

ไคลน์ อมยิม้

“แต่ ว่า…”

ลุงนีลล์เกาศีรษะ

“เงินจานวนเท่ านีก้ ลับไม่ เพียงพอสาหรับผู้วิเศษอย่ างพวกเรา


โดยเฉพาะผู้วิเศษสายพิธีกรรมที่ต้องสิ้นเปลืองวัตถุประกอบพิธีทุก
ครั้ง ไม่ ว่าจะใช้ งานจริงหรื อฝึ กซ้ อม”

“ทารายงานขอเบิกไม่ ได้ หรื อครับ?”

ไคลน์ ขมวดคิว้ งุนงง แม้ แต่ นักเบิกตัวฉกาจอย่ างลุงนีลล์ยังจน


ปัญญาเชียว?

ลุงนีลล์พ่นลมหายใจเหยียดหยัน

“มันก็เบิกได้ บ้าง แต่ มีข้อจากัดอยู่ พวกเราไม่ สามารถเบิกได้ ทุก


เรื่ อง โดยเฉพาะการฝึ กซ้ อมที่ฟังดูฟุ่มเฟื อยเกินไป จานวนวัสดุที่
เบิกได้ มักไม่ เพียงพอต่ อการใช้ งาน จึงเลี่ยงไม่ ได้ ที่ต้องใช้ เงินตัวเอง
จับจ่ ายไปกับตลาดมืดใต้ ดิน”

ไคลน์ ตกตะลึง มันรีบเอ่ยปากถาม

“มีวัสดุพเิ ศษวางขายในตลาดมืดด้ วยหรื อครับ? ผมนึกว่ าทาง


โบสถ์ ไม่ อนุญาตเสี ยอีก”

ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ไคลน์ อยากทราบวิธีครอบครองวัสดุ


พิเศษมาตลอด!

ในฐานะเจ้ าขององค์ กรเร้ นลับที่เพิง่ ตั้งไข่ ได้ ไม่ นาน จะให้ มัน
เบิกหรื อหยิบยืมจากเหยี่ยวราตรีตลอดเวลาก็คงไม่ เหมาะ
“ไม่ มีทาง แต่ ละโบถส์ ใหญ่ มิอาจควบคุมวัตถุดิบพิเศษเหล่านีไ้ ด้
หมด ในทางศาสตร์ เร้ นลับ มีวัตถุดิบจากธรรมดาหลายชนิดที่
ปนเปื้ อนพลังวิเศษไว้ ในปริมาณเจือจาง แถมบางสิ่ งยังมาจาก
สิ่ งมีชีวิตหรื อพืชพรรณทั่วไปในชีวิตประจาวัน ตัวอย่ างเช่ นพิษใบ
เฮมล็อค ใบมินท์ ทอง และวาลนิลาราตรีซึ่งเป็ นส่ วนผสมของโอสถ
นักทานายที่เจ้ าดื่ม

“พวกมันจะไร้ พลังพิเศษเมื่ออยู่ในธรรมชาติ แต่ หลังจากนาไป


ผ่ านกรรมวิธีต่างๆ อย่ างถูกต้ อง พลังพิเศษจะถูกรีดเร้ นออกมา
อย่ างน่ าประหลาด

“ไม่ ว่าจะเป็ นการผสม การปั่น การสกัด หรื อการหมัก สิ่ งเหล่านี้


สามารถดึงความพิเศษของวัตถุดิบตามธรรมชาติได้ ทางโบสถ์ จึง
หมดสิ ทธิ์ออกมาตรการควบคุมโดยสิ้นเชิง”

ลุงนีลล์อธิบายลงลึกรายละเอียด

โดยไม่ รอให้ ไคลน์ ไต่ ถาม มันอธิบายต่ อ

“นอกจากนี้ ไม่ เพียงแก่ นของสั ตว์ วิเศษเท่ านั้นที่ถูกนามาใช้ แต่


ยังรวมถึงอวัยวะภายในที่เหลือด้ วย ตัวอย่ างเช่ นหมึกลาวา
นอกเหนือจากโลหิตที่เจ้ าดื่มเข้ าไป ยังมีลูกตา แผ่ นหนัง หรื อ
กระทั่งหนวดที่ยังมีพลังวิเศษในปริมาณเจือจาง อาจไม่ สาคัญเท่ า
เลือด แต่ ก็มีประโยชน์ ใช้ สอยแตกต่ างออกไป
“ยิ่งเป็ นวัตถุดิบเกรดต่า ปริมาณก็ยิ่งมีมาก ทางโบสถ์ คงถึงคราว
ล้มละลายแน่ หากมัวแต่ ท่ ุมกาลังคนและเวลาคอยกีดกันการซื้ อขาย
วัตถุดิบพิเศษ สิ่ งที่พวกมันทาได้ ดีที่สุดคือการป้องกันมิให้ วัตถุดิบ
สาคัญรั่วไหลภายในท้ องตลาด”

เมื่อกล่าวจบ ลุงนีลล์อมยิม้

“แต่ ยังมีเหตุผลสาคัญอีกข้ อหนึ่งที่โบสถ์ ไม่ ยอมกวาดล้ าง


ตลาดมืิด ในสายตาเจ็ดโบสถ์ หลัก การมีตลาดเหล่านีไ้ ว้ ย่อมดีกว่ า
ไม่ มี ภายใต้ สถานการณ์ ที่องค์ กรลับยังถูกจากัดไม่ หมดสิ้น ตลาด
มืดคือแหล่งข้ อมูลสาคัญที่ช่วยรวบรวมเบาะแสองค์ กรนอกรีต
เหล่านั้น นับเป็ นแผนการที่ไม่ เลว

“แต่ แน่ นอน เมื่อมีตลาดมืด ก็ย่อมมีการค้ าขายผิดกฎหมาย


จาพวกวัตถุดิบเฝ้าระวังต้ องห้ าม สิ่ งนีเ้ ป็ นของคู่กันที่มิอาจ
หลีกเลี่ยง หากไม่ ใช่ วัตถุดิบที่อันตรายจนเกินไป ในบางครั้ง พวก
เราก็ต้องแสร้ งทาเป็ นมองไม่ เห็น เดินผ่ านไปเลือกซื้ อเฉพาะสิ่ งที่
ตัวเองต้ องการ”

“และเป็ นเพราะแต่ ละโบสถ์ คอยจับตามองซึ่งกันและกัน


ตลอดเวลา ทุกโบสถ์ จึงไม่ กล้ าเคลื่อนไหวกวาดล้างอย่ างผลีผลาม
สิ นะครับ”
ไคลน์ คาดเดา
ลุงนีลล์พยักหน้ าเล็กน้ อยเป็ นเชิงเห็นด้ วย แต่ มันมิได้ อธิบาย
เสริม

“ผมเป็ นนักทานาย ในอนาคตคงต้ องฝึ กฝนศาสตร์ พธิ ีกรรม


บ่ อยครั้ง คงเลี่ยงไม่ ได้ ที่ต้องซื้ อวัตถุดิบด้ วยเงินส่ วนตัว คุณช่ วยพา
ผมไปดูตลาดมืดที่ว่านั่นสั กครั้งได้ ไหมครับ?”

ไคลน์ ขอร้ องสมเหตุสมผล


ลุงนีลล์เริ่มแสดงท่ าทีลังเล

“อันที่จริง กลุ่มลูกค้ าหลักของตลาดมืดไม่ ใช่ พวกผู้วิเศษสั ก


เท่ าไร ส่ วนมากเป็ นขุนนางระดับสู งหรื อไม่ ก็พวกเศรษฐีที่หลงไหล
ศาสตร์ เร้ นลับ…

“ฉันมีหนีส้ ามสิ บปอนด์ ที่ต้องรีบจ่ ายคืนโดยเร็ว คงยังแวะไปที่


ตลาดมืดไม่ ได้ จนกว่ าจะชาระหนีเ้ รียบร้ อย”

“เข้ าใจแล้วครับ…”

ไคลน์ คาดไม่ ถึงว่ า ผู้วิเศษรายได้ สูงอย่ างลุงนีลล์จะมีหนี้สินติด


ตัว
ถัดมาครู่หนึ่ง ชายหนุ่มกล่าวหลังจากไตร่ ตรองสั กพัก
“มิสเตอร์ นีลล์ ผมให้ ยืมเงินก่อนไหม? เพิง่ ได้ รับส่ วนแบ่ งมาสิ บ
ปอนด์ พอดี”

“ฮะฮะ! ของแบบนั้นไม่ จาเป็ น ฉันจัดการปัญหาของตัวเองได้ ”

ลุงนีลล์พยุงตัวขึน้ จากโซฟาอย่ างไม่ รีบร้ อน

“เฮ่ อ… สั งขารคือปัจจัยเดียวที่สิ่งมีชีวิตไม่ สามารถเอาชนะ


ร่ างกายฉันเริ่มอ่อนเพลียหลังจากเข้ าเวรตลอดทั้งคืน… เจ้ าอย่ าลืม
ทบทวนบทเรียนที่สอนไปด้ วย อ่านเอกสารโบราณที่เตรียมไว้ ให้
แล้วพรุ่งนีจ้ ะมาสอนพื้นฐานของศาสตร์ พธิ ีกรรม”

“ครับผม”

ชายหนุ่มลุกยืนพร้ อมกับถอดหมวกคานับ

เมื่อหัวหน้ าอย่ างดันน์ ·สมิทไม่ กลับสานักงานในช่ วงเที่ยง ไคลน์


ที่ว่างงานจึงทาทีเดินเตร็ดเตร่ ค้นหาสมุดบันทึกอันทีโกนัสไปเรื่ อย
เปื่ อย

ในฐานะที่ได้ รับเงินสดจานวนสิ บปอนด์ ชายหนุ่มไม่ รีรอสิ่ งใด


อีก ไคลน์ รีบมุ่งหน้ าไปยังสโมสรพยากรณ์ ทันที
เงินค่ าสมากชิกปี แรกอยู่ในมือของมันแล้ว!

เสี ยงกระซิบที่ได้ ยินขณะเข้ าฌานและเข้ าสู่ ภาวะเนตรวิญญาณ


ยังคงดังขึน้ เป็ นครั้งคราว สร้ างความหงุดหงิดกังวลไม่ น้อย และ
นั่นยิ่งทาให้ ไคลน์ ต้องการรีบทดสอบเทคนิค‘สวมบทบาท’โดยเร็ว
ราชันย์ เร้ นลับ 48 : เฮเนส·วินเซนต์

สโมสรพยากรณ์ ต้งั อยู่บนชั้นสองของบ้ านเลขที่ 13 ถนนฮาเวิส


เขตเหนือของเมืองทิงเก็น

เป็ นอีกครั้งที่ไคลน์ ได้ พบเจ้ าหน้ าที่ต้อนรับสาวสวยคนเดิม

เส้ นผมของเธอยังคงน้าตาลอ่อนม้ วนปลายเข้ ากับยุคสมัย


ส่ งเสริมภาพลักษณ์ ให้ ดูคล้ายสุ ภาพสตรีสูงสง่ า ค่ อนข้ างยากที่จะ
คาดเดาอายุจากผิวเผิน

“สวัสดีค่ะ วันนีม้ ิสเตอร์ กลาซิสไม่ อยู่ คุณต้ องการเปลี่ยนหมอดู


ไหมคะ?”

สาวสวยกล่าวพลางฉีกยิม้ กว้ าง

เมื่อได้ ยินเช่ นนั้น ไคลน์ ที่กาลังถอดหมวกคานับตามมารยาทมี


อันต้ องประหลาดใจ

“คุณจาผมได้ ด้วยหรื อ?”

ผ่ านมาตั้งห้ าวันแล้วนะ!
สตรีผลน้าตาลยังรักษารอยยิม้ ไม่ ตกหล่น
“คุณเป็ นลูกค้ ารายแรกที่เลือกดูดวงกับมิสเตอร์ กลาซิส แถมช่ วง
นีไ้ ม่ ค่อยมีลูกค้ ามากนัก เป็ นธรรมดาที่ฉันจดจาได้ แม่ นยาเป็ น
พิเศษ”

นี่เราถูกจดจาในฐานะคนขีต้ ืดหน้ าเงินไปแล้วหรื อ?

ไคลน์ ตัดพ้อกับตัวเองครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้ าถามเสี ยงค่ อย

“มิสเตอร์ กลาซิสมาที่สโมสรครั้งสุ ดท้ ายเมื่อไรครับ?”

สตรีผมน้าตาลจ้ องมองเข้ าไปในดวงตาสี น้าตาลไคลน์ เธอแสดง


สี หน้ าครุ่นคิดเล็กน้ อยก่อนมอบคาตอบ

“ด้ วยความสั ตย์ จริง ทางเราไม่ ได้ สนใจมากนัก ว่ าสมาชิกคนใด


เข้ าออกสโมสรตอนไหนบ้ าง พวกเขามีอิสระและมีงานประจาของ
ตัวเอง แต่ หากฉันจาไม่ ผิด นับตั้งแต่ วันที่คุณขอดูดวงกับเขา
มิสเตอร์ กลาซิสก็ไม่ ได้ มาที่นี่อีกเลย”

ขอให้ หมอนั่นปลอดภัย
ขอให้ เทพธิดาอวยพร…

ไคลน์ ภาวนา มันมิได้ ไต่ ถามต่ อ แต่ กล่าวตัดบทเข้ าสู่ ความตั้งใจ


หลัก
“วันนีผ้ มไม่ ได้ มาดูดวง แต่ มาสมัครมาชิก”

“จริงหรื อคะ? นับเป็ นเกียรติอย่ างยิ่ง”

สตรีผมน้าตาลแสดงสี หน้ าพึงพอใจ

“ค่ าสมาชิกในปี แรกจะอยู่ที่ห้าปอนด์ ปี ถัดไปเหลือเพียงหนึ่ง


ปอนด์ รายละเอียดเพิม่ เติมต้ องการให้ ฉันทวนซ้าไหมคะ?”

ไคลน์ หยิบธนบัตรห้ าปอนด์ ที่เพิง่ ได้ รับจากค่ าจ้ างคดีลักพาตัว


ออกมาถือ ก่อนจะยื่นให้ เจ้ าหน้ าที่สาวสวย สายตาชาเลืองมอง
ภาพเหมือนของกษัตริย์เฮนรี·ออกัสตัสที่หนึ่งซึ่งห่ างตัวออกไปทุก
ขณะ

หลังจากตรวจสอบลายน้ากันการปลอมแปลงอย่ างถี่ถ้วน สตรี


ผมน้าตาลเก็บธนบัตรเข้ าใต้ โต๊ ะพร้ อมกับหยิบกระดาษแบบฟอร์ ม
ยื่นให้ ไคลน์

“ช่ วยกรอกรายละเอียดด้ วยค่ ะ เดี๋ยวฉันจะออกใบเสร็จยืนยัน


ให้ ”

มีใบเสร็จด้ วยหรื อ? ได้ หลักฐานแสดงค่ าใช้ จ่ายกับบริษัทหนาม


ทมิฬแล้ว…
ไคลน์ อมยิม้ ก่อนจะหยืบปากกาหมึกน้าเงินเข้ มบนโต๊ ะขึน้ มา
กรอกข้ อมูลใส่ แผ่ นกระดาษ รายละเอียดประกอบด้ วยเรื่ องทั่วไป
จาพวกชื่ อ อายุ ที่พกั อาศัย บริษัทที่ทางาน รวมถึงวันเดือนปี เกิด

แต่ มันเว้ นว่ างช่ องวันเกิดไว้ ในฐานะนักทานาย ข้ อมูลวันเกิดถือ


เป็ นความลับที่ควรปกปิ ด เพราะมันสามารถนาไปใช้ ทานายด้ วย
โหราศาสตร์ ไคลน์ ต้องการให้ ภาพลักษณ์ ของตนเป็ นปริศนามาก
ที่สุด

หลังจากกรอกเอกสารเสร็จและลงทะเบียนเป็ นสมาชิกเรียบร้ อย
สตรีผมน้าตาลยื่นแขนขวาออกมาด้ านหน้ า

“ยินดีต้อนรับสู่ สโมสรพยากรณ์ เมืองทิงเก็นค่ ะ ฉันมีชื่อว่ าแอน


เจลิก้า·บาเรฮาร์ ท เป็ นเจ้ าหน้ าที่คอยอานวยความสะดวกให้ สมาชิก
ส่ วนนี่คือกระดุมข้ อมือแสดงฐานะสมาชิก มันถูกสลักด้ วยอักษร
พิเศษของสโมสรพยากรณ์ ใช้ สาหรับยืนยันตัวตนสมาชิกค่ ะ”

“ยินดีที่ได้ ร้ ูจักครับ มาดามแอนเจลิก้า”

ไคลน์ เหยียดแขนขวาออกไปจับมือกับสตรีผมน้าตาลคนสวย
จากนั้นก็หยิบกระดุมข้ อมือสี ทองหม่ นขึน้ มา

เมื่อพิจารณาอย่ างละเอียด อักษรที่จากรึกไว้ บนกระดุมถูกเขียน


ด้ วยภาษาเฮอร์ มิสซึ่งมีรากศัพท์ แปลได้ ‘ผู้พยากรณ์ ’
แอนเจลิก้าดึงมือซ้ ายที่มอบกระดุมทองกลับ เธอครุ่นคิดสอง
สามวินาทีก่อนจะถาม

“ฉันยังไม่ ทราบว่ าคุณถนัดเทคนิคทานายแบบใด หรื อต้ องการ


ศึกษาศาสตร์ ทานายด้ านไหนจากสโมสรเป็ นพิเศษบ้ างคะ? พวก
เรามีหมอดูจานวนมากที่สามารถมอบความรู้ในศาสตร์ แต่ ละแขนง
แตกต่ างกัน และหากคุณมีความสนใจด้ านใดเป็ นพิเศษ ทางเราจะ
ช่ วยจับกลุ่มให้ สนิทสนมกับคนที่มีความชื่ นชอบแบบเดียวกัน”

“ผมมีพื้นฐานของศาสตร์ ทานายทุกแขนง เรียกว่ าไม่ มีความ


สนใจเป็ นพิเศษก็ได้ ครับ”

ไคลน์ อธิบายอวดโอ่ ก่อนจะร้ องขอ

“ผมสามารถบริการดูดวงให้ ลูกค้ าได้ ไหม? ขอรับประกันว่ าไม่ ใช่


มือใหม่ แกะกล่องแน่ นอน”

ตนมาที่นี่เพื่อ‘สวมบทบาท’เป็ นนักทานายตัวจริง และศาสตร์


การทานายของตนไม่ ใช่ สิ่งที่คนทั่วไปจะสอนได้

แอนเจลิก้ายังคงยิม้ แย้ มอ่อนโยนเช่ นเคย

“ในช่ วงแรก คุณสามารถดูดวงให้ สมาชิกภายในสโมสรได้ ฟรี แต่


ฉันจะไม่ แนะนาคุณให้ กับลูกค้ าจนกว่ าจะได้ เห็นฝี มือในระดับหนึ่ง
ก่อน… ว่ าแต่ คุณจะดูดวงในราคาเท่ าไรคะ?”
“สองเพนนี”

เมื่อปราศจากชื่ อเสี ยงเข้ าสู้ จุดแข็งของตนจึงเหลือเพียงราคา

“สโมสรเราจะเก็บค่ าธรรมเนียมหนึ่งในแปดของราคา ถ้ าคุณคิด


ค่ าบริการสองเพนนี จะต้ องจ่ ายทางสโมสรเป็ นเงินเสี้ยวเพนนีทุก
ครั้งที่ดูดวงให้ ลูกค้ า…”

แอนเจลิก้าอธิบายกฎพื้่นฐานของหมอดูอีกหลายข้ อ จนถึง
ขั้นตอนสุ ดท้ าย เธอเขียนรายละเอียดของไคลน์ ลงในอัลบัมรวม
ภาพรายชื่ อหมอดู

เมือทุกสิ่ งเสร็จสิ้น แอนเจลิก้าชี้นวิ้ ไปยังทางเดินยาวซึ่งสุ ดปลาย


เป็ นห้ องประชุมใหญ่

“มิสเตอร์ เฮเนส·วินเซนต์ กาลังบรรยายการดูดวงด้ วย


โหราศาสตร์ อยู่ค่ะ คุณสามารถเดินเข้ าไปหาที่นั่งฟังได้ ตามใจชอบ
ยกมือถามได้ ทุกเมื่อหากเกิดความสงสั ย”

“เข้ าใจแล้วครับ”

ไคลน์ เดินตรงไปตามทางเดิน มันต้ องการทราบให้ ได้ ว่า การ


สอนของเฮเนส·วินเซนต์ จะเหมือนหรื อแตกต่ างกับลุงนีลล์
อย่ างไร
ขณะเดียวกัน แอนเจลิก้าเดินตามมาพร้ อมกับกล่าวเสี ยงค่ อย

“มิสเตอร์ โมเร็ตติคะ ไม่ ทราบว่ าคุณจะรับชาหรื อกาแฟดี? พวก


เรามีชาดาซิบป์ กาแฟรัฐนันวิลล์ และกาแฟเดซี่ คอยเสิ ร์ฟให้
สมาชิกโดยไม่ คิดค่ าบริการเพิม่ ”

หลังจากอ่านหนังสื อพิมพ์ มาบ้ าง ไคลน์ พอจะทราบว่ าชาและ


กาแฟทั้งสามชนิดถือเป็ นเครื่ องดื่มเกรดรองสาหรับชนชั้นกลางถึง
ล่างของสั งคม แต่ อย่ างน้ อยก็มีคุณภาพสู งกว่ าใบชาเทียมที่เมลิสซ่ า
ชอบชงเป็ นประจา

ไคลน์ ครุ่นคิดก่อนมอบคาตอบ

“ขอเป็ นกาแฟนันวิลล์หนึ่งที่ครับ น้าตาลสามช้ อนชา ไม่ ต้องใส่


นม”

รัฐนันวีลล์แห่ งอาณาจักรโลเอ็นขึน้ ชื่ อในด้ านเบียร์ และไวน์ แดง


มีชนชั้นสู งไม่ น้อยที่โปรดปรานรสชาติอันยอดเยี่ยมของเครื่ องดื่ม
แอลกอฮอล์ที่นี่ แต่ ไม่ ใช่ กับกาแฟ ชื่ อเสี ยงของกาแฟนันวิลล์ มิได้
เลิศเลอ

“ตกลงค่ะ รอฉันนาไปเสิ ร์ฟที่ห้องนะคะ”

แอนเจลิก้าชี้นวิ้ ไปยังห้ องประชุม


ไคลน์ เดินเข้ าใกล้กับประตูที่เปิ ดแง้ ม ทันใดนั้น เสี ยงบรรยาย
สาเนียงรัฐอาโฮว่ าดังเล็ดลอดออกมาจากด้ านใน จับใจความได้ ว่า

“การทานายด้ วยโหราศาสตร์ ถูกจัดให้ มีความยากและซับซ้ อน


มากที่สุดในบรรดาศาสตร์ ทานายทั้งหมด…”

นั่นมันสาหรับคนธรรมดา… ไคลน์ ขัดคอผู้บรรยายในใจ สายตา


กวาดมองรอบห้ องประชุมมใหญ่ หนึ่งครั้ง

ภาพแรกทีพ่ บคือเก้าอีย้ าวหรูราราวห้ าถึงหกตัวตั้งเรียงชิดกัน


เป็ นวงกลม กึ่งกลางวงกลมคือผู้บรรยายที่สวมชุ ดคลุมดา หมอดู
ชื่ อดังของทิงเก็น เฮเนส·วินเซนต์

บุรุษผู้นมี้ ีถุงใต้ ตาค่ อนข้ างคลา้ เส้ นผมสี น้าตาลหนาและแข็ง ชี้


โด่ เด่ ประหนึ่งไม่ เคยถูกหวีหรื อสางมาก่อน คล้ายกับตัวเม่ นไม่ มีผิด

นอกเหนือจากนั้น ผู้บรรยายโหราศาสตร์ ไม่ มีจุดเด่ นด้ านใด


เตะตาแม้ สิ่งเดียว

เมื่อเห็นไคลน์ เดินเข้ ามา เฮเนส·วินเซนต์ พยักหน้ าเล็กน้ อยเป็ น


เชิงรับทราบ มันไม่ ได้ หยุดการบรรยาย เพียงแต่ ชะลอคาพูดที่
ค่ อนข้ างเร็วให้ ช้าลง

ไคลน์ ใช้ มือขวาล้วงกระเป๋า มือซ้ ายจับไม้ คา้ ชายหนุ่มเดินไปนั่ง


ลงบนเก้าอีย้ าวหรูหราพร้ อมกับเอนหลังพิงพนัก จากนั้นก็กวาด
สายตาสารวจสมาชิกหนึ่งรอบ ประกอบด้ วยบุรุษสี่ และสตรีอีกสอง
คน

บ้ างก้มหน้ าจดบันทึกลงสมุดอย่ างตั้งใจ บ้ างหันมากระซิบ


กระซาบคุยกัน และบ้ างส่ งยิม้ ชื ดตอบให้ ไคลน์ ตามมารยาท

เมื่อวางไม้ คา้ ลง ชายหนุ่มทาทีเลื่อนมือขึน้ ไปจัดระเบียบหมวก


ผ้ าไหมทรงกึ่งสู ง แต่ ปลายนิว้ แอบสั มผัสหว่ างคิว้ สองครั้ง

สายตาเพ่งมองเฮเนส·วินเซนต์ ทันที แสงออร่ าแผ่ จากร่ าง


เป้าหมายตามปรกติ ไม่ ว่าจะเป็ นความเข้ ม ความสว่ าง หรื อสี สันที่
แตกต่ างในแต่ ละจุด

“แดงเข้ ม กังวลเล็กน้ อย… ออร่ าจุดอื่นสุ ขภาพดีอย่ างน่ า


เหลือเชื่ อ ยกเว้ นเพียงจุดเดียวที่อาการค่ อนข้ างแย่ เขามีโรค
ประจาตัวอย่ างนั้นหรื อ…?”

ขณะไคลน์ ทาทีนั่งฟังการบรรยายอย่ างสนอกสนใจ มันพึมพา


ด้ วยเสี ยงค่ อย

ทันใดนั้น ชายหนุ่มรีบเลื่อนมือขึน้ มาปิ ดปากเพื่อไม่ ให้ หลุดขา


หลังจากนึกขึน้ ได้ ว่า ตนไม่ มีใบประกอบโรคศิลป์ ของแพทย์ ไม่ มี
กระทั่งใบอนุญาตของแพทย์ แผนโบราณ…
แล้วตนมีสิทธิ์อะไรวินิจฉัยโรคให้ ผ้อู ื่น?
ต้ องขอบคุณเนตรวิญญาณ ไคลน์ พงึ พอใจกับความเหนือมนุษย์
ของตัวเองค่ อนข้ างมาก มันได้ รับรู้ในสิ่ งที่คนทั่วไปมองไม่ เห็น

ถึงปัจจุบันยังมิอาจระบุอาการป่ วยของโรคได้ ละเอียดนัก แต่


ข้ อมูลเหล่านีอ้ าจเป็ นประโยชน์ ในบางสถานการณ์

เมื่อสารวจสิ่ งรอบตัวจนสบายใจ ชายหนุ่มแตะหว่ างคิว้ อีกสอง


ครั้งและกลับมาตั้งใจฟังในสิ่ งที่เฮเนสบรรยาย
โหราศาสตร์ ถือเป็ นศาสตร์ การทานายด้ วยการอ่านค่ าดวงดาว
ประเภทหนึ่ง คนทั่วไปสามารถปฏิบัติตามได้ ไม่ ยาก ตัวอย่ างที่
ชัดเจนคือการทานายด้ วย‘จักรราศี’ตามเดือนเกิด ข้ อมูลจักรราศี
สามารถระบุชะตาชีวิตและอุปนิสัยเบื้องต้ นของมนุษย์ ได้

ลงลึกมาสั กหน่ อยจะเป็ นการอ่านค่ าจากดวงดาวในตอนที่เกิด


จาพวกดวงอาทิตย์ จันทร์ แดง ดาวสี ชาด และดาวสี คราม หากให้
ลึกลงไปอีก จะเป็ นคานวณระยะห่ างระหว่ างดวงดาวเหล่านั้น
รวมถึงสั ญลักษณ์ ทางดาราศาสตร์ ชนิดอื่นที่ปรากฏบนท้ องฟ้ า
ค่ าที่อ่านได้ จะให้ ผลการทานายที่ละเอียดแม่ นยา

หมายความว่ า โหราศาสตร์ จาเป็ นต้ องใช้ การคานวณและข้ อมูล


ที่ละเอียดมาก ส่ งผลให้ มีความซับซ้ อนสู งกว่ าศาสตร์ ทานายชนิด
อื่น
มีหมอดูบางคนตัดสิ นใจตีพมิ พ์หนังสื อโหราศาสตร์ โดยพยายาม
อธิบายให้ เข้ าใจง่ ายที่สุด แต่ นั่นก็ยังเข้ าถึงได้ ยากมากสาหรับคน
ทั่วไป มีบุคคลบางกลุ่มที่อ่านอย่ างคร่ าวและนาไปตีความสรุปอย่ าง
ผิดวิธี ส่ งผลให้ การทานายออกมาคลาดเคลื่อน

ไคลน์ นั่งฟังอย่ างตั้งใจ มิได้ กล่าวแทรกขัด หรื อมิได้ ยกมือถาม


ไถ่ ตลอดเวลาเอาแต่ ลูบไล้จหี้ ้ อยบุษราคัมสี เหลืองบริเวณข้ อมือ
ซ้ าย สลับกับการจิบกาแฟนันวีลล์ที่แอนเจลิก้ายกมาเสิ ร์ฟ

หลังจากผ่ านไปนาน เฮเนส·วินเซนต์ หยุดบรรยายและใช้ นิ้วนวด


คลึงหว่ างคิว้ ตัวเองเล็กน้ อย

“ถึงเวลาทบทวนบทเรียนด้ วยตัวเองแล้ว หากมีคาถามเพิม่ เติม


สามารถปรึกษาผมได้ ที่ห้องศิลาจันทรา”

หลังจากเฮเนสเดินออกไป ชายหนุ่มเชิ้ตขาวกั๊กดาเคลื่อนตัวเข้ า
มาใกล้ไคลน์ พร้ อมกับกล่าว

“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้ ร้ ูจัก ผมเอ็ดเวิร์ด·สตีฟ”

“ยินดีที่ได้ ร้ ูจักเช่ นกัน ผมไคลน์ ·โมเร็ตติ”

ชายหนุ่มลุกขึน้ และคานับทักทายตอบตามมารยาทสุ ภาพบุรุษ


“โหราศาตร์ เป็ นคาบเรียนที่ซับซ้ อนและยากเกินเข้ าใจ ไม่ ว่าจะ
ฟังสั กกี่หน แต่ ทุกครั้งก็ชวนให้ ง่วงเสมอ”

เอ็ดเวิร์ดกล่าวตาหนิตัวเอง

ไคลน์ ยมิ้ ก่อนปลอบใจ

“เป็ นเพราะมิสเตอร์ วินเซนต์ ถ่ายทอดความรู้ในหัวได้ ไม่ ชานาญ


เหมือนกับพวกเราต้ องฝื นทานอาหารอินทิส แม้ จะพอทานได้ บ้าง
แต่ ก็ย่อยได้ ยากเหลือเกิน”
“ถ้ าให้ เลือก ผมขอทานอาหารอินทิสยังดีเสี ยกว่ า ถึงจะเสิ ร์ฟมา
ในจานใหญ่ แต่ ปริมาณอาหารกลับมีไม่ มากถึงขนาดทาให้ จุก”

เอ็ดเวิร์ดอมยิม้ มันถือโอกาสนั่งข้ างไคลน์ และกล่าวต่ อ

“สมาชิกใหม่ หรื อครับ? ผมอยู่ที่นี่มาสองปี แต่ ไม่ เคยเห็นหน้ า


คุณมาก่อน”

“เพิง่ เข้ าร่ วมวันนีค้ รับ”

ไคลน์ ตอบตามจริง

“คุณถนัดด้ านไหน? ของผมเป็ นไพ่ทาโร่ ต์และไพ่โปกเกอร์ ”


เอ็ดเวิร์ดถามเรื่ อยเปื่ อย
“ผมมีพื้นฐานศาสตร์ ทุกชนิด แต่ ไม่ ถนัดด้ านใดเป็ นพิเศษ”

ไคลน์ อธิบายอวดโอ่แบบเดียวกับที่เคยกล่าวต่ อหน้ าแอนเจลิก้า

มันไม่ คิดถ่ อมตน เพราะหากเป็ นด้ านทานาย ในฐานะนักทักนาย


ตัวจริง มันมีความรู้ความเข้ าใจในศาสตร์ เร้ นลับพอสมควร ถึงจะ
ไม่ ชานาญอย่ างลึกซึ้งก็ตาม

ขณะสมาชิกภายในห้ องประชุมสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ด้าน
บทเรียนโหราศาสตร์ อย่ างออกรส สาวสวยแอนเจลิก้าเดินเข้ ามาใน
ห้ องพร้ อมส่ งเสี ยง

“มิสเตอร์ สตีฟ มีลูกค้ าต้ องการใช้ บริการดูดวงค่ ะ”

“ทราบแล้วครับ”

เอ็ดเวิร์ด·สตีฟอมยิม้

“ดูเหมือนคุณจะดังพอตัวเลยนะครับ”

ไคลน์ ถือโอกาสถามใคร่ ร้ ู

“หามิได้ เป็ นเพราะผมตั้งราคาไว้ สมเหตุสมผลต่ างหาก”


เอ็ดเวิร์ดกล่าวเสี ยงค่ อย

“ลูกค้ าทั่วไปจะไม่ เลือกหมอดูที่มีราคาสู งที่สุด นี่คือสั จธรรม


ส่ วนราคาต่าสุ ดก็ไม่ มีโอกาสเช่ นกัน นอกเสี ยจากพวกเขาจะถูกลา
ถีบใส่ ศีรษะจนสมองเพีย้ น ลูกค้ าจะไม่ มั่นใจกับหมอดูที่ประเมิน
ราคาตัวเองต่าต้ อย ราคาระดับกลางๆ จึงได้ รับโอกาสมากที่สุด”

ก็ผมนี่ไง คนที่ถูกลาถีบใส่ ศีรษะ…

เมื่อเห็นอีกฝ่ ายเดินจากไป ไคลน์ ส่ายหัวพลางอมยิม้ จืดชื ด

สงสั ยต้ องเปลี่ยนแปลงราคา…

ชายหนุ่มลุกขึน้ และเดินออกจากห้ องประชุมไปตามทางเดิน เขา


ได้ พบแอนเจลิก้าที่โต๊ ะต้ อนรับอีกครั้ง

“ผมขอเปลี่ยนแปลงราคาเป็ น… เอ่อ… แปดเพนนี”

สาวสวยแอนเจลิก้าจ้ องมองเข้ าไปในดวงตาชายหนุ่ม

“ทราบแล้วค่ ะ แต่ ฉันจะแจ้ งกับลูกค้ าว่ าคุณยังเป็ นสมาชิกใหม่


ของเรา”

“ไม่ มีปัญหาครับ”
ไคลน์ พยักหน้ าไม่ ถือสา

ในบางครั้ง เพื่อให้ ดึงดูดลูกค้ าได้ ดี ความลึกลับถือเป็ นปัจจัย


สาคัญของ‘นักทานาย’ไม่ แพ้องค์ ประกอบอื่น

เมื่อกระจ่ างไปอีกประเด็น ไคลน์ ตัดสิ นใจกลับไปยังห้ องประชุม

ขณะกาลังเดิน มันเหลือบเห็นเฮเนส·วินเซนต์ เดินออกจากห้ อง


ศิลาจันทรา กลับเข้ าไปในห้ องประชุมพร้ อมกับกระจกเงาสี เงินใน
มือ

หมอดูชื่อดังแห่ งทิงเก็นเปล่งเสี ยงกล่าวกับสมาชิกร่ วมฟัง


บรรยายทั้งห้ าคนว่ า

“ผมเพิง่ ค้ นพบศาสตร์ การทานายชนิดใหม่ เมื่อไม่ นานมานี้


เรียกว่ าการทานายด้ วยกระจกวิเศษ มีใครต้ องการเรียนไหมครับ?”

กระจกวิเศษ?

นั่นมันศาสตร์ อันตรายไม่ ใช่ หรื อ…?

ไคลน์ เชิ้ตขาวกั๊กดาพลันขมวดคิว้ ขณะยืนแอบฟังอยู่นอกห้ อง


ราชันย์ เร้ นลับ 49 : ศาสตร์ ทานาย

ในฐานะนักทานายที่เพิง่ ย่ างกรายเข้ าสู่ โลกแห่ งศาสตร์ เร้ นลับ


ไคลน์ ไม่ กล้าอวดโอ่ว่าตนบรรลุศาตร์ ทกุ แขนงอย่ างแจ่ มแจ้ ง แต่ มัน
ก็มิได้ ดูถูกตัวเองด้ วยการถ่ อมตนว่ าปราศจากความรู้เช่ นกัน

มีหลายสิ่ งที่มันทราบในเชิงลึก โดยเฉพาะศาสตร์ การทานาย


หลักที่ถูกแบ่ งออกเป็ นสามแขนงย่ อย แต่ ละแขนงจะถูกแบ่ งด้ วย
‘แหล่งที่มา’ของ‘คาบอกใบ้ ’

ศาสตร์ แขนงแรกประกอบด้ วยไพ่ทาโร่ ต์ ไพ่โปกเกอร์ ลูกตุ้ม


วิญญาณ แท่ งวิญญาณ ความฝัน และอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน

หมวดหมู่นจี้ ะอาศัย‘พลังวิญญาณ’ของผู้ทานายในการ
ติดต่ อสื่ อสารกับโลกวิญญาณเพื่อขอ‘คาบอกใบ้ ’ จากนั้น ผู้ทานาย
ต้ องตีความหาข้ อสรุปเอาเอง

สาหรับเทคนิค‘ลูกตุ้มวิญญาณ’และ‘แท่ งวิญญาณ’จะแตกต่ าง
จากที่เหลือเล็กน้ อย เพราะจาเป็ นต้ องใช้ ‘พลังวิญญาณ’ของผู้
ทานายในระดับสู ง คงเป็ นการยากที่บุคคลซึ่งไม่ ใช่ ผ้ วู ิเศษจะ
ทานายด้ วยสองวิธีดังกล่าวสาเร็จ

ส่ วนไพ่ทาโร่ ต์ถือเป็ นวิธียอดนิยมที่บุคคลทั่วไปสามารถ‘ร้ อง


ขอ’คาบอกใบ้ จากโลกวิญญาณได้ อย่ างคร่ าว แต่ คาตอบจะมาในเชิง
‘สั ญลักษณ์ ไพ่’ ซึ่งค่ อนข้ างคลุมเครื อและไม่ ละเอียด

แขนงที่สองประกอบด้ วยศาสตร์ เลขมงคลและโหราศาสตร์


รวมถึงเทคนิคอื่นที่มีรูปแบบคล้ายคลึงกัน

ผู้ทานายต้ องได้ รับข้ อมูลจากผู้ถูกทานายโดยละเอียดเพื่อให้ การ


ทานายเป็ นไปอย่ างแม่ นยา ข้ อมูลประกอบด้ วย วัน เดือน ปี ที่เกิด
ช่ วงเวลาเกิด ตาแหน่ งของดวงดาว จากนั้นจะนามาคานวณตาม
หลักเพื่อให้ ได้ ผลลัพธ์
ข้ อเสี ยของศาสตร์ แขนงนีค้ ือ ผู้ทานายจะต้ องได้ รับข้ อมูลที่มาก
พอ เพราะข้ อมูลทั้งหมดมาจากฝั่งลูกค้ า มิใช่ ตัวหมอดู

ส่ วนข้ อดีก็คือ ไม่ ต้องเป็ นผู้วิเศษก็สามารถดูดวงด้ วยศาสตร์


แขนงที่สองได้

มาถึงแขนงที่สาม ผู้ทานายจะอาศัยพลังลึกลับเป็ น‘แหล่งที่มา’


ของคานานาย โดยพลังหรื อตัวตนดังกล่าวมิได้ มาจากโลกวิญญาณ

‘ผีถ้วยแก้ว’ที่ไคลน์ ค้ นุ เคยจากโลกเก่าถูกจัดให้ อยู่ในหมวดหมู่นี้


ตามปรกติแล้ว คนธรรมดาจะไม่ มีพลังวิญญาณมากพอในการ
ติดต่ อสื่ อสารกับ‘วิญญาณร้ าย’หรื อสิ่ งมีชีวิตเร้ นลับที่คล้ายคลึงกัน
แต่ ในบางครั้งสามารถทาได้ เพราะวิญญาณร้ ายดังกล่าวปรารถนา
จะล่อลวงมนุษย์ ด้วยเจตนาชั่ว
จุดจบของการทานายลักษณะนีไ้ ม่ เคยสวยงาม ถ้ าไม่ เกิด
โศกนาฏกรรม ผู้ทานายก็เสี ยสติไปตลอดชีวิต

เทคนิคทานายด้ วยกระจกวิเศษที่เฮเนส·วินเซนต์ กล่าวถึง ถูกจัด


อยู่ในแขนงที่สาม กระจกวิเศษจะทาหน้ าที่เป็ นประตูติดต่ อกับมิติ
เร้ นลับ คล้ายคลึงกับการใช้ ‘วิญญาณดารา’ติดต่ อกับโลกวิญญาณ

แต่ มิติเร้ นลับในทีนไี้ ม่ ปลอดภัย เนื่องจากไม่ ทราบปลายทาง ไม่


ทราบดีชั่ว ขึน้ อยู่กับคาถาที่ท่องระหว่ างประกอบพิธีกรรม
ชายหนุ่มตัดสิ นใจหยุดยืนฟังอยู่หน้ าห้ อง มันต้ องการทราบว่ า
หมอดูชื่อดังแห่ งทิงเก็นจะอธิบายเทคนิคอันตรายในทิศทางใด

หากจาเป็ น ไคลน์ จะแจ้ งให้ ดันน์ ·สมิททราบ เพื่อจะได้ ลอบเข้ าจู่


โจมเฮเนส·วินเซนต์ ในฝันยามค่าคืน

แน่ นอน เทคนิคกระจกวิเศษสามารถนาไปใช้ ในทางที่ดีได้ โดย


การท่ องคาถาอ้างอิงถึงหนึ่งใน‘เจ็ดเทพประจาโบสถ์ หลัก’เพื่อขอ
รับคาบอกใบ้

คนทั่วไปที่พลังวิญญาณอ่อนมักไม่ ได้ รับ‘คาบอกใบ้ ’ตอบกลับมา


แต่ อย่ างน้ อยก็เป็ นพิธีกรรมที่ปลอดภัย

ถึงอย่ างนั้น เทคนิคทานายด้ วยกระจกวิญญาณก็ยังเป็ นสิ่ ง


ต้ องห้ ามสาหรับเหยี่ยวราตรีและทูตพิพากษา
สาเหตุเพราะ วิธีนมี้ ักถูกใช้ โดยองค์ กรลับเพื่อขอคาบอกใบ้จาก
‘เทพนอกรีต’ที่พวกมันศรัทธา รวมถึงตัวตนชั่วร้ ายมากมายที่ไม่ มี
ทางระบุครบ

การทานายด้ วยกระจกวิเศษมีความเสี่ ยงสู งมาก หากกล่าวคาถา


ผิดแม้ แต่ พยางค์ เดียว ตัวตนปริศนาจะเข้ าครอบงาจิตใจผู้ทานาย
ทันที

ในโลกที่มีพลังวิเศษและเหล่าเทพมากมาย พิธีกรรมทานาย
ต้ องห้ ามมักนาพาความหายนะมาสู่ ผ้ ปู ระกอบพิธีเสมอ

ไคลน์ นึกสงสั ยมาตลอดว่ า บางทีตน เวิร์ช และนาย่ าอาจ


ประกอบ‘พิธีกรรมมืด’ตามที่เขียนไว้ ในสมุดบันทึกตระกูลอันที
โกนัสจนชีวิตต้ องถึงจุดจบ

ขณะเดียวกัน เฮเนสยังคงอธิบายหลักการทานายด้ วยกระจก


วิเศษแก่ผ้ ฟู ังบรรยายทั้งห้ าคนภายในห้ องอย่ างละเอียด

“ประการแรก พวกคุณต้ องเลือกวันเวลาให้ เหมาะสมกับเทพองค์


ที่ศรัทธา สามารถศึกษาเพิม่ เติมได้ จากคู่มือโหราศาสตร์

“ตัวอย่ างเช่ น หากเป็ นผู้ศรัทธาเทพธิดารัตติกาล วันอาทิตย์ คือ


สั ญลักษณ์ แห่ งเทพธิดา และยังเป็ นสั ญลักษณ์ แทนการพักผ่ อนด้ วย
ช่ วงเวลาที่ดีคือระหว่ างตีสองถึงตีสาม เก้าโมงถึงสิ บโมง สี่ โมงเย็น
ถึงห้ าโมงเย็น และห้ าทุ่มถึงเที่ยงคืน นี่คือช่ วงเวลาที่เทพธิดาสาแดง
พลังอย่ างเต็มที่ สาวกโบสถ์ รัตติกาลควรใช้ ช่วงเวลาเหล่านีใ้ นการ
ประกอบพิธีกรรม”

เป็ นคาแนะนาที่ค่อนข้ างถูกต้ อง…

ไคลน์ ที่ใช้ ประตูทางเข้ าห้ องประชุมเป็ นกาบัง มันพยักหน้ ากับ


ตัวเองเล็กน้ อย

ดูเหมือนเรื่ องที่แต่ ละโบสถ์ คอยระแวงซึ่งกันและกันจะเป็ นความ


จริง เห็นได้ จากการมีข้อมูลที่ละเอียดของเทพแต่ ละองค์ ถูกเขียนไว้
ใน‘คู่มือโหราศาสตร์ ’ที่เฮเนสกล่าวถึง

แต่ แน่ นอนว่ า ไม่ มีเรื่ องเกี่ยวกับโอสถหรื อผู้วิเศษถูกบันทึกไว้


คนธรรมดาอ่านไปก็ไม่ พบข้ อมูลที่โบสถ์ พยายามเก็บงาเป็ น
ความลับ

“ถัดมาเป็ นการทาความสะอาดกระจกอย่ างระมัดระวัง กระจก


เงาที่ใช้ ต้องเคลือบด้ วยโลหะเงินเท่ านั้น และถ้ าต้ องการร่ ายคาถา
โดยเอ่ยพระนามเทพธิดารัตติกาล ตาแหน่ งที่วางกระจกควรเป็ น
จุดที่แสงจันทร์ ส่องถึง…”

เฮเนสบรรยายโดยทาท่ าทางประกอบ
ผิดแล้ว การระบุตาแหน่ งวางกระจกควรใช้ เทคนิคลูกตุ้ม
วิญญาณช่ วย ประการแรก วางกระจกในตาแหน่ งที่คิดว่ าใช่
จากนั้นก็ท่อง—ตาแหน่ งปัจจุบันเหมาะสมแล้วที่จะประกอบ
พิธีกรรมกระจกวิเศษ—ให้ ครบเจ็ดครั้ง คาตอบจะมาในรูปแบบ
การหมุนตามหรื อทวนเข็มของโซ่ ลูกตุ้ม…

แต่ ถ้าคิดพึงพาพลังจากตัวตนชั่วร้ ายนอกรีต ต่าแหน่ งวาง


กระจกคงไม่ สลักสาคัญสั กเท่ าไร…

ไคลน์ แก้ไขคาอธิบายเฮเนสภายในใจ
ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนกับตนเป็ นอาจารย์ มหาวิทยาลัยที่ต้องนั่ง
ฟังลูกศิษย์ อธิบายเนื้อหาผิดๆ ถูกๆ

เฮเนส·วินเซนต์ ย่อมไม่ ได้ ยินเสี ยงเย้ ยหยันจากไคลน์ มันยัง


กล่าวต่ อไปด้ วยสี หน้ าเป็ นธรรมชาติ

เมื่อผู้ฟังภายในห้ องจดเนื้อหาลงสมุดเสร็จ มันเริ่มอธิบายต่ อ

“หลังจากอาบน้าทาความสะอาดร่ างกายตัวเองเสร็จ ให้ ขึง


ผ้ าม่ านทุกผืนในห้ องจนตึง ปิ ดประตูลงกลอนให้ มิดชิด และเริ่มลง
มือจุดเทียนไขหน้ ากระจกพร้ อมกับท่ องคาถาเอ่ยพระนามของเทพ
ที่ตัวเองศรัทธา

“ถัดมาจะเป็ นการท่ องคาถามในใจให้ ครบเจ็ดครั้ง อย่ าใช้ ภาษาที่


สละสลวยหรื อเข้ าใจยากเกินไป พยายามตั้งคาถามให้ ง่ายที่สุด…
“เมื่อเสร็จสิ้น ให้ บรรจงหยิบกระจกและปล่อยลงพื้นอย่ าง
นุ่มรวล เน้ นยา้ ว่ านุ่มนวล คาบอกใบ้ จากองค์ เทพจะแฝงมาใน
ลักษณะการแตกของกระจก

“ส่ วนสั ญลัษณ์ และหลักการตีความ ผมจะอธิบายอย่ างละเอียด


ถัดจากนี้”

ฟู่ ว! เมื่อทราบว่ าเฮเนส·วินเซนต์ มิได้ สอนพิธีกรรมที่ขัดต่ อ


จารีตเจ็ดโบสถ์ หลัก ไคลน์ ถอนหายใจยาวโล่งอก มันตัดสิ นใจเดิน
กลับเข้ าห้ องประชุมและนั่งในจุดเดิม จากนั้นก็ยกซดกาแฟนันวีลล์
จนหมดแก้วภายในหนึ่งอึก

การทานายแบบ‘ถูกจารีต’อาจได้ รับคาบอกใบ้ จากเทพก็จริง แต่


ไม่ มที างที่คนทั่วไปจะตีความออก

ยกเว้ นเสี ยแต่ จะเป็ นผู้วิเศษ และถ้ าเป็ นผู้วิเศษที่มีพลังวิญญาณ


สู ง ไม่ จาเป็ นต้ องทาให้ กระจกแตกด้ วยซ้า เพียงจ้ องมองเข้ าไปใน
กระจกเงินก็จะเห็น‘ภาพ’คาบอกใบ้ โดยละเอียด

ถัดมาเป็ นการบรรยายวิธีตีความลักษณะการแตกของกระจก
เนื้อหาค่ อนข้ างยาวและน่ าเบื่อ ขนาดเอ็ดเวิร์ด·สตีฟกลับมาจากการ
ดูดวงก็ยังเล่าไม่ จบ
ไคลน์ มิได้ ไต่ ถามเอ็ดเวิร์ดถึงผลลัพธ์ การดูดวงเมื่อครู่ รวมถึงวิธี
ที่มันใช้ ดูดวงให้ ลูกค้ า สิ่ งเหล่านีค้ ือกฏปากเปล่าซึ่งเป็ นความลับใน
วงการหมอดู

และในฐานะนาทักทายตัวจริง การซักไซร้ ไม่ ใช่ พฤติกรรมที่


เหมาะสม หากมันต้ องการทราบสิ่ งใด ก็ควรทานายหาคาตอบเอา
เอง นั่นจะเป็ นการวางตัวที่เหมาะสมกว่ า นอกเสี ยจากอีกฝ่ าย
ต้ องการเปิ ดเผยอย่ างเต็มใจ

“ผมเคยคิดอยู่บ่อยครั้งว่ า ผลลัพธ์ ทานายที่พวกเราบอกกับลูกค้ า


นั้นค่ อนข้ างคลุมเครื อ มีหลายหนที่พวกเขาต้ องกลับไปตีความ
คาพูดเอาเอง”

เอ็ดเวิร์ดซดชาดาซิบป์ ก่อนจะถอนหายใจเสี ยงค่ อย

“ตัวอย่ างเช่ นคาทานายที่ว่า—ชีวิตของคุณจะพบกับความ


เปลี่ยนแปลงหลายครั้ง ถูกอุปสรรคในชีวิตเล่นงานอย่ างหนัก แต่
ท้ ายที่สุด คุณจะกลับมาตั้งตัวได้ และมีชีวิตที่สดใส—แม้ จะพูดไป
เช่ นนั้น แต่ ผมก็บอกไม่ ได้ ว่าอุปสรรคในชีวิตจะมาตอนไหน และ
จะดีขนึ้ เมื่อไร ได้ แต่ ให้ พวกเขาเดากันเอง

“หรื ออีกหนึ่งตัวอย่ างคือ—การเดินทางไกลของคุณอาจไม่


ราบรื่ นนัก แต่ จะกลับมาได้ อย่ างปลอดภัยแน่ นอน—ต่ อให้ เขา
ประสบอุบัติเหตุเสี ยชีวิต แต่ คนตายก็พูดไม่ ได้ อยู่ดี”
ในฐานะที่ไม่ ได้ เริ่มฟังตั้งแต่ ต้น เอ็ดเวิร์ดจึงไม่ ใส่ ใจกับคาบ
บรรยายของเฮเนส·วินเซนต์

“ปรากฏการณ์ เอนเอียงของผู้อยู่รอดสิ นะ”

ไคลน์ เสริมพลางอมยิม้

ปรากฏการณ์ เอนเอียงของผู้อยู่รอดหมายถึง บทสรุปที่เกิดขึน้


จากปากของผู้อยู่รอดหรื อโชคดี โดยไม่ คานึงถึงบุคคลที่ตายไปโดย
ใช้ วิธีการแบบเดียวกัน ด้ วยเหตุนี้ ผลลัพธ์ จึงออกมาไม่ สัมพันธ์ กับ
ความจริง

ตัวอย่ างเช่ น หากมีคนบอกว่ า ใช้ ทางลัดเส้ นนี้แล้วจะไม่ ถูกโจร


ปล้น แต่ คนที่พูดคือ 1 ใน 10 ทีร่ อดพ้นจากการถูกปล้น โดยไม่ สน
อีก 9 คนที่เป็ นเหยื่อ นี่คือปรากฏการณ์ เอนเอียงของผู้อยู่รอด

“ใช่ แล้วครับ ถ้ อยคาของจักรพรรดิโรซายแฝงปรัชญาลา้ ลึกไว้


เสมอ”

เอ็ดเวิร์ดกล่าวสรรเสริญ

…ไคลน์ พูดอะไรไม่ ออก มันแสร้ งทาเป็ นยกซดด้ วยกาแฟที่ดื่ม


หมดนานแล้ว


หลังจากผ่ านคาบเรียนอันยาวนานตลอดช่ วงบ่ าย สมาชิกที่เหลือ
อีกห้ าคนหันมานั่งจับกลุ่มแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกับไคลน์ และเอ็ด
เวิร์ด

ไคลน์ ปฏิบัติหน้ าที่ในฐานะเหยี่ยวราตรีอย่ างเต็มที่ มันพยายาม


สอดส่ องหาบุคคลน่ าสงสั ยหรื อบทสนทนาที่จะนาพาไปสู่ พธิ ีกรรม
อันตรายและผู้วิเศษ

เรียกได้ ว่า ทางานเกินเงินเดือนไปมาก


ทว่ า มันกลับไม่ บรรลุในสิ่ งที่ตัวเองต้ องการที่สุด—การสวม
บทบาทเป็ นนักทานาย ตลอดช่ วงบ่ าย มีลูกค้ าเรียกใช้ บริการดูดวง
อีกสามถึงสี่ ครั้ง แต่ ไม่ มีใครที่เลือกไคลน์

“หรื อว่ าเราควรสร้ างชื่ อเสี ยงด้ วยการเริ่มทักสมาชิกทุกคนก่อน


เช่ น ‘คุณกาลังถูกความโชคร้ ายครอบงา’ ‘คุณดวงไม่ ดีในระยะหลัง
ใช่ ไหม’ หรื อจาพวก ‘เหตุการณ์ ที่ผ่านมาไม่ ค่อยราบรื่ นสิ นะ
ครับ’…

“ไม่ สิ นั่นไม่ ใช่ วิถีของนักทานายสั กหน่ อย”

ขณะเกิดความคิดสุ ดห่ วย ไคลน์ ตัดพ้อตาหนิตัวเอง

ท้ ายที่สุด เมื่อไม่ มีเบาะแสเพิม่ เติม ชายหนุ่มตัดสิ นใจหยิบไม้ คา้


และกล่าวคาอาลากับทุกคน

ราวห้ าโมงครึ่ง เอ็ดเวิร์ด·สตีฟสวมโค้ ทตัวนอกทับเสื้ อเชิ้ตและ


เสื้ อกั๊ก ขณะมันกาลังเดินออกจากสโมสรพยากรณ์ บุคคลที่ค้ ุนเคย
ได้ ปรากฏตัวเบื้องหน้ า

“สายัณห์ สวัสดิ์ กลาซิส ไม่ ได้ พบกันนาน”

เอ็ดเวิร์ดทักทายด้ วยรอยยิม้ มันสารวจการแต่ งกายของเพื่อน


สนิทที่มีความชื่ นชอบร่ วมกัน กลาซิสมาในชุ ดภูมิฐานสี ขาวดา
เหมือนทุกครั้ง บริเวณหน้ าอกมีแว่ นตาหนึ่งขาหรูหราห้ อยอยู่

ทันใดนั้น เอ็ดเวิร์ดพบว่ าเพื่อนรักมีสีหน้ าไม่ ส้ ู ดีนัก เส้ นผมที่เคย


เหลืองทองเริ่มจางซีด

“สายัณห์ สวัสดิ์ เอ็ดเวิร์ด… แค่ ก!”

กลาซิสที่ถอดหมวกทักทาย มันรีบเลื่อนหมวกปิ ดปากขณะไอ


กระแอมหลายหน

เอ็ดเวิร์ดไต่ ถามด้ วยสี หน้ าฉงน

“คุณป่ วยฉับพลันหรื อ?”


“ป่ วยร้ ายแรงมาก เป็ นโรคปอดบวมโดยไม่ ทราบสาเหตุ หากไม่
เพราะภรรยาของพบได้ พบสุ ดยอดเภสั ชโดยบังเอิญ คุณอาจได้ พบ
ผมอีกครั้งในงานศพ”

น้าเสี ยงกลาซิสเจือความหวาดกลัวผสมโล่งใจ

“พระเจ้ า ผมไม่ เคยคิดมาก่อนว่ า คนที่มีลักษณะแข็งแรงแบบคุณ


จะล้มป่ วยฉับพลันด้ วยโรคร้ ายเช่ นนี้ ถ้ าจาไม่ ผิด ผมเคยดูดวง
สุ ภาพให้ คุณแล้วไม่ ใช่ หรื อ? ผลการดูดวงยังบอกว่ าสุ ขภาพดี
ปราศจากโรคภัยอยู่เลย”

เอ็ดเวิร์ดโบกไม้ คา้ ไปมาเพื่อแสดงท่ าทีตกตะลึงหลังจากทราบ


ข่ าว

“ผมก็เคยดูดวงให้ ตัวเอง ผลลัพธ์ ไม่ ต่างจากคุณนัก บางทีพวก


เราอาจไม่ ใช่ หมอดูที่ยอดเยี่ยมขนาดนั้น แล้วก็…”

กลาซิสย้ อนนึกถึงเหตุการณ์ ที่เกิดขึน้ ในช่ วงวันจันทร์ สี หน้ า


แปรเปลี่ยนเป็ นความเคร่ งขรึม

ทันใดนั้น เจ้ าหน้ าที่สาวสวยแผนกต้ อนรับ—แอนเจลิก้า·บาเร


ฮาร์ ท กล่าวทักทายกับกลาซิสที่เพิง่ เข้ าสโมสรด้ วยสี หน้ ายิม้ แย้ ม

หลังจากทักทายซึ่งกันและกันตามมารยาท เธอเริ่มสั งเกตุเห็น


ความผิดปรกติของสุ ขภาพกลาซิส แองจิเลน่ าไต่ ถามเล็กน้ อยและ
แนะนาพอเป็ นพิธี

ก่อนจะกล่าวในสิ่ งที่น่าตกตะลึง

“มิสเตอร์ กลาซิส ลูกค้ าของคุณเมื่อวันก่อน มิสเตอร์ โมเร็ตติ เขา


ตัดสิ นใจเข้ าร่ วมสโมสรพยากรณ์ แล้วนะคะ”

“ลูกค้ าคนล่าสุ ดของผม?”

นัยน์ ตากลาซิสพลันส่ องประกาย

“พระเจ้ า! เขาอยู่ที่ไหน?”

“กลับไปแล้วค่ ะ”

แอนเจลิก้าและเอ็ดเวิร์ดต่ างฉงนกับท่ าทีตกใจเกินงามของกลา


ซิส

กลาซิสเหม่ อลอยจนเซไปด้ านหน้ าสองก้าวโดยไม่ ร้ ูตัว ก่อนจะ


หันไปกล่าวกับแอนเจลิก้า

“คราวหน้ าที่เขามา… ถ้ าผมไม่ อยู่ ช่ วยถามให้ ด้วยว่ าเขาจะเข้ า


สโมสรวันไหนบ้ าง!”
“กลาซิส… เกิดอะไรขึน้ กันแน่ ? มิสเตอร์ โมเร็ตติทาอะไรไม่ ดีกับ
คุณอย่ างนั้นหรื อ?”

เอ็ดเวิร์ดขมวดคิว้

กลาซิสยกแขนขวาเชิงปฏิเสธ มันจ้ องมองไปมาระหว่ างแอนเจ


ลิก้ากับเอ็ดเวิร์ดเล็กน้ อย ก่อนจะเริ่มอธิบายด้ วยจิตใจไม่ อยู่กับเนื้อ
กับตัว

“เขาเป็ นหมอที่… ลึกลับมาก… มากๆ”


กลาซิสยา้ คาว่ า‘มาก’ถึงสามครั้ง
ราชันย์ เร้ นลับ 50 : วิธีชาระหนีข้ องลุงนีลล์

หนึ่งทุ่มครึ่ง ถึงเวลาอาหารค่าของครอบครัวโมเร็ตติ

“ไคลน์ ทาไมนายต้ องรีบไปทางานแต่ เช้ าด้ วย? ทั้งที่เป็ นแค่ ที่


ปรึกษาประวัติศาสตร์ บริษัทนีไ้ ม่ อันตรายไปหน่ อยหรื อ?”

เบ็นสั นใช้ ส้อมจิม้ มันฝรั่งจากจานสตูว์เนื้อใส่ ปาก สี หน้ า


ค่ อนข้ างเป็ นกังวลกับแผ่ นกระดาษโน้ ตเมื่อตอนเช้ า

ไคลน์ บรรจงคายก้างปลาทอดอย่ างระมัดระวัง ก่อนจะมอบคา


แก้ตัวที่เตรียมไว้ พร้ อมแล้ว

“มีเอกสารจานวนหนึ่งต้ องถูกขนส่ งไปยังสาขาเบ็คลันด์ โดย


ด่ วน ฉันมีหน้ าที่คุมงานเพื่อไม่ ให้ เกิดความผิดพลาดขึน้ นายก็คง
ทราบดีอยู่แล้ว พวกสมองมีแต่ กล้ามไม่ มีทางอ่านภาษาฟุซัคออก”

หลังจากได้ ยินคาอธิบาย เบ็นสั นถอนหายใจด้ วยสี หน้ าโล่งอก

“ความรู้เป็ นสิ่ งสาคัญจริงๆ”

ฉวยโอกาสนี้ ไคลน์ หยิบธนบัตรห้ าปอนด์ อีกใบที่เหลือจากโบนัส


ยื่นให้ เบ็นสั น
“นี่คือเงินโบนัสที่แลกมากับการตื่นเช้ า พวกนายเอาไปใช้ ซื้อ
เสื้ อผ้ าชุดใหม่ ”

“ห้ าปอนด์ เชียว?”

เบ็นสั นและเมลิสซ่ าส่ งเสี ยงพร้ อมกัน

พีช่ ายคนโตนาธนบัตรห้ าปอนด์ ไปส่ องไฟหาลายน้า ก่อนจะ


กล่าวด้ วยน้าเสี ยงกึ่งทึ่งกึ่งฉงน
“บริษัทรักษาความปลอดภัยกระเป๋าหนักชะมัด…”

ค่ าแรงรายสั ปดาห์ ของเบ็นสั นคือหนึ่งปอนด์ สิบซูล สี่ สัปดาห์


เท่ ากับหกปอนด์ หมายความว่ า ค่ าแรงหนึ่งเดือนของเบ็นสั นมี
มูลค่ ามากกว่ าโบนัสไคลน์ แค่ ปอนด์ เดียว!

แต่ ถึงจะมีอัตราค่ าแรงเพียงเท่ านี้ เบ็นสั นก็เลีย้ งน้ องสองคนมา


ได้ หลายปี แถมมิได้ ใช้ ชีวิตอย่ างอดอยาก มีเนื้อสั ตว์ ให้ ทานสั ปดาห์
ละสองสามมื้อ และทุกปี จะมีการซื้อเสื้ อผ้ าใหม่ จากเงินออมเสมอ

“ไม่ เชื่ อที่ฉันพูดหรื อ?”

ไคลน์ ถามยา้
เบ็นสั นยิม้ คิกคัก
“ฉันรู้ นายไม่ มีท้งั ความสามารถและความกล้ามากพอจะปล้น
ธนาคาร”

“คนอย่ างนายโกหกไม่ เป็ น”

เมลิสซ่ าวางมีดและส้ อมลงก่ อนจะเงยหน้ าตอบไคลน์ ด้วยเสี ยง


เรียบเฉย

แต่ ทุกวันนี…
้ ฉันแทบจะโกหกคาเว้ นคา

ชายหนุ่มรู้สึกผิด‘เล็กน้ อย’

ถึงจะไม่ ได้ โกหกทั้งหมด เป็ นเงินที่หามาอย่ างสุ จริต แต่ ความ


เชื่ อใจโดยไม่ เคลือบแคลงของน้ องสาวก็ทาให้ มันเจ็บแปลบหน้ าอก
ไม่ น้อย

“ธุระในวันนีค้ ่ อนข้ างพิเศษ ทั้งเร่ งด่ วนและสาคัญมาก หากขาด


ฉันไปบริษัทต้ องแย่ แน่ ห้ าปอนด์ นับว่ าสมเหตุสมผลแล้ว”

ไคลน์ กล่าวเสริม

มีความจริงแฝงอยู่หลายส่ วน
สาหรับห้ าปอนด์ ที่เหลือจากโบนัส ซึ่งจะได้ คืนหลังจากทาเรื่ อง
เบิกงบสโมสรพยากรณ์ ผ่าน มันมีแผนจะปกปิ ดเงินก้อนนีไ้ ว้ ด้วย
เหตุผลสองประการ

ข้ อแรก หากมันนาเงินกลับบ้ านรวดเดียวสิ บปอนด์ มีโอกาสสู งที่


พีช่ ายน้ องสาวจะเข้ าใจว่ าตนทาธุรกิจผิดกฏหมาย ส่ วนข้ อสอง
ลุงนีลล์เคยกล่าวไว้ ว่า ผู้วิเศษสายพิธีกรรมจะมีต้นทุนด้ านวัตถุดิบ
ค่ อนข้ างสู ง

เบ็นสั นฉีกและกัดขนมปังข้ าวโอ๊ตด้ วยสี หน้ าพึงพอใจ มัน


ครุ่นคิดหลายวินาทีก่อนจะกล่าว

“งานปัจจุบันของฉันไม่ จาเป็ นต้ องสวมเสื้ อผ้ าหรูหรา เอ่อ ฉัน


หมายความว่ า เสื้ อผ้ าที่บ้านก็ดีอยู่แล้ว”

ไม่ รอให้ ไคลน์ เถียง มันเสริมต่ อด้ วยตัวเอง

“ในเมื่อมีโบนัส ก็ควรถือเป็ นเงินออมครอบครัวมากกว่ า ฉันมี


แผนจะซื้อหนังสื อบัญชีและการเงินอีกหลายเล่ม

“ไคลน์ เมลิสซ่ า ในอีกสองปี ข้ างหน้ า ค่ าแรงต่ อสั ปดาห์ ของฉัน


ต้ องมากกว่ าสองปอนด์ ให้ ได้ ! ฮะฮะ ก็อย่ างที่พวกนายรู้ หัวหน้ า
ของฉันสมองทึบมาก แถมยังปากเหม็นบัดซบ อ้าปากทีแทบจะ
เป็ นลมทั้งสานักงาน”
“เป็ นความคิดดี”
ไคลน์ ชื่นชอบบุคคลที่มีความคิดคล้ายคลึงกับตน ชายหนุ่มช่ วย
เสริม

“เริ่มจากการอ่านหนังสื อไวยากรณ์ ในห้ องฉันก่อนไหม? หาก


หวังมีการงานมั่นคง หนังสื อเหล่านั้นจะช่ วยได้ มาก”

บางทีว่า… ในอีกไม่ ช้า ระบบสอบบรรจุข้าราชการอาจเกิดขึน้ ใน


อาณาจักรโลเอ็น ผู้ที่เตรียมพร้ อมตลอดเวลาคือผู้ที่ได้ เปรียบ
ดวงตาเบ็นสั นส่ องประกาย

“ลืมสนิทว่ าที่บ้านก็มีหนังสื อ…

“มา! ชนแก้ว! เพื่ออนาคตที่สดใส”

สิ่ งที่มันรินใส่ ถ้วยทั้งสามมิใช่ เบียร์ ไรย์ แต่ เป็ นซุบหอยนางรมใส


ที่สามพีน่ ้ องสามารถทานได้

หลังจากกลืนซุปลงคอ ไคลน์ ชาเลืองมองน้ องสาวกาลังปลุกปลา้


ชิ้นปลาทอดอย่ างเอาเป็ นเอาตาย

มันอมยิม้
“นอกจากหนังสื อของเบ็นสั นแล้ว เมลิสซ่ าก็ต้องมีชุดใหม่ ด้วย
เหมือนกัน”

เมลิสซ่ าเงยหน้ ามอง จากนั้นก็รีบส่ ายศีรษะประท้ วง

“ไม่ ต้อง! ฉันว่ าเราควรเก็บมันไว้ เป็ น…”

“เงินออม?”

ไคลน์ ช่วยเติมเต็มประโยค
“…อื้อ”

เมลิสซ่ าพยักหน้ า

“อันที่จริง ถ้ าไม่ ใช่ เสื้ อผ้ าที่หรูหราฟุ่ มเฟื อยเกินจาเป็ น ราคาของ


มันก็ไม่ ได้ สูงขนาดนั้น เงินที่เหลือค่ อยนามาออมก็ยังได้ ”

เบ็นสั นช่ วยไคลน์ เสริม

“เมลิสซ่ า เธอคิดจะไปร่ วมงานวันเกิดครบรอบสิ บหกปี ของเซเล


น่ าด้ วยชุดเก่าจริงหรื อ?”

เซเลน่ า·วู้ด เพื่อนร่ วมชั้นของเมลิสซ่ าที่ค่อนข้ างสนิทกัน ฐานะ


ทางบ้ านดี พีช่ ายเป็ นทนายความ บิดาเป็ นพนักงานอาวุโสของ
ธนาคารเบ็คลันด์ สาขาทิงเก็น
ถึงจะเรียกว่ างานวันเกิด แต่ ก็เป็ นปาร์ ตมี้ ื้อคา้ ที่ชวนเฉพาะคน
สนิทไปร่ วมงาน กิจกรรมมีไม่ มากไปกว่ าการสั งสรรและเล่นไพ่

“เข้ าใจแล้ว”

เมลิสซ่ าก้มหน้ าศิโรราบ เสี ยงพึมพาถูกเปล่งจากลาคอ ก่อนจะ


ใช้ ส้อมปักเนื้อวัวหนึ่งชิ้นด้ วยกริยาป่ าเถื่อน

บรรยากาศเงียบงันไปพักหนึ่ง ก่อนที่เธอจะกล่าวขึน้ หลังจากฉุก


คิดบางสิ่ งได้

“มาดามชาเดอร์ เพื่อนบ้ านใหม่ เธอให้ สาวใช้ มาส่ งบัตรเชิญที่มี


ใจความระบุว่า: สี่ โมงเย็นวันอาทิตย์ นจี้ ะแวะมาเยี่ยมเยียนที่บ้าน
พวกเรา เธอต้ องการสนิทสนมกับเพื่อนบ้ านใหม่ ให้ มากเข้ าไว้ ”

“มาดามชาเดอร์ ?”

ไคลน์ ขมวดคิว้ มันมองสลับไปมาระหว่ างพีช่ ายกับน้ องสาว

เบ็นสั นใช้ นวิ้ เคาะขอบโต๊ ะทานอาหาร เป็ นนัยกาลังครุ่นคิด

“มาดามชาเดอร์ ใช่ บ้านเลขที่ 4 ถนนดารารัตน์ รึเปล่า? ได้ ยินมา


ว่ า สามีของเธอทางานเป็ นทนายความอาวุโส”
“ทนายความอาวุโส… บางทีอาจรู้จักกับพีช่ ายเซเลน่ า”

เมลิสซ่ ากล่าวด้ วยสี หน้ าพึงพอใจ

บ้ านของพวกเราเลขที่ 2 สิ นะ…

ไคลน์ พยักหน้ ารับรู้

“การทาความรู้จักกับเพื่อนบ้ านเป็ นสิ่ งที่ดี แต่ พวกนายคงทราบ


แล้วว่ าฉันจะไม่ ว่างทุกวันอาทิตย์ ต้ องไปทางานสาคัญที่บริษัท

“วันพักผ่อนเพียงหนึ่งเดียวคือวันจันทร์ คงต้ องฝากแสดงความ


ขอโทษไปให้ มาดามชาเดอร์ ด้วย”

กล่าวถึงจุดนี้ ชายหนุ่มเริ่มหวนนึกถึงเพื่อนบ้ านสมัยโลกเก่า


รวมถึงเพื่อนบ้ านบนถนนกางเขนเหล็กในความทรงจาอดีตไคลน์

มันถอนหายใจยาว

“ว่ าแต่ … ทาไมเพื่อนบ้ านต้ องแวะมาเยี่ยมอย่ างเป็ นทางการ


ด้ วย? อยู่ไปเดี๋ยวก็สนิทกันเองไม่ ใช่ หรื อ?”

“ฮะฮะ! ไคลน์ นายยังไม่ เข้ าใจ… ถึงช่ วงนี้จะอ่านหนังสื อพิมพ์


บ่ อยขึน้ แต่ ฉันพนันได้ เลยว่ านายไม่ ได้ อ่านนิตยสารสาหรับ
สุ ภาพสตรีชนชั้นกลางแน่ !
“ครอบครัวที่มีรายได้ ต่อปี ตั้งแต่ หนึ่งร้ อยปอนด์ ถึงหนึ่งพัน
ปอนด์ จะถูกจัดให้ เป็ นชนชั้นกลาง ในนิตยสารกล่าวว่ า ชนชั้นกลาง
ของอาณาจักรจะไม่ โอหังเหมือนชนชั้นสู ง แต่ ก็ไม่ หิวกระหายเงิน
เหมือนชนชั้นล่าง

เบ็นสั นหยุดพักครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่ อ

“นิตยสารยังกล่าวถึงมารยาทที่ชนชั้นกลางพึงเรียนรู้เพื่อเตรียม
เป็ นชนชั้นสู ง หนึ่งในนั้นคือการสานสั มพันธ์ ระหว่ างเพื่อนบ้ านชน
ชั้นกลางด้ วยกัน นี่คือที่มาของธรรมเนียมปฏิบัติใหม่ ซึ่งนายคงไม่
คุ้นเคย”

เมื่อกล่าวจบ เบ็นสั นส่ ายศีรษะ

“โดยทั่วไปแล้ว สุ ภาพบุรุษ สุ ภาพสตรี รวมถึงคุณนายที่มอง


ตัวเองว่ าอยู่ในระดับชนชั้นกลาง จะละเอียดอ่อนกับมารยาทาง
สั งคมมาก พวกเขามักเยี่ยมเพื่อนบ้ านหรื อเพื่อนสนิทในช่ วงบ่ าย
สองถึงหกโมเย็นของวันอาทิตย์ และจะเรียกมันว่ า—เยี่ยมรุ่งอรุณ”

“เยี่ยมรุ่งอรุณ?”

ไคลน์ และเมลิสซ่ าส่ งเสี ยงพร้ อมกัน


การไปบ้ านเพื่อนช่ วงบ่ ายสองถึงหกโมงเย็นมันรุ่งอรุณ
ตรงไหน?

เบ็นสั นวางมีดส้ อมลงและอมยิม้ กล่าว

“ฉันก็ไม่ ร้ ูว่าทาไมถึงเรียกแบบนั้น ทั้งหมดเป็ นข้ อมูลที่อ่านมา


จากนิตยสารสุ ภาพสตรีของเพื่อนร่ วมงาน เอ… บางที อาจเป็ น
เพราะพวกเขาสวม‘ชุดเช้ า’ไปเยี่ยมกระมัง…”

สาหรับผู้นับถือศาสนา ชุ ดยามเช้ าของวันอาทิตย์ ส่วนมากมัก


เป็ นเสื้ อผ้ าสุ ภาพซึ่งสวมใส่ ประกอบพิธีมิสซาที่โบสถ์ จะมีความ
เป็ นทางการกว่ าชุ ดอยู่บ้านของบ่ ายวันเดียวกัน

“เข้ าใจแล้ว ถ้ าอย่ างนั้น พรุ่งนีต้ ้ องซื้อผงกาแฟและใบชาคุณภาพ


ดีเข้ าบ้ าน อย่ าลืมซื้อขนมปังมัฟฟิ นกับเค้ กเลม่ อนจากร้ านมาดามส
ลินด้ วย คงไม่ ดีแน่ หากทาให้ เพื่อนบ้ านต้ องผิดหวังกลับไป”

ไคลน์ ฉีกยิม้ กว้ าง มันจุ่มขนมปังข้ าวโอ๊ตลงในชามสตูว์เนื้อที่ยัง


เหลือ ก่อนจะยัดเข้ าปากคาใหญ่

วันถัดมา ช่ วงเช้ าวันอาทิตย์

ไคลน์ ซดชาเทียมอึกสุ ดท้ ายเข้ าปาก มันวางหนังสื อพิมพ์ลง


พร้ อมกับสวมหมวกผ้ าไหมทรงกึ่งสู ง มือซ้ ายถือไม้ คา้ สี ดาเลี่ยม
เงินเดินออกจากประตูบ้านด้ วยท่ าทีผ่อนคลาย

รถม้ าสาธารณะพาตัวมาสู่ ถนนซุตแลน

ชายหนุ่มกล่าวทักทายกับสาวสวยโรแซนที่เตรียมเข้ าไปหลับใน
ห้ องนอนสานักงาน สี หน้ าของเธอค่ อนข้ างอิดโรยหลังจากเข้ าเวร
ยาวตลอดทั้งคืน

ถัดมาเป็ นการเดินลงบันไดหินมายังทางใต้ ดิน หลังจากเลีย้ วตรง


ทางแยก ไคลน์ ได้ พบกับเจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการเหยี่ยวราตรีที่ไม่ ค่อย
สนิทนัก

ผู้ไร้ หลับ รอยัล·เรย์ ดีน

สี หน้ าของเธอค่ อนข้ างเย็นชา คิว้ ยาวโก่งโค้ งสวยงาม ดวงตา


กลมโต ผมยาวดาขลับและเงางามคล้ายผ้ าไหม

“อรุณสวัสดิ์ครับ มาดามเรย์ ดีน”

ไคลน์ ถอดหมวกทักทาย

รอยัลหรี่ตาลงพร้ อมกับใช้ นัยน์ ตาน้าเงินเข้ มสารวจไคลน์ หัว


จรวดเท้ า จากนั้นก็ผงกศีรษะเบาๆ
เมื่อคนทั้งสองเดินสวนผ่ านกัน เรย์ ดีนหยุดฝี เท้ าก่อนจะกล่ าว
โดยไม่ หันกลับไปมอง

“พิธีกรรมเวทมนตร์ เป็ นศาสตร์ อันตราย”

อะ…

ไคลน์ ผงะชั่วครู่ หลังจากได้ สติ ชายหนุ่มรีบเหลียวหลังมองอีก


ฝ่ าย แต่ รอยัลเดินจากไปไกลแล้ ว

“ขอบคุณครับ”

ไคลน์ ตะโกนไล่หลังรอยัล·เรย์ ดีน

เมื่อหันหลังกลับมาเดินต่ อ เพียงไม่ นานก็ได้ พบลุงนีลล์ที่กาลัง


เข้ าเวรคลังอาวุธ รวมถึงไบรท์ ผู้ที่ไม่ น่าจะถูกพบตัวในห้ องนี้

“มาแล้วหรื อ วันนีต้ ้ องไปที่บ้านของฉัน พอดีได้ รับวัตถุดิบที่


ต้ องการครบแล้ว ไบรท์ จะรับหน้ าที่เข้ าเวรคลังอาวุธแทน”

ลุงนีลล์กล่าวด้ วยรอยยิม้

ไคลน์ ประหลาดใจ

“ไม่ ทาทีี่นี่หรื อครับ?”


ชายชรายกหีบเงินขึน้ อวด

“ที่นไี่ ม่ เหมาะสาหรับประกอบพิธีกรรมเวทมนตร์ ”

ไคลน์ ไม่ ไต่ ถามให้ มากความ มันเดินตามลุงนีลล์กลับขึน้ มายัง


ชั้นบน ถัดมา คนทั้งสองขึน้ รถม้ าสาธารณะมาลงเขตเหนือของทิง
เก็น

ที่พกั ของลุงนีลล์เป็ นบ้ านเดี่ยว สวนหน้ าบ้ านปลูกกุหลาบ มิ


นท์ ทอง และ‘วัตถุดิบ’อีกหลายชนิด

เมื่อเปิ ดประตูเข้ าไป สิ่ งแรกที่เห็นคือพรมรักแขกหรูหราผืนใหญ่


ใกล้กันเป็ นเก้าอีพ้ นักสู งสี ดาสองตัวและที่วางร่ ม

ถัดจากเขตหน้ าบ้ านเป็ นห้ องรับแขก ผนังสองข้ างถูกตกแต่ งด้ วย


วอลเปอร์ สีอ่อน พื้นห้ องมีสีน้าตาลเข้ มคล้ายไม้ กึ่งกลางมีพรม
ขนาดไม่ ใหญ่ มากถักทอลวดลายบุปผา เหนือพรมเป็ นโต๊ ะไม้ ทรง
กลมที่ดูแข็งแรงมั่นคง

รอบข้ างโต๊ ะไม้ ประกอบด้ วยม้ านั่งยาวหรูหราสะดวกสบาย เก้าอี้


พนักสู ง และเปี ยโน

“ภรรยาที่เสี ยไป… หล่อนหลงไหลดนตรีมาก”


ลุงนีลล์ชี้นวิ้ ไปยังเปี ยโน
“โซฟาและโต๊ ะน้าชาอยู่ในห้ องนั่งเล่น… พวกเราจะประกอบ
พิธีกรรมเวทมนตร์ ภายในห้ องรับแขก”

“ครับ…”

ไคลน์ ตอบด้ วยน้าเสี ยงเจือฉงน

ลุงนีลล์วางหีบเงินลงพลางอมยิม้
“ฉันจะแสดงพิธีกรรมเวทมนตร์ ให้ ดู สิ่ งที่เจ้ าทามีเพียงเฝ้ามอง
และจดจา”

ขณะบรรยากาศเริ่มเงียบงัน ชายชราหยิบกระดาษหนังเทียม
ออกจากหีบเงิน จากนั้นก็บรรจงวาดลวดลายแปลกประหลาดด้ วย
หมึกดาที่ส่งกลิ่นพิสดาร

ไคลน์ เพ่งมองอย่ างตั้งใจ ไม่ นานก็พบว่ า ตาเฒ่ าผู้นกี้ าลัง


พยายามวาดภาพธนบัตร!

เมื่อวาดเสร็จ ลุงนีลล์เขียนเลข‘30’ลงไปในช่ องว่ างและกากับไว้


ด้ วยสั ญลักษณ์ สกุลเงิน‘ปอนด์ ’

ไคลน์ มิอาจเฝ้ามองอย่ างเงียบงันได้ อีก มันตัดสิ นใจไต่ ถามด้ วย


น้าเสี ยงสุ ดเคลือบแคลง
“มิสเตอร์ นีลล์ คุณคิดจะประกอบพิธีกรรมเวทมนตร์ แบบไหน
กันแน่ ?”

ชายชรากระแอมสองหน ก่อนอธิบายด้ วยสี หน้ าขึงขังเป็ นที่สุด

“วันนีฉ้ ันจะขจัดหนีส้ ามสิ บปอนด์ ของตัวเองด้ วยพิธีกรรมเวท


มนตร์ ”

ทาแบบนั้นได้ ด้วยรึไง…?

ไคลน์ จ้องมองด้ วยนัยน์ ตาสั่ นระริก ริมฝี ปากอ้ากว้ างค้ างเช่ นนั้น
เป็ นเวลานาน
ราชันย์ เร้ นลับ 51 : พิธีกรรมเวทมนตร์ สาเร็จ

ล้างหนีด้ ้ วยพิธีกรรมเวทมนตร์ ?

เป็ นพิธีกรรมสาปแช่ งให้ เจ้ าหนีถ้ ึงแก่ความตายอย่ างนั้นหรื อ? รึ


ว่ าสร้ างธนบัตรปลอม?

ถ้ าแก้ปัญหาไม่ ได้ ก็จัดการต้ นตอของปัญหาเสี ยเลย?

ความคิดประหลาดพุ่งพล่านในหัวไคลน์ สายตาจ้ องมองลุงนีลล์


ด้ วยอากัปกริยาตื่นตระหนก

ชายหนุ่มคิดเป็ นจริงเป็ นจังว่ าตนควรแจ้ งตารวจ… ไม่ สิ แจ้ ง


เหยี่ยวราตรี!

ลุงนีลล์มองเข้ าไปในแววตาไคลน์ มันกล่าวด้ วยน้าเสี ยงเคร่ ง


ขรึม ไม่ เจืออารมณ์ ขันแม้ แต่ น้อย

“แววตาของเจ้ าเปี่ ยมด้ วยความโง่ เขลา ความไม่ เชื่ อมั่น และ


ความไม่ เข้ าใจ… ดันน์ ยังไม่ ได้ บอกเจ้ าเกี่ยวกับหลักปฏิบัติของ‘ผู้
ส่ องความลับ’อีกหรื อ?
“ทาทุกสิ่ งที่อยากทา แต่ ต้องไม่ เดือดร้ อนใคร!

“ถึงหลักปฏิบัติจะมาจากองค์ กรชั่วร้ ายอย่ างนิกายมอสส์ ก็เถอะ


แต่ ผ้ วู ิเศษเส้ นทางผู้ส่องความลับทั่วโลกได้ พสิ ู จน์ แล้วว่ า นั่นคือ
หลักการที่ถูกต้ องและควรยึดถือ สิ่ งนีจ้ ึงถูกปฏิบัติสืบทอดอย่ าง
ยาวนานจวบจนปัจจุบัน

“หลักปฏิบัติดังกล่าวจะช่ วยลดอัตราการคลุ้มคลั่งของผู้ส่อง
ความลับลงหลายระดับ ตรงกันข้ าม พลังวิญญาณกลับยิ่งเพิม่ มาก
ขึน้ !

“หากเคลือบแคลงในตัวฉัน ก็เท่ ากับเคลือบแคลงในตัวผู้ส่อง


ความลับทุกคน!”

“ขอโทษครับ”

ไคลน์ รีบขอโทษโดยไม่ ลังเล

มันลืมเสี ยสนิทว่ า ดันน์ ·สมิทเคยอธิบายถึงหลักปฏิบัติของผู้


ส่ องความลับให้ ฟังแล้ว

ลุงนีลล์มิได้ โมโหหรื อโกรธเคืองเป็ นจริงเป็ นจัง หลังจากแสร้ ง


ปั้นหน้ าดุสองสามวินาที มันกลับมาส่ งเสี ยงคิกคักอีกครั้ง
“ฮะฮะ! น่ าเสี ยดายที่ผ้ วู ิเศษเส้ นทางนักทานายมีจานวนน้ อยมาก
ฉันจึงไม่ มีหลักปฏิบัติใดพอจะช่ วยแนะนาให้ เจ้ าได้ ”

แต่ ผมมีไดอารีจักรพรรดิโรซาย…

เดี๋ยวก่อน… บางที‘หลักปฏิบัติ’อาจเป็ นส่ วนหนึ่งของเทคนิค


‘สวมบทบาท’

เมื่อข้ อมูละเริ่มปะติดปะต่ อ ไคลน์ ผงกศีรษะเบาๆ พลางแสดงสี


หน้ าครุ่นคิด
ลุงนีลล์ไม่ กล่าวสิ่ งใด มันย้ ายแจกันและอีกหลายสิ่ งบนโต๊ ะกลม
ไปกองไว้ มุมห้ อง

ถัดมาเป็ นการหยิบเทียบไขสี ดาอมแดงออกจากหีบเงิน ปาก


พลางพูดอธิบาย

“หากคนทั่วไปต้ องการประกอบพิธีกรรมเวทมนตร์ พวกมัน


ต้ องปฏิบัติตามขั้นตอนโหราศาสตร์ ที่ระบุไว้ ในคู่มืออย่ างละเอียด
ต้ องเลือกวันเวลาที่เหมาะสม

“ตัวอย่ างเช่ น วันประจาตัวเทพธิดาคือวันอาทิตย์ ช่ วงเวลาที่


เลือกต้ องเป็ นยามที่พระองค์ ท่านครอบงาดวงจันทร์

“แต่ สาหรับผู้วิเศษ เราไม่ ต้องวุ่นวายขนาดนั้น โดยเฉพาะผู้วิเศษ


เส้ นทางที่เกี่ยวข้ องกับพิธีกรรมอย่ างพวกเรา หลักสาคัญมีเพียง
วิญญาณดาราและพลังวิญญาณ

“แต่ โดยทั่วไปแล้ว หากไม่ มั่นใจในพิธีกรรมเวทมนตร์ ที่จะ


ประกอบ การเลือกปฏิบัติในวันเวลาที่เหมาะสมก็ไม่ ใช่ เรื่ องเสี ยหาย

“เอาล่ะ! นั่นคือกฎพื้นฐานที่ห้ามลืมโดยเด็ดขาด หลังจากนี้ จง


จับตามองทุกขั้นตอนโดยไม่ กระพริบตา”

ลุงนีลล์จัดแจงวางเทียนไขลงบนโต๊ ะ โน้ มตัวไปด้ านหน้ า


เล็กน้ อย ก่อนจะเงยศรีษะมองชายหนุ่มและกล่าวด้ วยเสี ยงขึงขัง

“ถึงจะเป็ นผู้วิเศษ แต่ ผ้ วู ิเศษลาดับต่าก็มิได้ ทรงพลังขนาดนั้น


จาเป็ นต้ องพึ่งพาความช่ วยเหลือจากพลังภายนอกเพื่อประกอบ
พิธีกรรมเวทมนตร์

“แต่ จงเลือกหยิบยืมพลังจากเทพหลักทั้งเจ็ดองค์ เท่ านั้น จะเป็ น


เทพธิดาหรื อเทพแห่ งวายุสลาตันก็ไม่ ใช่ ปัญหา

“ห้ าม! พึง่ พาพลังจากตัวตนลึกลับโดยเด็ดขาด ไม่ ว่าเทพนอกรีต


เหล่านั้นจะมีผ้ ศู รัทธามากมายเพียงใด หรื อกระทั่งมีพระคัมภีร์เป็ น
ของตัวเอง

“เชื่ อฉัน… อย่ าได้ ยื่นขาเข้ าไปในประตูบานดังกล่าวโดดเด็ดขาด


ไม่ อย่ างนั้นจะมิอาจถอนตัวตลอดไป เปรียบดั่งทางชันที่ลาดลง ไม่
ว่ าจะพยายามดิน้ รนสั กเท่ าไร แต่ นั่นก็ไม่ สามารถเปลี่ยนแปลง
ชะตากรรมปลายทาง ช่ วยได้ เพียงประวิงเวลาให้ ช้าลงเท่ านั้น”

“ผมจะจาใส่ ใจครับ”

ไคลน์ ตอบเสี ยงค่ อย จิตใจของมันรู้สึกเปราะบางน่ าประหลาด

…พิธกี รรมเปลี่ยนดวงชะตาที่นาเราไปสู่ มิติสายหมอก มัน


พึง่ พาพลังลึกลับภายนอกจากตัวตนประเภทใดกัน?

แถมยังมีอานาจมากพอจะดึงผู้วิเศษรุ่นพีอ่ ย่ าง‘แฮงแมน’เข้ ามา


ในห้ วงมิติเดียวกันได้

ในสายตาไคลน์ แฮงแมนคือผู้วิเศษที่มีลาดับสู งพอสมควร …ไม่


หกก็เจ็ด

ยิ่งไปกว่ านั้น ระหว่ างพิธีกรรม ตนยังได้ ยินเสี ยงกระซิบที่ไม่


ควรได้ ยิน …นั่นไม่ ใช่ สัญญาณการคลุ้มคลั่งหรอกหรื อ?

ท่ ามกลางอารมณ์ พะว้ าพะวง ชายหนุ่มตัดสิ นใจเปลี่ยนบท


สนทนาด้ วยตัวเอง

“เหยี่ยวราตรีอย่ างพวกเราควรหยิบยืมพลังจากเทพธิดารัตติกาล
ใช่ ไหมครับ?”
“จะหยิบยืมพลังจากเทพแห่ งวายุสลาตันก็ไม่ มีใครว่ า แต่ เราก็มิ
อาจมั่นใจได้ ว่ าเทพองค์ อื่นจะมอบพลังด้ วยเจตนาบริสุทธิ์
เหมือนกับเทพธิดาหรื อไม่ ผลลัพธ์ ของพิธีกรรมอาจบิดเบือนไปใน
ทิศทางที่ไม่ สามารถคาดเดา”

ลุงนีลล์จริงจัง มันไม่ รับมุกไคลน์

การร้ องขอพลังจากเทพธิดารัตติกาลคือสิ่ งที่เหยี่ยวราตรี‘ต้ อง


ทา’ มิใช่ ‘ควรทา’

หลังจากกล่าวจบ ชายชราหยิบเทียนไขสี แดงดาขึน้ มาอธิบาย

“เทียนไขที่ผลิตจากบุปผาจันทราและไม้ จันทร์ สีดาแดง ถือเป็ น


สั ญลักษณ์ แทนตัวเทพธิดาสี ชาด พิธีกรรมเวทมนตร์ จะได้ ดาเนิน
ไปอย่ างราบรื่ น”

ชายชราชี้นวิ้ ไปยังเทียนไขสี น้าเงินดา

“เทียนไขที่ผลิตจากวานิลลาราตรีและบุปผาหลับไหล ถือเป็ น
สั ญลักษณ์ แทนยามค่าคืน”

เมื่อกล่าวจบ ชายชรานาเทียนไขน้าเข้ มไปวางที่มุมซ้ ายสุ ดของ


โต๊ ะกลม และเทียนไขแดงเข้ มวางไว้ ที่มุมขวาสุ ด

“ทาไมสั ญลักษณ์ แทนพระองค์ ถึงมีเพียงสองล่ะครับ? ทั้งที่พระ


นามเต็มยังเหลือ ‘มารดาแห่ งความเร้ นลับ’ ‘จักรพรรดินีแห่ ง
หายนะ’ และ ‘นายหญิงแห่ งนิทราสงบสุ ข’”

ลุงนีลล์อมยิม้

“เป็ นคาถามที่ดี”

“ก่อนจะถูกทาลายสิ้นซาก นิกายมอสส์ และโบสถ์ มี


ความสั มพันธ์ ค่อยข้ างดีต่อกัน ส่ งผลให้ โบสถ์ ซึมซับอิทธิพลด้ าน
พิธีกรรมเวทมนตร์ ที่พวกมันชานาญมาด้ วย
“พวกมันเชื่ อว่ าทุกสรรพสิ่ ง รวมถึงตัวเลข มีพลังวิญญาณแฝง
อยู่ ทุกเลขล้วนเป็ นเลขมงคลทีม่ ีความนัย

“เช่ นเลข 0 หมายถึงความไม่ ร้ ูและความวุ่นวาย มักใช้ เป็ น


ตัวแทนของเอกภพต้ นกาเนิด เลข 1 หมายถึงจุดเริ่มต้ น มักใช้ เป็ น
สั ญลักษณ์ แทนพระผู้สร้ าง เลข 2 หมายถึงเหล่าเทพที่ถือกาเนิดจาก
กายาพระผู้สร้ าง เลข 3 หมายถึงต้ นกาเนิดสิ่ งมีชีวิตทั้งปวง ไม่ ว่า
จะเป็ นมนุษย์ หรื อสั ตว์ วิเศษบรรพกาล

“การใช้ เทียนไขระบุถึงเทพธิดาเพียงสองเล่ม ก็เพื่ออ้างอิงเลข


มงคลตามหลักข้ างต้ น

“ส่ วนเทียมไขเล่มที่สามจะถูกใช้ แทนสั ญลักษณ์ ของ‘ตัวเรา’ผู้


ประกอบพิธีกรรม ศาสตร์ เลขมงคลนั้นมีความสาคัญกับพิธีกรรม
เวทมนตร์ ค่อนข้ างมาก”
เลขสามหมายถึงสิ่ งมีชีวิต? การถือกาเนิด?

ในฐานะนักรบคีย์บอร์ ด ไคลน์ พอจะทราบความหมายของเลข


มงคลจีนในโลกเก่าอยู่บ้าง และเลขสามก็หมายถึง‘การเกิด’
เหมือนกัน!

เมื่อเห็นชายหนุ่มแสดงสี หน้ าครุ่นคิด ชายชราหยิบเทียนไขเล่ม


ที่สามออกมาอธิบาย
“เล่มนีห้ มายถึง‘ตัวเรา’ เป็ นเทียนไขธรรมดาที่ผสมใบมินท์ ลง
ไปเล็กน้ อย จงจาให้ ขนึ้ ใจว่ า เทพธิดาชื่ นชอบกุหลาบ เลม่ อน มินท์
บุปผาจันทรา วานิลลาราตรี และบุปผาหลับไหลเป็ นพิเศษ”

“หากมองอีกมุมหนึ่ง เทียนไขทั้งสามยังหมายถึงกายา พลังจิต


และเทพสถิตย์ ที่มีอยู่ในตัวเราทุกคน”

ขณะอธิบาย ลุงนีลล์วางเทียนไขเล่มที่สามลงไปยังจุดกึ่งกลาง
โต๊ ะกลม

ถัดมา มันหยิบ‘สารสกัดจันทร์ เต็มดวง’ขึน้ มาวางพร้ อมกับหม้ อ


ต้ มที่มี‘ตราศักดิ์สิทธิ์แห่ งความมืด’สลักอยู่

นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์ เสริมอีกหลายชนิด จาพวกมีดเงินที่มี


ลวดลายแปลกตา น้าบริสุทธิ์หนึ่งถ้ วย และเกลือหินหนึ่งถาด
“สาหรับผู้วิเศษเส้ นทางอื่นที่ไม่ ชานาญพิธีกรรม พวกมัน
จาเป็ นต้ องใช้ กระดิ่ง บอลคริสตัล ถ้ วยเงิน และกายานช่ วยประกอบ
พิธี

“แต่ นั่นไม่ จาเป็ นสาหรับผู้ส่องความลับและนักทานายอย่ างเรา


ลาพังภาชนะทั่วไปก็เพียงพอจะช่ วยให้ ประกอบพิธลี ุล่วง”

ลุงนีลล์นากระดาษหนังเทียมลายธนบัตรวางไว้ ใต้ หม้ อต้ มขนาด


ใหญ่ ก่อนจะนาปากกาขนนกทาเองมาวางรองขาหม้ อไว้ ข้างหนึ่ง

มันชาเลืองมองไคลน์ ก่อนกล่ าว

“พิธีกรรมเวทมนตร์ จาเป็ นต้ องใช้ พลังวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่ ควร


ถูกผู้ใดรบกวนโดยเด็ดขาด

“พิธีกรรมจะเริ่มต้ นด้ วยการเข้ าฌาน จากนั้นเป็ นการเพ่งสมาธิ


เพื่อเพิม่ ประสิ ทธิภาพพลังวิญญาณในตัว

“ตัวอย่ างซึ่งเห็นได้ ชัดคือ ตอนอยู่ที่บ้านของรีเอล·บีเบอร์ ฉันใช้


สื่ อกลางเป็ นผงราตรีศักดิ์สิทธิ์ แต่ คราวนีจ้ ะใช้ มีดเงิน

“อีกหนึ่งสิ่ งที่สาคัญของพิธีกรรมคือ‘คาถา’ พวกเราจะใช้ คาถา


เป็ นสารในการหยิบยืมพลังเทพ ให้ เทพบันดาลผลลัพธ์ ตามที่
ต้ องการ
“คาถาควรสวดเป็ นภาษาเฮอร์ มิส ไม่ ควรใช้ เฮอร์ มิสโบราณ
เพราะมันมีรากฐานจากธรรมชาติ คล้ายคลึงกับภาษามังกรโบราณ
และภาษาเอลฟ์ การสวดด้ วยภาษาเหล่านีจ้ ะติดต่ อกับโลกวิญญาณ
โดยไม่ ผ่านการป้องกัน การท่ องผิดเพียงเล็กน้ อยจะนาพาไปสู่
ตัวตนอื่นที่ไม่ ใช่ เทพธิดา

“เป็ นสาเหตุสาคัญที่มนุษย์ ต้องดัดแปลงมาเป็ นภาษาเฮอร์ มิส


ปัจจุบัน ประสิ ทธิภาพของมันยอดเยี่ยมกว่ าในหลายด้ าน
“เอาล่ะ ฉันจะเริ่มประกอบพิธีอย่ างจริงจังโดยไม่ อธิบายสิ่ งใด
เพิม่ จงเฝ้ามองและจดจาอย่ างตั้งใจ หากมีคาถามให้ เก็บไว้ ก่อน รอ
ปรึกษาตอนที่พธิ ีกรรมลุล่วงแล้ว”

“เข้ าใจแล้วครับ”

ไคลน์ ขยับถอยหลังสองก้าว สายตาจ้ องมองลุงนีลล์อย่ างตั้งใจ

ทันใดนั้น นัยต์ ชายชราฝั่งตรงข้ ามตนพลันลุ่มลึกไร้ ก้นบึง้


กาแพงสายลมที่มองไม่ เห็นเริ่มก่อรอบตัวบางเบา

ท่ ามกลางความเงียบ พลังวิญญาณเริ่มแผ่ ปกคลุมทุกอณูภายใน


มิติม่านกาแพงที่มองไม่ เห็น เทียนไขทั้งสามเล่มถูกจุดในเวลา
ไล่เลี่ยกันด้ วยจิตของลุงนีลล์
ถัดมา ชายชราหยิบมีดเงินวางลงบนถาดเกลือหินพร้ อมกับท่ อง
คาถาภาษาเฮอร์ มิส

“มีดเงินบริสุทธิ์ ·ข้ าจักทาให้ เจ้ าศักดิ์สิทธิ์

“ข้ าจักปัดเป่ าชะล้างมลทิน ·เจ้ าจะคอยรับใช้ ข้าตลอดพิธีกรรม


ครั้งนี!้ ”


“ภายใต้ พระนามแห่ งเทพธิดารัตติกาล · พระองค์ ผ้ เู ป็ นสตรีสี
ชาด”

“มีดเงินจงศักดิ์สิทธิ์ ณ บัดนี้!”

หลังจากเสร็จสิ้นถ้ อยคาสั้ น แต่ เปี่ ยมด้ วยพลังมหาศาล ลุงนีลล์


หยิบมีดเงินขึน้ จากถาดเกลือหินและนาไปจุ่มแช่ ในน้าบริสุทธิ์ครู่
หนึ่ง ก่อนจะยกขึน้ พลางหมุนตัวหันหลังให้ โต๊ ะกลม ปลายแหลม
ของมีดถูกชี้ตรงไปเบื้องหน้ า

มันรักษาระดับของมีดไว้ เช่ นนั้น ฝ่ าเท้ าเริ่มขยับก้าวเดินไปรอบ


โต๊ ะจนครบหนึ่งรอบ

ทุกครั้งที่ทงิ้ น้าหนัก ไคลน์ สัมผัสถึงพลังที่มองไม่ เห็นพุ่งออก


จากปลายแหลมของมีดเงิน ค่ อนข้ างคล้ายคลึงพลังวิญญาณ เกิด
สายลมพัดบางเบาก่อตัวเป็ นกาแพงวิญญาณรอบโต๊ ะซ้ อนทับอีก
หนึ่งชั้น

จากนั้นไม่ นาน แท่ นบูชาโต๊ ะกลมได้ ถูกตัดขาดกับโลกภายนอก


โดยสมบูรณ์ ประหนึ่งด้ านในกลายเป็ นมิติโลกวิญญาณโดยแท้ จริง

ลุงนีลล์หยุดเดินและหันหน้ ากลับเข้ าหาโต๊ ะ มันหยิบขวด‘สาร


สกัดจันทร์ เต็มดวง’ขึน้ มาเปิ ดผา ก่อนจะบรรจงหยดลงบนเทียน
ไขทั้งสามเล่มเรียงกันตามลาดับ
ซู่ว!

ควันบางๆ ลอยขึน้ ไปในอากาศ ราวกับกลิ่นอายความเร้ นลับแผ่


กระจายทั่วมิติกาแพงใส ชายชราวางขวดลง สายตาชาเลืองมอง
กระดาษหนังเทียมอย่ างเงียบงันนานกว่ าสองนาที

ก่อนจะหยิบปากกาขนนกขึน้ มาเขียนคาว่ า‘ควบคุม’ลงบน


ภาพเหมือนธนบัตรสี่ เหลี่ยม เพื่อเป็ นสั ญลักษณ์ ว่าตนสามารถ
‘ควบคุม’เงินจานวนนีไ้ ด้

ถัดมาเป็ นการวาด‘กางเขน’ทับลงไป เพื่อเป็ นสั ญลักษณ์ ของการ


‘ยกเลิก’

มาถึงจุดนี้ ชายชราก้มหยิบกระดาษหนังเทียมขึน้ มาถือด้ วยมือ


ซ้ าย ปลายนิว้ ชิ้วมือขางสั มผัสหว่ างคิว้ สองครั้งเป็ นการเข้ าสู่ ภาวะ
เนตรวิญญาณ

บรรยายภายในห้ วงมิติกาแพงใสคล้ายอัดแน่ นด้ วยพลังวิญญาณ


มหาศาล ทันใดนั้น ลุงนีลล์ทาการท่ องคาถาด้ วยเสี ยงค่ อย

“ขอวิงวอนต่ อพลังรัตติกาล

“ขอวิงวอนต่ อพลังสี ชาด

“ขอวิงวอนต่ อความอาทรของเทพธิดา

“ขอวิงวอนให้ ตัวข้ าได้ รับเงินคืนเพื่อนาไปจ่ ายหนี้สิน!

“วานิลลาราตรีและพฤกษาแห่ งจันทร์ แดงเอ๋ ย… ได้ โปรดเป็ น


พลังแก่คาถาของข้ าด้ วย!”

“บุปผาจันทราและพฤกษาแห่ งจันทร์ แดงเอ๋ย… ได้ โปรดเป็ น


พลังแก่คาถาของข้ าด้ วย!”

ไคลน์ แต่ ได้ ยืนทึ่งกับภาพเหตุการณ์ สุดเหลวไหลเบื้องหน้ า ใน


หัวกาลังเกิดความคิดอันประหลาดหลากหลาย
ขอกันตรงๆ แบบนีก้ ็ได้ หรื อ?
ถึงจะกล่าวเป็ นภาษาเฮอร์ มิสก็เถอะ…

ไม่ ใช่ ว่าเทพธิดาจะพิโรธแล้วเพิม่ หนีส้ ิ นเป็ นสองเท่ าหรื อไง?

ทันใดนั้น แสงเทียนไขสว่ างวาบฉับพลัน

หลังจากสวดคาถาจบ ลุงนีลล์หลับตาเงียบงันราวสองนาที ก่อน


จะลืมตาขึน้ และหยดสารสกัดจันทร์ เต็มดวงลงไปในเทียนไขทั้ง
สามโดยเรียงลาดับ

กระดาษหนังเทียมในมือถูกยื่นไปยังเทียนไขธรรมดาซึ่งแทน
‘ตัวเรา’

เพียงไม่ นาน เปลวเพลิงร้ อนจากเทียนเริ่มลนกระดาษจนเกิดลุก


ไหม้ ลุงนีลล์รีบโยนกระดาษหนังเทียมลงหม้ อต้ มทันที

มันหลบตาลงอีกครั้ง ราวกับกาลังใช้ จิตสั มผัสถึงการมอดไหม้


ของกระดาษหนังเทียมในหม้ อ

เมื่อผ่ านไปสั กพัก ชายชราลืมตาและจ้ องมองเข้ าไปในหม้ อใหญ่


ที่สลักตราศักดิ์สิทธิ์แห่ งความืด

ภาพแรกทีเ่ ห็นคือซากกระดาษหนังเทียมซึ่งกลายเป็ นขีเ้ ถ้ าโดย


สมบูรณ์
“เทพธิดาจงเจริญ!”

ลุงนีลล์ทาสั ญลักษณ์ สี่จุดบริเวณหน้ าอก ก่อนจะดับเทียนไขทั้ง


สามเล่มโดยเรียงลาดับตรงข้ ามจากปรกติ

เมื่อพิธีเสร็จสิ้น มันบรรจงใช้ มีดเงินกรีดเฉื อนกาแพงที่มองไม่


เห็นจากบนลงล่าง

เพียงพริบตา สายลมเอื่อยอันอบอุ่นพลันพัดผ่ านไปทั่วบ้ าน


ลุงนีลล์หันมากล่าวกับชายหนุ่มด้ วยท่ าทีผ่อนคลาย

“เรียบร้ อย”

“เสร็จแล้ว?”

ไคลน์ ถาม นัยน์ ตาของมันสั่ นระริก

“หนีถ้ ูกสะสางแล้วหรื อ? ด้ วยวิธีไหน?”

“ฉันเองก็ไม่ ทราบ แต่ มั่นใจว่ าปัญหาคลี่คลายแล้ว… ในทางที่


สมเหตุสมผล”

ชายชรากล่าวพลางยิม้
ให้ ตายสิ … ไคลน์ องึ้ จนหมดคาพูด

มันจะได้ ผลจริงหรื อ?
ราชันย์ เร้ นลับ 52 : ผู้ชม

“เลิกพูดถึงไอ้หนีเ้ วรนั่นกันเถอะ พวกเรามาคุยเรื่ องพิธีกรรมเวท


มนตร์ ต่อดีกว่ า”

สี หน้ าลุงนีลล์เริ่มผ่ อนคลายขณะบรรจงเก็บเทียบไข หม้ อใหญ่


มีดเงิน และอุปกรณ์ สนับสนุนที่เหลือ

ไคลน์ ต้องการยักไหล่เบ้ ปากด้ วยสี หน้ าสุ ดเคลือบแคลง


เหมือนกับชาวอเมริกันในโลกเก่า แต่ มันก็ทาเช่ นนั้นไม่ ได้ เนื่องจาก
ขัดต่ อหลักธรรมเนียมมารยาทสุ ภาพบุรุษ

สมาธิกลับมาจดจ่ อกับพิธีกรรมอีกครั้ง คาถามที่เคยสงสั ยพรั่ง


พรูออกไปเป็ นระยะ เกือบทั้งหมดได้ รับคาตอบกลับมาจนกระจ่ าง

ยกตัวอย่ างเช่ น รูปแบบของคาถาที่เปล่งออกมาเสี ยดัง ไคลน์ นึก


สงสั ยว่ ามีการยืดหยุ่นเปลี่ยนแปลงได้ มากน้ อยเพียงใด

ลุงนีลล์ให้ ข้อสรุปว่ า คาถาต้ องท่ องเป็ นภาษาเฮอร์ มิสเท่ านั้น


ตราบใดที่‘คาสาคัญ’ยังอยู่ครบก็ไม่ เป็ นปัญหา ส่ วนที่เหลือสามารถ
เปลี่ยนแปลงได้ ตามความเหมาะสม แต่ ห้ามท้ าทายหรื อเย้ ยหยัน
อานาจเทพโดยเด็ดขาด
คาบเรียนวิชาพิธีกรรมเวทมนตร์ ดาเนินไปจนถึงช่ วงบ่ าย ก่อนที่
ลุงนีลล์จะกระแอ่มสองครั้งเป็ นสั ญญาณ

“พวกเราต้ องกลับถนนซุตแลนแล้ว”

ก่อนจะตามต่ อด้ วยเสี ยงบ่ น

“กว่ าจะรวบรวมวัตถุดิบบัดซบพวกนีค้ รบ ฉันยังไม่ ได้ ทานมื้อ


เช้ าแสนรักเลย”

ไคลน์ ขมวดคิว้

“มิสเตอร์ นีลล์ คุณไม่ มีพ่อครัวประจาตัวอย่ างนั้นหรื อ? รึอย่ าง


น้ อยก็สาวใช้ ที่สามารถจัดเตรียมอาหารได้ ?”

สาหรับค่ าแรงสิ บสองปอนด์ ต่อสั ปดาห์ อย่ างลุงนีลล์ สิ่ งอานวจ


ความสะดวกพื้นฐานเหล่านีไ้ ม่ ใช่ เรื่ องไกลเกินเอื้อม

จากที่ระบุไว้ ในหนังสื อพิมพ์ หากต้ องจัดหาที่พกั และอาหารให้


ด้ วย การจ้ างพ่อครัวส่ วนตัวจะต้ องจ่ ายค่ าแรงที่สัปดาห์ ละ 12 ถึง
15 ซูล ไม่ ถึงหนึ่งปอนด์ ด้วยซ้า

ด้ านสาวใช้ ส่วนตัวนั้นยิ่งถูกกว่ า ค่ าแรงรายสั ปดาห์ ของพวกเธอ


จะอยู่เพียง 3 ถึง 6 ซูล แต่ แน่ นอนว่ า ไม่ ใช่ สาวใช้ ทุกคนที่ปรุง
อาหารได้
เดี๋ยวก่อน… การที่ลุงนีลล์เป็ นหนีม้ ากถึงสามสิ บปอนด์ ก็ไม่ ใช่
เรื่ องแปลกที่เขาจะไม่ มีเงินจ้ างสาวใช้ หรื อพ่อครัว…

เราถามในสิ่ งที่ไม่ สมควรออกไปรึเปล่า?

ขณะไคลน์ เริ่มรู้สึกผิด ลุงนีลล์ยมิ้ ไม่ ถือสา มันเพียงส่ ายศีรษะ


เบาๆ

“ฉันทดลองพิธีกรรมเวทมนตร์ มากมายที่บ้าน รวมถึงมีวัตดุดิบ


พิเศษแปลกประหลาดในครอบครองนับไม่ ถ้วน จึงไม่ เคยจ้ างคน
ธรรมดามาเป็ นพ่อครัว คนรับใช้ หรื อสาวใช้ เลยสั กครั้ ง

“แต่ ก็จ้างผู้ที่ความรู้เกี่ยวกับศาสตร์ เร้ นลับเข้ ามาทาความสะอาด


บ้ างประปราย ลองนึกดูให้ ดี จะมีคนธรรมดาที่ไหนกล้าทาความ
สะอาดบ้ านที่เต็มไปด้ วยของวิเศษบ้ าง?”

“ขอโทษที่ดันถามเรื่ องโง่ ๆ ออกไป… ผมไม่ เคยประกอบ


พิธีกรรมเวทมนตร์ ที่บ้านมาก่อน ก็เลยลืมนึกถึงข้ อนี”้

ไคลน์ ตาหนิตัวเอง

ลุงนีลล์หยิบหมวกสั กหลาดปี กกว้ างออกมาสวม ก่อนจะเดินไป


ที่หน้ าประตูบ้านและพึมพา
“ฉันเริ่มได้ กลิ่นฟัวกราทอดแล้ว… หลังจากจัดการหนีส้ ิ น
สามสิ บปอนด์ เรียบร้ อย คงต้ องสั่ งมาทานให้ หายอยาก! ส่ วนมื้อ
เที่ยงต้ องเป็ นหมูย่างซอสแอปเปิ้ ล เท่ านั้นยังไม่ พอ ต้ องมีไส้ กรอก
ย่ างเสิ ร์ฟพร้ อมมันฝรั่งบด…”

แค่ ฟังตามยังท้ องร้ อง… ไคลน์ กลืนน้าลายอึกใหญ่ ก่อนจะ


เดินทางลุงนีลล์ออกไปติดๆ

บุรุษทั้งสองเดินมาถึงจุดหมายแรกคือป้ายรถม้ าสาธารณะ

เมื่อกลับถึงถนนซุตแลน ขณะลุงนีลล์ก้าวขาลงจากรถ มันพลัน


ร้ องเสี ยงหลงว่ า‘อ๊ะ!’

“ดูสิฉันพบอะไรเข้ า… ท่ านเทพธิดา! ดูสิฉันพบอะไรเข้ า?”

ลุงนีลล์ปราดเปรียวว่ องไวเพิม่ ขึน้ ฉับพลันราวกับเด็กลงเจ็ดถึง


แปดปี มันรีบพุ่งตัวไปยังริมถนนพร้ อมกับหยิบบางสิ่ งขึน้ มาจาก
พื้น

ไคลน์ เดินตามไปด้ วยสี หน้ าฉงน ก่อนจะเพ่งพิจารณาโดย


ละเอียดจนพบว่ า มันคือกระเป๋าสตางค์ ที่ถูกผลิตอย่ างปราณีต

จากประสบการณ์ ปัจจุบัน ไคลน์ มิอาจระบุได้ ว่ากระเป๋าสตางค์


ดังกล่าวทาจากหนังแกะหรื อหนังวัว แต่ ก็พอจะมองเห็นตราสั ญ
ลักษณะสี ฟ้าอ่อนสลักอยู่ เหนือตราสั ญลักษณ์ เป็ นรูปนกพิราบ
สยายปี ก
นั่นคือภาพความรู้สึกแรก ในวินาทีถัดมา สายตาชายหนุ่ม
ชาเลืองเห็นปึ กธนบัตรเป็ นฟ่ อนจนกระเป๋าสตางค์ บวมพอง

ทั้งหมดคือธนบัตรที่พมิ พ์ด้วยขอบหมึกทองอร่ าม …จานวนไม่


ต่ากว่ า20 ใบ!

ลุงนีลล์กระชากธนบัตรออกมานับอย่ างพิถีพถิ ันก่อนจะกล่าวคิก


คัก
“ธนบัตร 10 ปอนด์ ! พระบรมฉายาลักษณ์ ของผู้ก่อตั้ง
อาณาจักรโลเอ็น พระเจ้ าวิลเลียมที่หนึ่ง…

“ท่ านเทพธิดา! ทั้งหมดมี 30 ใบ! นอกจากนั้นยังมีธนบัตรห้ า


ปอนด์ หนึ่งปอนด์ และห้ าซูลอีกหลายใบ”

มากกว่ าสามร้ อยปอนด์ อย่ างนั้นหรื อ?

เป็ นเงินจานวนมากซึ่งไม่ น่าเชื่ อว่ าจะพกใส่ กระเป๋าสตางค์ และ


กล้าทาหล่น บางที ตนอาจออมเงินไม่ ได้ มากขนาดนีใ้ นระยะเวลา
สิ บปี

ลมหายใจไคลน์ เริ่มติดขัด
มูลค่ าของมันสู งเกินไป หากเป็ นโลกเก่า ค่ างินคงจะเทียบเท่ า
ธนบัตรปึ กฟ่ อนที่ยัดใส่ กระเป๋าเดินทางใบโต

“ถึงจะไม่ ร้ ูว่าใครทาตก… แต่ ต้องไม่ ใช่ บุคคลธรรมดาแน่ ”

ไคลน์ วิเคราะห์ อย่ างใจเย็น

และกระเป๋าสตางค์ ลักษณะแบบนี้ เจ้ าของไม่ น่าจะใช่ สุภาพสตรี

“เรื่ องที่ว่าใครเป็ นเจ้ าของนั้น… ไม่ ต้องคิดให้ ปวดหัว”


ลุงนีลล์กล่าวด้ วยรอยยิม้

“พวกเราจะไม่ ยึดเป็ นของตัวเอง สิ่ งที่ต้องทาคือยืนรอจนกว่ า


มิสเตอร์ คนดังกล่าวจะกลับมาตามหา จานวนเงินในนีส้ ู งมาก ฉัน
มั่นใจว่ าเจ้ าของต้ องวกกลับมายังจุดทาตกแน่ ”

ไคลน์ ถอนหายใจโล่ งอก มันเริ่มเข้ าใจธรรมชาติของชายที่


ชื่ อนีลล์ทีละนิด

ชายหนุ่มกลัวเหลือเกินว่ า ลุงนีลล์จะยึดเงินทั้งหมดเป็ นของ


ตัวเอง อ้างว่ า‘เทพธิดาประทานให้ ’ และนาธนบัตรเหล่านี้ไปใช้ หนี้
อย่ างหน้ าไม่ อาย

ไคลน์ เคยขบคิดเป็ นจริงเป็ นจังว่ าตนควรห้ ามหรื อโน้ มน้ าว


อย่ างไรให้ มิสเตอร์ นีลล์ไม่ กระทาเรื่ องชั่วช้ า
นี่น่ะหรื อ… ทาในสิ่ งที่อยากทา แต่ ต้องไม่ เดือดร้ อนใคร?

ชายหนุ่มเริ่มเข้ าใจความเป็ นไปของโลกผู้วิเศษและศาสตร์ เร้ น


ลับทีละนิด

หลังจากสองบุรุษยืนคอยในจุดเดิมได้ ไม่ ถึงนาที รถม้ าสุ ดหรูคัน


หนึ่งแล่ นเข้ าใกล้ความเร็วสู ง ด้ านข้ างห้ องโดยสารเป็ นตรา
สั ญลักษณ์ สีฟ้าอ่อน เหนือตราเป็ นรูปพิราบขาวสยายปี ก
เมื่อรถม้ าหยุดลง ชายวัยกลางคนสวมสู ทขาวดา โบว์ หูกระต่ ายสี
เข้ าชุดเปิ ดประตูห้องโดยสารและก้าวขาลงมา เมื่อสายตาเหลือบ
เห็นกระเป๋าสตางค์ ในมือลุงนีลล์ มันรีบถอดหมวกทักทายพร้ อม
กับกล่าว

“ท่ านสุ ภาพบุรุษทั้งสอง เกรงว่ ากระเป๋าสตางค์ ใบนั้นอาจเป็ น


ของเจ้ านายกระผม”

“ตราสั ญลักษณ์ คือเครื่ องพิสูจน์ เป็ นอย่ างดีแล้ว แต่ ขอโทษที่ต้อง


เสี ยมารยาท มันคือธรรมเนียมปฏิบัติตามปรกติ… ช่ วยยืนยันมา
ด้ วยว่ า ภายในกระเป๋าสตางค์ ใบนีม้ ีธนบัตรบรรจุอยู่เท่ าไร?”

“ในฐานะพ่อบ้ าน กระผมคงไม่ มีสิทธิ์รับรู้จานวนเงินของ


เจ้ านายได้ ต้ องขอเวลาสอบถามสั กครู่”
“เชิญตามสบาย”

ลุงนีลล์ผายมือ

พ่อบ้ านวัยกลางคนเดินกลับขึน้ รถม้ าไป เมื่อมองผ่ านกระตก


หน้ าต่ างจะเห็นบุรุษสองคนนั่งสนทนาด้ านใน

เพียงไม่ นาน พ่่อบ้ านคนเดิมเดินลงจากรถมาหาไคลน์ และ


ลุงนีลล์พร้ อมรอยยิม้
“มากกว่ าสามร้ อยปอนด์ แต่ ไม่ มากไปกว่ าสามร้ อยห้ าสิ บปอนด์
เจ้ านายของกระผมไม่ ทราบจานวนที่แน่ ชัด”

ไม่ ทราบจานวนแน่ ชัด…


คนรวยนี่มันรวยจริงๆ!

ถ้ าตนต้ องพกเงินมากขนาดนีอ้ อกจากบ้ าน คงต้ องนับซ้าเป็ น


สิ บๆ รอบเพื่อให้ แน่ ใจ ไคลน์ ถอนหายใจยาวด้ วยอารมณ์ ริษยา

ลุงนีลล์พยักหน้ าพลางยื่นกระเป๋าสตางค์ คืนให้ พ่อบ้ าน

“ท่ านเทพธิดาเป็ นประจักษ์ พยาน กระเป๋าสตางค์ ใบนีก้ ลับคืนสู่


มือเจ้ าของแล้ว”
หลังจากรับกระเป๋าสตางค์ พ่อบ้ านวัยกลางคนรีบนาธนบัตร
ออกมานับต่ อหน้ า เป็ นจานวนเงินรวมทั้งสิ้น 310 ปอนด์

“เจ้ านายกระผมมีนามว่ าเซอร์ เดอไวล์ ท่ านชื่ นชมในความ


ซื่ อสั ตย์ ของบุรุษทั้งสองมาก จึงขอมอบเงินตอบแทนเล็กน้ อยให้
เป็ นสิ นน้าใจ ได้ โปรดรับไว้ ด้วย”

เซอร์ เดอไวล์? ผู้ก่อตั้งบริษัทสิ นเชื่ อเดอไวล์คนนั้นน่ ะหรื อ? ที่


คอยสร้ างหอพักให้ บุคคลรายได้ น้อยเช่ าอาศัย

ไคลน์ ระลึกถึงบทสนทนาระหว่ างตนกับพีช่ าย เซอร์ เดอไวล์เป็ น


บุคคลที่เบ็นสั นให้ ความเคารพชื่ นชมมาก และมองว่ าคุณงามความ
ดีไม่ น่าอยู่เพียงแค่ ยศ‘เซอร์ ’ซึ่งเป็ นระดับชั้นอัศวิน

“ต้ องขอบคุณมาก เซอร์ เดอไวล์ช่างมีจิตใจกว้ างขวางดุจดังผืน


สมุทร”

ลุงนีลล์ไม่ มากพิธี มันรีบคว้ าธนบัตรจานวนสามใบที่พ่อบ้ านยื่น


ให้

หลังจากยืนมองจนกระทั่งรถม้ าเซอร์ เดอไวล์ลับสายตาไป เมื่อ


เหลียวซ้ ายแลขวาและไม่ พบใคร ชายชราหันมองไคลน์ พร้ อมโบก
สะบัดธนบัตรทั้งสาม

“หนีส้ ามสิ บปอนด์ สะสางเรียบร้ อย


“ฉันบอกไปแล้วว่ ามันจะถูกจัดการในลู่ทางที่สมเหตุสมผล

“นี่คือพลังของเวทมนตร์ ยังไงล่ะ”

…เวทมนตร์ บัดซบ!
สะดวกสบายเกินไปแล้ว!

ไคลน์ ตัดพ้อด้ วยสี หน้ าสุ ดทึ่ง

หลายนาทีถัดมา ขณะทั้งสองกาลังเดินขึน้ บันไดสานักงานรักษา


ความปลอดภัยหนามทมิฬ ไคลน์ พลันเกิดคาถาม

“มิสเตอร์ นีลล์ ทาไมคุณถึงไม่ เรียกร้ องเงินตอบแทนให้ มากกว่ า


นี?้ ”

“พวกเราไม่ ควรโลภมาก โดยเฉพาะเงินที่ได้ รับจากพิธีกรรมเวท


มนตร์ ยิ่งไม่ โลภจะยิ่งทาให้ ชีวิตยืนยาวขึน้ ”

ลุงนีลล์ตอบด้ วยสี หน้ าผ่ อนคลาน

ภายในห้ องเต้ นราขนาดใหญ่ ที่มีโคมเทียนระย้ ามากมายห้ อยลง


จากเพดาน เทียนไขจานวนนับไม่ ถ้วนกาลังเผาไหม้ พร้ อมกับส่ ง
กลิ่นหอมฟุ้ง แสงสว่ างจากเทียนไม่ ด้อยไปกว่ าการใช้ โคมไฟแก๊ส
เลยสั กนิด

บนโต๊ ะยาวที่ทาจากเงิน จานอาหารหลายใบวางเรียงรายท่ วมท้ น


ทั้งฟัวกราทอด สเต็กเนื้อ ไก่อบ ปลาลิน้ หมาทอด หอยนางรมอ่ าว
เดซี่ เนื้อแกะตุ๋น ซุปครีม และอาหารเลิศรสอีกมาก

แถมยังมีขวดแชมเปญหมอก ไวน์ เออร์ เมีย และไวน์ แดงนันวีลล์


ขวดแก้วส่ องสะท้ อนแสงเทียนวิบวับราวกับพยายามกระตุ้นต่ อม
รับรสของผู้ดื่ม
พนักงานกั๊กแดงเดินถือถาดที่มีแก้วไวน์ เปล่าวางเรียงจานวน
มาก มันบรรจงวางลงเบื้องหน้ าสุ ภาพบุรุษและสุ ภาพสตรีที่แต่ ง
กายหรูหราคนแล้วคนเล่า

ออเดรย์ สวมชุดเดรสเอวสู งสี ขาวซีด ชายกระโปรงบานยาว


ประดับริ้วลูกไม้ รอบตัว

เครื่ องแต่ งกายของเธอในวันนีป้ ระกอบด้ วยเสื้ อผ้ าหนาหลายชั้น


ชวนให้ อึดอัด

เสื้ อรัดลาตัวคอยกระชับอกเอวให้ เข้ ารูป ขณะเดียวกันก็ทาให้


หายใจลาบาก โครงสุ่ มกระโปรงบานพอเหมาะ ไม่ มากหรื อน้ อย
จนเกินไป
เส้ นผมสี ทองถูกดัดลอนช่ วงปลายแต่ พองาม เครื่ องประดับ
จาพวกตุ้มหู สร้ อยคอ แหวนเพชร ทั้งหมดสะท้ อนแสงเทียน
ระยิบระยับเข้ ากันกับชุดเป็ นอย่ างดี

ล่างสุ ดเป็ นรองเท้ าเต้ นราสี ขาวที่ประดับประดาด้ วยเพชรและ


กุหลาบแดง

“วันนีเ้ ราสวมเสื้ อผ้ ากี่ช้ ันกันนะ? สี่ ห้ า หรื อหก?”

ออเดรย์ ใช้ มือขวาที่สวมถุงมือตาข่ ายขาวสั มผัสชายกระโปรง


บานของตน มือซ้ ายถือแก้วไวน์ ซึ่งบรรจุแชมเปญหมอกสี ใส

ออเดรย์ ปฏิบัติตัวแตกต่ างจากสมัยอดีตโดยสิ้นเชิง เธอเคยชื่ น


ชอบที่จะโดดเด่ นและเป็ นจุดสนใจของทุกคน แต่ ปัจจุบันกลับเลือก
ปลีกตัวริมหน้ าต่ างด้ วยท่ าทางสุ ขุมสงบนิ่ง

หญิงสาวจิบแชมเปญพลางกวาดสายตามองฝูงชนราวกับเป็ น
เพียงผู้รับชม

บุตรชายคนเล็กของเอิร์ลวูล์ฟกาลังสนทนาอย่ างออกรสกับ
บุตรสาววิสเคาต์ คอนราด ชายคนนีม้ ีพฤติกรรมชอบขยับไม้ ขยับ
มือตามจังหวะพูด หืม… ยิ่งเหวี่ยงแขนกว้ าง คาพูดก็ยิ่งโอ้อวดเกิน
จริงสิ นะ เราสั งเกตุมาสั กพักจนเริ่มมั่นใจแล้ว… ชายคนนั้นมีนิสัย
ชอบกดคนอื่นให้ ต่าลงและยกตัวหางเองเสมอ เป็ นกริยาของบุคคล
ที่ขาดความมั่นใจ ภาษากายบ่ งบอกอุปนิสัยทั้งหมดอย่ างกระจ่ าง
ชัด…

มาดามไดล่ าใช้ มือซ้ ายปิ ดปากหัวเราะคิกคักหลายหนแล้วใน


วันนี้ หืม… เข้ าใจล่ะ เธอกาลังพยายามอวดไพลินสมุทรเม็ด
ใหม่ …

สามีของเธอ ดยุคนีแกน กาลังถกเครียดถึงสถานการณ์ ปัจจุบัน


ของอาณาจักรกับบุคคลระดับสู งของพรรคอนุรักษ์ นิยม นับตั้งแต่
เริ่มงานเลีย้ ง มีเพียงครั้งเดียวที่มันหันมาให้ ความสนใจกับดัชเชส
ไดล่า

แทบไม่ เคยสบตากันเลยก็ว่าได้ …

หรื อว่ า หืม… ความรักที่พวกมันแสดงออกเป็ นเพียงฉากหน้ า?

บารอนลาร์ ลี่ทาให้ มาดามพานิสอมยิม้ ไปแล้วเจ็ดครั้ง เป็ น


เหตุการณ์ ปรกติ ไม่ มีสิ่งใดน่ าประหลาดใจนัก แต่ เหตุใดเธอถึงจ้ อง
มองสามีตนเองด้ วยแววตาสานึกผิด?

อ๊ะ… เธอกับสามีแยกย้ ายกันไปหาเพื่อนแล้ว มีบางสิ่ งไม่


ถูกต้ อง… นั่นมันทางเดินไปสวนไม่ ใช่ หรื อ?


ในงานเลีย้ งสุ ดหรูหรา ออเดรย์ นั่งพิจารณารายละเอียดที่เธอไม่ มี
โอกาสได้ เห็นในอดีต

คล้ายกับกาลังรับชมละครโอเปร่ าก็มิปาน

“ทุกคนแสดงได้ เยี่ยมมาก…”

เด็กสาวผมทองถอนหายใจ สายตาเปี่ ยมด้ วยความเฉยชา

ทันใดนั้น ออเดรย์ สัมผัสถึงบางสิ่ งผิดปรกติ เธอรีบหันศีรษะ


มองไปยังมุมมืดด้ านนอกระเบียง

ณ จุดดังกล่าว สุ นัขโกลเดนรีทรีเวอร์ ตัวโตกาลังนั่งสงบนิ่ง


สายตาจ้ องมองออเดรย์ ไม่ กระพริบหรื อหันไปไหน ร่ างกายหลบ
ซ่ อนในเงามืดได้ แนบเนียนยากจนจะพบตัว

ซูซี่…

มุมปากเด็กสาวพลันกระตุกระริก สี หน้ าเริ่มรักษาความสุ ขุมไม่


อยู่

เพียงไม่ นาน ภาวะ‘ผู้ชม’ถูกยกเลิกด้ วยหัวใจที่เต้ นระรัวไม่ เป็ น


จังหวะ
ราชันย์ เร้ นลับ 53 : ผู้สดับ
ราชันย์ เร้ นลับ 53 : ผู้สดับ

เรื อไม้ โบราณสามเสากระโดงกาลังแล่นผ่ านผืนทะเลที่ถูกปก


คลุมด้ วยพายุสุดบ้ าคลั่ง

ตัวเรื อไม่ มีความเร็วสู งหรื อขนาดใหญ่ โต ท่ ามกลางสภาพอากาศ


โหดร้ ายคล้ายกับวันสิ้นโลก เรื อไม้ ที่ลักษณะบอบบางราวกับใบไม้
ปลิวลอยจากต้ นกาลังแล่ นผ่ านคลื่นสมุทรไปอย่ างเนิบนาบไร้ ภัย
อันตราย ไม่ มีสัญญาณการโยกเอนแม้ แต่ น้อย

อัลเจอร์ ·วิลสั นยืนตามลาพังบนดาดฟ้ าเรื อไม้ โบราณ สายตาจ้ อง


มองคลื่นยักษ์ ที่กาลังก่อตัวสู งคล้ายขุนเขา มันกาลังขบคิดในสิ่ งใด
คงไม่ มีใครทราบได้ นอกจากตัวมัน

“จะวันจันทร์ อีกแล้วสิ นะ…”

อัลเจอร์ พมึ พา

จันทร์ คือวันแห่ งพระแม่ ธรณี เป็ นจุดเริ่มต้ นข้ างขึน้ ข้ างแรม


ระลอกใหม่ ซึ่งส่ งผลต่ อการเดินเรื อ

ทว่ า สาหรับอัลเจอร์ ·วิลสั น วันจันทร์ ยังมีความสาคัญอีก


ประการหนึ่ง มันคือวันนัดหมายชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์บนมิติสายหมอก
อย่ างน้ อย เราก็ไม่ กลายเป็ นคนเสี ยสติ…

ขณะยืนมองท้ องทะเลด้ วยสายตาเหม่ อลอย ลูกเรื อที่มีเพียงน้ อย


นิดคนหนึ่งเดินเข้ ามาใกล้และพร้ อมกับไต่ ถามด้ วยน้าเสี ยงนอบ
น้ อม

“ท่ านบิชอป พวกเรากาลังมุ่งหน้ าไปที่ใดกันหรื อ?”

อัลเจอร์ กวาดสายตามองทะเลรอบตัวหนึ่งหน ก่อนจะกล่าวด้ วย


น้าเสี ยงสุ ขุม

“จับกุม‘ผู้สดับ’แห่ งชุมนุมแสงเหนือ”

พายุเริ่มสงบลง แทรกแทนที่ด้วยหมอกควันสี เทาเต็มบรรยากาศ


เรื อไม้ ประหลาดซึ่งไม่ เข้ ากับยุคสมัยลาหนึ่งแล่ นท่ องไปบนคลื่น
ราบเรียบ บนเรื อมีปืนใหญ่ เรียงรายหลายกระบอก

เด็กหนุ่มราวแปดเก้าขวบ ผมสี เหลืออ่อน สี หน้ าท่ าทางกาลัง


หวาดกลัว รอบตัวมันเต็มไปด้ วยกลุ่มโจรสลัดมากหน้ าหลายตา
บ้ างกาลังเมามายไปกับเบียร์ บ้ างกาลังเหวี่ยงเชื อกเล่นอย่ างไร้
จุดหมาย และบ้ างชกต่ อยกันเองด้ วยกาปั้นเปลือยเปล่า
เด็กน้ อยหันไปมองชายชุ ดคลุมดาที่กาลังยืนภายใต้ เงามืด มันไต่
ถามด้ วยเสี ยงค่ อย

“ท่ านพ่อ พวกเรากาลังจะไปไหนหรื อ?”

ห้ าวันก่อนคือวันแรกที่มันได้ พบบิดาบังเกิดเกล้า บิดาผู้เรียก


ตัวเองว่ านักผจญภัย

หากไม่ เพราะภาพวาดสี น้ามันที่มารดาเหลือทิง้ ไว้ หากไม่ เพราะ


สถานรับเลีย้ งเด็กจาเป็ นต้ องปล่อยตัวเพราะมีหลักฐานครบครัน
มันไม่ เคยมีความคิดที่จะไปจากเมืองเกิดแม้ แต่ น้อย อีกฝ่ ายที่เรียก
ตัวเองว่ า‘บิดา’นั้นมิได้ แตกต่ างอะไรจากคนแปลกหน้ า

ชายปริศนายังคงยืนในเงามืด มันเพียงพยักหน้ าหงึกหงักก่ อนจะ


กล่าวด้ วยน้าเสี ยงอบอุ่น

“แจ็ค พ่อจะพาลูกไปยังดินแดนแห่ งเทพ ที่นั่นมีอาศรม


ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพระผู้สร้ างเคยอาศัยอยู่”

“อาณาจักรเทพหรื อ? แต่ มนุษย์ ธรรมดาอย่ างเรามิอาจย่ างกราย


เข้ าอาณาจักรเทพได้ นอกเสี ยจากจะได้ รับความกรุณา…”

แจ็คตัวน้ อยถูกสอนสั่ งอย่ างดีจากผู้เป็ นมารดา มันมีความรู้ ติด


ตัวพอสมควร หลังจากได้ ยินคาบอกเล่าจากปากบิดา เด็กหนุ่มทั้ง
ประหลาดใจและหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน
บุรุษในเงามืดยังคงยืนที่จุดเดิม มันมีโครงสร้ างใบหน้ าลุ่มุ ลึก
ปาก จมูก โหนกแก้มนูนลึกเด่ นชัด เป็ นใบหน้ าที่พบได้ ไม่ บ่อยนัก
ยากจะลืมลงหากเคยเห็นไปแล้วครั้งหนึ่ง ราวกับเป็ นปฏิมากรรม
แกะสลักสุ ดปราณีตจากช่ างฝี มือ

ชายปริศนายกมือขึน้ ป้องหู มันขมวดคิว้ เล็กน้ อย สี หน้ าคล้ายกับ


กาลังตั้งใจฟังบางสิ่ ง

“แจ็ค ลูกเข้ าใจผิดแล้ว คาว่ ามนุษย์ ธรรมดานั้นไม่ ถูกต้ องสั ก


เท่ าไร พระผู้สร้ างได้ ให้ กาเกิดทุกสรรพสิ่ งบนโลก หมายความว่ า
มนุษย์ ทุกคนเกิดจากพระผู้สร้ าง และล้วนมีความเป็ นเทพอยู่ในตัว
เพียงแต่ มีมากน้ อยไม่ เท่ ากัน หากมีมากหน่ อยจะถูกยกระดับ
กลายเป็ นเทวทูตหรื อนางฟ้ า เจ็ดเทพจอมปลอมที่ผ้ คู นเคารพ
ศรัทธาเป็ นเพียงเทวทูตและนางฟ้ าที่ทรงพลังกว่ าผู้อื่นเพียง
เล็กน้ อย

“ดูอย่ างพ่อสิ พ่อได้ ยินคาสอนจากพระผู้สร้ างโดยตรง อา…! นี่


คือสาสน์ จากพระเจ้ า!

“ชีวิตมนุษย์ คือการเดินทางของวิญญาณ เมื่อวิญญาณเดินทาง


ไปยังที่ใหม่ และสั่ งสมประสบการณ์ จนแข็งแกร่ งขึน้ มนุษย์ ทุกคน
สามารถคนห้ าความเป็ นเทพในตัวพบ หรื อแม้ กระทั่งหลอมรวม
ความเป็ นเทพจากภายนอกเข้ ากับดวงวิญญาณ…”
แจ็คน้ อยมิอาจเข้ าใจประโยคซับซ้ อนที่แฝงปรัชญาของผู้เป็ น
บิดา มันทาเพียงส่ ายศีรษะ ก่อนจะเอ่ยปากไต่ ถามเรื่ องถัดไปที่เคย
พลาดโอกาสถามในครั้งก่อน

“ท่ านพ่อ ท่ านแม่ เคยเล่าให้ ฟังว่ า พระผู้สร้ างคือผู้ให้ กาเนิดโลก


ใบนี้ จากนั้นก็แบ่ งร่ างกายตนเองกระจัดกระจายออกเป็ นหลาย
ส่ วน พระผู้สร้ างมิได้ อาศัยอยู่บนโลกตั้งแต่ แรก ท่ านคือทั้งหมด
ของโลก แล้วเหตุใดท่ านพ่อถึงบอกว่ า มีอาศรมศักดิ์สิทธิ์ที่พระ
ผู้สร้ างเคยอาศัยอยู่?”

นับเป็ นตรรกะทีค่ มคายสาหรับเด็กวัยแปดถึงเก้าขวบ

ชายปริศนาผู้มีใบหน้ าคล้ายรูป้ันแกะสลักถึงกับผงะไปชั่วครู่ มัน


แสร้ งเบือนหน้ าหนีราวกับไม่ ได้ ยินคาถามจากเด็กน้ อย ทาทีเงี่ยหู
ฟังเสี ยงกระซิบที่ไม่ มีใครได้ ยิน

ทันใดนั้น มันทรุดคุกเข่ าลงกับพื้นดาดฟ้ าเรื อ ผิวหนังบางส่ วน


ถูกแสงแดดส่ องกระทบ เผยให้ เห็นวัตถุประหลาดสี ครามปนดาที่
ปกคลุมผิวหนังหลายจุด

มือทั้งสองกุมขยาเส้ นผมและหนังศีรษะรุนแรง ใบหน้ าบิดเบีย้ ว


เจ็บแปลบ ปากเปล่งเสี ยงตะโกนแหบพร่ า

“พวกมันโกหก!”

หลังเสร็จมื้อเที่ยง ลุงนีลล์ให้ สัญญาว่ า หากมีโอกาสได้ ไปคราว
หน้ า ตนจะพาไคลน์ ไปยังตลาดมืดค้ าของวิเศษด้ วยกัน

ชายหนุ่มมุ่งหน้ ากลับบริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ
ท่ าทีไม่ เร่ งร้ อน มันกาลังชั่งน้าหนักว่ าควรทาสิ่ งใดดี ระหว่ างนั่ง
อ่านเอกสารโบราณและทบทวนวิชาเร้ นลับ หรื อรีบออกไปสวม
บทบาทเป็ นนักทานายที่สโมสรพยากรณ์ ก่อนที่ดันน์ ·สมิทจะพบ
ตัวเข้ าและขัดขวางไม่ ให้ กระทา
ทว่ า ก่อนตัดสิ นใจได้ เด็ดขาด ดันน์ ·สมิทเดินเข้ ามาในสานักงาน
พอดิบพอดี มันสวมเสื้ อกันลมสี ดาตัวเก่งและหมวกทรงกึ่งสู ง
เหมือนทุกครั้ง

“หัวหน้ า มีความคืบหน้ าบ้ างไหม?”

ไคลน์ ไต่ ถามถึงความเป็ นไปของสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัส สี


หน้ าเจือความกังวลหลายส่ วน

ปราศจากท่ าทีอิโรยบนสี หน้ าของดันน์ มันชาเลืองนัยน์ ตาเทา


มองไคลน์ ก่อนจะตอบ

“พวกเรายืนยันได้ ว่า สมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสอยู่ในมือรี


เอล·บีเบอร์ อย่ างแน่ นอน เพียงแต่ เบาะแสทั้งหมดกลับขาดหายไป
กลางคันอย่ างน่ าฉงน
“ผมได้ แจ้ งเหยี่ยวราตรีทุกสาขาผ่ านโทรเลขไปแล้ว พวกเขาถูก
มอบหมายภารกิจให้ ตรวจตราท่ าเรื อและสถานีรถจักรไอน้า
เข้ มงวดเป็ นพิเศษ

“ภาพเหมือนของคนร้ ายถูกส่ งจดหมายไปในช่ วงบ่ ายของเมื่อ


วาน อีกไม่ นานคงถูกตีพมิ พ์ลงหนังสื อพิมพ์ใหญ่ หลายฉบับ”

ถ้ าโลกนีม้ ีโทรศัพท์ เครื่ องแฟ็ กซ์ กล้องวงจรปิ ด รวมถึง


ฐานข้ อมูลกลางก็คงจะดี…

น่ าเสี ยดาย ตนพอจะใช้ งานสิ่ งเหล่านั้นเป็ นบ้ างในระดับพื้นฐาน


แต่ กลับปราศจากความรู้ในการสร้ างโดยสิ้นเชิง…

ไคลน์ ถอนหายใจตาหนิตัวเอง

“แต่ อย่ างน้ อย พวกเราสามารถพูดได้ เต็มปากว่ าพบเบาะแสของ


สมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสแล้ว และทั้งหมดเป็ นผลงานสาคัญ
ของคุณ แต่ แน่ นอน ยังต้ องรอผลการสื บสวนเพิม่ เติมประกอบอีก
เล็กน้ อย

“จริงสิ … ผมส่ งโทรเลขร้ องขอของวิเศษต้ องห้ ามหมายเลข 2-


049 ไปยังมุขมณฑลเขตเบ็คลันด์ แล้ว มันเคยเป็ นของวิเศษ
อันตรายประจาตระกูลอันทีโกนัสมาก่อน สามารถช่ วยพวกเราระบุ
ได้ ว่า รีเอล·บีเบอร์ เป็ นหนึ่งในทายาทตระกูลอันทีโกนัสหรื อไม่ ”

ของวิเศษต้ องห้ ามระดับสอง…

อันตรายปานกลาง… ต้ องใช้ ด้วยความระมัดระวังพอสมควร

ไคลน์ นึกอยากถามถึงความสามารถพิเศษ และอันตรายที่ผ้ ใู ช้ พงึ


ระวัง แต่ ชายหนุ่มพลันนึกได้ ว่า ตนยังไม่ มี‘สิ ทธิ์’มากพอที่จะ
เข้ าถึงข้ อมูลลับของโบสถ์
“ขอให้ เทพธิดาอวยพรพวกเรา”

ไคลน์ ทาสั ญลักษณ์ สี่จุดที่หน้ าอก

ดันน์ ผลักประตูห้องทางานเข้ าไป ก่อนจะกล่าวพร้ อมกับพยัก


หน้ าเบาๆ

“เทพธิดาคอยปกป้องพวกเราเสมอ…

“ไคลน์ ถ้ าคุณไม่ เลือกโอสถนักทานายในคราวก่อน ด้ วยความดี


ความชอบครั้งล่าสุ ด คุณจะมีแต้ มสะสมมากพอสาหรับเลือกเดิน
บนเส้ นทางผู้ไร้ หลับ และกลายเป็ นเจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการเหยี่ยว
ราตรีเต็มตัว…
“เฮ่ อ… ด้ วยความสั ตย์ จริง ผมค่ อนข้ างเสี ยดายกับสิ่ งที่คุณเลือก
อย่ างน้ อยผู้เก็บซากศพ ถึงชื่ อจะไม่ น่าอภิรมย์ นัก แต่ คุณก็ได้ เห็น
พลังของดาลี่ย์ไปแล้ว ผู้สื่อวิญญาณมีประโยชน์ ที่หลากหลาย

“หรื ออย่ างน้ อยก็ผ้ สู ่ องความลับก็ไม่ เลว ลุงนีลล์จะคอยเป็ นที่


ปรึกษาและช่ วยลดโอกาสคลุ้มคลั่งให้ คุณได้ ”

เกี่ยวกับคาอธิบายที่มันเลือกนักทานาย ชายหนุ่มเตรียมคาตอบ
ไว้ นานแล้ว เพียงแต่ ไม่ มีโอกาสได้ ใช้ เพราะดันน์ ไม่ เคยไต่ ถาม

มันเรียบเรียงคาพูดก่อนตอบ

“แต่ ไหนแต่ ไร ผมมีตัวเลือกในใจแค่ สองข้ อเท่ านั้น คือผู้ส่อง


ความลับและนักทานาย สองเส้ นทางดังกล่าวเป็ นผู้วิเศษสาย
สนับสนุนที่ไม่ ต้องเผชิญศัตรูซึ่งหน้ า คุณก็ร้ ูว่าผมเป็ นพวกปอด
แหก…

“แต่ หัวหน้ ากับลุงนีลล์เคยกล่าวว่ า ศาสตร์ เร้ นลับ ยิ่งสงสั ยมากก็


ยิ่งอันตราย ผมจึงระแวงในเส้ นทาง‘ผู้ส่องความลับ’ ว่ าอาจส่ องพบ
สิ่ งที่ไม่ ควรเห็นเข้ า

“ดังนั้น ด้ วยนิสัยรักตัวกลัวตายของผม ตัวเลือกเดียวที่เหลืออยู่


จึงเป็ นนักทานาย คงเป็ นความขีข้ ลาดกระมัง ที่ดลบันดาลให้ ผม
เลือกเส้ นทางนี้”
“...ผมขอยอมรับว่ า คาอธิบายของคุณสมเหตุสมผลมากกว่ าที่
ผมจินตนาการไว้ ”

ดันน์ ฉีกยิม้ ขณะนวดคลึงขมับ

มันเบือนหน้ ามองไคลน์ เล็กน้ อย ก่อนจะใช้ นัยน์ ตาเทาสารวจหัว


จรดเท้ า

“ถึงเวลาขยายขอบเขตงานแล้ว คุณไม่ จาเป็ นต้ องตระเวนไปมา


ระหว่ างบ้ านเวิร์ชและถนนกางเขนเหล็กอีก เดินทางไปยังสถานที่
ใหม่ ๆ บ้ าง เผื่อว่ าจะเกิดเดจาวูและสั มผัสถึงสมุดบันทึกหรื อรีเอล·บี
เบอร์ ได้ ”

“ครับผม”

มันหมดภาระไปอีกหนึ่งเรื่ อง

ชายหนุ่มกล่าวคาอาลากับดันน์ ·สมิทและหันหลังกลับ ภายในใจ


กาลังนับถอยหลัง…

สาม สอง…

“เดี๋ยวก่อน”

ดันน์ ส่งเสี ยงตะโกน


ไคลน์ หันกลับไปยิม้ หวาน

“มีอะไรหรื อครับหัวหน้ า?”

ดันน์ กระแอมกลบเกลื่อน ก่อนจะอธิบาย

“เอ่อ… ผู้วิเศษสายสนับสนุนใช่ ว่าจะปราศจากภัยคุกคาม ต้ องมี


สั กวันที่ปัญหาวิ่งเข้ าใส่ อย่ างมิอาจหลีกเลี่ยง แม้ นักทานายจะมีพลัง
ที่ช่วยให้ หลบหลีกการปะทะซึ่งหน้ าได้ ดี แต่ การไม่ ประมาทคือสิ่ ง
ที่ดีที่สุด พยายามลับคมทักษะยิงปื นให้ มากเข้ าไว้ รวมถึงหมั่นเพิม่
พลังทางกายภาพด้ วยการออกกาลังกาย”

“กาลังทาอยู่ทุกวันครับ”

ไคลน์ ชี้นวิ้ ไปทางห้ องรับแขก

“ผมไปก่อนนะครับ”

“ตกลง… เอ่อ เดี๋ยวก่อน”

ดันน์ เบรกเป็ นหนที่สอง มันทาสี หน้ าครุ่นคิด

“อืม… บางที ผมควรจ้ างครูฝึกศิลปะป้องกันตัวให้ คุณ แต่ เรื่ องนี้


จะทาได้ ก็ต่อเมื่อคุณกลายเป็ นเจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการแล้ว”
ไคลน์ พยักหน้ ารับตามมารยาท จากนั้นก็หันไปถามอย่ าง
ระมัดระวัง

“มีอะไรอีกไหมครับหัวหน้ า?”

“ไม่ มีแล้ว”

เมื่อได้ เห็นนัยน์ ตาสุ ดเคลือบแคลงของอีกฝ่ าย ดันน์ ·สมิทรีบส่ าย


ศีรษะยืนยันหนักแน่ น
“ไม่ มีแล้วจริงๆ”

ไคลน์ เดินผ่ านฉากกันกลับมายังห้ องรับแขก มันกล่าวคาอาลากับ


โรแซนและมาดามโอเรียนน่ า ก่ อนจะมุ่งหน้ าไปยังสนามยิงปื นเพื่อ
ฝึ กซ้ อม

เมื่อซ้ อมเสร็จ ชายหนุ่มเดินทางไปยังสโมสรพยากรณ์ และได้


พบกับเจ้ าหน้ าที่ต้อนรับสาวสวยนามแอนเจลิก้าอีกครั้ง เธอกาลัง
ก้มหน้ าอ่านนิยตสารด้ วยท่ าทีผ่อนคลาย

“ครอบครัว…”

ไคลน์ อ่านออกเสี ยงในใจ ด้ วยไม้ คา้ ในมือซ้ าย มันเดินเข้ าไป


ทักทายหล่อนด้ วยรอยยิม้
“สายัณห์ สวัสดิ์ครับ มาดามแอนเจลิก้า”

“สายัณห์ สวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์ โมเร็ตติ”

โดยไม่ เร่ งร้ อน แอนเจลิก้าวางนิตยสารในมือลง เธอลุกยืนและ


กล่าว

“เมื่อวาน หลังจากคุณกลับไปได้ ไม่ นาน มิสเตอร์ กลาซิสมาที่นี่


เขาเพิง่ หายจากอาการป่ วยร้ ายแรง”

ไคลน์ ถอนหายใจโล่ งอกขณะยิม้

“เป็ นเรื่ องที่น่ายินดีมาก”

เมื่อได้ ยินเช่ นนั้น แอนเจลิก้าที่แอบสารวจชายหนุ่มหัวจรดเท้ า


ลดโทนเสี ยงลงและไต่ ถามด้ วยสี หน้ าสุ ดฉงน

“มิสเตอร์ กลาซิสกล่าวว่ า คุณคือที่หมอลึกลับมากๆ เป็ นความ


จริงรึเปล่าคะ?”

อะไรนะ?

สายตาไคลน์ จ้องมองสตรีเบื้องหน้ าไม่ กระพริบ สี หน้ าแฝงความ


ฉงน เป็ นนัยว่ ามันได้ ยินถ้ อยคาเมื่อครู่ผิดไปหรื อไม่
กลาซิสเห็นตนเป็ นหมอไปได้ อย่ างไร?

แม้ แต่ ตัวเรายังไม่ เคยคิดแบบนั้นมาก่อน…


ราชันย์ เร้ นลับ 54 : ลูกค้ าดูดวงคนแรก

เมื่อเห็นสี หน้ าประหลาดใจของไคลน์ แอนเจลิก้าเริ่มสั มผัสได้ ว่า


สิ่ งที่เธอเข้ าใจอาจยังไม่ ถกู ต้ อง

“ไม่ ใช่ หรื อคะ? มิสเตอร์ กลาซิสระบุว่า คุณสามารถบ่ งชี้ความ


ผิดปรกติเกี่ยวกับปอดของเขาอย่ างง่ ายดายเพียงสารวจด้ วยตา
เปล่า…”

เสี ยงเธอค่ อยลงจนกระทั่งเงียบไป

สารวจตาเปล่า? หว่ างคิว้ คลา้ น่ ะหรื อ?

ไคลน์ เข้ าใจสถานการณ์ ทันที มันกล่าวพลางอมยิม้

“มิสเตอร์ กลาซิสคงเข้ าใจผิดไป”

ขณะชายหนุ่มกาลังจะโกหกแอนเจลิก้าว่ านั่นเป็ นเพียงการเดา


สุ่ ม แต่ เมื่อฉุกคิดว่ าตนยังไม่ มีลูกค้ าดูดวงแม้ แต่ รายเดียว สมอง
ของมันเริ่มประมวลผลอย่ างหนัก

เพื่อให้ เป้าหมายสวมบทบาทเป็ นนักทานายบรรลุผล ไคลน์


ตัดสิ นใจโกหกคาโต
“ผมระบุได้ จากการทานายครับ”

“ทานาย? แต่ มิสเตอร์ กลาซิสบอกว่ าคุณแค่ สารวจด้ วยตาเปล่า


นั่นก็เป็ นการทานายหรื อคะ?”

แอนเจลิก้าไต่ ถามน้าเสี ยงฉงนปนทึ่ง

ไคลน์ อมยิม้ มันแจกแจง

“ในฐานะสมาชิกสโมสร คุณคงรู้จักศาสตร์ ดูดวงด้ วยลายมือใช่


ไหม?”

บนโลกเก่า ศาสตร์ ดูลายมือไม่ เพียงนิยมในอาณาจักรคลั่งอาหาร


แต่ อินเดียและทวียุโรปก็มีศาสตร์ ดูดวงที่คล้ายคลึงกัน ทว่ า ในโลก
ที่เต็มไปด้ วยผู้วิเศษ การทานายด้ วยลายมือไม่ ค่อยได้ รับความนิยม
มากนัก

“เคยได้ ยินค่ ะ แต่ คุณไม่ ได้ ดูลายมือเขา… หรื อว่ าแอบดูโดยไม่ ให้
อีกฝ่ ายรู้ตัว?”

แอนเจลิก้ายังคงแสดงสี หน้ าเคลือบแคลง

“ผมอ่านจากลักษณะใบหน้ าแทนครับ”
ไคลน์ โกหกอย่ างต่ อเนื่อง
“เป็ นศาสตร์ ที่มีพื้นฐานคล้ายคลึงการดูลายมือมาก”

“งั้นหรื อคะ?”

แอนเจลิก้ายังคงฉงน

เพื่อจะพัฒนาตัวเองบนเส้ นทางนักทานาย ไคลน์ ไม่ มีทางเลือก


มากนัก มันแสยะยิม้ พลางแสดงสี หน้ าครุ่นคิด ก่อนจะเลื่อนปลาย
นิว้ ขึน้ มาสั มผัสหว่ างคิว้ สองหน

เพียงแค่ จ้องมอง แสงออร่ าของแอนเจลิก้าก็บ่งบอกทุกสิ่ ง ช่ วง


ศีรษะสี ม่วง ช่ วงแขนขาสี แดงสด ช่ วงลาคอสี ฟ้าคราม…

ไม่ มีปัญหาด้ านสุ ขภาพ เว้ นแต่ บางจุดที่หมองกว่ าปรกตินิด


หน่ อย แต่ นั่นสามารถเกิดได้ จากภาวะเหนื่อยล้าตามปรกติ

ถัดมา ไคลน์ เพ่งมองไปยังสี ของอารมณ์ และได้ พบกับแสงส้ ม


ผสมกลมกลืนแดงและฟ้ า หมายถึงอบอุ่น ตื่นเต้ น และครุ่นคิด

ดีจัง… เมื่อตระหนักว่ าสตรีเบื้องหน้ ามีสุขภาพแข็งแรงและ


อารมณ์ ปรกติ ไคลน์ เตรียมจะออกจากเนตรวิญญาณ แต่ ทันใดนั้น
มันเหลือบเห็นความมืดอันเข้ มข้ นหลบซ่ อนอยู่ในส่ วนลึกสุ ดของสี
อารมณ์
แถมยัง… สี ขาวของอารมณ์ ยังจางกว่ าคนปรกติค่อนข้ างมาก
แสดงถึงการขาดแรงจูงใจเพื่อพัฒนาตัวเอง

ไคลน์ พลางฉีกยิม้ กว้ าง

“มิสเตอร์ โมเร็ตติ คุณกาลังอ่านสี หน้ าของดิฉันหรื อคะ?”

เมื่อเห็นสุ ภาพบุรุษหนุ่มในชุ ดดาเบื้องหน้ าเงียบงันและเอาแต่


จ้ องมอง แอนเจลิก้าเริ่มสั มผัสถึงความผิดปรกติ เธอไต่ ถามด้ วย
น้าเสี ยงสงสั ยเจือกังวล

ไคลน์ ไม่ ตอบกลับทันที ตรงกันข้ าม มันแอบสั มผัสหว่ างคิว้


ตนเองสองครั้งเบาๆ พร้ อมกับแสร้ งทาสี หน้ าใคร่ ครวญ

ขณะแอนเจลิก้าเริ่มกระสั บกระส่ าย ชายหนุ่มกล่าวด้ วยเสี ยง


อ่อนโยน

“มาดามแอนเจลิก้าครับ ในบางครั้ง ความเศร้ าและความ


เจ็บปวดไม่ ควรถูกเก็บงาไว้ ในใจนานเกินไป”

ทันใดนั้น นัยน์ ตาสาวงามพลันเบิกโพลงพร้ อมกับริมฝี ปากที่อ้า


กว้ าง แต่ เธอมิได้ กล่าวสิ่ งใดต่ อ

หล่อนเอาแต่ จ้องมองไคลน์ ที่สวมหมวกทรงกึ่งสู งและมี


บรรยากาศคล้ายนักวิชาการอย่ างไม่ กระพริบตา
เสี ยงอันลุ่มลึก อบอุ่น และเป็ นกันเองของชายหนุ่มดังแว่ วข้ างหู

“คุณควรไปออกกาลังกายบ้ างนะครับ ไม่ ว่าจะเป็ นการปี นเขา ตี


เทนนิส หรื อกิจกรรมอื่นที่เรียกเหงื่อ ในบางครั้ง ปล่อยให้ น้าตา
ไหลไปตามธรรมชาติโดยไม่ ฝืนหยุด ในบางครั้ง ลองปล่อยตัว
ปล่อยใจตะโกนให้ สุดเสี ยง พรั่งพรูอารมณ์ ที่สุมในอกออกไปให้
หมด

“แบบนั้นจะดีกับสุ ขภาพของคุณมากกว่ า”

เมื่อไคลน์ กล่าวจบ แอนเจลิก้าพลันตัวแข็งทื่อประหนึ่งรูปปั้น


ร่ างกายลุกยืนขึน้ เองโดยไม่ ร้ ูตัว

เธอพยายามกระพริบตาถี่ๆ พร้ อมกับก้มหน้ าครุ่นคิด ก่อนจะเงย


ขึน้ มากล่าวกับไคลน์

“ขอบคุณสาหรับคาแนะนาค่ ะ…”

“ดูเหมือนวันนีจ้ ะมีสมาชิกเยอะนะครับ”

ไคลน์ รีบเปลี่ยนบทสนทนา ราวกับไม่ เคยทานายสิ่ งใดให้ แอนเจ


ลิก้า ชายหนุ่มชาเลืองมองไปทางประตูห้องประชุมที่อยู่สุดทางเดิน
“บ่ ายวันอาทิตย์ … อย่ างน้ อยห้ าสิ บคน”
เสี ยงแอนเจลิก้าค่ อนข้ างแหบพร่ า เธอกล่าวสั้ นห้ วนโดยเน้ น
เพียงคาสาคัญ

หล่อนชะงักไปเล็กน้ อย ก่อนจะได้ สติกลับคืนประหนึ่งวิญญาณ


ประทับร่ าง

“จะรับกาแฟหรื อชาดีคะ?”

“ชาดาซิบป์ ”

ไคลน์ พยักหน้ าเบาๆ มันบรรจงถอดหมวกและเดินตรงไปตาม


ทาง

ในวินาทีที่ชายหนุ่มหายลับเข้ าไปในห้ องประชุม แอนเจลิก้าถอน


หายใจยาวอย่ างช้ าๆ

ห้ องประชุมของสโมสรพยาการณ์ มีขนาดค่ อนข้ างใหญ่ กว้ าง


กว่ าห้ องเรียนของไคลน์ สมัยมัธยมราวสองเท่ าเห็นจะได้

ในคราวก่อน มีสมาชิกเพียงห้ าถึงหกคนที่นั่งเรียนด้ านใน ส่ งผล


ให้ ให้ ดูโหวงเหวงพิกล แต่ มาวันนี้ หมอดูหลายสิ บกาลังนั่งกระจัด
กระจายไปตามจุด ทุกคนช่ วยเติมเต็มห้ องประชุมกว้ างขวางให้
สมบูรณ์

แสงแดดส่ องเข้ ามาด้ านในผ่ านมุขหน้ าต่ างสองสามบานริมผนัง


สมาชิกส่ วนใหญ่ หากไม่ สนทนาเสี ยงค่ อยด้ วยกันเองก็จะตั้ง
คาถามแก่เฮเนส·วินเซนต์ ผ้ รู ับหน้ าที่บรรยาย บางส่ วนนั่งทบทวน
บทเรียนตามลาพังและฝึ กฝนศาสตร์ ทานาย บางส่ วนนั่งดื่มชา
กาแฟไปพร้ อมอ่านหนังสื อพิมพ์โดยไม่ รบกวนผู้ใด

ฉากเบื้องหน้ าทาให้ ไคลน์ หวนนึกถึงช่ วงเวลาสมัยเรียนบนโลก


เก่า จุดที่แตกต่ างคือเสี ยงเอะอะโวยวายซึ่งดังมากกว่ า มิได้ เงียบ
สงบและเปี่ ยมด้ วยบรรยากาศผู้ดีเหมือนกับห้ องประชุมแห่ งนี้

ชายหนุ่มกวาดสายตามองรอบ แต่ ก็ไม่ พบใบหน้ าที่ค้ นุ เคยอย่ าง


เอ็ดเวิร์ดหรื อกลาซิส ด้ วยเหตุนี้ มันเดินไปหยิบหนังสื อทานายบน
ชั้นวางด้ วยท่ าทางไม่ รีบร้ อน หามุมสงบนั่งลง ก่อนจะใช้ มือพลิก
หน้ ากระดาษเปิ ดอ่านอย่ างผ่ อนคลาย

เพียงไม่ นาน แอนเจลิก้าเดินถือถ้ วยชาเข้ ามาและวางลงบนโต๊ ะ


ตรงหน้ า

ขณะหล่อนกาลังรีบเดินกลับ เธอเหลือบเห็นมิสเตอร์ โมเร็ตติ


ปลดโซ่ เงินแววาวออกจากข้ อมือซ้ าย สุ ดปลายโซ่ มีบุษราคัมแท้ สี
เหลืองทองห้ อยอยู่
เขาคิดจะทาอะไร?
แอนเจลิก้าลดฝี เท้ าลงและชาเลืองมองการกระทาไคลน์ ด้วยใจจอ
จ่ อ

ชายหนุ่มถือโซ่ เงินด้ วยมือซ้ ายและปล่อยให้ ปลายบุษราคัมลอย


เหนือถ้ วยชาชิบป์ อีกนิดเดียวก็จะสั มผัสกับของเหลวด้ านล่ าง

ด้ วยสี หน้ าเคร่ งขรึม ไคลน์ หรี่ตาลงและเปลี่ยนบรรยากาศ


รอบตัวให้ เงียบงัน
บุษราคัมเริ่มขยับเบาๆ ไปพร้ อมกับโซ่ เงินในทิศทางทวนเข็ม
นาฬิ กา

เมื่อเห็นเช่ นนี้ แอนเจลิก้าพบว่ ามิสเตอร์ โมเร็ตติช่างลึกลับ


ซับซ้ อนและเต็มไปด้ วยปริศนา

“ชาดาที่คุณชงมีคุณภาพดีมาก”

ไคลน์ กล่าวเสี ยงเบาหลังจากลืมตาขึน้ และอมยิม้ …มันจงใจให้


แอนเจลิก้าเห็นพฤติกรรมเมื่อครู่ท้งั หมด!

หากต้ องการได้ ลูกค้ าดูดวง การแนะนาจากปากแอนเจลิก้าคือสิ่ ง


สาคัญยิ่งยวด!
ในมือต้ องการสวมบทบาทเป็ นนักทานาย ไคลน์ จาเป็ นต้ องงัด
ลูกไม้ ท้งั หมดออกมาใช้ โดยเฉพาะการแสดงให้ อีกฝ่ ายประจักษ์

“ใช่ ค่ะ มิสเตอร์ เฮเนสมักจู้จเี้ รื่ องคุณภาพชาเสมอ”

แอนเจลิก้ากล่าว สี หน้ ายังคงเจือความทึ่ง

ไคลน์ พนั ลูกตุ้มวิญญาณกลับเข้ าที่เดิมรอบข้ อมือ ถัดมาเป็ นการ


ชูถ้วยชาที่มีลวดลายดอกไม้ ขึน้ มันแสยะยิม้ อย่ างมีเลศนัย ก่อนจะ
หันไปมองแอนเจลิก้าและขยิบตาแสดงมารยาบุรุษ

แอนเจลิก้าเดินกลับมานั่งประจาตาแหน่ งในห้ องรับแขก แต่ เธอ


ไม่ มีอารมณ์ จะอ่านนิตยสารอีก หล่อนนั่งเหม่ ออยู่เช่ นนั้น มอง
ออกไปยังจุดห่ างไกล ไม่ มีใครทราบได้ ว่ากาลังคิดสิ่ งใด

เป็ นอยู่นานจนกระทั่งใครบางคนออกแรงเคาะบานประตูไม้
แอนเจลิก้าได้ สติกลับมาและรีบมองไปยังทางเข้ า ภาพที่เห็นคือ
สุ ภาพสตรีเลอโฉมในเดรสสี ฟ้าอ่อน

หญิงสาวปริศนาถอดหมวกที่ติดกับผ้ าคลุมข่ ายออก สี หน้ าของ


เธอสงบนิ่งแต่ เจือความเศร้ าโศกไว้ หลายส่ วน

“สายันห์ สวัสดิ์ค่ะ คุณสุ ภาพสตรี ต้ องการจะเข้ าร่ วมสโมสร


พยากรณ์ หรื อต้ องการดูดวงคะ?”
แอนเจลิก้าไต่ ถามชัดถ้ อยชัดคา

“ดูดวงค่ ะ”

สตรีปริศนามีคู่นัยน์ ตาที่งดงามแต่ อัดแน่ นด้ วยความเศร้ า เธอ


กัดริมฝี ปากเล็กน้ อยขณะตอบ

แอนเจลิก้าส่ งภาษากายให้ หล่อนนั่งลงบนโซฟ้ าพร้ อมกับอธิบาย


ขั้นตอนการดูดวงของสโมสรพยากรณ์ โดยละเอียด

เธอหยิบอัลบัมรูปภาพขึน้ มาวางและเปิ ดกางออก

“เลือกใครก็ได้ ค่ะ”

ด้ วยท่ าทีท้อแท้ สตรีเดรสฟ้ าใช้ มือบรรจงพลิกหน้ าอัลบัมพลาง


มองสารวจ แต่ วันนีเ้ ป็ นวันอาทิตย์ ซึ่งมีจานวนสมาชิกค่ อนข้ างมาก
ตัวเลือกของหมอดูจึงมหาศาล ส่ งผลให้ เธอออกอาการไม่ พอใจ

“ช่ วยแนะนาให้ หน่ อยได้ ไหม? จากบรรดาหน้ าเหล่านี้”

เธอชี้ไปยังหน้ าบริเวณกึ่งกลางอัลบัม ซึ่งหมายถึงหมอดูที่คิด


ค่ าบริการในช่ วงกลาง คือแพงกว่ าสี่ เพนนี แต่ ถูกกว่ าสองซูล
แอนเจลิก้าหยิบสมุดอัลบัมกลับไปและกวาดสายตามองราวสอง
สามนาที ก่อนจะเรียบเรียงคาตอบ

“ฉันขอแนะนาสุ ภาพบุรุษท่ านนี”้

สตรีเดรสฟ้ าสี หน้ าเศร้ าสร้ อยชาเลืองสายตามองปลายนิว้ แอนเจ


ลิก้า หล่อนได้ พบหมอดูที่มีชื่อว่ า ‘ไคลน์ ·โมเร็ตติ’

“มิสเตอร์ โมเร็ตติเพิง่ เข้ าสโมสร… ผลการทานายจะเชื่ อได้ จริง


หรื อ?”
เธอถามสี หน้ ากังวล

แอนเจลิก้ารีบผงกศีรษะหนักแน่ น

“สมาชิกท่ านอื่นและตัวดิฉันเองได้ เห็นพ้องต้ องกันว่ า มิสเตอร์


โมเร็ตติเป็ นหมอดูที่เก่งกาจ หากไม่ เพราะเพิง่ เข้ าร่ วมสโมสร
ค่ าบริการของเขาคงไม่ มีทางถูกขนาดนีแ้ น่ ”

“เข้ าใจแล้วค่ ะ”

สตรีหน้ าเศร้ าผงกศีรษะ

“เลือกมิสเตอร์ โมเร็ตติค่ะ”
“กรุณารอสั กครู่นะคะ”
แอนเจลิก้าเก็บอัลบัมและเดินไปที่ห้องประชุมใหญ่

เธอเข้ าไปหาไคลน์ พลางกล่าวด้ วยเสี ยงกระซิบกระซาบ

“มิสเตอร์ โมเร็ตติ มีลูกค้ าต้ องการใช้ บริการดูดวงค่ ะ คุณจะใช้


ห้ องไหน?”

ได้ ผลทันตาเห็น…
‘ธรุกิจ’แรกของตนมาถึงจนได้ สินะ ไคลน์ วางถ้ วยชาลงและพยัก
หน้ าอย่ างสุ ขุม

“ห้ องบุษราคัม”

“ค่ ะ”

แอนเจลิก้าเดินนาไคลน์ ไปยังห้ องบุษราคัมก่อนจะเปิ ดประตูออก

ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอีฝ้ ั่งตรงข้ ามกับประตู บนโต๊ ะมีอุปกรณ์


สาหรับดูดวงหลายชนิดวางเรียงราย หลังจากรอไม่ ถึงนาที สตรีใน
เดรสฟ้ าอ่อนเดินเข้ าห้ องมาด้ วยสี หน้ าหดหู่และเศร้ าหมอง

ฉวยโอกาสที่หล่อนกาลังปิ ดประตู ชายหนุ่มรีบแตะหว่ างคิว้ สอง


ครั้ง
สี เหลืองที่ช่องท้ องหม่ นหมองไปสั กหน่ อย… สี ห้วงอารมณ์ มี
ความมืดเจือปนในปริมาณมาก หลักๆ จะเป็ นความกังวลและ
กระสั บกระส่ าย ไคลน์ พจิ ารณาครู่หนึ่งก่อนจะเอนหลังพิงเบาะ มัน
แอบเลื่อนมือขึน้ แตะหว่ างคิว้ เพื่อออกจากภาวะเนตรวิญญาณ

“สวัสดีค่ะ มิสเตอร์ โมเร็ตติ”

สตรีเดรสฟ้ าอ่อนนั่งลงบนเก้าอีฝ้ ั่งตรงข้ าม


“สายัณห์ สวัสดิ์ครับ ผมควรเรียกคุณว่ าอย่ างไรดี?”

ไคลน์ ไต่ ถามตามมารยาท มิได้ หวังคาตอบสั กเท่ าไร

ในฐานะนักรบคีย์บอร์ ด มันทราบดีกว่ าผู้คนจานวนมากไม่


ต้ องการใช้ ชื่อจริงสาหรับดูดวง

“เรียกแอนนาก็ได้ ค่ะ”

แอนนาถอดหมวกที่ติดกับตาข่ ายวางลงบนตัก เธอจ้ องมอง


ไคลน์ ด้วยสี หน้ าคาดหวังผสมเคลือบแคลง ก่อนจะกล่าว

“ดิฉันต้ องการทานายเกี่ยวกับสถานการณ์ ของคู่หมั้นที่เดินทาง


ไปยังทวีปใต้ ในเดือนมีนาคมเพื่อเจรจาธุรกิจ เขาส่ งโทรเลขหา
ครอบครัวและฉันครั้งสุ ดท้ ายเมื่อวันที่สามของเดือนก่อน ใจความ
ระบุว่ากาลังจะโดยสารเรื อกลับ แต่ ก็ไร้ วี่แววหลังจากผ่ านไปยี่สิบ
วัน

“ในตอนแรก ดิฉันเชื่ อว่ าการเดินทางอาจล่ าช้ าเพราะสภาพ


อากาศอันเลวร้ ายของ‘ทะเลคลั่ง’ แต่ จวบจนปัจจุบัน เวลาได้ ล่วง
ผ่ านมานานกว่ าหนึ่งเดือน เรื อโดยสารที่เขานั่งกลับ อัลฟัลฟ่ า ก็ยัง
ไม่ จอดเทียบท่ าเรื อเอ็นมาร์ ทสั กที”

มหาสมุทรที่ก้นั แบ่ งทวีปเหนือและใต้ ออกจากกันมีชื่อว่ า‘ทะเล


คลั่ง’ ขึน้ ชื่ อด้ านความโหดร้ ายของสภาพอากาศและกระแสน้าเชี่ยว
กราก หากไม่ เพราะจักรพรรดิโรซายริเริ่มส่ งคนออกค้ นหาเส้ นทาง
เดินเรื อที่ปลอดภัย อาณาจักรทวีปเหนือและทวีปใต้ กค็ งยังไม่ เข้ าสู่
ยุคล่าอาณานิคมเฉกเช่ นปัจจุบัน อย่ าว่ าแต่ เทคโนโลยีส่งโทรเลข
ข้ ามทวีปเลย

ไคลน์ จ้องมองลูกค้ าคนแรกในอาชีพนักทานายของตนครู่หนึ่ง


ก่อนจะไต่ ถาม

“คุณต้ องการให้ ผมทานายด้ วยวิธีใด?”


ราชันย์ เร้ นลับ 55 : นิมิต

แอนนาผู้มาพร้ อมนัยน์ ตาทรงเสน่ ห์ชวนให้ หลงไหล เธอลังเล


นานหลายวินาทีก่อนจะเริ่มเปิ ดปาก

“อะไรก็ได้ ที่มีผลลัพธ์ แม่ นยาที่สุด คุณเป็ นหมอดู ไม่ ใช่ ฉัน ไม่
ใกล้เคียงเลยสั กนิด ถึงจะเคยศึกษาไพ่ จาพวกทาโร่ ต์มาบ้ าง แต่ ใน
สายตาฉัน นั่นเป็ นเพียงเกมฆ่ าเวลา”

ไคลน์ ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ข้ อมือทั้งสองกาลังเท้ ากับขอบโต๊ ะ สิ บ


ปลายนิว้ ประสานกันและชี้ขนึ้ ด้ านบน แววตาชายหนุ่มสุ ขุมลุ่มลึก
ขณะกล่าว

“ถ้ าอย่ างนั้น พวกเรามาทานายแบบโหราศาสตร์ กันดีกว่ า”

ชายหนุ่มชี้ไปยังปากกาหมึกซึมและกองกระดาษขาว

“เขียนชื่ อคู่หมั้นคุณลงไปพร้ อมกับอธิบายรูปลักษณ์ ใบหน้ า


อย่ างคร่ าว รวมถึงที่อยู่และวันเกิด ถ้ ามีเวลาเกิดด้ วยจะดีมาก”

เมื่อประเมินจากเสื้ อผ้ า เครื่ องประทินผิว กริยามารยาท ไคลน์ ไม่


เชื่ อว่ าหล่อนจะอ่านเขียนไม่ ได้
แอนนาไม่ กล่าวสิ่ งใด เธอเหยียดแขนออกไปคว้ าปากกาหมึกซึม
และหยิบจุ่มลงในขวดหมึก ก่อนจะนามากรอกข้ อมูลใส่ กระดาษ
หญิงสาวแสดงสี หน้ าครุ่นคิดเป็ นระยะสลับกับการก้มหน้ าเขียน

สองนาทีถัดมา เธอวางปากกาลงและเลื่อนกระดาษขาวไปหา
ไคลน์

ชายหนุ่มรับกระดาษและหมุนกลับหัวเพื่ออ่าน เนื้อความด้ านใน


เขียนไว้ ว่า

“จอยซ์ ·ไมเยอร์ เกิดสิ บห้ ากันยายน 1323 เวลาบ่ ายสองตรง


อาศัยอยู่ที่เมืองทิงเก็นเขตเหนื อ บ้ านเลขที่ 8 ถนนสตีเฟ่ น ผมสั้ นสี
ทอง จมูกปลายงุ้ม…”

เพียงกวาดสายตามอง ไคลน์ รีบคานวณตัวเลขมงคลคร่ าวๆ จาก


ข้ อมูลที่ได้ รับ

1+5=6

ในการศึกษาศาสตร์ เลขมงคลนั้น เลขชะตาวันเกิดจะส่ งผลตั้งแต่


แรกเกิดจนถึงอายุ 27 ปี ส่ วนเลขชะตาเดือนเกิดจะส่ งผลตั้งแต่ 27
ถึง 54 ปี (คานวณโดยการเพิม่ เลขเดือนเกิดเข้ าไป) และเลขชะตาปี
เกิดจะส่ งผลตั้งแต่ 54 ปี ขึน้ ไป (คานวณโดยการเพิม่ เลขปี เกิดเข้ าไป
)
เดือนปัจจุบันคือกรกฏาคมปี 1349 หมายความว่ าจอยซ์ ยังมีอายุ
ไม่ ครบ 27 ปี บริบูรณ์ ไคลน์ คานวณเฉพาะเลขชะตาวันเกิดก็
เพียงพอแล้ว

เลข 6 หมายถึงความสมดุล ชีวิตลื่นไหล จิตใจเอื้อเฟื้ อเผื่อแผ่


และชีวิตคู่หรื อการหมั้นหมายที่ดี

ถัดมา ไคลน์ คานวณเลขชะตาปี ปัจจุบัน

เลขชะตาปี ปัจจุบันจะคานวณโดยการเปลี่ยนปี เกิดเป็ นปี ปัจจุบัน


หลักหน่ วยถูกบวกด้ วยเลขชะตาวันเกิดและเลขชะตาปี เกิด

เลขชะตาปี ปัจจุบันสามารถใช้ ระบุความเป็ นไปคร่ าวๆ ในปี นั้นๆ


ได้

1+3+4+9=17 ; 1+7=8

8+9(เลขชะตาเดือนเกิด)=17
17+6(เลขชะตาวันเกิด)=23
2+3=5

เลขชะตาปี ปัจจุบันของจอยซ์ คือ 5

หมายถึงการเปลี่ยนแปลง อุบัติเหตุ และการเผชิญความเสี่ ยง…


ไคลน์ บรรจงถอดรหัสตัวเลขทั้งหมดในหัวสมอง ข้ อมูลที่ได้ รับ
สอดคล้องกับสิ่ งที่แอนนาอธิบาย เมื่อได้ ข้อสรุป ชายหนุ่มละ
สายตาจากแผ่ นกระดาษและเงยขึน้ มองหล่อน

“มิสเตอร์ ไมเยอร์ นั่งเรื อขากลับในวันที่สามมิถุนายนใช่ ไหม


ครับ?”

“ถ้ าเขาไม่ โกหก ก็ต้องเป็ นเช่ นนั้นค่ ะ”

แอนนากัดริมฝี ปาก
“เข้ าใจแล้วครับ”

ไคลน์ หยิบปากกาหมึกซึมพลางก้มหน้ าขีดเขียนบางสิ่ ง ก่อจะ


เงยขึน้ มาอีกครั้งพร้ อมกับใช้ นัยน์ ตาสี น้าตาลเข้ มจ้ องมองแอนนา

“ผมกาลังจะประกอบพิธีทางโหราศาสตร์ ไม่ ต้องการถูกใคร


รบกวน คุณช่ วยออกไปรอด้ านนอกได้ ไหมครับ? มาดามแอนจิลิก้า
สามารถเตรียมชาหรื อกาแฟให้ ได้ ”

“เข้ าใจแล้วค่ ะ”

แอนนาทราบดีว่าหมอดูบางคนปกปิ ดเทคนิคทานายไว้ เป็ น


ความลับ นี่ไม่ ใช่ สิ่งแปลกใหม่ เธอหยิบหมวกสี ฟ้าอ่อนจากตัก
ขึน้ มาสวม ก่อนจะลุกยืนและเดินออกจากห้ องบุษราคัมไปอย่ าง
เงียบงัน
ไคลน์ ล็อคประตูห้องและกลับมานั่งที่โต๊ ะตัวเดิม มันปฏิบัติตาม
ขั้นตอนทานายด้ วยโหราศาสตร์ โดยละเอียด เริ่มจากตั้งค่ าอุปกรณ์
คานวณดาราศาสตร์ จัดเรียงตาแหน่ งดาวเคราะห์ และดาวฤกษ์ ให้
ถูกต้ อง

กระบวนการทั้งหมดสาเร็จเสร็จสิ้นได้ โดยไม่ ต้องเปิ ดคู่มืออ่าน


ความทรงจาของไคลน์ ยอดเยี่ยมถึงเพียงนั้น

ตลอดหลายวันที่ผ่านมา การเรียนกับนีลล์ทาให้ ได้ ทราบว่ า ตัว


มันสามารถเข้ าใจบทเรียนศาสตร์ ทานายทุกชนิดได้ รวดเร็วกว่ า
ผู้วิเศษเส้ นทางอื่น แถมยังแปลงความรู้เหล่านั้นให้ กลายเป็ น
สั ญชาตญาณติดตัวได้ รวดเร็ว

คงเป็ นผลจากพลังนักทานาย…

เมื่อตั้งเครื่ องคานวณดาราศาสตร์ เสร็จสรรพ ชายหนุ่มแสดงสี


หน้ าพึงพอใจ ร่ างกายเริ่มผ่ อนคลาย จิตใจและวิญญาณเข้ าสู่ ภาวะ
สงบนิ่งอย่ างน่ าประหลาด

เพียงไม่ นาน ผลลัพธ์ การคานวณจากเครื่ องก็ออกมาเป็ นลักษณะ


แผนภาพเชิงเส้ น

หลังจากอ่านผลสรุปโดยละเอียด ไคลน์ นาข้ อมูลดังกล่าวไป


คานวณกับระยะห่ างของดาวแต่ ละดวง จนกระทั่งเริ่มมั่นใจว่ า
จอยซ์ ·ไมเยอร์ ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงเข้ าจริง แต่ ท้ายที่สุดก็รอด
ชีวิตกลับมาได้

มาถึงจุดนี้ การทานายตามปรกติเสร็จสิ้นแล้ว แต่ ไคลน์ ต้องการ


สร้ างความประทับใจให้ ลูกค้ าคนแรกที่เลือกตน และยังหวังจะ
สร้ างคาบอกเล่าแบบปากต่ อปาก เพื่อให้ การงานในอนาคตรุ่งเรื อง

ชายหนุ่มหยิบปากกาขึน้ มาเขียนข้ อความเป็ นภาษาเฮอร์ มิสว่ า


‘สถานการณ์ ปัจจุบันของจอยซ์ ·ไมเยอร์ ’ ไคลน์ อ่านข้ อความในใจ
พร้ อมกับพยายามจดจาภาพข้ อมูลของจอยซ์ ไปพร้ อมกัน

จนกระทั่งเปล่งประโยคบอกเล่าครบเจ็ดครั้ง มันใช้ มือหยิบ


แผ่ นกระดาษสี ขาวพลางนั่งเอนหลังพิงเบาะในท่ าสบายที่สุด

เมื่อจินตนาการถึงภาพบอลแสง นัยน์ ตาที่เคยน้าตาลเข้ มพลัน


มืดลงจนเกือบดาสนิท เป็ นสั ญญาณการฌานเสร็จสมบูรณ์

ภาพการมองเห็นรอบข้ างเริ่มพร่ ามัว สายหมอกไร้ รูปร่ างไร้ ก้น


บึงเวียนวนอยู่รอบกาย

ไคลน์ ใช้ สติสัมชัญญะสุ ดท้ ายนึกภาพข้ อมูลบนแผ่ นกระดาษสี


ขาว ก่อนจะผ่ อนคลายตัวเองและปล่อยจิตให้ หลับลึก

นีค่ ือการทานายด้ วยฝัน


ภาพรายละเอียดของจอยซ์ ยังคงชัดเจนจากการทวนซ้าหลาย
หน

บนโลกความฝัน ชายหนุ่มสามารถใช้ วิญญาณดาราติดต่ อกับโลก


วิญญาณได้ โดยตรงเพื่อขอรับคาทานาย

คนทั่วไปอาจเข้ าสู่ ภาวะนีไ้ ด้ โดยบังเอิญ แต่ เป็ นการยากที่จะ


มองเห็นภาพและตีความออกมาเป็ นสั ญลักษณ์ ได้ ถูกต้ อง ทุกสิ่ งจะ
พร่ ามัวและบิดเบีย้ ว แต่ แน่ นอน ผู้วิเศษเส้ นทางนักทานายย่ อม
ปราศจากผลข้ างเคียงที่ว่า ทุกภาพล้วนคมชัดราวกับเป็ นโลกแห่ ง
ความจริง

นั่นคือห้ วงจิตสุ ดท้ ายของไคลน์ ก่อนที่มันจะหลับสนิทและเข้ าสู่


โลกความฝันโดยสมบูรณ์

ฉากแรกที่เห็นคือ… บุรุษผมทองจมูกงุ้มกาลังว่ ายน้าท่ ามกลาง


ทะเลเลือดด้ วยอากัปกริยาลนลานสุ ดขีด เกือบจะถูกคลื่นโลหิตกลืน
กินหลายครั้ง แต่ ท้ายที่สุดก็ถึงฝั่งอย่ างราบรื่ น

ทันใดนั้น ภาพฝันไคลน์ แตกละเอียดคล้ายเศษกระจก ก่อนจะ


แปรเปลี่ยนเป็ นฉากเหตุการณ์ ใหม่

…บ้ านหลังสี ฟ้าที่มีกังหันลมเล็กวางตั้งหน้ าประตู บุรุษหนุ่มผม


สี ทองกาลังย่ างกรายเข้ าบ้ านอย่ างไม่ รีบร้ อน สี หน้ าเปี่ ยมด้ วยความ
ยินดีเสี ยเต็มประดา
มาถึงจุดนี้ ความฝันแตกละเอียดอีกครั้ง เปลี่ยนเป็ นฉากใหม่ ที่
ไคลน์ ไม่ ค้ นุ เคย

…มันลืมตาขึน้ ภายในท้ องพระโรงสุ ดโอ่อ่าอลังการแห่ งหนึ่ง ซึ่ง


ไม่ ทราบว่ าเป็ นที่ใดกันแน่ ผนังรอบข้ างชารุดทรุดโทรมเกินกว่ าจะ
บูรณะฟื้ นฟู ตะไคร่ ก่อตัวเป็ นแผงครึ้ม นอกหน้ าต่ างมองเห็นยอด
เขารวมถึงทะเลเมฆหมอกกว้ างไกลสุ ดลูกหูลูกตา

ด้ านในสุ ดท้ องพระโรงมีบัลลังก์ขนาดมหึมาที่แกะสลักจากหิน


ตกแต่ งด้ วยอัญมณีเก่าหมองและริ้วทองจานวนมาก ขนาดใหญ่
ยักษ์ จนไม่ เหมือนที่นั่งสาหรับมนุษย์

บัลลังก์ยักษ์ ว่างเปล่าและเต็มไปด้ วยรอยขีดข่ วน คลับคล้ายถูก


ลมฝนกัดกินมานานหลายร้ อยหลายพันปี

ไคลน์ กวาดสายตามองหนึ่งรอบด้ วยสี หน้ าสั บสน มิอาจเข้ าใจ


เลยสั กนิด ว่ าเหตุใดถึงมีความฝันเช่ นนีเ้ กิดขึน้

ผ่ านไปสั กพัก จิตที่พร่ ามัวเริ่มตั้งสติกลับมาเฉียบแหลม มัน


ตัดสิ นใจเดินออกจากพระราชวังตามสั ญชาตญาณเพื่อค้ นหา
คาตอบว่ า สถานที่แห่ งนีค้ ือที่ใดกันแน่

ทันใดนั้น ไคลน์ สัมผัสถึงการจ้ องมองของสายตาคู่หนึ่ง… มา


จากด้ านหลัง!
ชายหนุ่มรีบหมุนตัวกลับและจ้ องเขม็งไปยังบัลลังก์ยักษ์ ฉาก
เบื้องหน้ าคือหนอนแมลงโปร่ งใสจานวนมหาศาลกาลังยุบพองและ
ขยายขนาดอย่ างรวดเร็ว

ไคลน์ พลันอ้าปากค้ างด้ วยสี หน้ าสุ ดทึ่ง

เพียงพริบตา ชายหนุ่มถูกดึงกลับโลกแห่ งความจริงและหลุดพ้น


จากฝัน
บอลคริสตัล สารับไพ่ทาโร่ ต์ และอุปกรณ์ คานวณดาราศาสตร์
ที่ต้งั ค่ าเสร็จสิ้นถูกวางอยู่บนโต๊ ะเบื้องหน้ า ความฝันกลับกลายเป็ น
ความจริงอย่ างรวดเร็ว

ฝันช่ วงต้ นน่ าจะเป็ นผลลัพธ์ ดวงชะตาของจอยซ์ ·ไมเยอร์

แต่ ช่วงหลังหมายถึงสิ่ งใดกันแน่ ?

มีบางสิ่ งกาลังจ้ องเล่นงานตน?

ไคลน์ วางแผ่ นกระดาษข้ อมูลลงพร้ อมกับบีบขนวดขมับสองข้ าง


ที่กาลังปวดตุบๆ

หนึ่งสิ่ งที่มั่นใจได้ ก็คือ ฉากดังกล่าวไม่ ใช่ ความกลัวที่ตัวมันสร้ าง


ขึน้ เองแน่ และไม่ ใช่ ผลข้ างเคียงจากการทานายด้ วยฝัน
ท้ องพระโรงซึ่งไม่ เหมือนกับที่อยู่อาศัยของมนุษย์ … ตั้งบนยอด
เขาสู ง… สายตาปริศนาที่จ้องมองเงียบงัน… หนอนแมลงโปร่ งใส
ซึ่งยุบพองอย่ างน่ าขนลุก

ไคลน์ พยายามหาข้ อสรุป

หรื อว่ า… พิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตาจะติดต่ อสื่ อสารกับตัวตน


ลึกลับดังกล่าว?
หรื อจะเป็ นผลจากพลังสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสกันแน่ …

ใช่ แล้ว ข้ อความในสมุดมีส่วนหนึ่งที่กล่าวถึงเทือกเขาโฮนาซิส


และฉากท้ องพระโรงในความฝันก็มียอดเขาปรากฏ

หลังจากลองจับต้ นชนปลายแบบคร่ าวๆ ไคลน์ ร้ ูสึกโชคดีมากที่


มันเลือกเดินบนเส้ นทางนักทานาย เพราะจากคาอธิบายของลุงนีลล์
ผู้ส่องความลับสามารถทานายด้ วยฝันได้ ก็จริง แต่ จะไม่ มี
ประสิ ทธิภาพเทียบเท่ ากับนักทานาย

เฮ่ อ… ตัวตนดังกล่าวคงไม่ ยอมปล่อยตนไปง่ ายๆ แน่

ได้ แต่ หวังว่ ารีเอล·บีเบอร์ จะถูกจับตัวได้ โดยเร็ว… ไคลน์ รีบเก็บ


ข้ าวของ ก่อนจะก้มหยิบแผนภาพที่ได้ จากเครื่ องคานวณดารา
ศาสตร์ และเดินออกจากห้ องบุษราคัม
ชายหนุ่มเปิ ดประตู มุ่งหน้ าตรงไปยังห้ องรับแขกที่แอนนานั่งรอ
อยู่ เพียงไม่ นาน มันเหลือบเห็นหญิงสาวกาลังเหม่ อออกไปนอก
หน้ าต่ าง ไม่ สนใจจะดื่มชาดาแม้ แต่ น้อย

“อ๊ะ! มิสเตอร์ โมเร็ตติคะ… ผลลัพธ์ การทานายเป็ นอย่ างไร


บ้ าง?”

เมื่อชาเลืองเห็นไคลน์ ด้วยหางตา เธอรีบลุกยืนและเดินเข้ ามาใกล้


ชายหนุ่มไม่ ตอบกลับทันที เพียงแต่ ถามโดยอ้างถึงสิ่ งที่มองเห็น
ในฝัน

“ไม่ ทราบว่ าบ้ านของคุณ หรื อบ้ านของมิสเตอร์ ไมเยอร์ … หลัง


ใดที่มีกังหันลมเล็กตั้งอยู่หน้ าประตูกันครับ?”

นัยน์ ตาแอนนาพลันสั่ นระริก ดวงตาเบิกกว้ างราวกับเห็นผี เธอ


ไม่ กล่าวสิ่ งใดเป็ นเวลานาน

จนกระทั่งเริ่มส่ งเสี ยงพึมพาในลาคอ

“นั่นเป็ นของขวัญที่เขาซื้อให้ มันตั้งอยู่ที่หน้ าประตูบ้านฉันเอง


คุณทราบได้ ยังไง…”
ท…ทานายได้ กระทั่งเรื่ องแบบนีเ้ ชียว?
ไคลน์ ฉีกยิม้ มันกล่าวด้ วยเสี ยงอ่อนโยน

“มิสแอนนา ขอแสดงความยินดีด้วยครับ มิสเตอร์ จอยซ์ ·ไมเยอร์


กาลังเป็ นแขกพิเศษที่บ้านของคุณ หากรีบกลับไปตอนนี้ บางทีอาจ
ยังทันได้ พบหน้ า

“เขาเพิง่ ผ่ านประสบการณ์ เดินทางแสนเจ็บปวดและเหน็ด


เหนื่อย สิ่ งที่คุณควรมอบให้ มิใช่ คาถามซักไซร้ หากแต่ เป็ นการ
สวมกอดอย่ างอบอุ่นและห่ วงใย”

“จริงหรื อคะ?”

น้าเสี ยงแอนนาเปี่ ยมความเคลือบแคลง

หมอดูทุกคนที่เธอรู้จัก ไม่ มีแม้ แต่ คนเดียวที่สามารถบอกผล


ทานายได้ ละเอียดถี่ถ้วนและเป็ นฉากๆ เช่ นนี้

“จริงหรื อไม่ จริง คุณกลับถึงบ้ านเมื่อไรก็ทราบเองครับ”

ไคลน์ ยังคงกล่าวอย่ างอ่อนโยน

“จริงหรื อเนี่ย… ไม่ ได้ โกหกกันใช่ ไหม? จอยซ์ ผ้ นู ่ าสงสารของ


ฉันกลับมาแล้วแน่ นะ? เป็ นไปไม่ ได้ … ฉันไม่ เชื่ อ…”
ด้ วยอากัปกริยาหวาดผวา เธอพ่นถ้ อยคาปฏิเสธออกมาไม่ หยุด
ปาก

แต่ ท้ายที่สุด เธอรีบหยิบธนบัตรหนึ่งซูลจากกระเป๋าและยื่นให้


ไคลน์ โดยไม่ รอให้ อีกฝ่ ายทอนเงิน แอนนารีบเดินกึ่งวิ่งออกจาก
สโมสรพยากรณ์ และขึน้ รถม้ ากลับบ้ านทันที

“ทีเ่ หลือคือทิปสิ นะ?”

ไคลน์ ยืนมองธนบัตรพลางส่ ายหัวอมยิม้

รถม้ าสองล้อแล่นผ่ านถนนอย่ างรวดเร็ว เพียงไม่ นานก็เข้ าสู่ เขต


เหนือของทิงเก็น

แอนนาปล่อยให้ วิวทิวทัศน์ ข้างทางแล่ นผ่ านสายตาโดยมิได้ ใส่ ใจ


อารมณ์ หลากหลายกาลังผสมปนเป ทั้งกระสั บกระส่ าย คาดหวัง
และหวาดกลัว

ทันใดนั้น กังหันลมเล็กเริ่มปรากฏในขอบเขตการมองเห็น

เธอรีบลงจากรถม้ า แสดงถึงความร้ อนรนกระวนกระวายสุ ดขีด


หญิงสาวเซเสี ยหลักเล็กน้ อยก่อนจะใช้ มือสั่ นกระดิ่งหน้ าประตู
ประตูไม้ ส่งเสี ยดเอี๊ยดอ๊ าดก่ อนเปิ ดออก เผยให้ เห็นชายหนุ่มรูป
งามจมูกงุ้ม ผมทองสั้ นสวมสู ทสี ดาสลับขาว ท่ าทีอิดโรย แต่ ดวงตา
เปี่ ยมด้ วยความสุ ขสมหวัง

“นึกว่ าวันนีจ้ ะไม่ ได้ พบคุณซะแล้ว!”

จอยซ์ กล่าวพลางฉีกยิม้ กว้ าง

“…คุณกลับมาจริงๆ ด้ วย!”
แอนนาขยีต้ าอย่ างเคลือบแคลงพร้ อมกับส่ งเสี ยงประหลาดใจสุ ด
ขีด

เหมือนที่หมอดูคนนั้นพูดไว้ ไม่ มีผิด!

บางที เขาอาจเป็ นนักทานายตัวจริง

มหัศจรรย์ เหนือคาบรรยาย…

ความคิดมากมายพรั่งพรูในหัวแอนนาขณะโผเข้ ากอดคู่หมั้น
อย่ างอบอุ่นแนบแน่ น

ทั้งสองยืนกอดกลมหน้ าประตูบ้านหลังสี ฟ้าหม่ น ฉากหลังเป็ น


กังหนลมเล็กที่กาลังหมุนเอื่อย คล้ายกับช่ วยปัดเป่ าสิ่ งโชคร้ ายและ
อุปสรรคออกไปจากชีวิต
ราชันย์ เร้ นลับ 56 : เอาชีวิตรอดจากท้ องทะเล

ภายในห้ องรับแขกที่ค่อนข้ างใหญ่ แอนนาและจอยซ์ ·ไมเยอร์ นั่ง


ลงบนโซฟาคนละตัว คั่นกลางด้ วยผู้ปกครองทางฝ่ ายแอนนา

จอยซ์ ถอนหายใจด้ วยสี หน้ าโล่งอก

“ขอบพระคุณเทพแห่ งจักรกลไอน้า ผมโชคดีมากที่รอดชีวิต


กลับมาพบหน้ าแอนนาได้ อีกครั้ง”

“จอยซ์ ที่น่าสงสารของฉัน มันเกิดอะไรขึน้ กันแน่ ?”

แอนนาไต่ ถามด้ วยสี หน้ าเก็บกังวล

จอยซ์ ชาเลืองมองคู่หมั่นตนเล็กน้ อย ก่อนจะเริ่มอธิบายด้ วย


ใบหน้ าดามืด

“ผมยังหวาดผวาจนถึงตอนนี้ เหตุการณ์ สุดบ้ าคลั่งคอยตาม


หลอกหลอนผมในฝันทุกคืน…

“ห้ าวันหลังจากเรื ออัลฟาฟ่ าแล่นออกจากท่ าไคเซอร์ พวกเราถูก


กลุ่มโจรสลัดที่น่ากลัวดักปล้น พวกมันน่ ากลัวมาจริงๆ แต่ โชคดีที่
กัปตันกลุ่มโจรสลัดมีนามว่ า‘นาสต์ ’”
“นาสต์ … ยอดโจรสลัดที่เรียกตัวเองว่ าราชาแห่ งห้ าสมุทรผู้
นั้นน่ ะหรื อ?”

บิดาของแอนนา มิสเตอร์ เวย์ น ไต่ ถามด้ วยสี หน้ าตกตะลึง

แม้ จอยซ์ ·ไมเยอร์ จะอยู่ที่นี่นานกว่ าครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ มันก็มิได้


เปิ ดเผยรายละเอียดความโหดร้ ายของเหตุการณ์ ที่เกิดขึน้ แม้ แต่
ประโยคเดียว สิ่ งที่ทามีเพียงนั่งกังวล ว้ าวุ่น และกระสั บกระสาย

จนกระทั่งแอนนากลับมาสวมกอดมัน

“เนื่องจากนาสต์ ประกาศตัวว่ าเป็ นทายาทแห่ งจักรวรรดิโซโล


ม่ อนในอดีต มันจึงยึดถือหลักการไม่ เอาชีวิตพลเรื อน พวกมันเพียง
จีป้ ล้นและขโมยสิ่ งมีค่า ลูกเรื อบางคนยังนาอาหารมาให้ พวกเราใน
ยามหิวโหย”

จอยซ์ เริ่มบรรยาย

ถึงร่ างกายจะสั่ นระริก แต่ มันก็ไม่ หยุดเล่ าเหตุการณ์ ที่กลายเป็ น


ฝันร้ ายอันดับหนึ่งของชีวิต

“ผมสู ญเสี ยทรัพย์ สินไม่ มากนัก เนื่องจากพกติดตัวไม่ เยอะ แต่


เรื่ องราวยังไม่ จบแค่ น้ นั หลังจากการปล้นจบลงและเรื อแล่นกลับสู่
เส้ นทางปรกติ จู่ๆ ลูกเรื อและผู้โดยสารเกิดมีปากเสี ยงรุ นแรงอย่ าง
ไม่ ทราบสาเหตุ พวกมันลุกขึน้ ตะโกนด่ าทอ ลามไปจนถึงชกต่ อย
ถึงขั้นชักปื นลูกโม่ กับดาบยาวออกมายิงแทงใส่ กัน…

“มีแต่ เลือด เลือดเจิ่งนองพื้นเต็มไปหมด มนุษย์ คนแล้วคนเล่า


จบชีวิตลงอย่ างโหดเหีย้ ม ผู้โดยสารข้ างผมเสี ยชีวิตทั้งที่ยังลืมตา
อยู่ เศษแขนขามนุษย์ กระจัดกระจายทั่วเรื อ รวมถึงเครื่ องในอย่ าง
ปอด ลาไส้ และหัวใจ

“กลุ่มที่ไม่ คลุ้มคลั่งอย่ างผม หรื อที่เรียกกันว่ ากลุ่มยังมีสติ พวก


เราไม่ มีสถานที่ใดให้ หลบซ่ อน รอบเรื อมีเพียงน้าทะเลสี ฟ้าคราม
สุ ดลูกหูลูกตา… บ้ างคร่าครวญร่าไห้ บ้ างร้ องขอชีวิต บ้ างยอมแลก
ทุกสิ่ งเพื่อเอาตัวรอด แต่ ท้ายที่สุด ชะตากรรมคนเหล่านี้มีอันต้ อง
ถูกห้ อยศีรษะไว้ ที่เสากระโดงเรื อทั้งหมด

“แอนนา คุณต้ องเชื่ อผม ในวินาทีที่คิดว่ าจะไม่ ได้ กลับมาพบคุณ


อีก วีรบุรุษคนหนึ่งได้ ปรากฏตัวขึน้ หัวหน้ าของพวกเรา มิสเตอร์
ทริส! เขาพาทุกคนไปหลบที่ห้องเก็บของชั้นล่ างสุ ด ที่นั่นมีน้าและ
อาหารประทังชีวิตได้ นาน เราทุกคนรอคอยจนกว่ ากลุ่มเสี ยสติ
ด้ านบนจะหมดแรง หลังจากนั้น มิสเตอร์ ทริสได้ นากลุ่มที่ยังเหลือ
รอดขึน้ มาจัดการกับคนเสี ยสติอย่ างกล้าหาญ…

“หลังจากเหตุการณ์ นองเลือดที่ผมไม่ มีวันลืมไปชั่วชีวิตจบลง


เรื ออัลฟาฟ่ ากลับสู่ ความสงบอีกครั้ง แต่ แล่นออกจากเส้ นทางเดิม
เล็กน้ อย สาเหตุเพราะ มีลูกเรื อเหลืออยู่เพียงหนึ่งในสามจากตอน
แรก”

ขณะเล่าถึงเหตุสยองขวัญ จอยซ์ ·ไมเยอร์ เอ่ยถึง‘วีรบุรุษ’ที่เรียก


ตัวเองว่ า‘ทริส’บ่ อยครั้ง

ทริสคือชายหน้ ากลมและเป็ นมิตร นิสัยขีอ้ ายคล้ายสตรี ชอบนั่ง


ที่มุมห้ องตามลาพังโดยไม่ สนทนากับใคร แต่ หากสนิทสนมเมื่อไร
ทริสจะกลายเป็ นคนช่ างจ้ อทันที

ช่ างขัดกับบุคลิกในตอนที่นากลุ่มผู้เหลือรอดไล่ฆ่ากลุ่มคนเสี ย
สติเหลือเกิน

“จอยซ์ ที่น่าสงสารของฉัน คุณคงหวาดผวามาก… ขอบคุณพระ


เจ้ า ขอบคุณพระองค์ ที่ไม่ แยกสองเราออกจากกัน”

น้าตาเริ่มพรั่งพรูสองข้ างแก้ มแอนนา

ขณะเดียวกัน เธอทาสั ญลักษณ์ สามจุดบริเวณหน้ าอก สื่ อถึง


สั ญลักษณ์ ศักดิ์สิทธิ์ของเทพแห่ งจักรกลไอน้า

จอยซ์ อมยิม้ ขื่นขม

“นี่คงเป็ นรางวัลที่พระองค์ ตอบแทนให้ กับผู้ศรัทธา… หลังจาก


นั้น ด้ วยลูกเรื อเพียงหนึ่งในสาม เรื ออัลฟาฟ่ าต้ องแล่นผ่ านพายุฝน
อย่ างยากลาบาก ออกจากเส้ นทางไปหลายหน แต่ สุดท้ ายก็สามารถ
เทียบท่ าเอ็นมาร์ ทได้ ในที่สุด

“เนื่องจากบนเรื อเกิดเหตุนองเลือดสยดสยอง ทางตารวจจึงกัก


ตัวทุกคนไว้ ก่อนจะทาการสอบสวนเป็ นเวลานานโดยไม่ เปิ ด
โอกาสให้ ส่งโทรเลข ตัวผมเพิง่ จะถูกปล่อยเป็ นอิสระเมื่อเช้ านีเ้ อง

“ผมรีบยืมเงินจากเพื่อนและนั่งรถจักรไอน้าขบวนแรกกลับมา
ยังเมืองทิงเก็น ขอบคุณพระเจ้ าที่ทาให้ ผมกลับมาเหยียบแผ่ นดิน
ทิงเก็นได้ อีกครั้ง ขอบคุณที่ทาให้ ผมกลับมาพบคุณอีก”
เมื่อกล่าวตบ จอยซ์ จ้องมองเข้ าไปในแววตาของคู่หมั่นด้ วยสี
หน้ าเคลือบแคลง

“แอนนา ในวินาทีที่คุณสวมกอด ผมสั มผัสได้ ถึงความประหลาด


ใจและความสุ ข แต่ ผมไม่ เข้ าใจเลยสั กนิดว่ า เหตุใดคุณถึงต้ องรีบลง
จากรถม้ าและวิ่งเข้ าบ้ านด้ วย? ผมมีแผนจะดักรอทาให้ คุณ
ประหลาดใจสั กหน่ อย”

แอนนานึกทบทวนความทรงจาและพยายามเรียบเรียงออกไป

“ฉันไม่ มีสิ่งใดต้ องปิ ดบังคุณ จอยซ์ เมื่อคุณหายตัวไป ฉัน


กระวนกระวายจนตัดสิ นใจเดินทางไปยังสโมสรพยากรณ์ เพียง
แห่ งเดียวในเมืองทิงเก็น
“หมอดูคนนั้น… เอ่อ นักทานายคนนั้น เขากล่าวกับฉันว่ า
‘คู่หมั้นของคุณกลับมาแล้วนะครับ เขาอยู่ในบ้ านหลังที่มีกังหัน
เล็ก’”

“อะไรนะ?”

คู่สามีภรรยาเวย์ นส่ งเสี ยงประหลาดใจพร้ อมกัน

แอนนาใช้ สองมือปิ ดหน้ าพลางส่ ายศีรษะ

“ตอนแรกฉันก็ไม่ เชื่ อเหมือนกัน แต่ มันก็เกิดขึน้ แล้ว บางที…


โลกนีอ้ าจมีปาฏิหาริย์อยู่ก็ได้

“จอยซ์ นักทานายคนนั้นขอข้ อมูลเกี่ยวกับชื่ อ ลักษณะใบหน้ า ที่


อยู่ และวันเกิดของคุณ จากนั้นก็เริ่มทานายด้ วยโหราศาสตร์

“เมื่อได้ ผลลัพธ์ และเดินออกมาจากห้ อง คาถามแรกคือ ‘บ้ าน


หลังที่มีกังหันเล็กเป็ นของฉันหรื อของคุณ’ เมื่อฉันตอบว่ าเป็ นของ
ฉัน เขาจึงกล่ าวต่ อว่ า…

“มิสแอนนา ขอแสดงความยินดีด้วยครับ มิสเตอร์ จอยซ์ ·ไมเยอร์


กาลังเป็ นแขกพิเศษที่บ้านคุณ สิ่ งที่คุณควรมอบให้ มิใช่ คาถาม
ซักไซร้ หากแต่ เป็ นการสวมกอดอย่ างอบอุ่นและห่ วงใย”

“พระเจ้ า…”
จอยซ์ ยากจะเชื่ อลง มันมิอาจหาข้ อสรุปใดมาอธิบายเหตุการณ์
ดังกล่าวได้

“เขารู้จักผมหรื อ? มีใครแอบส่ งโทรเลขจากท่ าเรื อเอ็นมาร์ ทไปรึ


เปล่า? บางทีอาจเป็ นหนึ่งในตารวจที่สอบสวน…

“เดีย๋ วก่อน… แบบนั้นยังอธิบายไม่ ได้ ว่า เหตุใดเขาถึงรู้ว่าผมรอ


อยู่ที่บ้านคุณ และไม่ มีทางทราบแน่ ว่าคุณจะใช้ บริการดูดวง แอน
นา คุณได้ นัดหมายหมอดูคนนั้นล่วงหน้ ารึเปล่า?”
“ไม่ ค่ะ ฉันไปเลือกที่สโมสร”

แอนน่ าอธิบายพลางขมวดคิว้

“บางที เขาอาจเป็ นนักทานายที่มีเครื อข่ ายข้ อมูลกว้ างขวางและ


พร้ อมใช้ งานข้ อมูลเหล่านั้นตลอดเวลา… หรื อไม่ ก็ อาจเป็ นสุ ดยอด
นักทานายตัวจริงเสี ยงจริง”

บิดาของแอนนา มิสเตอร์ เวย์ นถอยหายใจยาวหนึ่งครั้งก่อนสรุป

“จากประวัติศาสตร์ อันยาวนานที่ถูกจารึกไว้ กว่ าพันปี รวมถึง


เรื่ องราวที่ถูกบันทึกไว้ อย่ างเลือนลางในยุคสมัยที่สี่ ศาสตร์ การ
ทานายของแท้ น้ นั มีอยู่จริง และมันยังคงไม่ สูญหายไปในยุคสมัย
ปัจจุบัน… นั่นอาจเป็ นคาตอบของเรื่ องราวทั้งหมด”
จอยซ์ ส่ายศีรษะเบาๆ พร้ อมกับถาม

“นักทานายคนนั้นชื่ ออะไร?”

แอนนาครุ่นคิด

“ไคลน์ ·โมเร็ตติ”


ณ ห้ องรับแขกสโมสรพยากรณ์ เมืองทิงเก็น

ขณะได้ ยินไคลน์ กล่าวบางสิ่ งกับแอนนาด้ วยเสี ยงค่ อย แอนเจ


ลิก้าทราบทันทีว่าเธอไม่ ควรเข้ าไปใกล้

หลังจากนั้นไม่ นาน แอนนาทาการจ่ ายเงินและรีบวิ่งออกจาก


สโมสรด้ วยสี หน้ าสั บสนปนกระวนกระวาย

แอนเจลิก้าตัดสิ นใจเดินเข้ าไปนั่งลงที่โซฟาข้ างไคลน์ และเอ่ย


ปากถาม

“ผลทานายออกมาดีหรื อคะ?”

เธอไม่ ถามถึงผลลัพธ์ โดยละเอียด นั่นอาจเป็ นการขัดต่ อหลัก


ของหมอดู
“ใช่ ครับ”

ไคลน์ พยักหน้ าพร้ อมกับหยิบเหรียญทองแดงสามเหรียญยื่นให้


เธอ

“หนึ่งในแปดของค่ าบริการจะถูกหักให้ สโมสรใช่ ไหม?”

“ใช่ ค่ะ”
แอนเจลิก้าก้มมองเหรียญทองแดงในมือ ก่อนจะเห็นว่ าเป็ น
เหรียญเพนนีหนึ่งเหรียญ และเหรียญครึ่งเพนนีสองเหรียญ

เธอรีบกล่าวทักท้ วง

“เกินมาครึ่งเพนนีค่ะ”

ไคลน์ ยังคงรักษารอยยิม้

“ขอบคุณที่ช่วยดูแลลูกค้ าแทนผมครับ ในเมื่อหล่อนจ่ ายทิป คุณ


ก็สมควรได้ รับเช่ นกัน”

และขอบคุณที่ช่วยแนะนาลูกค้ าคนแรกให้
ไคลน์ กล่าวประโยคหลังภายในใจ
“เข้ าใจแล้วค่ ะ”

แอนเจลิก้าแอบเกิดความเคลือบแคลงในตัวไคลน์ เล็กๆ แต่


เหตุผลของเขาก็ฟังขึน้ จึงไม่ มีสาเหตุให้ ต้องปฏิเสธ

ไคลน์ เดินกลับไปยังห้ องประชุมรวมโดยหวังว่ าจะมีลูกค้ าเพิม่


อีกสั กสองสามราย

ทว่ า หลังจากผ่ านไป 45 นาที ตนยังไม่ ได้ รับลูกค้ าใหม่ แม้ แต่ ราย
เดียว

ไม่ ใช่ เพราะธรุกิจดูดวงของสโมสรตกต่า เพียงแต่ ลูกค้ าประจา


มักเลือกใช้ หมอดูคนเดิมๆ เช่ นกัน

หมอดูขาประจาอาจถูกแนะนาจากปากต่ อปาก หรื อไม่ ก็สนิท


สนมกับลูกค้ าอยู่แล้ว…

หรื อก็คือ ตัวเรายังขาด‘ค่ าชื่ อเสี ยง’อยู่สินะ ไคลน์ อมยิม้ กับ


ตัวเองหลังจากใช้ ศัพท์ เกมอธิบายสถานการณ์ ปัจจุบัน

เมื่อดื่มชาดาซิบป์ ถ้ วยที่สามหมด ไคลน์ ตัดสิ นใจสวมหมวกและ


หยิบไม้ คา้ เดินออกจากห้ องประชุม
ขณะเดียวกัน แอนเจลิก้าที่เพิง่ ฉุกคิดถึงคาขอของกลาซิสได้ เธอ
รีบส่ งเสี ยงตะโกนขัดจังหวะไคลน์ ไว้

“มิสเตอร์ โมเร็ตติคะ คุณจะเข้ าสโมสรในวันไหนบ้ าง? ครั้งหน้ า


เป็ นเมื่อไร? มิสเตอร์ กลาซิสต้ องการแสดงความขอบคุณด้ วย
ตัวเองค่ ะ”

“ผมจะเข้ าก็ต่อเมื่อผมว่ าง หากโชคชะตานาพา ผมกับกลาซิส


ต้ องได้ พบกันสั กวันแน่ ”

ไคลน์ ตอบเป็ นปริศนาคล้ายกับพฤติกรรมของนักต้ มตุ๋น ในพัก


หลัง มันโกหกจนติดเป็ นนิสัยราวกับกลายเป็ นนักต้ มตุ๋นไปแล้ ว
จริงๆ

ชายหนุ่มรีบเดินออกจากสโมสรก่อนที่แอนเจลิก้าจะถามสิ่ งใด
เพิม่ จากนั้นก็โบกรถม้ ากลับถนนดารารัตน์ บ้ านครอบครัวโมเร็ตติ
แสนอบอุ่น

เมื่อเปิ ดประตูและเดินเข้ าไป ไคลน์ เห็นเบ็นสั นกาลังก้ มหน้ าอ่าน


หนังสื อพิมพ์ ส่ วนเมลิสซ่ ากาลังประกอบเฟื อง สปริง และลูกปื น
เข้ าด้ วยกันภายใต้ แสงแดดยามเย็นที่ส่องผ่ านมุขหน้ าต่ าง

“สายันห์ สวัสดิ์ มาดามชาเดอร์ ได้ แวะมาที่นี่รึเปล่า?”

ไคลน์ ถามเป็ นกันเอง


เบ็นสั นไม่ วางหนังสื อพิมพ์ลง มันเลือกที่จะเงยหน้ าขึน้

“มาดามชาเดอร์ เพิง่ กลับไปเมื่อสิ บห้ านาทีก่อน เธอนาของฝาก


ติดไม้ ติดมือมาด้ วย ดูเหมือนหล่อนจะชอบมัฟฟิ นกับเค้ กเลม่ อนที่
บ้ านเรามาก และยังชวนให้ ไปที่บ้านของเธอด้ วยหากมีโอกาส
หล่อนเป็ นพวกเข้ ากับคนได้ ง่าย คุยเก่ง และกริยามารยาท
เรียบร้ อย”

“ติดอยู่อย่ างเดียวคือ เธอศรัทธาเทพแห่ งวายุสลาตัน โบสถ์


ดังกล่าวเชื่ อว่ า เด็กผู้หญิงไม่ สมควรไปเรียนที่โรงเรียน แต่ ต้อง
ศึกษาด้ วยตัวเองที่บ้าน”

เมลิสซ่ าบ่ นอุบอิบ เป็ นอาการหงุดหงิดที่ค่อนข้ างชัดเจน

“อย่ าถือสาเรื่ องความเชื่ อของผู้อื่นเลย หากไม่ ทาให้ เราเดือดร้ อน


เธอจะถือว่ าเป็ นเพื่อนบ้ านที่ดีมากคนหนึ่ง”

ไคลน์ พยายามปลอบน้ องสาวด้ วยรอยยิม้

อาณาจักรโลเอ็นยอมรับในหลายศาสนา ไม่ เหมือนกับอาณาจักร


ฟุซัคของทวีปเหนือที่นับถือเทพแห่ งการต่ อสู้ เพียงพระองค์ เดียว
และอาณาจักรเฟเนพ็อตของทวีปใต้ ที่นับถือพระแม่ ธรณีเพียง
พระองค์ เดียว
ในความเป็ นจริง คงเลี่ยงไม่ ได้ ที่ศาสนาเทพธิดารัตติกาล เทพ
แห่ งวายุสลาตัน และเทพแห่ งจักรกลไอน้าจะเกิดความขัดแย้ ง
สาเหตุเพราะ หลักคาสอนและหลักประพฤติของแต่ ละศาสนาล้วน
แตกต่ าง แต่ หลังจากผ่ านมานานนับพันปี ความขัดแย้ งเหล่านั้นก็
บรรเทาลงจนสามารถอยู่ร่วมกันได้

“เข้ าใจแล้ว”

เมลิสซ่ าทาแก้มป่ องก่อนจะเพ่งสมาธิกลับไปยังเศษเครื่ องจักร


ในมือ
หลังจากมื้ออาหารค่า ไคลน์ นั่งทบทวนความรู้ด้าน
ประวัติศาสตร์ ของโลกใบนี้ จนกระทั่งเมลิสซ่ าและเบ็นสั นอาบน้า
เสร็จ ชายหนุ่มจึงเดินไปล้างหน้ าและแยกย้ ายเข้ าห้ องนอน

มันล็อคกลอนประตูแน่ นก่อนจะทิง้ ตัวลงบนเตียง

ไคลน์ จาต้ องจัดระเบียบข้ อมูลใหม่ ที่ได้ รับในแต่ ละวัน รวมถึง


การวิเคราะห์ ปัญหาที่เกิดขึน้ ภายในวันนั้นๆ เพื่อมิให้ หลงลืมหรื อ
พลาดสิ่ งสาคัญในจุดใดไป

การกระทาเช่ นนีอ้ ย่ างสม่าเสมอจะช่ วยให้ ไคลน์ มีสติเยือกเย็นใน


สถานการณ์ ไม่ คาดฝัน

ชายหนุ่มหยิบปากกาหมึกซึมออกมา ก่อนจะเปิ ดสมุดโน้ ตและ


เขียนลงไปด้ วยภาษาจีนกลางว่ า…
“เหตุใดกุญแจสาคัญของพลังโอสถถึงเป็ นการสวมบทบาท?”
ราชันย์ เร้ นลับ 57 : เรียบเรียงและหาเหตุผล

หลังจากชะงักครู่หนึ่ง ไคลน์ ลงมือเขียนต่ อ

“หลักสาคัญในการระงับผลข้ างเคียงของโอสถคือการ‘ย่ อยพลัง’


มิใช่ ‘ควบคุมพลัง’ นี่เป็ นพื้นฐานที่เข้ าใจได้ ไม่ ยาก

“หากฝื นควบคุมพลัง พลังทีไ่ ด้ รับจะเป็ นเพียงอุปกรณ์ ช่วยเหลือ


นอกกาย เฉกเช่ นสั ตว์ ป่าดุร้าย ที่ไม่ ว่าจะถูกฝึ กอย่ างดีเพียงใด แต่
มันจะเป็ นได้ แค่ ความช่ วยเหลือจากภายนอก ซึ่งมีโอกาสแว้ งกัด
เจ้ าของในสั กวัน

“กลับกัน ถ้ าหากย่ อยพลังอย่ างสมบูรณ์ จนกลายเป็ นส่ วนหนึ่ง


ของร่ างกาย พลังดังกล่าวจะเปรียบดังแขนขา อวัยวะ และสามารถ
ใช้ ได้ ดังใจนึกโดยไม่ แว้ งกลับทาร้ าย

“มาถึงจุดที่เราตั้งข้ อสงสั ย เหตุใดการสวมบทบาทถึงเป็ นกุญแจ


สาคัญในการย่ อยพลัง?

“จากประสบการณ์ สวมบทบาทเป็ นนักทานายในวันนี้ เรา


สามารถตั้งสมมติฐานได้ สองข้ อ ซึ่งจะต้ องมีการหาข้ อพิสูจน์ ใน
อนาคตกันต่ อไป
“สมมติฐานข้ อแรก : โอสถจะเปลี่ยนให้ มนุษย์ มีพฤติกรรมและ
ลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกับ‘ชื่ อโอสถ’ หมายความว่ าร่ างกาย จิตใจ
และวิญญาณของเราจะถูกเปลี่ยนให้ เข้ าใกล้ความเป็ นนักทานาย
มากขั้น ดังนั้น การสวมบทบาทนักทานายตัวจริงจะช่ วยให้ เรา
กลมกลืนกับพลังใหม่ ได้ รวดเร็ว

“สมมติฐานข้ อที่สอง : วิญญาณที่ตกค้ างจาก‘วัตถุดิบโอสถ’มี


ระบบคล้ายคลึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หากเราต้ องการแฮ็คระบ
บอย่ างสมบูรณ์ การค้ นหาบั๊กและช่ องโหว่ คือสิ่ งจาเป็ น และชื่ อของ
โอสถเปรียบดังคาบอกใบ้
“ด้ วยเหตุนี้ เราจึงต้ อง‘ปลอมตัว’ ปรับสภาพจิตใจและวิญญาณ
ให้ ‘คล้ายคลึงระบบ’ด้ วยวิธีการสวมบทบาท วิธีนจี้ ะ‘หลอก’ระบบ
ให้ เชื่ อว่ าเราเป็ นพวกเดียวกับมัน และยอมรับให้ ผ่านเข้ าไปแฮ็ค
สาเร็จ

“แต่ ไม่ ว่าจะสมมติฐานข้ อใด สิ่ งที่เหมือนกันคือ เราต้ อง


ปรับเปลี่ยนร่ างกาย จิตใจ และวิญญาณให้ มีลักษณะเหมือนกับชื่ อ
โอสถ เพื่อที่จะได้ รับพลังของโอสถอย่ างเต็มที่ ไปพร้ อมกับขจัด
ผลข้ างเคียงแปลกปลอม”

ไคลน์ วางปากกาลงและอ่านข้ อความที่ตัวเองเขียน ในวินาทีนี้


มันต้ องขอบคุณระบบการศึกษาของจักรวรรดิแห่ งอาหารบนโลก
เก่า
ไม่ ว่าจะเลือกเรียนคณะวิทยาศาสตร์ หรื อวิศวกรรมศาสตร์ แต่
ตัวมันได้ ถูกปูพื้นฐานการคิดคานวณอย่ างเป็ นเหตุเป็ นผลมาตั้งแต่
เด็ก

และนั่นก็เป็ นสาเหตุที่ตนเก่งฉกาจในฐานะนักรบคีย์บอร์ ด หลัก


ตรรกะและการทบทวนคือสิ่ งสาคัญในการโต้ เถียงให้ ชนะบนโลก
อินเทอร์ เน็ต

“หลังจากบรรพบุรุษลองผิดลองถูกมานาน การสวมบทบาทอาจ
เป็ นวิธีที่ง่ายและมีประสิ ทธิภาพสู งที่สุดแล้ว เราคงต้ องรอพิสูจน์
ผลลัพธ์ ด้วยตัวเองในอนาคต”

ไคลน์ สรุปกับตัวเอง ก่อนจะเขียนคาถามถัดไปลงกระดาษ

“เหตุใด‘นักทานาย’ที่ชานาญศาสตร์ เร้ นลับหลายชนิดถึงอ่ อนแอ


ด้ านการต่ อสู้ ?

“ไม่ ใช่ ว่ายิ่งชานาญศาสตร์ เร้ นลับ ก็จะยิ่งดวลตัวต่ อตัวได้


แข็งแกร่ งหรอกหรื อ? โดยเฉพาะพลังทานายหาจุดอ่อนศัตรู”

“สาเหตุน่าจะเป็ นเพราะว่ า…

“สมมติฐานแรก อาจเหมือนกับนิยายที่เราเคยอ่านสมัยอยู่โลก
เก่า ตัวเอกถูกส่ งไปยังโลกแห่ งเกมที่มี‘อาชีพ’แตกต่ างกันไป แต่ ละ
อาชีพจะมีข้อดีข้อเสี ยหักล้างเพื่อให้ เกมสมดุล
“แต่ เมื่อลองนึกดูให้ ดี โลกของเราไม่ เหมือนเกมสั กเท่ าไร การ
สมมติให้ ผ้ วู ิเศษเหมือนกับ‘อาชีพ’อาจไม่ ถูกต้ อง แต่ ใช่ ว่าจะเป็ นไป
ไม่ ได้ เสี ยทีเดียว

“สมมติฐานที่สอง พื้นฐานของโลกใบนีค้ ือความสมดุล และพระ


ผู้สร้ างได้ กาหนดให้ โลกต้ องดาเนินไปอย่ างสมดุลเท่ าเทียม

“สมมติฐานที่สาม โอสถลาดับต่าทุกเส้ นทางจะถูกจากัดพลังไว้


อาจเป็ นผลมาจากการลองผิดลองถูกของบรรพบุรุษ
“พลังโอสถที่มากเกินไปจะทาให้ ผ้ วู ิเศษคลุ้มคลั่งได้ ง่าย พลังที่
น้ อยเกินไปจะไม่ ค้ มุ ค่ ากับการเสี่ ยงชีวิตเป็ นผู้วิเศษ

“ลงเอยด้ วย ผู้วิเศษแต่ ละเส้ นทางจะชานาญด้ านใดด้ านหนึ่ง


อย่ างสุ ดโต่ ง แต่ จะอ่อนแอด้ านที่เหลืออย่ างมิอาจหลีกเลี่ยง

“สมมติฐานที่สี่ ทุกสิ่ งในโลกถือกาเนิดจากเศษเสี้ยวพระผู้สร้ าง


หมายความว่ า ทุกองค์ ประกอบจะชดเชยสิ่ งที่ขาดหาย และไม่ ก้าว
ก่ายในความถนัดของกันและกัน พลังแต่ ละเส้ นทางจึงเชี่ยวชาญได้
เพียงหนึ่งศาสตร์

“เราเอนเอียงไปทางสมมติฐานที่สามและสี่ มากกว่ า แต่ อย่ างหลัง


ยากต่ อการพิสูจน์ จึงใช้ ได้ เป็ นเพียงแนวทางเท่ านั้น
“เมื่อตัดตัวเลือกที่ไม่ ใช่ ทงิ้ ไป จะเหลือเพียงสาเหตุที่สามซึ่ง
น่ าเชื่ อถือที่สุด เราจะใช้ มันเป็ นหลักในการดาเนินชีวิต”

มาถึงจุดนี้ ไคลน์ เขียนบันทึกของตัวเองเต็มสองหน้ ากระดาษ


แล้ว แต่ ยังไม่ มีทีท่าว่ าจะหยุด ตรงกันข้ าม มันเขียนลงมือเขียน
คาถามถัดไปต่ อ

“จากประสบการณ์ ในวันนี้ พิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตาของเราเข้ า


ข่ ายพิธีกรรมเวทมนตร์ โบราณ

“โดยทั่วไปแล้ว พิธีกรรมเวทมนตร์ จะแบ่ งออกเป็ นสามขั้นตอน


เริ่มจากขั้นตอนแรก การเซ่ นสั งเวยสิ่ งของที่‘ตัวตนลึกลับ’ชื่ นชอบ

“ถัดมาคือขั้นตอนที่สอง การท่ องคาถาเพื่อเอ่ยนามและเรียกขาน


ตัวตนลึกลับดังกล่าว

“สุ ดท้ ายคือขั้นที่สาม พิธีกรรมที่เป็ นตัวระบุว่าเราปรารถนาใน


สิ่ งใด

“หากใช้ ทฤษฏีนีเ้ ป็ นบรรทัดฐาน พิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตาของ


เราค่ อนข้ างแปลกประหลาด… เพราะมันไม่ มีส่วนที่สาม!

“ของเซ่ นคืออาหารสี่ ทิศที่วางมุมห้ อง ส่ วนคาถาคือการกล่าวถึง


เทพฟ้ าดินทั้งสี่ …
“แต่ หลังจากนั้น ตัวเราไม่ ได้ ประกอบพิธีกรรมใดต่ อ ทาเพียง
หลับตาและรอผลลัพธ์ มิได้ ระบุว่าต้ องการสิ่ งใดตอบแทน ไม่
แม้ แต่ จะกล่าวอ้อนวอนให้ ดวงชะตาดีขึน้

“หรื อก็คือ… ตัวตนลึกลับไม่ มีทางทราบว่ าเราต้ องการสิ่ งใด มัน


สามารถทาอะไรก็ได้ ที่ตัวเองคิดว่ าเหมาะสม…”

นี่เราปล่อยให้ อีกฝ่ ายตัดสิ นใจแทนมาตลอดเลยหรื อ?

“บ้ าจริง! คนเขียนหนังสื อ‘พิธีกรรมโบราณสมัยราชวงศ์ ฉินและ


ฮั่น’คิดอะไรอยู่กันแน่ ?

“เรามันโง่ ที่ดันไปหลงทาตาม…”

ไคลน์ หยุดเขียนทันที มันพยายามสู ดลมหายใจยาวเข้ าปอดสอง


ครั้งเพื่อสงบสติ

เมื่ออารมณ์ เข้ าที่เข้ าทาง มันเริ่มเขียนต่ อ

“เราควรปรับแต่ งพิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตาให้ สมบูรณ์ เช่ นการ


เอ่ยว่ า ตัวเราปรารถนาที่จะกลับไปยังโลกเก่าและได้ พบเพื่อนฝูงอีก
ครั้ง

“คาถามถัดมาก็คือ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เหตุใดตัวตนลึกลับดึงเรา


ขึน้ ไปบนมิติสายหมอก? มีความนัยพิเศษซ่ อนอยู่หรื อไม่ ?”
“และถ้ าปรับแต่ งพิธีกรรมโดยปรารถนากลับไปยัง‘โลกเก่า’
ตัวตนลึกลับจะเข้ าใจหรื อ ว่ าโลกเก่านั้นหมายถึงสถานที่ใด?

“ต่ อให้ เข้ าใจ แต่ ก็มีอีกหลายสิ่ งที่เรายังหาคาอธิบายไม่ ได้ …

“หากตัวตนลึกลับดังกล่าวสามารถทาตามใจชอบ แล้วเหตุใดถึง
ต้ องส่ งตัวเราไปยังมิติสายหมอกทั้งสามครั้งโดยไม่ มีการ
เปลี่ยนแปลง? แถมปล่อยให้ เราอัญเชิญจัสติสกับแฮงแมนร่ วม
ชุมนุมโดยไม่ รบกวน เจตนาของตัวตนลึกลับคืออะไรกันแน่ ?
“ถ้ าการพิธีกรรมครั้งที่สี่ในบ่ ายวันพรุ่งนีส้ ่ งผลแบบเดิม
หมายความว่ า ตัวตนลึกลับกาลังปรารถนาให้ เรากระทาบางสิ่ งบน
มิติสายหมอก….

“การเพิม่ ขั้นตอนที่สามเข้ าไปเพื่อแจ้ งเจตจานงอาจไม่ เป็ นผล


ไม่ สิ บางทีตัวตนลึกลับอาจโมโหจนทาให้ ทุกสิ่ งแย่ ลง

“แต่ น่าแปลก ทาไมพิธีกรรมจากโลกเก่าถึงส่ งผลกับโลกใหม่


ด้ วย? ทั้งที่เราไม่ ได้ เปลี่ยนแปลงคาถาแม้ แต่ น้อย…

“หมายความว่ า เราสามารถใช้ พธิ ีกรรมนีบ้ นโลกใดก็ได้ แต่ จะให้


ผลลัพธ์ ที่ต่างกันอย่ างนั้นหรื อ…

“แล้วจะแจ้ งความปรารถนากลับโลกเก่าด้ วยวิธีใดได้ บ้าง?


“และถ้ ามองว่ า ตัวตนลึกลับที่โลกเก่ากับโลกใหม่ เป็ นคนละ
บุคคลกัน คาถามหลายข้ อก็จะลงล็อคพอดี…

“แต่ ขณะเดียวกันก็หมายความว่ า ตัวตนลึกลับบนโลกปัจจุบันที่


เราอาศัยอยู่ จงใจดึงตัวเราขึน้ ไปบนมิติสายหมอกด้ วยเหตุผลบาง
ประการ และจะมิอาจเปลี่ยนแปลงโชคตะตานี้ได้ อีกพักใหญ่

“มาถึงคาถามที่สาคัญที่สุด ตัวตนลึกลับของโลกใบนีท้ ี่เราเอ่ยถึง


เขาหรื อเธอเป็ นใครกันแน่ ? แล้วเหตุใดถึงไม่ เผยตัวตนเลยสั กนิด?
“หรื อจะคอยเฝ้าจับตามองในส่ วนลึกของมิติสายหมอกแห่ งนั้น
ตลอดเวลา?

“หืม… หรื อจะเป็ นตัวตนที่กาลังหลับไหล และคอยตอบรับ


พิธีกรรมโดยอัตโนมัติหากมีใครปฏิบัติตามเงื่อนไข?

“แต่ เนื่องจากหลับไหลอยู่ จึงไม่ ยื่นมือแทรกแซงเหตุการณ์ ที่


เกิดขึน้ บนมิติสายหมอก?

“ถ้ าอย่ างนั้น เราสามารถทดลองใช้ ข้นั ตอนที่ต่างออกไปเพื่อหยั่ง


ผลตอบรับ หากผ่ านไปอย่ างราบรื่ น เราจะพบวิธีเดินทางกลับโลก
เก่าได้ ในสั กวัน

“แต่ ปัญหาคือ ถ้ าตัวตนลึกลับมิได้ หลับไหลอย่ างที่คิด ตัวเราจะ


เผชิญความฉิบหายในชั่วพริบตา แบบนั้นไม่ อันตรายไปหน่ อย
หรื อ?

“การทดสอบครั้งแรกต้ องกระทาอย่ างระมัดระวังที่สุด พยายาม


ไม่ ให้ ตัวตนลึกลับโมโห…

“ปวดหัวชะมัด อยากมีข้อมูลมากกว่ านี้”

ไคลน์ ถอนหายใจยาวหลังจากสรุป

มาถึงส่ วนสุ ดท้ าย มันเขียนถึงรายละเอียดปลึกย่ อยที่เหลือ

“มีเสี ยงกระซิบประหลาดดังขึน้ บ่ อยครั้ง มันพูดว่ าอะไรกัน


แน่ … ‘โฮนาซิส’ แล้วก็… เฟรเกียหรื อฟราเกีย?

“โฮนาซิสคือเทือกเขาที่ก้ันแบ่ งอาณาจักรโลเอ็นและสาธารณะรัฐ
อินทิสออกจากกัน ยอดเขาสู งที่สุดมีระดับสู งกว่ าน้าทะเลราวหนึ่ง
กิโลเมตร

“เนื้อความในสมุดบันทึกอันทีโกนัสระบุไว้ ว่า ‘ประเทศรัตติกาล’


เคยมีตัวตนในยุคสมัยที่สี่มาก่อน

“ประเทศรัตติกาลจะเกี่ยวข้ องกับโบสถ์ เทพธิดารัตติกาล


หรื อไม่ ? มีความสั มพันธ์ กันอย่ างไร? มิตรหรื อศัตรู?
“และสาเหตุที่ตระกูลอันทีโกนัสถูกโบสถ์ เทพธิดารัตติกาลลบ
ออกจากประวัติศาตร์ จะเกี่ยวข้ องกับประเทศรัตติกาลที่ว่า
หรื อไม่ ?

“หรื อเสี ยงที่เราได้ ยินจะเป็ นพลังจากสมุดบันทึกอันทีโกนัส?


เสี ยงคร่าครวญของหนึ่งในสมาชิกตระกูลอันทีโกนัสเมื่อพันปี ก่อน
อย่ างนั้นหรื อ?

“แล้วเฟรเกีย… ฟราเกีย? หมายถึงอะไร?

“เป็ นคาถามที่น่าสนใจ… หากประเมินจากความลึกลับของสมุด


บันทึกและการครอบครองของวิเศษต้ องห้ ามรหัส 2-049 มีความ
เป็ นไปได้ สูงว่ า ตระกูลอันทีโกนัสจะมีอิทธิพลอย่ างมากในสมัย
อดีต อาจเป็ นตระกูลผู้วิเศษใหญ่ ลาดับต้ นๆ ของทวีปเหนือ

“ชักสงสั ยแล้วว่ า พวกมันถือครองโอสถเส้ นทางใดไว้ ? เส้ นทาง


สมบูรณ์ หรื อไม่ ?

“การทีเ่ ราพบว่ าสมุดบันทึกอันทีโกนัสตกอยู่ในมือรีเอล·บีเบอร์


มันเป็ นเรื่ องบังเอิญที่น่าตกใจก็จริง แต่ ก็ปราศจากสั ญญาณการถูก
ชักจูงโดยใครบางคน

“ชักน่ าสงสั ยว่ า ชะตาชีวิตของเราถูกผูกติดกับสมุดบันทึกเล่ม


นั้นจริงหรื อ?”

ข้ อสงสั ยทั้งหมดของไคลน์ ถูกเขียนลงบนแผ่ นกระดาษหน้ าแล้ว
หน้ าเล่า ทุกคาถามจะถูกวิเคราะห์ สาเหตุและหาคาตอบอย่ าง
ละเอียด

ภาษาจีนกลางถูกขีดเขียนลงบนกระดาษสี่ แผ่ นเต็ม ทั้งด้ านหน้ า


และด้ านหลัง

ฉึบ
ไคลน์ สลับหยิบหน้ าแรกขึน้ มาอ่านทวนใหม่ ต้ังแต่ ต้นจนจบ
บางครั้งใช้ ปากกาขีดเน้ นในส่ วนสาคัญ บางครั้งก็เขียนเพิม่ เข้ าไป
และอ่านทวนซ้าทั้งประโยค

เวลาผ่ านไปอย่ างรวดเร็ว จันทร์ แดงฉานด้ านนอกถูกเมฆมืดปก


คลุมจนลับตาชั่วขณะ

ชายหนุ่มหยิบนาฬิ กาพกบนโต๊ ะขึน้ มาและเปิ ดฝาสารวจเวลาครู่


หนึ่ง ก่อนจะวางลง

ถัดมาเป็ นการดึงลิน้ ชักออกและก้มหยิบกล่องไม้ ขีดไฟ ไคลน์ จุด


ไม้ ขีดหนึ่งก้านพร้ อมกับนาเปลวเพลิงไปลนขอบปึ กกระดาษทั้งสี่
แผ่ น
เพลิงส้ มลุกลามทั่วแผ่ นกระดาษรวดเร็ว
ไคลน์ ขยับมือข้ างที่ถือกระดาษไปวางเหนือถังขยะใกล้ตัว

ขีเ้ ถ้ าค่ อยๆ ร่ วงหล่นลงถัง

จนกระทั่งเหลือเพียงมุมกระดาษส่ วนสุ ดท้ าย มันบรรจงคลาย


ปลายนิว้ ที่คีบอยู่ ปล่อยให้ เศษกระดาษที่เหลือหล่นลงถังขยะโดย
สมบูรณ์

ในเมื่อไดอารีจักรพรรดิโรซายถูกเขียนด้ วยภาษาจีนกลาง หาก


ลุงนีลล์หรื อหัวหน้ าดันน์ ทราบว่ ามันมีเอกสารที่เขียนในภาษา
เดียวกันเก็บไว้ กับตัว ไคลน์ คงมิอาจหาคาตอบใดไปอธิบายได้

และในโลกที่ผ้ วู ิเศษสามารถเข้ าฝันคนอื่นได้ ตามใจชอบ คงไม่ ดี


แน่ หากตนเขียนความลับของตัวเองเป็ นภาษาโลเอ็น ฟุซัค หรื อ
เฮอร์ มิส

ดังนั้น การเขียนด้ วยอักษรจีนกลางก็เพื่อเข้ ารหัสความลับไว้


และต่ อให้ มีใครแอบอ่านความฝัน ไคลน์ ก็สามารถอธิบายได้ ว่า ตน
พยายามถอดรหัสไดอารีจักรพรรดิโรซายอย่ างหนักจนเก็บเอาไป
ฝันถึง

ดังนั้น เมื่อสรุปเสร็จสิ้นก็ต้องทาลายหลักฐานทิง้ โดยเร็ว เพื่อ


ไม่ ให้ เหลือร่ องรอยสาหรับสื บสาวมาถึงตัว
การทบทวนความรู้และหาข้ อสรุปของโลกปัจจุบัน ถือเป็ น
สิ่ งจาเป็ นสาหรับการเอาตัวรอด มันจะหมั่นกระทาเช่ นนี้ต่อเนื่อง
ทุกสั ปดาห์ เพื่อไม่ ให้ รายละเอียดเล็กน้ อยตกหล่น

เมื่อกระดาษสี่ แผ่ นกลายเป็ นซากถีเ้ ถ้ าโดยสมบูรณ์ ไคลน์ หยิบ


กระดาษแผ่ นใหม่ ขึน้ มาเขียนหัวเรื่ อง :

“เรียนอาจารย์ ที่เคารพ…”

มันต้ องการใช้ ความรู้ความสามารถของศาสตราจารย์ เคว็นติน·


โคเฮ็นในการสื บหาร่ องรอยของเทือกเขาโฮนาซิส
ราชันย์ เร้ นลับ 58 : ข้ อสรุป

วันถัดมา เช้ าวันจันทร์ ที่สดใส

ไคลน์ สามารถหยุดได้ หนึ่งวันต่ อสั ปดาห์ และมันก็เลือกวัน


จันทร์ ชายหนุ่มจึงไม่ ต้องออกจากบ้ าน

ส่ วนเรื่ องจดหมายถึงศาสตราจารย์ โคเฮ็น ไคลน์ ฝากฝังให้ เมลิส


ซ่ านาไปส่ งแทน โดยมอบเงินติดตัวให้ เธอเป็ นค่ าสแตมป์ จ่ าหน้ า
ซอง

ที่ต้องไหว้ วานเมลิสซ่ าเพราะสานักงานไปรษณีย์เมืองทิงเก็นอยู่


ไม่ ไกลจากโรงเรียนเทคนิคทิงเก็นมากนัก

หลังอาหารมื้อเช้ า ไคลน์ ตัดสิ นใจนอนต่ อเนื่องจากพักผ่ อนไม่


เพียงพอ สาเหตุเพราะเมื่อคืนหักโหมทบทวนความรู้นานเกินไป

มันตื่นขึน้ อีกครั้งในยามบ่ ายพร้ อมกับเสี ยงท้ องร้ องคาราม

ชายหนุ่มประทังชีวิตด้ วยการอุ่นขนมปังไรย์ ที่เหลือจากมื้อค่า


เมื่อคืน จากนั้นก็คว้ าหนังสื อพิมพ์และเดินขึน้ ไปถ่ ายหนักที่ห้องน้า
ชั้นสอง
ทุกครั้งที่เข้ าห้ องน้า ไคลน์ ได้ แต่ ตัดพ้อเรื่ องที่โลกยุคปัจจุบัน
ปราศจากโทรศัพท์ มือถือ

แต่ ถึงจะมี… ก็ไม่ มีอินเทอร์ เน็ตอยู่ดี

หลังจากผ่ านไปเจ็ดถึงแปดนาที ไคลน์ ทาธุระส่ วนตัวเสร็จและ


ล้างมือ ก่อนจะเดินกลับเข้ าห้ องนอนพร้ อมกับล็อคประตู

ชายหนุ่มรูดม่ านในห้ องปิ ดมิดชิดและเริ่มจุดโคมไฟแก๊ส จากนั้น


ก็นั่งเข้ าฌานเป็ นเวลากว่ าครึ่งชั่วโมง ตลอดครึ่งชั่วโมง มันฝึ กฝน
เนตรวิญญาณ ทานายลูกตุ้ม และทานายแท่ งวิญญาณให้ เกิดความ
ช่าชอง

จากนั้นก็ใช้ เวลาอีกหนึ่งชั่วโมงเต็มทบทวนความรู้ด้านศาสตร์
เร้ นลับชนิดใหม่ ๆ ในสั ปดาห์ ที่ผ่านมา

ถัดมาเป็ นการฝึ กฝนพิธีกรรมเวทมนตร์ ที่ลุงนีลล์ สอน มันขยา


กระดาษหนังสื อพิมพ์ให้ เป็ นก้อนกลมและเขียนลงไปว่ า ‘เทียนไข
บุปผาจันทรา’ กับ ‘น้ามันสกัดจันทร์ เต็มดวง’ จากนั้นก็เริ่มปฏิบัติ
ตามขั้นตอนอย่ างละเอียด

ไคลน์ ไม่ ต้องการประกอบพิธีกรรมจริง เพราะนั่นถือเป็ นการ


สิ้นเปลืองโดยใช่ เหตุและอาจนาภัยอันตรายมาสู่ ตัว

มันฝึ กพิธกี รรมเวทมนตร์ ซ้าไปมาจนกระทั่งหยิบนาฬิ กาพกสี


เงินลายใบองุ่นออกมาเปิ ดฝาตรวจสอบ
อีกสิ บห้ านาทีจะบ่ ายสาม

ไคลน์ ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะนาก้อนกระดาษหนังสื อพิมพ์ ที่ใช้


ฝึ กประกอบพิธีกรรมลงไปเผาทิง้ ที่ถังขยะชั้นล่ าง

ระหว่ างเดินกลับขึน้ มา ชายหนุ่มพยายามสงบจิตใจเพื่อให้


พร้ อมสาหรับชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์ที่กาลังจะมีขึน้

เมื่อตรวจสอบเวลาอีกครั้ง ไคลน์ ไม่ รอให้ บ่ายสามตรงค่ อยเริ่ม


ลงมือ มันมีแผนจะเข้ ามิติสายหมอกไปเตรียมตัวล่วงหน้ า

คิดว่ าวันนีจ้ ะลองเดินสารวจให้ รอบ

ขณะกาลังยืนใจกลางห้ องและเตรียมเดินทวนเข็มนาฬิ กาเป็ น


สี่ เหลี่ยมจัตุรัส ไคลน์ พลันฉุกคิดบางสิ่ ง…

จะเกิดอะไรขึน้ ถ้ าจัสติสกับแฮงแมนถูกรบกวนขณะร่ วมชุมนุม?

มันเคยกล่าวกับทุกคนไปแล้วว่ า ผู้ร่วมชุมนุมสามารถ‘กลับ’ก่อน
ได้ หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ เหมาะสม เพียงแค่ บอก ตนจะ
ส่ งกลับทันทีโดยไม่ ลังเล

แต่ นั่นไม่ ใช่ ตัวเลือกที่สะดวกนัก เนื่องจากจิตของผู้ร่วมชุมชุ ม


ต้ องถูกอัญเชิญขึน้ มายังมิติสายหมอกชั่วขณะ ภายในระยะเวลา
สั้ นๆ ตรงนีส้ ามารถทาให้ อีกฝ่ ายตกที่นั่งลาบากได้

ไคลน์ ครุ่นคิดถึงวิธีแก้ปัญหาอยู่นาน

มันพยายามหาทางทาให้ ชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์มีระบบคล้ายกับโลก


อินเทอร์ เน็ต ที่สามารถฝากข้ อความทิง้ ไว้ ได้ หากติดธุระจาเป็ น
กระทันหัน

ทว่ า ไม่ ใช่ เรื่ องง่ ายที่กระทาเช่ นนั้นบนโลกปัจจุบันซึ่งเทคโนโลยี


สื่ อสารลา้ สมัยที่สุดเป็ นโทรเลข

แต่ เมื่อมีความรู้ด้านพิธีกรรมเวทมนตร์ มากขึน้ มันเริ่มเกิด


ไอเดียแปลกใหม่

“พิธีกรรมเวทมนตร์ ช่วยให้ ผ้ วู ิเศษสามารถหยิบยืมพลังจาก


ตัวตนลึกลับได้ … การท่ องคาถาอัญเชิญซ้าเดิมจะทาให้ พธิ ีกรรมชี้
เป้าไปยังตัวตนลึกลับเดิมๆ เสมอ เฉกเช่ นที่ลุงนีลล์เลือกยืมพลัง
จากเทพธิดารัตติกาลทุกครั้ง

“ด้ วยเหตุนี้ จึงหมายความว่ า หากท่ องคาถาอัญเชิญโดยขานชื่ อ


ตัวตนอื่น ก็สามารถติดต่ อกับตัวตนลึกลับอื่นได้ เช่ นกัน

“เช่ นนั้นแล้ว เราสามารถท่ องคาถาอัญเชิญระบุถึงตัวเองได้


หรื อไม่ ?
“ใช่ แล้ว… หาตัวเราโดยตรง

“ด้ วยวิธีนี้ จัสติสและแฮงแมนสามารถประกอบพิธีกรรมเวท


มนตร์ และส่ งข้ อความมาถึงเดอะฟูลในมิติสายหมอกได้ ”

หลังจากศึกษาพิธีกรรมเวทมนตร์ อย่ างลึกซึ้งจากลุงนีลล์ ไคลน์


เชื่ อมั่นว่ าวิธีนมี้ ีโอกาสสาเร็จสู ง

“มีจุดยากอยู่สองข้ อ หนึ่งคือ เราไม่ ใช่ ตัวตนลึกลับที่ทรงพลัง แม้


พวกเขาจะส่ งข้ อความหาเราได้ แต่ ตัวเราจะไม่ ได้ รับ‘คาขอร้ อง’
ดังกล่าว”

“และสองคือ เราจะพิสูจน์ อย่ างไรว่ าคาถาเอ่ยถึงตัวเราจริง? หาก


ให้ จัสติสและแฮงแมนท่ องมั่วซั่ว ข้ อความอาจถูกส่ งไปถึงตัวตน
ลึกลับอื่นที่มีลักษณะตรงตามคาถาแทน… แบบนั้นไม่ ดีแน่ ”

ไคลน์ เดินวนเวียนไปมาใจกลางห้ องพลางครุ่นคิดหาวิธีที่เป็ นไป


ได้ มากที่สุด ขณะเดินเป็ นวงกลมด้ วยฝี เท้ าเงียบงัน มันนึกถึงความ
พิเศษของมิติสายหมอกขึน้ มาได้

“จริงด้ วย… ถึงตัวเราจะรับข้ อความไม่ ได้ แต่ ถ้าเป็ นมิติสาย


หมอกต้ องรับได้ แน่ มันมีพลังมากขนาดดึงจิตมนุษย์ มาจากส่ วนใด
ของโลกก็ได้
“ถ้ าเราให้ จัสติสและแฮงแมนท่ องคาถาที่สื่อถึงมิติสายหมอกโดย
แฝงชื่ อเราไว้ ด้วย…

“สรุปก็คือ ต่ อให้ เราไม่ ได้ รับ‘ข้ อความ’ในทันทีหลังจากทั้งสอง


คนประกอบพิธี แต่ เมื่อไรที่เรากลับเข้ ามิติสายหมอก ข้ อความ
ดังกล่าวก็จะถูกส่ งมาถึง

“อธิบายให้ ง่ายกว่ านั้นก็คือ… ระบบฝากข้ อความในตอนที่เราตัว


ออฟไลน์ ”

ไคลน์ เริ่มตื่นเต้ น มันต้ องการทดสอบสมมติฐานให้ กระจ่ าง

“หืม… แล้วต้ องเป็ นคาถาแบบไหน? พิธีกรรมถึงชี้เป้าไปยังมิติ


สายหมอกและตัวเราพร้ อมกันได้ ”

ไคลน์ เริ่มลงลึกรายละเอียด

มีอยู่หนึ่งคาถาที่ได้ ผลแน่ นอน นั่นคือการเอ่ยถึง‘เซียนราชันย์ ฟ้า


ดินประทานโชค’เป็ นภาษาโลเอ็น แต่ ปัญหาคือ หากให้ จัสติสและ
แฮงแมนท่ องเช่ นนั้น ไคลน์ จะสู ญเสี ยการเป็ นเจ้ าของมิติสายหมอก
ทันที บทบาทหัวหน้ าใหญ่ ชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์ก็จะจบลง

หรื อใช้ ‘เดอะฟูลจากต่ างโลก’ดีไหม?

ไม่ ดีแน่ ตรงเกินไป บนโลกปัจจุบันอาจไม่ มีใครเดินทางข้ ามโลก


เหมือนตนอีกแล้ว และนั่นจะเป็ นการเผยความลับสาคัญโดยไม่
จาเป็ น…

ไคลน์ พยายามคิดหาคาถาอีกหลายแบบ แต่ มันก็ปฏิเสธทิง้


ทั้งหมด

ผ่ านไปเจ็ดถึงแปดนาที ในที่สุดชายหนุ่มก็คิดท่ อนแรกของคาถา


ได้

“เดอะฟูลจากต่ างยุคสมัย”
แน่ นอน แค่ นคี้ งยังสื่ อถึงตนได้ ไม่ แม่ นยามากพอ มันรีบเสริม

“ผู้ปกครองลึกลับเหนือห้ วงสายหมอกเทา”

แล้วก็…

ไคลน์ เงียบงันราวหนึ่งนาทีก่อนจะกล่าวประโยคสุ ดท้ าย

“ราชันย์ เหลืองดาผู้ครองพลังโชคลาภ”

ในภาษาจีนกลาง สี เหลืองหมายถึงดิน และสี ดาหมายถึงฟ้ า ขณะ


สวดที่โลกเก่า คาถาดั้งเดิมภาษาจีนจะหมายถึงฟ้ าดิน แต่ ถ้าแปลง
เป็ นภาษาโลเอ็นจะต้ องพูดว่ าเหลืองดาให้ เหมือนต้ นฉบับ
ประโยคสุ ดท้ ายมีไว้ สาหรับเรียกมิติสายหมอก อันที่จริง คาถานี้
ไม่ ได้ เรียกตรงไปยังมิติสายหมอกโดยสมบูรณ์ เนื่องจากมิติสาย
หมอกของแท้ ต้องกล่าวถึงสี่ ประโยค ดังนั้น สองประโยคแรกไคลน์
จึงกากับไว้ เพื่อให้ หมายถึงตัวไคลน์

ถึงไม่ มั่นใจเต็มร้ อยว่ าคาถาบทนีจ้ ะชี้เป้าไปยังตนและมิติหมอก


เทา แต่ ไคลน์ ก็มั่นใจว่ าไม่ มีทางหมายถึงตัวตนลึกลับอื่นได้ แน่
ฉะนั้น มิสจัสติสและมิสเตอร์ แฮงแมนสามารถประกอบพิธีกรรม
ได้ อย่ างปลอดภัย

ไคลน์ ถอนหายใจยาวหนึ่งครั้ง ก่อนจะท่ องคาถาที่มันคิดค้ นขึน้


เอง

“เดอะฟูลจากต่ างยุคสมัย ผู้ปกครองลึกลับเหนือห้ วงสายหมอก


เทา ราชันย์ เหลืองดาผู้ครองพลังโชคลาภ…”

ไคลน์ พยักหน้ าพึงพอใจพร้ อมกับหยิบนาฬิ กาพกสี เงินออกมา


ตรวจสอบ

“อีกสองนาทีจะบ่ ายสาม…”

ไม่ คิดให้ ว่ นุ วาย ไคลน์ เก็บนาฬิ กากลับและเริ่มเข้ าฌาน จากนั้นก็


เดินทวนเข็มนาฬิ กาเป็ นทรงสี เหลี่ยมจัตุรัส

เสี ยงกระซิบแหบพร่ าดังขึน้ ตามนัดหมาย ศีรษะปวดแปลบ


รุนแรงยิ่งกว่ าเมื่อครั้งดื่มโอสถนักทานาย
นี่มิใช่ ความปวดจากการถูกกรีดเฉื อน แต่ เป็ นความปวดคล้ายกับ
ถูกบีบรัดซึ่งทาให้ จิตใจคลุ้มคลั่งและสั บสน

ไคลน์ พยายามรักษาฌานไว้ และไม่ แยแสต่ อเสี ยงลึกลับ

เมื่อเวลาผ่ านไป เสี ยงกระซิบเบาลงทุกขณะ คล้ายคลึงกับคลื่น


ซาที่ซัดผ่ าน ร่ างกายกาลังเบาหวิว จิตเริ่มมองเห็นล่องลอย

มิติสายหมอกไร้ สิ้นสุ ดปรากฏเบื้องหน้ าชายหนุ่มอีกครั้ง สิ่ งแรก


ที่เห็นคือสองดาวแดงซึ่งห่ างออกไปในระยะไม่ เท่ ากัน ราวกับมี
นัยน์ ตาสี แดงคู่หนึ่งกาลังจ้ องมอง

ฉากรอบตัวยังคงเหมือนเดิม พระราชวังหรูหราอลังการขนาด
มหึมาราวกับให้ ยักษาอาศัย สภาพเก่าแก่ประหนึ่งมีอายุนับล้านปี

เพียงแค่ คิด ร่ างจิตไคลน์ ก็หายไป และโผล่อีกครั้งบนตาแหน่ ง


หัวโต๊ ะจากเก้าอีพ้ นักสู งที่วางเรียงรายจานวน 22 ตัว

“ผลของพิธีกรรมเหมือนเดิมทุกครั้ง…”

ไคลน์ พมึ พาพลางใช้ นวิ้ แตะหว่ างคิว้ สองหนเพื่อเข้ าสู่ ภาวะเนตร


วิญญาณ ขณะเดียวกันก็จิตนาการให้ หมอกรอบกายหนาและ
เข้ มข้ นขึน้
จากคาอธิบายของแฮงแมน หากจัสติสกลายเป็ น‘ผู้ชม’เต็มตัว
สายตาของเธอจะเฉียบแหลมมากกว่ ามนุษย์ ปรกติหลายเท่ า การไม่
ประมาทไว้ ก่อนคงดีกว่ า

ไม่ มีเวลามากพอให้ เดินสารวจรอบ ไคลน์ รีบเปิ ดการเชื่ อมต่ อ


ระหว่ างดาวแดงสองดวงที่ค้ นุ เคยทันที

เหนือคลื่นสมุทรสุ ดบ้ าคลั่งของทะเลโซเนียร์ เรื อไม้ ลาโบราณ


กาลังแล่ นผ่ านไปอย่ างไม่ โคลงเคลงด้ วยความช่ วยเหลือจากสายลม

อัลเจอร์ ·วิลสั นยืนยันให้ แน่ ใจว่ าเรื อวิญญาณลานีอ้ ยู่ในสถานะ


ปลอดภัยสู งสุ ด ก่อนจะขังตัวเองมิดชิดภายในห้ องกัปตัน

มันเปิ ดนาฬิ กาพกเพื่อยืนยันเวลาขณะทิง้ ตัวลงนอนข้ าง


เครื่ องวัดระยะทางที่ทาจากทองเหลือง ทุกการขยับของเข็มวินาที
ได้ บีบเค้ นหัวใจอัลเจอร์ ให้ ตึงเครียด

เมื่อเข็มชั่วโมง เข็มนาที และเข็มวินาทีบ่งบอกเวลาบ่ ายสามโมง


ตรง เบื้องหน้ าอัลเจอร์ เกิดระเบิดแสงสี แดงเข้ มโดยไม่ สนใจระบบ
ป้องกันที่มันวางไว้ หลายชั้นรอบเรื อและรอบตัวเอง

เฮ่ อ…
เสี ยงถอนหายใจยาวดังสะท้ อนทั่วห้ องกัปตัน

กรุงเบ็คลันด์ เขตราชินี

ออเดรย์ ·ฮอลล์ทงิ้ ตัวลงนอนบนหมอนขนนกอ่อนนุ่มพลาง


ชาเลืองสายตามองแผ่ นกระดาษสี เหลืองในมือ ดวงตาของเธอกาลัง
ส่ องประกายตื่นเต้ นคล้ายกับวิญญาณสองดวงเคลื่อนไหววูบวาบ
สี หน้ าของเด็กสาวกาลังคาดหวัง ประหนึ่งพ่อและแม่ สัญญาว่ า
จะพาไปสวนสนุก

ทันใดนั้น แสงสี แดงเข้ มเริ่มสาดส่ องอาบร่ าง ออเดรย์ นอนสงบ


นิ่งขณะถูกดูดกลืนเข้ าไปในห้ วงมิติอื่นไกล

เหนือมิติสายหมอก ภายใต้ โดมหลังคาของพระราชวังหรูหรา


และโอ่อ่า ใจกลางห้ องมีโต๊ ะทองแดงยาวซึ่งปรากฏรอยขีดข่ วน
จางๆ หลายจุด

ไคลน์ ที่เข้ าสู่ ภาวะเนตรวิญญาณอยู่ก่อนแล้ว มันชาเลืองมองร่ าง


ของออเดรย์ ·ฮอลล์ทคี่ ่ อยๆ ก่อตัวเป็ นรูปทรงชัดเจน
ชายหนุ่มไม่ ประหลาดใจนักเมื่อเห็นสี ออร่ าของเธอกลมกลืน
อย่ างลงตัว นับเป็ นแสงที่บริสุทธิ์และเงียบสงบดุจดังน้านิ่งใน
ทะเลสาปสะอาดกระจ่ างใส

เธอกลายเป็ นผู้วิเศษเต็มตัวแล้ว…

ขณะกาลังจะหันไปสารวจแฮงแมน ไคลน์ เหลือบเห็นตรา


สั ญลักษณ์ บนพนักพิงเก้ าอีต้ ัวที่ออเดรย์ นั่งประจาเริ่มเปลี่ยนแปลง
รูปร่ าง
จากดาวแดงกลายเป็ นภาพสั ญลักษณ์ ทางจักรราศีชนิดหนึ่งซึ่ง
ไม่ เหมือนกับโลกเก่า

ไคลน์ เพิง่ เรียนมาไม่ นาน มันจึงยังจาแม่ น

นั่นคือจักรราศี‘มหามังกร’

เส้ นทาง‘ผู้ชม’คือมหามังกรอย่ างนั้นหรื อ?

ไคลน์ พยายามสงบท่ าทีเพื่อไม่ ให้ ท้งั สองผิดสั งเกตุ จากนั้นก็


เหลือบมองไปที่พนักพิงของแฮงแมนบ้ าง

ในทางทฤษฏี ไคลน์ ไม่ มีทางมองเห็นพนักพิงได้ เลยหากมีคนนั่ง


อยู่ แต่ มิติสายหมอกแห่ งนีอ้ ยู่ในการควบคุมของมัน เรื่ องดังกล่าว
จึงไม่ เกินความสามารถ
ตราสั ญลักษณ์ ของแฮงแมนยังมีลักษณะเหมือนเดิมทุกประการ
แต่ เมื่อก่อนไคลน์ ยังขาดความรู้ และไม่ ทราบถึงความหมายของตรา
จักรราศีชนิดนี้

“พายุ”

หืม…

เส้ นทางกะลาสี หรื อชื่ อเดิมคือผู้พทิ ักษ์ ท้องทะเล… หมายถึง


จักรราศีพายุสินะ?

ก็สมเหตุสมผลดีแล้ว

เดี๋ยวก่อน… แล้วสั ญลักษณ์ พนักพิงเก้าอีเ้ ราล่ะ เป็ นจักรราศีใด


กัน?

ทว่ า ไคลน์ ไม่ แสดงพฤติกรรมน่ าละอายด้ วยการหันหลังไปมอง


มันตัดสิ นใจเหยียดแขนเคาะโต๊ ะพร้ อมกับอมยิม้

“ขอแสดงความยินดีด้วย มิสจัสติส กลายเป็ นผู้วิเศษจนได้ สินะ”

เขาสามารถบอกได้ ทันทีเลยหรื อ? ออเดรย์ ผงะเล็กน้ อยก่อนจะ


ยิม้ ตอบ
“ขอบคุณค่ะ มิสเตอร์ ฟูล แล้วก็ขอบคุณมากเช่ นกัน มิสเตอร์ แฮง
แมน”

“เร็วกว่ าที่ผมคิดมากเลยนะ”

อัลเจอร์ ·วิลสั นกล่าวจากใจ

ไคลน์ ไม่ สานต่ อบทสนทนาเดิม มันแอบแตะหว่ างคิว้ สองครั้ง


พร้ อมกับเอ่ยปากถาม
“คุณสุ ภาพบุรุษและสุ ภาพสตรี มีใครพบไดอารีของจักรพรรดิ
โรซายบ้ างหรื อไม่ ?”
ราชันย์ เร้ นลับ 59 : จุดเริ่มต้ นของโรซาย

หลังจากได้ ยินคาถาม ออเดรย์ มิได้ ยกมือรีบตอบเฉกเช่ นทุกครั้ง


เธอชาเลืองมองทางแฮงแมนด้ วยสายตาสงบนิ่งคล้ายกับวิเคราะห์
อีกฝ่ ายตั้งแต่ หัวจรดเท้ า

อัลเจอร์ เกร็งตัวเล็กน้ อย และเอ่ยปากพูดขึน้ หลังจากเงียบงันสอง


สามวินาที

“ผมรวบรวมไดอารีของจักรพรรดิโรซายได้ สองหน้ า และบันทึก


ข้ อความไว้ ในหัวเรียบร้ อยแล้ว”

“ดิฉันมีหนึ่งหน้ า จาได้ แล้วเช่ นกัน”

ออเดรย์ จ้องมองเดอะฟูลที่มีหมอกหนาบดบัง เธอรีบตะโกนตาม


แฮงแมนเพราะกลัวจะถูกตัดออกจากบทสนทนา

“ทาได้ ไม่ เลว”

ไคลน์ พยายามระงับอารมณ์ ตื่นเต้ น มันกล่าวด้ วยเสี ยงเรียบเฉย


ราวกับมิได้ แยแสนัก

อาจเป็ นเรื่ องดีที่พบไดอารีถึงสามหน้ า แต่ ขณะเดียวกันก็ถือเป็ น


ข่ าวร้ าย เพราะตามธรรมชาติแล้ว การรวบรวมไดอารีช่วงแรกควร
ง่ ายที่สุด แต่ ละคนสามารถค้ นหาจากใกล้ตัวหรื อช่ องทางข่ าวสารที่
ใช้ ประจา ซึ่งยิ่งเวลาผ่ านไปนาน การคนหาไดอารีก็ยิ่งทาได้ ยาก
ขึน้

“ให้ พวกเรา‘แสดง’เลยไหมคะ?”

ออเดรย์ ไต่ ถามเสี ยงสุ ขุม

“อา…”
ไคลน์ ผงกศีรษะเบาๆ

มันยังคงรักษาอากัปกริยามิให้ ตื่นเต้ นออกนอกหน้ า ไม่ อย่ างนั้น


‘ผู้ชม’อาจผิดสั งเกตุ

เมื่อกล่าวจบ แผ่ นกระดาษหนังและปากกาหมึกซึมสี แดงเข้ ม


พลันปรากฏบนโต๊ ะด้ านหน้ าออเดรย์ และอัลเจอร์

ทั้งสองจับปากกาและพยายามจินตนาการเนื้อความในไดอารีที่
รวบรวมได้ ขณะเดียวกันก็ใส่ ‘เจตจานง’ต้ องการเปิ ดเผยความคิด
ลงไป

เพียงไม่ นาน อักษรเริ่มถูกบันทึกลงแผ่ นกระดาษหนังทีละ


บรรทัด บางอักษรคมชัดสมบูรณ์ แบบ บางอักษรซับซ้ อนขยุกขยิก
และบางอักษรเอียงเบี้ยวไปจากปรกติ
ผ่ านไปราวหนึ่งนาที อัลเจอร์ และออเดรย์ ทาการบรรจุความทรง
จาของพวกตนลงแผ่ นกระดาษเสร็จสิ้น

ไคลน์ หยิบกระดาษหนังทั้งสามแผ่ นมาถือ

หลังจากกวาดสายตาอ่านอย่ างคร่ าว มันพบว่ าไวยากรณ์ ในหลาย


จุดผิดเพีย้ น รวมถึงการขาดหายไปของตัวอักษรและการเขียนผิด
อีกหลายจุด
แต่ บนโลกเก่าเคยมีงานวิจัยหลายชิ้นพิสูจน์ แล้วว่ า มนุษย์
สามารถจับใจความประโยคได้ แม้ อักษรบางส่ วนขาดหายไป

แถมไคลน์ ยังเป็ นนักอ่านนิยายออนไลน์ ตัวยง มันคุ้นชินกับคา


หยาบที่มักถูกเขียนโดยใช้ ดอกจันทร์ ละไว้

“8 มิถุนายน ขณะกาลังยืนที่หัวเรื อ‘บัลลังก์นิลคาราม’ เราทาการ


กางแขนออกและกล่าวกับ‘กรีน’และ‘เอ็ดเวิร์ด’ว่ า…

“สมบัติที่ฉันสั่ งสมมาทั้งชีวิตจะตกเป็ นของพวกนายสองคน แต่


พวกนายมีหน้ าที่ต้องออกไปค้ นหาด้ วยตัวเอง! ฉันได้ ซ่อนมันไว้ ใน
ส่ วนลึกสุ ดของทะเลมหาหมอกแล้ว!

“แต่ เจ้ าบื้อสองคนนั้นกลับไม่ เข้ าใจมุกตลก แถมยังถามด้ วยสี


หน้ าฉงนอีกว่ า ‘คุณยังมีสมบัติอื่นอยู่อีกหรื อ?’
“น่ าเบื่อชะมัด เจ้ าพวกนีท้ าตัวไม่ สมกับเป็ น‘จตุรอาชา’ของฉัน
เลยสั กนิด!”

“11 มิถุนายน เราค้ นพบเกาะแห่ งใหม่ บนเส้ นทางเดินเรื อไม่


ปลอดภัย บนเกาะมีสัตว์ วิเศษอาศัยอยู่จานวนมาก ไม่ สิ ขอเรียกว่ า
‘สิ่ งมีชีวิตวิเศษ’ก็แล้วกัน แบบนีเ้ ท่ กว่ าตั้งเยอะ

“แต่ สัตว์ วิเศษพวกนีห้ น้ าตาประหลาดชะมัด เรามั่นใจว่ าถ้ า


ชาร์ ล·ดาร์ วินถูกส่ งข้ ามโลกมาถึงที่นี่ หมอนั่นไม่ มีทางคิดค้ น
ทฤษฏีวิวัฒนาการได้ แน่ ”

“15 พฤษภาคม กรีนมีท่าทีแปลกไป หรื อหมอนั่นกาลังถูกพลัง


บางอย่ างครอบงา?”

จักรพรรดิโรซายเริ่มล่องเรื อในปี ไหนกันนะ? สงสั ยต้ องค้ น


ประวัติศาสตร์ โดยละเอียดจากห้ องสมุด ถ้ าจาไม่ ผิด ทะเลมหา
หมอกจะอยู่ทางตะวันตกของสาธารณะรัฐอินทิส

ไคลน์ อ่านหน้ าแรกจบลงอย่ างรวดเร็ว มันรีบหยิบกระดาษแผ่ น


ต่ อไปขึน้ มา

มาถึงจุดนี้ ไคลน์ ไม่ มีเหตุให้ ต้องปิ ดบังว่ าตนสามารถอ่านไดอารี


ลา้ ค่ าของจักรพรรดิโรซายออก ความพิเศษของตนจะช่ วยให้
ภาพลักษณ์ ของเดอะฟูลยิ่งใหญ่ ขนึ้
ออเดรย์ และอัลเจอร์ ทาเพียงจ้ องมองโดยไม่ กล่ าวสิ่ งใด ทั้งสอง
นั่งรออย่ างเงียบงันราวกับไม่ ประหลาดใจที่มิสเตอร์ ฟูลสามารถ
อ่านออก

และอันที่จริง พวกมันคิดว่ าการรอคอยโดยไม่ พูดแทรกคือเดียว


ที่กระทาได้ ในสถานการณ์ ปัจจุบัน

“2 ตุลาคม พวกมันต้ องการให้ เราแต่ งงานกับมิสมาทิลด้ าจาก


ตระกูลอาเบลให้ ได้ ! พระเจ้ า! เราไม่ เคยพบหน้ าหล่อนเลยสั กครั้ง!
ไม่ ได้ ! หัวเด็ดตีนขานก็ต้องปฏิเสธ! ต่ อให้ ต้องหนีหัวซุกหัวซุน
และอดอยากไปตลอดชีวิตที่เหลือ แต่ เราจะไม่ มีวันยอมรับการคลุม
ถุงชนเด็ดขาด!

“5 ตุลาคม มิสมาทิลด้ าสวยชะมัด… สวยชนิดวัวตายความล้ม”

“6 ตุลาคม อุปนิสัยและกริยามารยาทของเธอตรงตามสเปคเรา
ทุกประการ ชักอยากให้ งานแต่ งมาถึงไวๆ แล้วสิ ”

กลืนน้าตายตัวเองเร็วฉิบ…

ไคลน์ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มันพยายามไม่ ให้ อารมณ์ ขันหลุด


ลอดผ่ านสายหมอกออกไป
ชายหนุ่มเริ่มตระหนักว่ า โรซาย·กุสตาฟมิได้ บันทึกไดอารีทุกวัน
ในช่ วงแรกของชีวิต จะเขียนก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์ สาคัญที่ต้องการ
ราพัน จดบันทึก หรื อระบายอารมณ์

สายตาไคลน์ เหลือบลงมองส่ วนล่างของหน้ ากระดาษแผ่ นที่สอง


มันอ่านออกเสี ยงประโยคสุ ดท้ ายภายในใจ

“9 ตุลาคม พวกมันเริ่มเรียกเราว่ า‘บุตรแห่ งไอน้า’ ฟังดูเจ๋ ง


ชะมัด”

ไคลน์ ค่อนข้ างผิดหวังที่เนื้อความสองหน้ ากระดาษแรกมีมูลค่ า


ไม่ มาก

แต่ นั่นก็ไม่ ส่งผลให้ ตนอารมณ์ บงึ้ ตึง มาถึงแผ่ นสุ ดท้ าย ชายหนุ่ม
พบว่ ากระดาษแผ่ นนีม้ ีข้อความเขียนไว้ ท้งั ด้ านหน้ าและด้ านหลัง

“21 เมษายน โบสถ์ เทพแห่ งช่ างฝี มือได้ เสนอเส้ นทางผู้วิเศษให้


เราเลือกจานวนสองเส้ นทาง หนึ่งคือ‘นักปราชญ์ ’ เป็ นเส้ นทางที่
โบสถ์ ครอบครองโดยสมบูรณ์ และอีกหนึ่งคือผู้ส่องความลับ แต่
เส้ นทางชนิดนี้ไม่ สมบูรณ์ เนื่องจากโบสถ์ ยึดสู ตรผลิตโอสถมาจาก
นิกายมอสส์ ที่ล่มสลาย”

“22 เมษายน เราตัดสิ นใจได้ ไม่ ยาก ต้ องเลือกเป็ นนักปราชญ์ อยู่


แล้ว เพราะมันคือเส้ นทางที่สมบูรณ์ ยังไงล่ะ
“หากเราหวังกลับโลกเก่า ด้ วยพลังในตอนนีค้ งไม่ เพียงพอแน่
จาเป็ นต้ องพึ่งพาพลังจากตัวตนลึกลับภายนอก แต่ เราไม่ มีทาง
ทราบได้ เลยว่ า ตัวตนดังกล่าวจะมีเจตนาดีหรื อร้ ายกันแน่ เป็ น
ปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ ได้

“ด้ วยเหตุนี้ การจะกลับโลกเก่าอย่ างปลอดภัยจึงเหลือหนทาง


เดียว คือการกลายเป็ นผู้วิเศษระดับสู ง และเส้ นทางที่ง่ายที่สุดคือ
เส้ นทางนักปราชญ์ ที่โบสถ์ มีครบถ้ วน!”

“23 เมษายน เรากลายเป็ นนักปราชญ์ เต็มตัวหลังจากการดื่ม


โอสถ ไม่ น่าเชื่ อว่ า ความรู้สมัยโลกเก่าหวนกลับมาทั้งหมดในทันที
ไม่ ว่าจะด้ านฟิ สิ กส์ เคมี ชีววิทยา…”

“ไม่ เพียงความทรงจาจะกลับมา แต่ เรายังเข้ าใจในบทเรียนที่ไม่


เคยเข้ าใจมาก่อน สามารถนามาใช้ งานและดัดแปลงได้ ดั่งใจนึก! นี่
เป็ น‘อาชีพ’ที่เกิดมาเพื่อนักเดินทางข้ ามโลกอย่ างเราชัดๆ!

“กล้าพูดได้ เต็มปากว่ า หากเอาร่ ายกายนีก้ ลับไปสอบเอนทรานซ์


ใหม่ ตอน ม.6 เราจะได้ เข้ ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศ
แน่ นอน แถมยังได้ รับทุนเรียนดีในสาขาด้ านวิทยาศาสตร์ หรื อ
วิศวกรรมทั้งหมด”

“26 เมษายน เราชื่ นชอบการเป็ นนักปราชญ์ มาก และมีบางสิ่ งที่


น่ าขบคิด เมื่อเราเริ่มแนะนาตัวเองกับคนอื่นว่ าเป็ นนักปราชญ์
รวมถึงปฏิบัติตัวให้ สมกับเป็ นนักปราชญ์ เสี ยงกระซิบที่ดังในหัว
เริ่มจางหายไป และการควบคุมอารมณ์ สามารถทาได้ ดีขนึ้ มาก”
“หรื อนี่จะเป็ นการสวมบทบาทที่มิสเตอร์ ซาราธหมายถึง? คง
เป็ นหลักสาคัญของการขจัดผลข้ างเคียงโอสถสิ นะ”

เมื่อได้ อ่านไดอารี ไคลน์ เริ่มตระหนักว่ าตนและจักรพรรดิโรซาย


มีหลายจุดที่แตกต่ างกัน

ตัวอย่ างเช่ นการเดินทางกลับโลกเก่า

ไคลน์ เลี่ยงที่จะเป็ นผู้วิเศษระดับสู งเพราะเกิดอาการคลุ้มคลั่งได้


ง่ าย มันตัดสิ นใจใช้ พธิ ีกรรมเวทมนตร์ และพึงพาพลังตัวตนลึกลับ
ในการกลับโลกเก่า แต่ จะกระทาด้ วยวิธีปลอดภัยที่สุด ดังนั้นการ
ศึกษาศาสตร์ เร้ นลับให้ ลึกซึ้งคือสิ่ งจาเป็ น

กลับกัน จักรพรรดิโรซายไม่ คิดพึง่ พาพลังจากภายนอกโดย


เด็ดขาด มันมุ่งเป้าไปที่การเป็ นผู้วิเศษระดับสู งและใช้ พลังของ
ตัวเองเพื่อส่ งตัวเองกลับโลกเก่า ถึงแม้ ต้องเสี่ ยงกับอาการคลุ้มคลั่ง
ก็ตาม

พูดตามตรง มันอิจฉาคนที่กล้าได้ กล้าเสี ยเช่ นนี้ บางที อาจเป็ น


ธรรมชาติของมนุษย์ ที่มักอิจฉาในสิ่ งที่ตัวเองบกพร่ อง

แต่ แน่ นอน ตัวมันก็ต้องหาทางพัฒนาความแข็งแกร่ งควบคู่กัน


ไป จะละทิง้ ทางใดทางหนึ่งไม่ ได้
ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ

คาอธิบายเกี่ยวกับการสวมบทบาทช่ วยให้ ไคลน์ มั่นใจว่ าทฤษฏี


ของตนถูกต้ อง

มันวางกระดาษหนังทั้งสามแผ่ นลงและมองไปทางจัสติสกับแฮง
แมนด้ วยรอยยิม้

“ต้ องขอโทษด้ วย อ่านเพลินไปหน่ อย”


ออเดรย์ พยายามระงับความอิจฉา หล่อนทาเพียงฉีกยิม้ กว้ าง

“ดิฉันเข้ าใจค่ ะ และหวังว่ าจะมีสักวันที่สามารถแลกเปลี่ยน


เนื้อหาไดอารีกับท่ านได้ ”

“ราคาไม่ ถูกนะ”

ไคลน์ ยังคงอมยิม้ ก่อนจะชาเลืองสายตามองไปทางฝั่งแฮงแมน


ที่เงียบงัน

ออเดรย์ นามือสองข้ างมาประสานไว้ บนตักก่อนจะกล่าว

“มิสเตอร์ ฟูล มิสเตอร์ แฮงแมน ดิฉันมีบางเรื่ องต้ องการไต่ ถาม


หากพวกคุณต้ องการสิ่ งแปลกเปลี่ยน กรุณาบอกมาได้ เลยไม่ ต้อง
เกรงใจ”
“ไม่ มีปัญหา”

อัลเจอร์ ตอบเต็มใจ

ไคลน์ พยักหน้ าและเอนหลังพิงพนัก

ออเดรย์ ครุ่นคิดนานหลายวินาที

“คาถามข้ อแรกคือ การสวมบทบาทหมายถึงสิ่ งใดกันแน่ ? ดิฉัน


ตระหนักว่ าผลข้ างเคียงของโอสถลดลงอย่ างรวดเร็วในหลายวันที่
ผ่ านมา หรื อจะเป็ นเพราะดิฉันสวมบทบาทเป็ นผู้ชมมาตลอด?”

อัลเจอร์ ไม่ กล่าว มันเพียงหันมองเดอะฟูลที่หัวโต๊ ะคล้ายกับรอ


ฟังคาตอบปากจากผู้เชี่ยวชาญ

มือข้ างที่ไคลน์ มักใช้ เคาะโต๊ ะ มันนานิว้ โป้งกับนิว้ ชี้ถูกกันสั กพัก


ก่อนจะมอบคาตอบ

“ขออธิบายด้ วยการเปรียบเปรยเพื่อให้ เห็นภาพ…

“สมมติให้ พลังของโอสถคือปราสาทหลังใหญ่ ที่ถูกอารักขา


เข้ มงวด ผลข้ างเคียงด้ านลบของโอสถคือเจ้ าของปราสาทหลัง
ดังกล่าว และตัวเราเป็ นเพียงคนนอกหนึ่งเดียวซึ่งไม่ มีใคร
ช่ วยเหลือ เป้าหมายคือการยึดครองปราสาทหลังนั้นมาเป็ นของ
ตัวเอง

“การยึดครองทาได้ ด้วยสองวิธี หนึ่งก็คือ ใช้ กาลังบุกเข้ าไป แต่


วิธีนไี้ ม่ รับประกันความสาเร็จ และเราอาจได้ รับบาดเจ็บระหว่ างลง
มือ ต่ อให้ ครองปราสาทสาเร็จ แต่ ร่างกายอาจบาดเจ็บยับเยิน จึง
ค่ อนข้ างแน่ นอนว่ า วิธีนไี้ ม่ เหมาะสมที่จะนามาใช้ ยึดครองปราสาท

“หนทางที่สองคือ การใช้ บัตรเชิญเพื่อเข้ าไปในปราสาทอย่ าง


ถูกต้ อง เมื่อเข้ าถึงแกนกลางสาเร็จ การลงมือจากัดศัตรูที่มีเพียง
หนึ่งเดียวย่ อมง่ ายกว่ า

“แต่ ปัญหาคือ แขกที่สามารถเข้ าไปด้ านในจะต้ องมีใบหน้ าและ


ลักษณะนิสัยตรงตามที่เขียนไว้ ในบัตรเชิญเท่ านั้น ด้ วยเหตุนี้ เราจึง
ต้ องปลอมตัวเป็ นแขกให้ แนบเนียน องค์ รักภายนอกจะได้ ปล่ อยให้
ผ่ านเข้ าไป

“พอจะเข้ าใจขึน้ มาบ้ างหรื อยัง?”

อัลเจอร์ เอ่ยปากถามทันทีที่ไคลน์ พูดจบ

“หมายความว่ า คาบอกใบ้ บนบัตรเชิญคือชื่ อของโอสถสิ นะ


ครับ?”

“ถูกต้ อง”
ไคลน์ ยืนยันหนักแน่ น

ออเดรย์ นั่งอึง้ ไปชั่วขณะ เธอเข้ าใจความหมายของ‘สวม


บทบาท’อย่ างกระจ่ างชัดจากคาอธิบายเมื่อครู่

หล่อนตะลึงจนหลุดจากภาวะผู้ชมที่รักษาอยู่นาน

“เป็ นการอธิบายที่เห็นภาพชัดมาก! ด…ดิฉันคิดว่ า ฉายาเดอะ


ฟูลเหมาะสมกับตัวท่ านแล้ว ทั้งวิธีการอธิบายอย่ างชาญฉลาดและ
ความลึกลับ…

“ไม่ เคยคิดมาก่อนว่ าการสวมบทบาทจะสาคัญขนาดนี้ โชคดีที่


ทาตัวเป็ นผู้ชมตลอดสั ปดาห์ ที่ผ่านมา”

เธอชะงักครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่ อ

“เป็ นคาอธิบายที่มีค่ากับดิฉันมาก คงไม่ สบายใจสั กเท่ าไรหาก


ต้ องรับมันไว้ ฟรี

“มิสเตอร์ ฟูลคะ ท่ านต้ องการสิ่ งใดตอบแทนอย่ างนั้นหรื อ? แต่


ดิฉันยังไม่ ลืมว่ าตัวเองยังคงติดหนีไ้ ดอารีจักรพรรดิโรซายกับท่ าน
อยู่หนึ่งหน้ า”

“เอาเป็ นหน้ าไดอารีเพิม่ หรื อไม่ ก็…”


ไคลน์ ชะงัก

ใจจริง มันต้ องการข้ อมูลเกี่ยวกับเส้ นทางนักทานายมากกว่ านี้


แต่ การถามถึงโอสถระดับต่าจะทาให้ ภาพลักษณ์ อันยิ่งใหญ่ ของ
เดอะฟูลเสื่ อมเสี ย ความคิดดังกล่าวคงต้ องพับเก็บไว้ ก่อน ค่ อย
หลอกถามทางอ้อมในวันหลัง

ตนเพิง่ เป็ นผู้วิเศษได้ ไม่ กี่วัน ยังห่ างไกลจากการ‘ย่ อยพลัง


สมบูรณ์ ’อยู่มาก…
มันข่ มใจและกล่าวต่ อด้ วยเสี ยงเรียบเฉย

“ข้ อมูลเกี่ยวกับตระกูลอันทีโกนัสทั้งหมด ไม่ ว่าจะเล็กน้ อยแค่


ไหน… ถึงเราจะมีข้อมูลเกี่ยวกับมันค่ อนข้ างมากแล้วก็ตาม”

อัลเจอร์ ก้มหน้ าเงียบไปสองสามวินาที ก่อนจะเงยหน้ ามองไป


ทางหัวโต๊ ะและกล่าว

“มิสเตอร์ ฟูล… เกี่ยวกับตระกูลอันทีโกนัส ผมเชื่ อว่ า ผม


สามารถจ่ ายหนีเ้ ก่าที่ติดค้ างกับท่ านได้ ด้วยข้ อมูลของพวกมัน”
ราชันย์ เร้ นลับ 60 : แผ่ นศิลาเย้ ยเทพที่สอง

“ไม่ มีปัญหา”

ไคลน์ พยายามกล่ าวด้ วยน้าเสี ยงที่ไม่ สั่นคลอน จากนั้นก็ใช้ ศอก


ซ้ ายเท้ าบนที่พกั แขน และนาปลายนิว้ ข้ างเดียวกันวางบนหน้ าผาก
แสร้ งว่ ากาลังตั้งใจฟัง

อัลเจอร์ เรียบเรียงคาพูดก่อนจะกล่าว

“อันทีโกนัสคือชื่ อของตระกูลเก่าแก่โบราณ ประวัติศาสตร์ ของ


พวกมันเริ่มขึน้ ในยุคแห่ งหายนะซึ่งเกิดก่อนยุคสมัยที่สี่ และยังมี
ความเกี่ยวพันกับแผ่ นศิลาเย้ ยเทพที่สอง”

แผ่ นศิลาเย้ ยเทพที่สอง?

มีแผ่ นที่สองด้ วยหรื อ? แล้วมีท้งั หมดกี่แผ่ นกันแน่ ?

นัยน์ ตาไคลน์ พลันหดลีบ ร่ างกายเกือบเสี ยอาการ

จากบทสนทนาระหว่ างแฮงแมนและจัสติสในครั้งก่อนหน้ า มัน


ได้ ยินว่ า แผ่ นศิลาเย้ ยเทพคือสิ่ งที่บรรจุ 22 เส้ นทางสู่ การเป็ นเทพ
ไว้
ของแบบนั้นมีถึงสองอัน… หรื ออาจมากกว่ า?

22 เส้ นทางแห่ งเทพ… ผู้วิเศษ 22 เส้ นทาง

สองสิ่ งนีจ้ ะเป็ นเรื่ องเดียวกันรึเปล่า?

ผู้วิเศษทุกเส้ นทางสามารถกลายเป็ นเทพในท้ ายที่สุดอย่ างนั้น


หรื อ?

แผ่ นศิลาเย้ ยเทพที่สองได้ ทาให้ ความคิดของไคลน์ เริ่มฟุ้งซ่ าน


หากไม่ เพราะมีหมอกหนาทึบบดบังตนไว้ อากัปกริยาที่เสี ยอาการ
คงถูกมิสผู้ชมสั งเกตุเห็นไปแล้ ว

ส่ วนเรื่ องยุคแห่ งหายนะ สาหรับตัวมันที่เป็ นนักศึกษา


ประวัติศาสตร์ ย่อมคุ้นเคยเป็ นอย่ างดี เพราะนั่นคืออีกชื่ อหนึ่งของ
ยุคสมัยที่สาม

จากการทบทวนความจาด้ านประวัติศาสตร์ เมื่อคืนก่อน ยุคสมัย


ที่สามนั้นถูกแบ่ งออกเป็ นสองช่ วง คือยุครุ่งเรื องและยุคหายนะ

“แผ่ นศิลาเย้ ยเทพที่สองงั้นหรื อ?”

ออเดรย์ แสดงความไม่ ร้ ูออกมาอย่ างซื่ อตรง แต่ เมื่อตระหนักได้


หล่อนเริ่มเก็บอาการและกลับเข้ าสู่ ภาวะผู้ชมตามเดิม
ถามได้ ดีมากมิสจัสติส! ไคลน์ ชมเชยในใจ

ในฐานะเดอะฟูล หากตนถามออกไปจะส่ งผลให้ เสี ยภาพลักษณ์


เสี ยหาย

อัลเจอร์ แอบชาเลืองเดอะฟูลด้ วยหาตา เมื่อเห็นว่ าอีกฝ่ ายไม่


เปลี่ยนท่ าทีหรื อส่ งเสี ยงประหลาดใจ มันจึงเริ่มเล่าต่ อ

“แผ่ นศิลาเย้ ยเทพแรกปรากฏในยุคสมัยแห่ งความมืด หรื อรู้จัก


กันในชื่ อยุคสมัยที่สอง ช่ วงเวลาที่เผ่ าพันธุ์มนุษย์ ต้องดิน้ รนอย่ าง
ยากลาบากโดยมีเทพคอยให้ ความช่ วยเหลือ

“ส่ วนแผ่ นศิลาเย้ ยเทพที่สองปรากฏตัวปลายยุคสมัยที่สาม


กล่าวกันว่ า มันคือตัวแทนของความหายนะในยุคสมัยนั้น

“มีเพียงเจ็ดโบสถ์ หลักเท่ านั้นที่ทราบเนื้อหาบนศิลาเย้ ยเทพทั้ง


สองแผ่ น ตัวผมมีข้อมูลเพียงหางอึ่ง ทราบแค่ ว่าเป็ นแผ่ นศิลาจารึก
22 เส้ นทางสู่ การเป็ นเทพเหมือนกัน แต่ ไม่ ทราบความแตกต่ างที่
ชัดเจน”

“แล้วศิลาเย้ ยเทพที่จักรพรรดิโรซายเคยเห็นเป็ นแผ่ นที่หนึ่งหรื อ


สองคะ?”

ออเดรย์ ถามใคร่ ร้ ู
เมื่อได้ ยินประโยคนีเ้ ข้ า ไคลน์ พลันฉุกคิดได้ วันแรกที่แฮงแมน
พูดคุยกับจัสติสเรื่ องโอสถ มันระบุชัดเจนว่ าชื่ อของโอสถมีต้นตอ
มาจากแผ่ นศิลาเย้ ยเทพ

สอดคล้องกับที่หัวหน้ าดันน์ เคยเล่ าว่ า ระบบโอสถในปัจจุบัน


สมบูรณ์ ได้ เพราะการเสี ยสละของบรรพบุรุษและการปรากฏตัว
ของศิลาเย้ ยเทพ…

ถ้ าอย่ างนั้นก็แน่ ชัดแล้วว่ า โอสถทุกเส้ นทางจะนาไปสู่ ความเป็ น


เทพในตอนสุ ดท้ าย

ชายหนุ่มตอบคาถามแรกของตัวเองในใจ

อัลเจอร์ ตอบสั้ นห้ วน

“แผ่ นที่สอง”

หลังจากได้ รับคาตอบ สี หน้ าออเดรย์ กลับเป็ นปรกติ มิได้


ต้ องการทราบสิ่ งใดเพิม่ เติม เธอเข้ าสู่ ภาวะผู้ชมและคอยจับตามอง
แฮงแมนต่ อ

แน่ นอน การถูกเพ่งพินิจจากผู้ชมไม่ ใช่ ความรู้สึกที่ดีนัก อัลเจอร์


พยายามข่ มจิตใจมิให้ โกรธเคือง มันทราบว่ าเธอไม่ มีเจตนาร้ าย
“ระหว่ างที่ราชวงศ์ โซโลม่ อนครองความยิ่งใหญ่ ในยุคสมัยที่สี่
แม้ ตระกูลอันทีโกนัสจะมีชื่อเสี ยงในหมู่ชนชั้นสู ง แต่ พวกมันกลับ
ไม่ มีผลงานเป็ นชิ้นเป็ นอันเลยสั กครั้ง จนกระทั่งกลายเป็ นกาลัง
สาคัญในการก่อตั้งจักรวรรดิทูดอร์ นับแต่ น้ ัน พวกมันจึงกลายเป็ น
ตระกูลใหญ่ แห่ งทวีปเหนืออยู่นาน

“ในช่ วงเวลาดังกล่าว ตระกูลใหญ่ ประจาทวีปอย่ างอันทีโกนัส


อามุนด์ อับราฮัม เจคอป รวมถึงตระกูลชนชั้นสู งอีกมากในยุคสมัย
นั้น ทั้งหมดคือขุมกาลังสาคัญของเผ่ าพันธุ์มนุษย์ ในยุคสมัยที่สี่

“ทว่ า หลังจาก‘สงครามสี่ จักรพรรดิ’จบลงด้ วยความตายของ


จักรพรรดิโลหิตแห่ งทูดอร์ จุดยืนของตระกูลอันทีโกนัสเริ่มเกิด
การสั่ นคลอนทันที พวกมันไม่ ใช่ ตระกูลชนชั้นสู งอีกต่ อไป และถูก
เทพเจ็ดตนตามล่าในที่สุด

“ผมไม่ แน่ ใจในเหตุการณ์ หลังจากนีม้ ากนัก ทราบอีกทีก็คือ


ตระกูลอันทีโกนัสถูกทาลายอย่ างสิ้นซากด้ วยฝี มือโบสถ์ เทพธิดา
รัตติกาล

“มิสเตอร์ ฟูล หากท่ านต้ องการทราบข้ อมูลที่ละเอียดกว่ านี้ เกรง


ว่ าต้ องติดต่ อกับโบสถ์ เทพธิดาเท่ านั้น หรื อไม่ ก็องค์ กรลับโบราณ
สองถึงสามฝ่ ายที่อาจมีข้อมูล ท่ านคงทราบดีอยู่แล้วว่ าผมหมายถึง
องค์ กรใด”

ตูไม่ ทราบ…
ไคลน์ พยักหน้ าแสร้ งเข้ าใจ

“อา…”

หนึ่งในนั้นอาจเป็ นลิทธิเร้ นลับที่กาลังตามล่าสุ ดบันทึก… อีก


หนึ่งอาจเป็ นนิกายมอสส์ ที่หัวหน้ าดันน์ และลุงนีลล์เล่าให้ ฟัง

อันสุ ดท้ าย ไม่ แน่ ใจว่ าจะรวมถึงสมาคมแปรจิตด้ วยหรื อไม่ …

ขณะไคลน์ กาลังไตร่ ตรองถึงความน่ าจะเป็ น อัลเจอร์ ได้ กล่าว


ข้ อมูลส่ วนสุ ดท้ ายที่มันทราบออกมา

“ผมไม่ ทราบว่ าตระกูลอันทีโกนัสถือครองโอสถเส้ นทางใดไว้


แต่ ในประวัติศาสตร์ อันยาวนาน นิยามที่ผ้ คู นใช้ อธิบายถึงตระกูล
อันทีโกนัสจะมีเพียงสองคาเท่ านั้น…

“คือ‘ประหลาด’และ‘น่ าหวาดกลัว’”

ประหลาดและน่ าหวาดกลัว…

เมื่อหวนนึกทึกสมุดบันทึกเล่มดังกล่าว หวนนึกถึงชะตากรรมที่
ไคลน์ และเพื่อนร่ วมชั้นต้ องเผชิญ ความตายของมารดารี เอล·บี
เบอร์ นิยามที่ว่าค่ อยข้ างตรงเลยทีเดียว
ไคลน์ เริ่มเคาะโต๊ ะเพื่อส่ งสั ญญาณ เมื่อเห็นแฮงแมนและจัสติส
ยังคงเงียบงัน มันเป็ นฝ่ ายเปิ ดปากพูด

“ยอดเยี่ยมมาก เป็ นการชดเชยที่เราพึงพอใจทีเดียว”

สาเหตุที่ไคลน์ ใช้ นวิ้ เคาะโต๊ ะส่ งสั ญญาณก่อนเริ่มทาบางสิ่ งทุก


ครั้ง เพื่อให้ แฮงแมนและจัสติสเข้ าใจว่ าตนมีนิสัยชอบเคาะนิว้

จะได้ กลบเกลื่อนการเปิ ดปิ ดภาวะเนตรวิญญาณที่มีลักษณะ


คล้ายคลึงกัน
“เป็ นเกียรติอย่ างยิ่งครับ”

อัลเจอร์ มิได้ กล่าวสิ่ งใดต่ อ

ออเดรย์ มองสลับไปมาระหว่ างแฮงแมนกับเดอะฟูล เธออมยิม้


เล็กน้ อย

“ข้ อถามคาถามที่สองต่ อเลยนะคะ…

“โอสถเส้ นทางผู้ชมลาดับถัดไปมีชื่อว่ าอะไรบ้ าง? แล้วฉันจะหา


เบาะแสได้ จากที่ใด?”

เฮ่ อ…
อยากถามตรงไปตรงมาแบบนีไ้ ด้ บ้างจัง
ไคลน์ ตัดพ้อ มันทาเพียงชาเลืองสายตาไปมองแฮงแมน

อัลเจอร์ เงียบงันสั กพัก

“ผมจะบอกให้ ก็ได้ ในฐานะที่เป็ นผู้ชักนาคุณให้ มาอยู่บน


เส้ นทางนี้

“โอสถลาดับแปดของเส้ นทางผู้ชมมีชื่อว่ า‘นักอ่านใจ’ ส่ วน


ลาดับเจ็ด ชื่ อโบราณของมันคือ‘นักจิตวิเคราะห์ ’ แต่ ปัจจุบันถูก
เปลี่ยนเป็ น‘นักจิตบาบัด’

“ข้ อมูลเหล่านีม้ าจากปากสมาชิกคนหนึ่งของสมาคมแปรจิต ผม


คิดว่ าพวกมันคงครอบครองโอสถเส้ นทางนี้ไว้ ”

สมาคมแปรจิต…

ผู้สื่อวิญญาณดาลี่ย์เคยใช้ วิธีสอบสวนของสมาคมแปรจิตกับเรา
แต่ หัวหน้ าดันน์ กลับบอกว่ าพวกมันคือสมาคมเสี ยสติและชั่ว
ร้ าย…

ไคลน์ นั่งเก็บข้ อมูลอย่ างตั้งใจ

“คุณทราบที่อยู่ปัจจุบันของสมาชิกสมาคมแปรจิตไหมคน
ดังกล่าวไหมคะ?”
ออเดรย์ ถามด้ วยสี หน้ าคาดหวัง

ไม่ ว่าจะนักอ่านใจหรื อนักจิตบาบัด ชื่ อของพวกมันช่ างน่ า


หลงไหลสาหรับเธอ

อัลเจอร์ หัวเราะเสี ยงค่ อย มันไม่ ได้ แสดงท่ าทีเช่ นนีบ้ ่ อยนัก

“ต้ องทราบอยู่แล้วครับ… หมอนั่นกาลังนอนจมก้นทะเลแถวๆ


มหาสมุทรโซเนียร์ ผมเป็ นคนจมเรื อของมันกับมือ

“หากคุณต้ องการทราบเบาะแสเพิม่ เติมของสมาคมแปรจิตที่


เหลือ คงต้ องขอแสดงความเสี ยใจล่วงหน้ า ผมได้ ทาลายเบาะแส
เดียวที่มีทงิ้ ไปแล้ว”

มันไม่ กังวลว่ าตัวจริงจะถูกเปิ ดเผย สาเหตุเพราะ อัลเจอร์ ทาการ


จมเรื อลาดังกล่ าวในที่ลับตาคน ไม่ มีใครทราบแน่ นอนว่ าเป็ นฝี มือ
กัปตันเรื อคนใด

“จมไปแล้ว…”

ออเดรย์ กระอักกระอ่วน เธอสานต่ อบทสนทนาไม่ ถูก

เด็กสาวผมทองสู ดลมหายใจหนึ่งฟอดใหญ่ โดยไม่ ร้ ูตัวว่ าหลุด


จากภาวะผู้ชมอีกครั้ง
“คาถามที่สาม… อ…เอ่อ สมมตินะคะ จะเกิดอะไรขึน้ หากสั ตว์
ธรรมดาดื่มโอสถลาดับเก้ าเข้ าไป?”

นี่มัน… คาถามบ้ าบออะไรกัน?

ไคลน์ แอบเคาะหว่ างคิว้ เข้ าสู่ ภาวะเนตรวิญญาณ ทันใดนั้น มัน


มองเห็นความเปลี่ยนแปลงทางออร่ าด้ านอารมณ์ ของจัสติส
กระวนกระวาย ประหม่ า และอับอาย

เธอเผลอทาอะไรโง่ ๆ ลงไปอย่ างนั้นหรื อ? ไคลน์ ฉงนเล็กน้ อย แต่


ก็ไม่ มองเป็ นเรื่ องประหลาดนัก เพราะทั้งสองการชุมนุมที่ผ่านมา
ได้ พสิ ู จน์ แล้วว่ า สมองของมิสจัสติสค่ อนข้ างกลวง

แฮงแมน·อัลเจอร์ มันผงะไปเช่ นกัน ก่อนจะมอบคาตอบในอีก


หลายวินาทีถัดมา

“สั ตว์ ทั่วไปที่มีสติปัญญาต่าจะไม่ สามารถเข้ าฌานเหมือนมนุษย์


ได้ ด้ วยเหตุนี้ พวกมันจะเสี ยชีวิตทันทีหรื อไม่ ก็กลายเป็ นสั ตว์
ประหลาดคลุ้มคลั่ง

“ทว่ า หากสั ตว์ ดังกล่ าวรอดชีวิตมาได้ มีโอกาสสู งที่มันจะ


กลายเป็ นสั ตว์ วิเศษตามชนิดโอสถที่ดื่มเข้ าไป ถ้ าโอสถช่ วยเพิม่
สติปัญญา มันอาจกลายเป็ นสั ตว์ ที่ฉลาดจนถึงขั้นพูดได้ ”

“ขอบคุณค่ะ”

ออเดรย์ ถอนหายใจอย่ างโล่งอก

“ดิฉันไม่ มีคาถามแล้ว”

อัลเจอร์ ครุ่นคิดครู่หนึ่ง มันชั่งใจว่ าจะไต่ ถามถึงชุมนุมแสงเหนือ


และผู้สดับดีไหม แต่ ท้ายที่สุดก็เลือกจะเงียบไว้

“ผมก็เช่ นกัน”

“แต่ เรามีบางสิ่ ง”

ไคลน์ กล่าวโดยไม่ เปลี่ยนอิริยาบท

“ซึ่งต้ องการความร่ วมมือจากพวกเจ้ า”

ชายหนุ่มยังไม่ ออกจากภาวะเนตรวิญญาณ มันจึงมองเห็น


อารมณ์ หวาดผวาเล็กๆ จากแฮงแมน ส่ วนมิสจัสติสนั้นเบาปัญญา
เกินกว่ าจะตกใจกลัว

ไคลน์ รีบแจ้ งล่วงหน้ าเพื่อให้ ท้งั สองสบายใจ


“ไม่ ต้องห่ วง เป็ นการรบกวนเพียงเล็กน้ อย และจะส่ งผลดีกับ
พวกเจ้ าแน่ นอน คงไม่ เหลือบ่ ากว่ าแรงไปสั กเท่ าไร”

“เชิญว่ ามาได้ เลยค่ ะ”

ออเดรย์ กลับเข้ าภาวะผู้ชมอีกครั้ง แต่ เธอมิอาจมองทะลุเข้ าไปใน


หมอกหนาที่ล้อมรอบตัวเดอะฟูลได้

“สุ ดแล้วแต่ ท่าน”


อัลเจอร์ ขานรับ

ไคลน์ อมยิม้ ก่อนเริ่มอธิบาย

“ก่อนหน้ านี้ เราเคยบอกไปแล้วว่ า จะหาทางทาให้ พวกเจ้ าแจ้ ง


ข่ าวล่วงหน้ าหากไม่ ว่างเข้ าร่ วมชุมนม

“ด้ วยวิธีที่เราคิดค้ นขึน้ หากพวกเจ้ าเกิดติดธุระด่ วนในวันจันทร์


บ่ ายสามโมง สามารถแจ้ งล่วงหน้ าโดยไม่ จาเป็ นต้ องขังตัวเองใน
ห้ องอีกต่ อไป”

“แบบนั้นเยี่ยมเลย!”

ออเดรย์ เริ่มคลายปมคิว้ ที่ขมวด


อัลเจอร์ ถามสงสั ย

“ท่ านจะให้ เราทาสิ่ งใดหรื อ?”

“สามารถทาได้ เองที่บ้าน ค่ อยทดลองทาเวลาว่ าง ไม่ ต้องมากพิธี


การนัก ขอเพียงไม่ ถูกใครรบกวนก็พอ…

“ก่อนอื่น เตรียมเทียนไขและเชิงเทียนไว้ ท้งั หมดสี่ ชุด หากเป็ น


เทียนกลิ่นไม้ จันทน์ จะดีมาก เริ่มด้ วยการใส่ เทียนลงบนเชิงและจุด
ไฟ จากนั้นก็นาไปวางไว้ ที่สี่มุมห้ อง

“ถัดมา วางถาดขนมปังขาวไว้ ข้างเทียนมุมซ้ ายบน วางถาด


บะหมี่เฟเนพ็อตไว้ ข้างเทียนมุมขวาบน วาดถาดปาเอย่ าไว้ ข้าง
เทียนมุมซ้ ายล่าง และวางถาดพายเดซี่ไว้ ข้างเทียนมุมขวาล่าง…

“หลังนั้นก็ลงมือสร้ างกาแพงวิญญาณด้ วยมีดเงิน”

ไคลน์ อธิบายวิธีสร้ างกาแพงวิญญาณให้ มิสจัสติสฟัง แต่ ข้ันตอน


ถูกปรับแต่ งเล็กน้ อยโดยตัวมันเอง

อันที่จริง วิธีการข้ างต้ นไม่ จาเป็ นเลยสั กนิด เพราะในทางศาสตร์


พิธีกรรมเวทมนตร์ ขั้นตอนดังกล่าวมีไว้ เพื่อ‘ดึงความสนใจ’จาก
ตัวตนลึกลับหรื อเทพทั้งเจ็ด เช่ นการใช้ เทียนกลิ่นที่เทพธิดาชอบ
เพื่อหยิบยืมพลังจากเทพธิดา
ทว่ า พิธีกรรมในคราวนีช้ ี้ตรงมายังตน เครื่ องเซ่ นสั งเวยจึงไม่
จาเป็ นเลยสั กนิด แต่ มันพยายามทาให้ อลังการและซับซ้ อนเข้ าไว้
ตัวมันในสายตาจัสติสและแฮงแมนจะได้ ดูยิ่งใหญ่

แถมหลักปฏิบัติดังกล่าวยังขัดต่ อความเชื่ อเรื่ องตัวเลขนาโชคที่


ลุงนีลล์สอน หลักที่ว่า เทียนสองเล่มหมายถึงองค์ เทพ

“…ผสมบุปผาจันทรา มินท์ ทอง บุปผาหลับไหล ตะไคร้ หอม


และกุหลาบหิน เข้ าด้ วยกัน จากนั้นก็กลั่นออกมาเป็ นสารสกัด
ของเหลว

“เมื่อเสร็จขั้นตอน ให้ ลงมือหยดสารสกัดลงบนเทียนไขในแต่ ละ


มุมของห้ อง…”

หลังจากออเดรย์ จดจาขั้นตอนทั้งหมดที่มิสเตอร์ ฟูลอธิบาย


ทั้งหมด เธอรีบเอ่ยปากถามด้ วยสี หน้ าใคร่ ร้ ู

“แล้วคาถาล่ะคะ? พวกเราต้ องท่ องคาถาแบบใด?”

อัลเจอร์ ที่กาลังจดบันทึกด้ วยปากกาหมึกซึมมีอันต้ องหยุดเขียน


มันเงยหน้ าชาเลืองมองเดอะฟูลอย่ างสนใจ

ไคลน์ ที่ร่างกายโอบล้อมด้ วยหมอกสี เทาหนาทึบ มันเคาะโต๊ ะ


เบาๆ ก่อนจะกล่าวเป็ นภาษาเฮอร์ มิสด้ วยน้าเสี ยงเย็นยะเยียบ
“เดอะฟูลจากต่ างยุคสมัย ผู้ปกครองลึกลับเหนือห้ วงสายหมอก
เทา ราชันย์ เหลืองดาผู้ครองพลังโชคลาภ…”
ราชันย์ เร้ นลับ 61 : สั ญลักษณ์ ประหลาด

“เดอะฟูลจากต่ างยุคสมัย ผู้ปกครองลึกลับเหนือห้ วงสายหมอก


เทา ราชันย์ เหลืองดาผู้ครองพลังโชคลาภ…”

ขณะออเดรย์ ท่องคาถาสามบทภายในใจ ความรู้สึกยิ่งใหญ่ พลัน


พุ่งพล่านไปทั่วร่ าง เด็กสาวพยายามข่ มสติอย่ างหนักเพื่อไม่ ให้
หลุดจากภาวะผู้ชม

ในฐานะที่สนใจศาสตร์ เร้ นลับตั้งแต่ ยังเล็ก ออเดรย์ ย่อมศึกษา


ภาษาเฮอร์ มิสที่ใช้ ในการสวดคาถา บ่ อยครั้งที่เธอทดลองประกอบ
พิธีกรรมเวทมนตร์ โดยใช้ คาถาซึ่งได้ ยินมาจากกลุ่มขุนนางเพื่อน
สนิทในการชุมนุมลับ

นั่นคือเรื่ องราวก่อนที่จะถูกดึงเข้ ามิติสายหมอกและได้ พบกับ


พลังผู้วิเศษที่แท้ จริง

ตลอดเวลาที่ผ่านมา การทดลองพิธีกรรมเวทมนตร์ ของออเดรย์


ไม่ เคยประสบความสาเร็จเลยสั กครั้ง แต่ อย่ างน้ อยก็ช่วยให้ เธอ
ทราบถึงโครงสร้ างพื้นฐานที่สาคัญสามข้ อของพิธีกรรมเวทมนตร์

ฉะนั้น หล่อนย่ อมทราบว่ าคาถาสามประโยคเมื่อครู่คือการ


อธิบายลักษณะเฉพาะของตัวตนลึกลับซึ่งเป็ นเป้าหมายพิธีกรรม
…แต่ ไหนแต่ ไรมา คาถาสามบทนีม้ ักใช้ เอ่ยถึงพระนามของเทพ
หลักทั้งเจ็ดองค์

เจ็ดเทพที่ปกครองบนจุดสู งสุ ดของโลก!

แถมคาถาสามบทของเดอะฟูลยังมีลักษณะคล้ายคลึงกับคาถาที่
เอ่ยถึงเทพธิดารัตติกาลมาก ซึ่งสามบทดังกล่ าวท่ องว่ า…

“สตรีสีชาด มารดาแห่ งความลับ และจักรพรรดินีแห่ งหายนะ”


หรื อมิสเตอร์ ฟูลจะเป็ นตัวตนลึกลับทรงพลังเหมือนที่‘กายลิน’
เคยพูดถึง? ภัยอันตรายใหญ่ หลวงที่ต้องพึงระวังในพิธีกรรมเวท
มนตร์

ตัวตนชั่วช้ าที่ต้องหลีกเลี่ยงให้ ไกล!

ออเดรย์ หมดคาพูดไปชั่วขณะ

อัลเจอร์ ·วิลสั นที่เข้ าใจพิธีกรรมเวทมนตร์ ถ่องแท้ มากกว่ าออ


เดรย์ ร่ างกายมันกาลังสั่ นเทาอย่ างหยุดไม่ ได้

หากบทคาถาที่มิสเตอร์ ฟูลกล่าวมาสามารถใช้ งานได้ จริง


สามารถร้ องขอหรื อหยิบยืมพลังได้ จริง จะหมายความว่ า มิสเตอร์
ฟูลมีระดับทัดเทียมเทพทั้งเจ็ดองค์ หลัก…!
โชคดีมากที่ตนไม่ เคยล่วงเกินมิสเตอร์ ฟูลเลยสั กครั้ง อาจมีบ้างที่
คิดลองภูมิหรื อหยั่งเชิงด้ านความรู้ แต่ นั่นอยู่ในขอบเขตที่
เหมาะสมเสมอ

บางที มิสเตอร์ ฟูลอาจเป็ นตัวตนลึกลับเก่าแก่ ร่ างที่เห็นใน


ปัจจุบันคงไม่ ใช่ ร่างจริง…

ถ้ าไม่ ใช่ เจ็ดเทพองค์ หลักแล้วเป็ นใครกัน? แม่ มดบรรพกาล?


เทพทานายเร้ นลับ? หรื อพระผู้สร้ างตัวจริงที่ลัทธินอกรีตหลาย
แห่ งกราบไหว้ บูชา?

อัลเจอร์ เชื่ อว่ า ภาพเดอะฟูลที่ตนเห็นคงเป็ นร่ างจาแลงเสี ย


มากกว่ า ตัวจริงอาจไร้ เพศหรื อมิได้ อยู่ในร่ างมนุษย์

ไคลน์ ใช้ นวิ้ ข้ างหนึ่งสั มผัสหน้ าผาก ส่ วนอีกข้ างใช้ เคาะโต๊ ะ


เบาๆ ภาพในการมองเห็นของมัน สี ออร่ าของแฮงแมนและจัสติสมี
การผิดเพีย้ นไปจากเดิมชัดเจน

แต่ มันแสร้ งไม่ แยแส ราวกับไม่ มีสิ่งใดเกิดขึน้ ราวกับทั้งหมด


เป็ นเรื่ องที่คาดเดาไว้ แล้ว

ไคลน์ อธิบายต่ อด้ วยน้าเสี ยงราบเรียบ

“ผม/ดิฉันขอวิงวอน
“ผม/ดิฉันปราถนาความรักจากท่ าน

“ผม/ดินฉันปรารถนาความฝันอันแสนสุ ข

“บุปผาจันทราและพฤกษาแห่ งจันทร์ แดงเอ๋ย… ได้ โปรเป็ นพลัง


แก่คาถาของข้ าด้ วย!

“ตะไคร้ หอมและพฤกษาแห่ งสุ ริยันเอ๋ย… ได้ โปรดเป็ นพลังแก่


คาถาของข้ าด้ วย!”

ไคล์นหยิบยืมคาถาบางท่ อนมาจากพิธีกรรมเวทมนตร์ ชนิดอื่น


ซึ่งแน่ นอน มันไม่ มีสาระสาคัญแต่ อย่ างใด เป็ นเครื่ องตกแต่ งให้ ดู
น่ าเกรงขาม

เมื่อกล่าวจบ ชายหนุ่มอมยิม้

“สุ ภาพบุรุษ สุ ภาพสตรี จากันได้ หรื อยัง?”

“อ๊ะ…”

ออเดรย์ หลุดสะอึก เธอรีบใช้ มือปิ ดปากพลางเพ่งสมาธิเพื่อจดจา


ทุกขั้นตอน
ด้ วยพลังโอสถผู้ชม ความทรงจาย่ อมพัฒนาขึน้ จากเดิมมาก ออ
เดรย์ เปล่งเสี ยงทวนซ้าขั้นตอนทั้งหมดซ้าไปมา

ด้ านอัลเจอร์ ใช้ วิธีที่ธรรมดากว่ าหล่อน ปากกาหมึกซึมในมือมัน


ยังไม่ หยุดขยับ ไม่ มีใครทราบว่ าทบทวนถึงไหนแล้ว

ไคลน์ อมยิม้ เมื่อได้ ยินคาพึมพาของออเดรย์ ไม่ ตกหล่นแม้ แต่


ประโยคเดียว

“หากการทดสอบราบรื่ น พวกเราสามารถดัดแปลงพิธีกรรม
ดังกล่าวให้ เกิดความหลากหลายในอนาคต ให้ เกิดผลลัพธ์ ในทางที่
ต้ องการมากได้ ขนึ้

“แล้วก็… เราหวังว่ า เจ้ าทั้งสองคนจะช่ วยทดสอบพิธีกรรมนีใ้ ห้


เสร็จก่อนวันพุธ”

ไคลน์ มีแผนจะกลับขึน้ มายังมิติสายหมอกในวันพฤหัสเพื่อ


ตรวจสอบว่ าสาเร็จหรื อไม่

ส่ วนสาเหตุที่ไคลน์ ยังไม่ ให้ ท้งั สองใช้ วิธีนสี้ าหรับแจ้ งการงดเข้ า


ร่ วมชุมนุม เพราะมันยังไม่ มั่นใจว่ าพิธีกรรมจะสาเร็จ หากเกิด
ล้มเหลวและตนไม่ ได้ รับข้ อความ จัสติสกับแฮงแมนจะไม่ ถูกดึงตัว
ในตอนที่ติดธุระเอาหรื อ?
“สุ ดแล้วแต่ ท่าน”
ออเดรย์ และอัลเจอร์ ขานตอบพร้ อมเพรียง

“จากคาแนะนาของแฮงแมนสั ปดาห์ ก่อน พวกเราควรพูดคุย


เล็กน้ อยถึงสถานการณ์ รอบตัว เริ่มที่ใครก่อนดี?”

ไคลน์ ผายมือออกเพื่อเป็ นสั ญญาณให้ ใครสั กคนเริ่มบทสนทนา

ออเดรย์ ถอนหายใจเบาๆ
“มิสเตอร์ ฟูลคะ ระบบสอบข้ าราชการที่ท่านแนะนา ปัจจุบัน
กลายเป็ นประเด็นสนใจของสภาผู้แทนราษฎรมาก บางทีอาจ
กลายเป็ นความจริงได้ สักวัน แต่ ด้วยความล่ าช้ าของรัฐบาล คงไม่ มี
ทางเร็วไปกว่ าครึ่งปี แน่ ”

ออเดรย์ ไม่ กังวลว่ าแฮงแมนจะสื บทราบตัวตนที่แท้ จริ ง เพราะ


ข้ อมูลนีม้ ิได้ ออกจากปากเธอเข้ าสู่ สภาโดยตรง

ออเดรย์ แอบนาความคิดไปเสนอกับเหล่าภรรยาขุนนางหรื อ
สุ ภาพสตรีช้ ันสู งทั้งหลายในงานเลีย้ งน้าชาตามปรกติ ให้ พวก
หล่อนหลงดีใจว่ าตัวเองผุดไอเดียสาคัญซึ่งช่ วยพัฒนาอาณาจักร

ส่ งผลให้ สุ ภาพสตรีเหล่านั้นรีบกุลีกุจอนาไอเดียสอบข้ าราชการ


ไปอธิบายกับสามี พีช่ าย หรื อบิดาของตนเพื่อเอาหน้ าทันที
ในวินาทีดังกล่าว ออเดรย์ ราวกับได้ เห็นนกยูงทองราแพน
หางดี๊ด๊า

เธอเชื่ อว่ าสุ ภาพสตรีกลุ่มดังกล่าวคงพูดเอาความดีความชอบเข้ า


ตัว จึงไม่ มีใครทราบว่ าไอเดียนี้มาจากเด็กสาวที่ชื่อออเดรย์ ·ฮอลล์
หน้ าที่ของเธอมีเพียงเฝ้ามอง ว่ าใครจะเป็ นฝ่ ายนาไปบอกคนใกล้
ตัวก่อน และสมาชิกสภาผู้แทนคนใดที่จะเริ่มนาไปอภิปรายในสภา

การได้ พฒ ั นาอาณาจักรทางอ้อมส่ งผลให้ ออเดรย์ ร้ ูสึกพึงพอใจ


อย่ างน่ าประหลาด เธอเริ่มตระหนักว่ าลักษณะนิสัยของตน
เหมาะสมกับพลังผู้ชมที่คอยชักใยบงการเบื้องหลัง

“ขอให้ จริงเถอะ”

อัลเจอร์ เหน็บแนมรัฐบาล

มันเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเหลือบมองทางมิสเตอร์ ฟูล จากนั้นก็


นั่งเรียบเรียงประโยคอยู่นานหลายวินาที

“ในช่ วงสิ บปี ที่ผ่านมา กลุ่มองค์ กรลับลงมือกระทาอุกอาจ


บ่ อยครั้งขึน้ แถมยังมีองค์ กรลับมากมายผุดราวกับด็อกเห็ด บาง
กลุ่มแข็งแกร่ งระดับที่มีจานวนผู้วิเศษพร้ อมทาสงคราม”

นายกาลังถามหาเหตุผลจากฉัน?
บ้ าหรื อเปล่า? เจ้ าหน้ าที่เหยี่ยวราตรีปลายแถวอย่ างฉันแทบไม่ มี
ข้ อมูลองค์ กรลับแม้ แต่ แห่ งเดียว…

ไคลน์ ทาเพียงอมยิม้ มันไม่ สานต่ อบทสนทนาของแฮงแมน ชาย


หนุ่มเลือกเปลี่ยนหัวข้ อโดยการเกริ่นนาอย่ างคลุมเครื อ

“พลังเก่าแก่กาลังจะตื่นจากหลับไหล…”

พลังที่มันหมายถึงคือ… สมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัส
“อย่ างนั้นหรื อ…”

อัลเจอร์ พมึ พากับตัวเองคล้ายกับฉุกคิดบางสิ่ ง

หลังจากบรรยากาศเงียบงันนานหลายวินาที ไคลน์ มองสลับไป


มาระหว่ างจัสติสและแฮงแมน

“ถ้ าไม่ มีอะไรแล้ว พวกเราพอแค่ นเี้ ถิด”

“สุ ดแล้วแต่ ท่าน”

ออเดรย์ และอัลเจอร์ ลุกยืนพร้ อมกัน

ไคลน์ ตวัดปลายนิว้ และตัดสายสั มพันธ์ กับดาวแดงทั้งสองดวง


มันนั่งชมร่ างแฮงแมนและจัสติสค่ อยๆ เลือนหายไปท่ ามกลางมิติ
สายหมอก

ถึงเวลาที่มันรอคอยสั กที

ชายหนุ่มลุกขึน้ ยืนและหันไปมองสั ญลักษณ์ บนพนักพิงเก้าอี้


ของตัวเอง

มันได้ เห็นภาพสั ญลักษณ์ ประหลาดที่ไม่ ค้ นุ ตา แน่ นอน ไคลน์ ไม่


เข้ าใจความหมายแม้ แต่ น้อย เพราะไม่ อยู่ในสั ญลักษณ์ จักรราศี
ที่นีลล์เคยสอน

หืม…

กึ่งกลายสั ญลักษณ์ เป็ นรูปทรงคล้ายคลึงกับดวงตาไร้ นัยน์ ตา ซึ่ง


หมายถึง‘ความลับ’

รอบนอกสั ญลักษณ์ เป็ นรูปรางคล้ายคลึงกับ‘ด้ ายบิดเป็ นเกลียว’


ซึ่งหมายถึง‘ความเปลี่ยนแปลง’

แต่ สัญลักษณ์ ท้งั สองไม่ ครบถ้ วนสมบูรณ์ …

สั ญลักษณ์ ที่ขาดหายทั้งสอง ซ้ อนทับกันอย่ างลงตัวจนเกิดเป็ น


สั ญลักษณ์ ใหม่ ขนึ้ มา
ความลับที่ไม่ สมบูรณ์ และการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ สมบูรณ์ ?
พอนามารวมกันแล้วกลายเป็ นอะไร?

ไคลน์ ขมวดคิว้ พึมพากับตัวเองอยู่นาน แต่ ท้ายที่สุดก็ไม่ ได้ รับ


คาตอบเพิม่ เติม

มันยอมแพ้ ชายหนุ่มตัดสิ นใจเดินสารวจรอบมิติสายหมอก


สายตากวาดมองทุกรายละเอียดของมหาราชวังถี่ถ้วน

“ในตอนที่จินตนาการภาพวัง เราไม่ ได้ คิดถึงรายละเอียด


ซับซ้ อนนี้ ไม่ มีโต๊ ะทองเหลือง หลังคาโดม เก้าอี้ 22 ตัว รวมถึงรอย
ขีดข่ วน…

“แล้วมาจากไหนกัน? ตัวเลือกที่ดีที่สุด? หรื อลอกเลียนมาจาก


สถานที่จริง?”

ไคลน์ เกิดคาถามกับสิ่ งที่มันเคยมองข้ ามมาตลอด

เฮ่ อ…

ถึงจะเป็ นนักรบคีย์บอร์ ดในโลกเก่า แต่ ก็มีข้อมูลหลายด้ านที่ยัง


บกพร่ อง และทั้งที่เป็ นเรื่ องสาคัญ แต่ ตนกลับเพิง่ ฉุกคิดได้ เอา
ป่ านนี้
ไคลน์ ตาหนิตัวเองพร้ อมกับเดินสารวจรอบมิติสายหมอก มัน
พยายามค้ นหารายละเอียดสาคัญให้ มากที่สุด

แต่ น่าเสี ยดายที่ไม่ พบสิ่ งมีชีวิตหรื อสิ่ งผิดปรกติแม้ แต่ อย่ างเดียว

จนกระทั่ง ไคลน์ หยุดฝี เท้ าลงเพราะไม่ กล้าเดินสารวจมิติหมอก


อันกว้ างใหญ่ ต่อ มันกลัวว่ าตนอาจหลงและติดอยู่ภายในนีต้ ลอด
กาล

สุ ดยอด…
สถานที่แห่ งนีเ้ ต็มไปด้ วยปริศนาอย่ างแท้ จริง บางที รูปร่ าง
หน้ าตาของที่นี่อาจเปลี่ยนไปหากตนมีพลังวิญญาณสู งกว่ าเดิม…

ไคลน์ ทาเพียงถอนหายใจอย่ างมิอาจหาคาตอบ มันปล่อยจิตให้


หลุดลอยและด่าดิ่งกลับสู่ โลกความเป็ นจริงอีกครั้ง

ภาพมิติสายหมอกเริ่มแตกละเอียดคล้ายเศษกระจก การมองเห็น
สลับกลับมาเป็ นฉากผ้ าม่ าน โต๊ ะ และราวตากผ้ าภายในห้ องนอน
ของตัวเอง

กรุงเบ็คลันด์ เขตจักรพรรดินี
ออเดรย์ ลืมตาขึน้ และพบกับภาพวาดสี น้ามันบนเพดาน หลัง
ศีรษะสั มผัสถึงความอ่อนนุ่มของหมอนขนนก

เธอไม่ รีบลุกยืนขึน้ เหมือนทุกครั้ง ตรงกันข้ าม เด็กสาว


จินตนาการทุกเหตุการณ์ ที่เพิง่ เกิดขึน้ บนมิติสายหมอก คล้ายกับ
กาลังรับชมภาพยนต์ เรื่ องเก่าซ้าในหัว

“มิสเตอร์ ฟูลมั่นใจมากว่ าคาถาบทดังกล่าวจะชี้นาพิธีกรรมไปถึง


ตัวเขาได้ … เขาระบุชัดเจนว่ าตนคือผู้ปกครองลึกลับและราชันย์
เหลืองดา… อย่ างมั่นใจ…”
ออเดรย์ ถอนหายใจยาวพลางนอนทบทวนรายละเอียด ก่อนที่
ร่ ายกายจะสั่ นเบาๆ

ไม่ เอาน่ า… เธออย่ าคิดฟุ้งซ่ าน…

เราขัดขืนท่ านผู้น้ ันไม่ ได้ ไม่ จาเป็ นต้ องคิดให้ ปวดหัวสั กหน่ อย
เพียงปฏิบัติตามประสงค์ ของเขาก็พอแล้ว

ไม่ ต้องห่ วง มิสเตอร์ ฟูลเป็ นมิตรกับเราเสมอ เขาอาจเป็ นตัวตน


ลึกลับที่นิสัยดีและไม่ มีเจตนาร้ าย…

เมื่อเบาใจ อารมณ์ ออเดรย์ เริ่มสงบลงหลายส่ วน เธอกลับมา


ทบทวนถึงหลักการสวมบทบาทและผลข้ างเคียงโอสถที่ลดลงจาก
ตอนแรกมาก
เด็กสาวฮัมเพลงอย่ างมีความสุ ขและกระโดดลุกจากเตียง เธอ
เดินไปหยุดยืนหน้ าประตูห้องก่อนจะเปลี่ยนเป็ นสี หน้ าเรียบเฉย
เพื่อเข้ าสู่ ภาวะผู้ชม

เมื่อเปิ ดประตู สาวใช้ คนหนึ่งเดินผ่ านหน้ าไปอย่ างรวดเร็ว เพียง


การมองแค่ ไม่ กี่วินาที ออเดรย์ เหลือบเห็นหนังด้ านที่ฝ่ามือของสาว
ใช้ คนดังกล่าว แผลเป็ นบนใบหน้ า รวมถึงอีกหลายจุดที่คล้ายคลึง
กัน

การมองครั้งเดียวมอบรายละเอียดมากมายขนาดนีเ้ ชียว?

ทันใดนั้น ออเดรย์ เริ่มสั มผัสถึงความผิดปรกติบางอย่ าง เธอรีบ


มองไปที่เงามืดข้ างระเบียงบ้ าน

แล้วก็ได้ พบสุ นัขโกลเด้ นรีทรีเวอร์ ตัวโปรดกาลังนั่งที่มุมมืด


ระเบียงพลางจ้ องเขม็งมายังตน เฉกเช่ นที่ตนสารวจสาวใช้ คนเมื่อ
ครู่

พระเจ้ า… มุมปากออเดรย์ พลันกระตุก เธอต้ องการหลบสายตา


จากสุ นัขน่ าขนลุกตัวนี้

ณ มหาสมุทรโซเนียร์
ห้ องกัปตันเรื อที่ถกู ป้องกันหลายชั้น

อัลเจอร์ ลืมตาตื่นขึน้ และรีบสารวจรอบข้ าง มันพบว่ าไม่ มีสิ่งใด


เปลี่ยนแปลงไปแม้ แต่ อย่ างเดียว คล้ายกับไม่ มีอะไรเกิดขึน้ ตัวมัน
เพียงหมดสติหลับไปเท่ านั้น

กัปตันเรื อโทสะสี ครามถอนหายใจยาว

ตัวตนลึกลับที่ทรงพลังอย่ างนั้นหรื อ…?


เมื่อออกจากมิติสายหมอก ไคลน์ เดินไปเปิ ดผ้ าม่ านและกลับมา


นั่งบนเก้าอีอ้ ่านหนังสื อ มันก้มหน้ าจดบันทึกรายละเอียดบนไดอารี
จักรพรรดิโรซายสามแผ่ นล่าสุ ด

ไคลน์ ชื่อว่ า วิธีจดด้ วยมือจะช่ วยให้ ความทรงจาอยู่นานขึน้


ถึงแม้ จะเป็ นผู้วิเศษที่มีความจาดีเยี่ยมแล้วก็ตาม

ไคลน์ อ่านข้ อความที่ตนเขียนซ้าแล้วซ้าเล่าก่อนจะฉีกเป็ นชิ้น


เล็กและเผาเศษกระดาษทิง้ ทาลายหลักฐาน

การปฏิบัติเช่ นนีส้ ั ปดาห์ ละครั้งจะช่ วยให้ มันไม่ ลืมสิ่ งสาคัญก็


จริง แต่ ปัญหาคือ ในอนาคต หากภารกิจเหยี่ยวราตรีซับซ้ อนขึน้
กว่ าเดิม มันอาจไม่ มีเวลามากพอสาหรับทบทวนความทรงจาด้ วย
การจดแล้วเผา

แน่ นอน มันยังหาทางแก้ไขไม่ ได้

หรื อจะเขียนเป็ นภาษาเข้ ารหัสดี? จะได้ ไม่ ต้องคอยทาลาย


เอกสารทิง้ ทุกครั้ง? แต่ ตัวมันไม่ เคยศึกษาศาสตร์ การเข้ ารหัสมา
ก่อน

ไคลน์ หมุนคอไปมาเพื่อคลายกล้ามเนื้อ ภายในหัวครุ่นคิดถึง


แผนการต่ อไปในวันนี้

คงต้ องไปสโมสรพยากรณ์

คาว่ านักทานาย แต่ ละคนคงนิยามไว้ ไม่ เหมือนกัน และเทคนิค


สวมบทบาทของนักทานายทั่วโลกก็อาจแตกต่ างกัน ฉะนั้น มันขอ
เลือกวิธีที่ตนถนัดและเหมาะสมกับตัวเองที่สุด
ราชันย์ เร้ นลับ 62 : คาแนะนาจากนักทานาย

ก่อนออกจากบ้ าน ไคลน์ ใช้ เวลาพอสมควรในการทาความสะอาด


หมวกทรงกึ่งสู งและสู ทด้ วยแปรงขัดและผ้ าเช็ดหน้ า จากนั้นก็ถอด
เชิ้ตขาวที่สวมอยู่ออก ใส่ เชิ้ตขาวผ้ าลินินที่มีราคาถูกกว่ าแทน และ
สวมโค้ ตสี ดาหรูหราที่มีเพียงตัวเดียวทับลงไป

ชายหนุ่มเดินไปบนถนนดารารัตน์ ด้วยสี หน้ าครุ่นคิด

ก่อนอื่นก็เดรสของเมลิสซ่ า ถัดมาเป็ นสู ทของเบ็นสั น จากนั้น


ค่ อยถึงคิวสู ทสารองของตน…

เงินคือสิ่ งที่ไม่ เคยมีมากพอ

ครอบครัวยังต้ องซื้อชุดถ้ วยชากาแฟหรูหราสาหรับรับแขก แถม


ตัวมันยังต้ องใช้ จ่ายไปกับวัตถุดิบพิธีกรรมไม่ น้อย…

ไคลน์ นั่งลงบนเบาะรถม้ าพลางทบทวนสถานะทางการเงิน


ครอบครัว ทุกครั้งที่นาตัวเลขมาบวกลบ สี หน้ าชายหนุ่มจะหม่ น
มองเสมอ

คงต้ องใช้ เวลาอีกเป็ นปี กว่ าตนจะเปลี่ยนให้ ครอบครัวโมเร็ตติ


กลายเป็ นตระกูลชนชั้นกลางเต็มตัว
แต่ นี่ยังไม่ นับรวมการเลื่อนขั้นและโบนัส

เพียงไม่ นาน รถม้ าสาธารณะแล่นมาจอดสถานีฝั่งตรงข้ าม


สโมสรพยากรณ์ บนถนนฮาเวิส ไคลน์ ถอดหมวกกดไว้ ตรงหน้ าอก
ก่อนจะกระโดดลงจากห้ องโดยสารอย่ างนิ่มนวล

ชายหนุ่มข้ ามฝั่งและเดินขึน้ บันไดมายังชั้นสองซึ่งเป็ นสถาน


ที่ต้งั สโมสรพยากรณ์ ทันใดนั้น มันเหลือบเห็นเจ้ าหน้ าที่ต้อนรับ
สาวสวยคนเดิมนั่งประจาจุด
แอนเจลิก้า

ดวงตาของเธอบวมนิดๆ และมีรอยแดงเจือจาง แต่ สีหน้ ากลับ


ผ่ อนคลายสุ ดขีด

ไคลน์ เลื่อนมือขึน้ มาแตะหว่ างคิว้ และสารวจสี ออร่ าหล่อนอย่ าง


ละเอียด มันพบว่ า สี อารมณ์ เทาหม่ นที่สื่อถึงความตึงเครียดได้
หายไป แทนที่ด้วยสี ขาวสว่ างคล้ายกับแสงแดดเจิดจ้ า

เมื่อมั่นใจ มันเดินเข้ าไปใกล้ พร้ อมกับถอดหมวกทักทายด้ วย


รอยยิม้

“มาดามแอนเจลิก้า วันนีอ้ ากาศดีนะครับ”


แอนเจลิก้าเงยหน้ าขึน้ มอง สี หน้ าของเธอตกตะลึงชั่วขณะ ก่อน
จะได้ สติกลับมาและยิม้ ตอบ

“คุณเหมือนกับแมวของมิสเตอร์ วินเซนต์ ไม่ มีผิด ไปไหนมา


ไหนเงียบเชียบ ไร้ เสี ยงฝี เท้ า

“คุณอ่านอารมณ์ ฉันออกด้ วยหรื อ? อ๊ะ…! ลืมไป ฉันกาลังคุยอยู่


กับผู้เชี่ยวชาญการดูดวงจากใบหน้ า”

เธอหยุดพูดไปชั่วครู่ แอนเจลิก้ากัดริมฝี ปากเบาๆ ก่อนกล่าวต่ อ


“ขอบคุณมาก ขอบคุณสาหรับคาแนะนาที่มีค่าเมื่อวันก่อน ฉัน
รู้สึกดีขนึ้ มากแล้ว ไม่ ได้ ผ่อนคลายและมีความสุ ขขนาดนีม้ า
นาน…”

เมื่อได้ เห็นความจริงใจจากอีกฝ่ าย ไคลน์ ถูกอารมณ์ ด้านบวกของ


เธอครอบงาจนเริ่มคล้อยตาม มุมปากชายหนุ่มกระตุกเล็กๆ ก่อน
จะกล่าวตอบ

“เป็ นเกียรติอย่ างยิ่งครับ”

เมื่อพูดจบ มันสั มผัสได้ ว่า พลังวิญญาณของตนกาลังเอ่อล้น


แปลกประหลาด

นีค่ ือสิ่ งที่โอสถนักทานายต้ องการ?


เรามาถูกทางแล้ว…? นักทานายมีหน้ าที่ชี้ทางสว่ างให้ ผ้ อู ื่นอย่ าง
นั้นหรื อ?

ขณะครุ่นคิด ไคลน์ แอบแตะหว่ างคิว้ สองครั้งโดยไม่ ให้ แอนเจ


ลิก้ารู้สึกตัว

อันที่จริง วิธีแตะหว่ างคิว้ สองครั้งค่ อนข้ างยุ่งยากและโจ่ งแจ้ ง


แต่ ไคลน์ ยังหาวิธีที่ดีกว่ านีไ้ ม่ ได้

ด้ วยความที่มันเพิง่ เป็ นนักทานาย พลังวิญญาณจึงยังไม่ แข็งแรง


นัก เช่ นเดียวกันกับความชานาญวิญญาณ ฉะนั้นในปัจจุบัน ยังไม่ มี
วิธีเปิ ดใช้ งานเนตรวิญญาณใดที่เหมาะสมไปกว่ าการสั มผัสหว่ าง
คิว้ สองครั้ง

เมื่อใดที่ย่อยพลังโอสถนักทานายสมบูรณ์ เมื่อนั้นคงมีวิธีเข้ าสู่


ภาวะเนตรวิญญาณที่ประเจิดประเจ้ อน้ อยลง ไคลน์ ครุ่นคิดพลาง
สวมหมวกกลับและเดินตรงไปที่ห้องประชุม

“รับชาหรื อกาแฟคะ?”

“กาแฟเดซี่”

ไคลน์ ตอบ มันต้ องการลิม้ รสเครื่ องดื่มทุกชนิดที่สโมสร


พยากรณ์ บริการฟรี
ภายในห้ องประชุม ชายหนุ่มได้ พบสมาชิกสโมสรราวหกถึงเจ็ด
คน แต่ ปราศจากเฮเนส·วินเซนต์ ผ้ ทู ี่มักปรากฏตัวเสมอ

“มิสเตอร์ วินเซนต์ ไม่ อยู่หรื อ?”

ไคลน์ ชะงักพร้ อมหันไปถาม

แอนเจลิก้าแสดงสี หน้ าครุ่นคิดเล็กน้ อยก่อนมอบคาตอบ

“มิสเตอร์ วินเซนต์ ไม่ ได้ เข้ าทุกวันค่ ะ วันนีม้ ีนัดบรรยายที่ท่าเรื อ


เอ็นมาร์ ท คุณมีธุระกับเขาหรื อ?”

“ไม่ ครับ ผมแค่ ประหลาดใจ เพราะผมเคยพบเขาทุกครั้งที่เข้ า


สโมสร”

ไคลน์ ยมิ้

ขณะเดียวกัน มันได้ พบใบหน้ าของบุคคลที่ค้ ุนเคยในหมู่สมาชิก


เจ็ดคน

กลาซิส หมอดูที่เคยทานายให้ ไคลน์

กลาซิสกาลังนั่งอ่านเอกสารบางอย่ างด้ วยแว่ นขาเดียว ทันใดนั้น


มันเริ่มสั มผัสถึงสายตาที่จับจ้ อง จึงเงยหน้ าขึน้ และได้ พบกับ…
สี หน้ ากลาซิสพลันยินดี มันใช้ แขนสองข้ างพยุงตัวลุกพรวดขึน้
และปรี่เข้ าหาไคลน์

“ทิวาสวัสดิ์ มิสเตอร์ โมเร็ตติ ผมรอคอยวันที่จะได้ พบคุณมา


นานแล้ว

“ผมได้ ยินจากแอนเจลิก้าว่ า คุณไม่ ใช่ แพทย์ ชื่อดัง แต่ เป็ นหมอดู


ที่เชี่ยวชาญศาสตร์ ใบหน้ าอย่ างนั้นหรื อ?”

ไคลน์ อมยิม้

“ผมถนัดหลายอย่ างครับ ว่ าแต่ … อาการป่ วยของคุณดีขนึ้ จนน่ า


ตกใจ”

หลังจากแตะหว่ างคิว้ สองครั้ง มันพบว่ า ปอดของกลาซิสไม่


ปรากฏสี คลา้ อีกแล้ว

“ใช่ แล้วครับ พูดตามตรง ผมรู้สึกผิดมากที่ไม่ ยอมฟังคาเตือน


คุณตั้งแต่ แรก จนอาการกาเริบหนัก โชคดีที่สุดยอดเภสั ชกรเพิง่ เปิ ด
ร้ านใหม่ แถวบ้ าน ภรรยาของผมจึงซื้อสุ ดยอดยาวิเศษจากที่นั่น …
ทาให้ รอดมาได้ อย่ างหวุดหวิด”

ในสถานะสมาชิกเหยี่ยวราตรีแบบไม่ เป็ นทางการ ไคลน์ ย่อม


อยากรู้อยากเห็น
“สุ ดยอดเภสั ช? สุ ดยอดยาวิเศษ?”

วิเศษ? ขนาดไหนกัน? ระดับผู้วิเศษไหม?

“เขาระบุว่าเป็ นสู ตรยาท้ องถิ่นของลุนเบิร์ก สรุปคือ เป็ นยาวิเศษ


ที่ช่วยให้ ผมหายจากอาการป่ วยทันตาเห็น”

กลาซิสตอบด้ วยสี หน้ ายินดี มันไม่ เอะใจถึงความแปลก


ประหลาดของเหตุการณ์
สู ตรยาท้ องถิ่น?

ไคลน์ แสร้ งทาสี หน้ าครุ่นคิดพลางแตะหว่ างคิว้

“เขาชื่ ออะไร? อยู่ที่ไหน? ก็อย่ างที่คุณทราบ นักทานายไม่


สามารถระบุโรคภัยของตัวเองได้ แม่ นยานัก ผมอาจต้ องพึ่งพาเขา
บ้ างในสั กวัน”

จากความทรงจาไคลน์ คนก่อน เพื่อนร่ วมชั้นและอาจารย์ ทาให้


มันทราบว่ า ระบบเวชภัณฑ์ ของโลกปัจจุบันยังอยู่ในช่ วงเริ่มต้ น จึง
ไม่ แปลกที่ยาวิเศษกาลังครองตลาด ฉะนั้น ตัวมันก็ควรทราบแหล่ง
ซื้อไว้ ต้งั แต่ เนิ่นๆ

กลาซิสตอบจริงใจ
“โรเซน·ดัคเวด ร้ านยาเล็กๆ ตั้งอยู่ที่เขตตะวันออก บนถนนว
ลาด บ้ านเลขที่ 18 ชื่ อร้ าน‘สมุนไพรโรเซนสู ตรท้ องถิ่น’”

“ขอบคุณมาก”

ไคลน์ บันทึกลงสมองพร้ อมกล่าวขอบคุณ

กลาซิสหันหลังเล็กน้ อยและผายมือเชื้อเชิญให้ ไคลน์ นั่งด้ วยกัน


ทันใดนั้น แอนเจลิก้ายกกาแฟเดซี่ชงสดใหม่ เข้ ามาเสิ ร์ฟ
เมื่อเทียบกับกาแฟนันวีลล์ กาแฟเดซี่มีกลิ่นหอมกว่ ามาก แต่
รสชาติกลับเป็ นรอง ชายหนุ่มนั่งดื่มด่ารสขมอยู่สักพัก

กลาซิสพยายามเรียบเรียงคาพูดขณะชาเลืองมองไคลน์ วางถ้ วย
กาแฟลง

“มิสเตอร์ โมเร็ตติ ช่ วยทานายดวงชะตาให้ ผมได้ ไหม? ยินดีจ่าย


เท่ าที่คุณเรียกร้ อง”

“แปดเพนนีก็พอแล้ว ผมไม่ ขนึ้ ค่ าบริการอย่ างไร้ เหตุผล”

จากแผนสวมบทบาทนักทานาย ไคลน์ ต้องการแค่ ลูกค้ า เรื่ อง


ราคาเป็ นประเด็นรอง
“ไปทีห่ ้ องพยากรณ์ ดีไหม?”
“ตกลงครับ ห้ องบุษราคัม”

กลาซิสเดินนาทางไปยังห้ องที่ตนคุ้นเคย

หลังจากเดินเข้ าไปในห้ องและล็อคประตู ไคลน์ นั่งลงบนเก้าอีฝ้ ั่ง


ตรงข้ าม ก่อนจะกล่าวเสี ยงเคร่ งขรึม

“มิสเตอร์ กลาซิส คุณจะให้ ผมทานายเรื่ องใดหรื อ?”


“ผมกาลังจะลงทุนครั้งใหญ่ จานวนเงินค่ อนข้ างมาก ถ้ าล้มเหลว
ครอบครัวจะได้ รับผลกระทบหนัก จึงต้ องการทานายว่ า การลงทุน
จะประสบความสาเร็จหรื อไม่ ”

กลาซิสเริ่มเกริ่น

“ผมลองทานายดวงชะตาตัวเองด้ วยไพ่ทาโร่ ต์ไปแล้ว เอ่อ…


ทานายตอนที่จิตใจกาลังว่ างเปล่า ผลออกมาในเชิงบวก การลงทุน
จะประสบความสาเร็จ ผมอาจเข้ าข้ างตัวเองมากเกินไป แต่ ก็
ตีความตามหลักสั ญลักษณ์ ในตาราทุกประการ”

ไคลน์ ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะถาม

“ผมต้ องการทราบสถานการณ์ และข้ อมูลของตัวคุณโดยละเอียด


รวมถึงข้ อมูลของอีกฝ่ ายด้ วย จะทานายโดยใช้ หลักโหราศาสตร์ ”
“ไม่ มีปัญหาครับ”

กลาซิสเรียบเรียงคาพูดและกล่าวต่ อ

“เมื่อมิสเตอร์ ลาเนวุสสารวจเทือกเขาโฮนาซิสและพบร่ อยรอย


แร่ เหล็กคุณภาพสู ง เขารีบใช้ เงินเก็บทั้งหมดกว้ านซื้อที่ดินบริเวณ
ดังกล่าวและจ้ างบริษัทขุดเจาะเพื่อสารวจโดยละเอียด และผลลัพธ์
ก็น่าทึ่งมาก
“แต่ เนื่องจากใช้ เงินไปเกือบหมด เขาจึงไม่ สามารถดาเนินการต่ อ
ทาให้ ต้องก่อตั้งบริษัทเหมืองเหล็กขึน้ เพื่อทาเรื่ องกู้เงินจากธนาคาร
กลาง ขณะเดียวกันก็ออกระดมทุนเพื่อรวบรวมเงินเพิม่ อีกหนึ่ง
ช่ องทาง โดยรับประกันว่ าจะจ่ ายเงินปันผลในราคาที่สูงมาก”

ไคลน์ อ่านหนังสื อทุกวัน และมีความทรงจาจากไคลน์ คนก่อน


มันจึงทราบว่ าโลกใบนี้มีระบบหุ้นอยู่ด้วย แถมยังทราบด้ วยว่ า ผู้ที่
คิดค้ นระบบหุ้นคือจักรพรรดิโรซาย

หมอนั่นอีกแล้ว

ระหว่ างล่าอาณานิคมทวีปใต้ โรซายได้ ก่อตั้งบริษัทไบลัม


ตะวันออกเพื่อขจัดปัญหาขาดแคลนงบประมาณในการทาสงคราม
มันริเริ่มใช้ ระบบหุ้นเพื่อระดมเงินจากสาธารณะ ส่ งผลให้ การล่า
อาณานิคมเป็ นไปอย่ างราบรื่ น
ยิ่งบริษัทกาไรมาก เงินปันผลก็ยิ่งมากตามไปด้ วย เมื่อกลุ่มคนที่
เคยลังเลเห็นดังนั้น พวกมันจึงแห่ ระดุมทุนจนบริษัทเติบโตอย่ าง
ก้าวกระโดด

บริษัทไบลัมตะวันตกของโรซายประกอบกิจการหลายภาคส่ วน
เช่ นทางรถไฟ เหมืองแร่ เหมืองไอน้า และอีกมาก ถึงมีหลายธุรกิจ
ที่ไม่ ประสบความสาเร็จเท่ าที่ควร แต่ ปฏิเสธไม่ ได้ ว่า ระบบหุ้นได้
พลิกหน้ าประวัติศาสตร์ หลักการเงินของทวีปเหนือ
แม้ แต่ ตลาดหลักทรัพย์ เบ็คลันด์ ก็ยังนาระบบหุ้นมาปรับใช้ กับ
อาณาจักรโลเอ็น

นอกเหนือจากหุ้น จักรพรรดิโรซายยังคิดค้ นระบบพันธบัตร


แห่ งชาติ หน่ วยลงทุน รวมถึงระบบออมเงินอีกหลายชนิด โดยวิธี
แรกได้ รับความนิยมสู งสุ ดเนื่องจากมีความเสี่ ยงต่า ผลตอบแทนจะ
กลับคืนผู้ลงทุนราวสี่ ถึงหกเปอร์ เซนต์ ต่อปี

เบ็นสั นเคยกล่าวว่ า หากได้ รับมรดกเป็ นเงินจานวนสามพัน


ปอนด์ ชีวิตนีไ้ ม่ ต้องทางานอีกเลยก็ได้ เพราะถ้ านาไปซื้อพันธบัตร
แห่ งชาติ เงินปันผลจะอยู่ที่ 5% ของเงินต้ น หรื อคิดเป็ นปี ละ 150
ปอนด์ เทียบเท่ ารายได้ ต่อปี ของไคลน์ ณปัจจุบัน

นี่มันเสื อนอนกินชัดๆ…
ไคลน์ ถอนหายใจยาว

“คุณมั่นใจหรื อ ว่ าธรุกิจจะเป็ นไปได้ ด้วยดี มิสเตอร์ ลาเนวุส


น่ าเชื่ อถือขนาดนั้นเชียว?”

“ผมเคยเห็นเอกสารยืนยันสิ ทธิ์ครอบครองที่ดินบนเทือกเขาโฮ
นาซิส รวมถึงเอกสารรายงานจากบริษัทขุดเจาะ บนเอกสารทั้งสอง
ฉบับมีตราประทับจากรัฐซิลเวลัส…

“และที่สานักงานของลาเนวุสยังมีรูปถ่ ายร่ วมกับเซอร์ ·เดอไวล์


และนายกเทศมนตรีคนปัจจุบันด้ วย”

กลาซิสพยักหน้ าขณะเล่าความ

รูปถ่ ายร่ วม? นั่นไม่ ได้ สลักคาสั ญสั กนิด…

ไคลน์ ที่เกิดในยุคโซเชียลมีเดีย มันเคยเห็นความหลอกลวงของ


ผู้คนจนชาชิน แต่ แค่ น้ ันก็ไม่ มากพอจะตัดสิ นชายที่ชื่อลาเนวุส

ช่ างเถอะ ไม่ เกี่ยวกับว่ าตนจะมีอคติหรื อไม่ แต่ ผลการทานายไม่


โกหกใคร ชายหนุ่มใช้ ปากกาหมึกซึมเขียนข้ อมูลที่กลาซิสมอบให้
เพื่อเตรียมทานายด้ วยหลักโหราศาสตร์

ไคลน์ ต้งั ค่ าเครื่ องทานายดวงดาวและเริ่มลงมือต่ อหน้ ากลาซิ ส


เมื่อผ่ านไปสั กพักจนผลลัพธ์ ปรากฏ ชายหนุ่มหยิบกระดาษ
แผนภาพขึน้ มาชี้ให้ อีกฝ่ ายเห็น

“คุณคงอ่านค่ าออกใช่ ไหม? การลงทุนจะไม่ ประสบความสาเร็จ


ภายใต้ หน้ ากากที่สวยหรูเลิศเลอ ความจริงเบื้องล่างมีเพียงหุบเหว
ไร้ ก้นบึง้ คาทานายของผมระบุว่า คุณควรหลีกเลี่ยงมิสเตอร์
ลาเนวุสให้ ไกลที่สุด”

“…”

กลาซิสเงียบงัน มันอ้ าปากค้ างครู่ใหญ่ ก่อนจะหุบกลับ

มันนั่งซึมนานหลายนาที จากนั้นก็กล่าวกับไคลน์ ด้วยน้าเสี ยงไร้


เรี่ยวแรง

“ผมจะระวังตัวให้ มากก็แล้วกัน”

เมื่อได้ ยินคาตอบเช่ นนี้ ไคลน์ พลันส่ ายศีรษะและถอนหายใจยาว


มันเริ่มตระหนักถึงขีดจากัดของนักทานาย

นักทานายทาได้ เพียงแนะนา แต่ ไม่ สามารถบงการชีวิตใครได้ ถึง


จะเห็นชัดเจนว่ าเส้ นทางใดถูกต้ อง

หลังจากสองบุรุษเดินออกจากห้ องบุษราคัม แอนเจลิก้าหันมอง


ไคลน์ และตะโกน
“มิสเตอร์ โมเร็ตติคะ มีลูกค้ าต้ องการใช้ บริการดูดวงจากคุณ”

เมื่อกล่าวจบ แอนจิลิก้าเดินเข้ ามาใกล้พร้ อมกับกระซิบกระซาบ

“เขาเจาะจงเลือกคุณโดนที่ฉันยังไม่ ทันแนะนา ไม่ ได้ มองอัลบัม


ด้ วยซ้า”

นี่เราเริ่มดังแล้วหรื อ? ไคลน์ หันมองทางห้ องรับแขกด้ วยสี หน้ า


สุ ดฉงน
ราชันย์ เร้ นลับ 63 : แปลความฝัน

ไคลน์ เดินต่ อไปอีกสั กพักจนกระทั่งได้ เห็นใบหน้ าของลูกค้ า


ชัดเจน อีกฝ่ ายสวมสู ทดาสลับขาวตามปรกติ หมวกทรงกึ่งสู ง ไม้
คา้ เลี่ยมทองหรูหรา ผมทองสั้ น ปลายจมูกงุ้มเหมือนปากเหยี่ยว

คู่หมั้นแอนนา…

บุรุษผู้นคี้ ือจอยซ์ ·ไมเยอร์ ที่ไคลน์ เห็นในการทานายฝัน ชายหนุ่ม


กล่าวทักทายทันที

“ทิวาสวัสดิ์ครับ มิสเตอร์ ไมเยอร์ ”

“ทิวาสวัสดิ์ครับ มิสเตอร์ โมเร็ตติ”

จอยซ์ ถอดหมวกทักทายพร้ อมกับก้มศีรษะลงเล็กน้ อย

“ขอบคุณสาหรับคาแนะนาที่มอบให้ แอนนาครับ เธอกล่าวชม


ความสุ ดยอดของคุณไม่ หยุดปาก”

ไคลน์ หัวเราะแห้ งๆ

“ผมไม่ ได้ ทาอะไรเลยครับ บุคคลที่น่ายกย่ องคือตัวคุณต่ างหาก


ถ้ าไม่ ขวนขวายเอาชีวิตรอดเพื่อจะมีวันพรุ่งนี้ ุุคุณคงไม่ มีทาง
รอดพ้นจากวิกฤติดังกล่าวได้ แน่ ”

หลังจากกล่าวชมกันและกัน ไคลน์ ราพันในใจ

…จะแข่ งกันประจบไปถึงไหน

“ด้ วยความสั ตย์ จริง ผมไม่ อยากเชื่ อเลยว่ าตัวเองจะมีชีวิตรอด


กลับมา เหตุการณ์ สุดหดหู่ที่เกิดซ้ อนทับครั้งแล้วครั้งเล่า มันคง
กลายเป็ นฝันร้ ายสาหรับผมไปอีกนาน”
จอยซ์ ส่ายศีรษะ

โดยไม่ รอให้ ไคลน์ กล่าวต่ อ มันเอ่ยปากถามด้ วยสี หน้ าฉงน

“คุณรู้จักชื่ อของผมได้ ทันที… เป็ นเพราะจมูกอันโดดเด่ ง หรื อ


เพราะคุณทานายว่ าผมจะมาหาในวันนี้?”

“แอนนาบอกข้ อมูลเบื้องต้ นให้ ผมฟังแล้ว สาหรับนักทานาย


เท่ านีก้ ็เพียงพอ”

ไคลน์ ตอบคลุมเครื อ แบบเดียวกับที่นักต้ มตุ๋นชอบทา

จอยซ์ ถึงกับผงะ ก่อนจะได้ สติกลับมาในอีกหลายสิ บวินาที


“มิสเตอร์ โมเร็ตติ ผมต้ องการให้ คุณช่ วยทานายบางสิ่ ง”
เมื่อกล่าวจบ จอยซ์ ·ไมเยอร์ พลันนึกขึน้ ได้ ว่า ไคลน์ ·โมเร็ตติ
ไม่ ได้ เรียกตัวเองว่ าหมอดู

...แต่ เป็ นนักทานาย

“ตกลงครับ ไปที่ห้องบุษราคัมกันเถอะ”

ไคลน์ ผายมือส่ งสั ญญาณ


ในวินาทีนี้ มันเริ่มคิดเป็ นจริงเป็ นจังแล้วว่ า ตนควรซื้อชุดคลุมสี
ดามาใส่ เพื่อให้ เหมาะสมกับมาดนักทานาย และต้ องลดทอนคาพูด
ลงจากปรกติ จะได้ สมกับความลึกลับของนักทานาย

จอยซ์ ·ไมเยอร์ ล็อคประตูหลังจากเดินเข้ าห้ อง ขณะมันกวาด


สายตาสารวจ ไคลน์ ฉวยโอกาสแตะหว่ างคิว้ ด้ วยปลายนิว้ สองครั้ง

จอยซ์ นั่งลงพร้ อมกับวางไม้ คา้ เลี่ยมทองไว้ ข้างลาตัว มันคลาย


โบว์ หูกระต่ ายที่คอออก ก่อนจะกล่าวด้ วยเสี ยงแหบพร่ า

“มิสเตอร์ โมเร็ตติ ผมต้ องการให้ คุณช่ วยแปลความฝัน”

“แปลความฝันสิ นะครับ”
ไคลน์ ไม่ ออกท่ าทีกระโตกกระตาก มันทาราวกับทุกสิ่ งอยู่ในการ
คานวณ เพียงถามยา้ ด้ วยน้าเสี ยงเรียบเฉยเพื่อให้ แน่ ใจ

สี ออร่ าด้ านสุ ขภาพของจอยซ์ ค่อนข้ างหม่ นหมอง แต่ ไม่ มี


สั ญญาณของโรคร้ าย สี ออร่ าด้ านอารมณ์ ออกไปทางน้าเงินเข้ ม
หมายถึงความวิตกกังวลอย่ างหนัก

จอยซ์ พยักหน้ ารับ

“ผมฝันร้ ายทุกวันนับตั้งแต่ เรื ออัลฟาฟ่ าแล่นถึงท่ าเรื อเอ็นมาร์ ท


เคยเข้ าใจว่ าอาจเป็ นอาการหลอน หรื อไม่ ก็ภาวะฝังใจ และควรไป
พบจิตแพทย์ มากกว่ า แต่ ฝันของผมค่ อนข้ างพิเศษ โดยทั่วไปแล้ว
การฝันร้ ายจะมีรายละเอียดแตกต่ างกันไปในแต่ ละวัน แต่ ความฝัน
ของผมเหมือนกันทุกครั้งจนน่ ากลัว ต้ องมีความนัยแฝงอยู่แน่ ”

“สาหรับนักทานาย ฝันเช่ นนี้หมายถึงเทพกาลังบอกใบ้ บางสิ่ ง”

ไคลน์ ตอบกึ่งปลอบใจกึ่งอธิบาย

“อธิบายความฝันให้ ฟังหน่ อยครับ”

จอยซ์ กาหมัดแน่ น ร่ างกายเริ่มสั่ นเทา มันครุ่นคิดนานหลาย


วินาทีก่อนอ้าปากเล่า

“ผมฝันว่ าตัวเองพัลดตกจากเรื ออัลฟาฟ่ าลงไปในทะเล แต่ น้า


ทะเลเป็ นสี แดงสดเหมือนกับเลือด
“ขณะตกลงไป แขนผมถูกคว้ าไว้ ด้วยมือของใครบางคน แต่ ผม
จดจาใบหน้ าไม่ ได้ ทราบแต่ เพียงว่ าแข็งแรงมาก

“ในเวลาเดียวกัน แขนอีกข้ างของผมได้ คว้ าผู้โดยสารร่ วม


เรื ออัลฟาฟ่ าอีกคนไว้ เพื่อช่ วยไม่ ให้ เขาจมน้า ชื่ อของเขาคือยูนิส·
จิน”

“แต่ เป็ นเพราะเขามีน้าหนักตัวค่ อนข้ างมาก รวมถึงแรงดิน้ ที่ทา


ให้ สถานการณ์ ฝั่งผมเริ่มแย่ เมื่อไม่ มีทางเลือกมากนัก ผม
จาเป็ นต้ องปล่อยมือ และได้ เห็นยูนิส·จินถูกทะเลโลหิตกลืนกินไป
ต่ อหน้ า”

“ในวินาทีดังกล่าว บุคคลที่เคยจับแขนผมไว้ ได้ ปล่อยมือเช่ นกัน


ผมตะเกียกตะกายเหนือผิวน้าอยู่นานอยู่นาน แต่ ก็ไม่ เกิดประโยชน์
ใด ร่ างกายจมดิ่งลงสู่ ก้นทะเลอย่ างช้ าๆ”

“หลังจากนั้น ผมจะตื่นจากฝันร้ ายด้ วยร่ างกายที่ช่ ุมเหงื่อ


โดยเฉพาะแผ่ นหลังและหน้ าผาก”

ไคลน์ พยักหน้ ารับฟังตลอดเวลา ปลายนิว้ เคาะโต๊ ะเป็ นสั ญญาณ


การครุ่นคิด

“มิสเตอร์ ไมเยอร์ นิมิตจาพวกฝันร้ าย และฝันร้ ายที่เกิดซ้า


ต่ อเนื่อง ทั้งหมดคือสั ญญาณทางจิตซึ่งมีแหล่งที่มาเดียวกัน การที่
คุณฝันร้ ายซ้าเดิมตลอด หมายความว่ า พลังวิญญาณในตัวคุณ
กาลังยา้ เตือนบางสิ่ ง เป็ นลางบอกเหตุจากเทพ”

เมื่อเห็นสี หน้ าจอยซ์ เริ่มตื่นกลัว ไคลน์ อธิบายเสริม

“ไม่ ต้องตกใจไป มนุษย์ ปรกติน้ นั มีพลังวิญญาณมากพอจะรับ


สารจากเทพ

“ผมไม่ ทราบแน่ ชัดว่ า บนเรื ออัลฟาฟ่ าลาดังกล่าวเกิดอะไรขึน้


บ้ าง แต่ หากดูจากปฏิกิริยาของคุณ คงผ่ านเรื่ องราวสุ ดสยดสยองที่
เต็มไปด้ วยกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นเหล็กมาสิ นะครับ รุนแรงถึง
ขนาดทาให้ คุณเกิดอาการฝังใจ”

เมื่อเห็นจอยซ์ ผงักศีรษะเป็ นระยะ ไคลน์ กล่าวต่ อ

“ขณะอยู่บนเรื อ คุณคงมีอาการตื่นตระหนกอย่ างมาก ส่ งผลให้


มนุษย์ สูญเสี ยการรับรู้รายละเอียดรอบตัวไปชั่วขณะ จนมองข้ าม
ลางบอกเหตุเล็กๆ น้ อยๆ ที่สวรรค์ นาพา

“การไม่ เห็น ไม่ ได้ แปลว่ ามันไม่ มีตัวตนอยู่ เพียงแต่ คุณมองข้ าม


มันไป ขอเน้ นยา้ อีกครั้งนะครับ คุณตื่นเต้ นจนมองข้ ามรายละเอียด
เล็กน้ อยภายในฝัน

“ภายในฝัน พยายามรวบรวมสติให้ ดี รวบรวมพลังวิญญาณให้ ดี


หากคาบอกใบ้ ดังกล่าวเป็ นสิ่ งสาคัญ พลังวิญญาณของคุณต้ อง
แสดงให้ เห็นในฝันแน่ นอน”

ก่อนหน้ านี้ ไคลน์ เคยทาผิดพลาดแบบเดียวกันมาก่อน นั่นคือ


เหตุการณ์ สมุดบันทึกอันทีโกนัสที่อยู่กับรีเอล·บีเบอร์ ไคลน์
มองข้ ามลางบอกเหตุจนทาให้ ทุกสิ่ งสายเกินไป…

แต่ ปัจจุบัน ตนมีพลังวิญญาณแข็งแกร่ งขึน้ รวมถึงมีความรู้


เกี่ยวกับศาสตร์ เร้ นลับมากขึน้ ส่ งผลให้ ไคลน์ เอะใจความผิดปรกติ
ได้ เร็ว
ชายหนุ่มเงียบงันราวสิ บวินาที ก่อนจะเงยหน้ าขึน้ และมองเข้ า
ไปในแววตาจอยซ์

“มิสเตอร์ ยูนิส·จินที่คุณปล่อยมือจนจมทะเลไปต่ อหน้ า ก่อนตาย


เขาได้ อ้อนวอนร้ องขอชีวิตหรื อไม่ ? ชีวิตที่คุณไม่ ให้ เขา”

ร่ างกายจอยซ์ เริ่มสั่ นเทารุนแรง มันพะงาบปากหลายครั้งก่อนจะ


เปล่งเสี ยง

“ใช่ ครับ แต่ ผมไม่ เห็นใจไอ้ระยานั่นแม้ แต่ น้อย! มันเป็ นคนชั่วช้ า


อีกสองสามวันหลังจากนีค้ ุณอาจได้ เห็นข่ าวตามหน้ าหนังสื อพิมพ์
ว่ าชายคนนั้นสร้ างวีรกรรมต่าทรามไว้ มากแค่ ไหน มันข่ มขืนและ
ฆ่ าสุ ภาพสตรีอย่ างน้ อยสามคนบนเรื อ โยนเด็กทารกลงไปในทะเล
คลั่ง และมันยังเป็ นหัวโจกนาขบวนกลุ่มคนเสี ยสติ ไล่ฆ่าลูกเรื อ
และผู้โดยสารที่เหลืออย่ างเหีย้ มโหด
“มันเจ้ าเล่ห์ แข็งแรง และชั่วช้ า แต่ ถึงอย่ างนั้น ผมก็ไม่ กล้า
ออกไปหยุดมัน ไม่ กล้าขัดขวาง ผมรักตัวกลัวตาย”

“ผมเข้ าใจความรู้สึกของคุณ”

ไคลน์ แสดงท่ าทีเห็นอกเห็นใจ ก่อนจะเริ่มกล่าวอธิบาย

“แต่ จากความฝัน ผมตีความได้ ว่า คุณรู้สึกผิดและเสี ยใจที่ปล่อย


มือยูนิส·จินให้ ตกลงไปในก้นทะเล ทาไมถึงรู้สึกแบบนั้น? ในเมื่อ
มันเป็ นคนชั่วช้ า การปล่อยให้ ตายก็ควรถูกต้ องแล้วไม่ ใช่ หรื อ? เหตุ
ใดถึงได้ ฝันซ้าซ้ อนและลืมตาตื่นหลังจากปล่อยมือทุกครั้ง?”

“ผมเองก็ไม่ ทราบ…”

จอยซ์ ส่ายศีรษะ ร่ างกายยังคงสั่ น

ไคลน์ นาสองมือกอดอก ฝ่ ามือข้ างหนึ่งเท้ าคางไว้ สี หน้ ากาลัง


ครุ่นคิด

“อย่ างที่เคยกล่าวไป ผมคิดว่าคุณคงทารายละเอียดเล็กน้ อยตก


หล่น ตัวอย่ างเช่ น ยูนิส·จินกล่าวถึงสิ่ งใดก่อนตาย ถ้ อยคาที่มันใช้
ขอร้ องอ้อนวอนชีวิต รวมถึงสี หน้ าท่ าทาง ผมไม่ สามารถรีดเร้ น
รายละเอียดเล็กน้ อยเหล่านีอ้ อกมาเองได้ เนื่องจากไม่ ใช่ ฝันของผม
จาเป็ นต้ องพึ่งพาความร่ วมมือจากคุณ รบกวนไตร่ ตรองความฝัน
ให้ ถี่ถ้วนอีกครั้ง”

“ไม่ มีอะไรพิเศษครับ… สิ่ งที่มันพูดมีแค่ —ฉันสานึกผิดแล้ ว


ช่ วยฉันด้ วย…”

จอยซ์ พมึ พา

ไคลน์ ไม่ ได้ ประสบเหตุการณ์ ด้วยตัวเอง มันทาได้ แค่ ให้


คาแนะนา โดยใช้ หลักการของศาสตร์ ทานายฝันที่ร่าเรียนมา
“หรื อคุณคิดว่ ายูนิส·จินจะมีประโยชน์ กว่ าหากยังมีชีวิตอยู่?
ตัวตนของมันอาจพิสูจน์ บางสิ่ งหรื ออธิบายบางเหตุการณ์ ได้ ?”

จอยซ์ ขมวดคิว้ อยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่ อ

“บางที… ผมอาจมองว่ า เหตุการณ์ คลุ้มคลั่งบนเรื ออัลฟาฟ่ า


เกิดขึน้ อย่ างผิดธรรมชาติเกินไป คล้ายกับความชั่วร้ ายที่หลับลึกใน
จิตใจทุกคนปะทุออกมาพร้ อมกัน…

“มันแปลกมาก ผมสั มผัสถึงึความไม่ ชอบมาพากล บางที… ผม


อาจต้ องการสอบสวนยูนิส·จินอย่ างละเอียดว่ า ในตอนที่เริ่มคลุ้ม
คลั่ง ทาไมมันถึงทาตัวคล้ายกับถูกวิญญาณร้ ายสิ งสู่ …”

ไคลน์ พบร่ องรอยที่น่าสนใจ มันเงยหน้ าขึน้ และกล่าวกับจอยซ์


ด้ วยเสี ยงคล้ายนักต้ มตุ๋น
“ยังมีอีกหนึ่งเบาะแส…”

“อะไรนะ?”

จอยซ์ ผงะ

ไคลน์ ยังคงกอดอกและใช้ ฝ่ามือข้ างหนึ่งดันปลายคางขึน้ มังจ้ อง


มองเข้ าไปในตาจอยซ์ พร้ อมกับกล่าวอย่ างเชื่ องช้ า
“คุณไม่ เพียงพบความผิดปรกติ แต่ คุณเคยเห็นบางสิ่ งที่เป็ น
สาเหตุของหายนะด้ วยตาตัวเองมาแล้ว แต่ เพราะเหตุผลบาง
ประการ จิตใต้ สานึกของคุณกลับเลือกที่จะไม่ จดจา และปฏิเสธ
อัตโนมัติว่าสิ่ งนั้นไม่ เกี่ยวข้ อง…

“ถ้ านึกออกเมื่อไร บทสรุปทั้งหมดจะกระจ่ างทันที”

“พลังวิญญาณของคุณกาลังบอกใบ้ ว่า มีผ้ ตู ้ องสงสั ยบางคนที่คุณ


มองข้ ามไป บางทีอาจเป็ นคนที่ใช้ มือจับแขนคุณไว้ ในฝัน คนที่คุณ
หลงลืมใบหน้ า…

“คนๆ นั้นต้ องสนิทสนมกับคุณ อาจเคยกุมชะตาชีวิต หรื อไม่ ก็


เคยช่ วยชีวิตคุณไว้ ”
ทันใดนั้น จอยซ์ ผงะจนเอนหลังไปกระแทกพนักเก้าอี้ ท้ ายทอย
มันโขกกับไม้ จนเกิดเสี ยงทื่อ

หน้ าผากจอยซ์ เริ่มผุดเหงื่อเม็ดเป้ง นัยน์ ตาสั่ นเทาอย่ างสั บสน


ปนเคลือบแคลง

“ผ…ผมเห็นแล้ว…”

จอยซ์ ลุกพรวดขึน้ พร้ อมกับตะโกน เก้าอีไ้ ม้ โงนเงนจนเกือบ


หงายหลัง
“มิสเตอร์ ทริส…”

ราวกับมันใช้ พละกาลังทั้งหมดที่เหลือเพื่อเปล่งชื่ อดังกล่าว

เด็กหนุ่มหน้ ากลมอัธยาศัยดี วีรบุรุษหาญกล้าที่ช่วยชีวิตทุกคน


บนเรื อไว้ …

ไคลน์ ไม่ แทรกแซงกระบวนการคิดของจอยซ์ มันเอนหลังพิง


เบาะพร้ อมกับอมยิม้ รอให้ อีกฝ่ ายพรั่งพรูคาตอบออกมาเอง

สี หน้ าจอยซ์ เปลี่ยนไปทุกขณะ ประกอบด้ วยหลากหลายอารมณ์


จนกระทั่งกลับสู่ สีหน้ าปรกติที่ขาวซีดเล็กน้ อย

จอยซ์ อมยิม้ จืดชื ด


“ผมเข้ าใจเหตุการณ์ ท้งั หมดแล้ว… ขอบคุณมากครับที่ช่วยแปล
ความฝัน คงถึงเวลาที่ผมต้ องเดินทางไปสถานีตารวจ”

จอยซ์ หยิบกระเป๋าสตางค์ ออกมาพร้ อมกับธนบัตรหนึ่งซูล

“ผมไม่ คิดว่ าเงินจานวนนี้สามารถตอบแทนสิ่ งที่คุณมอบให้ ได้


หมด แต่ ในเมื่อเป็ นราคาที่คุณเรียกร้ อง ผมจึงไม่ มีทางเลือก”

จอยซ์ ยื่นธนบัตรหนึ่งซูลให้ ไคลน์


…จะให้ สักสิ บปอนด์ ก็ไม่ มีใครว่ าหรอกนะ

หนึ่งซูลสิ นะ เหมือนกับคู่หมั้นไม่ มีผิด…

ไคลน์ ยังคงรักษามาดนักต้ มตุ๋นโดยไม่ กล่ าวสิ่ งใดออกไป มัน


เพียงอมยิม้ และรับธนบัตรไว้ ด้วยไมตรี

จอยซ์ สูดลมหายใจเข้ าเต็มปอด มันสวมหมวกและก้มหยิบไม้ คา้


เลี่ยมทอง ก่อนจะเดินไปทางประตูห้อง

ขณะบิดกลอนเพื่อปลดล็อค จอยซ์ ·ไมเยอร์ หันมากล่ าว

“ขอบคุณอีกครั้ง ท่ านโมเร็ตติ”
ท่ าน? ไคลน์ หัวเราะคิกคัก มันนั่งมองจอยซ์ เดินออกจากห้ อง
บุษราคัมจนกระทั่งลับสายตา ในหัวกาลังขบคิดถึงเหตุการณ์ ที่
เกิดขึน้ บนเรื ออัลฟาฟ่ า

ดูเหมือนจะลึกลับกว่ าที่ตนจินตนาการไว้

ถ้ าหัวหน้ าอยู่ด้วยก็คงดี จะได้ เข้ าฝันจอยซ์ และ‘เห็น’ความ


เป็ นไปทั้งหมดโดยละเอียด…


รุ่งอรุณเช้ าวันอังคาร

กรุงเบ็นลันด์ เขตราชินี

ออเดรย์ ที่ตื่นเช้ ากว่ าปรกติ เธอกวักมือเรียกสุ นัขโกลเด้ นรีทวี


เวอร์ ให้ เข้ ามาใกล้ ก่อนจะกล่าวด้ วยน้าเสี ยงขึงขัง

“ซูซี่ เธอเองก็เป็ นผู้วิเศษแล้ว พวกเราลงเรื อลาเดียวกันแล้วนะ


เอ่อ… ฉันหมายถึง เวลามีเรื่ องเดือดร้ อน ต่ างฝ่ ายต้ องช่ วยเหลือซึ่ง
กันและกัน! ฉะนั้น ฉันกาลังจะทาพิธีกรรมเวทมนตร์ ช่ วยเฝ้าหน้ า
ห้ องและห้ ามผู้ใดรบกวนโดยเด็ดขาด!”

ซูซี่เงยหน้ ามองเจ้ านายตน จากนั้นก็กระดิกหางซ้ ายขวาราวกับ


เข้ าใจบทสนทนา
ราชันย์ เร้ นลับ 64 : นักกระตุ้น

หลังจากออกคาสั่ งกับซูซี่ สุ นัขโกลเด้ นรีทวีเวอร์ ตัวโปรด ออ


เดรย์ เดินวนเวียนไปมาภายในห้ องนอน เธอกังวลว่ าพิธีกรรมเวท
มนตร์ อาจทาให้ เกิดหายนะร้ ายแรงขึน้

“แต่ ไม่ ว่ายังไงก็ต้องทา…”

นัยน์ ตาเด็กสาวเริ่มสงบลง เธอกลับสู่ ภาวะผู้ชมอีกครั้งเมื่อ


ตัดสิ นใจหนักแน่ น

ออเดรย์ เดินไปที่ประตู ปลดกลอนขัดออกและเปิ ดประตูกล่าว


กับซูซี่

“ถ้ าแอนนี่พยายามเข้ ามาในห้ อง ให้ รีบวิ่งไปเตือนฉันที่ห้อง


อาบน้าทันที เข้ าใจไหม?”

เพื่อความปลอดภัย สาวใช้ ส่วนตัวของเธอจะมีกุญแจห้ องนอน


พกติดตัวไว้ เสมอ

ซูซี่จ้องมองออเดรย์ ด้วยสี หน้ าขีเ้ ล่นตามประสาสุ นัข ก่อนจะ


กระดิกหางสามครั้งเป็ นเชิงรับทราบ
“ต้ องอย่ างนั้น! ฉันจะให้ เธอเลือกอาหารมื้อเที่ยงของวันนี้ได้
ตามใจชอบ!”

ออเดรย์ ใช้ กาปั้นชกลมอย่ างสะใจ

หลังจากฝากฝังซูซี่เรียบร้ อย เด็กสาวปิ ดประตูห้องและเดินไปยัง


ห้ องอาบน้า ภายในมีอ่างใหญ่ ขนาดราวสามถึงสี่ เมตร ผิวน้า
กระเพื่อมนิดๆ และมีไอน้าแสดงถึงอุณหภูมิที่พอเหมาะสาหรับ
อาบ

ก่อนอื่น ออเดรย์ รีบเคลียร์ โต๊ ะวางขวดแชมพูและผลิตภัณฑ์


อาบน้าให้ ว่าง จากนั้นก็เดินออกจากห้ องและกลับเข้ ามาพร้ อมกับ
เทียนไข วัตถุดิบพิธีกรรม และเสื้ อคลุมขาว

ประตูห้องน้าถูกปิ ดล็อคจากด้ านใน

เมื่อเตรียมการเสร็จสิ้น เด็กสาวถอนหายใจยาว ก่อนจะหยิบขวด


แก้วที่บรรจุของเหลวสี น้าเงินซึ่งวางข้ างเทียนไขสี่ เล่มขึน้ มา

ของเหลวภายในขวดใสทรงกระบอกส่ องระยิบระยับเมื่อถูกแสง
จากโคมไฟสะท้ อน สิ่ งนีค้ ือน้ามันสกัดที่เธอเตรียมการตั้งแต่ เมื่อ
วาน

ในฐานะผู้คลั่งไคล้ศาสตร์ เร้ นลับ เธอคุ้นเคยกับวัตถุดิบพื้นฐาน


เป็ นอย่ างดี และมีโอกาสสกัดของเหลวหลายชิ้นไว้ ล่วงหน้ าสาหรับ
ศึกษา จาพวกของเหลวจากดอกไม้ น้ามันสกัด และสารสกัดที่ให้
กลิ่นหอม

ด้ วยเหตุนี้ การเตรียมตัวสาหรับพิธีกรรมของมิสเตอร์ ฟูลจึง


ไม่ ใช่ เรื่ องยาก

“บุปผาจันทร์ มินท์ ทอง บุปผาหลับไหล ตระไตร้ หอมหนึ่งข้ อ


นิว้ และกุหลาบหิน…

“เป็ นส่ วนผสมที่แปลกดี…”


ออเดรย์ พมึ พาเสี ยงเบา

“จริงสิ เราต้ องชาระล้างร่ ายกายพร้ อมกับทาจิตใจให้ ปลอดโปร่ ง


เพื่อแสดงความเคารพต่ อองค์ เทพ เอ่อ… หมายถึง‘ตัวตน’ที่
พิธีกรรมมุ่งเป้าไปหา”

ขณะทวนขั้นตอนทั้งหมดซ้า ออเดรย์ วางขวดน้ามันสกัดลงบน


ขอบอ่าง จากนั้นก็ปลดเสื้ อผ้ าที่สวมเป็ นประจาออก

ชุดผ้ าไหมถูกถอดลงตระกร้ าชิ้นแล้วชิ้นเล่า เด็กสาวเกล้าผมสี


ทองให้ เป็ นมวยเหนือศีรษะ ก่อนจะใช้ ฝ่ามือสั มผัสอุณหภูมิน้าใน
อ่างอย่ างระมัดระวัง
เมื่อมั่นใจว่ าพอเหมาะ ออเดรย์ ทิง้ ตัวลงแช่ โดยไม่ ลังเล
“ฟู่ ว…”

เด็กสาวถอนหายใจเสี ยงกระเส่ า ความอบอุ่นกาลังโอบล้อม


ร่ างกายอย่ างทะนุถนอม เธอกาลังผ่ อนคลายเป็ นที่สุด

ไม่ อยากขยับแม้ แต่ ปลายนิว้ …

ออเดรย์ ฝืนบังคับตัวเองให้ เอื้อมหยิบขวดแก้วทรงกระบอกขอบ


อ่าง จากนั้นก็เปิ ดฝาและเทของเหลวด้ านในผสมกับน้าในอ่ าง
เล็กน้ อย

เพียงพริบตา กลิ่นหอมหวลพลันฟุ้งกระจายทั่วห้ องอาบน้า เติม


เต็มความเงียบงันด้ วยความสดชื่ น

ออเดรย์ สูดลมหายใจเต็มปอดสองสามหน ก่อนจะผงกศีรษะ


อย่ างพึงพอใจกับผลลัพธ์

“ไม่ เลว กลิ่นหอมมาก

“ผ่อนคลาย… สดชื่ นจัง

“ไม่ อยากขยับตัวเลย… อยากทิง้ ตัวนอนเงียบๆ คนเดียว…


“คน… เดียว…”

หลังจากสติหลุดลอยไปพักใหญ่ ออเดรย์ ถูกปลุกให้ ตื่นอีกครั้ง


ด้ วยเสี ยงเห่ าของสุ นัข

เมื่อลืมตาขึน้ ด้ วยท่ าทีลนลาน เด็กสาวเหลือบเห็นซูซี่เปิ ดประตู


ห้ องอาบน้าและนั่งเห่ าเสี ยงดังหน้ าประตู สี หน้ าขีเ้ ล่นเฉกเช่ นใน
ยามปรกติ
หลังจากขยีต้ าแรงๆ สองสามหน ออเดรย์ สัมผัสได้ ว่า อุณหภูมิ
ของน้าในอ่างลดลงจากเดิมค่ อนข้ างมาก

น…นี่เราเผลอหลับไปอย่ างนั้นหรื อ?

หลังจากเห็นออเดรย์ ตื่น ซูซี่หยุดเห่ า แต่ ยังคงนั่งมองเช่ นนั้น


โดยไม่ ละสายตา หางส่ ายกระดิกซ้ ายขวาอย่ างเป็ นธรรมชาติ

“ฮะฮะ… น้ามันสกัดในพิธีกรรมของมิสเตอร์ ฟูลน่ าทึ่งกว่ าที่คิด


เจ๋ งชะมัด!”

ออเดรย์ กล่าวพลางอมยิม้ จากนั้นก็ลุกขึน้ จากอ่างและใช้


ผ้ าขนหนูพนั ร่ างไว้ เธอหันไปกล่าวกับสุ นัขโกลเด้ นรีทรีเวอร์
“ซูซี่ กลับไปประจาจุดเดิมได้ แล้ว ห้ ามให้ แอนนี่และที่เหลือเข้ า
มาเด็ดขาด!”

เมื่อเห็นสุ นัขตัวโปรดเดินจากไปพร้ อมส่ ายหาง ออเดรย์ ชะโงก


ศีรษะตามหลังพลางแลบลิน้ ปลิน้ ตาส่ งท้ าย

ประตูห้องน้าถูกปิ ดกลับอีกครั้ง เด็กสาวเริ่มทบทวนขั้นตอน


พิธีกรรมทั้งหมดในหัว

ถัดมา ออเดรย์ นาเทียนไขสี่ เล่มวางไว้ สี่มุมโต๊ ะที่เคยใช้ วางขวด


แชมพู

จากนั้น ขนมปังขาวหนึ่งแถวถูกวางมุมซ้ ายบน ชามบะหมี่


เฟเนพ็อตถูกวางมุมขวาบน… กลิ่นยังหอมอยู่เลย แต่ อุณหภูมิชืด
ลงมากแล้ว

ไม่ ใช่ เวลามัวตะกละสั กหน่ อย!

ชามปาเอย่ าถูกวางไว้ มุมซ้ ายล่าง และจานพายเดซี่ถูกวางไว้ มุม


ขวาล่าง… ออเดรย์ ตกแต่ งพิธีกรรมตามที่มิสเตอร์ ฟูลกาชับโดยไม่
ขาดตกบกพร่ อง แถมยังกวาดสายตาตรวจสอบอย่ างละเอียดอีก
สองสามหน

เมื่อมั่นใจว่ าไม่ มีสิ่งผิดพลาด เด็กสาวจุดเทียนไขทั้งสี่ ให้ สว่ าง


ก่อนจะใช้ คมมีดเงินจุ่มลงไปในชามเกลือหิน
ขั้นตอนถัดมา ออเดรย์ ท่องคาถาศักดิ์สิทธิ์เป็ นภาษาเฮอร์ มิส
จากนั้นก็จ่ ุมมีดเงินที่สลักลวดลายงดงามลงในถ้ วยน้าบริสุทธิ์

เด็กสาวรวบรวมสมาธิอยู่พกั ใหญ่ เธอหยิบ‘มีดศักดิ์สิทธิ์’ขึน้ จาก


ถ้ วยและพยายามส่ งพลังวิญญาณออกจากส่ วนคม

ออเดรย์ เดินวาดมีดกลางอากาศจนรอบแท่ นบูชา กาแพง


วิญญาณสี ใสก่อตัวเป็ นรูปร่ างเสร็จสมบูรณ์ นับแต่ นไี้ ป เด็กสาวจะ
ไม่ ถูกสิ่ งชั่วร้ ายรบกวนจากภายนอกให้ เสี ยสมาธิ
ในภาวะผู้ชม หลังจากขั้นตอนแรกลุล่วงไปด้ วยดี ออเดรย์ พยา
ยามข่ มใจมิให้ ตัวเองตื่นเต้ นหรื อยินดีเกินเหตุ

ถัดมา เด็กสาววางมีดเงินลง ฝาขวดทรงกระบอกถูกหมุนเปิ ด


ของเหลวสี น้าเงินเข้ มถูกหยดลงบนเทียนไขทั้งสี่ มุม

ซู่ว!

กลิ่นหอมหวลพุ้งกระจายอีกครั้ง ร่ างกายและจิตใจออเดรย์ ช่ ุม
ชะโลมด้ วยบรรยากาศผ่ อนคลาย สติของเธอเริ่มเจือจาง

เด็กสาวฝื นกัดฟันพร้ อมกับตั้งสมาธิหนักแน่ น ปากพะงาบส่ ง


เสี ยงท่ องคาถาเป็ นภาษาเฮอร์ มิส
“เดอะฟูลจากต่ างยุคสมัย ผู้ปกครองลึกลับเหนือห้ วงสายหมอก
เทา ราชันย์ เหลืองดาผู้ครองพลังโชคลาภ…

“ดิฉันขอวิงวอน

“ดิฉันปราถนาความรักจากท่ าน

“ดินฉันปรารถนาความฝันอันแสนสุ ข

“บุปผาจันทราและพฤกษาแห่ งจันทร์ แดงเอ๋ย… ได้ โปรเป็ นพลัง


แก่คาถาของข้ าด้ วย!

“ตะไคร้ หอมและพฤกษาแห่ งสุ ริยันเอ๋ย… ได้ โปรดเป็ นพลังแก่


คาถาของข้ าด้ วย!”

ทันทีที่คาถาเรียกขานถูกท่ องจบบท เธอตั้งสมาธิและจินตนาการ


ถึงถ้ อยคาที่ต้องการสื่ อถือมิสเตอร์ ฟูลในหัว

เพียงพริบตา กาแพงวิญญาณรอบตัวเกิดการกระเพื่อมรุนแรง
หลังมือซ้ ายปรากฏดวงดาวสี แดงเข้ ม กาลังหมุนวนรอบตัวเองด้ วย
ความถี่สูง

หัวใจออเดรย์ หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เปลือกตาถูกปิ ดลง ปากท่ อง


ถ้ อยคาอ้อนวอนซ้าๆ ภายในใจ
เมื่อพิธีกรรมเสร็จสิ้น เด็กสาวลืมตาขึน้ พร้ อมกับความรู้ สึก
คลางแคลงในผลลัพธ์ สายตาถูกกวาดไปรอบห้ องอาบน้า แต่ ก็ไม่
พบสิ่ งผิดปรกติแม้ แต่ อย่ างเดียว

“จบแล้วหรื อ?”

ออเดรย์ ขมวดคิว้ ฉงน

“ราชันย์ เหลืองดาผู้ครองพลังโชคลาภ เดอะฟูลจากต่ างยุค


สมัย… อย่ างนั้นหรื อ?”

ณ ห้ องกัปตันประจาเรื อโทสะสี คราม

อัลเจอร์ ·วิลสั นในชุดคลุมวายุสลาตัน มันกาลังพึมพาถึงคาถา


สามบทที่ได้ ยินเมื่อบ่ ายวันก่อน คล้ายกับพยายามสื บหาตัวตนที่
แท้ จริงของอีกฝ่ าย

เวลาผ่ านไปอย่ างเงียบงัน จนท้ ายที่สุด อัลเจอร์ ส่ายศีรษะพร้ อม


กับลุกยืนด้ วยสี หน้ าครุ่นคิด แต่ ก็มิได้ ลงมือประกอบพิธีกรรม

เรื อโทสะสี ครามไม่ ใช่ สถานที่ปลอดภัย พาหนะโบราณลานี้เป็ น


สมบัติประจาราชวงศ์ ทูดอร์ จากยุคสมัยที่สี่ อัลเจอร์ ยังไขปริศนา
ภายในเรื อโทสะสี ครามไม่ หมด

…เช่ นปริศนาจักรพรรดิโลหิต

ด้ วยเหตุผลดังกล่าว ถึงจะกล้าใช้ เรื อในการทดสอบพลัง‘ลักพา


ตัว’ของมิสเตอร์ ฟูล แต่ อัลเจอร์ ไม่ คิดเสี่ ยงประกอบพิธีกรรมลึกลับ
บนโทสะสี ครามเด็ดขาด

มันไตร่ ตรองเรื่ องราวอยู่สักพัก ก่อนจะเดินออกจากห้ องกัปตัน


ไปยังดาดฟ้ าที่มีลูกเรื อประจาการสองสามคน

“ใกล้ถึงหมู่เกาะรอสต์ แล้ว พวกเราจะเทียบท่ าที่นั่นหนึ่งวัน”

ลูกเรื อพลันส่ งเสี ยงโห่ ร้องยินดี ทุกคนหันมาตะโกนกับอัลเจอร์


เสี ยงดัง

“ขอบคุณมากครับกัปตัน!”

ด้ วยความที่เป็ นเรื อวิญญาณ จึงไม่ ต้องใช้ ลูกเรื อในการขับเคลื่อน


พนักงานบนเรื อจึงมีจานวนแค่ หลักหน่ วย ส่ งผลให้ พวกมันได้ ทาน
น้าสะอาดและอาหารสดใหม่ ตลอดเวลา

แต่ ถึงกระนั้น การล่องไปบนทะเลอย่ างไม่ มีจุดจบได้ กัดกินพลัง


กายและใจในปริมาณมหาศาล ทุกวันต้ องตื่นมาพบกับคลื่นทะเล
และพายุฝนซ้าซาก เหตุการณ์ ขนึ้ เกิดวนเวียนจนสภาพจิตใจเริ่ม
ถดถอย คล้ายกับภูเขาไฟที่รอวันปะทุเมื่อถูกกระตุ้นได้ ที่

กล่าวถึงหมู่เกาะรอสต์ เกาะแห่ งนีโ้ ด่ งดังมากในบรรดาหมู่เกาะ


อาณานิคมทั้งหมด ความเจริญพัฒนารุดหน้ า ถือเป็ นเขต
อุตสาหกรรมและเขตเศรษฐกิจที่สาคัญบนน่ านน้ามหาสมุทรโซ
เนียร์

“อดใจไม่ ไหวแล้วเฟ่ ย!”

ลูกเรื อคนหนึ่งกระแทกบั้นเอวไปด้ านหน้ าพร้ อมกับส่ งเสี ยง


หัวเราะ เป็ นภาษากายที่บุรุษทุกคนล้วนเข้ าใจตรงกัน

บนรถม้ าสาธารณะซึ่งกาลังมุ่งหน้ าไปยังถนนซุตแลน ไคลน์ ที่


นั่งอ่านหนังสื อพิมพ์ด้วยท่ าทีผ่อนคลาย มันพลันสะดุ้งหลังจากได้
ยิงเสี ยงใครบางคนดังกังวลในหัว เป็ นเสี ยงคล้ายกับการเรียกหา

เพียงพริบตา หน้ าผากและขมับของชายหนุ่มเริ่มปวดแปลบ


รุนแรง

สุ้ มเสี ยงดังกล่าว ไคลน์ ไม่ สามารถฟังจับใจความออก ผ่ านมา


และผ่ านไปอย่ างรวดเร็ว ชายหนุ่มพยายามใช้ นวิ้ นวดคลึงขมับ
เพื่อให้ คลายจากอาการแสนสาหัสในปัจจุบัน
นีค่ ือเสี ยงซึ่งไม่ ควรได้ ยินที่ลุงนีลล์หมายถึงอย่ างนั้นหรื อ?

รึเป็ นสั ญญาณการเพิม่ พลังวิญญาณ?

ขณะความคิดหลากหลายพุ่งพล่านในสมอง ไคลน์ เหลือบเห็นจุด


ดาสี่ จุดปรากฏที่หลังมือซ้ าย คล้ายกับไฝจานวนสี่ เม็ด

จุดดาสี่ มุมซึ่งเป็ นสั ญลักษณ์ ของพิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตา


หลังจากปรากฏ มันรีบยุบตัวลงในเวลาอันสั้ น ก่อนจะเจือจางและ
เลือนหายไปในที่สุด

ไคลน์ แสดงสี หน้ าประหลาดใจครู่หนึ่ง แต่ เพียงไม่ นานก็คาดเดา


เรื่ องราวที่เกิดขึน้ ได้

ไม่ ผิดแน่ ต้ องเป็ นพิธีกรรมเวทมนตร์ จากจัสติสหรื อไม่ ก็แฮง


แมน

สมมติฐานของเราถูกต้ องสิ นะ… คาถาสามบทที่คิดขึน้ เอง


สามารถชี้เป้ามายังตัวเราบนสายหมอกสี เทาได้ จริง

น่ าเสี ยดายที่พลังวิญญาณของตนยังไม่ แข็งแกร่ งมากพอ จึงมิ


อาจได้ ยินเนื้อหาที่อีกฝ่ ายส่ งมาทันที…

ไคลน์ ได้ แต่ นึกสงสั ย ว่ าข้ อความดังกล่าวจะค้ างอยู่บนมิติสาย


หมอกหรื อไม่ ?
ดีล่ะ… ไว้ ค่อยพิสูจน์ คืนนี้

ไคลน์ เริ่มกระสั บกระส่ ายและเกิดความอยากรู้อยากเห็น มันรีบ


ยกหนังสื อพิมพ์ขนึ้ ปกปิ ดใบหน้ าเพื่อมิให้ คนรอบข้ างพบความ
เปลี่ยนแปลงอย่ างผิดธรรมชาติ

จากนั้นไม่ นาน ชายหนุ่มเดินทางมาถึงถนนซุตแลนและย่ างเท้ า


เข้ าสู่ บริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ
แต่ ก่อนจะได้ กล่าวคาทักทายกับโรแซนเฉกเช่ นปรกติ มันเห็น
ดันน์ ·สมิทเดินเข้ ามาหาพร้ อมกับถือภาพร่ างของชายคนหนึ่งไว้ ใน
มือ

“จดจาใบหน้ าของชายในประกาศจับให้ ดี มันคือผู้วิเศษป่ าเถื่อน


ที่เพิง่ ก่อคดีอุกฉกรรจ์ และหลบหนีเข้ ามาในทิงเก็น”

ดันน์ ยังคงสวมเสื้ อกันลมสี ดาเหมือนกับทุกครั้ง แต่ คราวนี้


ปราศจากหมวกทรงสู ง หัวหน้ าหน่ วยเหยี่ยวราตรีชาเลืองมอง
ไคลน์ ก่อนจะยื่นภาพเหมือนให้

หลังจากรับมา สิ่ งแรกที่ทาคือก้มดูรายละเอียดภาพวาด

เด็กชายหน้ ากลม มอบความรู้สึกเป็ นมิตร แต่ ขณะเดียวกันก็เจือ


ความเขินอาย วัยค่ อนข้ างหนุ่ม อายุราวสิ บแปดสิ บเก้าเห็นจะได้
“ทริส ผู้วิเศษต้ องสงสั ยในคดีสังหารหมู่บนเรื ออัลฟาฟ่ า
สมมติฐานเบื้องต้ นคือ ผู้วิเศษลาดับแปด ‘นักกระตุ้น’ และอาจเป็ น
หนึ่งในสมาชิกของ‘ชุมนุมสั มผัสวิญญาณ’

“พยานในเหตุการณ์ ได้ เล่ าว่ า หลังจากลงเรื อที่ท่าเอ็นมาร์ ท ทริ


สมุ่งหน้ ามายังทิงเก็นต่ อทันที แต่ แหล่งกบดานในปัจจุบันยังไม่ แน่
ชัด”

ทริส… อัลฟาฟ่ า…

เหตุการณ์ ที่จอยซ์ ·ไมเยอร์ ประสบ?

เป็ นฝี มือของผู้วิเศษอย่ างนั้นหรื อ?

ไคลน์ พยายามนึกเค้ นรายละเอียดเกี่ยวกับการแปลความฝันให้


จอยซ์ หลังจากทบทวนรายละเอียดที่คู่หมั่นแอนนาเล่าให้ ฟังโดย
ละเอียด มันเงยหน้ าขึน้ และกล่ าวกับดันน์

“หัวหน้ า ผมรู้จักหนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์ เขาอาจเป็ นพยานคน


สาคัญ”

“ผมทราบแล้ว จอยซ์ ·ไมเยอร์ ใช่ ไหม? เมื่อคืนวาน ผมถูกติดต่ อ


จากหน่ วยจิตจักรกลให้ ช่วยสื บคดี และได้ พบคุณในความฝันของ
จอยซ์ ด้วย รวมถึงรายละเอียดเหตุการณ์ บนเรื ออัลฟาฟ่ าอย่ าง
ชัดเจน ทั้งหมดเป็ นฝี มือของทริสไม่ ผิดแน่ ”

ดันน์ นัยน์ ตาเทาจ้ องมองไคลน์ ด้วยอารมณ์ ขบขัน มุมปากของ


มันโค้ งขึน้ เล็กน้ อย

ให้ ตายสิ …

โชคดีที่เมื่อวานเป็ นวันหยุด การสวมบทบาทนักทานายที่สโมสร


พยากรณ์ จึงไม่ ถือเป็ นการโดดงาน…
ไคลน์ ตัดพ้อ หัวใจพลันหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม

หลังจากนีค้ งต้ องระวังตัวให้ ให้ มากขึน้ ถ้ าไม่ อยากถูกหัวหน้ าผู้มี


พลังสุ ดโกงจับได้ ว่าแอบโดดงาน

ชายหนุ่มเงยหน้ าถาม

“นักกระตุ้นเป็ นผู้วิเศษเส้ นทางไหนกัน? แล้วชุมนุมสั มผัส


วิญญาณเป็ นองค์ กรลับลักษณะใด?”

การกระตุ้นให้ มนุษย์ ฆ่ากันเอง คือส่ วนหนึ่งของเทคนิคสวม


บทบาทการเป็ นนักกระตุ้นอย่ างนั้นหรื อ?

ถ้ าหากใช่ ผู้วิเศษเส้ นทางดังกล่าวต้ องเผชิญเหตุการณ์ นองเลือด


สถานเดียว? จึงจะพัฒนาตัวเองไปถึงลาดับพลังถัดไปได้
ไคลน์ ต้งั คาถามมากมาย

ดันน์ ก้มหน้ าครุ่นคิดนานหลายวินาที

“พอดีเลย ถึงเวลาที่คุณต้ องศึกษาข้ อมูลเกี่ยวกับผู้วิเศษและ


องค์ กรลับบ้ างแล้ว คงปล่อยให้ อ่านเอกสารโบราณกับลุงนีลล์ ทุกวัน
ไม่ ได้ แน่ ”

หัวหน้ า… ผมถูกจ้ างมาที่นี่ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้ าน


ประวัติศาสตร์ ไม่ ใช่ หรื อ?

อย่ าบอกนะว่ าลืมไปแล้ว?

ไคลน์ ได้ แค่ คิด มันมิได้ กล่าวออกไป เพราะตนก็สนใจใน


ความลับของผู้วิเศษไม่ แพ้กัน

“ตกลงครับ”
ราชันย์ เร้ นลับ 65 : เอกสารข้ อมูลผู้วิเศษ

เมื่อได้ รับแผ่ นกระดาษที่มีลายเซ็นรับรองจากดันน์ ·สมิท ชาย


หนุ่มรีบเดินลงไปยังคลังอาวุธชั้นใต้ ดินของสานักงานเหยี่ยวราตรี

“ดันน์ พดู ถูก ถึงเวลาเจ้ าต้ องอ่านเอกสารเกี่ยวกับผู้วิเศษและ


องค์ กรลับบ้ างแล้ว”

ลุงนีลล์ในชุดคลุมดานั่งอ่านเนื้อความในแผ่ นกระดาษ สี หน้ า


ของมันมิได้ เผยความประหลาดใจ กลับกัน ชายชราสนับสนุน
ความคิดของดันน์ ·สมิท

จากนั้นก็กล่าวเสริม

“จริงสิ พรุ่งนีต้ อนค่า ฉันจะพาเจ้ าไปเที่ยวเล่นที่ตลาดมืด”

“ตอนค่าวันพรุ่งนีห้ รื อครับ?”

ไคลน์ ไม่ ปกปิ ดใบหน้ าที่กาลังตื่นเต้ น มันไต่ ถามด้ วยน้าเสี ยง


คาดหวัง

ลุงนีลล์ผงกศีรษะ
“ฉันไม่ ชอบติดหนีใ้ ครนานๆ มันกินไม่ ได้ นอนไม่ หลับ ถ้ าเลือก
ได้ ก็อยากรีบเอาเงินสามสิ บปอนด์ ไปใช้ คืนเจ้ าของให้ เร็วที่สุด”

ไม่ จริงเลยสั กนิด…

ลุงรอให้ ถึงเส้ นตายแล้วค่ อยทาพิธีกรรมเวทมนตร์ ปลดหนี้


ต่ างหาก

ไม่ ใช่ เราคนเดียวสิ นะที่รอให้ ไฟลนก้นก่อนค่ อนเริ่มกระตือรื อร้ น


ในอดีตก็เคยมีเรื่ องแบบนีเ้ หมือนกัน หนีท้ ุนการศึกษาทุกงวดบน
โลกเก่า ตัวมันจะจ่ ายในวันที่เป็ นเส้ นตายเสมอ…

ไคลน์ มิได้ เล่าออกไป เพียงเอ่ยปากขอร้ อง

“ลุงนีลล์ รบกวนนาเอกสารที่เกี่ยวข้ องจากด้ านในประตูยานิสให้


ด้ วยครับ”

เอกสารส่ วนใหญ่ ในคลังอาวุธจะเป็ นประเภทบันทึกโบราณคดี


และประวัติศาสตร์ ถึงจะมีข้อมูลด้ านผู้วิเศษและองค์ กรลับอยู่บ้าง
แต่ ก็เป็ นส่ วนน้ อย และเนื้อหาตื้นเขินค่ อนไปทางพื้นฐาน

ลุงนีลล์ซดกาแฟหนึ่งอึกก่อนจะวางลง มันกัดริมฝี ปากลิม้ รสขม


ครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกยืนขึน้ และเดินออกจากคลังอาวุธพร้ อมกับ
เอกสารที่ดันน์ ·สมิทลงนามตราประทับ
ไคลน์ ทาหน้ าที่เฝ้าคลังอาวุธแทนชั่วคราว
ผ่ านไปราวสิ บนาที ลุงนีลล์กลับมาพร้ อมกองกระดาษปึ กใหญ่

“ทั้งหมดไม่ สามารถนากลับ ต้ องอ่านให้ จบที่นี่เท่ านั้น”

นีลล์กล่าวเตือนขณะวางเอกสารกองโตลงบนโต๊ ะทางานสี ดา

“เข้ าใจแล้วครับ”

ไคลน์ พยักหน้ าหนักแน่ น มันเหยียดแขนออกไปหาปึ กกระดาษ


นิว้ มือตวัดพลิกหน้ าอย่ างรวดเร็ว

ชายหนุ่มก้มศีรษะอ่านหน้ าแล้วหน้ าเล่าอย่ างตั้งใจ เนื้อหาถูก


เขียนไว้ ละเอียดมาก…

สมกับเป็ นเอกสารลับของเหยี่ยวราตรี

สมกับเป็ นโบสถ์ ที่มีประวัติศาสตร์ ยาวนานกว่ าสี่ พนั ปี หรื อ


มากกว่ านั้น

ไคลน์ หยุดพักหายใจครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มกวาดสายตาและเพ่ง


สมาธิอ่านต่ อ

เอกสารไม่ เพียงกล่าวถึงองค์ กรลับ แต่ ยังมีรายละเอียดผู้วิเศษ


หลากหลายเส้ นทางบันทึกไว้ นับเป็ นเอกสารที่ค่อนข้ างสมบูรณ์ ถึง
บางลาดับจะระบุไว้ เพียงชื่ อโอสถ บางลาดับเขียนไว้ แต่ รายละเอียด
ไม่ มีชื่อ และบางลาดับก็เว้ นว่ างโดยสมบูรณ์ แต่ ก็เป็ นข้ อมูลปริมาณ
มากที่สุดเท่ าที่ไคลน์ เคยพบ

ขณะฝื นข่ มสี หน้ าตื่นเต้ น ชายหนุ่มรีบชาเลืองหาเส้ นทางนัก


ทานายเป็ นอันดับแรก

หลังจากพลิกผ่ านหลายหน้ า เพียงไม่ นานก็ได้ พบข้ อความที่ค้ นุ


ตา
ทว่ า ความหวังพลันพังทลาย ร่ างกายชะงักงันไปครู่ใหญ่ สาเหตุ
เพราะ ไม่ มีชื่อของโอสถลาดับแปดและเจ็ดถูกเขียนต่ อจากข้ อมูล
เส้ นทางนักทานาย!

แต่ ยังพอโชคดีอยู่บ้าง อย่ างน้ อยก็มีรายละเอียดอย่ างคร่ าวบันทึก


ไว้ ท้งั สองลาดับ…

ไคลน์ ถอนหายใจโล่ งอก ก่อนจะเพ่งสมาธิเพื่อตั้งใจอ่ านทุก


อักษร

“ลาดับแปด : ชื่ อโอสถไม่ ปรากฏ สามารถต่ อสู้ ด้วยกลอุบายและ


เล่ห์เหลี่ยมที่แพรวพราว”

สู้ ด้วยกลอุบาย?
นี่ใช่ ลาดับพัฒนาของนักทานายจริงหรื อ? ทาไมถึงดูไม่ เกี่ยวข้ อง
กันเลย?

เส้ นทางของเราเป็ นนายพรานรึไง? แกะรอยศัตรูแล้ววางกับดัก


ฆ่ าอย่ างนั้นหรื อ?

หรื อจะเป็ นจอมเวทนักรบ?

หืม… แล้วเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวหมายถึงอะไร? พอจะเดาได้ ว่า


เป็ นโอสถที่เพิม่ พูนสติปัญญา แต่ ปัญญาดังกล่าวจะช่ วยให้ เอาชนะ
ศัตรูได้ ด้วยวิธีใด?

พูดจาหลอกล่อ?

ถึงจะเต็มไปด้ วยคาถาม แต่ มันไม่ เคลือบแคลงข้ อมูลที่ตนกาลัง


อ่าน เอกสารลับของเหยี่ยวราตรีซึ่งเก็บไว้ ในประตูยานิสไม่ มีทาง
ผิดพลาดแน่

คงมีหลักฐานชัดเจนแล้ว ถึงได้ บันทึกเป็ นลายลักษณ์ อักษร


เพียงแต่ ไคลน์ ยังมิอาจทาความเข้ าใจ ว่ าพวกมันเชื่ อมโยงกับพลัง
นักทานายได้ อย่ างไร

ถัดมา มันชาเลืองสายตาอ่านรายละเอียดโอสถลาดับเจ็ดที่เขียน
ไว้ ด้านล่างสุ ดของหน้ ากระดาษ
“โอสถลาดับเจ็ด : ชื่ อโอสถไม่ ปรากฏ สามารถร่ ายเวทมนตร์ ได้
รวดเร็วและหลายชนิด มีสมรรถภาพทางร่ างกายสู ง เน้ นผสานเวท
มนตร์ เข้ ากับความปราดเปรียวว่ องไว”

ต้ องอย่ างนั้น!

นี่ต่างหาก อนาคตที่แท้ จริงของนักทานาย

ไคลน์ ถอนหายใจอย่ างปลดปล่อย ก่อนจะตั้งใจอ่านรายละเอียด


ภาพรวมของเส้ นทางนักทานายที่ถูกสรุปผลไว้ ท้ายสุ ด

“เส้ นทางนักทานายปรากฏขึน้ ครั้งแรกภายในตระกูลซาราธแห่ ง


จักรวรรดิโซโลมอนของยุคสมัยที่สี่ ถึงจะเกิดความขัดแย้ งรุนแรง
ในช่ วงปลายยุคสมัย แต่ ตระกูลซาราธก็สามารถเอาตัวรอดมาได้

“เมื่อย่ างเข้ าสู่ ยุคสมัยที่ห้า ตระกูลซาราธถูกพูดถึงน้ อยลงจาก


เดิมมาก มีข้อสั นนิษฐานว่ าพวกมันกล่าวอาจเกี่ยวพันกับองค์ กรลับ
ที่ชื่อ‘ลัทธิเร้ นลับ’”

ซาราธ?

เมื่ออ่านพบชื่ อดังกล่ าวเข้ า นัยน์ ตาไคลน์ พลันสั่ นระริก


เป็ นชื่ อที่ปรากฏในไดอารีจักรพรรดิโรซายซึ่งมันเพิง่ อ่านไปเมื่อ
วาน โรซายค้ นพบเทคนิคสวมบทบาทจากบุคคลลึกลับที่ชื่อซาราธ

หรื อจะเป็ นเพราะมิสเตอร์ ซาราธคนนี้ จักรพรรดิโรซายถึง


เสี ยดายที่ไม่ ได้ เลือกเส้ นทางนักทานายตั้งแต่ แรก?

ในทางกลับกัน ตัวไคลน์ ที่ตัดสิ นใจเลือกดื่มโอสถนักทานาย


เพราะข้ อมูลที่เขียนไว้ ในไดอารี… นี่ตนถูกชี้นาทางอ้อม?

ชายหนุ่มขมวดคิว้ เมื่อพบเรื่ องไม่ สบายใจ


หากเป็ นเหตุการณ์ปรกติ ความบังเอิญเช่ นนี้สามารถเกิดขึน้ ได้
แต่ ถ้าเป็ นโลกที่มีศาสตร์ เร้ นลับและเวทมนตร์ การชี้นาหรื อกาหนด
อนาคตสามารถกระทาได้ ในผู้วิเศษลาดับสู ง

และส่ วนมาก ผู้ถูกชี้นามักมีจุดจบที่ไม่ สวยสั กเท่ าไร

เมื่อลองไตร่ ตรองให้ ดี การเดินทางข้ ามโลกอาจไม่ ใช่ เหตุบังเอิญ


เช่ นกัน ไคลน์ คนก่อนลงมือฆ่ าตัวตายเพราะลัทธิเร้ นลับทาสมุด
บันทึกอันทีโกนัสหาย จนกระทั่งหลุดมาถึงมือของเวิร์ช·แม็คโกเวิน

ยิ่งคิดก็ยิ่งขนลุก แต่ มันมีข้อมูลไม่ มากพอ

หลังจากไตร่ ตรองอยู่นาน ไคลน์ ได้ ข้อสรุปว่ าตนคงไม่ สามารถ


หาคาตอบได้ ในเร็วๆ นี้ จึงยอมปล่อยวางและเริ่มอ่านรายละเอียด
ผู้วิเศษเส้ นทางอื่น

เริ่มด้ วยเส้ นทางลูกเรื อ

เป็ นดังที่มันคาด เส้ นทางลูกเรื อคือผู้วเิ ศษสายหลักของโบสถ์ วายุ


สลาตัน

สาหรับอดีตศัตรูเก่าแก่ที่ไม่ ได้ เผชิญหน้ ากันมานานกว่ าสองถึง


สามพันปี ข้ อมูลที่เหยี่ยวราตรีบันทึกไว้ ค่อนข้ างละเอียดทีเดียว
“ลาดับแปด : ผู้ระเบิดโทสะ หรื อนามโบราณคือ—ผู้พทิ ักษ์ วายุ
สามารถปลดปล่อยการโจมตีที่รวดเร็วและทรงพลังหากอยู่ในภาวะ
เดือดดาล ความว่ องไวและพละกาลังจะสู งกว่ ามนุษย์ ปรกติมาก
การเผชิญหน้ าพวกมันไม่ ต่างจากยืนท่ ามกลางลมพายุเกรี้ยวกราด”

“ลาดับเจ็ด : กะลาสี หรื อนามโบราณคือ—นักบวชวายุสลาตัน


เชี่ยวชาญด้ านดวงดาวและภูมิศาสตร์ มีสัมผัสเฉียบแหลมถึงขนาด
ตรวจจับสนามแม่ เหล็ก กระแสน้า ทิศทางลม และแนวการเคลื่อน
ของเมฆ… เรื อที่มีกะลาสี ร่วมทางจะไม่ มีวันหลงทิศ พวกมันเป็ นที่
รักของเทพแห่ งท้ องทะเล สามารถเคลื่อนไหวใต้ น้าอย่ างอิสระนาน
กว่ าครึ่งชั่วโมง สามารถร่ ายเวทวารีได้ หลากหลาย บางชนิดใช้ พลัง
วิญญาณของตัวเอง และบางชนิดหยิบยืมพลังจากเทพแห่ งวายุ
สลาตัน ตัวอย่ างของเวทวารีประกอบด้ วย…”
ลาดับเจ็ด กะลาสี … แข็งแกร่ งชะมัด
ไคลน์ พยักหน้ าพลางจินตนาการภาพตาม

มันสงสั ยว่ าแฮงแมนอาจเป็ นผู้ระเบิดโทสะหรื อไม่ ก็กะลาสี แต่


จากข้ อมูลที่ทราบว่ าแฮงแมนเพิง่ เลื่อนลาดับ โอกาสเป็ นอย่ างหลัง
จึงมีสูงกว่ า

ถ้ าเช่ นนั้น ตัวตนที่แท้ จริงของแฮงแมนมีโอกาสเป็ นไปได้ สอง


ทาง หากไม่ ใช่ เจ้ าหน้ าที่ระดับสู งของหน่ วยทูตพิพากษา ก็คงเป็ น
โจรสลัดที่ล่องเรื อในนามโบสถ์ แห่ งวายุสลาตัน

น่ าสนใจมาก…

ไคลน์ รีบพลิกไปอีกหลายหน้ าจนกระทั่งพบเส้ นทางผู้ชม เมื่อ


ลองอ่านโดยละเอียด เนื้อหาที่เขียนไว้ เหมือนกับที่แฺฮงแมนอธิบาย
ให้ จัสติสฟังทุกประการ

ลาดับเก้า ผู้ชม ลักษณะคล้ายคลึงกับนักทานายมาก คือไม่ มีพลัง


ต่ อสู้ ด้วยตัวเอง แต่ สามารถค้ นหาจุดอ่อนของศัตรู รวมถึงข้ อมูล
แวดล้อมที่สาคัญอีกหลายด้ าน และใช้ สิ่งเหล่านั้นชี้นาให้ เหตุการณ์
ดาเนินไปตามที่ปรารถนา

ลาดับแปด นักอ่านใจ เป็ นขั้นพัฒนาของผู้ชม นักอ่านใจสามารถ


มองลึกเข้ าไปในชั้นออร่ าของเป้าหมาย ไม่ ว่าจะเป็ นกายอากาศหรื อ
ชั้นพลังที่เร้ นลับกว่ า พวกมันจะเก็บทุกรายละเอียดทั้งภายนอก
และภายใน ส่ งผลให้ นักอ่านใจสามารถวิเคราะห์ สิ่งที่อีกฝ่ ายกาลัง
คิด รวมถึงอ่านการกระทาล่วงหน้ าได้ เล็กน้ อย คล้ายกับสามารถ
อ่านใจได้ จริง

เมื่ออยู่ต่อหน้ านักอ่านใจที่ทรงพลัง การรักษาความลับถือเป็ น


เรื่ องยากลาบาก

ลาดับเจ็ด นักจิตบาบัด หรื ออีกชื่ อหนึ่งคือนักจิตวิเคราะห์ มี


พื้นฐานคล้ายกับลาดับแปด แต่ สามารถโน้ มน้ าวจิตใจของเป้าหมาย
ได้ ด้วย มีพลังรักษาอาการป่ วยทางจิตของเป้าหมาย และในทาง
กลับกัน พวกมันก็มีพลังเปลี่ยนให้ คนสติดีกลายเป็ นคนเสี ยสติใน
พริบตา

“ผู้วเิ ศษที่มองไม่ ออกว่ าเป็ นผู้วิเศษ…”

หลังจากไคลน์ อ่านคาอธิบายจบ นั่นคือข้ อสรุปแรกในใจ

เมื่อสารวจเส้ นทางของสมาชิกชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์ครบ ไคลน์ รีบ


พลิกเอกสารไปยังหน้ าที่เกี่ยวข้ องกับโบสถ์ แห่ งจักรกลไอน้า เพราะ
มันต้ องการทราบเส้ นทางที่จักรพรรดิโรซายเลือกเดินและนึก
เสี ยดายภายหลัง

เส้ นทางนักปราชญ์
“ลาดับเก้า : นักปราชญ์ ผู้วิเศษที่เชื่ อว่ าความรู้คือพลัง สามารถ
เข้ าใจศาสตร์ เร้ นลับในระดับพื้นฐาน แต่ จะเชี่ยวชาญด้ านสารเคมี
เป็ นพิเศษ จาพวกกรดละลายทอง ไนโตรกรีเซอรีน รวมถึงกลไกล
ที่ซับซ้ อนซึ่งประกอบจากเฟื องและน็อต สรุปก็คือ เป็ นผู้วิเศษที่มี
ความรู้กว้ างขวาง”

เข้ าใจแล้วว่ าทาไมจักรพรรดิโรซายถึงระบุว่าเป็ นโอสถสาหรับผู้


เดินทางข้ ามโลก เพราะหากนาความรู้จากโลกเก่ามาได้ พลังอานาจ
มากมายคงอยู่ในมือ

ไคลน์ พยักหน้ าพร้ อมกับกวาดสายตาลงด้ านล่าง

หลังจากผ่ านคาอธิบายอีกยาวเหยียด ในที่สุดชื่ อของโอสถลาดับ


แปดก็ปรากฏ

“ลาดับแปด : นักโบราณคดี มีความรู้ความเข้ าใจด้ าน


ประวัติศาสตร์ ลึกซึ้ง เอาตัวรอดในธรรมชาติเก่ ง มีร่างกาย
แข็งแกร่ งพอที่จะดารงชีวิตในทุกสภาพอากาศ สามารถอ่านอักขระ
โบราณต้ องห้ ามได้ ”

“ลาดับเจ็ด : นักประเมิน พวกมันจะได้ รับสั ญชาตญาณพิเศษที่


สามารถเข้ าใจวิธีใช้ งานของวิเศษเกือบทุกชนิด รวมถึงจุดอ่อนและ
ข้ อห้ ามการใช้ งาน เป็ นผู้วิเศษที่ถนัดควบคุมของวิเศษและหลบ
เลี่ยงผลข้ างเคียง”
เนื่องจากไคลน์ มีสิทธิ์เข้ าถึงข้ อมูลไม่ มากพอ ลาดับผู้วิเศษใน
เอกสารจึงระบุไว้ สูงสุ ดเพียงเจ็ด ถึงจะน่ าเสี ยดาย แต่ ก็ไม่ ได้
หงุดหงิดมากนัก

เมื่อกล่าวถึงสิ ทธิ์เข้ าถึงข้ อมูล ไคลน์ ได้ แต่ หวังให้ มุขมณฑลเบ็ค


ลันด์ รีบส่ งของวิเศษต้ องห้ ามรหัส 2-049 มายังสาขาทิงเก็นโดยเร็ว
หัวหน้ าจะได้ เริ่มปฏิบัติการค้ นหาตัวรีเอล·บีเบอร์ และพิสูจน์ ว่ามัน
เป็ นทายาทตระกูลอันทีโกนัสจริงหรื อไม่

หากผลสรุปออกมาว่ าจริง ตนจะได้ รับความดีความชอบใหญ่


หลวงและได้ รับสิ ทธิ์การเข้ าถึงข้ อมูลเพิม่

เมื่อได้ สติกลับมา ไคลน์ ก้มหน้ ามองหาเส้ นทางผู้วิเศษอื่นที่มัน


รู้จัก เช่ นเส้ นทางผู้เก็บซากศพ ในเอกสารระบุไว้ ว่า ลาดับแปดคือ
นักขุดสุ สาน และลาดับเจ็ดคือผู้สื่อวิญญาณ

ส่ วนเส้ นทางผู้ส่องความลับ ลาดับแปดไม่ มีข้อมูลโดยสิ้นเชิง ไม่


ว่ าจะเป็ นชื่ อหรื อรายละเอียด ส่ วนลาดับเจ็ดนั้นไม่ มีรายละเอียด
แต่ มีชื่อของมันเขียนไว้ …

จอมเวท!

แค่ ชื่อก็ยิ่งใหญ่ ฉิบ…


ถัดมา ชายหนุ่มเริ่มมองหาอีกสองเส้ นทางซึ่งจักรพรรดิโรซาย
เสี ยดายที่ไม่ ได้ เลือก ประกอบด้วยผู้ฝึกฝนและนักจารกรรม

ทั้งสองเส้ นทางมีข้อมูลถึงแค่ ลาดับแปด

“ลาดับเก้า : ผู้ฝึกฝน พลังของพวกมันแปลกประหลาดและยังไม่


เป็ นที่แน่ ชัด บอกได้ เพียงว่ า นี่คือจุดเริ่มต้ นของอีกหนึ่งเส้ นทาง
ของจอมเวท ยากที่จะกักขังหรื อกีดขวางผู้ฝึกฝน พวกมันมีพลัง
สามารถหลบหนีออกจากห้ องปิ ดตายได้ อย่ างน่ าทึ่ง…”

“ลาดับแปด : นักตุกติก พวกมันรวบรวมความพิสดารทั้งหมด


ไว้ ในตัว สามารถใช้ เวทมนตร์ พื้นฐานได้ บางชนิด”

“ลาดับเก้า : นักจารกรรม เป็ นผู้วิเศษเส้ นทางที่ยากจะจาแนก


ออกจากหัวขโมยตัวจริง จุดสั งเกตุคงมีเพียงความโดดเด่ น พวกมัน
จะเก่งกาจกว่ าหัวขโมยปรกติมาก วัตถุประสงค์ ของการขโมยมิได้
ทาไปเพราะความสุ ขหรื อสะใจ หากแต่ เป็ นความรู้สึกที่คล้ายกับ
ปฏิบัติภารกิจให้ ลุล่วง”

“ลาดับแปด : นักต้ มตุ๋น มีบ่อยครั้งที่พบว่ าพวกมันมีเอี่ยวในคดี


ฉ้ อโกงชื่ อใหญ่ การได้ หลอกลวงผู้คนถือเป็ นความสุ ขชนิดหนึ่ง”

มีความสุ ขจากการหลอกลวง…

จะใช่ เทคนิค‘สวมบทบาท’อีกรึเปล่า?
หากย้ อนเวลากลับไปและเลือกได้ จากเส้ นทางผู้วิเศษทั้งหมดที่
อ่านมา ไคลน์ คงเลือกจะที่เป็ นผู้ฝึกหัด

มีใครไม่ ปรารถนาพลังเวทบ้ าง?

ทันใดนั้น มันเหลือบไปเห็นเส้ นทางผู้วิเศษที่เพิง่ ได้ ยินมาไม่


นาน…

นักกระตุ้น
นักกระตุ้น ทริส ผู้ต้องสงสั ยในคดีสังหารหมู่บนเรื ออัลฟาฟ่ า!
ราชันย์ เร้ นลับ 66 : ลัทธิแม่ มด

“ลาดับแปด : นักกระตุ้น พวกมันสามารถปลุกเร้ าความชั่วร้ าย


ภายในจิตใต้ สานึกของมนุษย์ จนเกิดเป็ นความขัดแย้ งโกลาหล
นาพาไปสู่ เหตุการณ์ นองเลือด…”

รายละเอียดมีไม่ มาก คล้ายกับเหยี่ยวราตรียังเผชิญหน้ านัก


กระตุ้นไม่ บ่อยครั้ง แต่ คาอธิบายข้ างต้ นสอดคล้องกับคดีสังหารหมู่
บนเรืิ ออัลฟาฟ่ าเป็ นอย่ างดี

ไคลน์ กวาดสายตามองหาลาดับเก้าของเส้ นทางที่เกี่ยวข้ องกับนัก


กระตุ้น

“ลาดับเก้า : นักลอบสั งหาร สามารถจาแลงกายได้ ในระยะเวลา


สั้ นๆ ร่ างกายเบาหวิวราวกับขนนก สายตาเฉียบแหลมดุจดังพญา
เหยี่ยว นักลอบสั งหารทุกคนถนัดเร้ นกายในเงามืด สามารถระเบิด
พละกาลังมหาศาลในชั่วพริบตา…”

หลังจากอ่านรายละเอียด ไคลน์ เริ่มขมวดคิว้ สี หน้ าครุ่นคิด


ไตร่ ตรอง

นักลอบสั งหาร… พัฒนาไปเป็ นนักกระตุ้น?


ไม่ สมเหตุสมผลเลยสั กนิด… คล้ายกับนักทานายที่พฒ
ั นาไปเป็ น
ผู้วิเศษที่ชานาญการต่ อสู้ ด้วยกลอุบาย

มีหลายเส้ นทางที่พฒ
ั นาอย่ างสอดคล้อง เช่ นผู้ชม ผู้ไร้ หลับ ผู้
เก็บซากศพ แต่ อีกหลายเส้ นทางก็พฒั นาไปอย่ างไม่ สัมพันธ์ กัน
เลย…

ไม่ สิ อาจมีจุดที่เชื่ อมโยงกันอยู่ เพียงแต่ เรายังมองไม่ เห็น

ตัวอย่ างเช่ น นักลอบสั งหารและนักกระตุ้น พวกมันต่ างมีพลัง


สาหรับสร้ างหายนะแก่ผ้ อู ื่นได้ เหมือนกัน…

แต่ ของนักทานาย มันเกี่ยวกันตรงไหน?

เริ่มต้ นเป็ นจอมเวท ทว่ า บั้นปลายกลับต้ องเสริมสร้ างกล้ามเนื้อ


และเป็ นนักสู้ ระยะประชิดเนี่ยนะ?

ไคลน์ ราพันในใจพลางส่ ายศีรษะ ก่อนจะพลิกเอกสารไปถึงหน้ า


รายละเอียดองค์ กรลับ

กลุ่มแรกที่มันสนใจคือ‘ชุมนุมสั มผัสวิญญาณ’ซึ่งอาจเกี่ยวพัน
กับนักกระตุ้น·ทริส

“ชุมนุมสั มผัสวิญญาณ องค์ กรลับที่ก่อตั้งขึน้ ช่ วงต้ นยุคสมัยที่


ห้ า พวกมันมีความเชื่ อว่ า สิ่ งสาคัญที่สุดสาหรับมนุษย์ คือดวง
วิญญาณ ร่ างกายเป็ นเพียงกรงขังที่พนั ธนาการให้ วิญญาณอ่อนแอ
ลง สาเหตุที่มนุษย์ กระทาชั่วเพราะได้ รับอิทธิพลจากร่ างกาย
ฉะนั้น มนุษย์ ต้องหมั่นเสริมสร้ างพลังวิญญาณให้ แข็งแกร่ ง และ
เมื่อถึงจุดหนึ่ง วิญญาณจะเป็ นอิสระจากร่ างกาย นั่นคือบททดสอบ
ของดวงดาว วิญญาณทุกดวงจะได้ กลับคืนเป็ นตัวตนบริสุทธิ์และ
คงอยู่ชั่วนิรันด์ ”

“ด้ วยเหตุนี้ สมาชิกสุ ดโต่ งของชุมนุมสั มผัสวิญญาณจึงมักก่อ


เหตุทาลาย ‘ร่ างกาย’ ของมนุษย์ บ่อยครั้ง และส่ วนมากมักเป็ น
เหตุการณ์ นองเลือดสยดสยอง…
“เส้ นทางที่พวกมันครอบครองมีสองสาย สมาชิกส่ วนใหญ่ จะ
เป็ นผู้ฝึกหัดหรื อไม่ ก็นักตุกติก โดยมีส่วนน้ อยเป็ นนักลอบสั งหาร
และนักกระตุ้น ยังไม่ ปรากฏหลักฐานเพิม่ เติมว่ าชุมนุมสั มผัส
วิญญาณครอบครองสู ตรผลิตโอสถลาดับเจ็ดขึน้ ไป”

“และยังไม่ มีหลักฐานแน่ ชัดว่ าชุมนุมสั มผัสวิญญาณถูกก่อตั้งขึน้


อย่ างไร เบาะแสเดียวที่สามารถสื บสาวได้ จึงเริ่มจากเส้ นทางผู้วิเศษ
ที่พวกมันครอบครอง

“สายแรก นักตุกติก กลุ่มผู้วิเศษที่โด่ งดังในเส้ นทางดังกล่าวคือ


ตระกูลอับราฮัมแห่ งจักรวรรดิทูดอร์ จากยุคสมัยที่สี่ หรื ออาจเป็ น
ตระกูลทามาร่ าที่เกี่ยวดองกับตระกูลอับราฮัมผ่ านทางการสมรส

“สายที่สอง นักลอบสั งหารและนักกระตุ้น กลุ่มผู้วิเศษที่โด่ งดัง


คือ‘ลัทธิแม่ มด’”
ตระกูลใหญ่ อย่ างอับราฮัม ทามาร่ า อันทีโกนัส และซาราธ
รวมถึงจักรพรรดิมืดแห่ งโซโลมอน จักรพรรดิโลหิตแห่ งทูดอร์
และตระกูลเจคอป ตระกูลอามุนด์ ที่แฮงแมนเคยกล่าวถึง…

ยุคสมัยที่สี่คือช่ วงเวลาซึ่งเต็มไปด้ วยปริศนาอย่ างแท้ จริง


เรื่ องราวที่บันทึกตกทอดกันมานานอาจมีท้งั ข้ อมูลถูกและผิด

ยิ่งได้ อ่าน ไคลน์ ก็ยิ่งเกิดความสนใจในยุคสมัยที่สี่ ช่ วงเวลาแห่ ง


อดีตกาลซึ่งมีหมอกทึบปกคลุมไว้

ภาพร่ างที่เห็นเพียงผิวเผินก็มากพอจะทาให้ ร่างกายไคลน์ สั่นเทา


โดยไม่ ร้ ูตัว

มันลองจินตนาการตาม ยุคสมัยที่สี่ต้องเป็ นช่ วงเวลาที่ผ้ วู ิเศษ


เฟื่ องฟูอย่ างมาก เต็มไปด้ วยการนองเลือด ความโหดเหี้ยมไร้ ปราณี
ที่แพร่ กระจายทุกหัวระแหงทั่วโลก

ไคลน์ พลิกหน้ ากระดาษเพื่อหวังอ่านรายละเอียดเพิม่ เติม แต่ มัน


กลับไม่ พบข้ อมูลของลัทธิแม่ มด

ชายหนุ่มเงยหน้ าขึน้ มันเห็นลุงนีลล์กาลังปลุกปลา้ อยู่กับ


กระดาษกรองที่ใช้ ชงกาแฟบด
“ลุงนีลล์ครับ ลัทธิแม่ มดเป็ นองค์ กรลับแบบไหนหรื อ? ทาไมถึง
ไม่ มีเขียนไว้ ?”

นีลล์ไม่ ตอบทันที หลังจากจัดการกระดาษกรองเสร็จ มันค่ อย


เงยหน้ าขึน้ ตอบไคลน์

“สิ ทธิ์เข้ าถึงข้ อมูลของเจ้ ายังไม่ มากพอ เอกสารบางชนิดเป็ น


ข้ อมูลลับที่ไม่ มีเก็บไว้ ในประตูยานิสสาขาทิงเก็น ต่ อให้ ได้ รับการ
ยินยอมจากดันน์ ก็ไม่ สามารถอ่านได้

“ข้ อมูลต้ องห้ ามส่ วนใหญ่ จะถูกเก็บไว้ ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ ไว้ รอเจ้ า


ขึน้ เป็ นหัวหน้ าหน่ วยเหยี่ยวราตรีเมื่อไร ในตอนที่ถูกฝึ กอบรม เจ้ า
จะถูกส่ งตัวไปยังวิหารศักดิ์สิทธิ์ชั่วคราว ถึงตอนนั้นจะได้ อ่าน
เอกสารอีกเป็ นภูเขาเลากา

“ฉันเองก็มีข้อมูลลัทธิแม่ มดไม่ มาก สิ่ งเดียวที่ทราบคือ พวกมัน


บูชาแม่ มดบรรพกาลโดยเชื่ อว่ าหล่อนคือทายาทที่แท้ จริงของพระ
ผู้สร้ าง เป็ นตัวตนลาดับต้ นๆ ที่ถือกาเนิดขึน้ หลังจากผู้สร้ างแบ่ ง
ร่ างกาย

“หล่อนมีมีฉายานักทาลายที่สามารถนาพาให้ ทุกสรรพสิ่ งดาเนิน


ไปถึงจุดจบ

“เส้ นทางผู้วิเศษของพวกมันคือเส้ นทางที่เข้ าใกล้ความเป็ นแม่


มดบรรพกาล ยิ่งระดับสู งก็ยิ่งได้ รับเศษเสี้ยวพลังจากแม่ มดบรรพ
กาลมาก ด้ วยเหตุนี้ อาวุโสระดับสู งทั้งหมดของนิกายจึงเป็ นสตรี
“ที่ฉันทราบก็มีเพียงเท่ านี้ จุดประสงค์ ของลัทธิแม่ มดคือการ
แพร่ กระจายหายนะเป็ นวงกว้ าง”

แพร่ กระจายหายนะ…

เข้ ากันกับคาอธิบายของนักลอบสั งหารและนักกระตุ้น… น่ า


เสี ยดายที่มิสเตอร์ ทริสคนนีก้ าลังจะถึงทางตัน เพราะโอสถ
ระดับสู งคงมีไว้ สาหรับผู้วิเศษเพศหญิงเท่ านั้น
ไคลน์ พยักหน้ าเบาๆ พร้ อมกับก้มหน้ าอ่ านเอกสารต่ อ

หลังจากอ่านส่ วนสาคัญครบเกือบทั้งหมด ชายหนุ่มได้ รับ


ความรู้เกี่ยวกับองค์ กรลับเพิม่ ขึน้ มาก แต่ ขณะเดียวกัน เนื้อหา
ทั้งหมดที่เขียนไม่ ได้ ทาให้ ไคลน์ ประหลาดใจสั กเท่ าไร สาหรับโลก
ที่มีผ้ วู ิเศษมานานหลายพันปี เรื่ องราวเหนือธรรมชาติเหล่านี้ไม่
เกินกว่ าจินตนาการสั กเท่ าไร โดยเฉพาะยุคสมัยที่สี่ซึ่งกล่าวกันว่ า
เป็ นช่ วงเวลาเฟื่ องฟูของผู้วิเศษ

ไคลน์ แบ่ งองค์ กรลับออกเป็ นสามกลุ่มตามยุคสมัย

กลุ่มแรก องค์ กรลับเก่าแก่ ประกอบด้ วยนิกายมอสส์ ลัทธิเร้ นลับ


และนิกายบูชาโลหิตที่ถือเป็ นนิกายปี ศาจ แต่ สิ่งเหล่านีไ้ ม่ ถูกเขียน
ไว้ ในเอกสารลับเหยี่ยวราตรี องค์ กรลับเก่าแก่เดียวที่ถูกอ้างถึงใน
เอกสารคือลัทธิแม่ มด แต่ ก็ไม่ มีคาอธิบายที่ชัดเจน

กลุ่มที่สอง องค์ กรลับที่ก่อตั้งในช่ วงต้ นยุคสมัยที่ห้า


ประกอบด้ วย ชุมนุมสั มผัสวิญญาณ—ตระกูลชั่วร้ าย, นิกาย
วิญญาณ—นิกายทีบ่ ูชาความตาย, โรงเรียนแห่ งชีวิต—องค์ กรลับที่
ส่ งต่ อพลังแบบรุ่นสู่ ร่ ุน, โรงเรียนกุหลาบ—เป็ นที่ร้ ูจักในนาม
องค์ กรชั่วร้ ายซึ่งคลั่งการบูชาโลหิต

กลุ่มที่สาม กลุ่มสุ ดท้ าย องค์ กรลับที่เพิง่ ก่อตั้งขึน้ เมื่อราวหนึ่งถึง


สองร้ อยปี ก่อน ประกอบด้ วย ชุมนุมแสงเหนือ ชุมนุมกางเขนเหล็ก
โลหิต แก่นแท้ ร่ ุงอรุณ และสมาคมแปรจิต เป็ นองค์ กรลับพวกแรกๆ
ที่ไคลน์ เคยได้ ยินชื่ อ

ส่ วนองค์ กรลับที่เหลือ พวกมันไม่ มีผลงานโดดเด่ นหรื อ


ประวัติศาสตร์ อันยาวนานควรค่ าแก่การจดจา

“เบ็นสั นและเมลิสซ่ าไม่ มีทางทราบเลยว่ า โลกใบนีน้ ่ ากลัวกว่ าที่


พวกเขาจินตนาการไว้ แค่ ไหน ความโหยร้ ายไม่ ได้ จากัดเพียงใน
สงครามเท่ านั้น…”

ไคลน์ ส่ายศีรษะพลางยิม้ แห้ ง มันก้มหน้ ารวบรวมเอกสารที่


กระจัดกระจายกลับเป็ นปึ กใหญ่ และส่ งคืนให้ ลุงนีลล์
ภายในใจตัดพ้อ
ชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์ของเราต้ องไม่ อยู่ในรายชื่ อองค์ กรชั่วร้ าย…

ลุงนีลล์ไม่ มีทางทราบเลยว่ า หัวหน้ าของหนึ่งในองค์ กรลับกาลั่ง


นั่งอยู่เบื้องหน้ า ชายชราเพียงยิม้ เล็กๆ พร้ อมกับยกเอกสารกองโต
กลับไปเก็บในประตูยานิสตามเดิม

ไคลน์ นั่งเงียบงันพลางครุ่นคิดว่ าตนควรทานายหาที่อยู่นัก


กระตุ้น·ทริสดีหรื อไม่ แต่ หลังจากทบทวนตัวเองราวยี่สิบวินาที
มันส่ ายศีรษะพร้ อมกับล้มเลิกความตั้งใจ

ข้ อมูลของทริสมีน้อยเกินไป ทราบแค่ ใบหน้ า รูปร่ าง และพลัง


วิเศษ ชื่ ออาจเป็ นชื่ อปลอมที่ไม่ เกิดประโยชน์ ในการทานาย

ด้ วยข้ อมูลเพียงเท่ านี้ หากหาแหล่งกบดานของทริสพบ ตัวมัน


คงไม่ ใช่ นักทานายอีกแล้ว เพราะนั่นคือของเขตพลังของเทพ
พยากรณ์

เมื่อลุงนีลล์กลับมาที่คลังอาวุธ ไคลน์ สลัดความคิดเรื่ ององค์ กร


ลับและทริสออกจากหัว มันตั้งใจศึกษาศาสตร์ เร้ นลับรวมถึง
พิธีกรรมเวทมนตร์ ต่อทันที

ชายหนุ่มมีแผนใช้ เวลาวันนี้ท้งั วันไปกับการศึกษาและทบทวน


ไม่ คิดเข้ าร่ วมปฏิบัติการตามล่าตัวนักกระตุ้น·ทริสให้ เสี ยเวลาเปล่่า
ความสนใจเดียวตอนนีค้ ือ ของวิเศษต้ องห้ ามหมายเลข 2-049
จะถูกส่ งมาถึงเหยี่ยวราตรีสาขาทิงเก็นเมื่อไร ด้ วยเหตุผลบาง
ประการ ระยะเวลาเคลื่อนย้ ายที่แน่ นอนได้ ถูกเลื่อนออกไปอย่ างไม่
มีกาหนด

จากค่ าตอบแทนดูดวงเมื่อวานซึ่งเป็ นเงินจานวนสองซูล ชาย


หนุ่มเสี ยสละสิ บเพนนีสาหรับซื้อเบียร์ เอ็นมาร์ ทสองลิตรกลับบ้ าน
ไปเผื่อเบ็นสั น และไม่ ลืมที่จะซื้อเลม่ อนเค้ กกลับไปฝากเมลิสซ่ า

“ไคลน์ ฉันรู้ว่านายทาเงินได้ มาก แต่ ไม่ จาเป็ นต้ องซื้อของแบบนี้


กลับมาฝากพวกเราก็ได้ ฟุ่ มเฟื อยเกินไปแล้ว”

เบ็นสั นกล่าวขณะยืนมองไคลน์ กลับถึงบ้ านพร้ อมถือของ


พะรุงพะรัง

เมลิสซ่ าที่ยืนข้ างกันพยักหน้ ารับ

นั่นเพราะครอบครัวของเราเคยชินกับความจนเกินไปต่ างหาก…

ไคลน์ ถอนหายใจยาวเหนื่อยหน่ าย

“เบ็นสั น เมลิสซ่ า ไม่ ต้องห่ วง สาหรับอาหารเหล่านี้ ฉันใช้ เงิน


โบนัสซื้อมา จริงสิ … ยังไม่ ได้ บอกใช่ ไหม ฉันมีโบนัสแต่ ละสั ปดาห์
อยู่ที่สองถึงสี่ ซูล”
ขอโทษที่บอกความจริงไม่ ได้ ว่า นี่คือรายได้ จากการดูดวง…
ไคลน์ ราพัน

“…บริษัทนายเจ๋ งชะมัด”

เบ็นสั นพลันผงะหลังจากฟังได้ คาแก้ต่าง

ต้ องแน่ นอนอยู่แล้ว… เป็ นบริษัทที่มอบได้ แม้ กระทั่งพลังนัก


ทานาย
ไคลน์ กล่าวติดตลกในใจ ก่อนจะเดินไปยังห้ องครัวเพื่อเตรียม
อาหาร

หลังจากได้ ความร่ วมมือของสามพี่น้อง อาหารมื้อค่าสุ ดวิเศษก็


ถูกเตรียมเสร็จ

เมื่อทุกคนเริ่มอิ่ม ไคลน์ เบ็นสั น และเมลิสซ่ านั่งอืดเช่ นนั้นสั ก


พัก ก่อนจะเริ่มขยับตัวในอีกหลายนาทีถัดมา พวกมันช่ วยกันเก็บ
กวาด ล้างจาน และกลับมานั่งคุยเล่น

ไคลน์ รอให้ ถึงเวลานอนของเบ็นสั นและเมลิสซ่ า มันจะได้


กลับไปยังมิติสายหมอกเพื่อตรวจสอบข้ อความที่ใครบางคนส่ งหา
ก่อนจะถึงตอนนั้น มันก้ มหน้ านั่งอ่านทบทวนหนังสื อ
ประวัติศาสตร์ เล่มเก่า พลางชาเลืองมองสองพีน่ ้ องเป็ นระยะ

เขตตะวันออกเมืองทิงเก็น

ถนนกางเขนเหล็กสายล่าง

อาคารสามชั้นตั้งเรียงรายสองข้ างถนนที่มืดสนิท ปราศจากแสง


โคมไฟโดยสิ้นเชิง

ทันใดนั้น เงาลางของบุคคลหนึ่งกระโดดจากชั้นสามลงสั มผัส


พื้นถนนด้ วยเสี ยงเงียบเชียบ คล้ายกับร่ างกายไม่ มีน้าหนัก

เงาดังกล่าวนั่งยองครู่หนึ่งก่ อนจะหายไปในความมืดมิดโดย
สมบูรณ์ ตั้งแต่ ต้นจนจบ มันไม่ เผยตัวตนมากไปกว่ าเงาลางสี ดา

บุคคลปริศนาเคลื่อนที่รวดเร็วจนถึงท่ าเรื อ เงาดาพุ่งตรงไปยัง


มุมหนึ่งของโกดังสิ นค้ าซึ่งมีเพียงกล่องวางกระจัดกระจาย

มันเหลียวซ้ ายแลขวา ก่อนจะวนเวียนบริเวณนั้นสองสามรอบ


และกลับมายังจุดเดิม
ลักษณะเด่ นของชายคนนีค้ ือใบหน้ าที่กลมกลึง เป็ นมิตร และขี้
อาย

ใช่ แล้ว มันคือนักกระตุ้น·ทริส ผู้วิเศษซึ่งก่อคดีอุกฉกรรจ์ บน


เรื ออัลฟาฟ่ า

“รู้สึกอย่ างไรบ้ าง?”

ทันใดนั้น อีกหนึ่งตัวตนปริศนาในชุดคลุมดาเดินออกจากเงามืด
โกดังสิ นค้ า เสี ยงแหบพร่ าและทรงเสน่ ห์บ่งบอกชัดเจนว่ าเป็ นสตรี
ทริสอมยิม้ อย่ างพึงพอใจ

“สุ ดยอดมาก เหมือนกับที่ฝันไว้

“หลังจากทาภารกิจของพวกคุณลุล่วง ผมเตรียมการเพื่อเลื่อน
ลาดับไว้ เรียบร้ อยแล้ว”

สตรีชุดคลุมดาพยักหน้ ารับ

“ทาได้ ดีมาก ตามที่สัญญากันไว้ ฉันจะมอบสู ตรผลิตโอสถลาดับ


เจ็ดและวัตถุดิบหลักสามชนิดให้ ส่ วนที่เหลือไปหาเอาเอง”

“ไม่ มีปัญหา”
น้าเสี ยงทริสคล้ายกับคาดเดาไว้ แล้ว
สตรีปริศนาล้วงมือหยืบสิ่ งที่คล้ายสมุดและยื่นให้ ทริส

บนปก‘สมุด’เล่มดังกล่าวมีลวดลายทองแดงแปลกประหลาด
สลักไว้ หลายแห่ ง ส่ วนสั นปกเป็ นสั ญลักษณ์ ดวงดาวที่ทริสไม่ เคย
เห็น

แต่ มันก็ทราบดี ภายในสมุดเล่มนีต้ ้ องมีสูตรผลิตโอสถและ


วัตถุดิบหลักอยู่แน่
ทริสออกอาการตื่นเต้ น

นักกระตุ้นหน้ ากลมพยายามข่ มจิตใจให้ สงบ มันเพ่งสายตามอง


ข้ อความตัวใหญ่ ที่เขียนไว้ บนปกอย่ างตั้งใจ

อักษรทองแดงสลักไว้ ว่า…

“แม่ มด!”

ทริสโพล่งเสี ยงดัง

ไม่ ผิดแน่ อักษรดังกล่าวคือภาษาเฮอร์ มิสที่หมายถึงแม่ มด มัน


ขมวดคิว้ ชนกันด้ วยสี หน้ าสุ ดฉงน
แม่ มด?
นี่ตนต้ องเลื่อนลาดับเป็ นแม่ มด?

จากนักลอบสั งหาร? ล้อเล่นกันหรื อไง?

สตรีปริศนาใช้ มือปิ ดปากพลางหัวเราะคิกคัก ผ่ านไปสั กพักจึง


ค่ อยมอบคาตอบให้ กับทริสซึ่งกาลังยื่นสั่ นเทา

“นายไม่ สงสั ยบ้ างหรื อ? ว่ าเพราะเหตุใดอาวุโสทุกคนของนิกาย


เราถึงมีแต่ สตรี…

“นี่ไง… คาตอบ”
ราชันย์ เร้ นลับ 67 : ตอบสนอง

จันทร์ แดงกาลังส่ องแสงท่ ามกลางท้ องฟ้ ามืดมิดเหนือทิงเก็น—


เมืองแห่ งมหาวิทยาลัย บรรยากาศโดยรอบเป็ นไปอย่ างเงียบงัน
และสงบสุ ข

ไคลน์ กาลังยืนข้ างโต๊ ะอย่ างหนังสื อ สายตาจ้ องมองไปนอก


หน้ าต่ าง ถนนดารารัตน์ ยามค่าคืนนั้นเงียบสงบไร้ ผ้ คู น มีเพียง
เสี ยงรถม้ ากรุบกรับเบาๆ วิ่งผ่ านไปโดยไม่ อึกทึก

ชายหนุ่มกดปุ่ มปิ ดผานาฬิ กาพกใบองุ่นพลางเหลือบมอง


ตรวจสอบเวลา เมื่อยืนยันจนมั่นใจ มันเดินไปรูดม่ านปิ ดมิดชิด ทั่ว
ห้ องพลันถูกอาบด้ วยแสงสี เหลืองจากไฟโคมแก๊ส

ไคลน์ หมุนตัวกลับหลังและเดินไปล็อคประตู พร้ อมกับเอื้อมมือ


ปิ ดวาล์วแก๊ส

ทันใดนั้น รอบห้ องถูกความมืดสนิทแทนที่ มีเพียงแสงแดงจางๆ


เล็ดลอดผ่ านช่ องว่ างม่ านหน้ าต่ างเข้ ามา

บรรยากาศเบื้องหน้ างดงามคล้ายคลึงฉากที่ถูกบรรยายในเทพ
หนังสื อตานานพื้นบ้ าน
ไคลน์ หยิบมีีดเงินที่เตรียมไว้ ขณะเดียวกันก็สร้ างบอลแสงใน
ห้ วงจิตเพื่อเข้ าฌาน

ชายหนุ่มทาการเพ่งสมาธิอย่ างชานาญซึ่งเกิดจากการฝึ กซ้ อม


เป็ นประจา พลังวิญญาณเริ่มแผ่ ออกจากคมมีดเงิน

จากนั้น ไคลน์ เดินวนไปรอบห้ องเพื่อสร้ างกาแพงวิญญาณ


ป้องกันสิ่ งชั่วร้ ายภายนอก

และอีกนัยหนึ่งก็เพื่อมิให้ พธิ ีกรรมของตนส่ งเสี ยงรบกวนเบ็น


สั นและเมลิสซ่ า

ถัดมา มันนามีดเงินวางลงบนโต๊ ะ ก่อนจะเดินทวนเข็มนาฬิ กา


ลักษณะจัตุรัสและท่ องคาถาที่ลอกเลียนจากโลกเก่า

เพียงไม่ นาน เสี ยงกระซิบแสบแก้วหูดังขึน้ ตามนัดหมาย ยังคง


ตามหลอกหลอนไคลน์ และคอยสั่ นคลอนให้ จิตปั่นป่ วน ในสภาพ
กึ่งเข้ าฌานเช่ นนี้ มันตั้งสมาธิหนักแน่ นเพื่อไม่ ให้ ถูกเสี ยงดังกล่ าว
เย้ ายวน

มิติสายหมอกไร้ ขอบเขต…

ดาวแดงสองดวงมีระยะห่ างไม่ เท่ ากัน…

หลังคาโดมอลังการสู งตระหง่ านคล้ายกับสิ่ งก่อสร้ างของคน


ยักษ์ …
ไม่ มีสิ่งใดเปลี่ยนไป ฉากรอบตัวซึ่งมีกลิ่นอายคล้ายคลึงอารย
ธรรมสมัยหนึ่งหมื่นปี ก่อนปรากฏเบื้องหน้ าไคลน์ อีกครั้ง

ไม่ สิ… มีบางสิ่ งเปลี่ยนไป

ดาวแดงแทนตัวจัสติสกาลังยุบพองเล็กๆ เป็ นจังหวะคงที่ นี่ไม่ ใช่


เรื่ องปรกติ ไคลน์ ตัดสิ นใจถ่ ายทอดพลังวิญญาณเข้ าไปสั มผัส

ในวินาทีที่ดาวแดงเชื่ อมต่ อกับชายหนุ่ม เสี ยงกระซิบแหบพร่ า


พลันดังแว่ วในหูพร้ อมกับเสี ยงอธิษฐานของเด็กสาว

“เดอะฟูลจากต่ างยุคสมัย

“ผู้ปกครองลึกลับเหนือห้ วงสายหมอกเทา

“ราชันย์ เหลืองดาผู้ครองพลังโชคลาภ

“ดิฉันขอวิงวอน

“ดิฉันปราถนาความรักจากท่ าน

“ดินฉันปรารถนาความฝันอันแสนสุ ข

“ดินฉันปรารถนาความฝันอันแสนสุ ข

เสี ยงเด็กสาวดังก้องเป็ นพักๆ

จิตของชายหนุ่มเริ่มปั่นป่ วน คล้ายกับการหลับสบายในยามค่า
คืนแล้วถูกปลุกด้ วยเสี ยงดังโครมครามจากเพื่อนร่ วมหอพักชั้นบน
เมื่อฉุกคิดได้ ไคลน์ รีบเข้ าฌานเพื่อเพ่งพลังวิญญาณให้ กล้าแกร่ ง
แล้วก็ได้ ผล ภาพเคลื่อนไหวพลันปรากฏเบื้องหน้ าคล้ายกับวิดีโอที่
ถูกฉาย

เด็กสาวในชุ ดคลุมขาวที่มาพร้ อมเส้ นผมสี ทองเงางาม เธอยืน


ท่ ามกลางเปลวเพลิงสี่ จุด ศีรษะก้มลงเล็กน้ อย สองมือประนม
อธิษฐานด้ วยจิตใจตั้งมั่น

ถึงภาพจะพร่ ามัวไม่ ชัดเจน แต่ ไคลน์ เดาได้ ทันทีว่านี่คือมิสจัส


ติส

สิ่ งนีห้ มายความว่ า คาถาสามบทที่ตนคิดขึน้ เองสามารถชี้นา


พิธีกรรมให้ ม่ งุ ตรงมายังมิติสายหมอกได้ จริง
ไคลน์ ร้ ูสึกภาคภูมิใจบอกไม่ ถูก
จากคนไม่ มีอะไรเลย เป็ นเพียงผู้เดินทางข้ ามโลกและโผล่ในร่ าง
ชายหนุ่มยากจน มีความรู้ด้านศาสตร์ เร้ นลับน้ อยนิด

แต่ มันสามารถดัดแปลงพิธีกรรมซับซ้ อนให้ ได้ ผลลัพธ์ ที่ตน


ต้ องการ

นี่ไม่ ใช่ เวลามัวชมตัวเอง… ไคลน์ เพ่งสมาธิเพื่อจับใจความที่เด็ก


สาวพยายามสื่ อสาร
เมื่อรับฟังเสร็จสิ้น มันตอบกลับพิธีกรรมโดยใช้ เส้ นพลัง
วิญญาณที่กาลังเชื่ อมติดกับดาวแดงเป็ นสื่ อกลาง

“เรารับรู้…”

รอบกายกาลังรายล้อมด้ วยหมอกเทาหนาทึบหลายชั้น เงาลาง


ของบุคคลลึกลับกาลังยืนท่ ามกลางมิติมืดมิดไร้ รอบเขต น่ าเสี ยดาย
ที่ภาพการมองเห็นของเธอมีลักษณะพร่ ามัว

“เรารับรู้”
“เรารับรู้”
“เรารับรู้”

ออเดรย์ ·ฮอลพลันสะดุ้งตื่น ความฝันประหลาดเมื่อครู่ชัดเจนจน


ยากจะเชื่ อว่ าเป็ นเพียงจินตนาการ

เด็กสาวมั่นใจว่ านั่นคือสารจากมิสเตอร์ ฟูล บุคคลลึกลับ


ผู้ปกครองห้ วงมิติสายหมอก…

“เป็ นการตอบสนองจากพิธีกรรมเวทมนตร์ เมื่อเช้ าหรื อ?”

ออเดรย์ รีบเข้ าภาวะผู้ชมเพื่อสงบจิตใจ เธอรีบเค้ นสมองครุ่นคิด


หาคาตอบ

ถึงจะยังไม่ เข้ าใจว่ า เหตุใดมิสเตอร์ ฟูลไม่ ตอบสนองพิธีกรรม


ทันทีทันใดและเลือกส่ งสารกลับมาตอนกลางดึก แต่ เธอยังคงทึ่งที่
พิธีกรรมแสนเรียบง่ ายกลับช่ วยให้ ติดต่ อสื่ อสารกับคนผู้น้ นั จาก
ระยะไกลได้ จริง

ทั้งที่ในอดีต ออเดรย์ เคยประกอบพิธีกรรมเวทมนตร์ และเอ่ยถึง


ประนามเทพธิดารัตติกาลบ่ อยครั้ง แต่ ไม่ เคยได้ รับคาตอบเลยสั ก
หนเดียว
ต่ อให้ มิสเตอร์ ฟูลไม่ ใช่ เทพ แต่ คงเป็ นตัวตนที่มีระดับไม่ ห่าง
จากนั้นมากนัก…

ออเดรย์ ถอนหายใจยาว

ในเมื่อเธอไม่ สามารถขัดขืนอีกฝ่ ายได้ วิตกกังวลไปก็เปล่า


ประโยชน์ เด็กสาวเริ่มวางแผนอนาคตอย่ างรอบรอบ

“ก่อนอื่น ต้ องรีบย่ อยโอสถผู้ชมให้ สมบูรณ์ แต่ คงไม่ เป็ นปัญหา


สั กเท่ าไร เพราะเราหมั่นสวมบทบาทอยู่เสมอ

“ถัดมา ต้ องสื บหาข้ อมูลของสมาคมแปรจิตให้ พบ

“และสุ ดท้ าย เราอาจต้ องถามสู ตรผลิตโอสถนักอ่านใจจาก


มิสเตอร์ ฟูล หรื ออย่ างน้ อยก็ให้ เขาช่ วยบอกใบ้ เบาะแสของสมาคม
แปรจิต

“แต่ บางที มิสเตอร์ ฟูลอาจมีข้อมูลโอสถเส้ นทางอื่นไม่ ครบถ้ วน


ต่ อให้ ตัวตนระดับครึ่งเทพมีสูตรผลิตโอสถเส้ นทางตัวเองสมบูรณ์
แต่ ไม่ ได้ หมายความว่ าต้ องมีของเส้ นทางอื่นด้ วย และสมาคมแปร
จิตคงไม่ ใหญ่ พอจะทาให้ เขาเหลียวแล…”


เมื่อตัดขาดความสั มพันธ์ กับดาวแดง ชายหนุ่มเดินมานั่งลงบน
เก้าอีห้ ัวโต๊ ะด้ วยท่ าทีผ่อนคลาย

ในวินาทีปัจจุบัน ค่ อนข้ างแน่ ชัดแล้วว่ าตนคือสิ่ งมีชีวิตชนิดเดียว


ที่อาศัยอยู่บนมิติสายหมอกแห่ งนี้ เพราะไม่ มีใครชิงตอบข้ อความ
ของจัสติสไปก่อนหน้ า

ดูเหมือนว่ าการรับข้ อมูลและส่ งข้ อความกลับต้ องกระทาบนมิติ


สายหมอกเท่ านั้น…

แถมยังทาได้ เพียงส่ งข้ อความ มิอาจส่ ง ‘การกระทา’ ใดกลับไป


หาอีกฝ่ ายได้

ไคลน์ พมึ พาข้ อสรุป

อันที่จริง มันเคยมีแผนอาศัยมิติสายหมอกแห่ งนีม้ อบพลังให้


ตัวเอง ด้ วยการประกอบพิธีกรรมเวทมนตร์ บนโลกปรกติและท่ อง
คาถาชี้เป้ามายังสายหมอก

แต่ น่าเสี ยดายที่ตนไม่ สามารถ‘ส่ งการกระทา’กลับไปหาผู้


ประกอบพิธีกรรมได้ ไม่ อย่ างนั้น มันจะประกอบพิธีกรรมถึง
ตัวเองเพื่อร้ องขอพลังเหนือธรรมชาติ และใช้ มิติสายหมอกบันดาล
ให้ เกิดขึน้ จริง

ตัวอย่ างเช่ น… ประกอบพิธกี รรมบนโลกเพื่อหยิบยืม‘เวท


มนตร์ ’ที่ทรงพลังบางชนิด จากนั้นก็เข้ าสู่ มิติสายหมอกและตอบ
รับพิธีกรรมเพื่อมอบเวทมนตร์ กลับไป

เหมือนกับเทพประทานพรของจริง…

แต่ เท่ าที่ดู ความคิดดังกล่าวคงเป็ นการโลภมากไปสั กหน่ อย


ความรู้ความเข้ าใจเกี่ยวกับมิติสายหมอกของตนมีไม่ มากพอ และ
ตัวมันยังควบคุมมิติแห่ งนี้ได้ ไม่ เต็มประสิ ทธิภาพ

ไคลน์ ส่ายศีรษะให้ กับความอ่อนหัด


ขณะเตรียมกลับสู่ โลกความจริง ทันใดนั้น ดาวแดงซึ่งเป็ น
สั ญลักษณ์ ของแฮงแมนเริ่มยุบพองเป็ นจังหวะพร้ อมกับแฝงเสี ยง
กระซิบที่ฟังไม่ ออก

“นี่เราบังเอิญขึน้ มาตอนที่แฮงแมนประกอบพิธีกรรมพอดี?”

ไคลน์ พยักหน้ าพลางยิม้ มุมปาก

มันเอนหลังพิงพนักเก้าอีพ้ ร้ อมกับส่ งพลังวิญญาณออกไปสั มผัส


ดาวแดงที่เต้ นระรัว

ฉากคล้ายเดิมปรากฏขึน้ ลักษณะเหมือนกับภาพวิดีโอที่ถูกฉาย
น่ าเสี ยดายที่ค่อนข้ างพร่ ามัว
แฮงแมนกาลังสวมชุดม่ วงเข้ มโดยมีเปลวเพลิงสี่ จุดล้อมรอบ ถัด
ออกไปไม่ ไกลเป็ นชั้นกาแพงวิญญาณที่ถูกสร้ างขึน้ เพื่อป้องกัน
สิ่ งรบกวน

ไคลน์ ยังไม่ ตอบกลับทันที มันนั่งฟังอย่ างใจเย็นจนอีกฝ่ าย


ประกอบพิธีกรรมลุล่วง

“…ราชันย์ เหลืองดาผู้ครองพลังโชคลาภ…

“กระผมขอวิงวอน”

หลังจากแฮงแมนอธิษฐานจบ มันยืนรอเช่ นนั้นนานหลายนาที


แต่ เมื่อพบว่ าไม่ มีการตอบสนอง มันหันกลับไปสลายกาแพง
วิญญาณและดับเทียนทั้งสี่ อุปกรณ์ ประกอบพิธีกรรมถูกเก็บเข้ าที่
เข้ าทาง แท่ นบูชาถูกทาความสะอาด

ปิ ดท้ ายด้ วยการตวัดมือเบาๆ หนึ่งครั้ง เกิดเป็ นเวทวารีชาระล้าง


แท่ นบูชาจนสะอาดเหมือนใหม่

เวทมนตร์ ธาตุน้าสิ นะ…

พลังจากเทพวายุสลาตัน แฮงแมนเป็ นผู้วิเศษลาดับเจ็ด·กะลาสี


จริงด้ วย หรื ออาจมีระดับสู งกว่ านั้น
ไคลน์ ผงกศีรษะพึงพอใจ ก่อนที่ภาพฉายจะหายไป มันตอบกลับ
แฮงแมนด้ วยจิต ลักษณะเดียวกับที่กระทาต่ อจัสติส

อัลเจอร์ ·วิลสั นกาลังอาศัยอยู่ในเมืองหนึ่งบนหมู่เกาะรอสต์

เมืองแห่ งการให้

ไม่ เหมือนกับลูกเรื อที่เหลือ อัลเจอร์ มิได้ ไปเที่ยวชม‘โรงละคร


แดง’ มันหมกตัวอยู่ในห้ องโรงแรม ปิ ดประตูมิดชิด กางกาแพง
วิญญาณและประกอบพิธีกรรมเวทมนตร์ ที่มิสเตอร์ ฟูลไหว้ วาน

หลังจากทุกขั้นตอนเสร็จสิ้น อัลเจอร์ ยืนรอคาตอบหลายนาที แต่


ท้ ายที่สุดก็ไม่ มีอะไรเกิดขึน้

“วิธีนคี้ งไม่ ได้ ผลสิ นะ ต้ องแจ้ งให้ มิสเตอร์ ฟูลเปลี่ยนวิธี…”

ใจลึกๆ แล้วโล่งอก แต่ ขณะเดียวกันก็ร้ ูสึกความผิดหวังอยู่หลาย


ส่ วน

เมื่อเสร็จธุระ อัลเจอร์ เตรียมลงไปที่ช้ ันล่างเพื่อเติมเต็มกระเพาะ


ด้ วย‘เลียลันสกี’้ เหล้าที่ช่วยให้ ‘ผู้ระเบิดโทสะ’ปลดปล่อยพลังโทสะ
ได้ เต็มประสิ ทธิภาพ เป็ นเครื่ องดื่มที่หน่ วยทูตพิพากษาแห่ งโบสถ์
วายุสลาตันนิยมชมชอบ
ขณะเปิ ดประตูห้อง ภาพการมองเห็นอัลเจอร์ พลันพร่ ามัว มัน
เริ่มเสี ยหลักเซ ฉากมิติหมอกอันมืดมิดฉายซ้ อนทับทางเดินเบื้อง
หน้ า

เงาลางของตัวตนลึกลับที่ปกคลุมด้ วยหมอกทึบหลายชั้นกาลัง
นั่งบนเก้าอีใ้ นส่ วนลึกสุ ดของมิติไร้ ขอบเขต ด้ วยความพร่ ามัว ภาพ
เก้าอีจ้ ึงดูคล้ายกับบัลลังก์ใหญ่

“เรารับรู้”

เสี ยงที่ค้ นุ เคยดังก้อง อัลเจอร์ มีอันต้ องผงะ ใบหน้ าขาวซีดดุจดัง


เห็นผี ขมับของมันเริ่มปวดแปลบพลางเต้ นตุบๆ

หลังจากสิ้นเสี ยงไม่ นาน การมองเห็นกลับสู่ ปรกติอีกครั้ง อัล


เจอร์ รีบกวาดมองรอบตัว

ไม่ มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง พื้นไม้ กระดานยังสะอาดเหมือนใหม่ เชิง


เทียนผนังเก่าแก่มีสภาพคงเดิม

เรารับรู้…

เสี ยงดังกล่ าวยังคงตามหลอกหลอน


สี หน้ าของมันเริ่มดามืด อัลเจอร์ กาหมัดทาบหน้ าอกเพื่อสงบ
จิตใจ แต่ มันมิได้ กล่ าวถ้ อยคาเทิดทูนเทพแห่ งวายุสลาตันเหมือน
ทุกที

หลังจากเงียนงันอยู่นาน สี หน้ าอัลเจอร์ เริ่มกลับมาเป็ นปรกติ แต่


แววตากลับลุ่มลึกผิดธรรมชาติ

ไคลน์ ไม่ เสี ยเวลาบนมิติสายหมอกนานนัก ทันทีที่เสี ยงกระซิบ


ข้ างหูเริ่มเบาลง มันเพ่งสมาธิเพื่อกลับสู่ โลกปรกติโดยเร็ว

คล้ายกับการฉายหนังด้ วยสปี ดสิ บเท่ า ภาพการมองเห็นแล่ นผ่ าน


ด้ วยความเร็วสู ง เพียงพริบตา จิตของมันดาสนิทไปชั่วขณะ ก่อน
จะลืมตาตื่นอีกครั้งภายในห้ องมืดสลัว

ภาพแรกทีเ่ ห็นคือเงาลางของโต๊ ะและชั้นหนังสื อ ไกลออกไปเป็ น


ผ้ าม่ านที่บดบังหน้ าต่ างมิดชิด

ไคลน์ รีบสลายกาแพงวิญญาณ

แต่ ทันใดนั้น สายลมที่มองไม่ เห็นไหลกองรวมกันและพัดใส่


ประตูห้องนอนจนเปิ ดออก ก่อนที่พวกมันจะสลายไปเมื่อถูกถ่ายเท
บนทางเดินชั้นสอง
โชคดีที่เบ็นสั นและเมลิสซ่ าไม่ สะดุ้งตื่น
ดูเหมือนพิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตาต้ องกระทาที่บ้านเท่ านั้น…
ทั้งลึกลับและเต็มไปด้ วยปริศนา แม้ แต่ กาแพงวิญญาณยังมีท่าที
ต่ างจากทุกครั้ง

ไคลน์ พมึ พาพลางปิ ดประตูและรีบเดินยังเตียงนอน พรุ่งนี้ตอน


ค่ามีนัดกับลุงนีลล์ไปเปิ ดหูเปิ ดตาตลาดมืดค้ าของวิเศษประจาทิง
เก็น
ราชันย์ เร้ นลับ 68 : สั ตว์ ประหลาด

ยามโพล้เพล้ แสงอาทิตย์ สุดท้ ายสาดส่ องผ่ านรถม้ าจนเกิดเงา


พาดยาวบนถนน

เมื่อแจ้ งเบ็นสั นและเมลิสซ่ าว่ าตนจะทานอาหารมื้อค่าที่บริษัท


รักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ ไคลน์ จึงนั่งรถม้ าไปยังตลาดมืด
ค้ าของวิเศษพร้ อมกับลุงนีลล์อย่ างสบายใจ

มันจงใจใส่ เสื้ อผ้ าเก่าราคาถูก การเดินทางไปยังสถานที่อโคจร


ย่ อมมีความเสี่ ยงเกิดเหตุไม่ คาดฝันสู ง ไคลน์ หวงแหนชุดทักซิโด้
หรูหราราคาแพงของตนมาก

เมื่อแสงอาทิตย์ เริ่มมอดดับ รถม้ าสาธารณะหยุดลงตรงสถานที


ลุงนีลล์ในชุ ดคลุมดาและหมวกสั กหลาดปี กกลมกระโจนลงจาก
ห้ องโดยสาร

มันไม่ สนสายตาคนรอบข้ าง ชายชราเดินทแยงมุมข้ ามถนนตรง


ไปยัง‘ผับมังกรชั่ว’ที่อยู่เบื้องหน้ า

แม้ ระยะห่ างจะไกลและประตูของผับยังปิ ดสนิท แต่ ไคลน์ กลับ


ได้ สินเสี ยงโหวกเหวกเล็ดลอดจากภายใน คล้ายคลึงกับเสี ยงเชียร์ ที่
มอบให้ วีรบุรุษหาญกล้า
เมื่อเดินเข้ าใกล้ผับ ชายหนุ่มสั มผัสถึงความผิดปรกติ มันรีบหัน
ศีรษะกลับไปมองด้ านหลัง และได้ พบชายกายาสวมเครื่ องแบบ ยืน
แอบซุ่มบนเงามืดมุมหลังคา

ชายคนดังกล่าวถือกล่องกลไกโลหะสี เทาไว้ ในมือข้ างหนึ่ง และ


ถือปื นไรเฟิ ลกระบอกใหญ่ ไว้ ในมืออีกข้ าง

กล่องกลไกโลหะและปื นไรเฟิ ลมีสายโยงเชื่ อมติดกัน

“ไรเฟิ ลแรงดันไอน้า?”

ไคลน์ พมึ พาด้ วยสี หน้ าตกตะลึง มันรีบหันไปมองลุงนีลล์และไต่


ถาม

“ผับที่นี่มขี ายอาวุธสงครามด้ วยรึไง?”

นั่นมันอาวุธร้ ายแรงที่ถูกควบคุมเข้ มงวด!

ถึงจะใช้ สารสกัด‘ฟลอจิสตัน’เป็ นตัวขับเคลื่อนกลไก แต่ ขนาด


และน้าหนักของถังสะพายไอน้าด้ านหลังนั้นมหาศาล กล่าวกันว่ า
มีเพียงนักรบแห่ งโลหิตและเหล็กที่แท้ จริงเท่ านั้นที่สามารถใช้ งาน
ได้ ดุจดังแขนขา

ด้ วยพลังทาลายมหาศาลของไรเฟิ ลแรงดันไอน้า แรงดีดย่ อมสู ง


เป็ นเงาตามตัว
เมื่อรวมเข้ ากับกล้องเล็งระดับสู ง ประสิ ทธิภาพของมันจึงด้ อย
กว่ าสไนเปอร์ ไรเฟิ ลบนโลกเก่าไม่ มาก

“อะไรนะ?”

ลุงนีลล์หรี่ตาลงและกวาดสายตาไปรอบตัว มันตกตะลึงทันที
หมายความว่ านี่ไม่ ใช่ เหตุการณ์ ปรกติ

“คงมีเหตุร้ายเกิดขึน้ ที่นี่”

เหตุร้าย?

ไคลน์ พยายามสารวจรอบตัวอย่ างถี่ถ้วน มันพบกับชายลักษณะ


คล้ายกันอีกสองสามคนกาลังถือไรเฟิ ลแรงดันไอน้ากาลังพยายาม
ค้ นหาบางสิ่ ง

“เกิดอะไรขึน้ กันแน่ ?”

ลุงนีลล์รีบเดินไปใกล้ผับมังกรชั่วพร้ อมกับเอ่ยปากถามชายบึก
บันที่ยืนเฝ้าประตูออกด้ านนอก

ชายชรารู้จักลุงนีลล์ดี มันเพียงอมยิม้
“ผับแห่ งนีเ้ กือบถูกทาลาย
“จู่ๆ ก็มีคนที่ถูกหมายจับมาเดินซื้อของและถูกจดจาใบหน้ าได้
นั่นคือจุดเริ่มต้ นหายนะทั้งหมด ให้ ตายสิ พระเจ้ าวายุ! หมอนั่นทา
อะไรลงไปกันแน่ ? ต้ องเป็ นคดีร้ายแรงแค่ ไหนถึงถูกลงมือรุนแรง
เช่ นนี?้

“แค่ ได้ เห็นปื นแรงอัดไอน้าก็ทาเอาฉันขาอ่อนปวกเปี ยกไปหมด


อ่อนยิ่งกว่ าการใช้ เวลาทั้งคืนกับมิสซันนี่เสี ยอีก”

คนเฝ้าร้ านไม่ ร้ ูจักบุคคลในหมายจับ และที่มันไม่ ร้ ูยิ่งกว่ าคือ การ


ที่มีผ้ วู ิเศษผ่ านเข้ าออกผับแห่ งนีเ้ ป็ นว่ าเล่นมานานหลายปี

“คนในหมายจับ? ชื่ ออะไร?”

ลุงนีลล์ถามสนใจ

“ทริสหรื ออะไรสั กอย่ างนี่แหละ”

ชายบึกบันตอบลังเล

นักกระตุ้น·ทริส? ไคลน์ พยักหน้ าเบาๆ มันเข้ าใจสถานการณ์


ทันที

ทริสย่ อมไม่ ทราบว่ าตัวเองถูกจอยซ์ ·ไมเยอร์ แจ้ งความและออก


หมายจับ จึงเดินทางมาที่นี่เพื่อซื้อของตามปรกติ
บุคคลที่เห็นตัวเข้ าคงเป็ นหนึ่งในสายสื บของหน่ วยจิตแห่ ง
จักรกลหรื อไม่ ก็เหยี่ยวราตรี ส่ งผลให้ เกิดการปะทะรุนแรงระหว่ าง
ผู้วิเศษ

“แล้วจับกุมสาเร็จไหม?”

ไคลน์ ถามพร้ อมกับใช้ ไม้ คา้ เลี่ยมเงินเคาะพื้นเบาๆ

หากประเมินจากสภาพแวดล้อมแล้ว…

คงจะยัง

ชายบึกบันส่ ายศีรษะเบาๆ พลางใช้ ปลายคางชี้ไปบนหลังคาและ


กล่าวต่ อ

“หมอนั่นไหวตัวทันและรีบวิ่งหนีก่อนที่จะกาลังถูกจับกุมตัว
สาบานได้ เลย ตั้งแต่ เกิดมาในชีวิต ฉันไม่ เคยเห็นใครวิ่งเร็วขนาดนี้
มาก่อน!”

นายยังไม่ เคยเห็นนักลอบสั งหารตัวจริงมากกว่ า หรื อไม่ ก็เป็ น


พวกใช้ คาเปรียบเปรยได้ ห่วยแตก

ไคลน์ อมยิม้
“แล้วตลาดยังเปิ ดไหม?”

ลุงนีลล์เปลี่ยนหัวข้ อสนทนา

“เปิ ด แต่ บางจุดกาลังซ่ อมแซม”

ชายบึกบันตอบกลับอย่ างมั่นใจ

“ค่ อยยังชั่ว”
ลุงนีลล์เร่ งฝี เท้ าและใช้ มือขวาผลักบานประตูเข้ าไปด้ านใน

ไคลน์ ตามติดไม่ ห่าง แต่ มันเกือบสลบคาทีจากกลิ่นเหม็นฉุนของ


แอลกอฮอล์

ใจกลางผับมังกรชั่วเป็ นเวทีมวยขนาดย่ อม นักชกสองคนกาลัง


แลกหมัดดุดเดือดโดยมีผ้ ชู มส่ งเสี ยงตะโกนไม่ ขาดสาย

ลุงนีลล์เมินเฉย มันนาไคลน์ อ้อมเวทีมวยเข้ าไปในห้ องบิลเลียด


ด้ านหลัง

เมื่อเดินเข้ าไป มีชายสองคนกาลังยืนสนทนา คนหนึ่งถือไม้ สอย


คิวไว้ ในมือ หลังจากเห็นลุงนีลล์ ทั้งคู่เงียบงันนานหลายวินาที
เมื่อยืนยันแล้วว่ าอีกฝ่ ายไม่ ได้ หลงเข้ ามาโดยบังเอิญ ชายคนหนึ่ง
หลีกทางให้ ไคลน์ และลุงนีลล์เดินผ่ านเข้ าไปประตูลับด้ านหลัง

ผ่ านประตูแล้วประตูเล่า จนกระทั่งประตูบานสุ ดท้ ายเปิ ดออก


ไคลน์ ได้ พบกับห้ องโถงกว้ างขนาดราวหอประชุมรวมของ
นักศึกษามหาวิทยาลัยบนโลกเก่า

พ่อค้ าบางรายวางขายสิ นค้ าบนพื้นโดยผ้ าปูรอง ประเภทสินค้ าที่


ขายมีจาพวกขวดและกระป๋องวัตถุดิบ

ผู้คนเดินผ่ านไปผ่ านมา หากใครสนใจก็หยุดแวะหยิบจับเพื่อ


สารวจราคาหรื อไต่ ตาม บางคนก็วิเคราะห์ สินค้ าอย่ างละเอียด

“รายได้ การซื้อขาย 5% จะตกเป็ นของ‘สเวย์ น’ หัวหน้ าใหญ่


ของที่นี่ เขาคืออดีตกัปตันหน่ วยทูตพิพากษาและมีอายุมากกว่ าฉัน
เป็ นคนแก่ประเภทที่ดื่มหนักประหนึ่งหวังให้ ตัวเองตายเพราะพิษ
สุ ราเข้ าสั กวัน”

ลุงนีลล์สาธยายเรื่ อยเปื่ อย

ไคลน์ กล่าวในสิ่ งที่คิด

“รูปแบบธรุกิจน่ าสนใจดี”

แต่ เหนือสิ่ งใด เจ้ าของสถานที่ต้องเรียกลูกค้ าให้ ได้ แถมยังต้ อง


คอยมอบความปลอดภัยกับคนขาย
“หากมีสิ่งของที่อยากได้ เดี๋ยวนั้นแต่ ดันมีเงินไม่ พอ เจ้ าสามารถ
กู้ยืมจากสเวย์ นก่อนได้ แต่ หมอนั่นคิดดอกเบีย้ สู งลิบ…”

ลุงนีลล์กล่าวพลางขบกรามแน่ น

เป็ นอย่ างที่คิด คล้ายกับคาสิ โน่ ที่อนุญาตให้ ลูกค้ าสามารถกู้เงิน


มาลงพนัน…

ไคลน์ กวาดสายตามองไปรอบๆ พร้ อมกับตั้งคาถามใหม่

“มิสเตอร์ สเวย์ นเป็ นกะลาสี ใช่ ไหม?”

หัวหน้ าด้ วยทูตพิพากษา อย่ างน้ อยก็ต้องเป็ นผู้วิเศษลาดับเจ็ด

“ไม่ เลย เป็ นแค่ บ้นั ปลายผู้ระเบิดโทสะ

“ทิงเก็นไม่ ใช่ เมืองชายฝั่ง ไม่ แปลกที่โบสถ์ รัตติกาลจะทรงพลัง


กว่ าโบสถ์ วายุสลาตัน”

ลุงนีลล์เหยียดหยันเล็กๆ

“อันที่จริง สเวย์ นแข็งแกร่ งพอจะเลื่อนระดับได้ แต่ เขาเลือก


ปฏิเสธเพราะกลัวอาการคลุ้มคลั่ง”
ขณะไคลน์ กาลังจะถามว่ า หัวหน้ าสเวย์ นคนนั้นเคยมีสัญญาณ
บ่ งชี้การคลุ้งคลั่งแจ้ งเตือนบ้ างหรื อยัง ชายหนุ่มสั มผัสความแปลก
ประหลานได้ จากทางซ้ ายมือ

ใครบางคนกาลังพึมพาและพล่ามบางสิ่ ง

เมื่อหันไปมอง ไคลน์ เห็นชายหนุ่มผิวขาวซีดที่มีแววตาคล้ายกับ


คนเสี ยสติ มันสวมเสื้ อลินินเก่าและกางเกงยีนส์ แบบคนงาน ปาก
กาลังพะงาบบางสิ่ งโดยไม่ หยุดพัก
“สั มผัสวิญญาณเฉียบแหลมมาก… หรื อว่ าจะสู งจนทาให้
เจ้ าของร่ างเสี ยสติไปแล้ว?”

ไคลน์ ขมวดคิว้

สั มผัสวิญญาณของชายคนนี้สูงจนรบกวนสั มผัสวิญญาณของ
ตัวเองอย่ างนั้นหรื อ?

โดยทั่วไป สั มผัสวิญญาณที่สูงส่ งไม่ เพียงสามารถรับรู้ถึงตัวตน


ของวิญญาณได้ แต่ จะมี‘ปฏิสัมพันธ์ ’บางสิ่ งกับวิญญาณด้ วย

ปฏิสัมพันธ์ ดังกล่าวสามารถตรวจพบได้ จากบุคคลภายนอก

แต่ บุคคลภายนอกที่ว่าต้ องเป็ นระดับผู้สื่อวิญญาณขึน้ ไป หรืื อไม่


ก็ผ้ วู ิเศษลาดับสู งทัดเทียมครึ่งเทพเท่ านั้น
สาหรับไคลน์ มันมองไม่ เห็นปฏิสัมพันธ์ ทางวิญญาณของชาย
คนนี้ เพียงแต่ ทราบว่ าอีกฝ่ ายมีสัมผัสวิญญาณสู งลิบลิ่ว สู งถึง
ขนาดที่อาจทาให้ เจ้ าตัวเสี ยสติหากเป็ นเพียงคนธรรมดา

เมื่อสายตาประสานกัน ชายหนุ่มผมดายุ่งเหยิงรีบเดินมาหยุด
ตรงหน้ าไคลน์ ในสภาพกึ่งละเมอกึ่งเสี ยสติ

จากนั้นก็จ้องไคลน์ เขม็ง
ก่อนจะหัวเราะคล้ายคนบ้ า

“ฮะฮะ! ข้ าสั มผัสได้ ถึงกลิ่นสาปมรณะจากเจ้ า! กลิ่นของคน


ตาย… อ๊ากกก!”

ก่อนจะได้ กล่าวสิ่ งใดจบ ชายหนุ่มปริศนาแหกปากร้ องลั่นพร้ อม


กับของเหลวสี แดงที่ไหลออกจากดวงตา

“อ๊ากกก! บัดซบ!”

มันใช้ สองมือกุมเบ้ าตาพร้ อมกับลงไปเกลือกกลิง้ บนพื้น กว่ าจะ


สงบลงต้ องใช้ เวลาสั กพัก

ชายเสี ยสติเริ่มหายใจหอบเสี ยงดัง


ตั้งแต่ เริ่มจนจบ ไม่ มีลูกค้ าหรื อผู้ขายแม้ แต่ คนเดียวที่หันมา
เหลียวแล

ไคลน์ มองลุงนีลล์พลางกดหมวกทรงกึ่งสู งไว้ กับหน้ าอก สี หน้ า


ของมันแสดงออกชัดเจนว่ ากับกาลังตกตะลึง ปากอ้าค้ างไม่ หุบ
คล้ายกับรอคาแนะนาจากชายชรา

“ไม่ ต้องไปสนใจ หมอนั่นชื่ ออาเดมิทอร์ เป็ นเด็กกาพร้ าที่มีฉายา


ว่ า‘สั ตว์ ประหลาด’ เกิดมาพร้ อมสั มผัสวิญญาณแรงกล้า เห็นในสิ่ ง
ที่ไม่ ควรเห็น ได้ ยินในสิ่ งที่ไม่ ควรได้ ยิน บ่ อยครั้งจะวิ่งไปแหกปาก
ตรงหน้ าลูกค้ าและได้ รับบาดเจ็บเสี ยเอง”

ลุงนีลล์อธิบายพลางส่ ายหัว

กลิ่นสาปมรณะ? หรื อหมอนีส่ ามารถบอกได้ ว่าร่ างของเราเคย


ตายไปแล้วหนหนึ่ง?

ไคลน์ ขมวดคิว้ มันถามใคร่ ร้ ู

“แล้วทาไมเหยี่ยวราตรี ทูตพิพากษา หรื อจิตแห่ งจักรกลถึงไม่


นาตัวไปฝึ กฝนหรื อเยียวยาให้ เป็ นเรื่ องเป็ นราว?”

“พวกเราไม่ มีโอสถที่เหมาะกับเขา”
ลุงนีลล์ถอนหายใจ
นั่นสิ นะ เด็กคนนีเ้ กิดมาพร้ อมกับพลังผู้วิเศษลาดับเก้าครึ่ง
จาเป็ นต้ องดื่มโอสถบนเส้ นทางเดียวกันเท่ านั้น…

ไคลน์ ถามต่ อ

“แล้วเขาเหมาะกับเส้ นทางไหน?”

“ลาดับเก้ามีชื่อว่ าสั ตว์ ประหลาด เหมือนกับฉายาได้ รับ องค์ กร


เดียวที่ถือครองเส้ นทางสั ตว์ ประหลาดคือโรงเรียนแห่ งชีวิต”

ลุงนีลล์เริ่มกล่าวเสี ยงเบาลง มันไม่ ต้องการให้ ข้อมูลรั่วไหลไปยัง


กลุ่มคนที่คลั่งไคล้ศาสตร์ เร้ นลับ

โรงเรียนแห่ งชีวิต?

ไคลน์ ยังไม่ ลืม มันเพิง่ อ่านเอกสารองค์ กรลับไปไม่ นาน

โรงเรียนแห่ งชีวิตถูกก่อตั้งในต้ นยุคสมัยปัจจุบัน จุดกาเนิดยังไม่


ชัดเจน ทราบเพียงว่ า พลังและความรู้จะถูกส่ งต่ อรุ่นสู่ ร่ ุน

ยึดถือหลักปฏิบัติใดและบูชาเทพองค์ ใด เรื่ องนีย้ ังไม่ มีข้อมูลแน่


ชัด ทราบเพียงว่ าพวกมันแบ่ งแยกโลกออกเป็ นสามชั้ น
ประกอบด้ วยโลกสั จธรรมเที่ยงแท้ โลกวิญญาณ และโลกแห่ งสสาร
มีข่าวลือหนาหูว่า โรงเรียนพวกมันเคยมีเทพพยากรณ์ ถือกาเนิด
ขึน้ หนึ่งคน… แบบนีไ้ ม่ ได้ แปลว่ าถือครองเส้ นทางนักทานายไว้
หรื อ?

น่ าสงสั ยมาก

ไคลน์ ส่ายศีรษะ มันมีข้อมูลไม่ มากพอจะสรุปเรื่ องราว สายตา


ชาเลืองมองอาเดมิทอร์ ตะเกียกตะกายลุกยืนและหนีไปหลบที่มุม
อื่นของตลาด
ชายหนุ่มจัดเรียงความคิดใหม่ พลางเดินตามหลังลุงนีลล์ผ่าน
หน้ าร้ านแล้วร้ านเล่าที่ขายของพื้นฐานจาพวกบุปผาจันทร์ ตระ
ไคร้ หอม วานิลลาราตรี รวมถึงโลหะและอัญมณีอย่ างเงิน บุษราคัม
ทับทิม

“สิ นค้ าค่ อนข้ างครบครันทีเดียว…”

ไคลน์ กล่าวเสี ยงค่ อย

ผู้คลั่งศาสตร์ เร้ นลับทุกเพศทุกวัยกาลังเดินขวักไขว่ เนืองแน่ น


ตลาด เกิดเป็ นบรรยากาศเอะอะวุ่นวายเล็กๆ

“เจ้ าเดินเล่นไปก่อน ฉันจะไปชาระหนี”้


ลุงนีลล์ชี้นวิ้ ไปยังบานประตูคู่สุดทางเดินยาวของตลาด
“ได้ ครับ”

ไคลน์ พยักหน้ ารับ จากนั้นก็เดินดูสินค้ าไปเรื่ อยๆ จนกระทั่งหยุด


ยืนหน้ าร้ านขายเครื่ องรางทาเอง มันจ้ องมองอย่ างสนอกสนใจ

ขณะกาลังจะเอ่ยปากถามคนขาย ไคลน์ ได้ ยินใครบางคนส่ งเสี ยง


ถามจากด้ านหลัง

“นั่นใช่ ผงดอกโบตั๋นฟันวัวไหม?”

ดอกโบตั๋นฟันวัว? หนึ่งในวัตถุดิบผสมโอสถผู้ชมไม่ ใช่ หรื อ?


ไคลน์ รีบหันมองตามต้ นเสี ยง

มิสจัสตินทวนสู ตรโอสถบ่ อยครั้งเสี ยงดัง ไม่ แปลกที่ไคลน์ จะ


จดจาได้ แม่ นยาเป็ นพิเศษ บางทีอาจแม่ นกว่ าโอสถนักทานายของ
ตัวเองด้ วยซ้า
ราชันย์ เร้ นลับ 69 : เครื่ องราง

ไคลน์ หันไปมองบุคคลที่ถามถึงผงดอกโบตั๋นฟันวัว

บุรุษดังกล่าวยืนห่ างจากมันไม่ ถึงหนึ่งเมตร สวมสู ทดาและ


หมวกทรงกึ่งสู งสี เดียวกัน ในมือถือไม้ คา้ เลี่ยมเงิน บนใบหน้ ามี
แวนตากรอบทอง จัดเป็ นคนบุคลิกค่ อนข้ างเนี๊ยบ

“ใช่ แล้ว จะเอาหรื อ? กระป๋องละสามซูล”

เจ้ าของร้ านสวมชุ ดคลุมยาวสี ดา มอบกลิ่นอายเร้ นลับเหนือ


ธรรมชาติ

ลูกค้ าคนเดิมที่มีจอนสี เหลืองอ่อน มันครุ่นคิดสั กพักก่อนจะ


ต่ อรอง

“ถูกลงอีกนิดได้ ไหม? ผมอยากได้ สินค้ าอื่นด้ วย อย่ างเช่ นขวด


กลีบทานตะวันขอบขาว”

พ่อค้ าแผงลอยขมวดคิว้ เล็กๆ ก่อนตอบ

“สองซูลหกเพนนี ไม่ มีที่ไหนขายถูกกว่ านีอ้ ีกแล้ว”


ไคลน์ ผ่อนคลายลงเล็กน้ อย ตนคงคิดมากไปเอง ลูกค้ าคน
ดังกล่าวยังซื้อสิ นค้ าชื่ นอื่นที่ไม่ เกี่ยวข้ องกับโอสถผู้ชม

แต่ เพื่อความแน่ นอน ชายหนุ่มแตะหว่ างคิว้ สองครั้งและหันไป


มองบุรุษมาดเนี๊ยบ

ไร้ ที่ติ… สุ ขภาพสมบูรณ์ แบบ จิตใจสดใจร่ าเริง

มิสเตอร์ รักษาร่ างกายแบบนี้เอาไว้ นานๆ นะครับ…

ไคลน์ เลิกสนใจ มันหันกลับมาจดจ่ อเครื่ องรางทาเองอีกครั้ง

เครื่ องรางหลายชิ้นถูกวางเรียงบรรจงเบื้องหน้ า มีท้ังที่ทาจาก


เงินแท้ ผสมเหล็กกล้า หรื อบางชิ้นมีส่วนประกอบของทอง

มีสองถึงสามชิ้นที่แผ่ แสงออร่ าอ่อนๆ ออกมา ประกอบด้ วยแดง


เข้ ม ขาวซีด และเหลืองอ่อน

หมายความว่ า พวกมันมีพลังวิญญาณแฝงอยู่เจือจาง และ


สามารถนามาใช้ งานได้ จริง

หลังจากไคลน์ พจิ ารณาเครื่ องรางทุกชิ้นที่เหลือ มันพอจะเห็น


เค้ าลางว่ า เจ้ าของร้ านคงมีความรู้ด้านศาสตร์ เร้ นลับใน
ระดับพื้นฐาน
เครื่ องรางอาจถูกประกอบอย่ างตั้งใจ มีการจับคู่พลังวิญญาณ
และวัสดุโลหะได้ ถูกต้ องทุกชิ้นก็จริง

แต่ ในฐานะผู้คลั่งศาสตร์ เร้ นลับทั่วไป ความผิดพลาดจึงปรากฏ


ให้ เห็นเป็ นเรื่ องปรกติ ไคลน์ สัมผัสได้ ว่า เครื่ องรางเหล่านีเ้ กิดจาก
การท่ องคาถาภาษาเฮอร์ มิสที่ไม่ ถูกหลัก

คาถาคือสิ่ งสาคัญที่ห้ามท่ องผิด แต่ เจ้ าของร้ านบกพร่ องด้ านการ


จับคู่คาถากับพลังวิญญาณอย่ างชัดเจน

จุดผิดพลาดอื่นยังมีให้ เห็น เช่ นสั ญลักษณ์ ลงบนเครื่ องรางที่ไม่


สั มผัสกับแหล่งพลังวิญญาณ จากบรรดาเครื่ องรางหลายสิ บ จึงมี
แค่ สองถึงสามชิ้นที่สามารถแผ่ แสงออร่ า

และสองสามชิ้นที่กล่าวถึง พลังวิญญาณของพวกมันก็มิได้ สูงส่ ง


แต่ อย่ างใด ระดับแค่ พอใช้ มีไว้ ดีกว่ าไม่ มี

การจะสร้ างเครื่ องรางที่มีประสิ ทธิภาพสู ง จาเป็ นต้ องใช้


ช่ างฝี มือที่ชานาญ บุคคลเหล่านั้นสามารถแผ่ พลังวิญญาณออกจาก
ปลายมีดขณะทาการสลักสั ญลักษณ์

หรื อหากต้ องการให้ เครื่ องรางมีอานาจเพิม่ ขึน้ อีกหนึ่งทางเลือก


คือเสริมพลังวิญญาณด้ วยพิธีกรรมเวทมนตร์

และสองอย่ างหลัง มนุษย์ ธรรมดาไม่ สามารถกระทาได้ แน่ นอน


เมื่อสารวจเสร็จสิ้น ไคลน์ แตะหว่ างคิว้ เพื่อออกจากภาวะเนตร
วิญญาณ

“สองอันนีเ้ ท่ าไรครับ?”

ชายหนุ่มมิได้ ถามถึงเครื่ องรางที่ส่องแสงรวยระริน แต่ เป็ น


เครื่ องรางชิ้นที่ยังประกอบไม่ เสร็จ ยังไม่ ถูกสลักด้ วยสั ญลักษณ์

เป้าหมายของมันไม่ ใช่ การซื้อเครื่ องรางพลังอ่อนแอ แต่ ต้ังใจจะ


ประกอบเครื่ องรางให้ เสร็จสมบูรณ์ ด้วยฝี มือตนเอง

หืม… เราควรสร้ างเครื่ องรางป้องกันตัวสาหรับเบ็นสั นและเมลิ


สซ่ าอย่ างละชิ้น

ในส่ วนของเรา วัสดุสามารถเบิกได้ จากคลังของเหยี่ยวราตรี…


ตัวเราชักจะเหมือนลุงนีลล์เข้ าไปทุกวัน ไม่ ร้ ูสึกผิดเลยสั กนิดใน
ตอนที่คิดเรื่ องแบบนี้

ไคลน์ ขบคิดเรื่ อยเปื่ อยขณะเจ้ าของร้ านก้มหยิบเครื่ องรางเงิน


ไม่ สมูบณ์ สองชิ้น

เครื่ องรางเงินชิ้นแรกมีลักษณะยาวและเป็ นหลุมตรงกลาง ขอบ


รอบนอกสลักด้ วยลวดลายขนนกงดงามคล้ายกับปี กนางฟ้ า
นับเป็ นงานฝี มือที่น่าทึ่ง
ส่ วนอีกอันนั้นตรงข้ าม รูปลักษณ์ ภายนอกค่ อนข้ างราบเรียบ
ธรรมดา แทบไม่ มีการสลักลวดลายหรื อตกแต่ งลงไป มีเพียงร่ อง
เส้ นตรงแนวตั้งที่แสดงถึงกลางคืน และวงกลมที่แสดงถึงดวง
จันทร์

ไคลน์ ชื่นชอบรูปลักษณ์ มันหลงเสน่ ห์เครื่ องรางสองชิ้นนี้


มากกว่ าที่เหลือ

“อันนีห้ กซูล”
เจ้ าของร้ านวัยกลางคนกล่าวขณะชี้นวิ้ ไปยังเครื่ องรางที่ถูกสลัก
ขนนก ท่ าทีคล้ายกับเป็ นคนไม่ พูดมาก

มันหยุดครู่หนึ่ง ก่อนจะใช้ มือลูบคลาเครื่ องรางชิ้นที่เรียบง่ าย

“อันนีห้ ้ าซูลสามเพนนี”

“แพงเกินไปแล้ว พวกมันไม่ ใกล้เคียงกับการเป็ นเครื่ องราง


สมบูรณ์ เลยสั กนิด”

ไคลน์ ซึมซับนิสัยตระหรี่และชอบต่ อราคามาจากเบ็นสั นและเม


ลิสซ่ า

สงครามน้าลายดาเนินไปสั กพัก ในที่สุดชายหนุ่มก็ซื้อพวกมัน


ได้ ในราคาถูกลงเล็กน้ อย ชิ้นแรกเหลือห้ าซูลหกเพนนี ชิ้นที่สอง
เหลือสี่ ซูลเก้าเพนนี

แต่ ในปัจจุบัน พวกมันยังเป็ นแค่ เครื่ องประดับที่ทาจากเงิน…


ไคลน์ ยา้ เตือนตัวเอง

เงินออมที่ได้ จากการเบิกค่ าสมาชิกสโมสรพยากรณ์ จานวน10


ซูล 3 เพนนีถูกใช้ จ่ายออกไปอย่ างรวดเร็ว

ไคลน์ ยื่นมือรับเครื่ องรางสองชิ้นและเก็บไว้ ในกระเป๋าเสื้ อ ขณะ


กาลังจะเดินเปลี่ยนร้ าน มันได้ ยินเสี ยงใครบางคนไต่ ถาม

“มิสเตอร์ คะ ทาไมคุณถึงไม่ ซื้อเครื่ องรางสาเร็จรูป?”

เมื่อหันไปมอง ไคลน์ ได้ พบเด็กสาวผู้หนึ่ง เธอมีอายุราวสิ บห้ า


สวมเดรสลูกไม้ สีเหลืองอ่อนน่ ารักน่ าชัง มือข้ างหนึ่งจับหมวกตา
ข่ ายที่มีริบบิน้ สี เข้ าชุ ด

“ผมจะซื้อไปสร้ างเอง คุณก็ร้ ู นั่นเป็ นความฝันของผู้คลั่งไคล้


ศาสตร์ เร้ นลับทุกคน”

ไคลน์ ตอบโป้ปดฉะฉาน

มันไม่ ต้องการให้ เจ้ าของร้ านมองว่ าตนกาลังคิดแย่ งประกอบ


อาชีพ ถึงภายในใจลึกๆ จะต้ องการหาเงินจากช่ องทางดังกล่าวด้ วย
‘พลังพิเศษ’ก็ตาม
เด็กสาวปริศนามีผมสี น้าตาลอ่อนหยักโศกตามธรรมชาติ
ใบหน้ าอ่อนหวาน แก้มยุ้ยเล็กๆ เสริมความน่ ารัก ดวงตาใสซื่ อ

เธอเอ่ยปากถามอย่ างจริงใจ

“ช่ วยเลือกเครื่ องรางให้ ดิฉันได้ ไหมคะ? เอ่อ… ฉันรู้จักที่นี่


เพราะมีเพื่อนแนะนามา เคยเดินเที่ยวชมก็หลายหน งานอดิเรกชื่ น
ชอบศาสตร์ เร้ นลับมาก แต่ ไม่ ได้ เชี่ยวชาญสั กเท่ าไร
“ดิฉันเลือกเครื่ องรางไม่ เก่ง ต้ องการซื้อไปเป็ นของขวัญวันเกิด
ให้ เพื่อนสนิทคนดังกล่าว เธอกาลังจะมีอายุครบสิ บหกปี ในอีกไม่ กี่
วัน เหตุผลที่ไม่ ได้ พามาด้ วยเพราะต้ องการทาเซอไพรส์

“ฉันเคยขอคาแนะนาในการเลือกจากเธอหลายครั้ง แต่ ก็จับ


ใจความสาคัญไม่ ได้ สักที”

ไคลน์ อมยิม้ อบอุ่น

“ต้ องการเครื่ องรางแบบไหนหรื อ? ปัดเป่ าหายนะ? มอบความ


โชคดี?

“จุดประสงค์ ที่ต่างกันย่ อมหมายถึงพลังวิญญาณที่ต่างชนิด พลัง


วิญญาณแต่ ละชนิดต้ องท่ องคาถาเอ่ยพระนามเทพต่ างองค์ กันไป
และถ้ าเป็ นพระนามเทพต่ างองค์ ความนัยทางดาราศาสตร์ ย่อมไม่
เหมือนกัน โดยความนัยทางศาสตร์ จะสั มพันธ์ กับวัสดุโลหะที่
เลือกใช้ ประกอบเครื่ องราง

“ตัวอย่ างเช่ น หากต้ องการเครื่ องรางปัดเป่ าหายนะ คาถาที่สวดก็


ต้ องเอ่ยถึงจักรพรรดินีแห่ งหายนะอย่ างเทพธิดารัตติกาล

“ในฐานะผู้คลั่งไล้ศาสตร์ เร้ นลับ ทุกคนย่ อมทราบว่ าสั ญลักษณ์


ของเทพธิดาคือดวงจันทร์ ดวงจันทร์ หมายถึงโลหะเงินบริสุทธิ์

“ด้ วยเหตุนี้ หากต้ องการเครื่ องรางปัดเป่ าหายนะ เธอต้ องเลือก


เครื่ องรางเงินบริสุทธิ์ที่ท่องคาถาเอ่ยพระนามเทพธิดา…”

และต้ องเป็ นคาถาในภาษาเฮอร์ มิสเท่ านั้น แถมยังต้ องคานึงถึง


ตัวเลขมงคลและสั ญลักษณ์ ของจักรพรรดินีแห่ งหายนะ ต้ องคาถึง
ตาแหน่ งการวางสั ญลักษณ์ ให้ ถูกต้ อง…

รายละเอียดเหล่านีจ้ ะตกหล่นไม่ ได้ เด็ดขาด แต่ ฉันไม่ จาเป็ นต้ อง


อธิบายให้ เธอฟัง มันซับซ้ อนเกินไป…

ไคลน์ ราพันในใจ

แววตาเด็กสาวเริ่มส่ องประกาย เธอไต่ ถามด้ วยน้าเสี ยงใคร่ ร้ ู

“ผู้เป็ นสาวกเทพธิดารัตติกาลสามารถสวมใส่ เครื่ องรางของเทพ


โบสถ์ อื่นได้ ไหมคะ?”
“ไม่ มีปัญหา พระองค์ ไม่ ใส่ ใจกับเรื่ องเล็กแค่ นหี้ รอก”

ไคลน์ ให้ กาลังใจ

ปัญหาเหล่านั้นไม่ ได้ อยู่ที่ผ้ สู วม แต่ อยู่ที่ผ้ สู ร้ างเครื่ องราง


ต่ างหาก ถ้ าสาวกโบสถ์ วายุสลาตันลงมือสร้ างเครื่ องรางโดยท่ อง
คาถาถึงเทพสุ ริยัน มันอาจไม่ ได้ ผลลัพธ์ ที่ต้องการ

แต่ กระบวนการข้ างต้ นหมายถึงเครื่ องรางที่ต้องผ่ านพิธีกรรม


เวทมนตร์ สาหรับช่ างแกะสลักทั่วไป ความต่ างของโบสถ์ ไม่ ใช่
ปัญหา

เด็กสาวถอนหายใจโล่งอก

“ดิฉันต้ องการให้ เพื่อนมีสุขภาพแข็งแรง ควรเลือกเทพองค์ใด


หรื อคะ? เทพสุ ริยัน พระแม่ ธรณี หรื อเทพแห่ งความรู้และ
ปัญญา?”

“ได้ ท้งั เทพสุ ริยันและพระแม่ ธรณี ในเชิงดาราศาสตร์ เทพองค์


แรกหมายถึงดวงอาทิตย์ และองค์ หลังหมายถึงดาวน้าตาล”

ไคลน์ ยมิ้ ก่อนเสริมต่ อ


“วัสดุโลหะสาหรับดวงอาทิตย์ คือทอง ส่ วนดาวน้าตาลคือตะกัว
ฉันแนะนาให้ เลือกทอง แต่ นั่นก็ขนึ้ อยู่กับงบที่เตรียมมาด้ วย”

สาเหตุที่มันแนะนาทองเพราะ จากบรรดาสามเครื่ องรางที่แผ่


พลังวิญญาณอ่อนๆ หนึ่งในนั้นเป็ นเครื่ องรางสุ ขภาพซึ่งสร้ างจาก
โลหะทอง

“แบบนีน้ ี่เอง…”

เธอแสดงสี หน้ าครุ่นคิด สายตาชาเลืองมองเจ้ าของร้ านวัย


กลางคนที่รอคอยอย่ างใจเย็น

เด็กสาวหันมาถามไคลน์

“ถ้ าเลือกโลหะได้ แล้ว ดิฉันจะทราบได้ อย่ างไรว่ าเครื่ องรางชนิด


ใดสร้ างจากคาถาบทไหน?”

“เธออ่านเขียนเฮอร์ มิสได้ รึเปล่า?”

“เพิง่ เริ่มเรียนค่ ะ”

เด็กสาวแก้มยุ้ยตอบเขินอาย

“เดี๋ยวฉันเลือกให้ เอง”
ไคลน์ ชี้นวิ้ ไปยังเครื่ องรางทองที่แผ่ ออร่ าสี เหลืองอ่อน
“อันนีน้ ่ าจะได้ มันถูกสวดด้ วยคาถาที่เกี่ยวข้ องกับเทพสุ ริยัน
และสุ ขภาพ”

เด็กสาวยกชายกระโปรงขึน้ เล็กน้ อยก่อนจะนั่งยอง เธอใช้ มือ


หยิบเครื่ องรางสี ทองที่สลักลวดลายแสงอาทิตย์ ไว้ บริเวณขอบ

ในวินาทีที่ปลายนิว้ สั มผัส ร่ ายกายเด็กสาวพลันรู้สึกผ่ อนคลาย


ราวกับถูกโอบกอด
“ขอบคุณมากค่ ะ!”

เธอลุกขึน้ ยืนพร้ อมกับถอนสายบัวด้ วยกริยาชดช้ อย

ไคลน์ อมยิม้

“ทีเ่ หลือคุยกับเจ้ าของร้ านเองนะ ฉันมีบางสิ่ งต้ องรีบจัดการให้


เสร็จ”

ขณะกล่าว ชายหนุ่มชาเลืองมองเจ้ าของร้ านวัยกลางคนด้ วยหาง


ตา ใบหน้ าของมันกาลังบูดบึง้ คล้ายกับนึกเสี ยดายที่ลดราคาให้
ไคลน์

ไคลน์ ยังคงอมยิม้ มันไม่ คิดขัดขวางธุรกิจของผู้อื่นไปมากกว่ านี้


ชายหนุ่มเดินสารวจตลาดที่เหลือจนทั่ว แต่ ก็ไม่ พบ‘วัตดุดิบวิเศษ’
ซึ่งเป็ นส่ วนประกอบหลักในการปรุงโอสถ

ในเวลาเดียวกัน หลังจากลุงนีลล์ชาระหนีเ้ สร็จสิ้น มันเดินมาหา


ไคลน์ พร้ อมกับกล่องไม้ สีดาในมือ

เมื่อเห็นสี หน้ าสุ ดฉงนของชายหนุ่ม นีลล์ ชี้นวิ้ ไปยังบานประตูคู่


ด้ านหลังตลาด

“ถ้ าต้ องการซื้อขายวัตถุดิบวิเศษให้ เข้ าไปในห้ องนั้น ไม่ มีใคร


ต้ องการให้ ผ้ อู ื่นเห็นสิ นค้ าที่ตัวเองซื้อหรอกนะ”

“เข้ าใจแล้วครับ”

ไคลน์ พยักหน้ า

ตอนนีย้ ังไม่ ถึงเวลาต้ องไปสนใจวัตถุดิบวิเศษ มันยังไม่ เข้ าใกล้


การย่ อยโอสถเสร็จสมบูรณ์ ชายหนุ่มเดินตามลุงนีลล์ ไปยังทางออก
ตลาดมืดค้ าของวิเศษ

“บุปผาเอลฟ์ เท่ าไร?”

เสี ยงคนไต่ ถามราคาดังแว่ วข้ างหูไคลน์

บุปผาเอลฟ์ … นั่นก็ส่วนผสมโอสถผู้ชม
เมื่อหันไปมองตามต้ นเสี ยง มันได้ ผมชายต้ องสงสั ยมาดเนี๊ย
บคนเดิมอีกครั้ง

“มีอะไรงั้นหรื อ?”

ลุงนีลล์ถาม

“เปล่าครับ”

ไคลน์ เบือนหน้ ากลับ

ถึงจะเป็ นสมาชิกอย่ างไม่ เป็ นทางการของเหยี่ยวราตรี แต่ ไคลน์


ไม่ คิดว่ าโบสถ์ หลักจาเป็ นของผูกขาดผู้วิเศษเสมอไป ขึน้ อยู่กับ
สถานการณ์

ดังเช่ นเมื่อครู่ ต่ อให้ ชายคนนั้นกลายเป็ นผู้ชมจริง แต่ ปัญหาที่


เกิดขึน้ ในสั งคมมนุษย์ น้ ันน้ อยมากหากเทียบกับเส้ นทางอื่น และ
โอกาสที่ผ้ วู ิเศษลาดับเก้าจะคลุ้มคลั่งก็มีไม่ สูง

เมื่อออกจากผับมังกรชั่ว ไคลน์ และลุงนีลล์เดินมาขึน้ รถม้ าที่


สถานีท่าเรื อ ก่อนที่แต่ ละคนจะแยกย้ ายกลับบ้ านของตัวเอง
รถม้ าสาธารณะคันที่ไคลน์ นั่งกาลังมุ่งตรงไปยังถนนดารารัตน์
ระหว่ างทางรับผู้โดยสารขึน้ มาอีกหลายราย

จนกระทั่ง ขณะมันกาลังจะลงรถ สายตาไคลน์ ชาเลืองเห็นเด็ก


สาวผู้หนึ่งที่สวมเดรสเทาหม่ น

เส้ นผมดาขลับ ใบหน้ ากลมกลึง ดวงตาเรียมคม กริยามารยาท


เรียบร้ อย ขณะเดียวกันก็มอบบรรยากาศอ่อนหวานนุ่มนวล

สาเหตุที่ไคลน์ สนใจไม่ ใช่ เพราะความงาม หากแต่ เป็ นอาการสั่ น


เทาเล็กๆ ตลอดเวลาที่เกิดขึน้ กับเธอ มันผิดธรรมชาติอย่ างมาก

“มิส คุณเป็ นอะไรรึเปล่า?”

ไคลน์ ถามกังวล

เด็กสาวรีบส่ ายศีรษะ

“ไม่ ค่ะ ค…แค่ เหนื่อยนิดหน่ อย”

ในเวลาเดียวกัน ผู้โดยสารด้ านหลังไคลน์ ส่งสั ญญาณกดดันให้


รีบเดินไปข้ างหน้ า ชายหนุ่มจึงไม่ มีทางเลือกนอกจากเร่ งฝี เท้ า
เพื่อให้ ไม่ เป็ นที่เกะกะ

เมื่อเดินผ่ านไปเล็กน้ อย มันรีบแตะหว่ างคิว้ สองครั้งและมีแผน


จะสารวจออร่ าเด็กสาวปริศนาคนดังกล่าว ถ้ าหากเธออาการย่าแย่
บางทีอาจต้ องนาตัวส่ งโรงพยาบาลโดยเร็ว

เมื่อเนตรวิญญาณทางาน สี ออร่ าบนร่ างมนุษย์ เริ่มปรากฏให้ เห็น


ไคลน์ เหลียวหลังกลับโดยหวังตรวจสอบอาการผิดปรกติของเด็ก
สาวหน้ ากลม
ราชันย์ เร้ นลับ 70 : การมาถึงของ 2-049

กร่ อก กร่ อก กร่ อก

ม้ าเริ่มเร่ งฝี เท้ าออกจากสถานี ล้อใต้ ห้องโดยสารหมุนเคลื่อนตัว


ตามไปติดๆ

ไคลน์ หวังจะตรวจสอบสี ออร่ าของเด็กสาวใบหน้ ากลม แต่ มิอาจ


บรรลุผลลัพธ์ ที่ต้องการได้ เพราะคนจากสถานีดารารัตน์ เดินสวน
ขึน้ ห้ องโดยสารจนบดบังการมองเห็น

เมื่อผู้โดยสารขึน้ รถครบ ประตูห้องโดยสารจึงปิ ดสนิทและรถม้ า


แล่นออกไป

ถึงจะเห็นสี ออร่ าทะลุผ่านผนังรถม้ า แต่ ชายหนุ่มไม่ สามารถ


แยกแยะได้ ว่าออร่ าสี ไหนเป็ นของใคร

มันส่ ายศีรษะอย่ างจนปัญญาพร้ อมกับออกจากภาวะเนตร


วิญญาณ ถึงจะไม่ ชอบยุ่งเรื่ องชาวบ้ านนัก แต่ หากมีคนกาลัง
เดือดร้ อนก็ควรยื่นมือช่ วยเหลือ

ทว่ าสถานการณ์ ของเธอยังไม่ แน่ ชัด และตนไม่ สามารถย้ อนเวลา


กลับไปแก้ไขอะไรได้ มันควรรีบกลับไปจัดการธุระส่ วนตัวที่บ้าน
ปัจจุบันค่ อนข้ างมืด ท่ ามกลางแสงจันทร์ สีแดงสาดส่ อง ไคลน์
เดินผ่ านถนนดารารัตน์ ที่ยังเนื องแน่ นด้ วยผู้คน

เมื่อถึงบ้ านโมเร็ตติ มันเปิ ดประตูเข้ าไปพบเมลิสซ่ านั่งก้ มหน้ า


ทาการบ้ านภายใต้ โคมไฟ

เด็กสาวใช้ ปากกัดด้ ามปากกาหมึกซึมพลางขมวดคิว้ คล้ายกับ


กาลังเค้ นสมองขบคิดอย่ างหนัก

“เบ็นสั นอยู่ไหน?”

ไคลน์ ถาม

“อ๊ะ…”

เมลิสซ่ าเงยหน้ าผงะ ก่อนจะได้ สติกลับมาในอีกสองสามวินาที

“กาลังอาบน้า ได้ ยินว่ าวันนี้ต้องตระเวนเดินทางข้ ามเขตทั้งวัน


จนเหงื่อชุ่ มร่ างกาย”

“ขอบใจ”

ไคลน์ ยิม้ ทันใดนั้น มันเหลือบเห็นเมลิสซ่ ากาลังสวมชุดเดรสที่


ตนไม่ ค้ นุ เคย
เดรสทั้งตัวถูกถักทอจากผ้ าสี เบจ (น้าตาลอ่อน) ชายกระโปรงถัก
ลูกไม้ เล็กๆ เข้ ากับยุคสมัย คอเสื้ อพับจีบบาง ส่ วนอื่นๆ ก็ตาม
มาตรฐานชุ ดออกงานทางการของสุ ภาพสตรี ค่ อนข้ างเป็ นที่นิยม
สาหรับเด็กสาววัยสิ บหกสิ บเจ็ด

“ชุดใหม่ หรื อ?”

ไคลน์ ถามอมยิม้ มันดีใจที่เมลิสซ่ ายอมฟังข้ อเสนอของตน


และเบ็นสั น
เด็กสาวตอบห้ วน

“เพิง่ เอามาจากมาดามร็อชเชอร์ ในเมื่อต้ องซักอยู่แล้ว เลย


ทดลองใส่ ดูก่อน”

ไคลน์ ค่อนข้ างประหลาดใจ

“มาดามร็อชเชอร์ ?”

เพื่อนบ้ านเก่าสมัยยังอยู่ที่ถนนทางเขนเหล็กไม่ ใช่ หรื อ?

เมลิสซ่ าพยักหน้ าตอบเสี ยงขึงขัง

“อันที่จริง มาดามร็อชเชอร์ เป็ นช่ างตัดเย็บฝี มือดี เพียงแต่ โชค


ร้ ายไปหน่ อย เธอไม่ สามารถไล่ ตามความฝันของตัวเองที่จะเปิ ด
ร้ านขายชุด ทาได้ เพียงรับซ่ อมแซมชุดเก่าไปวันๆ ที่บ้าน ชีวิต
ค่ อนข้ างน่ าสงสาร…

“จากที่เคยคุยกัน ฉันทราบดีว่าฝี มือของเธอยอดเยี่ยม และการ


สั่ งตัดโดยตรงจะทาให้ ฉันได้ ชุดไซส์ พอดีตัว แถมราคายังถูกกว่ า
ปรกติหลายเท่ า

“เสื้ อผ้ าแบบนี้ ถ้ าซื้อในห้ างแฮร็อดส์ ราคาจะไม่ ต่ากว่ าสาม


ปอนด์ ครึ่งแน่ แต่ เธอเรียกเก็บเงินเพียงเก้าซูลเท่ านั้น และยังใช้ เวลา
ตัดชุดแค่ สามวัน”

ตระหนี่ฉิบ… น้ องสาวที่น่ารัก พีท่ ราบดีว่าเธอทาแบบนีเ้ พราะ


สงสารมาดามร็อชเชอร์

ไคลน์ มิได้ ต่อว่ าเมลิสซ่ าที่เปลี่ยนแผนด้ วยตัวเอง เพียงย้ อนถาม


กลับด้ วยรอยยิม้

“แล้วเธอเคยไปแฮรอดส์ มาเมื่อไร?”

ห้ างดังกล่าวตั้งอยู่บนถนนฮาเวิส ใกล้กับสโมสรพยากรณ์ ถือ


เป็ นย่ านจับจ่ ายสาหรับชนชั้นกลาง

“…”
เมลิสซ่ าพลันอึง้ ก่อนจะได้ สติกลับคืนในอีกหลายสิ บวินาที
“เป็ นเพราะเซเลน่ ากับอลิธาเบธขอร้ องต่ างหาก! พวกเธอ
คะยั้นคะยอให้ ฉันไปเป็ นเพื่อนให้ อันที่จริง ฉันชอบเฟื องกับน็อ
ตมากกว่ า และชอบที่ๆ มีเครื่ องจักร…”

“ไม่ ได้ ว่าอะไร ดีเสี ยอีก เป็ นผู้หญิงทั้งทีต้องรู้จักเดินห้ างบ้ าง”

ไคลน์ กล่าวชม

หลังจากพูดคุยเรื่ องเปื่ อยอีกสั กพัก ชายหนุ่มเดินขึน้ ไปอาบน้าที่


ชั้นสอง มันหวังขจัดกลิ่นอันไม่ พงึ ประสงค์ หลายชนิดที่ติดมาจาก
ผับและตลาดมืด

ขณะกาลังเดินกลับเข้ าห้ อง มันได้ ยินเสี ยงฝี เท้ าใครบางคนกาลัง


ตรงมายังทางเดิน

ไคลน์ หยุดรอ สองสามวินาทีถัดมา มันเห็นเบ็นสั นเปิ ดประตู


ออกมา หน้ าผากพีช่ ายคนโตบ้ านโมเร็ตติเริ่มเถิกล้านขึน้ ทุกวัน

“เป็ นยังไงบ้ าง? นายชมเดรสของเมลิสซ่ าไปหรื อยัง?”

เบ็นสั นอมยิม้

“ลืมสนิท… เราแค่ คุยกันว่ าเธอไปเอาเดรสตัวนั้นมาจากไหน”


ไคลน์ ครุ่นคิดก่อนตอบด้ วยสี หน้ าสานึกผิด

เบ็นสั นส่ ายศีรษะตาหนิ

“นายมันพีช่ ายไม่ ได้ ความ… หลังจากได้ รับเดรสตัวนั้น เมลิสซ่ า


ต้ องการสวมมันมาก ทันทีที่ทานข้ าวและล้างจานเสร็จ เธอรีบใส่
อย่ างมีความสุ ข ไม่ ถอดจนกระทั่งตอนนี้…”

“ก็แค่ลองใส่ ไม่ ใช่ หรื อไง? ก่อนที่เดรสตัวนั้นจะถูกซักและลง


แป้งในตอนที่เธออาบน้า”

ไคลน์ ปฏิเสธทันควัน มันอ้างเหตุผลเดียวกับที่เมลิสซ่ าบอกตน

“ชิ…”

เบ็นสั นพ่นลมหายใจยาว

“อากาศร้ อนแบบนี้ แถมยังทากับข้ าวอยู่ในครัวนาน ไม่ แปลกที่


เมลิสซ่ าจะอาบน้าตั้งแต่ ก่อนทาการบ้ านแล้ว”

นั่นก็จริง… ไคลน์ พลันกระจ่ างหลังจากได้ ยินพีช่ ายอธิบาย

ทาตัวสมกับเป็ นเมลิสซ่ า… ไม่ ใช่ เรื่ องผิดสั กหน่ อยหากเป็ นคน


รักสวยรักงาม นั่นยิ่งดีเสี ยอีก ไม่ เห็นต้ องอ้างนั่นนี่ให้ พชี่ ายตัวเอง
เข้ าใจผิด
มุมปากไคลน์ กระตุกเล็กน้ อย มันเดินเข้ าห้ องนอนพลางส่ าย
ศีรษะ

ขณะกาลังอาบน้าอย่ างสบายใจ ชายหนุ่มได้ ยินเสี ยงใครบางคน


เคาะประตูหน้ าบ้ านดังมาจากชั้นล่าง

พนักงานเก็บค่ าแก๊ สจะมาเดือนละสองครั้งไม่ ใช่ หรื อ?

มาดามชาเดอร์ ข้างบ้ าน? ไม่ ใช่ แน่ หล่อนเป็ นพวกรู้จักมารยาท


ไม่ มีทางเคาะประตูบ้านคนอื่นในยามวิกาล

เมื่อหาคาตอบไม่ ได้ ไคลน์ รีบเช็ดตัวและแต่ งกายด้ วยชุดนอนเก่า


ที่สวมสบาย ก่อนจะเดินลงมาชั้นล่าง

เมื่อกวาดสายตามอง ชายหนุ่มพบว่ าไม่ มีแขกมาเยือนแม้ แต่ คน


เดียว

“เสี ยงใครเคาะประตู?”

เบ็นสั นกาลังอ่านหนังสื อพิมพ์ มันเงยหน้ าอธิบาย

“บิช·เมาท์ บัตเท่ น หนึ่งในตารวจสายตรวจที่คอยดูแลย่ านกาง


เขตเหล็ก มันถามว่ าพวกเราเคยเห็นเด็กชายวัยประมาณสิ บแปดปี
ใบหน้ ากลมกลึงบ้ างหรื อไม่ แถมยังแนบรูปมาให้ ดูด้วย น่ าเสี ยดาย
ที่เราสองคนไม่ เคยพบ จึงอดรางวัลผู้แจ้ งเบาะแส

“แล้วนายล่ะ? เคยพบเด็กแบบนั้นไหม?”

“ไม่ เลย”

ไคลน์ ทราบทันทีว่าบิช·เมาท์ บัตเท่ นกาลังตามหาใคร

นักกระตุ้น·ทริส ผู้ร้ายตามหมายจับที่หลบหนีจากผับมังกรชั่ว
มันคงมุ่งหน้ ามาแถวย่ านถนนกางเข็นและดารารัตน์ ตารวจสาย
ตรวจจึงออกเคาะประตูถามทุกบ้ าน

เป็ นเครื่ องยืนยันได้ ดีว่า แผนการลอบจับกุมตัวทริสที่ตลาดมืด


ล้มเหลว

ไคลน์ ไม่ คิดเอาตัวไปเสี่ ยง มันไม่ เคยฝึ กฝนต่ อสู้ มาก่อน ทักษะ


ป้องกันตัวชนิดเดียวคืออาวุธปื น หากต้ องเผชิญหน้ ากับนักลอบ
สั งหารที่ช่าชอง เกรงว่ าคงเป็ นการไม่ รักชีวิตเกินไป

คืนนั้นทั้งคืน ไคลน์ นอนหลับไม่ เต็มอิ่ม เพราะกลัวว่ านัก


กระตุ้น·ทริสจะลอบเข้ าบ้ านและก่อคดีสังหารหมู่

เมื่อถึงเช้ าวันถัดมา โชคดีที่ถนนดารารัตน์ ไม่ เกิดเหตุ


โศกนาฏกรรมใดขึน้
ไคลน์ ตื่นนอนอย่ างโล่งใจ มันรีบเปลี่ยนชุดทางานและเดินทาง
ไปยังถนนซุตแลนด้ วยรถม้ าสาธารณะ

เมื่อถึงที่ทางาน ชายหนุ่มกล่ าวทักทายสาวสวยโรแซนซึ่งประจา


ห้ องรับแขก

“อรุณสวัสดิ์ไคลน์ ”

เธอตอบกลับร่ าเริง จากนั้นก็หรี่เสี ยงลงเพื่อกระซิบกระซาบ


“ฉับแอบได้ ยินมาว่ า ปฏิบัติการเมื่อคืนล้มเหลวล่ะ!”

“ปฏิบัติการจับกุมนักกระตุ้น·ทริส?”

“ใช่ !”

โรแซนพยักหน้ าหนักแน่ น เธอเหลือบมองฉากกั้นและกล่าวต่ อ

“สายข่ าวของหน่ วยทูตพิพากษาพบตัวหมอนั่นโดยบังเอิญแถว


ท่ าเรื อ… พวกเขาวางแผนเตรียมจับกุมอย่ างระมัดระวัง ตารวจ
และผู้วิเศษจานวนมากถูกระดมพลในภารกิจ เป้าหมายของ
ปฏิบัติการคือการลงมืออย่ างเงียบเชียบและไม่ ทาให้ คนธรรมดา
แตกตื่น
“แต่ เมื่อเริ่มยุทธการล้อมจับ คนร้ ายมีสัมผัสเฉียบแหลมกว่ าที่
คิด ทันทีที่พบสิ่ งปรกติ มันพุ่งฝ่ าวงล้อมหน่ วยผู้วิเศษของทูต
พิพากษาออกมาอย่ างน่ าเหลือเชื่ อ!”

“ถ้ ามีผ้ วู ิเศษสายแกะรอยแบบผมอยู่ คงไม่ เกิดเหตุการณ์ แบบนี้


แน่ นอน”

ไคลน์ กล่าวติดตลก

“ขณะถูกคนร้ ายตีฝ่าวงล้อมหนี ที่นั่นมีก็เจ้ าหน้ าที่สายแกะรอย


จานวนมากอยู่ในเหตุการณ์ ”

เสี ยงดันน์ ·สมิทดังแว่ ว

โรแซนเงยศีรษะด้ วยใบหน้ าตกตะลึงคล้ายเห็นผี ดันน์ ·สมิท


ยังคงสวมชุดกันลมสี ดาตัวเก่ง มันยืนพิงฉากกั้นและใช้ นัยน์ ตาเทา
จ้ องมองโรแซนขึงขัง

สาวผมน้าตาลรีบยกมือสองข้ างปิ ดปากพร้ อมกับส่ ายศีรษะหนัก


แน่ นแสร้ งไม่ ร้ ูไม่ ชี้

ผ่ านไปหลายวินาที ดันน์ เบือนหน้ ากลับมามองไคลน์ และกล่ าว

“ในที่เกิดเหตุมีผ้ วู ิเศษสายแกะรอยจานวนทั้งสิ้นหกนาย มาจาก


หน่ วยทูตพิพากษา จิตแห่ งจักรกล รวมถึงเหยี่ยวราตรี พวกเขา
ร่ วมมือค้ นหาแหล่งกบดานทริสที่ได้ รับบาดเจ็บ จนพบว่ ามันมี
บ้ านชั่วคราวอยู่ที่ถนนกางเขนเหล็กสายล่าง แต่ ร่อยรอยกลับสิ้นสุ ด
ลงที่จุดดังกล่าว…

“เมื่อไปถึง พวกเราไม่ พบเบาะแสใดเพิม่ เติม ปฏิบัติการค้ นหา


ด้ วยวิธีธรรมดาและวิธีผ้ วู ิเศษล้ วนไม่ เป็ นผล ประหนึ่งหมอนั่น
ระเหยกลายเป็ นไอน้าปะปนกับอากาศ”

“คุณจะให้ ผมช่ วยทานายไหม?”

ไคลน์ ถามหยั่งเชิง

ดันน์ ส่ายศีรษะ

“หน่ วยจิตแห่ งจักรกลมีผ้ สู ่ องความลับที่เก่งกาจไม่ แพ้ลุงนีลล์


ผมสงสั ยว่ าอาจเป็ นลาดับแปดด้ วยซ้า แต่ ทางเราไม่ ทราบว่ าโอสถ
ลาดับแปดของเส้ นทางผู้ส่องความลับชื่ อว่ าอะไร และมีพลังแบบ
ไหน”

“ชุมนุมสั มผัสวิญญาณเป็ นองค์ กรเก่าแก่ พวกมันคงมีลูกไม้


สาหรับหลบหนีแพรวพราว”

ไคลน์ ให้ ความเห็น


ตลอดช่ วงเช้ า ไคลน์ เข้ าเรียนคาบวิชาเร้ นลับกับลุงนีลล์ อ่าน
เอกสารโบราณ และฝึ กฝนเทคนิคสาคัญของตนจนเชี่ยวชาญ
กระทาซ้าไปมาเพื่อมิให้ เบื่อหน่ าย

เมื่อใกล้ถึงเวลาอาหารเที่ยง สมองไคลน์ เริ่มเตลิดไม่ อยู่กับเนื้อกับ


ตัว

หลายนาทีถัดมา ชายหนุ่มวางเอกสารโบราณลงเนื่องจาก
กระเพาะเริ่มส่ งเสี ยงประท้ วง
ทันใดนั้น ดันน์ เดินเข้ ามาในห้ องทางานรวมของเจ้ าหน้ าที่ฝ่าย
พลเรื อน มันกล่าวด้ วยเสี ยงสุ ขุมค่ อนไปทางเบา

“ไคลน์ ตามผมมาที่ประตูยานิส ของวิเศษต้ องห้ ามรหัส 2-049


มาถึงแล้ว แผนปฏิบัติการจาเป็ นต้ องพึง่ พาความเชื่ อมต่ อระหว่ าง
คุณกับสมุด”

“…ครับผม”

ไคลน์ ลุกขึน้ ยืน

ความคิดในหัวเริ่มพุ่งพล่าน ชายหนุ่มพยายามจินตนาการ
รูปลักษณ์ ของ 2-049 ที่ต้องเสี ยเวลาเบิกจากมุขมณฑลเบ็คลันด์
ท่ ามกลางบรรยากาศเงียบงันและตึงเครียด ชายหนุ่มเดินลงไป
ชั้นใต้ ดินพร้ อมกับดันน์

เมื่อมาถึงสี่ แยก ดันน์ หยุดฝี เท้ าและหันมาพูดกับไคลน์ ด้วย


น้าเสี ยงขึงขัง ผิดวิสัยจากปรกติมาก

“กระทาเช่ นนีต้ ามผม ห้ ามหยุดเด็ดขาด ขอยา้ อีกครั้งว่ าห้ าม


หยุด ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง!”

ขณะกล่าว ดันน์ ·สมิทเหยียดแขนตรงและหดกลับ ทาซ้าไปมา


ไม่ หยุดพัก คล้ายคลึงกับท่ า‘ยกดัมเบลลม’บนโลกเก่า

ไคลน์ ขมวดคิว้ ขณะเห็นพฤติกรรมสุ ดประหลาดของหัวหน้ า


ก่อนจะฉุกคิดได้ ในอีกหลายวินาทีถัดมา

“เป็ นวิธีรับมืออันตรายจากของวิเศษต้ องห้ ามใช่ ไหมครับ?”

“ถูกต้ อง”

ดันน์ พยักหน้ า แววตาของมันเอาจริงเอาจังชนิดที่ไคลน์ ไม่ เคย


พบเจอ

“การทาแบบนีก้ ็เพื่อให้ แน่ ใจว่ าไม่ มีสิ่งผิดปรกติเกิดขึน้ กับคุณ ถ้ า


หากมี ทุกคนจะได้ ช่วยเหลือทันท่ วงที ไม่ เป็ นอันตรายถึงชีวิต”
“เข้ าใจแล้วครับ”
ไคลน์ ไม่ ลังเลอีกต่ อไป มันเริ่มยืดหดแขนยกดัมเบลลมไม่ หยุด
พัก

“ถ้ าเมื่อยให้ เปลี่ยนข้ าง แต่ ห้ามหยุด”

ดันน์ เสริม

รหัส 2-049 เป็ นของวิเศษที่แปลกชะมัด…


การยกดัมเบลลมบัดซบนี่ช่วยอะไร?

ต้ องเป็ นภารกิจที่เต็มไปด้ วยอันตรายแน่ … คาถามมากมายผุด


ขึน้ ในหัวไคลน์

“เข้ าใจแล้วครับ”

แต่ เมื่อประตูยานิสปรากฏเบื้องหน้ า ชายหนุ่มเก็บงาคาถาม


ทั้งหมดไว้ ในใจ

และบางที ด้ วยสิ ทธิ์เข้ าถึงข้ อมูลในปัจจุบันที่มีไม่ มาก ตนคง


หมดโอกาสรับรู้ข้อมูลลับของโบสถ์
ทาได้ เท่ าที่ถูกออกคาสั่ ง…
ไคลน์ ถอนหายใจยาว มันเดินตามหัวหน้ าดันน์ เข้ าไปในห้ องผู้
คุมหน้ าประตูยานิส
ราชันย์ เร้ นลับ 71 : ปรากฏการณ์ เฉื่ อยชา

ไคลน์ ยังคงทาท่ ายกดัมเบลลมต่ อเนื่อง สายตาชาเลืองมองดันน์ ·


สมิทกาลังใช้ มือข้ างหนึ่งหมุนบิดประตูห้องผู้คมุ ส่ วนมืออีกข้ าง
ยังคงทาท่ ายกดับเบลไม่ ต่างจากไคลน์ ขณะเดียวกันก็ใช้ ลาตัวผลัก
บานประตูห้องเข้ าไป

ท่ าทีระมัดระวังเป็ นพิเศษของหัวหน้ าส่ งผลให้ ชายหนุ่มเริ่มตึง


เครียด แต่ ขณะเดียวกันก็ร้ ูสึกขบขัน ใครจะไปคิดว่ าท่ าท่ าง
ประหลาดเช่ นนี้จะกลายเป็ น‘วิธีป้องกัน’ผลข้ างเคียงของวิเศษ
ต้ องห้ ามไปได้

ยิ่งเหตุการณ์ ไม่ ปรกติ ไคลน์ ก็ยิ่งระวังตัวหนัก ความรู้สึกคล้าย


กับการทดสอบความกล้ าบนโลกเก่า ที่ถูกเพื่อนบังคับให้ เดินผ่ าน
สุ สานสุ ดหลอนยามวิกาลตามลาพัง

ของวิเศษต้ องห้ ามระดับสอง


อันตรายปานกลาง
ใช้ ด้วยความระมัดระวัง

แม้ แต่ สมาชิกปฏิบัติการของเหยี่ยวราตรีบางคนก็ไม่ มีสิทธิ์ทราบ


รายละเอียด การที่ชายหนุ่มไม่ ร้ ูย่อมเป็ นเรื่ องปรกติ
ยิ่งความตึงเครียดครอบงา สมองไคลน์ ก็ยิ่งยา้ คิดยา้ ทา วนเวียน
อยู่แต่ การไขปริศนาหาคาตอบให้ กระจ่ าง

ทันใดนั้น ภาพการมองเห็นชายหนุ่มพลันสโลวโมชั่นคล้ายกับ
เล่นวิดีโอด้ วยความเร็ว 0.5 เท่ าหรื อ 0.25 เท่ า

สมองของตนถูกปิ ดสวิตช์ อย่ างนั้นหรื อ?

ชะตากรรมแขนขาไม่ ต่างกันนัก เหตุการณ์ ที่เกิดขึน้ ภายในเสี้ยว


วินาทีคือ ดันน์ ·สมิทสั มผัสได้ ว่าตนผิดปรกติ มันรีบปรี่เข้ าหาด้ วย
ท่ าทางที่เชื่ องช้ า

บรรยากาศรอบตัวไคลน์ กาลังเฉื่ อยชาไปทั้งหมด ประหนึ่งนัก


ดาบที่ฝึกฝนจิตจนบรรลุแก่นแท้ และมองเห็นทุกสิ่ งช้ าลง

ในที่สุด ฝ่ ามือดันน์ ·สมิทสั มผัสถูกบ่ าไคลน์

มันได้ รับสติและภาพการมองเห็นกลับคืนมาอีกครั้ง ความเร็วทุก


อย่ างเป็ นปรกติ คล้ายกับเมื่อครู่เป็ นเพียงภาพหลอน

“เกิดอะไรขึน้ …”

ไคลน์ พมึ พาเสี ยงเบาด้ วยสี หน้ าหวาดผวา

ดันน์ ส่ายศีรษะเล็กๆ พร้ อมกับกล่าวด้ วยน้าเสี ยงลุ่มลึก


“อย่ าเสี ยสมาธิก็พอ”

เมื่อพูดจบ ดันน์ เดินเข้ าไปในห้ องผู้คุมประตูยานิส

ไคลน์ ตามติด ก่อนจะเงยหน้ าพบกับสี่ บุคคลภายในห้ องที่บ้างนั่ง


บ้ างยืน

หนึ่งในสี่ คือนักกวีเที่ยงคืน เลียวนาร์ ด·มิเชล ส่ วนอีกสามคน


ล้วนไม่ ค้ นุ หน้ า
แต่ หนึ่งสิ่ งที่ทุกคนมีร่วมกันคือ…

พวกมันกาลังขยับแขน‘ยกดับเบลลม’โดยไม่ มีใครหยุดพัก

“ไคลน์ ·โมเร็ตติ เขามีความเชื่ อมโยงกับสมุดบันทึกตระกูลอันที


โนกัสสู งเป็ นพิเศษ”

ดันน์ แนะนาตัวไคลน์ อย่ างคร่ าว จากนั้นก็ชี้นวิ้ ไปยังบุคคลแปลก


หน้ าทั้งสาม

“สุ ภาพสตรีและสุ ภาพบุรุษเหล่านีค้ ือสหายจากเหยี่ยวราตรีมุข


มณฑลเบ็คลันด์ เธอคือมาดามโรล็อต ลาดับแปด นักขุดสุ สาน เจ้ า
แม่ นักแม่ นปื นชนิดหาตัวจับยาก”
สตรีวัยราวสามสิ บผู้มีใบหน้ าเป็ นมิตรผงกศีรษะให้ ไคลน์ เบาๆ
หน้ าตาจัดว่ าดูดี หล่อนมิได้ สวมชุ ดรุ่มร่ ามเยี่ยงสุ ภาพสตรีปรกติ
แต่ เป็ นสู ทดาสลับเชิ้ตขาวคล้ายชายอกสามศอก ไม่ สวมหมวก
กางเกงรัดรูปสี ดาขายาว รองเท้ าบูทหนัง มุมปากโค้ งขึน้ เล็กน้ อย

หลังจากไคลน์ ทักทายตอบพอเป็ นพิธี ดันน์ ชี้นวิ้ ไปยังบุรุษที่นั่ง


เก้าอีอ้ ีกฝั่งของโต๊ ะทางาน

“อายร์ ·ฮาร์ สัน เหมือนกับผม”


ยังไม่ ทันที่ดันน์ จะกล่าวจบประโยค การขยับแขนยกดับเบลของ
อายร์ ·ฮาร์ สันในชุดกันลมสี เทา พลันเฉื่ อยชาลงคล้ายเครื่ องจักรที่
ลืมหยอดน้ามันหล่อลื่น

เขาเป็ นอะไร…?

ขณะไคลน์ กาลังฉงน มาดามโรล็อตใช้ แขนข้ างที่ว่างอยู่แตะตัว


เพื่อให้ อายร์ ได้ สติ

เหมือนกับเราก่อนหน้ านี้…

ไคลน์ ใช้ เวลาไม่ นานเพื่อทาความเข้ าใจสถานการณ์ เมื่อครู่ต้อง


เป็ นผลข้ างเคียงจากของวิเศษต้ องห้ ามรหัส 2-049 แน่ …
จะเกิดอะไรขึน้ หากไม่ มีใครปลุกให้ ตื่น?
กลายเป็ นซอมบีต้ ลอดกาล?

ขณะเต็มไปด้ วยคาถามมากมาย ไคลน์ รีบทักทายอายร์ น้อบน้ อม

“บอร์ เจีย”

ดันน์ กล่าวพร้ อมกับชี้นวิ้ ไปยังเหยี่ยวราตรีแปลกหน้ าคนสุ ดท้ าย

บอร์ เจียคือบุรุษที่มีรอยแผลเป็ นคล้ายถูกมีดกรีดข้ างแก้ม ดวงตา


เรียวคม นัยน์ ตาน้าตาลเข้ ม มันคอยชาเลืองมองทุกคนในห้ องเป็ น
ระยะ

“รีบลงมือกันเถอะ ยิ่งพวกเราทาให้ คดีจบไวเท่ าไร เจ้ า 2-049 ก็


ยิ่งถูกผนึกเร็วเท่ านั้น”

อายร์ ผ้ มู ีใบหน้ าหล่อเหล่ากล่าวพลางลุกขึน้ ยืน ใต้ ดวงตาเผยริ้ว


รอยเหี่ยวย่ นเล็กน้ อย

แล้วไหน 2-049?

ไคลน์ กวาดสายตามองรอบห้ อง แต่ ก็ไม่ พบของวิเศษต้ องห้ าม


รหัส 2-049 แน่ นอน มันมิอาจมองทะลุโต๊ ะทางานได้ หากไม่ เข้ าสู่
ภาวะเนตรวิญญาณ
“ตกลง”

ดันน์ หันไปกล่าวกับเลียวนาร์ ด

“นายเป็ นพลขับ ในภารกิจแบบนี้ พวกเราไม่ ควรให้ ซีซาร์ เข้ ามา


เสี่ ยง”

ซีซาร์ คือเจ้ าหน้ าที่พลเรื อนที่คอยรับส่ งเอกสารให้ เหยี่ยวราตรี


รวมถึงการเป็ นพลขับในบางครั้ง เช่ นการขับรถพาไคลน์ ไปหามา
ดามดาลี่ย์ที่บ้านเวิร์ชเมื่อนานมาแล้ว

“ไม่ มีปัญหา”

เลียวนาร์ ดหยุดพฤติกรรมเอ้อระเหย มันพยักหน้ าตอบดันน์ ขึง


ขัง

ทันใดนั้น ไคลน์ เหลือบเห็นอายร์ ·ฮาร์ สันโน้ มตัวลงไปหยิบหีบ


โลหะสี ดาสนิทที่ถูกโต๊ ะทางานบดบังในตอนแรก

หีบดังกล่าวถูกสลักภาพดวงดาวเจิดจ้ าและดวงจันทร์ แดงฉาน


คล้ายกับเป็ นอักขระที่ช่วยสร้ างบาเรียวิญญาณจางๆ รอบหีบ

ของวิเศษต้ องห้ ามอยู่ในนั้นหรื อ?


อยากเห็นจังว่ า 2-049 มีหน้ าตาเป็ นอย่ างไร… ชายหนุ่มจ้ องมอง
หีบดาไม่ กระพริบ

ตึง!

ตึง! ตึง!

เสี ยงทุบตึงตังดังจากภายในหีบโลหะ เป็ นการเคาะที่รุนแรงจน


หีบออกอาการสั่ นสะเทือน

ตึง! ตึง! ตึง!

ราวกับบางสิ่ งภายในหีบลืมตาตื่นและอาละวาดบ้ าคลั่ง เสี ยงทุบ


ดังกล่าวเริ่มบีบเค้ นหัวใจทุกคนให้ เต้ นรุนแรงกว่ าปรกติ

2-049 คือสิ่ งมีชีวิต?

ขณะไคลน์ ครุ่นคิด มันเหลือบเห็นแขนข้ างที่ยกดับเบลลมของ


ดันน์ เริ่มเฉื่ อยชาคล้ายกับไม่ ได้ หยอดน้ามันหล่อลื่น

บอร์ เจีย เหยี่ยวราตรีจากเบ็คลันด์ ใช้ มือสั มผัสบ่ าดันน์ เพื่อปลุก


ให้ ตื่น

ใครก็ตามที่ถูกผลของ 2-049 เล่นงาน คนผู้น้ นั จะต้ องเต้ นโรบอท


แดนซ์ ต่อหน้ าคนอื่น หากทุกคนถูกอานาจเฉื่ อยชาครอบงาพร้ อม
กัน อาจถือกาเนิดเป็ นกลุ่มเต้ นโรบอทแดนซ์ สุดโด่ งดังก็เป็ นได้
แต่ ดูเหมือนเจ้ า 2-049 จะเล่นงานได้ ทีละเป้าหมายต่ อครั้ง นับว่ า
ยังโชคดีอยู่บ้าง

เมื่อได้ ข้อสรุป ไคลน์ ไม่ กล้าละเลยและดูแคลนการยกดัมเบลลม


บัดซบนี่อีก

ขณะดันน์ เดินนาทุกคนออกจากห้ อง ไคลน์ ตัดสิ นใจทิง้ ไม้ คา้ ไว้


ที่นี่ก่อนจะลุกเดินตาม ชายหนุ่มรีบไล่หลังห้ าเหยี่ยวราตรีขนึ้ ไปยัง
ชั้นสองไม่ ห่าง

เลียวนาร์ ดวิ่งนาล่วงหน้ าเพื่อแจ้ งให้ เจ้ าหน้ าที่ทุกคนอพยพขึน้


ชั้นสาม จะได้ ไม่ ถูกผลของ 2-049 เล่นงานเข้ า

เหตุการณ์ ทานองนี้ ถึงจะเกิดไม่ บ่อยครั้ง แต่ ก็ไม่ ใช่ เรื่ องแปลก


ใหม่ สาหรับเจ้ าหน้ าที่เหยี่ยวราตรีนัก

และบุคคลที่ต้องเฝ้าประตูยานิสแทนดันน์ คือโคเฮนรี

ไคลน์ ถอนหายใจโล่ งอกเมื่อ 2-049 ถูกลาเลียงมาถึงรถม้ าอย่ าง


ปลอดภัย ชายหนุ่มชาเลืองมองนอกหน้ าต่ างครู่หนึ่งก่อนจะหันไป
ถาม

“2-049 จะไม่ ส่งผลต่ อคนเดินถนนหรื อ?”


ตลอดทางจากห้ องใต้ ดินมาจนถึงรถม้ า เจ้ า 2-049 บัดซบได้
สร้ างอาการเฉื่ อยชาไปทั้งหมดหกครั้ง สองในหกเกิดขึน้ กับไคลน์
ซึ่งดันน์ และเลียวนาร์ ดช่ วยไว้ ตามลาดับ

ความถี่สูงจนน่ าหวาดหวั่น…

“ไม่ ต้องกังวล 2-049 จะส่ งผลเฉพาะเป้าหมายที่มีลักษณะ


มนุษย์ ภายในรัศมีห้าเมตร ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งมีโอกาสถูกเล่นงานสู ง
และหากมีสามคนคอยล้อมมันไว้ ภายในรัศมีห้าเมตร คนที่เหลือก็
จะไม่ ได้ รับอันตราย”

มาดามโรล็อตผมดาขลับหันมาตอบไคลน์ ด้วยน้าเสี ยงผ่ อนคลาย

เป็ นของวิเศษที่ประหลาดชะมัด… ไคลน์ ตัดพ้อพลางตั้งใจขยับ


แขนยกดัมเบลไม่ หยุด

ดันน์ และเหยี่ยวราตรีที่เหลือไม่ กล่าวสิ่ งใดตลอดทางไปถึงบ้ านรี


เอล·บีเบอร์ พวกมันคอยสั งเกตุอาการกันและกันเพื่อจะได้
ช่ วยเหลือทันท่ วงที

ส่ วนมาดามโรล็อตนั้นไม่ แยแส เธอมองออกไปนอกหน้ าต่ างและ


วิจารณ์ ถนนทิงเก็นที่ไม่ สะอาดแต่ ก็ไม่ สกปรก สลับกับการ
สรรเสริญเยินยอความยอดเยี่ยมของระบบประปากรุงเบ็คลันด์
เพียงไม่ นาน รถม้ าเคลื่อนตัวมาถึงอาคารหลังที่ไคลน์ และเลีย
วนาร์ ดคุ้นเคยเป็ นอย่ างดี ผู้วิเศษเหยี่ยวราตรีหกคนเดินขึน้ ชั้นสาม
โดยคอยระวังกันและกันตลอดเวลา

ประตูห้องพักรีเอล·บีเบอร์ มปี ้ายสั ญลักษณ์ กรมตารวจทิงเก็น


วางขวางไว้ ด้านหน้ า เป็ นนัยว่ าที่นี่คือเหตุหวงห้ ามสาหรับสื บสวน
คดี

ดันน์ ใช้ มือข้ างหนึ่งไขกุญแจเปิ ด ส่ วนอีกข้ างยังคงขยับออก


กาลังกายไม่ หยุด กลอนประตูบ้านหลังนีถ้ ูกเปลี่ยนใหม่ เพื่อไม่ ให้
บุคคลภายนอกบุกรุกเข้ าไป

ดันน์ ใช้ ลาตัวผลักประตูเปิ ด จากนั้นก็ส่งสั ญญาณให้ อายร์ ·ฮาร์


สั นที่ถือหีบสี ดาเดินเข้ าไปเป็ นคนแรก

ตึง!

ตึง! ตึง! ตึง!

หีบโลหะถูกกระแทกจากด้ านในรุนแรง แรงยิ่งกว่ าตอนอยู่ที่


สานักงานเสี ยอีก

อายร์ ·ฮาร์ สันใช้ แขนข้ างเดียวถือหีบ แรงกระแทกส่ งผลให้ หีบ


เหล็กเริ่มโยกเอนซ้ ายทีขวาที
อีกเดี๋ยวคงได้ เปิ ดออกมาเองแน่ …
ชายหนุ่มคิดในใจ

ตึง! ตึง! ตึง!

ทันใดนั้น ไคลน์ เหลือบเห็นดันน์ เริ่มขยับแขนเชื่ องช้ า มันเตรียม


เหยียดแขนข้ างที่ว่างออกไปสั มผัสช่ วย แต่ ทันใดนั้น หัวสมองมัน
พลันหยุดทางาน ภาพการมองเห็นฉายวิดีโอสโลวโมชันด้ วย
ความเร็ว 0.5 เท่ า 0.25 เท่ าอีกครั้ง
ไหนบอกว่ า… เล่นงานได้ ทีละคน…

ความคิดความอ่านไคลน์ เข้ าสู่ ภาวะเฉื่ อยชาโดยสมบูรณ์

คราวนีเ้ ป็ นมาดามโรล็อตที่ใช้ มือผลักไคลน์ และดันน์ ให้ ตื่น


ตามลาดับ

เมื่อได้ สติกลับคืน ไคลน์ กวาดสายตามองรอบห้ องด้ วยสี หน้ า


หวาดผวา มันเกือบจะแหกปากโวยวาย แต่ ตัดสิ นใจหรี่เสี ยงลงใน
ตอนสุ ดท้ าย

“ไหนพวกคุณบอกว่ า 2-049 เล่นงานได้ ทีละคนต่ อหนึ่งครั้ง?”

โชคดีที่ตัวมันไม่ หยุดยักดัมเบลในตอนที่เข้ าไปช่ วยดันน์


“เมื่อ 2-049 เข้ าสู่ ภาวะคลั่ง มันจะเล่นงานสองเป้าหมายพร้ อม
กัน ซึ่งพวกเราสามารถยืนยันได้ แล้วว่ า รีเอล·บีเบอร์ คือทายาทของ
ตระกูลอันทีโกนัสจริง”

อายร์ ·ฮาร์ สันกล่าวเสี ยงราบเรียบ

โรล็อตอมยิม้ มุมปากพลางอธิบายไคลน์

“2-049 จะเริ่มปั่นป่ วนเมื่อเข้าใกล้ทายาทตระกูลอันทีโกนัส ต่ อ


ให้ มีกลิ่นอายจางๆ หลงเหลือเพียงเล็กน้ อยก็ตาม ฉันว่ าคุณน่ าจะ
เข้ าใจความรู้สึกของมันนะ”

เข้ าใจกับผีน่ะสิ …

ไคลน์ ถามต่ อ

“มันเป็ นสิ่ งมีชีวิตหรื อ?”

โรล็อตยังคงยิม้ เธอตอบอ้อมๆ

“เดี๋ยวก็ได้ เห็นเอง ตราบใดที่รีเอล·บีเบอร์ ยังไม่ ออกจากทิงเก็น


เจ้ า 2-049 จะนาทางเราไปหามัน”

เมื่อได้ ยินเช่ นนั้น ไคลน์ ไม่ คิดถามต่ อ มันเก็บความสงสั ยไว้ และ


เดินตามกลุ่มเหยี่ยวราตรีลงไปอย่ างเงียบงัน
หีบโลหะสี ดาถูกนากลับมาที่รถม้ าอีกครั้งตลอดทางถูกทุบจาก
ด้ านในจนเกิดเสี ยงดังอึกทึก

อายร์ ·ฮาร์ สันชาเลืองมองนอกหน้ าต่ างรถม้ าหลายรอบ เพื่อ


ยืนยันให้ แน่ ใจว่ าไม่ มีประชาชนทั่วไปเดินเข้ ามาในระยะเล่นงานห้ า
เมตร

เมื่อสบโอกาส มันรีบวางหีบดาลงบนพื้นรถม้ าพร้ อมกับปลด


ผนึกหีบทั้งทางกายภาพและทางวิญญาณ

เสี ยงทุบโครมครามหยุดลงทันที บรรยากาศรอบรถม้ าพลันเงียบ


สงัด ไม่ มีแม้ แค่ เสี ยงหายใจจากสมาชิกเหยี่ยวราตรี

ไคลน์ เองก็กลั้นหายใจ สายตามันจ้ องมองหีบโลหะสี ดาที่กาลัง


เปิ ดแง้ มตัวเองเชื่ องช้ า เสี ยงบรรจงเปิ ดดังหวีดแหลมจนแสบแก้วหู

ทันใดนั้น

ตึง!

ฝาหีบโลหะถูกดีดหงาย

ท่ อนแขนปริศนาสี น้าตาลข้ างหนึ่งยื่นขึน้ มาเกาะขอบหีบไว้


ขนาดและความกว้ างเทียบเท่ านิว้ ชี้ของเด็กเล็ก
แขนอีกข้ างโผล่ตามมาในเวลาไล่เลี่ยกัน

รูปร่ างเต็มตัวของสิ่ งมีชีวิตขนาดเท่ าฝ่ ามือมนุษย์ กาลังปรากฏสู่


สายตาเหยี่ยวราตรีทุกคนทีละนิดอย่ างไม่ รีบร้ อน

มันมีข้อศอก นิว้ มือ หัวเข่ าไว้ สาหรับเคลื่อนไหวร่ างกาย สวมชุด


สี น้าตาลที่เปื้ อนคราบน้ามัน ใบหน้ าถูกวาดด้ วยสี คล้ายกับตัวตลก
ในคณะละครสั ตว์
แถบสี แดงสลับเหลือง!

ตัวตนที่แท้ จริงของ 2-049 คือหุ่นกระบอกรูปลักษณ์ ประหลาด


และมีชีวิต

2-049 เงยหน้ าขึน้ และจ้ องมองไคลน์ ด้วยนัยน์ ตาสี ดาสนิท มุม


ปากบรรจงโค้ งจนขึน้ เผยให้ เห็นรอยยิม้ เฉกเช่ นตัวตลก
ราชันย์ เร้ นลับ 72 : แกะรอย

หุ่นกระบอกไม้ ทาหน้ าด้ วยสี แดงและเหลืองเฉกเช่ นตัวตลก


ทั่วไป มุมปากของมันยกโค้ งขึน้ เกิดเป็ นรอยยิม้ ชวนขนหัวลุก

ปากไม้ ที่อ้าขึน้ ด้ วยกลไลเผยให้ เห็นช่ วงว่ างด้ านในที่มืดมิด


ไคลน์ ซึ่งตกเป็ นเป้าสายตาการจ้ องมองของหุ่นกระบอก เส้ นขนทั่ว
ร่ างตั้งชูชัน หัวใจแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม

ฉากเบื้องหน้ าเริ่มเชื่ องช้ าและพร่ ามัว คล้ายกับกาลังมองโลกผ่ าน


แก้วสี น้าตาล

ความคิดความอ่านเฉื่ อยชา สั ญชาตญาณการเอาตัวรอดพยายาม


ตะโกนขอความช่ วยเหลือ แต่ คล้ายกับถูกเชื อกรัดคอแน่ นถนัด
เสี ยงไม่ ถูกเปล่งออกไปแม้ แต่ พยางค์ เดียว

ดันน์ เริ่มเห็นการขยับแขนของไคลน์ มีลักษณะผิดปรกติ มันรีบ


ออกแรงผลัก

ม่ านแก้วสี น้าตาลพลันแตกเป็ นเศษเล็กเศษน้ อย ความเร็ว


รอบตัวกลับคืนสู่ ค่าปรกติอีกครั้ง

ทันใดนั้น ไคลน์ หลุดตะโกนคาว่ า‘ช่ วยด้ วย’ที่ค้างอยู่ในลาคอ


จนถึงเมื่อครู่ เสี ยงแผดแหบพร่ าเจือความตื่นตระหนกไว้ ชัดเจน
“มันรุนแรงขึน้ มาก”

ชายหนุ่มกล่าวหนักแน่ น

หากไม่ ระวังให้ ดี การอยู่ใกล้ 2-049 นับว่ าอันตรายมาก ไม่ สิ ต่ อ


ให้ ระวังตัวก็ไม่ ช่วยอะไร หากหวังรอดชีวิต ทางเดียวคือต้ องพึง่ พา
ความช่ วยเหลือจากผู้อื่น

“เรื่ องปรกติ”

อายร์ ·ฮาร์ สันอมยิม้

โรล็อตหัวเราะคิกคัก

“คิดงั้นหรื อ? ไม่ ต้องห่ วง เจ้ านี่เป็ นแค่ ของวิเศษต้ องห้ ามระดับ


สอง อันตรายปานกลาง”

ขณะสาวสวยกาลังหัวเราะ หุ่นกระบอกที่มีข้อต่ อคล้ายมนุษย์


เริ่มขยับเดินไปทางซ้ าย

ท่ าทางของมันเงอะงะงุ่มง่ าม ประหนึ่งเครื่ องจักรไอน้าขึน้ สนิม


และลืมหยอดน้ามันหล่อลื่น
โรบอทแดนซ์ … หลังจากได้ เห็นการเดินของหุ่นกระบอก นั่นคือ
คาแรกที่ผุดขึน้ ในสมองไคลน์

หรื อมันจะเข้ าสิ งเหยื่อที่ตกเป็ นเป้าหมาย?

หากถูกปลุกไม่ ทันเวลา ตนจะกลายเป็ นหุ่นกระบอกขนาดเท่ า


มนุษย์ ไปตลอดกาลงั้นหรื อ?

ตุ๊กตาบาร์ บขี้ นาดเท่ าคนจริง…

ขณะไคลน์ เกิดคาถามมากมาย อายร์ ·ฮาร์ สันถูกดันน์ ปลุกให้ ตื่น


มันรีบยืดหดแขนเข้ าออกและหันไปตะโกนชี้นวิ้ บอกทางกับเลีย
วนาร์ ดที่เป็ นพลขับ

“ทางนั้น!”

แต่ จุดที่ปลายนิว้ ชี้ไปคือบ้ านคน เลียวนาร์ ดขับรถม้ าทะลุผ่าน


อาคารไม่ ได้ จาเป็ นต้ องหาทางเลีย้ วอ้อม

ระหว่ างหาพิกัดที่ถูกต้ อง หุ่นกระบอกไม้ เปลี่ยนทิศทางเป็ น


ระยะ มันทาตัวคล้ายกับเข็มทิศที่ชี้เป้าไปยังทายาทตระกูลอันที
โกนัสโดยไม่ ไขว้ เขว

ได้ ยินมาว่ า 2-049 คือของวิเศษที่ตระกูลอันทีโกนัสสร้ างขึน้ เอง


กับมือ… ความสามารถแกะรอยเช่ นนีเ้ กิดจากความจงรักภักดีอย่ าง
ไม่ ลืมหูลืมตา หรื อจงใจสาปแช่ งให้ ตระกูลฉิบหายวายวอดกันแน่ ?

เลียวนาร์ ดขับรถม้ าตามที่อายร์ ·ฮาร์ สันสั่ งเป็ นระยะ หากหุ่น


กระบอกเดินไปใกล้มุมห้ องโดยสารรถม้ า อายร์ จะคอยนามัน
กลับมาวางไว้ กึ่งกลางห้ องตามเดิม ทุกครั้งที่ทาเช่ นนี้ หุ่นกระบอก
ไม้ จะอ้าปากกว้ างและสาแดงฤทธิ์เดชใส่ เหยื่อสองคนพร้ อมกัน

ไคลน์ เริ่มวางใจเมื่อตระหนักว่ า 2-049 มิได้ อันตรายอย่ างที่คิด


ขอเพียงมีสมาชิกในทีมปฏิบัติการตั้งแต่ สามคนขึน้ ไป ไม่ รวมพล
ขับ และทุกคนต้ องช่ วยปลุกให้ ทันเวลา

ข้ อสาคัญคือห้ ามหยุดขยับแขนเด็ดขาด

ถ้ าไม่ เลินเล่อ 2-049 จะเป็ นเพียงของเล่นที่มีลักษณะพิเศษ


แปลกกว่ าปรกติเล็กน้ อย

รถม้ าแล่นด้ วยความเร็วสู งมาถึงบริเวณเขตท่ าเรื อ ดูเหมือนแถว


นีจ้ ะเป็ นแหล่งกบดานของทายาทตระกูลอันทีโกนัสไม่ ผิดแน่

หลังจากเลียวนาร์ ดขับรถม้ าวนรอบเขตหนึ่งบ่ อยครั้ง หุ่น


กระบอกไม้ พยายามเดินเข้ าไปในโกดังสิ นค้ าสี เทาหลังหนึ่งที่อยู่
ด้ านในสุ ด ทีมปฏิบัติการสามารถยืนยันได้ ทันทีว่านั่นคือแหล่ ง
กบดานของรีเอล·บีเบอร์
เมื่อมั่นใจ สี หน้ าสุ ขุมของอายร์ ·ฮาร์ สันพลันเปลี่ยนเป็ นดามืด
จากนั้นก็จับหุ่นไม้ บรรจงยัดใส่ หีบสี ดาไว้ ตามเดิม

ตึง! ตึง! ตึง!

ดูเหมือนผู้พยายามผนึกจะถูกเล่นงานรุ นแรงเป็ นพิเศษ ระหว่ าง


ขั้นตอน อายร์ หมดสติหนแล้วหนเล่า ได้ บอร์ เจียและโรล็อตคอย
ช่ วยปลุกหลายครั้ง

จนกระทั่งล็อคกลไกลหีบเสร็จ อายร์ ทาการผนึกซ้าด้ วยพลัง


วิญญาณ สั ญลักษณ์ ดวงดาวและจันทร์ แดงส่ องแสงสร้ างชั้นกาแพง
วิญญาณบางๆ รอบหีบ

อายร์ ·ฮาร์ สันถอยหายใจยาวด้ วยสี หน้ าคล้ายป่ วยไข้

“ลงรถกันเถอะ”

ดันน์ สมิทกล่าวเสี ยงนุ่มนวล

“เลียวนาร์ ด ผูกม้ าไว้ ด้วย”

เหยี่ยวราตรีหกคนในชุดสู ท เสื้ อกันลม และเชิ้ตขาว ทาการเดิน


ตรงไปยังโกดังสิ นค้ าสี เทาด้ านในสุ ด ขณะเดียวกันก็ขยับแขนขึน้
ลงอย่ างไม่ สอดประสานสั กเท่ าไร
หากเทียกับสถานการณ์ สุดตึงเครียดที่ต้องเผชิญ พฤติกรรมพวก
มันนับว่ าน่ าขบขัน

ทีมเต้ นเหยี่ยวราตรีฮาเฮ…

ไคลน์ ต้งั ชื่ อติดตลกในใจเพื่อบรรเทาความตึงเครียดส่ วนตัว

แต่ จากการคานวณของมัน ไม่ มีวิธีรับมือ 2-049 ใดที่ดีกว่ านี้อีก


แล้ว เหยื่อจะถูกเล่นงานร่ างกายท่ อนบนเป็ นลาดับแรก ถัดมาเป็ น
ท่ อนล่าง
การส่ งสั ญญาณที่ดีจึงควรกระทาบริเวณแขน ลาคอ หรื อช่ วงตัว
แต่ สองอย่ างหลังจะทาให้ ทีมปฏิบัติการดูเหมือนกลุ่มคนเสี ยสติ
มากกว่ าเจ้ าหน้ าที่

ส่ วนการขยิบตาหรื อยักคิว้ นั้นพบความผิดปรกติได้ ยากเกินไป


ไม่ มีค่อยเหมาะสมนัก

อย่ างน้ อย ทีมเต้ นฮาเฮก็ยังแสดงได้ น่าประทับใจกว่ าบางทีมเต้ น


บนโลกเก่า…

ไคลน์ ถอนหายใจยาว มันเร่ งฝี เท้ าเดินตามอีกห้ าคนให้ ทัน

ยิ่งเข้ าใกล้ประตูโกดัง ทุกคนยิ่งแสดงสี หน้ าตึงเครียด ไม่ มีใคร


ทราบว่ าสมุดบันทึกเล่มดังกล่าวจะส่ งผลกับรีเอล·บีเบอร์ อย่ างไร
บ้ าง
หากมีหายนะร้ ายแรงเกิดขึน้ มันคงจบลงชีวิตลงก่อนได้ กลับโลก
เก่าเป็ นแน่

พลังฟื้ นฟูร่างกายระดับเหนื อธรรมชาติหายไปนานแล้ว วันก่อน


มันเผลอทามีดบาดนิว้ ขณะประกอบอาหาร บาดแผลมิได้ สมานตัว
ฉับพลันเหมือนในวันที่ยิงตัวตาย

หมายความว่ า ตนไม่ ใช่ ซูเปอร์ ฮีโร่ อมตะที่สามารถเอาชนะวาย


ร้ ายได้ ตามลาพัง

เป็ นแค่ นักทานายแสนธรรมดา

ขณะเดินเข้ าใกล้โกดัง ดันน์ ใช้ มือข้ างที่ว่างอยู่ส่งสั ญญาณให้ ทุก


คนหยุดห่ างจากโกดังสิ บเมตร

“ไคลน์ ทานายถึงอันตรายที่จะเกิดขึน้ ภายในโกดัง ถ้ าระบุระดับ


ได้ ด้วยจะดีมาก”

นัยน์ ตาเทายังคงลุ่มลึกเฉกเช่ นทุกครั้ง ไม่ ปรากฏอาการ


สั่ นคลอนแม้ แต่ น้อย

ไคลน์ พยักหน้ าเบาๆ พร้ อมกับปลดโซ่ เงินที่ข้อมือซ้ ายและปล่อย


ให้ จบี้ ุษราคัมห้ อยลงตามแรงโน้ มถ่ วง
ขณะกาลังจะเริ่มทานาย มันถูก 2-049 เล่นงานซ้า เดือดร้ อน
ดันน์ ต้องช่ วยปลุก

เมื่อได้ สติ ไคลน์ ใช้ มือซ้ ายกาโซ่ เงินและปล่อยให้ บุษราคัมห้ อย


ลง ส่ วนมือขวายังคงขยับเข้ าออกเพื่อให้ ทุกคนเห็นอาการผิดปรกติ

หลังจากจีบ้ ุษารัมเริ่มนิ่ง มันทาการสร้ างบอลแสงซ้ อนทับภายใจ


จิตเพื่อเข้ าฌาน จากนั้นก็พมึ พาคาถาเจ็ดครั้ง

“มีอันตรายในโกดัง”

“มีอันตรายในโกดัง”

เมื่อครบ ไคลน์ ลืมตาขึน้ และพบว่ าจีห้ มุนในทิศทางตามเข็ม


นาฬิ กาอย่ างเชื่ องช้ า

แต่ จู่ๆ กลับหมุนเร็วขึน้ … เร็วขึน้

ไคลน์ ร้ ูสึกคล้ายกับมีบางสิ่ งที่มองไม่ เห็นกาลังออกแรงดึงข้ อมือ


ซ้ าย

“อันตรายมาก… ถึงมากที่สุด…”
ชายหนุ่มตอบตามจริง

การหมุนตามเข็มหมายถึงยืนยันในสิ่ งที่ถาม ส่ วนทวนเข็ม


หมายถึงปฏิเสธ

สาหรับผู้วิเศษเส้ นทางอื่น หรื อแม้ กระทั่งผู้ส่องความลับ การ


ทานายด้ วยลูกตุ้มวิญญาณจะบอกได้ เพียง‘ใช่ ’หรื อ‘ไม่ ’ เท่ านั้น

แต่ จากที่ไคลน์ ทดลองด้ วยตัวเอง นักทานายอย่ างตนสามารถ


จาแนกรายละเอียดของคาทานายได้ จากความเร็วในการหมุน

ถึงจะไม่ ละเอียดแม่ นยาเป็ นตัวเลข แต่ ก็พอคาดเดาได้ คร่ าวๆ

สมกับเป็ นนักทานาย… ไม่ มีใครยอดเยี่ยมในศาสตร์ ทานายไป


กว่ าตน ไคลน์ ภูมิใจที่เลือกเดินบนเส้ นทางนี้

ขณะชายหนุ่มกาลังจะนาโซ่ เงินพันกลับคืนข้ อมือซ้ าย เลีย


วนาร์ ด·มิเชลที่เงียบงันมานานได้ โพล่งขึน้

“ทานายหาอันตรายรอบตัวด้ วย”

ดันน์ เห็นพ้อง

“ถูกต้ อง ผมกังวลว่ าลัทธิเร้ นลับจะยังไม่ รามือจากสมุดบันทึก


อันทีโกนัสและแอบจับตามองพวกเราทุกฝี ก้าว พวกมันอาจล่วงรู้
ปฏิบัติการในวันนีแ้ ละส่ งคนสะกดรอยตาม เพื่อรอฉวยโอกาสใน
จังหวะสาคัญ”

ไคลน์ สูดลมหายใจเต็มปอด มันเข้ าฌานและเริ่มทานายอีกครั้ง

เมื่อจีบ้ ุษราคัมสงบ ชายหนุ่มพึมพาคาถา

“มีอันตรายรอบตัวพวกเรา”

“มีอันตรายรอบตัวพวกเรา”

ครบเจ็ดครั้ง ไคลน์ ลืมตาและเฝ้ามองโซ่ เงิน

ภาพที่กาลังสะท้ อนบนเงานัยน์ ตาน้าตาลเข้ ม—จีบ้ ุษราคัมหมุน


ทวนเข็มอย่ างยากลาบากในตอนแรก ก่อนจะชะงักและหมุนกลับใน
ทิศทางตามนาฬิ กาด้ วยความเร็วปานกลาง

“มีอันตรายรอบตัวเรา”

ไคลน์ กล่าวเสี ยงหอบ ลมหายใจขาดห้ วง

เมื่อครู่ มีใครบางคนใช้ พลังรบกวนผลการทานาย แต่ ตนเป็ นฝ่ าย


เอาชนะมาได้ !
ทันทีที่สิ้นเสี ยงเตือน บอลไฟสี ส้มอมเหลืองขนาดเท่ ากาปั้น
ผู้ใหญ่ พลันพุ่งตรงมาทางกลุ่มเหยี่ยวราตรีท้งั หกคน

ความเร็วของมันน่ าทึ่งมาก เป้าหมายคือพื้นดินในจุดกึ่งกลางที่


ทุกคนกาลังยืน

ดันน์ ·สมิทซึ่งชักลูกโม่ ลากล้องยาวออกมารอตั้งแต่ ก่อนไคลน์


ทานายแล้ว มันเล็งและลั่นไกยิงตอบโต้ ทันควัน
ปัง!

ทว่ า บอลไฟไม่ ได้ รับผลกระทบจากกระสุ นปื นแม้ แต่ น้อย บังคับ


ให้ ทุกคนต้ องกระโดดหลบอย่ างไม่ มีทางเลือก

แต่ ไหนแต่ ไร ไคลน์ ไม่ เคยกังวลว่ าจะมีใครก่อกวนหรื อไม่ เพราะ


ทีมปฏิบัติการชุดนีป้ ระกอบด้ วยผู้วิเศษมากถึงหกคน แถมยังมาก
ด้ วยลาดับเจ็ดและแปด บางทีอาจเป็ นหน่ วยผู้วิเศษที่ไม่ มีใครในทิง
เก็นเอาชนะได้

แต่ ในวินาทีที่บอลไฟพุ่งเล่นงาน ชายหนุ่มตระหนักได้ ทันทีว่า


สถานการณ์ ตรงหน้ าเลวร้ ายกว่ าที่ตนไว้

สาหรับพวกมัน สิ่ งที่น่ากลัวที่สุดไม่ ใช่ คนก่อกวน ไม่ ใช่ รีเอล·บี


เบอร์ ที่ไม่ ทราบชะตากรรมด้ านในโกดัง…
แต่ เป็ นไอ้บัดซบ 2-049 ที่อยู่ในหีบสี ดา!

หากการต่ อสู้ ดาเนินไปจนใครสั กคนถูกช่ วยเหลือไม่ ทันเวลา


คนๆ นั้นจะกลายเป็ นหุ่นกระบอกขนาดเท่ ามนุษย์ ไปตลอดกาล

ยิ่งเวลาผ่ านไป โอกาสรอดของคนที่เหลือก็จะยิ่งลดหลั่น

ขณะกาลังถูกความหวาดผวาและวิตกกังวลเข้ าครอบงารุนแรง
เลียวนาร์ ดกระชากแขนไคลน์ เพื่อดึงให้ พ้นจากรัศมีบอลไฟสี เหลือ
งอมส้ ม

ไม่ มีเวลามัวเสี ยดายชุดอีกแล้ ว ไคลน์ กลิง้ กับพื้นหนึ่งตลบก่อน


เงยหน้ าขึน้ มอง มันได้ เห็นสมาชิกเหยี่ยวราตรีถูกแบ่ งเป็ นสองกลุ่ม
ซ้ ายขวาเท่ าเทียม

ฟุ่ บ!

บอลไฟพุ่งกระทบพื้นและหายไปราวกับไม่ เคยมีตัวตนมาก่ อน
ไม่ ปรากฏแม้ แต่ ฝุ่นควันการเผาไหม้

ภาพลวงตา?

คณะชายหนุ่มกาลังคิดเช่ นนี้ มันเหลือบเห็นอายร์ ·ฮาร์ สันขว้ าง


หีบดาออกไปไกลราวสิ บเมตรและหันมาตะโกน
“อยู่ห่างมันไว้ ! แต่ ห้ามคลาดสายตา!”

ยังไม่ ทันจะกล่าวจบ บอร์ เจียและเลียวนาร์ ดพุ่งเข้ าไปใกล้หีบใน


ระยะราวเจ็ดเมตร ไม่ ถึงห้ าเมตรที่เป็ นระยะทาการ และไม่ ไกล
พอจะปล่อยให้ ใครแย่ งชิงไปต่ อหน้ า

ขณะเดียวกัน ดันน์ และโรล็อตต่ างถือปื นในมือแน่ นถนัด นาหน้ า


โดยอายร์ ·ฮาร์ สันที่ชักดาบเงินออกมาถือทะมัดทะแมง พวกมันสาม
คนรักษารูปขบวนจันทร์ เสี้ยวพร้ อมกับวิ่งตรงไปยังจุดที่บอลไฟ
ถูกยิงออกมา ขณะเดียวกันก็คอยระวังไม่ ให้ ถูกลอบโจมตีจาก
ด้ านหลัง

เมื่อเห็นเหตุการณ์ ตรงหน้ า ไคลน์ ที่ต้องขยับแขนขึน้ ลงมานาน


พลันถอนหายใจยาวอย่ างโล่ งอก ชายหนุ่มเพิง่ ตระหนักว่ าตน
มองข้ ามเรื่ องง่ ายๆ ไป

เจ้ า 2-049 ไม่ ได้ อันตรายอย่ างที่คิด แค่ อยู่นอกระยะห้ าเมตรก็สิ้น


เรื่ องแล้ว

ชายหนุ่มพยุงร่ างขึน้ ยืน มันเก็บโซ่ เงินเข้ ากระเป๋าเสื้ อพร้ อมกับ


เลื่อนมือไปหยิบลูกโม่ ที่ซองรักแร้ ซ้าย
ราชันย์ เร้ นลับ 73 : ศึกแรก

ท่ ามกลางแสงแดดยามบ่ าย ไคลน์ ในสภาพเนื้อตัวมอมแมมจาก


การกลิง้ เกลือกหนึ่งตลบ มันชักมือออกจากซองปื นพร้ อมกับหมุน
โม่ เพื่อให้ รังเพลิงเลื่อนตรงกระสุ นนัดแรก

ชายหนุ่มจับปื นในท่ ายิงทะมัดทะแมง

แสงแดงส่ องกระทบลูกโม่ ทองเหลืองจนเกิดประกายแวววาว

ไคลน์ กาลังเป็ นห่ วงดันน์ และอายร์ สองคนนั้นเป็ นผู้วิเศษลาดับ


‘ฝันร้ าย’ที่ถนัดกล่อมผู้คนให้ หลับไหล ชายหนุ่มไม่ แน่ ใจว่ า
ประสิ ทธิภาพต่ อสู้ ระยะประชิดตอนกลางวันจะเป็ นเช่ นไร

ขณะไคลน์ กังวล อายร์ ·ฮาร์ สันลดความเร็วลงพร้ อมกับทาสี หน้ า


เคร่ งขรึม มันเปล่งบทกวีที่คล้ายกับใช้ ขับกล่อมยามค่าคืน

“ยามตะวัน ลอยเหนือฟ้ า ทิศประจิม

“น้าค้ างมุก ไหลปริ่ม กลีบบุปผา

“แสงแดด แผดสะท้ อน คล้ายจันทรา


“เคียงคู่มา กับหมู่ดาว อันพราวพราย
“บุปผาแห่ ง สนธยา เบ่ งบานใหม่

“งามพิไล ใต้ หยาด น้าค้ างใส

“ท่ ามกลางแสง เหลืองนวล ส่ องอาไพ”

( ดัดแปลงจากบทประพันธ์ ของ John Clare ที่ชื่อว่ า Evening


Primrose )

บทเพลงขับกล่อมทุกสิ่ งมีชีวิตที่มีประสาทรับรู้การได้ ยิน ร่ าง


ไคลน์ พลันผ่ อนคลายไร้ ความตึงเครียด

ชายหนุ่มเคยเผชิญหน้ าเหตุการณ์ กึ่งกลับกึ่งตื่นบ่ อยครั้งจนเคย


ชิน บางทีอาจเป็ นพลังพิเศษเฉพาะตัวของมัน แต่ ความง่ วงทาอะไร
ไคลน์ ไม่ เคยได้ ชายหนุ่มตั้งสติเข้ าฌานอย่ างรวดเร็วเพื่อหลุดพ้น
จากผลบทกวี

ฟู่ ว… ไคลน์ ถอนหายใจโล่งอก มันไม่ เคลือบแคลงพลังต่ อสู้ ของ


‘ฝันร้ าย’อีกแล้ว

ด้ วยความที่เพิง่ เข้ าสู่ เส้ นทางผู้วิเศษและมีข้อมูลเดียวกับเส้ นทาง


ไม่ มาก จึงหลงลืมไปชั่วขณะว่ า ผู้วิเศษลาดับเจ็ดอย่ าง‘ฝันร้ าย’นั้น
พัฒนามาจากลาดับแปด ‘นักกวีเที่ยงคืน’

และแน่ นอน ความสามารถของลาดับก่อนหน้ ายังคงอยู่ ฝันร้ าย


เก่จฉาจตอนกลางคืนเหมือนผู้ไร้ หลับ และขับกล่อมบทกวีได้
เหมือนเลียวนาร์ ด

สาหรับไคลน์ ความรู้ด้านนักกวีเที่ยงคืนทั้งหมดมาจากเลีย
วนาร์ ด มันทราบดีว่า แม้ จะไม่ ใช่ ตอนกลางคืน แต่ ผ้ ไู ร้ หลับก็มี
ประสิ ทธิภาพร่ างกายเหนือมนุษย์ ปรกติในหลายด้ าน ไม่ ว่าจะเป็ น
ยิงปื น ต่ อสู้ ปี นป่ าย หรื อสั มผัสวิญญาณ

แต่ นักกวีจะเพิม่ พูนคุณสมบัติกล่อมศัตรูให้ หลับไหล หรื อเรียก


อีกชื่ อหนึ่งว่ า

นักกวีป่าเถื่อน

หลังจากอายร์ ·ฮาร์ สันร่ ายบทเพลงจบ กล่องสิ นค้ าขนาดใหญ่ ที่


ทาจากไม้ พลันเกิดการกระเพื่อมคล้ายคลื่นน้า

ทันใดนั้น ชายสวมทักซิโด้ สีดาและหมวกทรงกึ่งสู งเดินออกมา


จากจุดหลังกาบัง

แต่ ใบหน้ าของมันค่ อนข้ างพิสดาร ถูกวาดด้ วยแถบสี ขาว เหลือง


และแดง สามเส้ นใหญ่ เป็ นแนวตั้ง รอยลิปสติกมุมปากถูกทาโค้ งขึน้
คล้ายกับตัวตลกในหนังสยองขวัญ
ช่ างขัดกับการแต่ งกายแสนสุ ภาพที่พร้ อมไปงานเต้ นราโดย
สิ้นเชิง

ตึก ตึก ตึก!

สตรีสาวสวยผมดานามโรล็อตที่ถูกแนะนาตัวว่ าเป็ นนักแม่ นปื น


เธอสั บเท้ าเข้ าหาตัวตลกด้ วยความเร็วสู ง มือข้ างหนึ่งกาปื น ส่ วน
อีกข้ างกาหมัดแน่ น
เพียงการกระโจนไม่ กี่จังหวะ ระยะห่ างถูกย่ นลงเหลือไม่ ถึงเมตร

ตัวตลกใส่ สูทคล้ายกับถูกบทกวีของอายร์ เล่นงานจนร่ างกายโงน


เงน ดวงตาเคลิบเคลิม้ เปี่ ยมสุ ข ปราศจากท่ าทีการขัดขืน

โรล็อตเอนตัวด้ วยกริยาท่ าทางนักหมัดมวยสุ ดช่าชอง เธอดึง


หมัดขวากลับเล็กน้ อยเพื่อโยกตัว ก่อนจะปล่อยกาปั้นขวาตรงใส่
ใบหน้ าตัวตลกสวมสู ท

เพล้ง!

ภาพมายาแตกเป็ นเสี่ ยงๆ ประหนึ่งกระจกเงา เศษเล็กเศษน้ อย


ระเหิดหายไปในอากาศอันว่ างเปล่า
ในวินาทีเดียวกัน ร่ างตัวตลกสวมสู ทปรากฏขึน้ ใหม่ อีกครั้งจาก
เงามืดของกล่องสิ นค้ ากองใหญ่

ตัวตลกสวมสู ทที่หลับไหลเป็ นเพียงภาพมายา และเป็ นไปได้ สูง


ว่ ามันจงใจหลอกล่อ

ตัวตลกสวมสู ทเริ่มฉีกกว้ างอย่ างน่ าขนลุก มือข้ างหนึ่งกดหมวก


เหนือศีรษะไม่ ให้ ตกหล่น ส่ วนอีกข้ างเหยียดตรงมาด้ านหน้ าและ
ทาท่ าทางเลียนแบบปื นสั้ น

ปัง!

เสี ยงปื นดังจากปลายนิว้ ชี้ตัวตลก โรล็อตรีบกลิง้ ตัวไปบนพื้น


เพื่อหลบหลีก

แต่ กลับไม่ มีสิ่งใดเกิดขึน้

มีเพียงเสี ยงปื นปลอม

ปัง! ปัง! ปัง!

ดันน์ และอายร์ กระหน่ายิงสวน แต่ ตัวตลกสวมสู ทหลบหลีกราว


กับเป็ นเรื่ องง่ ายดาย ซ้ ายที ขวาที บ้ างก็กลิง้ หน้ ากลิง้ หลัง ดูยังไงก็
เหมือนกับตัวตลกในคณะละครสั ตว์
เพียงพริบตา โรล็อตย่ นระยะเข้ าหาอีกฝ่ ายอีกครั้ง ทั้งที่เธอน่ าจะ
ยิงปื นแม่ นที่สุด แต่ กลับยังไม่ ล้มเลิกความตั้งใจจะใช้ กาปั้น

เปรี้ยง!

คราวนีต้ ัวตลกไม่ หลบ มันเพียงใช้ แขนซ้ ายรับไว้ ง่ายดาย

เมื่อเห็นตัวตลกหยุดนิ่ง ดันน์ และอายร์ ไม่ รอช้ า พวกมันสองคน


กระหน่ารัวลูกโม่ ใส่ อีกฝ่ ายโดยไม่ พกั หายใจ

ทันใดนั้น แขนซ้ ายที่ใช้ ปัดป้ องหมัดโรล็อตพลันอุบัติเปลวเพลิง


สี ส้มอมเหลืองล้อมรอบ

เพลิงขยายตัวจนมีขนาดเท่ าบอลไฟลูกแรก ดูเหมือนมันคิดจะ


ซัดโรล็อตในระยะประชิด

ปัง! ปัง!

ดันน์ และอายร์ รีบยิงสนับสนุน เป้าหมายคือบอลไฟในมือซ้ ายตัว


ตลกสวมสู ท

ซู่ว!

บอลไฟดับสลายไปกับความว่ างเปล่าอีกครั้ง มีเพียงเศษเขม่ า


ขีเ้ ถ้ าปลิว้ ลอยในอากาศจานวนไม่ มาก
ตัวตลกหายไปอย่ างสมบูรณ์ และโผล่ออกมาจากเงากล่องสิ นค้ า
ในจุดอื่น ก่อนจะยกมือเปล่าขึน้ มาเลียนแบบปื นอีกครั้ง

ปัง!

โรล็อตมั่นใจว่ าเป็ นกลลวง แต่ ขณะพุ่งปรี่เข้ าใส่ เธอมีอันต้ อง


ชะงักและสู ญเสี ยการมองเห็นชั่วขณะ เพราะกระสุ นที่ตัวตลกยิงใน
คราวนีไ้ ด้ เกิดระเบิดและสร้ างดินโคลนกระจัดกระจายบดบัง

ไม่ ใช่ กระสุ นหลอกเสมอไป…

ยากที่จะแยกแยะออกว่ าอันไหนของจริงหรื อของเทียม

ปัง! ปัง! ปัง!

ตัวตลกสวมสู ทหันกลับมายิงใส่ ดันน์ และอายร์ เป็ นระยะ จากนั้น


ก็หลบหลังกล่องสิ นค้ าและโผล่ มายิงใหม่ ในระยะห่ างที่ยากคาดเดา

ทว่ า ราวกับเธอมองเห็น โรล็อตตั้งท่ าเล็งลูกโม่ สีทองภายในเวลา


เสี้ยววินาที

ปัง!

ตัวตลกสวมสู ทมีอันต้ องกลิง้ หนีตายไปกับพื้นอย่ างทุลักทุเล


กระสุ นนัดเมื่อครู่พลาดเป้าเพียงฉิวเฉียด หมวกทรงกึ่งสู งของมัน
ปลิวกระเด็นไปด้ านหลังโดยที่กึ่งกลางมีรอยลูกปื นเป็ นรูโหว่

ขณะกลิง้ ไปบนพื้น ตัวตลกบัดซบมีความว่ องไวเยี่ยงลิงค่ าง มัน


ปี นไต่ กล่องสิ นค้ าซ้ ายขวาจนยากจะเดาทิศทางเคลื่อนไหวออก

เมื่อขึน้ ไปอยู่ที่สูง มันทาการยิงปื นมือเปล่าสวนกลับลงมา

อายร์ ·ฮาร์ สันเดินถอยหลังพร้ อมกับลดปื นลง มันตัดสิ นใจเปล่ง


บทกวีขับกล่อม

“เบ่ งบานยามค่าคืนนับเป็ นเรื่ องเสี ยหาย

“ใครแสร้ งชมว่ าเลอโฉมเหนื อบรรยาย

“ตีความหมายว่ าไม่ เคยพบงดงามแท้ จริง”

ตัวตลกกระโดดโลดเต้ นไปมาเหนือกล่องสิ นค้ ากองใหญ่ มันใช้


มือข้ างหนึ่งเกาศีรษะด้ วยท่ าทียุแหย่ คล้ายกับหวังให้ อายร์ หัวเสี ย

อุดหูไว้ ง้นั หรื อ? หรื อใช้ พลังพิเศษ?


เส้ นทางที่ลัทธิเร้ นลับครอบครองมีพลังประหลาดชะมัด…
ไคลน์ คาดเดาในใจหลังจากได้ เห็นฉากต่ อสู้

ขณะเกิดความคิดเช่ นนีใ้ นหัว ชายหนุ่มพลันเหลือบเห็นอีกหนึ่ง


บุคคลกาลังวิ่งบนหลังคาโกดังสิ นค้ าฝั่งตรงข้ าม หลังสี เทาที่รีเอล·บี
เบอร์ หลบซ่ อนตอนแรก

ตัวตลกสวมชุดสี เทาคล้ายคนงานท่ าเรื อ แต่ ใบหน้ าถูกทาด้ วย


แถบสี สามแถวเหมือนกับตัวตลกสวมสู ท
หรื อตัวตลกสวมสู ทมีหน้ าที่คอยเบี่ยงเบนความสนใจจากพวก
หัวหน้ า?

ไคลน์ รีบเล็งปื นไปบนหลังคาอีกฝั่ง

ราวกับตัวตลกรับรู้ว่าถูกเล็ง มันรีบกลิง้ ม้ วนตัวไปด้ านหน้ าอย่ าง


ชานาญ

แต่ ไคลน์ ก็ไม่ หยุดปลายนิว้

ปัง!

เข้ าเป้า…
ละอองเลือดสาดกระเซ็นทั่วหลังคาโกดังสิ นค้ า ตัวตลกชุ ดเทา
หันมามองไคลน์ ด้วยสี หน้ าตื่นตระหนก ก่อนที่มันจะกลั้นใจวิ่ง
ต่ อไปด้ านหน้ าอย่ างมีจุดหมาย

ไคลน์ มั่นใจว่ าเมื่อครู่แค่ โชคดี มันรีบยิงซ้าอย่ างตั้งใจและไม่


ประมาท

ปัง! ปัง! ปัง!

แต่ กระสุ นพุ่งชนแผ่ นไม้ กระดานทั้งหมด


เลียวนาร์ ดและบอร์ เจียที่เฝ้าหีบ 2-049 ต่ างก็ช่วยกันยิง แต่ ไม่ มี
ใครเลยที่เข้ าเป้า

ขณะไคลน์ กาลังจะหันไปบ่ นพวกพ้องเรื่ องฝี มือยิงปื นสุ ดห่ วย


ตัวมันพลันชะงักหลังจากฉุกคิดบางสิ่ ง

ใช่ แล้ว… ทาไมเราต้ องขัดขวางมัน?

ในโกดังบัดซบนั่นมีอันตรายระดับหายนะอยู่ไม่ ใช่ หรื อ?

หนูทดลองวิ่งเข้ าไปเสี่ ยงเหยียบกับระเบิดให้ ด้วยตัวเองเช่ นนี้


พวกตนควรขอบคุณถึงจะถูก

เลียวนาร์ ดและบอร์ เจียคงคิดเช่ นนี้แต่ แรก


เมื่อทราบ ไคลน์ จงใจยิงให้ พลาด

ปัง! ปัง! ปัง!

ในที่สุด ตัวตลกชุดเทาก็เข้ าไปในโกดังสิ นค้ าสาเร็จโดยไม่ ถูก


รบกวน

มันม้ วนตัวไปด้ านหน้ าและกระโจนลงหลังคาในจุดที่เป็ นรูโหว


ขนาดใหญ่
ขณะเดียวกัน นัยต์ นาโรล็อตนักแม่ นปื นพลันแปรเปลี่ยนเป็ นสี
ดาเข้ ม มือซ้ ายทาท่ าทางคล้ายกับชักดึงบางสิ่ ง

ตัวตลกสวมสู ทพลันหยุดการเคลื่อนไหว ประหนึ่งถูกมือที่มอง


ไม่ เห็นบีบรัดข้ อเท้ าแน่ นถนัด

ดันน์ ไม่ ยิงซ้า หัวหน้ าเหยี่ยวราตรีสาขาทิงเก็นถอยหลังและลด


ปากกระบอกลง

มันพึมพาพร้ อมกับใช้ พลังวิญญาณเปล่งบทกวีขับขานโดยไม่ ได้


ออกมาจากเส้ นเสี ยง

“บุปผาบางชนิดจาต้ องเบ่ งบานยามค่าคืน


“เพราะเมื่อสุ ริยันยามกลางวันลืมตาตื่น
“ความเจิดจ้ าที่มิอาจหลบเลี่ยง

“ทาให้ กลีบและใบอับเฉาเกลีย้ ง”

ตัวตลกสวมสู ทพลันอ่อนเพลียไร้ เรี่ยวแรงคล้ายกับไม่ ต้องการมี


ชีวิตอยู่อีกต่ อไป
อายร์ ·ฮาร์ สันเล็งปากกระบอกไปยังศีรษะตัวตลกและลั่นไกใน
เวลาแทบจะพร้ อมกัน

เพียงเสี้ยววินาทีตรงนี้ เสี ยงโหยหวนสุ ดสยดสยองพลันดังลอด


จากโกดังฝั่งตรงข้ าม

“อ๊ากกกกกกกกก—”

น้าเสี ยงเปี่ ยมด้ วยความรักตัวกลัวตายและหวาดผวาสุ ดขีด ไม่ มี


ใครทราบว่ าเจ้ าของเสี ยงโหยหวนต้ องผ่ านเหตุการณ์ แบบใดมา

เส้ นขนทั่วร่ างไคลน์ พลันลุกซู่

เมื่อเสี ยงกรีดร้ องขาดห้ วงกลางคัน ความเงียบงันจึงเข้ าแทรกคืน


สู่ สภาพเดิม
นั่นยิ่งทาให้ ชายหนุ่มผวาหนัก

ปัง!

ผลพวงจากเสี ยงร้ องเมื่อครู่ อายร์ ·ฮาร์ สันยิ่งพลาดเป้าไม่ เข้ า


ศีรษะ แต่ เป็ นช่ องท้ อง

แฮ่ ก… แฮ่ ก…
แฮ่ ก…

ในเวลาเดียวกัน โกดังฝั่งตรงข้ ามถูกทาลายความเงียบงันด้ วย


เสี ยงหายใจกระเส่ าของสิ่ งมีชีวิตบางชนิด …ที่ไม่ น่าจะใช้ มนุษย์

ใครที่ได้ ยินแล้วยังสงบใจอยู่ได้ เกรงว่ ามันผู้น้ นั อาจไม่ ปรกติ

ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง!

ภายในหีบดา เจ้ า 2-049 กาลังอาลาวาดอย่ างบ้ าคลั่งอย่ างที่ไม่ เคย


เป็ นมาก่อน
ราชันย์ เร้ นลับ 74 : รีเอล·บีเบอร์

แฮ่ ก… แฺฮ่ก… แฮ่ ก…

ตึง! ตึง! ตึง!

เสี ยงหายใจแผ่ วเบาและเสี ยงหีบโลหะถูกทุบจากด้ านในกาลังดัง


สอดประสานเข้ าจังหวะ ทีมปฏิบัติการเหยี่ยวราตรีท้งั หกคนพลัน
ถูกความตึงเครียดครอบงา คล้ายกับพวกมันได้ ฟังเสี ยงพึมพาจาก
ปี ศาจ

ขณะที่ดันน์ อายร์ และโรล็อตเสี ยสมาธิ ตัวตลกสวมสู ทฉวย


โอกาสดึงกระดาษยาวออกจากกระเป๋าเสื้ อ

ฟุ่ บ!

แผ่ นกระดาษยาวแปรเเปลี่ยนเป็ นแส้ หนังสี ดาที่มีไฟลุกท่ วม ตัว


ตลกสะบัดปลายแส้ ใส่ ข้อเท้ าตัวเองอย่ างแม่ นยา

มันครางเสี ยงเจ็บแปลบ แต่ ก็ฝืนกัดฟันอดทนไว้

เมื่อสั มผัสว่ าวัตถุคล้ายโซ่ ที่พนั ธนาการข้ อเท้ าถูกคลายออก ตัว


ตลกสวมสู ทรีบตีลังกากลับหลังหนี
ปัง! ปัง! ปัง!

ดันน์ อายร์ และโรล็อตยิงใส่ คนละนัด แต่ ท้งั หมดโดนเพียงกล่อง


สิ นค้ าที่ทาจากไม้

ตัวตลกสวมสู ทไม่ คิดเสี ยเวลาต่ อ มันรีบเผ่ นหนีพร้ อมกับใช้ มือ


กาบาดแผลบริเวณช่ องท้ องที่ถูกอายร์ ยิงใส่ ก่อนหน้ า ทิศทางที่มัน
เผ่ นหนีคือฝั่งตรงข้ ามโกดังสี เทาซึ่งมีเสี ยงโหยหวนดังระงม

ตัวตลกรวดเร็วขนาดที่ว่า เพียงพริบตาเดียว ทุกคนมองเห็นได้


แค่ แผ่ นหลังไกลๆ

ก่อนจะหายตัวไปอย่ างสมบูรณ์ ตัวตลกสวมสู ททาการขยับมือที่


กุมท้ องมาไว้ บริเวณแขนซ้ าย ทันใดนั้น บาดแผลตรงข่ องท้ อง
หายไปราวกับไม่ เคยมีอยู่

กลับกัน บริเวณแขนซ้ ายที่มันเอามือทาบพลันกลายสภาพเป็ น


แผลเหวอะหวะและมีกระสุ นปื นฝังคา

ดันน์ ไม่ กล้าไล่ตามไป เสี ยงโหยหวนจากโกดังสี เทาทาให้ พวกมัน


สั มผัสถึงอันตรายใหญ่ หลวง

บึม้ มม!
ประตูทางเข้ าโกดังสี เทาที่อยู่ในจุดลึกสุ ดเกิดระเบิดรุนแรง บาน
ประตูหลุดกระเด็นไปไกล เศษชิ้นส่ วนรวมถึงแรงกระแทกกระจัด
กระจายหลายทิศทาง

ทันใดนั้น วัตถุปริศนาบางชนิดปลิวลอยมาตกตรงหน้ าไคลน์


รอบๆ วัตถุดังกล่าวมีสิ่งที่คล้ายผ้ าห้ อหุ้มไว้

เมื่อลองเพ่งมองให้ ดี ไคลน์ พบว่ ามันคือแขนมนุษย์ ลักษณะ


บาดแผลคล้ายกับถูกขบเขีย้ วและกระชากออกจากร่ างทั้งเป็ น เศษ
กระดูกสี ขาวที่โผล่ออกมามีสภาพแหลกละเอียดป่ นปี้

แปะ! แปะ! แปะ!

วัตถุชิ้นถัดๆ ไปปลิวตามมาติดๆ ชิ้นแรกเป็ นลิ่มเลือด ชิ้นที่สอง


เป็ นดวงตาหนึ่งข้ าง และชิ้นที่สามเป็ นหูแหว่ งที่ถูกกระชากดึงจาก
ศีรษะ

แปะ!

ชิ้นสุ ดท้ ายเป็ นหัวใจที่ยังคงยุบพองเบาๆ คล้ายกับยังไม่ ตาย มา


พร้ อมลาไส้ เล็กซึ่งมีของเหลวสี เหลืองน่ าสะอิดสะเอียนติดมาด้ วย

หากไคลน์ ไม่ เคยเห็นฉากสุ ดสยดสยองที่บ้านรีเอล·บีเบอร์ มา


ก่อน มันคงอาเจียนออกมาคาโตโดยไม่ รีรอ
ขณะสมาธิใกล้หลุดลอยเพราะความรู้สึกคลื่นไส้ เวียนหัว ชาย
หนุ่มพลันเกิดความต้ องการแรงกล้าที่จะยิงปื นเข้ าไปในช่ องว่ าง
ประตูที่เปิ ดออก มันรีบตบโม่ เพื่อเทปลอกกระสุ นเก่า จากนั้นบรรจุ
กระสุ นปรามมารเข้ าไปแทนที่จานวนหกนัด

ปัง!

ดันน์ วิ่งไปทางประตูพร้ อมกับบรรจงยิงใส่ ความมืดมิด

ทว่ า กระสุ นของดันน์ คล้ายกับยิงลงทะเล ไม่ มีเสี ยงใดตอบ


กลับมา ไม่ มีแม้ กระทั่งเสี ยงกระแทกกับผนังห้ องอย่ างที่ควร

แฮ่ ก… แฮ่ ก… แฮ่ ก…

ลมหายใจอีกฝ่ ายดังชัดเจนขึน้ ทุกขณะ ช่ องว่ างประตูโกดังฝั่ง


ตรงข้ ามเริ่มมีวัตถุสีเทาอมขาวกาลังเดินเข้ ามาใกล้บานประตูจาก
ด้ านใน

ปัง! ปัง!

อายร์ ·ฮาร์ สันและบอร์ เจียช่ วยกันยิงใส่ วัตถุต้องสงสั ย แต่ กระสุ น


กลับไม่ ทะลุผ่าน ไม่ แม้ แต่ จะเกิดบาดแผลใดๆ บนพื้นผิวสี เทาเลย
สั กนิด คล้ายกับการยิงลงไปในหุบเหวลึก
ไคลน์ กลั้นหายใจทันที มันพยายามหักห้ ามสติไม่ ให้ ลั่นไกยิงมั่ว
ซั่ว ชายหนุ่มเฝ้ารออย่ างใจเย็นจนกระทั่งวัตถุสีเทาเผยรูปร่ างที่
แท้ จริงเมื่อเดินเข้ ามาใกล้ประตูมากขึน้

…สิ่ งมีชีวิตรูปร่ างคล้ายมนุษย์ สู งเกินกว่ าสองเมตร ข้ อต่ อทุก


ชิ้นบิดงอและแขนขาอยู่ในลักษณะผิดรูปร่ าง ราวกับถูกใครบางคน
จับหักอย่ างทารุณ

เมื่อลองพิจารณาให้ ถี่ถ้วน ผิวหนังสี เทาอมขาวของมันมีลักษณะ


คล้ายกับสมองมนุษย์ ที่ท้งั เปี ยกชุ่มและมันแผล่บ ต่ ามร่ างกายหลาย
จุดมีท่อนกระดูกสี ขาวโพลนหักทิ่มแทงโผล่ออกมาจากผิวหนัง

ทั่วทั้งลาตัวสั ตว์ ประหลาดเปี ยกชุ่มด้ วยของเหลวเหม็นเน่ า


เหนียวหนืดหยดย้ อย เหลือเพียงส่ วนศีรษะที่ยังคงความเป็ นมนุษย์
ไว้ มากที่สุด

ใบหน้ าอันขาวซีดของบุรุษที่มีริ้วรอยลึกหลายจุด …ใบหน้ าของ


รีเอล·บีเบอร์

เมื่อมันอ้าปากกว้ าง ไคลน์ เหลือบเห็นฟันปลอมเซรามิกที่ห้อย


ต่ องแต่ งใกล้หลุดจากเหงือก รวมถึงน้าลายสี ปนเสื อดสยดยอง

ในสภาพเช่ นนี้ รีเอล·บีเบอร์ ยังถูกเรียกว่ ามนุษย์ ได้ อีกไหม?

ขณะหัวใจเริ่มเต้ นโครมครามอย่ างควบคุมไม่ อยู่ ไคลน์ พยายาม


กาหนดลมหายใจเข้ าออกเพื่อสงบสติ
ปัง!

กระสุ นปราบมารจากเลียวนาร์ ด·มิเชลทะลุกลางกระหม่ อมรีเอล·


บีเบอร์ แม่ นยาจนเกิดเป็ นรูโหว่ ขนาดใหญ่

ของเหลวสี เทาขาวพุ่งออกจากปากแผลและหยดไหลงลงพื้น
ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็ นหนอนแมลงวันตัวอวบอ้วนสี ขาวครีม

แต่ สัตว์ ประหลาดสู งสองเมตรกลับไม่ แม้ แต่ ชะงัก มันกระโจนใส่


บอร์ เจียซึ่งอยู่ใกล้ด้วยความเร็วไม่ มากไม่ น้อย

บางที เป้าหมายแท้ จริงอาจเป็ นหีบดาที่บรรจุ 2-049 ก็เป็ นได้

“ผู้วเิ ศษคลุ้มคลั่ง…”

ดันน์ กล่าวด้ วยเสี ยงลุ่มลึก ดังมากพอสาหรับทั้งห้ าคนได้ ยิน

“โรล็อต! สภาพของมันเหมือนกับวิญญาณมรณะ รีบหาจุดอ่อน


เร็วเข้ า!”

“ตกลง”

โลร็อตไม่ กล่าวสิ่ งใด เธอเลื่อนมือทั้งสองข้ างขึน้ ไปป้องบริเวณ


ดวงตา
นัยน์ ตานักแม่ นปื นสาวสวยพลันกลายเป็ นสี เทาซีด และยิ่งซีดลง
จนเกือบขาวเมื่อผ่ านไปสั กพัก คล้ายกับเธอกาลังมองผ่ านโลก
วิญญาณซึ่งเป็ นอาณาจักรที่เต็มไปด้ วยวิญญาณมรณะ

โลร็อตสารวจรีเอล·บีเบอร์ ต้งั แต่ หัวจรดเท่ าอยู่พกั ใหญ่ เพื่อมอง


หา‘จุด’ให้ พบ

หลังจากไคลน์ เห็นกระสุ นปื นหลายนัดไม่ เกิดผล มันไม่ คิด


สิ้นเปลืองกระสุ น การจะปราบสั ตว์ ร้ายตรงหน้ ามีแม้ ต้องหา
จุดอ่อนให้ พบเท่ านั้น

ชายหนุ่มเข้ าสู่ ภาวะเนตรวิญญาณโดยหวังจะช่ วยนักขุดสุ สาน·


โรล็อตค้ นหาจุดอ่อน

ทว่ า จากภาพการมองเห็น สี ออร่ าที่ไคลน์ พบมีเพียงสองชนิด


คือสี เทาหม่ นซึ่งบ่ งบอกสภาพร่ างกาย และสี ขาวบริสุทธิ์ที่หมายถึง
ห้ วงอารมณ์ สุดบ้ าคลั่ง

นอกนั้นก็ไม่ พบอะไรเลย

ขณะเดียวกัน อายร์ และเลียวนาร์ ดต่ างลงมือร้ องเพลงขับกล่อม


พร้ อมกัน
“จงหวาดกลัวต่ อภัย จงบูชาในจันทร์ ชาด

“หนึ่งสิ่ งที่แน่ ชัด ทุกชีวิตย่ อมอาลา

“หนึ่งสิ่ งที่เที่ยงแท้ อื่นใดล้วนมายา

“บุปผาที่ถูกเด็ด มีชะตาต้ องถึงฆาต”

พลังที่ทาให้ ผ้ คู นหลับไหลกาลังสาแดงฤทธิ์เดชรุนแรงกว่ าปรกติ


สองเท่ า ร่ างกายสั ตว์ ประหลาดผิวหนังขาวเทาเริ่มชักกระตุก คล้าย
กับถูกผลสะกดของบทกลอนเล่นงานอย่ างจัง

ทันใดนั้น มันตอบโต้ ด้วยการอ้าปากกว้ างและเปล่งเสี ยงหวีด


แหลมที่มากดังพอจะทาให้ ผ้ ไู ด้ ยินหูหนวกไปตลอดชีวิต

“อั่ก!”

ปึ ด!
ไคลน์ เจ็บแปลบเจียนตายชั่วขณะ สมาธิขาดห้ วงจนหลุดพ้ นจาก
ภาวะเนตรวิญญาณ

สองรูจมูกเริ่มมีของเหลวอุ่นๆ ไหลซึม

เมื่อใช้ หลังมือเช็ดตามความเคยชิน มันพลันเห็นโลหิตสี แดงฉาน


เลอะเปรอะเปื้ อน

อายร์ และเลียวนาร์ ดต่ างก็ล้มตึงลงไปนอนกับพื้น เลือดไหลซึม


ออกจากทวารหลายจุด ทั้งมุมปาก จมูก และดวงตา
บอร์ เจีย ดันน์ โรล็อต ทั้งสามรีบกระโดดถอยหลังด้ วยสี หน้ าซีด
เผือดคล้ายกับปราศจากเรี่ยวแรง

เพียงสั ตว์ ประหลาดบัดซบนั่นแหกปากตะโกนหนเดียว กลับ


รุนแรงพอจะทาให้ ผ้ วู ิเศษหกคนอ่อนแอฉับพลัน

ฟุ่ บ!

มันกระโจนใส่ บอร์ เจียที่ยืนใกล้ที่สุดพลางเหวี่ยงแขนซึ่งห้ อยผิด


ธรรมชาติเข้ ากระแทก

ปัง! ปัง! ปัง!

บอร์ เจียและดันน์ กระหน่ายิง แต่ สัตว์ ประหลาดรีเอล·บีเบอร์ มิได้


ลดความเร็วลง
เปรี้ยง!

การโจมตีส่งให้ บอร์ เจียปลิวกระเด็น ลูกโม่ กระบอกยาวในมือ


หลุดร่ วงหล่นพื้น

มันพยายามพยุงร่ างลุกยืน แต่ ก็ไม่ สาเร็จ

สั ตว์ ประหลาดผิวหนังเทาอ้าปากน้าลายไหลยืดดุจดังคนเสี ยสติ


ก่อนจะกระโจนใส่ หีบสี ดาที่มี 2-049 ถูกผนึกอยู่

ปัง!

ในวินาทีหัวเลีย้ วหัวต่ อ อายร์ ·ฮาร์ สันเล็งยิงใส่ หีบจนกระเด็นไป


ไกลกว่ าสิ บเมตร จุดประสงค์ เพื่อมิให้ สัตว์ ประหลาดเข้ าใกล้

หีบเกิดรอยร้ าวเล็กน้ อย ขณะเดียวกัน เสี ยงทุบจากหุ่นกระบอก


ด้ านในเริ่มดังรุ นแรงขึน้ ทุกที

“เจอแล้ว!”

โรล็อตส่ งเสี ยง

“ตรึงมันไว้ ให้ ฉันสามวินาที!”


“ตกลง”

ดันน์ ไม่ รีรอ มันเลื่อนมือขึน้ ไปแตะหว่ างคิว้ พร้ อมกับหลับตา

สภาพคล้ายกับกาลังหลับไหล เพียงชั่วอึดใจ เคลื่อนกระเพื่อมซึ่ง


ยากจะมองเห็นเริ่มก่อตัวแผ่ กระจายเป็ นวงกว้ าง ศูนย์ กลางคือจุด
หว่ างคิว้ ของดันน์ ·สมิท

สั ตว์ ประหลาดผิวหนังเทาที่กาลังอาละวาดบ้ าคลั่งมีอันต้ องชะงัก


งัน เปลือกตาของมันคล้ายกลับจะปิ ดลงอย่ างควบคุมตัวเองไม่ ได้

ขณะเดียวกัน ร่ างกายดันน์ เริ่มสั่ นระริกรุนแรงหนักหน่ วง


ผิวหนังใต้ เสื้ อผ้ ามีกลักษณะยุบพองขยายตัวผิดธรรมชาติ ราวกับงู
เหลือมตัวใหญ่ กาลังเลื่อยไต่ ใต้ เสื้ อผ้ าที่มันสวม

โรล็อตกระโจนกลิง้ ตัวไปยังหว่ างขาสั ตว์ ประหลาด ก่อนจะใช้


มือข้ างซ้ ายยันพื้นให้ ร่างตนหยุดนิ่ง และใช้ กาปั้นขวาซัดเสยขึน้ ไป
ที่หว่ างขารีเอล·บีเบอร์ เต็มแรง

โผละ!

เธออดทนต่ อแผลกัดกร่ อนที่เกิดจากของเหลวหยดใส่ โรล็อต


เกร็งตัวและใช้ มือซ้ ายพยุงร่ างให้ สูงขึน้ พร้ อมกับใส่ แรงทั้งหมดไป
ที่มือขวาเพื่อยืดเหยียดให้ เข้ าไปลึกมากที่สุด
ปึ ด!

เมื่อได้ สิ่งที่ต้องการ โรล็อตกระชากลาไส้ สัตว์ ประหลาดหลุดมา


ทั้งยวงพร้ อมกับของเหลวสี แดงปนเหลือง

ภายในลาใส้ ที่ติดมือมีวัตถุคล้ายหนังสื อหนึ่งเล่มคาอยู่

…สมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัส

“โฮกกก!”

ขณะกรีดร้ องเจ็บปวดทรมาณ ร่ างกายสั ตว์ ประหลาดผิวหนังเทา


เริ่มอ่อนตัวลงคล้ายกับกาลังละลาย

“หมอบลง!”

เมื่อสิ้นเสี ยงตะโกนอายร์ ·ฮาร์ สัน ไคลน์ พลันเห็นร่ างกายสั ตว์


ประหลาดพองตัวขยายขึน้ จนถึงขีดจากัด

บึม้ มม!

ท่ ามกลางเสี ยงระเบิดกึกก้อง ไคลน์ ถูกส่ งกระเด็นไปในอากาศ


และตกกระแทกพื้นรุนแรง
ชายหนุ่มฝื นพยุงตัวลุกยืนด้ วยศีรษะที่วิงเวียน เมื่อเงยหน้ า มัน
ได้ พบซากสั ตว์ ประหลาดรีเอล·บีเบอร์ กระจัดกระจายในสภาพน่ า
สยดสยอง ขณะเดียวกัน ดันน์ และโรล็อตนอนแผ่ ห่างออกไปหลาย
สิ บเมตร คงเพราะทั้งสองถูกแรงระเบิดไม่ ต่างจากตน

อายร์ ·ฮาร์ สัน บอร์ เจีย และเลียวนาร์ ด·มิเชลก็นอนหมอบอย่ าง


หมดสภาพ บ้ างส่ งเสี ยงโอดครวญ และบ้ างฝื นลุกยืนแต่ ไม่ สาเร็จ

ขณะไคลน์ กาลังโล่งใจ หางตามันพลันเหลือบเห็นวัตถุที่ค้ นุ เคย


อยู่ห่างจากตนราวสองเมตร
หีบดา… ฝาของมันกาลังเปิ ดอ้าซ่ า!

ท่ อนแขนทรงกระบอกสี น้าตาลเริ่มปี นป่ ายขึน้ มาจากด้ านในหีบ


อย่ างเชื่ องช้ า

ของวิเศษต้ องห้ าม 2-049…

เชี่ย!

หัวใจไคลน์ หล่นไปอยู่ตาตุ่มเมื่อทราบว่ าตนเข้ าสู่ ระยะเล่นงาน


ของหุ่นกระบอกบัดซบ

แรงระเบิดเมื่อครู่ได้ ส่งให้ หีบดากระเด็นมาใกล้ราวกับเป็ นชะตา


ฟ้ าลิขิต
ในวินาทีนี้ ภาพการมองเห็นของมันเริ่มเฉื่ อยชา แขนขาขยับช้ า
กว่ าปรกติหลายเท่ า
ราชันย์ เร้ นลับ 75 : ช่ วยตัวเอง

ตกเป็ นเหยื่อหุ่นกระบอกบัดซบนั่นจนได้ !

หัวหน้ าและเหยี่ยวราตรีที่เหลือยังไม่ ได้ สติกลับมา บางคนพยุง


ตัวเองไม่ ขนึ้ ไม่ มีใครปลุกเราทันเวลาแน่ …

ไม่ ได้ การ… คงต้ องช่ วยเหลือตัวเองสถานเดียว

ภาพการมองเห็นกาลังเชื่ องช้ า หัวสมองรวมถึงข้ อต่ อของ


ร่ างกายคล้ายกับถูกกาวเหนียวหยอดไว้

ไคลน์ ไม่ ต้องการกลายเป็ นหุ่นกระบอกขนาดเท่ าคนจริง มันรีบ


ขบคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์ ตรงหน้ า

ไม่ ว่าอย่ างไรก็ห้ามตกเป็ นเหยื่อเด็ดขาด

คงปลุกตัวเองไม่ ได้ …

ต้ องพึง่ พาพลังจากภายนอก…

พลังจากภายนอก…?
ลองดูสักตั้ง… ไม่ มีเวลาให้ ลังเลแล้ว
เหตุการณ์ แสนกระชั้นชิด ไคลน์ คิดหาคาตอบให้ ตัวเองได้ ภายใน
สามวินาที มันฝื นขยับร่ างกายด้ วยข้ อต่ อที่เหยียวหนืดขึน้ สนิม

…เดินทวนเข็มนาฬิ กาเป็ นทรงจัตุรัส

ขณะเดียวกัน มันมิได้ ฝืนเปล่งเสี ยงด้ วยลาคอแสนอึดอัดที่คล้าย


กับมีเชื อกรัดไว้ ไคลน์ เพียงท่ องคาถาเงียบๆ ภายในใจ

เซียนราชันย์ … ฟ้ าดิน… ประทานโชค

มันเกิดความหวังเล็กๆ ว่ ามิติสายหมอกลึกลับจะช่ วยให้ ตนหลุด


พ้นจากการเข้ าสิ งของ 2-049 ได้

แกร่ ก! แกร่ ก! แกร่ ก!

ขณะขยับร่ าง ข้ อต่ อหัวเข่ าและข้ อเท้ าส่ งเสี ยงดังคล้ายหุ่น


กระบอกไม้

ไคลน์ ยังคงฝื นเดินทวนเข็มต่ อ

เทพสวรรค์ … ฟ้ าดิน… ประทานโชค

การเคลื่อนไหวเชื่ องช้ าลงทุกขณะ อาการคล้ายกับคอมพิวเตอร์ ที่


ถูกติดตั้งโปรแกรมขยะและแอนตีไ้ วรัสครบทุกชนิด
ข้ อเท้ าซ้ ายเยื้องย่ างกะตุกตะกัก แต่ อย่ างน้ อยก็บรรลุไปถึงจุดที่
ปรารถนา

จักรพรรดิสวรรค์ … ฟ้ าดิน… ประทานโชค

สติไคลน์ ใกล้ดับวูบลงทุกที ก้าวสุ ดท้ ายเป็ นไปตามสั ญชาตญาณ


โดยไม่ มีจิตใจเข้ ามาเกี่ยวข้ อง

ณ จุดนี้ ไคลน์ มั่นใจว่ าไม่ มีใครช่ วยตนได้ อีกแล้ว ต่ อให้ อายร์ ·ฮาร์
สั นตื่นขึน้ และรีบวิ่งมาปลุกก็คงไม่ ทันการณ์

ด้ วยความปรารถนาที่จะมีชีวิตรอด มันฝื นเปล่งคาถาท่ อน


สุ ดท้ าย

ราชันย์ สวรรค์ … ฟ้ าดิน… ประทานโชค

ในวินาทีที่ท่องจบ เสี ยงเพรียกหาอันแหบพร่ าพลันดังก้องในหัว


ภาพเคลื่อนไหวเฉื อยชาตรงหน้ าแตกละเอียดคล้ายเศษกระจก
สมองที่เคยสู ญเสี ยการควบคุมไปแล้วหนหนึ่งกลับมาใช้ งานได้ อีก
ครั้ง

ห้ วงจิตไคลน์ พ่งุ ทยานฟ้ าด้ วยความเร็วสู งจนภาพสองข้ างทาง


พร่ ามัวไม่ ชัดเจน
เพียงพริบตา มิติสายหมอกเทากว้ างใหญ่ ไร้ ขอบเขตและดาวแดง
เข้ มสองดวงปรากฏให้ เห็นตรงหน้ า …ภาพที่ค้ นุ เคย

ภายในชั่วอึดใจ สติไคลน์ กลับมาครบถ้ วนสมบูรณ์ และสามารถ


คิดอ่านได้ ตามปรกติ

“ฟู่ ว… โชคดีที่ได้ ผล”

ชายหนุ่มพึมพาเสี ยงสั่ นเครื อ


จากข้ อมูลที่ได้ รับก่อนหน้ านี้ ใครก็ตามที่ตกเป็ นเหยื่อของ 2-049
จะอยู่ในภาวะกึ่งตาย ปัจจุบันยังไม่ มียาชนิดใบบนโรครักษาได้

โชคดีที่มิติสายหมอกแห่ งนีย้ ังคงความประหลาดพิสดารจนถึง


ที่สุด อย่ างน้ อยก็ช่วยให้ ตนรอดหวุดหวิด ถึงจะไม่ ทราบเหตุผล
เบื้องหลังก็ตาม

มันเดินวนเวียนไปมาอย่ างกระสั บกระส่ าย

เราอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ ได้ แน่ …

ไม่ อย่ างนั้น หากหัวหน้ าและเหยี่ยวราตรีที่เหลือได้ สติกลับมา


ตัวเราคงไม่ มีคาอธิบายให้ กับเหตุการณ์ ที่เกิดขึน้
คาดเดาจากสถานการณ์ ปัจจุบัน พลังลึกลับของมิติสายหมอกคง
ปกคลุมร่ างให้ รอดพ้นจาก 2-049 ไว้ ชั่วคราว ถ้ าต้ องกลับสู่ โลก
ความจริงตอนนี้ ไม่ มีสิ่งใดรับประกันว่ าจะปลอดภัยและไม่ ถูก 2-
049 เล่นงานซ้า

ขณะติดบ่ วงความคิดไม่ ร้ ูจบสิ้น ไคลน์ พลันตบหน้ าผากตัวเอง


หนึ่งฉาดใหญ่ ก่อนจะอมยิม้ อย่ างมีเลศนัยและพึมพา

“เราลืมไปได้ ยังไงว่ าตัวเองเป็ นนักทานาย”

เมื่อสิ้นเสี ยง ชายหนุ่มหายตัวมาปรากฏบนเก้าอีห้ ัวโต๊ ะของ


ชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์

ไคลน์ ยื่นแขนออกไปด้ านหน้ า ปากกาหมึกซึมสี แดงเข้ มปรากฏ


จากความว่ างเปล่า

มันขีดเขียนบางสิ่ งลงบนกระดาษหนังที่ใช้ จิตเสกขึน้ มาเอง

“การกลับโลกจริงเป็ นสิ่ งที่ปลอดภัยมาก”

เมื่อเขียนจบ ชายหนุ่มล้วงหยิบจีบ้ ุษราคัมออกจากกระเป๋าเสื้ อ


จากประสบการณ์ ชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์หลายหนที่ผ่านมา ไคลน์ ทราบ
ว่ าสิ่ งของที่ติดตัวมาด้ วยสามารถปรากฏบนห้ วงมิติสายหมอก แต่
เป็ นไปในลักษณะภาพมายา
มันห้ อยปลายจีบ้ ุษราคัมไว้ เหนือแผ่ นกระดาษหนังเล็กน้ อย

ลมหายใจถูกสู ดเข้ าเต็มปอด ไคลน์ หลับตาลงและท่ องสิ่ งที่เขียน


ไว้ บนแผ่ นกระดาษ

“การกลับโลกจริงเป็ นสิ่ งที่ปลอดภัยมาก”


“การกลับโลกจริงเป็ นสิ่ งที่ปลอดภัยมาก”

เมื่อครบเจ็ดครั้ง การทานายด้ วยลูกต้ มวิญญาณก็เริ่มขึน้

ไคลน์ ลืมตาขึน้ มอง จีบ้ ุษราคัมห้ อยแกว่ งเล็กน้ อยพร้ อมกับหมุน


ในทิศทาง…

ตามเข็มนาฬิ กา… ตามเข็มหมายถึงใช่ และทวนเข็มหมายถึง


ปฏิเสธ

การกลับโลกจริงเป็ นเรื่ องปลอดภัย…

ไคลน์ ถอนหายใจโล่ งอกพร้ อมกับเก็บโซ่ เงินและจีบ้ ุษราคัมตาม


ความเคยชิน
ไม่ รอช้ า จิตของชายหนุ่มดาดิ่งกลับมายังโลกความจริงด้ วย
ความเร็วสู ง ภาพการมองเห็นรอบตัวคล้ายกับพุ่งผ่ านอุโมงค์ มิติ

หมอกสี เทากับดาวแดงหายไป ไคลน์ ปรากฏตัวอีกครั้งในสถานที่


เดิมและอากัปกิริยาเดิม

ส่ วนหุ่นกระบอกไม้ มันปี นออกจากหีบโลหะสี ดาสาเร็จ แต่ กลับ


ไม่ กระดุกกระดิกอย่ างที่ควรจะเป็ น

ในสภาพหันหลังให้ หีบ ขณะไคลน์ กาลังจะใช้ มือสารวจสภาพ


ร่ างกายตัวเอง หูของมันพลันได้ ยินเสี ยงมนุษย์ แว่ วจากความว่ าง
เปล่าตรงหน้ า คล้ายกับมีคนกาลังยืนพูดหลังฉากกั้นล่องหน

“อยากให้ ช่วยรึเปล่า? ฉันสามารถปลุกนายได้ ถ้ าสั ญญาบางสิ่ ง


กับฉันก่อน

“เรื่ องที่ว่าก็คือ นายต้ องขโมยสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสมา


ให้ ฉัน

“ถ้ าตกลงให้ พยักหน้ า ฉันรู้ว่านายยังพอขยับตัวได้ ”

ใครกัน?

ใจเย็นไว้ … 2-049 จะไม่ เล่นงานเป้าหมายเดิมซ้าในทันที ใช่ แล้ว


มันมีช่องว่ างในการครอบงาเหยื่อ
แม้ ไคลน์ กาลังตื่นเต้ นสุ ดขีด แต่ มันก็ไม่ แสดงออกทางสี หน้ า

ขณะเดียวกัน เสี ยงลึกลับยังคงกล่าวต่ อไป

“ถ้ าภารกิจสาเร็จ นายจะได้ รับรางวัลเพิม่ เติมชนิดที่ปฏิเสธไม่


ลง…

“ฉันรู้ว่านายเป็ นนักทานาย และโบสถ์ รัตติกาลไม่ มีโอสถ


เส้ นทางนักทานายสู งกว่ าลาดับเก้า แต่ พวกเรา ลัทธิเร้ นลับ คือองค์
ที่ครอบครองโอสถเส้ นทางนักทานายไว้ โดยสมบูรณ์

“หึหึ… ฉันเองก็เคยเป็ นนักทานายมาก่อน ไม่ อย่ างนั้นคงไม่


ย้ อนกลับมาที่นี่อย่ างมั่นใจ

“เพื่อเป็ นการแสดงไมตรี จะบอกให้ ก็ได้ ว่า โอสถลาดับแปดของ


เส้ นทางนักทานายคือ…

“ตัวตลก”

ตัวตลก? ลัทธิเร้ นลับ?

ปัจจุบัน ไคลน์ ยังไม่ ได้ รับผลครอบงาจากหุ่นกระบอกไม้ แต่ มัน


แสร้ งทาเป็ น
ชายหนุ่มไม่ เข้ าใจสั กนิดว่ า ตัวตลกมีความเกี่ยวพันธ์ อย่ างไรกับ
นักทานาย จุดหมายของเส้ นทางนักทานายคือหัวหน้ าคณะละคร
สั ตว์ หรื ออย่ างไร?

“เอาล่ะ รีบตัดสิ นใจ นายเหลือเวลาอีกไม่ มากแล้ว”

เสี ยงปริศนาดังส่ งท้ ายก่อนจะเงียบงัน

ดันน์ และโรล็อตที่กระเด็นไปไกล ยังไม่ มีทีท่าว่ าจะได้ สติกลับมา


บอร์ เจียเองก็เจ็บหนักจากการถูกสั ตว์ ประหลาดซัดอย่ างจัง

มีแค่ เลียวนาร์ ดและอายร์ ที่สภาพร่ างกายค่ อนข้ างสมบูรณ์ แต่


พวกมันยังไม่ แข็งแรงพอจะลุกยืนด้ วยตัวเอง

ใครกัน? ลัทธิเร้ นลับ… ตัวตลกสวมสู ทคนก่อนหน้ านีห้ รื อ?

ย้ อนกลับมาเพื่อรอฉวยโอกาสสิ นะ…

หลังจากได้ ยินเสี ยงปริศนา ไคลน์ เกิดคาถามมากมายในหัว

ในเมื่ออีกฝ่ ายเป็ นนักทานาย ชายหนุ่มจึงคิดหาเหตุผลย้ อนกลับ


ในมุมของนักทานาย

การที่กล้าย้ อนกลับมาย่ อมหมายความว่ า มันทานายถึง‘ความ


เสี่ ยง’ของอันตรายไว้ แล้ว และคาดว่ าสั ตว์ ประหลาดรีเอล·บีเบอร์
จะสร้ างหายนะแก่ผ้ วู ิเศษเหยี่ยวราตรีท้งั หกคนจนบอบช้า

และเหตุผลมันไม่ กล้าเสี่ ยงเข้ าไปเอาสมุดด้ วยตัวเอง ผลทานาย


อาจระบุว่ามีความเสี่ ยงสู งเกินไป

ส่ วนสาเหตุของอันตรายคงระบุได้ ไม่ ชัดเจน อาจเป็ นได้ ท้งั ดันน์


กับโรล็อตกาลังแสร้ งทาเป็ นหมดสติ หรื อไม่ ก็มีกับดักจากเหยี่ยว
ราตรีที่เหลือ

และเหตุผลที่ตัวตลกสวมสู ทไม่ ทานายถึงสถานการณ์ ปัจจุบัน


ของเรา คงเพราะมันไม่ มีเวลามากพอ

หากเสี ยเวลาทานายเรื่ อยเปื่ อยหลายข้ อมากเกินไป เกรงว่ าอายร์


และเลียวนาร์ ดอาจได้ สติกลับมาจนเสี ยแผนการ

หรื อไม่ ก็… มันประเมินเราไว้ ต่า

มันคงมั่นใจว่ าเราเป็ นเพียงนักทานายลาดับเก้ า และไม่ มีพลัง


พอจะหลุดพ้นจากผลครอบงาของ 2-049 ได้ แน่ จึงมาต่ อรองโดย
ยื่นข้ อเสนอแลกกับการช่ วยชีวิต

มันคงต้ องการหนูทดลองสาหรับวิ่งฝ่ ากับดักที่เหยี่ยวราตรีวาง


ไว้
แต่ ขณะเดียวกันก็หมายความว่ า พิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตาไม่ ได้
สร้ างความผิดปรกติทางรูปลักษณ์ ภายนอกแต่ อย่ างใด

ปัจจุบัน เมื่อไม่ ถูกหุ่นกระบอกครอบงาสมอง ความคิดความ


อ่านไคลน์ กระจ่ างใสและชัดเจน มันมั่นใจว่ า การกระทาของตัว
ตลกสวมสู ท ต้ องมีเหตุผลไม่ นอกเหนือไปจากที่ตนวิเคราะห์ แน่

ส่ วนรางวัลที่มันให้ สัญญาเป็ นมั่นเหมาะ ไคลน์ ไม่ หลงเชื่ อแม้ แต่


เศษเสี้ยว หนูทดลองที่ถูกหลอกใช้ ไม่ มีทางปลอดภัย…

หลังจากทบทวนจนแน่ ใจ ชายหนุ่มแสร้ งผงกศีรษะอย่ างเชื่ องช้ า


ให้ เหมือนกับกาลังถูก 2-049 ครอบงา

ทันใดนั้น ม่ านบาเรียที่มองไม่ เห็นพลันสลายตัว บุคคลด้ านใน


ไม่ ใช่ ใครอื่น…

ตัวตลกสู ทดาที่เคยสู้ อย่ างสู สีกับดันน์ ·สมิทและโรล็อต ใบหน้ า


ถูกทาด้ วยแถบสามสี ผู้วิเศษที่ดันน์ ระบุว่าเป็ นสมาชิกของลัทธิเร้ น
ลับ

ปัจจุบัน ไคลน์ กาลังยืนหันหลังให้ กับหีบดาและห่ ุุนกระบอกไม้


เนื่องจากพยายามหนีให้ พ้นระยะ 2-049 ในช่ วงก่อนทาพิธีกรรม
เปลี่ยนดวงชะตา
ส่ วนตัวตลกสวมสู ทยืนอยู่ด้านหน้ าไคลน์ เยื้องไปท้ ายซ้ ายมือ
เล็กน้ อย มันไม่ คิดเข้ าใกล้ระยะครอบงาห้ าเมตรของ 2-049 และไม่
คิดเสี่ ยงกับลูกโม่ ทองเหลืองในมือขวาของชายหนุ่ม นับเป็ นการ
กระทาที่รอบคอบมาก

ตัวตลกสู ทดาดึงกระดาษแผ่ นยาวออกจากกระเป๋าเสื้ อและ


เปลี่ยนให้ เป็ น ‘พลองยาว’

มันเดินเข้ ามาใกล้ไคลน์ ในระยะสามเมตร ก่อนจะใช้ พลองไม้


แหย่ ตรงมายังหัวไหล่

เจ้ านี่ร้ ูจัก 2-049 ทุกซอกมุม…

มันทราบว่ า หากมีทายาทอันทีโกนัสอยู่ในรัศมี หุ่นกระบอกจะ


คลุ้มคลั่งและครอบงาได้ สองเป้าหมายพร้ อมกัน แถมยังทราบว่ า
การขว้ างปาวัตถุใส่ ไม่ ได้ ผล …อย่ างน้ อย หัวหน้ าเคยบอกว่ า
ทดสอบแล้วไม่ สาเร็จ

ถึงจะไม่ ทราบเหตุผลที่ 2-049 ยกเลิกครอบงาตนชั่วขณะ แต่


ไคลน์ ไม่ ต้องการเสี่ ยงอยู่ต่อนานกว่ านี้ ชายหนุ่มกลั้นหายใจพร้ อม
กับรวมรวบสมาธิเตรียมลงมือกระทาบางสิ่ ง
ในวินาทีที่พลองไม้ ใกล้ สัมผัสหัวไหล่ ไคลน์ รีบยกมือซ้ ายพร้ อม
กับออกแรงกระชากพลองเข้ าหาตัว

แน่ นอน ตัวตลกสวมสู ทไม่ ทันคาดคิด มันเสี ยหลักล้มเซมา


ด้ านหน้ า ทันใดนั้น ชายหนุ่มฉวยโอกาสพุ่งตัวเข้ าไปใกล้ ระยะห่ าง
คนทั้งสองเหลือเพียงเมตรกว่ า

มือขวาไคลน์ ที่กาลังถือลูกโม่ เริ่มยกขึน้ และลั่นไกฉับพลัน

ปัง! ปัง!
ชายหนุ่มยิงสองนัด เป้าเล็งไม่ ใช่ ตัวตลกสวมสู ทที่กาลังเสี ยหลัก
แต่ เป็ นของวิเศษต้ องห้ าม 2-049 ด้ านหลังตน

ไคลน์ ไม่ แน่ ใจว่ าหุ่นกระบอกหยุดทางานด้ วยเหตุผลใด แต่ คิดว่ า


การยิงใส่ อาจช่ วยกระตุ้นอานาจครอบงาให้ ตื่นขึน้ อีกครั้ง

ย้ อนกลับไปก่อนเสี ยงปื นจะดังขึน้ ตัวตลกที่กาลังเสี ยหลักเซ มัน


รีบกลิง้ ตัวไปด้ านหน้ าตามสั ญชาตญาณเมื่อเห็นไคลน์ ขยับมือขวา
ซึ่งเป็ นข้ างที่ถือลูกโม่

เมื่อยิงเสร็จ ชายหนุ่มปล่อยมือจากพลองและรีบพุ่งตัวให้ พ้น


ระยะครอบงาของหุ่นกระบอกบัดซบ

หลังจากตัวตลกสวมสู ทกลิง้ ไปด้ านหน้ าสองตลบ มันรีบพยุง


ร่ างขึน้ เพื่อสารวจสถานการณ์ รอบตัวให้ แน่ ใจ
ทว่ า ภาพการมองเห็นเฉื่ อยชาฉับพลัน

แย่ ล่ะสิ …

อีกฝ่ ายหลอกให้ มันกลิง้ เข้ าหาหุ่นกระบอกอันทีโกนัส…

ในระยะ… ห้ าเมตร…

ทาไมชายคนนีถ้ ึง… ไม่ ถูก… ครอบงา…

ตัวตลกสวมสู ทพยายามขยับร่ างกายด้ วยท่ าทางเงอะงะคล้ายกับ


ข้ อต่ อขึน้ สนิม

ไคลน์ หันหลังกลับมาพร้ อมกับใช้ สองมือเล็งลูกโม่ ไปยังศีรษะตัว


ตลก ด้ วยสภาพปัจจุบัน คงง่ ายไม่ ต่างจากยิงใส่ เป้าซ้ อมที่ไม่ ขยับ
เขยื้อน

ชายหนุ่มได้ เห็นฉากการต่ อสู้ ระหว่ างตัวตลกสวมสู ทกับดันน์


สมิทและโรล็อต มันจึงทราบว่ าไอ้บัดซบนี่คล่องแคล่วยิ่งกว่ าลิงค่ าง
ต่ อให้ เหลือระยะแค่ สองเมตร แต่ ไคลน์ ไม่ มั่นใจว่ าตนจะยิงโดน จึง
เลือกหลอกล่อให้ อีกฝ่ ายกระโจนใส่ 2-049 แทน
กุญแจสาคัญอยู่ที่การแสร้ งทาเป็ นได้ รับผลครอบงาจากหุ่น
กระบอก ไม่ อย่ างนั้น อีกฝ่ ายคงหวาดระแวงและไม่ กล้ าเข้ าใกล้
ตั้งแต่ ต้น

ปัง!

ดวงตาที่อธิบายเป็ นคาพูดไม่ ได้ ของตัวตลก กาลังสะท้ อนภาพ


ไคลน์ ในสู ทดา ลั่นไกปื นด้ วยสี หน้ าเย็นชาอามหิต
ราชันย์ เร้ นลับ 76 : ฟื้ นฟูหลังจบศึก
ปัง!

ด้ วยระยะเพียงไม่ ถึงเมตร กระสุ นสี เงินพุ่งแหวกอากาศทะลวง


ลาคอตัวตลกสู ทดาอย่ างโหดเหีย้ ม โลหิตสาดกระเซ็นออกจากรู
โหว่ เหวอะหวะ ผิวหนังบนใบหน้ ารวมถึงโบว์ หูกระต่ ายถูกย้ อม
ด้ วยเลือดสดสี แดงฉาน

ตัวตลกสวมสู ทมิอาจกรีดร้ องเนื่องจากเส้ นเสี ยงถูกทาลาย


ฉับพลัน มันพยายามย้ ายบาดแผลบริเวณลาคอไปยังจุดอื่น แต่ ด้วย
ท่ อนแขนที่เชื่ องช้ า ความต้ องการจึงไม่ บรรลุผลสาเร็จ

ปัง!

เมื่ออยู่ในภาวะเนตรวิญญาณ สี ของเลือดจึงไม่ สร้ างความ


สยดสยองแก่ไคลน์ มันลั่นไกใจเย็นประหนึ่งอีกฝ่ ายเป็ นเพียงเป้า
ซ้ อม

รูโหว่ สุดสยองปรากฏกึ่งกลางศีรษะพร้ อมกับละอองเลือดสาด


กระเซ็นเป็ นฝอย ในวินาทีปัจจุบัน ประกายแสงในแววตาตัวตลก
พลันมอดสนิท พลังทาลายของปื นลูกโม่ มีอานุภาพกับมนุษย์
รุนแรงกว่ าที่ไคลน์ จินตนาการไว้ มาก

เข่ าตัวตลกเริ่มงอพับ แขนห้ อยลง


ท้ ายที่สุด ร่ างตัวตลกสู ทดาทิง้ ตัวนอนกับพื้น ดวงตายัง
คงเหลือกค้ างไว้ เช่ นเดิม

ตัวมันกระตุกเบาๆ สองสามหนก่อนจะหยุดชะงักสงบนิ่ง

เมื่อเห็นกระสุ นพุ่งเข้ าศีรษะอีกฝ่ ายเต็มสองตา ไคลน์ รีบหันหลัง


กลับทันทีด้วยมาดสุ ขุมเยือกเย็น ประหนึ่งพระเอกหนังหลังจัดการ
ผู้ร้ายเสร็จ ชายหนุ่มตบโม่ ไปทางซ้ ายพร้ อมกับเทปลอกกระสุ นเก่า
ทิง้
จากนั้น มันจัดระเบียบเครื่ องแต่ งกายให้ เรียบร้ อย สู ทดา หมวก
ทรงสู ง ก่อนจะเดินตรงไปยังจุดที่อายร์ ·ฮาร์ สันนอนอยู่
ขณะเดียวกันก็นากระสุ นปราบมารนัดสุ ดท้ ายใส่ เข้ าไปในโม่

สาเหตุที่ไคลน์ ไม่ หันไปมองร่ างไร้ วิญญาณของตัวตลกสวมสู ท


เพราะนี่คือการฆ่ าศพแรกอย่ างแท้ จริงนับตั้งแต่ เกิดมาบนโลก ไม่
ว่ าจะโลกไหน การฆ่ าคนก็ไม่ ใช่ เรื่ องที่น่าภาคภูมิใจ

มันจาเป็ นต้ องยิง เพราะไคลน์ ไม่ ทราบแน่ ชัดว่ าตัวตลกถูก 2-049


เล่นงานหรื อไม่ การปกป้องชีวิตตัวเองสาคัญกว่ า

และมันไม่ ต้องการเสี่ ยงเข้ าไปในระยะของ 2-049 เป็ นหนทีส่ อง


ครั้งแรกอาจโชคดีที่พธิ ีกรรมเปลี่ยนดวงชะตาสาเร็จ แต่ หากมี
อุปสรรคขัดขวางแม้ เพียงเล็กน้ อย ไคลน์ ได้ กลายเป็ นหุ่นกระบอก
ไปตลอดกาลแน่ นอน
ส่ วนสิ่ งของที่ตัวตลกพกมาด้ วย ไคลน์ ไม่ สนใจอะไรนอกจาก
สู ตรโอสถลาดับแปดอย่ าง ‘ตัวตลก’ แต่ เรื่ องนั้นก็ไม่ ต้องกังวล ที่นี่
มีเหยี่ยวราตรีระดับสู งมากมาย ไม่ ว่าจะหัวหน้ าหรื ออายร์ ·ฮาร์ สัน

เมื่อคนเหล่านีร้ ีดเร้ นข้ อมูลจากศพสาเร็จ ข้ อมูลเกี่ยวกับโอสถตัว


ตลกก็จะตกถึงตนในสั กวันอยู่ดี

อาจไม่ ใช่ เร็วๆ นี้ แต่ เมื่อตัวมันมีคะแนนความดีความชอบสู งถึง


กาหนด และถ้ าย่ อยโอสถนักทาลายได้ สมูบรณ์ ไม่ มีเหตุผลอะไรที่
โบสถ์ รัตติกาลจะปฏิเสธมอบสู ตรโอสถตัวตลกมาให้ บางทีอาจ
ไม่ ใช่ แค่ สูตร แต่ เป็ นโอสถสาเร็จรูปด้ วยซ้า

ยังเหลือเวลาอีกนานจนกว่ าจะถึงตอนนั้น

ขณะได้ ข้อสรุปทางความคิด ไคลน์ เร่ งฝี เท้ าเดินไปให้ ถึงอายร์ ·


ฮาร์ สัน สุ ภาพบุรุษมาดเข้ มที่สวมชุดกันลมสี เทา มันพยายามพยุง
ร่ างลุกนั่งหลายหน แต่ ไม่ สาเร็จสั กที ลาตัวตะเกียกตะกายบนฝุ่ น
โคลนเช่ นนั้นอยู่นาน

“มิสเตอร์ ฮาร์ สัน ผมจะช่ วยคุณได้ อย่ างไรบ้ าง?”

ไคลน์ เดินไปหยุดตรงหน้ ามันและนั่งยอง ชายหนุ่มกดปลายปื น


ทิ่มลงพื้นเพื่อป้องกันเหตุกระสุ นลั่น
อายร์ พยายามสู ดลมหายใจ

“สั ตว์ ประหลาดนั่นแข็งแกร่ งชะมัด ถ้ าไม่ เพราะโรล็อตหา


จุดอ่อนพบ…”

จากนั้น อายร์ ชี้นวิ้ ไปยังขวดโลหะสี ฟ้าข้ างลาตัวพลางอมยิม้ จืด


ชีด

“ผมพยายามจะดื่มมัน แต่ มือกลับสั่ นจนหกหมด…”


ขวดสี ฟ้ามีขนาดประมาณนิ้วชี้ไคลน์ ความยาวไม่ มากไปกว่ าห้ า
เซนติเมตร ขวดดังกล่าววางนอนราบไปกับพื้นโคลน ของเหลว
ด้ านในหกเกือบหมด ฝาเกลียวซึ่งมีลวดลายสลักหล่นอยู่ไม่ ห่าง

ไคลน์ เอื้อมมือไปหยิบก่อนจะเพ่งพิจารณาภายในขวด

“มิสเตอร์ ฮาร์ สันครับ เหลือแค่ ไม่ กี่หยด…”

“ไปหา… บอร์ เจีย ค้ นตัวเขา… กระเป๋าเสื้ อช่ องใน”

อายร์ กล่าวด้ วยสี หน้ าผะอืดผะอม

“ได้ ครับ”
ไคลน์ ลุกขึน้ พร้ อมกับเอ่ยถาม
“เป็ นคือยาฟื้ นฟูหรื อครับ?”

เกิดจากศาสตร์ เร้ นลับรึเปล่านะ?

“ไม่ ใช่ ยาฟื้ นฟู มันช่ วยฟื้ นฟูได้ ไม่ มาก สรรพคุณหลักคือการทา
ให้ จิตใจผู้ดื่มแข็งแกร่ ง… และสามารถขจัดอาการผิดปรกติที่เกิด
กับร่ างกายได้ ชั่วขณะ เพื่อจะได้ รีบถอยกลับไปรักษาตัวที่ศูนย์
บัญชาการ”
ขณะกล่าว อายร์ ยังคงพยายามลุกนั่ง แต่ ก็ไม่ สาเร็จ

มันกล่าวเสริมส่ งท้ าย

“ยาชนิดนี้ชื่อว่ า‘เทพธิดาเพ่ งพิศ’… อย่ าลืมให้ บอร์ เจียดื่มก่ อน


ครึ่งขวด”

ไคลน์ ไม่ รีรอ มันรีบเดินไปหาบอร์ เจียที่นอนโอดครวญโดยไม่ มี


ทีท่าจะลุกไหว มันรื้อค้ นกระเป่ าเสื้ อด้ านในและพบขวดโลหะสี ฟ้า

เมื่อปิ ดผาออก ชายหนุ่มพยายามนาขวดไปวางใกล้ปากบอร์ เจีย

อีกฝ่ ายร่ วมมือโดยการพยายามอ้าปากให้ กว้ าง ไคลน์ เห็นดังนั้น


จึงรีบกรอกของเหลวสี แดงเข้ มเข้ าไป เมื่อกะเกณฑ์ ได้ ปริมาณ มัน
หยุดลงและทาการหมุนปิ ดผา
ยาได้ ผลเกินกว่ าที่คาด เพียงไม่ กี่วินาที แววตาบอร์ เจียกลับมามี
เรี่ยวแรงอีกครั้ง

บอร์ เจียพึมพา

“ขอบใจ”

หลังกล่าวจบ มันใช้ มือพยุงตัวยืนขึน้ อย่ างช้ าๆ สิ่ งแรกทาคือการ


ตรวจสอบบาดแผลตนเอง ก่อนจะเดินไปในทิศทางที่โรล็อตและ
ดันน์ นอนหมดสติอยู่

บอร์ เจียก้มหยิบเทพธิดาเพ่งพิศออกจากกระเป๋าด้ านในเสื้ อกัน


ลมของดันน์

ขณะเดียวกัน ไคลน์ เดินกลับมาหาอายร์ และกรอกของเหลวสี


แดงเข้ มที่เหลือเข้ าไปจนหมดขวด

หลังจากหายใจหอบสองสามครั้ง สภาพร่ างกายอายร์ ดูดีขึน้ ทัน


ตาเห็น มันขยับตัวคล่องแคล่วและลุกขึน้ ง่ ายดายราวกับไม่ เคย
บาดเจ็บ

“ผมไปจะช่ วยบอร์ เจียอีกแรง คุณไปช่ วยคู่หูตรงนั้น”


สุ ภาพบุรุษวัยกลางคนมาดเข้ มชี้นวิ้ ไปทางเลียวนาร์ ด·มิเชล
ไคลน์ ไม่ คัดค้ าน มันลุกขึน้ และรีบเดินไปทาง‘นักกวี’เลียวนาร์ ด

“ไม่ ต้อง ผมดื่มเองได้ ”

เหยี่ยวราตรีนัยน์ ตาเขียวแสยะยิม้ ด้ วยสภาพผมเผ้ าที่ย่ ุงเหยิง


ก่อนจะยกขวดโลหะสี ฟ้าดื่มด้ วยตัวเอง

เมื่อเห็นอีกฝ่ ายดื่มได้ โดยไม่ ยากเข็ญ ไคลน์ เกือบหลุดสบถ


ออกไป

ถ้ าช่ วยตัวเองได้ ทาไมไม่ ทาตั้งแต่ แรก…?

ทันใดนั้น ชายหนุ่มพลันฉุกคิดบางสิ่ ง

ถ้ าเลียวนาร์ ดไม่ ได้ บาดเจ็บหนัก…

ถ้ าหมอนั่นมีแรงดื่มยาได้ เองแต่ แรก…

หมายความว่ า… มันเห็นตอนที่เราเดินทวนเข็มทรงจัตุรัสขณะ
ประกอบพิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตา!

ไม่ สิ มันอาจไม่ ร้ ูถึงพิธีกรรม เพราะเราไม่ ได้ เปล่งคาถาออกเสี ยง


และมิติสายหมอกก็ไม่ ได้ ทาให้ รูปลักษณ์ ภายนอกแปลกไป
ไม่ อย่ างนั้น ตัวตลกสู ทดาคงไม่ หลงติดกับ
แต่ อย่ างน้ อย มันก็มีสติพอจะได้ เห็นเหตุการณ์ มากมาย ทั้งเรื่ อง
ที่เราหลุดพ้นจากอานาจ 2-049 รวมถึงเรื่ องที่เราหลอกตัวตลกให้
ติดกับและฆ่ าทิง้

ขณะไคลน์ หรี่ตาลงอย่ างไม่ พอใจ นักกวีเลียวนาร์ ดลุกขึน้ มายืน


ข้ างๆ พร้ อมกับส่ งเสี ยงกระซิบ

“ด้ วยความสั ตย์ จริง ผมกาลังจะเข้ าไปช่ วยคุณ แต่ เห็นว่ าไม่
จาเป็ น ก็เลยไม่ ได้ ทา

“ไม่ ต้องห่ วง บนโลกนี้มีมนุษย์ พเิ ศษอยู่มากมาย คนเหล่านั้นมี


ปริศนาที่ผ้ อู ื่นไม่ มี สามารถกระทาในสิ่ งที่ผ้ อู ื่นทาไม่ ได้

“เหมือนกับคุณ…

“…และผม”

เมื่อกล่าวจบ เลียวนาร์ ดโบกมือให้ ไคลน์ พร้ อมกับเดินไปทาง


ดันน์ และโรล็อต

หมอนี่หลงตัวเองฉิบ…

เมื่อได้ ข้อสรุป ไคลน์ เริ่มผ่ อนคลาย


เท่ าที่ดู เลียวนาร์ ดก็คงมีปริศนาไม่ น้อย…

ไคลน์ ตัดสิ นใจเดินไปรวมกลุ่มกับทุกคนโดยในหัวยังครุ่นคิด


เรื่ องราวมากมาย

ทันใดนั้น ชายหนุ่มเหลือบเห็นดันน์ ·สมิทใช้ มือข้ างที่สวมถุงมือ


ดาก้มหยิบสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสซึ่งมีของเหลวสี เหลืองปน
น้าตาลเปื้ อนเปรอะ

สมุดเล่มดังกล่าวมีปกหนาสี ดา คล้ายกับถูกปกคลุมด้ วยพลังบาง


ชนิด มันไม่ เก่ าแก่ลงแม้ แต่ น้อย และไม่ ถูกของเหลวกัดกร่ อนหรื อ
ทาให้ เปื่ อยยุ่ย ยังคงเหมือนกับที่ปรากฏในฝันไคลน์ ทุกประการ

บางทีก็แอบสงสั ยว่ า หากกางสมุดออกมาจะพบภาพเดอะฟูล


สวมเครื่ องประดับศีรษะหรูหราอีกหรื อไม่ ?

เพียงไม่ นาน มันก็ตระหนักว่ าตนคิดมากเกินไป ถึงจะมองจาก


มุมไม่ ชัด แต่ หน้ ากระดาษที่ดันน์ เปิ ดผ่ านไม่ มีภาพของเดอะฟูล
แม้ แต่ แผ่ นเดียว

“อะแฮ่ ม… ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ”

เมื่อตรวจสอบเสร็จ ดันน์ ปิดสมุดลงและรีบเก็บว่ อน ก่อนจะหัน


ไปกล่าวกับอายร์
“ผมคิดว่ าเราควรเก็บสมุดเล่มนีแ้ ละของวิเศษต้ องห้ าม 2-049 ไว้
ในประตูยานิสสานักสาขางานทิงเก็นก่อน รอจนกว่ าพวกคุณจะ
ฟื้ นฟู หรื อไม่ ก็จนกว่ ามุขมณฑลเบ็คลันด์ จะส่ งคนมาเพิม่ ”

เมื่อได้ ยินเช่ นนั้น ไคลน์ เกิดความรู้สึกขัดแย้ ง ทั้งผิดหวังและดี


ใจ

ใจหนึ่ง มันต้ องการอ่านเนื้อความด้ านในอย่ างละเอียด เพื่อจะได้


ทราบถึงสาเหตุการตายที่ชัดเจนของไคลน์ คนก่อน เวิร์ช และนาย่ า
แต่ ขณะเดียวกันก็หวาดกลัว สมุดต้ องห้ ามที่ทาให้ เกิด
โศกนาฏกรรมสุ ดสยดสยอง คงไม่ ได้ นาพาเรื่ องดีๆ มาสู่ คนรอบตัว
แน่ ตัวอย่ างที่ชัดเจนคือรีเอล·บีเบอร์

ไคลย์ ไม่ กล้าแตะต้ องโดยตรง การส่ งให้ โบสถ์ รัตติกาลเก็บรักษา


ถือเป็ นเรื่ องที่ถูกต้ องแล้ว

“ตามนั้น”

อายร์ ·ฮาร์ สัน บอร์ เจีย และโรล็อตผงกศีรษะพร้ อมกัน ก่อนจะ


หันหลังกลับและเดินตรงไปยัง 2-049

ขณะทาการผนึก พวกมันสามคนช่ วยปลุกกันและกันเป็ นช่ วงๆ


อย่ างชานาญ สายตาไม่ คลาดการกระทาของสองคนที่เหลือ
“กลับสู่ ความสงบสั กที”

อายร์ กล่าวด้ วยเสี ยงผ่ อนคลาย

หุนกระบอกชุดเปรอะน้ามันถูกเก็บกลับใส่ หีบโลหะและผนึก
ด้ วยพลังวิญญาณอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งตัวตลกที่ทาหน้ าด้ วยสามสี ดวงตาของมัน


ยังไร้ สัญญาณชีพเช่ นเดิม รูโหว่ กลางหน้ าผากและลาคอค่ อนข้ าง
สยดสยอง

ดันน์ เลียวนาร์ ด และไคลน์ ที่ถูกเสริมภูมิค้ มุ กันเกี่ยวกับศพ ทั้ง


สามคนช่ วยกันชันสู ตรร่ างตัวตลกทุกซอกมุม อุปกรณ์ ที่พบมีท้งั
ดอกไม้ กระดาษ ผ้ าเช็ดหน้ า สารับไพ่ และสิ่ งของแปลกๆ อีกหลาย
ชนิด

แต่ ไม่ มีชิ้นใดเลยที่สิ่งสาคัญหรื อเป็ นเบาะแสเชื่ อมโยงให้ สาวไป


ถึงองค์ กร

ไม่ สิ… สิ่ งสาคัญยังพอดี กระเป๋าสตางค์ ของมันบรรจุธนบัตร


มูลค่ ารวมเจ็ดสิ บถึงแปดสิ บปอนด์ ไว้ ไคลน์ ถอนหายใจยาวที่ต้อง
อดยักยอกเป็ นสมบัติส่วนตัว
เมื่อนึกถึงเรื่ องเงิน ไคลน์ รีบกลับมาสารวจสภาพปัจจุบันของ
ตัวเอง มันแทบล้ มทั้งยืน

สู ทราคาแพงเกิดรอยฉีกขาดหกจุดจากการกลิง้ ไปกับพื้น แถม


ส่ วนที่เหลือยังเปื้ อนดินโคลนจนมีสภาพดูไม่ ได้

ดันน์ ชาเลืองมองไคลน์ พลางยกมุมปากขึน้

“ข้ าวของที่เสี ยหายจากภารกิจสามารถเบิกใหม่ ได้ ท้ังหมด”

เบิก…

หลังจากได้ ยินถ้ อยคาที่ถูก‘คิดค้ น’โดยจักรพรรดิโรซาย ชาย


หนุ่มพลันสุ ขสุ ดขีด

ใช่ แล้ว สู ทตัวนี้ เพียงนาไปซักให้ สะอาดและเย็บนิดหน่ อยก็


กลับมาใช้ ได้ เหมือนใหม่ ระหว่ างรอเงินชดเชยส่ งมาถึง ตน
สามารถออกเงินซื้อสู ทตัวใหม่ ใส่ ก่อนสบายมาก โดยที่ตัวเก่ายัง
สามารถใช้ ได้ อยู่

ไม่ ผิดแน่ … การเบิกครั้งนีเ้ ป็ นไปอย่ างชอบธรรมแล้ว

แต่ ถึงอย่ างนั้น ตนก็ควรหาชุดสาหรับต่ อสู้ โดยเฉพาะมาสวม


ต้ องเป็ นผ้ าคุณภาพต่า เหมือนกับชุดกันลมของหัวหน้ า…
เจ้ าบ้ าเลียวนาร์ ดคงรู้เรื่ องนีอ้ ยู่แล้ว มันจึงไม่ เคยใส่ สูทเลยสั กครั้ง
เดียว…

“เดี๋ยวให้ ฟรายจัดการชันสู ตรศพอีกที บางทีอาจพบเบาะแส


เพิม่ เติม”

ขณะกล่าว ดันน์ ใช้ มือลูบใบหน้ าสามสี ของตัวตลกสู ทดาอย่ าง


ทะนุถนอม

ถัดมา พวกมันเข้ าไปสารวจภายในโกดังเทา ภาพที่พบคือฉากสุ ด


สยดสยองเหนือคาบรรยาย โลหิตสาดกระเซ็นทั่วผนัง เศษก้อน
เนื้อและเสื้ อผ้ ากระจัดกระจาย กระดูกในที่เกิดเหตุล้วนถูกป่ น
แหลกด้ วยพละกาลังมหาศาล

“รีเอล·บีเบอร์ พยายามดูดซับพลังจากสมุดบันทึกผ่ านพิธีกรรม


โบราณ เหมือนกับที่ผ้ วู ิเศษลาดับสู งต้ องประกอบขณะเลื่อนระดับ
พิธีกรรมเช่ นนีม้ ักเต็มไปด้ วยอันตราย ห้ ามถูกรบกวนโดยเด็ดขาด

“บางที พิธีกรรมที่รีเอล·บีเบอร์ ประกอบอาจส่ งผลให้ ร่างกายเข้ า


สู่ ภาวะหลับไหลยาวนาน มันจึงยังไม่ ออกจากทิงเก็นแม้ จะผ่ าน
มาแล้วหลายวัน”

ดันน์ เริ่มสั นนิษฐาน

เมื่อได้ ยินเช่ นนั้น โรล็อตแสยะยิม้ ผิวพรรณขาวนวลของเธอตัด


กับเส้ นผมดาขลับ
“ช่ างน่ าเศร้ า พวกเราคงมารบกวนการนอนก่อนถึงเวลาอันควร
สิ นะ โทสะซึ่งเกิดจากการตื่นก่อนกาหนด จึงถูกระบายใส่ พวกเรา
โดยไม่ ย้งั มือ นับว่ าน่ าประทับใจมากทีเดียว”

“นี่คือหนึ่งในรูปแบบการคลุ้มคลั่ง”

ดันน์ หันมามองไคลน์ เป็ นนัยมอบบทเรียน

“แล้วทาไมมันถึงไม่ รีบออกจากทิงเก็นและหาสถานที่เงียบสงบ
ประกอบพิธี?”

ไคลน์ ถามด้ วยสี หน้ าสุ ดฉงน

อายร์ ชี้ไปยังศีรษะของตัวเอง

“บุคคลที่ล่มุ หลงในพลังโบราณหรื อพลังต้ องห้ ามมักขาดสิ่ งนี้


ฮะฮะ!”

ดันน์ กล่าวเสริมด้ วยใบหน้ าคล้ายกับกาลังเก็บซ่ อนความ


เจ็บปวด

“เลียวนาร์ ด คุณอาการดีกว่ าใคร ช่ วยอยู่ที่นี่และห้ ามใครเข้ ามา


ด้ านในเด็ดขาด…
“พวกเราที่เหลือจะรีบค้ นหาสิ่ งของสาคัญจากซากรีเอล·บีเบอร์
ก่อนจะกลับไปพักรักษาตัวที่สาขาทิงเก็นพร้ อมกับสมุดบันทึก ซาก
ตัวตลก และของวิเศษต้ องห้ าม 2-049 หลังจากนั้นผมจะให้ ฟราย
รอยัล และเจ้ าหน้ าที่ตารวจรีบตามมาช่ วยเหลือที่นี่”
ราชันย์ เร้ นลับ 77 : สิ่ งตกค้ าง

“ได้ ครับ”

เลียวนาร์ ดตอบด้ วยท่ าทีผ่อนคล้ายหลังจากได้ ยินคาสั่ งดันน์ ·


สมิท

ถัดมา ทุกคนเดินออกจากโกดังสิ นค้ าและตรงไปยังจุดที่สัตว์


ประหลาดรีเอล·บีเบอร์ เสี ยชีวิต

“หัวหน้ า พวกเรากาลังค้ นหาอะไรหรื อ?”

ไคลน์ กวาดสายตามองเศษก้ อนเนื้อที่กระจัดกระจายตามพื้น


พร้ อมกับถามดันน์ มันฝื นข่ มอาการอาเจียนไว้ อย่ างสุ ด
ความสามารถ

ดันน์ ไม่ เงยหน้ าขึน้ เพียงใช้ นัยน์ ตาเทากวาดมองไปรอบจุดเกิด


เหตุ

“รีเอล·บีเบอร์ ถูกปลุกก่อนกาหนด คลุ้มคลั่ง และกลายเป็ นสั ตว์


ประหลาด นี่คือรูปแบบการคลุ้มคลั่งพื้นฐาน ขณะเดียวกันก็
หมายความว่ า รีเอล·บีเบอร์ ยังดูดซับพลังจากสมุดบันทึกตระกูล
อันทีโกนัสไม่ หมด โดยทั่วไปแล้ว ชิ้นส่ วนของร่ างกายจะตกผลึก
เกิดเป็ น‘วัตถุดิบวิเศษ’สาหรับปรุงโอสถในเส้ นทางที่เกี่ยวข้ อง”

“หลังจากนี้ หากคุณมีโอกาสเผชิญเหตุการณ์ ที่คล้ายกันโดย


บังเอิญ อย่ าพลาดการค้ นหาวัตถุดิบวิเศษเด็ดขาด ส่ วนใหญ่ จะเป็ น
สิ่ งของสาคัญที่มีมูลค่ าสู ง”

อย่ างนี้นี่เอง… ไคลน์ พยักหน้ าเบาๆ

ทันใดนั้น ชายหนุ่มฉุกคิดประเด็นใหม่
ถ้ าเกิดว่ า จุดที่กลายเป็ นวัตถุดิบวิเศษดันมาจากอวัยวะ… เอ่อ…
อวัยวะเพศ? ของแบบนั้นจะถูกนาไปใช้ ปรุงโอสถจริงหรื อ?

ขณะความคิดไคลน์ กาลังฟุ้งซ่ าน บอร์ เจียผู้มีดวงตาเรียวคมดุจ


ดังเหยี่ยวส่ งเสี ยงตะโกน

“เจอแล้ว… อะแฮ่ ม”

ดันน์ และคนที่เหลือรีบหันมองและเดินไปใกล้ ไคลน์ เองก็เช่ นกัน


สี หน้ าของมันเปี่ ยมด้ วยความใคร่ ร้ ู

สิ่ งที่วางบนพื้นด้ านหน้ าบอร์ เจียคือวัตถุประหลาดสี เทาขนาด


เท่ ากาปั้น ผิวสั มผัสภายนอกเปี ยกชุ่มและมีลักษณะบอบบาง คล้าย
กับสมองมนุษย์ ที่พงึ่ ถูกกระชากออกจากกระโหลกได้ ไม่ นาน
ถึงอย่ างนั้น ไคลน์ ก็แยกแยะไม่ ออกอยู่ดีว่า ก้อนสี เทาชิ้นนีเ้ ป็ น
วัตถุดิบวิเศษที่แตกต่ างจากเศษเนื้อปรกติอย่ างไร ทว่ า ถ้ าบอร์
เจียยืนยันก็คงไม่ ผิด และอีกหนึ่งเครื่ องพิสูจน์ คือการที่มันยังคง
รูปร่ างไว้ ได้ ทั้งที่มีเหตุระเบิดรุนแรงทั่วบริเวณ

ดันน์ ใช้ นัยน์ ตาเทาเพ่งมองพร้ อมกับย่ อเข่ านั่งยองลง มือขวา


ยังคงยกดัมเบลลมเนื่องจากหีบโลหะสี ดาอยู่ในระยะห้ าเมตร ก่อน
จะใช้ มือซ้ ายที่สวมถุงมือหนังดาบรรจงสั มผัสก้อนเยลลี่สีเทาอย่ าง
ระมัดระวัง
พรวด!

ในวินาทีที่ปลายนิว้ แตะโดน ก้อนสี เทาได้ พ่นของเหลวเหนียว


ข้ นออกมา นี่คือรูปร่ างที่แท้ จริงของวัตถุดิบวิเศษ

อายร์ ·ฮาร์ สันเห็นดังนั้นจึงรีบหยิบกล่องโลหะทรงจัตุรัสสี เงิน


ออกจากกระเป๋าเสื้ อ—กล่องใส่ บุหรี่—อายร์ หยิบบุหรี่ท้งั หมด
ออกมาเก็บใส่ กระเป๋าตัวเอง ก่อนจะยื่นกล่องโลหะเปล่าให้ ดันน์

“ผมรู้… คุณสู บแต่ ไปป์ ”

ดันน์ ยมิ้ รับพร้ อมกับคว้ ากล่องบุหรี่จากมืออายร์ และใช้ มันเป็ นที่


เก็บวัตถุดิบชั่วคราว
ถัดมา ทุกคนรีบเก็บกวาดจุดเกิดเหตุและทาลายหลักฐานทิง้ จน
สะอาดเอี่ยม

หลังจากแน่ ใจว่ าไม่ หลงเหลือสิ่ งน่ าสงสั ย ทีมปฏิบัติการณ์ ชุด


เดิมขาดเพียงเลียวนาร์ ดได้ เดินกลับมายังจุดที่รถม้ าถูกผูกไว้

ท่ าทีของม้ าตื่นกลัวชัดเจน มันใช้ เกือกตะกุยดินถี่ๆ พร้ อมกับ


หายใจเสี ยงดัง ลาตัวสลัดไปมารุนแรงจนเกือบหลุดจากสาย
บังเหียน

“ผมขับเอง… อะแฮ่ ม”

บอร์ เจียใช้ มือปิ ดปากพลางกระแอม

“ทุกคนรู้ดีว่าคุณปลอบใจสั ตว์ เก่ง”

อายร์ ยมิ้ และพยักหน้ า

เมื่อขึน้ รถม้ า ดันน์ โรล็อต อายร์ และไคลน์ ต่างนั่งทาท่ า‘ยก


ดับเบล’โดยไม่ มีใครกล่าวสิ่ งใดออกมา

หลังจากรถม้ าเริ่มเคลื่อนตัว ดันน์ หันมามองไคลน์ พลางเรียบ


เรียงคาพูดในหัว

“ผมทราบว่ าคุณต้ องการอ่านสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัส


มากกว่ าใคร แต่ อยากให้ ช่วยเข้ าใจว่ านี่เป็ นหลักปฏิบัติสากล”
ไม่ … ไม่ เลย ใครจะไปอยากอ่านมัน!

สมุดโบราณต้ องสาปที่นาพาแต่ หายนะ!

โดยไม่ รอให้ ไคลน์ ตอบ ดันน์ กล่าวต่ อ

“ต้ องรอให้ ผมแจ้ งเรื่ องนีก้ ับทางวิหารศักดิ์สิทธิ์เสี ยก่อน จนกว่ า


พวกเขาจะกาหนดระดับความสาคัญของสมุดได้ ถึงตอนนั้น พวก
เราค่ อยมาพิจารณากันว่ าคุณมีสิทธิ์อ่านมันหรื อไม่ ”

“ไม่ มีปัญหาครับ”

ไคลน์ ตอบสั้ นห้ วน

ดันน์ กล่าวต่ อขณะมือขวายังคงขยับขึน้ ลงไม่ หยุด

“ผมเคยรับปากกับคุณว่ า จะเลื่อนตาแหน่ งให้ กลายเป็ นเจ้ าหน้ าที่


ปฏิบัติการเหยี่ยวราตรีเต็มตัว หากพิสูจน์ ได้ ว่ารีเอล·บีเบอร์ เป็ น
ทายาทตระกูลอันทีโกนัสจริง

“ทว่ า ไม่ เพียงเรื่ องดังกล่าวเป็ นความจริง แต่ พวกเรายังจัดการ


สั ตว์ ประหลาดดุร้าย แถมยังพิสูจน์ ได้ ว่าลัทธิเร้ นลับมีส่วน
เกี่ยวข้ องกับเหตุการณ์ นี้
“ตลอดปฏิบัติการ คุณแสดงผลงานที่น่าทึ่งหลายเรื่ อง รวมถึง
การสั งหารหนึ่งในสมาชิกองค์ กรลับชั่วร้ ายตามลาพัง ด้ วยเหตุนี้
ผมจะรีบยื่นเรื่ องบรรจุพนักงานไปยังวิหารศักดิ์สิทธิ์ให้ เร็วที่สุด

“จริงด้ วย ผมลืมสิ่ งสาคัญที่สุดไป นั่นคือการถามความสมัครใจ


จากคุณก่อน

“มิสเตอร์ ไคลน์ ·โมเร็ตติ คุณต้ องการจะเข้ าร่ วมเป็ นหนึ่งในพวก


เรา หน่ วยปฏิบัติการเหยี่ยวราตรีสาขาทิงเก็น หรื อไม่ ? ค่ าจ้ างของ
คุณจะเพิม่ ขึน้ สองเท่ า กลายเป็ นหกป็ อนต่ อสั ปดาห์ และสามารถ
เพิม่ ขึน้ ได้ อีก

“ค่ าจ้ างของคุณจะมาจากโบสถ์ รัตติกาลและกรมตารวจรัฐอาโฮ


ว่ าอย่ างละครึ่ง ขณะเดียวกัน คุณจะมีตาแหน่ งทางราชการเป็ น
นายตารวจทดลองงาน เชื่ อผมเถอะ สิ่ งนีจ้ ะช่ วยอานวจความ
สะดวกหลายด้ าน

“ในฐานะผู้วิเศษสายสนับสนุน คุณไม่ จาเป็ นต้ องปะทะกับศัตรู


โดยตรง แต่ จะมีภาระหน้ าที่ต้องเข้ าเวรเฝ้าประตูยานิสสั ปดาห์ ละ
หนึ่งครั้ง

“หากไม่ ได้ รับอนุญาต คุณไม่ มีสิทธิ์เดินทางออกจากทิงเก็นโดย


พละการ และต้ องเก็บเรื่ องนีไ้ ว้ เป็ นความลับจากครอบครัว
เช่ นเดิม”

หลังจากดันน์ อธิบายข้ อดี ข้ อเสี ย ขีดจากัดและสิ ทธิ์ประโยชน์


ของเจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการเหยี่ยวราตรีให้ ฟังอย่ างครบถ้ วน ไคลน์ นั่ง
ครุ่นคิดด้ วยสี หน้ าขึงขังนานกว่ าสิ บวินาที

“ผมจะเป็ นเหยี่ยวราตรีเต็มตัว”

นีค่ ือหนทางเดียวที่จะทาให้ ตนได้ รับสิ ทธิ์เข้ าถึงข้ อมูลเพิม่


รวมถึงเอกสารเกี่ยวกับองค์ กรชั่วร้ ายอย่ างลัทธิเร้ นลับ

หลังจากได้ อ่านไดอารีจักรพรรดิโรซายหลายแผ่ น ไคลน์ ได้ รับ


มุมมองใหม่ ที่น่าสนใจเช่ น : จักรพรรดิโรซายปรารถนาจะเป็ น
ผู้วิเศษลาดับต้ นๆ เพื่อจะได้ มีพลังมากพอในการส่ งตัวเองกลับโลก
เก่า

ไคลน์ นาข้ อนีม้ าปรับใช้ กับตน มันยังไม่ ล้มเลิกแผนหลักที่จะ


ศึกษาศาสตร์ เร้ บลับให้ มากขึน้ แต่ การมีพลังวิญญาณสู งคือ
สิ่ งจาเป็ นไม่ แพ้กัน ไม่ อย่ างนั้นจะใช้ มิติสายหมอกได้ ไม่ เต็ม
ประสิ ทธิภาพ

ที่จักรพรรดิโรซายกล่าวไว้ ก็ไม่ ผิด การพึง่ พาพลังบุคคลลึกลับ


คือสิ่ งอันตรายที่ต้องพึงระวัง
ไคลน์ เพิง่ ทราบว่ าพลังวิญญาณเป็ นสิ่ งสาคัญสาหรับมิติสาย
หมอก หลังจากมันกลายเป็ นนักทานายและมีพลังวิญญาณเพิม่
ไคลน์ สามารถดึงสมาชิกเข้ าร่ วมมิติสายหมอกเพิ
ิ ม่ ได้ จากเดิมอีก
หนึ่งคน

จึงมีความเป็ นไปได้ ว่า หากตนพัฒนาไปจนถึงลาดับแปดหรื อ


เจ็ด พลังอานาจบนมิติสายหมอกน่ าจะเพิม่ ขึน้ ตามไปด้ วย เช่ น
สามารถดึงคนเข้ าชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์เพิม่ จากเดิม

แต่ แน่ นอน การพัฒนาลาดับต้ องเกิดขึน้ หลังจากย่ อยพลังนัก


ทานายอย่ างสมบูรณ์ ขั้นตอนนี้จะรีบร้ อนไม่ ได้ เด็ดขาด

“ยอดเยี่ยมมาก ถ้ าทางวิหารศักดิ์สิทธิ์ยืนยันกลับมาเมื่อไร คุณ


จะกลายเป็ นส่ วนหนึ่งของพวกเราทันที”

นัยน์ ตาเทาของดันน์ เผยประกายความสุ ข

ขณะเดียวกัน อายร์ ที่นั่งฟังดันน์ กล่าวจบทาการพูดแทรก

“ไคลน์ คงไม่ ว่าอะไรถ้ าผมจะเรียกคุณแค่ ไคลน์ ความสาเร็จของ


คุณในวันนีน้ ับว่ าน่ าเหลือเชื่ อ สามารถจัดการผู้วิเศษจากลัทธิเร้ น
ลับได้ ตามลาพัง ซึ่งพวกเราคาดเดากันว่ า เจ้ านั่นน่ าจะเป็ นผู้วิเศษ
อย่ างน้ อยลาดับเจ็ด
“คุณทาได้ อย่ างไร? มันน่ าอัศจรรย์ มาก”
มาแล้ว… คาถามที่ตนรอคอย ไคลน์ เตรียมข้ ออ้างสาหรับคาถาม
นีม้ านานมาก

ชายหนุ่มตระหนักดีว่า เป็ นเรื่ องประหลาดเพียงใดที่ตน ผู้วิเศษ


นักทานายลาดับเก้า สามารถเอาชนะผู้วิเศษที่กระทั่งดันน์ โรล็อต
และอายร์ ร่วมมือกันยังมิอาจเอาชนะได้

ไคลน์ จึงเตรียมคาแก้ ต่างไว้ นานแล้ว แต่ คาดไม่ ถึงว่ าอีกฝ่ ายจะ


ปล่อยให้ เวลาล่วงเลยมาถึงปัจจุบันค่ อยเอ่ยปากถาม

ใช่ แล้ว… ดันน์ และอายร์ รอบคอบอย่ างน่ าเหลือเชื่ อ พวกมันที่อยู่


ในสภาพบาดเจ็บต่ างคานวณไว้ แล้วว่ า หากจีถ้ ามตนเกี่ยวกับ
‘ความลับ’มากเกินไป ตนอาจไม่ พอใจและระเบิดโทสะจัดการพวก
มันในสภาพอ่อนแรง

คาถามดังกล่าวจึงอยู่เลื่อนออกมาก่อน รอจนกระทั่งตนตอบ
รับเข้ าเป็ นสมาชิกเหยี่ยวราตรีทางการ เมื่อมั่นใจว่ าอยู่ฝ่ายเดียวกัน
คาถามที่คาใจจึงถูกถามไถ่

รอบคอบมาก… ดันน์ และอายร์ ไม่ ได้ ปรึกษากันเรื่ องนี้ แต่ พวก


มันกลับตัดสิ นใจในลักษณะเดียวกัน คงเป็ นเพราะประสบการณ์ ที่
โชกโชน
ไคลน์ อมยิม้ ตอบ
“เป็ นเรื่ องของดวงมากกว่ าครับ ตัวตลกสู ทดาประมาทและ
ตัดสิ นใจผิดพลาด

“ในวินาทีน้ นั ผมถูกแรงระเบิดส่ งให้ กระเด็นมาพร้ อมกับ 2-


049 ระยะห่ างกะจากสายตาได้ ประมานห้ าถึงหกเมตร ค่ อยข้ าง
ระบุละเอียดได้ ยาก

“เป็ นเพราะผลแรงระเบิด ร่ างกายผมจึงเฉื่ อยชาชั่วขณะ คล้าย


กับกาลังถูกครอบงาโดยพลังหุ่นกระบอกไม้

“ผมไม่ ทราบว่ าตัวตลกสวมสู ทหายตัวลอบเข้ ามาใกล้ต้งั แต่


เมื่อไร มันต่ อรองกับผมว่ าจะยอมช่ วยเหลือ แถมยังบอกอีกว่ า
โอสถลาดับแปดของเส้ นทางนักทานายมีชื่อว่ าตัวตลก โดยแลกมา
กับการให้ ผมหักหลักทุกคนและขโมยสมุดบันทึกอันทีโกนัสให้

“มันยอมเผยข้ อมูลว่ า ลัทธิเร้ นลับครอบครองเส้ นทางนักทานาย


ไว้ อย่ างสมบูรณ์ แถมตัวมันยังเคยเป็ นนักทานายมาก่อน”

ไคลน์ บรรยายความคิดของตนในขณะนั้นอย่ างละเอียด เรื่ อง


สมมติฐานที่อีกฝ่ ายทานายโอกาสสาเร็จในการขโมยสมุดบันทึก
และผลลัพธ์ ออกมาว่ ามีอันตรายสู ง จึงเปลี่ยนแผนมาใช้ ให้ ไคลน์
ขโมยแทน
เนื้อหาที่เล่า ทั้งหมดคือเรื่ องจริงโดยไม่ ปิดบังหรีือปั้นแต่ ง เพราะ
ชายหนุ่มบิดเบือนความจริงมาตั้งแต่ ต้น

ความจริงที่ว่าตัวมันถูก 2-049 เล่นงาน

“หืม… ผลการทานายของมันออกมาเป็ นว่ า—หากเสี่ ยงขโมย


สมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสด้ วยตัวเองจะมีความเสี่ ยงสู ง—อย่ าง
นั้นสิ นะ?
“ก็ถูกของมัน แต่ ความเสี่ ยงดังกล่าวไม่ ได้ เกิดจากใครอื่น แต่ เป็ น
ตัวคุณ ไคลน์ ตัวคุณที่ยังมีสติครบถ้ วน ทาให้ ผลการทานายของมัน
ระบุว่ามีอันตราย…”

โรล็อตสาวสวยสรุปเหตุการณ์ พลางอมยิม้

“ทว่ า นั่นกลับกลายเป็ นดาบสองคม ด้ วยเวลากระชั้นชิด มันไม่


มีเวลาพอจะทานายเพิม่ เติมและเลือกเสี่ ยงไปหาคุณแทน ซึ่งนั่น
เป็ นการตัดสิ นใจที่ผิดมหันต์ … ประเด็นนีน้ ่ าสนใจมาก”

ไคลน์ ชะงักเล็กน้ อย ก่อนจะพยักหน้ าเป็ นนัยเห็นด้ วย

“ผลการทานายไม่ เคยชัดเจนอยู่แล้ว ท่ ามกลางความคลุมเครื อ


นั่น การตีความอาจผิดเพีย้ นจนนาพาไปสู่ อันตราย”
เราเองก็ต้องจาเรื่ องนีใ้ ส่ ใจไว้

“แล้วหลังจากนั้น คุณจัดการมันอย่ างไร?”

ดันน์ ถามพร้ อมกับเอนหลังพิงพนัก มือขวายังคงขยับขึน้ ลง

ไคลน์ ยมิ้

“ผมแสร้ งทาเป็ นตกลงร่ วมมือ แต่ ถึงอย่ างนั้น มันยังคงไม่ กล้า


เข้ าใกล้ระยะครองงาของ 2-049 สิ่ งที่มันทาคือการใช้ พลังบางอย่ าง
เปลี่ยนกระดาษให้ กลายเป็ นพลองยาว โดยคิดใช้ พลองยาวนั่นแตะ
ตัวผม

“ในจังหวะที่พลองใกล้ถึงตัว ผมฉวยโอกาสกระชากพลองจน
มันเสี ยหลักและกลิง้ เข้ าไปในระยะครอบงาของ 2-049 ด้ วยตัวเอง
เมื่อเห็นดังนั้น ผมรีบลั่นไกสองนัดซ้ อนเพื่อปิ ดบัญชีโดยเร็ว…

“อันที่จริงค่ อนข้ างน่ าละอาย แม้ จะอยู่ใกล้กันเพียงเมตรกว่ า แต่


ผมกลับไม่ มีความมั่นใจมากพอที่จะยิงให้ โดน เลือกพึง่ พาพลังของ
หุ่นกระบอก 2-049 แทน”

อายร์ พยักหน้ าเบาๆ

“ด้ วยความไวเยี่ยงลิงของมัน ระยะหนึ่งหนึ่งถึงสองเมตรอาจไม่


รับประกันผลว่ าจะยิงเข้ าจุดตาย หรื อต่ อให้ ยิงโดน แต่ ตัวตลกยังมี
พลังประหลาดที่สามารถโยกย้ ายบาดแผลได้ ดั่งใจนึก นั่นจะทาให้
คุณตกเสี ยเปรียบทันที…

“ตัวเลือกของคุณถูกต้ องที่สุดแล้ว หากผมอยู่ในสถานการณ์


เดียวกัน คงไม่ สามารถหาวิธีที่ดีกว่ านี้ได้ ”

ไม่ มีใครถามสิ่ งใดต่ อ ในวินาทีที่ทุกคนทราบว่ าตัวตลกสู ทดาเข้ า


สู่ ระยะครอบงาของ 2-049 ทุกอย่ างก็เป็ นอันจบลง

“ขั้นพัฒนาถัดจากนักทานายคือตัวตลกอย่ างนั้นหรื อ… น่ า
แปลกมาก”

ดันน์ พมึ พาพลางถอนหายใจ


ราชันย์ เร้ นลับ 78 : แผลใจ

อายร์ ·ฮาร์ สันกล่าวเสริม

“นั่นสิ นะ น่ าแปลกมากที่ลาดับถัดไปของนักทานายคือตัวตลก
คนทั่วไปไม่ มีทางหาจุดเชื่ อมโยงได้ แน่ ”

“น่ าแปลกขนาดนั้นเชียว? ก็มีผ้ วู ิเศษอยู่หลายเส้ นทางไม่ ใช่ หรื อ


ที่พลังไม่ เกี่ยวข้ องกันเลยในแต่ ละลาดับ”

โรล็อตใช้ มือปิ ดปากหาว ดูเหมือนอาการบาดเจ็บของเธอจะหนัก


กว่ าใคร เพราะแม้ แต่ ยาเทพธิดาเพ่งพิศก็มิอาจดารงสมาธิไว้ ได้

“ไม่ เหมือนกัน โรล็อต ถึงเส้ นทางอื่นจะมีพลังต่ างกันในแต่ ละ


ลาดับ ทว่ า พวกเราก็ยังเห็นจุดเชื่ อมโยงระหว่ างกันเสมอ แต่
สาหรับนักทานายและตัวตลกนั้นไม่ ใช่ ”

อายร์ ส่ายศีรษะพลางถอนหายใจ

ไคลน์ ที่นั่งฟังข้ อถกเถียงอยู่นาน มันอมยิม้

“ไม่ ครับ… ยังมีอยู่หนึ่งจุดที่นักทานายและตัวตลกมีเหมือนกัน”


“ตรงไหน?”
อายร์ ถามด้ วยสี หน้ าฉงน ดันน์ ก็ไม่ ต่างกัน มันถึงกับลดความเร็ว
ในการขยับแขนขึน้ ลง

ไคลน์ ตอบโดยไม่ ลังเล

“ไม่ ว่าจะนักทานายหรื อตัวตลก แต่ ท้งั คู่สามารถพบได้ ในคณะ


ละครสั ตว์ ”

“…”

อายร์ ดันน์ และโรล็อตถึงกับผงะ

“อุฟ! ฮะฮะ! ตอบได้ ดี! ฉันชอบคนหนุ่มแบบคุณ!”

โรล็อตสาวสวยระเบิดเสี ยงหัวเราะ

อายร์ พลันอมยิม้ ก่อนจะส่ ายศีรษะเล็กๆ

“ในยุคสมัยปัจจุบัน คนหนุ่มที่มองโลกในแง่ ดีนับว่ าหายากมาก


โชคดีที่พวกเราพบตัวแล้วหนึ่งคน”

คิดว่ าผมอยากเล่นมุกแบบนี้นักหรื อ…
แต่ เป็ นเพราะไม่ สามารถหาจุดเชื่ อมโยงระหว่ างตัวตลกและนัก
ทานายได้ เลยต่ างหาก

ไคลน์ ราพันในใจ ก่อนจะเงยหน้ าตอบติดตลก

“ผมได้ แต่ หวังให้ โอสถลาดับถัดๆ ไปไม่ ใช่ พลังผู้ฝึกสั ตว์ นัก


กายกรรม หรื อนักมายากล ไม่ อย่ างนั้นคงเป็ นเส้ นทางที่รวมคณะ
ละครสั ตว์ ไว้ จริงๆ”

แถมยังเป็ นคณะละครสั ตว์ ที่แสดงโดยคนๆ เดียวเสร็จสรรพ


“ฮะฮะ!”

ดันน์ และคนที่เหลือต่ างส่ งเสี ยงหัวเราะ รถม้ าเคลื่อนตัวไปด้ วย


บรรยากาศชื่ นมื่น

เมื่อมาถึงจุดหมายบนถนนซุตแลน บริษัทรักษาความปลอดภัย
หนามทมิฬ ไคลน์ ที่ไม่ บาดเจ็บได้ ลงจากรถเป็ นคนแรก

“ตายแล้ว! ท่ านเทพธิดา! ไคลน์ เกิดอะไรขึน้ กับคุณกันแน่ ?


ทาไมถึงเนื้อตัวมอมแมมขนาดนี?้ ”

โรแซนส่ งเสี ยงเอะอะเมื่อได้ เห็นสภาพดูไม่ ได้ ของชายหนุ่ม

ไคลน์ ก้มลงสารวจเครื่ องแบบตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะฝื นกล่าวต่ อ


ด้ วยสี หน้ าเจ็บแปลบ
“ในบางครั้ง การออกปฏิบัตภิ ารกิจย่ อมต้ องเผชิญอันตรายบ้ าง
โชคดีที่องค์ เทพธิดาคอยอวยพรให้ ผมปลอดภัย”

“เทพธิดาจงเจริญ!”

โรแซนกล่าวพลางทาสั ญลักษณ์ ที่หน้ าอก

โดยไม่ ปล่อยให้ ไคลน์ พูดต่ อ หล่อนรีบไต่ ถามด้ วยสี หน้ าฉงน


“พวกเราต้ องขึน้ ไปชั้นสามอีกไหม? ของวิเศษต้ องห้ ามอันตราย
ขนาดนั้นเชียวหรื อ?”

“เชื่ อผมเถอะ… หายนะของมันยิ่งใหญ่ กว่ าที่คุณจินตนาการ


มาก”

ไคลน์ ตอบด้ วยสี หน้ าดามืด

หากไม่ เพราะพิธีกรรมเปลี่ยนดวงชะตา ตนคงกลายเป็ นหุ่น


กระบอกขนาดเท่ ามนุษย์ ไปเรียบร้ อยแล้ว

“พระเจ้ า…”

ริมฝี ปากโรแซนสั่ นระริก ยังมีข้อสงสั ยอีกมากมายที่เธออยาก


ถาม แต่ โรแซนตัดสิ นใจระงับไว้ ก่อนเมื่อทราบว่ าหัวหน้ ากาลังหยุด
รออยู่ด้านล่าง

เธอรีบเดินไปแจ้ งกับมาดามโอเรียนน่ าและบุคคลอื่นให้ อพยพ


ขึน้ ไปบนชั้นสาม อาคารทั้งหลังเป็ นทรัพย์ สินของโบสถ์ รัตติกาล ผู้
อยู่อาศัยทั้งหมดจึงเป็ นสมาชิกโบสถ์ หากไม่ ใช่ นักบวชหรื อเณร ก็
จะเป็ นบุคคลที่ทราบถึงตัวตนเหยี่ยวราตรี

เมื่อเจ้ าหน้ าที่พลเรื อนทั้งหมดย้ ายไปอยู่ในจุดปลอดภัย ไคลน์ ยัง


ไม่ เดินเข้ าไปแจ้ งเหยี่ยวราตรีภายในห้ องนันทนาการ มันเดินกลับ
ลงไปหาดันน์ และช่ วยลาเลียงอุปกรณ์ จาเป็ นขึน้ มายังห้ องรับแขก
จาพวก 2-049 วัดถุดิบวิเศษจากรีเอล·บีเบอร์ รวมถึงสมุดบันทึก
ตระกูลอันทีโกนัส

เมื่อวางข้ าวของไว้ ที่ห้องรับแขกเรียบร้ อย ดันน์ เดินผ่ านฉากกั้น


และเปิ ดประตูห้องนันทนาการ ภายในมีสมาชิกเหยี่ยวราตรีสองคน
กาลังเล่นไพ่เกวนท์ กันอยู่

“ฟราย รอยัล พวกคุณรีบไปยังโกดังสิ นค้ าไทเรลล์ที่ท่าเรื อ ช่ วย


เลียวนาร์ ดรับมือสถานการณ์ เบื้องต้ น”

“ค่ ะ”

สตรีใบหน้ าเย็นชา เส้ นผมดาขลับคล้ายขนอีกา รอยัล เธอเป็ น


ฝ่ ายลุกขึน้ ก่อน
ฟราย นักเก็บซากศพนัยน์ ตาฟ้ า ผิวขาวซีด บรรยากาศรอบตัว
เย็นยะเยียบ ลุกตามในเวลาไล่เลี่ยกัน

เมื่อทั้งสองวางไพ่เกวนท์ ลงและกาลังจะเดินผ่ านฉากกั้น ฝี เท้ าทั้ง


คู่หยุดชะงักโดยมิได้ นัดหมาย

“เดี๋ยวก่อน”

ดันน์ ตะโกนไล่หลัง ไม่ ปล่อยให้ ท้งั สองผิดหวังที่หยุดรอ

“ว่ าไงคะ?”

ผู้ไร้ หลับ รอยัล หันกลับมาถามดันน์ ด้วยสี หน้ าเรียบเฉย

“จนกว่ าพวกคุณจะเคลื่อนย้ ายศพเสร็จ อย่ าลืมบอกให้ ตารวจ


ช่ วยปิ ดถนน และคอยกันไม่ ให้ ประชาชนเข้ ามาในจุดเกิดเหตุ”

“ค่ ะ”

รอยัลเดินต่ ออีกสองก้าวและหยุดลง เธอหันกลับมาถามยา้

“หัวหน้ า มีอะไรอีกไหมคะ?”
“ไม่ มีแล้ว”
ดันน์ กาชับหนักแน่ น

รอยัลพยักหน้ ารับทราบและเดินออกไปทางประตูหลัก
ห้ องรับแขก

ฟรายที่รักษาบรรยากาศสุ ขุมตลอดเวลา มันเดินตามรอยัลด้ วย


ท่ าทางไม่ รีบร้ อน

ทันใดนั้น ดันน์ ตะโกนเสริม

“ฝากตามโรแซนและเจ้ าหน้ าที่คนอื่นกลับมาชั้นสองด้ วย”

“ครับ”

ฟรายตอบห้ วน ปราศจากอารมณ์ เฉกเช่ นทุกครั้ง

เมื่อไคลน์ เห็นเหยี่ยวราตรีท้งั สองเดินออกจากประตูและขึน้


บันไดไปชั้นบน ชายหนุ่มถอนหายใจโล่ งอก มันรีบช่ วยดันน์ และที่
เหลือขนย้ ายสั มภาระลงไปยังชั้นใต้ ดิน

เพียงไม่ นาน ทุกคนก็มาถึงประตูยานิส

ขณะดันน์ ส่งสั ญญาณให้ โคเฮนรี่เปิ ดประตูยานิส มันหันกลับมา


กาชับไคลน์
“ไปทีค่ ลังอาวุธและตามลุงนีลล์มาที่นี่ พวกเราต้ องการพิธีกรรม
เวทมนตร์ เพื่อฟื้ นฟูร่างกาย”

เมื่อผลของยาเทพธิดาเพ่งพิศใกล้หมดลง สติของแต่ ละคนเริ่ม


เลือนลางอีกครั้ง

“ได้ ครับ”

โดยไม่ รอให้ ดันน์ กล่าวต่ อ ชายหนุ่มเสริม

“ผมจะเฝ้าคลังอาวุธแทนลุงนีลล์ชั่วคราว แล้วก็จะทาเรื่ องเบิก


กระสุ นปราบมารทั้งหมดยี่สิบนัด…

“จนกว่ าจะได้ รับอนุญาตจากวิหารศักดิ์สิทธิ์ ผมต้ องระงับความ


อยากรู้อยากเห็นที่มีต่อสมุดบันทึกอันทีโกนัสไว้ ก่อน”

“…”

ดันน์ ถึงกับหมดคาพูด

“มีอะไรอีกไหมครับหัวหน้ า?”

ไคลน์ ถามพลางอมยิม้
ดันส่ ายศีรษะเบาๆ โดยไม่ กล่่ าวสิ่ งใด

ชายหนุ่มเดินเข้ าไปในห้ องผู้คุมและหยิบไม้ คา้ ซึ่งวางไว้ ก่อนออก


ปฏิบัติการ จากนั้นก็ตรงไปยังคลังอาวุธและเล่าเรื่ องราวทั้งหมด
โดยละเอียดให้ ลุงนีลล์ซึ่งกาลังดื่มน้าเปล่าฟัง

“รีเอล·บีเบอร์ กลายเป็ นสั ตว์ ประหลาด? แถมเจ้ ายังฆ่ าผู้วิเศษไป


หนึ่งคน?”

ขณะกาลังจัดโต๊ ะทางานให้ เป็ นระเบียบ ลุงนีลล์ไต่ ถามด้ วยสี


หน้ าสุ ดประหลาดใจ

“เหมือนกับกาลังนั่งฟังบทละคร…”

ชายชราพึมพาพร้ อมกับเดินอ้อมโต๊ ะทางานออกไปจากคลัง


อาวุธ มันไม่ รอให้ ไคลน์ เล่าเหตุการณ์ ใดเพิม่ เติม

ทันใดนั้น ชายหนุ่มรีบตะโกนถาม

“ลุงนีลล์ โบสถ์ รัตติกาลไม่ มียารักษาบาดแผลหรื อ? เหตุใดถึง


ต้ องฟื้ นฟูร่างกายด้ วยพิธีกรรมเวทมนตร์ ?”

“ไม่ มียาชนิดใดให้ ผลลัพธ์ ทยี่ อดเยี่ยมไปกว่ าพิธีกรรทเวทมนตร์


อีกแล้ว แถมวัตถุดิบเวทมนตร์ สาหรับปรุงยายังมีราคาสู งมาก ทั้งที่
สรรพคุณของมันค่ อนข้ างต่า”
ลุงนีลล์อธิบายอย่ างใจเย็น

“เจ้ าคงรู้จักเทพธิดาเพ่งพิศแล้วใช่ ไหม มันคือยาที่เกิดจาก


พิธีกรรมเวทมนตร์ และให้ ผลฟื้ นฟูร่างกายในระดับน่ าทึ่ง ทว่ า
หลังจากผลิตเสร็จ สรรพคุณในการฟื้ นฟูจะเสื่ อมถอยอย่ างรวดเร็ว
เมื่อเวลาผ่ านไป”

“เข้ าใจแล้วครับ…”

ไคลน์ ผงกศีรษะด้ วยใบหน้ าผิดหวัง

ในฐานะนักรบคีย์บอร์ ดจากโลกเก่า มันย่ อมทราบถึงความสาคัญ


ของยารักษาอาการบาดเจ็บ

เมื่อลุงนีลล์เดินออกจากห้ อง ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอีด้ ้ วย
บรรยากาศสงบสุ ข บรรยากาศที่ไม่ ได้ ร้ ูสึกมานานแล้ว

ท่ ามกลางความเงียบงัน ไคลน์ หวนนึกถึงฉากการตายของตัว


ตลกสวมสู ท มันย้ อนจินตนาการภาพที่ตนลั่นไกสั งหารเย็นชา
รวมถึงฉากโลหิตสาดกระเซ็นจากเนื้อหนังมนุษย์ อย่ างสยดสยอง

ร่ างกายไคลน์ สั่นระริกอย่ างหยุดไม่ อยู่ มันลุกขึน้ ยืนครู่หนึ่ง


ก่อนจะนั่งลงโดยไม่ กล่าวหรื อทาสิ่ งใด เป็ นเช่ นนีอ้ ยู่หลายหน
จนกระทั่งลุกเดินวนเวียนรอบห้ อง

ฟู่ ว… มันพ่นลมหายใจยาว สมาธิฝืนสงบนิ่งเพื่อลบเลือนฉาก


เหตุการณ์ ที่ไม่ พงึ ประสงค์

ชายหนุ่มถอดหมวกผ้ าไหมทรงกึ่งสู งวางลงบนโต๊ ะ ก่อนจะหยิบ


ผ้ าเช็ดหน้ าออกมาปัดคราบฝุ่ นโคลนที่ติดตามเสื้ อผ้ า

ทาอะไรก็ได้ ที่ไม่ ให้ นึกถึงภาพศพ!


หลังจากผ่ านไปสั กพัก มันได้ ยินเสี ยงฝี เท้ าลุงนีลล์เดินกลับมา
ทางคลังอาวุธ เป็ นฝี เท้ าเอกลักษณ์ ชายชราชอบเดินลากส้ นจนเกิด
เสี ยงพิเศษดังกังกาลทั่วทางเดินใต้ ดิน

“เหนื่อยฉิบ…”

ลุงนีลล์บ่นอุบขณะเดินเข้ าห้ อง

“ช่ วยไปบอกกับทุกคนว่ า อย่าเพิง่ ลงมาที่คลังอาวุธในอีกหนึ่ง


ชั่วโมงให้ หลัง ฉันต้ องการพักผ่ อน”

ชายชราออกคาสั่ งเสี ยงขึงขัง

“ทาไมคุณถึงไม่ ขนึ้ ไปพักที่ห้องนอนล่ะครับ? ส่ วนผมจะเฝ้า


คลังอาวุธแทนเอง”
ไคลน์ แสดงน้าใจ

ลุงนีลล์ส่ายศีรษะ

“ข้ างบนเสี ยงดังเกินไป โดยเฉพาะแม่ หนูโรแซนที่เอาแต่ จ้อไม่


หยุด”

“เข้ าใจแล้วครับ”
ไคลน์ ไม่ ขัดคอ มันสวมสู ทและหมวกกลับ ก่อนจะเดินออกจาก
ห้ องพร้ อมกับดันบานประตูเหล็กจนเกือบปิ ดสนิท แง้ มไว้ เพียง
เล็กน้ อยให้ ลมผ่ าน

ตึก ตึก ตึก

ขณะย่ างเท้ าผ่ านทางเดินยาวเดิมๆ ที่เคยชินทุกวัน ไคลน์ กลับพบ


ประตูบานที่มันไม่ เคยรู้มาก่อนว่ ามีอยู่

“ตรงนีก้ ็เป็ นห้ องลับสิ นะ…”

ชายหนุ่มชะงักพลางเหลือบมองเข้ าไปในห้ อง มันเห็นนักเก็บ


ซากศพ ฟราย กาลังชันสู ตรซากศพใครบางคนอย่ างละเอียด
ศพ?
หัวใจชายหนุ่มหล่ นไปอยู่ที่ตาตุ่ม

อุตส่ าลืมภาพศพได้ แล้วเชียว…

ไคลน์ ตัดสิ นใจเดินไปเคาะประตู

ก็อก! ก็อก!

ฟรายหยุดการกระทาและหันมามองด้ วยนัยน์ ตาสี ฟ้าคราม

“ขอโทษทีร่ บกวน ผมแค่ ต้องการทราบว่ า นี่ใช่ ศพผู้วิเศษรึ


เปล่า?”

ไคลน์ พยายามข่ มความตื่นเต้ น

“ใช่ ”

ริมฝี ปากฟรายอ้าและหุบภายในระยะเวลาแสนสั้ น ถ้ อยคาห้ วนๆ


ถูกพ่นออกจากปาก

ไคลน์ ชาเลืองมองศพ ทันใดนั้น มันได้ พบรูโหว่ ขนาดใหญ่


บริเวณหน้ าผาก
ไม่ ผิดแน่ ศพตัวตลกสวมสู ท…
ชายหนุ่มถอนหายใจเล็กๆ ก่อนจะถามต่ อ

“พบอะไรบ้ างไหม?”

“ไม่ ”

ฟรายยังคงตอบเป็ นเอกลักษณ์

บรรยากาศภายในห้ องพลันเงียบงันและกระอักกระอ่วน แต่ ขณะ


ไคลน์ คิดจะกล่าวคาอาลา ฟรายเป็ นฝ่ ายเริ่มชวนคุย

“ถ้ าไม่ คุณสบายใจ จะเดินเข้ ามาดูใกล้ๆ ก็ได้ จะได้ เห็นว่ า


ซากศพไม่ ใช่ สิ่งที่น่ากลัว”

หมอนี่กลัวตนเกิดแผลใจสิ นะ

ท่ าทางจะเป็ นคนดีกว่ าที่คิด…

ไคลน์ รีบผงกศีรษะ

“ตกลง”

ชายหนุ่มเดินเข้ าห้ องและตรงไปยังโต๊ ะยาวที่ปูผ้าขาวรองไว้


สายตาชาเลืองมองศพอย่ างละเอียด
ตัวตลกสวมสู ทที่เคยทาหน้ าด้ วยสี แดง เหลือง และขาว ปัจจุบัน
ถูกล้างทาความสะอาดหมดจด เผยให้ เห็นใบหน้ าของชายวัย
กลางคนผมดาแสนธรรมดา ไม่ มีสิ่งใดพิเศษนอกจากดั้งที่เป็ นสั น
โด่ งกว่ าปรกติ

ขณะเดียวกัน ฟรายเดินไปยังโต๊ ะสี่ เหลี่ยมจัตุรัสที่มุมห้ องพร้ อม


กับหยิบกระดาษและดินสอ

มันเดินกลับมาและวางกระดาษไว้ ข้างศพ ก่อนจะลงมือวาดด้ วย


ดินสอแท่ งดังกล่าว

ไคลน์ จ้องมองด้ วยท่ าทีฉงน ผ่ านไปสั กพักจึงทราบว่ าฟรายกาลัง


วาดภาพเหมือนใบหน้ าของตัวตลกสวมสู ท

เพียงไม่ นาน ฟรายวางแท่ งดินสอในมือลง เป็ นสั ญญาณการวาด


เสร็จสิ้น บนแผ่ นกระดาษมีภาพใบหน้ าตัวตลกสวมสู ทที่เหมือนตัว
จริงจนน่ าเหลือเชื่ อ ต่ างเพียงรายละเอียดเล็กน้ อยจาพวกบาดแผล
รวมถึงสี นัยน์ ตาซึ่งควรจะเป็ นสี ฟ้า

อัจฉริยะอะไรขนาดนี้…!

ไคลน์ ประหลาดใจอย่ างแท้ จริง


“คุณวาดภาพเก่งขนาดนีเ้ ชียว?”
“ก่อนจะมาลงเอยกับเหยี่ยวราตรี ผมเคยมีความฝันเป็ นจิตรกร”

ฟรายตอบเสี ยงราบเรียบ

“แล้วทาไมถึงไม่ ทาตามความฝัน?”

ชายหนุ่มถามสงสั ย

ฟรายวางดินสอลงและตอบโดยถือภาพวาดของตัวตลกไว้ ในมือ

“พ่อของผมเป็ นนักบวชแห่ งโบสถ์ เทพธิดา ท่ านต้ องการให้ ผม


เป็ นนักบวช ท่ านให้ เหตุผลว่ าเป็ นงานที่เกียรติ”

“คุณก็เลยเป็ นนักบวช?”

ไคลย์ ยังคงประหลาดใจ เพราะจากอุปนิสัยและธรรมชาติของฟ


ราย หมอนี่ไม่ น่าเป็ นนักบวชได้ เลย

“อา… ลงเอยด้ วย ผมลาออกจากงานซึ่งค่ อนข้ างดีมาเป็ น


นักบวชเต็มตัว”

สี หน้ าแสนเย็นชาของอีกฝ่ ายเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้ อย มุมปากมัน


โค้ งขึน้
“แต่ ในภายหลัง เกิดเหตุไม่ คาดฝันขึน้ ผมจึงลงเอยด้ วยการมา
เป็ นเหยี่ยวราตรี”

ไคลน์ ไม่ ต้องการละลาบละล้ วงเรื่ องส่ วนตัวไปมากกว่ านี้ มันจึง


ถามในหัวข้ อกว้ างๆ

“ในเมื่อเป็ นนักบวชของโบสถ์ รัตติกาล แล้วทาไมคุณถึงไม่ เลือก


เส้ นทางผู้ไร้ หลับ?”

“เหตุผลส่ วนตัว”

ฟรายยังคงตอบห้ วน

“แล้วก็… มาดามดาลี่ย์เป็ นแบบอย่ างที่ดี”

ไคลน์ พยักหน้ า แต่ ก่อนจะได้ เปลี่ยนหัวข้ อสนทนา ฟรายชิง


กล่าวออกมาก่อน

“ช่ วยผมเฝ้าห้ องนีส้ ั กพัก ต้ องรีบนาภาพวาดไปส่ งให้ หัวหน้ า…


ขั้นตอนการเปิ ดปิ ดประตูลับค่อนข้ างวุ่นวาย”

“ตกลง”

ถึงจะรู้สึกผวาไม่ น้อยเมื่อต้ องอยู่กับศพตามลาพัง แต่ ไคลน์ อาศัย


ความกล้าที่ยังหลงเหลือบมอบคามั่นสั ญญา
เมื่อฟรายเดินออกไป บรรยากาศภายในห้ องเข้ าสู่ ความเงียบงัน
ทันที ศพบนโต๊ ะทาให้ หัวใจชายหนุ่มเต้ นไม่ เป็ นจังหวะ

มันพยายามสู ดลมหายใจเข้ าลึกเพื่อเอาชนะความกลัว ก่อนจะลุก


ขึน้ ยืนและเพ่งมองศพตัวตลกอย่ างละเอียดตั้งแต่ หัวจรดเท้ า เรียก
ได้ ว่าเป็ นการฝื นใจดีส้ ู เสื อ

ศพตัวตลกนอนแน่ นิ่งไร้ ร่องรอยลมหายใจ ดวงตาปิ ดสนิท


ใบหน้ าขาวซีด หากไม่ นับบาดแผลสองจุดบริเวณลาคอและ
หน้ าผาก มันคือศพปรกติที่มอบบรรยากาศเย็นยะเยียบคล้ายคน
ตายทั่วไป

ไคลน์ ยืนจ้ องเป็ นเวลานาน จนกระทั่งความรู้สึกหวาดกลัวเริ่ม


หายไป

ทันใดนั้น ชายหนุ่มเหลือบเห็นตราประทับบริเวณข้ อมือตัวตลก


มันตัดสิ นใจเดินเข้ าไปใกล้และใช้ ปลายนิว้ สั มผัส เจตนาเพื่อพลิก
ข้ อมือให้ หงายขึน้ จะได้ เห็นตราประทับชัดเจน

ในวินาทีที่ความเย็นยะเยียบพุ่งจากปลายนิว้ แล่ นเข้ าสู่ หัวสมอง


ฝ่ ามือที่ขาวซีดซึ่งไร้ สัญญาณชีพจนถึงเมื่อครู่พลันคว้ าข้ อมือไคลน์
แน่ นถนัด
ใช่ แล้ว แขนของศพกาลังบีบข้ อมือไคลน์ !
ราชันย์ เร้ นลับ 79 : เสี ยงพึมพาเดิม

ในวินาทีที่ความเย็นเฉียบแผ่ ซ่าน ไคลน์ ขนลุกทั่วร่ างอย่ าง


ฉับพลัน มันรีบออกแรงกระชากข้ อมือตัวเองกลับตาม
สั ญชาตญาณ

สั มผัสประหลาดที่ไม่ ค้ นุ เคยส่ งผลให้ มัดกล้ามเนื้อทุกเส้ นทางาน


ได้ เต็มประสิ ทธิภาพ

โครม!

ศพเปลือยกายผิวขาวซีดที่ปราศจากแรงขัดขืน ถูกกระชากจน
ตกโต๊ ะชันสู ตร ทว่ า ฝ่ ามือตัวตลกยังคงคว้ าข้ อมือขวาไคลน์ แน่ น

ชายหนุ่มสู ญเสี ยกระบวนความคิดอ่านโดยสิ้นเชิง สิ่ งเดียวในหัว


คือการชักลูกโม่ ออกมายิงทิง้ แม่ มให้ หมด

แต่ มือข้ างถนัดที่ใช้ หยิบปื นประจากาลังถูกพันธนาการ มันไม่ มี


ทางเลือกนอกจากโยนไม้ คา้ ในมือซ้ ายทิง้ และฝื นหยิบลูกโม่ จาก
ซองรักแร้ ซ้ายด้ วยท่ าทางผิดธรรมชาติ

ในวินาทีดังกล่าว ซากศพลืมตาขึน้ เผยให้ เห็นนัยน์ ตาฟ้ าคราม


ปากมันพึมพา
“โฮนาซิส… โฮนาซิส… โฮนาซิส…”

เมื่อได้ ยินเช่ นนั้น ไคลน์ ถึงกับหมดเรี่ยวแรง นัยน์ ตาเบิกโพลง


คล้ายกับสติหลุดลอย โชคดีที่ฝั่งซากศพเองก็คลายแรงบีบที่ข้อมือ
เช่ นกัน

ดวงตามันปิ ดกลับด้ วยตัวเอง ราวกับไม่ เคยมีสิ่งใดเกิดขึน้ มา


ก่อน

หากไม่ เพราะซากศพตัวตลกหล่นจากโต๊ ะชันสู ตร ไคลน์ คงคิด


ว่ าตนถูกผลของเวทมนตร์ หลอนประสาทเล่นงานเข้ า

ชายหนุ่มเซถอยหลังสองสามก้าว แข้ งขาสั่ นระริกไร้ เรี่ยวแรง


จากอาการหวาดผวา

ฟู่ ว…! ฟู่ ว…!

มันบรรจงสู ดลมหายใจเข้ าออกเพื่อเรียกสติกลับมา หากเป็ นคน


ธรรมดาคงทาได้ ไม่ รวดเร็วขนาดนี้ ต้ องขอบคุณพลังจากโอสถนัก
ทานาย

ไคลน์ ยกปื นขึน้ เล็งซากศพและเดินถอยหลังไปทางประตูอย่ าง


ระมัดระวัง เมื่อยืนจ้ องสั กพักจนมั่นใจว่ าศพไม่ ขยับแน่ แล้ว มันลด
ปื นลงและเหลือบมองข้ อมือขวาที่ถูกฝ่ ามือบีบรัดแน่ น
รอยแดงของห้ านิว้ ยังคงประทับติดอยู่ เป็ นเครื่ องยืนยัน
เหตุการณ์ เมื่อครู่ได้ ดี

ในที่สุด สติของชายหนุ่มได้ รับความสุ ขุมกลับมาโดยสมบูรณ์


ถ้ อยคาสบถมากมายเวียนวนอยู่ในหัว

บัดซบ… เกือบหัวใจวายตาย

หลังจากถอนหายใจเหนื่อยหอบอยู่ราวสิ บวินาที ไคลน์ พยายาม


เรียบเรียงเหตุการณ์ ที่เกิดขึน้ ในหัว

ถึงจะไม่ เข้ าใจสาเหตุที่ศพตัวตลก ‘คืนชีพ’ ชั่วขณะ แต่ มีหนึ่งสิ่ ง


ที่แน่ ชัดคือ…

มันพูดคาว่ า ‘โฮนาซิส’ ซ้าๆ

“โฮนาซิสอีกแล้ว…”

ไคลน์ ขมวดคิว้

“เนื้อหาในสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสได้ ระบุไว้ ว่า ประเทศ


รัตติกาลเคยมีตัวตนอยู่บนเทือกเขาโฮนาซิส…

“ทุกครั้งที่เข้ าฌานหรื อเข้ าสู่ ภาวะเนตรวิญญาณ เราจะได้ ยิน


เสี ยงกระซิบโฮนาซิสเสมอ รวมถึงตอนที่ประกอบพิธีกรรมเปลี่ยน
ดวงชะตาด้ วย…

“หรื อคาตอบทั้งหมดจะอยู่บนเทือกเขาโฮนาซิส? แต่ เราไม่ ควร


เอาตัวเข้ าไปเสี่ ยง บางทีนี่อาจเป็ นการเพรียกหาจากเทพนอกรีตสั ก
ตน บุคคลชั่วร้ ายที่พยายามหลอกล่อให้ เหยื่อหลงติดกับและช่ วย
ปลดปล่อยเป็ นอิสระ”

หลังจากตั้งข้ อสรุปกับตัวเอง ไคลน์ ตัดสิ นใจเดินเข้ าไป


ตรวจสอบศพอีกครั้ง เพื่อให้ มนั่ ใจว่ ามันไม่ ขยับแล้วจริงๆ
จากนั้น ชายหนุ่มรวบรวมความกล้ายกศพกลับขึน้ ไปวางบนโต๊ ะ
ชันสู ตรในจุดเดิม มันไม่ ต้องการให้ ฟรายผิดสั งเกตุ

ตลอดกระบวนการ ไคลน์ อยากอาเจียนอยู่หลายหน ความตึง


เครียดแม้ เพียงนิดเดียวสามารถทาให้ ถึงกับสติแตกได้ เลย
โดยเฉพาะร่ างกายแสนเย็นเฉียบของศพซึ่งมอบความรู้สึกน่ า
ขยะแขยงกว่ าที่จินตนาการไว้

เมื่อภารกิจกลบกลื่นเสร็จสิ้น ชายหนุ่มเริ่มนึกถึงสาเหตุที่ตนเดิน
เข้ าใกล้ศพในตอนแรก มันรีบมองหาตราประทับบริเวณข้ อมือ
ทันที

ทว่ า สภาพของตราประทับเปลี่ยนไป
ไคลน์ ไม่ ทราบว่ ามันหลุดออกตั้งแต่ เมื่อไร คงเป็ นเพราะ
เหตุการณ์ เมื่อครู่ ส่ งผลให้ มีหยดเลือดก้อนกลมขนาดเท่ าหัวแม่ มือ
หลุดลอยออกมา สี ของเลือดอมฟ้ าเล็กน้ อย

หยดเลือดปริศนาลอยกลางอากาศใกล้กับข้ อมือโดยไม่ เชื่ อมต่ อ


กับสิ่ งใด นับเป็ นการขัดต่ อหลักฟิ สิ กส์ อย่ างรุนแรง

“มันคืออะไร?”

ไคลน์ พมึ พา แต่ ไม่ กล้าใช้ มือสั มผัสมั่วซั่ว


มันไม่ จาเป็ นต้ องซ่ อนหยดเลือดประหลาดชนิดนี้ เพราะฟรายที่
ชันสู ตรศพคงได้ เห็นตราประทับที่ข้อมือแล้ว บางทีหมอนั่นอาจ
ทราบด้ วยซ้าว่ าหยดเลือดลอยได้ หมายถึงสิ่ งใด

หรื อต่ อให้ ฟรายไม่ ทราบ แต่ หัวหน้ าและเหยี่ยวราตรีระดับสู ง


ต้ องมีคาอธิบายแน่ ชายหนุ่มมั่นใจ

ในเมื่อทางานให้ กับองค์ กรใหญ่ ก็ต้องใช้ ประโยชน์ จากองค์ กรให้


คุ้มค่ าที่สุด

ไคลน์ ยืนรออย่ างกระวนกระวายนานหลายนาที จนกระทั่งฟราย


นักเก็บซากศพผมดานัยน์ ตาฟ้ าเดินกลับเข้ ามา

เมื่อได้ เห็นหยดเลือดประหลาด ฟรายเอ่ยปากถามในสิ่ งที่ไคลน์


เคยคิด
“นั่นอะไร?”

“ไม่ ร้ ูเหมือนกัน”

ชายหนุ่มส่ ายศีรษะอย่ างซื่ อตรง มันเล่าเหตุการณ์ ท้งั หมดโดยไม่


ปิ ดบังความจริงแม้ แต่ เรื่ องเดียว

“ตราประทับหลุดออกและกลายเป็ นหยดเลือดลอยได้ …”
ฟรายผงกศีรษะเบาๆ พร้ อมทาสี หน้ าครุ่นคิด

“ศพของผู้วิเศษมักเกิดเหตุการณ์ ประหลาดบ่ อยครั้ง”

มันหันมองไคลน์ และกล่าว

“คุณไปหาหัวหน้ า เล่าเรื่ องราวทั้งหมดให้ เขาฟัง รวมถึงเสี ยง


กระซิบนั่นด้ วย และบอกให้ หัวหน้ ามาหาผมที่นี่”

“ตกลง”

ไคลน์ อยากออกจากห้ องนีเ้ ต็มแก่แล้ว

“…คุณไม่ ต้องกลับมาพร้ อมหัวหน้ าก็ได้ ”


ฟรายชะงักครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวเสริม

“ผมคิดว่ าคุณคงไม่ อยากเห็นสิ่ งที่จะเกิดขึน้ ต่ อจากนี้”

ไคลน์ รีบพยักหน้ าหงึกหงัก

“ขอบคุณที่เตือน”

ชายหนุ่มหยิบไม้ คา้ สวมหมวก และรีบเดินออกจากห้ อง เมื่อ


มาถึงห้ องผู้คุมประตูยานิส ไคลน์ ได้ เห็นดันน์ ·สมิทที่ปราศจาก
อาการเหนื่อยล้านั่งอยู่ด้านใน

หลังจากดันน์ ได้ ฟังเรื่ องราว มันพยักหน้ าเล็กน้ อยและกล่าว

“ผมจะรายงานเรื่ องนี้ไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์โดยตรง บางทีพวกเขา


อาจส่ งคนไปตรวจสอบหุบเขาโฮนาซิสให้ ”

ขณะฟังคาอธิบาย ไคลน์ กวาดสายตามองไปรอบห้ อง พบเพียง


ดันน์ และโคเฮนรี่ที่เป็ นเวรเฝ้าประตู

ชายหนุ่มถามด้ วยสี หน้ าฉงน

“มิสเตอร์ อายร์ กับที่เหลือไปพักผ่ อนแล้วหรื อครับ?”


ดันน์ พยักหน้ า
“อายร์ และบอร์ เจียไปวิหารพระแม่ เซเลน่ า ส่ วนโรล็อตคง
ตระเวนหาร้ านกาแฟ”

“ร้ านกาแฟ? มาดามโรล็อตหายดีแล้วหรื อ?”

ไคลน์ ประหลาดใจ

ดันน์ ลูบขมับก่อนตอบ
“โรล็อตมีงานอดิเรกอยู่สามอย่ าง กาแฟ ของหวาน และสาวใช้
เธอชอบพูดบ่ อยๆ ว่ าถ้ ามีสามสิ่ งนีอ้ ยู่ด้วยกัน ร่ างกายจะฟื้ นฟูได้
รวดเร็วกว่ าปรกติ”

“สาวใช้ ?”

ไคลน์ ยังไม่ เลิกขมวดคิว้

มาดามโรล็อตมีรสนิยมแบบนีห้ รื อ?

ดันน์ ยมิ้ แห้ งพลางอธิบายต่ อ

“เธอชื่ นชอบบริการสาวใช้ มาก โดยเฉพาะสตรีที่มีหน้ าอก


ใหญ่ …”
“…ก็แปลกดีนะครับ”

ไคลน์ ไม่ ร้ ูว่าตนต้ องแสดงสี หน้ าเช่ นไร

ดันน์ ไม่ มัวเสี ยเวลา มันรีบเดินออกจากห้ องเพื่อไปหาฟราย

ชายหนุ่มรอคอยให้ ดันน์ หันกลับมาอย่ างใจจดใจจ่ อ


ขณะเดียวกัน ไคลน์ เหลือบเห็นโคเฮนรี่ถึงกับนานาฬิ กาพกออกมา
จับเวลา
สาม สอง หนึ่ง…

ดันน์ ชะงักฝี เท้ าและหันหลังกลับ

“ผมลืมบอกไป ไคลน์ วันนีค้ ุณผ่ านเรื่ องแย่ ๆ มามากแล้ว ถึงจะ


ยังผ่ อนคลาย แต่ อีกเดี๋ยวต้ องเหนื่อยแน่ ช่ วงบ่ ายกลับไปพักผ่ อนที่
บ้ านได้ เลย แล้วพรุ่งนีผ้ มจะทาเอกสารเบิกงบทรัพย์ สินที่เสี ยหาย
ให้

“แล้วก็… ไม่ ต้องใส่ ใจกับการฆ่ าคนมากนัก อีกฝ่ ายเป็ นผู้วิเศษ


ขององค์ กรชั่วร้ าย หนึ่งชีวิตของมันจะช่ วยให้ ผ้ คู นจานวนมาก
ปลอดภัย”

“ขอบคุณครับ แต่ ผมไม่ คิดมากแล้ว…”


ไคลน์ ยมิ้

ดันน์ พยักหน้ าเบาๆ ก่อนจะหันหลังกลับไป ทันใดนั้น มันใช้ มือ


ตบหน้ าผากตัวเองหนึ่งฉาด

“อีกหนึ่งเรื่ อง ภาพเหมือนของตัวตลกสวมสู ทที่ฟรายวาดให้ ผม


ส่ งต่ อให้ เลียวนาร์ ดประสานงานกับกรมตารวจแล้ว ในฐานะมนุษย์
หนึ่งคน มันต้ องกิน นอน และโดยสารรถม้ า เบาะแสไม่ มีทางถูกลบ
ได้ สมบูรณ์ แน่
“ไม่ ว่าจะมันจะเคยไปที่ใด เคยพักอาศัยที่ไหน พวกเราจะแอบ
แกะรอยอย่ างเงียบงันและสาวไปถึงตัวการใหญ่ ให้ ได้

“หลักสื บสวนที่จักรพรรดิโรซายคิดค้ นนั้นได้ ผลเสมอ”

“…ครับ”

ไคลน์ ตอบโดยไม่ ร้ ูต้องทาสี หน้ าอย่ างไร

หลังจากดันน์ เดินออกจากห้ อง ไคลน์ ก็ถึงเวลาต้ องไปเช่ นกัน มัน


เดินกลับขึน้ มายังชั้นสอง สานักงานบริษัทรักษาความปลอดภัย
หนามทมิฬ

ระหว่ างทาง ชายหนุ่มฉุกคิดบางประเด็นที่ทาให้ ตนรู้สึกหวาด


ผวา
ตัวตลกสวมสู ทระบุว่า ลัทธิเร้ นลับครอบครองเส้ นทางนาทานาย
โดยสมบูรณ์ … ต่ อให้ นี่เป็ นคาโอ้อวดเกินจริง แต่ การครอบครอง
เส้ นทางนักทานายลาดับต่าๆ อาจไม่ ใช่ เรื่ องโกหก

หมายความว่ า ลัทธิเร้ นลับคือองค์ กรที่มีนักทานายเป็ นจานวน


มาก เช่ นนั้นแล้ว ตนจะไม่ ถูกแก้แค้ นเอาหรื อ? หากอีกฝ่ ายทานาย
และพบว่ าตนเป็ นคนลงมือฆ่ าตัวตลกสวมสู ท

ถึงพวกมันจะทาอะไรเหยี่ยวราตรีไม่ ได้ แต่ ถ้าเป็ นนักทานายไร้


พลังแบบเราก็ไม่ แน่ …

ไคลน์ ชะงักกลางขั้นบันไดเป็ นเวลานาน ทว่ า หลังจากตั้งสติ


ไตร่ ตรอง ชายหนุ่มเริ่มมั่นใจว่ าตนกังวลเกินเหตุไปเอง

ประการแรก ลัทธิเร้ นลับคงไม่ มีข้อมูลสมาชิกเหยี่ยวราตรีทุก


คน

ประการที่สอง ต่ อให้ พวกมันรู้จักผู้วิเศษที่โด่ ดเด่ นสั กคนหรื อ


สองคน แต่ ไม่ มีทางใส่ ใจกับเจ้ าหน้ าที่พลเรื อนอย่ างตนแน่

ประการที่สาม ไม่ ว่าจะด้ วยกรณีใด นอกเสี ยจากในหมู่พวกมันมี


เทพพยากรณ์ ลัทธิเร้ นลับไม่ สามารถทานายได้ แม่ นยา ว่ าตนเป็ น
คนลั่นไกสั งหารตัวตลกสวมสู ท เพราะข้ อมูลสาหรับการทานายมี
ไม่ มากพอ
ไคลน์ ถอนหายใจยาวอย่ างโล่ งอก มันเดินออกจากบริษัทหนาม
ทมิฬและขึน้ รถม้ ากลับไปยังถนนดารารัตน์

ถึงจะยังไม่ ได้ กินข้ าวกลางวัน แต่ มันกลับไม่ ร้ ู สึกหิวเลยสั กนิด

เมื่อเดินเข้ าห้ องนอน ชายหนุ่มถอดสู ทที่ขาดเป็ นรูและเปื้ อน


คราบดินไปแขวนบนราว ก่อนจะทิง้ ตัวลงบนเตียงและพยายามข่ ม
ตาหลับ
ทว่ า หัวสมองยังตื่นตัวตลอดเวลา ร่ างกายไม่ ผ่อนคล้ายแม้ แต่
น้ อย ภาพเหตุการณ์ สุดหลอกหลอนคอยตามรบกวนจิตใจ

ไม่ ใช่ ภาพขณะยิงศีรษะตัวตลกสวมสู ท แต่ เป็ นภาพขณะถูก


ซากศพบีบข้ อมือแน่ นถนัด

ไคลน์ เลิกรู้สึกแย่ ที่ตนฆ่ าคน แต่ ศพคืนชีพกลับทาให้ จิตใจหวาด


ผวาหนักกว่ าเก่า

“ฟรายคงต้ องการลบล้างแผลใจที่เราฆ่ าคนเป็ นครั้งแรก จึงให้


เรามีเวลาอยู่กับศพและปลงมัน…

“วิธีนไี้ ด้ ผล เราเลิกฝังใจเรื่ องศพได้ แล้ว แต่ ดันไปฝังใจกับเรื่ อง


อื่นแทน…”
ไคลน์ ยมิ้ แห้ ง

จิตเริ่มผ่ อนคลายลงทีละนิด

ไม่ ทราบว่ าหลับไปตั้งแต่ เมื่อไร แต่ มันถูกปลุกให้ ตื่นอีกครั้งด้ วย


เสี ยงท้ องร้ องโครมคราม

“หิวชะมัด กินช้ างได้ ท้ังตัวแน่ ”

ชายหนุ่มพึมพาพลางพยุงตัวนั่งบนเตียง สายตาชาเลืองมอง
แสงแดดที่ส่องลอดผ้ าม่ านเข้ ามาในห้ อง

ไคลน์ เปลี่ยนกลับไปใส่ ชุดเก่าสวมสบาย ก่อนจะเดินลงไปชั้น


ล่างด้ วยท่ าทางมีความสุ ข

ในวินาทีที่กาลังคิดเมนูอาหารเย็น มันได้ ยินเสี ยงใครบางคนเปิ ด


ประตูบ้าน

เมลิสซ่ า…

มุมปากชายหนุ่มยกขึน้ อย่ างพึงพอใจ นับตั้งแต่ น้องสาวเดินทาง


ด้ วยรถม้ า เธอก็ไม่ เคยกลับบ้ านดึกดื่นอีกเลย
เด็กสาวหันมองพี่ชายที่กาลังยืนในครัว เธอกล่าวด้ วยเสี ยงไร้
อารมณ์

“ไคลน์ มีจดหมายถึงนาย จากอาจารย์ ”

จดหมายจากอาจารย์ ?

นั่นสิ นะ เราเคยขอร้ องให้ พวกเขาช่ วยสื บหาข้ อมูลเกี่ยวกับ


เทือกเขาโฮนาซิส…
มาได้ จังหวะพอดี
ราชันย์ เร้ นลับ 80 : เชิญร่ วมงาน

หลังจากเสร็จมื้อเย็น ไคลน์ นอนเอกเขนกบนโซฟาใน


ห้ องนั่งเล่น มันใช้ ที่ตัดกระดาษเฉื อนขอบจดหมายจากอาจารย์ เปิ ด
อ่าน

เมลิสซ่ ายังคงนั่นบนโต๊ ะทานข้ าว เธอก้มหน้ าคร่าเคร่ งแก้โจทย์


ในหนังสื อเรียน เบ็นสั นกาลังนอนเล่นบนแปลญวน อ่านหนังสื อ
การบัญชีเบื้องต้ นสาหรับมือใหม่

ไคลน์ เปิ ดอ่านจดหมายสามหน้ ากระดาษด้ วยความรู้สึกกึ่ง


คาดหวัง กึ่งหวาดกลัว

“…ผมดีใจมากที่ได้ รับจดหมายจากคุณ ทาให้ นึกถึงวันเก่าๆ


สมัยพวกคุณยังเรียนอยู่ ช่ างน่ าเศร้ าที่เวิร์ชและนาย่ าด่ วนจากไป
ก่อน

“ผมไปร่ วมพิธีศพมาแล้ว ผู้ปกครองของทั้งสองเจ็บปวดรวด


ร้ าวอย่ างมาก เวิร์ชและนาย่ าคือคนรุ่นใหม่ ที่มีอนาคตแสนสดใสรอ
อยู่

“โชคชะตาคือสิ่ งไม่ แน่ นอน ไม่ มีใครทราบว่ าจะเกิดอะไรขึน้ กับ


คุณอีกบ้ าง ยิ่งผมแก่ตัวลง ก็ยิ่งตระหนักถึงจิตใจอันคับแคบและ
ความสิ้นหวังของเผ่ าพันธุ์มนุษย์
“…เกี่ยวกับเรื่ องราวทางประวัติศาสต์ ของเทือกเขาและยอดเขา
โฮนาซิส ผมนึกขึน้ ได้ ว่า มีศาสตร์ ตราจารย์ ด้านโบราณคดีอยู่ท่าน
หนึ่ง มิสเตอร์ จอห์ น·โจเซฟ เคยตีพมิ พ์เอกสารวิจัยเกี่ยวกับยอดเขา
โฮนาซิสโดยเฉพาะ เขียนจากประสบการณ์ สมัยเดินทางสารวจที่
นั่น เขาค้ นพบว่ าบนยอดเขา มีสิ่งก่อสร้ างโบราณที่อายุไม่ ต่ากว่ า
พันปี อยู่ด้วย

“เป็ นเรื่ องน่ าเศร้ าและน่ าอับอาย ที่นักโบราณคดีและนัก


ประวัติศาสตร์ ไม่ สามารถระบุยุคสมัยที่ชัดเจนของสิ่ งก่อสร้ าง
ดังกล่าวสาเร็จ ทาได้ เพียงคาดคะเนอย่ างคร่ าว จากลักษณะ
สถาปัตยกรรม ลักษณะจิตรกรรมฝาหนัง และข้ อความบางส่ วนที่
สามารถถอดรหัส

“ค่ อนข้ างน่ าเหลือเชื่ อ ที่ยอดเขาสู งขนาดนั้นจะเคยมีอารยธรรม


มนุษย์ หลงเหลืออยู่ มิสเตอร์ โจเซฟระบุอย่ างมั่นใจว่ า ที่แห่ งนั้น
ต้ องเคยมีชุมชน อย่ างน้ อยระดับเมือง ที่มนุษย์ ใช้ อาศัยอยู่ร่วมกัน

“สวนรายละเอียดเชิงลึกกว่ านี้ ผมไม่ สามารถอธิบายหมดด้ วย


จดหมาย ขอแนะนาให้ คุณหยิบยืมหนังสื อเอกสารวิจัยจากหอสมุด
เซอร์ เดอไวล์มาอ่าน เชื่ อผม หอสมุดเดอไวล์ มีปริมาณหนังสื อ
มากกว่ าหอสมุดทิงเก็นเสี ยอีก

“ชื่ อของเอกสารวิจัยดังกล่าวคือ—การค้ นคว้ าร่ องรอยอารย


ธรรมบนยอดเขาโฮนาซิส ตีพิมพ์โดยสานักพิมพ์โลเอ็น
“และยังมีอีกหลายบทความที่กล่าวถึงเรื่ องราวบนเทือกเขาโฮนา
ซิส เอกสารเหล่านั้น ส่ วนมากถูกตีพมิ พ์ในวารสารวิชาการจาพวก
‘โบราณคดีสมัยใหม่ ’ และ ‘บทสรุปทางโบราณคดี’ โดยฉบับของ
วารสารที่มีการกล่าวอ้ างถึงคือ…”

ไคลน์ อ่านทุกตัวอักษร จดจาชื่ อเอกสารวิจัย รวมถึงชื่ อวารสารที่


เกี่ยวข้ อง จนขึน้ ใจ

ถัดมา ชายหนุ่มมองหากระดาษเปล่าและปากกาหมึกซึม ก่อนจะ


ลงมือเขียนจดหมายขอบคุณอาจารย์ อย่ างเป็ นทางการ

“เมลิสซ่ า วานเอาจดหมายไปส่ งให้ ด้วย เงินค่ าแสตมป์ อยู่นี่”

ไคลน์ วางจดหมายปิ ดผนึก รวมถึงเงินจานวนหนึ่งที่เพียงพอต่ อ


ค่ าแสตมป์ ไว้ บนโต๊ ะของน้ องสาว

เมลิสซ่ าเหลือบมอง มุมปากกระตุกเบาๆ

“ไคลน์ ไม่ มีแสตมป์ ที่ไหนในโลก ราคาสู งขนาดนีห้ รอกนะ”

“อาใช่ … แสตมป์ ไม่ แพง แต่ เด็กผู้หญิงควรได้ รับค่ าขนมรายวัน


บ้ าง”
ไคลน์ อมยิม้ ตอบ

“ฉันเชื่ อว่ าเซเลน่ าต้ องเคยพูดเรื่ องนีแ้ น่ ”

เมื่อหันไปเห็นเมลิสซ่ ากาลังจะอ้าปากเถียง

“จะเอาไปซื้อวัสดุเครื่ องกลก็ได้ นะ จาพวกเฟื องหรื อน็อตที่


ต้ องการ”
“วัสดุ…”

เมลิสซ่ าพึมพาเบาๆ อีกสองสามหน ก่อนจะยอมรับแต่ โดยดี

“เข้ าใจแล้ว”

มุมปากไคลน์ ยกขึน้ มันเดินลอยชายกลับไปนั่งลงบนโซฟาตัว


เดิม

“เป็ นทักษะโน้ มน้ าวที่ยอดมาก นายจีจ้ ุดอ่อนเมลิสซ่ าได้ แม่ นยา”

เบ็นสั นยกนิว้ โป้งขึน้ บนใบหน้ าเผยรอยยิม้ ไคลน์ หันไปกล่าว


ด้ วยน้าเสี ยงขึงขังจริงจัง
“แล้วฉันต้ องโน้ มน้ าวนายอย่ างไรดี? ถึงจะยอมอ่ านหนังสื อด้ าน
ภาษาศาสตร์ และประวัติศาสตร์ แน่ นอน รวมถึงคณิตศาสตร์ และ
ตรรกะด้ วย”

เมื่อยอนนึกถึงบทเรียนสมัยเรียนมัธยม หรื อแม้ กระทั่งช่ วยต้ น


ของมหาวิทยาลัย ไคลน์ มันใจมากว่ า ข้ อสอบบรรจุข้าราชการจะมี
แนวโน้ มไปในทิศทางใด

เบ็นสั นใช้ ฝ่ามือลูบหัวเถิก ก่อนจะยิม้ แห้ ง

“เวลาอ่านหนังสื อพวกนั้น ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็ นลิงบาบูน


ขนหยิกทุกที”

“แต่ มันจะมีประโยนช์ มาก”

ไคลน์ ยังคงหนักแน่ น

ขณะเดียวกัน เมลิสซ่ าวางปากกาหมึกซึมและเดินมาทางโซฟา


ไคลน์

“เบ็นสั น ไคลน์ นี่คือจดหมายเชิญเข้ าร่ วมงานวันเกิดของเซเล


น่ าในวันอาทิตย์ ครอบครัวของเธอปรารถนาให้ เราทุกคนไป
ร่ วมงานเลีย้ ง… ว่ างกันไหม?”
“ฉันว่ าง”
ไคลน์ ตอบหลังจากครุ่นคิด

การสนิทสนมกับเพื่อนน้ องสาวไม่ ใช่ เรื่ องเสี ยหาย เพราะหาก


เกิดอะไรขึน้ กับเมลิสซ่ า มันยังพอมีช่องทางสื บหาเบาะแสได้

“ฉันก็ว่าง”

เบ็นสั นตอบขณะบรรจงสางผมด้ วยมือ


“ดูท่า… พวกเราคงต้ องช่ วยกันคิดเรื่ องของขวัญที่จะมอบให้
เซเลน่ า”

ไคลน์ ยมิ้

“เรื่ องนีใ้ ห้ เมลิสซ่ าจัดการดีกว่ า เธอรู้จักเพื่อนสนิทของตัวเอง


มากกว่ าเราแน่ หน้ าที่ของสุ ภาพบุรุษมีเพียงสิ่ งเดียว—จ่ ายเงิน”

“นี่คือครั้งแรกที่ฉันได้ ยินใครสั กคน ผลักภาระให้ ผ้อู ื่นด้ วยวาจา


คมคายขนาดนี”้

เบ็นสั นกล่าวพลางส่ ายศีรษะ

“เห็นความสาคัญของหนังสื อภาษาศาสตร์ และประวัติศาสตร์


หรื อยัง?”
“…”

เบ็นสั นไม่ คิดว่ าไคลน์ จะสวนกลับด้ วยหมัดนี้ มันจุกจนอึง้ ไป


ชั่วขณะ

วันถัดมา ไคลน์ สวมสู ทราคาถูกตัวเก่า ในมือถือไม้ คา้ เลี่ยมเงิน


ฝ่ าเท้ าก้าวเดินไปบนบันไดบริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ

สู ทตัวเก่งถูกส่ งไปซักและซ่ อมแซม

ก่อนจะได้ กล่าวทักทายโรแซนตามปรกติ มันเหลือบเห็นดันน์


เดินออกจากฉากกั้น

“อรุณสวัสดิ์ไคลน์ หลับฝันดีไหม?”

ดันน์ ถามเจือความกังวล

ไคลน์ ตอบซื่ อสั ตย์

“ดีกว่ าที่คิดครับ ผมไม่ ได้ ฝันร้ าย แต่ ยังคงขยะแขยงในตอนที่นึก


ถึงมัน”
“ค่ อยโล่งอก ผมดีใจที่ได้ ยินแบบนั้น”

ดันน์ พยักหน้ าสองสามหนพร้ อมยิม้

หลังจากสนทนาเรื่ องดินฟ้ าอากาศทั่วไปเสร็จ ดันน์ ·สมิทเปิ ด


ประเด็นใหม่

“วิหารศักดิ์สิทธิ์ตอบโทรเลขมาแล้ว ทางด้ านอายร์ โรล็อต และ


บอร์ เจียเริ่มนา 2-049 และสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัส กลับไปยัง
มุขมณฑลเขตเบ็คลันด์ ทางฝ่ ายนั้นรีบส่ งเหยี่ยวราตรีมาสมทบทีม
ของอายร์ เป็ นการฉุกเฉิน ผ่ านรถจักรไอน้าเที่ยวตอนเช้ า

“ป่ านนีค้ งออกเดินทางกันแล้ว”

ไปแล้วหรื อ?

หมายความว่ า เรารอดพ้นจากคาสาปสมุดบันทึกบัดซบนั่นแล้ว
ใช่ ไหม?

สี หน้ าไคลน์ ยังคงเคลือบแคลง ราวกับกาลังฝันไป ว่ าตนหลุดพ้น


จากภัยอันตรายแล้วจริงหรื อ

โล่งใจกว่ าที่ไว้ คิดมาก…


คงหมดเรื่ องแล้วสิ นะ?
“เทพธิดาได้ โปรดอวยพร ให้ การเดินทางเป็ นไปอย่ างราบรื่ น
ปลอดภัย”

หลังจากอธิษฐานจบ ไคลน์ ทาสั ญลักษณ์ สี่จุดที่หน้ าอก

ดันน์ หยิบหมวกมาสวม พร้ อมกับชี้นวิ้ ไปยังประตูห้อง

“ผมขอตัวไปลาดตระเวนแถวเขตสุ สานราฟาเอลก่อนนะ เอ่อ…


ลืมบอกไป การสื บสวนของเลียวนาร์ ดมีความคืบหน้ าเล็กน้ อย
ชาวเมืองบางคนเคยเห็นหน้ าตัวตลกสวมสู ทมาก่อน หนึ่งในนั้น
เป็ นคนขับรถม้ า สามารถยืนยันได้ ว่า มันเคยพักอาศัยในทิงเก็นอยู่
ระยะหนึ่ง แต่ รอบคอบมาก ทิง้ เบาะแสไว้ น้อยนิดเหลือเกิน”

“สมกับเป็ นองค์ กรลับ”

ไคลน์ ประชดกระชัน

ดันน์ พยักหน้ าก่อนจะเดินไปทางประตู

ผ่ านไปสามวินาที มันชะงักฝี เท้ าและหันกลับมา

“แล้วก็… วิหารศักดิ์สิทธิ์แจ้ งว่ า คงต้ องรออีกสองถึงสามวัน


ก่อนจะบรรจุคุณในตาแหน่ งเจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการเหยี่ยวราตรีเต็ม
ตัว ต้ องเข้ าใจด้ วยว่ า วิหารศักดิ์สิทธิ์มีหลายแผนก ฝ่ ายที่รับเรื่ อง
ของคุณ เป็ นคนละฝ่ ายกับที่ทาคดีสมุดบันทึกอันทีโกนัส”

“ผมเข้ าใจครับ”

ไคลน์ ตอบตามจริง ขณะเดียวกัน มันแอบเสริมให้ ดันน์ สมิทใน


ใจ

อย่ าลืมส่ งเอกสารเบิกงบด้ วยนะหัวหน้ า…

เมื่อเห็นดันน์ เดินจากไป โรแซนที่ยืนด้ านหลังส่ งเสี ยงเอะอะ


ทันที

“ท่ านเทพธิดา! ไคลน์ ! นี่คุณกลายเป็ นสมาชิกปฏิบัติการแล้ ว


หรื อ? ยังผ่ านมาไม่ ถึงเดือนเลยนะ!”

ไคลน์ ยมิ้

“หลังจากดื่มโอสถนักทานายเข้ าไป ช้ าหรื อเร็วก็ขนึ้ อยู่กับเวลา


เท่ านั้น”

“ก็จริง…”

โรแซนหมดคาพูดไปหลายวินาที ก่อนจะตัดพ้อ
“ฉันอธิษฐานต่ อเทพธิดาทุกวัน ให้ คุณรีบจบบทเรียนศาสตร์ เร้ น
ลับกับลุงนีลล์โดยเร็ว จะได้ ไม่ ต้องเฝ้าคลังอาวุธสั ปดาห์ ละสองครั้ง
แบบนี้…

“ท่ านเทพธิดา! ดิฉันไม่ ใช่ ผ้ ไู ร้ หลับสั กหน่ อย! ผิวพรรณ ความ


สาว และจิตใจที่แสนบอบบางกาลังจะ…”

“คุณยังไม่ ชินอีกหรื อ? ก่อนผมจะเข้ าร่ วมเหยี่ยวราตรี เวรเฝ้า


คลังอาวุธก็มีแค่ คุณ ไบรท์ และลุงนีลล์แค่ สามคนอยู่แล้ว… ไม่ ใช่ รึ
ไง?”
ไคลน์ ขมวดคิว้

โรแซนรีบส่ ายศีรษะอย่ างเศร้ าหมอง

“ไม่ ใช่ เลยสั กนิด ก่อนหน้ าเคยมีสี่คน ไม่ สิ ห้ าคนด้ วยซ้า


จนกระทั่งโคเฮนรี่เลือกกลายเป็ นผู้ไร้ หลับ และวีโอล่าไม่ ต่อสั ญญา
กับเหยี่ยวราตรี เธอเข้ าทางานในบริษัทเครื่ องจักรหนักโฮอีโ้ นเอล วี
โอล่ามีหัวอัจฉริยะด้ านเครื่ องจักรมาก เพียงแต่ ขาดแคลนเงินทุน
สั ญญาระยะยาวห้ าปี กับเหยี่ยวราตรีทาให้ เธอมีเงินเก็บมากพอ”

เมื่อกล่าวจบ โรแซนเงยหน้ าจ้ องไคลน์ พร้ อมกับเลื่อนมือขึน้ มา


ปิ ดปาก

“ฉันคิดวิธีดีๆ ออกแล้ว! ไคลน์ นายต้ องรีบแต่ งงานมีครอบครัว!


จากนั้น แสร้ งทาเป็ นเผยความลับเหยี่ยวราตรีให้ เธอ แน่ นอน นี่เป็ น
ความผิดสถานเบา เพราะเป็ นการยาก ที่จะให้ โกหกคู่นอนร่ วมเตียง
ได้ นานหลายปี

“เมื่อความลับรั่วไหล เธอคนนั้นก็ต้องมาทางานกับเหยี่ยวราตรี
ในฐานะเจ้ าหน้ าที่พลเรื อน! ใช่ แล้ว! เวรเฝ้าคลังอาวุธยังไงล่ะ!”

มุมปากไคลน์ สั่นระริก

“มิสโรแซน มันไม่ ง่ายกว่ าหรื อ? หากเป็ นคุณที่เริ่มหาสามี และ


แสร้ งเผยความลับต่ อเขาหลังแต่ งงาน”

ดวงตาสาวน้ อยพลันเบิกโพลง เธออ้าปากค้ าง ราวกับไม่ เชื่ อว่ า


ไคลน์ จะกล่าวมันออกมา

“ฉันจะทาไปแบบนั้นได้ ยังไง? การแต่ งงานเป็ นสิ่ งสาคัญมากรู้


ไหม! ต้ องเลือกผู้ชายที่ดี และคบหาดูใจเป็ นเวลานานหลายปี
จนกระทั่งมั่นใจ จากนั้นค่ อยแต่ งงาน…”

แล้วกับฉันล่ะฟะ?

ไคลน์ ไม่ คิดถกปรัชญาชีวิตกับโรแซนให้ ปวดหัว คนทั้งสอง


สนทนาเรื่ อยเปื่ อยต่ ออีกครู่หนึ่ง ก่อนที่ชายหนุ่มจะโบกมือลาและ
เดินลงชั้นใต้ ดิน
ภายในคลังอาวุธ ไคลน์ เดินเข้ าไปพบนีลล์ กาลังปลุกปลา้ กาแฟ
บดคู่ใจหน้ าดาหน้ าแดง มันจึงตัดสิ นใจนั่งรอให้ อีกฝ่ ายเสร็จ
เรียบร้ อยเสี ยก่อน

“เจ้ ากาลังจะกลายเป็ นเจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการเต็มตัวใช่ ไหม?”

ลุงนีลล์เงยหน้ าถามขณะรินน้าร้ อนใส่ กระดาษกรอง

“หัวหน้ าบอกว่ าอีกสองถึงสามวัน และผมยังไม่ มั่นใจว่ าทาง


วิหารศักดิ์สิทธิ์จะตกลง”
ไคลน์ ตอบตามจริง

“ฮะฮะ!”

ลุงนีลล์หัวเราะในลาคอ

“วิหารศักดิ์สิทธิ์ไม่ มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว โดยเฉพาะบุคคลที่เป็ น


ผู้วิเศษอย่ างเจ้ า”

เมื่อกล่าวจบ ชายชราฉีกยิม้ อย่ างมีเลศนัย

“จงเตรียมใจไว้ ให้ ดี เจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการเหยี่ยวราตรีต้องผ่ าน


บททดสอบชนิดหนึ่งก่อนถูกบรรจุเต็มตัว…
“บททดสอบดังกล่าวก็คือ การปฏิบัติภารกิจเดี่ยวให้ สาเร็จลุล่วง
โดยไม่ พงึ พาความช่ วยเหลือจากใคร แต่ ไม่ ต้องห่ วง ดันน์ คงเลือก
ภารกิจที่ง่ายที่สุดให้ เจ้ า ในฐานะที่เป็ นผู้วิเศษสายสนับสนุน”
ราชันย์ เร้ นลับ 81 : ไม่ ได้ พบกันนาน

“ถ้ าต้ องการเป็ นเจ้ าหน้ าปฏิบัติการเหยี่ยวราตรีที่เต็มตัว ผมต้ อง


ทาภารกิจเดี่ยวให้ ผ่านเสี ยก่อน?”

ไคลน์ ผงะไปพักใหญ่

“แต่ ตลอดสั ปดาห์ ที่ผ่านมา ผมแทบไม่ เห็นเหยี่ยวราตรีมีภารกิจ


เข้ ามาเลย แถมแต่ ละงานล้วนอันตรายเกินกว่ าจะทาคนเดียว…”

แบบนี้ ตนไม่ ต้องรอนานนับเดือนเลยหรื อ กว่ าจะกลายเป็ น


เจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการเต็มตัว?

กว่ าที่ค่าจ้ างจะเพิม่ เป็ นหกปอนด์ …

ลุงนีลล์ใช้ จมูกสู ดดมกลิ่นกาแฟก่อนชาเลืองหางตามองไคลน์

“เป็ นกฏที่ต้งั กันเองในหมู่เหยี่ยวราตรี ในฐานะจุดสู งสุ ดของ


ผู้วิเศษ ไม่ มีใครอยากทางานร่ วมกับไอ้ลูกแหง่ ที่เอาแต่ เกาะคนอื่น
หรอกนะ

“แต่ เจ้ าไม่ ต้องกังวล การเพิม่ ขึน้ ของค่ าจ้ างจะมีผลทันที รวมถึง
ตาแหน่ งทางราชการด้ วย”
คล้ายกับบททดสอบเพ่ื่อทาให้ เหยี่ยวราตรีคนอื่นยอมรับใน
ความสามารถสิ นะ…

ว่ าแต่ ทาไมจู่ๆ ลุงนีลล์ถึงพูดเรื่ องค่ าจ้ าง? อ่านใจเราออกรึไง?


หรื อว่ าท่ าทางของเราชัดเจนเกินไป?

ไคลน์ ใช้ มือลูบใบหน้ าก่อนจะยิม้ แห้ ง

“แล้วต้ องเป็ นภารกิจเกี่ยวข้ องกับผู้วิเศษเท่ านั้นรึเปล่าครับ?”


“ตามปรกติต้องเป็ นเช่ นนั้น แต่ เจ้ าได้ แสดงฝี มือน่ าทึ่งในการ
สั งหารผู้วิเศษจากองค์ กรลับ แถมยังเป็ นที่สงสั ยกันว่ า อีกฝ่ ายมี
ลาดับแปดเป็ นอย่ างน้ อย

“ด้ วยเหตุนี้ ฟราย รอยัล และคนอื่นน่ าจะยอมรับในตัวเจ้ าแล้ว


ฉะนั้น ดันน์ อาจมอบภารกิจธรรมดาจากกรมตารวจให้ ทาแทน”

เมื่อกล่าวจบ ลุงนีลล์ถอนหายใจ

“ค่ าแรงจะเพิม่ ขึน้ จากเดิมสองเท่ า แต่ มันจะไม่ เพิม่ ลักษณะนีอ้ ีก


แล้วชั่วชีวิต จงลิม้ รสความสุ ขให้ นานที่สุด…”

ไคลน์ ยมิ้ มุมปาก จากนั้นก็ไต่ ถามข้ อมูลเส้ นทางโอสถตัวเอง


“มิสเตอร์ นีลล์ คุณคิดว่ าโอสถลาดับแปดของเส้ นทางนักทานาย
จะใช่ ตัวตลกรึเปล่า?”

หากประเมินจากรายละเอียดที่เขียนไว้ ในเอกสารลับ มัน


ค่ อนข้ างสอดคล้องกันหลายจุด

ช่าชองการต่ อสู้ ด้วยกลอุบาย…

“ฉันคงยืนยันเรื่ องนั้นไม่ ได้ แต่ ถ้าถามความเห็นส่ วนตัว มี


โอกาสเป็ นไปได้ สูงทีเดียว ข้ อมูลสอดคล้องกับที่ระบุในเอกสารลับ
แถมคาอธิบายของลาดับเจ็ดก็ยังเป็ นไปในแนวทางเดียวกับตัว
ตลก…

“ว่ าแต่ เจ้ ารู้หรื อไม่ เส้ นทางผู้ส่องความลับลาดับแปดมีชื่อว่ า


อะไร?”

“ไม่ ทราบครับ มันไม่ มีเขียนไว้ ในเอกสารลับของโบสถ์ ”

ไคลน์ ส่ายศีรษะ

ลุงนีลล์ยมิ้ เล็กๆ ก่อนจะเล่าต่ อ

“ฉันมีเพื่อนสนิทสองคนทางานอยู่ในหน่ วยจิตแห่ งจักรกล พวก


เขาชอบแกล้งฉันด้ วยสี หน้ าตลกขบขันว่ า ลาดับแปดของผู้ส่อง
ความลับคือนักตะลุมบอน…
“เจ้ าฟังไม่ ผิด นักตะลุมบอน! บ้ าจริง! ฉันเกลียดการตะลุมบอน
เป็ นที่สุด! ไม่ เหมาะกับภาพพจน์ ผ้ สู ่ องความลับเลยสั กนิด!”

“ผมเข้ าใจครับ… ผู้ส่องความลับคือบุคคลทีป่ รารถนาค้ นหา


ความลับของทุกสิ่ ง แต่ ผมคิดว่ า บางที นักตะลุมบอนอาจมี
ความลับที่สาคัญซ่ อนอยู่ก็ได้ ”

ไคลน์ พยายามเชื่ อมโยงหาเหตุผล

ขณะเดียวกัน ลุงนีลล์จัดการกาแฟบดของตัวเองเรียบร้ อย

“เอาล่ะ เริ่มเรียนกันดีกว่ า ยังมีศาสตร์ เร้ นลับอีกมากที่เจ้ าต้ อง


ศึกษา โดยเฉพาะพิธีกรรมที่เป็ นประโยชน์ ในภารกิจ รวมถึงวิธีการ
สร้ างเครื่ องรางและยันต์ ด้วย”

“ได้ ครับ”

ไคลน์ นั่งลงเตรียมตั้งใจเรียน ขณะเดียวกัน ภายในหัวเริ่ม


วางแผนชีวิตของวันนี้

ช่ วงเช้ าหลังเรียนเสร็จ ต้ องไล่อ่านเอกสารโบราณที่ยังเหลือ


จากนั้นก็เขียนเอกสารเบิกค่ าเสี ยหายในภารกิจที่ผ่านมา

หลังจากทานอาหารกลางวัน ต้ องเดินทางไปที่สนามยิงปื นเพื่อ


ฝึ กซ้ อม การขัดเกลาทักษะอย่ างสม่าเสมอคือสิ่ งจาเป็ น ถัดมา เรา
ต้ องเดินทางไปที่หอสมุดเดอไวล์เพื่อยืมเอกสารวิจัย รวมถึง
วารสารวิชาการเกี่ยวกับยอดเขาโฮนาซิสฉบับที่อาจารย์ ระบุ

เมื่อเสร็จทั้งหมด หากมีเวลาเหลือต้ องแวะไปที่สโมสรพยากรณ์


เทคนิคสวมบทบาทคือสิ่ งจาเป็ นที่ต้องกระทาอย่ างต่ อเนื่อง

ถ้ าวันนีเ้ บิกเงินผ่ านและได้ รับเงินชดเชยทันที ขากลับก็ต้องแวะ


ซื้อสู ทตัวใหม่ ระหว่ างทางด้ วย

พรุ่งนีค้ ่ อยเบิกวัสดุสาหรับสร้ างเครื่ องรางปัดเป่ าอันตรายให้ เบ็น


สั นและเมลิสซ่ า

ณ ห้ องอาหารสุ ดหรูหราที่มีโคมเทียนระย้ าแขวนเรียงราย


ตระการตา มิตรสหายของจอยซ์ ·ไมเยอร์ ร่วมจัดงานฉลองที่มัน
สามารถรอดชีวิตกลับมายังทิงเก็นได้

“พวกเราอ่านข่ าวแล้ว แค่ รายละเอียดคร่ าวๆ ยังทาให้ ร้ ูสึกหวาด


ผวา…”

ชายเคราสั้ นกล่าวกับจอยซ์ ด้วยน้าเสี ยงเห็นใจ

“จอยซ์ ผมไม่ อยากเชื่ อว่ าคุณจะรอดพ้นวิบากกรรมสุ ดเลวร้ าย


มาได้ นับแต่ นี้ไป ภัยอันตรายคงไม่ ย่างกรายเข้ าหาคุณอีกพักใหญ่
ชีวิตจะมีแต่ ความสดใส! เอ้าชน! แด่ เทพแห่ งจักรกลไอน้าผู้
ยิ่งใหญ่ !”

จอยซ์ และคู่หมั่น แอนนา เริ่มยกแก้วแชมเปญชนกับเพื่อนฝูง


ก่อนจะดื่มของเหลวที่เหลืออยู่จนหมดเกลีย้ ง

“แอนนาเป็ นห่ วงคุณมากเลยนะ เธอร้ องไห้ ทุกคืน และทุกครั้งที่


ฉันพยายามชวนไปดื่มชายามบ่ าย เธอจะปฏิเสธด้ วยสี หน้ าเหม่ อ
ลอยเสมอ โชคดีมากที่คุณรอดกลับมาได้ ไม่ อย่ างนั้นเธอคง
ตรอมใจตายไปแล้ว”

สุ ภาพสตรีอ่อนเยาว์ จมูกเล็กกระทัดรัด เส้ นผมสี น้าตาล


หยักโศก กล่าวกับจอยซ์ พลางชาเลืองมองทางแอนนา

“ถ้ าแอนนาต้ องเผชิญเหตุร้ายแบบเดียวกัน ตัวผมก็คงมีอาการ


ไม่ ต่าง หรื อบางทีอาจแย่ ยิ่งกว่ า…”

บุรุษหนุ่มผู้มีจมูกปลายงุ้ม จอยซ์ ·ไมเยอร์ กล่าวพร้ อมกับ


ชาเลืองมองคู่หมั้นของตนด้ วยรอยยิม้ อบอุ่น

แอนนาไม่ ค้ นุ ชินกับการแสดงความรักต่ อหน้ าผู้อื่น เธอเบือน


สายตาหนีอย่ างเคาะเขิน ก่อนจะหันไปถามบุคคลที่นั่งเก้าอีฝ้ ั่งตรง
ข้ าม
“บอร์ กด้ า ทาไมคุณถึงเอาแต่ ก้มหน้ า? ฉันสั มผัสถึงความมืดมน
จากตัวคุณได้ ชัดเจน”

สตรีวัยเยาว์ จมูกเล็ก ไอรีน เธอเป็ นฝ่ ายตอบแทนบอร์ กด้ า

“บอร์ กด้ าป่ วย นักกายภาพบาบัดระบุว่าตับของเขามีปัญหา


ปัจจุบันได้ รับเพียงยาบรรเทาอาการปวด หากต้ องการรักษาให้
หายขาด ทางออกเดียวคือผ่ าตัด”

“พระเจ้ า… ตั้งแต่ เมื่อไรกัน?”


แอนนาและจอยซ์ ถามพร้ อมกัน

บอร์ ก บุรุษหนุ่มผมสั้ น ใบหน้ าขาวซีดคล้ายคนป่ วย ดวงตาที่


เคยแดงสว่ างเริ่มปรากฏความมัวหมอง

“ตั้งแต่ สัปดาห์ ก่อน แต่ นอนนั้นจอยซ์ ยังไม่ กลับมา ผมจึงบอก


ให้ ไอรีนและคนอื่นอย่ าเพิง่ บอกคุณ”

บอร์ กด้ าอธิบายพลางฝื นยิม้

จอยซ์ ถามตรงไปตรงมา

“แล้วคุณคิดจะผ่ าตัดเมื่อไร?”
ก่อนจะมอบคาตอบ สี หน้ าบอร์ กด้ าเปลี่ยนไปหลายหน
“ไม่ เลย ยังไม่ ได้ ตัดสิ นใจ ก็อย่ างที่คุณทราบ พวกศัลยแพทย์ ไม่
ต่ างอะไรกับคนแล่หมู! ในสายตาพวกมัน ผู้ป่วยก็เหมือนเนื้อหมู
บนเขียง! คิดจะตัดเฉื อนตรงไหนก็ทาตามใจชอบ ผมเคยอ่าน
รายงานหลายฉบับ มีการระบุว่า ศัลยแพทย์ บางคนใช้ ขวานเป็ น
อุปกรณ์ผ่าตัด! พระเจ้ า! ผมคงไม่ รอดกลับมาแน่ ถ้าตัดสิ นใจขึน้
เตียง”

“แต่ ถ้าคุณผลัดออกไปเรื่ อยๆ เมื่อถึงตอนนั้น การผ่ าตัดอาจไม่


ช่ วยอะไรแล้ว”

บุรุษเคราสั้ นพยายามโน้ มน้ าว

แอนนาพูดแทรกขึน้

“บอร์ กด้ า คุณควรไปดูดวงเสี ยก่อน ให้ หมอดูช่วยระบุว่า การ


ผ่ าตัดเป็ นไปอย่ างราบรื่ นหรื อไม่ จะได้ สบายใจ หากผลลัพธ์
ออกมาไม่ ดี คุณค่ อยมองหาวิธีรักษาแบบอื่น

“ฉันรู้จักหมอดู… เอ่อ… ฉันเรียกเขาว่ านักทานาย อยู่คนหนึ่ง


มั่นใจว่ าชายคนนั้นต้ องช่ วยคุณได้ แน่ ”

“จริงหรื อ?”
บอร์ กด้ าย้ อนถาม สี หน้ าของมันเคลือบแคลงชัดเจน ทางด้ าน
เพื่อนคนอื่นก็ไม่ ต่าง

“แน่ นอน!”

แอนนาพยักหน้ าหนักแน่ น

“ฉันเคยให้ เขาช่ วยดูดวงให้ นักทานายคนนั้นแนะนาให้ ฉันกลับ


บ้ านโดยพูดว่ า—คู่หมั่นของคุณกาลังรออยู่ที่บ้านแล้วครับ

“สารภาพตามตรง ในตอนนั้นฉันเองก็เชื่ อครึ่งไม่ เชื่ อครึ่ง แต่


สุ ดท้ ายก็กลับบ้ านตามที่เขาบอก… แล้วก็ได้ พบจอยซ์ รออยู่ที่นั่น”

“ผมยืนยันได้ ”

จอยซ์ เสริม

มันไม่ ได้ เล่าเรื่ องที่ตนไปหานักทานายหลังจากนั้น เพื่อให้ ทานาย


เกี่ยวกับความฝันบนเรื ออัลฟาฟ่ า สาเหตุเพราะ ในเมื่อตารวจยัง
จับกุมตัวทริสไม่ ได้ อันตรายอาจสาวมาถึงตนภายหลัง หากมีใครรู้
เข้ าว่ ามันคือผู้แจ้ งความ

“พระเจ้ า! น่ าเหลือเชื่ อมาก!”

“นักทานายที่ว่า เขายอดเยี่ยมขนาดนั้นเลยหรื อ?”


ท่ ามกลางความฮือฮา บอร์ กด้ าครุ่นคิดอยู่นานจนกระทั่งยอมทา


ตาม

“ก็ได้ ผมจะลองขอคาปรึกษาจากนักทานายคนนั้นดู แอนนา


จอยซ์ พวกคุณมีชื่อและที่อยู่สาหรับติดต่ อเขาไหม?”

แอนนาถอนหายใจอย่ างโล่งอก
“บอร์ กด้ า คุณตัดสิ นใจถูกต้ องแล้ว

“เขาอยู่ที่สโมสรพยากรณ์ บนถนนฮาเวิส

“ชื่ อไคลน์ ·โมเร็ตติ”

ณ เขตไม้ ฟินิกซ์ ทอง หอสมุดเดอไวล์

ไคลน์ อาศัยจดหมายแนะนาจากอาจารย์ เพื่อให้ ได้ รับสิ ทธิ์ยืม


หนังสื ออ่าน มันเดินไปหาบรรณารักษ์ พร้ อมกับควงบัตรเล็กๆ ใน
มือเล่น
“ผมต้ องการยืมหนังสื อ—การค้ นคว้ าร่ องรอยอารยธรรมบน
ยอดเขาโฮนาซิส ตีพมิ พ์โดยสานักพิมพ์โลเอ็น”

บรรณารักษ์ เงยหน้ าขึน้ ตอบ

“สั กครู่นะครับ ขอตรวจระเบียนให้ ก่อน”

มันหันหลังกลับไป ก่อนจะก้มลงและเปิ ดลิน้ ชักออกมารื้อแฟ้ ม


เอกสารกองโต เริ่มต้ นด้ วยการเปิ ดหมวดอักษรที่เกี่ยวกับโฮนาซิส
จากนั้นก็ไล่หาชื่ อหนังสื อตามที่ไคลน์ แจ้ งความจานง
หลังจากค้ นหาโดยละเอียดอยู่นานสองนาน บรรณารักษ์ หัน
กลับมากล่าวพลางส่ ายศีรษะ

“ขอโทษด้ วยนะครับมิสเตอร์ พวกเราไม่ มีหนังสื อเล่มนั้นเก็บ


ไว้ ”

“น่ าเสี ยดาย…”

น้าเสี ยงไคลน์ เจือความผิดหวัง

ดูท่า ตนคงต้ องเขียนจดหมายไปที่สานักพิมพ์ โลเอ็นโดยตรง


หรื อไม่ ก็แวะไปมหาวิทยาลัยโฮอี้

ขณะเดียวกัน ภายในใจก็นึกตาหนิระบบห้ องสมุดและ


บรรณารักษ์ แสนล้าสมัยในยุคปัจจุบัน
ถ้ ามีคอมพิวเตอร์ พวกคุณจะสะดวกสบายกว่ านีล้ ้านเท่ า! แต่ ขอ
โทษด้ วย… ผมเองก็ไม่ ร้ ูวิธีสร้ างคอมพิวเตอร์ เหมือนกัน

ไคลน์ ยังคงเงียบงัน มันทาได้ เพียงยิม้ แห้ งๆ พร้ อมกับถามหาสิ่ ง


อื่น

“แล้วพอจะมีวารสารโบราณคดีสมัยใหม่ และบทสรุปทาง
โบราณคดีไหมครับ?”
“มีครับ”

บรรณารักษ์ ยืนยันอย่ างมั่นใจ

“สุ ภาพบุรุษท่ านหนึ่งเพิง่ นามาคืนเมื่อครู่”

เจ้ าหน้ าที่คนดังกล่าวก้มหยิบบัตรเล็กๆ ใบหนึ่งให้ ไคลน์ พร้ อม


กับชี้นวิ้ ไปยังทิศทางของชั้นหนังสื อ

ชายหนุ่มเดินไปยังชั้นวารสารและกวาดสายตามอง ก่อนจะหยิบ
ฉบับที่อาจารย์ ของตนระบุไว้

ถัดมา ไคลน์ มองหาที่นั่งริมหน้ าต่ างและบรรจงเปิ ดอ่านทีละ


หน้ าอย่ างตั้งใจ ท่ ามกลางแสงแดดยามบ่ ายของที่ส่องผ่ านเข้ ามา
มันคร่าเคร่ งศึกษาข้ อมูลด้ วยสี หน้ าคาดหวัง
“…สิ่ งก่อสร้ างโบราณไม่ เพียงตั้งอยู่บนจุดสู งสุ ดของยอดเขาโฮ
นาซิส แต่ ยังแผ่ ขยายเป็ นวงกว้ างเข้ าไปในเขตป่ า หุบเขา และเนิน
ลาดชันรอบยอดเขาสู งสุ ด…”

“…อาคารเหล่านีส้ ่ วนใหญ่ สร้ างโดยใช้ หลังคาทรงโดมและเสา


หินมหึมาช่ วยคา้ จุน ด้ วยความสั ตย์ จริง เป็ นภาพที่มหัศจรรย์ มาก
สาหรับตัวผม…”

“…ผมสงสั ยว่ า พวกเขานาหินก้อนใหญ่ เหล่านีม้ าจากไหน?


ในทางสมมติฐาน ขอเดาว่ ามีการสร้ างเหมืองหินด้ านบนโดยไม่
ต้ องขนขึน้ ภูเขา…”

“…และที่น่าแปลกคือ อาคารจะยิ่งมีขนาดใหญ่ เมื่อยิ่งเข้ าใกล้


จุดสู งสุ ดยอดเขา ทว่ า เมื่อไปถึง กึ่งกลางยอดเขากลับไม่ มี
สิ่ งก่อสร้ างปรากฏแม้ แต่ แห่ งเดียว

“ทั้งที่พวกเราตั้งสมมติฐานกันว่ า ต้ องมีสิ่งก่อสร้ างระดับ


มหาราชวัง ที่เหมือนกับไม่ ได้ เกิดจากฝี มือมนุษย์ อยู่ในจุดนั้น
ลักษณะคล้ายกับวิหารศักดิ์ศิทธิ์สาหรับประกอบพิธีกรรมบูชา
ยัน…”

พระราชวังที่เหมือนกับไม่ ได้ เกิดจากฝี มือมนุษย์ … วิหาร


ศักดิ์สิทธิ์สาหรับประกอบพิธีบูชายัน…
สถานที่ที่เราเห็นในฝันวันนั้นน่ ะหรื อ?

ขณะสมาธิกาลังดาดิ่ง ชายหนุ่มพลันได้ ยินเสี ยงฝี เท้ าดังเข้ ามา


ใกล้จากด้ านหลัง

เมื่อเงยหน้ าหันกลับมอง ไคลน์ ได้ พบกับใบหน้ าที่ค้ นุ เคย ไม่ ได้


เจอกันเป็ นการส่ วนตัว แต่ เป็ นใบหน้ าที่ปรากฏบนหนังสื อพิมพ์
บ่ อยๆ

โครงหน้ าค่ อนข้ างเหลี่ยม คิว้ หนา จมูกเข้ ารูปได้ สัดส่ วน ผมสั้ น
สี ทองเข้ ม นัยน์ ตาฟ้ าคราม ริมฝี ปากเล็กและปิ ดสนิทตลอดเวลา

หนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสี ยงที่สุดของทิงเก็น ชายใจบุญ เจ้ าของ


กิจการหลายแห่ ง รวมถึงเจ้ าของห้ องสมุดแห่ งนี้

เซอร์ เดอไวล์

ยืนข้ างกันเป็ นพ่อบ้ านวัยกลายคนที่ไคลน์ เคยพบหน้ ามาก่อน ใน


เหตุการณ์ เก็บกระเป๋าสตางค์ คืน

ไคลน์ เหลือบมองด้ วยหางตาจนกระทั่งอีกฝ่ ายเดินเข้ ามาในระยะ


สิ บเมตร ชายหนุ่มแอบใช้ ปลายนิว้ แตะหว่ างคิว้ สองครั้งโดยไม่ ให้
ใครรู้ตัว
ราชันย์ เร้ นลับ 82 : ร้ านสมุนไพร

แสงออร่ าหลากสี ซ้อนทับกันบนตัวเซอร์ ·เดอไวล์ ไคลน์ พยายาม


สารวจสภาพร่ างกายอีกฝ่ ายอย่ างละเอียดทุกซอกมุม

แข็งแรงมาก และแทบไม่ มีปัญหาด้ านสุ ขภาพเลย…

แต่ ด้านอารมณ์ กลับย่าแย่ สุดขีด แสงขุ่นมัวหมายถึงความอ่ อนล้า


ทางจิตใจ…

กาลังคิดมากหรื อ? นอนไม่ หลับ? แต่ แสงออร่ าสี ม่วงบนศีรษะ


กลับปรกติดี…

ไคลน์ พมึ พาข้ อสั นนิษฐาน

นั่นสิ นะ การเป็ นเจ้ าของกิจการใหญ่ คงไม่ ง่าย มีเรื่ องให้ ขบคิดไม่


เว้ นแต่ ละวัน…

ชายหนุ่มเลิกสนใจเซอร์ เดอไวล์ สายตากลับมาจ้ องมองวารสาร


โบราณคดีตรงหน้ าอีกครั้ง

เอกสารเหล่านีไ้ ม่ ได้ บอกข้ อมูลแปลกใหม่ แต่ อย่ างน้ อยก็ช่วย


ยืนยันในประเด็นเก่าให้ กระจ่ างและหมดความเคลือบแคลง
ประการแรก เป็ นที่แน่ ชัดว่ าเคยมีอารยธรรมบนยอดเขาโฮนาซิส
รวมถึงดินแดนบริเวณข้ างเคียง อายุเก่าแก่ราว 1,500 ปี เห็นจะได้

ประการที่สอง รูปแบบของสถาปัตยกรรมเป็ นชนิดโอ่อ่าหรู หรา


เน้ นความอลังการ ภาพจิตรกรรมฝาผนังเขียนเกี่ยวกับเรื่ องราวการ
ปกป้องผู้ที่ล่วงลับของเทพธิดารัตติกาล

และประการสุ ดท้ าย ซากปรักหักพังทุกหนแห่ งบ่ งบอกชัดเจนว่ า


คนที่นี่นับถือและบูชาเทพธิดารัตติกาลอย่ างแรงกล้า มีสัญลักษณ์
บ่ งชี้มากมาย แต่ ตราดังกล่าวไม่ เหมือนกับตราศักดิ์สิทธิ์ของ
เทพธิดาในยุคปัจจุบัน

“ถ้ ามีโอกาส… เราจะไม่ ไปเหยียบที่นั่นเป็ นอันขาด!”

ไคลน์ ลั่นวาจาหนักแน่ นพลางขบกราม มันไม่ คิดรนหาที่ตายให้


ตัวเอง

หลังจากอ่านสิ่ งที่ต้องการจบ ชายหนุ่มเดินนาวารสารไปเก็บ


กลับที่เก่า คืนบัตรให้ บรรณารักษ์ และเดินออกจากหอสมุดเดอไวล์

สโมสรพยากรณ์
บอร์ กด้ าเงยหน้ ามองสตรีเลอโฉมที่นั่งประจาในจุดบริการลูกค้ า
ของสโมสร ก่อนจะไต่ ถาม

“ผมต้ องการดูดวงครับ”

แอนเจลิก้ายิม้ อ่อนโยนและถามกลับ

“มีรายชื่ อหมอดูในใจหรื อยังคะ? หรื อจะให้ ฉันช่ วยแนะนา


จากอัลบัมรูปภาพ?”

บอร์ กด้ าใช้ มือกดฝั่งขวาของช่ องท้ องด้ วยสี หน้ าเจ็บแปลบเล็กๆ

“ผมต้ องการดูดวงกับมิสเตอร์ โมเร็ตติ”

“แต่ มิสเตอร์ โมเร็ตติยังไม่ เข้ าสโมสรค่ ะ”

แอนเจลิก้าตอบด้ วยท่ าทีไม่ มั่นใจ

บอร์ กด้ าเงียบงัน มันเดินวนไปมาด้ วยท่ าทีกระสั บกระส่ าย ก่อน


จะตั้งคาถาม

“มิสเตอร์ โมเร็ตติว่างวันไหนบ้ างครับ?”

“ไม่ มีใครทราบค่ะ เขาเข้ าออกตามใจชอบ แต่ จากที่สังเกตุ


มิสเตอร์ โมเร็ตติจะเข้ าสโมสรบ่ อยครั้งในช่ วงบ่ ายวันจันทร์ ”
แอนเจลิก้าตอบด้ วยสี หน้ าครุ่นคิด

“เข้ าใจแล้วครับ”

ใบหน้ าบอร์ กด้ าพลันดามืด มันหันหลังเตรียมตัวเดินกลับ

“มิสเตอร์ คะ คุณไม่ สนใจดูดวงกับหมอดูท่านอื่นบ้ างหรื อ?


อย่ างเช่ น มิสเตอร์ เฮเนส·วินเซนต์ หมอดูชื่อดังแห่ งเมืองทิงเก็น”

แอนเจลิก้าพยายามโน้ มน้ าวเพื่อสร้ างรายได้ แก่ สโมสร

บอร์ กด้ าชะงักฝี เท้ าและหันกลับมาตอบ

“ไม่ ครับ ผมไว้ ใจแค่ มิสเตอร์ โมเร็ตติเท่ านั้น เอ่อ… ขอนั่งรอทีนี่


สั กพักได้ ไหม? เผื่อเขาอาจแวะเข้ ามาหลังจากเสร็จธุระ”

“ไม่ มีปัญหาค่ ะ”

แอนเจลิก้าส่ งยิม้ อบอุ่น

บอร์ กด้ านั่งลงบนโซฟาสาหรับแขก มันใช้ มือลูบไม้ คา้ ด้ วยสี หน้ า


ครุ่นคิด สลับกับมองออกไปนอกหน้ าต่ างเป็ นระยะ ท่ าทีชัดเจนว่ า
กาลังกระวนกระวาย
หลายนาทีผ่านไป จิตใจบอร์ กด้ าเริ่มว้ าวุ่น มันไม่ แน่ ใจว่ าตนควร
กลับหรื อรอต่ อไปอย่ างไร้ จุดหมาย แต่ ทันใดนั้น น้าเสี ยงแสน
ตื่นเต้ นของสาวสวยดังแว่ วจากทางเข้ า

“ทิวาสวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์ โมเร็ตติ!”

เมื่อได้ เห็นใบหน้ าแอนเจลิก้า ชายหนุ่มอยากถามออกไปตามตรง


ว่ า ทาไมถึงต้ องเป็ นคุณทุกครั้ง? ไม่ มีวันหยุดพักผ่ อนบ้ างเลยหรื อ?

ทว่ า ในฐานะนักทานายลึกลับ หากถามไปตามตรงคงเสี ย


ภาพลักษณ์ ไม่ น้อย ไคลน์ ครุ่นคิดสองจิตสองใจ มันต้ องการตอบ
กลับไปในแบบฉบับนักต้ มตุ๋นที่ตนชานาญว่ า

‘วาสนานาพาให้ พวกเราได้ พบกันอีกแล้วนะครับ มาดามแอนเจ


ลิก้า’

แบบนีไ้ ม่ ได้ … เหมือนกับเรากาลังจีบเธอมากกว่ า

หลังจากเค้ นสมองอยู่นาน ไคลน์ ตัดสิ นใจตอบกลับไปด้ วย


ประโยคแสนธรรมดา

“ทิวาสวัสดิ์ครับ มาดามแอนเจลิก้า”

“มีลูกค้ าต้ องการดูดวงกับคุณค่ ะ”


แอนเจลิก้าชี้นวิ้ ไปทางบอร์ กด้ าที่ลุกพรวดจากโซฟาเมื่อเห็น
ไคลน์

ลูกค้ าระบุชื่อตนเลยหรื อ? ไคลน์ เอื้อมมือถอดหมวกทรงกึ่งสู ง


ขณะเดียวกันก็แอบแตะหว่ างคิว้ สองครั้ง

“สวัสดิีครับมิสเตอร์ …”

ชายหนุ่มพลันชะงักคาพูดเมื่อได้ เห็นแสงออร่ าเต็มสองตา


บริเวณส่ วนตับของลูกค้ าแปลกหน้ า สี ออร่ าหมองคลา้ จนเกือบดา
เข้ ม ส่ งผลให้ สีออร่ าส่ วนอื่นพากันผิดเพีย้ นไปหมด

ไคลน์ พยายามเรียบเรียงคาพูด ก่อนจะตอบด้ วยสี หน้ าตึงเครียด

“คุณควรไปพบแพทย์ … ไม่ ใช่ ผม”

บอร์ กด้ าผงะทันที มันเงียบงันสั กพักก่อนจะพึมพาด้ วยน้าเสี ยง


ตื่นเต้ น

“สุ ดยอดมาก…

“แอนนาไม่ ได้ โกหกเรา…”


บอร์ กด้ ารีบเงยหน้ าขึน้ มากล่ าวกับไคลน์
“มิสเตอร์ โมเร็ตติ ผมไปพบแพทย์ มาก่อนแล้ว เขาแนะนาให้
รักษาโดยการผ่ าตัด จึงต้ องการให้ คุยช่ วยทานายว่ า ผลการผ่ าตัดจะ
ราบรื่ นหรื อไม่ ”

นั่นสิ นะ เทคโนโลยีการแพทย์ ยุคสมัยปัจจุบันเข้ าขั้นน่ ากลัว เคส


ผ่ าตัดใหญ่ มีโอกาสล้มเหลวมากกว่ าสาเร็จ และต่ อให้ สาเร็จ ก็ยังมี
โอกาสสู งที่จะติดเชื้อหรื อผลข้ างเคียง

ไม่ มีผ้ วู ิเศษเส้ นทางแพทย์ บ้างรึไงนะ?

ไคลน์ ไม่ ปฏิเสธคาขอลูกค้ า มันพยักหน้ า

“ค่ าบริการแปดเพนนี ตกลงไหมครับ?”

“แปดเพนนี?”

บอร์ กด้ าถามเสี ยงหลง

“คุณคิดเงินแค่ แพนนีจริงหรื อ?”

จากคาอธิบายของแอนนา ต้ องให้ มันต้ องจ่ ายหนึ่งปอนด์ ก็ไม่


เกี่ยง!
หมอนี่ไม่ เคยได้ ยินวลีที่ว่า ไม่ เลือกงานไม่ ยากจนรึไง?
ไคลน์ พยายามเรียบเรียงคาพูดในหัว จากนั้นก็ตอบกลับสไตล์นัก
ต้ มตุ๋น

“เท่ านีก้ ็เพียงพอแล้ว ผมเป็ นแค่ มนุษย์ โชคดีคนหนึ่งที่องค์ เทพ


ประทานพลังทานายให้ ฉะนั้น นักทานายห้ ามละโมภโดยเด็ดขาด
พระองค์ จะได้ ชื่นชอบและคอยมอบคาทานายให้ อย่ างสม่าเสมอ”

“สมกับที่เป็ นนักทานายตัวจริง…!”
บอร์ กด้ ากดหมวกลงที่หน้ าอกและโน้ มตัวไปด้ านหน้ า มันคารวะ
ไคลน์ จากใจ

ขณะเดียวกัน หลังจากกล่าวประโยคดังกล่าวจบ พลังวิญญาณ


ไคลน์ พลันผ่ อนคลายอย่ างไร้ เหตุผล

เกิดอะไรขึน้ ? หรื อว่ า…

พลังวิญญาณเพิม่ ขึน้ ย่ อมหมายความว่ า เมื่อครู่ตนทาในสิ่ งที่


ถูกต้ องลงไป ชายหนุ่มได้ รับคาบอกใบ้ ใหม่ จาก ‘หลักปฏิบัติ’ ที่ตน
แต่ งขึน้ เองเมื่อครู่โดยไม่ ต้งั ใจ

“มาดามแอนเจลิก้า ห้ องบุษราคัมว่ างหรื อไหม?”


เมื่อเห็นความปรารถนาของบอร์ กด้ าเป็ นจริง แอนเจลิก้าอมยิม้
ยินดีพลางผงกศีรษะ

“ว่ างค่ ะ”

หลังจากเดินเข้ าไปในห้ อง ไคลน์ รบกวนบอร์ กด้ าให้ ช่วยล็อค


ประตู ส่ วนมันนั่งลงบนเก้าอีฝ้ ั่งหมอดูและกล่าว

“ทานายด้ วยไพ่ทาโร่ ต์ดีไหมครับ”

ชายหนุ่มแนะนาด้ วยรอยยิม้ สุ ขุม

เทคนิค‘ลูกตุ้มวิญญาณ’ใช้ กับผู้อื่นไม่ เห็นผลมากนัก ไม่ เท่ ากับ


ทานายให้ ตัวเอง ส่ วนวิธีทานายแบบโหราศาสตร์ ก็ใช้ เวลานาน
เกินไป

“แล้วแต่ คุณเลยครับ”

บอร์ กด้ าไม่ คัดค้ าน

ไคลน์ จัดสาหรับไพ่และส่ งให้ บอร์ กด้ าตัดและสั บด้ วยตัวเอง


ก่อนจะนากลับมาวางเรียงในรู ปแบบที่สาธารณรัฐอินทิสนิยมใช้

ด้ วยความเป็ นนักทานาย ชายหนุ่มไม่ เสี ยเวลาเปิ ดไพ่อดีต หรื อ


ปัจจุบันให้ ว่ นุ วาย มันใช้ ปลายนิว้ พลิกเปิ ดไพ่อนาคตซึ่งเป็ น
ผลลัพธ์ คาทานายการผ่ าตัดทันที
“กงล้อโชคชะตากลับหัว… แย่ หน่ อยนะครับ ผลลัพธ์ เลวร้ ายสุ ด
ขีด”

ไคลน์ กล่าวด้ วยน้าเสี ยงจริงจัง

สี หน้ าบอร์ กด้ าพลันดามืด ริมฝี ปากสั่ นเทา

“ผ…ผมสิ้นหวังแล้วหรื อ?”
ไคลน์ ไม่ ต้องการทอดทิง้ ลูกค้ ารายนี้ หลังจากครุ่นคิดสั กพัก มัน
ตัดสิ นใจบอกกับอีกฝ่ าย

“ผมจะลองทานายแบบอื่นดู รบกวนทิง้ แหวนของคุณไว้ แล้วก็


เขียนชื่ อกับข้ อมูลส่ วนตัวอื่นๆ ลงบนกระดาษ จากนั้นก็นั่งรอด้ าน
นอกอย่ างใจเย็น”

บอร์ กด้ ารู้สึกเคลิบเคล้มไปกับน้าเสี ยงอ่อนโยนของนักทานาย


มันก้มหน้ าเขียนรายละเอียดส่ วนตัวลงบนกระดาษอย่ างว่ าง่ าย
ก่อนจะถอดแหวนวางบนโต๊ ะ

เมื่อบอร์ กด้ าเดินออกจากห้ องและล็อคประตูมิดชิด ไคลน์ เริ่ม


เขียนข้ อความใหม่ ลงบนกระดาษ
“บทสรุปการผ่ าตัดของบอร์ กด้ า·โจนส์ ”
ชายหนุ่มใช้ มือหยิบแหวนและเศษกระดาษที่บอร์ กด้ าเขียน
ขึน้ มากา จากนั้นก็เอนพลังพิงพนักเก้าอีเ้ พื่อเริ่มทานายด้ วยความ
ฝัน

หลังจากภาพการมองเห็นบิดเบีย้ วชั่วครู่ นิมิตความฝันเริ่ม


ปรากฏ เป็ นฉากของมิสเตอร์ บอร์ กด้ ากาลังนอนบนเตียงผู้ป่วยด้ วย
สี หน้ าขาวซีดคล้ายคนตาย เตียงถูกนางพยาบาลเข็นออกจากห้ อง
ผ่ าตัดที่มีบรรยากาศโกหาหลด้ วยท่ าทางรีบร้ อน
นอกเหนือจากนั้น ไคลน์ ไม่ พบปรากฏการณ์ ประหลาดใดอีก ไม่
มีเสี ยงพึมพา ไม่ มีความรู้สึกถูกจ้ องมองเหมือนกับเมื่อครั้งทานาย
ฝันให้ แอนนา

เมื่อกลับสู่ โลกความจริง ชายหนุ่มขมวดคิว้ ด้ วยสี หน้ าไม่ ส้ ู ดีนัก


มันไม่ มีทางเลือกอื่นนอกจากออกไปแจ้ งข่ าวร้ ายกับบอร์ กด้ า

ไม่ ผิดแน่ ผลการผ่ าตัดมีเพียงความตาย…

หรื อจะใช้ พธิ ีกรรมเวทมนตร์ รักษาที่เพิง่ เรียนจากลุงนีลล์? แต่


นั่นจะทาให้ ตัวตนผู้วิเศษถูกเปิ ดเผยทันที เรื่ องนีต้ ้ องรอให้ หัวหน้ า
อนุมัติก่อน และบางที พิธีกรรมฟื้ นฟูอาจไม่ ทรงพลังพอจะรักษา
โรคร้ ายแรง
ขณะเค้ นสมอง ไคลน์ พลันฉุกคิดบางสิ่ ง
“มิสเตอร์ กลาซิสเคยบอกว่ า… โรคตับของเขาหายเป็ นปลิดทิง้
หลังจากดื่มยาตาหรับท้ องถิ่น… รู้สึกจะชื่ อ… โรเซน·ดัคเวด ร้ าน
สมุนไพรโรเซนตาหรับท้ องถิ่น เขตตะวันออก ถนนวลาด
บ้ านเลขที่ 18”

ความทรงจาของผู้วิเศษช่ างน่ าทึ่ง ไคลน์ สามารถย้ อนนึกบท


สนทนากับกลาซิสได้ ในพริบตา

หลังจากใช้ นวิ้ เคาะโต๊ ะครุ่นคิด เพียงไม่ นานก็ได้ ข้อสรุปและวิธี


แก้ปัญหา

แต่ ก่อนอื่น ไคลน์ ทดลองใช้ เทคนิคทานายลูกตุ้มวิญญาณ เพื่อ


ระบุว่าวิธีดีกล่าวมีผลลัพธ์ ดีหรื อร้ ายกันแน่

เมื่อผลออกมาว่ าดี ไคลน์ รีบเปิ ดประตูและเดินออกไป มันเห็น


บอร์ กด้ ากาลังยืนกระสั บกระสายหน้ าห้ อง ชายหนุ่มอมยิม้ และส่ ง
แหวนคืน

“ผมพบความหวังของคุณแล้ว”

“จริงหรื อครับ?”

น้าเสี ยงบอร์ กด้ าเจือความดีใจหลายส่ วน


ไคลน์ ไม่ ตอบ มันกล่ าวต่ อ

“ความหวังของคุณอยู่ที่เขตตะวันออก บนถนนวลาด คาบอกใบ้


คือ‘โรเซน’

“ถ้ าคุณยังหาไม่ พบ ให้ กลับมาที่นี่อีกครั้งในวันจันทร์ บ่ ายสี่ โมง


ตรง”

“ได้ ครับ”
บอร์ กด้ าพยักหน้ าพลางหยิบเหรียญห้ าและสามเพนนีออกจาก
กระเป๋าสตางค์

มันจ่ ายเงินตรงตามที่ไคลน์ ระบุโดยไม่ ขาดไม่ เกิน ด้ วยความ


เกรงกลัวว่ าจะทาให้ เกียรติของนักทานายต้ องมัวหมอง

มุมปากไคลน์ กระตุกขณะเหยียดแขนออกไปรับเงินค่ าจ้ าง มัน


ทาได้ เพียงยิม้ แห้ ง

“ขออวยพรให้ คุณพบความหวังโดยเร็ว”

หลังจากบอร์ กด้ ากลับไป ไคลน์ เดินไปจ่ ายเงินค่ าธรรมเนียมให้


มาดามแอนเจลิก้า รวมถึงทิปของเธอด้ วย เหมือนกับสองครั้ง
ก่อนที่ได้ รับเงินค่ าจ้ างจานวนหนึ่งซูล

เขตตะวันออก ถนนวลาด

บอร์ กด้ าเดินเท้ าตั้งแต่ ต้นซอยไปจนถึงซอย ไปกลับทั้งหมดสาม


รอบเพื่อให้ มั่นใจว่ าไม่ ทาเบาะแสคาว่ า ‘โรเซน’ ตกหล่น

เดินเยอะจนตับเริ่มปวดแปลบเล็กๆ

หลังจากสารวจถี่ถ้วน มันพบว่ ามีเพียงสถานที่เดียวที่เกี่ยวข้ อง


กับชื่ อ ‘โรเซน’

บ้ านเลขที่ 18 ร้ านสมุรไพรโรเซนตาหรับท้ องถิ่น

เมื่อรวบรวมความกล้าได้ ที่ บอร์ กด้ าผลักประตูเข้ าไปในร้ านด้ วย


ท่ าทางประหม่ า

ทันใดนั้น กลิ่นสมุนไพรหอมฟุ้งเตะจมูก ขณะเดียวกันก็เหลือบ


เห็นเจ้ าของร้ านผู้มีใบหน้ ากลมกลึง ผมสั้ นสี ดาสนิท อายุราว
สามสิ บถึงสี่ สิบปี

เครื่ องแต่ งกายเจ้ าของร้ านคล้ายกับหมอผีประจาหมู่บ้าน


ห่ างไกลความเจริญ ชุ ดคลุมยาวสี ดาสนิท ลวดลายแปลกประหลาด
“สวัสดีครับ พอจะมียาที่ช่วยรักษาโรคของผมบ้ างไหม?”
บอร์ กด้ าไต่ ถามอย่ างสุ ภาพ

เจ้ าของร้ านเงยหน้ าชาเลือง มันใช้ นัยน์ ตาสี ฟ้ากวาดสารวจ


บอร์ กด้ าหัวจรดเท้ า

“ตับของคุณย่าแย่ มาก แต่ ทุกอย่ างสามารถรักษาได้ ถ้ามีเงินมาก


พอ คุณพร้ อมจะจ่ ายหนักรึเปล่า?”

บอกได้ ทันทีเลยหรื อ?

บอร์ กด้ าเริ่มมั่นใจว่ าไม่ ผิดคน มันรีบพยักหน้ าหนักแน่ น

“ราคาเท่ าไรครับ?”

“สิ บปอนด์ สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว”

เจ้ าของร้ านหยิบถุงกระดาษสาหรับบรรจุสมุนไพรขึน้ มาวาง

“นาสมุนไพรไปต้ มร่ วมกับน้าสะอาดจนเกิดเป็ นตัวยา เมื่อได้ ที่


ใส่ เลือดสดไก่ตัวผู้สิบหยดตามลงไป จากนั้นก็รีบดื่มทันทีโดยห้ าม
ลังเล สมุนไพรในถุงสามารถใช้ ต้มได้ สามครั้ง อาการของคุณจะ
กลับเป็ นปรกติหลังจากดื่มครบสาม”
ขณะกล่าว เจ้ าของร้ านเปิ ดปากถุงกระดาษสี เหลืองอมน้าตาล
พร้ อมกับหยิบสมุนไพรแปลกประหลาดลงไปทั้งหมดสามชุด

ฟังดูเหมือนกับ… นักต้ มตุ๋น?

บอร์ กด้ ากลืนน้าลายอึกใหญ่

“แค่ นเี้ องหรื อครับ?”

เจ้ าของร้ านอมยิม้


“ต้ องการอะไรเพิม่ อีกหรื อ? ถ้ าอย่ างนั้นจะรับไอ้นี่เพิม่ ไหม? มัน
จะช่ วยให้ ภรรยาคุณรู้สึกพึงพอใจกิจกรรมบนเตียงอย่ างมาก”

เจ้ าของร้ านหยิบถุงกระดาษดาที่บรรจุผงสี ดาสนิทออกมาวาง


ข้ างกัน

“ผงมัมมี่… เชื่ อผมเถอะ ชนชั้นสู งจานวนไม่ น้อยชงผสมกินกับ


น้าเปล่าหรื อชา”

…บอร์ กด้ าเริ่มเคลือบแคลงในตัวเจ้ าของร้ านมากขึน้ ถึงขั้น


ขยะแขยงก็ว่าได้

แต่ เราเชื่ อใจมิสเตอร์ โมเร็ตติ…


มันจากสู ดลมหายใจสุ ดปอดเพื่อสงบสติ ตนไม่ มีทางเลือกอื่นอีก
แล้ว…

มือหยิบธนบัตรห้ าปอนด์ สองใบด้ วยอาการสั่ นเทา การสู ญเสี ย


เงินจานวนสิ บปอนด์ ในคราวเดียวนับเป็ นเรื่ องที่ยากทาใจ
ราชันย์ เร้ นลับ 83 : สลัก

บอร์ กด้ าเดินถือถุงกระดาษสี น้าตาลออกมาจากร้ านโรเซนด้ วย


ท่ าทีโซซัดโซเซ ขณะยืนรอรถม้ าประจาทาง มันเพิง่ ฉุกคิดได้ ว่า
เมื่อครู่ตนยอมจ่ ายเงินมากถึงสิ บปอนด์ เพื่อซื้อถุงบรรจุพืชไม่ กี่
ชนิดเนี่ยนะ?

จานวนเงินเทียบเท่ าค่ าจ้ างเกือบทั้งเดือน…

หากไม่ เพราะจอยซ์ และแอนนาแนะนา มันไม่ มีทางพกเงินสด


ติดตัวไปสโมสรพยากรณ์ มากขนาดนั้นแน่

หรื อนี่จะเป็ นเหตุผลที่นักทานายโมเร็ตติคิดค่ าบริการเพียงแปด


แพนนี… เพื่อให้ ตนตายใจ

แต่ ความจริงแล้ว ทุกคนหลอกต้ มตุ๋นเป็ นขบวนการใหญ่ นัก


ทานายโมเร็ตติร้ ูจักกับเจ้ าของร้ านสมุนไพรโรเซนมาตั้งแต่ ต้น

เมื่อเกิดความรู้สึกเคลือบแคลง ข้ อสงสั ยของบอร์ กด้ าพลันพุ่งเป้า


มายังจอยซ์ และแอนนาเป็ นลาดับแรก


ภายในร้ านสมุนไพรโรเซน
หลังจากเจ้ าของร้ านเห็นบอร์ กด้ าเดินออกไป มันหันหลังกลับ
และตะโกนใส่ ประตูซึ่งมีกองสมุนไพรวางเรียงรายด้ านหน้ า

“เชลมิน ตั้งแต่ นี้ไป เจ้ าไม่ ต้องซื้อสมุนไพรเข้ าร้ านแล้วนะ”

“ท…ทาไมหรื อครับอาจารย์ ?”

เด็กหนุ่มหน้ าตาดี ผมเผ้ ายุ่งเหยิง เดินออกจากประตูด้วยสี หน้ า


สุ ดฉงน

เจ้ าของร้ านเพียงยิม้

“มีลูกค้ ามาขอซื้อยาวิเศษเป็ นรายที่สิบหกแล้ว หากชื่ อเสี ยงยิ่ง


แพร่ กระจายออกไป เกรงว่ าหน่ วยเหยี่ยวราตรี จิตจักรกล และทูต
พิพากษาอาจเพ่งเล็งเอาได้ ก่อนจะถูกจับกุมตัว ฉันต้ องรีบหนีไป
อยู่เมืองอื่น”

“แล้วพวกเราจะทิง้ ร้ านนีห้ รื อครับ?”

เจ้ าของร้ านยิม้ พลางส่ ายหน้ า

“หากเจ้ าต้ องการอยู่ต่อก็ไม่ มีปัญหา ทักษะแยกแยะสมุนไพรและ


ปรุงยาเริ่มเข้ าขั้นแล้ว แต่ อย่ าลืมนารายได้ ของร้ านครึ่งหนึ่งฝากเข้ า
ธนาคารเบ็คลันด์ ในบัญชีลับของฉันด้ วย”
“แต่ ผมยังศึกษาวิชาของคุณไม่ ถ่องแท้ …”

เชลมินติดตามเจ้ าของร้ านผู้นมี้ านานแล้ว และทุกครึ่งปี ต้ อง


ตระเวนย้ ายเมืองอยู่ร่าไป ซึ่งเชลมินไม่ ค่อยมีความสุ ขนัก

แต่ การแยกทางกับอาจารย์ หมายถึงตนจะไม่ ได้ รับความรู้


เพิม่ เติมอีก…

เจ้ าของร้ านทิ่งตัวนั่งลงบนเก้าอีแ้ ละกล่าว

“นั่นไม่ ใช่ สิ่งจะเรียนได้ ด้วยความพยายามหรอกนะ…”

ของเหลวสี เขียวอมดาและมีฟองผุดกาลังปรากฏอยู่ในถ้ วยหน้ า


บอร์ กด้ า กลิ่นเหม็นเน่ าคล้ายถุงเท้ าไม่ ได้ ซัก เพียงสี สันก็มากพอจะ
ทาให้ ผ้ พู บเห็นรู้สึกอาเจียน บอร์ กด้ าพลันทบทวนการกระทาของ
ตนทั้งวันที่ผ่านมา

หลังจากหยดเลือดไก่ตัวผู้ลงไปสิ บครั้ง บิดาของบอร์ กด้ ากล่าว


แนะนา

“ไปผ่ าตัดเถอะ”
เลือดไก่ทาปฏิกิริยากับยาจนเกิดฟองฟู่ ก่อนจะหายไป บอร์ กด้ า
พยายามสู ดลมหายใจเข้ าเต็มปอด

“ไว้ ยาไม่ ได้ ผล ค่ อยไปผ่ าตัดยังไม่ สาย”

“ของพระองค์ จงสถิตย์ กับเจ้ า”

บิดาบอร์ กด้ ากล่าวพลางสาสั ญลักษณ์ สามเหลี่ยมที่หน้ าอก

เมื่อเตรียมยาได้ ที่ บอร์ กด้ าไม่ คิดปล่อยให้ เงินสิ บปอนด์ สูญเปล่า


มันยกถ้ วยด้ วยแขนขวา ก่อนจะหลับตาลงและกระดกยาพิสดาร
เข้ าไปรวดเดียวจนหมด

กลิ่นสุ ดระยาผสมผสานเข้ ากับกลิ่นคาวเลือดจนเกิดเป็ น


ของเหลวรสชาติสุดเหีย้

บอร์ กด้ าแทบบ้ วนทิง้ ทันใด แต่ ความรู้สึกเสี ยดายเงินสิ บปอนด์


นั้นแรงกล้ากว่ ามาก

ค่าคืนดังกล่าว ลาไส้ บอร์ กด้ าเกิดความปั่นป่ วนพังพินาศ มันเข้ า


ห้ องน้าเพื่อถ่ ายหนักไม่ น้อยกว่ าหกครั้ง และหลับไปในช่ วงเช้ า
เพราะไม่ เหลือเรี่ยวแรงจะทาสิ่ งใด

หลังจากผ่ านไปนานหลายชั่วโฒง จนกระทั่งบอร์ กด้ าตื่นขึน้ อีก


ครั้งเพราะสะดุ้ง หลังจากฝันว่ าถูกหัวหน้ างานดุด่าตาหนิ
“โชคดีที่ปีนีย้ ังลาได้ อีกสามวัน เราไม่ จาเป็ นต้ องฝื นตัวเอง…”

บอร์ กด้ าถอนหายใจโล่ งอก มันรู้สึกดีขึน้ กว่ าเมื่อคืนมาก ตรง


ข้ ามกับอาการจุกเสี ยดที่คอยรบรวนตอดเล็กตอดน้ อยมาตลอด
สั ปดาห์

บอร์ กด้ าทดสอบใช้ นวิ้ กดลงไปที่ช่องท้ องฝั่งขวา จุดซึ่งเคยปวด


แปลบแม้ จะถูกสั มผัสเพียงบางเบ แต่ ปัจจุบัน ความรู้สึกที่ได้ รับ
กลับเหมือนกับอวัยวะส่ วนอื่นที่ไม่ เกิดปัญหา

“หรื อว่ ายาพิสดารนั่นจะได้ ผล? หมอยาคนนั้นแค่ แหย่ เราเล่น


หรอกหรื อ?”

บอร์ กด้ าขมวดคิว้ ด้ วยสี หน้ าสุ ดประหลาดใจ มันลุกขึน้ จากเตียง


และทดสอบขยับร่ างกาย ก่อนจะพบว่ า สุ ขภาพกลับมาใกล้เคียง
มนุษย์ ปรกติมากว่ าที่คิด

มันยืนขมวดคิว้ อยู่พกั ใหญ่ จากนั้นก็พมึ พา

“หมอยาคนนั้นบอกกับเราว่ า ต้ องดื่มให้ ครบสามครั้งจึงจะ


หายขาด…

“ไว้ ครบเมื่อไร เราค่อยให้ แพทย์ ที่โรงพยาบาลตรวจซ้า…”


แต่ หมอยาคนนั้นไม่ ได้ บอกว่ า ภายในหนึ่งวันจากัดการดื่มไว้ กี่
ครั้ง

“…ยังรู้สึกเหมือนโดนโกงอยู่ดีแฮะ”

ภายในห้ องทางานเจ้ าหน้ าที่ฝ่ายพลเรื อนของเหยี่ยวราตรี


หลังจากยื่นคาขอ ไคลน์ ได้ รับพื้นที่ส่วนตัวซึ่งจะไม่ ถูกผู้อื่นรบกวน
จากภายนอก

ชายหนุ่มกาลังถือมีดแกะสลักในมือขวา มันปลดปล่อยพลัง
วิญญาณออกจากปลายมีดก่อนจะลงน้าหนัก เพื่อสลักตราลงบน
เครื่ องรางเงินทั้งสองชิ้น

อักษรที่ใช้ เป็ นภาษาเฮอร์ มิสเพื่อป้องกันเหตุร้ายไม่ คาดฝัน

มือขวาบรรจงแกะสลักสั ญลักษณ์ ของเทพธิดารัตติกาลและ


จักรพรรดินีแห่ งหายนะอย่ างปราณีต

ไม่ เพียงเท่ านั้น ไคลน์ ยังอาศัยเลขนาโชค ‘7’ ซึ่งหมายถึงตัว


เทพธิดาเพื่อเพิม่ ความขลัง

การสร้ างเครื่ องรางเป็ นศาสตร์ ที่ละเอียดอ่อนซับซ้ อน เครื่ องราง


ต้ องถูกสลักสั ญลักษณ์ ไว้ ท้ังสองด้ าน อักขระคาถาต้ องแม่ นยา
ตาแหน่ งการวางอักษรและสั ญลักษณ์ ห้ามผิดเพีย้ นโดยเด็ดขาด ซึ่ง
เครื่ องรางที่วางขายทั่วไปเข้ าไม่ ถึงจุดนี้

หลังจากเบิกอุปกรณ์ จานวนมากจากคลังสมบัติเหยี่ยวราตรีเพื่อ
ฝึ กฝน ฝั่งขวามือของไคลน์ เต็มไปด้ วยซากเครื่ องรางและวัตถุดิบที่
ล้มเหลว แต่ ปัจจุบัน มันมั่นใจแล้วที่จะลงมือสร้ างของจริงให้ เบ็น
สั นและเมลิสซ่ า

ชายหนุ่มสงบจิตใจ พลังวิญญาณถูกปลดปล่อยออกจากปลายมีด
สลักอย่ างเบามือ ตัวเลข ‘7’ เริ่มปรากฏเป็ นรูปเป็ นร่ างบนพื้นผิว
โลหะเงิน

มันทาเสร็จไปแล้วหนึ่งข้ าง ยังเหลืออีกหนึ่งข้ างให้ จัดการ

ในวินาทีที่ลงมีด เมื่อพลังวิญญาณสั มผัสกับโลหะ ไคลน์ รับรู้ถึง


คลื่นพลังแปลกประหลาดรอบตัวที่กาลังพลุ่งพล่านไปรอบห้ อง

แต่ มันก็ไม่ หยุดมือ

จนกระทั่งอักษรตัวสุ ดท้ ายถูกสลักเสร็จสมบูรณ์ คลื่นความ


วุ่นวายพลันสลายไป ชายหนุ่มใช้ เนตรวิญญาณส่ องไปที่เครื่ องราง
เงินและพบออร่ าสี ดาอ่อนโยนแผ่ ออกมา
ไคลน์ วางมีดแกะสลักลง มันใช้ ปลายนิว้ ลูบไล้ ไปบนเครื่ องราง
เงิน อย่ างทะนุถนอม ลักษณะเครื่ องรางเป็ นแผ่ นวงกลม มีอักษร
สลักในแนวตั้ง ความเย็นที่อ่อนโยนกาลังถูกส่ งผ่ านผิวหนังจน
ซาบซ่ าน

“สาเร็จ!”

ชายหนุ่มเก็บเครื่ องรางชิ้นที่เพิง่ สร้ างเสร็จ รวมถึงที่ชิ้นเสร็จไป


แล้วก่อนหน้ า กลับเข้ ากระเป๋าเสื้ อ
ไว้ค่อยหาโอกาสมอบให้ เบ็นสั นและเมลิสซ่ าภายหลัง

เครื่ องรางที่สร้ างโดยผู้วิเศษจะแสดงผลได้ จริง ไม่ ใช่ เพียงความ


เชื่ อหรื อความสบายใจ แต่ ระดับประสิ ทธิภาพเครื่ องรางจะขึน้ อยู่
กับตัวผู้สร้ างเป็ นหลัก

สาหรับเครื่ องรางป้องกันภัยของไคลน์ มันจะผลช่ วยให้ หลบ


เลี่ยงอันตรายเล็กๆ น้ อยที่อาจเกิดขึน้ ได้ หรื อถ้ าเป็ นภัยร้ ายแรง ก็จะ
ช่ วยให้ ไม่ ถึงแก่ความตาย

ทว่ า ธรรมชาติของเครื่ องรางคือ พลังวิญญาณจะเสื่ อมลงเมื่อ


เวลาผ่ านไป นอกเสี ยจากสร้ างโดยพิธีกรรมขั้นสู ง แต่ เต็มที่ก็ไม่
เกินหนึ่งปี อยู่ดี
ถ้ าต้ องการสร้ างเครื่ องรางที่มีประสิ ทธิภาพมากกว่ านั้น
จาเป็ นต้ องใช้ พลังของผู้วิเศษระดับสู งในการผลิต ซึ่งไคลน์ สาหรับ
ไคลน์ ยังนับว่ าห่ างไกลมาก

ไว้ ใกล้ถึงเวลาของเก่าหมดอายุ มันค่ อยหาโอกาสสร้ างขึน้ ใหม่


เรื่ อยๆ

ชายหนุ่มขบคิดเรื่ อยเปื่ อยขณะเก็บกวาดโต๊ ะที่เต็มไปด้ วย


อุปกรณ์

สาเหตุที่ไคลน์ ยังไม่ สร้ างให้ ตัวเองเพราะ เครื่ องรางเหลานี้มีพลัง


ไม่ มากพอจะช่ วยปกป้องผู้วิเศษที่ต้องเสี ยงอันตรายบ่ อยครั้งเช่ น
ตน

ไม่ เพียงเท่ านั้น มันยังต้ องการศึกษาศาสตร์ เครื่ องรางและยันต์


ให้ ลึกซึ้งกว่ านีก้ ่อน เช่ นการใช้ พธิ ีกรรมเวทมนตร์ เข้ าช่ วย เพื่อ
สร้ างยันต์ ที่สามารถปลดปล่อย‘พลัง’บางชนิดด้ วยวิธีการส่ งเสี ยง
ออกคาสั่ ง

เมื่อเก็บกวาดโต๊ ะเรียบร้ อย ไคลน์ เดินออกจากห้ องพร้ อมกับเศษ


วัสดุที่ชารุด ขณะมีแผนจะนาไปคืนที่คลังอุปกรณ์ ชายหนุ่มบังเอิญ
เหลือบเห็นดันน์ ·สมิทในชุดกันลมสี ดา

นัยน์ ตาเทาลุ่มลึกของดันน์ มองกวาดสารวจไคลน์ หัวจรดเท้ า


ก่อนจะเผยรอยยิม้
“ไคลน์ วิหารศักดิ์สิทธิ์บรรจุชื่อของคุณเรียบร้ อยแล้ว ขอแสดง
ความยินดีที่ได้ เป็ นเหยี่ยวราตรีเต็มตัว”

“จริงหรื อครับ!? เจ๋ ง!”

ไคลน์ แสดงสี หน้ าเปี่ ยมสุ ข

ดันน์ ผงกศีรษะ

“ค่ าจ้ างของคุณจะเพิม่ ขึน้ จากเดิมสามปอนด์ ทันที ปัจจุบัน คุณ


จะได้ รับเงินสั ปดาห์ ละ 4.5 ปอนด์ จนกว่ าจะชดใช้ เงินที่เบิก
ล่วงหน้ าครบ

“ว่ าแต่ ผมเล่าถึงบททดสอบของเหยี่ยวราตรีให้ ฟังหรื อยัง?

“เหยี่ยวราตรีทุกคนต้ องผ่ านภารกิจเดี่ยวเพื่อให้ พวกพ้องที่เหลือ


ยอมรับ โดยมากมักเกี่ยวข้ องกับผู้วิเศษ แต่ กรณีของคุณ ผมคิดว่ า
คงไม่ จาเป็ นต้ องทาขนาดนั้น หลายคนได้ ประจักษ์ ในฝี มือและไหว
พริบของคุณแล้ว ผมจะหาภารกิจง่ ายๆ ให้ ทา เมื่อใดที่ทาสาเร็จ ผม
จะแนะนาให้ คุณรู้จักสมาชิกเหยี่ยวราตรีสาขาทิงเก็นทุกคนอย่ าง
เป็ นทางการ”

ไคลน์ ตอบกลับโดยไม่ คิดมาก


“ได้ ครับ”
ค่ าจ้ างเพิม่ ขึน้ สามปอนด์ แถมยังได้ ค่าชดเชยจากภารกิจที่แล้ว
อีกเจ็ดปอนด์ !

ถึงเวลาซื้อสู ทตัวใหม่ แถมยังมีเงินเหลือสาหรับออมอีกเพียบ…


ว่ าแต่ ภารกิจเดี่ยวของเราจะมาถึงเมื่อไรกัน?

ไคลน์ อดทนรออย่ างใจเย็น จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงวัน


อาทิตย์ ซึ่งมีงานเลีย้ งวันเกิดเพื่อนสนิทน้ องสาว

หลังจากสวมสู ทตัวใหม่ เสร็จ ไคลน์ ใช้ ผ้าเช็ดหน้ าปัดกวาดเศษ


ฝุ่ นบนหมวก ก่อนจะสวมมันและยืนส่ องกระจกเพื่อยืนยันความ
เรียบร้ อยเป็ นหนสุ ดท้ าย

มันเดินลงไปยังชั้นหนึ่งของบ้ านด้ วยสี หน้ าสุ ดแสนมั่นใจ

ไคลน์ เหลือบเห็นเมลิสซ่ ากาลังยืนจ้ องเครื่ องแต่ งกายเบ็นสั น


ตั้งแต่ หัวจรดเท้ าด้ วยสี หน้ าบูดบึง้

“มีปัญหาตรงไหนหรื อ?”

เบ็นสั นยกไม้ คา้ ขึน้ ทดสอบแกว่ ง พลางเอ่ยปากถามน้ องสาวด้ วย


น้าเสี ยงขาดความมั่นใจ
มันมั่นใจว่ าตนแต่ งกายเรียบร้ อยและเป็ นระเบียบ แล้วเหตุใดเธอ
ถึงเอาแต่ จ้องมองด้ วยสี หน้ าจับผิดเช่ นนี้?

เมลิสซ่ ากล่าวเสี ยงขึงขัง

“เบ็นสั น สู ทของนายเก่าเกินไป

“ภายในงานมีมาดามและคุณหนูชนชั้นกลางเข้ าร่ วมมากมาย


การแต่ งตัวแบบนีถ้ ือเป็ นการหมิ่นเกียรติเจ้ าของงาน”

ในตอนแรก ไคลน์ เองก็ฉงนที่เมลิสซ่ าเอาแต่ จ้องเบ็นสั น แต่ เมื่อ


ได้ ยินคาอธิบาย มันอมยิม้ เล็กน้ อยก่อนจะเดินไปหาพีช่ ายคนโต

“เรื่ องนั้นไม่ ต้องห่ วง เบ็นสั นหุ่นเหมือนกับฉัน เดี๋ยวให้ เขาสวม


ทักซิโด้ ที่เหลืออีกตัวหนึ่ง”

แน่ นอน ไคลน์ เล่าเรื่ องที่ตนได้ ค่าชดเชยเรื่ องสู ทตัวเก่าขาด มัน


อ้างว่ าเกิดอุบัติเหตุระหว่ างกาลังสารวจวัตถุแปลกปลอม

แต่ ไม่ ได้ เล่าเรื่ องที่ค่าจ้ างเพิม่ เป็ นสองเท่ า คนทั้งสองไม่ มีทางเข้ า
ใจแน่ ไว้ รออีกสั กครึ่งปี ค่ อนเปิ ดเผยความจริงก็ยังไม่ สาย

เมื่อได้ ยินเช่ นนั้น ทั้งเบ็นสั นและเมลิสซ่ าต่ างพากันอิจฉา พวก


มันมองว่ าบริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬมีสวัสดิการณ์
ยอดเยี่ยมจนน่ าเหลือเชื่ อ

“ไม่ เห็นจาเป็ นสั กหน่ อย… ไม่ ใช่ หรื อ?”

เบ็นสั นยังคงยืนกราน มันไม่ เข้ าใจว่ าตนแต่ งกายไม่ เหมาะสม


อย่ างไร

“ผิดแล้ว มันจาเป็ นมากต่ างหาก”

ไคลน์ ผลักหลังเบ็นสั นให้ เดินขึน้ ไปชั้นสอง

“ทักซิโด้ ของฉันแขวนอยู่บนราวเสื้ อ”

เมื่อเห็นพีช่ ายคนโตลับสายตา ไคลน์ หันมากล่ าวกับเมลิสซ่ าด้ วย


รอยิม้

“เธอต้ องการให้ พชี่ ายของเรา เป็ นบุรุษหนุ่มที่โดดเด่ นในสายตา


คุณหนูตระกูลผู้ดีใช่ ไหม? เผื่อว่ าเขาจะมีช่วงเวลาโรแมนติกเหมือน
คนอื่นบ้ าง…”

ไคลน์ เองก็หมั่นอ่านหนังสื อพิมพ์บ่อยครั้ง โดยเฉพาะยามเที่ยง


ที่สานักงานเหยี่ยวราตรี เป็ นโรแซนที่ชอบนาเรื่ องราวความเป็ นไป
ของโลกมานินทาให้ ฟัง
ตระกูลชนชั้นกลางมักมองว่ างานเลีย้ งสั งสรรค์ ถือเป็ นงานจับคู่
ดูตัวของหนุ่มสาวประเภทหนึ่ง

เมลิสซ่ าพยักหน้ าเคร่ งขรึม

“อื้อ… เบ็นสั นต้ องพลาดการมีคนรักเพราะพวกเรามามากแล้ว”

น้ องสาว… ทาไมเธอถึงได้ เหมือนแม่ นัก

ไคลน์ จ้องมองเมลิสซ่ าพลางส่ ายศีระ


ราชันย์ เร้ นลับ 84 : อลิซาเบธ

เมื่อเห็นน้ องสาวของตนยืนขมวคิว้ ไคลน์ รีบฉวยโอกาส

“เมลิสซ่ า ฉันคิดว่ าเธอเองก็ไม่ ให้ เกียรติงานเลีย้ งในวันนี้


เหมือนกัน”

“ตรงไหน?”

สี หน้ าของเธอพลันฉงน

ไคลน์ ชี้ไปที่ลาคอ

“ในฐานะสุ ภาพสตรี เธอยังขาดสิ่ งทาให้ บริเวณนีโ้ ดดเด่ น”

โดยไม่ รอให้ อีกฝ่ ายตอบโต้ ไคลน์ อมยิม้ พร้ อมกับหยิบสร้ อยคอ


เงินที่มีลวดลายปี กนางฟ้ ารอบล้อมออกจากกระเป๋าเสื้ อ

“โชคดีที่ฉันเตรียมไว้ ให้ แล้ว”

“…”

เมลิสซ่ าเงียบงันสั กพัก ก่อนจะถาม


“ราคาเท่ าไร?”

น้ องสาว… เธอขีง้ กผิดเวลาแล้ว

ไคลน์ ราพัน จากนั้นก็อธิบายด้ วยรอยยิม้

“ราคาไม่ แพง ในตอนที่ซื้อมา สภาพของมันยังไม่ สมบูรณ์ ฉัน


ต้ องสลักอักขระและลวดลายสวยงามลงไปเอง”

“นายสลักเอง?”

เมลิสซ่ ายังคงขมวดคิว้

“ใช่ แล้ว สวยรึเปล่า?”

ไคลน์ ถือโอกาสที่เมลิสซ่ าเผลอ ยัดสร้ อยเงินซึ่งเป็ นเครื่ องรางใส่


ในมือ เธอสารวจมันอย่ างละเอียดพลางกัดเม้ มริมฝี ปาก

“ฉันชอบปี กนางฟ้ ารอบๆ…”

จะบอกว่ าอักขระพวกนีไ้ ม่ สวย ก็ไม่ เห็นต้ องอ้อมค้ อมสั ก


หน่ อย…

แต่ พวกมันช่ วยให้ เธอรอดพ้นจากภัยอันตรายได้ นะ


ขณะไคลน์ คิดคาโน้ มน้ าวให้ น้องสาวสวมสร้ อย เป็ นฝ่ ายเมลิสซ่ า
ที่หยิบสร้ อยไปคล้องคอด้ วยตัวเอง สี หน้ าค่ อนข้ างฝื นใจ แต่ ก็
พยายามจัดตาแหน่ งเครื่ องรางให้ เข้ าที่

“สมบูรณ์ แบบมาก…”

ไคลน์ กล่าวชมเกินจริงไปเล็กน้ อย

เมลิสซ่ าเงยหน้ ามองไคลน์ ด้วยดวงตาเคลือบแคลง


“ไคลน์ นายเปลี่ยนไปมากเลยนะ”

“คงเพราะฉันได้ งานที่ดี มีรายได้ มั่นคง และได้ อยู่บ้างหลังใหญ่


ความมั่นใจในตัวเองก็เลยเพิม่ ขึน้ ”

ชายหนุ่มหาคาแก้ต่างได้ ลื่นไหลดุจดังนักต้ มตุ๋นเหมือนทุกครั้ง

เฮ่ อ… ถึงจะมีความทรงจาของไคลน์ คนก่อนหลงเหลือ และตนก็


พยายามแสร้ งทานิสัยให้ คล้ายคลึงที่สุด แต่ เมื่อเริ่มสนิทสนม
กับเบ็นสั นและเมลิสซ่ ามากขึน้ ตนมักเผลอแสดงนิสัยที่แท้ จริง
ออกมาบ่ อยครั้ง

เมลิสซ่ ายอมเชื่ อในคาอธิบาย เธออมยิม้ ในลักษณะที่ไม่ ได้ เห็น


บ่ อยๆ
“ฉันดีใจที่นายเป็ นแบบนี…
้ ดีใจจริงๆ…”

หลังจากสองพี่น้องสนทนาอีกสั กพัก พีช่ ายคนโต เบ็นสั น เดิน


ลงมาจากชั้นสองในสภาพสวมเชิ้ตขาว เสื้ อกั๊กดา หูกระต่ ายดา
กางเกงขายาวสี ดา มาดคล้ายนักธุรกิจที่ประสบความสาเร็จ
หลังจากทางานหนักหลายปี

โดยเฉพาะหัวที่เถิกล้านนั่น ยิ่งทาให้ มาดของเบ็นสั นสมจริงเข้ า


ไปใหญ่ ไคลน์ อมยิม้ คิกคักภายในใจ
“เหมาะมากเบ็นสั น เข้ ากับนายมาก”

ชายหนุ่มชมเชย ด้ านเมลิสซ่ าก็พยักหน้ าเห็นด้ วย

“หมายความว่ า ชุ ดที่สวมมีส่วนสาคัญมากกว่ าตัวตนที่แท้ จริง


ของฉัน…”

เบ็นสั นกล่าวเชิงตาหนิตัวเอง

ไคลน์ ถือโอกาสหยิบเครื่ องรางที่เหลืออีกหนึ่งชิ้นออกจาก


กระเป๋า มันสาธยายแบบเดียวกับที่เคยทากับเมลิสซ่ า ก่อนจะกล่าว

“ฉันเองก็ทาให้ นายด้ วยหนึ่งอัน”


“ไม่ เลว ฉันจะพกติดตัวไว้ ”
เบ็นสั นรับไว้ พร้ อมกับพูดติดตลก

“ไคลน์ มาถึงจุดนี้แล้ว ฉันจะไม่ แปลกใจเลยถ้ านายตัดผมเป็ น


ซ่ อมเสื้ อผ้ าเป็ น ซ่ อมนาฬิ กาเป็ น และให้ อาหารลิงบาบูนขกหยิก
เป็ น… นายทาได้ ทุกอย่ างตั้งแต่ เมื่อไร?”

“เอาน่ า… ชีวิตคนเรามีเรื่ องราวให้ ประหลาดใจได้ เสมอ”

หลังจากนั้น สามพี่น้องตรวจสอบเครื่ องแต่ งกายกันและกันเป็ น


ครั้งสุ ดท้ าย ก่อนจะเดินออกมาขึน้ รถม้ าสาธรณะ ปลายทางคือเขต
เหนือ ถนนฟาเนีย บ้ านของเซเลน่ า

ตระกูลวู้ดอาศัยในบ้ านแถว แต่ ไม่ เหมือนกับบ้ านตระกูลโมเร็ตติ


ด้ านหน้ ามีเฉลียงเล็กๆ รวมถึงสวนหย่ อม หรูหรากว่ าบ้ านแถว
ทั่วไปพอสมควร

หลังจากกดกริ่งหน้ าประตู ผ่ านไปราวสิ บวินาที ตัวเอกของงาน


เลีย้ งวันเกิดก็ปรากฏต่ อหน้ าทุกคน เซเลน่ า·วู้ด

เด็กสาวผมแดงไวน์ สวมกอดเมลิสซ่ าอย่ างแนบแน่ น

“ฉันชอบชุดนี้! เธอสวยมาก!”
บิดาของเธอยืนไม่ ห่างจากเซเลน่ ามากนัก มิสเตอร์ ว้ ดู นาย
ธนาคารอาวุโสแห่ งธนาคารเบ็คลันด์ สาขาทิงเก็น

“ขอต้ อนรับคุณพีช่ ายคนโตผู้ทางานหนัก และคุณพีช่ ายคนกลาง


นักประวัติศาสตร์ หนุ่มไฟแรง”

มิสเตอร์ ว้ ดู กล่าวทักทายไคลน์ และเบ็นสั นด้ วยสรรพนามสุ ด


หรูหรา

นักประวัติศาสตร์ หนุ่ม…? ตัวเรามีดีแค่ นเี้ องหรื อ?


ไคลน์ ตัดพ้อในใจ ก่อนจะถอดหมวกทักทายตามมารยาท

“มิสเตอร์ ว้ ดู คุณยังหนุ่มแน่ นและแข็งแกร่ งกว่ าที่ผมจินตนาการ


ไว้ มาก”

ถ้ อยคาประจบสอพลอแสนไหลลื่น

ไคลน์ ได้ แต่ คิดในใจว่ า ตนชานาญศาสตร์ ด้านนีม้ าจากไหน?


จักรวรรดิแห่ งอาหารบนโลกเก่าหรื อ…

เบ็นสั นยื่นแขนออกไปจับมือกับมิสเตอร์ ว้ ดู

“ผมรู้จักนายธนาคารหลายคน แต่ พวกเขามักแข็งกระด้ างและ


เย่ อหยิง ไม่ มีใครเป็ นสุ ภาพชนเหมือนกับคุณเลย”
“ถ้ ามีโอกาสได้ พบผมที่ธนาคาร คุณอาจไม่ พูดแบบนี…
้ ฮะฮะ!”

มิสเตอร์ ว้ ดู หัวเราะมีความสุ ข

หลังจากทักทายหน้ าบ้ านพอเป็ นพิธี เจ้ าของงานวันเกิด เซเลน่ า


ที่มาในชุดเดรสตัวใหม่ เอี่ยม เธอเดินนาสามพีน่ ้ องเข้ าไปด้ านใน
โดยระหว่ างทางแอบซุบซิบนินทากับเมลิสซ่ าเป็ นระยะ

“อลิซาเบธมาถึงแล้วล่ะ”
“พีช่ ายของเธอหล่อกว่ าที่คิดนะ”

สาวน้ อย… ฉันเป็ นผู้วิเศษที่หูดีนะ

และถึงจะชมกันก็เถอะ…

ไคลน์ ยืนมองเด็กสาววัยสิ บหกสองคนที่กาลังเดินนาหน้ าตน

อันที่จริง ไคลน์ ยังห่ างไกลจากคาว่ าหล่อเหลาอยู่มาก การที่พูด


ว่ า‘หล่อกว่ าที่คิด’นั้นหมายความว่ า เธอต้ องจินตนาการภาพลักษณ์
ของสองหนุ่มไว้ อัปลักษณ์ สุดขีด
ระดับไหนกัน? คิดว่ าเป็ นเจ้ าอ้วน หัวล้าน มืดมน และดวงตา
เหมือนปลาตายงั้นหรื อ?

ขณะกาลังเดิน ชายหนุ่มเข้ าสู่ ภาวะเนตรวิญญาณเพื่อเป็ นการ


ฝึ กฝนไปในตัว

เซเลน่ าเป็ นเด็กสาวสุ ขภาพแข็งแรง อารมณ์ กาลังร่ าเริงและมี


ความสุ ข

ตับของมิสเตอร์ ว้ ดู มีปัญหาเล็กน้ อย… เป็ นเพราะสู บไปป์ งั้น


หรื อ?

ถัดมา ไคลน์ กวาดสายตาไปยังฝูงชนภายในงานด้ วยท่ าทีผ่อน


คลาย

จนกระทั่ง

“อลิซาเบธ! เมลิสซ่ าอยู่นี่!”

เซเลน่ าตะโกนเรียกใครบางคน

ไคลน์ พลันชะงักงัน เมื่อเหลือบเห็นใบหน้ าของเด็กสาวที่เพิ่งเดิน


เข้ ามา
เธอคือ… เด็กสาวแก้มยุ้ยที่ตนช่ วยเลือกเครื่ องรางให้ ในตลาดมืด
ค้ าของวิเศษ!

อลิซาเบธกล่าวทักทายเมลิสซ่ าด้ วยสี หน้ ายิม้ แย้ ม ก่อนจะเงย


หน้ ามองพี่ชายสองคนที่ยืนด้ านหลัง ทันใดนั้น เด็กสาวเกิดอาการ
ผงะ ก่อนจะรีบยิม้ แย้ มและถอนสายบัวทักทายโดยแสร้ งทาตัวตาม
ปรกติ

ด้ านไคลน์ ก็ทาทีเป็ นไม่ ร้ ูจักเธอ

ภายใต้ การนาทางของมิสเตอร์ ว้ ดู ทุกคนเดินมาถึงห้ องรับแขก


ซึ่งเป็ นจุดหลักสาหรับจัดงาน จากนั้นก็ถูกแนะนาให้ ร้ ูจักกับคริส·
วู้ด พีช่ ายของเซเลน่ า และแขกพิเศษอีกหลายคน

เบ็นสั นสนทนากับคริสและทนายความหนุ่มคนอื่นอย่ างออกรส


หัวข้ อเป็ นเรื่ องทั่วไป จาพวกเพื่อนบ้ านในละแวกของตน เบ็นสั น
หยิบยกเรื่ องของตระกูลชาเดอร์ มาพูดคุย

อิจฉาชะมัด… ไคลน์ ขาดแคลนทักษะเข้ าสั งคม ไม่ เหมือนเบ็น


สั นที่ลื่นเป็
ิ นปลาไหล

ชายหนุ่มไม่ กล่าวสิ่ งใด มันเพียงเดินไปหยิบค็อกเทลจากมุมห้ อง


และกลับมาร่ วมวงสนทนาอย่ างเงียบงัน หลายครั้งพยักหน้ าตาม
มารยาท และหลายครั้งแสร้ งหัวเราะให้ กับมุกตลก
ผ่ านไปไม่ นาน แขกทุกคนทยอยมาถึงจนครบ งานเลีย้ งสั งสรรค์
ได้ เวลาเริ่มต้ นอย่ างเป็ นทางการ

เนื่องจากมีโต๊ ะไม่ พอสาหรับรองรับแขก งานเลีย้ งจึงมีลักษณะ


แบบบุฟเฟ่ ต์ คือการยืนทาน อาหารหลากหลายชนิดวางเรียงราย
บนโต๊ ะยาวกลางห้ อง มีสาวใช้ และบริกรหนุ่มคอยอานวยความ
สะดวก ทั้งรินเครื่ องดื่ม รวมถึงหั่นเนื้อชิ้นใหญ่ ให้ บางลง

ไคลน์ ส่ายศีรษะหลังจากได้ เห็นภาชนะใส่ อาหารสุ ดหรูหราโอ่อ่า


มันมองว่ า ตระกูลวู้ดใช้ เครื่ องเรื อนเกินฐานะชนชั้นกลางเกินไปสั ก
หน่ อย

ถ้ ารวยขนาดนั้นจริง คริสคงไม่ ใช้ เวลาเก็บเงินแต่ งงานนานหลาย


ปี …

เมื่อหวนนึกถึงสิ่ งที่เมลิสซ่ าเคยเล่าให้ ฟัง ไคลน์ ต้งั สมมติฐาน


ภายในใจ

ใช่ แล้ว รายได้ ส่วนหนึ่งที่คริสหาได้ คงถูกเจียดมาซื้อเครื่ องเรื อน


หรูหราเหล่านีโ้ ดยมีจุดประสงค์ สาหรับจัดการต้ อนรับแขก

นั่นสิ นะ หน้ าตาครอบครัวถือเป็ นสิ่ งสาคัญ

ท่ ามกล่างความรู้สึกที่หลากหลาย ไคลน์ เดินหยิบจานและตรงไป


ยังจุดวางอาหาร ก่อนจะใช้ ส้อมจิม้ หมูอบน้าผึง้ ของโปรดใส่ จาน
ตนเองหลายชิ้น
ทันใดนั้น อลิซาเบธ เด็กสาวแก้มยุยน่ ารัก เดินมาหยุดด้ านข้ าง
พร้ อมกับทาทีตักอาหารตามปรกติ เธอกล่าวเสี ยงกระซิบ

“ที่แท้คุณก็เป็ นพีช่ ายของเมลิสซ่ า… ขอบคุณมากค่ ะ เซเลน่ า


ชอบเครื่ องรางที่ฉันซื้อให้ มาก เธอรู้สึกสุ ขภาพแข็งแรงทันทีที่ได้
สวมมัน”

เซเลน่ า… เครื่ องราง


ไคลน์ ย้อนนึกกลับถึงเหตุผลที่เด็กสาวแก้ มยุ้ยเลือกซื้อเครื่ องราง
ให้ เพื่อนที่ตลาดมืด

เป็ นของขวัญวันเกิดให้ กับเพื่อนสนิทที่หลงไหลในศาสตร์ เร้ น


ลับ!

เพื่อนคนนั้นคือเซเลน่ าเองหรื อ? หล่อนชอบศาสตร์ เร้ นลับสิ นะ

ไคลน์ ขมวดคิว้ เล็กน้ อย ก่อนจะอมยิม้ และตอบกลับ

“คงเหมือนกับ‘ยาหลอก’น่ ะ”

เมื่อกล่าวจบ ไคลน์ รอให้ เด็กสาวแก้ มยุ้ยกล่าวสรรเสริญความ


ยอดเยี่ยมของมหาจักรพรรดิโรซาย
ทว่ า สี หน้ าของอลิซาเบธกลับฉงน

“ยาหลอกคืออะไรหรื อคะ?”

“คือยาที่ไม่ มีผลรักษาจริง แต่ คนไข้ กลับเข้ าใจว่ ามีสรรพคุณ


รักษาโรค และคอยสะกดจิตตัวเองอย่ างสม่าเสมอว่ า ตนสามารถ
หายขาดจากโรคนีไ้ ด้

“มีบางรายที่สามารถหายจากโรคได้ จริง ซึ่งนั่นไม่ ได้ เกิดจากผล


ตัวยา แต่ เป็ นเพราะสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ ง”

ไคลน์ สาธยาย

“ไม่ นะคะ เธอกล่าวอย่ างมั่นใจว่ า มันแตกต่ างจากเครื่ องรางทุก


เส้ นที่เคยสวม เป็ นความรู้สึกพิเศษอย่ างแท้ จริง”

เด็กสาวเอียงคอพลางจ้ องมองมายังไคลน์ ด้วยสี หน้ าใคร่ ร้ ู

“ฉันคิดไม่ ถึงเลยว่ า พีช่ ายของเมลิสซ่ าจะเชี่ยวชาญศาสตร์ เร้ น


ลับขนาดนี… ้ ”

“ก็อย่ างที่เธอทราบ ฉันเป็ นนักประวัติศาสตร์ เป็ นธรรมดาที่จะ


พบเจอเรื่ องราวแปลกประหลาดบ่ อยครั้ง”
ไคลน์ รีบเปลี่ยนหัวข้ อสนทนา
“ว่ าแต่ เธอเป็ นนักเรียนของโรงเรียนเทคนิคงั้นหรื อ?”

“ไม่ ค่ะ พวกเราเป็ นเพื่อนจากโรงเรียนเก่า เมลิสซ่ าเลือกเรียนต่ อ


ที่โรงเรียนเทคนิค ส่ วนฉันเลือกเข้ าเรียนที่โรงเรียนเอกชนอีวอสซึ่ง
อยู่ไม่ ไกลกันนัก”

อลิซาเบธอธิบาย

โรงเรียนเอกชนไม่ ได้ ถูกจัดตั้งและบริหารโดยรัฐบาล เป็ น


โรงเรียนเปิ ดที่ใครก็สามารถเข้ าเรียนได้ โดยไม่ ต้องสอบแข่ งขัน
วิชาเรียนและเนื้อหาการสอนไม่ เข้ มข้ นเท่ ากับโรงเรียนวิชาการ
ทั่วไปซึ่งมุ่งเน้ นให้ นักเรียนสอบติดมหาวิทยาลัย

โรงเรียนเอกชนจะมีค่าเล่าเรียนค่ อนข้ างสู ง บางแห่ งคัดเลือก


ผู้เรียนจากชื่ อเสี ยงของตระกูล นักเรียนส่ วนใหญ่ จึงเป็ นระดับชน
ชั้นกลางขึน้ ไป

อลิซาเบธไม่ กล่าวสิ่ งใดต่ อ หลังจากตักอาหารเสร็จ เธอรีบเดิน


กลับไปยืนข้ างเซเลน่ า

เวลาผ่ านไปจนกระทั่ง เจ้ าของงานอย่ างเซเลน่ า·วู้ดเป่ าเค้ กเสร็จ


งานเลีย้ งก็สิ้นสุ ดลงอย่ างเป็ นทางการ
ไคลน์ และเบ็นสั นถูกชักชวนให้ เล่นไพ่โปเกอร์ เท็กซัส ขั้นต่าเงิน
เดิมพันแรกคือครึ่งเพนนี และเต็มที่ไม่ เกินเพนนี ส่ วนเมลิสซ่ า
เซเลน่ า อลิซาเบธ และบรรดาเด็กสาวอีกหลายคน พวกเธอเดินขึน้
ไปที่ห้องชั้นสองโดยไม่ ทราบว่ าคุยเล่นหรื อทากิจกรรมใด

โชคของไคลน์ ค่อนข้ างบูด ผ่ านไปยี่สิบกว่ ารอบ มันไม่ เคยได้ ไพ่


ดีสักครั้งเดียว ทาเพียงหมอบและรับหน้ าที่เป็ นผู้ชม

หลังจากรับไพ่รอบใหม่ มาสองใบ ชายหนุ่มพลิกไพ่สารวจและ


พบว่ าเป็ นสองโพธิ์แดงกับห้ าโพธิ์ดา จัดว่ าแย่ เหมือนทุกครั้ง
ลองบลัฟดูสักตาดีไหม…

ไคลน์ ครุ่นคิดเล็กน้ อย แต่ สุดท้ ายก็ไม่ กล้าล้อเล่นกับดวงของ


ตัวเอง และไม่ หน้ าด้ านพอจะโกงไพ่ด้วยพลังนักทานาย

ชายหนุ่มคว่าไพ่และปล่อยผ่ าน เป็ นนัยว่ ายอมแพ้เหมือนทุกครั้ง


จากนั้นก็ขอตัวเดินไปเข้ าห้ องน้า

จักรพรรดิโรซายเป็ นพวกยา้ คิดยา้ ทาหรื ออย่ างไร? แค่ ต้งั ชื่ อไพ่
ว่ าโปกเกอร์ ก็เพียงพอแล้ว จาเป็ นด้ วยหรื อที่ต้องเติมคาว่ าเท็กซัส
ลงไป?
ชายหนุ่มส่ ายศีรษะและเดินตรงไปยังห้ องน้า ทันใดนั้น มันพลัน
ชะงักงันด้ วยสี หน้ าตกตะลึงสุ ดขีด…

สั มผัสวิญญาณของกาลังร่าร้ องอย่ างไม่ เคยเป็ น

…บนชั้นสองของบ้ านหลังนี้ มีการผันผวนจากคลื่นพลังลึกลับ


ในลักษณะเกรี้ยวกราด!
ราชันย์ เร้ นลับ 85 : เร่ งด่ วน
ราชันย์ เร้ นลับ 85 : เร่ งด่ วน

คลื่นพลังดังกล่าวกระเพื่อมวูบวาบพร้ อมแฝงความรู้สึก
ประหลาด แต่ ก็มีอายุขัยไม่ นานนัก แค่ อึดใจเดียว ความรู้สึก
ประหลาดจางหายไปในพริบตา

ชายหนุ่มถึงกับไม่ มั่นใจว่ า เมื่อครู่ตนคิดไปเองหรื อไม่

หากไม่ ใช่ เพราะนักทานายเป็ นผู้วิเศษเส้ นทางที่มีสัมผัสวิญญาณ


เฉียบแหลม ไคลน์ คงไม่ มีทางรับรู้แรงกระเพื่อมชั่วครู่ได้ เลย

ชายหนุ่มขมวดคิว้ พลางกาไม้ คา้ ในมือแน่ น

น้ องสาวของตนยังอยู่ข้างบน… มันเดินเบี่ยงจากห้ องน้าและรีบ


จา้ เท้ าขึน้ บันไดไปยังชั้นสอง

จากความรู้สึกเมื่อครู่ ทิศทางของพลังพิสดารจะต้ องมาจาก


ห้ องนั่งเล่นที่ใกล้กับระเบียงแน่

ไคลน์ ใช้ ปลายนิว้ แตะหว่ างคิว้ สองครั้ง

เป็ นอย่ างที่คิด…


แสงออร่ าจากสิ่ งมีชีวิตส่ องทะลุผ่านประตูไม้ บานใหญ่ เข้ าสู่
ดวงตาไคลน์ เกือบทั้งหมดเป็ นสี ปรกติที่มีเค้ าโครงร่ างของมนุษย์
พร่ ามัว

ทว่ า มีหนึ่งคนที่รอบตัวปรากฏแสงสี ดาอมเขียวและมีลักษณะ


กระเพื่อม คล้ายกับถูกบางสิ่ งกัดกร่ อนจากภายใน

สถานการณ์ เริ่มไม่ ชอบมาพากล

ไคลน์ สวมสี หน้ าเคร่ งขรึมโดยไม่ ร้ ูตัว มันใช้ มือขวาปลดโซ่ เงินที่


ข้ อมือซ้ ายและปล่อยให้ จบี้ ุษราคัมห้ อยลงตามแรงโน้ มถ่ วง

เมื่อโซ่ หยุดหมุน มันเริ่มสร้ างบอลแสงในห้ วงจิตเพื่อเข้ าฌาน


ก่อนจะหลับตาลงและพึมพาประโยคบอกเล่าในใจเจ็ดครั้ง

“ห้ องตรงหน้ ามีอันตรายที่เกิดจากพลังลึกลับ”

ข้ อเสี ยของลูกตุ้มวิญญาณคือ ถ้ ามีข้อมูลไม่ มากพอ มันจะ


ทานายได้ เฉพาะตัวเองหรื อสิ่ งแวดล้อมใกล้เคียงรัศมีไม่ กว้ างมาก
นัก ตัวอย่ างเช่ นสถานการณ์ ปัจจุบัน มันจาเป็ นต้ องระบุถึง
‘อันตราย’ ที่อาจเกิดขึน้ กับตัวเอง โดยมีห้องตรงหน้ าเป็ นเงื่อนไข

“ห้ องตรงหน้ ามีอันตรายที่เกิดจากพลังลึกลับ”


เมื่อลืมตาขึน้ ไคลน์ เพ่งมองลักษณะการหมุนของลูกตุ้มวิญญาณ
อย่ างตั้งใจ

จีบ้ ุษราคัมรวมถึงโซ่ เงินหมุนวนตามเข็มนาฬิ กาด้ วยความเร็ว


สู ง หมายความว่ า ไม่ เพียงเป็ นอันตรายที่เกิดจากพลังลึกลับ แต่
ระดับของอันตรายก็สูงมากด้ วย

เซเลน่ าคลั่งไคล้ศาสตร์ เร้ นลับ…

ครอบครัวของเธอมีฐานะมากพอจะจัดหาวัตถุดิบแปลก
ประหลาดสาหรับประกอบพิธกี รรมได้ ไม่ ยาก

หรื อนี่จะเกิดจากการรู้เท่ าไม่ ถึงการณ์ ?

เซเลน่ าประกอบพิธีกรรมเล่นๆ แล้วดันไปกระตุ้นบุคคลอันตราย


เข้ าอย่ างนั้นหรื อ?

เราควรทาอย่ างไรดี…

ไคลน์ นวดคลึงหว่ างคิว้ ด้ วยมือข้ างหนึ่ง ส่ วนมืออีกข้ างใช้ เคาะ


ประตูห้อง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก


มันเคาะจังหวะสามครั้ง พร้ อมกับสวมรอยยิม้ เป็ นมิตรเพื่อไม่ ให้
บุคคลด้ านในตื่นตระหนก

บานประตูเปิ ดออกพร้ อมเสี ยงไม้ ลั่นดังเอี๊ยดอ๊าด บุคคลที่ปรากฏ


ตัวคือเมลิสซ่ าในชุ ดเดรสตัวใหม่

“ไคลน์ ? มีอะไรหรื อ?”

เด็กสาวไม่ คาดคิดว่ าจะเป็ นพีช่ ายของตน เมลิสซ่ าแสดงสี หน้ า


ประหลาดใจ
ไคลน์ ยมิ้ มันพยายามไม่ ทาตัวมีพริ ุธ

“ฉันแค่ สงสั ยว่ าพวกเธอกาลังเล่นอะไรอยู่ เสี ยงดังท่ าทางน่ า


สนุกดี”

“ขอโทษที่เสี ยงดังรบกวน”

เมลิสซ่ าก้มศีรษะสานึกผิด บนใบหน้ าเจือปนความเขินอาย

“พวกเรากาลังเล่นทานายกระจกวิเศษ เซเลน่ าเชี่ยวชาญมันมาก


ค่ อนข้ างสนุกทีเดียว”

ทานายกระจกวิเศษ…
น้ องสาว ทาไมพวกเธอถึงไม่ เล่นอะไรง่ ายๆ ที่ปลอดภัยอย่ างผี
ถ้ วยแก้ว?

ไคลน์ ส่ายศีรษะ มันรู้สึกทั้งโกรธและขบขัน

ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มกวาดสายตามองเข้ าไปด้ านในห้ องด้ วย


เนตรวิญญาณ มันได้ พบเซเลน่ าที่กาลังนั่งยิม้ อย่ างมีความสุ ข
ร่ วมกับกลุ่มเพื่อนฝูง เผยให้ เห็นร่ องลักยิม้ บุ๋มลึก

ทว่ า แสงออร่ ารอบตัวเด็กสาวผมไวน์ แดงกลับมีสีดาอมเขียวน่ า


หวาดหวั่นปกคลุม…

สมองไคลน์ พลันปั่นป่ วน มีรีบเรียบเรียงประโยคในหัวก่อนจะ


กระซิบกับเมลิสซ่ า

“ฮะฮะ… เชิญเล่นเกมกันต่ อได้ เลย ว่ าแต่ อลิซาเบธอยู่ด้วยรึ


เปล่า? ก่อนหน้ านีม้ ีโอกาสได้ พูดคุยกับเธอเกี่ยวกับไวยากรณ์ ภาษา
ฟุซัค เห็นว่ ามีข้อสงสั ยอยากถามฉัน”

“อลิซาเบธ?”

เมลิสซ่ าจ้ องมองพีช่ ายคนกลางของตนตั้งแต่ หัวจรดเท้ า ก่อนจะ


กล่าวด้ วยน้าเสี ยงเย็นชา

“เธอเพิง่ 16 เองนะ”
จินตนาการไปถึงไหนแล้วนั่น…

ไคลน์ รีบอธิบาย

“เป็ นเพียงการพูดคุยธรรมดาทางวิชาการ อลิซาเบธสนใจด้ าน


ประวัติศาสตร์ และภาษาศาสตร์ มาก”

เมลิสซ่ ามองเข้ าไปในแววตาไคลน์ ครู่หนึ่ง

“เธออยู่ข้างใน เดี๋ยวฉันไปบอกให้ ”

“ขอบใจ”

ไคลน์ ก้าวถอยหลังออกห่ างจากบานประตู

เมื่อเห็นน้ องสาวหันหลังกลับ ชายหนุ่มถอนหายใจยาวอย่ างโล่ง


ออก ถึงผลลัพธ์ จะไม่ ใช่ เรื่ องน่ ายินดี แต่ อย่ างน้ อย บุคคลที่ได้ รับ
อันตรายก็ไม่ ใช่ น้องสาวของตน

ไคลน์ ยืนรอด้ านนอกราวสิ บวินาที ก่อนที่เด็กสาวแก้มยุ้ยน่ ารัก


อลิซาเบธ จะเดินออกมาพร้ อมกับพึมพา

“มิสเตอร์ โมเร็ตติ มีอะไรหรื อคะ? ฉันไม่ เคยบอกว่ าชอบภาษา


หรื อประวัติศาสตร์ …”
อลิซาเบธพลันชะงักคาพูดเมื่อได้ เห็นสี หน้ าเคร่ งขรึมของไคลน์
เธอสั มผัสได้ ว่า มีบางสิ่ งกาลังไม่ ชอบมาพากล

ไคลน์ เดินเฉียงพร้ อมกับส่ งสั ญญาณให้ อลิซาเบธออกมายืนที่มุม


อับสายตา

“อย่ างที่เธอรู้ ฉันหลงไหลศาสตร์ เร้ นลับ”

ชายหนุ่มชะงักฝี เท้ า มันหมุนตัวกลับ


อลิซาเบธผงกศีรษะ

“ค่ ะ ฉันทราบว่ าคุณเชี่ยวชาญศาสตร์ เร้ นลับมาก”

“ไม่ ได้ เชี่ยวชาญ แค่ หลงไหล แต่ ก็มีความรู้มากพอจะบอกได้ ว่า


การเล่นทานายกระจกวิเศษของพวกเธอได้ ก่อปัญหาขึน้ แล้ว”

เสี ยงของไคลน์ ขึงขังหนักแน่ น

“ปัญหา—?”

อลิซาเบธเกือบหลุดโพล่งเสี ยงดัง เธอรีบใช้ มือมองข้ างปิ ดปาก

ไคลน์ เรียบเรียงคาพูด
“แค่คาพูดคงไม่ เห็นภาพ ไว้ เธอกลับเข้ าไปใหม่ จากนั้นลองหา
โอกาสที่เซเลน่ าเผลอ แอบมองเข้ าไปในบานกระจกที่เซเลน่ า
พยายามเก็บซ่ อนไว้ จากทุกคน”

“คุณรู้ด้วยหรื อคะ? ว่ าเซเลน่ าพยายามซ่ อนบานกระจกไม่ ให้


ใครเห็น”

อลิซาเบธกล่าวด้ วยสี หน้ าสุ ดทึ่ง

จากข้ อมูลของเหยี่ยวราตรี กว่ าเก้าในสิ บของพิธีกรรมทานาย


กระจกวิเศษจะนาพาไปสู่ การติดต่ อกับตัวตนลึกลับชั่วร้ าย…

ไคลน์ ยมิ้

“ความรู้พื้นฐาน”

เมื่ออลิซาเบธเดินกลับเข้ าห้ อง รอยยิม้ อบอุ่นและเยือกเย็นของ


ไคลน์ พลันจากหาง แทนทีด้วยสี หน้ าวิตกกังวล

ถึงเราจะอยู่ที่เขตเหนือ แต่ ระยะทางจากถนนฟาเนียไปถึงถนนซุ


ตแลนก็ใช้ เวลาอย่ างต่าสิ บห้ านาที ต่ อให้ หัวหน้ าอยู่ที่สานักงาน แต่
การไปกลับก็ใช้ เวลานานเกินไป คงช่ วยเหลือเซเลน่ าไม่ ทันการแน่
ชิ…!

ถ้ าเบ็นสั นกับเมลิสซ่ าไม่ อยู่ที่นี่ด้วยล่ะก็

แต่ เราจะทาอะไรกับตัวตนลึกลับนั่นได้ ?

มีวิธีผนึกรึเปล่า… คิดเข้ าสิ

จริงด้ วย… เซเลน่ าเป็ นผู้คลัง่ ไคล้ศาสตร์ เร้ นลับ ห้ องของเธอ


ต้ องมีสารสกัด น้ามันสกัด สมุนไพร และวัตถุดิบวิเศษอีกหลาย
ชนิดแน่

ขณะไคลน์ กาลังคิดหาวิธีรับมือ อลิซาเบธกาลังเดินไปนั่งลงบน


เก้าอีข้ ้ างเซเลน่ า โดยใช้ ข้ออ้างว่ ามีบางสิ่ งต้ องการปรึกษา

ในเวลาเดียวกัน เด็กสาวที่นั่งฝั่งตรงข้ ามเธอเริ่มจิบไวน์ แดงเข้ า


ไปหนึ่งอึกจนแก้มแดงระเรื่ อ ภายใต้ สายตาคาดหวังจากทุกคน เด็ก
สาวคนดังกล่าวรวบความความกล้าและถามออกไป

“ฉันจะได้ พบกับสุ ภาพบุรุษหล่อเหลาและโรแมนติกตอนไหน?”

เซเลน่ ากระแอมสองหน ก่อนจะรีบใช้ มือลูบหลังบานกระจกที่


คว่าอยู่และพึมพา
“กระจกวิเศษเอ๋ย จงบอกข้ าเถิด สุ ภาพบุรุษผู้กุมหัวใจยูนีน่าจะ
ปรากฏตัวเมื่อใด”

เมื่อกล่าวครบสามครั้ง เซเลน่ าหยิบกระจกที่คว่าอยู่ขนึ้ มาแอบ


ส่ องคนเดียวอย่ างลับๆ

ฉวยโอกาสดังกล่าว อลิซาเบธที่นั่งข้ างรีบใช้ หางตามองเข้ าไปใน


บานกระจก

สิ่ งที่เธอคาดหวังว่ าจะได้ พบ คือใบหน้ าของเซเลน่ าตามปรกติ


ทว่ า สิ่ งที่ปรากฏบนบานกระจกคือ

เซเลน่ า… เซเลน่ าตั้งแต่ หัวจรดเท้ า!

บานกระจกมีพื้นหลังสี ดาสนิท ไม่ ใช่ ภาพสะท้ อนของ


ห้ องนั่งเล่นอย่ างที่ควร กึ่งกลางกระจกคือเซเลน่ าผู้มีใบหน้ าเย็นชา
และแววตาชั่วร้ าย

อลิซาเบธหวาดผวาสุ ดขีด เด็กสาวแก้ มยุ้ยสะดุ้งจนหลังกระแทก


ติดพนักพิงเก้าอี้ ร่ างกายพลันสั่ นระริกอย่ างหยุดไม่ อยู่

เธอถึงกับลืมหายใจไปชั่วขณะ

อลิซาเบธไม่ กล้าอยู่ต่อแม้ แต่ วินาทีเดียว เธอรีบลุกขึน้ โดยไม่


บอกกล่าวกับใคร เดินโงนเงนไปที่ประตูด้วยสี หน้ าตื่นตระหนก ไม่
กล้าแม้ แต่ จะเหลือบมองเซเลน่ าตัวจริง

เสี ยงด้ านหลังดังแว่ ว

“สุ ภาพบุรุษของยูนีน่าจะปรากฏตัวในวันอาทิตย์ สัปดาห์ ที่สอง


ของเดือน หลังจากนีอ้ ีกหนึ่งปี ครึ่งพอดิบพอดี…”

ท่ ามกลางเสี ยงฮือฮาของกลุ่มเด็กสาว อลิซาเบธใช้ มือผลักบาน


ประตูอย่ างไร้ เรี่ยวแรง ก่อนจะหันไปเห็นไคลน์ ที่สวมทักซิโด้ สีดา
กาลังยืนรอใต้ โคมไฟผนัง

“มิสเตอร์ โมเร็ตติ… ฉ…ฉัน—”

เธอแทบจะไร้ เรี่ยวแรงพยุงร่ างยืน

ไคลน์ เผยรอยยิม้ อบอุ่น

“มาคุยกันตรงนีด้ ีกว่ า พวกเราไม่ ควรรบกวนสุ ภาพสตรีด้านใน”

เมื่อได้ ยินเสี ยงอ่อนโยนจากไคลน์ ความหวาดกลัวของอลิซาเบธ


เริ่มบรรเทา เธอเอื้อมมือปิ ดประตูและเดินไปหาไคลน์ ใต้ โคมไฟ

“ฉ…ฉันเห็น ในกระจก... ฉันเห็นเซเลน่ าร่ างชั่วร้ าย…”


อลิซาเบธกล่าวด้ วยเสี ยงแหบพร่ า
กะแล้วเชียว…

สี หน้ าของไคลน์ พลันดามืด

“ห้ องนอนของเซเลน่ าอยู่ไหน? หรื อไม่ ก็ห้องที่ใช้ เก็บวัตถุดิบ


วิเศษ”

“เธอเก็บวัตถุดิบวิเศษไว้ ที่นั่น”
อลิซาเบธกล่าวพลางชี้นวิ้ ไปยังห้ องฝั่งตรงข้ ามที่อยู่เยื้องกัน
เล็กน้ อย

ชายหนุ่มถือไม้ คา้ และรีบเดินไปหยุดยืนหน้ าห้ องดังกล่าว เมื่อ


สารวจว่ าประตูไม่ ได้ ล็อค มันจึงบิดเปิ ดเข้ าไป

ห้ องค่ อนข้ างมืด มีเพียงแสงจากโคมไฟถนนด้ านนอกและจันทร์


สี แดง ไคลน์ เปิ ดวาล์วแก๊ สพร้ อมกับเปิ ดโคมไฟภายในห้ องเพื่อเพิม่
ความสว่ าง

แสงสี เหลืองนวลช่ วยให้ ชายหนุ่มมองเห็นอุปกรณ์ และสิ่ งของที่


วางเรียงรายได้ ชัดเจน มีท้งั ขวดสารสกัด น้ามันสกัดดอกไม้ กล่อง
ผงบุปผาบด เทียนไขชนิดต่ างๆ รวมถึงเครื่ องรางอีกหลายชนิด
สิ่ งของทุกชนิดถูกวางเป็ นระเบียบเรียบร้ อยภายในภาชนะบรรจุ
แถมยังมีป้ายชื่ อกากับอย่ างละเอียด

หลังจากมองหาวัตถุดิบที่ต้องการ ไคลน์ กล่าวกับอลิซาเบธที่เดิน


ตามมาด้ านหลัง

“เธออยากช่ วยเซเลน่ าไหม?”

“ค่ ะ”
อลิซาเบธพยักหน้ า ก่อนจะถามต่ อ

“อันตรายไหมคะ?”

“ค่ อนข้ าง… เพราะฉันเป็ นเพียงคนที่หลงไหลในศาสตร์ เร้ นลับ”

ไคลน์ ตอบไม่ อ้อมค้ อม

“ค่ อนข้ างอันตราย…”

อลิซาเบธกัดริมฝี ปาก

“ฉันจะช่ วยอะไรได้ บ้างคะ?”


ไคลน์ อมยิม้ อ่อนโยน มันกล่ าวปลอบประโลมเด็กสาวที่กาลังสั่ น
กลัว

“ไม่ ต้องกังวลขนาดนั้น สิ่ งที่เธอต้ องทามีเพียง เดินกลับไปที่


ห้ องและทาตัวตามปรกติเหมือนกับไม่ มีอะไรเกิดขึน้

“จากนั้น ห้ านาทีถัดมา ขอยา้ ว่ าห้ านาทีตรง ห้ ามขาดห้ ามเกิน


เด็ดขาด พาตัวเซเลน่ ามาหาฉันที่ห้องนีโ้ ดยบอกเหตุผลว่ า เธอมี
บางสิ่ งจะเซอไพรส์ เมื่อมาถึงให้ เคาะประตูยาวหนึ่งครั้ง และเคาะ
สั้ นสองครั้ง ที่เหลือไว้ เป็ นหน้ าที่ฉันเอง”
อลิซาเบธครุ่นคิด

“เข้ าใจแล้วค่ ะ”

เมื่อเห็นเด็กสาวเดินกลับไป ไคลน์ เปิ ดนาฬิ กาพกสารวจเวลา


ก่อนจะรีบหยิบวัตถุดิบที่ต้องการออกมาวางบนเก้าอี้ จากนั้นก็
เคลียร์ สิ่งของบนโต๊ ะออกจนหมด

ถัดมา ชายหนุ่มวางเทียนหอมสองเล่มไว้ ที่มุมโต๊ ะ แยกซ้ ายขวา


คนละฝั่ง นี่คือสั ญลักษณ์ ของสุ ภาพสตรีสีชาดและจักรพรรดินีแห่ ง
หายนะ

มันหวังหยิบยืมพลังจากเทพธิดาช่ วยปัดเป่ าสิ่ งชั่วร้ ายออกจาก


ร่ างกายเซเลน่ า
ในฐานะที่เป็ นแค่ ผ้ วู ิเศษลาดับเก้า พลังวิญญาณของมันไม่
รุนแรงพอจะประกอบพิธีกรรมระยะไกล จาเป็ นต้ องให้ อลิซาเบธ
ช่ วยนาตัวเซเลน่ ามายังใจกลางแท่ นบูชา

และมันยังไม่ ลืมว่ า มีโอกาสสู งที่เซเลน่ าชั่วร้ ายจะพยายามขัดขืน


หรื อหลบหนี ไคลน์ จึงเตรียมประกอบพิธีกรรมที่สามารถ ‘หยุด
กลางคัน’
ราชันย์ เร้ นลับ 86 : ภาวนา

เทคนิคหยุดพิธีกรรมกลางคันนั้น ผู้วิเศษสามารถเลือกหยุดพัก
ตามความเหมาะสม จากนั้นค่ อยกลับมาสานต่ อพิธีกรรมเดิมโดย
ไม่ สูญเสี ยประสิ ทธิภาพและผลลัพธ์ ที่ต้องการ

นีค่ ือพัฒนาการนานนับพันปี นับตั้งแต่ มนุษย์ ริเริ่มคิดค้ นเทคนิค


ประกอบพิธีกรรมขึน้ สมัยอดีต ส่ งผลให้ ระยะเวลาในการประกอบ
พิธีกรรมนั้นไม่ จากัด จะนานครึ่งวันหรื อหนึ่งวันก็ย่อมได้

ในอดีต ย่ อมมีบ่อยครั้งที่พธิ ีกรรมถูกรบกวนจากบุคคลภายนอก


บรรพบุรุษของมนุษย์ จึงริเริ่มออกแบบให้ พธิ ีกรรมสามารถหยุด
พักชั่วคราว

หลังจากผ่ านการทดสอบและความเสี ยสละนับครั้งไม่ ถ้วน ลอง


ผิดลองถูกมากมาย เก็บสถิติและผลลัพธ์ เพื่อมองหาวิธีสร้ าง
พิธีกรรมที่ดีที่สุด

ลงเอยด้ วย เผ่ าพันธุ์มนุษย์ สามารถเข้ าถึงพิธีกรรมที่สามารถ


หยุดพักชั่วคราวสาเร็จ

เทคนิคหยุดพักชั่วคราวเป็ นที่นิยมในการประกอบพิธีกรรม
ระดับสู งที่ซับซ้ อนและใช้ เวลานาน แต่ ก็สามารถปรับใช้ กับ
พิธีกรรมระดับต่าได้ เช่ นกัน
ถึงกระนั้น เทคนิคหยุดพักชั่วคราวไม่ สามารถกระทาได้ ดั่งใจนึก
แต่ ละพิธีกรรมจะมีบางขั้นตอนที่สาคัญชนิดห้ ามถูกรบกวน

ฉะนั้น หากผู้ประกอบพิธีกรรมต้ องการใช้ เทคนิคหยุดกลางคัน


จาเป็ นจะต้ องศึกษาแก่นแท้ ของพิธีกรรมดังกล่าวอย่ างละเอียดทุก
ซอกมุม ไม่ อย่ างนั้น ความล้มเหลวคือสิ่ งที่ไม่ สามารถหลีกเลี่ยง
และหากโชคร้ าย อาจถึงขั้นได้ รับผลข้ างเคียงอันตรายรุนแรง

จากความเข้ าใจของไคลน์ หากพิธีกรรมดาเนินไปถึงจุดที่‘เทพ’


กาลังรอฟังคาร้ องขออย่ างตั้งใจ ถ้ าผู้ประกอบพิธีกรรมดันไปพูดว่ า

“สั กครู่ครับ ขอไปเข้ าห้ องน้าก่อน”

มันมั่นใจ ผู้ประกอบพิธกี รรมจะไม่ มีโอกาสได้ เข้ าห้ องน้าอีกเลย


ชั่วชีวิต

ฟู่ ว…

ชายหนุ่มพยายามสงบจิต ตนมีความรู้ความเข้ าใจในพิธีกรรม


ค่ อนข้ างลึกซึ้ง

แต่ ถึงจะเคยดัดแปลงพิธีกรรมเวทมนตร์ ด้วยตัวเองสาเร็จมาแล้ว


ตามที่ให้ แฮงแมนและจัสติสช่ วยทดสอบ แต่ นี่คือครั้งแรกที่มัน
เสี่ ยงดัดแปลงพิธีกรรมเวทมนตร์ ด้วยพลังของผู้วิเศษลาดับเก้า
โดยไม่ พงึ่ พามิติแห่ งสายหมอกช่ วยเหลือ

สายตาไคลน์ ชาเลืองมองไม้ คา้ เลี่ยมเงินที่ถูกวางไว้ ด้านซ้ ายมือ


ก่อนจะนาเทียนไขเล่มที่สามวางไว้ กึ่งกลางโต๊ ะแท่ นบูชา

เล่มนีแ้ ทนตัวผู้ประกอบพิธีกรรม

ไคลน์ วางจอกเงินที่เซเลน่ าใช้ ประจาไว้ ด้านหน้ าเทียนเล่มกลาง


โต๊ ะ ก่อนจะวางเตาขนาดใหญ่ ไว้ ด้านบน เป็ นตัวแทนตราศักดิ์สิทธิ์
ของเทพธิดา

ถัดมา มันวางสารสกัดและน้ามันสกัดบุปผาไว้ ทางซ้ ายมือ


รวมถึงบุปผาจันทรา บุปผาหลับไหล ส่ วนด้ านขวาเป็ นถาดเกลือ
หิน มีดเงิน เศษชิ้นหนังเทียม และปากกาขนนกที่กาลังจุ่มลงใน
ขวดหมึก

โชคดีที่เซเลน่ ามีอุปกรณ์ ครบครัน ไม่ อย่ างนั้น ตนคงไม่ มีทาง


เตรียมพิธีกรรมที่ซับซ้ อนเช่ นนีไ้ ด้

ในฐานะนักทานายฝึ กหัด มันยังไม่ ชานาญพิธีกรรมเท่ ากับผู้ส่อง


ความลับนีลล์ที่ช่าชอง

เพียงมองเพียงผิวเผินก็พอจะทราบว่ า เซเลน่ าเป็ นผู้คลั่งไคล้


ศาสตร์ เร้ นลับที่ค่อนข้ างมีประสบการณ์ ไม่ อย่ างนั้น คงไม่ สามารถ
ประกอบพิธีกรรมเวทมนตร์ สาเร็จจนก่อปัญหาอันตรายเช่ นนี้ขนึ้
เธออายุเพียงสิ บหก และดูเหมือนจะเข้ าสู่ โลกแห่ งศาสตร์ เร้ นลับ
ได้ ไม่ ถึงครึ่งปี หมายความว่ า ต้ องมีใครสั กคนคอยฝึ กสอน

แล้วใครกัน?

ความสงสั ยถาโถมขณะที่มือของไคลน์ หยิบจอกเงินอีกอันมาวาง


ข้ างถาดเกลือหิน ก่อนจะเทน้าบริสุทธิ์ลงไปในจอกสาหรับขั้นตอน
สร้ างมีดศักดิ์สิทธิ์
มันหยิบนาฬิ กาพกออกมาสารวจ เมื่อยืนยันเวลาเรียบร้ อย
ไคลน์ ไม่ คิดเสี ยเวลาเพิม่ แม้ แต่ วินาทีเดียว มันหลับตาลงและสร้ าง
บอลสายฟ้ าซ้ อนทับในห้ วงจิตเพื่อเข้ าฌาน

บรรยากาศภายในห้ องเริ่มมีกลิ่นดอกไม้ ฟ้ งุ กระจาย สายลม


อ่อนๆ พัดผ่ านห้ องปิ ดตายอย่ างน่ าฉงน

ไคลน์ ตรวจสอบเวลาอีกครั้งด้ วยนัยน์ ตาที่เปลี่ยนจากสี น้าตาล


เป็ นดาเข้ ม คล้ายกับสามารถมองทะลุเข้ าไปในดวงวิญญาณ

มันเหยียดฝ่ ามือขวาออกไปวางหน้ าเทียนไขมุมขวา ก่อนจะ


หลับตาลงและท่ องคาถาภายในใจ

“พระองค์เทพธิดารัตติกาล… สุ ภาพสตรีสีชาดผู้ยิ่งใหญ่ ”
เมื่อกล่าวจบ ไคลน์ ใช้ ปลายนิ้วชี้และโป้งลูบไล้บนไส้ เทียนพร้ อม
กับปลดปล่อยพลังวิญญาณ

เพียงพริบตา เปลวเพลิงถูกจุดจนบรรยากาศภายห้ องสว่ างด้ วยสี


ฟ้ า ผสมผสานกับแสงโคมไฟสี เหลืองนวลอย่ างลงตัว

“ข้ าแต่ เทพธิดารัตติกาล… จักรพรรดินีแห่ งหายนะ”

เฉกเช่ นเมื่อครู่ มันใช้ ปลายนิ้วชี้และโป้งของมือซ้ าย ลูบไล้บนไส้


เทียนฝั่งซ้ ายเพื่อจุดเปลวไฟ

“ข้ าคือองค์ รักผู้ภักดีของท่ าน คอยเป็ นโล่ปกป้องภัยคุกคามชั่ว


ร้ ายจากเงามืด คอยเป็ นหอกทิ่มแทงใส่ ปีศาจชั่วร้ ายที่ลอบแทรกซึม
เข้ ามาในโลกมนุษย์ อย่ างเงียบเชียบ”

พรึบ!

เทียนไขเล่มกึ่งกลางซึ่งแทนตัวไคลน์ ถูกจุดจนสุ กสว่ าง

เปลวเพลิงจากสามเทียนไขยังคงสงบนิ่ง ชายหนุ่มหยิบมีดเงิน
ออกมา พร้ อมกับเลียนแบบท่ าทางที่ลุงนีลล์เคยแสดงให้ เห็น

มันเปล่งคาถาในใจ ก่อนจะใช้ เกลือหินและน้าบริสุทธิ์ช่วยใน


ขั้นตอนสร้ างมีดศักดิ์สิทธิ์
ถัดมา ไคลน์ ปลดปล่อยพลังวิญญาณจากคมมีดและควบคุมให้
ห่ อหุ้มมีดไว้

ด้ วยมีดเงินในมือ โคลน์ เริ่มเดินวนไปรอบห้ องนอน ก่อนจะ


คุกเข่ าลงเมื่อต้ องเหยียบบนเตียง จนกระทั่งสร้ างกาแพงวิญญาณ
ล้อมรอบแท่ นบูชาเสร็จสมบูรณ์

ในวินาทีนี้ แสงโคมไฟจากถนนด้ านนอกพลันดับมอดอย่ างไม่


ทราบสาเหตุ มีเพียงแสงจันทร์ แดงฉานที่ยังคงสาดส่ องงดงาม

มันเดินกลับมาที่โต๊ ะแท่ นบูชาและหยิบปากกาขนนกเขียนคาถา


สาหรับขับไล่วิญญาณชั่วร้ ายลงบนกระดาษหนังเทียม

เมื่อเสร็จสิ้น ไคลน์ วางทุกสิ่ งในมือลง พร้ อมกับหยดสารสกัด


ดอกไม้ และน้ามันสกัด ลงบนเทียนไขทั้งสามเล่มตามลาดับ

ซู่ว!

หมองควันจางปกคลุมรอบห้ อง มอบบรรยากาศความเร้ นลับ


ให้ แก่ผ้ พู บเห็น

ถัดมา ไคลน์ เผาสมุนไพรหลายชนิดลงในหม้ อใหญ่ ท่ ามกล่ าง


กลิ่นพฤษาคละคลุ้งอย่ างเข้ มข้ น มันเริ่มท่ องคาถาที่จาเป็ นสาหรับ
เทคนิคหยุดพักพิธีกรรมกลางคัน
“สู งสง่ ากว่ าดารา ยืนยาวยิ่งกว่ านิรันดร์ พระองค์ เทพธิดา
รัตติกาลผู้ยิ่งใหญ่

“ข้ าขอภาวนาความรักจากพระองค์

“ข้ าขอภาวนาให้ พระองค์ ทรงยื่นมือช่ วยเหลือสาวกผู้ซื่อสั ตย์

“ข้ าขอภาวนาพลังแห่ งแดงชาด


“ข้ าขอภาวนาพลังแห่ งหายนะ

“ข้ าขอภาวนาให้ พระองค์ ช่วยปัดเป่ าภัยอันตรายและวิญญาณชั่ว


ร้ ายออกจากร่ างสาวกผู้ซื่อสั ตย์ นามเซเลน่ า·วู้ด

“ข้ อขอภาวนาให้ พระองค์ ช่วยรอสั กครู่

“ได้ โปรดอดทนรออย่ างใจเย็น เพื่อช่ วยเหลือเด็กสาวที่มีชะตา


กรรมอับโชคผู้น้ นั ”

“บุปผาจันทราและพฤกษาแห่ งจันทร์ สีชาดเอ๋ย… ช่ วยเป็ นพลัง


แก่คาถาของข้ าด้ วย”
“บุปผาหลับไหลและพฤกษาแห่ งจันทร์ สีชาดเอ๋ย… ช่ วยเป็ น
พลังแก่คาถาของข้ าด้ วย”

หลังจากท่ องคาถาจบ มันท่ องซ้าในใจจนครบเจ็ดครั้ง

เมื่อเห็นว่ าไม่ มีเหตุการณ์ ผิดปรกติเกิดขึน้ ไคลน์ หยิบมีดเงินและ


ก้าวถอยหลังไปยังประตูห้องนอน
มันทาสั ญลักษณ์ สี่จุดที่หน้ าอกเพื่อสื่ อถึงจันทร์ แดง จากนั้นก็ยก
คมมีด พร้ อมกับถ่ ายแทพลังวิญญาณออกไปเพื่อกรีดเฉื อนทาลาย
กาแพงวิญญาณ

ไคลน์ ทราบดี ถ้ าใช้ เทคนิคหยุดพักพิธีกรรมกลางคันสาเร็จ ต่ อ


ให้ ถูกรบกวนจากภายนอกก็ไม่ มีผลข้ างเคียงใดเกิดขึน้

มันหยิบนาฬิ กาพกใบองุ่นออกมาตรวจสอบเวลาเป็ นครั้งสุ ดท้ าย


ภายในใจทบทวนสิ่ งที่ต้องทาในอีกไม่ กี่วินาทีข้างหน้ า

ภายในห้ องนั่งเล่นบนชั้นสอง
อลิซาเบธเงยหน้ ามองนาฬิ กาแขวนภายในห้ องเป็ นระยะ สี หน้ า
ของเธอกาลังกระวนกระวายอย่ างผิดปรกติ แววตาเหม่ อลอย
ภายในใจนับถอยหลังอย่ างเงียบงันท่ ามกลางแสงเหลืองนวลจาก
โคมไฟแก๊ส

ใกล้แล้วสิ นะ…

เด็กสาวพึมพา หางตาชาเลืองมองเซเลน่ าผมสี ไวน์ แดงที่กาลัง


พูดคุยอย่ างสนุกสนานกับเพื่อนฝูงเด็กสาวอีกหลายคน ลักยิม้ ของ
เธอยังคงบุ๋มลึกเฉกเช่ นทุกครั้ง
ยิ่งเพื่อนของตนแสดงท่ าทีปรกติมากเพียงใด อลิซาเบธก็ยิ่งไม่
สบายใจมากเท่ านั้น เธอยังไม่ ลืมภาพของเซเลน่ าชั่วร้ ายที่ปรากฏ
บนบานกระจกวิเศษ

ถึงเวลาแล้ว… ต้ องรีบลงมือตอนนี้!

อลิซาเบธลุกพรวดขึน้ จากเก้ าอี้ เด็กสาวคนอื่นภายในห้ องแสดง


สี หน้ าประหลาดใจ

อลิซาเบธหันไปกล่าวกับเซเลน่ าด้ วยน้าเสี ยงตะกุกตะกัก

“ซ…เซเลน่ า ฉันมีอะไรจะเซอไพรส์ เธอ ช…ช่ วยตามมาสั กครู่


ได้ ไหม”
“จริงหรื อ? แต่ เธอมอบของขวัญวันเกิดให้ ฉันแล้วนี่?”
เซเลน่ าคว่ากระจกลงพลางขมวดคิว้ ถาม

“ก…การเซอไพรส์ ไม่ จาเป็ นต้ องมีหนเดียวสั กหน่ อย…”

อลิซาเบธกาลังกดดัน เธอตระหนักว่ าตนไม่ มีความสามารถด้ าน


การแสดงเอาเสี ยเลย

โดยไม่ กล่าวสิ่ งใดต่ อ อลิซาเบธเดินนาไปที่ประตูห้อง ด้ านเซเล


น่ าลุกเดินตามไปไม่ ห่าง บนใบหน้ าสวมรอยยิม้ เจือปนความสงสั ย

ขณะเมลิสซ่ านั่งมองเพื่อนสาวสองคนเดินออกจากห้ อง เธอ


ขมวดคิว้ อย่ างเคลือบแคลง

วันนีอ้ ลิซาเบธทาตัวแปลกไปมาก…

นับตั้งแต่ ได้ พบไคลน์ …

ก่อนหน้ าก็เคยเดินออกไปครั้งหนึ่งอย่ างไม่ บอกกล่ าวใคร และ


กลับมาอีกครั้งโดยอ้ างว่ าไปเข้ าห้ องน้า

แต่ ทาไมสี หน้ าถึงคล้ายกับคนป่ วยไข้ ?


ณ ประตูห้องนอนเซเลน่ า

อลิซาเบธสู ดลมหายใจสุ ดปอดเพื่อสงบสติ ก่อนจะหันไปกล่าว


กับเซเลน่ า

“ข…เข้ าไปในห้ องนอนของเธอกันเถอะ”

“อลิซาเบธ… สี หน้ าของเธอไม่ ค่อยดีเลย เหมือนกับกาลัง


หวาดกลัว…”
เซเลน่ าจ้ องมองเพื่อนสนิทของตนกาลังยืนตัวสั่ นระริก

“ฉ…ฉันกาลังตื่นเต้ นน่ ะ! ใช่ แล้ว ตื่นเต้ น!”

อลิซาเบธเหลือบมองกระจกวิเศษด้ วยสี หน้ าดามืด จากนั้นก็รีบ


หมุนตัวกลับไปเคาะประตูเป็ นจังหวะยาวหนึ่งครั้ง และสั้ นหนึ่ง
ครั้ง ตามสั ญญาณที่นัดแนะไว้ ล่วงหน้ า

“แล้วทาไมต้ องเคาะประตูด้วย…?”

เซเลน่ ายืนขมวดคิว้

แอ๊ด…
ประตูห้องนอนถูกเปิ ดออก บุคคลทีป่ รากฏตัวต่ อหน้ าสองเด็ก
สาว คือสุ ภาพบุรุษหนุ่มสวมทักซิโด้ สีดาสลับขาว

“เซอไพรส์ ? นี่คือเซอไพรส์ ของเธอหรื อ?”

สี หน้ าเซเลน่ าพลันบิดเบีย้ ว

ทันใดนั้น ไคลน์ รีบกระชากข้ อมือเซเลน่ าเข้ าไปในห้ อง ปล่อย


ให้ อลิซาเบธยืนขาตายอยู่ด้านนอกคล้ายกับถูกรากไม้ พนั ธนาการ

ไคลน์ รีบแทงมีดเงินไปด้ านหน้ าพร้ อมกับปลดปล่อยพลัง


วิญญาณผนึกช่ องว่ างบานประตูที่เปิ ดออก

กาแพงวิญญาณที่มองไม่ เห็นได้ ปิดกั้นมิให้ สิ่งแปลกปลอมใด


ผ่ านเข้ าออกห้ องนีไ้ ปได้ รวมถึงเสี ยงกรีดร้ องอย่ างหวาดกลัวของ
เซเลน่ าด้ วย

โครม!

ไคลน์ กระแทกประตูปิดเสี ยงดัง แน่ นอนว่ าไม่ มีใครได้ ยิน โดยไม่


เหลียวมองเซเลน่ าแม้ แต่ น้อย มันรีบวิ่งกลับไปยังโต๊ ะแท่ นบูชา

เด็กสาวผมไวน์ แดงเลิกกรีดร้ อง เธอหน้ าเงยขึน้ และสารวจไป


รอบห้ อง
ทันใดนั้น ผิวหนังเด็กสาวพลันกลายเป็ นสี ขาวซีดคล้ายซากศพ
เล็บยาวแหลมงอกเงยจากปลายนิว้ ทั้งสิ บ

ในวินาทีนี้ ไคลน์ รีบหยดสารสกัดดอกไม้ และน้ามันสกัดลงบน


เทียนไขพร้ อมกับตะโกน

“ข้ าแต่ สุภาพสตรีสีชาดผู้ยิ่งใหญ่ องค์ จักรพรรดินีแห่ งหายนะ

“ข้ าขอภาวนาให้ พระองค์ ช่วยประทานความรักใคร่

“ได้ โปรดโอบกอดลูกแกะน้ อยที่หลงทางให้ พ้นภัย ได้ โปรดขจัด


ปัดเป่ าภัยอันตรายออกจากเซเลน่ า·วู้ด!”

เมื่อกล่าวจบ มันรีบหยิบกระดาษหนังเทียมที่เขียนคาถาขับไล่
วิญญาณขึน้ มา พร้ อมกับนาไปลนกับเทียนไขเล่มกลางที่เป็ น
สั ญลักษณ์ ของผู้ประกอบพิธีกรรม

ฟ้ าวววว

สายลมรุนแรงและเย็นยะเยียบพลันพัดผ่ านห้ องปะทะใส่ ร่าง


ไคลน์ รุนแรง

เมื่อกระดาษหนังเทียมติดไฟ ไคลน์ รีบโยนมันลงในจอกเงินหน้ า


เทียนเล่มกึ่งกลาง ก่อนจะก้มตัวลงหมายหลบหลีกการโจมตีที่
เกรี้ยวกราดซึ่งกาลังจะอุบัติ
ฟุ่ บ! ฟุ่ บ! ฟุ่ บ! ฟุ่ บ!

สายลมทวีความคลุ้มคลั่ง พลังวิญญาณปริมาณมหาศาลที่ไม่ ใช่


ของตน กาลังหลั่งไหลออกจากร่ างอย่ างไม่ มีทีท่าว่ าจะหยุด

กระดาษหนังเทียมกาลังลุกไหม้ ภายในจอกเงินอย่ างเงียบงัน ก้น


ถ้ วยจอกเริ่มปรากฏหมอกสี ดาปกคลุม

ทันใดนั้น เสี ยงสั่ นสะเทือนคล้ายกับวัตถุขนาดใหญ่ หล่น


กระแทกพื้นพลันดังก้อง

โครม! โครม!

เสี ยงปริศนาดังกังวาลสองครั้งซ้ อนในเวลาไล่เลี่ย ไคลน์ รีบเงย


หน้ าขึน้ มอง มันได้ เห็นละอองแสงสี เขียวลอยออกจากร่ างเซเลน่ า
เข้ าไปในจอกเงินที่มีหมอกดาปกคลุม

เพียงพริบตา ละอองแสงชั่วร้ ายพลันสลายตัวกลายเป็ นกลุ่มก้อน


แก๊สมายาลอยฟุ้งกลางอากาศ

ไคลน์ รีบกลิง้ ไปด้ านข้ างพร้ อมกับชักปื นจากซองรักแร้ ซ้าย


ปลายประบอกเล็งยังไปจุดที่เด็กสาวผมไวน์ แดงเคยยืน
ทว่ า เซเลน่ ากาลังนอนฟุบบนพื้น ข้ างลาตัวมีกระจกเคลือบเงิน
หล่นแตกกระจายเป็ นเศษเล็กเศษน้ อยบนพรมในลักษณะหงายขึน้

ภาพบนบานกระจกไม่ ใช่ เซเลน่ าร่ างชั่วร้ ายอย่ างเคย แต่ เป็ นภาพ
ไคลน์ และผนังเพดานตามปรกติ

มันรีบเปิ ดเนตรวิญญาณเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ ซึ่งผลลัพธ์


เป็ นไปตาดคาด ออร่ าสี เขียวอมดาที่เคยครอบงาเด็กสาวไม่
หลงเหลืออยู่อีก แต่ สภาพร่ างกายของเซเลน่ า·วู้ดอ่อนแอลงอย่ าง
ชัดเจน

ฟู่ ว…

ไคลน์ อมยิม้ ด้ วยสี หน้ าผ่ อนคลาย

ทันใดนั้น หว่ างคิว้ และทั่วศีรษะพลันรู้สึกปวดแปลบอย่ าง


ผิดปรกติ

ความเจ็บปวดเริ่มแผ่ ซ่านทั่วลาตัว เรี่ยวแรงแทบไม่ หลงเหลือ


มันต้ องการทิง้ ตัวลงนอนให้ ร้ ูแล้วรู้รอด

ไคลน์ กาหมัดแน่ น เส้ นเลือดบนหลังมือเกิดการปูดโปนผิดแผก


จากปรกติ สี ของมันแดงเข้ มจนเกือบดา แถมยังยุบพองตลอดเวลา
คล้ายกับตัวหนอนที่มีชีวิต
เสี ยงกระซิบแหบพร่ าดังกังกาลทั่วห้ วงจิตตลอดเวลา คล้ายกับ
หัวสมองจวนเจียนระเบิด

ผ่ านไปนานราวยี่สิบวินาที กว่ าที่อาการผิดปรกติสุดบัดซบจะจบ


ลง หน้ าผากและแผ่ นหลังของมันชุ่ มไปด้ วยเหงื่อไคลเย็นยะเยียบ

พลังวิญญาณของตนหมดลงในพริบตาเพราะพิธีกรรมเวท
มนตร์ เมื่อครู่ง้นั หรื อ?
แถมยังเกือบคลุ้มคลั่ง…

ไคลน์ พยายามสรุปหาเหตุผล

แต่ เหตุการณ์ เมื่อครู่ก็ทาให้ มนั่ ใจ ว่ าตัวมันย่ อยโอสถนักทานาย


สาเร็จไปแล้วหลายส่ วน เพราะหากประกอบพิธกี รรมดังกล่าวสมัย
ยังเป็ นนักทานายได้ ไม่ นาน ไคลน์ มั่นใจว่ าตนต้ องกลายร่ างเป็ น
สั ตว์ ประหลาดคลุ้มคลั่งแน่ นอน

ดูเหมือนเทคนิคสวมบทบาทจะได้ ผลมากกว่ าที่คิด…

ไคลน์ พมึ พาพลางแตะหว่ างคิว้ สองครั้งและปาดเหงื่อด้ วยสี หน้ า


โล่งอก
มันเดินกลับไปยังโต๊ ะแทนบูชาพร้ อมกับทาสั ญลักษณ์ ที่หน้ าอกสี่
จุด

“เทพธิดาจงเจริญ…”

ถัดมา ไคลน์ รีบเก็บข้ าวของกลับที่เดิมและจัดการโต๊ ะแท่ นบูชา


ให้ เรียบร้ อย อุปกรณ์ ท้งั หมดถูกวางในจุดเก่าเพื่อไม่ ให้ เซเลน่ า
สงสั ย ก่อนจะใช้ มีดเงินกรีดเฉื อนกาแพงวิญญาณทิง้

ฟ้ าววว
สายลมรุนแรงเกรี้ยวกราดสั กพักก่อนสลายตัวไป มันถอนหายใจ
ยาว ฝ่ ามือยังคงปรากฏอาการสั่ นระริกให้ เห็น

ถ้ าไม่ เพราะเราเคยดัดแปลงพิธีกรรมมาก่อน ถ้ าไม่ เพราะเรามี


พลังวิญญาณมากพอ ผลลัพธ์ คงไม่ ลงเอยราบรื่ นเช่ นนี้แน่ …

แถมไคลน์ ยังไม่ ทราบด้ วยซ้าว่ าวิญญาณชั่วร้ ายอีกฝ่ ายเป็ น


ใคร…

โชคดีจริง…

โชคดีที่ห้องนีม้ ีพรม ชุดตัวใหม่ ของมันจึงไม่ สกปรกในตอนที่


กลิง้ ตัว!
มันส่ ายศีรษะพร้ อมกับเดินไปเปิ ดประตูห้องนอน
“เป็ นยังไงบ้ างคะ?”

อลิซาเบธผงะถอยหลังสองก้าวก่ อนจะถามด้ วยสี หน้ ากังวล

ไคลน์ มองเข้ าไปในดวงตาที่สั่นกลัวของเด็กสาวแก้ มยุ้ย ชาย


หนุ่มถอดหมวกออกและโน้ มตัวไปด้ านหน้ าด้ วยมาดสุ ภาพบุรุษ

“ปัญหาที่เกิดจากการทานายกระจกวิเศษ ฉันแก้ไขมันเรียบร้ อย
แล้ว”
ราชันย์ เร้ นลับ 87 : โน้ มน้ าว

“ถูกแก้ไขแล้วหรื อคะ?”

อลิซาเบธยังคงมีสีหน้ าเคลือบแคลง

ไคลน์ ยมิ้ พร้ อมกับผงกศีีรษะ

“แน่ นอน… ไม่ ได้ ยากอย่ างที่คิด”

ท่ อนหลังไม่ จริงนะ… ไคลน์ ตัดพ้อ

บางที อาจเป็ นเพราะไคลน์ แสดงสี หน้ าใจเย็นตลอดเวลา หรื อ


อาจเป็ นเพราะมันคือความหวังเดียวที่อลิซาเบธเหลืออยู่

ไม่ ว่าจะอย่ างไหน แต่ เด็กสาวแก้มยุ้ยก็เชื่ อคาพูดไคลน์ โดยไม่


เคลือบแคลง เธอถอนหายใจยาวด้ วยสี หน้ าผ่ อนคลายสุ ดขีด

“ขอบคุณมากค่ ะ… สมกับที่เป็ นพีช่ ายของเมลิสซ่ า พึง่ พาได้


อย่ างที่คิด ส่ วนฉันเอาแต่ หวาดกลัวจนทาอะไรไม่ ถูก

“แล้ว… อาการเซเลน่ าเป็ นอย่ างไรบ้ างคะ? เธอปลอดภัยไหม?”


“เธอคงหมดสติไปอีกหลายนาที และหลังจากตื่นขึน้ ร่ างกายจะ
อ่อนเพลียไปอีกสองถึงสามวัน”

เมื่อกล่าวจบ ไคลน์ แสดงสี หน้ าดามืด

“ว่ าแต่ ใครเป็ นคนสอนศาสตร์ เร้ นลับให้ เซเลน่ า? ทาไมถึงไม่


ยอมกาชับข้ อห้ ามพื้นฐาน”

อลิซาเบธก้มหน้ ารู้สึกผิด คล้ายกับเธอกาลังถูกครูดุในคาบเรียน

เด็กสาวครุ่นคิดสั กพัก

“เซเลน่ าเคยเล่าว่ า ผู้ที่สอนศาสตร์ เร้ นลับให้ เธอคือเฮเนส·วิน


เซนต์ เซเลน่ าพบเข้ าโดยบังเอิญเมื่อราวหนึ่งปี ก่อน ที่สโมสร
พยากรณ์ เมืองทิงเก็น”

เฮเนส·วินเซนต์ …

เทคนิคทานายด้ วยกระจกวิเศษ ตอนที่อยู่สโมสรพยากรณ์ หมอ


นั่นสอนเพียงผิวเผินด้ วยวิธีปลอดภัย แต่ ความจริงกลับแอบสอน
วิธีชั่วร้ ายลับหลังให้ เด็กสาวงั้นหรื อ?

ไคลน์ นึกเสี ยดาย ตนน่ าจะรีบแจ้ งให้ หัวหน้ าทราบตั้งแต่ วันนั้น


จะได้ บุกรุกความฝันและตรวจสอบหาข้ อเท็จจริงเบื้องหลัง
ขณะรู้สึกเจ็บใจ มันเงยหน้ าถามอลิซาเบธ
“เฮเนสเป็ นคนสอนเทคนิคทานายกระจกวิเศษให้ เซเลน่ าด้ วยใช่
ไหม?”

ร่ างกายไคลน์ ยังไม่ หยุดสั่ น ภัยอันตรายในหนนีค้ ุกคามใกล้ชิด


น้ องสาวตนมาก ห่ างเพียงแค่ นิดเดียวเท่ านั้น…

อลิซาเบธพยักหน้ ายืนยัน

“ใช่ ค่ะ เซเลน่ าบอกด้ วยว่ า เธอเคยทดสอบทานายด้ วยกระจก


วิเศษหลายหนแล้ว แต่ ไม่ มีครั้งไหนที่สาเร็จ จนกระทั่งเซเลน่ าแอบ
ดูอาจารย์ ทาพิธี จึงจาบทคาถามาท่ องตาม”

สรุปก็คือ… หล่อนเชี่ยวชาญด้ านการรนหาที่ตายสิ นะ

ไคลน์ บีบนวดขมับด้ วยสี หน้ าจนปัญญา ความอยากรู้อยากเห็น


ของเด็กสาวทาให้ เมลิสซ่ าเกือบได้ รับอันตรายถึงชีวิต

“เธอจาคาถาที่เซเลน่ าท่ องได้ ไหม?”

ถึงเฮเนส·วินเซนต์ จะไม่ ได้ ต้ังใจสอน แต่ ก็ปฏิเสธไม่ ได้ ว่า ตัวมัน


พยายามประกอบพิธีกรรมต้ องห้ ามอันตราย หากปล่อยไว้ ไม่ ช้าก็
เร็วต้ องมีบุคคลเดือดร้ อนอีกแน่
“จาได้ บางส่ วนค่ ะ…”
อลิซาเบธนึกทบทวน

“เธอท่ องเป็ นภาษาเฮอร์ มิส คุณก็ทราบว่ าฉันเพิง่ ได้ เรียนเฮอร์


มิสได้ ไม่ นาน คาสาคัญที่จาได้ มีแค่ ‘สั่ นคลอน’ ‘ดวงวิญญาณสู ง
สง่ า’ ‘พระผู้สร้ าง’ และ ‘ความห่ วงใย’”

พระผู้สร้ าง? พระผู้สร้ างต้ นกาเนิด?

จากเอกสารของเหยี่ยวราตรี มีหลายองค์ กรลับที่นับถือและบูชา


ในตัวเทพนอกรีตองค์ นี้

แต่ กระแสกลับเพิง่ เกิดขึน้ เมื่อราวหนึ่งพันปี ก่อนเท่ านั้น หรื อ


ช่ วงต้ นยุคสมัยที่ห้า นับว่ าสั้ นกว่ าเทพเจ็ดองค์ หลักค่ อนข้ างมาก

ไคลน์ พยักหน้ าเบาๆ

“หลังจากเธอตื่นแล้ว อย่ าลืมหลอกถามคาถาเต็มที่เซเลน่ าท่ อง


ด้ วย และหาโอกาสแจ้ งให้ ฉันทราบ”

“ได้ ค่ะ”

อลิซาเบธรับปากโดยไม่ ลังเล
ก่อนที่เธอจะถามต่ อด้ วยสี หน้ าเป็ นกังวล
“มิสเตอร์ โมเร็ตติ ทาไมคุณถึงไม่ ถามเธอโดยตรงคะ?”

“เพราะไม่ ต้องการให้ เมลิสซ่ าทราบ ว่ าตัวฉันแอบหลงไหลใน


ศาสตร์ เร้ นลับ รบกวนเธอช่ วยปิ ดเป็ นความลับทีนะ”

อลิซาเบธกัดริมฝี ปากเบาๆ ดวงตาของเด็กสาวเริ่มส่ องประกาย

“ไม่ มีปัญหาค่ ะ เมลิสซ่ าหลงไหลกลไก ไม่ ใช่ ศาสตร์ เร้ นลับ เธอ
เชื่ อในหลักเหตุผลมากกว่ าสั ญชาตญาณ”

ไคลน์ นาหมวกมาวางบนหน้ าอก พร้ อมกับโค้ งศีรษะคานับเด็ก


สาว

“ขอบคุณที่เข้ าใจ สาหรับเซเลน่ า เธอเองก็น่าจะทราบใช่ ไหม ว่ า


เซเลน่ าเป็ นคนเก็บความลับไม่ เก่ง”

“พูดให้ ถูกกว่ านั้นคือ เซเลน่ าชอบนาความลับมาแบ่ งปันในหมู่


เพื่อนฝูง”

อลิซาเบธเสริิมไปในแนวทางเดียวกัน

ไคลน์ สวมหมวกกลับ มันครุ่นคิดสั กพักก่อนจะพูดต่ อ


“หลังจากเซเลน่ าตื่นแล้ว อย่ าลืมอธิบายเธอไปว่ า หล่อนหมดสติ
กระทันหันจนทาให้ กระจกในมือหล่นแตก

“ส่ วนเรื่ องความทรงจา ฉันคิดว่ าเธอน่ าจาเหตุการณ์ นับตั้งแต่


เริ่มพิธีกรรมทานายกระจกวิเศษไม่ ได้ ”

เมื่อเห็นอลิซาเบธพยักหน้ าอย่ างว่ าง่ าย มันกล่ าวเสริมยา้ อีกหน

“จาเอาไว้ ให้ ดี… ทุกครั้งที่ประกอบพิธีกรรมเวทมนตร์ ห้ ามท่ อง


คาถาเอ่ยถึงบุคคลอื่นนอกจากเจ็ดเทพจารีตเด็ดขาด! นี่คือหลัก
สากลที่ห้ามละเมิดด้ วยประการทั้งปวง และถ้ ามีใครพยายามทา
เธอต้ องอยู่ให้ ไกลจากมันมากที่สุด

“ถ้ าฉันไม่ เอะใจเรื่ องนี…


้ อีกภายในไม่ ถึงสิ บนาที เซเลน่ าจะ
กลายเป็ นสั ตว์ ประหลาดชั่วร้ ายและฆ่ าทุกคนภายในบ้ าน
แม้ กระทั่งตัวฉันด้ วย”

เมื่อหวนนึกถึงภาพเซเลน่ าชั่วร้ ายภายในบานกระจก อลิซาเบธ


เชื่ อคาพูดไคลน์ หมดหัวใจ เธอถอนหายใจด้ วยร่ างกายที่ยังสั่ น

“เข้ าใจแล้วค่ ะ ฉันจะจาใส่ ใจไว้ และคอยจับตามองพฤติกรรม


ของเซเลน่ า”

“ดีมาก… ฝากอยู่ดูแลเซเลน่ าจนกว่ าเธอจะฟื้ นด้ วยนะ”


ไคลน์ กล่าว พร้ อมกับถือไม้ คา้ เลี่ยมเงินเดินลงบันไดไป
ขณะเดิน สี หน้ าของมันพลันดามืด ไคลน์ หยิบเหรียญเพนนีออก
มาดีดขึน้ ไปในอากาศ

“เซเลน่ าปลอดภัยแล้ว”

“เซเลน่ าปลอดภัยแล้ว”


เมื่อครบเจ็ดครั้ง มันใช้ หลังมือรับเหรียญเพนนีที่ร่วงหล่น แล้วก็
ได้ เห็นใบหน้ าของพระราชาจอร์ จที่สามปรากฏ

ออกหัว…

เมื่อครู่ไม่ ใช่ การทานายด้ วยลูกตุ้มวิญญาณธรรมดา แต่ เป็ น


เทคนิคชั้นสู งของการทานายความฝัน

ในวินาทีที่เหรียญลอยขึน้ ฟ้ า ไคลน์ เข้ าฌานและบังคับให้ ตัวเอง


หลับฝันชั่วขณะ พร้ อมกับส่ งพลังวิญญาณเข้ าไปในเหรียญ

เหรียญเพนนีกลายเป็ นสื่ อกลางระหว่ างโลกวิญญาณและไคลน์


ตัวตนภายในโลกวิญญาณคือผู้มอบคาตอบ โดยการบังคับให้
เหรียญออกหัวหรื อก้อย
หัวหมายถึงใช่ และก้อยหมายถึงไม่

ปัญหาทุกอย่ างคงคลี่คลายแล้ว…

ไคลน์ ใช้ นวิ้ ควงเหรียญเล่นพลางอมยิม้

เทคนิคทานายระดับนี้ มีเพียงนักทานายตัวจริงเท่ านั้นที่เข้ าถึง


ไม่ ว่าผู้วิเศษเส้ นทางอื่นจะแข็งแกร่ งเพียงใด

อลิซาเบธเฝ้ามองไคลน์ ไม่ กระพริบตา เธอเห็นชายหนุ่มโยน


เหรียญขึน้ ฟ้ าและใช้ หลังมือรับไว้

เมื่อแผ่ นหลังไคลน์ ลับสายตาไป เด็กสาวรีบเข้ าไปในห้ องนอน


เซเลน่ า เธอได้ เห็นเพื่อนสนิทกับกาลังฟุบอยู่บนพื้นโดยมีเศษกระ
ตกแตกข้ างลาตัว

อลิซาเบธเดินเขย่ งปลายเท้ าเข้ าไปในห้ องเพราะกลัวเศษกระจก


บาด เธอกลั้นใจมองเข้ าไปในบานกระจกที่แตกละเอียด

อลิซาเบธกังวลว่ าตนจะได้ พบเซเลน่ าที่มีใบหน้ าเย็นชาอีกครั้ง


แต่ โชคดีที่ไม่ มีเพียงภาพสะท้ อนของเพดาน
ฟู่ ว… เด็กสาวพ่นลมหายใจผ่ อนคลาย
หลังจากพยายามอุ้มเซเลน่ าขึน้ เตียงหลายครั้ง อลิซาเบธพบว่ า
ตนมีแรงไม่ มากพอ จึงตัดสิ นใจใช้ มือเขย่ าตัวให้ เซเลน่ าตื่น

“อลิซาเบธเองหรื อ…? เกิดอะไรขึน้ กับฉัน? นี่ฉันเมาหลับไป?”

เซเลน่ าลืมตาตื่นด้ วยสภาพอ่ อนเพลีย ประกายแววตามัวหมอง


ลงเล็กน้ อย แต่ บนใบหน้ าเจือความฉงนชัดเจน

อลิซาเบธครุ่นคิดสั กพัก ก่อนตัดสิ นใจเล่าความจริง

“เธอไม่ ได้ เมา แต่ การทานายกระจกวิเศษเกิดปัญหาร้ ายแรงขึน้


มันเชื่ อมต่ อกับดวงวิญญาณชั่วร้ าย”

“งั้นหรอกหรื อ…”

เซเลน่ าเดินไปที่เตียงโดยมีอลิซาเบธช่ วยพยุง เด็กสาวผมไวน์


แดงใช้ นวิ้ บีบนวดขมับเพื่อบรรเทาความปวด

“ฉันจาอะไรไม่ ได้ เลย นับตั้งแต่ เริ่มทาพิธีกรรมกระจกวิเศษ”

อลิซาเบธเล่าต่ อ แต่ ด้วยความจริงเพียงครึ่งเดียว

“เธอกลายเป็ นคนละคนหลังจากทาพิธี แถมกระจกยังสะท้ อน


ภาพตัวเธอที่ไม่ เหมือนกับเธอเลยสั กนิด… ฉันกลัวมาก จึงหา
ข้ ออ้างชวนเธอมาที่ห้องนอน ก่อนจะฉวยโอกาสแย่ งกระจกและ
ขว้ างลงพื้นให้ มันแตก

“จากนั้น… เธอก็สลบไปทันที

“เซเลน่ า เธอเป็ นปรกติหรื อยัง?”

“ฉ…ฉันจาอะไรไม่ ได้ เลย”

เซเลน่ าพึมพาด้ วยสี หน้ าขาวซีด

ยิ่งพยายามนึกเค้ นความทรงจา เธอก็ยิ่งค้ นพบความว่ างเปล่า


และนั่นทาให้ เซเลน่ ารู้สึกหวาดผวา

ทันใดนั้น สายตาเด็กสาวผมไวน์ แดงพลันเหลือบมองไปยังกล่อง


วัตถุดิบบนโต๊ ะ และพบว่ ามีบางจุดขยับเขยื้อนผิดปรกติ

เกิดอะไรขึน้ กันแน่ …

เซเลน่ าฝื นนึกให้ ออก จนกระทั่งเธอมองเห็นภาพเลือนลางของ


บุรุษใส่ สูทดาและสวมหมวก ร่ างกายมิได้ สูงใหญ่ หรื อกายา แต่ แผ่ น
หลังของเขามอบความรู้สึกอบอุ่น

“เซเลน่ า”
อลิซาเบธกล่าวด้ วยสี หน้ าขึงขัง

“ฉันได้ ยินมาจากผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ เร้ นลับที่ตลาดมืดค้ าของ


วิเศษ เขาระบุว่า ห้ ามประกอบพิธีกรรมโดยเอ่ยถึงบุคคลอื่น
นอกจากเจ็ดเทพจารีตด้ วยประการทั้งปวง ไม่ อย่ างนั้น ภัยอันตราย
จะมาเยือนแบบไม่ ร้ ูตัว

“สั ญญากับฉัน… ว่ าเธอจะไม่ ทาแบบนีอ้ ีก หากมีคราวหน้ า ฉัน


อาจช่ วยไว้ ไม่ สาเร็จ และพวกเราจะต้ องตายกันหมด”
เซเลน่ าเริ่มหวาดกลัว เธอรีบพยักหน้ าอย่ างไม่ มีทางเลือก

“ไม่ เอาอีกแล้ว… เรื่ องอันตรายแบบนี”้

“แล้วเธอยังจาคาถาได้ ไหม?

“ถ้ าฉันมีโอกาสได้ พบผู้เชี่ยวชาญคนนั้น จะได้ นาไปปรึกษากับ


เขา เผื่ออาจเกิดปัญญาตามมาในภายหลัง”

เซเลน่ าพึมพาพลางใช้ มือนวดขมับ

“ดวงวิญญาณสู งสง่ าที่สามารถสั่ นคลอนโลกา พระผู้สร้ างที่มีแต่


ความห่ วงใย พระเนตรที่สามารถมองทะลุโชคชะตา”

แปะ แปะ แปะ

ไคลน์ รีดรอยยับเสื้ อผ้ าพร้ อมกับใช้ มือปัดฝุ่ นออก ก่อนจะเดินลง


ไปชั้นล่างราวกับไม่ มีสิ่งใดเกิดขึน้

มันถอดหมวกออกหลังจากเดินถึงโต๊ ะทานอาหารยาวที่ถูกใช้
เป็ นสถานที่เล่นไพ่

“คุณไปไหนมาหรื อ? สิ บนาทีเห็นจะได้ ”

พีส่ าวของเซเลน่ า คริส ถามพลางกอดอก

ไคลน์ ยมิ้

“ไปเข้ าห้ องน้า จากนั้นก็เดินขึน้ ไปชั้นบนเพื่อทาความรู้จักกับ


เหล่าสุ ภาพสตรี”

“ผมชอบความซื่ อตรง”

คริสยิม้

ชายคนนีไ้ ด้ รับพันธุกรรมครอบครัวมาครบถ้ วน ผมสี ไวน์ แดง


ร่ างเล็กสั นทัด บนใบหน้ าสวมแว่ นตากรอบทอง ส่ งเสริมบุคลิกได้
ไม่ เลว
เป็ นธรรมดาของทนายความ

คริส… นายต้ องไม่ เชื่ อแน่ ว่ าฉันเพิง่ ซัดน้ องสาวนายสลบไปเมื่อ


ครู่

ไคลน์ กล่าวติดตลกในใจ

“ผมแค่ พูดคุยด้ านวิชาการเล็กน้ อย”


วิชาศาสตร์ เร้ นลับ…

เมื่อนั่งลงบนเก้าอีต้ ัวเดิม ไคลน์ นาหมวกมาวางไว้ บนตักและเอน


หลังพิงด้ วยท่ าทีผ่อนคลาย

หลังจากเกมโปเกอร์ เท็กซัสรอบใหม่ วนมาถึง มันรับไพ่ สองใบ


เพื่อเล่นต่ อ

ไคลน์ แอบพลิกมุมไพ่สารวจ มันเหลือบเห็นคิงโพธิ์ดาและเอซ


ข้ าวหลามตัด

ดวงดีขนึ้ ทันตาเห็น…

ผลตอบแทนจากการทาความดีง้ันหรื อ?
ไคลน์ อมยิม้ พร้ อมกับหยิบเหรียญเพื่อเตรียมเพิม่ วงเงินเดิมพัน
ในรอบนี้

ในเมื่อเฮเนส·วินเซนต์ ไม่ ได้ มีเจตนาสอนพิธีกรรมชั่วร้ ายให้ เซเล


น่ า ตนไม่ มีความจาเป็ นต้ องรีบร้ อนกลับไปแจ้ งให้ หัวหน้ าทราบ

ในรอบถัดๆ ไป ไคลน์ ยังคงรักษารูปแบบการเล่นที่ไม่ ประมาท


หากไพ่ออกมาแย่ มันจะไม่ เสี่ ยงบลัฟเด็ดขาด

อาจชนะไม่ บ่อย แต่ หักลบกับเงินที่เสี ยไปก็ช่วยให้ ไม่ ขาดทุน

หลังเล่นจากไพ่โปเกอร์ จบในเวลาสี่ ท่ มุ ครึ่ง ไคลน์ ได้ กาไร


ทั้งหมดหกเพนนี

“ฉันได้ สองซูล หกเพนนี”

เบ็นสั นอวดธนบัตรในมือ

“ไม่ เคยรู้ว่ามาก่อนว่ านายเป็ นผู้เชี่ยวชาญโปเกอร์ เท็กซัส”

ไคลน์ ชมด้ วยรอยยิม้


“ฉันเล่นไม่ บ่อย แต่ จับหลักการของมันได้ ไพ่โปเกอร์ คล้ายคลึง
กับการเจรจาต่ อรอง ห้ ามให้ อีกฝ่ ายรู้ว่าเรามีอะไร พยายามเดาใจอีก
ฝ่ ายให้ ถูก จากนั้นก็ใช้ วาทะอันคมคายบีบให้ ทางนั้นหวาดกลัว…”

ยังไม่ ทันที่เบ็นสั นจะโม้ จบ มันเหลือบเห็นเมลิสซ่ าและเด็กสาวที่


เหลือเดินลงมาจากชั้นสอง

“ถึงเวลากลับบ้ านแล้วสิ นะ”

ไคลน์ พูดขณะยืนมองน้ องสาวและเพื่อนของเธอเกาะราวบันได


เดินลง มันยังคงใช้ ฝ่ามือนวดคลึงอาการปวดบริเวณขมับที่เหลือ
ตกค้ าง

จากนั้น ไคลน์ มองตาอลิซาเบธและพูดกับเมลิสซ่ าเสี ยงดังเป็ น


เชิงส่ งสั ญญาณว่ า—ตนขอเข้ าห้ องน้าก่อนกลับ

เมื่อคนทั้งสองเดินสวนกัน อลิซาเบธรีบบอกใบ้ คาถาบทเต็มให้


ไคลน์

หลังจากกลับมาหาสองพี่น้อง มันแสร้ งทาเป็ นฉุกคิดบางสิ่ งได้

“จริงด้ วย… ฉันมีธุระที่สานักงาน ก่อนกลับบ้ าน พวกเราแวะ


ถนนซุตแลนสั กครู่ได้ ไหม? สั ญญาว่ าใช้ เวลาไม่ นาน”
ราชันย์ เร้ นลับ 88 : รายงาน

“ธุระ?”

เบ็นสั นถามด้ วยสี หน้ าสงสั ย

ด้ านเมลิสซ่ าก็จ้องมองไม่ ต่างกัน เธอรู้สึกว่ าวันนี้ไคลน์ ทาตัว


แปลกไปจากปรกติ แต่ ก็ยังแปลกน้ อยกว่ าอลิซาเบธและเซเลน่ า

ไคลน์ อมยิม้ มันอธิบายด้ วยข้ ออ้างที่เตรียมไว้ ล่วงหน้ า

“มีเอกสารโบราณบางฉบับที่แสดงรายละเอียดผิด ฉันสั ญญากับ


เพื่อนร่ วมงานว่ าจะรีบแก้ และส่ งให้ ทันตอนเช้ า ดังนั้นจึงมีตัวเลือก
แค่ สองข้ อ ทางแรกคือ รีบแก้ตอนนีแ้ ละนอนหลับฝันดี กับทางที่
สอง รีบตื่นก่อนปรกติหนึ่งชั่วโมงครึ่งเพื่อไปแก้งานที่บริษัท…

“ฉันคิดว่ าแบบแรกเหมาะกว่ า”

“กะแล้วเชียว จิตใจของนายไม่ อยู่กับโปเกอร์ เลย ที่แท้ ก็เป็ นห่ วง


งานนี่เอง”

เบ็นสั นยิม้ เมื่อคลายข้ อสงสั ย

“ไม่ สิ ฉันต้ องขอโทษนายด้ วยซ้า การชวนเล่นโปเกอร์ คงทาให้


ต้ องใช้ ความคิดมากกว่ าปรกติสินะ”
“ตกลง พวกเราจะรอนาย”

เมลิสซ่ ามองออกไปนอกบ้ าน พร้ อมกับขจัดข้ อข้ องใจที่มีต่อ


ไคลน์

ปัจจุบันเป็ นเวลาเกือบห้ าทุ่ม เลยเวลาวิ่งรถม้ าสาธารณะแล้ว ทั้ง


แบบรางและไร้ ราง ตัวเลือกเดียวจึงเป็ นรถม้ าแบบส่ วนตัว
ค่ าบริการอยู่ที่สองซูลต่ อ 45 นาที
สามพีน่ ้ องโบกมือลาเจ้ าของบ้ านและเดินไปขึน้ รถม้ าที่จอดอยู่
ไม่ ไกล

“ฉันได้ ยินมาว่ า รถม้ าส่ วนตัวชอบโขกสั บราคาเกินจริงไปมาก”

เบ็นสั นพูดเสี ยงค่ อย มันค่ อนข้ างหงุดหงิดที่กาไรจากไพ่โปเกอร์


พลันสู ญสลายในพริบตา

ไคลน์ ยมิ้

“เป็ นราคาที่สมเหตุสมผลแล้ ว เพราะนี่ก็เกือบห้ าทุ่ม ให้ เดินกลับ


เองคงไม่ ดีแน่ ”

“ล้อเล่นน่ า ฉันแค่ คิดว่ า ถ้ ามีแขกคนอื่นร่ วมทางกลับด้ วยกันก็คง


จะดี สี่ สิบห้ านาทีสามารถไปส่ งได้ ต้งั หลายบ้ าน”
เบ็นสั นพูดขณะมองผ่ านกระจกหน้ าต่ างห้ องโดยสารรถม้ า
สายตาชาเลืองกลุ่มแขกงานเลีย้ งที่แยกย้ ายขึน้ รถม้ ากลับบ้ าน

ช่ วยกันหารสิ นะ…

ไคลน์ ใช้ มือซ้ ายลูบคลาไม้ คา้ เลี่ยมเงินและเงยหน้ าพูดกับเบ็นสั น

“พวกเราไม่ มีปัญหาก็จริง แต่ คนอื่นมีแน่ ครอบครัวพวกเขา


พยายามรักษาภาพลักษณ์ ให้ เป็ นที่นับหน้ าถือตา คงไม่ ยอมร่ วม
ทางให้ เสื่ อมเสี ยชื่ อเสี ยง… ดูเหมือนครอบครัวชนชั้นกลางจะเป็ น
แบบนีก้ ันหมด”

“หืม”

เบ็นสั นพยักหน้ าเห็นด้ วย

“ตระกูลวู้ดใช้ จ่ายหรูหราเกินตัวกว่ าที่ฉันคิดไว้ มาก ทั้งที่รายได้


รวมของครอบครัวตกเพียงสั ปดาห์ ละสี่ ปอนด์ เท่ านั้น…

“ดูเหมือนความต้ องการ‘ถูกนับหน้ าถือตา’ จะเป็ นเส้ นแบ่ งบางๆ


ระหว่ างชนชั้นกลางกับลิงบาบูนขนหยิกสิ นะ”
นายเป็ นอะไรกับลิงบาบูนขนหยิกมากไหม
ไคลน์ หัวเราะชอบใจ

เมลิสซ่ าไม่ กล่าวสิ่ งใด ตั้งแต่ ก้นสั มผัสกับเบาะรถม้ า เธอเอาแต่


สารวจไคลน์ เป็ นระยะด้ วยสายตาเย็นชา ทาเอาคนถูกจ้ องเสี ยวไป
ถึงสั นหลัง

ท่ ามกลางถนนที่ค่อนข้ างเงียบและมืด รถม้ าแล่ นด้ วยความเร็ว


สู งจนถึงถนนซุตแลนภายในยี่สิบนาที
“รอฉันที่นี่ก่อน ไม่ เกินห้ านาทีแน่ นอน”

ไคลน์ เน้ นยา ก่อนจะสวมหมวกและถือไม้ คา้ เดินลงจากรถม้ าเช่ า

ในเมื่อรถม้ าถูกคิดค่ าบริการตามเวลา ไม่ ใช่ ระยะทาง คนขับจึง


ชอบใจที่ลูกค้ าต้ องการให้ จอดนิ่งๆ

หลังจากจา้ เท้ าขึน้ ไปบนชั้นสอง มันใช้ มือเคาะประตูสานักงาน


บริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ

ผ่ านไปราวสิ บวินาที ใครบางคนเดินมาเปิ ดประตูให้ ไคลน์

เลียวนาร์ ด·มิเชล มันสวมเชิ้ตและเสื้ อกั๊ก


“คุณมีเวรด้ วยหรื อ?”
เลียวนาร์ ดขมวดคิว้ ถาม

สาหรับไคลน์ นอกเหนือจากเวรยามเฝ้าประตูยานิสสั บดาห์ ละ


ครั้ง ตารางงานที่เหลือจะคล้ายกับพนักงานปรกติ คือการอยู่เวร
ทั่วไปตอนกลางวัน ส่ วนเวรยามกลางคืนจะเป็ นหน้ าที่ของผู้ไร้
หลับ พวกมันชื่ นชอบยามวิกาลเหนือสิ่ งอื่นใด

แต่ ว่า การนอนแค่ วันละสองชั่วโมงจะทาให้ หัวล้านและความจา


เสื่ อม

ดูอย่ างหัวหน้ าเป็ นต้ น… ไคลน์ นินทาในใจ

“ผมมีบางสิ่ งต้ องรายงานหัวหน้ า”

ไคลน์ ตอบห้ วน

“ภารกิจ?”

เลียวนาร์ ดยังคงถาม แต่ มันขยับตัวเปิ ดทางให้ ไคลน์ เดินเข้ าไป

เมื่อเข้ าไปในห้ องรับแขก มันชาเลืองเห็นดันน์ เดินผ่ านฉากกั้น


เข้ ามาในห้ อง ฝ่ ายนั้นสวมเสื้ อกันลมสี ดาตัวเก่งเหมือนทุกครั้ง
“หัวหน้ า ผมเข้ าไปยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ เหนือธรรมชาติโดย
บังเอิญ”

“เล่ามา”

ดันน์ ไม่ อ้อมค้ อม

ไคลน์ เล่าเกริ่นตั้งแต่ ต้นจนจบ รวมถึงวิธีการที่ตนใช้ แก้ ไขปัญหา


“…ผมจึงคิดว่ า พวกเราควรเริ่มสื บสวนเฮเนส·วินเซนต์ ”

ย้ อนกลับไปในเหตุการณ์ ไคลน์ ประเมินแล้วว่ า ตัวตนชั่วร้ ายไม่


กล้ากลายร่ างเป็ นสั ตว์ ประหลาดและออกอาละวาดสุ่ มสี่ ส่ ุ มห้ าแน่

หลักฐานก็คือ มันเอาแต่ แสร้ งทาตัวเป็ นเด็กสาวไร้ เดียงสา


ตลอดเวลา สิ่ งนีห้ มายถึง พลังวิญญาณของมันกาลังอยู่ในภาวะ
ฟื้ นฟู ต้ องใช้ เวลาอีกพอสมควรกว่ าจะสาแดงเดช

และเป็ นเหตุผลทีอ่ ลิซาเบธสามารถหลอกล่อเซเลน่ ามายัง


ห้ องนอนได้ ราบรื่ น

“คุณทาได้ ดีมาก ชิงลงมือก่อนที่ตัวตนชั่วร้ ายจะยึดครองร่ างเด็ก


สาว และฟื้ นฟูพลังวิญญาณกลับมาอย่ างสมบูรณ์ ”
ดันน์ กล่าวกับไคลน์ ด้วยเสี ยงราบเรียบ

“ทีเ่ หลือให้ เราจัดการเอง คุณกลับไปพักผ่ อนที่บ้านเถอะ”

ชายหนุ่มถอนหายใจด้ วยสี หน้ าโล่ งอก

“ผมนึกว่ าคุณจะใช้ ภารกิจนีเ้ ป็ นบททดสอบรับน้ องเสี ยอีก คิดว่ า


จะปล่อยให้ ผมลุยเดี่ยวตามลาพังกับเฮเนส·วินเซนต์ ”

จากคาถาที่อลิซาเบธท่ องให้ ฟัง มีความเป็ นไปได้ สูงว่ า ตัวตนชั่ว


ร้ ายที่เฮเนส·วินเซนต์ แอบติดต่ อ จะเป็ นบุคคลอันตรายเหนือ
จินตนาการ

“นั่นเพราะคุณถูกกาหนดให้ ต้องไปทาภารกิจอื่นแล้ว”

นักกวีเลียวนาร์ ดพูดแทรกพลางยืนหัวเราะอยู่ด้านข้ าง

“อะไรนะ?”

ดันน์ อมยิม้ ก่อนจะอธิบายเชิงปลอบใจ

“ประมาณหนึ่งทุ่มของวันนี้ ทางกรมตารวจไหว้ วานภารกิจ


ทั่วไปมาให้ เหยี่ยวราตรีช่วยเหลือ ผมประเมินแล้วว่ าปราศจาก
สั ญญาณอันตราย จึงมอบหมายให้ คุณจัดการตามลาพัง
“รายละเอียดไว้ ค่อยฟังพรุ่งนีท้ ีเดียว… ส่ วนวันหยุดของคุณต้ อง
ถูกเลื่อนไปเป็ นอังคารหรื อพุธแทน ขอให้ คืนนีห้ ลับฝันดี”

หัวหน้ า… แบบนั้นผมก็นอนไม่ พอกันพอดี

แถมพรุ่งนีเ้ ป็ นวันจันทร์ ผมมีนัดจัดชุ มนุมไพ่ทาโร่ ต์ในช่ วงบ่ าย


นะ

ตนควรส่ งข้ อความหาแฮงแมนและจัสติสเพื่อแจ้ งยกเลิกชุมนุมดี


ไหม?

ไม่ ดีกว่ า… ไคลน์ ส่ายศีรษะเบาๆ ก่อนกล่าวคาอาลากับดันน์ และ


เลียวนาร์ ด

เมื่อเดินลงมาถึงบันไดขั้นล่ างสุ ด มันแอบชาเลืองมองเข้ าไปใน


หน้ าต่ างรถม้ าคันที่สามพี่น้องเช่ ากลับบ้ าน

เมลิสซ่ ากาลังจ้ องมองไคลน์ อยู่ คนทั้งสองจึงสบตาโดยบังเอิญ

มุมปากมันพลันกระตุกเล็กน้ อย ส่ วนเด็กสาวรีบเบือนหน้ าหนี


ก่อนที่ไคลน์ จะเดินขึน้ รถม้ าและแสร้ งทาเป็ นไม่ มีอะไรเกิดขึน้

ภายใต้ แสงจันทร์ แดงฉานและท้ องฟ้ ายามราตรีมืดสนิท รถม้ า


เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสู งโดยเปลี่ยนถนนเส้ นแล้วเส้ นเล่า
เมื่อกลับถึงบ้ าน ไคลน์ ยกห้ องน้าฝักบัวชั้นบนให้ เบ็นสั น ส่ วนตัว
มันเดินไปเคาะประตูห้องนอนเมลิสซ่ า

เด็กสาวมีแผนจะเข้ าไปอาบน้าในห้ องที่เหลือ เธอจึงเปิ ดประตู


พร้ อมกับขมวดคิว้

“เมลิสซ่ า มีอะไรอยากถามรึเปล่า? ฉันคิดว่ าเธอมีนะ”

ไคลน์ ซักไซร้ ตรงไปตรงมา


อย่ าเอาแต่ จ้องมองและคิดไปเอง…

เมลิสซ่ ากล่าวด้ วยริมฝี ปากสั่ นระริก ดวงตาจ้ องมองไคลน์ อย่ าง


เคลือบแคลง

“ไคลน์ นายทาอะไรกับอลิซาเบธกันแน่ ? เธอเปลี่ยนไปเป็ นคน


ละคน

“แถมหลังจากนั้นไม่ นาน เซเลน่ าก็เปลี่ยนไปด้ วยเหมือนกัน”

ไคลน์ เตรียมคาตอบไว้ แล้ว

“เธอรู้ใช่ ไหมว่ าทั้งอลิซาเบธและเซเลน่ าหลงไหลในศาสตร์ เร้ น


ลับ?”
“ฉันทราบ… แต่ ไม่ ได้ เห็นด้ วย ทุกสิ่ งในโลกสามารถอธิบายด้ วย
หลักเหตุและผล”

เมลิสซ่ าตอบในสิ่ งที่ตัวเองคิด และเงียบงันไปครู่หนึ่ง

“สิ่ งไหนที่ยังอธิบายไม่ ได้ แปลว่ าพวกเรายังมีความรู้เกี่ยวกับมัน


ไม่ มากพอ”

“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”
เคยคิดแบบนั้น… จนกระทั่งตายแล้วมาเกิดใหม่ บนโลกนี้

ไคลน์ ยมิ้ แห้ งด้ วยสี หน้ าสานึกผิด ก่อนจะกระแอมเล็กน้ อย

“หากพูดถึงศาสตร์ เร้ นลับก็ต้องพูดถึงภาษาเฮอร์ มิส ภาษาเก่าแก่


โบราณซึ่งถูกใช้ ในพิธีกรรมและบทสวดมากมาย

“อลิซาเบธทราบว่ าฉันเชี่ยวชาญเฮอร์ มิส มันคือวิชาพื้นฐานที่


นักประวัติศาสตร์ ต้องเรียน เธอจึงขอร้ องให้ ฉันช่ วยสอนวิธีอ่าน
ออกเสี ยงเฮอร์ มิส เพื่อจะได้ ทราบความหมายและท่ องคาถาอย่ าง
ชัดถ้ อยชัดคา”

เมลิสซ่ าพยักหน้ าเบาๆ เธอเริ่มยอมรับคาอธิบายของพีช่ าย หรื อ


อย่ างน้ อยก็เข้ าใจทั้งสองฝ่ ายมากขึน้
“ส่ วนเรื่ องที่อลิซาเบธและเซเลน่ าแปลกไป ฉันก็ไม่ ทราบ
เหมือนกัน…”

ไคลน์ รีบเอาตัวเองออกจากปัญหา ก่อนจะใช้ เหตุผลสนับสนุนให้


น่ าเชื่ อถือ

“แต่ ก็พอจะเดาได้ บ้าง”

“พอจะเดาได้ ?”
เมลิสซ่ าแสดงสี หน้ าประหลาดใจ

ไคลน์ ยกมือซ้ ายขึน้ มาจับคาง แสร้ งทาสี หน้ าครุ่นคิด

“เดาจากบทคาถาที่อลิซาเบธมาปรึกษา อักษรเฮอร์ มิสเหล่านั้น


เกี่ยวข้ องกับการทานาย รวมถึงการบูชาตัวตนที่ชั่วร้ าย…

“ไม่ ผิดแน่ … ระหว่ างพิธีกรรม เซเลน่ าทาการท่ องคาถาเป็ น


ภาษาเฮอร์ มิสต่ อหน้ าทุกคนใช่ ไหม?”

มันหวังใช้ ความหวาดกลัว หลอกล่อน้ องสาวให้ ออกห่ างจาก


พิธีกรรมเวทมนตร์ หรื อถ้ าเป็ นไปได้ ช่ วยเลิกคบกับเซเลน่ า
และอลิสซาเบธไปเลยจะดีมาก
“ใช่ …”
เมลิสซ่ าชะงักเล็กน้ อยก่อนจะพูดต่ อ

“ฉันพอจะเข้ าใจสาเหตุที่อลิซาเบธกับเซเลน่ ามีท่าทีแปลกไป


แล้ว…”

ไคลน์ ช่วยสรุปแทน

“เป็ นเพราะพิธีกรรมทานายกระจกวิเศษขัดต่ อหลักความเชื่ อ


ของโบสถ์ อลิซาเบธจึงหาทางยับยั้งไม่ ให้ เซเลน่ าถลาลึกไปมากกว่ า
นี้ จึงมาหาฉันเพื่อให้ ช่วยแปลความหมายของคาถาที่เซเลน่ า
ท่ อง… แบบนีใ้ ช่ ไหม?”

“ก็คงงั้น…”

เมลิสซ่ าไม่ ปฏิเสธ เพราะเธอก็เข้ าใจเช่ นนี้

มันถอนหายใจอย่ างผ่ อนคลาย บทสนทนาราบรื่ นกว่ าที่คิดไว้

“ในอนาคต เธอต้ องกาชับให้ เซเลน่ าเคร่ งครัดหลักจารีตมากขึน้ ”

เมื่อพูดจบ ไคลน์ ทาสั ญลักษณ์ สี่จุดบนหน้ าอก คล้ายกับสิ่ งที่


นักบวชรัตติกาลชอบทา
“เข้ าใจแล้ว”

เมลิสซ่ าตอบโดยไม่ ลังเล

“และห้ ามนาเรื่ องที่เราคุยกัน ไปบอกอลิซาเบธหรื อเซเลน่ า


เด็ดขาด เพราะฉันให้ สัญญากับอลิซาเบธว่ าจะไม่ บอกใคร”

“ตกลง”
เมลิสซ่ าผงกศีรษะเบาๆ

แปดโมงเช้ า ณ บริษัทหนามทมิฬ

ไคลน์ ถอดหมวกทักทายโรแซนและไบร์ ท ก่อนจะเดินเข้ าไปใน


ห้ องทางานหัวหน้ า

หลังจากผลักประตู มันกวาดสายตามองหาบุคคลที่ต้องการ แล้ว


ก็ต้องตกตะลึงสุ ดขีด เมื่อได้ เห็นดันน์ ·สมิทมีอาการค่ อนข้ างย่าแย่

ใบหน้ าขาวซีด นัยน์ ตาเทาที่เคยลุ่มลึกกลับหม่ นหมอง


“เกิดอะไรขึน้ ครับ? หรื อจะเกี่ยวกับคดีของเฮเนส·วินเซนต์ ?”
ไคลน์ ถามด้ วยน้าเสี ยงกังวล

ดันน์ ใช้ นวิ้ นวดคลึงหน้ าผาก ก่อนจะซดกาแฟหนึ่งอึกและตอบ

“เฮเนส·วินเซนต์ ตายแล้ว”

“มีคนชิงลงมือปิ ดปากก่อนพวกเราไปถึงหรื อครับ?”

มันรีบนั่งลงหน้ าดันน์ โดยไม่ วางไม้ คา้ ในมือ

อีกฝ่ ายไม่ ตอบทันที เพียงถอนหายใจยาว ก่อนจะเริ่มอธิบายด้ วย


สี หน้ าอ่อนเพลีย

“ผมกับเลียวนาร์ ดไปที่บ้านของเฮเนส·วินเซนต์ เมื่อคืน และเฉก


เช่ นปรกติ ไม่ มีสิ่งแปลกประหลาดรอบบ้ าน ภายในก็ไม่ มีจุดผิด
สั งเกตุ ผมจึงลองเข้ าฝันเขาเพื่อหาเบาะแส

“ภายในฝันของหมอนั่น… ในนั้น…

นัยน์ ตาดันน์ ·สมิทแฝงความหวาดกลัวไว้ ชัดเจน มันพึมพาซ้าไป


มาก่อนจะเล่าต่ อ

“ในความฝัน ผมได้ เห็นไม้ กางเขนขนาดใหญ่ สูงเสี ยดฟ้ า…


“บนกางเขนมีชายเปลือยกายถูกตอกตรึงไว้ ด้วยตะปูสีดา แขน
สองข้ างเหยียดกางออก ศีรษะห้ อยลงพื้นคล้ายโคมไฟระย้ า ตาม
ลาตัวมีรอยเลือดเปรอะเปื้ อนเป็ นทางยาว…

“ทันทีที่เห็นภาพดังกล่าวชัดเจน ตัวผมหมดสติไปทันที ถูก


ส่ งออกจากความฝันของเฮเนส·วินเซนต์ ในพริบตา…

“และเมื่อตื่นขึน้ เลียวนาร์ ดบอกกับผมว่ า เฮเนส·วินเซนต์


เสี ยชีวิตในขณะนอนหลับ”
“กางเขนใหญ่ ยักษ์ ห้ อยกลับหัวกลับหาง บุรุษเปลือยกายที่
ร่ างกายมีเลือดเปื้ อนเปรอะ

“คล้ายกับตานาน‘พระผู้สร้ างแท้ จริง’ที่องค์ กรลับบางแห่ ง


เคารพบูชาเลยนะครับ แต่ ก็ไม่ เหมือนเสี ยทีเดียว”

ไคลน์ พยายามหาข้ อสรุปจากสิ่ งที่ได้ ฟัง

น่ าแปลกมาก…

ภาพและตานานของพระผู้สร้ างปรากฏบนโลกมานานกว่ าหนึ่ง


พันปี แล้ว แต่ ทาไมองค์ กรลับที่เคารพบูชาเทพตนนี้ ถึงเพิง่ เริ่ม
ก่อตั้งได้ เพียงสองถึงสามร้ อยปี เท่ านั้น ดังเช่ นชุมนุมแสงเหนือ และ
ชุมนุมกางเขนเหล็กโลหิต
ดันน์ ยังคงใช้ นวิ้ นวดหน้ าผาก

“พวกเราจะตามสื บเรื่ องนีต้ ่ อ แต่ สาหรับคุณ ต้ องไปจัดการกับ


ภารกิจเดี่ยวให้ เรียบร้ อยเสี ยก่อน”
ราชันย์ เร้ นลับ 89 : ภารกิจง่ ายๆ

ไคลน์ พยักหน้ าและพูด

“ได้ ครับ แต่ ผมยังไม่ ทราบว่ าภารกิจที่ต้องทาเกี่ยวกับอะไร”

“ไม่ มีอันตราย หรื ออย่ างน้ อย ผมก็ไม่ เห็นสั ญญาณของอันตราย


ปรากฏ”

ดันน์ เกริ่นนาให้ อีกฝ่ ายเบาใจ

“คดีนถี้ ูกส่ งต่ อมาจากกรมตารวจเขตไม้ ฟินิกซ์ เศรษฐีใจบุญชื่ อ


ดัง เซอร์ เดอไวล์ ถูกคุกคามอย่ างหนักในช่ วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
โดยทั้งบอดีก้ าร์ ด หน่ วยคุ้มกัน รวมถึงตารวจ ต่ างพยายามสื บหา
สาเหตุอย่ างสุ ดความสามารถแล้ว แต่ ก็ไม่ มีใครที่พบเบาะแส

“สารวัตรทอเร่ คาดว่ า อาจเป็ นคดีที่เกี่ยวพันกับผู้วิเศษ จึงทาการ


ส่ งเรื่ องต่ อมายังเหยี่ยวราตรี”

เซอร์ เดอร์ ไวล์ที่พบบนห้ องสมุด ท่ าทางอ่อนเพลียเกิดจากการ


ถูกคุกคามเองหรื อ

ไคลน์ ขมวดคิว้ ถาม


“เป็ นการคุกคามแบบไหนครับ?”

“ยังไม่ มีการคุกคามทางกายภาพ ดังนั้น ระดับการคุกคามยังถือ


ว่ าไม่ รุนแรง

“เซอร์ เดอไวล์จะได้ ยินเสี ยงคร่าครวญในทุกคืน ไม่ ว่าจะอยู่ที่ใด


นอกเมืองทิงเก็นก็ไม่ รอดพ้น เรื่ องนีส้ ่ งผลกระทบต่ อการนอน
มาก”

ดันน์ พลิกหน้ ากระดาษ

“เขาจึงไปพบจิตแพทย์ เพื่อหาสาเหตุ จากนั้นก็สอบถามพ่ อบ้ าน


และสาวใช้ เพื่อยืนให้ แน่ ใจว่ าไม่ ใช่ อาการจิตหลอน

“เมื่อมั่นใจว่ าไม่ ได้ คิดไปเอง… หมายความว่ า มีใครบางคน


เจตนาคุกคามเขา”

ดันน์ ปิดแฟ้ มและเงยหน้ ามองไคลน์

“คุณต้ องเปลี่ยนเครื่ องแบบเป็ นชุดว่ าที่สารวัตรเสี ยก่อน


เครื่ องแบบอยู่ในห้ องพัก จากนั้นค่ อยออกไปพบสารวัตรทอเร่ ที่
สโมสรยิงปื นซุตแลน เขาจะมอบรายละเอียดเพิม่ เติมให้ คุณ
ภายหลัง”
“เครื่ องแบบว่ าที่สารวัตร?”
ไคลน์ ถามด้ วยสี หน้ าฉงน

ดันน์ ลูบหน้ าผาก

“รายได้ ของพวกเราครึ่งหนึ่งมาจากกรมตารวจ หมายความว่ า


ชื่ อของพวกเราไม่ ได้ ถูกบรรจุอยู่ในกรมตารวจเล่ นๆ หากยังจาได้
ในตอนที่คุณได้ พบผมและเลียวนาร์ ดครั้งแรก พวกเรากาลังสวม
เครื่ องแบบอยู่ นี่คือสวัสดิการพิเศษสาหรับเจ้ าหน้ าที่ปฏิบัติการ
เท่ านั้น

“ใช่ แล้ว… สวัสดิการ… คาที่จักรพรรดิโรซายคิดค้ นและชอบ


เรียกบ่ อยครั้ง”

น่ าเสี ยดายตนที่สวมเครื่ องแบบตารวจมาทางานทุกวันไม่ ได้


เพราะฉากหน้ าเป็ นแค่ บริษัทรักษาความปลอดภัย ไม่ อย่ างนั้นคงมี
ชุดสารองเพิม่ อีกหนึ่ง

ไคลน์ หยิบไม้ คา้ และโบกมือลาดันน์ ·สมิท

เมื่อเข้ าไปในห้ องพัก มันพบเสื้ อผ้ าลายตารางหมากรุกสี ขาวสลับ


ดา รองเท้ าคอมแบตหนังวางอยู่ข้างกันบนโต๊ ะอย่ างเป็ นระเบียบ

หมวกตารวจสี ดาเงามีตราสั ญลักษณ์ กรมตารวจ ดาบไขว้ และ


มงกุฏ ติดอยู่กึ่งกลางบริเวณด้ านหน้ า
บริเวณหัวไหล่ของเสื้ อมีเครื่ องหมายแสดงชั้นยศติดเรียบร้ อย
เป็ นอินทรธนูสีขาวสลับดาซึ่งมีดาวเงินแวววาวประดับสองดวง

“นี่คือชุดว่ าที่สารวัตร?”

ไคลน์ ชาเลืองมองและพบตัวเลข 06-254 ปักด้ วยด้ ายไว้ ใต้ ดาว


เงิน

มันพอจะเข้ าใจลาดับชั้นของกรมตารวจอาณาจักรโลเอ็นอยู่บ้าง

ตาแหน่ งสู งสุ ดคือผู้บัญชากรกรมตารวจแห่ งชาติ รองมาเป็ น


อธิบดีกรมตารวจ

ต่ากว่ านั้นจะแยกเป็ นกรมตารวจของรัฐ


ประกอบด้ วย :
ผู้บัญชาการกรมตารวจรัฐ
รองผู้บัญชาการกรมตารวจรัฐ
และผู้ช่วยผู้บัญชาการกรมตารวจรัฐ

ที่เหลือจะเป็ นนายตารวจประจาสถานีประกอบด้ วยผู้กากับการ


และสารวัตร โดยลาดับชั้นต่าสุ ดภายในสถานีตารวจคือนายสิ บและ
พลตารวจ
หลังจากปิ ดประตูห้องพัก ไคลน์ รีบถอดชุดของตนและ
เปลี่ยนไปใส่ เครื่ องแบบว่ าที่สารวัตร เมื่อเสร็จเรียบร้ อย มันเดิน
ออกจากห้ องโดยแขวนสู ทตัวเก่าไว้ บนราว

ไคลน์ ม่ งุ หน้ าไปยังห้ องทางานเจ้ าหน้ าที่ฝ่ายพลเรื อน มัน


ตรวจสอบความเรียบร้ อยเครื่ องแบบครั้งสุ ดท้ ายด้ วยกระจกบาน
ใหญ่ ที่โรแซนนามาให้

“ไม่ เลว”

ไคลน์ ชมเชยด้ วยน้าเสี ยงหลงตัวเอง มันวางไม้ คา้ ไว้ ภายในห้ อง


ก่อนจะเดินออกจากบริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬ

ภายในกระเป๋าเสื้ อมีอุปกรณ์จาเป็ นที่ครบครัน ตั้งแต่ อาวุธไป


จนถึงตราตารวจ

เมื่อมาถึงสโมสรยิงปื น ไคลน์ ได้ พบกับสารวัตรทอเร่ ทันที


เนื่องจากทั้งสโมสรมีเพียงบุคคลเดียวที่สวมเครื่ องแบบตารวจ

จริงสิ ยังมีเราด้ วยอีกคน… มันพึมพา

อินทรธนูบนบ่ าของสารวัตรทอเร่ มีดาวเงินสองดวงแสดงถึง


ตาแหน่ งสารวัตรเช่ นกัน ชุ ดของมันค่ อนข้ างรัดแน่ น โดยป่ องเป็ น
พิเศษบริเวณช่ วงพุง
ทอเร่ เป็ นชายร่ างใหญ่ เคราสี ทองดกหนา แต่ ไม่ สง่ า หรื อบางที
อาจเคยสง่ าเมื่อในอดีต

“โมเร็ตติ? ไคลน์ โมเร็ตติ?”

สารวัตรทอเร่ ทักทายไคลน์ ด้วยรอยยิม้

“สวัสดีครับ สารวัตรทอเร่ หวังว่ าผมคงไม่ ทักผิดคน”


ไคลน์ ทักทายด้ วยท่ าทีเป็ นมิตร และจากความทรงจา มันไม่ ลืมที่
จะยกแขนขวาขึน้ ทาวันทยหัตถ์

ทอเร่ หัวเราะคิกคัก

“ผมมั่นใจว่ าคุณเป็ นคนหนุ่มที่ทางานด้ วยแล้วมีความสุ ข เอาล่ะ


พวกเรารีบไปที่บ้านเซอร์ ·เดอไวล์กันเถอะ”

แม้ จะมียศสู งกว่ า แต่ ทอเร่ ก็มีได้ ถือตัว

“ได้ ครับ”

ไคลน์ ครุ่นคิดเล็กน้ อยก่อนเสนอแนะ


“เกี่ยวกับรายละเอียดของคดี คุณค่ อยเล่าให้ ผมฟังบนรถม้ าก็ได้
ครับ”

“ตกลง”

ทอเร่ ลูบไล้เคราดกสี ทองพลางเดินนาทางออกจากสโมสรยิงปื น


คนทั้งสองเดินข้ ามถนนไปขึน้ รถม้ าที่จอดรออยู่ฝั่งตรงข้ าม

ด้ านข้ างตู้โดยสารมีตราดาบไขว้ และมงกุฏเด่ นสง่ า มาพร้ อมพล


ขับส่ วนตัว
“เซอร์ เดอไวล์เป็ นผู้ศรัทธาโบสถ์ รัตติกาล พวกเราจึงส่ งมอบคดี
นีใ้ ห้ เหยี่ยวราตรี”

ทอเร่ เกริ่นขณะทิง้ ตัวนั่ง

“ผมทราบครับ เศรษฐียศอัศวินผู้นปี้ รากฏตัวบนหน้ า


หนังสื อพิมพ์ไม่ เว้ นแต่ ละวัน”

ไคลน์ ยมิ้

ทอเร่ หยิบแฟ้ มเอกสารที่วางด้ านข้ างลาตัว แกะซอง และหยิบปึ ก


กระดาษด้ านในออกมาพลิกอ่าน

“ถึงคุณจะทราบอยู่แล้ว แต่ ผมจาเป็ นต้ องแจ้ งรายละเอียดของ


คดีอย่ างถี่ถ้วน
“เซอร์ เดอไวล์เป็ นหนึ่งในเศษรฐีที่ร่ารวยที่สุดของเมืองทิงเก็น
เริ่มต้ นเส้ นทางธุรกิจด้ วยกิจการตะกั่วและเซรามิก ภายหลังเริ่ม
ขยายไปถึงอุตสาหกรรมเหล็กกล้า ถ่ านหิน ขนส่ ง ธนาคาร และ
พันธบัตร

“เซอร์ เดอไวล์ยังเป็ นเศรษฐีใจบุญที่แม้ แต่ องค์ ราชาชมเชย เขา


ก่อตั้งองค์ กรการกุศลเดอไวล์ บริษัทสิ นเชื่ อเดอไวล์ และหอสมุด
เดอไวล์

“ถูกแต่ งตั้งยศอัศวินเมื่อห้ าปี ก่อน หากชายคนนีต้ ้ องการเป็ น


นายกเทศมนตรีเมืองทิงเก็น เกรงว่ าคงไม่ มีใครสามารถเอาชนะได้

“แต่ เป้าหมายที่แท้ จริงของเซอร์ เดอไวล์อยู่ที่เบ็คลันด์ เขา


ต้ องการเป็ นหนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทน พวกเราจึงสงสั ยว่ า สาเหตุ
การคุกคามอาจมาจากจุดนี”้

ไคลน์ พยักหน้ า

“เป็ นประเด็นที่น่าสนใจครับ แต่ พวกเรายังไม่ มีข้อมูลที่แน่ ชัด”

ทอเร่ ไม่ ขัดข้ องกับคาโต้ แย้ ง มันอธิบายต่ อ


“นับตั้งแต่ วันที่หก เดือนก่อน เซอร์ เดอไวล์จะได้ ยินเสี ยงคร่า
ครวญที่เจ็บปวดทรมานทุกครั้งที่หลับ แน่ นอน เขาพยายาม
ขวนขวายหาวิธีขจัดปัญหาอย่ างสุ ดความสามารถ สารวจรอบบ้ าน
โดยละเอียด แต่ ก็ไม่ พบสิ่ งผิดปรกติ

“ด้ านพ่อบ้ านและสาวใช้ ต่างยืนยันว่ าได้ ยินเสี ยงดังกล่ าวเช่ นกัน


เพียงแต่ ไม่ ดังเท่ า

“ในตอนแรก เซอเดอร์ ไวล์คดิ ว่ าอีกไม่ นานก็คงหายไปเอง แต่


ไม่ ใช่ เลย ยิ่งเวลาผ่ านไป เสี ยงคร่าครวญก็ยิ่งปรากฏบ่ อยครั้ง ถึงขั้น
เกิดขึน้ ในเวลากลางวัน กรณีเลวร้ ายจะได้ ยินเสี ยงหวีดแหลมคล้าย
กับคนร้ องขอชีวิต

“การนอนของเขาถูกรบกวนรุนแรง จนท้ ายที่สุดก็หมดความ


อดทน เซอร์ เดอไวล์ตัดสิ นใจย้ ายไปพักนอกทิงเก็นชั่วคราว แต่
เสี ยงคร่าครวญกลับยังคงตามหลอกหลอน ไม่ เว้ นแม้ แต่ เมืองหลวง
อย่ างเบ็คลันด์

“เขาทาการจ้ างหน่ วยคุ้มกันประจาตัว แต่ ก็ไม่ มีใครพบเบาะแส


การสื บสวนเบื้องต้ นของกรมตารวจจึงไม่ มีความคืบหน้ า

“เซอร์ เดอไวลทุกข์ทรมาณมานานกว่ าหนึ่งเดือน ในช่ วงที่จิตใจ


ใกล้แตกสลาย เขาตัดสิ นใจไปพบจิตแพทย์ เพื่อบรรเทาอาการตึง
เครียด รวมถึงหาสาเหตุต้นตอของเสี ยงลึกลับ
“แต่ อาการก็ไม่ ดีขนึ้ เซอร์ เดอไวล์จึงประกาศกร้ าว หากปัญหานี้
ไม่ ถูกแก้ไขภายในหนึ่งเดือน เขาจะย้ ายสามะโนครัวออกจากทิง
เก็นและไปอยู่เบ็คลันด์ ถาวร ที่นั่นต้ องมีใครสั กคนสามารถช่ วยได้
แน่ ”

หลังจากฟังสารวัตรทอเร่ อธิบายอย่ างละเอียด ไคลน์ ได้ ข้อสรุป


เบื้องต้ น

ไปล่วงเกินผู้วิเศษเข้ าจนถูกคาสาปรึเปล่า?

ไม่ สิ ถ้ าเป็ นคาสาป พ่อบ้ านและสาวใช้ คงไม่ ได้ ยินเสี ยงแบบ


เดียวกัน

หรื อจะมีผ้ วู ิเศษแฝงตัวอยู่ในหมู่คนรับใช้ และหน่ วยคุ้มกัน?

แต่ ปัญหาคือ ไม่ มีคดีที่เกี่ยวกับเซอร์ เดอไวล์เลยตลอดหนึ่งเดือน


ที่ผ่านมา

เผลอไปทาให้ วิญญาณร้ ายโกรธเข้ าหรื อ?

เรื่ องนั้นก็มองข้ ามไม่ ได้ …

ขณะไคลน์ ดาดิ่งในความคิด รถม้ าเคลื่อนตัวเข้ าสู่ เขตไม้ ฟินิกซ์


และจอดลงที่ประตูหน้ าบ้ านเซอร์ เดอไวล์
รัวเหล็กกล้าแข็งแรงทนทานถูกสร้ างล้อมบานไว้ แน่ นหนา สอง
ข้ างฝั่งสายตาเป็ นลานหญ้ าเขียวขจี

ถัดจากประตูหลักเข้ าไปมีสองรูปปั้นขนาดใหญ่ รอต้ อนรับ


ทางเดินแสนกว้ างขวางทอดยาวเข้ าบ้ าน ใหญ่ พอจะให้ รถม้ าวิ่งได้
สามคันพร้ อมกัน กึ่งกลางทางเดินมีบ่อน้าพุพร้ อมด้ วยรูปปั้นหิน
อ่อนแกะสลักงดงาม

ตัวบ้ านเป็ นอาคารหลังใหญ่ สองชั้น กว้ างกว่ าบ้ านปรกติ


ค่ อนข้ างมาก
“แม้ แต่ บ้านของอัศวินก็ยังสู งแค่ สองชั้นเองหรื อ…? เคยได้ ยิน
มาว่ า ที่เบ็คลันด์ กาลังทดสอบก่อสร้ างหอพักสิ บชั้นเป็ นอาคาร
ต้ นแบบ…”

หลังจากลงรถม้ า ไคลน์ เหลือบเห็นตารวจนายหนึ่งเดินเข้ ามา


ใกล้ อินทรธนูบนหัวไหล่ติดเครื่ องแสดงยศสามบั้ง หมายถึงสิ บเอก

มันจ้ องไคลน์ ครู่หนึ่งก่อนทาวันทยหัตถ์

“อรุณสวัสดิ์ครับผม!”

“อรุณสวัสดิ์”

ไคลน์ ยมิ้ ตอบ


ทอเร่ อธิบาย

“นี่คือสิ บเอกเกตต์ ถ้ าคุณต้ องการอะไรก็บอกเขาได้ เลย

“ส่ วนนี่คือว่ าที่สารวัตรโมเร็ตติ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้ าน


ประวัติศาสตร์ และจิตวิทยาจากกรมสอบสวนกลาง”

ทอเร่ แนะนาตัวไคลน์ สุดอลังการ

ใส่ สรรพคุณมากเกินไปแล้ว… ไคลน์ ตัดพ้อ

หลังจากแนะนาตัวเสร็จสรรพ เกตต์ ชี้นวิ้ ไปทางบ้ านสองชั้นหลัง


น้าพุ และหันมาพูดกับชายหนุ่ม

“เซอร์ เดอไวล์กาลังรอพบด้ านในครับ”

“ตกลง”

ไคลน์ พยักหน้ าพร้ อมกับจัดระเบียบลูกโม่ ที่เหน็บข้ างเอว หาก


ต้ องเผชิญเหตุการณ์ ไม่ คาดฝัน สิ่ งนีถ้ ือเป็ นไพ่ตายใบสุ ดท้ ายที่มี

ในฐานะที่สวมเครื่ องแบบตารวจ ไคลน์ สามารถพกปื นได้ อิสระ


มันจึงเหน็บไว้ ที่เอวเพื่อง่ ายต่ อการหยิบใช้
ทั้งสามเดินพูดคุยเล็กน้ อยระหว่ างทาง อ้อมบ่ อน้าพุ และไปถึง
หน้ าประตูบ้าน

ปัจจุบัน บานประตูถูกเปิ ดอ้า คนรับใช้ ยืนรอต้ อนรับด้ วยกริยา


ท่ าทางนอบน้ อม

ไคลน์ แสร้ งทาเป็ นจัดระเบียบหมวก แต่ แอบใช้ ปลายนิว้ แตะ


หว่ างคิว้ เพื่อเข้ าสู่ ภาวะเนตรวิญญาณ

ภายในบ้ าน ชายหนุ่มได้ พบเซอร์ เดอไวล์ใบหน้ าเหลี่ยม กาลังให้


คนใช้ นวดขมับและหน้ าผากภายในห้ องโถงบ้ าน สี หน้ าของมัน
อ่อนเพลียชัดเจน เส้ นผมสี ทองและนัยน์ ตาฟ้ าครามเริ่มปรากฏ
อาการหม่ นหมอง คล้ายกับแก่ ชราลงจากเดิมห้ าปี

“อรุณสวัสดิ์ครับ ท่ านเซอร์ เดอไวล์”

ไคลน์ ทอเร่ เกตต์ โน้ มตัวคานับพร้ อมกัน

เดอไวล์ลุกขึน้ ยืนพลางฝื นยิม้

“อรุณสวัสดิ์เหล่าเจ้ าหน้ าที่ ผมหวังว่ าปัญหาจะถูกแก้ไขโดยเร็ว


นะ”

ไคลน์ ขมวดคิว้ ด้ วยสี หน้ าสุ ดฉงน


เพราะนอกจากอาการอ่อนเพลียแล้ว เซอร์ ·เดอไวล์ไม่ ปรากฏ
ความผิดปรกติด้านอื่นทางสี ออร่ าแม้ แต่ น้อย

แปลกมาก…

มันตัดสิ นใจซักถาม

“ท่ านเซอร์ เริ่มได้ ยินเสี ยงคร่าครวญจากห้ องไหนหรื อครับ?”

“ห้ องนอนฉัน”
เดอไวล์ตอบพร้ อมกับส่ ายหัว

“ขอเข้ าไปดูได้ ไหมครับ?”

ไคลน์ หยั่งเชิง

“พวกคุณเคยตรวจสอบกันหลายรอบแล้วไม่ ใช่ หรื อ?”

พ่อบ้ านที่ยืนด้ านข้ างเป็ นฝ่ ายพูดแทรก ท่ าทีของมันบ่ งบอก


ชัดเจนว่ ากาลังหวาดระแวงในตัวไคลน์

ชายหนุ่มอมยิม้ ท่ าทียังคงสุ ขุม

“บุคคลทีเ่ คยตรวจสอบไม่ ใช่ ผม แต่ เป็ นเพื่อนร่ วมงาน”


“ท่ านเซอร์ ครับ นี่คือนายตารวจเชี่ยวชาญพิเศษที่ถูกส่ งตรงจาก
กรมสอบสวนกลาง”

ทอเร่ ได้ โอกาสแนะนาตัวไคลน์

เดอไวล์ยืนมองเจ้ าหน้ าที่พเิ ศษครู่หนึ่ง

“ตกลง คัลเลน นาทางพวกเขาไปที่ห้องนอนฉัน”

“ท่ านเซอร์ ครับ ผมต้ องการให้ ท่านไปกับเราด้ วย”

เดอไวล์แสดงสี หน้ าลังเล ก่อนจะพึมพา

“ก็ได้ … ถ้ านั่นช่ วยขจัดปัญหา”

มันหยิบไม้ คา้ และเดินนาขึน้ บันไดด้ วยสภาพร่ างกายไม่ แข็งแรง


รอบข้ างมีพ่อบ้ านและคนรับใช้ อีกมากรอพยุงหากเสี ยหลัก

ไคลน์ เดินตามด้ านหลังสุ ดพร้ อมกับใช้ เนตรวิญญาณกวาดมอง


สภาพแวดล้อม

หนึ่งก้าว

สองก้าว
สามก้าว

ทุกคนเดินขึน้ ไปถึงชั้นสอง และหยุดลงหน้ าห้ องนอนใหญ่ ของ


บ้ าน

แต่ ยังไม่ ทันจะได้ สารวจภายในห้ อง เส้ นขนทั่วร่ างไคลน์ พลันตั้ง


ชันโดยพร้ อมเพรียง

สิ่ งนีค้ ือลางบอกเหตุจากสั มผัสวิญญาณ


ราชันย์ เร้ นลับ90 : เต็มสองตา

ห้ องนอนของเซอร์ เดอไวลใหญ่ กว่ าห้ องนั่งเล่น และห้ องทาน


อาหารบ้ านไคลน์ รวมกันเสี ยอีก ภายในแบ่ งสั ดส่ วนชัดเจน มุม
เตียงนอน มุมพักผ่ อน มุมอ่านหนังสื อ มุมเสื้ อผ้ า และมุมห้ อง
อาบน้า

เครื่ องเรื อนจัดว่ าหรูหราราคาสู งลิบ ลวดลายถูกแกะสลักงดงาม

แต่ สาหรับไคลน์ ห้ องนีค้ ่ อนข้ างอับแสง และอากาศเย็นกว่ า


ภายนอกเล็กน้ อย

ทันใดนั้น มันได้ ยินเสี ยงคร่าครวญและร่าไห้ ของใครบางคน


รวมถึงเสี ยงร้ องขอชีวิตที่แทรกปะปนบางเบา

แต่ ก็เพียงชั่วครู่ ทุกสิ่ งกลับเป็ นปรกติอย่ างรวดเร็ว บรรยากาศที่


เคยเย็นเฉียบหายไป อุณหภูมิห้องไม่ มากหรื อน้ อยไปกว่ าภายนอก

เจ้ าหน้ าที่ตารวจโดยรอบ รวมถึงคนคุ้มกัน ไม่ มีใครกล่าวสิ่ งใด


หรื อแสดงสี หน้ าผิดแผก

นั่นมัน…

ไคลน์ จ้องมองไปที่ข้างเตียงนอนหรูหราขนาดใหญ่ มันสั มผัสถึง


ความรู้สึกคล้ายดวงตามายากาลังแอบซุ่มในเงามืด ประหนึ่งผีเสื อ
กลางคืนที่หวาดกลัวไม่ กล้าเข้ าหาแสงไฟ

เมื่อพยายามเดินเข้ าใกล้ ภาพดวงตามายาพลันสลายไป ไม่


ปรากฏให้ เห็นแม้ จะจ้ องมองด้ วยเนตรวิญญาณ

ไม่ ใช่ ภูติหรื อวิญญาณร้ ายทั่วไปแน่ …

แล้วมันคืออะไร? ไคลน์ ขมวดคิว้ พลางเค้ นสมองทบทวนคาบ


เรียนวิชาเร้ นลับทั้งหมดที่ลุงนีลล์เคยสอน
จากข้ อมูลเบื้องต้ น คดีนจี้ ะปิ ดลงไม่ ยากหากผู้วิเศษที่มาจัดการ
เป็ นนักเก็บซากศพ นักขุดสุ สาน หรื อผู้สื่อวิญญาณ

ไม่ ใช่ ขอบเขตที่ตนถนัดเลยสั กนิด

ไคลน์ ระงับความต้ องการที่จะใช้ พลังทานายสื บสวนคดีไว้ ก่อน


มันกวาดสายตามองรอบห้ องเพื่อเก็บรายละเอียดและสร้ าง
สมมติฐาน

“สารวัตร”

เดอไวล์ไต่ ถามด้ วยสี หน้ ากังวล

“พบอะไรบ้ างไหม?”
“ถ้ ามันง่ ายขนาดนั้น เพื่อนร่ วมงานของผมคงไม่ ปล่อยให้ คดี
ค้ างคานานเช่ นนี้แน่ ”

ไคลน์ กล่าวพลางชาเลืองมองเศรษฐีใจบุญ ขณะกาลังจะเบือน


หน้ าหนี มันบังเอิญเหลือบเห็นเงาลางสี ขาวรูปร่ างคล้ายมนุษย์
ปรากฏอยู่ในกระจกบานใหญ่ ด้านหลังเดอไวล์

และไม่ ใช่ คนเดียว… แต่ มีจานวนมาก

ในวินาทีที่ภาพปรากฏ ไคลน์ ได้ ยินเสี ยงคร่าครวญเจือจางอีก


ครั้ง

ฟู่ ว… มันถอนหายใจเพื่อสงบสติ ไคลน์ เกือบขวัญอ่อนจนชักปื น


ยิงใส่ กระจก

การมีสัมผัสวิญญาณเฉียบแหลม สั กวันต้ องทาให้ ตนหัวใจวาย


ตายแน่ … มันพยายามเล่นมุกตลกเพื่อคลายความเครียด

ไคลน์ เบนความสนใจมายังเดอไวล์

ในคราวนี้ มันได้ พบบางสิ่ งที่แตกต่ าง

หลังจากเดินเข้ ามาในห้ อง รอบตัวเศรษฐีใจบุญปรากฏเงาลาง


คล้ายมนุษย์ ไหววูบวาบตลอดเวลา พวกมันแผ่ แสงสี ขาวจางๆ จน
ทาให้ บรรยากาศห้ องสว่ างขึน้ เล็กน้ อย
ทุกเงาลางปรากฏพร้ อมเสี ยงคร่าครวญที่มนุษย์ ปรกติแทบไม่ ได้
ยิน

คนทั่วไปจะไม่ ได้ ยินในสถานการณ์ ปรกติง้นั หรื อ… จะเกี่ยวกับ


กลางวันกลางคืนไหม?

แล้วจะได้ ยินเมื่อไร?

ไคลน์ พยายามหาบทสรุป เริ่มด้ วยสมมติฐานที่ว่า…

ภาพเหล่านีค้ ือวิญญาณที่ตามหลอกหลอนเดอไวล์ เสี ยงคร่า


ครวญคือเสี ยงสุ ดท้ ายในชีวิตก่ อนที่พวกมันจะตาย

บนโลกใบนี้ หากใครบางคนเกิดความรู้สึกเคียดแค้ นอย่ างแรง


กล้า ดวงวิญญาณดังกล่าวสามารถตกค้ างโดยไม่ ม่ ุงหน้ าสู่ โลก
วิญญาณ แต่ จะพัฒนาตนเองกลายเป็ นวิญญาณเร่ ร่อนในภายหลัง

แล้วเหตุใดเศรษฐีใจบุญอย่ างเดอไวล์ บุคคลที่แม้ แต่ คนขีเ้ หนียว


อย่ างเบ็นสั นยังยกย่ อง ถึงมีใครบางคนเคียดแค้ นแรงกล้า?

หรื อจะพวกตีสองหน้ า? หรื อจะเป็ นผู้วิเศษที่แสร้ งทาดีในคราบ


นักบุญ?
ไคลน์ พยายามหาความเป็ นไปได้
หลังจากก้มหน้ าครุ่นคิด มันเงยหน้ ามองเดอไวลและเปิ ดปากพูด

“ท่ านเซอร์ ครับ ผมมีคาถาม”

“ว่ ามา”

เดอไวลนั่งลงบนโซฟาด้ วยสี หน้ าอ่อนเพลีย

ไคลน์ เรียบเรียงคาพูด

“ในตอนที่เปลี่ยนสถานที่พกั ผ่ อน เช่ นเบ็คลันด์ หรื อหมู่บ้านอื่น


คุณจะได้ รับความสงบอยู่ราวครึ่งวัน หลังจากนั้น เสี ยงคร่าครวญ
จะตามหลอกหลอนเหมือนทุกครั้ง ไม่ เว้ นแม้ แต่ ตอนกลางวัน ผม
พูดถูกไหม?”

ดวงตาที่กึ่งหลับกึ่งตื่นของเดอไวลพลันลุกวาวหลังจากได้ ยิน
คาถาม

“ใช่ … คุณพบสาเหตุแล้วหรื อ?”

เนื่องจากถูกคุกคามจนอ่อนเพลีย เดอไวล์จึงลืมแจ้ งข้ อมูล


ดังกล่าวกับตารวจ แถมยังเป็ นเบาะแสที่สาคัญมาก
เมื่อคาถามของไคลน์ เริ่มสร้ างความคืบหน้ าให้ กับคดี สารวัตร
ทอเร่ เผยรอยยิม้ ผ่ อนคลาย

สมกับเป็ นเหยี่ยวราตรี

ด้ านสิ บเอกเกตต์ พลันประหลาดใจสุ ดขีด มันจ้ องมอง


ผู้เชี่ยวชาญจิตวิทยา ไคลน์ ด้ วยสี หน้ าชื่ นชม

จากเบาะแสที่ระบุว่า การคุกคามจะยิ่งรุนแรงเมื่อเวลาผ่ านไป


แปลตรงตัวก็คือ ความเคียดแค้ นสามารถสั่ งสมเพิม่ จากตอนแรกได้
เมื่อได้ รับคาตอบยืนยันที่สอดคล้อง ไคลน์ เริ่มจับประเด็นของ
คดี

ฉะนั้น หนทางขจัดดวงวิญญาณอาฆาตมีอยู่สองวิธี หนึ่งคือ ตั้ง


แท่ นบูชาที่นี่และใช้ พธิ ีกรรมเวทมนตร์ ทรงพลังปัดเป่ า

และสองคือ ใช้ พลังทานายค้ นหาต้ นตอความอาฆาต และเริ่ม


แก้ปัญหาจากจุดดังกล่าว

จากนโยบายของเหยี่ยวราตรีที่ต้องการรักษาความลับ ไม่ ให้ คน


ธรรมดาทราบถึงตัวตนผู้วิเศษและพลังพิเศษ ไคลน์ จาเป็ นต้ อง
เลือกปฏิบัติวิธีที่สองก่อน หากไม่ สาเร็จ ค่ อยหยิบยืมพลังเทพธิดา
ปัดเป่ าวิญญาณอาฆาตภายหลัง
“ท่ านเซอร์ ครับ คุณป่ วยเป็ นอาการทางจิตรูปแบบหนึ่ง”
มันเปิ ดปากอธิบายในสิ่ งที่น่าเหลือเชื่ อ สายตาจ้ องมองเดอไวล์
ขึงขังจริงจัง

แน่ นอน เดอไวล์ขมวดคิว้

“คุณกาลังจะบอกว่ า ผมเป็ นผู้ป่วยทางจิต ที่สมควรถูกส่ งตัวไป


สถานบาบัดจิตงั้นหรื อ?”

“ไม่ ครับ ไม่ ร้ายแรงขนาดนั้น มนุษย์ ทุกคนล้วนมีอาการทางจิต


ทั้งหมด ขึน้ อยู่กับปริมาณมากหรืิ อน้ อย…

“ขอแนะนาตัวเองอย่ างเป็ นทางการอีกครั้ง ผมคือผู้เชี่ยวชาญ


ด้ านจิตวิทยาของกรมสอบสวนกลาง สั งกัดกรมตารวจรัฐอาโฮว่ า”

“ผู้เชี่ยวชาญด้ านจิตวิทยา?”

ทั้งเดอไวลและพ่อบ้ านต่ างหันมองสารวัตรทอเร่ ที่พวกมัน


คุ้นเคยพร้ อมเพรียง

ทอเร่ พยักหน้ าหนักแน่ น และยืนกรานว่ าข้ อมูลดังกล่ าวถูกต้ อง

“ตกลง แล้วฉันต้ องรักษาด้ วยวิธีใด? ไม่ ใช่ แค่ น้ นั ทาไมพ่อบ้ าน


และสาวใช้ ถึงได้ ยินเสี ยงในลักษณะเดียวกัน?”
เดอไวล์ใช้ สองมือกุมหัวไม้ คา้ สี หน้ าของมันกาลังสั บสนเคลือบ
แคลง

ไคลน์ ตอบอย่ างมืออาชีพ

“ไว้ ผมค่ อยอธิบายหลังจากปัญหาถูกแก้ไขเรียบร้ อยแล้ว

“ได้ โปรดบอกให้ พ่อบ้ าน คนรับใช้ และคนคุ้มกันออกไปจาก


ห้ อง… คุณก็ด้วย สารวัตรทอเร่ และสิ บเอกเกตต์ ผมต้ องการ
สภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเพื่อรักษาอาการป่ วย”

‘รักษา’ด้ วยเวทมนตร์ สินะ… ทอเร่ หันไปพยักหน้ ายืนยันกับเดอ


ไวล์ มันเข้ าใจความลึกลับซับซ้ อนของเหยี่ยวราตรีเป็ นอย่ างดี

เดอไวล์เงียบงันราวสิ บวินาที ก่อนจะหันไปพูดกับพ่อบ้ าน

“คัลเลน พาพวกเขาไปพักผ่อนในห้ องนั่งเล่นชั้นสอง”

“เข้ าใจแล้วครับ”

พ่อบ้ านคัลเลนไม่ คัดค้ าน อีกฝ่ ายเป็ นถึงเจ้ าหน้ าที่เชี่ยวชาญ


พิเศษด้ านจิตวิทยาจากกรมสอบสวนกลาง

หลังจากยืนมองทุกคนออกไปจนครบและล็อคประตูห้องสนิท
ไคลน์ หันไปพูดกับเดอไวล์
“ท่ านเซอร์ ครับ รบกวนนอนลงบนเตียงด้ วยท่ าทีผ่อนคลายที่สุด
พยายามหลับให้ ได้ ”

“…ตกลง”

เดอไวล์ถอดชุดรุ่มร่ ามและหมวกแขวนไว้ ที่ราวเสื้ อผ้ า ก่อนจะ


เดินไปนั่งลงบนเตียงและทิง้ ตัวนอน

ไคลน์ เดินไปปิ ดม่ านทุกผืน เพื่อให้ บรรยากาศภายในห้ องมืด


ที่สุด

ก่อนอื่น มันปลดโซ่ เงินที่ข้อมือซ้ ายเพื่อทานายหาความเสี่ ยงของ


คดี

เมื่อมั่นใจว่ าปลอดภัย ไคลน์ เดินไปนั่งบนเก้ าอีโ้ ยกปลายเตียง


หลับตาลง สร้ างภาพบอลแสงเพื่อเข้ าฌาน

ถัดมา มันเอนหลังพิงพนักพร้ อมกับสะกดตัวเองให้ หลับสนิท


วิญญาณดาราเชื่ อมต่ อกับประตูโลกวิญญาณเพื่อเตรียมรับคาบอก
ใบ้

ไคลน์ อาศัยเทคนิคทานายความฝันที่ตนถนัด สื บหาสาเหตุที่


วิญญาณอาฆาตจ้ องคุกคามเดอไวล์
เมื่อได้ รับคาตอบ มันจะได้ แก้ปัญหาจากต้ นตอชนิดขุดรากถอน
โคน

ทันใดนั้น เสี ยงคร่าครวญสุ ดโศกเศร้ าพลันดังข้ างหูไคลน์ ภาพ


การมองเห็นในห้ วงจิตเริ่มปรากฏเงาลางโปร่ งแสงรอบตัว

เสี ยงกรีดร้ องเจ็บปวดดังก้องในหัว ชายหนุ่มที่ได้ สติในความฝัน


ทาการยื่นแขนออกไปสั มผัสหนึ่งในเงาลางดังกล่าว

เพียงพริบตา กลุ่มก้อนดวงวิญญาณต่ างกรูเข้ าหาไคลน์ ประหนึ่ง


ผีเสื้ อราตรีเล่นแสงไฟ

ภาพการมองเห็นของมันเริ่มพร่ ามัว คล้ายกับสมองถูกแบ่ งเป็ น


สองซีกซ้ ายขวา จิตข้ างหนึ่งมองเห็นดวงวิญญาณจานวนมาก
ส่ วนอีกข้ างมองเห็น ‘กระจกเงา’

กระจกเงาปรากฏภาพเด็กสาวผู้หนึ่งในชุ ดเครื่ องแบบโรงงาน


มองผิวเผินเหมือนกับสุ ขภาพร่ างกายแข็งแกร่ ง แต่ เธอเดินไปทั่ว
โรงงานที่มีฝุ่นคละคลุ้งด้ วยศีรษะซึ่งมีอาการปวดแปลบตลอดเวลา

ยิ่งเวลาผ่ านไป ดวงตาเด็กสาวก็ยิ่งพร่ ามัว ร่ างกายซูบผอมลงทุก


ขณะ ไม่ หลงเหลือเค้ าลางของบุคคลสุ ขภาพแข็งแรง

เสี ยงของใครบางคนเรียกขานเธอด้ วยชื่ อชาร์ ลอตต์ อีกฝ่ ายบอก


ว่ าเธอป่ วยทางจิต
ป่ วยทางจิต?

ชอร์ ลอตต์ เดินมาส่ องกระจกบานที่ไคลน์ กาลังจ้ องมองจากอีก


ฝั่ง เธอยิม้ แห้ งๆ จนเผยให้ เห็นเหงือกที่เริ่มม่ วงคลา้

‘ภาพกระจก’ตัดไปและเริ่มต้ นฉากใหม่
ไคลน์ ได้ เห็นวิถีชีวิตของเด็กสาวอีกหนึ่งคนที่ชื่อแมรี่ เธอกาลัง
เดินอย่ างขยันขันแข็งภายในโรงงานตะกั่ว

…เหมือนกับชาร์ ลอตต์

จนกระทั่งวันหนึ่ง กล้ามเนื้อใบหน้ าฝั่งขวาเกิดการกระตุก


รวมถึงแขนและขาซีกเดียวกัน

“คุณเป็ นโรคลมชัก”

เสี ยงของใครบางคนกล่าวกับแมรี่ ร่ างกายเธอพลันสั่ นระริก


อย่ างหยุดไม่ ได้

อยู่มาวันหนึ่ง โรคประจาตัวแมรี่เกิดการกาเริบ เธอชักลงไปนอน


กับพื้นรุนแรงจนกระทั่งหมดสติไป

เด็กสาวอีกหนึ่งคน เธอค่ อนข้ างซึมเศร้ า หล่อนเดินไปบนถนน


ด้ วยสี หน้ าและแววตาเหม่ อลอย ยิ่งอาการกาเริบหนัก ยิ่งรุ นแรงถึง
ขั้นทาให้ การเปล่งเสี ยงติดขัด พูดจาได้ ลาบาก

อาการลุกลามจนเหงือกม่ วง ร่ างกายสั่ นกระตุก

เธอไปพบแพทย์ และเขาก็ตอบกลับมาว่ า

“ลาฟาย… คุณได้ รับสารพิษจากตะกั่วมากเกินขนาด”

แพทย์คนดังกล่าวจ้ องมองเด็กสาวด้ วยสี หน้ าเห็นใจ ทันใดนั้น


ลาฟายชักเกร็งรุนแรงจนกระทั่งหมดสติ

ยังมีอีกหลายฉากที่ปรากฏสู่ สายตาไคลน์ มันเฝ้าสารวจอย่ างใจ


เย็น

ผ่ านไปสั กพัก ไคลน์ เริ่มตระหนักถึงต้ นตอความพยาบาทจาก


กลุ่มเด็กสาว
เด็กสาวทุกคนล้วนเป็ นแรงงานค่ าแรงต่าที่ร่างกายมีโอกาส
สั มผัสกับผงตะกัวโดยตรง พวกเธอทั้งหมดตายเพราะสารพิษจาก
ตะกั่วที่แฝงมากับฝุ่ นควันจานวนมากภายในโรงงาน

เดอไวล์เคยมีกิจการโรงงานตะกั่วหนึ่งแห่ ง และโรงงานเซรา
มิกสองแห่ ง ทั้งสามโรงงานจะเน้ นจ้ างเด็กสาวค่ าแรงต่า

ไคลน์ ‘มอง’ เหตุการณ์ ไปเรื่ อยๆ อย่ างเงียบงัน ยังมีหนึ่งจุดที่มัน


ยังไม่ กระจ่ าง

ลาพัง ‘ความพยาบาทก่อนตาย’ นั้นยังไม่ เพียงพอที่จะก่อตัวเป็ น


วิญญาณอาฆาตตามหลอกหลอนได้ อย่ างทรงพลังเหมือนที่เดอไวล์
กาลังเผชิญ

ต่ อให้ ความรู้สึกอาฆาตของเด็กสาวสั่ งสมรวมกันมากเท่ าไร มัน


ก็ไม่ สามารถสร้ างแรงกระเพื่อมกับโลกปรกติได้ อย่ าว่ าแต่ คุกคาม
เดอไวล์จนนอนไม่ หลับ

นอกเสี ยจาก…

มีดวงวิญญาณที่อาฆาตอย่ างแรงกล้า เป็ นสื่ อกลางคอยชักนาดวง


วิญญาณพยาบาททั้งหมดเข้ าด้ วยกัน

แล้วไคลน์ ก็ได้ ‘เห็น’ เด็กสาวอีกหนึ่งคน


อายุของเธอยังไม่ ถึง 18 ปี แต่ กลับต้ องรับหน้ าที่อันตรายอย่ าง
การเคลือบเงาเซรามิก

“เฮลี่ย์ อาการของเธอเป็ นยังไงบ้ าง? ยังปวดหัวอยู่ไหม? ถ้ าปวด


หัวต้ องรีบบอกฉันทันทีเลยนะ ท่ านเซอร์ เดอไวล์กาชับหนักแน่ น
ห้ ามไม่ ให้ คนที่ปวดหัวทางานต่ อเด็ดขาด”

สตรีสูงอายุนางหนึ่งพูดกับเธอ

เฮลี่ย์ใช้ ฝ่ามือสั มผัสหน้ าผาก ก่อนจะตอบ


“แค่ เล็กน้ อยค่ ะ ยังสบายมาก”

“ถ้ าพรุ่งนีอ้ าการแย่ ลงต้ องรีบบอกฉันนะ”

หญิงชรากาชับ

เฮลี่ย์ตกปากรับคา แต่ เมื่อกลับถึงบ้ าน เธอเอาแต่ นวดคลึงศีรษะ


ไม่ หยุดพัก จากนั้นไม่ นาน บิดาและพีช่ ายของเฮลี่ย์กลับถึงบ้ าน
ด้ วยสี หน้ าสุ ดสิ้นหวัง

“พ่อกับพีแ่ กตกงานแล้ว”

มารดากล่าวพร้ อมปาดน้าตา
พ่อและพีช่ ายก้มศีรษะสานึกผิด พวกมันพยายามพูดปลอบใจ
“ไม่ ต้องห่ วง เดี๋ยวพรุ่งนีจ้ ะลองไปหางานที่ท่าเรื อ”

“แต่ พวกเราไม่ เหลือขนมปังสาหรับวันมะรื นแล้วนะ… ย้ ายไป


อยู่ถนนสายล่างดีไหม”

มารดาเฮลี่ย์ตัดพ้อ ก่อนจะหันมากล่ าวกับเธอด้ วยดวงตาแดงก่า

“ค่ าจ้ างของแกออกวันไหน? สิ บซูลสิ นะ?”


เฮลี่ย์ตอบพลางบีบนวดศีรษะ

“ใช่ ค่ะ สิ บซูล… วันเสาร์ … วันเสาร์ ”

เด็กสาวไม่ กล่าวสิ่ งใดต่ อ กลับไปทาตัวเงียบงันตามเดิม


จนกระทั่งเช้ าวันถัดมา เธอตื่นนอนไปทางานตามปรกติ และแจ้ ง
กับหัวหน้ างานว่ าอาการปวดศีรษะหายดีแล้ว

เฮลี่ย์ยังคงรักษากิจวัตรเช่ นนีไ้ ปอีกพักใหญ่ เธอเดินไปกลับห้ า


กิโลเมตรระหว่ างบ้ านและโรงงานโดยแสร้ งสวมรอยยิม้ สดใส

แต่ อาการปวดหัวทวีความรุนแรงขึน้ ทุกวัน

“ยังหางานไม่ ได้ อีกหรื อคะ?”


จนถึงวันที่เฮลี่ย์อดสงสั ยได้ เธอเปล่งเสี ยงถามบิดาและพีช่ าย
ขณะก้มหน้ ามองถ้ วยซุปที่มีขนมปังสี ดาสนิทวางกึ่งกลาง

ฝ่ ายบิดาตอบด้ วยน้าเสี ยงกระวนกระวาย

“ช่ วงนีเ้ ศรษฐกิจไม่ ดี โรงงานหลายแห่ งจึงประหยัดรายจ่ ายโดย


ลดปริมาณการจ้ างงาน แม้ แต่ ท่าเรื อยังได้ รับผลกระทบหนัก พ่อหา
ได้ แค่ สัปดาห์ ละสามซูล เจ็ดเพนนี เท่ านั้น”

เฮลี่ย์ถอนหายใจ ไม่ กล่าวสิ่ งใด เด็กสาวพยายามเก็บซ่ อนมือซ้ าย


ที่กาลังสั่ นกระตุก

วันถัดมา เธอยังคงเดินไปทางานเช่ นเคย แสงแดดยามเช้ าสว่ าง


สดใส ผู้เคยเดินขวักไขว่ ไปบนถนนแน่ นถนัดอย่ างรีบร้ อน

ทันใดนั้น อาการชักของเฮลี่ย์กาเริบฉับพลัน เธอทิง้ ตัวลงนอน


กับพื้น ร่ างกายชักเกร็ง ฟองน้าลายไหลฟูมออกจากริมฝี ปาก

สายตาที่แหงนมองฟ้ าเริ่มพร่ ามัว เฮลี่ย์พบเห็นใบหน้ าของผู้คน


ที่เดินผ่ านไปมาแต่ ไม่ คิดช่ วยเหลือ

จนกระทั่งลมหายใจสุ ดท้ าย เธอเหลือบเห็นรถม้ าตระกูลเดอไวล์


แล่นผ่ านพร้ อมกับสั ญลักษณ์ เด่ นสง่ าข้ างห้ องโดยสาร นกพิราบ
สยายปี กเตรียมบิน
เด็กสาวพยายามอ้าปากพูดบางสิ่ ง

แต่ สุดท้ าย เธอก็เงียบงันเหมือนเช่ นทุกครั้ง

เพราะเฮลี่ย์ไม่ มีลมหายใจอีกแล้ว
ราชันย์ เร้ นลับ91 : แก้ปัญหา

ฉากตรงหน้ าพลันพร่ ามัวและสลายไป

หลังจากไคลน์ ออกจากภาวะกึ่งความฝัน การมองเห็นของมัน


เริ่มปรับให้ เข้ ากับบรรยากาศที่มืดมิดของห้ องนอนเดอไวล์

มันทราบดีว่า ค่ าจ้ าง 1 ปอนด์ 10 ซูลต่ อสั ปดาห์ ของเบ็นสั น


หรื อเทียบเท่ า 30 ซูลนั้น ไม่ ใช่ เรื่ องง่ ายที่ใช้ จะพยุงครอบครัวสามพี่
น้ องให้ ผ่านพ้ นอย่ างราบรื่ น

มันทราบว่ า แรงงานทั่วไปจะได้ รับค่ าจ้ างราวสั ปดาห์ ละ 20 ซูล

ครั้งหนึ่งเมลิสซ่ าเคยเล่าให้ ฟัง หอพักของถนนกางเขนเหล็กสาย


ล่างมักเป็ นที่อยู่อาศัยของครอบครัวแออัดห้ าถึงเจ็ดชีวิต จะเรียกว่ า
สลัมก็ไม่ ผิดนัก

มันทราบว่ า เศษรฐกิจทวีปเหนือซบเซาลงมานานหลายเดือน
เนื่องจากวิกฤติสงครามที่เกิดขึน้ บนทวีปใต้

และยังทราบอีกว่ า สาวใช้ ทั่วไปจะได้ รับค่ าจ้ างเพียงสั ปดาห์ ละ 3


ถึง 6 ซูลต่ อสั ปดาห์ แต่ ฝั่งนายจ้ างจะจัดหาที่พกั และอาหารให้

ไคลน์ เลื่อนฝ่ ามือขึน้ มาแตะหว่ างคิว้ มันนั่งเงียบงันเป็ น


เวลานาน จนกระทั่งเดอไวล์ตื่นขึน้ และส่ งเสี ยงถาม
“คุณสารวัตร จะไม่ พูดอะไรหน่ อยหรื อ? จิตแพทย์ ที่ผมเคยพบ
ส่ วนใหญ่ ล้วนพูดมากทั้งสิ้น ชอบชวนคุยเรื่ อยเปื่ อย รวมถึง
สอบถามสาเหตุของอาการ

“แต่ ขอสารภาพตามตรง ผมมีความสุ ขกับการนอนงีบเมื่อครู่


มาก ปราศจากเสี ยงคร่าครวญโดยสิ้นเชิง

“คุณทาได้ อย่ างไร?”


ไคลน์ เอนหลังพิงพนักเก้าอีโ้ ยก แทนที่จะตอบคาถาม มันย้ อน
ถามอีกฝ่ ายกลับ

“ท่ านเซอร์ คุณรู้จักโรคพิษสารตะกั่วไหม? แล้วทราบหรื อไม่ ว่า


เป็ นอันตรายต่ อมนุษย์ ?”

เดอไวล์เงียบงันสั กพัก ก่อนจะเงยหน้ าตอบ

“ในตอนแรกไม่ ทราบ แต่ ระยะหลังเริ่มตระหนักเป็ นอย่ างดี


แล้ว…

“หรื อคุณจะบอกว่ า เสี ยงคร่าครวญเหล่านีเ้ ป็ นของเด็กสาว


โรงงานตะกั่วและเซรามิกที่ตายไปเพราะพิษตะกั่ว?”
โดยไม่ รอให้ ไคลน์ ตอบ มันชิงกล่าวต่ อทันทีตามสั ญชาตญาณนัก
เจรจา

“ผมรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ ในอดีตมาก แต่ หลังจากนั้นก็ชดเชยให้


ทุกครอบครัวอย่ างสมเหตุสมผลแล้ว

“นับตั้งแต่ น้ ันเป็ นต้ นมา โรงงานตะกั่วและเซรามิกของผมไม่


เคยจ่ ายค่ าแรงต่ากว่ าโรงงานอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันอีกเลย
ค่ าแรงเฉลี่ยอยู่ที่แปดซูล แต่ โรงงานผมจ่ ายมากถึงสิ บ หรื อสู งกว่ า
นั้นในบางราย

“จะบอกอะไรให้ หลังจากขึน้ ค่ าแรงอยู่เจ้ าเดียว ตัวผมถูกโรงงาน


อื่นกดดันมาตลอด เป็ นเพราะค่าแรงโรงงานผม ทาให้ ไม่ มีคนไป
สมัครงานที่โรงงานอื่น ถ้ าไม่ เพราะกฎหมายควบคุมเมล็ดพันธุ์
เกิดขึน้ พอดี จนชาวนาหมดเนื้อหมดตัวและต้ องเปลี่ยนงาน
โรงงานพวกมันไม่ มีทางหาลูกจ้ างได้ แม้ แต่ คนเดียว

“ยิ่งไปกว่ านั้น ผมกาชับหัวหน้ างานทุกคนให้ คอยสอดส่ อง


คนงานอยู่ตลอด หากพบใครที่มีอาการปวดหัว ให้ รีบย้ ายออกจาก
เขตตะกั่วทันที ไปทาในจุดปลอดภัยที่ค่าแรงต่ากว่ าเล็กน้ อย หรื อ
ถ้ าอาการใครกาเริบหนัก สามารถพูดคุยกับผมโดยตรง เพื่อขอใช้
ทุนรักษาพยาบาลจากมูลนิธิการกุศลส่ วนตัว
“ผมทาดีที่สุดแล้ว”
ไคลน์ ตอบกลับด้ วยเสี ยงราบเรียบที่ไม่ สั่นคลอนแม้ แต่ เศษเสี้ยว

“ท่ านเซอร์ คุณคงไม่ ทราบว่ า ครอบครัวที่ยากจนไม่ สามารถ


หยุดทางานได้ ต่ อให้ กาลังป่ วย พวกเขาก็จะโกหกและฝื นทางานต่ อ
หากคนเหล่านีต้ กงานสั กหนึ่งหรื อสองสั ปดาห์ รับประกันได้ เลยว่ า
ต้ องมีใครในครอบครัวจากไปตลอดกาล…”

ไคลน์ เว้ นวรรคครู่หนึ่ง


“ผมไม่ เข้ าใจ ทาไมผู้มีจิตใจเมตตาเช่ นคุณถึงไม่ ติดตั้งเครื่ อง
กรองฝุ่ นและเศษผงตะกั่วที่กระจัดกระจายภายในโรงงาน?”

เดอไวลเงยหน้ ามองแพดานพลางยิม้ แห้ งๆ

“นั่นจะทาให้ ต้นทุนของโรงงานสู งเกินไป จนไม่ สามารถแข่ งขัน


กับโรงงานอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันได้

“อันที่จริง ผมไม่ สนใจกาไรจากโรงงานตะกั่วกับเซรามิกมากนัก


ด้ วยความสั ตย์ จริง ผมเคยคิดที่จะลงทุนกับมันมหาศาล แต่ จะไปมี
ประโยชน์ อันใดหากประกอบธุรกิจแล้วขาดทุนอย่ างต่ อเนื่อง?

“ผมอาจช่ วยชุมชนได้ บางส่ วน ช่ วยเหลือแรงงานเด็กสาวได้


จานวนหนึ่ง แต่ ก็จะมีเด็กสาวเสี ยชีวิตจากโรงงานชั่วๆ แห่ งอื่นอยู่ดี
แถมยังเคยได้ ยินว่ า บางโรงงานต่าทรามถึงขั้นกดค่ าแรงคนงานจน
ต่าสุ ด

“ผมจะไม่ ได้ ประโยชน์ อะไรเลยถ้ านาเงินส่ วนตัวช่ วยเหลือพวก


เธอ”

ไคลน์ นั่งกอดอกอย่ างเงียบงันสั กพัก

“ท่ านเซอร์ สาเหตุของอาการทางจิตที่คุณกาลังประสบ มาจาก


ความเคียดแค้ นของเด็กสาวที่เสี ยชีวิตไป
“คุณอาจคิดว่ าความแค้ นของพวกเธอค่ อยๆ จางลงหลังจาก
พยายามปรับเปลี่ยนนโยบายโรงงาน แต่ ความจริงแล้วไม่ ใช่ มันยัง
ติดตัวคุณอยู่ตลอด เพียงแต่ มีระดับเบาบางจนสั มผัสไม่ ได้ ไม่
สามารถรู้สึกถึง

“แต่ แล้ววันหนึ่ง บางเหตุการณ์ ได้ กระตุ้นให้ ความแค้ นทั้งหมด


ปะทุออกในคราเดียว”

“บางเหตุการณ์ ? ผมนึกไม่ ออก…”

เดอไวลขมวดคิว้ ด้ วยสี หน้ าสุ ดฉงน

ไคลน์ ปล่อยให้ เก้าอีเ้ ริ่มโยกเอนตามธรรมชาติ ปากพลางอธิบาย


อย่ างนุ่มนวล
“ในตอนที่หลับไปเมื่อครู่ ผมได้ ถามบางสิ่ งกับคุณ”

“สะกดจิต?”

เดอไวล์ลองคาดเดา เพราะนั่นคือสิ่ งที่จิตแพทย์ ชอบทากับคนไข้

ไคลน์ ไม่ ตอบตรง มันกล่าวแฝงเลศนัย

“คุณเคยพบเด็กสาวคนหนึ่งเสี ยชีวิตต่ อหน้ าต่ อตาบนถนน


อาการของหล่อนกาเริบขณะเดินมาทางานตามปรกติ

“ในตอนนั้น คุณอยู่บนรถม้ าของตัวเองที่มีตราสั ญลักษณ์ ติด


ด้ านข้ าง

“เธอตายเพราะพิษสารตะกั่วจากโรงงานคุณ เด็กสาวดังกล่าว
ทางานอยู่ฝ่ายเคลือบเงาเซรามิก

“ในตอนที่คุณไปพบ… หล่อนยังไม่ ตาย”

เดอไวล์นั่งลูบขมับเป็ นเวลานานโดยไม่ กล่าวสิ่ งใด สี หน้ าคล้าย


กับพยายามนึกเค้ นเหตุการณ์ ให้ ออก

“เคยมีเรื่ องแบบนั้นจริงด้ วย… แต่ ผมจารายละเอียดไม่ ได้ เลย


ภาพเลือนลางมาก”
การนอนไม่ พอตลอดหนึ่งเดือนเต็มส่ งผลให้ สมองของมัน
อ่อนแอลง ความทรงจาในอดีตเลือนลางกว่ าปรกติ ฉากเดียวที่นึก
ออกมาได้ ทั้งคลุมเครื อและไม่ ชัดเจน

หลังจากฝื นตัวเองครู่หนึ่ง เดอไวล์ยอมแพ้และเงยหน้ าถามกับ


ไคลน์

“หล่อนชื่ ออะไร?

“แล้วก็… ผมต้ องทาอย่ างไรจึงจะรักษาอาการทางจิตนีไ้ ด้ ?”

ชายหนุ่มตอบกลับทันที

“ทาเพียงสองข้ อ

“ข้ อแรก คนงานที่ตายไปต่ อหน้ าคุณและเป็ นต้ นตอของอาการ


ป่ วย เธอชื่ อเฮลี่ย์·วอล์คเกอร์ ตามหาพ่อแม่ ของเธอให้ พบและ
ชดเชยในจานวนที่มากกว่ าอดีต

“ข้ อสอง แพร่ กระจายความอันตรายของพิษสารตะกั่วให้ ผ้ คู น


ตระหนักเป็ นวงกว้ างผ่ านหน้ าหนังสื อพิมพ์ ใช้ เงินกองทุนมูลนิ
ธการกุศลของคุณช่ วยเหลือผู้ป่วยจากพิษสารตะกั่วอย่ างเหมาะสม
และถ้ ามีโอกาสเข้ าไปนั่งในสภาผู้แทน คุณต้ องผลักดันกฎหมาย
ความคุมโรงงานให้ ผ่าน”

เดอไวล์เผยรอยยิม้ ขมขื่น

“ทุกข้ อไม่ มีปัญหา ยกเว้ นการผลักดันกฏหมายควบคุมโรงงาน


คุณก็ร้ ูใช่ ไหมว่ าอาณาจักรโลเอ็นกาลังแข่ งขันเชิงธรุกิจกับ
อาณาจักรข้ างเคียง การออกกฎหมายควบคุมจะทาให้ ทุกโรงงานใน
อาณาจักรล้มละลาย ไม่ สามารถต่ อสู้ กับชาติอื่น มันคือปัญหาระดับ
ทวีป และจะส่ งผลให้ โรงงานปิ ดตัวลงทีละแห่ งจนกระทั่งชาวบ้ าน
ตกงานกันหมด”

เดอไวล์ลุกยืนขึน้ อย่ างไม่ รีบร้ อน มือสองข้ างกาลังจัดปกเสื้ อเพื่อ


เตรียมสวม มันหันมามองไคลน์ และกล่าว

“เฮลี่ย์·วอล์คเกอร์ ใช่ ไหม? ผมจะให้ คัลเลนสื บประวัติ จากนั้นจะ


ติดต่ อผู้ปกครองและเพิม่ เงินชดเชยจากเดิมหลายเท่ าตัว

“ส่ วนคุณ สารวัตร คุณต้ องติดตามรักษาอาการป่ วยของผม


จนกว่ าจะหายขาด”

“เข้ าใจแล้วครับ”

ไคลน์ ลุกขึน้ ยืน มันจัดระเบียบเครื่ องแบบตารวจลายตาราง


หมากรุกขาวดาให้ เรียบร้ อย

สิ บเอ็ดโมงเช้ าวันเดียวกัน ที่ห้องรับแขกประจาบ้ านเดอไวล์


ไคลน์ นั่งเงียบงันบนโซฟาโดยไม่ กล่าวสิ่ งใด

แขกสองคนถูกพาตัวมาที่บ้านเดอไวล์โดยฝี มือคัลเลน

ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ผิวหนังหยาบกร้ าน ริ้วรอยปรากฏเต็ม


ใบหน้ าก่อนวัยอันควร ฝ่ ายชายหลังค่ อมเล็กน้ อย ฝ่ ายหญิงมีจุดไฝ
ใต้ เปลือกตา

รูปลักษณ์ เหมือนกับที่ไคลน์ เห็นในความฝัน เพียงแต่ ทรุดโทรม


กว่ ามาก ร่ างกายผอมซูบแทบติดกระดูก เสื้ อผ้ าสกปรกเปรอะ
เปื้ อน

ไคลน์ ยังได้ ยินว่ า พวกมันไม่ มีเงินพอจะอาศัยอยู่แม้ กระทั่งย่ าน


สลัมแอดอัดอย่ างถนนกางเขนเหล็กสายล่าง

ฮือ…

เสี ยงครางเบาๆ ดังพร้ อมสายลมที่มองไม่ เห็นพัดผ่ านร่ างกาย


มันรับรู้ได้ จากสั มผัสวิญญาณอันเฉียบแหลม
ไคลน์ รีบเข้ าสู่ ภาวะเนตรวิญญาณและจ้ องมองไปที่เดอไวล์ มัน
ได้ พบเงาลางโปร่ งแสงของบุคคลผู้หนึ่งกาลังยิม้ อย่ างมีความสุ ข

“อ…อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท…ท่ านเซอร์ ”

พ่อและแมเฮลี่ย์ทักทายด้ วยท่ าทีนอบน้ อมสุ ดชีวิต

สี หน้ าเดอไวล์ดีขนึ้ เล็กน้ อย มันใช้ ฝ่ามือลูบคลาหน้ าผากพร้ อม


กับไต่ ถาม

“พวกคุณคือพ่อและแม่ ของฮาลี่ย์·วอร์ คเกอร์ ใช่ ไหม? ได้ ยินมาว่ า


ยังมีพชี่ ายคนโตและน้ องสาวคนเล็กวัยสองขวบอยู่ที่บ้านด้ วย”

มารดาฮาลี่ย์ตอบเสี ยงสั่ นเครื อ

“พ…พีช่ ายของฮาลี่ย์ขาหักจากการทางานหนักที่ท่าเรื อค่ ะ พ…


พวกเราจึงให้ เขาดูแลน้ องสาวอยู่ที่บ้าน”

เดอไวล์เงียบงันหลายวินาที ก่อนจะถอนหายใจยาว

“ผมขอแสดงความเสี ยใจอย่ างสุ ดซึ่งต่ อเรื่ องที่เกิดขึน้ กับฮาลี่ย์”

เมื่อได้ ยินเช่ นนั้น ดวงตาสามีภรรยาเริ่มแดงก่า พวกมันสลับกัน


พูดตะกุกตะกัก
“ข…ขอบคุณสาหรับความห่ วงใยค่ ะ”
“ตารวจบอกกับเราว่ า ฮาลี่ย์ตายเพราะพิษจากสารตะกั่วใช่ ไหม
ครับ? หรื ออะไรทานองนั้น เฮ่ อ… เธอน่ าสงสารมาก อายุเพียงสิ บ
เจ็ด เป็ นเด็กที่เงียบ แต่ ม่ ุงมั่นและใจสู้ ”

“คุณเคยส่ งคนมาช่ วยออกเงินและจัดพิธีศพให้ เธอแล้ว… ฝังอยู่


ที่สุสานราเฟเอล”

เดอไวล์ชาเลืองมองไคลน์ เล็กน้ อย คล้ายกับต้ องการคาแนะนา


แต่ ชายหนุ่มไม่ ได้ กล่าวสิ่ งใด ปล่อยให้ เศรษฐีใจบุญจัดการตัวเอง

เดอไวลเปลี่ยนท่ านั่งและโน้ มตัวไปข้ างหน้ าเล็กน้ อย

“ต้ องขออภัยอย่ างสู งที่ผมละเลยการตอบแทนอย่ างเหมาะสม

“ไม่ ว่าอย่ างไร ผมก็ต้องชดเชยให้ พวกคุณ

“ชดเชยให้ ฮาลี่ย์…

“ถ้ าจาไม่ ผิด ค่ าจ้ างของเธอคือสิ บซูลต่ อสั ปดาห์ ใช่ ไหม? ตกปี ละ
26 ปอนด์

“สมมติให้ ฮาลี่ย์ทางานต่ อไปอีกสิ บปี …


“คัลเลน มอบเงินให้ ครอบครัวฮาลี่ย์ท้งั หมดสามร้ อยปอนด์ ”
“ส…สามร้ อยปอนด์ ?”

พ่อและแม่ ฮาลี่ย์ต่างอ้าปากค้ าง

นับตั้งแต่ เกิด พวกมันไม่ เคยออมเงินได้ เกินหนึ่งปอนด์ เลยสั ก


ครั้ง และนั่นคือความร่ารวยสู งสุ ดในชีวิตแล้ว

ไม่ เพียงพวกมันที่ตกตะลึง เหล่าคนคุ้มกันและสาวใช้ ทุกคนใน


เหตุการณ์ ต่างอ้าปากค้ างด้ วยความอิจฉา แม้ กระทั่งสิ บเอกเกตต์
มันถึงกับหายใจแรงผิดปรกติ เงินจานวนสามร้ อยปอนด์ ไม่ ใช่
จานวนน้ อย โดยเฉพาะมันที่ได้ รับค่ าจ้ างสั ปดาห์ ละสองปอนด์

ท่ ามกลางความเงียบงัน พ่อบ้ านคัลเลนเดินออกมาพร้ อมกับถือ


ถุงหนังใบใหญ่ ที่บรรจุธนบัตรไว้ เต็มเปี่ ยม

คัลเลนเปิ ดปากถุงให้ พ่อและแม่ ของเฮลี่ย์ดู ด้ านในประกอบด้ วย


ธนบัตรมูลค่ าหนึ่งปอนด์ ห้ าปอนด์ แต่ ส่วนมากจะเป็ นหนึ่งและห้ า
ซูล ผสมกันจนครบสามร้ อยปอนด์

เห็นได้ ชัดว่ า ระหว่ างทาง เดอไวล์กาชับให้ พ่อบ้ านแวะธนาคาร


เพื่อแลกเงิน ‘ชดเชย’ เตรียมไว้ ล่วงหน้ า
“เป็ นสิ นน้าใจจากท่ านเซอร์ เดอไวล์ครับ”

หลังจากเจ้ านายอนุมัติ คัลเลนยื่นถุงเงินให้ กับสองสามีภรรยา


วอร์ คเกอร์

พวกมันยืนจ้ องถุงพลางขยีต้ าหลายครั้ง ก่อนตัดสิ นใจปฏิเสธ

“ห…หามิได้ ค่ะ! พวกเราไม่ สมควรรับไว้ ม…มูลค่ าของมันมาก


เกินไป”
พ่อและแม่ เฮลี่ย์กล่าวขณะเอือ้ มมือออกไปรับถุงบรรจุธนบัตร

เดอไวล์เปล่งเสี ยงลุ่มลึก

“นี่คือจานวนเงินที่เฮลี่ย์สมควรได้ รับ”

“ส…สมกับเป็ นท่ านอัศวินใจบุญ! ขุนนางผู้มีจิตใจกว้ างขวางดุง


ดังมหาสมุทร!”

สามีภรรยาต่ างรีบก้มศีรษะด้ วยท่ าทางติดๆ ขัดๆ บนใบหน้ า


กาลังฉีกยิม้ กว้ าง บางทีอาจกว้ างที่สุดในชีวิตนับตั้งแต่ เกิดมา

พวกมันกล่าวยกย่ องอัศวินใจบุญไม่ ขาดปาก รวมถึงเน้ นยา้


บ่ อยครั้งว่ า เฮลี่ย์บนสวรรค์ ต้องรู้สึกดีใจมากแน่
“คัลเลน พาพวกเขาไปส่ งที่บ้าน

“ไม่ สิ… ไปส่ งธนาคารก่อน”

เดอไวล์ถอนหายใจอย่ างผ่ อนคลาย พร้ อมกาชับพ่อบ้ านคนสนิท


ละเอียด

พ่อและแม่ เฮลี่ย์เดินกอดถุงเงินออกจากประตูบ้านด้ วยฝี เท้ า


รีบเร่ ง จังหวะก้าวเดินเต็มไปด้ วยความสุ ขสมหวัง
ในภาวะเนตรวิญญาณ ไคลน์ เห็นเงาลางสี ขาวด้ านหลังเดอไวล์
พยายามเหยียดแขนออกไปหาสองสามีภรรยา คล้ายกับต้ องการ
ออกไปใช้ ชีวิตอยู่ด้วยกัน ทว่ า ทั้งสองกาลังมีความสุ ขจนไม่ สนใจ
สิ่ งรอบข้ าง ไม่ แม้ แต่ จะเหลียวหลังหันกลับมา

เพียงไม่ นาน ภาพเลือนลางดังกล่าวจางหายไปจากแผ่ นหลังเดอ


ไวล์โดยสมบูรณ์

ชายหนุ่มสั มผัสได้ ว่า ห้ องรับแขกที่เคยมีบรรยากาศค่ อยข้ างเย็น


กลับไปมีอุณหภูมิปรกติอีกครั้ง

ตั้งแต่ เริ่มจนจบ ไคลน์ ทาเพียงเฝ้ามองโดยไม่ ออกความเห็น

“คุณสารวัตร ตอนนีผ้ มรู้สึกดีขนึ้ มากแล้ว


“ช่ วยอธิบายได้ ไหม ถ้ าสิ่ งที่ผมเผชิญคืออาการป่ วยทางจิตจริง
แล้วเหตุใดสาวใช้ และคนคุ้มกันถึงได้ ยินเสี ยงคร่าครวญแบบ
เดียวกัน

“หรื อที่จริงแล้วผมไม่ ได้ ป่วย…?”

เดอไวล์มองไคลน์ ด้วยสายตาเคลือบแคลง

สารวัตรทอเร่ ผ้ ูทราบความจริงเบื้องหลัง มันพลันเหงื่อแตกทันที


เมื่อไคลน์ ถูกถามจี้

ชายหนุ่มตอบกลับเสี ยงเรียบ

“ในทางจิตวิทยา ผู้เชี่ยวชาญจะเรียกอาการแบบนีว้ ่ า… อุปทาน


หมู่”
ราชันย์ เร้ นลับ 92 : ผู้เชี่ยวชาญด้ านจิตวิทยา

“อุปทานหมู่?”

เดอไวล์แสดงสี หน้ างุนงง มันไม่ เข้ าใจกับศัพท์ เทคนิคที่ไคลน์


เอ่ยถึง แม้ ว่าตนจะเคยพบจิตแพทย์ มาแล้วหลายราย

ทางด้ านสาวใช้ และคนคุ้มกัน พวกมันอาจสงสั ยใคร่ ร้ ู แต่ ก็ไม่ มี


ใครกล้ากล่าวสิ่ งใดเนื่องจากเดอไวล์ยังไม่ อนุญาต
สิ บเอกเกตต์ มันจ้ องมองไคลน์ ด้วยสี หน้ าสุ ดทึ่ง วลีเมื่อครู่คือ
ภาษาแปลกใหม่ สาหรับมันโดยแท้ จริง

ไคลน์ พยายามระงับนิสัยชอบเคาะนิว้ มันดึงมือออกจากที่พกั


แขนโซฟา และค่ อยๆ อธิบายอย่ างใจเย็น

“มนุษย์ จะมีอวัยวะสาหรับรับความรู้สึกที่อ่อนไหว อุปทานหมู่


หมายถึงอาการทางจิตที่อวัยวะเหล่านั้นหลอกร่ างกายให้ เข้ าใจผิด
โดยมีสาเหตุจากสภาพแวดล้อมรอบตัว”

หลังจากไคลน์ พ่นทฤษฎีซับซ้ อนออกมา ทั้งเดอไวล สาวใช้ สิ บ


เอกเกตต์ รวมถึงทุกคนที่เหลือ พวกมันล้วนพยักหน้ าแสร้ งเป็ น
เข้ าใจประโยคยากๆ ของชายหนุ่มตามจิตใต้ สานึก
“ขอยกตัวอย่ างให้ เห็นภาพ อ้างอิงจากคนไข้ เก่าที่เคยผมเคย
เผชิญ

“ชายคนหนึ่งจัดงานเลีย้ งโดยชักชวนแขกร่ วมงานทั้งหมด 35


คน ระหว่ างงานกาลังดาเนินไป เขาเกิดคลื่นไส้ และอาเจียนรุนแรง
จากนั้นก็ตามต่ อด้ วยอาการท้ องเสี ย

“อาการเช่ นนั้นยังคงเกิดซ้าเดิมอีกสองสามหนภายในงาน
ท้ ายที่สุด ชายคนดังกล่าวตัดสิ นใจไปโรงพยาบาล

“ขณะกาลังเดินทาง เขาได้ บอกกับเพื่อนคนหนึ่งที่ไปส่ งว่ า


อาการของตนต้ องเกิดจากอาหารเป็ นพิษแน่

“สองชั่วโมงถัดมา หลังจากเพื่อนคนดังกล่าวนาเรื่ องไปเล่าให้


แขกภายในงานฟัง ผู้ร่วมงานกว่ า 30 คนจากทั้งหมด 35 ต่ างเกิด
ภาวะอาหารเป็ นพิษในเวลาไล่เลี่ยน ห้ องฉุกเฉินของโรงพยาบาล
ต้ องรับมือกับคนไข้ ในปริมาณล้นมือ

“แต่ หลังจากแพทย์ วินิจฉัยอย่ างละเอียด พวกเรากลับพบว่ าชาย


คนนั้นไม่ ได้ อยู่ในภาวะอาหารเป็ นพิษ มีเพียงสั ญญาณของโรค
กระเพาะอาหารอักเสบที่เกิดจากอุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนแปลง
ฉับพลันด้ วยเครื่ องดื่มแอลกอฮอล์เย็นจัด

“สิ่ งที่น่าประหลาดใจก็คือ แขกชุดหลังกว่ า 30 คนที่มาถึง


โรงพยาบาล ไม่ มีใครที่ประสบภาวะอาหารเป็ นพิษเลยสั กคนเดียว
แม้ แต่ อาการป่ วยทั่วไปก็ไม่ ปรากฏ
“ที่กล่าวมาข้ างต้ นคืออาการอุปทานหมู่”

เดอไวล์ผงกศีรษะ สี หน้ าของมันเริ่มกระจ่ าง

“ผมพอจะเข้ าใจแล้ว มนุษย์ ชอบหลอกตัวเองสิ นะ… ไม่ แปลกใจ


ว่ าทาไมจักรพรรดิโรซายถึงชอบพูดบ่ อยครั้งว่ า หากโกหกเรื่ องเดิม
ร้ อยครั้ง คาโกหกนั้นจะเป็ นความจริงขึน้ มา

“สารวัตร ผมควรเรียกคุณว่ าอย่ างไรดี? ด้ วยความสั ตย์ จริง คุณ


คือจิตแพทย์ ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่ าที่ผมเคยพบ”

“สารวัตรโมเร็ตติก็พอครับ”

ไคลน์ ตอบพร้ อมกับชี้ไปที่อินทรธนูบนบ่ า

“ท่ านเซอร์ ผมขอตรวจสอบปัญหาของคุณอีกครั้ง เพื่อให้ มั่นใจ


ว่ าปราศจากภัยคุกคามโดยสมบูรณ์ ช่ วยพยายามนอนหลับให้ สนิท
ผมจะทาการวินิจฉัยอย่ างละเอียด หากปัญหาถูกแก้ไขเรียบร้ อย
แล้ว ทางเราขอตัวกลับทันทีโดยไม่ รอให้ คุณตื่น”

“ตกลง”

เดอไวล์เดินนาทางทุกคนขึน้ บันไดไปยังห้ องนอนชั้นสอง


ครึ่งชั่วโมงถัดมา รถม้ ากรมตารวจเล่นออกจากบ้ านของเศรษฐี


ใจบุญชื่ อดังเมืองทิงเก็น

เมื่อส่ งสิ บเอกเกตต์ ลงที่สถานีตารวจ สารวัตรทอเร่ หันมาพูดกับ


ไคลน์

“ผมเกือบจะเชื่ อว่ าคุณคือผู้เชี่ยวชาญด้ านจิตวิทยาตัวจริง…”


หลังจากกล่าวจบ ทอเร่ หันไปมองไคลน์

ชายหนุ่มยังคงแสดงสี หน้ าเรียบเฉย เพียงอมยิม้ เล็กๆ ก่อนตอบ

“ก็เคยมีประสบการณ์ อยู่บ้าง”

สารวัตรทอเร่ ไม่ กล่าวสิ่ งใดต่ อ จนกระทั่งรถม้ าเคลื่อนตัวมาถึง


บ้ านเลขที่ 36 บนถนนซุตแลน

“ขอบคุณที่ช่วยเหลือ ในที่สุดปัญหาก็คลี่คลาย เซอร์ เดอไวล์


ได้ รับเวลานอนกลับมาอีกครั้ง”

สารวัตรร่ างท้ วมยื่นแขนออกมาขอจับมือ


“ฝากขอบคุณดันน์ แทนผมด้ วย”
ไคลน์ จับมือตอบและผงกศีรษะ

“ได้ ครับ”

เมื่อเดินขึน้ มาถึงชั้นสองของสานักงานรักษาความปลอดภัย
หนามทมิฬ มันตรงไปเคาะประตูห้องทางานดันน์ ·สมิท

“เสร็จแล้ว?”
ดันน์ กาลังรออาหารเที่ยง

“เสร็จแล้ว”

ไคลน์ บีบนวดหว่ างคิว้ เนื่องจากใช้ เนตรวิญญาณหนักหน่ วงมา


ทั้งวัน มันตอบกระชับ

“ต้ นตอปัญหาเกิดจากโรงงานตะกั่วและเซรามิคในความดูแล
ของเซอร์ เดอไวล์ นับตั้งแต่ เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน มีเด็กสาว
จานวนมากเสี ยชีวิตเพราะพิษสารตะกั่วตกค้ าง ส่ งผลให้ ดวง
วิญญาณกลุ่มหนึ่งเกิดความเคียดแค้ นเซอร์ เดอไวล์”

“ตามความเห็นของผม ถ้ าเป็ นอย่ างที่คุณเล่า เซอร์ เดอไวล์ไม่


ควรถูกคุกคามด้ วยเสี ยงคร่าครวญ ดวงวิญญาณอาฆาตทั่วไปมี
พลังไม่ มากขนาดนั้นแน่ เต็มที่สร้ างได้ เพียงฝันร้ าย”
ดันน์ วิเคราะห์ ตามประสบการณ์ ของตน

ไคลน์ พยักหน้ าเห็นด้ วยและอธิบายต่ อ

“ใช่ ครับ มันควรจะเป็ นเช่ นนั้น แต่ เซอร์ ·เดอไวล์ดันเผชิญหน้ า


กับเด็กสาวคนหนึ่งโดยตรงก่อนตาย เธอเสี ยชีวิตบนถนนขณะ
กาลังเดินเท้ าไปทางาน ด้ วยอาการพิษสารตะกั่วตกค้ างเหมือนคน
อื่นๆ
“ในลมหายใจสุ ดท้ าย เด็กสาวเหลือบเห็นตราสั ญลักษณ์ ข้างรถ
ม้ าของเซอร์ เดอไวล์เข้ า

“ความไม่ พอใจ ความกังวลเกี่ยวกับครอบครัว และอารมณ์ ด้าน


ลบอีกหลายชนิดพลันระเบิดปะทุ ส่ งผลให้ ดวงวิญญาณอาฆาตของ
หล่อนพุ่งเป้าใส่ ร่างเซอร์ เดอไวล์ในที่เกิดเหตุทันที

“แต่ ปัญหานีแ้ ก้ไขได้ โดย เซอร์ เดอไวล์ตัดสิ นใจมอบเงินจานวน


สามร้ อยปอนด์ ให้ ครอบครัวเด็กสาว เมื่อดวงวิญญาณของเธอพึง
พอใจ การคุกคามจึงหยุดลง”

“นี่เป็ นปัญหาทางสั งคมที่เรื้อรังมานานแล้ว พบได้ ทั่วไปในยุค


สมัยเครื่ องจักรไอน้า”
ดันน์ หยิบไปป์ ออกมาสู ดกลิ่นยาสู บ ก่อนจะถอนหายใจยาวด้ วย
สี หน้ าหดหู่

“คนงานในโรงงานที่มีสภาพแวดล้อมเลวร้ ายมักถูกวินิจฉัยให้
เป็ นโรคประเภทนี้

“ตามความเห็นของผม ปัญหาหลักคือฝุ่ นละอองที่กระจายเต็ม


อากาศ ต่ อให้ ไม่ มีสารตะกั่วหรื อพิษเจือปน ลาพังฝุ่ นก็มากพอจะ
สร้ างโรคภัย หากสะสมในปอดมากเข้ า…

“เฮ่ อ… พวกเราคงทาอะไรไม่ ได้ ต้ องรอให้ อาณาจักรพัฒนาและ


มีเทคโนโลยีที่ดีขนึ้ ปัญหาต่ างๆ อาจลดจานวนลงบ้ าง

“ไคลน์ ขอแสดงความยินดีกับตาแหน่ งสมาชิกเหยี่ยวราตรีอย่ าง


เป็ นทางการ เย็นนี้ไปฉลองที่ร้านหรูกันไหม?”

ชายหนุ่มครุ่นคิดเล็กน้ อย ก่อนปฏิเสธ

“ไว้ เป็ นพรุ่งนีไ้ ด้ ไหมครับ… ตลอดช่ วงเช้ า ผมใช้ เนตรวิญญาณ


ต่ อเนื่องจนเกิดอาการอ่อนเพลีย ต้ องการพักผ่ อนตอนบ่ ายให้ เต็ม
อิ่ม

“และหลังจากนั้นในช่ วงเย็น ผมคิดว่ าตัวเองควรรีบไปยังสโมสร


พยากรณ์ เพื่อจับตาดูท่าทีของสมาชิกที่ทราบข่ าวการเสี ยชีวิตของ
เฮเนส·วินเซนต์ ”
“ไม่ มีปัญหา แบบนั้นก็ไม่ เลว”

ดันน์ พยักหน้ า

“ตกลงเป็ นพรุ่งนีต้ อนค่า พวกเราจะจัดงานฉลองที่ร้านอาหาร


ลุงวีลล์ ผมจะให้ โรแซนจองโต๊ ะ”

ไคลน์ ถอดหมวกตารวจและโค้ งคานับ

“ขอบคุณครับหัวหน้ า ไว้ พบกันพรุ่งนี”้

“อา”

ทันใดนั้น ดันน์ รีบยกมือห้ าม

“เดี๋ยวก่อน… คุณบอกว่ าเซอร์ เดอไวล์มอบเงินจานวนสามร้ อย


ปอนด์ ให้ ครอบครัวของเด็กสาวที่เสี ยชีวิตใช่ ไหม?”

“ครับ”

ไคลน์ พยักหน้ า และเข้ าใจถึงสาเหตุที่ดันน์ หยิบยกขึน้ มาพูด

“คุณกลัวพวกเขาจะเกิดปัญหา เนื่องจากร่ารวยอย่ างฉับพลันใช่


ไหมครับ?”
ดันน์ ถอนหายใจยาว

“ผมเคยเห็นคดีแบบนีม้ ามากแล้ว…

“เขียนที่อยู่พวกเขาให้ หน่ อย เดี๋ยวผมจะให้ โคเฮนรี่ช่วยทาเรื่ อง


ย้ ายสามะโนครัวไปอยู่เมืองอื่น พวกเขาจะได้ เริ่มต้ นชีวิตใหม่ ที่นั่น
ด้ วยฐานะแตกต่ างจากเดิม”

“ได้ ครับ”
ไคลน์ ให้ ความร่ วมมือ มันเขียนที่อยู่ปัจจุบันของสองสามีภรรยา
วอร์ คเกอร์ ให้ ดันน์ จากนั้นก็กล่าวคาอาลาและเดินเข้ าไปในห้ องพัก
ที่เยื้องฝั่งตรงข้ าม

ไคลน์ จัดแจงเปลี่ยนชุ ดกลับเป็ นสู ทขาวดา ก่อนจะแขวน


เครื่ องแบบสารวัตรไว้ บนราว

มันโดยสารรถม้ ากลับถนนดารารัตน์ เมื่อถึงบ้ าน ชายหนุ่มนั่ง


ผ่ อนคลายพลางถอดหมวกและโค้ ตตัวนอกออก จากนั้นก็เดินไป
อุ่นอาหารเหลือเมื่อคืนเพื่อเติมเต็มท้ องว่ าง

สุ ดท้ าย ไคลน์ เดินขึน้ ไปบนชั้นสอง ถอดเสื้ อผ้ าทางการออก


เปลี่ยนเป็ นชุดสวมสบาย และทิง้ ตัวลงนอนบนเตียง

มันตื่นมาอีกครั้ง นาฬิ กาพกบอกเวลาบ่ ายสองสิ บนาที

เหลืออีกเกือบชั่วโมงก่อนชุ มนุมไพ่ทาโร่ ต์จะเริ่มขึน้

ดวงอาทิตย์ นอกหน้ าต่ างยังคงเจิดจ้ าในช่ วงบ่ าย แสงแดดทอง


อร่ ามส่ องผ่ านกลุ่มเมฆหมอกและม่ านสี ดาเข้ ามาในห้ อง

ไคลน์ เดินมาอาบแดดที่ริมมุขหน้ าต่ าง สายตาจ้ องมองลงไปบน


ถนนซึ่งมีผ้ คู นสั ญจรสองฟากฝั่ง ส่ วนมากเป็ นชาวบ้ านที่สวมชุด
เก่าโทรมซึ่งมีปลายทางเป็ นถนนกางเขนเหล็ก

ฟู่ ว…

มันถอนหายใจ ความอ่อนเพลียจากช่ วงเช้ าถูกฟื้ นฟูกลับคืนมา


หลายส่ วน

ทุกสิ่ งล้วนมีข้นั ตอน การเลื่อนระดับพลังของตนก็ไม่ ถูกยกเว้ น


นี่คือสั จธรรมหรื อกฎเหล็กที่มนุษย์ มิอาจหลีกเลี่ยง

ไคลน์ ส่ายศีรษะพร้ อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ มันหวังใช้ เวลาที่เหลือ


ทบทวนประสบการณ์ ของสั ปดาห์ ที่ผ่านมาอย่ างละเอียด เพื่อไม่ ให้
มีสิ่งสาคัญตกหล่นหายไป

ห้ านาทีก่อนบ่ ายสาม

บนห้ วงมิติสายหมอกไร้ ก้นบึง้ ท่ ามกลางหลังคาโดมสู งโอ่อ่าของ


มหาราชวังคนยักษ์ บุรุษผู้หนึ่งซึ่งร่ างกายมีหมอกเทาหนาทึบปก
คลุม กาลังนั่งบนเก้าอีต้ าแหน่ งประธานการประชุม ตรงหน้ ามีโต๊ ะ
ทองเหลืองแข็งแรงทนทานวางทอดยาว ซ้ ายขวาเป็ นเก้าอีฝ้ ั่งละสิ บ
ตัว

ไคลน์ เอื้อมมือออกไปสั มผัสสองดาวแดงซึ่งเป็ นสั ญลักษณ์


ของจัสติสและแฮงแมน

กรุงเบ็คลันด์ เขตราชินี

ออเดรย์ กาลังวิ่งจา้ เท้ าโดยมือใช้ สองข้ างยกชายกระโปรงเพื่อ


ไม่ ให้ สะดุดล้ ม ทันใดนั้น เด็กสาวพลันสั มผัสถึงสายตาประหลาดที่
จดจ้ องจากเงามืด เธอรีบหันไปมอง

แล้วก็ตามคาด ต้ นตอมาจากสุ นัขโกลเด้ นรีทรีเวอร์ ตัวโปรด ซูซี่


มันกาลังเฝ้ามองเจ้ านายอย่ างเงียบงันเช่ นทุกครั้ง

ออเดรย์ ถอนหายใจโล่ง เธอรีบทาเครื่ องหมายจันทร์ แดงกลาง


หน้ าอก จากนั้นก็เดินไปหาสุ นัขแสนรู้พร้ อมกับเท้ าเอว
“ซูซี่! แบบนีไ้ ม่ ถูกต้ อง เธอเป็ นผู้ชม ไม่ ใช่ นักถา้ มอง ผู้ชมต้ อง
เฝ้าสั งเกตุเป้าหมายอย่ างสง่ าผ่ าเผย”

หลังจากดุเสร็จ ออเดรย์ รีบเร่ งฝี เท้ าตรงไปที่ห้องนอนตัวเอง


เนื่องจากเหลือเวลาอีกไม่ มากแล้ว แต่ ขณะกาลังเปิ ดปิ ดประตู เด็ก
สาวเกิดฉุกคิดไอเดียประหลาด

“มิสเตอร์ ฟูลจะยินยอมให้ ซูซี่กลายเป็ นสมาชิกชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์


คนที่สี่ไหมนะ… ถ้ าได้ แบบนั้นคงก็ดี ชุมนุมพวกเราจะได้ มีผ้ วู ิเศษ
มากถึงสี่ คน… ไม่ ใช่ คนสิ

“แล้วซูซี่ก็พูดไม่ ได้ เวลาแสดงความเห็นจะออกมาเป็ นยังไงกัน


นะ… โฮ่ งโฮ่ ง? โบร๋ วว? บ้ าจริง! แล้วเราจะเลียนเสี ยงสุ นัขไปเพื่อ
อะไร!

“แค่คิดก็พลิ ึกแล้ว ชุมนุมสุ ดยอดผู้วิเศษที่มีเสี ยงสุ นัขเห่ าหอน


รบกวน มิสเตอร์ ฟูลต้ องถีบส่ งพวกเราสองคนออกจากกลุ่มแน่ ”

ออเดรย์ ล็อคห้ องและเดินไปนั่งข้ างเตียง เด็กสาวโน้ มตัวหยิบ


แผ่ นกระดาษสี น้าตาลที่อยู่ใต้ หมอนออกมาถือ จากนั้นก็เข้ าสู่ ภาวะ
ผู้ชมและตั้งใจจดจารายละเอียด


ที่ใดสั กแห่ งบนทะเลโซเนีย เรื อไม้ เก่าโทรมซึ่งมีภารกิจตามล่ าตัว
‘ผู้สดับ’ ได้ แล่นออกจากหมู่เกาะรอสต์

กาลาสี อัลเจอร์ ·วิลสั น กังวลว่ านาฬิ กาแขวนภายในเรื ออาจเดิน


ไม่ ตรง จึงเข้ าไปเตรียมตัวในห้ องกัปตันล่วงหน้ าถึงครึ่งชั่วโมง
เพื่อไม่ ให้ ลูกเรื อเห็นตนถูกลากขึน้ ไปบนมิติสายหมอกต่ อหน้ าต่ อ
ตา

ด้ านหน้ าอัลเจอร์ แก้วบรรจุเครื่ องดื่มแอลกอฮอล์สีกึ่งใสกาลังส่ ง


กลิ่นหอมรุนแรงละลอกแล้วละลอกเล่า

เป็ นอีกครั้งที่ร่างกายมันสั่ นระริกเมื่อจินตนาการถึงความลึกลับ


และน่ าพิศวงของชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์ที่กาลังจะเริ่มขึน้

บนมิติสายหมอกแห่ งนั้น ชายที่เรียกตัวเองว่ ามิสเตอร์ ฟูล


สามารถดลบันดาลทุกสิ่ งได้ ดั่งใจนึก มีความรู้กว้ างขวาง มิอาจ
ประเมินความแข็งแกร่ งได้ เลย

อัลเจอร์ รีบกระดกเครื่ องดื่มเข้ าไปหนึ่งอึก มันอาศัยพิษสุ ราช่ วย


ขจัดอาการประหม่ าและสั่ นเทาที่กาลังเผชิญ

เพียงพริบตา บรรยากาศรอบตัวอัลเจอร์ พลันสุ ขุมลุ่มลึก มัน


กลับไปสงบนิ่งเหมือนกับทุกครั้งที่เริ่มชุมนุม
ราชันย์ เร้ นลับ 93 : ไดอารีแผ่ นใหม่

เหนือมิติสายหมอกกว้ างใหญ่ ไพศาล เสาหินหลายสิ บต้ นผงาด


คา้ ชูเพดานโถงหรูหราอลังการ ดาวแดงสองก้อนลอยเหนือเก้าอี้
สองตัวใกล้หัวโต๊ ะ พวกมันค่ อยๆ เปลี่ยนสภาพกลายเป็ นรูปลักษณ์
มนุษย์ สองคน หนึ่งหญิงหนึ่งชาย

ขณะกระบวนการยังไม่ เสร็จสมบูรณ์ ฝ่ ายหญิงสาวเปิ ดปากพูด

“ทิวาสวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์ ฟูล”

ออเดรย์ ที่ร่างเลือนลางก้มศีรษะคานับ

“น่ าเสี ยดายที่บนนี้ไม่ มีไวน์ เลอค่ า จะได้ ถือโอกาสเฉลิมฉลอง


ความสาเร็จสุ ดยิ่งใหญ่ ของมิสเตอร์ ฟูลอย่ างพร้ อมหน้ า”

ออเดรย์ หมายถึงการดัดแปลงพิธีกรรม

“คุณทรงพลังกว่ าที่พวกเราคิดไว้ มาก”

อัลเจอร์ สรรเสริญ

ไคลน์ ที่ร่างกายคลุมด้ วยหมอก มันตอบกลับเสี ยงราบเรียบคล้าย


กลับไม่ สลักสาคัญ
“อา… ด้ วยผลลัพธ์ นี้ พวกเจ้ าสามารถแจ้ งล่วงหน้ าหากติดธุระ
จนไม่ สามารถร่ วมชุมนุมในช่ วงบ่ ายวันจันทร์

“สิ่ งที่ต้องดัดแปลงมีเพียงเปลี่ยนประโยค—ฉันปรารถนาความ
ฝันอันแสนสุ ข—เป็ นข้ อความที่พวกเจ้ าต้ องการแจ้ งให้ ทราบ”

“ได้ ค่ะ”

ออเดรย์ พยักหน้ า
“มิสเตอร์ ฟูล ดิฉันเพิง่ ได้ รับไดอารีจักรพรรดิโรซายเพิม่ เติม ถ้ า
จาไม่ ผิด ตัวดิฉันยังติดหนีค้ ุณอยู่หนึ่งหน้ า”

“ฝ่ ายผมต้ องอยู่กลางทะเลทั้งสั ปดาห์ จึงไม่ มีโอกาสค้ นหา ขอ


อภัยเป็ นอย่ างสู งครับ”

อัลเจอร์ แนบกาปั้นไว้ ที่หน้ าอกและโน้ มตัวขอโทษ

“ไม่ เป็ นไร เราไม่ รีบร้ อน”

ไคลน์ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มันใช้ ปลายนิว้ เคาะที่เท้ าแขนพลาง


มองไปยังมิสจัสติส

“เชิญแสดงเนื้อหาไดอารี”
ออเดรย์ ก้มศีรษะ

“สุ ดแล้วแต่ ท่าน”

ปากกาหมึกซึมปรากฏบนโต๊ ะด้ านหน้ าเด็กสาวผมทอง เธอ


พยายามจินตนาการภาพสั ญลักษณ์ พสิ ดารให้ ถูกต้ องชัดเจนที่สุด
พร้ อมกับตั้งจิตแน่ วแน่

ภายในไม่ กี่วินาที แผ่ นกระดาษหนังเต็มพรื ดไปด้ วยสั ญลักษณ์


ประหลาดที่มิสเตอร์ ฟูลอ้างว่ าเป็ นตัวอักษร

หลังจากอ่านทวนซ้าอีกครั้งด้ วยความทรงจาของพลังผู้ชม ออ
เดรย์ วางปากกาอย่ างผ่ อนคลาย

“เสร็จแล้วค่ ะ”

เพียงไคลน์ ยกแขน แผ่ นกระดาษหนังตรงหน้ าออรเดย์ หายไป


และโผล่ในมือมัน ชายหนุ่มก้มหน้ าลง กวาดสายตาอ่ านด้ วยสี
หน้ าที่ไม่ เจือปนอารมณ์ มากนัก

“9 กรกฎาคม เราฉุกคิดบางประเด็นที่น่าสนใจได้ ในเมื่อเส้ นทาง


ผู้วิเศษมีอีกชื่ อหนึ่งว่ า ‘เส้ นทางสู่ การเป็ นเทพ’

“แล้วเหตุใด วัตถุที่สลัก22เส้ นทางผู้วิเศษถึงถูกเรียกว่ า ‘ศิลาเย้ ย


เทพ’?
“เย้ ยหยัน… เป็ นวลีที่น่าสนใจ ฝ่ ายใดกันแน่ ที่ถูกเย้ ยหยัน? แล้ว
ใครกันที่เป็ นผู้สร้ างมันขึน้ มา?

“แข็งแกร่ งขนาดรวบรวมข้ อมูลทั้ง22เส้ นทางครบถ้ วนสมบูรณ์


เชียวหรื อ? บนศิลาดังกล่าวจะมีข้อมูลใดสลักไว้ บ้าง?

“แค่ ชื่อโอสถอย่ างเดียว หรื อรวมถึงสู ตรผลิตโอสถทั้งหมดด้ วย?


อยากเห็นด้ วยตาตัวเองชะมัด…”
“12 กรกฎาคม วันนีไ้ ด้ ทราบข้ อมูลใหม่ อีกหนึ่งเรื่ อง เกี่ยวกับ
ความสาคัญของ ‘ของวิเศษต้ องห้ าม’

“ของวิเศษคือเครื่ องแสดงขุมพลังอานาจของโบสถ์ น้ นั ๆ ถึงแม้


บางชิ้นจะมาพร้ อมผลข้ างเคียงที่อันตรายเหนือจินตนาการก็ตาม

“จากบรรดาเจ็ดโบสถ์ หลัก โบสถ์ ช่างฝี มือของเรามีปริมาณของ


วิเศษน้ อยที่สุด และอันตรายน้ อยที่สุดด้ วย เฮ่ อ… นี่เราเลือกสั งกัด
โบสถ์ ไร้ อนาคตอย่ างนั้นหรื อ?

“ไม่ ใช่ ! ยิ่งกระดาษขาวเท่ าไร ช่ องว่ างให้ ต่อยอดงานศิลป์ ก็ยิ่ง


กว้ างเท่ านั้น การสั งกัดโบสถ์ อ่อนแอจะทาให้ ตัวตนของเราโดด
เด่ น”
“14 กรกฎาคม เราได้ พบมิสเตอร์ ซาราธอีกครั้ง ไม่ น่าเชื่ อเลยว่ า
ชายคนนีจ้ ะเป็ นหัวหน้ าองค์ กรลับเก่าแก่และยิ่งใหญ่ …

“ลัทธิเร้ นลับ!”

อ่านถึงตรงนี้ ดวงตาไคลน์ พลันเบิกโพลง นัยต์ ตาดาหดลีบเล็ก


มันเกือบเสี ยอาการต่ อหน้ าออเดรย์ และอัลเจอร์

จากเอกสารลับของโบสถ์ รัตติกาลที่ไคลน์ ได้ อ่าน มีเพียงประโยค


สั้ นๆ ที่ระบุว่าตระกูลซาราธเกี่ยวพันกับลิทธิเร้ นลับ แต่ วันนีก้ ลับ
ได้ ทราบข้ อมูลสุ ดน่ าทึ่งจากจักรพรรดิโรซายว่ า มิสเตอร์ ซาราธ
เป็ นหัวหน้ าลัทธิเร้ นลับเสี ยเอง

มันไม่ เคลือบแคลงอีกแล้วว่ า ลัทธิเร้ นลับคือผู้ครอบครอง


เส้ นทางนักทานายไว้ สมบูรณ์

ขณะไคลน์ ต้งั ใจอ่านไดอารี ออเดรย์ พยายามใช้ พลังผู้ชมสารวจ


ความเปลี่ยนแปลงของร่ างไคลน์ แต่ ถูกหมอกหนาบดบังไว้ มิดชิด
ไม่ พบความผิดปรกติแม้ แต่ อย่ างเดียว

หลังจากพยายามอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเด็กสาวก็ยอมแพ้ เธอหันไป


จ้ องมองอีกหนึ่งบุคคลที่นั่งฝั่งตรงข้ ามแทน

ตนทั้งสะเพร่ า อวดดี และโง่ เขลาที่บังอาจสารวจมิสเตอร์ ฟูล


โชคดีแค่ ไหนที่อีกฝ่ ายใจกว้ างไม่ ถือสาเอาความ
ออเดรย์ แลบลิน้ ปลิน้ ตาอย่ างทะเล้นก่อนตั้งใจสารวจบุรุษที่นั่ง
เก้าอีต้ รงข้ ามตน

อัลเจอร์ เอาแต่ นั่งก้มหน้ ามาตลอดนับตั้งแต่ ชุมนุมเริ่มขึน้ มัน


เงียบงันไม่ กล่ าวสิ่ งใด ร่ ายกายสั่ นเทาเล็กน้ อย คล้ายกับกาลัง
เผชิญหน้ าองค์ เทพที่แท้ จริง

สมาธิไคลน์ ยังคงจดจ่ ออยู่กับไดอารี มันอ่ านมาถึงส่ วนสุ ดท้ าย


ของหน้ ากระดาษ
“หลังจากทราบเรื่ องที่เราเลือกเส้ นทางนักปราชญ์ มิสเตอร์ ซา
ราธระบุว่า เรากาลังเดินบนเส้ นทางที่ยากแต่ ปลอดภัย

“ด้ วยความสงสั ย จึงตัดสิ นใจถามถึงความหมายของประโยค


เมื่อครู่ แต่ เขาไม่ ตอบ ทาเพียงยิม้ และอธิบายคลุมเครื อว่ า ทุก
เส้ นทางผู้วิเศษจะมีความลับบางประการซ่ อนอยู่ เป็ นความลับที่อยู่
เหนือจินตนาการมนุษย์

“จึงถามกลับไปอีกว่ า แล้วเขาเลือกเดินบนเส้ นทางผู้วิเศษใด

“คาตอบคือ… นักทานาย”

“เมื่อได้ ยินเช่ นนั้น เราจึงกล่ าวติดตลกว่ า นักทานายคนไหนก็


ล้วนน่ าหงุดหงิดเหมือนกันหมด ชอบอธิบายความจริงเพียงครึ่ง
อีกครึ่งกล่าวให้ คลุมเครื อจนผู้ฝังต้ องตีความเอาเอง
“ยิ่งไปกว่ านั้น เขาเป็ นถึงผู้วิเศษระดับสู ง แต่ ทาไมชอบทาตัว
เหมือนนักทานายซึ่งเป็ นผู้วิเศษลาดับเก้านัก? ยังจาเป็ นต้ องย่ อย
พลังโอสถด้ วยเทคนิคสวมบทบาทอีกหรื อ?

“มิสเตอร์ ซาราธตอบกลับว่ า ตัวเขากระทาสิ่ งนี้จนเป็ นกิจวัตรไป


เสี ยแล้ว การอธิบายให้ คลุมเครื อครึ่งหนึ่ง จะทาให้ เราเกิดความ
อยากรู้อยากเห็นและร่ วมมือกับเขาในที่สุด

“ชายคนนั้นไม่ ปิดบังเจตนาที่ต้องการให้ เราได้ ครองตาแหน่ ง


ใหญ่ ในโบสถ์ ช่างฝี มือ เพื่อจะได้ ช่วยขโมยของวิเศษประจาโบสถ์
เป็ นการตอบแทนในภายหลัง

“เราไม่ มีข้อมูลของวิเศษดังกล่าวมากนัก ทราบเพียงแต่ ว่า มัน


คือของวิเศษเก่าแก่ซึ่งเคยเป็ นมรดกตกทอดตระกูลอันทีโกนัสมา
ก่อน

“เรื่ องนั้นไม่ ต้องขบคิดให้ ปวดหัว ยังอีกนานกว่ าที่เราจะไต่ เต้ า


ไปถึงตาแหน่ งใหญ่ โต

“เราถามมิสเตอร์ ซาราธไปว่ า หากใช้ เทคนิคสวมบทบาท ผู้วิเศษ


ลาดับต่าจะใช้ เวลานานเพียงใดในการย่ อยโอสถจนเสร็จสมบูรณ์
และมีสัญญาณใดบ่ งชี้หรื อไม่ ว่าโอสถถูกย่ อยเรียบร้ อยแล้ว
“คาตอบของเขาคือ หากไม่ ละเลยการใช้ เทคนิคสวมบทบาท ใน
โอสถลาดับต่า อย่ างช้ าที่สุดคือครึ่งปี และอย่ างเร็วคือหนึ่งเดือน
ส่ วนสั ญญาณบอกใบ้ น้ นั ผู้วิเศษแต่ ละคนจะตระหนักได้ ด้วยตัวเอง
เรื่ องนั้นไม่ ต้องกังวล

“จากนั้น เราพยายามถามเขาอีกหลายเรื่ อง แต่ สิ่งที่ได้ รับกลับมา


มีเพียงรอยยิม้

“รอยยิม้ บัดซบนั่น… หากเรากลายเป็ นผู้วิเศษลาดับสู งเมื่อใด จะ


ไล่อัดพวกนักทานายทุกคนให้ สาแก่ใจเลยคอยดู
…ขอให้ ไปสู่ สุคตินะครับ จักรพรรดิโรซาย

ไคลน์ อ่านที่เหลือจนจบ ก่อนจะเงยหน้ าขึน้ พูดคุยกับแฮงแมน


และจัสติส

“ขอโทษที่ให้ รอ”

“เป็ นเกียรติอย่ างยิ่งค่ ะ”

ออเดรย์ สะดุ้ง ภาวะผู้ชมแตกสลาย

เธอหันไปมองแฮงแมนฝั่งตรงข้ ามพร้ อมกับเรียบเรียงคาพูด

“ดิฉันจะสื บหาเบาะแสจากสมาคมแปรจิตได้ จากที่ใด?”


สมาคมแปรจิต… ชื่ อนีท้ าให้ ไคลน์ หวนนึกถึงบุรุษคนหนึ่งที่ซื้อ
ส่ วนประกอบโอสถนักทานายในตลาดมืด

ขณะไคลน์ กาลังคิดหาวิธีเข้ าใกล้ชายคนดังกล่าว ฝ่ ายอัลเจอร์ เงย


หน้ าขึน้ ตอบ

“มิสจัสติส ประการแรก ผมไม่ มีเบาะแสใดหลงเหลืออีกแล้ว


ตามที่ได้ บอกไป ภาพจาสุ ดท้ ายคือการจมเรื อพวกมันลงก้นทะเล

“ประการที่สอง คุณไม่ ควรรีบร้ อนหาเบาะแสพวกมันตอนนี้ สิ่ ง


สาคัญคือการย่ อยพลังโอสถผู้ชมให้ เรียบร้ อยเสี ยก่อน”

เด็กสาวชาเลืองมองไคลน์ เมื่อเห็นว่ าอีกฝ่ ายไม่ เสริมสิ่ งใด


เพิม่ เติม เธอถอนหายใจด้ วยสี หน้ าผิดหวังเล็กๆ

“ฉันก็แค่ ต้องการทราบล่วงหน้ านานๆ จะได้ มีเวลาเตรียมตัวตี


สนิทหรื อแทรกซึมเข้ าไปในองค์ กรอย่ างเป็ นธรรมชาติ

“แล้วก็… ฉันอยากทราบว่ า สั ญญาณบ่ งชี้ที่ระบุว่าพลังโอสถถูก


ย่ อยโดยสมบูรณ์ แล้วมีลักษณะเป็ นเช่ นไร? และเมื่อใดที่สามารถ
หยุดสวมบทบาท?

“ปัจจุบัน เสี ยงกระซิบในหัวแทบไม่ หลงเหลือแล้ว อาการ


ข้ างเคียงต่ างๆ ก็ไม่ ปรากฏ”
อัลเจอร์ ชาเลืองมองไคลน์ เมื่อเห็นว่ ามิสเตอร์ ฟูลมิได้ ต้องการ
เสริม มันจึงหันไปพูดกับออเดรย์

“ถ้ าหากไม่ ได้ ใช้ เทคนิคสวมบทบาท หลังจากกลายเป็ นผู้วิเศษได้


สามปี และมั่นใจว่ าไม่ ได้ ยินเสี ยงกระซิบลึกลับ ในทางปฏิบัติจะมี
วิธีทดสอบพื้นฐานอยู่หนึ่งรูปแบบ นั่นคือการบีบคั้นให้ ร่างกาย
อ่อนเพลียถึงขีดสุ ด หากอยู่ในสภาวะดังกล่าวแล้วยังไม่ ได้ ยินเสี ยง
กระซิบ หมายความว่ าบุคคลนั้นพร้ อมเลื่อนระดับแล้ว

“แต่ ด้วยเทคนิคสวมบทบาท ผมรู้สึกถึงการเป็ นหนึ่งเดียวกับ


โอสถ และอาจไม่ ต้องรอนานถึงสามปี ”

เป็ นคาตอบที่ไม่ ช่วยอะไรมาก… กว่ าจะเริ่มทดสอบคุณสมบัติ


ได้ ตนต้ องรอนานถึงสามปี เชียวหรื อ?

ขณะเด็กสาวตัดพ้อ เธอได้ ยินเสี ยงเคาะที่เท้ าแขนดังแว่ ว

ออเดรย์ รีบหันมองด้ วยสี หน้ าตื่นเต้ น แล้วก็เป็ นดังคาด มิสเตอร์


ฟูลกาลังใช้ ปลายนิว้ เคาะที่เท้ าแขนเพื่อส่ งสั ญญาณ

อัลเจอร์ รีบนั่งหลังตรงเตรียมตั้งใจฟัง
ไคลน์ อธิบายเสี ยงเรียบ
“สาหรับผู้วิเศษลาดับต่า หากไม่ ละเลยเทคนิคสวมบทบาท อย่ าง
ช้ าสุ ดคือครึ่งปี และอย่ างเร็วสุ ดคือหนึ่งเดือน”

มันเบือนหน้ าหาเด็กสาวผมทอง

“ส่ วนสั ญญาณบ่ งชี้ ตัวผู้วิเศษจะทราบได้ เองทันทีโดยไม่ ต้องให้


ใครบอก”

“หนึ่งเดือน…

“เจ๋ ง! ขอบคุณค่ ะมิสเตอร์ ฟูล”

ออเดรย์ ยมิ้ อย่ างมีความสุ ข

สาวน้ อย… เธอคิดหรื อว่ าตัวเองจะเป็ นผู้โชคดีหายากคนนั้น?


ใจความสาคัญอยู่ที่ครึ่งปี ต่ างหาก

ไคลน์ เลื่อนมือข้ างขวาขึน้ มาเท้ าคาง

“ครึ่งปี …”

อัลเจอร์ พมึ พา
ออเดรย์ จ้องสารวจแฮงแมนด้ วยพลังนักทานาย เธอพบว่ าอีก
ฝ่ ายกาลังเปี่ ยมด้ วยอารมณ์ หลากหลาย ทั้งความสุ ข โล่งใจ และ
เคลือบแคลง

เขากาลังเคลือบแคลงสิ่ งใด?

เด็กสาวพูดขึน้

“มิสเตอร์ ฟูลคะ คุณต้ องการเพิม่ จานวนสมาชิกชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์


ไหม?”
ไคลน์ เอนหลังผ่ อนคลาย มันเตรียมคาตอบสาหรับเรื่ องนีน้ าน
แล้ว

“ที่นี่เกิดขึน้ จากการทดลอง ในตอนแรกจึงไม่ ได้ คานึงถึงสมาชิก


ใหม่

“แต่ ปัจจุบัน ในเมื่อทุกคนเห็นพ้องที่จะจัดชุมนุมอย่ างต่ อเนื่ อง


การรับสมาชิกเพิม่ จึงสามารถกระทาได้ ทว่ า สมาชิกใหม่ ต้องถูก
คัดเลือกอย่ างเข้ มงวด

“กฎเหล็กสาคัญที่สุดคือการเก็บความลับ”

ออเดรย์ พยักหน้ า ก่อนจะสรุปเอาเอง


“หมายความว่ าต้ องมีการคัดเลือกเป้าหมาย สารวจพฤติกรรม
และทดสอบอีกเล็กน้ อยเพื่อให้ แน่ ใจใช่ ไหมคะ?”

“จะคิดแบบนั้นก็ได้ ”

ไคลน์ ยมิ้

ขณะเดียวกัน มันกาลังครุ่นคิดหาวิธีสอบถามข้ อมูลเพิม่ เติมของ


ลัทธิเร้ นลับ รวมถึงสู ตรผลิตโอสถตัวตลก แต่ ด้วยภาพลักษณ์ ของ
ตน ชายหนุ่มมิอาจถามออกไปตามตรง
ไคลน์ กาลังเผชิญสถานการณ์ ยากลาบาก

ขณะเดียวกัน เมื่อเห็นว่ าจัสติสไม่ มีสิ่งใดจะกล่าวต่ อ อัลเจอร์


ตัดสิ นใจเปิ ดประเด็นใหม่

“จากเบาะแสของผม ‘ผู้สดับ’จากชุมนุมแสงเหนือกาลังตามหา
ร่ องรอยของพระผู้สร้ างแท้ จริง พวกมันเรียกสถานที่ดังกล่าวว่ า…

“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์”

“พระผู้สร้ างแท้ จริง?”

ออเดรย์ ถามพร้ อมขมวดคิว้


“ตัวตนเก่าแก่ระดับเทพที่องค์ กรลับหลายแห่ งเคารพบูชา พวก
มันเชื่ อว่ าพระผู้สร้ างยังไม่ สลายไปโดยสมบูรณ์ แก่นแท้ ได้ ตกผลึก
กลายเป็ นตัวตนนามว่ า—พระผู้สร้ างแท้ จริง

“รูปลักษณ์ ของพระผู้สร้ างแท้ จริงนั้นปรากฏในหลากหลายแบบ


ทั้งภาพคนยักษ์ ถูกแขวนคอ หรื อภาพดวงตามหึมาที่ซ่อนหลังม่ าน
ความมืด

“กล่าวกันว่ า จักรพรรดิโรซายได้ นาพระผู้สร้ างแท้ จริงเป็ นหนึ่ง


ในต้ นแบบสาหรับสร้ างไพ่ทาโร่ ต์—แฮงแมน”
เมื่อกล่าวจบ อัลเจอร์ หันมาถามไคลน์

“มิสเตอร์ ฟูล คาอธิบายของผมมีจุดผิดพลาดหรื อไม่ ครับ?”

หมอนี่กาลังทดสอบเราหรื อ?

ไคลน์ ย้อนนึกถึงภาพที่ดันน์ ·สมิทเห็นระหว่ างเข้ าฝันเฮเนส·วิน


เซนต์

ภาพบุรุษถูกตรึงบนกางเขนยักษ์ ในสภาพกลับหัว ตามลาตัวมี


โลหิตเปรอะเปื้ อน

มันผุดความคิดใหม่
หากพิจารณาจากรูปลักษณ์ ของพระผู้สร้ างแท้ จริง ทั้งการถูก
แขวนคอ ภาพดวงตาหลังม่ านความมืด อีกทั้งยังมีการถูกตรึงการ
เขนกลับหัว

ไม่ ใช่ ว่าความนัยแฝงของภาพเหล่านีล้ ้วนสื่ อถึงสิ่ งชั่วร้ ายหรอก


หรื อ?

ไคลน์ แสยะยิม้

“เราเรียกเจ้ านั่นว่ า…
“พระผู้สร้ างเสื่ อมทราม”
ราชันย์ เร้ นลับ 94 : ปราชญ์ เร้ นลับ

“พระผู้สร้ างเสื่ อมทราม…

“เสื่ อมทราม…”

อัลเจอร์ ทวนคาพูดเดอะฟูลด้วยสี หน้ าครุ่นคิด แต่ สิ่งที่มัน


ประหลาดใจมากที่สุดคือ ท่ าทีไม่ แยแสกึ่งเหยียดหยันซึ่งเดอะฟูลมี
ต่ อพระผู้สร้ างแท้ จริง
ราวกับ… เป็ นตัวตนที่เท่ าเทียม

หากไม่ ใช่ เพราะพิธีกรรมเรียกหาเดอะฟูลได้ ผล อัลเจอร์ คงแอบ


เคลือบแคลงอยู่หลายส่ วน ว่ าเดอะฟูลเป็ นเพียงบุคคลธรรมดาที่
พยายามต้ มตุ๋นพวกมันด้ วยของวิเศษบางชนิด จุดประสงค์ เพื่อ
หลอกถามข้ อมูลสาคัญจากตนและจัสติส

แต่ ความคิดดังกล่าวไม่ หลงเหลืออีกแล้ว ในสายตาอัลเจอร์


ตัวตนเดอะฟูลมีระดับเทียบเท่ าหรื อต่ากว่ าพระผู้สร้ างแท้ จริงไม่
มาก

ถึงจะอันตราย แต่ ขณะเดียวกันก็เป็ นโอกาสลา้ ค่ า อัลเจอร์ พมึ พา


ก่อนเอ่ยปากชื่ นชม
“มิสเตอร์ ฟูล คาอธิบายของคุณตรงกับความเป็ นจริงมาก มี
หลักฐานบ่ งชี้ไม่ น้อยว่ า กลุ่มผู้ศรัทธาในตัวพระผู้สร้ างแท้ จริง ไม่
สิ … พระผู้สร้ างเสื่ อมทราม มีโอกาสคลุ้มคลั่งในปริมาณที่สูงหาก
เทียบกับผู้วิเศษทั่วไป หรื อต่ อให้ รอดมาได้ แต่ พวกมันเกือบทุกคน
จะกลายเป็ นคนวิปริต”

ข้ อมูลของอัลเจอร์ ตรงตามที่เอกสารเหยี่ยวราตรีระบุไว้ …

โดยเฉพาะวลี‘คนวิปริต’ พวกมันไม่ มีทางหายกลับเป็ นปรกติ


จิตใจและความศรัทธาถูกบิดเบือนอย่ างสุ ดโต่ ง
ไคลน์ รักษามาดสุ ขุมโดยไม่ อธิบายสิ่ งใดต่ อ ในหัวมัวแต่ คิดเรื่ อง
เกี่ยวกับ จะไต่ ถามข้ อมูลลัทธิเร้ นลับและสู ตรโอสถตัวตลกอย่ างไร
ไม่ ให้ เสี ยภาพพจน์

ชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์แตกต่ างจากโลกออนไลน์ หนึ่งเรื่ อง และเป็ น


ประเด็นที่น่าอึดอัดใจมาก สิ่ งนั้นคือ ตนไม่ สามารถสร้ าง ‘ไอดีเด็ก’
มาตีหน้ าซื่ อหลอกถามอย่ างไร้ เดียงสา

ไคลน์ สาบานกับตัวเอง หากตนพัฒนาลาดับและมีพลังสร้ างร่ าง


ปลอมหรื ออะไรทานองนั้น มันจะสร้ าง ‘ไอดีเด็ก’ อีกคนขึน้ มาใน
ชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์ และใช้ ตัวตนดังกล่าวเก็บข้ อมูลที่ต้องการทราบ
โดยละเอียด

ยังมีปริศนาอีกหนึ่งเรื่ อง ภายในโถงมีเก้าอีท้ ้งั หมด22ตัว สิ่ งนี้


หมายถึงไพ่22ใบในสารับหลักของไพ่ทาโร่ ต์ง้ันหรื อ?
แต่ ในตอนแรกที่มันจินตนาการสร้ างโถงศักดิ์สิทธิ์ ไคลน์ ไม่ ได้
นึกถึงจานวนเก้าอีแ้ ต่ อย่ างใด ไม่ ได้ จินตนาการถึงไพ่ทาโร่ ต์ด้วยซ้า

หรื อ22เก้าอีจ้ ะหมายถึง…

22เส้ นทางผู้วิเศษ?

ในตอนที่ตนนึกอยากได้ โถงศักดิ์สิทธิ์ โถงก็ปรากฏฉับพลัน แล้ว


ถ้ าตนอยากได้ ไอดีเด็ก มันจะปรากฏทันทีหรื อไม่ ?

หลังจากเห็นเดอะฟูลเงียบงันเป็ นเวลานาน ออเดรย์ เงยหน้ าขึน้


พูดกับทั้งสองคน

“ฟังดูน่ากลัวจัง…

“มิสเตอร์ แฮงแมน ดิฉันต้ องการทราบข้ อมูลเกี่ยวกับองค์ กรลับ


ทุกแห่ งโดยละเอียด รวมถึงกิจกรรมที่พวกมันกระทาด้ วย

“ชีวิตประจาวันของฉันไม่ มีโอกาสศึกษาศาสตร์ เร้ นลับมากนัก


ความรู้เกือบทั้งหมดได้ จากพวกคุณสองคน ฉันยินดีที่จะจ่ ายเงิน
เพื่อแลกกับข้ อมูล หรื อหากมีสิ่งอื่นที่ต้องการก็สามารถบอกได้ ”

ต้ องอย่ างนั้น..
ทาดีมากมิสจัสติส ช่ วยสวมบทบาทแทนไอดีเด็กของฉันไปก่อน

หากเป็ นเช่ นนี้ แฮงแมนต้ องเล่าเรื่ องราวเกี่ยวกับลัทธิเร้ นลับ


ออกมาแน่ และตนจะได้ ฟังฟรีโดยไม่ เสี ยเงินสั กเพนนีเดียว

ไคลน์ พยายามเก็บอาการตื่นเต้ น

อัลเจอร์ ขบคิดเล็กน้ อยก่อนตอบ

“ผมต้ องการเงินหนึ่งพันปอนด์ จะดีมากถ้ าเป็ นธนบัตรที่ไม่ มี


หมายเลขระบุ หรื อไม่ ก็อัญมณีดิบที่ยังไม่ ถูกเจียระไน มูลค่ า
สามารถอ้างอิงตามอัตราแลกเปลี่ยนอัญมณีเบ็คลันด์ ประจาเดือน”

พันปอนด์ ?

เป็ นจานวนค่ อนข้ างมาก สามารถซื้อบ้ านเดี่ยวในทิงเก็นได้ หนึ่ง


หลัง ไม่ ใช่ ทุกคนที่ถือครองเงินจานวนเช่ นนีไ้ ว้ กับตัวตลอดเวลา

หัวหน้ าดันน์ อาจมีรายได้ ต่อปี ประมาณนี้ แต่ ไม่ ใช่ กับเงินสดแน่


ตัวอย่ างที่ชัดเจนคือคดีเฮลี่ย์·วอล์คเกอร์ ความตายของเธอถูก
ชดเชยด้ วยเงินจานวนเพียงสามร้ อยปอนด์

ถึงมิสจัสติสจะเป็ นคุณหนูตระกูลขุนนาง แต่ เธอยังไม่ ได้ สืบ


ทอดมรดก ยังไม่ มีกิจการของตัวเอง รายได้ ทางเดียวมาจากเงินค่ า
ขนมที่พ่อแม่ มอบให้ …
หืม… คงเป็ นสาเหตุที่แฮงแมนขอแลกเปลี่ยนด้ วยอัญมณีดิบ
แทน

เมื่อเป็ นเรื่ องเงิน ไคลน์ จะอ่อนไหวมากเป็ นพิเศษ แต่ อากัปกริยา


ตื่นตระหนกของมันถูกหมอกหนาปกคลุมไว้

สาหรับมาดามหรื อสุ ภาพสตรีสักคน เงินจานวนสองพันปอนด์


มากพอจะช่ วยให้ อยู่สบายไปชั่วชีวิตโดยไม่ ต้องทางาน
“หนึ่งพันปอนด์ ?”

ออเดรย์ อุทานด้ วยน้าเสี ยงประหลาดใจ ก่อนจะฉีกยิม้ กว้ างอย่ าง


มีความสุ ข

“ได้ ค่ะ ให้ ส่งไปที่เดียวกับครั้งก่อนไหม?”

ประเมินจากน้าเสี ยงของเธอ คล้ายกับว่ าหนึ่งพันปอนด์ น้ ันแสน


ถูก ไคลน์ แทบไม่ อยากเชื่ อหู

อัลเจอร์ ผงะไปราวยี่สิบวินาที ก่อนจะมอบคาตอบ

“ใช่ ครับ ส่ งไปที่เดิม ผับนักรบท้ องทะเล เขตกุหลาบขาว


ท่ าเรื อพริสต์
“บอกกับบอสของที่นั่น คุณวิลเลี่ยม ว่ าเป็ นสิ่ งที่กัปตันต้ องการ”

“ตกลงค่ะ”

ออเดรย์ เอนหลังพิงพลางเข้ าสู่ ภาวะผู้ชมเพื่อตั้งใจฟังและบันทึก


ข้ อมูลโดยไม่ ตกหล่น

“มิสเตอร์ แฮงแมน เชิญเริ่มได้ เลยค่ ะ”

อัลเจอร์ ชาเลืองเดอะฟูลเล็กน้ อย ก่อนจะอธิบายเกริ่นนา

“ขอเริ่มที่นิกายมอสส์ องค์ กรลับเก่าแก่ที่สุดของโลก แน่ นอน


ใครหลายคนอาจคิดว่ าองค์ กรลับที่เก่าแก่ที่สุดคือโบสถ์
รัตติกาล โบสถ์ พระแม่ ธรณี หรื อไม่ ก็โบสถ์ แห่ งการต่ อสู้ …”

“ผู้ที่กล่าวเช่ นนั้นต้ องเป็ นสมาชิกโบสถ์ วายุสลาตัน โบสถ์ สุริยัน


เจิดจรัส หรื อไม่ ก็โบสถ์ ความรู้และปัญญาแน่ ”

ออเดรย์ พูดแทรกด้ วยสาเนียงเย้ ยหยัน

แต่ ด้านไคลน์ … โบสถ์ รัตติกาลคือองค์ กรลับที่เก่าแก่ที่สุดของ


โลกงั้นหรื อ? มันไม่ เคยได้ ยินใครพูดถึงเรื่ องนีม้ าก่อน

เกิดอะไรขึน้ ในยุคสมัยที่สามกับสี่ กันแน่ ?


อัลเจอร์ เพียงยิม้ ชื ด

“ไม่ มีใครทราบความจริง ประวัติศาสร์ ถูกฝังไปพร้ อมกับผู้คน


ในยุคสมัยนั้นแล้ว

“แต่ มีอยู่หนึ่งสิ่ งที่แน่ ชัด…

“ไม่ เคยมีคากล่าวอ้างที่ว่า โบสถ์ วายุสลาตัน โบสถ์ สุริยันเจิดจรัส


และโบสถ์ ความรู้และปัญญาเคยเป็ นองค์ กรลับมาก่อน…
“มาเข้ าเรื่ องกันดีกว่ า จะได้ ไม่ สิ้นเปลืองเวลามากนัก นิกาย
มอสส์ ถูกก่อตั้งโดยมนุษย์ เพียงไม่ กี่คนที่มีโอกาสได้ ยลโฉมแผ่ น
ศิลาเย้ ยเทพ กล่าวกันว่ า หลังจากทราบความจริงบางประการ พวก
เขาตัดสิ นใจเคารพบูชาเทพนามธรรมที่ชื่อ—ปราชญ์ เร้ นลับ

“ถึงตัวตนดังกล่าวจะถูกเรียกว่ า‘เทพ’ แต่ ในความเป็ นจริง


ปราชญ์ เร้ นลับเป็ นตัวตนเชิงปรัญชา เชิงกฎเกณฑ์ มากกว่ า

“หลักคาสอนของนิกายมอสส์ มากมายจะอ้างอิงโดยใช้ ตัวตน


ปราชญ์ เร้ นลับแทนสิ่ งสาคัญ เช่ นหลักคาสอน‘ทุกวัตถุคือตัวเลข’
หมายถึง ปราชญ์ เร้ นลับจะแยกตัวออกเป็ นเลขมงคล 0 ถึง 9 เมื่อ
นับทุกตัวประกอบเข้ าด้ วยกันจะกลายเป็ นปราชญ์ เร้ นลับดังเดิม

“อีกหนึ่งตัวอย่ างคือ หลักคาสอนที่ว่า‘ความรู้คือพลังไร้


ขอบเขต’ หมายถึง ปราชญ์ เร้ นลับได้ แบ่ งตัวเองออกเป็ นความรู้ทุก
ชนิดภายในห้ วงจักรวาล เมื่อนาความรู้ท้งั หมดในโลกมารวมเป็ น
หนึ่ง จะได้ ตัวตนที่สมบูรณ์ ของปราชญ์ เร้ นลับ”

“เนื่องจากนับถือเทพนามธรรมที่ไม่ มีความบาดหมางกับใคร
นิกายมอสส์ จึงถูกต้ อนรับนับถือเป็ นอย่ างดีจากบรรดาโบสถ์ หลัก

“สมาชิกนิกายมอสส์ ส่วนมากไม่ เกิดการคลุ้มคลั่ง พวกเขารักษา


หลักคาสอนอย่ างเคร่ งครัด ไม่ เปิ ดเผยตัวตน ไม่ อวดโอ่ ไม่ ก่อความ
เดือดร้ อน สามารถควบคุมพลังโอสถได้ ชะงักงัน และไม่ เบียดเบียน
ศาสนาอื่น

“ความเชื่ อหลักของนิกายคือ มนุษย์ ทุกคนจะเวียนว่ ายตายเกิด


ซ้าไปมาไม่ ร้ ูจบสิ้น…

“ส่ วนเส้ นทางที่ครอบครอง โอสถลาดับเก้ าจะมีชื่อว่ า‘ผู้ส่อง


ความลับ’ อีกหนึ่งคาพูดติดปากของสมาชิกนิกายมอสส์ คือ—พ่อ
มด”

ขณะกาลังตั้งใจเก็บรายละเอียด ออเดรย์ ยกมือถามแทรกแฮง


แมน

“คุณกล่าวว่ า นิกายมอสส์ เคยเป็ นองค์ กรลับที่เคยได้ รับความ


เคารพนับถือจากทุกฝ่ าย
“หมายความว่ าตอนนีไ้ ม่ ใช่ อีกแล้ว?”
อัลเจอร์ พยักหน้ า

“ถูกต้ อง พวกมันเสื่ อมทรามและกลายเป็ นหนึ่งในองค์ กรชั่ว


ร้ าย”

“ได้ ยังไง… พวกเขามีคาสอนที่ดีและน่ ายกย่ องมาก”

ออเดรย์ ขมวดคิว้
ด้ านไคลน์ ก็ไม่ ต่าง เอกสารลับของเหยี่ยวราตรีไม่ ได้ ระบุถึง
สาเหตุที่นิกายมอสส์ ถูกกวาดล้ าง

อัลเจอร์ ชาเลืองเดอะฟูลเล็กน้ อย เผื่อว่ าอีกฝ่ ายต้ องการเสริมสิ่ ง


ใด เมื่อเห็นว่ านิ่งเงียบ มันจึงอธิบายต่ อ

“ผมเองก็ไม่ ทราบเหตุผล อาจเป็ นเพราะประวัติศาสตร์ ถูกลบ


เลือนโดยสมบูรณ์ แต่ มีหนึ่งข้ อสั นนิษฐานที่น่าตกใจมาก

“กล่าวกันว่ า เทพองค์ ที่นิกายมอสส์ เคารพบูชา—ปราชญ์ เร้ นลับ


ได้ มีชีวิตและร่ างเนื้อขึน้ มาในภายหลัง…

“หรื อก็คือ… ปราชย์ เร้ นลับกลายเป็ นเทพนอกรีตที่ชั่วร้ าย”


“มีชีวิต? ได้ ยังไงกัน?”
ออเดรย์ แสดงสี หน้ าสั บสั นหนัก สมองของเธอไม่ สามารถรับ
ข้ อมูลเชิงปรัญชาที่ซับซ้ อนเช่ นนีไ้ หว เด็กสาวหลุดจากภาวะผู้ชม
ไม่ ร้ ูตัว

เหมือนกับนิยายสยองขวัญ… ที่ผีกลายมาเป็ นคนในภายหลัง แต่


หนนี้ ผีในเนื้อเรื่ องดันกลายเป็ นตัวตนระดับเทพ

ไคลน์ ตื่นตระหนกกับข้ อมูลใหม่


“ขอแสดงความเสี ยใจด้ วย ปัจจุบันยังไม่ มีใครทราบเรื่ องนั้น”

อัลเจอร์ เหลือบมองไคลน์ พร้ อมกับก้มศีรษะลง ภายในใจ


ต้ องการพูดออกไปว่ า‘หากเป็ นมิสเตอร์ ฟูลต้ องทราบแน่ ’ แต่
ท้ ายที่สุดก็เลือกจะเงียบงัน

มันเคยลองภูมิเดอะฟูลมาแล้วหลายหน เกรงว่ าหากเผลอลา้ เส้ น


เข้ าสั กวัน ชีวิตอาจจบลงไม่ สวย

ในพระคัมภีร์วายุสลาตัน5:7 ได้ เขียนระบุไว้ ชัดเจนว่ า…

ห้ ามลองดีกับเทพ!

ออเดรย์ สงบสติลง เธอระงับความอยากรู้อยากเห็นและส่ ง


สั ญญาณให้ แฮงแมนเล่าต่ อ
ไคลน์ แสร้ งทาเป็ นไม่ แยแส ไม่ ได้ ต้ังใจฟัง แต่ ความจริงแล้วไม่
พลาดแม้ แต่ ประโยคเดียว มันพยายามบันทึกรายละเอียดให้ ได้ มาก
ที่สุด ก่อนจะย่ อยบทสรุปออกมาเป็ นสี่ หัวข้ อใหญ่

ประการแรก นิกายแม่ มดเคยมีชื่อเดิมเป็ น‘ตระกูลแม่ มด’ในช่ วง


ยุคสมัยที่สี่ ย้ อนกลับไปในตอนนั้น สมาชิกนิกายมีจานวนน้ อยมาก
พลังของนิกายแม่ มดจะถูกส่ งผ่ านสายเลือดเท่ านั้น

และถ้ าฝ่ ายหญิงตั้งท้ อง บุรุษที่เป็ นพ่อของเด็กจะถูกฆ่ าทิง้ ทันที


หากทารกออกมาเป็ นเพศชายก็จะถูกทิง้ เช่ นกัน ส่ งผลให้ สมาชิก
ตระกูลมีเพียงเพศหญิง แต่ นั่นเป็ นคาบอกเล่าจากปากอัลเจอร์
ไคลน์ ยังไม่ มีวิธีพสิ ู จน์ ความจริงในปัจจุบัน

ประการที่สอง นิกายวิญญาณที่เคารพเทิดทูน‘เทพมรณา’
รวมถึงโรงเรียนกุหลาบที่คลั่งไคล้การบูชายันด้ วยเลือดสด พวกมัน
มีต้นกาเนิดจากทวีปใต้ แต่ หลังจากยุคสมัยล่าอาณานิคมเริ่มขึน้
สององค์ กรดังกล่าวถูกกวาดล้างอย่ างหนักโดยเจ็ดโบสถ์ หลัก

แต่ ปัจจุบัน ทั้งนิกายวิญญาณและโรงเรียนกุหลาบกลับมีสมาชิก


แทรกซึมอยู่ทั่วทวีปเหนือ

ประการที่สาม สมาคมแปรจิต พวกมันมีความเชื่ อคล้ายกับนิกาย


มอสส์ ในยุคเริ่มแรก คือเคารพบูชาเทพนามธรรม หลักคาสอนระบุ
ว่ าดวงวิญญาณของมนุษย์ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทุกสิ่ ง
ประการที่สี่ ลัทธิเร้ นลับ องค์กรที่ไคลน์ ต้องการข้ อมูลมากที่สุด
แต่ พวกมันกลับเผยตัวน้ อยที่สุด เบาะแสจึงแทบไม่ ปรากฏ ข่ าว
คราวแต่ ละครั้งมิได้ ข้องกับความชั่วร้ าย หากแต่ เป็ นการไล่ล่าใคร
บางคน หรื อไม่ ก็การตามหาบางสิ่ ง

พวกมันกาลังตามหาอะไร?

ไคลน์ พลันนึกถึงไดอารีแผ่ นเมื่อครู่ที่ระบุว่า หัวหน้ าลัทธิเร้ นลับ


มิสเตอร์ ซาราธ ชักชวนให้ จักรพรรดิโรซายขโมยของวิเศษซึ่งเคย
เป็ นสมบัติตกทอดตระกูลอันทีโกนัส

ยิ่งไปกว่ านั้น เหตุการณ์ เผชิญหน้ าครั้งล่าสุ ดระหว่ างไคลน์ และ


สมาชิกลัทธิเร้ นลับ—ตัวตลกสวมสู ท เกี่ยวพันกับสมุดบันทึก
ตระกูลอันทีโกนัส

มันเริ่มมองเห็นจุดประสงค์ ของลัทธิเร้ นลับอย่ างเลือนลาง

รวบรวมสมบัติของตระกูลอันทีโกนัส!

ไคลน์ พยายามไต่ ตรองหาจุดบกพร่ องในสมมติฐานของตัวเอง


แล้วมันก็พบจุดบอด

บางที สิ่ งที่ลัทธิเร้ นลับต้ องการอาจไม่ ใช่ สมบัติของตระกูลอันที


โกนัส แต่ เป็ นสมาชิกภายในตระกูลที่ยังหลงเหลือ
ถ้ าอย่ างนั้น หากต้ องการทราบเบาะแสของโอสถตัวตลก ไม่ มี
ทางอื่นนอกจากติดต่ อกับลัทธิเร้ นลับสิ นะ…

หลังจากอัลเจอร์ อธิบายทุกองค์ กรลับให้ เด็กสาวฟังอย่ างละเอียด


เป็ นเวลานาน ไคลน์ ตัดสิ นใจยกเลิกการชุมนุมไว้ เพียงเท่ านี้

“สุ ดแล้วแต่ ท่าน”

อัลเจอร์ และออเดรย์ ลุกขึน้ คานับพร้ อมกัน

เมื่อตัดการเชื่ อมต่ อ ภาพฉายของจัสติสและแฮงแมนแตกสลาย


ไปต่ อหน้ า ไคลน์ นวดคลึงขมับโดยยังคาใจเรื่ องการสร้ างไอดีเด็ก

ทันทีที่จินตนาการ ภาพของบุรุษสวมทักซิโดปรากฏบนเก้ าอีต้ ัว


ไกลสุ ด อีกฝ่ ายสวมหมวกผ้ าไหมทรงกึ่งสู ง ใบหน้ าไร้ อารมณ์ คล้าย
กับหุ่นกระบอก

กริยาท่ าทางเงอะงะจนผิดสั งเกตุ ถึงจะใช้ หมอกหนาปกปิ ดไว้ ก็


ไม่ มิดชิด

แบบนีห้ ลอกคนอื่นไม่ ได้ แน่ … ไคลน์ หยุดพักความคิดที่จะสร้ าง


ไอดีเด็กไว้ ชั่วคราว
มันทดสอบอีกหลายสิ่ งที่สงสั ยจนหายคลางแคลงใจ ไคลน์ นั่งลง
ในตาแหน่ งหัวโต๊ ะอย่ างเงียบงันพร้ อมกับขบคิดเรื่ อยเปื่ อย

จนกระทั่งสะดุดเข้ ากับเรื่ องที่ออเดรย์ เสนอ

เพิม่ สมาชิกชุ มนุม

สายตามันกวาดมองไปยังดาวแดงปริศนาหลายสิ บดวงที่ยังไม่
ถูกเชื่ อมต่ อ ไคลน์ พยายามส่ งพลังวิญญาณเข้ าไปเพื่อหวังรับข้ อมูล
ของอีกฝ่ าย แต่ น่าเสี ยดายที่ไม่ เป็ นผล

ติดต่ อได้ เฉพาะผู้ที่เคยถูกอัญเชิญขึน้ มาบนมิติสายหมอกเท่ านั้น


สิ นะ…

มันแสดงสี หน้ าผิดหวัง ไคลน์ ไม่ ต้องการดึงคนขึน้ มามั่วซั่วโดย


ที่อีกฝ่ ายไม่ สมัครใจ นั่นจะทาให้ เกิดปัญหาตามมาภายหลัง

ขณะชายหนุ่มกาลังจะกลับลงไป มันใช้ มือสุ่ มสั มผัสดาวแดง


หนึ่งดวงตามนิสัยปรกติ

หือ?

ทันใดนั้น เสี ยงสวดภาวนาพลันดังแว่ วออกจากดาวแดงดวง


ดังกล่าว
ราชันย์ เร้ นลับ 95 : ผู้ภาวนา

“เสี ยงภาวนา?”

หลังจากได้ สติ ไคลน์ รีบทาแบบเดียวกับตอนที่เคยแอบสารวจ


แฮงแมน มันส่ งพลังวิญญาณเข้ าไปในดวงแดงดวงดังกล่าว

จอฉายภาพปรากฏขึน้ ตรงหน้ า เด็กหนุ่มผมทองคนหนึ่งกาลัง


ก้มกราบลูกแก้วใส
มันสวมเครื่ องแบบรัดรูปสี ดาสนิท ลักษณะแตกต่ างจากเครื่ อง
แต่ งกายชาวโลเอ็น แต่ คล้ายคลึงกับวัฒนธรรมของอาณาจักรฟุซัค
และสาธารณรัฐอินทิสที่เคยเห็นจากวารสาร

บรรยากาศโดยรอบค่ อนข้ างมืด มีแสงกว่ างส่ องกระพริบเป็ น


ระยะ แต่ มันไม่ ได้ ยินเสี ยงฟ้ าผ่ าหรืิ อฝนตกประกอบ

ภาพที่กาลังปรากฏ เด็กหนุ่มผมทองคุกเข่ าก้มศีรษะโดยใช้


หน้ าผากแนบติดพื้น ฝ่ ามือสองข้ างรองหน้ าผากไว้ ในลักษณะคว่า
ปลายนิว้ ชนกัน

บุคคลดังกล่าวก้มกราบอีกหลายหน ปากพลางสวดภาวนาไม่
หยุดพัก เสี ยงถ้ อยคาเริ่มดังแว่ วข้ างหูไคลน์ ทีละนิด
หลังจากตั้งใจฟังสั กพัก มันได้ พบกับสิ่ งที่น่าประหลาดใจ
ภาษาที่เด็กหนุ่มใช้ สวด… ตนไม่ เคยได้ ยินจากที่ใดมาก่อนสั ก
ครั้ง

ในฐานะนักศึกษาประวัติศาสตร์ ความทรงจาของไคลน์ คนเก่า


ย่ อมมีรากฐานของทุกภาษาบนโลก ไม่ เว้ นแม้ แต่ ภาษาเก่าแก่อย่ าง
เฮอร์ มิสโบราณ

แต่ มันกลับฟังไม่ ออก ทั่งที่ปัจจุบันมีมิติสายหมอกสุ ดทรงพลัง


คอยสนับสนุน

ไคลน์ ยิม้ แห้ ง มันพยายามตั้งใจฟังยิ่งกว่ าเมื่อครั้งสอบ


ภาษาอังกฤษบนโลกเก่า

จนกระทั่งเริ่มสะกิดใจ

ภาษาที่เด็กหนุ่มคนดังกล่าวใช้ ถึงตนจะไม่ เคยร่าเรียนโดยตรง


แต่ ก็สามารถพบความสั มพันธ์ ทางรูปประโยคและลักษณะการ
เปล่งเสี ยง

คล้ายคลึงกับภาษาฟุซัคโบราณ

พ่อครับ… แม่ ครับ…


ถ้ าเข้ าใจไม่ ผิดคงแปลออกมาแบบนั้น… ใกล้เคียงกับภาษาฟุซัค
โบราณมากที่สุด แต่ ก็ยังมีจุดต่ างพอสมควร

ไคลน์ ขมวดคิว้ งุนงง ภาษฟุซัคโบราณนิยมใช้ ในยุคสมัยที่สี่ ถือ


เป็ นรากฐานของภาษาร่ วมสมัยในยุคปัจจุบันเกือบทั้งหมด

หมายความว่ า ภาษาฟุซัคโบราณสามารถดัดแปลงและพัฒนาต่ อ
ยอดได้ หลายทิศทาง และสิ่ งที่ตนกาลังได้ ยินอาจเป็ นแขนงใหม่

กระนั้นก็ยังไม่ มีหลักฐานใดยืนยัน
จนกระทั่งตั้งใจฟังซ้าไปมาอีกหลายหน มีหนึ่งสิ่ งที่มันสามารถ
ยืนยันได้ ภาษาตรงหน้ าไม่ ใช่ โลเอ็น ฟุซัค และอินทิสแน่ นอน

คงเป็ นแขนงหนึ่งของฟุซัคโบราณ เหมือนกับที่เขียนไว้ ในสมุด


บันทึกตระกูลอันทีโกนัส

ไคลน์ นั่งพยักหน้ าครุ่นคิดสั กพัก ก่อนจะฉุกคิดถึงสิ่ งที่เคย


มองข้ าม

ภาษาฟุซัคโบราณไม่ ใช่ ภาษาดั้งเดิม แต่ พฒ


ั นามาจากภาษาคน
ยักษ์ อีกทอด อีกทั้ง อาณาจักรฟุซัคในปัจจุบันยังเรียกตัวเองว่ า
ทายาทคนยักษ์

ฟังมาถึงจุดนี้ ภาษาคนยักษ์ โบราณเก่าแก่เกินกว่ าที่ไคลน์ จะ


เข้ าใจถ่ องแท้ มันจึงตัดสิ นใจพักการเฝ้ามองไว้ ก่อน
ไคลน์ ไม่ มีเจตนาฝื นดึงเด็กหนุ่มผมทองขึน้ มายังมิติสายหมอก
มันต้ องแอบมองไปอีกสั กระยะเพื่อให้ แน่ ใจว่ าอีกฝ่ ายไม่ ใช่ คน
เลวร้ าย สิ่ งนีถ้ ือเป็ นขั้นตอน ‘คัดกรอง’ ประเภทหนึ่ง

ฟู่ ว…

ชายหนุ่มเอนพลังพิงพนักเก้าอีผ้ ่ อนคลาย ก่อนจะดาดิ่งกลับสู่


โลกแห่ งความจริง

หลังจากทบทวนเนื้อความในไดอารีจักรพรรดิโรซายเพื่อไม่ ให้
หลงลืม ไคลน์ เปลี่ยนชุดและเดินทางไปยังสโมสรพยากรณ์ ตาม
กาหนดการ

ถึงจะมีรายได้ เพิม่ จากเดิมสองเท่ า แต่ มันก็ยังเลือกโดยสารรถม้ า


สาธารณะที่ราคาถูกกว่ า

กระนั้นก็มิได้ ตระหนี่เกินเหตุ ด้ วยแสงแดดยามบ่ ายที่ยังร้ อน


มันแวะดื่มชาเย็นของร้ านมาดามสลินก่อนออกเดินทาง

หลังจากรถม้ าเคลื่อนตัวมาจอดที่ป้ายถนนฮาเวิส ไคลน์ โยนแก้ว


ชาเย็นลงถังขยะและเดินขึน้ ไปยังชั้นสองของอาคาร
ก่อนจะเข้ าห้ องรับแขก มันเปิ ดภาวะเนตรวิญญาณเพื่อเตรียม
ความพร้ อม

เมื่อย่ างกรายเข้ าไป ไคลน์ สัมผัสถึงบรรยากาศโศกเศร้ าเล็กๆ จาก


ผู้คนรอบตัว

เจ้ าหน้ าที่ต้อนรับสาวสวยคนเดิม มาดามแอนเจลิก้า นั่งอยู่ในที่


ประจาของเธอ สายตากาลังเหม่ อลอยไร้ การเพ่งสมาธิ

“กาลเวลาจะช่ วยเยียวยาความโศก”

แอนเจลิก้าพลันสะดุ้ง เธอเหลียวมองไคลน์ เมื่อได้ สติ ก่อนจะ


พึมพา

“มิสเตอร์ โมเร็ตติ…”

ทันใดนั้น นัยต์ ตาดาของเธอหดลีบลง

“ค…คุณรู้เรื่ องการตายของมิสเตอร์ เฮเนส·ด้ วยหรื อคะ? ด…ได้


ยังไง?

“จ…จริงด้ วยสิ นะ… ดิฉันลืมไปว่ าคุณเป็ นหมอดูที่พเิ ศษกว่ า


ใคร”
ไคลน์ ทาทีถอนหายใจในปริมาณพอเหมาะ
“หามิได้ ครับ ผมเพียงมองเห็นจากอนาคตอันใกล้ที่ค่อนข้ าง
เลือนลาง… เกิดอะไรขึน้ กับมิสเตอร์ เฮเนสกันแน่ ?”

“หัวหน้ าแจ้ งมาว่ า ในค่าคืนหนึ่ง มิสเตอร์ เฮเนสประสบภาวะ


หัวใจล้มเหลวฉับพลันและไม่ ตื่นขึน้ มาอีกเลย”

ดวงตาแอนเจลิก้าเริ่มแดงก่า

“เขาเป็ นสุ ภาพบุรุษที่อ่อนโยนและมนุษย์ สัมพันธ์ ดีมาก เป็ น


อาจารย์ คนสาคัญของสมาชิกหลายท่ านในสโมสร แถมอายุก็ยังไม่
มาก อนาคตต้ องสดใสแน่ …”

“ขออภัยที่เอ่ยถึงนะครับ”

ไคลน์ ไม่ ปลอบเธอต่ อ มันเดินตรงไปที่ห้องประชุมด้ วยย่ างก้าว


ไม่ รีบร้ อน

แอนเจลิก้าใช้ ผ้าเช็ดหน้ าซับน้าตา ก่อนจะตะโกนไล่หลังด้ วย


เสี ยงค่ อนข้ างดัง

“มิสเตอร์ โมเร็ตติ รับเครื่ องดื่มอะไรดีคะ?”

“ชาดา”
จากบรรดาเครื่ องดื่มทั้งหมดของสโมสร มันชื่ นชอบชาดาที่สุด
ถึงจะมีรสชาติธรรมดามากก็ตาม

ในโลกยุคปัจจุบัน ในเมืองทิงเก็น มันชื่ นชอบเบียร์ ขิงและชาเย็น


ร้ านมาดามสลินเป็ นที่สุด แต่ เพื่อรักษาภาพลักษณ์ นักทานาย มัน
จาเป็ นต้ องสั่ งเครื่ องดื่มสุ ภาพบุรุษ

เมื่อเป็ นวันจันทร์ จานวนสมาชิกสโมสรช่ วงบ่ ายจึงมีไม่ มาก ราว


ห้ าถึงหกคน
พลังเนตรวิญญาณช่ วยให้ เห็นภาวะทางอารมณ์ ที่แตกต่ างกันไป
ทั้งเสี ยใจ เหม่ อลอย และไม่ แยแส

ค่ อนข้ างปรกติ… คนเหล่านีบ้ ริสุทธิ์

ไคลน์ พยักหน้ าเล็กๆ พร้ อมกับเดินหาที่นั่ง

ขณะกาลังจะปิ ดเนตรวิญญาณ มันเหลือบเห็นแอนเจลิก้ากาลัง


เดินมาทางตน

“มิสเตอร์ โมเร็ตติคะ มีลูกค้ าต้ องการพบคุณ เป็ นลูกค้ าคนเดิม


ค่ ะ”

สุ ภาพสตรีเลอโฉมกล่าวด้ วยท่ าทีรีบร้ อน


“คุณจาเขาได้ ?”

ไคลน์ ยมิ้

คงเป็ นบอร์ กด้ ากระมัง… หมอนั่นได้ ซื้อสมุนไพรตามที่เราบอก


รึเปล่า? และยังต้ องผ่ าตัดอยู่ไหม?

แอนเจลิก้าใช้ มือปิ ดปาก ก่อนจะอธิบายด้ วยน้าเสี ยงแฝงความ


เหนื่อยหอบ
“เขาเป็ นลูกค้ าเพียงคนเดียวยอมนั่งรอตลอดช่ วงบ่ าย ต้ องจาได้
อยู่แล้วค่ ะ”

ไคลน์ หยิบไม้ คา้ และลุกขึน้ เดิน มันก้ าวขาออกจากห้ องประชุม


โดยไม่ กล่าวสิ่ งใดต่ อ

ในเขตห้ องรับรอง ไคลน์ พบบุรุษผู้ที่เคยใช้ บริการดูดวงของตน


เมื่อสั ปดาห์ ก่อน ตับของมันปรากฏแสงออร่ าสี ปรกติ แถมสุ ขภาพ
โดยรวมยังดีขนึ้ มาก

“ยินดีด้วยครับ ความไม่ มีโรคเป็ นลาภอันประเสริฐ”

ไคลน์ ยมิ้ พร้ อมกับยื่นแขนขวาขอจับมือ


บอร์ กด้ าผงะเล็กน้ อย ก่อนจะใช้ แขนทั้งสองข้ างกุมมือขวาไคลน์
ด้ วยท่ าทีนอบน้ อม

“มิสเตอร์ โมเร็ตติ… คุณ ‘มองเห็น’ สุ ขภาพของผมได้ จริงๆ !

“ใช่ ครับ ผมหายดีแล้ว แพทย์ ที่ดูแลแทบไม่ เชื่ อสายตา เขา


พยายามเค้ นถามความจริงหลายหน หลังจากผลตรวจยืนยันว่ าตับ
ของผมกลับเป็ นปรกติโดยไม่ ต้องผ่ าตัด”

เมื่อได้ ยินเช่ นนี้ ไคลน์ มั่นใจหนึ่งเรื่ องทันที


หมอยาร้ านสมุนไพรโรเซนเป็ นผู้วิเศษ

ยิ่งมีเหตุการณ์ ของกลาซิสช่ วยยืนยัน มันมั่นใจว่ าสมมติฐานนี้


ถูกต้ อง

“ผมต้ องหาโอกาสไปสารภาพบาปกับพระองค์ สักครั้ง โทษฐาน


ที่ไม่ เชื่ อใจคุณ ไม่ เชื่ อใจหมอยาวิเศษคนนั้น”

บอร์ กด้ าไม่ ยอมปล่อยมือไคลน์ มันเล่าต่ อด้ วยสี หน้ าสานึกผิด

“…สิ บปอนด์ ที่จ่ายไปไม่ เสี ยเปล่า มันช่ วยให้ ผมกลับมามีชีวิต


อีกครั้ง”

อะไรนะ… สิ บปอนด์ !?
เอ็งจ่ ายมันสิ บปอนด์ แล้วจ่ ายตูแค่ แปดเพนนีเนี่ยนะ? แปด
เพนนี!

มุมปากไคลน์ พลันกระตุก มันพยายามเก็บซ่ อนอาการสั่ นเทา

ขณะเดียวกัน บอร์ กด้ าปล่อยมือและก้มศีรษะให้ อย่ างจริงใจ

“ผมมาที่นี่เพื่อแสดงความขอบคุณ ขอบคุณท่ านโมเร็ตติที่ได้


ช่ วยชีวิตผมไว้ ”
“ผิดแล้ว ต้ องขอบคุณตัวเองต่ างหาก ที่ตัดสิ นใจเดินทางมา
ทานายเพื่อตรวจสอบอนาคตการผ่ าตัด”

ไคลน์ เงยศีรษะขึน้ ไปมองเพดานพร้ อมกับเปล่งน้าเสี ยงลุ่มลึก


คล้ายนักต้ มตุ๋น

“ท…ท่ าน! สมกับเป็ นนักทานายตัวจริง”

บอร์ กด้ าเล่าต่ อ

“อีกเดี๋ยวผมจะเดินทางไปขอบคุณหมอยาที่ถนนวลาด และซื้อ
สมุนไพรที่เขาเคยแนะนาติดมือกลับมาสั กชุ ดสองชุด”

“คุณหายดีแล้วไม่ ใช่ หรื อ?”


ไคลน์ ขมวดคิว้

บอร์ กด้ ากวาดสายตามองรอบห้ อง เมื่อเห็นว่ าแอนเจลิก้าไม่ ได้


ฟัง มันอมยิม้ พร้ อมกับอธิบายเสี ยงค่ อย

“หมอยาเคยแนะนาให้ ผมใช้ ผงมัมมี่ สิ่ งนั้นจะช่ วยนาพา


ความสุ ขสมมาสู่ กิจกรรมเร่ าร้ อนบนเตียง คราวก่อนผมไม่ เชื่ อ แต่
ปัจจุบันไม่ เคลือบแคลงอีกแล้ว”

…มีสรรพคุณแบบนั้นด้ วยหรื อ?

ไคลน์ เริ่มตะหงิดเล็กๆ ว่ าหมอยาคนนั้นอาจเป็ นนักต้ มตุ๋น และ


ตนทาให้ บอร์ กด้ ามีชะตากรรมต้ องถูกหลอกหลวง

แต่ หลังจากสารวจสี ออร่ าซ้า มันไม่ พบสิ่ งแปลกปลอมในตัว


บอร์ กด้ า

“ผงมัมมี่…?”

ไคลน์ ทวนคาพูดด้ วยน้าเสี ยงประหลาดใจ

“ใช่ แล้วครับ ผงมัมมี่ ผมได้ ยินจากกลุ่มเพื่อนฝูงว่ า ขุนนางใหญ่


ของเบ็คลันด์ ตามหาผงมัมมี่อย่ างบ้ าคลั่ง มีสรรพคุณช่ วยให้ ของ
ลับของบุรุษแข็งแกร่ งดุจดังหินผาบนเตียง ถึงจะฟังดูน่ารังเกียจ
และน่ าละอายอยู่บ้าง แต่ ปฏิเสธไม่ ได้ ว่าเป็ นที่นิยมของชนชั้นสู ง”
บอร์ กด้ าอธิบายด้ วยแววตาหื่นกระหาย

มัมมี?่ ซากศพ? เอาศพไปบดเป็ นผง?

ไคลน์ ยังคงทึ่ง มันเกือบเสี ยอาการต่ อหน้ าบอร์ กด้ า

พวกขุนนางนี่ช่าง… ดิบชะมัด

ขณะไคลน์ กาลังจะโน้ มน้ าวให้ บอร์ กด้ าล้มเลิกความคิด กลาซิส


อดีตลูกค้ าของไคลน์ และเป็ นคนแนะนาร้ านหมอยา เดินเข้ ามาใน
ห้ องรับรองและได้ ยินบทสนทนาเมื่อครู่

“ใช่ แล้วครับ มันเจ๋ งมาก! ผมขอแนะนาให้ คุณไปร้ านสมุนไพรโร


เซนที่ถนนวลาด ผงมัมมี่ของร้ านนั้นทานแล้วแข็งโป๊ ก!”

กลาซิสถอดแว่ นตาขาเดียวออกพร้ อมกับสรรเสริญไม่ หยุดปาก

“มันทาให้ ผมมีประสบการณ์ แสนวิเศษ…”

“คุณรู้จักด้ วยหรื อ? ผมเพิง่ เคยได้ ยินชื่ อร้ านสมุนไพรโรเซนเมื่อ


สั ปดาห์ ที่แล้วนี่เอง”

บอร์ กด้ าขานรับด้ วยสี หน้ าโล่งใจ


หลังจากสนทนาอย่ างออกรสอีกสั กพัก บอร์ กด้ ารีบไปจาก
สโมสรพยากรณ์

ไคลน์ ยังคงทึ่งไม่ หาย

มันรอจนกระทั่งห้ าโมงสี่ ยิบ ก่อนตัดสิ นใจออกจากสโมสร


พยากรณ์ และขึน้ รถม้ าไปยังถนนวลาด โดยต้ องการสื บว่ า เจ้ าของ
ร้ านเป็ นคนแบบไหน และมีความจาเป็ นต้ องรายงานให้ หัวหน้ า
ทราบหรื อไม่

บ้ านเลขที่ 18 ถนนวลาด

เมื่อไปถึงหน้ าร้ าน บานประตูปิดสนิท และมีป้ายแขวนอธิบาย


สถานการณ์ ปัจจุบัน

…หมอนี่รอบคอบชะมัด

ในเมื่อเป็ นเช่ นนี้ ตัวมันก็ไม่ ต้องทาการสื บสวนให้ เปลืองแรง


บุคคลน่ าสงสั ยได้ เดินทางออกจากทิงเก็นเรียบร้ อย
ราชันย์ เร้ นลับ 96 : ข้ อสั นนิษฐานของดาลี่ย์

เช้ าวันถัดมา ไคลน์ ที่ฟื้นฟูอาการอ่อนเพลียจนหายขาด ย่ างกราย


ขึน้ บันไดสานักงานบริษัทหนามทมิฬอย่ างใจเย็น

“อรุณสวัสดิ์ไคลน์ วันนีอ้ ากาศดีและเย็นสบายมาก ฉันรองาน


เลีย้ งช่ วงค่าไม่ ไหวแล้ว”

โรแซนในเดรสเขียวอ่อน กล่าวทักทายชายหนุ่มด้ วยรอยยิม้


สดใส

ไคลน์ เลื่อนมือลงไปจับท้ อง

“มิสโรแซน คุณไม่ ควรถึงพูดเรื่ องอาหารในตอนที่ยังเช้ าตรู่…


แค่ คิดถึงงานของวันนีก้ ็ทาเอาท้ องไส้ ปั่นป่ วนแล้ว ได้ แต่ หวังให้
ตอนเย็นมาถึงไวๆ”

“เหมือนกัน”

โรแซนคิกคัก จากนั้นก็เหลียวมองซ้ ายขวา ก่อนจะโบกมือให้


ไคลน์ เดินเข้ าไปใกล้

เธอกระซิบเสี ยงค่ อย
“ฉันเพิง่ ได้ พบมาดามดาลี่ย์มา”
“ผู้สื่อวิญญาณดาลี่ย์?”

มันโพล่งอย่ างประหลาดใจ

ผู้สื่อวิญญาณที่โด่ งดังที่สุดของรัฐอาโฮว่ า เธออาศัยอยู่ที่ท่าเรื อ


เอ็นมาร์ ทเสมอ ซึ่งนั่นค่ อนข้ างไกลกับทิงเก็น

“อื้อ!”
โรแซนพยักหน้ าหนักแน่ นก่ อนอธิบายต่ อ

“แต่ เธอกลับไปแล้ว…

“ถ้ าได้ เป็ นผู้สื่อวิญญาณบ้ าง ฉันจะไปจากทิงเก็นและท่ องโลก


กว้ างทันที! ไม่ ว่าจะอินทิส ฟุซัค หรื อเฟเนพ็อต… ทุ่งหญ้ ากว้ าง
ใหญ่ เขียวขจี ป่ าดงดิบ รวมถึงทุ่งหิมะขาวโพลน!”

คุณสุ ภาพสตรี อย่ าลืมกฎเหล็กของเหยี่ยวราตรีสิครับ… ไคลน์


ส่ ายศีรษะขบขัน

“แม้ แต่ มาดามดาลี่ย์ยังต้ องทาเรื่ องขออนุญาตเป็ นพิเศษเพื่อให้


ได้ อยู่ที่เอ็นมาร์ ท”
“ฉันรู้น่า! ช่ วยอย่ าเพิง่ ขัดและทาลายความฝันของสาวน้ อยจะได้
ไหม!”

โรแซนทาแก้มป่ อง

“ฉันไม่ มีทางเป็ นผู้วิเศษตั้งแต่ แรกแล้ว มันน่ ากลัวเกินไป ไม่ ร้ ูจะ


ถูกยิงตายตอนไหน

“ในสายตาของฉัน ผู้วิเศษไม่ ต่างอะไรกับมนุษย์ ที่แปลงร่ างเป็ น


สั ตว์ ประหลาดเพื่อสู้ กับสั ตว์ ประหลาด”

“อาร์ คบิชอปยานิสเคยกล่าวว่ า พวกเราคือผู้พทิ ักษ์ แต่


ขณะเดียวกันก็เป็ นมนุษย์ น่าสมเพชที่ต้องต่ อสู้ กับภัยคุกคามและ
ความบ้ าคลั่งของโลก”

ไคลน์ เสริมพร้ อมกับถอนหายใจยาว มันค่ อยข้ างฝังใจกับวลี


ดังกล่าว

การจะสู้ กับนรก ตนต้ องคอยระมัดระวังการกัดกร่ อนและเย้ า


ยวนจากนรก

บทสนทนาทั้งสองพลันเงียบงันสั กพัก จนกระทั่งโรแซนเป็ น


ฝ่ ายเริ่ม เธอใช้ คางชี้ไปยังทิศทางหลังฉากกั้น
“หัวหน้ าบอกว่ า ถ้ าคุณมาถึงแล้วให้ ไปพบเขาที่ห้องทางาน”
“เข้ าใจแล้ว”

ด้ วยไม้ คา้ ในมือ ไคลน์ เดินผ่ านฉากกั้นและเคาะบานประตู


จากนั้นก็หมุนเปิ ดพร้ อมกับย่ างกรายเข้ าไปในห้ อง

ชายวัยกลางคนผู้มีนัยน์ ตาเทาลุ่มลึก ศีรษะเถิกเล็กน้ อยตามช่ วง


อายุ ดันน์ ·สมิทวางถ้ วยกาแฟลงและยิม้

“ดาลี่ย์มาที่นี่เมื่อครู่”

“ถ้ าผมพูดว่ าประหลาดใจคงเป็ นการโกหก มิสโรแซนแอบเล่าให้


ฟังแล้วครับ”

ไคลน์ ยมิ้ แห้ ง

ดันน์ ไม่ ถือสามุกตลก มันถอนหายใจสั้ นๆ ก่อนจะเล่าต่ อ

“ดาลี่ย์เพิง่ ถูกส่ งตัวไปประจาการที่มุขมณฑลเขตเบ็คลันด์ เขตที่


วุ่นวายที่สุดของอาณาจักร มีจานวนผู้วิเศษสู งสุ ด และมีโอกาส
เจริญก้าวหน้ ามากที่สุด…

“เธออาจได้ เป็ นอาร์ คบิชอปหรื ออาวุโสใหญ่ ของโบสถ์ ก่อนผม”


“เพราะอะไรครับ?”
ไคลน์ ถามเสี ยงฉงนพลางนั่งลง

ดันน์ ใช้ เวลานึกนานถึงยี่สิบวินาทีก่อนตอบ

“เธอมีพรสวรรค์ พเิ ศษในการย่ อยพลังโอสถได้ ชะงักงัน… ผม


เคยเล่าให้ คุณฟังแล้วใช่ ใหม่ ? ผู้วิเศษของโบสถ์ ต้องรอให้ ครบสามปี
จึงจะเข้ ารับการทดสอบคุณสมบัติ ว่ าสามารถเลื่อนระดับได้ หรื อไม่

“แต่ เชื่ อผมเถอะ สามปี ไม่ มีทางพอ

“ในกรณีของผม จากผู้ไร้ หลับไปเป็ นนักกวีเที่ยงคืนอาจใช้ เวลา


สามปี แต่ จากนักกวีเที่ยงคืนไปเป็ นฝันร้ าย ผมต้ องใช้ เวลานานถึง
เก้าปี เต็ม ตอนนีก้ ็ผ่านมาสามปี แล้วหลังจากได้ เป็ นฝันร้ าย ผมไม่ ร้ ู
ว่ าต้ องใช้ เวลาอีกนานเท่ าไรกว่ าจะได้ เลื่อนเป็ นลาดับหก

“เมื่อแก่ตัวลง ร่ างกายมนุษย์ จะเสื่ อมสภาพไปตามอายุขัย ไม่ เว้ น


แม้ แต่ ผ้ วู ิเศษ

“สิ่ งนีห้ มายความว่ า การเลื่อนระดับในช่ วงอายุมากจะมีโอกาส


คลุ้มคลั่งสู งกว่ าปรกติ ไม่ มีใครต้ องการเอาชีวิตเข้ าเสี่ ยง

“แต่ กรณีของดาลี่ย์ เธอแตกต่ างจากผู้วิเศษทุกคนที่ผมเคยพบ


“ทันทีทดี่ าลี่ย์กลายเป็ นผู้เก็บซากศพ เธอใช้ เพียงเวลาปี เดียวใน
การยื่นคาร้ องขอเลื่อนระดับ ทุกคนประหลาดใจมาก และออกปาก
เตือนว่ าบุ่มบ่ ามเกินไป

“แต่ หลังจากโบสถ์ ส่งคนมาทาการทดสอบคุณสมบัติดาลี่ย์


ปรากฏว่ า เธอผ่ านการทดสอบอย่ างง่ ายดายและได้ รับโอสถนักขุด
สุ สานจากโบสถ์ ทันที

“หนึ่งปี หลังจากนั้น ดาลี่ย์ทาแบบเดิม ยื่นคาร้ องขอเลื่อนระดับ


และผ่ านการทดสอบง่ ายดาย กลายเป็ นผู้สื่อวิญญาณภายใน
ระยะเวลาเพียงสองปี

“จนถึงตอนนีก้ ็ผ่านมาห้ าปี แล้ว ดาลี่ย์มีอายุเพียง 24 ปี เท่ านั้น


อนาคตของเธอสดใสมากกว่ าใคร”

จากผิวเผินภายนอก ชาวบ้ านทั่วไปจะรู้จักมาดามดาลี่ย์ในฐานะ


ผู้สื่อวิญญาณชื่ อดังแห่ งรัฐอาโฮว่ า แต่ นั่นไม่ ใช่ คาเปรียบเปรยอย่ าง
ที่คนทั่วไปเข้ าใจ เพราะเธอครอบครองพลังของผู้สื่อวิญญาณตัว
จริงเสี ยงจริง

เทคนิคสวมบทบาท…?

ไม่ ผิดแน่ ลุงนีลล์เองก็พูดบ่ อยครั้ง ว่ ามาดามดาลี่ย์มักทาตัว


เหมือนผู้สื่อวิญญาณอยู่เสมอ แถมบรรยากาศรอบตัวก็เย็นชา
ตลอดเวลา
ไคลน์ ทราบเบาะแสที่มาดามดาลี่ย์สามารถเลื่อนลาดับได้ รวดเร็ว
กว่ าใคร

“หัวหน้ า คุณก็ไม่ ได้ แก่สักหน่ อย เพิง่ สามสิ บเท่ านั้น อนาคต


สดใสไม่ ต่างจากเธอ”

ไคลน์ พยายามปลอบใจ

ถึงความจาของคุณจะห่ วยไปสั กหน่ อย…

มันแอบเสริม

ดันน์ ยกแก้วกาแฟซด มันส่ ายศีรษะพร้ อมกับยิม้ ตาหนิตัวเอง

“ทาไมหัวหน้ าถึงไม่ ถามวิธีเลื่อนระดับเร็วๆ จากมาดามดาลี่ย์ล่ะ


ครับ?”

ไคลน์ ถามเจาะจง

ดันน์ วางแก้วกาแฟลง พลางใช้ มือข้ างหนึ่งบีบนวดขมับ

“เธอเพียงตอบกว้ างๆ มาว่ า ให้ ผมกลายเป็ นฝันร้ ายที่แท้ จริง…


“ผมไม่ เข้ าใจว่ าดาลี่ย์หมายถึงอะไร”
ก็แค่ สวมบทบาทเป็ นฝันร้ า—…?

เดี๋ยว… จะสวมบทบาทเป็ นฝันร้ ายยังไง!?

ต้ องกลายเป็ นคนชั่วงั้นหรื อ?

แม้ แต่ ไคลน์ ก็ตอบคาถามนีไ้ ม่ ได้

ขณะเดียวกัน ดันน์ หยิบไปป์ ออกมาสู ดดมกลิ่นยาสู บด้ านใน

“จริงสิ … ผมกับเธอพูดคุยเกีย่ วกับเส้ นทางนักทานายด้ วย


สมมติให้ ตัวตลกสวมสู ทไม่ ได้ โกหกคุณ ดาลี่ย์อธิบายสมมติฐาน
ระหว่ างนักทานายและตัวตลกไว้ ในมุมมองที่น่าสนใจ

“สมมติฐาน?”

ไคลน์ โพล่งด้ วยสี หน้ าประหลาดใจ แววตาบ่ งบอกชัดเจนว่ า


กาลังตื่นเต้ น

มันเคยทานายว่ า โอสถตัวตลกใช่ ผ้ วู ิเศษลาดับถัดจากนักทานาย


หรื อไม่ คาตอบออกมาไม่ ชัดเจนนัก แต่ ก็เป็ นไปในทิศทาง
สอดคล้อง
นัยน์ ตาเทาแสนสุ ขุมของดันน์ จ้องมาที่ชายหนุ่ม ก่อนจะเริ่ม
อธิบาย

“เส้ นทางผู้วิเศษทั่วไปมักมีสิ่งที่สอดคล้องกันในแต่ ละลาดับขั้น


การพัฒนาลาดับจะช่ วยสนับสนุนพลังก่อนหน้ า

“ตัวอย่ างเช่ นผู้ไร้ หลับ นักกวีเที่ยงคืน และฝันร้ าย ทั้งสาม


เกี่ยวข้ องกับยามค่าคืนที่มืดมิด การนอนหลับ และความเงียบสงบ

“สามารถเดาได้ ไม่ ยากเลยว่ า เส้ นทางลาดับถัดไปต้ องเกี่ยวข้ อง


กับสิ่ งเหล่านีอ้ ย่ างมีนัยยะสาคัญแน่ นอน ด้ วยพลังที่แข็งแกร่ งขึน้
และหลากหลายขึน้

“เส้ นทางผู้ไร้ หลับจะเกี่ยวข้ องกับเทพธิดารัตติกาลโดยตรง


คุณลักษณะเด่ นประกอบด้ วยความลับ หายนะ หวาดผวา
พระจันทร์ แดง และอื่นๆ

“ผู้วเิ ศษบางเส้ นทางอาจเหมือนไม่ เกี่ยวข้ องกันเลยในแต่ ละ


ลาดับ แต่ เมื่อลองวิเคราะห์ โดยละเอียด พวกเรากลับพบว่ าเส้ นทาง
เหล่านั้นมีหัวใจสาคัญร่ วมกันอยู่

“ตัวอย่ างเช่ น นักลอบสั งหารและนักกระตุ้น พลังของทั้งสอง


โอสถสามารถสร้ างความเจ็บปวด หายนะ ความโศกเศร้ าให้ แก่ผ้ คู น
หมู่มากได้ ฉะนั้น ลาดับถัดไปก็อาจยึดหลักการเดียวกัน”
ไคลน์ ที่นั่งฟังอย่ างตั้งใจ ชิงถามแทรก
“แต่ นักทานายและตัวตลกไม่ มีความสั มพันธ์ ในรูปแบบ
ดังกล่าว?”

“ถูกต้ อง”

ดันน์ พยักหน้ า

“ดาลี่ย์เชื่ อว่ า ยังมีอีกหลายเส้ นทางผู้วิเศษที่แต่ ละลาดับมีพลังไม่


สอดคล้องกัน แต่ นั่นเป็ นเพียงการคาดเดา เนื่องจากข้ อมูลของเรา
ไม่ มากพอ”

ดันน์ พกั หายใจสองสามวินาที

“เธอยังกล่าวอีกว่ า เส้ นทางเหล่านีจ้ ะเติบโตด้ วยรูปแบบที่ไม่


สอดคล้องกันในช่ วงลาดับต่า การเลื่อนลาดับทุกครั้งจะช่ วยให้
ได้ รับพลังใหม่ ที่แตกต่ างโดยสิ้นเชิงเสมอ

“ผู้วเิ ศษเส้ นทางเหล่านีจ้ ะแข็งแกร่ งด้ วยการสะสมความสามารถ


ที่หลากหลายไว้ ในตัวคนเดียว หากเมื่อใดรวบรวมพลังจนครบทุก
ชนิด ผู้วิเศษเส้ นทางเหล่านีจ้ ะกลายเป็ น ‘อาชีพ’ สุ ดทรงพลัง
ในทันที
“ไม่ ใช่ การเติบโตอย่ างต่ อเนื่ อง แต่ เป็ นการรวบรวมพลังที่กระจัด
กระจาย”

แม้ ไคลน์ จะตั้งใจฟัง แต่ มันมิอาจเข้ าใจความหมายได้ กระจ่ าง

ดันน์ ยกกาปั้นขึน้ พร้ อมกับอธิบายต่ อ

“พูดให้ เห็นภาพ ผู้วิเศษเส้ นทางทัั่วไปพัฒนาแบบมนุษย์ หนึ่งคน


เริ่มจากทารก กลายเป็ นเด็กหนุ่ม จนกระทั่งเป็ นผู้ใหญ่

“การเติบโตทางร่ างกายจะเห็นได้ ชัดเจน รูปร่ างสู งขึน้ ตัวโตขึน้


สติปัญญาเฉลียวฉลาดขึน้ และมีพละกาลังมากขึน้

“แต่ เส้ นทางพิเศษจะเป็ นแบบนี…


้ ”

เมื่อพูดจบ ดันเหยียดนิว้ โป้งออกจากกาปั้นและกล่าว

“นี่คือลาดับเก้า”

ถัดมา มันเหยียดนิว้ ชี้

“นี่คือลาดับแปด”

จากนั้นค่ อยๆ เหยียดนิว้ ที่เหลือจนครบ


“ในตอนที่ยังไม่ รวมกัน ทุกนิว้ จะอ่อนแอและแยกกันเป็ นเอกเทศ
แต่ ท้ายที่สุด…”

เมื่อสิ้นเสี ยง‘สุ ด’ ดันน์ หุบนิ้วทั้งห้ ากลับเป็ นหมัดอีกครั้ง…


แสดงถึงกาปั้นที่เผ่ าพันธุ์มนุษย์ ใช้ บดขยีศ้ ัตรู นับตั้งแต่ อดีตกาล

“เข้ าใจแล้วครับ”

ไคลน์ ตาสว่ างทันที มันยอมรับว่ าสมมติฐานของดันน์ และดาลี่ย์


ใกล้เคียงความเป็ นไปได้ มากที่สุด
เป็ นเช่ นนีเ้ องหรื อ? มันพยักหน้ ายอมรับ

ลาดับแปด ตัวตลก และลาดับเก้า นักทานาย ทั้งสองคือผู้วิเศษที่


ไม่ มีพลังเกี่ยวข้ องกันเลย

และจากเอกสารลับของโบสถ์ รัตติกาล คาอธิบายของลาดับเจ็ดก็


ดูเหมือนจะไม่ สัมพันธ์ ด้วยเช่ นกัน

ไคลน์ เงียบงันเป็ นเวลานาน ก่อนจะเงยหน้ าถามดันน์

“หัวหน้ าบอกว่ า เมื่อถึงจุดที่พลังทั้งหมดรวมกันครบ ผู้วิเศษ


เส้ นทางดังกล่ าวจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ … สิ นะครับ?

“แล้วต้ องรวบรวมไปจนถึงลาดับเท่ าไร?”


ดันน์ ซดกาแฟอีกหนึ่งอึก ก่อนจะยิม้

“ดาลี่ย์และผมคาดเดาไว้ ที่… ลาดับสี่ ”

“เหตุผล?”

ไคลน์ ขมวดคิว้

“นามาจากวิธีจาแนกผู้วิเศษของโบสถ์ รัตติกาล ลาดับสี่ จะ


หมายถึงผู้วิเศษขั้นสู ง กล่าวกันว่ าเป็ นพัฒนาการทางพลังวิญญาณ
ที่ก้าวกระโดด ขีดกาจัดร่ างกายถูกปรับแต่ งใหม่ จนเกินขอบเขต
มนุษย์

“ในอดีตกาลช่ วงยุคสมัยที่สี่ ผู้วิเศษตั้งแต่ ลาดับสี่ ขนึ้ ไปจะถูก


เรียกว่ า—ครึ่งเทพ

“น่ าเสี ยดายที่ปัจจุบันหายากแล้ว”

ดันน์ อธิบายด้ วยเสี ยงหม่ น

“ถ้ าลาดับสี่ ถึงหนึ่งคือผู้วิเศษขั้นสู ง แล้วผู้วิเศษช่ วงไหนถึง


เรียกว่ าขั้นต้ น?”

“ในอดีตราวพันปี ก่อน ลาดับเก้าถึงเจ็ดจะถูกเรียกว่ าขั้นต้ น แต่


เนื่องจากปัจจุบันมีจานวนผู้วิเศษน้ อย ขั้นต้ นจึงมีเพียงลาดับเก้า
และแปด”

ดันน์ ยมิ้ แห้ ง

สรุปคือ เก้าและแปด ขั้นต้ น

เจ็ดถึงห้ า ขั้นกลาง

สี่ ถึงหนึ่ง ขั้นสู ง


ไคลน์ ทบทวนในใจ ปฏิเสธไม่ ได้ ว่ามันต้ องการเลื่อนระดับ
โดยเร็ว

จักรพรรดิโรซายคือผู้วิเศษขั้นสู งสิ นะ…

ทว่ า ยิ่งมีลาดับสู ง โอกาสคลุ้มคลั่งก็ยิ่งมากขึน้ เนื่องจากได้ ยิน


เสี ยงกระซิบปริศนาในปริมาณที่รุนแรงกว่ า… มันค่ อนข้ าง
หวาดหวั่นกับความจริงข้ อนี้

ไคลน์ เงยหน้ าถามดันน์ ด้วยเสี ยงเรีียบ

“แล้วโอสถลาดับสี่ ของเส้ นทางที่โบสถ์ รัตติกาลถือครองมีชื่อว่ า


อะไรครับ?”
“อันที่จริงผมเองก็ไม่ ทราบ ระดับการเข้ าถึงข้ อมูลยังมีไม่ มาก
พอ จนกว่ าจะไต่ เต้ าไปถึงตาแหน่ งบิชอปแห่ งมุขมณฑลหรื อไม่ ก็
เหยี่ยวราตรีอาวุโส”

ดันน์ ส่ายศีรษะ

“และอันที่จริง จากบรรดา 19 ตัวตนที่มีตาแหน่ งสู งสุ ดของ


โบสถ์ ในปัจจุบัน ประกอบด้ วยอาร์ คบิชอป 13 คนและอาวุโสใหญ่ 6
คน อย่ างน้ อยครึ่งหนึ่งยังก้ าวไปไม่ ถึงลาดับสี่ …
“ไม่ สิ ผมอาจประเมินสู งไปด้ วยซ้า

“อาร์ คบิชอปอินซ์ ·แซงวิลล์ ที่กาลังถูกทางโบสถ์ ประกาศจับ


กล่าวกันว่ า เขาเกิดการคลุ้มคลั่งขณะพยายามเลื่อนเป็ นลาดับสี่ ”

ผู้ขโมยของวิเศษต้ องห้ าม 0-008 สิ นะ

ถ้ าจาไม่ ผิด มันถูกเรียกว่ า ‘ผู้เฝ้าประตู’

ไคลน์ ถามหยั่งเชิง

“หัวหน้ า ลาดับห้ าของเส้ นทางผู้ไร้ หลับคือ ‘ผู้เฝ้าประตู’ หรื อ


ครับ?”
“ไม่ ใช่ นั่นของเส้ นทางผู้สื่อวิญญาณ
“อันที่จริงข้ อมูลเมื่อครู่ คุณจะได้ ทราบก็ต่อเมื่อกลายเป็ นลาดับ
เจ็ด และต้ องเข้ ารับตาแหน่ งหัวหน้ าทีมเหยี่ยวราตรี หรื อไม่ ก็
ตาแหน่ งบิชอปแล้วเท่ านั้น”

ผู้เฝ้าประตูคือลาดับห้ าของผู้สื่อวิญญาณ?

หมายความว่ าต้ องทาหน้ าที่เฝ้าประตูนรกงั้นหรื อ? รึว่าต้ องเฝ้า


ประตูโลกวิญญาณ?
มันลองเดาสุ่ ม

“เอาล่ะ ไปเรียนกับลุงนีลล์ได้ แล้ว อย่ าลืมงานเลีย้ งคืนนีล้ ่ะ ผม


จองร้ านอาหารลุงวีลล์ไว้ จะใช้ โอกาสนั้นแนะนาคุณให้ เหยี่ยวราตรี
ที่เหลือรู้จักอย่ างเป็ นทางการ”

“ครับผม วันนีเ้ ตรียมเงินเผื่อมาแล้ว”

ไคลน์ ยมิ้ แห้ ง

“ไม่ จาเป็ น คุณลืมไปแล้วหรื อว่ าเหยี่ยวราตรีของพวกเรามีเงิน


ส่ วนกลางอยู่กับมาดามโอเรียนน่ า เป็ นรายได้ จากส่ วนแบ่ งของ
ภารกิจพิเศษ”
มันผงะครู่หนึ่ง ก่อนจะฉีกยิม้ กว้ าง
“เข้ าใจแล้วครับ”

ไคลน์ หันหลังกลับและเดินไปที่ประตูอย่ างไม่ เร่ งรีบ ภายในใจ


กาลังนับถอยหลัง

สาม สอง หนึ่ง…

เอ๋? หัวหน้ าไม่ เรียก?


มันลากค้ างไว้ ที่ ‘หนี่ง’ เป็ นเวลานาน จนกระทั่งมั่นใจว่ าดันน์ ·
สมิทไม่ ตกหล่นบทสนทนา

ปาฏิหาริย์ฉิบ…

ณ คลังอาวุธ ลุงนีลล์ชาเลืองมองไคลน์ ที่กาลังยิม้ น้ อยยิม้ ใหญ่


อย่ างมีความสุ ข

“อย่ าเอาแต่ คิดเรื่ องงานเลีย้ งคืนนี้ เจ้ ายังมีอีกหลายสิ่ งให้ เรียนรู้


ทั้งพิธีกรรมเวทมนตร์ ประวัติเฮอร์ มิสโบราณ เผ่ ามังกร เอลฟ์ และ
อีกมาก
“ยังมีอีกหนึ่งเรื่ อง นับตั้งแต่ วันนีเ้ ป็ นต้ นไป เจ้ าต้ องใช้ เวลาสอง
ชั่วโมงในช่ วงบ่ าย เพื่อเรียนศิลปการต่ อสู้ กับครูฝึก”

“ศิลปการต่ อสู้ ? แต่ หัวหน้ าไม่ ได้ บอก…”

ไคลน์ องึ้

นีลล์พยักหน้ าโดยไม่ ลังเล

“หมอนั่นคงลืม”
“…”
ราชันย์ เร้ นลับ 97 : ครูฝึกศิลปการต่ อสู้

บ่ ายสองตรง ณ ชานเมืองเขตเหนือ

บ้ านสองชั้นทรงพื้นฐาน ลักษณะคล้ายกับไม่ เคยถูกซ่ อมบารุง


นานหลายปี

ไคลน์ มาในชุ ดว่ าที่สารวัตร มันกวาดสายตามองสวนที่เต็มไป


ด้ วยวัชพืชตรงหน้ า รวมถึงรั้วที่เต็มไปด้ วยเถาวัลย์ เขียวเลื้อยไต่
ก่อนจะหันกลับมาถาม

“ครูฝึกของผมอาศัยที่นี่?”

ไม่ ใช่ ว่าครูฝึกศิลปการต่ อสู้ ที่เหยี่ยวราตรีเลือกสรร จะต้ องเป็ น


บุคคลพิเศษหรอกหรื อ?

เลียวนาร์ ด·มิเชลที่รับหน้ าที่พาไคลน์ มาส่ ง มันโน้ มตัวกระซิบ


ข้ างหู

“อย่ าดูแคลนมิสเตอร์ กาเวนด้ วยเหตุผลด้ านที่อยู่อาศัยและ


สภาพแวดล้อมเด็ดขาด

“ถึงจะไม่ ถูกติดยศขุนนางเป็ นเรื่ องเป็ นราว แต่ ในยุคทองของเขา


มิสเตอร์ กาเวนคืออัศวินหาญกล้าตัวจริงเสี ยงจริง”
เมื่อพูดจบ สี หน้ าของเหยี่ยวราตรีนักกวีผ้ ไู ม่ ชอบอยู่ใน
กฎระเบียบพลันหม่ นหมอง

“ในยุคสมัยอัศวินรุ่งเรื อง เขาคือยอดนักรบที่ไม่ หวาดกลัวความ


ตาย ตะลุยทัพแนวหน้ าสนามรบด้ วยชุ ดเกราะหนัก ฝ่ าดงศัตรู
มากมายเข้ าไปยึดครองป้อมปราการ สร้ างขวัญกาลังใจแก่ทัพโล
เอ็น

“ไม่ ว่าจะปื นยาว ปื นสั้ น ปื นใหญ่ มิสเตอร์ กาเวนไม่ เคยแยแส แม้


จะเป็ นสงครามในยุคสมัยที่ดินปื นเริ่มพัฒนา แต่ อัศวินถือดาบกลับ
สร้ างชื่ อระบือนามจนฝ่ ายศัตรูเกรงกลัว

“…จนกระทั่งเทคโนโลยีปืนแรงดันไอน้าถือกาเนิด รวมถึงปื น
กลหนักหกลากล้อง นับแต่ น้ ันเป็ นต้ นมา ยุคสมัยอัศวินเริ่มเสื่ อม
ถอยลง

“มิสเตอร์ กาเวนค่ อนข้ างโชคร้ าย ในสงครามเมื่อราวยี่สิบปี ก่อน


กองอัศวินของรัฐอาโฮว่ ามีชะตาต้ องเผชิญหน้ าหน่ วยรบซึ่ง
ครอบครองเทคโนโลยีทางทหารลา้ สมัยที่สุดในช่ วงเวลานั้น—ทัพ
หลวงสาธารณรัฐอินทิส

“ทกุครั้งที่นึกถึง คล้ายกับตัวผมอ่อนไหวต่ อโศกนาฏกรรมเป็ น


พิเศษ สั ญชาตญาณนักกวีร่าร้ องโหยหาบ้ าคลั่ง แต่ ผมกลับมิอาจ
ประพันธ์ เป็ นบทกลอนชั้นเลิศออกมาได้ ”
…แล้วทาไมนายต้ องพล่ามยาวขนาดนี้?

ไคลน์ เริ่มขมวดคิว้ เมื่อเห็นเลียวนาร์ ดเผยรอยยิม้ ตาหนิตัวเอง


มันตัดสิ นใจมอบคาแนะนาจริงจังให้ อีกฝ่ าย

“เพื่อนที่มหาวิทยาลัยของผมเคยพูดว่ า การเป็ นนักกวีต้องอาศัย


พรสวรรค์ค่อนข้ างสู ง ผมขอแนะนาให้ คุณเริ่มอ่าน—ประชุมบท
นิพนธ์ กวีโบราณของอาณาจักรโลเอ็น”
สี หน้ าของเลียวนาร์ ดยิ่งหม่ นหมองกว่ าเก่า มันตอบกลับไคลน์
เสี ยงค่ อย

“ผมซื้อหนังสื อเล่มนั้นมานานแล้ว รวมถึงอีกหลายเล่มที่มี


เนื้อหาคล้ายคลึงกัน หรื อแม้ กระทั่งบทกวีที่โรซายคัดสรร

“หลายปี ที่ผ่านมา ตัวผมพยายามอย่ างหนักเพื่อจะกลายเป็ นนัก


กวีเที่ยงคืนที่แท้ จริง

“แต่ ก็ขอบคุณมากสาหรับคาแนะนา มิสเตอร์ นักทานาย”

หมอนี่กาลังบอกใบ้ … เทคนิคสวมบทบาท?

ไคลน์ แสร้ งตีหน้ าซื่ อและพูดเรื่ อยเปื่ อย


“หนังสื อไวยากรณ์ ภาษาก็จาเป็ น…”

“ช่ างเถอะ เข้ าไปข้ างในกันดีกว่ า”

เลียวนาร์ ดผลักประตูร้ ัวเหล็กที่เปิ ดแง้ มเข้ าไป จากนั้นก็เดินตาม


ถนนเข้ าสู่ ตัวบ้ าน

ยังเหลือระยะห่ างอีกพอสมควรก่อนจะถึงบานประตู ไคลน์


เหลือบเห็นบุรุษรูปร่ างสู งโปร่ งเปิ ดประตูและเดินออกมาหา
ผมสั้ นสี ทอง คิว้ เริ่มมีขนหงอกแซม ใบหน้ าค่ อนข้ างชรา คล้าย
กับถูกกาลเวลาทาร้ ายแสนสาหัส ริ้วรอยจานวนมากปรากฏใน
ลักษณะชัดและลึก

“พวกเจ้ ามาทาอะไรที่นี่?”

ชายมีอายุไต่ ถามเสี ยงทุ้ม

“มิสเตอร์ กาเวน จากสั ญญาที่คุณได้ ทากับกรมตารวจ ว่ าที่


สารวัตรคนนีต้ ้ องการฝึ กฝนศิลปการต่ อสู้ ”

“ศิลปการต่ อสู้ ? ยุคนีย้ ังจาเป็ นอีกหรื อ?”

กาเวนมองไคลน์ ด้วยดวงตาขุ่นมัว จากนั้นก็แนะนาเชิงตัดพ้อ


“เจ้ าควรฝึ กชักปื นให้ เร็วและยิงให้ แม่ นมากกว่ า อาวุธที่ดีที่สุด
ของยุคสมัย จงชานาญมันจนกว่ าจะปราศจากจุดบกพร่ อง”

หรื อนี่จะเป็ นแผลใจจากการเผชิญหน้ ากับปื นแรงดันไอน้าและ


ปื นกลหนักหกลากล้องด้ วยดาบ?

ไคลน์ ไม่ โพล่งในสิ่ งที่คิดออกไป มันเพียงยิม้ และหันชาเลืองเลีย


วนาร์ ด

“สาหรับกรมตารวจ ศิลปการต่ อสู้ ยังมีความสาคัญอยู่มาก ด้ วย


สถานการณ์ ที่แตกต่ างกันไป คนร้ ายบางคดีไม่ มีโทษต้ องถูก
ประหารในที่เกิดเหตุ การจับเป็ นคือกฎหมายเด็ดขาดซึ่งห้ ามฝ่ าฝื น
และคนร้ ายในบางคดีไม่ ได้ พกพาอาวุธ ต้ องเอาชนะด้ วยร่ างกาย
เท่ านั้น หากเกิดปื นลั่นและทาคนร้ ายเสี ยชีวิต จะเป็ นพวกเราเสี ย
เองที่ต้องติดคุก”

เลียวนาร์ ดตอบในสิ่ งที่เตรียมไว้ ล่วงหน้ า

เมื่อได้ ยินดังนั้น กาเวนก้มหน้ าครุ่นคิดนานกว่ าสิ บวินาที ก่อน


จะเงยขึน้ พูดกับไคลน์

“ชกเข้ ามา”

ในเครื่ องแบบตารวจ ไคลน์ ไม่ ได้ พกไม้ คา้ ชายหนุ่มเคยเห็นท่ า


ชกของนักมวยในโลกเก่ามาบ้ าง มันเลียนแบบด้ วยการปล่อยหมัด
ตรง

มุมปากกาเวนกระตุกเห็นได้ ชัด มันหยุดคิดราวสองวินาทีและ


ออกคาสั่ งต่ อ

“เตะ”

ไคลน์ เอนบิดตัวและอาศัยมัดกล้ามเนื้อเพื่อส่ งแรงเตะไป


ข้ างหน้ าด้ วยขาขวา
เฮ่ อ… กาเวนใช้ มือปิ ดปากกระแอ่มสองหน

มันหันไปพูดกับเลียวนาร์ ด

“ฉันจะไม่ ทรยศสั ญญาที่มีต่อกรมตารวจ

“ด้ วยพื้นฐานของเจ้ าหนุ่มคนนี้ ในหนึ่งเดือนแรก เขาต้ องฝึ กกับ


ฉันสั ปดาห์ ละสี่ วัน วันละสามชั่วโมง”

“คุณเป็ นผู้เชี่ยวชาญ เชิญจัดการตามได้ ตามใจชอบ”

เลียวนาร์ ดผงกศีรษะให้ กาเวน จากนั้นก็หันมาจ้ องไคลน์ ด้วยสี


หน้ าเจ้ าเล่ห์
“ไว้ เจอกันมื้อค่า”
เมื่อเลียวนาร์ ดเดินออกจากประตูร้ ัวเหล็ก ไคลน์ หันมาถามด้ วย
น้าเสี ยงกระตือรื อร้ น

“ครูฝึกครับ ผมต้ องผึกสิ่ งใดก่อน? ระหว่ างการปล่อยหมัด หรื อ


จังหวะย่าเท้ า?”

ในฐานะนักเลงคีบอร์ ด มันย่ อมทราบความสาคัญของจังหวะย่า


เท้ าในศิลปการต่ อสู้
กาเวนยืนเท้ าสะเอวพร้ อมกับส่ ายหัวอย่ างเหนื่อยหน่ าย

“เจ้ าต้ องฝึ กพละกาลังเป็ นลาดับแรก

“เห็นนั่นไหม? ดัมเบลเหล็กสองข้ าง มันคือคู่หูในวันนี้

“นอกเหนือจากนั้น เจ้ ายังต้ องฝึ กลุกนั่ง วิ่ง และกระโดดเชื อก ทา


ทีละเซ็ตสลับกัน”

ขณะไคลน์ กาลังยืนอึง้ ด้ วยสี หน้ าเหม่ อลอย กาเวนเค้ นเสี ยงถาม


ยา้

“เข้ าใจรึเปล่า?”
“เข้ าใจครับ!”
ในวินาทีนี้ มันรู้สึกราวกับได้ ฝึกวิชารักษาดินแดนอีกครั้ง ขุม
นรกแสนโหดร้ ายที่มีครูฝึกปี ศาจคอยบงการ

“ก่อนอื่นต้ องไปเปลี่ยนชุด ยังมีชุดฝึ กของอัศวินเหลืออยู่บน


โซฟา”

กาเวนถอนหายใจเหนื่อยหน่ ายพร้ อมกับเดินไปหยิบดัมเบล


เหล็กสองข้ าง

หกโมงเย็น

ณ โต๊ ะใหญ่ มุมหนึ่งของร้ านอาหารลุงวีลล์

นอกเหนือจากฟรายซึ่งรับหน้ าที่เฝ้าประตูยานิส สมาชิกทั้งหมด


ของบริษัทรักษาความปลอดภัยหนามทมิฬล้วนอยู่กันพร้ อมหน้ า

หกเหยี่ยวราตรี และห้ าพลเรื อน

โต๊ ะอาหารยาวที่ถูกปูด้วยผ้ าสี ขาวสะอาด พนักงานเสิ ร์ฟหลาย


คนยกถาดอาหารมาวางพร้ อมกับแบ่ งให้ แขกแต่ ละเก้าอีอ้ ย่ างเท่ า
เทียม
ไคลน์ มองเห็นอาหารละลานตา ทั้งสเต็กราดซอสพริกไทยดา
เข้ มข้ น เบคอนทอดเกรียมจนเกือบกรอบ ไส้ กรอกที่เสิ ร์ฟพร้ อม
มันฝรั่งบด พุดดิง้ ไข่ หน่ อไม้ ฝรั่ง ชีสราคาแพง รวมถึงไวน์ สี
กุหลาบ

แต่ น่าเสี ยดายที่ต่อมความหิวโหยของมันไม่ ทางาน การฝึ กนรก


ในช่ วงบ่ ายส่ งผลให้ เกิดความรู้ สึกชวนอาเจียน

เมื่อเห็นสภาพอิดโรยของเหยี่ยวราตรีหน้ าใหม่ แกะกล่อง ดันน์ ชู


แก้วไวน์ ขึน้ ตรงหน้ าพร้ อมกับอมยิม้

“ดื่มต้ อนรับให้ กับสมาชิกเหยี่ยวราตรีคนล่าสุ ด ไคลน์ ·โมเร็ตติ


เอ้าชน!”

สตรีผมดาเงียบขรึม รอยัล·เรย์ ดีน

ผู้ไร้ หลับ โคเฮนรี่·ไวท์

นักกวีไร้ ระเบียบ เลียวนาร์ ด·มิเชล

นักกวีเที่ยงคืนผมขาวตาดา ซิก้า·ทีรอน

ทุกคนยกแก้วเครื่ องดื่มพร้ อมกับมองมาทางสมาชิกใหม่ ของทีม


อย่ างสามัคคี
ไคลน์ ฝืนสลัดความอ่อนล้ าจากร่ างกาย มันหยิบแก้วแชมเปญสี
เหลืองอาพันออกมายกถือ

“ขอบคุณครับทุกคน”

เหยี่ยวราตรีทุกคนชนแก้วร่ วมกันหนึ่งกิง้

ไคลน์ เอนศีรษะไปด้ านหลังและกระดกแชมเปญลงคอในปริมาณ


ไม่ มาก
“มิสนักเขียนของพวกเราจะไม่ กล่าวสิ่ งใดในโอกาสสาคัญแบบนี้
สั กหน่ อยหรื อ?”

ดันน์ อมยิม้ ขณะจ้ องมองซิก้า·ทีรอน

เธอคือสตรีในวัยสามสิ บกว่ า หน้ าตาค่ อนข้ างธรรมดา แต่ กริยา


มารยาทนับว่ าใกล้เคียงชนชั้นสู ง ช่ วยส่ งเสริมให้ บุคลิกน่ าหลงไหล
โดยเฉพาะเส้ นผมสี เงินอมขาวเปี่ ยมด้ วยเสน่ ห์

ไคลน์ เคยได้ ยินลุงนีลล์เล่า นักกวีเที่ยงคืนซิก้า·ทีรอน เธอมีงาน


เสริมเป็ นนักเขียนนิยาย

ช่ วงหลังพยายามส่ งตีพมิ พ์ในวารสารและหนังสื อพิมพ์หลาย


ฉบับ แต่ น่าเสี ยดายที่สานักพิมพ์จานวนไม่ มากสนใจในผลงาน
ซิก้ายิม้ ขณะมองดันน์

“ถ้ าต้ องการให้ วลี ‘มิสนักเขียน’ กลายเป็ นความจริงขึน้ มา คุณ


ต้ องเพิม่ ค่ าแรงเพื่อให้ ฉันสามารถตีพมิ พ์นิยายด้ วยตัวเอง”

ดันน์ หัวเราะ

“คุณควรศึกษาเรื่ องนีจ้ ากลุงนีลล์ เขาถนัดหาเหตุผลในการเบิก


ค่ าใช้ จ่าย”

“ฉันชอบลุงนีลล์ที่สุดในสานักงานแล้ว!”

โรแซนกล่าวแทรกทั้งที่ยังเคีย้ วเนื้อแกะตุ๋นไว้ เต็มปาก

ท่ ามกลางเสี ยงสนทนาอย่ างมีความสุ ข เลียวนาร์ ดแอบชาเลือง


ไคลน์ ก่อนจะถามด้ วยรอยยิม้ เจ้ าเล่ห์

“เหนื่อยกับการฝึ กจนกินไม่ ลงหรื อ?”

“อือ”

ชายหนุ่มถอนหายใจ
“อาหารร้ านนีอ้ ร่ อยมาก ถ้ าคุณไม่ กิน ผมช่ วยจัดการเอง เสี ยดาย
ของ”

สี หน้ าเลียวนาร์ ดบ่ งบอกชัดเจนว่ าจะไม่ ยอมให้ อาหารถูกทิง้ สู ญ


เปล่า

ไคลน์ ไม่ ถือสา มันตอบด้ วยสี หน้ าเจียนตาย

“เชิญ”

เมื่อสิ้นเสี ยง อาหารส่ วนของไคลน์ ถูกแจกจ่ ายออกไปให้ เลีย


วนาร์ ดและคนอื่นๆ จัดการ

ชายหนุ่มเลือกลิม้ รสไอคกรีมซึ่งไม่ หนักท้ อง แต่ ปรากฏว่ า


รสชาติยอดเยี่ยมกว่ าที่คิด รู้ตัวอีกทีก็ซัดไอศกรีมบูลเบอร์ รี่เข้ าไป
จนเกลีย้ งถ้ วย

ราวกับกระเพาะอาหารถูกง้ างเปิ ดออก ความหิวเริ่มกลับมาเล่น


งาน ร่ างกายต้ องการสารอาหารชดเชยเรี่ยวแรงที่เสี ยไปในช่ วงบ่ าย

มันกลื่นน้าลายอึกใหญ่ ขณะกวาดสายตาไปรอบโต๊ ะ สิ่ งที่พบมี


เพียงจานเปล่าไม่ หลงเหลือแม้ แต่ ซากอาหาร

“คืนนีพ้ อแค่ นกี้ ่อน พวกเรามาดื่มส่ งท้ ายให้ ไคลน์ กันเถอะ”


ดันน์ เสนอแนะ
ยังไม่ ทันจะกล่าวจบ ไคลน์ ชิงพูดแทรก

“หัวหน้ าครับ… ผมสั่ งอาหารเพิม่ ได้ ไหม?”

บรรยากาศเงียบงันพลันปกคลุมทั่วทั้งโต๊ ะ

ก่อนจะถูกทาลายด้ วยเสี ยงหัวเราะอย่ างมีความสุ ขในอึดใจต่ อมา

“ฮะฮะ! คุณทานได้ แล้วสิ นะ เชิญตามสบาย สั่ งเพิม่ อีกสั กจาน


สองจานสิ ”

ดันน์ ส่ายศีรษะขณะหัวเราะ

หลังจากนั้นคือช่ วงเวลาอันยาวนานที่รอให้ อาหารยกมาเสิ ร์ฟ


ท้ องไคลน์ ส่งเสี ยงร้ องเป็ นระยะแสดงถึงความหิวโหย

จนกระทั่งสเต็กเนื้อราดซอสพริกไทยดาถูกพนักงานยกมา
ประเคนถึงที่ มีดและซ่ อมในมือชายหนุ่มเริงระบาบ้ าคลั่ง เพียงเก้า
สิ บวินาที เสต็กเนื้อความสุ ก ‘มีเดียม’ ขนาดพอเหมาะถูกจัดการ
จนเกลีย้ ง

หยดน้าใสเกือบไหลซึมออกจากดวงตา ความชุ่มฉ่าของเนื้อ
ยังคงอัดแน่ นอยู่ในช่ องปาก มันต้ องการให้ ความรู้สึกเช่ นนีค้ งไว้ ชั่ว
นิรันดร
หลังจากวางมีดส้ อมลง ไคลน์ นั่งให้ ย่อยสั กพักพลางจิบแชมเปญ
จนหมดแก้ว

“คิดเงินด้ วยครับ”

ดันน์ หันไปเรียกพนักงานเสิ ร์ฟ

พนักงานเดินไปที่เคาเตอร์ ก่อนจะกลับมาพร้ อมใบเสร็จและยืน


อ่านให้ ทุกคนฟัง

“รายการของคุณลูกค้ าประกอบด้ วย… แชมเปญเดซี่ 5 ขวด


ขวดละ 12 ซูล 3 เพนนี

“ไวน์ แดงนันวีลล์ 1 แก้วราคา 10 เพนนี

“สเต็กพริกไทยดาจานละ 1 ซูล 2 เพนนี

“พุดดิง้ ไข่ ถ้วยละ 6 เพนนี

“ไอศกรีมถ้ วยละ 1 ซูล

“รวมทั้งหมด 5 ปอนด์ 9 ซูล 6 เพนนี”


ห้ าปอนด์ เก้าซูล? นั่นเกือบเท่ ารายได้ ต่อสั ปดาห์ ของตนเลยไม่ ใช่
หรื อ?

ร้ านอาหารคิดราคาแพงกว่ าทากินเองที่บ้านมาก ไคลน์ ได้ แต่ ส่าย


ศีรษะหลังจากทราบราคารวม ภายในใจรู้สึกขอบคุณหัวหน้ าที่ใช้
เงินส่ วนกลางของหน่ วย

เมื่อลองวิเคราะห์ อย่ างละเอียด สิ่ งที่ทาให้ มีราคาสู งคือเครื่ องดื่ม


แอลกอฮอล์ ลาพังแชมเปญเดซี่ 5 ขวดก็ปาไปสามปอนด์ กว่ าแล้ว

เหมือนที่โลกเก่าไม่ มีผิด… ไคลน์ พยายามลูบท้ องเพื่อให้ แชม


เปญไหลเวียนโดยเกิดประโยชน์ กับร่ างกายสู งสุ ด

เช้ าวันถัดมา มันรู้สึกปวดระบมไปทั้งตัว ไคลน์ ฝืนพยุงซาก


ตัวเองขึน้ จากเตียงอย่ างยากลาบาก

ในวินาทีที่ออกแรง กล้ามเนื้อทุกมัดพลันเจ็บแปลบคล้ายกับ
ไม่ ใช่ ร่างกายตน

“ชวนให้ นึกถึงวันเก่าๆ … สมัยถูกจ่ านรกสั่ งกระโดดกบจนขาไม่


มีแรงลุก

“วันนีเ้ ราได้ หยุดสิ นะ แต่ ต้องออกไปพบอาจารย์ เพื่อปรึกษาเรื่ อง


เทือกเขาโฮนาซิส หรื อไม่ ก็ไปหายืมเอกสารวิจัยที่เกี่ยวข้ องจาก
หอสมุดมหาวิทยาลัย…”

ขณะครุ่นคิด มันฝื นลากสั งขารออกจากห้ องนอนอย่ างสุ ด


ความสามารถ

ทุกก้าวย่ างต้ องหยุดพักหายใจเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด

“ไคลน์ นายเป็ นอะไร?”

เมลิสซ่ าเดินออกจากห้ องน้า เธอจ้ องมองพีช่ ายที่กาลังขยับ


ร่ างกายอย่ างเชื่ องช้ าและพิสดาร ด้ วยสี หน้ าประหลาดใจ
ราชันย์ เร้ นลับ 98 : มิสเตอร์ อะซิก

เมื่อต้ องเผชิญคาถามจากน้ องสาว สิ่ งเดียวที่ไคลน์ ทาได้ คือยิม้


แห้ งๆ และตอบไปว่ า

“ปวดกล้ามเนื้อนิดหน่ อย”

เดิมที ไคลน์ ไม่ เคยกังวลกับการฝึ กหนัก มันเชื่ อว่ าโอสถผู้วิเศษ


จะช่ วยพัฒนาสมรรถภาพร่ างกายให้ ตนบ้ าง ไม่ มากก็น้อย หรื อ
อย่ างเลวที่สุดก็ควรจะได้ รับความอึด

แต่ ไม่ ใช่ เลย โอสถนักทานายช่ วยสนับสนุนเพียงพลังวิญญาณ


จิตใจ สั ญชาตญาณ และพลังในการ ‘รับสาร’ จากเทพ

ไม่ มีศิลปการต่ อสู้ เข้ ามาเอี่ยวแม้ แต่ น้อย

ด้ วยร่ างกายไคลน์ คนก่อนที่แทบไม่ เคยออกกาลังกาย แถมยัง


ขาดสารอาหาร ส่ งผลให้ พละกาลังอยู่ในระดับต่ากว่ าเกณฑ์ ปรกติ
ของมนุษย์ เพศชาย ฉะนั้น อาการปวดระบมหลังจากฝึ กหนักคือสิ่ ง
ที่มิอาจเลี่ยง

“ปวดกล้ามเนื้อ? เมื่อคืนจาได้ ว่า นายออกไปร้ านอาหารกับเพื่อน


ร่ วมงาน แล้วจู่ๆ ปวดกล้ามเนื้อได้ ยังไง? แอลกอฮอล์หรื อ?”
เมลิสซ่ าขมวดคิว้ สายตาของเธอแฝงความเคลือบแคลงสุ ดขีด
น้ องสาว เหล้ามันทาให้ ปวดกล้ามเนื้อได้ หรื อไง? จะสงสั ยอะไรก็
ให้ มีขอบเขตบ้ าง

ไคลน์ หัวเราะก่อนตอบ

“ไม่ เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ ช่ วงบ่ ายเมื่อวาน ฉันเข้ าร่ วมฝึ กศิลปการ


ต่ อสู้ หลักสู ตรของบริษัท”

“ศิลปการต่ อสู้ ?”

เมลิสซ่ าประหลาดใจยิ่งกว่ าเมื่อครู่

ไคลน์ เรียบเรียงคาพูดให้ สละสลวย

“คือเรื่ องเป็ นแบบนี้ ฉันมองไปถึงอนาคต คงไม่ มีใครต้ องการนั่ง


เฝ้าคลังสิ นค้ าและกอดกองเอกสารโบราณไปตลอดชีวิตใช่ ไหม ฉัน
เริ่มจินตนาการภาพตัวเองเป็ นคนนาสิ นค้ าไปส่ ง ไม่ ว่าจะหมู่บ้าน
ห่ างไกลหรื อภายในป่ าลึก

“ฉะนั้น พลังกายคือสิ่ งสาคัญ ฉันอาจต้ องปี นเขา ลุยน้าเชี่ยว


และเดินทางไกล โลกภายนอกมีอุปสรรคจากธรรมชาติอีกมารอ
คอยทดสอบมนุษย์ เพื่อการนั้น ฉันต้ องเตรียมร่ างกายให้ พร้ อม
เสมอ”
“ที่นายฝึ กศิลปการต่ อสู้ ก็เพราะต้ องการเพิม่ ความอึดสิ นะ”

เมลิสซ่ าเริ่มพยักหน้ าทาความเข้ าใจ

“ถูกต้ อง”

ไคลน์ ตอบเน้ นยา้ หนักแน่ น

แต่ เมลิสซ่ ายังไม่ กระจ่ าง


“น่ าแปลก เมื่อก่อนนายเคยบอกเองว่ า ต้ องการโตไปเป็ น
สุ ภาพบุรุษมาดสุ ขุมลุ่มลึก แต่ การฝึ กร่ างกายให้ จะผลตรงข้ ามโดย
สิ้นเชิง

“นายชอบที่จะเป็ นผู้รอบรู้ และใช้ ปัญญาไขปริศนายากๆ ของ


โลกไม่ ใช่ หรื อ? ทาไมจู่ๆ ถึงอยากออกผจญภัย?

“แต่ ช่างเถอะ จะเป็ นแบบไหนฉันก็ไม่ เกี่ยง ของเพียงแก้ไข


ปัญหาได้ ด้วยตัวเอง จะกาปั้นหรื อสมองก็ได้ ท้ังนั้น”

เมลิสซ่ ายิม้

ไคลน์ เสริมอย่ างเจ้ าเล่ห์


“เธอเข้ าใจผิดแล้ว เมลิสซ่ า ภาพพจน์ ของศาสตราจารย์ ที่เธอ
จินตนาการนั้นไม่ ถูกต้ องทั้งหมด

“อาจจะจริงที่นักปราชญ์ ต้องถ่ ายทอดความรู้ด้วยปัญญา


กว้ างขวางและกริยามารยาทสง่ างาม

“แต่ หากมีไอ้บัดซบหน้ าไหนบังอาจขัดแข้ งขัดขา นักปราชญ์ ก็


ต้ องใช้ หลักฟิ สิ กส์ ลงโทษกลับไปด้ วยไม้ คา้ ”

“หลักฟิ สิ กส์ ?”
เมลิสซ่ าไม่ เข้ าใจในตอนแรก แต่ เมื่อประเมินจากความกวน
ประสาทของพีช่ าย สมองของเธอเริ่มตามทันทีละนิด

ไคลน์ ไม่ กล่าวสิ่ งใดต่ อ มันเร่ งฝี เท้ าเพื่อไปให้ ถึงห้ องน้าที่อยู่ไม่
ไกล

เมลิสซ่ ายืนมองราวสองสามวินาที ก่อนตัดสิ นใจเอ่ยปากถาม


พร้ อมกับทาท่ าทาง

“ให้ ช่วยไหม?”

“ไม่ เป็ นไร อันที่จริง อาการของฉันดีขึน้ มากแล้ว”

ไคลน์ ยมิ้ แห้ ง มันอับอายเล็กน้ อยที่ต้องพึง่ พาความช่ วยเหลือ


จากน้ องสาวตัวเล็กๆ ไคลน์ รีบยืนตัวตรงและเดินเข้ าไปในห้ องน้า
ด้ วยสี หน้ าเฉยเมย

เมื่อเห็นพีช่ ายเดินได้ ตามปรกติ เมลิสซ่ าขมวดคิว้ และพึมพา


แก้มป่ อง

“ในพักหลัง ไคลน์ ชักจะมารยาเก่งขึน้ ทุกวัน ไอเราก็หลงนึกเป็ น


ห่ วง”

ภายในห้ องน้า หลังจากมันปิ ดประตู สี หน้ าของไคลน์ พลันบิด


เบีย้ วอย่ างทุกข์ ทรมานด้ วยท่ าทางเจ็บปวด

การฝื นเก๊กเดินเมื่อครู่ทาให้ อาการแย่ ลง

แฮ่ ก แฮ่ ก แฮ่ ก!

ไคลน์ หายใจเหนื่อยหอบ ร่ างกายสั่ นเทา มันยืนค้ างเช่ นนั้นราว


เจ็ดแปดวินาที

หลังจากอาบเสร็จ ชายหนุ่มฝื นลากสั งหารเดินลงไปชั้นล่างอย่ าง


ยากลาบาก ทานอาหารเช้ าร่ วมกับสองพีน่ ้ อง

เมื่อเมลิสซ่ าและเบ็นสั นแยกย้ ายออกไปเรียนและทางาน ไคลน์


นั่งพักเช่ นนั้นจนความเจ็บปวดเริ่มบรรเทา
มันไม่ รีรอที่จะทาตามเป้าหมายเดิม ไคลน์ สวมหมวกทรงกึ่งสู ง
และเดินออกไปรอที่ป้ายรถม้ าสาธารณะด้ วยย่ างก้าวไม่ รีบเร่ ง

ในฤดูร้อน บรรยากาศของมหาวิทยาลัยโฮอีเ้ ป็ นไปอย่ างร่ มรื่ น


แสงแดดส่ องกระทบต้ นไม้ ใหญ่ จนเกิดเงาดาบนถนน พืชพรรณนา
นาชนิดสองข้ างทางกาลังเบ่ งบานงดงาม

หลังจากเดินเลียบแม่ น้า ไคลน์ หักเลีย้ วเข้ าสู่ คณะประวัติศาสตร์


มันพบอาคารสู งสามชั้นลักษณะค่ อนข้ างเก่า ที่นี่คือสานักงานของ
อาจารย์ ที่ปรึกษาสมัยเรียน ศาสตราจารย์ ที่ปรึกษาไคลน์ เคว็นติน·
โคเฮ็น

มันเคาะประตูและบิดเปิ ดออก ขณะเดินเข้ าไป ไคลน์ พลันตะลึง


งันเมื่อเหลือบเห็นบุรุษที่นั่งหลังโต๊ ะทางานไม่ ใช่ อาจารย์ ของตน
แต่ เป็ นนักวิชาการประวัติศาสตร์ คนเก่ง

มิสเตอร์ อะซิก

“อรุณสวัสดิ์ครับ มิสเตอร์ อะซิก อาจารย์ อยู่ไหม? วันนีผ้ มนัด


เขาไว้ ”

มันถามด้ วยสี หน้ าฉงน


อะซิก เพื่อนสนิทของโคเฮ็นที่ชอบถกเถียงข้ อมูลทาง
ประวัติศาสตร์ กันบ่ อยครั้ง ส่ งยิม้ ให้ เล็กน้ อย

“โคเฮ็นถูกเรียกประชุมด่ วนในนาทีสุดท้ าย เขาจึงต้ องไป


มหาวิทยาลัยทิงเก็นอย่ างไม่ มีทางเลือก แต่ ก็ไม่ ลืมที่จะกาชับให้ ผม
อยู่รอพบคุณก่อน”

ผิวทองแดง สู งปานกลาง ผมดา นัยน์ ตาน้าตาลสว่ าง บรรยากาศ


รอบตัวอบอุ่นเป็ นกันเอง

แต่ แววตาลุ่มลึกกึ่งเหม่ อลอยของมัน คล้ายกับผู้ที่เคยผ่ านร้ อน


ผ่ านหนาวมากมายนับไม่ ถ้วน ใต้ ติ่งหูขวามีไฝเม็ดเล็กๆ ซึ่งหากไม่
ตั้งใจมองจะหาไม่ พบ

หลังจากอธิบายเหตุผลกับไคลน์ อะซิกสารวจชายหนุ่มหัวจรด
เท้ า

เมื่อเผชิญสายตาจ้ องจับผิดจากอีกฝ่ าย มันรีบสารวจตัวเองซ้า


ด้ วยท่ าทีประหม่ า

“ผมแต่ งกายผิดธรรมเนียมหรื อ?”

ทักซิโด้ กั๊กดา เชิ้ตขาว โบว์ หูกระต่ ายดา กางเกงขายาวดาสนิท


รองเท้ าหนังที่ปราศจากเชื อกรัด
ตนแต่ งตัวตรงตามมารยาททางสั งคมแล้ว
อะซิกขมวดคิว้ หนึ่งอึดใจก่อนแสยะยิม้ อย่ างมีเลศนัย

“อย่ าถือสากันเลย ผมเพียงสั มผัสได้ ว่า บรรยากาศรอบตัวคุณ


เปลี่ยนไปจากเดิมมาก ไม่ ได้ พบกันครู่เดียว กลายเป็ นสุ ภาพบุรุษ
เต็มตัวไปแล้ว”

“ขอบคุณที่ชมครับ”

ไคลน์ รับไว้ ด้วยไมตรี จากนั้นก็ถาม

“มิสเตอร์ อะซิกครับ ไม่ ทราบว่ าอาจารย์ ค้นหาเอกสารวิจัย ‘การ


ค้ นคว้ าร่ องรอยอารยธรรมบนยอดเขาโฮนาซิส’ ในห้ องสมุด
มหาวิทยาลัยพบหรื อยัง?”

“พบแล้ว ด้ วยความช่ วยเหลือจากผม”

อะซิกยิม้ อ่อนโยน มันก้มหน้ าเปิ ดลิน้ ชักและหยิบหนังสื อปกสี


เทาออกมาวาง

“คุณไม่ ใช่ นักศึกษาของโฮอี้ จึงนั่งอ่านได้ เฉพาะในเขต


มหาวิทยาลัยเท่ านั้น ไม่ สามารถนากลับ”

“เข้ าใจแล้วครับ”
ไคลน์ เอื้อมมือออกไปรับเอกสารวิจัยปกเทาด้ วยสี หน้ าตื่นเต้ น
แต่ ภายในใจก็แฝงอาการหวาดหวั่นหลายส่ วน

มันชาเลืองรอบห้ องเพื่อมองหาเก้าอี้

เมื่อพบ ไคลน์ เดินรีบไปนั่งลงและเปิ ดหนังสื ออ่ านอย่ างตั้งใจ ทุก


บรรทัด ทุกตัวอักษร ไม่ ปล่อยให้ คลาดสายตา

ขณะห้ วงความคิดกาลังดาดิ่ง รู้ตัวอีกทีก็สูดกลิ่นหอมจากกาแฟ


ชงสดใหม่

“จัดการน้าตาลและนมเองนะ”

อะซิกวางจานรองแก้วสี เงินไว้ ข้างหนังสื อเล่มที่ไคลน์ กาลังอ่ าน


ปลายนิว้ ชี้ไปยังโหลบรรจุน้าตาลและนมภายในห้ องทางาน

“ขอบคุณครับ”

มันพยักหน้ านอบน้ อม ก่อนจะเดินไปหยิบน้าตาลสามก้อนและ


ตักนมใส่ หนึ่งช้ อนโต๊ ะ

จากนั้นก็เดินกลับมานั่งอ่านที่เก่า


หนังสื อ‘การค้ นคว้ าร่ องรอยอารยธรรมบนยอดเขาโฮนาซิส’มี
ขนาดไม่ หนามาก ไคลน์ อ่านจบทั้งหมดในช่ วงบ่ ายของวันเดียวกัน
ระหว่ างอ่านก็จดบันทึกส่ วนสาคัญเป็ นระยะ

ประการแรก อารยธรรมที่ต้งั รกรากรอบยอดเขาโฮนาซิสนั้น


เจริญก้าวหน้ าเป็ นอย่ างมาก ระดับเดียวกับอาณาจักรเก่ าแก่ โบราณ
ก็มิปาน

ประการที่สอง หากวิเคราะห์ จากจิตรกรรมฝาผนัง มีความ


เป็ นไปได้ สูงว่ า สิ่ งที่อาศัยอยู่รอบยอดเขาจะมีวัฒนธรรมการ
ดารงชีวิตคล้ายคลึงเผ่ าพันธุ์มนุษย์

หรื ออาจเป็ นมนุษย์

ประการที่สาม พวกมันเคารพนับถือกลางคืน แต่ ขณะเดียวกันก็


หวาดกลัว ชาวเมืองที่นี่เรียกขานเทพของมันว่ า—ผู้ปกครองยาม
รัตติกาล มารดาแห่ งผืนนภา

ประการที่สี่ และเป็ นปริศนาที่ยังหาคาตอบไม่ ได้ เพราะเหตุใด


บนยอดเขาถึงไม่ มีสุสานหรื อหลุมศพแม้ แต่ แห่ งเดียว คล้ายกับว่ า
ชาวเมืองที่นี่มีอายุขัยชั่วนิรันดร์ ไม่ จาเป็ นต้ องฝัง

แต่ ภาพวาดจิตรกรรมกลับอธิบายในสิ่ งตรงกันข้ าม มีการวาดถึง


ชีวิตหลังความตาย และพวกมันเชื่ อว่ า ดวงวิญญาณของบรรพบุรุษ
ที่ตายไป จะคอยปกป้องคนในครอบครัวยามค่าคืน มนุษย์ ที่นี่จึง
นิยมเก็บรักษาซากศพคนตายไว้ ในบ้ านตัวเองอย่ างน้ อยสามวัน

กระนั้น ภาพวาดก็มิได้ ระบุว่าชาวเมืองนาศพไปฝังไว้ ที่ใด

ไคลน์ จิบกาแฟเพิม่ หนึ่งอึก ก่อนจะเขียนสรุปสิ่ งที่ตนตกผลึก


จากการอ่านหนังสื อลงบนกระดาษ

มารดาแห่ งท้ องนภา นับเป็ นพระนามที่ยิ่งใหญ่ อลังการ คงไม่ ใช่


ตัวตนธรรมดาแน่

ส่ วนผู้ปกครองยามรัตติกาล ชื่ อนีค้ ล้ายคลึงกับเทพธิดารัตติกาล


มาก

หรื อจะเป็ นรากฐานของโบสถ์ รัตติกาล?

อารยธรรมรอบยอดเขาโฮนาซิสที่คณะเดินทางบังเอิญพบเข้ า ยัง
ถูกคงสภาพไว้ เหมือนใหม่ อย่ างน่ าเหลือเชื่ อ คล้ายกับไม่ เคยมีใคร
เดินทางไปสารวจที่นั่นมาก่อน

ภาพวาดและจิตรกรรมหลายชิ้นมีสภาพสมบูรณ์ ไร้ รอยตาหนิ


บ้ านบางหลังยังมีเครื่ องครัววางเรียงรายบนโต๊ ะอาหาร บางหลัง
พบอาหารที่ทานค้ างไว้ แห้ งแข็งเกรอะกรังคาอยู่เช่ นนั้น บางห้ องมี
ถ้ วยแอลกอฮอล์ซึ่งถูกเจือจางจนมีสภาพไม่ ต่างจากน้าเปล่า
เกิดอะไรขึน้ กับผู้คนชนชาติดังกล่าว?

คล้ายกับวิ่งหนีออกจากบ้ านอย่ างลนลานพร้ อมกันทั้งหมด และ


ไม่ ได้ หวนกลับมาอีกเลย

เมื่อพิจารณาว่ าที่นั่นไม่ มีสุสาน เรื่ องราวก็ยิ่งลึกลับซับซ้ อนจน


ยากหาข้ อสรุป

ผู้เขียนเอกสารวิจัยเล่มนี้ มิสเตอร์ โจเซฟ ได้ สารภาพความเห็น


ของตัวเองลงไปว่ า ในวินาทีแรกที่ค้นพบอารยธรรม มันรู้สึก
เหมือนกับสิ่ งมีชีวิตทุกชนิด สลายตัวกลายเป็ นอากาศธาตุอย่ าง
ฉับพลัน

ไคลน์ หยุดอ่าน มันกวาดมองภาพถ่ ายที่ถูกแนบภายในหนังสื อ

การเดินทางไปเยือนครั้งที่สามของโจเซฟ มันพกกล้องฟิ ล์มขาว


ดาติดตัวไปด้ วย

ณ ภาพหนึ่งที่ปรากฏในเอกสารวิจัย ไคลน์ สะดุดหยุดมองด้ วยสี


หน้ าตกตะลึง มันคือภาพของกาแพงสิ่ งก่อสร้ างขนาดใหญ่ ที่เริ่มผุ
พัง เถาวัลย์ สีเขียวเลื้อยปกคลุม แต่ ถึงอย่ างนั้นก็ยังปรากฏกลิ่นอาย
ความยิ่งใหญ่ ในอดีต

ความรู้สึกแรกที่ได้ เห็นภาพถ่ าย ไคลน์ พบว่ ามันคล้ายกับราชวัง


เสื่ อมโทรมที่ปรากฏในความฝันของตนมาก
สถาปัตยกรรมเป็ นแบบเดียวไม่ ผิดแน่ แต่ สิ่งที่ต่างออกไปคือ
สถานที่ในฝันตั้งอยู่บนจุดสู งสุ ดของยอดเขาและมีขนาดใหญ่ กว่ า
แถมบัลลังก์ยักษ์ ก็มโหฬารเกินกว่ าจะให้ มนุษย์ นั่ง

มิหนาซ้า บนบัลลังก์ยังมีหนอนโปร่ งแสงน่ าขยะแขยงชอนไช


จวนอาเจียน

ตนสามารถสรุปได้ ว่า ภาพในความฝันต้ องเกี่ยวข้ องกับอารย


ธรรมโบราณบนเทือกเขาโฮนาซิสแน่ นอน และชุ มชนดังกล่าวอาจ
เป็ นประเทศรัตติกาลที่ถูกระบุไว้ ในสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัส

ขณะเดียวกัน เมื่ออะซิกเห็นไคลน์ ได้ ข้อสรุปบางสิ่ ง มันใช้ มือ


ขวาลูบไฝบริเวณใต้ ติ่งหูตามความเคยชิน และไต่ ถามด้ วยท่ าที
สนใจ

“เป็ นอย่ างไรบ้ าง? พบอะไรไหม?”

“พอสมควรครับ ุุดูนี่สิ ผมเขียนสรุปได้ ต้ังหลายแผ่ น”

ไคลน์ ชี้นวิ้ ไปที่กองกระดาษบนโต๊ ะ

“ผมไม่ เข้ าใจ ทาไมจู่ๆ คุณถึงสนใจเรื่ องราวเกี่ยวกับเทือกเขาโฮ


นาซิสขึน้ มาได้ ”
อะซิกถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดต่ อ

“ไคลน์ สมัยยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเบ็คลันด์ ผมเคย


ศึกษาศาสตร์ การทานายมากบ้ าง และสามารถบอกได้ ว่า

“โชคชะตาของคุณมีความไม่ กลมกลืนแฝงอยู่ มันไม่ เป็ นไปตาม


ครรลองธรรมชาติ”

อะไรนะ? ศาสตร์ การทานาย?


คุณกาลังพูดกับนักทานายตัวจริงอยู่

ในฐานะผู้วิเศษเส้ นทางนักทานาย ไคลน์ มองว่ างานอดิเรกของ


นักวิชาการอะซิกช่ างน่ าขบขัน

“ไม่ กลมกลืน?”

ไคลน์ ถามพร้ อมขมวดคิว้

อะซิกครุ่นคิดก่อนอธิบายเสริม

“ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา คุณเผชิญความบังเอิญที่ผิดปรกติกี่
ครั้ง?”
“ความบังเอิญ?”
ตอนแรกอาจเห็นเป็ นเรื่ องตลก แต่ ปัจจุบันคงคิดแบบนั้นไม่ ได้

หากให้ นึกถึงเหตุการณ์ บังเอิญ สิ่ งที่น่าจดจาที่สุดคงหนีไม่ พ้น


คดีลักพาตัว

ผลพวงจากคดีดังกล่าว มันเกิดความรู้สึกเดจาวูและพบเบาะแส
ของสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสในห้ องฝั่งตรงข้ ามเข้ าโดยบังเอิญ

ถัดมา รีเอล·บีเบอร์ ไม่ ยอมหนีออกจากทิงเก็น แต่ เลือกเก็บตัว


เพื่อย่ อยพลังผู้วิเศษภายในโกดังสิ นค้ าท่ าเรื อ ส่ งผลให้ ของวิเศษ
ต้ องห้ ามรหัส 2-049 พบเบาะแสได้ ง่ายดาย

เหตุการณ์ ท้งั หมดประจวบเหมาะอย่ างน่ าเหลือเชื่ อ ถึงอายร์ ·ฮา


สั นจะมอบคาอธิบายที่ฟังขึน้ แต่ จวบจนปัจจุบัน ไคลน์ ก็ยังสลัด
ความรู้สึกคาใจออกไปไม่ ได้

พูดถึงความบังเอิญ เรื่ องของเซเลน่ าก็ไม่ แพ้กัน เธอแอบมอง


เฮเนส·ประกอบพิธีกรรมกระจกวิเศษ และนามาเลียนแบบที่บ้านใน
วันเกิดตัวเอง

สาเหตุที่ไคลน์ ไปพบเข้ า เพราะมันบังเอิญเดินไปทางห้ องน้าจน


สั มผัสถึงแรงกระเพื่อมวิญญาณบนชั้นสอง
หากไม่ แล้ว บุคคลที่ต้องตายฉับพลันจะไม่ ได้ มีเพียงเฮเนส·วิน
เซนต์ แค่ คนเดียวแน่

ไคลน์ นั่งนึกอย่ างละเอียดนานหลายนาที จนกระทั่งได้ ข้อสรุป


และตอบกลับไป

“ทั้งหมดสามเหตุการณ์ ครับ ไม่ บ่อยจนผิดปรกติ และไม่ น้อย


จนเกินไป ทุกครั้งปราศจากร่ องรอยการชักนาจากบุคคลที่สาม”

อะซิกผงกศีรษะเบาๆ
“เป็ นดังคาจักรพรรดิโรซายกล่าว สาหรับมนุษย์ เราทุกคน
ภายในสองเดือน ความบังเอิญหนึ่งครั้งถือเป็ นเรื่ องปรกติ สองครั้ง
ก็ยังปรกติ แต่ ถ้าเป็ นสามครั้ง ควรเริ่มตระหนักไว้ ว่า อาจมีใครบาง
คนกาลังแอบชักนา”

“คุณช่ วยบอกรายละเอียดมากกว่ านีไ้ ด้ ไหม? ว่ าชะตาของผมไม่


กลมกลืนอย่ างไร?”

ไคลน์ ถามร้ อนรน

อะซิกส่ ายหัว

“ผมเพียงบอกได้ ว่า ดวงชะตาของคุณมีความไม่ กลมกลืนแฝง


อยู่ ไม่ ทราบมากหรื อน้ อยไปกว่ านีแ้ ล้ว คุณต้ องเข้ าใจด้ วย ผมไม่ ใช่
นักทานาย”
ตอบแบบนี้ สู้ อย่ าทักตั้งแต่ แรกจะดีกว่ า

มิสเตอร์ อะซิกมีท่าทีแปลกไป เขากาลังทาตัวเป็ นนักต้ มตุ๋น ต่ อ


หน้ านักต้ มตุ๋นอย่ างเรางั้นหรื อ?

ไคลน์ ถอนหายใจยาว พร้ อมกับฉวยโอกาสนีใ้ ช้ ปลายนิว้ แตะ


หว่ างคิว้ เพื่อเปิ ดเนตรวิญญาณ

หลังจากเงยหน้ าขึน้ แสงออร่ าที่ปรากฏบนตัวมิสเตอร์ อะซิก


นับว่ าปรกติ ทั้งสุ ขภาพร่ างกายและอารมณ์

น่ าเสี ยดาย เราไม่ สามารถมองเห็นวิญญาณดาราและกายอากาศ


ของบุคคลอื่นได้ ด้วยพลังตัวเอง ต้ องพึง่ พามิติสายหมอกเท่ านั้น

ไคลน์ ลุกยืนอย่ างผ่ อนคลายพร้ อมกับแตะหว่ างคิว้ ซ้าอีกสองหน


ราชันย์ เร้ นลับ 99 : ปล่องไฟแดง

เกือบช่ วงเย็นในวันเดียวกัน ไคลน์ เดินทางกลับถึงบ้ านพร้ อมกับ


รูดม่ านห้ องนอนปิ ดสนิท

มันหยิบปากกาขึน้ มาถือและแสดงสี หน้ าขบคิดเป็ นเวลานาน


ก่อนจะบรรจงเขียนข้ อความลงบนกระดาษเปล่า

“คดีลักพาตัวคุณหนูเอลเลียตเกิดจากอานาจผู้วิเศษ”
ในฐานะนักทานาย ไคลน์ เคยใช้ พลังทานายค้ นหาต้ นตอ
เหตุการณ์ บังเอิญที่เกิดขึน้ ว่ าถูกชักนาจากผู้วิเศษมือที่สามหรื อไม่

แต่ ผลลัพธ์ ทุกครั้งก็ปฏิเสธ

ปัจจุบัน หลังจากถูกอะซิกทัก มันตัดสิ นใจลองทานายหาความ


จริงใหม่ อีกครั้ง

ไคลน์ ได้ บทเรียนจากตัวตลกสวมสู ทมาแล้วว่ า ผลลัพธ์ คา


ทานายที่กว้ างเกินไปจะทาให้ ผ้ วู ิเศษตีความผิดเพีย้ น ชายหนุ่มจึง
พยายามตีกรอบคาทานายให้ แคบที่สุด

“ใช่ แล้ว ต้ องทานายแยกเป็ นคดีไป”


ไคลน์ ผงกศีรษะเบาๆ พร้ อมกับปลดจีบ้ ุษราคัมจากข้ อมือซ้ าย
มันใช้ มือข้ างเดียวกันกาสายโซ่ เงิน ปล่อยให้ ปลายจีห้ ้ อยลงบนโต๊ ะ
จนเกือบสั มผัสกระดาษ

สมาธิถูกรวบรวมเพื่อเข้ าฌาน จากนั้นก็หลับตาลงและเปล่ง


คาพูด

“คดีลักพาตัวคุณหนูเอลเลียตเกิดจากอานาจผู้วิเศษ”


หลังจากท่ องครบ ไคลน์ ลืมตาขึน้ เพื่อพิจารณาผลลัพธ์ คาทานาย

จีแ้ ละโซ่ หมุนในทิศทางทวนเข็มเชื่ องช้ า

“ปฏิเสธสิ นะ”

มันพึมพา ก่อนจะเขียนข้ อความที่แตกต่ างจากเดิมลงกระดาษ


อีกหลายครั้ง แต่ ผลลัพธ์ ท้งั หมดล้วนไม่ แตกต่ าง คดีการลักพาตัว
เอลเลียตไม่ ได้ ถูกผู้วิเศษชักนา

ถัดมา ไคลน์ เขียนข้ อความเกี่ยวกับสาเหตุที่รีเอล·บีเบอร์ ยังคง


หลบซ่ อนตัวในทิงเก็น รวมถึงคดีอุบัติเหตุกระจกวิเศษของเซเล
น่ า
แต่ ก็เหมือนเดิม ผลทานายออกมาปรกติ
นักทานายตัวจริงอย่ างตน กาลังหวั่นไหวเพียงเพราะถูกมือ
สมัครเล่นอย่ างอะซิกทักงั้นหรื อ?

คดีที่เกิดขึน้ ทั้งหัวหน้ า เหยีย่ วราตรีจากเบ็คลันด์ ไม่ มีใครเลยที่


พบความผิดปรกติ

ไคลน์ ยมิ้ แห้ ง แต่ มันก็มิได้ ประมาทเสี ยทีเดียว ยังคงหวังยืนยัน


ให้ กระจ่ างด้ วยเทคนิคทานายความฝัน
หลังจากครุ่นคิดหาคาเหมาะสม ไคลน์ เปลี่ยนวลีข้อความให้
สอดคล้องกับเทคนิคทานายรูปแบบใหม่

“เหตุผลที่แท้ จริงของการลักพาตัวคุณหนูเอลเลียต”

มันเขียนประโยคลงบนกระดาษด้ วยปากกาหมึกซึม หลังจาก


ไตร่ ตรองสั กพักจนแน่ ใจ ชายหนุ่มใช้ มือฉีกมุมกระดาษส่ วนเกิน
ออก และถือแผ่ นกระดาษส่ วนที่เหลือ เดินไปยังเตียงนอนพร้ อมกับ
ทิง้ ตัวลง

ร่ างกายกาลังผ่ อนคลายสุ ดขีด มันเข้ าฌานเพื่อสะกดจิตตัวเองให้


หลับไหล

ไคลน์ ลืมตาตื่นและพบว่ าตนกาลังอยู่บนโลกที่พร่ ามัว แต่


สติสัมปชัญญะยังคงครบถ้ วนเช่ นเคย
มันเห็นภาพกลุ่มผู้ลักพาตัว สู ญเสี ยชิพก้อนสุ ดท้ ายในบ่ อนพนัน
เริ่มหาอาวุธจากแหล่งใต้ ดิน และสารวจเส้ นทางลงมืออย่ างละเอียด
รอบคอบ มีแม้ กระทั่งฉากที่พวกมันบัญเอิญเช่ าห้ องตรงข้ ามรีเอล·
บีเบอร์ เป็ นที่กบดาน

เหตุการณ์ ไม่ ได้ ถูกฉายอย่ างปะติดปะต่ อ แต่ สลับกลับไปกลับมา


วูบวาบชวนเวียนหัว

ไม่ มีสิ่งใดผิดปรกติ

ตรงกันข้ าม ไคลน์ กลับยิ่งมั่นใจว่ าเหตุการณ์ ลักพาตัวเกิดขึน้ โดย


ความบังเอิญ

เมื่อออกจากฝันเก่า มันทาแบบเดียวกันกับอีกสองคดีที่เหลือ และ


ไม่ พบความผิดปรกติหรื อความไม่ สมเหตุสมผล เหตุการณ์ ดาเนิน
ไปตามครรลองถูกต้ อง ด้ วยความบังเอิญอย่ างแท้ จริง

“เราคิดมากไปเอง มิสเตอร์ อะซิกคงเป็ นแค่ มือสมัครเล่น”

ไคลน์ ส่ายศีรษะพลางยิม้ เจื่อน มันลุกขึน้ ยืนและเดินตรงไปทาง


มุขหน้ าต่ าง เพื่อเตรียมเปิ ดม่ านรับแสงแดด

“จากความทรงจาของไคลน์ คนเก่า อะซิกคือบุคคลที่น่าเชื่ อถือ


ไม่ เคยมีสักครั้งที่ชายคนนั้นพูดพล่อยๆ โดยไร้ มูลเหตุ อาจเคย
ถกเถียงรุนแรงกับศาสตราจารย์ โคเฮ็นบ้ าง แต่ ก็อยู่ในขอบเขต
ความรู้ทางวิชาการ และมีทฤษฎีรองรับเสมอ

“หากเป็ นเพียงมือสมัครเล่นด้ านศาสตร์ ทานาย เขาไม่ มีทางทัก


เราด้ วยสี หน้ าตึงเครียดแบบนั้นแน่

“และจากความทรงจาไคลน์ ไม่ เคยมีส่วนใดที่บ่งบอกว่ าอะซิก


เชี่ยวชาญศาสตร์ ทานายมาก่อน

“พิจารณาจากความทรงจากระจัดกระจายที่ยังหลงเหลืออยู่ละ
นะ”

ไคลน์ ขมวดคิว้ ด้ วยท่ าทีกระสั บกระส่ าย มันต้ องการหาวิธี


พิสูจน์ เรื่ องนีใ้ ห้ กระจ่ าง

ไคลน์ ตีความว่ า มิสเตอร์ อะซิกทราบความจริงบางอย่ างที่


เปิ ดเผยไม่ ได้ จึงแอบบอกใบ้ ให้ ตนพยายามทานายหาผลลัพธ์ ด้วย
ตัวเอง

“เราจะยืนยันได้ อย่ างไรว่ าสิ่ งที่คิดเป็ นความจริง?”

มันเดินเวียนไปวนมาในห้ องนอนหลายรอบ หัวสมองขบคิดหา


เทคนิคทานายที่เหมาะสมกับสถานการณ์
หนึ่งก้าว สองก้าว สามก้ าว
ทันใดนั้น ไคลน์ พลันชะงักฝี เท้ า คล้ายกับฉุกคิดบางสิ่ งได้

“สมมติให้ ทุกคดีมีเงื่อนงา แต่ เราถูกขัดขวางไม่ ให้ ทานายได้ ผล


ลัพธ์ ที่แท้ จริง เนื่องจากผู้วิเศษที่แทรกแซงมีระดับสู งกว่ าหลายเท่ า
ตัวตนดังกล่าวใช้ พลังวิญญาณบิดเบือนสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา
เพื่อให้ เกิดผลลัพธ์ ตามที่มันต้ องการ

“แต่ เราสามารถเปลี่ยนสภาพแวดล้อมได้ ย้ ายไปยังสถานที่เงียบ


สงบและไม่ มีใครรบกวน สถานที่ซึ่งเร้ นลับยิ่งกว่ าโลกมนุษย์ และ
เต็มไปด้ วยมวลพลังวิญญาณมหาศาล”

หัวใจไคลน์ เต้ นระรัว มันรีบเดินไปที่ลิน้ ชักและนามีดเงินออกมา

ไคลน์ เริ่มสร้ างกาแพงวิญญาณด้ วยการแผ่ พลังออกจากปลายมีด


ผนึกสภาพแวดล้อมด้ านในให้ แยกจากโลกภายนอกชั่วขณะ

มันมีแผนจะทานายหาความจริงบนมิติสายหมอก สถานที่ลึกลับ
ซึ่งปัจจุบันยังคงเต็มไปด้ วยปริศนาที่หาคาตอบไม่ ได้

แต่ หนึ่งสิ่ งที่แน่ ชัด ไม่ สนว่ าอีกฝ่ ายจะเป็ นผู้วิเศษที่ทรงพลัง


เพียงใด

มันไม่ มที างบิดเบือนมิติสายหมอกได้ แน่


ท่ ามกลางโลกลึกลับที่ปกคลุมด้ วยหมอกสี เทาไร้ จุดจบสิ้น ไคลน์


กาลังนั่งบนเก้ าอีป้ ระธานชุมนุมไพ่ทาโรต่์ เหนือศีรษะเป็ นโดม
มหึมาคล้ายกับท้ องพระโรงวังสวรรค์ เผ่ าคนยักษ์ สถาปัตยกรรมที่
ตนสร้ างขึน้ จากจินตนาการอย่ างคร่ าวๆ ในวันแรกที่มาถึง

มันก้มหน้ ามองแผ่ นกระดาษหนังที่เสกขึน้ จากความนึกคิด


จากนั้นก็ขยับปากกาหมึกซึมเขียนข้ อความแบบเดียวกับที่เคยใช้
ทานายบนโลกจริง

“คดีลักพาตัวคุณหนูเอลเลียตเกิดจากอานาจผู้วิเศษ”

โซ่ เงินถูกกาด้ วยมือซ้ าย ปลายจีห้ อยต่าเกือบสั มผัสกับ


แผ่ นกระดาษ ไคลน์ เข้ าฌานด้ วยสี หน้ าสุ ขุม ปราศจากอาการ
สั่ นคลอน

มันหลับตาลงขณะท่ องข้ อความบนกระดาษซ้าเจ็ดครั้ง พลัง


วิญญาณไหลซึมเชื่ อมต่ อกับโลกวิญญาณเพื่อรับคาบอกใบ้

เมื่อสั มผัสว่ าโซ่ เริ่มหมุน ไคลน์ ลืมตาขึน้ และยืนยันผลลัพธ์

ฉากทีป่ รากฏตรงหน้ า
หัวใจมันแทบหยุดเต้ น!
จีแ้ ละโซ่ หมุนในทิิศทางตามเข็มนาฬิ กาด้ วยความเร็วสู ง หรื ออีก
นัยหนึ่งก็คือ

คดีลักพาตัวเกิดจากอานาจของผู้วิเศษ!

แถมยังเป็ นผู้วิเศษที่ทรงพลังมาก!

เป็ นผลลัพธ์ ที่ไม่ เคยเกิดขึน้ เลยสั กครั้งบนโลกความจริง แต่ ไหน


แต่ ไร มันปราศจากร่ องรอยการแทรกแซงมาตลอด

อีกฝ่ ายต้ องมีพลังมากขนาดไหนกัน?

แล้วทาไปเพื่ออะไร?

หรื อชะตาของตนกาลังถูกบิดเบือนจากพลังสมุดบันทึกอันที
โกนัส?

แน่ นอน ไคลน์ หวาดผวาจากก้นบึง้ หัวใจ คล้ายกับว่ า ผลลัพธ์


ทานายทั้งหมดที่เคยเกิดขึน้ ในอดีต อาจไม่ ใช่ ความจริงเสมอไป

มันสู ญเสี ยความเยือกเย็นทันที โซ่ เงินในมือซ้ ายกาลังหมุน


ทิศทางทวนเข็มนาฬิ กาอย่ างบ้ าคลั่งราวกับตอกยา้
มันตัดสิ นใจวางจีบ้ ุษราคัมลง มือทั้งสองข้ างเลื่อนขึน้ มานวด
คลึงหน้ าผากเพื่อบรรเทาอาการหดหู่

สี หน้ าปัจจุบันกาลังดามืดคล้ ายกับซากศพ

หลังจากไตร่ ตรองด้ วยหัวใจที่ยังเต้ นโครมคราม ไคลน์ ตัดสิ นใจ


ไม่ ทานายอีกสองคดีที่เหลือ กลับกัน มันเลือกเขียนข้ อความ
บางอย่ างลงไปแทน

“เหตุผลที่แท้ จริงของคดีลักพาตัวคุณหนูเอลเลียต”
เพื่อจะเห็นภาพ ไคลน์ ต้องทานายด้ วยความฝัน มันกากระดาษ
หนังไว้ ในมือแน่ นพร้ อมกับเอนหลังพิงเก้าอี้ ก่อนจะเข้ าฌานสะกด
จิตตัวเองให้ หลับไหล

เพียงพริบตา สายหมอกสี เทารอบตัวที่เคยเข้ มข้ นเลือนหายไป


ในความฝันปรากฏทุ่งดอกไม้ แสนกว้ างใหญ่ ผืนหญ้ าเขียวขจี
ล้อมรอบประกอบฉากหลัง

ห้ วงมิติเหนือทุ่งดอกไม้ เกิดการบิดเบีย้ วรุนแรงตลอดเวลา


อากาศอันว่ างเปล่าสั่ นไหววูบวาบสลับยุบพอง ราวกับเป็ นสั ตว์
ประหลาดที่มีชีวิตและความนึกคิด

ไคลน์ พยายามเก็บรายละเอียดสิ่ งที่เห็นให้ มากที่สุด แต่ วัตถุเดียว


ที่ปรากฏเพิม่ ในฝันคือปล่องไฟสี แดงเข้ ม
มาถึงจุดนี้ ภาพความฝันแตกละเอียดเป็ นเศษเล็กเศษน้ อยคล้าย
กระจก มันได้ สติกลับมาอีกครั้งบนมิติสายหมอก หัวใจเต้ นระรัว
ผิดจังหวะยิ่งกว่ าเมื่อครู่ แผ่ นหลังตั้งตรงกระแทกพนักพิงรุนแรง

ฟู่ ว! เมื่อครู่ คล้ายกับตนพยายามจ้ องมองเข้ าไปในสิ่ งต้ องห้ าม

แฮ่ ก แฮ่ ก

ไคลน์ สูดลมหายใจยาวสองครั้ง หวังระงับความฟุ้งซ่ านและบ้ า


คลั่งของห้ วงอารมณ์ ปัจจุบัน

ปล่องไฟแดง ทุ่งดอกไม้ ผืนหญ้ าเขียวขจี

คาบอกใบ้ ถึงตัวตนอีกฝ่ าย?

แต่ มันไม่ สามารถตีความให้ แคบลงได้ เลย ไม่ ว่าจะเป็ นเจตนา


หรื อเบาะแสให้ สาวไปถึงบุคคลดังกล่าว

ขณะกาลังก้มหน้ าไตร่ ตรอง ไคลน์ ฉุกคิดถึงบางสิ่ งที่น่าตกตะลึง


ยิ่งกว่ า

ทั้งตัวมัน หัวหน้ า ฟราย และเหยี่ยวราตรีที่เหลือ พวกตนกาลัง


เต้ นราบนฝ่ ามือของใครบางคนมาตลอดเลยหรื อ?
ถูกเชิดราวกับหุ่นกระบอก
และสิ่ งที่น่ากลัวที่สุดคือ การเข้ าใจว่ าตัวเองเจ๋ งที่สุดแล้วในเหล่า
ผู้วิเศษเมืองทิงเก็น

บ้ าจริง! แล้วจะนาเรื่ องนีไ้ ปบอกกับหัวหน้ ายังไง? หากเป็ นโลก


ปรกติ ผลคาทานายของลุงนีลล์ และตนคงไม่ ต่างกันนัก แถมยัง
แสดงให้ ประจักษ์ ไม่ ได้ ถ้ าหัวหน้ าถามหาหลักฐานยืนยันข้ อกล่าว
อ้าง

ไม่ มีทางพิสูจน์ ได้ เลย และการเปิ ดเผยข้ อมูลมิติสายหมอกนั้น


เสี่ ยงเกินไป

ไคลน์ ใช้ นวิ้ กดขมับเพื่อบรรเทาอาการล้าหลังจากฝื นทานาย


หลายครั้งติดต่ อกัน

มันนั่งสงบจิตใจราวยี่สิบวินาที ก่อนจะเริ่มทานายเกี่ยวกับ
เหตุการณ์ ค้นหารีเอล·บีเบอร์ ภายในทิงเก็น ด้ วยเทคนิคลูกตุ้ม
วิญญาณ

ผลลัพธ์ ผิดจากที่คาด จีบ้ ุษราคัมแน่ นิ่งไม่ ขยับเขยื้อน มิได้ ยืนยัน


หรื อปฏิเสธประโยคบอกเล่าบนกระดาษ

“แปลกมาก”
มันพึมพาในสิ่ งที่คิด
“หรื ออีกฝ่ ายจะรู้ตัวแล้ว ว่ าเราสามารถทานายหาความจริงได้
จึงใช้ วิธีใหม่ ในการแทรกแซงผลลัพธ์ ?”

หลังจากนั้น ไคลน์ พยายามใช้ เทคนิคทานายฝันเพื่อให้ มองเห็น


ภาพ แต่ สิ่งที่ปรากฏมีเพียงฉากหมอกหนาทึบปกคลุม ไม่ ได้ รับ
เบาะแสใดเพิม่ เติม

ผลทานายอุบัติเหตุของเซเลน่ าก็ไม่ ต่าง


เมื่อยืนยันว่ าการสื บสวนมาถึงทางทัน ชายหนุ่มล้มเลิกความคิด
ที่จะรายงานความจริงกับหัวหน้ า ควรรอให้ ถึงเวลาที่เหมาะสม
ก่อน

ปัจจุบัน ไคลน์ ปรารถนาอย่ างแรงกล้าที่จะยกระดับพลังวิญญาณ


ของตนให้ แข็งแกร่ งยิ่งขึน้ ไม่ ว่าจะด้ วยวิธีใดก็ตาม

“เราต้ องหมั่นไปที่สโมสรพยากรณ์ เพื่อสวมบทบาทและรีบย่ อย


พลังโอสถ

“จากนั้น ต้ องยืนยันให้ ได้ ว่าโอสถตัวตลกคือลาดับถัดจากนัก


ทานายจริง ก่อนจะสื บหาเบาะแสของส่ วนผสม

“ต้ องหาโอกาสนัดพบมิสเตอร์ อะซิกให้ มากขึน้ สื บทราบให้ ได้ ว่า


เขาถือครองความลับไว้ มาแค่ ไหน”
ฝ่ ามือขวาจับหน้ าผาก มือซ้ ายเคาะที่เท้ าแขนพลางสรุปวางแผน
ชีวิตในอนาคตอันใกล้ เพื่อจะได้ เห็นเป้าหมายได้ ชัดเจนและพุ่งตรง
ไปหาอย่ างไม่ อ้อมค้ อม

หลังจากทบทวนตัวเองเงียบงัน มันเริ่มเขียนประโยคใหม่ ลงบน


กระดาษหนัง

“โอสถลาดับถัดจากนักทานายคือตัวตลก”
จากประสบการณ์ ที่ผ่านมาทั้งหมด ไคลน์ มั่นใจว่ าพลังทานาย
บนมิติสายหมอกจะได้ ผลแม่ นยาและขอบเขตกว้ างกว่ าโลกจริง

“เหมือนกับตอนที่หนีเข้ ามิติสายหมอกขณะถูก 2-049 เล่นงาน


ผลการทานายในครั้งนั้นแม่ นยาจนนาพาไปสู่ ชัยชนะ

“โชคดีเหมือนกันนะเรา”

มันพึมพาพร้ อมกับค่ อยๆ ปรับระดับจีบ้ ุษราคัมด้ วยมือซ้ าย

ไม่ กี่วินาทีต่อมา ไคลน์ ได้ ผลลัพธ์ ที่ต้องการ

โอสถตัวตลกคือลาดับถัดจากนักทานาย!
มันรีบเขียนประโยคใหม่
“ลาดับ 8 7 6 และ 5 ของเส้ นทางนักทานาย จะมอบพลังใหม่
หนึ่งชนิดที่ไม่ สอดคล้องกันเสมอ”

ไคลน์ ถอนหายใจยาวด้ วยสี หน้ าค่ อนข้ างอ่อนเพลีย ก่อนจะลง


มือทานายด้ วยลูกตุ้มวิญญาณอีกครั้ง

ทว่ า ครั้งนีจ้ บี้ ุษราคัมหยุดนิ่ง

“มีข้อมูลไม่ พอที่จะรับคาทานายจากโลกวิญญาณสิ นะ”

มันพึมพาพร้ อมกับเอนหลังพิงเก้าอี้ สี หน้ ากาลังครุ่นคิดหา


เหตุผลที่การทานายล้มเหลว

เฉกเช่ นทุกครั้ง มันวางสร้ อยเงินลงและเริ่มใช้ เทคนิคทานายด้ วย


ความฝัน หัวสมองครุ่นคิดหา ‘ประโยค’ เขียนทานายเพื่อให้ เกิดผล
ลัพธ์ ที่มีประสิ ทธิภาพ

ตนไม่ สามารถทานายอย่ างเดาสุ่ มให้ สิ้นเปลืองพลังวิญญาณโดย


เปล่าประโยชน์ ได้ อีก

ผ่ านไปราวยี่สิบวินาที มันหยิบปากกาหมึกซึมเขียนข้ อความลง


บนกระดาษ
“เบาะแสของโอสถตัวตลก”
ราชันย์ เร้ นลับ 100 : ตีความคาทานาย

“เบาะแสโอสถตัวตลก”

ณ เก้าอีป้ ระธานชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์ ไคลน์ พมึ พาประโยคซ้าเจ็ด


ครั้งพร้ อมกับเอนหลังพิงอย่ างผ่ อนคลาย

มันหลับไหลภายในเวลารวดเร็ว

สภาพแวดล้อมพลันแปรเปลีย่ นเป็ นบรรยากาศเงียบสงบ การ


มองเห็นค่ อนข้ างพร่ ามัว ภาพฉายบิดเบีย้ ววูบวาบ คล้ายกับมอง
โลกผ่ านหยาดน้าค้ างบนกลีบดอกไม้ ยามเช้ าที่โยกเอนตามสายลม

เมื่อเวลาผ่ านไป จิตไคลน์ เริ่มชัดเจนมั่นคง

มันมองเห็นเตาผิง มองเห็นเก้าอีโ้ ยกที่มีหญิงชรานั่งอยู่ เธอสวม


ชุดสี ขาวสลับดา

ถึงจะไม่ มองไม่ เห็นใบหน้ าเพราะอีกฝ่ ายกาลังก้มศีรษะ แต่


ความรู้สึกประหลาดได้ บอกกับไคลน์ ว่า เธอคือหญิงชราที่มีอายุ
ค่ อนข้ างมาก โดยสั ญชาตญาณของตนก็ยืนยันไปในทิศทาง
เดียวกัน
หญิงชรากาลังหันหน้ าเข้ าหาโต๊ ะไม้ บนโต๊ ะมีกระป๋องดีบุกและ
หนังสื อพิมพ์วางอยู่

“นี่มัน”

เป็ นภาพที่ค้ นุ ตาอย่ างมาก และไคลน์ ก็นึกออกภายในไม่ กี่อึดใจ

ไม่ ผิดแน่ ที่นี่คือห้ องรีเอล·บีเบอร์ !

หญิงชราในนิมิตคือมารดาของรีเอลที่เสี ยชีวิตภายในบ้ าน มันไม่


มีทางลืม เพราะนี่คือเหตุการณ์ แรกที่ไคลน์ ได้ เผชิญความ
สยดสยองจนคลื่นไส้ อาเจียนไม่ หยุดพัก

“นี่คือเบาะแสของโอสถตัวตลก?”

ขณะกวาดสายตามองรอบห้ องเพื่อหวังพบเงื่อนงา ภาพรอบตัว


เริ่มเปลี่ยนผันอีกครั้ง

คราวนีเ้ ป็ นโกดังสิ นค้ าสี เทา อยู่ในส่ วนลึกสุ ดจากบรรดาอาคาร


หลายหลัง ภายในห้ องมีเศษกระดูกสี ขาวแตกหักกระจัดกระจาย
เกลื่อน รวมถึงก้อนเนื้อสี แดงที่แหลกเหลวคล้ายกับถูกหินใหญ่ทุบ
ใส่

กึ่งกลางคลังสิ นค้ าปรากฏวัตถุทรงรีสีเทาขนาดเท่ ากาปั้นวางอยู่


ผิวสั มผัสอ่อนนุ่มและเด้ งดึ๋ง มีเมือกใสเปี ยกๆ เคลือบเป็ นชั้นบาง
ประหนึ่งสมองมนุษย์ ที่เพิง่ ถูกนาออกจากร่ าง

ขณะไคลน์ เริ่มคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมและกาลังนึกถึงเบาะแส
สาคัญ ฉากรอบตัวเกิดการเปลี่ยนแปลงและพร่ ามัวอีกหน

คราวนีเ้ ป็ นร่ างของบุรุษเปลือยกายบนโต๊ ะยาวที่มีผ้าสี ขาวปูรอง


ไว้ ผิวหนังขาวซีดดุจดังซากศพ เหนือข้ อมือมีก้อนวัตถุทรงกลมสี
ฟ้ ากาลังลอยอยู่

ไคลน์ ขมวดคิว้ พึมพา

“นิมิตเริ่มที่บ้านของรีเอล·บีเบอร์ และนาพาเรามาถึงข้ อมือของ


ตัวตลกสวมสู ท?”

ขณะกาลังจะตีความสั ญลักษณ์ ฉากรอบตัวเริ่มวูบวาบและ


เปลี่ยนผัน

คราวนีเ้ ป็ นเหตุการณ์ บนโต๊ ะกาแฟหินอ่อนทรงกลม สองฝั่งมี


โซฟาหนังวางตรงข้ ามกัน โคมเทียนระย้ าหรูหราห้ อยแขวนบน
เพดาน

ภายในห้ องมีสามบุคคล

คนแรก ไคลน์ ·โมเร็ตติ เส้ นผมดาขลับ ดวงตาน้าตาลอ่อน


บรรยากาศรอบตัวคล้ายนักวิชาการ คนที่สอง บุรุษร่ างท้ วมผิวขาว
ฐานะมีอันจะกิน และคนสุ ดท้ าย สุ ภาพสตรีสาวสวยที่สวมถุงมือ
ตาข่ ายดาหรูหรา

และเช่ นเคย ฉากนิมิตเกิดสลับสั บเปลี่ยนอีกครั้ง ภายในห้ อง


ยังคงมีสามบุคคลเหมือนเหตุการณ์ ก่อนหน้ า แต่ เปลี่ยนตัวละคร
และมีวัตถุแปลกปลอมถูกเพิม่ เข้ ามาในฉาก

คนแรก ชายวัยกลางคนในชุ ดคลุมสี ดาคล้ายนักบวช เส้ นผมสี


น้าตาลของมันยาวแหลมเหมือนหนาม คนที่สอง บุรุษร่ างท้ วมผิว
ขาวคนเดียวกับภาพเมื่อครู่ และคนสุ ดท้ าย ชายชราวัยกว่ าครึ่งร้ อย
เส้ นผมน้าตาลอ่อน ดวงตาสี ฟ้าอมเทาหม่ น ขนคิว้ ยุ่งเหยิง

วัตถุที่เพิม่ เข้ ามาคือ สมุดปกดาสนิทซึ่งถูกวางไว้ กึ่งกลางโต๊ ะ


กาแฟกลม หน้ าปกสลักด้ วยอักษรปริศนา แผ่ กลิ่นอายความลึกลับ
และเก่าแกโบราณเต็มเปี่ ยม

ไม่ ผิดแน่ สมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัส!

ทันใดนั้น ภาพความฝันแตกกระจายเป็ นเศษเล็กเศษน้ อย สติ


ไคลน์ ถูกส่ งกลับมายังห้ วยมิติสายหมอกอีกครั้ง มันยังคงนั่งหลัง
ตรงในตาแหน่ งประธานชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์

หลังจากเหม่ อลอยครู่หนึ่ง ไคลน์ กวาดสายตามองกลุ่มดาวแดง


รอบห้ วงมิติ รวมถึงสถาปัตยกรรมสิ่ งก่อสร้ างที่โอ่อ่าอลังการ
เราทานายหาเบาะแสโอสถตัวตลก แล้วเหตุใดถึงปรากฏเรื่ องราว
ของสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสขึน้ มาแทน?

คิดเข้ าสิ ต้ องมีเหตุผลแน่

ชายร่ างท้ วมเป็ นใครอื่นไม่ ได้ นอกจากเวิร์ช·แมคโกเวิน เด็กหนุ่ม


โชคร้ ายที่ควักเงินซื้อสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสจนเกิด
โศกนาฏกรรมน่ าเศร้ า ส่ วนหญิงสาวเลอโฉมที่สวมถุงมือตาข่ ายดา
เธอไม่ ใช่ ใครอื่นนอกจากนาย่ า
จริงสิ จาได้ แล้ว

โต๊ ะกาแฟหินอ่อนที่มีโซฟาหนังสองตัววางตรงข้ ามกัน สิ่ งนี้คือ


เครื่ องหมายแสดงถึงฐานะของผู้มีอันจะกิน ตนเคยเห็นเซ็ตโต๊ ะ
กาแฟดังกล่ าวที่บ้านพักของเวิร์ช เมื่อครั้งถูกผู้สื่อวิญญาณดาลี่ย์
สอบปากคาด้ วยพิธีกรรม

หรื อก็คือ ฉากที่นักศึกษาสามคนล้อมวงรอบโต๊ ะกาแฟ หมายถึง


ช่ วงเวลาที่ไคลน์ คนก่อนและเพื่อนร่ วมชั้นอีกสองคน ถกเถียง
เกี่ยวกับเนื้อความในสมุดบันทึกอย่ างตื่นเต้ น

มันพยายามสงบจิตใจ มือขวาเคาะมุมโต๊ ะทองเหลืองตามความ


เคยชิน
ถ้ าอย่ างนั้น ฉากสุ ดท้ ายหมายถึงสิ่ งใด?
มีเวิร์ช มีสมุด

หรื อจะเป็ นเหตุการณ์ ในตอนที่เวิร์ชซื้อสมุดบันทึกตระกูลอันที


โกนัส?

เวิร์ชกาลังอยู่กับชายปริศนาอีกสองคน หนึ่งในนั้นคุ้นหน้ าคุ้นตา


ไคลน์ มาก ตนเคยเห็นชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมดาคล้ายนักบวช
จากที่ไหนมาก่อน
เส้ นผมสี น้าตาลยาวแหลม แถมขอบตายังค่ อนข้ างคลา้

นึกออกแล้ว

เฮเนส·วินเซนต์ จากสโมสรพยากรณ์ บุคคลที่ ‘ไหลตาย’ อย่ าง


สงบด้ วยภาวะหัวใจล้ มเหลว หลังจากถูกหัวหน้ าเข้ าฝันและบังเอิญ
เห็นภาพของเทพแท้ จริงเข้ า

บุคคลที่เซเลน่ าลอกเลียนแบบเทคนิคทานายกระจกวิเศษ และ


แอบฟังบทสวดต้ องห้ ามจนเกิดเรื่ อง

เป็ นหมอนี่เองหรื อ? ที่แอบขายสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสให้


เวิร์ช
เบาะแสทั้งหมดบรรจบเข้ าด้ วยกัน โลกนีช้ ่ างแคบนัก ไม่ สิ เมือง
ทิงเก็นช่ างแคบนัก!

เมื่อลองนึกภาพตาม คงไม่ ใช่ เรื่ องแปลกสั กเท่ าไร ที่เฮเนส·วิน


เซนต์ จะมีสมุดบันทึกไว้ ในครอบครอง ในสายตาไคลน์ วินเซนต์
ไม่ ใช่ หมอดูธรรมดาตั้งแต่ แรก มันถลา้ ลึกเข้ าไปในศาสตร์ เร้ นลับ
จนถึงขั้นแอบติดต่ อกับเทพนอกรีตบางตน

บุคคลเช่ นนีย้ ่ อมมีเส้ นสาย หรื อช่ องทางสาหรับครอบครองสมุด


บันทึกโบราณที่ลิทธิเร้ นลับบังเอิญทาสู ญหาย
ไม่ แปลกใจเลยสั กนิด ถึงสาเหตุที่หัวหน้ าและเหยี่ยวราตรีสืบไม่
พบว่ าเวิร์ชทาการซื้อสมุดบันทึกอันทีโกนัสมาจากใคร

พวกมันเอาแต่ สืบสวนจากแหล่งใต้ ดินหรื อตลาดมืด ซึ่งนั่น


ไม่ ได้ ใกล้เคียงความจริง

หลังจากโบสถ์ รัตติกาลได้ ครอบครองสมุดบันทึกอันทีโกนัสอีก


ครั้ง การสื บสวนหาต้ นตอก็ยุติลงทันที

น่ าเสี ยดายที่เฮเนส·วินเซนต์ เพิง่ เสี ยชีวิต ไม่ อย่ างนั้นคงได้


เบาะแสเพิม่ เติมอีกมากเกี่ยวกับสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัส

ในเมื่อมันอยู่ในแวดวงศาสตร์ เร้ นลับ ไม่ มีทางที่เฮเนส·จะไม่ เปิ ด


อ่านและพยายามทาความเข้ าใจเนื้อหาด้ านใน
บางที ความตายของมันอาจไม่ ใช่ เหตุบังเอิญ สมุดเล่มดังกล่าว
เชี่ยวชาญการนาพาความตายมาสู่ ผ้ เู กี่ยวข้ องอยู่แล้ว

นอกเหนือจากนั้นยังมีอีกหนึ่งบุคคล ชายวัยห้ าสิ บกว่ าที่ปรากฏ


ตัวในฉากสุ ดท้ ายร่ วมกับเวิร์ชและเฮเนส เส้ นผมสี น้าตาลอ่อน ขน
คิว้ ยุ่งเหยิง มันอาจเป็ นคนเดียวที่ยังเหลือรอด และรับรู้เรื่ องราว
ทั้งหมด

ไคลน์ หยุดเคาะนิว้ มันทบทวนฉากความฝันใหม่ หมดตั้งแต่ ต้น


เริ่มจากบ้ านของรีเอล·บีเบอร์ ถัดมาเป็ นแหล่งกบดานสาหรับดูด
ซับพลังสมุด เศษชิ้นส่ วนกระจัดกระจาย วัตถุประหลาดที่ลอย
เหนือข้ อมือตัวตลกสวมสู ท บ้ านของเวิร์ชซึ่งมีอดีตไคลน์ นาย่ า
และเวิรช์ จับกลุ่มสนทนาอย่ างสนุกสนานตื่นเต้ น

ไม่ ว่าจะอย่ างไหน ทุกสิ่ งล้วนนาพาไปสู่ สมุดบันทึกตรกูลอันที


โกนัสทั้งสิ้น

แต่ ตนกาลังทานายถึงโอสถตัวตลก ไม่ เห็นจะเกี่ยวข้ องกันเลยสั ก


นิด ไม่ ว่าจะด้ วยหลักเหตุและผลหรื อหลักศาสตร์ เร้ นลับ

หลังจากกลายเป็ นนักทานายไม่ นาน มันเคยลองทานายหาที่อยู่


สองสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสบ่ อยครั้ง แต่ เนื่องจากสมัยก่ อน
ยังไม่ ทราบความพิเศษของมิติสายหมอก การทานายทุกครั้งจึงจบ
ลงด้ วยผลล้มเหลว
แต่ ปัจจุบัน มันทราบเรื่ องดังกล่าวแล้ว และมีโอกาสทานายอีก
หลายเรื่ องเพื่อขจัดความคาใจที่เคยเกิดขึน้

หลังจากเงียบงันนานกว่ ายี่สิบวินาที ไคลน์ ก้มหน้ าไตร่ ตรองหา


ความหมายของนิมิตที่เห็น โดยใช้ บรรทัดฐานจากข้ อมูลไดอารี
จักรพรรดิโรชายเป็ นหลัก

ความเป็ นไปได้ แรก ตระกูลซาราธ หรื อเรียกโดยรวมว่ าองค์ กร


เร้ นลับ กาลังออกตามหาสมบัติที่เคยเป็ นของตระกูลอันทีโกนัส
ทั้งหมด ในการจะครอบครองสู ตรผลิตโอสถตัวตลก ตนต้ องใช้
สมุดบันทึกตระกูลหลอกล่อลัทธิเร้ นลับและเค้ นข้ อมูลจากพวกมัน

ประการที่สอง สู ตรผลิตโอสถตัวตลกถูกบันทึกไว้ ในสมุดบันทึก


ตระกูลอันทีโกนัสโดยตรง

สาเหตุหลักที่ตระกูลซาราธไล่ล่ารวบรวมสมบัติตระกูลอันที
โกนัส เพราะพวกมันอาจมีความสั มพันธ์ ลึกซึ้งระหว่ างกันในอดีต
เป็ นได้ ท้งั มิตรและศัตรู

ฉะนั้น โอกาสที่ตระกูลอันทีโกนัสจะครอบครองเส้ นทางนัก


ทานายจึงมีสูง และไม่ ใช่ เรื่ องแปลกที่จะบันทึกสู ตรโอสถลาดับต่า
ไว้ ในสมุด
โดยสิ่ งที่แน่ ชัดคือ ไม่ ว่าจะเป็ นความสั มพันธ์ แบบไหน มิตรแท้
หรื อศัตรูคู่อาฆาต แต่ ท้งั สองตระกูลต้ องรู้ไส้ ร้ ูพุงเป็ นอย่ างดีแน่

น่ าเสี ยดายที่สมมติฐานอย่ างหลังมีความเป็ นไปได้ ต่ากว่ า เพราะ


ไม่ ตอบโจทย์ เรื่ องก้อนของเหลวสี ฟ้าที่ลอยเหนือข้ อมือตัวตลกใส่
สู ท

ภายในใจลึกๆ แล้ว ไคลน์ ต้องการให้ สมมติฐานอย่ างหลังเป็ น


ความจริงมากกว่ า
เหตุการณ์ ต่อจากนีจ้ ะได้ ไม่ ย่ ุงยาก เพียงตนรอให้ วิหารศักดิ์สิทธิ์
ถอดเนื้อความในสมุดเรียบร้ อย จากนั้นค่ อยทาเรื่ องขอเลื่อนระดับ
เมื่อย่ อยพลังนักทานายสาเร็จสมบูรณ์ ไม่ ต้องดิน้ รนกระเสื อก
กระสนให้ เปลืองแรง

หลังจากไตร่ ตรองอย่ างถี่ถ้วน ไม่ เพียงสมมติฐานข้ อแรกจะมี


โอกาสเป็ นจริงสู งกว่ า แต่ สัญชาตญาณนักทานายของไคลน์ ยังบอก
ใบ้ ไปในทิศทางเดียวกันว่ า เรื่ องราวที่แท้ จริงนั้นซับซ้ อนและมี
เงื่อนงาลึกกว่ าที่เห็นมาก

เมื่อได้ ข้อสรุป มันเลื่อนมือขึน้ มาลูบหน้ าผากพร้ อมกันตระหนัก


ถึงขีดจากัดของนักทานาย

หากไม่ ใช่ ผลลัพธ์ ทานายที่กระจ่ างชัด การตีความต้ องเป็ นไป


อย่ างระมัดระวัง พิจารณาให้ รอบคอบก่อนตัดสิ นใจ คล้ายกับการ
เดินริมหน้ าผา หรื อไม่ ก็การเดินบนแผ่ นน้าแข็งบาง หากผลออกมา
ไม่ เหมือนกับที่คิด เหตุการณ์ อาจนาพาไปสู่ หายนะ ตัวอย่ างที่
ชัดเจนไม่ ต้องดูที่ไหนไกล ตัวตลกสวมสู ทแสดงให้ เห็นแล้ว

ทันใดนั้น พลังวิญญาณของไคลน์ พลันส่ งสั ญญาณบอกใบ้ ว่า


ขั้นตอนการย่ อยโอสถได้ ก้าวหน้ าไปอีกขั้นแล้ว เหลือแค่ ก้าวเดียวก็
จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์

“ขอขอบคุณที่ยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อช่ วยให้ ผมบรรลุสัจธรรม


“เทพธิดาจงเจริญ”

มันพึมพาพร้ อมกับทาสั ญลักษณ์ สี่จุดบนหน้ าอก

ถัดมา ไคลน์ ทานายว่ า มิสเตอร์ อะซิกคือผู้วิเศษระดับสู งหรื อไม่


และมีเจตนาดีกับตนไหม

ผลลัพธ์ ออกมาเป็ นด้ านบวกทั้งคู่

ท้ ายที่สุด พลังวิญญาณของมันดาเนินมาถึงขีดจากัด น่ าเสี ยดาย


ที่ไคลน์ ไม่ สามารถขจัดความอยากรู้อยากเห็นทั้งหมดได้ ในครา
เดียว ยังมีอีกหลายเรื่ องให้ ต้งั คาถาม

มันหยุดพักการทานายและครุ่นคิดหาข้ อสรุปของอนาคตอัน
ใกล้
ประการแรก ต้ องสื บหาอีกบุคคลหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์
เดียวกับเวิร์ชและเฮเนสให้ พบ เรื่ องนีอ้ าจมีเบาะแสที่สโมสร
พยากรณ์

ประการที่สอง ตนไม่ ควรบุ่มบ่ ามพบหน้ าผู้วิเศษขั้นกลางถึงสู ง


อย่ างมิสเตอร์ อะซิกโดยตรง ชายคนนั้นอาจเป็ นสมาชิกของ
โรงเรียนแห่ งชีวิต แต่ ด้วยความที่ข้อมูลน้ อยเกินไป มีความเป็ นไป
ได้ มากที่ผลการทานายจะออกมาล้มเหลว
ฟู่ ว! ไคลน์ ถอนหายใจยาวขณะก้มหน้ ามองภาพของชายวัยห้ า
สิ บผมน้าตาลอ่อน ขนคิว้ ยุ่งเหยิง ดวงตาสี ฟ้า ที่ปรากฏบนกระดาษ
หนังแพะในมือ

ไม่ ใช่ ใครอื่นนอกจากบุคคลที่สามในเหตุการณ์ ซื้อขายสมุด


บันทึกอันทีโกนัสระหว่ างเวิร์ชและเฮเนส

เมื่อเห็นภาพซับซ้ อนยุ่งยากตรงหน้ า ไคลน์ เกิดความหนักใจอยู่


หลายส่ วน

มันกลัวจะหลงลืมใบหน้ าของชายคนนี้ จึงต้ องการมีภาพเก็บไว้


เพื่อใช้ เทียบเคียง

แต่ ภาพเหมือนใบหน้ ามนุษย์ คือสิ่ งที่วาดได้ ยาก แม้ แต่ ไคลน์ ที่ได้
คะแนนวิชาศิลปสู งยังไม่ สามารถวาดให้ เหมือนจริงได้ ด้วยลาพัง
ความทรงจา

ควรใช้ พธิ กี รรมเวทมนตร์ ช่วยสร้ างรูปภาพเหมือนกับที่ลุงนีลล์


เคยทาดีไหม?

ไม่ ดีแน่ การทาแบบนั้นต้ องเอ่ยปากสรรเสริญเทพธิดารัตติกาล


บนมิติสายหมอกที่ไคลน์ ไม่ ทราบว่ ามีเทพตนใดปกครอง การเอ่ย
นามเทพองค์ อื่นอาจนาพาหายนะมาสู่

เดี๋ยวก่อน ยังมีวิธีน้ ันอยู่

สวดภาวนาหาตัวเอง!

จากการทดสอบในอดีตของมิสจัสติสและแฮงแมน การสวด
ภาวนาหามิสเตอร์ ฟูลจะได้ รับข้ อมูลทั้งภาพและเสี ยง ถึงปัจจุบัน
จะใช้ พลังวิญญาณหนักๆ อย่ างการทานายไม่ ได้ แต่ หากเป็ นเรื่ อง
เล็กน้ อยอย่ างสวดภาวนาย่ อมไม่ มีปัญหา

เมื่อผุดไอเดียน่ าสนใจ จิตไคลน์ รีบด่าดิ่งกลับสู่ โลกปรกติทันที

ภายในห้ องนอนที่ยังคงปิ ดผ้ าม่ านมิดชิด มันจุดโคมไฟพร้ อมกับ


เริ่ม ‘ท่ องคาถา’

“เดอะฟูลจากต่ างยุคสมัย
“ผู้ปกครองลึกลับเหนือห้ วงสายหมอกเทา

“ราชันย์ เหลืองดาผู้ครองพลังโชคลาภ

“ข้ าขอวิงวอน

“ข้ าปราถนาความรักจากท่ าน

“ข้ าปรารถนาภาพนิมิตของบุคคลผู้หนึ่งสาหรับใช้ วาด


ภาพเสมือนจริง”

หลังจากกล่าวจบ ไคลน์ มิได้ เผ่ าสมุนไพรหลากชนิดเหมือนกับที่


เคยระบุไว้ ในพิธีกรรมของมิสจัสติสและแฮงแมน

เพราะตนกาลังสวดภาวนาหาตัวเอง ตัวมันไม่ ได้ จู้จเี้ รื่ องเครื่ อง


สั งเวยขนาดนั้น!

เมื่อเสร็จสิ้นพิธีกรรม ไคลน์ เดินทวนเข็มเป็ นนาฬิ กาทรง


สี่ เหลี่ยมจัตุรัสที่กลางห้ อง เสี ยงกระซิบอันแหบพร่ าดังขึน้ ตามนัด
หมาย พร้ อมกับจุดดาสี่ จุดที่ปรากฏบนหลังมือซ้ าย

เมื่อกลับขึน้ มายังมิติสายหมอก เหตุการณ์ ไม่ เหมือนกับเมื่อครั้ง


มิสจัสติสและแฮงแมนประกอบพิธีกรรม ปราศจากดาวแดงสั่ น
กระเพื่อมให้ เห็นตรงหน้ า ความผิดปรกติเพียงอย่ างเดียวคือ
ด้ านหลังเก้ าอีป้ ระธานชุมนุมไพ่ทาโร่ ต์ ปรากฏภาพมายาของเนตร
สี ม่วงไร้ นัยน์ ตาดากาลังลอยอยู่กลางอากาศ มันส่ องกระพริบเล็กๆ
เป็ นสั ญญาณเตือนความเปลี่ยนแปลง

ไคลน์ เดินเข้ าไปหาและเงี่ยหูแนบฟัง หลังจากยืนยันว่ าเป็ นเสี ยง


ภาวนาของตน มันรีบโอนถ่ าย ‘ภาพ’ ของบุรุษลึกลับคนดังกล่ าว
เข้ าไปในเนตรไร้ นัยน์ ตาสี ม่วงด้ วยพลังวิญญาณอันน้ อยนิดที่
หลงเหลือ
หลังจากเสร็จกระบวนการ มันเพ่งจิตดาดิ่งกลับสู่ โลกปรกติ
โดยเร็ว สภาพแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนเป็ นห้ องนอนอีกครั้ง

เมื่อได้ สติ ภายในสมองไคลน์ พลันปรากฏ ‘คาตอบ’ จากเดอะฟู


ลบนมิติสายหมอก

เป็ นภาพเหมือนที่คมชัด ของบุรุษปริศนาในเหตุการณ์ ซื้อขาย


สมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสระหว่ างเวิร์ชและเฮเนส

มันไม่ รีรอ รีบเดินไปนั่งบนเก้าอีแ้ ละหยิบกระดาษเปล่าออกมา


วาดตามทันที ด้ วยความที่มีพื้นฐานด้ านศิลปะอยู่บ้าง การ ‘ร่ าง
แบบ’ โดยมีภาพเทียบไม่ ใช่ เรื่ องยากขนาดนั้น

เพียงไม่ นาน ภาพเสมือนของบุคคลต้ องสงสั ยก็เสร็จสิ้นด้ วย


ความรวดเร็ว ผลลัพธ์ ออกมาคล้ายคลึงตัวจริงจนน่ าทึ่ง ไม่ ต่างจาก
ภาพวาดของนักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ โดยตรง

ถัดมาเป็ นการลงสี และแต่ งเติมจุดตาหนิปลีกย่ อยให้ เหมือนตัว


จริงยิ่งกว่ าเก่า หลังจากทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ ไคลน์ ถอนหายใจ
อย่ างผ่ อนคลาย ถึงแม้ มือขวาจะกาลังสั่ นเทาเล็กน้ อยเนื่องจากไม่
ถูกใช้ ภาพวาดมานานมาก

ท้ ายที่สุด มันเพ่งจิตเพื่อสลายภาพเสมือนที่ตกค้ างภายในหัวทิง้


ไป

You might also like